Mon Fiance
ไอ้เฉิ่มนั่น... คู่หมั้นผม

บทที่ 8 Ma Maison สะดุดรักที่พักใจ 2/3 “เตี้ย” เสียงเรียกของตรีเพชรดังมาจากห้องน้ำ “โอ๊ย แย่แล้วๆ”
“อะไรตี๋!” นาวาที่กำลังเช็ดผมของตัวเองอยู่ค้องชงักมือเมื่อได้ยินซุ่มเสียงอันร้อนรนของตรีเพชร “เป็นอะไร”
“แย่แล้ว แย่แน่ๆ” ตรีเพชรยังคงร้องอยู่อย่างนั้น
เด็กหนุ่มตกใจครามครัน นาวารีบเข้าไปหาต้นเสียงในห้องน้ำ มือบางกระชากประตูเปิด คลองสายตาของนาวาเห็นชายหนุ่มเรือนร่างกำยำมีหยดน้ำเกาะพราวพรายอยู่ตามเนื้อหนั่น เมื่อสายตาคู่นั้นสบมาสีหน้าตรีเพชรดูเจ็บปวด มือข้างหนึ่งจับอกซ้ายไว้ราวคนจะขาดใจตาย นาวารีบเข้าไปดูอาการของชายที่ยืนอยู่ตรงหน้ากระจกห้องน้ำ
“เป็นอะไรไป” เด็กน้อยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ฉัน…” ตรีเพชรคว้านาวาเข้าสู่อ้อมกอด
“ตี๋ใจเย็นๆ เป็นอะไร”
“คือฉัน…” ตรีเพชรจ้องตานาวา “คิดถึงนายจนทนไม่ไหวแล้วน่ะสิ”
ฟอด คุณเพชรหอมแก้มนาวาฟอดใหญ่โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว เมื่อถอดหน้าออกมาใบหน้าของชายหนุ่มประดับรอยยิ้มกว่างแทบจะถึงใบหู
“โอ๊ย!” เสียงร้องเจ็บปวดของตรีเพชรดังขึ้นในวินาทีต่อมา สีหน้าชายหนุ่มเหยเกเพราะนาวาบึดหูแก้แค้นอย่างไม่คิดปราณี
“ไอ้เลว” นาวาหรี่ตาราวมารร้าย มือยังคงดึงหูของคุณเพชร “คนตกใจแทบแย่ นึกว่าจะมาตายคาห้องน้ำ ที่ไหนได้….
ไหนแกว่าจะไม่ล่วงเกินฉันแล้วไง!”
“เจ็บแล้วคร้าบ ปล่อยก่อนนะวาจ๋า”
“ฮึ่ย” นาวาสะบัดมืออย่างเสียอารมณ์ แล้วออกจากห้องน้ำไป
“อ๊าก เจ็บโว้ย คนอะไรดุอย่างกะหมา” ตรีเพชรบ่นกับตัวเองอยู่หน้ากระจก สำรวจใบหูแดงก่ำของตัวเอง รู้งี้จับจูบซะก็ดี
“ได้ยินนะไอ้ตี๋!”
“ป๊าว ไม่ได้ว่าอะไร” ตรีเพชรคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กที่นาวาวางไว้ให้ขึ้นมาเช็ดผม แล้วตามเด็กน้อยออกจากห้องน้ำไป
นาวากลับไปนั่งเช็ดผมของตัวเอง ตรีเพชรเดินออกมาจากห้องน้ำมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวที่พันกายท่อนล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่ รอยยิ้มที่เคยฉาบบนใบหน้ากลับหายไปสีหน้าของชายหนุ่มราบเรียบออกจะบูดบึ้งเล็กน้อยเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลอ่อนโบว์ตั้งอยู่บนเตียงพร้อมกับตุ๊กตาตัวอื่นๆ
ตุ๊บ ตรีเพชรจับเจ้าหมีโยนออกจากเตียงอย่างไม่ใส่ใจ
นาวาหันมาตามเสียง “พี่หมี”
“เมื่อคืนจับซุกไวใต้เตียงแล้วนะ ยังจะเอาขึ้นมาตั้งบนเตียงอีก” ตรีเพชรว่า
“นายโยนพี่หมีอีกแล้วนะ” นาวาเก็บตุ๊กตาขึ้นมากอด
“สำคัญมากนักหรือไงไอ้พี่หมีเน่าๆตัวนี้น่ะ?”
“ก็มันเป็นของขวัญวันเกิดชิ้นเดียวในรอบหลายๆปี” นาวาอธิบาย รอยยิ้มจางๆแวบเดียวฉายบนใบหน้านาวาเมื่อคิดถึงที่มาของของขวัญ
“แล้วเพื่อนคนอื่นๆไม่เคยให้อะไรเลยหรือไง”
“ก็ให้ แต่ให้เลยวันเกิดมาแล้วทั้งนั้น” นาวาพูดเสียงเบา “วันเกิดฉันทุกคนไม่ว่างกันหรอก”
คุณเพชรขมวดคิ้ว “ทำไม นายเกิดวันอะไร”
“ยุ่ง” นาวาคว้าตุ๊กตาไปกอด กลับไปนั่งเช็ดผมที่ใกล้แห้งของตัวเองตามเดิม
ตรีเพชรจิ๊ปากเมื่อเห็นตุ๊กตาของเพื่อนอยู่ในอ้อมกอดของ(ว่าที่)คู่หมั้นตัวเอง มือหนายื้อพี่หมีออกมาแล้วจับยัดไว้ใต้เตียง
“บอกแล้วใช่ไหมห้ามกอดไอ้หมีเน่านี่ให้ฉันเห็น”
“อ้าวไอ้บ้านี่ คนจะกอดตุ๊กตาก็ว่า”
“ถ้าจะกอดก็กอดนี่”
“นี่… ไหน” นาวาหันมามองทางชายหนุ่ม
“นี่ไง” ตรีเพชรชี้ที่ตัวเอง ฉีกยิ้มอย่างใจดี
“ฝัน!”
“มานี่เลย”
“อะไร”
“มาให้กอดซะดีๆ” คุณเพชรย่างสามขุมเข้าหานาวา แล้วความโกลาหลที่จบท้ายด้วยการโดนสวมกอดและจับหอมแก้มก็เกิดขึ้นในห้องนี้อีกครั้ง กว่าทั้งสองจะได้ออกไปจากห้องก็เกือบจะเที่ยงอยู่แล้ว
“ไหนว่าจะพาไปห้างไงตี๋” นาวาร้องออกมาเมื่อเมอร์ซิเดสสปอร์ตสีขาวของตรีเพชรเลี้ยวผ่านรั้วคฤหาสน์วรจักรโสภณ
“เดี๋ยวค่อยไป มาทานข้าวที่นี่ก่อน” ชายหนุ่มให้เหตุผล “ที่สำคัญจะพาเมียเข้าบ้าน มาไหว้ผู้ใหญ่”
“ไอ้ทะลึ่ง ใครเมียนาย!”
เมื่อรถจอดสนิท ตรีเพชรทำหน้าที่สุภาพบุรุษที่ดีเปิดประตูรถให้นาวาที่นั่งกลัวอยู่ข้างใน
“เป็นอะไร” คุณชายถาม
“นายมันบ้า ไม่รู้หรือไงคนมันไม่พร้อม มาเยี่ยมผู้ใหญ่ของติดไม้ติดมือก็ยังไม่มี”
“คิดมากน่า ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มจับข้อมือของนาวาก่อนออกเดิน
เมื่อเดินผ่านเทอเรสหินอ่อนสีมุขนวลตา ตัดผ่านบานประตูไม้สลักลายชดช้อยเข้าโถงทางเดินกว้างขวาง เห็นมีสาวใช้กำลังเช็ดตุ๊กตาหยกสีเขียวมรกตสลักเป็นม้าศึกพ่วงพีวางอยู่ข้างแจกันหลาบขาวกลิ่นหอมอ่อนรวยระริน
“หลิว” สาวใช้เงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก “พาคุณไปห้องนั่งเล่น”
คุณ... คำนั้นยกย่องให้เกียติอยู่ในที
ตรีเพชรหันมาคุยกับเจ้าของข้อมือที่เขาจับอยู่ “หรือจะขึ้นไปบนห้องฉันดี” เขาว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ลึกๆตรีเพชรคิดอะไร นาวาคิดว่าเขาอ่านสายตาซ่อนความนั้นออก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของตรีเพชรที่มอบให้เด็กหนุ่มร่างเล็กสร้างความประหลาดใจให้สาวใช้ที่แอบเห็นยิ่งนัก ร้อยวันพันพี่คุณหนูเคยยิ้มให้เห็นซะที่ไหน
“จะไปห้องนั่งเล่น” นาวาย้ำแน่นหนัก
“ก็ได้ งั้นฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดเดิมคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เดี๋ยวลงมานะ” ชายหนุ่มยักคิ้วให้แล้วเดินขึ้นบันใดไปอย่างสบายอารมณ์
วันนี้คุณเพชรอารมณ์ดี สาวใช้ตั้งข้อสังเกต
“เชิญทางนี้ค่ะ” หล่อนเดินนำนาวาไปยังห้องนั่งเล่น
สวยและอบอุ่น
สองคำนี้น่าจะเป็นคำจำกัดความของห้องนั่งเล่นคฤหาสน์วรจักรโสภณได้ดี แวบแรกภาพวาดสีน้ำรูปดอกเหมยสีชมพูอ่อนกลีบงามสะพรั่งกรอบใหญ่ที่แขวนอยู่หลังทีวีจอโค้งขนาด 65 นิ้ว ดึงดูดสายตาของนาวาให้หยุดอยู่ตรงนั้น วินาทีแรกเด็กน้อยคิดว่านั่นเป็นเพียงภาพถ่าย แต่หากเพ่งมองดีๆจึงได้รู้ว่าเป็นรูปที่จิตกรตั้งใจรังสรรค์จนเสมือนจริง ทุกฝีแปรงคงจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจและความประณีตบรรจง
นาวานั่งลงบนโซฟาสีขาวครีมตัวใหญ่
“คุณจะรับน้ำอะไรดีคะ” สาวใช้ถามขึ้น
“อยากดื่มชาดอกไม้” อารมณ์จากรูปวาดคงพาไป
“รับชาลาเวนเดอร์ไหมคะ จะได้ทานคู่ทาร์ตสตรอเบอร์รี่”
“ยกมาเถอะ” นาวาบอก
“ได้ค่ะ” สาวใช้รับคำและหันหลังออกไป
“คุณเพชรกลับมาแล้วเหรอหลิว” หญิงสาวสวยสง่าที่กำลังหั่นผักอยู่เอ่ยถามสาวใช้ วันนี้เป็นวันหยุดพลอยลดาจึงเข้าครัวเอง นอกจากงานบริหารที่เธอทำอยู่เป็นประจำหญิงสาวยังชอบทำกับข้าวและชอบทำขนม
“ค่ะคุณหนูใหญ่” พลอยลดาพยักหน้ารับคำ
“นั่นชงชาเหรอ” พลอยถามเมื่อสาวใช้หยิบถ้วยชาและจัดทาร์ตสตอเบอร์รี่ใส่จาน “มีทาร์ตด้วย สงสัยวันนี้ฝนตก ร้อยวันพันปีตาเพชรดื่มแต่กาแฟขมๆ ขนมหวานเคยเตะ”
“ไม่ได้ให้คุณเพชรหรอกค่ะ” สาวให้ยิ้มรับ
“แล้วให้ใครหรือหลิว” พลอยลดาสงสัย
“แขกคุณเพชรค่ะ”
“คงจะเป็นเจ้าพวกนั้นอีกตามเคย” เจ้าพวกนั้นของพลอยลดาก็คือพวกจอมทัพและคนอื่นๆ “ดีใจจังมีคนอยากกินของหวาน ตั้งใจทำแต่ไม่ค่อยมีคนช่วยชิมเลย”
“ไม่ใช่พวกคุณจอมหรอกค่ะ แขกแค่ท่านเดียว” หลิวว่าพลางบรรจงริน้ำร้อนลงในถ้วยชาลวดลายสวยงาม
“ใครกันนะ ตาเพชรไม่เคยพาใครเข้าบ้าน” พลอยสงสัย “ผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าพาผู้หญิงอื่นเข้าบ้านทั้งๆที่มีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ฉันต้องจัดการตาเพชรหน่อยแล้ว”
“ผู้ชายค่ะคุณหนูใหญ่ แต่หน้าตาน่ารัก ตาสีสวยอย่างกับสีอำพัน เสียดายไม่น่าใส่แว่นบังตาสวยๆ” หลิวว่าไปยิ้มไป
“หรือจะเป็นน้องวา” พลอยลดาประหลาดใจ
“คุณนาวาคนนั้นน่ะเหรอค่ะ” สาวใช้ในครัวทุกคนเริ่มหันมาสนใจ ก็แน่ล่ะ เจ้านายคนใหม่ตำแหน่งคู่หมั้นของเจ้าชายแห่งวรจักร
กรุ๊ป ใครๆก็อยากจะรู้ว่าจะคุณหนูนาวาจะหน้าตาแบบไหน
“เดี๋ยวพวกเธอทำต่อนะ” พลอยลดาสั่ง พลางถอดผ้ากันเปื้อนเนื้อดีที่หล่อนสั่งมาจากยุโรปวางไว้บนมุมหนึ่งของเคาท์เตอร์ แล้วหันมาทางสาวใช้ที่เตรียมน้ำชา “ส่วนหลิว ยกน้ำชากับของว่างตามฉันมา”
หญิงสาวเดินด้วยท่วงท่าสง่าออกจากครัวไป เมื่อคลองสายตาของพลอยลดาสบเห็นหนุ่มน้อยร่างบางที่นั่งอยู่บนโซฟาสีครีมหล่อนก็จดจำเด็กคนนั้นได้ทันที
“ชาร้อนๆมาเสิร์ฟแล้วค่ะ” เสียงหวานดังเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มฉาบฉายอยู่บนดวงหน้า
นาวาหันไปทางต้นเสียง ดวงตาสีน้ำตาลทองเบิกประหลาดใจ “คุณพลอยลดา สวัสดีครับ”
เด็กน้อยมารยาทงามยกมือไหว้คุณหนูใหญ่ พลอยลดารับไวแล้วเอ่ยด้วยท่าทีเป็นกันเอง “เรียกพี่พลอยเถอะค่ะ” พลอยลดานั่งลงบนโซฟาอีกตัว
“ครับ” นาวายิ้มรับแต่ติดจะมีแววเกรงๆอยู่บ้าง
“ตอนแรกพี่ก็ประหลาดใจ เข้าใจไปว่าตาเพชรครึ้มอกครึ้มใจอยากดื่มชา”
“ทำไมเหรอครับ เขาไม่ชอบเหรอ” นาวาถาม
“เขาบอกรสมันเฝื่อนๆ ยิ่งขนมหวานยิ่งไม่เตะ” พลอยลดาว่า
“ขนมหวานดูน่ากินดีออก” นาวาพึมพำ นึกเสียดายแทนคุณชายที่มีขนมวานดีๆแต่กลับไม่คิดจะกิน เป็นเขาหน่อยไม่ได้ พ่อจะฟาดให้เรียบ นาวาชอบขนมหวานเป็นชีวิตจิตใจ
“ลองทานทาร์ตดูสิจ้ะ”
“อร่อยจัง” นาวาเอ่ยชมใสซื่อ “ครีมชีสข้างบนตัดกับสรอเบอร์รี่ข้างในอร่อยมากครับ”
“อร่อยก็ทานเยอะๆเลยค่ะ”
“พี่พลอยซื้อจากร้านไหนครับ เผื่อวาจะได้หามาทานบ้าง”
พลอยลดายิ้มแก้มแทบปริ “ไม่ได้ซื้อหรอกค่ะ พี่ทำเอง”
นาวายิ้มชม “ว่างๆสอนวาบ้างนะครับ”
“ได้สิ” ถ้าให้พูดเรื่องขนมพลอยลดาพล่ามได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ “พี่ล่ะดีใจจังที่น้องวาชอบ บ้านนี้ไม่ค่อยมีคนชอบเข้าครัวกันหรอก มี
พี่เป็นแกะดำอยู่คนเดียว ดีซะอีกมีวามาหัดทำขนมพี่จะได้มีลูกมือเพิ่ม”
“พูดมากน่าเจ้” ตรีเพชรแซวพี่สาว ชายหนุ่มคล้องแขนเดินมากับอาม่า
“เดี๋ยวเถอะพ่อตัวนี้” พลอยลดาดุน้อง
“อย่าถือสาเลยนะหนูวา” อาม่านั่งลงข้าวๆนาวา “สองพี่น้องนี่ไม่รู้จักโตหรอก เด็กๆเคยทะเลาะกันยังไงโตมาก็อย่างงั้น”
“อาม่าสวัสดีครับ” นาวายกไหว้อาม่า อ่อนน้อม
“ไหว้พระเถอะลูก” อาม่าลูบหัวนาวาอย่างอ่อนโยน สัมผัสนี้คล้ายสัมผัสจากคุณย่าผู้ล่วงลับของนาวา แวบหนึ่งเด็กน้อยหัวใจสั่นไหว
“พลอยว่าจะให้เด็กไปเรียนอาม่าพอดีค่ะว่าน้องวามาหา แต่บังเอิญคุยกันเพลินไปหน่อย”
“ไม่หน่อยละมั้งเจ้” ตรีเพชรนั่งลง ชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อ ประน้ำหอม แถมเปลี่ยนนาฬิกาเรือนใหม่ คุณเพชรนั่งลงบนโซฟาบุหนังสีครีม สองเท้าก่ายอยู่บนสตูลวางเท้า ท่าทางอย่างกะท่านหลอร์ด “ถ้าผมไม่ไปบอกอ่าม่าก่อน อีกนานแหละว่าเจ้จะนึกได้”
“โซ้ยตี๋อย่าเสียงดังอาม่าจะคุยกับน้อง” หญิงสูงวัยเอ็ดหลานชาย คุณเพชรจึงทำได้เพียงนั่งเงียบให้อาม่าคุยกับ(ว่าที่)หลาน
สะใภ้ “วันนี้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันนะหนูวา หมวยใหญ่ลงครัวเอง รับรองหนูวาต้องชอบ”
“ได้ครับอาม่า ขอโทษอาม่าด้วยนะครับที่อยู่ๆก็มาไม่ได้บอกกล่าว”
“ให้มาหาบ่อยๆเถอะ อาม่าอยากมีคนคุยด้วย ลูกหลานบ้านนี้ไม่ค่อยอยู่บ้านนักหรอก หมวยใหญ่ก็ต้องเข้าบริษัท โซ้ยตี๋ก็ไม่เคยจะกลับเป็นเวล่ำเวลา ไม่รู้โฉบไปไหนมาไหนของเขานักหนา”
จะไปไหนได้ละครับ ไปหาสาวๆของมันน่ะสิ นาวาได้แต่คิดในใจไม่พูดออกมา
“เมื่อคืนไม่กลับบ้านด้วยค่ะอาม่า” พลอยลดารีบรายงาน
“อีกแล้วเรอะ” อาม่าหันมาทางตรีเพชร “ม่าสั่งให้รับส่งหนูวาแล้วมัวไปเถลไถลอยู่ที่ไหน”
“ผมไม่ได้ไปไหนครับอาม่า ก็ส่งหนูวาของอาม่านั่นแหละ ส่งเสร็จก็ไม่อยากกลับบ้านซะงั้น” คุณชายไหวไหล่อย่างอารมณ์ดี คำพูดของตรีเพชรทำเอานาวาหน้าแดง
“แสดงว่าเมื่อคืนแกนอนห้องน้องวาเหรอตาเพชร” พลอยลดาถามน้องชาย หล่อนเขินแทนนาวาที่นั่งนิ่ง
“ถูกต้องครับเจ้ เนี่ยเมื่อยตัวไปหมดแล้ว”
“ตาเพชร!” พลอยลดาดุน้อง หล่อนนั่งหน้าแดงแข่งกับนาวา ความคิดของพลอยลดาเตลิดไปไกล
“เจ้คิดไร ผมโดนสั่งให้นอนเฝ้าเตียง เกิดมาก็เพิ่งเคยนอนพื้นเมื่อยเป็นบ้า” ที่ไม่ได้บอกพี่สาวคือชายหนุ่มนอนเฝ้าเตียงได้แค่สิบนาทีเท่านั้นแหละ ตรีเพชรไม่ปล่อยโอกาสได้ใกล้ชิดคนที่ทำให้หัวใจเขาปั่นป่วยหลุดมือไปหรอก
“ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วค่ะ” สาวใช้คนหนึ่งออกมารายงาน ทุกคนจึงออกจากห้องนั่งเล่นไปยังห้องทานข้าว
“วันนี้อาม่ามีข่าวดีจะประกาสด้วยนะ”หญิงสูงวัยที่นั่งอยู่หัวโต๊ะเอ่ยขึ้นเมื่อของหวานยกมาเสิร์ฟ
“ข่าวดีอะไรครับ” ตรีเพชรถาม
“จะเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่ฤกษ์งานหมั้น” อาม่าว่า
“พี่กับอาม่าไปหาซินแส เพิ่งได้กฤษ์มาเมื่อเช้านี้เองจ่ะ” พลอยลดาบอกกับนาวา
“เมื่อไหร่ครับอาม่า” ตรีเพชรไม่สนใจบัวลอยน้ำขิงที่อยู่ตรงหน้าของตัวเอง
“พฤหัสแรกของเดือนหน้า” อาม่าบอก
“อีกสองอาทิตย์เหรอครับ” นาวาพูดขึ้น ในใจแอบคิดว่ามันจะเร็วเกินไปไหม เขายังไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น(อย่างเป็น
ทางการ)ของไอ้ตี๋ขี้หื่นที่กำลังทำหน้าระรื่นอยู่ตอนนี้
“พี่ตื่นเต้นมากๆเลย” พลอยลดาวางช้อน “อยากจะรีบจัด catering เร็วๆ” พลอยพูดออกมาอย่างกับเป็นงานหมั้นของตัวเอง
“หนูวาอยากให้จัดที่ไหนลูก” อาม่าถาม
“ที่นี่/ ที่บ้านโน้น/ ที่โรงแรมดีกว่าครับ” ตรีเพชร/ พลอยลดา/ นาวา พูดออกมาแทบจะพร้อมกัน
“ต้องจัดที่นี่สิ” ตรีเพชรยืนยันคำเดิม
“พี่ว่าบ้านโน้นดีกว่า บ้านดรุณาทรสวนสวย น่าจะเอาไว้จัดเป็นโซนงานเลี้ยง” พลอยลดาให้เหตุผล พลางวาดภาพงานเลี้ยงกลาง
สวนเขียวขจีประดับประดาไปด้วยดอกไม้ชูช่อ
ทุกคนหันมองนาวาเพื่อถามความคิดเห็น “…คือ” หนุ่มน้อยอ้อมแอ้มตอบ “วาอยู่บ้านหลังนั้นจนถึงเก้าขวบ ความทรงจำที่มีก็ไม่
ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าเป็นไปได้… จัดที่โรงแรมจะสะดวกใจกว่าน่ะครับ” นาวาก้มหน้ามองมือของตัวเองที่วางอยู่บนตัก
ตรีเพชรขมวดคิ้วเมื่อเห็นสายตาวูบไหวจางๆของนาวา เขาจับความรู้สึกของแววตาแบนั้นไม่ได้ เพราะมันหายไปไวมากๆ นาวา
กำลังซ่อนความรู้สึกอะไรเอาไว้อยู่นะ
“งั้น” อาม่าพยักหน้าอย่างคนเข้าใจอะไรดี “ก็จัดกันที่โรงแรมเถอะนะ โรงแรมในเครือของเราก็มีมากมาย จะจัดที่ไหนอาม่าไม่
เกี่ยงอยู่แล้ว ขอแค่พวกเรามีความสุขก็พอแล้ว…”
