EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ  (อ่าน 275451 ครั้ง)

ออฟไลน์ gneuhp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
พี่คิสนี่รุกหรอนั่น น่าสนุกนะ อิอิ
โหวต 1 ค่าา

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ของเราเอาข้อไหนก็ได้ค่าาา รออ่านแน่นอน ^^
ว่าแต่พี่คิสดูน่ากลัวนะคะ ปันปันไม่รอดแน่ 555

ออฟไลน์ MIwEMInE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ vokara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ Ysolip

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
พี่คิสสสส♡ อยากอมตะใช่เปล่า?ถึงได้เลือกกินเด็กอย่างปันปัน55

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
ตอนต่อไป ไม่เกินสุดสัปดาห์นี้ เจอกันค้า (สปรีทได้แค่สัปดาห์ละตอนครึ่ง TT)

ออฟไลน์ janepepo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อ่านเรื่องนี้แล้วซึ้งน้ำตาไหลเกือบจะทุกตอนเลย..รุ้สึกรักพี่ๆมากๆเลย ยอมทำเพื่อเราขนาดนี้ TT

ออฟไลน์ italyamore

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ปันปันน่ารักกกกกก  :-[

ขอคู่ทิวกับข้าวมั้งสิ
  :ling1:

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่สิบแปด

ช่วงเช้าวันนี้เป็นวันที่แสนจะสงบสุขของผมเลยนะครับ ไม่ต้องเจอน้อง ไม่ต้องเจอพวกวิศวะ เพราะวันนี้อาจารย์ยกคลาสตอนเช้า แต่ตอนบ่ายก็ต้องไปเรียนอยู่ดีล่ะนะ

อย่างน้อยก็ได้หยุดพักจากการเรียนที่แสนจะโคตรหนักหน่วง ถึงจะแค่ไม่กี่ชั่วโมง ผมก็ดีใจแล้วล่ะครับ (เชื่อว่าพวกคุณก็คงคิดเหมือนผมนั่นล่ะ)

ตั้งแต่วันที่ตัดน้องออกจากรุ่น มาถึงชิงธง เลยมาวันนี้ก็เกือบจะสามอาทิตย์ เดี๋ยวก็ต้องมีชิงรุ่นอีก เหลือเวลาประมาณสองเดือนเศษ ถ้าไม่เร่งเวลาขึ้นหน่อยคงจะไม่เสร็จแน่ครับ

แต่จะทำไงได้ น้องยังไม่มาขอพี่คืนเลยนี่ครับ ต้องเร่งกันสักหน่อยแล้วล่ะมั้ง... เฮ้อ ไม่อยากจะเสวนาสักเท่าไหร่เลย แต่การที่น้องไม่ทำอะไรแบบนี้ มันก็เดือดร้อนพอดูเหมือนกัน

รอดูไปอีกสักพักแล้วกัน

ผมนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะสลัดตัวขี้เกียจที่เริ่มรุกรานเข้ามาออกไป แล้วลุกขึ้นมาทำรีพอร์ทการทดลองที่ทำค้างเอาไว้

พอเห็นรีพอร์ทพวกนี้ทำให้ผมนึกถึงวันที่ไปไล่จับสโตรกเกอร์กับปันปัน ไม่รู้จะไปขำที่ไหนดีที่น้องจะไม่เห็นนะครับ ฮ่า ๆ นึกว่าจะมีอะไร..

ที่แท้ก็โดนตามจีบ

โดนตามจีบ!!! แล้วคนที่มาจีบยังเป็นผู้ชายด้วยนะครับ ผู้ชายที่มีชื่อสุดแสนจะไพเราะว่า ‘คิตตี้’ ไม่ใช่แค่นั้น หน้าตาเขายังสวยแบบผู้ชายหน้าสวยด้วย

ขอให้มันโดยสอยตูด ฮ่า ๆ

ไม่เอา ไม่นึกถึงแล้วครับ เดี๋ยวงานไม่เสร็จ ผมก้มหน้าลงหยิบปากกาขึ้นมาเขียนรีพอร์ท แต่ยังไม่ทันที่จะได้เขียนอะไรก็มีเสียงโหวกเหวกดังขึ้นก่อน

“หนาววว ไอ้หนาววว หนาวโว้ยยยยย”ใครมาหนาวหน้าห้อมผมกันเนี่ย อากาศออกจะร้อน ทำไมหนาว? เล่นไอซ์บักเกตมาหรือไง แต่เสียงฟังดูคุ้นแปลก ๆ “ลมหนาว เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะมึงง”

อ่าว เรียกผมเหรอเนี่ย ดีนะไม่ออกไปปล่อยไก่ทั้งเล้าซะก่อน ผมเดินไปเปิดประตูห้องอย่างมึน ๆ อะไรของมันแต่หัววันเลยวะ

พอผมเปิดประตูออกไป ร่างดำ ๆ วิ่งวิ่งพรวดเข้ามาในห้อง พร้อมอะไรบางอย่างในมือ ที่ทำให้ผมต้องกลับหัวเราะเอาไว้ เอาเข้าจริงก็จะกลั้นไม่อยู่ อยู่แล้วนะครับ

ช่อดอกกุหลาบสีชมพูหวานกับสีแดงสดมันไม่ได้เข้ากับปันปันเลยนี่หว่า ตัดกันด้วยซ้ำไปนะครับ

“มึงไม่ต้องมาขำกูเลย ไอ้หนาว”ปันปันแยกเขี้ยวใส่ผมอย่างหงุดหงิด อะไร ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลยนะครับ “มึงมาเอาไปเลย ไอ้ช่อดอกไม้เนี่ย”

“ของใคร?”ผมมองช่อดอกไม้ช่อเบ้อเริ้มในมือเพื่อน แล้วเลิกคิ้วถาม ไม่ใช่อะไรนะครับ มันบอกให้ผมเอาไป งั้นช่อนี้ของผมงั้นเหรอ? ปกติถ้าจะมีใครให้ช่อดอกไม้ผม ก็จะฝากไว้ที่คุณป้าเจ้าของหอ “แล้วใครให้มา”

“ของกู... ใครให้มามึงเอาไปดูเอง”ผมรับเอาช่อดอกไม้มาดูการ์ดรูปหัวใจปั้มทองที่แนบมาด้วย เห็นชื่อคนส่งแล้วยิ่งอยากหัวเราะให้ลั่นมากกว่าเดิมอีกครับ


กุหลาบสำหรับน้องปันปันครับ

Kiss



“คุณคิตตี้เขาให้มึงนะปัน เอาไปเก็บไว้ดี ๆ ในห้องดิ”ผมส่งช่อดอกไม้กลับให้ มันทำหน้าขยะแขยง ผะอืดผะอมใส่ผม แล้วเดินไปนั่งบนเตียง โดยไม่เอาดอกไม้ไปด้วย

“นายเอาไว้แต่งห้องเหอะ”เห... ผมจะเอาดอกไม้มาแต่งห้องทำไม ห้องผู้ชายนะครับ ไม่ใช่สาวน้อยโลลิต้าหวานแหวว จะได้มีดอกไม้ด้วย

“เอาไปเลย ของมึง มึงต้องรับผิดชอบ”ผมเอาช่อดอกไม้ช่อใหญ่ไปยัดกลับใส่มือของเพื่อนสนิท แล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ “มาแต่หัววัน มีไรวะ”

"ก็ไอ้ช่อดอกไม้นี่น่ะดิ ทำกูแทบอยากมุดลงรู"ปันปันทำหน้ายุ่งใส่ผม ดวงตาคมนั่นประกายวิบวับอย่างหงุดหงิด "แม่ง คนที่เอามาส่งมันไม่ได้ฝากเจ้าของหอไว้นะเว้ย ไม่ได้เรียกกูออกมาเอาด้วย แต่เอาวางไว้บนที่วางรองเท้าหน้าห้อง ทีนี้แม่งพอมีใครเดินมาเห็นกันหมด จนไอ้ติมันมาเคาะประตูบอกกูนี่แหละ ถึงตรัสรู้"

"โรแมนติกดีออก มีคนเอาดอกไม้มาให้ถึงห้อง"ผมตอบกลับไปอย่างล้อเลียน ฮ่า ๆ แต่ดอกไม้เขาสดสวยดีจริง ๆ ถ้ามีแบบนี้ตอนช่วงรับปริญญาพี่ ๆ ก็คงดีนะครับ "กุหลาบแดง กุหลาบชมพู กับการ์ดหวานแหวว"

"ไอ้คุณเดือนครับ ผมไม่ใช่คุณนะครับที่จะถือช่อดอกไม้เดินไปเดินมาแล้วคนจะมองอย่างชื่นชม"ปันปันเบ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์อย่างแรง เอ่อ... แต่ให้ผมถือช่อกุหลาบใหญ่ ๆ ที่ผู้ชายให้มาเดินอวดไปทั่ว ผมก็ไม่เอาหรอกนะครับ “เก็บ ๆ ไว้ที่นี่แหละ กูสยองชิบ”

"เอาน่า ถ้าใครจะขอดูแล้วเห็นการ์ดก็ไม่มีคนสงสัยหรอกน่า บอกไปว่าของนัทก็ได้"ผมยิ้มบางตอบกลับเพื่อนไปขำ ๆ "เขาอุตส่าห์ให้มา ไม่รับไว้จะเสียน้ำใจกันเปล่า ๆ นะ"

ไอ้ปันทำหน้าขยะแขยงอย่างไม่คิดจะเก็บอาการ จริง ๆ ผมว่าดอกไม้ช่อนี้ก็สวยมากนะครับ ดูแล้วท่าจะแพงใช่ย่อย ดอกใหญ่สีสดมาก แต่ก็นั่นแหละ... ไม่ได้เข้ากับไอ้ปันมันเลย

"มึงนี่ ไม่คิดจะช่วยกูเลย"มันทำหน้ามุ่ยใส่ผมแล้วเอาดอกไม้ไปวางบนตะกร้าผ้าใช้แล้วของผม "เออ จะเอาไงต่อเรื่องน้อง นี่ใกล้จะชิงเข็มแล้วนะ"

“รอไปจนหมดอาทิตย์ก่อน... ถ้ายังไม่คืบ วันจันทร์ค่อยจัดการ”แผนต่อจากนี้ผมก็เอาไว้หลายทางอยู่ แต่นั่นก็เป็นแค่แนวทาง ซึ่งในการปฏิบัติจริงนั้นใช่ว่าจะเอาไปใช้ได้เสมอไปนะครับ

“ช่วงนี้ก็ใช้แรกกดดันไปก่อนอย่างเคยสินะ”ผมยิ้มรับคำของเพื่อนบาง ๆ ใช่ครับ ช่วงนี้ผมก็ปล่อยกระแสให้ดูเคร่งเครียด กดดันน้องที่อยากมีพี่ให้คิดหาแนวทาง

ปีอื่น ๆ จะมีพี่กระซิบบอกว่าปีก่อน ๆ ทำยังไง ๆ แต่ปีนี้คงไม่จำเป็น น้องรู้มากอยู่แล้วนี่ครับ ก็คงไม่จำเป็นต้องมีพี่ไปคอยบอกว่า เฮ้ เดินมาทางนี้สิ... ให้พวกเขาคิดกันเอง

ดูซิว่าจะคิดกันได้ไหม ถ้าไม่มีพี่คนไหนจูงจมูกให้เดินตามมา

“เอาอย่างนั้นจริง ๆ ใช่ไหม กูจะได้ไปบอกพวกปีสอง น้องมันถามมาอยู่”ปันปันถามย้ำผมอีกครั้ง ผมก็พยักหน้ารับโดยดี “โอเค ตามนั้น”

ปันปันไม่ถามอะไรต่อ แต่เอนตัวลงนอนเล่นบนเตียงเล็ก ๆ ในหอพักของผมนี่เป็นอีกอย่างที่ดีในส่วนของการทำงานที่ต้องใช้เวลาจำกัด แต่ก็แย่เพราะมันก็กดดันผมเหมือนกัน กับการที่ไม่ค่อยมีใครค้านและออกความเห็นอะไร ให้ผมเป็นคนกำหนดทางที่จะให้เกมดำเนินต่อไปเอง ถ้าพลาดเท่ากับผมทำทุกอย่างล้มเหลว ซึ่งมันเป็นอะไรที่โคตรจะแย่เลยครับ

พอถึงช่วงเวลาประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง ผมกับปันปันก็ออกมาจากหอพร้อมกัน ไปหาอะไรกินก่อนเข้าเรียนน่ะครับ เติมพลังกันหน่อย ระหว่างทางก็มีน้องปีสองเดินผ่านมาไหว้ให้ผมได้รับไหว้ แล้วก็มีพวกปีหนึ่งมาให้ผมไปเมินแบบหางตาไม่แลเหมือนกัน

“พี่ครับ สวัสดีครับ”คราวนี้เป็นหลานเทคผมเอง... ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีไหมนะครับที่ผมยังไม่สนิทกับหลานเทค ไม่อย่างนั้นเวลาที่เมินต้องมารู้สึกหน่วง ๆ ในอกอีก “พี่ครับ... พี่ลมหนาวครับ สวัสดีครับ”

ชื่อเล่นมาเต็มเลยครับ ผมเลยรีบเดินออกมาก่อน ปล่อยให้ปันปันมันซื้อลูกชิ้นทอดไปคนเดียว ส่งไลน์ไปบอกมันว่าผมรออยู่ที่โรงอาหารสักหน่อย ก่อนที่จะไปซื้อข้าวมากิน

ช่วงที่ตัดน้องก็ต้องยอมรับล่ะนะครับ ว่ามันเป็นช่วงที่อารมณ์ทุกอย่างจะหน่วงมาก ปกติถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้รับไหว้ทุกครั้ง แต่ผมก็ยังมองน้อง ๆ ได้ แต่นี่ไม่... ต้องนิ่งให้มากที่สุด ขนาดวินัยที่ถูกฝึกมาให้รับกับภาวะความกดดัน และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ไวที่สุดยังรู้สึกหนักใจ แล้วคนอื่นจะเป็นยังไงก็คงไม่ต้องถามล่ะครับ

แต่ทุกอย่างที่ทำ... ก็เพื่อตัวน้องทุกคนเอง

วันนี้น้องอาจจะยังไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำแบบนี้ แต่หลังจากนี้เมื่อได้ย้อนกลับมามอง คงจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าพี่ ๆทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตนะครับ มันอาจจะกลับกัน ถ้าน้องไม่เข้าใจ น้องก็คงโกรธ และเก็บเรื่องราวพวกนี้เอาไว้เป็นความเกลียดชังก็ได้

แน่นอนว่าคนที่จะโดนน้องเกลียดก็คือพี่วินัยอย่างผมนี่ล่ะครับ

ทุกการกระทำมีความเสี่ยง ต้องคิดก่อนทำนะครับ ถ้าทำก่อนคิดแล้วผลออกมาทำให้เจ็บปวด มันกลับไปแก้ไม่ได้หรอกนะครับ แต่คิดแล้วทำ ถึงจะเจ็บปวด อย่างน้อยเราก็ยังมีภูมิที่สร้างเอาไว้ป้องกันความเจ็บปวด แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี มันก็ทอนความเจ็บในหัวใจได้บ้างล่ะครับ

พูดเป็นครั้งที่ร้อย... ‘พี่วินัยก็มีหัวใจ’

“ไม่รีบเข้ามาจังเลยวะ”ปันปันเดินมานั่งตรงข้ามผม ก่อนที่สายตาของมันจะเหลือไปเห็นตัวต้นเหตุที่เดินหน้าหงอย ๆ มากับเพื่อนมัน “อ่อ เจอสายตาลูกหมาของหลานงั้นดิ”

“อืม”ผมตอบรับโดยดี ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธนี่ครับ ถึงจะดูแลน้องทุกคน แต่นะ ผมก็ต้องมีเอนเอียงใจอ่อนให้กับสายเทคตัวเองบ้าง ยิ่งหลานเป็นเด็กกิจกรรมด้วย ผมยิ่งหนักใจที่จะทำเย็นชาใส่ “อีกไม่นานก็จบแล้ว ช่างมันเหอะ”

“ทนไปก่อนแล้วกัน... เดี๋ยวน้องก็น่าจะมาขอพี่คืนแล้วมั้ง”เพื่อนสนิทของผมพูดเบา ๆ ก่อนที่มันจะถอนหายใจออกมาหนัก ๆ “เหลือแค่ชิงเข็มเอารุ่นกิจกรรมเดียวแล้วนิ ที่ต้องอยู่ในฐานะของวินัย แล้วก็จะได้เปิดตู้กับข้าวกันสักที”

“ใช่... มันก็จะจบการรับน้องไปอีกปี”อีกแค่กิจกรรมเดียวเองครับ ก็จะจบแล้ว แต่ก่อนจะถึงกิจกรรมนั้น... เราก็ต้องสอบกลางภาคกันก่อน “แต่กว่าจะเดินไปถึงตรงนั้น เรายังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ”

“นายอย่าลืมไปคุยกับพวกวิศวะด้วยล่ะ ไอ้สะพานดาวของพวกนั้นน่ะ”เออ ลืมไปเลยว่าเวลาพวกวิศวะมอบเกียร์จะมีสะพานดาว...

ทำไมต้องมานั่งทำงานเป็นคู่แบบนี้ด้วยวะครับ ทั้งที่เรื่องรับน้องมันเป็นของคณะใครคณะมันแท้ ๆเฮ้ออ บ่นไปก็เท่านั้น ยังไงก็ต้องทำตามแผนงานที่เขาวางต่อไปล่ะครับ

ต้องเสียเงินออกนอกสถานที่กันอีก เงินคณะยิ่งมีไม่เยอะอยู่ด้วยนะครับ แต่ก็ได้แค่บ่นในความคิดล่ะนะครับ ขืนถ้าพูดออกไปได้โดนหยามกันแน่

“ดอกไม้สวยไหมครับ น้องปันปัน”เสียงทุ้มหวานของคน ๆ หนึ่งดังขึ้น ก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะนั่งลงข้าง ๆ เพื่อนผิวเข้มของผม “สวยสมกับน้องปันปันมากเลยนะครับ ดอกกุหลาบเนี่ย”

ในมือของพี่คิตตี้มีดอกกุหลาบตูมดอกนึงอยู่ ไอ้ปันมันทำหน้าบูดเป็นตูดอุรังอุตังเลยครับ ส่วนผม ขอตัวหันไปทางอื่นก่อนนะครับ ไม่ไหว ขำ เดี๋ยวหลุดในโรงอาหารล่ะ งานเข้าเลย

ผมเหลือไปเห็นผิวเข้ม ๆ ของเพื่อน มันเข้มขึ้นอีกล่ะครับ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโกรธหรือเขินกันแน่ จริงไหมครับ (ถ้าไม่รู้ขึ้นไปอ่านข้างบนใหม่นะครับ)

“ดอกกุหลาบจะมาเหมาะอะไรกับคนอย่างผม”เสียงของปันปันนี่ บูดพอ ๆ กับหน้ามันเลยครับ แผ่รังสีอาฆาตอีกต่างหาก “ไปตัดแว่นซะเถอะ คุณคิส”

“เหมาะจะตายไป”คุณคิส (คิตตี้) ยังคงยืนยันคำเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ผมเลยอดที่จะหันมามองดอกกุหลาบสีสดนั้นไม่ได้ เหมาะตรงไหน “จริงไหมครับ น้องลมหนาว”

“เอ่อ... ผมก็ไม่รู้สินะครับ”ขอตอบเลี่ยง ๆ ปัด ๆ ไปก่อนแล้วกัน ไม่เข้าใจความคิดพี่ชายหน้าสวยที่อยู่ ๆ ก็โผล่มาคนนี้สักเท่าไหร่หรอกนะครับ

“ดอกไม้ที่งดงาม แต่จับไปก็ต้องระวังหนามที่แหละคมจะทิ่มตำ”รู้สึกดีที่ไม่ยกน้ำขึ้นมาดื่ม ไม่งั้นคงมีพุ่งล่ะครับ หวานมาเลย “เหมือนปันปันไงครับ”

เงียบกริบทั้งโต๊ะครับงานนี้ ไม่มีใครพูดอะไรออก ว่าแต่... พลอยกับพวกวิศวะมันมากันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ผมมัวแต่เก็บอารมณ์จนไม่ได้สังเกตเลยเหรอไง... ให้ตายเถอะครับ

พี่ตังโอรู้ โดนเทรนด์ใหม่แน่...

“ผมว่าคุณควรจะไปเช็คระบบประสาท เนิร์ฟทุกเส้น แล้วก็เช็คสมองด้วยนะครับ”ปันปันกัดฟันพูดออกมา ผมว่ามันกำลังข่มอารมณ์โกรธอย่างรุนแรงเลยนะครับนั่น

“เขินน่ารักจังเลย”เอ่อ... พี่ครับ พี่ใช้อะไรมองว่าเพื่อนผมเขินกันครับเนี่ย ผมจะกลั้นขำ ตีหน้านิ่งไม่ไหวแล้วนะครับ “เย็นนี้ไปทานข้าวด้วยกันหน่อยไหมครับ น้องปันปัน”

“กรุณาไปไกล ๆ เท้าผมเลยครับ ก่อนที่ผมจะส่งยันให้”หมอนั่นยังคงตอกกลับหน้านิ่ง ๆ ได้อยู่นะครับ เก่งเหมือนกันนะเพื่อนผม... แต่ปล่อยให้เขาคุยกันเองดีกว่า

“คุณพายุ คุณมาได้ยังไงครับ”หันมาสนใจคนไทยที่ไม่ได้รับเชิญแถวนี้กันก่อนดีกว่าครับ ผมหรี่ตาลงมองร่างที่มานั่งอยู่ข้าง ๆ อย่าจ้องจับผิด

“ผมตั้งใจมาคุยกับคุณเรื่องไปข้างนอก”ผมมองหน้าของพายุนิ่ง ก่อนที่จะพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ

“ไปคุยกันที่อื่นเถอะ”ผมหันไปหาเพื่อนที่นั่งเถียงกับคุณคิสแบบถามคำตอบคำอยู่ ผมว่าถ้าไม่ติดว่ามันเกรงใจที่เขาเป็นพี่หลายปี คงได้มีเรื่องแล้วล่ะครับ


พวกเรามีกฎข้อหนึ่งว่าปกครองโดยใช้ระบบรุ่น แต่ดูจากลักษณะแล้ว คุณคิสคงอยู่เหนือกว่าพวกผมไปหลายรุ่นอยู่ ปลูกฝังมาดีครับ ไม่นิยมการปีนเกลียว

ผมกับพายุเดินขึ้นมาบนตึกเรียน หามุมที่ไม่ค่อยมีใครเดินผ่านมายืนคุยกัน แต่จริง ๆ แล้วตอนนี้มันเวลาพัก บนตึกก็ไม่ค่อยมีคนหรอกครับ

“คุณวางแผนแล้วเหรอครับ ว่าจะพาน้อง ๆ ไปที่ไหน”ผมยิงคำถามทันที ไม่รอให้เฮดของพวกวิศวะมากวนประสาทผมก่อน

“ยัง... ผมจะมาคุยกับคุณก่อนไง ว่าปีนี้จะพานอกไปที่ไหน”พายุกอดอกพิงกำแพงคุยกับผม “น้ำตก ทะเล ภูเขา ป่า ค่าย มันมีให้เลือกเยอะ เดี๋ยวเลือกมาแล้วพวกคุณไม่โอเคก็มาเถียงกันอีก ผมเหนื่อย”

“นั่นมันควรจะเป็นคำพูดของผมมากกว่าไหมครับ”ผมตอบกลับด้วยเสียงเรียบเฉย ตาจ้องกับคนตรงหน้าอย่างไม่ยอม “ผมเหนื่อยกับการที่จะต้องมาเถียงกับคุณแบบนี้ทุกเรื่อง ทุกครั้งที่ทำงาน”

“แต่ยังไงคุณก็ต้องเจอผมอยู่อย่างนี้ไปทั้งปีการศึกษานั่นล่ะครับ คุณวินัย”พายุเปลี่ยนอารมณ์ ยักคิ้วให้ผมอย่างกวน ๆ “คู่กรรมอย่างเราสองคนต้องเจอกันไปอีกนาน”

“ก็แค่สองเทอม หลังจากนั้นต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิมแล้วล่ะครับ”ผมข่มอารมณ์ตัวเองให้นิ่ง ๆ ไม่แปรไปตามคนที่คุยด้วยอยู่ คนอะไรเปลี่ยนอารมณ์ไวพอ ๆ กับกิ้งก่าเปลี่ยนสีเลยนะครับ “ส่วนสถานที่ ที่คุณบอกมา ผมเลือกทะเล”

“เบสิคดีชะมัด”อย่าคิดว่าผมไม่ได้ยินนะครับ ไอ้คุณพายุ อยู่กันแค่สองคน ตึกก็เงียบ ได้ยินชัดเต็มสองรูหูเลย “สรุปคุณเลือกทะเลใช่ไหม”

“แล้วใจคุณเลือกอะไรมา”ผมถามกลับไปอย่างไม่คิดที่จะตอบคำถามที่คนตรงหน้าถามมาก่อนเลยครับ การที่มันถามผม และพูดแบบนั้น แสดงว่าในใจของมันมีที่เลือกเอาไว้แล้ว... แต่ไม่พูดออกมาก่อนแน่ ๆ ครับ

“สำหรับผม ผมเลือกไปค่าย”เลือกอะไรที่มันสำเร็จรูปจริง ๆ เลยนะครับ นี่จะพาน้องออกไปรับน้อง หรือจะพาลูกเสือไปทำกิจกรรมกันแน่น่ะครับ

“ทางมหาวิทยาลัยมีค่ายอาสาให้น้อง ๆ ไปอยู่ประจำอยู่แล้ว คุณยังคิดจะพาน้องออกค่ายอีกหรือครับ”อันนี้คนละค่ายกับค่ายที่พายุสื่อแน่ ๆ แค่ผมขอพูดดักเอาไว้ก่อนแล้วกันครับ “หรือเป็นค่ายทหาร ค่ายลูกเสือ ถ้าผมจำไม่ผิดคือเราต้องพาพวกเขาออกไปรับน้องนอกสถานที่ก่อนจะปลดระเบียบนะครับ ไม่ใช่ไปเกณฑ์ทหาร”

สีหน้าของพายุเปลี่ยนไปทันทีเลยครับ ดวงตาของหมอนั่นแฝงความหงุดหงิดขึ้นมาทันที แสดงว่าผมเดาถูกว่ามันจะพาน้องไปค่ายแบบไหน... ถึงมันจะง่าย และสะดวกในการจัดงาน แต่มันใช่ว่าจะดีเสมอไปนี่ครับ จริงไหม?

น้องไปมาตั้งกี่ครั้งแล้ว ก่อนที่จะขึ้นมาเรียนในระดับนี้ มันซ้ำซากและจำเจเกินไปในความคิดของผมนะครับ ถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนกันบ้าง

ผมเองยังแอบเบื่อพวกค่ายเลยครับ มันสนุกอยู่แค่ไม่กี่ฐานเอง สำหรับผมนะครับ

“คุณยืนยันที่จะเลือกทะเลใช่ไหม?”พายุถามผมกลับมาอีกครั้งด้วยเสียงที่เข้มกว่าเดิม แค่นี้ก็หงุดหงิดให้เห็น แสดงออกมาซะชัดเลยนะครับ

ไม่เป็นโปรเอาซะเลย

“ผมไม่เอาค่าย และน้ำตก ที่เหลือคุณอยากจะเลือกที่ไหนผมก็ไม่มีปัญหา”ผมตอบตามความคิดเหมือนเดิม ค่ายก็อย่างที่บอกครับว่าจำเจ ส่วนน้ำตก ผมไม่อยากให้ไปเพราะที่นั่นจะมีหินเยอะ แล้วกิจกรรมรับน้องมันก็จะมีล้มลุกคลุกคลานกัน ถ้าบาดเจ็บขึ้นมามันคงไม่คุ้มกันแน่ ๆ

แล้วตอนทำสะพานดาว ถ้าให้ไปนั่งบนหินนี่คงเจ็บกว่าบนทรายแน่ ๆ วิศวะคงฝึกกันจนหนังด้านแล้ว แต่ไม่ใช่กับเมคเทคอย่างพวกเรา

หนาไม่เท่าพวกนั้นหรอกครับ

ผมห่วงคนของผมมากเกินกว่าจะให้ไปได้รับบาดเจ็บที่ไหน เพื่อนเรา น้องเรา ยังไงก็ต้องมองความปลอดภัยของพวกเขาเป็นอันดับแรก จริงไหมครับ

“โอเค เดี๋ยวผมจะโทรไปบอกคุณอีกทีว่าที่ไหน ไม่เอาค่าย ไม่เอาน้ำตก”คราวนี้พายุมันยอมผมง่าย ๆ เลยนะครับ ผมมองเฮดว๊ากตรงหน้าอย่างเคลือบแคลงใจ “ไม่ต้องมามองผมด้วยสายตาแบบนั้น ผมมีเรียนต่อ จะให้มาต่อความยาว สาวความยืดเถียงกับคุณมันก็ไม่ใช่ที่ รู้ไหมครับ คุณวินัยลมหนาว”

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณนิ”แค่สงสัย แค่นั่นเอง ปกติมันไม่น่าจะยอมง่าย ๆ นี่ครับ ต่อให้เป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็เถอะ ขอแค่จะเอาชนะผม มันก็เถียงสุดตัวเหมือนกัน

“ครับ ๆ ๆ”ตอบปัด ๆ แบบนี้มันน่าถีบเหมือนกันนะครับ แต่ช่างเถอะ ไม่ต้องมาเถียงกันก็ดีเหมือนกันครับ เปลืองน้ำลาย “ว่าแต่ ลมหนาว”

อยู่ ๆ มันก็ทำเสียงหวานใส่ผม อะไรวะครับเนี่ย รู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้ล่ะครับ... มันจะเล่นอะไรอีกหรือเปล่าครับ ดวงตาของหมอนั่นเปล่งประกายระยับ ไม่พอมีกระตุกยิ้มที่มุมปากด้วย

ผมว่ามันจะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ แน่ ๆ แน่นอนที่สุดครับ

“ฟิตร่างกายเอาไว้หรือยังครับงานนี้ผมต้องได้ตัวคุณแน่ ๆ”ปากว่ามือถึงด้วยครับ มือมันมาแตะที่ไหล่ผม ใครอนุญาตมันกันล่ะวะครับ “วอร์มเสียงด้วยนะครับ คุณเมีย”

“คนอย่างคุณและพวกของคุณน่ะ... ไม่มีวันเหนือกว่าผมและทุกคนในคณะเทคนิคการแพทย์ได้หรอกครับ”ผมปัดมือของพายุออกไปแล้วหันหลังเดินกลับไปหาเพื่อนที่รออยู่ที่โรงอาหารทันที โดยมีเสียงหัวเราะเบา ๆ ไล่หลังมาด้วย

“เดี๋ยวคุณก็จะได้รู้ ลมหนาว ยังไงคุณก็ต้องมานอนใต้ร่างผม”มั่นใจไปเถอะครับ...  คนอย่างผมไม่ปล่อยให้ตัวเอง และเพื่อน และน้องต้องลำบากหรอกครับ

แต่... ถ้ามันไม่กวนผมสักวันนี้ มันจะนอนไม่หลับเอาใช่ไหมครับ?

ผมเหนื่อยใจ!!

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

มาต่อแล้วค้าาา ^^ ยังคงความมึนเอาไว้เหมือนเดิม 5555

ติชมกันได้นะคะ

ตอนต่อปจะเข้าสู่ช่วงที่กด 1 กันเอาไว้แล้วค้า (น้องจะมาง้อละ 5555)

ลุ้นกันนะคะ ว่าง้อยังไง

ปล. เกือบทั้งเรื่องนี้ ประสบการณ์ตรงดีจังเลย... :mew6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2015 20:23:05 โดย midnight »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ PRiiNCEKiiM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ในที่สุด ก็มา
คิดถึงพี่ลมหนาวจัง ~~

ออฟไลน์ gneuhp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ฮาปันปันอ่ะ รอน้องมาง้อละ

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
พี่คิตตี้เริ่มรุกแล้วซิน่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ I-Icezz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทำไมรู้สึกว่าพี่คิสตี้เลี่ยน 555
ลุ้นตอนต่อไปๆ

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
สงสารลมหนาว เข้าใจความรู้สึกนั้นดีเลย
บางทีคนที่ไม่พูดอะไรเลย อาจจะเป็นคนที่เจ็บกว่าใครๆ
สนุกมากๆเลยจ๊า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เลี่ยนอะพี่คิต สงสารปันปันเลยเนี่ย

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
ทำไมรู้สึกว่าพี่คิสตี้เลี่ยน 555
ลุ้นตอนต่อไปๆ
เลี่ยนอะพี่คิต สงสารปันปันเลยเนี่ย

จะเลี่ยนเฉพาะตอนแรกๆนี่ล่ะคะ ^^

ปันปันน่ารักกกกกก  :-[

ขอคู่ทิวกับข้าวมั้งสิ
  :ling1:

หลังคืนน้องจะถึงคิวแล้วว


ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
วิดวะกะเทคนิคใครจะชนะกันแน่นี่  :katai1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
พี่คิตนี่ฮาไปนะ 555
รอตอนหน้าค่ะ ลุ้นๆ ^^

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
ตั้งใจจะอัพวันนี้ แต่ยังปั่นงานไม่เสร็จ... TT

พรุ่งนี้เจอกันนะคะ

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่สิบเก้า

(คีตา)

หลังจากวันงานชิงธงมา พี่ ๆ ปีสอง ปีสาม ปีสี่ ยังคงเย็นชากับพวกผมอยู่เหมือนเดิม หรืออาจจะยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำไป ทักไม่ตอบ หน้าไม่มอง ไม่หือไม่อือ... เพื่อนในชั้นปีก็หงอยจนแทบจะหมดแรงทำอะไรแล้ว

"เราอยากจะบ้าตายแล้วอ่ะเล คี เมื่อไหร่พี่ ๆ เขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักทีนะ"ตุ๊กตาซบหน้าลงกับแขน พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา "มันทั้งเหงา ทั้งโดดเดี่ยว ทั้งอึดอัด เห็นคณะอื่นเขาเดินไปเจอพี่คณะเขาก็ทักทายกัน ยิ้มให้กัน พูดคุยเล่นกัน แล้วพวกเราล่ะ..."

ผมกับทะเลมองหน้ากันด้วยความเครียด มันเป็นความผิดของพวกผมที่ทำพลาดตอนชิงธง ด้วยความที่ไม่มีเสียงตะโกนจึงส่งสัญญาณให้เพื่อนฟังคณะข้าง ๆ ในรอบสอง แต่ดันมีการสื่อสารที่ผิดพลาดจากพวกแถวล่างของแสตนด์ เลยทำให้การลุกนั่งเละไปอย่างเห็นได้ชัดมาก

ผมเชื่อว่าพี่ลมหนาวจะต้องโกรธมาก และที่มากกว่าความโกรธนั้นคงเป็นความผิดหวังและเสียใจที่เต็มเปี่ยมแน่ ๆ ผมได้ยินมาว่าทุกปี คณะเทคนิคการแพทย์นั้นทำแสตนด์ชิงธงได้สวยงามที่สุด และเป็นคณะที่คอยให้จังหวะคณะอื่นมาตลอด แต่พวกผมกลับทำพลาด

พลาดอย่างไม่น่าให้อภัยด้วย...

ต้องหาทางแก้ไข ต้องเอาพี่คืนมาให้ได้ พี่เกด พี่กิตก็ไม่ตอบไลน์ผมเลย มันทั้งเหงา ทั้งอึดอัดใจจนอยากจะตะโกนออกมาดัง ๆ ให้ลั่นมหาลัยกันไปข้างนึงเลย

"ชิงธงนี่ จัดขึ้นเพื่อความสามัคคีของคนในคณะ และคนในมหาวิทยาลัยสินะ ส่วนรับน้องก็เพื่อผูกสัมพันธ์คนในคณะให้รักกันแน่นแฟ้น"ทะเลเองก็กำลังพยายามหาทางอยู่ "งั้นเราคงต้องทำอะไรทดแทนให้พี่เขาเห็นว่าพวกเราสามัคคีกันตามจุดประสงค์ของงาน"

"แสดงให้เห็นเหรอ"ผมกรอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด แสดงให้เห็น ๆ เราจะทำอะไรให้พี่ดูดีนะ "ยังไงในสัปดาห์นี้เราจะต้องขอพี่คืนมาให้ได้"

"แล้วเราจะเอาอะไรไปแลกเปลี่ยนเพื่อขอพี่คืนวะ คี"ประธานชั้นปีหันมาถามผมด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก "ธงก็ไม่มี ของที่มีอยู่ก็ให้ไม่ได้..."

ผมเม้มปากแน่น นั่นสิจะเอายังไงดี สิ่งที่เรามีอยู่มีแค่ป้ายชื่อและสายรัดข้อมือ... แต่ละอย่างเป็นสิ่งที่พี่มอบให้มาทั้งนั้นเลยด้วย

"ตัดสินใจละ"อยู่ ๆ ทะเลก็พูดพร้อมกับผุดลุกขึ้น แววตาของหมอนั่นประกายกล้าอย่างมุ่งมั่น "เราไม่มีสิ่งของจะแลกอะไรกับพี่เขา แต่เรายังมีใจ ใจที่ต้องการให้พี่กลับมาหาเราอย่างสัตย์จริง"

ผมยิ้มให้กับคำพูดของมัน ใช่ เรายังมีความจริงใจที่ไม่มีวันถูกยึด หรือถูกชิงไปได้ เราจะต้องแสดงให้พี่ดูให้ได้ว่าใจของเราทุกคนต้องการพวกเขา

"แล้วจะทำยังไงให้พี่เขารู้ล่ะ เล"ตุ๊กตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วดูดีขึ้นกว่าตอนแรกหน่อย เริ่มรวบรวมกำลังใจกลับมาได้แล้วสิ

"ตุ๊กตา ให้เพื่อนเอาคำ ๆ นี้ไปเขียนในกระดาษเอสี่ จะทำยังไงก็ได้ให้กระดาษโล่ง ๆ นั้นเต็ม โดยมีคำ ๆ นี้อยู่ ใครไม่ทำก็ให้เพื่อนในกลุ่มที่อยากมีพี่กดดันไป"เลมันแปะโพสอิทลงบนสมุดของเพื่อนหญิงตัวเล็ก บนกระดาษใบเล็กนั้นมีคำที่เราอยากจะสื่อให้พี่เขารู้อยู่คำนึง "ให้ทำมาสองแผ่นนะ ส่วนคี นายไปกับฉัน"

ผมกับเลเดินไปในห้องคอมของมหาวิทยาลัยที่คอนนี้ไม่มีใคร เราสองคนมองหน้ากันนิ่ง ผมพอจะรู้แล้วว่ามันต้องการให้ผมทำอะไร...

"นายเลือกมาเลย เดี๋ยวกูจะไปติดต่อขอใช้ปริ้นเตอร์เอง"นั่นไง มันให้ผมหาเพลงที่จะร้องให้พี่จริง ๆ "เอาที่มึงคิดว่าดีที่สุด กูเชื่อใจมึงนะเว้ย"

"เค กูมีในใจแล้วเหมือนกัน"ผมหันหน้าเข้าหาหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วเสิร์ชหาเพลงที่ต้องการทันที “เป็นเพลงที่จะลื่อถึงความรู้สึกของเราได้ดีที่สุดในความคิดกู”

พี่ครับ ผมเลือกบทเพลงบทนี้ให้พี่ ๆ ทุกคนด้วยใจของผม ผมหวังว่าสิ่งที่พวกผมอยากจะสื่อนี้ จะเข้าไปถึงหัวใจของพี่นะครับ

"แต่แบบนี้มันจะพอเหรอ เค็ม"ผมถามขึ้นขณะที่เพื่อนกำลังสั่งซีร็อกกระดาษที่จะแจกให้เพื่อนในคณะไปฝึกร้องฝึกจำใน 1 คืน "เราจะทำอะไรมากกว่านี้ซะหน่อยไหม"

"จะทำอะไรได้เยอะแยะวะ..."เลมันเลิกคิ้วใส่ผมน้อย ๆ "เวลามันมีแค่นี้ จะทำอะไรได้ แล้วเพื่อนที่เหลือแม่งจะยอมทำหรือไง"

"กูมีความคิดดี ๆ แล้ว"ใช่ มันจะเป็นความคิดที่ดี ถ้าหาอุปกรณ์ที่ต้องการได้เพียงพอ ก็น่าจะสำเร็จ "กูไปซื้อของก่อนนะ ไว้เจอกันมืด ๆ"

ผมไม่รอเพื่อนตอบรับ มุ่งหน้าไปหาในสิ่งที่ผมต้องการทันที มือก็เสิร์ชหาแหล่งที่ขายในมือถือไปด้วย ดีที่ว่ามันยังหาได้ไม่ยาก ราคาก็ไม่ได้สูงเกินกว่าจะหาซื้อ

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่กว่าจะวิ่งไปซื้อ เอากลับมาก็เย็นแล้ว ทะเลมันเรียกรวมเพื่อนข้างแสตนด์อยู่พอดี ผมเลยเข้าไปรวมกลุ่มพร้อมของในมือ

"พรุ่งนี้เราจะรวมตัวกันที่หน้าแลปหลังเรียน พี่ปีสามเรียนเลคเชอร์ห้องใหญ่ เดี๋ยวเราจะไปพาพี่ปีสองมา แล้วเราจะเริ่มงานกัน"ผมมาถึง มันก็พูดจบพอดี "คี นายมีอะไรจะพูดไหม"

"พรุ่งนี้ก่อนจะเข้าล้อมพี่ ผมจะแจกนี่ให้"ผมชูของในมือขึ้นยิ้ม ๆ "คงจะรู้กันนะว่าต้องทำยังไง แต่จะมีส่วนนึงที่ได้ของอีกอย่าง ซึ่งผมจะจุดให้ พอร้องเพลงแรกจบ ให้เอามาวางบสเตท โอเคนะ"

"โอเค"เพื่อน ๆ ตอบรับคำของผมโดยดี ค่อยหายเหนื่อยหน่อยนะฮะ

"งั้นกลับไปพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้เจอกัน ให้ตรงต่อเวลานะทุกคน"จบคำของทะเล ทุกคนก็ลุกหยิบกระเป๋าตัวเองกลับบ้าน กลับหอกันไป "เอาพวกพี่มา พรุ่งนี้จะปิดไฟเหรอ"

"อือ"พยักหน้ารับคำของเพื่อน แต่ในใจยังรู้สึกหน่วง ๆ หนัก ๆ อยู่ "หวังว่าเราจะทำสำเร็จนะ..."

"มันต้องสำเร็จดิ"เลมันบีบไหล่ผมหนัก ๆ อย่างให้กำลังใจ "มันต้องสำเร็จ พี่เขาคงไม่โหดร้ายกับพวกเราขนาดนั้นหรอกน่า"

"นั่นสินะ..."หวังอย่างนั้นอยู่มากเหมือนกัน พี่ลมหนาวคงไม่ใจแข็งขนาดไม่ให้อภัยพวกเราหรอกนะ "ทุกอย่างคงขึ้นอยู่กับลุงเทคของเรานี่ล่ะ"

"ภาวนาให้พี่หนาวเขาใจอ่อนกันสักหน่อยดีกว่า"เชี่ย มาพูดเล่นติดตลกตอนคนกำลังดราม่า เลมันเห็นสายตาผมแล้วหัวเราะออกมา ก่อนที่จะเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเอง "กลับกันเหอะ"

"เออ ไปกันเหอะ"ผมเดินกลับหอกับเพื่อนด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่าน "เจอกันพรุ่งนี้"

ผมโบกมือลาเพื่อนแล้วเดินกลับเข้าห้องตัวเอง เหวี่ยงของวางบนโต๊ะก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดู

"ไม่ตอบกันจริง ๆ เหรอครับ"พึมพำกับตัวเองสักหน่อย แล้วพิมพ์ข้อความที่อยากจะเอ่ยลงไปอย่างรวดเร็ว


Key tA ♫ : พี่กิต ตอบผมบ้างสิครับ
Key tA ♫ : เมื่อไหร่จะกลับมาคุยกับผมสักที
Key tA ♫ : ผมจะทำให้พี่กลับมาคุยกับผมให้ได้เลย
Key tA ♫ : รอผมนะ



เอามือถือไปชาร์ต แล้วอาบน้ำนอน หมดแรงจะทำอะไรแล้วล่ะครับ ยังดีที่ไม่มีการบ้านที่ต้องส่ง

พรุ่งนี้เจอกันนะครับ พี่


หลังจากเหม่อกันจนหมดคาบเรียน ผมและเพื่อน ๆ ก็มารวมตัวกันหน้าแลปตามที่นัด แทบจะไม่มีใครเลทเลย อีกทั้งเพื่อนที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการรับน้องก็ยังมา

"หักแท่งไฟตอนที่ผมส่งสัญญาณให้นะครับ พอหักแล้วร้องเพลงเลยนะ"ผมแจกแท่งเรืองแสงที่วิ่งไปซื้อมาให้กับเพื่อน ๆ ทุกคน โดยที่มีบางคนได้เป็นถ้วยแก้วขนาดเล็กที่ข้างในมีเทียนหอมอยู่ "ส่วนถ้วยนี้ เมื่อเราร้องเพลงแรกเสร็จแล้วก็เอามาที่บนเวทีนะ"

กว่าจะแจกของกันเสร็จก็เกือบถึงเวลาพอดี เพื่อนส่วนนึงรีบวิ่งไปยังห้องที่พี่ปีสองเรียนโดยมีเลนำไป ส่วนผมก็นำเพื่อนไปดักหน้าห้องพี่ปีสาม เสียงบรรยายของอาจารย์ประจำคณะดังออกมาต่อเนื่องอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะหยุดลง

"วันนี้เอาไปเท่านี้ ที่เหลือไปต่อในแลปนะ"ผมส่งสัญญาณให้เพื่อนที่อยู่ประตูอีกข้าง เมื่อเห็นพี่เริ่มลุกขึ้นก็รีบเปิดประตูเข้าไปล้อมพี่ ๆ เอาไว้

"พวกคุณทำอะไรกัน"เสียงตวาดดังลั่นจากพี่พลอยดังก้อง ทำเอาเพื่อนหลายคนสะดุ้งโหยง "พวกคุณเป็นใครถึงมาวุ่นวายที่นี่"

"ขออนุญาตครับ"ผมยกแขนแนบหู ก่อนจะพูดต่อ "นักศึกษาเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่ 1 ขอเวลาพี่ทุกคนประมาณครึ่งชั่วโมง ให้พวกเราได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อพี่ ๆ ด้วยครับ"

พี่พลอยยืนกอดอกมองนิ่ง ๆ ก่อนที่จะหันไปคุยกับพี่ปันปันที่เดินมาอยู่ข้าง ๆ แต่... พี่ลมหนาวไปไหน ทำไมถึงไม่อยู่ในห้องล่ะ หรือผมมองไม่เห็นเอง

ทะเลกับเพื่อนอีกส่วนพาพี่ปีสองมานั่งรวมกับพี่ปีสาม พี่ส่วนใหญ่ทำหน้างงงวย ส่วยพี่วินัยก็ออกมายืนรวมกันอยู่มุมห้องด้านหนึ่ง

"จะทำอะไรก็ทำสิคะ"เจ้าแม่วินัยเร่งพวกผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด แต่ผมก็ยังไม่ส่งสัญญาณ "มันเสียเวลา พวกคุณอยากจะทำอะไรก็รีบทำสิคะ"

ทะเลเดินไปปิดไฟ ผมเม้มริมฝีปากแน่น พี่ลมหนาวไม่อยู่ในห้อง ถ้าทำสิ่งที่จะทำให้โดยที่เฮดไม่อยู่... เราจะขอพี่กลับคืนมาได้ยังไง...

แต่เพื่อนทุกคนพร้อมแล้ว... มันถึงเวลาแล้ว

พี่หนาว... มาสักทีสิครับ มาเถอะ

แกรก

เสียงเปิดประตูดังขึ้นเบา ๆ ทำให้ผมหันไปมองอย่างตื่นเต้น

คนที่ผมรอมาแล้ว ผมหักแท่งไฟเป็นคนแรก ก่อนที่เพื่อน ๆ จะทำตาม... เอาล่ะ พี่ ๆ ครับ นี่คือสิ่งที่ผมและเพื่อนอยากมอบให้พี่นะครับ

"ดุริยาราชาวดี"


(ลมหนาว)

อยู่ ๆ อาจารย์ก็เรียกผมไปคุยเรื่องการออกนอกสถานที่กับพวกวิศวะ ดีนะครับที่พอจะคุยกับอีกฝั่งไว้บ้างแล้ว เลยพอจะตอบคำถามของคณะบดีของคณะได้อยู่บ้าง

กว่าจะคุยกันเสร็จก็เกือบจะเลิกเรียนแล้ว ผมรีบเดินจ้ำกลับไปเอากระเป๋าที่ห้องเรียนก่อนที่ป้าแม่บ้านจะเอามาวางกองเอาไว้ให้ที่หน้าห้องพร้อมเศษขยะ

เมื่อมาถึงหน้าห้องเรียน ผมได้ยินเสียงของพลอยแว่ว ๆ ออกมา แต่ทำไมไฟมันมืด... ก็น่าจะเพิ่งเลิกเรียนไม่ใช่เหรอครับ เพื่อนผมก็น่าจะยังอยู่ข้างใน

ผมมองเข้าไปในห้องมืด คนดูเยอะผิดปกตินะครับ แต่มันมืดเกินกว่าจะมองรู้ว่าใครเป็นใคร แต่เอาเถอะครับ เปิด ๆ เข้าไปก็รู้เอง
แกรก

ผมเปิดประตูกระจกที่ติดฟิล์มทึบเข้าไปเบา ๆ ภายในมีเงาของคนมากมายท่ามกลางความมืด อยู่กันมืด ๆ แล้วก็แออันอย่างนี้ทำไมเนี่ยครับ

เปาะ เปาะ

"ดุริยาราชาวดี"แสงสีแดงสว่างขึ้นจะสิ่งที่น่าจะเป็นแท่งไฟเรืองแสง และแสงสีส้มจากเทียนสว่างขึ้น พร้อมกับเสียงที่ดังก้องขึ้น

"สดับเพลง แผ่วพลิ้ว ปลิวว่ายฟ้า
กรุ่นกลิ่นรา- ชาวดี พร่างสีขาว
เสมือนหนึ่ง สัญลักษณ์ แห่งพวกเรา
จักเนิ่นเนา แน่ชัด ด้วยศรัทธา

๑ ขาวเด่น ราชาวดี
ทรงศักดิ์ศรี พิสุทธิ์ค่า
แห่งองค์ พระราชา
จากผืนฟ้า ชื่นแผ่นดิน

๒ เทคนิค การแพทย์ไทย
เกริกก้าวไกล เพราะภูมินทร์
ปวงข้าบาท น้อมชีวิน
ถวายสัตย์ ปฏิญาณ

๓ ตามรอย พระราชดำริ
ทุกถิ่นที่ ทั้งกันดาร
เทคนิค - การแพทย์งาน
สนองบาท ราชราชันย์

๔ หอมเอยหอม ราชาวดี
เฉกศักดิ์ศรี ที่สร้างสรรค์
ผลิดอก แย้มบานพลัน
เกริกเกียรติยศ ปรากฏไกล

๕ ทุกดอก ที่ออกช่อ
คือแรงก่อ ร่วมกายใจ
เราเทคนิค การแพทย์ไทย
รวมหนึ่งใจ ร่วมจิตกัน

๖ ลำบาก ยากเพียงไหน
มิหวั่นไหว มิคลายฝัน
จับมือ ประสานพลัน
เพื่อมิ่งขวัญ ราชาวดี

๗ นี่คือคำ ปณิธาน
น้อมสักการ เป็นสักขี
ถวายมอบ ดั่งราชพลี
วิชาชีพ แห่งปวงชน

๘ ขอมอบ ราชาวดี
ปลูกไว้ที่ กลางใจตน
รำลึก ตรึกกมล
เทิดราชันย์ นิรันดร์กาล

สดับเพลง แผ่วพลิ้ว ปลิวว่ายฟ้า
กรุ่นกลิ่นรา- ชาวดี ที่หอมหวาน
คือคุณค่า คือชีวิต จิตวิญญาณ

คือผลงาน แห่งเทคนิค การแพทย์ไทย"เสียงเพลงประจำวิชาชีพดังเข้ามาในโสตประสาทตั้งแต่ต้นเพลง จนจบเพลง ระหว่างนั้นม่านตาผมเริ่มที่จะปรับให้มองเห็นราง ๆ ในความมืดได้ มองไปเห็นเพื่อนปีสามผมนั่งอยู่ โดยมีปีสองอยู่ไม่ไกล ส่วนพวกที่ร้องเพลงนั้นคือเด็กปีหนึ่งครับ...

ดุริยาราชาวดี เพลงประจำอาชีพเทคนิคการแพทย์ที่ผมไม่เคยให้ปีสองสอนน้อง เพราะยังไม่จำเป็นต้องใช้ดังก้องขึ้นมาตั้งแต่ต้นจนจบ อาจจะมีเพี้ยนบ้าง แต่เนื้อไม่มีจุดผิดเลย

เพลงนี้เป็นเพลงของนักเทคนิคการแพทย์ทุกคน

ผมกำลังจะอ้าปากพูด พวกปีหนึ่งบางคนก็ขยับตัวซะก่อน เอาเทียนในแก้วใสมาวางเรียงกันบนเวที โดนมีหลานเทคของผมเป็นคนจัดวาง

พวกเขาวางเป็นคำว่า... 'Sorry' แสงไฟนั้นสาดส่องให้ความสว่างไสวในห้องที่มืดมิดนี้ ก่อนที่น้อง ๆ จะเดินมาปิดวงล้อมกันอีกครั้ง

มีอะไรบางอย่างในใจที่รั้งผมไว้ยังไม่ให้พูดอะไรออกมาขัดจังหวะในตอนนี้ ผมรู้สึกว่าน้องไม่ได้จะทำแค่นี้แน่ ๆ มันจะต้องมีอะไรอีก

อะไรที่ผมคาดไม่ถึงอีกครั้ง

"ถ้าฉันคิดได้อย่างวันนี้ ตั้งแต่วันนั้นที่เธอยังอยู่ ถ้าฉันนั้นรู้ในถูกผิด เธอคงไม่คิดจะจากไป"เสียงประสานของน้องกลุ่มนึงดังขึ้นจากทางมุมด้านหลัง "ที่ฉันร้องไห้อยู่ตอนนี้

กลั่นจากส่วนลึกในหัวใจที่ร้องไห้
เพราะใจกำลังคิดถึงเธอ"
น้องเปลี่ยนกลุ่มร้องไปตามท่อนสั้น ๆ ผมยืนกอดอกมองภาพตรงหน้านิ่ง ๆ แต่ในใจนี่แอบยิ้มแล้วยิ้มอีกเลยล่ะครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความหมายดีมากเลยนะครับ

"เธออยู่ที่ใด
ได้โปรดมาฟังบางสิ่งในใจ
ที่ในวันนี้ยังติดค้าง
แต่ฉันไม่รู้จะเจอเธอที่ไหน
โลกใหญ่เกินจะค้นเจอ"ท่อนนี้เป็นของหลานเทคผมกับกลุ่มเพื่อนในสภาปีหนึ่ง ระหว่างที่ร้องไฟบางดวงก็ถูกเปิดขึ้นให้พอมองเห็นหน้าตากัน น้อง ๆ ก็ขยับเข้าหาพี่ปีสองของตัวเอง ดึงในลุกขึ้นเดินตามพวกเขาไป ก่อนจะประสานเสียงกันทั้งชั้นปี "อยากขอโทษที่เคยเอาแต่ใจ

อยากขอโทษอะไรที่ร้ายๆ
อยากให้เธออภัยในสิ่งที่ฉันผิดพลั้ง
ไปมากมาย
อยากขอโทษในวันที่ผ่านมา
อาจเพราะฉันมีตาแต่หามีแววไม่
ทำสิ่งดีๆหล่นหาย ทำคนที่รักฉันเสียใจ
เธออยู่แห่งใดที่ไหน
ฉันละอายแก่ใจต่อเธอเหลือเกิน…"
คีตาดึงเกดเดินเข้ามาหาผม รู้สึกแสบ ๆ จมูก อุ่น ๆ ที่ตาเลยล่ะครับ ผมสูดลมหายใจลึกคุมตัวเองให้นิ่งเฉยให้ได้ หลานเทคของผมยิ่งกระดาษที่พับเป็นรูปหัวใจมาให้ผม

ผมเปิดกระดาษที่รับมาดู กระดาษเอสี่ที่มีรอยพับ ข้างในเขียนคำ ๆ นึงเต็มไปหมด ทุกตัวอักษรนั้นเห็นได้ถึงการบรรจงเขียนขึ้นมา

คำว่า... 'ขอโทษ' นับร้อยคำบรรจุอย่างเป็นระเบียบในกระดาษแผ่นนี้

ถ้าผมอยู่คนเดียวในห้อง น้ำตาผมคงได้มีไหลออกมาแน่ ๆ เลยครับ ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ผมวางแผนขอพี่คืนสมัยตัวเอง ไม่รู้จะซึ้งได้เท่าที่น้องทำให้ไหมเลยล่ะครับ

"ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำผิดพลาดนะครับ พี่"เสียงทุ้มของคีตาดังขึ้น เสียงนั้นแฝงไปด้วยความเศร้าหมองจนผมสัมผัสได้เลยครับ "ขอโทษครับ"

น้อง ๆ ร้องเพลงกันจบแล้ว บรรยากาศในห้องนี้แฝงทั้งความเศร้าอยู่ ผมเหลือบเห็นเพื่อน เห็นน้องบางคนตาแดง ๆ กันด้วยล่ะครับ

"ปีสอง ปีสามไปรวมกันด้านหลัง ปีหนึ่งมาเรียงแถวหน้าเวทีครับ"

############################

มาต่อแล้วค้าา

แปะเพลงก่อน

เพลงแรก ดุริยาราชาวดี เพลงประจำวิชาชีพเทคนิคการแพทยค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=ji2KPvHiw0A

เพลงที่สอง ละอายใจ
https://www.youtube.com/watch?v=hExnzN9bW4Q

หวังว่าจะชอบกันนะคะในตอนนี้  :mew2:

ตอนต่อไป ตาวิศวะด้วยยย พายุได้ออกโรงอีกแล้วล่ะค่ะ  :hao3:

เจอคำผิด บอกกันหน่อยนะคะ เผื่อลอดสายตาไป TT ช่วงนี้จ้องแสงนานๆไม่ได้ ดูกล้องจุลทรรศน์แปปเดียวกจะอ้วกแล้ววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด