ต่อตรงนี้เสียงพูดคุยหัวเราะของคุณเพชรดังมาจากห้องนั่งเล่น สาวใช้ในบ้านหลายคนเกิดอาการแปลกใจเหลือบมองตากันอย่างสื่อความนัย คุณเพชรยิ้มยากจะตาย ถ้าไม่เหวี่ยงคุณก็จะเฉยและนิ่ง แต่มาวันนี้คุณชายเจ้าอารมณ์แห่งคฤหาสน์วรจักรโสภณกลับยิ้มปริ่มอย่างสุขใจ เหตุเพราะคุณนาวาเป็นแน่แท้
ช่วงรับประทานอาหารนาวารู้สึกเหมือนตัวเองโดนจ้อง แต่เหลือบไปก็ไม่เห็นใครจะสบตากับตัวเองสักคน มีสาวใช้หลายคนคอยตั้งโต๊ะ เก็บจาน ตั้งของหวาน กระทั่งรินน้ำให้ เขารู้สึกเหมือนคนเหล่านี้มองเขาอยู่กลายๆแต่ก็จับแววตาไม่เลยสักคนเดียว เหล่าสาวใช้แอบมองแอบชำเลืองยลโฉมว่าที่นายใหม่ของตัวเองกันอย่างครึกครื้น พวกในครัวลือกันว่าคุณเพชรนั่งจ้องคุณนาวาไม่วางตา แถมแอบอมยิ้มอีก บางรายกลับเข้ามาคุยกันในก้นครัวว่าคุณนาวาน่ารัก ตาสวยอย่างกับสีทองคำ ดูเหมือนวันนี้คนในคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้กำลังตื่นเต้น ไม่เว้นแม้กระทั่งคุณนายใหญ่ คุณหนูใหญ่ และคุณเพชรเอง
“เย็นนี้อยู่รอทานข้าวเย็นด้วยกันอีกนะลูก” อาม่าคุยกับนาวาในห้องนั่งเล่น
“ไม่ได้หรอกครับ เย็นนี้ผมจะพาวาไปงานเลี้ยง” คุณชายนั่งวางท่า เท้าพาดสตูลสีครีม เอ่ยขัดอาม่าของตัวเอง
“ไม่ทันไรก็หวงซะแล้วหรืออาโซ้ยตี๋” อาม่าค่อนขอด
“หึๆ” ตรีเพชรหัวเราะในคอ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรทั้งนั้น สายตาอันวาววับของเขาจับจ้องอยู่ที่นาวาไม่ละไปไหน “อาม่าก็ว่า
ไป ผมแค่เห็นว่าหลานรักคนใหม่ของอาม่าวันๆไม่ค่อยจะไปเปิดหูเปิดตาที่ไหน เลยกะว่าเย็นนี้จะพาไปปาร์ตี้ซะหน่อย”
“อย่าพาน้องไปเถลไถลนะ ม่าตีตายนะโซ้ยตี๋” หญิงสูงวัยพูดกับหลายชายตัวเอง แล้วหันมาคุยกับนาวา “ดีแล้วล่ะหนูวา ไปเปิดหูเปิดตาซะบ้าง มีอะไรก็ให้พี่เขาคอยช่วยเหลือนะลูก หนูไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว”
“…ครับ” นาวารับคำเสียงอย่างขัดไม่ได้
“หึๆ” เสียงหัวเราะเบาๆของตรีเพชรที่ขำท่าทางของนาวา แทบจะทำให้เด็กน้อยอยากจะหลุดคำด่าออกมา แต่ในสถานการณ์ที่มี
ผู้ใหญ่อยู่ด้วยแบบนี้ นาวาจึงได้แต่ก่นด่าในใจ
“ไว้ว่างๆน้องวาแวะมาอีกนะคะ พี่จะได้เตรียมขนมไว้ให้ลองชิม” พลอยลดาว่า ในมือมีนิตยาสารแฟนชั่นล้ำสมัย
“ครับไว้ว่างๆวาจะมาชิมอีก พี่พลอยทำขนมอร่อย” นาวาชม
“เจ้ครับ” ตรีเพชรเรียกพี่สาว “ทาร์ตะวันนี้ห่อกลับให้ผมหน่อยสิ”
“จะห่อให้เธอทำไมเธอไม่กิน ฉันสั่งหลินมันห่อให้น้องวาจ่ะ” พลยอลดาตอบน้องชาย
“นั่นแหละ ผมจะเอาไปให้น้องวาของเจ้แหละ”
“ค่ะพ่อคุณ” พลอยลดาแบะปากใส่น้องชาย หล่อนหมั่นใส่ในความใส่ใจของตรีเพชรที่มีต่อนาวา แต่พี่สาวก็แอบดีใจที่น้องชาย
สุดที่รักของตัวเองเริ่มที่จะดูแลใครเป็นบ้างแล้ว “นั่นไงหลินมาพอดี เอากลับไปกินนะคะน้องวา ทานเยอะๆจะได้ตัวโตๆกับเขา
บ้าง”
ตรีเพชรหลุดขำก๊ากเมื่อพลอยลดายังมีความหวังให้เด็กแว่นของเขาตัวโตขึ้นกว่านี้ นาวาหรี่ตาใส่ตรีเพชรอย่างคาดโทษ ไอ้ตี๋ดูท่าจะอยากเจ็บตัว ไม่รู้หรือไงห้ามล้อสังขารกันน่ะ
“ขอบคุณครับพี่พลอย เกรงใจแย่เลย” นาวาพูด แต่มือก็รับของนั่นแหละเพราะมันอร่อยมากๆ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ คนกันเอง” พลอยลดายิ้มปริ่ม
“หลิว” ตรีเพชรเรียกสาวใช้ “เดี๋ยวไปเอากระเป๋าใบเล็กที่ตั้งบนเตียงใส่ไว้ในรถให้ฉันด้วยนะ” สาวใช้รับคำและเดินออกไป
“อาม่าครับ เจ้ครับ” ตรีเพชรบอกกับคุณย่าและพี่สาวของตัวเอง “เห็นที่ผมต้องพาหนูวาหรือน้องวาของทุกคนไปแล้วนะ ไว้คราว
หน้าผมจะลากมาค้างที่นี่”
“เดินทางดีๆนะลูก แล้วมาหาม่าอีกนะหนูวา” อาม่าพูดกับนาวา
“แล้วเจอกันค่ะ” พลอยลดายิ้ม
คราวนี้ตรีเพชรไม่ยักจะขับสปอร์ตเหมือนอย่างเคย RENGE ROVER สีแดงมันปลาบจอดรอพวกเขาอยู่แล้ว ตรีเพชรยังคงทำหน้าที่สุภาพบุรุษที่ดีคอยเปิดประตูรถให้นาวาเข้าไปนั่งเบาะหน้าทำหน้าที่ตุ๊กตาหน้ารถโดยที่เจ้าตัวไม่ทันรู้สึก ตรีเพชรขับรถออกมาพลางฮัมเพลงเบาๆคล้ายคนอารมณ์ดี
“อารมณ์ดีอะไรของนายนักหนา” นาวาออกจะหงุดหงิดเสียงนุ่มๆที่ออกจะสบายอกสบายใจนั่น ตรีเพชรไม่รู้เลยหรือไงตอนเข้าบ้านไปเขาตัวเกร็งแทบแย่ กลัวไปสะดุดอะไรแตกเข้า ไม่มีปัญญาชดใช้ค่าเสียหายหรอกนะของแต่งบ้านแต่ละชิ้นดูหรูหราและแพงระยับเสียขนาดนั้น
“ต้องอารมณ์ดีสิ อาม่ากับเจ้พูดมากซะขนาดไหน เพราะนายเลยนะวันนี้ที่บ้านถึงดูดีใจกันใหญ่”
“ยังไง?” นาวาไม่เข้าใจ
“ปกติเจ้พลอยไม่พูดมากขนาดนั้นหรอก วันนี้ขี้เกียจจะฟัง น้องวาอย่างนั้นน้องวาอย่างนี้ ยิ่งอาม่านะรายนั้นคงดีใจใหญ่เพราะไม่
ค่อยมีใครอยู่บ้านนักหรอก คนแก่ก็งี้แหละ คงจะแอบเหงา”
“ถ้ารู้แบบนี้ นายก็กลับบ้านให้บ่อยๆสิ”
“ปกติก็กลับ”
“แต่ไม่ตรงเวลา” นาวาตังสมมุติฐาน “หรือไม่ก็ไปค้างที่คอนโดซะมากกว่า คืนนึงหิ้วขึ้นไปกี่คนละ”
“หิ้วนายขึ้นไปแล้วเหมือนกัน” ตรีเพชรหันมายักคิ้วเจ้าเล่ห์ใส่ นาวาแยกเขี้ยวอย่างเหลืออด “ถ้าอาม่าจะจับให้เราเข้าเรือนหอก็
ย้ายไปอยู่คอนโดฉันสิ มีห้องอยู่แล้วนายว่าไง?”
“ไม่มีวัน” นาวากอดอก
“ทำไม?”
“ฉันไม่ไปนอนทับที่ใครหรอก” เหตุผลของเด็กน้อยทำเอาตรีเพชรเกือบหลุดยิ้มออกมา ถ้าเขาไม่เข้าข้างตัวเองจนมากไปนัก เขาว่าเจ้าแว่นก็น่าจะรู้สึกอะไรกับเขาบ้าง… สักนิดละมั้ง “อีกอย่างห้องนายถุงยางอื้อเลย ยังจำได้นะเว่ยไอ้ตี๋ เพราะงั้นเก็บไว้ให้อันนั้นเป็นสถานเริงรมณ์ส่วนตัวของนายไปเหอะ”
“ที่คอนโดก็ไม่เอา งั้นไปอยู่ด้วยกันที่บ้านดีไหม จะได้อยู่เป็นเพื่อนอาม่า บ้านจะได้ไม่เงียบ” ตรีเพชรหาทางออก
“บ้า ไปอยู่นั่นได้ไง ไม่ใช่บ้านฉันซะหน่อย”
“อ้าวไหนๆก็จะหมั้นเข้าบ้านฉันแล้วนิ”
“ใครจะหมั้นเข้าบ้านนาย” นาวาหันขวับ รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวชอบกล
“คนจีนเต้าถือ เจ้าสาวแต่งเข้าบ้านเจ้าบ่าวนะ” ตรีเพชรให้เหตุผล
“ฉันไม่มีเชื้อจีนเว่ย ไม่รู้ล่ะ นายต้องเข้าบ้านฉันต่างหาก” นาวาเถียงราวกับเด็กน้อยผู้ไม่ยอมความ
“ไม่ นายสิเข้าบ้านฉัน” คุณชายก็เด็กไม่แพ้กันนักหรอก
“นายเข้าบ้านฉัน”
“บ้านฉัน” ตรีเพชรว่า
“บ้านฉัน” นาวาเถียงกลับ
“เอ๊ะ ก็บอกว่าบ้านฉันไง”
“เรื่องอะไร บ้านฉันดิวะ”
“ทำไมต้องบ้านนายด้วย”
“ธรรมเนียมไทย เจ้าบ่าวต้องแต่งเข้าบ้านเจ้าสาว”
“แต่จีนว่าเจ้าสาวต้องแต่งเข้าบ้านเจ้าบ่าว” ตรีเพชรแจง
“ไม่เอานายเข้าบ้านฉัน”
“เพราะ?”
“นายเป็นเจ้าบ่าว” นาวายังคงเถียงไม่เลิก น้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง
“งั้นนายเป็นเจ้าสาวฉันงั้นสิ”
“ก็ใช่อะเด่”
“หึๆ” ตรีเพชรหลุดขำ ทั้งๆที่นาวาทำหน้าตาจริงจัง
“ขำอะไร”
“ขำคนที่จะเป็นเจ้าสาวฉันน่ะสิ ยังไม่หมั้นเลยจะเป็นเจ้าสาวซะแล้ว” ตรีเพชรแหย่
“อะ…” นาวาเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าว่าตัวเองมัวเถียงเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ได้ “ไอ้บ้า!”
“ยอมรับแล้วสินะว่าเป็นเจ้าสาวของฉัน”
“ไม่ใช่โว้ย!!” นาวาหน้าแดงไปถึงไหนต่อไหน แต่ยังคงพยายามข่มความอายที่ตัวเองเผลอหลุดคำพูดไม่คิดพวกนั้นออกมา
“พูดอยู่หยกๆ ฮ่าๆ หน้าแดงซะด้วย”
“ไม่คุยด้วยแล้วไอ้ตี่” นาวาหันหน้ามองไปนอกกระจก ก่อนจะเงียบไม่ยอมคุยกับคนที่หลุดขำเขาเป็นระยะๆ
Chapter 8: Completed