วันที่ยี่สิบเอ็ด(ทิวไผ่)
หลังจากวันชิงธงมาผมก็ไม่ได้โผล่ไปหาลมหนาวเลย ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้างเหมือนกันนะครับเนี่ย น้องของพวกเขาทำไว้ซะแทบน้ำตาตกในด้วย แต่เห็นว่ามาง้อคืนดีแล้ว ก็คงไม่มีอะไร
แต่เรื่องนั้นคงต้องพักเอาไว้ก่อน ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่าอยู่ตรงหน้าผมแล้ว
อีกไม่กี่วันฟางข้าวจะอายุยี่สิบ ในวันนั้นจะมีการเปิดพินัยกรรมและโอนบ้านที่เป็นมรดกจากคุณปู่ คุณตาของเขามาเป็นชื่อของข้าวเอง เป็นเรื่องที่เราคงต้องจัดการอะไรสักหน่อยเพื่อความสบายในอนาคต
ผมติดต่อทนายเอาไว้แล้วสำหรับเรื่องนี้
ผมคงต้องปูทางที่ราบรื่นที่สุดเอาไว้ให้กับข้าวสักหน่อย ไม่อย่างนั้นคงได้เสียเปรียบพ่อแม่ของเขาอย่างไม่เหลือแม้แต่ซากแน่ ๆ
เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่ผมคงยอมให้คนในอาณัติผมโดนเอาเปรียบ หรือโดนรังแกไม่ได้ ผมตัดสินใจจะรับผิดชอบเขาแล้ว แน่นอนว่าจะต้องทำจนถึงที่สุด เว้นแต่เจ้านกน้อยจะปีกกล้าขาแข็งโผบินไปจากผมเอง
แต่กว่าจะถึงเวลานั้น เจ้านกตัวนี้คงบินไปไหนไม่รอดแล้วล่ะครับ จริงไหม หึ หึ
นกที่ถูกเลี้ยงในกรง ถึงจะปล่อยไปสู่โลกภายนอกเองกับมือ ถ้ามันไม่บินกลับเข้ามาในบ้าน ก็คงเร่ร่อนไปจนตายในเวลาไม่นาน
"พี่ทิวฮะ"เสียงใสดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่ร่างเล็กจะวิ่งเข้ามาหาผม พร้อมกับถาดที่ใส่อะไรสักอย่างเอาไว้ในมือ "คุกกี้ฮะ ลองชิมหน่อยนะฮะ"
มันดูเป็นประโยคคำสั่งเบา ๆ นะครับ ฮะ ๆ แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร กินก็กิน ผมหยิบคุกกี้มาขิ้นนึง ส่งเข้าปาก กลิ่นหอมของกาแฟอวลในปาก รสออกหวานเค็ม...
อร่อยดี ผมชอบ
"ข้าวเอาไปใส่โหลไปครับ"ดวงตากลมโตใส ๆ สั่นระริก ผมยังไม่ได้ดุอะไรเลยนะ "พี่จะเอาไว้ทานตอนอ่านหนังสือ แบ่งใส่ถุงเล็ก ๆ ไปให้หนาวด้วยนะ"
"ฮะ... อร่อยไหมฮะ"ดวงตาคู่นั้นมองมาที่ผมอย่างวาดหวัง ผมหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วยื่นมือไปลูบผมนุ่ม ๆ เบา ๆ ก่อนจะยิ้มให้
"อร่อยสิ พี่ชอบ ไว้ลองทำอย่างอื่นด้วยนะ"ข้าวทำขนมไม่หวานจัด หนาวน่าจะชอบอยู่ ตัวผมไม่ค่อยกินหรอกครับ พวกขนมหวานเนี่ย
แต่ใช่ว่าจะกินไม่ได้สักหน่อย
ข้าวเอาคุกกี้กาแฟใส่ในถุงใสใบเล็ก ติดสติกเกอร์น่ารัก ๆ ไว้ข้างหน้า เอามาวางตรงหน้าผม ก่อนที่ร่างเพรียวจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ
"พี่ทิวฮะ"เสียงใส ๆ เรียกชื่อผมขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ขี้เกียจดูข่าวที่น่าปวดหัวน่ะครับ เปิดไปทีไรถ้าไม่ฆ่ากันตายก็อุบัติเหตุ
"มีอะไรครับ ข้าว"ผมหันไปมองน้องชายตัวน้อย (ในสายตาผม) ยิ้ม ๆ
"ไม่มีอะไรฮะ"เรียกให้อยากแล้วจากไปอย่างเลือดเย็นจริง ๆ นะครับ แบบนี้ ผมมองข้าวอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้จะซักไซ้อะไร
ถ้าเขาอยากพูด ก็คงพูดออกมาเองล่ะครับ เนอะ
Trrrrr
เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น หน้าจอไอโฟนขึ้นชื่อ และรูปของลมหนาวที่ยิ้มกว้าง ถือกล่องของขวัญที่ผมเป็นคนให้เอาไว้ เหมือนรู้เลยว่าผมกำลังคิดถึงเขาอยู่ลึก ๆ ไอ้น้องคนนี้
"ไง หนาว เป็นยังไงบ้าง"ผมเดินออกมรับสายที่ระเบียงแล้วถามสารทุกข์ สุข ดิบก่อน ไม่รู้ว่ากินข้าวตรงเวลาไหม นอนพักผ่อนพอหรือเปล่า ยิ่งไม่ค่อยดูแลตัวเองอยู่ด้วย
"ผมยังสบายดีน่า พี่ทิว ไม่เป็นอะไรสักหน่อย"เสียงที่ตอบกลับมาแฝงแววค้อน ถ้าอยู่ตรงหน้านี่คงค้อนมาให้ผมเป็นโหล ฮ่า ๆ เวอร์ไป "พี่เถอะ เป็นไงบ้าง"
"ก็โอเค สบาย มีคนทำกับข้าวให้กินทุกวัน"ผมเหลือบมองร่างเล็กที่นั่งกอดหมอนอยู่ข้าง ๆ ยิ้ม ๆ "หนาวเถอะ โรคหอบไม่กำเริบใช่ไหม"
"ผมหายแล้วน่า พี่ทิว ไม่ต้องห่วงหรอกครับ"พูดอย่างนี้ตลอด ทั้งที่รู้แก่ใจนะ ลมหนาว "รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ ไม่ต้องห่วงน่าพี่ทิว ผมไม่ปล่อยให้ตัวเองล้มหรอกครับ"
"ให้มันจริงเถอะ"ผมกระตุกยิ้มอย่างอ่อนใจ "นี่ว่างเหรอไงถึงโทรมาน่ะ"
"เกือบ ๆ ล่ะฮะ ยังคิดไม่ออกว่าจะให้น้องมาชิงธงใหม่ยังไง"เครียดเลยโทรมาสินะ ทุกทีเลยหนาวนี่ "เดี๋ยวเย็น ๆ จะไปหานะครับ"
"โอเค พี่จะรอ"ผมยิ้มกว้างอย่างหุบไม่ลง อยากเจอไว ๆ เหมือนกันนะ "เดี๋ยวพี่พาไปกินซูชิ"
"ไม่เอา ผมอยากกินจิ้มจุ่ม"
"โอเค ๆ ตามนั้น"ยอมครับ ยอม ให้หนาวมันคลายความเหนื่อยสักหน่อย
"เจอกันครับ"ลมหนาววางสายไปแล้ว ส่วนผมได้แต่นั่งยิ้มมองมือถือตรงหน้า
น้องชายคนนี้ยังคงน่ารักเสมอจริง ๆ ชอบทำเป็นเข้มแข็ง ทั้งที่ตัวเองเป็นพวกโอนอ่อน ต้องมารับภาระเต็มสองบ่า อะไรที่ทำให้หายเหนื่อยได้ ผมก็อยากจะช่วย
"ข้าว นี่ก็ใกล้วันเกิดข้าวแล้วนะ"ผมเปรยขึ้นหลังจากปล่อยให้ความเงียบครอบงำมาพักใหญ่ "ข้าวอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหมครับ"
"ไม่มีฮะ พี่ทิว"ว่าแล้วต้องตอบแบบนี้ ผมเตรียมของขวัญเอาไว้ให้ข้าวเรียบร้อยแล้วล่ะครับ "ที่พี่ทิวให้ผมมาตอนนี้ก็มากเกินพอแล้วล่ะฮะ"
"วันพิเศษ ก็ต้องมีของพิเศษบ้าง"ผมยื่นมือไปลูบหัวทุย ๆ ก็หนูน้อยนิเทศพร้อมกับยิ้มให้
"มันก็ไม่ได้พิเศษอะไรมากนี่ฮะ"ข้าวทำปากยู่ใส่ผม แก้มขาว ๆ พองลมขึ้นมาน้อย ๆ น่าฟัดชะมัดเลยครับ "ไม่เห็นจะมีอะไรเลย"
"วันที่ข้าวได้เกิดมา จะไม่สำคัญได้ยังไงล่ะ หืม"ผมหยิกแก้มนุ่ม ๆ นั่นเบา ๆ แล้วหัวเราะออกมาน้อย ๆ "ในสายตาข้าวมันอาจจะไม่สำคัญ แต่กับพี่มันสำคัญมากนะครับ รู้ไหม"
"ฮะ..."ข้าวก้มหน้าลงน้อย ๆ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันน้อย ๆ "พี่ทิวฮะ"
"อะไรครับ"ผมตอบกลับด้วยเสียงนุ่ม ๆ พร้อมดึงมือของน้องชายข้าง ๆ มานั่งลูบเล่น มือเล็กที่ทำกับข้าว ทำขนมให้กินนี่ ยิ่งดูก็ยิ่งเล็กนะครับ
ไม่เหมือนมือผู้ชายเลย
"วันเกิดนี่... จะขออะไรก็ได้เหรอฮะ"ข้าวถามผมด้วยเสียงที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ดีนะครับที่ประสาทหูผมยังใช้การได้ดีอยู่ "ได้ทุกอย่างเลยเหรอฮะ"
"ข้าวอยากได้อะไร พี่จะให้ทุกอย่างเลยครับ"ผมพูดอย่างเอาใจ แต่ถ้าข้าวอยากได้พระอาทิตย์พี่คงให้ไม่ได้หรอกนะครับ ฮ่า ๆ "ทุกอย่างที่พี่หาได้เลย"
"ผม... ผม"แก้มขาว ๆ ขึ้นสีระเรื่อน้อย ๆ อะไรของเขาน่ะครับ หรืออยู่ ๆ จะไม่สบาย แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ยื่นมือไปวัดไข้ ข้าวก็พูดออกมาก่อน "ผม... อยากนอนกับพี่ทิวฮะ"
"ปกติเราก็นอนด้วนกันบ่อยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"ผมถามกลับอย่างงุนงงเล็ก ๆ ปกติข้าวมักจะเดินมาเคาะประตูขอนอนด้วยอยู่ประจำนี่น่า...
"มะ ไม่ใช่แบบนั้นฮะ"เท่านี้ล่ะ ผมเข้าใจเลยครับ นอนในอีกเชิงนึงสินะ... แต่ทำไมน้องขอผมแบบนี้ล่ะ "ดะ ได้ ได้ไหมฮะ"
"..."ขอหาคำพูดดี ๆ ก่อนนะครับ ยังไม่รู้จะพูดอะไรดี ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฟางข้าวขอผมแบบนี้ มันเป็นคำขอที่เขาเป็นฝ่ายเสียชัด ๆ "ทำไมขอแบบนี้ล่ะครับ"
"..."ตาข้าวเงียบบ้างล่ะครับ ผมแอบเห็นดวงตาคู่โตนั่นสั่นระริกด้วย "ผมขอโทษฮะ... พี่ทิวคงรังเกียจ... ลืม ๆ ไปเถอะนะฮะ"
ข้าวผุดลุกขึ้นจะเดินหนีไป คิดว่าคนอย่างทิวจะยอมให้หนีเหรอครับ? บอกเลยว่าไม่มีทาง ผมดึงตัวของข้าวให้ทิ้งตัวลงมานั่งบนตักผม ก่อนจะเชยคางเล็กขึ้น
"พี่ไม่รังเกียจข้าวหรอกนะครับ"ผมยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บที่ริมฝีปากสีเชอรี่เบา ๆ ก่อนจะแนบชิดเข้าไปมอบจูบหวาน ๆ ให้กับน้องชายที่น่ารัก
"อื้อออ"ข้าวครางออกมาแผ่ว ๆ ผมถือโอกาสนี้ส่งลิ้นเข้าไปล้วงเอาความหอมหวานจากโพรงปากนุ่ม เด็กน้อยที่แสนบริสุทธิ์ ริอาจจะเข้ามาสีดำซะแล้ว
"ไปที่ห้องกันดีกว่าเนอะ"ผมยิ้มบาง ๆ แล้วอุ้มร่างเล็กที่ดูอ่อนแรงลงไปที่ห้องนอนทันที
ผมวางฟางข้าวลงบนเตียงใหญ่ ก่อนที่จะขึ้นคร่อม ตาใส ๆ นั่นมองผมอย่างซื่อ ๆ ทำให้ผมอดที่จะช่วงชิงอากาศจากร่างตรงหน้าอีกครั้งไม่ได้
"พี่ทิว..."เสียงหวานครางชื่อผมแผ่ว ๆ เมื่อผมหันมาซุกไซร้ที่ซอกคอหอมกรุ่น ผิวขาว ๆ ตัวหอม ๆ มันเรียกอารมณ์ของผมไม่น้อยเลย "อืม..."
"ถ้าข้าวไม่ห้ามพี่... มันจะหยุดไม่ได้เอานะครับ"กระซิบที่ข้างหูแดง ๆ ก่อนจะงับลงไปแรง ๆ สักที ข้าวสะดุ้งอย่างแรงเลยล่ะครับ ฮ่า ๆ "เจ็บนะครับ ครั้งแรกน่ะ"
"อื้อ... พี่ทิว..."เสียงครางมันเร้าอารมณ์ดีชะมัด ผมไม่ได้นอนกับใครมีพักใหญ่แล้วด้วยสิ จะยั้งตัวไม้ให้เอาแต่ได้ไหวไหมนะ "เริ่มเถอะฮะ"
"บอกก่อนว่าพี่ไม่มีเจลกับถุงยางพกไว้หรอกนะ"ส่วนใหญ่ผมไปโมเต็ล มันมีทุกอย่างอยู่แล้วนี่ครับ ถุงยางมีพกบ้าง แต่โน้น อยู่บนรถ
ผมถอดเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วก็ของข้าวออก ร่างขาว ๆ นอนเปลือยอยู่ตรงหน้าผม ดวงตาคู่หวานปรือปรอย ริมฝีปากช้ำนั่นเผยอเพื่อหายใจ
แม่ง... โคตรยั่วเลยครับ ถึงรู้ว่าไม่ควรทำแต่มาถึงนี่แล้ว... เป็นผมก็หยุดไม่ไหวล่ะครับ
"กินละนะครับ"
(ฟางข้าว)
ผมมองพี่ทิวที่ขยับตัวขึ้นมาคร่อมตัวผม มืออุ่น ๆ ของพี่เขาลูบไล้ตัวผมเบา ๆ แล้วฝังหน้าลงมาที่อกของผม
"อ๊ะ อื้ออ"ความรู้สึกอุ่นชื้นของลิ้นขยับระรัวที่ยอดอก อีกด้านก็โดนบีบขย้ำ ความรู้สึกร้อนวูบแล่นขึ้นมาทั่วร่างกาย "พี่ทิว อื้ออออ"
ผมรู้สึกร้อนวูบที่ช่วงท้องน้อยระหว่างที่พี่ทิวพรมจูบทิ้งร่องรอยไปทั่วตัว รับรู้ได้ว่าน้องชายของผมนั้นเริ่มแข็งตัวขึ้น แล้วเหมือนพี่ทิวจะเห็นเหมือนกัน ถึงเงยหน้าขึ้นมายิ้มหยอกผม
"เปลี่ยนท่ากันดีกว่าเนอะ"
ผมถูกดึงให้ลุกขึ้นจากเตียง ขึ้นมาคร่อมบนตัวของพี่ทิวแทน โดยหันหน้าเข้าหา เอ่อ... น้องชายของพี่ทิวที่เริ่มมีอารมณ์น้อย ๆ
"เปิดคอด้วยนะข้าว"น้ำเสียงของพี่ทิวยังคงความใจดีเอาไว้เหมือนเก่า แต่สิ่งที่พี่เขาให้ผมทำนี่... น่าอายจังเลยฮะ
แต่คงไม่น่าอายเท่าการที่ไปขอให้พี่ทิวมาทำ... ด้วยแบบนี้ จอไปได้ยังไงกันนะ ไอ้บ้าข้าว
ผมประคองแกนกายของพี่ทิวไว้ด้วยสองมือ รูดเบาให้แข็งชูขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ ส่งเข้าโพรงปากไปอย่างช้า ๆ แค่นี้ก็คับปากผมแล้วล่ะฮะ
มือของพี่ทิวลูบตัวผมเล่นไปเรื่อย ก่อนจะเลื่อนไปจับที่น้องชายของผมที่น่าจะอยู่ตรงหน้าพี่เขาพอดี มืออุ่น ๆ นั่นรูดรั้งท่อนเนื้อของผมรัวเร็ว ริมฝีปากหยักขบเม้มที่พวงไข่อย่างแรง
"อื้อ อื้อออ"ผมบิดตัวน้อย ๆ มันอุ่นมวนที่ท้องน้อยมากเลยฮะ ผมพยายามตั้งสติ แล้วดูดกลืนแท่งร้อนของพี่ทิวเข้าไปในปากให้ลึกที่สุด
มันจุกที่คอมากฮะ คับไปทั้งปาก แต่ผมก็ยังคงผงกหัวรูดขึ้นลงให้มันขยายตัวเรื่อย ๆ อยู่ ๆ พี่ทิวก็ยกตัวขึ้น ทำให้ร่างของผมที่คร่อมพี่เขาอยู่ยกขึ้นเล็ก ๆ พี่เขายื่นมือมากดหัวผมให้ลงไปอีก จนองคชาติของพี่ทิวแทงลึกเข้าไปในคอผม
"เปิดคอรับเข้าให้หมดสิครับ ข้าว รูดเร็ว"พี่ทิวพูดไป ขณะที่จับหัวของผมให้ไปตามจังหวะที่พี่เขาต้องการ สิ่งที่อยู่ในปากผมมันขยายตัวขึ้นอีกล่ะฮะ
เหมือนพี่เขาจะพอใจแล้วจึงปล่อยมือจากผม แล้วนอนลง แต่ถึงพี่เขาจะลุกมาบังคับจังหวะผม มือของเขาก็ยังไม่หยุดที่จะขยับรูดน้องชายผมแม้เพียงวินาที
"อื้อ อื้อออ อ๊าาา"ผมยกตัวขึ้นร้องลั่น ทำให้ท่อนเนื้อของพี่ทิวหลุดไปจากปาก น้ำสีขุ่นของผมหลั่งออกมาใส่มือของพี่ทิวจนท่วม "พะ พี่ พี่ทิว..."
"ทำต่อครับ ข้าว"พี่ทิวพูดด้วยเสียงนุ่ม ๆ มือข้างที่ไม่เปรอะหยาดน้ำของผมขยับไปขย้ำแก้มก้นผมอย่างแรง "ทำต่อไปครับ พี่จะจัดการเอง"
ผมก้มหน้าลงไปทำตามคำสั่งของพี่ทิว หน้าผมร้อนเห่อไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่าแดงก่ำ ตอนอมน่ะไม่รู้หรอกครับ แต่พอได้เห็นหัวแดงบานที่ชี้หน้าผมอยู่นี่แล้ว มันอดที่จะเขินไม่ได้
ทั้งใหญ่ ร้อน มันจะเข้าไปในตัวอมได้เหรอ...
ผมเล็มเลียท่อนเนื้อนั้น ก่อนจะอมเข้าไปให้ลึกที่สุดอีกครั้ง ถึงจะอึดอัด ทั้งเมื่อย ทั้งเจ็บปาก แต่ผมก็อยากทำให้พี่ทิวพอใจ
"อืมมม เก่งมาก ข้าว"เสียงครางเบา ๆ ของพี่ทิวทำให้ผมรู้สึกมีแรงจะทำต่อ มือขยับมือมาลูบไล้พวงไข่ใหญ่ ขยำเบา ๆ อย่างหยอกล้อ
ความรู้สึกเหนอะ ๆ อุ่น ๆ แผ่ขึ้นมารอบปากทางที่ไม่เคยมีให้ได้เห็น ผมหลุบตาลง พยายามมุ่งความคิดไปกับลำตรงหน้า แต่ร่างกายที่ไม่รักดีมันด็เกร็งวาบขึ้นมาเอง
"เกร็งแบบนี้ เจ็บไม่รู้ด้วยนะ"สิ้นเสียงพี่ทิว ก็มีบางอย่างสอดเข้ามาข้างในของผม ความเจ็บแล่นขึ้นมาเรียกน้ำตาผมให้รื้นซึม "เจ็บล่ะสิ ไม่ต้องอมแล้วล่ะข้าว"
ผมยกตัวขึ้น ถึงจะไม่ได้อม แต่ผมก็ยังรูดให้พี่ทิวต่อ
น้องชายพี่ทิวพร้อมเต็มที่แล้วสิ...
ระหว่างที่เหม่อไปชั่วขณะ นิ้วอีกสองนิ้วก็แทรกเข้ามาอย่างไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวสักนิด
"อ๊ะ ฮึก เจ็บ"สามนิ้วของพี่ทิวหมุนคว้านในตัวผมอย่างเร็ว ชักเข้าออกอย่างเร็ว "พี่ทิว พี่ทิว อื้ออ"
ในความเจ็บนั่นมีความเสียวอยู่ตลอด สะโพกผมส่ายไปมาอย่างอดไม่ได้ ผมโก่งสะโพกขึ้น ทำให้หน้าไปแนบกับลึงค์ของพี่ทิว ถูกกันไปมา
"พร้อมแล้วล่ะสิ"นิ้วทั้งสามถูกถอนออก ก่อนที่ตัวผมจะถูกพลิกให้ลงมานอนบนเตียง "ยกข้าขึ้น เร็ว"
ผมค่อย ๆ ยกขาขึ้นช้า ๆ อ้าออกอย่างเอาใจ ไม่ต้องสั่งก็พอจะรู้อยู่ว่าผมต้องทำอะไร...
พี่ทิวยกยิ้มอย่างพอใจแล้วแทรกตัวมาอยู่ตรงกลาง เลื่อนมือลงไปลูบที่ปากทางรักของผมเบา ๆ
"เข้าไปละนะครับ"หัวแดงบานที่ผมเป็นคนปลุกเร้าแทรกเข้าไปในตัว ความเจ็บยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ แทรกเข้ามาทุกอณู พี่ทิวจับสะโพกผมเอาไว้ ไม่ให้ขยับนี้อย่างที่ผมต้องการ
"เจ็บ เจ็บ พี่ทิว ฮือออ"น้ำตาผมร่วงลงมาอย่างหยุดไม่ได้ แต่เหมือนพี่เขาจะไม่สนใจ แท่งอุ่นนั้นยังคงแทรกลึกเข้าเรื่อย ๆ ถึงจะเป็นการฝืนร่างกายผมก็ตามที
"ซี๊ด แน่น ผ่อนคลายหน่อยข้าว ไม่งั้นจะเจ็บกว่านี้นะ"ผมพยายามผ่อนคลายตามคำของพี่ทิว แต่ก็ทำไม่ได้ จะเหมือนพี่เขาทนไม่ไหวแล้ว ถึงได้ดึงตัวผมให้กระแทกเข้าหาเขาอย่างแรง
"อ๊าาาาาา ฮึกก"น้ำตาผมไหลพรากลงมา มันเจ็บจนไม่รู้จะพูดยังไง แต่พี่ทิวก็ยังดึงให้ผมรับเอาตัวพี่เขาเข้าไปให้หมดไม่หยุด
"พี่ขอโทษนะ"เสียงแหบพร่าเอื้อนเอ่ยขึ้น ก่อนที่สะโพกผมจะถูกยกลอยขึ้น พี่ทิวกุมสะโพกที่ขึ้นเป็นรอยนิ้มของผมแน่น ก่อนจะทั้งดึงตัวผม พร้อมกับกระแทกตัวเองเข้ามาอย่างแรง
"ฮึก"เจ็บจนร้องไม่ออก ผมอ้าปากค้างนิ่ง ดวงตาเหม่อลอย พี่ทิวโน้มกายลงมาจูบผมอย่างอ่อนหวาน แล้วยิ้มให้
"เข้าไปหมดแล้วล่ะครับ"พี่ทิวจูบแก้มผมหนัก ๆ ด้วยความเจ็บที่เกิดคำบรรยาย ทำให้ผมไม่อาจจะเอ่ยเสียงอะไรออกไป “เอาล่ะ ข้าว หายใจเข้าลึก ๆ”
ผมยังเป็นผม ที่ทำตามคำของพี่ทิว สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อยู่พักเล็ก ๆ ผมเห็นเม็ดเหงื่อผุดพรายบนใบหน้าหล่อเหลา ร่างกายของผมค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
“พี่ต่อละนะครับ”พี่ทิวบอกยิ้ม ๆ ก่อนที่จะยกขาผมขึ้นน้อย ๆ แล้วขยับตัว จากที่ช้า ๆ ค่อน ๆ เร็วขึ้น ๆ
จากความเจ็บปวดในตอนแรก แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน ผมยกตัวขึ้นกอดคอของพี่ทิวไว้แน่น เสียงที่พยายามจะสะกด อั้นเอาไว้ กลับทำไม่ได้อย่างใจคิด
“อ๊ะ อ้า อ้าาา พี่ทิว”ผมครางออกมาไม่หยุด ทั้งที่ตั้งใจจะไม่ร้องออกมาแล้วแท้ ๆ ผมซุกหน้าเข้าไปซอกคอของคนตรงหน้าเพื่อปิดบังเสียงน่าอายพวกนั้น
“อา... ข้าว”พี่ทิวครางชื่อของผมออกมาเบาๆ ความเร็วในการกระแทกนั้นเพิ่มขึ้น มือของพี่ทิวที่กอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมก็ขยับไวขึ้นเช่นกัน
“ข้าว ข้าว.. จะไปแล้ว อ๊ะ อื้อออ”ผมบิดตัวด้วยความเสียวซ่า ความรู้สึกอยากปลดปล่อยประดังเข้าที่ท้องน้อง พร้อมที่จะหลั่งออกมาอีกครั้งหนึ่ง
“ไปพร้อมกันนะ”พี่ทิวดึงตัวผมออก พลิกให้ผมหันหลังให้แล้วโถมกายเข้ามาอย่างแรง
“อ๊ะ อ๊าาาา”
“อาาา”ความอุ่นร้อนพุ่งเข้ามาในตัวผม พี่ทิวทิ้งตัวลงมาทาบทับผมไว้ เสียงหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนดังขึ้นที่ข้างหู “ข้าว เดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำนะครับ”
พี่ชายที่รักของผม ถอนกายออกไป ก่อนจะอุ้มผมขึ้นในท่าเจ้าสาว แล้วพาเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
“ข้าว...”พี่ทิวเรียกผมขณะที่อาบน้ำให้ด้วยเสียงที่เหมือนคุณหมอคุยกับเด็กอนุบาล “ยังไม่วันเกิดข้าวเลยนะครับ...”
“เอาไว้วันเกิดผม พี่ทิวก็ให้ของขวัญผมใหม่แล้วกันฮะ”บ้าจริง พูดอะไรออกไปเนี่ย ผมยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองด้วยความอาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้ยินเสียหัวเราะเบา ๆ จากพี่ทิวอยู่ดี
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ พี่หมอก็พาผมไปนั่งที่โซฟา เอานมอุ่น ๆ กับยาแก้ให้ผมก่อน ก่อนที่ตัวเองจะเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนในห้อง
“เอ... กี่โมงแล้วนะ”ว่าที่นายแพทย์ที่ออกมาจากห้องนอนหันไปมองนาฬิกา ผมเอียงหัวน้อย ๆ อย่างไม่เข้าใจ ปกติพี่ทิวไม่ค่อยจะดูเวลาอะไรสักเท่าไหร่
ผมกอดหมอนนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว ง่วงจังเลยฮะ ผมว่าผมควรจะนอน...
แกร๊ก
เสียงเปิดประตูดังขึ้น เรียกความสนใจจากการนอนของผมไป ผมหันไปมองที่ประตูห้อง ใครกันที่จะมาตอนนี้...
ร่างสูงโปร่งของคนที่คุ้นตาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มนิด ๆ พี่ลมหนาวยกมือขึ้นทักทายผม ก่อนที่จะวางกระเป๋าลง แล้วเดินเข้าไปหาพี่ทิว
ผมรู้แล้วล่ะว่าพี่ทิวมองนาฬิกาทำไม...
พี่ลมหนาวมานี่เอง...
คนสำคัญที่สุด... ยังไงก็ย่อมสำคัญสินะครับ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
มาละค้าา ช็อคกับคะแนนมา เพิ่งฟื้นคืนชีพ 555 เอาพี่ทิวออกมาก่อน ปันปันยังกระดึ๊บไปออก สยองพี่คิตตี้หลาย 555
นำคู่หลักไปแล้วแหะ... (เหรอ) ตั้งใจเขียน 30 ตอนจบ... มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ 555 เราคงได้อยู่ด้วยกันอีกนานเลย...
อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะคะ
พบกันตอนหน้าค้า