พิมพ์หน้านี้ - EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: midnight ที่ 23-10-2014 23:47:39

หัวข้อ: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-10-2014 23:47:39
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

สวัสดีค้า ^^

วันนี้ (23/10/14) ถือฤกษ์งามยามดีมาเปิดเรื่องใหม่ หลังจากที่เพิ่งจบเรื่องเก่าไปได้แปปเดียว ที่เป็นแนวที่พยายามแต่งมาตลอด แต่ไม่ค่อยจะจบ ทั้งที่ไม่น่ายาก... 5555 รอบนี้ต้องจบให้ได้ (มุ่งมั่น) // ตันตอนครึ่งเรื่องทุกที [win] // เฮ้ แล้วจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิล่ะ มิดไนท์เอ๋ย (พูดคนเดียว 555)

ออกตัวก่อนว่าทุกอย่างในเรื่องเป็นสิ่งที่แต่งขึ้น เอาของหลาย ๆ มหาวิทยาลัยมารวมกันนะคะ ไม่ต้องเดาว่าในมหาลัยไหน 5555

ยังไงก็ฝากเรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมอก อ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ

เพจของคนเขียน : https://facebook.com/flymoon.midnight

wordpress(สำหรับลงฟิค) : https://rainisviolet.wordpress.com/

ขอฝากผลงานเรื่องเก่าของคนเขียนไว้นะคะ ^^

เรื่องยาว

สุริยายอแสง จันทราคล้อย : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41291.0
ตำนานรักสองราชวงศ์ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32113.0

เรื่องสั้น

เรือจ้างลำแกร่ง : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36513.0

อีกนิดตรงนี้ละกัน คุณครูที่คนเขียน เขียนเรื่องเรือจ้างลำแกร่งขึ้นเพื่อระลึกถึงท่านหลังจากที่เรียนจบมัธยมมา ได้เสียชีวิตลงไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 กันยายนค่ะ TT ด้วยโรคมะเร็งลำไส้

 :really2: :really2: :really2: :really2: :really2:

สารบัญ
ตอนที่ 3,4 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44135.30
ตอนที่ 5,6 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44135.60
ตอนที่ 7 ,8 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44135.120
ตอนที่ 9,10 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44135.150
ตอนที่ 11 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44135.180
ตอนที่ 12 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44135.210
ตอนที่ 13,14 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44135.240

เล็งเห็นว่าจะเขียนอีกยาว... เลยทำสารบัญเอาไว้ให้นะคะ ^^

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-10-2014 23:48:59
วันเริ่มต้น (intro)

ระบบSotus ระบบที่น้องปีหนึ่งทุกคนมักจะกลัวเกรง ไม่อยากให้มี ไม่อยากได้ ทุก ๆ คนย้อมอยากมีแต่รุ่นพี่ที่ใจดี คอยเทคแคร์ คอยเอาใจใส่ เบื่อแล้วที่จะต้องถูกตีกรอบให้ต้องมีระเบียบ อยู่ในวินัยสารพัด แต่ทุกมหาวิทยาลัยก็ต้องมีพี่ที่คอยควบคุมน้อง ๆ ให้อยู่ในกฎเกณฑ์ บ้างเรียกพี่ว๊าก บ้างเรียกพี่วินัย แต่พวกเขาก็คือกลุ่มคนแบบเดียวกัน มีหน้าที่เดียวกัน เป็นระบบที่จะหนี ก็หนีไม่พ้น...

แรกเริ่มเมื่ิอได้เข้าเรียนปีหนึ่ง ทุกคนจะต้องเกรงพี่วินัยกันทั้งนั้น เจอไม่ได้ต้องยกมือไหว้ แม้จะไม่ใช่ในมหาลัยก็ตามที

พออยู่ไป ๆ ก็จะเริ่มชินชา แต่ก็ยังคงเคารพ ยำเกรงในพี่วินัยอยู่ดี อาจจะมีแอบละเมิดในสิ่งที่ถูกกะเกณฑ์ไว้บ้าง แต่ก็ยังคงอยู่ในระเบียบกันเป็นส่วนใหญ่

หลังจากจบการรับน้องไป ปลดวินัยกันเรียบร้อย ทุกคนจะได้เห็น เห็นว่าพี่วินัยนี่ล่ะที่เสียสละมากที่สุด เหนื่อยยากมาที่สุด ทั้งนอนดึก ตื่นเช้า วางแผนงาน ประชุมแบ่งงาน ทนรับสายตาหวาดเกรงจากน้อง ๆ รับฟังคำนินทาที่ลอยเข้าหู ยิ่งถ้าเป็นวินัยใหม่ ถ้ามีข้อผิดพลาดก็จะโดยปีโตดุ อีกทั้งยังต้องใช้สายตายิ่งกว่าเพ่งจอโพรเจ็คเตอร์เวลาอาจารย์ฉายสไลด์

โดยเฉพาะประธานวินัย หรือ เฮดว๊าก วินัยไม่ใช่ทุกคนอยากจะเป็น แต่จำเป็นที่จะต้องมี แม้จะไม่เต็มใจ และต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้สมศักดิ์ศรีของวินัย

หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 24-10-2014 00:16:17
จิ้มตูดคนแต่ง!!
พี่วินัยพี่ว้ากนี่คือขยาดมาก ชอบตวาดใส่หน้า TT
บอกเลยเปิดเจอเรื่องนี้แอบยิ้ม
เพราะตัวเองเคยจิ้นพี่ว้ากด้วยกัน =///=
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_BLove ที่ 24-10-2014 07:15:51
มาต่อเร็วๆนะคะ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-10-2014 07:27:26
พี่วินัย กับ พี่ว๊าก นี่ต่างกันมั้ย หรือว่าเป็นตำแหน่งเดียวกันอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-10-2014 07:51:04
พี่วินัย กับ พี่ว๊าก นี่ต่างกันมั้ย หรือว่าเป็นตำแหน่งเดียวกันอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ตำแหน่งเดียวกัน แต่อยู่ที่การเรียกค่ะ ว่ามหาลัยไหน คณะไหน เด็กจะเรียกพี่ว๊าก พี่วินัย

// แต่พี่วินัยฟังดูขลังดีนะคะ 555 คณะของคนเขียนเรียกพี่วินัยค่ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่1(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-10-2014 11:16:05
วันที่หนึ่ง

ร่างสูงโปร่งในเครื่องแบบนักศึกษาเรียบร้อย ติดติ้งขอคณะ ใส่เข็มขัด รองเท้าหนังมันวาว เส้นผมสีดำซอยยาวละต้นคอ มาพร้อมกับใบหน้าที่เรียบเฉย 'ลมหนาว' ประธานวินัยของคณะเทคนิคการแพทย์ในปีนี้เดินตรงไปยังตึกแลปของคณะเพื่อไป 'พบ' น้องปีหนึ่ง เฟรชชี่หน้าใสในปีนี้ พร้อมด้วยพลพรรควินัยของแต่ละชั้นปี

เสียงกลอง เสียงร้องเพลงสันทนาการดังมาอย่างรื่นเริง เหมือนทุกปี เสียงหัวเราะ หน้าตาชื่นบาน กับพี่ ๆ สันทนาการ แน่นอน ว่าเป็นหน้าที่ของพี่วินัยที่จะต้องก้าวเข้าไปขัดความสนุกของน้อง ๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้

"พวกคุณกำลังทำอะไรกัน"เสียงทุ้มดังก้องขึ้น เสียงกลองหยุดลง พร้อมกับที่พวกสันทนาการปี2 นั้นรีบเอาของไปวางไว้ริมกำแพงและเข้าแถวตอนลึกกันทันที "นี่พวกคุณกำลังทำอะไรกัน"

"ขออนุญาตครับ"บิ๊ก ประธานรุ่นของปี2 ยกมือขึ้นพูด ตามที่ได้เตี๊ยมกันกับพวกพี่ ๆ และเพื่อนวินัยเอาไว้ก่อนหน้านี้

"เชิญ"

"พวกผมและน้อง ๆ กำลังทำกิจกรรมสานสัมพันธ์น้องพี่กันอยู่ครับ"บิ๊กเอ่ยเสียงดังฟังชัด ปีสองยืนตรงมองหน้าวินัยโดยตรง ต่างจากปีหนึ่งที่มีหดคอหลบกันอย่างเห็นได้ชัด ประสบการณ์มันแตกต่างกัน แต่ก็มีนักศึกษาที่ซิ่วมาบางคนที่เงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็ไม่สบตาอยู่ดี

"สานสัมพันธ์น้องพี่ พวกคุณขออนุญาตใคร ทำไมพวกผมถึงไม่รู้"ลมหนาวถามกลับเสียงเข้ม และยังคงความดังเอาไว้ ดวงตาจ้องไปที่นักศึกษารุ่นน้องอย่างกดดัน จนแม้แต่บิ๊กยังต้องแอบหลบตาไม่ได้ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาเป็นคนยังไง

"ผมได้ทำจดหมายขออนุญาตไปทางอธิบดีคณะ เกี่ยวกับการขออนุญาตทำกิจกรรมสานสัมพันธ์น้องพี่ในวันที่ 20 เมษายน ถึง 24 เมษายน และได้รับการอนุญาตเรียบร้อยแล้วครับ"ประธานรุ่นปีสองตอบกลับพร้อมแจงราย ละเอียดชัดเจน

"สานสัมพันธ์น้องพี่ แล้วพวกคุณเป็นพี่เขาแต่ชั้นปีเดียวอย่างนั้นเหรอ มากันก็ไม่ครบ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาพวกคุณจะทำยังไง แล้วพี่ปีสาม ปีสี่ ไม่ใช่พี่ของน้องพวกคุณใช่ไหม"ลมหนาวเริ่มใส่ตามบทที่เตรียมมาอย่างไม่มี หลุด แม้การตะโกนเสียงดังจะทำให้เขารู้สึกเจ็บคอขึ้นมานิด ๆ ก็ตามที "พวกคุณคิดว่าสามารถดูแลกันเองได้โดยไม่ต้องมีพวกผมใช่ไหม"

"แล้วทำไมเวลามีเรื่องอะไร พวกคุณก็วิ่งมาให้พวกเราแก้อยู่ทุกครั้ง"พลอย วินัยปีสามตะโกนขึ้นก่อนที่จะมีใครตอบอะไร สีหน้าของเธอไปพร้อมกับเสียงเรียบร้อยแล้ว "ในเมื่อพวกคุณขอเอาไว้สำหรับพวกคุณ ก็เชิญทำกันไป ในเมื่อไม่เห็นหัวพี่ปีสาม ปีสี่อยู่แล้วนิ"

จบคำพลพรรควินัยทั้งหลายก็พากันเดินกลับไปในทางที่มา ครั้งนี้เป็นตัวอย่างให้น้องใหม่ได้รู้ว่า นอกเหนือจากความสนุกที่ได้รับจากพี่สันทนาการแล้ว ยังมีพี่วินัยที่คอยดูแล และจัดระเบียบความเรียบร้อยอยู่ด้วย นี่ยังเป็นเพียงภาคฤดูร้อน ไม่จำเป็นต้องใส่เต็มที่...

รอภาคเรียนปกติมาถึง พวกเขาจัดเต็มแน่


“MT เปิดตัววินัยแล้วสินะ"ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมเข้ม ผมสีเปลือกไม้ยาวเลยคอมาหน่อยรวบไว้อย่างลวก ๆ เอาไว้ สวมเสื้อยืดสีเขียวสกรีนคำว่า วิศวะ เอาไว้ เอ่ยคุยกับเพื่อนที่นั่งอยู่ร่วมโต๊ะกัน "ช้ากว่าเราไปสองอาทิตย์เลยแหะ ปีนี้"

"น่า พายุ นายก็รู้ว่าพวกMT มันระเบียบจัดแค่ไหน คงจัดการทุกอย่างจนมั่นใจว่าพร้อมแล้วจริง ๆ ถึงเปิดตัวมั้ง"นิคเพื่อนที่นั่งรวมโต๊ะอยู่ด้วยตอบกลับเอื่อย ๆ ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยหน่ายซบลงกับแขน ก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงอู้อี้ "ไม่งั้นมันจะใช้ชื่อวินัยแทนคำง่าย ๆ อย่างพี่ว๊ากหรือไง"

"ก็นะ พวกสายสุขภาพก็แบบนี้หมด"พายุยั๊กไหล่น้อย ๆ อย่างไม่ยี่ระ "ปีนี้อธิการยิ่งทำอะไรแปลก ๆ อยู่ เรียกประธานคณะทุกคณะเข้าประชุมซะอย่างนั้น ไม่รู้นึกคึกอะไรอีกไหม"

"น่า ๆ มันคงไม่มีอะไรเดือดร้อนมาถึงพี่ว๊ากอย่างเรา ๆ หรอกน่า"พิช สาวเปรี้ยวประจำวิศวะปีสามโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ เธอหันไปมองประธานว๊ากของวิศวะปีนี้น้อย ๆ "เดี๋ยวเราก็ได้รู้เองแหละ ว่าแต่ เฮดคะ คุณมึงจะเรียกว๊ากทุกสาขามารวมกันเมื่อไหร่ดีคะ"

"วันศุกร์แรกของการเปิดภาคเรียนปกติ ให้มารวมกันที่ลานเกียร์"เฮดว๊ากแห่งวิศวกรรมศาสตร์ทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างเซ็ง ๆ "ปีนี้ต้องซื้อมะนาวกี่โลวะเนี่ย"

"ก็ไม่รู้สินะ"รอบโต๊ะพร้อมใจกันตอบ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ทุกปีพี่ว๊ากต้องมีน้ำมะนาวเป็นลัง ๆ ในห้องของตัวเอง ปีนี้ก็คงไม่ต่างกัน... ตะโกนไปสิ เสียงแหบเสียงแห้ง น้องก็ฟังไป เข้าหูซ้าย ทะลวงออกทวารทั้ง 7 แล้วก็จบไปวันนึง

"แยกย้าย ๆ พวกเรามีหน้าที่อีกทีก็เปิดเทอมโน่น ค่อยว่ากันใหม่"พายุลุกขึ้นจากโต๊ะคนแรก เพื่อน ๆ คนอื่นเลยพากันลุกขึ้น แยกย้ายกันกลับหอตัวเองไป บางคนก็หอบกระเป๋ากลับบ้านเลยก็มี ไม่ได้มีเรียนภาคฤดูร้อน แต่ต้องมาข่มขวัญพวกปีหนึ่งก่อนที่จะมีใครปีนเกลียวเหยียบหัวรุ่นพี่... ตามหน้าที่

พายุเดินทอดน่องไปหลังม. เพื่อหาซื้อของกินกลับไปกินที่ห้อง ระหว่างทางมีเจอรุ่นน้องในคณะบ้างประปราย ยกมือรับไหว้เป็นระยะ ๆ บางทีก็รู้สึกตัวเองเป็นเจ้าที่เดินได้อยู่เหมือนกัน แต่จะหลบก็ไม่มีที่ให้หลบ ในเมื่อวิศวะมันมีคนเยอะพอ ๆ กับพวกบริหารนั่นล่ะ เดินไปไหนก็เจอ ทำใจกันยาว ๆ ต่อไป

"ป้า ๆ ผมเอาผัดพริกแกงไก่กรอบ ใส่กล่องนะป้า"ร่างสูงเดินเข้าไปสั่งข้าวร้านประจำ ก่อนจะหันมามองหาที่นั่งรอ แต่สายตาเจ้ากรรมก็ดันไปป๊ะกับใครบางคนไม่ไกล คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่กรรมของเขาซะ ก่อน "ไง ลมหนาว ได้ข่าวว่าไปลงรุ่นน้องมานิ"

วิศวะและเทคนิคการแพทย์เป็นคู่ปรับกันมานาน นับตั้งแต่มหาลัยก่อตั้งเลยก็ว่าได้ เพราะเฮดคณะของทั้งสองคณะเป็นฝาแฝดที่ไม่ลงรอยกัน ความเป็นคู่ปรับเลยสืบทอดมาถึงปัจจุบันแบบมึนงง และมันก็คงเป็นอย่างนั้นต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีวันสิ้นสุด

แม้ฝ่ายเทคนิคจะมีคนน้อยกว่า แต่ก็ยังมีพวกหมอ พวกเภสัช พวกคณะสุขภาพทั้งหลายหนุนหลังอยู่ด้วย เลยไฝ้ว์กันได้แบบไม่ถือว่าคนมากรังแกคนน้อยสักเท่าไหร่

"คุณมีธุระอะไรกับผมเหรอ"อีกฝ่ายตอบกลับทั้งที่ไม่เงยหน้าขึ้นมอง เอาแต่จ้วงข้าวเข้าปากอยู่อย่างนั้น “ถ้ามีอะไรจะคุยก็เชิญนั่ง แต่ถ้าไม่ก็กรุณาหลบไป เพราะคุณกำลังยืนบังพัดลมอยู่”

"ก็ ไม่ได้มีอะไร แค่มาทักทาย"พายุยั๊กไหล่แล้วเดินไปรับข้าวมานั่งลงตรงข้ามกับเฮดของMT "ไม่อยากจะเชื่อว่านายจะได้เป็นเฮด แทนที่จะเป็นปันปัน"

"หึ แต่ผมเดาไว้แล้วว่าคุณต้องเป็นเฮด"ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มเย็น ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา "พี่โอเลยให้ผมมาปะทะกับคุณไง"

"เหอะ อย่างนายน่ะเหรอ จะมาสู้กับผม" เฮดว๊ากของสองคณะคู่ปรับจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมลงให้ใคร ราวกับว่าฝ่ายไหนหลบตาก่อนจะเป็นการเสียศักดิ์ศรีอะไรอย่างนั้น

"เฮ้ ๆ อย่ามีเรื่องกันกลางโรงอาหารนะเว้ย"โจ๊ก เฮดว๊ากของนิเทศน์โผล่มาห้ามทัพของทั้งคู่ ก่อนที่โต๊ะจะลุกเป็นไฟ "ใจร่มๆกันก่อนพวก เอางี้ พวกเอ็งรู้ข่าวยัง ที่อธิการเรียกประธานคณะไปคุยน่ะ"

"ทำไมเหรอโจ๊ก มันมีอะไร"ลมหนาวหันไปถามเพื่อนต่างคณะอย่างสงสัย ตัวเขาเองรู้ว่ามีการประชุม แต่ก็ยังไม่รู้เนื้อหาอะไร

"ปีนี้เป็นปีที่อธิการแกครบรอบแต่งงานสามสิบปีกับภรรยา แกเลยจะให้จับสลากว่าคณะไหน กับคณะไหนต้องทำงานร่วมกันตลอดปี เป็นคู่หูกันไป ให้อยู่เป็นคู่เหมือนที่แกกับภรรยาแกรักกันหวานชื่นน่ะ"เป็นการอธิบายที่ทำ เอาผู้ฟังมึนตึบ ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอินดี้ไป หรือว่าพวกเขาโง่ ก็ตอบไม่ได้

"แล้วคณะอะไรคู่กันบ้างวะ"พายุถามกลับไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขาหายงงจากคำบอกเล่าของเฮดนิเทศน์ ที่ทำผมสกรีนเฮด

"เขาจะประกาศวันพรุ่งนี้ว่ะ เรื่องนี้แม้แต่ประธานคณะที่เข้าไปจับสลากก็ยังไม่รู้เลยเหมือนกัน"ผู้ถูกถามส่ายหัวเกรียน ๆ อย่างจนปัญญาจะตอบกลับข้อสงสัยของเพื่อนต่างคณะ "เอ้อ แต่ดาวเดือนกับแสตนยังแยกแข่งเป็นคณะ ๆ ไปอยู่นะ"

"อืม... ก็เป็นหน้าตาคณะนี่นะ"ประธานวินัยของเทคนิคการแพทย์รวบช้อนเข้าหากันเมื่อข้าวหมดจาน “ถ้ายังรวมอีกก็คงไม่ใช่ที่ ยังไงก็ ขอบใจนะโจ๊ก ที่มาบอก”

"เฮ้ย ไม่เป็นไร เพื่อนกัน"จากที่ทำหน้ายิ้ม ๆ ให้กัน เมื่อหางตาแลไปเห็นเด็กคณะตัวเองเดินเข้ามา ต่างก็ตีหน้าเข้ม ข่มขวัญพวกปีหนึ่งต่อไป

ลมหนาวลุกขึ้นเอาจานไปคืนให้กับร้านอาหารตามสั่ง เช่นเดียวกับพายุ ร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาของพี่ระเบียบสองคณะคู่กัน เมื่อมายืนคู่กันแล้วทำเอาคนที่พบเห็นใจสั่นได้ไม่น้อย

คนหนึ่งดูขาวสะอาด เย็นชา แต่ก็ดูอบอุ่น

อีกคนก็ดูดิบเถื่อน น่าเร้าใจ เร่าร้อน สาวน้อย สาวใหญ่ สาวเทียมเลือกกันไม่ถูกเลยล่ะเจ้าค้า

แต่ถึงอย่างนั้น ดีกรีครามเป็นพี่ว๊ากของทั้งคู่ ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนที่แอบมอง ยังคงแอบมองแล้วเก็บไปฝันต่อไป ยังไม่รุกเข้ามาให้โดนสังหารโหดเล่น ๆ

ลมหนาวเดินถือขวดน้ำส้มเข้าหอไปด้วยอาการหงุดหงิด แน่ล่ะ ในเมื่อตอนที่เดินกลับหอนั้นมีใครบางคนที่ไม่อยากจะพูดด้วยคอยยียวนชวนเอา ตีนฟาดหน้าอยู่ตลอดทาง

ฝ่ายพายุก็กลับเข้าหอด้วยอารมณ์ที่มาคุเช่นเดียวกัน อุตส่าห์ชวนคุยด้วยดี ๆ แล้ว แทนที่จะยอมคุยกัน กลับถามคำตอบคำ ไม่รู้จะกลัวดอดพิกุลร่วงจากปากหรือยังไง

"คอยดูเถอะ กูจะเอาชนะมึงให้ได้!!!"เฮดทั่งสองลั่นวาจาออกมาพร้อมกัน แม้ว่าจะอยู่ต่างสถานที่กันก็ตามที


#######################

>< ตอนที่ 1 มาแล้วค้า ไม่รู้ว่าจะชอบกันไหม 5555

 :mew1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่1(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิเซ่ ที่ 24-10-2014 12:45:29
เป็นเรื่องที่ทำให้เข้าใจความรู้สึกของพี่ว๊ากจริงๆค่ะ :hao5: มาต่อเร็วๆน่ะค่ะ  :oo1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่1(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 24-10-2014 13:06:54
อุ้ยตาย เรื่องนี้ปีหนึ่งไม่ยุ่งมุ่งรุ่นพี่  :m13:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่1(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: numilddy ที่ 24-10-2014 14:23:24
ตอนแรกก็สงสัยว่าเฮดว๊ากกัยพี่วินัยต่างกันยังไง
ส่วน EG กับ MT นี้น่อมาจากวิศวะกับเทคนิคการแพทย์หรอ?
อ่านอิจเมจแล้ว อ่ะหื้อ ชื่อเข้ากันมาก ลมหนาว พายุ
แต่ไหงมันดูกล้ามชมกล้ามแปลกๆ
นึกไม่ออกเลยว่าจะรักกันยังไง
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่1(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-10-2014 14:29:01
ตอนแรกก็สงสัยว่าเฮดว๊ากกัยพี่วินัยต่างกันยังไง
ส่วน EG กับ MT นี้น่อมาจากวิศวะกับเทคนิคการแพทย์หรอ?
อ่านอิจเมจแล้ว อ่ะหื้อ ชื่อเข้ากันมาก ลมหนาว พายุ
แต่ไหงมันดูกล้ามชมกล้ามแปลกๆ
นึกไม่ออกเลยว่าจะรักกันยังไง

EG เป็นตัวย่อของวิศวะ(อ้างอิงจากของมหิดลค่ะ) ส่วน MT เป็นตัวย่อของเทคนิกการแพทย์ค่ะ(medical technology)

^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่1(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 24-10-2014 16:23:58
ลมหนาวกับพายุ
แค่ชื่อก็บอกละว่าเนื้อคู่55555555555555
ชอบบยยยย จะรอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่1(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 24-10-2014 17:07:03
แอร๊ยยย ตีกันสักพักเดี๋ยวก็หันมารักกันเอง ฮ่าฮ่าฮ่า o13    รอตอนต่อไปอยู่น้า สนุกมาก  :hao7: :katai4:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่1(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-10-2014 19:24:14
ลมหนาวประกาศความเป็นนายเอกด้วยการดื่มน้ำส้ม...เกี่ยวไหม ฮ่าฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่1(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-10-2014 22:37:00
ลมหนาวประกาศความเป็นนายเอกด้วยการดื่มน้ำส้ม...เกี่ยวไหม ฮ่าฮ่าฮ่า

น้ำส้มดีต่อสุขภาพนะคะ 5555
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-10-2014 23:20:49
วันที่สอง

ใบกระดาษเอสี่ร่อนเข้ามาอยู่ในมือของลมหนาวในช่วงสายของวัน ระหว่างที่กำลังนั่งดูแผนงานคร่าว ๆ ในการรับน้องช่วงเปิดเทอมอยู่

"ใบประกาศคู่บัดดี้คณะ นายดูเองแล้วกันนะ หนาว"โอ้ต ประธานคณะยิ้มแหยก่อนที่จะฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างหมดแรง
สถาปัตถ์ กับ ครุ

แพทย์ กับ บริหาร

เภสัช กับ ศิลปศาสตร์

กายภาพ กับ นิเทศน์

นิติ กับ มนุษย์ศาสตร์

เทคนิคการแพทย์ กับ วิศวกรรมศาสตร์

"กับวิศวะงั้นเหรอ"มือขาวกำกระดาษอย่างหงุดหงิด "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เราต้องไปทำงานคู่กับพวกวิดวะเนี่ยนะ"

สุดจะควบคุมอารมณ์เอาไว้ มันเป็นเรื่องที่ตลกร้ายที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา... เอาคณะที่กัดกันจะตายห่ามาจับคู่กันแบบนี้
อยากจะสร้างมหาลัยใหม่หรือยังไงกันฟะ!

 "เออดิ แม่ง โคตรบรรลัย"โอ้ตพูดด้วยเสียงอู้อี้ ส่วนวินัยคนอื่น ๆ ในโต๊ะนั้นทำหน้าบูดเสียยิ่งกว่าบูดไปตาม ๆ กัน แน่ละ จับคู่กับใครไม่จับ ดันไปโดนคู่อริซะได้

"มันแก้อะไรไม่ได้แล้วนี่นะ... เอาเถอะ ถือว่าพวกเราได้โอกาสล้างบางพวกวิดวะละกัน"พลอยกระตุกยิ้มเหี้ยม อย่างไม่สมกับที่ต่อไปจะต้องออกไปช่วยชีวิตคนอื่นสักเท่าไหร่นัก "คณะที่เอาแต่ผู้ชายเข้าสู้ มาดูกันสักตั้งว่าใครจะแน่กว่ากัน"

ความแค้นแต่ชาติปางไหนเหรอ... พลอย

"เอาเถอะ ยังไงดาวเดือนกับแสตน พวกเราต้องชนะพวกวิศวะให้ได้"ลมหนาววางกระดาษลงกับโต๊ะ เขากำลังพยายามควบคุมอารมณ์ให้เย็นลงอยู่ แม้ว่าจะโคตรของโคตรหงุดหงิดก็ตามที "อย่าลืมการพนันระหว่างสองคณะ ปีที่แล้วพวกเราชนะ ยังไม่มีอะไร แต่ปีก่อนหน้าพวกมันทำเราเจ็บแสบใช่ย่อย"

ความแค้นฝังลึกในใจของนักศึกษาMT ทุกคน ที่ต้องวิ่งรอบสนามฟุตบอลไปบอกรักสภากับว๊ากของวิศวะทุกคนไป ความอับอายที่ไม่มีวันลืมลง ยังไงต้องเอาคืนให้ได้ ปีที่แล้วแม่งก็ทำไหลลื่น เปลี่ยนบทลงโทษกันเองเฉยเลย มันโคตรน่าแค้น (แม้ว่าก่อนหน้าจะชนะมาติด ๆ 5 รอบ ทำเขาไว้เยอะ ไม่ใช่น้อยแล้วก็ตามที)

"น่า ๆ ตอนนี้จะคิดอะไรไปก็เท่านั้น ยังไงผลมันก็ออกมาเป็นแบบนี้แล้ว แก้ไขอะไรก็ไม่ได้ สู้แยกย้ายกลับบ้าน แล้วว่ากันใหม่ตอนเปิดเรียนภาคปกติเหอะ"โอ้ตเงยหน้าขึ้นพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ริบฝีปากซีดเผือดเม้นแน่น "กูไปก่อนละ"

"เป็นไรไปวะ พี่โอ้ต"นนท์ วินัยชั้นปีที่สองถามพี่ที่หน้าซีด ๆ เขียว ๆ อย่างเป็นห่วง "ให้ผมพาพี่ไปห้องพยาบาลเปล่า"

"กู... ปวดขี้"ว่าจบเจ้าตัวก็วิ่งพรวดหายลับเข้าในตึกคณะไปอย่างไม่รอฟังใครพูดอีกแล้ว ถ้าให้เขาอยู่ทนต่อไปอีกคงได้ราดตรงนี้แน่ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของกลุ่มวินัยและสภา

อายอยู่ส่วนอาย แต่ปวดขี้นี่เรื่องใหญ่กว่า!!

 "กลับบ้านนอน ๆ"ทุกคนทั้งสภาของเมดเทค ทั้งพี่วินัย ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านไป หรือบางคนอาจจะอยู่หอต่อสักสองสามวันก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนาของตน

ค้อยว่ากันใหม่ตอนใกล้เปิดเทอม คิดกันไปตอนนี้ก็เท่านั้น

อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดนั่นแหละ


"เห... คู่กับพวกเทคนิคเหรอเนี่ย"พายุหันควับไปมองพิชที่อ่านรายชื่ออย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน "เอาแล้วไง ตายไปข้างแน่ พายุ"

เฮดว๊ากแห่งวิศวะเดินเข้ามากระชากกระดาษที่อยู่ในมือเพื่อนไปกวาดตา อ่านอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายชัดบนใบหน้า

"อาจจะดีก็ได้"พายุยั๊กคิ้วให้เพื่อนในก๊ง ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจ "ฉันจะได้สู้แบบซึ่งหน้ากับหมอนั่นด้วย"

"ลมหนาวน่ะนะ"พิชถามกลับ ตามองสบกันอย่างรู้ทัน ก็แน่ล่ะ เพื่อนซี้กันมาตั้งแต่อยู่มัธยมนี่นะ "เขาไม่ได้อ่อนเลยนะ"

"เจอคู่มวยที่สมน้ำสมเนื้อแล้วไงมึง"ปั๊ม ว๊ากปีสามของวิศวะ สาขาเคมีเดินเข้ามากอดคอผมพร้อมกับยิ้มกว้าง "ห้ามแพ้นะเว้ย"

"คนอย่างพายุ ไม่มีคำว่าแพ้ว่ะ"แน่นอน โดยเฉพาะกับพวกเมดเทค พวกเราไม่มีวันแพ้ให้พวกนั้นเด็ดขาด ยิ่งนึกถึงเรื่องน่าอายที่เคยต้องทำสมันสอสามปีก่อยแล้ว ยิ่งยอมไม่ได้ "ไหน ๆ ก็ต้องทำงานด้วยกัน... กูว่าไปทักทายคู่บัดดี้คณะเราหน่อยก็ไม่เลวมั้ง"

ผมเดินนำหน้าว๊ากของวิศวะนับได้ประมาณห้าสิบรายไปแถว ๆ ตึกปฏิบัติการคณะเทคนิคการแพทย์ กะว่าจะมาทักทาย ผูกมิตรกันสักหน่อย... แต่แม่ง ไม่มีใครอยู่สักคน

"ท่าจะกลับกันไปหมดแล้วมั้ง พี่"โอม ปีสองพูดขึ้นเมื่อรอมาพักหนึ่งก็ยังไม่มีใครโผล่มาเลยแม้แต่เงา ไม่เห็นแม้แต่อาจารย์หรือเด็กปีหนึ่งที่เรียนภาคซัมเมอร์ เงียบกริบแบบที่วิศวะหรือบริหารไม่มีทางทำได้ คนหรือผีกันวะ "เออ งั้นแยกย้าย เปิดเทอมเจอกัน"

เซ็งเลยกู ว่าจะมาลับปากกับคุณวินัยเจ้าสำอางเสียหน่อย อดเลย ทุกคนแยกย้ายกลับบ้านกลับหอกลับที่พักกันไป ตัวผมเองก็กลับหอไปเอากระเป๋า ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรต้องทำแล้ว กลับบ้านเลยน่าจะดีกว่า ประหยัดค่าไฟหอ ไปเปลืองไฟบ้านแทน หรือไปนอนคอนโดดี บ้านแหละ คอนโดเดี๋ยวก็ต้องย้ายเข้าไปอยู่แทนหอแล้ว (ทลายหอเขาไว้เยอะ เลยต้องรีบย้ายออกก่อนโดนเฉ่งครับ ฮ่า ๆ) อีกอย่างค่าไฟที่บ้านแม่จ่าย ไม่ใช่ผมจ่าย ประหยัดกว่ากันเห็น ๆ ถึงผมจะรวมก็เถอะ หึหึ แต่ก่อนจะกลับบ้าน แน่นอนผมต้องแวะซื้อไมโลปั่นเจ้าประจำก่อน เดี๋ยวคิดถึง เห ๆ นั่นคุ้น ๆ เหมือนคนที่ผมอยากเข้าไปทักทายแหะ

"ยังไม่กลับเหรอ ลมหนาว"แค่ได้ยินชื่อตัวเองเท่านั้นแหละ หมอนั่นก็หันควับมาเลย ดูท่าจะตกใจไม่น้อยที่หันมาเจอผมยืนอยู่ข้างหลัง

"คุณมาได้ยังไง"ดีชิบ ไม่ทักทายตอบแต่ยิงคำถามใส่เลย ไม่รู้จักอารัมภบทก่อนเริ่มรึไงว้า ไม่สุนทรีย์เลยให้ตายเหอะ พวกเทคนิค

"ผมก็เดินมาจากหอสิคุณ"ผมตอบคนตรงหน้าไปอย่างยียวนทั้งคำพูดและแววตา ไม่ต้องบอกก็รู้กันนะครับว่าหมอนี่จะโกรธขนาดไหน "พี่ผมเอาเหมือนเดิม"

"ได้เลยไอ้น้อง"พี่สัก ขายน้ำปั่น อาชีพที่ดูขัดกับหุ่นล่ำ ๆ กล้ามเป็นมัด ๆ แล้วยังมีรอยสักอีกเต็มตัวนั่นชะมัด แต่น้ำปั่นเจ้าไหนก็สู้พี่แกไม่ได้ เด็ดสุดแระ ไม่หวานราวกับน้ำตาลปี๊ปหกใส่ และไม่จืดเหมือนเอาน้ำแข็งปั่นกับน้ำเปล่าเหมือนหลาย ๆ เข้า “จะกลับบ้านแล้วเรอะ”

“ใช่เลยพี่ ผมจะกลับไปเปลืองไฟที่บ้าน”พี่สักแกยกนิ้วโป้งให้ผม กดไลค์ถูกใจอะเด้

“เยี่ยมมาก ไอ้น้อง”นั่น แสดงว่าพี่เคยทำมาก่อน ชัวร์ป้าบ ป้าบ ป้าบ

"ไม่เอาน่า อย่าทำหน้ายุ่งแบบนี้สิ"หันกลับมาหาคู่สนทนาสุดที่เลิฟ (อ้วก) ก่อนที่เขาจะงอนผมจนไม่มองหน้ากันอีกเลย ไม่ดี ๆ พวกเราต้องทำงานคู่กันไปทั้งปีเลยนา "เราต้องทำงานร่วมกันอีกเยอะ อย่าเอาแต่ทำท่าทางไม่พอใจอย่างนั้นสิ"

"ใครอยากทำงานร่วมกับพวกคุณกัน"เสียงเรียบดีชะมัดเลย หมอนี่ สีหน้า แววตา น้ำเสียง ไม่มีหลุด สมกับที่โดนฝึกมาอย่างดี
เป็นแพทเทิร์นเดียวกันจริง ๆ เหอะ ตั้งแต่ผมเข้ามาเห็นคณะคู่แค้น ก็เห็นว๊ากแต่ละคนแบบนี้ เรียบร้อย นิ่ง แต่งกายเป๊ะโคตร

"ไม่อยากทำก็ต้องทำ"อวดดีชะมัด เป็นอย่างนี้ทุกรุ่นเลยหรือไงกันวะ พวกเมดเทคเนี่ย "ถึงจะต้องทำงานร่วมกันซะเยอะ แต่เรามาแข่งกันดีกว่า เหมือนทุกปีไง"

"ว่ามาสิ"หนาวจ้องตากับผมอย่างไม่ยอม ศักดิ์ศรีค้ำคออีกล่ะสิท่า งานนี้ผมจะต้องทำให้มันแพ้ราบคาบจนมากองอยู่ที่เท้าผมให้ได้ "ประกวดดาว เดือน ดาวเทียม ผู้นำเชียร์ แสตน ใครมีคะแนนรวมเยอะกว่าคนนั้นชนะ แน่นอนคนที่แพ้ต้องทำตามคำสั่งคนที่ชนะ 1 อย่างโดยไม่มีการปฎิเสธ"

และแน่นอน ผมคิดไว้แล้วว่าจะขออะไรจากคนตรงหน้า คำขอที่มันต้องผงะจนอยากขอยกเลิกการแข่งแน่ (และแน่นอนอีกผมไม่มีวันยอมยกเลิก)

"ไม่เกี่ยวพันกับคนในคณะ?"อ้อ ทุกปีต้องรับความอายทั้งคณะนี่เนอะ ไม่เป็นไร ปีนี้ผมจะทำให้วินัยคนเก่งอับอายแค่คนเดียวก็พอ "งั้นดี ผมรับคำท้า"

"งั้น ผมจะบอกสิ่งที่ผมจะเอาไว้ก่อนเลยแล้วกัน"ผมฉีกยิ้มสดใส (?) ให้กับคนตรงหน้า "ถ้าคุณแพ้ คุณต้องนอนกับผม ส่วนคุณจะเอาอะไรคิดก่อนค่อยมาบอกก็ได้..."

ลมหนาวเบิกตาโพรง ไม่ต้องถามว่ามันตกใจไหม แล้วมากแค่ไหน เพราะตอนนี้หมอนี่... ช็อกไปเรียบร้อยแล้ว... ล่ะมั้ง ฮ่า ๆ ๆ
แต่... ขนาดช็อคยังนิ่งได้ หุ่นยนต์เปล่าวะเนี่ย

"แล้วก็...เตรียมก้นไว้ให้ดีนะครับ คุณประธานวินัย หัดล้างตู้เย็นไว้ด้วยเลยยิ่งดีใหญ่ งานนี้ผมไม่ยอมแพ้คุณแน่นอน"ผมรับไมโลปั่นมาจากพี่สักแล้วเดินไปขึ้นรถที่หน้าม. อย่างสบายอารมณ์ วิศวะไม่มีทางแพ้แน่

ไม่สิ... ผมจะไม่มีวันปล่อยให้วิศวะของผมแพ้แน่

**********************

แวบมาต่อตอนที่สองให้ พรุ่งนี้ไม่ได้ลง อู้ไปเที่ยงัลลาและกลับมาการบ้างต่อค่ะ 5555

ไม่รู้ว่าโอเคไหมกันแนวนี้ หวังว่าจะชอบกันนะคะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: พู่กันและหยดหมึก ที่ 24-10-2014 23:27:56


แปะไว้ก่อนน้า

เดี๋ยวจะไปอ่านละเอียดๆอีกรอบ ตอนนี้อ่านข้ามๆเอา
จะว่าไปเราไม่ค่อยได้อ่านสไตล์การเขียนแบบนี้เลยค่ะ
จะว่ายังไงดี แต่ชอบนะ ว๊ากกับวินัยเหรอ เราชอบพี่วินัยอ่ะในความรู้สึกส่วนตัว   :กอด1:

ให้กำลังใจคนเขียนจ้า  :mew1:

หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 24-10-2014 23:33:19
อั๊ยย่ะ แค่ชื่อเรื่องก็น่าอ่านแล้ว
เจอชื่อตัวละครไป ฟินจร้า
พายุลมหนาว คริคริ
รออ่านตอนต่อไปจร้า
>.<
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 25-10-2014 09:01:57
นอนเลยเหรอ นอนเฉยๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 25-10-2014 12:26:27
นอนเลยเหรอ นอนเฉยๆ  :hao6:

นอนหลับฝันดีค่ะ 555
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 25-10-2014 13:11:09
น่าสนใจๆ
เาเพิ่งรับน้องจบมาสักพัก
รู้สึกโคตรเหนื่อย นอนก็ไม่ได้นอน การบ้านก็เยอะ
แต่มอเราเอาวิดวะกะถาปัตย์อยู่รวมกัน
ถาปัตย์เป็นชนกลุ่มน้อยที่อยู่ในวิดวะก็ว่าได้ 555
ถาปัตย์ไม่มีระเบียบโซตัส แต่รุ่นพี่เราตั้งขึ้นเอง

เป็นกำลังใจให้นะ
สู้ๆ

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 25-10-2014 14:40:39
เข้าใจความรู้สึกเลย
แต่ถ้าเป็นม.เราพี่เขาคงไม่คุยกันแบบนี้
ชักมีดมาฟันกันดีนะไม่มีคนตาย TT
รอตอนต่อไปเน้ออ >__<
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-10-2014 15:35:20
เล่นแรงจัง
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_BLove ที่ 25-10-2014 18:07:15
เหยดด 55555555555
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-10-2014 20:07:12
สนุกมากเลยครับบบบบบ รอๆๆๆมาต่อเร็วๆนะครับ :katai1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Paifah ที่ 25-10-2014 20:46:12
สนุกมาก o13

มาต่อด่วนๆ :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-10-2014 21:15:15
เล่นงี้เลยเหรอ
ถ้าลมหนาวชนะ แล้วขอแบบเดียวกันจะว่าไง
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-10-2014 00:41:45
เล่นงี้เลยเหรอ
ถ้าลมหนาวชนะ แล้วขอแบบเดียวกันจะว่าไง

ก็โดนกดแทนไงคะ 5555 // น่าจะให้ลมหนาวเขาขอแบบนั้นเนอะ ^++++^
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: yumijung ที่ 26-10-2014 01:26:26
พายุ ลมหนาว ชื่อเข้ากั๊นเข้ากัน  :impress2:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: zebza ที่ 26-10-2014 01:29:14
อุตะ ให้ฝึกล้างตู้รอเป็นเดือนเลยเหรอคะ :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 26-10-2014 02:11:09
ติดตามค่ะ น่าสนุกๆ ^^

แต่เป็นพี่ว๊าก ไม่ง่ายเลยจริงๆนะ เชื่อซิ T__T
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-10-2014 14:59:22
ติดตามค่ะ น่าสนุกๆ ^^

แต่เป็นพี่ว๊าก ไม่ง่ายเลยจริงๆนะ เชื่อซิ T__T

เชื่อค่ะ TwT ซ้อมนานมาก ลงเพื่อน โดนลงเอง ห้ามหลุดยิ้ม ห้ามหลุดหัวเราะ ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าแบบฉับพลัน โดนฝึกสารพัดเลย เฮือก

ปล. ตอนที่ 3 ต่อคืนนี้นะคะ ทุกคน ^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่2(24/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 26-10-2014 15:06:06
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-10-2014 17:14:38
วันที่สาม

มะรืนนี้เปิดเทอมแล้วล่ะครับ เหมือนจะนาน แต่มันสั้นไป แผนการรับน้องที่ต้องวางล่วงหน้ายังไม่ถึงไหนเท่าไหร่ เอาจริง ๆ คือถกกันมาทั้งสัปดาห์นั่นล่ะ แม่ง ใครสั่งใครสอนให้เอาเมดเทคมาจับคู่กับวิศวะกันวะ บรรลัยชิบ ทำงานชาติไหนจะเสร็จก็ไม่รู้

ยิ่งไอ้เรื่องพนันห่าเหวนั่นอีก...

เชี่ยเอ๋ย ผมไม่ยอมแพ้ง่ายแน่ ยังไงก็ต้องชนะ!!! เรื่องอะไรผมจะต้องไปนอนกับมันด้วย ไม่ใช่เรื่องอย่างแรง แรงโคตร ๆ ด้วย
หมอนั่นมันเป็นเกย์หรือไงกัน!

"นี่ก็ไม่เอา นั่นก็ไม่ดี โน่นก็ไม่โอ แล้วพวกคุณจะเอายังไง"พลอยที่หงุดหงิดสะสมมาเป็นอาทิตย์ตวาดกลางวงห้อง ประชุม เหวี่ยงทั้งคำพูดและสีหน้า "แบบนี้มันจะเสร็จไหม มะรืนนี้ก็จะเปิดแล้ว ยังไม่ถึงไหนเลย ไม่คืบหน้า ไม่ ไม่ ไม่และ ไม่ ไปทุกอย่าง"

"พวกคุณจะเอากฎเกณฑ์มากมายของพวกคุณมากำหนดน้องของพวกผมไม่ได้"โอมพูดเสียงแข็ง ระวังพลอยซัดนะครับ คุณรุ่นน้องต่างคณะ เห็นชีเป็นผู้หญิง ใช่ว่าจะอ่อนนะเออ ซัดโครมกับผู้ชายมาแล้ว เอาซะน่วมโดยที่นางไม่มีรอยแผลเลยสักนิด

"พวกคุณจะเอาความป่าเถื่อนของพวกคุณมาทำร้ายน้องของพวกดิฉันไม่ได้เช่นกัน"พลอยโต้กลับทันที นั่นสิ จะเอาน้องเราไปคลุกดิน ตากแดดครึ่งค่อนวัน แล้วยังลงทุกวันไม่ให้น้องได้หายใจหายคออีกคงไม่ใช่ ผมไม่เห็นด้วย ทะเลาะกันเหมือนเดิมทุกวัน ตั้งแต่มาประชุมด้วยกันจนตอนนี้... ก็ยังไม่ได้ผลเชี่ยอะไรสักอย่าง

แล้วมันจะรอดไหม? ตอบ!

“พอสักที ถ้าจะเถียงกันอยู่แบบนี้มันก็ไม่จบไม่สิ้น ไม่ทันกินแน่”ผมสุดจะทนเลยพูดออกมาเสียงดัง ทุกคนในที่นี้ถึงกับเงียบกริบ “ถ้ามันมีปัญหานักก็ทำทำสองแบบ ผลัดกันคณะละสัปดาห์ จบไหมครับ”

ให้น้องรับภาระหนักไป... ก่อนที่งานจะล่ม

“จบ”ทุกคนประสานเสียงเป็นเสียงเดียวกัน แล้วเริ่มวางแผนในส่วนของกิจกรรมอื่น ๆ ต่อ... และแน่นอนว่าการทะเลาะถกเถียงอันคอเป็นเอ็นก็ยังดำเนินไปเรื่อย ๆ

ผมโคตรปวดกบาลเลย ทำไมวะ ทำไมต้องกับคณะนี้...

แบบนี้ชาติไหนงานจะเสร็จ

เหนื่อยว๊อยยยย


สรุปแล้วก็ได้ผลกระประชุมทั้งหมดออกมาในวันก่อนหน้าวันเปิดเรียนเพียงแค่วันเดียว เอาเหอะอย่างน้อยก็ได้ผลสรุปล่ะนะ

โดยการจะเอากิจกรรมหลักของทั้งสองคณะวิชามารวมกันไว้ ให้ดำเนินไปควบคู่กันโดยที่จะไม่ตัดอะไรออก และจะมีการแบ่งพี่ออกเป็นฝ่ายต่าง ๆ คือ พี่สันทนาการ  , พยาบาล , สวัสดิการ โดยในคราวนี้คงต้องมีสวัสดิการและพยาบาลเยอะกว่าปกติหน่อย เพราะมีถึงสองคณะต้องทำงานร่วมกัน คนก็มากคนต้องนั่งถกกันว่าจะให้น้องอยู่ที่ไหนได้โดยที่ไม่เป็นอันตราย และตัวน้องไม่ไหม้

ส่วนวินัยอย่างพวกผม จะลงด้วยกันบางวัน และแยกกันลง สลับกันไป ถ้าลงพร้อมกัน วันนั้นแสดงว่าจะลงหนัก แต่ถ้าลงแยกนี่เรียกลองเชิง โดยพวกผมจะคุมเรื่องระเบียบวินัย การแต่งกาย ส่วนพวกวิศวะจะคุมเรื่องกิจกรรมต่าง ๆ เป็นหลัก
ก็ดูเหมือนจะลงตัวดี

ในวันแรกของการรับน้อง น้องปีหนึ่งทุกคนของเมดเทคและวิศวะต้องไปรวมตัวกันที่ห้องเรียนใหญ่บนอาคารเรียนรวมหลังจากปฐมนิเทศในช่วงเช้าเสร็จ ทานข้าวเรียบร้อย ระหว่างนั้นพี่สันทนาการจะออกมาพูดคุย และวินัยจะลงโดยไม่ให้น้องรู้ตัว ก่อนจะเอาน้องปิดตาและพาเดินลงไปที่ลานเกียร์ เพื่อทำพิธีคลอดน้อง ซึ่งเป็นประเพณีของเมดเทคของผม (ต้องใช้ลานเกียร์ เพราะมีพวกวิศวะด้วย ลานเลือดของพวกเราไม่พอใช้)

เอาล่ะ mission ของวันกำลังจะเริ่มแล้ว

เด็กน้อยเฟรชชี่ปีหนึ่งทยอยเดินเข้าไปในห้องเรียนรวมกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง โดยมีพี่ที่ดูแลนำทางเข้าไป และมีพี่ที่เป็นช่างภาพคอยถ่ายรูปเอาไว้อยู่ตลอด ซึ่งกว่าน้อง ๆ จะเข้าไปข้างในกันหมดก็กินเวลากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว

หัวหน้าฝ่ายสันทนาการของปีสองเดินเข้าไปข้างในพร้อมลูกทีมจำนวนไม่เยอะมาก และกลอง เข้าไปสันทนาการเบา ๆ กับแจกสมุดลายเซ็นที่เอาไว้ให้น้องมาขอลายเซ็นพวกพี่ ๆ เพื่อทำให้รู้จักกันมากขึ้น เป็นการเริ่มต้นให้กับน้อง ๆ ทั้งหมด ระหว่างที่พวกผมยังยืนคุยกันอยู่ด้านนอก

น้องเกด ช่างภาพประจำปีสองวิ่งไปวิ่งมา ขึ้นข้างบน ลงข้างล่าง เอาเอกสารที่เขียนชื่อและจังหวัดของน้องให้เพื่อนไปด้วยในตัว ดูน่าสงสารเหมือนกันแหะ เหงื่อออกซกเลย

“ลมหนาว เข้าเลยไหม”พายุเดินมาอยู่ข้างผม แล้วถามขึ้น ตอนนี้ต้องสงบศึกชั่วคราวก่อนล่ะครับ เดี๋ยวจะเสียกันไปหมด

“ไปเลยก็ได้”ผมตอบกลับ แล้วส่งสันญาณให้เพื่อนที่แสตนบายรออยู่ที่ประตูอื่นรับรู้ว่าพวกเรากำลังจะเข้าแล้ว ให้เตรียมเข้าไปข้างใน

และอย่าลืม... ปิดไฟด้านหลังด้วย สร้างบรรยากาศ

ผมเดินเข้าไปด้านในคู่กับคู่ปรับอย่างพายุ พวกสันทนาการด้านในก็พากันวิ่งออกไปจนหมดทันทีในเวลาที่ไม่ถึงสามนาที ต้มมาม่ายังไม่สุกเลย

วินัยกว่าหกสิบชีวิตยืนกระจายรอบห้องกัน ทุกคนตีหน้านิ่งสนิท และไม่ยิ้ม แม้จะแอบขำท่าทีเกร็ง ๆ ของน้องปีหนึ่งที่อีกไม่นานก็จะหายไป

“ก้มหน้าทำไมครับ มองตรงมา”ผมได้เริ่มก่อนคนแรก น้อง ๆ เมื่อได้ยินเสียงผมก็เงยหน้าขึ้นมากันพรึบ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก้มหน้าจนแทบจะเอาหน้าสมานฝังไปกับโต๊ะเลคเชอร์เล็ก ๆ นั่นแล้ว (อันนี้กลัวหรือง่วงจะหลับผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ)

“ยินดีต้อนรับพวกคุณทุกคน ทั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ และเทคนิคการแพทย์นะครับ”พายุพูดขึ้นบ้าง ดวงตาที่คมกริบของหมอนั่นกวาดมองไปรอบ ๆ “พวกคุณคงรู้กันแล้วว่าพวกผมเป็นใครนะครับ”

“ค่ะ/ครับ”น้องตอบกันเสียงดังฟังชัด

“พวกคุณในที่นี้มีกี่คนครับ”ผมถามขึ้นบ้าง แล้วเดินออกมาตรงทางเดินตัดตรงกลาง ตายังคงจับจ้องที่น้อง ๆ ทุกคนอยู่ “กี่คนครับ”

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

ไม่มีใครตอบคำถามของผมครับ เป็นอันว่าน้องยังปกติ ไม่มีคนประเภทฮีโร่ หรือประเภทปีนเกลียวเข้ามาให้ปวดหัวเล่น

“พี่เขาถามทำไมไม่ตอบคะ”วินัย... พี่ว๊ากคนหนึ่งของฝั่งวิศวะตะโกนขึ้นด้วยเสียงที่ดังลั่นห้อง “ตอบสิคะ จะเงียบทำไม”

“หรือพวกคุณไม่รู้ว่าเพื่อนคุณมีกี่คน”พลอยออกตัวบ้าง คำพูดประจำของวินัยเลยล่ะครับ อันนี้ “ถ้าเพื่อนคุณหายไปคุณจะรู้ไหม”
ก็ยังคงเป็นความเงียบที่ตอบกลับมา แม้ว่าพี่ ๆ คนอื่น ๆ จะพยายามกดดันให้น้องแก้ปัญหาสักเท่าไหร่ก็ตาม ก็ยังคงเงียบ

หรือรุ่นนี้จะเอาความเงียบมาสู้พวกผม?

“ขออนุญาตครับ”มาแล้ว ฮีโร่คนแรก น่าภูมิใจที่สุดเพราะมาจากคณะเทคนิคการแพทย์ของผมครับ “ขออนุญาตนับจำนวนครับ”
“เชิญ”ผมกับพายุพูดขึ้นพร้อมกัน

“1”

“2”

“3”

...

นักศึกษาพันกว่าคน... ให้นับจำนวนทั้งหมดคิดว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ครับ... ครึ่งชั่วโมงจะได้ครบกันไหม

“เร็วค่ะ ชักช้า”เธอคนนี้น่าจะชื่อ พิช ว๊ากปีสามของวิศวกรรมศาสตร์เร่งขึ้น จริง ๆ น้องเขาก็นับกันไวนะครับ ขึ้นหลักร้อยแล้ว แต่คนมันเยอะ คงอีกนานกว่าจะเสร็จ

“พอแล้วครับ ไม่ต้องนับแล้ว เสียเวลา”พายุตัดบทขึ้น เมื่อน้องนับไปได้ถึงคนที่สามร้อยกว่า ๆ ขืนรอให้ครบ 1897 คน (วิศวะ 1543 เทคนิค 354 จำนวนที่แตกต่างกันประมาณห้าเท่า) ก็คงแก่ตายกันไปก่อน

“หลังจากนี้ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะทำความรู้จักกับเพื่อนของคุณ ไม่ใช่แค่กลุ่มที่อยู่ หรือสาขาที่เรียน แต่เป็นทุกคนนะครับ”ผมกวาดตามองน้อง ๆ อีกรอบ ก่อนจะเขาเรื่องอีกครั้ง “เห็นของที่วางอยู่ตรงหน้าพวกคุณไหมครับ”

“เห็นค่ะ/ครับ”

“หมายเลข ให้พวกคุณเอาผูกกับกระเป๋าของพวกคุณเอาไว้ แล้ววิ่งลงมาเข้าแถวข้างหน้านี้ ไม่ต้องเอากระเป๋าลงมานะครับ ส่วนผ้า ให้พวกคุณผูกปิดตาพวกคุณหลังจากต่อแถวแล้ว ปฏิบัติ”

สิ้นเสียง น้องก็รับเอาป้ายหมายเลขผูกติดกับกระเป๋า แล้ววิ่งกรูกันลงมาโดยไม่ลืมคว้าเอาผ้าเส้นยาวที่พับทบไว้มาผูกปิดตาอย่างรวดเร็วเท่าที่น้องจะสั่งการตัวเองให้ทำได้

“หลังจากนี้พวกผมจะพาคุณลงไปข้างล่าง ห้ามเปิดตาเด็ดขาด จำไว้นะครับ”พายุเดินไปจับมือน้องคนที่อยู่ใกล้ประตูมากที่สุดเอาไว้

“จับมือกันไว้ด้วยนะคะ”พี่ส้ม วินัยปีสี่ของเมดเทคเอ่ยขึ้นบ้าง น้องเลยรีบจับมือกันอย่างรวมเร็ว “ห้ามปล่อยมือเพื่อนนะคะ”

พายุพาน้องเดินออกนอกห้องไปแล้ว ประเพรีนี้อาจจะดูอันตรายเพราะต้องปิดตาลงบันได แต่ไม่ต้องห่วงครับ เพราะตลอดทางที่เดินลงไปนั้นจะมีนักศึกษาปีสองยืนอยู่สองฝั่ง คอยประคองน้องเอาไว้ไม่ให้น้องล้ม

แต่พอไปถึงข้างล่าง พวกที่เตรียมแกล้งน้องจะปฏิบัติการทันที

“บอกเพื่อนด้วยสิครับ เจออะไรน่ะ”ปั๊ม แห่งวิศวะตะโกนขึ้นกลางบันได ทำเอาน้องสะดุ้งกันเป็นแถว น้องจะตกบันไดเพราะเสียงมันไหมเนี่ย

วินัยเมดเทคเดินลงมาอยู่ข้างล่างกันเกือบหมด มีอยู่ไม่กี่คนที่ยังดูน้องอยู่ข้างบน ส่วนพวกวิศวะกระจายกันไปดึงน้องให้แตกแถวออกจากกัน

“อย่าปล่อยมือเพื่อนสิครับ”นนท์พูดเสียงเย็น ในขณะที่ปากกระตุกขำ เมื่อน้องโดนพวกว๊ากของวิศวะ และพี่ของทั้งสองคณะดึงให้แยกออกจากกัน แล้วมือของพวกน้องนั้นพยายามควานหากันอยู่ถ้าเป็นหนังรักก็คงจะเป็นช่วงจมน้ำล่ะครับ ฮ่า ๆ ที่พยายามยื่นมือจับกัน แต่ไม่ถึง

ผมมารอที่ซุ่มคลอดน้อง รอน้องมาลอดผ่านใต้ผ้าเข้าไปข้างใจ เมื่อลอดเข้าไปแล้วจะมีพี่แขวนป้ายชื่อให้ โดยจะไม่ใช่ชื่อของน้องเอง เป็นชื่อของเพื่อนร่วมคณะ (รวมทั้งวิศวะและเมดเทค) ให้น้องหาชื่อเพื่อนให้เจอว่าเป็นใคร และเมื่อถึงวันแลกป้าย ก็ให้เอาไปให้เพื่อนคนนั้น

ปกติพวกผมจะร้องเพลง ให้น้องเอาป้ายไปคืนตามเพลง แต่ปีนี้คงไม่ได้ ไม่งั้นต้องร้องเป็นพันรอบกว่าจะคืนหมกครบทุกคน... ต่างคนต่างคืนนะน้องนะ

แต่จะหากันเจอไหมนี่อีกเรื่อง... คนเยอะขนาดนี้

มาแล้วครับ แถวแรกที่จะมาลอด ฮ่า ๆ น้องต้องลอดทั้งที่จับมือกันไว้ แล้วใครมันผูกผ้าซุ้มซะต่ำเลยว่ะเนี่ย น้องแทบจะกระดึ๊บเป็นหนอนชาเขียวเข้ามาในลาน

พอลอดเข้ามาจนหมดครบแถว น้อง ๆ จะถูกพาไปนั่งเป็นวงกลม รอจนกว่าเพื่อนจะมาหมดถึงจะสามารถเปิดตาได้

“พิธีอะไรของพวกนายว่ะ ยุ่งยากชิบ”เฮดของคณะคู่ปรับเดินมายืนข้างผม มองน้องลอดเข้ามาเรื่อย ๆ “เสียเวลาชะมัด”

“มันเป็นธรรมเนียมของพวกผม ถ้าไม่จับคู่กับพวกคุณ พิธีก็เสร็จไปแล้ว”ผมตอกกลับบ้าง ก็ไอ้ที่เยอะ ๆ น่ะ มันไม่ใช่เด็กคณะผมเลย ของมันทั้งนั้น “ถ้าคุณไม่อยากอยู่ดู ก็สามารถกลับไปได้”

“ไม่ ผมไม่ปล่อยน้องคณะผมไว้กับพวกคุณแน่”สวนกลับมารวมเร็วปานพายุ เหอะ แล้วใครอยากจะคู่กับน้องพวกคุณกันวะครับ

“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าบ่น”

ผมกับมันยืนกอดอกมองน้องเข้ามาในลานเรื่อย ๆ จนครบทุกคน มันดูอุ่นหนาฝาคั่งอย่างแรง ก็จะทำไงได้... วิศวะตั้ง 13 สาขาวิชา ถ้าคนน้อยก็คงไม่ใช่

“เปิดตาออกได้ค่ะ”น้องแอ้ม ปีสอง เฮดฝ่ายสันทนาการที่เดินมาถึงคนสุดท้ายเปล่งเสียงอันทรงพลังของเธอบอกน้อง ๆ ลั่นลานเกียร์แห่งนี้ น้องทั้งหมดเปิดตาออกมา ก่อนที่จะยิ้มกว้างกัน

พี่ปีสองทั้งหมด และปีสาม ปีสี่บางคน ยืนล้อมน้องไว้ด้วยรอยยิ้ม ทุกคนมีแววตาที่สดใส ดีใจ ที่ได้พบน้อง ๆ ของพวกเขา

ส่วนพวกผม ได้แต่แอบมองอยู่ห่าง ๆ จนกว่าจะปลดวินัยลง ผมก็ยังเข้าไปทำกิจกรรมเฮฮาอะไรกับน้อง ๆ ไม่ได้ แต่หลังปลดก็แทบจะไม่เหลือกิจกรรมให้ได้ทำร่วมกันแล้วล่ะครับ

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น แค่ได้มองก็มีความสุขแล้วล่ะ... สำหรับวินัยอย่างผม

แต่...

ตอนนี้เริ่มไม่สุขแล้ว

ไอ้ข้อศอกที่มาวางบนไหล่ผมนี่คืออะไร!!

“คุณพายุ ผมเป็นเพื่อนเล่นคุณเหรอครับ!”

#######################3

ตอนที่ 3 มาแล้วค่ะ ><

เรื่องนี้จะใช้เมดเทคเป็นหลักนะคะ วิศวะเยอะแล้ว 5555 (อันที่จริงคือ ม.คนแต่งไม่มีวิศวะ... แต่เกี่ยวไหมนั่น)

ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคะ  :mew1:

พบกันตอนหน้าค้า
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Phijarana ที่ 26-10-2014 17:40:14
ชอบมากเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ปล.เป็นพี่วินัยของคณะเหมือนกันค่ะ ต้องรับศึกหนักสุดๆ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-10-2014 17:45:46
ชอบมากเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ปล.เป็นพี่วินัยของคณะเหมือนกันค่ะ ต้องรับศึกหนักสุดๆ

ใช่เลยค่ะ TT ปีนี้ดันมีพี่ไปสปอร์ยน้องอีก น้องรู้ทุกอย่าง จะลงเรื่องอะไร จะลงเมื่อไหร่ แก้ปัญหากันจนหมดแม็ก // สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: sittawan ที่ 26-10-2014 17:51:16
สนุกค่าาา
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 26-10-2014 18:04:13
ถ้าเป็นเราเนี่ย จะชิงขาดใจตายก่อน อะไรคือความดีงาม ยามสองคณะอยู่ด้วยกัน
สงครามเย็นจากเทคนิค สงครามโลกจากวิศวะ
ขอให้เด็กๆสู่สุคตินะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 26-10-2014 18:11:13
สนุกสนานกันไปอีกเรื่องสำหรับแนวพี่ว๊าก
โห เดิมพันแบบนี้หยามกันชัดๆ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 26-10-2014 18:31:02
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 26-10-2014 19:27:09
รู้สึกอยากเป็นพี่ว้าก #ทำใจแพพ TT
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: numilddy ที่ 26-10-2014 19:32:41
เมดเทคย่อจากเทคนิคการแพทย์หยอออ (คำถามมันมาอีกแล้ว55555)
แอบสงสารน้องเล็กๆ เหมือนอยู่ท่ามกลางสงครามเย็น ฮ่าๆ
ตอนจบอ่ะ ข้อศอกอ่ะพายุคือระะะ
ปล.ลมหนาวตัวเล็กกว่าพายุหรอ? หรือว่าเท่ากันเพราะถ้าเท่ากันตอนวางข้อศอกบนไหล่มันไม่ลำบากเรอะะ -0-
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-10-2014 19:36:19
เมดเทคย่อจากเทคนิคการแพทย์หยอออ (คำถามมันมาอีกแล้ว55555)
แอบสงสารน้องเล็กๆ เหมือนอยู่ท่ามกลางสงครามเย็น ฮ่าๆ
ตอนจบอ่ะ ข้อศอกอ่ะพายุคือระะะ
ปล.ลมหนาวตัวเล็กกว่าพายุหรอ? หรือว่าเท่ากันเพราะถ้าเท่ากันตอนวางข้อศอกบนไหล่มันไม่ลำบากเรอะะ -0-

ลมหนาวเตี้ยกว่าพายุนิดนึงค่ะ ที่วางศอกคือฮีจะกวนประสาท 5555

เมดเทคเป็นชื่อย่อของเทคนิคการแพทย์ค้า ^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Paifah ที่ 26-10-2014 19:46:53
อยากบอกว่ามาต่ออีกสักตอนเถอะน๊าาาาาา :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 26-10-2014 21:47:27
 :impress2:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 26-10-2014 22:44:26
แหมเป็นเฟรชชี่คงได้จิ้นกันฟินนนนนน
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 26-10-2014 22:55:31
พายุเนียน  :hao6:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 27-10-2014 09:49:01
พายุเนียน  :hao6:

อิอิ พายุจอมเนียนค่ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 27-10-2014 11:06:04
ฮั่นแน่ พายุทำไรรรรรร
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 27-10-2014 14:21:31
อร๊ายยย เฮ๊ดชนเฮ๊ด ชอบแนวนี้อ่ะ  :z3:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่3 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 27-10-2014 19:31:40
รู้สึกพายุมันน่ารักไงไม่รู้   #โมเม้นท์ข้อศอก 555

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไป ^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 27-10-2014 21:13:27
วันที่สี่

รับน้องวันที่สอง วอร์คแรลลี่ตามฐานที่พี่จัดไว้ให้ แบ่งตามคณะ(ทั้งมหาลัยไม่ไหวล่ะครับ เยอะเกิน) แน่นอนว่าคู่แค้นตามชะตากรรมอย่างเทคนิคการแพทย์และวิศวกรรมศาสตร์ต้องทำร่วมกัน

ด้วยเด็กที่เยอะมาก ถึงมากที่สุดของพวกวิดวะ ฐานในการจัดจึงต้องมีเยอะถึงสิบฐานด้วยกัน พี่คุมฐานก็เยอะไปตามเรื่อง ขนาดฐานของวินัยยังต้องแบ่งสองฐานเลย เวลาในแต่ละฐานจะพอไหม ยังต้องลุ้นกันต่อไป มีเวลาแค่วันเดียวซะด้วย

ฐานนึงจะเป็นเมดเทคหลัก อีกฐานคงไม่ต้องบอกว่าเป็นของใครจริงไหม

ผมเตรียมของทุกอย่างไว้หมดแล้ว

ฐานวินัยอยู่ที่ศาลาหงส์ ผมให้คนเอาผ้ามาปิดรอบ แต่ไม่ได้ปิดทึบนะ เปิดด้านล่าง และด้านบนไว้ ให้คนลอด (เอะอะลอด เอะอะลอด เมดเทคผม ลอดซะจะได้รอดยังเรียนจบไงครับ เคล็ดดีใช่ไหมล่ะ) ให้คนมองได้ ส่วนตรงหน้ามีโต๊ะตั้งเอาไว้ พร้อมของเซ่นไหว้อย่างข้าวทิพย์ (?) ผลไม้ น้ำแดง ครบสูตร แลกตรงกลางของสิ่งของพวกนั้นมีกระถางธูปกับเจ้าแม่ ที่มีผ้าปิดไว้อยู่

เจ้าแม่เป็นใครงั้นเหรอ ผมยังไม่บอกหรอกครับ รอดูพร้อมน้อง ๆ กันนะ

หลังจากเตรียมอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เป็นเวลา เอ... แปดโมงครึ่ง อีกพักนึงน้องจะมาแล้ว ทุกอย่างพร้อมรับน้อง ๆ แล้ว เฮ้อ คนอื่น ๆ จะเป็นยังไงบ้างหว่า จะมีปัญหาอะไรกันไหมนะ

ผมยกมือถือขึ้นไลน์หาเพื่อนในคณะที่ส่งไปประจำฐานต่าง ๆ แล้วยืนรอคำตอบ หวังว่าจะไม่ตีกับพวกวิศวะกันตายไปแล้วนะ (ถ้าตายจริงผมจะเอายาคลายกล้ามเนื้อกับโพแทสเซียมคลอไรด์ฉีดพวกที่ทำคนของผม หึ)

ผ่านไปแปปเดียวเพื่อน ๆ ปีสามก็ตอบกันมา โอเค ยังไม่มีใครมีปัญหาอะไร อาจจะมีเหวี่ยง ๆ เพราะเจอฝั่งวิดวะกวนตีนไปบ้าง แต่อันนั้นแก้ปัญหากันเองนะเพื่อนนะ

“หนาว น้อง ๆ มากันแล้วนะ”ปันปันส่งสัญญาณมาให้ผม ก่อนที่ตัวเองจะมุดเข้าไปอยู่ข้างในศาลา พร้อมกับกระดาษบทสวดในมือ

ส่วนผมยืนดูอยู่ด้านหน้าก่อน มองน้อง ๆ ที่เดิน ๆ ลุก ๆ นั่ง ๆ อ่านคำในกระดาษเสียงดัง ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆ เหมือนหนอนเลยแหะ ดึ๊บ ๆ ฮ่า ๆ

“เข้าไปครับ”ผมบอกกับเด็ก ๆ เฟรชชี่ แล้วยืนกอดอกมองน้องลอดเข้าไปไปข้างในกันทีละคน สองคน “นั่งลงเป็นแถวแล้วหลับตาด้วยครับ”

น้องปีนี้เหมือนจะเด็กดีนะครับ นั่งลงหลับตากันเป็นแถวเลย ดี ๆ พูดง่าย ๆ จะได้สบายพวกผม หรือยังไม่ออกลายหว่า

พลอยเอาธูปที่จุดเรียบร้อยแล้วมาแบ่งทุกคน ให้เอาไปใส่ที่มือน้อง ว๊ากทั้งหมดอยู่อยู่ในนี้กระจายตัวกันไป... ยกเว้นผมนะครับ ที่ยังยืนอยู่ด้านนอก

ไม่ใช่ไร... ผมไม่ถูกกับควันธูป น้ำหูน้ำตาไหลเอาง่าย ๆ ถ้าโดนเยอะ ๆ

“มีใครยังไม่ได้ธูปไหมครับ”นายนิค หนึ่งในว๊ากที่วิศวะส่งมาอยู่ซุ้มนี้ถามขึ้นเสียงเข้ม “ยกธูปขึ้นดี ๆ ด้วยครับ เดี๋ยวโดนหลังเพื่อน”

“ใครอนุญาตให้ลืมตาคะ”นัทตวาดลั่น ไม่รู้ว่าเห็นน้องลืมตาจริง หรือว่าหยอกเหมือนกัน “หลับตาค่ะ อย่าลืมตาจนกว่าพวกเราจะสั่ง”

“ท่องตามผม เสียงดัง ๆ นะครับ”ปันปันที่เดินมายืนข้างผมพูดขึ้นบ้าง มาแล้ว บทสวดที่แสนจะภาคภูมิใจของพวกเรา “นะโม นะมัง พุทธังเทกระจาด ซาซิมิ”

เชี่ย ปีนี้แม่งใครเป็นคนคิดวะ ฮ่า ๆ หนักกว่าปีผมอีก น้องมันก็ท่องตามพี่ตามคำสั่งนะครับ มีแอบยิ้มกันนิด ๆ ด้วย

“ติสะระแหน่ซะไม่เหลือ กินไป บ่นไป นิยายลามก
ทุบสิสำริด มายังอังเดร สี่ขานิลาตัวนั้น
ตาติกะปิ มะยมอมเลย์ สีมานะยายจิมิ๊”นั่น พวกวิศวะกลั้นขำหน้าดำหน้าเขียว ฮ่า ๆ อย่าว่าแต่พวกนั้นเลย ผมก็ขำ แต่ละท่อน คิดมาได้ไงวะเนี่ย

“ไม่ยั๊กจะรู้ว่าคณะเทคนิคฯ ก็มีอารมณ์ขำขันเหมือนกันนะ”เสียงทุ้มแหบกระซับขึ้นที่ข้างหู เล่นเอาผมตกใจสะดุ้งโหยง เกือบปล่อยหมัดตั๊นหน้าแล้ว “นึกว่าจะนิ่ง อยู่ในระเบียบจ๋าอย่างที่เห็นทุกวันเสียอีก”

“คณะของผมเรียนคือเรียน เล่นคือเล่น อยู่กันด้วยความรับผิดชอบและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การข่มขวัญอย่างพวกคุณ”ผมสวนกลับนิ่ง ๆ แต่มุมปากกระตุกขึ้นน้อย ๆ แอบสะใจเบา ๆ “แล้วเฮดอย่างคุณไม่อยู่ดูแลฐานของคุณหรือยังไง”

“คนของวิศวะสามารถทำงานได้ทุกคน ถึงผมไม่อยู่ตรงนั้น ทุกคนก็สามารถทำงานต่อไปได้อย่างลุล่วง”มันยั๊กคิ้วให้ผมด้วย ท้าทายกันใช่ไหม

ถามสิว่าผมยอมไหม...

บอกเลยว่าไม่!!

“ทำงานได้ แต่จะมีคุณภาพไหมมันคงเป็นอีกเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันไปใช่ไหมล่ะครับ”ผมเหยียดยิ้มเย็น ตาจ้องมองกลับไปไม่ลดละ

“ก็พิสูจน์สิ”พายุจับเนคไทของผมแล้วดึงให้ผมเข้าไปใกล้มันอีกนิด ถ้าเนคไทผมยับหรือหลุดหรือขาดนะ คอยดู แล้วแม่งจะเอาหน้าเข้ามาใกล้ทำไมวะ

“เสียใจนะครับ ผมไม่มีเวลาว่างเอ้อระเหยลอยชายไปไหนมาไหนหรอกครับ”ทำไมมันต้องตัวสูงกว่าผมด้วย ดูตอนแรกไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่มายืนด้วยกันนี่ ผมเตี้ยกว่ามันนิ้วนึงได้ ชิ “ผมไม่มีวันทิ้งเพื่อนให้ต้องทำงานกลุ่ม โดยที่ผมไม่คอยช่วยเหลือ ทั้งที่มันเป็นหน้าที่ ที่สมควรทำหรอกครับ”

แววตาของพายุฉายแววกร้าวเล็ก ๆ มาสิ ว๊ากมา ผมก็เล่นกลับไปเหมือนกัน... ไม่ใช่แค่คุณที่ว๊ากเป็น ผมก็ว๊ากเป็นเหมือนกัน

เสียงสวดมนต์เงียบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่เมื่อผมมองไป วินัยทุกคนก็หันมามองพวกผมสองคนอยู่เป็นตาเดียว นี่ผมเสียเวลากันมันจนไม่ได้ฟังบทสวดฮาเฮจนจบขนาดนี้เลยเหรอ แถมยังพลาดการทำจิตรกรรมสร้างสีสันบนหน้าน้องอีก ยังไม่รวมการกินข้าวทิพย์ น้ำทิพย์เลยนะ

เสียเวลาจริง

“พวกคุณลืมตาได้ครับ”ผมตีหน้านิ่งทั้งที่ในใจยังหงุดหงิดไม่น้อย สายตากวาดมองน้อง ๆ “พวกคุณเห็นสิ่งตรงหน้าไหม”

“เห็นครับ/ค่ะ”พร้อมตอบกันเสียงเบา ไม่ดังเหมือนปกติ แต่ไม่เป็นไร หยวนให้ก็ได้ เพราะฐานนี้เป็นฐานศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

“นั่นเป็นสิ่งมีค่าที่สุดของมหาวิทยาลัยแห่งนี้”น้องบางคนเบิกตาโพรงอย่างตื่นเต้น คนข้าง ๆ ผมที่ยังยืนอยู่ไม่ยอมไปสักทีมุ่นหัวคิ้ว งงไร ใครสั่งให้งง “ให้เพื่อนพวกคุณคนนึงไปเปิดดูสิครับ”

นักศึกษาชายคนหนึ่งของคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นตัวแทนลุกขึ้นไปยังโต๊ะบูชา เขายกมือไหว้โดยที่พวกผมไม่ต้องบอกแล้วเปิดผ้าคลุมออกมา

“พวกคุณรู้ไหม ว่านี่คืออะไร”พลอยตะโกนถามน้อง ๆ ในที่นี้ ส่วนผมยืนมองเฉย ๆ แต่คนที่ไม่ได้รับเชิญนี่ดิ กลั้นหัวเราะจนหน้าเขียวแล้วมั้ง

“น้ำปลาแท้ตราหอยหลอดและปลากระป๋องตราปุ้มปุ้ยครับ/ค่ะ”ฮ่า ๆ น้ำปลาขวดนี้ของที่หอผมเอง เอาไว้เหยาะเวลาทำกับข้าวกินเอง ส่วนปลากระป๋องนั่นของนัท เพิ่งไปฉกมาเมื่อเช้า

“พวกคุณกล้าดียังไง”อิฐ ว๊ากปีสองของวิศวะส่งเสียงขึ้น เนียนนะ เสียงโมโหเนี่ย “พวกคุณกล้าว่าเจ้าแม่ว่าหอยหลอด และเจ้าพ่อว่าปุ้มปุ้ยได้ยังไง”

“นี่คือของศักดิ์สิทธิ์ประจำ(โรงอาหาร)มหาวิทยาลัยนะ พวกคุณกล้าเรียกท่านห้วน ๆ แบบนี้ได้ยังไง”นัทมองน้อง ๆ ตาเขม็ง จริงๆเธอใช้วิธีนี้ในการกลั้นหัวเราะน่ะครับ “ไหนบอกใหม่สิ พวกที่น้องเห็นคืออะไร”

“เจ้าแม่น้ำปลา และเจ้าพ่อปลากระป๋องครับ/ค่ะ”น้อง ๆ ตอบกันใหม่อย่างพร้อมเพียง ตาแต่ละคนสั่นระริก ขำล่ะสิ จริง ๆ ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้เป็นเจ้าแม่ปลาทู แต่พอดีทอดกินไปเมื่อวาน เลยเปลี่ยนมาอย่างที่เห็นนี่ล่ะ ใช้ได้เหมือนกัน อยากหกออกมาก็พอ

“คิดว่าแท้ไหม”อยู่ ๆ เฮดของวิศวะก็ถามน้อง ๆ ขึ้นมา แท้ดิ เพิ่งซื้อมาจากโลตัสเมื่อสองสามวันก่อนเอง บิลยังอยู่เลย

“แท้ครับ/ค่ะ”น่ะ น้องยังรู้เลย ว่าแท้ ไม่ได้เปลี่ยนข้างในเป็นอย่างอื่น

“รู้ได้ยังไงว่าแท้”พายุยังคงถามต่อ ผมว่ามันคงอยากกวนน้อง... ยกให้วันนึงก็ได้ เห็นว่าวันนี้เป็นวันรับน้องนะ ถ้าเป็นวันลงปกติผมไม่เอาไว้แน่

“มันเขียนเอาไว้หน้าขวดครับ”น้องผู้ชายคนนึงเป็นคนตอบ เออเนอะ เขียนไว้บนสลากข้างหน้านี่หว่า น้ำปลาแท้ตราหอยหลอด
“แล้วเค็มไหม”

“เค็มครับ”เอ... มีแต่ผู้ชายโต้ตอบนะครับ เวลาถามคำถามที่ตอบรวมกันไม่ได้ น้อง ๆ ผู้หญิงนี่กริบ เป็นอย่างนี้ทุกทีเลยสินะ

สำหรับคนอื่น อาจจะคิดว่าให้น้องผู้ชายเป็นคนตอบก็ดีแล้ว น้องจะได้ฝึกภาวะความเป็นผู้นำ แต่กับผมมันไม่ใช่ ผมอยากให้น้องทุกคนช่วยกันคิด ช่วยกันตอบอย่างเท่าเทียม ถึงจะเป็นน้องผู้หญิงต้องกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ ไม่ใช่ ไม่ใช่รอหลบอยู่หลังผู้ชาย ให้ผู้ชายทำ ส่วนตัวเองอยู่เงียบ ๆ คิดได้ ทำไม่ได้ และไม่เคยที่จะลงมาทำ และเป็นอย่างนั้นไปเรื่อย ๆ จะเรียนจบ จนทำงาน จนแต่งงาน

สำหรับผม ผู้หญิงไม่ใช่เพศที่อ่อนแอ พวกเธอมีความอึด ถึก ทนยิ่งกว่าผู้ชายไม่รู้กี่เท่าด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นเวลาจะคลอดคงตายกันไปหมดแล้ว ใช่ เรื่องอารมณ์พวกเธออาจจะอ่อนไหว แต่ถ้าเราไม่ฝึกให้เธอกล้า ให้เธอเข้มแข็ง สุดท้ายวงจรอุบาทว์พวงนั้นก็คงไม่มีวันจบสิ้น ไอ้ค่านิยมที่บอกให้ผู้ชายดูแลผู้หญิงทุกระเบียดนิ้วนี่ ผมว่ามันไม่ควรเอามาใช้ในยุคที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันในทุกด้านอย่างตอนนี้สักเท่าไหร่นะครับ ผู้ชายดูแลผู้หญิงได้ แต่อยู่ในขอบเขตที่พอดี ไม่ใช่ให้พวกเธองอมืองอเท้ากันจนแทบจะทำอะไรไม่เป็น เอะอะอะไรก็มาบอกว่าผู้ชายไม่มีความเสียสละให้พวกเธอ โดยเฉพาะบนรถไฟฟ้า ชอบมีมาบ่นลงในโซเชี่ยลอยู่เรื่อง

คนเราไม่ได้มีใครอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลานิครับ จริงไหม? แล้วไม่ทุกคนที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคุณด้วย

ลองคิดดูนะ สมมติว่าวันนึง คุณเจอจิ้งเหลนอยู่ในบ้าน แล้วบ้านหลังนั้นมีคุณคนเดียว คุณจะทำยังไง นั่งจ้องตากับมันรอให้คนมาช่วย? โทรหาพ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ? หรือจะกั้นทางให้มันวิ่งออกไปนอกบ้านใช้ไม้ยาว ๆ เคาะไล่มัน โดยใช้เวลาไม่กี่นาทีมันก็จะวิ่งออกไป อะ ถ้ายังไม่เข้าใจ สมมติว่าหัวสายฉีดชำระในห้องน้ำของคุณเสีย คุณจะรอให้มีคนยื่นมือมาซ่อมให้ ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ หรือจะแค่เดินไปซื้อหัวมาเปลี่ยนเอง ถอดหัวเก่า เสียบหัวใหม่ลงไป แค่นี้

ในการทำงานชีวิตจริงเขาไม่ได้แยกใช่ไหมล่ะครับว่าผู้หญิงทำอันนี้นะ เฮ้ย อันนี้หนักไป ให้ผู้ชายทำ แต่เขาวัดกันที่ประสิทธิภาพและคุณภาพในการทำงานของคน ๆ นั้น ถ้าเราไม่มีความสามารถพอจะทำงานนั้น ๆ ได้ ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้ยากอะไร หรือเป็นเรื่องที่ตรงในสายที่เราเรียนมา เขาก็คงไม่รับเราเข้าทำงาน หรือต่อให้คุณเป็นแค่พ่อบ้าน แม่บ้าน ถ้าคุณลับมีด หรือปั่นจักรยานไปตลาดใกล้ ๆ ไม่เป็น นายจ้างอยากจะจ้างคุณไหม? (ผมยกเว้นเรื่องแมลงสาปเอาไว้ให้เรื่องนึงก็ได้ พวกเธอคงวิ่งหนีกันกระเจิง ยิ่งถ้ามันบิน... อย่าว่าแต่ผู้หญิงเลย ผู้ชายบางคนก็วิ่งครับอันนี้ น่าขยะแขยงเกินทน)

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ถ้าผู้หญิงตอบแล้วผู้ชายจะเงียบเป็นเป่าสากนะ ถ้าพวกมันเงียบ ผมจะสั่งให้มันไปใส่กระโปรงทรงเอ เดินถือป้ายว่า ‘ผมเป็นสาวน้อย’ ทั่วมหาลัยสักสองวัน

รับน้องของพวกผมไม่ได้อยากหยุดอยู่แค่การให้พี่น้องมีความสัมพันธ์อันดี มีความผูกพันกัน แค่เท่านี้ แต่ผมอยากให้น้องสามารถออกไปยืนเป็นเสาหลักของครอบครัวได้อย่างภาคภูมิที่สุด ไม่ว่าน้องคนนั้นจะเป็นเพศหญิง หรือว่าเพศชายก็ตามที

ไม่จำเป็นต้องเก่งเลิศเลอ เกียรตินิยม แต่สามารถพึ่งตัวเอง เอาตัวรอดในสังคมที่ชิงดีชิงเด่นกันได้ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

ปณิธานของวินัยชาวเมดเทคทุกรุ่น

สมัยรุ่นพวกผมเหรอครับ โน่น คุณพลอยตอบทุกอย่าง เล่นเอาผู้ชายตอบไม่ทันเลย โดนด่าอยู่ประจำว่าให้ผู้หญิงตอบก่อน

เราก็ต้องพยายามกันต่อไปเรื่อย ๆ ล่ะนะครับ

อ่อ ข้าวทิพย์คือข้าวที่พวกผมทำขึ้นกันเอง เอากล้วย ซอสมะเขือเทศ ไข่ มาผสมรวมกัน ส่วนน้ำทิพย์คือน้ำแดงใส่เกลือครับ

คิดแล้ว... จะอ้วกเหมือนกัน ตอนปี 1 ผมกินเข้าไปได้ไงเนี่ย

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

มาต่อตอนที่ 4 แล้วค้า ^^ จิ้งเหลนนั่นประสบการณ์ตรงของคนเขียนเอง 555 โทรเรียกพ่อมาจัดการ TT แต่ตอนนี้รู้ละว่าจะไล่ยังไงคะ 5555

 :z2:

สารภาพว่าแต่งตอนนี้เหมือนได้ระบายบางอย่างที่อ่านเจอในเฟสมั่ง ในพันทิปบ้าง 5555  :katai5:

พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: numilddy ที่ 27-10-2014 21:22:35
ย้ากกก ขอบคุณที่ตอบทุกคำถามเลยย ดีใจที่ไม่รำคาญ คิกๆ
ขำแทน5555 บทสวดกับเจ้าพ่อนี้เกรียนมาก ก๊ากกกก
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(26/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 27-10-2014 22:02:47
รออ่านตอนต่อไปจร้า
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 27-10-2014 22:26:28
แอ๊ เพิ่งเห็นว่าลืมเปลี่ยนวันที่อัพ >////<"
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 27-10-2014 23:04:37
โอ้ยตาย ทำให้นึกถึงตอนเป็นพี่ว๊าก แม้แต่น้องผู้ชายยังกลัว
ย้อนคิดถึงตอนนั้น ก็นะ ทำไปได้

รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 28-10-2014 06:33:00
ปกติลมหนามนี่เย็นชาแบบนี้ไหมอ่ะ
หรือเป็นเฉพาะตอนรับน้อง เหอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 28-10-2014 06:44:45
สิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่ คิดกันได้ไง สารภาพว่าตอนแรกคิดว่าเป็นรูปคุณพายุเอามาแต่งหน้าด้วยโฟโต้ช็อป 555555
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-10-2014 07:45:41
เจ้าพ่อเจ้าแม่น่าเกรงขามมาก55555
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 28-10-2014 13:26:26
ถูกใจเจ้าพ่อเจ้าแม่กันไหมคะ 5555

ถ้ามีคำผิดตรงไหนบอกได้เลยน้า
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Nefrit ที่ 28-10-2014 13:31:05
น่าติดตามๆ รอตอนต่อไปนะ

 จิ้งเหลนไล่อย่างไงหรอ 555 o13
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-10-2014 13:39:22
“ไม่ยั๊กจะรู้ว่า>>>>>>>>>>>>>ยัก (ย.ยักษ์ เป็นอักษรต่ำไม่ผันด้วยไม้ตรีหรือจัตวา)

ได้อารมณ์ร่วมตอนรับน้อง สนุกและฮาดี
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 28-10-2014 21:01:02
น่าติดตามๆ รอตอนต่อไปนะ

 จิ้งเหลนไล่อย่างไงหรอ 555 o13

เอาลัง เอาของมาล้อมให้มีทางออกเดียวอยู่ที่ประตู แล้วเอาไว้เคาะ กระทุ้ง ๆ ไล่ค่ะ 555
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 28-10-2014 21:12:38
อยากเห็น เฮียพายุ เจ้ลมหนาว  รักกันเร็วๆอ่ะ


 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:


ปล.  ชอบพระเอกเถื่อนๆ  มันโดนจายยยยยยยยย   :man1: :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Nattiz ที่ 28-10-2014 22:28:15
เรื่องนี้ยังอีกยาวไกลลล อิอิ :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 28-10-2014 22:39:40
เราชอบๆๆ อ่า สนุกดี ติดตามต่อจ้า

ฮ่าๆๆ เมื่อกี้โพสผิดด้วยล่ะ (ตกใจลบทิ้งไปแล้วๆฮ่าๆ ตลกตัวเองจัง)
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 29-10-2014 10:41:17
อยากเห็น เฮียพายุ เจ้ลมหนาว  รักกันเร็วๆอ่ะ


 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:


ปล.  ชอบพระเอกเถื่อนๆ  มันโดนจายยยยยยยยย   :man1: :man1: :man1:

อีกนานค่ะ 55555
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่4 P2(27/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Paifah ที่ 29-10-2014 10:55:54
เมื่อไรจะรักกันน๊าาาา :ling1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 29-10-2014 21:36:51
วันที่ห้า

เปิดเรียนแล้ว เรียนตามปกติครับ เราจะรับน้องในช่วงเย็นของทุกวันจันทร์ถึงพฤหัส และจะปล่อยน้องไม่เกินทุ่มครึ่งส่วนวินัยจะลง ไม่ลงคือตามแต่ใจ

วันนี้ผมยังไม่ได้วางว่าจะลงไหม ต้องขอดูพฤติกรรมของน้องที่เดินผ่านพี่ก่อนแล้วกัน ให้ผมลงทุกวันเหมือนบริหารคงไม่ไหวหรอก คนของเราไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น

ถึงจะมีวิศวะที่มีคนเยอะก็เถอะ แต่พวกนั้นก็ไม่ได้ตั้งวินัยไว้เยอะกว่าพวกผมมากสักเท่าไหร่ ถ้าเทียบอัตราส่วนอาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของผม

"ลมหนาว"เสียงนุ่ม ๆ ที่คุ้นเคยสำหรับผมดังขึ้นเรียกความสนใจ "ไง วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ"

"พี่ทิว"พี่หมอทิว ทวดเทคสมัยม.ปลายของผมเอง พี่ชายที่น่ารัก ดีกรีเดือนมหาลัย ตอนนี้พี่เขาเรียนอยู่ปีห้าแล้ว อีกปีนึงก็จะจบ พร้อมผมเลย "หนาวมีแลปตัวเดียวครับ พี่ทิวเถอะ วันนี้ว่างจากวอร์ดมาคุยเล่นกับหนาวด้วยเหรอ"

"กับหนาวพี่เคยไม่ว่างเหรอ"ร่างโปร่งในชุดเสื้อกาวน์ยาวนั่งลงข้าง ๆ ผม "แล้วนี่นั่งทำอะไรอยู่ล่ะ"

"นั่งอ่านหนังสือ อ่อยเหยื่อครับ"ผมชูหนังสืออ่านเล่นให้พี่เขาดู แล้วยิ้มมุมปากน้อย ๆ "ประกอบการตัดสินใจหน่อย ๆ"

"อย่าลงหนักนักล่ะ"

"เป็นห่วงน้องเหรอครับ"ผมเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ พี่ทิวเป็นฝ่ายพยาบาลของคณะแพทย์ ห่วงน้องคงไม่แปลกมั้ง ห่วงเทคนิคฯได้ ห้ามห่วงวิศวะนะครับ เออ

"ไม่หรอก พี่ห่วงเรามากกว่า"มือของพี่ทิวยื่นมาลูบหัวผมเบา ๆ อย่างอ่อนโยน "เดี๋ยวเจ็บคอ ไม่มีเสียง หรือเหนื่อยจนสลบเหมือดไป"

"พี่ ผมโตแล้วนะครับ"เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นตอนฝึกซ้อมลงวินับเมื่อปีหนึ่งครับ ผมไม่ได้กินข้าวแต่เช้า แล้วพี่สั่งเทสลงตอนหกโมง หลังเลิกเรียนพอดี ลงไปไม่ถึงห้านาทีก็เลยเป็นลม พอดีจ๊ะเอ๋พี่ทิวเอาชีทสรุปเคมีพื้นฐานมาให้ เลยมาช่วย พอดีขึ้นเท่านั้นแหละ เทศน์ยาวจนนับไม่ถูกกว่ากี่กัณฑ์เลยทีเดียว หูชาดิ๊กเลย พี่วินัยปีสูงกว่าอย่างพี่พูน พี่ตังโอ พี่โต้ง โดนเรียกมาสวดหมด ยับเยินกันเป็นแถว ๆ "ผมรู้ลิมิทตัวเองดีนะครับ"

"รู้ แล้วเคยสนไหมล่ะ"กริบ... เถียงไม่ออกเลย ครับ ผมรู้ว่าตัวเองไม่ไหว แต่ก็ยังคงทำตามหน้าที่ ที่ผมคิดว่าผมต้องทำจนเสร็จอยู่ดี "น่ะ มุมปากตกลง รู้ตัวเองแล้งเถียงพี่ทำไม ลมหนาว"

"โถ่ พี่ทิวก็"อยากเถียง แต่เถียงไม่ออก ตั้งแต่เป็นวินัยมา เถียงกับประธานสภา กับคนต่างคณะมาก็เยอะ มีแค่พี่ทิวไผ่นี่ล่ะที่ไม่เคยเถียงชนะเลยสักครั้ง "โอเคครับ ผมจะดูแลตัวเอง ไม่ฝืนเกินตัวครับ"

"ทำให้ได้อย่างที่พูดด้วยนะ"พี่ทิวดีดหน้าผากผมทีนึง ไม่ได้ดีดเบา ๆ ด้วย เจ็บนะพี่ "เดี๋ยวพี่ไปคุยงานกับเพื่อนก่อน เดี๋ยวเจอกันใหม่นะหนาว"

"ครับพี่"

พี่ทิวเดินไปตึกคณะแพทย์แล้ว ยังไม่วายไลน์มาย้ำอีก พอดีกับเวลาที่น้องคณะทั้งเมดเทคและวิดวะเลิกเรียนพอดี

ได้เวลาอ่อยของจริงแล้ว

ผมนั่งทำเนียนตีสีหน้านิ่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนช่วงรอยต่อของตึกเรียนรวมและโรงอาหาร แกล้งทำเป็นไม่มองน้อง ๆ ที่กำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

"สวัสดีค่ะพี่"กลุ่มแรกที่เดินมาถึงผมก่อนคือน้องผู้หญิงคณะเทคนิคการแพทย์ หน้าตาน่ารักด้วย ใส่บิ๊กอายตาแบ๋วมาเลย...
สวย ใส แต่ไม่ใช่แนวดาว เอาเถอะ เดี๋ยวพวกพี่เลี้ยงดาวเดือนก็เลือกกันเอาเองแหละนะ น้อง ๆ หล่อ ๆ สวย ๆ มีเยอะ

เซ็ตต่อมาเป็นเด็กวิศวะครับ ไหว้ส่ง ๆ กันบ้าง ไม่ไหว้เลยก็มี ต่างคณะก็แบบนี้แหละ ไม่ค่อยสนหัวคณะอื่นสักเท่าไหร่

ดี ผมจะเอาจุดนี้ไปโจมตีพวกวิศวะมัน เทคนิคการแพทย์พวกผมกำชับไว้อย่างดี ไหว้ให้หมด ไหว้ไปทุกคน ไม่แน่ใจก็ให้ไหว้ไปก่อนไม่เสียหายอะไร

ที่ฝึกให้ไหว้ เพราะในชีวิตจริงคนที่มีอำนาจสูงกว่าย่อมชอบในคนที่อ่อนน้อม ถ่อมตน จริงไหมครับ คงไม่มีเจ้านายคนไหนเดินมาแล้วพอใจกับการที่ลูกน้องในสังกัดของตนยกมือให้ข้างนึงแล้วทักว่า ‘เฮ้ หวัดดีหัวหน้า’ หรอกว่าไหมล่ะครับ ถ้าไม่สนิทขนาดเล่นหัวกันได้น่ะ

ภาพลักษณ์ดีเป็นศรีแก่ตัว จะได้ก้าวหน้าได้ไว ๆ

คงไม่มีใครอยากย่ำอยู่กับที่ ไม่เดินไปไหนสักทีหรอกนะ

น้องเดินผ่านผมไป ไหว้บ้าง ไม่ไหว้บ้าง และแน่นอน ส่วนใหญ่หลบตาผม แต่ก็มีบางคนเหมือนกันที่เหลือบมาจ้องตา

การที่นั่งนิ่ง ๆ แล้วมีน้องเดินผ่านไปมา พร้อมกับยกมือไหว้ มันให้ความรู้สึกว่าผมเป็นศาลเจ้า ศาลพระภูมิขึ้นมาตงิด ๆ

แต่ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า ศาลพระภูมิ หรือศาลตายายก็เอาเถอะ มันก็ทำให้ผมตัดสินใจได้ว่า วันนี้... ผมจะลงวินัย ลงเพื่อเตือนอีกครั้งให้น้องรู้จักความอ่อนน้อม และความเคารพรุ่นพี่สักหน่อย อ้อ เรื่องสมุดลายเซ็นด้วย

ไหว้ไปเถอะครับ หลังปลดวินัยแล้วก็ไม่ต้องเล็งไหว้แล้ว แค่ทักทายกันบ้างก็พอ แค่เทอมเดียวเอง ไม่ได้นานอะไรนักหนา

โอเค จบไปอาจจะไม่ได้ใช้เรื่องรุ่นพี่รุ่นน้อง คล้อยตามกัน แต่ถ้าคุณไหว้หรือค้อมให้นิด ๆ เชิงทักทายคนที่สูงวัยกว่าคุณ ไม่ว่าจะเป็นยาม แม่บ้าน หรือใครก็ตาม สิ่งที่คุณจะได้กลับมาคือความรัก ความเอ็นดู ที่มันต้องสร้างจากพฤติกรรมของคุณเอง

ของจะไม่หาย โดนแกล้งจะมีคนมาปกป้อง เดือดร้อนจะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ มีอะไรที่ไม่ดีกันล่ะครับ กินกาแฟวางไว้มีคลล้างให้โดยไม่เอาไปนินทาลับหลังด้วย เอาสิ

ผมไม่ได้ว่าให้เดินตามรอยผู้ใหญ่ไปตลอดแล้วจะดีนะครับ แนวคิดและสังคมมันเปลี่ยนไปได้ทุกวัน การปรับตัวก็เป็นสิ่งสำคัญ อะไรที่ดี ก็ทำไป อะไรที่ไม่ดี ก็อย่าทำ ผมเองก็ไม่ได้ไหว้ทุกคน ใครที่ทำตัวไม่น่าเคารพ ผมก็ไม่เคารพ อายุอ่อนกว่าแต่น่าเคารพ มีผลงาน มีความคิดอะไรที่เหนือกว่า แต่อยู่ในสิ่งที่ถูกต้อง ผมก็เคารพเขานะ

“ไง ศาลพระภูมิ นั่งทำอะไรแถวนี้”กวนอย่างนี้จะมีใครล่ะครับ มันเลย มันคนเดียวเลย ไอ้พายุ คู่แค้นชะตาต้องกันของผมเนี่ย เซ็ง โผล่มาทำไมกัน

“ผมนั่งอ่านหนังสือของผมอยู่ตรงนี้นานแล้ว คุณเถอะ มาทำอะไรที่นี่”ตอบกลับไปเรียบ ๆ ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ในโหลดที่มีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงกับมันหรอกนะ...

ยังไม่ได้ทำของสำคัญที่จะต้องใช้แล้วเลยนี่หว่า

“โดนเพื่อนทิ้งล่ะสิ”พายุตวัดตัวนั่งลงตรงข้ามผม พร้อมกับทำหน้ายียวน ไม่ตอบแล้วกัน ยิ่งตอบยิ่งยาว “แทงใจดำล่ะสิ”

“...”ตอบด้วยความเงียบ และการไม่สนใจครับ ผมก้มลงงานหนังสือที่กางค้างเอาไว้อยู่นิ่ง ๆ ยิ่งตอบยิ่งยาว งั้นไม่ตอบอาจจะดีกว่า

“โอเค ๆ ไม่กวนก็ได้ วันนี้คุณจะลงไหม”ผมเงยหน้าขึ้นมองตากับคนที่ถาม มันถามผมทำไมกัน “ไม่ได้เอาไปบอกน้องหรอกน่า”

ผมหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างสงสัย จะไม่ให้สงสัยได้ยังไงล่ะครับ อยู่ ๆ ก็มาถามแบบนี้ มันต้องมีอะไรที่ไม่น่าพึงประสงค์เท่าไหร่แอบแฝงแน่

“คุณถามทำไม”ขอยังไม่ตอบคำถามที่ถามมาแล้วกันนะ บอกจุดประสงค์มาก่อน ถ้าอยู่ในเกณฑ์รับได้ จะพิจารณาอีกที

“ผมแค่จะฝากให้คุณย้ำเรื่องการเคารพอาจารย์ด้วย”เคารพอาจารย์งั้นเหรอ ปกติเด็กปีหนึ่งน่าจะเคารพอาจารย์อยู่แล้ว ยิ่งในต้นเทอมแบบนี้ด้วย “อาจารย์บอกมาว่าคุยกันมากในวิชาเรียน”

“ทุกคณะ?”ผมถามกลับสั้น ๆ เพราะถ้าเป็นคณะผมมันต้องมะคำแซะแล้ว แต่นี่ไม่มีออกมา

“ใช่ ทุกคณะวิชา อาจารย์ที่สอนพวกวิชาเรียนรวมเขาบ่นมา”เอาเข้าแล้วไง ปีนี้คุยเก่งเหรอเนี่ย ปกติต้องผ่านไปสักเดือนก่อนถึงจะมีคำพวกนี้ลอยเข้าหู นี่เพิ่งสัปดาห์ที่สองเองนะ

“วันนี้ผมลง”เหตุผลใช้ได้ ยอมตอบตามตรงก็ได้ ตอนแรกว่าจะลงเบา ๆ ชิว ๆ สักห้านาที สิบนาที เห็นทีจะไม่ได้แล้วมั้ง

“อาฮะ... แล้วคุณฝึกล้างตู้เย็นหรือยัง”เหี้ย พูดดีได้ไม่ถึงสิบนาทีเลยแม่ง กวนอีกแล้ว ล้างบ้าอะไร “หัด ๆ ไว้ จะได้สะอาด ๆ ไง คุณไม่ชอบของสกปรกไม่ใช่หรือไง”

“เทคนิคการแพทย์ไม่มีวันแพ้วิศวะของพวกคุณแน่ คุณพายุ”ผมปิดหนังสือแล้วลุกขึ้น กลับหอดีกว่า อยู่ตรงนี้แล้วปวดหัวเปล่า ๆ เหอะ “แล้วสิ่งที่สกปรกที่สุดที่ผมเห็นตอนนี้คือ เสื้อช็อปของคุณนั่นล่ะ”

วางระเบิดแล้วกลับหอ ชัยชนะวันนี้เป็นของผมครับ


ทำไมตอนเย็นต้องมาถึงไวด้วย ยังไม่ทันได้กลิ้งเกลือกสักเท่าไหร่เลย ตัวขี้เกียจเพิ่งมาเกาตัวหนาแน่นเอง... จะไม่ไปก็ไม่ได้ นัดเพื่อน นัดน้องไว้แล้ว เดี๋ยวผมจะโดนพลอยลงซะเอง (เคยโดยมันว๊ากใส่ นอกจากหูจะชาแล้ว ยังเจอน้ำลายกระเด็นด้วย)

เสียงกลองและเสียงร้องเพลงสันทนาการดังลอยเข้าหู ผมและวินัยคนอื่น ๆ ยืนรอเวลาที่จะไปลงกันอยู่ ระหว่างนั้นก็มองสีหน้าน้อง ๆ ที่โดนเรียกออกมาเต้นข้างหน้า ตลกดีครับ ปีสองก็ช่างแกล้ง เรียกน้องผู้ชายมาเต้นเพลงมัดหมี่ กับแจ๊ะไม่เลิก

“หนาว จะลงตอนไหน”พลอยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หันมาถาม หลังจากที่พวกเรามารวมตัวกันได้กว่าสิบนาทีแล้ว “หกโมงกว่าแล้วเนี่ย”

“อืม... ไปเลยก็ได้”ให้น้องผ่อนคลายมาพักใหญ่แล้ว ถึงเวลาของพวกผมบ้างล่ะนะ

พวกผมเดินเข้าทางด้านหลัง เพื่อไม่ให้น้องปีหนึ่งเห็นก่อน ส่วนพวกปีสองก็เริ่มขยับตัวกันแล้ว เมื่อเหลือมาเป็นพวกผมเดินเข้าไป

“ปีหนึ่งตั้งแถวครับ”ความว่องไวเยี่ยงเฮอริเคนเข้าทรงน้องปีสองอีกครั้ง เก็บอุปกรณ์สันฯ วิ่งหายตัวกันไปอย่างรวมเร็วตามที่เคยคุยกันไว้ “วันนี้มากี่คนครับ”

“1768 คนครับ”น้องผู้ชายคณะวิศวะเป็นคนตอบมา หื้ม 1768 คน ทั้งสองคณะรวมกันมี 1897 คน เท่ากับว่ามีคนหายไป 129 คน ไม่น้อยเลยทีเดียว

“เพื่อนพวกคุณหายไปไหน 129 คนคะ”นัทถามเสียงเย็น และดัง  ส่วนผมยืนกอดอกอยู่ข้างหน้า มองน้องๆ ที่ยืนก้มหน้านิ่ง

“เพื่อนป่วยครับ”

“ป่วยพร้อมกัน 129 คนเลยเหรอคะ”ตาพลอยบ้างละทีนี้ โดนแย่งบทพูดไปต่อหน้าเลยผม ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยพูดก็ได้ “จะป่วยกันเยอะไปไหน”

ทีนี้น้องเลยกริบหนักกว่าเดิมอีกครับ โอเค คงจะมีป่วยกันบ้าง แต่คงไม่ป่วยพร้อมกันเป็นร้อยคนหรอกครับ 14 คน ป่วย 1 คน มันดูเป็นอัตราที่สูงเกินไป

“ถ้าป่วยกันขนาดนี้ เอาเชื้อมาให้พวกผมเพาะดูก็ได้นะครับ จะได้รู้ว่าเป็นโรคอะไร”ปันปันมาแรงแซงโค้งเลยนะเนี่ย “เผื่อเป็นโรคติดต่อ หรือโรคร้ายแรงจะได้ไปรักษากันถูกไงครับ”

เล่นมุขนี้โหดแหะ ป่วยการเมืองเล่นกับคณะแพทย์ พยาบาล และเทคนิคการแพทย์ไม่ได้หรอกนะครับ พวกผมสามารถตรวจได้ (ถึงตามจรรยาบรรณจะต้องขอผู้ป่วยก่อนตรวจก็ตามที)

“ให้เพื่อนที่ไม่มาส่งใบลา และมาบอกเหตุผลกับวินัยด้วยนะครับ”ผมกวาดตามมองน้อง ๆ อย่างเฉยชา “ผมขอดูสมุดลายเซ็นครับ”

ปีหนึ่งทั้งสองคณะหยิบสมุดลายเซ็นขึ้นมากันจ้าล่ะหวั่น ยังดีนะครับที่พวกวิศวะยอมฟัง ไม่พยศกับพวกผม ไม่งั้นคงต้องเหนื่อยกันอีกยาว (ขอยาดมที)

“มีใครยังได้ไม่ถึง 50 ลายเซ็นไหมครับ”เอาต่ำ ๆ ก่อน เพิ่งเปิดเทอมไม่นาน เผื่อน้องไม่วาง (กัดฟันพูด ช่วงเปิดเทอมนี่ว่างที่สุดแล้ว)

พรึบ พรึบ พรึบ

ยังมีคนยกมือ... หมายความว่ายังไง พี่รวมกันสองคณะนี่ห้าพันกว่าคนได้ ยังได้ไม่ถึง 50 ลายเซ็นอีก? จะได้น้อยกันไปไหน...
ดีนะ มีไม่เยอะเท่าไหร่

“คนที่ไม่ถึง 50 ลายเซ็น ได้เท่าไหร่กันแล้วครับ”ผมถามพร้อม ๆ กับที่วินับรอบ ๆ เดินเข้าไปเช็ค ดูจากคิ้วที่มุ่นเข้าหากันของแต่ละคนแล้ว ชักไม่ดี...

“ต่ำสุด 26 ลายเซ็น...”ปันปันสูดลมหายใจลึก ส่วนผมพูดไม่ออก มันต่ำกว่ารุ่นที่แล้วของคณะเทคนิคการแพทย์คณะเดียวอีกนะครับ “พวงคุณคงไม่อยากรู้จักพี่ ๆ ของพวกคุณสินะครับ”

“แล้วมีใครในนี้ได้ลายเซ็นพี่วินัยมากันบ้างแล้วครับ”สลัดลายเซ็นอันน้อยนิดพวกนั้นออกไป แล้วมาที่จุดหมายใหม่ “มีบ้างไหมครับ”

ไม่มีใครยกมือ... ไม่มีแม้แต่คนเดียว เรื่องปกติล่ะครับ ไม่ค่อยมีน้องคนไหนกล้าขอลายเซ็นพี่วินัยหรอก ถ้าไม่ได้สั่ง

“พวกผมไม่ใช่พี่คุณใช่ไหมครับ ถึงไม่มาขอกันน่ะ”ปูน วินัยที่เสียงเบาที่สุดในกลุ่มของพวกผมพูดขึ้นบ้าง ปกติมันเป็นตัวเสริมครับ ไม่ค่อยออกหน้าเท่าไหร่ “ครับหน้า พี่ขอ 100 ลายเซ็นทุกคนนะครับ ทำได้ไหม”

“ได้ครับ/ค่ะ”น้องตอบกันเสียงไม่หนักแน่นเท่าไหร่ ยังไงมันก็มีพวกที่แหกคอก ไม่ไปขอหรอกครับ

“มีอาจารย์มาบอกพวกผม...”จริง ๆ แล้วคือว๊ากของวิศวะต่างหาก... แต่อย่าไปพูดถึงมัน เดี๋ยวมันมากวนผมอีก “พวกคุณเสียงดังในห้องเรียน ไม่ตั้งใจ เอาแต่คุย พวกคุณมาเรียนหรือมาเล่นกันแน่ครับ”

“มาเรียนครับ/ค่ะ”

“แล้วทำไมถึงไม่เรียน จะเทคนิคการแพทย์ก็ดี วิศวกรรมศาสตร์ก็ดี ทำไมไม่ฟังอาจารย์ ให้ท่านมาพูดแบบนี้กับพวกผมได้”ผมขึ้นเสียงดังลั่น ทำเอาน้องหลบตากันหมด “มองมาข้างหน้าครับ ไม่ต้องก้มหน้า”

“ยังไม่รวมเรื่องที่พวกคุณไม่ไหว้พี่ ไม่ไหว้อาจารย์นะคะ”ป๊อป วินัยอีกคนของคณะ ปีสอง รายนี้จริง ๆ เป็นคนร่าเริง ยิ้มหน้าบางทั้งวันนะครับ แต่ต้องมาเป็นวินัย “บางคนก็แทบจะเดินเหยียบหัวพี่กันอยู่แล้ว หรือพี่ ๆ ของพวกคุณไม่น่านับถือเหรอคะ พวกคุณถึงไม่ไหว ไม่สนใจ”

“แม้แต่พี่ปีสองที่คอยดูแลพวกเขายังไม่ไหว้ จะนับอะไรกับพี่ปีอื่น ๆ ล่ะ”ปันปันเสริมแรงขึ้นมา ให้หนักขึ้นไปอีก “พวกเขาคงไม่อยากมีพี่กันมั้ง”

“ถ้าไม่อยากมีพี่ก็บอกนะครับ แค่บอกมา พวกผม พี่ ๆ ผม และน้อง ๆ ของผมจะไม่มายุ่งกับพวกคุณอีกเลย”ผมเอ่ยเรียบ ๆ แล้วจ้องมองน้องทุกคน บางคนแววตาเริ่มสั่นไหว แต่หลายคนยังเฉยชาอยู่... ตอนนี้ความผูกพันกับพี่อาจจะยังไม่มากเท่าไหร่ แต่อีกสักพักจะแน่นขึ้นเอง “ในการพบกันครั้งหน้า ผมหวังว่าพวกคุณจะดีขึ้นกว่านี้นะครับ”

ผมพาพลพรรควินัยเดินออกไป หลังจากที่พวกผลหายออกไปจากสายตาของน้องแล้ว พี่สันทนาการก็วิ่งกรูกันเข้ามา

ว่าพูดไปนิดเดียว กินเวลาไปยี่สิบกว่านาทีเลยเหรอเนี่ย... พวกผมมัวแต่จ้องหน้าหน้าน้อง หรือเวลามันไหลผ่านไปเร็วกันแน่...



&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

 :mew1:

มาต่อแล้วค้า ตอนนี้ดูไม่ค่อยมีอะไรเลย 555 แต่ตัวละครตัวใหม่ก็ได้โผล่มาแล้วว เฮ้ จะมีบทอะไร... รอดูกันต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 29-10-2014 22:48:21
 o13 :hao7: :hao6: :pig4:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 29-10-2014 22:53:39
ทางเทคนิคหนิจะใช้ไซโคกันมากกว่าสินะ.....แอบหลอนแฮะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 29-10-2014 23:29:08
ความรักของทั้งสองคน  ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า


 :hao4: :hao4: :hao4: :hao4:


  ภาวนาตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะเนี่ย 


เฮียลม เจ้หนาว  รักกัน รักกัน รักกัน      :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 30-10-2014 01:41:28
โหดๆๆ คำพูดคำจานะ พายุ แพ้ขึ้นมาจะหัวเราะให้!! :katai3:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 30-10-2014 05:44:51
เรียนเทคนิคหรือเรียนจิตวิทยากันแน่ กดดันโหดมาก
ป.ล. พี่ทิวไผ่นี่ วินัยเก่าหรอ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 30-10-2014 10:37:16
เรียนเทคนิคหรือเรียนจิตวิทยากันแน่ กดดันโหดมาก
ป.ล. พี่ทิวไผ่นี่ วินัยเก่าหรอ

ทิวเป็นพี่พยาบาลของหมอค้า
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-10-2014 13:12:22
ชอบ ๆ อยากให้มีตัวเลือกหลาย ๆ คน
นายเอกเราดูเลอค่า คิคิ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 30-10-2014 15:01:54
ลมหนาวววววววววววววววววววววววววววว
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 30-10-2014 18:55:59
โหดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 30-10-2014 23:31:24
ความรักของทั้งสองคน  ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า


 :hao4: :hao4: :hao4: :hao4:


  ภาวนาตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะเนี่ย 


เฮียลม เจ้หนาว  รักกัน รักกัน รักกัน      :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:

ยังอีกนานนะคะ 5555
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนที่5 P3(29/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Paifah ที่ 31-10-2014 22:16:21
ยังไม่รักกันอีกหรอ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ส่งใบลา7วันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 02-11-2014 23:17:48
ขอส่งใบลานะคะ คุณน้าของคนเขียนเสียด้วยโรคมะเร็ง ขอลาไปทำพิธีให้คุณน้าค่ะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ส่งใบลา7วันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 03-11-2014 00:54:52
เสียใจด้วยนะคะ

ไม่เป็นไรจ้า เรารอได้...
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ส่งใบลา7วันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-11-2014 23:40:28
เสียใจด้วยนะคะ

ไม่เป็นไรจ้า เรารอได้...

ขอบคุณค่ะ TwT เดี๋ยวเสร็จงานแล้วจะมาต่อนะคะ

^3^
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ส่งใบลา7วันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: numilddy ที่ 04-11-2014 08:54:47
รอได้ค่า สู้ๆ น้า ชั้นมารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลย ก๊ากกกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ส่งใบลา7วันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 04-11-2014 19:55:08
รอนะคะ ชอบอ่านบรรยากาศแบบนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ส่งใบลา7วันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 07-11-2014 17:02:24
ขอบคุณที่ยังรอกันนะคะ ถ้าไมาติดอะไรพรุ่งนี้จะมาอัพให้ค้าา
หัวข้อ: Re: EG vs MT(วิศวะVsเทคนิคฯ) เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ส่งใบลา7วันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 07-11-2014 17:43:44
ฟ้าวเด้อๆ
5555

 :katai4: :katai4:

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 08-11-2014 19:10:49
วันที่หก
หลานเทค


มัวแต่ยุ่งวุ่นวายเรื่องระเบียบ กับเรื่องที่จะลงน้อง และผลที่ได้ในแต่ละครั้ง ผมเลยลืมเรื่องสำคัญเรื่องนึงของทุกปีไปซะสนิทเลย ให้ตายสิ

พรุ่งนี้วันจับซองเทคของน้องปีหนึ่ง ไม่รู้ว่าน้องเทคผมจะทำซองเสร็จหรือยัง ตั้งแต่เปิดมายังไม่ได้คุยกับมันเลยด้วย

"เกด ทำซองเทคยัง"ผมสไกด์ไปหาน้องเทค ชื่อคุ้น ๆ ใช่ไหมครับ ฮ่า ๆ ก็ตากล้องประจำปีสองนั่นล่ะครับ น้องเทคคนเดียวของผมเอง

"ทำเรียบร้อยแล้วค้า"ไอ้เกดตอบกลับมาเสียงใส พร้อมเสียงดนตรีที่ดังลอดเข้ามาแว่ว ๆ "พี่หนาวเตรียมแกล้งน้องได้เลยยย"

"เหมือนที่แกล้งแกอ่ะนะ"ฮ่า นึกแล้วขำ ตอนที่เกดมันโทรมารายงานตัว กับมาขอพี่เทค ตอนนั้นผมลงมันไว้เบา ๆ (เบากว่าวินัยลงน้องนิดนึง) ก่อนจะรับเข้าสาย ถ้าไม่ติดว่ามันต้องเป็นตากล้อง มันคงมาเป็นวินัยด้วยกันแล้ว เด็กหน้านิ่ง ไม่ชอบยิ้มตามธรรมชาติ

"โหยยย เอาให้แรงกว่าตอนเกดจิ พี่หนาว"มันงอแงผ่านสายโทรศัพท์มา นึกหน้าออกเลยล่ะ ว่ามันต้องทำสีหน้ายังไงอยู่

น้องผมไม่ได้หน้าตาสวย น่ารัก หุ่นไม่ได้ดีเด่ แต่ใจเขาเต็มร้อย พร้อมที่จะทุ่มให้กับทุกอย่าง กิจกรรมแค่เรียก เขาก็มาให้เสมอไม่เคยขาด สายเด็กกิจกรรมจริง ๆ สายผม

"ไม่สงสารน้องเหรอ"ผมแหย่ถามน้องอย่างล้อเลียน เกดมันหัวเราะสวนมา ฟังดูสะใจพิกล ๆ "ว่าไง"

"บอกเลยว่า 'ไม่' ค่ะพี่"ชัดเจน แจ่มแจ้ง ไม่รู้ไปโกรธอะไรน้องมากันล่ะนั่น ถึงไม่ยอมให้น้องสบาย ๆ "จะแกล้งให้หนักเลย"

"ทำไม เกิดอะไรขึ้น"ผมถามอย่างสงสัย ปกติเกดเป็นคนเฉย ๆ อาจจะไม่ค่อยยิ้ม เส้นลึก แต่ไม่ค่อยเกลียดใคร "น้องทำอะไรให้เหรอ"

"มันกวนเกด"เอ่อ... แสดงว่าโดนกวนโอ๊ยมาเยอะ ถึงดูหงุดหงิดขนาดนี้... "เกดถ่ายรูปเก็บผลงานของชั้นปีอยู่ดี ๆ มาลากให้ไปถ่ายพอตเทรตให้ เวลาเดินสวนกันก็ทักซะเป็นเพื่อนเลย"

"ถือด้วยเหรอ"เกดมันเคยมีน้องเทคมาก่อน เรื่องแค่นี้ไม่น่าถือนี่น่า หรือโดนเยอะกันวะ "เอาน่า น้องมันแค่อยากสนิทสนมด้วย"

"งื้อออ"ฟังดูก็รู้ว่ามันไม่พอใจสักเท่าไหร่ เดี๋ยวก็คงดีขึ้นเองล่ะมั้ง "เกดไปทำงานก่อนนะ อาจารย์สั่งทำมายแมพส่งพรุ่งนี้"

"อืม ตั้งใจล่ะ เดี๋ยวพาไปเลี้ยงหนม"

เกดมันวางสายไปก่อนแล้ว ท่าจะยุ่งจริง ๆ เอาเถอะผมเองก็ต้องวางแผนงานอื่น ๆ เหมือนกัน ไม่ได้ว่างไปกว่าน้องเทคตัวกลมเลย

หวังว่าจะได้น้องนิสัยดี ๆ นะ


"คุณพายุ วันนี้ไม่รับน้องรวมนะครับ"ผมมาตึกคณะวิศวะเพื่อมาคุยกับคนที่ไม่อยากจะเจอหน้าสักเท่าไหร่ "วันนี้เมดเทคจะจับซองเทค เพราะอย่างนั้นจะไม่รับน้องรวมนะครับ"

"รวมกันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรไม่ใช่หรือไง"มันโต้กลับมาพร้อมเลิกคิ้วขึ้น มุมปากยิ้ม ๆ แม่ง เข้าใจง่าย ๆ ไม่กวนสักวันจะตายไหมวะ

"แล้วคุณจะไม่เลือกดาวเดือนหรือไงครับ"ผมยกเรื่องที่เฉพาะสำหรับคณะมาพูด คราวนี้มันไม่แค่ยิ้มมุมปากแล้ว แต่ยิ้มมากว้าง ดวงตานี่พราวระยับมาเลย หรืออยากจะให้พวกผมเห็นดาวเดือนของพวกคุณก่อนวันที่จะแข่งจริงล่ะครับ คุณพายุ”

"อ้อ เตรียมจะแพ้แล้วสินะ ลมหนาว"เฮดของวิศวะลุกขึ้นยืดตัวสูง แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม "ผมพร้อมจะชนะคุณแล้วนะ"

"ผมไม่มีวันแพ้คุณ คุณพายุ"ถึงจะอยู่ในดงของพวกวิศวะ ผมก็ไม่กลัวหรอกนะครับ คนเหมือนกัน มีสองมือ สองเท้าเหมือนกัน ถ้ามันหมาหมู่เล่นพวก ใกล้ ๆ นี้พวกแพทย์อยู่ ยังไงฝ่ายแพทย์ก็วิ่งมาช่วยผมได้... พร้อมสารพัดอุปกรณ์ผ่าตัด “คุณนั่นล่ะ ที่ต้องเตรียมรับความพ่ายแล้วแล้วคลานซมซานมาอยู่แทบเท้าของผม”

ให้มันรู้กันไปข้าง

ปัง!

พี่ยุมันทุบโต๊ะดังลั่นแล้วกระชากคอเสื้อผมให้เข้าไปใกล้ ๆ มัน จนหน้าแทบจะชิดกันอยู่แล้ว ลมหายใจอุ่นร้อนรดรินใบหน้า แต่ดวงตายังคงสบนิ่งอย่างไม่มีใครยอมใคร

“ผมจะทำให้ความมั่นใจพวกนั้นของคุณหายไปให้หมดเลยคอยดู”

“ก็ลองดูสิ”

ผมกับมันจ้องตากันเขม็งอย่างไม่มีใครยอมใคร ถ้าเป็นในการ์ตูนคงเห็นกระแสไฟฟ้ามาบรรจบปับ เปรี๊ยะ ๆ แล้วล่ะครับ

ถ้าไม่ติดว่าสัปดาห์นี้เป็นเวรของพวกวิศวะลงวินัยนะ ผมจะไม่มาเหยียบที่นี่เลย เหอะ

“โอเค วันนี้เราจะไม่รับน้องรวมกันสองคณะ ผมจะบอกกับสันทนาการของวิศวะให้ คุณก็บอกของคุณแล้วกัน”พายุยอมตกลงโดยดี และปล่อยคอเสื้อผมออก แม่ง เสื้อยับหมดแล้ว มันก็คงไม่อยากให้ผมเห็นดาว เดือนของคณะมันก่อนเหมือนกันล่ะครับ “เอาไว้เจอกันใหม่นะครับ คุณวินัย ผมต้องไปเรียนแล้ว”

“ไม่ต้องเจอกันอีก คงจะดีกว่ามั้งครับ คุณพี่ว๊าก”ตัดรอนไม่เหลือเยื่อใย แต่มันก็ยังยิ้มกวน ๆ ให้ผมได้เหมือนเดิม เซ็งชะมัด

“ดวงเรามันคู่กัน ยังไงก็ได้เจอกันไปอีกนานล่ะนะ ที่รัก”หมอนั่นหยอดระเบิดไว้แล้วเดินตัวปลิวไปพร้อมกระเป๋าสะพายข้างใบเก่ง...

ใครเป็นที่รักของแม่ง!!

หนาวชิบ


ตอนนี้ผมและวินัยคนอื่น ๆ นั่งอยู่ในแลปอย่างสุดเซ็ง อยากออกไปดูหน้าหลานที่จะเข้ามาในสายรหัสนะครับ แต่ไม่ได้ ถ้าไปยืนเด่ตรงนั้นคงหมดสนุกกันแน่

ได้แต่รอน้องโทรมาบอก... เฮ้อ

“หนาว มึงอยากได้น้องผู้ชายหรือผู้หญิงวะ”ปันปันที่นั่งอยู่ข้างกันหันมาถาม เป็นการเปิดบทสนทนาที่ดีไม่ยอกเลยนะเนี่ย พวกคนที่เหลือเลยลากเก้าอี้กันมานั่งล้อมวงอย่างไม่ค่อยอยากจะหาเรื่องคุยกันเลย “กูอยากได้ผู้ชายว่ะ จะได้ชวนไปสังสรรค์ เล่นกีฬาได้”

“ผู้ชายก็ได้ ผู้หญิงก็ได้ขอให้อยู่จนจบสายไม่ขาดพอแล้ว”ไม่ครับ ผมไม่เลือกเพศ แต่ผมไม่อยากสายขาด “ผู้หญิงก็ดี เลี้ยงง่ายดี”

“โหยยย พี่ อย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคนเลี้ยงง่ายเหมือนเกดมันดิ”ป๊อปส่ายหน้าให้ผม ก่อนจะยิ้มกว้าง “เกดมันแทบจะออกไปทางทอมแล้วพี่ ถ้ามันชอบผู้หญิงนี่จบเลย”

“เออ จริง น้องกูแม่ง ชวนไปเดินตลาดนัดก็ไม่ไปกลัวดำ”พลอยบ่นออกมาเสียงไม่เบาเท่าไหร่ ไม่กลัวน้องได้ยินเลยนะเพื่อน “ชวนกินบุฟเฟ่เค้กก็ไม่กินอีก กลัวอ้วน อะไรนักหนาก็ไม่รู้”

“เอาน่า มายด์เขาเป็นหลีด เขาก็คงอยากรักษาหุ่นนั่นแหละ”นัทปลอบใจเพื่อนด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ก็จริงล่ะมั้ง คงไม่ค่อยมีน้องที่เลี้ยงง่าย ๆ อย่างเกดมันสักเท่าไหร่หรอก

“พูดถึง ปีนี้เราปลดวินัยช้ากว่าปีอื่น ๆ จะพาน้องไปเลี้ยงกันท่าไหนล่ะเนี่ย”นนท์โพลงขึ้นมากลางวง เรียกความคิดของทุกคนให้ไปจนจ่อกับสิ่งที่เขาพูด

เออ ก็จริง... จะเอาน้องไปเลี้ยงยังไง แต่ถ้ารอไปจนกว่าจะปลดวินัยก็เกือบปลายเทอมแล้ว สอบก็เยอะ ต้องอ่านหนังสืออีก

“ให้เก็กหน้าขรึมไปเลี้ยงสายก็คงไม่ถูกเท่าไหร่มั้ง...”ติม วินัยปีสองที่ชอบมาสายตลอดพูดขึ้นบ้างแต่ถ้าไปแบบสบาย ๆ แล้วน้องมันเอาไปบอกเพื่อนในชั้นปี หรือเอารูปลงอินสตาแกรม เฟสบุ๊ก ไอจี นี่ก็จบเหมือนกันนะ...

“จะทำแบบไหนก็ได้ ที่จะไม่เสียถึงวินัย”ผมพูดได้เท่านี้แหละ ที่เหลือคงต้องไปหาทางกันเอาเอง... มีกันแค่สอบกว่าคนเอง
อ่อ ผมไม่เคยบอกสินะว่าวินัยของเทคนิคการแพทย์ที่ลงน้องจริง ๆ จะมีแค่ชั้นปีที่สองกับปีที่สามครับ ส่วนพี่ปีสี่จะไม่ค่อยลงมายุ่งถ้าไม่หนักหนาจริง ๆ เพราะพวกพี่เขาต้องไปฝึกงานกัน ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ ตำแหน่งประธานจึงลงมาเป็นของปีสาม เพื่อที่ว่าจะได้ทำงานได้เต็มที่ที่สุด

เลยเป็นงานที่ค่อยข้างหนักอยู่เอาการเหมือนกันล่ะครับ มีเวลาฝึกจริง ๆ จัง ๆ แต่ปีกว่า ๆ แล้วก็ต้องมาทำทุกอย่างเอง แต่ก็ยังไหวกันอยู่

“เฮ้ หนาว เราได้คนที่จะไปประกวดดาว เดือน ดาวเทียมแล้วนะ”มิ้น เพื่อนปีสามของผมเดินเข้ามาในห้องแลปพร้อมกับไอแพตในมือ “ดูหน่อยว่าโอไหม”

มิ้นเปิดรูปน้องผู้หญิงปีหนึ่งให้ดู สวยนะครับ ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ผมยาวตรงถึงกลางหลังทำสีน้ำตาลเปลือกไม้ ตากลมโต เสียอย่างเดียวดูส่วนสูงน้อยไปหน่อย แต่ก็ไม่เลว

ส่วนน้องผู้ชาย สูง สูงมาก หุ่นนายแบบมาเลย ใบหน้าคม ตาก็คม ริมฝีปากบาง ยิ้มได้ลุคแบดบอยดี นาน ๆ ทีจะมีหลุดคนหน้าตาดี ๆ ขนาดนี้มาในคณะผมนะครับเนี่ย ฮา

ดูมีหวังทั้งดาวเดือนเลยแหะปีนี้

หึ ผมบอกแล้ว ผมไม่มีวันยอมแพ้พวกวิศวะแน่ ยังไงก็ต้องชนะ ไม่ว่าจะเป็นดาว เดือน หรือจะเป็นแสตนด์และผู้นำเชียร์ก็ตาม

ผมไม่มีวันแพ้การพนันบ้า ๆ นั่นแน่ เหอะ

รู้จักคนอย่างลมหนาวน้อยไปแล้ว ถ้าผมไม่มีดีพอที่จะไปสู้ มีเหรอจะได้รับเลือกให้มาปะทะกับพวกวิศวกรรมศาสตร์ที่มีคนมากกว่าพวกเราไม่รู้กี่เท่า

รับรองว่าพวกเราจะได้เห็นดีกัน

ครืด ครืด

เสียงอะไรสั่น... สั่น สั่น อ่อ มือถือผมเองครับ เกดมันโทรมา เห น่าจะเพิ่งเริ่มจับน้องไปได้แปปเดียวนี่น่า หรือว่าจับเสร็จแล้ว?

“ไงเกด มีไร”ผมกรอกเสียงลงไปในสายถามน้องเทคอย่างงง ๆทุกคนในห้องเงียบกริบ หันมาเผือกเรื่องของผมกันหมดเลย เออดี “จับน้องกันเสร็จแล้วเหรอ”

“ยังพี่... แต่ซองเกดออกแล้ว”ทำไมพูดเสียงอ่อย ๆ จังเลยวะ เป็นไรไปหรือเปล่าเนี่ย “พี่หนาว...”

“เป็นอะไร เสียงอ่อย ๆ เลย หรือว่าได้น้องที่มีปัญหาด้วย”เอ... แต่เกดมันไม่น่ามีปัญหากับน้องคนไหนนี่หว่า เท่าที่ผมรู้มา

“เกดได้น้องผู้ชายอ่ะพี่หนาว”ได้น้องผู้ชาย... อ่อ ถึงว่าทำเสียงอ่อยเชียว มันเคยบอกผมไว้ตอนปีที่แล้วว่าอยากได้น้องผู้หญิง เพราะจะได้เทคง่าย ๆ

“ไม่เป็นไรน่า ก็ยังดีนะ น้องชื่ออะไรน่ะเกด”ผมถามกลับไปพร้อมกับปลอบน้องไปในตัว สายผมผู้ชายแอบเยอะ เดี๋ยวเรียก ๆ มาช่วยน้องมันเทคเอาท่าจะดี

“คีตา... น้องที่จะไปประกวดเดือนมหาลัยอ่ะพี่หนาว”กลมบ๊อกเลยโลกนี้... ผู้ชายคณะผมอาจจะน้อย แต่ก็ไม่ได้น้อยมาก แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้น้องคนนี้ “พี่ เกดจะเทคน้องยังไงดีอ่ะ”

“ไม่เป็นไรนะเกด เดี๋ยวพี่ช่วย”ขอไปคิดก่อนว่าจะเทคยังไง ผมยังไม่รู้นิสัยน้องมันสักเท่าไหร่เลยด้วยสิ “น้องนิสัยยังไง เกดรู้ไหม”

“นิสัยเหมือนหน้าตามันอ่ะพี่”เป็นคำจำกัดความที่เหมือนจะดี... เหมือนจะดีจริง ๆ นิสัยเหมือนหน้าตานี่... มันจะดีไหมวะเนี่ย

“... หมายความว่ายังไงน่ะเกด”ผมถามกลับอีกรอบอย่างงง ๆ เผื่อผมอาจจะเข้าใจอะไรผิดไป “นิสัยเหมือนหน้าตานี่คือยังไง”

“หน้าตามันแบดบอยยังไง นิสัยมันก็อย่างนั้นอ่ะพี่”น้องตอบกลับมาด้วยเสียงที่อยากจะร้องไห้ ได้หลายเทคแบบนี้มันโอไหมวะเนี่ย “ล่าสุดเกดเห็นมันควงดาวปีสองของม.yy อยู่อ่ะพี่ ก่อนหน้าก็เด็กมัธยมปลายจากคอนแวนต์”

“...”ไม่รู้จะพูดยังไงดี เหอะ ๆ เจอน้องแบบนี้ซะอย่างนั้น ผมไม่คิดว่าจะมีคนประเภทนี้หลุดเข้ามาในสายอาชีพที่ผมศึกษาอยู่นะเนี่ย “ไม่เป็นไรนะเกด พี่เชื่อว่าเกดเทคน้องได้”

“งื้ออออ”รู้สึกสงสารน้องยังไงก็ไม่รู้ ดวงไม่ค่อยดีเลยนะเกดนะ เฮ้อ “เดี๋ยวเกดไปรวมกับเพื่อนก่อนนะพี่หนาว หายไปนานเดี๋ยวโดนสงสัย”

“อาฮะ ไว้คุยกันใหม่”เกดมันกดวางไปแล้ว ผมหันไปหาเพื่อนที่นั่งล้อมอยู่ คงไม่ต้องบอกใช่ไหมครับว่าทุกคนทำหน้ากันยังไง
ไม่ค่อยอยากรู้กันเลยนะ แม่ง

“เป็นไง เกดมันโทรมาว่าไงมั่ง”คิดว่าใครพุ่งมาคนแรกครับ ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้กัน พลอยพุ่งคำถามเข้ามาทันที ไม่รอให้ผมได้ตั้งตัวเลย “ได้หลานเป็นใคร”

“เดือนคณะ”ผมตอบตอบอย่างเหนื่อย ๆ ทำรู้สึกว่าสังหรณ์ใจแปลก ๆ ว่าจะต้องเกิดเรื่องยุ่ง ๆ แน่เลย เฮ้อ ผมคงคิดมากไปเอง

“ดีนี่หว่า ได้น้องผู้ชาย เทคง่าย ว่าง ๆ ชวนไปเตะบอล”ปันปันตบไหล่ผมแปะ ๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง “เวิร์ค ๆ โชคดีชะมัด”

“คิดงั้นเหรอ”ผมว่าเสียงผมมันเนือยกว่าเดิมอีกแหะ ไม่รู้สิ สายผมมีแต่พวกเลี้ยงง่ายนะที่ผ่าน ๆ มา แต่ผมชักหวั่น ๆ หลานคนนี้ยังไงพิลึก

“ไมวะ?”

“เกดมันบอกว่าน้องมันเป็นประเภทนิสัยเหมือนหน้าตา”เหมือนทุกคนจะเข้าใจผมนะ ว่าพวกนิสัยเหมือนหน้าตามันเป็นยังไง “เอาเหอะ คงไม่มีอะไรหรอกน่า”

ครืด ครืด

อ่าว น้องเทคผมมันโทรมาทำไมอีกล่ะเนี่ย มันน่าจะส่องน้องของเพื่อนให้กลุ่มมันอยู่นี่หว่า หรือว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า

“ว่าไง เกด”รอบนี้ผมรับแบบเปิดลำโพง ขี้เกียจยกขึ้นมาแนบหูน่ะครับ ไม่มีอะไร ชาร์ตแบตอยู่ด้วย เดี๋ยวดูดหูไหม้ กลายเป็นคนหูดำทำไง

“พี่หนาว ๆ เกดลืมบอกว่าน้องเป็นไบนะพี่ ไปก่อนนะ เกดต้องไปถ่ายรูปน้องแห่กระติกแล้ว”

กริบ... ไม่ใช่แค่ผมที่พูดไม่ออก แต่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่มาสุมกันอยู่ในห้องแลปนี้ก็กริบเหมือนกัน ทุกคนมองหน้ากันนิ่ง แล้วก้มหน้าก้มตาไปจิ้มมือถือ ไอแพต แทปเล็ตในมือกันเงียบ ๆ

ความเงียบงันที่ไม่เคยมียามที่ทุกคนอยู่รวมกันได้เข้าปกคลุมห้องแลปเทคนิคการแพทย์แห่งนี้...

ผมไม่ได้รังเกียจนะครับ แค่กำลังอึนนิดหน่อย คือไม่ได้เตียมใจมาว่าจะเจอน้องแบบนี้ ปกติถ้าจะเจอก็เจอแบบไม่ชายชอบชาย ชายชอบหญิง ก็หญิงชอบหญิงไปเลย ไม่คิดว่าจะเจอไบน่ะครับ

“เป็นอะไรน่ะ หนาว ทำหน้าประหลาด ๆ”เสียงนุ่ม ๆ ที่ฟังกี่ครั้งผมก็อดที่จะแอบเคลิ้มนิด ๆ ไม่ได้ ว่าแต่... มาอยู่ข้าง ๆ ผมตอนไหนเนี่ย

“ไม่มีอะไรครับพี่ทิว”ผมยิ้มบางให้พี่ชายคนสนิท เอ... พวกแพทย์เพิ่งเลิกเรียนเหรอเนี่ย “เพิ่งเลิกคลาสเหรอครับ พี่”

“อื้อ พี่เพิ่งลงมาจากวอร์ดน่ะ”พี่ทิวยิ้มกว้าง ก่อนที่จะดึงแขนผมเบา ๆ เชิงให้ลุกขึ้น “พี่มาชวนไปกินข้าวด้วยกัน พรุ่งนี้วันหยุด กลับดึกได้ใช่ไหม”

“ฮะ กลับดึกได้ พี่ทิวอยากไปกินอะไรเหรอ”แน่นอนว่าผมยอมลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ไม่บ่อยนักหรอกนะครับที่พี่ทิวไผ่คนนี้จะมีเวลามาชวนผมไปกินข้าว ก็นะ พี่เขาเรียนหนักตลอด

“พี่อยากกินบาบีคิว”ไม่ผิดจากที่คาดเท่าไหร่ พี่ทิวชอบกินบาบีก้อน ถ้ามีเวลาว่างแล้วหิว ๆ พี่แกไม่เคยหลุดจากร้านนี้เลย “ไปกันเถอะ เดี๋ยวมันจะมืดไปมากกว่านี้”

ผมกับพี่ทิวแอบออกจากห้องแลปมาตอนช่วงชุลมุน ดีที่พวกปีสองสรรหาของมาแกล้งน้องกันอย่างสนุกสนานเลยทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นผมกับรุ่นพี่ต่างคณะที่เดินออกมาด้วยกัน

พวกเราไปนั่งกินบาบีคิวที่ห้างใกล้ ๆ มหาลัยนี่แหละครับ ไม่อยากไปไกล ผมกับพี่ทิวเหมือนกันตรงที่ไม่ชอบแขวนท้องรอกิน ขอใกล้ ๆ ไว้ก่อนเวลาท้องร้อง

แต่นะ... ในเมื่อมาใกล้ ก็ต้องเจอคนรู้จัก

คนรู้จักที่ไม่อยากจะเจอซะด้วย

“ไง คุณวินัย ว่างมาทานข้าวข้างนอกนี่ด้วยเหรอ”พายุที่เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับสาวสวยคนนึง คุ้น ๆ ว่าเป็นดาวคณะสถาปัตถ์มาทักทายผมถึงโต๊ะ "หาดาวเดือนมาสู้กับคณะผมได้แล้วหรือยังไง อ้อ คงเตรียมรับความพ่ายแพ้ที่จะเกิดขึ้นแล้วสินะ"

“เมดเทคของผมมีคนมากพอที่จะสู้กับพวกคุณ ทั้งรูปร่าง หน้าตา รวมไปถึงสมองและความรู้ที่มีอย่างไร้ขีดจำกัด คุณเถอะ หาคนที่จะส่งมาสู้กับคนของผมได้แล้วหรือยังไง”เรื่องศักดิ์ศรียอมไม่ได้ มาเล่นกันถึงข้างนอกนี่ ยิ่งยอมไม่ได้ “ผมไม่มีวันแพ้คุณแน่”
พวกผมจ้องหน้ากันนิ่ง ฟาดฟันกันด้วยสายตาอย่างไม่มีใครคิดจะยอมใคร

“ไม่เอาน่า พี่ยุ ไปเถอะ พนักงานเขารออยู่นะคะ”เสียงใส ๆ ของสาวน้อยที่อยู่ท่ามกลางสงครามเย็นดังขึ้น พร้อมกับลากเอาร่างสูงของคู่อริผมไป

ถามถึงพี่ทิวเหรอครับ? นั่นไง นั่งยิ้มขำ ๆ อยู่ตรงข้ามผมนั่งไงครับ

“ยังกัดกันเหมือนเดิมนะ เมดเทคกับวิศวะเนี่ย”พี่ทิวส่ายหน้าน้อย ๆ แล้วคีบเอาเนื้อหมูที่ย่างสุกแล้วไปกิน “พี่ล่ะอยากรู้จริง ๆ ว่าจะเลิกกัดกันเมื่อไหร่”

“คงไม่มีวันนั้นหรอกครับ พี่ทิว”

ใช่... ไม่มีวันที่พวกผมจะมาดีกันแน่!

ไม่มีวัน!!!

++++++++++++++++++++++++

มาต่อแล้วค้า มีชื่อตอนด้วย 555 จะเริ่มใส่ชื่อตอนละ

ขอโทษที่เว้นไปนานนะคะ คุณน้าของคนเขียนเสีย เลยวิ่งๆเรื่องงานศพ เพิ่งเผาวันนี้เองค่ะ

ตอนนี้เบา ๆ พบกันตอนหน้านะคะ 555  :z2:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 08-11-2014 19:36:46
พึ่งมาอ่าน รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 08-11-2014 19:41:56
วันที่พวกนายรักกันไง
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 08-11-2014 19:51:01
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-11-2014 21:33:09
มีดิพี่ทิว วันที่อิสองตัวนี้ได้เสียกันอะ :laugh:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-11-2014 21:51:30
นายพายุนี่ร้ายนักนะ ควงสาวแต่ม่อหนุ่ม ชิส์

ขอแสดงความเสียใจเรื่องคุณน้าด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 08-11-2014 22:10:51
เริ่มไม่ชอบพายุขึ้นมาละ รำคานมัน
แต่หลานเทคนีิคงแซ่บนาดู หึหึ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 08-11-2014 22:44:47
 :haun4: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 08-11-2014 23:29:10
-[]- ฮ่าาาา
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-11-2014 00:20:55
หลานเทคเป็นไบ จะมาชอบหนาวป่าวววนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 09-11-2014 00:36:48
หนึ่งเดือนนี่สงสัยล้างกันจนชำนาญเลยล่ะสิ
อ๊าก หลานเทคเป็นไบ
จะงาบพี่ของพี่เทคไหมหนอ
พายุเอ๊ย เล่นตัวมากๆหมาคาบไปแดร๊กนะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 09-11-2014 01:49:56
จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือหนาว
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 09-11-2014 01:58:42
 :m20: :m20: :m20: :m20:   เหมือนจะเห็นตัวแปรสำคัญแล้ว  หลานเทคคคคคค !!!  :hao3:  นู๋มาเพื่อเป็นตัวแปรสินะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 09-11-2014 10:24:56
ชั้นจะรอวันที่คุณๆรักกันนะค๊าาาาาาาาาาาา
มองหน้ากันขนาดนี้ ต่อยกันเลยดีกว่า!! 555

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไป ^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Paifah ที่ 09-11-2014 11:05:00
 :jul1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 09-11-2014 12:03:20
หลานเทคนี่ยังไงเนี่ยยยยย
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 09-11-2014 13:10:23
คิดว่าหลังจากนี้เรื่องคงชุลมุนวุ่นวายน่าดู
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 09-11-2014 18:12:18
ถ้ามันหมาหมู่เล่นพวก ใกล้ ๆ นี้พวกแพทย์อยู่ ยังไงฝ่ายแพทย์ก็วิ่งมาช่วยผมได้... พร้อมสารพัดอุปกรณ์ผ่าตัด
^
^
ชอบประโยคข้างบนมากเลย 55 เป็นศึกที่วิศวะมีความเถื่อนกับพรรคพวกส่วนเมดเทคก็มีอุปกรณ์ผ่าตัดและสารพัดยาใช่ไหมคะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-11-2014 08:19:27
ถ้ามันหมาหมู่เล่นพวก ใกล้ ๆ นี้พวกแพทย์อยู่ ยังไงฝ่ายแพทย์ก็วิ่งมาช่วยผมได้... พร้อมสารพัดอุปกรณ์ผ่าตัด
^
^
ชอบประโยคข้างบนมากเลย 55 เป็นศึกที่วิศวะมีความเถื่อนกับพรรคพวกส่วนเมดเทคก็มีอุปกรณ์ผ่าตัดและสารพัดยาใช่ไหมคะ

สงครามระหว่างไขขวงและมีดผ่าตัดค้า 5555
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-11-2014 09:27:45
มาจิ้มไว้ด้วยคนค่ะ 555

เรื่องใหม่นี้ดูแหวกจากแนวเก่าๆที่เคยเขียนเลยนะคะ ติดตามค่าา
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่หก หลานเทค [8/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 10-11-2014 19:17:40
สงครามระหว่างไขขวงและมีดผ่าตัดค้า 5555
555 เป็นสงครามที่ดุเดือดเชียว ระวังมีดผ่าตัดจะโดนไขควงทะลวงนะคะ อุ๊บ! ไปดีกว่า
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-11-2014 23:48:49
ตอนพิเศษฉลองวันเกิดของเราเองค่ะ ^^

ไม่ขอลงในเว็ปตอนนี้นะคะ เผื่อใครไม่อยากอ่านเนื้อเรื่องหลังจากจบ ก่อนที่เรื่องจะจบ (เดี๋ยวกลับไปกลับมาแล้วไม่ปลื้มกัน)

ตอนพิเศษ HBDลมหนาว ขอเปิดวาร์ปค้า (เป็นตอนหลังจากที่ทั้งสองคบกันแล้วนะคะ)

https://www.facebook.com/notes/midnigt-k-story-z%C7%90s%C3%A8/%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-hbd-%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7/741413205936992

ปล. เข้ามาเม้นต์ในกระทู้ได้นะคะ หลังอ่านจบ 555
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 11-11-2014 00:09:33
 :-[

กว่าจะถึงตอนนั้นนี่คงได้ตีกันตายไปหลายยก 555555
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-11-2014 00:24:28
:-[

กว่าจะถึงตอนนั้นนี่คงได้ตีกันตายไปหลายยก 555555

555555 หลายยกอย่างแรงเลยล่ะค่ะ // เปลี่ยนแนวแต่งบ้างน่ะค่ะ แนวเดิมยังคิดเรื่องจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิอยู่ จะจบไม่ยอมจบสักที...TwT"
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 11-11-2014 00:27:34
มันเรื่องเดียวกันใช่ม้ายยยยยยย 555  คบกันแล้วไหงมันหวานจังแว๊ อิอิ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 11-11-2014 00:35:31
 :ling1:.ให้ตายเถอะพี่ทิว(นาทีนี้ขอเกาะผู้ชายอบอุ่นสักคน)
หลังจากวาร์ปไปโน่น (โลกอนาคต)
เค้าขอยุคนโหด ที่ชอบขู่หนาว เรื่อง'ล้างตู้เย็น' กลับมาด่วน
วัวว่ามันไม่ใช่ :pigha2:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 11-11-2014 00:48:49
ให้ตายเถอะ ถ้าคบกันแล้วจะหวานกันขนาดนี้
ฟินจร้าาาาาาาาา >.<
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 11-11-2014 09:14:14
หวังคีตาจะมีบทบาทมาเป็นคู่แข่งพี่พายุนะ 555555555555
ปล.คนแต่งรับผิดชอบเลยค่ะ ทำให้ติดเรื่องนี้ล่ะ ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-11-2014 18:39:14
หวังคีตาจะมีบทบาทมาเป็นคู่แข่งพี่พายุนะ 555555555555
ปล.คนแต่งรับผิดชอบเลยค่ะ ทำให้ติดเรื่องนี้ล่ะ ลุ้นๆ

หวาๆ คีตาจะมีบทอะไรหนอออ

รอดูนะคะ 555
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-11-2014 20:08:31
ยังนึกไม่ออกว่าจะมาหวานกันอย่างนี้ได้ไง

HBD คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-11-2014 10:27:42
ยังนึกไม่ออกว่าจะมาหวานกันอย่างนี้ได้ไง

HBD คนเขียนค่ะ

ขอบคุณค้า ^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 12-11-2014 10:44:20
ยังไม่ได้กดไปอ่านค่ะ แวะมาHBDย้อนหลังคนเขียนก่อน
มีความสุขมากๆนะคะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-11-2014 19:08:19
ยังไม่ได้กดไปอ่านค่ะ แวะมาHBDย้อนหลังคนเขียนก่อน
มีความสุขมากๆนะคะ

ขอบคุณมากค้า ^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 12-11-2014 19:41:14
ถ้าวันเกิดหวานขนาดนี้ :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 12-11-2014 20:37:40
หวานไม่ทน :katai5: ละลายแปป :impress2:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษฉลองวันเกิด P.4 [10/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 15-11-2014 20:04:13
ถ้าวันเกิดหวานขนาดนี้ :hao3: :hao3:
ลมหนาวบอกว่า วันเกิดของหวานนิดนึงค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-11-2014 00:18:00
วันที่เจ็ด
วันประชุม

ตอนเช้าของวันนี้มีเรียกประชุมประธานของทุกคณะ เพื่อวางแผนงานเฟรชชี่ไนท์ ผมโดนขุดขึ้นมาจากที่นอนอันแสนสุขในวันหยุดที่หาได้ยากยิ่งด้วยมือของเพื่อนที่เป็นประธาน เพื่อมาร่วมประชุมด้วย

ไม่ถง ไม่ถามกันสักคำว่าอยากมาไหม เมื่อคืนผมประชุมวินัยรวมกับพวกวิศวะไปค่อนคืน ทำการบ้านที่อาจารย์เตี๊ยมกันสั่งมาถล่มนักศึกษาอีก เพิ่งได้นอนไปพักเดียวเอง

อยากบอกเหลือเกินว่า... ง่วงอย่างแรง

แต่งานคืองานครับ ต้องทำ ยิ่งเป็นงานของคณะยิ่งห้ามปฏิเสธ ชีวิตนึงของคนเราจะได้ทำสิ่งพวกนี้สักกี่ครั้งกันครับ ถ้ามีโอกาสต้องทำเอาไว้ก่อน

อ๊ะ อย่าคิดว่าพอเรียนจบ จะเรียนต่อค่อยทำกิจกรรมก็ได้ มันไม่เหมือนกันแล้วนะครับ เอ้า ก็ถ้าเราเรียนจบไป มาเรียนปีหนึ่งในคณะอื่นใหม่ เราไม่ต้องรับน้องแล้ว ไม่ต้องเข้ากิจกรรมก็ได้ รุ่นพี่พวกคุณไม่มีทางมาว่าหรอกครับ ในเมื่อคุณอายุมากกว่าพี่ปีโตของพวกเขาซะอีก และถึงคุณจะเข้าร่วมกิจกรรม พวกเขาก็ไม่กล้าพอที่จะมาทำอะไรคุณแล้วด้วย เสียประสบการณ์ดี ๆ ไปเล่า ๆ

เพราะฉะนั้น ลมหนาว นายควรจะโงหัวขึ้นจากโต๊ะที่ฟุบหลับอยู่ได้แล้ว ไม่ต้องรั้งเวลาให้ตัวขี้เกียจเกาะหนากว่าเดิม!

"เรามาเริ่มประชุมกันเลยดีกว่านะครับ"พี่เอิ้น ประธานสโมของมหาวิทยาลัยเปิดการประชุมขึ้น หลังจากที่คนมากันครบองค์ประชุม วันนี้เฮดวินัยของแต่ละคณะมากันครบเลยแหะ...

ผมว่ามันชักจะยังไง ๆ แล้วแหละ ปกติอาจจะมีมาร่วมประชุมบ้าง แต่ไม่เคยมากันเยอะขนาดนี้เลย โดยเฉพาะพวกศิลปกรรมที่ปกติวินัยของพวกนั้นจะไม่เคยมาเลยสักครั้ง

"ในคืนของเฟรชชี่ไนท์ นอกจากจะประกวดดาวเดือนรอบสุดท้ายแล้ว เราจะมีการแสดงจาก X-band"ก็ฟังดูเหมือนทุกปีนี่น่า "และการแสดงพิเศษจากตัวแทนวินัยทุกคณะด้วย"

"แบบนั้นจะดีแน่เหรอครับ พี่เอิ้น ยังไม่ได้ปลดวินัยแบบนี้"ผมค้านทันทีเมื่อได้ยิน มันไม่ควรทำแบบนี้ "แทนที่จะประทับใจกัน มันจะกลายเป็นว่าวินัยทุกคนปั่นหัวน้อง และกลายเป็นตัวตลกของน้องทุกคน ทุกอย่างที่ทำมาจะเสียเปล่าทั้งหมดเลยนะครับ"

"ปีนี้เราไม่ได้เชิญศิลปินมาเล่นดนตรี เพราะอย่างนั้นจึงต้องมีการแสดงพิเศษขึ้นแทน"พี่เอิ้นอธิบายอย่างใจเย็น โอเค ต้องการสิ่งพิเศษในงาน แต่มันต้องไม่ใช่เรื่องนี้สิ "พี่คิดว่าการแสดงของเหล่าวินัยนี่เป็นสิ่งพิเศษแล้วก็เซอไพรซ์ที่สุดแล้วนะ"

"มันเซอร์ไพรซ์ก็จริงครับ แต่นั่นมันก็จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทุกคนอยากมอบให้น้องนั้นสูญเปล่าไป ผมคิดว่าทุกคนคงไม่อยากให้สิ่งที่ทุ่มเททำกันมาตลอดวันหยุดที่ผ่านมานั้นล้มเหลวไปเพียงเพราะการแสดงไม่กี่นาทีนะครับ"พี่คิน เฮดวินัยของคณะแพทย์เอ่ยปากค้านขึ้นบ้าง "พวกผมไม่อยากให้ความพยายามของวินัยทุกคนที่ผ่านมากลายเป็นเรื่องล้อเล่นที่ร้ายกาจหรอกนะครับ"

"สิ่งที่สืบทอดต่อกันมารุ่นสู่รุ่น นับตั้งแต่เปิดมหาวิทยาลัยมา จะมาเสียในมือของพวกเราไม่ได้นะครับ"พายุสวมบทขรึมจ้องตากับพี่เอิ้น วินัยของทุกคณะค้านกันเต็มที่อย่างไม่ยอมเด็ด ๆ

"เอาอย่างนี้ไหมครับ ให้ตัวแทนของแต่ละคณะมาแสดง แต่ให้วินัยเป็นคนร้องเพลงประกอบ"พี่ทิวหาทางออกตรงกลางมาเสนอ อ่อ ผมยังไม่ได้บอกใช่ไหมครับว่าพี่ทิวไผ่เป็นประธานคณะแพทย์ เลยมานั่งประชุมด้วยกัน "แล้วค่อยให้แต่ละคณะไปเฉลยตอนปลดวินัยเอาก็ได้นะครับ"

คนในที่ประชุมกันไปซุบซิบพูดคุยถามความเห็นกัน ดู ๆ แล้วก็น่าจะเห็นด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ มันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็ได้

ส่วนตัวผมไม่ค้านอะไรหรอกครับ ตราบใดที่มันไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ของชาววินัยอย่างพวกเรา ตราบใดที่ยังไม่ปลด ผมก็ไม่อยากให้ทุกอย่างที่ทำมามันดูเป็นเรื่องตลกที่จัดฉากขึ้นมา

"งั้นทำเป็นแนวละครเพลง เล่นไปตามเนื้อเพลงแล้วกัน"สุดท้ายพี่เอิ้นก็ยอมตกลงโดยดี ไม่ต้องเปลืองน้ำลายมาก เยี่ยม "ส่วนเพลงให้แต่ละคณะส่งมาให้ผมพรุ่งนี้นะครับ ผมขอรายชื่อตัวแทนที่จะขึ้นมาแสดงด้วยในเย็นวันนี้ ส่วนรายชื่อคนร้องขอพร้อมกับเพลงครับ"

เหล่าประธานคณะทั้งหลายก้มลงจดยุกยิกรับคำสั่งจากประธานสโมกันไป

ผมต้องหาคนไปร้องเพลงเหรอเนี่ย... เอาใครไปร้องดีวะ

การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น เมื่ออะไร ๆ มันลงตัว ยกประโยชน์ให้พี่ชายสุดที่รักของผมอย่างพี่ทิวไผ่เลยครับงานนี้

“หนาว ๆ”คิดถึงพี่ทิว พี่ทิวก็ทัก พร้อมกับยกมือถือที่เปิดหน้าไลน์ เอาไว้ให้ผมดู จะให้ผมเป็นไลน์ไปทำไมกันล่ะเนี่ย

Tewpai : หนาว ร้องเพลงคู่กับพี่ไหม

Wind : เขาให้วินัยร้องกันเองไม่ใช่เหรอครับพี่

Tewpai : ไม่เป็นไร พี่จัดการได้

Wind : หนาวตามใจพี่นะ

Tewpai : งั้นเอาตามนี้นะ



ผมปิดไลน์ลงแล้วหันไปมองหน้าพี่คณะแพทย์ยิ้ม ๆ พี่ทิวก็ยิ้มกลับมาเหมือนกัน แต่ตาเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปเห็นหน้าบูด ๆ ของว๊ากคู่อริ...

ได้ข่าวว่าก่อนหน้ายังยิ้ม ๆ อยู่เลย มาทำหน้าบ่ง หน้าบูดอะไรของมันวะ

ช่าง ไม่เกี่ยวกับผม

ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างไม่ติดขัด แต่การประชุมครั้งนี้กว่าจะเลิกก็ล่อไปซะเกือบเที่ยง ผมที่กินข้าวเช้ามาเท่าตูดมด แทบท้องกิ่ว ยังดีที่มีน้ำให้ดื่มจนปวดฉี่ประทังไว้

“หิวข้าวเหรอหนาว”พี่ทิวเดินมาหาผมที่นั่งหมดแรงไม่ยอมลุกขึ้นจากเก้าอี้ “พี่มีหนมปังหมูหยองอยู่ กินก่อนไหม หรือจะไปกินข้าวกันเลย”

“หนมปัง...”ผมครางตอบเบา ๆ หมดแรงของแท้ครับ เมื่อวานคึก ไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนหย่อมในม. ก่อนจะไปตีแบตกับเพื่อน แล้วกินข้าวนิดเดียว

พี่ชายคณะแพทย์ของผมยิ้มขำแล้วหยิบเอาขนมปังหมูหยองในกระเป๋ามายื่นให้ ซึ่งผมก็รับมากินแต่โดยดี... โดยไม่ชวนพี่เขากิน

ตึก ตึก ปึ้ง ปั้ง

เชี่ย!!ทั้งผมทั้งพี่ทิวสะดุ้งโหยงหันไปมองเห็นหลังไว ๆ ของวินัยคู่อริ เป็นบ้าอะไรของมันก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็ทำหน้าบูด เดี๋ยวก็ทำเสียงดัง...

ไร้มารยาทชะมัด

ผมมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนลับสายตาด้วยความหงุดหงิด แต่ที่มากกว่านั้นคือความสงสัย... ก็รู้กันใช่ไหมครับว่าคณะของเราไม่ถูกกัน แน่นอนว่าคนในคณะหลายส่วนย่อมไม่ถูกกันด้วย และยิ่งไม่ถูกกันจะคอยสังเกตและจับผิดกันเสมอ

ตั้งแต่เห็นกันมาปีนี้ปีที่สาม... ผมไม่เคยเห็นมันปึงปังแบบนี้

เลือดจะไปลมจะมาหรือไงวะ

นั่งแทะขนมปังไปคิดไป มันน่าสงสัยนิครับ ถึงจะไม่ชอบหน้ากัน แต่ใช่ว่าผมจะไม่รู้นิสัยมันนิ... ตรงข้าม ผมรู้จักมันดีพอ ๆ กับที่มันรู้จักผมนั่นแหละ หมอนั่นมันไม่ใช่คนแบบนี้ ถึงจะกวนประสาท แต่เป็นคนที่ใจเย็นเอาเรื่องคนนึงเหมือนกัน ไม่เคยเห็นมันวู่วามทำอะไร

“คิดอะไรอยู่น่ะหนาว”พี่ทิวที่ยืนพิงโต๊ะอยู่ข้าง ๆ ผม และโดนผมลืมไปชั่วคราวเอ่ยถามขึ้น “จะแทะถุงพลาสติกหรือไงเรา”

ผมก้มลงไปมองของมือ... เห็นแต่ถุงใส ๆ มี่อดีตเคยท่อของอยู่ในนั้น อ่าว หมดตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ... ผมมัวแต่คิดอะไรอยู่เนี่ย

“หนาวมีเพลงอะไรที่อยากร้องไหม”พี่ทิวถามขึ้นระหว่างที่พวกเราเดินออกจากห้องประชุมกัน แขวนท้องที่ยังโหยหาอาหารไปกินต่อที่โรงอาหาร

“ไม่มีนะครับพี่ พี่ก็รู้ ผมไม่ค่อยชอบร้องเพลง”ใช่ครับ ผมจะร้องเพลงเมื่อมีเหตุให้ต้องร้อง หรือในโอกาสสำคัญเท่านั้น
ไม่อยากโชว์เสียงสุดแสนจะเป็ดโดนแหนบดึงขนของผมสักเท่าไหร่หรอก...

“หนาวนี่นะ ร้องออกจะดี ดันคิดว่าตัวเองเสียงแย่”มือหนายื่นมาผลักหัวผมเบา ๆ บางทีผมก็คิดนะ... ว่าอย่าให้ผมสูงเป็นเสาไฟฟ้าบ้างนะ ผมจะผลักหัวทุกคนเลย... 181 ว่าสูงแล้ว พี่ทิวสูงตั้ง 189 คิดแล้วเศร้าชะมัด (ไอ้พายุสูง 183.5 ครับ) “ถ้างั้น พี่เลือกเพลงเองนะ”

“เอาก็เอาครับ พี่จะเอาไรก็เอาเลย แต่ผมมีข้อแลกเปลี่ยนนะ”ฉุกคิดเรื่องเหมือนจะสำคัญได้นิดหน่อย ถือโอกาสเลยแล้วกันนะครับ หึหึ

“ข้อแลกเปลี่ยนอะไร ไหนว่ามาซิ”พี่ทิวหรี่ตามองผมอย่างจับผิด ผมไม่เคยทำอะไรผิดศีลธรรมนะครับ... “จะแกล้งอะไรใครอีกล่ะสิ ใช่ไหม”

“ก็ไม่เชิงสักหน่อย”ผมอุบอิบเบา ๆ โดนรู้ทันอีกจนได้ ให้ตายสิ จริง ๆ ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ วันนี้ครบ 10 วันที่ให้น้องตามหาพี่เทคแล้ว เป็นวันเฉลยพี่เทค แล้วต้องหาลุง/ป้าเทคกันต่อ ไม่มีวันเฉลยที่แน่นอนครับสำหรับปี 3 อยู่ที่ความพอใจของพี่ ๆ ปีสี่และปีแก่ก็เช่นเดียวกัน “ผมแค่จะให้พี่รับโทรศัพท์แทนผมก็เท่านั้นเอง”

“รับโทรศัพท์? จากใครกันล่ะ”ถามกลับมาทันที ไม่รอให้ผมได้หายใจหายคอเลย สมเป็นพี่ทิวจริง ๆ “ปกติหนาวไม่ชอบให้ใครยุ่งกับโทรศัพท์ของหนาวนิ”

“หนาวจะให้น้องรู้ว่าหนาวเป็นลุงเทคตอนนี้ไม่ได้ พี่ทิวก็รู้”ผมพูดเบา ๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน ถึงจะไม่มีน้องคนไหนอยู่ตรงนี้ก็ต้องกันไว้ก่อนครับ

เป็นวินัยทำอะไรก็ลำบาก... จะยิ้ม จะหัวเราะในที่แจ้งก็ไม่ได้ จนกว่าจะปลดวินัย จะทำอะไรที่ดูผิดระเบียบก็ไม่เวิร์ค พี่ทำได้ น้องต้องทำได้ ใคร ๆ ก็พูดแบบนี้ โดยไม่มองว่าสิ่งที่เห็นนั้นมันผิดหรือมันถูก

เหนื่อย... แต่เป็นหน้าที่ ที่ได้รับมา... ต้องทำ

“โอเค พี่ตกลงก็ได้”พี่ทิวตอบรับง่าย ๆ ถ้ามีเหตุผล กับเรื่องที่ดีพอ ขอให้ช่วยอะไรพี่เขาก็ช่วยหมดล่ะครับ ใครได้ไปเป็นแฟนนี่โชคดีสิบชั้น ลมหนาวคอนเฟิร์ม “ส่วนเพลง เดี๋ยวพี่ไปดูก่อนแล้วจะไลน์ไปบอกนะ”

“ครับพี่”

ผมกับพี่ทิวเดินเข้ามาในโรงอาหารให้คณะนิเทศ คณะนี้ใกล้กับตึกทะเบียนที่เป็นห้องประชุมของสภามากที่สุดแล้วครับ ถ้าให้ไปตึกคณะพวกผม เดินอีกสิบปีหอยทากถึงจะถึง

“โจ๊ก วันนี้ขอฝากท้องคณะนายหน่อยนะ”ผมเดินเข้าไปทักเพื่อนหัวเกรียนต่างคณะที่เป็นเฮดวินัยเหมือนกัน คนนี้สนิทกันในระดับนึงครับ แต่ไม่เท่ากับเบียร์ วินัยปีสามคณะแพทย์ กับดิส วินัยปีสามของเภสัช

เรื่องปกติที่พวกเราจะสนิทกันล่ะครับ สุมหัวกันบ่อยเวลาทำงานตอนปีหนึ่งปีสอง สายสุขภาพเหมือนกัน เรียนคล้าย ๆ กัน เลยคุยกันถูกเรื่อง

พี่ทิวเดินถือจานข้าวมันไก่ย่าง+ไก่ทอดและน้ำมะนาวมาวางที่โต๊ะที่ผมนั่งจองเอาไว้ให้อยู่ ก่อนจะนั่งลงที่ตรงข้ามกับผม

“หนาวไปซื้อสิ เดี๋ยวพี่รอ”ผมนี่ลุกเลย คำว่ารอของพี่ทิวคือรอกินพร้อมกัน ช้าจนน้ำซุปเย็นชืดพี่เขาก็จะรอ... รอจริง ๆ ครับ

ถามว่าทำไมผมถึงรู้? เขารอจริงแน่ไหม? ตอนปีหนึ่งผมเคยแกล้งให้พี่เขารอ ตอนพี่เขามาชวนไปกินข้าวกลางวันด้วยกันครั้งแรก วันนั้นพี่เขาซื้อหอยทอดมากิน ก็รู้กันใช่ไหมครับว่าหอยทอดทิ้งไว้นาน ๆ มันไม่อร่อย แกบอกจะรอผมมานั่งกินด้วยกัน ผมอยากรู้ว่ารอจริงไหม เลยแกล้งนวยนาดสั่งอาหารตามสั่งคิวยาวไปสามสิบประเทศตั้งแต่โซนเอเชียถึงยุโรป แล้วกลับมานั่งโต๊ะหลังจากที่ได้ข้าวมา พี่แกรอจริงครับ ไม่แตะเลย วางอยู่ตรงหน้าแบบนั้น น้ำมันนี่เยิ้มแล้ว เย็นชืดด้วย จากนั้นมาเวลากินข้าวด้วยกันผมเลยไม่กล้าปล่อยให้พี่เขารออีกเลย (และปกติผมจะวิ่งไปซื้อก่อน ผมยอมรอ ดีกว่าให้พี่ทิวรอผม)

ผมถือชาวก๋วยเตี๋ยวมานั่งตรงข้ามพี่ทิวในเวลาไม่ถึงห้านาที โชคดีที่โรงอาหารวันนี้คนไม่เยอะ ไม่อย่างนั้นผมต้องไปซื้อข้าวราดแกงกินแน่ ๆ

ไม่ค่อยชอบกินข้าวราดแกงครับ... เลือกได้ขออะไรที่มีน้ำแกงดีกว่า... ยังไม่รวมว่าเป็นคนติดนิสัย กินร้านเดิม ๆ เมนูเดิม ๆ ด้วย

เลือกกินชิบหายเลยผม

นั่งกินไปเรื่อย มองไปเรื่อย วันนี้ไม่เห็นน้องปีหนึ่ง... แต่ก็นะ วันเสาร์ใครจะมาในมหาลัยกัน ถ้าไม่มีงานต้องทำ ผมหลุมตาลงมามองที่โต๊ะบ้าง... อ่าว ลืมซื้อน้ำมากิน

“พี่ทิว เดี๋ยวหนาวไปซื้อน้ำก่อนนะครับ”ผมเงยหน้าขึ้นบอกพี่ชายที่นั่งอยู่ ก่อนที่จะลุกขึ้น เดินไปซื้อน้ำที่ร้านใกล้ ๆ กินน้ำอะไรดีหว่า

“โค้กกลางแก้วนึงฮะ”เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นข้าง ๆ ซึ่งเป็นจุดขายน้ำอัดลม เรียกความสนใจผมให้หันไปมอง เฮดวินัยเจ้าเก่า

แต่มันไม่หันมามองผมเลย... น่าแปลก ปกติต้องเข้ามากวนประสาท ยั่วให้ผมโมโหแล้ว แต่นี่นิ่ง ไม่แม้แต่จะปลายตามามองหน้ากัน... มันผิดวิสัย

ไม่ใช่ว่าผมชอบที่จะทะเลาะกับพายุนะครับ แต่เหมือนเป็นความเคยชินที่ว่า เจอกันเมื่อไหร่ต้องเถียงกันสักยกแล้วถึงจะคุยกันดี ๆ ได้ ไม่เคยถูกเมินแบบนี้มาก่อน

หรือว่าหมอนี่เปลี่ยนแนวการกวนผมแบบใหม่? แต่ความรู้สึกมันบอกไม่ใช่ยังไงพิกล ๆ

พายุรับแก้วโค้กมาแล้วเดินหันหลังฉับ ๆ ไปที่โต๊ะที่นั่งกับเพื่อนของตัวเองอย่างไม่คิดที่จะเหลียวหลังมามองคนที่ยืมมองเขาอย่างผมเลย

อะไรกันวะเนี่ย

“เอาไมโลแก้วนึงครับ”อะไรกันวะ บทจะกวนก็กวนแลนกวน ทำผมแทบจะเส้นเลือดในสมองแตกตาย แต่บทจะเมินก็เมินเหมือนไม่มีตัวตนกันเลยแบบนี้

มันน่าหงุดหงิด...

ผมเดินถือแก้วน้ำกลับไปหาพี่ทิวด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ไม่ให้ใครจับอารมณ์ที่เริ่มขุ่นมัวของผมได้ ข้อดีของการเป็นวินัยคือ มันสามารถทำให้เราควบคุมสีหน้าของตัวเองได้อย่างที่เราต้องการ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม

ดึงมาใช้ยามจำเป็นกันบ้าง อะไรบ้าง ผมไม่อยากให้พี่ทิวเป็นห่วง

“พี่ทิวเบอร์ที่จะโทรหาพี่ทิวน่ะ เบอร์นี้นะครับ”ผมยื่นเบอร์ที่เกดมันไลน์ส่งมาให้ว่าเป็นเบอร์ของหลานเทคให้กับพี่ทิว “ฝากด้วยนะครับพี่”

“ครับ ๆ คุณลมหนาว”ประธานคณะแพทย์ทำหน้าล้อเลียนผม ก่อนที่จะหยิบไอโฟนหกเครื่องใหม่ของตัวเองมากดเมมเบอร์

“พี่ทิวเปลี่ยนไปใช้ไอโฟนหกแล้วเหรอครับ”ก่อนหน้านี้ผมเห็นพี่เขาใช้กาแลกซี่ตัวใหม่อยู่เลย นี่เปลี่ยนอีกแล้วเหรอ?

“ฝากวาเลนหิ้วมาให้น่ะ”พี่ทิวตอบด้วยรอยยิ้มตามเคย “อยากได้ไหม เดี๋ยวพี่ให้วาเลนเอามาอีกเครื่องก็ได้นะ”

“ไม่ล่ะครับพี่ 4s ผมยังใช้ได้ดีอยู่”ลืมไปเลยว่าพี่ชายคนนี้เป็นไฮโซ ถึงจะติดดินกว่าคนอื่น แต่เรื่องก้าวล้ำกว่าคนธรรมดาพี่เขาก็ไม่ค่อยจะพลาด

“ก็ยังใช้ได้เนอะ”พี่เขายิ้มครับ โหย ถึงกว่าไอโฟนสี่เอสผมจะเก่าแล้ว แต่ก็ยังใช้ได้อยู่นะครับ ค้างบ้างนิดหน่อย กระตุกบ้างเล็ก ๆ แต่ก็ใช้ได้ล่ะน่า ยังไม่พัง “ไว้พังแล้วพี่ซื้อเครื่องใหม่ให้นะ”

“หยุดเลยครับพี่ ผมซื้อเองได้น่า”ทุกที อย่าให้ผมหลุดปากว่าขาดอะไรนะ พี่เขาหามาให้ตลอด จนผมต้องระวังทุกคำพูด...
ไม่รู้จะใจป๋าไปไหน

หวังว่าหลานเทคผมจะไม่รู้เร็วนักว่าคนที่เขาโทรหานั้นไม่ใช่สายเทคของเขา รอหลังปลดวินัยนะ เราค่อยคุยกัน

ตอนนี้ให้พี่ดูแลอยู่ห่าง ๆ แล้วกัน

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ตอนใหม่มาแล้วค่ะ ^^ มาเสิร์ฟสด ๆ ร้อน ๆ เลย 5555 ตอนนี้ดูไม่มีอะไรเลยเนอะ... TT วางพล็อตไว้ว่ามี แต่ออกมาดูไม่มีอะไรเลย // ร้องไห้

จ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิรอกันอีกนิดนะคะ ใกล้จะได้ฤกษ์เอามาลงแล้วว
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 16-11-2014 00:45:02
อ่านคร่าวๆๆๆ ก่อนค่าาา ตาจะปิด
เลยมาเม้นให้กำลังใจคนเขียนก่อน
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่านใหม่
ราตรีสวัสดิ์นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-11-2014 10:18:13
ถ้าเจอคำผิดตรงไหนสามารถแจ้งได้เลยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-11-2014 10:54:08
พี่ทิวป๋ามาก ๆ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Mekaming ที่ 16-11-2014 12:05:53
สนุกมากรอเขาได้กันตอนนี้พี่ว๊ากหึงพี่วินัยใช่มั้ย555 :hao7:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-11-2014 12:07:32
พายุหงุดหงิดหนาวอะดิที่ไม่สนใจตัว ฮิ้วววววว
 

ขอบคุณคยเขียนที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 16-11-2014 12:08:10
จะอะไรซะอีกละหนาว มันก็หึงอะดิ หมาหวงก้าง วันนั้นยังเดินควงสาวอยู่เจอวันนี้พี่ทิวเทคแคร์น้องหนาวหน่อยทำเป็นรับไม่ได้ ถีบแม่ง :z6:
ว่าแต่พี่ทิวนี้คงไม่คิดเกินเลยมากกว่าน้องชายหรอกเนอะกับหนาวอะ
คู่ของพี่มันหลานเทคของหนาวโน้น เฟรชชี่ปีหนึ่งเดือนนะนั่นหึหึ หวังว่าคงเดาถูกนะถึงจะมาแค่ชื่อแต่ว่าต่อไปบทคงส่งเยอะเนอะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-11-2014 15:58:09
จะอะไรซะอีกละหนาว มันก็หึงอะดิ หมาหวงก้าง วันนั้นยังเดินควงสาวอยู่เจอวันนี้พี่ทิวเทคแคร์น้องหนาวหน่อยทำเป็นรับไม่ได้ ถีบแม่ง :z6:
ว่าแต่พี่ทิวนี้คงไม่คิดเกินเลยมากกว่าน้องชายหรอกเนอะกับหนาวอะ
คู่ของพี่มันหลานเทคของหนาวโน้น เฟรชชี่ปีหนึ่งเดือนนะนั่นหึหึ หวังว่าคงเดาถูกนะถึงจะมาแค่ชื่อแต่ว่าต่อไปบทคงส่งเยอะเนอะ

อย่าเพิ่งยำพระเอกของมิดไนท์ตายนะคะ เดี๋ยวหนาวเป็นหม้ายย
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Paifah ที่ 16-11-2014 16:14:17
นึกว่าจะไม่มาต่อ #แอบงอนนิดๆ :ling1:

แต่มาต่อยาวให้อภัย และรักคนเขียนมากกก :katai2-1:

หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: ycrazy ที่ 16-11-2014 18:39:59
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 16-11-2014 18:50:03
เฮ้ยยยย  เราว่าตอนนี้มันมีอะไรๆอยู่พอสมควรเลยนะ
ถึงจะแทบไม่แตกต่าง แต่เราว่ามันก็เริ่มมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ^^
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 16-11-2014 20:28:57
พายุงอนลมหนาวเหรอ~
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 16-11-2014 22:53:46
อ่านแล้วคิดถึงชีวิตปี 1 และตอนยังเป็นพี่ว๊าก
ชอบค่ะ ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 17-11-2014 00:16:49
พึ่งผ่านมาหมาดๆ บอกเลยเจอพี่วินัยทีจะร้องไห้ ปวดหู เหนื่อยใจสุดๆ
เรื่องนี้ตีแผ่ชีวิตพี่ระเบียบหมดแก๊กเลย อ่านแล้วพอจะเข้าใจชีวิตพี่แกได้บ้างแล้ว
จากที่แทบจะสาปแช่งทุกวัน เข้าใจว่าหน้าที่แต่บางทีก็เหนื่อยเหมือนกันน้า
ผ่านมาได้คือโล่งมากๆ ตอนนี้เหลือเทคใหญ่ ทำใจสุดๆ โดนพี่ขู่เรื่องตัดสายตลอด
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่เจ็ด วันประชุม P.5 [16/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-11-2014 09:35:37
นึกว่าจะไม่มาต่อ #แอบงอนนิดๆ :ling1:

แต่มาต่อยาวให้อภัย และรักคนเขียนมากกก :katai2-1:



จะต่อจนตบนะคะ ไม่อยากให้โดนลบ 5555
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-11-2014 19:27:26
วันที่แปด

(พายุ)

ไงครับ เหมือนไม่ได้คุยกันนาน ก็นะโดนฝ่ายเมดเทคแย่งบทชิงใจทุกคนไปหมด วันนี้ผมจะมาแย่งเอาพื้นที่ ที่ควรเป็นของพวกเราชาววิศวะคืนมาบ้างล่ะครับ

ตอนวันประชุมผมหงุดหงิดแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่ผมว่าก็ไม่ได้มีอะไรมากวนใจผมสักเท่าไหร่นะ อาจจะมีภาพขัดตาแค่นิดหน่อย แต่ก็ไม่น่าทำให้ผมปึงปังได้ขนาดนั้น

แต่มันก็ผ่านมาแล้ว ช่างมันไป วันนั้นผมคงนอนน้อยไปหน่อยเลยหงุดหงิดง่าย เห็นหน้าคู่อรินานไปเลยอดที่จะโมโหไม่ได้ (มั้ง)

วันนี้ผมมีนัดเดทกับอดีตเดือนคณะเทคนิคการแพทย์ ลมหนาวนั่นล่ะ มันเคยเป็นเดือนคณะไปประกวดตอนปีหนึ่ง แต่ไม่ได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยหรอกนะ มันได้รางวัลขวัญใจช่างภาพ ผมนี่สิ ได้เดือนมหาลัยมาครอง วิศวะหน้าตาดีกว่าเมดเทคอยู่แล้ว จริงไหมล่ะครับ (ถึงตอนประกวดจะแทบฆ่ากันตายกับพวกตี๋อินเทรนด์อย่างแพทย์ก็เถอะ แต่ผมชนะ เท่านั้นพอ)

สงสัยกันใช่ไหมล่ะว่าผมมีนัดอะไรกับหมอนั่น ไม่ต้องติดลึก คิดอะไรหวานซึ้งเลยนะเออ วันนี้พวกเราจะลงว๊ากรวมสองคณะเท่านั้นเอง

เอากันตรง ๆ เด็กรุ่นนี้ผมต้องยอมรับว่าไม่เวิร์ค โดดเรียนก็โดดเป็นว่าเล่น(อาจารย์บอกมา) โดดกิจกรรมกันไม่เคยขาด(ปีสองมาฟ้อง) ปีนเกลียวรุ่นพี่(ทุกชั้นปีมาบ่น) ดื้อเงียบ(พวกเมดเทคแม่ง) ไม่ค่อยจะรัก สามัคคีกัน(ดูเองและปีสองบอก) ยังไม่รวมว่าพวกน้องยังร้องเพลงชิงธงกันไม่ได้ น่าเหนื่อยใจชะมัด เลยต้องมาลงเพื่อเตือนกันเป็นครั้งสุดท้ายเสียหน่อย

ถ้ายังไม่เวิร์คก็ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดกันบ้าง

วันนี้ที่วางไว้คือหนักมากครับ หนักจนคุณวินัยเจ้าสำอางหน้าหงิก แต่ก็ไม่ค้านอะไร เพราะมันเองก็สุดจะควบคุมให้น้องเป็นอันหนึ่งอันเดียว

ว่าแล้วผมก็ควรต้องไปหารือรอบสุดท้ายก่อนลงจริงในตอนเย็นวันนี้กับคู่บัดดี้ที่ถูกต้องตามชะตากรรมของผมสักหน่อยละ

หืม ถามผมว่าผมรู้เหรอว่าคุณวินัยที่รักของผมอยู่ที่ไหนในมหาวิทยาลัยที่โคตรกว้างแห่งนี้... ไม่รู้หรอกครับ ผมเดินไปเรื่อยตามความรู้สึก

เดี๋ยวก็เจอเองแหละ หมอนั่นมักจะอยู่แถวนี้ประจำอยู่แล้ว

ทำไมผมถึงรู้น่ะเหรอ? ในสายตาของผมเห็นมันอยู่ประจำนั่นแหละ บางครั้งไม่ได้อยากเจอ ก็เจอเอง อยากเจอ ก็เจอ...

เจอจนจะเบื่อหน้ากันไปข้าง คนอะไร ไร้อารมณ์สิ้นดี... เห็นชอบทำหน้านิ่ง ๆ กับเครียด ๆ แบบนั้นอยู่บ่อย ๆ จนทำให้ผมอยากรู้...

อยากรู้ว่าถ้าหมอนั่นเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นแบบอื่นจะเป็นยังไง

ผมจะต้องทำให้หมอนั่นเปลี่ยนสีหน้าให้ได้ คอยดูเถอะ

นั่นไง ผมเจอคนที่ต้องการจะเจอละ เห็นไหม ไม่ต้องโทรหา ไลน์หา เฟสบุ๊คหา เดิน ๆ เดี๋ยวก็เจอเอง... มันนั่งอยู่กับใครวะ

อ่อ รุ่นพี่คณะแพทย์ คนนี้ผมพอจะคุ้นหน้าอยู่บ้าง รู้สึกจะเป็นประธานคณะแพทย์ หน้าตาโคตรดี ติดโผหนึ่งในสิบของผู้ชายในฝันสาว ๆ (ทั้งแท้และเทียม) ของมหาลัยเราอยู่ทุกครั้งเลยมั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด (ผมก็ติดบ้างเป็นครั้งคราวนะครับ ถ้าปลดวินัยแล้วน่ะนะ) แต่อีกคนนึงที่นั่งอยู่ด้วยผมไม่รู้ว่าเป็นใครแหะ

"ไง คุณวินัย"ส่งเสียงทักทายก่อนสักนิด ว่าจะกวนสักหน่อย แต่ต้องเปลี่ยนสีหน้าตีขรึมทันทีที่เห็นหน้าใครอีกคนชัดเจน
ไม่รู้หรอกครับว่าชื่ออะไร แต่จำได้ว่าปีหนึ่งของเทคนิคการแพทย์

ลมหนาวหันมาหาผม เลิกคิ้วน้อย ๆ เมื่อเห็นหน้าผม ก่อนที่จะลุกขึ้นยืดตัวเต็มความสูง... แต่โทษทีนะ ผมสูงกว่า (นิดนึง)

"คุณพายุมีเรื่องจะคุยกับผมใช่ไหมครับ"เสียงเรียบ ๆ ถามมานิ่ง ๆ นิ่งได้ทั้งหน้าทั้งตัวจริง ๆ คนอะไรวะแม่ง หรือมันเป็นหุ่นยนต์... น่าคิด ๆ

"ครับ ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณเสียหน่อย"ต่อหน้าปีหนึ่งจะหลุดอะไรไม่ได้ เหนื่อยเหมือนกันนะ ที่ต้องมาทำหน้านิ่ว คิ้วขมวด พูดสุภาพแบบนี้ อึดอัด แต่ต้องทำ บ่นในใจได้อย่างเดียว

"งั้นเราไปคุยกันในตึกเถอะครับ"ว่าจบมันก็หันไปหาคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะ "ผมไปทำธุระก่อนนะครับ พวกคุณคุยกันไปก่อนได้เลย"

"พี่ก็ต้องไปเข้าวอร์ดแล้วเหมือนกัน ไว้คุยกันใหม่นะ"พี่หมอที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่เก็บของลุกขึ้นด้วยรอยยิ้ม... เห็นกี่ที ๆ ก็ยิ้มเสมอเลยแหะ

สมเป็นหมอจริง ๆ

ส่วนน้องปีหนึ่งหันมาไหว้ผมลวก ๆ แล้วหันกลับไปเก็บของลุกจากที่ตรงนี้ไปอย่างไวเหมือนกัน ดูท่าไม่ได้อยากอยู่ตรงนี้ แต่จำเป็นต้องอยู่จนได้โอกาสวิ่งเลยวิ่งมั้ง ไม่รู้ ช่างมันเถอะ


ตัวผมกับลมหนาวเดินเข้ามาในตึกเรียนรวมใกล้ ๆ ตรงนั้นแล้วหยุดยืนในจุดที่คนไม่พลุกพล่าน

"คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผม"ทำไมบรรยากาศมันได้อารมณ์สาวน้อยวัยใสจะมาสารภาพรักกับรุ่นพี่ที่แอบชอบอย่างนี้วะ

“ผมจะคุยกับคุณเรื่องที่เราจะลงเย็นนี้”ได้ยินแค่นี้ คุณลมหนาวก็เม้มปากแน่นซะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายังคิดไม่ตกในเรื่องนี้ “ถ้าคุณยังไม่อยากจะลงบทหนัก จะเลื่อนออกไป ให้โอกาสน้อง ๆ ก่อนก็ได้...”

“ไม่ครับ เราจะไม่เลื่อน”ลมหนาวปฏิเสธข้อเสนอของผมมาทันที ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เห็นด้วยเลยกับการที่จะลงโทษน้องแบบนี้ “พวกเราไม่มีเวลามากพอที่จะมาค่อย ๆ ให้น้องรักกัน สามัคคีกันอย่างที่ควรเป็น อีกไม่ถึง 1 เดือน ก็จะถึงวันชิงธงแล้ว”

ผมกับลมหนาวจ้องตากัน แววตาของหมอนั่นฉายแววกังวล ผมก็กังวล เรื่องที่คณะพวกเราแข่งกันทุกปีก็อยู่ส่วนนั้น แต่สำหรับเรื่องนี้ มันไม่ใช่

การชิงธง คือการประกาศศักดิ์ศรีครั้งแรกของคณะเลยก็ว่าได้ มันจะพิสูจน์ถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียว ความพร้อมเพรียง และความเข้มแข็งของเด็กปีหนึ่งในคณะ ซึ่งทุกปีจะมีการเปรียบเทียบระหว่างคณะกันอยู่เสมอหลังจบงาน ว่าคณะไหนทำได้ดีที่สุด

ไม่ใช่แค่ชิงธงคณะ แต่เราต้องชิงธงของมหาวิทยาลัยด้วย แม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว ยังไงธงมหาวิทยาลัยก็ต้องมอบให้เสมอ ไม่ว่าน้องจะทำดีหรือไม่ก็ตาม แต่ก็มีบางปีเหมือนกันที่น้องท้าทาย ไม่ได้ธง และรุ่นนั้นก็โดนตัด ไม่ได้เข็มติ้งของมหาวิทยาลัยมาติด (เรื่องมันนานเกินกว่าจะจำว่ารุ่นไหนแล้วด้วยสิ)

“ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องทำให้น้องหันมาสนใจกิจกรรมหลักอันนี้ของมหาวิทยาลัยให้ได้”ผมพูดด้วยเสียงเครียด ๆ จะไม่เครียดก็คงไม่ใช่ล่ะครับ น้องยังร้องเพลงได้ไม่ครบเลย มีหกเพลง ร้องได้เพลงเดียว คือเพลงบูมของมหาวิทยาลัย... อีกสามยังเป็นฝุ่น

“ผมคงยอมให้น้องปีหนึ่งทำคณะเสียชื่อเสียงที่สั่งสมมาหลายสิบปีไม่เช่นกัน ยังไงน้องก็ต้องทำให้ได้”เสียงของลมหนาวบางบอกถึงความกดดัน ก็นะ เทคนิคการแพทย์เป็นคณะที่ได้รับผลโหวตว่าเป็นคณะที่ฝึกน้องขึ้นเสตนงานชิงธงได้ดีที่สุดมาตลอด พร้อมเพรียง เป็นระเบียบ และเป๊ะเวอร์ คณะผมก็งั้น ๆ คนมันเยอะเกินกว่าที่เราจะมาจัดช่องไฟให้เป๊ะนี่น่า

แค่จัดคนพาน้องขึ้นก็เสียเวลาไปชั่วโมงแล้ว ถ้าจะให้เป๊ะอีก คงต้องขึ้นแสตนตั้งแต่เที่ยง แข่งห้าโมงล่ะ ถึงจะทำได้

“ถ้าอย่างนั้น ผมก็หวังว่าคุณจะไม่ใจอ่อนขึ้นมากลางคัน”ผมดักกันเอาไว้ก่อนที่จะเสียเรื่องในเวลาจริง “เพราะผมเอาจริงแน่”

“ผมไม่ขัดขาคุณหรอก กับงานที่ผมเองก็ได้ผลประโยชน์แบบนี้”ดวงตาสีดำของหมอนั่นปลายมาหาผมเล็ก ๆ “แล้วคุณได้แจ้งให้พวกพยาบาลเตรียมพร้อมหรือยัง”

“เรียบร้อยตั้งแต่วันแรกที่ผมบอกคุณ”ผมกอดอกมองร่างที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีหน้าของว๊ากแห่งเมดเทคยังคงเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด “ถ้าคุณเอาสีหน้าแบบนี้ไปลงน้อง น้องคงช็อคตายก่อนที่จะได้ฟังชื่อคณะของคุณจบ”

“ผมจะทำสีหน้ายังไง เป็นเรื่องของผม”ยังสวนกลับมาได้ แสดงว่าสติยังมี ใจยังไม่ลอย นับว่าใช้ได้อยู่นะ “คุณเถอะ อย่าหลุดเองก็แล้วกัน”

“คนอย่างผมไม่มีทางพลาดหรอกนะครับ”ผมโค้งไปกระซิบที่ใบหูขาว ๆ นั่นเบา ๆ ก่อนจะงับและขบเนื้อนิ่มเล็ก ๆ “คุณเองก็เตรียมพร้อมไว้เถอะ”

ไม่รอให้หมอนั่นตั้งสติมาโวยวาย ผมไปก่อนล่ะ ยังมีวิชาเรียนรออยู่อีกวิชานึงของวันนี้ เดี๋ยวเข้าสายต้องนั่งหน้าห้อง ไม่ดีไม่งาม
ผมจะแอบงีบ


เวลาในแต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะคำนึงถึง ยังไม่ทันบิดขี้เกียจได้ครบรอบก็ต้องไปรวมกับพวกเมดเทคเตรียมลงน้องแล้ว

เนื่องจากจำนวนน้องที่มาก บวกกับพวกปีสองอีก จึงทำให้ทุกครั้งที่รับน้องรวมจะต้องมีใช่ลานเกียร์ของวิศวะของพวกเรา ผมจึงนั่งเอกเขนกรอคุณวินัยบัดดี้ของผมในห้องสมุดเล็ก ๆ ที่ใต้คณะ (ห้องนี้ม.ผมมีทุกคณะ แต่จะมีหนังสือไม่เยอะมาก เป็นหนังสือเฉพาะของคณะวิชาเลย)

คิดว่าผมต้องรอใครอีกคนนานไหม?... ใช่เลย ไม่นานหรอกฮะ เขาเป็นคนที่ตรงต่อเวลาโคตร ๆ อยู่แล้ว ถ้าไม่มาก่อนก็เป๊ะเวอร์...

นั่นไง พูดยังไม่ทันขาดคำก็เดินมาแล้ว หน้าตาเคร่งเครียดมาเลย ครั้งนี้ท่าทางจะเพิ่งออกจากแลปมาซะด้วย ใส่เสื้อกาวน์มา ชายเสื้อโบกสะบัด

อย่างกับหมอที่เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดมาโดยที่อาการคนไข้นั้นโคม่า

พอมาถึงลมหนาวก็มองผมด้วยตาขวาง ๆ ท่าจะยังเคืองใจเรื่องเมื่อกลางวัน หยอกนิด ๆ หน่อย ๆ เอง โกรธเป็นชั่วโมง ๆ ไปได้

“มากันแล้วสินะ ตรงเวลาดีจริง”ผมลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้าไปใกล้เฮดของเมดเทคที่ยืนห่างออกไป “พวกคุณมากันครบทุกคนไหมครับ วันนี้”

“คนของผมมาครบ ของคุณล่ะ”คู่สนทนาผมสูดลมหายใจลึก หมอนั่นก็คงไม่อยากมีเรื่องอะไรกับผมตอนนี้หรอก ริมฝีปากบาง ๆ นั่งเม้มเข้าหากัน ดูท่าจะหงุดหงิดไม่น้อย

เดี๋ยวแก่ไวไม่รู้ด้วย

“ที่นี่คณะของผม คนของผมย่อมอยู่ครบ”กระตุกยิ้มยียวนส่งให้คนตรงหน้า ยั่วโมโหเล่นเผื่อจะปรอทแตกโวยวาย เปลี่ยนท่าทางออกมาบ้าง...

แล้วคิดว่าได้ผมไหมครับ?... ถูกต้อง ไม่ได้ผล ลมหนาวยังมองมองหน้าผมนิ่ง ๆ และไม่คิดจะต่อความยาวสาวความยืดด้วย

“อีกห้านาทีเราจะไปกัน เชิญพวกคุณพักกันก่อน”ให้เวลาคนที่ต้องเดินมาไกลได้หายใจหายคอบ้าง อาณาจักรวิศวกรรมของพวกเรากับคณะเทคนิคฯ อยู่ห่างกันปานกลาง เดินเอาได้ แต่ก็เหนื่อยอยู่ ยิ่งอากาศร้อน ๆ ด้วย ให้ไปต่อเลยคงไม่ดี

ว๊ากของเมดเทคเดินไปอยู่กันตรงที่แอร์ลง ตากแอร์กันอย่างสบายอารมณ์ คลายความร้อนจากอากาศภายนอก แต่ก็นะครับ เวลา 5 นาทีมันผ่านไปไวมาก ตัวยังไม่ทันแห้งก็ต้องออกจากห้องแอร์ไปกันแล้ว

พอครบเป๊ะ 5 นาที ไม่ต้องส่งสัญญาณไปเรียก พวกเมดเทคก็เดินมารวมกับพวกผมกันเอง ไม่ต้องให้เรียก ไม่ต้องให้ตาม

“ไปกันเถอะ”ลมหนาวเดินมาอยู่ข้างผม แต่ตานี่ไม่แม้แต่จะแลมาเลย คอแข็งตั้งตรง ให้ตายเถอะ “เดี๋ยวจะเย็นไปมากกว่านี้”

ผมดึงตัวของลมหนาวเอาไว้ก่อน ให้ว๊ากคนอื่น ๆ ออกจากห้องไปให้หมด แล้วเดินรั้งท้าย ลมหนาวถึงแม้ว่าจะทีท่าทีที่ไม่พอใจ แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา และไม่มองหน้าด้วย...

“พยายามเข้านะ”ผมกระซิบเบา ๆ แล้วเดินนำออกไป ทิ้งให้มันเดินตามหลังมา... เขาชอบเดินปิดท้ายอยู่แล้วล่ะครับ เวลายืนก็จะเป็นตรงกลางพอดี

ทำไมผมรู้เรื่องของลมหนาวเยอะจังวะ... ช่างเหอะ ไม่ใช่เวลาจะคิด

หางตาที่แอบเหลือบมองคนด้านหลังอยู่ทำให้ผมเห็นว่าท่าทีของหมอนั่นอ่อนลงเล็กน้อย แต่ก็ยังปั้นหน้านิ่งไม่หลุดอยู่ตามเคย
หลุดตอนนี้ก็จบกันหมด หมอนั่นไม่ยอมหรอก

กองทัพ (?) ว๊ากเดินเข้าไปในลานที่พี่สันทนาการกำลังเต้น กำลังร้องเพลงกันอยู่ เมื่อพวกปีสองเห็นพวกผม ก็แตกกระเจอวิ่งหน้าตั้ง หัวตั้ง ตัวตั้ง ตั้งแม่งหมดนั่นแหละหายวับไปกับแสงแดด...

“ปีหนึ่งตั้งแถว”โอมตะโกนลั่น ทำให้น้องปีหนึ่งวิ่งกันจ้าละหวั่นเหมือนมดแตกรัง เรียงแถวกันอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้.. แต่ก็นะ
“ชักช้า จะให้รออีกนานไหมคะ”นัทแห่งเมดเทคส่งเสียงขึ้นบ้าง เป็นผู้หญิงที่เสียงดังใช้ได้เลย

ผมเดินไปยืนข้างหน้ากับลมหนาวที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว กอดอกมองน้อง ๆ ที่พยายามจะจัดแถว ผ่านไปพักหนึ่งถึงจะเสร็จ พร้อม ๆ กับเสียงของว๊ากที่ตะโกนเร่งแล้วเร่งอีก

“สวัสดีครับ ปีหนึ่ง”ลมหยาวชิงพูดก่อนผม โอเค ๆ ให้พูดก่อนก็ได้วะ “พวกคุณรู้ไหมครับว่าวันนี้พวกผมมาพบพวกคุณทำไม”

“ไม่รู้ครับ/ค่ะ”เสียงที่ตอบมายังไม่พร้อมกัน สงสัยเป็นระบบเซอราวน์ มีเสียงก้อง เสียงสะท้อนเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ต

“ผมยังได้ยินมาอยู่ว่าพวกคุณไม่เข้าเรียน โดดกิจกรรม ไม่ไหว้พี่ และไม่ไหว้อาจารย์”สายตาดุ ๆ ของหมอนั่นกวาดมองไปรอบ ๆ “วันนี้มากี่คนครับ”

“1,778 คนครับ”เด็กวิศวะที่อยู่ด้านหน้าตอบมา ก็ยังไม่ครบ... แต่ยังดีที่มากกว่าครั้งก่อนนิดหน่อย ควรชมไหม? (ไม่ชม)

“แล้วรุ่นพวกคุณมีกี่คนครับ”ลมหนาวยังถามกลับไปอย่างใจเย็น เช่นเดียวกับเสียงที่เย็นเยียบ บรรยากาศกดดันเริ่มมา

“1897 คนครับ”น้องคนเดิมตอบมาอีกครั้ง อ่อ ฮีโร่ของเพื่อน ๆ สินะ คนนี้ ก็ดี แสดงว่ามีคนจะดำรงตำแหน่งประธานรุ่นของปี 1 แล้ว

“119 คน เพื่อนของพวกคุณทั้ง 119 คนหายไปไหนครับ”คำถามเดิม ๆ กับคนเดิม ๆ และความเงียบที่ได้รับแทนคำตอบเหมือนเดิม...

เหมือนเดิมทุกอย่างจริง ๆ

“เอาเถอะ... ยังไงพวกคุณก็ไม่ตอบพวกผมอยู่แล้ว”ผมเปรยขึ้น ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ “ผมต้องการฟังเพลงประจำมหาวิทยาลัยครับ”

“1. 2. 3.”น้องยืนตามเสต็ปของการขึ้นแสตนด์ นับว่ามีการพัฒนาอยู่บ้าง ใช้ได้ ๆ “เพลงประจำหมาวิทยาลัยXXX 3. 4…”
สิ้นเสียงของคนสั่ง เหล่าน้อง ๆ ทั้งหลายก็พากันเปล่งเสียงออกมาเพื่อนร้องเพลงอันทรงเกียรติเพลงหนึ่งของนักศึกษา ก่อนจะค่อย ๆ เบาลง ๆ

“หยุดครับ”ลมหนาวตวาดลั่น ใช่ครับ ตวาด ไม่ใช่แค่หมอนั่น แต่ผมเองยังโมโหเลย ในหกเพลง หากว่าไม่นับเพลงบูม เพลงนี้จะเป็นเพลงที่ง่ายที่สุด...

แต่ก็ร้องไม่ได้!!

“อะไรคือการที่พวกคุณบางคนร้อง บางทำขยับปาก บางคนยืนนิ่งคะ”พิชถามดังลั่นลาน สมเป็นหญิงแกร่งที่มีหลอดเสียงเป็นเลิศในวิศวะจริง ๆ “เพลงต่อไปค่ะ”

และมันก็เหมือนเดิมไปจนถึงเพลงสุดท้าย... ใครร้องได้ก็แหกปากร้องไปอยู่อย่างนั้น แต่คนที่ร้องไม่ได้นี่ ก็ยังไม่ร้องเหมือนเดิม

“พวกคุณคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่น ๆ เหรอครับ”เสียงของลมหนาวนั้นสัมผัสได้ถึงความเครียด อย่าว่าแต่เสียงเลย สีหน้าก็เครียด... บอกแต่มันเครียด ผมก็เครียดเหมือนกัน ให้ตายเหอะ

“พวกคุณไม่คิดจะพยายาม ไม่คิดจะสู้ ไม่คิดจะฝึก ไม่คิดจะทำอะไรในชีวิตเลยใช่ไหมครับ”ผมเดินแทรกเข้าไปในแถวของน้อง “ใครที่ทำได้ ก็ทำอยู่อย่างนั้น แต่คนที่ไม่ได้นี่คืออะไร”

“พวกคุณจะกินแรงเพื่อนเหรอครับ”หนาวพูดเสริมผมขึ้นมา ดูท่างานนี้เราสงบศึกภายใน จัดการภายนอกระยะยาวแน่เลย “ไหนล่ะครับความสามัคคี ไหนล่ะครับที่บอกว่ารักกัน”

“พวกคุณไม่ได้อยากเป็นนักศึกษาของXXX ใช่ไหมคะ”พลอย ตัวแม่ของเมดเทคโพล่งขึ้นมา น้องบางคนเริ่มน้ำตาคลอเบ้า “เราถามคุณ ทำไมไม่ตอบล่ะคะ”

“ไม่ใช่ค่ะ/ครับ”น้องตอบกันมาเสียงอ่อย ผมถอนหายใจน้อย ๆ แล้วเดินกลับปข้างหน้าอย่างระอาใจ

“ขอดูสมุดลายเซ็นครับ”ผมพูดทั้งที่ยังหันหลังให้น้อง ๆ อยู่ เหนื่อยใจเบา ๆ และดูท่าจะได้หนักขึ้นด้วย “เอาขึ้นมาครับ”

น้อง ๆหยิบสมุดลายเซ็นขึ้นมา โดยมีว๊ากที่ยืนรอบ ๆ เข้าไปตรวจ แม้แต่ลมหนาวเองยังเข้าไปตรวจเลย ส่วนผมยืนคุมเชิงข้างหน้า

“มีใครไม่ถึง 300 ลายเซ็นไหมครับ”มีคนยกมือ... ให้ตายเถอะ แม่ง แค่เดินเข้าไปขอลายเซ็นมันยากตรงไหนวะ คนในวิศวะรวมกับเมดเทคใช่ว่าน้อย โคตรเยอะเลย เชี่ย

“น้อยสุดเท่าไหร่ครับ”เสียงของลมหนาวดังมาจากตรงกลางของน้อง เดินไวเหมือนกันนะนั่น “น้อยสุดเท่าไหร่ครับ!!”

“168 ลายเซ็นครับ”เสียงน้องอยู่ชายที่อยู่ไม่ไกลจากข้างหน้ามาตอบอย่างหน่าย ๆ กวนโอ๊ยชัด ๆ เลยนี่หว่า เดี๋ยวเจอ

“คุณไม่มีมือจะถือ ไม่มีปากจะพูด ไม่มีเท้าจะเดินไปขอพี่คุณหรือยังไงกันครับ”ปูน ปีสามวิศวะเครื่องกลตะโกนใส่หน้าน้อง “คุณคงไม่อยากมีพี่ที่จะคอยช่วยเหลือคุณสินะครับ”

น้องมันทำท่าจะโต้กลับ แต่ก็คงไม่กล้าพอ เลยได้แต่กัดฟันมองปูดอย่างเคืองโกรธ ลมหนาวเดินกลับออกมายืนคู่ผมด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก

“น้อยสุด 168 ลายเซ็น เพื่อนขาด 119 คน...”คนข้าง ๆ ผมทวนตัวเลขออกมาส่งบทที่เตี๊ยมเอาไว้ก่อนหน้าให้ผม... จริง ๆ มันจะพูดเองก็ได้ แต่นะ ผมว่ามันไม่เคย และไม่คิดจะทำ

“ลุกนั่ง 168 ครั้ง วิ่งรอบลานเกียร์ 119 รอบ ปฏิบัติ!!”ผมสั่งลั่น น้องทำหน้าตกใจกันทั่ว แน่สิครับ ไม่เคยสั่งลงโทษเยอะขนาดนี้มาก่อน... ตอนรุ่นผมยังไม่ถึงหลักร้อยเลย “ไม่ได้ยินที่ผมพูดใช่ไหมครับ”

น้องปีหนึ่งกุลีกุจอกันกอดคอ แล้วเริ่มลุกนั่งกันทันที

“1... 2... 3... 4... … 20”

“หยุดครับ นับไม่พร้อมกับ เริ่มใหม่”ลมหนาวที่เหมือนจะรวมแรงฮึดมาได้แล้ว เอ่ยสั่งขึ้น

น้องเริ่มนับตั้งแต่ 1 ใหม่ เคยลุกนั่งกันไหมครับ แค่ทำคนเดียวก็จะขาดใจแล้ว นี่ยังต้องกอดคออีก เมื่อยชิบหาย ผมเคยทำมาห่อนเหมือนกัน

“14...”

“พอ แค่นี้ก็ยังนับไม่พร้อมกัน พวกคุณจะสามัคคีกันสักเรื่องได้ไหม”ผมกอดอกแล้วเดินไปฝั่งซ้ายมือ “วิ่งรอบลานเกียร์ ปฏิบัติ!!”

น้องผู้ชายวิ่งนำออกไปก่อนเป็นแถว ลานเกียร์ที่นี่กว้างพอ ๆ กับสนามฟุตบอลนั่นล่ะฮะ เรียกว่าเป็นสนามฟุตบอลปูนเลยจะดีกว่า...

ผมกับว๊ากคนอื่น ๆ ยืนดูน้องวิ่งรอบสนามไปได้สองรอบ ก่อนที่จะพยักหน้าให้กัน แล้วเดินออกไปจากลานโดยไม่พูดอะไร
เดี๋ยวปีสองจะวิ่งเข้ามาหาน้อง ให้น้องหยุดวิ่งกัน แล้วปรนนิบัติพัดวีเอง ไม่ได้ทำครบตามที่สั่งหรอกครับ (ตายพอดี)

และพวกเราก็จบวันนี้กัน... ไปด้วยน้ำตาของน้องผู้หญิง

ผมล่ะปวดใจ

88888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

ตอนที่ 8 มาแล้วค้าา เขียนไปมึนไป ถ้าตรงไหนดูเบลอๆ งงๆ บอกกันได้นะคะ ^^  :z3:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 19-11-2014 20:36:26
 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-11-2014 20:40:02
ชอบพี่ทิว อยากได้พี่ทิว ฮ่า ๆๆ ออกนอกหน้ามาก
แหม่ สองว้ากรวมหัวเล่นน้อง ๆ แล้วได้อารมณ์จริง ๆ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 19-11-2014 20:45:29
  อารมณ์ประมาณป้าร้านขายน้ำ สงสารน้องปีหนึ่งเลย
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-11-2014 22:09:24
เหมือนได้มาเรียนรู้ะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับรับน้องแนวนี้ ฮาาา
ม.เรากับคณะที่เราเรียนไม่มีแบบนี้เลยค่ะ
รับกันเบาๆ ฮ่าๆ แต่ขั้นตอนการเตรียมงานนี่เข้าใจเลย
ประชุมกันเครียดดดดดดด ตลอด

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อค่ะ

(http://1.bp.blogspot.com/-NEQfq9p5Z9w/Ua3EpB902dI/AAAAAAAAKnE/grifr6S-TG4/s1600/graphic-pooh_20.gif) (http://www.kmonic.com)
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-11-2014 16:51:46
ชอบพี่ทิว อยากได้พี่ทิว ฮ่า ๆๆ ออกนอกหน้ามาก
แหม่ สองว้ากรวมหัวเล่นน้อง ๆ แล้วได้อารมณ์จริง ๆ

ตอนต่อไปเป็นตอนของพี่ทิวค่ะ อุ๊บส์
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 20-11-2014 20:08:24
แหมๆๆ พายุมาขอพื้นที่บ้าง
รู้สึกว่าลมหนาวจะอยู่ในสายตานายตลอดเลยน่ะ
หุหุ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 20-11-2014 23:15:29
ไม่ต่างกับม.เราเลย เหมือนทุกอย่าง ทุกคำพูด ท่าทาง ความกดดัน อกอีแป้นจะแตก :katai1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-11-2014 23:31:08
อะนะ แอบหึงหนาวรึป่าวอะ คริคริ :katai1:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 21-11-2014 01:32:31
คิดถึงอดีตขึ้นมาเลยค่ะ ยิ่งสายเราเป็นสายที่เป็นว้ากกันทุกรุ่น 5555

เป็นว้ากไม่ง่ายจริง ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 21-11-2014 07:52:15
ชอบจริงๆ เรื่องนี้มาแนวรุ่นพี่โดยตรง ชอบๆๆ วิศวะxเทคนิคการแพทย์  :mew1:

ว่าแต่..รุ่นนี้มันดื้อจังวะ เหนื่อยใจแทนเว้ย!  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 21-11-2014 09:47:29
สนุกเข้มข้น
รอตอนพี่ทิว
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-11-2014 17:42:02
ไม่ต่างกับม.เราเลย เหมือนทุกอย่าง ทุกคำพูด ท่าทาง ความกดดัน อกอีแป้นจะแตก :katai1:

อุ๊... ม.อะไรคะ
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 22-11-2014 11:13:23
สู้ๆ อย่าลืมหาน้ำมะนาวมาดื่มกันนะ พี่วินัย และ พี่ว๊าก ทั้งหลาย  :hao3:
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-11-2014 00:08:52
วันที่เก้า

(ทิวไผ่)

สวัสดีครับ ทุกคน ทิวไผ่เองนะครับ ขอว่าที่แพทย์อย่างผมแทรกบทของว่าที่นักเทคนิคการแพทย์และว่าที่วิศวกรในอนาคตสักหน่อยคงไม่ว่ากันใช่ไหมครับ

ช่วงนี้ผมรู้สึกเย็น ๆ หลังยังไงพิกล ได้ยินแว่วเข้าหูมาว่าหลานเทคของหนาวพยายามตามหาลุงเทคของเขามาก มันก็ดีนะครับที่น้องจะตามหาสาย แต่ทำไมผมรู้สึกแปลก ๆ กับคำพูดน้องเขาก็ไม่รู้

'ผมต้องให้ลุงเทครับตัวผมให้ได้' ทำไมน้องไม่พูดว่า 'ผมจะต้องให้ลุงเทครับผมเข้าสายให้ได้'ล่ะ

ผมคงคิดมากไปเอง

ตอนที่ได้คุยโทรศัพท์กับคีตา เขาดูจะอ้อน ๆ จนทำให้ผมรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะได้ยินมาว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ กวนตีน ก็เถอะ

ถ้าไม่ได้รู้จักกันจริง ๆ ผมไม่ด่วนตัดสินใครหรอกครับว่าเขาดีหรือไม่ดี รอเรารู้จักเขาแล้วค่อยตัดสินก็ยังไม่สาย จริงไหม?

"พี่ทิวคะ"เสียงใสดั่งระฆังแก้วเอ่ยเรียกชื่อผม เธอคือนิตยา หรือทรายแก้ว คนที่ผู้ใหญ่วางตัวให้เป็นภรรยาของผม... แต่ผมไม่ได้รักเธอในฐานะนั้น และผมคงไม่อาจรักเธอในฐานะนั้นได้ "คืนนี้ทรายจะไปงานเลี้ยงของท่านฑูต พี่ทิวจะไปกับทรายไหมคะ"

"ถึงพี่ปฏิเสธไม่ไป คุณแม่ท่านก็ให้พี่ไปกับทรายอยู่ดีไม่ใช่เหรอครับ"ผมตอบกลับเธอยิ้ม ๆ เธอค้อนผมน้อย ๆ "เดี๋ยวพี่ไปรับตอนหกโมงนะครับ"

"ค่ะ ทรายจะรอนะคะ"ทรายแก้วยิ้มหวาน ก่อนจะเดินกลับไปรวมกับเพื่อน ๆ ของเธอที่ยืนรออยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่

ผมรู้ดีนะครับว่าทรายแก้วเองก็ไม่ได้คิดกับผมเกินไปกว่าพี่น้อง เห็นผมเป็นไม้กันหมาที่มาหยอดจีบเธอด้วยซ้ำไป เธอไม่ได้ปฏิเสธในการจับคู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะตอบรับเพียงเพราะเราเหมาะสมกัน

พวกเราจะดำเนินชีวิตกันไปแบบนี้ มีข่าวออกไปให้ซุบซิบในวงสังคมบ้าง จนกว่าจะเจอตัวจริงของพวกเราเอง ซึ่งผมคิดว่าคงอีกไม่นาน

"หวัดดีครับพี่"น้องปีหนึ่งที่เดินผ่านสวนกับผมกันมาไหว้ ผมยิ้มรับก่อนจะยกมือรับไหว้น้อง เด็กเฟรชชี่นี่น่ารักกันดีนะครับ

ถึงบางครั้งน้อง ๆ อาจจะดื้อ อาจจะลืมที่จะยกมือขึ้นไหว้รุ่นพี่ไปบ้าง กวนประสาทไปนิดทำให้หลายคนไม่พอใจ แต่สำหรับผม น้อง ๆ น่ารักเสมอล่ะครับ

เฟรชชี่หน้าใสที่พยายามเข้าหารุ่นพี่จอมโหดที่หมายมั่นจะกลั่นแกล้งน้อง ตอนปีสองผมก็แกล้งชาวบ้านเขาเหมือนกันล่ะครับ ฮ่า ๆ แต่ตอนนี้โตมากแล้ว ได้แต่แกล้งแบบแอบ ๆ ยิ่งเป็นประธานด้วย ยิ่งต้องระวังเรื่องภาพลักษณ์กันหน่อย

ผมเดินทอดน่องไปเรื่อยในบริเวณของคณะสายสุขภาพ แพทย์ พยาบาล เภสัช เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด รวมกันอยู่โซนนี้ เป็นโซนที่เข้ามาต้องได้กลิ่นยา กลิ่นสารเคมีล่ะครับ เลยโดดดีดมาห่างจากคณะอื่นเขา (แต่ก็มีพวกศิลป์ สถาปัตถ์ที่ใช้สีเยอะ ๆ โดนดีดไปไกลกว่าพวกเรา ฮ่าๆ)

เห็นที่หางตาไว ๆ นั่นคีตาหลานเทคของลมหนาวนี่น่า มากับสาวสวยซะด้วย ดูท่าแล้วข่าวลือจะเป็นจริงล่ะมั้ง... เนอะ
ปึก ตึง

"โอ๊ย"ใครวิ่งมาชนผมเนี่ย คีตามุ่นหัวคิ้วน้อย ๆ เมื่อได้ยินเสียงผม อย่าจำเสียงผมได้นะ มันยังไม่ถึงเวลา ผมเลยหลบโดยการหันไปหาคู่กรณีที่วิ่งมาจะทะลุแผ่นหลังผม ตอนแรกก็ว่าจะต่อว่าอยู่หรอกครับ... แต่เห็นสภาพเขาแล้วทำไม่ลง

เด็กหนุ่มตัวเล็ก ปากแดง แก้มอมชมพู ใบหน้าที่ก้มอยู่ทำให้ผมเห็นเขาไม่ชัดนัก ล้มกองอยู่กับพื้น พร้อมด้วยสีที่หกราดตัวเขาเปรอะเปื้อนไปหมด

"เป็นอะไรไหมครับ"ผมถามอย่างเป็นห่วง เมื่อคนตรงหน้าไม่ยอมลุกขึ้นมาสักที "ขาพลิกหรือเปล่า หรือบาดเจ็บตรงไหนไหม"

"เสื้อของผม..."เสียงที่เอ่ยออกมานั้นสั่นเครือ เสื้อที่เปื้อนสีขนาดนี้คงไม่มีทางซักออกแน่ ทิ้งสถานเดียว "แล้วผมจะใส่อะไร..."

เอ... ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ เสียไปก็ซื้อใหม่ได้นี่น่า... เอ่อ ผมว่าผมเข้าใจแล้วล่ะ... ดูจากเสื้อสีมอ ๆ ตรงที่ไม่เปื้อนสี กับรองเท้าผ้าใบสีตุ่นที่เริ่มมีรอยขาดแล้ว คงเป็นเด็กที่ไม่ค่อยมีฐานะแน่เลย

"ลุกขึ้นก่อนดีกว่านะครับ"ผมดึงร่างที่อ่อนปวกเปียกนั้นขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะเหลือไปเห็นภาพวาดสีน้ำที่ไม่ได้โดนสีหกใส่ไปด้วย "เดี๋ยวต้องเอางานไปส่งใช่ไหม"

"ครับ..."เสียงนั้นยังคงสั่นเครือ มือเล็กพยายามปาดสีออกจากเสื้อ ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรสักนิด ยิ่งทำให้เลอะเทอะว่าเดิมด้วยซ้ำ "แต่ผม..."

"เดี๋ยวพี่เอาเสื้อมาให้ใหม่นะครับ"ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหามัลติ เพื่อนสนิทในคณะให้ซื้อเสื้อจากสหการมหาลัยมาให้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เต็มใจซื้อให้สักเท่าไหร่ก็เถอะ... แต่ไม่มีใครปฏิเสธทิวไผ่ได้หรอกครับ ฮ่า ๆ "เดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำในตึกแพทย์นะครับ"

"แต่... แต่ตอนนี้ผมไม่มีเงินจ่ายค่าเสื้อให้รุ่นพี่หรอกนะครับ"เสียงหวานแหบนั้นตอบกลับมาอ่อย ๆ สีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีนัก

"ช่างมันเถอะครับ เสื้อตัวละไม่กี่บาทเอง ไม่ต้องเอาเงินมาคืนพี่หรอก"ใบหน้าเล็ก ๆ นั่นยิ่งก้มต่ำลงไปอีก เขาจะคิดว่าผมดูถูกเขาไหมเนี่ย "ถือว่าพี่คืนให้นะครับ ถ้าพี่ไม่มายืนขวางทาง น้องคงไม่หกล้มแบบนี้"

ดวงตาโต ๆ นั้นช้อนมองผมอย่างไม่เข้าใจ คงเข้าใจหรอกครับ เขามาชนผม แต่ผมบอกว่าตัวเองผิด ผมได้แต่ยิ้มให้แล้วก้มลงไปหยิบข้าวของที่ตกอยู่ จูงมือเขาเดินไปตึกแพทย์เงียบ ๆ ไปยังห้องของสภานักศึกษาคณะแพทย์ อืม... ตัวเล็กอย่างที่ผมคิดจริง ๆ

"ผ้าเช็คตัวนะครับ ใช้เสร็จพาดเอาไว้ตรงนี้ เดี๋ยวแม่บ้านจะมาเก็บไปเอง"ผมยื่นผ้าเช็คตัวให้น้องเขา เดี๋ยวจะลองไปค้นชิ้นส่วนอื่น ๆ ในตู้ดู น่าจะมีอะไรใช้ได้บ้างล่ะนะ

ผมเห็นน้องเขายืนนิ่งมองผมอยู่พักนึง ก่อนจะเดินเข้าห้องอาบน้ำไปเงียบ ๆ คงสงสัยในอะไรบางอย่างในตัวผม... ล่ะมั้ง

เอาละ เจอแล้ว ผมดึงเอากางเกงในตัวใหม่แกะกล่องและเสื้อกล้ามสีขาวออกมาจากส่วนลึกในตู้ ดีที่ไม่อับนะเนี่ย

"ไอ้ทิว"คนที่รอมาถึงแล้ว มัลติถือถุงพลาสติกที่สกรีนตรามหาวิทยาลัยเข้ามาในห้อง มาตรงหน้าผม "ของที่มึงต้องการ เอาไป"

"ขอบใจ"ผมรับเอาถุงมาเปิดดู โดนไม่ลืมยื่นแบงค์สีม่วงให้เพื่อน โอเค ครบถ้วน แต่เด็กน้อยที่อาบน้ำอยู่ยังไม่ออกมาเลย...

"มึงไม่ได้ใส่ไซต์นี้นี่หว่า ให้ซื้อไซต์เล็กขนาดนี้มาทำไม"มัลติทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมโดยที่ตายังเหล่มองผมอยู่อย่างกดดันเอาคำตอบ

"มีเหตุนิดหน่อยน่ะ"ผมตอบยิ้ม ๆ แล้วเดินไปหน้าห้องอาบน้ำ เคาะประดูเรียกสักหน่อย "น้องครับ พี่เอาเสื้อผ้ามาให้แล้วนะครับ"
แกรก

ประตูห้องอาบน้ำเปิดออกเผยให้เห็นร่างขาว ๆ ที่มีผ้าเช็ดตัวพันเอวปิดช่วงล่างเอาไว้ หนาดน้ำใสยังเกาะพราวอยู่ทั่วร่างกายของเขา

"ขอบคุณครับ"น้องเขารับถุงเสื้อผ้าไปจากมือผม แล้วผลุบกลับเข้าไปในห้องอาบน้ำอย่างไว ผมเห็นหูเล็อก ๆ นั้นแดงเรื่ออย่างเขินอาย

น่ารักดี... แต่ผอมแห้งไปหน่อย ไม่สิ... มากเลยต่างหาก

ต้องขุนกันหน่อย...

"เด็กคนนี้..."มัลติมุ่นหัวคิ้วน้อย ๆ เหมือนกำลังนึกอะไรสักอย่างอยู่ ก่อนจะดีดนิ้วตัวเป๊าะ "กูเคยเห็นเขาขายอยู่ที่บาร์ooo"

"ขาย?"ผมทวนคำอย่างประหลาดใจ ผมว่าผมดูคนเก่งนะ... และจากที่มองเขาไม่น่าจะเคยผ่านเรื่องอย่างนั้นมา "ขายตัว?"

"อาฮะ แต่ไม่มีใครซื้อหรอก ไม่มีเสน่ห์อะไรมาล่อ"เพื่อนสนิทผมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจอะไร "แล้วท่าทีแหยง ๆ หวาด ๆ อีก บาร์นั้นมีแต่พวกชอบความร้อนแรง ชาติหน้าก็ขายไม่ออก"

"อืม"ทำไมถึงต้องขาย... เขาก็ไม่ได้มีท่าทีอยากจะได้อะไรแพง ๆ นี่ หรือมีปัญหาอะไรหรือเปล่านะ

"กูไปก่อนนะ ว่าจะไปงีบหน่อย เย็นนี้ต้องลงวอร์ด"พูดจบไม่รอผมตอบรับมันก็ไป... ตามเคย

"เอ่อ..."เสียงที่แผ่วเบาดังเข้ามาในหู ผมหันไปทางด้านห้องอาบน้ำ เห็นร่างเล็กในชุดนักศุกษาเรียบร้อยยืนอยู่ "ขอบคุณมากนะครับ รุ่นพี่..."

"พี่ชื่อทิวไผ่ครับ เรียกพี่ทิวก็ได้"ลืมแนะนำตัวไปสนิทเลย... ว่าแต่ผมก็ยังไม่รู้ชื่อน้องเหมือนกัน "น้องล่ะ ชื่ออะไรครับ"

"ฟางข้าวครับ"น้องฟางข้าวตอบกลับมาอ้อมแอ้ม "เรียกผมว่าฟางก็ได้ครับ"

"ยินดีที่ได้รู้จักครับ น้องข้าว"ผมชอบชื่อนี้มากกว่า ฟางฟังแล้วเหมือนเชือกเส้นเล็ก ๆ สี ๆ ที่โดนฉีกขาดได้ง่าย ๆ ผมไม่ชอบ

น้องมองผมด้วยสายตางุนงง แต่ผมไม่เปลี่ยนคำเรียกหรอกนะครับ เขาจะต้องเป็นข้าว ข้าวที่มีค่ากับทุกชีวิตบนโลก ไม่ใช่แค่ฟางที่ถูกทิ้งเกลื่อน

"เดี๋ยวต้องไปส่งงานใช่ไหมครับ น้องข้าว"ผมถามยิ้ม ๆ ไม่ปล่อยให้น้องได้ถามสิ่งที่สงสัยกลับมา

"ครับ..."เขาตอบรับโดยดี แล้วเดินไปหยิบข้าวของที่วางเอาไว้บนโต๊ะ ก่อนจะเดินไปหน้าประตู "ขอบคุณนะครับ พี่ทิวไผ่ เดี๋ยวค่าเสื้อ ผมจะหามาคืน..."

น้องข้าวยังไม่ทันได้พูดจบ ผมก็เอามือปิดปากน้องไว้ก่อน แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ น้องเขา น่ะ เบิกตาโพลงอย่างตกใจ อย่างที่คิด น้องยังใสกับเรื่องพวกนี้มาก

"ไม่เอาครับ ไม่ต้องคืนพี่หรอก เก็บเงินไว้ทานข้าวนะครับ"ผมปล่อยมือออก เลื่อนไปลูบผมนุ่ม ๆ ของฟางข้าวแทน "มาครับ พี่จะพาน้องข้าวไปส่งงานเองนะครับ"

แน่นอนว่าผมไม่รอให้น้องได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร ก็จูงมือน้องเขาไปที่รถของผมทันที

"พะ. พี่ครับ ผมเดินไปเองก็ได้นะครับ"เสียงของข้าวสั่นมาก หน้าตาก็ออกแววกังวล อะไรกัน นั่งรถไปไม่เมื่อยแท้ ๆ ผมเอารถไปเจิมแล้วด้วย... ไม่เห็นต้องกลัวอะไร "ผม... ผม."

"ไม่ต้องกลัวรถพี่เลอะน่า พี่ไม่ได้ซีเรียส"ผมดันน้องขึ้นรถไป คาดเซฟตี้เบลท์ให้ แล้วพาตัวเองขึ้นฝั่งคนขับ สตาร์ทออกตัว

ฟางข้าวนั่งกอดงานตัวเองไปไม่พูดไม่จา ทั้งรถเลยมีแต่เสียงแอร์กระทบเบาะเพียงอย่างเดียว แต่ผมก็เห็นนะว่าเขาเหลือบมองผมหลายครั้ง

พอมาถึงตึกคณะนิเทศน์ น้องข้าวก็ลงตากรถวิ่งไปส่งงาน ส่วนผมนั่งอยู่บนรถ รอครับ แล้วก็ไม่ได้บอกน้องด้วยว่ารอ...

ระหว่างที่นั่งเล่นคุ้กกี้รันอยู่ในรถ เด็กคณะนิเทศน์ที่เดินผ่านไปมาเหลียมมามองรถผมกันหมด... ผมคงไม่ควรเอาจากัวร์มามหาลัยจริง ๆ ล่ะมั้งเนี่ย

ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรอทำไม... แต่ผมถูกชะตากับเขา อยากคุย (ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะครับ แบบนี้ เดี๋ยวจะโดนหาว่าโรคจิตได้ สำหรับผมกรณีพิเศษเสมอ)

ผ่านไปไม่นาน ฟางข้าวก็เดินออกมาจากตึก แล้วยืนค้างอยู่อย่างนั้น ผมเลยลดกระจกลงแล้วโบกมือให้น้องเขาขึ้นรถมา ซึ่งน้องมันก็ยอมขึ้นมาโดยดี

เด็กดีจริง ๆ

"เดี๋ยวไปทานข้าวกันนะครับ"ผมบอกข้าวเขาก่อนที่จะออกรถไปห้างใกล้ ๆ เหมือนน้องจะรู้ว่าปฏิเสธไปผมก็ไม่ยอม เลยนั่งเงียบ... "ข้าวครับ"

"ครับ..."เสียงข้าวเบามาก แต่ยังได้ยินอยู่ ผมเม้มปากน้อย ๆ อย่างชั่งใจเมื่อนึกถึงคำพูดของเพื่อน แต่ผมอยากรู้...

"เพื่อนพี่บอกว่าเคยเจอข้าวในบาร์"น้องข้าวทำหน้าตกใจ ก่อนจะก้มหน้าลงต่ำจนคางแทบจะชิดกับอก "ข้าวขาย... เหรอครับ"

"...ครับ"คู่สนทนาของผมไม่ปฏิเสธ แสดงว่าเป็นเรื่องจริง เฮ้อ แต่ดูจากสีหน้าแล้ว เขาก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรแบบนั้นนี่น่า

“ทำไมล่ะครับ”ผมถามเหตุผลนุ่ม ๆ พร้อมกับส่งยิ้มให้กำลังใจ “พี่ไม่ได้เอาไปบอกใครหรอกนะครับ พี่แค่อยากรู้เหตุผลของข้าวน่ะครับ พี่เชื่อว่าข้าวไม่ได้อยากทำอาชีพนั้น”

“ผม... แค่อยากมีเงินมาเรียนน่ะครับ”เสียงที่ตอบผมมานั้นแม้จะแผ่วเบา แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความหวัง “ผมอยากเรียนให้จบ แต่ว่าผมเรียนไม่เก่ง จะขอทุนเรียนฟรีเลยก็ไม่ได้ จะกู้เรียนก็คงไม่ผ่าน...”

“แล้วผู้ปกครองล่ะครับ”พอถามคำถามนี้ออกไป ทำให้ผมรู้สึกว่าคิดผิดอย่างแรง เมื่อสีหน้าของน้องเขาเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวด “ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบก็ได้นะครับ”

“พ่อกับแม่ของผมแยกทางกันไปตั้งแต่ผมเดินแล้วครับ... พ่อแต่งงานใหม่ ส่วนแม่... ไปเป็นคนขายบริการเพราะล้มเหลวในความรัก ผมโตมาในสถานรับเลี้ยงน่ะครับ”ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร เด็กที่เกิดจากความผิดพลาด ไม่ว่าจะที่ไหน... ก็ต้องเป็นทุกข์จริง ๆ สินะ เมื่อไหร่เรื่องแบบนี้จะหมดไปสักที “พอโตขึ้นมาหน่อย ผมก็ออกมาอยู่ที่บ้าน โดยมีเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จากพ่อและย่าส่งมาให้เป็นค่าอยู่กิน ค่าเทอม แต่ตอนนี้คุณย่าท่านเสียไปแล้ว ผมเลย...”

“เท่าไหร่ครับ”ผมตัดสินใจถามออกไป ข้าวทำหน้าตกใจยิ่งกว่าเห็นผีซะอีก... หรือผมตัดสินใจอะไรพลาด... ไม่น่า “ข้าวขายเท่าไหร่ครับ”

“พี่ทิวไผ่... ผม...”ฟางข้าวอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ มองหน้าผมด้วยความละอายแก่ใจ ดีไม่ดี อาจจะมีความคิดในแง่ลบกับผมไปสักหน่อยแล้วก็ได้...

ก็ผมจะซื้อตัวเขานี่ครับ... แต่ไม่ได้ซื้อไปทำเรื่องอย่างว่าหรอกน่า ถ้าเขาไม่เต็มใจ

“พี่จะซื้อเอง อย่างน้อยก็ยังดีกว่าให้ไปหาใครต่อใคร...”ผมเว้นจังหวะการพูดแล้วเหล่มองเด็กหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ ก่อนระบายยิ้มบาง “พี่จะให้เราได้เรียนจนจบเอง ถ้าจบแล้วอยากจะไปเริ่มต้นชีวิตที่ไหน ก็ตามใจข้าว แต่ช่วงเวลาที่ใช่ชีวิตมหาลัย ข้าวจะต้องฟังพี่ ตกลงไหมครับ”

“...”น้องข้าวเงียบอยู่พักนึง ใช้เวลากับตัวเองตริตองในคำของผม ซึ่งตัวผมก็ไม่ได้จะเร่งรัดเอาคำตอบอะไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวน้องเขาเอง “ตกลงครับ”

“แน่ใจแล้วนะ”เขาพยักหน้าให้ผม แก้มขาว ๆ นั้นแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย นั่น คิดอะไรลามกแน่ ๆ เด็กคนนี้ “โอเค พี่จะให้เงินข้าวสำหรับค่าอาหารทุกวัน วันละ 1000 บาท ถ้ามีอุปกรณ์การเรียน หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับการเรียนให้มาเบิกกับพี่ได้เลย แล้วก็ 1 เดือน พี่จะให้เงินข้าวเอาไว้ซื้อของที่ตัวเองอยากได้อีก 100,000 บาท ถ้าไม่ใช้ก็เก็บเอาไว้ในบัญชีของข้าวเองนะ รู้ไหมครับ”
“พี่ทิวไผ่ครับ มันไม่เยอะเกินไปเหรอครับ”คราวนี้ไม่ใช่แค่สีหน้าแล้ว เสียงของน้องก็ดูตกใจกับจำนวนเงินที่ได้ยิน “ผมรับไว้ขนาดนั้นไม่ไหวหรอกครับ”

“ข้าวทำอาหารเป็นไหม”ผมไม่สนใจคำถามของน้อง แต่กลับยิงคำถามกลับไปแทน

“เป็นครับ...”เสียงอ่อยเลยทีนี้ เงินแค่นั้นไม่ได้กระเทือนอะไรผมสักหน่อย... น้องมันก็คงคิดมากไปแล้ว “ทำไมเหรอครับ”

“งั้นข้าวคอยทำอาหารให้พี่แล้วกัน”ผมยิ้มบางเบา อย่างน้อยถ้ามีอะไรให้เขาทำ เขาจะได้โอเคกับเงินที่ได้รับไป... ล่ะมั้ง “ยังไม่หมดแค่นั้นนะครับข้าว ถ้าข้าวได้เกรดA ในวิชาเรียนมา 1 ตัว พี่ให้พิเศษ 50,000 บาท ต่อ 1 วิชา แล้วถ้าติดท็อป 3 ของชั้น พี่ให้ 100,000 บาท นะครับ”

เงียบกริบ... เป็นอะไรไปล่ะนั่น ผมอาศัยตอนรถติดไฟแดงหันไปมองคนข้าง ๆ ฟางข้าวนั่งอ้าปากค้าง ตาค้าง ช็อคไปแล้ว...

พักใหญ่เลย กว่าที่น้องเขาจะเรียกสติกลับคืนมาได้ แล้วนั่งก้มหน้า ก้มตา ปากงี้ เม้มสนิท... เห็นแล้วนึกถึงใครอีกคนที่ชอบทำหน้าแบบนี้เวลาเครียด... แต่ไม่ได้ทำแล้วน่ารักหรอกนะครับ

“เงินที่พี่ให้ ข้าวต้องรู้จักใช้นะครับ เก็บเอาไว้ใช้ในอนาคตด้วย”ผมยื่นมือไปลูบศีรษะทุย ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว “แต่อย่าตระหนี่เสียจนทิ้งในสิ่งที่ตนเองอยากได้ไปเสียหมดนะ”

“ครับ พี่ทิวไผ่”เด็กดี ว่าง่าย น่าเลี้ยง ดีจริง ๆ เลยนะ...

ผมพาน้องไปกินข้าวในห้าง แน่นอนว่าต้องบาบีก้อนของชอบของผม ยัดเยียดให้น้องกินเยอะ ๆ เป็นผู้ชายซะเปล่า จะให้ผอมกระหร่องคงดูไม่ดีแน่

หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็ขับรถต่อไปบ้านของฟางข้าว (บอกเชิงบังคับให้น้องเขาบอกทาง) ไปเอาข้าวของจำเป็นบางส่วนมา... มันทำให้ผมรู้ว่าเสื้อผ้าของน้องเขามีน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ ชุดนักเรียนสองชุด ชุดไปรเวทสี่ชุด ชุดนอนสี่ชุด หมดแล้ว...
สงสัยต้องหาเวลาไปซื้อสักหน่อย

ผมเอาน้องไปอยู่ด้วยกันที่คอนโดน่ะครับ อ้างเหตุผลว่าจะได้ประหยัดค่าไฟและค่าเดินทาง... เด็กหัวอ่อนอย่างข้าวก็ไม่เถียงอะไรอยู่แล้ว... แต่เหตุผลจริง ๆ ของผมคือ ผมไม่อยากให้เขาอยู่คนเดียว ถ้าเกิดมีใครคิดไม่ซื่อเข้าไปทำร้ายเขาในบ้าน จะทำยังไงล่ะครับ

จะให้ผมส่งคนไปเฝ้าบ้านของข้าวทุกวันก็คงใช่ที พามาอยู่ด้วยกันซะเลย ง่ายกว่าเยอะ

“เดี๋ยวข้าวอยู่ที่นี่ก่อนนะครับ พี่จะออกไปธุระก่อน ถ้าหิวก็ทำอะไรกินในครัวเอานะครับ”เกือบลืมนัดกับทรายแล้วไหมล่ะผม มั่วแต่เอ้อระเหยลอยชายอยู่นี่ “เดี๋ยวดึก ๆ พี่กลับมา ถ้าง่วงนอนไปก่อนเลยนะครับ”

“ครับ”ฟางข้าวยังตอบกลับไม่เต็มเสียงเท่าไหร่ ให้เวลาน้องเขาปรับตัวบ้างแล้วกัน อะไร ๆ คงเปลี่ยนไปไวเกินกว่าที่น้องเขารับได้

ผมขับรถไปรับทรายแก้วที่บ้านทันเฉียดฉิว อีก 1 นาทีหกโมงเย็น ตามนัด ตอนแรกว่าจะโทรมายกเลิกนัด ไม่อยากให้เด็กน้อยที่มาร่วมชายคาต้องอยู่คนเดียวน่ะครับ... แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ ละเลยไปก็เรียกไม่รับผิดชอบ

แน่นอน ผมเป็นประธานนักศึกษา ความรับผิดชอบเต็มเปี่ยมไม่ว่าจะในหรือนอกมหาวิทยาลัย... เพราะงั้นผมจะต้องทำ

“สีหน้าดูไม่ดีเลยนะคะพี่ทิว”เสียงใส ๆ เอ่ยขึ้นหลังจากที่เราเดินทางมาได้ครึ่งทาง “ทรายดูตั้งแต่หน้าบ้านแล้ว พี่ทิวมีอะไรในใจเหรอคะ”

“พี่ห่วงลูกหมาที่เก็บมาน่ะ”ลูกหมาจริง ๆ ครับ ยิ่งเวลาทำหน้าซึม ๆ หางลู่ หูตก ยิ่งลูกหมา... น่ารักน่าเอ็นดู ควรค่าแก่การเก็บไว้ข้างกาย

“ทำอะไรก็ระวังคุณป้าท่านโวยวายแล้วกันนะคะ พี่ทิว”เธอยังคงฉลาดเหมือนเดิม รู้ด้วยว่าผมหมายถึงคน ไม่ใช่สัตว์อย่างชื่อเรียก

“พี่จัดการได้น่า”

เมื่อมาถึงงาน ทรายแก้วก็เข้าไปทักทายเพื่อนฝูง และเจ้าของงาน ส่วนผม พอทักทายท่านทูตเสร็จ ก็ไปยืนจิบไวน์อยู่ข้างระเบียงแล้ว

ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กที่คอนโดจะเป็นไงบ้าง กินข้าวหรือยังก็ไม่รู้ ว่าจะกดโทรศัพท์ไปถาม.. ก็นะ ผมลืมขอเบอร์น้องเอาไว้
เซ็งเลย

“พี่ทิวจะกลับไปก่อนก็ได้นะคะ”ทรายแก้วเดินเข้ามาหาผมตอนสองทุ่มครึ่ง ปกติถึงผมจะเบื่อแค่ไหนเธอก็ไม่เคยเอ่ยปากให้ผมไปก่อนนี่น่า... “ถ้าพี่ห่วงเจ้าหนูที่เก็บมาก็รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวทรายกลับกับฟานี่ได้”

“งั้น... พี่ไปก่อนนะ”ไม่ปฏิเสธครับ ขอเผ่นก่อนแล้วกัน “กลับถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกพี่นะครับ”

ผมใช้เวลาครึ่งชั่วโมงฝ่าดงรถติดมาถึงคอนโด ไม่รู้ว่าทำไปได้ยังไงเหมือนกัน บนท้องถนนที่เต็มไปด้วยรถราแบบนี้ ปาดได้ปาดเอา ไม่รู้จะโดนด่าไปถึงโคตรไหนแล้ว

พอมาถึงคอนโด แทนที่ผมจะรีบเข้าไปในห้อง แต่เปล่า... ผมยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู ทั้งที่สมองสั่งให้บิดลูกบิดเข้าไป แต่งร่างกายกลับไม่คิดจะขยับ ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

ผมกลัวที่จะเปิดไปเจออะไรเหรอ? ไม่มีทางที่ใครจะขึ้นมาชั้นนี้ได้ถ้าไม่ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด หรือผมกลัวว่าจะไม่เจอในสิ่งที่หวัง?

ให้ตายเถอะ ถ้าจะรับเลี้ยงใครสักคนแล้วคาดหวังว่าเขาจะรอเรากลับ ฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะอาหาร พร้อมกับข้าวที่เต็มโต๊ะ โดยที่เขายังไม่ได้ทานอะไรแบบนี้

มันบ้าสิ้นดี ทิวไผ่ นายมันเริ่มจะโรคจิตแล้ว... แค่รู้จักกันยังไม่ถึงวันก็ทำเป็นพ่อบุญทุ่ม ให้เงินเขาเรียน ให้เงินเขากิน ก็ว่าบ้าแล้ว
ท่าทางจะต้องไปพบจิตแพทย์หน่อยแล้วมั้งเรา

ผมถอนหายใจน้อย ๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ห้องยังคงเรียบร้อย ทุกอย่างวางอยู่ที่เดิมก่อนที่ผมจะไป บนโต๊ะอาหารไม่ได้มีอะไรวางไว้ เช่นเดียวกับที่อ่างล้างจานนั้นว่างเปล่า

ผมเดินไปหน้าทีวี กะว่าจะเปิดทีวีดูแก้เบื่อสักหน่อย แต่สายตาก็เหลือไปเห็นก้อนกลม ๆ ที่ขดอยู่บนโซฟาเสียก่อน

“ข้าว ทำไมมานอนตรงนี้ล่ะหืม”ผมปลุกให้ร่างที่นอนขดตัวอยู่ตรงหน้าให้ตื่นขึ้นมา “ลุกขึ้นไปนอนในห้องเร็ว เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก”

“อื้อ...”แพขนตาหนาขยับน้อย ๆ ก่อนที่จะลือขึ้นมา ฟางข้างลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย แล้วหันมามองหน้าผมงง ๆ “พี่ทิว... กลับมาแล้วเหรอฮะ”

“พี่กลับมาแล้ว เราเถอะ มานอนอะไรตรงนี้”ผมยิ้มบาง ๆ ให้เขาแล้วขยี้ผมนุ่ม ๆ นั้นอย่างหมั่นเขี้ยว “ไปนอนในห้องดี ๆ ไป”

“งื้อออ ผมหิว...”เสียงงึมงำในลำคอดังลอดออกมา หิว... แสดงว่าข้าวยังไม่ได้ทานข้าว แล้วทำไมถึงยังไม่ได้ทานกันล่ะ “ผมไม่รู้ว่าจะไรที่พี่ทิวให้ใช้ได้ อะไรให้ใช้ไม่ได้”

“ของทุกอย่างในห้องนี้พี่ให้ใช้ได้หมดนั่นและ”ผมอดที่จะขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าบอกว่าซื้อ หรือจะบอกว่าบื้อดีเหมือนกัน แต่มันก็ทำให้ผมได้รู้ว่า ยังไงของในห้องไม่มีทางหายไปเพราะฟางข้าวแน่ “ไปทำกับข้าวกินกันเถอะ เดี๋ยวโรคกระเพาะถามหาพี่ไม่รักษาให้นะเออ”

เด็กน้อย (ในสายตาผม) ผุดลุกขึ้นจาโซฟา วิ่งปรู๊ดเข้าครัวไปเลย

ให้ตายเถอะ ทำไมน่ารักงี้ว้า

ระหว่างที่ฟางข้าวทำอาหารอยู่ในครัว ผมก็สั่งคน (ของพ่อ) ให้ไปสืบประวัติเต็ม ๆ ของน้องมา ก็นะครับ ถึงแม้ว่าจะให้มาอยู่ด้วยแล้ว แต่ก็ต้องรู้ให้จริงด้วยว่าเขาลำบากจริง ไม่ใช่แต่งเรื่องขึ้นมา... ไม่อย่างนั้นคงโดนแม่ด่าหูชาไปสามบ้าน หนาวบ่นไปสิบปี

“พี่ทิวฮะ พี่กินเผ็ดได้ไหมฮะ”เด็กนิเทศคนนี้ไม่รู้ไปขุดผ้ากันเปื้อนจากส่วนไหนของห้องมาใส่ จำได้นะครับว่าเคยซื้อไว้ แต่จำไม่ได้ว่ามันยังอยู่

“กินได้ครับ พี่ไม่เลือกกินเท่าไหร่”แมงดา ปลาร้า ทุกเรียน สามอย่างที่ไม่กิน อย่างอื่นผมกินได้หมดแหละ ถ้าเป็นของกินนะ (ไม่ต้องเลย ผมไม่กินอึหมา มุกนี้ไม่ผ่าน ห้ามเล่น)

ครืด ครืด

ว่าจะเดินเข้าไปในครัว แต่เสียงโทรศัพท์ที่สั่นเป็นดิสโก้เรียกให้ผมไปรับก่อน เซ็งเลย ใครโทรมาตอนนี้กันนะ จะเป็นทรายก็คงไม่ใช่ กว่าจะกลับก็น่าจะสี่ห้าทุ่มโน่น

ผมมองหน้าจอโทรศัพท์ดูเบอร์ที่โทรแล้วมาแล้วอดที่จะมุ่นหัวคิ้วไม่ได้... ‘คีตา’ ตั้งแต่วันที่เขาโทรมาหาผมครั้งแรก (ห้าวันที่แล้ว) เขาก็โทรมาทุกคืน ๆ ตอนแรกก็ว่าคงอยากหาลุงเทคเจอไว ๆ แต่มันชักจะยังไง ๆ แล้วมั้ง...

ผมคงคิดมากไปเอง

“ครับ”กดรับโทรศัพท์ก่อนที่สายจะหลุด ไม่งั้นเจอโทรรัว ๆ ผมลองไม่รับสายตอนวันที่สาม โน้น โทรรัวตั้งแต่สี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน... ถ้าเป็นหนาวรับเอง มีหวังน้องได้หนาวแน่

“พี่ครับ วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ”เสียงอ้อน ๆ ดังลอดออกมาจากสายโทรศัพท์ (เดี๋ยวนะมือถือมีสายโทรศัพท์ด้วย?) เอ่อ... ลำโพงก็ได้

“ก็เหมือนเดิมล่ะครับ แล้วน้องคีเป็นยังไงบ้างครับ จะต้องประกวดดาวเดือนรอบชิงแล้ว”ผมตอบกลับไป แต่สายตายังคงมองเข้าไปในครัว ไม่รู้ว่าผู้ร่วมห้องของผมจะเป็นยังไงบ้าง

“ก็ดีครับ สนุกดี พี่ต้องมาดูการแสดงของผมนะครับ”เสียงอ้อนหนักกว่าเดิมอีก... ให้ตาย แน่ใจนะว่าเป็นผู้ชาย อีกทั้งตัวยังสูงไล่ ๆ กับผมอีก “นะครับ นะ”

“พี่ต้องไปอยู่แล้วล่ะครับ”ประธานทุกคณะต้องไปนั่งเท้งเต้งดูการประกวดทุกปีล่ะครับ มีส่วนให้คะแนนนิดหน่อย (แต่ถ้าเข้าข้างคณะตัวเอง จะถูกตัด 0 ทันที)

“หวังว่าจะได้เจอกันนะครับ”ผมอมยิ้มนิด ๆ ตัวจริงกับในโทรศัพท์ไม่เหมือนกันเลยนะ เด็กคนนี้ “อยากเจอพี่ไว ๆ จัง”

“หาให้เจอสิครับ เราจะได้เจอกัน”อยากหัวเราะยังไงก็ไม่รู้สิ ถ้าคีตารู้ว่าลุงเทคเขาเป็นลมหนาวจะทำหน้ายังไงกันนะ “น้องอาจจะไม่ดีใจก็ได้นา..”

“ไม่หรอกครับ ผมอยากเจอจริง ๆ นะเนี่ย”

เพล้ง!

เฮ้ย เกินอะไรขึ้น ผมรีบวิ่งเข้าไปในครัว เห็นจานแก้วแตกกระจายอยู่บนพื้น โดยมีข้าวที่ปีนเก้าอี้หยิบของในตู้ติดผนังทำหน้าจะร้องไห้อยู่

“ข้าว เจ็บตรงไหนไหม”ถามออกไปด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ว่าเศษแก้วบาดไหม “คีครับ เดี๋ยวพี่ทำธุระก่อนนะครับ ไว้ค่อยคุยกันนะ”

ผมกดตัดสายน้องมันไปทนที แล้วหันมาจัดการเศษแก้วตรงหน้า

“ผมขอโทษฮะ ผม ผม”ฟางข้าวเสียงสั่น ทำตัวไม่ถูก น้ำตายังไม่ไหล แต่ถ้าผมดุเขา มีหวังเขื่อนแตก... ผู้ชายแน่ไหมไม่รู้...

“ช่างเถอะ จานแตกไปหาใหม่ก็ได้ ข้าวล่ะ โดนบาดตรงไหนหรือเปล่า”ผมพูดพลางกวาดเอาเศษแก้วไปทิ้ง สงสัยต้องไปซื้อจานเมลามีนมาใช้แทน... แต่น้องจะคิดมากไหมถ้าผมไปซื้อมา

“ไม่ฮะ อ๊ะ กระทะ”ข้าวกระโดดลงจากเก้าอี้วิ่งไปปิดกระทะไฟฟ้าอย่างเร็ว ทั้งที่ผมยังเก็บเศษแก้วไม่หมด!!

“ข้าว!!!”น้องสะดุ้งกับเสียงตะโกนของผม บ้าชิบ วิ่งลงมาทั้งที่รองเท้าก็ไม่ใส่ เหยียบเศษแก้วไปอีกต่างหาก “วิ่งเหยียบเศษแก้วแบบนี้ บาดเท้าหมดแล้ว”

“อ๊ะ”ข้าวก้มลงไปมองพื้นแล้วหน้าซีด ไม่ซีดให้รู้ไป ก็เลือดซึมออกมาแล้วนี่

ครืด ครืด

มือถือผมสั่นอีกแล้ว พอหยิบมาดูก็ยังเป็นน้องคีตาที่โทรมา เอาไว้ก่อนแล้วกัน ยังไงวันนี้ก็คุยแล้วนี่ เดี๋ยวก็คงวางไปเอง

“ไปนั่งครับ เดี๋ยวพี่ทำแผลให้”สั่งฟางข้าวก่อน แล้วหันไปจัดการเศษแก้วต่อ ก่อนที่จะมีใครทำตัวซื่อวิ่งมาเหยียบอีก

ครืด ครืด

นี่ก็ยังไม่วางไปสักที นั่นก็รอทำแผล นี่ก็ตื้อจะคุย

มันอะไรกันเนี่ย!!

ทิว ปวด หัว!!!!!!


*******************************

ตอนของพี่ทิว แบบ พี่ทิวจริง ๆ ค้า 555 ไม่รู้จะชอบกันไหม สามารถติชมกันได้เต็มที่เลยนะคะ ^^

// ส่วนตัวชอบพี่ทิว เลยมาซะยาวเลย... (เอ๊ะ ใครตะโกนมาว่าลำเอียงน่ะ)

 :mew1:

ช่วงธันวาอาจจะไม่ค่อยมาอัพนะคะ มิดไนท์สอบค้า TT
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 23-11-2014 00:18:44
เดี๋ยวนะๆๆ ตอนต้นๆเหมือนทิวจะเสร็จคีตาไงไม่รู้ แต่พอน้องข้าวมา เอ๊ะ เอาไงหว่า
หัวข้อ: Re: EG vs MT เฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่แปด ลงน้อง P.5 [19/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 23-11-2014 00:38:23
อุ๊... ม.อะไรคะ

ม.ติดทะเลบางแสนค่ะ

บอกเลยเฮียทิวแอบเผด็จการน่ะเนี่ย น้องข้าวก็น่าสงสารอ่ะ เฮียรีบๆขุนน้องเร็ว ผอมแห้งไม่น่าอร่อยน้า
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 23-11-2014 00:39:39
เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ สามคนนี้นี่ยังไงกันคะ!?
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-11-2014 00:44:24
ม.ติดทะเลบางแสนค่ะ

บอกเลยเฮียทิวแอบเผด็จการน่ะเนี่ย น้องข้าวก็น่าสงสารอ่ะ เฮียรีบๆขุนน้องเร็ว ผอมแห้งไม่น่าอร่อยน้า

ยัง ๆ ไม่ใช่ม.เดียวกัน 555 เกือบละค่ะ จังหวัดไม่ไกลกันเท่าไหร่ ทางพิเศษไปถึง // อุ๊บส์
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 23-11-2014 00:54:06
คีตาไม่โอเคเะราะควงหญิงเยอะเกิน พี่ทิวกะน้องข้าวนี่แหละ น้องน่าสงสารนะดีที่มาเจอพี่ทิว
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 23-11-2014 06:45:17
พี่ทิวป๋ามากค่าาา

ได้ช่าวช่วงนี้ฮ็อตหรอ 55
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 23-11-2014 08:13:10
เดาผิดแฮะ แล้วคีตาจะคู่ใครล่ะ ตอนอ้อนในโทรศัพท์ดูน่ารักดี
ข้าวน่าสงสารมาก พี่ทิวดูแลดีๆ นะ
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 23-11-2014 08:37:09
 :m20: :m20: :m20: :m20:   พี่ทิวไผ่เนี่ย ป๋าทุ่มตัวจริงเสียงจริง ของแท้เลยนะเนี่ย ทุ่มทุกอย่าง น้องนุ่งได้หมด

ไอ้เร๊าาก็นึกว่าทุ่มกับหนาวแค่คนเดียว  :เฮ้อ:   แต่เอาเถอะ ข้าวฟ่างก็ไม่เลว แต่ตอนแรกแอบเชียร์ คีตากับพี่ไผ่ แล้วงี๊

คีตาคู่กับใครล่ะทีเน๊ย  อ้อนๆน่ารักๆ ดีด้วยยยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 23-11-2014 09:57:22
อ้าว คุณชายไปเก็บเด็กมาเลี้ยง :m16: :m31: :m31:

ว่าจะเชียร์ให้คู่กับคีตาอยู่ แล้วทีนี้ยังไงละเนี้ยะ โอ้ย ไม่เอาสามพีนะไม่เวิคจริงๆ ถ้าพี่ทิวไผ่คู่กับคีตาจริง แล้วเด็กฟางข้าวนี้ ยังไง จะให้เป็นน้องหรอ คงไม่ใช่มั้ง เพราะดูจากบทที่ส่งมาแล้ว มันมาทางแอบชอบแอบปรื้มหลงรักเลยแหละ ตามพร๊อทแล้ว นายเอกผู้น่าสงสารอยู่ตัวคนเดียว แล้วตะนี้มีพระเอกขับจาร์กัวมาโฉบไปเลี้ยง เกิดปิํงตกหลุมรัก  :mew5: หึ ไม่เอาน่าาาา เค้าชอบแมนๆเตะบอลคุยกัน ถึงไอ้คีตามันจะเจ้าชู้แต่ บทมันยังไม่ออกมาให้ยลโฉมเลยง่ะ แต่ถ้ามันเป็นตัวประกอบจริงก็อย่าเอาออกมาเลยนะ เกิดติดใจขึ้นมาจะลำบาก :katai1:
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 23-11-2014 10:11:01
สามคนนี้มันแปลกๆกันอยู่นา
หรือจริงๆคือคีมันรู้ว่าเป็นลมหนาว
แล้วอยากจีบมากกว่า
แต่ที่โทรมานี่ไม่รู้ว่าเป็นพี่ทิว

เดาไม่ถูก 55555
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: minnin ที่ 23-11-2014 13:44:40
ว้ายยยย ชอบคร้า โดยเฉพาะคู่พี่ทิวกะน้องฟางข้าว เเต่เเลดูดราม่าจะเยอะนะค่ะเนีย เเต่ยังไงก็ขอให้สมหังทั้งสองคู่โน๊ะ ส่วนหนูคืตาให้นางมาเป็นอุปสรรคของคู่พี่หนาวกะพี่พายุดีกว่าค้าาาา
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-11-2014 22:54:21
หลงพี่ทิวกันแล้ว..

ตอนต่อไป... ของคีตาค่ะ 5555

ตารุ่นน้องแย่งซีนบ้าง ^w^
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 24-11-2014 19:45:09
หลงพี่ทิว  :-[ :-[
เชียร์น้องคีกับพี่ทิว
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: tay028643904 ที่ 25-11-2014 00:13:21
นี้ยังไม่ธันวานะตัวเอง
รีบๆอัปนะครับ รอฟินอยุ่ กิกิ
สุ้ๆน้า เป้นกำลังใจให้คนเขียนนะครับ
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 25-11-2014 01:49:25
คีตาเปิดตัวมาเป็นนางร้ายเรื่องนี้หรือเปล่า (ว่าไปโน่น)

ไบรับหริอเปล่า ขี้อ้อนจัง

พี่ทิวขา  ป๋าได้ถูกใจแม่ยกมากค่ะ  ส่งเสริมอนาคตคนนี่เป็นกุศลที่สุดค่ะ

ชอบมากประโยคนี้ 
อ้างถึง
เขาจะต้องเป็นข้าว ข้าวที่มีค่ากับทุกชีวิตบนโลก ไม่ใช่แค่ฟางที่ถูกทิ้งเกลื่อน

จุ๊บๆ คนเขียน  :กอด1:

หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)
เริ่มหัวข้อโดย: monalism ที่ 25-11-2014 06:15:00
พี่ทิวอย่างป๋าอะ เอาเขามาเลี้ยงก็ดูแลให้ดี เลี้ยงให้ดีตลอดรอดฝั่งนะพี่  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 25-11-2014 15:06:02
หลงรักป๋าทิวววววว
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 25-11-2014 16:10:04
ปักธงรอพายุกับลมหนาว แอร๊...
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: เกลียวคลื่น ที่ 25-11-2014 21:26:18
ทิวไผ่นี่ เหมือนมีแนวๆ ว่าจะ 3p 5555
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 25-11-2014 21:58:36
 :hao5: :hao5: :hao5: ได้อ่านแล้ว ดองไว้หลายตอนเลย หายหน้าหายตาไปสอบมาค่ะ
ลมหนาวกับพายุนี่กุ๊กกิ๊กกันมากค่ะแบบน่ารักอ่ะแอบใส่ใจกันสุดๆ อีกคนแปลกไปอีกคนรู้สึกได้คือดีงาม
สองคนนี้เกิดมาเพื่อคู่กันแน่เลย 55 พอได้อ่านตอนของพี่ทิวรู้สึกดีขึ้นมาจึ๋งนึงเหมือนพี่แกเป็นคนขี้ใส่ใจเฉยๆ
แต่แบบไม่ได้ชอบลมหนาวอะไร นั่งทำใจอยู่ตั้งนานกว่ามาม่าไปอีก พอพูดถึงคีตาแล้วแบบเฮ้ยจะให้คู่พี่ทิวหรอ
แต่พอฟางข้าวปรากฏตัวทุกอย่างก็คือจบ 55 นี่ก็กลัวดราม่าไปอีกกับเรื่องคุณแม่พี่ทิวแต่ดูคู่หมั้นพี่ทิวเข้าใจอะไรดี
อ่านพฤติกรรมคีตาแล้วแบบ คิดว่าคีตาอาจรู้ว่าลุงเทคเป็นใครแล้วตั้งใจจะจีบ เอ๊ะ หรือรู้ตัวว่าได้คุยกับพี่ทิว? งง
รอตอนต่อไปนะคะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: EG vs MTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่9 วันสบายๆ(ทิวไผ่)P.6[23/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: ning-ning.ja ที่ 26-11-2014 09:07:25
 :mew3: :mew3:หนับหนุนพี่ทิวกะน้องข้าวจ้า :katai2-1: :katai2-1:ฟิน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-11-2014 18:29:21
วันที่สิบ
(คีตา)

โช๊ะ ๆ อ๊ะ เห สวัสดีครับ ได้คิวผมแย่งซีนคนอื่นบ้างสินะครับเนี่ย คีตาเองนะครับทุกคนน เดือนคณะเทคนิคการแพทย์ปีหนึ่ง

วันนี้จะมีงานเฟรชชี่ไนท์ แล้วก็ประกวดดาวเดือนรอบสุดท้ายด้วย ตื่นเต้นชะมัด ผมต้องทำการแสดงบนเวทีด้วย ธีมเป็นนานาชาติ คอนเซปชุดประจำชาติ คณะเทคนิคการแพทย์ได้ประเทศจีนฮะ

แต่จะแสดงอะไรรอดูกันเองนะ ผมไม่บอกหรอก เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรท์ อุบเอาไว้ รอลุ้นกันเองนะครับ อีกไม่กี่ชั่วโมงเอง

แต่... เมื่อสองวันก่อนลุงเทคผมเป็นอะไรไปนะ เหมือนได้ยินเสียงเรียกข้าว หรือเขาอยู่กับแฟนเลยรีบตัดสายผม โทรไปก็ไม่รับอีกต่างหาก

เซ็งเลย

"อ๊ะ คี"เสียงแหลมสูงของผู้หญิงคนหนึ่งร้องเรียกชื่อผม... ใครกันวะ เหมือนจะคุ้น เอ... คุ้นไหม? "จำเราได้ไหม แกรนด์ไง แกรนด์ ชยาณิน"

"แกรนด์... ห้องสี่ศิลป์ภาษา?"คุ้น ๆ ว่ามีคนชื่อนี้อยู่ร่วมโรงเรียน แต่ผมก็ไม่ได้สนใจนักหรอก ผมสนเฉพาะคนที่วิ่งเข้าหาผมบางคน กับเพื่อนห้องวิทย์เท่านั้นแหละ

"อื้อ จำเราได้ใช่ม้า"แกรนด์ยิ้มร่าอย่างร่าเริง ท่าทางดูดีใจที่ผมจำเธอได้ (ใครบอกว่าผมจำได้วะครับ) "ไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าคีก็เรียนที่มหาลัยนี้เหมือนกัน"

"คะแนนผมถึงที่นี่น่ะ"ตอบตามมารยาท ไม่ค่อยอยากจะคุยเท่าไหร่ ไม่ใช่เขาไม่สวยนะครับ แต่ไร้เสน่ห์ดึงดูดสิ้นดี โดยเฉพาะไอ้ปากเจ่อ ๆ เหมือนโดนผึ้งต่อยนั่น

"เหรอ แล้วคีได้ลงประกวดเดือนคณะเปล่า"แม่นางแกรนด์ชวนผมคุยต่อ ป้า ๆ ไม่ได้มองหน้ากูเลยใช้ไหมว่าอยากเสวนากับเอ็งต่อไหม

"อืม เราเป็นตัวแทนของคณะน่ะ"

ครืด ครืด

มือถือผมสั่นบนโต๊ะอย่างแรงก่อนที่คุณผู้หญิงจะได้พูดอะไรต่อ โอ๊ะ พี่เทคโทรมา น่ารักที่สุด ได้จังหวะอย่างแรง พี่ใครวะ โคตรน่ารักเลย

"ฮัลโหลครับ"กรอกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างเริงร่า ว่าไปแล้วก็ไม่ได้โทรหาพี่เทคเลยแหะ เอาแต่โทรหาลุงเทค...
แย่จริง พี่จะน้อยใจไหมวะเนี่ย

"ฮัลโหลคี"เสียงใส ๆ ของพี่เกดดังลอดมาในสาย "เป็นไงบ้างคี ใกล้ประกวดดาวเดือนแล้ว ไหมเปล่า เหนื่อยไหม เอาขนมไหม"
รัวมาเป็นชุด... เล่นซะผมรู้สึกผิดมากกว่าเดิมอีก

"ผมโอเคทุกอย่างพี่ พี่เก็บเงินไว้ซื้อเมมมาถ่ายผมแทนเถอะ ขนมไม่ต่องหรอก"ผมตอบกลับไปยิ้ม ๆ ถึงพี่เกดจะไม่เห็นก็เหอะ "พี่ล่ะ เป็นไงบ้าง สบายดีไหม"

"สบายย รู้สึกเบาพอ ๆ กับคะแนนควิช"หืม เบาพอ ๆ กับคะแนนควิช เล่นมุกอะไรของเขากันล่ะนั่น เหมือนพี่เกดจะรู้ว่าผมงงเลยพูดต่อมา "คะแนนน้อย พอ ๆ กับความรู้ในสมอง หัวเบาหวิว~"

ให้ตาย ตามมุกพี่เทคไม่ทันเลย พูดว่ารู้สึกโง่มาเลยมันไม่ง่ายกว่าเหรอนั่น เชื่อเลย น้องเทคใครเนี่ย (ต้องหาลุงเทคให้เจอให้ด้ายย)

"อยู่กับใครอ่ะ"ผมว่าผมโชคดีมากที่ได้พี่คนนี้นะครับ ไม่ถือตัว ไม่เอาแต่ใจ ไม่มานั่งตัดพ้อเรื่องงี่เง่า เล่นกีฬาอีกต่างหาก (ผมเลยสงสัย ตกลงได้พี่ผู้หญิงหรือผู้ชาย?) "พี่โทรมากวนเปล่า"

"ไม่เลยพี่ ผมนั่งว่างอย่างแรงอยู่คนเดียวเลย"ส่วนแม่นางวอกที่ยืนสลอนอยู่ข้าง ๆ นี่ไม่นับ ไม่ได้เชิญ "พี่มานั่งกับผมไหม"

"พี่นั่งกินข้าวอยู่โรงอาหาร ยังไม่ไปหรอก"แน่ะ พูดเหมือนจะเดินมาถ้าไม่ติดว่ากินข้าวอย่างนั้นล่ะพี่ผม "จะมาหาพี่ไหมล่ะ"

"เลี้ยงข้าวเปล่า"แซวพี่สักหน่อย เล่น ๆ ฮะ ผมไม่ให้พี่มาเลี้ยงหรอก กลับกัน ผมจะเลี้ยงพี่ผมเอง แอบได้ยินแว่ว ๆ มา บ้านพี่เขาเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินเพราะพิษเศรษฐกิจ ให้พี่เขาเก็บเงินไว้ทานข้าวเองดีกว่า

"มาดิ เดี๋ยวพี่เลี้ยง"พี่เกดยังตอบกลับมาเสียงใส โดยที่ไม่เปิดเผยถึงความกังวลที่มี พี่ผมแม่ง ไม่กลัวอดบ้างหรือยังไง

"ผมซื้อเองด้ายยย"แล้วซื้อให้พี่ได้ด้วย ถ้าพูดไปโดนโกรธแน่... แถเนียน ๆ ไปแล้วกัน พี่เขาไม่รู้หรอก "พี่ซื้อของกินยัง"

"ยังเลย โทรมาเมาส์ก่อน 555"โอเค เวิร์ค งั้นผมไปเลี้ยงข้าวพี่แบบเนียน ๆ ดีกว่า (ป๋าป่ะล่ะ โด่ว) "มาป่ะล่ะ เดี๋ยวรอ"

"แปปนะพี่ ไปเดี๋ยวนี้แหละ"พี่เขาตอบรับกลับมาแล้วกดวางไป ส่วนผมก็เก็บของที่วางไว้บนโต๊ะเข้ากระเป๋า (เก็บเกมส์เข้ากระเป๋า ฮ่า ๆ) เตรียมไปหาพี่เทคคนเดียว

"จะไปหาคนที่โทรมาเหรอ"เสียงอ่อย ๆ ของคนที่ถูกผมลืมไปพักใหญ่ดังขึ้น นี่ยังไม่ไปอีกเหรอ? "งั้นเราไปตึกเรียนก่อนนะ"

"ตามสบาย โชคดีนะ"ผมโบกมือให้แล้วหันหลังเดินไปทางโรงอาหารของคณะ แต่ก็ถูกมือเรียวเล็กรั้งเอาไว้ก่อน "มีอะไรเหรอ"

"ประกวดเดือนสู้ ๆ นะ เราจะไปเชียร์"แกรนด์ยิ้มหวานให้ผมแล้วเดินไปทางฝั่งของพวกนิเทศน์ ศิลปะศาสตร์ คงเรียนคณะพวกนั้นอยู่มั้ง

แล้วเขาไม่ไปเชียร์คณะตัวเองหรือไง

ผมเดินเกาหัวไปหาพี่ในโรงอาหารอย่างงง ๆ แต่ไม่ลืมที่จะซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านป้าจุกจิกไปด้วยสองชาม เส้มหมี่ต้มยำของพี่ มาม่าต้มยำของผม

"น้องแกมาแล้วแน่ะ"พี่บิวตี้เรียกพี่เกดที่นั่งอ่านนิยายอยู่ตรงข้ามให้เงยหน้าขึ้นมา เห... วันนี้กลุ่มพี่ผมกินข้าวกันแค่สองคนเองแหะ

"อ่าว มาแล้วเหรอคี อยากกินระ... เหะ อ่าว"ถึงกับชะงักเมื่อหันมามองผม โอเค ผมหล่อ "ซื้อมาแล้วอ่อ กินเยอะนิ สองชามเลย"

"ป้าเขาทำให้ผิด ผมอยากกินมาม่า เลยเอามาทั้งสองชามต่างหากพี่"โกหกเล็กน้อย แล้วนั่งลงข้างพี่เทคตัวกลม "พี่กิดเส้นหมี่นะ ผมกินมาม่า"

"เฮ้ย บ้า พี่ไปซื้อเองก็ได้ ไม่เป็นไป คีกินเถอะ"ทำหน้าซะเหมือนโลกจะแตก แค่ผมเอาก๋วยเตี๋ยวให้เนี่ยนะ... เรื่องขี้ปะติ๋ว

"ผมไม่ชอบเส้นหมี่เท่าไหร่ ถ้าพี่ไม่กินคงได้เอาไปเท..."เท่านั้นแหละ พี่เกดดึงชามไปเลย จริง ๆ แล้วผมชอบเส้นหมี่นะ แต่ถ้าไม่พูดแบบนั้นไปพี่แกคงไม่ยอมกิน

"พี่กินเอง เดี๋ยวจ่ายคืนให้นะ"

"ไม่ต้องพี่ ชามนั้นของฟรี"เรื่องอะไรจะรับเงิน ผมปิดกระเป๋า รูดซิป ปิดนม หนีบเป้า (น่ะ คิดอะไร แค่ดึง ๆ ชิด ๆ ไม่ให้พี่แกเอาเงินมายัดคืนได้แค่นั้น "กิน ๆ ไปเถอะ เป็นเด็กดีหน่อยน่า"

"แกเด็กกว่าฉันอีก"ฮ่า ๆ มองตาเขียวเลยให้ตาย น่ะ แยกเขี้ยว (ที่ไหม่ค่อยจะมี)อีก พี่ใครวะ แหย่ง่ายดีจริง "โน้ตบัญชีไว้ เดี๋ยวจัดคืนให้ ชิ"

"หึหึ"งานนี้คีตาชนะขาดครับผม หล่อแล้วยังฉลาดอีก ใครเนี่ย (ผมเอง)

ผมนั่งคีบมาม่าต้มยำเข้าปากไป แกล้งพี่ไป สั่งพิเศษเครื่องเยอะมาน่ะฮะ (ป้าแกจัดเต็ม) เขี่ยเครื่องในใส่ชามพี่ (ไม่ชอบกินเว้ย)

"แล้วสั่งใส่เครื่องในมาทำไมวะ"พี่เกดบ่นงึมงำแต่ก็กินไป ตานี่เหล่จนจะเหล่จริงแล้วมั้งนั่น ส่วนผมน่ะนะ? แน่นอน ไม่แคร์

"อ่าว พี่ทิว หวัดดีค่ะ"พี่เกดเอ่ยทักพี่คนนึงที่ใส่เสื้อกาวน์ยาว ข้าง ๆ พี่เขามีร่างเล็ก ขาว ๆ อยู่ ใครกันน่ะ "แล้วนั่น... ใครกันอ่ะพี่"

"ฟางข้าว ของพี่เอง"พี่ทิวตอบกลับมา คนนี้เองนะเหรอ พี่ทิว ประธานคณะแพทย์ หน้าตาดีสมคำร่ำลือ ไม่แปลกใจเลยที่พี่เขาได้รับการโหวตให้ติดหนึ่งในสิบของหนุ่มในฝันของมหาลัยทุกเดือน ว่าแต่... เสียงฟังดูคุ้น ๆ ยังไงไม่รู้แหะ “เราเถอะ ไม่รีบกินข้าวเดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก”

“อาจารย์ยกคลาสส แฮ่”พี่เกดชูกำปั้นอย่างผู้มีชัย ทำเอาพี่บิวตี้หลุดขำ ไม่ค่อยเลยพี่ “นานปีมีหน เรียนจนหัวหงอกแล้ววว”

“ได้ข่าวว่าอาจารย์ยกเพราะให้ไปคุมงานเฟรชชี่ไนท์ไม่ใช่เหรอ ยัยตัวแสบ”ประธานคณะแพทย์ยื่นมือมาผลักหัวพี่เกดไม่เบา ดีหน้าไม่ทิ่มชามก๋วยเตี๋ยว “โอ๊ะ ผมหงอก”

“พี่ทิว!!”พี่ตัวกลมของผมหันไปแยกเขี้ยวใส่พี่ชายที่ยืนหัวเราะร่ากับคนตัวเล็กอย่างไม่แคร์สายตาใคร “ไปเลย มาทางไหน ไปทางนั้น ไม่ต้องมาแกล้งเลยย”

“โอ๋เอ๋ ไว้เสร็จงานเดี๋ยวพี่ไปเลี้ยงข้าวนะ”ยังไม่วายแหย่พี่ผมอีกรอบ ก่อนจะหันไปหาคนที่มากับเขา “ไปกันเถอะข้าว”

ข้าว?

เอ... เมื่อวานลุงเทคของเขาก็พูดชื่อนี้... หรือชื่อข้าวมันโหลกันนะ


หลังจากกินข้าวเสร็จ พี่เกดกับพี่บิวตี้ก็พาผมมาส่งที่ห้องแต่งตัวดาวเดือน ก่อนจะโบกมือลาไปหาที่นอน ไม่คิดจะอยู่เป็นเพื่อนกันเลย

ช่างเถอะ ดาวเดือนคณะอื่น ๆ ก็เริ่มมากันแล้ว (ไม่ขอพูดถึงดาวเทียมที่ชอบกระโจนใส่ผมนะฮะ หนาว) ทยอยแต่งตัวกันแล้วด้วย

“อ่าว คีตา มาไวจังเลยนะ”พี่กิต เดือนเทคนิคการแพทย์ปีสองเดินเข้ามาหาผมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนประจำตัวพี่เขา เป็นผู้ชายที่ดูกี่ที ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในท่วงท่าไหนก็ดูอบอุ่น และอ่อนโยน “ชุดของคีอยู่นี่แล้ว จะเปลี่ยนเลยไหม หรือรอพี่มิวมาก่อนดี”

“รอก่อนก็ได้ครับ พี่”ผมนั่งลงตรงที่พักที่ทางสตาฟจัดเอาไว้ให้แต่ละคณะได้นั่งเป็นส่วน ๆ “พี่กิตก็มาไวเหมือนกันนะครับ”

“เกดโทรไปบอกพี่ว่าคีมาแล้ว พี่เลยรีบมาน่ะ”พี่กิตนั่งลงตรงข้ามกับผม เอามือเท้าคางยิ้ม ๆ “เดี๋ยวอีกสักพักคนอื่น ๆ ก็ตามมาแล้วล่ะ”

“ฮะ”ผมนั่งทวนบทที่ต้องขึ้นแสดงในหัว การแสดงกลุ่ม ทั้งดาว เดือน ดาวเทียมต้องรวมกันแสดงครับ แล้วต้องสอบคล้องกับชุดด้วย

มองซ้าย ชุดกิโมโนประยุกต์ มองทางขวา ชุดไทยจ๋า โอ้โห มีชุดม็องดูอาของอังกฤษด้วย ให้ตาย อลังการขั้นรุนแรง

จีน ๆ อย่างพวกผมจะสู้ไหวไหมนะ

“ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ คี”พี่กิตคงเห็นผมนั่งหน้าเครียด เลยพูดให้กำลังใจขึ้นมา “เชื่อพี่ ทำในสิ่งที่เราฝึกซ้อมมาให้ดีที่สุดก็พอ”

“ขอบคุณฮะ พี่กิต”กำลังใจกลับมานิดหน่อยแล้ว เอาล่ะ เพื่อพี่ ๆ ที่คอยให้กำลังใจ คอยช่วยซ้อมจนดึกดื่น เพื่อพี่เทคที่อุตส่าห์จะอยู่ดูทั้งที่ปกติกลับบ้านไปนอนแล้ว เพื่อลุงเทคที่ผมจะมาดูผม

สู้เขา คีตา

พอพี่มิวกับโดนัท และเบนจี้ (ดาวเทียมคณะผม) มาถึงก็ได้ฤกษ์เปลี่ยนชุดเปลี่ยนเสื้อผม แต่งหน้าทำผม สารพัดสารเพ

ผมเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแต่งตัว ฝั่งผู้ชายค่อนข้างโล่งครับ ไม่ค่อยได้ใช้กันมากเท่าไหร่ บางคนก็ใส่มาเลย ไม่ก็ใส่ทับชุดที่ใส่มา

ก็ดี... ชุดแบบนี้ไม่ค่อยอยากใส่ให้ใครดูหรอก

ผมใส่ชุดเสร็จก็ออกมาข้างนอก ยังดีว่าส่วนใหญ่มักจะสนใจแต่ตัวเองกัน

“ไง”เอ่อ... มาได้ไงกันล่ะนั่น “พี่มาแต่งหน้าให้คีเองเลยน้า นั่งลง ๆ”

“พี่เกด...”แอบถอนหายใจแล้วนั่งลงตรงหน้าพี่เกดโดยดี เครื่องสำอางพี่แกมาเต็มมาก แต่ละอย่าง... มียี่ห้อซะด้วย

เอาเถอะ ยังไงพี่เขาเป็นผู้หญิง จะมีเครื่องสำอางไว้ใช้บ้างก็คงไม่แปลกอะไร (ถึงจะห้าวเป้ง เตะผู้ชายก็ตามที...)

นั่งจนตูดชากว่าพี่แกจะจัดการหน้าผมเสร็จ... ศิลปะบนหนังหน้าชัด ๆ พอกเป็นชั่วโมง ๆ ไม่รู้ว่าพวกผู้หญิงทนนั่งไปได้ยังไง

“เสร็จแล้วววว”มืออวบ ๆ นั่นปิดตลับกลม ๆ ลง ไม่รู้หรอกฮะว่ามันคืออะไร แต่รู้ว่ามันใช้ทาแก้ม “ดูดีสุด ๆ โครงหน้าผู้ชายนี่มันดีจังเลยน้า”

พี่เทคของผมลุกขึ้นไปเอากระจกบานใหญ่มาให้ดู... ไม่อยากดูเลยให้ตายสิ แต่เอาเถอะ พี่เขาอุตส่าห์นั่งหลังแข็งแต่งให้ ดูสักหน่อยก็ได้

แพขนตาหน้า ใบหน้าเรียว ผมสีน้ำตามเปลือกไม้ยาวสลวยลงมาเลยกลางหลัง อายไลน์เนอร์ที่กรีดรอบดวงตาจนคมกริบ ริมฝีปากสีกุหลาบฉ่ำหวาน

พระเจ้า! แม่ง ใครกันวะเนี่ย

“มา ๆ ทำผมอีกหน่อยก็ใช้ได้แล้วล่ะ พี่ไปยืมผมต่อเพื่อนมาให้เลยนะเนี่ย”พี่เกดแม่งยิ้มแป้นเลย... คือผมขึ้นประกวดเดือนนะ ได้ข่าว

ทำผมอีกชั่วโมง เมื่อยก้นกบจนอยากออกไปวิ่งรอบสนามฟุตบอล แต่ก็จะถึงเวลาขึ้นบนเวทีแล้ว เฮ้อ ชักตื่นเต้นแล้วสิ

“สู้ ๆ นะคี พี่ไปรอดูอยู่ข้างหน้านะ”พี่สาวทุบไหล่ผมเบา ๆ แล้วเดินตัวปลิวพร้อมกับเครื่องสำอางที่ไม่น้อยเลยในมือไปอย่างเริงร่า

มีความสุขซะจริง...

โดนัทและเบนจี้ที่แปลงโฉมจะจนพริ้งพรายเดินมารวมกลุ่มกับผม สวย ๆ กันจริง ๆ เลยนะ พวกนางเนี่ย

“สู้เขานะครับ คีตา”พี่กิตกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู แล้วเดินยิ้มออกไปข้างนอก เป็นเสียงที่ฟังแล้วอบอุ่นหัวใจดีจริง ๆ เลย ให้ตายเถอะ


“สวัสดีครับ/ค่ะ”พิธีกรจากบริหารธุรกิจและครุศาสตร์ขึ้นไปบนเวทีแล้ว โอย ตื่นเต้นชะมัดเลย ผมหันไปหาเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกสองคน พวกนั้นก็ดูท่าจะตื่นเต้นไม่น้อยเหมือนกัน

“สู้นะ”โดนัทและเบนจี้พยักหน้ารับ พวกเราต้องสู้ไปด้วยกันสามคนแล้วล่ะนะ ตอนนี้

“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พบกับการแสดงของดาว เดือน และดาวเทียมจากคณะแรก คณะสถาปัตย์กันเลยค้า”

เอาแล้ว เริ่มขึ้นแล้ว คี ทำใจสงบไว้ นายต้องทำให้ได้ นายต้องทำให้ได้

การแสดงของแต่ละคณะดำเนินกันไป เสียงกรี๊ดกร๊าดดังลอดเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นการรำประจำชาติ ไม่ก็เต้น หรือเล่นดนตรีกันครับ แน่นอนว่ามันอยู่ในการคาดเดาของพี่ที่เป็นคนคิดการแสดงอยู่แล้ว (ซึ่งผมไม่รู้ว่าใคร) การแสดงของพวกเราเลยไม่ใช่การเต้น หรือการร้องอย่างคณะอื่น ๆ เขา

ไม่ต้องถามเลยนะครับ ว่าเป็นอะไร รอดูต่อไป คณะผมเป็นคณะที่สิบ

“ต่อไปถึงคิวของคณะที่ผู้ชายเยอะที่สุดในมหาวิทยาลัยของพวกเราแล้วนะคะ”พี่พิธีกรฝ่ายหญิงพูดไปยิ้มไป “รู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าคณะอะไร”

“เอาละ ไม่ต้องมานั่งเดาอะไรกันแล้ว ขอเชิญตัวแทนจากคณะ วิศวกรรมศาสตร์เลยครับ”พี่ผู้ชายตัดบทอย่างไวเลยเว้ย ฮ่า ๆ

พวกวิศวะได้ฝรั่งเศสกันไป ชุดมาอย่างอลังการ เหมือนว่าจะถึงคอนเซปจากโรมิโอ แอนด์ จูเลียตล่ะมั้ง ส่วนการแสดง พวกเขาแสดงโอเปร่ากัน

เสียงสูงกันสุด ๆ เรื่องนี้ไม่สู้ฮะ เสียงผมสูงไม่เท่าพวกเขาหรอก เชื่อเถอะ

ต่อจากวิศวะก็เป็นนิติศาสตร์ ซึ่งผมหันกลับมาทำสมาธิกับตัวเอง ไม่สนใจแล้ว ทวนความจำครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องทำอย่างที่ฝึกซ้อมมาตลอดให้ได้

“เอาล่ะค่ะ ต่อไปก็เป็นคิวของคณะที่ผู้หญิงน่ารัก ๆ เยอะติดอันดับอีกคณะหนึ่งแล้วนะคะ”พวกผมลุกขึ้น ไปยืนรอกันข้างเวที
ใช่แล้วครับ ถึงคิวของพวกเราแล้ว

“ขอเชิญตัวแทนคณะเทคนิคการแพทย์ ขึ้นมาทำการแสดงได้เลยครับบ”

สิ้นเสียงของพิธีกร โดนัทแล้วเบนจี้ก็ขึ้นไปก่อน ส่วนผมยังยืนรออยู่ข้างล่าง รอเวลาที่จะขึ้น

“พี่เอี้ยง้วย ข้าไม่อยากที่จะสังหารใครอีกแล้ว”เสียงของโดนัทดังก้องมาจากลำโพง ร่างบอบบางค่อย ๆ ทรุดกายลง มือเรียวเล็กนั้นปิดหน้าปิดตา ทำท่าสะอื้น “การฆ่าคนมันช่างทรมานเหลือเกิน”

“เลี้ยงแช เจ้ารู้ดี พวกเรามีชีวิตอยู่เพื่อสังหารชายทรยศในใต้หล้า คนอย่างพวกมัน สมควรตายนัก”เบนจี้นี่ยิ่งเข้าอารมณ์ มันสะบัดชุดพลิ้ว ๆ ที่ชายยาวลากพื้นให้โบกสะบัดกลางเวที

“แต่ข้า...”

“พอได้แล้ว ไปสงบสติอารมณ์ซะ เลี้ยงแช”เอี้ยง้วยไม่คิดที่จะฟังเสียงของผู้ที่เป็นน้องสาว นางเดินกลับเข้าไปในวัง สถานที่ซึ่งมีแต่สตรีเท่านั้นที่จะเข้าไปได้

“พี่ข้า... ถ้าท่านไม่หยุดที่จะทำความชั่ว... ข้าคงต้องทำให้ท่านหยุดเอง”ร่างที่ทรุดอยู่กับพื้นนั้นลุกขึ้นมา ดวงตาหวานฉ่ำที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตานั้นประกายแววมุ่งมั่น

ถึงคิวผมแล้ว

ผมก้าวขึ้นไปบนเวที เสียงฮือฮาดังขึ้น ส่วนใหญ่คงสงสัยว่าเดือนคณะไปไหน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมจะสนใจในตอนนี้

“ท่านพี่บุญธรรม เอาจริงหรือครับ”ในบทที่ผมได้รับคือ เป็นปิงฟา น้องบุญธรรมลับ ๆ ของรองประมุขวังบุปผา ซึ่งต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงไปสังหารเอี้ยง้วย

“ใช่... ข้าไม่อาจที่จะทนเห็นท่านพี่ทำความผิดไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว... และตัวข้าเองก็ไม่อาจที่จะฆ่าใครได้อีก”น้ำตา(ปลอม) ไหลรินลงมาอย่างน่าสงสาร เล่นได้เนียนขั้นเทพเลย “ข้าสัญญากับเขาไว้แล้ว ข้าจะไม่ฆ่าใครอีก... และข้าไม่อยากผิดต่อเขาอีกแล้ว”

เขาที่ว่าคือคนรักที่เลี้ยงแชนั้นฆ่าเองกับมือ ด้วยคำสั่งของผู้เป็นพี่สา และนั่นสร้างบาดแผลในใจของเธอเป็นอย่างมาก (ทำไมผมต้องมากำกับเนื้อเรื่องด้วยเนี่ย)

“ครับ ท่านพี่บุญธรรม ข้าจะทำตามที่ท่านต้องการ”โดนัทลงจากเวทีไป ส่วนผมทำเป็นเดินวนเวียน แล้วก้าวเข้าไปในวังบุปผา

“เจ้าเป็นใคร”เสียงอันทรงอำนาจดังขึ้นจากบนบัลลังก์ เอี้ยง้วยมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาที่นิ่งเฉย “มีธุระอะไรกับวังบุปผา”

“ข้าอยากให้ท่านไปจัดหารเจ้าคนทรยศให้กับข้า”ผมบีบเสียงให้เล็ก แล้วพูดหลอกล่อให้เอี้ยง้วยตายใจ (ตามบท) “มันทำร้ายข้า หลอกให้ข้ารัก และจากข้าไป”

“ชายทรยศต้องถูกกำจัด”เบนจี้ลุกขึ้นแล้วเดินไปหน้าเวที ชุดนี่แม่งยาวลากตังแต่บนบัลลังก์ (ปลอมๆ) นั่น จนถึงหน้าเวทีเลยวุ้ย
แล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมจะชักดาบออกมา พุ่งเข้าไปแทงอก (รักแร้หนีบ) ของเอี้ยง้วยให้สิ้นใจลงไป

“พอกันทีกับความโหดร้ายของท่าน เอี้ยง้าย”ผมดึงเครื่องประดับผม และผมต่อออก พร้อมกับเช็ดหน้าเช็ดตา (คร่าว ๆ ด้วยทิชชู่เปียกที่พกมา) หน้าหล่อ ๆ ได้เผยออกมาแล้ว

เสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือชอบใจดังกระหึ่ม

“ท่านพี่”เลี้ยงแชร์วิ่งชุดโบกสะบัดขึ้นมา กอดร่างของพี่สาวตนเองไว้แนบแน่น “ข้าขอโทษ ท่านพี่ ข้าไม่อาจที่จะให้ท่านฆ่าใครได้อีกแล้วจริง ๆ”

“เลี้ยง... แช”

แสงไฟสว่างวาบขึ้น จบการแสดงแล้วล่ะครับ เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พิธีกรทั้งสองขึ้นมาบนเวทีด้วยรอยยิ้ม

“จบไปแล้วนะคะ กับการแสดงของเทคนิคการแพทย์ มาเป็นละครเวทีกันเลยทีเดียว”

“ใช่แล้วครับ แหม่ ผมนี้ตกใจแทบแย่ตอนที่น้องคีดึงผมต่อออก แต่หน้าได้สวยจริง ๆ คงเป็นที่ลำบากใจของคณะกรรมการแล้วล่ะครับ”

“นั่นสิคะ ขอเสียงปรบมืออีกครั้ง ให้กับตัวแทนจากคณะเทคนิคการแพทย์ด้วยค่ะ”

พวกเราเดินลงจากเวทีกันมาอย่างแข็ง ๆ อ่อนแรงกันเลยทีเดียว มันจบแล้ว.. ในที่สุดก็จบแล้ว เหลือแค่ประกาศผลอย่างเดียว
โล่งชะมัดยาก

“เก่งมาเลยครับ น้อง ๆ”พี่กิตยังคงไวกว่าคนอื่นเขาเสมอ เดินปรบมือเข้ามา พร้อมด้วยรอยยิ้มและตาสระอิของเขา “มา ๆ ไปเปลี่ยนเป็นชุดราตรีกันเถอะครับ”

คลานไปเปลี่ยนชุดอย่างอ่อนใจ โอย ผมเห็นแวบ ๆ ว่าประธานคณะแพทย์ยกนิ้วโป้งให้พวกผมด้วย แอบดีใจลึก ๆ เหมือนกันนะเนี่ย

หลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จ ทำอะไรเสร็จ การประกวดบนเวทีก็จบลงแล้ว เป็นการแสดงคั่นเวลา ก่อนจะประกาศผลว่าใครจะได้ตำแหน่งอะไรไป

X-band เปิดฉากด้วยเพลงร็อกสุดมันส์ กระโดดโลดเต้นกันไปหลายเพลง จนหอบแดง ก่อนที่พวกเขาจะลงกันไป ถ้าไม่ลงคงได้มีคนเป็นลมกันบ้างล่ะครับ

ต่อมาเป็นการแสดงของพี่ ๆ แต่ละคณะ เริ่มมาด้วยสาวงาม(ประเภทสอง) ซึ่งมาพร้อมเพลง I will survive เพลงประจำชาติของพวกเขา ในชุดคาบาเล่...

เป็นการแสดงที่เรียกทั้งเสียงฮา และเสียงกรีดร้องได้ดีมาก ๆ เลยฮะ แต่ความสุดยอดคือ พี่ผู้ชายต้องเป็นคนร้องเพลงแน่ ๆ

แต่ละเพลงที่พี่ ๆ เขาเลือกกันมานี่ ยกนิ้วให้เละ มี Bad Romance ของ Lady gaga ด้วย พี่ที่แสดงก็เต้นกันสุดเหวี่ยงไปเลย

อยู่ ๆ ก็มีพี่สองคนเดินขึ้นมา พร้อมกับไมค์และขาตั้งไมค์สองตัว

เสียงทำนองเพลงประกอบละครขื่อดังที่เมื่อตอนจบถนนโล่งขึ้นรุนแรงดังขึ้น ทุกคนจดจ้องบนเวลากันอย่างตื่นเต้น

“เสียใจคนๆ นี้ไม่ใช่ของเธอ
ได้โปรดอย่ามาข้องแวะกันอีก ฉันหวังว่าคงเข้าใจ
เพราะมันคือสิทธิ์ของฉัน ที่จะเรียกร้อง
ขอให้เธอจงไปไกลๆ ไม่ต้องมาเจอ
อย่ามาใกล้เขา..ได้ไหม”เห... เสียงทุ้มหวานของผู้ชาย พี่ที่ขึ้นมาแสดงเป็นผู้หญิง อย่างสวยสองคน (คนนึงเคยเป็นคู่นอนผมด้วย ลีลาพอได้)

เสียงกรี๊ดดังกระหึ่ม ผมว่ากรี๊ดเสียงคนร้องมากกว่าคนเต้นบนเวทีนะ

“เสียใจคนอย่างฉันก็มีหัวใจ
ก็เจ็บก็ทนได้เหมือนกับเธอ
ฉันหวังว่าคงเข้าใจ
ถ้าเธอจะมาเรียกร้อง ให้เข้าใจเธอ
แล้วฉันล่ะจะเป็นยังไง
เมื่อไม่มีใคร เธอจะเจ็บแทนฉันไหม”เสียงคุ้น ๆ ผมว่าคุ้นมาก.. แต่นึกไม่ออกว่าใคร เหมือนเป็นเสียงที่ได้ยินอยู่บ่อย ๆ ด้วยซ้ำ

การแสดงยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ก่อนที่จะมาจบลงที่เพลง balloon ของ ดงบังชินกิ พี่ ๆ ที่ขึ้นมาเต้น เต้นกันน่ารักเลย ฮ่า ๆ เป๊ะ ๆ

“เอาล่ะครับ ถึงเวลาสำคัญของค่ำคืนนี้กันแล้ว”พี่พิธีกรขึ้นไปบนเวทีแล้ว “ขอเชิญดาว เดือน และดาวเทียมของแต่ละคณะขึ้นมาบนเวทีด้วยครับ”

ผมเดินขึ้นไปบนเวที โดยทีเบนจี้ควงทางซ้าย และโดนัทควงทางขวา ไปยืนอยู่เกือบกลางเวที

“ต่อไปนี้ เราจะประกาศผมรางวัลต่าง ๆ กัน โดยเริ่มจาก ขวัญใจช่างภาพฝ่ายชายก่อนนะคะ”พี่ผู้หญิงพูดขึ้นบ้าง แล้วเปิดซองออกมา “ขวัญใจช่างภาพฝ่ายชาย... นายธนชัย จากคณะเภสัชศาสตร์ค่ะ”

เสียงปรบมือดังลั่นห้องประชุมใหญ่ คนที่ได้รางวัลจะได้โล่ และสายสะพายน่ะครับ

ชุดแต่งกาย วิศวะได้ไปด้วยความอลังการงานสร้างของพวกเขา

การประกาศรางวัลดำเนินไปอย่างเข้มข้น ตอนนี้ประกาศถึงดาวเทียมแล้ว เบนจี้กำแขนผมแน่น โอเค รู้แล้วว่าตื่นเต้น แต่ผมเจ็บ

และแล้ว เบนจี้ก็ได้รางวัลที่สามมาครอง ไม่อาจสู้กับแพทย์และบริหารได้จริง ๆด้วย แต่ถึงอย่างนั้นแม่คุณก็หน้าบานเป็นกระด้งแล้วล่ะ

มาถึงดาว ที่สาม คณะนิตาศาสตร์ได้ไปครอง มือของโดนัทเย็นเชียบเลยนะเนี่ย

“เราจะมาประกาศรองดาวมหาวิทยาลัยของเรากันเลยนะคะ รองดาวของเราได้แก่... นางสาว ศิริรัตนา จากคณะเทคนิคการแพทย์ค่ะ”โดนัทเดินออกไปรับรางวัลดวงใบหน้ายิ้มแย้ม แล้วกลับมายืนกลับผมเหมือนเดิมพร้อมกับรางวัลในมือ

ส่วนตำแหน่งดาว วิศวกรรมศาสตร์ได้ไปฮะ สุดเซ็งเลย

ถึงคิวผมตื่นเต้นบ้างแล้ว ก็นะครับ เดือนมหาลัยแล้ว ตามประวัติคณะเทคนิคการแพทย์ของพวกเรา ไม่เคยได้ตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยสักครั้ง

แล้วผมจะได้ไหมเนี่ย... รองเดือนมหาวิทยาลัย วิศวะได้ไปครองแล้วฮะ จะได้ตำแหน่งอะไรเยอะแยะขนาดนั้นกันวะ แม่ง

“ต่อมาก็ถึงการประกาศเดือนมหาวิทยาลัยกันแล้วนะคะ... เดือนมหาวิทยาลัยของเราในปีการศึกษานี้ก็คือ... นายคีตา จากคณะเทคนิคการแพทย์ค่ะ”

เฮ้ย!!! ผมได้เดือน จริงอ่ะ ไม่ได้หูฝาดใช่ไหม? โดนัยและเบนจี้ผลักผมให้เดินออกมารับรางวัล ซึ่งผมก็รับไปอย่างงงๆ ท่ามกลางเสียงกรี๊ด

ผมเป็นเดือน... จริงอ่ะ?!

คนแรกของคณะเทคนิคการแพทย์... ผมทำได้แล้ว!!

****************************************

คลานมาต่อค่ะ 555 จริง ๆ กะจะเก็บไว้ต่อวันเสาร์ พอดีวันนี้วันเกิดพี่ชายเลยมาลงฉลองหน่อย แอบห้วน ๆ ไปเยอะกับตอนนี้ (แต่ก็เล่นไป 7 หน้าA4) ขอโทษทีนะคะ เอาไว้มีโอกาสจะมาแก้น้า

 :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 26-11-2014 18:34:46
จิ้มมมมมมม 555 ไปอ่านก่อนนะคะ
.
.
โอ้ยยยย คีตาดูน่ารักขึ้นมาทันที นี่จะเป็นแม่ยกเรื่องนี้ทั้งเรื่องแล้วนะคะเนี่ย  :กอด1:
ผู้ชายเทคนิคการแพทย์นี่น่ารักจังเลยน้า ทั้งลมหนาวทั้งคีตา   :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-11-2014 21:51:16
คีตามุ้งมิ้งไปเลย แล้วจะให้คู่ใครล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-11-2014 22:40:55
คีตามุ้งมิ้งไปเลย แล้วจะให้คู่ใครล่ะเนี่ย

คู่ของคีตาออกมาแล้วนะคะ 555 เดาไม่ยากก
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 26-11-2014 22:42:36
เปิดตัวมาแบบมาดแมน
แต่ไหงมาทำตัวมุ้งมิ้งได้ล่ะเนี่ย 555
ออร่านายเอกแผ่กระจายมากอะ

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 26-11-2014 22:54:12
คีตาได้เป็นเดือนมหา'ลัยด้วย
พี่กิตต้องชอบคีตาแน่ๆเลย :hao3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Crown ที่ 27-11-2014 02:45:04
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 27-11-2014 09:25:22
เอ่อ น้องคีเราแมนมากนะคะ 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 27-11-2014 11:11:13
คือ ทำไมคีนางดูมุ้งมิ้งแปลกๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 27-11-2014 11:25:34
ขอบคุณก๊าบบบบบบ ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: mintmiko ที่ 27-11-2014 13:12:19
อุ๊ปปปส์..... ประกวดดาวเดือนนี่เจ๊ากันสินะ ฮิฮิ~ อย่างนี้ต้องรอลุ้นอย่างอื่นมั้ยหว่าาา ตื่นเต้นมากจริงๆ อ่านแล้วนึกไปถึงสมัยยังเป็นเฟรชชี่ ถึงจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม อืมม ฟินทุกคู่เลยจริงๆ น่ารักมากๆ แต่งได้เข้าถึงอารมณ์มหาลัยได้ดีสุดๆไปเลย เรื่องราวมันจริงมากๆ ประหนึ่งเราเป็นผู้ร่วมเหตุการณ์ ขอยกนิ้วให้ และขอยกเหล้าให้ผู้แต่งจอกหนึ่ง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 27-11-2014 14:30:27
อั๊ยย่ะ คีนางดุมุ้งมิ้งมากอ่ะ เลิศค่ะ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 27-11-2014 17:01:19
พี่กิตใช่ไหม เเฟนคีตา งั้นคีตา เป็น รับ!! อ๊ากกกก ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 27-11-2014 19:30:32
น่าติดตามมากจ้า ลุ้นๆต่ออยากอ้านต่อมากมายยย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: green1313 ที่ 27-11-2014 23:56:29
แล้วคีตาจะเป็นยังไงต่อไปหละเนี๊ย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: saranya ที่ 28-11-2014 02:50:28
ชอบค่ะ ลงน้องสนุกดี5555(เราซาดิสไปปะ?- -)  :z6:

อ่านแล้วนึกถึงตอนเป็นน้อง เป็นน้องสบายสุดแล้วค่ะ เป็นพี่เดี๋ยวก็รู้เอง เหอะๆ= =  :jul1:

ชอบพี่วาก  :-[ (ถึงบทจะน้อยนิดก็เถอะ ) :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: //

คนอื่นๆก็เฉยๆอะ// เบื่อหนาวดำเนินเรื่องแล้วอะT^T

FC พายุ รักดียวใจเดียวว   :m1: :m1:
มาต่อเร็วๆนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะไรท์><
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 28-11-2014 17:36:11
ชอบค่ะ ลงน้องสนุกดี5555(เราซาดิสไปปะ?- -)  :z6:

อ่านแล้วนึกถึงตอนเป็นน้อง เป็นน้องสบายสุดแล้วค่ะ เป็นพี่เดี๋ยวก็รู้เอง เหอะๆ= =  :jul1:

ชอบพี่วาก  :-[ (ถึงบทจะน้อยนิดก็เถอะ ) :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: //

คนอื่นๆก็เฉยๆอะ// เบื่อหนาวดำเนินเรื่องแล้วอะT^T

FC พายุ รักดียวใจเดียวว   :m1: :m1:
มาต่อเร็วๆนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะไรท์><


จ่ายค่าตัวหนาวไว้เยอะ ต้องใช้ให้คุ้มค่ะ 5555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 28-11-2014 18:44:38
 :ling1: :ling1: :ling1:

มาต่อได้แล้วน๊า  รออ่านอยู่  อิอิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 29-11-2014 21:40:40
ตอนต่อไปเป็นลมหนาวดำเนินเรื่องนะคะ ถัดไปจะเป็นพี่ทิวค้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 30-11-2014 20:05:37
แวะมาเม้นเบาๆค่ะ
จะเอาปันๆ 55 อยู่ๆก็ชอบนางตั้งแต่ตอนที่ลมหนาวบรรยายแล้วค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 30-11-2014 22:58:44
คีตามุ้งมิ้ง สปีชีส์เดียวกับลุงเทคสินะ แต่ลุงเทคแลดูแมนกว่าก็เถอะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 01-12-2014 15:43:33
ตอนต่อไปพบกันวันที่ 3 นะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: I-Icezz ที่ 01-12-2014 21:17:53
คู่ของคีตาคือพี่กิตใช่ม๊าาา
รอตอนต่อไปน้ะค้าาา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 02-12-2014 03:13:07
อ่านแล้วนึกถึงบรรยากาศตอนอยู่หมาลัยเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่10 เฟรชชี่ไนท์(คีตา)P.6[26/11/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-12-2014 12:27:42
คืนนี้เจอกัน ตอนที่11 นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-12-2014 20:54:57
วันที่สิบเอ็ด

เช้าวันที่สดใส หลังจากจบงานเฟรชชี่ไนท์ไป คณะผมได้เดือนคณะมาครองจากเงื้อมมือของหลานเทคคนเก่งของผมเอง

อยากเข้าไปแสดงความยินดี แต่ยังทำไม่ได้ ได้แต่ฝากน้องไปแสดงความยินดีเท่านั้น รอก่อนนะ ไว้พี่คนนี้ตะไปแสดงความยินดีหลังปลดแล้ว

ถึงแม้ว่าพึ่งจะผ่านเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เดือนมหาลัยครั้งแรกของคณะไป และผลรวมการแข่งดาวเดือนจะออกมาเสมอกับพวกวิศวะ ทำให้ไม่ขายหน้าก็เถอะ แต่ก็ถึงเวลาหนัก ๆ อีกแล้ว กับกิจกรรมที่สำคัญที่สุดของการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยxxx

กิจกรรมชิงธง...

จนถึงวันนี้น้องก็ยังร้องเพลงให้จบไม่ได้เลย ทั้งที่พี่ปี 2 ช่วยฝึกฝนมานานแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นมีผลสัมฤทธิ์ให้ได้ชื่นใจ

ทำไมเด็กปีนี้ดื้อดึงกันจังเลยวะ ไม่เคยให้ความร่วมมืออย่างที่ควรจะเป็น มันคงได้เวลาใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดแล้วสินะ

ต้องไปเสวนากับว๊ากของวิศวะอีกแล้วเหรอเนี่ย... เหนื่อยใจขึ้นมาตงิด ๆ ผมขี้เกียจไปถกเถียงกับหมอนั่นชะมัดเลย
ช่างเถอะ ปีเดียว ทนไป เดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว

เจอหมอนั่นยังไม่น่าปวดหัวเราเรื่องของหมอพี่ทิว ไม่รู้คิดอะไรไปทำป๋า เก็บเด็กมาเลี้ยง เห็นแวววุ่นวายแปลก ๆ แน่
สงสัยต้องเอาพารามาเตรียมไว้หน่อยแล้วมั้ง

บุกลุยสู่ตึกวิศวะอีกครั้ง หลังจากที่ได้มาไปเมื่อไม่นานมานี้ แน่นอนว่าสายตาของคนในคณะย่อมมองมาทางคู่อริของพวกเขาอย่างผม

มองไปดิ ใครสน ทำธุระเสร็จก็จบ

แต่ก็นะครับ ดีกรีวินัย ไม่ว่าจะอยู่คณะไหนก็มีคนเกรงใจอยู่ตลอด วินัยแต่ละคณะจะมีการติดต่อกันเองน่ะครับ ถ้าเจอน้องคณะไหนทำตัวห่วย ๆ ก็แจ้งวินัยคณะนั้นจัดการ ไม่งั้นเราคงไม่รู้ว่านอกสายตาน้องทำตัวยังไง จริงไหม ?

เอาล่ะ รู้สึกจะอยู่ห้องแถวนี้แหละถ้าผมจำไม่ผิด ให้พลอยไปบีบคอน้องวินัยปีสองวิศวะมา คงไม่พลาด... ยกเว้นถ้ามันแกล้ง (ผมจะเอาฟอมารีนยัดปากมัน)

"พี่ยุ เสาร์นี้ไปดูหนังกันไหมคะ"ผมว่าผมเจอคนที่ต้องการคุยด้วยแล้ว แต่ดูท่าจะไม่ว่างคุยกับผม... แต่ผมรีบ เดี๋ยวต้องกลับไปรีดเสื้อด้วย

"เรื่องอะไรล่ะ น้ำหนึ่ง"น้ำหนึ่ง ใช่เด็กปีสองของกายภาพหรือเปล่านะ คุ้น ๆ อยู่ แต่อาจจะชื่อโหลก็ได้ หมอนั่นคบกับเด็กสถาปัตถ์อยู่นี่น่า (รู้ ๆ กันอยู่นะครับว่าสายสุขภาพอย่างพวกเราจะไปถูกกับวิศวะ ที่ผ่านมาแทบไม่มีใครคบเชิงชู้สาวกันเลยด้วย)

“ไม่รู้เหมือนกัน ไปเลือกที่หน้าโรงก็ได้นี่น่า”เสียงใส ๆ นั่นยังคงพูดเจื้อยแจ้ว ผมว่าอีกนาน... ขอเสียมารยาทเข้าไปขัดแล้วกันนะ

ผมเปิดประตูเข้าไปเบา ๆ น้องน้ำหวานกายภาพจริง ๆ ด้วย แต่เอาเถอะ เรื่องของเขา ชีวิตเขา ผมไม่ก้าวก่าย น้องเขาหันหน้ามาทางผมแต่ก้มหน้าอยู่ ส่วนพายุนั่งหันหลังให้ผม

“แล้วตกลงว่าพี่ยุว่างไปดูกับหวานไหมคะ”ฝ่ายหญิงโค้งตัวเข้าไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงหน้า ใกล้เกินไปไหมนั่น... หรือว่าผมหัวโบราณกัน? “มีงานรับน้องที่ต้องจัดการหรือเปล่า”

“ก็ว่างอยู่นะ... เฮ้อพูดแล้วก็เซ็ง ไม่รู้ว่าจะต้องไปลงน้องอีกนานแค่ไหน จะไปไหนก็ต้องมาวางมาดขรึม อึดอัดสุด ๆ แล้วยังต้องมาลงคู่กับหุ่นยนต์ที่ตั้งโปรแกรมไว้แล้วอย่างลมหนาวอีก น่าเบื่อชะมัด”ถ้าจะนินทากันระยะประชิดขนาดนี้ หน้าชาเบา ๆ เลยล่ะครับ ฮะ ๆ ไม่พูดต่อหน้ากันเลยล่ะวะครับ “ลงไปก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นสักนิด ตะโกนเสียงแหบเสียงแห้งแต่น้องก็เหมือนเดิม ทำไปเหนื่อยเปล่า ๆ หน้าที่ว๊ากเนี่ย มีแต่เสียกับเสีย ไม่เห็นได้รับอะไรสักอย่าง มีแต่โดนน้องเกลียด โดนน้องนินทา เก็บเอาไปหัวเราะลับหลัง”

“ถ้าพี่ลมหนาวได้ยินคงโกรธน่าดูนะคะ คิก ๆ”ใช่ ผมโกรธ โกรธมากด้วย

“จุ๊ ๆ ไว้สิ เรารู้กันแค่สองคน”

“ขอโทษด้วยที่พวกคุณคงไม่ได้รู้กันอยู่แค่สองคน...”สุดจะทน ว่าผม ผมทนได้ เพราะยังไงเมดเทคกับวิศวะก็ไม่เคยมองกันในแง่ดีอยู่แล้ว แต่การที่มาพูดแบบนี้ทั้งที่อยู่ในตำแหน่งของวินัย อีกทั้งยังเป็นประธานวินัยของคณะอีก ผมทนไม่ได้ “ถ้าคุณไม่อยากทำก็ลาออกจากว๊ากไปสิครับ”

พายุกับน้ำหวานหันมามองผมอย่างตกใจ คงไม่คิดว่าผมจะมาเงียบ ๆ แบบนี้ ไม่สิ คงไม่คิดว่าจะเจอผมในตึกวิศวะโดยที่ไม่มีใครมาบอกก่อนล่ะมั้ง

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมจะสนใจ

“ถ้าไม่อยากทำ ก็ไม่ต้องทำ คุณไม่ลง ผมลงเอง คุณไม่อยากไปควบคุมน้องไม่ให้ออกนอกระเบียบ เบื่อ เหนื่อย ก็เลิกไปซะ ไม่ต้องฝืนใจทำมัน น้องของเทคนิคการแพทย์และวิศวกรรมศาสตร์ 1897 ชีวิต ผมและเพื่อนจะคุมเอง”ผมเอ่ยด้วยเสียงที่เรียบเฉย และจ้องมองด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า “ตั้งใจว่าจะมาคุยเรื่องงานชิงธงกับคุณ แต่มันคงไม่จำเป็นแล้ว หลังจากนี้ผมจะทำทุกอย่างเองโดยที่ไม่บอกเล่าคุณก่อนตามมารยาทที่สมควร”

“เฮ้ ลมหนาว”ผมไม่อยู่ฟังอะไรทั้งนั้น พูดเสร็จก็เดินออกมากดลิฟต์ลงทันที เหมือนเห็นที่หางตาว่าหมอนั่นตามออกมา แต่ขอโทษที ผมมั่งใจในฝีเท้าตัวเองมาก ผมเดินได้ไวพอที่หมอนั่นต้องวิ่งตาม (เห็นอย่างนี้ผมก็วิ่งรอบสนามฟุตบอลทุกวันนะ เช้าห้า เย็นสิบ ถ้าอารมณ์เซ็ง ๆ ก็วิ่งไปเรื่อย ๆ)

ออกจากลิฟต์มาก็เดินกลับคณะโดยตัดผ่านคณะแพทย์ ซึ่งในสายสุขภาพเป็นคณะที่อยู่ใกล้วิศวะที่สุด ตอนนี้ผมควรไปสงบสติอารมณ์ ก่อนที่จะเหวี่ยงอะไรออกมา

เดินก้าวฉับ ๆ รวดเดียวถึงคณะโดยไม่มอง ไม่รับไหว้น้องสักคน แบบนี้ไม่ดีหรอกครับ แต่ถ้าให้หยุดมองน้อง มีหวัง น้องช็อคตายแน่ ๆ

“อ้าว หนาว...”พี่ทิวเอ่ยทักผมมาแต่ไกล แล้วเดินเข้ามาหา พร้อมกับฟางข้าวของพี่เขา มาที่คณะผมทำไมหว่า “หงุดหงิดมาเชียว เกิดอะไรขึ้นล่ะ หืม”

“ได้ยินเรื่องที่น่าหงุดหงิดมานิดหน่อยน่ะครับ”ผมสูดลมหายใจลึก ๆ เข้าออก เข้าออก ให้อารมณ์ที่มันพลุ่กพล่านอยู่นี้สงบลงไปสักหน่อย เคยไหมครับ เวลาหงุดหงิด หือโมโหอะไรมาก ๆ แล้วไม่อยากจะไปลงที่ไหน หายใจลึก ๆ สิบครั้งแล้วมันจะเบาบางลงไปเยอะเลย ถ้าไม่เคยเวลาหงุดหงิดก็ลองดูนะครับ มันได้ผลจริง “แต่ช่างมันเถอะครับ ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเอามาใส่ใจอะไร”

“แต่พี่หนาวก็ใส่ใจมันไม่ใช่เหรอฮะ”ฟางข้าวพูดกับผมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ดวงตาคู่โศกนั่นฉายแววเป็นห่วงเป็นใย “ไม่อย่างนั้นพี่ก็คงไม่หงุดหงิดจนสังเกตได้แบบนี้”

“ก็นิดหน่อยน่ะ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับวินัย พี่เลยอดที่จะรู้สึกไม่ดีไม่ได้”ได้รู้จักกับฟางข้าวมาหลายวันพอดู ผมก็พอรู้แล้วล่ะครับว่าทำไมพี่ทิวถึงยึดตัวน้องคนนี้เอาไว้ ไม่ปล่อยให้ห่างสายตามากนัก บุคคลประเภทน้องสาวน้องชายเป็นคนที่พี่ทิวแพ้ทาง ต้องยื่นมือเข้าไปดูแลตลอด

สมกับอนาคตหมอเด็กจริง ๆ (แต่ก่อนหน้าที่เขาจะบอกผมว่าจะต่อเฉพาะทางเป็นกุมารแพทย์ เขาตั้งใจจะเรียนศัลยแพทย์...)

“ปล่อยมันไปเถอะฮะ เครียดไปเดี๋ยวหน้าแก่เป็นอาจารย์ป้ามาลัยไม่รู้ด้วยนะฮะ”คราวนี้ผมเลยอดที่จะหลุดยิ้มไม่ได้ ถ้าเป็นคนอื่นพูดก็คงอาจจะเฉย ๆ นะครับ แต่ฟางข้าวเขาไม่พูดอย่างเดียว ออกท่าออกทางสยองขวัญด้วย ผมแค่ยิ้ม แต่พี่ทิวแกนี่ขำเลย

อาจารย์ป้ามาลัยเป็นอาจารย์สอนวิชาเลือกเสรีน่ะครับ จริง ๆ แกก็ไม่ได้แก่อะไรมากมายนะ แต่หน้าตากับนิสัยแก้กินวัยแรงไปหน่อย เลยโดยเรียนกลับหลังแบบนี้

ผมก็เรียก ฮ่า ๆ

“ลมหนาว!”เสียงที่ไม่อยากได้ยินดังเข้าโสตประสาท ตามมาถึงคณะเทคนิคการแพทย์ของผมเลยนะ เหอะ “เราต้องคุยกัน”

“ผมไม่มีอะไรต้องพูดกับคุณแล้ว คุณพายุ”อย่าคิดว่าผมเป็นนางเอกนิยายตาหวานที่พอเพื่อนชาย (?) คนสนิทของเธอที่กำลังโกรธเดินมาแล้วจะสะบัดตัว รีบวิ่งหนีไปให้อีกฝ่ายวิ่งตามไปกระชากมากอดก่อนแล้วค่อยคุย ชีวิตจริงใครจะบ้าทำแบบนั้น ต่อให้เป็นผู้หญิงก็เหอะ “ผมได้พูดไปหมดแล้ว และผมก็ไม่มีเหตุจำเป็นต้องคุยกับคุณ”

“แต่ผมมีเรื่องที่จะต้องพูดกับคุณ”พายุกระชายแขนผมอย่างแรง ถ้าเป็นผู้หญิง หรือคนตัวเล็ก ๆ ที่ดูไม่น่าจะได้ออกกลังกายอย่างข้าวก็คงปลิวไปตามแรงนั่นแล้ว แต่ผมไม่ บอกแล้ว ผมเล่นกีฬาอยู่เสมอ แรงแค่นี้จิ๊บ ๆ “และคุณจะต้องฟังผม”

“ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฟังคุณ”ผมกับพายุจ้องตากันเขม็ง เอาให้ตาถลนกันไปข้าง แต่ผมจะไม่ฟังคนที่ดูถูกความเป็นวินัย ทั้งที่ตัวเองก็ดำรงตำแหน่งนี้อยู่แน่ ๆ

“หนาว คุยกันดี ๆ อย่ามีเรื่อง”ลืมไปเลยว่าพี่ทิวอยู่ตรงนี้ด้วย พี่เขายิ่งไม่ชอบให้มาทะเลาะกันต่อหน้าเขาอยู่ “เคลียร์ให้มันจบ ๆ ไป เดี๋ยวก็เครียดจนทรุดอีก”

หูฟังพี่ทิวพูด แต่ตายังจ้องตาอีกฝ่ายอยู่ ผมไม่ยอมลงง่าย ๆ แน่กับเรื่องนี้ ต่อให้ต้องเครียดลงกระเพาะ แอดมิดเข้าโรงบาลอีกก็ตามที

“หนาว!”พี่ทิวเริ่มขึ้นเสียงแล้ว เอาแล้วไง บทโหดมาอีกแล้ว ผมไม่อยากจะเสวนากับคนตรงหน้าแม่งเลยสักคำ “อย่าให้พี่โมโหนะ”

“ตามผมมา”ผมเดินคอตั้งไปข้างแลปโดยมีลูกไก่พายุเดินตามมากด้วย ให้ห่างจากรัศมีหูของพี่ทิวสักหน่อย... ตอนแรกกะว่าจะให้ห่างตาด้วยเลย แต่ไอ้สายตาพิฆาตที่ส่งมานั่นทำให้ผมต้องเปลี่ยนความคิดเล็กน้อย “คุณมีอะไรจะพูดก็ว่ามา”

“ผมไม่ได้ไม่อยากเป็นว๊าก”จะมาแก้ตัว? เพื่ออะไร กับผมที่เป็นคณะคู่อริ จะให้เข้าใจอะไร ยังไงมันก็ไม่ได้น่าสนใจอยู่แล้วนิ “ผมไม่ได้ฝืนใจกับหน้าที่นี้”

“...”ไม่โต้ตอบอะไร แต่ผมรู้ว่าสายตาผมฉายแววไม่เชื่อถือคู่สนทนาจนเห็นได้ชัดแน่ ๆ

“ที่สำคัญ... ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่าคุณแบบนั้นด้วย”คราวนี้หมอนั่นหลบตาผม ไม่สบตาเหมือนกับตรงแรก เสียงก็ฟังดูอ้อมแอ้ม “ผมแค่หลุดไปเพราะความคะนองปาก จริง ๆ แล้วได้ลงว๊ากกับคุณมันก็ดี...”

ผมยืนฟังและไม่คิดจะโต้ตอบอะไร อยากให้ฟังก็ฟังให้แล้ว จบเมื่อไหร่ก็ไป

“ผมยังอยากเป็นว๊าก ลงน้อง ทำให้น้องรักกัน ทำให้น้องมีระเบียบวินัยในตนเองอยู่ ไม่ได้จะทิ้งหน้าที่ไป ถึงผมจะรู้สึกเบื่อเพราะน้องไม่คิดที่จะขยับตัวทำอะไรเลย ป้อนอะไรเข้าไปก็คายออกมาอย่างเดียว”พายุหันกลับมาสบตากับผม แววตาของหมานั่นฉายแววมุ่งมั่นขึ้น “เพราะอย่างนั้น อย่าเข้าใจผมผิดแล้วบอกให้ผมออกจากหน้าที่ ที่ผมรัก เข้าใจไหม ลมหนาว”

“...”ผมหันหลังให้กับพายุ ตั้งใจจะก้าวไปทางที่พี่ทิวกับฟางข้าวยืนอยู่ “ผมเชื่อในการกระทำมากกว่าคำพูด”

ผมเดินออกห่างจากร่างโปร่งที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก่อนที่จะชะงัก เมื่อนึกอะไรได้บางอย่าง

“ในวันมะรืน ผมจะทำตามวิธีการของผม และผมหวังว่าคุณจะไม่มาขัดขวางแผนของผม ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตามนะครับ”จบคำผมก็ก้าวฉับไปหาคนที่ยืนรออยู่

เอาเถอะ ผมจะคอยดูแล้วกันว่าหมอนั่นรักในการเป็นวินัยจริง หรือรักแค่ปากพูด


(พายุ)

ให้ตายเถอะ ตั้งแต่วันที่ผมไปเคลียร์กับหนาว จนถึงตอนนี้ยังไม่เจอว๊ากสักคนของพวกเมดเทคเลย... แล้วใครจะให้ความกระจ่างในสิ่งที่ผมอยากรู้วะเนี่ย

ทิ้งให้อยากรู้แล้วก็จากไปอย่างเลือดเย็นชะมัด... เชื่อเขา คนอะไรเย็นเหมือนชื่อเลย

เอาเถอะ ยังไงวันนี้ผมก็จะได้รู้แล้วว่าหมอนั่นคิดจะทำอะไร... นี่ก็ใกล้ชิงธงเข้ามาทุกที สีหน้าจริงจังของลมหนาวที่ผมได้เห็นนั่นทำให้ผมคิดว่าที่มันจะทำในเย็นวันนี้คงเป็นมาตรการสุดท้ายแล้ว

“พายุ นายคิดจะให้พวกเมดเทคทำอะไรตามใจ โดยที่พวกเราไม่รู้อะไรสักอย่างเลยอยู่แบบนี้น่ะนะ”นิคถามผมเสียงเข้ม

ไม่มีใครในวิศวกรรมศาสตร์รู้เลยสักคนว่าสิ่งที่พวกเทคนิคการแพทย์จะทำคืออะไร... แม้ว่าจะไปลากคอน้องปีสองของเมดเทคมาเค้นถาม ก็ยังไม่ได้ความออกมา มีแต่คำบอกเล่าที่ว่าวันนี้จะลงน้องที่ลานเกียร์ตอนเย็น พวกผมเลยหงุดหงิดกันยู่แบบนี้ จะไปถามกับพวกนั้นโดยตรงก็หาตัวไม่เจอ โทรไม่รับ ไลน์ไม่ตอบ ขนาดบุกถึงคณะแล้วยังควานตัวออกมาไม่ได้เลย

แม่ง นักเทคนิคการแพทย์หรือนินจาวะ

“เดี๋ยวก็ได้รู้กันแล้วว่าสิ่งที่เขาจะทำมันเวิร์ค หรือไม่เวิร์ค”พิชลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วเดินตรงมาหาผม “ถ้ามันทำในสิ่งที่ไม่เวิร์ค ยังไงพวกเราก็ต้องจัดการ”

“ครั้งนี้กูจะปล่อยให้พวกนั้นจัดการตามใจ”ผมกวาดตามองเพื่อน ๆ น้อง ๆ ว๊ากทุกคนที่ทำหน้าประหลาดใจ ก็แน่สิ ผมยอมให้พวกนั้นเดินนำนิ...

“ทำไมล่ะ พายุ”พิชพุ่งเข้ามากระชากคอเสื้อผมแล้วดึงขึ้น แต่เธอเตี้ยกว่าผม (ไม่เยอะเท่าไหร่) พอผมลุกเต็มความสูงเลยกลายเป็นว่าผมต้องโค้งลงมาเล็กน้อย “มึงคิดเหี้ยอะไรอยู่ถึงให้พวกนั้นเป็นช้างเท้าหน้า เดินนำพวกเรา!!”

“เพราะกูอยากรู้ไง”ผมจ้องตากับพิชนิ่ง แล้วพูดสิ่งที่อยู่ในสมองออกมา “สิ่งที่พวกเราไม่เคยยอมรับ ในการชิงธงทุกปีเมดเทคทำได้ดีกว่าเราเสมอ มันเป็นเพราะอะไร ทำไมพวกมันถึงทำได้ แล้วเราทำไม่ได้ กูอยากรู้ และทางเดียวที่เราจะรู้ได้คือ ปล่อยให้มันไปตามเกมของพวกนั้น”

“มึงกำลังดูถูกพี่ ๆ ของพวกเรานะเว้ย”มือที่กำคอเสื้อของผมอยู่นั้นกำแน่นขึ้น ดวงตาของพิชสั่นไหว “มึงกำลังบอกว่าสิ่งที่พี่ ๆ ของเราทำมามันไม่ได้ช่วยอะไร ไม่ได้ทำให้น้องดีขึ้น...”

“เราต้องมองความจริงกันบ้าง พิช เราต้องมองบ้าง”ผมถึงมือของพิชออกจากคอเสื้อผม ก่อนที่มันจะยู่ยี่ไปมากกว่านี้ “เธอก็รู้ ทุกคนรู้ และได้เห็น ได้สัมผัสมาแล้ว พวกนั้นเป็นเหมือนกลองที่ให้จังหวะทุกคณะในการเริ่มต้น และการเว้นจังหวะของเพลงเสมอ ถ้าไม่ไปตามที่พวกนั้นพาไป มันก็ไม่สำเร็จ... กูอยากรู้ว่าทำยังไง พวกนั้นทำยังไงถึงทำได้ขนาดนั้น”

ทุกคนในที่นี้เงียบกริบ ไม่มีใครพูดเอ่ยอะไรออกมาอีก จมอยู่ในความคิดของตัวเอง... มันคือความจริง ความจริงที่พวกผมไม่อยากจะยอมรับว่าสู้พวกนั้นไม่ได้...

หลังจากนี้ ผมจะต้องทำให้พวกเราสู้พวกนั้นได้ ไม่สิ พวกเราต้องชนะให้ได้... แม้อาจจะไม่ใช่ในปีนี้ แต่ปีต่อ ๆ ไป พวกเราจะต้องเป็นฝ่ายนำ


เป็นอีกครั้งที่ว๊ากของวิศวะต้องมานั่ง ๆ นอน ๆ รอพวกคุณ ๆ ของเมดเทค อยู่ในห้องเดิม ๆ รอเวลาที่นัดหมาย... ซึ่งอีกไม่นาน

นั่นไง มาตรงเวลาเป๊ะ ไม่ขาด ไม่เกิน แต่คราวนี้มาในเสื้อโค้ชของคณะ พวกผมก็มีครับ เป็นสีแดงเลือดหมู แต่ของพวกนั้นเป็นสีดำ

พูดถึงสี... รู้กันไหมสีประจำคณะของวิศวะกับเทคนิคการแพทย์คือสีอะไร... สีแดงเลือดหมู กับสีแดงเลือดนก ซึ่งจนตอนนี้ผมยังไม่เข้าใจว่าต่างกันยังไง  เหอะ ๆ

“ไปกันเถอะครับ”ประโยคแรกที่ได้ยินในรอบสองวันกว่า ที่มาพร้อมกับสายตาอันเฉยชา ก่อนที่ลมหนาวจะเดินนำออกไป พร้อมด้วยว๊ากคนอื่น ๆ ของเมคเทค”

“ปะ ได้เวลาแล้ว”ผมลุกขึ้นเดินเร่งฝีเท้าไปอยู่คู่กับหมอนั่นที่ไม่คิดจะรอเลยแม้แต่วินาทีเดียว... วันนี้มันดูเครียด ๆ แต่ในความเครียดนี้แฝงความกังวลเอาไว้อยู่ลึก ๆ ในดวงตา

แล้วผมจะไปสังเกตทำไมล่ะเนี่ย บ้าชิบ

“ปีหนึ่ง ตั้งแถวครับ”เปิดฉากขึ้นแล้ว กับเสียงที่ดังก้อง และเข้มผิดปกติด้วย “ปีสอง ตั้งแถวฝั่งนี้ครับ”

เฮ้ย เรียกสองชั้นปีเลยเหรอวะ ? ว๊ากปีสองของพวกเมคเทคเดินเข้าไปรวมกับเพื่อน ๆ ปีสองของพวกเขา ทำให้ว๊ากของวิศวะเราต้องไปรวมด้วย จนกลายเป็นว่าว๊ากที่เหลืออยู่ไม่พอที่จะล้อมน้องได้

ทำอะไรของมัน

“วันนี้มากี่คนครับ”ผมถามขึ้นตามสเต็ปที่กี่ปี ๆ ก็ไม่เคบจะเปลี่ยน เป็นคำถามตอนเริ่มของทุกครั้ง

“ 1793 คนครับ”หืม... ตัวเลขวันนี้ดูสูงดีจริง หายไป เอ.. สี่ ศูนย์ อ่อ หนึ่งร้อยสี่คน ถึงว่าดีขึ้นจากครั้งก่อน ๆ นิดหน่อย

“หายไปร้อยสี่คน”ตัวแม่ของเมดเทคถอนหายใจหน่าย ๆ หน้าไปเสียงไป ครบ “ก็ยังไม่ครบอยู่ดี พวกคุณคิดว่าวันไหนที่เพื่อนของคุณจะมากับครบไหมคะ”

“...”ความเงียบคือคำตอบ แต่ก็นะ ไม่มีใครหวังคำตอบจากน้องที่แทบไม่เคยให้คำตอบอะไรกับพวกเราอยู่แล้ว... มั้ง

“ทุกครั้งที่ผมมา ผมพูดอยู่เสมอว่าให้พวกคุณเคารพรุ่นพี่ เคารพอาจารย์”ร่างสูง (น้อยกว่าผม) เดินช้า ๆ วนไปทางขวามือ “แต่ทำไมผมยังได้ยินว่าพวกคุณไม่เคารพพวกเขาล่ะ”

“...”

“หรือพวกเขาไม่น่านับถือ ไม่สมควรเป็นพี่ของพวกคุณ”แม่ง บรรยากาศกดดันชิบ ผมจะพูดอะไรก็พูดไม่ได้ ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไร ได้แต่ยืนกอดอกเก๊กหน้านิ่ง กวาดตามองน้องอยู่อย่างเนี้ย เซ็ง

“ไม่ใช่ครับ/ค่ะ”ปีหนึ่งตอบกลับมาอย่างพร้อมเพรียง เออ ดี คราวนี้ยอมตอบ

“มีพี่คนไหนที่โดนน้องเมิน ไม่ไหว้ แทบจะเดินเหยียบหัวบ้างคะ ยกมือขึ้น!!”พิชคงอยากลองเชิง กะจะแหกหน้าของเฮดเมดเทคล่ะสิ ถ้าปีสองไม่ยอมยกมือน่ะ

พรึบ พรึบ

ผิดคาด... อย่าว่าแต่พิชเลย ผมก็อึ้ง ในเมื่อคนที่ยกมือขึ้นส่วนใหญ่ดันเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ของพวกเรา ไม่ใช่เทคนิคการแพทย์ที่ยกกันเป็นหย่อม ๆ

“เอามือลงค่ะ”หน้าแหกหมอไม่รับเย็บเลยทีนี้ เพื่อนเอ๊ย งานนี้พิชได้ฤกษ์ทำแบบผม กอดอก ยืนมองนิ่ง ๆ แผ่รังสีกดดัน

“พวกคุณเคยรักพวกเขาบ้างไหมครับ”ผมเพิ่งสังเกต ลมหนาวแม่ง พูด ร เรือ กระดกลิ้นทุกคำ นี่กะว่าถ้าไม่ทำอาชีพสายตรง จะไปเป็นครูภาษาไทยเปล่าวะ... ไม่รู้

“รักค่ะ/ครับ”ตอบเสียงดังฟังชัด ถ้าตอบแบบนี้ได้ทุกครั้งคงจะดี

“อย่างนั้นเหรอครีบ”อยู่ ๆ ปันปันที่เงียบมานานก็ดึงตัวน้องผู้หญิงคณะมันคนนึงออกไปข้างหน้า “พี่คนนี้ชื่ออะไรครับ”

“...”ได้ยินอะไรกันบ้างไหม? ผมไม่ได้ยินเลย ได้ยินแต่เสียงลมพัด เอ้า ลมเพ ลมพัด โบกสะบัดพัดมาไว ๆ ผมร้อน

“พี่หยกค่ะ”น้องคนนึงตะโกนตอบมา

“เขาเป็นน้องเทคของน้องใช่ไหมครับ”ปันปันหันมาถามน้องหยกที่ยืนอยู่ข้างเขา

“ใช่ค่ะ”น้องตอบเสียงอ่อย ๆ ตาหลุบลงมองพื้น

“แล้วคนที่ไม่ใช่น้องเทคของพี่เขา ไม่รู้เลยเหรอครับ ว่าพี่เขาชื่ออะไร”พวกเราทุกคนหวาดตามองหน้าที่เริ่มหลบสายตา

“ไหนว่ารักไงคะ พวกคุณบอกว่ารักพวกเขา แต่แค่ชื่อยังไม่รู้เลย!”พลอยตวาดลั่นลาน... เป็นผู้หญิง (?) ที่มีพลังเสียงสุดยอดจริง ๆ “เงยหน้าขึ้นมาค่ะ”

“ที่พวกว่ารักพวกเขาน่ะ พวกคุณเคยถามไหมว่าเขาเหนื่อยหรือเปล่าที่ต้องมาอยู่รับน้องพวกคุณจนค่ำ ใขขณะที่พวกคุณกลับไปพัก พวกเขายังต้องประชุม ต้องเตรียมงานกันต่อ”นิคมันพูดขึ้น... อันนี้ระบายความใจใจหรือเปล่านั่น ก็มันเป็นคนที่ต้องคอยฟังแผนงานของน้องอยู่ตลอด แล้วถึงจะมาบอกเล่ากับผม “ก่อนที่พวกคุณจะเข้ามา พวกเขาต้องเตรียมของให้คุณ เตรียมงานกันล่วงหน้าเท่าไหร่ พวกคุณเคยคิดถึงจิตใจพวกเขาไหม”

“...”เงียบกริบ อีกทั้งยังหลบสายตากันหมด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่เคยคิดถึงในสิ่งที่นิคมันพูดออกมาเลย

“แล้วร้องเพลงชิงธงกันได้หรือยังครับ”ลมหนาวดึงเรื่องเข้าประเด็นเมื่อบรรยากาศเริ่มมาคุกหนัก ไม่อารัมภบทต่ออีก “ผมถามว่าพวกคุณร้องเพลงชิงธงกันได้หรือยังครับ”

“...”เงียบตามเคย ทำไมเด็กรุ่นนี้มันดื้ออย่างนี้วะ ให้ตายเหอะ จะรอดไหม เชี่ย

 “ปีสองกอดคอกันค่ะ”ถ้าผมจำไม่ผิดรู้สึกจะชื่อนัท เธอหันไปสั่งน้องปีสอง แน่ล่ะ ปีสองทั้งหมดย่อมทำตาม น้องพวกผมก็ทำตามไปด้วยเมื่อเห็นอีกคณะทำ

“ผมอยากฟังเพลงประจำมหาวิทยาลัย”เฮดของเมดเทคเอ่ยขึ้น เมื่อเดินวนรอบน้อง ๆ มาจนถึงที่ข้างหน้า ที่เดิมของหมอนั่น “เริ่มครับ”

“1. 2. 3…”น้องร้องเพลงออกมา... จังหวะสามช่าหรือเปล่านั่น ให้ตาย แค่เพลงแรกก็ยังไม่ได้... เรื่องจริงหรือล้อเล่นวะเนี่ย
พวกมันแกล้งอะไรพวกเราหรือเปล่า?

“หยุดครับ”ลมหนาวคงทนฟังไม่ได้ สั่งหยุดทันที แล้วหันมาหาปีสองแทน “พวกคุณได้สอนพวกเขาร้องเพลงหรือเปล่าครับ”

“สอนครับ/ค่ะ”ปีสองตอบคำถามอย่างพร้อมเพรียงกัน

“แล้วทำไมพวกเขายังร้องไม่ได้!”ขอแทรกบทหน่อย ผมยังแทบไม่ได้พูดเลย ขอให้ได้พูดสักนิดเถอะ แอบเหล่เห็นลมหนาวเม้มปากน้อย ๆ

ดูท่าของจริงจะมาแล้ว

“ในเมื่อพวกคุณไม่อยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งของคณะเรา ผมขอสิ่งที่พวกผมให้ไปคืนครับ”ปันปันเดินเข้าไปหาน้องปีหนึ่งด้วยสีหน้าที่โคตรเข้ม มันเป็นคนใต้ เข้มอยู่แล้ว ยิ่งเข้มไปใหญ่ (หน้าครับหน้า ไม่ใช่สีผิว) “ถอดมาคือสิครับ ทั้งป้าย และข้อมือที่พวกผมให้คุณไป”

น้องไม่ยอมถอด ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีเหมือนกันนะ คณะผมไม่เคยใช้วิธีพวกนี้มากดดันน้อง... จริง ๆ แล้วคือนอกจากป้ายชื่อไม่เคยให้อะไรมากกว่า แต่พวกเมคเทคมันให้สองอย่าง... ซึ่งไม่รวมเข็มเฟรชชี่ของพวกนั้น (ของพวกผมแน่นอน เป็นเกียร์ไงครับ)

“ปีสอง ลุกนั่งจนกว่าน้องจะถอด เริ่ม!”ห๊ะ สั่งปีสอง? พวกเทคนิคใช้จิตวิทยาวัดใจน้องกันอย่างนี้เลยเหรอเนี่ย “เงยหน้าขึ้นมา มองหน้าน้องพวกคุณ มองคนที่ทำให้คุณต้องทำแบบนี้”

ปีสองลุกนั่งกันอย่างทุลักทุเล แค่ปกติลุกนั่งคนเดียวก็ลำบากแล้ว แต่นี่ต้องกอดคอกับเพื่อนลุกนั่งอีก นัยน์นึงก็คือการประคองเพื่อนไป แต่อีกนัยน์การทำแบบนี้มันก็ลำบาก และทำห้เหนื่อยไว

“พวกคุณเห็นไหม เห็นพี่ของพวกคุณไหม ถอดออกมา แล้วพี่ของพวกคุณจะได้หยุด ถอดออกมา!”นัทกับพลอยตะโกนเป็นเสียงเดียวกันก้องลานเกียร์

“ถอดสิครับ พวกคุณไม่สงสารพี่ที่พวกคุณบอกว่ารักเลยหรือยังไง”ปูนที่น่าจะเริ่มจับทางได้ ตะโกนเสริมขึ้นมาบ้าง

ผมเองก็อยากจะเสริมแรงนะ... แต่มันพูดอะไรไม่ออก น้องผู้หญิงปีหนึ่งเริ่มน้ำตาคลอ ปีสองบางคนก็เริ่มโอนเอน แต่ก็ยังฝืนอยู่
ให้ตาย พวกนั้นทำเรื่องที่มันน่าเจ็บปวดขนาดนี้ได้ยังไงกันวะเนี่ย!!!

“พวกคุณเห็นไหม ว่าคนที่รักพวกคุณ คนที่รับพวกคุณเข้ามากับมือ พวกเขาเป็นยังไง”ปันปันเอ่ยด้วยเสียงที่เยียบเย็น “ทำไมพวกคุณไม่ช่วยพวกเขา”

น้องปีสองลุกนั่งไปไม่รู้กี่ที เพราะเสียงที่นับนั้นแผ่วเบาลงเรื่อย ๆ น้องบางคนก็ล้มลงไปแล้ว พี่ปีสามที่อยู่แถวนั้นก็เข้ามาประคองน้องออกไป ผมเห็นน้องบางคนน้ำตาตก แต่ก็ยังลุกนั่งอยู่กับเพื่อนไม่ไปไหน

“ปีสองหยุดครับ”ลมหนาวสั่งอีกครั้งหนึ่ง ดวงตาของหมอนั่นฉายแววเจ็บปวดขึ้นมาชั่วครู่... หรือผมตาฝาดไปก็ไม่รู้ “ย่อลงไปครับปีสอง ย่อลงไป”

“เพลงก็ร้องไม่ได้ ของที่ให้ก็ไม่ยอมถอด”พลอยกอดอกมองน้องปีหนึ่งด้วยแววตาที่ผิดหวัง “คนที่พวกคุณบอกว่ารัก พวกคุณก็ไม่คิดจะช่วย”

“ปีหนึ่งครับ”เสียงของลมหนาวนั้นอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินออกไปยืนเด่นตรงหน้าเด็กปีหนึ่งเพียงลำพัง “ถ้าพวกคุณไม่ต้องการน้องของพวกผม ไม่รักเขา ไม่เคยคิดที่แม้แต่จะถามว่าพวกเขาเหนื่อยไหม ทำร้ายพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้...
ผมขอน้องของผมคืนครับ”

เหมือนเป็นประโยคที่ฟาดลงกลางใจของน้องปีหนึ่ง น้องทุกคนเงยหน้าขึ้นมามองลมหนาวเป็นตาเดียวอย่างตกตะลึง

“ปีสองครับ กลับไปพักผ่อนเถอะ”มันหันมาพูดกับน้องปีสองด้วยเสียงที่อบอุ่น ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน “ต่อไปนี้น้องจะไม่ต้องเหนื่อยแล้ว ไม่ต้องอยู่ดึกดื่น อดหลับอดนอน ไม่ต้องเบียดเวลาส่วนตัวออกมาอีก พวกพี่จะดูแลน้องเอง กลับมาเป็นน้องเล็กของพวกเรา กลับมาพักจากความเหนื่อยล้า ความผิดหวังได้แล้ว”

น้องปีสองมองหน้ากันหลุกหลิก ตอนแรกยังไม่มีใครยอมเดินออกไปไหน จนกระทั่งพี่ปีสามเดินเข้ามาหา พี่เทคของพวกเขาเดินไปจับมือน้องเทคตัวเอง แล้วพาเดินออกไป

ลมหนาวกับตัวผมเองก็ไปจูงมือน้องเทคของตัวเองเดินออกไปเหมือนกัน

วันนี้วิศวะของผมไม่ค่อยจะมีบทเลยแหะ... เฮ้อ

#######################

มาต่อแล้วนะคะ ^w^//

ยาวขึ้นเรื่อย ๆ 5555

ขอแจ้งข่าวกันหน่อย

1. เนื่องจากวันที่ 8-19 ธันวาคม คนเขียนสอบไฟนอล ในช่วงนั้นอาจจะไม่ได้อัพนะคะ (ตอนที่ตั้งใจจะสต็อกไว้ลงยังไม่เสร็จ 555) อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนน้า

2. ปีใหม่อยากได้คู่ไหนเป็นตอนพิเศษดีคะ
พายุ-ลมหนาว
ทิวไผ่-ฟางข้าว
คีตา-กิต
xx-yy (ยังไม่ออก อีก 2 ตอนจะแง้มมาละค้า)

3. แอบนิดๆ สุริยายอแสง จัทราคล้ายเปิดจองแล้วนะคะ ( http://haiihouse.lnwshop.com/category/2/pre-order ) ตอนพิเศษสามตอนใหม่ เป็น ตอนของ สุริยมาศ-ทินสิริ , รพี-นพคุณ , นพคุณ แล้วอีกตอนจะเป็นตอนที่เคยลงในเล้านะคะ (รวม 4 ตอน) ใครไม่เคยอ่านเนื้อเรื่องหลัก สามารถอ่านได้ที่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41291.0

พบกันตอนหน้า ตอนของพี่ทิวค่ะ ^^//
 :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 03-12-2014 21:14:47
อ่านแล้วเห็นใจพวกพี่วินัยเลยอ่ะ TT สงสาร เด็กปีหนึ่งจะมีสำนึกไหมเนี่ยเฮ้ออ อยากได้ตอนพิเศษของลมหนาวกับพายุค่าาา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: dark-soleil ที่ 03-12-2014 21:28:15
อยากอ่านตอนพิเศษของคู่เอกค่ะ  อยากรู้ว่าจะรักกันแบบไหน จะหวานแค่ไหน   :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-12-2014 21:50:42
กดดันจริง ๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง
ลมหนาวชนะเลิศ คนจริงมันต้องยังงี้สิ แม้แต่พายุยังต้องยอม
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 03-12-2014 22:39:14
ขอตอนต่อไปให้จบก่อนได้มั้ยคะกำลังลุ้นอยู่ว่าน้องปี1จะทำยังไง :ling2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 03-12-2014 22:44:07
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 03-12-2014 23:10:15
กำลังลุ้นเลยอ่ะ  :ling1: :ling1:

ตอนพิเศษ พายุกับลมหนาวววว ><
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 04-12-2014 00:24:48
ลมหนาวใจเด็ดมาเลยอ่า
แบบนี้ใช่มั๊ยเด็กๆเมดเทคถึงรักกันกลมเกลียว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: minnin ที่ 04-12-2014 06:47:05
ไม่นะค้างงง อยากรู้ปี 1จะทำไง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 04-12-2014 09:33:29
สนุกดีค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 04-12-2014 10:22:01
คำพูดสุดท้ายเจ็บทุกคน  :z3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 04-12-2014 16:59:59
 :o12: :o12: สงสารพี่ปีสองมากเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 04-12-2014 17:16:08
ให้ปีหนึ่งไปคิดก่อนนะคะว่าควรทำยังไง คั่นเวลาด้วยพี่ๆก่อนน้า ^++++^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 04-12-2014 20:10:15
อื้อหือ เจ็บแทนค่ะ นิ่ม ๆ แบบนี้นี่แหละที่เจ็บที่สุด
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-12-2014 11:06:09
ตอนพิเศษวันพ่อ...  คิวว่าไม่น่าทัน ย้อนหลังเอาได้ไหมคะ 5555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: jjamie15 ที่ 05-12-2014 15:37:47
รีบมาต่อนร้าาาาาาาา o18
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 05-12-2014 22:11:05
เฮ้อ  สะเทือนใจจัง 
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: เกลียวคลื่น ที่ 05-12-2014 22:33:57
ต้องอย่างนี้ ตัดไปเลย พวกดื้อเงียบจัดการยากกว่าพวกเปิดเผยเยอะ
รู้สึกรุ่นน้องรุ่นนี้จะแย่มาก ต้องดัดนิสัยกันหน่อย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 06-12-2014 00:30:38
จะว่าไงดีล่ะ ออกจะสะใจด้วยซ้ำ เท่าที่อ่านๆมา ปีหนึ่งรุ่นนี้ดื้อเกินสุดจะทนจริงๆนั่นแหละ แค่เพลงสักเพลงก็ยังร้องไม่ได้ มันเหนื่อยล้าจริงๆนะ สมควรตัดรุ่นจริงๆนั่นแหละ แล้วแบบนี้จะเป็นอย่างไรต่ออ่ะ? (พอดีไม่เคยโดนตัดรุ่น ทำเอานึกไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 07-12-2014 12:46:19
รีบมาต่อนะค่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 07-12-2014 14:36:28
งื้ออออออ ไม่รู้จะอธิบายยังไง...
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 07-12-2014 15:38:48
ชอบตอนนี้มาก รอดูต่อไปว่าน้องปีหนึ่งจะทำไง รอนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: saranya ที่ 09-12-2014 01:14:57
น้องจะทำอะไรได้ ก็ต้องเล่นไปตามเกมอะจิ  :m20: :m20: :m20: :m20:

นี้ละเขาเรียกว่าละครห้องเชียร์!!!

รับน้องทำนองนี้ กันทุกมอเลยรึไง(วะ)คับ :เฮ้อ:



หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: ppp044 ที่ 09-12-2014 01:40:14
 :mew2: แค่แวะมาบอกว่า คิดถึงงงงงง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-12-2014 02:39:21
หลัง 19 เจอกันนะคะ ^^'
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Kaewkaew ที่ 15-12-2014 07:30:41
หลัง19เลยสินะ.... รอรอรอ เอ้ยยยยอยากรู้แล้ววววว ฮือออออ

ประโยคเด็ด "ผมขอร้องของผมคืนครับ" แทบร้อง ซึ้งไปอีกลมหนาวววววว
งืออออออ
รอคนแต่งสอบเสร็จ สู้ๆนะฮะ-..-
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่11 ตัดน้อง P.7[3/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 17-12-2014 23:04:58
อ่านไปแล้วแบบ อู้ยยยยย บีบคั้นแทน เครียดตามๆกันไปเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-12-2014 00:09:55
วันที่สิบสอง

(ทิวไผ่)

เมื่อวานนี้ลมหนาวได้ตัดสินใจลงตัดน้องชั้นปีที่หนึ่งของเทคนิคการแพทย์ให้อยู่เพียงชั้นปีเดียวโดยจะไม่มีพี่ปีอื่น ๆ คอยให้ช่วยเหลือ คอยบอก คอยสอนอย่างที่เคยอีก

นี่เหมือนเป็นธรรมเนียมของคณะเทคนิคการแพทย์อย่างหนึ่งที่ทำกันมาต่อเนื่องทุกปี เท่าที่ผมเห็นน่ะนะ (ห้าปีที่ผมเห็น)
น้อง ๆ ก็น่าสงสารอยู่หรอก แต่ผมสงสารหนาวมากกว่า เขาต้องใจแข็งอย่างมากที่จะตัดน้องให้ได้ด้วยคำพูดของเขาเอง ตัดด้วยมือของตัวเอง ไม่เหมือนพี่คนอื่น ๆ ที่เป็นคนรับคำสั่ง

ลับหลังยังต้องโดนน้องตัดพ้อ ต่อว่า น้อยใจ สารพัดจะโดน แต่ก็ยังทำไปได้ลง บางปีที่ตัดปีสองด้วยมั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด ตัดปีสองชั้นปีเลย เพราะปีสองยืนยันจะอยู่ข้างปีหนึ่ง

"พี่หนาวยังซึม ๆ อยู่เลยนะฮะ"ฟางข้าวเดินมากระซิบผม เฮ้อ คิดถูกแล้วจริง ๆ ที่ไปลากตัวของลมหนาวให้มาพักที่คอนโดในช่วงเสาร์ อาทิตย์นี้ก่อน ไม่อย่างนั้นคงฟุ้งซ่านไปทั้งมัน ทั้งผมนี่แหละ "ทำยังไงดีล่ะฮะ พี่ทิว"

"ปล่อยไปสักพักก่อนแล้วกัน ปีที่แล้วก็คล้าย ๆ แบบนี้ เดี๋ยวหนาวรวบรวมกำลังใจได้เมื่อไหร่เขาก็ลุกขึ้นมาเอง"ผมปิดหนังสือในมือลง แล้วหันไปลูบผมนุ่ม ๆ ของข้าวแทน "ห่วงเหรอ"

"ห่วงสิฮะ พี่หนาวถึงบางทีจะต้องสวมหน้ากากเฉยชา แต่พี่เขาก็ไม่ได้ไร้หัวใจนี่ฮะ"ฟางข้าวหันไปมองประตูห้องที่ปิดสนิท ห้องของหนาวเขาน่ะครับ ตอนเขาอยู่ปีหนึ่งผมชอบไปดึงเขาให้มานอนค้างด้วยกัน เลยมีห้องไว้โดยเฉพาะ "ทำยังไงดีนะ"

"เรามาทำสุกี้กินกันไหม"ผมกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูขาว ๆ น่ากัด "จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ หนาวเขาจะได้ลืมสิ่งที่อยู่ในสมองไปช้่วคราวไง"

"ก็ดีนะฮะ พี่ทิว"น้องน้อยที่อยู่ปีสอง แต่ท่าทางยังไม่พ้นม.ต้นพยักหน้ารับอย่างเห็นดีเห็นงาม "งั้นก็ต้องออกไปซื้อของสดแล้วสิ"

"โอเค งั้นเราไปกันเถอะ"ผมลุกจึ้นไปหยิบกุญแจรถ เอาแค่โตโยต้าธรรมดา ๆ อย่างAltis ไปก็พอมั้ง บอกหนาวหน่อยดีกว่า "หนะ... อ่าว หนาวจะไปไหนน่ะ"

"ไปหาปันปันครับ"ร่างสูงโปร่งในเสื้อแขนยาวสีขาวพับแขนขึ้นและเดฟน้ำตาลเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าหมอง ๆ "หมอนั่นมีปัญหาอะไรไม่รู้ เดี๋ยวเย็นนี้ผมกลับมาครับ"

จบคำลมหนาวก็เดินไปพร้อมกับกุญแจรถของตัวเองที่ห้อยพวงกุญแจการ์ตูนตัวเล็ก ๆ เอาไว้ (เห็นว่าเกดมันเอามาห้อยให้)

ดีนะที่ผมแอบให้คนเอารถของหนาวไปเดินน้ำมันมาแล้ว ไม่งั้นขับไปได้ดับแน่ ชอบลืมดูถังน้ำมันอยู่เรื่อย เหลือขีดเดียวยังไม่รู้เรื่องอีก

"พี่ทิวฮะ"ฟางข้าวมองหน้าผมแบบมึน ๆ "เราจะเอายังไงกันดีล่ะฮะ"

"ไปซื้อของไง ไปกันเถอะ"จูงมือน้องให้เดินตามมา ขุนมาหลายวันยังไม่เห็นผลเลยแหะ ไม่เป็นไร รอดูต่อไปอีกหน่อยละกัน "เดอะมอลล์นะ ข้าว"

"ตลาดสดก็พอฮะ ไม่ต้องเลย"ข้าวเหล่มองผมด้วยแววตารู้ทัน "ไม่ต้องทำอนามัยทานออแกนิคเลยฮะ รู้นะว่าพี่ทิวต้องการอะไร ผมไม่ได้อ่อนแอ แพ้อาหารโน่นนี่สักหน่อย"

อ่าว โดนรู้ทันแล้ว ตั้งแต่เอาน้องมาอยู่ด้วย ผมก็เปลี่ยนจากผัก จากเนื้อในตลาดเป็นในห้างเดอะมอลล์ แบบออแกนิคไร้สารเคมี ก็ผมกลัวน้องไม่สบายนี่น่า (โอเวอร์เกินเหตุชัด ๆ << ฟางข้าว)

ผมขับรถมาจอดหน้าตลาดไม่ไกลจากคอนโด มีตลาดใหญ่อยู่ตลาดเดียวล่ะฮะ แถวนี้ น้องที่นั่งข้าง ๆ เหล่มองผมแล้วส่ายหน้า

"พี่ทิวรอบนรถไหมฮะ"หืม ทำไมล่ะ ผมว่าผมแต่งตัวดูดีอยู่นะ โปโลของAIIZ กางเกงยีนส์Versace แว่นกันแดดLayband นาฬิกาของRado รองเท้าผ้าใบคู่ละสองสามร้อย... ก็ดูธรรมดาจะตายไป

"เดี๋ยวพี่ลงไปช่วยถือน่า"ข้าวส่ายหน้าน้อย ๆ อีกรอบแล้วลงจากรถไป ผมลงตามเขาไปด้วยรอยยิ้ม ก็แน่สิครับ การที่เขาแสดงออกถึงอารมณ์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่การยิ้มด้วยความเกรงใจนั้นแสดงว่าเขาเริ่มเปิดใจให้ผมแล้ว

นับเป็นวิวัฒนาการที่ดี จริงไหมครับ

ฟางข้าวเดินเข้าร้านโน้น ออกร้านนี้ เลือกผัก เลือกหมู เลือกของทะเล บางร้านเข้าไปดู ๆ ก็ไม่เอา ไม่รู้ว่ามันต่างกันยังไง แต่เขาคงเลือกของดี ๆ มานั่นแหละ ผมจ่ายกับหิ้วพอ

"ปลาเก๋า"ผมยืนมองปลาเก๋ากิโลละ 85 บาท ตาใสปิ๊ง เหงือกแดงแปรด ของชอบของลมหนาว ปลาเก๋าทอดน้ำปลา
ถึงผมจะเลือกของสดไม่เป็น แต่ผมก็รู้นะว่าปลาเหงือกแดง ตาใสน่ะ มันสด

"ปลาเก๋าทำไมเหรอฮะ พี่ทิว"คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงุนงง เช่นเดียวกับสีหน้าของเขา "พี่ทิวอยากกินเหรอครับ"

"เปล่าหรอก ลมหนาวเขาชอบปลาเก๋าทอดน้ำปลาน่ะ พี่ชอบปลาดอลลี่นึ่งมะนาว"ผมคีบปลาเก๋าตัวอวบ ๆ ใส่ตะกร้าพลาสติกใบเล็กที่วางอยู่สามตัว ผมชอบกินดอลลี่เพราะไม่ต้องแคะก้างน่ะครับ ฮ่า ๆ ขายกันเป็นชิ้น ๆ แช่แข็ง เก็บได้นานดี

"ออ... อา... เดี๋ยวผมกลับไปทอดให้ก็ได้ฮะ"ฟางข้าวเสนอตัวเสียงแผ่ว ๆ ส่วนผมได้แต่ยิ้มขำ ๆ ให้น้องมัน ยังไม่รู้อะไรนะ น้องพี่

"ให้หนาวกลับมาทอดเองเถอะ ไม่มีใครทอดได้อร่อยเท่าเขาอีกแล้วล่ะ"ใช่ครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่หนาวเขาจะทอดได้กรอบนอก นุ่มใน กัดไปยังอมน้ำนิด ๆ หอมหวานอร่อยเป็นหนึ่งในสองเมนูที่เขาทำเป็น

อีกเมนูยังไม่บอก รอดูกันไปเองครับ แซ่บเวอร์ ได้กินจะติดใจ (ผมติดมาแล้ว) แต่ก็นะครับ ทั้งชีวิตเขาก็ทำได้แค่สองเมนูนี่แหละ ที่เหลือ... เน่า

นึกแล้วขำชะมัดเลย

ผมมัวแต่นึกขำอยู่คนเดียวกับสิ่งที่อยู่ในความคิด ความทรงจำ โดยไม่ได้รับรู้ถึงแววตาเศร้า ๆ ของใครอีกคนที่อยู่ข้างกายเลย

ข้าวเดินไปเลือกกุ้ง เลือกปลาหมึก เลือกหมู สารพัดที่จะยัดลงหม้อได้มาเต็มไปหมด นี่ถ้าผมไม่มาช่วยถือ เขาจะหอบไปหมดได้ยังไงกัน

ใช้เวลากว่าชั่วโมงถึงจะซื้อสารพัดของครบ ผมให้ฟางข้าวเลือกของไป ส่วนตัวเองโทรหาน้องพลอยให้รวมตัวเพื่อน ๆ มา และโทรหาวิศ ประธานคณะวิศวะ (นายวิศวะ ประธานคณะวิศวกรรมศาสตร์ สมเป็นวิศวะจริง ๆ ดีที่ผมไม่ชื่อนายแพทย์ ประธานคณะแพทย์นะครับ)ให้เอาพวกวินัยของพวกมันมา ถ้าสองคณะนี้กล้าตีกันต่อหน้าผม ผมจะยำให้ดู อ่อ แล้วก็โทรหามัลติให้เอาวินัยของแพทย์มาด้วย

อ่อ... ผมไม่ลืมที่จะสั่งให้พวกนั้นซื้อของกินเข้ามาด้วยหรอกนะครับ ที่ซื้อมานี่ไม่พอหรอก คนเป็นเกือบร้อย กินพอก็เวอร์แล้ว

ถามว่าห้องผมรับพอไหม? ไม่หรอกครับ เดี๋ยวจะเปิดห้องประชุมเล็กเอา (เป็นห้องสองห้องทุบรวมกันชั้นบนสุดของคอนโด พ่อผมเขาทำเอาไว้ใช้ประชุมเล็ก ๆ หรือสังสรรค์ เลยมีห้องครัวอยู่ด้วย ไม่เป็นเจ้าของคอนโดเองทำไม่ได้นะครับ)

ผมขับรถกลับคอนโด ในรถเงียบกริบ จนน่าแปลกใจ ผมเหล่คนข้าง ๆ ที่นั่งกอดหมอนเงียบ ๆ อย่างสงสัย... มันแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้

"โกรธอะไรพี่เหรอ ข้าว"ผมเอ่ยถามตุ๊กตาหน้ารถเบา ๆ อย่างไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรเข้า น้องถึงไม่พูดไปเรื่อยตามเคย

"เปล่าฮะ"ฟางข้าวส่ายหัวปฏิเสธผมสะบัด แล้วเอาหน้าซุกหมอนลงไป "ผมแค่รู้สึกง่วงนอน"

"งีบไปก่อนก็ได้ ไว้ถึงแล้วพี่จะปลุก"เขาพยักหน้ารับน้อย ๆ แล้วหลับตาลงไป... เอาไว้เขาอยากบอกความจริงกับผมเมื่อไหร่ ค่อยว่ากันใหม่

พูดถึงความจริง... นึกถึงประวัติของน้องที่ผมได้จากคนที่ให้ไปสืบมาแล้วเหนื่อยใจ ไม่ใช่ว่าน้องโกหกนะครับ เขาพูดความจริงทุกอย่าง แต่นะ โดนทิ้งให้อยู่ด้วยตัวเองมันก็ใช่ว่าจบเท่านั้น

พ่อของเขากำลังมีลูกคนที่สามกับเมียใหม่ เงินที่เคยเจียดมาให้ใช้ก็ไม่ได้ส่งมาหลายเดือนแล้ว แต่เหมือนเจ้าตัวจะยังไม่รู้ ส่วนแม่ก็กำลังท้องกับผู้ขายคนไหนสักคนที่เธอไปให้บริการ ภาระค่าใช้จ่ายของทั้งคู่กำลังสูงขึ้นก็ต้องดูต่อไปว่าเขาจะทำยังไงกันต่อ

ในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีที่บ้านหลังนั้นเป็นของปู่กับตาของข้าว ซื้อทั้งคู่ร่วมกับซื้อให้กับลูกของตนเป็นเรือนหอ เหมือนพวกเขาจะรู้ดีว่าลูกนิสัยยังไงเลยไม่ได้ให้เป็นสินสมรส แต่เป็นสินเดิมในชื่อของคุณตาท่าน จึงได้เขียนไว้ในพินัยกรรมว่ามอบบ้านหลังนั้นพร้อมกับทรัยสินในบ้านทั้งหมดและเงินส่วนหนึ่งในบัญชีให้กับหลานชายคนแรกของพวกเขา (ส่วนอื่น ๆ จองพินัยกรรมไม่ใช่เรื่องที่ผมจะสนใจ) บ้านหลังนั้นจะเป็นชื่อของข้าวเมื่อข้าวอายุครบยี่สิบปีโดยระหว่างนั้น ย่ายายของเขาจะเป็นคนดูแล (แต่ตอนนี้เหลือยายคนเดียวแล้ว) ในอีกไม่กี่เดือนคงได้เรียกทนายมาใช้บริการสักหน่อยแน่ ๆ

ฟางข้าวยิ่งไม่ค่อยรู้อะไรสักอย่าง (เปรยถามเรื่องบ้านยังบอกเป็นของพ่อเขาอยู่เลย) ผมคงต้องเตรียม ต้องทำอะไรอีกเยอะพอดูเลย

สรุปว่าผมเก็บเด็กมาเลี้ยงจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย... เด็กโข่งเอ๊ย

พอมาถึงคอนโด ผมก็ยกของขึ้นไปเก็บบนห้องโดยที่ยังไม่ได้ดับเครื่องรถ ให้ข้าวเขานอนไปก่อน จะผมยกของเสร็จ

“ข้าว ๆ ถึงแล้วนะ ไปนอนต่อในห้อง”ผมเขย่าตัวน้องเบา ๆ ให้น้องตื่น แต่ยังไม่มีท่าทีเท่าไหร่เลย “ลุกขึ้นเร็ว ไปนอนในห้องนะ”

“งืมมม”แพขนตาหนาขยับยุกยิก ก่อนที่จะลืมขึ้น “ถึงแล้วเหรอฮะ”

“ถึงบ้านเราแล้ว ลุกขึ้นมาเร็ว”อดไม่ได้ที่ขยี้หัวน้องแรง ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว เด็กอะไรก็ไม่รู้ โตแต่ตัว (ผมไม่ได้ว่าน้องนะ ฮ่า ๆ) “พี่ยกของขึ้นไปเก็บหมดแล้ว ไม่ต้องมองหาหรอก”

“พี่ทิวน่าจะปลุกผม จะได้ช่วยกันยกขึ้นไป”ริมฝีปากบาง ๆ เชิดขึ้นอย่างไม่พอใจนัก แล้วปลดเซฟตี้เบลท์ออก ก้าวลงจากรถมา “ผมเป็นผู้ชายนะฮะ ไม่ต้องมาโชว์แมนทำสุภาพบุรุษ ทำให้ทุกอย่างหรอกน่า”

“เปล่าสักหน่อย”ลอยหน้าลอยตายักไหล่ไป ผมไม่ได้ทำตัวสุภาพบุรุษสักหน่อย เรื่องแบบนี้มันอยู่ในสายเลือดต่างหากครับ ไม่ใช่ละ ความเคยชินด้วยมากกว่า ผมอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ขับรถเองได้ ไม่ได้เอาคนใช้ที่บ้านมาอยู่ด้วย มีแต่แม่บ้านเวียนมาทำความสะอาดให้บ้าง อาหารซื้อกินบ้าง ทำเอง (แบบง่อย ๆ ) บ้าง เฮฮาปาร์ตี้ตามฉบับคนโสดล่ะนะครับ ฮ่า ๆ

ถึงเป็นหมอ ก็ใช่ว่าจะต้องมีภูมิอยู่ตลอดเวลานะครับ เราไม่ใช่ผู้พิพากษาที่ต้องวางมาดเนี๊ยบหัวจรดเท้า เป็นแค่คนธรรมดาที่ช่วยเหลือคนนี่แหละ

เมื่อเข้ามาถึงในห้อง ข้าวก็จัดการสารพัดของสดที่กองสุมอยู่บนโต๊ะ ล้างปลาหมึก หั่น ๆ ปอกเปลือกกุ้ง ผ่านเอาขี้ที่หลังออก แต่ยังเก็บหัวกุ้งเอาไว้ หั่นเนื้อหมู เนื้อไก่ให้ได้ชิ้นพอดีคำ

“ทำไมไม่ไปเรียนพวกคหกรรมล่ะ”หลังจากที่พิสูจน์มาหลายวันว่าข้าวทำอาหารอร่อย คล่องแคล่ว แล้วก็ดูมีความสุขเวลาทำ ผมเลยอดที่จะถามไม่ได้

“ผมไม่มีทุนจะเรียนนี่ฮะ”เสียงของข้าวที่ตอบกลับมานั้นฟังแล้วไม่ได้มีแววของความเสียใจอยู่ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไม่ได้อยากเรียนตั้งแต่แรกหรือตัดใจได้นานแล้ว “สำหรับผม แค่ได้เรียนมหาวิทยาลัยต่อก็ดีถมไปแล้วล่ะฮะ จะคณะอะไรก็ไม่สำคัญหรอกฮะ”

คนเราก็นะ ใครเกิดมามี ก็มีไป ใครขาด ก็ขาดไปจริง ๆ จะมีใครสักกี่คนที่ไขว่คว้า ดิ้นรนจากความยากจนให้ขึ้นมามีฐานะ ขึ้นมาร่ำรวยได้สำเร็จ

ผมอาจจะโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่มีเงิน มีทอง แต่ก็นะครับ การมีเงินมันก็แลกมาด้วยเวลา ครอบครัวผมไม่มีเวลาให้แก่กันสักเท่าไหร่ ยกเว้นแค่ตอนที่มีเรื่องให้ทำ หรือต้องการให้ทำ พ่อกับแม่ผมถึงจะมาให้เห็นหน้าสักที แต่ก็นะครับ ชินแล้วล่ะ

“ไม่ต้องมาทำหน้าสงสารผมเลย พี่ทิว ผมไม่ได้เสียใจอะไรสักหน่อย”ฟางข้าวแยกเขี้ยวเล็ก ๆ นั่นให้ผม ก่อนที่จะหันไปจัดการกับสารพัดของสดต่อ “ที่เรียนอยู่ก็ใช่ว่าผมจะไม่ชอบสักหน่อย สนุกดีด้วยนะฮะ”

“ถ้าสนุกกับมันก็ดีแล้วล่ะ”

แล้วทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบ ข้าวล้างและหั่นของสดไป ส่วนผมล้างผัก หั่นผัก เขียว ๆ ส้ม ๆ เหลือง ๆ ถึงปากจะบอกว่าแค่ได้เรียนก็ดีแล้ว... แต่มันดีจริงหรือเปล่า อยู่กับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองแบบนั้น... แต่เขาก็บอกว่าสนุกดี... ผมคงคิดมากเกินไป

ตลอดมาผมได้เรียนในที่ ๆ อยากเรียน เรื่องที่ต้องการเสมอ อยู่บนกองเงินกองทองที่ใช้ไปทั้งชีวิตก็ไม่หมด ไม่เคยมีคำว่าไม่สำหรับผม อยากได้อะไรก็มีคนเอามากองให้ตรงหน้า แต่นั่นคงไม่ใช่สำหรับทุกคน แม้แต่กับหนาวเองที่มีฐานะอยู่พอตัว แต่พอต้องการอะไรจริง ๆ เขาก็ต้องดิ้นรนเก็บเงินไปซื้อมาโดยไม่ปริปากบ่น หรือขอความช่วยเหลือจากใคร แม้แต่กับผม

“พี่ทิว พี่ทิว... พี่ทิวฮะ!”เสียงของข้าวดั่งลั่นในโสตประสาต อูยย เรียกเบา ๆ ก็ได้ ผมเป็นคนที่ค่อนข้างหูดีมากเลยนะ... แต่ตอนนี้เริ่มจะไม่ละ ชาดิ๊กเลย “ไม่ต้องมาชักสีหน้าเลยนะฮะ ผมเรียกมาหลายรอบแล้วนะ”

“โอเค ๆ มีอะไรเหรอ ข้าว”จมอยู่ในห้วงความคิดมากเกินไปแล้วล่ะเรา ให้ตายเถอะ ผมเรียกสติที่บินไปกับความคิดฟุ้งซ่านกลับมา

“พี่ทิวจะหั่นผัก หรือจะหั่นนิ้วตัวเองฮะ ดูเขียง ดู!”น้องขึ้นเสียงกับผมอย่างไม่เกรง ทำเอาผมรีบก้มลงดู อีกไม่ถึงเซนติเมตรคมมีดจะเข้าเนื้อผมแล้ว “ถ้าพี่ทิวไม่มีสติ ก็ไปนั่งรอเถอะฮะ”

“ไม่เป็นไร พี่ไม่เหม่อแล้วล่ะ โทษทีนะ”ผมยิ้มแหย ๆ ไม่รู้จะแก้ตัวอะไร ยังไง ข้าวเหล่ผมด้วยสายตาที่ไม่วางใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“พี่ทิว บางสิ่งบางอย่างที่ได้ยินหรือได้รับรู้ ก็ไม่ต้องเก็บเอาไปคิดก็ได้นะฮะ”เสียงทุ้มหวานนั้นพูดออกมาโดยไม่มองหน้าผม เอาแต่มองเนื้อหมูที่กำลังหั่นเป็นชิ้นบาง

ผมไม่ได้ตอบรับอะไรไป คนอย่างผมต้องให้น้องที่อายุอ่อนกว่าตั้งหลายปีมาสอนอย่างนั้นเหรอ? น่าขำเกินไปแล้ว

“ไว้ช่วงวันหยุดสัปดาห์หน้าเราไปเที่ยวภูเก็ตกันไหม”ผมเปลี่ยนเรื่องหลังจากที่บทสนทนาขงเราจบลงไปพักใหญ่ และไม่มีใครพูดอะไรออกมา “อยู่แต่ในห้องมันน่าเบื่อเหมือนกันนะ”

“หยุดแค่สามวันเอง ไปใกล้ ๆ ก็พอมั้งฮะ”น้องแย้งออกมา แล้วเดินเอามีดไปล้าง เก็บเข้าที่ของมัน “ไปไกล ๆ เดี๋ยวก็เหนื่อยหรอกฮะ”

“นั่นสินะ... ไปแค่ระยองก็ได้ล่ะมั้ง ไม่ไกลเท่าไหร่”ผมวางแผนในใจใหม่ ตอนแรกว่าจะนั่งเครื่องไปเที่ยวทะเลสวย ๆ แต่ถ้าน้องไม่อยากไปไกล เอาใกล้ ๆ ก็ได้ ก็ดี ผมจะได้พาหนาวไปด้วย ถ้าไปไกล ๆ หนาวก็คงไม่ยอมไปตามเคย “ถ้าไปใกล้ ๆ หนาวก็คงจะชอบ เหมาหาดเป็นส่วนตัวเลยดีกว่า จะได้สนุกกันได้เต็มที่ ข้าวจะชวนเพื่อน ๆ ของข้าวไปด้วยก็ได้นะ พี่ออกให้เองทั้งทริปเลย”

“ผมไม่มีเพื่อนสนิทหรอกฮะ”ใบหน้าเล็กนั้นก้มลงต่ำ คงจะปิดบังความเศร้าเอาไว้ไม่อยากให้ผมเห็น... ผู้ชายไม่มีใครอยากจะอ่อนแอให้ใครดูหรอก “อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยฮะ พี่ทิวชวนเพื่อนไปเถอะฮะ”

“พี่ขอโทษนะ”ช่วงเวลานี้ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ได้เจอลมหนาวครั้งแรก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่หนาวเป็นเด็กที่ค่อนข้างขี้อายคนนึงเลย ขี้แกล้งอีกต่างหาก(แอบแกล้งเพื่อนแบบลับ ๆ ตลอด ไม่มีใครเคยจับได้) ไม่ได้เหมือนตอนนี้ที่นิ่งขึ้นเยอะ แต่นิสัยขี้แกล้งยังคงเส้นคงวาอยู่เหมือนเดิม ตอนที่ผมเจอเขาครั้งแรก แววตาเขาจะแฝงความเศร้าอยู่ตลอด รอบตัวมีเพื่อนอยู่ไม่กี่คน ผมมารู้ที่หลังว่าที่รอบตัวเขาไม่มีเพื่อนเพราะว่าเรียนอ่อน แล้วก็พูดไม่เก่ง ไม่ค่อยเขาหาใคร จับอบรม จับติวไปหลายยกจนดีขึ้นก่อนที่ผมจะจบออกมา หลังจากนั้นก็โอเคขึ้นในหลาย ๆ อย่าง ตอนที่ได้เป็นวินัยผมยังอึ้งเลย เด็กเงียบ ๆ ขี้อายคนนั้นน่ะนะ จะมาเป็นวินัยที่ต้องตะโกนโหวกเหวก

ลมหนาวพิสูจน์ให้ผมเห็นว่าเขาทำได้ และทำได้ดีด้วย

นึกแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้... เป็นอีกครั้งที่ผมเอาแต่อยู่ในห้วงคำนึงของตัวเอง โดยมิได้เห็นแววตาที่เศร้าสร้อยและตัดพ้อของใครอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ เลย

ออดดดด

เสียงออดดังลั่นเรียนสติผมให้กลับมามองของตรงหน้า ดีนะที่ผมวางมีดลงจัดผักใส่ตะกร้าแล้ว ฟางข้างเดินไปเปิดประตูทั้งผ้ากันเปื้อนอย่างนั้น

“เฮ้ ทิว กุมาแล้ววว”คนแรกตลอดกับนายมัลติ นั่นคนที่เดินตามหลังมันมาดูคุ้น ๆ แหะ “เจอไอ้น้องวิศทำหน้าเอ๋อ เหรอหราอยู่ข้างล่างเลยหิ้วขึ้นมาด้วย”

“อะไรกันพี่ ผมแค่กำลังคิดว่ามันใช่ที่นี่หรือเปล่าแค่นั้นเอง”ประธานคณะวิศวะหันไปเถียงทันที คิ้วเข้ม ๆ นั่นมุ่นเข้าหากันจนตะพูดเป็นโบสองชั้นละนั่น “ใครจะไปรู้ล่ะว่าประธานคณะแพทย์จะอยู่คอนโดหรูใจกลางเมืองขนาดนี้ ไม่ใช่บ้านเดี่ยวอย่างที่คิดไว้ ผมเลยนึกว่ามาผิดที่ซะอีก”

วันนี้คงได้สนุกกันแน่ เมื่อเฮดหลัก ๆ ของสามคณะมารวมกัน อย่างกับจะประชุมอะไรสักอย่างเลยว่าไหมครับ ฮ่า ๆ

หนาวจะทำหน้ายังไงกันนะเมื่อกลับมาถึงห้องประชุมเล็กแล้วเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตามากันพรึบแบบนี้ ผมเดาว่ามันต้องทำหน้ายุ่งแล้วปิดประตูในทุกคนแน่ ฮ่า ๆ

“เอ้อ พี่ทิว ผมซื้อของสดมาด้วย ให้เอาไว้ไหน”ด้วยความที่เป็นประธานคณะเหมือนกัน ผมกับเขาเลยได้เจอกันบ่อย ๆ เวลาทำงาน ทำให้ค่อนข้างจะสนิทกันไม่น้อย ไม่งั้นไม่มีใครกล้าเรียนผมโดยไม่มีหางเสียงหรอก “อ้าว พี่หั่นของไปแล้วเหรอ โอเค ๆ เดี๋ยวส่วนนี้ผมจัดการเอง”

“หั่นแล้ววางรวมกันนั่นล่ะ เดี๋ยวใกล้ ๆ เวลา คนมากันเยอะ ๆ แล้วค่อยยกไป”ผมหันไปหาข้าวที่ยืนเงียบ ๆ คนเดียว ก่อนที่จะเดินเข้าไปหา “เอ้อ วิศ นี่ ฟางข้าว นิเทศปีสอง อย่าดุอะไรเขาล่ะ รู้ไหม”

“โอเคคร้าบบบบ”วิศตอบรับแล้วหยิบมีดขึ้นมาควง ไม่วายหันมายักคิ้ว หลิ่วตาอย่างกวนโอ๊ยให้ด้วย “คนของพี่ทิวผมไม่ยุ่งหรอกน่า”

“อย่าให้รู้แล้วกัน”ผมส่ายหน้าน้อย ๆ แล้วดึงตัวข้าวไปที่ห้องนอน ไม่ต้องคิดลึกเลยนะครับ แต่ละคน ผมไม่ทำอะไรน้องหรอกน่า

“พี่ทิว... จะทำอะไรฮะ”ข้าวถามผมเบา ๆ ขณะที่ผมกดตัวน้องให้นอนลงบนเตียง แล้วหันไปดึงผ้าขึ้นมาห่มให้ความอบอุ่น

“นอนพักก่อนนะข้าว ข้าวดูเพลีย ๆ พี่เป็นห่วง”ผมยิ้มบางให้กับน้องชายร่วมห้อง แล้วทิ้งตัวลงนั่งพิงตัวเตียง พร้อมกับหยิบหนังสือมานั่งอ่านเล่น “เดี๋ยวสัดสี่ห้าโมงพี่จะปลุกนะ นอนไปก่อนเถอะ”

แก้มขาว ๆ นั้นขึ้นสีแดงเรื่อ ก่อนที่เจ้าตัวจะมุดลงไปซุกผ้าห่ม ทำให้ผมไม่เห็นหน้าเขาอีก ไม่รู้ว่าเป็นไข้หรือเปล่า เดี๋ยวค่อยไปเอาปรอทมาวัดดู

เฮ้อ อย่าว่าแต่ข้าวเลย ผมก็ง่วงนอนหน่อย ๆ เหมือนกันแหะ... ขี้เกียจอีกแล้วนะทิวไผ่

++++++++++++++++++++++

สอบเสร็จแล้ว มาต่อแล้วค้าาา // ทำหน้าคนรอลุ้นผลสอบตัวใจระทึก

ตอนนี้มันดูเบลอ ๆ TT // มาเบลอด้วยกันนะคะ 5555 อารมณ์ยังค้างอยู่ที่ตัดน้องเลย แหะๆ

 :z2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 22-12-2014 00:37:55
พี่ทิวน่ารักอ้ะ กรี๊ดค่ะ ขอกรี๊ดดดด
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 22-12-2014 01:50:19
น้องฟางข้าวคงจะหึงพี่ทิวไผ่แน่ๆก็เห็นพูดถึงแต่ลมหนาวตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: minnin ที่ 22-12-2014 17:15:43
อย่าบอกว่าพี่ทิวนี้รักลมหนาวนะ สงสารข้าว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-12-2014 21:47:33
ตอนต่อไปอยากให้เป็นน้องปีหนึ่ง หรืออีกคู่ดีเอ่ย ^+++^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 22-12-2014 22:17:45
ตอนต่อไปอยากให้เป็นน้องปีหนึ่ง หรืออีกคู่ดีเอ่ย ^+++^

ขอเป็นน้องปีหนึ่งคร่า กำลังดราม่าเลยค้างๆๆๆๆ :impress3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 22-12-2014 22:46:35
ดราม่ากำลังมา ขอดราม่าแล้วค่อยเลิฟหวานๆล่ะกัน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-12-2014 11:04:54
ข้าวน่ารัก อยากกอดข้าว ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-12-2014 21:11:13
อย่าเพิ่งแย่งข้าวไปจากพี่ทิวกันนะคะ 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 23-12-2014 21:31:49
พี่ทิวววววววววววว สนใจน้องหน่อย
อย่าใจลอยบ่อยๆ น้องมันคิดมากน่ะ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 25-12-2014 19:29:16
ตอนพิเศษปีใหม่มี 2 ตอน 2 คู่นะคะ

ลุ้นๆน้าว่าคู่ไหนกันไหนน ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่12(ทิวxข้าว)P.8[22/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 25-12-2014 20:41:32
รอค่าาาาา  ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษHNY1(คีxกิต)P.8[28/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 28-12-2014 00:05:48
เปิดวาร์ปนะคะ ^^ เป็นตอนหลังจากรักกันแล้วค่ะ (ตอนพิเศษได้เปิดวาร์ปทุกรอบแน่เลยงานนี้ TT")

https://www.facebook.com/notes/midnigt-k-story-z%C7%90s%C3%A8/happy-new-year-1-%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%95/766548993423413

อ่านแล้วเข้ามาติชมได้ในนี้นะะ ^3^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษHNY1(คีxกิต)P.8[28/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 28-12-2014 00:36:25
คีตานี่รู้สึกว่าเป็นได้ทั้งรุกและรับนะ  ตอนที่คุยกับพี่หมอนี่อ้อนๆ แนวฝ่ายรับ แต่กับพี่กิตนี่...............

หวานละมุนเชียวตอนพิเศษนี่   ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษHNY1(คีxกิต)P.8[28/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 28-12-2014 03:16:43
อ่านมาแล้วค่าาาา หวานจริงๆ ⌒.⌒
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษHNY1(คีxกิต)P.8[28/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 28-12-2014 10:45:31
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มาเที่ยว "เลย" ด้วยแหละ ไปขึ้น"คาน" บ่ 555  :impress2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษHNY1(คีxกิต)P.8[28/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: minnin ที่ 28-12-2014 11:33:25
อยากอ่านคู่หลักเเล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษHNY1(คีxกิต)P.8[28/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Merrychrista ที่ 28-12-2014 17:00:23
เห็นนิยายเรื่องนี้หลายรอบล่ะแต่ไม่กดเข้ามาอ่านสักทีจนอยู่ดีๆก็ เอาว่ะ! เห็นหลายรอบล่ะ ถ้าไม่สนุกก็กดปิดไป จบ!
ได้อ่านเท่านั้นแหละ ติดเลย! ไม่ใช่อะไรติดใจการรับน้องค่ะ แบบ เฮ้ยย มันใช่เลย ที่กูโดนก็แบบนี้นี่แหละ (พูดในใจนะค่ะ555)
อ่านไป อื้อฮือ นึกถึงตอนรับน้องเลย ช่วงแรกๆ พี่ปีสองแล้วก็ปีสูงจะให้น้องทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นไอเท็ม รุ่น ลายเซ็น แล้วพอเปิดเรียนเจอพี่ระเบียบเท่านั้นแหละ เฮื้อกกก โหดร้ายยยย สารภาพไม่ชอบตอนพี่เค้าว๊ากพร้อมๆกันหนูฟังไม่รู้เรื่อง555 เจอระเบียบว่าโหดแล้วมาเจอพี่วินัยสำนักตัวเอง อ๊ากกก โหดกว่าอี๊กกก พี่วินัยเค้าจะเริ่มเอาของที่น้องปีหนึ่งได้มาคืนไปทีละอย่างๆ จนหมด (ยกเว้นรุ่น555) คือแบบ เศร้ามากกก น้องปีหนึ่งทุกคนต้องเห็นพี่ตัวเองเอาไอเท็มไปใส่ โดนยึดสมุดล่าลายเซนต์ คือพี่วินัยมากี่รอบ นี่ร้องไห้ทุกรอบ แล้วยิ่งไปกดดันช่วงชิงธง ช่วงนั้นพี่วินัยลงบ่อยมากกกก ร้องไห้กลับหอทุกวัน สงสารเพื่อน สงสารรุ่นพี่ที่โดนทำโทษแทน สงสารตัวเองด้วย555 แต่ก็ผ่านช่วงนั้นมาได้ล่ะนะ! กร๊ากกก ทุกวันนี้รักพี่วินัยกับระเบียบมากกว่าพี่สัน55555 อ่า แต่ที่มอไม่มีจับน้องเทคอะไรแบบนี้ค่ะ ไอดีใครไอดีมันไปเลย ไอดี100 ก็จะมีสายรหัสของ100ไปเลย หาพี่ง่ายดี555แต่ให้พี่รับเป็นน้องย๊ากยาก~ แล้วนี่ฉันเพ้อเจ้ออะไรเนี่ย5555
ลงจากดอยกลับมาที่นิยาย55 นิยายสนุกมากค่ะ อ่านไปอินไปคือมันอินจริงๆนะ ถ้าอ่านช่วงอยู่มัธยมจะไม่อินขนาดนี้555 อ่านแล้วบอกตรงๆเลยนะเค้าอยากให้พายุเป็นเคะมาก หมั่นไส้! อันนี้เหตุผลส่วนตัว ฮา แล้วก็น้องคีตาหนูน่ารักมากลูกอ่านตอนแรกนี่แบบ อ้าวๆ ลมหนาวจะมีมือที่สามเร๊อะ! อ่านไปเรื่อยๆ อร๊าย พี่กิต แต่ที่ยกให้อันดับหนึ่งในเรื่องคือพี่ทิวค่า ชอบมากก คือชอบผู้ชายที่ดูอบอุ่นอ่ะ แบบFCพี่ทิวเลย 55 ก็ติดตามไปเรื่อยๆค่ะ มาลงตอนต่อไปไวๆเน้อ555
ปล.ตอนแรกกะว่าจะไปเป็นพี่วินัย ขอเปลี่ยนใจล่ะกันค่ะ สงสารน้อง555 ขอไปเป็นพี่แฝงดีกว่า555ไปเกาะติดน้องผู้ชายวิศวะนิสนุง กรี๊ด นี้พูดอะไรไป55555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนพิเศษHNY1(คีxกิต)P.8[28/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 28-12-2014 20:42:14
คู่นี้หวานต้อนรับปีใหม่
 :katai5: :katai5: :katai5:
รออ่านคู่หลักจร้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 29-12-2014 12:05:48
วันที่สิบสาม

(ปันปัน)

ให้ตายเถอะ เมื่อไหร่ไอ้หนาวจะมาสักทีวะ แม่ง หืม อ่อ อ่าว ไง ดีครับ ผมปันปัน คนที่เกือบจะได้เป็นเฮดวินัยของเมดเทค ถ้าไม่ใช่ว่าหนาวมันเป็นคู่กรรมกับเฮดวิศวะคนปัจจุบันมาน่ะนะ

แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ... สำคัญที่ตอนนี้ผมว่าผมมีปัญหา... งานเข้านิดหน่อยแบบงง ๆ แล้วแหละ

ผมรู้สึกแปลก ๆ พิกล ๆ มาหลายวันแล้ว มันเริ่มมาตั้งแต่ก่อนที่จะประชุมการตัดน้องเมื่อสามวันก่อนซะอีก ตอนแรกก็ว่าคงคิดไปเอง แต่ผมจะคิดไปเองนานขนาดนั้นเลยเหรอวะเนี่ย

มันไม่ใช่แม่งแล้ว

ต้องมีอะไรแน่ ๆ โถ่เว้ย เมื่อไหร่ไอ้หนาวแม่งจะมาถึงสักทีวะ ห้านาทีแล้วนะโว้ยย อิเชี่ย

"ชักสีหน้าเป็นตูดให้เห็นแต่ไกลเลยนะเอ็ง"ในที่สุดคนที่รอก็มาถึงสักที หล่อเซียว ๆ มาตามฉบับ แค่เสื้อยืดแขนยาวพับแขนกับกางเกงยีนส์นี่

เดือนคณะออร่าแม่งจับทั้งชาติ

แล้วกูมานั่งชมมันทำไมวะ

"มีไรวะ ถึงเรียกมาอย่างด่วนเนี่ย"ลมหนาวตวัดตัวนั่งลงตรงข้ามผมแล้วเลิกคิ้วถาม "ว่ามาเร็ว อยากรู้"

"กูรู้สึกเหมือน... มีใครสักคนตามกูอยู่"ผมกดเสียงพูดให้เบาที่สุด หนาวมุ่นหัวคิ้วน้อย ๆ สายตามองผมมาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ผมบอก "จริง ๆ นะเว้ย"

"คุณปันครับ คุณปันมีจิตสัมผัสหรือมีญาณทิพย์ครับ เป็นคุณริวจิตสัมผัส หรือคุณเจน ญาณทิพย์ครับคุณ"เชี่ยนี่กวนประสาทได้อีก โอเค... ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันจริงคนอย่างไอ้ลมหนาวมันไม่กวน ไม่เล่นด้วยหรอก ผมรู้ แต่เชี่ย แม่งใช่เวลาเปล่าวะ

"กูจริงจังครับเพื่อน"ผมพูดเสียงเข้มให้มันรู้ถึงความจริงจังของผม ซึ่งคนที่ความรู้สึกไวอย่างลมหนาวไม่มีทางพลาดอยู่แล้วล่ะ "ซีเรียสนะมึง"

"ไม่ได้คิดไปเองแน่นะมึง"ลมหนาวมันถามกลับเสียงเข้มไม่แพ้กัน ดวงตาที่ฉายแววขี้เล่นตอนแรกเปลี่ยนเป็นจริงจัง

"เออ กูมั่นใจ ต้องมีใครตามกูอยู่แน่"ผมย้ำอีกครั้งกับเพื่อนสนิท "แม่ง ยิ่งช่วงเย็นเหมือนโดนจับตาดูทุกฝีก้าวเลยด้วย"

"คนหรือผี"เป็นคำถามที่ดี แต่ขอคำถามถัดไป เชี่ยนี่ "กูถามจริง ไม่ใช่ว่ามึงลืมไหว้อาจารย์ใหญ่แล้วท่านตามมาเอาเรื่องมึงนะ ปันปัน"

"กูไหว้อยู่กับพลอยเว้ย"ถึงจะไม่ได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่แล้วแต่ผมก็ไม่เคยลืมไปไหว้ท่านนะ ปีนี้จัดชุดใหญ่ด้วย (บนไว้ ถ้าได้A พาโธกับเคมีคลีนิคจะจัดชุดใหญ่ให้ท่านน่ะ ฮะ ๆ ได้แล้วก็ต้องแก้สักหน่อย) "มึงเป็นคนไปซื้อแตงโมกับส้มให้กูเอง ลืมหรือไง"

"ลืม"ตอบเร็วไปไหมวะ เพิ่งผ่านมาเดือนเศษเองนะเว้ย "กูจำได้แต่น้ำแตงโมปั่นที่มึงลืมเอาเม็ดออกแล้วให้กูดื่ม รสชาติโคตรไม่อร่อย"

"เรื่องดี ๆ มีไม่จำ"ผมอดที่จะสบถออกมาไม่ได้ เออ หลังจากนั้นผมเลยเอาผลไม้ไปให้พี่สักแกทำให้แทน หลังจากทำเม็ดแตงโมติดคอไอ้หนาวไปสี่ตลบ (เม็ดส้มด้วย) "แต่จริง ๆ นะเว้ย กูจะเป็นบ้าแล้วเนี่ย"

“แล้วใครตามมึงอยู่กัน”ลมหนาวจ้องหน้าผม ไม่พอ มันมองผมตั้งแต่หัว ไล่ลงมาจนถึงสุดเท่าที่สายตามันจะเห็น แล้วกลับขึ้นมาจ้องหน้าผมอีก “หน้าตาก็อืม... ไม่เลว ผิวเข้ม ตาคม หัวดำ สูงใช้ได้ หุ่นก็... ถ้าบอกไม่ดีเข้าตัวเอง ดีก็ได้ เรื่องเรียน... ไม่ได้เรียนด้วยกันก็ไม่น่ารู้ว่ามึงเก่ง ส่วน...”

“มีอย่างนึงที่กูเดาไว้... แล้วไม่น่าพลาดนะ”พูดขัดคอหนาวไว้ก่อนที่มีนจะสาธยายออกมาเยอะกว่านี้... แม่ง ไอ้หุ่นนี่มันยังไง ๆ อยู่นะ ดีก็ได้? ผมออกกำลังกายมากับไอ้คนพูดเนี่ย หกแพคนะเว้ย ไอ้ดีก็ได้มันน่าถีบชิบเลยว่ะ คนใต้แท้ ๆ อย่างผมจะให้ผิวขาวเป็นหยวกอย่างมันหรือไง? “กูว่าต้องไม่ใช่คนในคณะเราแน่ ๆ”

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”คุณประธานวินัยลมหนาวเท้าคางมองผมอย่างสงสัย “คนคณะเราแอบชอบมึงก็มีอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“เพราะเขามาไม่เป็นเวลาไง... แล้วส่วนใหญ่ก็มาแต่ตอนเย็น ๆ ที่พวกเราไปเล่นกีฬากันด้วย”ผมชี้แจงให้เห็นถึงจุดสังเกตของผม จริง ๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าสโตรกเกอร์ที่ตามผมอยู่นี่มาตอนไหน นับจากความรู้สึกตัวเองล้วน ๆ “ตอนแรกกูคิดว่าตามมึง แต่พอแยกกันแล้วความรู้สึกที่โดนจ้องมันก็ยังไม่หาย จนถึงหอเลย”

“เซ้นส์ดีนิ”จะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกันนะ... “แล้วคิดว่าเป็นคนในมหาลัยเราไหมล่ะ”

“ไม่แน่ใจ...”คำถามนี้ตอบยาก มหาลัยมันไม่ได้มีแต่คนข้างในเข้าออกเหมือนมัธยมที่พอถึงเวลาเข้าเรียนประตูก็ปิด ไม่มีใครเข้าออกอีกจนเลิกเรียน แต่มันสามารถเข้าได้ทั้งวัน กี่โมงก็ได้ รับบัตรเข้ามาก็จบ... หรือถ้าไม่ได้เอารถมา เดินเข้ามาดื้อ ๆ เลยก็ยังได้ เนียน ๆ เครื่องแบบสักนิด

“ปัน มึงคิดว่าคนที่ตามมึงเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”อีกคำถามที่ผมยังหาคำตอบไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้นึกถึงด้วย คิดแต่มีคนตามผมอยู่

“ไม่รู้...”ตอบไปตามตรง ไอ้หนาวเลยหรี่ตาใส่ผม ก่อนที่จะส่ายหน้าอย่างหน่าย ๆ คนมันโดนตามติดชีวิตเดือนอยู่ ใครจะไปมีกระใจมโนว่าผู้ชายหรือผู้หญิงวะ

“อย่างนายน่าจะผู้หญิงแหละมั้ง...”มีมั้งด้วย หน้าตากูไม่ได้เสป็คของผู้ชายนะเว้ย แมนแท้ หล่อ ล่ำ สมชาย สาวตรึม “ไม่ก็เกย์ควีน กระเทย”

“ที่พูดมาไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิดว่ะ”ผมถอนหายใจอย่างไม่รู้จะเอายังไงต่อดี มันเป็นแค่ความรู้สึกที่ผมแน่ใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าใครตามอยู่ และตามทำไม...

“ค่อย ๆ ดูไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังไงมึงก็อย่าไปไหนคนเดียวช่วงนี้...”อยู่ ๆ ดวงตาของคนตรงหน้าก็พราวระยับขึ้นมา พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก “เดี๋ยวโดนฉุดไม่รู้ด้วยนะ”

“บ้าหรือไงวะ แม่ง”พูดมาได้ ขนลุกชิบ ใครจะมาฉุดผู้ชายอย่างผม ไม่ได้เอวบาง ร่างน้อยอย่างพี่เบียร์ปีสี่สักหน่อย (สาวประเภทสองตัวแม่ของคณะเลย...) นิสัยขี้เล่นไม่เป็นเวลาของมันนี้ แม่ง ทำสยิว ขนลุกยันตูดเลย “เครียดนะเว้ย”

ผมยกมือขึ้นจะขยี้กบาลตัวเองแก้เครียด แต่ได้หนาวมันจับเอาลงไว้ก่อน หน้าที่ยิ้มนิด ๆ ของมันเคร่งขรึมขึ้น แต่ไม่วายส่งซิกให้รู้ด้วยมาหางตามันเห็นอะไร

เด็กปีหนึ่งสี่ห้าคนกำลังเดินมาทางที่พวกผมนั่งอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอารมณ์ไหน (ยกเว้นโกรธ หงุดหงิด) ก็ต้องหันมาตีสีหน้าเรียบเฉยเอาไว้หน่อย ยิ่งช่วงตัดแบบนี้มันยิ่งเสี่ยง คนมันก็มีหลายแบบน่ะนะ บางคนตอนโดนตัดก็กลัวจนหงอ แต่ขณะเดียวกันบางคนก็หลงระเริงหนัก

“สวัสดีครับ / ค่ะ พี่”น้อง ๆ ยกมือไหวพวกผม คิดเหรอว่าจะรับไหว้... ไม่ล่ะ ยังไม่ใช่ตอนนี้ จากท่าทางที่ดูทีเล่นทีจริง ต้องกลับมาสวมหัวโขนเป็นวินัยอีกรอบ ตัวผมน่ะมันผู้ตาม ไม่เท่าไหร่หรอก แต่หนาวนี่ดิ “พี่ครับ / คะ สวัสดีค่ะ”

ปีหนึ่งไหว้อีกรอบ แต่ก็ไม่มีแม้แต่หางตาไปจากประธานวินัยของพวกเรา ลมหนาวตีหน้านิ่งได้เก่งขึ้นกว่าปีที่แล้วมาก แต่ผมรู้... ว่าในใจมันแกว่งไม่น้อย เพราะมันเป็นคนที่ใจดี และเสียสละมาตลอด (ตอนปีหนึ่งมันเคยบอกว่าจะไม่มีวันทิ้งน้อง แต่ปีนี้ต้องมาตัดน้องซะเอง ทำเอาโทรมยิ่งกว่าปีที่แล้วเลย ฮ่า ๆ)

น้องมันยืนยกมือค้างอยู่แบบนั้น ดวงตาสั่นระริกจ้องมองพวกผม หวังจะให้หันไปมองสักนิดล่ะมั้ง... ถ้าเป็นปกติยู่คนเดียว ผมอาจจะหลุดหันไปพยักหน้าให้น้องมันไป ๆ สักหน่อย แต่นี้อยู่กับคุณประธาน เปอร์เซ็นการหลุดแล้วโดนจับเจี๋ยนเป็นปันเจี๋ยนสูงเกิน ไม่เสี่ยง

“เดี๋ยวผมจะคอบช่วยคุณดูแล้วกัน น่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง”กู มึง อย่างสนิทสนมของเราต้องโดนเบรกไว้แต่เพียงเท่านั้น “อีกไม่นานคงได้รู้กัน”

“ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”ผมตอบรับไปด้วยเสียงและท่าทีที่เคร่งขรึมพอ ๆ กัน น้องที่ยืนอยู่ก็ไม่ไปสักที ยืนไหว้เหมือนกูเป็นศาลเจ้าไหว้ขอพรอย่างนั้นแหละ

ครืด

อะไร ของใครสั่น... ยังไม่ทันได้สำรวจ เฮดวินัยจอมเฮี๊ยบก็หยิบไอโฟนที่มีชื่ออันเลิศหรูว่า ‘ไคฟง’ ของมันขึ้นมาดู ก่อนจะมุ่นหัวคิ้ว

“ผมคงต้องไปทำธุระแล้ว... ปัน คุณต้องไปกับผม”ลมหนาวพูดขึ้นระหว่างที่มันลุกขึ้นหยิบของรอบตัวเก็บใส่กระเป๋ากางเกงอย่างไว(มีแค่มือถือ กระเป๋าตังค์ กุญแจรถ เยอะดีนะ)

“อืม”ไม่ถามเหตุผล มันอาจจะแค่ช่วยให้ผมออกจากตรงนี้ไปก็ได้ น้องไม่ยอมไปสักที ก็มีแต่เราที่ต้องเป็นคนไปเอง

“ประธานคณะแพทย์เรียกรวม”ประโยคนี้ทำสะอึก พี่ทิวไผ่เรียกรวม? นานปีมีหนที่พี่เขาจะเรียก ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญจริง ๆ (อย่างเรียกไปเทศน์ที่ทำให้ใครบางคนไม่สบาย...)

“อย่างนั้นรีบไปเถอะ”ถ้าไปเลทมากคุณอาจจะได้อยู่ไม่สุกกับสายโทรศัพท์ที่จะเข้ามาไม่ยั้ง ยิ่งถ้าเอาใส่ไว้ในกางเกงแล้วเปิดสั่น อาจจะเสร็จไม่รู้ตัว

ผมกับลมหนาวเดินออกมาจากหน้าแลปไปลานจอดรถอย่างไว โดยไม่แม้แต่จะหันไปมองน้องที่ไม่รู้ว่าจนตอนนี้จะเลิกยกมือไหว้ขอพรหรือยังว่าเป็นยังไงบ้าง ใจนึงผมก็สงสาร แล้วก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ที่ให้น้องมันยกมือไหว้อยู่แบบนั้น แต่อีกใจก็อยากฝึกให้น้องรู้...

ไม่ใช่ว่าทุกเวลาจะมีคนคอยยื่นมือเข้ามาป้อนทุกอย่างให้ถึงที่ แต่ต้องรู้จักเดินทางไปหามันด้วยสองมือของตัวเองบ้าง...

แต่นะ ชาววินัยเมดเทคอย่างเรา ๆ ไม่ได้หวังว่าน้องจะรู้ความนัยน์แฝงของสิ่งที่ทำให้พวกเขา แต่แค่ได้เห็นน้องรักกัน สามัคคีกัน มันก็โอเคในระดับนึงแล้ว

แต่ก่อนจะคิดถึงเรื่องนั้น... ผมจะทำยังไงกับคนที่ตามผมอยู่ดีเนี่ย

แม่งงง ต้องการเหี้ยอะไรจากกูวะครับ บอกมาเลย!!

ฮ้วย


(ลมหนาว)

อยู่ ๆ ก็ไลน์มาเรียกให้กลับไปห้องประชุมเล็กที่คอนโด ไม่รู้ว่ามีอะไร หรือจะทำแผนอะไรอีก พี่ทิวยิ่งไม่ค่อยเหมือนใครเขาอยู่ด้วย จะเรื่องชิงธงหรือเปล่า หรือเป็นเรื่องงานอื่น การไม่บอกอะไรมากไปกว่าทำธุระเสร็จให้รับกลับของพี่เขา แล้วยังให้เอาเพื่อนไปด้วยนี้ ทำผมเครียดหนักกว่าเก่าอีกนะครับ

“เห้ยยย เบาาาา ในเมืองไม่ใช่สนามแข่งรถนะเว้ย ไม่ต้องเหยียบขนาดนั้น”ปันปันร้องขึ้น หลังจากที่ผมเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วจากแปดสิบขึ้นมาเป็นร้อยยี่สิบ วันนี้ถนนโล่งนี่ครับ จะกลัวอะไร “หนาววว ระวังรถสิบล้ออ”

“เออ เห็นแล้ว”หักหลบแล้วปาดหน้า เข้าเดี๋ยวต้องเลี้ยวซ้าย ถ้าเข้าไม่ทันได้อ้อมไกลน่ะครับ “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า มึงไปถึงคอนโดพี่ทิวสภาพครบสามสิบสองแน่”

จริง ๆ ผมว่าผมก็ขับรถไม่ได้เร็วมากนะครับ ถ้าเทียบกับเวลา ขนาดเหยียบแล้วบางทียังไปมหาลัยสายเลย (เรียนเช้า แต่ดันกลับไปนอนที่บ้าน เหยียบ ปาด แซง ครบสูตรคนด่าเลยครับ แหะ ๆ) หลัง ๆ เลยกลับบ้านเฉพาะวันหยุดยาว ไม่ก็มีเรื่องสำคัญเท่านั้นล่ะครับ ไม่ต้องห่วงมาก ยังไงพี่โซนก็คอยดูแลพ่อแม่อยู่แล้ว (พี่โซนร้อน พี่ชายของผมเองครับ ดูไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่เลยว่าไหมครับ)

ใช้เวลาไม่นานก็กลับมาถึงคอนโด โดยที่ยังไม่มีใครโทรตาม โล่งอกไปหน่อยนะครับ ไม่งั้นสายโทรศัพท์ได้ไหมแน่ ๆ

ผมเดินนำปันปันขึ้นไปที่ห้องประชุมเล็ก จะว่าไปวันนี้มีรถที่ไม่คุ้นมาจอดเยอะเหมือนกันนะครับ ทั้งมอเตอร์ไซต์และรถยนต์

ใครนัดชุมนุมสังสรรค์กันข้างในคอนโดที่รักษาความปลอดภัยเป็นเลิศนี้หรือไงกันนะ... แต่ผ่านยามกับประชาสัมพันธ์ของที่นี่เข้าไปได้ คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งครับ

“ยังหรูเหมือนเดิม”เสียงเพื่อนในคณะที่มาด้วยกันเปรยขึ้นให้ได้ยินเบา ๆ

“ก็นะ... เขายังไม่ได้ปรับปรุงอะไรใหม่”คอนโดที่ผมยืนอยู่นี่เทียบได้กับโรงแรมห้าดาวมั้งครับ ตอนแรกเห็นว่าคุณลุงเขาสร้างขึ้นมาให้ลูกชายมาอยู่เล่น ๆ แต่ทำเลทอง เลยสร้างเป็นคอนโดขึ้นมาเปิดขายห้องชั้นล่าง ๆ ชั้นบน ๆ เก็บไว้อยู่กันเอง แต่จนแล้วจนรอด ที่บอกไว้อยู่กันเอง ก็มีพี่ทิวคนเดียวที่มาอยู่ล่ะครับ

“พี่ทิว มีอะไร...”ผมว่าผมรู้แล้วว่ามีอะไร ทั้งหม้อ ผัก ของสด แล้วก็คนที่โคตรจะเยอะอย่างนี้... อยู่ ๆ พี่ทิวแกก็จัดปาร์ตี้ขนาดย่อม ๆ ขึ้นมาเนี่ยนะครับ?! มอง ๆ แล้ว รู้สึกจะมีแต่คนคณะเทคนิคการแพทย์ คณะแพทย์ แล้วก็... พวกวิศวกรรมศาสตร์

“มาแล้วเหรอหนาว”พี่ทิวเดินออกมาจากในครัวเข้ามาหาผมพร้อมด้วยรอยยิ้ม “พี่เห็นพวกเราเครียด ๆ กัน เลยหาอะไรมาผ่อนคลายความเครียดสักหน่อย”

“ครับ...”ผ่อนคลายครับ เอาคณะที่เป็นคู่อริกันมาชนกันแบบนี้ โคตรผ่อนคลายเลยครับ พี่ทิวมองผมด้วยแล้วตารู้ทัน ก่อนที่จะยกมือถ้ามาส่ายนิ้วชี้ให้ผม

“ห้ามทะเลาะกันนะครับ หนาว รู้ไหม”เสียงอุ่น ๆ ที่แฝงแววดุหน่อย ๆ ถูกส่งผ่านเข้าโสตประสาททางอากาศ... ใครจะไปเถียงกันต่อหน้าพี่ทิวล่ะ...

สิ้นคิดเกินไปแล้ว

“ผมไม่มีอารมณ์จะมาทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ”พี่ทิวยิ้มรับแล้วลากผมเข้าไปข้างใน นั่งข้าง ๆ พี่เขานั่นล่ะครับ ขวามือเป็นพี่คิน ก็คุยกันอยู่บ่อย ๆ นะครับกับพี่คนนี้ ทำงานเป็นเฮดมาด้วยกัน แต่ตรงข้ามดันเป็นอีกคนที่ผมไม่อยากจะเสวนาสักเท่าไหร่...

จะใครได้ล่ะ ก็เฮดว๊ากของวิศวะอย่างพายุไงครับ

“เออ หนาว เห็นว่าตัดน้องแล้ว เป็นไง น้องเริ่มดีขึ้นบ้างไหม”พี่คินหันมาชวนคุย ทำให้ผมละสายตาจากคู่กันตรงหน้ามาหาพี่เขาแทน

“ยังไม่เลยครับ เหมือนเดิมด้วยซ้ำ ยังไม่ได้ยินเสียงน้องซ้อมร้องเพลงเลยด้วย”คิดแล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ ถึงจะตัดออกไป แต่ผมก็รอฟังอยู่นะครับ.. รอฟังความรัก และความสามัคคีของระดับชั้นปีพวกเขา... แต่มันอาจจะเป็นไปได้แค่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ “ปีนี้เทคนิคการแพทย์คงไม่ได้ธงหรอกครับ”

“ไม่แน่เสมอไปน่า หนาว รอดูต่อไปก่อนนะ”พี่คินบีบไหล่ผมหนัก ๆ ให้กำลังใจ... แต่ผมว่าผมไม่น่าเดาผิดหรอกครับ... มันดูไม่มีความหวังเลยจริง ๆ

“อย่าเครียดไปก่อนน่า หนาว มา กินเถอะ”พี่ทิวคีบเอากุ้ง เนื้อปลา ปลาหมึก มาใส่ถ้วยผม พร้อมกับผัดการขาวที่ต้มจนเปื่อยแล้ว “อย่าคิดมากเลยนะครับ”

“ครับ...”ตอบรับไปทั้งที่รู้ตัวเองว่าทำไม่ได้ แต่พี่ทิวก็ทำเพื่อผมมามากแล้ว จะให้เขามากังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ไม่นานก็ผ่านไปแบบนี้ เพราะผมคงใช่ที

เอาเถอะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

อยู่ ๆ ก็มีแก้วน้ำส้มมาวางตรงหน้าผม พายุไปตักน้ำมาให้ผม? วันนี้พายุเข้าแน่ ๆ ครับ หมอนั่นวางแก้วลงมาแล้วไม่พูดอะไรอีก ว่าแต่... กินได้แน่ไหมเนี่ย

“ขอบใจ”ถึงไม่ได้อยากจะพูด และไม่พอให้ทำให้ แต่มันเป็นมารยาทอันควร เขาทำให้ยังไงก็ต้องขอบคุณสักนิดล่ะนะครับ

“อืม”เป็นคำตอบที่สั้นเกินคนอย่างพายุไปหน่อยนะ... ผมเงยหน้าขึ้นไปมองจ้องตากับคนที่นั่งตรงข้ามอย่างสงสัยในการสงบปากสงบคำของมัน

พายุกระตุกยิ้มน้อย ๆ แล้วพูดออกมาอย่างไม่มีเสียงว่า

‘กินเยอะ ๆ นะครับ ผมจะได้กอดได้เต็มมือ’

แม่ง... ใครจะให้มันกอดวะครับ วิศวกรรมศาสตร์มีสอนวิชา มโนขั้นเทพด้วยหรือยังไง

‘ไม่มีวันที่คุณจะได้กอดผม’ตอบกลับไปอย่างไม่มีเสียงเหมือนกัน ไม่มีใครรู้ถึงคำที่เราพนันกันเอาไว้นี่ครับ

‘อีกไม่นานก็จะได้รู้กัน’

ผมกับพายุจ้องตากันเขม็งอย่างไม่มีใครยอมใคร เป็นคนอื่นอาจจะมีอ่อนให้บ้าง แต่กันมัน ผมไม่ยอมเหมือนกันล่ะครับ

“อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะว่าทะเลาะกันอยู่ทางสายตา ถ้าไม่อยากโดนดีก็เลิกทะเลาะกันได้แล้ว”เสียงพิฆาตแบบเย็น ๆ แสกหน้าขึ้นมา ทำเอาผมหยิบช้อน คว้าตะเกียบกินสารพัดของในชามแทบไม่ทัน... ไม่ใช่แค่ผมหรอก ไอ้พายุก็ด้วย

พี่ทิว... Winner ตลอดกาล

อ่อ... อีกอย่าง น้ำส้มกินได้นะครับ...

+++++++++++++++++++++++++++++++++ๅ

มาแบบสั้นหน่อย... แหะ ๆ สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้านะคะ เผื่อวันปีใหม่ไม่ได้มาลงนิยาย 555 ตอนต่อไปจะถึงคิวของน้องปีหนึ่งบ้างแล้ว

เย้

ปล. ใครยังไม่ได้อ่านตอนพิเศษปีให่1 เข้าไปอ่านกันได้ที่ https://www.facebook.com/notes/midnigt-k-story-z%C7%90s%C3%A8/happy-new-year-1-%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%95/766548993423413
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 29-12-2014 12:21:40
เข้าไปอ่านตอนปีใหม่ใน Facebook แล้วคร้า รอตอนต่อจากตัดน้องอยู่นะคะ (ลุ้นความสัมพันธ์พายุกับลมหนาวด้วย) :impress3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 29-12-2014 12:45:38
อยากให้น้องสามัคคีกันเร็วๆ สงสารหนาว  :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 29-12-2014 13:41:15
 :m20:  โมเม้นนี้ ทำไมพี่ทิวเหมือนพ่อ ที่เห็นลูกๆทะเลาะกันเลยนะ  :m20:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 29-12-2014 16:19:06
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 29-12-2014 18:58:21
ตอนพิเศษปีใหม่2 เป็นพายุ ลมหนาว เจอกันวันที่ 31-1 นะคะ <3
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 29-12-2014 20:50:12
ถ้าเราเป็นน้องกลุ่มนั้นนี่ มีเงิบเลยนะ 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 29-12-2014 22:35:39
พี่ทิวนี่พ่อของลมหนาวชัดๆ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-12-2014 23:05:47
น้ำหนาวกินน้ำส้ม????  อ๋อย...นางเอกมาแล้ว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 30-12-2014 00:15:10
 :impress2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 30-12-2014 10:24:27
เข้าไปอ่านตอนปีใหม่ใน Facebook แล้วคร้า รอตอนต่อจากตัดน้องอยู่นะคะ (ลุ้นความสัมพันธ์พายุกับลมหนาวด้วย) :impress3:


ตอนต่อไปแล้วค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 30-12-2014 10:55:36
อยากอ่านตอนไปเลยยยยย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่สิบสาม P.9[29/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyarin ที่ 30-12-2014 17:04:20
 :z2: :z2: รอคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนSPปีใหม่2(พายุ ลมหนาว) P.9[31/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 31-12-2014 21:31:37
https://www.facebook.com/notes/midnigt-k-story-z%C7%90s%C3%A8/happy-new-year-2-%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8-x-%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7/769046739840305

เปิดวาร์ปอีกแล้วค้า เย้ (ร้องไห้แปป เปิดบ่อยเกิน)

คราวนี้ของคู่หลักที่รอคอย (หรือเปล่า) นะคะ

ตอนหลักตอนต่อไปของคีตา ฮิ้วว ได้คิวน้องปีหนึ่งแล้วว // หยิบทิชชู่

แล้วพบกันตอนต่อไปค้า ^3^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนSPปีใหม่2(พายุ ลมหนาว) P.9[31/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 31-12-2014 23:47:39
:L1:  Happy new year 2015  :L1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนSPปีใหม่2(พายุ ลมหนาว) P.9[31/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 01-01-2015 09:19:37
:L1:  Happy new year 2015  :L1:

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ ตอนSPปีใหม่2(พายุ ลมหนาว) P.9[31/12/14]
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 01-01-2015 16:41:23
คู่นี้หวานจริงๆเลย ว่าแต่...เตรียมอุปกรณ์ขนาดนั้นแล้ว ไม่ใช้หน่อยหรอพายุ~  :hao6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-01-2015 19:37:04
วันที่สิบสี่

(คีตา)

หลังจากวันที่โดนตัดสาย พี่ปีสอง ปีสาม ปีสี่ ก็แทบจะหายไปจากชีวิตของปีหนึ่งอย่างพวกผมจริง ๆ ทักไลน์ไปไม่ตอบ โทรไปไม่รับ เจอกันไม่ทักทาย ไหว้ไปก็เฉยเมย ไม่รับไหว้เหมือนเคย ไม่ใช่แค่เทคนิคการแพทย์ แต่รวมไปถึงพวกวิศวะหมาหงอยด้วย

โคตรอึดอัดเลยโว้ย

แต่จากเหตุการณ์วันนั้น ทำให้ผมรู้ได้โดยที่ไม่ต้องมีใครมาบอกว่าลุงเทคของผมคือพี่ลมหนาว ผมนี่เย็นยะเยือกเลย และผมก็มั่นใจโคตร ๆ ด้วยว่าคนที่ผมโทรหาทุกวัน ไม่ใช่พี่ลมหนาวแน่ ๆ (ก็เบอร์พี่แกทนโท่อยู่หลังป้าย แม่ง คนละเบอร์ชัด ๆ) จะใครผมไม่สนแล้วตอนนี้

เพื่อนในชั้นปีทำหน้าเป็นหมาหงอยกันหมด ยิ่งเจอพี่เทคตัวเองเมินยิ่งห่อเหี่ยวกัน โทษกันเองอีกว่าเป็นเพราะใคร ผมนี่อย่างเซ็ง

"เฮ้ย ๆ คี พี่มึง"ไอ้วัฒน์เพื่อนซี้ผม พยักเพยิดให้ผมที่กุมขมับด้วยความปวดกบาลกับโคตรปัญหาที่เห็นตรงหน้ามองไปยังพี่เทคตัวกลมหน่อย ๆ ของผมเอง

ใบหน้าของพี่เกดเรียบเฉย ทั้งที่หันหน้าตรงมาหาพวกผมอยู่ทำเอาผมใจแกว่ง รู้สึกเข้าใจเพื่อนที่หงอยเพราะพี่เทคเมินสนิทขึ้นมาตงิด ๆ

“พี่เกด สวัสดีครับ”ผมทักทายพี่เขาด้วยเสียงที่ร่าเริง แต่พี่แกไม่แม้แต่จะหยุดชะงักเลย เดินตรงไปที่ตึกห้องสมุดที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากเรื่อย ๆ “พี่เกด เดี๋ยวดิ”

ผมยิ่งไปดักหน้าพี่เขา แทนที่พี่เทคผมจะหยุด เปล่าเลย เบี่ยงหลบแล้วเดินต่อไป หน้ายังไม่มองด้วยซ้ำ เรื่องอะไรจะยอมกัน ไม่อาแบบนี้ดิ

“พี่เกด อย่าเพิ่งไปสิครับ คุยกับคีก่อน”ผมเดินถอยหลัง ในขณะที่พี่เกดเดินจ้ำ ๆ เข้ามาอย่างไม่คิดจะหยุด พอผมหลุดเดิน พี่เขาก็เดินเบี่ยงไป จนเป็นผมเองที่ต้องวิ่งตาม “พี่เกดดด คุยกับคีก่อนนะครับ พี่เกด”

ไม่ได้รับสัญญาณจากหมายเลขที่ท่านเรียกอยู่ดี พี่เทคคนดีของผมเดินเข้าไปในอาคารห้องสมุดอย่างรวดเร็ว โดยไม่แม้แต่จะปรายตามองผมเลย รู้สึกช้ำใจอย่างแรง

ผมเดินกลับไปนั่งกับเพื่อนในกลุ่มอย่างหงอย ๆ ไอ้เล (ชื่อเต็ม ทะเล) ประธานชั้นปีที่หนึ่งบีบไหล่ผมอย่างให้กำลังใจ โอเค มันเฟลหน่อย ๆ เหมือนกัน

ก็ปกติเวลาเจอพี่เกดทุกครั้ง พี่เขาจะยิ้มให้ เข้ามาคุยเล่น เล่นหัวนิดหน่อย ไล่เตะบ้างบางครั้ง มันทำให้ผมรู้สึกว่ายังมีตัวตน แต่เจอแบบนี้มัน... รู้สึกไม่ดีเลยแหะ

“ไม่อยากจะเชื่อนะว่าพี่เกดเขาจะเฉยได้ขนาดนั้น”ยิปโซเปรยขึ้นมาท่านกลางความเงียบ “ปกติเห็นออกจะขี้เล่น คุยก็เก่ง ไม่เคยไม่ยิ้มให้คีเลยด้วย”

“อืม”ขอเวลาทำใจแปป ยังพูดไม่ออก พี่เกดปกติเขาไม่เคยเมินผมเลยสักนิดนะ เจอกันออกจะบ่อยด้วย อย่างน้อยก็น่าจะมองกันสักหน่อยก็ยังดี

“แต่คิดอีกแง่ พี่เขาทำได้แบบนั้นก็ไม่แปลกนะ”เลพูดตอบกลับยิปโซไป แปลกไม่แปลกไม่รู้ ที่รู้คือผมอยากคุยกับพี่เทคเหมือนเดิม... ไม่ชอบการไม่มีตัวตนแบบนี้เลยโว้ย “ถึงจะเป็นพี่กล้อง แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นน้องเทคของพี่ลมหนาว น้องเทคของประธานวินัยเลยนะ”

“อีกอย่าง...”คราวนี้เป็นวัฒน์เอ่ยขึ้นบ้าง จะย้ำกันให้ผมช้ำใจเล่นทำไมเนี่ย “ถ้าพี่เกดเขาม่ได้เป็นพี่กล้อง ผ่านนี้เขาเป็นพี่วินัยไปแล้วด้วย”

“พอเหอะ”ผมถอยหายใจอย่างอดไม่ได้ อายุลดลงไปอีกแล้วสิ บ้าจริง เมื่อวานไลน์ไปหาพี่กิต พี่เขาก็ไม่แม้แต่จะอ่าน เซ็งงงง “เรามาคิดกันดีกว่าว่าจะทำยังไงให้มันหลุดจากความกดดันพวกนี้ เพื่อนคนอื่น ๆ ก็แน่ละ รพล่ำกันไปหมด ถ้าเป็นอย่างนี้เราไม่มีทางได้ธงมาแน่ ๆ”

“นั่นสินะ... ว่าแต่...”ทะเลเหล่มองผมแล้วยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “นายก็พูดอะไรที่มีสาระเป็นเหมือนกันนี่หว่า คุณเดือนมหาลัยคีตา”

“ใช่เวลาเล่นไหม เค็ม”ผมแยกเขี้ยวใส่เพื่อนข้างห้อง ใช่ เชี่ยนี่อยู่ข้างห้องผมเอง วันดีคืนดีเคาะกำแพงกวนตอนผมงีบอีกต่างหาก (ผมเลยไปเคาะแกล้วมันคืนตอนดึก ๆ 5555) เชี่ยทะเล เชี่ยเค็ม

“ยังไงก็ต้องนัดดันมาซ้อมร้องเพลงก่อนว่ะ ไม่อย่างนั้นก็ร้องกันไม่ได้แน่”วัฒน์เข้าสู่โหมดจริงจังแล้ว ทำเอาคนที่เหลือบนโต๊ะต้องเข้าโหมดไปด้วย

“แล้วเพื่อนจะมากันไหมอ่ะ”ผู้หญิงคนเดียวนโต๊ะพูดสิ่งที่อยู่ในใจผมออกมา นั่นสิ นัดอ่ะ ไม่ยากหรอก แต่จะมากันไหมนี่เรื่องใหญ่ “ถ้านัดแล้วไม่มาก็เท่านั้น... อีกอย่างพวกเราจะไปซื้อกันที่ไหน”

“ก็หน้าแลปนี่แหละ”เลชี้ไปด้านหน้า หน้าแลปของคณะเทคนิคการแพทย์ ใหญ่พอจะจุคนได้เกือบทั้งคณะ แน่นอนว่ามันพอสำหรับพวกเรา... “ยังไงพวกวิศวะก็ต้องไปหาทางของพวกมัน เราก็ต้องทำให้พวกเราพร้อมที่สุด ก่อนจะถึงวันจริงให้ได้ ไม่อย่างนั้น...”

“เฮ้อ...”ทุกคนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าพวกเราทำพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยอีกมันจะเป็นยังไง จะได้พี่คืนไหม

โดนตัดมาหลายวัน ไม่มีใครให้ผมไปกวน ไปอ้อนก่อนนอนเลย เหงา ๆ พิกลเหมือนกัน (โทรกลับบ้านไป ก็ไม่มีใครรับ สงสัยออกนอกประเทศกันไปอีกแล้วล่ะมั้ง)

“เอาน่า พวกเราต้องสู้สิ ถ้าเราไม่พยายาม เราจะได้สิ่งที่เราต้องการได้ยังไง จริงไหม”เลมันชูกำปั้นขึ้นอย่าฮึกเหิม เอ้า ลุยกันสักตั้งจะเป็นอะไร

สู้ตาย!!


หลังจากตกลงกันได้แล้ว ทะเลกับยิปโซเลยไปคุยกับเพื่อน ๆ ในชั้นปี ตกลงกันว่าทุกเย็นเราจะมาซ้อมร้องเพลงชิงธงกันที่หน้าแลป เพื่อนส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่ก็มีบางคนที่ไม่ได้อยากจะได้พี่ไม่สนใจ ไม่คิดจะทำ ซึ่งนั่นทำให้เพื่อนในกลุ่มของพวกเขาต้องรับผิดชอบเอาเพื่อนตัวเองมาให้ครบกันเอง

ตัวผมก็ต้องฝึกร้องเพลงให้คล่อง ๆ ไว ๆ จะได้เอาไปสอนเพื่อน แล้วก็คอยจับพวกที่ร้องไม่ได้ด้วย ในช่วงนี้เลยไม่ค่อยได้คุยเล่นอะไรกับเพื่อนในคณะ เพื่อนเก่า เพื่อนนอกคณะสักเท่าไหร่ (ไม่ใช่แค่ผม เพื่อนที่อยากได้พี่ทุกคนก็เป็น บางคนถึงขั้นมีเวลาว่างไม่ได้ ต้องนั่งฮัมเพลงที่ใช้ชิงธงทั้งหมดวนลูปไปเรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ)

ผมมองโทรศัพท์อย่างเหงา ๆ ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วพี่กิตกับพี่เกดก็ไม่ได้ตอบไลน์อะไรกลับมา เฟสก็ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว บางทีมันก็เป็นแรงฮึดให้ช่วยผลักดันเพื่อน แต่บางทีมันก็ท้อ...

ผมอยากได้กำลังใจสักนิดก็ยังดี

เวลาแบบนี้ พอได้นึกถึงตอนประกวดดาวเดือนแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้เหมือนกัน พี่เกดเขาให้กำลังใจอยู่ตลอด เอาผลไม้ เอาข้าวมาให้บ้าง ส่วนพี่กิตก็เทรนผมให้พร้อมขึ้นเวทีอย่างหนัก ยิ่งการแสดงตอนนั้นที่ให้เป็นคนคิดมาให้ก็ไม่รู้ ทั้งที่พี่กิตเองก็ไม่ได้เก่งการแสดง แต่ก็พยายามทำให้ผมดูเป็นตัวอย่าง

ถึงจะเหนื่อยกาย แต่ก็มีความสุขเล็ก ๆ ล่ะนะ

ต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง...

อาจจะยังพอมีโชคบ้างที่นอกจากวันนั้นแล้วผมก็ไม่ได้เจอพี่เกดอีกเลย พี่กิตเคยเห็นหลังไว ๆ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยเรียกเขาก็ไปแล้ว

เหงาจริงว๊อยยย

พวกเราใช้หน้าแลปเป็นที่ฝึกซ้อมทุกเย็น แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าเป็นหน้าแลปของคณะเทคนิคการแพทย์ ยังไงก็ต้องเจอรุ่นพี่ปีสามปีสี่ที่เรียนข้างในแลปเกือบทุกวัน

แต่ไหว้พี่ ๆ ไปก็ไม่มีพี่คนไหนสนใจ และหันมารับไหว้เลย โดยเฉพาะถ้าในเวลานั้นมีประธานวินัยอย่างพี่ลมหนาวอยู่ด้วย ยิ่งแล้วใหญ่

ห่างเหินแท้

แต่ไม่ว่ายังไง ผมกับเพื่อน ๆ ต้องเอาพี่คืนมาให้ได้ล่ะ อยู่กันเองชั้นปีเดียวมันว้าเหว่เกินไป ทำอะไรก็ไม่รู้ว่าถูกไหม ที่สำคัญเรื่องการประสานงานกับทางสโมสรนักศึกษา ยังดีที่มีพี่คณะแพทย์เข้ามาช่วย ไม่อย่างนั้นคงเน่าไม่มีชิ้นดีแน่ ๆ

“คี นายกว่ามันจะไปรอดเหรอวะ”นนท์ เพื่อนคนนึงในคณะผม มันค่อนข้างจะแอนตี้ระบบโซตัสขั้นหนักพูดขึ้นอย่างเซ็ง ๆ “เขาม่ได้บอกว่าถ้าได้ธงมาแล้วจะคืนพี่ปีสองให้นี่หว่า”

“เออ ใช่ คี เราจะแน่ใจได้ยังไงว่าถ้าได้ธงมาแล้วเราจะได้พี่ปีสองคืนอ่ะ”ดรีม คนนี้เป็นเด็กที่ซิ่ววิศวะมาเลยไม่ค่อยสนพี่เท่าไหร่สวนขึ้นถามเสริมจากนนท์

“เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะได้พี่คืนไหม”พอผมพูดประโยคนี้จบ เสียงเซ็งแซ่ของเพื่อน ๆ ทั้งหมดในชั้นปีก็ดังขึ้น ทำนองว่าแล้วจะตั้งใจทำไปเพื่ออะไร ทำทำไม “แต่ก็ยังดีกว่าเราไม่ทำอะไรกันเลยไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยเราก็มีสิ่งที่จะนำมาต่อรองเอาพี่ของเราคืนมาได้นี่”

“ทั้งที่อาจจะทำไปเสียเปล่าเนี่ยนะ”ดรีมชักสีหน้าไม่พอใจใส่ผม ดวงตาของเธอฉายแววหงุดหงิดอย่างไม่ปิดบัง “เสียเวลาเปล่า ๆ”

“ดรีมครับ ถ้าเรายังไม่ลองพยายาม แล้วเราจะได้สิ่งที่เราต้องการไหมครับ”ผมทำใจเย็นแล้วเอาน้ำเข้าลูบ ถ้าไม่ติดว่ามีคำว่าสภาค้ำหัวอยู่ คงมีขึ้นเสียงกันบ้างล่ะ ยิ่งเซ็ง ๆ อยู่ด้วย “ดรีมครับ ตอนนี้พวกเราทุกคนต้องช่วยกันแล้วนะครับ เราต้องร่วมมือกัน จะขาดใครคนใดคนนึงไม่ได้นะครับ”

“หึ”แม่ง ถ้าไม่คิดว่าแสตนด์ชิงธงต้องขึ้นให้ครบนี้ ผมจะเหวี่ยงให้พวกไม่เต็มใจขึ้นออกไปให้หมด ไม่ต้องมาง้องอนอยู่แบบนี้แน่
“นะครับดรีม ถือว่าช่วยเพื่อนนะ”หมดคำจะพูดแล้ว ถ้าเขาไม่ยอม คงต้องให้คนอื่นมากล่อมแทน

มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องมาง้อเพื่อนทุกคนให้ขึ้นชิงธงนี่น่า แค่ความร่วมมือเล็ก ๆ ยังให้กันไม่ได้เลยแบบนี้ ต่อไปจะทำงานที่ใหญ่กว่านี้ได้ยังไง

“ก็ได้”ดรีมย่นจมูกใส่ผม เอ่อ ทั้งที่ไม่ได้สวยอะไรอยู่แล้ว อ้วนกลมเป็นเลขศูนย์ ทำหน้าแบบนี้เหมือนแม่หมูอารมณ์เสียเลยนะนั่น... “แล้วคีจะรู้ว่าเสียเวลาเปล่า”

แม่นางสะบัดผมเสีย ๆ ของคุณเธอ แล้วกลับไปนั่งประจำที่ ผมล่ะอยากถอนหายในสักสามร้อยที จะบ้าตาย ผู้หญิงอะไรวะเนี่ย

หลังจากที่ซ้อมร้องเพลงไปอีกหลายรอบ ทะเลมันเห็นว่าเพื่อน ๆ จำเนื้อได้บ้างแล้ว เลยซ้อมการลุก นั่ง ยืน ตามจังหวะนับอย่างที่พี่ ๆ เคยสอนมา

ทุกอย่างมันก็เป็นไปได้ด้วยดีนั่นล่ะฮะ จนกระทั่งคนที่คุ้นเคยสองคนของผมเดินออกมาจากห้องแลป

“พวกคุณมาทำอะไรกันหน้าตึกของคณะเทคนิคการแพทย์ครับ”เสียงที่ส่งมานั้นเฉยชายิ่งกว่าตอนที่ลงวินัยก่อนจะตัดพวกเราออกจากการเป็นน้องซะอีก

กับพี่ลมหนาว ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่พี่เขามายืนกอดอกอยู่ตรงนี้... แต่คนที่อยู่ข้าง ๆ นี่สิ นอกจากจะทำให้ผมแปลกใจแล้ว ยังทำให้ผมใจเสียด้วย... ครับ พี่เทคของผมเอง พี่เกด

“พวกคุณขออนุญาตใครใช้พื้นที่ตรงนี้มารวมตัวกันหรือคะ”เสียงของพี่เกดฟังดูเย็นชาอย่างไม่น่าเชื่อ ผมใจว่าพี่เขาเป็นน้องเทคพี่หนาว แต่ก็แค่น้องเทคไม่ใช่น้องแท้ ๆ เขาทำได้ขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?

แต่ยังไม่ทันที่จะมีใครได้ตอบ ได้พูดอะไรต่อ ก็มีคนอีกคนหนึ่งเปิดประตูออกมาจากห้องแลป

พี่เดือนปีสองเดินออกมาจากห้องด้วยใบหน้าที่อ่อนโยนเหมือนเดิม รอยยิ้มจาง ๆ ฉาบทับบนใบหน้า ก่อนจะเลือนหายไปเมื่อเห็นพวกผม  ตอนแรกผมนึกว่าพี่กิตจะเดินกลับเข้าไปในห้องแลป แต่เปล่า พี่เขาเดินเข้ามารวมกับพี่หนาวและพี่เกด มองพวกผมด้วยใบหน้าเรียบ ๆ แทน

“พวกคุณมารวมตัวกันที่นี่ ต้องการอะไรเหรอครับ”เสียงนั้นฟังดูอ่อนโยนเหมือนเคย แต่แฝงความห่างเหินเอาไว้อย่างชัดเจน “ที่นี่เป็นพื้นที่ของคณะเทคนิคการแพทย์ พวกคุณมาใช้โดยพละการได้ยังไงเหรอครับ”

“ขออนุญาตครับ”ประธานชั้นปียกมือขึ้นแนบหูตามหลักการพูด ผมหันไปมองเพื่อนอย่างให้กำลังใจ “ผมและเพื่อน ๆ เป็นนักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่ 1 จึงขอใช้พื้นที่ส่วนนี้ในการฝึกซ้อมร้องเพลงชิงธงครับ”

“พวกคุณบอกพวกคุณเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ มีอะไรมายืนยันเหรอครับ”คราวนี้เป็นพี่ลมหนาวพูดบ้าง ดวงตาคมกริบอย่างกับมีดนั้นกวาดมองไปรอบ ๆ “หรือมีใครยืนยันตัวตนของพวกคุณได้บ้างครับ”

“พวกเรามีสายรัดข้อมือ และป้ายห้อยคอ ซึ่งเป็นของคณะเทคนิคการแพทย์ค่ะ”จีจี้ เพื่อนหญิงในคณะพูดขึ้นเสียงดังฟังชัด เรียกสายตาของพี่ ๆ ทั้งสามคนให้หันไปหาเธอได้เป็นอย่างดี

“ป้ายห้อยคอและสายรัดข้อมือ...”พี่เกดเปรยขึ้นเสียงไม่เบานัก พร้อมกับมองของสองสิ่งที่อยู่บนตัวพวกผม “เป็นสิ่งของที่มีคนทำให้ ไม่ใช่ของที่เป็นของทางคณะเทคนิคการแพทย์ จะยืนยันได้อย่างไรคะว่าพวกคุณเป็นนักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์จริง”

“และไม่ได้ทำของเหล่านั้นขึ้นมาเอง”พี่กิตเสริมท้ายได้เจ็บจี๊ดเลย สำหรับผม ผมเชื่อว่าเพื่อนทุกคนในชั้นปีไม่มีใครกล้าจะทำของที่พี่เป็นผู้มอบให้ขึ้นมาเองหรอก แต่การจะเสริมบทพี่เกด ประโยคนี้จะทำให้สมบูรณ์ที่สุดจริง ๆ

ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน พอพี่กิตออกมาสายตาของผมก็มองแต่พี่เขา ยิ่งพี่เขาพูดออกมาได้อย่างเย็นชาอย่างนั้น ผมยิ่งเสียใจ และอดที่จะน้อยใจไม่ได้

ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้พี่กิตเบือนหน้ามาสบตากับผมพอดี แต่สบได้พักหนึ่ง พี่เขาก็หันหน้าหนีไป... ไม่ดิ หลบสายตาจากผมไปซะอย่างนั้น ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันน้อย ๆ เป็นนิสัยของพี่เขาเวลาคิดอะไรในใจหนัก ๆ

แต่เพิ่งสังเกตเหมือนกันว่าพี่เกดเขาสูงพอ ๆ กับพี่กิตเลย เตี้ยกว่าไม่มากเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าพี่กิตเตี้ย หรือพี่เกดสูงกันแน่ แต่มันใช่เรื่องที่จะมายืนดูตอนนี้เหรอวะ ไอ้คีตา

“เมื่อพวกคุณยืนยันว่าพวกคุณเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ พวกคุณก็มีสิทธิ์ที่จะใช้บริเวณที่เป็นของทางคณะได้”ผมเหลือบมองหน้าเพื่อน ๆ ที่อยู่ด้านข้างและด้านหลัง เห็นหลายคนยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง รวมทั้งตัวผมเองที่เริ่มมีความหวังในหัวใจ “ตัวผมเองก็ไม่ทราบว่าพวกคุณต้องการอะไรจากคณะวิชาของพวกผม แต่รู้ไว้ว่าพวกคุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรก็ตามที่ทำให้ทางคณะต้องเดือนร้อนแม้แต่นิดเดียว และหากเกิดอะไรขึ้นในที่นี้ พวกคุณจะต้องรับผิดชอบทั้งหมดทุกคน โดยไม่มีสิทธิ์ในการโต้แย้งใด ๆ”

“สิ่งที่พวกคุณจะทำ ต้องไม่เป็นการรบกวนผู้ที่ใช้บริการในส่วนสถานที่แห่งนี้ ทั้งอาจารย์ เจ้าหน้าที่แลป นักศึกษาเทคนิคการแพทย์ทุกรุ่นตั้งแต่รุ่นที่ 1 จนถึงรุ่นที่ 39 ซึ่งเป็นรุ่นปัจจุบัน รวมทั้งแม่บ้านผู้อำนวยความสะดวกด้านความสะอาด”คำของพี่เทคตัวกลมของผมนี่ทำเจ็บยิ่งกว่าคำพูดอื่น ๆ ที่พี่อีกสองคนพูดมาอีก พวกผมเข้ามาเป็นรุ่นที่ 40 ซึ่งพี่เขาไม่นับในนั้น “และกรุณาอ่านกฎการใช้สถานที่ให้แตกฉานด้วยค่ะ”

พี่กิตเคาะเบา ๆ ที่ประตู 1 ของห้องแลป ซึ่งมีกระดาษเคลือบด้วยพลาสติกติดเอาไว้อยู่ นั่นเป็นกฎหการใช้ห้องแลป และการใช้สถานที่ของคณะเทคนิคการแพทย์ ที่ผมและเพื่อนได้อ่านมาแล้ว

“หวังว่าจะไม่มีพวกคุณคนใดก่อความเดือดร้อนให้กับพวกผมนะครับ”รอยยิ้มบาง ๆ คลี่ส่งให้ ก่อนที่ร่างสูงโปร่งนั้นจะเดินออกไปจากหน้าคณะ

พี่ลมหนาวกับพี่เกดยืนมองพวกผมอยู่อีกแปปนึง แล้วจึงหันหลังเดินออกไปอีกทาง ซึ่งเป็นทางที่มุ่งหน้าไปยังโรงอาหารของคณะ

คำพูดของพี่ ๆ ที่ได้รับฟังกันนั้น ทำให้กำลังใจถดถอยกันไปไม่ได้ บรรยากาศที่น่าอึดอัดกลับเข้ามาสู่พวกเรา นักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์รุ่นที่สี่สิบอีกครั้ง

ผมมองสำรวจเพื่อน ๆ โดยรอบ เกือบทุกคนที่ทำหน้าเศร้า บางคนถึงกับน้ำตาซึม แต่ก็มีบางคนที่ทำหน้าไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ผมเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาดี แต่นี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งแรกผลักดันให้พวกเราก้าวต่อไปได้

“เราจะต้องพิสูจน์ให้พวกพี่เขาเห็นนะทุกคน”วัฒน์ที่นิ่งไปนานพูดขึ้นเรียนดัง ให้เพื่อนที่ก้มหน้ากันอยู่ขึ้นมามองที่มัน “พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าพวกเรานั้นคู่ควรที่จะเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์รุ่นที่สี่สิบ ให้เขาเห็นถึงศักยภาพของพวกเราทุกคนยังไงล่ะ”

“เราจะมาท้อกันแค่นี้ไม่ได้นะครับ”ผมสูดลมหายใจลึกแล้วยิ้มออกมา ไม่ใช่ไม่เสียใจ ไม่ใช่ว่าไม่ท้อ แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาล้มอยู่แบบนี้แล้ว “พวกเราจะต้องทำให้พี่ ๆ ยอมรับในตัวพวกเรา ให้พวกเขากลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิมให้ได้นะครับ”

“ใช่แล้วนะทุกคน เราจะมาท้อเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้”ทะเลหันหน้ากลับมาหาทุกคน ทั้งที่ตามันยังแดงจาง ๆ อยู่ มันเองก็คงเสียใจ และอยากร้องไห้ แต่มันเป็นเสาของปีหนึ่งอย่างพวกเรา มีตำแหน่งผู้นำค้ำคออยู่ จะล้มให้ทุกคนเห็นคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก “มาเถอะ เรามาซ้อมกัน เวลาเหลือไม่เยอะแล้ว มาพยายามกันเถอะ”

เพื่อนผู้หญิงบางคำยกมือขึ้นปาดน้ำตาออก หลายคนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกลับเข้ามาตั้งแถวกันเหมือนเดิม แล้วซ้อมยืน ซ้อมร้องเพลงที่จะต้องนำไปชิงธงอีกครั้ง

วันนี้พวกเราซ้อมกันหนักมาก ไม่มีการหยุดพักนาน ๆ เหมือนทุกที มีแต่ให้ไปดื่มน้ำ ปัสสาวะ ทำธุระส่วนตัวเป็นระยะแค่นั้น จนกระทั้งฟ้ามืดสนิทถึงจะแยกย้ายกันกลับที่ทางของตัวเอง

ผมกลับเข้ามานอนบนเตียงในหออย่างด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง และร่างกายที่เหนื่อยล้า แม้จะอาบน้ำให้สดชื่นแล้ว แต่ก็ไม่รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเลยสักนิด

หยิบมือถือขึ้นมาดูไลน์ที่เคยส่งหาพี่กิตอย่าห่อเหี่ยว วันนี้พี่เขาก็ยังไม่อ่าน เฮ้อ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าผมไม่ได้เจอทั้งพี่เกดและพี่กิตในวันเดียวกัน โชคสองชั้น ซวยสองเด้งของแท้


Key tA ♫ : พี่กิตครับ

Key tA ♫ : ผมดีใจที่ได้เจอพี่นะครับ

Key tA ♫ : ผมคิดถึงพี่นะ

Key tA ♫ : เมื่อไหร่จะกลับมาสักที


ข้อความที่พิมพ์ส่งไป โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่กิตจะเปิดเข้ามาอ่าน

เฮ้อ... เหงาจังเลยโว้ยยยยย

นอน!!

+++++++++++++++++++++++

บทที่ 14 มาแล้วค่ะ // ช่วงนี้ขยัน อัพไว๊ไว 555

เรื่องตัวละครในเรื่องนี่ ส่วนใหญ่ดึงมาจากคนรอบตัวนี่ล่ะค่ะ (อ้าววว) //มองซ้ายมองขวาก่อนว่ามีเพื่อนหลุดมาอ่านเรื่องของเราไหม

ไว้เจอกันตอนหน้า ตอนที่ 15 ชิงธงแล้ววว

เย้ :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 03-01-2015 21:29:29
คู่นี้อะไรยังไงกันตอนไหน ;^;

ป.ล. อึดอัดแทน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 03-01-2015 22:25:58
เป็นอะไรที่น่าเศร้าและกดดันที่สุด ตอนเรียนมหาลัยไม่เคยเจอสภาวะการเป็นน้องใหม่แบบนี้ เจอแบบชิวมาก ถ้าเจอแบบนี้รับรองบ่อน้ำตาแตกแน่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 03-01-2015 23:18:02
คู่คีตามาตั้งกะเมื่อไหร่คะเนี่ย?
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 04-01-2015 11:37:33
ตอนที่สิบสามคือแบบ สงสารน้องปีหนึ่งมากกกกกกกกกกก  :z3: ฉากเรียกน้ำตาเลยก็ว่าได้คือน้องมีความพยายามมากอ่ะยังยืนไหว้อยู่อย่างนั้น ปันกับหนาวก็ใจแข็งน่าดู แต่เดี๋ยวหนาวก็ต้องซึมไปอีกแน่ งือออ แล้วก็เห็นใจข้าวน่าดู TT ความเป็นพ่อพระของพี่ทิวกำลังทำร้ายข้าวโดยไม่รู้ตัว ฮือออออ ข้าวหลงรักพี่ทิวแล้วสินะ  ท้ายๆมีพายุโผล่มาด้วย สองคนนี้กัดกันแล้วน่ารักดีๆ พี่ทิววินเนอร์จริงๆนะ  :z2: :z2:
ตอนที่สิบสี่  เมื่อวานไลน์ไปหาพี่กิต พี่เขาก็ไม่แม้แต่จะอ่าน เซ็งงงง เอ๊ะ คีตา 55 อยู่ๆก็ฟินกับประโยคนี้ :-[ อ่านพาร์ทนี้ของคีแล้วแบบ นางขี้อ้อนมากกกก แล้วนางก็ดูเด็กน้อยมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้ง 55  แต่ความจริงก็ได้เปิดเผย? คำคีย์ของพี่กิตมาแล้ว55 อ่านจบแล้วอยากอ่านต่อเลย รู้สึกค้างๆ  :z10:
 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 04-01-2015 16:54:43
ความรู้สึกที่เคยโดน อึดอดมาก พี่กดดันจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว 555ความรู้สึกเดียวกันคีตา
ไหว้พี่เหมือนไหว้ศาลยังไงก็ไม่รู้ พี่แกมีความสามารถพิเศษมองทะลุขั้นสุดยอด สกิลโหดจริง
สู้ๆคีตา ทำให้ได้จะได้เห็นลมหนาวกะพายุซัดกันสักที  :hao6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 04-01-2015 18:05:36
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-01-2015 18:26:26
พยายามต่อไปเด็ก ๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 04-01-2015 21:08:08
คู่คีตามาตั้งกะเมื่อไหร่คะเนี่ย?

มาช่วงประกวดดาวเดือนค้า :mew3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: gad ly» love yyy ที่ 04-01-2015 23:32:01
โอ๊ยย...ลงเถอะค่ะเดี๊ยนจิ๊ไม่หวายแล้ว
คิดถึง ลมหนาวในจะขาด
โอม..จงมาๆ จงลงๆ :z3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-01-2015 11:12:57
โอ๊ยย...ลงเถอะค่ะเดี๊ยนจิ๊ไม่หวายแล้ว
คิดถึง ลมหนาวในจะขาด
โอม..จงมาๆ จงลงๆ :z3:
ตอนต่อไปของลมนาวแล้วค้าา TwT//
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 ชิงธง P.10[06/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 06-01-2015 20:47:21
วันที่สิบห้า

ใกล้วันที่จะชิงธงเข้ามาทุกทีแล้วล่ะครับ พวกสโมต้องเตรียมงานกันอย่างหนัก จัดสรรแสตนด์ให้เพียงพอต่อน้องเป็นพัน ๆ คน

ผมเองก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่น้อยเลย ยิ่งได้ยินเสียงน้องร้องเพลงทุกวัน ๆ ยิ่งทำให้ตื่นเต้น ไม่รู้ว่าน้องจะทำได้เท่าไหร่เหมือนกัน กับเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยไม่มีพี่

มะรืนนี้ก็จะได้รู้กันแล้ว วันนี้จะมีการซ้อมรวมที่สนามเล็กโดยมีหลีดหนึ่งคนไปสั่งกลางสนาม ผมอยากไปดูใกล้ ๆ เหมือนกัน แต่ไม่ได้ ได้แต่ดูอยู่ห่าง ๆ ต่อไป

ทางวิศวกรรมศาสตร์ก็เห็นว่าพยายามอย่างหนักเหมือนกัน แต่การจะเรียกรวมซ้อมพร้อมกันทุกสาขาของพวกนั้นมันยากพอ ๆ กันกับให้มดเมินน้ำตาลนั่นล่ะครับ

ช่วงนี้พวกผมเลยไม่ค่อยเจอคนของทางวิศวะสักเท่าไหร่ ซึ่งเป็นการดี เรื่องปวดหัวน้อยลงไป ใช้ได้ สบายสมองขึ้นเยอะล่ะครับ

นับตั้งแต่วันที่ผม น้องเกด และน้องกิต (ที่มาจากไหนไม่รู้) ลงน้องนอกรอบเพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นอีกครั้ง การซ้อมชิงธงของน้องก็ดุเดือดมากขึ้นมาตลอดสัปดาห์ ซึ่งนับว่าคุ้มค่ากับการลองเสี่ยงทำไปนะครับ

วันก่อนแอบไปลายเกียร์ดูน้องคณะวิศวกรรมศาสตร์ซ้อมชิงธงกัน ถือว่าใช้ได้เลยล่ะครับ อันนี้ผมต้องยอมรับว่าดูพร้อมมากกว่าปีก่อนค่อนข้างเยอะ เฮดของปีหนึ่งใช้ได้เลย

“มะรืนนี้แล้วนะ หนาว”ประธานคณะเทคนิคการแพทย์พูดขึ้น ก่อนจะมานั่งลงตรงข้ามผมที่เอ้อระเหย ชมนกชมไม้อยู่ “เอาไง จะให้ธงน้อง หรือไม่ให้ดี”

“ตามดุลพินิจของนายเลย โอ้ต”ผมบอกกับเพื่อนตามความคิดของผม “ถ้าน้องสมควรที่จะได้ก็ให้ ถ้าไม่สมควรที่จะได้ก็ไม่ให้”

“แล้วนายจะไม่ลำบากเวลาที่จะดำเนินการวินัยของนายต่อเหรอ”โอ้ตถามต่อทันทีด้วยความเป็นห่วง “ถ้ารู้ก่อนนายจะทำงานง่ายขึ้นไม่ใช่เรอะ”

“มันก็ใช่ แต่เราต้องยึดที่ตัวน้องเป็นหลัก ถ้าน้องทำดีแล้วเราไม่ให้เขา มันก็น่าเกลียดและน้องคงเสียความรู้สึก แต่ถ้าเขาทำไม่ดีแล้วเราให้เขา ต่อไปเขาก็จะทำส่ง ๆ ไม่พยายามเหมือนก่อนหน้า”ผมอธิบายช้า ๆ ยอมที่จะยุ่งยากขึ้นมาอีกนิด เพื่อให้น้องโตขึ้นอีกหน่อยล่ะครับ ถ้ากำหนดไปเลนสิ่งที่ทำมามันก็เป็นละครตลกฉากใหญ่ไป เสียเวลาเปล่าอย่างแท้จริง

“โอเค นายว่ายังไง กูก็เอาตามนั้น”คุณประธานคณะพยักหน้ารับโดยดี แล้วยิ้มเย็น ๆ ดวงตาประกายวิบวับ “แต่ไม่ให้ง่าย ๆ หรอกนะ ธงน่ะ”

“ถ้าให้ง่าย ๆ แล้วมันจะมีค่าเหรอ?”ผมยิ้มมุมปากให้กับเพื่อนที่นั่งตรงข้าม ซึ่งได้รับคำตอบมาเป็นการยักคิ้วข้างเดียวอย่างรู้กัน
ธงของคณะเทคนิคการแพทย์ไม่ใช่ธงที่ออกกันง่าย ๆ และการรักษาเอาไว้นั้นก็ยากยิ่งกว่าการเอาไปด้วย ทำให้เกือบทุกปีเด็กปีหนึ่งนั้นจะไม่ได้ธง ไม่เหมือนกับธงของมหาวิทยาลัยที่ยังไงก็ต้องออกไปให้กับน้อง ๆ ทุกคน

ตอนรุ่นผม ได้ธงคณะมาในมารอบแรก แล้วรอบสองก็โดยริบคืน เพราะทำได้ไม่ดีเท่ารอบแรก ทำเอาหงอยกันไปทั้งชั้นปีเป็นวัน ๆ เลยล่ะครับ

คงต้องมาดูกันว่าปีนี้ น้องจะสามารถเอาธงของคณะไปได้ไหม

วันนี้น้อง ๆ ก็ยังตั้งใจซ้อมอยู่เหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมในทุกคณะวิชา เสียงร้องดังกระหึ่มมาให้ผมได้ยินถึงหน้าแลป ทำให้อดที่จะหวังไม่ได้ว่าธงจะได้ออกไปอย่างภาคภูมิ

น้องคงจะทำได้ดีนะครับ ถึงแม้ว่าพี่ ๆ จะไม่ได้อยู่ดู แต่ก็ยังเป็นกำลังใจให้จากที่ไกล ๆ เสมอ... คงได้แต่ฝากกำลังใจไปกับสายลมที่พัดมายามเย็นแบบนี้ไป


วันนี้เป็นวันที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดให้มีการชิงธงแล้ว ผมกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ และน้อง ๆ นัดกันไปดูในตอนเย็น โดยจะรีบไปจองที่นั่งตรงข้ามแสตนด์ที่คณะของเราอยู่

วันทั้งวันแทบไม่เป็นอันเรียนกันทั้งหมดนี่ล่ะครับ มันตื่นเต้น แล้วก็ลุ้น ยิ่งน้องปีสองคงจะยิ่งลุ้น เพราะธงนั้น ถ้าน้องปีหนึ่งได้ไป เท่ากับว่าน้องจะได้พี่ปีสองคืนด้วย (แต่ก็ยังไม่ได้รุ่นอยู่ดี เข็มเลือดยังคงนอนกองอยู่ในห้องผมต่อไป)

วันนี้ผมเลิกเรียนค่อนข้างเย็น แต่ก็ไม่ถึงกับเย็นมา ระหว่างที่เดินทอดน่องอย่างสบาย ๆ ไปสนามใหญ่ของมหาลัยกับเพื่อนในชั้นปี อยู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ที่ไม่อยากจะได้ยินในช่วงนี้ก็ดังขึ้นมา

“ฮัลโหล”โอ้ตโทรมาหาผมทำไมตอนนี้ มันควรจะเตรียมตัวอยู่ใต้อัศจรรย์ไม่ใช่เหรอ? หรือว่ามีปัญหาอะไร “โทรมามีอะไร โอ้ต”

“หนาว... วันนี้ไปนั่งตัดสินแทนกูหน่อย”เสียงที่ดังรอดสายโทรศัพท์มาดูเซียว ๆ พิกล เกิดอะไรขึ้นกับมันหว่า “กูท้องเสีย... โทรไปบอกทางสโมแล้ว มึงไปแทนกูหน่อยนะ”

“... ไปกินไรมาท้องเสียวะ”ถึงว่า วันนี้ไม่เห็นมันในห้องเรียนเลย ก็นึกว่าสโมเรียกประธานทุกคนเข้ามาจัดเตรียมงานตั้งแต่เช้าซะอีก

“พอดีเมื่อวานไปกินบุพเฟ่อาหารอีสาน... โซ้ยส้มตำมากไปหน่อย”เป็นเหตุผลที่ผมฟังแล้วชักอยากจะเอามันไปกดส้วมยังไงพิกล... “โอ้ย มันมาอีกแล้ว ยังไงก็ฝากด้วยนะมึง”

“...”ตู้ด ตู้ด โอ้ตตัดสายผมไปแล้ว ให้ตายเหอะ อยู่ ๆ ก็มาโยนหน้าที่ให้เฉยเลย ทีนี้คนรับเคราะห์อย่างผมจะทำยังไงกันวะครับ “ปัน... วันนี้นายเอาสูทคณะมาใช่ไหม”

ผมหันไปถามเพื่อนที่อยู่ข้างหลังด้วยเสียงเรียบ ๆ เหมือนเห็นแวบ ๆ ว่ามันเอาสูทมาด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าสูทอะไรเหมือนกัน

“เออ ไมวะ”มันถามกลับมาอย่างงง ๆ ไม่ต้องงง เดี๋ยวจะแถลงไขให้แล้ว

“โอ้ตไม่สบาย ผมเลยต้องไปตัดสินแทน”เพื่อนทุกคนหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว น้องปีสองที่เดินผ่านมาได้ยินก็หันมากับเขาด้วย “ยืมสูทหน่อย”

“... เดี๋ยวไปเอาให้”พูดจบมันก็คว้าเอาจักรยานของมหาลัยขึ้นขี่ สงสัยมันคงเอาไว้ในแลปล่ะมั้ง “เดี๋ยวเอาไปให้หลังแสตนด์นะเว้ย”

“เออ”ผมตอบรับ พร้อมกับถอนหายใจหนัก ๆ แล้วหันไปขึ้นคร่อมจักรยานบ้าง “แบบนี้ผมควรจะจัดหนักเลยไหมเนี่ย... เฮ้อ”

“ควร!!”เสียงตอบกลับที่ไม่คิดว่าจะมีดังขึ้นพร้อมกัน เท่าที่จับน้ำเสียงได้ ท่าทางจะหลายคนที่พูดออกมาด้วย “จัดหนักเลย ลมหนาว เอาเลย”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ”ผมยังไปยิ้มบางเบาให้กับเพื่อน ๆ และพี่ ๆ น้อง ๆ แห่งเทคนิคการแพทย์ที่อยู่แถวนั้น “ผมไม่อ่อนข้อให้กับพวกเขาหรอกครับ”

เตรียมรับศึกหนักหน่อยนะ ปีหนึ่ง

สงสัยจะทำบุญกันมาน้อยไปเยอะเลยนะครับ เด็ก ๆ หึหึ

ผมรับเอาเสื้อสูทจากปันปันมาสวม ตัวมันใหญ่กว่าผมนิดหน่อย แต่ใส่แล้วก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร ก็ยังดีกว่าที่จะต้องกลับไปเอาที่หอล่ะครับ

ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องที่กันเอาไว้ให้ประธานนักศึกษาของแต่ละคณะวิชาได้นั่งพักผ่อน รอเวลาเริ่มงานชิงธงอย่างเงียบ ๆ

“อ่าว หนาว มาได้ยังไงกันน่ะ หืม”คนคุ้นเคยที่สุดในที่แห่งนี้ของผมเอ่ยทัก พร้อมกับตบเบาะข้าง ๆ เชิงให้ผมไปนั่งตรงนั้น แน่นอนว่าผมก็ต้องเดินไปนั่งโดยดีล่ะครับ

“โอ้ตไม่สบายน่ะครับ พี่ทิว ผมเลยมาแทน”ผมทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ พี่ทิว แต่สายตายังมองรอบ ๆ อยู่เหมือนเดิม “มากันเกือบจะครบแล้วนิครับ”

“ก็นะ น้องปีหนึ่งเริ่มขึ้นแสตนด์กันเยอะแล้ว จะได้เริ่มงานไว ๆ”พี่ทิววางหนังสือในมือลงบนตัก แล้วหันมาหาผมยิ้ม ๆ “จะได้เลิกงานไม่มืดมาก หนาวเถอะ คิดว่าธงของMT จะออกไหม?”

“ไม่แน่ครับ”ผมตอบพี่ทิวไปเบา ๆ มุมปากยกยิ้มน้อย ๆ “ถ้าเขาทำดี สมควรได้ ผมก็ให้ แต่ถ้าไม่ ทำแย่ เสียชื่อคณะ ผมก็ไม่ให้”

“ตอนแรกที่เป็นโอ้ต พี่คิดว่าน้องปีหนึ่งของMT ยังมีโอกาสได้ธงนะ แต่พอเปลี่ยนเป็นหนาวมาแทน เปอร์เซ็นมันดูติดลบไปเลย”พี่ทิวพูดติดตลก ทำเอาประธานคณะอื่นที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ขำไปด้วย

“จะอะไรขนาดนั้น พี่ทิว ลมหนาวคงไม่โหดขนาดนั้นหรอก”แคมป์ ประธานคณะมนุษย์ศาสตร์พูดขึ้นขำ ๆ ผมยิ้มรับไว้ก่อนครับ แคมป์พูดถูก ผมใจดีนะ...

ใจดีกว่าพี่ตังโอนิดนึง

คนเขาสอนกันมา จะให้ต่างกันมากก็คงใช่ที่ใช่ไหมครับ ต้องเข้าทำนองเดียวกันหน่อยล่ะ

“นายยังไม่รู้อะไร แคมป์”พี่ทิวยิ้มแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาจับหัวผมโยกเบา ๆ “ลมหนาวนี่เด็กเทรนของตังโอเลยนะ”

“เห... ทิ้งทายาทรุ่นใหญ่ไว้ด้วยเลยเหรอเนี่ย”พี่ตังโอนี่เป็นคนที่ประวัติศาสตร์จารึกจริง ๆ นะครับ วินัยตัวเล็ก ใจใหญ่ กล้าลงทุกคณะเมื่อน้องทำผิดจริง เรียกได้ว่าเป็นคนคุมเลยก็ว่าได้ (ตอนผมโดนเทรนนี่น้ำตาแทบไหล หนักจริงครับ ไม่ใช่แค่เทรนกิริยา การแสดงออก แต่เทรนไปถึงจิตสำนึกและหัวใจ ให้เป็นวินัยที่สมบูรณ์) “น่าดูเหมือนกันแหะ ปีนี้”

“ไม่หรอกครับ ผมทำไม่ได้เท่ากับพี่ตั้งโอหรอก”ตอบไปยิ้ม ๆ ใช่ ผมทำไม่ได้เท่าพี่เขาหรอก แค่คณะตัวเองกับคณะวิศวะรวมกันยังแทบเอาไม่อยู่เลย

ทุกคนพูดคุย แลกเปลี่ยนกันอย่างเฮฮา เท่าที่แชร์กันมาส่วนใหญ่ก็คงจะให้ธงน้องกันไปนะครับ แต่มันก็ไม่ใช่กง การอะไรที่ผมจะเข้าไปยุ่ง แม้ว่าจะแอบไม่เห็นด้วยที่ตัดสินก่อนดูผลงานจริง

“ได้เวลาแล้วนะครับ”สตาฟงานคนหนึ่ง เดินเข้ามาบอกกับพวกเราที่รอกันอยู่ข้างในครับ คนเชิญธงของแต่ละคณะก็มากันครบแล้ว เลยได้เวลาเรียงแถวเดินเปิดตัวกันไปกลางสนามที่มีโต๊ะและเก้าอี้จัดเตรียมเอาไว้ให้

ผมเดินไปอย่างนิ่ง ๆ ข้างพี่ทิว ไม่รู้ว่าเป็นโชคดี หรือว่าอำนาจมืดเหมือนกันที่คณะเทคนิคการแพทย์ และคณะแพทย์นั้นได้นั่งอยุ่คู่กันตรงกลางของโต๊ะยาวตัวนี้

ผมกวาดมองบนแสตนด์ที่เต็มไปด้วยน้อง ๆ นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของทุกคณะวิชา ทุกคนแต่งกายอย่างเรียบร้อยในชุดพิธีการ นั่งกันอย่างเป็นระเบียบ ช่องไฟตรงเป๊ะ ดูยิ่งใหญ่มากเลยครับ

คณะเทคนิคการแพทย์ของผมก็นั่งกันเป็นระเบียบครับ แต่ช่องไฟยังไม่เป๊ะเท่ากับคณะแพทย์ที่อยู่ใกล้ ๆ แต่ก็ยังดีกว่าบางคณะที่ช่องไฟแทบไม่เห็นล่ะนะครับ

ใช้เวลาพักหนึ่งหลีดของมหาวิทยาลัยจึงออกมากันครบ กระจายตัวเป็นระเบียบกันเต็มสนาม แสดงถึงเวลาที่มาถึงแล้วครับ

เมเจอร์หลีดให้สัญญาณเพลงแรก โดยจะให้สามครั้งติดต่อกัน และเมื่อยกแขนกางเป็นตัววีทั้งสองข้างรอบสุดท้าย เสียงเพลงจะต้องถูกร้องขึ้น

ผมมองจ้องบนแสตนด์ในจุดที่คณะเทคนิคการแพทย์อยู่นิ่ง อืม... ก็ลุกขึ้นพร้อมกันดีนะครับ ถือว่าในเพลงแรก การลุกยืน และท่ายืนนี้ผ่าน

เมเจอร์ให้สัญญาณครบแล้ว เสียงเพลงก็ร้องกระหึ่มขึ้น แต่ยังไม่ทันถึงท่อนก็โดนเก็บเรียบร้อยโรงเรียนหลีด เพราะร้องไม่พร้อมกัน

ต่อไป... โอกาสครั้งที่สองในรอบแรก

ถ้าเราจ้องไปบนแสตนด์ ซูมไปที่ของน้อง ๆ ดี ๆ เราจะเห็นน้องบางคนเม้มปากเข้ามากันอย่างเคร่งเครียดครับ เป็นปฏิกิริยาปกติของทุกคน เมื่ออยู่ในภาวะกดดัน

มีโอกาสแค่สี่ครั้งต่อหนึ่งเพลง โดยแบ่งเป็นสองรอบ รอบละสองครั้งน่ะครับ ตามแพลน แต่ถ้าเมเจอร์ใจดี อาจจะมีครั้งที่ห้าแถมให้ แต่ไม่มีครั้งที่หกแน่นอน

เมเจอร์สั่งครั้งที่สอง... รอบนี้ร้องได้จบท่อนไปอย่างหวาดเสียวเหมือนกันนะครับ แต่ที่ยากคือตอนเริ่มท่อนต่อไป เพราะมักจะไม่ขึ้นมาพร้อมกัน... นั่นไง ยังไม่ทันขาดคำ โดนเก็บอีกตามเคย

หมดโอกาสในรอบที่ 1 สำหรับเพลงแรกแล้วครับ เปลี่ยนเมเจอร์ ในระหว่างเปลี่ยนน้องจะต้องนั่งลงอย่างเป็นระเบียน ซึ่งในอันนี้ก็รอดไปได้ด้วยดี

เมเจอร์ที่สั่งในแต่ละเพลงจะมีการเปลี่ยนตัวไปเรื่อย ๆ หกเพลง หกคนครับ แต่ละเพลงก็จะมีท่าทางที่สั่งแตกต่างกันไป เป็นเอกลักษณ์ให้รู้ว่าเป็นเพลงนั้น ๆ

ไม่ใช่แค่เพลงหกเพลงของมหาวิทยาลัยนะครับ แต่เป็นทุกเพลงที่หลีดต้องสั่งจะต้องมีท่าของเพลงนั้น ๆ เคยมีตอนงานกีฬาระหว่างมหาลัย (เทคนิคการแพทย์สัมพันธ์) ผมเห็นรุ่นพี่สั่งด้วยท่าแอ่นหลังจนแทบติดดิน แอบขำอยู่กับเพื่อนในกลุ่มตั้งหลายตลบแน่ะครับ

เพลงที่สองก็ยังไม่ได้จนจบ โดนเก็บอย่างไวด้วย... และในเพลงอื่น ๆ จนถึงเพลงที่หกก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ... ส่วนใหญ่ในรอบแรกก็ถูกเก็บไม่เหลือซากแบบนี้ล่ะครับ

พวกผมเข้าไปพูดคุยกันในอัศจรรย์ เพื่อช่วยกันตัดสิน และหลีดกลับเข้ามาข้างใต้อัศจรรย์หลังจากที่พวกเราเดินเข้ามากันหมดแล้ว

“ผมว่ายังไม่ดีพอจะให้ธงมหาวิทยาลัยนะครับ”ไวท์ประธานคณะกายภาพพูดเปิดขึ้น ตัวผมเองก็เห็นด้วย ความพร้อมเพรียงและความตั้งใจมันยังดูไม่มากพอที่จะให้

“งั้นเรามาโหวตกันนะครับว่า เราจะให้ธงมหาวิทยาลัยกับน้อง ๆ ตั้งแต่รอบแรกเลยไหม”เอิ้นมองทุกคนรอบ ๆ แล้วยิ้มบาง ๆ “ใครให้ธงน้อง กรุณายกมือขึ้นครับ”

ไม่มีใครยกแม้แต่คนเดียว มติเป็นเอกฉันท์ว่าจะไม่มีการให้ธงกับน้อง ๆ ในรอบแรกนี้นะครับ

หลังจากที่ตกลงกันได้ว่าจะมอบธงให้ หรือไม่ให้แล้ว ประธานแต่ละคณะจะขึ้นไปพบน้อง ๆ บนแสตนด์ ทกคนแยกย้ายกันขึ้นไป ส่วนผมนั้น นั่งอยู่กับที่ ไม่ไปไหน ไม่ขึ้นไปครับ

รอเวลาที่จะไปประกาศผลรอบแรกต่อไป

“ไม่ขึ้นไปคุยกับน้องเหรอ หนาว”พี่คินที่เป็นคนเชิญธงของคณะแพทย์เดินเข้ามานั่งข้างผม หลังจากที่พี่แกไปทำธุระส่วนตัวมา “ไม่ต้องโหดเหมือนตังโอทุกอย่างก็ได้นี่ หนาว”

“ไม่หรอกครับพี่ ผมทำได้ไม่ถึงพี่ตังโอหรอก”ผมตอบกลับไปอย่างขำ ๆ แต่ละคนก็มีเอกลักษณ์ในการเป็นวินับที่แตกต่างกันไปล่ะครับ อาจจะโวยวายเสียงดังไปเลย หรือเงียบใช้บรรยากาศกดดันก็ได้ มีให้เลือกอีกเยอะ “ผมตัดน้องกันอยู่ เลยไม่อยากให้น้องสับสนด้วยการขึ้นไปพูดคุยน่ะครับ”

“ธรรมเนียมของเทคนิคการแพทย์จริง ๆ ตัดน้องเนี่ย ทุกปี”พี่คินหัวเราะออกมาเบา ๆ ดวงตาทอดมองไปที่ประตู “ก็มีรุ่นที่ทำได้ดี และรุ่นที่แย่ หนาวคิดว่ารุ่นนี้เป็นยังไงล่ะ”

“ผมยังไม่อยากฟันหรอกครับ ถึงจะมีคำตอบในใจอยู่สักหน่อยแล้วก็เถอะ”เสียงเนือย ๆ ก็คงเป็นคำตอบอย่างนึงเหมือนกันมั้งครับ พี่แกเลยเอื้อมมือมาลูบหัวผมเล่น... ทำไมชอบมาลูบหัวผมกันจริง ไม่ใช่เด็กสักหน่อยนะครับ ผมว่าผมเป็นคนสูงนะ ไม่ได้เตี้ย หน้าตาก็ไม่ได้น่ารักด้วย (เดือนปีสามอย่างผมคงน่ารักหรอก เหอะ)

“รอดูกันต่อไปแล้วกันนะ”ใช่... เราต้องรอดูกันต่อไป แต่ผมในรอบแรกอยู่ในใจของผมแล้ว และผมคิดว่ามันสมควรที่สุดที่จะให้เป็นแบบนั้น

ประมาณสิบนาที ประธานคณะ และผู้เชิญธงทั้งหมดก็ต้องออกไปนั่งกลางสนามอีกครั้ง โดยที่ทุกคนมีผมตัดสินในรอบรอยู่ในใจแล้ว

“เอาล่ะค่ะ ตอนนี้ก็ได้เวลาที่จะประกาศผลรอบแรกแล้วนะคะ”พิธีกรประจำงานพูดขึ้นใส่ไมค์เสียงดังก้อง ผมกำก้านของธงที่เลือกเป็นผลตัดสินในรอบนี้ไว้ในมือ “ขอเชิญคณะกรรมการยกธงตัดสินขึ้นได้ค่ะ”

พรึบ พรึบ

ทุกคนยกคำตัดสินของตนเองขึ้นสูง ธงมหาวิทยาลัยไม่ได้ตามผลการคุยกัน ส่วนคณะอื่น ๆ ก็...

“ขอเชิญคณะครุศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และเทคนิคการแพทย์ลงมารับธงด้วยค่ะ ยินดีด้วยนะคะ”ใช่แล้วครับ ผมให้ธงกับน้องตั้งแต่รอบแรก เพราะน้องทำได้เหนือความคาดหมายของผมมากเลยทีเดียว

น้องทะเล ประธานรุ่นของปีหนึ่งวิ่งมารับธงไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มกว้าง เขาหันมาไหว้ผมอยู่หลายรอบ แล้ววิ่งธงสะบัดขึ้นกลับไปบนแสตนด์โดยมีเสียงปรบมือลั่นจากเพื่อนในคณะ

ธงของคณะ คือความภาคภูมิใจ คือการแสดงตัวตนของคณะเรา ผมได้มอบให้กับน้องไปแล้ว เหลือแต่ว่าน้องจะสามารถรักษามันเอาไว้ได้หรือไม่เท่านั้น

“สำหรับคณะไหนที่ยังไม่ได้รับธงไป ไม่ต้องเสียใจนะคะ ยังมีโอกาสอยู่อีก 1 รอบด้วยกันค่ะ”สิ้นเสียงของพิธีกร หลีดก็ก้าวออกมาสู่สนาม สัญญาณปรบมือเป็นจังหวะให้เดินนั้นดังก้องสนามฟุตบอลแห่งนี้

กิจกรรมร่วมร้องเพลงสถาบันรอบที่สองได้เริ่มขึ้น ด้วยความที่เป็นรอบที่สอง หลีดเลยใจดีขึ้นเล็กน้อย มองข้ามจุดที่ผิดพลาดเล็ก ๆ ไปเยอะอยู่นะครับ เลยจบเพลงแรกมาได้อย่างทุลักทุเล

ด้วยปีนี้น้องไม่ค่อยจะฟังพี่อย่างพวกเรา คณะที่คอยให้จังหวะระห่างช่องไฟเพลงอย่างเทคนิคการแพทย์ของเราเลยไม่ได้ทำหน้าที่นั้น... และไม่มีใครทำแทนด้วย

ผมนั่งมองน้อง ๆ บนแสตนด์ด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจในอก พวกเขาลุกนึ่งได้พร้อมกับเพื่อนคณะข้าง ๆ เลยครับ แล้วก็ยังไม่มีจุดพลาดเลยด้วย

เพลงที่สองเกือบจบเพลง แต่โดนเก็บซะก่อน ก็ยังถือว่าใช้ได้อยู่นะครับ แค่ขึ้นท่อนสุดท้ายไม่พร้อมกัน (ถึงแม้ว่าเสียงเวลาร้องมันจะมีแอคโค่กันเองก็เถอะ... ปังแล้วปวดหัวดีเหมือนกันครับ)

เพลงที่สามเป็นเพลงบูมสั้น ๆ ถ้าไม่ผ่าน ผมก็ว่าน้องคงแย่มาก ๆ แล้ว

ผ่านมาครึ่งทาง น้องปีหนึ่งก็ยังทำได้ดี ดีกว่ารอบที่แล้วด้วย ผมว่าน้องอาจจะดีกว่าที่คิดเอาไว้จริง ๆ ก็ได้ ถ้าน้องมีความตั้งใจที่จะทำจริง ๆ

ผมคงจะเก็บความภาคภูมิใจนั้นไว้อีกนาน ถ้าไม่ใช่ว่าอยู่ ๆ ในเพลงที่ห้า ตอนที่น้องนั่งลง มันเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ทำให้คนที่อยู่ด้านหลังนั่งลงก่อนด้านหน้า

ความยินดีที่เห็นน้อง ๆ สามารถร่วมมือกันทำกิจกรรมด้วยความสามัคคีนั้นจางหายไปอย่างรวดเร็ว แสตนด์ของเทคนิคการแพทย์เห็นได้ชัดว่าเริมระส่ำ แต่เท่าที่มองก็ไม่มีใครเป็นอะไร ฝ่ายพยาบาลกับสวัสดิการก็ยังนิ่งอยู่...

แล้วมันเกิดอะไรขึ้น? น้องปีหนึ่งเล่นตลกอะไรกับผมกันแน่

จากหน้าที่ยิ้มนิด ๆ ของผมแปรเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย มือกำแน่นจนพี่ทิวดึงออกไปคลายออกแล้วกุมเอาไว้ พี่เขาลูบมือของผมเบา ๆ อย่างปลอบโยน

“ไม่เป็นไรนะ หนาว”เสียงที่ทอดออกมาอย่างเป็นห่วงเป็นใย ทำให้ผมต้องสงบสติอารมณ์ให้คงที่ขึ้นมาสักหน่อย ผมไม่รู้หรอกครับ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบนแสตนด์ แต่คำตัดสินของผมมันออกมาแล้ว

และจะไม่เปลี่ยนแปลง

เพลงที่หก ผมไม่ได้มองขึ้นไปดูเลย ไม่อยากเห็นความผิดพลาดที่น่าผิดหวังนั่นอีก ทั้งที่มันไม่น่าจะเกิด นั่งเป็นลูกคลื่นยังพอทำเนา แต่ก็ที่นั่งลงครึ่ง อีกครึ่งไม่นั่งนี่มันเกินไป...

ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เมื่อจบหกเพลง คณะกรรมการทุกคนก็เข้าไปประชุมภายในห้อง ส่วนหลีดก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน

ผลของการชิงธงมหาวิทยาลัยจะมรออกมาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ ผ่าน ให้ธงมหาวิทยาลัยที่แสดงให้เห็นว่านักศึกษาปีที่หนึ่งทุกคนได้ก้าวเข้ามาเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอย่างเต็มตัว ส่วนธงของคณะนั้นต้องดูกันต่อไปว่ามีคณะไหนให้ และไม่ให้บ้าง

“การตัดสินในรอบที่สองนี้ เป็นการตัดสินสุดท้ายนะคะ”เสียงของพิธีกรคนเดิมดังขึ้น ผมหยิบธงที่เตรียมจะยกมาไว้ในมือ รอสัญญาณ “ขอผมการตัดสินด้วยค่ะ”

พรึบ พรึบ

“ขอเชิญคณะแพทยศาสตร์ คณะกายภาพบำบัด คณะสถาปัตถ์ คณะนิติศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะศิลปะศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ และตัวแทนรับธงมาวิทยาลัย มารับธงด้วยค่ะ”ตัวแทนจากคณะต่าง ๆ วิ่งมาอย่างตื่นเต้น ดีใจ มารับธงจากมือของรุ่นพี่ของพวกเขา “และขอให้คณะเทคนิคการแพทย์นำธงมาคืนด้วยนะคะ”

สรุปแล้วก็มีคณะเทคนิคการแพทย์และวิศวกรรมศาสตร์ที่ไม่ได้รับธงคณะไป พวกน้องวิศวะไม่ใช่ว่าทำได้ไม่ดีนะครับ ผมว่าทำได้ดีค่อนข้างมากด้วย แต่ไม่รู้ทำไมวิศวะมันถึงไม่ให้

น้องทะเลวิ่งเอาธงมาคืนด้วยใบหน้าเศร้า ๆ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะไหว้ผม... ผมไม่แม้แต่จะมองหน้าน้องเลยครับ อาจจะดูโหดร้าย แต่ผมยังรู้สึกผิดหวัง

“ยินดีกับน้อง ๆ ทุกคนที่ได้ธงของมหาวิทยาลัยไปนะคะ ธงนี้แสดงให้เห็นว่าน้องได้เข้าลู่การเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้อย่างเต็มตัว...”พิธีกรคนนี้พูดเก่งดีเหมือนกันนะ พูดไม่หยุดเลย พล่ามได้ยาวมาก “...หลังจากนี้ก็ขอให้น้อง ๆ ทุกคนกลับไปพักผ่อน ห้ามรุ่นพี่พาน้องไปยังซุ้มนะคะ สำหรับวันนี้ขอบคุณค่ะ”

ผมเดินทอดน่องเข้ามาข้างใต้แสตนด์และยืนพิงกำแพงรอ... รอพูดคุยกับนักศึกษาปีหนึ่งคณะเทคนิคการแพทย์ด้วยหัวใจที่หนักอึ้งอีกครั้งหนึ่ง

ใจของผมไม่อยากที่จะพูดคุย แต่ด้วยหน้าที่ยังไงผมก็ต้องพูดบ้าง...

รออยู่พักหนึ่ง น้องก็ลงมานั่งเรียงกันคนครบ ส่วนน้องคณะอื่นก็ทยอยกันออกไปจนบางตาแล้ว ผมยืนมองน้องที่นั่งหลบหน้าหลบตา ไม่มีใครเหลือบขึ้นมาสบตากับผมเลย

“พวกคุณทำอะไรกันครับ เล่นอะไรกัน”ผมเอ่ยด้วยเสียงที่เรียบเฉย ยิ่งตัวลีบหนักกว่าเดิม “เล่นกับความรู้สึกของผมพอหรือยังครับ”

ไร้คำตอบ... แต่มันก็ไม่ใช่คำถามที่จะมีใครตอบอยู่แล้วล่ะครับ

“พวกคุณต้องการอะไรกันแน่ ปากก็บอกกับพี่ในสายเทคของคุณว่าอยากมีพี่ อยากมีสายรหัส แต่สิ่งที่พวกคุณทำคืออะไร”ผมเม้มปากน้อย ๆ ในตอนนี้ผมรู้ตัวเองดีกว่าทั้งแววตาและน้ำเสียงของผมมันฉายให้เห็นถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน ซึ่งมันไม่ควรจะออกมาในฐานะของการเป็นวินัย “ไหนล่ะครับ ที่พวกคุณบอกว่าจะสร้างความภาคภูมิใจให้พวกผม ไหนล่ะครับสิ่งที่คุณสัญญาไว้กับพี่คุณว่าจะเอามาให้ได้

หรือว่าพวกคุณคิดว่าผมตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม ไม่อยากให้เลยไม่ให้กัน?”

เสียดแทงทั้งตัวน้องและตัวผมเอง ผมเชื่อว่าต้องมีน้องจำนวนหนึ่งแน่ที่คิดแบบนั้น คิดว่าต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ไม่มีทางที่ธงจะออกไปอยู่ในมือพวกเขา

“พวกคุณคิดอย่างนั้นกันใช่ไหมครับ”ผมถามย้ำอีกรอบหนึ่ง กวาดสายตามองน้อง ๆ ที่เงียบกริบตรงหน้า “ใช่ไหมครับ”

“ไม่ใช่ครับ / ค่ะ”น้องตอบกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา

“แล้วเพราะอะไรครับ”ทำไมถึงทำแบบนี้กับผม... ประโยคหลังคงพูดไปไม่ได้ แต่ผมรู้ว่ามันแสดงออกมาทางสายตาที่ทอดมองอยู่แน่

“...”ไร้คำตอบ

“ในเมื่อพวกคุณไม่คิดจะพูดอะไร... ผมก็คงไม่มีอะไรที่จะพูดกับพวกคุณแล้วเหมือนกัน”หลังจากพูดจบ ผมก็เดินออกจากตัวแสตนด์นั้น ให้น้อง ไม่สิ นักศึกษาชั้นปีทีหนึ่งเขาอยู่ด้วยกันเอง

กลับไปพักใจ ก่อนที่จะเดินหน้าต่อไปก่อนแล้วกันนะผม...

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

มาต่อแล้วค่ะ ^^

ไม่รู้จะอินกันไหมแหะ 5555 ม.เราชิงธงแบบนี้น่ะค่ะ // เชื่อว่าใครที่อยู่ม.เดียวกับเรามาอ่านนี่... รู้เลย(ถ้าเพื่อนในคณะมาอ่านก็รู้อีก 555 ต้องแอบอุบไว้ละ)

หวังว่าจะชอบกันน้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 ชิงธง P.10[06/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: yjm ที่ 06-01-2015 21:17:22
เป็นตอนที่เครียดมากเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 ชิงธง P.10[06/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 06-01-2015 22:26:08
เย้ๆ  มาต่อให้อ่านแล้ว...

แต่ตอนนี้เครียตจุง  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 ชิงธง P.10[06/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 06-01-2015 22:29:43
หนาวเท่มากจริงๆ สปิริทของวินัยก็สูง ชอบหนาวมากจนคิดว่าพระเอกมันไม่คู่ควรเสียเลย o13
ปล.อยากเจอพี่ตังโอของทุกคนจัง คงจะเป็นบุคคลที่เจ๋งมากๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 ชิงธง P.10[06/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 06-01-2015 22:33:32
เครียดแทนค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 07-01-2015 01:50:06
คงจะเครียดกันน่าดู จะเป็นยังไงต่อไป เครียดดดดด :katai1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 07-01-2015 16:26:42
ภาวะจริงของเหตุการ์นี้เครียดมากค่ะ ยอมรับเลย หางลู่หูตกไปหลายวัน TvT
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 07-01-2015 20:34:21
อยากให้มีเรื่องของพี่ตังโอแบบเคะสายโหดไรงี้ :z2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 07-01-2015 20:38:26
 :ling1: :ling1:

โหวววว  ปูเสื่อรอแล้วน๊า  อิอิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 07-01-2015 23:14:17
อยากให้มีเรื่องของพี่ตังโอแบบเคะสายโหดไรงี้ :z2:

พี่ตังโอนี่ ของสูงนะคะ อุ๊บ (^x^)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 07-01-2015 23:32:31
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 08-01-2015 00:29:51
 :serius2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 08-01-2015 00:46:34
เด็กๆทำให้หนาวผิดหวัง
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: Dezzerr ที่ 08-01-2015 14:47:48
เกือบแล้วเชียว ทำไมอยู่ๆ น้องถึงได้นั่งลงไปอ่ะคะ อยากรู้ๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: เกลียวคลื่น ที่ 08-01-2015 20:08:36
เอ้า ปีหนึ่งเป็นอะไรกันไปครับ
ไม่ใช่แค่ลมหนาวเงิบนะ คนอ่านก็เงิบ
อุตส่าห์สงสารและเชียร์ให้ได้ธงแท้ๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-01-2015 19:15:22
มีเฉลยให้อีก 2-3 ตอนนะคะว่าทำไมเด็กๆนั่งง

รอกันหน่อยน้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-01-2015 19:58:26
เครียดทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่ยังไงก็สู้ต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 09-01-2015 20:43:13
ตอนหน่วง  :ling1:  :z10:
แงงง  คือมันเหมือนจะดีแล้วเกิดอะไรขึ้นคะ? อยู่ทำไมปีหนึ่งเป็นแบบนี้อ่า? ตอนนี้คนที่เจ็บปวดที่สุดก็คงเป็นลมหนาว  :katai1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 10-01-2015 01:04:02
เอาใจช่วย น้องๆปีหนึ่ง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: ycrazy ที่ 10-01-2015 22:30:19
สู้ๆนะเด็กๆ o13
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 11-01-2015 15:36:39
พพี่ก็เครียด น้องก็เครียด หน่วงจริงๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: vokara ที่ 14-01-2015 20:12:07
เครียดแทนนนนนนนน  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 18-01-2015 18:47:55
 :katai5: :katai5: :z10:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 19-01-2015 19:56:36
เกือบดีแล้วเชียว รู้สึกผิดหวังแทนรุ่นพี่นิดหน่อย  :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 22-01-2015 00:10:16
นานจังเลยเนอะ  ไม่มาต่อซ๊ากกะทีง่ะ

ฮือๆ  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 22-01-2015 21:22:56
สู้ๆนะคะเด็กๆ เราว่ามันต้องมีเหตุผลที่น้องทำแบบนั้นนะ T_T
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-01-2015 21:32:31
เข้ามารอลมหนาว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 22-01-2015 22:29:37
 :sad4: มารอทุกวัน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 22-01-2015 23:48:17
 :ling1: :ling1:

หายไปนานจัง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 23-01-2015 05:18:30
เข้ามาติดคะ อิอิ

เข้าใจคนเป็นวินัย ม.เราเรียกแบบนี้อิอิ เราไม่ได้เป็นนะแต่เพื่อนเราเป็น สคริปมาเป็นปึก มะนาวเป็นกิโล เรานี่ฝานให้ บีบให้ คั้นให้ อยู่เป็นเพื่อนซ้อม เพื่อนคิดบทบ้าง คือเหนื่อยมาก เรียนแอคติ้งไปปีก่อน ปีต่อมาได้ใช้เลย เยี่ยม!!!  เวลากดดันน้องนี่เจ็บปวดหัวใจพอกัน น้องร้องไห้ที แทบจะถลาไปบอกน้องอย่าร้อง เดี๋ยวร้องตาม ทุกๆครั้งที่เราลงเป็นแบบหนาวจริงๆคะ เรายืนข้างหลังตลอด เวลาวินัยยืน พวกมันจะยืนมือไขว้หลัง เวลาคุยกับน้องมือนี่บีบกันแบบแน่นมาก เล็บจิกลงไปเลยก็มี มันต้องหน้าเข้มๆ ม.เราเฮดจะไม่ว๊ากเสียงดังแต่จะเอากดดันเข้าชนกับน้อง เวลาน้องจะเลิกเราจะคออยู่ส่งกันเงียบๆ แบบคอยมอง จริงพี่เป็นห่วงนะเว้ย พอถึงสุดท้ายหมดรับน้องนี่ แทบจะปลดทุกอย่างแล้วขว้างมันออกไป ดีใจ และภูมิใจที่น้องได้รุ่นมาก ยิ่งตอนผูกข้อมือให้น้องนี่แบบ พี่ชอบ !!!! ขอบคุณนะพี่ที่มาอยู่ดูแลพวกผม โอ๊ยยยน้องเอ๊ยย ไมน่ารักหยั่งนี้ หมดรับน้องนี่บางคน นี่เกือบลืมแกเป็นน้อง ฉันเป็นพี่ ทักทายเฮฮามาก วันชนรุ่นนี่เหนื่อยและสนุกมากๆ คณะเรามีชนเอาไม้กลองก่อนด้วย ปี1พอเต้นไหว แก่ไป แทบม่อยกะร่อ อิอิ

ปล.คะมาต่อไวๆนะ

ปล.๒ คิดว่าเวลามดไนท์ตอบข้อความนักอ่านกลับ น่าจะรวบไว้ที่ความเห็นเดียวนะ จะรวบไว้ก่อนลงตอนใหม่ หรือลงตอนใหม่ทำไว้อีกอันแล้วลงตอบพร้อมกันทีเดียวไปเลยก็ดี ลองเสนอแนะเฉยๆนะ :)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-01-2015 20:23:09
เข้ามาติดคะ อิอิ

เข้าใจคนเป็นวินัย ม.เราเรียกแบบนี้อิอิ เราไม่ได้เป็นนะแต่เพื่อนเราเป็น สคริปมาเป็นปึก มะนาวเป็นกิโล เรานี่ฝานให้ บีบให้ คั้นให้ อยู่เป็นเพื่อนซ้อม เพื่อนคิดบทบ้าง คือเหนื่อยมาก เรียนแอคติ้งไปปีก่อน ปีต่อมาได้ใช้เลย เยี่ยม!!!  เวลากดดันน้องนี่เจ็บปวดหัวใจพอกัน น้องร้องไห้ที แทบจะถลาไปบอกน้องอย่าร้อง เดี๋ยวร้องตาม ทุกๆครั้งที่เราลงเป็นแบบหนาวจริงๆคะ เรายืนข้างหลังตลอด เวลาวินัยยืน พวกมันจะยืนมือไขว้หลัง เวลาคุยกับน้องมือนี่บีบกันแบบแน่นมาก เล็บจิกลงไปเลยก็มี มันต้องหน้าเข้มๆ ม.เราเฮดจะไม่ว๊ากเสียงดังแต่จะเอากดดันเข้าชนกับน้อง เวลาน้องจะเลิกเราจะคออยู่ส่งกันเงียบๆ แบบคอยมอง จริงพี่เป็นห่วงนะเว้ย พอถึงสุดท้ายหมดรับน้องนี่ แทบจะปลดทุกอย่างแล้วขว้างมันออกไป ดีใจ และภูมิใจที่น้องได้รุ่นมาก ยิ่งตอนผูกข้อมือให้น้องนี่แบบ พี่ชอบ !!!! ขอบคุณนะพี่ที่มาอยู่ดูแลพวกผม โอ๊ยยยน้องเอ๊ยย ไมน่ารักหยั่งนี้ หมดรับน้องนี่บางคน นี่เกือบลืมแกเป็นน้อง ฉันเป็นพี่ ทักทายเฮฮามาก วันชนรุ่นนี่เหนื่อยและสนุกมากๆ คณะเรามีชนเอาไม้กลองก่อนด้วย ปี1พอเต้นไหว แก่ไป แทบม่อยกะร่อ อิอิ

ปล.คะมาต่อไวๆนะ

ปล.๒ คิดว่าเวลามดไนท์ตอบข้อความนักอ่านกลับ น่าจะรวบไว้ที่ความเห็นเดียวนะ จะรวบไว้ก่อนลงตอนใหม่ หรือลงตอนใหม่ทำไว้อีกอันแล้วลงตอบพร้อมกันทีเดียวไปเลยก็ดี ลองเสนอแนะเฉยๆนะ :)

ค้าา พอดีส่วนใหญ่มิดไนท์ล่นในมือถือน่ะค่ะ เลยไม่ได้รวมกัน

เดี๋ยวมาอัพนะคะ ถ้าเน็ตบ้านอำนวยการสร้างกันสักนิด TwT โหลดนานมากกก

// แวบกลับไปทำใจเจาะเลือดต่อก่อนนะคะ แหะๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: tkmask ที่ 25-01-2015 14:46:43
รออยู่น๊าาาาา :ling1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่15 P.10[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-01-2015 17:35:03
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 27-01-2015 23:00:55
วันที่สิบหก

(พายุ)

หลังจากที่กิจกรรมชิงธงจบไป ผมกับเพื่อนว๊ากก็มารวมหัวกันในห้องเล็ก ๆ ในหอพัก ซึ่งการที่คนเป็นสิบมานั่งเบียดกันในนี้ยิ่งทำให้ดูเล็กลงไปอีก ให้ตาย ถ้าไม่ใช่ว่าต้องมาประชุมเพื่อคุยกันว่าจะเอายังไงต่อ เพราะคนมันไม่เคยตัดน้องมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะไปยังไง ผมจะว๊ากให้ลั่นเลย เหี้ยปลากระป๋อง!!

ก็เลยต้องมาประชุมสุมหัวกันอย่างนี้ไง

“ก่อนจะอะไรนะเว้ย... ทำไมมึงไม่ให้ธงน้องวะ”ไอ้นิคหันมาถามผมด้วยความสงสัย ไม่ใช่แค่มันที่หันมา ว๊ากคนอื่นในทุกชั้นปีก็หันมาเหมือนกัน “น้องก็ทำได้ดีนี่หว่า”

“มึงไม่เห็นเหรอ น้องทำรอบแรกได้ดีกว่ารอบสอง”ผมโต้กลับไปด้วยเสียงหงุดหงิด ยิ่งคิดถึงตอนดูยิ่งหงุดหงิดใจ “คุณภาพตกลงแบบนี้จะให้ไปได้ยังไงกัน”

“โหดเหมือนกันนี่หว่า”พิชปรบมือเปาะแปะล้อเลียนผม แววตามันก็ล้อเลียนผม ให้ตาย “ปีแรกที่ได้ตัดน้องนี่ จะเล่นหนักเลยเหรอ”

"แต่จริง ๆ แล้วนะพี่ยุ"โอมเปรยขึ้นทำให้ผมละสายตาไปจากไอ้พิชไปมองมันแทน "เราอยากรู้อะไรทำไมไม่ถามคน ๆ นั้นเลยล่ะ"

"ให้ไปถามคุณวินัยเจ้าระเบียบน่ะนะ"ผมยังไม่ทันได้อ้าปากพูด คอม ปีสองวิศวะคอมก็พูดขึ้นด้วยท่าทีแหยง ๆ ซะก่อน "สยองชิบ"

"ไม่งั้นจะทำไงวะ ในเมื่อเราไม่รู้อะไรสักอย่างเลยนี่หว่า"คำของโอมมันฉึกชะมัด จริงที่สุดที่เราแม่งไม่รู้ห่าอะไรเลย
อีกอย่าง... วิธีที่มันเสนอมาก็น่าคิด ถ้าไม่รู้ก็ถามผู้รู้ซะ สบายที่สุด

“แต่มันใช่เรื่องที่เราจะลดตัวไปถามพวกปลายแถวนี่หว่า”คอมโต้กลับไปอย่างไม่ยอม ทำเอาผมรู้สึกฉุนขึ้นมาเบา ๆ เหมือนกัน

“คอม เงียบ”ผมหลุดออกไปเสียงเข้ม ก่อนจะตวัดสายตาไปมองรุ่นน้องว๊ากด้วยกันอย่างไม่พอใจ “ถ้ามึงบอกว่าพวกเมดเทคปลายแถว แล้วที่เราสู้กันมาตลอด ปีที่แล้วก็แพ้พวกนั้นมา ไม่ปลายแถวยิ่งกว่าหรือไงวะ”

พอเจอผมตอกหน้าไปแบบนี้ ไอ้คอมมันถึงกับยิ้มแหย ก็จริงไหมล่ะ ถ้าคู่ต่อสู้เราปลายแถว แถวยังผลัดกับแพ้ชนะมาตลอด แสดงว่าพวกเราก็ปลายแถวน่ะสิ?

แม่ง พูดคิดบ้างไหมวะ

“แต่ที่โอมมันพูดก็น่าคิด ถ้าไม่รู้ก็ถามผู้รู้ซะ ง่ายกว่าที่จะมานั่งอัดกันอยู่แบบนี้แล้วไม่ได้อะไร”ผมหยิบมือถือขึ้นมาสไลด์หาเบอร์โทรของใครบางคนที่จะหาคำตอบในเรื่องนี้ให้กับพวกเราได้

ตู๊ด... ตู๊ด...

“ฮัลโหลครับ”ผมถือสายรออยู่พักนึง ก่อนที่จะมีเสียงตอบรับจากปลายสายกลับมา ทำไมเสียงมันฟังดูไม่คุ้นเลยวะ ผมว่าผมโทรถูกเบอร์นะ

“ลมหนาว... หรือเปล่า”ผมถามออกไปอย่างไม่น่ใจ โดยมีสายตาอยากรู้อยากเห็นจากว๊ากทั้งมวลในกระป๋องแห่งนี้พุ่งตรงมา

“อ่อ จะคุยกับหนาวเหรอครับ สักครู่นะครับ”เสียงในสายตอบกลับมานุ่ม ๆ “หนาว มีคนโทรมาหา ลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ก่อน  เร็ว”

“ครับ ๆ”เสียงที่คุ้นหูนั้นแว่วเข้ามาในสายให้ผมได้ยิน หนาวมันอยู่กับใครวะ “ฮัลโหล สวัสดีครับ”

“ไง คุณวินัย”ทักทายไปอย่างกวน ๆ ผมว่ามันต้องมุ่นหัวคิ้วอย่างหงุดหงิดแน่ ๆ “รู้นะว่าคุณกำลังขมวดคิ้ว และแอบด่าผมในใจอยู่”

“อย่ามาทำรู้ดีเลยครับ... มีอะไรถึงโทรมา”เสียงที่ตอบกลับมาแม่งเรียบเฉยสมกับเป็นลมหนาวตัวจริงเสียงจริงชิบเลย “คนอย่างคุณไม่น่าจะโทรหาผมถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ใช่ไหมครับ”

“พูดก็ถูกล่ะนะ...”ผมเอนตัวพิงกับหัวเตียงอย่างเหนื่อย ๆ คนมันเหนื่อยใจนี่นะ ทำไงได้ “ผมกำลังมีปัญหา... อยากให้คุณช่วยสักหน่อย”

“วิศวะอย่างพวกคุณจะขอความช่วยเหรอจากเทดเทคอย่างผม?”ถ้าเป็นคนอื่นผมคิดว่าคงกำลังจะยียวนกวนประสาทผมแน่ ๆ แต่กับลมหนาว ผมรู้ว่าไม่ใช่ หมอนั่นไม่ใช่คนที่จะชอบกวนประสาทใครเท่าไหร่ ยิ่งไม่ใช่เพื่อนกันด้วย “ว่ามาสิ ผมจะรับฟังถ้าช่วยได้ผมจะช่วย”

“ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก... ก็แค่เรื่องที่ตัดน้อง”ผมพูดใส่สมาร์ทโฟนเครื่องแพงเบา ๆ พร้อมกับเหลือบตาขึ้นมองเพดาน “บอกตามตรงว่าพวกเราชาววิศวะไม่เคยใช้วิธีแบบนี้มาก่อน ตอนนี้พวกเราเลยตันหน่อย ๆ ไม่รู้จะไปทางไหนต่อ ผมเลยอยากรู้ว่าพวกคุณทำยังไงกันต่อ เมื่อน้องไม่ได้ธงคณะมา”

“พวกผมก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากรอหรอกครับ”ลมหนาวตอบกลับมาด้วยประโยคที่ทำให้ผมแอบรู้สึกหงุดหงิดใจ รอ... รอเชี่ยอะไร?

“รออะไรน่ะ ลมหนาว”ผมถามกลับไปเพื่อไขข้อข้องใจทันที ไม่ให้คาราคาซังไว้ ถ้ามัวแต่รอแล้วมันจะได้อะไรกันล่ะวะ “ทำไมต้องรอ”

“รอให้พวกเขามาขอพี่คืนไงล่ะครับ”ฝ่ายตรงข้ามยังคงตอบกลับผมมาอย่างใจเย็น และเรียบเฉย “ให้เวลาพวกเขาคิดวิธีไปสักพัก”

“แล้วถ้าปีหนึ่งไม่คิดจะมาขอพี่คืนล่ะ”

“ก็ต้องกระตุ้นพวกเฮดกันหน่อย”

“หมายความว่าให้คุยกับพวกสภาปีหนึ่งอย่างนั้นใช่ไหม”

“ครับ”

ฟังที่พูดมามันก็ดูง่ายดีนะ... แต่ทำกันจริง ๆ มันจะง่ายเหมือนที่ฟังไหม? ไม่ต้องตอบกันหรอก ผมรู้ดีว่าไม่ ยิ่งไม่มีประสบการณ์แบบนี้ด้วย...

เสี่ยงต่อการเสียชะมัดเลยว่ะ

คิดถูกไหมเนี่ยที่ทำตามพวกแม่งเนี่ย

“คุณมีอะไรอยากจะถามผมอีกไหม?”อยากจะตอบไปว่า อยากถามแม่งหมดนั่นแหละ แต่ถ้าถามไปแบบนั้น มันคงคิดว่าพวกผมไม่มีสมองคิดเองแน่

“ไม่มีแล้วล่ะ...”ที่เหลือผมมาวางแผนกับคนของผมเองก็ได้วะ ไม่ถามต่อละ พอ ถามมานี่ยังไม่รู้เลยว่ามีประโยชน์ไหม เหอะ

“งั้นผมวางแล้วนะ”พูดจบมันไม่รอให้ผมตอบรับ กดวางใส่ผมไปทั้งอย่างนั้นเลย เหี้ยยยย กูเป็นคนโทรนะเว้ย แม่ง กล้ากดตัดสายได้ยังไงวะ

ถึงจะพูดจบแล้วก็เหอะ

“เป็นไง... ทำไมมันฟังดูสั้น ๆ จังเลยวะ”พิชถามทันที ที่ผมวางโทรศัพท์ลง “หรือว่าโดนหมอนั่นเหน็บมาเลยไม่อยากคุยต่อ?”

“เปล่า... หนาวมันก็ให้คำปรึกษาดี”ผมกวาดสายตามองเพื่อนและน้องนับสิบชีวิตตรงหน้าแล้วกระตุกยิ้มน้อย ๆ “แต่จะให้ถามเยอะจนมันเก็บไปดูถูกคงไม่ใช่”

“แล้วผมว่าไงล่ะพี่”โอมเริ่มครวญออกมาด้วยความอยากรู้ คนอื่นถึงจะไม่พูด แต่แววตาแม่ง ฟ้องสัส “รีบ ๆ บอกมาเหอะน่า ผมอยากรู้”

“ก็ไม่อะไร... รอน้องมาง้อ ขอพี่คืน”ผมบอกคำตอบไปอย่างที่ได้รับมา พวกที่ล้อมอยู่รอบตัวผมทำหน้าเซ็ง แล้วกลับไปนั่งประจำที่ตัวเอง “ถ้าน้องไม่มาก็กระตุ้น”

“เออ เรื่องนั้นก็รู้อยู่... แล้วหลังจากนั้นจะทำยังไง? จะคือพี่ให้ หรือว่าจะตัดต่อไปจนปลด?”เออว่ะ ลืมไปเลย เพราะอีกไม่นานนี่ก็ปลดแล้ว เหลือแค่กิจกรรมชิงรุ่น ชิงเกียร์เองนี่หว่าที่จะอยู่ในมาดว๊าก ที่เหลือมันอยู่นอกความเป็นว๊ากแล้ว “ทำไมไม่ถามประเด็กพวกนี้ว้า”

“เออน่า เดี๋ยวกูถามมาให้”เพื่อนกันรุ่นน้องหลายคนเบ้ปากใส่ผม แล้วพากันลุกขึ้นยืน

“จะเอายังไงก็บอกแล้วกัน คุณเฮด พวกเราไปนอนละ”อ่าว... ไปกันหมดเลย ให้ผมคิดแผนงานต่อไปคนเดียว? เออ ดี ไม่ช่วยกันทำมาหากินเลย พวกนี้

แต่เอาเถอะ มันคงไม่ยากหรอกน่า

ว่าที่คู่นอนผมทำได้ ทำไมผมจะทำไม่ได้ จริงป่ะ


ผมนอนคิด นั่งคิด ยืนคิด เดินจงกลมคิดมาครึ่งค่อนคืน แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเอายังไงถ้าน้องมาง้อ ขอพี่คืน ถ้าไม่ให้ งานชิงเกียร์ก็ไม่เดิน แต่ถ้าให้มันจะเท่ากับปลดว๊ากไหม?

ตอนกลางคืนไม่ได้นอน ตอนเช้าผมก็แพนด้าไปเรียน โดนเพื่อนขำอีก แต่หน้าคงเหวี่ยงเยอะไปหน่อย น้องปีหนึ่งที่เดินผ่านมานี่ไหว้กันปลก ๆ เหมือนไหว้ศาลเจ้าขอหวย จะหันไปว๊ากก็ไม่ไม่ ตัดพวกมันอยู่

ว่าจะไม่ถามอะไรหมอนั่นแล้ว... แต่จะให้โง่อยู่แบบนี้งานมันก็ไม่เสร็จ...

เอาก็เอาวะ ดีกว่าพลาดแล้วมานั่งแก้ ยุ่งเข้าไปใหญ่ ยิ่งต้องเตรียมงานชิงเกียร์ไปด้วย งานยิ่งโคตรยุ่ง

ผมเดินไปยืนพิงกำแพงอยู่ข้างห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ไม่ต้องถามหรอกว่ารอใคร มีอยู่คนเดียวนั่นแหละที่จะให้คำตอบผมได้ดีที่สุด

หืม... ผมไม่รู้หรอกว่ามันเรียนอยู่ที่ไหนตอนนี้ แต่ที่มั่นใจ ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องออกมาแถวนี้แน่ แลปเรียนของปีสามคณะนี้ไม่พ้นแถวนี้หรอก

วันนี้ผมมาคนเดียว ไม่ได้เอาใครมาด้วย ก็นะ เอามาก็วุ่นวายเปล่า ๆ คนของวิศวะ กับคนของพวกเมดเทค ยังไงก็คุยกันดี ๆ ยาก คนยิ่งเยอะยิ่งน่าปวดหัวด้วย

วิศวะแมน ๆ หล่อ ๆ อย่างผมลุยเดี่ยวดีกว่า เท่ห์ ๆ ไม่มีคำว่ากลัวอยู่แล้ว มันจะยกพวกมาตีก็มา หึ เรื่องบู๊ชายวิศวะเราถนัดกว่าใช่สมองเยอะ

พูดไปพูดมา ทำไมมันดูว่าผมดีแต่ใช้กำลังวะ?

ช่างแม่ง

ผมยืนรอเฮดของพวกเมคเทคอยู่เกือบสิบนาที ก่อนที่ร่างสูงโปร่งในเสื้อเชิดสีขาว กางเกงสแล็ค ผูกเนคไท ติดเข็มขนพ รองเท้าหนังสีดำ ถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้าจะเดินออกมายิ้ม ๆ

แน่นอนว่าพอมันเห็นหน้าผมรอยยิ้มบาง ๆนั่นก็หายไป เปลี่ยนเป็นหน้าเรียบเฉยตามฉบับของมัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้ามันยังยิ้มนี่ดิแปลก

“คุณมาทำอะไรที่คณะผม คุณพายุ”ลมหนาวเปิดบทสนทนาขึ้นมาก่อน ขายาว ๆ นั่นเดินเข้ามายืนตรงหน้าผมอย่างไม่เกรง
คณะมันเองจะเกรงอะไร... แต่ตอนไปคณะผมมันก็ไม่เกรงนะ ฮะ ๆ

“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”ผมมองหน้าคนตรงหน้านิ่ง ๆบ่งบอกให้มันรู้ว่าผมจริงจัง ลมหนาวมุ่นหัวคิ้วเข้าหากันน้อย ๆ ก่อนที่จะพยักหน้าเบา ๆ

“พวกนายไปก่อนเลย เดี๋ยวเจอกัน”คุณวินัยเจ้าสำอางหันไปบอกเพื่อน ๆ ที่ยืนรออยู่ด้านหลัง ก่อนที่จะหันกลับมาหาผม “แล้วเราจะไปคุยกันที่ไหนดีล่ะครับ”

“เอาเป็นร้านข้าวสักร้านหน้าม.ละกัน... คุณมีเรียนต่ออีกไหม”จะมารบกวนเขาก็คงต้องสุภาพกันหน่อยล่ะ ไปกวนใส่เดี๋ยวคุณวินัยจะหงุดหงิด พาลไม่ยอมพูดกับผมอีก

ความซวยจะบังเกิดเอา

“ไม่ วันนี้ผมมีเรียนแค่นี้”

ผมกับลมหนาวปั่นจักรยานไปหน้ามหาลัยด้วยกัน คนมองกันตรึมทั้งในคณะและนอกคณะ บางคนถึงกันตาถลน แล้วเงยหน้ามองฟ้า

ยัง ฝนยังไม่ตก เมฆยังไม่ครึ้ม การที่วิศวะมากับเทคนิคการแพทย์มันประหลาดขนาดที่ทุกคนต้องตะลึงเลยหรือยังไงกันวะ กูล่ะงง

“ผมว่าคราวหน้าผมกับคุณควรแยกกันมา แล้วไปเจอกันที่ร้านนะครับ”เฮดว๊ากของเทคนิคการแพทย์พูดขึ้นระหว่างที่เขี่ยเอาขาตั้งจักรยานลง “การที่ผมกับคุณมาด้วยกันแบบนี้มันคงสร้างความแปลกใจให้กับคนอื่นมากเกินไป... ผมไม่ชอบที่จะเป็นจุดสนใจ”

“ตามที่คุณต้องการแล้วกัน”ไม่อยากเป็นจุดสนใจ แต่ประกวดทั้งเดือนคณะ แล้วก็ยังเป็นเฮดว๊ากอีก มันดูไม่ใช่จุดสนใจตรงไหนวะ ไอ้สองหน้าที่นี้เนี่ย

ผมเดินนำลมหนาวเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ในหลืบ ถึงจะบอกว่าอยู่ในหลืบ แต่คนก็มากินกันเยอะนะเออ รสเด็ดมาก ผมให้คะแนนเต็ม

“เส้นหมี่ต้มยำ ไม่ใส่นมครับ”หนาวมันสั่งทันทีโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองเมนู

“เล็กตก ไม่เอาผักบุ้งครับ พี่สี”พี่สีฟ้าคนรับรายการอาหารประจำร้าน สวย หมวย อึ๋ม ลีลาเด็ด พายุคอนเฟิร์ม จดของที่สั่งอย่างไว้ แล้วขยับตาให้ผม ก่อนที่จะเดินบิดสะโพกเอากระดาษไปให้คนทำมือทองประจำร้าน

“นึกว่าลืมกันไปแล้วนะคะ น้องยุ”อ่าว... เดินกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย ผมยิ้มกริ่มให้กับสาวสวยที่เดินกลับมาทอดสะพานให้ผมอย่างไม่ปิดบัง “ไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะ”

“ผมมาทีไรพี่สีก็ไม่อยู่นี่ครับ”ผมตอบกลับไปนุ่ม ๆ จริง ๆ แล้วผมไม่ค่อยได้มากินเท่าไหร่ต่างหาก ฮ่า ๆ ถ้ามาก็เล็งเวลาที่พี่แกไม่อยู่

ถึงลีลาจะเอ็กซ์ หุ่นจะแซ่บ แต่ผัวเยอะก็ตามหลักการ ผมไม่ปลื้ม

“ยัยฟ้า ไปรับออเดอร์ อย่ามัวแต่คุย”เฮียตี๋ตะโกนมาจากหน้าเตาด้วยเสียงเหวี่ยง ๆ พี่สีฟ้าส่งจูบให้ผม ขยับตาอีกนิดแล้วถึงเดินนวยนาดไปรับออเดอร์จากลูกค้าที่เข้ามาใหม่

“คุณเรียกให้ผมมาดูคุณว่าคุณจะไปสีต่อกับใครอย่างนั้นเหรอ”เดี๋ยวนี้หัดเหน็บแนม ผมมองใบหน้าที่เรียบเฉยของเดือนเมดเทคอย่างประหลาดใจเบา ๆ

“คุณพูดเล่นเป็นด้วยเหรอ...”รู้สึกว่าพลาดที่พูดประโยคนี้ไป แววตาที่อ่อนกว่าปกติตอนแรกของหมอนั่นเลยแข็งขึ้น “ผมไม่ได้จะให้คุณมาดูอะไรไร้สาระหรอกน่า”

ลมหนาวมองไปทั่งร้าน ก่อนที่จะหันมามองผม แล้วเท้าคางรอให้ผมพูด

“ผมอยากรู้... ว่าหลังจากนี้คุณจะทำยังไงต่อ”อารัมภบทไปหมอนั่นก็ไม่เล่มด้วยอยู่แล้ว เข้าเรื่องไปเลยดีกว่ากันเยอะ “เรื่องน้อง”

“ผมบอกคุณไปแล้วว่าผมรอ”ลมหนาวเหลือบตาขึ้นมาสบกับผมนิ่ง “รอก็คือรอ รอจนกว่าจะถึงเวลาสุดท้าย”

“ผมไม่เข้าใจ”ชักหงุดหงิดขึ้นมาตงิด ๆ ยังไงไม่รู้เหมือนกันนะ ผมถามคำถามเดิมซ้ำสองก็น่าจะรู้แล้วดิว่าไม่เข้าใจน่ะ “คุณบอกว่ารอ แล้วถ้าน้องมาขอพี่คืนจะทำยังไง แล้วถ้าไม่มาล่ะ จะทำยังไง”

“ทุกอย่างต้องทำไปตามสถานการณ์ ในเมื่อเราไม่สามารถที่จะคาดคะเนอะไรได้ ถ้าน้องมาขอพี่คืน แล้วทำได้ดี เราก็ให้คืนไป แต่ถ้ามาขอ แต่แย่ ก็ให้โอกาสเขาทำใหม่ หรือจะยังไงก็ตามแต่คุณ”หนาวมันถอนหายใจน้อย ๆ ก่อนที่จะพูดต่อ “แต่ถ้าเขาไม่มา ก็ต้องมีการกระตุ้นกันบ้าง ซึ่งนั่นก็อยู่ที่พวกคุณเช่นกันว่าจะทำยังไง”

“เช่น?”ผมร้องขอตัวอย่าง แม่ง เข้าใจคนที่ไม่เคยทำบ้างไหมวะ กูไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน จะให้ทำส่ง ๆ ไปหรือไง แล้วถ้าพลาด ล้มขึ้นมา ก็ซวยกับซวย โดนปีแก่เชือดอีก
แม่ง

“จะใช้แรงกดดันด้วยกระแสข่าว หรือจะส่งคนเข้าไปคุยกับพวกสภา กำหนดเวลามาก็ว่าไป ยังไงน้องที่ต้องการพี่ก็ต้องดิ้นรนเอาเพื่อนมาให้ได้อยู่ดี”เมื่อไอ้หนาวพูดประโยคนี้จบ ก๋วยเตี๋ยวก็มาวางตรงหน้า แต่ก็ยังไม่มีใครหยิบตะเกียบขึ้นมากิน “อย่างที่บอกล่ะครับ ว่าขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเองว่าคุณต้องการให้เดินไปทางไหน”

“ผมไม่อยากพลาด”คราวนี้เป็นตัวผมเองที่ต้องถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ “ผมยอมรับว่าผมค่อนข้างกังวล พวกเราไม่เคยจำลองสถานการณ์แบบนี้มาก่อน มันทำให้ผมเสียความมั่นใจไปนิดหน่อยเหมือนกัน”

“จริง ๆ แล้วคุณควรจะทำตามทางของคุณ”มันเอ่ยออกมาด้วยเสียงเรียบ ๆ ที่ฟังดูเหนื่อยใจเบา ๆ “ถึงจะเป็นคู่บัดดี้กัน แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเหมือนหันทุกอย่างก็ได้”

“ผมอยากลองอะไรแปลกใหม่ดูบ้าง”ผมหลบตาของลมหนาว จริง ๆ ไม่ใช่แค่อยากลองอะไรใหม่หรอก แต่อย่างที่บอก ผมอยากรู้ว่าทำไมพวกเมดเทคถึงทำอะไรได้พร้อมกันนัก ถ้ามันเอามาใช้กับวิสวะของผมให้เหนือว่าพวกมันได้ มันก็คุ้มพอที่จะเสี่ยงทำดู “ใช้วิธีเดิม ๆ ไปตลอดน้องก็รู้แกว”

“ก็ตามแต่ใจคุณ”ใช่ มันต้องตามใจกูอยู่แล้ว ยังไงผมก็ต้องชนะคนตรงหน้าให้ได้ ไม่มีทางที่วิศวะจะแพ้เทคนิคการแพทย์อีกแน่นอน

“ยังไงผมก็จะต้องชนะคุณ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดีเถอะ”ผมกระตุกยิ้มท้าทายให้กับเฮดเมดเทคที่มองมาอย่างไม่ยอมเหมือนกัน

“แล้วเราจะได้รู้กัน”มั่นใจได้ก็แค่ตอนนี้ล่ะ นายเหมันต์ คอยดูแล้วกัน พายุคนนี้จะต้องพาวิศวกรรมศาสตร์ขึ้นให้เหนือว่าเทคนิคการแพทย์ไปอีกหลายร้อยก้าวให้ได้ “คุณไม่มีทางชนะผมได้หรอก คุณพายุ”

ถึงวิธีที่ใช้จะขอยืมมาจากคณะของนาย แต่กูจะทำให้ดูว่า แม้จะเป็นวิธีเดียวกัน แต่คนนำมันต่างกัน ผลของใครจะออกมาเป็นที่สุด

“ทำใจให้พร้อม ทำตัวให้สะอาด คุณต้องเป็นของผมแน่! ลมหนาว”

จบบทสนทนา ก๋วยเตี๋ยวอืดแล้ว แม่ง เหี้ย!

หมดอร่อย

++++++++++++++++++++++++++

มาแบบมึน ๆ อีกแล้ววว 555 งง แต่ลมหนาวไปด้วย พายุไปด้วย เบลอมากค่ะ TT (จริง ๆ ควรลงนานแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งมาแต่งแทรก เลย แฮร่)

ตอนต่อไปของปันปัน...

ไปพูดคุยกันในเพจได้นะคะ ^^

ปล. http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44770.0 มีใครสนใจแลกหนังสือกับคนเขียนไหมคะ 555 วิ่งไล่เก็บหนังสือหลังจากห่างหายไปนาน TT

ปล.2 วันพฤหัสเจาะเลือดดด เส้นเลือดไม่ขึ้น ฮือออ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 27-01-2015 23:14:37
กว่าจะรักกันคงอีกนานแน่เลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 27-01-2015 23:17:14
มาต่อบ่อยๆนะคะ หายไปนานเก๊าคิดถุง :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 27-01-2015 23:31:25
อยากอ่านลมหนาวต่อออออ  :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 27-01-2015 23:42:04
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 27-01-2015 23:45:37
สู้ๆนะ ทั้งสองคณะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 28-01-2015 00:23:14
ตอนนี้พายุมันน่ารักดีนะ เอ๊ะ! รึว่าชั้นคิดไปเอง *^^*
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 28-01-2015 00:54:37
อ้างถึง
  จบบทสนทนา ก๋วยเตี๋ยวอืดแล้ว แม่ง เหี้ย!

หมดอร่อย

ตัดอารมณ์ฉับเลยค่ะ 55555

ตอนนั้นหนาวไม่สบาย อยู่กับพี่หมอหรือเปล่าน้า~?

พายุลุคนี้ก็น่ารักดีนะคะ แต่หนาวเริ่มหลุดละ 5555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 28-01-2015 18:55:00
ตอนต่อไปจะมาไวๆนะคะ ^^'
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-01-2015 19:38:52
แหมะ ลมหนาวเหนือกว่าเห็น ๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 28-01-2015 20:54:59
อยากจะกดรีเฟรชหน้ารัวๆ แล้วให้ขึ้นตอนต่อไปเร็วๆ  :ling1: :ling1: :z10: รอปันปันค่ะ
ตอนนี้ก็ยังชอบลมหนาวเหมือนเดิม  :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 28-01-2015 22:10:44
ยืมวิธีเขามาใช้ยังจะข่มอีกน่ะ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 28-01-2015 22:18:28
 o13
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 29-01-2015 20:03:49
แอบแปะแจ้งไว้เล็ก ๆ

ตอนต่อไปเจอกันสุดสัปดาห์นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 29-01-2015 21:13:00
รอค่าาา  ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: lazyvespa ที่ 31-01-2015 16:40:09
สนุกมากกกกกกก  คิดถึงตอนอยู่ปีหนึ่งเลยค่ะ ชอบบุคลิกของลมหนาว ฝุดดๆๆ อ้ะะะ :hao5: :hao5:
มาต่อไวๆน้ะคะ รออยู่ววววว  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่16 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: nicky_nine ที่ 31-01-2015 16:47:13
 :L2: 
เป็นกำลังใจให้พี่วินัยและพี่ว๊ากทั้งหลายค่า
พูดอะไรไม่ออกอ่า  :mew6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 31-01-2015 20:38:39
วันที่สิบเจ็ด

(ปันปัน)

ผ่านวันชิงธงมาแล้ว ปีนี้ธงของเทคนิคการแพทย์ก็ไม่ออกตามเคย ท่าดีทีเหลวชิบน้องปีนี้ รอบแรกทำซะเลิศหรู แต่ไอ้ลูกคลื่นรอบสองนั่นคือเหี้ยอะไร?

โคตรน่าผิดหวัง ทั้งที่ไม่ได้หวังเอาไว้เยอะนี่แหละ แม่ง

ผมรู้จากสีหน้าและท่าทางของไอ้หนาว มันหวังไว้สูงมากตั้งแต่ตอนที่นักศึกษาปีหนึ่งตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ มันดูภูมิใจที่ทำให้พวกเขาก้าวข้ามความขี้เกียจของตัวเองไปได้

ก่อนวันชิงธงยังพูดกันอยู่เลยว่าปีนี้น้องมีความพยายามดี ขยันมาซ้อมกัน ถึงแม้แต่ในช่วงแรก ๆ อาจจะขี้เกียจไปสักหน่อย แต่พอกระตุ้นก็ดีขึ้นเยอะ อาจจะได้ธงไปก็ได้

แต่ผลที่ได้รับมาคืออะไร? แววตาที่ผิดหวังตอนที่มันต้องยกธงสีแดงขึ้นเพื่อเอาธงคืนมาตอนนั้นมันกระจ่างชัดในสายตาและความรู้สึกของพวกเราทุกคนที่อยู่ข้างหลัง

ขนาดผมกับเพื่อนและน้องที่นั่งกองกันอยู่ยังรู้สึกผิดหวังกับภาพที่ได้เห็นเลย ประสาอะไรกับคนที่ต้องคอยจ้อง และให้คำตัดสินอย่างลมนาวมันกันล่ะ

แล้วยิ่งตอนที่มันก้าวไปคุยกับนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ปีที่หนึ่งหลังแสตนด์นั่นเพียงลำพังคนเดียว โดยไม่ให้คนอื่น ๆ โผล่หน้าออกมา น้ำเสียงที่มันพูดออกมาอาจจะดูราบเรียบ ใส่อารมณ์บ้างบางช่วงเหมือนเคย แต่ครั้งนี้ผมสัมผัสได้ว่ามันเจ็บปวดกับการกระทำของพวกเขาจริง ๆ

โอเค ปีก่อน ๆ อาจจะมีลุกนั่งไม่พร้อมกันบ้างเลยไม่ให้ธง แต่ไม่มีปีไหนที่เป็นคลื่น ไม่ดิ แบ่งครึ่งกันนั่งแบบนี้ มันไม่สามารถหยวนให้ธงได้เลยสักนิด

“มึงยังโอเคใช่ไหมวะ”ผมถามเพื่อนที่นั่งเขียนรีพอร์ทอยู่ไม่ไกลอย่างห่วง ๆ มันเล่นไม่พูดไม่จา ก้มหน้าก้มตามาตั้งแต่เช้าแล้ว
มันอาจจะดูปกติแต่ไม่ปกติยังไงไม่รู้

“อืม โอเค”ฟังจากเสียงมันก็ดูโอเคอยู่หรอก แต่ไอ้ท่าทางที่เหมือนไม่อยากสนใจโลกนี่มัน... “กูโอเคจริง ๆ ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น”

ลมหนาวเงยหน้าขึ้นมายักคิ้วให้ผมข้างนึงแล้วก้มหน้าลงไปเขียนรีพอร์ทต่อ เออ โอเคก็โอเค ไม่เซ้าซี้ก็ได้ เดี๋ยวเซ้าซี้ไปมาก ๆ จะโดนลมหนาวเปลี่ยนเป็นเฮอริเคนมาลง ทีนี้งานเข้าเลย

“เออ แล้วมึงรู้ยังว่าใครตามมึงอยู่น่ะ”เปลี่ยนเรื่องทีโดนกูเลย ไม่คิดว่ามันจะยังจำเรื่องภายในใจของผมได้เหมือนกันนะเนี่ย

“ยังไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร แต่ก็พอจะรู้ว่าเขาอยู่ตรงไหนแล้วล่ะ...”หลังจากที่ผมลองจับผิดมาหลายวัน แกล้งวนเวียนแถวสนามฟุตบอลให้เป็นที่ประจำอยู่ทุกเย็นแล้วลอบสังเกต ทำให้ผมพอจะรู้แล้วว่าคนที่ตามผมอยู่นั้นมักจะซ่อนตัวอยู่ตรงไหน “ว่าจะจับตัวอยู่เร็ว ๆ นี้แหละ”

“เมื่อไหร่ล่ะ”ทีนี้มันวางปากกาลงเลยครับท่านผู้ชม เลิกสนใจงานตรงหน้าที่กว่าจะส่งก็อีกสัปดาห์นึง ไม่รู้จะรีบทำไปทำไม แล้วหันมาสนใจผมเต็มที่เลย ไม่ค่อยเลยนะมึง “ให้ช่วยอะไรไหมวะ”

“เย็นนี้... ไปจ๊อกกิ้งด้วยกันหน่อยเป็นไง”ยักคิ้วให้มันสักหน่อย ลมหนาวกระตุกยิ้มน้อย ๆ ด้วยเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อ
เอาล่ะ เรามาไล่จับคนที่ไม่รู้ว่าใครกันสักคนเป็นการออกกำลังกายเบา ๆ ให้สมองปลอดโปร่งเลิกฟุ้งซ่านในตอนเย็นกันเถอะ

“เฮ้ยยย ไปด้วยดิ”คนที่ไม่ได้เชิญ แต่ไล่ไม่ได้อย่างพลอยโผล่มากลางวง “รู้นะเว้ยว่าจะทำอะไร กูไปด้วย ไม่ให้ไปก็จะไป โอเค จบนะ”

“เออ”

เรื่องสนุกมีไว้ให้ร่วมกันทำ... ล่ะนะ


วันนี้เป็นวันที่ค่อนข้างอึดอัด ไม่รู้ทำไมเดินไปไหนก็เจอแต่นักศึกษาปีหนึ่งเพ่นพ่านเต็มไปหมด และพวกเขาก็เอาแต่ไหว้ มองพวกผมด้วยแววตาที่สั่นระริกจากความกลัว

ปกติอาจจะเจอกันอยู่บางที่หน้าแลป แต่นี่ ขนาดเดินอยู่บนตึกเรียนยังจะเจอ มันอะไรกันวะเนี่ย เปิดวาร์ปกันล่ารุ่นพี่หรือไง

แล้วไอ้สายตาที่กลัวโดนจับกินคือเชี่ยอะไรครับ ตรูยังไม่ได้ทำอะไรเลยว๊อยยย ไอ้หนาวก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้สักหน่อย จะมาส่งความกลัวให้ทำไมกันวะ บ้าชิบ พี่วินัยก็มีหัวใจนะน้อง มองอย่างกับพวกพี่เป็นปิศาจอย่างนี้วะ คนเหมือนกันเว้ย มีเลือด มีเนื้อ กินของสุก

นี่แค่ลมหนาว... ลองเจอพี่ตังโอดูสักดอกจะรู้สึก

“สวัสดีครับ / ค่ะพี่”เจอน้องอีกกลุ่มแล้ว เป็นกลุ่มที่ห้าของวันได้แล้วมั้ง เจอบ่อยจนเกือบเผลอรับไหว้ไปแล้วเนี่ย “พี่ครับ / คะ”

ผมกับเพื่อนรีบก้าวไปให้ห่างน้องมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่ว่าพวกผมไม่สงสารน้องนะครับ แต่สงสารเพื่อนมากกว่าเลยต้องทำแบบนี้

ถ้าเรายอมอ่อนให้น้องไป ความพยายามของเราชาววินัย เพื่อน พี่ น้อง ที่ทำใจแข็งไม่สนใจน้องมาตั้งแต่ต้นมันก็จะไร้ความหมายไป นั่นคือสิ่งที่ลมหนาวมันกลัวมาตลอด

ก็นะ ปีที่แล้วมันมีปัญหา ตอนรุ่นพวกผมตัดน้อง ดันมีพี่คนนึงไปบอกน้องมาจะอยู่เคียงข้างน้อง ไม่ทิ้งน้องไปไหน น้องก็เล่นโพสหน้าวอลเฟสบุ๊คถึงพี่คนนั้นกันยกใหญ่ ทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าจะให้น้องอยู่ด้วยตัวเอง ทำเอาปั่นป่วนไปทั้งคณะ พวกเฮดรุ่นใหญ่ ๆ ก็มารุมด่าพวกผมจนแทบอยากจะกระโดดตึกตายให้รู้แล้วรู้รอด ควานหาตัวคนทำหันให้ควัก แต่พอมารู้ที่ว่าคนที่ทำนั้นเป็นรุ่นพี่ ก็กริบกันไปหมด แล้วก็ทิ้งปัญหาไว้ให้พวกผมแก้... (แน่นอนว่าระดับลมหนาว หมอนั่นแห้ได้อยู่แล้ว แค่ปวดหัวไปเป็นอาทิตย์ ๆ หน้ามันเหี้ยมขึ้นหลายสิบเปอร์เซ็นเลย หมดมาดเดือนคณะไปพักใหญ่ อย่าว่าแต่น้องเลย เพื่อนด้วยกันบางทีหันไปมองหน้าที่เป็นตูดของมันยังต้องกลัว)

จากประสบการณ์ที่ได้รับนั้น ทำให้ทุกคนต้องมานั่งระวังกันจนแทบหวาดผวา ไม่รู้ว่าจะมีใครทำแผลงๆ ขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ เพื่อนคอยห้ามเพื่อน พี่คอยปรามน้องกันไปเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่เคยอีก

แต่ก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้มาคิดก่อนดีกว่าว่าเย็นนี้ผมจะจับคุณปริศนายังไงดี หึหึ ไม่ปล่อยให้รอดแน่ ทำผมหลอนแอนด์เสียวสันหลังมาหลายวัน

ขอบตากูดำหมดแล้วเนี่ย (ไม่ต้องจ้อง ดูไม่ชัดหรอก สีมันใกล้กับสีผิวผมเกิน เหอะ คล้ำแล้วผิดตรงไหน หนักหัวใครเปล่า?//จ้อง)

หลังจากเลิกเรียนแล้วแยกย้ายกันไปพักก่อนจะมารวมตัวกันที่สนามฟุตบอลใหญ่ของมหาลัย จากตอนแรกมีพลอยกับลมหนาวสองคนที่มาร่วมขบวนการจับสโตรกเกอร์กับผม แต่พอรวมตัวกันจริง ๆ มันดูเยอะ ๆ ยังไงไม่รู้... พวกว๊ากของวิศวะนี่มาจากไหนวะเนี่ย ใครจุดธูป จุดกำยานอันเชิญพวกมันให้ไหลตามท่อความเสือกกันมาวะ

ผมยังไปมอง (จ้อง) ลมหนาวซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรก มันยกมือขึ้น แล้วยิ้มแหยน้อย ๆ ไม่ต้องบอกเลยว่าพวกที่ไม่ได้เชิญนี่ตามใครมา... แต่นะ เดาไม่ยากหรอก มีมันคนเดียวนั่นล่ะที่พวกว๊ากจะมาติดต่อด้วย (เพราะจำเป็น) ส่วนวินัยของเมดเทคนี่ คงไม่พ้นไอ้พลอยจูงมา

วันนี้คงเป็นวันที่ผมมีเพื่อนวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกายตอนเย็นมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยมั้ง เล่นซะแถวหน้ากระดานวิ่งไม่พอเลย ควรจะดีใจไหมเนี่ย

ผมทำเป็นวิ่งไปสักพักนึง ก่อนที่พลอยกับนัทจะแยกออกไป อ้อมไปข้างหลังจุดที่ผมส่งซิกให้พวกนั้นรู้ว่าตรงนั้นแหละ แล้ววิ่งต่ออีกหน่อย ลมหนาวก็แยกไปบ้าง พวกวิศวะเหมือนจะพอรู้แล้วว่าไม่ใช่แค่การวิ่งธรรมดา เลยทำเป็นกระจาย ๆ ตัวกันไป มีบางคนคลำทางตามสามคนที่แยกไปด้วย

ทีเรื่องแบบนี้แม่ง ไวกันจริงเลยนะพวกมึงแต่ละคน

ผมวิ่งอีกหน่อย แล้วค่อยหยุด ทั้งที่ยังไม่เหนื่อยเลย บิดซ้าย บิดขวารอเวลาให้พวกนั้นล้อมคอกให้แคบลงอีกสักนิด ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปทางข้างหน้า ซึ่งเป็นสวนหย่อมที่ต้นไม้โคตรเยอะของมหาลัย

“อย่าหวังว่าจะหนีรอดนะ”ร่างที่พรวดออกมาจากหลังต้นไม้นั่น ไม่ผิดแน่ จะต้องเป็นคนที่ตามผมอยู่ในช่วงนี้ชัวร์ ๆ เขาวิ่งลัดเลาะดงหญ้าไป แต่ก็ถูกชาววินัยอย่างเรา ๆ ล้อมเอาไว้จนหมด

“ไม่มีทางให้หนีแล้วนะครับ”รอยยิ้มบางเบาจากลมหนาวแม่ง ดูเยือกเย็นชิบ แต่ดูแล้วร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่กลางวงนั้นไม่ได้ยี่ระเลย “คุณมีปัญหาอะไรกับเพื่อนผมเหรอครับ”

นับวันความเป็นวินัยยิ่งฝังเข้าไปในตัวของหนาวขึ้นทุกที ขนาดตรงนี้ไม่มีน้องอยู่สักคน มาดยังเป็นวินัยเลย... แต่เอาเถอะ มันอาจจะเก็กก็ได้ เอาไว้ข่มขวัญคนอื่นเข้า

แต่มันดูโหดหนักยิ่งขึ้นเมื่อมีพายุยืนกอดอกทำหน้าบึ้ง ๆ อยู่ข้าง ๆ เออ ดี อย่าซัดกันขึ้นมานะพวกมึงน่ะ

“ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย”เสียงทุ้มตอบกลับออกมาอย่างไม่ได้ระคายกับความกดดันเลย ดูไม่ได้หวั่นใจสักนิดที่มาตกอยู่ในวงล้อมแบบนี้ คนแน่เปล่าวะ

“แล้วทำไมคุณต้องตามดูผมทุกเย็นแบบนี้”ผมถามสวนออกไปอย่างหงุดหงิด แม่ง ไม่มีไรอะไรของมึง มึงไม่ดี แต่กูมีแน่ ถ้าคำตอบมันไม่เข้าหู

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร”คราวนี้เขาหันมาหาผม... เชี่ย ผู้ชายจริงดิ? ผมก็รู้นะว่าเดี๋ยวนี้มีผู้ชายหน้าสวยไม่น้อย แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอจังตาแบบนี้ โอเค อาจจะไม่ได้สวยหวานเหมือนผู้หญิง แต่ถ้าเอาไปแต่งหน้านี่ อาจจะได้ขึ้นมิสทิฟฟานี่เลยนา “ก็แค่... สนใจ?”

“สนใจ? สนใจอะไรครับ”รอบข้างผมนี่เงียบกริบ เหมือนมีแค่ผมกับคนตรงหน้าแค่สองคน ทั้งที่รอบ ๆ มีคนเป็นสิบ เงียบกันแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแม่งกำลังตั้งใจฟังกันอยู่

“ก็สนใจคุณไง”ห๊ะ สนใจผม? สนใจในความหมายไหนวะเนี่ย ผมจ้องหน้าของคนหน้าสวยอย่างไม่เข้าใจ ปนหงุดหงิด “สนใจคือสนใจ ก็คุณน่าสนใจ”

“สนใจอะไรของคุณ”ขออีกสักคำถามเถอะ สนใจห่าอะไรของเขากันวะ

“ก็... สนใจไง สนใจตัวของคุณ”รอยยิ้มยียวนส่งมาให้ พร้อมกับร่างที่เดินเข้ามาใกล้ ส่วนสูงของเขาน่าจะพอ ๆ กับผม ดวงตาเรียวสวย ริมฝีปากบาง จมูกโด่งรั้น

เดี๋ยว... มันไม่ใช่เวลามาพิจารณาใบหน้าของเขานี่หว่า สนใจในตัวผม? อะไรของเขาวะ หน้าตาผมก็สู้ลมหนาวไม่ได้(ห่างไกลแบบลิบโลกเลยด้วย) หุ่นก็ธรรมดาตามประสาคนเล่นกีฬา สีผิวยิ่งแล้วใหญ่ ลงใต้ก็เจอ ทรงผมก็ไปตัดร้านในห้าง ใครก็ตัดได้

“คุณหมายความว่ายังไง”

“ความหมายของผมตรงตัว คือ ผม สน ใจ คุณ”รอยยิ้มนั้นยังคงฉาบทับบนใบหน้า มือเรียวยื่นมาจีบคางผมบิดไปมาน้อย ๆ “เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากสานสัมพันธ์กันผม โทรมาได้เสมอแล้วกัน... แต่ถึงคุณไม่โทรมา เดี๋ยวผมก็โทรไปหาคุณเองนั่นล่ะ ปันปัน”

เขาล้วงเอานามบัตรในกระเป๋าตังค์มาหน่อยใส่กระเป๋าเสื้อผม ก่อนจะหันหลังให้ แล้วเดินตรงไปทางถนน แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรออกมา เขาก็หันมาซะก่อน

“ผมลืมบอกไป ผมชื่อคิสนะครับ น้องปันปัน”พี่คิส... เชี่ยคิสน่าจะเหมาะกว่ามั้ง หันมาขยิบตาให้ผมทีนึง ไม้ต้องส่งซิก ไม่รับเว้ย

“คิสไหนครับ”เหมือนลมหนาวมันจะอยากรู้อะไรบ้างอย่างเลยถามออกไป มันจะมีสักกี่คิสกันวะ คริสต์มาส คิส คิทแคท คริสโตเฟอร์ คิด

“คิตตี้ครับ”เสียงที่ตอบกลับมานั่นปนความขบขัน ดวงตาพราวระยับ “แต่ผมอยากให้คิดซะว่ามาจากคำว่าคิส ที่แปลว่าจูบมากกว่า”

“...”แม้แต่หนาวยังเงียบ ไม่ต้องพูดถึงผม เล่นซะพูดไม่ออกเลย

คิตตี้เนี่ยนะ? ใครมันสรรหามาตั้งให้ลูกผู้ชายวะเนี่ย ไอ้คุณคิตตี้เดินหัวเราะเบา ๆ ไปขึ้นรถที่มาจอดเทียบรออยู่ตรงถนน ยังไม่วายหันมาโบกมือให้ผมด้วย

ผมมองหน้ากับเพื่อนในคณะอย่างมึน ๆ ลมหนาวก็มองผมกลับด้วยความมึนไม่แพ้กัน อะไรวะ? ผมถูกสนใจ? สนใจในเชิ่งที่ไม่ใช่เพื่อนด้วย

เหี้ยยยยยย

“เอ่อ... เราก็ไม่ควรจะยุ่งกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของคนอื่นเข้าเนอะ”ไอ้โอม ว๊ากปีสองของวิศวะพูดขึ้นด้วยเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าแม่งกลั้นหัวเราอยู่ “เราไปวิ่งกันต่อดีไป พี่ยุ”

“เออ... ก็ดี ไป ๆ พวกเรา ไปวิ่งกัน”พายุพาตัวของพวกว๊ากวิศวะไปจนหมด ไม่ใช่แค่วิศวะดิ พวกเมดเทคของพวกเราก็มีไปด้วย เฮ้ย ไม่เว้นแม้แต่ไอ้หนาวด้วย

ไอ้แมวเหมียว คอยดูนะ ผมจะซัดให้หมอบเลย

แม่งเอ๊ยยยยยยยยยยยย


(คิตตี้)

ฮ่า ๆ ในที่สุดการแอบตามของผมก็โดนจับได้จนได้ แต่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องสนใจที่ไหน ดีซะอีกจะได้ไปอย่างเปิดเผย ไม่ต้องแอบดูมุมเสาแล้ว (ที่จริงต้องบอกในดงไม้...)

“คุณคิสครับ ไม่เป็นไรแน่ใช่ไหมครับที่คุณปันปันเขาจับได้น่ะครับ”อิน คนขับรถประจำตัวผมถามขึ้นระห่างที่กำลังเดินทางไปรบริษัท

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วง”ผมเคาะนิ้วลงกับเบาะหลังของรถคันหรู พร้อมกับยิ้มกริ่ม “ดีด้วยซ้ำ ฉันจะได้รุกโดยไม่ต้องหลบอีก”

“ถูกใจมากเหรอครับ”ยังถามมาต่ออีกนะ แต่วันนี้อารมณ์ดี จะตอบให้สักหน่อยก็ได้

“แน่สิ ถ้าไม่ถูกใจจะมาตามเหรอ”นึกถึงคนผิวแทน ๆ ใบหน้าคม ๆ นั่นแล้วอดที่จะกระตุกยิ้มพึงพอใจไม่ได้ “ไม่ใช่แค่ถูกใจธรรมดา... แต่ถูกใจที่สุดเท่าที่เคยมีเลยล่ะ”

“งั้นเหรอครับ”ไอ้งั้นเหรอนี่มันคืออะไร หรือว่ามันต้องการมีปัญหากับผม?

“ถามทำไม”เสียงผมเย็นขึ้นเลเวลนึง บอกถึงความไม่พอใจ ที่มันพูดหมายความว่ายังไง แล้วไอ้น้ำเสียงที่ดูเยาะเย้ยนั่นมันอะไร!

“ไม่มีอะไรนี่ครับ ผมแค่รู้สึกแปลกใจ”อินเหลือตาขึ้นมองผม แล้วยิ้มบาง ๆ ให้ “คุณไม่สนใจใครมาพักใหญ่แล้ว นี่กลับมาสนใจคนที่ไม่ใช่สเป็คของคุณเลย”

“แล้วสเป็คของฉันเป็นยังไงล่ะ”ผมเลิกคิ้วถามคนขับรถที่เป็นทั้งเพื่อน และพี่เลี้ยงคนสนิทอย่างสงสัยว่าเขาสังเกตอะไรผมบ้างในวัน ๆ หนึ่ง

“สเป็คคุณต้องผิวขาว หน้าตาน่ารัก อย่างตัวตานี้กลมโตใสเหมือนลูกแก้ว ผู้หญิงต้องอึ๋ม ผู้ชายต้องตัวเล็ก ผอมบางไม่ใช่เหรอครับ”ถูกทุกข้อ... ใช่สเป็คของผมเป็นแบบนั้นแหละ ผมไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น “แต่คุณปันปันนี้ตรงข้ามหมดเลยนะครับ ทั้งสีผิว หน้าตา รูปร่าง”

“แต่เขามีเสน่ห์ที่น่าดึงดูด”ผมต่อประโยคที่ใครอีกคนพูดมาให้สมบูรณ์ด้วยรอยยิ้ม “เขาอาจจะหน้าตาไม่ดีเท่ากับเพื่อนที่ผิวขาว ๆ ของเขา แต่เขามีแม่เหล็กดึงดูดสายตาใช่น้อยซะที่ไหน”

“เหรอครับ”อินตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเรียบเฉย “ผมไม่เห็นว่าเขาจะมีอะไรพิเศษกว่าคนใต้ผิวเข้มคนอื่น ๆ เลยนะครับ”

“มีตาไร้แววน่ะสินายน่ะ ถึงไม่เห็นฟีโรโมนของปันปันของฉัน”ผมหยิบมือถือขึ้นมามองเบอร์ที่ตั้งใจว่าจะโทรไปหาในคืนนี้ “แต่ก็ดีแล้ว จะได้ไม่มีใครมาแย่งคนของฉัน”

“แล้วถ้าเขาไม่เล่นด้วยกับคุณล่ะครับ”คำถามที่ไม่น่าฟังซะเลย มีใครจะไม่เล่นด้วยกับผมหรือยังไง ไม่มีทางซะหรอก เหอะ

“ฉันก็บังคับให้เขาเล่นกับฉันยังไงล่ะ”ผมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ใช่ ถ้าปันปันไม่เล่นด้วยกับผม ยังไงผมก็จะต้องทำให้เขายอมเล่มกันผมให้ได้

เรื่องแค่นั้น สบาย ๆ อยู่แล้ว

“ระวังสาว ๆ คู่ควง คู่นอนของคุณจะไปยุ่งกับคุณปันปันให้เขาหงุดหงิดจนพาลเกลียดคุณเอานะครับ”อืม... นั่นสินะ งั้นต้องหาทางกันไว้สักหน่อยแล้ว “ดูคุณปันปันเป็นคนขี้โมโหอยู่ ถ้าไปกวนเขามาก ๆ ระวังจะมีเรื่องให้ปวดหัวเอานะครับ”

“ก็นั่นสินะ... งั้นคงต้องจัดการสักหน่อยละ”ผมไลน์ไปจัดการกับสาวในสต็อกก่อนจะเกิดปัญหาอย่างที่อินเตือน แต่จริง ๆ แล้วพวกเธอก็วันไนท์แสตนด์ ข้ามคืนไม่ผูกพันอยู่แล้ว “คนที่ทำให้ปันปันโมโหได้ต้องมีฉันคนเดียว สีกน้ายามโมโหของเขายิ่งน่ารัก ๆ อยู่ด้วย”

อะไรของมันวะ ยิ้มแหยง ๆ นั่นอะไร ปันปันของผมเวลาโมโหออกจะน่ารัก ริมฝีปากหยักนั่นกดลงให้ปากเชิดสูง ดวงตาที่เปร่งประกายวิบวับ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันหน่อย ๆ

น่ารักจะตายไป

“เอาที่คุณสบายใจแล้วกันครับ”คงจะทนสายตาเขียว ๆ ของผมไม่ไหวล่ะสิ ถึงได้ถอนหายใจแล้วยอมออกมา เหอะ แน่อยู่แล้ว ทุกอย่างที่ผมทำผมต้องสบายใจ ถ้าไม่สบายใจจะทำเพื่ออะไร จริงไหม? “แล้วจะเข้าบริษัทจริง ๆ หรือว่าจะกลับไปคอนโดเลนครับ”

“ไปคอนโด”ผมตอบกลับอย่างสบายอารมณ์ ในขณะที่ดูรูปดินเพลย์ไลน์ของปันปันอยู่ “ฉันจะกลับไปทำอะไรสักหน่อย ไว้ค่อยเข้าบริษัทพรุ่งนี้”

“รับทราบครับ”

อา... ผมให้คนไปตามเก็บรูปปันปันมาเพิ่มสักหน่อยดีกว่า เอาเป็นรูปในชีวิตส่วนตัวดีไหม... ไม่ดิ ถ้าให้คนไปเก็บภาพพวกนั้นมันก็จะได้เห็นสัดส่วนแท้ของปันปันก่อนผม... งั้นเอาแค่ธรรมดาก็ได้

ร่างของปันปัน ผมต้องได้เห็นเต็ม ๆ ก่อนคนอื่น ใครก็มาแย่งไม่ได้

เอาล่ะ ปันปัน เกมที่แท้จริงกำลังจะเริ่มแล้วนะครับ ที่รัก

************************************************

มาไวใช่ม้าา // เขินน

ตอนที่ 17 แต่งจบก่อนตอนที่ 16 ค่ะ 555 วันนี้โดนเพื่อนเจาะเลือดมา เกือบเป็นลมม เจ็บปวดดด ฮืออออ

มิดไนท์ใจดีให้เลือก ว่าตอนต่อไปอยากอ่านในรูปแบบไหนก่อน

1 เอาน้องปี 1 ให้จบก่อน(น้องมาขอพี่คืน) แล้วต่อคอมโบคู่ ทิวข้าว คีตากิต และคู่ที่เพิ่งโผล่มาตอนนี้

2 เอาทิวกับข้าวมาก่อน แล้วถึงให้น้องมาจอคืนดี แล้วถึงต่อคอมโบอีกสองคู่

ก่อนเข้าคู่หลักอีกรอบ

มีให้โหวต 1 และ 2 ตัดสินใจได้แล้วก้ 1900 900 XPL นะคะ 555

// หนีไปเขียนเรื่องใหม่ละ (อ่าว ๆ) จะเอาจักรวาลมาเขียนนิยาย ฮาเร็มของพระอาทิตย์ (ใครจะอยากอ่าน 555)

//ตามหาหนังสือเรื่อง ✿BLACK BUTTERFLY✿ ต้องร้ายขนาดไหน...ถึงจะได้หัวใจมึง ของ คุณม่อน ใครมีแล้วอยากปล่อย IB มาได้เลยน้า (ในนิยายยังจะหาหนังสืออีกนะ TT)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: nicky_nine ที่ 31-01-2015 22:14:05
 :เฮ้อ: งานเข้าจ้า งานเข้าาาาาา ปันปันขา พยายามเข้านะลูก
น่าสงสารพี่วินัยนะ ก็น้องทำไม่ดีเอง ถ้าไม่สอน น้องคงสอนน้องๆรุ่นต่อไปไม่ได้

สำหรับโหวต กด 1 ค่า เคลียร์เรื่องนี้จบก่อนแล้วค่อยมุ๊งมิ๊งทีเดียว น่าจะฟินกว่า
ในความคิดเรานะ

รอต่อไปจ้า :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: akichan ที่ 31-01-2015 22:30:15
โหวต 1 คร่าาาา อัดอั้นเรื่องน้องๆมานาน เคลียร์เลยดีกว่า คนอ่านอัดอั้น 5555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 31-01-2015 23:11:45
เอาตอนน้องปี 1 ให้จบก่อนค่าาา  :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 31-01-2015 23:17:25
เลือก 1 น้องมาขอพี่คืนค่ะจะได้ไม่ค้างแล้วค่อยต่อคู่อื่นก็ได้ค่ะ o13
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 31-01-2015 23:17:36
ขอโหวต 1 เคลียน้องให้จบ จะได้ตามลุ้นคู่หลักให้มันได้กันเร็วๆ ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 31-01-2015 23:22:57
 :hao3:   เด๊วๆๆๆๆๆๆๆ  น้องปันๆ จะชิงมีผัวก่อน น้องหนาวหลอจ๊ะ  :z1:   เห็นหน้าหวานๆแบบนั้น ไม่ได้แอ๊มเค้านะปันๆ

 พี่คิส เค้าจะแอ๊มปันๆต่างหาก   :laugh: 

...........................

กดโหวต 1 รัวๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: gneuhp ที่ 31-01-2015 23:43:06
พี่คิสนี่รุกหรอนั่น น่าสนุกนะ อิอิ
โหวต 1 ค่าา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 01-02-2015 11:41:06
ของเราเอาข้อไหนก็ได้ค่าาา รออ่านแน่นอน ^^
ว่าแต่พี่คิสดูน่ากลัวนะคะ ปันปันไม่รอดแน่ 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 01-02-2015 16:33:40
พี่คิตตี้น่ารักจัง :ruready
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: vokara ที่ 01-02-2015 17:40:58
กด 1  แบบรัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ    :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 01-02-2015 18:01:53
 :กอด1:
กด 1 ค้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 01-02-2015 18:40:19
พี่คิสสสส♡ อยากอมตะใช่เปล่า?ถึงได้เลือกกินเด็กอย่างปันปัน55
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-02-2015 19:33:15
ตอนต่อไป ไม่เกินสุดสัปดาห์นี้ เจอกันค้า (สปรีทได้แค่สัปดาห์ละตอนครึ่ง TT)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: janepepo ที่ 04-02-2015 02:53:57
อ่านเรื่องนี้แล้วซึ้งน้ำตาไหลเกือบจะทุกตอนเลย..รุ้สึกรักพี่ๆมากๆเลย ยอมทำเพื่อเราขนาดนี้ TT
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่17 P.11[วิศวะVsเทคนิคฯ] แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: italyamore ที่ 04-02-2015 22:58:13
ปันปันน่ารักกกกกก  :-[

ขอคู่ทิวกับข้าวมั้งสิ
  :ling1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 06-02-2015 20:13:05
วันที่สิบแปด

ช่วงเช้าวันนี้เป็นวันที่แสนจะสงบสุขของผมเลยนะครับ ไม่ต้องเจอน้อง ไม่ต้องเจอพวกวิศวะ เพราะวันนี้อาจารย์ยกคลาสตอนเช้า แต่ตอนบ่ายก็ต้องไปเรียนอยู่ดีล่ะนะ

อย่างน้อยก็ได้หยุดพักจากการเรียนที่แสนจะโคตรหนักหน่วง ถึงจะแค่ไม่กี่ชั่วโมง ผมก็ดีใจแล้วล่ะครับ (เชื่อว่าพวกคุณก็คงคิดเหมือนผมนั่นล่ะ)

ตั้งแต่วันที่ตัดน้องออกจากรุ่น มาถึงชิงธง เลยมาวันนี้ก็เกือบจะสามอาทิตย์ เดี๋ยวก็ต้องมีชิงรุ่นอีก เหลือเวลาประมาณสองเดือนเศษ ถ้าไม่เร่งเวลาขึ้นหน่อยคงจะไม่เสร็จแน่ครับ

แต่จะทำไงได้ น้องยังไม่มาขอพี่คืนเลยนี่ครับ ต้องเร่งกันสักหน่อยแล้วล่ะมั้ง... เฮ้อ ไม่อยากจะเสวนาสักเท่าไหร่เลย แต่การที่น้องไม่ทำอะไรแบบนี้ มันก็เดือดร้อนพอดูเหมือนกัน

รอดูไปอีกสักพักแล้วกัน

ผมนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะสลัดตัวขี้เกียจที่เริ่มรุกรานเข้ามาออกไป แล้วลุกขึ้นมาทำรีพอร์ทการทดลองที่ทำค้างเอาไว้

พอเห็นรีพอร์ทพวกนี้ทำให้ผมนึกถึงวันที่ไปไล่จับสโตรกเกอร์กับปันปัน ไม่รู้จะไปขำที่ไหนดีที่น้องจะไม่เห็นนะครับ ฮ่า ๆ นึกว่าจะมีอะไร..

ที่แท้ก็โดนตามจีบ

โดนตามจีบ!!! แล้วคนที่มาจีบยังเป็นผู้ชายด้วยนะครับ ผู้ชายที่มีชื่อสุดแสนจะไพเราะว่า ‘คิตตี้’ ไม่ใช่แค่นั้น หน้าตาเขายังสวยแบบผู้ชายหน้าสวยด้วย

ขอให้มันโดยสอยตูด ฮ่า ๆ

ไม่เอา ไม่นึกถึงแล้วครับ เดี๋ยวงานไม่เสร็จ ผมก้มหน้าลงหยิบปากกาขึ้นมาเขียนรีพอร์ท แต่ยังไม่ทันที่จะได้เขียนอะไรก็มีเสียงโหวกเหวกดังขึ้นก่อน

“หนาววว ไอ้หนาววว หนาวโว้ยยยยย”ใครมาหนาวหน้าห้อมผมกันเนี่ย อากาศออกจะร้อน ทำไมหนาว? เล่นไอซ์บักเกตมาหรือไง แต่เสียงฟังดูคุ้นแปลก ๆ “ลมหนาว เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะมึงง”

อ่าว เรียกผมเหรอเนี่ย ดีนะไม่ออกไปปล่อยไก่ทั้งเล้าซะก่อน ผมเดินไปเปิดประตูห้องอย่างมึน ๆ อะไรของมันแต่หัววันเลยวะ

พอผมเปิดประตูออกไป ร่างดำ ๆ วิ่งวิ่งพรวดเข้ามาในห้อง พร้อมอะไรบางอย่างในมือ ที่ทำให้ผมต้องกลับหัวเราะเอาไว้ เอาเข้าจริงก็จะกลั้นไม่อยู่ อยู่แล้วนะครับ

ช่อดอกกุหลาบสีชมพูหวานกับสีแดงสดมันไม่ได้เข้ากับปันปันเลยนี่หว่า ตัดกันด้วยซ้ำไปนะครับ

“มึงไม่ต้องมาขำกูเลย ไอ้หนาว”ปันปันแยกเขี้ยวใส่ผมอย่างหงุดหงิด อะไร ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลยนะครับ “มึงมาเอาไปเลย ไอ้ช่อดอกไม้เนี่ย”

“ของใคร?”ผมมองช่อดอกไม้ช่อเบ้อเริ้มในมือเพื่อน แล้วเลิกคิ้วถาม ไม่ใช่อะไรนะครับ มันบอกให้ผมเอาไป งั้นช่อนี้ของผมงั้นเหรอ? ปกติถ้าจะมีใครให้ช่อดอกไม้ผม ก็จะฝากไว้ที่คุณป้าเจ้าของหอ “แล้วใครให้มา”

“ของกู... ใครให้มามึงเอาไปดูเอง”ผมรับเอาช่อดอกไม้มาดูการ์ดรูปหัวใจปั้มทองที่แนบมาด้วย เห็นชื่อคนส่งแล้วยิ่งอยากหัวเราะให้ลั่นมากกว่าเดิมอีกครับ


กุหลาบสำหรับน้องปันปันครับ

Kiss



“คุณคิตตี้เขาให้มึงนะปัน เอาไปเก็บไว้ดี ๆ ในห้องดิ”ผมส่งช่อดอกไม้กลับให้ มันทำหน้าขยะแขยง ผะอืดผะอมใส่ผม แล้วเดินไปนั่งบนเตียง โดยไม่เอาดอกไม้ไปด้วย

“นายเอาไว้แต่งห้องเหอะ”เห... ผมจะเอาดอกไม้มาแต่งห้องทำไม ห้องผู้ชายนะครับ ไม่ใช่สาวน้อยโลลิต้าหวานแหวว จะได้มีดอกไม้ด้วย

“เอาไปเลย ของมึง มึงต้องรับผิดชอบ”ผมเอาช่อดอกไม้ช่อใหญ่ไปยัดกลับใส่มือของเพื่อนสนิท แล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ “มาแต่หัววัน มีไรวะ”

"ก็ไอ้ช่อดอกไม้นี่น่ะดิ ทำกูแทบอยากมุดลงรู"ปันปันทำหน้ายุ่งใส่ผม ดวงตาคมนั่นประกายวิบวับอย่างหงุดหงิด "แม่ง คนที่เอามาส่งมันไม่ได้ฝากเจ้าของหอไว้นะเว้ย ไม่ได้เรียกกูออกมาเอาด้วย แต่เอาวางไว้บนที่วางรองเท้าหน้าห้อง ทีนี้แม่งพอมีใครเดินมาเห็นกันหมด จนไอ้ติมันมาเคาะประตูบอกกูนี่แหละ ถึงตรัสรู้"

"โรแมนติกดีออก มีคนเอาดอกไม้มาให้ถึงห้อง"ผมตอบกลับไปอย่างล้อเลียน ฮ่า ๆ แต่ดอกไม้เขาสดสวยดีจริง ๆ ถ้ามีแบบนี้ตอนช่วงรับปริญญาพี่ ๆ ก็คงดีนะครับ "กุหลาบแดง กุหลาบชมพู กับการ์ดหวานแหวว"

"ไอ้คุณเดือนครับ ผมไม่ใช่คุณนะครับที่จะถือช่อดอกไม้เดินไปเดินมาแล้วคนจะมองอย่างชื่นชม"ปันปันเบ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์อย่างแรง เอ่อ... แต่ให้ผมถือช่อกุหลาบใหญ่ ๆ ที่ผู้ชายให้มาเดินอวดไปทั่ว ผมก็ไม่เอาหรอกนะครับ “เก็บ ๆ ไว้ที่นี่แหละ กูสยองชิบ”

"เอาน่า ถ้าใครจะขอดูแล้วเห็นการ์ดก็ไม่มีคนสงสัยหรอกน่า บอกไปว่าของนัทก็ได้"ผมยิ้มบางตอบกลับเพื่อนไปขำ ๆ "เขาอุตส่าห์ให้มา ไม่รับไว้จะเสียน้ำใจกันเปล่า ๆ นะ"

ไอ้ปันทำหน้าขยะแขยงอย่างไม่คิดจะเก็บอาการ จริง ๆ ผมว่าดอกไม้ช่อนี้ก็สวยมากนะครับ ดูแล้วท่าจะแพงใช่ย่อย ดอกใหญ่สีสดมาก แต่ก็นั่นแหละ... ไม่ได้เข้ากับไอ้ปันมันเลย

"มึงนี่ ไม่คิดจะช่วยกูเลย"มันทำหน้ามุ่ยใส่ผมแล้วเอาดอกไม้ไปวางบนตะกร้าผ้าใช้แล้วของผม "เออ จะเอาไงต่อเรื่องน้อง นี่ใกล้จะชิงเข็มแล้วนะ"

“รอไปจนหมดอาทิตย์ก่อน... ถ้ายังไม่คืบ วันจันทร์ค่อยจัดการ”แผนต่อจากนี้ผมก็เอาไว้หลายทางอยู่ แต่นั่นก็เป็นแค่แนวทาง ซึ่งในการปฏิบัติจริงนั้นใช่ว่าจะเอาไปใช้ได้เสมอไปนะครับ

“ช่วงนี้ก็ใช้แรกกดดันไปก่อนอย่างเคยสินะ”ผมยิ้มรับคำของเพื่อนบาง ๆ ใช่ครับ ช่วงนี้ผมก็ปล่อยกระแสให้ดูเคร่งเครียด กดดันน้องที่อยากมีพี่ให้คิดหาแนวทาง

ปีอื่น ๆ จะมีพี่กระซิบบอกว่าปีก่อน ๆ ทำยังไง ๆ แต่ปีนี้คงไม่จำเป็น น้องรู้มากอยู่แล้วนี่ครับ ก็คงไม่จำเป็นต้องมีพี่ไปคอยบอกว่า เฮ้ เดินมาทางนี้สิ... ให้พวกเขาคิดกันเอง

ดูซิว่าจะคิดกันได้ไหม ถ้าไม่มีพี่คนไหนจูงจมูกให้เดินตามมา

“เอาอย่างนั้นจริง ๆ ใช่ไหม กูจะได้ไปบอกพวกปีสอง น้องมันถามมาอยู่”ปันปันถามย้ำผมอีกครั้ง ผมก็พยักหน้ารับโดยดี “โอเค ตามนั้น”

ปันปันไม่ถามอะไรต่อ แต่เอนตัวลงนอนเล่นบนเตียงเล็ก ๆ ในหอพักของผมนี่เป็นอีกอย่างที่ดีในส่วนของการทำงานที่ต้องใช้เวลาจำกัด แต่ก็แย่เพราะมันก็กดดันผมเหมือนกัน กับการที่ไม่ค่อยมีใครค้านและออกความเห็นอะไร ให้ผมเป็นคนกำหนดทางที่จะให้เกมดำเนินต่อไปเอง ถ้าพลาดเท่ากับผมทำทุกอย่างล้มเหลว ซึ่งมันเป็นอะไรที่โคตรจะแย่เลยครับ

พอถึงช่วงเวลาประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง ผมกับปันปันก็ออกมาจากหอพร้อมกัน ไปหาอะไรกินก่อนเข้าเรียนน่ะครับ เติมพลังกันหน่อย ระหว่างทางก็มีน้องปีสองเดินผ่านมาไหว้ให้ผมได้รับไหว้ แล้วก็มีพวกปีหนึ่งมาให้ผมไปเมินแบบหางตาไม่แลเหมือนกัน

“พี่ครับ สวัสดีครับ”คราวนี้เป็นหลานเทคผมเอง... ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีไหมนะครับที่ผมยังไม่สนิทกับหลานเทค ไม่อย่างนั้นเวลาที่เมินต้องมารู้สึกหน่วง ๆ ในอกอีก “พี่ครับ... พี่ลมหนาวครับ สวัสดีครับ”

ชื่อเล่นมาเต็มเลยครับ ผมเลยรีบเดินออกมาก่อน ปล่อยให้ปันปันมันซื้อลูกชิ้นทอดไปคนเดียว ส่งไลน์ไปบอกมันว่าผมรออยู่ที่โรงอาหารสักหน่อย ก่อนที่จะไปซื้อข้าวมากิน

ช่วงที่ตัดน้องก็ต้องยอมรับล่ะนะครับ ว่ามันเป็นช่วงที่อารมณ์ทุกอย่างจะหน่วงมาก ปกติถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้รับไหว้ทุกครั้ง แต่ผมก็ยังมองน้อง ๆ ได้ แต่นี่ไม่... ต้องนิ่งให้มากที่สุด ขนาดวินัยที่ถูกฝึกมาให้รับกับภาวะความกดดัน และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ไวที่สุดยังรู้สึกหนักใจ แล้วคนอื่นจะเป็นยังไงก็คงไม่ต้องถามล่ะครับ

แต่ทุกอย่างที่ทำ... ก็เพื่อตัวน้องทุกคนเอง

วันนี้น้องอาจจะยังไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำแบบนี้ แต่หลังจากนี้เมื่อได้ย้อนกลับมามอง คงจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าพี่ ๆทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตนะครับ มันอาจจะกลับกัน ถ้าน้องไม่เข้าใจ น้องก็คงโกรธ และเก็บเรื่องราวพวกนี้เอาไว้เป็นความเกลียดชังก็ได้

แน่นอนว่าคนที่จะโดนน้องเกลียดก็คือพี่วินัยอย่างผมนี่ล่ะครับ

ทุกการกระทำมีความเสี่ยง ต้องคิดก่อนทำนะครับ ถ้าทำก่อนคิดแล้วผลออกมาทำให้เจ็บปวด มันกลับไปแก้ไม่ได้หรอกนะครับ แต่คิดแล้วทำ ถึงจะเจ็บปวด อย่างน้อยเราก็ยังมีภูมิที่สร้างเอาไว้ป้องกันความเจ็บปวด แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี มันก็ทอนความเจ็บในหัวใจได้บ้างล่ะครับ

พูดเป็นครั้งที่ร้อย... ‘พี่วินัยก็มีหัวใจ’

“ไม่รีบเข้ามาจังเลยวะ”ปันปันเดินมานั่งตรงข้ามผม ก่อนที่สายตาของมันจะเหลือไปเห็นตัวต้นเหตุที่เดินหน้าหงอย ๆ มากับเพื่อนมัน “อ่อ เจอสายตาลูกหมาของหลานงั้นดิ”

“อืม”ผมตอบรับโดยดี ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธนี่ครับ ถึงจะดูแลน้องทุกคน แต่นะ ผมก็ต้องมีเอนเอียงใจอ่อนให้กับสายเทคตัวเองบ้าง ยิ่งหลานเป็นเด็กกิจกรรมด้วย ผมยิ่งหนักใจที่จะทำเย็นชาใส่ “อีกไม่นานก็จบแล้ว ช่างมันเหอะ”

“ทนไปก่อนแล้วกัน... เดี๋ยวน้องก็น่าจะมาขอพี่คืนแล้วมั้ง”เพื่อนสนิทของผมพูดเบา ๆ ก่อนที่มันจะถอนหายใจออกมาหนัก ๆ “เหลือแค่ชิงเข็มเอารุ่นกิจกรรมเดียวแล้วนิ ที่ต้องอยู่ในฐานะของวินัย แล้วก็จะได้เปิดตู้กับข้าวกันสักที”

“ใช่... มันก็จะจบการรับน้องไปอีกปี”อีกแค่กิจกรรมเดียวเองครับ ก็จะจบแล้ว แต่ก่อนจะถึงกิจกรรมนั้น... เราก็ต้องสอบกลางภาคกันก่อน “แต่กว่าจะเดินไปถึงตรงนั้น เรายังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ”

“นายอย่าลืมไปคุยกับพวกวิศวะด้วยล่ะ ไอ้สะพานดาวของพวกนั้นน่ะ”เออ ลืมไปเลยว่าเวลาพวกวิศวะมอบเกียร์จะมีสะพานดาว...

ทำไมต้องมานั่งทำงานเป็นคู่แบบนี้ด้วยวะครับ ทั้งที่เรื่องรับน้องมันเป็นของคณะใครคณะมันแท้ ๆเฮ้ออ บ่นไปก็เท่านั้น ยังไงก็ต้องทำตามแผนงานที่เขาวางต่อไปล่ะครับ

ต้องเสียเงินออกนอกสถานที่กันอีก เงินคณะยิ่งมีไม่เยอะอยู่ด้วยนะครับ แต่ก็ได้แค่บ่นในความคิดล่ะนะครับ ขืนถ้าพูดออกไปได้โดนหยามกันแน่

“ดอกไม้สวยไหมครับ น้องปันปัน”เสียงทุ้มหวานของคน ๆ หนึ่งดังขึ้น ก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะนั่งลงข้าง ๆ เพื่อนผิวเข้มของผม “สวยสมกับน้องปันปันมากเลยนะครับ ดอกกุหลาบเนี่ย”

ในมือของพี่คิตตี้มีดอกกุหลาบตูมดอกนึงอยู่ ไอ้ปันมันทำหน้าบูดเป็นตูดอุรังอุตังเลยครับ ส่วนผม ขอตัวหันไปทางอื่นก่อนนะครับ ไม่ไหว ขำ เดี๋ยวหลุดในโรงอาหารล่ะ งานเข้าเลย

ผมเหลือไปเห็นผิวเข้ม ๆ ของเพื่อน มันเข้มขึ้นอีกล่ะครับ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโกรธหรือเขินกันแน่ จริงไหมครับ (ถ้าไม่รู้ขึ้นไปอ่านข้างบนใหม่นะครับ)

“ดอกกุหลาบจะมาเหมาะอะไรกับคนอย่างผม”เสียงของปันปันนี่ บูดพอ ๆ กับหน้ามันเลยครับ แผ่รังสีอาฆาตอีกต่างหาก “ไปตัดแว่นซะเถอะ คุณคิส”

“เหมาะจะตายไป”คุณคิส (คิตตี้) ยังคงยืนยันคำเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ผมเลยอดที่จะหันมามองดอกกุหลาบสีสดนั้นไม่ได้ เหมาะตรงไหน “จริงไหมครับ น้องลมหนาว”

“เอ่อ... ผมก็ไม่รู้สินะครับ”ขอตอบเลี่ยง ๆ ปัด ๆ ไปก่อนแล้วกัน ไม่เข้าใจความคิดพี่ชายหน้าสวยที่อยู่ ๆ ก็โผล่มาคนนี้สักเท่าไหร่หรอกนะครับ

“ดอกไม้ที่งดงาม แต่จับไปก็ต้องระวังหนามที่แหละคมจะทิ่มตำ”รู้สึกดีที่ไม่ยกน้ำขึ้นมาดื่ม ไม่งั้นคงมีพุ่งล่ะครับ หวานมาเลย “เหมือนปันปันไงครับ”

เงียบกริบทั้งโต๊ะครับงานนี้ ไม่มีใครพูดอะไรออก ว่าแต่... พลอยกับพวกวิศวะมันมากันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ผมมัวแต่เก็บอารมณ์จนไม่ได้สังเกตเลยเหรอไง... ให้ตายเถอะครับ

พี่ตังโอรู้ โดนเทรนด์ใหม่แน่...

“ผมว่าคุณควรจะไปเช็คระบบประสาท เนิร์ฟทุกเส้น แล้วก็เช็คสมองด้วยนะครับ”ปันปันกัดฟันพูดออกมา ผมว่ามันกำลังข่มอารมณ์โกรธอย่างรุนแรงเลยนะครับนั่น

“เขินน่ารักจังเลย”เอ่อ... พี่ครับ พี่ใช้อะไรมองว่าเพื่อนผมเขินกันครับเนี่ย ผมจะกลั้นขำ ตีหน้านิ่งไม่ไหวแล้วนะครับ “เย็นนี้ไปทานข้าวด้วยกันหน่อยไหมครับ น้องปันปัน”

“กรุณาไปไกล ๆ เท้าผมเลยครับ ก่อนที่ผมจะส่งยันให้”หมอนั่นยังคงตอกกลับหน้านิ่ง ๆ ได้อยู่นะครับ เก่งเหมือนกันนะเพื่อนผม... แต่ปล่อยให้เขาคุยกันเองดีกว่า

“คุณพายุ คุณมาได้ยังไงครับ”หันมาสนใจคนไทยที่ไม่ได้รับเชิญแถวนี้กันก่อนดีกว่าครับ ผมหรี่ตาลงมองร่างที่มานั่งอยู่ข้าง ๆ อย่าจ้องจับผิด

“ผมตั้งใจมาคุยกับคุณเรื่องไปข้างนอก”ผมมองหน้าของพายุนิ่ง ก่อนที่จะพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ

“ไปคุยกันที่อื่นเถอะ”ผมหันไปหาเพื่อนที่นั่งเถียงกับคุณคิสแบบถามคำตอบคำอยู่ ผมว่าถ้าไม่ติดว่ามันเกรงใจที่เขาเป็นพี่หลายปี คงได้มีเรื่องแล้วล่ะครับ


พวกเรามีกฎข้อหนึ่งว่าปกครองโดยใช้ระบบรุ่น แต่ดูจากลักษณะแล้ว คุณคิสคงอยู่เหนือกว่าพวกผมไปหลายรุ่นอยู่ ปลูกฝังมาดีครับ ไม่นิยมการปีนเกลียว

ผมกับพายุเดินขึ้นมาบนตึกเรียน หามุมที่ไม่ค่อยมีใครเดินผ่านมายืนคุยกัน แต่จริง ๆ แล้วตอนนี้มันเวลาพัก บนตึกก็ไม่ค่อยมีคนหรอกครับ

“คุณวางแผนแล้วเหรอครับ ว่าจะพาน้อง ๆ ไปที่ไหน”ผมยิงคำถามทันที ไม่รอให้เฮดของพวกวิศวะมากวนประสาทผมก่อน

“ยัง... ผมจะมาคุยกับคุณก่อนไง ว่าปีนี้จะพานอกไปที่ไหน”พายุกอดอกพิงกำแพงคุยกับผม “น้ำตก ทะเล ภูเขา ป่า ค่าย มันมีให้เลือกเยอะ เดี๋ยวเลือกมาแล้วพวกคุณไม่โอเคก็มาเถียงกันอีก ผมเหนื่อย”

“นั่นมันควรจะเป็นคำพูดของผมมากกว่าไหมครับ”ผมตอบกลับด้วยเสียงเรียบเฉย ตาจ้องกับคนตรงหน้าอย่างไม่ยอม “ผมเหนื่อยกับการที่จะต้องมาเถียงกับคุณแบบนี้ทุกเรื่อง ทุกครั้งที่ทำงาน”

“แต่ยังไงคุณก็ต้องเจอผมอยู่อย่างนี้ไปทั้งปีการศึกษานั่นล่ะครับ คุณวินัย”พายุเปลี่ยนอารมณ์ ยักคิ้วให้ผมอย่างกวน ๆ “คู่กรรมอย่างเราสองคนต้องเจอกันไปอีกนาน”

“ก็แค่สองเทอม หลังจากนั้นต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิมแล้วล่ะครับ”ผมข่มอารมณ์ตัวเองให้นิ่ง ๆ ไม่แปรไปตามคนที่คุยด้วยอยู่ คนอะไรเปลี่ยนอารมณ์ไวพอ ๆ กับกิ้งก่าเปลี่ยนสีเลยนะครับ “ส่วนสถานที่ ที่คุณบอกมา ผมเลือกทะเล”

“เบสิคดีชะมัด”อย่าคิดว่าผมไม่ได้ยินนะครับ ไอ้คุณพายุ อยู่กันแค่สองคน ตึกก็เงียบ ได้ยินชัดเต็มสองรูหูเลย “สรุปคุณเลือกทะเลใช่ไหม”

“แล้วใจคุณเลือกอะไรมา”ผมถามกลับไปอย่างไม่คิดที่จะตอบคำถามที่คนตรงหน้าถามมาก่อนเลยครับ การที่มันถามผม และพูดแบบนั้น แสดงว่าในใจของมันมีที่เลือกเอาไว้แล้ว... แต่ไม่พูดออกมาก่อนแน่ ๆ ครับ

“สำหรับผม ผมเลือกไปค่าย”เลือกอะไรที่มันสำเร็จรูปจริง ๆ เลยนะครับ นี่จะพาน้องออกไปรับน้อง หรือจะพาลูกเสือไปทำกิจกรรมกันแน่น่ะครับ

“ทางมหาวิทยาลัยมีค่ายอาสาให้น้อง ๆ ไปอยู่ประจำอยู่แล้ว คุณยังคิดจะพาน้องออกค่ายอีกหรือครับ”อันนี้คนละค่ายกับค่ายที่พายุสื่อแน่ ๆ แค่ผมขอพูดดักเอาไว้ก่อนแล้วกันครับ “หรือเป็นค่ายทหาร ค่ายลูกเสือ ถ้าผมจำไม่ผิดคือเราต้องพาพวกเขาออกไปรับน้องนอกสถานที่ก่อนจะปลดระเบียบนะครับ ไม่ใช่ไปเกณฑ์ทหาร”

สีหน้าของพายุเปลี่ยนไปทันทีเลยครับ ดวงตาของหมอนั่นแฝงความหงุดหงิดขึ้นมาทันที แสดงว่าผมเดาถูกว่ามันจะพาน้องไปค่ายแบบไหน... ถึงมันจะง่าย และสะดวกในการจัดงาน แต่มันใช่ว่าจะดีเสมอไปนี่ครับ จริงไหม?

น้องไปมาตั้งกี่ครั้งแล้ว ก่อนที่จะขึ้นมาเรียนในระดับนี้ มันซ้ำซากและจำเจเกินไปในความคิดของผมนะครับ ถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนกันบ้าง

ผมเองยังแอบเบื่อพวกค่ายเลยครับ มันสนุกอยู่แค่ไม่กี่ฐานเอง สำหรับผมนะครับ

“คุณยืนยันที่จะเลือกทะเลใช่ไหม?”พายุถามผมกลับมาอีกครั้งด้วยเสียงที่เข้มกว่าเดิม แค่นี้ก็หงุดหงิดให้เห็น แสดงออกมาซะชัดเลยนะครับ

ไม่เป็นโปรเอาซะเลย

“ผมไม่เอาค่าย และน้ำตก ที่เหลือคุณอยากจะเลือกที่ไหนผมก็ไม่มีปัญหา”ผมตอบตามความคิดเหมือนเดิม ค่ายก็อย่างที่บอกครับว่าจำเจ ส่วนน้ำตก ผมไม่อยากให้ไปเพราะที่นั่นจะมีหินเยอะ แล้วกิจกรรมรับน้องมันก็จะมีล้มลุกคลุกคลานกัน ถ้าบาดเจ็บขึ้นมามันคงไม่คุ้มกันแน่ ๆ

แล้วตอนทำสะพานดาว ถ้าให้ไปนั่งบนหินนี่คงเจ็บกว่าบนทรายแน่ ๆ วิศวะคงฝึกกันจนหนังด้านแล้ว แต่ไม่ใช่กับเมคเทคอย่างพวกเรา

หนาไม่เท่าพวกนั้นหรอกครับ

ผมห่วงคนของผมมากเกินกว่าจะให้ไปได้รับบาดเจ็บที่ไหน เพื่อนเรา น้องเรา ยังไงก็ต้องมองความปลอดภัยของพวกเขาเป็นอันดับแรก จริงไหมครับ

“โอเค เดี๋ยวผมจะโทรไปบอกคุณอีกทีว่าที่ไหน ไม่เอาค่าย ไม่เอาน้ำตก”คราวนี้พายุมันยอมผมง่าย ๆ เลยนะครับ ผมมองเฮดว๊ากตรงหน้าอย่างเคลือบแคลงใจ “ไม่ต้องมามองผมด้วยสายตาแบบนั้น ผมมีเรียนต่อ จะให้มาต่อความยาว สาวความยืดเถียงกับคุณมันก็ไม่ใช่ที่ รู้ไหมครับ คุณวินัยลมหนาว”

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณนิ”แค่สงสัย แค่นั่นเอง ปกติมันไม่น่าจะยอมง่าย ๆ นี่ครับ ต่อให้เป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็เถอะ ขอแค่จะเอาชนะผม มันก็เถียงสุดตัวเหมือนกัน

“ครับ ๆ ๆ”ตอบปัด ๆ แบบนี้มันน่าถีบเหมือนกันนะครับ แต่ช่างเถอะ ไม่ต้องมาเถียงกันก็ดีเหมือนกันครับ เปลืองน้ำลาย “ว่าแต่ ลมหนาว”

อยู่ ๆ มันก็ทำเสียงหวานใส่ผม อะไรวะครับเนี่ย รู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้ล่ะครับ... มันจะเล่นอะไรอีกหรือเปล่าครับ ดวงตาของหมอนั่นเปล่งประกายระยับ ไม่พอมีกระตุกยิ้มที่มุมปากด้วย

ผมว่ามันจะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ แน่ ๆ แน่นอนที่สุดครับ

“ฟิตร่างกายเอาไว้หรือยังครับงานนี้ผมต้องได้ตัวคุณแน่ ๆ”ปากว่ามือถึงด้วยครับ มือมันมาแตะที่ไหล่ผม ใครอนุญาตมันกันล่ะวะครับ “วอร์มเสียงด้วยนะครับ คุณเมีย”

“คนอย่างคุณและพวกของคุณน่ะ... ไม่มีวันเหนือกว่าผมและทุกคนในคณะเทคนิคการแพทย์ได้หรอกครับ”ผมปัดมือของพายุออกไปแล้วหันหลังเดินกลับไปหาเพื่อนที่รออยู่ที่โรงอาหารทันที โดยมีเสียงหัวเราะเบา ๆ ไล่หลังมาด้วย

“เดี๋ยวคุณก็จะได้รู้ ลมหนาว ยังไงคุณก็ต้องมานอนใต้ร่างผม”มั่นใจไปเถอะครับ...  คนอย่างผมไม่ปล่อยให้ตัวเอง และเพื่อน และน้องต้องลำบากหรอกครับ

แต่... ถ้ามันไม่กวนผมสักวันนี้ มันจะนอนไม่หลับเอาใช่ไหมครับ?

ผมเหนื่อยใจ!!

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

มาต่อแล้วค้าาา ^^ ยังคงความมึนเอาไว้เหมือนเดิม 5555

ติชมกันได้นะคะ

ตอนต่อปจะเข้าสู่ช่วงที่กด 1 กันเอาไว้แล้วค้า (น้องจะมาง้อละ 5555)

ลุ้นกันนะคะ ว่าง้อยังไง

ปล. เกือบทั้งเรื่องนี้ ประสบการณ์ตรงดีจังเลย... :mew6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 06-02-2015 20:33:17
 :hao3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 06-02-2015 20:42:28
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 06-02-2015 22:50:24
 :ruready
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: PRiiNCEKiiM ที่ 06-02-2015 23:32:09
ในที่สุด ก็มา
คิดถึงพี่ลมหนาวจัง ~~
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: gneuhp ที่ 07-02-2015 12:27:53
มารอน้องง้อด้วยคน อิอิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 07-02-2015 13:01:17
ฮาปันปันอ่ะ รอน้องมาง้อละ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 07-02-2015 16:01:07
พี่คิตตี้เริ่มรุกแล้วซิน่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 07-02-2015 17:56:56
 :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: I-Icezz ที่ 07-02-2015 22:16:55
ทำไมรู้สึกว่าพี่คิสตี้เลี่ยน 555
ลุ้นตอนต่อไปๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 08-02-2015 04:06:42
สงสารลมหนาว เข้าใจความรู้สึกนั้นดีเลย
บางทีคนที่ไม่พูดอะไรเลย อาจจะเป็นคนที่เจ็บกว่าใครๆ
สนุกมากๆเลยจ๊า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 08-02-2015 12:16:24
เลี่ยนอะพี่คิต สงสารปันปันเลยเนี่ย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 08-02-2015 17:49:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 08-02-2015 23:06:04
 :ling1: :ling1:
จะอ่านอ่ะจะอ่าน ๕๕๕
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 09-02-2015 03:59:40
จะยังไงกันต่อนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-02-2015 20:10:41
ทำไมรู้สึกว่าพี่คิสตี้เลี่ยน 555
ลุ้นตอนต่อไปๆ
เลี่ยนอะพี่คิต สงสารปันปันเลยเนี่ย

จะเลี่ยนเฉพาะตอนแรกๆนี่ล่ะคะ ^^

ปันปันน่ารักกกกกก  :-[

ขอคู่ทิวกับข้าวมั้งสิ
  :ling1:

หลังคืนน้องจะถึงคิวแล้วว

หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 10-02-2015 13:02:09
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 10-02-2015 18:59:50
วิดวะกะเทคนิคใครจะชนะกันแน่นี่  :katai1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 11-02-2015 00:23:07
พี่คิตนี่ฮาไปนะ 555
รอตอนหน้าค่ะ ลุ้นๆ ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่18 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up6/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-02-2015 22:21:44
ตั้งใจจะอัพวันนี้ แต่ยังปั่นงานไม่เสร็จ... TT

พรุ่งนี้เจอกันนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-02-2015 19:27:38
วันที่สิบเก้า

(คีตา)

หลังจากวันงานชิงธงมา พี่ ๆ ปีสอง ปีสาม ปีสี่ ยังคงเย็นชากับพวกผมอยู่เหมือนเดิม หรืออาจจะยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำไป ทักไม่ตอบ หน้าไม่มอง ไม่หือไม่อือ... เพื่อนในชั้นปีก็หงอยจนแทบจะหมดแรงทำอะไรแล้ว

"เราอยากจะบ้าตายแล้วอ่ะเล คี เมื่อไหร่พี่ ๆ เขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักทีนะ"ตุ๊กตาซบหน้าลงกับแขน พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา "มันทั้งเหงา ทั้งโดดเดี่ยว ทั้งอึดอัด เห็นคณะอื่นเขาเดินไปเจอพี่คณะเขาก็ทักทายกัน ยิ้มให้กัน พูดคุยเล่นกัน แล้วพวกเราล่ะ..."

ผมกับทะเลมองหน้ากันด้วยความเครียด มันเป็นความผิดของพวกผมที่ทำพลาดตอนชิงธง ด้วยความที่ไม่มีเสียงตะโกนจึงส่งสัญญาณให้เพื่อนฟังคณะข้าง ๆ ในรอบสอง แต่ดันมีการสื่อสารที่ผิดพลาดจากพวกแถวล่างของแสตนด์ เลยทำให้การลุกนั่งเละไปอย่างเห็นได้ชัดมาก

ผมเชื่อว่าพี่ลมหนาวจะต้องโกรธมาก และที่มากกว่าความโกรธนั้นคงเป็นความผิดหวังและเสียใจที่เต็มเปี่ยมแน่ ๆ ผมได้ยินมาว่าทุกปี คณะเทคนิคการแพทย์นั้นทำแสตนด์ชิงธงได้สวยงามที่สุด และเป็นคณะที่คอยให้จังหวะคณะอื่นมาตลอด แต่พวกผมกลับทำพลาด

พลาดอย่างไม่น่าให้อภัยด้วย...

ต้องหาทางแก้ไข ต้องเอาพี่คืนมาให้ได้ พี่เกด พี่กิตก็ไม่ตอบไลน์ผมเลย มันทั้งเหงา ทั้งอึดอัดใจจนอยากจะตะโกนออกมาดัง ๆ ให้ลั่นมหาลัยกันไปข้างนึงเลย

"ชิงธงนี่ จัดขึ้นเพื่อความสามัคคีของคนในคณะ และคนในมหาวิทยาลัยสินะ ส่วนรับน้องก็เพื่อผูกสัมพันธ์คนในคณะให้รักกันแน่นแฟ้น"ทะเลเองก็กำลังพยายามหาทางอยู่ "งั้นเราคงต้องทำอะไรทดแทนให้พี่เขาเห็นว่าพวกเราสามัคคีกันตามจุดประสงค์ของงาน"

"แสดงให้เห็นเหรอ"ผมกรอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด แสดงให้เห็น ๆ เราจะทำอะไรให้พี่ดูดีนะ "ยังไงในสัปดาห์นี้เราจะต้องขอพี่คืนมาให้ได้"

"แล้วเราจะเอาอะไรไปแลกเปลี่ยนเพื่อขอพี่คืนวะ คี"ประธานชั้นปีหันมาถามผมด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก "ธงก็ไม่มี ของที่มีอยู่ก็ให้ไม่ได้..."

ผมเม้มปากแน่น นั่นสิจะเอายังไงดี สิ่งที่เรามีอยู่มีแค่ป้ายชื่อและสายรัดข้อมือ... แต่ละอย่างเป็นสิ่งที่พี่มอบให้มาทั้งนั้นเลยด้วย

"ตัดสินใจละ"อยู่ ๆ ทะเลก็พูดพร้อมกับผุดลุกขึ้น แววตาของหมอนั่นประกายกล้าอย่างมุ่งมั่น "เราไม่มีสิ่งของจะแลกอะไรกับพี่เขา แต่เรายังมีใจ ใจที่ต้องการให้พี่กลับมาหาเราอย่างสัตย์จริง"

ผมยิ้มให้กับคำพูดของมัน ใช่ เรายังมีความจริงใจที่ไม่มีวันถูกยึด หรือถูกชิงไปได้ เราจะต้องแสดงให้พี่ดูให้ได้ว่าใจของเราทุกคนต้องการพวกเขา

"แล้วจะทำยังไงให้พี่เขารู้ล่ะ เล"ตุ๊กตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วดูดีขึ้นกว่าตอนแรกหน่อย เริ่มรวบรวมกำลังใจกลับมาได้แล้วสิ

"ตุ๊กตา ให้เพื่อนเอาคำ ๆ นี้ไปเขียนในกระดาษเอสี่ จะทำยังไงก็ได้ให้กระดาษโล่ง ๆ นั้นเต็ม โดยมีคำ ๆ นี้อยู่ ใครไม่ทำก็ให้เพื่อนในกลุ่มที่อยากมีพี่กดดันไป"เลมันแปะโพสอิทลงบนสมุดของเพื่อนหญิงตัวเล็ก บนกระดาษใบเล็กนั้นมีคำที่เราอยากจะสื่อให้พี่เขารู้อยู่คำนึง "ให้ทำมาสองแผ่นนะ ส่วนคี นายไปกับฉัน"

ผมกับเลเดินไปในห้องคอมของมหาวิทยาลัยที่คอนนี้ไม่มีใคร เราสองคนมองหน้ากันนิ่ง ผมพอจะรู้แล้วว่ามันต้องการให้ผมทำอะไร...

"นายเลือกมาเลย เดี๋ยวกูจะไปติดต่อขอใช้ปริ้นเตอร์เอง"นั่นไง มันให้ผมหาเพลงที่จะร้องให้พี่จริง ๆ "เอาที่มึงคิดว่าดีที่สุด กูเชื่อใจมึงนะเว้ย"

"เค กูมีในใจแล้วเหมือนกัน"ผมหันหน้าเข้าหาหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วเสิร์ชหาเพลงที่ต้องการทันที “เป็นเพลงที่จะลื่อถึงความรู้สึกของเราได้ดีที่สุดในความคิดกู”

พี่ครับ ผมเลือกบทเพลงบทนี้ให้พี่ ๆ ทุกคนด้วยใจของผม ผมหวังว่าสิ่งที่พวกผมอยากจะสื่อนี้ จะเข้าไปถึงหัวใจของพี่นะครับ

"แต่แบบนี้มันจะพอเหรอ เค็ม"ผมถามขึ้นขณะที่เพื่อนกำลังสั่งซีร็อกกระดาษที่จะแจกให้เพื่อนในคณะไปฝึกร้องฝึกจำใน 1 คืน "เราจะทำอะไรมากกว่านี้ซะหน่อยไหม"

"จะทำอะไรได้เยอะแยะวะ..."เลมันเลิกคิ้วใส่ผมน้อย ๆ "เวลามันมีแค่นี้ จะทำอะไรได้ แล้วเพื่อนที่เหลือแม่งจะยอมทำหรือไง"

"กูมีความคิดดี ๆ แล้ว"ใช่ มันจะเป็นความคิดที่ดี ถ้าหาอุปกรณ์ที่ต้องการได้เพียงพอ ก็น่าจะสำเร็จ "กูไปซื้อของก่อนนะ ไว้เจอกันมืด ๆ"

ผมไม่รอเพื่อนตอบรับ มุ่งหน้าไปหาในสิ่งที่ผมต้องการทันที มือก็เสิร์ชหาแหล่งที่ขายในมือถือไปด้วย ดีที่ว่ามันยังหาได้ไม่ยาก ราคาก็ไม่ได้สูงเกินกว่าจะหาซื้อ

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่กว่าจะวิ่งไปซื้อ เอากลับมาก็เย็นแล้ว ทะเลมันเรียกรวมเพื่อนข้างแสตนด์อยู่พอดี ผมเลยเข้าไปรวมกลุ่มพร้อมของในมือ

"พรุ่งนี้เราจะรวมตัวกันที่หน้าแลปหลังเรียน พี่ปีสามเรียนเลคเชอร์ห้องใหญ่ เดี๋ยวเราจะไปพาพี่ปีสองมา แล้วเราจะเริ่มงานกัน"ผมมาถึง มันก็พูดจบพอดี "คี นายมีอะไรจะพูดไหม"

"พรุ่งนี้ก่อนจะเข้าล้อมพี่ ผมจะแจกนี่ให้"ผมชูของในมือขึ้นยิ้ม ๆ "คงจะรู้กันนะว่าต้องทำยังไง แต่จะมีส่วนนึงที่ได้ของอีกอย่าง ซึ่งผมจะจุดให้ พอร้องเพลงแรกจบ ให้เอามาวางบสเตท โอเคนะ"

"โอเค"เพื่อน ๆ ตอบรับคำของผมโดยดี ค่อยหายเหนื่อยหน่อยนะฮะ

"งั้นกลับไปพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้เจอกัน ให้ตรงต่อเวลานะทุกคน"จบคำของทะเล ทุกคนก็ลุกหยิบกระเป๋าตัวเองกลับบ้าน กลับหอกันไป "เอาพวกพี่มา พรุ่งนี้จะปิดไฟเหรอ"

"อือ"พยักหน้ารับคำของเพื่อน แต่ในใจยังรู้สึกหน่วง ๆ หนัก ๆ อยู่ "หวังว่าเราจะทำสำเร็จนะ..."

"มันต้องสำเร็จดิ"เลมันบีบไหล่ผมหนัก ๆ อย่างให้กำลังใจ "มันต้องสำเร็จ พี่เขาคงไม่โหดร้ายกับพวกเราขนาดนั้นหรอกน่า"

"นั่นสินะ..."หวังอย่างนั้นอยู่มากเหมือนกัน พี่ลมหนาวคงไม่ใจแข็งขนาดไม่ให้อภัยพวกเราหรอกนะ "ทุกอย่างคงขึ้นอยู่กับลุงเทคของเรานี่ล่ะ"

"ภาวนาให้พี่หนาวเขาใจอ่อนกันสักหน่อยดีกว่า"เชี่ย มาพูดเล่นติดตลกตอนคนกำลังดราม่า เลมันเห็นสายตาผมแล้วหัวเราะออกมา ก่อนที่จะเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเอง "กลับกันเหอะ"

"เออ ไปกันเหอะ"ผมเดินกลับหอกับเพื่อนด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่าน "เจอกันพรุ่งนี้"

ผมโบกมือลาเพื่อนแล้วเดินกลับเข้าห้องตัวเอง เหวี่ยงของวางบนโต๊ะก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดู

"ไม่ตอบกันจริง ๆ เหรอครับ"พึมพำกับตัวเองสักหน่อย แล้วพิมพ์ข้อความที่อยากจะเอ่ยลงไปอย่างรวดเร็ว


Key tA ♫ : พี่กิต ตอบผมบ้างสิครับ
Key tA ♫ : เมื่อไหร่จะกลับมาคุยกับผมสักที
Key tA ♫ : ผมจะทำให้พี่กลับมาคุยกับผมให้ได้เลย
Key tA ♫ : รอผมนะ



เอามือถือไปชาร์ต แล้วอาบน้ำนอน หมดแรงจะทำอะไรแล้วล่ะครับ ยังดีที่ไม่มีการบ้านที่ต้องส่ง

พรุ่งนี้เจอกันนะครับ พี่


หลังจากเหม่อกันจนหมดคาบเรียน ผมและเพื่อน ๆ ก็มารวมตัวกันหน้าแลปตามที่นัด แทบจะไม่มีใครเลทเลย อีกทั้งเพื่อนที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการรับน้องก็ยังมา

"หักแท่งไฟตอนที่ผมส่งสัญญาณให้นะครับ พอหักแล้วร้องเพลงเลยนะ"ผมแจกแท่งเรืองแสงที่วิ่งไปซื้อมาให้กับเพื่อน ๆ ทุกคน โดยที่มีบางคนได้เป็นถ้วยแก้วขนาดเล็กที่ข้างในมีเทียนหอมอยู่ "ส่วนถ้วยนี้ เมื่อเราร้องเพลงแรกเสร็จแล้วก็เอามาที่บนเวทีนะ"

กว่าจะแจกของกันเสร็จก็เกือบถึงเวลาพอดี เพื่อนส่วนนึงรีบวิ่งไปยังห้องที่พี่ปีสองเรียนโดยมีเลนำไป ส่วนผมก็นำเพื่อนไปดักหน้าห้องพี่ปีสาม เสียงบรรยายของอาจารย์ประจำคณะดังออกมาต่อเนื่องอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะหยุดลง

"วันนี้เอาไปเท่านี้ ที่เหลือไปต่อในแลปนะ"ผมส่งสัญญาณให้เพื่อนที่อยู่ประตูอีกข้าง เมื่อเห็นพี่เริ่มลุกขึ้นก็รีบเปิดประตูเข้าไปล้อมพี่ ๆ เอาไว้

"พวกคุณทำอะไรกัน"เสียงตวาดดังลั่นจากพี่พลอยดังก้อง ทำเอาเพื่อนหลายคนสะดุ้งโหยง "พวกคุณเป็นใครถึงมาวุ่นวายที่นี่"

"ขออนุญาตครับ"ผมยกแขนแนบหู ก่อนจะพูดต่อ "นักศึกษาเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่ 1 ขอเวลาพี่ทุกคนประมาณครึ่งชั่วโมง ให้พวกเราได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อพี่ ๆ ด้วยครับ"

พี่พลอยยืนกอดอกมองนิ่ง ๆ ก่อนที่จะหันไปคุยกับพี่ปันปันที่เดินมาอยู่ข้าง ๆ แต่... พี่ลมหนาวไปไหน ทำไมถึงไม่อยู่ในห้องล่ะ หรือผมมองไม่เห็นเอง

ทะเลกับเพื่อนอีกส่วนพาพี่ปีสองมานั่งรวมกับพี่ปีสาม พี่ส่วนใหญ่ทำหน้างงงวย ส่วยพี่วินัยก็ออกมายืนรวมกันอยู่มุมห้องด้านหนึ่ง

"จะทำอะไรก็ทำสิคะ"เจ้าแม่วินัยเร่งพวกผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด แต่ผมก็ยังไม่ส่งสัญญาณ "มันเสียเวลา พวกคุณอยากจะทำอะไรก็รีบทำสิคะ"

ทะเลเดินไปปิดไฟ ผมเม้มริมฝีปากแน่น พี่ลมหนาวไม่อยู่ในห้อง ถ้าทำสิ่งที่จะทำให้โดยที่เฮดไม่อยู่... เราจะขอพี่กลับคืนมาได้ยังไง...

แต่เพื่อนทุกคนพร้อมแล้ว... มันถึงเวลาแล้ว

พี่หนาว... มาสักทีสิครับ มาเถอะ

แกรก

เสียงเปิดประตูดังขึ้นเบา ๆ ทำให้ผมหันไปมองอย่างตื่นเต้น

คนที่ผมรอมาแล้ว ผมหักแท่งไฟเป็นคนแรก ก่อนที่เพื่อน ๆ จะทำตาม... เอาล่ะ พี่ ๆ ครับ นี่คือสิ่งที่ผมและเพื่อนอยากมอบให้พี่นะครับ

"ดุริยาราชาวดี"


(ลมหนาว)

อยู่ ๆ อาจารย์ก็เรียกผมไปคุยเรื่องการออกนอกสถานที่กับพวกวิศวะ ดีนะครับที่พอจะคุยกับอีกฝั่งไว้บ้างแล้ว เลยพอจะตอบคำถามของคณะบดีของคณะได้อยู่บ้าง

กว่าจะคุยกันเสร็จก็เกือบจะเลิกเรียนแล้ว ผมรีบเดินจ้ำกลับไปเอากระเป๋าที่ห้องเรียนก่อนที่ป้าแม่บ้านจะเอามาวางกองเอาไว้ให้ที่หน้าห้องพร้อมเศษขยะ

เมื่อมาถึงหน้าห้องเรียน ผมได้ยินเสียงของพลอยแว่ว ๆ ออกมา แต่ทำไมไฟมันมืด... ก็น่าจะเพิ่งเลิกเรียนไม่ใช่เหรอครับ เพื่อนผมก็น่าจะยังอยู่ข้างใน

ผมมองเข้าไปในห้องมืด คนดูเยอะผิดปกตินะครับ แต่มันมืดเกินกว่าจะมองรู้ว่าใครเป็นใคร แต่เอาเถอะครับ เปิด ๆ เข้าไปก็รู้เอง
แกรก

ผมเปิดประตูกระจกที่ติดฟิล์มทึบเข้าไปเบา ๆ ภายในมีเงาของคนมากมายท่ามกลางความมืด อยู่กันมืด ๆ แล้วก็แออันอย่างนี้ทำไมเนี่ยครับ

เปาะ เปาะ

"ดุริยาราชาวดี"แสงสีแดงสว่างขึ้นจะสิ่งที่น่าจะเป็นแท่งไฟเรืองแสง และแสงสีส้มจากเทียนสว่างขึ้น พร้อมกับเสียงที่ดังก้องขึ้น

"สดับเพลง แผ่วพลิ้ว ปลิวว่ายฟ้า
กรุ่นกลิ่นรา- ชาวดี พร่างสีขาว
เสมือนหนึ่ง สัญลักษณ์ แห่งพวกเรา
จักเนิ่นเนา แน่ชัด ด้วยศรัทธา

๑ ขาวเด่น ราชาวดี
ทรงศักดิ์ศรี พิสุทธิ์ค่า
แห่งองค์ พระราชา
จากผืนฟ้า ชื่นแผ่นดิน

๒ เทคนิค การแพทย์ไทย
เกริกก้าวไกล เพราะภูมินทร์
ปวงข้าบาท น้อมชีวิน
ถวายสัตย์ ปฏิญาณ

๓ ตามรอย พระราชดำริ
ทุกถิ่นที่ ทั้งกันดาร
เทคนิค - การแพทย์งาน
สนองบาท ราชราชันย์

๔ หอมเอยหอม ราชาวดี
เฉกศักดิ์ศรี ที่สร้างสรรค์
ผลิดอก แย้มบานพลัน
เกริกเกียรติยศ ปรากฏไกล

๕ ทุกดอก ที่ออกช่อ
คือแรงก่อ ร่วมกายใจ
เราเทคนิค การแพทย์ไทย
รวมหนึ่งใจ ร่วมจิตกัน

๖ ลำบาก ยากเพียงไหน
มิหวั่นไหว มิคลายฝัน
จับมือ ประสานพลัน
เพื่อมิ่งขวัญ ราชาวดี

๗ นี่คือคำ ปณิธาน
น้อมสักการ เป็นสักขี
ถวายมอบ ดั่งราชพลี
วิชาชีพ แห่งปวงชน

๘ ขอมอบ ราชาวดี
ปลูกไว้ที่ กลางใจตน
รำลึก ตรึกกมล
เทิดราชันย์ นิรันดร์กาล

สดับเพลง แผ่วพลิ้ว ปลิวว่ายฟ้า
กรุ่นกลิ่นรา- ชาวดี ที่หอมหวาน
คือคุณค่า คือชีวิต จิตวิญญาณ

คือผลงาน แห่งเทคนิค การแพทย์ไทย"เสียงเพลงประจำวิชาชีพดังเข้ามาในโสตประสาทตั้งแต่ต้นเพลง จนจบเพลง ระหว่างนั้นม่านตาผมเริ่มที่จะปรับให้มองเห็นราง ๆ ในความมืดได้ มองไปเห็นเพื่อนปีสามผมนั่งอยู่ โดยมีปีสองอยู่ไม่ไกล ส่วนพวกที่ร้องเพลงนั้นคือเด็กปีหนึ่งครับ...

ดุริยาราชาวดี เพลงประจำอาชีพเทคนิคการแพทย์ที่ผมไม่เคยให้ปีสองสอนน้อง เพราะยังไม่จำเป็นต้องใช้ดังก้องขึ้นมาตั้งแต่ต้นจนจบ อาจจะมีเพี้ยนบ้าง แต่เนื้อไม่มีจุดผิดเลย

เพลงนี้เป็นเพลงของนักเทคนิคการแพทย์ทุกคน

ผมกำลังจะอ้าปากพูด พวกปีหนึ่งบางคนก็ขยับตัวซะก่อน เอาเทียนในแก้วใสมาวางเรียงกันบนเวที โดนมีหลานเทคของผมเป็นคนจัดวาง

พวกเขาวางเป็นคำว่า... 'Sorry' แสงไฟนั้นสาดส่องให้ความสว่างไสวในห้องที่มืดมิดนี้ ก่อนที่น้อง ๆ จะเดินมาปิดวงล้อมกันอีกครั้ง

มีอะไรบางอย่างในใจที่รั้งผมไว้ยังไม่ให้พูดอะไรออกมาขัดจังหวะในตอนนี้ ผมรู้สึกว่าน้องไม่ได้จะทำแค่นี้แน่ ๆ มันจะต้องมีอะไรอีก

อะไรที่ผมคาดไม่ถึงอีกครั้ง

"ถ้าฉันคิดได้อย่างวันนี้ ตั้งแต่วันนั้นที่เธอยังอยู่ ถ้าฉันนั้นรู้ในถูกผิด เธอคงไม่คิดจะจากไป"เสียงประสานของน้องกลุ่มนึงดังขึ้นจากทางมุมด้านหลัง "ที่ฉันร้องไห้อยู่ตอนนี้

กลั่นจากส่วนลึกในหัวใจที่ร้องไห้
เพราะใจกำลังคิดถึงเธอ"
น้องเปลี่ยนกลุ่มร้องไปตามท่อนสั้น ๆ ผมยืนกอดอกมองภาพตรงหน้านิ่ง ๆ แต่ในใจนี่แอบยิ้มแล้วยิ้มอีกเลยล่ะครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความหมายดีมากเลยนะครับ

"เธออยู่ที่ใด
ได้โปรดมาฟังบางสิ่งในใจ
ที่ในวันนี้ยังติดค้าง
แต่ฉันไม่รู้จะเจอเธอที่ไหน
โลกใหญ่เกินจะค้นเจอ"ท่อนนี้เป็นของหลานเทคผมกับกลุ่มเพื่อนในสภาปีหนึ่ง ระหว่างที่ร้องไฟบางดวงก็ถูกเปิดขึ้นให้พอมองเห็นหน้าตากัน น้อง ๆ ก็ขยับเข้าหาพี่ปีสองของตัวเอง ดึงในลุกขึ้นเดินตามพวกเขาไป ก่อนจะประสานเสียงกันทั้งชั้นปี "อยากขอโทษที่เคยเอาแต่ใจ

อยากขอโทษอะไรที่ร้ายๆ
อยากให้เธออภัยในสิ่งที่ฉันผิดพลั้ง
ไปมากมาย
อยากขอโทษในวันที่ผ่านมา
อาจเพราะฉันมีตาแต่หามีแววไม่
ทำสิ่งดีๆหล่นหาย ทำคนที่รักฉันเสียใจ
เธออยู่แห่งใดที่ไหน
ฉันละอายแก่ใจต่อเธอเหลือเกิน…"
คีตาดึงเกดเดินเข้ามาหาผม รู้สึกแสบ ๆ จมูก อุ่น ๆ ที่ตาเลยล่ะครับ ผมสูดลมหายใจลึกคุมตัวเองให้นิ่งเฉยให้ได้ หลานเทคของผมยิ่งกระดาษที่พับเป็นรูปหัวใจมาให้ผม

ผมเปิดกระดาษที่รับมาดู กระดาษเอสี่ที่มีรอยพับ ข้างในเขียนคำ ๆ นึงเต็มไปหมด ทุกตัวอักษรนั้นเห็นได้ถึงการบรรจงเขียนขึ้นมา

คำว่า... 'ขอโทษ' นับร้อยคำบรรจุอย่างเป็นระเบียบในกระดาษแผ่นนี้

ถ้าผมอยู่คนเดียวในห้อง น้ำตาผมคงได้มีไหลออกมาแน่ ๆ เลยครับ ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ผมวางแผนขอพี่คืนสมัยตัวเอง ไม่รู้จะซึ้งได้เท่าที่น้องทำให้ไหมเลยล่ะครับ

"ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำผิดพลาดนะครับ พี่"เสียงทุ้มของคีตาดังขึ้น เสียงนั้นแฝงไปด้วยความเศร้าหมองจนผมสัมผัสได้เลยครับ "ขอโทษครับ"

น้อง ๆ ร้องเพลงกันจบแล้ว บรรยากาศในห้องนี้แฝงทั้งความเศร้าอยู่ ผมเหลือบเห็นเพื่อน เห็นน้องบางคนตาแดง ๆ กันด้วยล่ะครับ

"ปีสอง ปีสามไปรวมกันด้านหลัง ปีหนึ่งมาเรียงแถวหน้าเวทีครับ"

############################

มาต่อแล้วค้าา

แปะเพลงก่อน

เพลงแรก ดุริยาราชาวดี เพลงประจำวิชาชีพเทคนิคการแพทยค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=ji2KPvHiw0A

เพลงที่สอง ละอายใจ
https://www.youtube.com/watch?v=hExnzN9bW4Q

หวังว่าจะชอบกันนะคะในตอนนี้  :mew2:

ตอนต่อไป ตาวิศวะด้วยยย พายุได้ออกโรงอีกแล้วล่ะค่ะ  :hao3:

เจอคำผิด บอกกันหน่อยนะคะ เผื่อลอดสายตาไป TT ช่วงนี้จ้องแสงนานๆไม่ได้ ดูกล้องจุลทรรศน์แปปเดียวกจะอ้วกแล้ววว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 12-02-2015 20:03:56
เนื้อหาจะหนักที่คณะของหนาวเสียส่วนใหญ่เนอะ
มองยังไม่ออกเลยว่าพายุกับวิศวะจะทำยังไงให้ชนะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 12-02-2015 22:00:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 12-02-2015 22:36:07
ซึ้งไปกลับน้องปีหนึ่ง รอของวิศวะน้าาา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: Dezzerr ที่ 12-02-2015 22:37:52
ซึ้งงงงงง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 12-02-2015 22:43:05
 :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 12-02-2015 22:54:31
เอาอีกเอาอีก

มาต่ออีกน๊า  อิอิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 12-02-2015 23:34:01
ซึ้งอะ คิดภาพแล้วจะร้องไห้ตาม
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 13-02-2015 00:59:39
ซึ้งอ่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 13-02-2015 02:34:10
อยากจิร้องไห้(รู้สึกอิน)  :hao5:  หวังว่าขอพี่คืนคณะวิศวะคงไม่แปลกๆนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-02-2015 08:18:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-02-2015 20:02:23
อยากจิร้องไห้(รู้สึกอิน)  :hao5:  หวังว่าขอพี่คืนคณะวิศวะคงไม่แปลกๆนะ :laugh:

ไม่แปลกหรอกค่ะ 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 14-02-2015 06:23:38
ตอนนี้ซึ้งมาก บอกเลย T_T
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 14-02-2015 07:07:19
  :L1::hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :L1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 15-02-2015 19:58:55
 :a5: :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: LittleLoad ที่ 16-02-2015 00:38:21
ค้างนะค้าาาา รีบมาเลอออ  :ling1: :z3: :serius2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: PRiiNCEKiiM ที่ 16-02-2015 06:01:07
คิดถึงตอนตัวเองขอพี่เหมือนกัน
โดนตัดตอนปี2ด้วย ฮือออออออออ
พี่หนาวอย่าใจร้ายนะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบวันที19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: nonamekeaw ที่ 16-02-2015 20:25:38
 :o12: :o12: :o12:  อ้ากกกกก ซึ้งได้อีก

มาต่อเร็วๆน่ะ :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 18-02-2015 23:08:49
                       :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: fukuroki ที่ 19-02-2015 21:18:56
ลมหนาวนี่หนาวสมชื่อจริงๆ แล้วแบบนี้คุณพายุจะทำให้คุณลมหนาวใจอ่อนได้มั้ยเนี่ยยยยย รอค่ะรออ่านต่อสนุกดี สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: Orange151987 ที่ 20-02-2015 09:27:46
ซึ้งอะ :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่19 P.12[วิศวะVsเทคนิคฯ] up12/02
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 22-02-2015 22:30:29
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 28-02-2015 18:55:32
วันที่ยี่สิบ

เพื่อน ๆ ปีสาม และน้องปีสองนั่งลงในโซนของโต๊ะเลคเชอร์กันเรียบร้อย ส่วนพวกปีหนึ่งก็กรูกันมาตั้งแถวด้านหน้าตามคำสั่งของผม

ปิดตาลงชั่วครู่ เรียกสติของตัวเองให้กลับมา จะหลงไปกับการง้อ อ้อนวอนของน้องไม่ได้เด็ดขาด ถึงจะดูโหดร้าย ถึงจะดูเย็นชา แต่ก็ต้องทำแบบนี้

"พวกคุณมาเพื่อร้องเพลงให้พวกผมฟังอย่างนั้นหรือครับ"ผมเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ราบเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยังแอบซึ้งอยู่เลยครับ "พวกคุณต้องการอะไรกันครับ"

ผมกวาดมองเด็กปีหนึ่งเร็ว ๆ ไม่จ้องมองใครเป็นพิเศษ ก็จะให้จ้องได้ไงล่ะครับ เดี๋ยวเขาเห็นแววตาที่ยังปิดความซึ้งใจเบา ๆ ของผมแล้วจะยุ่งเอา

บอกรอบที่พันล้าน 'พี่วินัยก็มีหัวใจ' ครับ

“ผมถามว่าพวกคุณมาร้องเพลงให้พวกผมฟังทำไมครับ”ถามย้ำอีกครั้งเมื่อไม่มีใครตอบ นี้มาง้อ หรือจะมากวนผมกันแน่ครับ

"ขออนุญาตครับ ผม นาย ธีรวัฒน์ นามสกุล อิสระวงศ์ รหัสประจำตัว 571694 นักศึกษาเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยxyz ขออนุญาตตอบครับ"ใช้ได้นะครับ ประธานรุ่นคนนี้ ตรงตามแพทเทิร์นที่ต้องพูดเป๊ะเลยครับ

"เชิญครับ"ผมตอบรับสั้น ๆ แล้วจ้องน้องทะเลที่จะเป็นฮีโร่ของชั้นปีตอบคนแรก คุมอารมณ์ได้แล้วครับ ไม่ต้องห่วงกันนะครับ

"ผมและเพื่อน ๆ ต้องการแสดงความจริงใจให้พี่ ๆ ทุกคนได้เห็นครับ"ประธานชั้นปีที่1 ตอบกลับผมมาด้วยเสียงที่มั่นคง ไม่ใช่แค่น้ำเสียง แต่แววตาของน้องก็สื่อออกมาอย่างที่พูดเลยครับ

"ความจริงใจของพวกคุณคือการร้องเพลงเหรอครับ"ผมสวนกลับด้วยเสียงที่ราบเรียบ แต่ในใจนี่แอบยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่แล้วล่ะครับ “ร้องเพลงให้พวกผมฟังสองเพลงนี่น่ะเหรอครับ ความจริงใจที่พวกคุณมี”

"และผมกับเพื่อนอยากแสดงให้พี่ ๆ เห็นครับ ว่าพวกเรารักและสามัคคีกันครับ"ผมฟังคำตอบของน้องแล้วนึกถึงตัวเองตอนสมัยง้อพี่ขึ้นมาเลยครับ

"มันพิสูจน์ให้เห็นได้ยังไงคะ กับไอ้การร้องเพลงเนี่ย"พลอยถามขึ้นมาเสียงดังลั่นตามฉบับของมัน "ร้องเพลงใคร ๆ ก็ทำได้"

คำถามนี้ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับว่าน้อง ๆ จะตอบยังไง ตอนสมัยผม ผมให้คำตอบว่าการเปล่งเสียงร้องออกมาให้เป็นเพลงน่ะ เรื่องง่าย แต่การร้องให้พร้อมกันน่ะ ยาก ต้องใช้ความร่วมใจกันเป็นหนึ่ง ถึงจะร้องประสานกันออกมาได้เป็นหนึ่งเดียวอย่างที่ทำ

“ครับ ร้องเพลงน่ะง่าย แต่การที่ทุกคนในรุ่นจะมาร้องรวมกันได้นั้นไม่ง่ายครับ”คราวนี้เป็นน้องฝ่ายพยาบาลที่ชื่อเซ็ต เป็นคนตอบกลับ ผมจะทำเป็นมองข้ามที่ไม่แนะนำตัวไปแล้วกัน ว่าแต่... ปีนี้พูดถึงตัวบุคคลเหรอ... มีหวังโดนพลอยตอกลงดินแน่เลยครับ

"คุณกำลังบอกว่าสิ่งที่คุณทำอยู่นี้มันทำให้คุณเสียเวลาใช่ไหมคะ!!!!!"เจ้าแม่วินัยส่งเสียงดังคับห้องโดยไม่รอให้น้องพูดจนจบก่อน ผมว่าแล้วว่าต้องเป็นอีหรอบนี้ ขึ้นต้นประโยคได้ย่ำแย่แบบนี้ไม่มีทางรอด "ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เชิญเลยค่ะ กลับไปพักผ่อนซะให้พอ"

“ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ”เซ็ตตอบกลับมาอีกด้วยเสียงที่ร้อนรน ดูแล้วได้แก้ตัวอีกยาวแน่ ๆ
“ที่คุณพูดมามันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรือยังไงคะ”

น้องหน้าเสียกันไปตาม ๆ กันหมดแล้ว เวลาก็ค่อย ๆ หมดวันไป ไม่ได้ขอห้องเอาไว้ด้วย คงอยู่เย็นมากไม่ได้นะครับ ไม่อย่างนั้นคงได้โดนไม้กวาดของป้าแม่บ้านไล่เอา

"พวกคุณจะมาทำร้ายน้อง ๆ และเพื่อน ๆของผมอีกเหรอครับ"ผมแสร้งถอนหายใจน้อย ๆ อย่างเหนื่อยใจ "จะมาใช้งานน้อง ๆ ของผมให้พวกเขาต้องเหนื่อยกาย เหนื่อยใจอีกเหรอครับ"

"น้องของพวกเราไม่ใช่ทาสของพวกคุณนะคะ"นัทพูดเสียงเครียด หน้าก็เครียด สายตาก็เครียดครับ "ไม่ใช่คนรับใช้ที่จะมาคอยเอามจพวกคุณนะ"

"ไม่พอใจก็ว่าลับหลัง ไม่ได้ดั่งใจก็ชักสีหน้าใส่ น้องของผมมีหัวใจนะครับ ไม่ใช่หุ่นยนต์แม่บ้านที่จะรับอารมณ์ของพวกคุณได้โดยไม่รู้สึกอะไรน่ะ"ตาปันปันออกโรงบ้างครับ มันกอดอกเดินไปอยู่หน้าน้องปีหนึ่งระหว่างที่พูดเสียงลั่น "พวกคุณจะเอาน้องของพวกผมไปทรมานอีกเหรอครับ"

หน้าน้องนี่ก้มลงจนคางชิดกับอกแล้วทั้งครับ ไม่ใช่ว่าไม่สงสารนะครับ แต่พวกเขายังต้องได้รับการเรียนรู้ในเรื่องราวต่าง ๆ สิ่งที่พวกผมทำมันยังน้อย ถ้าเทียบการชีวิตจริงที่ต้องเผชิญ

"พวกคุณคงคิดว่ากิจกรรมรับน้องนี้น่าเบื่อ เสียเวลา จะทำทำไมก็ไม่รู้... ใช่ไหมครับ"ผมก้าวเข้าไปหาน้องปีหนึ่งช้า ๆ "เงยหน้าขึ้นมามองพี่พวกคุณครับ พี่ที่พวกคุณมาขอพวกผมคืน พวกเขาเหนื่อย พวกเขาต้องแบ่งเวลาทุกวันให้พวกคุณ หลังจากที่พวกคุณได้กลับไปพัก พวกเขายังต้องอยู่ต่อ ประชุมต่อ เตรียมงานต่อ แต่ไม่มีสักครั้งที่เขาพูดว่าพวกเขาต้องสละเวลาให้พวกคุณ พวกเขาเต็มใจที่จะแบ่งเวลามาทำกิจกรรมให้พวกคุณ มาเป็นคนเชื่อมความสัมพันธ์ ความสามัคคีให้พวกคุณ

แต่สิ่งที่พวกคุณทำให้เขาคืออะไร พวกคุณตอบแทนพี่ของพวกคุณด้วยการชักสีหน้า ด้วยคำต่อว่าด่าทอนั่นเหรอครับ ความทุ่มเทของพวกเขาที่ให้พวกคุณ พวกเขาสมควรได้รับความไม่พอใจของพวกคุณเป็นสิ่งตอบแทนอย่างนั้นเหรอ"

"ไม่ใช่ครับ/ค่ะ"นักศึกษาปี1 ตอบกลับผมมาด้วยเสียงอ่อย ๆ แววตาของแต่ละคนนั้นแฝงความรู้สึกผิดเอาไว้ นี่แสดงว่าแอบไปบ่นกันหมดเลยมั้งครับเนี่ย

"แต่พวกคุณทำกับพวกเขาแบบนั้น"เสียงที่ผมโต้กลับไปนั่นฟังดูโคตรเย็นชาเลยครับ กดเสียงมากไปหน่อย "แล้วพวกคุณคิดว่าผมจะให้น้องของผมไปทนรับความเอาแต่ได้ของพวกคุณอีกเหรอครับ"

จบคำของผม ทั้งห้องก็เงียบกริบ น้องผู้หญิงหลายคนตาแดง ๆ บางคนน้ำตาไหลแล้ว ส่วนพวกผู้ชายทำท่าสลด ผมแอบถอนหายใจเบา ๆ อ่อนใจล่ะครับ นี่คือวิธีแก้ปัญหาของพวกเขา?

"ปัญหาน่ะ มันแก้ด้วยน้ำตาไม่ได้หรอกนะครับ"ผมหันหลังให้น้อง ไม่อยากมองน้ำตาของใครอีกแล้วครับ ผมเป็นคน ใจอ่อนเป็นเหมือนกัน

"ขออนุญาตครับ ผม นาย วีรพิช นามสกุลศิริกุล รหัสประจำตัว 560839 นักศึกษาเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่2 มหาวิทยาลัยxyz ผมอยากขอกลับไปดูแลน้อง ๆ เหมือนเดิมครับ"บิ๊กพูดขึ้นเสียงดังฟังชัด ผมได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากทางด้านหลัง พวกปีหนึ่งคงกำลังมองพี่ของพวกเขาอย่างตื่นเต้นอยู่"

"ขออนุญาตค่ะ"

"ขออนุญาตครับ"

“ขออนุญาตค่ะ”

“ขออนุญาตค่ะ”

“ขออนุญาตครับ”

ปีสองทยอยกันยกมือขึ้นอย่างรวดเร็วจนครบ คนสุดท้ายของชั้นปีไม่ใช่ใครหรอกครับ น้องเทคของผมเอง

"พวกคุณแน่ใจใช่ไหมครับ ที่จะรับพวกเขากลับมา"ผมพูดกับปีสองด้วยเสียงที่อ่อนลง หลังจากที่พวกเขายกมือขึ้นจนครบทุกคนแล้ว "พวกคุณมั่นใจแล้วใช่ไหมครับว่าจะยอมเหนื่อยอีกครั้งกับพวกเขา"

"แน่ใจครับ/ค่ะ"น้องปีสองตอบกลับมาพร้อมกันเป็นหนึ่งเดียว

"พี่ของพวกคุณยืนยันจะขอรับพวกคุณคืน..."ผมหมุนตัวไปมองน้องปีหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังเพื่อพูดกับพวกเขาอีกครั้ง "ถ้ามีเหตุการณ์ที่พวกคุณทำให้น้องของผมเสียใจอีก พวกคุณจะไม่มีวันได้รับโอกาสที่จะมีพี่ในคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยxxx อีกเลย จำเอาไว้นะครับ"

"ค่ะ/ครับ"น้องตอบรับกันด้วยเสียงที่ฟังดูดีใจกันอย่างปิดไม่มิด

ดีใจไปนะครับ... อย่าลืมว่ายังเหลืออีกอย่างหนึ่งที่ยังอยู่กับผมในตอนนี้

"ผมมอบพี่คืนให้พวกคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้รุ่น หรือได้ชื่อว่าเป็นนักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์รุ่นที่สี่สิบหรอกนะครับ"ตัดความดีอกดีใจของน้องไปอย่างเยือกเย็นที่สุด หางลู่หูตกกันเป็นแถบครับ ผมแอบเหลือบไปเห็นพลอยมันกระตุกยิ้มที่มุมปากด้วยความสะใจเบา ๆ "ตราบใดที่พวกคุณยังไม่ได้ธง คุณก็ไม่ใช่นักศึกษาเทคนิคการแพทย์รุ่นที่สี่สิบโดยสมบูรณ์หรอกนะครับ"

"..."กริบ หงอยกันหมดครับ หึหึ ไม่ได้โรคจิตนะครับที่ไปตัดความสำราญของคนอื่น แค่เตือนถึงสิ่งสำคัญเอง ถูกต้องไหมล่ะครับ

"ผมให้โอกาสพวกคุณอีกครั้งในวันเสาร์ มาให้ครบทุกคนนะครับ ผมให้โอกาสครั้งเดียว ครั้งสุดท้าย จะให้ทำอะไรผมจะบอกอีกครั้งหนึ่ง"ผมไม่ฟังเพลงอีกแล้วล่ะครับ รู้ว่าร้องกันได้แล้ว เราต้องทำอย่างอื่นกันบ้าง หลังจากที่น้องปีหนึ่ง ‘สละเวลาอันแสนจะมีค่า’ ไปฝึกร้องกันมาหลายต่อหลายวัน "เชิญวินัยครับ"

ผมเดินออกมานอกห้องกับเพื่อนวินัย พักหนึ่งเพื่อนปีสามก็เดินออกมาแยกย้ายกลับที่สิงสถิตของตัวเอง ส่วนปีสองอยู่คุยกับปีหนึ่งไปก่อน

ได้เวลาวางแผนงานเสาร์นี้แล้วสิครับ


(พายุ)

หลังจากที่ผมไปคุยกับวินัยเจ้าระเบียบมาก็โอเค นอนรอน้องมาง้อ ผมกะเวลาไว้ในใจแล้วว่าต้องอยู่ในอาทิตย์นี้ ถ้าพวกแม่งไม่มาก็ตัด ๆ ทิ้งไป

ดี ไม่เสียเงินเลี้ยงพวกมันด้วย

"เฮ้ย ยุ อาจารย์ยอกว่าพวกปีหนึ่งมันไปรวมที่สนามฟุตบอลว่ะ"วิศวะวิ่งโร่เข้ามาหาผมด้วยหน้าหมาตื่น พวกปี1 ไปรวมกันที่สนามฟุตบอล? เพื่อ?? "ตอนนี้พวกปีสอง กับปีสามหลายกลุ่มไปที่แสตนด์กันแล้ว มึงรีบไปเลย"

"เออ ๆ แม่ง หาเรื่องเดือดร้อนอะไรมาอีกวะ ไอ้เด็กพวกนี้"ผมยัดชีทเรียนใส่กระเป๋าลวก ๆ แล้ววิ่งไปที่สนามฟุตบอลใหญ่ของมหาลัยด้วยสปรีทเกียร์หมาโดยไล่หวด

มาถึงพอดีกับที่พวกว๊ากคนอื่น ๆ ของแต่ละสาขาวิชามาพอดี พวกเราเลยยกโขยงกับขึ้นไปข้างบนแสตนด์ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความหงุดหงิด

"พวกคุณมาทำอะไรกันที่นี่"ผมตะโกนลั่น แม่ง สนามฟุตบอลก็โคตรใหญ่ตะโกนไปพวกมันจะได้ยินผมไหมวะเนี่ย "จะทำบ้าอะไรครับ"

ตึง ตึง

ไม่มีหน้าไหนตอบผม แต่เสียงกลองกลับดังขึ้นแทน ปีหนึ่งที่เรียงแถวข้างในสนามเริ่มขยับตัวกระจายกันออกจนเต็มสนามฟุตบอล

บ้าชิบเลย ไอ้เด็กพวกนี้

พวกที่เล่นดนตรียกเครื่องเป่าขึ้นบนบ่า ดู ๆ  แล้วก็เหมือนวงโยฯตามโรงเรียนนั่นล่ะ ก่อนจะเริ่มเป่าเพลงขึ้น โดยมีคอนดักเตอร์สะบัดมืออยู่ด้านหน้า

น้อง ๆ ที่เรียงแถวกันอยู่ขยับตัวเดินกันอย่างเป็นระเบียบ มาเรียงกันในอีกรูปแบบ  เดี๋ยวนะ นี่มันตัวอักษรนี่หว่า ผมหรี่ตาลงมองการแปรอักษรตรงหน้า

ตึง ตึง

We're Sorry

ตึง ตึง ตึง

We want you

ตึง ตึง

We are engineer

ตึง ตึง ตึง

Please come back to me

เรียงทีละประโยคตามลำดับเลย ใช่ย่อยเหมือนกันนี่ เด็กรุ่นนี้ การจะทำแบบนี้ได้มันยากอยู่ ต้องใช้เวลาซ้อม ใช้เวลาวางแผนเยอะ

แสตนด์ที่แข่งครั้งนึงต้องใช้เวลาซ้อมเป็นเดือน ๆทั้งที่ไม่ได้ใช้พื้นที่อะไรมากกว่า อาศัยสองมือของตนเอง แต่นี่ ต้องขยับทั้งตัว พวกมันทำกันได้ขนาดนี้

มาเหนือความคาดหมายดี สมเป็นวิศวะของผมจริง ๆ

อยู่ ๆ พวกปีหนึ่งทั้งหมดก็ยกเพจสีดำสนิทขึ้นมาต่อกัน จากสนามฟุตบอลสีเขียวที่มีเส้นตีไว้กลายเป็นพื้นสีดำสนิท อะไรของพวกมันวะ

แสงสีแดงสว่างวูบส่องลงไปที่เพจสีมืดนั้น ขึ้นเป็นรูปตราของคณะวิศวกรรมศาสตร์ พร้อมชื่อคณะแบบเต็ม ๆ เล่นเลเซอร์กันเลยเว้ย

เก่ง หล่อ รวย นี่คือวิศวกรรมศาสตร์ของพวกเรา

ผมกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจกับภาพตรงหน้า ยิ่งเมื่อได้เห็นคณะอื่นพากันชี้มาที่สนาม ผมยิ่งยืดอกได้

ประกาศศักดาแห่งวิศวกรรมศาสตร์ของพวกเราให้คนได้รู้ถึงความยิ่งใหญ่ คณะที่ผงาดขึ้นอย่างไม่มีวันที่จะล้มลง ความภาคภูมิใจของพวกเรา

"ปีหนึ่ง ไปรวมกันที่ลานเกียร์"ผมตะโกนก้อง น้องมันลดเพจลงพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง แล้วพากันวิ่งไปยังลานเกียร์อย่างรวดเร็ว ผมกับว๊ากที่เหลือค่อย ๆ เดินกันไปอย่างไม่เร่งรีบ

การรวมตัวครั้งนี้มีแต่ชาววิศวกรรมศาสตร์ตั้งแต่ปีหนึ่ง ถึงพี่ปีสี่ที่กลับมารายงานเรื่องการฝึกงานกับคณาจารย์ ก็พากันมารวมตัวด้วย ลานเกียร์วันนี้เลยคึกคักกันไม่น้อยเลย

"สิ่งที่พวกคุณทำในสนามฟุตบอลนั่น..."ผมเปิดฉากขึ้นกลางวง ฟ้ามืดแล้วจะมัวแต่เกริ่นเหมือนพวกเมดเทค คงได้ไปสุมกันที่โรงพยาบาลแน่ ไม่เวิร์ค ไข้เลือดออกมันไม่แมนหรอกนะ “พวกคุณต้องการแสดงให้พวกผมเห็นอะไร”

แค่แกล้งโง่ ไม่ต้องด่ากันจริงจัง

   “ขออนุญาตครับ”พวกเราต้องการความว่องไว ไม่ได้ต้องการอะไรยาวยืด กว่าจะพูดกันได้ต้องแนะนำตัวซะยาวเป็นหางปลากระเบน ไฟไหม้หมดมหาลัยแล้วยังพูดไม่จบ “ผมและเพื่อนต้องการแสดงพี่ทุกคนได้เห็น ว่าพวกเราสามัคคี เป็นหนึ่งเดียว และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าครับ”

   “คะ.”ยังไม่ทันที่ผมจะได้ว๊ากออกไป ก็โดนน้องคนเดิมขัดคอขึ้น ทำเอาผมต้องหุบปากไปก่อน แม่ง เสียเซลฟ์ไปไม่น้อยเลยเว้ย กู

“และพวกเราต้องการจะสื่อความรู้สึกที่มาจากหัวใจของพวกเราให้กับพี่ ๆ ทุกคนได้รับรู้ครับ”ประธานปีหนึ่งพูดด้วยเสียงดังก้อง ผมเหล่ไปเห็นพวกพี่ปีสี่เลิกคิ้วมอง พี่ปูนขาวขมวดคิ้วน้อย ๆ

“พวกเราขอโทษครับ / ค่ะ”น้องปีหนึ่งทุกคนพูดขึ้นเสียงดังลั่น พร้อมทั้งก้มหัวลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจ้องพวกผมอย่างไม่หลบสายตาเหมือนเมื่อก่อน

ผมล้วงกระเป๋ายืนมองพวกเด็กปีหนึ่งตรงหน้าอยู่อึดใจ แอบเห็นน้องบางคนเริ่มหน้าเสีย ก่อนที่ผมจะกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปาก

“พวกคุณอยากได้พี่ปีสองของคุณคืนใช่ไหมล่ะ”ผมเหยียดยิ้ม กราดมองน้องที่นั่งเรียงกันเป็นตับ ก่อนจะพูดต่อ “นี่คือสิ่งที่คุณจะเอามาแลกใช่ไหม”

“ผมและเพื่อนไม่ได้อยากได้พี่ปีสองครับ”คราวนี้เป็นพี่ทุกคนหันขวับไปจ้องมองพวกน้องอย่างตกใจ ผมนี่ขมวดคิ้วแน่นเลย ไม่ต้องการพี่ปีสอง? พวกมึงไม่ต้องการพี่ในคณะ ว่าอย่างงั้นสิ? “ผมและเพื่อนต้องการให้พี่ทุกคน กลับมาเป็นพี่ของพวกเราครับ”

ค่อยฟังเข้าหูหน่อย แอบเห็นหลายคนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเลยล่ะ ผมเองก็อยากจะถอนหายใจเหมือนกัน เลยซะหัวใจตกวูบเลย ไอ้น้อง

ผมเหลือบมองว๊ากที่เหลือ รวมไปถึงพี่ปีสี่ที่ยืนเก็กขรึมกันอยู่ด้วย จริง ๆ พวกเขาคงตั้งใจจะมาดูหน้าน้อง ๆ ล่ะมั้ง ปกติแต่ไรมาปีสี่เขาจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับการรับน้องเท่าไหร่

พี่ก็ต้องอยากรู้จักสายรหัสตัวเองอยู่แล้วล่ะนะ ผมก็เป็น ปีนี้ได้น้องผู้หญิง ที่มาพร้อมกับหน้าตาน่ารักโคตร สวย ใส สไตล์ญี่ปุ่นมาก แล้วหลานมันก็กลัวผมมากเหมือนกัน

“โอเค คุณอยากได้พี่คืน”ผมสูดลมหายใจลึก ก่อนจะตัดสินใจอะไรได้ ของฟรีไม่มีในโลก ได้ของอย่างหนึ่ง ก็ต้องเสียอีกอย่าง “ผมให้พี่กับคุณ”

“ขอบคุณครับ”

“แต่...”จากที่ดูเฮฮา คราวนี้หดกันหมด “พวกคุณได้พี่ อย่าลืมว่าธงพวกคุณยังไม่ได้ ถ้าคุณไม่มีธง คุณจะไม่มีวันที่จะได้ชิงเกียร์”

ขู่กันสักหน่อย ก่อนที่จะเดินออกนอกลานเกียร์ไป โดยไม่พูดอะไรต่อ ถ้าพูดมันก็ไม่มันส์สิ จริงไหม

ดูเหมือนผมจะคืนพี่ให้กับพวกน้องปีหนึ่งง่าย ๆ ใช่ไหมล่ะ?

เรื่องนี้อาจจะง่าย แต่เรื่องที่ใหญ่กว่าอย่างการชิงธง ผมไม่มีคำว่าง่ายให้หรอก

รับรองว่าสนุกแน่

เตรียมตัวกันไว้เถอะ พวกปีหนึ่ง

จะเอาให้หนักว่าที่กูเคยโดนอีก หึหึ

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

มาอัพแล้วค้าาา โคตรช้า รู้ตัว 555 TT ปั่นทั้งงาน แถมป่วยด้วยล่ะค่ะ ช่วงนี้

มาต่อยังสั้นอีก   :z10:  :z10:

ตอนหน้าไปหาคู่อื่นบ้างดีกว่าาา

พี่ทิว ฟางข้าว

พี่คิส ปันปัน

คีตา พี่กิต

อยากอ่านคู่ไหนกันก่อนดีคะ 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 28-02-2015 19:09:36
อ๊ากกกกกกกก ปีหนึ่งจะโดนอะไรบ้างน้าาา ตอนหน้าขอคู่ของพี่คิสกับปันปันน้าาาาาาาาาาาา o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 28-02-2015 19:14:38
ขอพี่ปูนขาวกับพี่ตังโอค่า :oni1: :oni2: :laugh3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 28-02-2015 19:23:23
ขอพี่ปูนขาวกับพี่ตังโอค่า :oni1: :oni2: :laugh3:

เดี๋ยวนะคะ เดี๋ยววว คู่นี้มาได้ยังไงหว่า 5555

ใจเย็นนะคะ 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 28-02-2015 19:54:40
ยังอยากอ่านคู่หลักอยู่เลย ไม่อยากอ่านคู่อื่นอะ เหมือนว่าคู่หลักยังไม่ไปไหนมาไหนเท่าไหร่เลย :mew2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 28-02-2015 19:58:31
 :ruready
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 28-02-2015 20:21:51
สั้นจุงเบยง่ะ

 :ling1: :ling1:

แต่ก็  มาต่ออีกน่ะครับ  ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: AMEOOS ที่ 28-02-2015 21:21:32
คนเขียนกลับมาแล้วววววว คิดถึงมากๆเลยยยยย
ต่อไปปีหนึ่งจะโดนอะไรบ้างน้อววววว รอติดตาจ้า

ขอคีตากับพี่กิตค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 28-02-2015 22:47:39
ยังอยากอ่านคู่หลักต่อเหมือนกันอะค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 28-02-2015 23:47:47
หุหุ แต่ละฝ่ายพร้อมรบกันแล้ว
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 01-03-2015 00:36:59
โอยยย  ชั้นฮาพายุ  มาน้อยแต่ต่อยหนัก  ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 02-03-2015 20:55:08
ยังอยากอ่านคู่หลักอยู่เลย ไม่อยากอ่านคู่อื่นอะ เหมือนว่าคู่หลักยังไม่ไปไหนมาไหนเท่าไหร่เลย :mew2:
ยังอยากอ่านคู่หลักต่อเหมือนกันอะค่ะ  :hao5:


คู่หลักยังมีมาเรื่อย ๆ ไม่ต้องห่วงค้า ^^

// สอบเสร็จ-หายป่วย จะมารีบมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 03-03-2015 01:16:43
ลมหนาวนี่น่ารักนะคะ กำลังอินกำลังซึ้ง

เจอพายุตัดอารมณ์ฉับ!

นี่มันคือการแก้แค้นสินะ..สินะ..สินะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 05-03-2015 11:03:59
อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงตัวเองงงง 555

เราเป็นเฮดว้ากค่ะ เหนื่อย แต่สุขเมื่อได้เห็นน้องรักกัน

สามัคคีกัน เราลงทุกวันเลย 5555 มะนาวเอาไม่อยู่ ต้องพึ่งยาหมอคู่ไปเลย

จำได้ว่าคุณหมอสั่งงดใช้เสียงเกือบสัปดาห์ แต่ก้อนะ ทำได้ที่ไหน หน้าที่หลักค้ำคอ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ เราชอบมาก ทำให้รู้สึกถึงตอนอยู่หน้าห้องเชียร์อีกครั้ง

เราเป็นว้ากบริหารล่ะ รออ่านนะค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: PaployDevilzy ที่ 08-03-2015 22:42:37
 :o8: :o8: :hao3: :o12: 
ในนามของพี่ว้ากคนหนึ่ง รู้สึกประทับใจมากเลยค่ะ
เราก็เป็น เฮดว้าก มาก่อนเข้าใจอารมณ์ตอนตัดน้องเลยค่ะ
ทั้งหน่วง ทั้งอึดอัด เวลาเจอน้องนี่จะเดินเร็วมาก จะไม่พยายามเจอ หรือหยุดให้น้องทักเลยค่ะ
กลัวหลุดค่ะ !!! ตอนง้อขอพี่คืนของเมดเทค คล้ายกับเหตุการณ์เรามากเลยค่ะ
ขอเราน้องร้องเพลงคณะ บูม แล้วก็ร้องเพลง"ถ้าเธอไป" ของพี่ตู่ (ทำเอาพี่ว้ากกลั้นน้ำตากันสุดฤทธิ์)
สนุกดีค่ะ ชอบตรงที่ ลมหนาว ชอบย้ำบ่อยๆว่า "พี่วินัยก็มีหัวใจ" นี่แหล่ะค่ะ
ปล. มันโดนใจพี่ว้ากด้วยกันอย่างแรงเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 09-03-2015 20:26:06
เค้าอ่านตอนเก่าหลายรอบแล้วง่ะเมื่อไรตอนใหม่จะมาอ่ะ :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-03-2015 14:23:36
คิดถึงพี่ทิว น้องข้าว
คิดถึงลมหนาว กับพายุ
คิดถึงจุงเบยยยยยยยย :mew2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่20 P.13[วิศวะVsเทคนิคฯ] up28/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-03-2015 23:27:39
จะมาต่อในสัปดาห์นี้นะคะ ^^

เพิ่งสอบเสร็จค้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-03-2015 20:39:59
วันที่ยี่สิบเอ็ด

(ทิวไผ่)

หลังจากวันชิงธงมาผมก็ไม่ได้โผล่ไปหาลมหนาวเลย ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้างเหมือนกันนะครับเนี่ย น้องของพวกเขาทำไว้ซะแทบน้ำตาตกในด้วย แต่เห็นว่ามาง้อคืนดีแล้ว ก็คงไม่มีอะไร

แต่เรื่องนั้นคงต้องพักเอาไว้ก่อน ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่าอยู่ตรงหน้าผมแล้ว

อีกไม่กี่วันฟางข้าวจะอายุยี่สิบ ในวันนั้นจะมีการเปิดพินัยกรรมและโอนบ้านที่เป็นมรดกจากคุณปู่ คุณตาของเขามาเป็นชื่อของข้าวเอง เป็นเรื่องที่เราคงต้องจัดการอะไรสักหน่อยเพื่อความสบายในอนาคต

ผมติดต่อทนายเอาไว้แล้วสำหรับเรื่องนี้

ผมคงต้องปูทางที่ราบรื่นที่สุดเอาไว้ให้กับข้าวสักหน่อย ไม่อย่างนั้นคงได้เสียเปรียบพ่อแม่ของเขาอย่างไม่เหลือแม้แต่ซากแน่ ๆ

เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่ผมคงยอมให้คนในอาณัติผมโดนเอาเปรียบ หรือโดนรังแกไม่ได้ ผมตัดสินใจจะรับผิดชอบเขาแล้ว แน่นอนว่าจะต้องทำจนถึงที่สุด เว้นแต่เจ้านกน้อยจะปีกกล้าขาแข็งโผบินไปจากผมเอง

แต่กว่าจะถึงเวลานั้น เจ้านกตัวนี้คงบินไปไหนไม่รอดแล้วล่ะครับ จริงไหม หึ หึ

นกที่ถูกเลี้ยงในกรง ถึงจะปล่อยไปสู่โลกภายนอกเองกับมือ ถ้ามันไม่บินกลับเข้ามาในบ้าน ก็คงเร่ร่อนไปจนตายในเวลาไม่นาน

"พี่ทิวฮะ"เสียงใสดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่ร่างเล็กจะวิ่งเข้ามาหาผม พร้อมกับถาดที่ใส่อะไรสักอย่างเอาไว้ในมือ "คุกกี้ฮะ ลองชิมหน่อยนะฮะ"

มันดูเป็นประโยคคำสั่งเบา ๆ นะครับ ฮะ ๆ แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร กินก็กิน ผมหยิบคุกกี้มาขิ้นนึง ส่งเข้าปาก กลิ่นหอมของกาแฟอวลในปาก รสออกหวานเค็ม...

อร่อยดี ผมชอบ

"ข้าวเอาไปใส่โหลไปครับ"ดวงตากลมโตใส ๆ สั่นระริก ผมยังไม่ได้ดุอะไรเลยนะ "พี่จะเอาไว้ทานตอนอ่านหนังสือ แบ่งใส่ถุงเล็ก ๆ ไปให้หนาวด้วยนะ"

"ฮะ... อร่อยไหมฮะ"ดวงตาคู่นั้นมองมาที่ผมอย่างวาดหวัง ผมหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วยื่นมือไปลูบผมนุ่ม ๆ เบา ๆ ก่อนจะยิ้มให้

"อร่อยสิ พี่ชอบ ไว้ลองทำอย่างอื่นด้วยนะ"ข้าวทำขนมไม่หวานจัด หนาวน่าจะชอบอยู่ ตัวผมไม่ค่อยกินหรอกครับ พวกขนมหวานเนี่ย

แต่ใช่ว่าจะกินไม่ได้สักหน่อย

ข้าวเอาคุกกี้กาแฟใส่ในถุงใสใบเล็ก ติดสติกเกอร์น่ารัก ๆ ไว้ข้างหน้า เอามาวางตรงหน้าผม ก่อนที่ร่างเพรียวจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ

"พี่ทิวฮะ"เสียงใส ๆ เรียกชื่อผมขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ขี้เกียจดูข่าวที่น่าปวดหัวน่ะครับ เปิดไปทีไรถ้าไม่ฆ่ากันตายก็อุบัติเหตุ

"มีอะไรครับ ข้าว"ผมหันไปมองน้องชายตัวน้อย (ในสายตาผม) ยิ้ม ๆ

"ไม่มีอะไรฮะ"เรียกให้อยากแล้วจากไปอย่างเลือดเย็นจริง ๆ นะครับ แบบนี้ ผมมองข้าวอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้จะซักไซ้อะไร

ถ้าเขาอยากพูด ก็คงพูดออกมาเองล่ะครับ เนอะ

Trrrrr

เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น หน้าจอไอโฟนขึ้นชื่อ และรูปของลมหนาวที่ยิ้มกว้าง ถือกล่องของขวัญที่ผมเป็นคนให้เอาไว้ เหมือนรู้เลยว่าผมกำลังคิดถึงเขาอยู่ลึก ๆ ไอ้น้องคนนี้

"ไง หนาว เป็นยังไงบ้าง"ผมเดินออกมรับสายที่ระเบียงแล้วถามสารทุกข์ สุข ดิบก่อน ไม่รู้ว่ากินข้าวตรงเวลาไหม นอนพักผ่อนพอหรือเปล่า ยิ่งไม่ค่อยดูแลตัวเองอยู่ด้วย

"ผมยังสบายดีน่า พี่ทิว ไม่เป็นอะไรสักหน่อย"เสียงที่ตอบกลับมาแฝงแววค้อน ถ้าอยู่ตรงหน้านี่คงค้อนมาให้ผมเป็นโหล ฮ่า ๆ เวอร์ไป "พี่เถอะ เป็นไงบ้าง"

"ก็โอเค สบาย มีคนทำกับข้าวให้กินทุกวัน"ผมเหลือบมองร่างเล็กที่นั่งกอดหมอนอยู่ข้าง ๆ ยิ้ม ๆ "หนาวเถอะ โรคหอบไม่กำเริบใช่ไหม"

"ผมหายแล้วน่า พี่ทิว ไม่ต้องห่วงหรอกครับ"พูดอย่างนี้ตลอด ทั้งที่รู้แก่ใจนะ ลมหนาว "รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ ไม่ต้องห่วงน่าพี่ทิว ผมไม่ปล่อยให้ตัวเองล้มหรอกครับ"

"ให้มันจริงเถอะ"ผมกระตุกยิ้มอย่างอ่อนใจ "นี่ว่างเหรอไงถึงโทรมาน่ะ"

"เกือบ ๆ ล่ะฮะ ยังคิดไม่ออกว่าจะให้น้องมาชิงธงใหม่ยังไง"เครียดเลยโทรมาสินะ ทุกทีเลยหนาวนี่ "เดี๋ยวเย็น ๆ จะไปหานะครับ"

"โอเค พี่จะรอ"ผมยิ้มกว้างอย่างหุบไม่ลง อยากเจอไว ๆ เหมือนกันนะ "เดี๋ยวพี่พาไปกินซูชิ"

"ไม่เอา ผมอยากกินจิ้มจุ่ม"

"โอเค ๆ ตามนั้น"ยอมครับ ยอม ให้หนาวมันคลายความเหนื่อยสักหน่อย

"เจอกันครับ"ลมหนาววางสายไปแล้ว ส่วนผมได้แต่นั่งยิ้มมองมือถือตรงหน้า

น้องชายคนนี้ยังคงน่ารักเสมอจริง ๆ ชอบทำเป็นเข้มแข็ง ทั้งที่ตัวเองเป็นพวกโอนอ่อน ต้องมารับภาระเต็มสองบ่า อะไรที่ทำให้หายเหนื่อยได้ ผมก็อยากจะช่วย

"ข้าว นี่ก็ใกล้วันเกิดข้าวแล้วนะ"ผมเปรยขึ้นหลังจากปล่อยให้ความเงียบครอบงำมาพักใหญ่ "ข้าวอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหมครับ"

"ไม่มีฮะ พี่ทิว"ว่าแล้วต้องตอบแบบนี้ ผมเตรียมของขวัญเอาไว้ให้ข้าวเรียบร้อยแล้วล่ะครับ "ที่พี่ทิวให้ผมมาตอนนี้ก็มากเกินพอแล้วล่ะฮะ"

"วันพิเศษ ก็ต้องมีของพิเศษบ้าง"ผมยื่นมือไปลูบหัวทุย ๆ ก็หนูน้อยนิเทศพร้อมกับยิ้มให้

"มันก็ไม่ได้พิเศษอะไรมากนี่ฮะ"ข้าวทำปากยู่ใส่ผม แก้มขาว ๆ พองลมขึ้นมาน้อย ๆ น่าฟัดชะมัดเลยครับ "ไม่เห็นจะมีอะไรเลย"

"วันที่ข้าวได้เกิดมา จะไม่สำคัญได้ยังไงล่ะ หืม"ผมหยิกแก้มนุ่ม ๆ นั่นเบา ๆ แล้วหัวเราะออกมาน้อย ๆ "ในสายตาข้าวมันอาจจะไม่สำคัญ แต่กับพี่มันสำคัญมากนะครับ รู้ไหม"

"ฮะ..."ข้าวก้มหน้าลงน้อย ๆ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันน้อย ๆ "พี่ทิวฮะ"

"อะไรครับ"ผมตอบกลับด้วยเสียงนุ่ม ๆ พร้อมดึงมือของน้องชายข้าง ๆ มานั่งลูบเล่น มือเล็กที่ทำกับข้าว ทำขนมให้กินนี่ ยิ่งดูก็ยิ่งเล็กนะครับ

ไม่เหมือนมือผู้ชายเลย

"วันเกิดนี่... จะขออะไรก็ได้เหรอฮะ"ข้าวถามผมด้วยเสียงที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ดีนะครับที่ประสาทหูผมยังใช้การได้ดีอยู่ "ได้ทุกอย่างเลยเหรอฮะ"

"ข้าวอยากได้อะไร พี่จะให้ทุกอย่างเลยครับ"ผมพูดอย่างเอาใจ แต่ถ้าข้าวอยากได้พระอาทิตย์พี่คงให้ไม่ได้หรอกนะครับ ฮ่า ๆ "ทุกอย่างที่พี่หาได้เลย"

"ผม... ผม"แก้มขาว ๆ ขึ้นสีระเรื่อน้อย ๆ อะไรของเขาน่ะครับ หรืออยู่ ๆ จะไม่สบาย แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ยื่นมือไปวัดไข้ ข้าวก็พูดออกมาก่อน "ผม... อยากนอนกับพี่ทิวฮะ"

"ปกติเราก็นอนด้วนกันบ่อยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"ผมถามกลับอย่างงุนงงเล็ก ๆ ปกติข้าวมักจะเดินมาเคาะประตูขอนอนด้วยอยู่ประจำนี่น่า...

"มะ ไม่ใช่แบบนั้นฮะ"เท่านี้ล่ะ ผมเข้าใจเลยครับ นอนในอีกเชิงนึงสินะ... แต่ทำไมน้องขอผมแบบนี้ล่ะ "ดะ ได้ ได้ไหมฮะ"

"..."ขอหาคำพูดดี ๆ ก่อนนะครับ ยังไม่รู้จะพูดอะไรดี ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฟางข้าวขอผมแบบนี้ มันเป็นคำขอที่เขาเป็นฝ่ายเสียชัด ๆ "ทำไมขอแบบนี้ล่ะครับ"

"..."ตาข้าวเงียบบ้างล่ะครับ ผมแอบเห็นดวงตาคู่โตนั่นสั่นระริกด้วย "ผมขอโทษฮะ... พี่ทิวคงรังเกียจ... ลืม ๆ ไปเถอะนะฮะ"

ข้าวผุดลุกขึ้นจะเดินหนีไป คิดว่าคนอย่างทิวจะยอมให้หนีเหรอครับ? บอกเลยว่าไม่มีทาง ผมดึงตัวของข้าวให้ทิ้งตัวลงมานั่งบนตักผม ก่อนจะเชยคางเล็กขึ้น

"พี่ไม่รังเกียจข้าวหรอกนะครับ"ผมยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บที่ริมฝีปากสีเชอรี่เบา ๆ ก่อนจะแนบชิดเข้าไปมอบจูบหวาน ๆ ให้กับน้องชายที่น่ารัก

"อื้อออ"ข้าวครางออกมาแผ่ว ๆ ผมถือโอกาสนี้ส่งลิ้นเข้าไปล้วงเอาความหอมหวานจากโพรงปากนุ่ม เด็กน้อยที่แสนบริสุทธิ์ ริอาจจะเข้ามาสีดำซะแล้ว

"ไปที่ห้องกันดีกว่าเนอะ"ผมยิ้มบาง ๆ แล้วอุ้มร่างเล็กที่ดูอ่อนแรงลงไปที่ห้องนอนทันที

ผมวางฟางข้าวลงบนเตียงใหญ่ ก่อนที่จะขึ้นคร่อม ตาใส ๆ นั่นมองผมอย่างซื่อ ๆ ทำให้ผมอดที่จะช่วงชิงอากาศจากร่างตรงหน้าอีกครั้งไม่ได้

"พี่ทิว..."เสียงหวานครางชื่อผมแผ่ว ๆ เมื่อผมหันมาซุกไซร้ที่ซอกคอหอมกรุ่น ผิวขาว ๆ ตัวหอม ๆ มันเรียกอารมณ์ของผมไม่น้อยเลย "อืม..."

"ถ้าข้าวไม่ห้ามพี่... มันจะหยุดไม่ได้เอานะครับ"กระซิบที่ข้างหูแดง ๆ ก่อนจะงับลงไปแรง ๆ สักที ข้าวสะดุ้งอย่างแรงเลยล่ะครับ ฮ่า ๆ "เจ็บนะครับ ครั้งแรกน่ะ"

"อื้อ... พี่ทิว..."เสียงครางมันเร้าอารมณ์ดีชะมัด ผมไม่ได้นอนกับใครมีพักใหญ่แล้วด้วยสิ จะยั้งตัวไม้ให้เอาแต่ได้ไหวไหมนะ "เริ่มเถอะฮะ"

"บอกก่อนว่าพี่ไม่มีเจลกับถุงยางพกไว้หรอกนะ"ส่วนใหญ่ผมไปโมเต็ล มันมีทุกอย่างอยู่แล้วนี่ครับ ถุงยางมีพกบ้าง แต่โน้น อยู่บนรถ

ผมถอดเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วก็ของข้าวออก ร่างขาว ๆ นอนเปลือยอยู่ตรงหน้าผม ดวงตาคู่หวานปรือปรอย ริมฝีปากช้ำนั่นเผยอเพื่อหายใจ

แม่ง... โคตรยั่วเลยครับ ถึงรู้ว่าไม่ควรทำแต่มาถึงนี่แล้ว... เป็นผมก็หยุดไม่ไหวล่ะครับ

"กินละนะครับ"


(ฟางข้าว)

ผมมองพี่ทิวที่ขยับตัวขึ้นมาคร่อมตัวผม มืออุ่น ๆ ของพี่เขาลูบไล้ตัวผมเบา ๆ แล้วฝังหน้าลงมาที่อกของผม

"อ๊ะ อื้ออ"ความรู้สึกอุ่นชื้นของลิ้นขยับระรัวที่ยอดอก อีกด้านก็โดนบีบขย้ำ ความรู้สึกร้อนวูบแล่นขึ้นมาทั่วร่างกาย "พี่ทิว อื้ออออ"

ผมรู้สึกร้อนวูบที่ช่วงท้องน้อยระหว่างที่พี่ทิวพรมจูบทิ้งร่องรอยไปทั่วตัว รับรู้ได้ว่าน้องชายของผมนั้นเริ่มแข็งตัวขึ้น แล้วเหมือนพี่ทิวจะเห็นเหมือนกัน ถึงเงยหน้าขึ้นมายิ้มหยอกผม

"เปลี่ยนท่ากันดีกว่าเนอะ"

ผมถูกดึงให้ลุกขึ้นจากเตียง ขึ้นมาคร่อมบนตัวของพี่ทิวแทน โดยหันหน้าเข้าหา เอ่อ... น้องชายของพี่ทิวที่เริ่มมีอารมณ์น้อย ๆ

"เปิดคอด้วยนะข้าว"น้ำเสียงของพี่ทิวยังคงความใจดีเอาไว้เหมือนเก่า แต่สิ่งที่พี่เขาให้ผมทำนี่... น่าอายจังเลยฮะ

แต่คงไม่น่าอายเท่าการที่ไปขอให้พี่ทิวมาทำ... ด้วยแบบนี้ จอไปได้ยังไงกันนะ ไอ้บ้าข้าว

ผมประคองแกนกายของพี่ทิวไว้ด้วยสองมือ รูดเบาให้แข็งชูขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ ส่งเข้าโพรงปากไปอย่างช้า ๆ แค่นี้ก็คับปากผมแล้วล่ะฮะ

มือของพี่ทิวลูบตัวผมเล่นไปเรื่อย ก่อนจะเลื่อนไปจับที่น้องชายของผมที่น่าจะอยู่ตรงหน้าพี่เขาพอดี มืออุ่น ๆ นั่นรูดรั้งท่อนเนื้อของผมรัวเร็ว ริมฝีปากหยักขบเม้มที่พวงไข่อย่างแรง

"อื้อ อื้อออ"ผมบิดตัวน้อย ๆ มันอุ่นมวนที่ท้องน้อยมากเลยฮะ ผมพยายามตั้งสติ แล้วดูดกลืนแท่งร้อนของพี่ทิวเข้าไปในปากให้ลึกที่สุด

มันจุกที่คอมากฮะ คับไปทั้งปาก แต่ผมก็ยังคงผงกหัวรูดขึ้นลงให้มันขยายตัวเรื่อย ๆ อยู่ ๆ พี่ทิวก็ยกตัวขึ้น ทำให้ร่างของผมที่คร่อมพี่เขาอยู่ยกขึ้นเล็ก ๆ พี่เขายื่นมือมากดหัวผมให้ลงไปอีก จนองคชาติของพี่ทิวแทงลึกเข้าไปในคอผม

"เปิดคอรับเข้าให้หมดสิครับ ข้าว รูดเร็ว"พี่ทิวพูดไป ขณะที่จับหัวของผมให้ไปตามจังหวะที่พี่เขาต้องการ สิ่งที่อยู่ในปากผมมันขยายตัวขึ้นอีกล่ะฮะ

เหมือนพี่เขาจะพอใจแล้วจึงปล่อยมือจากผม แล้วนอนลง แต่ถึงพี่เขาจะลุกมาบังคับจังหวะผม มือของเขาก็ยังไม่หยุดที่จะขยับรูดน้องชายผมแม้เพียงวินาที

"อื้อ อื้อออ อ๊าาา"ผมยกตัวขึ้นร้องลั่น ทำให้ท่อนเนื้อของพี่ทิวหลุดไปจากปาก น้ำสีขุ่นของผมหลั่งออกมาใส่มือของพี่ทิวจนท่วม "พะ พี่ พี่ทิว..."

"ทำต่อครับ ข้าว"พี่ทิวพูดด้วยเสียงนุ่ม ๆ มือข้างที่ไม่เปรอะหยาดน้ำของผมขยับไปขย้ำแก้มก้นผมอย่างแรง "ทำต่อไปครับ พี่จะจัดการเอง"

ผมก้มหน้าลงไปทำตามคำสั่งของพี่ทิว หน้าผมร้อนเห่อไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่าแดงก่ำ ตอนอมน่ะไม่รู้หรอกครับ แต่พอได้เห็นหัวแดงบานที่ชี้หน้าผมอยู่นี่แล้ว มันอดที่จะเขินไม่ได้

ทั้งใหญ่ ร้อน มันจะเข้าไปในตัวอมได้เหรอ...

ผมเล็มเลียท่อนเนื้อนั้น ก่อนจะอมเข้าไปให้ลึกที่สุดอีกครั้ง ถึงจะอึดอัด ทั้งเมื่อย ทั้งเจ็บปาก แต่ผมก็อยากทำให้พี่ทิวพอใจ

"อืมมม เก่งมาก ข้าว"เสียงครางเบา ๆ ของพี่ทิวทำให้ผมรู้สึกมีแรงจะทำต่อ มือขยับมือมาลูบไล้พวงไข่ใหญ่ ขยำเบา ๆ อย่างหยอกล้อ

ความรู้สึกเหนอะ ๆ อุ่น ๆ แผ่ขึ้นมารอบปากทางที่ไม่เคยมีให้ได้เห็น ผมหลุบตาลง พยายามมุ่งความคิดไปกับลำตรงหน้า แต่ร่างกายที่ไม่รักดีมันด็เกร็งวาบขึ้นมาเอง

"เกร็งแบบนี้ เจ็บไม่รู้ด้วยนะ"สิ้นเสียงพี่ทิว ก็มีบางอย่างสอดเข้ามาข้างในของผม ความเจ็บแล่นขึ้นมาเรียกน้ำตาผมให้รื้นซึม "เจ็บล่ะสิ ไม่ต้องอมแล้วล่ะข้าว"

ผมยกตัวขึ้น ถึงจะไม่ได้อม แต่ผมก็ยังรูดให้พี่ทิวต่อ

น้องชายพี่ทิวพร้อมเต็มที่แล้วสิ...

ระหว่างที่เหม่อไปชั่วขณะ นิ้วอีกสองนิ้วก็แทรกเข้ามาอย่างไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวสักนิด

"อ๊ะ ฮึก เจ็บ"สามนิ้วของพี่ทิวหมุนคว้านในตัวผมอย่างเร็ว ชักเข้าออกอย่างเร็ว "พี่ทิว พี่ทิว อื้ออ"

ในความเจ็บนั่นมีความเสียวอยู่ตลอด สะโพกผมส่ายไปมาอย่างอดไม่ได้ ผมโก่งสะโพกขึ้น ทำให้หน้าไปแนบกับลึงค์ของพี่ทิว ถูกกันไปมา

"พร้อมแล้วล่ะสิ"นิ้วทั้งสามถูกถอนออก ก่อนที่ตัวผมจะถูกพลิกให้ลงมานอนบนเตียง "ยกข้าขึ้น เร็ว"

ผมค่อย ๆ ยกขาขึ้นช้า ๆ อ้าออกอย่างเอาใจ ไม่ต้องสั่งก็พอจะรู้อยู่ว่าผมต้องทำอะไร...

พี่ทิวยกยิ้มอย่างพอใจแล้วแทรกตัวมาอยู่ตรงกลาง เลื่อนมือลงไปลูบที่ปากทางรักของผมเบา ๆ

"เข้าไปละนะครับ"หัวแดงบานที่ผมเป็นคนปลุกเร้าแทรกเข้าไปในตัว ความเจ็บยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ แทรกเข้ามาทุกอณู พี่ทิวจับสะโพกผมเอาไว้ ไม่ให้ขยับนี้อย่างที่ผมต้องการ

"เจ็บ เจ็บ พี่ทิว ฮือออ"น้ำตาผมร่วงลงมาอย่างหยุดไม่ได้ แต่เหมือนพี่เขาจะไม่สนใจ แท่งอุ่นนั้นยังคงแทรกลึกเข้าเรื่อย ๆ ถึงจะเป็นการฝืนร่างกายผมก็ตามที

"ซี๊ด แน่น ผ่อนคลายหน่อยข้าว ไม่งั้นจะเจ็บกว่านี้นะ"ผมพยายามผ่อนคลายตามคำของพี่ทิว แต่ก็ทำไม่ได้ จะเหมือนพี่เขาทนไม่ไหวแล้ว ถึงได้ดึงตัวผมให้กระแทกเข้าหาเขาอย่างแรง

"อ๊าาาาาา ฮึกก"น้ำตาผมไหลพรากลงมา มันเจ็บจนไม่รู้จะพูดยังไง แต่พี่ทิวก็ยังดึงให้ผมรับเอาตัวพี่เขาเข้าไปให้หมดไม่หยุด

"พี่ขอโทษนะ"เสียงแหบพร่าเอื้อนเอ่ยขึ้น ก่อนที่สะโพกผมจะถูกยกลอยขึ้น พี่ทิวกุมสะโพกที่ขึ้นเป็นรอยนิ้มของผมแน่น ก่อนจะทั้งดึงตัวผม พร้อมกับกระแทกตัวเองเข้ามาอย่างแรง

"ฮึก"เจ็บจนร้องไม่ออก ผมอ้าปากค้างนิ่ง ดวงตาเหม่อลอย พี่ทิวโน้มกายลงมาจูบผมอย่างอ่อนหวาน แล้วยิ้มให้

"เข้าไปหมดแล้วล่ะครับ"พี่ทิวจูบแก้มผมหนัก ๆ ด้วยความเจ็บที่เกิดคำบรรยาย ทำให้ผมไม่อาจจะเอ่ยเสียงอะไรออกไป “เอาล่ะ ข้าว หายใจเข้าลึก ๆ”

ผมยังเป็นผม ที่ทำตามคำของพี่ทิว สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อยู่พักเล็ก ๆ ผมเห็นเม็ดเหงื่อผุดพรายบนใบหน้าหล่อเหลา ร่างกายของผมค่อย ๆ ผ่อนคลายลง

“พี่ต่อละนะครับ”พี่ทิวบอกยิ้ม ๆ ก่อนที่จะยกขาผมขึ้นน้อย ๆ แล้วขยับตัว จากที่ช้า ๆ ค่อน ๆ เร็วขึ้น ๆ

จากความเจ็บปวดในตอนแรก แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน  ผมยกตัวขึ้นกอดคอของพี่ทิวไว้แน่น เสียงที่พยายามจะสะกด อั้นเอาไว้ กลับทำไม่ได้อย่างใจคิด

“อ๊ะ อ้า อ้าาา พี่ทิว”ผมครางออกมาไม่หยุด ทั้งที่ตั้งใจจะไม่ร้องออกมาแล้วแท้ ๆ ผมซุกหน้าเข้าไปซอกคอของคนตรงหน้าเพื่อปิดบังเสียงน่าอายพวกนั้น

“อา... ข้าว”พี่ทิวครางชื่อของผมออกมาเบาๆ ความเร็วในการกระแทกนั้นเพิ่มขึ้น มือของพี่ทิวที่กอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมก็ขยับไวขึ้นเช่นกัน

“ข้าว ข้าว.. จะไปแล้ว อ๊ะ อื้อออ”ผมบิดตัวด้วยความเสียวซ่า ความรู้สึกอยากปลดปล่อยประดังเข้าที่ท้องน้อง พร้อมที่จะหลั่งออกมาอีกครั้งหนึ่ง

“ไปพร้อมกันนะ”พี่ทิวดึงตัวผมออก พลิกให้ผมหันหลังให้แล้วโถมกายเข้ามาอย่างแรง

“อ๊ะ อ๊าาาา”

“อาาา”ความอุ่นร้อนพุ่งเข้ามาในตัวผม พี่ทิวทิ้งตัวลงมาทาบทับผมไว้ เสียงหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนดังขึ้นที่ข้างหู “ข้าว เดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำนะครับ”

พี่ชายที่รักของผม ถอนกายออกไป ก่อนจะอุ้มผมขึ้นในท่าเจ้าสาว แล้วพาเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

“ข้าว...”พี่ทิวเรียกผมขณะที่อาบน้ำให้ด้วยเสียงที่เหมือนคุณหมอคุยกับเด็กอนุบาล “ยังไม่วันเกิดข้าวเลยนะครับ...”

“เอาไว้วันเกิดผม พี่ทิวก็ให้ของขวัญผมใหม่แล้วกันฮะ”บ้าจริง พูดอะไรออกไปเนี่ย ผมยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองด้วยความอาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้ยินเสียหัวเราะเบา ๆ จากพี่ทิวอยู่ดี

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ พี่หมอก็พาผมไปนั่งที่โซฟา เอานมอุ่น ๆ กับยาแก้ให้ผมก่อน ก่อนที่ตัวเองจะเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนในห้อง

“เอ... กี่โมงแล้วนะ”ว่าที่นายแพทย์ที่ออกมาจากห้องนอนหันไปมองนาฬิกา ผมเอียงหัวน้อย ๆ อย่างไม่เข้าใจ ปกติพี่ทิวไม่ค่อยจะดูเวลาอะไรสักเท่าไหร่

ผมกอดหมอนนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว ง่วงจังเลยฮะ ผมว่าผมควรจะนอน...

แกร๊ก

เสียงเปิดประตูดังขึ้น เรียกความสนใจจากการนอนของผมไป ผมหันไปมองที่ประตูห้อง ใครกันที่จะมาตอนนี้...

ร่างสูงโปร่งของคนที่คุ้นตาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มนิด ๆ พี่ลมหนาวยกมือขึ้นทักทายผม ก่อนที่จะวางกระเป๋าลง แล้วเดินเข้าไปหาพี่ทิว

ผมรู้แล้วล่ะว่าพี่ทิวมองนาฬิกาทำไม...

พี่ลมหนาวมานี่เอง...

คนสำคัญที่สุด... ยังไงก็ย่อมสำคัญสินะครับ

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 :mew1: :hao6:

มาละค้าา ช็อคกับคะแนนมา เพิ่งฟื้นคืนชีพ 555 เอาพี่ทิวออกมาก่อน ปันปันยังกระดึ๊บไปออก สยองพี่คิตตี้หลาย 555

นำคู่หลักไปแล้วแหะ... (เหรอ) ตั้งใจเขียน 30 ตอนจบ... มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ 555 เราคงได้อยู่ด้วยกันอีกนานเลย...

อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะคะ  :3123: :L2:

พบกันตอนหน้าค้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 16-03-2015 21:35:02
โอ๋ๆ น้องฟางข้าว ไม่คิดมากสิ ที่ขอมีอะไรด้วยคงกลัวเสียพี่ทิวให้ลมหนาวหรอ น่ารักซะจริงๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-03-2015 21:42:16
สงสารข้าวฟ่าง พี่ทิวเป็นคนแบบนี้ต้องทำใจ :hao5:
ช้ำยังไงต้องทนนนนนนน นางเอกมากค่ะลูก
อย่างว่าแหละ พี่ทิวก็ไม่ได้ชัดเจนด้วย
รอตอนต่อไปน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 16-03-2015 22:03:10
พี่ทิวน้องข้าวเข้าใจผิดใหญ่แล้ว.  :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-03-2015 22:11:25
ทิวค้ะ !!! เคลียร์ status ให้น้องฟังด่วนค่ะ

น้องมันจิ้นไกลแล้ววววว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 16-03-2015 22:41:38
กลัวว่าพอน้องโอเคเรื่องบ้านแล้วน้องจะไปจากพี่ทิวเพราะความคิดมาก
ไม่อยากเป็นภาระ พี่ทิวไม่ชัดเจน น้อยเนื้อต่ำใจนี่แหละ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 16-03-2015 22:53:21
ทำไมรู้สึกเขินๆคู่พี่ทิวกับลมหนาว  :o8:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 17-03-2015 08:12:55
โอ้.....พี่ทิวไผ่ช่างเป็นคนที่ตามทัน
ความคิด ทั้งขงตนเองและผู้อื่น จริง สุภาพ
จริงใจ มีความเป็นผู้นำที่ ยืดหยุ่น ไม่แข็งกร้าวจนเกินไปนัก
ขนาดเวลา ......... ยังสอนน้องข้าวทุกขั้นตอน
ร๊ากกกกกก พี่ทิวไผ่น้องข้าว     ชูป้ายไฟ ลมหนาวกับพายุ
รีบมาต่อเร็วๆนะคะ ป้าคอยยยยยยยย :mew3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-03-2015 20:26:48
คู่ต่อไปคิดว่าคงเป็นกิตกับคีตานะคะ 555

// ปันปันกับพี่คิส รอก่อนๆ เอาคู่หลักก่อนได้ไหม TT
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 17-03-2015 23:42:57
คนอ่านรู้ว่าพี่ทิวไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับลมหนาว
แต่น้องข้าวไม่รู้นี่คะ น่าสงสารจัง เสียน้ำตาให้ข้าวเลยเรา  T_T
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 18-03-2015 00:56:44
สงสารข้าว พี่ทิวช่วยทำให้เคลียร์หน่อยสิ!
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 18-03-2015 02:40:04
เด็กน้อยคิดมาก
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: gneuhp ที่ 18-03-2015 10:02:17
พี่ทิว เคลียร์กับน้องให้ชัดเจนหน่อยสิ
ถ้าน้องหนีไปนะ อย่ามาเสียใจละกัน เชอะๆๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: INNAOM ที่ 18-03-2015 22:14:54
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วไม่ชอบปี1 แบบแปลกๆ ไม่อยากให้ลมหนาวคืนพี่ให้น้องเลยอ้ะ(เอ๊ะ = =???)
ไม่รู้สิ ถามว่าสงสารไหมก็สงสาร แต่แบบเหมือนมันยังไม่ถึงที่สุด (คิดไปเองแหละ)
ไม่พอๆ ขอโหดกว่านี้ได้ไหม  :ped149:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: BB-c-TOO ที่ 19-03-2015 16:21:15
สงสารรรรรรฟางข้าว  :mew6: เจ็บปวดน่าดูเลยยยยยย  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-03-2015 21:50:03
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วไม่ชอบปี1 แบบแปลกๆ ไม่อยากให้ลมหนาวคืนพี่ให้น้องเลยอ้ะ(เอ๊ะ = =???)
ไม่รู้สิ ถามว่าสงสารไหมก็สงสาร แต่แบบเหมือนมันยังไม่ถึงที่สุด (คิดไปเองแหละ)
ไม่พอๆ ขอโหดกว่านี้ได้ไหม  :ped149:

สงสารน้องมันเถอะค่ะ 5555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: I-Icezz ที่ 25-03-2015 17:24:55
พี่ทิวววว  ทำให้มันชัดเจนหน่อยสิ  นน้องข้าวคิดไปไกลแล้วน้ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 26-03-2015 12:43:59
แล้วจะเป็นอย่างไงต่อไปหละเนี่ย  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 26-03-2015 21:26:29
รับน้องยังไม่เสร็จเลย ยังจบไม่ได้ คู่หลักยังไม่คืบหน้า  :ling1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: PRiiNCEKiiM ที่ 28-03-2015 09:36:31
น้องข้าวทำไม ลอตู แสหลู จังลูกกกกกก
ไม่เอานะครับ ไม่ดีเลยยยยยยย
ซ่านรู่นได้อีกกกกกกกกกกกกก เกลี๊ยดดดดดดดดดด
45555555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 28-03-2015 12:12:38
ชอบลมหนาวมากกกกกกกกกกก
อยากอ่านคู่หลักแล้วค่ะ

ปล.ทำไมรู้สึกหมั่นไส้ข้าวแบบแปลกๆ
หรือปกติตัวเราไม่ชอบพวกแบ๊วๆ แต่รู้สึกว่าอีกหน่อยข้าวอาจจะเริ่มงี่เง่ากับพี่ทิวกับลมหนาวอ่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: punnie ที่ 28-03-2015 12:23:24
ยังอ่านไม่ทันค่ะ แงง
แต่มาให้กำลังใจคนเขียนก่อน เรื่องนี้สนุกมากจริงๆค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่21 P.14[วิศวะVsเทคนิคฯ] up16/03
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 28-03-2015 14:49:15
19 , ตอนนี้ซึ้งมากก (ก ไก่ไปล้านตัว) คือร้องไห้ตามเลย ปีหนึ่งทำได้ดี คิดแผนง้อได้น่ารักมาก เพลงก็เข้าสุด
20 , โอยยยยย พาร์ท MT นี่คือถึงลมหนาวจะทำใจร้ายกับปีหนึ่งก็โกรธไม่ลงจริงๆ หลงรักลมหนาวไปแล้วทำไงได้ 55
พาร์ทวิศวะนี่ เรียกซึ้งอีกแล้ว จ้า น้ำตาพรากกันเลยทีเดียว ยิ่งตรงที่แปลอักษร
We're Sorry
We want you
We are engineer
Please come back to me  ขอติดแท็ก #ร้องไห้หนักมากก
21 , พี่ทิวเขา อ๊ากกก  :pighaun: กับน้องข้าวไปแล้ว เห็นใจข้าวเหมือนกัน เมื่อไหร่พี่ทิวจะพูดอะไรให้ชัดเจนซักทีนะ
หรือไม่ลมหนาวก็ช่วยพูดอะไรทีดิ อยากให้ข้าวมีความสุขซักที
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-04-2015 03:36:42
วันที่ยี่สิบสอง

(คีตา)

ในที่สุดก็ง้อพี่คืนมาได้ ผมโล่งใจไปเปราะนึงใหญ่ ๆ ละ เหลือแค่นำทีมไปชิงธงมาให้ได้ เท่านี้ก็น่าจะเคลียร์ทุกอย่างไปล่ะมั้ง

ชิงธงปล่อยไปก่อนยังไงก็ต้องรอฟังกติกาจากพี่หนาวก่อนอยู่ดี จะเตรียมตัวอะไรไปก็ไม่รู้จะทำอะไร เพราะงั้น... ก็รอต่อไปละกันเนอะ

ผมมองมือถือที่อยู่ข้าง ๆ ถ้าผมไลน์ไปตอนนี้พี่ ๆ จะตอบผมไหมนะ พี่เกดคงตอบมั้ง โทรไปรับแล้วนี่ แต่... พี่กิตล่ะ จะตอบไลน์ผมไหม

พี่กิตครับ... คำสั้น ๆ ที่ผมพิมพ์ค้างเอาไว้กว่าสิบนาที แต่ไม่กล้าที่จะส่งไป ถ้าเป็นกับคนอื่น ๆ  ผมคงกดส่งไปอย่างไม่ลังเล...

แต่กับพี่กิต ผมกลัว... กลัวว่าเขาจะไม่ตอบ กลัวว่าเขาจะไม่ยิ้มมาให้ ยิ้มที่ดูอ่อนโยน รอยยิ้มที่ตรึงใจของผมเอาไว้ ดวงตาที่มองมาที่สร้างความอบอุ่นในตัวผม

สิ่งที่ผมกลัวคือ กลัวจะเสียมันไป

ครืด

☆Kit Kt ♥ : ☆Kit Kt ♥ sent you sticker

พี่กิตส่งสติ๊กเกอร์ไลน์มา แค่สติ๊กเกอร์อันเดียวทำผมยิ้มกว้างจนหุบไม่ได้เลยเหรอเนี่ย

☆Kit Kt ♥ : อ่านไม่ตอบเหรอครับ น้องคี

☆Kit Kt ♥ : - -

Key tA ♫: ตอบครับบบ พี่กิต เป็นยังไงบ้างครับ

☆Kit Kt ♥ : สบายดี คีล่ะครับ

Key tA ♫: ก็ดีครับ พี่กิตทำอะไรอยู่ครับ

☆Kit Kt ♥ : พี่กินข้าวอยู่ครับ

Key tA ♫: ทานเยอะ ๆ นะครับ

☆Kit Kt ♥ : คีก็อย่าลืมกินข้าวนะครับ

Key tA ♫: ครับผม


พี่กิตเงียบไปแล้ว เหลือแต่ผมที่นั่งยิ้มอยู่ในห้องคนเดียว แค่ได้คุยกันเหมือนเดิมก็ดีใจแล้วล่ะครับ ฮ่า ๆ

เพื่อนหลายคนก็ถามผมนะครับ ว่าชอบพี่กิตเหรอ ผมไม่ใช่เกย์สักหน่อย ถึงจะไปชอบพี่เขา ต้องบอกว่าประทับใจ เหมือนเขาเป็นไอดอลผมมากกว่า ทุกคนก็เคยมีไอดอลในใจกันใช่ไหมล่ะ

ก็แบบนั้นล่ะครับ

พี่ชายที่มีสเน่ห์ในการดึงดูดทุกคนให้เข้าใกล้ ได้พูดคุยด้วยแล้วก็สบายใจ จริง ๆ พี่เทคผมเองคุยด้วยก็สบายใจ แต่พี่เกดเป็นคนที่ไม่ค่อยจะยิ้ม ตามฉบับวินัยโดยกำเนิดล่ะมั้งครับ

แต่พี่เขาก็ใจดีนะ

เอาเถอะ ได้คุยแล้ว ไปหาอะไรกินดีกว่า

ผมหยิบกระเป๋าตังค์ ล็อคห้องแล้วเดินลงไปข้างล่างด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ฮัมเพลงในคอไปด้วย และไม่ลืมที่จะโค้งน้อย ๆ ทักทายป้าเจ้าของหอ

"กินอะไรดีนะ"ผมเดินมองร้านข้างทางไปเรื่อย แอบเบื่อข้าวพวกนี้เหมือนกัน แต่ถ้าไม่กินก็ไม่รู้จะไปหาอะไรกินละ เด็กหอต้องทำใจล่ะครับ

ยังไม่ทันที่จะเลือกได้ว่าจะกินอะไร ตาเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปเห็นคนที่ผมเพิ่งคุยไลน์ด้วยเมื่อกี้นั่งอยู่ไม่ไกล โดยที่ตรงข้ามมีผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาสวยโคตรเลยครับ

คงเป็นเพื่อนพี่กิตล่ะมั้ง แต่หน้าไม่คุ้นเลยแหะ หรือผมรู้จักที่ในคณะไม่ครบทุกคน ? ไม่ดิ สวยขนาดนี้น่าจะเป็นดาวคณะด้วยซ้ำ ผมว่าผมรู้จักดาวเดือนเกือบครบทุกคนที่ยังอยู่ในมหาลัย แต่ก็ไม่คุ้นอยู่ดี

เก็บความสงสัยไว้ก่อนละกัน หาอะไรกินก่อน เดี๋ยวต้องไปซ้อมบาสกับเพื่อนด้วย นึกแล้วขี้เกียจชะมัด

กินข้าวเสร็จ กลับไปนอนเอื่อยอีกพักนึง ก่อนจะเปลี่ยนชุดไปเล่นบาสกับเพื่อน ปีนี้เราจะเอาถ้วยกีฬาบาสเก็ตบอลมาเป็นของคณะให้ได้ เลยต้องขยันซ้อมกันหน่อยล่ะครับ

"ไง มึง มาช้านะ"ปลื้ม เกรียนประจำชั้นปีส่งเสียงทักผม มันเกรียนจริงครับ ทั้งกบาล และสันดานมัน เกรียนแข่งกันไปในตัวคนเดียว

"มาทันก็ถือว่าทันน่า ไม่ต้องมากวนเท้ากูเลย"ผมแยกเขี้ยวใส่มัน แล้ววางของลง วิ่งเหยาะ ๆ รอบสนาม วอร์มร่างกายกันหน่อยครับ จะได้ไม่ปวดกล้ามเนื้อ

"เสาร์นี้ลุงรหัสมึงจะให้ทำอะไรวะ"ไอ้บีเอ็ม เพื่อนในคณะถามขึ้นระหว่างที่ผมยืนยืดเส้นยืดสายอยู่ "พี่เขาแง้ม ๆ อะไรให้สายอย่างมึงบ้างมะ"

"มึงคิดว่าอย่างพี่ลมหนาวจะบอกอะไรวะ"ผมเลิกคิ้วมองเพื่อนพร้อมถามคำถาม "มึกก็น่าจะเดาได้ ถึงเป็นสาย แต่พี่หนาวก็คือพี่หนาว ตาชั่งที่ไม่เอนเอียง"

"ต้องลุ้นเอาเองจริง ๆ สิน้า"บีเอ็มมันกรอกตาอย่างสุดเซ็ง "เอาเถอะ ไปภาวนา บนเจ้าแม่ สวดขอพร ว่ามันจะไม่หินจนกัดไม่ลงดีกว่า แม่ง"

"เจ้าแม่น้ำปลาแท้ตราหอยหลอดน่ะนะ..."ทุกคนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ แล้วพอกันวิ่งเข้าไปในสนามบาสเพื่อซ้อมตามจุดประสงค์เหมือนกับทุกเย็นที่ผ่าน

"เสาร์นี้ผมไม่ว่างหรอกครับ พี่ทิว"เสียงที่คุ้นหูของพวกผมทุกคนดังแว่วเข้าหู ทำเอาผมหยุดนิ่ง "พี่ทิวก็ไปกับข้าวสิครับ อ้อ บอกเขาด้วยนะครับว่าคุกกี้อร่อยมาก"

ชื่อคุ้น ๆ สงสัยจะเป็นพี่ที่พี่หนาวใช้หลอกผมตอนโทรไปหาแน่ ๆ พี่ทิวคนนี้ ใช้ประธานคณะแพทย์ที่ทุกคนให้ความเกรงใจไหมนะ

ช่างเถอะ... เหะ ๆ นั่น พี่กิต เดินมากับเพื่อนที่ผมไม่คุ้นหน้าคนนั้นอีกแล้ว ใครกันวะ โคตรสวยเลย ผมว่าผมจำพี่ส่วนใหญ่ในคณะได้แล้วนะ

"เฮ้ยยย คี"ผมหันไปตามเสียงเรียก ก่อนที่ลูกกลม ๆ สีส้มจะปะทะเข้ากับหน้าผมอย่างจัง จนผมทรุดลงกับพื้น "เหี้ยยย มึง เป็นไงบ้างวะ"

"เจ็บ..."ไม่รู้จะพูดอะไรละ เจ็บจมูกชิบเลย ผมยกมือขึ้นกุมหน้าตัวเอง แม่ง ดาวขึ้นแบบจัดเต็มบนหัว โคตรมึนเลย "ซี๊ดดดด"

เสียงฝีเท้าหนัก ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ผมอย่างไว ฟังดูจากจังหวะการก้าวน่ะ ไม่รู้ล่ะว่าใคร ที่รู้คือตอนนี้ผมโคตรรร ของโคตร เจ็บเลย

"เอามือออก"เสียงทุ้มเอ่ยดังขึ้นจากที่ใกล้ ๆ เสียงฟังดูคุ้นเคยมาไม่น้อย อาจจะไม่คุ้นชิน แต่เสียงนี้มัน ไม่น่ามั้ง "กิต คุณประคองเขาไว้"

"ครับ"เสียงที่นุ่มนวล มาพร้อมกับความอบอุ่นที่โอบตัวผมไว้ พี่กิตจับตัวผมให้ผมพึงร่างพี่เขา "เอามือออกให้พี่หนาวเขาดูหน่อยเร็ว"

พี่ลมหนาวจริง ๆ ด้วย ยังไม่ทันที่ผมจะได้ปล่อยมือ มือผมก็ถูกดึงออกก่อน ใบหน้าขาว ๆ ตาคม ๆ ของลุงรหัสผมยื่นเข้ามาใกล้ ก่อนจะยื่นมือมาจับ ๆ คลำ ๆ ที่หน้าผม

"โอเค ไม่เป็นไรมาก"เสียงที่พูดอาจจะดูเรียบ ๆ แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความห่วงใย พี่หนาวล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าสีเขียวอ่อนออกมา เทน้ำจากในขวดน้ำในกระเป๋าพี่เขามาพอประมาณ บิดหมาดแล้วเอามาซับ ๆ ที่หน้าผม "ยังดีที่เลือดไม่ออก พาเพื่อนของคุณกลับหอไปพัก ผมหวังว่าจะไม่เห็นหน้าไหนอยู่ในสนามนี้ต่อนะครับ"

"ครับ"เพื่อนคนอื่น ๆ คนรับกันอย่างพร้อมเพรียง ไอ้เลเข้ามาพยุงผมขึ้น "ขอบคุณมากครับพี่"

พี่หนาวไม่ตอบรับอะไร เขาลุกขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ ส่วนพี่กิตลุกขึ้นจากพื้นมามองผมอย่างห่วง ๆ ก่อนจะยิ้มให้ผมบาง ๆ

"กลับไปนอนพักนะ คี กินยาแก้ปวดกันไว้ด้วยนะ"พอพูดจบพี่เขาก็เดินออกไป ว่าแต่เพื่อนที่มากับพี่กิตเขาตอนแรกไปไหนแล้วนะ

"ไหวนะมึง"

"อืม..."

พลพรรคทีมบาสของผมพากันแห่ผมกลับมาที่หอ ทำเอาป้าที่ดูแลหอตกอกตกใจไปเลย โอเวอร์ชะมัด ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย

ก็แค่ลูกบาสอัดหน้า

ผมอาบน้ำ แล้วกินข้าวที่เพื่อนซื้อมาไว้ให้เงียบ ๆ คนเดียว ไม่มีรูทเมทก็แบบนี้ล่ะนะ แต่มีก็ต้องมาเกรงใจกันอีก... เกร็งตายกันไปข้าง

☆Kit Kt ♥ : อย่าลืมกินยานะครับ

☆Kit Kt ♥ : นอนพักด้วย

Key tA ♫: ครับบบบ

น่ารักเสมอเลยนะ พี่กิต วันนี้ผมคงได้นอนฝันดี ถึงจะเจ็บตัวไปบ้างก็ตามแน่เลย


ผมเด้งตื่นขึ้นมาเมื่อนาฬิกาปลุกอันที่สามดังขึ้น ยังง่วงอยู่เลย ให้ตายเหอะ แต่ถ้านอนต่อผมได้ไปเรียนสายแน่
ช่าง ไปนอนในห้องเอาก็ได้วะ

พี่เกดรู้บ่นตายเลย แต่เอาเถอะ อัดเสียงมาฟังย้อมเอาก็ได้

"ปวดชะมัด"ผมคลำ ๆ จมูกตัวเองเบา ๆ มันก็ไม่ได้แดงช้ำอะไรหรอก แต่โหนกข้าง ๆ นี่มีช้ำเขียว แรงเยอะชิบเพื่อนกู จมูกก็ปวดด้านในนิด ๆ น่าหงุดหงิด "เอาพลาสเตอร์ปิดไปดีไหมวะ"

ผมลองเอาพลาสเตอร์มาทาบ ๆ ก็พอจะได้อยู่ แปะไปก็ได้มั้ง ผมดึงแปะไปส่ง ๆ ให้บังรอยช้ำเอาไว้ ดีที่ไม่โดนช่วงต้องทำงานดาวเดือน ไม่งั้นเดือนมหาลัยอย่างผมคงหมดหล่อแน่

คว้าเป้แล้วเดินดุ่ม ๆออกจากห้องมาโดยไม่ลืมที่จะล็อกไว้ แต่ลืมล็อกระเบียง... ช่างมัน

"ไอ้พลาสเตอร์ลายชินจังโชว์ก้นนี่คือไรอ่ะ คี"เสียงใส ๆ ที่ได้ยินไม่บ่อย แต่ชินหูดังขึ้นจากด้านข้าง ผมหันซ้าย หันขวาหาต้นเสียงอย่างงง ๆ "ก้มลงมาเด้"

ก้มลงมามองตามคำกล่าว ทำเอาผมอดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้ พี่เกดนั่งอยู่ในรถสีแดงแปร๊ด มือถือกล่องข้าว ส่งยิ้มกวน ๆ มาให้ผม เออ โคตรวินัยแฝงเลย ฮ่า ๆ

"โดนลูกบาสอัดหน้ามาพี่ เลยปิด ๆ ไว้หน่อย"ผมตอบกลับขำ ๆ พี่เกดเลิกคิ้วน้อย ๆ สายตามองผมอย่าฉงน ขณะส่งข้าวเข้าปากเคี้ยวหงุบหงับ ๆ

"แล้วเอาหน้าไปรับลูกบอลไมอ่ะ"เจอคำถามแบบนี้จี๊ดเลย นั่น มียักคิ้วข้างเดียวให้ผมด้วย พี่เทคใครว้า "ล้อเล่นน่า กินข้าวยัง"

"ยังพี่ นี่ว่าจะเดินไปกินอยู่"ผมตอบยิ้ม ๆ พีาเกดพยักหน้ารับแล้วส่งข้าวเข้าปากอีกช้อน "ไปก่อนนะพี่ เดี๋ยวไปกินข้าวไม่ทัน"

"มีข้าวปั้นอยู่ กินมะ"พี่ตัวกลมของผมวางกล่องข้าวลง อื้อหือ กินคั่วกลิ้งในตอนเช้าเนี่ยนะ "อะนี่ จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อกิน"

"พี่เกดเก็บไว้กินเหอะ"ข้าวปั้นของร้านนากิยะซะด้วย พี่กูกินของแพงเหมือนกันนะเนี่ย ถ่อไปซื้อตั้งไกลด้วย "เดี๋ยวไม่อิ่มไม่รู้ด้วยนะ"

"เอาน่า เอาไปกิน ๆ พี่ซื้อมาเยอะ"พี่เทคผมยังคงไม่รามือง่าย ๆ อย่าคิดว่าผมจะรับมาง่าย ๆ นะเออ พี่เกดหรี่ตาลงน้อย ๆ ละ มันทะแม่ง ๆ แล้วแหะ “จะเอาไปดี ๆ หรือจะให้ลง ?”

“ขอบคุณคร้าบบบ”รีบรับเลยครับท่าน ถึงจะไม่ใช่วินัยโดยตรง แต่ดีกรีความโหดในสายเลือดก็ใช่ย่อย ผมไม่สู้ตอนเช้า ๆ แบบนี้หรือ ยอมมม

“ก็แค่นี้”ผมยิ้มแห้ง ให้พี่เทค ก่อนจะโค้งน้อย ๆ แล้วเผ่นออกมาเลย เดี๋ยวได้อะไรมาเพิ่มอีก ไม่เอาน่ะ เกรงใจ ไม่เอานะ เกรงใจ

ได้ข้าวปั้นราคาเกือบเจ็ดสิบบาทมาก้อนนึง  ข้าวเช้าไม่ต้องซื้อละ น้ำหิ้วมา มีพร้อม ไปที่หน้าห้องเลยละกัน ถ้าแวะโรงอาหาร ผมได้ซื้อของติดมือมาอีกแน่

ว่าไปแล้ว คงต้องหาซื้อของไปให้พี่เขามั่งละ มีแต่พี่ซื้อมาเลี้ยง รู้สึกแปลก ๆ

จริง ๆ ถ้าเป็นพี่ผู้ชายคงไม่อะไร แต่พี่เป็นผู้หญิง... ให้ผู้หญิงเลี้ยงก็ทะแม่ง ๆ ยังไงไม่รู้ (เอ่อ... พี่ผมยังเป็นผู้หญิงอยู่เนอะ อืม...)

พี่เกดชอบกินไรว้าาา


คาบแรกวันนี้เรียนเคมีพื้นฐาน วิชาที่อาจารย์บอกให้ใช้ความเข้าใจ แต่ค่อนคณะใช้ความจำ อยากจะเข้าใจนะ แต่ไอ้วงนั่นคืออะไร แล้วพันธะจะมีทำไมเยอะแยะ เชื่อมยาวยืด ชื่อก็ยาว

บ่นไปไม่ได้อะไร ก้มหน้าก้มตาเรียนต่อไปเถอะ

เวลาเรียนมักผ่านไปช้าเสมอ ยกเว้นวิชาจำพวกคอมพิวเตอร์ชิว ๆ นั่งเล่นเกม แต่ถ้าเป็นเวลาพักน่ะ ไวยิ่งว่าความเร็วแสงอีก... กินข้าวเสร็จ หมดเวลาพอดี

เรียนเอาโล่เกียรติยศกันมาจนเย็นกว่าจะได้คลานออกมาจากหลุมที่ลึกทะลุแกนโลก ในที่สุดก็ปลดเปลื้องพันธนาการล้านปีออกจากตัวได้

ตอนแรกก็ว่าจะลากขาเอากระเป๋าไปเก็บแล้วค่อยออกมากินข้าวนะ แต่... เปลี่ยนใจ กินเลยดีกว่า หัวผมจะระเบิดออกมาเป็นตัวอักษรละ

สอดส่องหาร้าวข้าวที่คนน้อย ๆ หน่อย แต่ยังไม่ทันที่จะได้เจอร้านแห่งชะตากรรม ผมก็เห็นไอดอลของผมนั่งอยู่ไม่ไกลซะก่อน
กันผู้หญิงคนเดิม... ใครกันวะ

ผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ พี่เขา ก็จะไปทักนั่นล่ะ ใจนึงคืออยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่อกใจก็อยากคุย อยากได้ยินเสียงของพี่กิต

“อ่าว คี เพิ่งเลิกเรียนเหรอ”พี่กิตทักผม พร้อมกับยิ้มให้เหมือนเคย “เพิ่งเลิกเรียนเหรอ”

“ฮะ พี่กิตเลิกนานแล้วล่ะสิ”ผมทำหน้าบึ้งในที่เขาน้อย  แล้วหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเสไปมองผู้หญิงคนเดียวในที่นี้ เชิงถามนั่นล่ะ

“อ่อ ๆ จริงสิ นี่ น้ำฝน เราจะแนะนำให้รู้จักนะ น้องคีน้องคณะที่เราเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ไง”เธอทำหน้านึกได้ แล้วหันมายิ้มให้ผม “แล้วก็คี นี่น้ำฝน แฟนพี่เอง”

“...”ผมยิ้งค้างไปเลย อะไรนะ... แฟนพี่กิต? “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”

“เช่นกันค่ะ”พี่น้ำฝนยิ้มหวานให้ผม ก่อนจะหันไปหาพี่กิต “หล่ออย่างที่กิตบอกจริง ๆ ด้วย สมแล้วแหละที่ได้เดือนมหาลัย”

“ใช่ไหมล่ะ”พี่กิตยิ้มอย่างอ่อนโยน ยิ้มที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน... “นี่กิตเทรนด์มาเองกับมือเลยนะ”

“จ้า ๆ”

“เอ่อ... ผมไปกินข้าวกันนะฮะ แล้วเจอกันใหม่นะครับ”ชีวิตของผมไม่เคยรู้สึกเป็นส่วนเกิน จนกระทั่งวันนี้... เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึก

นั่นสินะ พี่กิตหน้าตาก็ดี นิสัยก็ดี ไม่มีแฟนสิเป็นเรื่องแปลก ยิ่งแฟนสวยขนาดนั้นยิ่งเป็นเรื่องปกติ

ผมนั่นแหละที่จะตกใจไปทำไม

บ้าจริงคีตา

นายจะรู้สึกใจหายทำไมกัน

นาย... คาดหวังอะไรกันแน่

ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาต่อแล้วค้า อืดเป็นเต่าคลาน ตอนปันปันออกไม่ได้สักที 555 เขียนไม่เดิน เลยปัดมาตอนของคีตาแทน...

// หนีไปนอนแล้วววว ฮือออ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 05-04-2015 06:57:56
น้องคีเพิ่งรู้ตัวว่าคิดไงกับพี่กิตป่ะ เจ็บจี๊ดๆเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 05-04-2015 08:44:59
จะ







สั้น







ไป







ใหน







รอ








นานนนนนนนนนนนนนนนนนนน







มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก







มา







สั้น







แค่







เนี๊ยะ







 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 05-04-2015 10:26:06
โถ คีตา เพิ่งรู้ตัวว่าชอบพี่กิต
แถมอกหักทันทีเลย  T__T
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 05-04-2015 12:53:12
อยากอ่านคู่ลมหนาววววว  :serius2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 05-04-2015 16:54:17
มีแฟนแล้วซะงั้นอ่ะ งี้เราจะทำไงกำลังจิ้นฟินคู่นี้ พี่กิตก็มาเปิดตัวแฟนซะงั้น
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 05-04-2015 20:33:42
สงสารคี
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 05-04-2015 20:45:07
อกหักไม่ทันรู้ตัวเล้ยยย เด็กน้อยยยย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 05-04-2015 21:09:35
 :o12: :sad4: :o12: :sad4: :o12: :sad4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 05-04-2015 22:14:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 05-04-2015 22:21:51
อกหัก(รึเปล่า)ตั้งแต่ยังไม่ได้รักเลย
น่าสงสารรรรรรร หาคนมาดามใจแร้วววว
รอตอนต่อไปน้ออออ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: PRiiNCEKiiM ที่ 06-04-2015 08:35:39
สงสารคีตาๆๆๆ มามะมาให้พี่ดูแล
5555555555555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-04-2015 10:38:23
ลมหนาวโผล่มาหน่อยเดียว พายุนี่หายไปเลย บอกเราทีว่าพระนายเรื่องนี้ไม่ได้เปลี่ยนใช่ป่ะ??
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 09-04-2015 11:37:25
อ่าวววว ววววว :a5: :z3: นี่มันอะไรกันหาพี่กิต?  :angry2:
ตอนแรกๆนึกว่าพี่แกเหมือนจะชอบๆคีอยู่ก่อนซะอีก
แล้วอยู่ๆมาแนะนำแฟนแบบนี้
โอ้ยยย นี่ก็ไม่อยากจะคิดหรอกนะ พี่กิตแอบให้ความหวังคีเหรอ? รู้ไหมคีหวั่นไหว !
ฮึ่ยขัดใจอ้าาา ปอลออยากอ่านตอนของหนาวค่าา มาต่อไวๆน้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 10-04-2015 17:11:14
พี่หนาวยังไม่หลุดแฮะ 5555555

น้องคีย์ค่อย ๆ นะ  วู่วามไปนี่แย่แน่ ๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่22 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up5/04
เริ่มหัวข้อโดย: I-Icezz ที่ 11-04-2015 00:41:27
ง่าาาา  คีนาสงสารรร.....แต่คือ....สั้นง่าาาาาา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-04-2015 02:16:13
วันที่ยี่สิบสาม

(ปันปัน)

น้องมาขอคืนพี่ไปแล้ว โล่งไปได้หน่อยล่ะ งานนี้ แต่งานก็ไปหนักที่ไอ้หนาวเหมือนเดิม เพราะนอกจากที่มันจะต้องวางแผนเตรียมงานให้น้องมาขอธงคืนแล้ว ยังต้องไปกัดกับพวกวิศวะเรื่องพาออกนอกสถานที่อีก

เพื่อนกูเลยไม่มีเวลามานั่งเล่นกับกูเลย

แต่นั่นมันก็ไม่เท่าไหร่ ชีวิตผมไม่ได้มีเพื่อนคนเดียวนี่ มันไม่อยู่ ผมก็ไปอยู่กับคนอื่นได้ ทอม กระเทย ตุ๊ด ดี้ เกย์ ผมอยู่ด้วยได้หมด ไม่มีปัญหา

แต่... ก็ดูจะมีปัญหามาให้ปวดกบาลเล็ก ๆ เหมือนกัน ช่วงนี้

“น้องปันปันครับ เย็นนี้ว่างไหมเอ่ย ไปดินเนอร์กับพี่นะครับ”ไอ้ผู้ชายหน้าสวย ตัวซวยที่มานั่งยิ้มหน้าแฉล้มอยู่ข้างผมทุกวันที่มันว่างนี่คืออะไร

ไม่ตลกนะโว้ย

“อย่าทำหน้านิ่ว คิ้วขมวดอย่างนั้นสิ ไม่รู้หรือไงว่ามันน่าหยิกขนาดไหน”เชี่ยยย กูหนาว กูสยอง เข้าใจกูหน่อยเหอะไอ้คุณคิตตี้

เพื่อนผมที่ปกติจะมานั่งด้วยนี่ หายเกลี้ยงครับ ไอ้พลอยที่อยู่นานสุดยังทนไม่ไหว หนีไปฮาแตกกันหมด ไอ้ตุ๊กตาหมี กุหลาบแดง แม่งมันไม่ได้เข้ากับผมสักนิดเลย

ไม่เลิกเอามาให้กูสักที ให้ตายเหอะ

ไอ้หนาวก็จะฆ่าผมละ โคตรพ่อโคตรแม่หมีที่เอาไปวางไว้ในห้องมัน ทำให้มันไม่มีที่จะนอน แล้วยังโยนสารพัดของไปกองไว้อีก

รู้น่า ว่ามันไม่ดี แต่จะให้เก็บไว้เองมันก็สยองฉิบ คิดดู ถ้าพวกคุณเอาตุ๊กตาเด็กน้อยไว้ในห้องนอน ลืมตาตื่นมาเจอมันยืนจ้องคุณอยู่ตรงหน้า จะรู้สึกยังไง?

ผมรู้สึกอย่างนั้นแหละ

ขืนเอาไปไว้ในห้องผม มีหวังได้ประสาทหลอนจนเข้าโรงบาลแน่

หืม... ไอ้หนาวน่ะเหรอ ปล่อยมันไปสิ เดี๋ยวมันก็จัดการของพวกนั้นเองแหละ ผมรู้ มันทำได้สบาย ห้องพี่ทิวยังว่างอยู่... มั้งนะ

“เมื่อไหร่คุณจะเลิกมาวุ่นวายกับผมซะทีเนี่ย คุณคิส”ผมจ้องหน้าคนที่เข้ามาก่อนกวนในชีวิตผมอย่างหงุดหงิด ทุกวันนี้แม่ง โดนล้อชิบหายเลย เชี่ย

“ปันปันก็ตกลงเป็นแฟนพี่สิครับ”ผมเบ้ปากแล้วหันหน้าหนี เหอะ เพลียไอ้คุณคิตตี้นี่ชะมัด กูไม่ได้ชอบผู้ชาย ยังจะมาตื้ออยู่ได้
ที่สำคัญ... ต่อให้กูชอบผู้ชาย

กูก็ไม่เป็นรับโว๊ยยยยย

สลัดเป็ด ห่า

ไม่โง่ตกลงคบมึงหรอก สัด ยิ่งตามติดล่ะสิไม่ว่า

บ้าชะมัด

เบื่อโว้ยยยย

“พี่รอได้นะครับ ปันปันน้อย”ขนลุกชะมัด ปันปันน้อยเหี้ยอะไร เล็กจนโตไม่เคยมีใครเรียกผมแบบนี้เลยนะ “พี่มีประชุด เดี๋ยวตอนเย็นเจอกันนะครับ”

ชายหนุ่มหน้าหวานขยิบตา แล้วส่งจูบให้ผม ก่อนจะหันหลังเดินฮัมเพลงไป อารมณ์ดีนักนะมึง

แม่ง จะทำยังไงให้มันเลิกตามตูดผมเป็นลูกไก่สักทีวะ (ลูกไก่ที่จ้องเสียบตูดด้วย แม่งงงง)

โยนเรื่องสยองหลายบรรทัดทิ้งไปก่อน เสาร์นี้มีชิงธงรอบแก้ตัวของน้อง ไม่รู้ว่าหนาวมันจะให้ทำอะไรเหมือนกันแหะ ไม่เห็นเรียกประชุมอะไรเลย

อยากรู้ต้องทำไง... ถามดิ ปากมีไว้พูดนี่หว่า

ผมเดิมไปหาไอ้หนาวที่ตึกเรียนของคณะ มันชอบนั่งเล่น นั่งทำงานอยู่แถวนั้นกับน้องหนูวรนุช ที่อื่นมีเยอะแยกไม่นั่ง นั่งแม่งที่นั่นแหละ

เดินหาคนที่ต้องการพบอยู่สักพัก ไม่นานก็เจอ หาไม่ยากหรอก ออร่าของเดือนคณะจับซะขนาดนั้น บวกกับรังสีความเป็นเฮดวินัยอีก

จะบอกว่าน่าเข้าใกล้ หรือน่าหลบไปให้พ้น ๆ ดีวะ

“เฮ้ย หนาว”ผมส่งเสียงทักแล้วเดินเข้าไปหา เคยไปแกล้งมัน โผล่ข้างหลัง โดนหมัดฮุก ปวดเบ้าตาไปหลายวัน เข็ดครับ เข็ด

“ไง ปันปัน”ลนหวานเงยหน้าจากกองงานขึ้นมามองผม ต้องส่งสัปดาห์หน้าทั้งนั้นเลยนี่หว่า รีบทำสัส “ไม่ต้องมามองด้วยสายตาแบบนั้น คิดว่ามีเวลาทำเยอะนักหรือไง”

“เออ ๆ”ผมยกมือยอมแพ้ จริงของมัน เวลาแทบจะไม่มี ไหนจะงาน ไหนจะแลป ไหนจะน้อง ไม่รีบทำ ๆ ให้เสร็จ ๆ ก็ได้ตาแพนด้าวันสุดท้าย ตามหลักของผมแน่ “แล้วมึงเอาไงวะ เรื่องชิงธงรอบแก้ตัว คิดไว้ยัง”

“คิดไว้แล้ว”หนาวมันกระตุกยิ้มมุมปากน้อย ๆ ก่อนจะยักคิ้วให้ผมข้างนึง “เตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมแล้วด้วย”

“ต้องทำไรบ้างวะ”เหี้ยนี่ ทำไรไม่บอกกันสักอย่าง มันน่าเตะฉิบ อมพะนำไว้เพื่อ ? นั่น ๆ ยังมายิ้มขำ ๆ อีก “บอกมาเร็ว ๆ เด่ะ”

“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแหละ”คำตอบกวนตีนฉิบหายเลยว่ะ ผมหรี่ตามองมันอย่างหงุดหงิด “พวกปี 1 ต้องเป็นคนทำ และมีคนอื่นมาตัดสินให้ ไม่ต้องห่วง”

“อะไรของมึงวะ”พูดไม่รู้เรื่อง แม่งคิดจะทำอะไรของมัน

ลมหนาวส่ายหน้าให้ผมน้อย ๆ แล้วก้มหน้าลงไปทำงานต่อ บ่งบอกว่ามันจะไม่บอกอะไรไปมากกว่านี้ ให้ผมรอดูวันจริงเอง

“มีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน”ไม่อยากซักไซ้มาก ผมรู้ว่าที่หนาวมันไม่บอกเพราะกลัวเรื่องจะรั่วไปเข้าหูพวกน้อง ๆ เหมือนที่ปีอื่น ๆ เคยมีมา

ถ้าคนรับจะรู้ก่อนทุกเรื่อง ไม่รู้จะทำและทุ่มเทไปเพื่ออะไร ให้เขามองว่าเป็นละครฉากนึงที่สร้างขึ้น เงียบ ๆ แล้วเดินตามไปเรื่อยก็ผ่านไปวัน ๆ

เหมือนอย่างที่ตอนท้ายของปีที่แล้ว ปีที่ทำให้เพื่อนของผมคนนี้เกือบหลั่งน้ำตาออกมา ทุกอย่างโถมเข้ามาใส่มันจนแทบจะแบกรับกันไม่ไหว โดยที่ตัวต้นเหตุยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ไม่เดือดร้อนอะไร มีแต่พวกเราที่ต้องดิ้นรนกันไป

“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอกน่า ปีนี้ไม่มีทางซ้ำรอยหรอก”หนาวมันยิ้มออกมาบาง ๆ ดวงตาของมันยังฉายแววหม่นหมองอยู่น้อย ๆ “ฉันไม่ปล่อยให้มันเป็นอย่างปีที่แล้วหรอกน่า”

ใช่... พวกเราจะไม่มีทางปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเหมือนปีที่แล้ว

เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง

กับใครหลายคน เรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยในสายตาของพวกเขา แต่กับคนที่ต้องแบกรับสถานการณ์นั้นเอาไว้โดยที่ยังไม่รู้อะไร

มันเป็นอะไรที่เลวร้าย และเพื่อนของผมคนนี้โดนมาแล้ว


นับตั้งแต่วันที่ผมถามไอ้ลมหนาวถึงเรื่องชิงธงรอบแก้ตัว จนวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าต้องทำอะไร แต่อีกเดี๋ยวก็คงได้รู้กันแล้ว มันใกล้ถึงเวลานัดเต็มที

แต่ทำไม ประธานคณะวิชาหลายคนถึงเดินไปเดินมาแถวนี้กันวะ

พวกน้องปี 1 ก็ทยอยกันมาเยอะแล้ว วันนี้พวกเรานัดกันที่สนามฟุตบอล ปีสูงทั้งหลายให้ขึ้นไปอยู่บนอัศจรรย์ ส่วนปีหนึ่งในรวมกันในสนาม

เท่าที่มอง ๆ ก็เหมือนจะมากันครบแล้วนะ ไม่เลว ๆ แต่ประเด็นคือ... ลมหนาวมันยังมาไม่ถึง แล้วพวกประธานทั้งหลายจะมายืนออกันที่ประตูทางเข้าอัศจรรย์ทำไมกันฟะ

“หนาวยังไม่มาอีกเหรอวะ”พลอยมันเดินมากระซิบถามผม โดนทิ้งนัทให้ยืนกอดอกข่มขู่น้อง ๆ อยู่ข้างบน ในตำแหน่งที่น้องแม่ง น่าจะเห็นชัดที่สุดละ

“ยัง แต่น่าจะใกล้แล้วล่ะมั้ง มันไม่เคยไม่ตรงต่อเวลา”เสียงที่ผมพูดไปมันไม่หนักแน่นอย่างเคน ใช่ ไอ้หนาวไม่เคยผิดเวลา มันมักจะมาก่อนใครตลอด

แต่นี่มันใกล้เวลาขึ้นทุกที ทำไมยังไม่มาอีกวะ เหี้ย!

“ขอบคุณที่มากันนะครับ”เสียงที่คุ้นเคยของคนที่พวกผมกำลังรอดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่ร่างสูงโปร่งของเดือนคณะปีสาม ขวัญใจช่างภาพจะเดินเข้ามาพร้อมกับประธานคณะแพทยศาสตร์

อยากจะด่าที่มาโคตรช้า แต่ดูยังไงก็ไม่คุ้มกับการโดนพี่ทิวจวก ไม่ดี ไม่คุ้ม  ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตน้อย ๆ แล้วทรัพย์สินที่ไม่ค่อยจะมี

ผมก็ว่าจะเอ่ยทักไอ้หนาวแหละ แต่เห็นใครอีกคนที่เดินตามเข้ามาพร้อมกับหน้าที่ยิ้มแย้มนั่นแล้ว อยากจะเปลียนเป็นขอส่งใบลาแทน

ไอ้คุณเหี้ยคิตตี้ จะมาทำซากหาอารายธรรมขอมโบราญอะไรแถวนี้ ตอนนี้ วันนี้ เวลานี้ วะ

“อ้าว พี่คิส ไปไงมาไงเนี่ย”ผมกับหนาวหันควับไปมองคนที่ทักไอ้คุณคิสอย่างงุนงง พี่ทิวรู้จักกับคนที่มาก่อกวนชีวิตผมคนนี้ด้วยเหรอ?

“มีธุระนิดหน่อยเลยมาน่า ไม่มีไรหรอก”พี่คิสแกบอกปัดไปยิ้ม ๆ โดยที่สายตาเหล่มาหาผม เหี้ย สยองเว้ย สายตาสื่อความนัยน์นั่นคือไรวะ

“มาจีบเด็กล่ะสิ พี่น่ะ”พี่ทิวพูดแบบรู้ทัน เออ พี่ จัดการมันเลย ให้มันรีบ ๆ กลับไปทำงานของมันเลยพี่ “วันนี้ไม่ทำงานหรือไงกันพี่”

“เคลียร์เรียบร้อยแล้วน่า คนอย่างคิสซะอย่าง”ไอ้คิสยักคิ้วให้พี่ทิวอย่างกวน ๆ แล้วยิ้มออกมาอย่างรู้ทันไม่ต่างกัน “พี่ไม่ยุ่งกับเด็กมึงหรอก ไม่ต้องห่วง”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”พี่ทิวเขาหัวเราะเบา ๆ แล้วเดินเข้าไปรวมกับพวกประธานคณะคนอื่น ๆ ส่วนลมหนาวเดินตรงออกไปหานัท

โดยไม่ลืมจะส่งสัญญาณให้พวกผมออกไปด้วยน่ะเออ เฮ้ย เพิ่งเห็นว่าไอ้พี่ว๊ากตัวแสบมันมาด้วย มาตั้งแต่ตอนไหนกันเนี่ย

“วันนี้มากี่คนครับ”คำถามเดิมที่รู้กัน แต่ไม่ใช่ลมหนาวเป็นคนถาม กลับเป็นไอ้พายุเป็นคนถาม มึงเกี่ยวอะไรกับคณะกูวะเนี่ย

“354 คนครับ/ค่ะ”วันนี้มาครบ ไม่มีใครขาดเว้ย หรือต้องนัดวันหยุดวะ ถึงมากันได้ครบ ปกติแม่งหนีหายกันสนุกฉิบเป๋งเลย

“วันนี้มารวมกันเพื่อทำอะไร รู้กันอยู่แล้วใช่ไหมครับ”หนาวกวาดตามองไปที่น้องในสนาม ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นน้อย ๆ แล้วพูดต่อ “มันเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกคุณแล้ว ผมหวังว่าพวกคุณจะใช้มันให้คุ้มค่าที่สุดนะครับ”

“ครับ/ค่ะ”สีหน้าของเด็กปีหนึ่งเริ่มเครียดเกร็ง แน่สิ ก็หนาวมันเล่นเน้นคำว่า ‘โอกาสสุดท้าย’ เสียงเข้มขนาดนั้น บ่งบอกความเอาจริงเต็มที่

“การชิงธงรอบแก้ตัวของพวกคุณในวันนี้...”หนาวมันเว้นจังหวะให้รู้สึกลุ้นระทึกกันไป มึง ไม่ใช่แค่น้องลุ้น กูก็ลุ้นนะโว้ย “โจทย์สั้น ๆ คือ พวกคุณจะทำอะไรก็ได้ ให้กรรมการทุกคนซึ่งเป็นตัวแทนมาจากทุกคณะวิชายอมรับด้วยเสียงข้างมาก”

พวกประธานทั้งสิบสองคณะวิชาเดินออกมายืนอวดโฉมกันบนแท่นเหมือนมีสปอร์ตไลท์ส่องประกายระยิบระยับ (โอเวอร์ไป) แต่ละคนวางภูมิกันเต็มที่ ถึงจะไม่ได้อยุ่ในชุดนักศึกษาก็เถอะ

โจทย์โหดสัสเหมือนกันนะเนี่ย ก็เล่นให้ทุกคนยอมรับให้ได้ เป็นกูยังคิดไม่ออกเลยว่าจะทำยังไง ยิ่งทุกคนที่ว่านี่เป็นถึงประธานของแต่ละคณะวิชาด้วย

สู้เขาละกัน น้องเอ๋ย

“พวกคุณมีเวลาถึงสี่โมงเย็นคิดว่าจะทำอะไร เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผมและประธานคณะผูตัดสินทุกคนจะมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้ง เข้าใจตรงกันนะครับ”

“ครับ/ค่ะ”เป็นน้องได้แต่ตอบรับ ห้ามปฏิเสธ ทำใจหนัก ๆ กับโจทย์โหด ๆ ต่อไปนะหนูน้อยทั้งหลาย

พวกผมทั้งหมดเดินกลับเข้าไปใต้อัศจรรย์ ดีที่วันนี้แดดไม่ร้อนเท่าไหร่ ปดติถึงจะเป็นแปดโมงเช้า แต่แดดของราชอาณาจักรสยามไม่เคยแคร์ใครอย่างที่รู้กัน

“ถ้าแบบนี้ ก็ว่างจนถึงสี่โมงเย็นใช่ไหม น้องหนาว”อยู่ ๆ ไอ้คุณคิตตี้ก็ถามขึ้น ผมแม่งเสียงสันหลังพิกล ๆ “น้องปันปัน ไปเที่ยวกับพี่นะครับ”

“ไม่!”ผมปฏิเสธเสียงแข็ง ดีที่คนไปกันเกือบจะหมดแล้ว เหลือกันแต่พวกเราเอง งั้นผมจะซัดหน้าสวย ๆ ตรงหน้าให้หงายไปเลย

“ก็ไม่มีอะไรต้องทำนี่ปัน ไปเที่ยวฟรีก็ไม่เสียหายอะไร”พลอยเอาศอกมายันผมเบา ๆ อย่างหยอก ๆ “ไปเหอะ ดีกว่าอยู่ว่าง ๆ น่า”

“ไม่”ผมยังยืนยันคำเดิม เรื่องอะไรจะไป อยู่กับคนแบบนั้นปวดหัวตายห่า ไม่มีทางเด็ด ๆ

“ไปเที่ยวผ่อนคลายสักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรไม่ใช่เหรอ ปันปัน”คราวนี้เป็นพี่ทิวพูด ตาดวงตานั่นมันอะไร ข่มขู่ ไล่ให้ไป หรืออะไรวะ

ส่วนคุณเพื่อนที่น่ารัก มึงคิดจะช่วยกูสักหน่อยไหม ยืนกลั้วหัวเราอยู่นั่นแหละ แล้วมึง ไอ้ว๊ากวิศวะ หัวเราะให้มันน้อย ๆ หน่อยเหอะ

ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบปฏิเสธไปอีกรอบ พรรคพวกที่รักยิ่งของผม ก็พากันยันผมให้กับไอ้คุณคิส แล้วโบกมือมาให้กันอย่างเริงร่า

ส่วนคนที่ลากผมไปเที่ยวน่ะนะ ยิ้มกว้าง แล้วโบกมือกลับให้อย่างรื่นเริงไม่ต่างกัน

ให้ตายเหอะ ช่วงนี้ดวงโคตรตกต่ำเลย บัดสบที่สุด

สุดท้ายผมก็โดนลากมาเที่ยวจนได้ จริง  จะต่อยสักสามสี่หมัดแล้วกลับไปนอนก็ได้ ถ้าไม่ติดว่ามีข้อความจากใครคนนึงส่งมา...

ต้องบอกไหมว่าใคร? ที่ใหญ่พอที่จะมาข่มขู่ผมได้? ไม่ผิดหรอก พี่ทิวนั่นแหละ

จริง ๆ เขาก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนักหรอก ก็เป็นลูกผู้มีอิทธิพลธรรมดา แต่สายตาสังหารกับคำสวดที่เฉ่งได้ทั้งวันทั้งคืนนั่นน่ะ ไม่ธรรมดา

โดนต่อยก็แค่เจ็บ แต่โดนสวนนี่ นอกชาหูจะชา ตาจะง่วงแล้ว ไอ้คำทั้งหลายทั้งมวลที่ก้องในหัวก็ ฮึยยย ไม่ไหวหรอก นอนไม่หลับไปหลายคืนเลย

ยอมแพ้โดยดุษฎี

ผมโดนคุณคิสลากไปไหนมาไหนตั้งแต่เช้ายันบ่าย กว่าจะได้กลับมามหาลัย คือเข้าใจกันใช่ป่ะว่าผมเป็นผู้ชาย มันก็เป็นผู้ชาย จะไปเดินห้างเลือกเสื้อผ้ามันก็ใช่ที่ ไปนั่งสวนสาธารณะก็อุบาทว์ลูกตาชาวบ้าน จะให้ไปกินอาหารในภัตตาคารหรู ๆ ก็สยึมกึ๋ย
คนที่เห็นฝันร้ายตายห่า

กลับมาถึงใต้อัศจรรย์ที่ห้องรับรอง ผมเห็นพี่ทิว ไอ้หลาว ไอ้พายุ แล้วก็ใครอีกคนนึงนั่งกินขนม ดื่มน้ำอะไรสักอย่างกันอยู่ (ไม่ใช่น้ำชาแน่นอน หนาวมันไม่กินน้ำชา ยกเว้นชานมเย็น) อีกคนนั่นน่าจะเป็นน้องฟางข้าวที่หนาวเคยเล่าให้ฟังมั้ง นั่งข้างพี่ทิวด้วยนิ

“กลับมาแล้วสิมึง”ไอ้พลอยเดินเข้ามาทางข้างหลัง มือมันตะปบเข้าที่เอวที่ไม่ค่อยจะมีของผม “เป็นไง โดนมายัง เจ็บมะ ยังดูเดินสบาย ๆ อยู่เลยนิ”

“คิดไรของมึง กูไม่ได้ไปม่านรูดนะเว้ย”ผมดึงมือเพื่อนสาวที่ห้าวเดินหญิงออก แล้วหันไปผลักหัวแรง ๆ ไอ้ทอมงี่เง่านี่ “กูกับเขาไม่ได้เป็นไรกันสักหน่อย”

“เหรอออ เห็นเขาตามตื้อมาจะเป็นเดือนละ ไม่สนใจหน่อยหรือไงวะ”นัทที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจ เดินเข้ามาถามมั่ง “ใจอ่อนแล้วยอม ๆ ไปเหอะ เขาก็ดูเป็นคนดีนะ”

“กูไม่ใช่ผู้หญิงนะเว้ย ยอมห่าไร”ผมแยกเขี้ยวใส่พวกมันสองคนแล้วเดินเข้าไปในห้องรับรอง “จะถึงเวลาแล้วนิ หนาว เอาไงต่อ”

“เตรียมขึ้นไปข้างบนได้แล้วล่ะ คนที่เหลือก็ทยอยกันมาแล้ว เดี๋ยวพวกเราขึ้นไปแสตนด์บายกันก่อนเลย”หนาวมันหยิบคุกกี้บนโต๊ะเข้าปากอีกชิ้นแล้วลุกขึ้นยืน

“คุณจะขึ้นไปเลยใช่ไหม”พายุมันเงยหน้าขึ้นมาคุยกับหนาว ไอ้หนาวไม่ตอบอะไร แต่พยักหน้ารับให้เป็นอันรู้กัน “งั้นเดี๋ยวผมขึ้นไปเลย”

“คุณนั่งรออยู่ในนี้ก่อนก็ได้ ไว้ค่อยขึ้นไปพร้อมพี่ทิว”เฮ้ ๆ พูดด้วยความเป็นห่วงหรือไม่อยากเห็นหน้ากันวะนั่น หน้าเพื่อนผมนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ นิ่งสนิท “ข้างบนมันไม่ได้เย็นเหมือนข้างล่างนี่หรอกนะครับ”

“เรื่องทนแดด ทนฝน วิศวะเราเชี่ยวชาญกว่าคนที่อยู่แต่ในห้องแลปอย่างพวกคุณเยอะ”พายุมันยิ้มยียวนให้กับเฮดวินัยของพวกผม แล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ “ให้นั่งอยู่เฉย ๆ แบบนี้มันใช่วิสัยของพวกเราซะที่ไหนกัน”

“ต้องใช้แรงงานกลางแดดสินะ ถึงเป็นพวกคุณน่ะ”ไอ้หนาวแขวะกลับอย่างไม่คิดจะยอมแพ้ สู้ สู้เขาเลยมึง อย่าให้มันได้ใจฝ่ายเดียวนะเว้ย

“ถึงสมเป็นชายแท้ไงครับ คุณ”แม่ง มีขยิบตาให้ด้วย สีหน้าของไอ้หนาวเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงเล็กน้อย ทำเพื่อนกูอารมณ์เสียจนได้

“อย่าเถียงกันสิ”เสียงดุ ๆ ของพี่ทิวไผ่ขัดขึ้นก่อนจะเกิดสงครามขึ้นมา “อายคนอื่นเขาบ้าง เถียงอะไรกันเป็นเด็กอยู่ได้”
เอ่อ... ในนี้มีแต่พวกเรา ให้อายใครวะครับ คุณทิวไผ่ที่เคารพรัก

“อย่าไปใส่ในเลยนะพี่คิส สองคนนี้ก็ทะเลาะกันแบบนี้ล่ะ”อ่าว เฮ้ย ยังไม่กลับไปหลุมตัวเองอีกเหรอวะ เชี่ยนี่

“วิศวะกับเทคนิคก็แบบนี้ ตอนรุ่นที่พี่เรียนอยู่ยิ่งกว่านี้อีก มองหน้ากันก็จะซัดกันแล้ว พี่ชินแล้วล่ะ”คุณคิตตี้ตอบกลับพร้อมหัวเราะออกมาเบา ๆ “เป็นสีสันดีออก”

“อีกสักพักจพกลายเป็นสีเลือดเอาน่ะสิครับ เฮ้อ”ประธานคณะแพทย์ส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างระอาใจ “เอ้า ไปได้แล้ว เดี๋ยวก็สายหรอก”

“ครับ”องคนนั้นตอบรับพร้อมกัน แล้วเดินออกจากห้องรับรองขึ้นไปข้างบนทันที ส่วนผม ไม่ต้องถาม รีบขึ้นตามไปอยู่แล้ว ไม่อยู่กับตัวที่ลากไก่ลงไปกินในถามแถวนี้แค่สองคนหรอก

แค่นี้ก็หนาวไปทั้งตัวและหัวใจละ

สี่โมงพอดีเป๊ะ ทุกคนมาครบทั้งพี่และน้อง คนมากันเต็มอัศจรรย์ ไม่รู้ว่ามาจากไหนกันเยอะแยก ที่มอง ๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นคณะเทคนิคการแพทย์ของเรานี่ล่ะ แต่ก็มีคณะอื่นขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน

หนาวกับพายุเดินไปบนแท่นปะรำ ที่ไม่รู้เอามาตั้งกันตอนไหน ใครใช้ให้พวกมันยืนด้วยกันวะ เดือนกับเดือน ออร่ากระจาย ดับกันเป็นแถบ ไม่เห็นใจคนหน้าคมตัวดำอย่างกูบ้างเลย ไอ้พวกคนขาว

ว่าแต่มันญาติดีกันถึงขนาดไปยืนคู่กันได้แล้วเหรอวะ? หรือใครชักนำ?

“หวังว่าจะพร้อมกันแล้วนะครับ”กวาดตามองตามฉบับนั่นล่ะ ผมมองลงไปในสนาม น้องนั่งกันอยู่ครบ แล้วมีอุปกรณ์อะไรกันมาด้วย

ไวใช่ย่อยนี่ เวลาน้อยนิด แต่จะทำออกมาในรูปแบบที่มีอุปกรณ์ช่วย กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะออกมาเป็นยังไง

“ถ้าพวกคุณพร้อมแล้ว ก็เชิญ”พายุมันผายมือเชิงให้น้อง ๆ เริ่ม มึงมาเสือกอะไรคณะกูนักหนาวะ เหี้ยนี่ ไม่ใช่แค่ผมเหล่มัน แต่พวกเราทุกคนยกเว้นไอ้หนาวเหล่มันหมด

เสือกจริงนะมึงน่ะ

เสียงกลองรัวดังขึ้น ก่อนที่น้องจะกระจายเป็นกลุ่ม ๆ นับรวม ๆ แล้วได้สิบสองกลุ่มพอดี คิดจะเลียนแบบแปลอักษรพวกวิศวะคราวที่แล้วหรือไง

เสียงกลองหยุดลงพร้อม ๆ กับที่พวกน้องมันนั่งย่อลงไป ทุกอย่างเงียบไปอึดใจ ก่อนที่เสียงกลองจะดังขึ้นอีกครั้ง พน้องมันลุกขึ้นพร้อมกับร้องเพลงบูมประจำมหาวิทยาลัยประสานกันก้อง

หลังจากจบเพลงบูมของมหาลัยแล้วน้องนั่งหมดก็นั่งย่อลงไปอีกครั้งนึง ลุก ๆ นั่ง ๆ ปวดขากันตายห่า

ตึง ตึง

น้องกลุ่มนึงเด้งตัวลุกขึ้น

ตึง ตึง

พวกมันกางป้ายไวนิลออก เป็นตราประจำคณะแพทยศาสตร์

ตึง ตึง

เสียงเพลงบูมประจำคณะแพทย์ดังขึ้นจากในสนาม ผมแอบเห็นไอ้หนาวมันเบิกตาขึ้นนิด ๆ ส่วนพี่ทิวไผ่นี่ ปรบมือออกมาเบา ๆ เลยทีเดียว

ทุกอย่างมันวนลูปไปอยู่แบบนี้ พอร้องเพลงบูมคณะนึงจบ น้องมันก็ย่อลงไป โดยที่ยังกางไวนิลนั่นอยู่ แล้วอีกกลุ่มก็จะยืนขึ้นกางป้ายไวนิลโดเรียงจาก แพทย์ เภสัช ศิลปะศาสตร์ นิเทศ ถาปัตย์ มนุษย์ ครุ นิติ บริหาร กายภาพ วิศวะ และเมดเทคปิดท้าย ก่อนจะร่วมกันร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัย

“ขอบคุณครับ/ค่ะ”เสียงยังคงไม่ตก นั่น กูเห็นไอ้หนาวมันยกยิ้ม ตามันก็ประกายความพึงพอใจ เป็นกู กูก็พอใจวะ ทำได้ไม่เลวกันเลย เวลาเท่านี้ แต่ทำได้ดีไม่น้อย

ไม่เด่ะ ทำได้ดีเลยต่างหาก

พวกปีหนึ่งมาเรียงแถวตอนกันอีกครั้ง หลังจากจบการแสดงไป เหงื่อไหลซึมกันออกมาเป็นแถว กลางสนามในเวลาเย็น ก็ร้อนไม่น้อยหรอก ผมเคยยืนแบบนี้เหมือนกันตอนปีหนึ่ง

บอกเลยว่า... ร้อนเหี้ย

หนาวมันเดินขึ้นปะรำไปอีกรอบแล้ว คราวนี้ฉายเดี่ยว ไอ้พายุไม่ตามขึ้นไปเสือกด้วย ผมเหล่ไปมองกาฝากที่เกาะติดมาแต่เช้า ที่นั่งยิ้มอยู่ข้างหลังผม แม่ง เมื่อไหร่จะไปสักทีวะ

“พยาบาล ดูแลเพื่อนคุณด้วยครับ”ลุ้นกันชิบหายแล้วน้อง ๆ น่ะ มึงรีบ ๆ เข้าประเด็นเลยเหอะ กูลุ้นเหมือนกัน “การตัดสินว่าพวกคุณจะได้ธง หรือไม่ได้ธงคณะไป ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม หลังจากนี้ตัวแทนของแต่ละคณะวิชาจะมาประกาศผลกันเอง ผลที่ออกมาจะเป็นกลางที่สุด ผมหวังว่าจะไม่มีประเด็นอะไรที่ออกมาให้พวกผมต้องข้อครหานะครับ

ขอย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีการเตี๊ยมหรือคิดจะกลั่นแกล้งใด ๆ หากพวกคุณไม่ได้ธงคณะไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวพวกคุณ และการตัดสินใจของคณะกรรมการนะครับ”

“ครับ/ค่ะ”

เอาแล้วเว้ย งานนี้จะได้ไม่ได้วะ หนาวแม่งเล่นยืมมือทุกคณะมาแบบนี้ มันโหดสัสมาก กะว่าถ้าน้องแม่งไม่เต็มที่ จะเอาให้อายไปทุกคณะเลยสินะ

อะไรไม่รู้ แต่ตอนนี้กูลุ้นฉิบหายเลยโว้ยยยยย

“ลุ้นเหงื่อตกเลยนะครับ น้องปันปัน มา พี่เช็ดหน้าให้นะครับ”

“ไม่ต้อง!”สัด ไอ้ลูกแมวเวร ไปนั่งที่มึงเลย กูหมดอารมณ์ลุ้นเลยแม่ง

ใครก็ได้เอาไอ้คิตตี้ไปเก็บในถังขยะติดเชื้ออันตรายทีเหอะ!!

กราบ!

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

เอาพี่เสี่ยงกับน้องปันมาเสิร์ฟแล้วค้า 5555

เขียนเอง หนาวเอง  :mew2:

เอาเป็นว่า... สุขสันต์วันสงกรานต์ สุขสันต์วันปีใหม่ไทยนะคะ ทุกคน ไม่มีตอนพิเศษจะมอบให้ แต่มีตอนหลักมาต่อให้นะคะ แหะๆ

//หนีไปปั่นต่อ พยายามทำสต็อกตอน จะได้อัพไวๆกับเขาบ้างอยู่ค้า

 :katai4:  :katai4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 14-04-2015 02:47:33
บอกเลยว่าอลังการมาก เวลาแค่นั้นแต่จัดเต็มทุกคณะนี่ไม่ง่ายเลยนะ ว่าแต่ลมหนาวกับพายุไปญาติดีกันตอนไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 14-04-2015 04:09:48
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: actionmarks ที่ 14-04-2015 04:23:28
เดินเรื่องช้าจังเลย เข้าใจจะว่ามันเป็นพล็อตที่วางไว้ เข้าใจว่ากิจกรรมมันเยอะ แต่มันเยอะไปมั๊ยอ่ะ อ่านแล้วน่าเบื่อมากเลย

เหมือนไม่คืบหน้าเลย ไม่ได้ใจร้อนนะ แต่มันไม่ค่อยจะกัดกันเลย คู่หลักอ่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 14-04-2015 07:14:09
จะสงสารปันปันก็สงสารไม่สุดอะ
ฮาาาาาาาาาาาาา พี่คิสนี่ก็พยายามเหลือเกิน
รอตอนต่อไปน้าาา
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 14-04-2015 07:55:47
ปันปัน หนูก็ยอมๆ พี่คิตตี้ เขาไปเหอะลูก


นอกจากพี่คิตตี้แล้ว ในโลกนี้ก็จะไม่มีใครมองเห็นความน่ารักมุ้งมิ้งของหนูแล้วนะ



ถ้าหนูอยู่กับพี่คิตตี้ ป้ารับรอง  ว่าหนูจะมีความสุขมาก



เพราะพี่คิดป๋ามากกกกก    ทุ่มเทสุดๆ



กรี๊ดดดดด พี่ทิวน้องข้าว ก็มา :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-04-2015 08:13:18
555555 ปันปัน แกน่าสงสารนะ แต่ชั้น ฮา มากกว่าอ้ะ

คิดถึงตอนรับน้องแหะ อ่านเรื่องนี้ กิจกรรมเอยะจิง สนุกจิง เหนื่อยจิง

แต่มีความสุขที่ได้ทำ ขอบคุณคนเขียนจ้า เรานึกถึงรุ่นพึ่ รุ่นนัองเลยอ้ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-04-2015 09:11:54
เดินเรื่องช้าจังเลย เข้าใจจะว่ามันเป็นพล็อตที่วางไว้ เข้าใจว่ากิจกรรมมันเยอะ แต่มันเยอะไปมั๊ยอ่ะ อ่านแล้วน่าเบื่อมากเลย

เหมือนไม่คืบหน้าเลย ไม่ได้ใจร้อนนะ แต่มันไม่ค่อยจะกัดกันเลย คู่หลักอ่ะ

อยากเจอคู่หลักกัดกัน ตอนหน้า ตอนถัดไปได้สมใจค้า พัฒนาแบบเกือบจะกระโดด ^^ // ตอนนี้เน้นไปที่คู่อื่นบ้างน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 14-04-2015 10:26:25
 :impress2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 14-04-2015 14:12:48
มันหลายตอนแล้วรึเปล่า หรือว่าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องแบบหลาย ๆ คู่ไปพร้อม ๆ กันจะได้ทำใจรออ่านให้จบทีเดียว  ส่วนตัวไม่ชอยการกระจายบทที่เยอะ ๆ พอกลับมาต่อนี่คือลืมอ่ะ นึกว่าจะกลับไปที่ลมหนาว พายุ แต่ก็ไม่ใช่
รออ่านทีเดียวดีกว่าค่ะ
ความเห็นส่วนตัวค่ะ ถ้าไม่พอใจก็ขอโทษด้วย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 14-04-2015 14:21:54
น้องทำได้ดีอ่ะนี่ก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน
อยากอ่านคู่หลัก ,แต่คู่กิตคีก็ยังไม่เคลีย งืออ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-04-2015 14:33:09
มันหลายตอนแล้วรึเปล่า หรือว่าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องแบบหลาย ๆ คู่ไปพร้อม ๆ กันจะได้ทำใจรออ่านให้จบทีเดียว  ส่วนตัวไม่ชอยการกระจายบทที่เยอะ ๆ พอกลับมาต่อนี่คือลืมอ่ะ นึกว่าจะกลับไปที่ลมหนาว พายุ แต่ก็ไม่ใช่
รออ่านทีเดียวดีกว่าค่ะ
ความเห็นส่วนตัวค่ะ ถ้าไม่พอใจก็ขอโทษด้วย

ช่วงนี้ยกตอนให้คู่อื่นเท่านี้ล่ะค่ะ ที่เหลือจะเป็นคู่หลักยาว ๆ คู่อื่นจะมาอีกรอบเป็นตอนยาวๆหลายตอนติด ค่ะ ไม่มาเป็นตอนเดียวๆแล้ว(อีกพักใหญ่) ระหว่างนี้อาจจะเห็นการพัฒนาแค่คู่ของปันปันกับคู่หลักนะคะ

ถ้าสะดวกใจอ่านหลังเขียนจบก็ได้เช่นกันค่ะ คงประมาณปีสองปีค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 14-04-2015 16:34:57
                                                                      ขอคอมเม้นนิสนึ่ง

                                          คือนี่ก็ตอนที่ 23 เข้าไปแล้วอ่า กิจกรรมรับน้องยังไม่จบเลย

                     คือเนื่อเรื่องมัน เรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปมั๊ยอ่านมาตั้งนานจนเริ่มจะเฉยๆไปแล้วอ่ะ ไม่มีอะไรให้ลุ้น หรือว่าอะไรยังไง

                                                          ขอบอกตรงๆเลยนะ  :seng2ped:

          แต่ก็จะรอติดตามอยู่รอดูว่าเมื่อไหร่บทของ พระนาย จะเด่นชัดเเจ่มแจ้ง สักที จะอดทนติดตามต่อไปอีกหน่อยแล้วกัน

                                ปล. จากความรู้สึกส่วนตัว แต่ก็ไม่รู้ว่าพลอตเรื่องไว้ยังไง กี่ตอนจบ ยังไงก็สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-04-2015 19:22:46
ชอบอ่ะะะะ เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
สนุกจนวางไม่ลงเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 14-04-2015 20:53:04
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: actionmarks ที่ 15-04-2015 00:56:18
มันหลายตอนแล้วรึเปล่า หรือว่าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องแบบหลาย ๆ คู่ไปพร้อม ๆ กันจะได้ทำใจรออ่านให้จบทีเดียว  ส่วนตัวไม่ชอยการกระจายบทที่เยอะ ๆ พอกลับมาต่อนี่คือลืมอ่ะ นึกว่าจะกลับไปที่ลมหนาว พายุ แต่ก็ไม่ใช่
รออ่านทีเดียวดีกว่าค่ะ
ความเห็นส่วนตัวค่ะ ถ้าไม่พอใจก็ขอโทษด้วย

ช่วงนี้ยกตอนให้คู่อื่นเท่านี้ล่ะค่ะ ที่เหลือจะเป็นคู่หลักยาว ๆ คู่อื่นจะมาอีกรอบเป็นตอนยาวๆหลายตอนติด ค่ะ ไม่มาเป็นตอนเดียวๆแล้ว(อีกพักใหญ่) ระหว่างนี้อาจจะเห็นการพัฒนาแค่คู่ของปันปันกับคู่หลักนะคะ

ถ้าสะดวกใจอ่านหลังเขียนจบก็ได้เช่นกันค่ะ คงประมาณปีสองปีค่ะ

หืม บอกแบบนี้ไม่อยากอ่านเลยอ่ะ อีกปี สองปี ถึงจะจบ ถ้าเป็นแบบนั้นอ่ะนะ

คู่หลักหลาย ๆ ตอนติดนี่็ปกตินะ แต่คู่รองๆ ไม่ต้องเน้นมากก็ได้นะ เอาแค่พองาม

ปกตินี่แค่รับน้องมา 20 ตอนนี่ก็นานเกินทนละ ทำให้เรื่องน่าเบื่อ ไม่น่าติดตามเลย

มาต่อทีไรก็เหมือนเดิม กิจกรรมไม่จบไม่สิ้นสักที รับน้องแค่ 5 ตอนนี่ก็ว่าเยอะแล้วนะ

แต่เรื่องนี้เน้นมากกกกกกกกกกก เก็บทุกรายละเอียดเลย

ไปออกค่าย งอนกัน กัดกันบ้างยังจะดีกว่า 
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 15-04-2015 04:29:15
มันหลายตอนแล้วรึเปล่า หรือว่าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องแบบหลาย ๆ คู่ไปพร้อม ๆ กันจะได้ทำใจรออ่านให้จบทีเดียว  ส่วนตัวไม่ชอยการกระจายบทที่เยอะ ๆ พอกลับมาต่อนี่คือลืมอ่ะ นึกว่าจะกลับไปที่ลมหนาว พายุ แต่ก็ไม่ใช่
รออ่านทีเดียวดีกว่าค่ะ
ความเห็นส่วนตัวค่ะ ถ้าไม่พอใจก็ขอโทษด้วย

ช่วงนี้ยกตอนให้คู่อื่นเท่านี้ล่ะค่ะ ที่เหลือจะเป็นคู่หลักยาว ๆ คู่อื่นจะมาอีกรอบเป็นตอนยาวๆหลายตอนติด ค่ะ ไม่มาเป็นตอนเดียวๆแล้ว(อีกพักใหญ่) ระหว่างนี้อาจจะเห็นการพัฒนาแค่คู่ของปันปันกับคู่หลักนะคะ

ถ้าสะดวกใจอ่านหลังเขียนจบก็ได้เช่นกันค่ะ คงประมาณปีสองปีค่ะ

หืม บอกแบบนี้ไม่อยากอ่านเลยอ่ะ อีกปี สองปี ถึงจะจบ ถ้าเป็นแบบนั้นอ่ะนะ

คู่หลักหลาย ๆ ตอนติดนี่็ปกตินะ แต่คู่รองๆ ไม่ต้องเน้นมากก็ได้นะ เอาแค่พองาม

ปกตินี่แค่รับน้องมา 20 ตอนนี่ก็นานเกินทนละ ทำให้เรื่องน่าเบื่อ ไม่น่าติดตามเลย

มาต่อทีไรก็เหมือนเดิม กิจกรรมไม่จบไม่สิ้นสักที รับน้องแค่ 5 ตอนนี่ก็ว่าเยอะแล้วนะ

แต่เรื่องนี้เน้นมากกกกกกกกกกก เก็บทุกรายละเอียดเลย

ไปออกค่าย งอนกัน กัดกันบ้างยังจะดีกว่า 

กำลังจะจบช่วงรับน้องละคะ ^^' เหลือแค่วิศวะให้ธงกับออกไปข้างนอกปลดว๊าก (ถ้าอยากอ่านกัดกันก็อยู่ช่วงๆนี้ล่ะค่ะ)

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ (ส่วนที่บอกว่ากว่าจะจบอีกปีสองปี เพราะตัวเราเขียนช้าค่ะ ยอมรับ เว้นนานกว่าจะมาต่อแต่ละตอน กว่าจะจบจริงคงอีกนาน) และส่วนที่เน้นช่วงรับน้องเพราะวินัยจริงๆจะมีบทบาทที่รับน้อน่ะค่ะ อาจจะมองว่า ถึงปลดก็เป็นวินัย แต่บทบาทจริงๆจะลดลงไปค่อนข้างเยอะค่ะ หากทำให้เบื่อก็ขออภัยด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 15-04-2015 10:59:08
รอคู่หลักจร้าาาาาาาาาาาาาาา
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: poppysrn ที่ 15-04-2015 19:47:14
เค้าให้กำลังใจไรท์นะ สนุกดีค่ะ
เข้าใจว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ยาวมากๆด้วยเลยมีรายละเอียดเยอะ แต่เราว่าโอเคนะ
คือเรายังไม่ได้เข้ามหาลัยเวลาอ่านเกี่ยวกับการรับน้อง
ก็ไม่ค่อยเข้าถึงอารมณ์ของการเป็นปี1กับพี่ว๊ากพี่วินัยเท่าไหร่
แต่เรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจตัวละครทุกตัวว่ารู้สึกยังไง (ตอนที่น้องง้อพี่เรานี่น้ำตาไหลเลย5555)
แล้วเหตุการณ์ก็สมเหตุสมผลนะสำหรับเรา เราว่าไม่น่าเบื่อ

สนุกแล้วก็ชอบมากๆๆ ติดตามค่ะ รออ่านเรื่อยๆค้าา

 :mew3: :mew1: :mew3: :mew1: :mew3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 16-04-2015 09:00:17
อือม์.......โอเคเห็นหลายคอมเมนท์วิจารณ์
เราคิดแบบนี้นะ
เรื่องนี้ดำเนินโครงเรื่องแบบให้ดีเทลของการรับน้องมากๆ
คือเน้นการรับน้องกับการเติบโตของตัวละคร+ความสัมพันธ์ุระหว่างตัวละคร
เนื้อหาก็กระจายเพราะว่ามีหลายคู่
สไตล์การเขียนของคุณ midnight ก็เป็นแบบเรื่อยๆ
ไม่ใช่เป็นนิยายหรือสไตล์การเขียนประเภท Fast pace
ยิ่งช่วงหลังๆคนเขียนมีป่วยการอัพนิยายถึงไม่บ่อยเท่าเดิม
ก็เข้าใจทั้งคนเขียนและคนอ่าน
ตอนนี้หลายคนบ่นเรื่องเนื้อเรื่อง(หลายคู่) การดำเนินเรื่อง(เอื่อย)
คือเหมือนที่บอกเมื่อไว้ข้างบนเนื้อหาเรื่องนี้เน้นอะไร
รายละเอียดการรับน้อง+ตัวละครหลายคู่+สไตล์การเขียน + ความห่างของการอัพนิยาย
เราคิดว่าในทางกลับกันถ้าหากว่าเราได้อ่านยเรื่องนี้ตอนที่เขียนจบแล้วจะเป็นอีกความรู้สึกหนึ่งไปเลย
เราชอบคู่หลัก พายุ-ลมหนาว เพราะว่ามาแรงมากๆในตอนแรกแต่ตอนนี้สปีดลดลงเพราะว่ามีคู่อื่น
ชอบคู่ทิวไผ่กับน้องเหมือนกัน แถมตอนนี้ยังมาเจอคู่พี่กิต-คีตา  กับคู่ปันปันด้วย
คนอ่านแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน คนที่ชอบคู่อื่นด้วยก็มีเฮช่วงที่มีคู่ที่ตัวเองชอบ
ส่วนที่ชอบคู่หลักก็ไม่ชอบเพราะว่าคู่หลักหายไป
นี่คือชะตาของนิยายที่มีหลายคู่ (ละครก็เหมือนกันนะ)
อ่านๆมาเราว่าสนุกเพราะว่าเราชอบหลายคู่ถึงจะไม่ชอบค้างคาก็เถอะ
เอาใจช่วยคนเขียนนะ
ขอให้ระวังนิดหนึ่งตรงการกระจายบท
เราไม่ตัดสินอะไรจนกว่านิยายจะจบ
ขอให่สนุกกับการเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 25-04-2015 07:57:57
ชิงธง. กติกามันง่ายเนอะ.จได้ธงไหมนิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: numilddy ที่ 25-04-2015 10:44:36
ยังรอตอนต่อไปอยู่น้า
เราว่าที่คู่หลักไม่ค่อยเด่นเพราะมีคู่รองหลายคู่(ปันคิต, ทิวข้าว, คีกิต)
แต่รายละเอียดในการชิงธงหรือว๊ากกับวินัยค่อนข้างละเอียดมาก
ตอนน้องขอพี่คืนนี้ร้องไห้จย้า5555
สู้ๆค่า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: I-Icezz ที่ 26-04-2015 01:36:07
หลอนพี่คิสอ่ะ   :katai1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่23 P.15[วิศวะVsเทคนิคฯ] up14/04
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 02-05-2015 11:13:43
 :katai5: :katai5:
แวะเข้ามาดันค่ะ ดึบๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-05-2015 22:01:00
วันที่ยี่สิบสี่

“ก่อนจะไปฟังผลคำตัดสิน ผมอยากบอกพวกคุณอย่างหนึ่งว่า การเป็นเทคนิคการแพทย์นั้น ไม่ได้วัดกันที่สิ่งของ ไม่ใช่ว่ามีของที่แสดงตนว่าเป็นเทคนิคการแพทย์แล้วคุณจะเป็นเทคนิคการแพทย์ที่แท้จริง การเป็นเทคนิคการแพทย์ที่แท้จริงนั้นมันอยู่ที่ใจของพวกคุณเองว่าคุณ จะเป็นเทคนิคการแพทย์ที่สมบูรณ์หรือไม่... ขอเชิญประธานคณะวิชาต่าง ๆ ขึ้นมาตัดสินผมการประดับธงในครั้งนี้เลยครับ”

ผมมองน้อง ๆ ที่อยู่ในสนามทุกคน ก่อนจะหันหลังไปนั่งที่แสตนด์ เพื่อให้ประธานแต่ละคณะออกมาไปประกาศผลการตัดสินที่พวกเขาเห็นควร

ในสายตาของผม ผมภูมิใจ และให้ผ่าน เวลาไม่กี่ชั่วโมง น้องสามารถทำได้ดีทั้งที่กดดันในเกือบทุกด้าน เพลงบูมของแต่ละคณะ ไม่ยาว แต่จังหวะแตกต่างกันค่อนข้างเยอะ ผมเองยังจับใจความได้ไม่หมดเลย

แต่น้องของเรากลับจำได้ ในเวลาอันสั้น

ผมเองก็ได้แต่ลุ้น ว่าน้องจะผ่านบททดสอบสุดท้ายนี้ไปได้ไหม ได้ธงก็ได้รุ่นล่ะครับ แต่ถ้าชิงธงไปไม่ได้ รุ่นก็หมดสิทธิ์เช่นกัน

งานนี้พี่ทิวเดินออกไปที่ปะรำคนแรกครับ อาวุโสที่สุดในประธานคณะแล้ว รอยยิ้มอุ่น ๆ หวาน ๆ ตามฉบับพี่ทิวเขาแจกกระจายไปทั่ว

รอยยิ้มของหมอเด็กน่ะครับ แต่จริง ๆ พี่เขาจะต่อหมอศัลย์นะครับ

“สวัสดีครับ น้อง ๆ คณะเทคนิคการแพทย์ทุกคน”ผมนั่งมองแผ่นหลังของพี่ทิวที่เหยียดตรง สง่าสมกับว่าที่แพทย์เกียรตินิยม “พี่เป็นตัวแทนจากคณะแพทยศาสตร์ มาเป็นคนตัดสินในการมอบธงเทคนิคการแพทย์ตามคำเชิญของประธานวินัยคณะเทคนิคการแพทย์นะครับ

ในการแสดงที่น้อง ๆ ได้กระทำให้พี่ได้เห็นเมื่อครู่นี้ พี่ขอชื่นชมในความพยายามนะครับ ถึงแม้ว่าอาจจะมีอะไรที่ผิดพลาดไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าใช้ได้...

พี่ให้ผ่านครับ”

พี่ทิวชูธงสีขาวขึ้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเสียบเอาไว้ที่กระบอกตรงด้านหน้า ซึ่งติดชื่อไว้ว่าคณะแพทย์

ต่อจากแพทย์ก็เป็นพี่เป๊ปซี่ ประธานคณะเภสัช จริง ๆ พี่เขาต้องเป็นประธานวินัยของเภสัชด้วยครับ แต่พี่เขาไม่เอา พี่เขาขอแค่ประธานคณะก็พอแล้ว เหนื่อยสองเท่าขอลา พอเป็นประธานคณะก็ออกจากการเป็นวินัย เลยไม่ค่อยได้เจอกันบ่อย ๆ เหมือนปีที่แล้วน่ะครับ

เมื่อก่อนสนิทกันพอควร เรียกว่าอยู่ก๊งเดียวกันดีกว่าครับ แต่พอมารับบทหนักในงานคณะต่าง ๆ เลยไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่

สำหรับเภสัช ก็ให้ผ่าน ด้วยเหตุผลที่น้องมีความพยายามในการจดจำ ถือว่าเป็นการเอาใจใส่ ตอนนี้ก็ ผ่านสอง แล้วสินะ แต่ก็ยังวางใจอะไรไม่ได้หรอกครับ

ประธานแต่ละคณะก็วนเวียนกันเข้ามาประกาศผล ซึ่งก่อนประกาศไม่มีใครไม่พูดคุยครับ พูดนิ่ม ๆ เก๊กหล่อ ๆ กันไปเหมือนเคย กว่าจะประกาศผลกันที น้องคงลุ้นจนจะเป็นลม ผมกับเพื่อนคนอื่นกุ้นเหมือนกัน

การตัดสินใจที่ส่งจดหมายเชิญประธานทุกคณะมาเป็นกรรมการครั้งนี้ ผมตัดสินใจด้วยตัวเองทั้งหมด โดยไม่ได้ปรึกษาเพื่อน รู้สึกผิดเหมือนกันครับที่ทำแบบนั้น แต่ผมคิดว่ามันคงเป็นอะไรที่ยุติธรรมที่สุดแล้ว อีกทั้งเป็นความกดดันให้น้องทุกคนร่วมมือ แสดงสปิริทและศักยภาพที่มีทั้งหมดภายในตัวออกมาในระยะเวลาที่สั้นที่สุด

ผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นไปตามที่ผมหวัง

ตอนนี้เหลือแค่สองคณะสุดท้าย คือเทคนิคการแพทย์ของเรา และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งผมที่ประกาศออกมากันรวมตอนนี้ก็น่าหวาดเสียวพอดู

5 : 5

แพทย์ เภสัช ครุ นิติ สถาปัตถ์ ให้คะแนนว่าผ่าน ด้วยเหตุผลที่คล้ายคลึงกัน

ส่วน กายภาพ นิเทศ ศิลปะศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ บริหาร ไม่ให้ผ่าน ด้วยว่าไม่ใช่พวกน้อง ๆ แสดงออกมาได้ไม่ดี แต่การแสดงนี้ไม่ได้สื่ออะไรถึงความเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ของพวกน้อง ๆ ซึ่งมันก็ถูกของพวกเขาครับ ใช้ว่ามันสื่อถึงความสามัคคี สื่อถึงสถาบันของเรา แต่ความเป็นเทคนิคการแพทย์นั้นไม่ได้บ่งบอกออกมา

จะบอกว่าก็ร้องเพลงบูมของคณะเมดเทคแล้วไง ก็คงไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีครับ เพราะน้องร้องเพลงบูมของทุกคณะ การแสดงอันนี้คงเหมาะกับการชิงธงของมหาวิทยาลัยมากกว่า

“สวัสดีครับ ทุกคน”โอ้ต ประธานคณะของปัจจุบันของคณะผมเอ่ยทักทายน้อง ๆ ผมเหลือบไปเห็นด้วยครับว่าน้องทุกคนมองมาที่มันอย่าตั้งความหวังสุด ๆ “สำหรับพี่คงไม่ต้องแนะนำตัวอะไรใช่ไหมครับ รู้จักกันดีอยู่แล้วล่ะเนอะ”

ประธานคณะของพวกผมพูดติดหัวเราะ คงหวังจะผ่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียดนี่ล่ะครับ แต่ในช่วงเวลาแบบนี้ น้องคงมาตลกกับนายหรอกนะ

“สิ่งที่น้องทุกคนตั้งใจทำในวันนี้ พี่รู้ว่ามันต้องใช้ความพยายาม ต้องใช้ความเป็นหนึ่งเดียว ความสามัคคีกันแค่ไหนซึ่งมันแสดงถึงศักยภาพในตัวของน้อง ๆ เอง ทำให้พี่รู้ว่าน้องสามารถยืนได้โดยไม่มีใครคอยชักนำ พี่ภูมิใจในตัวของน้อง ๆ นะครับ เพราะอย่างนั้น พี่จึงลงคะแนนเสียงให้ ‘ผ่าน’ ครับ”

น้องปีหนึ่งปรบมือกันลั่น สีหน้าแต่ละคนไม่มีการปกปิดความดีใจเลยแม้แต่น้อย ทีนี้ก็เหลือแต่วิศวะแล้วล่ะครับ ว่าจะให้ผลออกมาเป็นยังไง

แต่ผมเชื่อนะครับ ว่าต่อให้น้องไม่ได้ธงไปในวันนี้น้องก็จะไม่เสียใจมาก เพราะอย่างไรตอนนี้น้องก็ได้รับการยอมรับจากคณะแล้ว และได้แสดงทุกอย่างที่น้องมีออกมาให้พี่ทุกคนได้ประจักษ์แล้ว ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่จะอยู่ในความทรงจำของน้องไปอีกนานเลยล่ะครับ

โอ้ตเดินยิ้มเข้ามานั่งบนแสตนด์ ส่วนวิศวะมันเดินออกไปที่ปะรำ เสียงปรบมือเงียบลง คนสุดท้ายแล้ว ลุ้นกันไปนะครับน้อง ๆ

“ไง ผมเป็นคนสุดท้ายละ ให้เดา คงเสียวสันหลังวูบกันเลยล่ะสิ”ความกวนของวิศวะมันมาเป็นรุ่นสู่รุ่นจริง ๆ นะครับ “เอาล่ะ ผม นายวิศวะ ประธานคณะวิศวะ เป็นตัวแทนจากวิศวะมาตัดสินใจครั้งนี้ เมื่อได้รักเกียรติเชิญมาแล้ว ผมขอรับรองว่าจะไม่ใช้อคติที่มีอยู่ระหว่างคณะเป็นเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน

สำหรับที่พวกน้องแสดงไป ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่สำหรับผม ผมคิดว่ามันดูไม่ตรงกับจุดประสงค์สักเท่าไหร่ วันนี้พวกน้องมาชิงธงของคณะของน้อง ไม่ใช่ธงของมหาวิทยาลัย แต่ความเป็นเทคนิคการแพทย์ที่น้องมี กลับดูเหมือนจะถูกคณะอื่นซ้อนทับไป ผมจึงลงคะแนนให้ ไม่ผ่านครับ”

คะแนนเสมอกัน 6 : 6 เป็นสิ่งที่ผมกังวลที่สุด และมันดันเกิดขึ้น แผนสำรองคือผมจะเป็นคนตัดสินสุดท้าย แต่มาคิดดู ถ้าเป็นอย่างนั้น ที่ทำมาอาจจะถูกคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น เป็นการแสดงที่พวกผมเปิดฉากขึ้นก็ได้

เอายังไงดี...

“ผลออกมาเสมอนะครับ”ผมเว้นจังหวะพูดเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบไปมองใครอีกคนที่อยู่ไม่ไกล ขอโทษนะครับ แต่ผมขอใช้วิธีนี้ละกัน “ถ้าอย่างนั้น ผมขอเชิญผู้ตัดสินพิเศษแล้วกันนะครับ”

ผมหันไปหาคุณคิสที่นั่งยิ้มมองปันปันอยู่ เหมือนพี่แกจะรู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้าไปหา เลยหันมามองผม แล้วเลิกคิ้วขึ้นเชิงถาม

“ผมขอรบกวนคุณคิสตัดสินหน่อยนะครับ”ผมกระซิบเบา ๆ ให้พอที่พี่เขาจะได้ยิน พี่แกหัวเราะออกมาน้อย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปที่ปะรำพิธีด้วยท่าทีชิว ๆ ไม่อิดออดอะไรสักนิด

“ไง สวัสดีครับ น้อง ๆ เฟรชชี่ปีหนึ่งทุกคน”รอยยิ้มฉาบทับบนใบหน้าสวยแจกจ่ายให้กับทุกคน “พี่ชื่อคิสนะครับ ไม่ได้เป็นทั้งพี่คณะและพี่มหาวิทยาลัยของน้อง ๆ ทุกคนแต่อย่างใด พี่มันนักเรียนนอก แต่พี่ก็มีความยินดี ที่ได้มาพูดคุยกับน้องทุกคนนะครับ

ก่อนอื่นเลย พี่ชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์และความตั้งใจจริงของน้องทุกคนที่ร่วมมือกันคิดและจัดทำการแสดงชุดนี้ขึ้นนะครับ
ครับ มันอาจจะเป็นการแสดงที่ไม่ได้สื่อถึงวิชาชีพของน้อง ๆ ไม่ได้บ่งบอกความเป็นเทคนิคการแพทย์ แต่มันทำให้พี่ได้เห็นถึงความเสียสละ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของน้องทุกคน ซึ่งในการทำงาน น้อง ๆ รู้ไหมครับ นอกจากจะต้องมีความรู้แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างนึงคือความทุ่มเท และน้องทุกคนได้แสดงให้พี่เห็นถึงสิ่งเหล่านั้น เพราะเหตุผลนี้ พี่จึงขอลงคะแนะเสียงให้น้องทุกคนผ่านครับ”

น้องปีหนึ่งเฮกันลั่นสนาม หลายคนลุกขึ้นมากระโดดตัวลอยด้วยความดีอกดีใจ บางคนมีน้ำตาซึม ผมเห็นแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

ผมรับธงมาจากพลอยแล้วเดินลงไปที่สนามข้างล่าง น้องที่เป็นสภารีบวิ่งเข้ามาหาผม โค้งให้น้อย ๆ แล้วรับธงไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข

“ยินดีกับพวกคุณทุกคนที่ได้ธงไปนะครับ”ผมตีสีหน้าขรึม แล้วเดินไปหยุดข้างหน้าน้อง ๆ ที่กลับมานั่งที่กันตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมก้าวเข้ามาในสนามแล้ว “สัปดาห์หน้า ผมจะพาพวกคุณออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ เราจะเจอกันที่ลานเกียร์ในเวลาเจ็ดโมงเช้า หวังว่าจะไม่มีใครมาสายให้คนอื่นต้องรอนะครับ”

“ครับ/ค่ะ”น้องทุกคนตอบรับกันอย่างแข็งขัน ผมพยักหน้ารับน้อย ๆ แล้วกวาดตามองน้องทุกคนในคณะที่ยิ้มกว้างกันไม่หุบอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้น วันนี้ก็กลับไปพักผ่อนกันได้แล้วครับ”ผมพูดด้วยเสียงที่อ่อนลงกว่าปกติ แล้วหันหลังเดินออกจากสนามมา ให้น้องเขาได้ยินดีกับความสำเร็จกันอีกครั้งหนึ่ง

เอาล่ะ หน้าที่ของผมในปีนี้ใกล้จะจบลงแล้ว เหลืออีกแค่กิจกรรมเดียวเท่านั้น ผมจะได้พักผ่อนบ้างสักที

“ไปกินบาบีคิวกันไหม หนาว”เสียงนุ่มทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นจากข้างหลัง พร้อมกับสัมผัสหนัก ๆ ที่ไหล่ทำให้ผมอดยิ้มออกมาบาง ๆ ไม่ได้

“ไปสิครับ”คนที่รู้ใจ ยังไงก็รู้ใจจริง ๆ พี่ทิวยังคงรู้ใจผมไม่เปลี่ยน ก็ครับ ผมมักจะอยากออกไปหาอะไรอร่อย ๆ กินหลังจากทำงานมาหนัก ๆ

ครั้งนี้ก็เช่นกัน

ผมนั่งรถพี่ทิวไปห้างที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัย ตอนแรกก็ว่าจะนั่งข้างหลังให้น้องข้าวเขานั่งกับพี่ทิวข้างหน้าล่ะครับ ไม่อะไร ผมจะเอนหลังงีบสักหน่อย แต่พี่ทิวดันเรียกให้ผมไปนั่งข้างหน้าซะอย่างนั้น

“สบายตัวแล้วสิ เราน่ะ ส่งน้องจะไปถึงฝั่งแล้ว”พี่ทิวเปิดประเด็นขึ้นมาหลังจากบนรถเงียบมาพักใหญ่ “แล้วนี่ต้องทำอะไรต่อล่ะ หืม”

“ออกไปรับน้องนอกสถานที่วันเสาร์นี้กับพวกวิศวะ ก็หมดแล้วล่ะครับ”ผมตอบกลับยิ้ม ๆ แล้วความเอาตุ๊กตาเม่นที่อยู่แถวนี้มาเดาะเล่น “หลังจากนั้นก็ได้พักแปปนึง แล้วก็สอบแล้วล่ะครับ ฮะ ๆ”

ใช่.. ต่อจากรับน้องที่ยาวนาน การสอบกลางภาคก็รออยู่

คิดดูแล้วเหนื่อยพิกลนะครับ... เอาเถอะ วันนี้ขอไปกิน ไปพักก่อนแล้วกัน

ไว้ค่อยว่ากันใหม่พรุ่งนี้ละกันครับ


วันหยุดที่เหมือนจะไม่ใช่วันหยุดที่ผ่านมาทำผมแทบไม่ได้พัก พอต้องมาเรียนเลยเกือบจะมาเลทเลยล่ะครับ ดีที่เป็นวิชาเลคเชอร์ มาทันเวลาเฉียดฉิวก่อนอาจารย์จะเริ่มสอนก็ยังโชคดีไป

อาจจะคิดกันว่าแค่เลคเชอร์ไปอ่านเอาที่หลังก็ได้ ถ้าคิดกันแบบนั้นในคณะวิชาที่ผมกำลังศึกษาอยู่นี่ พวกคุณคิดผิดแล้วล่ะครับ ลองไม่เข้าเลคเชอร์ครั้งหนึ่ง คุณจะไม่เข้าใจในเรื่องนั้น ๆ ไปเลย อ่านยังไงก็งงครับ ผมว่าคงไม่มีใครหรอกที่มองรูปหัวใจผ่าซีกแล้วมีตัวภาษาอังกฤษเขียนไว้ตัวเล็ก ๆ แล้วบอกได้เลยว่าเรื่องนี้คือเรื่องอะไร หรือจะอ่านสรุปความย่อ ๆ ในไสลด์ที่อาจารย์ทำเอาไว้แล้วเข้าใจเลยว่ามันคืออะไร

ขนาดพี่ทิวที่เป็นระดับท็อปของคณะแพทย์ยังทำไม่ได้เลย รับประสาอะไรกับคนที่เรียนเกรดธรรมดาอย่างผมกันล่ะครับ ยังไงก็ต้องหอบสังขารมาเข้าเรียนให้ได้ล่ะครับ

มาราธอนเรียนทนตั้งแต่แปดโมงครึ่งถึงเที่ยงครึ่ง ถึงจะได้พักกินข้าว ยังดีว่าวันนี้คาบบ่ายไม่มีเรียนนะครับ บางวันเรียนคาบบ่ายตอนบ่ายสองถึงห้าโมงเย็น แล้วมีชดถึงทุ่มนึงอีก

เรียกหนัก เงินน้อย คือพวกเรา เทคนิคการแพทย์

แต่เอาเถอะ เลือกแล้วนิครับ ต้องเดินต่อไป

ตอนนี้น้อง ๆ ได้ธงกันไปแล้ว ผมมองปฏิทินดูวันที่เหลืออยู่ อีกไม่นานก็จะจบวันรับน้องแล้ว ปีนี้ต้องพาออกข้างนอกไปกับพวกวิศวะด้วย...

แต่ยังไม่เห็นวิศวะให้ธงน้องเลย แบบนี้งานมันจะเดินต่อไปได้ยังไง

ผมคงต้องไปคุยกับหมอนั่นสักหน่อยเหมือนกัน อาทิตย์สุดท้ายแล้ว น้องไม่ได้ธง แล้วจะออกข้างนอกไปให้รุ่นได้ยังไงกันนะครับ จองสถานที่แล้วด้วย ผมเบื่อพวกนั้นชะมัด

ผมอยากจบบทบาทความเป็นวินัยนี่เหมือนกัน เหนื่อย ท้อ เบื่อ เครียด ไม่ได้สนุกอย่างที่ใครคิดสักนิด ใครไม่ได้มารับรู้เบื้องหลังของงานก็คงไม่รู้หรอกครับว่ามันเป็นยังไง งานเยอะแค่ไหน แล้วเวลาแต่ละวันก็ผ่านไปไวเหลือเกิน

ผมจะได้ไปอ่านหนังสือเตรียมสอบสักที

นี่เป็นอีกครั้งที่ผมเดินมาตึกของวิศวะ ผมว่าผมมาบ่อยเกินกว่าที่ควรจะเป็นแล้วเหมือนกัน หากเป็นเมื่อก่อน ตึกวิศวะ ลานเกียร์ ก็เป็นเหมือนสถานที่ต้องห้ามของพวกเราชาวเมดเทค แต่ตอนนี้ เดินเข้าเดินออกจนจากที่คนมอง เลิกมองกันหมดแล้ว

ผมเดินขึ้นมาที่ห้องเรียนห้องหนึ่ง เป็นห้องเรียนเลคเชอร์นี่ล่ะครับ คิดว่ามันคงอยู่ที่นี่แหละ ไม่อยากโทรไปถามให้มากความคุยกับว๊ากวิศวะมาก ๆ ผมปวดหัว เมื่อไหร่มันจะเลิกพูดงี่เง่าใส่ผมสักที

"ไง คุณวินัย มีธุระอะไรครับ"เสียงยียวนที่ผมไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมครับว่าเป็นใคร มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ แต่ถ้ามีเสียงคนอื่นมาตอนนี้ ผมก็ขอวิ่งเหมือนกัน ก็ในห้องนี้ คอนนี้ มีแค่มันกับผมนี่ "ถามไม่ตอบ"

"ผมมีธุระกับคุณแน่ ถ้าไม่มีผมไม่มาหรอก"สวนกลับไปก่อนที่มันจะกวนโอ๊ยมาอีก ผมเดินเข้าไปใกล้มัน แต่ไม่นั่งลงหรอกนะครับ ยืนค้ำหัวอยู่แบบนี้ล่ะ "เมื่อไหร่พวกคุณจะให้น้องพวกคุณชิงธงอีกครั้งสักทีครับ"

"นั่นมันเรื่องของคณะผม คุณจะอยากรู้ไปทำไมกัน คุณลมหนาว"เสียงของพายุเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เออ ผมจะไม่อยากรู้เลยถ้าคณะผมไม่ได้ทำงานตัวติดร่วมกับคณะพวกคุณ

"จะหมดเวลาการรับน้องแล้ว คุณก็รู้ว่ายังมีงานต้องทำอีก"ผมเว้นจังหวะการพูด แล้วจ้องหน้าของเฮดว๊ากตรงหน้านิ่ง "พวกคุณจะรั้งเวลาอะไรนักหนา มันทำให้พวกผมเสียเวลาไปมากแค่ไหน ทั้งที่บางคณะมอบรุ่น ปลดวินัยแล้ว"

"แล้วใครห้ามไม่ให้พวกคุณมอบรุ่นให้น้อง แล้วปลดวินัยของพวกคุณเอาไว้ล่ะ!"มันโต้กลับผมมาทันที พร้อมกับลุกขึ้นจากโต๊ะเลคเชอร์ "พวกคุณจะทำอะไรก็เรื่องของพวกคุณอยู่แล้ว"

"ผมทำแน่ ถ้าเราไม่ใช่คู่บัดดี้ห่าเหวนี่กัน"ผมชักโมโหแล้วเหมือนกันนะครับ ทนมาตลอด ผมไม่ใช่พระอิฐ พระปูนที่ไม่รู้ร้อนอะไรนะ "ถ้าไม่คิดจะทำอะไรก็กรุณาให้ธงน้องไป จะได้ไม่ต้องมาถ่วงพวกผมอีก เราจะได้จบกิจกรรมนี้ไปเตรียมสอบกลางภาคกันสักที!"

เป็นครั้งแรกที่ผมขึ้นเสียงกับคนที่ไม่ใช่เพื่อน ด้วยหน้าที่ ด้วยวิชาชีพ มันสั่งสอนให้ผมเก็บอารมณ์เก่ง และนิ่งได้เสมอ แต่พอนานวันที่ได้โต้เถียงกับคนตรงหน้า กำแพงที่ผมว่าผมก่อไว้สูง มันค่อย ๆ เตี้ยลงพร้อมกับการควบคุมตัวเองของผมที่ลดลงเช่นกัน

"..."พายุมันนิ่งไป แล้วมองผมด้วยสายตาที่เย็นชา "ผมคงมองคุณผิดไปมากเหมือนกันนะ ลมหนาว"

"..."เป็นผมเองที่เงียบ ที่มันพูดคืออะไร?

"ถึงจะไม่แสดงอะไรออกมา ถึงคณะของเราจะไม่ถูกกัน แต่ผมก็ชื่นชมคุณอยู่เสมอที่คุณมีเหตุผล มีการตัดสินใจที่เป็นกลางและเด็ดเดี่ยว เป็นตาชั่งที่ไม่เอนเอียง"พายุกระตุกยิ้มขึ้นน้อย ๆ "แต่ผมคงมองผิดไป คุณมองแต่คณะ มองแต่รอบตัวของคุณเอง คุณไม่เคยรับรู้เรื่องของคนอื่น ทั้งที่ไม่รู้ แต่กลับมาต่อว่า มาพูดใส่หน้าผมอย่างนี้ ตัวคุณเคยรู้ไหมว่าวิศวะของพวกเรามีการรับน้องยังไงบ้าง!"

"..."นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมเถียงอะไรมันไม่ออกจริง ๆ ผมรู้แต่พวกวิดวะจะมีการชิงเกียร์รุ่น ออกรับน้องนอกสถานที่ ต่อแขนสะพานดาว ซึ่งทุกอย่างเป็นกิจกรรมหลักของพวกเขา... แต่ถ้าพูดถึงกิจกรรมย่อย ผมกลับไม่รู้อะไรเลย

"คุณรู้แต่สิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ คุณมองแต่สิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ คุณไม่เคยหยุดและมองมาในทิศที่อยู่ตรงข้ามคุณเลย"เสียงของพายุมันเคร่งขรึมขึ้นกว่าเดิม "ที่ผมนิ่ง ไม่ใช่ไม่ทำอะไร แต่ในส่วนนี้มันหมดหน้าที่ของผมแล้ว"

"หมายความว่ายังไง"ผมถามกลับอย่างไม่เข้าใจ หมดหน้าที่ทั้งที่น้องยังไม่ได้รับธงไปน่ะนะ

"เมื่อน้องไม่ได้ธงไปแต่แรก ธงจะไปอยู่ที่พี่ปีสี่ และพี่ปีสูงที่เหลือจะเป็นคนตัดสิน"มันตอบผมกลับเสียงเรียบ ก่อนจะนั่งกลับไปที่เดิม "ผมไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินเรื่องนี้แล้ว"

"สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการรับน้อง เสาร์อาทิตย์ที่จะถึงก็ต้องพาน้องออกนอกสถานที่แล้ว คุณคิดจะทำอะไรต่อไป"อารมณ์ที่เคยพุ่งขึ้นสูงทะลุปรอทของผมมันเบาบางลงเยอะจนเกือบจะเป็นปกติแล้วครับ

"ไม่ทำอะไร ผมได้แต่รอ"พายุมันยักไหล่ให้ผมอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเงยหน้าขึ้นมาหาผม ส่งยิ้มกวนบาทา ยักคิ้วกวนส้นมาให้ตามฉบับ

"แต่..."

"คุณอยากให้น้องได้ธงเร็วที่สุดอย่างนั้นสิ?"

"หรือคุณจะปล่อยทิ้งไว้แบบนี้"

"นอนกับผมสิ"

"อะไรนะ?"

"นอนกับผม... แล้วผมจะไปจัดการเรื่องที่คุณต้องการให้"

"!!!!"

ผมจ้องตากับพายุนิ่ง มันพูดหมา ๆ อะไรออกมา นอนกับมัน? ถ้าจะให้มันไปจัดการเรื่องที่คั่งค้างอยู่ให้จบไป บ้าฉิบหายเลยเว้ย
นั่นคณะของมันนะ เรื่องอะไรผมจะยอมกันล่ะครับ

มันใช่เรื่องซะที่ไหน

"คุณพูดอะไรออกมา พายุ นี่เป็นเรื่องของคณะคุณ น้องของคุณ คนที่คุณดูแลมา ไม่เกี่ยวกับผม!"ผมสวนกลับไปอย่างหงุดหงิด ชีวิตของมันคิดถึงแต่เรื่องบนเตียงหรือยังไงกัน

"ใช่! มันเป็นเรื่องของผม ของคณะผม ของพี่น้องผม คุณก็ทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุดต่อไปแล้วกัน"พายุโต้กลับผมด้วยเสียงที่ฟังดูหงุดหงิดไม่แพ้กัน "คนของคณะผม คุณไม่ต้องมาใส่ใจนักก็ได้"

ผมสะอึกเมื่อได้ยินคำนั้น นั่นสิ ผมจะไปห่วงพวกน้องวิศวะทำไม เรื่องของพวกเขาผมจะไปใส่ใจเพื่ออะไร น้องผมก็ไม่ใช่ คณะคู่อริกันอีกต่างหาก

"คุณเหมันต์ ถ้าคุณไม่ลืม ผมและเพื่อนไม่เคยก้าวก่ายงานของพวกคุณ ไม่เคยเข้าไปยุ่มย่ามงานส่วนของคุณ ไม่เคยค้านธรรมเนียมคณะพวกคุณ"เฮดว๊ากของวิศวะสูดลมหายใจลึก ก่อนจะหันมาจ้องหน้ากับผม "สิ่งที่คุณกำลังท้วงผมอยู่คือธรรมเนียมของคณะผม คืองานของพวกผม การออกนอกสถานที่ ที่คุณห่วงนักห่วงนักห่วงหนามันเป็นสิ่งที่พวกผมทำกันมารุ่นต่อรุ่น คุณคิดว่ามันจะมีข้อผิดพลาดอะไรที่เกินความคาดเดาของพวกผมหรือไง"

"ทุกอย่างมีสิทธิ์เกิดเรื่องนอกเหนือความคาดหมายได้ คุณคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามเกมของคุณตลอดหรือยังไง"ผมโต้กลับไปอย่างไม่ยอม

"คุณคงอยากบอกผมว่าประสบการณ์ของพวกเรานับสิบ ๆ ปี มันไม่เพียงพอสำหรับคุณสินะ ลมหนาว"พายุมันแค่นยิ้มเยาะออกมา ดวงตาที่ฉายแววกวนประสาทอยู่เวลาโชนแสงขึ้นมา จนผมอดที่จะเม้มปากเข้าหากันอย่างเกร็ง ๆ ไม่ได้ "ความไว้วางใจของพวกคุณคงมีมาตรฐานสูงเสียดฟ้า มันคงเกินกว่าที่พวกคุณจะมอบให้พวกผมสินะ ทั้งที่ผมเคยมอบมันให้กับคุณมาแล้ว"

เคยมอบให้... ผมเบิกตาขึ้นน้อย ๆ แล้วนึกถึงธรรมเนียมของตัวเอง การตัดน้อง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคณะพวกผม ซึ่งพวกวิศวะไม่เคยทำ แต่เมื่อจับคู่บัดดี้กันแบบนี้ พวกนั้นก็ยอมเดินตามผมดี ๆ

ใช่... พวกวิศวะจะปฏิเสธธรรมเนียมที่มีความเสี่ยงว่าจะเสียน้องไปเลย หรือโดนน้องเกลียดเข้าไส้นี้ก็ได้ แต่พวกมันไม่ และเดินตามผมมาดี ๆ จนจบ

"นี่มันใกล้เวลาเรียนของพวกผมแล้ว ถ้าคุณหมดธุระแล้วก็ไปเถอะ ลมหนาว"เสียงของคู่สนทนาของผมฟังดูเหนื่อยหน่าย หมอนั่นเบือนหน้าหนีไม่สบตาผมเหมือนเคย "ถึงจะเข้าออกเป็นปกติ แต่คุณก็คือพวกเทคนิค ถึงจะเป็นบัดดี้กัน แต่เราก็ยังคงเป็นคู่แข่งกันเหมือนเดิม"

ผมสูดลมหายใจลึก แล้วหันหลังเดินออกจากพื้นที่ของพวกวิศวะไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ขาผมจะอำนวยให้

พูดคุยไม่สำเร็จ แล้วยังถูกตอกมาจนหน้าชา ผมอับจนคำพูดจริง ๆ

ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันครับว่าผมจะไปห่วงพวกน้องฝั่งวิศวะเพื่ออะไร จะไปเป็นเดือดเป็นร้อนแทนพวกเขาเพื่ออะไรกัน

ระหว่างทางที่เดินออกมา หูเจ้ากรรมที่ฝึกมาให้ได้ยินอะไรได้ชัดกว่าปกติดันได้ยินเสียงถอนหายใจ และเสียงพูดอย่างเคร่งเครียดของพวกปีหนึ่งเข้า ใจความเกี่ยวกับธงที่ยังไม่ได้มานั่นล่ะครับ

มันทำให้ผมเข้าใจตัวเองได้อย่างนึงแล้วล่ะครับ...

พวกเขาอาจจะไม่ใช่น้องของคณะผม แต่ยังไงก็เป็นน้องที่ดูแลกันมาตลอดเดือนที่ผ่าน จะทิ้งให้พวกเขาเคว้งอยู่บนเกาะเพียงลำพังคงจะใช่ที

ผมควรจะกลับไปโต้เถียงกับไอ้ว๊ากงี่เง่านั่นอีกรอบใช่ไหมครับ... คิดแล้วเหนื่อยใจยังไงพิกล

แต่เพื่อน้อง มันก็อาจจะคุ้มค่าที่จะเปลืองน้ำลายล่ะครับ... คราวนี้คงต้องเตรียมบทไปดี ๆ หน่อย ให้มันเถียงผมกลับไม่ได้เลย

เราจะได้เห็นดีกันแน่ ไอ้คุณพายุ!

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ไม่พูดอะไรเยอะนะคะ มาต่อช้ามาก 5555 งานที่ทำค้างมาเพิ่งเสร็จเอาพร้อมการสอบ ขอหนีไปพักใจ(ที่เฟลๆนี้)ก่อนนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 21-05-2015 22:05:12
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 21-05-2015 22:37:44
"นอนกับผมสิ"  :hao6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 21-05-2015 23:02:52
ไม่รู้สินะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 22-05-2015 00:21:45
ตอกกลับมาเจ็บมากกก เพราะตอกกลับด้วยความจริงล้วนๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 22-05-2015 00:49:48
นึกว่าตาฝาด ลมหนาวมาเยือน...แต่ในชีวิตจริง ลมร้อน 24 ชั่วโมง ถถถถถถถถถถ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 22-05-2015 06:24:37
หูยยยยยย
เครียดแทนลมหนาว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 22-05-2015 06:44:01
น่าสงสารจังเลย บางทีเราก็ว่าพายุทิฐิเกินไปนะคะ
ไม่รู้สิ การรับน้องมันเข้มข้นเกินไปรึเปล่านะ
เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
รอตอนต่อไปเนาะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 22-05-2015 10:26:03
เป็นกำลังใจให้น้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 22-05-2015 15:04:45
สงสารลมหนาวนะ ก็คงจะเหนื่อยกับภาระที่เต็มบ่านั่นแหละ พายุเองก็คงหงุดหงิดพอกันเลยออกมาเป็นอีหรอบนี้
สู้ ๆ นะคะ คนเขียน เป็นกำลังใจให้ค่า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 22-05-2015 18:31:51
พายุอย่ามากดดันลมหนาวให้เยอะไปนะ

สงสารลมหนาว คงเครียดมากมายกับภาระที่แบกรับ

พี่ทิวไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยให้มากกว่านี้หน่อยละคะ สงสารลมหนาว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 22-05-2015 22:47:51
ปกติไม่ชอบคนเถียงกันนะ
แต่...
ตอนนี้มันมาก บอกเลย 555
เป็นบทพูดที่แซบเว่อร์

ขอบคุณนะคะ รอตอนต่อไปจ้าา  ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่24 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] up21/05
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-05-2015 19:37:55
อีก 3 ตอน จบรับน้องนะคะ พรุ่งนี้ถ้าไม่ติดอะไรจะมาต่อตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 27-05-2015 15:19:18
วันที่ยี่สิบห้า

(พายุ)

ให้ตายเถอะ ผมต้องมาปวดหัวกับลมหนาวจนได้ ทั้งที่เมินมาหลายเรื่องแล้ว ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าหมอนั่นจะมาสนใจเรื่องนี้ด้วย ทั้งที่ปกติเรื่องของคณะอื่นมันไม่ค่อยจะสนใจด้วย

โดยเฉพาะกับวิศวะอย่างพวกเรา

เรื่องที่มันมาขึ้นเสียงปาว ๆ ใส่หน้าผม ใช่ว่าผมจะไม่กังวล ไม่ใส่ใจสักหน่อย ปวดหัวจะตายห่ากับรุ่นพี่อยู่แล้ว พอได้สิทธิ์ตัดสินไปวางแผนแกล้งกันใหญ่ เวลาก็น้อยลงทุกที อาจารย์ก็ถามทุกวัน

ไม่คิดจะถาม ไม่คิดจะขอคำอธิบาย มาถึงก็แว๊ดใส่หน้าผมอย่างเดียว ให้ตายเถอะ

แต่มันก็เหมือนนาฬิกาบอกเวลาให้ผมต้องลุกขึ้นทำอะไรบางอย่างสักที ก่อนที่จากนาฬิกาจะกลายเป็นระเบิดเวลาแทน มาถึงนี่แล้ว อีกไม่เกินวันหมอนั่นต้องมาคุยกับผมเรื่องนี้อีกแน่

"อาจารย์มีประชุม วันนี้ยกคลาสนะนักศึกษา"ผมเงยหน้าขึ้นมองอาจารย์ประจำภาคตาถลนทันที หมดอารมณ์เหม่อ คือจะยกคลาสก็บอกล่วงหน้าสิโว๊ย ทุกทีเลยจารย์เนี่ย "ไว้เจอกันคราวหน้านะ นักศึกษา"

พูดจบเจ๊แกก็ชิ่งหนีออกนอกห้องไปเลย โว๊ะ นี่กูมาริเรียนเก้อครั้งที่เท่าไหร่แล้ววะเนี่ย เดี๋ยวก็ได้เรียนแบบดริฟอีกแน่ เคยกันไหม? เรียนแบบที่อาจารย์แรปยิ่งกว่าโจอี้ บอยแรปน่ะ

อนาคตรำไรสัส

"งี้วันนี้ก็ว่าใช่ไหมวะ"ไอ้วิศที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หันมาถามผม "แบบนี้กูจะได้ไปร่อน โฮกกก วันที่วิศรอคอยมาถึงแล้วครับ ม๊าครับบบบ"

ชูแม่งสองมือเลย เหี้ยนี่ชอบไปนั่งอ่อยสาวตามห้าง ตกดึกอ่อยต่อในผับ แต่ไม่หิ้วใครไปนอนด้วย อ่อยให้คลั่งไปอย่างนั้น โคตรน่าสงสารคนที่ติดกับมันเลย

กูขอให้แม่ง มีผัวไว ๆ สาธุ

ไหน ๆ ก็ว่างละ ผมไปคุยกับพวกพี่ปีแก่ดีกว่า

ผมเดินขึ้นไปชั้นบน ๆ ของตึกคณะ ส่วนใหญ่พวกคนแก่จะมาทำผลงานจบพวกธีซิส (เล่นป๊อกเด้ง) กันข้างบนนี้ล่ะ หาตัวไม่ยากนักหรอก

"ไง ไอ้ยุ ไม่มีเรียนเหรอวะถึงขึ้นมานี่ได้น่ะ"พี่วัฒน์ เฮดว๊ากหลักของปีสี่เอ่ยทักผม พร้อมกับชูกระป๋องเบียร์ขึ้นมา "โดดเรียนไม่ดีนะเว้ย ถึงข้าจะทำบ่อยก็เหอะ"

"เฮีย ผมไม่ใช่เฮียเหอะ จารย์ยกคลาสต่างหาก"ผมแยกเขี้ยวใส่พี่เขา เออ หัวเราะไปเลย วิศวะเราก็งี้แหะ เฮฮา ชิว ๆ "เออ เฮีย ไม่ไรนะ แต่เย็นวันศุกร์นี้ต้องพาน้องไปนอกสถานที่แล้วนะเว้ย"

“เออน่า เดี๋ยวพวกข้าก็จัดการกันเองแหละน่า”เฮียวัฒน์โบกมือปัด ๆ ไม่ใส่ใจอะไร ก่อนจะหรี่ตาลงมองผมอย่างจับผิด “ไมวะมึง ปกติไม่เห็นจะทวงหาไรเลย เป็นห่วงน้องหรือไง”

“เปล่าเฮีย แต่เห็นว่ามันกระชั้นเวลาไปแล้ว เลยมาถามดูเผื่อเฮียลืม”ตอบเลี่ยงไปก่อนวะ แม่ง จะให้บอกได้ไงว่าพวกวินัยมันมาทวง

“แน่ใจเหรอวะ”เฮียแกยกเบียร์ขึ้นซดก่อนยักคิ้วส่งมาให้ข้างนึงอย่างกวน ๆ “ไม่ใช่เอ็งโดนพวกเมดเทคมันจี้มาหรือไงวะ ไอ้ยุ”

“โหยย บ้าดิ พวกเมดเทคมันจะมาสอดอะไรวิศวะเรา แล้วอย่างผมเนี่ยนะ จะยอมฟังพวกมัน”รู้ได้ยังไงวะ เฮียวัฒน์ จิตสัมผัสนี่หว่า

“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะโว้ย ว่าลมหนาวมาหาเอ็งน่ะ”เหี้ย เฮี้ยนกว่าคุณริวอีกเฮียกู เฮียวัฒน์หัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วหันไปมองเพื่อน ๆ เขา “เลยทำตามที่เขาพูดหรือไง มึงน่ะ”

“ก็เปล่า แค่ตัดรำคาญ”ผมยักไหล่น้อย ๆ แล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งลงในวงพี่ ๆ ห่างกันปีเดียว บางทีก็ไม่เรียกพี่เหมือนกันล่ะ ฮ่า ๆ “ผมรู้นิสัยหมอนั่นดี อย่างดีตอนนี้แค่กลับไปตั้งหลัก เดี๋ยวมันก็มาใหม่”

“มึงรู้มะ ถ้าเป็นกูนะ”รอยยิ้มเฮียแม่งโคตรชั่วร้ายเลยว่ะ... เป็นแพทเทิร์นที่ใครแม่งกำหนดกันวะ ว่าก่อนจะพูดเรื่องสำคัญต้องจิบน้ำน่ะ “นอกจากจะตอกหน้ามันกลับแรง ๆ สักสองสามยกแล้ว กูจะไม่ให้ธงน้องด้วย”

“เฮ้ย เฮีย เรื่องน้องกับเรื่องระหว่างคณะมันคนละเรื่องกัน ยังไงน้องมันก็ควรได้แก้ตัวสักหน่อยน่า”ผมเหล่มองพี่ที่กุมอำนาจเหนือผมอย่างหวั่น ๆ ไม่ไรนะ ถ้าพี่แม่งไม่ให้ธง น้องก็หมดโอกาสได้รุ่น พาออกข้างนอกไปเสียเงินฟรี ปีหน้าผมต้องมารับน้องใหม่

ไม่เอานะเว้ย สองเด้ง

“แล้วไงวะ”น้ำเสียงโคตรทองไม่รู้ร้อน ถึงคราวซวยแน่พายุเอ๊ย สัด “อำนาจการตัดสินใจมันอยู่ในมือกู กูจะตัดสินยังไงก็เรื่องของกู จริงปะพวก”

“ช่ายย”

เวรล่ะ พี่คนอื่นก็เล่นไปกับเฮียด้วยเหรอวะเนี่ย ยุ่งแน่งานนี้

น้องกูจะได้เกิดไหมวะเนี่ย

“เฮีย มันจะไม่ทันเอานา... อีกสามสี่วันเองนะเฮีย”ผมแง้ม ๆ กระตุ้นหน่อย ชิงธงมันใช่ว่าจะใช้เวลาชั่วโมงเดียวเสร็จนี่หว่า อย่างน้อยก็ใช้เวลาทั้งวัน... แล้วนี่เป็นวันเรียนด้วย

“เอ็งจะกังวลอะไรนักหนาวะ ข้าบอกว่าเดี๋ยวข้าจัดการเองไง ฟังไม่รู้เรื่อง?”เฮียวัฒน์แกเริ่มมีน้ำโหละ แววความซวยผมนี่ชัดเจนขึ้นหนักกว่าเก่าอีก “อยากให้ข้าไปให้ธงน้องมากงั้นสิ?”

“ก็นะ เฮีย ถ้าอะไร ๆ มันเรียบร้อย ผมก็จะได้จัดการงานที่เหลือสบาย ๆ หน่อย”ผมยิ้งแห้ง ๆ ให้กับพี่ชายที่รักตรงหน้า มันไม่ใช่ข้ออ้างนะ เรื่องจริง... จริง ๆ

“น้องมันยังไม่ดิ้นรนห่าไรเลยสักนิด มึงจะมาดิ้นรนแทนพวกมันทำไมกันวะ”พี่แม็ค ปีสี่เครื่องกล สายเถื่อนสัสถามขึ้น ก่อนซดเบียร์ไปอึกใหญ่ “ปกติไม่เห็นเป็น น้องมันไม่ได้อยากได้ จะมาพยายามยัดเยียดให้พวกกูไปประเคนให้พวกมันทำไมกัน ถ้ามันอยากได้ให้มันหาทางเองดิ”

“โถ่ พี่ นิดนึงน่า น้องมันยังไม่ประสา”ผมชกเบา ๆ ที่ไหล่กว้างของพี่แม็ค “น่าพี่ อย่างน้อยก็เกริ่น ๆ กับน้อง ๆ มันสักนิดก็ยังดีนะพี่”

“เอ็งอยากให้ข้าไปหาน้อง ให้โอกาสพวกมันชิงธงไว ๆ ใช่มะ”เฮียวันวางกระป๋องเบียร์ลง แล้วยื่นหน้ามาหาผมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ก็นะเฮีย ได้ไว ๆ ก็ดี”ผมพยักหน้ารับ วันนี้เฮียใจดีกว่าปกตินิดหน่อยแหะ... แต่ความรู้สึกเสียวสันหลังวูบนี่มันยังไง ๆ อยู่เหมือนกัน...

“โอเค ข้าจะไป แต่มีข้อแม้อย่างนึง”ข้อแม้... ผมว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผมแน่ ๆ แน่โคตร ๆ แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง “ถ้าเอ็งโอเค ข้าก็ไป”

“ข้อแม้อะไรเฮีย”ขอถามก่อนดอกนึงละกัน เดี๋ยวรับปากไปแล้วเฮียให้บินไปดาวอังคาร ซวยอีก คนเดินดิน กินข้าวแกงอย่างผมจะไปทำได้ไง

“ไม่ได้ยากอะไรหรอกน่า”เฮดของปีสี่ยักคิ้วข้างนึงให้ แล้วกระตุกยิ้มยั่ว “เอ็งไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลจนกว่าข้าจะคุยกับน้องเสร็จ ตกลงไหมล่ะ”

“...”สนามฟุตบอลมันไม่ได้เล็กเลยนะ ให้วิ่งจนกว่าจะพูดเสร็จนี่ผมต้องวิ่งกี่รอบวะ... ปกติห้ารอบผมก็เลิกแล้วด้วย “ผมต้องวิ่งกี่รอบเฮีย”

“เป็นคำถามที่ดี แต่ไม่มีคำตอบ”ไม่มีคำตอบ ให้ตายเหอะ ถ้าเฮียคุยทั้งคืน เท่ากับผมต้องวิ่งทั้งคืนเหมือนกันดิ ว่างั้น “อยู่ที่ตัวน้องของเอ็งนั่นแหละ”

“...”

“เชื่อใจว่าน้องเอ็งจะเอาธงไปได้ไวแค่ไหนกันล่ะ”นั่นสิ... น้องปีหนึ่งมันจะสามารถเอาธงมาจากพี่ปีสี่ได้เมื่อไหร่กันนะ... ถ้าพวกนั้นทำให้พี่เชื่อใจได้ก็คงดี

“คือถ้าพวกปีหนึ่งสามารถเอาธงจากพวกเฮียมาได้ไวแค่ไหน ผมก็หยุดวิ่งได้ไวเท่านั้นใช่ไหม”ผมถามย้ำอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจในความคิดประวัติไม่ค่อยจะดีกับการคิดเองเออเองมาเมื่อปีที่แล้ว เลยหนาวสันหลังแม่งทุกที ที่ต้องต่อรองอะไรกับพวกเฮียแก

“ตามนั้น”

“งั้น เดี๋ยวผมไลน์มาบอกอีกทีแล้วกัน เฮีย”

“เออ อย่าช้านักล่ะ เดี๋ยวข้าเปลี่ยนใจไม่รู้ด้วย”เฮียวัฒน์หยิบกระป๋องเบียร์ที่ดูแล้วคงหายเย็นไปเยอะมาเขย่าก่อนจะยกซด “มันอยู่ที่ว่าเอ็งเชื่อใจน้องของเอ็งมากแค่ไหน ไอ้ยุ”

ผมเดินลงจากชั้นสี่มาหลังจากคุยจบ ให้ตาย ทำไมผมต้องมาตัดสินใจอะไรเพื่อพวกปีหนึ่งด้วยวะ น้องเทคก็ไม่ใช่ ไม่ได้สนิทกันอีกต่างหาก

เอาไงดีวะเนี่ย กู แม่ง ถ้าไม่ทำ เฮียแม่งไม่ให้ธงน้องแน่ แต่ถ้าทำตามที่เฮียสั่ง เท่ากับว่าน้องไม่ต้องดิ้นรนอะไร... อมมืออมเท้าให้คนประเคนมาให้อยู่แบบนี้... แล้วเมื่อไหร่จะโต จะขึ้นมาเป็นผู้นำได้

ผมรู้ ว่าถ้าผมเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับพรรคพวก ยังไงพวกนั้นก็คงบอกให้อยู่เฉย ๆ ปล่อยไป พวกเด็กปีหนึ่งจะได้ธงหรือไม่ได้ก็เรื่องของพวกมัน ไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น ปีนี้เราก็อาจจะไม่มีหลาน... และอีกอย่าง ผมก็ต้องไปโต้เถียงกับคุณวินัยเจ้าระเบียบที่ตรงเป็นเสาตอหม้อไม่ยอมเข้าใจง่าย ๆ นั่นอีก

อะไร ๆ พายุก็มีแต่เสีย กับเสีย ทางไหนก็เสีย ให้ตายเหอะ คิดถูกหรือคิดผิดวะที่รับเป็นประธานวินัยปีนี้ อยู่นิ่ง ๆ หน้าหล่อ ๆ ก็ดีแล้ว ยุเอ๊ย

“พี่พายุ สวัสดีครับ”น้องปีหนึ่งที่ผ่านไปผ่านมายกมือไหว้ผมเป็นแนว นี่ถ้ามีเครื่องบูชามันคงเอามากราบ แล้วขอหวยกันแล้วมั้งเนี่ย

ผมรับไหว้บ้าง ไม่รับบ้าง อยู่ที่จังหวะว่ากำลังคิดอะไรหนัก ๆ อยู่ไหม ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับไหว้หรอก ใจมันยังคิดถึงคำของเฮียแกอยู่

‘เอ็งเชื่อใจน้องของเอ็งมากแค่ไหน’ นั่นสินะ ผมเชื่อใจพวกเขามากแค่ไหน เชื้อในสิ่งที่ผมพยายามสอนเขา เชื่อในความสามารถของพวกเขาได้แต่ไหน

เด็กปีหนึ่งที่ถูกคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะเทคนิคการแพทย์ที่เป็นคู่อริกันมาช้านานหล่อหลอมขึ้นมาจะสามารถเชื่อได้เท่าไหร่กันนะ...

มันเป็นคำถามที่ผมไม่รู้จะตอบได้ยังไงเหมือนกัน แล้วยังคำที่พี่แม็คพูดอีก... พวกน้อง ๆ ไม่ได้ดิ้นรนที่จะมาขอธงเลยด้วยซ้ำไป...

ผมกวาดตามองไปรอบ ๆ มีน้องปีหนึ่งหลายคนจับกลุ่มคุยกัน ด้วยระยะที่ห่างกันค่อนข้างมากมันทำให้ผมไม่ได้ยินในสิ่งที่พวกเขาพูด แต่ดูจากสีหน้า และใช้สกิลอ่านปากแล้ว...

ก็ไม่พ้นเรื่องธงที่ไม่มีความคืบหน้ากันสักที

พี่แม็ค ใช่ว่าน้องของผมไม่ได้สนใจเรื่องธงสักหน่อย เพียงแต่พวกเขายังไม่มีแผนรับมือที่ดีพอจะไปขอธงจากพวกพี่ต่างหาก

ในเมื่อน้องมันมีความกระตือรือร้นที่จะไขว่คว้า... แล้วพี่ที่ดูแลพวกมันมาตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเป็นคนของวิศวะอย่างผมจะไม่สนับสนุนพวกเขาได้งั้นเหรอ

ผมหยิบมือถือขึ้นมาเปิดโปรแกรมไลน์ และเลื่อนหาชื่อของเฮียวัฒน์... หวังว่าการตัดสินใจของผม มันจะถูกต้องล่ะนะ

Storm EG : เฮีย ผมตกลง

เหนื่อยกาย แต่ถ้าผลที่ออกมานั้นทำให้น้องมีแรงที่จะจับมือกันเดิน มีความสามัคคีกันมากขึ้น ผมคิดว่ามันก็คุ้มค่าที่จะลงแรงครั้งนี้ล่ะวะ

ถือว่าออกกำลังกายไปแล้วกัน พายุ


ช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ ใกล้เวลาน้องเลิก ผมที่ไปเปลี่ยนชุดมาเรียบร้อน เป็นชุดบอลธรรมดานี่แหละ มันจะได้โปร่ง ๆ เย็น ๆ หน่อย ขืนใส่ชุดพละได้ชุ่มเหงื่อตายก่อนส่งน้องถึงฝั่งแน่

“แน่ใจแล้วใช่ไหม ไอ้ยุ”พี่แม็คเป็นคนเดินมาถามผม แน่นอนว่าผมต้องพยักหน้ารับให้พี่แกอยู่แล้ว ระหว่างนี้ก็ยืดตัว วอร์มร่างกายไปด้วย “มึงนี่นะ... เริ่มเปลี่ยนไปแล้วนี่หว่า”

“ผมก็เป็นผมนี่แหละ พี่ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนสักหน่อย”ผมตอบกลับไปด้วยท่าทีสบาย ๆ แม้ใจจะแอบคิดอยู่ตลอดว่าผมแม่ง ต้องวิ่งกี่รอบกันวะเนี่ย

สนามฟุตบอลไม่ลานเลือดของพวกเมดเทคสักหน่อยที่จะได้เล็ก ๆ วิ่งเป็นสิบรอบเพิ่งจะเหนื่อย ถึงจะเป็นนักกีฬา แต่ใช่ว่าจะวิ่งได้เยอะเกินกว่าคนธรรมดานักหรอก

ช่าง ตัดสินใจไปแล้ว จะมาเปลี่ยนใจอะไร มันไม่ใช่ละ ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น

“เออ หวังว่าไอ้วัฒน์จะให้ธงน้องมันไว ๆ”พี่แม็คยื่นมือมาตบไหล่ผมเบา ๆ อย่างปลอบใจ “ถ้าเหนื่อยก็พอนะมึง ไม่ต้องทำตามที่มันพูดทุกอย่างหรอก แค่มึงตัดสินใจว่าจะวิ่ง มันก็พอสำหรับไอ้วัฒน์แล้ว”

“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวพวกไอ้วิศก็มาหามผมไปเองแหละ”ผมพูดติดตลกไปงั้น แต่มันคือความจริง ถ้ามันเห็นผมแย่ เดี๋ยวแม่งก็แห่กันมาหามกลับไปยิ่งกว่าแห่นางแมวขอฝนด้วยซ้ำ

เพื่อนแท้ของผมนี่หว่า

ผมเริ่มออกวิ่งเมื่อพี่แม็คเดินออกไปจากสนาม วิ่งเหยาะ ๆ เหมือนวิ่งมาราธอนนั่นล่ะ เน้นระยะทาง ไม่ได้เน้นเรื่องความเร็ว

ที่เหลือก็คงต้องฝากน้อง ๆ ปีหนึ่งแล้วล่ะนะ... ฝากความหวังครั้งแรกกับเด็กที่เทรนด์มาเองกับมือ... หวังว่าจะรอด


(วัฒน์)

ชีวิตคงเราบางทีก็มีเรื่องน่าตื่นเต้น น่าตกใจมากมาย มีเรื่องให้ประหลาดใจอยู่ทุกวัน วันนี้ก็เหมือนกัน ใครจะไปคิดว่าไอ้ยุที่ปกติแล้วไม่น่าจะยอมลำบากเพื่อคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อน จะยอมรับข้อตกลงของผมเพื่อให้น้องมีสิทธิ์ที่จะได้ชิงธงคณะเร็วขึ้น ทั้งที่ไม่รู้ว่าพวกมันจะทำได้ไหม

ใครจะไปเชื่อกันล่ะ ว่าผมไม่รู้สักหน่อยว่าเหมันต์บุกขึ้นตึกวิศวะเรามาคุยกับพายุด้วยตัวเอง นั่นไม่เท่าไหร่ การที่ไอ้ยุมันยอมลง แล้วขึ้นมาคุยกับผมมันแปลว่าเสียงของประธานวินัยของเมดเทคคนนั้นมันเข้าไปอยู่ในใจของน้องชายคนนี้ของผมได้โดยดุษฎี

สมแล้วที่เป็นเด็กเทรนด์ของตังโอ เหมือนกันจริง ๆ

คำไหนคำนั้นอยู่แล้ว กับคนอย่างวัฒน์ ในเมื่อพายุมันกล้าวิ่ง ผมก็พร้อมที่จะเดินไปคุยกับน้องที่เคยเห็นหน้าอยู่ไม่กี่ครั้งเหมือนกัน

“ปีหนึ่ง นั่งลง”ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องเรียนใหญ่ที่ไว้ใช้เรียนรวมอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง ไม่มีใครรู้นี่ว่าผมกับพรรคพวกจะมา “มีกี่คน”

“ขออนุญาตครับ”น้องให้หัวไม่เกรียน หน้าตาใช้ได้แต่ไม่ถึงขั้นหล่อ ออกจะร้าย ๆ ด้วยซ้ำ ยกมือขึ้น ผมพยักหน้าให้น้อย ๆ “มี 1543 คนครับ”

“ครบสินะ...”ผมทิ้งหางเสียงไว้ครู่หนึ่ง แล้วเดินกอดอกไปอยู่ตรงกลางระหว่างทางเดินขึ้นไปที่นั่ง เพื่อนคนอื่นทั้งที่เป็นว๊าก และก็ไม่ใช่กระจายตัวรอบ ๆ ตีหน้าขรึมกันหมด “พวกคุณรู้ไหมว่าผมมาทำอะไรที่นี่”

“ไม่ทราบครับ / ค่ะ”

“แล้วรู้ไหมว่าผมเป็นใคร”คำถามที่ไร้คำตอบหรือยังไงวะ เด็กพวกนี้เงียบ ไม่มีใครตอบคำถามของผมสักคนนี่คืออะไร “ผมถาม คุณก็ตอบมา”

“ขออนุญาตค่ะ”เด็กผู้หญิงคนนึงที่ผมเพิ่งยากเลยติ่งหูมาหน่อย รวมรวบความกล้ายกมือขึ้น ผมหันไปมองเธอพร้อมกับเลิกคิ้วถาม “พี่คือพี่วัฒน์ อดีตประธานว๊ากของคณะวิศวกรรมศาสตร์ค่ะ”

“ก็รู้นิ... แล้วรู้หรือยังว่าวันนี้ผมมาทำอะไร”เสียงผมยังดังไม่ตก เยี่ยมชะมัด แต่ไอ้หน้าหมางงของพวกปีหนึ่งนี่ โคตรแย่ “ถ้าไม่รู้ ก็ไม่ต้องเอากันแล้วมัน สิ่งนี้น่ะ”

แม็คถือธงเข้ามาในห้อง สีหน้าของพวกปีหนึ่งเปลี่ยนไปทันที ดูตกใจ ตื่นเต้น ที่สำคัญคือกลัว หึ จะกลัวอะไรกันนักกันหนา พวกกูก็คนเหมือนกัน

“อยากได้ไหมล่ะ ของสิ่งนี้น่ะ”ผมถามเสียงเย็น เรียกความสนใจของน้องให้กลับมาที่ผม ไม่ต้องไปสนใจไอ้สิ่งของตรงหน้าให้มากนักหรอกน่า

ใครสั่งใครสอนให้ยึดติดกับสิ่งของวะ เป็นวิศวะ มันเป็นกันที่จิตวิญญาณเหอะ

“อยากได้ค่ะ / ครับ”

“แล้วมีอะไรมาแลกกับธงผืนนี้ไหมล่ะ”ผมตวัดเสียงใส่ การเป็นว๊าก ต้องไม่แตะตัวน้อง ใช้ได้แค่เสียง สีหน้า ความกดดัน เป็นหลักพื้นฐาน

“ไม่มีครับ / ค่ะ”เหมือนกันทุกรุ่น ซื่อบื้อพอกันนั่นแหละปี 1 พวกซิ่วไม่มีหรือไงกันวะ

“แล้วพวกคุณคิดจะมาเอาธงคณะของผมไปฟรี ๆ ว่างั้น?”ผมถามกลับไปทันทีด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมจนสาวน้อยหลายคนสะดุ้งเฮือก

“เปล่าครับ / ค่ะ”

“แล้วพวกคุณจะเอาอะไรมาแลก”ถามครั้งที่สอง ดูสิจะมีคำตอบดี ๆ มาให้ผมสักนิดไหม

น้องยังคงเงียบ ความเงียบเป็นคำตอบที่ผมเกลียด สายตาผมเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังหลังห้อง รวม ๆ เวลาที่แม็คมันโทรมาบอกว่ายุเริ่มวิ่งจนถึงตอนนี้ก็ชั่วโมงแล้ว

หวังว่ามันจะพอได้แล้ว ถ้ามันเถลตรงเป็นไม้บรรทัด มันได้วิ่งไปอีกนานแน่

ผมเงียบ น้องเงียบ ความกดดันที่ก่อตัวขึ้นยิ่งแผ่กว้าง เพื่อนปีสี่ทุกคนจ้องเขม็งไปที่เด็กปีหนึ่ง ผมรู้ว่ายังไงพวกเด็กน้อยมันต้องเกร็ง เกร็งยิ่งกว่าตอนที่พวกว๊ากปีสอง ปีสามมาล้อมซะอีก

แน่ดิ ก็พวกผมมันแทบไม่เคยจะเห็นหน้ากันกับพวกนี้ เจอคนที่ไม่คุ้นเคยมากดดัน ยิ่งเครียดเป็นธรรมดา

“พวกคุณคิดว่าความเงียบมันจะช่วยอะไรได้”ผมหันหลังให้พวกเด็ก ๆ ถอนหายใจสักทีก่อนจะหันมาเดินเข้าไปให้ใกล้น้องมากขึ้น “ดีแต่หนีปัญหาหรือยังไง กับเรื่องแค่นี้ก็ยังคิดเองไม่ได้ จะรอให้พี่ของพวกคุณวิ่งโร่ ขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยไปตลอด ไม่คิดจะลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองหรือยังไง”

ถึงตอนนี้พี่ที่พวกมันคงจะไม่ชอบหน้า กำลังช่วยพวกมันโดยที่ไม่รู้ตัวอยู่ก็ตามที...

น้องหลายคนมองหน้ากันเลิกลั่ก ๆ เอ้า คิดเข้าสิ คิด จะทำยังไง มองหน้ากันแล้วจะทำอะไร

“คงไม่อยากได้กันจริง ๆ สินะ ธงเนี่ย”แม็คมันพูดขึ้นบ้าง ธงที่มันกางออกมา มันก็ทำเป็นม้วนเก็บไป “งั้นก็ไม่ต้องเอา จะได้ไม่ต้องแบกรับความเป็นวิศวกรรมไว้บนสองบ่า สบายจะตาย”

“นั่นสินะ จะได้ไม่ต้องมาทนแรงกดดัน ไม่ต้องฟังพี่พูด ทำอะไรก็อิสระ ไม่มีใครให้เกรงใจ”ปั๊ป ไอ้เจ้าชายเย็นชามันเริ่มเปิดปากพูดบ้าง จากที่ปกติไม่เคยมีปากเสียงอะไร มันคงเริ่มหงุดหงิดแล้ว

ก็แน่ล่ะ น้องเทคมันอุตส่าห์ก้าวมาขอโอกาสให้น้องพวกนี้ แต่น้องมันแม่ง ไม่คิดจะคว้าโอกาสเอาไว้ มันน่าโมโหจริง ๆ นั้นแหละ

“ขออนุญาตครับ”ได้ฮีโร่ของั้นปีมาแล้วสิ คนเดิม คนเดียวกับที่บอกจำนวนคนที่อยู่ให้กับผมตอนแรก คนนี้ล่ะมั้ง ประธานชั้นปี

“เชิญ”

“ในตอนนี้ผมและเพื่อน ๆ ยังไม่มีอะไรที่จะมาแลกเอาธงของคณะมา สิ่งที่พวกผมมีตอนนี้ มีเพียงหัวใจ หัวใจที่จะมอบให้กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีจิตวิญญาณที่ผูกพันกับเพื่อนพ้อง กับพี่ที่อยดูแล คอยเอาใจใส่พวกเรา มีร่างกายที่พร้อมจะถูกหล่อหลอมให้เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนความหวังของทุกคนที่ฝากไว้กับพวกเราครับ”น้องมันตอบผมมาด้วยเสียงที่มั่นคง ดวงตาที่วาวแสงโชนกล้า

คำตอบที่ฟังดูดีชะมัด

“แล้วจะมีอะไรมารับประกัน ว่าพวกคุณจะสามารถแบกรับความหวังของชาววิศวะเอาไว้ได้”ผมโต้กลับไปอีกครั้ง ขอฟังเหตุผลต่ออีกสักหน่อยเหอะ

“พวกเราขอใช้ทุกอย่างที่เรามี ทั้งจิตวิญญาณและหัวใจเป็นเดินพันค่ะ”น้องผู้หญงคนนึงตอบมาจากทางด้านบนสุดของที่นั่ง เสียงดังใช้ได้เลย

“แค่คุณสองคน หรือพวกคุณ ‘ทุกคน’ กันล่ะ”

“พวกเราทุกคนครับ / ค่ะ”น้องตอบกลับกันมาเป็นเสียงเดียว โอเค มันก็ฟังดูหน้าพอใจอยู่ล่ะนะ

ผมหันไปมองเพื่อน ๆ ที่ยืนกันอยู่รอบ ๆ หลายคนพยักหน้าให้ผม บางคนก็ให้คำตอบด้วยรอยยิ้ม ซึ่งมติคงเป็นเอกฉันทน์พอสำหรับครั้งนี้แล้ว

“ผมจะถือว่านั้นคือคำสัญญาที่พวกคุณทุกคนได้ให้สัญญาเอาไว้ เกิดเป็นคน เป็นมนุษย์ ให้สัญญาอะไรกับใครเอาไว้ต้องรักษามันให้ได้ เพื่อรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นคนของตนเอาไว้”ผมเหยียดยิ้มเยาะ คิดเอาเองแล้วกันว่าถ้ารักษาสัญญาไว้ไม่ได้พวกมึงจะกลายเป็นตัวอะไร “ธงผืนนี้ ผมจะขอฝากพวกคุณเอาไว้ก่อน ให้มันเป็นสิ่งเตือนใจพวกคุณให้รักษาสัญญาที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้ และทำตัวให้คู่ควรกับมัน”

น้องฮีโร่ซึ่งจนตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าชื่ออะไรวิ่งเข้ามารับธงไปจากแม็คด้วยรอยยิ้ม มันไหว้แม็ค แล้วหันมาไหว้ขอบคุณผม ก่อนจะวิ่งถือธงกลับเข้าไปที่นั่งของตน

“วันนี้ ผมถือว่าผมได้มอบธงแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ไว้ให้พวกคุณดูแล ธงผืนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียสละ ความรัก ความสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียว และความจริงใจ ผมหวังว่าพวกคุณจะรักษามันเอาไว้ รักษาซึ่งปนิธานของชาววิศวกรรมศาสตร์ที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเอาไว้... ขอให้โชคดี”

พูดจบพวกเราทุกคนก็ทยอยออกจากห้องไป ไอ้ปั๊ป ไอ้แม็ค และผม มองหน้ากัน ก่อนจะติดสปรีทเกียร์ม้าวิ่งไปที่สนามฟุตบอลกันทันที

ท้องฟ้ามืดแล้ว ฝนก็มีตกปรอย ๆ หวังว่าพายุมันคงจะยังไม่วิ่งอยู่นะ...

แต่เหมือนว่าเสียงภาวนาของผมมันจะส่งไปไม่ถึงฟ้า เมื่อมาถึงสนามยังเห็นร่างสูงโปร่งของเดือนปีสามยังคงวิ่งอยู่ไม่หยุด สีหน้ามันบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้า ขาที่ก้าวออกไปดูอ่อนแรงลงทุกที

“ไอ้ยุ พอแล้วมึง พอแล้ว”ผมตะโกนลั่น ไอ้ปั๊ปมันรีบวิ่งพรุ่งเข้าไปหาน้องของมันอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น “ไอ้วิศ ไอ้ปั้ม ไอ้พิช ทำไมมึงไม่ห้ามเพื่อนมึง”

“เฮีย ไม่ใช่หนูไม่ห้ามมัน แต่มันไม่ยอม มันบอกว่ามันจะรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับเฮีย”พิชมันพูดตอบกลับมาน้ำตาคลอ “เฮีย เฮียรู้ไหม ไอ้ยุมันหกล้มไปกี่รอบ มันก็ยังวิ่ง มันบ้าไปแล้วเฮีย มันบ้าชัด ๆ เลย”

ปั๊ปมันพยุงน้องเทคของมันมานั่งที่ข้างสนาม หยิบเอาผ้ามาชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้พายุมันอย่างเป็นห่วง

“วิศ ไปเอารถออกมา พี่จะพายุไปโรงบาล”ปั๊ปส่งกุญแจรถตัวเองให้กับวิศ ซึ่งน้องมันก็รับไปโดยดี พร้อมกับวิ่งไปขับเอารถออกมา “เหนื่อยแล้วทำไมไม่รู้จักพอ จะฝืนตัวเองไปทำไม พายุ”

“พี่ปั๊ป... ผมไม่เป็นไรหรอกน่า”เสียงที่ตอบมาโคตรแผ่วเบา รอยยิ้มบาง ๆ ฉาบทับบนใบหน้าที่แม้จะเต็มไปด้วยหยาดน้ำแต่ก็ยังคงหล่อสมศักดิ์ศรีความเป็นเดือน “เฮีย... น้องได้ธงไปไหม”

“เออ เอ็งไม่ต้องห่วงไปนักหรอก น้องมันได้ไปแล้ว สมใจเอ็งแล้วไง”ผมตบบ่ามันเบา ๆ แล้วถอนหายใจ “วิ่งแค่รอบเดียวก็พอแล้ว จะมาสปิริทสูงอะไรวิ่งตั้งแต่ต้นจนจบอย่างนี้วะ”

“ผมสัญญาแล้ว ผมต้องทำให้ได้ไงเฮีย... เหมือนที่เคยบอกไว้”

ใช่... วิศวะเรารักษาสัญญาของกันและกันเสมอ

ครืด

ใครมันส่งอะไรมาตอนนี้กันวะ ไม่รู้เวล่ำเวลาซะเลย

T.O Kung : ไอ้วัฒน์ มึงให้น้องวิ่งรอบสนามจนเดี้ยงคืออะไรวะ

T.O Kung : ออกมาเคลียร์ที่หอเดี๋ยวนี้เลย!

เวรกรรมของกูแล้วไง รู้ได้ยังไงกันวะเนี่ย

เหี้ยยยยยย

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@2

จะจบรับน้องแล้วค้าา เย้ ๆ // วิ่งไปทำธุระต่อ อ่านให้สนุกนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-05-2015 15:27:36
อ๊าว.....

แบบนี้ใครจะมีงานเข้าหรือเปล่า

รับน้องจริงจัง จนพี่ก็เครียดน้องก็เครียด

ใหนบอกว่ารับน้องเพื่อสามัคคี

นี่มันทรมาณกันชัดๆ คิดถึงพี่ทิวน้องข้าว จังเบย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 27-05-2015 15:39:53
 o18
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 27-05-2015 15:54:30
 :hao3:  ว๊ายๆๆๆ ตายแล้วๆๆ เฮียวัฒกับพี่ตังโอ  :z1: 
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 27-05-2015 16:17:41
:hao3:  ว๊ายๆๆๆ ตายแล้วๆๆ เฮียวัฒกับพี่ตังโอ  :z1:


จิ้นคู่นี้เหมือนกันสินะ ถถถถถ  :hao7:

รอหนาวกับยุป๊ะกันอีกรอบ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 27-05-2015 17:13:55
พี่ตังโอมาแล้วสิ    :hao4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-05-2015 17:59:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 27-05-2015 21:48:39
เราเห็นคนงานเข้า 55555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 27-05-2015 22:08:19
สู้ๆค่ะ รอฉากหวานของลมหนาวกะพายุอยู่ อิอิ  :hao6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 27-05-2015 23:50:09
รอทุกคู่ค่าาาาา :mc4:

โดยเฉพาะคู่สุดท้าย พี่วัฒน์ตังโอ คู่นี้เรายกให้เป็นคู่เอกเลย

หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 27-05-2015 23:57:13
 :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: AutumnWind ที่ 28-05-2015 14:43:24
ติดตามต่อค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 28-05-2015 21:31:08
โถวว  พ่อพายุ พ่อคนเสียสละ อย่าเพิ่งตายนะเอ็ง
555 ล้อเล่น ตอนนี้เอ็งเท่มาก ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 30-05-2015 12:59:41
รอทุกคู่ค่าาาาา :mc4:

โดยเฉพาะคู่สุดท้าย พี่วัฒน์ตังโอ คู่นี้เรายกให้เป็นคู่เอกเลย



คู่นี้อาจจะไม่มีมาลงให้อ่านนะคะ 5555 ยังไม่มีพล็อตเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: Beerr_jh ที่ 30-05-2015 18:58:08
รอฉากสวีทของคู่พายุกับลมหนาวอยู่นะ ><
ฉากสุดท้ายนี่มาวินมาก แย่งซีนสุดๆ 555 อยากรู้คู่นี้บ้าง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 31-05-2015 20:57:36
วันที่ยี่สิบหก

วันนี้ต้องพาน้องไปนอกมหาลัยตอนเย็น เหมืออาจารย์จะเห็นใจเลยยกคลาสช่วงบ่ายให้พวกผมได้ไปเตรียมตัวกันบ้าง อะไรบ้าง ก็ดีครับ จะได้ไปเช็คของรอบสุดท้ายดู

พวกเรานัดกันตอนห้าโมงเย็นที่ลานเกียร์ครับ รอบนี้คุยกันรู้เรื่องไวเพราะพายุมันไม่ได้มาคุยเอง แต่เป็นนิคกับพิชที่เป็นคนมาคุย
เอาจริง ๆ ผมไม่เห็นหน้าหมอนั่นมาสองสามวันแล้วล่ะครับ ตั้งแต่พวกน้องวิศวะได้ธงมาครอง ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเอามายังไง

จากคำบอก แล้วก็การส่งข่าว พวกรุ่นพี่ที่จบกันไปแล้วของพวกเราเมดเทค และพวกวิดวะจะมารวมตัวกันที่รีสอร์ท จะมาให้รุ่นพวกน้องกันเอง ผมตามใจพวกพี่เขาอยู่แล้ว ยังไงก็เหมือนทุกปีล่ะครับ พี่ปีสูงจะมาเป็นคนเปิดตู้กับข้าวปลดวินัย

ไปกันแค่สองวันสองคืน คงไม่ต้องอะไรกันมากหรอกมั้ง จะขนไปเยอะแยะก็เท่านั้น หนักกันเปล่า ๆ ล่ะนะครับ เอาเท่าที่จำเป็นก็พอ

ผมประชุมรวมวินัยทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันไปหอบกระเป๋าและโคตรอุปกรณ์ไปไว้บนรถบัสคันพี่ คันน้อง ๆ ก็จะมีพวกพี่สันไปนั่งอยู่ล่ะครับ ส่วนวินัยอย่างเรามากองรวมกันเอง ให้พวกเขาเฮฮาไป ดีกว่ามาคุตลอดทาง

นั่งรอน้องตั้งแต่สี่โมง ก็มีทยอยกันมาเรื่อย ๆ ประปราย ฝั่งวิศวะเห็นพิชกับนิคมารอน้องแล้วเหมือนกัน เปรี้ยวจี๊ดสมกับเป็นตัวแม่อย่างที่เขาลือกันจริง ๆ

นอกจากพวกเราแล้ว ก็มีแขกพิเศษที่ไม่ต้องเชิญอย่างพี่คิส พี่ทิว แล้วก็น้องฟางข้าวไปด้วยนะครับ พวกพี่เขาเอารถไปด้วยกัน แต่อยากจะบอกไฮโซทั้งสองว่าช่วยเอาแค่โตโยต้าวีออสธรรมดามาได้ไหม พี่แกล่อเอาพอร์เช่มานี่คืออะไรกันครับ... เวอร์ทุกที เห็นว่าเป็นรถของพี่คิสแกน่ะครับ

เอาเถอะ ปล่อยคนมีเงินปูแทนพรมบ้านไปเถอะครับ ของปันปันมัน ทุกคนอย่าไปยุ่ง เมื่อมะรืนแอบเห็นมันขึ้นรถพี่คิสแกไปข้างนอกด้วยกันสองต่อสอง ไม่บอกผมด้วย เอาสิ

ปากบอกหงุดหงิดที่พี่แกมายุ่มย่าม แต่ก็เห็นยอมไปด้วยกับพี่แกทุกที (ถึงส่วนใหญ่จะโดนลากไปก็เถอะ เห็นสูง ๆ เพรียว ๆ อย่างพี่คิส แต่แรงนี่ ช้างฉุดเลยนะครับ”

ยืนกอดอกรอพวกน้อง ๆ มากันโดยมีพลอยยืนเก๊กไม่ต่างกันอยู่ข้าง ๆ และมีน้องเทคนั่งเล่นเกมอยู่ปลายเท้า เกดมันมาไวตลอด พร้อมกับกล้องคู่ใจมัน แต่ไม่ยกขึ้นถ่าย ปล่อยมันติดเกมไปก่อนเถอะครับ เห็นว่าจะเคลียร์แล้ว

ไม่ไปเรียนนิเทศน์ให้รู้แล้วรู้รอดไปเนี่ย น้องเทคผม

พอใกล้ ๆ ห้าโมง น้องมากันครบแล้ว ตรงเวลากันดีนะครับ หางตาผมเห็นไกล ๆ เห็นวิศวะกับปั้มพยุงคนที่หายหน้าหายตาไปพักนึงมา พอมาใกล้จุดรวมพล พายุมันถึงค่อย ๆ เดินมาเอง เป็นอะไรของเขากันล่ะนั่น

"มากันครบไหมครับ"พายุมันถามขึ้นเสียงเข้มตามฉบับ เมื่อมันเดินมาถึงหน้าแถวที่พวกน้องนั่งเรียงกันอยู่ "มีใครขาดหายไปหรือเปล่าครับ"

"ไม่มีครับ/ค่ะ"น้องตอบกลับพร้อมกันเป็นเสียงเดียว พายุมันพยักหน้ารับแล้วหันมามองหน้าผม ให้ผมพูดต่อจากมัน โอเค ได้

"ดีครับ รู้กันแล้วใช่ไหมว่าใครอยู่รถคันไหน"ผมถามขึ้นบ้าง หลังจากเสียงเงียบลงไปชั่วครู่ "ไปรายงานตัวกับพี่ประจำรถ ห้ามสลับคันกันเองโดยพลการรู้ไหมครับ"

"ครับ/ค่ะ"

"เชิญครับ"สิ้นเสียงผมพวกเฟรชชี่หน้าใสทั้งหลายก็พากันลุกขึ้นไปที่รถของตัวเอง ผมหันไปมองเฮดของวิศวะที่ดูนิ่งกว่าปกติอย่างสงสัย พอ ๆ กับที่สงสัยว่าทำไมพวกวินัยของวิศวะมันถึงคอยมองหัวหน้าของพวกเขากันตลอด

เมื่อน้องซาลง พายุที่ยืนนิ่งมันมุ่นหัวคิ้วแน่น ก่อนที่ตัวมันจะค่อย ๆ ทรุดลง ผมรีบพุ่งเข้าไปพยุงมันเอาไว้ก่อน ร่างกายมันไปไวกว่าความคิดตลอด ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า เป็นอะไรไปล่ะเนี่ย

พิชกับนิครีบปราดเข้ามาดูเพื่อนของพวกเขาอย่างเป็นห่วง ปากถามย้ำ ๆ อยู่หลายรอบว่าไหวไหม ไหวแน่หรือเปล่า ซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น

"คุณเป็นอะไรไปเนี่ย คุณพายุ"ผมอดถามคนที่ผมพยุงน้ำหนักเอาไว้ข้างหนึ่งไม่ได้ อีกข้างปั้มมันเข้ามาพยุงเพื่อนตัวเองเอาไว้แล้วครับ "ทำไมคุณโทรมแบบนี้ล่ะ"

พวกวิศวะหันควับมามองผมเป็นตาเดียวด้วยสายตาที่ดูออกจะเคืองใจกันไม่น้อย แล้วไอ้สายตาค้อน ๆ นั่นคืออะไร ผมถามอะไรผิดเหรอครับ...

"หึหึ"พายุมันหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วส่ายหน้าน้อย ๆ "ไม่มีอะไร ผมแค่เหนื่อย"

ผมมองคนข้าง ๆ อย่างไม่เชื่อถือนัก มันต้องมีอะไรแน่ครับ ถ้าเป็นปกติหมอนี่ไม่มีทางพูดกับผมดี ๆ แบบที่ไม่มีการกวนประสาทสักนิดแบบนี้แน่

แล้วอีกอย่าง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นพวกลุยแหลกอย่างวิศวะ แต่ก็มีดีกรีเป็นเดือนมหาลัย ถ้าไม่ใช่เหตุจำเป็นจริง ๆ มันไม่มีทางโทรมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แบบนี้แน่

แต่มันไม่พูด ผมก็ไม่มีสิทธิ์อะไรไปก้าวก่าย

เพื่อนวินัยวิศวะของมันพากันมาหอบหิ้วมันไปขึ้นรถ ส่วนผมก็ขึ้นไปพร้อมกับเพื่อนผมเหมือนกันครับ นั่งรถคันเดียวกัน แยกคนละฝั่ง ข้างหลังเป็นของพวกวิดวะไปโดยปริยาย ก็จำนวนคนมันมาแบบนี้ ทำใจครับ

"กูว่า รถคันนี้ควรติดป้ายว่ะหนาว"เสียงพลอยมันตะโกนมาจากแถวหลังสุดของเมดเทค เงียบรอฟังทั้งคันรถล่ะครับ งานนี้ "ระวัง รถคันนี้คนเฮี้ยน"

ครับ เสียงฮามาทั้งคันรถ ก็จริงของมัน วินัยเป็นสิ่งที่เฮี้ยนมากสำหรับเฟรชชี่ เรียกว่าเดินไปไหนก็มันจะเจอเหมือนเงาตามตัว

"อะไร หนูออกจะใส ๆ นะพี่พลอย"ป๊อปเถียงขึ้นมา ก่อนหน้าเพิ่งงอแงที่ลากไอ้เกดมานั่งด้วยไม่ได้ รายนั้นไปนั่งคันน้องเทคตัวเองครับ ผมว่าไปเป็นเจ้ามือชัวร์

สาวน้อยตัวกลมแมน ๆ เตะบอล หนึ่งในฉายาที่มีคนตั้งให้น้องเทคผม แล้วมันก็ดูจะเป็นจริงซะด้วย ฮะ ๆ

คงเป็นจิตวิญญาณของวิชาชีพล่ะมั้งครับ ที่คนดลใจให้ผมกันไปมองพายุมันบ่อย ๆ ระหว่างที่เพื่อน ๆ น้อง ๆ มันนั่งล้องวงป๊อก แน่นอนว่าเมดเทคเราก็ไปร่วมกับเขาด้วย หลังจากต้องร่วมมือทำงานกันมา หลายอย่างมันก็เปลี่ยนไปนะครับ เราพูดคุยกันได้ เล่นกันบ้าง ถึงจะยังมีเขม่นกันเหมือนเดิม แต่ก็ไม่จะกระโจมใส่กัดกันเหมือนก่อนแล้วครับ แต่พายุมันกลับนั่งนิ่งไม่ลงไปล้อมวงกับเขาด้วย คิ้วมันก็ขมวดเป็นปมตลอด... มันทำให้ผมอดที่จะลุกไปดูหมอนั่นไม่ได้

ผมนั่งลงข้าง ๆ พายุ พร้อม ๆ กับที่มันลืมตาขึ้นมาดูน้อย ๆ พอเห็นเป็นผมก็ปิดลงไปอีก ผมหลุบตาลงไปดูขามัน ดูเกร็ง ๆ ทั้งที่อ่อนแรงเนี่ยนะ

"ปวดขาเหรอ"ผมเดาสุ่มอาการมันไป ตัวไม่ได้ร้อน คงไม่ได้ไม่สบาย พายุมันพยักหน้าให้ผมอย่างไม่อิดออดหรือกวนตีนอะไร หมดฤทธิ์ของแท้เลยนะครับ สภาพแบบนี้ "ไปนั่งข้างหน้าไหม จะได้ยืดขาหน่อย"

รถคันนี้ข้างหน้าเรายืดขาผ่านรั้วไปตรงบันไดได้น่ะครับ ส่วนข้างหลังวงไพ่เขายึดกันไปเรียบร้อยแล้ว คงไปขอที่เพื่อกางแอเรียไม่ได้

"ไม่เป็นไร"พายุมันปฏิเสธเบา ๆ แต่คิดว่าผมจะฟังมันไหมล่ะครับ... รู้กันว่าไม่ ตอนนี้มันเป็นคนป่วย ผมไม่ฟังมันหรอก (ปกติก็ไม่ฟังนะครับ)

"มา เดี๋ยวผมพยุงไป"ผมลุกขึ้นแล้วดึงให้มันขยับตัวตามผมมา แค่นิดหน่อยก็เห็นเฮดว๊ากตรงหน้าเม้มปากแล้ว สงสัยคงปวดไม่น้อย... ไปทำอะไรของเขามากันนะ "ค่อย ๆ เดินนะ"

ผมพยุงเอาคู่อริมานั่งข้างหน้า ตัวพวกเราไม่ได้ต่างไซต์กัน เพราะงั้นสบาย ๆ ครับ พอมันนั่งลง ก็จับให้มันเหยียดขาออก ถึงกับร้องออกมาเบา ๆ ดีที่ไม่มีใครสนใจ

กล้ามเนื้อขาของมันสั่นน้อย ๆ แล้วมีการเกร็งอย่างเห็นได้ชัดเป็นระยะ เหมือนถูกใช้งานหนักเกินไป ถ้าเป็นปกติไปใช้กล้ามเนื้อส่วนไหนหนัก ๆ ในช่วงเวลาเฉียบพลันจะแค่ปวดจี๊ด ๆ นะครับ แต่ดูทรงแล้ว ก่อนหน้าคงมีอักเสบมาด้วยแน่

ผมดึงเอาแผ่นตราเสือที่ซื้อมาให้น้องเทคที่ชอบปวดหลังออกมาแกะและแปะลงบนขา อย่างน้อยก็น่าจะพอช่วยบรรเทาปวดไปได้บ้าง

"ขอบใจ"

"อืม"ผมก้มหน้าลงไปมองท่อนขาเรียวที่อุดมด้วยมัดกล้าม สมกับเป็นคนที่เล่นกีฬาสม่ำเสมอนั่นล่ะครับ ผมยิ่นมือไปนวดคลึงเบา ๆ ที่น่องปูดนั่น พายุมันกระตุกไปที สงสัยจะหนักมือไปหน่อย เลยเบาลงอีกนิด มันมองผมอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ตรงข้าม ปมินี่กลับหลับตาลงให้ผมนวดอยู่แบบนี้แทน

จากกรุงเทพไปถึงระยอง ระยะทางไม่ไกลเท่าไหร่ นั่งรถก็ไม่นาน แต่สำหรับคนที่ปวดขา ถ้าต้องนั่งขางออยู่คงทรมานน่าดูเหมือนกันครับ

พวกวินัยวิศวะที่เลิกตั้งก๊กแล้วเดินวนเวียนมาดูเฮดของพวกเขากันอยู่ไม่ขาด ผมได้แต่ส่งสัญญาณให้เงียบเพราะมันหลับอยู่ หลับไปคงดีกว่าการที่นั่งปวดล่ะนะครับ แต่จะดีกว่านี้ถ้ามันไม่เอนมาพิงผม

"เอาไรไหมหนาว"ปันปันกระซิบถามเมื่อรถบัสจอดระหว่างทางให้ได้เข้าห้องน้ำ ซื้อของกินกัน ผมส่ายหน้าตอบมันเชิงว่าไม้เอาอะไร ปันมันด็พยักหน้ารับแล้วเดินออกไป

นั่งเฉย ๆ นาน ๆ แบบนี้ ผมก็ชักง่วงแล้วสิ...

ผมเอียงหน้าไปซบกลุ่มผมนุ่มของคนที่หลับซบไหล่ผมอยู่แล้วปิดตาลง... ในเมื่อคุณยึดไหล่ผมเป็นที่นอน ผมก็ขอยึดหัวคุณพิงหน่อยละกัน คุณพายุ


"หนาว ๆ ตื่นได้แล้ว"อืม... เสียงใคร ไม่ใช่เสียงปันปันนี่น่า เสียงเหมือนพี่ทิวเลย แต่พี่ทิวมาเอง จะมาอยู่บนรถบัสได้ยังไงกัน "หนาว ตื่น น้องรอกันอยู่ข้างล่างนะ"

ผมลืมตาขึ้นมองไปรอบ ๆ ถึงรีสอร์ทที่เราจองกันเอาไว้แล้วล่ะครับ เสียงคลื่นซัดชายฝั่งดังเข้ามาในหู ก่อนที่จะมีผ้าเย็น ๆ โป๊ะมาเต็มหน้า พร้อมกับแรงซับเบา ๆ

"ลงไปคุยกับน้องก่อนเร็ว"ผมพยักหน้ารับ แล้วหันไปมองใครอีกคนที่นั่งข้าง ๆ ที่กำลังหดขาที่ยืดมาตลอดทาง เพื่อจะลุกขึ้นยืน "ส่วนคนเจ็บ ให้นั่งอยู่ก่อน ห้ามดื้อรู้ไหมครับ"

พายุมันหันมามองพี่ทิวหน้าเหวอ ส่วนผมก็อดขำออกมาเบา ๆ ไม่ได้ รู้ทุกเรื่องสมเป็นพี่ทิวจริง ๆ นายแพทย์มาสั่งการเอง ลองดื้อดูสิครับ พี่ชายผมคนนี้ไม่เบามือให้หรอกนะ

"เดี๋ยวผมบอกให้เพื่อนคุณมาหิ้วคุณลงไปที่หลังแล้วกันนะ คุณพายุ"ผมล้อมันไปดอกนึง ก่อนจะลงจากรถไป ความจริงไม่ต้องบอกอะไรหรอกครับ แค่ผมลงมา วิศกับปั๊มก็สวนขึ้นไปหาเพื่อนพวกเขาเองละ

น้องปีหนึ่งยืนเรียงแถวกันเรียบร้อย โดยมีพี่ปีอื่นกระจายตัวกันอยู่รอบ ๆ แฟรชที่วูบวาบนั่นคงไม่ต้องถามว่าจากใคร รู้กันครับ

"อยู่กันครบใช่ไหมครับ"ผมกอดอกยืนอยู่หน้าน้อง ๆ ทุกคนเพียงลำพัง คนอื่น ๆ เขากระจายไปรอบ ๆ บางคนก็ไปเช็คสถานที่ก่อนให้น้องเข้าพักเพื่อความสะดวกและปลอดภัยน่ะครับ

"ครบครับ/ค่ะ"น้องตอบกลับกันมาทั้งสองคณะวิชา

"คืนนี้พวกผมจะให้พวกคุณไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เช้าแปดโมงรวมตัวกันที่ลาน ห้ามสายนะครับ"

"ครับ/ค่ะ"

"เขิญครับ"พูดจบผมก็แบกกระเป๋าตัวเองเดินไปที่บ้านพักหลังแรก หลังนึงนอนกันสิบคนครับ มีตึกที่เหมือนจะเป็นโรงแรมห้องละห้าคน กระจาย ๆ กันไปทั้งพี่ ทั้งน้องล่ะครับ

พี่ทิว น้องข้าว พี่คิส ก็ลากกระเป๋าตามหลังผมมา จริง ๆ ให้พี่เขาไปนอนที่ห้องพักอีกระดับของทางรีสอร์ทพี่แกก็ไม่ยอม จะมานอนด้วยกันแบบนี้ล่ะ

"ปันปันครับ มาเร็ว นอนกับพี่นะครับคนดี"พี่คิสเริ่มแล้วล่ะครับ ผมต้องบอกไหมว่าหน้าตาของเพื่อนผมตอนนี้เป็นยังไง อย่างที่คิดนั่นล่ะครับ ฮะ ๆ

"ไปไกล ๆ เลย พี่คิส"หลัง ๆ ก็พัฒนากันมาบ้างแล้วเหมือนกันนะครับ ปันปันมันยอมเรียกชื่อพี่แกแล้ว แต่ก็นั่นล่ะครับ ยังไม่ยอมให้แตะตัวอะไร ยังไงมันก็ผู้ชายแท้ ๆ นี่นะ ขนลุกเป็นธรรมดา

"พี่คิสนี่ อดทนขึ้นเยอะเลยนะ"เสียงนุ่ม ๆ เอ่ยเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เจือแววขบขันเอาไว้ พี่ทิวทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ผมแล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวผมน้อย ๆ "นอนมาบนรถแบบนี้ ปวดคอไหม"

"ไม่ฮะ"ผมตอบกลับไปตามจริง ไม่ได้รู้สึกปวดเมื่อยตรงไหน ออกจะปกติด้วยซ้ำไปล่ะครับ "แล้วใครเป็นคนขับรถมาล่ะครับ พี่ทิว"

"พี่คิสขับน่ะ เขาชอบอยู่แล้ว ซิ่งรถเนี่ย"พี่ทิวตอบกลับมา พร้อมกับยื่นมือมาบีบที่ไหล่ผมเบา ๆ รู้จนได้ว่าผมปวดไหล่อยู่... ไม่รู้ทันสักเรื่องจะเป็นอะไรไหมนะ

"ผมไปอาบน้ำก่อนนะฮะ"น้องข้าวที่กอดเสื้อผ้าเอาไว้แน่น เดินเข้ามาบอกกับพี่ทิว ดวงตาคู่โศกของน้องเขาดูสั่นระริก... เหมือนกำลังเสียใจ

"อืม ระวังอย่าลื่นล้มล่ะ"พี่หมอทิวหันไปรับคำด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล หังดูเป็นห่วงเป็นใยเหมือนปกติ งั้นก็ไม่น่ามีอะไรล่ะมั้ง "อย่าอาบนานนักล่ะ แถวนี้อากาศชื้น เดี๋ยวจะไม่สบายเอา"

"ฮะ"น้องข้าวพยักหน้ารับ แล้วเดินออกไปเงียบ ๆ เอ... ผมว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่ ๆ ทำไมน้องเขาดูห่อเหี่ยวขนาดนั้น ทั้งที่ปกติออกจากดู อืม... สดใสก็ไม่เชิง แต่ก็ยังดูร่าเริงกว่านี้

หลังจากที่ฟางข้าวอาบน้ำเสร็จ พี่ทิวก็ไล่ผมไปอาบต่อ และตามด้วยพี่เขา เหมือเป็นอัตโนมัติที่พอพี่ทิวทำอะไรเสร็จ คนอื่น ๆ ก็จะรีบจัดการตัวเองให้เสร็จ

ผมทิ้งตัวลงนอน ข้าวเย็นขอไม่กินแล้วกันครับ ง่วงเกินจะลุกขึ้นมากินแล้ว ก่อนจะหลับลงไป เหมือนพี่ทิวจะล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ความอบอุ่นที่ไม่ได้สัมผัสมาพักหนึ่งโอบรัดกายเอาไว้

"ฝันดีนะครับ"แล้วทุกอย่างก็เงียบหายไป


แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านหน้าต่างมาแยงตา ปลุกให้ผมตื่นขึ้น อืม... เอาจริง ๆ วันหยุดแบบนี้ ผมไม่อยากตื่นหรอกครับ อยากนอนสบาย ๆ มากกว่า

แต่ไม่ได้ ผมยังมีภารกิจต้องทำให้เสร็จ

"ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัวนะ หนาว"เสียงที่เคยคุ้นกันดีพูดกระซิบขึ้น พี่ทิวตื่นเช้าตามเคย "อย่าขยับตัวเสียงดัง หรือกระชากล่ะ ดึงเขาออกเบา ๆ ให้ข้าวนอนไปก่อน"

ดึงออก... ตอนแรกผมก็งงครับว่าดึงอะไร แต่พอลืมตามเต็มตาแล้วหลุ่บมองในอ้อมแขน ก็เห็นลูกแมวตัวน้อยขี้อ้อนนอนหลับสบายซุกอกผมอยู่ นี่ผมนอนกอดกับน้องข้าวตอนไหนกันล่ะเนี่ย

ตัวนุ่ม ๆ หอม ๆ น่ารักชะมัดเลยครับ

ผมค่อย ๆ ขยับตัวออกมายืนข้างเตียง เอาผ้าห่มร่างเล็กที่ขดตัวเข้าหากัน แล้วจึงหันไปมองเตียงตรงข้ามที่ปันปันมันนอนอยู่

"ถ้าถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์ จะโกรธไหมเนี่ย"ผมพึมพำออกมาเบา ๆ แล้วแอบหัวเราะอยู่คนเดียว กอดกันกลมเลยนะ พี่คิสกับปันปันน่ะ เพื่อนผมติดหมอนข้าง คงคิดว่าพี่คิสเป็นหมอนข้างอยู่แน่ กอดแน่นเลย

ผมหันมาหยิบเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋า กดมือถือดูความเคลื่อนไหวโลกโซเชียล เพิ่งหกโมงครึ่งเองแหะ ตื่นเช้าเหมือนกันนะ แดดดีจริง ๆ

"เฮ้ยยย อะไรวะเนี่ย"ระหว่างที่อาบน้ำอยู่ก็ได้ยินเสียงปันปันตะโกนแว่วเข้ามา ฮ่า ๆ ตื่นมาอยู่ในอ้อมแขนของคุณคิส ท่าจะตกใจน่าดูเลย

“อาละวาดอะไรแต่เช้าเลยวะ ปัน”ผมแกล้งถามมันเมื่อเดินเข้ามาในห้อง มันมองผมตาเขียวปั๊ดเลย ฮ่า ๆ ไม่ได้ทำอะไรให้สักหน่อย

“เงียบไปเลย มึง แม่ง”มันคว้าเอาเสื้อผ้าเดินลงส้นไปอาบน้ำ เหมือนสาวน้อยที่โมโหแก้เขินเลย ให้ตายเถอะ เพื่อนผม ถ้าอยู่ที่ห้องจะหัวเราะกลิ้งเลย

“พี่คิสก็ไปแกล้งมัน”หันมาหาคู่กรณีอีกคนที่นั่งยิ้มหวาน หน้าก็หวาน ยิ้มก็หวาน ถ้าเป็นผู้หญิงไอ้ปันคงยอมตกลงเป็นแฟนไปตั้งแต่วันแรก ๆ แล้วล่ะมัง

“อะไร พี่ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”พี่แกลอยหน้าลอยตา ปฏิเลธปัดข้อหาให้พ้นออกจากตัวไป “ปันปันน้อยมานอนกอดพี่เองนะ พี่ไม่ได้เริ่มก่อนนี่”

ก็จริงของพี่แก... เถียงอะไรไม่ได้

เช้านี้เลยเป็นเช้าที่โคตรวุ่นวายเลยครับ ปันปันตาขวางแต่เช้าไม่มีใครเข้าหน้าติด แต่ตัวต้นเหตุที่ทำให้หมอนั่นอารมณ์บ่จอยยังคงเสนอหน้าไม่หวั่นในแรงอารมณ์เลยครับ นะ เพื่อนกันเองยังเข้าหน้าไม่ติด ลาอะไรกับน้อง หัวหดกันไปเป็นแถบ ๆ

นัดแปดโมงนี้ แค่จะรวมตัวกัน พาไปกินข้าว คนจำนวนเยอะ ๆ ขนาดนี้ กว่าจะรวมตัวกันได้ก็กินเวลาไปถมที่เลยล่ะครับ แต่ยังดีที่เลยไม่มาก

พายุมันเดินลากขามายืนข้างผม ก็ดูดีกว่าเมื่อวานอยู่นะครับ ค่อยสมกับการเป็นคู่ปรับกับผมหน่อย

"เดี๋ยวพี่ของพวกคุณ จะพาพวกคุณไปทานข้าวนะครับ"พายุมันเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ดวงตาคู่คมกวาดมองน้องรอบ ๆ "อยากแตกออกนอกกลุ่ม ถ้าพวกคุณหายไป จะไม่มีใครตามหานะครับ"

"ครับ / ค่ะ"

"ถ้าเข้าใจแล้ว เชิญปีสองครับ"ผมปิดท้ายให้ แล้ววินัยทั้งหมดก็เดินล่วงหน้าไปที่ห้องอาหารก่อน อืม คุณเฮดวิศวะไม่ต้องให้ใครพยุงแล้ว ดีขึ้นแล้วจริง ๆ สินะ

ใช้เวลากินข้าวอะไรกันก็ชั่วโมงนึง ก่อนที่จะมานั่งเรียงรวมตัวกันอยู่ที่ลานใกล้ ๆ ห้องอาหารนี่ล่ะครับ ตอนนี้เหลือแต่ผม พายุกับวินัยไม่กี่คน ที่เหลือต้องไปเตรียมฐานกันแล้ว

“นับ 1 -15 เรียงกันไปครับ”ต้องแบ่ง 15 กลุ่มไปวนฐาน มันดูเยอะใช่ไหมครับ แต่มันมีแบ่งอีกทอด เป็นหลุ่มใหญ่อีก 3 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมี 5 กลุ่มย่อย นับแล้วทุกกลุ่มจะได้วนฐานอยู่ 5 ฐานครับ

ต้อง 5 ฐานเท่านั้น ห้ามขาด ห้ามเกิน

เพราะตัวอักษรคำว่า Sotus มันมี 5 ตัวนี่ครับ

พอแบ่งกันจนครบ จะมีปีสองที่เป็นพี่กลุ่มมารับน้องไปเดินฐาน ส่วนพวกผมไม่ได้มีหลัก มีแหล่งที่ฐานใดฐานหนึ่ง ก็เดินไปทั่ว ๆ นั่นล่ะครับ แล้วก็เตรียมงานสำหรับตอนกลางคืนด้วย

พอผ่านคืนนี้ไป การรับน้องก็จะจบลงแล้ว ผมก็จะได้พักสมองสักที... แล้วค่อยลุกขึ้นมาลุยใหม่เรื่องแสตนด์

“ทำหน้าสบายใจเชียวนะ ลมหนาว”พออาการดีขึ้น ปากก็กลับมาใช้งานได้เลยนะ หมอนี่ “เตรียมใจไว้เถอะ หลังจบรับน้องเราต้องทำงานกีฬาต่อ ยังไงคราวนี้ผมก็จะชนะคุณให้ได้”

“ทำให้ได้ก่อนค่อยมาพูดเถอะ คุณน่ะ”ผมกระตุกยิ้มเย็นส่งให้มันไป

“แน่นอน อย่าลืมซะล่ะ เตรียมล้างท้องเป็นเมียผมได้เลย คุณลมหนาว”พายุมันกระซิบที่ข้างหูผมเบา ๆ ก่อจจะเดินไปหาเพื่อนของมัน

คิดว่าอะไร ๆ มันจะง่ายอย่างนั้นหรือไง

ไม่มีอะไรเป็นไปตามที่หวังได้ตลอดหรอกนะ

คอยดู! แล้วเราจะเห็นดีกัน!

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ตอนต่อไปจะจบรับน้องแล้วค่ะ ^^/ ดีใจเบา ๆ 5555 :-[

ยังคงหยอดโมเม้นเล็ก ๆ ไปเรื่อย ๆ... (ใครรอหวาน ตอนหน้าเกือบล่ะมั้ง...)

แล้วพบกันค้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 31-05-2015 21:01:56
 :กอด1:

 :L1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 31-05-2015 21:14:46
 :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 31-05-2015 23:20:58
หนาวน่ารักมาก  :-[ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 31-05-2015 23:27:18
รอออออออออออตอนต่อไป อุอิ  :hao6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 01-06-2015 01:24:22
พ่อพายุนี่ดูว่าฟื้นหรือยังให้ดูที่ปากสินะ? 5555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 01-06-2015 01:31:53
สมัยเรา ไม่มีรับน้องนอกสถานที่อ่ะ  T_T
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 01-06-2015 03:47:04
อ่านะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 01-06-2015 04:08:32
สงสารน้องข้าวจุงเลอ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 01-06-2015 06:11:48
 :z2: :z2: :impress2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 01-06-2015 09:12:17
คิดถึง รับน้องงงง 5555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 01-06-2015 12:15:01
นอนกอดกันกลมเลยนะพี่คิสน้องปันปัน

พายุได้ว่าที่คุณหมอลมหนาวนวดขาให้สบายเลยสิ

พี่ทิวของทุกนี่ใจดีไปทั่ว

รู้ใหมน้องฟางข้าวเขาน้อยใจ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่25 P.16[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/05
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 01-06-2015 13:02:10
รอทุกคู่ค่าาาาา :mc4:

โดยเฉพาะคู่สุดท้าย พี่วัฒน์ตังโอ คู่นี้เรายกให้เป็นคู่เอกเลย



คู่นี้อาจจะไม่มีมาลงให้อ่านนะคะ 5555 ยังไม่มีพล็อตเลยค่ะ
แอร๊ยยย เขียนเป็นอีกเรื่องเลยค่า
ชีวิตรักพี่ว้ากพี่วินัยรุ่นเดอะ กร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 01-06-2015 18:24:30
รอทุกคู่ค่าาาาา :mc4:

โดยเฉพาะคู่สุดท้าย พี่วัฒน์ตังโอ คู่นี้เรายกให้เป็นคู่เอกเลย



คู่นี้อาจจะไม่มีมาลงให้อ่านนะคะ 5555 ยังไม่มีพล็อตเลยค่ะ
แอร๊ยยย เขียนเป็นอีกเรื่องเลยค่า
ชีวิตรักพี่ว้ากพี่วินัยรุ่นเดอะ กร้ากกกกก
5555 เรื่องต่อไปมีแพลนแล้วค้า เขียนคู่กันมาอยู่ ^^' แฮร่
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่26 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ31/05
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 03-06-2015 20:26:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-06-2015 19:37:44
วันที่ยี่สิบเจ็ด
(คีตา)

ไม่รู้ว่าพรมลิขิตหรือฟ้ากลั่นแกล้งผมเหมือนกันนะ กลุ่มตั้ง 15 กลุ่ม แต่ผมกลับได้มาอยู่กับพี่กิต... ที่มาเป็นพี่ประจำกลุ่มแบบนี้
ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเลย...

พี่กิตยังคงเหมือนเดิม ยังคงยิ้มอย่างอบอุ่น ยังคงพูดด้วยเสียงที่นุ่มนวลไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่ทุกอย่างที่ผมเห็นอยู่นี้ มีเจ้าของแล้ว

"คี เป็นอะไรหรือเปล่า"พี่กิตหันมาถามผมด้วยท่าทางที่เป็นห่วงเป็นใย ผมยิ้มแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ "ถ้ารู้สึกไม่สบายให้บอกพี่นะครับ"

"ครับ"ผมไม่ตอบอะไรไปมากกว่านี้ พี่กิตเม้มปากเข้าหากันน้อย ๆ แล้วหันไปทางอื่นแทน

เดินกันมาพักนึงก็มาถึงฐานแรก เป็นฐานของพี่ปีสี่ที่ไม่ค่อยได้เห็นหน้าเห็นตากันมากนัก

"ไง ทุกคน สวัสดีจ้า"พี่สาวผมลอนเป็นคนแรกที่เอ่ยทักพวกผม "ยินดีต้องรับเข้าสู่ฐานปีสี่ของพวกพี่นะคะ มา ๆ มานั่งกันก่อนเร็ว"

ผมกับเพื่อน ๆ ไปนั่งเรียงแถวกันบนถนนปูน ดีที่อากาศไม่ร้อน ไม่อย่างนั้นคงได้ชาก้นกันไปข้างแน่ ๆ เลยล่ะฮะ

"ไม่ได้เจอหน้ากันเลยเนอะ น้อง ๆ คงไม่คุ้นกับพวกพี่เท่าไหร่สิ"พี่สาวคนเดิมหัวเราะเสียงใส แล้วยิ้มมาให้อย่างร่าเริง "ฐานของพวกพี่ ไม่ยากอะไร ให้น้องหาของในรูปนี้ให้เจอก็พอแล้วจ้า"

พี่ผู้ชายคนนึงยกรูปขึ้นมา เป็นรูปของไอโฟนเครื่องหนึ่ง ที่ใส่เคสรูปหอยทาก... ดูเข้ากันดีนะครับ มั้งนะ

"พี่มีเวลาให้ 10 นาทีหาของสิ่งนี้ให้เจอภายในเวลาที่กำหนดเอาไว้นะคะ"พี่เขาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่สวมไว้ แล้วเงยขึ้นมาหาพวกผม "เริ่มได้แล้วค่ะ"

สิ้นเสียงของพี่เขา พวกเราก็เริ่มออกตามหาสิ่งของพูดให้ถูกคือไอโฟนเครื่องนั้นทันที เริ่มโดยการหาจากรอบ ๆ ทั้งในกล่องในตะกร้ารวมทั้งในถุงที่ใส่ของต่าง ๆ เอาไว้พี่ว่างอยู่รอบ ๆ นี้ทั้งหมด แต่ก็ยังไม่เจอ

มันดูเป็นเรื่องที่ง่ายนะครับแต่นะการหาของชิ้นหนึ่ง มันก็ใช่ว่าง่ายเสมอไปเพราะเราไม่รู้และไม่มีคำใบ้ว่ามันอยู่ที่ไหนมันต้องหาด้วยการสุ่มเท่านั้นมันเลยยาก

หาไปพักหนึ่งมันเริ่มทำให้ผมคิดได้ว่าของมีค่าเขาคงไม่วางทิ้งเอาไว้เพราะฉะนั้นมันคงอยู่กับพี่คนใดคนหนึ่งแน่ ๆ เลยใช่ไหมครับ

"พี่ครับ ผมขอดูมือถือของพี่หน่อยได้ไหมครับ"ผมเดินเข้าไปถามพี่ที่คุมฐานคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ไม่ไกลเค้ายิ้มแล้วหยิบมือถือขึ้นมาให้ผมดูมันเป็นยี่ห้อซันซุม เพราะอย่างนั้นจึงไม่ใช่พี่คนนี้

พอเพื่อน ๆ ในทีมของผมเห็นผมทำแบบนี้พวกเขาก็เริ่มเข้าไปหาพี่ทีละคน ๆ ถามแบบเดียวกับผมพี่บางคนก็ไม่ยอมหยิบขึ้นมาให้ดูง่าย ๆ มีการแกล้งก่อนเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วจึงหยิบให้ดู

"พี่ครับ ผมขอดูมือถือหน่อยได้ไหมครับ"ผมเดินเข้าไปถามพี่อีกคนที่ยืนทำหน้านิ่ง ตีหน้าเฉย ทำตัวจืดจางไม่ให้ใครไปสนใจพี่เขายิ้มแล้วหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาให้ผมดู

"ไม่คิดว่าจะมาหาพี่นะครับน้องคี"พี่เขาเอ่ยปากพูดกับผมด้วยท่าทีสบาย "ยินดีด้วยนะครับน้องหาเจอแล้ว ไปเรียกเพื่อน ๆ มารวมตัวเถอะใกล้จะถึงเวลาแล้วนะ"

ผมถือไอโฟนเคสหอยทากไปชูให้เพื่อน ๆ ดู หลายคนหัวเราะออกมาอย่างดีใจ ที่สนิทกน่อยก็วิ่งมากอดคอ ส่วนพี่กิต... พี่เขาปรบมือให้ผมเบา ๆ

ผมกับเพื่อนมานั่งรวมกันอีกครั้ง พี่สาวหัวหน้าฐาน ที่ผมเพิ่งมารู้ชื่อว่าชื่อพี่ยุ้ยเดินมาอยู่ด้านหน้า ปรบมือให้กับพวกผมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

"ทำเวลาได้ดีเลยค่ะ ยังไม่หมดเวลาเลยเหลืออีกนิดนึง ดีแล้วที่ทำได้อย่างนี้นะคะ เอาล่ะพี่ขอดูของที่หามาได้หน่อยนะ"ผมส่งไอโฟนในมือให้พี่เขาและพี่เขาก็ส่งคืนให้กับพี่คนนั้นที่เป็นเจ้าของ "เก่งมากค่ะถูกต้องแล้วไอโฟนของพี่บุ๊ค"

"เคสพี่ดูติงต๊องไปหน่อย ขอโทษทีนะครับ"พี่บุ๊คแกพูดด้วยเสียงร่าเริงบนหัวเราะขบขัน ก็แน่สิ เคสพี่เขาดูเด็กมากเลยนี่ครับ "ไม่สมกับเป็นวิศวกรรมเลยเนอะ ฮ่า ๆ"

พี่เขาดูเป็นคนอารมณ์ดีแบบจืด ๆ ดีนะครับ

"เอาล่ะค่ะ พี่ของน้องน้องทุกคนได้บอกเอาไว้ไหมคะว่าต้องเอาอะไร ต้องหาอะไร"พี่ยุ้ยถามขึ้นเสียงใส

"หา RC ครับ/ค่ะ"ผมกับเพื่อนตอบไปพร้อมกัน พี่เขาพยักหน้ารับอย่างพอใจ

"ถ้าอย่างนั้น ก็หาสิ่งที่น้องต้องการเลยค่ะ"งานนี้ไม่มีใครขยับตัวไปไหนเลยครับ ทุกคนจ้องไปที่ข้อมือของพี่ยุ้ยที่มีผ้าผูกอยู่ ก่อนที่เพื่อนสาววิดวะจะลุกขึ้นเดินเข้าไปหาพี่เขา

"พี่คะ หนูขอผ้าที่ผูกข้อมือพี่อยู่ได้ไหมคะ"เธอถามออกไปอย่างสุภาพ พร้อมกับส่งรอยยิ้มอ้อน ๆ ให้

"เอ๋ อันนี้น่ะเหรอ"พี่แกโบกข้อมือไปมา ให้หน้ายังคงแต้มรอยยิ้ม "อยากได้ของ ๆ พี่ ก็คงต้องมีอะไรมาแลกกันหน่อยนะจ๊ะ สาวน้อย"

"พี่ต้องการอะไรเหรอคะ"เธอยังคงตอบด้วนเสียงที่มันคง ไม่สั่นไหว ไม่กลัว ใจกล้าดีเหมือนกันนะครับ

"น้องได้อะไรจากฐานของพี่คะ"พี่ยุ้ยยิงคำถามมาพร้อมรอยยิ้มตามฉบับ คำถามที่ฟังดูง่าย แต่คำตอบที่ฟังแล้วใช้ได้มันหายากนะครับเนี่ย

ทุกคนนิ่ง หาคำตอบในใจ คำตอบที่พี่เขาต้องการจะเป็นแบบไหนกันนะ มันตอบได้หลายด้านเกินไปซะด้วยสิ

"คำใบ้คือ S"พี่บุ๊คเปรยขึ้นมาเบา ๆ เอสงั้นเหรอ... มันคืออะไรกันนะ ตัวเอสเนี่ย

"อ๊ะ"ไอ้เล ทะเลจำกันได้ไหมครับ มันดีดนิ้วดังเป๊าะ แล้วลุกขึ้นยืน "ฐานนี้สอนให้พวกเรารู้จักนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ ผู้ที่สูงวัยกว่าเรา ให้ความเคารพทั้งกิริยา วาจา เพื่อให้เป็นที่รักต่อผู้พบเห็นครับ"

"เยี่ยม คำตอบเยี่ยมมาก เอาไปเลยจ้า"พี่ยุ้ยดึงผ้าที่ข้อมืออกส่งให้เลมัน เอ... ไอ้จัวเอสนี่มันมาจากอะไร คำตอบของเลมันไม่ได้มีตัวเอสสักหน่อย "แล้วเจอกันใหม่น้า ทุกคน"

พี่กิตพาพวกผมเดินออกจากฐานมา ผมหันไปมองหาเพื่อนซี้เพื่อถามข้อคาใจ แต่ยังไม่ทันจะหาเจอ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ ๆ ก่อน

"S มาจาก Seniority ที่แปลว่า อาวุโส พี่เขาต้องการสื่อให้รู้จักนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นน่ะ คี"พี่กิตเอ่ยขึ้นข้าง ๆ ผม เหมือนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่

"อ่อ... ครับ"ได้แต่รับคำสั้น ๆ เหมือนเดิม ทำเอาพี่กิตหน้าเสียไปเหมือนกัน แต่ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรที่ดีกว่านี้แล้วนี่ครับ ไม่รู้จะตอบอะไร...

ในช่วงเวลาที่กำลังห้ามใจไม่ให้ถลำลึกไปมากกว่านี้

ฐานต่อมาเป็นของพี่วินัยตัวแม่ครับ ตัวแม่จริง ๆ ก็เล่นมีทั้งพี่พลอยและพี่พิชอยู่ด้วยกัน ทำหน้าถมึงทึงเป็นยักษ์กันอยู่ในศาลา

"นั่งลงให้เรียบร้อยค่ะ"ดีกรีเสียงพี่พลอยไม่มีตกครับ ดังดีไม่มีสะดุด "ฐานของพี่เป็นฐานวินัย รู้กันแก่ใจใช่ไหมว่าเป็นฐานเกี่ยวกับอะไร"

"ทราบครับ / ค่ะ"แสดงว่าฐานนี้เป็น O Order การปฏิบัติตามระเบียบวินัย ไม่รู้พี่เขาจะให้พวกเราทำอะไรเหมือนกันนะครับเนี่ย

"ส่งตัวแทนออกมาค่ะ 4 คนเลือกคนที่แม่นกฎระเบียบของทั้งสองคณะมากที่สุดนะคะ"พี่พิชเป็นคนออกคำสั่ง โดยฝั่งเมดเทคส่งผมและเลออกมา ส่วนฝั่งวิศวะ ส่งโป้ยกับเล็กออกมา "เห็นลังตรงหน้าไหมคะในนั้นจะมีลูกบอลที่เขียนกฎต่าง ๆ เอาไว้ ให้คุณหยิบลูกบอลพวกนั้นออกมาโดยกฎจะต้องถูกต้องครบถ้วน หาออกมาให้ได้มากที่สุดภายในเวลา 10 นาทีเข้าใจไหมคะ"

"ครับ"ไอ้หาลูกบอลน่ะมันไม่เท่าไหร่หรอก  แต่กฎต้องถูกต้องทั้งหมดทุกตัวอักษรนี่ดิมันยากอยู่เหมือนกันนะไม่ใช่ว่าผมจะท่องได้หมดทุกตัวอักษรซะที่ไหนกันล่ะ เอาเถอะไม่ได้ผิดมากหรอกมั้ง พี่เค้าคงไม่ใจร้ายขนาดที่เขียนผิดแค่คำเดียวหรอกหรือเปล่านะก็ต้องลองดูนะครับงานนี้

พี่นนท์เป็นคนให้สัญญาณเวลา เมื่อถึงเวลาเริ่มพี่เขายกมือขึ้น พวกผมต้องรีบหาให้เร็วที่สุด อ่านให้เร็วที่สุด และเช็คความถูกต้องให้เร็วที่สุดเช่นกัน ความหวังของเพื่อนเพื่อนอยู่กับผมแล้วผมจะทำให้ทุกคนผิดหวังไม่ได้

น้ำในลังนั้นเย็นเฉียบ ก็นะทำไงได้ล่ะครับ ในละงมันมีน้ำแข็งอยู่นี่นา มือผมชาตั้งแต่ 5 นาทีแรกแล้ว แต่ผมก็ไม่หยุดคุ้ยลูกบอลขึ้นมาอ่านหลายลูกที่ขึ้นมามันก็ไม่ใช่ มีอยู่ไม่กี่ลูกนั่นแหละที่หยิบขึ้นมาแล้วใช่ เพื่อนร่วมทีมผมก็ไม่ต่างกัน

สัญญาณหมดเวลามาถึงอย่างรวดเร็วพรุ่งนี้ต้องรามือออกจากถังน้ำแข็งที่เย็นเฉียบนี้เกือบจะยินดีนะครับ ถ้าไม่ใช่ว่าลูกบอลที่หยิบออกมาได้นั้นมีไม่เยอะเท่าที่ควร ในเวลา 10 นาทีผมและเพื่อนร่วมทีม 4 คนหยิบลูกบอลออกมาได้แค่ 15 ลูกเท่านั้น จากกฎนับ 100 ข้อของมหาวิทยาลัย

"สิบห้าลูกงั้นเหรอ"พี่พลอยกับพี่พิชเดินเข้ามาเช็คลูกบอลในตระกร้า "ถือว่าเยอะอยู่เหมือนกันนะ 15 ลูกนี้ กฎที่เขียนเอาไว้ถูกต้องทั้งหมด นับว่าใช้ได้ ให้ผ่าน"

เพื่อน ๆ ที่นั่งลุ้นกันอยู่ปรบมือกันดังลั่นแสดงความยินดีที่พวกเราสามารถผ่านฐานนี้ไปได้แม้ว่าจะเย็นไปหน่อยก็เถอะแต่ผมก็ดีใจนะครับเหลือแต่...

"เอ่อ... พี่ครับ อาร์ซี..."ทะเลรวบรวมความกล้าถามขึ้นพี่พลอยหันมามองหน้าแล้วเลิกคิ้วขึ้นเชิงถาม "คือ ผมจะขออาร์ซี..."

"คุณอยากได้อะไร จากใคร ก็ไปบอกคุณนั้นไม่ต้องบอกมาบอกฉันเข้าใจไหมคะ"พี่พลอยแกหันไปหน่อนลูกบอลใส่ลงไปในลัง ไม่สนใจไอ้เลอีก

ผมเดินเข้าไปหาพี่นิค จ้องตากับพี่เขา ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

"พี่ครับ ผมขออาร์ซีที่พี่ผูกไว้ที่ต้นแขนได้ไหมครับ"ผมถามด้วยเสียงที่นอบน้อมพี่นิคมองผมด้วยสายตาที่เรียบเฉยไม่สื่อความใด ๆ

"อยากได้ก็มาแกะเอาไปเอง"เสียงทุ้มเอ่ยกับผมสั้น ๆ ก่อนจะกอดอกหลวม ๆ

"ขอโทษด้วยนะครับ"ผมยื่นมือไปแกะเอาอาร์ซีที่แขนพี่เขาออกมาอย่างเบามือที่สุด โดยมีสายตาของพี่แกจ้องอยู่ตลอดเวลา "ขอบคุณมากครับ"

"เชิญ"เสียงกริ่งหมดเวลาดังขึ้นพอดี โชคดีไปที่ขอทัน แล้วก็นับว่าพี่วินัยใจดีมากนะครับวันนี้ ถ้าเป็นปกติคงไม่ให้มาง่าย ๆ ขนาดนี้หรอก

ตอนนี้ได้มาสองอันละ เหลืออีกสามอัน สามฐาน สู้เขา คีตา สู้เขา

ไม่มีใครให้กำลังใจ ก็ต้องให้ตัวเองล่ะครับ จริงไหม ฮ่า ๆ ๆ ๆ

มาฐานที่สาม ฐานนี้อยู่หน้าบ้านพักริมทะเลครับ พี่ปีสามจำนวนหนึ่งยืนกองกันอยู่ พอพี่คนหนึ่งคงเหลือบมาเห็นพวกผม เสียงกลองจังหวะสามช่าก็ดังขึ้นทันที

"เป็นวงกลม เป็นวงกลม เป็นวงกลม"มาถึงก็เรียงกันเป็นวงกลมเลยครับ กลุ่มที่เดินฐานนี่ค่อนข้างใหญ่อยู่ ร้อยกว่าคนเลยต้องซ้อนหลายวงสักหน่อย

"เอาล่ะ สวัสดีครับ น้อง ๆ ทุกคน คงจำพี้กันได้บ้างล่ะเนอะ"พี่นพ โฆษกปีสามพูดขึ้นยิ้ม ๆ ดีกรีเสียงดังเท่า ๆ กับพี่พลอยครับ แต่เป็นมิตรกว่ากันเยอะ "ฐานนี้เราเล่นกันสบาย ๆ ชิว ๆ ขอตัวแทนยี่สิบคนนะครับ"

คำว่าขอตัวแทนเป็นอะไรที่ทำให้หลายคนตัวแข็งไปเลยครับ ผมก็เหมือนกัน ฮ่า ๆ จริง ๆ เพื่อนก็จะส่งผมออกไปนั่นแหละ แต่ผมอ้างได้ว่ารอบที่แล้วออกไปแล้ว เปลี่ยนกันบ้าง งานนี้ ผมกับเลเลยรอดมาแบบหวุดหวิด

สรุปแล้วกว่าจะถีบกันออกไปครบก็กินเวลาไปโขใหญ่ล่ะครับ แต่อย่างน้อยก็ครบกันล่ะนะ

"ได้ตัวแทนกันมาแล้วเนาะ พี่เชื่อว่าน้อง ๆ คงเดากันได้แล้วว่าคอนเซปของฐานพวกพี่คืออะไร แต่ก่อนอื่น แบ่งฝั่งโดยการนับ 1 และ 2 เลข 1 ให้อยู่ซ้ายมือพี่ ส่วนเลข 2 อยู่ขวามือนะครับ"

เมื่อแบ่งทีมกันได้แล้ว พี่เขาก็ให้ส่งตัวแทนมาจับไม้สั้นไม้ยาว

"ไหน ฝั่งไหนได้ไม้ยาวครับ"ฝั่งซ้ายมือพี่เขายกมือขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ กัน "ยินดีด้วยนะครับ น้องได้เป็นฝ่ายทำล่ะ"

สีหน้าของเพื่อนฝั่งนั้นดูดีขึ้นเป็นกอง ส่วนอีกฝั่งคงไม่ต้องบอกนะครับ ฮ่า ๆ ซีดเป็นไก่ต้มจะใกล้เปื่อยกันแล้ว ยิ่งเห็นรอยยิ้มของพี่ที่อยู่รอบ ๆ ยิ่งซีดกันเข้าไปใหญ่

มีพี่สองสามคนเดินเอาผ้ายาว ๆ มาส่งให้กับพวกฝั่งซ้าย ดูแล้วน่าจะเอามาปิดตานะครับ ก่อนที่จะพากันยกลังขนาดพอประมาณสองลังขึ้นมาวางบนโต๊ะ

"น้อง ๆ ฝั่งขวา นั่งลงบนเก้าอี้ตรงนั้นก่อนเลยนะครับ ส่วนน้อง เอาผ้าปิดตาเลยครับ พี่ ๆ ดูด้วย อย่าให้โกงกันได้นะ"ประโยคหลังพี่แกหันไปกำชับเพื่อนของแกเอง “ฐานของพวกพี่คือ ประเพณี พวกเราเป็นคนไทย แน่นอนพอพูดถึงประเพณีก็จะนึกถึงการแต่งกายกัน เพราะอย่างนั้นแล้ว ในฐานของพี่จะให้น้องที่ปิดตาแต่งกายให้เพื่อนนะครับ อ๊ะ  ๆ อย่าเพิ่งดีใจไป เพื่อความเสมอภาย น้องฝั่งที่ถูกแต่งกาย จะต้องปิดตาแต่งหน้าให้เพื่อนอีกฝั่งเหมือนกันครับ”

อันนี้เรียกซวยยิ่งกว่า ฮ่า ๆ ฝั่งที่โดนแต่งตัวยิ้มออกเลยล่ะครับ คือไม่อะไรนะ ที่ออกไปส่วนใหญ่มันเป็นผู้ชาย กับผู้หญิงทู่จะเนิร์ด ๆ หน่อย ให้มาแต่งหน้า... ฮ่า ๆ ผมว่าได้เห็นศิลปะชั้นสูงแล้วล่ะครับ

“เพื่อความปลอดภัยในการเดินเท้า พี่เข้าไปบอกทางน้องเดินด้วยครับ”พี่ที่มีหน้าที่ในส่วนนั้นเดินเข้าไปประกบคนที่ปิดตากันทันทีครับ “เอาล่ะครับ เริ่มได้”

พวกที่ปิดตาออกเดินไปแล้วครับ เดินชนกันไปชนกันมาอีกต่างหาก ขนาดมีพี่คอยดึง คอยบอกทางแล้วนะนั่น พอไปถึงลัง ก็ล้วง ๆ หยิบ ๆ กันออกมา เฮ้ย มีชุดชั้นในด้วยอ่ะ ฮ่า ๆ

แต่งองค์ทรงเครื่องกันงามงดเลยครับ เอาผ้าถุงมาพับทำเกาะอก เข็มขัดแบบนาฏศิลป์ไทยมาคล้องแทนสร้อย สไบก็เอาไปทำโจงกระเบน

งดงามที่สุดครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

พอครบ 10 นาทีก็ได้เวลาผลัดกัน ฝ่ายที่ถูกแต่งตัวมาแล้วโดนปิดตาไป ส่งคนแต่งตัวก็ไปนั่ง มองฝีมือตัวเอง ผมเห็นบางคนหัวเราะออกมา เดี๋ยวผมว่าได้หัวเราไม่ออกแน่

แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดนั่นแหละ แต่งหน้าก็ไม่เป็นกันอยู่แล้ว นี่โดนปิดตาอีก ได้เทรนด์ใหม่เลยกับลิปสติกเขียนคิ้ว และอายไลน์เนอร์เขียนปาก จัดเต็มกันสุดฝีมือเลยมั้งเนี่ย

“ดีนะที่คีไม่ได้ออกไป”

“นั่นสิ เละน่าดูเลย”

“หมดราศีเดือนแน่ ๆ ฮ่า ๆ”

“ไม่มั้ง คนมันหล่อ ทำยังไงก็หล่อ”

“คี... ทำไมวันนี้ไม่ค่อยพูดกับพี่เลยล่ะ”หะ... เมื่อกี้ผมคุยกับพี่กิตอยู่เหรอ มัวแต่หัวเราะเลยไม่ใส่ใจอะไร “คีโกรธ หรือไม่พอใจอะไรพี่เหรอครับ”

“เปล่าครับ”ผมตอบตามความจริง ผมไม่ได้โกรธอะไรพี่เขา ไม่ได้ไม่พอใจด้วย... ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากตัวผมเอง... เพราะตัวผมเอง “อย่าใส่ใจเลยครับ ผมมันงี่เง่าไปเอง”

พี่กิตทำหน้างออย่างไม่พอใจ ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติแล้วไม่พูดอะไรต่อมันยิ่งทำให้ผมคิดไปเองใหญ่ว่าพี่เขาน้อยใจผมอยู่...

หลังจากฐานกิจกรรมที่สามมา สมองผมก็แทบไม่รับอะไร สั่งอะไรก็ทำ อย่างฐานถัดมา ความสามัคคี พี่สั่งให้ล้อมเป็นวงกลม ยืนชิด ๆ นั่งลงบนตักของกันและกันรอบวงให้ได้ 2 นาทีก็ทำไป ยิ่งฐานสุดท้ายยิ่งแล้วใหญ่ จิตวิญญาณ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรไปบ้าง

มารู้ตัวอีกทีก็ถึวเงลาที่ต้องมาต่อRC ที่ไปล่ากันมาแล้ว พวกพี่ล่ามาไม่ได้ก็ต้องไปขอจากพี่วินัยกันมา ส่วนคนที่ต้องเย็บก็ทำหน้าที่เย็บไป

ให้ตาย ผมเป็นเอามาก มากเกินกว่าที่คิดเอาไว้... จนทำให้ผมคิดว่าความรู้สึกที่ผมมีให้พี่กิต มันไม่ใช่แค่ชื่นชมพี่เขาเหมือนไอดอล...

ผมชอบพี่เขาเช้าให้แล้ว... ใช่ไหม


(ต่อด้านล่าง)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-06-2015 19:41:30
(ลมหนาว)

กิจกรรมช่วงเช้าจบไปแล้ว เหลือแค่ช่วงเย็นถึงมืดแล้วครับ ตอนนี้ให้น้องพักผ่อนตามอัธยาศัยกันไป ส่วนผมกับวินัยคนอื่น ๆ ก็หลบฉากกันไปหมดล่ะครับ จะโผล่กันอีกทีช่วงอาหารเย็น แล้วเราก็จะเริ่มกิจกรรมสุดท้ายของการรับน้องกัน

เป็นเวลาสั้น ๆ ที่พี่จะได้ลงมาคลุกคลีกับน้องจริง ๆ เป็นสีสันที่คงหาไม่ได้จากไหนอีกแล้ว ผมรู้นะครับว่าหลายคนไม่ชอบ และไม่สนับสนุนระบบนี้ อาจจะเจอเหตุการณ์ที่ไม่ดีกันมาและฝังใจ นั่นมันก็เป็นโชคชะตาอย่างหนึ่งล่ะครับ สำหรับผม ผมภูมิใจ และดีใจที่ได้ทำกิจกรรมนี้ ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ผมพูดได้เต็มปากว่าเพราะกิจกรรมนี้ทำให้ผมรู้จักกับเพื่อน ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปได้เยอะ และผมได้ทำให้น้องนั้นรักกันมากขึ้น

ผมนั่งอยู่ในบ้านพักของตัวเอง โดยมีวินัยคนอื่นมาสุมอยู่ด้วย ช่วยกันเอาเทียนใส่ในแก้วกันไป คุยกันไป ผมอดที่จะนึกถึงสมัยก่อนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะกิจกรรมบ้า ๆ ของผู้อำนวยการมหาลัยพวกเราเมดเทคกับพวกวิดวะคงไม่ได้มานั่งล้อมวงคุยกันโดยที่ไม่ตีกันแบบนี้แน่ อาจจะนับว่าเป้นการเปลี่ยนแปลงที่ดีล่ะนะครับ

“ลมหนาว พี่คุณมากันเยอะไหม”เดือนปีสามของวิศวะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ส่งเสียงมาถามผม ระหว่างนั้นมือหมอนั่นก็เอาเกียร์ของคณะมันแยกใส่ถุงไปด้วย “ของผมมากันเยอะพอดูเลย”

“เท่าที่ผมเห็นตอนนี้ก็เยอะ แค่คงไม่เยอะเท่าคณะคุณ”ผมตอบกลับไปโดยไม่มองหน้า ทำงานอยู่จะให้หันไปมองอะไรล่ะจริงไหมครับ

“ถ้าคณะคุณเยอะเท่าผม บุคลากรคงล้น”มันพูดติดตลก แต่ก็คงจะจริงล่ะครับ ถ้าคนเราเยอะขนาดนั้นในทุกมหาลัย บุคลากรคงจะล้นจริง ๆ

“นี่... ลมหนาว”พายุมันเรียกชื่อผมอีกรอบ คราวนี้ผมหันไปหามันดู ไม่รู้จะเรียกทำไม “ขอบคุณ... นะ”

“เรื่องอะไร”ผมถามกลับไปอย่างไม่เข้าใจนัก ไม่ได้กวนนะครับ แต่ไม่เข้าใจว่ามันจะขอบคุณอะไรผม ทั้งที่ผมยังไม่ทันที่จะทำอะไรเลย

“เรื่องบนรถน่ะ... ขอบคุณที่ให้ยืมไหล่นะ”พายุมันหลบตาผม เสียงที่ตอบกลับมาก็เบา แต่ผมก็ได้ยินอยู่ ทำเอาผมแอบยิ้มบาง ๆ ไม่ได้ “แล้วก็แผ่นตราเสือด้วย ขอบใจนะ”

“ไม่เป็นไร”ผมก็ไม่รู้จะตอบกลับยังไง ที่รู้ ๆ คือ ผมอยากยิ้ม... แต่จะให้นั่งยิ้มต่อหน้าเฮดของวิศวะมันก็ยังไง ๆ อยู่ เลยได้แต่ยิ้มในใจไปนั่นล่ะครับ

ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงเย็น ผมกับมันก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก ถึงจะนั่งอยู่ใกล้ ๆ กันก็ตามที ส่วนพลอยก็นั่งเถียงกับโอมเหมือนเคย สองคนนี้ถึงจะไม่แยกเขี้ยวใส่กันแล้ว แต่ยังไงความเห็นก็ไม่เคยตรงกันสักที... มันก็ไม่แปลกหรอกครับ

ตอนเย็นหลังกินข้าวทุกคนก็ไปรวมตัวกันที่ห้องประชุมขนาดใหญ่ จริง ๆ เด็กมหาลัยธรรมดาคงไม่น่าจะเช่าที่แบบนี้ได้หรอกครับ แต่พอดีว่าใครคนนึงเขาจัดการให้อยู่... ใครคนนั้นที่ตามจีบเพื่อนผมนั่นล่ะครับ พอรู้ว่าอยากได้ที่ติดทะเลก็จัดการให้เลย ไม่ต้องขอ มันก็ดีสำหรับผมล่ะครับ เพราะอย่างนั้น ยอมพี่เขาไปซะดี ๆ เถอะ ปันปัน เพื่อนรัก

“นั่งลงครับ”พายุสั่งให้น้องทุกคนนั่งลง ไม่มีเก้าอี้ครับ นั่งพื้นกันไป พื้นห้องประชุมสะอาดอยู่ “มีเพื่อนพวกคุณคนไหนไม่มาไหมครับ”

“ไม่มีครับ / ค่ะ”

“ดี”มันเดินกอดอกไปอยู่ตรงหน้าน้อง ทั้งที่ยังเดินขาลากอยู่ แต่ปล่อยไปครับ มันโตจนต้องรู้ลิมิตของตัวเองอยู่แล้ว ยังไงก็คงไม่ล้มไปหรอกครับ “ผมต้องการดูRC ที่พวกคุณได้มาครับ”

น้องที่ถืออาร์ซีเอาไว้กับเพื่อนที่นั่งอยู่รอบ ๆ ลุกขึ้น เดินออกมากางอาร์ซีที่ต่อเรียบร้อยแล้วออกมาให้พายุดู อาร์ซีคราวนี้ก็รูปเกียร์และกล้องจุลทรรศ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสองคณะอยู่ในผืนเดียวกันครับ ฝ่ายศิลป์ปีสองยังคงทำได้สวยเหมือนเคย

“วินัย เรียงแถวครับ”เสียงที่ผมคุ้นเคยมาตลอดสองปีดังขึ้น ทำเอาพวกเราวินัยเมดเทคก้าวฉับมายืนต่อแถวเรียงกันทันที พวกวิศวะก็ไม่ต่าง ไม่รู้ว่ารู้มาก่อน หรือเห็นพวกผมทำเหมือนกัน “กอดคอกันครับ”

คำสั่งมาต้องรับทำตาม ข้างนึงผมเป็นพายุ อีกข้างผมเป็นปันปัน กอดคอกันไว้ตามคำของพี่ตังโอล่ะครับ พายุมันออกจะงง ๆ หน่อย ก็ก็ตามน้ำกันไปก่อน

“สวัสดีครับ ปีหนึ่ง”พี่ตังโอหันไปพูดกับน้อง ๆ ที่นั่งหน้าสลอนกัน พี่คนอื่น ๆ ของชั้นปีที่จบไปแล้วมายืนล้อมน้องเอาไว้ เท่าที่มองรู้สึกจะเป็นวินัยยกก๊วนล่ะครับ ส่วนพวกที่ไม่ใช่วินัยออกไปรอข้างนอกกันหมดแล้ว

“สวัสดีครับ / ค่ะ”น้องเองก็ดูตกใจกับการปรากฏตัวของพี่ที่พวกเขาไม่แม้แต่จะเคยเห็นหน้ามาก่อนเหมือนกันครับ บางคนทำตัวลีบไปเลยก็มี

“ผมได้ยินมาว่าวินัยปีนี้สั่งลงโทษพวกคุณกันหนักอย่างนั้นใช่ไหมครับ”เข้าประเด็นไวมาก... พี่ปีที่แล้วยังมีอารัมภบทบ้าง แสดงว่าพี่เขาจะเร่งจังหวะให้จบเร็ว ๆ ก็อาจจะดีนะครับ...

“เปล่าครับ / ค่ะ – ใช่ ค่ะ”เสียงที่ตอบกลับมามีสองกระแส ไม่รู้เหมือนกันครับว่าใครตอบว่าใช่ รู้แต่ว่าเป็นเสียงของน้องผู้หญิง แต่นั้นก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของน้องเขาที่จะพูด

“ตอบเป็นสองเสียง พวกคุณคิดจะโกหกผมเหรอครับ”พี่ตังโอตะโกนลั่นห้องประชุม สายตาพี่เขาคงกวาดมองน้อง ๆ โดยรอบ “วินัย ลุกนั่ง ปฏิบัติ”

“1… 2… 3… 4… 5… 6… … 10…”ระหว่างที่พวกเราลุกนั่ง น้องหลายคนก็เริ่มกระสับกระส่าย จนกระทั้งหลานเทคของผมลุกขึ้นยืนแล้วลุกนั่ง เพื่อนรอบข้างของมันก็ลุกขึ้นยืน น้องยืนขึ้นมาเรื่อย ๆ ลุกนั่งกันตามพวกผม

“ใครสั่งให้พวกคุณทำ หยุดและนั่งลงไปเดี๋ยวนี้”พี่ที่ผมไม่คุ้นหน้า คงเป็นฝั่งวิศวะตะโกนขึ้นบ้าง ซึ่งน้องก็ไม่คิดจะฟัง ลุกนั่งกันอยู่แบบนั้น

“พอ หยุด  ทั้งวินัย และพวกคุณด้วย ปี 1”พี่ตังโอสั่งเมื่อพวกผมลุกนั่งกันไปได้ยี่สิบกว่าครั้ง ทุกคนคลายมือออกไปยืนตรงยกเว้นผมกับพายุที่ยังกอดคอกันอยู่... หมอนั่นมันทิ้งน้ำหนักมาที่ผมเล็กน้อย เจ็บขาอยู่แล้วให้มาลุกนั่งแบบนี้ คืนนี้ผมว่ามีระบม “พวกคุณจะทำอะไรครับ พอตอนโดนลงโทษก็ไม่พอใจ พอผมลงโทษพี่พวกคุณ พวกคุณก็มาทำแบบนี้ พวกคุณต้องการอะไร”

“...”น้องไม่มีคำตอบให้ ทำให้พี่ตัวเล็กของผมถอนหายใจออกมา

“ก่อนหน้า ผมได้ยินมาว่าพวกคุณชิงธงไม่ได้ ต้องแก้ตัว พวกคุณรู้ไหมครับว่าหลายสิ่งหลายอย่าง มันสามารถทำได้แค่หนเดียว ไม่มีการแก้ตัว แต่พี่ของคุณยอมให้คุณแก้ตัวทั้งที่ไม่จำเป็นก็ได้”ร่างเล็กที่เคยเป็นเฮดวินัยที่หลายคนกลัวเกรงกอดอกหลวม ๆ แล้วก้าวเดิน “พวกคุณน่ะสบาย คุณเคยรู้ไหมว่าพี่คุณต้องลำบากแค่ไหน ต้องนอนดึกเท่าไหร่เพื่อที่จะจัดกิจกรรมให้พวกคุณ ต้องสละเวลาส่วนตัวมาเพื่อพวกคุณ สละแรงกายแรงใจเท่าไหร่เพื่อให้พวกคุณมีความรักใครกลมเกลียวกัน...

พวกคุณทุกคนเคยรู้ถึงความเหนื่อยกายเหนื่อยใจของพี่ลมหนาวของพวกคุณไหม เขาต้องแบกความรับผิดชอบแค่ไหนไว้บนบ่า ต้องแก้ปัญหาที่คุณก่อเอาไว้แค่ไหน เพื่อให้พวกคุณเดินต่อไปได้อย่างสะดวกสบายที่สุด เคยรู้สึกถึงแรงใจที่เขาลงไปมากมายแลกกับเสียงตัดพ้อของพวกคุณไหม แล้วก็พวกคุณ ชาววิศวะ คุณเคยรู้ถึงการเสียสละของพี่ที่พวกคุณเอามาพูดลับหลังกันสนุกปากอย่างพายุไหม เขายอมที่จะวิ่งตั้งแต่แดดยังไม่ร่ม ยันฝนพร่ำลงมาเพื่อให้พวกคุณได้ธงมา คุณเคยรู้ เคยเข้าไปขอบคุณเขาไหม”

ผมหันไปมองคนข้าง ๆ ด้วยความตกใจ อย่าว่าแต่น้องเลยครับ ผมเองก็ไม่รู้ แสดงว่าที่ปวดขาก็เพราะเหตุนี้สินะ... แล้วที่หายไปไม่ได้มาคุยงานสุดท้ายกับผมเองคือลุกขึ้นมาไม่ไหว...

ผมคงเข้าใจอะไรผิดไปเยอะเลยนะครับ

“วินัยไปรอข้างนอก ผมจะคุยกับน้องต่อ”

ผมเดินพยุงพายุออกมาด้านนอกอย่างเนียน ๆ ไม่ให้น้องรู้ว่ามันยังปวดขาอยู่อย่างที่มันตั้งใจเอาไว้ ด้านนอกเพื่อนและน้องตั้งแถวตอนลึกเรียงกันรอท่าเอาไว้แล้ว เพื่อรับกิจกรรมท้ายสุด...

สะพานดาว

ปลายสุดของสะพานนี้มีเทียนแก้วจำนวนเท่ากับน้องในที่นี้วางเรียงเป็นตราของทั้งสองคณะเอาไว้ และมีพี่ที่จบกันไปแล้วรอมอบเข็มกล้องกับเกียร์ให้กับน้องที่ก้าวไปถึง

ผมกับพายุนั่งอยู่ด้านหน้าสุดของแถว เป็นต้นสะพานที่ต้องรับน้ำหนักมากที่สุด ผมเองก็ไม่เคยทำกิจกรรมนี้มาก่อน ได้แต่ทำตามที่เขาบอกมานั่นล่ะครับ

ไม่นานพี่ตังโอก็เดินนำขบวนของน้องมา พวกเราที่นั่งกันอยู่เมื่อเห็นน้องก็พากันต่อแขนให้เป็นสะพานทอดยาวออกไปถึงชายทะเล

สะพาน... ที่จะส่งน้องไปถึงฝั่งฝัน

“ขอโทษนะคะพี่”น้องคนแรกที่เดินมายกมือไหว้ผมกับพายุ ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปเดิน และก็เป็นอย่างนั้นคนแล้วคนเล่า น้อยหลายคนทำท่าจะร้องไห้เสียด้วยซ้ำที่ต้องมาเดินบนแขนของพี่แบบนี้

ผมรู้ว่าน้องทุกคนนั้นพยายามจะลงน้ำหนักมาที่แขนพวกเราให้น้อยที่สุด และเดินให้ไวที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้พี่ของพวกเขาต้องแบกรับเอาไว้นาน มันก็เหมือนกับการเดินไปสู่อนาคตนั่นล่ะครับเดินไปไวเท่าไหร่ เราก็จะทำฝันของเราได้เร็วขึ้นเท่านั้น

น้องคนที่ 1897เดินขึ้นมาแล้ว เป็นคนสุดท้ายที่สะพานนี้จะรองรับ ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับคนตรงข้าม พายุมันก็ยิ้มกลับมาให้กับผม

 “ขอต้อนรับน้อง ๆ ทุกคนเข้าสู่คณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะเทคนิคการแพทย์ นะครับ หลังจากนี้ก็ขอให้พยายามกันต่อไป จับมือเพื่อนของพวกคุณเอาไว้ พากันจบออกไปอย่างภาคภูมินะครับ”อดีตประธานวินัยวิศวะ พี่วัฒน์พูดขึ้นด้วยเสียงที่อบอุ่น พี่ที่จบไปแล้วหลายคนหยิบเอาพลุกระดาษออกมาดึง แสดงความยินดี พวกเราปีสามและปีสองพากันปรบมือด้วยรับด้วยรอยยิ้มยินดี
พวกเราได้ทำหน้าที่ของการเป็นวินัยจบแล้ว ต่อจากวันนี้ไป จะมีแค่คำว่า พี่ และ น้อง เท่านั้น

ในเมื่อมาริมชายหาด สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นปาร์ตี้ริมชายหาด เตาปิ้งนับสิบถูกยกออกมา พร้อมของทะเลสด ๆ จำนวนมาก ผมมองความรื่นเริงพวกนั้นด้วยรอยยิ้ม อ่อ ที่ขาดไม่ได้อีกอย่างเมื่อจบการรับน้องคือการผูกข้อมือ น้องหลายคนกรูเข้ามาให้ผมผูกให้ แน่นอนว่าผมไม่ปฏิเสธ ผูกให้ด้วยความเต็มใจ

กว่าจะหลุดจากดงน้องก็ได้ก็พักใหญ่ ระหว่างรอให้ของปิ้งสุกเยอะ ๆ จะได้กินทีเดียว ผมก็ขอไปเดินเล่นรับลมตอนกลางคืนหน่อยแล้วกันนะครับ... ไม่ได้มาทะเลก็นานแล้ว

“ไม่อยู่ในปาร์ตี้หรือไง คุณวินัย”พายุที่แขนพันผ้าเอาไว้เดินเข้ามาหาผม พอสะพานดาวจบ มันก็โดนพี่ทิวลากไปจัดการทันทีล่ะครับ ถึงจะมีผลัดกันรับน้ำหนักก้าวแรกของน้อง แต่ส่วนใหญ่มันก็เป็นคนรับเอาไว้ ผมมารับจริง ๆ แค่ช่วงหลัง ๆ ที่พายุมันเริ่มล้าแล้ว

“ผมออกมาเดินเล่นรับลมก่อนระหว่างรอให้พวกสวัสปิ้งของน่ะ”วันนี้พักยก ขอเว้นการเถียงกันไปยาว ๆ ล่ะครับ “แล้วอีกอย่าง ผมไม่ใช่วินัยแล้วด้วย”

“นั่นสินะ... นี่ก็ปีสุดท้ายแล้ว”พานุเดินมาอยู่ข้าง ๆ ผม เหม่อมองไปที่ทะเลกว้าง ทะเลยามค่ำคืนจะบอกว่าสวยก็สวย น่ากลัวก็น่ากลัวนะครับ มันดูมืดมิด แต่ก็ลึกลับน่าค้นหา “หลังจากนี้ก็ต้องไปตั้งใจเรียนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ลืมเรื่องที่เราพนันกันไว้หรอกนะ”

“คุณก็คงรู้ว่าผมไม่ยอมแพ้คุณง่าย ๆ หรอก”ผมหันไปมองซีกหน้าของเดือนมหาลัย มองกี่ครั้งก็รู้สึกว่าลงตัวนะครับ ใบหน้าของมัน ทุกอย่างส่งเสริมให้มันพูดได้คำเดียวว่าหล่อ... “ทำไม... คุณถึงยอมทำเพื่อน้องของคุณขนาดนั้นล่ะ ทั้งที่ก่อนหน้าคุณออกจะนิ่งเฉยด้วยซ้ำไป”

“ลมหนาว... ยังไงพวกเขาก็เป็นน้องในคณะของผม ใช่ว่าผมจะไม่ห่วงพวกเขาสักหน่อย”ผมมองคนข้างกายอย่างไม่เข้าใจ ห่วง... ทั้งที่ไม่เคยแสดงออกมาเลยจนผมอดสงสัยมาตลอดไม่ได้ว่าทำไมพายุถึงได้เป็นเฮดวินัยของวิศวะได้ “หึ คุณอย่าคิดว่าการที่ผมขึ้นเป็นเฮดว้ากนี่ เพื่อมาต่อกรกับคุณอย่างเดียวสิ ถ้าแบบนั้นผมเป็นแค่ว้ากธรรมดา ๆ  คนนึงก็ได้ ที่ผมได้เป็นเฮด เพราะผมได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าผมคู่ควรที่จะเป็นคนพาน้องก้าวเดินไป เป็นคนนำทางให้ทุกคน แม้หลายอย่างที่ผมแสดงออกมาจะดูดิบไปบ้าง แต่นั้นมันก็เป็นแค่การแสดงออก ไม่ได้บอกถึงความคิดในใจของผมสักหน่อย”

“คุณรู้ไหม คำพูดเมื่อตอนนั้นของคุณมันทำให้ผมคิด คิดมาตลอดว่าผมขังตัวเองไว้ในกรงจริงหรือเปล่า”ผมนึกถึงคำที่มันเคยบอกว่าผิดหวังในตัวผม ตอนนั้นมันชา ชามาก ทำเอาผมนอนไม่หลับไปหลายวันเลย “จนวันนี้ มันคงเป็นอย่างที่คุณพูด ผมไม่เคยมองอะไรเลยนอกจากรอบตัวผม ไม่เคยมองเลยจริง ๆ”

พายุหันมามองผมแล้วส่งยิ้มบางมาให้ มือของมันยื่นมาลูบหัวผมเบา ๆ ก่อนจะเอ่งปากพูดออกมา

“วันนั้นผมก็หงุดหงิดไป... ตั้งแต่วันแรก จนถึงตอนนี้ เรื่องจริงที่อยู่ในใจผม คือผมไม่เคยผิดในตัวคุณแม้สักครั้งเดียว”เสียงของมันฟังดูอบอุ่นไม่เหมือนที่เคย...

คำว่าไม่เคยผิดหวังในตัวผม มันดังก้องเข้ามาในหัวใจทำให้ผมยิ้มออกไปโดยไม่รู้ตัว

มืออุ่นเลื่อนลงมาที่ท้ายทอยของผม ตาของเราสบกันนิ่ง ใบหน้าของพายุมันเคลื่อนเข้ามาใกล้... ใกล้เสียจนริมฝีปากหยักแนบชิดเข้ากับริมฝีปากของผมเอง...

ผมเบิกตากว้างก่อนที่จะปิดตาลง... ยอมให้คนตรงหน้าฉกชิงจูบแรกไปอย่างยินยอมโดยไร้เหตุผล

อาจจะเพราะ... ดวงตาของมันที่จ้องมองผม สะท้อนแต่ผม... ล่ะมั้ง


๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

เป็นครั้งแรกที่เกินกว่าจะลงรวดเดียวได้ล่ะค่ะ (ตื่นเต้นๆ) แหะๆ

ใครรอเฮียกับพี่ตังโออยู่คะ... มีชื่อเรื่อง แต่ไม่มีเนื้อเรื่องนะคะตอนนี้ 5555 (ไม่มีลงแน่ ๆ... เอวัง ความขยันอันน้อยนิด)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 05-06-2015 20:16:27
 :dont2: ม่ายน๊าาาาาาาาาาาาา
อย่าตัดแบบนี้เซ่ :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 05-06-2015 20:38:08
ท่าจะลงตัวไปมั่งแล้วนะ  พายุ-ลมหนาว  กิต-คี นี่ยังง้องๆแง้งกันอยู่ 
คิท-ปันปัน 

รอมวยข้ามรุ่นทิว-ข้าว มีแฟนแบบทิวนี่โคตรไม่ได้เป็นสุขแน่ๆ เทพเกิน  ทิวนางห่วงทุกคน ดีกับทุกคน จนไม่ให้น้องคิดมากก็ไม่ได้หรอก  สงสัยต้องรอจนน้องหลีกลี้หลบหน้าละมั๊งเฮียทิวจึงจะเข้าใจน้อง

ตื่นเต้นมวยรุ่นใหญ่ เฮียวัฒน์กับเจ๊ตังโอนี่แหละ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 05-06-2015 22:23:38
เขาจูบกันแล้วววว ขอไปกรี๊ดแปปนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 05-06-2015 22:46:28
จูบแล้วๆ อ่านไปก็ลุ้นไปทั้งคู่กิตคี ทั้งคู่ลมหนาวกับพายุ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 06-06-2015 00:40:02
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :heaven

#ทีมลมหนาว  :o8:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 06-06-2015 00:57:35
โฮ่ยๆๆๆๆๆ รอมหันตภัย(พายุ+ลมหนาว)ตอนหน้านะเออ รอฟินอย่างต่อเนื่อง ถถถถถถถถถถถถถ  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 06-06-2015 03:18:55
 :pig4:  เฮอะบทจะง่ายก็ง่ายเนาะลมหนาว  ง่ายไป๊ 
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 06-06-2015 11:14:13
ดีจัง วันนี้ พายุไม่พูดจากวนตีนลมหนาวเลย ฮ่าๆๆๆ (มันเดี้ยงกวนไม่ออก)

คีตา ฉันนึกว่าแกรักพี่กิตเขาตั้งนานแล้วซะอีก นี่แกเพิ่งรู้ตัวเหรอ

พี่ทิวคะ สนใจน้องข้าวด้วยค่ะ น้องมันน้อยใจอยู่นะ

พี่คิสมาทำอะไรคะ มาโชว์รถ มาอ่อยเด็ก(ปันปัน) มาคุมเด็ก(ปันปันอีกที)มากวนโมโหเด็ก(ก็ปันปันนั่นแหละ)

คือพี่ไม่มีบทบาทอะไร ในการรับน้องเลย นอกจากป้อปันปันอย่างเดียว ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 06-06-2015 15:00:21
กรี๊ดดดดดดดดดด เค้าจุ๊บกันแล้ว เขินๆๆ 555

ตอนนี้ลุ้น คู่น้องคีพี่กิต และคู่พี่ทิวน้องข้าวมากอ่ะ
โดยเฉพาะคู่หลัง สงสารน้องข้าวจริงๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-06-2015 17:21:52
อย่าตัดแบบนี้ซิ มันค้างอ่ะ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: Beerr_jh ที่ 06-06-2015 20:45:52
พี่ทิวสนใจน้องข้าวบ้าง ดูแลลมหนาวดีเกินไปจนน้องคิดไปไกลแล้ววว
พายุ-ลมหนาว คู่นี้มาวินมากตอนนี้ ลมหนาวมอบจูบแรกไปแล้วววว รอว่าต่อไปเค้าจะหวานกันขนาดไหน อิอิ :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 06-06-2015 22:20:30
โฮ่ยๆๆๆๆๆ รอมหันตภัย(พายุ+ลมหนาว)ตอนหน้านะเออ รอฟินอย่างต่อเนื่อง ถถถถถถถถถถถถถ  :hao3: :hao3:

มีชื่อคู่ด้วย >< แต่ตอนหน้าจะฟินไหมนะ...
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 07-06-2015 01:13:57
สวัสดีค่ะ

มาอ่าน ครั้งแรก สนุกมากค่ะ

ติดตามๆ เรื่องราวดีดีของพี่วินัยทั้งสองคณะต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่27 P.17[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/06
เริ่มหัวข้อโดย: khaohom ที่ 07-06-2015 14:10:48
ชอบเรื่องนี้มากมาย ตามอ่านอยู่
 แต่เรื่องรับน้องคล้ายๆกับมอ.เรามากเลย มีชิงธง เฟรซชี่ไนท์
เราก็เป็นพี่วินัยคนนึง ตอนนี้ก็ทำหน้าที่อยู่ เข้าใจความรู้สึกเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่28 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ14/06
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-06-2015 19:57:00
วันที่ยี่สิบแปด

หลังจากวันที่กลับมาจากทะเล มรสุมงานก็พัดโหมเข้ามาหาผมครับ รายงานก่อนสอบมิดเทอมที่ต้องส่ง สอบunknown ของแลปบางตัว แล้วก็มีแลปกริ๊งอีก ไม่ต้องเห็นเดือนเห็นตะวันกันเลยล่ะครับ

ไม่ต้องถามถึงพวกวิศวะ พวกนั้นก็หัวยุ่งหัวฟูเหมือนกัน ผมได้เจอกับฝั่งนั้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก เจอก็แค่ทักไม่ได้หยุดคุย... ไม่ใช่ว่าไม่มีเวลาสักนิดที่จะหยุดคุยหรอกครับ แต่พอเห็นหน้าของพายุทีไร ทำให้ผมนึกถึงคืนนั้นขึ้นมา

ผมยอมให้มันจูบผมได้ยังไง จนตอนนี้ผมยังไม่เข้าใจตัวเองเลย ทั้งที่ผมควรจะต่อยหน้ามันไปสักหมัด แต่ไม่ แล้วนั่น... ก็เป็นจูบแรกของผมด้วย

ยิ่งคิด ยิ่งฟุ้งซ่าน เลิกคิด ๆ ผมปัด ๆ ความคิดพวกนี้อิกจากหัว แต่ปัดออกไปกี่ครั้ง พอมีเวลาว่าง มันก็กลับเข้ามาในสมองทุกครั้ง

แย่... แบบนี้ผมคงเป็นโรคประสาทเข้าสักวันนะครับ

อาจจะโชคดีที่ช่วงนี้หัวหมุนกับหลายเรื่อง โดยเฉพาะการสอบกลางภาค ต้องทำคะแนนสวย ๆ ไว้ก่อนล่ะครับ ปลายภาคยากเสมอ ถ้าไม่อยากได้น้องปลามากิน

"กู... ไม่... ไหว... แล้ว"ปันปันลากขาเดินมาที่ม้าหินอ่อนที่ผมนั่งรอมันอยู่ วันนี้สอบวันสุดท้ายแล้ว ม.จะปิด 1 สัปดาห์ เห็นว่าจะพาอาจารย์ไปสัมนากันน่ะครับ เลยหวานนักศึกษาเลย

"สอบเสร็จละโว้ยยยยย"นี่ก็เสียงคนคุ้นเคย มาก่อนด้วยอีกน้องเทคผม มันวิ่งมากับเพื่อนมัน คงจะออกไปปลดปล่อยกันล่ะมั้งครับ "ดี พี่หนาว ไปก่อนนะ เจอกัน"

มาไวไปไว... ขอให้โชคดีนะ...

"น้องปันปัน ไปเที่ยวกับพี่นะครับ"อยู่ ๆ พี่คิสแกก็โผล่มาจากมุมไหนไม่รู้ มาที่โต๊ะผม พี่เขาเล่นกางแขนเท้าโต๊ะคร่อมเพื่อนผมที่นอนตายอยู่... "ไปนะ ๆ"

"ไปไกล ๆ เลย ผมไม่ไป"ถึงจะถอดวิญญาณไปครึ่งนึงแล้ว แต่ฝีปากมันยังไม่มีตกนะครับ ตอบกลับมาเสียงแข็งอีกต่างหาก

"น่าา เดี๋ยวพี่พาไปเที่ยวที่สวย ๆ ไปนะครับ"พี่เขาก็ยังคงไม่หวั่นเหมือนเดิมล่ะครับ ดีไม่ดีก็ชินแล้วด้วยซ้ำ โดนทุกทีที่เจอหน้ากัน "ปะ ๆ ไม่ดื้อนะครับ เด็กดี"

ผมว่าอีกยาว... คนนอกอย่างเราควรไปเดินเล่นที่อื่นก่อน จริงไหมครับ

ผมหยิบกระเป๋าข้างตัวแล้วลุกขึ้นเบา ๆ เดินลัดเลาะไปเรื่อย จะอยู่เป็นก้างตรงนั้นก็ยังไงอยู่ ปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันนั่นล่ะครับ ไอ้ปันก็อ่อนให้พี่คิสแกมาเยอะแล้ว เดี๋ยวได้ผลยังไงมันก็วิ่งโร่มาบอกผมเอง

"ไง หนาว สอบเสร็จแล้วดิ"ผมหันไปหาคนที่ทักผม ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ “ไง ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่นายขึ้นเป็นประธานวินัย เป็นไงบ้าง”

“ก็ยังดีอยู่ ปวดหัวบ้างตามระเบียบ นายเหอะ ไม่โผล่หน้าโผล่ตามาเลย เรียนหนักดิ”ผมถามกลับไป คนนี้คือเมฆ เพื่อนตั้งแต่สมัยประถมของผมเองครับ ซี้กันถึงขั้นรู้จักญาติพี่น้องกันหมดโคตรตระกูลแล้วมั้ง ตอนมันหมั้น ผมยังไปร่วมเลย “แล้วปุ๊กล่ะ เป็นไงบ้าง”

“ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ปีหน้าก็กลับมาอยู่ไทยถาวรแล้ว”เมฆตอบกลับผมมาด้วยรอยยิ้ม แววตามันฉายแววหวาน คงคิดถึงมากล่ะสิ

“ก็ดีแล้ว อีกสองปีนายเรียนจบ จะได้พร้อมแต่งงานเลยไง”ผมแซวเพื่อนไปเล็ก ๆ ถึงกันหน้าแดงเลยครับ ถึงจะบอกว่าแซวแต่มันก็เป็นแพลนจริงที่วางเอาไว้อยู่นะครับ “ยังรักไม่เปลี่ยนใช่ไหม”

“อืม แน่อยู่แล้ว ถ้าไม่รักคงไม่ขอหมั้นไว้หรอกน่า”เมฆชกไหล่ผมเบา ๆ แล้วหัวเราะออกมา “ยิ่งห่างกันแบบนี้ มีแต่จะรักมากขึ้นด้วย”

“ไม่รักแท้แพ้ระยะทางสินะ”ผมกับเมฆนั่งลงที่เก้าอี้สนามตัวยาวที่ตั้งไว้แถวนั้น เราคงมีเรื่องคุยกันยาวล่ะครับ “แล้วปุ๊กสบายดีไหม”

ปุ๊กก็เป็นเพื่อนกับผมมาสมัยมัธยมนะครับ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก ออกจะขี้อาย ชอบใส่แว่นทั้งที่สายตาปกติ ตอนนี้ไปเรียนอยู่ต่างประเทศ จบพร้อม ๆ กับผมนี่ล่ะครับ เรียนสี่ปีเหมือนกัน แต่หมอมันหกปี เฉาไปก่อนนะครับเพื่อน อีกสามปี

“สบายดี ออกจะดีมากด้วย พอไปเรียนต่างประเทศเธอก็ไม่ได้ขี้อายเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ เห็นรูปไปงานพรอมกับเพื่อนตอนกลางคืนด้วย”เมฆยังคงยิ้ม ๆแต่สีหน้าดูหม่นลง “บางทีเราก็ไม่แน่ใจว่าปุ๊กจะยังมีเราอยู่ในใจเหมือนเดิมไหมเหมือนกันนะ หนาว”

“ทำไมล่ะ”ผมถามออกไปด้วยความสงสัย เท่าที่ผมเคยได้เห็น ปู๊กก็รักในตัวของเมฆมาก มากถึงขนาดเอ่ยปากเถียงกับพ่อของเธอเพื่อให้เกิดงานหมั้นเมื่อสามปีก่อนเลย

“ไม่รู้เหมือนกันสินะ เดี๋ยวนี้ปุ๊กไม่ค่อยจะตอบไลน์เรา สไกด์ไปก็ไม่ค่อยรับ ถึงรับก็คุยกันแค่แปปเดียว แล้วรูปที่ได้เห็นแค่ละรูปพักหลังมานี้ เธอก็ไม่เทียวกับเพื่อนผู้ชายบ่อยขึ้นมาด้วย”สีหน้าของเพื่อนยิ่งหน่มลงไปอีกเมื่อพูดถึงความกังวลที่อยู่ในใจ “ไม่ได้อยากจะคิดมากหรอก แต่มันก็นะ มันอดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้”

“คงไม่มีอะไรหรอก เมฆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น คุณพ่อของปุ๊กก็น่าจะบอกเมฆแล้วล่ะ ยังไม่เขาก็ส่งคนคอยดูปุ๊กอยู่นี่”ผมคงได้แต่พูดปลอบใจไป กับปุ๊กถึงจะเป็นเพื่อนกันมานาน แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกันเท่าไหร่ มีคุยกันบาง แต่ตั้งแต่เธอไปเรียนต่างประเทศ นาน ๆ ทีถึงจะได้คุยกัน “นายไม่เชื่อใจเขาเหรอ”

“เราพยายามอยู่ หนาว เราพยายามอยู่”รอยยิ้มของเมฆแห้งเหือดลงทุกที มันล้วงกระเป๋าหยิบเอามือถือของมันขึ้นมา “ถ้าเราไม่เห็นรูปนี้”

มือขาวส่งเครื่องมือสื่อสารที่เปิดรูป ๆ หนึ่งเอาไว้มาให้ผมดู ผมรับมาแล้วมองหน้าเพื่อนก่อน ถึงจะก้มลงมองรูปที่ว่า รูปที่ทำผมผงะไม่น้อย

เพื่อนสาวที่ผมยังจำได้ดี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พบหน้ามาพักใหญ่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีหวาน นั่งซบอยู่บนตักของฝรั่งตาน้ำข้าว รอยยิ้มหวาน ๆ มับแขนที่โอบรอบคอเอาไว้

ผมไม่แปลกใจเลยที่เมฆมันจะเครียดขนาดนี้

“มันอาจจะเป็นการแกล้งกันก็ได้ เล่นเกมอะไรแบบนี้ไง”ผมพยายามมองแง่ดี ถึงแม้ว่าแววตาที่ฉ่ำหวานของเพื่อนมันจะไม่ได้ชวนให้คิดอย่างนั้น... ก็ตามที

“หวังว่านะ... หวังว่า”ฟังดูก็รู้ครับว่าเพื่อนผมคนนี้ไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่จะไปพูดอะไรได้มากล่ะครับ ถ้าผมมีคนรัก และคนรักไปทำแบบนี้กับชายอื่น ผมคงไม่ต่างจากเมฆหรอกครับ”เราไม่ควรตีโพยตีพายอะไรไปก่อนรู้ความจริงใช่ไหมหนาว”

“อย่าเพิ่งคิดแง่ร้ายเลยเมฆ”ผมยิ้มปลอบใจเพื่อน ก่อนที่จะขยับตัวไปโอบบ่ามันไว้ ตบไหล่เบา ๆ “ทุกอย่างมันไม่เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไปหรอกนะ”

“เราจะพยายามไม่คิดมากแล้วกัน”เมฆเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึกแล้วยิ้มออกมา “นายเถอะ ได้ข่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่าเมดเทคกับวิดวะดีขึ้นแล้ว จริงเหรอ”

“ก็คงงั้นมั้ง”นึกแล้วก็อดที่จะส่ายหน้าน้อย ๆ ไม่ได้เหมือนกันนะครับ “ดีขึ้นแหละ ต้องทำงานร่วมกันมาตั้งหลายเดือนขนาดนี้ ถ้าตีกันทุกวัน เราก็คงแย่”

“แต่หนาวก็ดูมีความสุขดีนะ”เมฆยิ้วมกว้างอย่างล้อเลียนส่งมาให้ผม อะไรของเขาล่ะครับนั่น “ไปปิ๊งเด็กวิศวะคนไหนเข้าหรือเปล่า”

“บ้าเหรอ เมฆ จะเป็นไปได้ไง”ผมส่านหน้าให้กับความคิดพิเรนทร์ของเพื่อนแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ “นั่นวิศวะนะ แล้วอีกอย่างเราจะเอาเวลาที่ไหนไปสนใจคนอื่นที่ไม่ใช่น้อง ๆ กันเล่า คิดไปได้”

“ก็ระหว่างที่กอดอกมองกดดันน้องไง”ยังไม่เลิกนะเพื่อนนะ เดี๋ยวโดนดีหรอกครับ “โอ๋เอ๋น้า ไม่ล้อแล้วก็ได้ นิด ๆ หน่อย ๆ ทำหน้าบูดนะเดี๋ยวนี้”

“บูดอะไร เปล่าซะหน่อย”หน้าผมกันก็นิ่ง ๆ อย่างนี้อยู่แล้วนี่ครับ ผมยังไม่ได้ขยับใบหน้าเลยนะ “หน้าเราก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่ขรึมจะเป็นวินัยได้เหรอ”

“หน้าน่ะเหมือนเดิม แต่แววตาใช่ว่าจะเหมือนนี่ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ทำไมแค่นี้เมฆจะไม่รู้”เมฆแลบลิ้นให้ผมแวบนึง แล้วหัวเราะออกมาเสียงไม่เบาเท่าไหร่ “นายก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริง ๆ นะ จะทำอะไรก็ต้องเป๊ะซะทุกอย่าง ชอบเก็บอะไรไปคิดคนเดียวไม่ยอมพูดออกมา ยึดมั่นในคำที่ให้สัญญาเอาไว้ตลอด นี่ก็เหมือนกัน นายเคยสัญญาว่าถ้าเราเสียใจ นายจะอยู่ข้าง ๆ ขนาดนายไม่รู้ว่าเรากำลังเสียใจ แต่นายก็ยังมาอยู่ข้างเราตอนเราเสียใจเลย...”

“ก็นายเป็นพื่อนของเรานี่ เพื่อนจะทิ้งเพื่อนได้ยังไง”นั่นสินะ... ผมเคยให้สัญญากับเมฆไว้ตอนประถมต้น... ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เมฆเสียใจ จะมีผมอยู่เป็นที่พักพิงข้าง ๆ เสมอ “สัญญาต้องเป็นสัญญาสิ”

“คำสัญญา บางครั้งมันก็คือคำพูดคำนึง ถ้าอะไรที่มันผ่อนปรนได้ ก็เอามันลงจากบ่าบ้างก็ได้นะ”ผมหันไปมองหน้าคนข้าง ๆ อย่างไม่เข้าใจ เมฆต้องการสื่ออะไรกับผมกันครับ? “นายก็เป็นแค่เด็กวันรุ่นธรรมดาคนนึง จะยึดติดกับคำที่ให้ไว้จนตัวเองเหนื่อย ตัวเองล้าแบบนี้มันก็ใช่ที่นะหนาว นายเป็นคน ไม่ใช่การ์ตูน ไม่ต้องทำตัวเปาเสาหลักไปซะทุกเรื่องในการทำงานก็ได้ ยื่นบางสิ่งบางอย่างให้คนอื่นทำบ้าง มันไม่ตายหรอกนะ”

“พี่ทิวเล่าให้ฟังล่ะสิ”ผมเหม่อมองต้นไม้ใหญ่ตรงหน้า นั่นสินะครับ ตั้งแต่ได้รับรู้ว่าผมจะต้องเป็นประธานวินัยของเทคนิคการแพทย์คนต่อไป มันก็เหมือนมีแรงบางอย่างผลักให้ผมเข้าสู่กรอบที่ตั้งเอาไว้ ผมคิดอยู่เสมอว่าผมต้องพาน้อง ๆ เดินไปถึงฝั่งให้ได้ ต้องไม่น้อยหน้าพี่ตังโอที่พาผมเดินมาถึงจุด ๆ นี้ “ก็นะ... แต่ยังไงมันก็จบแล้วล่ะ ภารกิจของเราเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแต่เทรนด์น้องรุ่นต่อไปในปีหน้าก็เท่านั้นเอง”

“ก็ดีแล้ว หนาวจะได้มีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง”เวลาของตัวเอง... ว่าไปแล้วผมไม่ได้นึกถึงคำ ๆ นี้มานานแค่ไหนแล้วนะ เวลาของผมที่ผ่านมาก็ทุ่มเทไปกับการเรียน ถ้าว่างก็หางานพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำไป ไม่ได้ทิ้วเวลาให้ได้นั่งคิดถึงตัวเองทั้งในอดีตแล้วก็ในอนาคตสักเท่าไหร่ “ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าไม่เคยปล่อยวางให้ตัวเองจมอยู่ในห้วงคิด นึกถึงอดีต นึกถึงทางเดินข้างหน้าเลยล่ะสิ”

“ก็มีคิดบ้าง...”

“แต่เป็นเรื่องของน้อง”รู้ทัน... โดนรู้ทันตลอดล่ะครับ การที่มีเพื่อนที่สนิทจนรู้ใจทุกอย่างก็ต้องทำใจอย่างนึงว่าเขาจะรู้ทันเราไปซะทุกเรื่องนั่นล่ะครับ “เอาเถอะ ยังไงนั่นก็เป็นชีวิตของหนาว หนาวจะเดินทางไหน จะตัดสินใจต่อไปยังไง มันก็เป็นเรื่องของหนาวเองล่ะเนอะ”

“เดี๋ยวนี้หัดประชดแล้วนะ เมฆ”ผมยกมือข้างที่โอบมันไว้ขึ้นมาขยี้หัวมันเบา ๆ “ผมยังนุ่มเหมือนเดิมเลย ว่าแต่เราไม่เปลี่ยน เมฆก็ไม่เปลี่ยนเหมือนกันนั่นแหละ”

“จริงอ่ะ”เมฆถามผมกลับด้วยเสียงกวน ๆ พร้อมกับหันมายิ้มยิงฟันขาว ๆ ให้ “มีแต่คนบอกว่าเราเปลี่ยนไป ดูหล่อขึ้นเยอะ”

“นายคิดว่านายพูดกับใครน่ะ”พูดออกมาได้ เมฆมันไม่ใช่คนหล่อหรอกครับ เป็นคนประเภทที่มองปุ๊กรู้ปั๊ปว่าต้องเป็นหมอนั่นล่ะหน้ามน ๆ เนิร์ด ๆ หน่อย ใส่แว่นกรอบเต็ม มุมปกยกขึ้นทำให้ดูใจดี ยิ้ม ๆ ตลอด “นายมาชมตัวเองต่อหน้าเดือนคณะอื่น ดีกรีขวัญใจช่างภาพเนี่ยนะ”

“เชอะ ข่มนะ ๆ”ตาหวาน ๆ นั่นค้อนใส่ผมวงเบ้อเริ้ม ไม่ได้ข่มสักหน่อย ผมพูดเรื่องจริงต่างหากล่ะครับ “อย่าให้เราได้ดอกาสบ้าง จะเอาคืนให้ดู”

“ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”เถียงกลับไปขำ ๆ อย่างนั้นล่ะครับ ไม่มีอะไร “เมฆเหมือนเดิมจริง ๆ นะ ทั้งขี้งอน ขี้บ่น ชอบค้อน แม้แต่ผม ก็ยังนุ่มเหมือนเดิมเลย”

“นี่ชมหรือว่า”

“ชมสิ”ผมยักคิ้วให้เพื่อนข้างนึง แล้วแอบหัวเราะในใจ ที่พูดไปก็เรื่องจริงทั้งนั้นนี่น่า

พรึบ ตุบ

ทั้งผมทั้งเมฆพากันสะดุ้ง เมื่อมีอะไรบางอย่างหล่นมาใส่ตักผม ผมก้มลงไปมองของแปลกปลอมที่ว่า เป็นซองสีน้ำตาลซองขนาดปานกลางที่ข้างในใส่ของไว้พอดู ก่อนจะเงยขึ้นมองคนที่โยนซองนี้มา

“พายุ”ผมส่งเสียงเรียกคนที่เดินดุ่ม ๆ ออกไปโดยไม่ทักทาย มาโยนของให้แล้วเดินหนีไปนี่คืออะไรครับ

ผมเปิดซองที่หมอนั่นโยนมาดู ข้างในมีแผ่นซีดีอยู่ 2 แผ่น พร้อมกับรูปถ่ายที่อัดออกมาอีกปึกใหญ่ รูปตอนรับน้องทั้งหมดที่ผ่านมา...

“เมฆ เดี๋ยวค่อยคุยกันต่อนะ”ผมหันไปลาเพื่อนสนิท ก่อนที่จะจ้ำเท้าเดินตามหลังของเฮดว้ากตัวร้ายที่เดินไปไกลพอดูแล้วไปอย่างไง “พายุ พายุ คุณพายุ... โซนร้อน!”

เรียกชื่อจริงไม่หัน ผมเลยต้องตะโกนเรียกชื่อเล่นแทน เท่านั้นล่ะครับมันถึงจะหยุดเดิน อ่อ ทุกคนคงยังไม่รู้สินะครับว่าพายุที่เรียกกันมาน่ะเป็นชื่อจริง แต่ชื่อเล่นจริง ๆ ของมันคือโซนร้อนครับ

ชื่อเล่นที่น้อยคนจะพูดถึง นอกจากเพื่อน ๆ กับพี่มันแล้วคิดว่าคงไม่มีใครรู้หรอกครับ แต่ผมรู้เพราะตอนประกวดดาวเดือนมันแนะนำตัวมา

อีกอย่าง ผมคิดว่ามันคงเคยชินกับชื่อพายุมากกว่าด้วยล่ะครับ

“มีอะไร”มันถามผมด้วยเสียงห้วน ๆ อยู่ ๆ มาหงุดหงิดอะไรใส่ผมวะ

“รูปพวกนี้”ผมยกซองสีน้ำตาลที่ถือเอาไว้ขึ้นมา ตายังคงจ้องหน้ามันอยู่

“รูปรับน้องไง”พายุโต้กลับมาก่อนที่ผมจะถามอะไร ผมรู้แล้วว่าเป็นตอบตอนรับน้องที่ผ่านมาครับ ไอ้คุณพายุ “ไม่ได้เปิดดูหรือไง”

“คุณเอามาให้ผมทำไม”ผมถามคำถามที่อยากรู้ทันที โดยไม่ฟังหมอนี่พูดต่อ ขืนรอฟังคงอีกยาวล่ะครับ

“คุณไม่เอาไปทำงานหรือไง คุณลมหนาว”คนตรงหน้าถามผมกลับ ทำเอาผมสะอึก ใช่... มันต้องเอาไปทำรายงานส่งสโม “ทั้งหมดที่คณะผมถ่ายเอาไว้ นั่นน่ะ”

“แต่...”

“ไม่ต้องห่วงไป พวกผมไม่คิดเงินหรอก ให้คือให้”ผมไม่ได้หน้าเงินนะครับ ที่จะพูดถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ น่ะ ต่อให้มาเรียกเก็บเงิน คณะผมก็มีจ่าย

“ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้น แต่ผมต้องการถามคุณว่า คุณคิดว่าคณะผมไม่มีถ่ายเอาไว้หรือยังไงกัน”ผมโต้กลับไปด้วยเสียงที่แฝงความหงุดหงิดไว้เล็ก ๆ

ที่สำคัญ... ทำไมถึงโยนมาให้แล้วเดินหนีมาแบบนี้... เป็นคำถามที่ผมอยากรู้ แต่ไม่อยากถาม

“ผมรู้ว่ามี”มันกระตุกยิ้มเยาะให้ผม แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมพร้อมกับหรี่ตาลง “แต่ไม่มีทางมีเยอะไปกว่าคณะของผมหรอก”
ผมกับมันจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้น ก่อนที่มันจะกระตุกยิ้มที่มุมปากอีกครับ แล้วดึงตัวผมเข้าไปหามัน พร้อมกันกดจมูกโด่ง ๆ ที่ดีดนั่นเข้าที่แก้มผมหนัก ๆ

“เฮ้ย”แน่นอนครับว่าคราวนี้ผมผลักมันออกอย่างแรง พร้อมสวดหมัดออกไป อยู่ดี ๆ มาฉกหอมแก้มกันอย่างนี้ บ้าฉิบหายเลย แต่พายุมันรับหมัดผมไว้ได้แบบสบาย ๆ ล่ะครับ

“แก้มหอมดีนะ ลมหนาว”มันยักคิ้วยั่วโมโหผมไปอีกหนึ่งยก “มัดจำไว้ก่อน หลังแจ่งแสตนด์เจอของจริง อย่าลืมเตรียมตัวไว้ให้พร้อมนะครับ คุณเหมันต์”

“หึ อย่างคุณไม่มีทางก้าวข้ามผมไปได้หรอก คุณพายุ”ผมไม่มีวันยอมแพ้คนอย่างมันแน่ “ผมไม่มีวันนอนกับคุณ จำเอาไว้นะครับ”

ชั่ววินาทีนึงผมเห็นสายตามันวูบไหว ฉายแววเสียใจ แต่แค่แวบเดียวมันก็หายไป เหลือแต่สายตาแข็ง ๆ เหมือนเดิม... ผมคงคิดไปเองล่ะมั้ง

“ทำอะไรกันน่ะ”ประธานคณะแพทย์เดินตรงเข้ามาหาผมกับมัน พร้อมกันมองหน้าพวกเราสองคนด้วยสายตาจับผิด “มีเรื่องกันอีกแล้วเหรอ พายุ ลมหนาว”

“เปล่าครับ เราแค่ทักทายกัน”พายุตอบกลับไปเสียงเรียบ ๆ “พวกเราจะมามีเรื่องอะไรกันในมหาวัทยาลัยล่ะครับ พี่ทิวไผ่ ผมไม่ได้อยากโดนทัณฑ์บนนะ”

“ก็แล้วไป”พี่ทิวพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนจะหันมาหาผมแลวยิ้มให้ “นี่สอบเสร็จกันหมดแล้วใช่ไหม หืม”

“ครับ”ผมตอบรับ ส่วนคนข้าง ๆ พยักหน้ารับนิ่ง ๆ ไม่โต้ตอบอะไร ตามปกติพายุมันก็ไม่ค่อยพูดคุยกับพี่ทิวเขาอยู่แล้วล่ะครับ “พี่ทิวมีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ก็ไม่ได้มีอะไร เหมือนเดิมนั่นแหละ เพื่อนพี่ติดต่อมาเลยจะมาถามหนาว”ผมยิ้มบาง ๆ พยักหน้ารับ โอเคครับ ผมพอจะรู้แล้วว่าเรื่องอะไร “จะรับงานไหมล่ะหนาว รอบนี้ก็น่าจะพอได้ค่าหอหลายเดือนอยู่”

“พี่ทิวก็รู้ว่าผมต้องตอบรับอยู่แล้วนี่ครับ”ผมส่งยิ้มให้พี่เขาบาง ๆ งานพิเศษน่ะครับ แบ่งเบาภาระของแม่บ้าง แล้วเผื่อว่าอยากได้อะไรจะได้ไม่ต้องไปแบมือขอ “ช่วงวันหยุดนี้ใช่ไหมครับ”

“อาฮะ สองสามวันน่าจะเสร็จ ที่เหลือก็ได้พักยาวแล้วล่ะ”คราวนี้แค่สองสามวัน ก็ยังดี มีคราวที่แล้วเล่นไปเป็นอาทิตย์ ทำเอาผมหมดแรงเลยเหมือนกันครับ

เหนื่อยกว่าทำรับน้องอีก

“โอเคครับ”

“จริงสิ...”พี่ทิวหันไปหาคนที่ยืนนิ่ง ไม่ขยับไปไหน คงเกรงใจไม่เดินออกไป ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครหันไปมองล่ะมั้งครับ “พายุ อย่าทำงานพิเศษไหม”

“งาน...? อะไรครับ”มันถามกลับมาด้วยน้พเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยและมึนงง ผมเองก็มองพี่เขาด้วยความงุนงงไม่แพ้กัน

“ถ่ายแบบเสื้อผ้า แบรนด์ของเพื่อนพี่เอง”พี่ทิวแกกอดอกแล้วมองพายุตั้งแต่หัวจรดเท้า “คราวนี้ธีมมันเป็นเปลวไฟกับน้ำแข็ง พี่ว่าถ้าพายุกับลมหนาวไปถ่ายด้วยกันน่าจะเข้าท่าอยู่นะ”

“ถ่ายแบบเสื้อผ้า?”มันหันควับมามองผม สายตาของพายุไล่ตั้งแต่ศีรษะของผมลงไปถึงเท้า แล้ววกกลับขึ้นมาอย่างประหลาดใจ “คุณรับถ่ายแบบเสื้อผ้า?”

“แค่เป็นคอเล็กชั่นให้เขาไว้เลือกซื้อในร้าน ไม่ได้ลงนิตยสารอะไร คุณจะมาทำหน้าสงสัยขนาดนั้นทำไม คุณพายุ”ผมว่ามันต้องเข้าใจผิดอะไรไปไกลมากแล้วแน่ ๆ เลยครับ

“จะลองไหมล่ะ”เหมือนจะเป็นคำถามให้เลือกนะครับ แต่พี่ทิวเขาใช้น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วจะเป็นการท้ามากกว่า จับทางพายุได้ล่ะมั้งครับว่าเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาท้า “อยากรู้ไม่ใช่เหรอครับ ว่าเป็นยังไง”

“หึ ก็ได้ครับ ยังไงก็ว่างอยู่แล้ว”ได้ยินเสียงตอบรับมาอย่างนั้น พี่ทิวก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

พายุ... นายหลงกลพี่ทิวเข้าแล้วล่ะ

ยินดีด้วย... นะ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาต่อแล้วค้า ไม่ยาวเท่าตอนที่แล้ว ไม่เป็นไรเนอะ

พบกันตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่28 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ14/06
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 14-06-2015 20:33:20
แอบหวานเบาๆ อุคริ  :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่28 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ14/06
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 14-06-2015 22:15:12
เอ่อตอนนี้ของเทคะแนนสงสารให้ เมฆ เพื่อนหมอกนะ 5555  :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่28 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ14/06
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 14-06-2015 22:24:35
เก่งแค่ไหน แน่แค่ไหน หึงแค่ไหน เจอพี่ทิวก็ต้องหยุดค่ะ 555555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่28 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ14/06
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 14-06-2015 23:12:59
เอาอีกๆ  เหยยยยย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่28 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ14/06
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 14-06-2015 23:24:23
อ่านจบปุ๊บปรบมือรัวให้พี่ทิวเลยอ่ะ พี่ทิวฉลาดมาก จับทางพายุเสียอยู่หมัด จะรู้มั้ยเนี่ยว่าเสียรู้เข้าแล้ว เหนือยิ่งกว่าทุกคนนี่ต้องพี่ทิวเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่28 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ14/06
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 15-06-2015 09:59:56
พายุหึงลมหนาวซินะ


เมฆเอ๊ย...ปล่อยเขาไปเถอะ ลองนางไปนั่งตักชายตาเยิ้มขนาดนั้น


นางก็คงไม่เหลืออะไรมาให้เมฆได้คนหาแล้วละลูก


แล้วหน้าตาแบบหนูต้องมีคนดูแล มากกว่านะ


พี่ทิวเป็นบุคลที่ใครๆ มิควรต่อกร ด้วยจริงๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่28 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ14/06
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 15-06-2015 16:11:18
พี่ทิวน่ากลัวจัง รู้จักจุดอ่อนคนอื่นเค้าไปทั่ว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่28 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ14/06
เริ่มหัวข้อโดย: Beerr_jh ที่ 16-06-2015 04:47:29
คุณโซนร้อน หึงด้วย อิอิ เมฆเค้าก็แค่เพื่อนล่ะนะ
พายุหลงกลพี่หมอจนได้สินะ 555
ส่วนเมฆ ผู้หญิงถ้าจะทำอย่างนั้นก็ปล่อยไปเถอะ หาคู่ให้เมฆใหม่ก็ดีนะ อิอิ
ลมหนาวก็บอกพายุไปสิเรื่องพนันกันไว้ผมไม่ยอมแน่ แต่ถ้าเรื่องของหัวใจค่อยว่ากันอีกที 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่28 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ14/06
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-06-2015 19:49:37
อ่านจบปุ๊บปรบมือรัวให้พี่ทิวเลยอ่ะ พี่ทิวฉลาดมาก จับทางพายุเสียอยู่หมัด จะรู้มั้ยเนี่ยว่าเสียรู้เข้าแล้ว เหนือยิ่งกว่าทุกคนนี่ต้องพี่ทิวเลย :katai2-1:

เหนือพี่ทิวมีพี่ตั--- ค่ะ 5555

พายุหึงลมหนาวซินะ


เมฆเอ๊ย...ปล่อยเขาไปเถอะ ลองนางไปนั่งตักชายตาเยิ้มขนาดนั้น


นางก็คงไม่เหลืออะไรมาให้เมฆได้คนหาแล้วละลูก


แล้วหน้าตาแบบหนูต้องมีคนดูแล มากกว่านะ


พี่ทิวเป็นบุคลที่ใครๆ มิควรต่อกร ด้วยจริงๆ

เรื่องของเมฆไม่จบเท่านี้นะคะ ^++++^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-06-2015 20:54:51
วันที่ยี่สิบเก้า
(คิส)

ผมนั่งไขว่ห้างเลื่อนไอแพคดูการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไป แอบมองปันปันของผมที่ทำหน้าบึ้งอยู่ข้าง ๆ ไป หึหึ พวกเรากำลังไปภูเก็ตกันน่ะ จริง ๆ นั่งเครื่องไปก็ได้ แต่ที่รักบอกไม่เอา จะนั่งรถเท่านั้นนี่สิ

แถมนั่งทำหน้าบูดบึ้งจนคนขับรถผมหน้าเสียไปเลยด้วย ฮะ ๆ เก่งจริง ๆ เลยน้า

อย่างนี้สิ ถึงสมเป็นที่รักของผม

จริง ๆ ก็ชวนทิวกับน้องหนาวมาด้วย แต่ติดธุระอะไรกันไม่รู้ ไม่อยากเสือกเลยไม่เซ้าซี้ ดีซะอีก ผมจะได้อยู่กับน้องปันปันสองต่อสอง

กว่าจะล่อหลอกมาได้เสียงเหงื่อไปหลายยกเหมือนกัน แต่ยอม ก็คนมันถูกใจ

หืม? พวกคุณคิดว่าคนอย่างผมเคยวิ่งไปจีบใครด้วยเหรอ? ไม่ล่ะ ไม่มีทางและไม่มีวัน ไฮโซกระเป๋าหนัก ชื่อก้องอย่างผม กระดิกนิ้วทีเดียวก็มากันเป็นขบวน ถอดเสื้อผ้าอ้าขาเรียบร้อยไม่ต้องสั่ง

มีแต่ปันปันนี่ล่ะ ที่ผมต้องมาตามตื้อ ตามจีบ กว่าจะอ่อนลงที ผมก็แอบอ่อนเหมือนกัน อ่อนใจน่ะนะ คนความอดทนต่ำอย่างผมตื้อได้เป็นเดือน ๆ ก็บุญโขแล้ว รู้ซะบ้างเถอะ ยังไม่รวมที่ยอมโดดงานเลยนะเออ

นั่นล่ะ หนุ่มน้อยข้าง ๆ ผมเคยสนใจซะที่ไหน เจอหน้าก็มีแต่แยกเขี้ยวใส่ ไม่เคยจะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบสักคำ มันน่านัก

ช่าง เอาไว้ผมรวบยอดทีเดียวก็ได้ คอยดูนะที่รัก ถ้ามีโอกาสจะเอาให้ลุกไม่ขึ้นให้สมกับความเหนื่อยที่ผมได้รับ กับความอดทนที่ผมเสียไปเลยคอยดู

หืม... แว่วเสียงมาถาม ทำไมผมถึงตามจีบปันปันน่ะเหรอ... อยากรู้คำตอบกันจริง ๆ อ่ะนะ

มันก็ไม่มีอะไรมากนี่ ผมเกิดมาบนกองเงินกองทอง อะไรที่อยากได้ก็ได้มาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้หญิง รวมถึงหนุ่มน้อยหน้าหวาน ผมก็ผ่านมาหมดแล้ว แต่นะ คนเราเกิดมา ยังไงก็มีสิ่งที่ขาด และต้องการสิ่งเติมเต็ม ผู้หญิงต้องการคนมาดูแล ผู้ชายต้องการคนมาแบ่งปัน คนสวยต้องการคนหล่อมาเป็นคู่ควง

ผมก็ต้องการเหมือนกัน คุณคิดว่าผมที่ตื่นมาส่องกระจกทุกวัน เห็นหน้าตัวเองอยู่ทุกเวลาจะต้องการคนสวยมาอยู่ข้าง ๆ ไหมล่ะ  เดินไปไหนก็ถูกเปรียบเทียบจนเขาต้องขอลา

ผมจะต้องการคนที่ขาวผ่องไปทำไม ในมื่อผมขาวพอที่จะตากแดดแล้วไม่ดำ ถึงแม้ว่าจะเป็นแดดของประเทศไทยก็ตามที

ปันปันน้อยของผม เป็นส่วนผสมที่ผมต้องการ ทั้งคมเข้ม ผิวแทน... คุณชายอย่างผมแน่นอนว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้ และได้มาครอบครองเพียงคนเดียว

แล้วอีกอย่าง อะไรที่ได้มาง่าย ๆ มันก็ไม่สนุก จริงไหมล่ะครับ ทุกคน หึหึ

จากกรุงเทพ ไปภูเก็ตกับการนั่งรถเป็นสิบชั่วโมง ขากลับไม่ว่ายังไงผมก็จะนั่งเครื่องกลับ ต่อให้ปันปันน้อยจะนั่งรถกลับก็ตาม
เมื่อยสัส ร่างกายผมยังต้องใช้งานอีกเยอะ ขอบายกับการทำร้ายร่างกายทางตรงแบบนี้โดยสิ้นเชิง อายุผมมันเลยเบญจเพศแล้วเถอะ ถ้าใครคิดจะไปดูแลตัวเองตอนอายุเยอะแล้ว บอกเลยว่าคิดผิด ไอ้อาการปวดสารพัดปวด ป่วยสารพัดโรคมันถามหาแบบจ่อคิวแล้วจะมาเสียใจ

ผลเหลือบไปมองคนที่บอกจะนั่งรถมาให้ได้ หึหึ บิดไปบิดมาพอกันกับผมนี่ล่ะ นั่น มีทุบ ๆ ช่วงสะโพกด้วย ทำตัวเองนะหนูน้อยของป๋า

ผมเดินนำปันปันเข้าไปในโรงแรมห้าดาวที่อยู่ในเครือบริษัทของผมเอง ทำธุรกิจเกียวกับโรงแรม กับรีสอร์ทก็ดีแบบนี้ล่ะนะ อยากไปไหนก็มีที่พักที่ใช้ได้ไว้รอท่า ไม่ต้องไปตายเอาดาบหน้าที่ไหน

“อ้าว คุณคิส มาถึงแล้วเหรอคะ ยินดีต้อนรับค่ะ”หญิงสาวคนนึงที่แต่งตัวด้วยชุดภูมิฐานเดินเข้ามาต้องรับผม เธอแต่งหน้าสีอ่อน ดวงตาฉ่ำหวานพอ ๆ กับรอยยิ้ม “ห้องที่สั่งเอาไว้ เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ”

“ขอบใจ”ผมรับกุญแจห้องบนสุดของโรงแรมมา เป็นห้องสวีทขนาดใหญ่ ที่สระว่ายน้ำที่ระเบียง เห็นวิวทะเลชัดมาก จะจองนอกจากมีเงินแล้วต้องมีอำนาจกับดวงด้วย ถึงจะได้นั่นล่ะครับ

ผมสร้างไว้เป็นห้องส่วนตัว ไว้มาพักผ่อนกับเพื่อนฝูง ไม่ได้ไว้ให้คนมาพัก เข้าใจตรงกันนะ

“ห้องขนาดนี้ แพงตายห่าเลย”ปันปันน้อยพึมพำบ่นออกมาไม่เบาเท่าไหร่ ตั้งใจให้ได้ยินเลยว่างั้น คงกะประชดผมเต็มที่ “ฟุ่มเฟือยชะมัด”

“โรงแรมพี่ครับ ปันปันน้อย ห้องฟรี ที่พักฟรี อาหารก็ฟรีครับ”ผมไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยสักหน่อย ปีนึงใช้เงินไม่กี่ล้าน ไม่ถึงสิบล้านด้วยซ้ำ ซื้อเสื้อผ้า ซื้อรองเท้า แล้วก็รถนั่นล่ะ แถมรถไม่ได้ซื้อทุกปีด้วย คันที่ถูกใจมันยายากนะเออ หืม...? เอ้า ก็ผู้ชาย ไม่ให้ผมไปซื้อของพวกนี้ จะให้ไปซื้อเครื่องสำอางหรือไง เอาใจสาวก็พาไปกินข้าวที่โรงแรมหรู (ที่เป็นของผมเอง) ไม่มีอะไรให้เสียเงิน จริงไหมล่ะ ผมมันสมาคมคนรวยและไม่ขี้งก (น้อย)

“หึ”ปันปันทำเสียงขึ้นจมูกแล้วเดินกระแทกไหล่ผมไปเหวี่ยงกระเป๋าไว้บนโซฟา ก่อนจะทิ้วตัวนั่งลงตาม น่ะ มองผมตามขวางอีก
ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย

ผมได้แต่ยิ้มกับท่าทางเด็ก ๆ ของเขานั่นล่ะนะ น่ารักจริง ๆ คนอะไร มาเที่ยวคราวนี้ไม่มีใครมาเป็นก้างซะด้วย (ฝังใจตอนไปรีสอร์ทที่ยกให้ยืมรับน้อง ผมแม่งแทบ ไม่ได้อยู่กับปันปันเลย เซ็ง)

เหมาะแก่การเผด็จศึกจริง ๆ...

เคยได้ยินกันไหม? มาภูเก็ต เสร็จทุกราย อะไร เคยได้ยินแต่เสม็ด? ก็ที่นี่ภูเก็ตไม่ใช่เสม็ด จบนะครับคนดี

ผมเหล่อมองคนที่นั่งเอาขาพาดโต๊ะกระจกเอาไว้ โดยที่เหยื่อไม่เห็น ผมที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ด้านหลัง ไม่มีอะไร ใส ๆ น่า ยังไงปันปันก็แฟนผม

ใครกล้าเถียง?

ไม่ได้ผิดลูก ผิดเมีย ผิดผี มีชู้สักน้อย

“คุณคิสครับ คุณเฟรด้าขอเข้าพบครับ”อินเดินเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม เฟรด้า ใครกันล่ะนั้น “คุณเฟรด้า แม่เล้าผับดังแถวนี้ครับ และเป็นบุตรสาวหุ้นส่วนของเราด้วย”

“ให้พบที่ห้องรับรองชั้งล่าง”ผมตอบกลับไปเรียบ ๆ รู้ใจตลอดเหมือนเคยล่ะนายอินคนนี้ “เดี๋ยวไว้ฉันจะลงไป”

“ครับ”เลขาคนเก่งของผมหันหลังเดินออกไป โดยไม่ลืมหันไปค้อมหัวให้นายหญิงของเขา อะไรนะ ผมพูดอะไรไม่ถูก นายหญิงน่ะถูกแล้ว

ปันปันเมียผม เป็นนายหญิงมันผิดตรงไหน เถียงดิ เถียงมา เดี๋ยวพ่อซัดเลย

“เดี๋ยวผมลงไปทำธุระข้างล่างก่อนนะ ปันปัน เป็นเด็กดีรออยู่ข้างบนนะครับ”ผมยื่นมือไปบีบจมูกโด่ง ๆ นั่นเบา ๆ พร้อมกับที่แรงหวดเข้ามาที่เอว แรงดีจริง ๆ เลยให้ตายเถอะ “ชอบเจ็บ ๆ หรือไงกันครับ ปันปันน้อย”

ผมขยิบตาให้กับหนุ่มหน้าคม ผิวแทนตรงหน้า ก่อนจะเดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างสบายอารมณ์ น่ารักน่ากอดจริง ๆ เลยน้า คนอะไร

“คิสคะ”ร่างสูงระหง ทรงเพรียวเรียวชะลูด ปากแดงอย่างกับกินเลือดมาค่อนชีวิต มาพร้อมอ๊อฟชั่นพิเศษ น้ำหอมไล่คนเดินเข้ามาหาผม “จะมาทำไมไม่บอกด้าสักหน่อยล่ะคะ นี่ถ้าด้าไม่ได้ตามคุณพ่อมาติดต่องานเราคงไม่ได้เจอกัน”

ผมมองใบหน้าที่พอกเครื่องสำอางไว้จนไม่เห็นแม้แต่รูขุมขนด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย นี่ผมต้องจ้างโคนัน หรือคินดะอิจิไปสืบหน้าหนังหน้าที่แท้จริงของสตรีตรงหน้าผมไหมเนี่ย

ว่าแต่นางคือใคร... ชื่อเหมือนจะคุ้น แต่ผมนึกไม่ออก ตอนแรกนึกว่านางโชว์ในภูเก็ตแฟนตาซีเอาตั๋วมาให้ซะอีก แต่ดูแล้วไม่ใช่ล่ะมั้ง

“เธอเป็นลูกสาวหุ้นส่วนใหญ่ของโรงแรมทางใต้ของเราครับ”อับดุลประจำตัวของผมก้าวเข้ามากระซิบเบา ๆ อีกรอบ ช่วงนี้ขี้ลืมจังผมเนี่ย อ่อ ลูกสาวหุ้นส่วนใหญ่ อืม... ไว้ค่อยว่ากันว่าคนไหนละกัน “เธอจ้องจะจับคุณอยู่ครับ”

อันหลังไม่ต้องบอก มองดูก็รู้ นมตั้งสั่นซะขนาดนั้น

“แล้วเฟรด้ามีธุระอะไรกับผมเหรอครับ”ผมยิ้มบาง ๆ ให้กับเธอ ขณะเดียวกันก็หลบก้อนเนื้อซาลาเปาสองลูกที่พยายามพุ่งเข้ามาถูไถ

ไม่ใช่ต้นตะเคียน ไม่ต้องมาถู แป้งที่พอกมาเผื่อโรยนั่นก็เอาไปไกล ๆ ด้วย

“แหม พูดจาห่างเหินจังเลยนะคะ คิส”แม่คุณทำหน้างองำ ผมไม่ใช่เกย์ หรือกระเทยโดยกำเนิด เพราะอย่างนั้นผมจึงยีงชอบผู้หญิง แต่กับผู้หญิงที่พอกหน้าหนาเตอะยิ่งกว่าสาวประเภทสองหน้าเป็นหลุมนี่...  บ๊ายบาย “เย็นนี้ไปดินเนอร์กันนะคะ คิส ไหน ๆ ก็ได้เจอกันแล้ว”

“ขอโทษด้วยนะ ผมไม่ว่าง”ผมปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด “ผมมาพักผ่อนกับ... เพื่อน คงไม่สะดวกจะไปไหนมาไหนกับ ‘คนอื่น’ สักเท่าไหร่”

“คนอื่นอะไรที่ไหนกันคะ...”ริมฝึปากแดง ๆ มัน ๆ วาว ๆ ฉีกยิ้มหยาดเยิ้ม... เอ่อ เหมือนเลือดจะเยิ้มลงมาเลยให้ตายเหอะ “ห่างเหินจังเลยน้า ไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแท้ ๆ”

“ปล่อยแขนผม”มือปลาหมึกจู่โจมมาดดยไม่ได้ตั้งตัว วอนผู้เกี่ยวข้อง เจ้าหนี้ที่ภาครัฐ ภาคเอกชนมาเก็บกลับไปด่วน “หวังว่าผมคงไม่ต้องไปคุยกับคุณพ่อของคุณใช่ไหม ว่าบุตรสาวของท่านทำตัวยังไง”

คุณหนูเฟรด้าชักสีหน้างองำ แล้วปล่อยมือออกจากแขนผมโดยดี กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกชวนเวียนหัว ไม่ไหวจะเคลียร์สักเท่าไหร่

“ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ผมขอตัว”ผมเดิมหมุนตัวกลับ ขึ้นไปที่ห้องดีกว่า เสีนเวลาจู๋จี๋กับปันปันชะมัด เพราะคุณผู้หญิงที่คันหาหนังหน้าในมหาสมุทรแปซิฟิกไม่เจอนี่คนเดียว

“แต่ คิสคะ ดินเนอร์ของเรา”

“ไม่มีคำว่าดินเนอร์ของเรา มีแต่ของคุณ และของผม จบนะครับ”หันไปตอบครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเดินตัวปลิวเข้าลิฟต์ที่อินกดรอเอาไว้ให้ไป

“คุณปากร้ายกับผู้หญิงขึ้นอีกแล้วนะครับ คุณคิส”อิมเอ่ยด้วยน้ำเสียงติเตียนปนขำขัน “ยังไงเขาก็เป็นผู้หญิง จิตใจอ่อนไหวคนนึงนะครับ”

“ผู้หญิงหน้าวอล์มาเรียสิไม่ว่า มองหนารูขุมขนยังไม่เจอเลย”รู้จักไม่ครับ wall maria ที่ใช้ป้องกันพวกไททันไม่ให้เข้ามากินมนุษย์ไงครับ กำแพงที่ยากจะพังใน attrack on titan แต่สุดท้ายก็โดนเตะประตูพังอยู่ดี “พอหน้าซะ กะไม่ให้เหงื่อมีรูไหลออกมาเลยมั้ง”

“ไม่เอาครับ คุณคิส ไก่งามเพราะขน คนงานเพราะแต่ง คุณเฟรด้าเขาอยากสวยเขาก็แต่งเป็นเรื่องธรรมดาน่าครับ”เป็นคำแก้ตัวแทนที่มันดูทะแม่ง ๆ เหมือนกันนะ ว่าไหม ผมเหล่มองเลขาคนเก่งอย่างสงสัย แล้วหัวเราะในลำคอ

ก็ไม่ชอบนางเหมือนกันล่ะน่า ทำมาเป็นพูด

ผมเปิดประตูเข้าไป ปันปันที่นั่งกินเลย์อยู่บนโซฟา พร้อมกับมีกระป๋องเบียร์วางอยู่ตรงหน้าเหล่ตามองผมก่อนเมินกลับไปจ้องรายการทีวีเหมือนเดิม

สนใจกันสุด ๆ อ่ะ ปันปันที่รักของพี่คิส

“ปันปันครับ”ผมเอ่ยเรียกชื่อของคนตรงหน้าหวาน ๆ แต่ก็ไม่ได้รับแม้แต่การชายตามอง เล่นเอาผมยิ้มค้างเลย “ปันปันครับ หันมาหาพี่คิสหน่อยสิครับ”

... ยังคงความมิ่งเงียบ ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจเหมือนเดิม ผมเลยเดินไปทิ้งตัวลงนั่งเบียดเด็กดีของผมบนโซฟาตัวใหญ่นี่ล่ะ ปันปันเขยิบหนี ผมเบียดตาม เอาดิ เป็นเด็กดีว่าง่ายหน่อยก็ไม่ได้

“อะไรนักหนาเนี่ย ถ้าอยากสีก็ไปหาคนมาสีด้วยเด่ะ ผมจะดูหนัง ไปนั่งไกล ๆ เลย ด่วน”สุดท้ายก็เป็นปันปันที่ต้องแพ้ให้กับผม หึหึ ผมดึงปันปันให้มานั่งข้าง ๆ ดี ๆ แล้วล็อคตัวไว้อย่างนั้น

“อยากสีแค่ที่รักคนเดียวนี่ครับ”หยอดไปอีก1 ดอก หน้าคม ๆ ฉบับคนใต้แต้ ๆ ของปันปันเปลี่ยนสีเลยทีเดียว “เขินเหรอครับ คนดี”

“เขินหะ... บ้าอะไร ขยะแขยงโว้ย”มีโวยวายแก้เขินด้วย น่ารักจัง ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ “ไม่ต้องทำหน้าหยาดเยิ้มคิดเองเออเองเลยนะ ไอ้คุณคิส”

“พูดเพราะ ๆ ให้เหมาะกับหน้าตาน่ารัก ๆ สิครับ ปันปัน”ผมเอ่ยด้วยเสียงดุ ๆ ปันปันเบ้หน้าใส่ผมอย่างไม่เกรงใจ เป็นกิริยาที่ไม่น่ารักซะเลย

น่าจับตีก้นจริง ๆ

“พอ เลิกเถียงกะคนบ้าล่ะ”ปันปันส่ายหน้าแล้วเมินผมไปเลย
เมินแบบโคตรจริงจังด้วย

เมินก็เมินไปนะครับ น้องปันปันของพี่คิส น้องจะเมินได้ก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ เมินให้เต็มที่ อีกไม่นานหรอก น้องจะต้องมองหาแต่พี่คนนี้คนเดียว


ค่ำ ๆ หลังจากกินข้าวมื้อเย็นกันเสร็จ ผมพาปันปันมาที่บาร์ของทางโรงแรม จิบเหล้าเคล้าดนตรีฟังสบาย ๆ ช่วงหัวค่ำเป็นบรรยากาศที่ดีว่าไหม?

ถ้าตกดึกหน่อยก็จะแปลงเป็นผับขนาดย่อม แต่จะอะไร จุดประสงค์ที่มาก็กินน้ำเมาเหมือนกัน เพราะงั้นอย่าได้สน ซดต่อไป

ผมสั่งเปิดแบล็คมาขวด อุ่นเครื่องกันสักหน่อย เริ่มจากเพียวก่อนสักช็อต ปันปันหน้านิ่งใส่ผมเมื่อเห็นยกช็อตเพียวขึ้นซด ผมเลยไม่รีรอที่จะยักคิ้วท้าทายหมอนั่นสักดอก

คนไม่ยอมคนอย่างพวกพี่ระเบียบ ยังไงก็ไม่มีทางที่จะโดยคำท้าทิ้ง จริงไหม? ไม่ต้องบอกก็คงเดากันได้ว่าที่รักของผมก็เล่นไปช็อตนึงเหมือนกัน

เราสองคนนั่งดื่มไปเรื่อย ๆ ถ้ามองจากภายนอกก็คงไม่แปลกอะไรหรอก แต่รู้กันอยู่แก่ใจว่าแข่งกัน...

แหม่... แต่สนามมันต่างกัน ประสบการณ์ ความเจนจัดมันคนละเรื่อง นักศึกษาตัวดำ ๆ วัน ๆ เอาแต่เรียน เข้าแลก เข้าเลค จะมาสู้อะไรกับนักธุรกิจสายทำงาน ค่ำเลี้ยงลูกค้าอย่างผม

ไม่ทันจะดึกก็จอดซะแล้ว เด็กน้อยของพี่

ผมนั่งดื่มอีกพักนึง ก่อนจะหามเอาคนที่เมาฟุบขึ้นห้อง ไม่ต้องมีใครมาช่วยหรอก สบาย ๆ ถึงจะไม่ได้มีกล้ามเป็นมัด ๆ แต่ไม่ได้แรงน้อยนะเออ

เหวี่ยงเด็กน้อยตัวดำลงบนเตียงแล้วกอดอกมอง เวลาเมาแล้วผิวคล้ำ ๆ ขึ้นสีแดงเรื่อเหมือนกันนะเนี่ย

ปันปันนอนพลิกไปพลิกมาตามประสาคนเมานั่นล่ะนะ คงจะร้อน น่ะ ยังไม่ทันขาดคำมีถอดเสื้อออก แบบนี้ยั่วกันชัด ๆ เลย ว่าไหม?

“อื้ออ ร้อน”ถีบผ้าห่มที่ผมอุตส่าห่มให้กระเด็นตกเตียงออกนอกวงโคจรไปเลย ดี เมาแล้วยั่ว ผมชอบ
เขาปรือตาขึ้นมาน้อย ๆมองผม แล้วบ่นพึมพำ พูดว่าอะไรนะ... ผมเอียงหูเข้าไปฟังใกล้ ๆ อยากรู้นี่ว่าพูดอะไร แต่มันไม่ได้ยิน

“อืออ แมวเหมียว สวยจางงง”แมวเหมียว? ผมนี่นะ... ให้ตายเถอะ แม่ ไอ้ชื่อเล่นคิตตี้เนี่ย มันเป็นรอยด่างพร้อยที่สุดในชีวิตผมเลยนะ

ระหว่างที่คิดอะไรเพลิน ๆ อยู่ ๆ ก็มีแรงกระชากหนัก ๆ ให้ล้มลงไปนอนบนเตียงขนาดใหญ่ ก่อนที่ร่างหนาจะขึ้นคร่อมตัวผม

“คิดจาอาวผมเป็นเมีย ม่ายมีทางหรอกก”เสียงยาน ๆ ปนกลิ่นเหล้าเอ่ยขึ้น เรียกยิ้มมุมปากผมได้โคตรชะงัก “มาเปนน เมีย โผมซะดี ดี แมวเหมียวว”

ปันปันโน้มตัวมาซุกไซร้ที่ซอกคอผม จั๊กจี้ดีชะมัด แค่นะ คนอย่างคิสไม่เสียงเชิงชายให้ชายชมหรอก ถ้าได้ชมกายชายค่อยคุยกันได้หน่อย

“แค่พูดให้ชัดยังทำไม่ได้เลย หึ”ผมพลิกกลับมาอยู่ข้างบนแล้วดึงเข็มขัดออกมารัดมือเด็กดื้อขี้เมาเอาไว้

ว่าจะเก็บเอาไว้ให้จีบติดก่อนค่อยหม่ำ แต่เด็กมันยั่วมา ผมก็ต้องสนองไปจริงไหมล่ะ...

เอาล่ะ... ทานละนะคร้าบบบ

จัดเด็ด ๆ จักสามน้ำท่าจะดี...

และ... ผมไม่ยอมให้ใครมาเห็นปันปันของผมหรอกนะ รู้ไว้ เพราะฉะนั้น เบนกล้องไปซะ

ด่วน!



๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาแล้วค่ะ ^^ ต่อไปเป็นของน้องคีนะคะ // แวบไปเขียนต่อก่อน

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 21-06-2015 22:27:08
555 พี่คิสจะกำราบเด็กดื้อแล้ว จะมีพลิกล็อกไหมเนี่ย หุหุ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 21-06-2015 23:10:58
 :z1: :pighaun: :z1: :hao6: :jul1: :hao6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 22-06-2015 00:52:19
รวบตึง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 22-06-2015 02:25:39
 :z1: น้องดำดำ เสร็จพี่แมวเหหมียวซะละ  :hao6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 22-06-2015 02:50:30
ขอโทษนะคะ  หมั่นไส้คิสค่ะ   ขอให้อดนะยะ  ปันปันอย่ายอมนะลูก  ไม่ชอบเลยผู้ชายนิสัยแบบนี้ รวยแล้วไง? นึกสินะว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ


พี่ทิวขารู้ค่ะว่าเทพแต่อย่าลืมหันไปดูคนที่อยู่ข้างหลังด้วยนะคะ   น้องข้าวนางจะหนีอยู่รอมร่อด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจไปแล้วค่ะ   ระวังนะเดี๋ยวเมียหายนะพี่ทิว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 22-06-2015 03:26:41
ปันปันอยู่กับคิสแต่ปล่อยให้ตัวเองเมาเนี่ยนะ คิสเดี๋ยวปันปันตื่นมาโมโหแย่
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 22-06-2015 15:19:38
อ้าวปันปันน้อย

โดนพีคิส กินเสียแล้ว

พี่คิศ ถนอมน้องปัน ปัน หน่อยนะ

เด็กมันไม่เคย ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 22-06-2015 16:39:01
ชื่อเล่นพายุน่ารัก โซนร้อนนน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 23-06-2015 01:40:43
ส...สามน้ำ!? โหดมาก ระวังน้องโกรธเลิกคุยด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 23-06-2015 06:22:04
เห็นชื่อเรื่องเลยเข้ามาอ่าน...อ่านปุ๊บติดเลย 555+
โซนร้อน ชื่อแบบอื้ม...เข้ากันกับลมหนาวจัง แบบคนละขั้วงี้คนนึงร้อนคนนึงหนาว เข้ากันแบบต่างกัน...แต่มันดูลงๆตัวไงไม่รู้  :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 28-06-2015 20:48:11
ปันตื่นมา

พี่คิตตี้เจอกระทืบแน่ เหอะๆๆ
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่29 P.18[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/06
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 02-07-2015 13:45:36
อะๆๆๆไรกานนน  o22 o22 :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 04-07-2015 20:00:42
วันที่สามสิบ
(คีตา)

ได้หยุดหลังสอบ 1 อาทิตย์เป็นอะไรที่สุดยอดสำหรับผมแล้วล่ะครับ จะนอนให้เต็มที่เลย อยู่หอนี่แหละ ไม่กลับบ้านหรอก กลับไปก็เจอแต่เสียงทะเลาะกัน

อยู่เงียบ ๆ ในหอแบบนี้ดีกว่ากันไม่รู้เท่าไหร่เลย จริงไหมล่ะฮะ

ครืด ครืด

ใครแม่ง สุนทรีย์โทรมาตั้งแต่หัววันในวันหยุดวันแรกหลังสอบของผมกันวะเนี่ย... อ่อ ไอ้ทะเล เพื่อนสนิทคิดซื่อ ๆ ของผมเอง โทรมาไม?

"ว่าไง"ผมถามคนในสายด้วยน้ำเสียงที่ปนหงุดหงิดหน่อย ๆ วันหยุดทั้งทีใคร ๆ ก็อยากนอนสบาย ๆ บนเตียงคู่ใจของตัวเองจริงไหมล่ะฮะ

"กูกับพวกไอ้ปิ๊กตั้งตี้กันไปแดกเหล้าคืนนี้ ไปไหมมึง"ปิ๊ก เพื่อนคณะนิเทศน์ครับ เกรียน ๆ กวน ๆ อ้อนตีนชาวบ้าน แต่มันก็เป็นคนดี... คนนึงล่ะ

"เออ ๆ เย็น ๆ มาเรียกละกัน"ออกไปเที่ยวสักคืนก่อนก็อาจจะดีก็ได้จริงไหมครับ เผื่อสมองจะปลอดโปร่ง ความรู้บินออกจากสมองไป... แต่ยังไม่ถึงปลายภาคเลยนี่หว่า จะให้สมองโล่งได้ไง...

ช่างเถอะ เที่ยวหนุก ๆ ไปนั่นแหละ

เมื่อก่อนผมมักจะมองว่าคนที่เรียนจบมาทำงานในโรงพยาบาลต้องเป็นพวกเด็กเรียบร้อย เหล้าไม่แตะ เบียร์ไม่ต้อง แอลกอฮอร์ไม่ดื่ม แต่พอได้มารู้จักจริง ๆ มันคนละเรื่องกับที่คิดไว้เลย... เหล้าพร้อมสู้ เบียร์พร้อมรบ ยาแก้แฮงค์พร้อมทาน เรื่องจริงไม่อิงมโน

ผมนอนกลิ้งเกลือกไปมาอยู่บนเตียง แชทไลน์ไปกวนพี่เทคโรงเรียนมัธยมที่หนีเที่ยวไปพัทยากับแก็งค์ของเขาเป็นระยะ น่ะ ส่งรูปอาหารทะเลมายั่วอีก พี่ใครวะ

อยู่นาน ๆ คนเดียวก็เบื่อล่ะครับ เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เสียบเคาะประตูโครม ๆ จนข้างห้องจะเขวี้ยงทีวีมาใส่กบาลผมนั่นล่ะ ถามได้ ก็ต้องรีบไปเปิเประตูให้พวกมันสิ

"โทรเข้ามาก็ได้นี่หว่า เล"ผมทำหน้าบูดใส่เพื่อน ก่อนจะเดินไปทำธุระส่วนตัว เตรียมออกไปเมาฉลองสอบเสร็จแบบชิว ๆ

ฟ้าเริ่มมืด นักท่องราตรีอย่างเราเริ่มโผบิน กอดคอกันเข้าผับที่อยู่ห่างจากมหาลัยไปพอประมาณ เดี๋ยวนี้ผับใกล้ ๆ มหาลัยมันโดนกวาดหมด ก็ต้องไปกันไกลหน่อยล่ะฮะ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับขี้เมาอย่างเรา ๆ

เด็กหออย่างผมไม่มีรถยนต์หรอกนะครับ มีแต่มอเตอร์ไซต์กุ๊กกิ๊กที่แม่ให้มาใช้ไปก่อน มันโอเคแล้วล่ะครับ เอารถมาขับในเมืองอันศรีวิไลนี่ก็สายเปล่า ๆ กว่าจะฝ่ายรถติดมาถึงบอสใหญ่ได้ ไม่รู้ต้องส่งซ่อม ส่งรักษากี่รอบ ฮีลกันไป

แต่วันนี้ผมนั่งรถยนต์ล่ะ สบายตัวเลย ไม่ได้นั่งรถตู้หรือแท็คซี่ สองแถว รถเมล์นะครับ โน่น รถพี่เกด เขาไปนั่งคุม ไม่กิน รายนี้แอลกอฮอล์ไม่แตะ บุหรี่ไม่สูบ วัน ๆ กินแต่พาย เห็นว่าที่บ้านหนีเที่ยวกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ยกบ้าน เขาเลยมาด้วยแก้เหงา เรานี่ได้รถฟรีเลย เฮ~

ในรถคันนี้นอกจากมีผมกับพี่เทคตัวกลมแล้วยังมี ไอ้เล กับพี่ป๊อปด้วย พี่วินัยยังมา เอาสิครับ ฮ่า ๆ ตอนแรกก้มองพี่เขาขรึมนะ แต่พอตบมุกกับพี่เทคผมทุกวันนี่ หมดกันที่ทำมาจริง ๆ

"เออ จริงสิ เดี๋ยวก่อนเปิดจะพาไปเลี้ยงสายนะคี"เสียงหวานเกินบุคลิกของพี่เกดดังขึ้นแทรกเสียงเพลงช่องดัง ลาภปากของผมล่ะครับ เหมือนช่วงนี้จะดวงขึ้น "เดี๋ยวพี่ไปคุยกับพี่หนาวก่อนว่าเลี้ยงไหนแล้วจะมาบอก"

เอ่อะ... คุยกับพี่หนาวเหรอครับ บ่งบอกว่าผมอดเมาแน่ ๆ ถ้ามีพี่หนาวพี่หมอก็ต้องมา พร้อมกับสายตาอาฆาตแอลกอฮอล์ที่ไม่มียี่ห้อ...

นักศึกษาปอน ๆ อย่างเราฮันเด็ดเป๊ปเปอร์นี่ก็หรูแล้วนะครับ แต่ขั้นต่ำของพี่แกเป็นชีวาส ผมหมดปัญญา กินทีต้องกินข้าวแกง 1 อย่างยี่สิบบาทมหาลัยไปอีกนาน ลาภปากตอนปาร์ตี้วันออกไปรับน้องนอกสถานที่ ที่ได้กินเหล้าหรูนั่นมันตราตรึงใจดีจริง ๆ ให้ดิ้นตายสิครับ

"อย่าหวังจะได้เมา พี่ไม่มีปัญญาเลี้ยงหรอกนะ"ทำไมเสียงพี่ฟังดูเย้ยหยันขนาดนั้นล่ะครับ โถ่ "ไปอ้อนพี่หนาวเอาเองแล้วกันนะ พ่อน้องเทคที่รัก"

"ผมยอมกินร้านจิ้มจุ่มข้างทาง ดีกว่า"ยอมแพ้ครับ ให้ไปอ้อนพี่หนาวเนี่ย ถึงปลดวินัยแล้วพี่เขาจะไม่โหดเหมือนเดิม แต่ไอ้สายตาอ่านไม่ออกของพี่เขาเนี่ย ผมขอยกธงขาวครับ

พี่เกดหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วเงียบไป นั่งฟังเพลงกันไปสักพักก็มาถึงผับระดับกลางที่นัดกันไว้ เท่าที่เหล่ ๆ มองรถ มากันพอดูแล้วเหมือนกันนะครับเนี่ย

"เฮ้ ทางนี้"ไอ้ปิ๊กโบกมือหยอย ๆ อยู่แต่ไกล มันจองที่ข้างในสุดของผับเอ้าไว้ครับ พวกนิเทศมากันเกือบหมดแล้วแหะ "อุ๊ หวัดดีเจ๊ มาไงเนี่ย"

"ขับรถมา เฝ้าพวกเอ็งไง"พี่เกดยืนเท้าเอว แยกเขี้ยวให้เพื่อนนิเทศ ไม่พอมีพี่ป๊อปทำหน้านิ่งเป็นแบ็คด้วย "ถ้าเมาเลื้อยหัวราน้ำจะโทรหาเฮียโจ๊กให้มาเล่นงาน คอยดู"

"โหยยยย เจ๊ ปล่อยกันสักวันเถอะน่า"ไม่ใช่แค่พวกมันล่ะครับที่โอดครวญ เทคนิคเราเองก็ไม่ต่าง อ่อ มีพวกวิศวะด้วย "พรุ่งนี้ไม่มีเรียนสักหน่อยยย"

"ไม่สนเฟร้ย พี่ไม่อยากตามเช็ดตามล้างความเกรียนของพวกเอ็ง"พี่แกเชิดแล้วตบเท้าไปนั่งกับเพื่อนซี้ของเขา จะบอกว่าสมเป็นน้องเทคพี่หนาวดีไหมนะ... "งี่เง่ามากจะโทรหาพี่โอ รู้ไว้"

"..."เงียบกริบครับงานนี้ ฤทธิ์เดชของคนตัวเล็ก ใจใหญ่อย่างพี่ตังโอนี่ ลือชาทั่วมหาลัย ขนาดพี่ระเบียบ พี่ว๊าก พี่วินัย จะเรียกอะไรก็ตามแต่ ยังต้องเงียบให้พี่เขา...

ถึงจะโหดในเรื่องระเบียบวินัย แต่พี่เขาก็เป็นที่รักของทุกคนนะครับ  ได้ยินว่าใครที่ผ่านมือ ผ่านเท่าพี่เขามาจะขึ้นเป็นเฮดด้านต่าง ๆ เกือบทุกคน และพาคณะทำงานได้อย่างดีเยี่ยม เป็นประวัติศาสตร์นึงของมหาลัยเราเลย

"โหย เจ๊ เจ๊เป็นใครถึงโทรเรียนคุณตังโอมาได้ โถ่ววว"ผู้กล้าแห่งยุทธผับถามขึ้นอย่างกวน ๆ เอ่อ... ผมว่าแต่เป็นน้องร่วมคณะพี่เขาก็มาแล้วนะครับ

"พี่เป็นหลานเทคสายตรงติ่งมา คิดว่าปูเทคพี่จะไม่สนหรือไง"หะ? สายตรง ผมเพิ่งรู้เหมือยกันนะครับ โชคดีหรือโชคร้ายวะเนี่ย
นั่งดื่ม นั่งคุย นั่งเฮกันอยู่พักใหญ่ หลายคนกรึ่ม ๆ กันแล้ว ผมยังชิว ๆ อยู่ ไม่ได้ดื่มเป็นน้ำนี่ครับ คืนนี้ยังอีกยาวไกล ส่วนพี่ที่มาคุมทั้งสอง... เล่นเปิดไวน์ราคาแพงมาจิบกันตั้งแต่สิบวินาทีแรกที่มานั่งแล้วครับ

ไม่แบ่งอีกต่างหาก อดลาภปากครับผม งานนี้

นั่งมองเพื่อน ๆ ที่ออกไปยักย้ายส่ายสะโพกกันอย่างเมามันส์ขำ ๆ ท่าไม่ได้ดูดีเลย อย่างกับจิ้งจกโดนน้ำร้อนลวก ไอ้ตัวไหนหน้าตาดีหน่อยด็มีสาวมาเต้นสีล่ะครับ

เรื่องปกติในผับล่ะเนอะ ผมไม่เต้นหรอกครับ เดี๋ยวโดนถ่ายรูปแบล็คเมล์ เดือนมหาลัยจะกลายเป็นเดือนดับ ฮ่า ๆ อายเขา เอวไม่พริ้วสู้

ผับนี้เด็กมอ.เรามาเยอะอยู่เหมือนกันนะครับ เห็นเดินเข้ามาทักผู้อาวุโสทั้งสองของพวกผมกันหลายคนอยู่ มีเอากับแกล้มมาแบ่งให้เป็นระยะ มอง ๆ แล้วคงมีพวกพี่สองปีสามนั่นล่ะครับที่เยอะ ปีหนึ่งอย่างพวกผมยังไม่ถึงหยิบมือเลย

แต่อยู่ ๆ พี่เกดที่หน้ายิ้ม ๆ กับพี่ป๊อปที่สลัดมาดวินัยออกไปตั้งแต่คืนที่ปลดวินัยก็ทำหน้าตึงราวกับวิญญาณพี่ระเบียบเข้าสิง สายตาที่จะบอกว่าเย็นชาก็ไม่ใช่ รังเกียจก็ไม่เชิง ออกแนวขยะแขยงก็พุ่งตรงไปที่ใครคนหนึ่ง

ผมมองตามสายตาพวกพี่เขาไปรอบแรกก็ไม่เห็นใครเตะตา ลองใหม่ ๆ เรด้าห์ผมอาจจะพลาด คราวนี้กะสองตัวล่างตรง ๆ ไม่ใช่ละ กะระยะสายตาแบบตรง ๆ แล้วมองไป... ทำผมผงะ

ไม่มีโต้ดแน่นอนครับ คนที่พี่ทั้งสองของผมมองน่ะ คน ๆ นั้นผมมั่นใจว่ารู้จัก... อาจจะไม่ได้รู้จักดีเท่าไหร่ แต่ผมจำได้ไม่มีลืม...

เธอคือ น้ำฝน คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนพี่กิต... แต่ตอนนี้เธอนั่งซบอกชายอีกคนอยู่ พร้อมแก้วเหล่าในมือ และเธอ... กำลังหัวเราะคิกคักเมื่อชายร่างใหญ่คนนั้นบีบเคล้นหน้าอกของเธอ...

นี่มันอะไรกันน่ะครับ?!

ผมหันไปมองพี่เทคกับเพื่อนพี่เขาที่น่าจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังด้วยความสงสัย แต่เหมือนว่าพี่เขาจะไม่ได้สนใจผมกัน ตาสองคู่ยังจ้องเขม็งไปที่เธอคนนั้น

“พี่เกด... พี่น้ำฝนเขา...”ผมไม่รู้จะเอ่ยถามยังไงเหมือนกันนะครับ มันตำตาอยู่ขนาดนี้... “ทำไมเขาถึงทำแบบนี้เหรอพี่... เขาเป็นแฟนพี่กิตไม่ใช่เหรอ”

“รู้ด้วยเหรอ?”พี่เกดเลิกคิ้วแล้ว ก่อนจะเหยียดยิ้มเยาะออกมา “กิตมองชีเป็นแฟนน่ะ ใช่ แต่นางมองกิตเป็นแฟนไหมนี่อีกเรื่อง”

“หมายความว่ายังไงพี่”ผมถามกลับอีกรอบอย่างไม่เข้าใจ ตอนผมเห็นพวกเขาไปกินข้าวด้วยกันก็ดูหวานสมเป็นคู่รักกันนี่... แล้วทำไม?

“ยัยนั่นแค่ควงกิตให้ตัวเองเด่นไปงั้น ดาวควงเดือนมันเก๋ ๆ ไง”พี่ตัวกลมของผมยักไหล่ พร้อมกับทำสีหน้าสุดเซ็ง “อวดชาวบ้านได้ว่าฉันมีแฟนหล่อ แต่ลับหลังอย่าให้เซด เหลวแหลกแหกหีสะบัด”

“แล้วพี่กิตไม่รู้เหรอครับ พี่...”ถ้าไม่เห็นจะ ๆ อยู่ตรงหน้า มาพูดแบบนี้ผมอาจจะไม่เชื่อก็ได้นะครับ พี่น้ำฝนเขาดูหวาน ๆ สไตล์ผู้หญิงน่ารัก น่าปกป้องล่ะครับ

“ถ้ารู้มันจะโง่เป็นควายให้แม่นั่นสวมเขาอยู่แบบนี้เรอะ โด่ว”คราวนี้เป็นพี่ป๊อปตอบกลับมา พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ “คนเดียวใชชั้นปีที่แม่งไม่รู้ล่ะมั้ง”

“อ๊ะ ๆ ทำหน้าแบบนั้น อย่าคิดว่าพวกพี่ไม่บอกมัน บอกจนปากฉีกเลยรูหูแล้ว พ่อคุณเขาเชื่อซะที่ไหน ปกป้องแฟนซะ พ่อเทพบุตรตกสวรรค์”สีหน้าพี่เกดบ่งบอกถึงฟิวอารมณ์มาก “ไม่รู้ตามันทำด้วยอะไร เวลาเอากันไม่สังเกตสังกาแฟนตัวเองมั่งว่าน้องสาวดำจนไฮเตอร์เอาไม่อยู่แล้ว หรือสักแต่จะเสียบก็ไม่รู้”

จริง ๆ ผมไม่เคยคิดว่าพี่เทคผมจะปากจัดนะครับ จนกระทั่งวันนี้ มาจัดเต็มทั้งคำพูด ทั้งท่าทาง ตอนแรกนึกว่าเป็นพวกเฮฮาปกติ ออกไปทางทอม ๆ ซะอีก...

“เป็นเทพบุตรอยู่บนฟ้าอยู่ดี ๆ ลงมาให้เขาเทียมคันไถซะได้”ลูกคู่พี่เขากรอกตาไปมาอย่างหน่าย ๆ “ไม่เห็นกับตา แม่งไม่รู้สึก”

“เหอะ ๆ ขนาดเอารูปไปโยนใส่หน้ายังบอกว่าตัดต่อหรือเปล่า อาจจะเป็นแค่คนที่หน้าคล้ายก็ได้ แฟนมันไม่มีทางทำอย่างโน้น อย่างนี้ ดื้อซะไม่มี”

“แล้วทำไมเขาถึงทำแบบนี้ล่ะพี่... พอจะรู้ไหม”ขออีกสักคำถามเถอะครับ พี่กิตทั้งหล่อ ทั้งอ่อนโยน คอยห่วงใย คอยดูแล พี่เขาไม่ดีตรงไหนกัน...

“สั้น ๆ ง่าย ๆ he hasn’t money”พี่เกดเท้าแขนลงกับพนักโซฟาแล้วแค่นยิ้ม “บ๊ะ ภาษาอังกฤษกูยังอ่อนแอเหมือนเดิมจริง ๆ เฮ้อ... ไอ้กินน่ะ มันหน้าตาก็ดี นิสัยก็ดี แต่นะ มันไม่ได้ตรงสเปคของแม่น้ำฟ้าน้ำฝน น้ำแตกนั่นที่ต้องการเงิน ต้องการเข้าไปอยู่ในสังคมไฮโซนิ ฐานะกิตมันปานกลาง นามสกุลก็ไม่ได้ใหญ่โต ไม่ได้มีหน้ามีตาให้สังคมไฮโซโก้เก๋ นางเลยแค่มาหลอกควงเล่น ๆ อย่างนี้ไง”

“แล้วคนที่เขานั่งตักอยู่นั่น...”มีตระกูลนักเหรอ คำถามที่ผมอยากถามแต่มันควรหรือเปล่า... แล้วอีกอย่าง พี่เกดเขาจะไปรู้ได้ยังไง

“อีผู้ชายที่นางนั่งเกยตักเป็นพยูนเกยตื้นนั่นน่ะนะ ลูกชายนายทหารที่พอจะมียศอยู่บ้างนั่นแหละ อยู่คนละมหาลัยกับเรา แต่กร่างใช่เล่น”เฮ้ย รู้อีก พี่ผมเป็นอับดุล มีตาที่สาม หรืออาจจะมีดวงตายมทูตหรือเปล่าเนี่ย “เอาเป็นว่าถ้ามันมาหาเรื่องคี เรียกพี่นะ เดี๋ยวเคลียร์ให้”

แล้วพี่เป็นใครถึงจะมาเคลียรืให้ผมล่ะคร้าบบบ คำถามที่ไม่มีทางถามออกไปเด็ดขาด เดี๋ยวหัวผมจะขาดแทนเด็ด เอาเป็นว่าผมจะจำเอาไว้ละกันนะครับ พี่

“เกดก็พูดซะ... ไม่บอกให้หมดล่ะ”ยังมีอีกเหรอครับ เนี่ย... ผมหันไปมองหน้าพี่ป๊อปอย่างมึน ๆ มันอาจจะเกินจากที่ผมรับได้ไปหน่อยแล้วมั้งครับ “ก็ไม่ได้มีอะไรนักหรอก เมื่อก่อนน้ำฟ้าเขาเป็นเด็กขายนั่งร้าน ติดอันดับท็อปด้วยนะ แอ๊บเป็นเด็กญี่ปุ่น ขิขุอาโนะเนะ คนเรียกใช้กันสนุกสนาน โชคดีที่ไม่ติดโรคมานะนั่น”

“เอ่อ... แล้วพี่ป๊อปรู้ได้ไงล่ะครับ”เรื่องแบบนี้ไม่น่าใช่พี่ผู้หญิงเลยนะที่จะรู้น่ะ... จริงไหมครับ หรือว่าผมคิดไปเอง?

“พี่สาวพี่รับจ้างทำบัญชีให้ร้านที่นางไปขายเป็นอาชีพเสริม”อ่อ... งั้นคงไม่แปลกแล้วล่ะครับ ที่พี่เขาจะรู้ลึกรู้จริง “นางใช้นามแฝงว่าเลซี่”

“เลยมีฉายาที่เพื่อนอีตัวตั้งให้ว่า เลซี่ ชะนีตูดบาน”เป็นฉายาที่... เหมือนจะใช้ได้นะครับ ฮะ ๆ “นางไปชุบตัวจำแลงกายด้วยมีดหมอมาใหม่ แล้วกลับมายัดเงินเข้ามาลัยนี่ไง ซดน้ำผู้อำนวยการไปกี่ยกไม่รู้”

เน่าขึ้นทุกที... ผมยิ่งฟังยิ่งกลุ้มใจ

พี่กิต... ผมควรไปสวดมนต์วัดไหนให้พี่ตาสว่างเร็ว ๆ ดีครับ คนดี ๆ อย่างพี่ไม่ควรจะมาแปดเปื้อนกับคนแบบนี้เลย...

พี่เกดกับพี่ป๊อปเมาส์กันต่อไปสักพัก ก่อนจะเงียบลง จิบไวน์ต่อ เพื่อนที่ออกไปเต้นเริ่มทยอยกันกลับมานั่งพักแล้ว คงเหนื่อยกันพอดูแหละ

ผมแอบเหลือบมองพี่น้ำฝนเป็นระยะ เดี๋ยวก็ซุก เดี๋ยวก็ไซร้ สักพักก็ดูดปากกัน พี่เขาเป็นอย่างที่พี่ทั้งสองบอกผมจริง ๆ เหรอ หรือเป็นแค่ข่าวลือ

ผมอดคิดไม่ได้ ไม่อยากฟังความแค่ข้างเดียว แต่ครั้นจะเดินเข้าไปถามคงใช่ที...

แต่เหมือนฟ้าจะให้ผมสงสัยได้ไม่นานเท่าไหร่นัก เมื่อเธอคนที่ผมแอบมองเล่นแหกแข่งแหกขาให้ผู้ชายที่เธอนัวเนียอยู่ด้วยนั้นสีน้องของเธอผ่านกางเกงผ้าตัวสั้น ไม่พอยอมให้เขาเลิกเสื้อสายเดี่ยวเอวลอยนั่นขึ้นจนเห็นชั้นในสีแดงเพลิง... ท่าทางที่เจนสนามคงบอกได้ดีกว่าอะไร

จากที่นั่งที่ผมนั่ง กับที่นั่งของเขา เป็นมุมอับของร้าน เรียกว่าส่วนตัวที่สุดเพราะจะมองเห็นกันแค่สองโต๊ะเท่านั้น มันเลยไม่ประจานแก่สายตาคนทั่วไปที่มาเที่ยวนัก

แต่มันเต็มตาผมเลยนี่สิ...

แทนที่จะได้ท่องราตรีอย่างสนุกสนาน ผมกลับมีเรื่องให้คิดมากขึ้นกว่าเก่า บางครั้งการที่เราไม่รู้อะไร มันอาจจะดีกว่าการที่เรารู้ แต่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้... จริงไหมครับ

สุดท้ายผมก็กลับมานอนที่หอดดยที่ไม่มีความเมาจากแอลกอฮอร์สักนิด ต่างจากเพื่อน ๆ ที่เมาแทบฟุบกันจนพี่เกดบ่นเป็นหมีกินผึ้ง

Key tA ♫: พี่กิตครับ

☆Kit Kt ♥ : ครับ น้องคี

Key tA ♫: ยังไม่นอนเหรอครับ

☆Kit Kt ♥ : ยังครับ พี่นั่งเล่นเกมกับเพื่อน เพิ่งเลิก

☆Kit Kt ♥ : น้องคีมีอะไรเอ่ย?

Key tA ♫: พี่กิต... รักพี่น้ำฝนมากไหมครับ

☆Kit Kt ♥ : รักสิครับ แฟนพี่ทั้งคน น้องคีไม่รักแฟนคีเหรอครับ

Key tA ♫: ผมยังไม่มีแฟนครับ พี่

☆Kit Kt ♥ : เอ... เชื่อได้เหรอเนี่ย น้องคีเนี่ยนะไม่มีแฟน

Key tA ♫: จริง ๆ นะครับ พี่กิต ผมมีแต่แอบรักเขาข้างเดียว

☆Kit Kt ♥ : แล้วทำไมไม่บอกเขาไปล่ะครับ

Key tA ♫: เขามีแฟนแล้วนี่ครับ... ผมนึกว่าปิดหลายวันพี่กิตจะไปเที่ยวกับพี่น้ำฝนซะอีก

☆Kit Kt ♥ : ฝนเขากลับบ้าน พี่เลยเงกอยู่คนเดียวนี่ล่ะครับ ฮ่า ๆ

Key tA ♫: ฮ่า ๆ ครับ ผมไม่กวนพี่กิตแล้วดีกว่า ฝันดีนะครับ

☆Kit Kt ♥ : ฝันดีครับ น้องคี

กลับบ้าน... บ้านของพ่อทูนหัวสินะครับ

ถึงผมจะชอบพี่กิต... แต่ความชอบของผมไม่ได้หมายถึงการครอบครอง ผมอยากให้พี่กิตมีความสุข ให้พี่เขามีรอยยิ้มแบบนี้ตลอดไป... แต่ทำไมเธอคนนั้นถึงทำร้ายพี่กิจของผมแบบนี้

ทำไม... คนดี ๆ อย่างพี่กิตถึงต้องมาเจอคนของเธอด้วยนะ

ถ้าพี่กิตได้รู้ความจริงทุกอย่าง พี่จะเสียใจแค่ไหนกันนะครับ

ผมไม่อยากเห็นพี่เสียใจเลย... จริง ๆ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ตอนที่ 30 มาแล้วค้า ให้บทน้องคีบ้าง ตอนต่อไปเป็นของพี่ว้ากพี่วินัยละค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 04-07-2015 20:17:02
ขอให้ชะนีนี่โดนดักตบข้อหาไปทับเส้นชาวบ้าน สาธุ
คือหมั่นไส้อะ ถ้าจะควงเล่น ยกพี่กิตให้น้องเหอะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 04-07-2015 21:39:47
เซงอะ  สั้นมากก
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 04-07-2015 21:41:18
เรื่องแบบนี้เราว่าพูดไปบอกไปก็เท่านั้น ยิ่งรักมากใครเค้าจะมาเชื่อเรา ต้องทำให้เค้ามาเห็นพฤติกรรมเองจะได้รู้ซึ้ง

แต่นางแอ๊บใสได้เนียนมาก ขอให้กิตมาเห็นจริงๆ เร็วๆ เถอะ จะได้เลิกๆ กับนางซะที ชิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 04-07-2015 23:38:30
 :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 05-07-2015 00:27:54
อัดคลิปเลยค่ะ  อัดให้ชัดๆ ไม่ก็ไปรับกิตมาที่ผับเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 06-07-2015 23:21:26
คี...ทำให้กิตรู้ให้ได้นะ
คิดถึงพี่ว๊ากกับพี่วินัยแล้ว...จริงๆนะ มากๆด้วย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 07-07-2015 07:44:21
จะฉงฉานกิตหรือต้องพาไปเปิดหูเปิดตาดี

น้องคีสู้ๆนะ หันมามองพี่แทนก็ได้จ้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 07-07-2015 09:33:41
แล้วจะยังไงต่อล่ะเนี่ย เง้อๆๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 07-07-2015 09:42:50
แม่เอ๊ย....น้ำฝน นางช่างแซบ


ลีลานางคงเด็ด


พี่กฤตถึงได้หลงผิดติดกับดักนาง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 07-07-2015 10:05:14
พามาให้เห็นกับตาค่ะ น้องกิตจะได้ตาสว่าง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่30 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ4/07
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 09-07-2015 07:54:43
สงสารพี่กิต ต้องเรียกให้มาเห็นกับตาเลยสิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่31 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/08
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-08-2015 22:52:07
วันที่สามสิบเอ็ด

วันนี้ผมต้องลากสังขารที่อยากนอนของผมออกจากห้องมาทำงานหาเงินยังชีพครับ เคยไหมครับ ที่อยากนอนทั้งวันยาว ๆ ไม่อยากลุกไปไหนเลย

นั่นคือความรู้สึกของผมหลังจากผ่านมรสุมงานรับน้องและสอบกลางภาคมา แต่งานที่รับไว้ก็คืองาน งานที่ผมต้องไปทำหาเงินมาจ่ายค่าหอ

ไม่ใช่ว่าที่บ้านของผมไม่มีเงินนะครับ มี แต่เราไม่ได้รวยล้นฟ้า ผมไม่ได้อยากเกาะแม่กิน แค่พี่ชายห่วย ๆ ของผมคนเดียวแม่ก็แย่แล้ว เรียนก็ยังไม่จบสักที ทำงานก็ไม่ได้เรื่องได้ราว ไปกินข้าวนอกบ้านยังไม่เคยคิดจะควักเงินมาจ่ายให้แม่เลย ผมจะไปเป็นภาระใหญ่ของท่านอีกก็ใช่ที่ จริงไหมครับ

พี่เขานัดเอาไว้ตอนเที่ยง เดี๋ยวต้องออกแล้วล่ะครับ รถในเมืองกรุงติดได้ไม่เว้นแม้แต่วันหยุด การทำงานไปสายไม่ใช่เรื่องดี ถูกไหมครับ

แต่... ก่อนหน้านั้น ผมต้องโทรหาใครอีกคนที่ต้องพ่วงกันไปด้วยก่อน

ตู๊ด... ตู๊ด...

"ฮัลโหลครับ"พายุรับสายผมอย่างสุภาพ เฮ้อ จะพูดยังไงดีล่ะครับเนี่ย "ฮัลโหล นี่ใครครับ"

"ผะ..."

"ถ้ามาขายประกัน ผมมีครบตั้งแต่เกิดยันตาย ถ้ามาขายตรง ผมยังไม่ต้องการอะไรนอกจากข้าวมื้อเช้า แต่ถ้าโทรมาจะคุย ขอให้โทรมาหลังจากนี้สิบนาที ตอนนี้ผมมีธุระด่วนที่ต้องทำก่อน ขอบคุณครับ ตุ๊ด ๆ"มันพูดจนไม่มีช่องว่างให้ผมได้แทรกเลย... ธุระเหี้ยอะไรของมันกันครับ บ้าฉิบ

ผมกดโทรไปอีกรอบอย่างหงุดหงิด ทำเสียเวลามากเลยนะเนี่ย

"ฮัลโหลครับ คุณคนเดิม ถ้าไม่มีธุระสำคัญระดับชาติ กรุณารอผมขี้เสร็จค่อยโทรมานะครับ สวัสดีครับ"แล้วมันก็กดวางอีกรอบ... เออ ดีครับ ขอให้ขี้ไปถึงสมองเลย บ้าชะมัด จะทำธุระส่วนตัวช่วยดูเวล่ำ เวลาบ้างเถอะ

แล้วเบอร์ผมมันไม่เมมไว้หรือยังไง

ผมมองโทรศัพท์ตัวเองอย่างเซ็ง ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็ฉุกใจคิดขึ้นได้... นี่มันเบอร์สำรองที่เอาไว้ฉุกเฉินนี่หว่า ไม่ได้ให้กับหมอนั่นไว้... มันจะไม่รู้ก็คงไม่แปลก

"บ้าจริง ลมหนาว นายเจอข้อสอบจนเบลอไปแล้วหรือไงกัน"ผมเคาะหัวตัวเองสองสามที ก่อนที่จะเอามือถืออีกเครื่องออกมาแทน รอสักพักนึงก่อนแล้วกันค่อยโทรไปใหม่ "ฮัลโหล พายุ"

"ว่าไง ลมหนาว"(อดีต)เฮดว้ากของวิศวะรับสายผมด้วยเสียงที่ฟังดูแล้วคงจะสบายตัวมาเรียบร้อย ไม่มีร้อนรน "คิดถึงผมล่ะสิ ถึงโทรมาน่ะ"

"ผมจะคิดถึงคนที่รับสายแล้วบอกว่าจะขี้ทำไมกันครับ คุณพายุโซนร้อน"ขอกันสักทีแล้วกันนะครับ มีอย่างที่ไหนกัน คนโทรไปแล้วว้ากใส่ว่าจะขี้แบบเต็มปากเต็มคำ

“เอ้า ที่โทรมาคุณเองเหรอ คุณเหมันต์ลมหนาว”เสียงที่มาตามสายเจือแววขบขันอย่างไม่ปิดบัง “คุณ คนเขาปวดท้องข้าศึกบุกประชิดชายแดน จะให้พูดอ้อมโลกแบบโอเปอเรเตอร์เหรอ”

“หึ แล้วคุณเตรียมตัวหรือยัง ผมกำลังจะออกไปแล้ว”ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเยอะครับ เปลืองแรงเปล่า “ผมไม่นิยมการไปสายหรอกนะ”

“คร้าบ ๆ ผมเตรียมตัวเสร็จแล้ว กำลังจะออกจากห้อง เจอกันที่หน้าหอคุณเลยก็ได้”เสียงปิดประตูที่ดังลอดเข้ามาในโทรศัพท์เป็นเครื่องยืนยัดอย่างดีว่าหมอนั่นกำลังออกมาจากห้องจริง ๆ

“ครับ”ผมกดวางมือถือ แล้วคว้าเป้ใบเก่งขึ้นสะพายหลัง ก่อนจะเดินออกจากห้องลงมารอใครอีกคนที่กำลังมา ยิ่งนึกยิ่งขำนะครับ นอกมหาลัยเรายังต้องร่วมงานกันอีก

ถ้าเป็นเมื่อเดือนก่อน... มันคงเป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าใครมาบอกว่าผมต้องร่วมงานกับเฮดวินัยของวิศวะผมคงว้ากกลับไป พร้อมกับส่งสายตาไม่เชื่อแน่ ๆ

“ยืนยิ้มอะไรตรงนี้ครับ คุณลมหนาว”เหม่อ ๆ อยู่ดี ๆ คนที่ผมรออยู่ก็เอ่ยทักขึ้นมา ไม่พอครับ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ซะจนจมูกจะชนกันอยู่แล้ว

“ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม แล้วคุณเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมทำไมล่ะเนี่ย”ผมใช้สองนิ้วดันหน้าผากพายุมันออกไปห่าง ๆ มันยิ้มยียวนให้ผม แล้วยกมองมือขึ้น “ไปได้แล้ว เดี๋ยวสาย”

“ครับ ๆ คุณวินัยเจ้าระเบียบ”ผมเดินนำพายุไปที่ถนนใหญ่ ก่อนจะพากันกระโดดขึ้นรถเมล์ไปขึ้นรถไฟฟ้าน่ะครับ

ปกติพี่ทิวจะเป็นคนพาไป และรอรับกลับ แต่เห็นว่าวันนี้มีธุระอะไรสักอย่างที่ปลีกตัวไม่ได้ เลยให้ผมพาพายุไป ถ้าทันตอนเย็นจะมารับกลับ มันไม่เป็นปัญหาอะไรหรอกครับ ผายุตั้ง 21 แล้วจะให้คนคอยรับส่งมันใช้ได้ที่ไหน แค่นี้ผมไปเองได้สบายอยู่แล้ว

ส่วนคนที่มาด้วยกัน... ดูท่าทางจะเชี่ยวกว่าผมซะอีกครับ พกเครื่องเกมมาเล่นด้วยซ้ำไป

จริงสิ... ไม่รู้ปันปันที่ไปเที่ยวกับพี่คิสจะเป็นยังไงบ้าง ตอนที่ผมบอกว่าไปด้วยไม่ได้หมอนั่นทำหน้าบูดอย่างกับตูดลิง ให้ข้อเสนอลำบากตัวเองอย่างการนั่งรถไปแทนที่จะนั่งเครื่องให้สบายก้นด้วย โทรไปถามข่าวสักหน่อยดีกว่า

“ฮัลโหล ปันปัน เป็นไงบ้าง”รอสายไม่นานเพื่อนสนิคผมก็รับสาย ยังไม่ทันจะขานมาผมก็พูดกลับไปก่อน “ไปเที่ยวทะเลใต้ สนุกไหม”

“หนุกกับผีน่ะสิ แม่ง”เสียงที่ตอบกลับมาไม่ดังนัก ซ้ำยังแหบอีก ไม่สบายหรือยังไงกันครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็แฝงความหงุดหงิดไว้แบบจัดเต็ม “มึงแม่ง มาด้วยกันก็ไม่ได้ เห็นงานดีกว่าเพื่อน”

“นายเป็นไรไป ปันปัน”ผมว่ามันเริ่มพาล ทั้งที่ปกติมันไม่ใช่คนแบบนั้น หงุดหงิดอะไร เจออะไรมาหรือยังไง “พี่คิสเขาทำอะไรนายหรือไง”

“ฮึย... แม่ง หงุดหงิด ไว้ค่อยคุยนะ บ้าฉิบเลยเว้ย!!!”ตู้ด ตู้ด พูดจบมัดกดตัดสายผมไปเลย... มันเกิดอะไรขึ้นที่ใต้เหรอครับ...
ผมได้แต่มองมือถืออย่างมึนงง แล้วหันไปมองคนที่นั่งกดมือถือเล่นเกมยิก ๆ อยู่ข้าง ๆ

ลงรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้า ลงมาซ้อนมอไซต์ก่อนจะหอบสังขารขึ้นตึกกันไป หน้าพายุนี่บูดสนิทครับ เหงื่อชุ่มมาเต็มหลัง ฉ่ากันไปล่ะนะ

ไม่รู้ว่าปกติวิศวะจะพาลุยเลอะอยู่แล้วหรือว่าอะไรนะครับ ถึงไม่มีเสียงบ่นเลย แม้ว่าจพามันขึ้นรถลงเรือแค่ไหน ก็นับว่าดีอยู่ล่ะนะครับ (เพื่อนผมบางคนลูกคุณหนู เดินนิด ฝุ่นหน่อย บ่นเป็นหมีกินรังแตน)

“ไง มาถึงแล้วเหรอ ก่อนเวลาเหมือนเคยนะ ลมหนาว”พี่ยะ ยกมือทักทายผม พี่โทโตยะเป็นลูกครึ่งไทย ญ่ปุ่นครับ ส่วนใหญ่พี่แกอยู่ไทยนี่แหละ แต่ก็บินไปญี่ปุ่นบ่อยเหมือนกัย พ่อแม่ของพี่เขาอยู่ที่นั่นน่ะครับ “นี่เพื่อนที่ทิวบอกเนอะ ใช้ได้นิ พายุสินะ สวัสดี พี่ชื่อโทโตยะ เรียกยะเหมือนเจ้าหนาวมันนั่นแหละ สั้นกี”

พี่ยะหรี่ตาลงมองพายุ แล้วหันมามองผม สลับไปมา ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ แล้วดีดนิ้วดังเป๊าะ

“ตอนแรกพี่กะว่าจะถ่ายคอนเซปเปลวไฟกับน้ำแข็ง จริง ๆ มันก็ได้อยู่หรอก แต่มองแล้ว พี่ขอเปลี่ยนคอนเซปไปถ่ายอีกอันดีกว่า”พี่ลูกครึ่งคว้าเอามือถือขึ้นมากด ๆ คงจะสั่งอะไรทีมงานของพี่เขาล่ะมั้งครับ “เรามาถ่าย เทวากับซาตาน... มิคาเอลกับลูซิเฟอร์กันดีกว่า”

“... ครับ”รับงานมาแล้ว จะคอนเซปอะไรก็ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ เปลี่ยนนิดเปลี่ยนหน่อยคงไม่อะไร

พี่ยะกดโทรศัพท์สั่งงานรัว ๆ เพียงครู่เดียวก็มีพี่ผู้ชาย... หรือเปล่าคนนึงเดินมาพาพวกผมไปที่ห้องแต่งตัว พร้อมกับพี่สาวอีกคนที่หยิบเสื้อผ้าชุดแรกมาให้

“เราจะถ่ายกันสามเซ็ตนะคะคุณน้อง เป็นเซ็ตบนโลก บนสวรรค์ และการรบ  เซ็นแรกนี่เป็นเซ็นสวรรค์ก่อนนะคะ เอานี่ค่ะคุณน้อง เปลี่ยนชุดเร็ว จะได้ไม่เสียเวลาเนอะ”

ผมไปเปลี่ยนชุดตามที่พี่เขาสั่ง ชุดของผมเป็นโทนสีขาวฟ้า ดูไม่มีอะไรนะครับ แต่ช่องคอเสื้อผ้าจะถูกเย็บอย่างมีลูกเล่น ใส่ออกมาแล้วเหมือนมีผ้าคลุมไหล่ ทั้งที่เป็นเสื้อตัวเดียว ส่วนกางเกงก็เป็นเดฟธรรมดา ผมออกไปนั่งให้พี่เขาแต่งหน้าให้ ถึงจะมีพื้นหน้าดียังไง จะถ่ายให้ขึ้นกล้องก็ต้องพึ่งเครื่องสำอางกันบ้างล่ะครับ

พายุออกมาหลังผม ชุดของหมอนั่นจะออกโทนสีเทา แวบแรกผมก็แปลกใจว่าทำไมไม่สีดำ แต่นะครับ ธีมบนสวรรค์ คงดำไม่ไหว

นอกจากชุดของพายุจะดูใส่ยากกว่าผมแล้ว หน้าก็ยังแต่งนานกว่าผมด้วยล่ะครับ เอาเข้าจริง พายุเป็นคนที่รูปหน้าคมอยู่แล้ว แต่งไม่เยอะหรอกครับ แต่มันต้องแต่งให้เข้มขึ้นเลยช้าหน่อย ระหว่างรอพี่ยะก็ไม่ได้ปล่อยให้เวลาเสียเปล่าหรอกครับ พี่เขาให้ผมถ่ายเดี่ยวเซ็ตของผมก่อน เสร็จจะได้ต่อของพายุและเซ็ตคู่เลย

ผมทำงานด้านนี้มาหลายรอบแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่คล่องเท่าไหร่ ยังมีขัด ๆ เขิน ๆ อยู่พอเล็กน้อยล่ะครับ ไม่เคยชินกับการเป็นเป้าสายตาน่ะครับ แต่สำหรับพายุ ผมคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่หมอนั่นมาทำงานถ่ายแบบ... แต่ดูยังไงก็เหมือนมือโปร

เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ครั้งที่ประกวดดาวเดือนแล้วล่ะครับ พายุเป็นนายแบบที่มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาแต่ตอนนั้นหมอนั่นออกท่าไม่เก่ง แล้วก็ยังยิ้มให้สว่างอย่างที่สมกับความเป็นเดือนไม่ได้ ผมเลยได้ขวัญใจช่างภาพมา

แต่ถ้าตัดสินด้วยรอยยิ้มเยาะ หรือรอยยิ้มแบบพวกคาสโนว่า แบดบอย ผมว่ามันกวาดเรียบทุกรางวัล เพราะขนาดพี่ยะที่ถูกใจอะไรยากยังพอใจเลยนี่ครับ

เซ็ตเดี่ยวผ่านไป ตามเรื่องแล้วสองตัวละครนี้ไม่ค่อยพบกันส่วนบนสวรรค์ เซ็ตคู่เลยน้อยมากแค่ไม่กี่รูป ผมกับพายุถูกพาไปเปลี่ยนชุดเป็นเซ็ตบนโลก

ชุดของบนโลกก็เป็นชุดธรรมดา ผมได้เสื้อแขนยาวลายทางตัวหลวมกับกางเกงยีน และใส่ไม้กางเขนเอาไว้กับแว่นไม่มีกรอบ ส่วนพายุเป็นเสื้อแขนสั้นสีดำกับผ้าพันคอสีเทาผืนยาวพร้อมกับแว่นกันแดดอันนึง

การสื่ออารมณ์ของภาคบนโลกจะเป็นการเป็นเพื่อนสนิทที่รักกันมาก แต่ถูกหักหลังในตอนหลัง เป็นการถ่ายภาพคู่ซะส่วนใหญ่

"ใกล้กว่านี้ได้ไหม"พี่ยะส่งเสียงมา พายุมันก็โน้มหน้าเข้ามาอีก ใกล้กันจะจมูกจะชิดกันอยู่แล้วนะครับ พี่ "นิ่งไว้ก่อนนะ หนาว จ้องตาพายุกลับ"

มันเป็นฉากที่ร่างมนุษย์ของลูซิเฟอร์รู้ว่าร่างมนุษย์ของมิคาเอลได้รับความรักจากผู้หญิงที่ตนรักไป และจะแต่งงานกับเธอ ทำให้เขาโกรธหนัก

และความสัมพันธ์ทั้งหมดก็สะบั้นลง ลูซิเฟอร์หันหลังให้กับพระผู้สร้างอย่างไม่หวนกลับ ปีกสีขาวสว่างไสวนั้นกลายเป็นสีดำสนิท ร่างก็เปลี่ยนไป

สิ้นสุดของภาพเซ็ตนี้คือผมต้องล้มลง โดนลูซิเฟอร์ฆ่าตาย...

"โอเค เยี่ยมมาก เหลืออีกเซ็ตเดียวแล้ว"พี่ยะแกพูดขึ้นด้วยเสียงที่พอใจสุดขีด "บ่ายสามแล้วเหรอเนี่ย... กินข้าวกิน กินข้าว พัก ๆ"

"ค้า/ค้าบ"ทีมงานที่ร่วมงานกันมาวิ่งแตกฮือไปหาอาหารใส่ท้องกันทันที หลังจากหิ้วท้องรอคำสั่งนี้มาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว

"เอ้า ๆ นี่ ข้าวกล่อง"พี่ยะเอาข้าวกล่องมาส่งให้ผมกับพายุมัน "ไม่ใช่ของกองหรอกนะ อันนี้ทิวมันสั่งมาให้พี่สั่งมาให้เป็นพิเศษ"

"ครับ"ก็ว่าล่ะครับ กองที่ไหนจะมีซูชิไข่ปลาแซลม่อน ข้าวหน้าปลาไหล แล้วก็ซาซิมิให้กินกันขนาดนี้ล่ะครับ "จริง ๆ แค่ข้าวราดแกงสักอย่างก็พอแล้วล่ะครับ พี่ยะ"

"เจ้าทิวได้มองพี่ตาขวางสิ แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก พี่ให้แม่บ้านที่บ้านทำให้ รับรองว่าอร่อยกว่าตามร้านแน่นอน"พี่ยะขยิบตาให้พวกเราแล้วคว้าข้าวกล่องส่วนของตัวเองเดินออกไป “เดี๋ยวพี่ไปดูพวกทีมงานก่อนนะ”

ผมกับพายุนั่งกินข้าวกลางวันของตัวเองกันเงียบ ๆ อยากพูดนะครับว่าแปลกที่มันไม่หันมากวนประสาทผม... แต่ก็ไม่เต็มปากเท่าไหร่ หลัง ๆ มานี้คุณชายโซนร้อนก็ไม่ค่อยกวนเบื้องล่างผมเท่าไหร่แล้ว

เอาเข้าจริงเวลาไปคุยกับเพื่อนคนอื่นที่อยู่ต่างคณะกันอย่าพวกศิลปะศาสตร์ ครุ นิเทศ พวกนั้นก็บอกนะครับว่าพายุมันไม่เห็นจะกวนตีนอะไรออกไปทางเฟรนด์ ๆ ยิ้ม ๆ ด้วยซ้ำ อยากจะค้านหัวชนฝาว่าไม่จริง แต่คนอื่นเห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันหมดเลย

“มีอะไร ลมหนาว”คนที่ผมเหลือบมองอยู่ หันหน้ามาหาแล้วเลิกคิ้วให้เชิงถาม พร้อมกับกระตุกยิ้มยั่ว “ไม่เคยเห็นเดือนมหาลัยหรือไงครับ”

“ผมจะถือว่าไม่ได้ยินคำพูดหลงตัวเองพวกนั้นแล้วกัน”พายุมันหัวเราะเบา ๆ แล้วเงียบไป หน้าของมันตอนนี้ดูยังไงก็ไม่กวนประสาทเหมือนเคยหรอกครับ... ตาที่คมอยู่แล้ว พอกรีดอายไลน์เนอร์ไปยิ่งคมใหญ่ แล้วดั้งที่ไล่จนโด่งกว่าเก่านั่นอีก

เอาเถอะครับ ถือว่าคนในมหาลัยผมตาไม่ถั่ว ที่ยกให้มันเป็นเดือนมหาลัยก็แล้วกัน

พอเรากินข้าวกันเสร็จ ก็ไปเปลี่ยนชุดถ่ายเซ็ตสุดท้าย ถามว่าทำไมมันไว ก็พี่ยุแกไม่ได้ทำเป็นโฟโต้บุ๊ค เขาต้องการจริง ๆ แค่รูปสองรูปไว้โชว์เท่านั้ล่ะครับ แต่ละชุดเลยไวหน่อย เป็นสตอรี่สั้น ๆ

แล้วอีกอย่าง การถ่ายมันไม่มีอะไรติดขัด ไหลลื่นไปได้ไวอย่างไม่น่าเชื่อสักเท่าไหร่เลยครับ

การถ่ายรอบนี้เป็นอะไรที่ผมยอมรับว่าแฟนตาซีที่สุดจนถ้าน้องเทคผมเห็นคงต้องลุกขึ้นปรบมือบราโว่แน่ ๆ ของชอบของมันล่ะครับ

ผมหันไปมองคนที่แต่งตัวนานกว่าผมอีกครั้ง คงไม่แปลกที่มันจะแต่งตัวนานมั้งครับ ผมที่ซอยซันละต้นคอที่ผมปลอมช่อหนึ่งมาต่อให้ยาวแล้วมัดรวบเอาไว้ ใบหน้าคมนั่นถูกแต่งเครื่องหน้าให้ดุกว่าเดิม ชุดสีดำสนิท ดูหลายชิ้นใส่ยากอยู่

ว่าไปแล้ว ถ้าคุณชายโซนร้อนเขาเอาหนังหน้าสภาพแบบนี้ไปลงวินัย ถ้าน้องไม่กรี๊ดสลบ ก็หงอจนไม่เงยหน้ามามองล่ะครับ

เซ็ตนี้แต่งตัวนานกว่าเซ็ตอื่นเพราะมันหลายชิ้นเยอะแยะเกินจะพูดบ่นล่ะครับ ทั้งชุด ผ้าคลุม เครื่องประดับนี่นั่น เยอะครับ หนักพอดู

ผมได้ถ่ายก่อนเหมือนเดิม คราวนี้บนพื้นหน้าฉากเต็มไปด้วยขนนก ขนเป็ดสีขาว ดาบซีเปียร์ของทางยุโรปถูกเอามาให้ถือเป็นพร็อบประกอบ ตวัดท่าทางต่าง ๆ

ของพายุก็ไม่ต่างจากของผมเท่าไหร่ แต่เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำ จากแสงที่สว่างไสว เป็นสลัว ดูดาร์กไปเลยล่ะครับ เน้นถ่ายซีนอารมณ์ ซึ่งหมอนั่นทำได้ดี

ดีจนเห็นความเจ็บปวดของลูซิเฟอร์ที่ถ่ายทอดออกมาจากตัวของเฮดวิศวะคนนั้น

หลังจากเซ็ตเดี่ยวของพายุจบ ก็ต่อเซ็ตคู่ ผมคิดว่าจะเป็นฉากแบบยกทัพฆ่าฟัน สงครามสวรรค์ แต่เปล่าครับ เป็นซีนอารมณ์

ในซีนตรงนี้จะต้องถ่ายทอดอารมณ์ออกมาให้มิคาเอล ผู้ภัคดีต่อพระผู้สร้างอ้อนวอนให้ลูซิเฟอร์ผู้เป็นที่โปรดปรานของพระองค์มากที่สุดกลับใจ และฉากที่ลูซิเฟอร์สิ้นใจอยู่ในอ้อมแขนของมิคาเอล

เป็นรูปที่ดูไม่น่าจะถ่ายยากอะไรใช่ไหมครับ แต่อย่าลืมว่ามันคือภาพนิ่ง ไม่ใช่ภาพเคลื่อนไหว ไม่มีบทพูด ไม่มีซับไตเติ้ลให้ดู
ขึ้นอยู่กับนายแบบและตากล้องล้วน ๆ แล้วจะบอกว่าง่ายได้ยังไงครับ

กว่าจะถ่ายเสร็จก็ฟ้ามืดแล้วพี่ยุพาไปกินข้าวแล้วจะไปส่งที่หอ แต่ยังไม่ทันจะกินกันเสร็จงานก็เข้าพี่แกก่อน จนต้องขอตัวกลับไปท่าทางรุกรี้รุกลน

“อา... ฝนตก”พายุมันพึมพำออกมาเบา ๆ ในขณะที่พวกเราสองคนยืนอยู่หน้าร้านอาหาร ละอองน้ำโปรยปรายลงมาจากฟ้าอย่างไม่คิดจะเกรงใจพวกผมบ้าง “ลมหนาว”

“ครับ”ผมขานรับแห้ง ๆ รู้สึกเหมือนพามันมาลำบากยังไงพิกลก็ไม่รู้นะครับ เดินทางก็ไกล ต่อรถก็หลายรอบ นี่มาติดฝนกันอีก

ให้วิ่งฝ่าฝน ลุยน้ำกันไปมันไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่คิดถึงการจราจรของเมืองกรุงยามที่ฝนตกแล้วจะกลับไปถึงที่หอกันกี่โมงก็ไม่รู้

“ไปนอนที่คอนโดผมก่อนไหม”ผมหันไปมองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจ พายุมันกระตุกยิ้มบาง ๆ “แถวนี้ไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่ ยังดีกว่านั่งรถไปเป็นชั่วโมง ๆ ล่ะมั้ง”

“คุณมีคอนโดด้วยเหรอ?”ผมถามกลับไปอีกที ถึงพอจะรู้ว่าเฮดวินัยวิศวะจะค่อนข้างมีฐานะ แต่ไอ้เรื่องคอนโดนี่ไม่เคยแว่วเข้าหูมาก่อน (เข้าใจกันนิดนึงครับ เรื่อซุบซิบของคณะคู่อริมันมีมาตลอดอยู่แล้ว)

“ผมไม่ได้จนนะ”เหมือนมันจะตอบไม่ตรงคำถาม... คุณชายโซนร้อนหัวเราะในลำคอเบา ๆ “ของที่บ้านน่ะ ไปกันเถอะ”

ผมเดินตามหลังหมอนั่นไปต้อย ๆ เป็นอย่างที่มันบอก คอนโดที่ว่านั้นไม่ไกลจากร้านอาหารที่พวกเราไปกินกันเท่าไหร่ แถมยังเป็นห้องสูทอย่างหรูด้วย

“นี่เสื้อผ้า ผมไม่ค่อยได้มาค้างเท่าไหร่ เสื้อผ้าใหม่ ๆ เลยคงไม่มี ใส่ไปก่อนแล้วกันนะ”ผมรับชุดนอนเนื้อดีมาไว้ในมือ ตามด้วยผ้าขนหนู จะหัวแข็งปฏิเสธไปก็ใช่ที่นี่ครับ ถิ่นของเขา

ผมอาบน้ำออกมาก็เห็นเจ้าของห้องจัดที่นอนแบ่งครึ่งเอาไว้ พายุเห็นผมเดินออกมาแล้วเลยไปหยิบเอาเสื้อผ้าตัวเอง เดินเข้าไปอาบน้ำบ้าง ส่วนตัวผมได้แต่ยืนมึนอย่างกลางห้องแบบนี้จนคนที่เข้าไปอาบน้ำเดินออกมา

“อยากนอนฝั่งไหนก็เลือกเลย ผมให้คุณเลือก”

“อะ... อืม”

นี่นับว่าเป็นครั้งแรกเลยครับที่ผมมานอนกับคนที่ไม่สนิทด้วย แล้วก็เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่ออกมาค้างกับคนอื่นโดยไม่มีแผนอะไรมาก่อน

“ไม่ต้องเกร็งหรอกน่า ผมไม่ลุกขึ้นมาปล้ำคุณหรอก เหนื่อย!”

เออ ขอบคุณครับ!!

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

หายไปนานอีกแล้ว ขอโทษด้วยค้า ออดๆแอดๆ มากช่วงนี้ TT มาต่อแล้วนะคะ ^^

ตอนต่อไป พบกันคือพรุ่งนี้ค่ะ

ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งกันนะคะ ^3^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่31 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/08
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 21-08-2015 23:08:38
 :a5: มาต่อแย้วววหยอออ


อุ๊ยยย งานนี้อาจมีเฮ  :hao6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่31 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/08
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 21-08-2015 23:19:37
 :z1: ปล้ำ  :hao6: ปล้ำ  :pighaun: ปล้ำ  :haun4: ปล้ำโดดดดดดดดดดดดด  :call:โอมมมม จงปล้ำ ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่31 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/08
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 22-08-2015 00:08:45
มาแล้วๆ ลมหนาวกับโซนร้อน คิดถึงๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่31 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/08
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 22-08-2015 00:12:56
อร๊ายยยยย ตอนนี้เขาไม่ทะเลาะกันแหละ
แถมไปนอนด้วยกัน?อีก อิอิ  ヽ( ´¬`)ノ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่31 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/08
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 22-08-2015 00:32:11
เตียงเดียวกันนนน

ตอนเช้าต้องตื่นมาเจอกอดกันกลมแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่31 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/08
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 22-08-2015 12:08:51
มาต่อแล้ววว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่31 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/08
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-08-2015 19:04:25
:a5: มาต่อแย้วววหยอออ


อุ๊ยยย งานนี้อาจมีเฮ  :hao6:

ขอโทษที่หายไปนานนะคะ

:z1: ปล้ำ  :hao6: ปล้ำ  :pighaun: ปล้ำ  :haun4: ปล้ำโดดดดดดดดดดดดด  :call:โอมมมม จงปล้ำ ๆ ๆ ๆ

ไม่ปล้ำ ไม่ปล้ำ ไม่ปล้ำ 5555 น้ำยาพายุยังไม่มาค่ะ...
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่31 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/08
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 22-08-2015 20:10:20
โซนร้อน...นายต้องปล้ำดิจริงๆแล้วอ่ะ เรารอให้นายปล้ำลมหนาวนะ กร๊ากกก~!!!
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่31 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ21/08
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 22-08-2015 20:52:42
สมกับการรอคอยค่ะ สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-08-2015 17:49:19
วันที่สามสิบสอง

(ทิวไผ่)

ผมปล่อยให้ลมหนาวไปทำงานกับพายุลำพัง เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ผมหางานพิเศษให้เขาเลยครับ แต่ทำยังไงได้ เด็กน้อยของผมป่วยแบบนี้ จะให้ผมทิ้งเขาไปก็กระไรอยู่ ผิดหลักจรรยาบรรณผมขั้นรุนแรง

ใบหน้าหวานซีดเซียว ร่างเล็กขดนอนจมฟูกบนเตียงนุ่ม มีอาการไอบ้างเป็นระยะ ผมฉีดยาไปแล้วเข็มนึง ถ้าไม่เป็นอะไรมากสักพักคงจะดีขึ้น

ตั้งแต่ช่วงสอบกลางภาค ผมเห็นข้าวทำงานดึกทุกคืน ทั้งที่น่าจะเสร็จตั้งแต่ก่อนสอบแล้ว แต่พอช่วงสอบก็ยังเห็นทำอยู่เหมือนเดิม พอผมเอ่ยถามก็ยิ้มเจื่อน ๆ ให้แล้วบอกกลับมาว่าไม่พอใจกับงานที่ทำก่อนหน้าเลยแก้

แต่ถ้าแค่แก้ ก็ไม่น่าจะรื้อใหม่หมดแบบนี้ อันนี้เล่นทำใหม่หมดเลย เปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนคอนเซป เปลี่ยนทุกอย่างเหมือนกับเป็นงานคนละชิ้น

เดาว่าคงมีอะไรมากกว่าที่ผมเห็น แต่เจ้าตัวไม่ยอมบอกผมแน่... มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะเข้าไปยุ่ง ถ้าไม่ใช่ว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กดีของผมต้องมานอนซมแบบนี้

ผมถือวิสาสะหยิบเอามือถือของข้าวขึ้นมาเปิดดู ถึงจะล็อครหัสเอาไว้ใช่ว่าผมจะเปิดดูไม่ได้ จริงไหมครับ รหัสง่าย ๆ ที่เห็นบ่อย ๆ แค่นี้ สบาย

ไล่ดูทั้งข้อความมือถือ ทั้งเฟสบุ๊คดูไม่มีอะไรผิดปกติ ออกไปทางเงียบ ๆ ด้วยซ้ำไป เปิดข้อความไลน์ดูอีกอย่างแล้วกัน ถ้าไม่ได้เรื่อง ผมคงต้องไปที่คณะเอา

Min^_−☆ : ฟาง เป็นไงมั่ง โอเคไหม

Min^_−☆ : วันหลังนายอย่าเอางานมาก่อนเวลาส่งเยอะ ๆ แบบนี้เลย

Min^_−☆ : พวกนั้นมันคิดแต่เรื่องสกปรกแบบนี้แหละ อ.ก็ทำปิดตา

Min^_−☆ : แย่ชะมัด


ข้อความที่ข้าวคงเปิดดูแล้ว แต่ไม่ตอบอะไร ผมมองชื่อไลน?แล้วเก็บไปหาในเบอร์โทร ก่อนจะมาเมมในเครื่องตัวเอง แล้วเอามือถือข้าวไปวางที่เดิม

"เอาล่ะ"ผมเดินออกไปอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ก่อนที่จะกดโทรศัพท์โทรหาเข้าเบอร์ที่เมมเอาไว้ และเบอร์ที่ข้าวโทรหามากที่สุด... มิน
"ฮัลโหลครับ"เสียงที่ฟังดูสดใส ทุ้มหวานเอ่ยขึ้นผ่านสายโทรศัพท์มา "ฮัลโหล สวัสดีครับ"

"ครับ ใช่มิน เพื่อนของฟางข้าวไหมครับ"ผมลองถามเพื่อความแน่ใจเล็ก ๆ ทั้งที่มันคงจะแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็นเบอร์ของเขา

"ครับ... นี่คือ?"เสียงที่บอกถึงความสงสัยถูกส่งกลับมา

"ผมเป็น... พี่ชายเขาน่ะครับ"ฐานะผมกับข้าวยังคงเป็นพี่น้อง ถึงผมจะเคยนอนกับน้องคนนี้ก็ตามทีเถอะ... แต่ก็ครั้งเดียวที่เขาขอนั่นล่ะครับ

ผมรู้ว่าข้าวคิดยังไงกับผม แต่มันยากที่จะพูดออกมา และจะดำเนินต่อไป

"อ่อ ฮะ แล้วฟางล่ะฮะ"เพื่อนของข้าวถามกลับมาเสียงใสเหมือนเดิม

"ข้าวไม่สบาย นอนอยู่"

"เอ๋... ไม่สบาย เป็นอะไรมากไหมฮะ"มินถามผมด้วยเสียงร้อนรน "ง่า... ให้เขาพักเยอะ ๆ นะฮะ บอกเขาว่างานคู่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมทำให้เอง"

"ครับ... มินครับ"ผมเรียกคนในสายเสียงนิ่ง ๆ "เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมช่วงก่อนสอบข้าวถึงเอางานมาทำใหม่ แล้วข้อความในไลน์ที่มินส่งหาข้าวอีก"

"อ่า... มันพูดยากนะฮะ"เสียงที่ฟังชัดนั้นอ่อยลงอย่างเห็นได้ชัด "คือ... มันมีปัญหานิดหน่อย จะบอกยังไงดี มันก็เกือบจะถือว่าเป็นเรื่องปกติของคณะนะฮะ แบบว่า การขโมยงาน..."

"มาที่คอนโดaaa นะครับ พี่อยากรู้เรื่องมากกว่านี้"ผมตัดบท ก่อนที่จะฟังไม่รู้เรื่อง มาคุยต่อหน้ากันเลยจะดีกว่า รู้เรื่องชัด ๆ กันไป

"อา... ผมอยู่ชั้นสี่ ห้อง 406 ฮะ..."มินตอบกลับผมมาด้วยน้ำเสียงที่ลังเล "พี่อยู่คอนโดนี้เหมือนกันเหรอฮะ"

"เดี๋ยวพี่ลงไปหา"โลกกลมดีนะครับ เพื่อนข้าวคนนี้คงมีฐานะพอดู ถึงมาอยู่คอนโดห้องราคาหลักล้านนี่ได้ "เปิดประตูให้ด้วยนะครับ"

"ฮะ"เขาขานรับ ผมวางสายไปแล้วหยิบสารพัดของ เดินออกจากห้องลงไปชั้นสี่ที่ใครบางคนอยู่

ผมกดกริ่งหน้าห้องเรียกให้คนข้างในมาเปิดประตู เด็กน้อยปีสองที่ไม่ระวังตัวเปิดประตูพรวดมาหาผมโดยไม่มองตาแมวสักนิด

"พี่ชายของฟางใช่ไหมฮะ"ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตเหลือบขึ้นมามองผม รอยยิ้มสดใสฉาบทับใบหน้าเหมือนคนที่มีความสุขตลอดเวลา "เข้ามาก่อนสิฮะ"

"นี่เปิดประตูให้ทุกคนที่มาหาแบบนี้ทุกครั้งเหรอ"ผมถามเสียงนิ่ง ๆ มุ่นหัวคิ้วน้อย ๆ เมื่อเด็กมินหันมามองผมตาใสแล้วยิ้มกว้างให้ "เรานี่ ถ้าเจอคนไม่ดีเข้ามาทำไง"

"แหะ ๆ ต่อไปผมจะระวังนะฮะ"คนตรงหน้ายิ้มเจื่อน เกาหัวเล็ก ๆ แก้เก้อ ก่อนจะผลุบหายไปไหนไม่รู้ ทิ้งให้ผมนั่งอยู่หน้าทีวี "น้ำฮะ"

"น้ำองุ่น"ผมเลิกคิ้วมองเด็กผู้ชายหน้าใส ตาใส ปากเล็กแดง แก้มใสมีสีเรื่อสุขภาพดี เส้นผมสีน้ำตาลยาวละเลยคอลงมาเล็กน้อยที่รวบส่ง ๆ ไว้... น่ารัก "พี่มากวนเวลาพักผ่อนใช่ไหม"

"ไม่หรอกฮะ ผมอยู่คนเดียว มีใครมาบ้างก็ไม่เงียบดีฮะ"ดวงตาคู่นั้นฉายแววเหงา ๆ วูบนึง ก่อนที่จะกลัลมาสดใสเหมือนเดิม "พี่อยากรู้เรื่องของฟางข้าวใช่ไหมฮะ"

"อืม"ผมขานรับในลำคอ

"คือ มันก็อาจจะเป็นเรื่องปกติของคณะที่ใช้ผลงานแลกคะแนนนะฮะ ถ้าเอางานไปก่อนวันส่งแล้วอาจารย์ยังไม่รับส่ง ก็มักจะถูกขโมยไอเดียไปตัดหน้าทำส่งก่อน เราส่งที่หลังมันก็ถูกบอกว่าลอกมา ให้แก้ ไม่ให้ผ่าน"ปากแดง ๆ นั่นขยับเล่าเรื่องที่ผมอยากรู้ออกมา "จริง ๆ วันนั้นฟางนัดส่งอาจารย์ แต่อาจารย์ติดธุระ เพื่อนในคณะมาขอดูงาน เสร็จปุ๊ปวันต่อมางานที่เขาเอาไปส่งก็เหมือนของฟางไปซะ 80%แล้ว ฟางเลยต้องตัดใจไม่อยากมีปัญหามาทำใหม่หมดเลย"

"แล้วทำไมไม่บอกอาจารย์"

"พี่ฮะ อาจารย์เขาไม่รู้หรอกฮะว่าใครทำก่อน ใครทำหลัง พูดไปอาจารย์ก็มาสอบสวนไปงั้น ๆ นามสกุลไม่ใหญ่พอจะให้เขาเกรงใจนี่ฮะ"ปากที่ยกยิ้มนั้นตกลงบึ้งตึง "จะโทษอาจารย์ก็ไม่ได้ ในเมื่อคนมันไม่มีจิตสำนึกนี่ฮะ"

สีหน้าของมินเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ที่พูดออกมา จุดประสงค์ของผมจริง ๆ คือมาคุยเรื่องของข้าว แต่ทำไมผมถึงมานั่งอมยิ้มดูคนตรงหน้าแบบนี้กันนะ

กับข้าว ผมเอ็นดูในฐานะน้องชายคนนึงที่น่าสงสาร ต้องการการปกป้องดูแล แต่กับมิน แวบแรกที่ผมได้เห็น... มันถูกใจ ถูกชะตา

"เอาเถอะ คราวต่อไปพี่จะจัดการเอง ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก มินมาบอกพี่นะครับ"ผมยิ้มให้น้องเขาบาง ๆ "ทั้งของมินและของข้าวเลย"

"ฮะ"หัวทุย ๆ ผงกรับรัว ๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ฉาบทับจนแก้มป่อง ๆ นั่นจะแตกแล้วมั้งครับ "ฟางนี่ น่าอิจฉาจังเลยน้าา เฮ้อออ"

"ทำไมล่ะ"ผมถามคนที่บ่นลอย ๆ ออกมา มินหันมายิ้มเผล่ให้ผม

"ก็มีพี่ชายพี่สาวที่คอยดูแลแบบนี้ ดีออก ผมเคยหวังอยากมีพี่สักคนมาดูแล แต่ลูกหลงอย่างผมได้แต่หวังน่ะฮะ พี่ ๆ ทำงานมีครอบครัวกันไปหมดละ ผมเลยได้แต่ดูแลตัวเองไป"เสียงหัวเราะใส ๆ กลบเกลื่อนความรู้สึกจริง ๆ เอาไว้ แต่มันไม่ได้ช่วยเลยนะครับ ใคร ๆ ก็ดูออก เมื่อเจ้าตัวเล่นแสดงออกทุกอย่างบนใบหน้า ในแววตาแบบนั้น

"เหงาเหรอครับ"

"ก็นิดหน่อยนะฮะ บางทีก็อยากมีใครสักคนมานั่งคุย นั่งฟังน่ะฮะ แต่ช่างเถอะ"รอยยิ้มที่สดใสถูกส่งมา

ผมคิดว่าเขาคงถูกเลี้ยงมาด้วยความรักอย่างล้นเหลือเลยล่ะครับ ถึงยิ้มได้ขนาดนี้ หัวใจที่ขาวสะอาด และบริสุทธิ์ ไม่เสแสร้งที่จะบอกห่วงเพื่อน มองโลกในแง่ดี เป็นเหมือนดวงตะวันที่ให้แสงสว่างกับคนที่เจอ

"มาคุยกับพี่ก็ได้ พี่อยู่ห้องบนสุด ถ้ามีอะไรอยากคุย อยากมาอ้อน ก็มาได้ตลอด"ค่กลม ๆ นั่นเบิกกว้าง ปากเล็ก ๆ อ้าออกอย่างกับปลาทองขาดน้ำ

"พะ พี่ พี่เป็นลูกเจ้าของคอนโดเหรอฮะ"เจ้าตัวถามออกมาอย่างซื่อ ๆ ทำให้ผมอดที่จะหัวเราะในลำคอไม่ได้ "พี่ทิวเหรอฮะเนี่ย"

"พี่ยังไม่ได้บอกชื่อพี่กับเราหรือไง"มินส่ายหัวผมหน้าม้าสะบัด

"ฟางไม่เคยจะบอกกันมั่งเลย"แก้มขาว ๆ ฟองลมอย่างงอน ๆ ก่อนจะถอนหายใจยาว "แต่ฟางก็ไม่ค่อยบอกอะไรกันอยู่แล้วนี่..."

"น่า ก็ได้รู้แล้วนี่"ผมหัวเราะเบา ๆ แล้วลุกขึ้น "เดี๋ยวพี่กลับห้องก่อนนะ ใกล้จะได้เวลาต้องออกไปซื้อข้าวเย็นให้ข้าวละ เดี๋ยวตื่นมาไม่เจอใครจะกลัวเอา"

"ให้ผมทำให้ไหมฮะ"มินยิ้มแฉ่งส่งมาให้ "ผมทำอาหารอร่อยนะ ไม่ได้โม้... เอ้อ จริงสิ พี่เป็นพี่ชายของฟางจริง ๆ เหรอฮะ"

"คิดว่าพี่โกหกเหรอครับ?"

"ก็เปล่าฮะ ผมแค่สงสัย"เด็กน้อยยิ้มแห้ง ๆ ส่งมาให้ผม ก่อนจะหลุบตาลงหนี "ก็ฟางบอกผมว่าฟางอยู่กับคนที่ฟางชอบนี่ฮะ ผมเลยคิดว่าพี่เป็นคนรักของฟาง..."

"พี่ไม่เคยขอข้าวคบ"ผมบอกไปตามความจริง ว่าแต่ผมจะแก้ตัวไปทำไมกันล่ะ...

"แต่พี่นอนกับฟางแล้ว พี่ห้ามทิ้งฟางนะ"ผมหรี่ตามองเด็กรู้มากตรงหน้า ข้าวเอาเรื่องนั้นไปเล่าให้เพื่อนฟังด้วยเหรอเนี่ย "ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลยนะฮะ ฟางไม่ได้เล่าให้ผมฟัง ผมสังเกตของผมเอง"

"พี่ไม่ได้รักข้าวแบบนั้น"ผมถอนหายใจเบา ๆ แล้วสบตากับคนตัวเล็ก... ดูแล้วดีไม่ดีเล็กกว่าข้าวซะอีก "พี่ไม่ทิ้งข้าวหรอก เพราะเขาคือน้องชายของพี่"

"แต่..."ตาของมินฉายแววไม่พอใจนักกับสิ่งที่ได้ยิน แต่มันคือความจริง ให้ผมดูแล ผมทำได้ แต่ให้ผมโกหกว่ารักเขา ผมทำไม่ได้

"พี่รู้ว่าข้าวชอบพี่ เพราะเขาไม่เคยได้รับความรักไม่ว่าจะรูปแบบไหน เขาเลยแยกไม่ออกระหว่างความรักในฐานะคนรักและพี่น้อง แต่พี่ไม่ใช่ พี่เอ็นดูเขาในฐานะน้องคนนึง sexกับความรักมันไม่ได้เดินไปด้วยกันตลอด พี่เชื่อว่ามินรู้ ข้าวขอ พี่ให้ได้แต่ความสัมพันธ์ทางกาย แต่ใจของพี่ไม่ใช่ของเขา"ไหล่เล็กตกลงอย่างหงอย ๆ มินแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นห่วงเพื่อนมากแค่ไหน "พี่รู้ว่าข้าวก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน"

ผมยื่นมือไปลูบกลุ่มผมนุ่ม ๆ เบา ๆ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยมาแตะจมูก กลิ่นที่สูดดมแล้วขวนให้สูดดมอีกเรื่อย ๆ

"ไปเถอะ ถ้าจะไปทำอาหารก็ไปพร้อมกัน"ผมผละออกจากร่างของเด็กหนุ่ม มินเดินไปหยิบเอาคีย์การ์ดมาแล้วเดินตามผมเงียบ ๆ

เงียบ... ได้พักเดียว

"พี่ฮะ พี่ว่าฟางจะตกใจไหมฮะ ที่ผมไปที่ห้องอ่ะ"

"คงนิดหน่อยมั้ง"

"จริงสิ พี่รู้จักฟางมานานแล้วเหรอฮะ"

"ไม่ พี่รู้จักข้าวไม่นานมานี้เอง"

"เหรอฮะ ฟางเป็นคนน่ารัก พี่อยู่กับฟางน่าจะรู้ดีกว่าผมล่ะเนอะ"

"ก็อาจจะนะครับ"

"ยิ่งตอนเด็ก ๆ ฟางยิ่งน่ารักนะฮะ ตาโต ๆ แก้มยุ้ย ๆ ขี้แยอีกต่างหาก"เสียงใสพูดเจื้อแจ้วเกี่ยวกับเพื่อนตัวเองไม่หยุด "แต่ฟางก็เป็นคนมุ่งมั่นนะฮะ เขาอยากทำอะไรก็พยายามทำให้ได้ตลอด..."

"ไม่พูดถึงตัวเองบ้างล่ะ"มินอ้าปากค้างไว้เมื่อผมสวนออกไป กระพริบตาปริบ ๆ อย่างงุนงง "พูดแต่เรื่องของข้าว ทำไมไม่พูดถึงตัวเองบ้าง"

"ก็... ก็ผม..."

"อยากให้พี่สนใจข้าว"ผมต่อให้เอง แล้วถอนหายใจ "พี่บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าพี่ไม่ได้รักเขา"

"แต่ผมอยากให้พี่รักฟาง..."ปากเล็ก ๆ พึมพำออกมาเบา ๆ "ผมอยากให้ฟางได้รับความรักดี ๆ มีคนดี ๆ คอยดูแล คอยให้กำลังใจ ไม่อยากให้ร้องไห้เหมือนเมื่อก่อน ถึงฟางจะเป็นผู้ชายก็เถอะฮะ แต่ฟางโดนทำร้ายมาเยอะแล้ว ผมช่วยอะไรเขาไม่เคยได้เลย"

"มินช่วยข้าวมาตลอดไม่ใช่เหรอ"ผมโอบเอาร่างที่เล็กกว่าตัวเองเยอะเข้ามากอดหลวม ๆ "มินเป็นกำลังใจให้ข้าวมาตลอด นี่ก็ถือว่าช่วยข้าวแล้ว"

"แต่ว่า..."ผมแตะนิ้วไปที่ริมฝีปากนุ่มไม่ให้พูดอะไรต่ออีก

"เชื่อพี่นะครับ ทำอย่างที่มินทำได้ ดีที่สุดแล้วครับ"ผมบอกกับน้องตรงหน้าเสียงนุ่ม มินเม้มปากอย่างไม่แน่ใจนัก คงชั่งใจกับคำของผม "ฝืนไปก็มีแต่เสีย ทำอย่างที่ทำได้ และเป็นอย่างที่เป็นคือสิ่งที่ดีที่สุด จำไว้นะครับ"

"...ฮะ"มินถอนหายใจออกมาเบา แล้วยิ้มให้ผมอย่างสดใส "แต่ยังไงพี่ทิวก็ต้องดูแลฟางดี ๆ นะฮะ อย่าทำให้ฟางต้องร้องไห้นะฮะ"

"ไม่รับปาก แต่จะพยายามนะ"ผมเลื่อนมือไปขยี้ผมนุ่มนิ่มเบา ๆ "อยากรู้อยากเห็น เป็นห่วงนักก็มาที่ห้องพี่บ่อย ๆ สิครับ จะได้รู้ว่าข้าวเป็นยังไงบ้าง"

"อ๊ะ ๆ อย่าท้านะฮะ เดี๋ยวผมจะไปสิงที่ห้องทุกวันจนอดกอดกัน อย่ามาโวยวายนะฮะ"เด็กหนุ่มยิ้มยิงฟันส่งมาให้ ก็ยังคิดว่าผมนอนกับข้าวบ่อย ๆ เหมือนเดิม เด็กบื้อเอ๊ย

"งั้นพี่ก็ไปนอนกอดมินแทนละกันครับ"ผมหยอกกลับเด็กน้อยที่ทำหน้าเหวอใส่ ถูกใจจริง ๆ นะครับ เพื่อนข้าวคนนี้ หลากหลายอารมณ์อยู่แล้วไม่น่าเบื่อ

"พูดอะไรฮะพี่ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายสักหน่อย"เด็กมินหัวเราะเสียงใส ดวงตาโตฉายแววขบขัน "ล้อเล่นแบบนี้มันขำนะฮะ ผมยิ่งบ้าจี้อยู่"

"บ้าจี้เหรอ..."ผมลากเสียงยาวแล้วรวมตัวเล็ก ๆ ของเด็กปีสองมา แล้วลงมือทันที

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ อย่าครับ โอ้ย พี่ อย่า ฮ่า ๆ"มินดิ้นเร้า ๆ ในอ้อมแขนผม เสียงหัวเราะร่าดังก้อง "โอ้ย พี่ พอ ผมหายใจไม่ทันแล้วฮะ ฮ่า ๆ ๆ"

"เรียกชื่อพี่ก่อน เร็ว"แหย่ไปอีกสักนิด มินหัวเราะเสียงใสไม่หยุด

"ฮะ ๆ ฮ่า ๆ โอ้ย ปล่อยผมเถอะพี่ทิวไผ่ ฮ่า ๆ ๆ"ผมปล่อยน้องตามที่พูด หน้าขาว ๆ ขึ้นสีแดงก่ำหอบแฮก ดวงตาใสค้อนผมมาวงใหญ่

"โอ๋ ๆ"ผมพลิกมือไปมาหยอกคนตัวเล็กแล้วหัวเราะเบา ๆ "ไปกันเถอะ น่าจะใกล้เวลาหมดฤทธิ์ยาแล้ว เดี๋ยวจะทำอาหารไม่ทันเอา"

"ฮะ"หัวทุย ๆ พยักรับ พร้อมกับจะก้าวเดินไปต่อ ผมจะดึงให้น้องเขามายืนข้าง ๆ แต่เจ้าตัวก็หันมาชี้นิ้วใส่ผมก่อน "อย่านะฮะ ผมไม่เล่นด้วยนะ ห้ามแกล้งด้วย"

เป็นการขู่ที่ฟังดูกระเง้ากระงอดดีนะครับ มันเป็นอะไรที่ลมหนาวไม่มีทางทำ ข้าวก็ไม่เคยทำให้เห็นล่ะครับ เหมือนเด็ก ๆ แบบนี้
ผมแกล้งหยอก แกล้งแหย่มินไปถึงห้อง พอมาถึงเขาก็รีบวิ่งผลุบเข้าครัวหนีผมไปเลย โดยไม่ลืมที่จะหันมาทิ้งท้ายเอาไว้ให้ด้วย

"คนขี้แกล้ง"

ผมเดินหัวเราะเข้าไปดูคนป่วยในห้องที่ยังหลับสนิท เอาที่วัดไข้มายิงดูอุณหภูมิร่างการสักหน่อย ยังดีที่ไข้ลดลงแล้ว นอนพักกินยาอีกสักหน่อยก็คงหายดี

ดวงตาเหลือบมองไปทางห้องครัวที่ได้ยินเสียงข้าวของกระทบกันแว่ว ๆ ก่อนจะเข้าไปในห้องทำงาน หยิบเอาเอกสารฉบับนึงขึ้นมา... ยังจำประวัติของข้าวที่ผมให้คนหาเอาไว้ได้ใช่ไหมครับ มันยังมีประวัติของใครอีกคนที่ผมยังไม่ได้อ่าน... ใช่ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของข้าว มิน...

นาย ภัทรดล อภิศิริสกุล ทายาทคนที่สามของผู้นำเข้าเครื่องอุปโภครายใหญ่ และหุ้นส่วนใหญ่คนนึงของการค้าน้ำมัน เป็นเด็กหัวดี เรียนดี แต่ใจอ่อน เก่งการคำนวนและวิทยาศาสตร์ อ่อนศิลปะ แต่มาเรียนนิเทศน์ เป็นเพื่อนกับข้าวมาตั้งแต่เด็ก แต่ไรมาก็ยอมเอาของดีกว่าให้ข้าวตลอด ถ้ามีรองเท้าสองคู่ คู่นึงของโปโล อีกคู่เป็นของอาดีดาส เจ้าตัวไม่เคยลังเลใจที่จะเลือกของโปโลและให้อีกคู่กับเพื่อนสนิท

แต่ถึงอย่างนั้น... คนเก็บตัวอย่างฟางข้าวก็ไม่เคยที่จะเปิดใจให้เพื่อนคนนี้เข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรมากนัก

ประวัติดี สกุลดี หน้าตาก็ดี ไม่แปลกที่ข้าวจะเห็นตัวเองต่ำต้อย...

"ข้าวครับ ตื่นขึ้นมากินอะไรก่อนนะ"ผมกระซิบบอกน้องเบา ๆ แล้วประคองเอาร่างที่อ่อนแรงขึ้นมาพิงหัวเตียง ดวงตาคู่ฉ่ำจากพิษไข้ปรือปรอยขึ้นมอง

"พี่... ทิว"เสียงแหบพร่าเรียกชื่อของผมเบาหวิว

"อ๊ะ ฟาง ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง"เสียงใส่โผล่มาพร้อมกับถาดใหญ่ในมือ มินเดินซอยเท้าพุ่งเข้ามาหาข้าวอย่างเร็ว "กินข้าสก่อนนะฟาง"

"มิ...น"


(ฟางข้าว)

มินมาได้ยังไง... มินรู้จักกับพี่ทิวแล้วเหรอ ใคร ๆ ก็ชอบมิน พี่ทิวจะชอบมินไหม ถ้าพี่ทิวไปชอบมิน ผมไม่มีอะไรจะสู้มินได้เลยนะ

"เราป้อนนะ ฟาง"ผมกินข้าวอย่างไม่รู้รส กินยาตอนไหนก็ไม่รู้ สิ่งที่ผมรู้มีแต่รอยยิ้มของพี่ทิวที่มองมิน ท่าทางของพี่ทิวที่แกล้งหยอกมิน...

เรื่องพวกนี้มินไม่ทันคนเท่าผม... แต่ผมรู้ว่าพี่ทิวอยากได้มิน พี่ทิวเองก็มีเสน่ห์ มินจะต้องชอบพี่ทิวแน่ ๆ แล้วผมก็ต้องอยู่คนเดียวเหมือนเดิม

"ปวดหัวเหรอ ฟาง"มินปราดเข้ามาหาผม จับหัว จับหางอย่างเป็นห่วง "นอนก่อนนะฟาง ฟางจะได้หายไว ๆ กลับมาแข็งแรงนะฟาง"

"อืม..."นั่นสิ ผมหลับตาลงนอน ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างอาจจะเป็นแค่ความฝัน พี่ทิวไม่รู้จักมิน และมินไม่รู้จักพี่ทิว
จิตใต้สำนึกผมรู้ดี... ว่ามินไม่มีทางทำร้ายผมได้ลง

ใช่... นับตั้งแต่เรื่องคราวนั้น มินก็ไม่เคยทำร้ายผมอีกเลย ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม

และมันจะต้องเป็นอย่างนั้น... ตลอดไป

ถึงพี่ทิว... จะไม่ได้รักผม แต่ขอแค่พี่เขายังดูแลผม อยู่ข้าง ๆ ผม ไม่ผลักไสผมไปไหน... ก็พอแล้ว

พอ... สำหรับคนที่ไม่เคยได้รับ... ความรักอย่างผม...

พอ... สำหรับคนอย่างผม

################################################

ตัวละครสุดท้ายของเรื่องมาแล้วค้าาา ฮิ้วววววว

มาเกือบท้าย แต่บทนำ ฮิฮิ

// ตอนหน้ากลับไปที่พายุลมหนาวค้า พี่ทิวหลบไปก่อน ฮ่าๆ ใกล้จะถึงจุดพีค(เหรอ)ของเรื่องแล้ววว

ปล. ยังค่ะ พายุยังไม่ได้แอ้มลมหนาวง่ายๆหรอกกกก

ปล.2 ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งตีความเกลียดพี่ทิวกันนะคะ... ให้พี่เขาได้พูดอะไรบ้างก่อนนนน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 24-08-2015 18:48:39
อ่านตอนนี้แล้ว รู้สึก อยากถีบพี่ทิวทิ้ง






ข้าวถ้าพี่ทิวเขามั่นใจว่าเขาไม่รักหนูขนาดนั้น






ก็ยอมรับแล้วทำใจ พยายามเรียนให้จบ






แล้วอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ ปล่อยพี่ทิวเขาไป







ถ้าไม่รัก ไม่ต้องสงสาร ข้าวคงไม่ต้องการให้ใครมาเห็นใจ







ทนต่อไป อยู่กันไปก็เท่านั้น







พี่ทิว เห็นข้าวเป็นแค่น้องชาย หรือคนร่อนเร่พเนจรที่น่าสงสารเท่านั้น






พอไปเจอใครๆที่น่ารักเข้าตากว่า ข้าวมันก็แค่ คนอาศัยหรือตัวเกะกะเท่านั้นแหละ






เกลียดพี่ทิว :z6: สงสารข้าว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 24-08-2015 19:22:27
 :katai1:  แต่ก่อน ชอบอิตาพี่ทิวมากเลยนะ แต่ทำไมตอนนี้เกลียดหว่าาาาา  :z6:   

แต่ถ้าพี่ทิว เค้ารักมินจริงๆ ก็แอบสงสารนะ เพราะ ฟางจะเอาคำว่าเพื่อนเนี่ยแหละ มาขวางคำว่ารัก ของพี่ทิวกับมิน

สรุปแล้ว พี่ทิวผิดที่ ไม่ได้ชอบแต่ดันไปนอนกับฟาง  :katai1:

การที่นอนกับคนที่รู้จัก แล้วรู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอะไรกับตน มันเป็นความสัมพันธ์ ที่มักจะนำปัญหามาให้ทุกคน

แต่สุดท้ายแล้ว ต่อให้ทิวกับมินไม่ได้คู่กัน  ถ้าพี่ทิวออกตัวขนาดนี้ว่าไม่ได้ชอบฟางข้าว สุดท้ายเค้าก็แรดๆไปหาคนอื่นอยู่ดี  :katai1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: minnin ที่ 24-08-2015 19:32:24
อ้าวตกลงทิวไม่ได้คู่กะข้าวเหรอ ไมตอนเเรกบรรยายเหมือนทิวชอบข้าวเลยงง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-08-2015 19:42:32
อ้าวตกลงทิวไม่ได้คู่กะข้าวเหรอ ไมตอนเเรกบรรยายเหมือนทิวชอบข้าวเลยงง

คู่ค่ะ รอดูต่อไปนะคะว่าจะจบกันแบบไหน ^^

:katai1:  แต่ก่อน ชอบอิตาพี่ทิวมากเลยนะ แต่ทำไมตอนนี้เกลียดหว่าาาาา  :z6:   

แต่ถ้าพี่ทิว เค้ารักมินจริงๆ ก็แอบสงสารนะ เพราะ ฟางจะเอาคำว่าเพื่อนเนี่ยแหละ มาขวางคำว่ารัก ของพี่ทิวกับมิน

สรุปแล้ว พี่ทิวผิดที่ ไม่ได้ชอบแต่ดันไปนอนกับฟาง  :katai1:

การที่นอนกับคนที่รู้จัก แล้วรู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอะไรกับตน มันเป็นความสัมพันธ์ ที่มักจะนำปัญหามาให้ทุกคน



เป็นความไม่เฟอร์เฟ็คของพี่ทิวเขาค่ะ 5555 รอดูอีกสองตอนถัดไปนะคะ ปมชีวิตพี่ทิว ^3^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 24-08-2015 19:47:42
ทำไมยิ่งอ่านยิ่งเกลียดทิวเนี่ยยยยยย
เราว่านะ ไม่รักก็ไม่ควรนอนด้วยแต่แรกละ
ทำแบบนั้นก็เหมือนให้ความหวังแหละ
รอตอนต่อไปเนาะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 24-08-2015 19:52:38
มินก็น่ารักน้าาา...เราขอ ฮ่าาาาาาาาาาา~
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 24-08-2015 20:03:21
เจอทิวโหมดนี้แล้วไม่ไหวค่ะ   สงสารและเวทนาข้าวจริงๆเลย   ขอให้ข้าวเข้มแข็งและสามารถปลีกตัวออกจากทิวให้ได้   คือเข้าใจว่าคนมันไม่รัก ยังไงมันก็ไม่ใช่  แต่ทิวไม่รู้ตัวว่าความกรุณาของทิวกำลังฆ่าข้าวทั้งเป็น   เรารู้สึกตั้งแต่คราวที่ทิวนอนกับข้าวแล้วตาก็จับตามองเวลาเพราะว่าหนาวกำลังมาแล้ว

นี่มินเข้ามาในชีวิตของทิว ข้าวจะทรมาณขนาดไหน   ออกมาหาหออยู่ได้แล้วลูกเอ๊ย  อย่าไปทนมองทนอยู่เลย   คนที่ใช่ของหนูวันหนึ่งก็เข้ามาหาหนูเองแหละ

ความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้ทิวลดฮวบเลยค่ะ  ยิ่งมาคิดว่าทิวนอนกับข้าวเพียงเพราะว่าข้าวเรียกร้องแล้วตัวเองก็ไม่ได้รักน้อง   แทนที่จะปฏิเสธน้องไปเลยน้องจะได้ตัดใจ  ขอบอกตรงๆนะคะเกือบจะหยุดอ่านเลยค่ะ   เกลียดคนพรรค์นี้ที่สุด ทำร้ายคนด้วยความปราณี 

เรื่องของข้าวเราว่าน้องให้ความรู้สึกกับให้ตัวของตัวเองกับพี่ทิวไปแล้วค่ะ   ทิวไม่รักน้องไม่ว่ากัน  แต่ทิวทำผิดที่ไม่ทำให้น้องตัดใจ   ในเมื่อทิวไม่รักน้องก็น่าจะทำให้น้องตัดใจไปเสีย   ให้น้องไปอยู่ที่อื่นก็ได้ ความรู้สึกจะได้หยุดแค่นั้น   ขนาดคนอ่านที่ตามเรื่องนี้ยังอดคิดไม่ได้ว่าทิวชอบน้องมาตลอด  ความใจดีของทิวสร้างโอกาสมโนให้คน  ข้าวเจออะไรมาบ้าง ความลำบากของข้าวทำให้ข้าวรักคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย  ก็ไม่น่าแปลกใจ   ตอนต่อไปถ้าหากว่าข้าวหักมุมกลายเป็นนางร้ายขึ้นมา  คนอ่านก็ตามว่านางเหมือนกับที่ว่าทิวกันนั่นแหละ   ไม่มีใครว่ามินนะเพราะว่ามินไม่ผิดที่ทิวจะไปถูกใจน้องเข้า  กลัวใจคนเขียนก็ตอนหักมุมนี่แหละ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: Beerr_jh ที่ 24-08-2015 20:24:06
ตอนนี้จะขอเกลียดพี่ทิวไปก่อน ทำตัวได้แบบน่าถีบจริงๆ
สงสารฟางข้าว ขอให้สักวันข้าวทนไม่ได้ แล้วหนีไปเลยยยย
มีมินเพิ่มเข้ามาในชีวิตสองคนนี้ จะยุ่งขนาดไหนเนี่ย
จะรอดูว่าพี่ทิวจะทำอะไรต่อ คิดอะไรกันแน่ ขอให้มินไม่สนใจพี่ทิวจริงๆ สงสารข้าว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 24-08-2015 20:47:42
สงสารข้าวนะแบบนี้ จะผิดไหมถ้าอยากให้ข้าวตัดใจ เจ็บตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าถลำไปมากกว่านี้ อยากให้ข้างเข้มแข็งออกไปอยู่หอ ถึงจะลำบากแต่ไม่ต้องทนมองภาพที่มันเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีก ให้น้องออกมาเถอะเราสงสารน้อง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 24-08-2015 21:37:21
เราอาจจะความเห็นต่างจากคนอื่นๆ นะ

เพราะเราคิดว่าฟางข้าวเป็นคนที่เห็นแก่ตัว

อยากจะได้ความรักแต่ไม่ยอมแลกอะไรไม่ยอมที่จะเสียอะไร

เราไม่ชอบคนแบบนี้

และพี่ทิวก็เป็นคนดีที่ทำให้คนอยู่ใกล้มโนเข้าข้างตัวเองได้

ไม่ผิดนะเพราะ คนที่เราชอบอาจจะไม่ใช่คนที่ใช้เสมอไปก็ได้
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 24-08-2015 21:42:40
มินคืออะไรรร
อ่านทีเดียวรวดด 32 ตอนนน
ตอนแรกนึกว่าพี่ทิวชอบลมหนาว แต่ไปๆมาๆ ไม่ใช่แล้วนิ
เอ๊ะ หรือจะเคยชอบ
วุ้ยย ไม่รู้
แต่นี่มินยังไงงงง
เอาจิงๆ สงสารข้าวมากกก ถ้าตัวละครครบแล้ว ข้าวต้องคู่กับพี่ทิวซิ
โอ้ยยยน้องมินไปหาสามีใหม่นะ พี่ขออออ
สงสารข้าวววว พี่ทิววอย่าใจร้านนักเลยยยย
โอ้ยยย
ส่วนเรื่องพี่กิตต คงต้องให้เห็นคาตานะน้องคี ทำไงก้ได้ พาไปดูเลย เย้ๆๆๆๆ
แต่นางชะนีนี่ใช่คนเดียวกับที่อ่อยพายุปะ
แล้วเรื่องพี่ตังโอคือไงง อยากรู้ด้วย
อิอิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 24-08-2015 22:58:46
อ่านแล้วแบบ โถ่ข้าว จะร้องไห้ น่าสงสารอ่ะ แต่จะไปว่าพี่ทิวก็ไม่ได้ ไม่รักก็คือไม่รัก จะไปบังคับก็ไม่ได้อีก สงสารข้าว คือพี่ถิวถ้าบอกว่าเป็นน้องชายก็ควรวางตัวแบบอยู่กับน้องชายป่ะ แต่มีอะไรด้วยนี่มันข้ามจากน้องชายไปเป็นคู่นอนแล้วหรือเปล่า?
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: gatenutcha ที่ 24-08-2015 23:11:00
เจอแบบนี้ เจ็บแทนข้าวอะ  สงสารมาก  น้องข้าวสู้ๆนะ 
 :mew4: :mew6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 24-08-2015 23:39:05
สงสารข้าว ทิวมองข้าวแค่น้อง ข้าวตัดใจเถอะ สักวันข้าวต้องบินออกจากทิวให้ได้ แล้วนั้นทิวจะรู้เอง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 24-08-2015 23:44:19
 :angry2:เกลียดทิว :m16:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-08-2015 23:53:18
บอกเลย ทิวเป็นคนที่เห็นแก่ตัวโคด

ข้าว ค่ะ เดินออกมาค่ะ อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่ของเรา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 25-08-2015 01:27:33
คนนิสัยแบบพี่ทิว เหมาะที่จะเป็นเพื่อน พี่ น้อง ที่ดี
แต่ไม่เหมาะจะเป็นคนรักที่ดีค่ะ ใจดีไปเรื่อย
เห็นละสงสารคนที่หลงรักนาง = =
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 25-08-2015 02:23:29
สงสารข้าวอ่ะ
ถ้าพี่ไม่ได้คิดอะไรควรทำให้มันชัดเจนนะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 25-08-2015 07:48:11
สงสารข้าวจัง (T_T)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 25-08-2015 20:33:11
พี่ทิวมีเหตุผลของพี่ทิวนะคะ ^^ ติดตามกันต่อน้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: leceto ที่ 25-08-2015 21:05:00
หรือเราพลาดอะไรตรงไหนไป รู้สึกว่าก่อนหน้านี้ทิวให้อารมณ์ว่ารักข้าว ไม่ได้แบบน้องชายเลย พอมาเจอแบบนี้เลยเงิบ

ทิวดูเป็นผู้ชายฉลาด จัดการอะไรได้ตลอด แต่แบบนี้ไม่ไหวนะ ไม่มีเหตุผลที่ต้องนอนกับข้าวเพราะข้าวขอร้อง 
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 27-08-2015 22:24:32
วันที่สามสิบสาม

วันหยุดหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปไวเสมอ จริงไหมครับ ไม่นานก็เปิดเทอมมางมตำราเรียนเหมือนเดิม สวัสดีฮีโมลโกบิน สวัสดีไบคอนเทสต์ สวัสดีการสอบปฏิบัติimmuno ปิเปตที่รักยิ่ง และซีรัมที่ห้ามลืมmixก่อน ไม่งั้นโดนหักคะแนน

อืม... ผมไม่เคยพูดถึงวิชาเรียนของคณะผมเลยเนอะ งั้นขอสักนิดแล้วกันครับ สำหรับเทคนิคการแพทย์เนี่ย หลายคนคงไม่รู้ว่าคณะของเราทำอะไร พวกเราเป็นเบื้องหลังของการรักษาครับ ถ้าคุณมาตรวจสุขภาพ คนที่ทำแลปเพื่อออกผลให้พวกคุณคือเรา จะตรวจเลือด ตรวจอุจจาระ ก็เป็นพวกเราตรวจ รวมไปถึงเพาะเชื้อหาไวรัสหรือแบคทีเรียเพื่อช่วยสนับสนุนในการรักษาโรคต่าง ๆ ของแพทย์ด้วย ถ้าหากพวกเราออกผลผิดพลาด การรักษาของแพทย์ก็จะผิดพลาดเช่นกัน ทั้งนี้ยังรวมไปถึงเวลาเกิดอุบัติเหตุ ต้องหาเลือดมาให้ผู้ป่วย นั่นก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาและเสียงโวยวายของญาติ ผมเชื่อว่าหลายคนคิดว่า แค่การเลือดที่หมู่ตรงกันมันยากตรงไหน มันไม่ได้มีแค่นั้นนะครับ บางครั้งเลือดหมู่เดียวกัน ยังเข้ากันไม่ได้เลย และหมู่เลือดใช่ว่าจะมีแค่ABO นี่ครับ เลือดกรุ๊ปAเนี่ย ก็ไม่ได้มีแค่A ด้วย ยังไม่นับรวมว่าเป็นหมู่เลือกRh ไหน แล้วก็ยังมีบอมเบย์อีก อันนี้แค่ธนาคารเลือดนะครับ ยังไม่นับรวมโลหิตวิทยาที่มานับเซลล์ ดูเซลล์ วิเคราะห์ว่าเป็นเซลล์อะไร ก่อโรคอะไร ก็นะครับ เป็นคณะที่ทำงานหนัก แต่รายได้น้อย และไม่ค่อยมีคนให้ความสำคัญ จะมาให้ความสำคัญกับพวเราก็ตอนจะฟ้องร้องเนื่องจากผู้ป่วยเสียชีวิตแบบไม่รู้สาเหตุ หรือพวกเราทำพลาดนั่นแหละครับ

เป็นคณะที่ทำงานคุ้มเงินเดือนสุด ๆ ทั้งงานหนัก ทั้งความเสี่ยงต่อเชื้อโรคที่แสนจะน่ารัก แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จักพวกเราล่ะครับ วิเคราะห์โรคออกมาถูก เคยมีใครชมพวกเราที่ไหน

เอาล่ะ... ก้มหน้าก้มตาเรียนกันต่อไปครับ

"หนาว เอาไรเปล่าวะ"ปันปันที่หน้าซีด ๆ มาแต่เช้า แต่ไม่ยอมบอกอะไรกับไอ้ท่าทางเหี่ยว ๆ นั่นทักถามผม "กูจะไปโรงอาหาร เอาไรไหม"

"ไม่ล่ะ ซื้อมาแล้วเมื่อเช้า"ผมยกขนมปังขึ้นโบก แล้วก็หยิบข้าวปั้นขึ้นมาบ้าง "ส่วนอันนี้ เกดมันซื้อมาฝาก วันนี้ประหยัดตังค์ได้โข"

"เออ ๆ คาบบ่ายเจอกัน"ปันปันเดินเหี่ยวออกไปจากห้องพร้อมกับเพื่อนคนอื่น ผมรอให้โล่ง ๆ ก่อนค่อยออกครับ ไม่อยากไปเบียดกับใครเขา

ผมลุกเดินไปนั่งโต๊ะหินอ่อนที่ประจำ นั่งมาตั้งแต่ปี 1 จนเขารู้กันหมดแล้วมั้งครับว่าจะหาผมเจอได้ที่ไหน แต่มีข้อยกเว้นช่วงรับน้องที่ต้องขอหายตัวไปก่อนล่ะครับ

อยู่ให้น้องเห็นหน้า มีหวังหดกันไปทุกอณู

"หนาว นึกแล้วว่าต้องอยู่นี่"เพื่อนหมอเดินมานั่งลงตรงข้ามผม ดวงตาของเมฆดูเศร้ายิ่งกว่าที่เจอคราวก่อนมากเลยครับ ถึงปากจะส่งยิ้มให้ผมอยู่ก็ตาม "ปิดไปอาทิตย์นึงได้ข่าวว่าไปถ่ายแบบชุดอีกแล้วนี่ แถมยังมีคนพ่วงไปด้วย นี่ไม่ทะเลาะกับวิศวะที่ไปถ่ายด้วยเหรอ"

"งานเป็นงานน่า เมฆ เราไม่ได้กัดกันได้ทุกวันสักหน่อย มีเถียงกันบ้าง ถกกันบ้าง แต่ช่างมันเถอะ ทำงานกันมาตั้งเป็นเดือน ถ้าตีกันทุกวันคงไม่ได้พักผ่อนน่ะ"ผมตอบกลับไปยิ้ม ๆ ก่อนจะยื่นมือไปกุมมือของเพื่อนเอาไว้ "เมฆล่ะ เป็นไงบ้าง ดูไม่ดีเลยนะ"

"อืม... เรายังสบายดีอยู่นะ หนาว"เพื่อนสมัยเด็กผมตอบกลับมาเสียงอ่อน "นี่... หนาว... ปิดเทอมนี้เราจะบินไปอเมริกานะ..."

"จะไปหาปุ๊กเหรอ"มือของผมกุมมือเพื่อนแน่นอย่างให้กำลังใจ "เดี๋ยวเราไปเป็นเพื่อนนะ"

"แต่..."

"เรามีเงินพออยู่ เมฆไม่ต้องห่วงไปหรอก"ไปพอผมก็ขอบากหน้าไปยืมพี่ทิวก่อนล่ะครับ ค่อยหามาใช้คืนพี่เขา "เงินที่ได้จากการถ่ายแบบไม่ใช่น้อย ๆ เมฆก็น่าจะรู้นี่"

"หนาวจะไปกับเราจริง ๆ เหรอ"เมฆถามผมมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีซึ่งความมั่นใจ "เราอาจจะไปแล้วกลับเลยหลังจากเจอปุ๊ก... ก็ได้ ไม่คุ้มค่าเครื่องหนาวหรอก"

"เราบอกแล้วว่าเราจะเป็นที่พึ่งให้กับเมฆ"ผมย้ายตัวไปนั่งข้างเพื่อนที่จมในความเศร้า "คุ้มไม่คุ้ม เงินไม่ใช่ตัวตัดสิน แต่เป็นใจของเราต่างหาก"

"ขอบใจนะ"เมฆส่งยิ้มมาให้อย่างจริงใจ ก่อนจะเท้าคางเหม่อมองไปบนฟ้า "เรากลัว... กลัวว่าสิ่งที่เราไดิยินมามันจะเป็นจริง กลัวว่าปุ๊กจะหมดรักเราแล้วจริง ๆ นะหนาว"

"อย่าคิดมากสิเมฆ เชื่อมั่นในตัวของคนที่เมฆรักสิ"ผมยังอยากเชื่อใจของปุ๊ก ถึงรูปที่ออกมาให้เห็นพักหลังมานี้จะทำให้ผมทำใจเชื่อได้ยากก็ตามที

แต่ปุ๊ก เพื่อนผู้หญิงคนนั้นของผมที่ผมรู้จัก เธอไม่ใช่คนแบบนั้น ผมยังจำได้ดี วันที่เธอกับเมฆหมั้นกัน เป็นวันที่เพื่อนทั้งสองคนของผมมีแต่รอยยิ้มแห่งความสุข

สัญญารักนั้นจะจบลงเพราะฝรั่งหัวทองตาน้ำข้าวจริง ๆ เหรอ

โลกมันจะโหดร้ายกันเกินไปไหมครับ... หรือที่เขาบอกกันว่ารักแรกมักไม่สมหวังจะเป็นความจริงกันนะ... รักแท้จะต้องแพ้ระยะทางจริง ๆ น่ะเหรอ

"เราพยายามเชื่อมาตลอดนะหนาว แต่ทุกครั้งที่เรากล่อมให้ตัวเองเชื่อมั่นได้แล้วมันก็ต้องมีอะไรบางอย่างทำให้ความเชื่อของเราเขวไป"เมฆฝืนส่งยิ้มให้ผมทั้งที่ดวงตาฉายแววหมอง โศกเศร้า "เรามันไม่ดีเลยเนอะ ไม่เชื่อใจคนที่เรารักเลย"

"ไม่เอาน่าเมฆ อย่าคิดแบบนั้นสิ"ผมใกล้จะหมดปัญญาพูดแล้วล่ะครับ หัวใจคนเปลี่ยนยาก แต่ผมไม่อยากให้ในใจของเพื่อนมืดมัวแบบนี้เลย "อย่าคิดอะไรมากเลย เมฆ อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด"

"นั่นสินะ..."มันคงทำใจรับได้ยากจริง ๆ ล่ะนะครับ กับการที่ต้องเสียคนรักไป... ไม่สิ อาจจะเสีย สำหรับเมฆที่ทุ่มเท และรักเดียวใจเดียวกับความรักครั้งนี้มันคงเป็นความเจ็บปวดที่เพื่อนของผมคนนี้ยากจะยอมรับ “อะไรมันจะเกิด ก็ต้องเกิด... ชาติก่อนเราคงทำกรรมเอาไว้เยอะ เลยกลับมาสนองเราในชาตินี้ล่ะมั้ง”

ผมได้แต่ให้กำลังใจเพื่อนผ่านไออุ่นจากมือที่ส่งผ่านไป เรื่องบางเรื่อง เพื่อนอย่างเราก็ได้แต่อยู่เคียงข้างนั่นล่ะครับ เวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง...

“อยู่แห่งไหน นายจะมีฉันผูกพัน
จะไม่ลืมกัน...
จะไม่ลืม ไม่ลืม หากเดือนจะจาง
จะไม่มีทางให้นายได้ไกลห่าง
เราจะร่วมเดินทาง
ไปสู่ฝันด้วยกันตลอดไป”เมฆมองหน้าผมที่ร้องเพลงขึ้นมาแล้วยิ้ม ไม่ใช่ยิ้มแค่ปาก แต่ดวงตาของเพื่อนก็ยิ้มด้วยเช่นกัน “หากว่านายเจ็บ ฉันก็เจ็บ
เพื่อนเจ็บ ฉันก็เจ็บเหมือนกัน
เพื่อนต้องอยู่ด้วยกัน จะทิ้งกันได้ไง
หากวันไหนสนุก ฉันยังสุข...
เพื่อนเจ็บ ฉันก็เจ็บเหมือนกัน”

“ขอบคุณนะ”ยังไง สำหรับมนุษย์เรา สิ่งที่เรียกว่ากำลังใจก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอล่ะนะครับ “ว่าแต่ คุณเฮดวิศวะที่อยู่ตรงนั้นเหมือนจะมีธุระที่จะคุยกับนายนะหนาว”

ผมหันไปมองทางที่เมฆมองอยู่เห็นพายุยืนกอดอกเก็กหน้าขรึมพิงเสาอยู่ไม่ไกล หมอนั่นกระตุกยิ้มบาง ๆ เมื่อพวกผมสองคนหันไปมอง

มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

“ผมได้ยินว่าจะไปเมกาตอนปิดเทอม... มีที่พักกันหรือยังล่ะ”ร่างสูงเดินเข้ามาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ว่างในโต๊ะเดียวกัน “ถ้ายังไม่มีแผนว่าจะไปพักที่ไหน ไปพักที่บ้านลุงผมไหมล่ะ”

“คุณมีบ้านที่อเมริกาด้วย?”ผมมองหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อนัก... แต่มีคอนโดกลางกรุงได้ จะมีบ้านที่ต่างประเทศจะไปแปลกอะไร...

พูดถึงคอนโดแล้วทำให้อดนึกถึงคืนที่ไปค้างไม่ได้ เดี๋ยวนะครับ คิดอะไรกันอยู่ ไม่มีหรอกนะครับฉาก 18+ หมอนั่นบอกไม่คือไม่... แต่เป็นผมนี่แหละที่ทำ...

หยุดครับ หยุด ไม่ต้องคิดลึกกันไป ผมแค่ติดหมอนข้างเป็นนิสัยเกินไป ตื่นมาก็เลยเผลอ... ไปนอนซุกหลังหมอนั่นซะแล้ว โชคดีที่มันไม่ได้แซวผมจนพรุน

แต่ไอ้สายตาวิบวับมันน่าจิ้มตาแหกชะมัดเลยครับ

“ลุงผมแต่งงานกับสาวอเมริกัน คงไม่แปลกที่จะมีบ้านที่นั่นใช่ไหมครับ คุณเหมันต์”เดือนวิศวะส่งยิ้มยียวนมาให้ผม เกลียดชะมัด ไอ้รอยยิ้มแบบนี้ของมันเนี่ย

“ยังไงก็ขอรบกวนด้วยนะครับ”เมฆตัดบทตอบรับไปก่อนที่สงครามจะเริ่ม ผมหันไปมองหน้าเพื่อนที่ตอบรับความช่วยเหลือจากคนที่ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรนักสำหรับตัวเองอย่างไม่เข้าใจ “มองอะไรหนาว ไหน ๆ คุณพายุเขาก็ยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือแล้ว รับเอาไว้ไม่เสียหายตรงไหนนี่ ถ้าไปขอเขาว่าไปอย่าง จริงไหมครับ”

ประโยคหลังเมฆหันไปหาพายุ ซึ่งหมอนั่นก็พยักหน้ารับ พร้อมกับหัวเราะเบา ๆ

“อีกอย่าง จะได้ประหยัดค่าที่พักของหนาวไปหน่อยไง ยังต้องจ่ายค่าหอ ค่าน้ำ ค่าไฟไม่ใช่เหรอ”พูดซะไม่กลัวเพื่อนคนนี้จะอายบ้างเลย

“เอาไว้จะจองตั๋วเมื่อไหร่ก็มาบอกผมแล้วกันครับ เดี๋ยวผมจะช่วยจัดการให้อีกแรง”พายุมันเสนอตัวช่วยอย่างใจดีผิดคาดเหมือนกันนะครับ...

“เดี๋ยวสิครับ คุณพายุ ที่พักอยู่รัฐไหนเหรอครับ”เรื่องสำคัญที่ต้องถามก่อน ถ้าห่างไกลจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลที่ปุ๊กเรียนอยู่มากก็คงไม่ไหว จริงไหมครับ

“นิวยอร์ก เพื่อนของคุณเรียนอยู่ที่ไหนล่ะ ลมหนาว”มันถามผมกลับมา... อืม... ก็พอดีเลยนะครับ อยู่ในรัฐเดียวกัน

“คอร์เนล”

“เป็นอันว่าตกลงนะครับ”

“ครับ”ผมตอบรับไปอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง “ว่าแต่ คุณมาที่นี่ได้ยังไงกันครับ”

“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณนิดหน่อยน่ะ”

“มีเรื่องจะคุยกับผม?”ผมทวนคำ ตั้งแต่หมดรับน้องมาเอาเข้าจริง ๆ พายุไม่เคยมีเรื่องอะไรมาพูดกับผมเลยนะครับ พูดให้ถูกคือเราไม่มีเรื่องที่จะต้องคุยกันด้วยซ้ำ ถ้าไม่นับงานพิเศษที่ไปถ่ายแบบนั่นน่ะ “คุณมีอะไรจะพูดกับผม”

“วันศุกร์นี้ที่คุณยะนัดคุณกับผมไปหา ผมติดธุระไปไม่ได้ ฝากบอกและขอโทษคุณยะด้วย”ผมเลิกคิ้วมองคนติดธุระกะทันหัน อ่อ ลืมไปว่ามันไม่มีเบอร์พี่ยะนี่นะ “ถ้าพี่เขามีอะไรเร่งด่วน หรือธุระสำคัญ คุณให้เบอร์ผมกับพี่เขาได้เลย โทรมาได้ตลอด”

“โอเค เดี๋ยวผมบอกพี่เขาให้”ผมรับปากไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อีกอย่างเป็นความรับผิดชอบของผมเองส่วนนึงด้วยที่พามันไปทำงานนี้

“แล้วอีกอย่าง.. ถ้าคุณยังไม่ลืม ถึงจะจบรับน้องแล้วแต่ยังมีงานอื่นรอเราอีกเยอะ”พายุหันมาสบตากับผม ก่อนที่เหยียดยิ้มบาง “ผมเลยอยากรู้ว่าคณะคุณมีนักกีฬาอะไรบ้าง”

“เรื่องนี้เดี๋ยวผมให้ฝ่ายกิจกรรมรวบรวมรายชื่อมาให้”

“โอเค”

“คุณจะเริ่มรวบรวมนักกีฬาเพื่อฝึกซ้อมแล้ว?”

“ใช่... ผมจะรวมคนมาฝึกซ้อมก่อน แล้วคัดเลือกอีกครั้งนึง”พายุโซนร้อนตอบรับ ก่อนที่จะอธิบายเพิ่ม “สำหรับกีฬา คุณรู้ ผมรู้ ว่าทีมคือสิ่งสำคัญ เราต้องฟอร์มทีมขึ้นมาให้ดีที่สุด ซึ่งมันต้องอาสัยเวลา”

“เช่นเดียวกันโค้ชก็สำคัญ กับเด็กปีหนึ่งที่พอจะทำงานร่วมกันมาก็อาจจะเข้ากันได้ แต่ปีอื่น ๆ ก็ยังมีขัดแย้งกันค่อนข้างมาก คุณจะทำยังไง พายุ แน่นอนว่าผมคิดว่าคุณคงรู้แก่ใจดีว่าเทคนิคเราไม่ยอมให้วิศวะอย่างพวกคุณเป็นคนเดินหมากโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากพวกเราแน่”

“เรื่องนั้นผมคงต้องให้พวกคุณส่งคนที่คิดว่าเด็กที่สุดสำหรับกีฬาประเภทต่าง ๆ มารวมกับฝั่งของผมสั้งสองคนต่อประเภท แน่นอนว่าพวกผมก็จะส่งมือหนึ่งไปเทรนด์น้องเช่นกัน”

“ก็ดี แฟร์ ๆ ภายในสัปดาห์นี้ผมจะส่งรายชื่อไปให้”

“โอเค ผมไม่ยอมให้เราแพ้คณะอื่นทั้งที่มีเพชรอยู่ในมือหรอก”พายุมันยิ้มออกมาอย่างพอใจ ไม่ใช่แค่มันที่พอใจหรอกครับ ผมเองก็เช่นกัน

“ผมไม่ยอมให้เสียชื่อหรอกน่า”ใช่ครับ ถึงไม่อยากจะพูด แต่ในมือของพวกผมและทุก ๆ คนในคณะตอนนี้ไม่ได้ถือเอาไว้เฉพาะชื่อเสียงของเทคนิคการแพทย์ แต่รวมไปถึงวิศวกรรมศาสตร์ด้วย ที่ผ่านมาเราทำได้ดี และมาตรฐานต้องไม่ตกลง “งานนี้พวกเราต้องร่วมมือกันทำงานให้สำเร็จลุล่วง... หวังว่าจะไม่ตีกันตายไปข้างก่อนล่ะนะครับ”

“ก็ดี งานที่ต้องทำร่วมกัน ผมก็หวังว่าเราจะร่วมมือกันอย่างดี ให้สมกับที่เป็นที่จับตามอง”ดวงตาคมหรี่ลงมองผม ก่อนที่ไอ้รอยยิ้มกวน ๆ จะมาหาอีกรอบ “ส่วนงานที่ไม่ได้ทำร่วมกัน แน่นอนว่าผมไม่ยอมแพ้คุณแน่”

“หึ”ผมทำเสียงขึ้นจมูก “คุณนอนฝันไปก่อนเถอะ”

“เช่นกัน อย่าลืมล้างก้นรอผมนะ... ที่รัก”มันขยิบตาให้ผมแล้วเดินหันหลังกลับไป ใครที่รักมันครับ ให้ตายเหอะ “แล้วเจอกันนะครับ”

“น่ารักดีนะ นายกับคุณพายุน่ะ”เมฆที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมอย่างเงียบ ๆ มาตลอดเอ่ยขึ้นเรียกความขนลุกจากผมเบา ๆ

“ตรงไหนกันเมฆ”

“คุยกันสองคนเหมือนโลกนี้มีแต่สองเราไม่พอ ยังต่อปากต่อคำกันอย่างกับคู่รักแน่ะ”ผมทำหน้าแหย ๆ ให้เพื่อน ขณะเดียวกันแก้มทั้งสองข้างก็รู้สึกร้อนขึ้นมาแปลก ๆ “บทจะร่วมมือกันก็ดูแข็งขันดี พอถึงตรงที่ไม่ได้ทำด้วยกัน นายก็เถียงเขาไปเหมือนแฟนกำลังงอนกันเลย”

“พูดอะไรน่าขนลุกน่า เมฆ”ผมเอามือถูแขนรัว พลังจินตนาการของเพื่อนผมนี่ล้ำเลิศชะมัด

“เอ้า จริง ๆ นะ บรรยากาศรอบ ๆ ตัวพวกนายมันเป็นอย่างนั้นนี่”เมฆยังคงยืนยันความคิดตัวเอง “นายมองไม่รู้เหรอว่าคุณพายุเขาสนใจนาย”

“ก็เรื่องปกติ พวกเราเป็นคู่กันกัดมาตั้งแต่ปีหนึ่ง มันจะสนใจเราไม่ใช่เหรอ”

“เฮ้อ... หนาวนี่น้า เรื่องอื่นน่ะเก่งจริง ที่เรื่องแบบนี้มองไม่เคยจะออก”เมฆส่ายหน้าน้อย ๆแล้วยิ้มขำ “น่ะ เดี๋ยวก็รู้ตัวเองแหละ”

“โถ่”ผมส่ายหัวให้เพื่อนบ้าง เอาเถอะ อยากคิดยังไงก็คิดไปครับ สำหรับผมแล้ว... ถ้าเมฆคิดแบบนั้นแล้วทำให้เมฆยิ้มได้ ผมก็โอเค

“เดี๋ยวเราไปซีร็อกส์ชีทเรียนละ กินข้าวให้อร่อยนะหนาว แล้วเจอกัน”

“อื้อ เจอกัน”

เมฆลุกขึ้นจากโต๊ะไปพร้อมหอบของไปด้วย สีหน้าของเจ้าตัวยังดูยิ้ม ๆ ไม่หม่อนหมองเหมือนตอนแรก ซึ่งนับว่าดีครับ ดีมาก ๆ เลยด้วย

ผมนั่งกินข้าวปั้นที่น้องเทคซื้อมาให้ไปก็อดที่จะคิดอะไรไม่ได้...

ไม่รู้ว่าตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกับปันปันนะครับ เจ้าตัวดูเพลีย ๆ แปลก ๆ ไม่พอ ช่วงก่อนเปิดเทอม ผมไปนอนค้างห้องมันหลังจากที่มันกลับมาเพื่อทำงานคู่ที่อาจารย์สั่ง (ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์...) ผมได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ดึก ๆ บางทีก็เห็นสีหน้าเครียด ๆ ด้วย

พี่คิสแกก็รู้สึกจะวนเวียนมาน้อยลงกว่าเมื่อก่อนหน้า แต่ก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไปซะทีเดียว... ไม่รู้คิดไปเองไหม แต่ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มพี่เขาดูเจ้าเล่ห์ขึ้นกว่าเดิมแบบแปลก ๆ

ระหว่างสองคนนี้ตอนไปเที่ยวด้วยกันเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ... หรือว่าเกิดตอนนี้กันนะ

ยังไม่นับรวมหลานเทคผมที่ดูจะเหม่อ ๆ ให้ลูกบาสอัดท้อง อัดหน้าเป็นระยะ จนจะหมดราศีเดือนมหาลัยอยู่รอมร่อ สีหน้าดูเหม่อลอยบ้าง กลุ้มใจบ้าง ใกล้จะเหมือนคนบ้าเข้าทุกที อยากถามแต่ไม่รู้ว่าจะหาว่าละลาบละล้วงไปไหม พอถามเกดมัน มันก็ยิ้มเย็น ๆ หัวเราะหึหึ ก่อนจะตอบมาสั้น ๆ ว่า เรื่องของหัวใจ... โดยมีน้องป๊อปเสริมมาอีกว่า ที่คนโง่ไม่รู้

ผมนี่... รู้สึกตัวเองโง่ขึ้นมาพิกล ๆ เลยครับ

ยังมีพี่ทิวอีกที่อยู่ ๆ ก็ชอบมองโทรศัพท์มาขึ้นด้วยในระยะนี้มองแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียว

เอาเถอะ... ถือว่าเป็นสีสันในชีวิตของแต่ละคนไป ผมมองอยู่เงียบ ๆ แล้วเอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่าครับ

สวัสดี ตำราเรียน!

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาต่อตอนใหม่แล้วค้า พักพี่ทิวไว้ก่อน (ไว้จัดเต็มตอนหน้า) นะคะ ^^ มาหาคู่หลักสุดที่รักของทุกคนก่อน 5555

สัปดาห์หน้าคนเขียนสอบมิดเทอมค่ะ อาจจะไม่ได้มาอัพนะคะ

พบกันสัปดาห์ถัดไปค้า

ปล. ตอนหน้ายาวค่ะ ตอนนี้สันไปหน่อย 5555

ปล.2 ขอฝากแบบฟอร์มสำรวจความสนใจในการรวมเล่มEGvsMT ไว้หน่อยนะคะ http://goo.gl/forms/vcoaPrVpIJ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 27-08-2015 22:41:09
สงสารเมฆรอเลย   จะไม่แปลกใจหรอกถ้าหากว่าเกิดขึ้นจริงๆ
ไกลบ้าน ไกลหูไกลตา  ไม่ต้องไปต่างประเทศหรอก แค่จากต่างจังหวัดย้ายเข้ามาเรียนกรุงเทพ บางคนก็เปลี่ยนไปแบบพ่อแม่ยังจำไม่ได้

เป็นไปได้ว่าไปอยู่วัฒนธรรมใหม่ที่มีเสรีมากขึ้นก็ปรับตัว  บางคนก็ปรับตัวมากเกินไปจนลืมไปว่าสังคมที่ตัวเองจะได้อยู่ต่อไปนั้นเป็นสังคมไทย

ว่าแต่พายุจะไปด้วยหรือเปล่าเนี่ย?

แต่ละคนก็เปลี่ยนแปลงกันไปสินะ
เรายังคงขอแจ้งประสงค์ขอน้องข้าวมาอุปการะนะคะคนเขียน
ปล่อยทิวมันไปเถอะ   
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 28-08-2015 07:22:53
พายุเขารุกหนักแล้วนะลมหนาว






ล้างก้นรอเขาหรือยัง เมฆยังมองออกเลยว่าพายุจีบลมหนานะฮ่าๆๆๆๆ






พี่คิตตี้ ได้ปันปัน แ ล้วเหินห่างเหรอเดี๋ยวจะโดน






พายุแอบสืบข้อมูลการไปอเมริกาของลมหนาว






จะไปกับพวกเขาละซิ อย่ามาทำเป็นใจดีหาที่พักให้ นายจะไปด้วยก็บอกมาเถอะ






สำหรับนายทิว (ไม่เรียกพีแล้วเกลียดแม่ง)ถ้านายไม่รักข้าว เราขอนะ บอกเลยอยากได้มากเด็กน่ารักแบบนี้
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 28-08-2015 09:23:45
เตรียมคนดามใจรอเมฆ เลย =_=
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 28-08-2015 10:21:32
สงสารเมฆจุงงง
คุณพายุจะตามไปอเมริกาด้วยรึไง 5555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 28-08-2015 21:03:19
สงสารเมฆรอเลย   จะไม่แปลกใจหรอกถ้าหากว่าเกิดขึ้นจริงๆ
ไกลบ้าน ไกลหูไกลตา  ไม่ต้องไปต่างประเทศหรอก แค่จากต่างจังหวัดย้ายเข้ามาเรียนกรุงเทพ บางคนก็เปลี่ยนไปแบบพ่อแม่ยังจำไม่ได้

เป็นไปได้ว่าไปอยู่วัฒนธรรมใหม่ที่มีเสรีมากขึ้นก็ปรับตัว  บางคนก็ปรับตัวมากเกินไปจนลืมไปว่าสังคมที่ตัวเองจะได้อยู่ต่อไปนั้นเป็นสังคมไทย

ว่าแต่พายุจะไปด้วยหรือเปล่าเนี่ย?

แต่ละคนก็เปลี่ยนแปลงกันไปสินะ
เรายังคงขอแจ้งประสงค์ขอน้องข้าวมาอุปการะนะคะคนเขียน
ปล่อยทิวมันไปเถอะ   


พายุเขารุกหนักแล้วนะลมหนาว






ล้างก้นรอเขาหรือยัง เมฆยังมองออกเลยว่าพายุจีบลมหนานะฮ่าๆๆๆๆ






พี่คิตตี้ ได้ปันปัน แ ล้วเหินห่างเหรอเดี๋ยวจะโดน






พายุแอบสืบข้อมูลการไปอเมริกาของลมหนาว






จะไปกับพวกเขาละซิ อย่ามาทำเป็นใจดีหาที่พักให้ นายจะไปด้วยก็บอกมาเถอะ






สำหรับนายทิว (ไม่เรียกพีแล้วเกลียดแม่ง)ถ้านายไม่รักข้าว เราขอนะ บอกเลยอยากได้มากเด็กน่ารักแบบนี้

ใจเย็นๆกับพี่ทิวกันก่อนนะคะ 555

// อยู่ด้วยกันหมดล่ะค้าา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 28-08-2015 22:12:00
ที่พายุพยายามย้ำว่าถ้าแพ้แล้วต้องนอนกับตัวเองเนี่ยเราว่านะ

พายุแอบชอบลมหนาวมาตั้งแต่ปี 1 แล้วป่ะ


แบบว่าชอบแต่เพราะเป็นอริกันเลยต้องเข้าหาโดยการทะเลาะกัน


แต่ในใจพายุอ่ะชอบลมหนาวมากขึ้น ๆ จนต้องมาทำงานร่วมกันเลยถือโอกาสพนันไปเพื่อให้ตัวเองได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น


ส่วนลมหนาวคงจะพอมีใจแหละ แต่เป็นพวกความรู้สึกช้าไงเลยไม่รู้ว่าพายุเข้าหาเพราะชอบตัวเอง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 28-08-2015 23:51:48
เริ่มหวานเบาๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 29-08-2015 06:07:09
อร๊ายยยย พายุกับลมหนาว เริ่มมีอะไรให้คนอ่านอมยิ้มอีกแล้ว
ต่อไปรุกหนักๆเลยนะพ่อพายุ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 29-08-2015 09:55:41
ลมหนาวนอนกอดพายุซะด้วย...แล้วก็มีหน้าร้อนด้วยน้าาา~
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 29-08-2015 20:32:45
ข้าวเอ้ยน่าสงสารจริงๆเลย

เอาเถอะรอให้เราอยู่ได้ด้วยตัวเองแล้วค่อยเดินออกมา

ปล่อยอิทิวไปเถอะอย่างทำ เฮียอะไรก็ทำเลย แล้วแต่

ถ้าอิทิวมันเอากับมินจิงๆ ข้าวคงเจ็บเจียนตายเลยหล่ะมั้งเท่าที่ฟังข้าวพูด ข้าวกับมินต้องมีปัญหาอะไรร่วมกันมาแน่นอน

เชียร์ให้ข้าวยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองนะแล้วออกมาหาคนดีๆคนอื่นเถอะ อย่าไปคลุกคลีกับเขาเลย

อิทิวให้ได้แค่ความสงสารแค่นั้นแหละ เห็นเป็นเด็กขายเลยสงสารเก็บมาเลี้ยง เฮอะ เกือบดูดีละเชียว

ข้าวสู้ๆนะ มันต้องผ่านไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่33 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ27/08
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 30-08-2015 22:46:34
เกลียดทิวอ่ะ แม่ง แงง แงง แงง
โว้ยยยยยยย
ชอบคู่เอกอย่างเดียว บุยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.20[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 06-09-2015 00:39:08
วันที่สามสิบสี่

(ทิวไผ่)

“ทิวไผ่”เสียงนุ่มลึกของหญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นกลางโต๊ะอาหารในบ้านหลังใหญ่ “ผลการเรียนเทอมที่แล้วออกมาดี ตั้งใจต่อไปแบบนี้ล่ะ”

“ครับ คุณย่า”ผมขานรับนุ่ม ๆ พร้อมส่งยิ้มไปให้ผู้หญิงที่เป็นหัวหน้าตระกูล

“ดีแล้ว”คุณย่าท่านพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ ก่อนที่จะปราดสายตาดุ ๆ มามองที่ผม “ยังจำที่ย่าสอนได้ใช่ไหม จะเลือกใครเป็นคู่ชีวิตต้องให้สมฐานะ สมเกียรติ”

“ครับ... คุณย่า”

“อย่าคิดว่าย่าไม่รู้ที่ว่าเอกำลังทำอะไรอยู่ จะรัก จะชอบ ย่าไม่ว่า ถึงจะเป็นผู้ชาย แต่ถ้าจะยกย่อง คุณสมบัติต้องครบ จำเอาไว้ให้ดี”มือเรียวยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ “เด็กคนนั้นจะเลี้ยงเอาไว้ ย่าไม่ว่าอะไร แต่รู้ใช่ไหมว่ายังไงก็แต่งเข้ามาไม่ได้”

“ครับ”

“ดี จำเอาไว้ให้มั่นล่ะ”

“ครับ”

“เธอจะชอบเด็กผู้ชาย ย่าไม่ว่า เรื่องทายาทน้องของเธอรับผิดชอบไปได้ แต่หน้าตาทางสังคม เธอต้องรักษาให้มั่น หวังว่าเธอจะเข้าใจ และไม่ต้องให้ย่าพูดซ้ำ”

“ครับ คุณย่า”

กรอบของผม กรอบ... ที่ล้อมตัวผมมาทั้งชีวิต คำสอนที่ฝังในหัวทำให้ผมได้แต่เอ็นดูใครคนหนึ่ง แต่ไม่ได้รัก... หรืออีกแง่คือรักไม่ได้

ไม่ใช่แค่ตัวผม แค่คุณพ่อ คุณลุง ทุกคนที่อยู่ในตระกูลล้วนฝังหัวในเรื่องนี้ และไม่มีใครที่จะสามารถฉีกกฎออกไปได้
รักษาเกียรตื ดำรงศักดิ์ศรี ไม่ให้มีข้อครหา

หึ อดีตเจ้าเมืองเก่า ขุนนางที่ซื่อสัตย์ ทหารที่รับใช้บ้านเมืองมารุ่นสู่รุ่น มาสู่การเป็นหมอ...

นี่แหละ อัครเมฆินทร์


หลังจากวันที่มินมาดูอาการป่วยของข้าว มินก็มาอีกเรื่อย ๆ มาทำอาหาร ซักผ้า ทำความสะอาด เรียกได้ว่าแย่งหน้าที่แม่บ้านทำทุกอย่าง พอข้าวหายดีเจ้าตัวก็มาน้อยลง

เสียงใส ๆ ตาที่เป็นประกาย ความร่าเริงที่ทำให้ห้องเงียบ ๆ นี้ดูสว่างไสว คนที่มีแรงดึงดูดให้คนเข้าหา เป็นจุดศูนย์กลางโดยไม่ตั้งใจ

การมีตัวตนของมินไม่นาน ทำให้ผมชินอย่างไม่รู้ตัว พอเจ้าตัวไม่มาก็รู้สึกเงียบงันอย่างที่ไม่เคยมาก่อน แต่ยังดีที่เขายังคงไลน์มาถามเรื่องข้าวอยู่ตลอด

ถ้าเปรียบข้าวเป็นลูกหมาชิสุที่ต้องคอยโอ๋ คอยเอาใจใส่ดูแล มินคงเป็นหมาปอมที่ร่าเริง แข็งแรง และเรียกสายตาให้มองกลับด้วยความรักความเอ็นดู

ผมไม่เคยเข้าใจพี่คิสที่ถูกใจปันปันจนอยากครอบครองจนกระทั่งตอนนี้ ผมเข้าใจแล้วว่ามันเป็นยังไง ความอยากได้ อยากครอบครองที่ครอบงำมันเป็นยังไง

ผมเชื่อว่ามินไม่ยอมให้ผมกอดง่าย ๆ แน่ แต่จะให้ผมรวบรัดจับกินเหมือนพี่คิสเอง คงไม่ไหว มองหน้ากันไม่ติดแน่... เอาเถอะ ต่างคนต่างวิธี ต่างความคิด ต่างการกระทำ

แต่ถึงอย่างนั้น ความรักความชอบพอ ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะคว้ามาครอบครองเป็นของตัวเองเหมือนสิ่งของที่หาซื้อได้ทั่ว ๆ ไปตามท้องตลาด

อีกอย่าง... ถ้าจะทำอะไรผมก็ต้องคิดหน้าคิดหลังสักหน่อยล่ะครับ... ยังไงผมก็ยังมีข้างกายอยู่อีกคน

ถึงจะไม่ได้รัก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งขว้าง สิ่งที่ข้าวต้องการคือความอบอุ่น นั่นเป็นสิ่งที่ผมให้เขาได้ จนกว่าปีกของเขาจะแข็งแรงพอที่จะโผบิน...

แต่มีวันนั้นไหม ก็ไม่รู้ นกที่ถูกเลี้ยงในกรงส่วนใหญ่ก็จะไปไหนไม่รอด

แต่นกที่ไม่ยอมออกจากกรงเลย ก็ไม่รอดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ผมเหลือบมองข้าวที่ก้มหน้าก้มตาทำงาน วันนี้เจ้าตัวจะออกไปทำงานกลุ่มกับเพื่อนในสาขาที่ต่างจังหวัดอาทิตย์นึงซึ่งมินที่เรียนคนละสาขาไม่ได้ไปด้วย... เหมาะกับที่ผมจะไปทำอะไรบางอย่างจริงไหมครับ

"พี่ทิวฮะ ผมไปนะฮะ"ข้าวแบกเป้สะพายขึ้นหลัง เดินมาหาผมแล้วยิ้มหวานให้ "ไว้ผมจะซื้อของมาฝากนะฮะ พี่ทิว"

จมูกเล็กกดหอมเบา ๆ ที่แก้มผม ผมก็หอมกลับไปนั่นล่ะครับ ข้าวยังคงเป็นเด็กน้อยขี้เหงา ขี้อ้อนเหมือนเดิม

"เดินทางดี ๆ ถึงแล้วไลน์หรือโทรมาบอกพี่นะครับ ข้าว"

"ฮะ... พี่ทิวฮะ"ดวงตากลมหลุบมองผมที่นั่งอยู่ด้วยแววตาสั่นไหวด้วยความไม่มั่นใจ "กลับมาแล้ว... พี่ทิวจะกอดผม... ได้ไหมฮะ"

"ตามใจข้าวสิครับ ถ้าข้าวอยากให้พี่กอด พี่จะกอด"ผมตอบกลับยิ้ม ๆ ไม่ตอบรับในเชิงคนรัก เช่นเดียวกันที่ผมไม่ปฏิเสธ "ไปเถอะครับ เดี๋ยวเพื่อนจะรอเอานะ"

"ฮะ"ข้าวก้มลงมาฉกจูบจากผมเบา ๆ แล้ววิ่งออกไปจากห้อง

"คงไปไหนไม่รอดแล้วล่ะนะ ข้าว... แต่พี่ดูแลข้าวได้แค่ฐานะพี่น้องแบบนี้เท่านั้นล่ะ"ผมอดจะรำพึงออกมาเบา ๆ ไม่ได้ ยิ่งนานวัน ข้าวก็ยิ่งทิ้งตัวจมลึกมากับผม... ไม่ได้รังเกียจ แต่ไม่ได้รัก

"ทำให้ฟางหลงแล้ว ยังไงพี่ก็ต้องรับผิดชอบฟางนะฮะ"เสียงของใครบางคนที่ไม่ขึ้นมาหลายวันแล้วดังขึ้น "พี่ทิวห้ามทิ้งฟางเด็ดขาดนะฮะ"

"พี่จะพูดครั้งสุดท้าย"ผมลุกขึ้นไปยืนประจันหน้ากับคนที่ตัวเล็กกว่าผมไปคืบ "พี่ดูแลฟางข้าวได้ในฐานะ'พี่ชาย'ที่ดูแล'น้องชาย'เท่านั้น"

"พี่ทิวไผ่!"มินขึ้นเสียงใส่ผมอย่างไม่พอใจนัก ดวงตากลมโตถลึงมองผม "พี่เอาหัวใจของฟางไปแล้ว พี่จะทำให้ฟางเสียใจไม่ได้"

“มิน พี่ไม่สามารถตามใจใครได้ทุกคนหรอกนะครับ พี่ตามใจข้าวได้แค่ร่างกาย แต่พี่บังคับใจตัวเองไม่ได้ พี่ให้ได้เท่านี้ร่างกายกับหัวใจ ไม่ได้ไปในทางเดียวกันเสมอ”

“ถ้าพี่ไม่ได้รักฟาง พี่ก็ไม่ควรจะให้ความหวังฟางแบบนี้!”

“พี่ปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนกัน ไม่ได้ให้ความหวังกับใคร พี่ยืนของพี่อยู่ที่เดิม จุดเดิม ไม่เคยเดินออกไปไหน ถ้ามินไม่เชื่อพี่ มินถามลมหนาวดูได้ ตอนที่ลมหนาวเคว้งคว้าง พี่ก็ยื่นมาไปให้เขาจับ เหมือนอย่างที่พี่ยื่นมือออกไปให้ข้าว”

“แต่ถ้าพี่ไม่รักก็ไม่ควรนอนกับฟาง”หยาดน้ำตาคลอหน่วงที่ขอบตาของเพื่อน ที่รักเพื่อนมากกว่าใคร “พี่ไม่ควรทำให้ฟางถลำลึกไปกับพี่แบบนี้”

“มินอาจจะมองว่าพี่เห็นแก่ตัว แล้วถ้าเป็นมินเอง มินจะทำยังไง มินบอกพี่มาสิ กับคนที่ต้องการความอบอุ่น ต้องการความรักมาเติมเต็มในความรู้สึกของเขาในช่วงเวลาที่เขากำลังอ่อนแอ ถ้าพี่ปฏิเสธคำร้องขอแล้วข้าวหนีออกไปเจอใครไม่รู้ข้างนอก โดนเขาหลอกลวง หรือคิดสั้นขึ้นมา วันนี้ มินจะมาพูดกับพี่ว่าอะไร”

“...”มินที่รู้นิสัยเพื่อนของตัวเองดีถึงกับน้ำท่วมปาก ใช่... เขารู้ และมันเคยเกิดขึ้น ในวันที่ครอบครัวของฟางแตกหัก วันที่ฟางไม่มีหลักยึดอีกต่อไป ถ้าหากตัวเขาไปช่วยไม่ทัน... วันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่อนรักของเขาจะเป็นยังไง

“แล้วคนอย่างพี่ ไม่มีสิทธิ์จะชอบใคร ไม่มีสิทธิ์จะผิดพลาดอะไรเลยใช่ไหม พี่จะต้องเดินไปตามที่ทุกคนอยากให้เดิน ข้าวอยากให้พี่รัก พี่ก็ต้องรัก มินต้องการให้พี่รักข้าว พี่ก็ต้องรักอย่างนั้นใช่ไหม”ผมมองน้องตรงหน้าด้วยสายตาที่เจ็บปวด ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ แต่ชีวิตของผมที่ผ่านมามันเป็นแบบนี้ เดินบททางที่ถูกขีดเอาไว้ ทำทุกอย่างตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ จนไม่เป็นตัวเอง “พี่ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะชอบคนที่พี่อยากชอบ ไม่มีลิทธิ์ที่จะรัก ในคนที่เข้ามาอยู่ในหัวใจพี่เลยใช่ไหม”

“พี่ทิว...”มินหลุบตาลอง มือเรียวยื่นมากุมมือของผมเอาไว้... “ผมมันไม่รู้อะไรเอง... ผมขอโทษฮะ”

"ชีวิตพี่ไม่เคยขออะไรตอบแทนจากใครสักครั้ง ไม่เคยได้เห็นแก่ตัวใส่ใคร พี่ให้ทุกคนเท่าที่พี่ให้ได้มาตลอด ถ้าสมมติว่ามินอยากให้พี่คอยตามดูแลข้าวในฐานะแบบนั้น แล้วพี่ยื่นข้อเสนอขอผลตอบแทนเป็นให้มินมาเป็นเมียพี่ มาทำให้พี่พอใจ แล้วพี่จะทำอย่างที่มินต้องการให้ มินจะตอบยังไง"ผมท้าทายออกไปเล่น ๆ คนที่เตี้ยกว่าที่กำลังทำหน้าตกใจ

"พี่ทิว!!!!"

"มินมาบังคับพี่ จะให้พี่ทำโน่นนี่ ก็ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกัน จริงไหน"ผมยังคงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มเหมือนเคย ผมเชยคางเรียวขึ้นให้ใบหน้ามนเงยขึ้นมา "มินเป็นลูกชายตระกูลใหญ่มีหน้ามีตา ย่อมรู้ดีแก่ใจเหมือนพี่ ถึงจะต้องแต่งกับผู้ชายก็ต้องเลือกคนที่รักมากและฐานะเสมอกันหรือต่างเพียงเล็กน้อย ถ้าพี่ยกข้าวขึ้นมาในฐานะนั้น คิดว่าข้าวจะแบกรับความกดดัน ทนสายตารังเกียจของคนอื่นไหวหรือไง"

มินทำหน้าบึ้งตึงใส่ผม ก็สมควรล่ะครับ แต่ที่ผมพูดไปมันก็คือเรื่องจริงที่หมดสิทธิ์จะปฏิเสธ แล้วอีกอย่าง... ผมชอบความสดใสและรอยยิ้มของมิน รักในหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความเสียสละ ความชอบที่พามาซึ่งความอยากครอบครอง ต่างจากข้าว ที่ผมยอมรับว่าผมยื่นให้ทุกอย่างด้วยความสงสาร... หรืออาจจะมากกว่านั้น

อยากจะได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเอา

“พี่ล้อเล่นน่ะ ช่างมันเถอะ”ผมปล่อยมือจากมิน แล้วหันหลังให้ “พี่ทำได้เท่านี้ และมันก็ได้เท่านี้จริง ๆ”

“แต่การที่พี่ทำแบบนี้ พี่ทำให้ฟางต้องเจ็บมากแค่ไหน พี่รู้ตัวบ้างไหมฮะ”คนตรงหน้าโต้กลับไปด้วยแรงอารมณ์ ผมถอนหายใจอย่างหน่ายเหนื่อย แล้วจ้องตากับมิน

“มินครับ ฟังนะครับ พี่คนนี้เป็นได้แค่เสาให้กับน้องชายเกาะเดิน แต่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้ได้ตลอดไป วันนึงพี่ก็ต้องล้มลง หรือหายไป ข้าวที่มินห่วงนักห่วงหนา มินมั่นใจแค่ไหนว่าเขารักพี่ เขาชอบพี่ ไม่ใช่แค่หลงชื่นชมเพราะพี่ยื่นมือไปให้ความช่วยเหลือเขาในวันที่เขาล้มลง”ผมพูดด้วยเสียงที่จริงจัง มือทั้งสองจับบ่าเล็กไว้แน่น “ถ้าข้าวยอมรับความช่วยเหลือจากมินแต่แรก เขาก็จะติดมินแบบเดียวกับที่ติดพี่ไม่ต่างกัน หรือคนที่ยื่นมือให้ความช่วยเหลือเขาเป็นคนอื่น มันก็ไม่ต่างจากสิ่งที่เป็นตอนนี้ ไม่ต่างจากตัวพี่”

“แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าฟางไม่ได้รักพี่น่ะฮะ”

“ดวงตาไงล่ะมิน ดวงตาของข้าวฉายแววลุ่มหลง ไม่ใช่ความรัก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เกิดวันที่เท่าไหร่ ชอบกินอะไร มักจะใส่เสื้อสีไหน ถ้ามินไม่เชื่อ มินถามเจ้าตัวดูก็ยังได้”ผมตอบกลับไม่ทันที ก่อนจะแค่นยิ้มออกมา “มีคนมากมายที่เป็นอย่างข้าวในชีวิตของพี่ ปากบอกว่ารัก แต่ไม่เคยมองมาที่พี่เลย ไม่เคยที่แม้แต่จะคิดถึงใจพี่ด้วยซ้ำ”

“...”

“ก่อนที่จะมาโวยวายอะไรใส่พี่ มินเปิดใจดูความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก่อนค่อยมาหาเรื่องพี่เถอะ”ผมหยิบมือถือที่สั่นริกอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมารับ “ครับ คุณแม่... ครับ เดี๋ยวผมเข้าไปครับ”

ผมหันไปมองหน้าคนที่ผมถูกใจแล้วระบายยิ้มบาง ควาวใสซื่อ (จนเกือบจะบื้อ) ของเด็กคนนี้แหละที่ผมชอบ... ถ้าถามว่าโกรธไหม

ก็คงโกรธล่ะครับ

แต่ชีวิตของใครคนนึง ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจ

“พี่ต้องไปทำธุระที่บ้านก่อน ถ้ายังไงมินจะอยู่ห้องนี้ต่อไปก่อนก็ได้ ถ้าออกไปเมื่อไหร่ก็ล็อกห้องให้พี่ด้วยแล้วกันนะครับ”ผมคว้ากระเป๋าเงินกับกุญแจรถแล้วเดินออกไปทันทีหลังพูดจบ

ให้ผู้ใหญ่รอนานคงไม่ดี จริงไหมครับ

“ฮัลโหล ลมหนาว”ผมโทรเข้าหาคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจที่สุด... เป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด “พี่อยากเจอหนาว...”

“พี่ทิวเป็นอะไรครับ”เสียงที่ตอบกลับมาตามสายยังคงทำให้ผมยิ้มได้ แม้ว่าหัวใจจะขุ่นมัวก็ตามที “พี่ทิวอยู่ที่คอนโดใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมไปหา”

“พี่กำลังจะไปที่บ้าน...”ผมบอกกับคนในสาย พร้อมกับร้อยยิ้มที่เหือดแห้งไป “หนาวไปรอพี่ที่คอนโดก็ได้ เดี๋ยวพี่ก็คงกลับแล้ว”

“ครับ... พี่ทิว มีอะไรไม่สบายใจอยู่ใช่ไหมครับ”

“อืม... ก็นิดหน่อยน่ะ”เป็นเรื่องที่ปิดลมหนาวไม่ได้เลยครับ ถึงผมมักจะดุลมหนาวบ่อย ๆ และเป็นที่ปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ มาตลอดแต่หลายครั้งที่ผมถูกจับได้ซะเองถึงความไม่ปกติทางอารมณ์

“เป็นอะไรเหรอครับ”

“ก็ไม่มีอะไรหรอก... แค่พี่กำลังคิดว่าพี่มีสิทธิ์จะชอบใครสักคนไหม”ผมถอนหายใจเหนื่อย ๆ กับเรื่องที่คาอยู่ในหัวใจ “คนอย่างพี่จะชอบใครได้ไหมนะ”

“ความรัก ความชอบเป็นสิ่งที่ใครก็มีได้นี่ครับ”

“ก็นะ...”

“ฟางข้าวมีปัญหากับพี่ทิวเหรอครับ”

“เปล่าหรอก... คนที่มีปัญหากับพี่คือตัวพี่เองนี่แหละ”

“พี่ทิวครับ...”คนในสายทอดเสียงอ่อน ผมว่าลมหนาวคงกำลังยิ้มบาง ๆ อยู่แน่ “ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าตอนนี้พี่ทิวมีปัญหาอะไร แต่ผมเชื่อในหัวใจของพี่ทิวนะครับ... ใครจะมองว่าที่พี่ทิวทำทุกอย่างให้น้องข้าวเพราะความสงสารเวทนา แต่ผมรู้นะครับว่าพี่ทำเพื่อให้เขาที่กำลังหมดหวังในหลายสิ่งหลายอย่างนั้นมีความหวังและกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไป ให้ก้าวเดินไปเองได้ในสักวันหนึ่ง”

“ขอบใจนะ หนาว”

“ผมยังอยู่ข้างพี่ทิวเสมอนะครับ”

“...ครับ”

“แล้วเจอกันนะครับ... อ่อ พี่ทิวครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ”

“ขอบใจนะ ลนหนาว แล้วเจอกันนะครับ”ลมหนาววางสายไปแล้ว และผมกำลังใกล้จะถึงบ้าน

ต่อให้ใครต่อใครในโลกจะไม่เข้าใจในตัวเรา แต่ถ้าหากมีสักคนเข้าใจ... เพียงแค่คนเดียว ผมว่านั่นก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วนะครับ

ขอแค่ใครสักคนที่เข้าใจในตัวเราจริง ๆ

เท่านั้น... มันก็ทำให้มีกำลังที่สำคัญในการเดินต่อไป...


(มิน)

พี่ทิวถูกคนทางบ้านหรือใครสักคนเรียกตัวไปกะทันหัน ทำให้เราคุยกันไม่จบ ผมเลยนั่งหน้าบูดรอพี่เขาอยู่ในห้อง ให้กลับคุยกันต่อ

ผมจะเรียกร้องทุกอย่างให้ฟางเอง

แกร็ก

เอ... ทำไมพี่ทิวทำธุระเสร็จไวจัง ผมยังไม่ทันได้เตรียมคำพูดเจ็บ ๆ แสบ ๆ เลย... เงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินผ่านประตูมา กะว่าจะทวงถามเรื่องฟางอีกรอบ

แต่ไม่ใช่พี่ทิว...

ร่างสูงโปร่งของใครอีกคนที่ผมอาจจะเห็นไม่บ่อยนัก แต่ชื่อเสียงลอยเข้าหูอยู่ตลอด ดีกรีพี่วินัยคนเก่งของคณะเทคนิคการแพทย์... พี่ลมหนาว

“อ้าว...”เสียงนุ่มฟังลื่นหูอุทานขึ้นเบา ๆ ดวงตาคมของพี่เขามองมาที่ผมนิ่ง ก่อนจะคลี่ยิ้มบางส่งให้ พร้อมกับแววตาที่อาทร “มาได้ยังไงครับ หืม”

“เอ่อ... ผมอยู่คอนโดนี้... ฮะ”

“ชื่ออะไรล่ะ เราน่ะ”

“ผมชื่อมินฮะ พี่ลมหนาว”

“งั้นเหรอ...”พี่เขายิ้มให้แล้วเดินเข้าไปในครัว ก่อนจะกลับมาพร้อมกับชามในมืออย่างรวดเร็ว “มินคงหิว แต่พี่ทำอาหารไม่เป็น ทนกินโจ๊กซองไปก่อนนะครับ”

“ขอบคุณฮะ”ผมรับเอาชามอุ่น ๆ นั้นมา... ดูท่าแล้วพี่เขาจะทำอาหารไม่เป็นจริง ๆ นั่นแหละฮะ ฉีก เท ไม่มีคนมาก่อนเลย...

“มีอะไรอยากถามพี่ใช่ไหมครับ”อยู่ ๆ พี่ลมหนาวก็ถามขึ้น หลังจากที่ผมนั่งกินข้าวไปได้ไม่เยอะ ผมหันไปมองพี่เขาอย่างสงสัย “มีเรื่องที่อยากรู้ไม่ใช่เหรอครับ”

“ฮะ...”ผมตักข้าวกินอีกคำก่อนที่จะหันมาสบตากับพี่เขา “พี่ทิว... เป็นคนยังไงเหรอฮะ”

“เป็นคนยังไงอย่างนั้นเหรอ...”พี่ลมหนาวยกมือขึ้นมาลูบคางตัวเองน้อย ๆ แล้วยิ้มบาง ๆ “พี่เขาเป็นคนดีนะ เป็นคนที่มองทะลุทุกอย่าง และมองในมุมที่ไม่มีใครมอง”

“พี่รู้เรื่อง...ของฟางใช่ไหมฮะ”

“อืม พี่ก็รู้อยู่นะครับ พี่รู้มาตั้งแต่แรกแล้วด้วยว่าพี่ทิวไม่ได้รักฟางข้าวอย่างคนรัก แต่มองเขาเหมือนตัวเองในอดีต สมัยที่พี่เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่ทางบ้านต้องการและมุ่งหวัง พี่ทิวเขาเป็นคนที่เกิดมาพร้อมกับความหวัง หวังจะให้เป็นหมอ หวังจะให้เป็นคนสืบทอดกิจการ มันเป็นกรอบแคบ ๆ ที่จำกัดตัวของพี่เขาให้ไปตามทางที่ถูกขีดเอาไว้

แต่เด็กคนนึงจะรู้อะไรจริงไหมครับ ก็จะคิดว่าทำไมพ่อแม่ไม่รักเขา รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวและสิ้นหวังในความเป็นตัวเอง”พี่ลมหนาวหันมามองหน้าผม ก่อนที่จะพูดต่อ “มนุษย์เราไม่มีใครสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างหรอกนะครับ เราอาจจะมองว่าพี่จะให้ความหวังกับคนที่มีใจให้พี่ทำไม แล้วเพราะอะไรถึงไม่ตัดให้ขาดไปตั้งแต่แรกจะได้ไม่เรื้อรัง แต่ถ้าเรามองในอีกมุมนึง คนบางคนอยู่ได้ด้วยความหวังและความฝันที่หล่อเลี้ยงตัวเองถ้าหากไปตัดแรงที่พยุงให้เขามีชีวิตอยู่ต่อออกไปแล้วเขาจะอยู่ยังไง นั่นไม่เท่ากับฆ่าเขาให้ตายไปทางอ้อมเหรอ

กับฟางข้าว ถึงพี่ทิวไม่ได้รัก แต่ในขณะเดียวกันก็ใช่ว่าจะไม่ให้ความสำคัญไม่ใช่เหรอครับ”

“แต่...”

“แล้วมินคิดว่าฟางข้าวต้องการความรัก หรือต้องการที่จะเป็นคนสำคัญล่ะครับ”เป็นคำถามที่ผมไม่เชิงว่าจะเข้าใจ... คนสำคัญ กับคนรักก็ต้องเป็นคน ๆ เดียวกันไม่ใช่เหรอครับ “มินครับ คนรักคือคนที่อยู่ในหัวใจ จะห่างไกลแค่ไหนใจก็ยังมีกันอยู่เสมอ แต่คนสำคัญน่ะคือคนที่อยู่ในสายตา สำหรับพี่ที่เป็นคนมองอยู่ห่าง ๆ สิ่งที่ฟางข้าวต้องการคือการเป็นคนสำคัญของใครสักคน ต้องการหลักที่พึงให้ตัวเองเดิน และคนที่ฟางข้าวเห็นเป็นคนแรกคือพี่ทิว”

“ฮะ...”

“มินครับ กับพี่ทิวจะร้องขออะไรนอกร่างกาย พี่เขาก็ให้ได้เท่าที่เขามี เขาเป็นประธานคณะแพทย์ที่แข็งแกร่งในสายตาทุกคน แต่ในคณะเดียวกัน หัวใจที่ถูกล็อกเอาไว้อย่างหนาแน่นนั้นก็อ่อนแอ พี่ทิวไม่ได้ถูกเลี้ยงดูขึ้นมาด้วยความรักจากพี่น้อง จากพ่อแม่อย่างที่ใครคิด ทุกคนทำงาน และพี่เขาต้องอยู่เพียงลำพัง มีน้อง น้องก็ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ ถูกจำกัดให้สามารถคบได้แค่คนที่อยู่ในระดับเดียวกัน หรือคนที่จะสามารถสร้างประโยชน์ให้ได้ จนกระทั่งขึ้นมาม.ปลายถึงได้รับอิสระในบางส่วน ถึงพี่จะไม่ได้รู้จักพี่ทิวมาตั้งแต่พี่เขาเด็ก เป็นแค่หลานเทคโรงเรียน แต่พี่ก็เป็นที่พึ่งให้พี่เขา เหมือนที่เขาเป็นให้พี่นะครับ”เสียงของพี่ลมหนาวบอกถึงความสัมพันธ์ของพี่เขากับพี่ทิวได้เป็นอย่างดีเลยล่ะฮะ เป็นเหมือนพี่น้อง ที่คอยดูแลกัน

“แต่การที่พี่ทิวเขาใจดีแบบนั้นกับคนไปทั่ว... มันทำให้คนเขาเข้าใจผิดเอานะฮะ”ผมพูดสิ่งที่อยู่ในใจของผมออกมาบ้าง

“พี่ถามมินเรื่องนึงนะครับ”

“ฮะ”

“มินเกิดมาในสังคมระดับเดียวกับพี่ทิว มีฐานะ มีหน้าตาทางสังคม และพี่เชื่อว่ามินเห็นถึงการวางตัวของพี่ทิวมาตลอด พี่ทิวไม่เคยมีข่าวเสียหาย ไม่เคยมีข่าวซุบซิบสักครั้ง ถูกไหมครับ”

“ฮะ”

“แล้วมินคิดว่าหากวันนึง พี่ทิวต้องมีข่าวกับฟางข้าว แน่นอนว่าคนจะต้องมาโจมตีคนที่เข้าถึงง่ายกว่าอย่างฟางข้าว และจะถูกนินทาไปพักใหญ่ว่าเป็นคนฉุดให้พี่ทิวที่เป็นเหมือนเทพบุตรคนนั้นต่ำลง ไม่คู่ควร ไม่เหมาะสมอะไรสักอย่าง เป็นคนล่อลวงพี่ทิวที่ขาวสะอาดให้ต้องแปดเปื้อน มินคิดว่าฟางข้าวจะทนได้ไหมครับ”

“... ไม่ฮะ”ฟางไม่มีทางทนรับกระแสสังคมแบบนั้นได้แน่ ๆ ผมรู้ดี “ผมเป็นเพื่อนกับฟางมาตั้งแต่เด็ก ผมรู้ว่าฟางหลงในตัวพี่ทิว และปักใจที่จะยึดติดกับพี่เขา ฟางไม่เชื่อใจใครรอบข้าง และอ่อนแอ ผมกลัว หากว่าวันนึงพี่ทิวเดินจากฟางไป ฟางจะคิดสั้นและอยู่ไม่ได้...”

“พี่เชื่อว่าพี่ทิวรู้ว่าฟางข้าวเป็นยังไงครับ และพี่ทิวจะต้องหาหนทางพาทั้งความรักและความรับผิดชอบไปด้วยกันได้รอดฝั่ง”พี่เขายิ้มสื่อความให้ผม... “มินรู้ไหม พักนี้พี่ทิวมองมือถือบ่อยขึ้นกว่าก่อนเยอะด้วยสีหน้าที่มีความสุข ตอนแรกพี่ก็สงสัยว่าใครที่ทำให้พี่ชายที่แสนดีของพี่มีความสุขได้ขนาดนั้น จนได้มารู้นี่ล่ะครับ”

“มันไม่ใช่...”

“เชื่อเถอะครับ กับรักแรกพบน่ะ”

“ผม... ทำร้ายฟางไม่ได้หรอกฮะ”ผมรู้นะฮะว่าพี่ทิวถูกใจในตัวผม... แต่ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย... ยิ่งผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่เพื่อนของผมรักด้วย

“ทำตามหัวใจของตัวเองเถอะครับมิน... ต่อให้ไม่มีมิน พี่ทิวก็เป็นได้แค่พี่ชายที่เป็นเพื่อนนอนให้กับฟางข้าวได้อย่างเดียวเท่านั้นล่ะครับ”พี่ลมหนาวลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วก้าวเท้าออกไป “มินครับ จำเอาไว้นะครับว่าความผูกพันมันซื้อความรักไม่ได้เสมอไปหรอกนะครับ”

จบคำพี่เขาก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมอยู่คนเดียว

“แต่ผม... ก็อยากให้ความผูกพันของฟาง ซื้อพื้นที่ในหัวใจของพี่ทิวได้สักนิดก็ยังดีนะฮะ”

เอ... แต่ถ้าความผูกพันมันซื้อความรักได้... พี่ทิวก็คงเป็นแฟนกับพี่ลมหนาวไปนานแล้วมั้ง

ใช่ไหมฮะ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาอัพแล้วค้า สอบเสร็จแล้ว ^^ ตอนนี้ดูมึน ๆ ไปหน่อย เอาไว้จะกลับมาเกลาภาษาอีกรอบนะคะ

ตอนหน้าขอวกไปหาน้องคีบ้างนะคะ (แต่พายุลมหนาวก็จะโผล่มาแจมด้วย ฮ่าๆ)

ใครสนใจรวมเล่ม เข้าไปทำแบบสอบถามได้นะคะ http://goo.gl/forms/vcoaPrVpIJ ถ้าเปิดจองแล้ว มีสุ่มแจกของด้วยค้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 06-09-2015 01:51:25
ขอให้ข้าวเข้มแข็ง และมีชีวิตที่ดีขึ้นเร็วๆนะลูก หนูทำได้ ^^

หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: Beerr_jh ที่ 06-09-2015 02:12:49
ขอให้ข้าวยืนได้ด้วยตัวเองสักที ปล่อยพี่ทิวไปเถอะ ตอนนี้พี่แกไม่ได้รักน้องแบบนั้น
ขอให้มินไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบพี่ทิวจริงๆเถอะ
ก็สงสารพี่ทิวอยู่นะ เหมือนที่พี่ทิวบอกว่า ข้าวไม่ได้รักพี่ทิวจริงๆ แต่ก็แอบคิดว่าข้าวอาจจะรักพี่ทิวจริงๆ
แต่อาจจะคิดอะไรเยอะแยะไปหน่อย สนใจแค่ความรู้สึกของตัวเองมากไปหน่อย เลยไม่ได้สนใจที่จะรับรู้เรื่องของพี่ทิวมากนัก
เลยทำให้ดูเหมือนข้าวอาจจะไม่ได้รักพี่ทิวจริงๆ ได้แต่หวังว่าสักวันสองคนนี้จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆไปได้ในเร็ววัน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 06-09-2015 02:36:08
ตรงนี้ไม่เห็นด้วยจริงๆ  คือถ้าหากว่าจุดยืนของทิวเป็นแบบนี้ ทิวไม่ได้รักข้าวและคิดว่าข้าวก็ไม่ได้รักทิว ข้าวไม่ได้ใส่ใจในตัวตนของทิวๆก็ยิ่งสมควรที่จะพยายามผลักไสให้ข้าวเข้มแข็งขึ้น    การซัพพอร์ทใครสักคนทางใจคุณทำได้ด้วยการอยู่ตรงนั้น  Be there when that person needs you. ทิวสามารถผลักดันให้ข้าวเดินไปข้างหน้า โดยไม่ต้องนอนกับข้าวตามที่ข้าวร้องขอ  คนที่เลี้ยงนกแบบไม่ให้นกอยากออกกรงก็คือทิว  ข้าวได้ทุกอย่างตามที่ข้าวต้องการ ข้าวขอแค่ทิวไม่ทิ้ง อยากให้ทิวนอนด้วยทั้งที่ไม่รักทิวก็ยอม   อยากรู้ว่าทิวรู้สึกเจ็บปวดหรือลำบากใจบ้างหรือเปล่าเวลาที่นอนกับข้าว?  เราก็ว่าไม่  ถ้าหากว่าข้าวไม่ใส่ใจทิวจริงอย่างที่ทิวคิดเราก็ยิ่งสนับสนุนให้ทิวบังคับให้ข้าวหัดยืนด้วยจนเอง    อาจจะเริ่มจากให้ข้าวออกไปอยู่เอง   ทิวโทรหาติดต่อให้กำลังใจข้าวอยู่ตลอด  แต่ต้องจำกัดความสัมพันธ์ให้เป็นแบบพี่น้องแค่นั้น  ทิวต้องทำให้ข้าวเข้าใจว่าทิวเป็นพี่ชายที่จะไม่ทิ้งข้าวตราบใดที่ข้าวต้องก้าวไปข้างหน้าเองด้วย    ทิวมี limitation แบบนั้น ทิวก็สมควรบอกให้ข้าวรับรู้ด้วยว่าเป็นไปไม่ได้    ธรรมชาติของมนุษย์อย่างหนึ่งก็คือการรักตัวเอง   ข้าวรู้สึกแบบนี้กับทิวก็คือการที่ข้าวรักตัวเองพยายามไขว่คว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการ   แต่ทิวนี่สิต้องการช่วยข้าวแต่ทำแบบนี้มันก็ไปไหนกันไม่ได้   มินเองก็เถอะจะมาเรียกร้องให้ทิวรักข้าวโดยที่ทิวไม่ได้รักก็กระไรอยู่นะ   

คู่ทิว - ข้าวนี้ ชอบแำร์ริ่งนี้ก็แค่ว่าให้ทั้งคู่รักกัน  แต่ถ้าหากว่าทิวไม่รักข้าว  แล้วข้าวเองก็ไม่รักทิวก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่สองคนจะมาอยู่ด้วยกัน  เพราะว่าดูจากที่พาร์ทของทิวๆก็เจอคนที่ใช่แล้ว คือมินที่มีคุณสมบัติที่ครบถ้วนตามที่ทิวและครอบครัววางมา  ที่สำคัญที่สุดก็คือทิวชอบมิน   ตอนที่ทิวยื่นข้อเสนอให้มินทำแล้วทิวจะยอมตามที่ข้าวต้องการ เรากลับคิดว่าทิวเจ้าเล่ห์   ตอนนี้ก็รอดูว่าข้าวรักทิวหรือเปล่าหรือแค่ต้องการเสาหลัก  ถ้านางต้องการแค่นั้นก็ไปหาที่อื่นก็ได้เพราะว่ามันไม่สำคัญว่าเป็น*เสา*ไหนตราบใดที่เป็น*เสา*ใช่ไหม?   ใจหนึ่งก็หวังว่าทิวอาจจะมองข้าวผิดไป
จะฉลาดขนาดไหนทิวก็อายุแค่ 20 ต้นๆ   ทิวเองก็เป็นแค่นกในกรงทองเหมือนกันที่มีแค่สายโซ่คล้องคอยาวนิดหน่อย   จะสามารถอ่านคนหรืออะไรปรุโปร่งขนาดนั้นเลยหรือ?   แค่คิดอีกทีบอกว่าข้าวไม่รักตัวเองหรือตัวเองไม่รักข้าวมันก็ง่ายกว่านะ  จะได้ไม่ต้องคิดแหกกรง   เราพยายามเชื่อนะว่าหนาวเป็นน้องที่สามารถปรึกษาได้จริงๆ  ไม่ใช่พี่น้องท้องชนกันแบบข้าว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 06-09-2015 02:43:03
 :hao3:  ไม่ใช่ว่าที่พูดมาเพื่อให้ตัวเองรู้สึกแย่น้อยลงหลอ เรื่องที่ข้าวไม่เคยรู้อะไรเลย อย่าคิดเองเออเองสิ พี่ทิว บางทีข้าวอาจจะรู้ก็ได้

แต่แค่เค้าไม่ได้แสดงออกมาเท่านั้น เท่าที่อ่านๆมา เหมือนพี่ทิวพยายามโทษแต่ทางบ้าน แต่ไม่เคยโทษตัวเอง

มีอีกไม่น้อยที่เป็นแบบพี่ทิว แต่ถามว่าต้องเป็นแบบพี่ทิวมั้ยคำตอบคือไม่ไง ทำตัวเองแท้ๆแต่โทษคนอื่นๆ

การช่วยให้ใครสักคนยืนขึ้นมาได้เนี่ย นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเค้าเริ่มมองเจตนาของเราผิดไปก็ควรที่จะพูดคุยกันในทันที

แม้จะบอกว่ากลัวข้าวจะคิดสั้นจะเดินไม่ไหว แต่ก็ควรจะปรับทันทีที่มีโอกาส หรือ ตามสมควร ไม่ใช่ปล่อยแบบนี้ แล้วยิ่งตอนที่

ข้าวมาขอทำเรื่องแบบนั้นอีก ทิวกลับรับไว้อย่างไม่คิดอะไรมาก เห้อออ ผูกเองแท้ๆ แต่โทษอย่างอื่น  :z6:

แล้วสงสัยอีกอย่างอ่ะ ทำไมลมหนาวถึงเข้าออกคอนโดของพี่ทิวได้อย่างเหมือนห้องตัวเอง ไม่ใช่ว่าพี่ทิวเคยมีซั่มติ่งกับหนาวหรอกนะ

หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 06-09-2015 05:08:33
แลดูทิวเหมือนพวกหัวอ่อนก็ไม่เชิง พวกใจจืดใจดำก็ไม่ใช่ จะดีก็ดีไม่สุด จะเห็นแก่ตัวก็ไม่สุด มันค้างๆคาๆ ส่วนตัวสงสารข้าวถ้าข้าวหายไปเลยทิวคงจะมีความสุขสินะ เอาเลยยย อยากยุแยงให้ข้าวหายไป แล้วปล่อยให้มินมีความสุขแบบแปลกๆในความพอใจของทิวและมินบนความเดียวดายของข้าว #งงไหม? 555555555555 อินมากบอกเลย อยากให้ไปค่ายครั้งนี้ข้าวไม่กลับมาหาทิวแล้ว เพราะดูเหมือนข้าวจะรู้อยู่ระหว่างทิวและมิน เอาให้หน่วงงงง ถ่วงตุ้มจนจมน้ำเลย #เม้นนี้บ้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 06-09-2015 05:19:54
เอิ่ม เราไม่ได้คิดว่าใครผิดนะ
สงสารฟางข้าวน่ะมันแน่นอนอยู่แล้ว
แต่พี่ทิวก็ไม่ควรจะไปให้ความหวังแต่แรกแล้ว ไปนอนด้วยแบบนั้นทำให้อีกคนคิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตน่ะ ไม่ดีเลยนะคะ แล้วพอจะมีรักแท้กับเขาบ้าง มันก็ต้องลำบากลำบนแบบนี้แหละ
เราชอบมินที่สว่างไสวมาก เข้าใจว่าข้าวคนจะรู้สึกตัวได้ซะทีนะ
รอตอนต่อไปเนาะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 06-09-2015 07:21:35
เอ่อ... แปะไว้ตรงนี้นะคะ

เรื่องยังคงเป็นทิว-ข้าวนะคะ

มินเป็นแค่ตัวแปรตัวหนึ่งที่เปลี่ยนทั้งคู่ให้เข้าใจกันมากขึ้นค่ะ ไม่ได้มาแทนใคร

^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 06-09-2015 11:09:33
ตอนนี้อ่านแล้ว พี่ทิวนี้ติดลบไปเลย อ่านแล้วงงกับพี่ทิวมาก   ตอนนี้ทิวมินเหมือนเป็นคู่หลักมากๆ  หลังๆอ่านแล้วรู้สึกเหมือนเป็นทิวมิน แล้วข้าวเป็นตัวประกอบมากกว่าอ่ะค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 06-09-2015 11:16:08
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 06-09-2015 11:49:29
เรื่องของแกเถอะทิว แกจะโทษฟ้า โทษดิน อะไรก็เรื่องของแก



ข้าวเอ๋ย เด็กน้อยผู้อาภัพ หนูจะรู้ใหม ว่าหนูถูกพี่ทิวที่หนูรักและเทิดทูล มองว่าที่หนู




อยากได้เขามีอะไรกับเขา นะเพราะหนูหาหลักยึด (เหมือนอิหนูมองหาป๋าเลี้ยง) เพราะหนูคิดจะเกาะเขาอยู่



ตาสว่างซะเถอะ ข้าว หนูคงต้องหางานทำให้ได้ ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย



แยกตัวออกมาเถอะ อย่าอยู่สร้างความรำคาญให้ นายทิวคนดีคนวิเศษเขาเลยลูก



ที่เขาชุบเลี้ยงหนูมาช่วงหนึ่ง เขาก็ได้สิ่งตอบแทนเป็นตัวหนูไปแล้วนี่นะ



คงไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว พยายามยืนให้ได้ด้วยตัวเอง อย่าไปเกาะเขากิน เขาดูถูกอยู่ในใจรู้ใหม



สำหรับมินหนูไม่ผิดหรอกลูก หนูจะทำอะไรก็ได้  ลมหนาวหนูยุ่งเรื่องชาวบ้านเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 06-09-2015 11:53:05
ก็ยังยืนยันนะว่าไม่ชอบข้าวฟ่าง

ยิ่งมีมินมาคอยตามใจแบบนี้  เห็นแก่ตัวเกินไป  ไม่ชอบ ไม่ชอบ ไม่ชอบ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 06-09-2015 12:20:54
สงสารข้าวฟ่างวะ


เดี๋ยวก็ให้คนอื่นมาจีบซะเลยนิเล่นตัวดีนัก  :ling1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 06-09-2015 13:48:35
เอิ่ม ฟางอยู่ด้วยกันขนาดนั้น อยู่ด้วยกันทุกวันก็ไม่แปลกที่อาจไม่รู้วันเกิด แต่ไม่รู้ว่าชอบอะไรนี่ก็เกินไปมั้ง พี่ทิวแลดูน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 06-09-2015 14:31:40
สงสารฟางข้าว แต่ก็สงสารพี่ทิวด้วยเช่นกันค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 06-09-2015 15:01:19
สงสารทุกคนเลย .___.
สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 06-09-2015 19:58:34
โอ๊ยปวดเฮดไม่อยากจะเซด เพลียๆ

แล้วแต่บุญเก่ากรรมใหม่เหอะ

ใครจะทำอะไรใครก็ทำไปเถอะ ให้มันเจ็บๆ กันไปเลย แล้วจบ แค่นี้แหละ ง่ายๆ

ข้าวก็เดินออกมาทำตัวประชดชีวิต

อิทิวก็ไปเอาน้องมินผู้แสนดีซะ  มินคงไม่ทำแบบนั้นใช่ไหม่ หวังลมๆแล้งๆ

หนาวรู้ดีจริงนะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 07-09-2015 10:26:31
ตอนนี้อธิบายความเป็นทิวไผ่ได้ดีมากเลยค่ะ แต่ก็สงสารฟางข้าว อยากให้ได้เจอคนดีๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 07-09-2015 11:08:59
น่าสงสารทิวไผ่ อยู่ในกรอบมานานมากละมีอิสระนิดเดียวเอง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 07-09-2015 11:40:34
น่าสงสารทั้งคู่นะ

แต่ถ้าไม่รัก ไม่ชอบกัน ทำไมปล่อยให้เลยเถิด

ความสัมพันธ์ทางกาย ที่ไม่ใช่คนรัก เข้าใจเป็นเรื่องปกติ

แต่ไม่น่าเกิดขึ้นกับคนที่คิดว่าจะช่วยเหลือนะ ในเมื่อตั้งใจเอ็นดูแค่ฐานะน้อง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 18-09-2015 07:38:38
แวะมาปูเสื่อรอจร้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 08-11-2015 21:12:38
 :mew2:  คิดถึงลมหนาวแล้วอ่ะ  คนแต่งพากลับมาที
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 10-11-2015 20:34:55
พายุกับลมหนาวจะรักกันตอนไหนนะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 10-11-2015 22:46:54
จริงด้วย รอลมหนาวอยู่น้าา  :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: นักกลอน ที่ 17-11-2015 23:47:47
รอ  ลมหนาวอยู่นะ คนแต่งกลับมาที  :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 06-12-2015 20:08:00
ในสัปดาห์นี้จะมาอัพนะคะ ^^"
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 06-12-2015 20:41:38
ในสัปดาห์นี้จะมาอัพนะคะ ^^"


วันนี้วันอาทิตย์แล้วนะคะ อิอิ  :m13:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 07-12-2015 14:22:40
 :mew6: :mew2: :sad4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่34 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ06/09
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 07-12-2015 15:30:01
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 08-12-2015 20:55:35
วันที่สามสิบห้า

(คีตา)

กลุ้มใจครับ... ยังกลุ้มใจอยู่ตั้งแต่วันนั้นยันวันนี้ วันหยุดที่ผ่านมาผมสุ่มไปผับนั้นอยู่สามสี่วัน โป๊ะเช๊ะพี่น้ำฝนเขาไปซะ สองวัน คู่ควงคนเดิมอีกด้วย... ยังดีที่ไม่เปลี่ยนคนทุกครั้งล่ะนะครับ เฮ้อ

พอเปิดเทอมมา... ก็เจอพี่เขานั่งกินข้างกระหนุงกระหนิงกับพี่กิตแต่เช้า หัวเราะคิกคักกันหวานชื่น รื่นรมณ์เป็นเฮลบลูบอยจนผมพูดอะไรไม่ออก

โอ้ย ให้ตายเหอะ ผมควรทำยังไงดีวะเนี่ย ปล่อยเอาไว้ดี ให้พี่กิตโดนสวมเขายาว ๆ ใหญ่ ๆ ไป หรือจะไปหักนอสาวต่างคณะคนนี้ดีวะ

"ทำหน้าอมขี้เลยนะแก"เสียงมาก่อนตัวสำหรับพี่เทคผม เดินมาพร้อมกับหนังสือหอบหล่นทับช้างตายในอ้อมแขน "เป็นไร หรือยังไม่เลิกคิดเรื่องนั้น"

"พี่รู้ว่าผมคิดไรอยู่หรือไง"ผมทำปากยื่นใส่พี่สาวตัวกลม หวิดโดนหนังสือที่มองแล้วเป็นน้อง ๆ ของสารานุกรมโบราณด่านเจดีย์ฟาดใส่ปาก

"ไม่รู้หรือไงว่าพี่เทคแกเป็นอับดุล"พี่เกดเชิดหน้าขึ้นผมกระจุย ก่อนจะวางหลังสือลง... โต๊ะจะพังไหมเนี่ย "หนังหน้าแกบ่งบอกขนาดนี้ ไม่รู้ก็ควายเรียกทวดละ"

"อับดุลเอ้ย"

"เอ้ย"

"ถามไรตอบได้"

"ได้"

"วันนี้ผมใส่กางเกงในสีไร"

"ครีม"ผมทำตาปริบ ๆ ใส่พี่เทคที่ตอบโต้มาชัดถ้อยชัดคำอย่างมั่นใจในคำตอบมาก... แม่ง ถูกด้วยเว้ย "เรื่องของชาวบ้านเป็นงานของพี่ ไม่รู้ไรซะแล้ว ไอ้น้อง"

พี่เกดทำท่าอย่างผู้มีชัย แบบนี้ใครจะเชื่อว่าพี่แกเป็นวินัยแฝงวะกันล่ะเนี่ย

"กังวลเรื่องไอ้กิตอยู่อ่ะเด่ะ โด่ว"เออ ผมเชื่อแล้วว่าพี่เทคผมเป็นอับดุล "พี่รู้ พี่เห็น พี่สัมผัสได้"

"เอ่อ... ตกลงพี่จะเป็นอับดุล หรือจะเป็นคุณเจน ฌาณทิพย์อ่ะ"เป็นน้องต้องขัดคอพี่ครับ แต่ผมควรจะนึกได้ก่อนว่า... พี่ของผมเป็นใคร

ปึก

"โอ้ย พี่"เต็ม ๆ กบาล สารานุกรมขมขื่นสะอื้นใจสลายธาตุลอยมาใส่หัวอย่างไม่ปราณีผมเลย "สารานุกรมหรือหลักศิลาจารึกเนี่ย"

"หยาบคาย! นี่มันกระดองเต่าพันปีของผู้เฒ่าเต่าต่างหาก"มีเชิดอีกต่างหาก เข้ากับกิริยากอดอกห่าม ๆ นั่นจริง... "อยากให้กิตมันตาสว่างล่ะสิ"

"ผมแค่... ไม่อยากให้พี่เขาโดนหลอกแบบนี้"เสียงของผมอ่อยลง ก็จริง ๆ นี่ ผมไม่อยากให้พี่กิตเป็นคนโง่ในสายตาคนอื่นด้วย

"ชอบกิตมันแล้วดิ"อับดุลพี่เกดถามผมตรงเป้า ผมอ้าปากกะบอกปฏิเสธแต่พี่เขาก็ขัดขึ้นมาก่อน "อย่ามาปฏิเสธ คิดว่าพี่ไม่รู้หรือไง"

"แล้วผมควรทำยังไงดีพี่..."ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ จิตตก “ถ้าปล่อยไว้แล้วพี่กิตรู้ที่หลังพี่เขาคงเสียใจ แต่รู้ตอนนี้... ก็ยังเสียใจอยู่ดี”

“เอ้า ในเมื่อรู้ว่ายังไงก็ต้องเสียใจ ก็ทำให้มันทำใจม้วนเดียวจบไปดิ”พูดง่ายแต่ทำยากนะเว้ย พี่เกด “น่ะ ทำหน้าหมาหงุดหงิดอีก ไอ้ลาบาดอร์ แค่ทำให้มันรู้จะยากอะไร”

“ยังไงล่ะพี่”

“ก็พอมันไปผับซะสิ แค่นี้ต้องถาม โว๊ะ”พี่แกทำหน้าเอือม แล้วแยกเขี้ยว (ที่ไม่มี) ของพี่แกออกมา “ไม่ต้องถามพี่เลยว่าทำไมพี่ไม่พามันไป ชิ”

“แล้วทำไมอ่ะพี่”ผมถามออกไป ไม่ได้กวนนะ แต่ดูพี่เขาก็สนิทกันดี ไม่น่าจะปล่อยทิ้งไว้แบบนี้

“เอ้า ถึงพี่จะหล่อ มาดแมน แฮนซัมกว่าใครหลายคน ไม่พอยังใจดี สปอร์ต กทม. ด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะชวนผู้ชายไปผับนี่หว่า”พี่เกดยิ้มเผล่ แล้วยื่นมือมาขยี้หัวผมที่นั่งอยู่ “เพราะอย่างนั้นเป็นหน้าที่ตัวผู้อย่างแกที่จะลากมันไปผับ ไปเจอความจริงเว้ย ไม่ใช่ตัวเมียอย่างพี่”

“โหย พี่ ถ้าไปรอบเดียวไม่เจอก็ต้องไปอีกตั้งหลายรอบ เงินล่ะเงิน”เรื่องใหญ่ของชีวิตเลยนะ เงินอ่ะ ผมไม่ได้รวยล้นฟ้านี่น่า

“เอา ก็บอกแล้วไงว่าสปอร์ต กทม.”พี่เทคผมแลบลิ้นให้เล็ก ๆ แล้วขยิบตา “ออกไปเซ่ ชอบเขาไม่ใช่เหรอ ออกเงินไปเด้ ทุ่มทุนหน่อย”

“โหยย พูดเหมือนจะออกให้”ผมทำปากยื่นใส่ ดูพูดเข้า ผมนี่หัวใจพองโจดีใจเก้อไปกระบุงใหญ่ ๆ นึกว่าจะมีป๋าเลี้ยง แม่ม เซ็งเลย

อดกินฟรี

“ไม่ต้องมาบ่น ไปบอกพี่หนาวโน่น อย่ามายุ่งกับพี่ ถ้าจะเลี้ยง พี่เลี้ยงหมูกระทะ 199 กินพุงแตกกันไปข้าง คุ้ม”งกชะมัด พี่ใครวะ
ผมเหล่มองพี่เทคที่อยู่สมาคมคนรวยแต่ขี้งกอย่างสุดเซ็ง เดี๋ยวรอดูต่อไปว่าพี่แกจะพาไปเลี้ยงสายที่ไหน หมูกระทะ 199 ที่พี่แกบอกผมก็เอา

ของฟรี เอาไว้ก่อน จริงไหมฮะ ทุกคน

เงินทองมีน้อย ใช้สอยอย่างประหยัด เก็บไว้อัดให้แฟนตอนคบ จะได้รบรักบนเตียงอย่างปลอดภัย ไม่ได้หื่นใต้สะดือ แต่ธรรมชาติของคนนะเออ

ก่อนจะคิด... หาแฟนให้ได้ก่อนดีกว่าคีตา

“ถ้าจะไปวันไหนบอกพี่ด้วยละกัน พี่ไปด้วย อยากไปกินเผือก อร่อยดี”ไม่ค่อยเลยพี่ผม แหม่ มีการยิ้มระรื่นให้อีก เอาเถอะ ๆ

“อะไร จะไปไหนกัน”เสียงนุ่มทุ้มที่คุ้นหูดังขึ้นจากข้างหลัง ผมกับพี่เกดสะดุ้งเฮือกแล้วหันไปมอง... อา... พี่ลมหนาว “พี่ไม่ใช่ผีนะ ทำหน้าอย่างกันเห็นผีไปได้”

“โหยพี่ มาเงียบ ๆ แบบนี้ เกดไม่หัวใจวายไปก็ดีแค่ไหนละ”พี่แกเอามิอทาบอกทำหน้าทำตาเจ็บปวดเจียนตาย

“เวอร์”พี่หนาวดีดหน้าผากพี่เกดไปจังเบอเร้อ เห็นแล้วเจ็บแทนเลยแหะ “จะไปไหนมาไหนก็ดูแลตัวเองกันด้วย ไม่ใช่เอาแต่ระวังคนอื่น รู้ไหม ทั้งคู่เลย”

“คร้าบ / ค้า”ผมกับพี่เกดตอบรับพร้อมกัน พี่หนาวหัวเราะเบา ๆ ปลดวินัยแล้วคนละเรื่องกับตอนยังเป็นวินัยเลยแหะ ตอนเป็นวินัยพี่เขาดูเคร่งขรึม...

แต่จริง ๆ พี่เขาก็ใจดีเหมือนกันนะ

“เฮ้ ลมหนาว”นี่ก็เป็นอีกเสียงที่คุ้นเคย พี่หนาวมุ่นหัวคิ้วแล้วหันไปหาผู้มาใหม่ที่ปั่นจักรยานมาเทียบข้าง ๆ “ผมได้รายชื่อมาแล้ว คุณจะไปดูการซ้อมรอบแรกไหม”

“กี่โมง”พี่หนาวหันไปคุยกับพี่พายุ

“ห้า... ผมต้องไปหาอาจารย์ก่อน คุณจะรอคุยต่อหรือไว้ที่หลัง”

“รอก็ได้ เช้าผมยกคลาส”

“โอเค...”พี่พายุตั้งท่าจะปั่นจักรยานออกไป แต่ก็หันมาหาผมก่อน “ไง เดือนเทคนิค ช่วงรับน้องได้พวกคุณเป็นฮีโร่ไว้เยอะ แล้วยังเป็นน้องหอผมอีก เอาไว้ผมจะพาคุณไปเที่ยวผับนะ ผมเลี้ยงเอง”

ป๊าด ได้เสี่ยเลี้ยงแล้วครับ พี่น้อง ผมพยับหน้ารับพี่เขา ไม่ปฏิเสธ ยังไงก็ต้องไปอยู่ดี แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย

“นี่คุณซ้อนจักรยานเป็นไหมเนี่ย ลมหนาว”

“แค่ซ้อน ทำไมผมจะไม่เป็น”พี่หนาวแยกเขี้ยวน้อย ๆ แล้วขึ้นซ้อนท้ายจักรยานของพี่พายุ “ขี่ดี ๆ นะ คุณพายุ อย่าคิดพิเรนทร์เชียว ผมไม่เล่นด้วยนะครับ”

“คร้าบ ๆ”

มาไว ไปไว... ดูแล้วเหมาะกันดีนะครับ พี่ลมหนาวกับพี่พายุ ดูโอเคกว่าอยู่กับพี่ทิว เวลาพี่ลมหนาวอยู่กับพี่ทิวดูหัวอ่อน ถึงพี่เขาจะดูน่าเชื่อถือจริง ๆ ก็เถอะ...

แต่คนที่แก้ปัญหาคนอื่นได้ มักจะแก้ปัญหาของตัวเองไม่ได้ล่ะนะ ผมคิดว่าพี่ประธานคณะแพทย์น่าจะเป็นแบบนั้นล่ะมั้ง...

ช่าง... เอาเป็นว่าผมได้เจ้ามือแล้ว

“ดีเนอะ อยู่ ๆ ก็ได้คนเลี้ยงเฉยเลย”พี่เกดกระพริบตาปริบ ๆ ดูยังมึน ๆ อยู่ อย่าว่าแต่พี่เกดเลย ผมยังมึนเลย ให้ตายเถอะ “ทำบุญมาดีนะเอ็ง”

“ผมก็ว่างั้นแหละพี่...”

“เออ พี่ไปเรียนก่อนละ เดี๋ยวจารย์แกล้งล็อกห้องอีก”พี่เกดโบกมือลาผมด้วยท่าทางร่าเริง “ตั้งใจเรียนเอาเกรดสวย ๆ มาให้พี่ดูด้วยล่ะ”

“ครับผม!”ผมตะเบ๊ะรับคำ พี่เขาหัวเราะ ผมก็หัวเราะ ความสุขเล็ก ๆ ล่ะนะฮะ

สายเทคมีไว้ก็ดีแบบนี้เอง ผมว่ายังดีกว่าโดดเดี่ยวเยอะ ใครจะมองว่ามีไม่มี ไม่ต่าง แต่ผมว่าต่าง โดยเฉพาะกองชีทเรียนและแนวข้อสอบที่พี่ยกมาให้

ถ้าไม่มีพี่... ก็ไม่มีแนว จริงไหม? ไม่มีคนอธิบายในส่วนที่เราไม่เข้าใจอีกต่างหาก โอเคว่าถามอาจารย์ก็ได้ แต่คำอธิบายของอาจารย์ของพี่ ของเพื่อนก็ต่างกัน

รู้กันนะครับ ทุกคนว่าฟังคำอธิบายของใครแล้วจะเข้าใจมากกว่ากัน มีจุดให้จำง่ายกว่ากัน อีกอย่าง เวลาหิวมีคนเลี้ยงข้าวด้วย
ของแพงอีกต่างหาก...

เฮ้อ ได้เจ้ามือแล้ว ขั้นต่อไปผมต้องไปชวนพี่กิตไปผับสินะ เดือนคณะผู้สุภาพ เรียบร้อย อ่อนโยนคนนั้นจะไปที่อบายมุขอย่างร้านเหล้าง่าย ๆ ไหมว้า

อยู่ ๆ มือถือก็สั่นขึ้นมา ผมหยิบออกมาดู อ่าว พี่เกดไลน์มา เพิ่งแยกกันไปแปปเดียวเอง

My Kade : ข่าวล่า มาไว ใจด่วน อักษรย่อ นฝ. ไปงานวันศุกร์

Key tA ♫ : ครับผม

My Kade : ไปเวลาไหนบอกด้วย

My Kade : พี่ต้องนัดป๊อป

Key tA ♫ : โอเคคร้าบบบ


ไวเกินความคาดหมายไปไหมนะ แต่ยิ่งไวอาจจะดีกว่าการที่ปล่อยให้คาราคาซังเอาไว้จนเป็นแผลเรื้องรังแบบนี้ก็ได้ล่ะมั้ง แล้วผมจะไปนัดพี่กิตได้ยังไงกันเนี่ย

เว้ยเฮ้ย พูดปุ๊ป เจอปั๊ป เดินมาคนเดียวด้วย ไม่เคยให้เตรียมใจเลย ถ้าตอนปกติผมคงยิ้มร่าเข้าไปทักพี่เขา... แต่ตอนนี้มัน... ยังไม่พร้อมเลย

อะไรกันวะคี ทำเหมือนเด็กสาวจะไปสารภาพรักอย่างนั้นแหละ แค่ชวนไปกินเหล้าเอง

“พี่กิตครับ”ผมวิ่งเข้าไปทักรุ่นพี่ที่เคารพรัก พร้อมส่งรอยยิ้มให้อ่านจริงใจ... โคตรของความมีพิรุธเลยล่ะฮะ “พี่กิตไม่รีบไปเรียนเหรอครับ”

“พี่ตื่นสายน่ะ”พี่เขาหัวเราะเบาๆ น่ารักอย่างแรง ผมยิ้มไปกับรอยยิ้มพี่เขา “รีบสุดชีวิตยังไงก็คงไม่ทันอาจารย์ล็อคห้องแล้ว เลยค่อยๆ เดินไปรอเรียนแลปดีกว่า แล้วคีล่ะไม่มีเรียนหรือไง”

“ครับ ผมเรียนบ่าย”ผมเดินถอยหลังไปคุยกับพี่เขาไป ความสามารถเฉพาะตัว เลียนแบบอาจโขกเสานะครับ “พี่กิต... ศุกร์นี้ว่างไหมครับ”

“ก็ไม่มีธุระที่ไหนนะ ทำไมเหรอคี”พี่กิตหยุดเดินแล้วมองหน้าผมด้วยรอยยิ้มเหมือนทุกครั้ง ท่าทีแบบนี้ของเขาทำให้ผมรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย แต่ก็ยังฝืนยิ้มตอบกลับให้พี่เขาเหมือนเดิม

“ผมกะจะชวนพี่ไปเมาก่อนสอบน่ะครับ”คนตรงหน้าผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แล้วหัวเราะออกมา “เอ่อ... ถ้าพี่ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะครับ”

“เปล่าๆ พี่แค่แปลกใจ”เสียงนุ่มๆ ของพี่กิตตอบกลับมาทำให้ผมหายใจคล่องขึ้นหน่อย “เอาสิ วันศุกร์นะ”

“ครับ เดี๋ยวผมนัดเวลาอีกทีนะ”

“โอเค... งั้นพี่ไปแลปก่อนนะคี แล้วเจอกันนะครับ”

“ครับ”

ผมมองตามหลังพี่กินที่สาวเท้าเดินไปห้องปฏิบัติการ รอยยิ้มของผมก็ค่อยๆ หุบลง เปลี่ยนเป็นความหนักใจ... ผมจะเป็นคนที่ทำให้รอยยิ้มของพี่กิตหายไปใช่ไหม...

เจ็บชะมัดเลย


(ลมหนาว)

ผับ บาร์ ร้านเหล้า สถานที่อโคจรต่างๆ ที่ปกติผมไม่มาหรอกครับ ถ้าไม่ติดว่าทั้งน้องเทค และหลานเทคผมพากันมาที่นี่ และยังมีพายุที่ไปลากผมถึงห้องเรียนมา

นานๆ ทีก็ได้อยู่ล่ะครับ

“หนาวว เอาสักช็อตไหม”ผมเหล่มองพายุที่นั่งชนแก้วกับเพื่อนร่วมคณะของมันอย่างนิคกับโอ้ต ยังมีน้ำใจหันมาถามผมอีกนะครับ

“ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ”ผมต้องปฏิเสธสิครับ หันไปมองอีกข้าง น้องเทคผมกับเพื่อนซี๊ของเขา น้องป๊อปนั่งชนไวน์นอกกันอย่างรื่นเริง

แต่หลานเทคผมนี่สิ ดูลุกลี้ลุกลนยังไงไม่รู้ มองซ้ายที ขวาที แล้วก็เหลือบมองหน้าน้องกิตที ดูแปลกๆ แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกันครับ คงได้แต่ลอบมองอยู่อย่างนี้

ผ่านไปสักพักทั้งเกดและคีมันก็หันไปมองที่ทางเข้าเป็นตาเดียว พาลให้ผมต้องมองตามไปด้วย อืม... ถ้าผมจำไม่ผิดนั่นน้ำฝนแฟนน้องกิต นัดกันมาด้วยเหรอครับเนี่ย

ร่างบางก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แต่แล้วก็เดินไปอีกทาง ไม่ได้เข้ามาทางนี้ ผมมุ่นหัวคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เธอคนนั้นจะเดินไปไหน ทั้งที่แฟนของเธอก็นั่งอยู่ตรงนั้น

“สนใจน้ำฝนเหรอหนาว”คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมเอียงหัวมาใกล้ๆ พร้อมกับส่งเสียงกระซิบถาม “ไม่แนะนำหรอกนะ เธอคนนั้นสวยจริง แต่ไม่ใส ไม่เหมาะกับนายหรอก”

“ผมไม่ได้สนใจเขา... แค่สงสัย”ผมกระซิบตอบกลับไปด้วยเสียงที่เบาไม่แพ้กัน “น้องคนนั้นเป็นแฟนกับน้องกิต ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่เดินมาหากิต”

“น้องกิตของนายเขายังไม่รู้อีกเหรอว่าผู้หญิงของเขาเป็นยังไงน่ะ”พายุมันเลิกคิ้วสูง แล้วหัวเราะออกมา “ดูตามไปๆ แล้วคุณจะรู้เอง”

ระหว่างที่ผมมองตามไป เกดมันก็ใช้เท้าสะกิตเดือนคณะรุ่นของมัน พยักเพยิดให้มองไปที่แฟนเจ้าตัว กิตเขาก็มองตามไปนะครับ แล้วผุดลุกขึ้นอย่างเร็ว ดูท่าแล้วจะเดินเข้าไปหาน้องนำฝน แต่ถูกน้องเทคผมนี่แหละ เอาขาเกี่ยวไว้ไม่ให้เดินไป

“มึงนั่งดูเฉยๆ เลยกิต ดูให้ตามึงสว่าง ไม่ต้องคิดจะเดินไป ถ้าถึงเวลา กูจะเดินไปกับมึงเอง”กิตนั่งลงตามคำของเกดมัน ในขณะที่สายตาของน้องเขาไม่ละไปไหน พอกันกับผม

ครั้งนี้คงต้องเป็นผมกับเดือนปีสองที่ต้องตกใจ เมื่อน้องน้ำฝนทรุดลงไปนั่งตักของผู้ชายที่พวกผมไม่รู้จัก มีหอมแก้มซุกไซร้ราวกับเป็นคนรักกัน น้องกิตเบือนหน้ามาหาเกดด้วยนัยน์ตาที่สั่นระริก ใกล้จะร้องไห้อยู่แล้ว แววตาของเขาฉายแววเจ็บปวด

“ไปเถอะกิต ไปทำเรื่องนี้ให้จบ”น้องผมลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วพาตัวของกิตไป โดยข้างหลังมีน้องป๊อปกับคีเดินตามไปด้วย “เราไม่อยากให้นายเป็นคนโง่อีกแล้วล่ะ กิต”

กิตเดินเข้าไปหาสองคนนั้น น้ำฝนตกใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ดูไม่แคร์อะ ที่น่าเป็นห่วงคงเป็นสายตากับท่าทีคุกคามของผู้ชายคนนั้นที่มองกิตอย่างเหยียดๆ ผมกลัวว่าจะมีเรื่องกันแล้วจะมีผลถึงการสอบในอาทิตย์หน้า

ถ้ามีปัญหาจริง ผมก็คงต้องลุยสักตั้งล่ะครับ จะปล่อยให้ใครมาทำอะไรน้องๆ ของผมได้ยังไง

“เห็นแล้วล่ะสิ”พายุยิ้มอย่างอ่อนใจ ตาเหลือบมองภาพตรงหน้า “ถือว่าตาสว่างกันไปล่ะนะ ดีกว่าโดนหลอกอยู่แบบนั้น ผู้หญิงสวยน่ะเยอะ แต่จูบจะหอมสักกี่คน”

“ประสบการณ์คุณคงเยอะไม่เบาล่ะสิ ถึงพูดแบบนี้ได้น่ะ”ผมกัดไปทีนึง แล้วหยิบโค้กขึ้นมาจิบ “ระวังติดโรคเข้าสักวันแล้วจะรู้สึกนะครับ”

“ผมไม่ได้มั่วขนาดนั้นเสียหน่อย”เฮดของวิศวะเหยียดยิ้มให้ผม พร้อมกับมองมาด้วยแววตาวิบวับ “อีกอย่างตอนนี้ผมก็ไม่มีใครด้วย”

“บอกผมทำไม”

“ก็แค่อยากให้รู้เอาไว้น่ะ”ผมหันไปมองหน้ามันอย่างไม่เข้าใจ จะให้ผมรู้ไปเพื่ออะไรกันล่ะครับ “ว่าผมรอคนๆ นึงอยู่ และจะรออยู่อย่างนี้”

“แล้วไม่ไปบอกเขาล่ะ”ผมถามกลับไป

“ผมบอกไป เขาก็ไม่สนใจจะรับฟังหรอก”ดวงตาของหมอนั่นฉายแววที่แสนเศร้าใจ “ผมบอกไปตอนนี้... มันคงยังไม่มีค่าอะไรกับเขา”

“...”ผมยักไหล่แล้วเลิกสนใจคนข้างๆ หันกลับมาสนใจเหตุการณ์ตรงหน้าแทน ซึ่งมันทำให้ผมไม่ได้ยินประโยคที่แสนแผ่วเบาที่คนข้างกายนั้นต้องการจะบอก

“ผมรอคุณอยู่นะ ลมหนาว”


๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒

มาต่อแล้วนะคะ หายไปนานมาก ฮ่าๆ ตอนต่อไปยังเป็นของคีอยู่ และต้อจากนั้นเป็นปันปัน ต่อไปอีกถึงจะเป็นพายุลมหนาวโกอินเตอร์ค่ะ ฮิ้ววว

// ตอนของคู่อื่น เราก็มีโมเม้นคู่หลักได้นะคะ ^^

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าค้าา

ขอโทษที่หายไปนานนะคะ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 08-12-2015 21:22:49
 :katai5: รอความหวานของพายุ&ลมหนาววววว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 09-12-2015 00:12:46
สงสารกิตตตตต
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 09-12-2015 01:16:09
ทิวมิน
ทิวข้าว

โลกสวยสุขนิยม ทิวมิน
โลกเศร้า ฟันฝ่าทิวข้าว

ต่อไปพาร์ททิวและน้องๆ ขอข้าม ตะเตือนไต ตั้งแต่นักแต่งเฉลยทิวข้าว

คีกิต เรียล ชอบๆๆๆๆๆ
เมฆ หาสักคนเหอะ ถ้าหัวใจสลาย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-12-2015 15:24:43
ทิวมิน
ทิวข้าว

โลกสวยสุขนิยม ทิวมิน
โลกเศร้า ฟันฝ่าทิวข้าว

ต่อไปพาร์ททิวและน้องๆ ขอข้าม ตะเตือนไต ตั้งแต่นักแต่งเฉลยทิวข้าว

คีกิต เรียล ชอบๆๆๆๆๆ
เมฆ หาสักคนเหอะ ถ้าหัวใจสลาย

เมฆเรื่องหน้าค่ะ คู่นาง 5555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 09-12-2015 16:26:28
 :katai1: :katai1: :hao7: ผมรอคุณอยู่นะ ลมหนาว”  :hao7: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-12-2015 18:08:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 09-12-2015 21:55:08
พายุลมหนาวววววววววว~~~~
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 10-12-2015 01:26:57
โถๆ อีกนานกว่าคู่หลักจะได้กัน สงสารพายุจัง

กิตเอ้ย ชะนีแบบนั้นอย่าไปสน ปล่อนนางเข้าป่าไปเลยค่ะ

มาสนเดือนหล่อๆดีกว่าค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-12-2015 18:29:30
โถๆ อีกนานกว่าคู่หลักจะได้กัน สงสารพายุจัง

กิตเอ้ย ชะนีแบบนั้นอย่าไปสน ปล่อนนางเข้าป่าไปเลยค่ะ

มาสนเดือนหล่อๆดีกว่าค่ะ

อีกนานจะได้กัน แต่อีกไม่นานจะคบกันค้าา (อุ๊บส์)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 10-12-2015 23:36:14
พายุกับลมหนาว กรุบกริบมากค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 11-12-2015 07:27:20
ลมหนาวกับพายุนี่ถึงจะไม่หวาน ไม่ฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้ง แต่ฟินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

กิตน่าสงสารอ่ะ ถ้าจะทำให้เห็นเองแบบนี้ก็ควรทำตั้งแต่แรกเริ่มคบกันใหม่ๆ ดิ จะได้ไม่ต้องเสียใจขนาดนี้
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่36 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/12
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-12-2015 00:12:11
วันที่สามสิบหก

(คีตา)

หลังจากที่พี่กิตได้เห็นพี่น้ำฝนในสภาพของสาวเปรี้ยวที่นั่งอ้าขาให้กับผู้ชายอีกคนในวันนั้นและเลิกกันจนเป็นที่โจษจันในมหาลัย พี่เขาก็เก็บตัวเงียบ มาเรียน กลับหอ ไม่ออกมาเฮฮากับเพื่อนอย่างเคย

ระยะทำใจ... คงจำกัดความได้เท่านี้

ตัวผมเองก็ได้แต่แอบมองพี่เขา เอาน้ำ เอาขนมไปแขวนไว้หน้าประตูห้องพร้อมโน้ตให้กำลังใจแผ่นเล็ก ๆ หวังให้พี่เขากลับมายิ้มได้ในเร็ววัน

ส่วนพี่น้ำฝน ดูจะไม่แคร์กับการเลิกกับพี่กิตนัก เธอยังยิ้ม ยังหัวเราะและควงหนุ่มคนใหม่ได้ในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งไม่เป็นที่แปลกใจของหลายคนนัก

ต่างคนต่างความคิด ผมเองก็ได้แต่ปล่อยไปกับเสียงลือด้านลบที่ออกมาโวยวายพี่กิต... ในเมื่อพี่เขาเองยังไม่ใส่ใจ ผมจะไปเสือกก็ใช่ที่

เมื่อเรา... ไม่ได้เป็น... อะไรกัน

ท่องไว้ไอ้คี เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็แค่คนที่แอบรักข้างเดียว อย่าหวังสูงไป ตกลงมาจะเจ็บเกินกว่าจะรับไหวเอานะ อย่าถลำลึกลงไปมากกว่านี้

ตัดใจก่อนที่จะเสียใจเกินกว่าจะทำใจได้ดีกว่า

อาจจะเป็นโชคดีอย่างนึงที่มีน้อยนิดในปีนี้นะฮะ ที่หลังจากความจริงกระจ่างไม่นานมรสุมไฟนอลก็พัดเข้ามา... หรือมันจะโชคร้ายกันแน่นะ

ผมเหลือบมองร่างที่ผ่ายผอมลงจนเหมือนจะปลิวลมไปได้ทุกเมื่อของพี่กิตแล้วเจ็บในใจ คนดีๆ อย่างพี่เขาทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ทั้งที่พี่เขาทำดีทุกอยาก เอาใจใส่ ดูแล แต่ทำไมคนที่พี่เขารักถึงต้องทรยศต่อความรักของพี่เขาแบบนี้

คนเลือดเย็น!

ผมได้แต่หวังว่าพี่เขาดีกลับมายิ้มได้ในเร็ววัน... แต่ก่อนหน้านั้น

ขอผมเอาตัวรอดจากไฟนอลที่ร้ายนี่ก่อนดีกว่า เรียนเอาถ้วย สอบเอาโล่ ข้อสอบครอบจักรวาลเรียนมาเท่าหางอึ่ง จะรอดไหมวะเนี่ยยย

สาธุ แนวพี่เกดช่วยลูกหมีด้วย

แต่.. พี่เกดเคยบอกว่าก่อนสอบ อันดับแรกที่ต้องทำคือไปบนก่อน ค่อยมาเปิดหนังสืออ่าน เรียงให้ดี ไฮไลท์ไม่ต้องขีด มันมาทั้งหน้านั่นแหละ วงๆที่คิดว่าโดนเอาไว้ แล้วลุยเลย หมาแมวมาแน่

แล้วถ้าอยากได้นกกับมดผมต้องทำไงล่ะเนี่ย พี่เทคผมแม่ง สมาคมคนรักสัตว์สี่ขาชัดๆ

ผมงมอ่านหนังสือไป แต่ไม่ลืมเอาของกินอร่อยๆ ไปแขวนหน้าห้องพี่กิตเช้าเย็นหรอกนะฮะ ทำไงได้ล่ะ คนมันกลัวพี่เขาอดนิ แค่นี้ก็ซูบลงไปเยอะแล้ว

เช้าไปสอบ บ่ายถึงดึกอ่านหนังสือ งีบสักนิดแล้วลุกขึ้นมาอ่านต่อ นี่คือกิจวัตรของนักศึกษาไฟนอล แต่ก็ยังดีกว่าต้องทำงานส่งแบบคะแนนขึ้นอยู่กับความติสของอาจารย์ล่ะนะฮะ

พี่เทค ลุงเทคผมนี่ตาโหลกันสุดๆ ถือกาแฟคู่ตำราเดินลากขากันทุกวัน เทคนิคต้องอดทน เชื้อมาชนต้องไม่ตาย นี่ขนาดผมยังไม่เข้าวิชาคณะยังจะตายแหล่มิแหล่

แล้วเข้าวิชาคณะจะตายห่าขนาดไหนวะ

บ่นไปเพื่อระบาย แต่สมองก็ยังต้องทำงานต่อไป ไม่มีใครอยากจะติดเอฟตั้งแต่เทอมแรกหรอกจริงมะ เพราะงั้นขยันเข้าไว้แล้วจะดีเอง

ลุ่มๆ ดอนๆ มาจนถึงวันสุดท้ายของการสอบ สมองผมจะระเบิดเป็นโกโก้ครันซ์แล้วเหลือแต่ฟางข้าวเอาไว้ ถึงจะทรุด จะโทรมกันมาขนาดนี้ แต่ทำไมพวกผู้หญิงยังมีอารมณ์มาตบแป้ง ทาปาก เขียนคิ้ว ปัดแก้มกันอีกวะ

เทพสัส

"รอดแล้วโว้ยยย"ทะเลมันก้าวออกจากห้องสอบปุ๊ป ส่งเสียงลั่นไม่เกรงใจอาจารย์ทันที แต่อาจารย์แกคงชินละ ไม่ใช่มันคนแรกนี่หว่า หลายคนรวมทั้งผมด้วย ฮาา "แบบนี้ต้องฉลองงง"

"ไม่มีตังค์ จบ"ตัดบทก่อนที่มันจะชวนไปไหน เงินผมแทบจะติดลบแล้ว ก็นะซื้อข้าวซื้อน้ำให้พี่กิตทุกวันจะเดือนนึงแล้วนี่... แต่มันก็คุ้มนะฮะ พี่เขาเริ่มยิ้มได้ เริ่มสดใส เงินพวกนั้นถือว่าชิวๆ

"โหยยยยย"เสียงโหยหวนของเพื่อนเลดังขึ้น พร้อมกับเสียงหัวเราะขบขันจากเพื่อนคนอื่น สมน้ำหน้า รู้ทั้งรู้ว่าผมเอาเงินไปทำอะไรหมดแท้ๆ

"ไปสิคะ คี เดี๋ยวแกรนด์เลี้ยงเอง"เสียงหลานของผู้หญิงที่หายไปจากสารระบบชีวิตผมพักใหญ่ จนแทบจะหายไปจากความทรงจำว่ามีผู้หญิงคนนี้วนเวียนอยู่ด้วย

"ไม่ดีมั้งครับ"ผมยิ้มการค้าให้กับสาวต่างคณะที่พี่เทคผมเบ้หน้าใส่รัวๆ "ผมเป็นผู้ชาย จะให้ผู้หญิงมาเลี้ยงได้ไง จริงไหมครับแกรนด์"

"ไม่เห็นต้องเกรงใจเลยค่ะ คี นี่ไม่ใช่ยุคที่ผู้ชายต้องเลี้ยงเลดี้สักหน่อย"แม่คุณยิ้มนางแมวมาให้ผม สยองยังไงพิกลๆ แหะ “นะคะ ไปนะ”

ผมยิ้มเฝื่อน ใจนึงก็อยากไปเที่ยวกับเพื่อนนะ แต่อีกใจผมไม่อยากไปกับผู้หญิงตรงหน้านี้... หรือผมควรจะใช้บริการพิเศษจากพี่ตัวกลมของผมดีวะ

“คีจะไปเที่ยวเหรอ”เสียงเบาๆ แว่วมาจากข้างหลัง เสียงที่คุ้นเคยทำให้ผมต้องหันไปหาโดยอัตโนมัติ “ไปสิคี เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ยังไม่ได้ขอบคุณเรื่องวันนั้นเลย”

พูดถึงวันนั้นพี่กิตก็ทำหน้าเศร้า เพื่อนๆ ของพี่เขาตบบ่าให้กำลังใจ พี่กิตยิ้มรับกำลังใจเหล่านั้น สีหน้าก็ดูสดชื่นขึ้นเยอะเลย
ดีแล้ว ที่ยิ้มได้

“จะไปดื่มกันอีกแล้วเหรอ”เสียงเย็นๆ ดังขึ้นมาให้เสียวสันหลัง จะมีสักกี่คนที่มีลักษณะเหมือนชื่อได้เท่านี้... ต้องบอกไหมครับว่าใคร “จะทำอะไรดูแลตัวเองกันด้วยนะ”

“คร้าบบบ”ผมกับเพื่อนตอบรับกัน พี่หนาวส่ายหน้าน้อยๆ แล้วก้าวออกไป ผมมองตามไปเห็นข้างหน้า พี่พายุยืนอยู่ หลังๆ มานี้ผมเห็นพี่สองคนอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นนะเนี่ย

ไม่ค่อยกัดกันแล้วด้วย

“เดี๋ยวผมจ่ายเองก็ได้ครับพี่กิต”คนอื่นชวนให้ตายผมก็ปฏิเสธได้หมด...แต่ยกเว้นไว้คนนึง คนเดียวเลย

พี่กินทำปากยู่มองหน้าผม แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

“งั้นเจอกันตอนหกโมงครึ่งนะ เดี๋ยวไปพร้อมกัน... ทุกคนเลย”

“ครับ/ค่ะ”... ลืมไปเลยว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ด้วย

และแน่นอน... เมื่อมีประสงค์จะเรียนเชิญ ผมก็ต้องส่งสัญญาณSOS ไปหาพี่เทคที่ไม่แน่ใจว่ากลับไปนอนอืดแล้วหรือยัง... จากสเตตัสโดนเชือดหน้าเฟสบุ๊ค

คำตอบของพี่เขาก็มีอย่างเดียวนั่นล่ะ

‘เออ ไว้เจอกัน’

พี่เทคผมน่ารักใช่ไหมล่ะ


หลังจากนอนไปงีบนึง ผมก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปท่องราตรี เงินเหลือไม่เยอะ แต่เดี๋ยวก็เข้าใหญ่แล้ว ปิดเทอมเดือนนึงนี้ผมไม่ได้กลับบ้าน กลับไปก็เท่านั้นแหละ จะให้ไปเป็นส่วนเกินในครอบครัวใหม่ สู้ให้ผมอยู่คนเดียวดีกว่ากันเยอะ

ทะเลมายืนรอก่อนแล้วคนแรก ใกล้ๆ มียิปโซกับนนท์นั่งอยู่บนฟุตบาท ผมมาถึงคนที่สี่ ผ่านไปสักพัก สาวต่างคณะอย่างแกรนด์ก็เดินมา หน้าเธอจัดเต็มมาก... แล้วพี่กิตกับพี่บิ๊กก็ตามมาถึง

“พี่เกดไม่ไปเหรอวะ?”ไอ้เลหันมาถามผม เมื่อพวกเราเดินออกจากโรงอาหารไปขึ้นรถกัน “หรือไม่ได้ชวน?”

“ไปเจอกันที่ร้าน พี่เขามีรถนะมึง”ทะเลทำหน้าถึงบ้างอ้อ พี่แกทำตัวติดดินจนจะจมดิน ทำให้หลายคนคงลืมไปว่าพี่เกดกับเพื่อนพี่เขามีฐานะอยู่

ถึงจะขี้งกไปหน่อยก็เถอะ

พอพวกผมไปถึงร้าน ก็เจอพี่เกดกับพี่ป๊อปนั่งเล่นหมากรุกกันอยู่ ไม่รู้จะติสกันไปไหน เอาหมากรุกเข้ามาเล่นกันในผับเนี่ยนะ

“มากันแล้วเหรอ”พี่เกดถามขึ้น เมื่อพวกเรานั่งลงที่โต๊ะ “สั่งกันเองนะ”

ผมนั่งข้างพี่กิต อีกข้างเป็นทะเล ส่วนยิปโซกับแกรนด์นั่งด้วยกัน เราสั่งกับแกล้มกับเบียร์มาจิบกันเบาๆ ก่อน เดี๋ยวจะเมากันตั้งแต่หัวค่ำมันจะไม่สนุกเอา

พอเริ่มดึกหน่อย บรรยากาศในผับก็เริ่มคึกคัก คนในโต๊ะเราออกไปยักย้ายส่ายเอวกันแล้ว พี่กิตยังนั่งจิ๊บเบียร์อยู่ข้างผมเหมือนเดิม พี่เขายังคงดูเศร้าๆ อยู่

แต่นั่นล่ะนะ เวลาจะเป็นเครื่องช่วยเยียวยาหัวใจเอง

ผมนั่งอยู่ได้อีกพักนึง ก็มีสาวใจกล้าคนหนึ่งมาลากออกไปเต้น ไม่รู้ว่าด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้ผมยอมเต้นไปกับพวกเธอ

เต้นอยู่สักพัก แกรนด์ที่ออกมาเต้นคนแรกของโต๊ะก็เดินยิ้มตาเยิ้มเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับแก้วเหล้า เธอยื่นให้ผมดื่ม วันนี้มาเพื่อเมา เอ้า ดื่มสิรออะไร

ยิ่งดึกยิ่งคึก ผมรู้สึกร้อนเลยเดินกลับไปนั่งที่โซฟา พี่กิตกันมามองผม มองทำไมกัน ยิ่งมอง เหมือนยิ่งให้ความหวังผม มันเจ็บนะ
แต่นอกเหนือจากความหน่วงในใจ กับสติที่เริ่มมึนๆ ทำไมตัวมันร้อนๆ อย่างนี้วะ

ร้อน... ข้างล่างด้วย

ผมกระดกเหล้าเข้าไปหลายแก้ว ไม่รู้อะไรแล้วทั้งนั้น ร้อนโว้ย

“คี... หน้าแกแดงนะ”พี่เกดเดินเข้ามาดูผม พี่ทำไมพี่เกดมีสองคนหว่า ไม่ดิ มีคนเดียวนี่หว่า สติผมชักจะเลือนแล้วดิ “เมาแล้วใช่ไหม”

“ไม่ ผมไม่ได้เมาสักหน่อย แค่มึนๆ เฉยๆ เองงง”ผมปฏิเสธทันที ก็ไม่ได้เมาจริงๆ นี่น่า แค่ร้อน... และร้อนขึ้นเรื่อยๆ

“นี่... แกไปรับแก้วเหล้าจากคนแปลกหน้ามากินเปล่าเนี่ย”พี่เกดหรี่ตาลงมองอย่างจับผิด ผมเลยได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งให้พี่เขาไป “แม่ง อย่าทำตัวใสซื่อดิวะ ไปรับมากินได้ไง”

“เดี๋ยวเราพาคีกลับก่อนก็ได้เกด น้องเขาคงไม่ไหวแล้ว... เกดดูน้องที่เหลือได้เปล่า”พี่กิตลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วยื่นมือมาจับตัวผมไว้ “ไปครับคี กลับกันเถอะ”

ผมลุกขึ้นแบบเซๆ ตามพี่เขาไปต้อยๆ อา... ทำไมตรงที่มือพี่กิตจับมันร้อนวูบวาบจังนะ

“หวังว่าจะไม่โดนยานะ...”เกดที่มองตามไปอดพึมพำกับตัวเองไม่ได้ และเป็นคำที่ไม่มีใครได้ยิน...


(กิต)

สวัสดีครับทุกคน เราไม่เคยเจอกันเลย ผมกิตนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะ แต่ตอนนี้ผมคงต้องพาเด็กโข่งกลับไปที่หอก่อนล่ะครับ

ผมพาน้องคีขึ้นแท็กซี่กลับมาที่หอ ตลอดทางน้องเขาขยับตัวยุกยิกเหมือนว่ากำลังอึดอัด แต่ก็ไม่น่าจะอึดอัดนะครับ น้องก็ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ธรรมดา

เราใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงหอ ผมพยุงพาคีขึ้นไปบนห้องผม วันนี้คงต้องให้น้องนอนที่ห้องด้วยกันไปก่อน จะให้ผมเอาน้องไปส่งห้อง ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าห้องน้องคีอยู่ไหน

“คีครับ นอนดีๆ เร็ว”ผมลากน้องขึ้นไปนอนบนเตียงดีๆ แล้วสักพักก็กลิ้งลงมานอนที่พื้นอีก เด็กดื้อคนนี้นิ “ขึ้นไปนอนดีๆ สิครับ”

“อืออ พี่กิต พี่กิต”น้องพึมพำชื่อผมไม่หยุด ไม่พอดึงตัวผมลงไปกอดเอาไว้อีก อะไรของเขากันครับ “พี่กิตตัวนุ่มจังเลย... อา... ไม่สิ พี่กิตน่ะนะจะให้ผมกอด ฮ่าๆ”

“คี พูดอะไรน่ะ”ผมมองน้องที่กอดผมอยู่อย่างไม่เข้าใจ

“ฮ่าๆ บอกก็ได้ๆ นี่เห็นว่าเหมือนพี่กิตนะเนี่ยยยยย”น้องคียิ้มหวานแล้วกอดผมแน่นขึ้น พร้อมกับพลิกกายขึ้นข้างบนตัวผม “ผมชอบพี่กิต ชอบ ชอบ ชอบ ชอบมากกก แต่บอกไม่ได้ อยากกอด อยากจูบ อยากกด อยากดูแล แต่ก็ได้แค่คิดดด คิดต่อไป ทำได้อยู่แค่นั้นแหละ ฮ่าๆ ถ้าทำอย่างที่ใจอยากทำ มันคงทำให้พี่กิตเสียใจ”

น้ำตาของคีหยดลงที่หน้าของผม น้องเม้มปากแน่น ก่อนจะฉีกยิ้มขื่น

“ร้อน...”น้องคีพึมพำเบา ๆ ก่อนจะผละออกไปจากตัวผมแล้วถอดเสื้อออก “อื้ออ ทำไมมันร้อนอย่างนี้”

จะมีสักกี่คนที่เมาแล้วยังพูดได้เป็นคำๆ ฟังรู้เรื่องอย่างคนตรงหน้าผม... คีตาถอนเสื้อผ้าตัวเอกออกจนเหลือแต่บ็อกเซอร์ตัวใน... ทำให้ผมเห็นอะไรบางอย่าง

“พี่ว่า... พี่ควรจะไปอาบน้ำ...”ผมก้มหน้าลงปิดบังแก้มที่แดงเรื่อ ก็คีน้อยเล่นโด่ออกมาชัดซะขนาดนั้น ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกัน ใช่ว่าผมจะไม่เขินนี่ครับ

“อื้ออ ไม่ให้ไป”คีทิ้งตัวลงมาทับผม ใบหน้าของน้องซุกไซร้ที่ซอกคอผมว่าสถานการณ์มันไม่ดีแล้ว... ไม่ดีแน่ๆ “หอมจังเลย”

“ปล่อย... ปล่อยพี่นะคี”ผมพยายามผลักเอาตัวของคีออก แต่แรงของคนเมาอย่างน้องทำไมถึงมากกว่าคนสติดีอย่างผมก็ไม่รู้... ผิดเองแหละครับที่ไม่ค่อยเล่นกีฬาน่ะ

“ไม่ปล่อย ไม่ปล่อย”

“ไม่เอานะคี”ผมร้องเสียงหลงเมื่อมือร้อนที่ซุกซนนั้นเลื้อยเข้ามาในเสื้อของผม “หยุดนะคี หยุดเดี๋ยวนี้เลย”

“อื้ออ”คีร้องออกมาอย่างหงุดหงิน ก่อนจะกระชากดึงเสื้อผมออก

ผลั่ก

ผมถีบหน้าท้องแข็งของน้องปีหนึ่งคนสนิทไปเต็มแรง ทำเอาคีกระเด็นตกเตียงไป ค่อยยังชั่วหน่อย... หรือเปล่านะ

ก็แทนที่คีตาจะหยุดทำอะไรผม แต่เหมือนจะไปเติมเชื้อเพลิงให้โหมขึ้น น้องเลยดีดตัวขึ้นมาคล่อมผมอีกรอบ แล้วกระชากเอาทั้งกางเกงและบ็อกเซอร์ของผมออกไปรวมเดียว

“คี อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ”ผมดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนของเดือนปีหนึ่ง แต่นอกจากน้องจะไม่ปล่อยผมแล้ว พอผมทุบไปที่บ่าแข็ง มันก็เอาเข็มขัดกางเกงของตัวเองที่ถอดทิ้งไว้มามัดมือทั้งสองข้างของผมไว้กับหัวเตียงแทน

“พี่กิตต ผมชอบพี่นะ ชอบมาก พี่อย่าเสียใจเรื่องพี่น้ำฝนนะ”คำที่แว่วเข้าหูทำผมชะงักไปมองคนที่พรมจูบที่แผ่นอก ลากลงไปที่หน้าท้องผม “ผมเห็นพี่เจ็บแล้วผมเจ็บยิ่งว่าอีก... ผมจะทำให้พี่มีความสุขนะ”

บางที... ผมคงเป็นคนที่ความรู้สึกช้าจนทำร้ายจิตใจของน้องชายคนนี้ไปไม่น้อย... แต่ทำไมพอได้ยินแบบนี้แล้วถึงรู้สึกอบอุ่นในหัวใจก็ไม่รู้สิครับ

“โอ้ย คี พี่เจ็บ”ยังไม่ทันที่จะได้ซึบซับความอบอุ่นนั้นอย่างเต็มที่ ความเจ็บก็แล่นแปรบขึ้นมาทั่วตัว ผมหลุบมองขึ้นไปตามสะโพงที่ถูกยกขึ้นเห็นนิ้วเรียวของคีล้วงเข้าไปในร่างของผม “ไม่เอานะคี หยุดนะ”

ผมพยายามดิ้นอีกครั้ง พยายามถีบอกของน้อง แต่มันก็ยิ่งเหมือนตัวเร่งเวลา

คีดึงนิ้วออกจากตัวผมไป ก่อจที่จะยกตัวขึ้น ดึงรั้งบ็อกเซอร์ตัวเองออก จับขาของผมที่ถีบตัวเขาไม่หยุดให้แหกกว้าง ก่อนจะดันคีน้อยเข้ามาทางข้างหลังของผม

“โอ้ย ไม่ หยุดนะคี”ความเจ็บปวดยิ่งกว่าตอนแรกแล่นขึ้นมาทั่วทุกประสาทสัมผัส เหมือนตัวผมถูกฉีกเป็นชิ้นๆ “ฮึก ไม่เอา ไม่...”
คำของผมคงไปไม่ถึงหูของคนตรงหน้า เมื่อคีตาเลื่อนมือมากุมสะโพกผมไว้ แล้วดันตัวเข้ามาลึกเรื่อยๆ อย่างดื้อดึง ผมรู้ได้เลยว่าปากทางของลำไว้ตรงของผมฉีกขาด

เจ็บจนชา...

พอเข้ามาสุดแล้ว น้องเขาก็โน้มตัวลงมาจูบผม ดวงตาที่มองตรงมาฉายชัดถึงใบหน้าผม ความลุ่มหลงที่น้องมอบให้ ผมไม่รู้แล้วว่าตอนนี้คีตากำลังเมา หรือว่าได้สติ

แต่ที่รู้... คืออ้อมแขนของน้องมันอบอุ่นมาก รสจูบที่เขามอบให้ก็หวานมากเช่นกัน

เมื่อผมเริ่มปรับตัวได้ สะโพกตึงที่นิ่งอยู่ก็ขยับออก ความอุ่นร้อนที่แทรกในตัวมันขยับไปตามจังหวะการกระทบกันของผิวเนื้อ
ความเจ็บ... เปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน

“อา... พี่กิต พี่กิตของผม”เสียงที่เรียกชื่อผมดังก้องเข้าไปถึงในหัวใจ ไม่ว่าคีจะมีสติไหม แต่ชื่อที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางก็เป็นชื่อผม

ชื่อของผมที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจของเขา

ผมยอมอ้าขาให้น้องกระทำชำเราอย่างเต็มใจ ถึงจะขัดขืนในตอนแรก... แต่ตอนนี้ผมเต็มใจ

เต็มใจที่เป็นหนึ่งเดียวกับเขา

คีจูบผมซ้ำๆ แรงกระแทกที่ช่วงล่างนั้นหนักหน่วงขึ้น มือหยาบร้อนกุมส่วนอ่อนไหวของผมเอาไว้แล้วขยับขึ้นลง

“อ๊ะ อ้า... คี... คีตา”ผมครางออกมาเสียงแผ่ว ความร้อนในร่างกายวูบลงไปรวมกันอยู่ที่ท่อนเนื้อในมือของชายที่กำลังกุมมันไว้
น้ำสีขุ่นพุ่งออกมาจากส่วนปลาย พร้อมๆความความรู้สึกอุ่นร้อยที่คั่งเข้ามาในท้องน้อยของผม... คีตาปล่อยน้ำอสุจิเข้ามาในตัวของผม

เสียงหอบของเราสองคนประสานกันในห้อง ความเหนื่อยล้าทำเอาผมง่วงงุน คีปลดเข็มขัดที่พันธนาการมือผมออกไป แต่ยังไม่ทันที่จะได้ปิดเปลือกตาลง ร่างของผมก็ถูกพลิกหันหลัง

“อื้ออออ”ท่อนเนื้อร้อนจัดแทงเข้ามาในตัวผมอีกครั้งรวดเดียวมิด คีจับสะโพกผมเอาไว้แน่นแล้วกระแทกเข้ามาซ้ำๆ ปากก็ครางชื่อผมก้อง

คำคืนแรกของผมมันยาวนาน... ในตัวผมเต็มไปด้วยน้ำคาวขุ่นของใครอีกคนจนกักเก็บไว้ไม่ไหว ไหลเลอะออกมาปนกับเลือด
ทั้งที่เพิ่งหลับตาลงไปได้สักพัก แต่แล้วก็ถูกรุกรานอีกครั้ง... และอีกครั้ง

ถึงจะเมา... แต่ตามทฤษฎีก็ไม่น่ามีความต้องการมากขนาดนี้...

ยกเว้นแต่...

คีตาโดนยาปลุก... สะโพกผมคงพังก่อนกิจกรรมเข้าจังหวะคราวนี้จะจบลง

+++++++++++++++++++++

มึนมากค่ะ ฮ่าา มึน เขียนไปมึนไป

มาอัพไวกว่าเดิมหน่อย... อาทิตย์ละตอน ^^"

ไว้พบกันตอนหน้า ปันปันค้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่36 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/12
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 13-12-2015 00:29:05
 :hao6:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่36 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/12
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 13-12-2015 00:49:17
ป๊าดดด ตื่นมาแล้วมันจะยังไงกันละหนอ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่36 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/12
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 13-12-2015 00:50:05
 :m4: เพิ่งรู้ว่าคีตาเป็นรุกนะเนี่ย ยังคงรอพายุลมหนาว อิอิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่36 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/12
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 13-12-2015 01:42:16
มา...ป้าจิปีนเข้าไปในจอคอมพ์ไปกระทึบอีน้ำฝน

แกรนด์เอ๊ย   หมดมุกขนาดต้องลงมือวางยาผู้บ่าวเพื่อหาแฟนเชียวเหรอ?

ลมหนาวนี่ดีนะ  ใครอยุ่ใกล้ไม่ต้องกลัวร้อน 
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่36 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/12
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 13-12-2015 02:15:59
เบื่อมากอ่านมา20กว่าตอนยังไม่จบรับน้องสะที
เรื่องความรักๆของแต่ล่ะคู่แทบไม่มีเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่36 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/12
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 13-12-2015 20:27:28
อ่านจบถึงตอนล่าสุดแล้ว~ เข้ามาอ่านเพราะตัวย่อโดยแท้5555
ชอบคู่หลักค่ะ ดีงาม กินกันๆๆๆๆ
น้องคีก็กินพี่กิตจนได้ โถะๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่36 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/12
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 14-12-2015 12:27:04
เหยยย...คี๊~~~
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-12-2015 21:10:35
วันที่สามสิบเจ็ด

(ปันปัน)

"ครับแม่"ผมขานรับคนในสายที่ช่วงนี้โทรมาหาค่อนข้างบ่อยกว่าปกติ... ด้วยเรื่องที่ผมเป็นกังวลในใจมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา "พี่เป็นไงบ้างครับ แม่"

"ท่าจะไม่ดีเท่าไหร่แล้วล่ะตาปัน พี่แกถูกศาลเรียกตัววันมะรืน ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง"เสียงของแม่ตอบกลับมาอย่างเหนื่อยอ่อนจนผมสัมผัสได้

"ผมเชื่อว่าพี่เขาไม่ได้ทำหรอกครับแม่ แม่อย่าเป็นกังวลมากจนเสียสุขภาพไปนะครับ"ผมได้แต่ให้กำลังใจผ่านสายโทรศัพท์อย่างนี้ อยู่ไกลบ้านมันก็เป็นแบบนี้ล่ะนะ

"แม่ก็หวังว่าเรื่องมันจะจบด้วยดีนะ เฮ้อ เดี๋ยวแม่ไปทำงานก่อนนะปัน"

"ครับแม่ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ"แม่วางสายไปแล้ว ทิ้งความเครียดเอาไว้กับผม... โอ้ย จะบ้าตาย ผมจะทำยังไงดีวะเนี่ย แม่ง ไอ้พี่เหี้ย

ติ๊ด ๆ

ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูข้อความใหม่ที่ถูกส่งเข้ามาแล้วเหวี่ยงมือถือเชี่ยไปนอนกลิ้งบนเตียงอย่างหงุดหงิดยิ่งกว่าเก่า แม่ง มีแต่เรื่องให้อารมณ์เสีย


Kiss

ตอนเย็นไปรับนะจ๊ะ ปันปันน้อยของพี่



มาเปลี่ยนชื่อที่เมมไว้โดยพลการอีก ให้ตายเหอะ

ตอนแรกก็คิดว่าเออ ทำทานให้หมาแดกไป แค่เรื่องบนเตียงคืนเดียว แต่นี่มันอะไรกันวะ เทียวรับเทียวส่งหิ้วกูไปกกอย่างกับอีหนูขายตูด

บ้าชะมัด เหี้ยเอ๊ย

มันน่าหงุดหงิด จะเอาไปปรึกษาไอ้หนาวแม่งก็ใช่ที่ มันได้หัวเราะท้องแข็งที่คนแมนๆ อย่างผมโดนสอยตูดไปหลายยกจนรูแทบจะบานแฉ่งแบบนี้แน่

แล้วยิ่งมันมีเรื่องในใจอีก ไม่รู้จะผูกติดกันไปอีกนานไหม พี่ทิวไผ่กับเพื่อนผมเนี่ย คนนึงก็ทื่อ อีกคนก็อยากให้คนพี่มีความสุขตลอดเวลาเลยช่างสรรหาจริง

ช่าง ไม่ใช่เรื่องของกู เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า

โดนสอยตูดก็สำคัญ แต่ที่ยิ่งกว่าคือครอบครัว จะทำยังไงดีวะ จะหาเงินจากไหนไปจ้างทนาย จะเอาเงินจากไหนไปจัดการเรื่อง ครอบครัวผมก็แค่คนหาเช้ากินค่ำ พอมีพอใช้ไม่ได้เหลือแหล่ หรือนามสกุลใหญ่ด้วย

จะไปขอให้ใครช่วยได้วะ ไม่ใช่ลมหนาวสักหน่อยที่จะมีคนอุปถัมภ์ แม่ง

ผมทิ้งตัวลงนอนแล้วปล่อยความคิดต่างๆ ให้ล่องลอยออกไป ปัญหามีไว้แก้ไข ถ้าเอาแต่กลุ้มก็คงไม่ได้อะไรไปมากกว่ากลุ้มแบบนั้น

เหอะ คำปลอบใจตัวเอง

ปิดเทอมนี้ผมบอกแม่ไปว่าไม่กลับ กะหาพาร์ทไทม์ทำหาเงินดู ผมไม่ได้หล่อเหมือนหนาวมันจะได้รับงานถ่ายแบบ ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร ดนตรีก็งั้นๆ เกินกว่าจะไปเปิดหมวก แล้วงานส่วนใหญ่ก็ต้องทำสามเดือนขึ้นด้วย...

จะทำไงดีวะ

ผมนอนจมอยู่ในความคิดจนหลับไปโดยไม่รู้ตัว และผมคงยังนอนจมอยู่ในความฝันต่อไป ถ้าไม่ได้รู้สึกถึงความนุ่มหยุ่น อุ่นชื้นที่ข้างแก้มและซอกคอ

ถึงสติยังวิ่งกลับมาหากูไม่เต็มร้อย กูก็รู้ว่าไอ้ตัวที่มารบกวนเวลานอนของผมเป็นใคร มันก็มีอยู่คนเดียวแหละที่มาวุ่นวายไม่เลิก

“คุณคิส ลุกออกจากตัวผมเดี๋ยวนี้”ผมเอ่ยเสียงเข้ม ขณะเดียวกันก็ยันตัวลูกขึ้น หัวมึนไม่น้อยกับการนอนกลางวัน ส่งนไอ้คุณคิสมันยอมลุกไปโดยดี โดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มยั่วเย้ามาให้ผม

น่าเบื่อชะมัด

“คุณจะมาทำไมเนี่ย”เสียงผมจะเหวี่ยงไปไหนวะ ช่วงมันเหอะ ผมจ้องคนตรงหน้าอย่างหงุดหงิด คนยิ่งมีเรื่องให้ต้องคิดอยู่

“ก็บอกแล้วไงครับ ปันปัน ว่าพี่จะมารับ”คุณชายคิสยักไหล่น้อยๆ แล้วปรายตามองผม “พอพี่เปิดเข้ามาก็เห็นใครบางคนนอนขมวดคิ้วอยู่ เลยกะว่าจะช่วยให้ผ่อนคลายสักหน่อย”

ผมคงได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับสมองของคนตรงหน้า

กรรมอะไรทำให้ผมต้องโคจรมาเจอกับคนแบบนี้... แล้วกูควรจะไปสะเดาะเคราะห์ที่วัดไหนบ้างถึงจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมไปสักที

“ไม่มีอะไรจะบอกพี่หน่อยเหรอครับ หืม”คิตตี้ยื่นหน้ามาใกล้ผมที่ยั่งนั่งอยู่บนเตียง จมูกโด่งๆ น่าชกให้หักนั่นโฉบมากดที่ข้างแก้มผมแล้วผละออกไปอย่างไว... เคยครับท่าน ผมเคยชกไปที ผลเป็นไง ตูดฉีกสิครับ เหอะ เห็นตัวบางๆ แรงช้างสารชัดๆ “กับภรรยา สามีคนนี้ช่วยได้ทุกอย่างนะครับ”

“ใครเป็นภรรยาคุณ”ผมโต้กลับเสียงเขียว แม่งคนห่าอะไร มโนได้ทุกเรื่อง บังคับแม่งทุกอย่าง เชื่อดิ ต่อให้ผมไม่บอกมันก็รู้ว่าผมมีปัญหาอะไร

“อ้อนสักหน่อยก็ไม่ได้”คิตตี้เบ้หน้า ก่อนจะหันกลับมายิ้มยั่วผมอีกรอบ “จะให้พี่ช่วยไหมล่ะครับ ปันปันน้อยของพี่ เรื่องเล็กสิวๆ แค่นั้น สบายๆ”

“หึ คุณต้องการอะไรจากผม”ของฟรีไม่มีในโลก การที่มันเสนอตัวเข้ามาช่วยผม โดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าผมกำลังอับจนหนทาง
มันต้องการอะไรจากผม!

“ก็ไม่อะไร... ตัวของปันปันพี่ก็ได้มาแล้ว คงขาดแต่หัวใจ”นิ้วเรียวของหมอนั่นลากไล้ตั้งแต่หน้าผมผ่านลำคอมาหยุดที่อกตรงตำแหน่งหัวใจ พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเศร้าลง... ไม่สิ ผมคงตาฝาดมากกว่า “พี่ต้องการให้ปันปันคบกับพี่แล้วย้ายไปอยู่กับพี่ ตกลงไหมล่ะครับ ที่รัก”

“แล้วถ้าผมปฏิเสธล่ะ”ผมหยั่งเชิงถามไป... เอาจริงๆ ข้อแลกเปลี่ยนนี้มันออกจะนอกเหนือความคาดหมายผมไปเยอะเหมือนกัน
มันคงต้องการตุ๊กตายางไปประดับห้องล่ะมัง

ไฮโซอย่างมัน จะมาจริงใจอะไรหับคนจนๆ อย่างผม

“ก็ตามใจปันปันสิครับ”คิสยังคงยิ้มให้ผมอยู่เหมือนเดิม แต่แววตาดูวูบไหวไปชั่ววินาที ก่อนจะกลับมาอ่านยากเหมือนปกติ “พี่ไม่บังคับปันปันหรอก”

บางทีผมก็คิดเหมือนกันว่าทำไมผมไม่เกิดมารวย มีฐานะ มีเส้นสายทางสังคม หรือมีคนอุปถัมป์เหมือนไอ้หนาว เวลามีปัญหาอะไรจะได้มีทางออกที่ง่ายดายบ้าง

แต่ก็ได้แค่คิดเจ็บใจอยู่กับความฝันลมๆ แล้งๆ นั่นแหละ

ชีวิตคนเราไม่ได้มีทางเลือกอะไรมากมาย สิ่งสำคัญของชีวิตมันย่อมเป็นครอบครัว การที่พี่ชายผมเข้าคุกมันทำให้ปู่กับย่าที่รักพี่มากเป็นกังวลใจ แน่ล่ะ มันจะทำให้พวกท่านไม่สบาย

ทางที่ต้องเดินมีให้ไปไม่เยอะ และแน่นอนผมต้องเลือก

“คนรวยมีเส้นสายอย่างพวกคุณ คงไม่เคยลำบากสินะ”ผมเอนตัวพึงหัวเตียงแล้วเหม่อไปมองเพดาน “ชีวิตคงมีทางเลือกที่มากกว่าหนึ่งเสมอล่ะสิ”

คิสไม่ตอบอะไรผม มันเอาแต่ยิ้ม และยิ้ม ยิ้มที่ผมไม่รู้ความหมาย และไม่ต้องการจะรู้

“ผมรับข้อเสนอคุณ”อย่างไม่มีทางเลือกอื่น

หลังจากตอบรับข้อเสนอ ผมก็เก็บข้าวของส่วนหนึ่งเพื่อย้ายไปอยู่ ห้องนี่ผมคงยังไม่คืน... วันไหนที่มันเบื่อแล้วเขี่ยผมทิ้ง ผมจะได้มีที่อยู่

คิสรอผมเก็บของเงียบๆ แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่มองตามผมอยู่ตลอด

ผมหิ้วกระเป๋ามาขึ้นรถยนต์คันหรูที่ราคาคงพอจะดาวน์บ้านได้หลายหลัง วันนี้เขาไม่ได้เอาคันที่แพงอลังการมา รถที่ถูกสุดของมันยังแพงกว่ารถที่บ้านผมบวกมอเตอร์ไซต์ด้วยซ้ำ

เหอะ

ตลอดทางที่นั่งรถมายังเพนเฮาท์ของคุณชายคิตตี้ ผมนั่งนิ่งเงียบไปตลอด คิสเองเขาก็เงียบมาตลอดทางเหมือนกัน ใบหน้าหวานนั้นเรียบเฉยจนน่าแปลก

ดวงตาที่ปกติจะฉายแววหยอกล้อดูมืดสนิท ไม่บ่งบอกสิ่งใด ริมฝีปากเรียวที่ยกยิ้มยั่วเย้าอยู่เป็นนิตย์นั้นก็เรียบสนิท ความเย็นชาที่ผมไม่เคยเจอนั้นแผ่ออกมากจากร่างที่นั่งอยู่ด้านข้าง

พวกคุณชายนี่เขาอารมณ์แปรปรวนอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่านะ

นิสัยแม่ง...

อันที่จริง... คงเป็นผมเองที่นิสัยแย่ พอหงุดหงิดก็พาลไปซะ คนมันอิจฉานิ ถ้าผมมีเงิน มีเส้นสายก็คงไม่ต้องมานั้งเครียดแบบนี้
ไม่ต้อง... เป็นเหมือนคนขายบริการแบบนี้

ความคิดในสมองของผมสับสนไปหมด

“ปันปันครับ”เสียงที่เงียบมาตลอดทางจะใกล้จะถึงที่หมายเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ “หลายอย่างบนโลก สิ่งที่คิดเอาเองกับสิ่งที่เห็น ไม่ได้เป็นจริงไปเสมอหรอกนะครับ”

ดวงตาคมทอดมองผมด้วยสายตาที่ไม่สื่อความนัยน์ ก่อนจะถอนหายใจ

“จอดข้างหน้าด้วย อิน”คุณอินคนขับรถประจำตัวของไอ้แมวญี่ปุ่นเหลือมองกระจกส่องหลัง ก่อนที่จะชะลอรถหยุดเทียบฟุตบาต “ฉันจะไปทำธุระสักหน่อย นายพาปันปันไปที่เพนเฮ้าท์ก่อนเลย”

“ครับ คุณคิส”พอคิตตี้ปิดประตูรถ คุณอินก็เหยียบคันเร่งออกจากตรงนั้นทันที

“ถ้าเจ้านายของคุณมีธุระ เขาไม่น่าจะต้องลำบากมาหาผมเอง”ผมเอนหลังพิงเบาะด้วยท่าที่สบายที่สุด หลังจากนั่งตัวแข็งมานาน “คนฉลาดและเจ้าแผนการอย่างเขาคงอยู่อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าผมไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอนี้”

“การพูดลับหลังเจ้านายไม่ใช่นิสัยของผมหรอกนะครับ คุณปันปัน”เสียงนุ่มรื่นหูของคุณอินตอบกลับผมมา พร้อมกับส่งยิ้มมาให้ด้วยเป็นแพคคู่ “แต่ผมบอกคุณปันปันได้อย่างนึงนะครับ”

คุณอินหยุดพูดไปชั่วคณะ พร้อมกับเหลือบมาจ้องตากับผมในกระจก

“วันนี้คุณคิสไม่มีธุระกับใครที่ไหนหรอกครับ”

ถ้าไม่มีธุระ... แล้วจะลงไปทำไม



(คิส)

ผมมองไล่หลังตามรถของตัวเองไป ธุระอะไรผมไม่มีทั้งนั้นแหละ ผมเคลียร์งานเสร็จตั้งแต่เมื่อคืน หลังจากที่โหมมาหลายวัน

กะว่าจะไปหยอกล้อกับปันปันสักหน่อย แต่พอเช้ามาก็มาได้ยินเรื่องซีเรียสของเขา ทำไงได้ ผมก็เลยถือโอกาสยื่นข้อเสนอไป ก็คิดไว้อยู่แล้วล่ะ ว่าปันปันน้อยที่น่ารักของผมต้องตอบรับ ต่อให้ฝืนใจตัวเองก็เหอะ แต่ผมก็อยากให้เขาเต็มใจตอบรับเหมือนกันนะ ฮะๆ

ชอบไปแล้วทำยังไงได้

หึ ไม่ต้องถามหรอกนะว่าผมชอบปันปันขอผมตรงไหน ทุกตรงนั่นแหละ ทั้งร่างกาย รอยยิ้ม ความคิด แต่ปันปันยังไม่รู้หรอก แล้วพวกคุณก็ไม่ต้องคิดไปบอกเขาด้วย

ถ้าผมพร้อม... ผมจะบอกเอง แต่จะมีวันนั้นไหม อันนี้ไม่รู้

ก็ปันปันไม่ได้ชอบผมนี่ ถึงผมบอกไปก็คงมองผมอย่างเหยียดๆ และไม่มีทางที่จะเชื่อคำพูดของผมแน่...

คงผิดที่ผมเองนั่นแหละที่ไปเข้าหาเขาด้วยวิธีแบบนั้น ฮะๆ ทั้งชีวิตผมไม่เคยเข้าหาใครด้วยซ้ำไป ปันปันที่น่ารักของผมไม่รู้อะไรเอาซะเลย

ผมเดินเตะเท้าไปตามทางเดินข้างถนน คงเข้ากันน่าดูล่ะมั้ง เสื้อยืดH&M กางเกงlv กับกระเป๋าตังค์hermes ไอโฟนอีกเครื่อง มาทั้งตัวแค่นี้

“คิสคะ ทำอะไรตรงนี้คะเนี่ย”เสียงสูงที่เหมือนจะคุ้นๆ หูอยู่ของผู้หญิงคนหนึ่งดังเข้ามาในหูผม คนกำลังเหม่อเลย “คิสคะ”

ผมหันไปมองต้นเสียงที่พูดกับผมอยู่ อ่อ แมรี่ คู่ควงเก่าของผม ร้างลากันไปนานพอสมควร ไม่คิดว่าจะได้มาเจออีกเหมือนกัน

แมรี่เป็นคนดี ดีเกินกว่าจะอยู่กับคนที่คั่วผู้หญิงบ่อยอย่างผม เราเลยจากกันด้วยดี โดยที่ไม่มีเรื่องบนเตียงมาเกี่ยวข้อง

“คิสขึ้นมาก่อนไหม”แม่รี่ถามผม เธอมองมาด้วยความเป็นห่วง ผมยิ้มจืดๆ กลับไปให้เธอ แล้วยอมเดินขึ้นรถไปโดยดี “หน้าตาคิสดูไม่ดีเลยนะคะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

“ก็ไม่มีอะไรหรอก แมรี่ ผมแค่มีปัญหามารบกวนใจนิดหน่อย”เธอยังเหมือนเดิมไม่มีผิดเลยแหะ เป็นห่วงเป็นใย
สวย และดี แต่... ไม่ถูกใจ

ส่วนคนที่ถูกใจ...

“คิสคะ”แมรี่เอ่ยเรียกชื่อผม ทำให้ผมต้องหันไปหาเธอที่ขับรถอยู่ “รี่ขอถามคิสตรงๆ นะคะ... ตอนนี้ในใจของคิสมีใครสักคนนั่งอยู่แล้วใช่ไหมคะ”

“ก็ใช่อยู่... แล้วแมรี่รู้ได้ยังไงล่ะ”ผมถามกลับไปด้วยความอยากรู้ ผมว่าผมไม่ได้แสดงออกต่อหน้าคนอื่นสักเท่าไหร่หรอกนะ ยิ่งกับคนที่ไม่ได้ติดต่อกันมาพักนึงแล้วด้วย

“คิก... ถึงรี่จะไม่ได้เจอคิส ก็ไม่ได้หมายความว่ารี่จะไม่ได้ข่าวคราวของคิสเลยนี่คะ”หญิงสาวข้างกายหัวเราเสียงใส แล้วส่งยิ้มมาให้ผม “เมื่อนสามสี่เดือนก่อนคิสมีข่าวควงคนโน้นที คนนี้ทีอยู่ตลอดนะคะ แต่พักหลังมานี้สาวๆ ที่คิสเคยควงบ่นกันระงมเรื่องที่คิสไม่ติดต่อพวกเธอเลย แม้แต่เจอกันในงานยังแค่ยิ้มๆ ให้”

“ผมอาจจะแค่เบื่อๆ ก็ได้”ใช่ ผมเบื่อ เบื่อมากที่ต้องมาเอาใจ ต้องตอบสนองพวกเธออย่างไม่จบสิ้น ถึงจะเป็นวันไนต์แสตนด์ แต่หลายครั้งที่พวกเธอไม่จบ

และมันทำให้ผมหงุดหงิด

“แล้วที่คิสมีท่าทีอึมครึมแบบนี้ เป็นเพราะคนที่อยู่ในใจคิสใช่ไหมคะ”เมื่อพูดถึงคนที่อยู่ในใจ ผิดสีแทน กับหน้าคมๆ ฉบับคนใต้ก็ลอยขึ้นมาในหัวทันที “อันแน่  ชัวร์เลย สาวคนไหนกันนะที่ความหัวใจของไฮโซคิสกัน”

“เกรงว่าจะไม่ใช่ผู้หญิงน่ะสิ”ผมตอบกลับไปด้วยเสียงที่เจือแววขบขัน

“อุ้ย เอาจริง แล้วเขาคนนั้นเป็นยังไงเหรอคะคิส พอจะบอกรี่ได้ไหม”ผมใช้ความเงียบเป็นคำตอบ จะให้พูดไปได้ยังไงกันล่ะ จริงไหม เดี๋ยวปันปันที่รักของผมเสียหายแย่ “รี่ไม่เอาไปบอกใครหรอกค่ะ คิสก็รู้นิสัยรี่ดีนี่น่า”

“หึ ผมบอกอะไรมากไม่ได้หรอก แม่รี่รู้แค่ว่าเขาน่ารักสำหรับผมก็พอ”ไม่ต้องเดาผมก็รู้ว่าปันปันของผมไม่น่ารักในสายตาของคนอื่นหรอก และนั่นก็ดีแล้ว ผมจะได้ไม่ต้องแย่งชิงเขากับใคร

“แล้วทำไมคิสถึงทำสีหน้าหนักใจล่ะคะ”แมรี่ยิงคำถามกลับมา ทำเอาผมสะอึกไปทีนึง “หรือว่าคิสไปทำอะไรไม่ดีไว้เขาเขาเหรอ?”

“ก็... คงอย่างนั้นล่ะมั้ง”ผมทิ้งตัวพิงลงบนเบาะ ที่ผ่านมาผมเข้าหาปันปันยังไงกันนะ ผมชอบเข้าไปหยอกล้อเขา ดูสีหน้าที่หงุดหงิดบ้าง โกรธบ้าง เขินบ้างของเขา “ผมคงทำไม่ดีเอาไว้เพื่อเข้าใกล้เขาให้มากที่สุด”

“แล้วไม่ทำดีกับเขาล่ะ”

“นั่นสินะ แต่ถ้าการทำดีแล้วทำให้เขาห่างออกไปจากผมยิ่งกว่าตอนนี้... บางทีผมว่าผมทำอย่างที่ผ่านมาอาจจะดีกว่า”เพราะผมกลัว

กลัวว่าปันปันจะตีห่างออกจากผมไป จนผมเอื้อมไม่ถึง... มันน่าขำชะมัดที่คนอย่างผมต้องเป็นกังวลเรื่องแบบนี้ คนที่ต้องการอะไรก็ตาม ทุกสิ่งต้องมาวางอยู่ตรงหน้ามาตลอด

“แล้วคิสคิดว่า คิสมีความสำคัญกับเขาไหมล่ะคะ”จุก... คำถามที่ยิ่งมามันแทงใจผมมากจะจุกไปเลย “ถ้าคิสสำคัญสำหรับเขา เขาจะไม่มีวันถอยห่างไปจากคิสหรอกค่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกันนะ... ว่าผมจะสำคัญกับเขาไหม”สักนิดนึงในใจ... ไม่รู้ว่าที่รักผิวแทนของผมจะมีใจให้ผมบ้างหรือเปล่า และผมคงไม่สามารถจะถามออกไป

“ถ้าเป็นอย่างนั้นเรามาพิสูจน์กันสักหน่อยไหมล่ะคะ”ริมฝีปากทรงสวยที่เคลือบด้วยริบสีหวานคลี่ยิ้มออกมา “ให้แม่รี่เป็นคิวปิดให้ไหมเอ่ย”

“... ขอบใจนะ”ไม่ขอปฏิเสธแล้วกัน

ผมจะขอเดินพันด้วยใจดูสักครั้ง ว่าคนที่ผมชอบจะชอบผมบ้างไหม... ถ้าไม่...

ผมก็จะหยอกล้อเขาต่อไป จนกว่าหัวใจของเขาจะมีผม หรือไม่... ก็จนกว่าร่างกายของเขาจะขาดผมไปไม่ได้

ก็นะ... จะทำไงได้ปันปันที่น่ารักที่สุดของผม คนอะไรแค่ยิ้มก็ทำใจผมสั่น ใจเต้นเหมือนจะกระเด็นไปดาวพลูโตที่ถูกถอกออกนอกระบบสุริยะ จะให้ผมยอมปล่อยมือไปง่ายๆเหมือนพระเอกละครได้ยังไง

ผมไม่ใช่พระเอกสักหน่อย

ใคร ใครค้านคำพูดผม พวกคุณไม่รู้กันหรอกว่าตอนที่ปันปันอยู่บนเตียงน่ารักแค่ไหน เสียงกระเซ่าที่หลุดออกมาจากลำคอ ดวงตาที่ปรือปรอย

ยิ่งตอนเขินยามตื่นนอนที่ทุบผมอั๊กใหญ่ ยิ่งน่ารัก (บ่าผมยังช้ำอยู่เลย)

น่ะ สายตาไม่ดีกันล่ะสิ ถึงมองปันปันของผมไม่น่ารัก โถ่ววว ไปมองว่าหล่อคมเข้มฉบับคนใต้ที่เจอได้ทั่วไปกันล่ะสิ

อืม เขาบอกว่าคนหล่อต้องคู่กับคนสวย ถูกไหม?

ผมสวย ปันปันหล่อ แปลว่าเราคู่กัน สำเนาถูกต้อง รอจดทะเบียน

ไว้จะร่อนการ์ดไปให้ทุกคนตอนที่เขาตกลงแต่งกันผมนะ

หยุด ไม่ต้องอวยเขาให้ใคร ไม่ต้องเชียร์ให้ปันปันไปหาใครทั้งนั้นแหละ

ปันปันของผม ตัวเป็นของผม กายเป็นของผม ใจเป็นของผม

ถ้าไม่ให้ผม คอยดู ผมจะดีดน้ำมันพรายใส่ปันปัน ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา... ว่าแต่ คาถาท่องยังไงนะ?

ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู

แต่เหมือน... ผมจะเสพสมกายปันปันมากกว่า คาถานี้จะใช้ได้ไหมเนี่ย

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาต่อแล้วค้าาา

อยากเมาส์ ตอนนั่งเคาะบรรทัด นิ้วเรียวของหมอนั่น พิมพ์เป็น น้องเรียวของหมอนั่น

รู้สึกความหื่นเพิ่มขึ้นพันเปอร์เซ็น ฮ่าๆ ตอนต่อไปกลับสู่คู่รัก เอ๊ย คู่หลักของเราแล้วค้าา // เหมือนว่าของคียังค้างอยู่ และของทิวกำลังจะถึงไคล์แมท

ใกล้จบแล้ววว // ฮูเร่ ฮูเร่
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-12-2015 21:45:12
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-12-2015 21:53:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 17-12-2015 22:12:15
จะถึงคิวพายุลมหนาวแล้ววว  :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 18-12-2015 06:41:45
เอ่อ.. แมรี่จะดีจริงๆใช่ไหมคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-12-2015 10:09:48
รอ ๆ คู่รัก เอ้ย คู่หลักกปป
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 18-12-2015 12:28:37
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-12-2015 16:48:37
เอ่อ.. แมรี่จะดีจริงๆใช่ไหมคะ

คนดีจริงๆค้า

จะถึงคิวพายุลมหนาวแล้ววว  :hao7:

รับรองความหวานนน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 20-12-2015 09:08:29
พายุลมหนาวววจะมาวันไหนนน  :katai5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 20-12-2015 09:59:59
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่37 P.22[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ17/12
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 20-12-2015 20:09:28
อ่านทันแล้ว ดีจายยยยยย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 25-12-2015 00:28:57
วันที่สามสิบแปด

ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นด่านที่ผ่านเข้าไปยาก โดยเฉพาะกับคนไทยอย่างพวกเรา แต่ถ้าเอกสารครบ ทุกอย่างชัดเจนก็พอไปวัดไปวากันหน่อยล่ะครับ แล้วยังมีลุงซีของพายุมาเป็นหลักประกันให้ด้วย

หลังจากปิดเทอม ผมก็แพคกระเป๋าบินมาอเมริกา แดนเสรีนี้กับเมฆและพายุ พาสปอร์ตและวีซ่าจัดการล่วงหน้ามาพักใหญ่ โดยมีคุณโซนร้อนผู้เชี่ยวชาญนำทางให้ล่ะครับ

งานนี้ผมเลยต้องหยิบยืมเงินจากพี่ทิวมาหลักหมื่นเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินอีโคโนมี่ เถียงกันหน้าดำหน้าแดงเพราะพี่ทิวจะซื้อเฟิร์สคลาสให้ แต่สุดท้ายผมก็ชนะด้วยการยอมรับเงินขวัญถุงมาสามหมื่นบาทไม่ถ้วนเอาไว้ใช้จ่าย

พร้อมกับ... เวลาให้ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย เพราะยังไงก็ต้องไปต่อเครื่องที่นั่งทั้งขาไปขากลับ นั่งเครื่องจนกระดูกสันหลังแทบจะบิดไม่เป็นรูปกว่าจะถึง

พอถึงแล้วยังต้องนั่งรถต่อไปอีกนะครับ ไม่ใช่ถึงเลย แต่ยังดีที่ฟ้าเมตตาผมไม่ให้นั่งเครื่องต่อไปรัฐอื่นอีก ไม่อย่างนั้นทั้งหู ทั้งหลังผมคงต้องได้รับการรักษาแน่ๆ

ผมเหลือบมองเสี้ยวหน้าของเพื่อนที่เหม่อมองถนน ใจของเมฆคงไปอยู่ที่คอร์เนลแล้วล่ะครับ คงอยากรู้และแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด

ซึ่งก็คือพรุ่งนี้ พวกเราจะไปเยือนมหาลัยที่ปุ๊กอยู่กัน

ไม่ใช่แค่เมฆที่ใจสั่น ผมเองก็ไม่ต่างเท่าไหร่ เพื่อนที่เคยน่ารักของผมคนนั้นจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้ได้จริงๆ เหรอ หรือเป็นแค่การแสดง

แน่นอนว่าใจของผมอยากให้เป็นข้อหลัง... ผมไม่อยากให้เมฆต้องเจ็บปวดเหมือนกับน้องกิตที่เจ็บปวด... และผมเชื่อว่าถ้าเมฆเจ็บ ต้องเจ็บกว่ากิตแน่

ผมไม่อยากเห็น

บรรยากาศบนรถนั้นเงียบเชียบ มีแค่เสียงแอร์ที่ทำงานอย่างขันแข็งเสียงเดียวที่ดังเข้ามาในหู ผมเหลือบมองใครอีกคนที่นั่งอยู่ข้างคนขับและ...

หลับ

งั้นผมก็ควรจะงีบสักตื่นเหมือนกันล่ะครับ... แอร์เย็นๆ ทำให้ผมเคลิ้มหลับไปได้ไม่ยาก

ผมตื่นขึ้นมาตอนที่รถจอดสนิทหน้าบานหลังหนึ่ง ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ดูน่ารักดีครับ เหมาะกับครอบครัวเล็กๆ ดี ที่นี่คงเป็นบ้านของลุงพายุมัน

"ยินดีต้อนรับจ้า เด็กๆ เข้ามาข้างในก่อนสิ"ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเปิดประตูบ้านออกมาด้วยรอยยิ้ม เธอพูดภาษาอังกฤษใส่พวกผมช้าๆพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ใจดี

ผมเดินตามหลังลุงซีและพายุเข้าไปในบ้าน โดยมีเมฆเดินตามมาอีกที ภายในบ้านหลังเล็กนี้ประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งหมด ขอไม่คิดถึงมูลค่านะครับ

คนธรรมดาอย่างผมไม่อาจเอื้อม

"ขอโทษด้วยนะ บ้านลุงแคบไปหน่อย แต่ก็คงจะพออยู่กันได้"ลุงซีหันมายิ้มให้พวกผม "ตอนนี้เหลือห้องเล็กนอนได้คนนึง อีกคนคงต้องนอนห้องของเจ้าโซนมัน ยังไงก็ตกลงกันเองนะ"

"ครับ..."ผมตอบรับเบาๆ มันไม่ต้องตกลงอะไรนี่ครับ ถึงจะไม่ชอบใจ แต่ยังไงผมก็ต้องไปนอนห้องเดียวกับพายุอยู่ดี ในเมื่อเมฆไม่ได้สนิทอะไร ไม่สิ ต้องบอกว่าแทบจะไม่รู้จักกันกับเจ้าบ้านคนนี้เลย "เมฆนอนห้องเล็กได้ใช่ไหม"

"อื้อ เรายังไงก็ได้"แววตาที่หม่นหมองนั้นมีประกายล้อเลียนขึ้นมา "งั้นเราเอาของไปเก็บก่อนนะ"

ลุงซีพาเมฆไปที่ห้อง ส่วนผมเดินตามพายุไป กับการที่มีห้องส่วนตัวแบบนี้ แสดงว่าคงบินมาที่นี่บ่อยไม่น้อยเลยล่ะมั้งครับ ว่าไหม?

พายุเปิดประตูห้องเข้าไป ห้องขนาดไม่ใหญ่ครับ แต่มีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ทั้งโต๊ะ ตู้ แต่... ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ตรงเตียงที่กะจากสายตาแล้วขนาดไม่เกินห้าฟุตนี่สิ

"คุณเอากระเป๋าวางไว้ตรงนั้นได้เลยนะ ลมหนาว"คุณชายชี้ไปที่ซอกข้างตู้ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน "เฮ้ออออ เมื่อยชะมัดเลย ให้ตายเหอะ"

"คุณจะให้ผมนอนตรงไหน"ผมมองพื้นรอบๆ ที่พอจะให้เบียดตัวลงนอน ก็พอได้อยู่ล่ะครับ "คุณมีผ้าห่ม หรืออะไรที่พอจะปูนอนได้ไหม เดี๋ยวผมนอนพื้นเอง"

"บ้าหรือไง ลมหนาว คุณก็ขึ้นมานอนด้วยกันนี่แหละ"พายุดีดตัวลุกขึ้นแล้วชะโงกมาหาผม "เตียงก็ไม่ได้เล็กขนาดที่จะนอนสองคนไม่ได้นี่น่า"

"อืม..."เตียงขนาดห้าฟุตมันก็ไม่ได้เล็กหรอกครับ แบ่งๆ กันนอนหน่อยก็นอนได้ แต่การที่ผู้ชายตัวขนาดกลางๆ สมส่วนมาตรฐานมานอนเบียดกันก็... นะ แล้วอีกอย่าง เตียงนี่ก็ดูไม่ถึงห้าฟุตด้วย

"น่า มานอนพักก่อนเถอะ เดินทางมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวถึงมื้อเย็นลุงซีกับป้าลูเซียก็มาเรียกเองแหละ"มันตบเตียงนอนปุๆ เชิญชวน
ร่างกายที่ผ่านมรสุมมาของผมต้องการการพักผ่อนจริงๆ นั่นล่ะ ทั้งสอบไฟนอล แล้วต้องบินในเช้าวันถัดมาเลยอีก แทบจะไม่ได้พักผ่อน

ครั้งนี้ผมเลยยอมเอนตัวลงนอนข้างพายุโดยดี แบ่งที่กันแล้วอาจจะเบียดไปสักหน่อย แต่ก็อยู่ได้แหละครับ ผมไม่เรื่องมากอะไร
หมอนนุ่มๆ แอร์เย็นๆ ทำให้ร่างที่เหนื่อยล้าของผมเคลิ้มและเข้าสู่งห้วงนิทราโดยง่ายดาย

ความอบอุ่นของผ้าผืนหนึ่งมาคลุมกายช่วงล่างไว้ กับความอุ่นชื้นที่ได้รับตรงหน้าผาก ก่อนที่สติของผมจะหายไปโดยสิ้นเชิง... มันทำให้ผมฝันดี


ผมลืมตาตื่นขึ้นมาตอนที่ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก ใบหน้าหล่อคมของเดือนวิศวะหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้าผมในระยะที่ลมหายในอุ่นนั้นส่งมาถึงหน้าผากผมได้

"ตื่นแล้วเหรอ"คำถามสั้นๆ ในภาษาต่างประเทศเอ่ยถามขึ้น ทำเอาสมองที่กำลังเบลอของผมต้องเรียกสติที่หนีเที่ยวไปไกลกลับ
มาโดนพลัน "ปลุกพายุด้วยนะ อาหารพร้อมแล้ว กินก่อนค่อยมาพักผ่อน"

"ครับ มาดาม"ผมตอบรับไปอย่างมึนๆ เธอพูดไม่เร็วนัก แต่สำหรับคนเพิ่งตื่นและไม่ได้คิดเป็นภาษาอังกฤษในทุกเวลาคงต้องทีสตั๊นบ้างล่ะครับ

"มาดามอะไร เรียกป้าสิ"หญิงวัยกลางคนทำเสียงไม่พอใจใส่ผม เธอส่ายหน้าน้อยๆ แล้วทำปากเชิดขึ้น "เพื่อนของพายุ ย่อมเป็นหลานฉันเหมือนกันนะ"

"ครับ คุณป้า"ผมยิ้มแหยๆ คุณมาร์ทายิ้มรับอย่างพึงพอใจ แล้วปิดประตูเดินออกไป... แอบขำอยู่เหมือนกันครับที่เขาเรียกพายุว่า storm ก็โอเค พายุจริงๆ "คุณพายุ ตื่นได้แล้ว"

ผมยื่นมือไปเขย่าคนที่ยังหลับไปตื่นเบาๆ แต่เหมือนจะไม่เขาไปในความรู้สึกรับรู้ของมันเลย

"ตื่นได้แล้ว คุณป้ามาร์ทามาตามแล้ว"ผมเขย่าแรงขึ้นอีก หมอนั่นคงรำคาญเลยดึงผมเข้าไปกอดแน่น ก่ายเหมือนหมอนข้าง ไม่พอบ่นงึมงำในลำคอเชิงว่าจะนอน จะนอน

เอาไงดีล่ะครับ ตื่นยากตื่นเย็น ผมไล้มือขึ้นไปตามแนวหน้าท้อง สัมผัสได้ถึงซิคแพคตามประสาคนออกกำลังกายทุกวัน เลื่อนไปถึงหัวนมแล้ว...

"โอ้ย!!"ตื่นครับ ไม่ตื่นจะบิดให้เป็นเกลียวเลย แม่ง ดึงผมมากอดเฉย คนนะครับไม่ใช่ตุ๊กตายาง แล้วเป็นผู้ชายเหมือนกันอีก ขนลุกชะมัด "เจ็บนะลมหนาว มือหรือเท้าเนี่ย"

"มือผมน่ะหยิกคุณ และคุณควรเอาหนวดปลาหมึกคุณออกจากตัวผม"ผมตอกกลับด้วยเสียงเย็นๆ พายุเลิกคิ้วขึ้นแล้วหลุบตาลงมา

"กำลังเหมาะมือเลยนะครับ คุณภรรยา"แทนที่มันจะปล่อยผม แต่ไม่ หมอนี่กลับกอดผมแน่นกว่าเดิม ไม่พอ มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมแล้วซุกลงที่ซอกคอ ลมหายใจร้อนของคนที่กอดรัดผมเอาไว้รดรินมาที่ผิวเนื้อ ทำเอาผมร้อนไปด้วย...
ร้อนทั้งหน้าและตัว

"ผมไม่เล่นนะ คุณพายุ"พายุหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยอมปล่อยผมออกโดยดี ผมยันตัวลุกขึ้นมองคนที่นั่งอยู่บนเตียงตาเขียว ขณะเดียวกันหูทั้งสองข้างของผมมันก็เห่อร้อนไม่หาย

พายุนั่งยิ้มให้ผมอยู่พักเล็กๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วคว้ามือผมลากออกจากห้องไป

พวกเราลงไปกินอาหารเย็นกัน คุณป้ามาร์ทาและคุณลุงซีเป็นคนคุยเก่ง พวกเขาทั้งสองคนมีลูกชายคนเดียวซึ่งตอนนี้ไปเรียนมหาลัยที่อิตาลี พวกเขาเลยดีใจมากที่มีคนมาพักที่บ้านด้วย

คงเหงาล่ะมั้งครับ

หลังจากกินมื้อเย็นกันเสร็จ ทุกคนก็แยกกันไปทำธุระปะปังส่วนตัว ผมเข้าไปอาบน้ำ แล้วโดดขึ้นไปซุกตัวลงในผ้าห่ม อากาศตอนกลางวันก็สบายดีล่ะครับ แต่ตอนกลางคืนก็ออกจะเย็นไปหน่อย

ซุกตัวในผ้าอุ่นๆ ไปสักพักก็เคลิ้มหลับไป และเป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกถึงความอุ่นชื้นบนหน้าผากในยามที่ผมไม่ได้สติ
และเป็นอีกครั้ง... ที่ผมนอนฝันดี


เช้าวันถัดมาผมตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเฮดวิศวะ อยากจะโวยวายอยู่หรอกครับ แต่ติดอยู่อย่างเดียวคือผมก็กอดหมอนี่ตอบอยู่เหมือนกัน

ถือว่าเจ๊ากันไป

แต่คราวนี้มันไม่ได้กอดอะไรผมแน่นมากครับ เลยลุกออกมาได้ ผมเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมใส่เสื้อแขนสั้นข้างใน เสื้อแขนยาวกันลมข้างนอกไว้กันหนาว กาบกางเกงเดฟ

พอผมแต่งตัวออกมาเสร็จ พายุมันก็ตื่นพอดี หัวฟูหมดมาดเดือนมหาลัยไปเลยล่ะครับ... แต่... ถ้ามันไม่หมดหล่อเลยนี่สิ ในฐานะผู้ชายผมก็อิจฉาเหมือนกัน

“ตื่นไวจังนะ”เสียงยานคานของคนเพิ่งตื่นเอ่ยขึ้น เฮดวินัยลงจากเตียงเดินสะโหลสะเหลเข้าห้องน้ำไป โดนไม่ลืมฉวยโอกาสลูบแก้มผมเบาๆ

บางครั้ง... การกระทำแปลกๆ ของมัน ก็ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนกันนะครับ

หลังจากที่พายุอาบน้ำเสร็จ มันก็พาผมไปข้างล่าง ทั้งที่ยังเช้าแต่เมฆก็มานั่งรอแล้ว ดวงตาหวานเศร้าเหม่อมองไปอย่างไร้จุดหมาย แพขนตาหนาที่หยาดน้ำชุ่มอยู่

เพื่อนของผมยังคงคิดมากอยู่...

และวันนี้ทุกอย่างจะจบลง ไม่ว่าหัวหรือก้อย พวกเราก็ต้องยอมรับมัน

ผ่านมื้อเช้าไปอย่างอึดอัด พวกเราก็เดินทางต่อกันไปยังมหาวิทยาลัยคอร์เนล เมฆได้ถามคุณลุงมาเรียบร้อยแล้วว่าปุ๊กเรียนอยู่คณะไหน และส่วนไหน ซึ่งหาไม่ยากหรอกครับ

ก็มหาลัยดัง

เรามาถึงในยามสาย นักศึกษาดูบางตา อาจจะด้วยเขาเรียนกันไปบ้างแล้ว ผม เมฆ และพายุเลยพากันเดินไปยังอาคารที่ปุ๊กเรียนอยู่ และนั่งรอเธอออกมาอยู่ตรงด้านหน้า

ตามปกติแล้ว คงจะต้องออกมาตรงนี้แหละครับ

เมฆกุมมือทั้งสองข้างแน่น นัยน์ตาหม่นหมองนั้นสั่นไหวอย่างรุนแรง ความเครียด ความกดดันคงแทรกเข้าไปในหัวใจของเพื่อนผมอย่างเต็มที่แล้ว

เวลานั้นผ่านไปอย่างเชื่องช้า พายุที่เป็นคนนำทางมานอนฟุบลงไปกับโต๊ะเรียบร้อย เส้นผมละเอียดของมันพริ้วไหวไปตามสายลมที่พัดมา

แต่การฟุบลงกับโต๊ะโดยไม่มีอะไรรองเอาไว้ คงอึดอัดน่าดูล่ะครับ ผมถอดเสื้อนอกของตัวเองออกแล้วพับม้วนให้นูนสูง ก่อนจะลุกขึ้นโยกตัวไปช้อนหัวของวินัยวิศวะขึ้น

“หืม...”เสียงทุ้มครางเบาๆ เปลือกตาที่ปิดอยู่เผยอขึ้นเล็กๆ ก่อจจะปิดลงอีกครั้ง เมื่อผมปล่อยตัวของเขาออก ให้ได้นอนหนุนเสื้อของผมเอง

เป็นธุระให้ตั้งหลายอย่างทั้งที่เราไม่ใช่เพื่อนสนิทกัน ผมก็ต้องตอบแทนบ้าง จริงไหมล่ะครับ

“น่ารักกันอีกแล้วนะ พวกนายน่ะ”เมฆแซวออกมายิ้มๆ ดวงตาของเขาฉายแววล้อเลียนมาให้ผมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับไปหมองเศร้าเหมือนเดิม “ไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสได้ทำอย่างที่หนาวทำให้ปุ๊กบ้างไหม”

“ไม่เป็นไรนะ เมฆ”ผมขยับตัวไปนั่งข้างเพื่อน ดึงมือที่เย็นเฉียบนั้นมากุมเอาไว้มั่น “ไม่ว่าเรื่องราวมันจะเป็นยังไง แต่เราจะอยู่ข้างเมฆนะ”

“อื้อ”เมฆยิ้มกลับมาให้ผม ใจของผมคงได้แต่หวังว่าจะไม่เกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้น ให้ความกังวลในใจเป็นแค่ความระแวงที่ผ่านไป...

เรารอกันอยู่จนตะวันขึ้นสูงเหนือหัว ร่างของคนจำนวนมากก็เดินออกมาจากตึกกัน พวกเขาพูดคุยด้วยภาษาอังกฤษรัวเร็วทำเอาผมจับใจความได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางคนก็เดินเล่มมือถือออกมา

แต่ที่เหมือนกันเกือบทุกคนคือ การที่หันมามองคนเอเชียตัวขาวๆ ที่นั่งจุ้มปุ๊กกองกันอยู่ตรงนี้

“เมฆ... หนาว...”เสียงที่คุ้นหูกันมาตั้งแต่ยังเด็กดังขึ้น ก่อนที่ร่างบางระหงของหญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตติดระบายและกระโปรงสีหวานจะก้าวเข้ามาหาพวกผม

พร้อมกับร่างสูงของใครอีกคน

ใครอีกคนที่มีดวงตาสีฟ้า เส้นผมสีทองสว่าง ใบหน้าคม จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง ใครคนนั้นที่ผมเคยเห็นรูปในอินสตาแกรมของเพื่อนร่วมคณะของปุ๊ก

ร่างของเมฆสั่นระริก เขาค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้น เผชิญหน้ากับคู่หมั้นของเขา ขณะเดียวกันใครอีกคนที่ฝุบหลับอยู่ก็ค่อยๆ โงหัวขึ้นมา

“ปุ๊ก...”เสียงของเมฆสั่นเครือ “ปุ๊ก... มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม”

“เมฆ... อ่า... โดมินิค เดี๋ยวเราขอคุยกับเพื่อนก่อนนะ เดี๋ยวเจอกัน”ปุ๊กหันไปพูดกับผู้ชายอีกคนข้างตัวพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้

“ผมรอที่นี่ก็ได้”โดมินิคตอบกลับปุ๊ก พร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้วางข้างพายุ เจ้าตัวเอามือมาประสานเท้าคางมองปุ๊กด้วยรอยยิ้ม

“แววตาดูเจ้าชู้ชะมัด”พายุเปรยออกมาเป็นภาษาไทย คนที่นั่งข้างๆ ยิ้มกลับให้อย่างงงๆ แสดงว่าเจ้าตัวคงไม่เข้าใจภาษาไทยสินะครับ

“ชู่ว์”ผมเอามือแตะปากส่งสัญญาณให้เงียบ แล้วหันไปมองฝั่งเพื่อนสมัยเด็กแทน

“เมฆมาทำอะไรที่นี่”ปุ๊กเปิดประเด็นขึ้นมาทันที สีหน้าของเธอดูไม่พอใจเท่าไหร่นักที่เห็นพวกผม “แล้วทำไมถึงไม่บอกปุ๊กก่อน”

“เมฆเห็น... รูปในig”น้ำใสๆ เอ่อขึ้นคลอที่ขอบตาของเพื่อนสนิทผม ใจอยากจะยื่นมือไปช่วยประคอง แต่ตอนนี้เป็นเวลาของพวกเขา... คนนอกอย่างผมไม่ควรเข้าไปยุ่ง ใช่ไหมครับ “ปุ๊ก... มันไม่จริงใช่ไหม”

“อะไรที่เมฆต้องการให้ไม่จริงล่ะ”เสียงของปุ๊กฟังดูเย็นชา ใบหน้าหวานบึ้งตึงอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน “เมฆทิ้งให้ปุ๊กมาเรียนที่อเมริกาคนเดียว ติดต่อก็ไม่ค่อยติดต่อมา เมฆคิดว่าการที่ปุ๊กต้องมาอยู่ในที่ๆ ไม่มีใครสักคนที่ปุ๊กรู้จักเป็นปีๆ ปุ๊กจะรู้สึกยังไง”

“แต่ ปุ๊ก เราแค่...”

"แค่ไม่อยากรบกวน แค่อยากให้ได้พักผ่อน แค่กลัวว่าจะไม่ว่า แค่ แค่ แค่”ปุ๊กเริ่มขึ้นเสียงใส่เมฆ เธอจ้องมาที่ว่าที่คุณหมอเขม็ง “แต่ ที่เมฆคิดเองเออเองน่ะ มันใช่ที่ปุ๊กคิด ใช่ที่ปุ๊กรู้สึกเหรอเมฆ!”

“ปุ๊ก...”เสียงของเมฆนั้นแผ่วเบา ผมมองหน้าเพื่อนสาวอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ปุ๊กที่น่ารัก ปุ๊กที่ขี้อายและอ่อนโยน... เธอเปลี่ยนไปแล้ว

เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

เมฆเข้าไปกอดปุ๊กเอาไว้แน่น ริมฝีปากบางนั้นสั่นระริก... คงพูดอะไรไม่ออก

ส่วนข้างหลังผม มีซับภาษาอังกฤษรัวเร็วด้วย... สรุปว่านี่เป็นละครรักน้ำเน่าหรือยังไง?

“เมฆเข้าใจปุ๊กบ้างไหม เข้าใจไหม”มือเรียวทุบตีอกและบ่าของคนที่กอดเธอเอาไว้ หยาดน้ำตาเม็ดโตไหลรินลงมา “ปากเมฆบอกรักปุ๊กนักหนา แล้วไหน ตอนที่ปุ๊กต้องการใครสักคนมาอยู่เคียงข้าง เมฆอยู่ที่ไหน”

“ขอโทษ... ขอโทษครับ”เมฆปล่อยให้สาวเจ้าทุบตีอย่างไม่โต้ตอบ เอาแต่พูดคำว่าขอโทษไม่หยุดปาก

“มันสายไปแล้วเมฆ มันสายไปแล้ว”อยู่ๆ ปุ๊กก็สงบลง ดวงตาที่ชุ่มน้ำเหลือมองใบหน้ามนของคนที่เป็นคู่มันอย่างเศร้าสร้อย “มันสายไปแล้ว...”

“หมายความว่ายังไงน่ะปุ๊ก...”

“ปุ๊กไม่ได้รักเมฆแล้ว”ร่างบางบิดตัวออกจากอ้อมแขนที่อ่อนแรงของคุณหมอ เธอส่งยิ้มบางให้กับเขา “ใจของปุ๊กไม่ใช่ของเมฆอีกต่อไปแล้ว”

“แต่เรา... มาเริ่มกันใหม่ก็ได้ ไม่ใช่เหรอปุ๊ก”เสียงของเมฆฟังดูเว้าวอน เช่นเดียวกับสีหน้าและดวงตาของเขา “เรามาเริ่มกันใหม่เถอะ”

“ไม่ เมฆ... เราเริ่มกันใหม่ไม่ได้หรอก”ปุ๊กส่ายหน้ารัวเร็ว ผมยาวของเธอสยายทั่วเต็มหลัง “ปุ๊กไม่ใช่ของเมฆแล้ว... ทั้งหัวใจ... และร่างกาย”

ร่างของเมฆทรุดลงไปกับพื้น น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินลงมา แต่คู่หมั้นของเขากลับไม่สนใจ หันหลังให้แล้วเดินออกไปอย่างไม่เหลียวกลับ

ผมกำลังจะยื่นมือเข้าไปประคองร่างของเพื่อนขึ้น หากแต่มีใครบางคนพุ่งเข้าไปก่อน

โดมินิคเข้าไปพยุงตัวของเมฆขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ ใบหน้าคมนั้นดูสลดลงอย่างรู้สึกผิด

“เขาไม่รู้ว่าปุ๊กมีคู่หมั้นแล้ว”พายุเดินมายืนข้างๆ ผม “และเขาคิดว่ามันก็สนุกดีกับการที่ได้ one night stand กับผู้หญิงคนนั้น เธอร้อนแรง และhotมาก”

“เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยนจริงๆ สินะ”ผมอดจะเปรยออกมาอย่างเหนื่อยใจไม่ได้ ไม่คิดเลยครับว่าเหตุการณ์ที่เห็นแต่ในละครจะมาเกิดขึ้นจริงอย่างนี้

มันบ้าชัดๆ


ผมกับพายุพาเมฆกลับมาที่บ้านของลุงซี หลังจากส่งเจ้าตัวเข้าห้องไปแล้ว เขาก็ขังตัวอยู่ข้างในนั้นไม่ยอมออกมา แม้จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้วก็ตามที

คุณป้ามาร์ทาบอกว่า เราควรให้เวลาเขาได้อยู่กับตัวเอง เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น เวลาจะเป็นยารักษาใจได้ดีที่สุด

คืนนี้ เป็นคืนที่ผมนนอนไม่หลับ... ข่มตาไม่ลงครับ ถึงไม่ได้เจอกับตัวเอง แต่ทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนที่ผมรักทั้งคู่ ต่างคนต่างความคิดผมก็พอจะรู้อยู่ แต่ผมยังทำใจไม่ได้

ความอบอุ่นโอบทับร่างของผม พายุรั้งตัวผมที่นอนก่ายหน้าผากไปกอดเอาไว้แน่น มืออุ่นๆ นั้นลูบไล้ที่ศีรษะของผมเบาๆ อย่างต้องการจะปลอบประโลม

ทั้งที่คนที่สมควรจะได้รับการปลอบโยนมากที่สุดคือเมฆแท้ๆ

“นอนเถอะนะ อย่าคิดมากเลย”เสียงทุ้มห้าวกระซิบแผ่วเบาในความเงียบ ความอ่อนโยนที่ได้รับมันทำให้ใจของผมสงบลง ก่อนสติจะเลือนหายไป

พายุ... คุณเป็นคนยังไงกันแน่นะ

ตกลงว่าคุณเป็นคู่อริกับผม... จริงๆ หรือเปล่า

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาแล้วค้าาา เมฆดราม่า แต่พายุลมหนาวก็หวานอยู่นาา หวานจีๆ 5555

merry christmas นะคะทุกคนน ขอพระเยซูอวยพรค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 25-12-2015 00:39:39
 :hao6: หวานเบาๆ

อยากรู้ว่าทำไมพายุถึงชอบลมหนาวอะ!?
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 25-12-2015 00:48:24
พายุลมหนาวหวานมากกกก มาเมการอบนี้พายุคงได้กำไรนะ 55555
เรื่องเมฆกับปุ๊ก เราแอบรู้สึกว่าปุ๊กผิดนะ ถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายเกรงใจก็บอกไปตรงๆก็ได้นี่นาว่าอยากได้อะไร ไม่ใช่มานอกกายนอกใจแบบนี้อะ หรือถ้าจะทำก็ควรส่งข่าวบอกกันหน่อยไหม? แย่อะ แย่ ๆ
หัวข้อ: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 25-12-2015 02:28:48
เย่!!! คู่หวานชื่น มหันตภัยมาสักที (พายุ+ลมหนาว) สงสารเมฆอยู่นะ แอบอีโน(มโน) อยู่ลึกๆว่าไอน้ำเป็นก้อน(เมฆ) ต้องได้โดมินิคมาดามใจ~ 555555  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 25-12-2015 04:19:45
ชัดมานิดหนึ่งแล้วมั๊ง พายุ-ลมหนาวนี่
เรื่องของเมฆกับปุ๊กนี่มองยังไงฝ่ายหญิงก็ผิด 
ไม่พอใจยังไง จะเลิกยังไงก็สมควรบอก
แต่เราขอบอกตรงๆนะว่าบางทีก็เหมือนปล่อยเสือ - ชะนีเข้าป่า
คือสังคมที่ต่างประเทศมันฟรีมากๆ 
ไม่มีใครมานั่งแคร์ มานั่งใส่ใจว่าใครทำอะไร
ชีวิตใครชีวิตมัน  ทำให้คนที่มาจากพื้นเพแบบเมืองไทยหลายๆคนไปแบบกู่ไม่กลับ
คือคิดว่าจะทำอะไรก็ได้เพราะว่ายังไงข่าวก็มาไม่ถึงเมืองไทยอยู่แล้ว

คิดอีกทีเราว่าเมฆโชคดีมากที่รู้เรื่องก่อน
ปุ๊กเองก็ไม่ได้บอกขอเลิก
ซึ่งก็เป็นไปได้ว่ากะทำตัวแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะกลับบ้าน
กลับไปก็เปลี่ยนไปเยอะจนเมฆทำใจไม่ได้
หรือไม่ก็แต่งงานกันไปโดยที่เมฆไม่ได้รู้ว่าแฟนตัวเองเคยทำตัวแบบไหนหรืออาจจะยังแอบทำอยู่

เราจิ้นโดมินิค-เมฆไปแล้วค่ะ   
ถ้าเป็นจริงชะนีปุ๊กก็คงดิ้นพล่านเพราะท่าทางคงชอบอีกฝ่ายมากโขอยู่ เห็นว่าไปไหนมาไหนด้วยกัน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 25-12-2015 06:06:20
 :o8: :o8: :o8: :katai5:  พายุ-ลมหนาว :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 25-12-2015 10:04:04
รอตอนต่อไปค่าาา >//////<
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-12-2015 10:19:47
สงสารเมฆอ้ะ หาคนดามใจด่วนนนนน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 25-12-2015 22:31:19
:hao6: หวานเบาๆ

อยากรู้ว่าทำไมพายุถึงชอบลมหนาวอะ!?

รอดูตอนต่อไปนะคะ ^^ หวานอีกแล้วววว ฮ่าๆ แง้มออกมาอีก เต็มๆต้องไปอีกก ท้ายเรื่อง แหะๆ

เย่!!! คู่หวานชื่น มหันตภัยมาสักที (พายุ+ลมหนาว) สงสารเมฆอยู่นะ แอบอีโน(มโน) อยู่ลึกๆว่าไอน้ำเป็นก้อน(เมฆ) ต้องได้โดมินิคมาดามใจ~ 555555  :katai2-1: :katai2-1:
ชัดมานิดหนึ่งแล้วมั๊ง พายุ-ลมหนาวนี่
เรื่องของเมฆกับปุ๊กนี่มองยังไงฝ่ายหญิงก็ผิด 
ไม่พอใจยังไง จะเลิกยังไงก็สมควรบอก
แต่เราขอบอกตรงๆนะว่าบางทีก็เหมือนปล่อยเสือ - ชะนีเข้าป่า
คือสังคมที่ต่างประเทศมันฟรีมากๆ 
ไม่มีใครมานั่งแคร์ มานั่งใส่ใจว่าใครทำอะไร
ชีวิตใครชีวิตมัน  ทำให้คนที่มาจากพื้นเพแบบเมืองไทยหลายๆคนไปแบบกู่ไม่กลับ
คือคิดว่าจะทำอะไรก็ได้เพราะว่ายังไงข่าวก็มาไม่ถึงเมืองไทยอยู่แล้ว

คิดอีกทีเราว่าเมฆโชคดีมากที่รู้เรื่องก่อน
ปุ๊กเองก็ไม่ได้บอกขอเลิก
ซึ่งก็เป็นไปได้ว่ากะทำตัวแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะกลับบ้าน
กลับไปก็เปลี่ยนไปเยอะจนเมฆทำใจไม่ได้
หรือไม่ก็แต่งงานกันไปโดยที่เมฆไม่ได้รู้ว่าแฟนตัวเองเคยทำตัวแบบไหนหรืออาจจะยังแอบทำอยู่

เราจิ้นโดมินิค-เมฆไปแล้วค่ะ   
ถ้าเป็นจริงชะนีปุ๊กก็คงดิ้นพล่านเพราะท่าทางคงชอบอีกฝ่ายมากโขอยู่ เห็นว่าไปไหนมาไหนด้วยกัน

อุ่ยยย จะคู่ใครน้าา เมฆของเรา จบเรื่องนี้จะเขียนคู่ของเมฆต่อค้าา ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 25-12-2015 23:52:10
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

พายุ ฉวยโอกาศตลอดดดดดดดด
ลมหนาวหวั่นไหวรู้ไม๊
แอร๊ยยยยย เขินนน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 26-12-2015 00:17:37
โดมินิค-เมฆ
รู้สึกถึงอะไรบางอย่างของสองคนนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่38 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ25/12
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-12-2015 13:23:15
โดนคู่หมั้นปันใจจะหันไปชอบผู้ชายเลยเหรอเมฆ เราว่ามันไม่ใช่อ่ะ
พายุนี่กำไรเห็น ๆ แต่ก็อยากรู้ว่ารักลมหนาวตอนไหน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 30-12-2015 19:45:55
วันที่สามสิบเก้า

หลังจากที่รู้ความจริงของปุ๊กที่อเมริกาแล้ว เราอยู่เที่ยวกันต่อไม่กี่วันโดยที่สีหน้าของเมฆไม่สู้ดีนักแล้วจึงมาขึ้นเครื่องกลับกัน ในตอนแรกเราจะแวะเที่ยงญี่ปุ่ด้วยกันสามคน แต่เมฆขอเลื่อนตั๋วกลับไทยไปก่อน คงจะไปเคลียร์กับทางบ้าน และจบเรื่องทั้งหมดลง

ผมไม่ได้รั้งเพื่อนเอาไว้ เราต่างแยกย้ายกันไป เลยเหลือแค่ผมกับพายุที่มาเที่ยวต่อในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นภาษาที่สามที่ผมพูดได้แบบงูๆ ปลาๆ

ไกด์ของผมคงไม่ใช่ใคร ในเมื่ออยู่กันแค่สองคนนี่ครับ พายุเจ้าเก่าคนเดิม คนดีของทุกคนแต่ร้ายสำหรับตัวผม เห็นว่ามาบ่อยแล้วล่ะครับ

ลากกระเป๋ากันไปถึงโรงแรมแถววัดเซ็นโซจิหรือที่ติดหูกันคือวัดอาซากุสะ ถ้านึกไม่ออก ก็วัดที่มีโคมแดงๆ ใหญ่ๆ น่ะครับ วัดชื่อดังในโตเกียวเลย มันทำให้ผมได้รู้ว่าการไหว้พระที่ญี่ปุ่นจะไม่เหมือนไทยเราเลยครับ ในเช้าวันถัดมาที่เราไปไหว้ขอพรกัน

ต้องมีการปัดควันจากเตาไฟ(?) เรียกอะไรไม่รู้เหมือนกันครับ หน้าตาคล้ายๆที่เผากระดาษวัดจีนไม่ก็ที่ปักฐูปมีหลังคาบ้านเรา แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว ปัดควันเข้าหาตัว แตะตามกลัวเช่น แตะหัวเขาว่าจะทำมห้สมองดี ก่อนจะพนมมือไหว้ขอพร

โชคดีที่ช่วงนี้คนไม่เยอะนะครับ

อ้อ ก่อนไหวพระต้องล้างมือก่อนด้วยนะครับ เขาว่าเป็นการล้างสิ่งสกปรกออกไป แต่ตามหลักการแล้ว มือที่สัมผัสอากาศยังไงก็มีเชื้อล่ะครับ

แล้วเราจะเข้าหลักวิชาการกันทำไมล่ะเนี่ย แย่จัง

อาหารมื้อแรกของผมคืออะไรรู้ไหมครับ มาญี่ปุ่นต้องกินอะไร...ไม่ใช้ซูชิ ซาชิมิ แซลม่อน หรือแกงกะหรี่หรอกครับ มือแรกของผมเป็นราเมน... ราเมนแบบจิ้มมั่วเอามาสักอันด้วย

ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยกินราเมนนะ กลับกัน ผมกินฮาจิบังราเมนบ่อยด้วย แต่มันดูไม่เหมือนกันกับที่เคยกินที่ไทยสักเท่าไหร่นะครับ ไข่ดิบนี่คืออะไร... แต่เอาเป็นว่ามันกินได้อยู่ละกันครับ

หลังจากกินเสร็จ พายุก็พาผมไปเช่าชุดยูกาตะมาใส่ ผมเลือกใส่ยูกาตะสีกรมทอลายสี่เหลี่ยมกระจายทั่วตัว ด้านนอกสวมเสื้อกี ซึ่งเป็นเสื้อคลุมของชุดเอาไว้ ส่วนพายุเลือกชุดที่ต้ิงใส่ฮากะมะ

คุณลุงเจ้าของร้านขอถ่ายภาพเอาไว้หลายแอคอยู่ครับ และแกก็บอกไว้ว่าขากลับมาเปลี่ยนชุดจะมีของที่ระลึกให้ ถ้าให้เอารูปไปใช้ได้ ซึ่งผมก็ไม่อะไร เอาไปใช้ก็ใช้ครับ ไม่เสียหาย

เราต่อกันไปที่สวนอุเอโนะ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ถ้าเป็นช่วงดอกซากุระบาน ทั่วสวนนี้จะเป็นสีชมพูเลยครับ แต่มาช่วงนี้ก็ดูใบไม้กันไป

แต่... ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีสายตาจับจ้องอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เป็นวินัยมา ถ้าใครจ้องผมสักพัก ผมจะรู้สึกได้ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

ผมกวาดตามองไปรอบๆ เห็นสาวๆ ที่มาเป็นกลุ่มๆ ยืนพูดคุยหนอกล้อกัน นักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัว ก็ดูไม่อะไรนี่ครับ... ผมอาจจะคิดไปเอง

"คุณพายุ เขาพูดอะไรกันน่ะ"ผมกระซิบถามเมื่อเห็นสาวน้อยกลุ่มนึงชี้ๆ มาทางผมและหัวเราะคิกคัก ภาษาญี่ปุ่นที่ไม่คุ้นหูทำให้ผมอกที่จะสงสัยไม่ได้

"อืม..."คนข้างตัวผมเงี่ยหูฟัง แล้วอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะส่ายหน้า "ผมว่าคุณไม่รู้จะดีกว่านะ ลมหนาว"

"เรื่องไม่ดีเหรอ?"ผมถามกลับ ผมว่าผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดนะ ถ้าเขาจะมามองว่าชาวต่างชาติอย่างผมไม่ดีเพราะคนที่มาเที่ยวก่อนหน้าก็คงไม่ใช่

"ก็ไม่เชิงหรอก แต่ไม่ใช่เรื่องที่คุณคิดอยู่แน่"พายุยกมือขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ ผมไม่ใช่หมาเหอะ แน่นอนว่าผมต้องปัดมือนั้นออก เรียงเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนตรงหน้าได้ และหางตาผมก็เห็นผู้หญิงกลุ่มนั้นทำตาโต ตีแขนกัน... ทำไม?? "เขาแค่พูดทำนองว่าคุณกับผมน่ารักดี แค่นั้นเอง"

ผมขมวดคิ้วชักสีหน้าตึง ก่อนจะขยับตัวออกห่างคนข้างๆ ไปไกล โซนร้อนหัวเราะผมเบาๆ ใครสรรสร้างความคิดจับผมคู่กับมันวะครับเนี่ย

แต่จริงๆ แล้วขยับออกห่างไปก็เท่านั้นล่ะครับ ยังไงผมก็ต้องตามพายุไปอยู่ดี อยู่ด้วยกันแค่สองคน จะให้แยกไปไหน ถ้าหลงทางขึ้นมาก็คงจะแย่เอาได้

คนที่แย่น่ะ... ผมเองครับ ก็ผมพูดภาษาญี่ปุ่นได้น้อยมาก... มากๆ แต่พายุพูดเป็นภาษาที่สี่เลยนี่

ตลอดทางเดินที่ยาวเข้าไป ผมแวะถ่ายรุปเก็บไว้บ้าง ผลัดกันถ่ายกับพายุบ้าง เดินดูไปเรื่อยล่ะครับ มีหลายคนหันมามองอยู่ แต่เมินๆ ไปแล้วกัน

ยังไงก็คงไม่ได้เจอกันบ่อยๆ จริงไหมล่ะครับ

แต่... ก็ยังมีการมาทำให้ผมเมินเฉยไม่ได้

การที่มีสาวฝรั่งเดินปาดหน้า แล้วหยุดยืนเท้าเอวใส่ พวกคุณคิดว่ายังไงครับ? หรือว่าผมไปทำอะไรผิดเข้า เขาถึงดูไม่พอใจขนาดนี้

“Hey you. May I take your picture ?”ขอถ่ายรูป? ผมไม่ได้ฟังผิดใช่ไหมครับ? เขาจะมาขอถ่ายรูปนักท่องเที่ยวธรรมดาๆ อย่างพวกผมสองคนทำไม?

“Why ?”พายุถามกลับไปพร้อมกับส่งรอยยิ้มนุ่มๆ ให้กับเธอ รอยยิ้มที่ผมมันจะเห็นมันส่งให้กับผู้หญิงทุกคน ยกเว้นเพื่อนในขณะตัวเอง หลังจากที่ปลดวินัยมาแล้ว

“you cute”น่ารัก... เขามองว่าเดือนคณะสองคนน่ารักครับ ฮะๆ จริงๆ แล้วตั้งแต่โตมาผมก็ไม่เคยถูกชมว่าน่ารักอีกเลยนะครับ

“เขาขอถ่ายรูป... จะเอายังไงล่ะ ลมหนาว”พายุหันมาถามผมที่ยื่นนิ่ง ผมเงียบไม่ตอบอะไร... ไม่รู้จะตอบอะไรน่ะครับ “เอ่อ... sorry we...”

“ให้ถ่ายไปก็ได้... คงไม่เสียหายอะไร”สุดท้ายก็ยอมจนได้สิผมเนี่ย แต่การที่เห็นเขาทำหน้าเจื่อนไปแบบนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกผิดเบาๆ ล่ะครับ

ก็แค่รูปถ่าย...

“OK , It's my pleasure !”เดือนวิศวะหันไปตอบรับคำขอด้วยรอยยิ้ม สาวฝรั่งตรงหน้าเธอยิ้มกว่าอย่างดีใจ ก่อนที่จะยกมือขึ้นโบกสองสามที

กองทัพเพื่อนหญิงของเธอโผล่มาจากไหนไม่รู้ สองคนถือกล้องDSLR สามคนถือรีเฟรท ขาตั้งกล้องก็มี แฟรชแยกก็มา... เหมือนกองถ่ายขนาดย่อมเลยนะครับ

ผมผ่านการถ่ายแบบเสื้อผ้ามาไม่น้อยนะครับ แต่ก็ถ่ายเฉพาะในสตูดิโอ มาเจอกลางแจ้งกับคนเยอะขนาดนี้ก็ประหม่าเหมือนกัน...
มาเที่ยวเขาเอามาพร้อมกันขนาดนี้เลยเหรอ...

ก็ตกปากไปแล้วทำยังไงได้ โพสท่าถ่ายอย่างเดียวล่ะครับ ทั้งรูปเดี่ยว รูปคู่ รูปปิกนิกที่มีพร็อบมาครบครัน จากที่อยู่อย่างสงบ ตอนนี้มีญี่ปุ่นมุงมาด้อมๆ มองๆ พวกเรากันเต็มเลยครับ

ช่างภาพหลักคือนานาโกะ เธอเป็นคนสั่งให้ผมขยับไปซ้าย ไปขวา อีกให้พายุมาโอบไหล่ โอบเอว ทำๆ ไปรู้สึกมันคล้านพรีเว็ดดิ้งนะครับ

ตกลงว่านี้แต่ขอถ่ายรูปแน่ใช่ไหม? ใช่ถ่ายรูปทำนิตยสารใช่ไหมครับ? เล่นกินเวลาผมไปเป็นชั่วโมงเลย กว่าพวกเขาจะพอใจ

“เอ้า รูปสุดท้ายนะ”เธอพูดภาษาญี่ปุ่น ซึ่งผมฟังไม่ออก อะไรชาชิน ชาชิน รู้แต่ว่าถ่ายรูป นี่แหละครับ

อยู่ๆ พายุก็จับผมหมุนตัวให้หันไปหาหมอนั่น มือข้างนึงโอบเอวผมแน่ อีกข้างเชยคางผมขึ้นแล้วกดริมฝีมากลงมาเบียดแนบชิด
มัน... จูบผม... อีกแล้ว

เสียงกรี๊ดเบาๆ ลอยเข้าหูผม แฟรชสาดเข้ามารัวๆ ผมพยายามผลักอกแกร่งออกจากตัว แต่แรงกระชับที่เอวมันก็เกินกว่าคนทำงานในแลปอย่างผมจะสู้ได้

ลิ้นนุ่มหยุ่นแทรกเข้ามาในโพรงปากผม ไล่ต้อนให้ผมต้องเอาลิ้นตัวเองหลบ แต่สุดท้ายก็ถูกเร้าให้พันสู้... ครั้งนี้จูบของมันลึกซึ้งกว่าครั้งก่อนๆ

ดีฟคิส

กว่าพายุลูกนี้จะปล่อยผมให้เป็นอิสระ ริมฝีปากผมก็บวมเจ่อขึ้นมาแล้วหน้าเน้อไม่ต้องถามครับ ทั้งร้อน ทั้งแดง ผมปล่อยหมัดชกท้องคนตรงหน้าไปเต็มแรงทีนึงอย่างไม่ให้มันตั้งตัว

ทรุดลงไปเลย เชี่ย

ไม่สนอะไรแล้วครับงานนี้ ผมสะบัดตัวเดินดุ่มๆ ไปทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน แต่สมองของผมสั่งให้ไปไหนก็ได้ที่ห่างจากตรงนี้มากที่สุด

อายฉิบหายเลยครับ!!!

มันกล้าดียังไงมาบังคับจูบผมต่อหน้าธารกำนัลแบบนี้ เข้าใจความรู้สึกของปันปันเวลาโดนพี่คิสแหย่ต่อหน้าทุกคนขึ้นมาเลยล่ะครับ
เล่นไม่รู้เรื่องเลย...

ที่สำคัญ! ทำไมผมถึงไปยอมให้มันตักตวงจูบจากผมไปได้กัน! จริงๆ ถ้าผมยกขาถีบสักที หรือชกท้องน้อยมันสักรอบ มันก็ต้องปล่อยแล้วแท้ๆ

แย่... แบบนี้มันชักแย่ขึ้นทุกที

ผมเดินลึกเข้ามาตามทางจนตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน... คนที่เคยมีเดินสวนไปมาก็ไม่มีแล้ว แต่คงไม่หลงหรอกครับ... แค่เดินกลับไปตามทางก็พอแล้วนี่

ขอทิ้งตัวลงนั่งพักสักหน่อยแล้วกันนะครับ เฮ้อ ผมคิดถูกไหมนะที่ยอมมาเที่ยวกับเฮดวินัยวิศวะสองคนแบบนี้ ทั้งที่เราไม่ถูกกันเลยแท้ๆ แล้วมันยังมาจาบจ้วงกับผมอีก

บ้าชิบ ลมหนาว จะคิดถึงฉากนั้นทำไมกัน!

ก็แค่จูบ จูบที่สองเอง จะไปคิดมากทำไม ไม่ได้ทำให้ผมเสียหายอะไรมากมายสักหน่อย ถือว่าทำทานไป ถึงจะไม่เต็มใจก็เถอะ!
ไม่เต็มใจ... จริงๆ นะ

“ลมหนาว!”เสียงทุ้มปนหอบร้องดังขึ้น ก่อนที่ร่างสูงโปร่งของอดีตเดือนมหาลัยจะวิ่งมาอยู่ตรงหน้าผม “อย่าเดินดุ่มมาคนเดียวสิ ถ้าหลงขึ้นมาจะทำยังไง”

“ก็แค่เดินตามทาง ผมไม่โง่ขนาดที่จะหลงทางหรอกนะครับ”ผมตอบกลับเสียงเย็นชา ตาจ้องไปที่คนที่ยืนหอบแฮ่กตรงหน้า เหงื่อใสผุดพรายไปทั่วใบหน้าคมของพายุ แต่เหมือนว่าเจ้าตัวไม่คิดที่จะเช็ดมันเลย

“ถึงอย่างนั้นผมก็เป็นห่ว---“มันชะงักไป ก่อนจะเงียบเสียงลงแล้วหลบตาผมไป “เอาเป็นว่า... เรากลับไปเปลี่ยนชุดกลับโรงแรมกันเถอะ”

ผมยอมเดินตามพายุกลับไปโดยดี ไม่อิดออด ระหว่างทางก็เจอสาวๆ กลุ่มเดิมชะเง้อคอมองมาอยู่ แต่ผมไม่มีอารมณ์จะทักทายอะไรทั้งนั้นล่ะครับ พอพวกเธอเห็นผมก็พอกันถอนหายใจแล้วยิ้มออกมากัน

ทุกย่างก้าวมีแต่ความเงียบ มีเพียงเสียงพูดคุยของคนรอบข้างและเสียงลมที่อยู่รอบตัวพวกเรา ผมกับพายุไม่พูดคุยอะไรกันแม้แต่คำเดียว

และเรา... ก็จะไม่พูดถึงจูบที่ผ่านมาด้วย

แต่มือของมันกอบกุมมือของผมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ราวกับว่าถ้าปล่อยมือผมแล้วผมจะหายไปอย่างไรอย่างนั้นแหละ... ในแดนอาทิตย์อุทัยนี้ ผมรู้จักแค่มัน... ผมจะไปไหนได้

เรามกลับมาเปลี่ยนชุดกลับที่ร้านลุง และตามคำพูด ลุงแกมีของที่ระลึกให้ เป็นตั๋วลดราคาค่าเช่าชุด เครื่องราง และหน้ากากจิ้งจอกกับยักษ์ที่เห็นบ่อยๆ ในงานวัดญี่ปุ่นในการ์ตูน

เราไปกินข้าวเย็นกันในร้านข้าวแกงกะหรี่ แกงกะหรี่ไก่คาราเกะอร่อยดีครับ ไก่กรอบนอกนุ่มในเข้ากับน้ำแกงกะหรี่หมูเป็นอย่างดี
เราเดินดูของแถววันเซ็นโซจิกันเล็กน้อย ซื้อขนมไปกินที่ห้องพักอย่างสองอย่าง แล้วถึงกลับไปนอนกัน

อย่า... อย่าคิดว่าผมนอนเตียงเดียวกับพายุเหมือนตอนอยู่อเมริกาครับ ไม่เลย คราวนี้เป็นเตียงสองชั้น และผมได้นอนชั้นบน
ปีนไปก็หัวโขกเพดานไป ใช้ได้ครับ เพดานแข็งดี... เกิดมาสูงก็แบบนี้แหละ


วันต่อมาเราไปกับที่โอไดบะ เป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง เป็นอีกที่ที่นิยมของนักท่องเที่ยว และคนมาเที่ยวอย่างผมก็คงไม่ควรที่จะพลาด

อันดับแรกพายุพาผมไปแช่ออนเซ็น สบายตัวมากเลยครับ น้ำอุ่นๆบรรยากาศก็ดี หน้านี้ไม่ใช่หน้าท่องเที่ยวคนก็เลยน้อย ไม่เบียดกันดี

หืม... พายุโชว์ซิคแพคแล้วไงครับ ผมก็มี... ถึงจะมีแค่สี่แพคก็เถอะ... กับคนที่นั่งเรียน เดินทำแลปอย่างผม ได้เท่านี้ก็เก่งแล้วล่ะครับ

เคลิ้มๆ ได้ไม่นานก็โดนลากขึ้นจากบ่อครับ แช่นานมากก็ไม่ดีต่อร่างกายเหมือนกัน คราวนี้เลยได้เดินตัวปลิวไปดูรถในพิพิธภัณฑ์โตโยต้า เข้าไปเล่นบ้านผีสิงในพาเลตทาวน์ ไปถ่ายรูปกันดั้มที่ไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า ตามล่าเทพีเสรีภาพจำลอง ต่อด้วยกินราเมนขึ้นชื่อที่อควาซิตี้ ก่อนกลับแวะไปดูมิไรคังที่เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติสักหน่อย

เป็นเกาะเล็กๆ ที่ต้องใช้เวลาเที่ยวทั้งวันเลยครับ ยังไม่หมดด้วยซ้ำไป แต่ที่เด่นๆ ก็เก็บได้ครบแล้ว ถือว่าคุ้มค่าที่ได้มาแล้วล่ะครับ
ผมมองรูปที่ถ่ายในมือถือ ว่าไปแล้วผมถ่ายรูปคู่กับพายุเยอะเหมือนกันนะครับเนี่ย

ใครจะไปเชื่อกันล่ะครับ ว่าคู่อริที่เจอหน้ากันไม่ได้ในมหาลัยจะมาเที่ยวด้วยกัน แล้วยังถ่ายรูปคู่กันซะเยอะด้วย

เป็นทริปที่สนุกดีเหมือนกันนะครับ คราวนี้

ว่าแต่... เมฆเป็นยังไงบ้างนะ


(พายุ)

เที่ยวกับลมหนาวสองคนเป็นสิ่งที่ผมคิดไม่ถึงที่สุดในการมาครั้งนี้เลยแหะ ตอนแรกที่เสนอตัวช่วยก็เผลอไปเพราะเก็นสีหน้ากังวลของหมอนั่น

รอยยิ้มสดใสที่ใครจะไปคิดว่าคนที่ถูกวางให้เป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งอย่างผมจะได้เห็นเต็มๆ ตา ไม่ใช่จากการแอบมอง การพูดคุยที่ลื่นไหล

แม่ง มันทำให้ผมมีความสุขชะมัด

กลับไปผมจะต้องทำให้แสตนด์ ผู้นำเชียร์ และพาเรทชนะเทคนิคการแพทย์ให้ได้เลย ผมจะต้องชนะพนันครั้งนี้ให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม

หึ ผมมีแผนเตรียมเอาไว้หมดแล้ว ไม่ว่ายังไงลมหนาวก็จะรอดจากมือผมไปไหนไม่ได้แน่ๆ ก็ผม... เตรียมมาเป็นปีๆ แล้วนี่น่า ขอมั่นใจหน่อยแล้วกัน

ผมเหล่มองคนที่นั่งยิ้มกดมือถืออยู่ข้างๆ แล้วแอบยกมือถือของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปเก็บความทรงจำนี้เอาไว้

ความเป็นวินัยเจ้าระเบียบที่สืบทอดมาจากรุ่นพี่ของเขาถูกสร้างขึ้นเป็นเกราะป้องกัน ตัวตนจริงๆ ของเขาไม่ใช่ความเย็นชาที่แสดงออก ไม่ใช่ความดุที่กระทำ

แต่จริงๆ แล้ว... ลมหนาวเป็นคนที่สดใส และอ่อนโยน เขามักจะเป็นห่วงคนอื่นก่อนตัวเองอยู่เสมอจริงๆ

ถึงผมจะเคยได้รับความห่วงใยของเขาแค่ครั้งเดียวเมื่อนานมาแล้วก็เถอะ... แต่มันก็ไม่รู้ลืมเลยนะ รอยยิ้มกับแววตาที่สดใสนั่น
ผม... ดีใจที่ได้เห็นอีกครั้ง

นึกถึงตอนทำกิจกรรมดาวเดือนแล้วคิดถึงชะมัด

“พายุ”เสียงนุ่มเอ่ยเรียกให้ผมหันไปหา รอยยิ้มบางของเขาฉาบทับบนใบหน้า ทำให้ผมยิ้มตามไปด้วยอย่างอดไม่ได้ “ทริปคราวนี้... ขอบคุณมากนะ”

“หืม??”ผมเอียงหัวอย่างงงๆ ขอบคุณอะไรของเขากันนะ

“ก็... ที่พาเที่ยวไง”เสียงของลมหนาวฟังดูตะกุกตะกัก ทำเอาผมกระตุกยิ้มขำ ก่อนจะแปรเปลี่ยนรอยยิ้มนั้นให้เป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แทน

“ไม่เป็นไรหรอก”ผมทิ้งตัวพิงกับพนักหลังที่นั่งบนรถไฟฟ้าออกจากโอไดบะ “ผมเก็บค่านำเที่ยวจากคุณมากแล้วนี่”
คุ้มสุดๆ เลยด้วย

“ค่านำเที่ยว?”คนข้างกายผมทวนคำ คงสงสัยนั่นแหละว่าผมไปเก็บตอนใน ในเมื่อผมมีแต่เลี้ยงเขา ไม่ได้ให้ออกอะไรให้เลยด้วยซ้ำ “ตอนไหน?”

“คุณอยากรู้เหรอ”ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ มองลมหนาวด้วยตาพราวระยับ “เอาไว้ไปถึงที่พักแล้ว ผมจะบอกให้แล้วกันนะ”

ทิ้งความสงสัยเอาไว้ให้ลมหนาวก่อน แล้วค่อยเฉลยที่หลัง... ทุกคนเดาได้แล้วใช่ไหมล่ะ? ว่าผมเก็บค่านำเที่ยวกับลมหนาวไปตอนไหน

เรานั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีอาซากุสะ กลับสู่ที่พักกัน ไม่ไกลรถไฟฟ้ามากนักมีร้านขายซูชิกับข้าวกล่องอยู่ อร่อยพอดูเลยสำหรับอาหารที่ไม่ใช่ร้านหรู

ลมหนาวดูจะชอบไม่น้อยเหมือนกัน เลยซื้อกลับมากินที่ห้อง แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่ชอบปลาดิบสักเท่าไหร่ เลยไม่คีบมาด้วยเลยสักชิ้น

ระหว่างทางเดินเราก็สลายเหรียญที่ได้มาด้วยการหยอดตู้น้ำเอาน้ำมาไว้กินที่ห้อง ที่จริงมีให้กรอกนะ แต่ผมก็ชอบกดมากกว่าอยู่ดี

กลับมาก็ทำธุระส่วนตัวกันไป ก่อนจะนั่งกินของที่ซื้อมา ลมหนาวเหลือบมองผมเป็นระยะๆ แต่ก็ยังไม่พูดอะไรออกมา

“คุณจะมองผมสลับกับซูชิในกล่องอีกนานไหมเนี่ย ลมหนาว”ผมวางกล่องที่เหลือซูชิอยู่ไม่กี่ชิ้นลง แล้วจ้องหน้าใครอีกคนไปโดยตรง

“ที่คุณบอกว่าจะบอกผม...”ลมหนาววางของในมือลงบ้าง แล้วขยับเข้ามาใกล้ผม “คุณจะบอกผมเมื่อไหร่ล่ะ พายุ”

“เรื่องที่ว่าคุณจ่ายค่านำเที่ยวให้ผมตอนไหนน่ะเหรอ”ผมกระตุกยิ้ม แล้วขยับตัวบ้าง

ผมดึงตัวของลมหนาวเข้ามาใกล้โดยไม่ให้หมอนี่รู้ตัวก่อน เบียดริมฝีปากลงไปชิมความหอมหวานอีกครั้งนึง

ผมเป็นคนโลภ พอได้แล้วก็ต้องการอีก... และต้องการมากขึ้น

ผมส่งลิ้นเข้าไปกวาดเอาความหอมหวานในช่องป่กของลมหนาว มือเลื่อนขึ้นมาจับหัวทุยให้เอียงไปตามองศาที่ผมต้องการ

ไม่ใช่ว่าลมหนาวไม่ขัดขืนนะ แต่เขาสู้แรงของผมไม่ได้ ร่างที่ขัดขืนค่อยๆ โอนอ่อนตามผมไป แล้วสุดท้ายเขาก็ยอมให้ผมเอาเปรียบเล็กๆ โดยดี

“นี่ไง ลมหนาว ค่านำเที่ยวของผม”ผมฉกหอมแก้มคนที่นั่งนิ่งค้างตรงหน้าครั้งนึงก่อนจะหนีขึ้นเตียงไปนอน

เอาล่ะ ผมหยอกลมหนาวมานานมากแล้ว... ผมคงต้องขอรุกแรงขึ้นบ้างแล้ว

จริงไหมล่ะครับ ทุกคน

๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒

มาแล้วค้าา พายุจะรุกแล้วนะ น้ำยาเริ่มลงหม้อแล้วววว

สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้าเลยนะคะทุกคน ขอให้มีความสุขมากๆ เป็นปีที่ดีสำหรับทุกคนค้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 30-12-2015 21:32:01
 :m4: ซะทีๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: we.jinkyu ที่ 30-12-2015 21:48:58
 :o8:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 30-12-2015 21:52:46
ตายละ คนฉวยโอกาส 55555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: MELLOW ที่ 30-12-2015 21:57:32
กรี๊ดดดดดด ทริปนี้ พายุพาฟินหนักมาก :haun4:  :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 30-12-2015 23:01:55
 :pig4: :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 31-12-2015 03:36:05
ได้เสีย งานนี้มีได้เสีย ลมหนาวเจอโซนร้อนเข้าชนแน่นอลลล  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 31-12-2015 10:18:50
เริ่ดค่ะพายุ เอาใจช่วยเต็มที่ !!!

พูดเลยค่านำเที่ยวฟรินมากกก
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 31-12-2015 10:47:09
 :-[ :-[ :-[ :กอด1: :L1:  :กอด1: :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 31-12-2015 11:34:58
นี่โซนร้อนยังไม่รุกแรงอีกหรอเนี่ย โอ่ยยย!!!
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 02-01-2016 19:35:56
น่ารักจังเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 04-01-2016 15:16:33
 :mew4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 05-01-2016 11:29:01
อร๊ายยยยยย พายุ รุกอีกๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 05-01-2016 16:16:08
ฉันเขิน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่39 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ30/12
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 13-01-2016 17:50:43
อ๋อยยยย น่ารักเกินไปแล้ว เชียร์พายุ รุกเลยๆๆๆๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่40 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/01
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-01-2016 00:28:12
วันที่สี่สิบ

(ทิวไผ่)

ในหลายครั้งที่ผมเหนื่อย แต่ก็ต้องเก็บเอาไว้ในใจ ผมล้าแต่หน้าผมก็ต้องยิ้มเอาไว้ ผมท้อแต่ก็ต้องทำตัวให้ดูสบายๆ เพื่อเป็นหลักให้คนข้างหลัง

ทุกวันนี้ก็เช่นกัน

วันเวลาของผมหมดไปกับการเรียนและการดูแลเด็กน้อยที่ไปเก็บเอามา นกที่บาดเจ็บและได้รับการรักษาจนหายไม่ยอมบินออกจากกรง

ผมมองไล่ขึ้นไปตามแนวกระดูกสันหลังที่โค้งสวย นี่เป็นอีกครั้งที่ผมนอนกับฟางข้าว... นอนในอีกความหมายหนึ่งที่ไม่ใช่การหลับตาลง

วงจรชีวิตผมชักอุบาทว์ขึ้นทุกที เฮ้อ

แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ตัวผมเป็นคนก่อเอาไว้ และตัวผมอีกนั่นล่ะที่จะต้องเป็นคนแก้ปมที่ผูกเอาไว้ทั้งหมดด้วยตัวเอง โดยไร้ตัวช่วย
หน้าที่... กับความชอบใจ คือสิ่งที่ผมต้องเลือก

ข้าวพลิกกายหันมาแล้วซุกตัวเข้าในอ้อมกอดของผม ใบหน้าเล็กๆ นั้นอมยิ้มน้อยๆ ยิ่งดูก็ยิ่งเด็ก ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งทำให้รู้ว่าผมจะต้องดูแลเขา ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าผมไม่สามารถทิ้งเขาไปได้

“อืม... พี่ทิว”เสียงเล็กพึมพำแผ่วเบา ทำให้ผมต้องเงี่ยหูเข้าไปฟังใกล้ๆ “อย่าทิ้งผมนะ พี่ทิว”

นี่คงเป็นความกลัวในใจของข้าวสินะครับ...

ผมใจร้ายทิ้งข้าวไม่ลงหรอกครับ ต่อให้ผมจะไปชอบใครคนไหนก็ตามที... แต่ถ้าจะให้มาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน อันนี้ก็คงต้องพิจารณากันอีกที

ข้าวจะรับเสียงตอบรับได้อย่างนั้นเหรอ? จะมีปัญหากับคุณย่าไหม? แล้วกระแสสังคมที่ต้องเผชิญอีก มันเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับว่าผมกับเขา เราอยู่สังคมคนละระดับกัน

ถ้าเป็นมิน... ทุกอย่างก็จะง่ายดาย

แต่คงได้แต่ละเมอไปนั่นล่ะครับ มินรักข้าวมาก มากถึงขนาดที่ต่อให้ผมนอนกับมินลับหลังข้าว เพื่อให้ผมดูแลข้าว อยู่กับข้าวต่อ
ไป มินก็ยอม... ง่ายๆ คือมินยอมเป็นเมียเก็บให้ผมเพื่อให้ข้าวอยู่อย่างมีความสุขด้วยซ้ำไป

แต่ผมเป็นคนโหดร้ายอย่างนั้นเหรอ? ผมจะทำร้ายให้ใจของคนสองคนได้เหรอ? ไม่... ไม่ครับ ผมทำไม่ได้ และผมทำไม่ลงหรอก
ยังไง... ผมก็ต้องเลือก

และทางเลือกของผมมีแต่สองทางคือเลือกตามที่สมองสั่ง กับเลือกตามที่ใจต้องการ... ผมเชื่อว่าถ้าผมอยากจะกุมหัวใจมินนั้นไม่ยากเกินเอื้อมมือ

แต่นั่นก็เป็นการทำร้ายหัวใจของข้าวเช่นกัน

ผมเคยคุยเรื่องนี้กับคนที่ผมไว้ใจมากที่สุด... ลมหนาวบอกผมว่าให้ผมเลือกอย่างที่ผมต้องการมากที่สุด อย่าเลือกทางที่ผมจะเป็นทุกข์

แล้วมันมีทางนั้นให้ผมเลือกบ้างไหม? ถ้าผมเลือกมิน ผมก็ต้องทุกข์เพราะข้าวจะอยู่ไม่ได้ แต่ถ้าผมเลือกข้าว ผมก็ต้องทุกข์กับการฝืนใจตัวเอง

ออกบวชอาจจะเป็นทางที่ดี... แต่แน่ล่ะว่าที่บ้านผมย่อมไม่ยอม เพราะผมคือความหวังของพวกเขาที่จะลืบทอดโรงพยาบาลต่อไป

ส่วนพี่หลิว... ก็สืบทอดธุรกิจร้อยพันล้านนั้นอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้

ให้โชคชะตาเป็นตัวกำหนดทางเดินแล้วกัน... อย่างไร ตัวผมก็ไม่เคยที่จะเลือกทางเดินด้วยตัวเองอยู่แล้ว ก็ขออีกสักเรื่อง ให้ฟ้าเป็นคนกำหนด ผมพร้อมที่จะน้อมรับมัน

ผมกระชับอ้อมกอดที่ข้าวซุกตัวเข้ามาให้แน่นขึ้นอีกนิด ถ่ายทอดไออุ่นให้กับคนตัวเล็ก ถึงสมองผมบอกชัดว่าไม่ได้ชอบข้าว แต่ใจก็ยังคงบอกว่าไม่อาจทิ้งให้คนๆ นี้อยู่เพียงลำพังได้

เพราะข้าว... คงไม่อาจยืนอยู่

ผมยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างแผ่วเบา แล้วหลับตาลงเข้าสู่ความฝันตามคนที่นอนยิ้มซุกอ้อมกอดของผมไป

เรื่องของอนาคต ก็ปล่อยเป็นเรื่องของอนาคตไป ตอนนี้อยู่กับปัจจุบันคงจะดีกว่า

และผม... ก็ยังมีความสุขดี


ถึงแม้ว่าจะปิดเทอม แต่สำหรับเด็กศิลป์ยังไงก็ยังมีงานที่อาจารย์สั่งทิ้งไว้ให้ทำอยู่ตลอด ข้าวก็เช่นกัน วันนี้เขาต้องออกไปวาดรูปข้างนอก และกว่าจะกลับก็คงเป็นตอนเย็น เด็กดีของผมเลยต้องไปทำงาน โดยที่ก่อนไปผมทาครีมกันแดดให้เจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว ร่มก็ใส่กระเป๋าไปให้แล้ว

เหมือนเด็กประถมเลย... ผมคงดูแลเขามากเกินไป

ส่วนคณะแพทย์ของผม นานๆ ครั้งถึงจะได้หยุดพักผ่อนแบบนี้ และผมก็ควรที่จะใช้เวลาให้คุ้มค่าสักหน่อยล่ะครับ ยิ่งเป็นวันที่ทางบ้านของผมไม่ติดต่อมาให้ไปทำอะไรอย่างนี้ด้วย

วันพักผ่อนอย่างแท้จริง

ผมเอนหลังนอนเคลิ้มหลับไปอยู่พักหนึ่ง และคงจะนอนต่อไปถ้าไม่มีเสียงอะไรบางอย่างลอยเข้าโสตประสาทมาเสียก่อน
น่าเสียดายที่ผมเป็นคนหลับไม่ลึก

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ผมว่าผมไม่ได้นัดใครเอาไว้ และเพื่อนผมส่วนใหญ่ถ้าจะมาจะต้องบอกล่วงหน้าเสมอ... ลมหนาวก็เครื่องมาลงวันนี้ และคงไม่เคาะประตูด้วยเพราะมีคีย์การ์ด

ใครกัน

ผมเปิดประตูออกไปหาผู้มาเยือน ก่อนจะชะงักค้าง... ใครจะไปคิดว่าเขาจะมาหาผมกันล่ะ... คนๆ นั้นคือ มิน สีหน้าของน้องดูเคร่งเครียดไม่น้อย

“พี่ทิวฮะ... ขอผมคุยด้วยหน่อยนะฮะ”มินเอ่ยกับผมเสียงแผ่วเบา ดวงตาคู่ที่เคยสดใสนั้นดูเซื่องซึม “ผมขอเวลาแค่แป๊ปเดียวนะครับ”

“เข้ามาก่อนสิ”ผมเปิดทางให้เจ้าตัวได้เข้ามา นับตั้งแต่คุยกันครั้งก่อน มินก็ไม่เคยมาที่ห้องผมอีกเลย อาจจะเจอกันบ้างตามประสาคนที่อยู่คอนโดเดียวกัน แต่ก็ไม่อะไร ผมส่งข้อความไปน้อยครั้งที่เขาจะตอบกลับ

มันก็เป็นความนัยน์อยู่แล้วที่จะให้ผมตัดใจจากเขา...

ถึงไม่บอกผมก้รู้ว่าผมควรจะตัดใจ ถึงแม้ผมจะรู้ว่าถ้าผมรุกเข้าไปมินที่ไม่ประสากับเรื่องอะไรนักต้องตกหลุมผมแน่... แต่นะครับ
สมองผมบอกว่าผมทำร้ายฟางข้าวไม่ได้ ยังไงก็ทำร้ายเขาไม่ได้

เท่านี้ มันก็จบแล้วสำหรับความชอบที่ผมมีต่อมิน... puppy love ไม่จำเป็นต้องสมหวังเสมอไป จริงไหมล่ะครับ มันเป็นความชอบที่เก็บเอาไว้ในความทรงจำก็ได้...

มินนั่งลงบนโซฟาเดี่ยว ผมเลยนั่งตรงข้ามเขา ยิ้มรอฟังคำพูดที่จะออกมาจากปากของเขา ความค้างคาในจของผมคงจบในวันนี้...
ก็ดีครับ ทุกอย่างจะได้จบลงสักที

“พี่ทิวฮะ...”มินอ้าปากพูดขึ้นหลังจากเงียบไปพักใหญ่ เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วส่งยิ้มจืดชืดให้ “ผมรู้... ว่าพี่ชอบผม และผมก็รู้ว่าพี่รู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่...”

“ครับ”ผมรับคำยิ้มๆ “พี่รู้ว่ามินก็หวั่นไหวให้พี่เหมือนกัน”

“และพี่ก็รู้ใช่ไหมฮะ ว่าระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้”หน้าของน้องชายตรงหน้าก้มลงคางชิดอก ผมยังคงยิ้ม และจะยิ้มให้... “ผมเป็นผู้ชายคนนึง... ที่ชอบผู้หญิงนะฮะ”

“พี่รู้... พี่ก็ชอบผู้หญิง”และเคยมีว่าที่คู่หมั่นเป็นผู้หญิงด้วย แต่เราเข้ากันไม่ได้เลยเลิกรากันไป “เอาเถอะ พี่แค่อยากบอกมินว่า พี่ชอบมิน แค่นั้นก็พอแล้ว”

“... พี่ทิว...”

“เราไม่จำเป็นต้องรักกันก็ได้ไม่ใช่เหรอครับ มิน”ผมย้ายตัวเองไปนั่งเบียดกับมิน ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปลูบผมนุ่มเบา ๆ “เราเป็นพี่น้องกันก็ได้ จริงไหมครับ”

“จริงนะฮะ พี่ทิว”มินเงยขึ้นมามองผม พร้อมกับรอยยิ้มที่โล่งใจ

ความรักเล็กๆ ครั้งแรก ไม่จำเป็นต้องสมหวังเสมอไป... แล้วอีกอย่าง ผมก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บนักหนาด้วย มันอาจจะเป็นแค่ความหลงชั่วคราวก็ได้

ตุบ

เสียงที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในเวลาที่ในห้องมีคนเพียงสองคนในห้อง ผมกับมินหันไปทางต้นเสียง พวกเราพากันผุดลุกขึ้นอย่างตกใจไม่แพ้กับคนที่เปิดประตูเข้ามา

“ฟาง!!!”เสียงของมินร้องดังลั่น ก่อนร่างเล็กจะวิ่งเข้าไปหาเพื่อนที่ยืนค้างอยู่ “ฟาง อย่าเข้าใจผิดนะ ฟาง”

ฟางข้าวมองมาที่ผมนิ่ง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยปากอะไร ร่างเพรียวก็วิ่งออกไปเสียก่อน โดยมีทายาทตระกูลดังวิ่งตามไปอย่างไม่ลดละ

ผมทิ้งตัวลงนั่งพิงโซฟาอย่างอ่อนแรง เหม่อมองขึ้นไปบนเพดานขาว หัวใจของผมวูบโหวงเมื่อตอนที่เห็นข้าววิ่งออกไป... แววตาที่ฉายชัดถึงความเสียใจ

“หนาว... มาหาพี่หน่อยสิ”เสียงของผมฟังดูสั่นเครือ... ทำไม... ทำไมเสียงของผมเป็นแบบนี้กันล่ะ

ผม... กำลังเสียใจ?


“พี่ทิว... เป็นอะไรไปครับ”เสียงทุ้มเจือเสียงหอบถามขึ้น พร้อมกับร่างสูงโปร่งของคนสองคนที่ก้าวเข้ามาในห้องผมอย่างเร่งรีบ
ลมหนาว... มากับพายุ

ดูจากเสื้อผ้า คงเพิ่งจะลงเครื่องมาตอนที่ผมโทรไปหาพอดี เลยมาทั้งอย่างนั้นเลย

“พี่...”ผมเงียบลง... ผมควรจะพูดยังไงให้สื่อถึงสิ่งที่ผมรู้สึกอยู่ตอนนี้ดี “พี่รู้สึกไม่ดีเลย... เมื่อกี้ข้าวมาเห็นพี่อยู่กับมิน”

“รถไฟชนกัน ว่างั้น”พายุเป็นคสวนขึ้นมา ผมตวัดสายตามองรุ่นน้องต่างคณะ แต่ยังช้ากับคนตรงหน้าผมที่จ้องอีกฝ่ายตาเขม็ง

“นั่งลงเงียบๆ เลย พายุ”

หืม... การไปเที่ยวกันครั้งนี้ เหมือนสองคนเขาจะพัฒนาไปเหมือนกันนะ ลมหนาวเรียกชื่อพายุห้วนๆ แล้ว ไม่มีคำว่าคุณ... แล้วดูท่าว้ากเกอร์ตัวร้ายจะดูพอใจด้วย

“พี่ทิวครับ...”หนาวย้ายตัวเองมานั่งข้างผม แล้วส่งยิ้มให้บางๆ “พี่ทิวรู้สึกเจ็บที่ฟางข้าวมาเห็นพี่มิวอยู่กับมิน... ใช่ไหมครับ”

“ใช่...”

“แล้วเขาก็วิ่งหนีออกไปใช่ไหมครับ”

“ก็... ใช่”

“ชอบเขาแล้วทำไมไม่วิ่งตามไปล่ะครับ พี่”อีกครั้งที่แขกที่ผมว่าผมไม่ได้เชิญมาพูดทะลวงขึ้นกลางปล้อง “พอเลย ลมหนาว คุณไม่ต้องมองผมด้วยสายตาแบบนั้น ผมพูดจริงนะ ชอบคือชอบ ถ้าชอบเขาแล้วเขาเข้าใจผิด ก็รีบไปแก้ไขความเข้าใจผิดเขาสิ จะมานั่งรออะไร”

“พายุ คุณอย่าเพิ่งขัดจะได้ไหม”น้ำเสียงของหนาวเจือความหงุดหงิดเอาไว้ ทั้งที่ปกติแล้วเขาจะเป็นคนที่เก็บอารมณ์ได้อย่างแนบเนียนมากกับคนแปลกหน้า “พี่ทิวถามใจตัวเองดูหรือยังครับ... ว่าสรุปแล้ว พี่ทิวชอบใคร”

“...”เป็นคำถามที่ผมไม่รู้จะตอบดีไหม... ผมคิดว่าผมชอบมิน แต่ตอนที่ข้าวมองผมด้วยสายตาที่เจ็บปวดระคนผิดหวัง มันทำให้ผมรู้สึกแย่

“ผมน่ะ เชียร์ให้พี่ชอบกับมินมากกว่าฟางข้าวนะครับ...”อยู่ๆ ลมหนาวก็เปลยขึ้น ทำให้ผมต้องกันไปมองอย่างไม่เข้าใจ “มินมีทุกอย่างที่พร้อมสำหรับการเข้าบ้านพี่ทิว อย่างน้อยก็ไม่ถูกกีดกัน ไม่มีปัญหากับคุณย่าแน่ๆ แต่ถ้าพี่ทิวชอบข้าว ผมก็พร้อมที่จะสนับสนุนพี่นะครับ ขอแค่พี่มีความสุขก็พอแล้ว”

ห้องทั้งห้องเงียบลง คำถามที่ว่าผมชอบข้าวหรือมินลอยวนอยู่ในสมองของผมอย่างนั้น ราวกับว่ามันไม่มีทางออกให้ผมได้กระจ่าง

“พี่ทิว!!!”เสียงของมินดังเข้ามาในโสตประสาท เรียกให้ผมหันไปหาน้องเขา “ผมหาฟางไม่เจอ... พี่ทิวต้องไปตามฟางกลับมานะ... ไปตามกลับมา”

เสียงของมินสั่นเครือ เช่นเดียวกับด้วยตาที่สั่นระริก จากความกลัว ความหวาดหวั่น ความเสียใจ ทุกอย่างประดังประเดอยู่ในแววตาคู่นั้น

“ถ้าฟาง. ถ้าฟางเป็นอะไรไป ผมจะทำยังไง”

ผมผุดลุกขึ้น หยิบของที่จำเป็น แล้วก้าวออกนอกห้องไปตามที่ร่างกายสั่งมา ปล่อยทุกอย่างทิ้งไว้ข้างหลัง ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือผมจะต้องหาข้าวให้เจอก่อน

ใช่... ผมต้องหาข้าวให้เจอ

ผม... ควรจะรู้ใจตัวเองได้แล้ว วว่า ‘ใคร’ เป็นคนที่นั่งอยู่กลางใจของผม

ข้าว... รอพี่ก่อนนะ


(ฟางข้าว)

ผมวิ่งออกมาจากห้องที่ผมอยู่กับพี่ทิว กระดดดขึ้นรถมอเตอไซด์ให้วิ่งออกมาอย่างไม่รู้ทิศทาง ก่อนที่ขึ้นรถเมล์โดยไม่ดูสายรถ
ภาพที่พี่ทิวนั่งเบียนกับมิน ใบหน้าที่ใกล้กันจนเกือบจะแนบชิดนั้นติดตาของผม... ผมจะต้องสูญเสียอีกแล้วใช่ไหม ผมต้องเสียใจอีกแล้ว

ทำไม... ทำไมถึงไม่มีใครสักคนที่จะอยู่ข้างกายผม

พ่อกับแม่ก็ทิ้งผมไป ต่อมาไม่นานคุณย่าที่คอยช่วยเหลือก็เสียไปอีกคน... มาวันนี้ ผมก็กำลังจะเสียคนที่ผมรักไปอีกแล้วใช่ไหม...

ทำไมต้องเป็นผมที่สูญเสียอยู่เสมอ

ทำไม... มินต้องทำกับผมแบบนี้

ผมนั่งรถเมล์มาเรื่อยๆ จนมาถึงสวนสาธารณะที่พี่ทิวมักจะพาผมมาเวลาที่พี่เขาว่างจากการขึ้นวอร์ด พี่เขาชอบมาโยนขนมปังให้ปลากิน รอยยิ้มที่อบอุ่นนั้นฉายชัด

ผใทรุดตัวลงนั่งกอดเข่า เหม่อมองไปยังบ่อน้ำใสตรงหน้า

ความอ่อนโยนของพี่ทิวตรึงอยู่ในใจของผม... ไม่ว่าจะยามปกติ หรือบนเตียง

ทั้งที่ผมทำใจมาบ้างแล้ว... แต่ทำไมตอนที่เห็นภาพพวกนั้นกับตา มันถึงเจ็บแบบนี้... สมองมันว่างเปล่า ฉายภาพพวกนั้นซ้ำไปซ้ำมาวนเวียนไม่หยุด

ทำไม... พี่ทิวถึงไม่รักผม

ผมไม่ดี... ผมผิดตรงไหน ถึงไม่สมควรเป็นคนที่ได้รับความรัก

ทั้งที่... คิดว่าเจอคนที่ผมอยากอยู่ด้วยทั้งชีวิต... วางใจฝากชีวิตเอาไว้ในมือของพี่เขา ยอมทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นชายให้พี่เขาชม
หรือเพราะ... ผมมันง่าย ง่ายเหมือนแม่ที่ขายตัวให้กับคนมีเงินเชยชม

ผมคงน่ารังเกียจสินะ...

คงจะเป็นอย่างนั้น

“ร้องไห้ทำไมครับ... ข้าว”เสียงที่คุ้นห๔อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่ความอบอุ่นจะโอบล้อมรอบกายผม “ไม่เอานะครับ ไม่ร้องนะคนดี”

“พี่... ทิว”ทั้งที่ควรจะหัวเราะอยู่กับมิน... ทำไมถึงมาที่นี่ได้...

มาตามผม... หรือเปล่า

หรือแค่ถูกบังคับให้มา...

“ครับ”เสียงตอบรับที่อ่อนโยนนั้นทำให้ใจของผมสั่นไหวอีกครั้ง ผมก้มหน้าลงชิดอก น้ำตาที่เอ่อล้นไหลรินลงมาเงียบๆ ขณะเดียวกันกับที่ผ้าเช็ดหน้าผืนนุ่มนั้นก็เลื่อนมาซับน้ำตาของผมไป “ไหน บอกพี่หน่อยสิครับ ร้องไห้ทำไม เด็กดีของพี่”

“พี่ทิว... ชอบมินใช่ไหมฮะ”ผมกลั้นใจถามออกไป... เพื่อจะตัดใจ

ผมไม่อยากเจ็บอีกแล้ว

ไม่เอาแล้ว

“ใช่... พี่ชอบมิน”น้ำตาของผมไหลพรั่งพรูลงมาอีกอย่างห้ามไม่อยู่ ไม่เป็นลูกผู้ชายเอาซะเลยฟางข้าว

สุดท้ายผมก็คงเป็นแค่ฟาง... ที่ไร้ค่า

ไม่ใช่ข้าว ที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตให้ใคร

“แต่พี่ไม่ได้เลือกมินนี่ครับ”ผมเหลือตาที่พร่ามัวมองใบหน้าหล่อเหลา พี่ทิวยังคงยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน อ้อมแขนของพี่เขายังคงอบอุ่น “พี่เลือกข้าวนะครับ คนดี”

“พี่ทิวหมายถึง...”

“พี่ไม่ทิ้งข้าวไปไหนหรอกครับ”อ้อมกอดของพี่ทิวโอบรัดร่างของผมแน่นขึ้น ดวงตาที่จ้องมองมานั้นสะท้อนเงาของผม “ข้าวเป็นครอบครัวของพี่... พี่จะทิ้วข้าวไปได้ยังไงกัน”

ผม... ที่เป็นผม

“สัญญา... นะฮะ”

“พี่สัญญา”

สัญญาของพี่ทิว... ผมเชื่อเสมอ

“เรากลับบ้านกันเถอะนะ”

“ฮะ”

พี่ทิวกุมมือผมอย่างอ่อนโยน แล้วพอผมกลับไปที่บ้าน

บ้านของพวกเรา... นับตั้งแต่วันนี้ ผมคงพูดได้อย่างเต็มปากแล้ว

ใครหลายคนอาจจะคิดว่าผมโง่ เชื่อลมปากคน... แต่จะมีใครสักคนรู้ดีไปหว่าผม...

รู้... ถึงสายตาที่เปลี่ยนไปของพี่ทิวที่มองมา

จากสายตาที่มองมาอย่างเอ็นดู ได้เปลี่ยนเป็นสายตาที่บอกถึงความรักความห่วงใย

ไม่ต้องบอกว่ารัก... แต่ขอให้อยู่ด้วยกันต่อไปแบบนี้

ผมก็พอใจแล้วล่ะครับ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาต่อแล้วค้าา // หายตัวนานอีกแล้ว แหะๆ ขอโทษด้วยค่ะ

อีกนิดๆ จะจบแล้ว ตอนต่อไปเป็นคู่คีตากิต(ตอนจบของคู่นี้) แล้วจะต่อพายุลมหนาวไปยาวเลยค้า

เย้ๆ

แล้วเจอกัน... วันศุกร์ค่ะ ^^ :mew3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่40 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/01
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 24-01-2016 02:08:07
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่40 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/01
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 24-01-2016 07:35:54
อยากอ่านคู่หลักแล้วคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่40 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/01
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 24-01-2016 10:19:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่40 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/01
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 24-01-2016 16:33:11
รอฟินคู่ลมหนาว  :hao3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่40 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/01
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 25-01-2016 16:34:46
รอคู่พายุลมหนาว อิอิ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่40 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/01
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-01-2016 18:50:57
ทำดีค่ะ ปรบมือ !!
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่40 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/01
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 28-01-2016 12:50:09
 :L2: :L2:
หัวข้อ: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่40 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/01
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 28-01-2016 14:10:46
เกือบแล้วพี่ทิว...เกือบแล้ว...เกือบจะโดนคนอ่านหลายคนด่าแล้ววว 55555555 ยังดีนะที่คิดได้ก่อน รอคู่มหันตภัย คีกิตก็น่ารัก แต่ไม่เท่า ปันปันกับพี่คิสหรอก!!  :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่40 P.23[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/01
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-01-2016 21:15:49
อ่านทันแล้ววววววว 
ชอบทุกคู่เลย  :hao7:
ปรบมือกับการรุกของพายุที่จูบหนาวกลางที่สาธารณะเลย 5555555555 อยากอ่านบทที่พายุจีบหนาวแบบนี้อีกเยอะๆจัง  :-[
ดีใจที่พี่ทิวเลือกได้สักที ส่วนอนาคตจะเป็นยังไงก็สู้ๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 29-01-2016 21:03:17
วันที่สี่สิบเอ็ด

(คีตา)

ไงครับ... ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว กิจวัตรประจำวันของผมมีแค่นอน ตื่น ซื้อของ เดิน ห้อย กิน กลับมานอน ก็มันไม่มีอะไรมากมายให้ทำนักหนาในช่วงปิดเทอมเล็กนี้นิฮะ

แต่ที่สำคัญกว่าการทำกิจวัตรของผม และมันหลอกหลอนในสมองผมมาตลอดระยะนี้คือ.... ผมจะเอาหน้าที่ไหนไปสู้หน้าพี่กิตดีล่ะฮะเนี่ย

บ้าจริง! ผมจะไม่กินเหล้าจนเมาอีกแล้ว ไม่เด็ดขาดเลย ไม่รับเหล้าเบียร์และสารพัดน้ำจากคนอื่นๆ ที่ไม่สนิทมากินด้วย สมแล้วที่เขาบอกว่าสุราเป็นบ่อเกิดของการผิดศีลที่สำคัญที่สุด ผิดข้อนี้ ข้ออื่นจะตามมา

มันโคตรของโคตรจริงเลยครับผม

ย้อนกลับไปเมื่อวันนั้น...

หลังจากที่ผมตื่นมาเห็นพี่กิตนอนตัวเปลือยอยู่ข้างๆ พร้อมกับรอยแดงเป็นจ้ำๆ ที่ไม่ต้องบอกก็ดูรู้ว่าเป็นรอยจูบเน้นๆ ทำเอาผมตกใจแทบช็อค

แต่นั่นไม่เท่ากับตอนที่เลิกผ้าห่มออกดู... คราบสีขุ่นปนกับสีแดงเข้มที่เปรอะบนที่นอนกับหว่างขาของพี่กิต มันเป็นตัวยืนยันอย่างดีให้กับผมเลย...

ผมกอดพี่กิตไปแล้ว... รุนแรงด้วย

หลังจากนั้นเป็นไงน่ะเหรอ? ผมก็พร่ำพูดขอโทษพี่เขาน่ะสิ แล้วก็พาไปล้างตัว ทำหน้าด้านช่วยล้วงเอาน้ำของผมออกจากตัวพี่เขาด้วย

โคตรเยอะ... ผมเล่นพี่เขาไปกี่รอบวะเนี่ย

ถึงพี่กิตจะยิ้มให้เหมือนปกติ แต่ผมก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ จนต้องหายมาหดหัวเป็นเต่าในกระดองหลบหน้าพี่เขาอยู่อย่างนี้ไงครับ

ยิ่งพี่เขายิ้มให้เหมือนไม่มีอะไร นอกจากทำให้ใจผมหล่นไปถึงตาตุ่มแล้ว ยังทำให้ผมรู้สึกเศร้าลึกๆ แล้วมันยิ่งทำให้ผมไม่รู้จะมองหน้าพี่เขายังไง

แต่ผมก็ไม่ลืมซื้อข้าว ซื้อยาไปแขวนหน้าห้องพี่เขาทุกวันเหมือนเดิมหรอกนะ แต่ก็ได้แค่แอบหรือฝากไอ้เลที่ไม่ได้กลับบ้านไปนั่นล่ะฮะ

ก็คนมันยังไม่กล้าพอที่จะสู้หน้าพี่แกนี่หว่า

ผมไม่ได้ฟันแล้วปล่อยพี่เขาทิ้งนะ อย่าเข้าใจผิด อาจจะไม่ได้ดูแลต่อหน้า แต่ลับหลังผมดูแลของผมอย่างดีเหอะ ยุ่งไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมนะครับ

ผมไปกู้เงินพี่เกดมาติดสินบนป้าเจ้าของหอให้ผมแอบขึ้นไปห้องพี่กิตโดยไม่ให้เข้าตัวรู้แล้วก็บอกเวลาเข้าออกของพี่เขาทุกวันกันเวลาชนกัน ผมแอบไปดูพี่เขาตอนหลับทุกคืน เอาข้าวเช้า ข้าวเที่ยง ข้าวเย็นไปแขวนให้ทุกวันด้วย โดนไปเยอะกับการติดสินบนคราวนั้น

ยังดีที่ป้าเขาหลงลูกอ้อน... ไม่งั้นคงแอบเข้าห้องพี่กิตไม่ได้แน่

ขอผมตั้งตัวได้ก่อนแล้วจะไปเจอหน้านะฮะ ตอนนี้ผมสู้หน้าพี่ไม่ได้จริงๆ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับพี่ดี ไม่รู้ด้วยว่าพี่จะคิดยังไงกับคืนนั้น...

คืนที่ผมฝืนใจพี่กิต

ให้ตายเถอะ บ้าชะมัดเลยยยย ไอ้คีแม่ง ข้ามขั้นเกินไปแล้ว จะปรึกษาใครก็ไม่กว่าด้วย ขืนพูดไปโดนด่าเละ ดีไม่ดีโดนยำตีนอีก
ถ้าพี่เขารังเกียจล่ะ?

แล้วคืนนั้นผมทำอะไรลงไปบ้าง?

ทำให้พี่เขารู้สึกไม่ดี รู้สึกเฟล หรืออะไรหรือเปล่า...

โอ้ยยยยยย

อีกสองอาทิตย์ก็จะเปิดเทอมแล้วด้วย ยังไม่อยากเจอ ยังไม่พร้อมจะคุย ทำไงดีเนี่ยยย

ผมเอาหัวโขกหมอนเป็นสิบที ก่อนจะเปลี่ยนมานอนหมดอาลัยตายอยากบนเตียงแทน เฮ้อ บ้าชะมัด ทำไมผมถึงไม่กล้าเดินหน้าต่อนะ ทั้งที่ยอมรับใจตัวเองได้ ไม่พอ ตอนที่ตื่นมารู้ว่าพี่กิตเป็นของผมแล้วตอนนั้นใจมันก็พองโต... มากกว่าคำว่าดีใจซะอีก
ฟุ้งซ่านๆ พอแล้วคีตา นายต้องเลิกฟุ้งซ่านได้แล้ว

ผมต้องตั้งสติดิ แล้วคิดต่อไปว่าจะทำยังไง

ส่วนนึงก็ต้องทำใจ... พี่กิตอาจจะเกลียดผมไปเลยก็ได้ เพียงแต่เขายังรักษาน้ำใจเพราะผมเป็นรุ่นน้องในคณะ เลยเก็บเอาของที่ห้อยไว้หน้าห้องตัวพี่เขาเองไปทิ้งทุกวัน

อาจจะคิดว่าผมสร้างภาระให้พี่เขา...

บ้าชิบ คิดอะไรแบบนี้วะ

ผมคีบซัมซุงรุ่นเก่ากลางใหม่ ที่ยังไม่จากผมไปขึ้นมาเปิดหนึ่งในสามแอพฯยอดฮิตติดชาร์ตที่ทุกเครื่องน่าจะมีขึ้นมาเปิดดูความเคลื่อนไหวของทุกคน

แอพฯ เฟสบุ๊คน่ะฮะ ฮ่าๆ ผมรู้ เครื่องพวกคุณก็มี

เจอสเตตัสพี่เกดจมกองหนังสือ ไอ้เลกลิ้งตกเตียง... โอเค ตามสบายเลยฮะทุกคน

ผมเลื่อนมาจนถึง...



Kit Fordream
ในบางครั้ง ผมก็รู้สึกปวดหัวเวลากลางคืนแบบนี้เหมือนกันนะครับ เฮ้อ แย่จัง ยาก็หมดแล้วด้วย



เมื่อสามนาทีที่แล้ว ไลค์ขึ้นหลักร้อย กับคอมเมนต์ที่แสดงความเป็นห่วง ดูน้อยเมื่อเทียบกับตอนที่พี่หนาวอัพสเตตัสนะเนี่ย แต่พี่แกนานๆ จะเข้ามาที ต่างจากพี่พายุ ที่เห็นขยันอัพรูปเหลือเกิน

รูปคู่กับพี่ลมหนาวด้วย...

ไม่รู้ไปดีกันได้ยังไง จนมีเพจตั้งขึ้นมาแล้วด้วย 'รักรั้วมหาลัย'ชื่อเพจไม่ส่อ แต่รูปคู่เพศเดียวกันมาเต็ม โดยหลักๆเป็นคู่พี่ๆเขา โดนแอบถ่ายก็ไม่รู้ตัว บางรูปก็ดึงมาจากเฟสบุ๊ก อินสตาร์แกรมของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แต่ก็ดีแล้วล่ะฮะ อย่างน้อยก็ไม่ตีกัน ผมมีเพื่อนอยู่วิศวะด้วย อยู่กันแบบนี้จะได้ไม่อึดอัดใจเหมือนพวกรุ่นพี่ที่เขม่นกันมาก่อน ถึงจะคลายลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังแขวะกันไม่เลิก
ไม่สิ นี่มันใช่เวลาที่ผมจะมานั่งคิดเรื่องพวกนี้หรือยังไง ไม่ใช่ละ ผมต้องไปซื้อยาให้พี่กิตก่อนถึงจะถูก

มัวแต่ไร้สาระจริงๆ

ผมหยิบกุญแจห้อง มือถือ และกระเป๋าตังค์เดินออกจากห้องมา ถึงจะค่อนข้างมืดแล้ว แต่แถวนี้มีมิตรคู่เด็กหออย่างเซเว่นอยู่ ยาพื้นฐานก็พอจะหาได้ล่ะเนอะ

พาราเซตามอล...

จะกินยาก็ต้องกินอะไรรองท้องก่อน ผมหยิบน้ำผลไม้ นม ขนมปังหมูหยอง กับขนมปังทาเนยแล้วก็ช็อกโกแลตอีกแท่งมาจ่ายเงิน
ช่วงนี้หมดไปกับค่าของกินที่ให้พี่กิต โดยที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเอาไปทานไหม หรือว่าโยนทิ้ง แต่ผมก็ดีใจที่ไปทุกครั้ง ของไม่ได้ห้อยไว้ที่เดิม

อย่างน้อย... พี่เขาก็ยังเก็บเข้าไป ถึงจะไม่กินก็ไม่เป็นไร

อ้อ ส่วนผมตอนนี้ ข้าวแกงยี่สิบบาทปะทังชีวิตไป วันไหนโชคดีพี่เกดมาประชุมแสตนด์ก็ได้กินเคเอฟซี กินพิซซ่า กินโออิชิ กินทุกอย่างที่เดลิเวอรี่ถึงมอ. ล่ะฮะ แบบฟรีๆ พี่ผมเขาป๋า(เฉพาะบางเวลา)

เดือนนี้คงต้องประหยัดเพิ่มขึ้นอีกหน่อย...

หรือจะทำงานพิเศษดีนะ

ปี๊นนนนนนนนนน

เสียงแหลมสูงดังก้องเข้าสู่โสตประสาท แสงสว่างจ้าสู่สายตา ร่างของผมทรุดลงก่อนที่สติทั้งหมดจะดับวูบไปพร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวด

อ่า... ยาของพี่กิต


(กิต)

ไม่มีอะไรมาห้อยไว้...

ผมเปิดประตูห้องออกมาตอนเช้า มองตรงลูกบิดแล้วอดที่จะแปลกใจไม่ได้ นี่ก็สายพอดูแล้ว ใครอีกคนที่เคยเอาข้าวเอาน้ำมาห้อยไว้ให้เสมอ วันนี้กลับไม่เป็นอย่างเคย

ถึงข้าวกล่องที่ได้รับมาจะเย็นชืดจากการตากลม รสชาติอาจจะไม่ถูกปากนัก แต่เมื่อคิดถึงคนที่นำมาให้ มันก็อร่อยขึ้นทันตาเห็น

แต่... วันนี้กลับไม่มี

หรือน้องคีจะเบื่อผมแล้ว

ผมกลับเข้าไปในห้อง หยิบเงินและมือถือออกมา วันนี้คงต้องไปหาอะไรกินเองเป็นครั้งแรกในรอบเดือนที่ผ่านมา ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอกครับ

แค่หัวใจมันไหววูบตกไป

ผมเดินอย่างเซื่องซึมลงไปข้างล่าง ผ่านเคาท์เตอร์ที่คุณป้าเจ้าของหอนั่งดูซีรี่ย์เกาหลีผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปเอื่อยๆ การก้าวเท้าแต่ละทีมันหนักๆ นะครับ

เฮ้อ... ผมปวดหัวอีกแล้วสิ

"อ้าว น้องกิต ออกไปเยี่ยมน้องคีตาเหรอลูก"คุณป้าแกหันมาทักทายผมเสียงใส ไปเยี่ยม... คีเป็นอะไรไปเหรอครับ "ป้าฝากบอกน้องเขาด้วยนะ ขอให้หายไวๆ ไม่ได้เห็นสุดหล่อของป้าแล้วใจมันหวิวๆ"

"เอ่อ... ป้าครับ คีเขาเป็นอะไรเหรอครับ"ผมถามกลับไปเสียงอ่อน ป้าเขาเลิกคิ้วมองผมอย่างสงสัย "คือ... ผมทะเลาะกับคีเขานิดหน่อยน่ะครับ"

"อ้อ จ๊ะ"หญิงวัยกลางคนตรงหน้าพยักหน้ารับ แล้วยิ้มบางให้ผม "น้องคีเขาถูกรถชนเมื่อคืนน่ะ ประมาณสี่ทุ่มได้ เห็นว่าในมือถือถุงที่ใส่ยาเอาไว้ คงลงมาซื้อยาไปกินแล้วเบลอๆ เลยหลบรถไม่ทันล่ะมั้ง ป้าว่า"

"... ครับ งั้น ผมไปหาคีก่อนนะครับ"

ถุงใส่ยา.. สี่ทุ่ม เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผมพิมพ์ลงในเฟสบุ๊ค ยาพวกนั้นอาจจะเป็นของผม...

คงจะใช่แน่...

ใจของผมร่วงหล่นวูบโหวง ร่างกายสั่นระริก ผมกลัว... กลัวว่าใครอีกคนจะเป็นอะไรไป ใครอีกคน... ที่เข้ามาในชีวิตของผม ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย

ใคร... ที่ในใจมีผมอยู่

มันเป็นเรื่องที่น่าขำนะครับ กับการที่คนปกติที่อกหักจากผู้หญิงคนหนึ่ง เบี่ยงเบนมาชอบผู้ชายอีกคนเพราะเขาเข้ามาดูแลเรา

ผมโบกแท๊กซี่อย่างเหม่อลอย พอคนขับถามว่าไปที่ไหน ทำเอาผมนิ่ง... คีอยู่โรงพยาบาลไหนกันล่ะ... ผมจะไปเจอเขาได้ที่ไหน

"เกด... คีอยู่รพ.ไหนเหรอ"ผมโทรถามเพื่อนที่ไม่เขิงสนิท แต่เป็นพี่เทคของคีตา คนเดียวที่ผมคิดออก ขอให้รู้เถอะนะ เกด

"รพ.GGGGG ห้อง 528"เกดตอบกลับมาเสียงใสอยู่ มันดึงหัวใจของผมให้กลับมาเข้าที่ได้หน่อย "มันไม่เป็นไรมากหรอก เราไปดูมาละ เอ้อ ซื้อหนมขึ้นไปให้มันด้วยนะ เด็กมันงอแง"

"อื้ม"ผมรับคำ เกดหัวเราะกลับมา แล้วบอกลาวางสายไปก่อน คงกำลังยุ่งๆ กับเรื่องแสตนด์อยู่ รับเป็นหัวเรือก็แบบนี้ล่ะเนอะ

ขยันทำกิจกรรมซะจริงๆ เลย เพื่อนของผมคนนี้

ผมไม่ได้รับหน้าที่อะไร เลยว่างๆ ครับ... ตัวน่ะว่าง แต่ใจผมตอนนี้ร้อนรนมาก... มากถึงมากที่สุด

ผมควรจะเข้าไปคุยกับน้อง ทั้งที่เดาได้ว่าคีน่าจะคิดอะไรกับผมมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่ว่าตอนที่มีอะไรกันครั้งนั้น ถึงจะเกิดจากความผิดพลาด แต่คีก็เรียกชื่อผม และยังการเอาใจใส่ที่ผ่านมานี่อีก

ยังไม่รวมสายตาที่เขามองอยู่ข้างหลังผม ตอนที่ผมยังคบกับน้ำฝน

มัวแต่รอให้เขาเดินเข้ามาคุย ผมนี่โง่จริงๆ

โง่ไม่พอ... เห็นแก่ตัวด้วย

ผมซื้อขนมเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นไปหาคีตามคำของเกด แต่พอยืนอยู่หน้าห้องที่แปะชื่อนายคีตาเอาไว้แล้ว ขาพลันแข็งทื่อ ก้าวไม่ออกซะอย่างนั้น

ผม... เป็นสาเหตุที่ทำให้คีต้องเป็นแบบนี้ใช่ไหม

คำถามที่ดังก้องในใจ และผมกลัวคำตอบของมันมาก

ถ้าคำตอบมันใช่... แล้วน้องโกรธจนไม่อยากมองหน้าผมละ

หรือถ้าน้องไม่คิดอะไร...

แล้ว...

ผมจะเอาหน้าจากไหนเข้าไปหาน้อง...

ผมเอื้อมมือไปหมายว่าจะแขวนของเยี่ยมไข้เอาไว้หน้าห้องแล้วกลับที่ของผมไปเงียบๆ แต่อยู่ๆ ประตูห้องที่ปิดสนิทก็เปิดออกมาเกือบชนผม

"อ้าว... มาเยี่ยมคีเหรอลูก"เสียงหวานใสของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นหน้าผม "เข้ามาก่อนสิลูก ดีเลย แม่จะออกไปทำงานพอดี หนูอยู่เป็นเพื่อนเด็กดื้อของแม่สักพักนะจ๊ะ"

"คะ. ครับ..."ผมเดินเข้าไปในห้องสีขาวสะอาด บนเตียงคนไข้มีร่างโปร่งที่แขนถูกพันเผือกเอาไว้ ดวงตาคมมองตรงไปที่หน้าจอทีวีซึ่งฉายการ์ตูนเซนไตอยู่

"แม่ สรุปว่าวันนี้แม่ลางานอยู่เป็นเพื่อนผมไห--- พี่กิต!"คีร้องเรียกชื่อผมอย่างตกใจ ดวงตาคมๆ ที่ดูอิดโรยคู่นั้นเบิกกว้าง "พี่กิตมาได้ยังไงกับครับ"

"คุณป้าเจ้าของหอบอกพี่ว่าคีเกิดอุบัติเหตุ"ผมนั่งลงข้างเตียงบนเก้าอี้ที่ยังเหลิอไออุ่นของแม่ของคีอยู่ "พี่เลยโทรถามโรงพยาบาลจากเกดแล้วมาเยี่ยม..."

"ครับ..."สีหน้าของคีดํลำบากใจ ทำเอาใจผมหล่นวูบ... หรือว่าคีไม่อยากเจอผมกันนะ... เพราะผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องต้องมานอนโรงพยาบาลแบบนี้... ใช่ไหม

"ถ้าคีไม่อยากเจอพี่... พี่กลับก็ได้ครับ"ถอยทัพไปตั้งหลักก่อนน่าจะดีสำหรับผม ความเอาใจใส่ที่ได้รับทำให้ใจผมเขวไปไม่น้อย ทั้งที่จริงน้องอาจจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปเลยแค่จะทดแทน "เรื่องคืนนั้น... ลืมไปเถอะ คี ถ้ามันทำให้คีไม่สบายใจ"

"ไม่ใช่นะครับ พี่กิต"คราวนี้คีตารียสวนกลับมาทำเอาผมสะดุ้ง "ผมไม่ได้ไม่อยากเจอ ไม่ได้รังเกียจอะไรพี่ ไม่ได้รู้สึกไม่ดีด้วย... ผมแค่ยังไม่พร้อมจะสู้หน้าพี่... ก็เท่านั้นเอง"

"...หมายความว่ายังไง"ผมถามกลับไปอย่างแผ่วเบา ใจที่หล่นวูบไปค่อยๆ กลับเข้าที่ของมันอีกครั้ง "ที่คีพูด หมายถึงอะไรครับ"

"คืนนั้น... ผมทำพี่เจ็บ"ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นอย่างเครียดเกร็ง "ทั้งที่. ทั้งที่ตั้งใจว่าจะอ่อนโยนกับพี่ จะไม่ทำให้พี่เจ็บ แต่ผม..."

"ถ้าอย่างนั้น... ก็แก้ตัวสิ"ผมเอ่ยเสียงเบายิ่งกว่าเสียงกระซิบ ความร้อนผ่าวที่แก้มบ่งบอกว่าแก้มทั้งสองข้างผมต้องแดงเรื่อ ผมพูดไปได้ยังไงกัน

ให้น้องคีมาแก้ตัว!

"พะ. พี่ พี่กิตว่ายังไงนะครับ"คีตาถามกลับมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้างอย่างตกใจระคนยินดี "พี่ พี่พูดจริง... เหรอฮะ"

"หายไวๆ... แล้วมาแก้ตัวสิ"ผมเงยหน้าขึ้นมองคี มือทั้งสองข้างยื่นไปกุมมือข้างที่ไม่บาดเจ็บของรุ่นน้องตรงหน้าแล้วยิ้มบาง ทั้งที่อายจะแย่อยู่แล้วล่ะครับ ฮะๆ "พี่... จะรอนะ"

"ครับ!"นายคีตายิ้มตาหยีเลยครับ ทีนี้ “พี่กิต... ไม่โกรธผมใช่ไหม...”

“ไม่หรอก...”ผมตอบกลับเสียงแผ่ว “ก็... คีครางเป็นชื่อพี่... พี่. พี่ไม่โกรธหรอก”

หน้าของผมกับคีซับสีเลือด ต่างคนต่างเขินน่ะครับ มืออุ่นพลิกมากุมมือของผมแทน

“ผมจะไม่ทำให้พี่ต้องเสียใจแน่ครับ...”คีตาส่งยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมาให้ผม “ผมสัญญา”

“อื้อ...”ผมไม่รู้จะตอบอะไรดีเลย

ถึงตอนนี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมรู้สึกดีๆ กับรุ่นน้องคนนี้ตอนไหน พอรู้ตัวอีกที... ก็เป็นอย่างนี้ไปแล้ว

ถึงจะเบี่ยงเบน... มาคบกับผู้ชายก็คงไม่เป็นไร ถ้ามือของคียังกุมมือผมต่อไปแบบนี้ เดินไปข้างหน้าด้วยกันในสังคมที่มีคนหลากหลาย

ผมเชื่อ... ว่าต้องมีอีกหลายคนที่รับไม่ได้

แต่ผมก็ยังเชื่อ ว่าคนพวกนั้นจะไม่สามารถทำลายชีวิตของผมได้

ผมมองตากับคีด้วยรอยยิ้ม ยิ้มที่มาจากหัวใจ... ผมว่าผมโชคดีที่ใจตรงกันกับน้องชายคนนี้...

ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเราคงต้องมีคนใดคนนึงที่เจ็บ ซึ่งผมไม่ปรารถนาให้เป็นแบบนั้น

“คี...”

“ครับ?”

“กุมมือพี่... ไปให้สุดทางนะ”

“แน่นอนครับ”มือที่กุมกระชับแน่นขึ้น “ผมไม่มีวันหล่อยมือคู่นี้ของพี่ไปแน่นอนครับ... ถึงพี่กิตจะหมดเยื่อใยกับผมก็ตามที”

“ให้มันจริงนะ”

มือของเราสองคนกุมกันอยู่แบบนั้น...

และคงจะอยู่อย่างนั้น หากไม่ใช่ว่ามีพยาบาลมาส่งข้าว ส่งน้ำตามเซอร์วิสให้

เอาเถอะ การที่ได้กุมมือกับคนที่เรารัก และรักเรา มันเป็นเรื่องดีที่สุดแล้วใช่ไหมครับ

อวยพรให้รักครั้งนี้ของผมเป็นไปด้วยดีด้วยนะครับ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาแล้วค้าา ตามเวลาเป๊ะ ฮ่าๆ คู่นุ่มนิ่มของเราจบไปซะแล้ว

ต่อไปล่ะ?

คู่มหันตภัยไง... // เมื่อต้นอาทิตย์จะแข็งตายเพราะลมหนาวแล้ว TT เขาว่าจะมาอีกระรอกใช่ไหม...

แล้วเจอกันศุกร์ต่อไปค้าา :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 29-01-2016 21:16:20
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 30-01-2016 01:08:05
 :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 30-01-2016 01:22:07
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 30-01-2016 07:20:18
คู่มหันตภัย 55555

กิตกับคีตานี่น่ารักดีนะคะ พี่กิตนี่แบบ น่ารักน่ากอด~ 
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 30-01-2016 10:57:39
คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน เหตุการณ์หลายเหตุการณ์ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

ข้าวสู้ๆนะลูก ถ้าหนูทำได้อย่างที่คิดในตอนท้าย หนูก็จะมีความสุข
แต่ถ้าทำไม่ได้ หนูจะน่าสงสารมากเลยนะ
ก็ขอให้พี่ทิวไม่โลเลอีกแล้วกัน ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 30-01-2016 11:37:26
คู่ของคีกะกิตนี่ถือเป็นการเริ่มต้น ขอให้รักกันนานๆน๊าาาาาาาาา
ว่าแต่ตอนนี้ ทำเอาคนอ่านเขินเลยอ่ะ พี่กิตนี่ตรงมาก 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-01-2016 15:50:28
คู่นุ่มนิ่มมมม อรั๊งงงง นางสองคนน่าร้กอ้ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 30-01-2016 15:56:09
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 31-01-2016 20:03:56
คู่ของคีกะกิตนี่ถือเป็นการเริ่มต้น ขอให้รักกันนานๆน๊าาาาาาาาา
ว่าแต่ตอนนี้ ทำเอาคนอ่านเขินเลยอ่ะ พี่กิตนี่ตรงมาก 555

พี่กิตคนซื่อของเราค่ะ ฮ่าๆ

คู่นุ่มนิ่มมมม อรั๊งงงง นางสองคนน่าร้กอ้ะ

นุ่มนิ่มจีๆน้าา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่41 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ29/01
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 31-01-2016 22:08:12
คู่นี่ก็น่ารักดีน้าาา~~~
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-02-2016 19:12:43
วันที่สี่สิบสอง

ในที่สุดก็เปิดเทอมแล้วล่ะครับ สำหรับผม หนึ่งเดือนที่หยุดไปเป็นอะไรที่วุ่นวายมากถึงมากที่สุดเลยล่ะครับ มีเรื่องต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย มั้งเรื่องที่บินไปหาปุ๊ก เป็นข่าวคึกโครมไปพักหนึ่งกับการขอถอนหมั้นสายฟ้าแลบของเมฆกับปุ๊ก หัวหมุนไปหลายวัน

ยังไม่พอ มีเรื่องพี่ทิวกับข้าวที่มาลงเอยกันอีก น้องมินเลยยิ้มออกมาได้หลังจากปรับความเข้าใจกันจนรู้เรื่อง ก็ดูมีความสุขกันดีนะครับ ก็แทนที่เรื่องป่วนๆ จะจบแค่นี้ แต่ไม่ไงครับ ยังมีหลานเทคโดนรถชนอีก

รอบตัวผมมันอะไร มีแต่น้องเทคที่มุดหัวจมกองหนังสือนิยายอยู่ที่บ้านที่ไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากไม่มีเงินกินข้าว กระดาษบาด และหนังสือหล่นใส่หัวใส่เท้า

แต่... ที่ไม่ได้ข่าวคราวเท่าไหร่คือปันปัน... ตอนกลับมาจากญี่ปุ่นผมไปหาที่หอ คุณป้าเจ้าของหอก็บอกว่าปันปันย้ายออกไปแล้ว

ย้ายหอทำไม...

แล้วทำไมมันไม่บอกผมเลยล่ะครับ...

พอโทรหาก็ตอบเลี่ยงๆ ปัดๆ มีเสียงคนแทรกเข้ามาไม่ซ้ำน้ำเสียง ผมเลยต้องรอเปิดเทอมเพื่อที่จะคุยให้รู้เรื่องกันสักหน่อยล่ะครับ

ผมรู้ว่าปันปันกำลังมีปัญหา แต่ผมไม่รู้ว่าเรื่องอะไร... ถึงอย่างนั้นผมพร้อมจะช่วยเพื่อนเต็มที่

ถ้าผมช่วยได้

ผมเดินทอดน่องจากหอไปมหาลัย ระหว่างทางก็มีน้องหลายคนยกมือไหว้ เพื่อนต่างคณะยกมือทักทาย ก็เป็นเรื่องปกติดีล่ะครับ
หมับ

สัมผัสหนักๆ ที่ไหล่ มาพร้อมความอุ่นร้อน และร่างที่สูงกว่าผมเล็กน้อย...

"ลามปาม"ผมปัดมือของพายุออกจากไหล่แล้วเหล่มองคนที่เข้ามาทักทายผมอย่างถึงเนื้อถึงตัว "คุณมีธุระอะไรกับผม คุณพายุ"

“เปิดเทอมใหม่แล้วนะ ลมหนาว”พายุเหยียดยิ้มส่งมาให้ผม พร้อมกับส่งสายตาเป็นประกาย “พวกเราใกล้จะได้ตัดสินกันแล้ว”

“คุณยังหลงทางอยู่ในความคิดของคุณไม่เลิกหรือยังไง คุณพายุ”ผมเหลือบมองคนข้างตัวแล้วสาวเท้าเดินให้ไว้ขึ้นอีกหน่อยให้นำหน้าหมอนั่นแล้วหันตัวกลับไปหา “คณะผมไม่มีวันแพ้พวกคุณหรอก ระลึกไว้นะครับ”

ผมจิ้มไปที่หน้าผากเนียนของเดือนมหาลัยสามที แล้วหมุนตัวกลับจะเดินเข้ามหาลัย

แต่...

พายุมันดันมาดึงตัวผมไว้ก่อน มันกระชากตัวผมที่ไม่ได้ตั้งหลักไว้ให้เข้าไปใกล้ก่อนจะใช้แขนล็อคเอวผมไว้แน่น เลยกลายเป็นกว่าตอนนี้ผมตกอยู่ในอ้อมแขนของมัน...

การที่ผู้ชายสองคนกอดกันอยู่ใกล้กับประตูรั้วขอมหาวิทยาลัยในตอนเช้า มันไม่ได้ดูโสภาน่าชมอะไร... ยังดีที่ตอนนี้ยังเช้า คนยังมากันไม่เยอะ

“ปล่อย”ผมเอ่ยลอดไรฟันหลังจากที่ดึงเอาแขนของเฮดวิศวะออกจากตัวไม่ได้ “จะทำอะไร คิดก่อนด้วย คุณพายุ”

พายุหัวเราะในลำคอเบาๆ ทำเอาผมขนลุกชัน สัมผัสได้ถึงลางร้าย...

สัมผัสหนักๆ ที่ข้างแก้ม ก่อนที่จะถูกปล่อยเป็นอิสระทำเอาตัวผมแข็งทื่อ

ตอนอยู่ญี่ปุ่น ที่มันมาล้ำเส้นกับผม ผมยังพอจะทำลืมๆได้ ยังไงที่นั่นก็ไม่มีใครรู้จัก หรือสามารถติดต่ออะไรกับผมได้ แล้วก็ใช่ว่าจะได้เจอกันอีก

แต่นี่มันที่ไหน มันประเทศไทย ใกล้รั้วมหาลัย คนรู้จักของทั้งผมและมันก็มีเยอะ เพื่อน พี่ น้อง ป้าร้านข้าว ลุงร้านน้ำ และอีกมากมาย

ผมปล่อยหมัดไปที่ท้องของวินัยวิศวะไปทีนึงอย่างไม่ออมแรง อย่างน้อยก็ต้องเขียวล่ะครับ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในมอ.อย่างรวมเร็ว

มาทำให้หงุดหงิดแต่เช้าเลย คนอะไร

คงเพราะแววตาของผมสื่อถึงอารมณ์มากไป น้องหลายคนเลยยกมือไหว้ผมปลกๆ ทำให้ผมต้องหลบมุมไปปรับอารมณ์ตัวเองก่อน

ผมว่าผมเคยควบคุมตัวเองได้มากกว่านี้... หรือเพราะช่วงนี้เจอเรื่องต่างๆ มากเกินไปกัน...

พอเดินออกมาจากห้องน้ำ ตาผมก็เหลือบไปเห็นร่างอวบๆ ของน้องเทคของผมที่เดินเหี่ยมมาแต่ไกล ตาที่เล็กอยู่แล้วยิ่งดูเล็กลงเมื่อเจ้าตัวยังไม่ตื่นดี

“เกด... นี่มามหาลัยยังไงเนี่ย”ผมอดถามไม่ได้ ท่าทางที่สลึมสลือไม่ได้นอนนี่ เหมือนจะเป็นหนักกว่าเทอมที่แล้วอีกนะครับ...
ทั้งที่เพิ่งเปิดเรียน

“งืม... ขับรถมาไง พี่หนาว”ไม่ว่าเปล่า น้องผมหาวโชว์ด้วย “ง่วงมากเลยพี่... เกดอยากนอนขั้นรุนแรง”

“ไปอดหลับอดนอนมาจากไหนเนี่ย”ผมว่าผมจำได้ว่าน้องเทคผมไม่ติดซีรี่ย์ แต่เหมือนจะติดนิยาย... อย่าบอกว่าอ่านนิยายจนไม่นอนนะ

ผมจะเขกให้

“ก็เพลงที่จะใช้บนแสตนด์มันยังไม่ลงล็อคนี่ จะเรียนซ้อมวันนี้แล้ว เกดเลยต้องจัดการให้เสร็จ”เสียงที่เจือความหงุดหงิดไว้อย่างเห็นได้ชัด “พวกหลีดแม่ง น่าเบื่อ เกดจะส่งพวงหรีดให้พวกมันละ เรื่องเยอะจริง”

“เอาน่า ใจเย็นๆ พี่เชื่อว่าเราทำได้”ผมคงได้แต่ในกำลังใจน้องเบาๆ อยู่ตรงนี้ ถ้ามันไม่มาขอความช่วยเหลือ ผมก็คงยื่นมือเข้าไปยุ่งไม่ได้

เราต้องให้เกียรติกับคนทำงาน จริงไหมล่ะครับ

ผมคุยกับน้องอีกพักนึง ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป ผมยังมีธุระสำคัญอยู่...

ปันปัน!

ผมตะกายตึกขึ้นไปที่ห้องเรียน ตอนนี้ยังค่อนข้างเช้า คนเลยยังมาไม่เยอะเท่าไหร่ครับ มีแต่เพื่อนที่มาจองที่ให้คนอื่น แล้วฟุบหลับรอเวลา

แต่ถึงอย่างนั้น... ปันปันก็มาแล้ว

ผมตรงดิ่งไปนั่งข้างเพื่อนสนิทที่นั่งเหม่ออยู่ พักหลังๆ มานี้มันดูแปลกไปเยอะเหมือนกันนะครับ ดูเหม่อลอยแปลกๆ ตั้งแต่ก่อนปิดเรียนแล้ว

พอเปิดมายิ่งเป็นหนัก...

“ปันปัน”ผมเอ่ยทักเพื่อนที่เหมือนจะไม่รับรู้ว่าผมมานั่งอยู่ข้างๆ แต่ก็เหมือนว่ามันจะไม่ได้ยิน น่าแปลกนะครับ “ปันปัน เฮ้ ปันปัน”
ผมยื่นมือไปสะกิดเพื่อนเบาๆ ปันปันสะดุ้งแล้วหันมาหาผมด้วยท่าทางเหรอหรา

มันแปลกไปจริงๆ... นะครับ

“มีอะไรวะ หนาว”เสียงที่สั่นเล็กๆ ทำเอาผมต้องหรี่ตาลงมองคนข้างๆ อย่างไม่ไว้วางใจนัก “ทำไมมองด้วยสายตาแบบนั้นวะ”

“นาย... มีอะไรใช่ไหม?”ผมยิงคำถามไปตรงๆ ปันปันสะดุ้งน้อยๆ แต่ก็ยังไม่หลุดอะไรออกมา “ไม่ต้องมาปิดบังกันเลย นายต้องมีอะไรแน่ๆ”

“ไม่มีอะไรหรอกน่า”ปันปันบอกปัดผม พร้อมกับหลบตา นี่มันโกหกกันชัดๆ

แล้วผมควรจะเข้าไปยุ่งไหม?...

คำตอบมันก็มีอยู่แล้วล่ะครับ... คือไม่

“เอาเหอะ... ไว้นายพร้อม ค่อยบอกก็ได้”บอกเหตุผลที่มีรอยแดงๆ บนผิวดำๆที่คอนั่นน่ะ แต่ประโยคหลังผมไม่ได้พูดออกไปหรอกนะครับ

เดี๋ยวเพื่อนเขิน

หึหึ

แอบไปมีแฟนไม่บอกกันนะ ทิ้งให้เดือนคณะอย่างผมโสดสนิทอยู่คนเดียว

ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รีบ เนื้อคู่ผมคงอาจจะยังไม่ถือกำเนิด ทำใจตั้งแต่ก้าวมาเป็นเสาหลักของวินัยแล้วล่ะครับ เวลาก็ไม่มี หน้าก็ตึงโดยไม่ต้องฉีดโบท็อกส์ ใครจะมาเอา

บ่นไปได้ ไม่เอาครับ ไม่ดี ผมเชื่อว่ามีคนโสดมากมายเป็นเพื่อนผม เนอะ


การเรียนเทอมสองนั้นวิชายากขึ้นกว่าเทอมหนึ่งเยอะ แค่วันแรกก็แทบจะกระอัก สมแล้วล่ะครับที่เขาบอกปีสามในตำนาน และการเรียนไม่จบตามหลักสูตรเป็นเรื่องปกติ

บางครั้งผมก็คิดนะครับ ว่าที่กองอยู่นี่ชีทเรียนหรือหมอนหนุนนอน

หืม... การเจอหน้าขอมผมกับคู่อริอย่างพายุน่ะเหรอครับ... ก็เจอกันทุกวันเช้าเย็น... ตอนเย็นมีไปดูน้องซ้อมกีฬาเลยเจอกันอันนี้ผมไม่แปลกใจ

แต่การเจอทุกเช้านี่... มันก็ยังไงๆ เหมือนกันล่ะครับ เลยกลายเป็นว่าผมจะโดนหมอนั่นลากไปกินข้าวเช้าด้วยกันทุกวัน จนมีคนมาถามว่าเทคนิคการแพทย์กับวิศวกรรมศาสตร์เลิกทะเลาะกันแล้วใช่ไหม...

ก็เหมือนจะใช่

หรือไม่ใช่?

เป็นคำถามที่ดี แต่ขอข้อคำถามถัดไปจะดีกว่าครับ

ที่สำคัญกว่าการเจอหน้ากันคือ การที่มันชอบหาเศษหาเลยกับผม... แย่ชะมัดเลยครับ มันรู้จังหวะที่ผมเผลอได้ยังไงกันนะ

ช่วงเย็นว่างๆ ผมก็ไปช่วยน้องเย็บขอบผ้าที่ใช้ติดหลังเวลาขึ้นแสตนด์ไปพลางๆ ระหว่างที่รอให้พวกเขาซ้อมกันไป ไว้ค่อยไปดูช่วงกลางๆ กับใกล้ๆ น่ะครับ

ไม่กดดันให้มากนัก จะดีเอง

ด้วยความที่มีเวลาแค่เดือนเดียว ก็ต้องขึ้นแสตนด์แล้ว และมีเวลาต่ออีกไม่นาน ก็ต้องไปมช. เพื่อร่วมงานเทคนิคการแพทย์สัมพันธ์ เกดมันเลยนัดน้องมาทั้งเช้าทั้งเย็น ถึงเช้าจะซ้อมได้น้อย แต่ก็เป็นการทวนท่า ส่วนเย็นเป็นการต่อเพลงล่ะครับ เท่าที่ฟังมา

ผมได้เห็นผ่านๆ กับได้ยินเสียงการซ้อมแสตนด์ของหลายคณะอยู่นะครับ แต่ไม่ยักจะได้ยินคณะวิศวะเลย ไม่รู้ว่ายังไม่เริ่มซ้แมกัน หรือว่าแอบไปซ้อมที่อื่น

แต่ส่วนตัวว่าคงเป็นอย่างหลัง

ก็ในเมื่อพายุมันคิดจะเอาชนะผม... ถ้ามัวแต่ชักช้า ผมว่ามันจะไม่ทันการณ์เอา

และแน่นอน... พวกผมจะชนะขาดลอย

ยังไงก็ต้องรอดูกันต่อไปล่ะครับ แต่ผมเชื่อในประสิทธิภาพของน้องๆ ทุกคนของผมนะ


(เกด)

Hi!! เฮลโล สวัสดีค่ะ เกดเองสตรีตัวกลมที่โดนใช้งานยิ่งกว่าทาส เป็นอีเย็นในเรือนเบี้ยที่ต้องตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน ยันไก่เลิกขันถึงได้นอน

ภารกิจคุมแสตนด์อันใหญ่หลวง ควบกับเลือดชุดสำหรับขบวนพาเรทมันหนักหนาเกินกว่าผู้หญิงที่มากกว่าคำว่าบอบบางอย่างน้องเกดคนนี้จะรับไหวแล้วนะ!

แต่!!!

เบื้องบนยังมีเจ้าคุณลมหนาวสั่งการ

ไม่พอ!!!!

เบื้องบนของเบื้องบนยังมีท่านจ้าวตังโออยู่อีกทอด

แล้วอีเย็นอย่างดิฉันจะทำไงได้ ก้มหน้างกๆ ทำต่อไปสิเจ้าคะ ขอซับน้ำหมาก เอ้ย น้ำตาที

อะไรคือการที่ไอ้คุณกิตมานั่งยิ้มแป้นแล้น ตาเยิ้มมืองมือฉาบดิฉันเนี่ย

แล้วอะไรคือการที่ไอ้ลิงโย่งถือฉาบมองกลับไปตาเยิ้มไม่แพ้กันฟะ

อิเดือนก๊องแก๊งสองตัวนี้นี่ ไม่เห็นแก่ชีนีตัวเมีย หาผัวไม่ได้ หาเมียไม่มีอย่างอีเย็นบ้างเลย คาถาอะไรก็เอาไม่อยู่ มาทำใจอิจฉาแรงมาก

คือไร!

ไม่ต้องบอกก็รู้ย่ะ ว่าคบกันแล้ว เล่นจ้องตากันจนจะท้องไปข้างแบบนี้

ไม่รู้เล๊ยยยย

เออ กินๆ กันไปให้หมดไอ้พวกตัวผู้ทั้งหลาย

“ล็อคแขนด้วยน้อง พี่พูดกี่รอบละ”ขอเท้าเอวหาเรื่องสักหน่อยล่ะค่ะ ซ้อมมาเป็นอาทิตย์ๆ ต้องให้ย้ำเรื่องพื้นฐานไม่เลิกจริงๆ

ไม่รู้ว่าโง่หรือทึบ

เหนื่อยใจจริง

“ทวนเพลงนี้ใหม่นะ กลอง ไม่ต้องเร่งมาก โอเคนะ”หันไปแยกเขี้ยวใส่มือกลองสักที ก่อนจะกลับมาจดจ่อที่แสตนด์เหมือนเดิม “ขิงก็รา ข่าก็แรงนะ เอ้า สาม... สี่!”


ไม่รู้ว่าโกรธเกลียดกันมาตั้งแต่ชาติไหน
ถึงได้ตั้งใจแกล้งกัน ทุกทีที่เจอ
เธอชอบยียวนกวนใจ ทำเรื่องได้เสมอ
ไม่ชอบเธอไม่ถูกโชลก


“ค้างก่อนนะ ค้างก่อน”มันดูแปลกๆ... เกดว่ามันแปลก อืม... “”น้องที่อยู่ขอบทั้งหมด ยืนขึ้นหันหลังหน่อย”

น้องๆ พากันลุกขึ้นพรึบพรับ เออ แบบนี้สวยกว่ากันเลยเลยนะคะเนี่ย

“โอเค เอาแบบนี้นะ ต่อเลยๆ”

ทะเลตีกลองต่อจากเดิม ที่จริงเป็นหน้าที่ของน้องเทคของเกดเองล่ะค่ะ แต่ตอนนี้มันเจ็บอยู่ไง เลยได้แต่นั่งเคาะฉาบ ช่ายย ใช้ไม้กลองเคาะเอาล่ะค่ะ ถือยังไม่ได้ แขนมันยังไม่หาย

บอกให้ตีฉิ่ง ไม่เชื่อกันมั่ง

“เป็นไงบ้างแล้วเกด”เฮือก... คนที่รู้ว่าใครมา เอ้า พวกคุณไม่รู้เหรอคะ? บอกให้ก็ได้... พี่เหมันต์ไง ดูสิ หมอกลงเลยอ่ะ ลมหนาวพลันโชยเย็นยะเยือก...

เย็นในจิตใต้สำนึกของเกดนี่ล่ะค่ะ

“ก็โอเคนะพี่ ยังไม่ได้เรียงเพลง แต่ก็ได้เกือบหมดตามีที่หลีดส่งเพลงมาละ”จริงๆ เราควรจะซ้อมให้เรียงเพลงกันไปนะคะ ไม่งั้นจะงง แต่พอดีเป็นเทคนิคการแพทย์ต้อง strong และ concentrate ไง เลยไม่เรียงกัน...

แหะๆ ไม่ใช่หรอกค่ะ หลีดมันยังไม่เรียงมาเป็นกิจจะลักษณะ เลยซ้อมไปก่อน ค่อยมาเรียงที่หลัง ไม่งั้นก็คงไม่ทันกิน ยังไงก็ไม่มีซาวน์มาแทรกระหว่างเพลงอยู่แล้วนี่

“เหรอ... แล้วดุริยาราชาวดี ได้ซ้อมยัง”นั่น... เพลงที่ต้องมี เพลงแรกที่ซ้อมเลย ทั้งที่ควรจะเป็นไปตามแพลน แต่ก็นะ เพลงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่เลิก ขอบ่นหน่อยเถอะค่ะ ชิชะ

“ซ้อมแล้วค้า ไม่พลาดหรอกเพลงนี้”ยิ้มแฉ่งส่งให้พี่แกหน่อย เสริมความมั่นใจ แต่อย่าถามถึงภายในหัวใจนะคะ จะกระเด็นไปนอกระบบสุริยะแล้ววว

“งั้นพี่ขอดู”นั่นไง! เอาแล้วไง! ว่าแล้วเชียว หวังว่าเด็กๆ จะยังจำกันแม่น ไม่ทำให้เกดหน้าแตกนะ ฮืออ ถ้าพลาดนี่... โดนคนแรกเลยนะเนี่ยย

“อ่า... ค่ะ”ได้แต่รับคำสิคะ ขืนปฏิเสธ ได้เข้าห้องดำแน่ ฮึกๆ

พี่หนาวเดินไปจากบันไดที่น้องนั่งติ๊ต่างว่าเป็นแสตนด์ มือทั้งสองข้างเก็บที่ข้างหลังด้วยท่าเตรียมพร้อม... เอ... มีใครบอกหรือยังอ่ะคะ ว่าพี่เทคเราเคยเป็นผู้นำเชียร์ด้วย

เก่งทุกเรื่องจริงๆน้าาา

เดี๋ยวนะ ใช่เวลาชมไหมเนี่ยยย

หมูจะขึ้นเขียงแล้ววววว

“อันเชิญบทเพลงประจำวิชาชีพ”พี่หนาวสะบัดแขนตั้งท่าสั่ง ขอเหล่มองน้องหน่อย... อ่า เกร็งกันเต็มที่เลย จะรอดกันไหมเนี่ย...
ตรูนี่แหละจะรอดไหม ฮืออออ

“ดุริยาราชาวดี”แขนเรียวสวยจากมัดกล้ามที่ลงตัวจนน้ำลายแทบหก ละบัดขึ้นอีกครั้งตั้งฉาก “สาม... สี่”

“สดับเพลง แผ่วพลิ้ว ปลิวว่ายฟ้า
กรุ่นกลิ่นรา- ชาวดี พร่างสีขาว
เสมือนหนึ่ง สัญลักษณ์ แห่งพวกเรา
จักเนิ่นเนา แน่ชัด ด้วยศรัทธา”เสียงของน้องๆ ร้องประสานกันดังก้องด้วยความตั้งใจ... แต่ตั้งใจเกินไปไหม... คือ... มัน... ผิดจังหวะง่ะ สโลวโมชั่นมาเลย...

ผิดจังหวะแล้วไง!!

โดนเก็บไงคะ!!!!! ท่อนเดียวจอด ขอทิชชู่กับยาดมด่วน

“นี่ซ้อมกันมากี่วันแล้วครับ”วิญญาณวินัยเข้าสถิตในร่างขึ้นมาทันที เสาจ๋า ขอเค้าสิงหน่อยได้ไหมตัวเอง “พวกคุณจะร้องช้าขนาดนี้กันไปทำไมครับ เพลงนี้เป็นเพลงของวิชาชีพพวกคุณในอนาคต แค่นี้ก็ยังไม่ได้เหรอครับ”

ซีดค่ะ น้องหน้าซีดกันไปหมดเลย เพลงนี้ซ้อมมาสองอาทิตย์แล้ว และใช้แค่ครึ่งเพลงด้วย มันไม่ได้ยากอะไร

“หรือพี่พวกคุณสอนไม่ดี”โดนละค่ะ... มาทางนี้แล้ว ไอ้เราก็ได้แต่ยืนก้มหน้า ไม่แก้ต่าง... เป็นพี่ที่ดีค่ะ ฮ่าๆ “เกด สอนน้องยังไงให้น้องร้องแบบนี้”

“เอ่อ... เกด...”จะตอบยังไงดี หนู่ไม่ได้สอนแบบนี้ พี่ก็รู้ ฮือออ แกล้งกันนี่

“ไม่ใช่เพราะพี่ครับ พวกเราผิดเอง”น้องต้นยกมือขึ้นพูด โอ้ย ซึ้งใจอ่ะ “พวกเราพลาดกันเองครับ”

“อีกไม่นานก็จะถึงวันแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้อยู่ พวกคุณจะทำยังไง”รังสีความกดดันสาดส่องไปทั่วบริเวณ... “หรือไม่ส่งแสตนด์ ดีไหม”

“ไม่ครับ/ค่ะน้องตอบกันอย่างพร้อมเพรียง

“พวกเราจะทำให้ดีกว่านี้ ไม่ให้พี่ผิดหวังครับ”น้องเลออกมาเป็นตัวแทนพูด พี่หนาวพยักหน้ารับ เป็นอันว่าวันนี้คุณเกด รอดค้าาา ได้ไปต่อ

“แล้วพี่จะรอ”

ประกาศิตก่อนจากไป...

ฮึก... ห้องดำยังรอเกดอยู่สินะ... น้องเอ๊ย ห้ามพลาดนะเฟร้ยยย

๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒

มาต่อแล้วค้าาา เย้(ตรงเวลานะจะบอกให้ช่วงนี้ ^^)

ตอนต่อไป... ถึงตอนแสตนด์แล้ววว พายุลมหนาวจะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้เลยค้าา ศุกร์หน้า 555

 :mew3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 05-02-2016 21:07:36
 :m4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 05-02-2016 22:05:54
เอาใจพายุ ให้ชนะ คนสวยแสนเย็นชา  :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 05-02-2016 22:48:10
 :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 05-02-2016 23:15:09
คู่พี่กิตน้องคีหวานหนักมาก ขอตอนคีแก้ตัวด้วยนะคะ o18
ลมหนาวพอเปิดเทอมก็เย็นชาเหมือนเดิมเลย พายุจัดหนักเลย
 :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 05-02-2016 23:27:25
เป็นหลีดด้วย เป็นหลีดด้วยย
ลมหนาวววว
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 06-02-2016 00:19:00
เกดดดดด เทอคือไอดอล 5555 ชอบจุง

ตอนที่ทำสแตนด์ นี่นึกถึงตอนเรียนปี 2 ซ้อมให้น้อง

ปีสูงเข้ามาเทสผิดท่า ผิดจังหวะ และโดนเก็บ 5555

เกดจ๊ะ มันจะผ่านไป สู้ ๆ ค่ะ ห้องดำรอเทออยู่วววว ฮี่ ๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 06-02-2016 00:55:26
คิดถึงสมัยเรียนเลย มันสมบุกสมบันมาก 555
#กุแบกถังน้ำ (T_T)
หัวข้อ: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 06-02-2016 02:42:11
เกดแกต้องสตรองให้หนักมากอ่ะ 55555 เพราะสาวคือหนึ่งในหมากของเกมมหันตภัยชิงแชมป์โลก(โลกของหนาวและโซนร้อนอ่ะนะ 55555) พวกเค้าจะชิงซิงกันอยู่วว~ #ขอให้โซนร้อนชนะ 5555555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 06-02-2016 07:05:24
 o18 o18 o18 :hao6: o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Sky ที่ 06-02-2016 11:11:04
สู้เค้าเกดดดดดด
 :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 06-02-2016 14:24:13
เกด...สู้นะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-02-2016 12:00:27
เกดสู้ๆ 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่42 P.24[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ05/02
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 14-02-2016 22:25:06
มะไหร่จะมาต่ออ่าา  :m17:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-02-2016 18:35:05
วันที่สี่สิบสาม

หลังจากที่เคี่ยวเข็นซ้อมแสตนด์จนดึกตื่น แข่งกีฬาเหงื่อกระเซ็น ทำชุดพาเรทโต้รุ่ง กันมา ในที่สุดวันแห่งการตัดสินก็มาถึงแล้วครับ

ในส่วนของกีฬาที่แข่งร่วมกับพวกวิศวะ มีบาสชาย วอลเล่ห์หญิง ฟุตบอลชาย แบตมินตันหญิง สี่ประเภทที่เข้ามาถึงรอบชิง ส่วนคณะตัวเต็งจะเป็นครุฯพละตามฉบับล่ะครับ

แต่หน้าตาของคณะปีนี้ใช่จะเป็นกีฬาซะเมื่อไหร่กัน

พาเรท ผู้นำเชียร์กับแสตนด์ที่จ่อคอหอยรออยู่นี่สิ ที่จะประกาศถึงความสามัคคีและความพยายามของเด็กปีหนึ่งแก่สายตาทุกคน
คอนเซ็ปแสตนด์ปีนี้สั้นๆ ง่ายๆ คือ 'ไทย'

คำน่ะง่าย แต่ทำยากนะครับ ผมเห็นเกดหน้าดำคร่ำเครียดทุกที น้องเทคผมว้ากคนจอแทบแตกแล้วมั้งนั่น น้องหน้าเสียกันไปเป็นแถบๆ จิตวิญญาณความเป็นวินัยลงเลยล่ะครับ

ก็จะไม่ให้เครียดได้ยังไง นอกจากแสตนด์งานกีฬามหาลัยแล้ว ยังมีงานสานสัมพันธ์เทคนิคการแพทย์ที่ต้องไปต่ออีก ไม่ใช่แค่หน้าตาคณะ แต่เป็นถึงมหาลัยเลย รู้สึกจะขึ้นมช. ล่ะครับ ปีนี้

ช่วงเช้าจะเป็นการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ รอบชิง กับแข่งกรีฑาที่เพิ่งมาเริ่ม แล้วตัดสินเลย ทุกคนเลยต้องแบ่งกันไปเชียร์กีฬาแต่ละประเภทกัน

ผมเดินดูไปรอบๆ ที่แข่งกีฬากัน ฟังเสียงกรี๊ดกระหึ่มยามที่คนของฝั่งที่ตนเชียร์ทำแต้มได้ หรือเห็นนักกีฬาหน้าตาดีลงสนาม...

นึกแล้วขำเหมือนกันครับ สมัยผมอยู่ปีหนึ่ง พอลงแข่งก็มีเสียงกรี๊ดเหมือนกัน ยิ่งตอนลงปะทะกับวิศวะ... ไม่ต้องพูดถึงเลยล่ะครับ

"วันนี้จะตัดสินแล้วนะ"เสียงกระซิบเบาๆที่ข้างหู น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ ก็ช่วงที่ใกล้วัน หมอนี่ยิ่งเสนอหน้ามาย้ำผมทุกวัน

คิดว่าผมจะแพ้หรือไง

ไม่มีทาง!

ผมเหล่ตาไปมองใบหน้าคมอย่างไม่สบอารมณ์นัก ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสได้ถึงความอุ่นชื้นที่ใบหูชั่วขณะ

ผมผลักพายุให้กระเด็นออกไปแล้วถอยหลังหนีออกมาหลายก้าว มันบ้าหรือบ้ากันแน่ครับ อยู่ดีๆ มาขบหูผมเฉยเลย เป็นหมาหรือไง

หน้าหนาชะมัด ที่สาธารณะแบบนี้ด้วย

พายุมันหัวเราะในลำคอเบาๆ ดวงตาคู่นั้นฉายแววหวานออกมาชั่วขณะ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความเจ้าเล่ห์... หรือผมมองผิด... น่าจะมองผิดล่ะครับ

พักหลังมานี่ มันชอมมารุ่มร่ามกับผมจริง... พาลให้ผมใจเต้นไปด้วย

ไม่ใช่สิ ผมจะมาใจเต้นกับผู้ชายได้ยังไง บ้าไปละ

"ผมมั่นใจว่าผมต้องชนะคุณแน่นอน ลมหนาว"เฮดแห่งวิศวะกอดอกยกยิ้มส่งมาให้ผม "ยังไงคุณก็ต้องเป็นของผม เตรียมใจเอาไว้ได้เลย"

"ปรบมือที่หลังดังกว่าเสมอนะครับ คุณพายุ"ผมกระแทกเสียงหนักที่ชื่อของมัน ก่อนที่จะเดินเข้าไปในอาคารโดยไม่หันไปสนใจมันอีก

ผมเชื่อในมือของน้องเทคผม ที่จะนำคณะของเรากำชัยชนะมาได้ ความทุ่มเทแรงกายแรงใจที่เกดมันลงทุนไป ผมเชื่อว่าเขาจะต้องได้ผลตอบแทนที่ดีเกินคาด

น้องของผมมาหกโมง กลับเที่ยงคืน ตลอดเดือนที่ผ่าน วันนี้จะได้เห็นผลสัมฤทธิ์แล้ว

ผมเดินดูกีฬาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะปลีกตัวไปน้องปีหนึ่งที่จุดแสตนด์บาย เกดมันมารอก่อนแล้ว พร้อมกับอาวุธคู่กายที่สรรสร้างขึ้นมาเอง

มาลัยยาดม...

หลายครั้งที่ผมไม่เข้าใจความคิดรุ่นน้องคนสนิทคนนี้ แต่ก็เอาเถอะครับ เห็นเปิดจุกดมไปหลายฟืดก็น่าสงสารจะแย่ อย่าไปถามให้มากความเลยเนอะ

"เป็นไงบ้าง เกด ไหวไหม"ผมส่งเสียงถาม น้องผมที่จอบตาดำจนตอนนี้กลายเป็นหมีแพนด้าเต็มตัว "ดูไม่จืดเลยนะ"

"ความพร้อมเต็มร้อยอ่ะ พี่หนาว"เกดหันไปมองทางอัศจรรย์ แล้วถอนหายใจ "ตอนนี้อยู่ที่ว่าใครจะตีโจทย์'รัก'ออกมาได้ตรงใจกรรมการที่สุดอ่ะ"

"โจทย์ไม่ใช่ไทยเหรอ"ผมถามกลับไปอย่างงงๆ ก็เท่าที่ผมจำได้ โจทย์พาเรทและแสตนด์ปีนี้คือความเป็นไทยนี่ครับ

"เปลี่ยนฟ้าผ่าเลยพี่ ยังดีว่าปรับทัน ไม่งั้นมีเน่า"สาวน้อยของผมหัวเราะออกมาเบาๆ "ยังไงก็ต้องลุ้น เกดไปดูคณะอื่นมาก็ใช่ย่อยเหมือนกัน"

"นั่นสินะ..."

ผมกับน้องนั่งคุยกันอยู่สักพัก เหล่าน้องปีหนึ่งที่ได้รับหน้าที่ขึ้นแสตนด์ก็ทยอยกันมารวมตัว ดูแต่ละคนมีท่าทีตื่นเต้นไม่น้อย

"เอาล่ะ จะได้เวลาที่ต้องไปเตรียมตัวที่ใต้แสตนด์แล้ว"เกดมันออกไปพูดกับน้องๆ "ไม่ต้องสนว่าเราจะแพ้ หรือจะชนะ สนใจแค่เพียงให้เราทำให้ดีที่สุดก็พอ"

"ครับ/ค่ะ"

"สู้ไหม"

"สู้!!"

"เอาล่ะ ไปกันเลย"

น้องเทคผมนำทีมเด็กปีหนึ่งมุ่งไปยังใต้อัศจรรย์ ผมเลยเดินเข้าไปในสนามเพื่อรอดูความสำเร็จของน้องๆ แล้วก็ อัดวีดีโอด้วย

ทำแทนน้องครับ น้องผมมันไปมุดล่างแสตนด์เป็นกำลังใจให้พวกปีหนึ่ง แล้วก็เป็นการคุมไปด้วยในตัว

อ้อ ส่วนพาเรทแข่งไปเมื่อเช้านี้ ผลยังไม่ออก แต่ก็ไม่ได้หวังอะไรมากหรอกครับ เห็นพวกคณะนิเทศกับศิลปะศาสตร์แล้วผมต้องยอมใจจริงๆ

ไม่รู้ครีเอตกันมาได้ยังไง

พอผมไปถึงสนาม ก็เห็นร่างสูงโปร่งที่คุ้นตาขึ้นทุกวันๆ ยืนกางร่มสนามอยู่กลางลาน พร้อมกับเก้าอี้สองตัวที่วางเตรียมไว้ กะจองพื้นเลยมั้งครับ

“อ้าว มาแล้วเหรอ ลมหนาว”พายุหันมาเห็นผม เลยเดินตรงเข้ามา... เข้ามาใกล้ทำไมกันล่ะนั่น “มาสิผมเตรียมที่นั่งเอาไว้แล้ว”

“รอดูความพ่ายแพ้ของคุณน่ะสินะ”ผมกระตุกยิ้มเย็น ก่อนจะเดินตรงไปนั่งตามคำเชิญ ไม่ปฏิเสธครับ ยังไงก็ร่มดี ถือว่าได้กำไร
พายุหัวเราะในลำคอ แล้วทิ้งตัวนั่งลงตรงเก้าอี้ว่างอีกตัวข้างๆ กันกับผม

หลังจากนั่งได้ไม่นาน น้องเซ็ตแรกก็ทยอยขึ้นมาบนแสตนด์ ของเทคนิคการแพทย์เราอยู่เซ็ตที่สองครับ ตอนนี้ดูเพลินๆ ไปก่อนล่ะกันครับ

การแสดงผู้นำเชียร์ในแต่ละคณะมีความแตกต่างกันค่อนข้างเยอะตามการตีโจทย์ของผู้นำ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สร้างสีสันให้กับการแข่งมากครับ และทีเด็ดคือจุดพีคของแต่ละคณะ มีทั้งหวาน เศร้า ฮา คละกันไป

ผมนั่งดูไป ถ่ายรูปไป เก็บเอาไว้เป็นความทรงจำ ถึงจะไม่ใช่คณะตัวเอง แต่ก็เป็นรุ่นน้องร่วมมหาวิทยาลัยล่ะครับ พายุก็เช่นกัน
ก็เป็นเรื่องปกติที่เราจะเก็บภาพกันไว้

ในที่สุดก็ถึงคณะเทคนิคการแพทย์ของผม ส่วนวิศวกรรมศาสตร์ จะเป็นคณะสุดท้ายครับ

ผมดูน้องๆ ที่แสดงความสามารถกันบนแสตนด์ด้วยความภาคภูมิใจ และยิ่งไปกว่านั้น ผมภูมิใจในตัวน้องเทคของผมมากเลยครับ

ภาพรวมของแสตนด์กับผู้นำเชียร์ของคณะเราครั้งนี้เป็นเฟิร์สเลิฟครับ เริ่มจากความรักเล็กๆ แล้วค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นความรักที่เปี่ยมไปด้วยความผูกพัน

เพลงที่เลือกมาใช้ก็เข้ากันดีเลยล่ะครับ

ผมกระตุกยิ้มอย่างพอใจ แบบนี้ถึงจะไม่ชนะเลิศ แต่ผมมั่นใจว่าเราจะต้องติดอันดับแน่ๆ ครับ

ผมนั่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั้งคณะสุดท้ายขึ้นทำการแข่งขันบนแสตนด์ วิศวะกรรมศาสตร์มาในคอนเซปของรักที่ร้อนแรงและรุกเร้า

มันตื่นเต้นดีนะครับ... แต่ดูแล้วเหนื่อยพิกล

มันเต็มไปด้วยพลังจนล้น

มันดูเกิน ๆ จากปีก่อน ๆ ที่เคยแข่งกันมามาก... และมีจุดพลาดที่ชัดเจนเกินไป

การแข่งขันผู้นำเชียร์ผ่านไป ที่นี้ก็รอตัดสินผลอย่างเดียวแล้วล่ะครับ แน่นอนว่าใช้เวลาไม่นานเพราะพวกสโมฯคอยรวมคะแนนอยู่แล้ว

คราวก่อนเลิกมืดมาก โดนทางมหาลัยติมา คราวนี้เลยว่าจะบีบให้เลิกไม่เกินทุ่มครึ่งกันน่ะครับ

“สวัสดีค่ะทุกคนนน รอกันนานไหมคะ”หวานที่รับหน้าที่พิธีกรภาคสนามเอ่ยขึ้นเสียงใส “เวลาที่รอคอยมาถึงแล้วนะคะ เรามาลุ้นผลการแข่งขันพาเรท แสตนด์เชียร์และผู้นำเชียร์กันเลยค่ะ”

เพื่อความรวดเร็ว คราวนี้เราเลยประกาศบนจอLED ของสนามกีฬากลางของทางมหาลัยครับ พรึบเดียวรู้ผลหมดเลยครับ

ผมกับพายุยืนขึ้นมองจอมันเขม็งพอกัน ผ่านไปชั่วอึดใจ ผลก็ประกาศออกมาให้เห็นกัน


พาเรท

อันดับหนึ่ง นิเทศศาสตร์

อันดับสอง ศิลปะศาสตร์

อันดับสาม วิศวกรรมศาสตร์


ผู้นำเชียร์

อันดับหนึ่ง วิศวกรรมศาสตร์

อันดับสอง เทคนิคการแพทย์

อันดับสาม แพทยศาสตร์


แสตนด์เชียร์

อันดับหนึ่ง เทคนิคการแพทย์

อันดับสอง แพทย์ศาสตร์

อันดับสาม ครุศาสตร์


ผมกันไปยักคิ้วให้กับคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล พายุหันมายิ้มบางให้ผม ดวงตาคมคู่นั้นฉายแววอ่านยาก

“ผมชนะคุณนะครับ คุณพายุ”ผลออกมา ผมชนะพายุไปอย่างเฉียดฉิว แต่ชนะก็คือชนะล่ะครับ

วิศวะก็ยังน่ากลัวในการแข่งขันเสมอต้น เสมอปลายจริง ๆ

“งั้นเหรอ...”อยู่ๆ ไฟในสนามก็มืดลง เสียงฮือฮาดังขึ้นด้วยความตกใจ แต่ไม่หวาดกลัว ชั่วเวลาไม่กี่นาที ไฟที่มืดนั้นก็พลันสว่างขึ้น พร้อมกับคนจำนวนมากที่นั่งเรียงกันอย่างเป็นระเบียบบนอัศจรรย์

"Set up!!!"เสียงสั่งการดังก้องจนได้ยินทั่ว เพลทสีดำสนิทถูกยกขึ้นจนย้อมทั่วทั้งแสตนด์เป็นสีอนธกาล

ใครทำอะไร...

หน้าจอนับถอยหลังที่ถูกวาดลงบนเพลทนับถอยหลัง สาม. สอง. หนึ่ง...

"เราสองคน อยู่บนถนนเส้นทางที่ต่าง
ชีวิตไม่ควรมีทางจะได้พบกัน
คนมากมาย  เดินผ่านกันไปเป็นหมื่นร้อยพัน
ที่เขาคิดเหมือนกับฉันก็ไม่เคยมอง
ได้แต่ทบทวนภายในจิตใจ ไม่รู้ทำไมมันมีแค่เธอที่ฉันต้องการอยากเจอทุกวัน
ได้แต่ทบทวนข้างในจิตใจ  อยากรู้ว่าเธอจะเป็นกันกับฉัน บ้างหรือเปล่า"เสียงร้องเพลงที่ไม่มีทำนองดังขึ้น เพลทถูกเปลี่ยนเป็นรูปคนๆ หนึ่งในลักษณะต่างๆ   และคนๆ นั้นคือผม...

ผมหันไปมองคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล ซึ่งกำลังถือไมค์ร้องเพลง... พายุจ้องมาทางผมแล้วส่งยิ้มมาให้ รูปที่อยู่บนเพลทนั้นเป็นรูปตอนประกวาดดาวเดือน ตอนที่ผมออกมารับรางวัลขวัญใจตากล้อง และอีกฝั่งเป็นรูปพายุรับรางวัลเดือนมหาวิทยาลัย

"ลิ้นกับฟัน พบกันทีไรก็เรื่องใหญ่
น้ำกับไฟ ถ้าไกลกันได้ก็ดี
หมากับแมว มาเจอะกัน สู้กันทุกที
ต่างไม่เคยมีวิธี จะพูดจา
นกกิ้งโครง โผลงมาเกาะโพรงนกเอี้ยง
อ้อยอี๋เอียง เถียงกันตลอดเวลา
เสือกับสิงห์ ก็ข่มกัน ขอเป็นเจ้าป่า
ต่างไม่ยอมจะพูดจา ตกลงกัน"คราวนี้เป็นรูปครั้งแรกที่ผมกับพายุเจอหน้ากันในฐานะพี่วินัย จุดเริ่มต้นของการเป็นคู่อริกันอย่างชัดเจน

พายุมันทำอะไรของมันน่ะ...

อีกอย่างถึงพวกวิศวะจะมีคนเยอะ แต่ก็ไม่น่าจะเต็มทั้งอัศจรรย์แบบนี้... หรือว่าใช้สามชั้นปีรวมกันอยู่...

นี่เล่นตลกอะไรกันครับ!

"มอง มองเธอมาแสนนาน
ฉันไม่กล้าต้องคอยหลบตาเธอเสมอ
กลัวว่าวันหนึ่งถ้าเธอรู้ว่าฉัน
ปิดบังความจริงอะไรเอาไว้
ความที่ฉันซ่อนไว้
ไม่เคยบอกใคร จะอดใจไม่ไหว"ภาพเปลี่ยนมาเป็นตอนที่ผมลงน้องแล้วมีพายุยืนอยู่ไกลๆ มีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหนกันครับ ทำไม... ผมถึงไม่เคยรู้เลย

"ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ
เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว มันยากเหลือเกิน
จะเก็บซ่อนความรักเอาไว้
และความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม
โปรดบอกความในใจ ให้ฉันรู้ทีนะเธอ"แล้วภาพก็มาถึงตอนที่ทั้งสองคณะต้องมาทำงานร่วมกัน เป็นตอนประชุมงานช่วงรับน้อง

นี่มันถ่ายรูปเอาไว้ขนาดนี้เลยเหรอครับ...

"ก็คงเป็นคุณเท่านั้นที่ทำให้ใจผมหยุดเหงา
ก็มีแต่คุณเท่านั้นที่ทำให้ใจผมคลายเศร้า
คงไม่มีโอกาสถ้าคุณไม่ให้โอกาส
คงจะต้องทำพลาดอีกครั้งหนึ่ง"เพลทบนแสตนด์เปลี่ยนรูปไปเป็นตอนที่ผมกับพายุอยู่ที่ญี่ปุ่น เป็นตอนที่เรานั่งกระเช้าที่ฮาโกเน่ด้วยกัน...

ครืด ครืด ครืด

อยู่ๆโทรศัพท์ของผมก็สั่นขึ้นส่งเสียงท่ามกลางความเงียบ ผมหยิบเอามือถือขึ้นมาดูแล้วเงยหน้ามองคนที่โทรมาอย่างไม่เข้าใจ

เพลทบนแสตน์เปลี่ยนเป็นรูปตัวการ์ตูนที่ใส่เสื้อรูปเกียร์ถือโทรศัพท์เอาไว้

"ฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่ารัก
ถึงเวลาที่ต้องบอกสักที
ไม่กลัวแล้วจะดูไม่ดี นาทีนี้ต้องพูดไป
เสียงข้างในดังออกมา
มันแสดงออกมา ว่ารักแล้วให้ทำไง
วันนี้หัวใจ มันกำความลับไว้ไม่อยู่ซะแล้วเธอ"พายุจ้องตากับผมนิ่ง หมอนั่นค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาผมอย่างเชื่องช้า มือยังคงกุมกระชับไมค์เอาไว้มั่น

"นี่... ลมหนาว..."เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อผม ขณะเดียวกันมืออุ่นก็ยื่นมากุมมือที่เย็นเฉียบของผมไว้แน่น "เป็นแฟนกันไหม ฉันถามใจมานาน
ก็กว่าจะมั่นใจ ว่าเธอคือคนนั้น
ตอบกันมาได้ไหม เพราะใจก็เริ่มหวัง
เธอยังอยาก มีแฟนเป็นฉันใช่ไหมเธอ"

ความเงียบเข้าปกคลุมรอบสนามกีฬากลางของมหาวิทยาลัย บนแสตนด์เพลทที่แปลอักษรว่า 'เป็นแฟนกันนะ' ถูกพลิกค้างเอาไว้

ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผม ผมรู้ว่าสองแก้มลามไปถึงหูผมเห่อร้อนมากครับ ผมคิดมาตลอดว่าพายุชอบมาหยอกแกล้งผม มาทำให้ใจผมเอียงออกจากจุดกลางที่เคยอยู่ แต่ไม่เคยคิดหาเหตุผล

แต่...ตอนนี้ผมว่าผมรู้แล้ว ผมได้แต่ถามตัวเองว่าจะตกลงไหม...

โอเค ผมไม่ได้รังเกียจการรักชอบของเพศเดียวกัน ไม่แอนตี้ ไม่อะไรทั้งนั้นครับ พวกเขาเป็นคน มีชีวิต มีจิตใจ แค่มีคนรักเป็นเพศเดียวกัน มันไม่ได้เสียหายอะไร

แค่เปิดใจ จะรู้ว่าพวกเขา ก็เป็นคนที่น่ารักเหมือนกับคนรอบตัวของทุกคนครับ คนเพศที่สามก็เช่นกัน พวกเขาจริงใจกับเรามากกว่าคนปกติที่เราคิดว่าเขาเป็นคนดีด้วยซ้ำ

และผมยอมรับว่าผมเคยชินกับการที่มีใครอีกคนเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตแล้ว แต่นั่นมันก็คนละเรื่องกับการใช้ชีวิต...

แต่ก็คงไม่เลวนัก... ใช่ไหม

พายุมองมาที่ผมด้วยความหวัง ผมส่งยิ้มบางให้แล้วพยักหน้ารับน้อยๆ

"อืม"คงไม่อะไร ถ้าผมจะเปิดใจรับใครสักคนเข้ามาในชีวิต ใครคนนั้นที่รู้จักตัวตนของผมเป็นอย่างดี “ก็ได้...”

ผมยอมลงขันพนันด้วยแล้วนะ

อย่ามาทำให้ผมผิดหวังล่ะ

"เย้~~~"เสียงเฮลั่นสนาม พร้อมกับการแปรอักษรเป็นรูปเกียร์และกล้องจุลทรรศน์บนอัศจรรย์ แบบนี้ถ้าผมไม่ตอบรับ พวกเขาจะแปรอักษรเป็นรูปอะไรกันนะ

หึ... ผมแพ้แล้วล่ะครับ แพ้ใจของพายุอย่างหมดรูปเลย

พายุดึงผมเข้าไปกอดเอาไว้แน่น ใบหน้าคมฉาบทับด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจอย่างสุดจะอั้น

ถึงรุ่นแรกของคณะพวกเราจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน... แต่รุ่นพวกเราเป็นแฟนกันแล้วนะ

ทุกคนครับ... พายุเป็น. แฟน... ของผมครับ

แฟน... คนแรก (และคงเป็นคนเดียว) ในชีวิตผมครับ

เขินยังไงไม่รู้เหมือนกันนะครับ...


(เกด)

ขออีเย็นโผล่มาสักนิดเถอะเจ้าค้า เจ็บปวดเหนือคณานัก โอเค ท่านเจ้าคุณของอีเย็นได้คุณแฟนระดับเดือนมหาลัยไปแล้ว
ไม่อะไรยิ่งกว่านั้นคือการที่เย็นมารู้ว่าท่านเจ้าคุณพนันกับแฟนหมาดๆ ไว้ด้วยเรื่องแสตนด์

ฮึก... คุณหลวงแย่ที่สุด ทำให้สตรีตัวกลมอย่างเย็นนี้ลำบากนัก เพื่อไม่ต้องเข้าห้องดำ อดทนต่อรัศมีความกดดันที่แผ่พุ่งรอบทิศทาง

สตรองยิ่งกว่าอุลตร้าแมนสู้กับสัตว์ประหลาด

แต่ดูทำกับเราสิ ฮืออออ ฟ้องร้องได้ที่ไหนไหมคะ

เอ๊ะ... ว่าแต่ว่านะ

พี่หนาวกับพี่พายุ... ใครจะเป็นคุณหลวง ใครจะเป็นคุณหญิงกันล่ะเนี่ย

ใครก็ได้ บอกเกดที ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาแล้วค้าาา เลทอีกแล้ว TT แต่ก็มานะ ฮ่าๆ

อีกไม่นานก็จะจบแล้ววว อย่าเพิ่งทิ้งกันไปนะคะ

 :mew1:

แล้วพบกัยตอนหน้าค้าา (รักของพายุ เอ้ก อี๊ เอ้ก เอ้กกก <<< ยัง ไก่ยังไม่ขัน น้ำยายังไม่มา...)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 16-02-2016 19:23:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 16-02-2016 20:12:31
 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-02-2016 20:26:36
แอร๊ยยยยย อัพแล้ววว  :hao7:
พายุเตรียมการใหญ่มานานเท่าไหร่แล้ว 555555
ขอเป็นแฟนท่ามกลางคนเกือบทั้งมอ เขินนนนนน  :-[
มีแปลเพลตด้วย น้องปี1เหนื่อยไหมลูก 555555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 16-02-2016 22:03:32
 :m3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 16-02-2016 22:40:56
 :laugh: :laugh: :laugh: :L1: :L1: :L1: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 16-02-2016 23:05:44
เขาสองคนคบกันแล้วค๊า ... กรี้ดดดดดด
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: beevector ที่ 18-02-2016 03:29:29
เราชอบบบบบบ เราเรียนนิติ คณะเราก็เรียกว่าพี่วินัย เฮดพี่วินัย บางคณะเรียกพี่ว้าก พี่อบรม พี่ระเบียบ แปะเรื่องนี้ไว้ก่อนเดี๋ยวมาตามอ่าน อิอิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 18-02-2016 07:10:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 18-02-2016 22:01:30
คุณหลวงพายุกับคุณหญิงลมหนาวเป็นแฟนกันแล้วจ้า :mc4: สงสารอิเย็นเสียนี่กระไร
 :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 19-02-2016 18:15:14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 19-02-2016 23:42:25
เป็นแฟนกัลแล้วววววว กรี๊ดดดด
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 20-02-2016 00:39:03
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:

เปนแฟนกันแล้วววว
ลมหนาวต้องร้องเพลง
เปนแฟนกับชั้น กดข้อแรกก้คือห้ามทิ้งนะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 20-02-2016 10:16:34
กรี๊ดดดดด มันดีมากอ่ะ พายุลงทุนเกินไปนะ 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 20-02-2016 16:26:12
ฮืีอออออออออออ...โคตรดีใจ โคตรเขิน โอ่ยยยยยย!!!
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-02-2016 23:51:41
แอร๊ยยยยย อัพแล้ววว  :hao7:
พายุเตรียมการใหญ่มานานเท่าไหร่แล้ว 555555
ขอเป็นแฟนท่ามกลางคนเกือบทั้งมอ เขินนนนนน  :-[
มีแปลเพลตด้วย น้องปี1เหนื่อยไหมลูก 555555
ตอนหน้ามีเฉลยค้าา

เราชอบบบบบบ เราเรียนนิติ คณะเราก็เรียกว่าพี่วินัย เฮดพี่วินัย บางคณะเรียกพี่ว้าก พี่อบรม พี่ระเบียบ แปะเรื่องนี้ไว้ก่อนเดี๋ยวมาตามอ่าน อิอิ  :hao3:

ยินดีต้อนรับบบ

คุณหลวงพายุกับคุณหญิงลมหนาวเป็นแฟนกันแล้วจ้า :mc4: สงสารอิเย็นเสียนี่กระไร
 :pig4:
อีเย็นผู้เป็นโสดคนเดียวในสายรหัส...

:katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:

เปนแฟนกันแล้วววว
ลมหนาวต้องร้องเพลง
เปนแฟนกับชั้น กดข้อแรกก้คือห้ามทิ้งนะ

ข้อที่สองก็คือห้ามทิ้ง นะคะ ฮ่าๆ

กรี๊ดดดดด มันดีมากอ่ะ พายุลงทุนเกินไปนะ 555

ไม่เล่นใหญ่ ไม่ใช่พายุค้าาา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 21-02-2016 11:42:40
อ๊ากกกกกก ทำแบบนี้มันโจ่งแจ้งเกินไป ฉันจะตายยยยยย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 21-02-2016 22:57:31

คือเรื่องนี้สนุกดี เสียดายแต่มีคู่รองเยอะเกินไป

ทำให้ถูกบั่นทอนความน่าสนใจของเนื้อหา

คู่หลักแทบไม่มีบทบาทเท่าไร ด้วยที่โดนคู่ร้องแย่งความเด่นไป จนทำให้เรื่องนี้หมดความน่าสนใจไปอย่าง..น่าเสียดาย

หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่43 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ16/02
เริ่มหัวข้อโดย: เซยูเนียส ที่ 22-02-2016 23:32:17
 :-[ อ๊างงงงง กว่าคู่หลักจะยอมลงเอยกันได้ นิยิ่งกว่ามหากาพย์ภารตะอีกนะเนี่ย เล่นเอาคู่รองเด่นไปก่อนหน้าตั้งเยอะ จนมาปิดจ็อบซีนแบบนี้ เอาใจไปเลยคร๊าาาาา อยากได้คนมาทำให้แบบพายุมั้งจัง อิจ!! เว้ย!!
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-02-2016 20:26:56
วันที่สี่สิบสี่

หลังจากวันที่ผมตกลงคบกับพายุ วันต่อมาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องฮือฮามากครับ แม้แต่อาจารย์หลายท่านยังเดินมาแซวเลย
ไม่เท่านั้น รูปถ่ายเหตุการณ์ตอนนั้นถูกอัพโหลดขึ้นบนโซเชียลทั้งเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินตราแกรม โดยไม่ลืมแท็คผมกับมันลงไปด้วย แจ้งเตือนเด้งรัวจนผมต้องปิดการแจ้งเตือนไปอีกครั้งนึง

ยังไม่รวมคลิปที่มีคนถ่ายทันด้วย... หนึ่งในนั้นคือตากล้องตัวดีประจำคณะผมล่ะครับ มาแบบเต็ม full HD ไม่คิดว่าพี่มันจะอายบ้างเลย

มีการเอาไปตัดต่อซะ เป็นคลิปที่เหมือนฉายในโทรทัศน์เลยด้วย... น้องเทคผมมันจะมีหัวด้านนี้ไปไหน ผมชักจะสงสัยแล้วว่าเกดมันเลือกเรียนถูกคณะไปนะครับ

ผมมารู้ที่หลังว่ามีเพจที่เอารูปผมกับพายุทีเผลอไปลงด้วย บางรูปที่ไม่เผลอก็มีครับ แต่น้อย ส่วนใหญ่จะแอบถ่ายมา จะไปบอกให้ลบก็คงสายไปแล้วจริงไหมครับ ผมเลยปล่อย ๆ ไป เฮดเพจตอนนี้ของเพจนั้นเป็นรูปที่เดือนปีสามวิศวะจับมือผมเอาไว้ พร้อมกับแบล็กกาวน์หลังเป็นเพลทเป็นแฟนกันไหม

โอเค กระจายกันให้พอ ผมจะได้อายให้จบรอบเดียวไปเลย

"หนาว ไปกันเถอะ"จักรยานสองที่นั่งปั่นมาจอดหน้าหอผม ตั้งแต่วันนั้นมาหมอนี่ก็ปั่นมารับผมไปเรียนทุกวันที่เราเข้าเรียนตรงกันครับ หรือบางครั้งหมอนี่รู้ตารางเรียนผม ก็ตื่นเช้าขึ้นมารับผมไปกินข้าวด้วยกันก่อน ตอนแรกพายุจะขี่มอ'ไซด์มา แต่ผมบ่นเปลือง เลยเปลี่ยนเป็นจักรยานแทน

ประหยัดและรักษ์โลกครับ

พายุปั่น ผมซ้อนท้าย แรกๆ คนก็มองกันล่ะครับ ผ่านไปสามสี่วันก็เริ่มชินตากัน ไม่สนใจอะไรอีก ตามฉบับคนไทยนั่นล่ะครับ

ชีวิตการเรียนยังเป็นเหมือนปกติ เรีบนเช้าเลิกบ่าย เลิกเย็น ตามเคย ที่แปลกจากเดิมคือตอนกลางวันจะมีคนมารับไปกินข้าวด้วย หลังจากถูกเพื่อนทิ้งให้กินคนเดียวมานาน

พอดีเพื่อนผมมีราชรถคันหรูมาเกยรับไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันทุกวันที่มีเวลาพอ ไม่งั้นก็จะกินในมอ. กันอย่างส่วนตัวล่ะครับ
คุณคิสดูจะหยอกปันปันมาขึ้นทุกทีนะครับเนี่ย อืม ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้

ส่วนหลานเทคผม ก็ชะเง้อคอมาเอาโคหนุ่มอย่างน้องกิตไปงาบซะได้ครับ ถึงจะพอรู้ว่าคีดูจะสนใจน้องกิตไม่น้อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเด็ดเอารุ่นน้องเดือนเด็กเทรนด์ผมไปกินเร็วขนาดนี้

ทางด้านพี่ทิว ก็เหมือนเดิมล่ะครับ แต่มีลูกหมาขี้กลัวมาอยู่ใต้ปีกเกาะแน่นกว่าเดิม เดินต๊อกๆ มาหาพี่เขาทุกเที่ยง จนชินตาแถบคณะสายวิทย์สุขภาพอย่างเราๆ แล้วล่ะครับ

เหมือนลูกเจี๊ยบติดแม่เลย ก็น่ารักดีครับ พี่ทิวชอบคนขี้อ้อน

ว่าแต่... ทำไมคนรอบตัวผมนี่ คบกับผู้ชายหมดเลยล่ะครับ

ส่วนพี่ตังโอ นานๆ ทีจะได้เจอครับ มากับพี่วัฒน์แห่งวิศวะตลอด แถมพี่แกถือของให้พี่ตังโอทุกครั้งด้วย... สายตาหวานๆ เยิ้มๆ นั่นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกพี่เขาคบกัน...

ผมคงต้องภาวนาให้คีตาจับน้องได้ผู้หญิงล่ะครับ ไม่งั้นคงน่าสงสารน้องใหม่แย่

วันนี้เป็นอีกครั้งที่ผมมาเยือนห้องของพายุ นับเป็นครั้งแรกที่ผมมาห้องของมันหลังจากที่เรา... คบกัน และเป็นครั้งที่สองที่ผมเข้ามาในห้องนี้

ไม่ต้องคิดลึกครับ พายุแค่ชวนมาเปลี่ยนบรรยากาศที่อ่านหนังสือสอบควิช ไม่ได้มีความนัยน์อกุศลอย่างที่พวกคุณหวังเอาไว้หรอกนะครับ

ผมกางอาณาเขตจองพื้นที่ สำหรับวางชีทอันน้อยนิด(ภาษาไทยนะครับที่น้อยนิด ที่เหลือเป็นอังกฤษ) เรียงไว้เพื่ออ่านไปสอบควิชสองวิชาเบาๆ

ผมนั่งท่อง นั่งขีดจุดที่คิดว่าสำคัญ พร้อมกับฟังเสียงที่อัดมาไปด้วย ส่วนเจ้าบ้านนอนงีบอยู่บนโซฟาข้างหลังผมนี่ล่ะครับ
ดีที่ไม่มากวน

ผมอ่านหนังสือทบทวนไปได้พักใหญ่ก็ต้องวางลง สายตามันล้าน่ะครับ ตอนที่กำลังถอดแว่นออก แขนของคนที่ผมเห็นว่าหลับอยู่กลับโอบมาดึงตัวผมให้ไปชิดกับโซฟานุ่ม

“ปวดหัวไหมครับ ลมหนาว”เสียงทุ้มเอ่ยถามอมอย่างนุ่มนวล “อยากดื่มอะไรหน่อยไหม เดี๋ยวผมเอามาให้”

“ไม่ล่ะครับ”ผมยิ้มบางๆ ส่งให้กับใครอีกคน ถึงจะนั่งหันหลังให้หมอนั่นอยู่ก็ตามที “นี่ พายุ ผมขอถามเรื่องอะไรหน่อยได้ไหมครับ”

“หลายเรื่องก็ได้นะครับ”เสียงกระซิบที่ข้างหู ทำเอาผมยิ้มกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย ผมทิ้งตัวพิงขอบโซฟาไปตามแรงกอดของคนด้านหลัง

“คุณอนุญาตเองนะ”ผมยกมือขึ้นไปเล่นผมนิ่ม ๆ ของใครอีกคน “แสตนด์วันนั้น... น้องปีหนึ่งคณะคุณมีเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ไม่หรอก ลมหนาว”พายุขยับตัวน้อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมต้องหันไปมอง “น้องคณะผมไม่ได้มีคนเยอะขนาดนั้นหรอก... ผมขอความช่วยเหลือจากพวกปีสอง แล้วก็เพื่อนในชั้นปีมาเพิ่มเอาน่ะ”

ผมรับรู้ได้ถึงริ้วแดงที่พาดทับบนใบหน้าผม... สามชั้นปี... ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนกันนะ ถึงจะทำให้คนทั้งหมดมารวมตัวกันได้...

แผนสูงนะครับ พายุ

“แล้ว... ทำไม... คุณถึงชอบผมล่ะ”ผมกลั้นใจถามคำถามที่ค้างคาออกไป

“หืม”พายุพลิกตัวตะแคงข้างแล้วชะโงกตัวลงมามองหน้าผม “อยากรู้เหรอ”

“อืม...”

“ก็ได้... เดี๋ยวเล่าให้ฟัง”


(พายุ)

ลมหนาวกล้าถามผมว่าทำไมผมถึงชอบเขา โอเคครับ กล้าถามมา ผมก็กล้าพอที่จะตอบไปเช่นเดียวกัน

เรื่องนี้มันต้องย้อนกลับไปสมัยหัวเกรียนที่เพิ่งเข้ามาสอบตรงที่มหาลัยเป็นครั้งแรก เฟรชชี่เด็กน้อย หาทางไปห้องสอบไม่เจอทั้งที่ใกล้เวลาแล้ว

ใช่... ผมหลงทาง

"นาย ยืนทำอะไรตรงนี้น่ะ"เสียงนุ่มๆ ฟังแล้วรื่นหูเอ่ยถามผมที่ยืนคว้างอยู่คนเดียว "จะต้องรีบไปเข้าสอบแล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก"

"คือ... เราหาห้องสอบไม่เจอน่ะ"ตอบไปก็อายไป เขารู้ถึงความเอ๋อของผมหมด แย่ชะมัดเลย

"นายสอบห้องอะไรล่ะ"ผมมองคนตัวขาวตรงหน้าเหมือนพระมาโปรด หืม คนอะไรขนตายาวชะมัด "รีบบอกมาสิ เหลืออีกแต่สิบนาทีเองนะ"

"เอ่อ x-221"ผมตอบกลับไป พร้อมกับตีสีหน้าเซ็งๆ ไม่รู้จักกันแท้ๆ มาทำเสียงเย็นๆ ใส่อีก

มือขาวยื่นมาคว้าข้อมือผมหมับแล้วลากพาเดินขึ้นตึกไปฉับๆ จนมาถึงหน้าห้องสอบที่ผมตามหา เขาถึงยอมปล่อยมือผมออก แล้วเดินตรงออกไปทันทีโดยไม่หันมามองผมอีกเลย

คนอะไร เย็นชาชะมัด

แต่ก็... ใจดีจังแหะ

ผมเข้าห้องสอบไปทันแบบเฉียดฉิว ไม่รู้ว่าคนใจดีตัวขาวจะเป็นยังไงบ้าง แต่คงเข้าสอบทันแหละ รู้ทางซะขนาดนี้ คงไปไม่ยาก

ผมมุดหัวทำข้อสอบแบบสวดมนต์ทุกศาสนาพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้โดนข้อถูกเยอะ ๆ ขอให้ติด ๆ หมุนดินสอเดาก็แล้ว จิ้มเดาก็แล้ว

ทำได้เท่านี้ล่ะวะ ยากจนลืมทางกลับบ้านเลย แม่ง

หลังจากวันนั้น ผมก็ไม่ได้เจอคนที่ช่วยเหลือผมคนนั้นเลย จนผมแทบจะลืมไปกับการตบเกรียนเพื่อนเล่นแล้วไม่ดิ ผมลืมไปแล้วด้วยต่างหาก

แต่ฟ้าลิขิต ไม่ก็นรกบันดาลทำให้ผมได้เจอคน ๆ นั้นอีกครั้งในวันปฐมนิเทศน์ แต่ผมยังไม่รู้หรอกว่าเขาชื่ออะไร และเรียนคณะอะไร

จนวันที่เข้าซ้อมเดินแข่งดาวเดือน ทำให้ผมได้รู้ว่าคนที่ผมมองอยู่ทุกเช้าชื่อ 'ลมหนาว' คณะเทคนิคการแพทย์ หึ เรียนอะไรไม่เรียน มาเรียนคณะที่เป็นคู่อริกับผม

ลมหนาวเป็นคนที่เก่ง รอยยิ้มบาง ๆ ของเขามีเสน่ห์ดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะเข้าหาเขาสักเท่าไหร่

"ทำไมไม่เข้าไปคุยกับเดือนเทคนิคฯล่ะครับ แพรว"ผมแกล้งถามดาวคณะครุศาสตร์ด้วยรอยยิ้มหลอกล่อ "ผมว่าเขาก็ดูเป็นมิตรนะ"

"คิก ลมหนาวเขาก็น่ารักนะคะ แต่เขาดู เหนือกว่าแพรวเกินไป"ผมเลิกคิ้วมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ "อืม... เขาเหมือนฑูตสวรรค์ที่ดูแต่ตา มืออย่าต้อง จะดีกว่าน่ะค่ะ"

ตอนนั้นผมแค่นยิ้มแล้วมองไปที่คนตัวขาวในชุดนักศึกษาเรียบร้อยตลอดทั้งตัวด้วยความหงุดหงิด...

แล้วหลังจากนั้น สายตาของผมก็ไปเคยละออกไปจากใครอีกคนอีกเลย

ตอนประกวดดาวเดือน เป็นครั้งแรกมี่ผมกับลมหนาวเริ่มปะทะกัน เรียกว่าแข่งกันทุกแคมเปญ สลับกันแพ้ชนะ ไม่ก็แพ้ทั้งคู่เพราะโดนคณะอื่นปาดไป ก็โอเค

แต่สุดท้ายผมก็ชนะด้วยการคว้าตำแหน่งเดือนมหาลัยมา

หลังจากจบดาวเดือน ผมกับเขาก็เจอกันน้อยลง... หรือพูดให้ถูกคือเขารับรู้ว่าผมอยู่ไม่ไกลจากกตัวเขาน้อยลงมากกว่า ก็ผมแม่งชอบดอดไปดูลมหนาวทำกิจกรรมอยู่บ่อย ๆ

เพื่อนผู้หวังดีจากคณะนิเทศน์ของผม เลยทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีสุดยอดด้วยการถ่ายรูปลมหนาวมาขายให้ผมบ่อย ๆ หลังจากที่จับสังเกตผมได้

หึ ผมก็ซื้อสิ จะว่ายังไงได้

ระยะห่างของผมกับเดือนเทคนิคการแพทย์ยังคงเท่าเดิมอยู่ตลอด จนกระทั่งขึ้นปีสองที่ทั้งผมและลมหนาวได้เป็นว้ากของคณะ เราเลยได้เจอกันมากขึ้นจากการประชุมของสโม เพราะรุ่นพี่ลากให้ไปดูงานที่จะต้องรับช่วงต่อ

ผ่านมาปีนึง ผมสั้น ๆ ตามฉบับเด็กเพิ่งเข้ามหาลัย ตอนนี้ยาวขึ้นเยอะมาก ทั้งยังตัดเป็นทรงเข้าหน้า แต่จากสายข่าว คนตรงหน้าผมก็ยังคงไม่มีแฟน มีแต่รุ่นพี่คณะแพทย์ที่คอยมาดูอย่างเดียว

ต่างจากผมที่คั่วคนไปทั่วทุกคณะ

นับตั้งแต่ได้เจอหน้ากันเป็นจริงเป็นจังอีกครั้ง ผมก็พยายามเข้าไปอยู่ในสายตาของใครอีกคนอยู่ตลอด โดยที่รู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง เข้าไปยียวนกวนประสาท ไปแหย่ให้หน้าหล่อ ๆ ของเดือนเทคนิคการแพทย์คนนั้นบึ้งตึง อย่างน้อยมันก็ให้ความรู้สึกดีกว่าสีหน้าเรียบ ๆ ตึง ๆ เหมือนไปฉีดโบท็อกส์มานั่นแหละ

ผมที่คอยแต่มองลมหนาวอยู่ในจุดที่ผมต้องยืนก็ไม่ได้คิดจะพัฒนาความสัมพันธ์อะไรให้คืบหน้าหรอก ในเมื่อทุกอย่างมันขีดเอาไว้แล้วว่าผมกับมันเป็นคู่อริกัน

ก็เป็นคู่อริ...

แต่คำถามพร้อมกับคำยั่วยุจากปากเพื่อนหลายคนที่รู้ว่าผมมองวินัยของคณะคู่กัดอยู่นั้น มันทำให้ผมต้องเปลี่ยนใจตัวเอง...

นั่นสิ ผมจะมานั่งปล่อยให้ความรู้สึกของตัวผมเองล่องลอยอยู่แบบนี้ทำไม... ไม่ลองพุ่งชนดูสักรอบ แล้วจะได้ในสิ่งที่ต้องการไหม

เอาแต่ทำตัวเหมือนหมามองเครื่องบิน มันดูไม่แนวซะเลย

วิศวะเราทำอะไรต้องมีแบบแผน เพราะอย่างนั้นผมต้องวางแผน... ปฏิบัติการหาสะใภ้วิศวะ

เล็ก ๆ ไม่ เราต้องใหญ่ จริงไหม จะสอยเดือนให้มาคู่เดือน จะธรรมดาได้ไง

เสียศักดิ์ศรีแย่

หลังจากวันนั้น ผมยิ่งนำเสนอตัวเองให้เข้าไปอยู่ในเซลล์สมองของคุณเทคนิคฯ ให้ฝังลึก ติดต่อเพื่อนเก่าที่แยกย้ายกันไป กับเพื่อนใหม่ในมหาลัยที่คุยถูกคอ และเก็บความลับได้มาช่วยกันสักหน่อย

หนึ่งปีที่เตรียมการเบื้องต้นทุกอย่างเอาไว้ และมันยังคงเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้นอกจากคนที่ยอมลงมาช่วยผม แน่นอนว่าเพื่อนทุกคนแม่ง แซวทุกที เฮทุกรอบที่เอารูปใหม่ไป

พอขึ้นมาปีสาม ผมได้เป็นประธานว้าก กุมอำนาจเบื้องหลังประธานคณะเป็นของแถมที่ผมไปเค้นเอามา... แผนขั้นต่อไปของผมได้เริ่มขึ้น

เหมือนฟ้าจะเป็นใจ ที่ทำให้วิศวกรรมศาสตร์กับเทคนิคการแพทย์มาเป็นบัดดี้กัน ทำให้ผมได้เจอกับลมหนาวทุกวัน แต่มันก็ทำให้ผมทำงานยากขึ้นเหมือนกัน

ผมท้าลมหนาวไปด้วยความมั่นใจเต็มร้อย ยังไงผมก็จะชนะการพนันครั้งนี้

และลมหนาวต้องเป็นของผม

ผมเรียกรวมปีหนึ่งถึงปีสามหลังจากหมดช่วงรับน้องไป ยอมหก้มหัวขอร้องทุกคนให้มาช่วยผม และเก็บความลับเอาไว้ให้มิดชิด

พี่น้องผูกพัน เป็นเรื่องจริงนะเออ ทุกคนยอมสละเวลามาช่วยผมโดยดี เสาร์อาทิตย์ และช่วงเย็นในบางวัน มาซ้อมเปิดเพลทกันอย่างลับ ๆ ที่ซอกหนึ่งของมหาลัยที่ไม่ค่อยมีใครมา

หลายเดือนที่ฝึกฝนกัน

คำถามที่ผมไม่รู้จะตอบว่าอะไร คำถามที่ว่า ทำแบบนี้แล้ว ลมหนาวซึ่งเป็นผู้ชายแท้ ๆ จะยอมตกลงมาคบกับวิศวะปอน ๆ อย่างผมไหม

ผมก็ไม่รู้... แต่ผมถือว่าผมได้ทุ่มเททุกอย่างไปหมดแล้ว

ผลจะออกมายังไง ก็ต้องยอมรับให้ได้

แต่แน่นอนล่ะ ที่ทุกคนจะส่งกำลังใจมาให้ หวังว่าคนที่ผมทุ่มเทให้ จะยอมรับความรู้สึกนี้

หลายครั้งที่ต้องขอโทษน้องปีหนึ่งที่ต้องเหนื่อยทั้งกีฬา แสตนด์เชียร์ แล้วยังมาเรื่องของผมอีก

ทุกคนช่วยกันทำหน้าที่ของตัวเองจนถึงวินาทีสุดท้าย วันจริงที่จะตัดสินสิ่งที่ทุ่มเทลงไปนั้น เพื่อนทุกคนที่ผมขอความช่วยเหลือมากันครบหมดทั้งองค์ประชุม

และผล... ก็เป็นอย่างที่วาดหวัง

ลมหนาวยอมเป็นแฟนผม ความเหนื่อยยากที่ผ่านมามันหายไปหมดเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

มืออุ่นที่ยอมให้ผมได้กุม ริมฝีปากสีสวยที่ยอมให้ผมได้ลิ้มรส

ทุกอย่างที่เป็นลมหนาว... ตอนนี้เป็นความสุขของผม


ผมเลื่อนมือไปกุมมือเรียวที่เล่นเส้นผมมาตั้งแต่ผมเริ่มเล่าเรื่อง จนถึงตอนนี้ ใบหูของลมหนาวแดงก่ำ มือที่ผมกุมมาตลอดหลายอาทิตย์ยังคงอุ่นร้อนเหมือนวันแรก

เช่นเดียวกับความรักของผม ที่ยังมีให้เขาเหมือนเดิม

“ขอบคุณนะ”เสียงนุ่มของคนตรงหน้าผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่ผมเงียบลงไป “คุณทำให้ผมตั้งขนาดนี้... ผมกลับไม่เคยทำอะไรให้คุณเลย”

“ไม่หรอก ลมหนาว การที่คุณยอมยื่นมือคู่นี้ของคุณมาให้ผมได้กุมเอาไว้ ยอมวางใจมาให้ผมได้ดูแลคุณ เท่านี้คุณก็ให้ผมมากเกินพอแล้ว”ผมปล่อยมือที่กุมไว้เลื่อนมือเกลี่ยแก้มเนียนที่ไม่มีสิว ไม่มีผดผื่นสักเม็ดเบา ๆ

“คุณนี่... มักน้อยเหมือนกันนะ”

“ผมก็อยากมักมากอยู่เหมือนกัน”คราวนี้ลมหนาวหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วขยับมือมากุมมือผมแทน “แต่ผมรอได้นะ รอให้คุณพร้อมก่อน”

“แล้วถ้าผมไม่พร้อมล่ะ”ถามกลับมาแบบนี้ ผมนี่อยากจะหยิกแก้มขาว ๆ นี่ให้ช้ำไปข้างเลย

“ผมก็คงต้องใช้น้องนางทั้งห้าไปเรื่อย ๆ ก่อนล่ะมั้ง”

“รอก่อนนะ... ผมขอเวลาอีกสักหน่อย...”

“ไม่ต้องรีบหรอก... เรื่องของเราค่อยเป็นค่อยไปมาตั้งแต่ต้น... ผมรอคุณได้ตลอดนั่นล่ะ”

“หึ... คุณรอได้ขนาดที่เตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว รอผมตอบรับน่ะเหรอ”ลมหนาวขยับหัวพลิกมาเอาท่อนบนเกยขึ้นมาบนโซฟา

“หมายความว่ายังไงน่ะ หืม”ผมถามกลับไปด้วยรอยยิ้ม แต่ตาพราวระยับ

“เจลหล่อลื่นที่อยู่ในลิ้นชักข้างหัวนอนคุณไง อย่าคิดว่าผมไม่รู้”นิ้วชี้ นิ้วกลางหนีบจมูกผมบิดไปมา “ไม่คิดจะใช้ถุงยางหรือไงครับ หืมมม”

“ผมไปตรวจโรคมาหมดแล้วนะ ทั้ง HIV , Hepatitis , Syphilis ผลออกมาเป็น negative ทั้งหมด ไม่ได้เป็นโรคอะไรสักหน่อย”มีแฟนเป็นนักเทคนิคการแพทย์ เราต้องสะอาด ปราศจากโรคไว้ก่อน เดี๋ยวแฟนจะเขม่นเอา “อีกอย่าง ผมไม่ได้หลายกายสักหน่อย คุณจะกลัวอะไร”

“รู้ดีนักนะ”รอยยิ้มของลมหนาวเป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุด มองทีไรผมก็รู้สึกว่ามันทำให้หัวใจผมพองโต “ผมก็ต้องกลัวเจ็บบ้างล่ะครับ ไม่ใช่เจาะเลือดสักหน่อย ไม่ถึงสองนาทีก็เสร็จ”

“สองนาทีเสร็จนี้ ล่มปากอ่าวแล้วล่ะ ลมหนาว”ทั้งผมและลมหนาวหัวเราะออกมาพร้อมกัน รู้กันอยู่แล้ว เรื่องอย่างนี้ ผู้ชายอย่างเรา ๆ ไม่เสร็จกันง่าย ๆ

ยิ่งล่มปากอ่าว ยิ่งเสียศักดิ์ศรีตายห่าเลย

“รู้แล้วก็ทำใจไปเลยนะครับ”คุณเหมันต์ยื่นหน้ามาใกล้ ๆ ผม พร้อมกับส่งยิ้มยั่วเย้า “ผมไม่ให้คุณเอาง่าย ๆ หรอก”

“ผมก็ไม่เคยคิดว่าคุณจะง่ายนี่... แค่จะได้คุณมาเป็นแฟนยังยากเลย”ผมส่ายหน้าให้กับคนตรงหน้า ก่อนจะดึงให้เขาขึ้นมานอนบนโซฟาด้วยกัน “คุณอ่านหนังสือมาเยอะแล้ว... ผมว่าคุณน่าจะนอนพักสักหน่อยนะ”

“คุณจะทำผมเกรดตกนะ...”ถึงปากจะว่าอย่างนั้น แต่ลมหนาวก็ปิดเปลือกตาลงโดยดี

ถือว่าผมคิดถูก ที่ซื้อโซฟาใหญ่ ๆ แบบนี้ มันทำให้ผมกับแฟนของผมนอนด้วยกันได้โดยที่ไม่อึดอัด

“ฝันดีนะครับ”ผมจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเนียน ก่อนจะหลับตาลงบ้าง

ถึงจะนอนไปแล้วงีบนึง แต่ถ้าได้นอนโดยมีใครอีกคนนอนอยู่ด้วยแบบนี้... ผมขอนอนกินบ้านกินเมืองล่ะ

โอกาสทองแบบนี้ ใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ ต้องคว้ากันเอาไว้ให้อยู่มือก่อนล่ะ... ยิ่งลมหนาวยอมเป็นรับให้โดยไม่ต้องชิงไหวชิงพริบกันอีกรอบแบบนี้ ผมยิ่งต้องเอาใจสักหน่อย

ใครจะมาโชคดีกว่าผม ไม่มีหรอก

ฝันดีนะ ทุกคน

แล้วก็... ลมหนาวเป็นของผม ไม่ต้องคิดมาแย่งล่ะ

แฟนผมครับ แฟนผม

รีบหาแฟนกันนะ ผู้ชายมีน้อย สอยกันเองไปเยอะแล้ว

ฝันดีอีกรอบนะ ทุกคน

พายุแคร์นะครับ


๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

บทที่ 44 มาแล้วค้าา มหันตภัยจงเจริญญญ

// ทำคะแนนเร็ว คู่อื่นเขาแซงไปเยอะแล้วววว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 23-02-2016 20:41:35
 :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 23-02-2016 20:50:16
พายุหลงแฟนนนนน กิ้วๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 23-02-2016 21:27:09
แคร์เหมือนกันค่ะคุณ แคร์ว่าเมื่อไหร่คุณจะได้กินลมหนาวค่ะ คู่มหันตภัยน่ารักมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 23-02-2016 21:29:51
เราไม่ได้คิดอกุศลเลยนะลมหนาว แค่อยากตามใจพายุเฉยๆ จริงๆ กลัวพายุจะเมื่อยมือ55555 พายุคนอวดแฟน o18
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 23-02-2016 21:30:18
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-02-2016 21:50:44
อร๊ายยยยย มันฟิน มันคือดีงามมากอ่ะ
ออร่าสีชมพูกระจายมากอ่ะ ชั้นรักตอนนี้ ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 23-02-2016 22:47:24
พายุคนหลงแฟน เขินแทนลมหนาว :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 23-02-2016 22:53:42
โอ้ยยยตายยยย
ดีนะ ที่เปนนิยายย ถ้าเปนเรื่องจิง คือออออ อิจฉากมากกก
ทำไมพายุดีเยี่ยงนี้ๆๆๆ กริ๊ดดดดดดดด
ฟินมากกกค้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 23-02-2016 23:07:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 23-02-2016 23:24:04
 :impress2: โอ้ยยย มดขึ้นหน้าจอแล้วววว
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-02-2016 01:42:31
คู่มหันตภัย บทจะหวานก้อ มดขึ้นจอเลยคร่าาาา ฟรินน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 24-02-2016 09:48:26
จะแสนดีไปไหนคะคุณพายุ ฟินมากค่ะ
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 24-02-2016 09:53:16
จ่ะพายุ...จ่ะๆๆๆ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: เซยูเนียส ที่ 25-02-2016 19:26:13
ต้องเอา DDT มาฉีดรอคอมกันเลยทีเดียว มดขึ้น!!!
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: Wtftt ที่ 01-03-2016 21:55:02
ชอบเรื่องนี้สุดๆ อ่านซ้ำไปมาในนี้เเต่ไม่ได้เม้นสะที และอ่านในอีกเว็บด้วย 555555 สนุกๆๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่44 P.25[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ23/02
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 05-03-2016 22:13:12
มารอ   :m13:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-03-2016 21:42:37
วันที่สี่สิบห้า

ชีวิตมหาลัยต้องมีออกค่ายกันจริงไหมครับ ออกค่าย ออกหน่วยบริการชุมชน ใกล้ไกลก็สนุกสนานเฮฮากันได้ตลอดทาง และปีนี้ พวกผมได้ออกค่ายไกลยันถิ่นธุรกันดารเลยล่ะครับ

สำหรับแพทย์ เภสัช และเทคนิคการแพทย์ที่รับสมัครอาสาออกหน่วยบริการชุมชนแล้ว (แบบบังคับต้องมีคนไป) ก็มีคณะอื่น ๆ ที่ร่วมกันไปให้ความรู้ และซ่อมแซมห้องน้ำ ห้องสมุดกันด้วยครับ ไม่ต้องบอกก็รู้กันนะครับว่าพายุก็ลงชื่อไปกับผมด้วย

เหตุผลที่หมอนั่นไปน่ะเหรอครับ...

"ก็อยากไปเฝ้า กลัวเหนื่อย เดี๋ยวไม่มีคนทำอาหารให้กิน"

เหตุผลที่น่ารักดีว่าไหมครับ ตั้งแต่ผมตกลงคบกับมันกลางสนามบอลท่ามกลางสายตาคนนับพัน หลังจากนั้นมันก็ไม่กวนเบื้องล่างผมอีกเลย... พูดให้ถูกคือหวานมดจะขึ้นล่ะมั้งครับ ก็เล่นมารับไปกินข้าวกลางวัน ปั่นจักรยานไปรับไปส่งที่หอ

หรือว่ามันเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นแฟนกันนะครับ?

พูดก็พูดเถอะ จะให้ผมกลัวคนอื่นรู้ว่าเราเป็นอะไรกันเหมือนคู่อื่น ๆ ก็คงใช่ที่ ผมสองคนคบกันนี่รู้กันทั้งบาง รูปมาเต็มเฟสบุ๊ค ไม่เท่ากับคลิปแสตนด์บอกรักนั่นหรอกครับ

ใครจะไปเชื่อกันล่ะว่าพายุจะทำขนาดนั้นได้

นึก ๆ แล้วก็เขินเหมือนกันนะครับเนี่ย ผ่านมาก็พักนึงแล้ว ยังเขินไม่เลิกเลยนะผมเนี่ย

"แก้มแดง ๆ คิดอะไรอยู่น่ะ หนาว"คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หันมาถามผม "คุณรู้สึกไม่สบายหรือเปล่า จะเอาพาราหน่อยไหม ลมหนาว"

"เปล่า ไม่เป็นอะไร ผมสบายดีอยู่น่า พายุ"ผมตอบปัดไป จะให้บอกว่ายังเขินกับเรื่องเมื่อสองเดือนก่อนมันก็ใช่ที่จริงไหมล่ะครับ

"แน่ใจนะ"มันถามย้ำอย่างเป็นห่วง

"อืม ไม่เป็นไรจริง ๆ"ผมยิ้มให้คนข้าง ๆ "คุณเถอะ ไม่นอนพักก่อนล่ะ เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนไม่ใช่เหรอ"

เมื่อวานพายุมาค้างหอผมครับ มาจัดกระเป๋าให้ผม ทั้ง ๆ ที่ผมบอกแล้วว่าผมทำเองได้ เรื่องแค่นี้ แต่มันก็ไม่ยอม ผมเลยปล่อยเลยตามเลย นั่งทำงานไป ก่อนจะมารู้ที่หลังว่าพายุก็มีงานเหมือนกัน

ใกล้จะไฟนอลแล้วด้วย ไม่รีบทำให้เสร็จเดี๋ยวก็ได้ตาเหลือกันพอดีนะครับ... สุดท้ายพายุเลยโต้รุ่งทำงาน โดยมีผมนอนเป็นกำลังใจอยู่ที่พื้นข้าง ๆ

"ผมยังไม่ง่วงเท่าไหร่หรอก"ปากพูดอย่าง แต่ตาที่ตกลงไม่ได้สอดคล้องกับคำพูดเอาซะเลยนะครับ "คุณต่างหากที่ควรจะพัก ไปถึงงานคงยุ่งน่าดู"

ผมส่ายหน้าแล้วดึงคนปากแข็งให้นอนซบลงบ่าของผม และเจ้าตัวก็ดูไม่ขัดขืนอะไรให้ต้องมานั่งเถียงกัน... พวกเราสองคนเถียงกันมามากเกินกว่าคำว่าพอแล้วล่ะครับ

ตัวพิงลงมาไม่นาน เฮดของวิศวะก็หลับไป ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะทำให้ผมยิ้มบาง ๆ

หลายคนชอบมาบอกผมว่าผมชอบฝืนตัวเองทำงานให้เสร็จ แต่ถ้าได้มารู้จักพายุ ทุกคนต้องถอนคำพูดที่ว่าผมแน่... หมอนี่ยิ่งกว่าผมอีก ผมง่วงมาก ๆ ก็นอนนะครับ ไม่ฝืน แต่พายุไม่ใช่ ต้องทำเสร็จจริง ๆ หรือใกล้จะเสร็จ ถึงจะนอน

เป็นผมที่ฟุบหลับก่อนตลอดเลย

หยุดครับ ช็อปวิศวะไม่อุ่นเท่าผ้าห่มบนเตียงหรอกครับ อุ่นไม่เท่ากาวน์หมอด้วยครับ แต่... ก็ทำให้อุ่นใจนะครับ เวลาอยู่ด้วยกัน
ฟังแล้วเหมือนมียันต์กันผีเลยนะครับ ฮ่า ๆ

เราใช้เวลาเดินทางอยู่หลายชั่วโมงกว่าที่จะถึงจุดหมายปลายทาง นั่งซะจนก้นกบแทบฝังลงไปในเบาะเลยล่ะครับ ถึงแม้ว่าเราจะแวะปั๊มกันเป็นช่วง ๆ ก็เถอะ

แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หายเมื่อยสักนิด

"ปวดหลังเหรอ"คนที่คุณก็รู้ว่าใครเอ่ยถามผมขึ้น หลังจากที่เราลากกระเป๋าลงมายืนรอคนอื่น ๆ อยู่บนพื้นดินกันแล้ว "มา ผมนวดให้"

ผมยังไม่ทันที่จะตอบรับหรือปฏิเสธ มือร้อนก็เลื่อนมาจับที่ช่วงเอวผม ก่อนที่จะลงน้ำหนักที่ปลายนิ้ว นวดวนช่วงบั้นเอวลงไปถึงสะโพก

สบายจัง...

"โหยยย พี่หนาว พี่พายุ ให้มันน้อย ๆ หน่อยเหอะ"จะใครล่ะครับ ห้าวมาแบบนี้ น้องเทคผมเองนั่นแหละ "ใครเห็นจะเข้าใจผิดว่าเพิ่งกินตับกันมาแล้วพี่หนาวใะโพกเคล็ดเอานะเออ"

"ใครจะคิดอกุศลได้เหมือนเธอ หืม เกด"ผมส่านหน้าให้น้องจอมแซวอย่างหน่าย ๆ "แล้วนี่เป็นไร หน้ายุ่ง ๆ ไม่เหมือนคนที่เพิ่งสำเร็จจากการกวนคนอื่นเขาเลย"

"พี่เห็นข่าวยัง"

"ข่าวอะไร"ผมเดินเข้าไปหาน้องที่เปิดกระเป๋าล้วงเอาไอโฟนของตัวเองออกมา พร้อมกดยิก ๆ เปิดอะไรสักอย่างก่อนจะยิ่นมาให้ผม

ฉาว! ไฮโซตระกูลใหญ่ ชื่อย่อ ค. คั่วหนุ่มมหาลัย

หัวข้อที่มาพร้อมรูปประกอบ ทำเอาผมหน้าเปลี่ยนสี ถึงรูปจะไม่ได้ชัดอะไรมากแต่ก็มองออกว่านี่เป็นรูปเพื่อนผมเดินเข้าคอนโดหรูกับพี่คิส

“นี่...”ผมพูดอะไรแทบไม่ออก เงยหน้าขึ้นหาพายุที เกดที พายุมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น ส่วนเกดที่เป็นคนบอกข่าวก็ดูน้ำท่วมปากตาม ๆ กันไป

ผมเลื่อนอ่านข่าวอย่างรวดเร็ว เนื้อหาข่าวโจมตีปันปันค่อนข้างหนักว่าไปเรียกร้อง แบล็คเมล์พี่คิส ใส่สีซะจนผมหมดปัญญาจะพูดอะไร

“ปันปันรู้หรือยัง...”ผมเปรยถามอย่างไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่คนสองคนที่ยืนอยู่ใกล้กับผมรวมทั้งตัวผมเองหันควับไปมองคนที่เป็นข่าวซึ่งเดินสะพายกระเป๋าเล่นหัวกับเพื่อนมา...

คงจะยังไม่รู้นั่นล่ะครับ

ก็ดี... หวังว่าพี่คิสเขาจะเคลียร์ทุกอย่างจบก่อนที่พวกเราจะกลับกันไปแล้วกันครับ

ขึ้นชื่อว่าค่ายอาสา จะมีที่นอนเป็นโรงแรมหรู ห้องพักสวยคงไม่ใช่ มีแต่ห้องเรียนที่ไม่มีพัดลมที่เคลียร์โต๊ะเอาไว้ห้าห้อง หรือใครใคร่จะกางเต้นท์นอนก็เอาเท่านั้นเองล่ะครับ

งานนี้คุณชายโซนร้อนเลยถือโอกาสกางเต้นท์ซะเลย แน่นอนล่ะว่าผมก็ต้องมานอนกับเขาอย่างไม่ต้องมีตัวเลือกอะไร ชักจะเหมือนมาแคมป์ยังไงไม่รู้สิ

งานของเราจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ครับ วันนี้มาถึงก็เย็นมากแล้ว เลยได้แต่รับประทานอาหารที่ชาวบ้านแถบนี้ทำเอาเลี้ยงกันไป ใครเลือกกินก็ลำบากหน่อยนะครับ แต่ยังดีที่มีเมนูพื้นฐานอย่างไข่เจียวให้ได้กิน

การเดินทางทำให้เหนื่อยล้า อาบน้ำ กินข้าว เดินย่อยสักพัก แล้วสวดมนต์เข้านอน นั่นคือสิ่งที่ผมทำ พอหัวถึงหมอนไม่นานก็หลับไป...

แต่ก็สัมผัสได้ถึงความโอบรัดที่ช่วงเอว และไออุ่นที่แผ่มาทั่วแผ่นหลัง

เสียงการเต้นของหัวใจเป็นเหมือนบทเพลงขับกล่อมให้ผมได้นอนฝันดี...


พวกเราทุกคนตื่นกันตั้งแต่เช้ามืด อาบน้ำกินข้าว พอแสงสว่างสาดส่องไปทั่วท้องฟ้าให้มองเห็นทาง ก็ได้เริ่มงานกันอย่างจริงจัง

เราตั้งซุ้มรับตรวจสุขภาพ ทั้งวัดความดัน เจาะตรวจเบาหวาน ตรวจโรค จ่ายยา เท่าที่พวกเราจะได้รับอนุญาตให้กระทำได้ตามหลักเกณฑ์ของทางมหาวิทยาลัย

ในส่วนของเทคนิคการแพทย์เรานะครับ ครั้งเรามาตรวจแค่เบาหวาน เพราะเป็นโรคที่เราสามารถใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กตรวจได้ ซึ่งผลค่อนข้างแม่นยำ จริง ๆ การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เราก็สามารถตรวจได้ แต่เป็นโดนคร่าว ๆ เท่านั้น ทุกโรคเราจะต้องมีการตรวจย้ำด้วยเทคนิคอื่น ๆ ย้ำอีกครั้งเพื่อการออกผลที่ถูกต้องและแม่นยำ

เรามีข้อกำหนดไว้ว่าการออกผล จะไม่ออกผลที่ไม่ถูกต้องไปเด็ดขาดครับ เพราะอย่างนั้น โรคที่ควรจะต้องได้รับการตรวจเช็คอย่างถี่ถ้วน เราขึ้นไม่เอาออกมาตรวจนอกสถานที่กัน ยิ่งกับนักศึกษาที่ยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพอย่างเราแล้วต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นไปอีก

และแน่นอนครับว่าการตรวจเบาหวานเราทำได้แต่ช่วงเช้า เพราะการอดอาหารของคนทุกคน คงไม่มีใครอดไปถึงเที่ยง ถึงบ่าย ถึงเย็น จริงไหมครับ หลังจากที่เราตรวจวัดเสร็จ เราก็ไปเปลี่ยนเครื่องแบบ แล้วออกมาช่วยคนอื่น ๆ ที่กำลังช่วยกันฟื้นฟูโรงเรียนแห่งเดียวนี้อยู่

เผลอไปครู่เดียว ตัวกลม ๆ ของน้องเทคผมก็ปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคากับเพื่อนซี้ของเจ้าตัว ถือค้อน แบกไม้ไปตอกโป๊ก ๆ กันแล้ว
ผมเป็นพี่ ทั้งยังเป็นผู้ชาย จะน้อยหน้าได้ยังไงจริงไหมล่ะครับ

ผมจะเดินเข้าไปฝั่งที่เพื่อน ๆ และน้อง ๆ กำลังช่วยกันเลื่อยไม้อยู่ แต่หางตาเห็นใครอีกคนที่กำลังปีนลงมาจากหลังคา เลยเปลี่ยนเป้าหมายเดินไปหาหมอนั่นแทน

ผ้าเช็ดหน้าที่พกติดกระเป๋ามา กับน้ำดื่มที่หยิบจากระหว่างทาง ของทั้งสองอย่างถูกยื่นให้กับพายุ หมอนั่นเงยขึ้นมามองหน้าผม แล้วส่งยิ้มให้ ก่อนจะรับน้ำไปดื่มแล้วเทราดหัวตัวเอง

“เอาน้ำราดไปแบบนั้น เดี๋ยวก็เข้าตาหมดหรอก”ผมส่ายหน้าให้กับคนที่ทำเท่ห์เสยผม ไม่รู้จะโชว์ให้ใครดู ก่อนจะเอาผ้าซับหน้าที่เปียกน้ำเบา ๆ “ไปพักก่อนเถอะ เดี๋ยวผมขึ้นไปทำต่อเอง”

“ไม่ต้องเลย ลมหนาว”พายุจับข้อมือผมลากไปที่ร่มโดยไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ค้านอะไร “คุณจะขึ้นไปตอกตะปูน่ะนะ หยุดเลย ถ้าโดนมือขึ้นมาจะทำยังไง”

“คุณพายุ ผมผ่านการฝึกลูกเสือ ฝึกรด. มานะครับ เรื่องแค่นี้ผมก็ทำมาหมดแล้ว”ผมเถียงคนที่เหมือนอยู่ ๆ จะมาเป็นห่วงไม่เข้าเรื่องกลับไป

“ตอนนั้นส่วนตอนนั้น แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกันนิ”คนหัวดื้อยังไงก็หาข้อโต้เถียงกลับมาได้ ผมจ้องตากับพายุเขม็งด้วยความไม่พอใจ

“คุณอย่ามาทำเหมือนผมเป็นผู้หญิงนะ!”ผมขึ้นเสียงกลับไป แต่ไม่ดังนัก มือร้อนที่กำข้อมือผมอยู่ กำแน่นขึ้นไปอีก “คุณก็รู้ ผมเป็นผู้ชาย เรื่องพวกนี้ผมทำได้อยู่แล้ว”

“แต่ผมเป็นห่วงนี่”คราวนี้เป็นพายุที่ขึ้นเสียงดังใส่ผม แต่คำของหมอนั่นทำเอาผมชะงัก “ผมไม่อยากเห็นคุณเจ็บตัว ไม่โอเคเข้าไปใหญ่ถ้าคุณต้องตากแดดจนหน้าแดง ตัวแดง คุณเข้าใจผมไหม ลมหนาว”

พายุไม่ได้ออมเสียงเหมือนผม คำพูดทั้งหมดเลยกระจายไปทั่ว ทำเอาทุกคนหยุดมือทำงานหันมามองพวกเราสองคนเป็นตาเดียว แต่เหมือนคนที่กำลังเลือดขึ้นหน้าจะไม่รู้สึกตัว

“ผมไม่ได้มองคุณเป็นผู้หญิง ไม่ได้มองว่าคุณอ่อนแอ แต่คุณเข้าใจผมไหม ว่าผมไม่อยากเห็นคนรักของผมต้องลำบากมาตากแดด โต้ลม ผมรู้ว่าคุณทำได้ แต่ผมไม่อยากให้คุณทำ มือคู่นี้ของคุณเอาไว้รักษาคนน่ะ ดีแล้ว เรื่องบำรุงสถานที่ ผมเป็นวิศวะ ผมจะทำเอง”คนหนึ่งร้อน อีกคนต้องเย็น ผมปรับอารมณ์ให้กลับมาคงที่ ครับ ผมเข้าใจที่พายุต้องการจะสื่อ แต่เรามาออกค่ายอาสา จะให้ผมทำเป็นนั่งเฉยได้ยังไง

ขนาดผู้หญิงยังออกลุยเลย

“พายุ ผมรู้ว่าคุณห่วงผม แต่เรามาค่ายอาสานะ คุณจะให้ผมนั่งงอมืองอเท้าหลังจากทำหน้าที่ตัวเองเสร็จ ทั้ง ๆ ที่คนอื่น ๆ ยังไม่ได้พักด้วยซ้ำ ผมทำไม่ได้หรอก”ผมใช้ความเป็นเหตุเป็นผลตอบกลับไป มือข้างที่ไม่ได้ถูกจับเอาไว้เลื่อนมากุมมือที่หมอนี่กำข้อมือผม “งานแค่นี้มันไม่ได้ทำให้ผมเหนื่อยจริง ๆ นะ”

“แต่ผมไม่อยากให้คุณทำ”คุณชายโซนร้อนยังคงยืนยันเหตุผลเดิม ถึงเสียงจะอ่อนลง แต่มองก็รู้ว่ามันไม่ยอมอ่อนข้อให้ผมแน่ ๆ

“ลมหนาว นายไปทาสีไป”สรุปแล้วเป็นพี่ทิวที่เดินเข้ามาห้ามทัพ ว่าที่คุณหมอในเสื้อกาวน์ยาวเดินมาหยุดตรงหน้าพวกเราสองคน “พายุก็อีกคน พี่เข้าใจที่นายเป็นห่วงลมหนาว แต่น้องชายของพี่ไม่ใช่เด็กอมมือที่ทำอะไรไม่ได้ อย่าทำอะไรที่มันเกินไปนัก”

“ครับ”ผมกับพายุรับคำพร้อมกัน พายุปล่อยข้อมือผมออก รอยแดงรูปห้านิ้วฉาบทับบนข้อมือของผม ทำสีหน้าของใครอีกคนไม่สู้ดีเข้าไปใหญ่

“เจ็บไหม”นิ้วหยาบไล้เบา ๆ ที่รอยตรงข้อมือผม “ขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไร ผมไม่เจ็บ”ผมดึงมือออกจากการจับกุมของคนตรงหน้า แล้วหมุนตัวหันไปทางฝั่งที่มีคนทาสีอยู่ “รีบไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวใครจะหาว่ากินแรงเอา”

“หนาว...”ผมหยุดนิ่งตามคำเรียก แต่ไม่หันกลับไป ปล่อยให้เวลาผ่านไปพักหนึ่ง คนที่เรียกชื่อของผมก็ไม่พูดอะไรออกมา ผมเลยเดินเข้าไปทำงานโดยไม่พูดอะไรเช่นกัน

ไม่ได้โกรธอะไรหรอกครับ แต่ผมต้องทำให้เขารู้ ย้ำเตือนว่าผมเป็นผู้ชาย มีอวัยวะครบ 32 เหมือนกับทุกคน

ครับ ความเป็นห่วงมันเรื่องนึง แต่ความเป็นจริงมันก็เป็นอีกเรื่อง

ผมต้องย้ำให้มันจำเอาไว้

พวกเราต่างคนต่างทำงานไป ผมเหลือบไปมองพายุที่ทำหน้าบูดบ้าง ดูพี่ทิวที่มีน้องข้าวคอยเสิรืฟน้ำให้ และยัยเกดที่ลงมาจากหลังคาแล้ว

แต่แทนที่จะไปพัก ดันวิ่งไปช่วยงานที่กองลูกเสือ เป็นแค่กองเล็ก ๆ ครับ เด็ก ๆ เขามีเข้าค่ายกันพอดี ชุดลูกเสื้อที่มีรอยปะชุนมันสะท้อนใจไม่น้อย

ในขณะที่มีคนจำนวนหนึ่งเสวยสุขในห้องแอร์ กินข้าวครึ่งจานทิ้งอีกครึ่ง แต่ก็มีคนอีกกลุ่มที่ต้องสวมใส่รองเท้าขาด ๆ เสื้อผ้าที่ส่งทอดต่อกันมา

ชีวิตที่ต้องดิ้นรน ตะเกียดตะกายต่อสู้กับมัน

พวกเราทำงานกันจะเย็นครับ แสงอาทิตย์เริ่มลาลับ งานคืบหน้าไปได้ด้วยดี เหลือแค่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยกันไป งานทำได้ไวกว่าที่คิดกันเอาไว้เยอะเลยครับ

ก็ไม่มีใครอู้งานนี่เนอะ

ถึงจะเหนื่อยล้ากันมา แต่เรื่องกองไฟเราไม่พลาดกันแน่นอน ระหว่างที่นั่งพัก ทำธุระส่วนตัวกัน พวกเด็ก ๆ ที่เข้าค่ายก็มีการเล่นรอบกองไฟ

นั่นล่ะครับ พวกเราก็รอต่อคิวกัน

“พอฤกษ์งามยามได้เวลา เชิญเทพบนฟ้าทุกทิศลอยมาร่วมเป็นพยาน ในคืนกองไฟนี้เชิดชูไว้ในองค์ประธาน สถิตสถาน พระวิญญาณร.6 ของไทย”เสียงเพลงที่เคยคุ้นหู เนื้อร้องที่ยังคงจำได้ลอยเข้าหูมา ผมนั่งมองการละเล่นรอบกองไฟของเหล่านักเรียนตัวน้อยยิ้ม ๆ

ตอนเด็ก ๆ ผมก็ชอบนะครับ เล่นกองไฟ แต่ในกรุงเทพฯ ไฟที่ใช้ไม่ค่อยจะใช้ของจริง ได้อารมณ์ไม่เท่ากับที่เห็นอยู่ตอนนี้หรอกครับ

สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว... จริง ๆ คงจะเชื่องช้านั่นแหละครับ แต่ผมดูเด็ก ๆ ไปเพลิน ๆ เผลอแป๊ปเดียวเวลาก็ล่วงเลยไปแล้ว

ตาพวกเราแล้วล่ะครับ

หลังจากที่เด็กๆ กลับกันไปนอนแล้ว พวกเราเด็กมหาลัยก็เข้ามาล้อมวงกันแทนครับ

ผมยกเอาผัก เนื้อหมู เครื่องปรุงออกมา ตั้งหม้อ ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นเขาคงทำสตูวกินกันเวลาตั้งแคมป์แต่นี่เมืองไทย ผมขอทำต้มแซ่บละกันครับ

เคล็ดลับของผมคือการใส่พริกไทยเม็ดที่ตำหยาบ ๆ ลงไป มันจะได้ทั้งรส ทั้งกลิ่น แซ่บครับ ผักต้องต้มไม่ระยะนึงให้เปื่อยเข้าเนื้อ จะหวานอร่อย

ปกติผมจะไม่ค่อยทำอะไรกินหรอกครับ ฝีมือมัน... เกินแกงไปหน่อย แต่มีแค่เมนูนี้แหละที่ทำแล้วรอด ถึงอย่างนั้นผมก็ต้องให้น้องมาช่วยหั่นของให้อยู่ดี

ผมเหลือไปเห็นปันปันเดินเกาหัวออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดี ดูหงุดหงิดไม่น้อย ในมือถือโทรศัพท์เอาไว้
จริงสิ... มัวแต่ทำงาน ผมลืมเรื่องข่าวเมื่อเช้าไปเลย

ถึงปันปันจะไม่บอกอะไรผม แต่ผมก็รู้นะครับว่าระหว่างพวกเขาสองคน จะต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาต่อกัน แต่นั่นแหละ ถ้าเมื่อไหร่ที่เพื่อนต้องการ ผมค่อยรับฟัง

ไม่ถามหรอกครับ ผมไม่อยากละลาบละล้วง

หมอนั่นนั่งลงข้าง ๆ ผม อีกฝั่งเป็นพี่ทิวที่มานั่งด้วย ผมตักเอาต้มแซ่บที่พอจะได้ที่แล้วส่งให้คนทั้งสอง

“รสมือยังดีเหมือนเดิมนะ หนาว”พี่ทิวหันมาพูดกันผม แล้วตักกะหล่ำต้มเปื่อยยื่นมาป้อนผม “กว่าจะยอมลงครัวทำ ต้องเป็นวันพิเศษเท่านั้นสิ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ พี่ทิว ผมแค่ขี้เกียจ”ผมหัวเราะเบา ๆ เมื่อพี่ทิวแกส่ายหน้าหน่าย ๆ แล้วตักหมูมาป้อนผมอีก “พี่ทิวก็ โน้น น้องข้าวนั่งมองตากลมป๊อกแล้วครับ”

ผมส่งถ้วยอีกใบให้พี่ทิวส่งให้ฟางข้าว ให้น้องเขากินอุ่นท้องล่ะครับ

ไม่ใช่มีแค่ต้มแซ่บนะครับ ยังมีพวกอาหารปิ้งย่าง เท่าที่เราจะพอทำกันได้นั่นล่ะครับ

พายุเดินออกมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังของผม ผมรู้แล้วล่ะครับว่าหมอนั่นมา แต่ไม่ได้หันกลับไปมอง ใจผมยังไม่หายเคืองสักเท่าไหร่ กับการที่มันห้ามผมไม่ให้ผมทำงาน

ผมรู้ว่ามันไร้สาระ แต่ผมหงุดหงิดนี่ครับ

“ลมหนาว...”พายุเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ซึ่งความลังเลใจ ผมไม่เหลือบมอง และไม่ขานรับ เอาไว้หายหงุดหงิดก่อนนะ... ผมไม่อยากทะเลาะกับเขา “นี่... ลมหนาว หันมาคุยกันก่อนสิ”

นิ่งครับ... ไม่หัน แต่ก็ถูกพี่ทิวสะกิด พร้อมกับปันปันที่ผลักผมให้ลุกขึ้นไป

ผมถอนหายใจแล้วลุกขึ้นหันมาสบตากับพายุ มือร้อนยื่นมากอบกุมข้อมือของผม แรงลากจูงที่ทำให้ผมต้องเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้

หรือ... ผมไม่ขัดขืนเอง

“หนาว...”โซนร้อนเรียกชื่อผมเสียงอ่อน มันหันมาสอบตากับผมนิ่ง “ผมขอโทษ... ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณรู้สึกแบบนั้น ผมเป็นห่วง...”

ผมจ้องหน้าคนตรงหน้านิ่ง รอให้หมอนี่พูดต่อไป

“ที่ผ่านมา... ผมคบอยู่แต่กับผู้หญิง พวกเธอชอบให้ผมห่วง ให้ผมเทคแคร์ ผมคงติดนิสัยพวกนั้นมามาก... ผมขอโทษที่ทำให้หนาวรู้สึกไม่ดี... ผมจะปรับตัวผมเองให้ได้ ยกโทษให้ผมนะ. นะครับ”

“... เฮ้อ”ผมถอนหายใจอีกครั้ง แล้วยิ้มออกมาบาง ๆ “ผมรู้ว่าผมไม่ควรจะโกรธคุณ... ผมเป็นผู้ชาย คุณเองก็เป็นผู้ชาย ผมรู้ว่าคุณรู้สึก... คุณคิดอะไร ยังไง ไม่ใช่แค่คุณที่ต้องปรับตัว... ตัวผมเองก็เหมือนกัน”

หงุดหงิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง... ผมรู้ตัวดี

“หนาวจะโกรธ จะไม่พอใจอะไร ผมไม่ว่า คุณบอกผมได้ทุกอย่าง ผมขอแค่คุณอย่าเมิน อย่าเฉยชา หรือทำเหมือนผมไม่มีตัวตน... ได้ไหมครับ”น้อยครั้งนะครับ ที่พายุจะลงหางเสียงว่าครับ เสียงที่ฟังดูอ้อนวอน เจ็บปวด ทำเอาผมใจสั่นไม่น้อย

“คุณก็เหมือนกัน... ถ้าไม่พอใจอะไรผม ก็ขอให้คุณบอกผมมาเหมือนกัน...”พายุดึงผมเข้าไปกอดเอาไว้ ยังดีนะครับที่แถวนี้ไม่มีคน... ผู้ชายตัวสูง ๆ ไซต์พอ ๆ กันสองคนยืนกอดกันมันคงไม่ได้น่าดูนักหรอก

“ผมทุ่มเททุกอย่างให้ได้หัวใจของคุณมา... ผมไม่อยากเสียคุณไปเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆพวกนั้น...”

ผมกอดตอบคนตรงหน้าไปหลวม ๆ โดยไม่พูดโต้ตอบอะไร

ลิ้นกับฟัน ระวังแค่ไหนก็ยังมีกระทบกัน คนรักก็เหมือนกันล่ะครับ แต่ถ้าเราทำความเข้าใจกัน พูดคุยกัน เรื่องมันก็จะผ่านไปได้ด้วยดี

จริงไหมล่ะครับ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

มาต่อแล้วค้าา เย้ ^o^ จริงๆ ตอนหน้าควรจะเป็นบทส่งท้ายเนอะ ฮ่าๆ แต่เอาพี่คิสกับปันปันยัดลงในตอนนี้ไม่ได้... เลยได้โควต้าบทแยกไปเลย

เอาไว้พอกันบทหน้าค้าา <3  :o8:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-03-2016 22:02:06
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 13-03-2016 22:07:17
 :m1: อยากอ่านตอนพายุหึงลมหนาวบ้างงง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 13-03-2016 22:15:14
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 13-03-2016 22:33:24
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 13-03-2016 23:00:43
คิดถึงงงงคู่มหันตภัยสุด ๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 14-03-2016 01:47:55
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
น่ารักกันจิงงง
แต่เรื่องของพี่คิส ปันๆ จะทำยังไงน่าาาาา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 14-03-2016 09:19:33
โอ๊ยยยยย โซนร้อนพัดความเขินมาหาเราอีกแล้วง่ะ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 14-03-2016 09:56:52
เขินอ่ะ เค้าหวานกันจัง  :-[
ค่อยๆปรับตัวกันไปนะ สู้ๆ
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 14-03-2016 10:34:23
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 17-03-2016 02:38:29
 :-[ :-[ :-[ :L1: :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 17-03-2016 21:28:41
ชีวิตคู่ก็งี้แหละ ขอเพียงหันหน้าคุยกัน เราก็จะเข้าใจกันได้ไม่ยาก ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-04-2016 21:48:43
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 17-04-2016 00:27:25
โอ้ย น่ารักที่สุดเลย โซนร้อน เป็นห่วงลมหนาวขนาดนั้นเลยน๊าาาา
อ่านไปเข้นไปอ่ะ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: BeautifulGirl ที่ 17-04-2016 09:16:25
น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 17-04-2016 09:58:12
 :m15: มะไหร่จะมาต่ออะคะะะะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่45 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ13/03
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 30-04-2016 01:00:18
ไรท์หายไปไหน
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่46 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ15/05
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 15-05-2016 20:36:47
บทที่สี่สิบหก

(ปันปัน)

ผมกลับจากค่ายมาด้วยอารมณ์ที่โคตรของโคตรขุ่นมัว ไม่รู้จะหงุดหงิดไปทำไม ทั้งที่ผมกับไอ้เหี้ยนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย
ก็แค่ลูกหนี้ที่ใช้หนี้บนเตียงนอน

แต่แม่งเอ๊ย ไอ้ข่าวนั่นมันลอยอยู่ในหัวผมตลอดเลย ให้ตายเหอะ! ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ผมต้องบ้าแน่ ๆ

พอผมลงจากรถบัสมาก็เจอกับรถหรูที่คุ้นตา เออ รถที่ผมแม่งนั่งอยู่เกือบทุกวันจอดเทียบท่ารออยู่ในที่วีไอพี ทำเอาผมอดที่จะหันไปเบ้หน้าไม่ได้

"ไปเคลียร์กันดี ๆ นะ"สัมผัสหนัก ๆ ที่ไหล่มาพร้อมกับเสียงนุ่ม ๆ ของเพื่อนสนิทคนเดิมของผม "แล้วเจอกันวันอังคารนะ ปันปัน”

ลมหนาวเดินหิ้วกระเป๋าไปพร้อมกับพายุที่ลากกระเป๋าใหญ่ตามมา ผมหันมองเพื่อนจนลับตาถึงจะกลับมาเผชิญหน้ากับความจริงที่รอผมอยู่

“ขึ้นรถสิ”เหมือนว่าจะยืนนิ่งเป็นหินนานไปหน่อย เจ้าหนี้ของผมเลยลงมาตามด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย... แข่งกับตัวผมเองเลยมั้ง

“ครับ...”ผมตอบรับไป... แรก ๆ ผมก็ไม่รู้สึกอะไรแบบนี้หรอก มาตอนหลัง ๆ เหมือนมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้ผมต้องบอกตัวเองว่าคนตรงหน้าของผมคือเจ้าหนี้ ไม่ได้อยู่ในฐานะอื่น หรือผมต้องเพียรถามตัวเองว่า ผมอยู่ในฐานะอะไรกันแน่

เหอะ! คำถามนี้ คำตอบแม่งโตรง่าย ถ้ามึงไม่อยากหลอกตัวเองไง ปันปัน มึงก็เป็นได้แค่คู่นอนเท่านั้นแหละ เสือกจะไปหลงคารมคำหวานของคนอย่างมันได้ยังไง

บ้าฉิบ

“ปันปัน มาคุยกันบนรถ”พี่คิสคงจับสัมผัสอะไรบางอย่างได้ เลยเรียกผมเสียงแข็ง ก่อนที่จะแทรกตัวเข้าไปในรถ คงจะไปสั่งอะไรคุณอินอีกนั่นแหละ

ผมเดินไปขึ้นรถที่จอดเทียบท่าอยู่ ไม่มีทางเลือกอะไรนี่ ยังไงชีวิตผมต้องอยู่ในกำมือของคน ๆ นี้ไปอีกนาน ตราบเท่าที่อายุคดีความยังไม่สิ้นสุด ได้เขาช่วยไม่ใช่หรือไง ครอบครัวถึงกลัวมาสงบสุขได้

พอผมหย่อนตัวลงบนเบาะ ปิดประตูรถ คันเร่งก็ถูกเหยียบให้รถขยับออกไป พร้อม ๆ กับที่พี่คิสดึงตัวผมเข้าไปชิดกับตัวเขาเอง

เห็นดูผอมเพรียว หน้าสวยอย่างนี้... แรงยิ่งกว่าช้างสาร อึดยิ่งกว่าหมีควายอีก... ไม่ต้องถาม ผมถูกบังคับให้พิสูจน์มาหลายรอบแล้ว

ยั้งแรงก็ไม่เป็น!

“ไม่พอใจอะไร... ปันปัน”เสียงเย็น ๆ แข็ง ๆ ของพี่นั่นแหละ แม่ง ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ผมเหล่มองตาขวางโดยไม่พูดอะไรตอบกลับ สงครามเย็นเว้ย ลอกลมหนาวมา “พูด!”

“เปล่าครับ”แรก ๆ พี่คิสแกก็พูดดี อ้อร้ออยู่หรอก... หลัง ๆ มาเผยธาตุแท้ไง กูนี่โดนตลอด ไม่รู้จะกดเสียงเย็นทำไมนักหนา เผด็จการ บ้าsex พอ ๆ กับบ้าอำนาจ

คนเหี้ย ๆ แบบนี้ ทำกูหวั่นไหวได้ยังไงวะ?

หรือกูเป็นสาย M...

“ตอบอย่างนี้คิดว่าพี่จะเชื่อหรือไง”ใบหน้าสวย ๆ นั่นบูดบึ้ง ดวงตาเรียวถลึงมองมาที่ผม “มีอะไรก็ถามมา ไม่ต้องคิดเองเออเอง เข้าใจไหม ปันปัน”

“แล้วพี่จะมาสนใจอะไรผมเนี่ย”ผมเริ่มหงุดหงิดบ้างแล้ว เลยมีความกล้าพอที่จะโต้ตอบไป... อยู่บนรถโต้ได้อยู่ แต่ถึงห้องแล้ว... อีกเรื่อง

“แล้วพี่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่สนใจปันปันล่ะ ห๊ะ”พี่คิสเริ่มขึ้นเสียง บอกถึงอารมณ์ที่เริ่มรุนแรงขึ้น “ปันปันเป็นเมียพี่ จะไม่ให้พี่สนได้ยังไง”

“เมียหรือคู่นอน เอาดี ๆ”หลุดปากโต้กลับไปอีกรอบ... ทำเอาพี่แกชะงักกึก เอาวะ หลุดไปแล้วนี่ ต่อแม่งเลย “ผมมันก็แค่ลูกหนี้ ขายตัวเข้าแลก พี่ไม่ต้องมาสนใจหรอก ไปสนใจโน้น ลูกนักการเมืองใหญ่คนนั้น โน้น”

“หืม...”คิ้วเรียวเลิกขึ้นสูง พร้อมกับรอยยิ้มพึงพอใจที่แย้มออกมา... พอใจห่าไรของแม่งวะ “ปันปันของพี่... หึงพี่เหรอครับ หืม...”

“ขอเหอะ เลิกมโน”ผมเบ้หน้าหนี หึงคือไร? หึงทำไม เป็นไรกันงั้นดิ? “พี่เป็นผู้ชาย ผมก็เป็นผู้ชาย เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมจะไปหึงพี่ทำไม?”

“แน่ใจ?”รอยยิ้มนั้นยังคงพร่างพรายอยู่บนใบหน้าได้รูปนั้น พี่คิสกระชากตัวผมเข้าไปบดจูบอย่างรุนแรงอยู่พักนึง ก่อนจะปล่อยให้ผมกลับมานั่งที่ปกติ “ไว้ถึงห้องของเรา พี่จะย้ำให้หนัก ๆ เลย ว่า ‘เราสองคน’ เป็นอะไรกัน”

“ก็บอกแล้วไง ว่ามืต้องมาสนใจผม ไปคนใจเธอคนนั้นโน้น ไป”ทำไมคำพูดผมมันดูพาลจังวะ... แล้วไอ้ความรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่หายไปสักทีนี่คืออะไร

“พอเลย พี่ว่าปันปันเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว... กับไอ้ข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์นั่น”พี่คิสส่ายหน้าหน่าย ๆ แล้วกอดอกพิงเบาด้วยท่าทีสบาย ๆ “พี่ไม่อยากให้ปันปันน้อยของพี่เสียหายหรอก ถึงยอมไปตามคำชวนของเจ้าหล่อนน่ะ”

ผมตวัดตาไปมองพี่แกอย่างไม่เข้าใจ เออ ไม่เข้าใจอย่างแรงด้วย ไม่อยากให้ผมเสียหายอะไร? แล้วเมื่อไหร่จะเลิกเรียกผมว่าปันปันน้อย...

อยากบอกว่ากูตัวใหญ่กว่ามึงอีก

“แสดงว่าเห็นข่าวตอนเย็น ๆ อย่างเดียว ไม่ได้ดูตอนเช้าเลยงั้นสิ”เรื่องอะไรจะยอมรับล่ะ พอผมเห็นข่าวนั้น ความรู้สึกขัดใจแม่งก็พุ่งพอแล้ว เลยไม่เปิดดูข่าวไหน ๆ อีกเลย “มีคนถ่ายรูปเราสองคนตอนเดินเข้าโรงแรมด้วยกันไปทำข่าว... พอจะเข้าใจอะไรบ้างหรือยังล่ะครับ คนเก่งของพี่”

สมองเม็ดถั่ว แรมเสือชีต้าร์ของผมรันระบบทันที ซีพียูประมวลผลออกมาได้ว่า พี่คิสทำเพื่อผมจริงๆ... แต่ผมขออย่างงั้นดิ?
เป็นข่าวก็ฟ้องร้องได้เหมือนกัน รุกล้ำเรื่องส่วนตัวแบบนี้

“เลิกมองพี่ตาขวางสักทีเหอะ”เสียงนั้นเริ่มกลับมาหงุดหงิดอีกครั้ง “เออ ช่วยให้นักข่าวไม่ตามแล้วยังจะมาหงุดหงิด พาลใส่พี่อีก หึ”

ผมนิ่ง ไม่โต้ตอบ งานนี้จะเลียนแบบลมหนาวให้เหมือนเลย

“แล้วไอ้คำพูดว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันนั่นล่ะ เลิกพูดไปซะ พี่จะทำให้รู้เองว่า เราเป็นอะไรกัน!”ย้ำอีกแล้วแม่ง คำซ้ำ ๆ เดิม ๆ เพิ่มเติมคือแรงอารมณ์

ผมนั่งนิ่งเงียบกลับมาจนถึงเพนเฮ้าท์ของพี่คิส แน่ล่ะว่าผมโดนพี่เขาไล่ไปอาบน้ำ โดยไม่ลืมที่จะส่งแม่บ้านมายืนคุมเชิงหน้าห้อง กันผมแกล้งหลบอยู่ในห้องน้ำนานเกินกว่าเหตุ

เหนื่อยแค่ไหน คิดเหรอว่าจะรอด... ไม่ล่ะ ผมเริ่มชินกับกิจวัตรของพี่แกแล้ว

หน้าที่ของผมคือทำความสะอาดให้ดีที่สุด... ถ้าไม่อยากให้เหล่าสาวใช้มาจัดการให้ เหมือนตอนครั้งแรก แบบที่ผมได้สติของเขากับผม

“นอนลง”มันก็คงเหมือนกับทุกครั้งที่เขาโกรธ หรือหงุดหงิดมา ผ่านมาเดี๋ยวก็ผ่านไปเหมือนกับทุกครั้ง ประสบการณ์มาสอนให้ผมได้รู้

พี่คิสบดจูบเข้ามา ผมมีหน้าที่แค่เผยอปากรับ ครั้งนี้ไม่โต้ตอบเหมือนทุกที ทำให้พี่แกถอนใบหน้าออกไป แล้วถอนหายใจรดหน้าของผม

“พี่ไม่อยากให้ปันปันของพี่หงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็น แต่ถ้าปันปันไม่อยากให้เป็นอย่างที่เป็นอย่างนี้ พี่ก็จะไม่ฝืนทำอย่างที่พี่ไม่ชอบอีก”พี่คิสแกยันตัวลุกขึ้นแล้วก้าวฉับ ๆ ออกนอกห้องไปเลย โดยไม่ลืมที่จะปิดประตูแรง ๆ ใส่ผมอีกสักที

อะไรของเขา

ทั้งสมองและร่างกายของผมคงจะล้าเกินกว่าจะคิดอะไรแล้ว ผมหลับตาลงและปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคตไป ตอนนี้ผมคงต้องขอพักก่อน


ผมลืมตาตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นใครอีกคนที่ปกติจะนอนส่งยิ้มมาให้ทุกครั้งที่นอนด้วยกัน... เมื่อคืนพี่คิสไม่ได้กลับเข้ามานอนสินะ

“ฉิบหาย สิบเอ็ดโมง!”ผมถลึงตามองนาฬิกาปลุกรูปคิตตี้ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง นี่กูนอนนานขนาดนี้เลยเหรอวะ ปกติถ้ามีแดดส่งมาสักหน่อยผมก็ตื่นแล้วนะ...

ตื่น... พ่อง ใครปิดม่านสนิทขนาดนี้วะเนี่ย

“ตื่นแล้วเหรอคะ คุณปันปัน”เสียงหวานของป้านิ่ม แม่บ้านของเพนเฮ้าท์นี้ที่พี่คิสพามาจากบ้านเอ่ยทักผม “คุณชายคิสเขาอยากให้คุณนอนสบาย ๆ เลยปิดม่านเอาไว้ให้น่ะค่ะ”

“ครับ...”ผมขานรับ แล้วลุกขึ้นมา เดินไปแปรงฟัน ป้านิ่มหันมามองผมยิ้ม ๆ ก่อนจะก้าวไปกดเปิดทีวีให้ฉายขึ้นมา ทำให้ผมหันไปดูอย่างอัตโนมัติ

รายการข่าวบันเทิงช่องหลายสีฉายขึ้นมาบนจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ติดฝาผนัง นักข่าวสาวฝีปากจัดคนนึงพูดอะไรไม่รู้ ผมไม่ได้ฟัง มันแว่ว ๆ เข้ามาในห้องน้ำน่ะ

ผมเดินออกมาดูทีวีตาค้าง

นั่น...

“คุณคิสคะ รูปที่ออกมานี่ มีความหมายอะไรไหมคะ”เสียงนักข่าวคนนึงเอ่ยถามขึ้น ก่อนที่ไมค์ตัวเล็กยื่นไปข้างหน้าของพี่คิสหลายตัว มีรูปเล็ก ๆ ขึ้นที่ข้างล่างจอ เป็นรูปที่พี่คิสลากผมเข้ามาในเพนเฮ้าท์เมื่อคืน

นี่มีสโตรกเกอร์ตามขนาดนี้เลยเหรอ

“ก็ตามที่เห็นนั่นล่ะครับ ผมกับน้องเขาอยู่ด้วยกัน”พี่คิสตอบเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มบางตรึงตา “เราอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้วล่ะครับ”

“อ้าว แล้วกับคุณแฟรี่ที่มีรุปออกมาว่าไปดินเนอร์ด้วยกันล่ะค่ะ ยังไง”นักข่าวอีกคนส่งเสียงถามขึ้นหลังจากที่สิ้นเสียงของพี่คิสไป

“กับแฟรี่ เราเป็นเพื่อนที่รู้จักกันในการทำธุรกิจครับ”เจ้าหนี้ของผมตอบกลับไปอย่างฉะฉาน ทาทีที่ดูมั่นใจจนน่าหมั่นไส้นั่นทำให้ผมอยากเบ้ปาก

แต่ทำไมผมถึงยิ้มล่ะ...

“แล้วกับคนในรูปล่ะค่ะ ยังไง”แม่เหยี่ยวข่าวคนแรกยิงคำถามเข้าอีกรอบ เรียกเสียงฮือฮาจากสื่อคนอื่นไป “ช่วยตอบด้วยนะคะ”

“สำหรับผม เขาเป็นคนสำคัญ แต่สำหรับเขา ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าผมเป็นอะไรสำหรับเขา”เสียงฮือฮาดังขึ้นมากกว่าเก่าเมื่อได้รับคำตอบนี้

ป้านิ่มส่งยิ้มมาให้ผมที่ยืนนิ่งค้าง สมองอื้ออึงไปหมด คนสำคัญ หมายความว่ายังไง ผมเป็นลูกหนี้คนสำคัญของเขาอย่างนั้นสิ?

“อย่าคิดว่าคุณไม่สำคัญต่อคุณชายคิสสิคะ คุณปันปัน”แม่บ้านวัยกลางคนเดินเข้ามาหาผม “คุณสำคัญกับคุณชายมากกว่าที่คุณคิดเยอะนะคะ คุณชายไม่เคยที่จะเพ้อมองหาใครเหมือนคุณ ตอนคุณไม่อยู่ ก็เอาแต่เปิดหน้าจอมือถือมองรูปคุณไม่เลิกเลยค่ะ”

“แต่...”

“คุณชายน่ะ ป้าเห็นมาแต่เล็ก เขาเป็นคนยึดติดมากนะคะ เห็นอย่างนี้ก็เถอะ สิ่งใดที่เขารัก เขาหวง เขาจะดูแลอย่างดี ไม่ให้ใครมายุ่มย่าม แต่คุณชายแกแสดงออกไม่เก่งนัก อาจจะดูเล่น ๆ ไปเสียหน่อย แต่เขาจริงใจกับคุณปันปันบ้างนะคะ”ผมอ้าปากจะโต้แย้งป้านิ่มแก แต่ก็ไม่ทันที่ป้าเขาจะพูดกลับมาต่อ “เรื่องของคุณปันปันในตอนนั้น ทำให้คุณชายทะเลาะกับคุณท่านใหญ่โต เพื่อจะใช้เส้นสายของคุณท่านจบเรื่องของพี่ชายคุณให้เรียบร้อยและสงบที่สุด เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่คุณชายมีปากเสียงกับคุณท่านน่ะค่ะ”

คราวนี้เป็นผมที่นิ่งไป...

“ลองเก็บไปคิดดูนะคะ ว่าตัวคุณปันปัน คิดยังไงกับคุณชายกันแน่น่ะค่ะ”ป้านิ่มพูดทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อจะเดินออกไปจากสายตาของผม

ถ้าไม่นับเรื่องที่พี่คิสเข้ามาในชีวิตผมด้วยวิธีประหลาดจนไม่น่าวางใจ รุกเข้ามาอย่างด้าน ๆ และเป็นผู้ชายที่สอยตูดผมไปตอนเมา พี่เขาก็เป็นคนดี...

อาจจะเพราะอคติแรกพบ... ทำให้ผมมองเขาไม่เคยดี และไม่เชื่อใจ

ช่างเหอะ ออกไปหาอะไรกินดีกว่า ไปมุดหัวอยู่ในดงมาหลายวัน ขอเอาอาหารในเมืองลงท้องบ้าง กินแกงป่า ปลาแห้ง ผัดผักมาจนพืชจะขึ้นบนหัวพอละ

ยังไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวออกจากประตูหน้าของคอนโด แฟรชจากกล้องสาดเข้ามาใส่ตาของผมจนพร่ามัว ห่าอะไรกันวะ มีซุปเปอร์สตาร์อยู่ในคอนโดนี้ด้วยหรือไง

“นั่นไง ออกมาแล้ว เร็วเข้า”เสียงที่แว่วเข้าหูผมมา ก่อนที่กองทัพสื่อมวลชนอีกโขยงหนึ่งวิ่งกรูกันเข้ามาอยู่ข้างหน้าผม “ขอสัมภาษณ์หน่อยนะคะ”

อย่าถามผม ผมยืนค้างดิ ตัวอะไรมันมาว่ายวนล้อมรอบผมเนี่ย มาทั้งแฟรช ทั้งกล้องตัวเท่ากระเป๋าเดินทาง แล้วสัมภาษณ์อะไร ทำไม เพื่อ!

นี่มันอะไรกันวะ!!!

“ขอถามหน่อยนะคะ คุณเป็นอะไรกับคุณชายคิสเหรอคะ”คำถามที่จู่ ๆ ก็ยิงถามมาทำเอาผมผงะ เออ นั่นดิ เป็นอะไรกัน ผมไม่เคยตกลงกับแม่งสักหน่อย

“เอ่อ... ผมก็เป็นแค่คนที่มาพักอาศัยอยู่เฉย ๆ น่ะครับ”ไม่มีสคริปจากน้องเทคลมหนาว ที่เขียคำตอบสวยหรูไว้ให้ตลอดครั้งแรก สั่นดิ สั่น แม่ง

“แล้วที่คุณชายคิสประกาศเมื่อเช้าว่าคุณเป็นคนสำคัญของเขานี่ ยังไงเหรอคะ”จบคำถามแรก คำถามที่สองก็มา เฮ้ย ๆ กูไม่ใช่นางงามนะ “ตอบด้วยนะคะ”

“ผมก็ไม่รู้หมือนกันครับว่าพี่เขายังไง รบกวนไปถามพี่เขากันเอาเองนะครับ”โยนขี้ให้ไกลตัวออกไปก่อนล่ะงานนี้ กูก็ได้ฟังมาเมื่อเช้านี้เหมือนกันล่ะวะ จะไปรู้ไหม

“แล้วความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณชายคิสนี่ เป็นยังไงเหรอคะ เป็นแค่เพื่อนร่วมห้อง หรือมากกว่านั้น”แม่เจ้าโว้ย คำถามนี้ไม่ถามมาตรง ๆ เลยล่ะวะว่าผมเป็นเพื่อนนอนเหี้ยนั่นไหม จะได้ตอบง่าย ๆ หน่อย

“เอ่อ... ถ้าพี่คิสเขาวางผมให้เป็นอะไรในชีวิตของพี่เขา ก็ตามนั้นล่ะครับ”เออ ตามนั้นจริง ๆ ถ้าเขาวางผมเป็นคู่นอน ก็คู่นอน เป็นเพื่อนเล่น ก็เพื่อนเล่น

ไอ้หมาตัวดำ จน ๆ อย่างผมจะไปหวังอะไรได้ล่ะวะ ผมไม่อยากเจ็บเหมือนเพื่อนไอ้หนาวนี่

มีคนเคยแชร์ว่าบางเรื่อง คนเราก็ต้องเจียมตัว มันก็จริงนั้นแหละ ดอกฟ้าที่จะโค้งลงมาหาหมาวัดมันไม่มีในชีวิตจริงหรอก มีแต่ในนิยายรักน้ำเน่าเท่านั้นแหละ

เหอะ

“พูดจริงเหรอครับ ปันปัน”เสียงที่คุ้นยิ่งกว่าคุ้น คุ้นในทุกรูปแบบเท่าที่นึกได้ดังลอดเข้ามาในดงคำถามที่ยิงมาจนฟังไม่รู้เรื่อง “ที่บอกว่าถ้าพี่วางปันปันไว้ตรงไหนในชีวิตของพี่ ปันปันจะเป็นตามนั้นน่ะ จริงเหรอครับ”

หน้าสื่อกับตัวจริงโคตรแตกต่างเลยนะเอ็ง เสียงที่พี่คิสแกพูดมาหน้าสื่อที่โคตรหวาน แต่ตอนอยู่สองคนนี่... หาประโยคที่ไม่มีการหยอดหรือคำสองแง่สามง่ามนี่ ยากยิ่งกว่ายาก

ผมมองไปรอบ ๆ ไม่ใช่แค่พี่คิสที่รอฟังคำตอบจากผม... พวกสื่อที่กระหายข่าวพวกนี้ก็รออยู่เหมือนกัน

“ก็ตามที่บอกนั่นล่ะครับ”ผมยืนยันคำพูดตัวเองไป พี่คิสยิ้มกว้างแล้วก้าวเข้ามาดึงตัวผมไปโอบไหล่เอาไว้... จริง ๆ แล้วผมควรจะโอบไหล่พี่มากกว่าอีก

แต่การที่ผมต้องมารู้จักคน ๆ นี้ ทำให้ผมได้เรียกรู้ทฤษฎีนึงกับตัวเองโดยตรงเลยล่ะ

ส่วนสูงและความกว้าง ไม่มีผลต่อแนวราบและการตั้งฉาก

“ทุกคนครับ ไหน ๆ ก็มารวมกันตรงนี้แล้ว ผมก็ขอแนะนำให้รู้จักเลยแล้วกันนะครับ”รอยยิ้มของพี่คิสดูสว่างไสวขึ้นทุกที ในขณะที่ใจของผมมันก็เสือกรับรู้ถึงลางสังหรณ์ที่... จะว่าดีก็ไม่ ไม่ดีก็ไม่เชิง... “นี่คนรักของผมครับ ปันปัน”

ผมหันควับไปมองคนพูดอย่างตกใจ พร้อม ๆ กับที่แฟรชสว่างวูบวาบเป็นแสงกระพริบของกระสือ เข้าใจความรู้สึกของลมหนาวตอนที่พายุมันสารภาพรักต่อหน้าคนกว่าครึ่งมอ.เลย

พี่คิสไม่ได้แนะนำผมว่าเป็นคู่นอนหรือแฟน... แต่แนะนำว่าเป็นคนรัก... เป็นไปได้ไงวะ

“คบกันมานานเท่าไหร่แล้วเหรอคะ”นักข่าวที่ตั้งสติได้คนแรกยิ่งคำถามมาก่อนใคร

“ผมรู้จักกับปันปันมาเกือบปีแล้วครับ เราอยู่ด้วยกันมาก็หลายเดือนแล้วเหมือนกัน”พีคิสตอบเลี่ยงไปด้วยเสียงหวาน เช่นเดียวกับรอยยิ้ม

“แล้ว...”

“ผมยังมีธุระต่อ เอาไว้คุยกับใหม่นะครับ”พี่คิดตัดบทก่อนที่จะมีใครถามอะไรขึ้นมาอีก แล้วลากพาผมเดินกลับเข้าคอนโดไป “ต่อไปนี้ปันปันเป็นของพี่แล้วนะครับ รู้ไหม”

“อย่ามโน ขอร้องเถอะ”ผมแยกเขี้ยวส่งกลับไป “แล้วที่บอกว่าผมเป็นคนรักนี่หมายความว่าไง”

“ก็ความหมายตรงตัว พี่ให้ปันปันเป็นคนรักของพี่”ใบหน้าหวานพร้อมดวงตาพราวระยับยิ่งว่าเด็กได้ของเล่นถูกใจ “ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนะ ปันปันให้พี่เลือกเอง พี่ไม่ยกผมประโยชน์คืนให้แน่”

“ครับ ๆ”หลวมตัวไปแล้ว เป็นไปตามนั้นแหละ

ผมไม่ใช่หมาวัดที่โดดมาคาบดอกฟ้านะเว้ย ผมน่ะ หมาดำ!


ไม่ต้องบอกก็รู้กันใช่ไหมล่ะ ว่าพอข่าวที่ว่า เอ่อ กระดากปากพิลึก เอาเถอะ ผมกับพี่คิสเป็นคนรักกันกระจายออกไปแล้วจะเป็นยังไง

สายโทรศัพท์ของทั้งผมและใครบางคนนี่แทบจะไหม้ คนโทรกระหน่ำเข้ามาไม่หยุด อันนั้นมันก็ไม่เท่าไหร่ ถ้าไอ้คุณพี่คิสมันไม่ตอบเพื่อนมันไปอย่างนั้น

“ตูดเมียกูเด้งสู้มือเหอะ มึงอย่ามาพูดดี”

ไอ้เหี้ยคิสสสสสสสสสสสสสส


๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

บทจบของคิสกับปันปันมาแล้ววว เย้ ^o^// หายไปนานตามเคย 555

เหลือบทส่งท้าย อาทิตย์หน้าเจอกันนะคะ จุ๊บๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่46 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ15/05
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 15-05-2016 20:44:54
 :z1:  อิพี่คิสเว่อร์วังบัคกิ้งแฮมมากมาย  นุ้งปันๆไปต่อไม่ถูกเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่46 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ15/05
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-05-2016 21:54:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่46 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ15/05
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 16-05-2016 00:15:45
กริ๊ดดดดด
มาต่อแล้วมาต่อแล้ววว
เย้ๆๆๆๆๆ

ลุงคิสนี่ทำดีจิงๆปันปันว่าไงงงง
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่46 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ15/05
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-05-2016 00:31:00
ไรท์หายไปนานมากเลย คิดถึง  :hao5:
จะรออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่46 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ15/05
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 16-05-2016 00:41:45
ออกสื่อแล้ว เปลี่ยนใจไม่ได้น๊าาาา ^^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่46 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ15/05
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-05-2016 13:55:46
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่46 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ15/05
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 18-05-2016 00:14:42
ไรท์หายไปนานมากเลย คิดถึง  :hao5:
จะรออ่านนะคะ

แหะๆ ขอโทษที่หายตัวค้าาา

กริ๊ดดดดด
มาต่อแล้วมาต่อแล้ววว
เย้ๆๆๆๆๆ

ลุงคิสนี่ทำดีจิงๆปันปันว่าไงงงง

ปันปันว่ายอยู่ในตู้ ไปไหนไม่รอดจากลุงคิสแน่นอนน


:z1:  อิพี่คิสเว่อร์วังบัคกิ้งแฮมมากมาย  นุ้งปันๆไปต่อไม่ถูกเลย
เล่นใหญ่ ไขตุ--- นี่ล่ะพี่คิสสส
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่46 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ15/05
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 18-05-2016 19:38:53
เดียวๆตูดเด้งสู้มือ 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่46 P.26[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ15/05
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-05-2016 21:14:51
เด้งสู้มือด้วยเว้ย 5555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-05-2016 21:16:24
วันสุดท้าย

จะเปิดปีการศึกษาใหม่อีกแล้ว วันเวลาผ่านไปเร็วจังเลยนะครับ แต่ในปีการศึกษาใหม่นี้ผมไม่ได้ไปเรียนแล้วล่ะครับ ได้แต่ไปมองน้องๆเข้าเรียน เหล่เฟรชชี่หน้าใส

ก็นะครับ ผมจบการศึกษามาแล้ว จะให้ไปเรียนอะไรอีกว่าไหม ถึงจะมีให้ต่อโทก็เถอะ แต่ผมตัดสินใจไปต่อหมอดีกว่า ใช้ใบรับรองยื่นขอสอบ ไปเรียนต่อห้าปีได้อายุรเวชมา ก็ไม่เลว

แต่ก่อนหน้านั้นก็คงต้องขอทำงานเก็บเงินสักหน่อยล่ะนะครับ จะให้แบมือขอพ่อขอแม่เรียนคงไม่ดีนัก ใช้ความรู้ที่ตั้งใจเก็บออมมาหาเลี้ยงชีพให้พวกท่านสบายใจสักหน่อย

วิชาชีพที่ใช้ความมุมานะไม่น้อยกว่าจะคว้าเอาใบประกอบวิชาชีพมาได้ นึกถึงตอนนั้นแล้วอดขำไม่ได้นะครับ ผมขนเอาชีทตั้งแต่เริ่มเรียนวิชาคณะออกมาอ่าน พายุที่ไม่เคยเห็นเอกสารพวกนั้นมาก่อนถึงกับหน้ามึน หนีไปนอนก่อนผมเลย

แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอานมร้อนใส่น้ำตาล 1 ช้อนมาให้ผมดื่มระหว่างอ่านหนังสือในทุกคืน พ่อครัวของผม

วันนี้เป็นวันที่ผมนัดกับวินัยที่เหลือมายังมหาวิทยาลัยครั้งสุดท้ายเป็นการสั่งลา หลังจากนี้พวกเราจะแยกย้ายกันไปทำงาน และจะได้พบกันอีกครั้งในวันรับปริญญา

นึกๆ แล้วก็แอบเหงาไม่น้อย จากที่เคยอยู่ด้วยกัน พูดคุย หยอกล้อ กอดคอร้องไห้ ประชุมงานกัน ต้องจากกันไปตามเส้นทางของตัวเองแล้ว แต่ความเป็นเพื่อนของพวกเรายังคงอยู่

และจะอยู่ตลอดไป ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

ส่วนพวกวิศวะเห็นว่าพวกเขาจะนัดลงที่หลัง วันนี้เลยมีแต่พายุที่ตามผมมาด้วย อ้างว่าอยู่คนเดียวแล้วเหงา เลยตามมาดูแลดีกว่า แต่ผมโตขนาดนี้แล้ว จะมาดูแลทำไม จริงไหมครับ

จริงๆ จะตามมาประกาศตัวมากกว่า ทั้งที่หน้าเพจcute boysมหาลัยยังมีรูปเก่าๆ ของผมกับมันเด่นหน้าอยู่... รูปตอนที่พายุขอคบกับผมยังครองตำแหน่งเฮดมาปีที่สองแล้ว

ผมกับเพื่อนเดินเข้าไปที่ลานเลือด แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร เด็กๆที่อยู่ตรงนั้นทั้งหมดก็วิ่งกรูกันเข้ามาล้อมพวกผมเอาไว้ ผมขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะสังเกตเห็นว่า ชั้นต่อจากวงล้อมของพวกปีหนึ่งที่ไม่คุ้นหน้าแล้ว เลื่อนออกไปเป็นปีสอง สาม สี่ มากันครบทั้งคณะเลยล่ะมั้งครับ

"บูมเมดเทค พร้อม"

"พร้อม"

"3... 4!"

เสียงเพลงบูมประจำคณะดังก้องจากน้องทั้งสี่ชั้นปี ผมยอมรับว่าตกใจ ในขณะเดียวกันก็ตาพร่ามัว จะมีสักกี่ครั้งที่น้องทุกคนในทุกชั้นปีจะมารวมตัวกันเพื่อบูมให้กับพี่เพียงกลุ่มเดียว

แต่มันเกิดขึ้นแล้ว กับตัวผมเอง

นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมเก็บสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่ รอยยิ้มที่ยากจะหุบฉาบทับบนหน้าผม ตั้งแต่เริ่มเพลงจนจบ มันเป็นแค่เวลาสั้นๆ แต่กึกก้องในความรู้สึก

"ขอบคุณครับ น้องๆทุกคน"

มันเป็นคำเดียวที่ผมพูดออกมาได้


เทคนิคการแพทย์


คณะที่ผมรัก จิตวิญญาณของผม


๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

จบแล้วค้าาา มาลงบทจบของEG vs MT แล้วค่ะ คิดแล้วก็เหงา ๆ เหมือนกันเนอะ จบลงแล้ว หลังจากที่ลง ๆ ดง  มาเป็นปีเหมือนกัน
ขอบคุณที่ยังคงติดตามกันมาจนจบนะคะ ถึงเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่หน้าที่ของวินัยจริงจัง มีโมเม้นให้น้อยยิ่งกว่าน้อย และไม่ค่อยจะเขียนชีวิตประจำวันของแต่ละคน มือที่สามก็ไม่มี NCก็ไม่ค่อยจะมา ฮ่าๆ (สรุปมีอะไรบ้างเนี่ย) แต่ก็ไม่ทิ้งกันไปไหนจนจบเรื่องมา
ถ้ามีโอกาสคงได้เขียนภาคทำงานค่ะ ^^
ตอนนี้เขียนตอนพิเศษอยู่ ซึ่งจะลงในเล่ม (พิมพ์กับที่เดิมค่ะ Ha-ii house) น้ำยาพายุอยู่ในเล่มนะคะ(ไม่ถนัดการเขียน nc จริงๆ กำลังพัฒนาค่ะ)

สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนพิเศษที่เคยลง สามารถกดเข้าไปอาจในเพจของคนเขียนได้เลยนะคะ ไม่ได้ลบไปค้า (หรือจะstrong รอไปอ่านในเล่มก็ได้ค่ะ ฮ่าๆ)

พบกันใหม่เรื่องต่อไปค่ะ หวังว่จะได้เจอกันเร็ว ๆ นี้เนอะ

รักน้าา

ปล. ติชมได้เต็มที่นะคะ ^3^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-05-2016 21:56:15
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 21-05-2016 21:59:02
ลมหนาวเรียนจบแล้ว

ยังอยากอ่านต่ออะะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 21-05-2016 22:04:50
จบซะแล้ว ใจหายจังเลย
ขอบคุณไรท์สำหรับเรื่องนี้นะคะ
จะรออ่านผลงานเรื่องต่อไปนะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 22-05-2016 00:04:36
อ่าวว จบซะแล้ว
โถ่
กำลังสนุกเลยยยย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-05-2016 20:44:43
ลมหนาวเรียนจบแล้ว

ยังอยากอ่านต่ออะะ  :hao5:
ฮืออ ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันในภาคทำงานนะคะ TT

จบซะแล้ว ใจหายจังเลย
ขอบคุณไรท์สำหรับเรื่องนี้นะคะ
จะรออ่านผลงานเรื่องต่อไปนะ สู้ๆค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามกันมาเช่นกันค้า ไว้เจอกันในเรื่องของเมฆนะคะ

อ่าวว จบซะแล้ว
โถ่
กำลังสนุกเลยยยย

ไว้พบตอนพิเศษในเล่ม กับเจอกันในเรื่องหน้านะคะ ^3^
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 23-05-2016 21:29:27
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 23-05-2016 23:26:09
มีความสุขปนเศร้าดีนะครับ ดูตอนจบเหงาๆใช่ย่อย สงสัยคนแต่งไม่อยากให้จบแน่นอน
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-05-2016 08:45:33
รอตอนพิเศษล่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: mamoeww3 ที่ 27-05-2016 13:54:50
อ่านถึงตอนที่มินออกฉากครั้งแรกค่ะ แล้วทนไม่ไหวจนต้องมาเม้นสักหน่อยจริงๆ
คือคิดมานานแล้วว่าทำไมต้องว่าพี่ทิว โกรธพี่ทิว และสงสารข้าวไปทุกอย่าง

ข้าวน่าสงสารจริง แต่การที่ "น่าสงสาร" ไม่ใช่ว่าจะ "รัก"
งั้นถ้ามีคนมารักเรามาก เขาน่าสงสาร เราต้องรักเขาด้วยเหรอ?
หัวใจบังคับกันไม่ได้นะ

อีกอย่าง พี่ทิวเองตอนที่ซื้อตัวข้าวมาเลี้ยงดูน่ะ ก็ซื้อมาเลี้ยงเป็นน้องชายอยู่แล้ว พี่ทิวไม่เคยเปิดประเด็นเรื่องนอนด้วยกันก่อน แต่เป็นข้าวเป็นคนขอร้อง อ้อน และพี่ทิวก็ผู้ชาย อีกอย่างข้าวเองก็เป็นเด็กของพี่ทิว เขาก็ไม่ปฏิเสธ มองตามเหตุตามผลทั้งหมด พี่ทิวไม่ผิดแม้แต่น้อย

ไม่อยากใช้คำนี้นะ แต่ถ้ามองจริงๆ ข้าวก็คือเด็กเสี่ย เด็กป๋า ป๋าก็คือพี่ทิว ที่พี่ทิวรับเลี้ยงข้าวก็เพราะสงสาร ยังบอกว่าเก็บลูกแมวมาเลี้ยงกับน้องสาวเลย เพราะว่าทำไม? เพราะพี่ทิวรู้ว่าข้าวเคยไปเป็นเด็กขาย ถ้ามองในกรณีว่าหยาบ ว่าต่ำหน่อย ก็เหมือนพี่ทิวซื้อข้าวมา เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี ให้เงินใช้เป็นแสน แต่นอนด้วยครั้งเดียวตามที่ข้าวขอ ถ้ามองให้หยาบอีก ข้าวก็เหมือนเด็กขายเด็กป๋า ที่พี่ทิวซื้อผูกขาดมาเลี้ยงดูให้ใช้ชีวิตเองได้หลังเรียนจบ พี่ทิวให้เงินไว้ตั้งตัวด้วยซ้ำ ถ้ามีป๋าคนหนึ่งนอนกับเด็กมัน หมายความว่าป๋าต้องรักเหรอ?

ผิดอ่ะ ไม่ถูกว่ะ

เราเห็นข้าวน่าสงสาร แต่ถ้าเอาความสงสารมาเรียกร้องให้คนอื่นรัก เราว่าไม่ถูกเลย ถ้าสมมติกลับเรื่องไปเป็นพี่ทิวเป็นพระเอก มีประวัติเคยเลี้ยงข้าว และเอ็นดูแบบน้อง แต่ในที่สุดก็ไปพบรักกับนายเอกอย่างมินที่เห็นแล้วได้พบกับคำว่าใจเต้น อารมณ์ของเรื่องจะเปลี่ยนไปเลย ข้าวจะน่าสงสาร แต่ข้าวใช้ความน่าสงสารมาทำให้ชีวิตตัวเองดิ่งลง มีเพื่อนดีๆ แบบมินแต่ก็ปิดกั้นเพราะมินทำให้รู้สึกด้อยกว่า ดูเศร้า ดูชีวิตแย่ ไม่มีเงินแต่อยากเรียน แต่เหมือนจะเคยพูดเหมือนชอบทำอาหารและอยากเรียนอยากทำงานด้านนี้ แต่ก็ต้องมาเรียนนิเทศน์ เฮ้ยย นิเทศน์ใช้เงินมากกว่าป้ะ? ชอบทำอาหาร ไปทำอาหาร เป็นลูกจ้างในครัวตอนนี้เลยยังได้ ได้เงินด้วย ได้ทำสิ่งที่ชอบด้วย แล้วเรียนมหาลัยเปิด แน่ใจหรือเปล่าข้าวว่าที่ทำให้ไม่มีเงินค่าเทอมจนต้องไปขายตัวแล้วเจอพี่ทิวน่ะ มันหมดทางเลือกจริงๆ? หรือแค่คิดไม่ออก?

เราเลยกล้าพูดเต็มปากว่าไม่สงสารข้าว ข้าวทำตัวเอง ทำตัวเองทั้งหมด คนที่น่าสงสาร ถ้ายิ่งทำตัวให้น่าสงสาร อ่อนแอ มันจะกลายเป็นน่าสมเพช แต่ถ้าน่าสงสาร แล้วกล้าที่จะสู้ ท้าทายชะตา สู้ชีวิต จะกลายเป็นคนที่น่าชื่นชม

ข้าวมีมันหรือเปล่า?

ในจุดจุดนี้เรายังไม่เห็นมันจากข้าว นอกจากความน่าสงสารและความเศร้าและมืดบอดมองไม่เห็นตัวเอง ไม่เห็นความจริง ข้าวได้ทุกอย่างจากพี่ทิว เงิน ที่อยู่ การดูแล เอาใจใส่ แต่ที่ยังไม่ได้ตอนนี้คือความรัก หัวใจของพี่ทิว ชีวิตแบบนี้ เรียกง่ายๆ คือเกาะพี่ทิวกิน ภาษาบ้านๆ น่ะนะ ข้าวได้เงินจากพี่ทิว มีที่อยู่ มีทุกอย่างแล้ว พี่ทิวพาเที่ยว พากิน ดูแลหมด ข้าวก็รับทุกอย่างอย่างเต็มใจ ไม่ตะขวิดตะแขวง แต่อยากได้ อยากครอบครอง ต้องการพี่ทิวไม่สิ้นสุด

มันเป็นคำถาม ถ้าข้าวอยากให้ชีวิตตัวเองดี อยู่สมศักดิ์ศรี ทำตัวเองให้ดีพอจะเทียบเคียงมิน หรือให้ดีขึ้น ไม่ใช่เอาแต่คิดว่ามินดีไปหมด พี่ทิวจะรักมิน แต่ไปทำตัวเองให้มีคุณค่า จะดีกว่าไหม? ไม่ใช่เอาแต่อยู่ให้พี่ทิวเลี้ยงไปวันๆ ไปเที่ยวกับพี่ทิว ไปเรียน กลับมาก็อยู่ห้องพี่ทิว เสียใจเมื่อพี่ทิวสนิทกับใครอื่น (หนาว) น้อยใจ ทั้งๆ ที่ตามจริงไม่มีสิทธิ์น้อยใจ ไม่มีสิทธิ์หึงหวง

ข้าวได้ที่อยู่มาจากพี่ทิวแล้ว ระหว่างข้าวที่ได้พี่ทิวมาช่วย แล้วลองพยายามจะยืนด้วยตนเอง กับข้าวที่ปล่อยชะตาตัวเองไปแบบนี้ ฉันคือคนน่าสงสาร ฉันรักพี่ทิว อยู่ให้พี่ทิวเลี้ยง และอยากให้พี่ทิวรักฉัน หรือไม่รักก็ได้ แต่ขอให้พี่ทิวอยู่ดูแลอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็พอ ถ้ามองว่านะ พี่ทิวคือคนที่คุณรัก และจะแต่งงานด้วย แต่เสือกมีคนแบบข้าวเกาะติดอยู่และไม่ยอมไป พี่ทิวก็บอกว่า "พี่มองเราเป็นแค่น้องชายเท่านั้น" แต่ข้าวก็บอกว่า "พี่นอนกับผมแล้ว" และไม่ยอมไปไหน บทบาทของข้าวจะเปลี่ยนไปทันที ถ้าพี่ทิวเหลืออดแล้วแรงๆ หน่อย อาจจะตอกกลับใส่เลยว่า "ก็ผมซื้อคุณมาเลี้ยง!" ยังได้ด้วยซ้ำ

ตาสว่างหน่อยดีมั้ย?

เรื่องงานก็ทำตัวเอง ในเมื่อคณะมันมีเรื่องแบบนี้เป็นปกติ ทำไมไม่ระวัง? ถ้าระวังมันก็ระวังได้ ไม่ใช่ประมาทเองแล้วเรื่องเกิด มันน่าสงสารก็จริง แต่ก็ประมาทเอง มองแบบไม่อคตินะ มันเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ ไม่ใช่ว่างานโดนแฮคแล้วลอกไป อะไรแบบนั้น หรือโดนขู่ตบงานไป ยังค่อยว่ากัน ทำงานมันจะยิ่งกว่านี้นะ สายที่ขายไอเดียกันเป็นหลักน่ะ ลูกค้า/หัวหน้าคุณไม่มาสนใจหรอกว่าใครลอกใคร เขาไม่ได้มีหน้าที่มาพิสูจน์ความจริงให้คุณ แต่คุณต่างหากทำงานให้เขา และคุณต้องปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง ดังนั้นถ้าอาจารย์จะปล่อยๆ มันก็มองได้ทั้งแง่ดีและแง่ไม่ดี แง่ดีคือคุณได้ประสบการณ์ เวลาทำงานจะได้ไม่พลาดอีก ทำงานพลาดแล้วไม่ได้แค่เสียหายว่าทำงานใหม่ แต่คุณเสียงานเสียเครดิตเลยนะ แต่แง่ไม่ดีก็คือก็อย่างว่า จารย์ก็เหมือนสนับสนุนให้เกิดการขโมยงานทางอ้อมนั่นเอง เพราะโขมยไปแล้วจับไม่ได้ก็ไม่ผิด คนมันจะขโมยก็ขโมยต่อไป

เราเจอข้าว เรามองข้าว และเราไม่สงสารข้าว เพราะสำหรับเรา ในตอนนี้ ข้าวได้เพียงความน่าสมเพชจากเรา มันเกินกว่าความน่าสงสาร ถ้าเรารู้จักพี่ทิว เราจะเป็นคนหนึ่งที่เชียร์พี่ทิวกับคนอื่น คนอื่นที่ไม่ใช่ข้าว

พี่ทิวไม่ใช่ความเพอร์เฟ็กต์ แต่พี่ทิวก็ไม่ควรจะถูกทุกคนมองว่าไม่ดี และปิดกั้นชีวิตรักของเขา ไม่ให้ไปเจอใครแล้วนอกเหนือจากข้าว มันมีคำแรงๆ คำหนึ่ง "ถ้าง่ายเอง เสียเอง อย่าคิดว่าจะมีใครรับผิดชอบคุณ รักคุณ" เข้าใจตรงกันนะคะ

ณ จุดจุดนี้ดิฉันพร้อมรับคำตำหนิจากแม่ยกน้องข้าวทุกคน แต่คนแบบนี้ ถ้าคุณสงสารเขา เอาแต่สงสารเขา ชีวิตของเขา จะไม่มีทางได้ยืนขึ้นเลย อย่าเป็นพ่อแม่รังแกฉัน ควรรู้กันว่าเมื่อไรควรสงสาร เมื่อไรควรตำหนิ ให้เขารู้จักการก้าวเดินด้วยตนเอง

ยังไงก็ตาม เดี๊ยนคงฟินคู่นี้ไม่ลง แต่ชีวิตก็งี้แหล่ะค่ะ กับคนบางคู่ก็ส่ายหัว ไม่น่าคู่กันได้เล้ยย แต่มันจะคู่กันก็คู่กันน่ะนะ เดี๊ยนก็แค่คนนอก ไปเจือกมากเดี๋ยวเสียหมาค่ะ
 :z3:

ล่าสุดค่ะ อ่านจบแล้ว ปิ๊งงง
พี่ทิวเองก็มีความสุขกับข้าวเนอะ ก็คงจะฝ่าฟันก็ต่อไป ยอมรับว่าไม่ฟินเลยอ่านข้ามๆ ตอนพาร์ทที่ข้าวหนีไป แต่ตัวละครมีมิติดีค่ะ คนเขียนเก่งแล้วว แค่ไม่ถูกสเปคตัวละครเฉยๆ ฮ่าๆๆๆ แต่คู่หลักน่าร๊ากกก ส่วนพี่คิสคือเป็นคนที่... สุดขั้วดีจริงจัง คืออาจจะดูนุ่มๆ นิ่มๆ สุภาพ ยิ้มๆ เปย์ น่าร๊ากก ไปจนถึงแอบเพี้ยน แต่ก็อุทานใส่หน้าว่าเ-ี้ยได้บ่อยๆ ก้ากกกก
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 30-05-2016 12:04:45
จบแล้วอ่า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 30-05-2016 19:40:21
จบแล้วววววว
อยู่ด้วยกันมานานเหมือนกันนะเรื่องนี้
คงคิดถึงพายุกับลมหนาว และเด็กๆน่าดู
และเป็นพิเศษให้น้องข้าว เอ็นดูเด็กคนนี้ ^^

ขอบคุณคนเขียนสำหรับเรื่องนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-06-2016 22:30:58
จบแล้วววววว
อยู่ด้วยกันมานานเหมือนกันนะเรื่องนี้
คงคิดถึงพายุกับลมหนาว และเด็กๆน่าดู
และเป็นพิเศษให้น้องข้าว เอ็นดูเด็กคนนี้ ^^

ขอบคุณคนเขียนสำหรับเรื่องนี้ค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามกันมานะคะ (จนจำยูสได้แล้ว ฮ่าๆ) ไอเอ็นดูหนูน้อยต่อได้ในเล่มน้าา (ข้าวคือข้าว ฮ่าๆ)
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 18-06-2016 19:04:20
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ ฮือออ มีความโหดแต่แฝงไปด้วยความละมุนละไมยังไงก็ไม่รู้ โดยส่วยตัวเราเรียนนานาชาติ ไม่มีกิจกรรมแบบนี้เลย อยากมีโมเม้นโดนว๊ากบ้าง 555 สนุกมากเลยค่า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 19-06-2016 17:25:29
อ่านรวดเดียวจนตาแฉะกันไปเลย  :pigha2:
แต่ละคู่น่ารักกันมากอ่ะ อ่านไปลุ้นไป  :mew1:
แต่ทีเด็ดนี่ต้องยกให้เฮียพายุของเราเลย   o13
คิดวิธีขอเป็นแฟนแบบนี้ได้ไง คนอ่านอิจมากๆค๊าาาา  :hao7:
 :L2: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 20-06-2016 14:09:47
มีหลายคู่จนบางทีงงว่าใครเป็นใคร 555 สาวเกดน่ารักมาก สมกับที่เป็นตัวละครสมทบหญิงหนึ่งเดียวที่มีบทบาทตั้งแต่ต้นจนจบ

ขอสารภาพว่า ตอนอ่านครึ่งแรกแอบสงสัยว่านี่คือนิยายวายหรือคู่มือรับน้อง แหะๆ

เรน่าไม่เข้าใจเรื่องพี่ทิว,น้องข้าว,น้องมิน พี่ทิวชอบน้องมินอยู่ดีๆ ถึงตอนวิ่งออกไปตามน้องข้าว พอกลับมาเปลี่ยนใจไปรักกับน้องข้าวแทนซะงั้น คนอ่านเบรคหัวทิ่ม ไม่อินอย่างแรงค่ะ ถ้าจะให้ลงเอยแบบนี้แต่แรก ไม่ควรเอาน้องมินเข้ามาแทรก ไปเน้นความสับสบระหว่างรักหรือสงสาร+อุปสรรคของฐานะ จะลื่นไหลมากกว่าเยอะเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 21-06-2016 18:21:56
 :pig4: :-[
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: yestermemo ที่ 22-06-2016 07:00:02
สนุกนะคะ มีผลายๆบทบาทที่วางได้ลงตัว แต่ขอยกเว้นข้าวไว้สักคน ไม่รู้สิ เราไม่ค่อยรู้สึกว่าข้าวควรจะคู่กับพี่ทิว คนที่ยืนด้วยตัวเองไม่ได้เราไม่ค่อยจะถูกเท่าไร ยอมรับว่าอ่านข้ามๆบทนี้ด้วย เหอะๆ โดยรวมชอบนะคะ เขียนได้ดีทีเดียวสำกรับเรา
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 26-06-2016 20:56:32
เฮ้ย....จบดื้อๆเลย ยอมรับตามตรงว่ารอncของคู่หลักนี่อยู่ เซงเบยย T T

จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชอบคิสอ่ะ ไม่รู้ดิ รวบรัดเกินไป แล้วเลยรู้สึกเหมือนปันง่ายเกิน ไม่รู้ดิ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะ

ชอบที่มีการสลับบทแต่คิดว่ามันอาจจะดีกว่าถ้าแยกออกมาเขียนของแต่ละคนเป็นพาร์ทแยกตอนหลัง เหมือนฟิลบับ จะพีคก็ยังไม่สุดแล้วก็ตัดไปส่วนของคนอื่นละ

ชอบฉากบอกรักขอคบนะ มันดูทุ่มเทดี ตอนที่พายุรักษาสัญญาแล้ววิ่งไม่หยุดด้วย หลงรักเลยอ่ะ พระเอกคนนี้  :-[

 :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 29-06-2016 13:18:25
เฮ้ย....จบดื้อๆเลย ยอมรับตามตรงว่ารอncของคู่หลักนี่อยู่ เซงเบยย T T

จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชอบคิสอ่ะ ไม่รู้ดิ รวบรัดเกินไป แล้วเลยรู้สึกเหมือนปันง่ายเกิน ไม่รู้ดิ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะ

ชอบที่มีการสลับบทแต่คิดว่ามันอาจจะดีกว่าถ้าแยกออกมาเขียนของแต่ละคนเป็นพาร์ทแยกตอนหลัง เหมือนฟิลบับ จะพีคก็ยังไม่สุดแล้วก็ตัดไปส่วนของคนอื่นละ

ชอบฉากบอกรักขอคบนะ มันดูทุ่มเทดี ตอนที่พายุรักษาสัญญาแล้ววิ่งไม่หยุดด้วย หลงรักเลยอ่ะ พระเอกคนนี้  :-[

 :pig4:


ขอบคุณสำหรับคำติชมนะคะ ^^' nc คู่หลักมีในเล่มค่ะ ในเนื้อเรื่องหลักไม่ได้ใส่ลงไป ขอโทษด้วยค่ะ

มีหลายคู่จนบางทีงงว่าใครเป็นใคร 555 สาวเกดน่ารักมาก สมกับที่เป็นตัวละครสมทบหญิงหนึ่งเดียวที่มีบทบาทตั้งแต่ต้นจนจบ

ขอสารภาพว่า ตอนอ่านครึ่งแรกแอบสงสัยว่านี่คือนิยายวายหรือคู่มือรับน้อง แหะๆ

เรน่าไม่เข้าใจเรื่องพี่ทิว,น้องข้าว,น้องมิน พี่ทิวชอบน้องมินอยู่ดีๆ ถึงตอนวิ่งออกไปตามน้องข้าว พอกลับมาเปลี่ยนใจไปรักกับน้องข้าวแทนซะงั้น คนอ่านเบรคหัวทิ่ม ไม่อินอย่างแรงค่ะ ถ้าจะให้ลงเอยแบบนี้แต่แรก ไม่ควรเอาน้องมินเข้ามาแทรก ไปเน้นความสับสบระหว่างรักหรือสงสาร+อุปสรรคของฐานะ จะลื่นไหลมากกว่าเยอะเลย

กลับมาอ่านเอง ยังนึกเลยค่ะว่าเอ... เราทำคู่มือรับน้องใช่ไหม 5555 เขียนซะเหมือนไดอะรี่คนรอบข้างเลย ขอบคุณสำหรับคำติชมนะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 30-06-2016 21:32:19
 :pig4:

สนุกมากๆทำให้นึกถึงบรรยากาศตอนรับน้องเลย

ปล. คุ้นกับสถานการณ์ในเรื่องมากๆๆๆ เราต้องเรียนที่เดียวกันแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 13-08-2016 11:24:32
เรายังไม่รู้เลยว่าพี่ทิวคิดกับน้องข้าวแค่ไหน เพราะอ่านในพาร์ทของพี่ทิวแกก็คิดแต่ว่า น้องชายที่น่ารักของผม กับข้าวตลอด คือสรุปว่าแกคิดกับข้าวแค่พี่น้องเหมือนที่คิดกับหนาวหรอ รึยังไง :hao5:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 13-08-2016 14:13:53
อ่านตอนพี่ทิวที่31 เรารู้สึกอึ้งอ่ะอึ้ง แบบพี่ทิวแกเห็นแก่ตัวไปมั้ย ใจร้ายแบบเลือดเย็นกันเลยทีเดียว ถ้าไม่คิดอะไรกับข้าวก็ไม่สมควรไปนอนกับน้องไม่ว่าน้องจะเรียกร้องหรือเป็นฝ่ายต้องการทิวก็ไม่สมควรตอบสนองให้น้อง เรารู้สึกติดลบกับทิว บอกเลย :katai1: :beat: :o12:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 13-08-2016 14:53:36
อ่านคู่ทิวข้าวแล้วเราไม่โอกับตอนจบอ่ะ ไม่รู้ว่าคนเขียนรีบรวบรัดไปมั้ย เพราะไม่มีเหตุผลเลยไหนตอนก่อนหน้านั้นทิวยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้รักข้าวงั้นงี้ ทำไมมาตอนนี้กลับบอกว่าเลือกข้าวทิ้งข้าวไม่ได้ คือไม่สมน้ำสมเนื้อสมเหตุสมผลกับตอนแรกๆที่ทิวพาร์ทเองมันไม่เนียนอ่ะค่ะ ทำให้ความอยากอ่านคู่อื่นของเราสะดุดเลย  :กอด1:นิยายเรื่องนี้ก็อ่านสนุกระดับหนึ่งเลยนะคะ แต่ไม่น่ามาตกม้าตายตอนใกล้จบเลยในความคิดเรานะ เราขอผ่านเรื่องนี้แค่ตอนทิวข้าวตอนสุดท้ายนี้ดีกว่าค่ะ ตอนอื่นๆของคู่อื่นๆคงไม่ติดตามต่อ ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะคนเขียนเป็นกำลังใจให้ในเรื่องต่อๆไปค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ployspy ที่ 17-08-2016 15:51:15
อ๊ายยยยยยยยย
ชอบบบบบบบบบบบบบ
ถึงจะขัดคู่พี่ทิวหน่อยๆก็เถอะ 5555
แต่อย่างอื่นน่ารักมากกกกกกกกก
ชอบ ลมหนาวกับพายุมากกกกก
พายุทุ่มเทมากกกก 555
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 23-08-2016 21:39:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 31-08-2016 13:15:27
สนุกนะ แต่อยากอ่าน nc คู่หลักอ่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 02-09-2016 23:20:14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: มารน้อย เจ้าสำนัก ที่ 03-09-2016 10:52:11
ปักไว้ จบแล้วเดี๋ยวมาอ่าน ค้าบบบบ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 07-09-2016 15:26:55
ตัวละครที่เล่าเรื่องจะเยอะไปไหน?

 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:

หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 29-10-2016 19:26:55
สนุกนะ แต่อยากอ่าน nc คู่หลักอ่ะ  :ling1:

แหะๆ มีตอนพิเศษในเล่มนะคะ หรือไม่ก็รอภาค2 น้า
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 16-11-2016 01:33:02
ขอบคุณค่าา
ส่วนตัวชอบคู่พายุลมหนาวที่สุด
คือเป็นเรื่องเป็นราวน่ารักมีสตอรี่ดีเทลสุดแล้ว
รองมาก้คู่คีตากิต คือพี่กิตน่ารักกกไง
คีตาก้เปนเมะที่ดีสุดๆ เป็นห่วง ดูแล ใส่ใจ รักมากกก
รองมาก้เกดค่ะ ชอบมากคนนี้ ดีงามสุดๆ
ดีงามจนหวังให้อยู่บนคานตลอดไป 55555555
รองลงมาอีกก้ชอบคู่คิตตี้กับปันปัน ถ้าดูแค่ชื่อจะนึกว่าเคะเคะแล้วนะ555
เป็นเมะที่น่ารักมากกก ดราม่าเพราะปันปันล้วนๆเลย
แต่คู่พี่ทิวกับฟางข้าวนี่สงสารทั้งคู่ ไม่ถูกจริตกับดราม่าที่ดูมีความเป็นไปได้จริงๆค่ะ
โดยรวมสนุกค่ะ ชอบค่ะ อาจะมีปัญหาเรื่องการกระจายบทในแต่ละคู่บ้างแต่ก้ไม่ได้เยอะอะไร
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 28-11-2016 23:51:35
มาอ่านรอบที่ 2 นะครับ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 05-01-2017 21:17:31
อ่านทีเดียวจบเลย
เรื่องมันเนือยๆ เฉื่อยๆไงไม่รู้อ่ะ
คู่เยอะไปนะ ในความรู้สึก
แต่ก็อ่านจนจบนะคะ
โดยรวมก็โอเคจ้า
อาจจะตกๆหล่นๆบ้าง
ก็เอาใจช่วยในเรื่องหน้าหวังว่าจะดีกว่านี้นะคะ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 20-11-2017 13:13:50
 :ling3:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: PRiiNCEKiiM ที่ 08-04-2020 13:14:24
อ่านจนจบเลยครับ ชอบคู่หลัก
แต่พอถึงคู่พี่ทิวกับข้าวคือกดข้ามเลย ฮ่าาาา
ด้วยส่วนตัวไม่ชอบคนนิสัยแบบข้าว ก็เลยเลือกที่จะกดข้าม
แต่ชอบคู่หลัก อยากให้มีสเปเชียลเที่ยวญี่ปุ่นอีกรอบ
รูปที่ถ่ายที่สวน เขาเอาไปทำอะไรก็อยากรู้ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 12-04-2020 02:07:28
ชอบๆๆๆพายุมากมาย น่ารักมากจริงใจสุดๆ
 :pig4:นักเขียนอยากอ่านตอนพิเศษ น้ำยาพายุ
แต่ไม่รู้ทำยังงัย... :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่14 (คีตา) P.9[03/01/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 21-11-2020 02:57:18
“เราจะต้องพิสูจน์ให้พวกพี่เขาเห็นนะทุกคน”วัฒน์ที่นิ่งไปนานพูดขึ้นเรียนดัง ให้เพื่อนที่ก้มหน้ากันอยู่ขึ้นมามองที่มัน “พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าพวกเรานั้นคู่ควรที่จะเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์รุ่นที่สี่สิบ ให้เขาเห็นถึงศักยภาพของพวกเราทุกคนยังไงล่ะ”

“เราจะมาท้อกันแค่นี้ไม่ได้นะครับ”ผมสูดลมหายใจลึกแล้วยิ้มออกมา ไม่ใช่ไม่เสียใจ ไม่ใช่ว่าไม่ท้อ แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาล้มอยู่แบบนี้แล้ว “พวกเราจะต้องทำให้พี่ ๆ ยอมรับในตัวพวกเรา ให้พวกเขากลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิมให้ได้นะครับ”

“ใช่แล้วนะทุกคน เราจะมาท้อเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้”ทะเลหันหน้ากลับมาหาทุกคน ทั้งที่ตามันยังแดงจาง ๆ อยู่ มันเองก็คงเสียใจ และอยากร้องไห้ แต่มันเป็นเสาของปีหนึ่งอย่างพวกเรา มีตำแหน่งผู้นำค้ำคออยู่ จะล้มให้ทุกคนเห็นคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก “มาเถอะ เรามาซ้อมกัน เวลาเหลือไม่เยอะแล้ว มาพยายามกันเถอะ”
อยากให้ตั้งใจเรียนแบบนี้บ้าง ได้ธงไปชีวิตก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น เอาเวลาที่เสียไปหาความรู้ใส่ตัวสมกับที่พ่อแม่ส่งเรียน สมกับที่ครูอาจารย์สั่งสอนดีกว่ามั้ย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่32 P.19[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ24/08
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 21-11-2020 13:17:21

"แต่พี่นอนกับฟางแล้ว พี่ห้ามทิ้งฟางนะ"ผมหรี่ตามองเด็กรู้มากตรงหน้า ข้าวเอาเรื่องนั้นไปเล่าให้เพื่อนฟังด้วยเหรอเนี่ย "ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลยนะฮะ ฟางไม่ได้เล่าให้ผมฟัง ผมสังเกตของผมเอง"

"พี่ไม่ได้รักข้าวแบบนั้น"ผมถอนหายใจเบา ๆ แล้วสบตากับคนตัวเล็ก... ดูแล้วดีไม่ดีเล็กกว่าข้าวซะอีก "พี่ไม่ทิ้งข้าวหรอก เพราะเขาคือน้องชายของพี่"

"แต่..."ตาของมินฉายแววไม่พอใจนักกับสิ่งที่ได้ยิน แต่มันคือความจริง ให้ผมดูแล ผมทำได้ แต่ให้ผมโกหกว่ารักเขา ผมทำไม่ได้

"พี่รู้ว่าข้าวชอบพี่ เพราะเขาไม่เคยได้รับความรักไม่ว่าจะรูปแบบไหน เขาเลยแยกไม่ออกระหว่างความรักในฐานะคนรักและพี่น้อง แต่พี่ไม่ใช่ พี่เอ็นดูเขาในฐานะน้องคนนึง sexกับความรักมันไม่ได้เดินไปด้วยกันตลอด พี่เชื่อว่ามินรู้ ข้าวขอ พี่ให้ได้แต่ความสัมพันธ์ทางกาย แต่ใจของพี่ไม่ใช่ของเขา"ไหล่เล็กตกลงอย่างหงอย ๆ มินแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นห่วงเพื่อนมากแค่ไหน "พี่รู้ว่าข้าวก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน"
ทุเรศว่ะ ไม่รักแล้วไปเอาเขาทำไม นึกว่าจะเป็นคนดี ถุย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว๊ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันที่35 P.21[วิศวะVsเทคนิคฯ] อัพ08/12
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 21-11-2020 16:31:04
ครั้งนี้คงต้องเป็นผมกับเดือนปีสองที่ต้องตกใจ เมื่อน้องน้ำฝนทรุดลงไปนั่งตักของผู้ชายที่พวกผมไม่รู้จัก มีหอมแก้มซุกไซร้ราวกับเป็นคนรักกัน น้องกิตเบือนหน้ามาหาเกดด้วยนัยน์ตาที่สั่นระริก ใกล้จะร้องไห้อยู่แล้ว แววตาของเขาฉายแววเจ็บปวด

“ไปเถอะกิต ไปทำเรื่องนี้ให้จบ”น้องผมลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วพาตัวของกิตไป โดยข้างหลังมีน้องป๊อปกับคีเดินตามไปด้วย “เราไม่อยากให้นายเป็นคนโง่อีกแล้วล่ะ กิต”

กิตเดินเข้าไปหาสองคนนั้น น้ำฝนตกใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ดูไม่แคร์อะ ที่น่าเป็นห่วงคงเป็นสายตากับท่าทีคุกคามของผู้ชายคนนั้นที่มองกิตอย่างเหยียดๆ ผมกลัวว่าจะมีเรื่องกันแล้วจะมีผลถึงการสอบในอาทิตย์หน้า
อย่างควายเลยอ่ะ เพื่อนให้ดูรูปก็ไม่เชื่อ ไม่ระแวงอะไรเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 21-11-2020 22:11:03
จบแล้วค้าาา 
ยังไม่จบ คู่ของข้าวฟ่างจะไปรอดมั้ย คุณหญิงย่าจะอาละวาดกีดกันขนาดไหน มาต่อให้ไวเลย
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 28-01-2021 19:40:03
หลากหลายเรื่องราว  หลากหลายอารมณ์มากครับ   เป็นกำลังใจในเรื่องต่อๆไปนะครับ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: partner_soulmate ที่ 24-08-2022 09:32:43
มีหลายคู่มากกก มีหลากหายเรื่องราวดี เหมือนจบแบบยังไม่สมบรูนณ์
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 28-12-2023 10:58:28
7 ปีต่อมา มาอ่านรอบ 3 ครับ ชอบพายุ ลมหนาวสุดๆ
หัวข้อ: Re: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 03-03-2024 18:47:17
เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)