EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ  (อ่าน 279063 ครั้ง)

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
จูบแล้วๆ อ่านไปก็ลุ้นไปทั้งคู่กิตคี ทั้งคู่ลมหนาวกับพายุ

ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :heaven

#ทีมลมหนาว  :o8:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2015 00:48:21 โดย OrangeCaramel »

ออฟไลน์ fahhee_zeze

  • Love you...YAOI~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
โฮ่ยๆๆๆๆๆ รอมหันตภัย(พายุ+ลมหนาว)ตอนหน้านะเออ รอฟินอย่างต่อเนื่อง ถถถถถถถถถถถถถ  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :pig4:  เฮอะบทจะง่ายก็ง่ายเนาะลมหนาว  ง่ายไป๊ 

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ดีจัง วันนี้ พายุไม่พูดจากวนตีนลมหนาวเลย ฮ่าๆๆๆ (มันเดี้ยงกวนไม่ออก)

คีตา ฉันนึกว่าแกรักพี่กิตเขาตั้งนานแล้วซะอีก นี่แกเพิ่งรู้ตัวเหรอ

พี่ทิวคะ สนใจน้องข้าวด้วยค่ะ น้องมันน้อยใจอยู่นะ

พี่คิสมาทำอะไรคะ มาโชว์รถ มาอ่อยเด็ก(ปันปัน) มาคุมเด็ก(ปันปันอีกที)มากวนโมโหเด็ก(ก็ปันปันนั่นแหละ)

คือพี่ไม่มีบทบาทอะไร ในการรับน้องเลย นอกจากป้อปันปันอย่างเดียว ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
กรี๊ดดดดดดดดดด เค้าจุ๊บกันแล้ว เขินๆๆ 555

ตอนนี้ลุ้น คู่น้องคีพี่กิต และคู่พี่ทิวน้องข้าวมากอ่ะ
โดยเฉพาะคู่หลัง สงสารน้องข้าวจริงๆ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อย่าตัดแบบนี้ซิ มันค้างอ่ะ  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Beerr_jh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
พี่ทิวสนใจน้องข้าวบ้าง ดูแลลมหนาวดีเกินไปจนน้องคิดไปไกลแล้ววว
พายุ-ลมหนาว คู่นี้มาวินมากตอนนี้ ลมหนาวมอบจูบแรกไปแล้วววว รอว่าต่อไปเค้าจะหวานกันขนาดไหน อิอิ :-[

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
โฮ่ยๆๆๆๆๆ รอมหันตภัย(พายุ+ลมหนาว)ตอนหน้านะเออ รอฟินอย่างต่อเนื่อง ถถถถถถถถถถถถถ  :hao3: :hao3:

มีชื่อคู่ด้วย >< แต่ตอนหน้าจะฟินไหมนะ...

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
สวัสดีค่ะ

มาอ่าน ครั้งแรก สนุกมากค่ะ

ติดตามๆ เรื่องราวดีดีของพี่วินัยทั้งสองคณะต่อไปค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ khaohom

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบเรื่องนี้มากมาย ตามอ่านอยู่
 แต่เรื่องรับน้องคล้ายๆกับมอ.เรามากเลย มีชิงธง เฟรซชี่ไนท์
เราก็เป็นพี่วินัยคนนึง ตอนนี้ก็ทำหน้าที่อยู่ เข้าใจความรู้สึกเลย

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่ยี่สิบแปด

หลังจากวันที่กลับมาจากทะเล มรสุมงานก็พัดโหมเข้ามาหาผมครับ รายงานก่อนสอบมิดเทอมที่ต้องส่ง สอบunknown ของแลปบางตัว แล้วก็มีแลปกริ๊งอีก ไม่ต้องเห็นเดือนเห็นตะวันกันเลยล่ะครับ

ไม่ต้องถามถึงพวกวิศวะ พวกนั้นก็หัวยุ่งหัวฟูเหมือนกัน ผมได้เจอกับฝั่งนั้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก เจอก็แค่ทักไม่ได้หยุดคุย... ไม่ใช่ว่าไม่มีเวลาสักนิดที่จะหยุดคุยหรอกครับ แต่พอเห็นหน้าของพายุทีไร ทำให้ผมนึกถึงคืนนั้นขึ้นมา

ผมยอมให้มันจูบผมได้ยังไง จนตอนนี้ผมยังไม่เข้าใจตัวเองเลย ทั้งที่ผมควรจะต่อยหน้ามันไปสักหมัด แต่ไม่ แล้วนั่น... ก็เป็นจูบแรกของผมด้วย

ยิ่งคิด ยิ่งฟุ้งซ่าน เลิกคิด ๆ ผมปัด ๆ ความคิดพวกนี้อิกจากหัว แต่ปัดออกไปกี่ครั้ง พอมีเวลาว่าง มันก็กลับเข้ามาในสมองทุกครั้ง

แย่... แบบนี้ผมคงเป็นโรคประสาทเข้าสักวันนะครับ

อาจจะโชคดีที่ช่วงนี้หัวหมุนกับหลายเรื่อง โดยเฉพาะการสอบกลางภาค ต้องทำคะแนนสวย ๆ ไว้ก่อนล่ะครับ ปลายภาคยากเสมอ ถ้าไม่อยากได้น้องปลามากิน

"กู... ไม่... ไหว... แล้ว"ปันปันลากขาเดินมาที่ม้าหินอ่อนที่ผมนั่งรอมันอยู่ วันนี้สอบวันสุดท้ายแล้ว ม.จะปิด 1 สัปดาห์ เห็นว่าจะพาอาจารย์ไปสัมนากันน่ะครับ เลยหวานนักศึกษาเลย

"สอบเสร็จละโว้ยยยยย"นี่ก็เสียงคนคุ้นเคย มาก่อนด้วยอีกน้องเทคผม มันวิ่งมากับเพื่อนมัน คงจะออกไปปลดปล่อยกันล่ะมั้งครับ "ดี พี่หนาว ไปก่อนนะ เจอกัน"

มาไวไปไว... ขอให้โชคดีนะ...

"น้องปันปัน ไปเที่ยวกับพี่นะครับ"อยู่ ๆ พี่คิสแกก็โผล่มาจากมุมไหนไม่รู้ มาที่โต๊ะผม พี่เขาเล่นกางแขนเท้าโต๊ะคร่อมเพื่อนผมที่นอนตายอยู่... "ไปนะ ๆ"

"ไปไกล ๆ เลย ผมไม่ไป"ถึงจะถอดวิญญาณไปครึ่งนึงแล้ว แต่ฝีปากมันยังไม่มีตกนะครับ ตอบกลับมาเสียงแข็งอีกต่างหาก

"น่าา เดี๋ยวพี่พาไปเที่ยวที่สวย ๆ ไปนะครับ"พี่เขาก็ยังคงไม่หวั่นเหมือนเดิมล่ะครับ ดีไม่ดีก็ชินแล้วด้วยซ้ำ โดนทุกทีที่เจอหน้ากัน "ปะ ๆ ไม่ดื้อนะครับ เด็กดี"

ผมว่าอีกยาว... คนนอกอย่างเราควรไปเดินเล่นที่อื่นก่อน จริงไหมครับ

ผมหยิบกระเป๋าข้างตัวแล้วลุกขึ้นเบา ๆ เดินลัดเลาะไปเรื่อย จะอยู่เป็นก้างตรงนั้นก็ยังไงอยู่ ปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันนั่นล่ะครับ ไอ้ปันก็อ่อนให้พี่คิสแกมาเยอะแล้ว เดี๋ยวได้ผลยังไงมันก็วิ่งโร่มาบอกผมเอง

"ไง หนาว สอบเสร็จแล้วดิ"ผมหันไปหาคนที่ทักผม ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ “ไง ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่นายขึ้นเป็นประธานวินัย เป็นไงบ้าง”

“ก็ยังดีอยู่ ปวดหัวบ้างตามระเบียบ นายเหอะ ไม่โผล่หน้าโผล่ตามาเลย เรียนหนักดิ”ผมถามกลับไป คนนี้คือเมฆ เพื่อนตั้งแต่สมัยประถมของผมเองครับ ซี้กันถึงขั้นรู้จักญาติพี่น้องกันหมดโคตรตระกูลแล้วมั้ง ตอนมันหมั้น ผมยังไปร่วมเลย “แล้วปุ๊กล่ะ เป็นไงบ้าง”

“ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ปีหน้าก็กลับมาอยู่ไทยถาวรแล้ว”เมฆตอบกลับผมมาด้วยรอยยิ้ม แววตามันฉายแววหวาน คงคิดถึงมากล่ะสิ

“ก็ดีแล้ว อีกสองปีนายเรียนจบ จะได้พร้อมแต่งงานเลยไง”ผมแซวเพื่อนไปเล็ก ๆ ถึงกันหน้าแดงเลยครับ ถึงจะบอกว่าแซวแต่มันก็เป็นแพลนจริงที่วางเอาไว้อยู่นะครับ “ยังรักไม่เปลี่ยนใช่ไหม”

“อืม แน่อยู่แล้ว ถ้าไม่รักคงไม่ขอหมั้นไว้หรอกน่า”เมฆชกไหล่ผมเบา ๆ แล้วหัวเราะออกมา “ยิ่งห่างกันแบบนี้ มีแต่จะรักมากขึ้นด้วย”

“ไม่รักแท้แพ้ระยะทางสินะ”ผมกับเมฆนั่งลงที่เก้าอี้สนามตัวยาวที่ตั้งไว้แถวนั้น เราคงมีเรื่องคุยกันยาวล่ะครับ “แล้วปุ๊กสบายดีไหม”

ปุ๊กก็เป็นเพื่อนกับผมมาสมัยมัธยมนะครับ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก ออกจะขี้อาย ชอบใส่แว่นทั้งที่สายตาปกติ ตอนนี้ไปเรียนอยู่ต่างประเทศ จบพร้อม ๆ กับผมนี่ล่ะครับ เรียนสี่ปีเหมือนกัน แต่หมอมันหกปี เฉาไปก่อนนะครับเพื่อน อีกสามปี

“สบายดี ออกจะดีมากด้วย พอไปเรียนต่างประเทศเธอก็ไม่ได้ขี้อายเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ เห็นรูปไปงานพรอมกับเพื่อนตอนกลางคืนด้วย”เมฆยังคงยิ้ม ๆแต่สีหน้าดูหม่นลง “บางทีเราก็ไม่แน่ใจว่าปุ๊กจะยังมีเราอยู่ในใจเหมือนเดิมไหมเหมือนกันนะ หนาว”

“ทำไมล่ะ”ผมถามออกไปด้วยความสงสัย เท่าที่ผมเคยได้เห็น ปู๊กก็รักในตัวของเมฆมาก มากถึงขนาดเอ่ยปากเถียงกับพ่อของเธอเพื่อให้เกิดงานหมั้นเมื่อสามปีก่อนเลย

“ไม่รู้เหมือนกันสินะ เดี๋ยวนี้ปุ๊กไม่ค่อยจะตอบไลน์เรา สไกด์ไปก็ไม่ค่อยรับ ถึงรับก็คุยกันแค่แปปเดียว แล้วรูปที่ได้เห็นแค่ละรูปพักหลังมานี้ เธอก็ไม่เทียวกับเพื่อนผู้ชายบ่อยขึ้นมาด้วย”สีหน้าของเพื่อนยิ่งหน่มลงไปอีกเมื่อพูดถึงความกังวลที่อยู่ในใจ “ไม่ได้อยากจะคิดมากหรอก แต่มันก็นะ มันอดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้”

“คงไม่มีอะไรหรอก เมฆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น คุณพ่อของปุ๊กก็น่าจะบอกเมฆแล้วล่ะ ยังไม่เขาก็ส่งคนคอยดูปุ๊กอยู่นี่”ผมคงได้แต่พูดปลอบใจไป กับปุ๊กถึงจะเป็นเพื่อนกันมานาน แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกันเท่าไหร่ มีคุยกันบาง แต่ตั้งแต่เธอไปเรียนต่างประเทศ นาน ๆ ทีถึงจะได้คุยกัน “นายไม่เชื่อใจเขาเหรอ”

“เราพยายามอยู่ หนาว เราพยายามอยู่”รอยยิ้มของเมฆแห้งเหือดลงทุกที มันล้วงกระเป๋าหยิบเอามือถือของมันขึ้นมา “ถ้าเราไม่เห็นรูปนี้”

มือขาวส่งเครื่องมือสื่อสารที่เปิดรูป ๆ หนึ่งเอาไว้มาให้ผมดู ผมรับมาแล้วมองหน้าเพื่อนก่อน ถึงจะก้มลงมองรูปที่ว่า รูปที่ทำผมผงะไม่น้อย

เพื่อนสาวที่ผมยังจำได้ดี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พบหน้ามาพักใหญ่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีหวาน นั่งซบอยู่บนตักของฝรั่งตาน้ำข้าว รอยยิ้มหวาน ๆ มับแขนที่โอบรอบคอเอาไว้

ผมไม่แปลกใจเลยที่เมฆมันจะเครียดขนาดนี้

“มันอาจจะเป็นการแกล้งกันก็ได้ เล่นเกมอะไรแบบนี้ไง”ผมพยายามมองแง่ดี ถึงแม้ว่าแววตาที่ฉ่ำหวานของเพื่อนมันจะไม่ได้ชวนให้คิดอย่างนั้น... ก็ตามที

“หวังว่านะ... หวังว่า”ฟังดูก็รู้ครับว่าเพื่อนผมคนนี้ไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่จะไปพูดอะไรได้มากล่ะครับ ถ้าผมมีคนรัก และคนรักไปทำแบบนี้กับชายอื่น ผมคงไม่ต่างจากเมฆหรอกครับ”เราไม่ควรตีโพยตีพายอะไรไปก่อนรู้ความจริงใช่ไหมหนาว”

“อย่าเพิ่งคิดแง่ร้ายเลยเมฆ”ผมยิ้มปลอบใจเพื่อน ก่อนที่จะขยับตัวไปโอบบ่ามันไว้ ตบไหล่เบา ๆ “ทุกอย่างมันไม่เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไปหรอกนะ”

“เราจะพยายามไม่คิดมากแล้วกัน”เมฆเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึกแล้วยิ้มออกมา “นายเถอะ ได้ข่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่าเมดเทคกับวิดวะดีขึ้นแล้ว จริงเหรอ”

“ก็คงงั้นมั้ง”นึกแล้วก็อดที่จะส่ายหน้าน้อย ๆ ไม่ได้เหมือนกันนะครับ “ดีขึ้นแหละ ต้องทำงานร่วมกันมาตั้งหลายเดือนขนาดนี้ ถ้าตีกันทุกวัน เราก็คงแย่”

“แต่หนาวก็ดูมีความสุขดีนะ”เมฆยิ้วมกว้างอย่างล้อเลียนส่งมาให้ผม อะไรของเขาล่ะครับนั่น “ไปปิ๊งเด็กวิศวะคนไหนเข้าหรือเปล่า”

“บ้าเหรอ เมฆ จะเป็นไปได้ไง”ผมส่านหน้าให้กับความคิดพิเรนทร์ของเพื่อนแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ “นั่นวิศวะนะ แล้วอีกอย่างเราจะเอาเวลาที่ไหนไปสนใจคนอื่นที่ไม่ใช่น้อง ๆ กันเล่า คิดไปได้”

“ก็ระหว่างที่กอดอกมองกดดันน้องไง”ยังไม่เลิกนะเพื่อนนะ เดี๋ยวโดนดีหรอกครับ “โอ๋เอ๋น้า ไม่ล้อแล้วก็ได้ นิด ๆ หน่อย ๆ ทำหน้าบูดนะเดี๋ยวนี้”

“บูดอะไร เปล่าซะหน่อย”หน้าผมกันก็นิ่ง ๆ อย่างนี้อยู่แล้วนี่ครับ ผมยังไม่ได้ขยับใบหน้าเลยนะ “หน้าเราก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่ขรึมจะเป็นวินัยได้เหรอ”

“หน้าน่ะเหมือนเดิม แต่แววตาใช่ว่าจะเหมือนนี่ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ทำไมแค่นี้เมฆจะไม่รู้”เมฆแลบลิ้นให้ผมแวบนึง แล้วหัวเราะออกมาเสียงไม่เบาเท่าไหร่ “นายก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริง ๆ นะ จะทำอะไรก็ต้องเป๊ะซะทุกอย่าง ชอบเก็บอะไรไปคิดคนเดียวไม่ยอมพูดออกมา ยึดมั่นในคำที่ให้สัญญาเอาไว้ตลอด นี่ก็เหมือนกัน นายเคยสัญญาว่าถ้าเราเสียใจ นายจะอยู่ข้าง ๆ ขนาดนายไม่รู้ว่าเรากำลังเสียใจ แต่นายก็ยังมาอยู่ข้างเราตอนเราเสียใจเลย...”

“ก็นายเป็นพื่อนของเรานี่ เพื่อนจะทิ้งเพื่อนได้ยังไง”นั่นสินะ... ผมเคยให้สัญญากับเมฆไว้ตอนประถมต้น... ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เมฆเสียใจ จะมีผมอยู่เป็นที่พักพิงข้าง ๆ เสมอ “สัญญาต้องเป็นสัญญาสิ”

“คำสัญญา บางครั้งมันก็คือคำพูดคำนึง ถ้าอะไรที่มันผ่อนปรนได้ ก็เอามันลงจากบ่าบ้างก็ได้นะ”ผมหันไปมองหน้าคนข้าง ๆ อย่างไม่เข้าใจ เมฆต้องการสื่ออะไรกับผมกันครับ? “นายก็เป็นแค่เด็กวันรุ่นธรรมดาคนนึง จะยึดติดกับคำที่ให้ไว้จนตัวเองเหนื่อย ตัวเองล้าแบบนี้มันก็ใช่ที่นะหนาว นายเป็นคน ไม่ใช่การ์ตูน ไม่ต้องทำตัวเปาเสาหลักไปซะทุกเรื่องในการทำงานก็ได้ ยื่นบางสิ่งบางอย่างให้คนอื่นทำบ้าง มันไม่ตายหรอกนะ”

“พี่ทิวเล่าให้ฟังล่ะสิ”ผมเหม่อมองต้นไม้ใหญ่ตรงหน้า นั่นสินะครับ ตั้งแต่ได้รับรู้ว่าผมจะต้องเป็นประธานวินัยของเทคนิคการแพทย์คนต่อไป มันก็เหมือนมีแรงบางอย่างผลักให้ผมเข้าสู่กรอบที่ตั้งเอาไว้ ผมคิดอยู่เสมอว่าผมต้องพาน้อง ๆ เดินไปถึงฝั่งให้ได้ ต้องไม่น้อยหน้าพี่ตังโอที่พาผมเดินมาถึงจุด ๆ นี้ “ก็นะ... แต่ยังไงมันก็จบแล้วล่ะ ภารกิจของเราเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแต่เทรนด์น้องรุ่นต่อไปในปีหน้าก็เท่านั้นเอง”

“ก็ดีแล้ว หนาวจะได้มีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง”เวลาของตัวเอง... ว่าไปแล้วผมไม่ได้นึกถึงคำ ๆ นี้มานานแค่ไหนแล้วนะ เวลาของผมที่ผ่านมาก็ทุ่มเทไปกับการเรียน ถ้าว่างก็หางานพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำไป ไม่ได้ทิ้วเวลาให้ได้นั่งคิดถึงตัวเองทั้งในอดีตแล้วก็ในอนาคตสักเท่าไหร่ “ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าไม่เคยปล่อยวางให้ตัวเองจมอยู่ในห้วงคิด นึกถึงอดีต นึกถึงทางเดินข้างหน้าเลยล่ะสิ”

“ก็มีคิดบ้าง...”

“แต่เป็นเรื่องของน้อง”รู้ทัน... โดนรู้ทันตลอดล่ะครับ การที่มีเพื่อนที่สนิทจนรู้ใจทุกอย่างก็ต้องทำใจอย่างนึงว่าเขาจะรู้ทันเราไปซะทุกเรื่องนั่นล่ะครับ “เอาเถอะ ยังไงนั่นก็เป็นชีวิตของหนาว หนาวจะเดินทางไหน จะตัดสินใจต่อไปยังไง มันก็เป็นเรื่องของหนาวเองล่ะเนอะ”

“เดี๋ยวนี้หัดประชดแล้วนะ เมฆ”ผมยกมือข้างที่โอบมันไว้ขึ้นมาขยี้หัวมันเบา ๆ “ผมยังนุ่มเหมือนเดิมเลย ว่าแต่เราไม่เปลี่ยน เมฆก็ไม่เปลี่ยนเหมือนกันนั่นแหละ”

“จริงอ่ะ”เมฆถามผมกลับด้วยเสียงกวน ๆ พร้อมกับหันมายิ้มยิงฟันขาว ๆ ให้ “มีแต่คนบอกว่าเราเปลี่ยนไป ดูหล่อขึ้นเยอะ”

“นายคิดว่านายพูดกับใครน่ะ”พูดออกมาได้ เมฆมันไม่ใช่คนหล่อหรอกครับ เป็นคนประเภทที่มองปุ๊กรู้ปั๊ปว่าต้องเป็นหมอนั่นล่ะหน้ามน ๆ เนิร์ด ๆ หน่อย ใส่แว่นกรอบเต็ม มุมปกยกขึ้นทำให้ดูใจดี ยิ้ม ๆ ตลอด “นายมาชมตัวเองต่อหน้าเดือนคณะอื่น ดีกรีขวัญใจช่างภาพเนี่ยนะ”

“เชอะ ข่มนะ ๆ”ตาหวาน ๆ นั่นค้อนใส่ผมวงเบ้อเริ้ม ไม่ได้ข่มสักหน่อย ผมพูดเรื่องจริงต่างหากล่ะครับ “อย่าให้เราได้ดอกาสบ้าง จะเอาคืนให้ดู”

“ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”เถียงกลับไปขำ ๆ อย่างนั้นล่ะครับ ไม่มีอะไร “เมฆเหมือนเดิมจริง ๆ นะ ทั้งขี้งอน ขี้บ่น ชอบค้อน แม้แต่ผม ก็ยังนุ่มเหมือนเดิมเลย”

“นี่ชมหรือว่า”

“ชมสิ”ผมยักคิ้วให้เพื่อนข้างนึง แล้วแอบหัวเราะในใจ ที่พูดไปก็เรื่องจริงทั้งนั้นนี่น่า

พรึบ ตุบ

ทั้งผมทั้งเมฆพากันสะดุ้ง เมื่อมีอะไรบางอย่างหล่นมาใส่ตักผม ผมก้มลงไปมองของแปลกปลอมที่ว่า เป็นซองสีน้ำตาลซองขนาดปานกลางที่ข้างในใส่ของไว้พอดู ก่อนจะเงยขึ้นมองคนที่โยนซองนี้มา

“พายุ”ผมส่งเสียงเรียกคนที่เดินดุ่ม ๆ ออกไปโดยไม่ทักทาย มาโยนของให้แล้วเดินหนีไปนี่คืออะไรครับ

ผมเปิดซองที่หมอนั่นโยนมาดู ข้างในมีแผ่นซีดีอยู่ 2 แผ่น พร้อมกับรูปถ่ายที่อัดออกมาอีกปึกใหญ่ รูปตอนรับน้องทั้งหมดที่ผ่านมา...

“เมฆ เดี๋ยวค่อยคุยกันต่อนะ”ผมหันไปลาเพื่อนสนิท ก่อนที่จะจ้ำเท้าเดินตามหลังของเฮดว้ากตัวร้ายที่เดินไปไกลพอดูแล้วไปอย่างไง “พายุ พายุ คุณพายุ... โซนร้อน!”

เรียกชื่อจริงไม่หัน ผมเลยต้องตะโกนเรียกชื่อเล่นแทน เท่านั้นล่ะครับมันถึงจะหยุดเดิน อ่อ ทุกคนคงยังไม่รู้สินะครับว่าพายุที่เรียกกันมาน่ะเป็นชื่อจริง แต่ชื่อเล่นจริง ๆ ของมันคือโซนร้อนครับ

ชื่อเล่นที่น้อยคนจะพูดถึง นอกจากเพื่อน ๆ กับพี่มันแล้วคิดว่าคงไม่มีใครรู้หรอกครับ แต่ผมรู้เพราะตอนประกวดดาวเดือนมันแนะนำตัวมา

อีกอย่าง ผมคิดว่ามันคงเคยชินกับชื่อพายุมากกว่าด้วยล่ะครับ

“มีอะไร”มันถามผมด้วยเสียงห้วน ๆ อยู่ ๆ มาหงุดหงิดอะไรใส่ผมวะ

“รูปพวกนี้”ผมยกซองสีน้ำตาลที่ถือเอาไว้ขึ้นมา ตายังคงจ้องหน้ามันอยู่

“รูปรับน้องไง”พายุโต้กลับมาก่อนที่ผมจะถามอะไร ผมรู้แล้วว่าเป็นตอบตอนรับน้องที่ผ่านมาครับ ไอ้คุณพายุ “ไม่ได้เปิดดูหรือไง”

“คุณเอามาให้ผมทำไม”ผมถามคำถามที่อยากรู้ทันที โดยไม่ฟังหมอนี่พูดต่อ ขืนรอฟังคงอีกยาวล่ะครับ

“คุณไม่เอาไปทำงานหรือไง คุณลมหนาว”คนตรงหน้าถามผมกลับ ทำเอาผมสะอึก ใช่... มันต้องเอาไปทำรายงานส่งสโม “ทั้งหมดที่คณะผมถ่ายเอาไว้ นั่นน่ะ”

“แต่...”

“ไม่ต้องห่วงไป พวกผมไม่คิดเงินหรอก ให้คือให้”ผมไม่ได้หน้าเงินนะครับ ที่จะพูดถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ น่ะ ต่อให้มาเรียกเก็บเงิน คณะผมก็มีจ่าย

“ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้น แต่ผมต้องการถามคุณว่า คุณคิดว่าคณะผมไม่มีถ่ายเอาไว้หรือยังไงกัน”ผมโต้กลับไปด้วยเสียงที่แฝงความหงุดหงิดไว้เล็ก ๆ

ที่สำคัญ... ทำไมถึงโยนมาให้แล้วเดินหนีมาแบบนี้... เป็นคำถามที่ผมอยากรู้ แต่ไม่อยากถาม

“ผมรู้ว่ามี”มันกระตุกยิ้มเยาะให้ผม แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมพร้อมกับหรี่ตาลง “แต่ไม่มีทางมีเยอะไปกว่าคณะของผมหรอก”
ผมกับมันจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้น ก่อนที่มันจะกระตุกยิ้มที่มุมปากอีกครับ แล้วดึงตัวผมเข้าไปหามัน พร้อมกันกดจมูกโด่ง ๆ ที่ดีดนั่นเข้าที่แก้มผมหนัก ๆ

“เฮ้ย”แน่นอนครับว่าคราวนี้ผมผลักมันออกอย่างแรง พร้อมสวดหมัดออกไป อยู่ดี ๆ มาฉกหอมแก้มกันอย่างนี้ บ้าฉิบหายเลย แต่พายุมันรับหมัดผมไว้ได้แบบสบาย ๆ ล่ะครับ

“แก้มหอมดีนะ ลมหนาว”มันยักคิ้วยั่วโมโหผมไปอีกหนึ่งยก “มัดจำไว้ก่อน หลังแจ่งแสตนด์เจอของจริง อย่าลืมเตรียมตัวไว้ให้พร้อมนะครับ คุณเหมันต์”

“หึ อย่างคุณไม่มีทางก้าวข้ามผมไปได้หรอก คุณพายุ”ผมไม่มีวันยอมแพ้คนอย่างมันแน่ “ผมไม่มีวันนอนกับคุณ จำเอาไว้นะครับ”

ชั่ววินาทีนึงผมเห็นสายตามันวูบไหว ฉายแววเสียใจ แต่แค่แวบเดียวมันก็หายไป เหลือแต่สายตาแข็ง ๆ เหมือนเดิม... ผมคงคิดไปเองล่ะมั้ง

“ทำอะไรกันน่ะ”ประธานคณะแพทย์เดินตรงเข้ามาหาผมกับมัน พร้อมกันมองหน้าพวกเราสองคนด้วยสายตาจับผิด “มีเรื่องกันอีกแล้วเหรอ พายุ ลมหนาว”

“เปล่าครับ เราแค่ทักทายกัน”พายุตอบกลับไปเสียงเรียบ ๆ “พวกเราจะมามีเรื่องอะไรกันในมหาวัทยาลัยล่ะครับ พี่ทิวไผ่ ผมไม่ได้อยากโดนทัณฑ์บนนะ”

“ก็แล้วไป”พี่ทิวพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนจะหันมาหาผมแลวยิ้มให้ “นี่สอบเสร็จกันหมดแล้วใช่ไหม หืม”

“ครับ”ผมตอบรับ ส่วนคนข้าง ๆ พยักหน้ารับนิ่ง ๆ ไม่โต้ตอบอะไร ตามปกติพายุมันก็ไม่ค่อยพูดคุยกับพี่ทิวเขาอยู่แล้วล่ะครับ “พี่ทิวมีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ก็ไม่ได้มีอะไร เหมือนเดิมนั่นแหละ เพื่อนพี่ติดต่อมาเลยจะมาถามหนาว”ผมยิ้มบาง ๆ พยักหน้ารับ โอเคครับ ผมพอจะรู้แล้วว่าเรื่องอะไร “จะรับงานไหมล่ะหนาว รอบนี้ก็น่าจะพอได้ค่าหอหลายเดือนอยู่”

“พี่ทิวก็รู้ว่าผมต้องตอบรับอยู่แล้วนี่ครับ”ผมส่งยิ้มให้พี่เขาบาง ๆ งานพิเศษน่ะครับ แบ่งเบาภาระของแม่บ้าง แล้วเผื่อว่าอยากได้อะไรจะได้ไม่ต้องไปแบมือขอ “ช่วงวันหยุดนี้ใช่ไหมครับ”

“อาฮะ สองสามวันน่าจะเสร็จ ที่เหลือก็ได้พักยาวแล้วล่ะ”คราวนี้แค่สองสามวัน ก็ยังดี มีคราวที่แล้วเล่นไปเป็นอาทิตย์ ทำเอาผมหมดแรงเลยเหมือนกันครับ

เหนื่อยกว่าทำรับน้องอีก

“โอเคครับ”

“จริงสิ...”พี่ทิวหันไปหาคนที่ยืนนิ่ง ไม่ขยับไปไหน คงเกรงใจไม่เดินออกไป ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครหันไปมองล่ะมั้งครับ “พายุ อย่าทำงานพิเศษไหม”

“งาน...? อะไรครับ”มันถามกลับมาด้วยน้พเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยและมึนงง ผมเองก็มองพี่เขาด้วยความงุนงงไม่แพ้กัน

“ถ่ายแบบเสื้อผ้า แบรนด์ของเพื่อนพี่เอง”พี่ทิวแกกอดอกแล้วมองพายุตั้งแต่หัวจรดเท้า “คราวนี้ธีมมันเป็นเปลวไฟกับน้ำแข็ง พี่ว่าถ้าพายุกับลมหนาวไปถ่ายด้วยกันน่าจะเข้าท่าอยู่นะ”

“ถ่ายแบบเสื้อผ้า?”มันหันควับมามองผม สายตาของพายุไล่ตั้งแต่ศีรษะของผมลงไปถึงเท้า แล้ววกกลับขึ้นมาอย่างประหลาดใจ “คุณรับถ่ายแบบเสื้อผ้า?”

“แค่เป็นคอเล็กชั่นให้เขาไว้เลือกซื้อในร้าน ไม่ได้ลงนิตยสารอะไร คุณจะมาทำหน้าสงสัยขนาดนั้นทำไม คุณพายุ”ผมว่ามันต้องเข้าใจผิดอะไรไปไกลมากแล้วแน่ ๆ เลยครับ

“จะลองไหมล่ะ”เหมือนจะเป็นคำถามให้เลือกนะครับ แต่พี่ทิวเขาใช้น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วจะเป็นการท้ามากกว่า จับทางพายุได้ล่ะมั้งครับว่าเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาท้า “อยากรู้ไม่ใช่เหรอครับ ว่าเป็นยังไง”

“หึ ก็ได้ครับ ยังไงก็ว่างอยู่แล้ว”ได้ยินเสียงตอบรับมาอย่างนั้น พี่ทิวก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

พายุ... นายหลงกลพี่ทิวเข้าแล้วล่ะ

ยินดีด้วย... นะ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาต่อแล้วค้า ไม่ยาวเท่าตอนที่แล้ว ไม่เป็นไรเนอะ

พบกันตอนหน้านะคะ

ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2015 20:48:51 โดย OrangeCaramel »

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
เอ่อตอนนี้ของเทคะแนนสงสารให้ เมฆ เพื่อนหมอกนะ 5555  :กอด1:

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เก่งแค่ไหน แน่แค่ไหน หึงแค่ไหน เจอพี่ทิวก็ต้องหยุดค่ะ 555555

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อ่านจบปุ๊บปรบมือรัวให้พี่ทิวเลยอ่ะ พี่ทิวฉลาดมาก จับทางพายุเสียอยู่หมัด จะรู้มั้ยเนี่ยว่าเสียรู้เข้าแล้ว เหนือยิ่งกว่าทุกคนนี่ต้องพี่ทิวเลย :katai2-1:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พายุหึงลมหนาวซินะ


เมฆเอ๊ย...ปล่อยเขาไปเถอะ ลองนางไปนั่งตักชายตาเยิ้มขนาดนั้น


นางก็คงไม่เหลืออะไรมาให้เมฆได้คนหาแล้วละลูก


แล้วหน้าตาแบบหนูต้องมีคนดูแล มากกว่านะ


พี่ทิวเป็นบุคลที่ใครๆ มิควรต่อกร ด้วยจริงๆ

ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พี่ทิวน่ากลัวจัง รู้จักจุดอ่อนคนอื่นเค้าไปทั่ว

ออฟไลน์ Beerr_jh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
คุณโซนร้อน หึงด้วย อิอิ เมฆเค้าก็แค่เพื่อนล่ะนะ
พายุหลงกลพี่หมอจนได้สินะ 555
ส่วนเมฆ ผู้หญิงถ้าจะทำอย่างนั้นก็ปล่อยไปเถอะ หาคู่ให้เมฆใหม่ก็ดีนะ อิอิ
ลมหนาวก็บอกพายุไปสิเรื่องพนันกันไว้ผมไม่ยอมแน่ แต่ถ้าเรื่องของหัวใจค่อยว่ากันอีกที 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
อ่านจบปุ๊บปรบมือรัวให้พี่ทิวเลยอ่ะ พี่ทิวฉลาดมาก จับทางพายุเสียอยู่หมัด จะรู้มั้ยเนี่ยว่าเสียรู้เข้าแล้ว เหนือยิ่งกว่าทุกคนนี่ต้องพี่ทิวเลย :katai2-1:

เหนือพี่ทิวมีพี่ตั--- ค่ะ 5555

พายุหึงลมหนาวซินะ


เมฆเอ๊ย...ปล่อยเขาไปเถอะ ลองนางไปนั่งตักชายตาเยิ้มขนาดนั้น


นางก็คงไม่เหลืออะไรมาให้เมฆได้คนหาแล้วละลูก


แล้วหน้าตาแบบหนูต้องมีคนดูแล มากกว่านะ


พี่ทิวเป็นบุคลที่ใครๆ มิควรต่อกร ด้วยจริงๆ

เรื่องของเมฆไม่จบเท่านี้นะคะ ^++++^

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่ยี่สิบเก้า
(คิส)

ผมนั่งไขว่ห้างเลื่อนไอแพคดูการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไป แอบมองปันปันของผมที่ทำหน้าบึ้งอยู่ข้าง ๆ ไป หึหึ พวกเรากำลังไปภูเก็ตกันน่ะ จริง ๆ นั่งเครื่องไปก็ได้ แต่ที่รักบอกไม่เอา จะนั่งรถเท่านั้นนี่สิ

แถมนั่งทำหน้าบูดบึ้งจนคนขับรถผมหน้าเสียไปเลยด้วย ฮะ ๆ เก่งจริง ๆ เลยน้า

อย่างนี้สิ ถึงสมเป็นที่รักของผม

จริง ๆ ก็ชวนทิวกับน้องหนาวมาด้วย แต่ติดธุระอะไรกันไม่รู้ ไม่อยากเสือกเลยไม่เซ้าซี้ ดีซะอีก ผมจะได้อยู่กับน้องปันปันสองต่อสอง

กว่าจะล่อหลอกมาได้เสียงเหงื่อไปหลายยกเหมือนกัน แต่ยอม ก็คนมันถูกใจ

หืม? พวกคุณคิดว่าคนอย่างผมเคยวิ่งไปจีบใครด้วยเหรอ? ไม่ล่ะ ไม่มีทางและไม่มีวัน ไฮโซกระเป๋าหนัก ชื่อก้องอย่างผม กระดิกนิ้วทีเดียวก็มากันเป็นขบวน ถอดเสื้อผ้าอ้าขาเรียบร้อยไม่ต้องสั่ง

มีแต่ปันปันนี่ล่ะ ที่ผมต้องมาตามตื้อ ตามจีบ กว่าจะอ่อนลงที ผมก็แอบอ่อนเหมือนกัน อ่อนใจน่ะนะ คนความอดทนต่ำอย่างผมตื้อได้เป็นเดือน ๆ ก็บุญโขแล้ว รู้ซะบ้างเถอะ ยังไม่รวมที่ยอมโดดงานเลยนะเออ

นั่นล่ะ หนุ่มน้อยข้าง ๆ ผมเคยสนใจซะที่ไหน เจอหน้าก็มีแต่แยกเขี้ยวใส่ ไม่เคยจะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบสักคำ มันน่านัก

ช่าง เอาไว้ผมรวบยอดทีเดียวก็ได้ คอยดูนะที่รัก ถ้ามีโอกาสจะเอาให้ลุกไม่ขึ้นให้สมกับความเหนื่อยที่ผมได้รับ กับความอดทนที่ผมเสียไปเลยคอยดู

หืม... แว่วเสียงมาถาม ทำไมผมถึงตามจีบปันปันน่ะเหรอ... อยากรู้คำตอบกันจริง ๆ อ่ะนะ

มันก็ไม่มีอะไรมากนี่ ผมเกิดมาบนกองเงินกองทอง อะไรที่อยากได้ก็ได้มาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้หญิง รวมถึงหนุ่มน้อยหน้าหวาน ผมก็ผ่านมาหมดแล้ว แต่นะ คนเราเกิดมา ยังไงก็มีสิ่งที่ขาด และต้องการสิ่งเติมเต็ม ผู้หญิงต้องการคนมาดูแล ผู้ชายต้องการคนมาแบ่งปัน คนสวยต้องการคนหล่อมาเป็นคู่ควง

ผมก็ต้องการเหมือนกัน คุณคิดว่าผมที่ตื่นมาส่องกระจกทุกวัน เห็นหน้าตัวเองอยู่ทุกเวลาจะต้องการคนสวยมาอยู่ข้าง ๆ ไหมล่ะ  เดินไปไหนก็ถูกเปรียบเทียบจนเขาต้องขอลา

ผมจะต้องการคนที่ขาวผ่องไปทำไม ในมื่อผมขาวพอที่จะตากแดดแล้วไม่ดำ ถึงแม้ว่าจะเป็นแดดของประเทศไทยก็ตามที

ปันปันน้อยของผม เป็นส่วนผสมที่ผมต้องการ ทั้งคมเข้ม ผิวแทน... คุณชายอย่างผมแน่นอนว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้ และได้มาครอบครองเพียงคนเดียว

แล้วอีกอย่าง อะไรที่ได้มาง่าย ๆ มันก็ไม่สนุก จริงไหมล่ะครับ ทุกคน หึหึ

จากกรุงเทพ ไปภูเก็ตกับการนั่งรถเป็นสิบชั่วโมง ขากลับไม่ว่ายังไงผมก็จะนั่งเครื่องกลับ ต่อให้ปันปันน้อยจะนั่งรถกลับก็ตาม
เมื่อยสัส ร่างกายผมยังต้องใช้งานอีกเยอะ ขอบายกับการทำร้ายร่างกายทางตรงแบบนี้โดยสิ้นเชิง อายุผมมันเลยเบญจเพศแล้วเถอะ ถ้าใครคิดจะไปดูแลตัวเองตอนอายุเยอะแล้ว บอกเลยว่าคิดผิด ไอ้อาการปวดสารพัดปวด ป่วยสารพัดโรคมันถามหาแบบจ่อคิวแล้วจะมาเสียใจ

ผลเหลือบไปมองคนที่บอกจะนั่งรถมาให้ได้ หึหึ บิดไปบิดมาพอกันกับผมนี่ล่ะ นั่น มีทุบ ๆ ช่วงสะโพกด้วย ทำตัวเองนะหนูน้อยของป๋า

ผมเดินนำปันปันเข้าไปในโรงแรมห้าดาวที่อยู่ในเครือบริษัทของผมเอง ทำธุรกิจเกียวกับโรงแรม กับรีสอร์ทก็ดีแบบนี้ล่ะนะ อยากไปไหนก็มีที่พักที่ใช้ได้ไว้รอท่า ไม่ต้องไปตายเอาดาบหน้าที่ไหน

“อ้าว คุณคิส มาถึงแล้วเหรอคะ ยินดีต้อนรับค่ะ”หญิงสาวคนนึงที่แต่งตัวด้วยชุดภูมิฐานเดินเข้ามาต้องรับผม เธอแต่งหน้าสีอ่อน ดวงตาฉ่ำหวานพอ ๆ กับรอยยิ้ม “ห้องที่สั่งเอาไว้ เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ”

“ขอบใจ”ผมรับกุญแจห้องบนสุดของโรงแรมมา เป็นห้องสวีทขนาดใหญ่ ที่สระว่ายน้ำที่ระเบียง เห็นวิวทะเลชัดมาก จะจองนอกจากมีเงินแล้วต้องมีอำนาจกับดวงด้วย ถึงจะได้นั่นล่ะครับ

ผมสร้างไว้เป็นห้องส่วนตัว ไว้มาพักผ่อนกับเพื่อนฝูง ไม่ได้ไว้ให้คนมาพัก เข้าใจตรงกันนะ

“ห้องขนาดนี้ แพงตายห่าเลย”ปันปันน้อยพึมพำบ่นออกมาไม่เบาเท่าไหร่ ตั้งใจให้ได้ยินเลยว่างั้น คงกะประชดผมเต็มที่ “ฟุ่มเฟือยชะมัด”

“โรงแรมพี่ครับ ปันปันน้อย ห้องฟรี ที่พักฟรี อาหารก็ฟรีครับ”ผมไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยสักหน่อย ปีนึงใช้เงินไม่กี่ล้าน ไม่ถึงสิบล้านด้วยซ้ำ ซื้อเสื้อผ้า ซื้อรองเท้า แล้วก็รถนั่นล่ะ แถมรถไม่ได้ซื้อทุกปีด้วย คันที่ถูกใจมันยายากนะเออ หืม...? เอ้า ก็ผู้ชาย ไม่ให้ผมไปซื้อของพวกนี้ จะให้ไปซื้อเครื่องสำอางหรือไง เอาใจสาวก็พาไปกินข้าวที่โรงแรมหรู (ที่เป็นของผมเอง) ไม่มีอะไรให้เสียเงิน จริงไหมล่ะ ผมมันสมาคมคนรวยและไม่ขี้งก (น้อย)

“หึ”ปันปันทำเสียงขึ้นจมูกแล้วเดินกระแทกไหล่ผมไปเหวี่ยงกระเป๋าไว้บนโซฟา ก่อนจะทิ้วตัวนั่งลงตาม น่ะ มองผมตามขวางอีก
ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย

ผมได้แต่ยิ้มกับท่าทางเด็ก ๆ ของเขานั่นล่ะนะ น่ารักจริง ๆ คนอะไร มาเที่ยวคราวนี้ไม่มีใครมาเป็นก้างซะด้วย (ฝังใจตอนไปรีสอร์ทที่ยกให้ยืมรับน้อง ผมแม่งแทบ ไม่ได้อยู่กับปันปันเลย เซ็ง)

เหมาะแก่การเผด็จศึกจริง ๆ...

เคยได้ยินกันไหม? มาภูเก็ต เสร็จทุกราย อะไร เคยได้ยินแต่เสม็ด? ก็ที่นี่ภูเก็ตไม่ใช่เสม็ด จบนะครับคนดี

ผมเหล่อมองคนที่นั่งเอาขาพาดโต๊ะกระจกเอาไว้ โดยที่เหยื่อไม่เห็น ผมที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ด้านหลัง ไม่มีอะไร ใส ๆ น่า ยังไงปันปันก็แฟนผม

ใครกล้าเถียง?

ไม่ได้ผิดลูก ผิดเมีย ผิดผี มีชู้สักน้อย

“คุณคิสครับ คุณเฟรด้าขอเข้าพบครับ”อินเดินเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม เฟรด้า ใครกันล่ะนั้น “คุณเฟรด้า แม่เล้าผับดังแถวนี้ครับ และเป็นบุตรสาวหุ้นส่วนของเราด้วย”

“ให้พบที่ห้องรับรองชั้งล่าง”ผมตอบกลับไปเรียบ ๆ รู้ใจตลอดเหมือนเคยล่ะนายอินคนนี้ “เดี๋ยวไว้ฉันจะลงไป”

“ครับ”เลขาคนเก่งของผมหันหลังเดินออกไป โดยไม่ลืมหันไปค้อมหัวให้นายหญิงของเขา อะไรนะ ผมพูดอะไรไม่ถูก นายหญิงน่ะถูกแล้ว

ปันปันเมียผม เป็นนายหญิงมันผิดตรงไหน เถียงดิ เถียงมา เดี๋ยวพ่อซัดเลย

“เดี๋ยวผมลงไปทำธุระข้างล่างก่อนนะ ปันปัน เป็นเด็กดีรออยู่ข้างบนนะครับ”ผมยื่นมือไปบีบจมูกโด่ง ๆ นั่นเบา ๆ พร้อมกับที่แรงหวดเข้ามาที่เอว แรงดีจริง ๆ เลยให้ตายเถอะ “ชอบเจ็บ ๆ หรือไงกันครับ ปันปันน้อย”

ผมขยิบตาให้กับหนุ่มหน้าคม ผิวแทนตรงหน้า ก่อนจะเดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างสบายอารมณ์ น่ารักน่ากอดจริง ๆ เลยน้า คนอะไร

“คิสคะ”ร่างสูงระหง ทรงเพรียวเรียวชะลูด ปากแดงอย่างกับกินเลือดมาค่อนชีวิต มาพร้อมอ๊อฟชั่นพิเศษ น้ำหอมไล่คนเดินเข้ามาหาผม “จะมาทำไมไม่บอกด้าสักหน่อยล่ะคะ นี่ถ้าด้าไม่ได้ตามคุณพ่อมาติดต่องานเราคงไม่ได้เจอกัน”

ผมมองใบหน้าที่พอกเครื่องสำอางไว้จนไม่เห็นแม้แต่รูขุมขนด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย นี่ผมต้องจ้างโคนัน หรือคินดะอิจิไปสืบหน้าหนังหน้าที่แท้จริงของสตรีตรงหน้าผมไหมเนี่ย

ว่าแต่นางคือใคร... ชื่อเหมือนจะคุ้น แต่ผมนึกไม่ออก ตอนแรกนึกว่านางโชว์ในภูเก็ตแฟนตาซีเอาตั๋วมาให้ซะอีก แต่ดูแล้วไม่ใช่ล่ะมั้ง

“เธอเป็นลูกสาวหุ้นส่วนใหญ่ของโรงแรมทางใต้ของเราครับ”อับดุลประจำตัวของผมก้าวเข้ามากระซิบเบา ๆ อีกรอบ ช่วงนี้ขี้ลืมจังผมเนี่ย อ่อ ลูกสาวหุ้นส่วนใหญ่ อืม... ไว้ค่อยว่ากันว่าคนไหนละกัน “เธอจ้องจะจับคุณอยู่ครับ”

อันหลังไม่ต้องบอก มองดูก็รู้ นมตั้งสั่นซะขนาดนั้น

“แล้วเฟรด้ามีธุระอะไรกับผมเหรอครับ”ผมยิ้มบาง ๆ ให้กับเธอ ขณะเดียวกันก็หลบก้อนเนื้อซาลาเปาสองลูกที่พยายามพุ่งเข้ามาถูไถ

ไม่ใช่ต้นตะเคียน ไม่ต้องมาถู แป้งที่พอกมาเผื่อโรยนั่นก็เอาไปไกล ๆ ด้วย

“แหม พูดจาห่างเหินจังเลยนะคะ คิส”แม่คุณทำหน้างองำ ผมไม่ใช่เกย์ หรือกระเทยโดยกำเนิด เพราะอย่างนั้นผมจึงยีงชอบผู้หญิง แต่กับผู้หญิงที่พอกหน้าหนาเตอะยิ่งกว่าสาวประเภทสองหน้าเป็นหลุมนี่...  บ๊ายบาย “เย็นนี้ไปดินเนอร์กันนะคะ คิส ไหน ๆ ก็ได้เจอกันแล้ว”

“ขอโทษด้วยนะ ผมไม่ว่าง”ผมปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด “ผมมาพักผ่อนกับ... เพื่อน คงไม่สะดวกจะไปไหนมาไหนกับ ‘คนอื่น’ สักเท่าไหร่”

“คนอื่นอะไรที่ไหนกันคะ...”ริมฝึปากแดง ๆ มัน ๆ วาว ๆ ฉีกยิ้มหยาดเยิ้ม... เอ่อ เหมือนเลือดจะเยิ้มลงมาเลยให้ตายเหอะ “ห่างเหินจังเลยน้า ไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแท้ ๆ”

“ปล่อยแขนผม”มือปลาหมึกจู่โจมมาดดยไม่ได้ตั้งตัว วอนผู้เกี่ยวข้อง เจ้าหนี้ที่ภาครัฐ ภาคเอกชนมาเก็บกลับไปด่วน “หวังว่าผมคงไม่ต้องไปคุยกับคุณพ่อของคุณใช่ไหม ว่าบุตรสาวของท่านทำตัวยังไง”

คุณหนูเฟรด้าชักสีหน้างองำ แล้วปล่อยมือออกจากแขนผมโดยดี กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกชวนเวียนหัว ไม่ไหวจะเคลียร์สักเท่าไหร่

“ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ผมขอตัว”ผมเดิมหมุนตัวกลับ ขึ้นไปที่ห้องดีกว่า เสีนเวลาจู๋จี๋กับปันปันชะมัด เพราะคุณผู้หญิงที่คันหาหนังหน้าในมหาสมุทรแปซิฟิกไม่เจอนี่คนเดียว

“แต่ คิสคะ ดินเนอร์ของเรา”

“ไม่มีคำว่าดินเนอร์ของเรา มีแต่ของคุณ และของผม จบนะครับ”หันไปตอบครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเดินตัวปลิวเข้าลิฟต์ที่อินกดรอเอาไว้ให้ไป

“คุณปากร้ายกับผู้หญิงขึ้นอีกแล้วนะครับ คุณคิส”อิมเอ่ยด้วยน้ำเสียงติเตียนปนขำขัน “ยังไงเขาก็เป็นผู้หญิง จิตใจอ่อนไหวคนนึงนะครับ”

“ผู้หญิงหน้าวอล์มาเรียสิไม่ว่า มองหนารูขุมขนยังไม่เจอเลย”รู้จักไม่ครับ wall maria ที่ใช้ป้องกันพวกไททันไม่ให้เข้ามากินมนุษย์ไงครับ กำแพงที่ยากจะพังใน attrack on titan แต่สุดท้ายก็โดนเตะประตูพังอยู่ดี “พอหน้าซะ กะไม่ให้เหงื่อมีรูไหลออกมาเลยมั้ง”

“ไม่เอาครับ คุณคิส ไก่งามเพราะขน คนงานเพราะแต่ง คุณเฟรด้าเขาอยากสวยเขาก็แต่งเป็นเรื่องธรรมดาน่าครับ”เป็นคำแก้ตัวแทนที่มันดูทะแม่ง ๆ เหมือนกันนะ ว่าไหม ผมเหล่มองเลขาคนเก่งอย่างสงสัย แล้วหัวเราะในลำคอ

ก็ไม่ชอบนางเหมือนกันล่ะน่า ทำมาเป็นพูด

ผมเปิดประตูเข้าไป ปันปันที่นั่งกินเลย์อยู่บนโซฟา พร้อมกับมีกระป๋องเบียร์วางอยู่ตรงหน้าเหล่ตามองผมก่อนเมินกลับไปจ้องรายการทีวีเหมือนเดิม

สนใจกันสุด ๆ อ่ะ ปันปันที่รักของพี่คิส

“ปันปันครับ”ผมเอ่ยเรียกชื่อของคนตรงหน้าหวาน ๆ แต่ก็ไม่ได้รับแม้แต่การชายตามอง เล่นเอาผมยิ้มค้างเลย “ปันปันครับ หันมาหาพี่คิสหน่อยสิครับ”

... ยังคงความมิ่งเงียบ ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจเหมือนเดิม ผมเลยเดินไปทิ้งตัวลงนั่งเบียดเด็กดีของผมบนโซฟาตัวใหญ่นี่ล่ะ ปันปันเขยิบหนี ผมเบียดตาม เอาดิ เป็นเด็กดีว่าง่ายหน่อยก็ไม่ได้

“อะไรนักหนาเนี่ย ถ้าอยากสีก็ไปหาคนมาสีด้วยเด่ะ ผมจะดูหนัง ไปนั่งไกล ๆ เลย ด่วน”สุดท้ายก็เป็นปันปันที่ต้องแพ้ให้กับผม หึหึ ผมดึงปันปันให้มานั่งข้าง ๆ ดี ๆ แล้วล็อคตัวไว้อย่างนั้น

“อยากสีแค่ที่รักคนเดียวนี่ครับ”หยอดไปอีก1 ดอก หน้าคม ๆ ฉบับคนใต้แต้ ๆ ของปันปันเปลี่ยนสีเลยทีเดียว “เขินเหรอครับ คนดี”

“เขินหะ... บ้าอะไร ขยะแขยงโว้ย”มีโวยวายแก้เขินด้วย น่ารักจัง ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ “ไม่ต้องทำหน้าหยาดเยิ้มคิดเองเออเองเลยนะ ไอ้คุณคิส”

“พูดเพราะ ๆ ให้เหมาะกับหน้าตาน่ารัก ๆ สิครับ ปันปัน”ผมเอ่ยด้วยเสียงดุ ๆ ปันปันเบ้หน้าใส่ผมอย่างไม่เกรงใจ เป็นกิริยาที่ไม่น่ารักซะเลย

น่าจับตีก้นจริง ๆ

“พอ เลิกเถียงกะคนบ้าล่ะ”ปันปันส่ายหน้าแล้วเมินผมไปเลย
เมินแบบโคตรจริงจังด้วย

เมินก็เมินไปนะครับ น้องปันปันของพี่คิส น้องจะเมินได้ก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ เมินให้เต็มที่ อีกไม่นานหรอก น้องจะต้องมองหาแต่พี่คนนี้คนเดียว


ค่ำ ๆ หลังจากกินข้าวมื้อเย็นกันเสร็จ ผมพาปันปันมาที่บาร์ของทางโรงแรม จิบเหล้าเคล้าดนตรีฟังสบาย ๆ ช่วงหัวค่ำเป็นบรรยากาศที่ดีว่าไหม?

ถ้าตกดึกหน่อยก็จะแปลงเป็นผับขนาดย่อม แต่จะอะไร จุดประสงค์ที่มาก็กินน้ำเมาเหมือนกัน เพราะงั้นอย่าได้สน ซดต่อไป

ผมสั่งเปิดแบล็คมาขวด อุ่นเครื่องกันสักหน่อย เริ่มจากเพียวก่อนสักช็อต ปันปันหน้านิ่งใส่ผมเมื่อเห็นยกช็อตเพียวขึ้นซด ผมเลยไม่รีรอที่จะยักคิ้วท้าทายหมอนั่นสักดอก

คนไม่ยอมคนอย่างพวกพี่ระเบียบ ยังไงก็ไม่มีทางที่จะโดยคำท้าทิ้ง จริงไหม? ไม่ต้องบอกก็คงเดากันได้ว่าที่รักของผมก็เล่นไปช็อตนึงเหมือนกัน

เราสองคนนั่งดื่มไปเรื่อย ๆ ถ้ามองจากภายนอกก็คงไม่แปลกอะไรหรอก แต่รู้กันอยู่แก่ใจว่าแข่งกัน...

แหม่... แต่สนามมันต่างกัน ประสบการณ์ ความเจนจัดมันคนละเรื่อง นักศึกษาตัวดำ ๆ วัน ๆ เอาแต่เรียน เข้าแลก เข้าเลค จะมาสู้อะไรกับนักธุรกิจสายทำงาน ค่ำเลี้ยงลูกค้าอย่างผม

ไม่ทันจะดึกก็จอดซะแล้ว เด็กน้อยของพี่

ผมนั่งดื่มอีกพักนึง ก่อนจะหามเอาคนที่เมาฟุบขึ้นห้อง ไม่ต้องมีใครมาช่วยหรอก สบาย ๆ ถึงจะไม่ได้มีกล้ามเป็นมัด ๆ แต่ไม่ได้แรงน้อยนะเออ

เหวี่ยงเด็กน้อยตัวดำลงบนเตียงแล้วกอดอกมอง เวลาเมาแล้วผิวคล้ำ ๆ ขึ้นสีแดงเรื่อเหมือนกันนะเนี่ย

ปันปันนอนพลิกไปพลิกมาตามประสาคนเมานั่นล่ะนะ คงจะร้อน น่ะ ยังไม่ทันขาดคำมีถอดเสื้อออก แบบนี้ยั่วกันชัด ๆ เลย ว่าไหม?

“อื้ออ ร้อน”ถีบผ้าห่มที่ผมอุตส่าห่มให้กระเด็นตกเตียงออกนอกวงโคจรไปเลย ดี เมาแล้วยั่ว ผมชอบ
เขาปรือตาขึ้นมาน้อย ๆมองผม แล้วบ่นพึมพำ พูดว่าอะไรนะ... ผมเอียงหูเข้าไปฟังใกล้ ๆ อยากรู้นี่ว่าพูดอะไร แต่มันไม่ได้ยิน

“อืออ แมวเหมียว สวยจางงง”แมวเหมียว? ผมนี่นะ... ให้ตายเถอะ แม่ ไอ้ชื่อเล่นคิตตี้เนี่ย มันเป็นรอยด่างพร้อยที่สุดในชีวิตผมเลยนะ

ระหว่างที่คิดอะไรเพลิน ๆ อยู่ ๆ ก็มีแรงกระชากหนัก ๆ ให้ล้มลงไปนอนบนเตียงขนาดใหญ่ ก่อนที่ร่างหนาจะขึ้นคร่อมตัวผม

“คิดจาอาวผมเป็นเมีย ม่ายมีทางหรอกก”เสียงยาน ๆ ปนกลิ่นเหล้าเอ่ยขึ้น เรียกยิ้มมุมปากผมได้โคตรชะงัก “มาเปนน เมีย โผมซะดี ดี แมวเหมียวว”

ปันปันโน้มตัวมาซุกไซร้ที่ซอกคอผม จั๊กจี้ดีชะมัด แค่นะ คนอย่างคิสไม่เสียงเชิงชายให้ชายชมหรอก ถ้าได้ชมกายชายค่อยคุยกันได้หน่อย

“แค่พูดให้ชัดยังทำไม่ได้เลย หึ”ผมพลิกกลับมาอยู่ข้างบนแล้วดึงเข็มขัดออกมารัดมือเด็กดื้อขี้เมาเอาไว้

ว่าจะเก็บเอาไว้ให้จีบติดก่อนค่อยหม่ำ แต่เด็กมันยั่วมา ผมก็ต้องสนองไปจริงไหมล่ะ...

เอาล่ะ... ทานละนะคร้าบบบ

จัดเด็ด ๆ จักสามน้ำท่าจะดี...

และ... ผมไม่ยอมให้ใครมาเห็นปันปันของผมหรอกนะ รู้ไว้ เพราะฉะนั้น เบนกล้องไปซะ

ด่วน!



๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาแล้วค่ะ ^^ ต่อไปเป็นของน้องคีนะคะ // แวบไปเขียนต่อก่อน

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
555 พี่คิสจะกำราบเด็กดื้อแล้ว จะมีพลิกล็อกไหมเนี่ย หุหุ

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :z1: น้องดำดำ เสร็จพี่แมวเหหมียวซะละ  :hao6:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ขอโทษนะคะ  หมั่นไส้คิสค่ะ   ขอให้อดนะยะ  ปันปันอย่ายอมนะลูก  ไม่ชอบเลยผู้ชายนิสัยแบบนี้ รวยแล้วไง? นึกสินะว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ


พี่ทิวขารู้ค่ะว่าเทพแต่อย่าลืมหันไปดูคนที่อยู่ข้างหลังด้วยนะคะ   น้องข้าวนางจะหนีอยู่รอมร่อด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจไปแล้วค่ะ   ระวังนะเดี๋ยวเมียหายนะพี่ทิว

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ปันปันอยู่กับคิสแต่ปล่อยให้ตัวเองเมาเนี่ยนะ คิสเดี๋ยวปันปันตื่นมาโมโหแย่

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อ้าวปันปันน้อย

โดนพีคิส กินเสียแล้ว

พี่คิศ ถนอมน้องปัน ปัน หน่อยนะ

เด็กมันไม่เคย ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ชื่อเล่นพายุน่ารัก โซนร้อนนน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด