เวลา 17.20 นาฬิกา ผมกับไรเฟิลก็ออกจากวิลล่าเพื่อนที่จะไปถนนคนเดินตามที่บอกไว้ ขับรถกันไปเองเพราะคิดว่าน่าจะได้ซื้อของเยอะแน่ ๆ
รถในเมืองเชียงใหม่ค่อนข้างเยอะเลยครับเราเลยมาถึงช้ากว่าที่คิดไว้นิดหน่อย และที่สำคัญคือหาที่จอดรถยากมาก!!!!!
“ป่ะ”
“เดี๋ยว ไปยืนตรงนั้น” ผมชี้ไปที่ตรงกับหน้าประตูท่าแพพอดี ไรเฟิลไปยืนตามที่บอก ผมเลยยกกล้องขึ้นถ่ายรูปอีกฝ่ายไว้แล้วยิ้มเฉ่ง วันนี้มีพร้อพคือกล้องห้อยคอคนละตัว เย่
“คนเยอะอ่ะ” ผมบ่น
“จับไว้” คุณชายยื่นมือมาให้ ผมเลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนจะยกยิ้มแล้วยื่นมือไปประสานกับมือใหญ่
ผู้คนเยอะมากเลยครับ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เบียดกันสุด ๆ แทบจะไม่ต้องเดินเลยครับเพราะมันไหลไปเอง
“อ๊ะ!” ผมร้องเบา ๆ เมื่อแขนครูดกับอะไรสักอย่างกับคนที่เดินสวนกันเมื่อกี้
“เป็นอะไร?”
“อะไรครูดไม่รู้อ่ะ” ยื่นแขนให้ดู มีรอยแดงยาว ๆ แปะไว้เป็นหลักฐาน ไม่ได้เจ็บหรอกครับ ที่ร้องเพราะตกใจมากกว่า
“ไม่ระวังเลย” ยิ้มแหย่ให้ไปกับคำดุ ไรเฟิลสั่นหัวเบา ๆ แล้วดันให้ผมยืนข้างหลังเขาแล้วพาเดิน
อ่า.. มันเหมือนเขาเอาตัวใหญ่ ๆ ของตัวเองเป็นเกราะป้องกันคนให้ผมเลย. . .
มีแฟนดีคือลาภอันประเสริฐ...
“ไรฟ์!”
“ว่า?” ผมชี้ไปที่ร้านร้านหนึ่ง เป็นร้านขายของแฮนด์เมดอ่ะครับ แล้วผมก็ลากคนตัวสูงไปทันที
“อันนี้ตัวเท่าไหร่ครับ?” ผมชี้ไปตุ๊กตาตัวขนาดเท่าฝ่ามือ เป็นตุ๊กตาผ้าครับ เป็นรูปทรงสัตว์ตัวต่าง ๆ แล้วก็มีเป็นคนด้วย น่ารักมากเลย
“ตัวละ xxx จ้าา เลือกดูได้จ้า” ผมยิ้มให้แม่ค้าแล้วหันไปหาไรเฟิล
“ตัวไหนดีอ่ะ”
“ซื้อให้ใคร?”
“น้องตัวเล็ก” ผมตอบ ไรเฟิลพยักหน้าแล้วชี้ไปแมวกับลิง คือ... ถ้าเอาไปให้น้องตัวเล็กคงกระโดดข่วนหน้าแน่ ๆ อ่ะครับ แต่ก็.. เหมาะดีนะ ฮ่า ๆ ๆ สุดท้ายแล้วผมก็เลือกแมวกับเสือมาอย่างละตัว เมื่อจะจ่ายเงินไรเฟิลก็ดันหยิบตุ๊กตากระต่ายมาอีกตัว ผมเลยแยกเขี้ยวใส่ แต่คุณชายไหวไหล่ไม่สน
เราเดินไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ทั้งของกินของฝากของตัวเองเต็มมือเต็มกระเพาะไปหมดแล้วครับ นี่ก็เอาของไปเก็บไว้ที่รถแล้วรอบหนึ่ง กระเป๋าตังผมตอนนี้รู้สึกจะเบา ๆ แล้วล่ะครับ T_T
ผมแวะที่ร้านเครื่องประดับ พวกเครื่องประดับอย่างนี้เพลิงฟ้าน่าจะชอบ แล้วผมก็ตัดสินใจซื้อไปสองอย่างคือสร้อยข้อเท้ากับปิ่นปักผม อาจจะดูสาวไปนิดแต่เพลิงฟ้าได้ใช้แน่ ๆ ล่ะ เรียบร้อยไปอีกหนึ่งราย..
ของฝากจริง ๆ ก็ซื้อให้ครบทุกคนแล้วล่ะครับ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอมาเดินอย่างนี้อีกเห็นอะไรก็นึกถึงหน้าพวกนั้นขึ้นมาก็เลยซื้ออีก แฮ่
“เดินดูทางหน่อย”
“ดูอยู่”
“ดูยังไงจะชนกับราวเขาอยู่แล้ว”
“ก็คนมันเยอะอ่ะ!”
“อย่าโทษคนอื่น”
“อะไรวะ! เงียบไปเลย ฮือ!” ผมว่าแล้วจิ้มแตงโมงใส่ปากไรเฟิล ไม่รู้ยังไงถึงมาเถียงกันได้เนี่ย โว้ะ!
“อ๊ะ!” ยุติการทะเลาะแล้วลากแขนไรเฟิลไปที่ร้านเป้าหมายทันที มันเป็นร้านที่ขายของพวกเครื่องแต่งกายของชาวเขาอ่ะครับ ผมอยากได้มานานแล้ว โอยยยย ตื่นเต้น! แล้วไรเฟิลนี่อะไร ทำไมต้องมองผมแล้วส่ายหน้าด้วย เชอะ!
ผมเอื้อมมือไปหยิบหมวกมาลองใส่ “น่ารักมะ?”
ไรเฟิลส่ายหน้า “ไม่” แต่ก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูป ผมเลยยิ้มเฉ่งชูสองนิ้ว เต๊ะท่าให้คนตัวสูงถ่าย สนุกดี จากร้านชาวเขาผมได้หมวกมาหนึ่งใบกับกระเป๋าสะพายของปักลายอีกหนึ่งใบ
“ไรฟ์ ซื้อผ้าคลุมไหล่ฝากคุณแม่ไหม”
“ก็ดี” แล้วพี่ท่านก็เดินไปจับ ๆ ดู ๆ ผ้าแบบต่าง ๆ หลายสี หลายลายจนตัดสินใจเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว
-----
---
“บันนี่”
“หา? ว่า?”
“เมื่อยยัง กูเมื่อยแล้ว”
“อ่า ๆ กลับเลยไหม?”
“ก็ดี”
“อือ กลับกัน”
เดินซื้อของตั้งนานไม่เหนื่อยแต่ทำไมพอจะเดินกลับไปที่รถแล้วมันเหนื่อยแบบนี้ล่ะ... งื่อ
“อุ๊ย เจอกันอีกแล้วนะคะ” ผมกระพริบตาปริบ ๆ ใส่ผู้หญิงสองคนที่เข้ามาทักระหว่างที่ยืนรอให้รถผ่านไปเพื่อที่จะข้ามถนน. . .
ใครวะ
“อ่า..”
“จำดรีมกับแพรวไม่ได้หรอคะ ที่เจอกันที่สนามบินแล้วก็ที่โรงแรมไง”
“เอ่อ.. อ่อ จำได้ครับ” ผมยิ้มแห้ง แอบส่งสายตาให้ไรเฟิลเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่คุณชายแค่มองหน้าผมแล้วยิ้มมุมปาก นี่แกล้งกูใช่ม้ายยยยย แก้แค้นที่พาเดินตลาดตั้งแต่หกโมงเย็นจนสามทุ่มหรอที่รัก!
“จะกลับแล้วหรอคะ” ผู้หญิงอีกคนพูด ผมถามพยักหน้าช้า ๆ “กลับยังไงอ่า แพรวกับดรีมก็จะกลับเหมือนกัน” ผมยิ้มรับ พลางเดินข้ามถนน
“ไหน ๆ ก็พักที่เดียวขอเราสองคนกลับด้วยได้ไหมคะ” โอ้โห.. ถึงกับนิ่งค้างไปเลย จะทำไงดีล่ะ ผมกับไรเฟิลหันมองหน้ากัน แล้วก็มองสองสามที่ยืนมองตาปริบ ๆ ไม่ต้องทำตาแป๋วก็ได้มั้ง..
“ไรเฟิล”
“...........” ไรเฟิลเงียบ ไม่ตอบ ผมกัดปากอย่างคิดหนัก ถ้าบอกว่าไม่มันก็ยังไงล่ะครับ ถ้าบอกได้มันก็ขัดกับความรู้สึกอ่ะ ทำไมผมต้องเกิดมาเป็นคนใจดีด้วยเนี่ยTwT(โดนโบก)
“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ”
“อ่า.. ไปด้วยกันก็ได้ครับ..”
“หึ” ไรเฟิลแค่นเสียงแล้วเดินน้ำออกไป ผมเม้มปากแล้วยิ้มแห้งให้กับสองสาว พอมาถึงรถคุณชายก็เปิดกระโปรงด้านหลังแล้วยกของไปวาง ไม่รอผมเลยอ่ะ!
“ทั้งสองคน.. ชื่ออะไรหรอคะ?” อ้าว ไม่รู้จักแต่ยังขึ้นรถมาด้วยนี่มันคืออะไร ไม่กลัวกันหรอครับ!
“ควอทซ์ครับ”
“.........”
“ส่วนนี่ ไรเฟิล”
“แพรวค่ะ”
“ดรีมค่ะ”
“ครับ” ผมแอบพรูลมหายใจ
“บันนี่” คุณชายเพิ่งจะเปิดปากตั้งแต่ขึ้นรถ ต้องกระตือรือร้นกันหน่อย
“หือ?”
“กี่โมงแล้ว?”
“สามสี่(สามทุ่มสี่สิบ)”
“เวร!”
“มีอะไรอ่ะ?”
“เปล่า” ว่างั้นก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา กดอะไรยุกยิกแล้วยกขึ้นแนบหู
“สวัสดี ... รังสิมันต์ ... รังสิมันต์ ศิริวัฒนามงคล ... ใช่ ... ยกเลิกโต๊ะที่จองไว้ ... อืม ครับ” วางสายแล้วโยนโทรศัพท์ใส่ช่องวางของ ผมได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ อะไรของเขา
“มีอะไรหรอ?”
“หึ” แล้วทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบ ผมขมุบขมิบปากกับตัวเองเป็นบ้าอยู่คนเดียว อารมณ์เสียอะไรก็ไม่รู้ ฮึ่ย!
-----------
ไรเฟิลจอดรถที่หน้าโรงแรมให้สองสาวลงและไม่มีการลงไปช่วยขนอะไรทั้งสิ้น ก็นะ.. ผมก็ไม่มีอารมณ์จะช่วยหรอก ส่งสองสาวแล้วเราก็กลับวิลล่า
ผมมองข้าวของที่วางอยู่เกลื่อนพื้นอย่างปลงตก พอเอามาวางรวมกันแบบนี้แล้วมันเยอะมาก!!!!! กระเป๋าจะพอหรือเปล่า แล้วน้ำหนักจะได้ไหม โอ๊ยยยย เครียด!
สุดท้ายก็ยัดของทุกอย่างใส่กระเป๋าได้หมด เสียพื้นที่ไปหนึ่งใบเต็ม ๆ โดยการที่ผมย้ายเสื้อผ้าของผมไปใส่รวมกับกระเป๋าไรเฟิลจนหมด ที่ต้องรีบจัดไว้เพราะพรุ่งนี้ก็กลับกรุงเทพแล้วครับ Go back to real life!
เหนื่อยชะมัด ปวดขามากเลย ไปอาบน้ำหน่อยดีกว่า ว่าแต่ไรเฟิลอยู่ไหนเนี่ย!
“ไรเฟิล!!” ผมตะโกนเรียก ได้ยินเสียงน้ำแว่ว ๆ มาเข้าหู อยู่ในห้องน้ำสินะ แต่พอเข้าไปในห้องน้ำกลับไปเจอ หรือจะอยู่ด้านนอก
“ทำอะไรอ่ะ” ผมร้องถามคนที่ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ที่อ่างจากุซซี่ แล้วในอ่างก็มีน้ำเต็มแล้วด้วย..
ไรเฟิลหันมายิ้มมุมปาก “แช่น้ำไหม”
“เอ่อ..”
“มานี่” ผมเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างระแวงหน่อย ๆ ก็ทั้งสีหน้าและแววตามันวิบวับมากเลยนี่! ไม่น่าไว้ใจสักนิดเลยครับ
ผมหรี่ตามอง “อะไร” ไรเฟิลยังคงยกยิ้มมุมปาก มือหนาคว้าข้อมือผมแล้วดึงเข้าไปใกล้ตัวก่อนจะดันผมให้นั่งบนขอบอ่าง
“ม มีอะไรวะ”
“แช่น้ำหน่อย” ผมกระพริบตาปริบ ๆ ยังคงมองมันอย่างไม่ไว้เจอ แต่ในระหว่างที่ผมล่องลอย(?)กับความคิดตัวเองอยู่นั้นไรเฟิลก็ถอดเสื้อผมออกไปอย่างง่ายดายโดยที่ยังไม่ทันป้องกันตัวเองเลยสักนิด!!!
“กางเกง จะถอดเองหรือถอดให้” เลิกคิ้วใส่ทำเสียงเข้ม หน้านิ่ง คิดว่าเท่หรือไง ไอ้ฝรั่งขี้เก๊ก!
ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วใช่ไหมครับ เออ ก็ได้! ถอดก็ถอด ชิ!
ผมปลดกระดุมกางเกงแล้วถอดออกตอนนี้เลยเหลือแค่ชั้นในขาสั้นปกปิดร่างกาย เลยกระโดดลงอ่างอาบน้ำหลบสายตาคมกริบสีฟ้าสวย แล้วทำไมผมต้องบ้าจี้ทำตามที่มันบอกด้วยเนี่ยยยย! น่าอายเป็นบ้า แล้วที่นี่มันด้านนอกด้วยอ่ะครับ ฮือ!
ออดดดดดด ผมหันมองหน้าไรเฟิล ใครมากดออดอะไรตอนนี้อ่ะ.. คุณชายไหวไหล่แล้วเดินออกไป ผมเลยนั่งแช่น้ำงง ๆ กลิ่นหอม ๆ กับฟองนุ่ม ๆ นี่มันทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก ๆ ไหนจะน้ำวนนี่อีก ฮี่
สักพักไรเฟิลก็กลับเขามาพร้อมกับของในมือ ผมกระพริบตาปริบ ๆ ไวน์ราคาแพงนั่นมัน..
“เอ่อ..”
“หึ” ไรเฟิลรินไวน์ใส่แก้วทั้งสองใบแล้วส่งมาให้ผม เขาเดินไปจุดเทียนหอมที่วางอยู่รอบ ๆ ก่อนจะปิดไฟลง แสงสว่างสีเหลืองนวลของเปลวไฟทำให้ผมรู้สึกแปลก อ่า.. ชักเขิน ๆ ขึ้นมาแฮะ
ไรเฟิลตามลงมาในอ่างด้วยร่างกายเปล่าเปลือย ทำเอาผมกลืนน้ำลายเอือก.. ใบหน้าหล่อและสันกรามคมเฉียบทำให้ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่ายิ่งมีแค่แสงไฟจากเปลวเทียนแล้วผมรู้สึกว่ามันดูอีโรติก...
“ขยับมานี่หน่อย” ผมสั่นหัว “อย่าดื้อดิ”
“ไม่เอา อยู่นี่ก็ใกล้แล้ว”
“ใกล้กว่านี้ไม่ได้หรือไง” ว่าแล้วก็ยกไวน์ขึ้นจิบ ชิลไปไหมพ่อ แต่พอเห็นสายตาดุ ๆ ที่ส่งมาก็เล่นเอาใจสั่น ไม่ต้องขู่ก็ได้ ยอมแล้วคร้าบบบบ
“จำเป็นต้องเกร็งขนาดนี้ไหม?”
“จิ๊” จิ๊ปากใส่แล้วหันหน้าหนี ผมแกว่งแก้วไวน์ในมือเบา ๆ แล้วยกขึ้นจิบ “นึกยังไงทำอะไรแบบนี้”
“พอใจ”
“ฮึ่ย! เอ้อ! นึกออกแล้ว ที่คุยโทรศัพท์บนรถนั่นเรื่องอะไรหรอ”
“จองโต๊ะดินเนอร์ไว้ แต่ผิดแพลนหมด เพราะไปวอล์คกิ้งสตรีทนั่นแหละ กลับไม่ทันเลยต้องยกเลิกไง”
“อ่า.. โอ๋ ๆ ไม่งอแงนะคนดี” ผมยื่นมือไปตบใต้คางไรเฟิลเบา ๆ แล้วยืดตัวขึ้นไปจูบแก้มของไรเฟิล แล้วก็ตีฟองเล่นแก้เขิน...
T////T
“เฮ้ย!” ผมร้องออกมาอีกครั้งเมื่ออยู่ ๆ ไรเฟิลก็กระชากผมขึ้นไปนั่งบนตัก และด้วยความตกใจทำให้ผมเผลอขยับมือจนไวน์หกราดตัวเอง ซ้ำมืออีกข้างยังปัดไปโดนแก้วของไรเฟิลที่วางอยู่บนขอบอ่างตกพื้นไปอีก. . .
ไรเฟิลคว้าแก้วเปล่าในมือผมออกไปจากนั้นเขาก็อาศัยช่วงที่ผมกำลังมึนเปลี่ยนให้ผมนั่งบนตักโดยหันหน้าเข้าหาเขา!!!
เร็วฉิบหาย!
“อือ!” ล แล้วจำเป็นต้องบีบก้นผมหรอ!!! “ไรเฟิล ไม่เล่นนะ”
“ใครบอกเล่น นี่เอาจริง” น้ำตามา. . .
ไรเฟิลโอบรอบเอวของควอทซ์แล้วดันเข้าหาตัวจนแผ่นอกทั้งคู่แนบกัน ก่อนที่ร่างสูงจะฝังใบหน้ากับซอกคอของกระต่ายตัวขาว
แทนที่จะห้ามแต่ทำไมถึงได้เอียงคอสมยอมอย่างนี้เล่า!!
“ร ไรเฟิล..”
“ถ้าไม่อยากโดนจนลุกไม่ขึ้นอย่าเรียกด้วยเสียงแบบนั้น”
ไรเฟิลเคลื่อนริมฝีปากไปที่หลังใบหูขาวก่อนจะค่อยๆ เลื่อนลงมาตามแนวลำคอ พร้อมทั้งใช้ฟันครูดและขบเม้มไปด้วย ริมฝีปากร้ายอ้าครอบบนเม็ดอกที่โผล่พ้นน้ำ กระต่ายน้อยสะดุ้งเฮือกจิกเล็บกับไหล่กว้างเพื่อระบายอารมณ์
“อะ.. อือ..”
มือใหญ่ซุกซนลูบไล้ตามแผ่นหลังบางไปจนถึงสะโพกกลมกลึง ไรเฟิลบีบเคล้นก้อนเนื้อนุ่มอย่างมันมือ ก่อนที่มือหนาจะค่อย ๆ ร่นชั้นในตัวน้อยที่ปดปิดกายขาวออก
“อื้อ!! อย่า อย่ากัดสิ!!”
ช้าเกินไปกับคำห้ามปรามเมื่อฟันคมขบลงบนเม็ดอกสีสวยเข้าแล้ว
เจ็บ.. แต่กลับรู้สึกดีจนไม่อยากใส่ใจความเจ็บนั้นเลย..
“อือ อ๊า ร ไรเฟิล ม ไม่เอานะ!”
ไม่ใช่ว่าจะเล่นตัวหรอกนะ ตอนนี้ผมก็มีอารมณ์แล้ว แต่นี่มันด้านนอกนะเว้ย! ถึงแม้จะดึกแล้วก็เถอะ มันน่าอายนี่นา!
“อื้อ!!”
นอกจากจะไม่ฟังคำขอแล้วยังมีหน้ามาจูบเขาอีก!! กระต่ายจอมดื้ออยากัดริมฝีปากบางนั่นแรง ๆ แต่พออ้าปากก็กลายเป็นเปิดทางให้ลิ้นร้อนสอดเข้ามาอย่างง่ายดาย!
ความรู้สึกวาบหวามทำเอาขนลุกซู่ แม้อุณหภูมิภายนอกจะค่อนข้างเย็น แต่ภายในร่างกายกลับร้อนรุ่มจนทรมาน..
จะ..ทนไม่ไหว..แล้วนะ..
“อือ อืม”
สุดท้ายก็ต้องยอมให้จนได้ ควอทซ์ตอบรับจูบไรเฟิลกลับไปอย่างดุเดือดเช่นกัน ริมฝีปากร้อนของทั้งคู่บดเบียดจนไร้ช่องว่าง เรียวลิ้นเกี่ยวพันอย่างไม่มีใครยอมใครจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบดังก้องในโสตประสาท
กระต่ายขาวกระตุกเฮือกเมื่อเรียวนิ้วยาวของไรเฟิลกรีดผ่านรอยแยกระหว่างก้อนเนื้อกลม ไรเฟิลขยับปลายนิ้วทักทายช่องทางคุ้นเคยก่อนจะค่อย ๆ สอดแทรกปลายนิ้วเข้าไป
ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ยังตอดรัดทุกทีสิน่า.. ยกยิ้มในใจอย่างพอใจกับปฏิกิริยาที่ได้รับ เมื่อคนตัวเล็กในอ้อมแขนดูเหมือนจะหายใจไม่ทันเขาถึงต้องผละจูบออกอย่างเสียดาย
แก้วนุ่มขึ้นสีแดงจัด ดวงตากลมโตฉ่ำวาวด้วยแรงอารมณ์ ปากอวบอิ่มสีสดเผยออ้าหอบอากาศเข้าปอด ก่อนจะเชิดหน้าครวญครางเมื่อไรเฟิลขยับเรียวนิ้วเข้าออกอย่างร้อนแรง
“อ๊ะ อื้อ!”
“อืม..” ไรเฟิลครางต่ำเมื่อช่องทางของภรรยาตัวน้อยตอดรัดนิ้วเขาเสียจนแทบขยับไม่ได้ อ่า.. อยากจะเปลี่ยนให้เป็นของเขาแล้วสิ.. เมื่อคิดอย่างนั้นก็ดึงนิ้วออกจนควอทซ์ผวาเฮือก จับมือบางของกระต่ายน้อยให้สัมผัสกับท่อนเนื้อร้อนที่ผงาดรอ
“ม ไม่..”
“ทำให้หน่อยสิ..” กระซิบบอกก่อนจะกดจูบลงบนขมับของคนตัวเล็ก ควอทซ์สั่นหน้าหวือปฏิเสธ
ที่บอกให้ทำให้ไม่ใช่ให้เขาใช้มือขยับ ๆ นะ! แต่เขาต้องกดสะโพกกลืนกินแท่งร้อนของมันต่างหากเล่า!!!
“ท ทำเองสิ อื้อ..!”
“หึหึ”
“ด เดี๋ยว! ป ไปที่เตียงสิ บอกว่าเดี๋ยวไง!!”
ฟาดเพี๊ยะลงบนอกแกร่งของคนขี้แกล้ง ไรเฟิลยกยิ้มก่อนจะช้อนตัวกระต่ายจอมดื้อขึ้นแนบอกแล้วพาไปที่เตียงตามคำเรียกร้อง วางร่างบางลงบนเตียงอย่างเบามือก่อนจะใช้ผ้าสะอาดเช็ดฟองสบู่ออกจากร่างกายของตัวเองและเจ้าบันนี่ แล้วเหวี่ยงผ้าทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
“อ๊ะ! อ๊า! อื้อ!” กายบางสั่นคลอนตามแรงกระแทกจากร่างสูง มือเล็กจิกดึงผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ระบายความเสียว แต่ความเสียวซ่านในความรู้สึกกลับไม่ได้น้อยลงไปเลยสักนิด! จะบ้าตายอยู่แล้วนะ ทำไมถึงได้ร้อนแรงขนาดนี้!!
“ร ไรเฟิล อ๊า!!” ใบหน้าหวานสะบัดไปมา ปากก็ร้องครางเรียกชื่อเขาเสียงหวาน ยิ่งเมื่อควอทซ์ขบริมฝีปากอย่างเสียวกระสัน มันยิ่งเร้าอารมณ์ให้เขาโหมกระแทกความเป็นชายเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง
“อือ จ จะไม่ไหว แฮ่ก แล้ว อ๊ะ!”
“อ่า.. ปล่อยออกมา อืม.. เลยคนดี”
“ฮือ อะ อะ อ๊า!!”
ควทอซ์หวีดร้องเมื่อร่างกายถึงจุดสูงสุด หยาดน้ำสีขุ่นเปรอะเลอะหน้าท้องแกร่งของไรเฟิลและของตัวเอง ร่างบางหอบหายใจถี่รัวจากความเหน็ดเหนื่อย ไรเฟิลเร่งขยับซอยสะโพกเร็ว ๆ รัว ๆ จนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้ออย่างหยาบโลน ก่อนจะปลดปล่อยน้ำคาวเข้าไปในกายบางทุกหยาดหยด..
“อ่า..”
กดจูบบนหน้าผากมนแผ่วเบาก่อนจะย้ายไปที่ริมฝีปาก คราวนี้ไม่ใช่จูบร้อนแรงอย่างก่อนหน้าที่ผ่านมา ไรเฟิลกดย้ำซ้ำ ๆ กับกลีบปากอิ่มเบา ๆ ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหวานภายในอย่างช้า ๆ
หัวใจของเจ้าชายน้ำแข็งอย่างไรเฟิล...มีเพียงควอทซ์เท่านั้นที่ได้ครอบครอง
เนื้อกระต่ายแสนหวานล้ำเลิศอย่างควอทซ์...ก็มีเพียงไรเฟิลเท่านั้นที่ได้ลิ้มลอง----------------------------------------
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด คิดถึงบันนี่กันไหม เอาตอนพิเศษมาให้แล้วค่าาาาาาาาาาา
มันก็ยังแปลก ๆ เหมือนเดิมและคนเขียนก็ยังตัดบทได้น่าตบเหมือนเดิม 555555555555
ชีวิตสองนางต้องมีอะไรมาป่วนตัลลอดดดดด (หัวเราะยังไงไม่ให้รู้ว่าสะใจ)
ขอบคุณนะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่เข้ามาอ่านกัน
ไว้เจอกันใหม่กับสเปเชียลนะครับบบบบ อีกเมื่อไหร่ไม่รู้ ฮือ จะพยายามแต่งมาให้อ่านกันนะฮะ (ถ้ายังมีคนอ่านอยู่อ่ะนะ แต่ถึงไม่มีก็จะลง แบร่)
บ๊ายบาย จุ้บ ๆ รักทุกคนเยยน้าาาาาา