พิมพ์หน้านี้ - [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: HEARTBREAKER ที่ 10-10-2014 22:37:07

หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 10-10-2014 22:37:07
อ้างถึง
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม





-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

:impress2: :impress2: :impress2:

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------






“มึงชอบกูเหรอ. . .”
.
.
.
.
“. . . คิดว่าไง”

...*...*...*....*....*....*....*



START : 10:10:2014
FINISH : 17:05:2015




นิยายเรื่องอื่น ๆ
「WAIT FOR LOVE」รักแล้วรอหน่อย ♡ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46605.msg3043087#msg3043087) completed
【d o u b l e M】 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48349.0) completed
「มนุษย์แฟนเด็ก」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54090.msg3390015#msg3390015)completed
• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55984.0)  completed
Blind Item _สื่อรักสตาแกรม_ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66205.msg3789662#msg3789662) Now Showing
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 1 (12.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 12-10-2014 21:33:19
EPISODE 1


  ผมชื่อควอทซ์. . .
  
  นักศึกษาปี 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในฐานะเด็กทุน. . .
  
  “ทำไรวะไนต์” ไนต์  เพื่อนสนิทและเพื่อนคนแรกของผม
  
  รู้จักกับมันเพราะวันแรกที่เข้ามาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ผมดันโชว์โง่หลงทางแล้วไปเดินชนมันเข้า ทีแรกก็หมั่นไส้นะครับ คนเหี้ยไรหล่อฉิบหาย จากนั้นก็รู้ว่ามันเรียนคณะเดียวกันแถมยังสาขาเดียวกันอีก สนิทกันซะงั้น
  
  “เคลียร์กับเด็กอยู่” มันตอบทั้งที่ไม่เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยซ้ำ  ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูพี่ท่านหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับว่าโดนหักคะแนนจิตพิศมัย(?)  อะไรจะเครียดขนาดนั้นวะ
  
  “ปัญหาเยอะก็เลิกดิ โอ้ย!” ผมบอกด้วยความหวังดี(?) แต่มันกลับตอบแทนความหวังดีของผมด้วยการเอามือใหญ่ ๆ เท่าใบลานมาฟาดหัวผมซะงั้น ไอ้ฟาย!!!
  
  “ห่า คนนี้กูยังไม่ได้เลย”
  
  “กระจอกสัส!” ก็ว่าทำไมถึงมานั่งทำ  หน้าเครียดอยู่แบบนี้ โด่เอ้ยยยยย
  
  “ไม่มีอย่างกูก็หุบปากไปซะ” ไอ้หมาไนต์เงยหน้ามายักคิ้วกวนตีนให้แล้วงมกับโทรศัพท์ต่อ มึงไม่โทรไปวะ
  
  “กล้าว่ากูเหรอ~”
  
  “มึงอย่ามาทำ  เสียงอ่อนเสียงหวานได้ไหม ขนลุกไอ้สัส”  ผมเบะปากใส่หมาไนต์
  
  “ไอ้.....”  จำใจต้องเงียบเพราะอาจารย์ที่เดินเข้ามาในห้อง  เรียนเสร็จพวกผมก็อพยพตัวเองไปที่โรงอาหารเพื่อหาอะไรลงท้องกันก่อน ไม่อยากออกไปกินข้างนอกครับ

  1รถติด
  2เสียเวลา
  2ผมต้องประหยัด
  .
  .
  10ผมต้องประหยัด



  “รอไรวะ ไปซื้อข้าวดิ้” ผมบอกมัน ไนต์มองผมแล้วขมวดคิ้ว ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบ ๆ
  
  “รอพวกไอ้ฟอร์สก่อน” มันว่างั้น โอเค ก็ได้ ผมก็ไม่ได้หิวอะไรมากมาย
  
  
  ฟอร์สคือกลุ่มเพื่อนของไนต์ครับ กลุ่มพวกมันมี 4 คน อันประกอบไปด้วย ไนต์ ฟอร์ส กาย และ ไรเฟิล คนสุดท้าย หนุ่มหล่อดีกรีเดือนมหา’ลัย พวกนี้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมต้นจนตอนนี้ เลือกเข้ามหาวิทยาลัยเอกชนเพราะจะได้เรียนที่เดียวกัน แต่ก็เรียนคนละคณะกันอยู่ดี ไนต์เรียนวิศวะ  ฟอร์สเรียนสถาปัตย์ กายเรียนนิติ ไรเฟิลเรียนเศรษฐศาสตร์
  
  เพราะผมเป็นเพื่อนกับไนต์เลยได้รู้จักอีกทั้งสามคนด้วย  ระยะเวลาที่รู้จักกันมาก็เกือบสามปี ไม่สนิทก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วล่ะครับ



  
.............................................................
  
  
  
  
  
  “ช้ามากไอ้เหี้ย!” พอพวกนั้นมาปุ๊บ ไนต์ก็บ่นปั๊บ
  
  “ทำไมมึงไม่ไปซื้อก่อนล่ะไอ้สัส” ฟอร์สว่า นั่นสิ ผมเห็นด้วยนะ เลยพยักหน้าสมทบไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือโดนหมาไนต์โบก สัส เห็นกูเป็นแท็กซี่หรือไง!
  
  “ถ้ากูไปใครจะเฝ้าโต๊ะหาาาาา”
  
  “กูไง” ผมชี้นิ้วเข้ามาตัวเอง
  
  “ถุ้ยยยย ปล่อยมึงไว้คนเดียวพ่อมึงก็แดกหัวกูสิ” ผมกระพริบตาปริบ ๆ มองมันพร้อมกับเอามือลูบหัวตัวเองไปด้วย เกี่ยวไรวะ พ่อกูไม่ได้มาเรียนด้วยสักหน่อย
  
  “ไปซื้อข้าวสิ หิวไม่ใช้ไง มึงจะพูดมากเพื่อ” เป็นไงล่ะ เจอคุณชายไรเฟิลเข้าไป ผมแลบลิ้นใส่ไนต์ที่ชี้หน้าคาดโทษผม
  
  “จะกินไร” ผมนึกสักพักก่อนจะตอบคุณชาย
  
  “ข้าวผัดกุ้ง” ไรเฟิลพยักหน้ารับแล้วเดินไปซื้อข้าวกับไนต์และฟอร์ส ส่วนผมกับกายอยู่เฝ้าโต๊ะ
  
  “น้องควอทซ์กูได้เกมมาใหม่ สนเปล่า” ผมบึนปากใส่กายที่เรียกผมว่า’น้องควอทซ์’ แต่ก็ยื่นหน้าเข้าไปดูเกมที่เจ้าตัวเขาบอกมา
  
  “บอกว่าไม่ให้เรียกน้องควอทซ์ไงวะ”
  
  “น่ารักดีออก” ว่าพร้อมกับยื่นมือมายีหัวผม
  
  
  
  
.............................................................

  
  
  
  
  หลังจากกินข้าวเสร็จพวกผมทั้งห้าคนก็ย้ายไปที่โต๊ะประจำในสวน ที่นี่สงบดีครับ ไม่ค่อยมีคนมาด้วย พวกผมเลยยึดไปโดยปริยาย ฮา...  ไม่ไกลจากโต๊ะม้าหินอ่อนมีสระบัวอยู่ด้วย ผมชอบนั่งมองผิวน้ำที่กำลังเคลื่อนไหว มันเพลินดี และแล้วจินตนาการของผมก็ถูกขัดด้วยตัวมาร - -
  
  ผั้วะ!!
  
  “เหม่อไรสัส”
  
  “ไอ้หมาไนต์!!!  วันนี้มึงตบหัวกูหลายรอบแล้วนะ!!”
  
  “อะไร ๆ กูเรียกแล้วไม่หันเอง”
  
  “*วย” ผมว่า หมาไนต์ชี้หน้าผมเหมือนอยากเข้ามาซัดอีกรอบ แต่โดนสายตาของไรเฟิลเบรกไว้ก่อน จุดนี้ต้องขอบคุณคุณชายเขาแล้วล่ะครับ แต่สงบได้ไม่นานก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น. . .
  
  
  “ว้ากกกกกกกกกกกก!!!!!” ผมร้องลั่นเมื่อหันไปมองกายที่สะกิดผม แต่สิ่งที่ผมเห็นคือหนอนแก้วสีเขียวตัวอ้วน
  
  “ฮ่าๆ” ไอ้พวกเหี้ย แกล้งกูแล้วยังมีหน้ามาหัวเราะอีก
  
  “พวกมึงแม่ง!!!” ผมปัดมือกายออก ทำให้ไอ้หนอนตัวอ้วนนั้นตกลงบนพื้นแต่กลับถูกจับขึ้นมาอีกครั้งด้วยฟอร์ส ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยย จะจับก็จับไป อย่าเอามาใกล้กู!!!!
  
  “ฟอร์สไม่เอา”
  
  “ดูดิควอทซ์มันน่ารักมากเลยนะมึง” น่ารักก็เก็บไว้เล่นคนเดียวสิไอ้ควาย!!!  แล้วหมาไนต์มึงจับกูทำไม!!!!
  
  “ไอ้ไนต์ปล่อยกู!!!!!” ไม่ปล่อยแถมยังหัวเราะเยาะผมอีก ไอ้เพื่อนชั่ว! แล้วนั่น เดี๋ยว ๆ ไอ้กาย มึงไปจับอีกตัวมาเพื่อ!!!
  
  “ไม่มีอะไรสนุกไปกว่าการแกล้งมึงแล้วน้องควอทซ์” หมากายว่าพร้อมกับหัวเราะโรคจิตพลางย่างสามขุมเข้ามาใกล้ผม
  
  “ควอทซ์มึงดูแม่งไต่มือกูเลยโคตรน่ารัก”  มันยื่นหนอนตัวอ้วนมาตรงหน้าผม แม่ง!!! รู้ว่าผมเกลียดยังจะเอามาใกล้ คือพวกคุณยังไม่รู้ไง ผมมีความหลังกับหนอนครับ เลยพาลกลัวไปด้วย
  
  “ม ไม่เอา ไรฟ์ช่วยด้ว~ย”
  
  “เลิกแกล้งมันได้แล้ว” เสียงทุ้ม ๆ ของไรเฟิลห้ามพวกเวรทั้งสาม แต่พวกมันฟังไหม....
  
  “โธ่ ไม่เล่นก็ได้วะ”
  
  “ไอ้เหี้ยฟอร์ส!!!!!!!!!!” แม่งโยนไอ้เขียวใส่ผมอ่ะ !!!  ไอ้หมาสามตัวหัวเราะจนตัวงอ
  
  ผมเบ้ปากยืนนิ่ง หนอนแก้วตัวอ้วนเกาะอยู่ที่เสื้อของผม
  
  “งืออออออออ เอามันออกไป”
  
  “โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะน้องควอทซ์ของพี่ไนต์”
  
  “กูบอกพวกมึงว่าไงห้ะ!” ไรเฟิลว่าเสียงเย็น แล้วยื่นมือมาจับหนอนอ้วนออกให้ แล้วโยนไปทางอื่น ผมทรุดนั่งลงกับพื้นหญ้าแบบไม่กลัวเปื้อน
  
  “หึหึ” เบ้ปาก ไรเฟิลยื่นมือมาขยี้หัวผมเบา ๆ  “พวกมึงนี่แม่ง รู้ว่ามันกลัวก็ยังแกล้งไม่เลิก”
  
  “ขอโทษครับคุณพ่อ โอ้ย!!”  หมาไนต์พูดมากโดนไรเฟิลเตะไปหนึ่งฉาด สมน้ำ  หน้า!




.............................................................




  หลังเลิกเรียนผมมาทำงานที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่ไกลไม่ใกล้จากหอโดนมีคุณชายรังสิมันต์มาส่ง. . .  ผมมาทำงานที่นี่ทุกวันจันทร์-ศุกร์ครับ หกโมงเย็นถึงสามทุ่ม แต่ถ้าวันไหนมาสายก็จะโทรบอกเจ๊ทิชา(จริง ๆ เจ๊ทิชาชื่อทัศครับ ทัศพงษ์(แมนสัสๆ) แต่เจ๊แกบอกต้องเปลี่ยนชื่อจะได้เข้ากับใบหน้าและนิสัยอันเรียบร้อยดังผ้ายับ ๆ ยัดใส่ในกล่อง เอ่อ...) ก่อน เจ๊ทิชาเป็นเจ้าของร้านที่ผมทำงานอยู่ เจ๊แกเป็นสาวประเภทสองครับ ผมมาทำงานที่ร้านเจ๊ทิชาตอนปีสอง แต่ก่อนมีไนต์มาทำเป็นเพื่อน แต่มันขี้เกียจไปก่อนเลยเลิกไป แน่สิครับ รวยระดับมันไม่เห็นต้องมาทำในซุปเปอร์ฯแบบนี้เลย
  
  แล้วทำไมผมต้องทำ  น่ะเหรอครับ ขอไม่บอกก็แล้วกันเนอะ
  
  “กลับไปก่อนก็ได้ ไม่ต้องรอหรอก”
  
  “รอได้”
  
  “นานนะ ร้อนด้วย” ผมมองไรเฟิลที่ยืนกอดอกหน้าอยู่ตรงหน้า ไรผมเปียกชื้นเพราะอากาศร้อน ไล่ให้กลับบ้านก็ไม่กลับ คนอะไรดื้อชะมัดเลย!
  
  “จะรอ” ผมบึนปากใส่คนตัวสูง เลยโดนผลักหัวไปหนึ่งที
  
  “ฮั่นแหนะ~ รอเจ๊ทิชาเหรอ”
  
  “เหอะ”
  
  “กลับ....”
  
  “ว้ายยยยยยยย สุดหล่อของเจ๊” เสียงแหลม ๆ ของเจ๊ทิชาดังเข้ามากระทบโสตประสาทพร้อมกับร่างอันบึกบึนสมชายชาตรี วิ่ง 4x100 เข้ามาหาไรเฟิล ส่วนคนที่ถูกรุกรานได้แต่ทำหน้าแหยง ไม่ได้สะบัดออกให้เสียมารยาท ยังไงเจ๊ทิชาก็อายุมากกว่า แถมยังเป็นเจ้านายของผมด้วย
  
  “สวัสดีครับ” ผมกับไรเฟิลพูดขั้นพร้อมกัน เจ๊ทิชารับไหว้พร้อมกับยิ้มหวานเยิ้มให้ไรเฟิล คุณชายค่อย ๆ ปลดมือของเจ๊ทิชาออกแล้วมายืนข้างผมแทน เจ๊แกทำหน้าไม่พอใจนิดหน่อย แต่ก็แค่เล่น ๆ เท่านั้น
  
  “อะไรกันสุดหล่อ รังเกียจคนสวยอย่างเจ๊หรือไง” เจ๊แกจีบปากจีบคอว่า น้ำ  เสียงประชดไม่จริงจัง ไรเฟิลไม่ได้ตอบ แต่กลับถามคำถามที่ทำ  ให้ผมค้อนขวับไปวงใหญ่
  
  “เมื่อไหร่จะไล่ไอ้เตี้ยนี่ออกล่ะครับ”
  
  “ต๊ายยยย ถามอะไรอย่างนั้น ถ้าไล่น้องควอทซ์ออกเจ๊ก็อดเต๊าะสุดหล่อสิคะ คิคิ”
  
  “อ้าว ทำไมเจ๊พูดงี้ล่ะครับ” ผมตีหน้าเศร้า
  
  “แหม่ มาทำหน้าเศร้า ไป ๆ ไปทำงานได้แล้ว เดียวก็ไล่ออกจริง ๆ เสียเลย”
  
  
  
  
.............................................................





  หลังจากเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อโปโลสีน้ำเงินปักสัญลักษณ์ของร้านที่อกด้านขวา  ในระหว่างที่กำลังจัดของเข้าชั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นไรเฟิลกับเจ๊ทิชาคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่งของร้าน ใบหน้านิ่งคิ้วขมวดนั้นทำ  ให้ผมสงสัย คุยเรื่องอะไรกับ ทำ  ไมคุณชายถึงได้ทำ  หน้าแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่เจ๊ทิชาก็ยิ้มแย้มอารมณ์ดี ไว้ค่อยถามก็แล้วกัน. . .


  
  “เงินทอน 42 บาทครับ  คุณลูกค้าครับ คุณลูกค้า!”
  
  “อ อะไรนะครับ”
  
  “เงินทอนครับ” ผมยื่นเงินไปตรงหน้าเขา ผู้ชายคนนั้นสะบัดหัวเบา ๆ แล้วยื่นมือมารับเงินจากผม
  
  “มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถาม ก็เขาดันจ้องหน้าผมตาไม่กระพริบเลยนี่ครับ
  
  “เอ่อ... ชื่ออะไรเหรอครับ”
  
  “ห้ะ?”
  
  “ชื่อ....”
  
  ปึก!
  
  เสียงบางอย่างกระทบกับเคานต์เตอร์ผม ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นไอ้ของที่ว่านั้นก็จะเลื่อนสายตาไปมองคนที่โยนมันลงมา ไรเฟิล!!!
  
  “พอใช่ไหม เก็บไว้ด้วยเลยนะ เดี๋ยวคืนนี้จะไปเอา” พูดพร้อมกับวางธนบัตรสีม่วงไว้บนเคานต์เตอร์ ถ้าผมมองไม่ผิดเหมือนคุณชายมันจะหันไปยิ้มให้ลูกค้าคนที่ถามชื่อผมด้วย ไม่ได้ยิ้มแบบเป็นมิตรนะครับ แต่เป็นยิ้มแบบแสยะยิ้มต่างหาก!
  
  แล้วผมจะไม่อะไรเลยถ้าของที่ว่ามันไม่ใช่ถุงยางอนามัย!!!! ไม่ใช่กล่องเดียวครับ แต่สามกล่อง!!!!!
  
  “โอ้ว...” ผมหันไปค้อนใส่พี่เจ๋ง(พี่เจ๋งก็เป็นพนักงานร้านเจ๊ทิชาเหมือนกันครับ) พอมองคุณลูกค้าคนนั้น เขาดูอึ้งมากแล้วก็เดินออกจากร้านไปเลย สัสเฟิล!!!
  
  
  
.............................................................


  
  
  “กลับไปเลย!”
  
  “เรื่องสิ” ผมกลอกตา มองไรเฟิลที่ยืนพิงผนังอยู่ ตอนนี้ผมกับไรเฟิลอยู่ที่ห้องพักด้านหลังครับ
  
  “จะเอาไง ให้กลับก็ไม่กลับ พออยู่ก็มาทำหน้าบึ่งแบบนี้”
  
  “เหอะ! ชอบหรือไง”
  
  “ชอบ? ชอบอะไร”
  
  “โดนจีบไง”
  
  “ไรเฟิล....”
  
  “เลิกทำไม่ได้หรอวะควอทซ์ โคตรไม่ชอบเลยแม่ง!”
  
  “วันนี้กลับไปก่อนเถอะ ถ้าไม่กลับห้องมึง ก็ไปที่ห้องกูก็ได้” ผมบอกพลางยื่นคีย์การ์ดให้มัน ก็บอกไม่แล้วว่าหอผมมันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากนี้เท่าไหร่
  
  “นะ.... กลับไปก่อน ถ้ามึงอยู่แล้วมาทำตาขวางใส่ลูกค้าแบบนั้น ถ้าเขาไม่มาซื้อของที่ร้านอีกล่ะ” ร่างสูงถอนหายใจ แต่ก็ยอมยื่นมือมารับคีย์การ์ดจากผมอยู่ดี แต่หน้าโคตรไม่เต็มใจ
  
  “เลิกงานแล้วโทรมา”
  
  “อื้อ” ผมพยักหน้าแล้วยิ้มให้มันไปทีหนึ่ง แล้วดันหลังคุณชายให้เดินออกไป
  
  
  ผมกลับออกมาทำงานที่หน้าร้านปกติพยายามไม่สนใจสายตาล้อเลียนและเสียงแซวจากพี่เจ๋งกับเจ๊ทิชา
  
  “ไอ้เจ๋งเจ๊ล่ะอยากมีคนมาหวงบ้างจริงจริ้ง”
  
  “ไปทำหน้าใหม่สิเจ๊”
  
  “ไอ้เจ๋ง!!!!!!” และสุดท้ายพี่เจ๋งก็โดนเจ๊ฟาดไปเน้น ๆ เหอ ๆ จุดนี้ขอสมน้ำหน้าครับ
  
  เดี๋ยวนะ...
  
  เมื่อกี้เจ๊พูดว่าหวงเหรอ...  ไรเฟิลหวงผมเหรอ ไม่ใช่มั้ง ก็แค่ห่วงตามประสาเพื่อนเท่านั้นแหละ
  
  .   
  .
  .
  .
  
  เหรอ. . . .

-------------------------------------------------

TBC.

ตอนที่หนึ่งมาแล้วววววววววววววว
เพิ่งแต่งครั้งแรก ช่วยแนะนำด้วยนะคะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ Intro
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 12-10-2014 21:38:25
เม้นแรก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 1 (12.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 12-10-2014 21:44:51
 :z13: มาจิ้มเรื่องใหม่ พระเอกไรเฟิลใช่ม้ายยยยยยยย หุๆ เนื้อหากระชับดีค่ะ การใช้คำก็ดีมากค่ะ อ่านง่าย ลื่นไหลไม่ติดขัด เป็นกำลังใจให้ค่าาาา  :by e2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 1 (12.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 12-10-2014 22:08:42
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 1 (12.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 13-10-2014 19:11:47
กรี๊ดดดดดดดดดด.  ชอบจังมาต่อนะะะะ :hao7:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 1 (12.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 14-10-2014 19:35:40
คิคิน้องจ๋า พี่ตามมาอ่าน คุคุ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 2 (14.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 14-10-2014 20:00:40
EPISODE 2



  “รอนานไหม” ผมถามไรเฟิลที่ยืนรออยู่

  “นานมาก ทำไมไม่โทรมา”

  “ก็กำลังจะโทรไง แต่ออกมาเจอแล้วก็เลยไม่ได้โทร”  ผมบอกไปตามความจริง กะว่าออกมาแล้วถึงจะโทรหาด้วยซ้ำ แต่พอมาถึงที่จอดรถประจำก็เจอคุณชายยืนพิงรถคันโปรดรออยู่ก่อนแล้ว นี่ก็คงจะออกมารอตั้งนานแล้วสิท่า
  
  
  
  ผมและไรเฟิลแวะกินข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ข้างทาง ผมไม่ได้ติดหรูกินอะไรง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ไรเฟิลก็ไม่ได้ค้าน ถ้าเขาค้านหรืออะไรขึ้นมาผมพาเปลี่ยนร้านก็ได้
  
  “ไม่เปลี่ยนร้านแน่นะ”
  
  “อืม” คำตอบกับสีหน้าโคตรสวนทาง ผมพยักหน้า ไม่ได้บังคับสักหน่อย ผมเองก็ถามความสมัครใจของมันหลายครั้งแล้วด้วย กินไม่ได้ก็อย่ามาโทษผมก็แล้วกัน
  
  ผมมองหน้าไรเฟิลอีกครั้ง ผมสีบลอนด์เปียกชื้น เม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาตามใบหน้า โคตรรู้สึกว่าพามันมาทรมานเลย ให้ตายเถอะ เหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าผมคิดอะไร มือหนามาขยี้หัวผมแล้วผลักเบา ๆ ก่อนจะกลับไปกินข้าวในจานของตัวเอง อืม. . . ขนาดเจ้าตัวเขายังไม่พูดอะไร ผมจะไปคิดแทนมันทำไม กินข้าวดีกว่า~~~
  




  ................................................................


  
  
  
  กลับถึงหอก็ปาไปสี่ทุ่มกว่า ผมเดินเข้าหอพักหลังจากไล่ไรเฟิลกลับไป. . . สวัสดีลุงยามหน้าหอ ก่อนจะแตะคีย์การ์ดเข้าไปด้านใน หอพักที่นี่ถือว่าโคตรดีเลยครับ สะดวก สบาย ทันสมัย บริการดี ฟรีไวฟาย อ้าว ไม่ใช่ ฮ่า ๆ
  
  ผมพักอยู่ชั้น 5 ห้องพักของผมอยู่ริมสุด ไม่ได้อยู่ใกล้ลิฟต์เล้ยยยยยยย ต้องเดินไกลอีก ตอนจองไม่ได้จองเองครับ คุณนิรุจ เลขาของป๊าเป็นคนจัดการให้ จริง ๆ ป๊าจะซื้อคอนโดฯ ให้ด้วยซ้ำ แต่ผมห้ามไว้ก่อน แล้วบอกว่าจะหาหอพักใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยอยู่ สำหรับผมคือหอพักธรรมดาไม่ต้องหรูหรามากมาย แต่จะบอกไปอย่างนั้นก็โดนห้ามอยู่ดี ผมก็เลยตามใจคุณท่านเลยครับ เอาที่สบายใจเลย. . .
  
  วันที่มาดูหอพักทีแรกผมจะไม่เอาด้วยซ้ำ  แต่ป๊าดันบอกว่าถ้าไม่อยู่ที่นี่ก็ไปอยู่คอนโดฯ ที่ป๊าจะซื้อให้ ผมก็เลยต้องอยู่ อีกอย่างคุณย่าของผมก็เห็นดีเห็นงามกับป๊า กลัวหลานชายสุดหล่อ สุดที่รักจะตกระกำลำบาก ผมก็เลย โอเค! อยู่ก็ได้  เพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่
  
  ตี๊ด. . .
  
  เสียงสัญญาณเซ็นเซอร์ดังยาว ๆ ก่อนที่ประตูจะปลดล็อก ผมผลักประตูเข้าไปในห้อง ห้องพักที่นี่แยกเป็นส่วน ๆ ออกชัดเจน ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น เปิดประตูเข้ามาสิ่งแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่นครับ มีโซฟา ทีวี ชั้นหนังสือ โต๊ะสำหรับทำงาน คอมพิวเตอร์(คอมพิวเตอร์นี่สำคัญมาก ผมเรียนคอม ถ้าไม่มีคอมผมก็ตายสิครับ!)
  
  ห้องนอนก็มีเตียงขนาดดับเบิ้ลเบดอยู่กลางห้อง ผนังฝั่งซ้ายมีหน้าอยู่ ปลายเตียงคือประตูที่เปิดออกไปที่ระเบียง(ประตูที่เปิดออกไปที่ระเบียงมีสองที่ครับ คือจากในห้องนอนและจากครัว)และตู้เสื้อผ้า ฝั่งขวาคือประตู ด้านข้างเตียงมีโต๊ะหัวเตียงวางอยู่ทั้งสองด้าน และมีโคมไฟตั้งอยู่ที่ฝั่งซ้าย (ครัวกับห้องน้ำก็ช่างมันเถอะครับ ผมเหนื่อยแล้วขออาบน้ำนอนก่อนก็แล้วกัน ฝันดีนะครับ  )
  
  

  

  ................................................................



  
  
  
  
  แสงแดดยามเช้าลอดเข้ามาจากหน้าต่าง สาดส่องกระทบร่างบางที่ยังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง คิ้วสวยขมวดเข้าหากันก่อนจะพลิกตัวหนีจากแสงที่รบกวนการนอน
  
  กริ้ง~ กริ้ง~
  
  แต่ก็ต้องถูกรบกวนอีกครั้งจากเสียงนาฬิกาปลุก มือเรียวควานหาต้นเสียง และกดปิดเสียงเตือน ดวงตาค่อย ๆ ลืมขึ้น เส้นผมยุ่งฟูถูกขยี้ซ้ำจนฟูหนักกว่าเดิม
  
  “หาวววววว” ผมขยับตัวไล่ความเมื่อย ก่อนจะลงจากเตียง คว้าผ้าขนหนูและเข้าห้องหน้าไปทั้งที่ยังหลับตา(สามารถจริง ๆ)  จัดการล้างหน้า แปรงฟัน และอาบน้ำ ตามลำดับ ก่อนจะออกมาแต่งตัวในห้องนอนและไปหาอะไรรองท้องตอนเช้า
  
  
  
  Rrrrrrrrrrr~
  
  
  “ฮาโหย๋ว” ผมรับโทรศัพท์ทั้งที่ปากยังมีขนมปังอยู่ เสียงที่พูดออกไปเลยไม่ชัด
  
  “อยู่หน้าหอแย้ว” ไนต์ดัดเสียงเล็กแหลม
  
  “ปัญญาอ่อน” ผมว่าไอ้ไนต์
  
  “อ้าว ก็มึงเล่นก่อน”
  
  “กูกินอยู่ เลยพูดไม่ชัดเหอะ”
  
  “แล้วก็ไม่บอก ลงมาได้ล่ะสัส นานแล้วเนี่ย”
  
  “ครับ ๆ” วางสายจากมันก็เก็บจานขนมปังกับแก้วนมไปล้าง ก่อนจะเช็ดดูปลั๊กไฟในห้อง แล้วลงไปหาหมาไนต์ที่หน้าหอ
  
  
  
  
  
  “ช้าสัส”
  
  “บ่นจังเยยยยยยยย” ผมว่าพลางดึงแก้มมัน
  
  “กูไม่ใช่ไอ้ไรเฟิลนะครับ ที่จะรอมึงได้ไม่มีบ่นน่ะ” ผมเลิกคิ้ว หมาไนต์ยิ้มเยาะ แล้วไล่ผมขึ้นรถ
  
  
  คุณอัศวินมันบอกมาว่า ที่วันนี้มารับผมเพราะไรเฟิลต้องพาแม่ไปทำธุระตอนเช้า เลยสั่งการมาที่ไนต์แทน หมาไนต์ก็มาบ่นว่าเพราะผมมันเลยไม่ได้ไปรับน้องฐาสาวอักษรปีหนึ่งที่มันกำลังควงอยู่
  
  แหม ทำมาบ่น พอกูจะมาเองก็ไม่ให้มา ฮึ่ย ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่ว่าง พวกมันหนึ่งในสี่คนก็ต้องมารับผมมาส่งผมอยู่ดี ทำยังกะผมเป็นเด็กสามขวบไปไหนมาไหนเองไม่เป็นงั้นแหละ ขัดใจชะมัด!
  
  
  

  ................................................................

  
  
  
  
  
  “เฮ้ยควอทซ์ มีคนฝากของไว้ให้มึงอ่ะ” ผมมองคนพูดซึ่งก็คือบะหมี่ บะหมี่เป็นเพื่อนที่เรียนสาขาเดียวกันกับผม มันเป็นผู้หญิงที่ควรลาออกจากการเป็นผู้หญิงมากถึงมากที่สุด
  
  “ใครวะ”
  
  “ไม่รู้โว้ย แต่หล่อสัส ๆ อ่ะมึง” มันว่าตาพราว มือก็ส่งกล่องอะไรสักอย่างให้ผม
  
  “อะไรวะ” แต่ก่อนผมจะได้เปิด ไนต์มันก็แย่งไปเปิดก่อนแล้ว มารยาทมึงไม่เคยเรียนเหรอไอ้เวร!
  
  “เหยด!! ขนมอิมพอร์ท!” เสียงตื่นเต้นของไนต์ทำให้ความอยากรู้ในตัวผมจุดประกาย โห่... ไรเนี่ย จากญี่ปุ่นทั้งนั้นเลย แต่ละอย่างแพงบรรลัยอ่ะครับ ใครเอามาให้ผมวะ
  
  “โอ้ยยยยย กูอิจฉาได้มั้ยเนี่ย!”
  
  “อิจฉากูเหรอ?” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง อิจฉากูทำไมวะ
  
  “เออสิค่ะอีสวย!  แหม่ มีคนส่งขนม ส่งจดหมายมาให้แทบทุกวัน” เดี๋ยว... ไอ้ขนมกับจดหมายกูเฉย ๆ นะ แต่ด่ากูอีสวยนี่คือส้นตีนอะไร
  
  “สวยพ่อมึงสิ! พอ เอามา ไม่ต้องแดกเลยมึง” ผมดึงคิทแคทชาเขียวออกจากมือบะหมี่ มันอ้าปากจะด่า แต่โดนไนต์ยัดมาร์ชเมลโล่เข้าปากไปสองชิ้นพร้อมกัน
  
  “ใครตาบอดเอามาให้ไอ้เตี้ยนี้วะ”
  
  “กูไม่รู้ว่ะ เขาฝากคนอื่นมาอีกที”
  
  “อ้าว แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามันหล่อ” ไนต์มันพูดพลางยัดขนมเข้าปาก ทั้งยังแจกจ่ายให้เพื่อนในคลาสไปอีก พอผมจะกินบ้างมันก็ปัดมือผมออกแล้วส่งสายตาดุ ๆ มาให้ อะไรวะ... ได้ข่าวว่าเขาฝากมาให้กูนะ ทำไมกูกินไม่ได้ ไอ้หมาไนต์ มึง!!!!!
  
  “เจ๊บาน่าแกเม้าส์มา ระดับเจ๊แก ถ้าคำว่าหล่อหลุดออกจากปาก ก็คงหล่อจริงแหละมึง แล้วไอ้ของพวกเนี่ย เจ๊มันก็เป็นคนเอามาให้กูเนี่ย” เจ๊บาน่าเป็นพี่สายรหัสปีสี่ของบะหมี่ ต้องบอกไหมครับว่าเจ๊บาน่าเป็นตุ๊ด ฮาาาาาาาา
  
  “เรื่องนี้ถึงหูพ่อมึงแน่น้องควอทซ์” ผมยักไหล่ ปล่อยมันรายงานกันไปเถอะ ทำอย่างกับผมเป็นลูกพวกมันไปได้ เหอะ!
  
  “เหอะ!”
  
  
  
  
  เสียงโหวกแหวกเป็นอันเงียบลงเมื่ออาจารย์ผู้สอนเดินเข้ามาในคลาส การเรียนการสอนดำเนินไปตามแบบแผน คนเรียนก็เรียนไป คนเล่นก็เล่นไป ส่วนคนหลับก็หลับไป อย่างเช่นหมาไนต์ที่ฟุบหลับกับโต๊ะเลคเชอร์ข้าง ๆ ผม ถ้าน้ำลายยืดกูจะถ่ายรูปประจานเลยไอ้สัส!
  
  “ใกล้จะสอบกลางภาคแล้ว พวกคุณก็ควรจะอ่านหนังสือกันบ้าง” เสียงของอาจารย์ดังขึ้นเป็นสัญญาณให้นักศึกษาส่งเสียงโอดครวญ
  
  “อาจารย์อย่าออกข้อสอบยากสิครับ”
  
  “ผมก็ออกไปตามที่สอน พวกคุณไม่อ่านหนังสือแล้วจะมาบ่นว่าทำไมไม่ได้ทำไม” โอ้โห จึ้กเลย ทะลุลงกลางใจ
  
  อาจารย์เดินออกไปแล้ว แต่พวกลิงทั้งหลายยังโอดครวญกันไม่เสร็จ ผมส่ายหัว ก็อย่างที่อาจารย์บอกนั่นแหละครับ ถ้าไม่อ่านหนังสือจะเอาอะไรไปสอบ
  
  ผมปลุกไนต์ ก่อนที่จะออกไปหาอะไรกินกัน วันนี้พวกมันบอกว่าจะออกไปกินข้าวเที่ยงด้านนอก ไม่รู้จะไปทำไม ร้อนก็ร้อน รถก็ติด เสียเวลากว่าจะได้กิน แต่ผมไม่ได้จ่ายก็ช่างเถอะครับ
  
  
  



  ................................................................








  เรามากันที่ร้านอาหารสบาย ๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล สิ่งของที่ใช้ดูคลาสสิก ไม่เรียบจนจืดชืดและไม่เยอะจนรกหูรกตา คนในร้านค่อนข้างเยอะ คงเพราะเป็นเวลาพักเที่ยง มีทั้งพนักงานออฟฟิศ คนทั่วไป และนักศึกษาอย่างพวกผม ไนต์บอกว่าฟอร์สจองโต๊ะไว้แล้ว ถือว่าเป็นโชคดี เพราะตอนนี้คนเยอะมาก แทบไม่มีโต๊ะว่างเลย
  
  
  “หมูทอดกระเทียม แกงจืดเต้าหู้ หมึกผัดพริกแกง ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง ปลากระพงนึ่งมะนาว ต้มยำทะเล ทอดมันกุ้ง กุ้งชุบแป้งทอด แล้วก็ข้าวสวยหนึ่งโถ อืม....  พวกมึงจะเอาอะไรอีกไหม” หลังจากที่ร่ายยาว กายคงเพิ่งนึกได้ว่าไม่ได้มาคนเดียว  - -*
  
  “มึงไม่ถามพวกกูตอนเขายกมาเสิร์ฟเลยล่ะไอ้สัส” ฟอร์สทำดี
  
  “เอาอะไรเพิ่มไหม” คุณชายไรเฟิลที่ทั้งวันเพิ่งจะได้เห็นหน้าหันมาถามผม
  
  “ไม่เอาแล้ว” แค่ที่กายสั่งมาก็ไม่รู้จะกินหมดหรือเปล่า แถมกายยังสั่งเมนูโปรดของผมอย่างกุ้งชุบแป้งทอดไปแล้วด้วย
  
  “เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ” ปิดท้ายด้วยหมาไนต์ที่พูดจบก็ส่งยิ้มหล่อจนพนักงานสาวเขินแก้มแดง
  
  “ร รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ?”
  
  “น้ำเปล่าแล้วกัน”
  
  “รอสักครู่นะคะ” ว่าจบเธอก็เดินจากไป. . .
  
  

  
  “ไรเฟิล!!!” อยู่ ๆ ไนต์ก็เรียกชื่อไรเฟิลซะเสียงดัง เล่นเอาโต๊ะใกล้ ๆ หันมามอง กายเองก็ยังสะดุ้ง
  
  “อะไร?” คุณชายเลิกคิ้วถามหล่อ ๆ ตามสไตล์
  
  “วันนี้มีคนส่งขนมมาให้ลูกสาวมึงด้วยนะเว้ย~” กูว่าแล้ว.... ผมแยกเขี้ยวใส่หมาไนต์ ไอ้ห่า ถ้าไม่ได้บอกสาวในสต็อคมึงจะกินกันเองเหรอ ห้ะ!
  
  “ใคร?” คราวนี้ทั้งไรเฟิล ฟอร์ส และกายที่ถามขึ้นพร้อมกัน ผมยกมือลูบหน้าตัวเอง หลบสายตาคมกริบที่มองมาด้วยการเบนสายตาไปมองนอกร้าน ยังดีที่ผมนั่งติดกระจก
  
  “ไม่รู้ว่ะ”
  
  “ควอทซ์” ผมหันไปมองหน้าคนเรียก ใบหน้าที่เรียบนิ่งอยู่แล้วบัดนี้กลับยิ่งเคร่งขรึมหนักยิ่งกว่าเดิม ผมไม่ชอบเลยจริง ๆ . . .
  
  “อะไร”
  
  “มันเป็นใคร” เห้อ ผมพ่นลมหายใจเบา ๆ อย่างอึดอัด
  
  “ไม่รู้ ไนต์ก็บอกไปแล้วนี่”
  
  “ไม่รู้แล้วมันจะเอาของมาให้มึงได้ไง”
  
  “กูต้องรู้จักทุกคนที่เอาของมาให้กูเหรอ”
  
  “ควอทซ์!!”
  
  “อยู่ใกล้แค่นี้จะเสียงดังเพื่อ” ไรเฟิลเงียบไป ใบหน้าหล่อยังคงแสดงออกว่าหงุดหงิดชัดเจน
  
  
  
  ทุกอย่างถูกขัดเมื่อพนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟ เพราะความน่ากินและความหิวทำให้ลืมทุกอย่าง พวกผมตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว นาน ๆ ทีจะมีสักคนโผล่หน้ามาพูดอะไร
  
  
  
  กินข้าวเสร็จก็ไปต่อที่ร้านเค้กใกล้ ๆ เรื่องกินขอให้บอกครับ ไม่มีพลาด สั่งขนมไปจนแทบไม่มีที่วาง ไอ้พวกสี่ตัวนี่เห็นหน้าเถื่อน ๆ พวกมันชอบกินขนมหวานมาก ๆ
  
  ผมเคยถามเล่น ๆ ระหว่างสาวสวยหุ่นดีเอ็กซ์แตกกับขนมเค้กหนึ่งชิ้นพวกมันจะเลือกอะไร แต่แม่งดันตอบมาพร้อมกันว่า เค้ก! ตอนนั้นผมถึงกับไปไม่เป็นอ่ะ ร้อยทั้งร้อยก็ต้องเลือกผู้หญิงเปล่าวะ แต่ไอ้สี่ตัวนี่แม่ง. . .
  
  “หมาไนต์ สตรอเบอร์รีกู!!!” กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ หันมาอีกทีหมาไนต์ก็งับสตรอเบอร์รีลูกโตของผมไปแล้ว ดู ดูมัน ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก ไม่เคยจะสำนึกอ่ะ!
  
  “เอ้า! กูก็เห็นมึงไม่กินสักที เลยช่วยกินไง” ผมเบ้ปาก
  
  “ก็กูเก็บไว้กินทีหลังไง”
  
  “ของที่ชอบมึงต้องรีบกินสิ ไม่งั้นก็โดนหมาคาบไปแดก แล้วมาโอดครวญทีหลังแบบนี้”  โอ้โห จึ้กเลย. . .
  
  “มึงว่ากูเป็นหมาเหรอไอ้กาย!!” แล้วพวกมันก็ตบตีกันไป. . .
  
  “ไรเฟิลเอาของมึงมาให้กูเลย” เมื่อจัดการไนต์ไม่ได้ ปล้นจากไรเฟิลก็ได้ว่ะ
  
  “กูให้แล้วจะได้อะไร ฮึ?”
  
  “ได้ให้ไง เมตตาคนหล่อหน้าตาดีแบบกูนี่กุศลแรงนะบอกเลย” ผมยืดอกภูมิใจแบบสุด ๆ
  
  “ถุ้ยยยยย”
  
  “เงียบไปเลยฟอร์ส” เจ้าตัวยักไหล่ ก้มหน้ากดโทรศัพท์
  
  “อ้อนสิ” ผมกระพริบตา มองหน้าคนพูดที่ยกยิ้มมุมปากเหมือนอยู่เหนือกว่า
  
  “ง่ะ” ผมเม้มปาก มองไอ้สามตัวที่เหลือที่ทำเหมือนจะไม่สนใจ เหมือนจะ! นะครับ ทำท่าเหมือนไม่สนแต่หูกระดิกเลยนะพวกมึง!
  
  “เราขอนะ นะ ให้เรานะ” ผมเอามือประสานกันไว้ระดับอก ช้อนตามองหน้าคุณชายด้วยสายตาที่คิดว่าไร้เดียงสาสุด ๆ คนตรงหน้ากอดอกมองผมนิ่ง ๆ และนั่นมันยิ่งทำให้ผมประหม่า!
  
  “จะไม่ให้เราจริงเหรอ เราน่ารักนะ ให้เรานะ”
  
  พวกคุณคิดว่ามันให้ผมไหมครับ ไม่เหรอ? เฮ้! ดูถูกผมนะ สุดหล่ออย่างผมลงทุนอ้อนไปขนาดนั้น ไม่ให้ก็บ้าแล้วววววววว สตรอเบอร์รีลูกโต ๆ หวานอมเปรี้ยว อ่า. . .
  
  “มึงสั่งเอาใหม่ไม่ง่ายเหรอวะน้องควอทซ์”
  
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  
  เออว่ะ!!!!!



--------------------------------
TBC.

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด มีคนอ่านนิยายเราด้วย TwT
ขอบคุณมาก ๆ เลย .กราบ
ตอนที่สองมาแล้วววว กาก ๆ แปลก ๆ ก็อย่าถือสาเลยเนอะ 555555
ฝากดูคำผิดให้ด้วยนะคะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 2 (14.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 14-10-2014 20:07:43
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยแอร๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกงื้ออออออออออออออออแงงงงงงงงงงงงงงงงง้
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 2 (14.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 14-10-2014 21:35:53
 :m20: สั่งใหม่ง่ายกว่าเย๊อะะะะะะะะะ  :m20: ตกหลุมพลางไรเฟิลซะแล้วหนูควอทซ์  :m20:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 2 (14.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 14-10-2014 22:45:43
กรี๊ดดดด มาต่อแล้ว  อ่านตอนแรกแล้วชอบค่ะ มันลื่นไหลดี น่าติดตาม เราคิดว่า มันต้องมีลับลมคมในอะไรเกี่ยวกับควอตซ์อีกแน่ๆอ่ะ 555 หรือคิดมากไป 55555555 มาต่ออีกน้า รออ่านอยู่ค่ะ สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้จ้าา :))
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 2 (14.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: I.R. ที่ 16-10-2014 00:03:09
กรี๊ดดดดดดดดด พี่เฟิลของน้องงงงงงง
มาเป็นของน้องเถอะ น้องยอมพี่ทุกอย่าง
พี่รู้มั้ย น้องแอบมองพี่อยู่ที่ปากท่อทุกวันเลยนะ
แอร๊ยยยยยยย รักพี่เฟิลนะ จุ้บๆ
อย่าดองนานนะคะ รักนะ คิคิ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 3 (17.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 17-10-2014 17:57:44
EPISODE 3





  “ครับ ...ควอทซ์ก็คิดถึงคุณย่า ...สอบกลางภาคเสร็จจะไปหานะครับ ....ครับ .... คุณย่าดูแลตัวเองด้วยนะครับ ....สวัสดีครับ”
  
  หลังจากวางสายจากคุณย่า ผมยืนเท้าแขนกับราวระเบียง ทอดสายตามองไปยังท้องถนนด้านล่าง คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ผมไม่ได้กลับบ้านเกือบจะสามอาทิตย์แล้วมั้ง คิดถึงบ้านอยู่เหมือนกัน ไม่สิ คิดถึงคนที่บ้านต่างหาก
  
  ผมอยู่กับคุณย่าตั้งแต่เด็กครับ เพราะป๊าต้องทำงาน ส่วนแม่เหรอ ฮะฮะ ไม่รู้สิครับ ตั้งแต่จำความได้ผมก็ไม่เคยเห็นหน้าของคนที่คลอดผมออกมาเลย ผมเคยถามป๊านะ ว่าเธอไปไหน แม่ผมเป็นใคร แต่ป๊าแค่บอกว่า ‘ป๊าจะดูแลควอทซ์เอง’ ป๊าบอกผมแค่นั้น ถึงแม้จะอยากรู้ แต่ผมก็ไม่เคยถามอีก ผมเคยคิดนะ ทำไมผมไม่มีแม่ แม่เกลียดผมเหรอ หรือว่าแม่จากไปแล้ว. . .
  
  ผมเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน ตั้งแต่อนุบาลเลยว่าได้ โดนแกล้งประจำ เพราะผมตัวเล็กและอีกอย่างผมไม่มีแม่. . . เด็กในห้องเรียนไม่มีคนเล่นกับผมเพียงเพราะผมไม่มีแม่
  
  “อย่าไปยุ่งกับควอทซ์นะ ควอทซ์ไม่มีแม่”
  
  “แม่เราบอกว่า ถ้าไม่มีแม่สั่งสอนจะเป็นเด็กไม่ดี”
  
  “ไอ้ลูกไม่มีแม่”
  
  “สมน้ำหน้า ไม่มีเพื่อน ไอ้ลูกไม่มีแม่”

  
  ช่วงนั้นผมร้องไห้แทบทุกวัน เวลากลับบ้านคุณย่าจะเข้ามากอดและถามตลอดว่าไปเรียนทำอะไรบ้าง สนุกหรือเปล่า แม้กระทั่งชั้นประถมศึกษา ผมก็ยังโดนแกล้งอยู่บ่อยครั้ง เมื่อถึงจุดความอดทน ผมเผลอชกหน้าหัวโจกของชั้นป.2 เข้า มุมปากปริแตก และมีเลือดสีแดงไหลออกมา มันร้องไห้. . .  คุณรู้ไหม วินาทีที่แรงชกของผมกระแทกหน้า โคตรสะใจเลย. . .
  
  ผมไม่ได้เรียนมัธยมที่ไทย ช่วงนั้นคุณย่าป่วยหนัก ต้องไปรักษาที่ต่างประเทศ ผมงอแงจะไปด้วยผมอยู่ที่ต่างประเทศคนเดียวตั้งแต่อายุ 16  เพราะคุณย่ากลับมารักษาตัวต่อที่เมืองไทย  ท่านชวนผมกลับด้วย แต่ตอนนั้นผมยังไม่อยากกลับ เลยขออยู่ต่อจนเรียนจบเกรด 12
  
  เพื่อนคนแรกของผมเธอชื่อวิคตอเรีย เธอเข้ามาทักผมก่อน วิคตอเรียคุยสนุกและเธอก็แนะนำน้องชายฝาแฝดของเธอให้ผมรู้จัก หมอนั่นชื่อวิคเตอร์ จากวันนั้นเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น เธอคอยให้ความช่วยเหลือผมอยู่เสมอ วันที่เธอรู้ว่าผมจะกลับเมืองไทย เจ้าหล่อนก็แทบจะเก็บกระเป๋าตามผมมาด้วยด้วยซ้ำ  เราสนิทกันแค่ในฐานะเพื่อนนะครับ ตอนนี้ยัยนั่นก็มีแฟนไปแล้ว เมื่อปลายปีวิคตอเรียกับแฟนเพิ่งจะมาหาผมเอง ผมยังติดต่อกับเธออยู่เรื่อย ๆ แม้ช่วงนี้จะหายไปบ้างเพราะเรีียนหนักและงานยุ่ง
  
  Rrrrrrrrrrrrr
  
  ผมมองโทรศัพท์ในมือที่กำลังแผดเสียงร้อง ที่หน้าจอโชว์หมายเลขสิบหลักที่ผมไม่คุ้น ผมมองจนสายถูกตัดไปก่อนที่มันจะแผดร้องขึ้นมาอีกครั้ง ผมเม้มปากอย่างชั่งใจแล้วสไลด์ปลายนิ้วเพื่อรับสาย
  
  “. . . .” ผมเงียบ และปลายสายเองก็เงียบเช่นกัน แต่ยังได้ยินเสียงกุกกักจากอีกฝ่าย
  
  “เอ่อ. . . ควอทซ์. . . หรือเปล่าครับ” หืม ผมเลิกคิ้ว ใครวะ
  
  “. . . .”
  
  “ได้ยินไหมครับ เฮ้”
  
  “คุณเป็นใคร” ผมถามกลับ ปลายสายเงียบ แต่ยังได้ยินเสียงแว่ว ๆ อยู่
  
  “แพคครับ” แพคไหนวะ
  
  “ผมไม่รู้จักคุณ แล้วคุณได้เบอร์ผมมาได้ยังไง” ผมถามกลับอีกครั้ง ขณะที่หมุนตัวเดินกลับเข้าไปภายในห้อง เพราะด้านนอกฝนเริ่มจะตกมาปรอย ๆ แล้ว
  
  “เอ่อ คือว่า ผม. . .”
  
  “แค่นี้นะครับ สวัสดี” ผมกดวางสายโดยที่ไม่ฟังคำทักท้วงจากอีกฝ่าย ในหัวครุ่นคิดไปว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร มีเบอร์ผมได้ยังไง ผมแน่ใจว่าไม่รู้จักเขาแน่ ๆ อีกอย่างผมไม่ได้แจกเบอร์พร่ำเพรื่อ ก็หวังว่าเขาจะไม่มาวุ่นวายกับผมนะ. . .
  
  
  
  
  ผมเดินลากเท้ามานั่งที่โต๊ะทำงาน หยิบชีทขึ้นมากวาดสายตาดูคร่าว ๆ เดี๋ยวผมต้องทำสรุปให้เสร็จก่อนสอบกลางภาคสักอาทิตย์ ต้องไปติวให้พวกไอ้ไนต์อีก ให้ตาย ทำไมผมต้องทำตัวเองให้เหนื่อยด้วยเนี่ย แต่ก็คิดเสียว่าได้ทบทวนก็แล้วกันครับ
  
  ครึน!! เปรี้ยง!!
  

  ผมสะดุ้ง กำปากกาไฮไลท์ในมือแน่น ตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาป ฟ้ายังส่งเสียงคำรามมาเรื่อย ๆ ยิ่งฟ้าร้องดังเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งไม่กล้าขยับ ครับ. . . ผมกลัว. . . เสียงฟ้าร้องราวกับกำลังเกรี้ยวกราด มันทำให้ผมกลัว ในคืนฝนตก
  
  ปัง ปัง ปัง!
  
  ผมสะดุ้งเฮือก มองไปที่ประตูด้วยสายตาสั่นไหว
  
  ครืน! ครืน!!

  เสียงฟ้าร้องและเสียงทุบประตูยังดังอยู่เรื่อย ๆ หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัว มือกำโทรศัพท์แน่นขึ้นไปอีก ผมสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นที่มือ แสงสว่างที่หน้าจอโชว์เบอร์ที่คุ้นเคย
  
  
  ✔ RIFLE ✔
  
  
  
  
  “ร ไรฟ์”
  
  “ควอทซ์เปิดประตู!” เสียงทุ้มติดจะร้อนรนนั่นทำให้ผมวิ่งไปที่ประตูและเปิดมันออกทันที
  
  ไรเฟิลดันผมเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลงทันที มือหนาเกลี่ยหยดน้ำตาออกจากใบหน้าของผมเบา ๆ ผมร้องไห้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน. . .
  
  “ม มาได้ยังไง” ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไร แต่จูงมือผมเข้าไปที่ห้องนอนแทน
  
  “ให้ลุงยามเปิดประตูให้” ผมพยักหน้ารับรู้ หอพักที่นี่จะปิดประตูตอนสี่ทุ่มครับ ถ้าใครกลับดึงเกินกว่านั้นก็ใช้คีย์การ์ดเปิดเข้ามาเอง ไรเฟิลมาที่หอพักผมบ่อยจนรู้จักตั้งแต่คุณป้าเจ้าของหอยันหมาหน้าตึก เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ลุงยามจะยอมเปิดประตูให้
  
  “ไปอาบน้ำเถอะ เปียกหมดเลย”
  
  “อยู่ได้?”
  
  “อืม” ผมบอกและพยักหน้ายืนยัน ไรเฟิลถอนหายใจก่อนจะเดินหายออกไปจากห้อง ผมเดินไปหาเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้ามาเตรียมไว้ให้คนตัวโต มันมาค้างที่หอผมบ่อย ๆ เลยมีเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอยู่ด้วย
  
  ไม่นานนักไรเฟิลก็ออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวพันอยู่รอบเอวสอบ เมื่อแต่งตัวเสร็จมือหนาก็ตบสวิตซ์ลง ภายในห้องมืดสนิท มีแสงสว่างจากฟ้าแลบเข้ามาทำให้ผมหลับตาปี๋แต่กลับรู้สึกถึงสัมผัสอุ่น ๆ ที่ผม มือหนาของไรเฟิลลูบหัวผมเบา ก่อนจะดันผมให้นอนลง
  
  “นอนเถอะ” เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู ผมหลับตาลง ตอนนี้พายุด้านนอกทำร้ายผมไม่ได้แล้ว เพราะคนตัวโตที่อยู่ข้าง คนที่มาหาผมกลางดึกเพราะห่วงว่าจะอยู่ไม่ได้ คนที่กำลังลูบศีรษะของผมเบา ๆ ราวกับกล่อมนอนและปลอบประโลมในเวลาเดียวกัน และการที่มีไรเฟิลอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้ มันทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย
  
  
  
  คนตัวเล็กที่หลับตาพริ้มก็เข้าสู่ห้วงนิทราพร้อมความหัวใจที่เต้นแรงโดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว. . .
  
  
  มือหนาเกลี่ยไรผมที่ปรกหน้าของร่างบางออกเบา ๆ ดวงตาคมทอดมองใบหน้าหวานยามหลับนิ่ง ๆ
  
  . . .ยิ่งมองยิ่งน่าหลงใหล. . .  ไล่ตั้งแต่ใบหน้าราวกับภาพวาด คิ้วที่เรียงสวยพาดเหนือดวงตากลมโตสีน้ำตาลที่ตอนนี้กำลังหลับพริ้ม แพรขนตายาวทาบทับลงบนผิวเนียนใส จมูกโด่งเชิดรั้นรับกับริมฝีปากสีสดดั่งคนสุขภาพดี อีกทั้งกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มตีกรอบล้อมรอบโครงหน้าอย่างลงตัว. . .
  
  ดวงตาคมสีน้ำทะเลเลื่อนมาหยุดที่ริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อย ๆ อีกครั้ง ลิ้นร้อนแลบเลียริมฝีปาก ค่อย ๆ สอดแขนรองใต้ศีรษะของร่างบาง คนตัวเล็กขยับตัวเล็กน้อยเพราะถูกรบกวน ลมหายใจอุ่นร้อนกระทบกับอกกว้าง ไรเฟิลหลับตาแน่นก่อนจะลืมขึ้นมาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเผลอจ้องริมฝีปากของเพื่อนตัวเล็กไปนานแค่ไหน และกว่าจะรู้ตัวริมฝีปากเย็น ๆ ก็จรดชิดกับริมฝีปากของคนที่หลับอยู่แล้ว ร่างสูงกดริมฝีปากให้แนบชิดยิ่งกว่าเดิม ลิ้นร้อนไล้เลียที่ริมฝีบางสีสดเบา ๆ ปลายลิ้นค่อย ๆ ชอนไชเข้าไปในโพรงปาก หวาน. . . ความรู้สึกที่บอกได้ตอนนี้คงไม่มีอะไรนอกจากรู้สึกดี. . .
  
  “อื้อ” เสียงครางหลุดออกมาจากคนตัวเล็กเบา ๆ ไรเฟิลชะงักเหลือบสายตามาดูคนตัวเล็กที่ยังหลับตาพริ้มก่อนจะหัวเราะหึเบา ๆ ในลำคอ  กดจูบลงอีกครั้ง ไล้ลิ้นไปตามไรฟันของคนหลับก่อนจะดูดปากล่างเบา ๆ แล้วผละออกมา มุมปากยกยิ้มพอใจ ไม่คิดว่าจูบของควอทซ์จะหวานขนาดนี้ หวานจนอยากจะชิมอีกรอบ หวานจนอยากเก็บไว้กินคนเดียว. . . ความรู้สึกของเขาตอนนี้คงไม่มีอะไรนอกจากรู้สึกดี รู้สึกดีมาก ๆ . . .
  
  เขาดึงคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมแขนและหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราตามคนข้าง ๆ ไปพร้อมกับสายฝนที่ค่อย ๆ ซา. . .
  
  แค่จูบเพื่อนตอนหลับ คงไม่เป็นอะไรหรอก
  
  .
  .
  .
  .
  .
  
  มั้ง...
  
  
  
  
  
  ................................................................



  
  
  
  
  ขยับพลิกตัวไปมาสองสามทีอยู่บนเตียง ผมลุกขึ้นนั่งยกมือขยี้ตาขยี้ผมจนยุ่งเหยิง ผมมองไปรอบห้อง อื้อ... ข้างตัวว่างเปล่า ที่ข้าง ๆ ยังอุ่นอยู่ แสดงว่าไรเฟิลเพิ่งลุกออกไปไม่นาน
  
  ผมเดินออกจากห้องนอน แล้วก็เจอกับคนตัวสูงกำลังนั่งดูข่าวที่โซฟา มันหันมามองผมแล้วยิ้มแปลก ๆ ก่อนจะหันกลับไปจ้องทีวีเหมือนเดิม อะไรของมันวะ ผมเกาหัวงง ๆ แต่ไม่สนใจมันอีก แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
  
  ผมจ้องมองตัวเองในกระจก มีหยดน้ำเกราะพราวอยู่บนใบหน้า ผมด้านหน้าถูกรวบขึ้นเผยให้เห็นหน้าผากมน ผมไล่มองตั้งแต่หน้าผาก คิ้ว ดวงตา จมูก และหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก. . .
  
  เมื่อคืนผมฝัน.... ฝันว่าถูกจูบ มันรู้สึกดีมากแม้ในฝันจะไม่เห็นหน้าของอีกฝ่ายก็เถอะ เพียงแค่นึกถึงสัมผัสร้อน ๆ นั้นก็ทำให้ผมใจเต้นแรง ถึงจะเป็นเพียงความฝัน แต่มันกลับเหมือนจริงมาก ๆ รู้สึกถึงสัมผัสอุ่น ๆ ที่ติดอยู่ที่ริมฝีปาก แต่ถ้าเกิดมันเป็นจริงแล้วใครล่ะที่จูบผม ไรเฟิลเหรอ? บ้าน่า หมอนั่นจะมาจูบผมทำไมกัน สะบัดหัวไล่ความคิดไม่เข้าท่าออก ก่อนจะจัดการอาบน้ำชำระร่างกาย
  
  
  
  
  วันนี้ผมมีเรียนแค่ช่วงบ่ายเลยไม่ต้องรีบทั้งหอพักของผมยังอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยด้วย ตอนนี้ก็เพิ่งจะเก้าโมงเองด้วยซ้ำ
  
  “ไม่มีเรียนหรือไง” ผมถามไรเฟิลพลางวางจานข้าวผัดลงบนโต๊ะ มองคนตัวสูงกว่าที่ยังอยู่ในชุดกางเกงวอมขายาว เสื้อก็ไม่ใส่ รู้หรอกว่าหุ่นดีแต่จำเป็นต้องโชว์หรือไง
  
  “ไม่มี” ผมพยักหน้า
  
  “เมื่อคืนทำไมถึงมาหาล่ะ?”
  
  “ไปกินเหล้ากับพวกไอ้ไนต์ ขากลับเห็นฝนตกเลยแวะมาดู” ผมยู่ปาก เมื่อเห็นสายตาล้อเลียนจากคนตรงหน้า กลัวเสียงฟ้าร้องแล้วไงวะ เห้อะ!
  
  “อย่ามามองแบบนั้นนะ!!”
  
  “หึ” จิ๊! เกลียดชะมัดได้เสียงหัวเราะแบบนั้น มีปัญหากับหลอดลมเหรอไงวะ!
  
  
  
  
  
  ................................................................


  
  
  
  
  “บาย” ผมโบกมือหยอย ๆ ให้ไรเฟิลที่มาส่งถึงหน้าคณะ เจ้าตัวยิ้มบาง ก่อนจะขับรถออกไป ส่วนผมก็เดินเข้าตึกเรียน ทักทายคนที่รู้จักบ้างประปราย ไนต์มันบอกไม่ต้องรอเพราะวันนี้มันจะมาสาย เออดีจริง ๆ ดื่มหนักจนเมาค้างสิท่า ส่วนเมื่อคืนทำไมผมถึงไม่ไปกับพวกมันน่ะเหรอ ไม่ใช่ว่าพวกมันไม่ชวนหรอกครับ แต่ผมปฏิเสธไป กว่าพวกมันจะยอมก็ต้องหาเหตุผลมาร้อยแปด ไปก็ห้ามกูดื่มแล้วจะชวนกูไปเพื่อ!!
  
  
  
  “อิสวย!!!” พอโผล่หน้าเข้ามาในคลาสบะหมี่ก็พุ่งเข้ามาหาผมทันที ไอ้เหี้ย! กูตกใจได้ไหมล่ะ
  
  “เหี้ยไรของมึงเนี่ย” บะหมี่มันไม่ตอบอะไรเอาแต่ยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วลากผมไปที่โต๊ะที่ผมนั่งประจำ อะไรของแม่งวะ
  
  “มึงดู!” บะหมี่ชี้ไปที่โต๊ะผม ที่ตอนนี้คิทแคทชาเขียวกล่องใหญ่วางอยู่ และคงเพราะเสียงแหลม ๆ ของบะหมี่ทำให้ไนต์ที่ฟุบหลับอยู่ผงกหัวขึ้นมา ไนต์เลิกคิ้วมองหน้าผม
  
  “ใครมาส่ง”
  
  “ไรเฟิล” มันพยักหน้า แล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะเหมือนเดิม
  
  “นี่อิสวย มีคนฝากของมาให้มึงอีกแล้ว!!”
  
  “หือ ใครวะ”
  
  “ไม่รู้ว่ะ กูไม่เคยเห็น คราวนี้ฝากไอ้ต้อมมาว่ะ เชี่ยต้อมแม่งเสือกไม่บอกอีกว่าใคร กูถามจนปากจะฉีก”  ผมหยิบกล่องนั่นขึ้นมาดู หืม มีจดหมายด้วยเหรอ
  
  “ว้ายยยย มีจดหมายด้วย อ่านสิค่ะ ๆๆ”
  
  
  ผมไม่รู้ว่าควอทซ์ชอบหรือเปล่า
  ทานให้อร่อยนะครับ
  
  P.
  
  
  “พี ใครวะ” ผมสั่นหน้า พีเหรอ ใครกัน. . .
  
  มีเรื่องให้ต้องคิดอีกจนได้ แต่ถึงยังไงก็ขอเก็บเรื่องอื่นไปก่อนแล้วกัน จุดนี้ของตั้งใจเรียนก่อนนะครับ
  
  และแล้วช่วงเวลาแสนทรมานก็ผ่านพ้นไฟ ผมเก็บของลงกระเป๋า มองไนต์ที่นั่งกอดอกทำหน้างัวเงียอยู่ใกล้ ๆ
  
  “อะไร?”
  
  “ช่วงนี้เสน่ห์แรงนะมึง” ผมเลิกคิ้ว(แต่มันคงไม่เห็นเพราะถูกผมด้านหน้าบัง - -)
  
  “มีคนส่งขนมมาให้บ่อยขนาดนี้ แถมยังเป็นผู้ชายอีก”
  
  “เอ้า”
  
  “เห้ยไอ้บาส!!!” อยู่ ๆ หมาไนต์ก็ตะโกนขึ้นมา พวกเพื่อนที่กำลังจะกลับกันก็หยุดหันมามอง(ถึงตอนนี้จะเหลืออยู่ไม่กี่คนก็เถอะ) บาสหันมามองหมาไนต์ด้วยใบหน้าที่ฉายความงุนงงไว้เต็มเปี่ยม เอ้อ! กูงงด้วยได้ไหมล่ะ!?
  
  “มีไรวะ”
  
  “มึงมานี่” ไนต์กวักมือเรียก บาสเองก็เดินเข้ามาหามันอย่างว่าง่ายสุด ๆ คงยังไม่หายมึน
  
  “น้องมึงชอบใช่ไหม ไอ้ควอทซ์มันให้ เอาไปสิ” ไอ้ไนต์ว่าพลางโยนกล่องขนมให้บาส ผมได้แต่อ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก อ ไอ้เหี้ยไนต์!!!!!!!
  
  “จริงเหรอวะ เฮ่ย ขอบใจมากมึง กูขี้เกียจไปซื้อพอดี” ผมกระพริบตาปริบ ๆ มองบาสที่กำลังยิ้มกว้าง จะให้ผมบอกว่า เปล่า ไอ้ไนต์มันแกล้งเล่น ก็ใช่เรื่อง
  
  “อ เออ อื้อ ๆ “
  
  “ขอบใจนะเว้ย กูไปก่อนล่ะ!” บาสมันบอกแค่นั้นแล้วเดินออกไป ผมหันไปมองหมาไนต์ที่กำลังยิ้มพอใจ
  
  “ไอ้เหี้ยไนต์!!!!!” หมาไนต์หัวเราะลั่นไม่สะทกท้านใด ๆ ทั้งสิ้น แม่งไม่เคยจะสำนึกหรอก!!
  
  
  
  ................................................................
  
  
  

  ผมกับหมาไนต์ทะเลาะกันมาตลอดทางอย่างไม่มีใครยอมใครจนโดนบะหมี่แว้ดไปหลายที
  
  “โว้ยยยยย!! หยุดเถียงกันได้แล้วไอ้เหี้ย!” แล้วก็เป็นอีกครั้งที่บะหมี่มันหมดความอดทน

  “มึงก็ดูไอ้ไนต์ดิ!”

  “ทำไม กูทำไมห้ะน้องเห็ด”

  “เห็ดพ่อง!!!”

  “พ่อง พ่อง เดี๋ยวจะโดน หน้าตาไม่ดีเสือกทำหัวเห็ดอีก ถุ้ยยยยย”

  ป้าบ!!!  ด้วยความหมั่นไส้ทำให้ผมเตะป้าบเน้น ๆ เข้าที่ก้นของมัน
  
  “ไอ้น้องควอทซ์ มึงกล้าเตะกูเหรอ!!!”  ไนต์ตั้งท่าจะกระโจนใส่ผม แต่บะหมี่ดันไว้ก่อน
  
  “มาม่า! มึงดูมันนะ เดี๋ยวมึงเจอดีแน่” ผมแลบลิ้นปลิ้นตาใส่หมาไนต์ บะหมี่ช่วยอะไรมึงไม่ได้หรอกเว้ย!
  
  “ทะเลาะอะไรกันวะ” ผมหันไปมองต้นเสียง พอเห็นว่าเป็นใครก็วิ่งเข้าหาทันที
  
  “กาย~~~ หมาไนต์มันแกล้งเรา” ผมเกาะแขนกายแล้วซบหน้าลงกับต้นแขนของมัน กายสูงกว่าผมเยอะมาก พวกนี้แม่งสูงมากกว่าร้อยแปดสิบห้ากันทั้งนั้น แถมยังเล่นกีฬากันอีก ตัวหนาอย่างกับหมีควาย
  
  “แกล้งอะไรน้องควอทซ์ของกูห้ะไอ้ไนต์!”
  
  “น้องควอทซ์ของกู ถุ้ยยยยย!” ด้วยความกวนตีนของไอ้หมาไนต์ทำให้ฟอร์สทีอยู่ใกล้มันมากที่สุดถีบไปหนึ่งที่ไม่เบานัก หึ สมน้ำหน้า!
  
  “คืองี้นะคะ ..........” แล้วบะหมี่ก็เป็นคนเล่าเรื่องราวความเป็นมาสาเหตุการทะเลาะกันของผมกับหมาไนต์ให้คุณชายทั้งสามฟัง ผมไล่สายตามองหน้าทั้งสามทีละคน โอ้โห คิ้วขมวดไม่ต่างกัน หนักหน่อยคงจะเป็นไรเฟิลล่ะมั้ง. . .
  
  
  “พี่ไรเฟิลสวัสดีครับ” พวกผมหันไปมองเสียงปริศนา อืม. . . หน้าตาจัดว่าดี ดูจากการแต่งตัวน่าจะเป็นปีหนึ่ง
  
  “อืม มาทำอะไรที่นี่”
  
  “อ้อ ผมมาหาควอทซ์น่ะครับ” มันพูดแล้วยิ้มกว้างให้ผม อะไร มาหากูทำไม
  
  “ห้ะ....” ผมส่งเสียงออกไปงง ๆ
  
  “ชอบขนมที่ผมฝากมาให้หรือเปล่าครับ”
  
  
  
  
  !!!!!!!!!!!!


-----------------------------

TBC.

เนื่องจากมันสั้น แล้วรู้สึกแปลก ๆ อัพเต็มพาร์ทแม่งเลย -..-
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 3.1 (17.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 17-10-2014 18:03:49
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟหกด่าสว @#$%^&*()_P)(*&^%$#
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 3 (17.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: I.R. ที่ 17-10-2014 19:19:46
กรี๊ดดดดดดดดดด สิงควอทซ์แปบบบบบบ
เฟิลแฟนหนู เฟิลน่าร้ากกกกกกก
รักกายด้วย 'แกล้งอะไรน้องควอท์ของกูห้ะไอไนต์!!'
ประโยคนี้เอาใจน้องไปเลย จุ้บๆ
อัพเร็วต่อเร็วๆ ห้ามดอง เคนะ ดองตบ เคนะ จุ้บๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 3 (17.10.2014
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 17-10-2014 19:53:30
หนุกดีค่ะ ชอบไนท์อ่ะ หวงก้างแทนไรเฟิลชิมิ  :hao3:

หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 4 (24.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 24-10-2014 23:27:05
EPISODE 4




  “ชอบขนมที่ผมฝากมาให้หรือเปล่าครับ”
  
  
  
  
  !!!!!!!!!!!!

  
  
  
  แดกจุดสิครับงานนี้ คนนี้เหรอที่เป็นคนส่งขนมมาให้ผมเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา ให้ตายสิครับ!
  
  “เดี๋ยวนะ นาย คุณ มึง. . . เป็นใครวะ” ผมถามไปอย่างมึน ๆ เท่าที่จำได้ก็ไม่เคยรู้จักกับมันมาก่อนนะ แล้วนี่อะไร โผล่มาหาถึงที่ แถมยังเรียกชื่อผมห้วน ๆ แบบนั้นอีก กูกับมึงไปสนิทกันตอนไหนครับ ตอบ!
  
  “ผมชื่อแพคครับ” มันยิ้ม ส่วนผมเหรอ งงสิครับ ผมมองหน้าบรรดามิตรสหาย คิ้วขมวดแทบจะเป็นเส้นเดียวกันอยู่แล้ว และแล้วไรเฟิลก็ดึงผมไปด้านหลังของมัน
  
  “หล่อเหี้ยเลยมึง” บะหมี่ยื่นหน้ามากระซิบเบา ๆ ข้างหูผม ดวงตาพราวระยับ
  
  “อ๋อ...... มึงเองเหรอที่ส่งขนมมาให้เพื่อนกู” ไนต์ลากเสียงยาว แล้วถามด้วยสีหน้านิ่ง ๆ ไอ้เด็กแพคยิ้มกว้างแล้วตอบรับอย่างฉะฉาน
  
  “ครับ ผมเอง ควอทซ์ชอบหรือเปล่าครับ” มันตอบไนต์แล้วหันมาถามผมที่ยืนอยู่ด้านหลังไรเฟิล
  
  “เราสนิทกันถึงขนาดเรียกแค่ชื่อเฉย ๆ ได้เลยเหรอ” ผมถามพร้อมกับเดินออกมาอยู่ด้านหน้า
  
  “เอ่อ... ขอโทษครับ แล้วพี่ชอบขนมที่ผมฝากมาให้หรือเปล่าครับ”
  
  “อ๋อ! ขนมของมึงน่ะนะ ควอทซ์มันไม่ได้กินหรอก” หมาไนต์พูดแล้วยิ้มกว้าง
  
  “ทำไมละครับ พี่ควอทซ์ไม่ชอบเหรอ ผมซื้ออย่างอื่นมาฝากก็ได้นะ”
  
  “เอ่อ...”
  
  “เอาอะไรมามันก็ไม่แดกหรอก” ผมกำลังจะพูดแค่ไอ้ไนต์ก็แทรกขึ้นมา
  
  “คราวหน้า....”
  
  “ไม่มีคราวหน้าแล้ว” ไรเฟิลพูดเสียงเย็นแล้วลากผมออกมาจากตรงนั้น ส่วนผมที่ยังไม่ได้ตั้งตัวก็เดินไปตามแรงลากของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย. . .
  
  
  
  ผมนิ่วหน้าเพราะรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ พอมองดูก็รู้ว่าสาเหตุมาจากคนตัวสูงที่กำลังลากผมอยู่ มือหนาบีบข้อมือผมแน่นจนเจ็บ
  
  “ไรฟ์เจ็บ” ร่างสูงหยุดเดิน แล้วหันมามอง
  
  “โทษที” มันบอกแค่นั้นก็เปลี่ยนจากข้อมือไปจับที่มือผมแทน พอมาถึงรถคนตัวสูงก็ดันผมเข้าไปในรถ ก่อนที่อีกฝ่ายจะอ้อมไปประจำฝั่งคนขับ
  
  “รู้จักมันเหรอ”
  
  “หือ มันไหน”
  
  “ไอ้แพคไง”
  
  อ่า....
  
  “ไม่รู้จักหรอก ใครก็ไม่รู้” ผมสั่นหัว
  
  “ดี” หืม? ผมหันไปมองหน้าไรเฟิล เจ้าตัวมองหน้าผมแล้วยิ้มแสยะ มันดูน่ากลัวยังไงไม่รู้ อ่า... แต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกร้อนวูบที่หน้านะ
  
  
  ไรเฟิลไม่ได้พูดอะไรที่ทำให้ผมหลุดพ้นจากความึนงง ซ้ำยังหัวเราะโรคจิตใส่ผมอีก
  
  “เดี๋ยวนะ เด็กนั่นรู้จักมึงนี่” ผมขยับตัวไปทางเขา เท้าศอกกับพยักเบาะพลางลูบคางตัวเองไปด้วย ไรเฟิลหรี่ตามอง
  
  “สายรหัส” อืม อย่างนี้นี่เอง “สนใจหรือไง”
  
  “เปล่า แค่แปลกใจ แค่ช่างเถอะ อย่ามาวุ่นวายกับกูก็พอ” ผมขยับตัวนั่งดี ๆ อีกครั้ง ส่วนไรเฟิลก็ขับรถไปเงียบ ๆ ระหว่างเราไม่มีใครพูดอะไร มีแค่เสียงเพลงที่คลอเบา ๆ ผมฮัมเพลงตามบ้าง มองดูนั่นนี่บ้าง บางครั้งก็หันไปชวนอีกฝ่ายคุย แต่มันก็เหมือนผมคุยคนเดียวอยู่ดี จิ๊!
  
  
  
  
  
  ..........................................................
  
  
  
  
  

  บอกลาคุณชายที่อุตส่าห์ขับรถมาส่งถึงหน้าซุปเปอร์มาร์เก็ตทั้งที่ไม่จำเป็นเลยสักนิด เจ้าตัวย้ำให้ผมโทรหาอีกครั้งเมื่อทำงานเสร็จ ผมเองก็พยักหน้ารับเพื่อให้จบเรื่อง. . .
  
  
  
  “พี่เจ๋งหวัดดีครับ”
  
  “เออดี ๆ” พี่เจ๋งเงายหน้าจากแคชเชียร์มาตอบรับแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
  
  “เฮียทัศ! เอ๊ย เจ๊ทิชา สวัสดีครับ” ผมทักทายนายจ้างตามประสาลูกน้องที่ดี แต่ก็โดนเจ๊แกให้ฆ้อมมาวงใหญ่เล่นเอาหลบแทบไม่ทันเลย ฮา.....
  
  “ถ้าไม่ติดว่าน่ารักฉันไล่หล่อนออกไปแล้วนะยะ” เจ๊ทิชาพูดจบก็สะบัดบ๊อบใส่จนผมกลัวว่าคอแกจะเคล็ด ฮ่า ๆ
  
  “โอ๋เอ๋นะคนสวย” ผมเข้าไปคลอเคลียแต่โดนสะบัดออก
  
  “เอาเบอร์น้องฟอร์สมาแลกสิแล้วคนสวยจะให้อภัย คริคริ”
  
  “โถ่ เจ๊ครับ ถ้าทำอย่างนั้นฟอร์สก็ฆ่าผมน่ะสิ โอ๊ย!!! เจ๊อย่าดึงหูผม เจ็บ ๆ ๆ !!” ดิ้นจนหลุดจากกรงเล็บสีส้ม-เขียวสะท้อนแสงของเจ๊ทิชาได้ผมก็วิ่งปรู้ดไปประจำที่เคานต์เตอร์ มือก็ลูบหูตัวเองปรอย ๆ เจ็บมากครับ เจ็บแบบเจ็บฉิบหาย ฮือออออออ TwT
  
  
  
  “ควอทซ์” ผมแหงนหน้ามองเจ๊ทิชาคณะที่กำลังจัดของเข้าชั้นด้านล่าง
  
  “อะไรเหรอครับ”
  
  “มีลูกค้าขอเบอร์หนูกับเจ๊” ผมมองหน้าเจ๊อีกครั้งแล้วยืดตัวลุกขึ้น สาวสวยที่ไหนมาขอเบอร์ผมกัน
  
  “ห้ะ? ใครอะเจ๊”
  
  “สิบนาฬิกา” ผมมองตามตำแหน่งที่เจ๊ทิชาบอก เชี่ย!!! สาวสวยที่ผมวาดฝันแตกเพล้ง! แล้วถูกแทนที่ดูภาพเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนนานาชาติชื่อดังยืนอยู่ เด็กนั่นหันมาสบตากับผมพอดี เหี้ยไรนั่น ยิ้มเขิน ๆ แบบนั้นคือ!!!
  
  โถ่ ชีวิตไอ้ควอทซ์ นึกว่าจะเป็นผู้หญิงถักเปียน่ารัก ๆ แต่กลับเป็นผู้ชายแทน ให้ตายสิ!
  
  “”ผมไม่ได้ชอบผู้ชายนะครับ” ผมหันไปบอกเจ๊ทิชาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แต่สายตาดันมองเด็กนั่นเสียเยิ้ม
  
  “เจ๊รู้ย่ะ แต่เด็กมันอ้อนมา เจ๊แพ้เด็กแกก็รู้” เห้อะ!! แค่เด็กมัธยมปลายกางเกงขาสั้นเท่านั้นแหละที่เจ๊แพ้ แล้วไอ้สายตาออดอ้อนของเจ๊ไม่ได้น่าเห็นใจเลย ไม่ได้ผลหรอกครับบอกเลย ต่อให้เจ๊เพิ่มเงินเดือนให้ผมก็ไม่มีวันแจกเบอร์ใครง่าย ๆ หรอก ตัวเลขสิบตัวของผมนี่แรร์ไอเทมนะครับ!
  
  “ไม่อ่ะ เจ๊บอกไปว่าผมไม่ได้ชอบผู้ชายแล้วกัน หมดเวลางานแล้วขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับเจ้านาย” ผมยิ้มตาหยีให้เจ๊ทิชาที่ทำหน้าปุเลี่ยนให้ ก่อนจะโบกมือไล่ผม ผมเข้าไปเปลี่ยนเก็บของของตัวเองเช็คดูว่าลืมอะไรหรืิอเปล่าก่อนจะยกกระเป๋าขึ้นสะพาย
  
  “ผมกลับแล้วนะ เจอกันพรุ่งนี้ครับ”
  
  
  
  ออกมาถึงหน้าร้านก็เจอกับเจ้าเด็กนั่นยืนอยู่ พอเห็นผมเจ้าตัวก็ทิ้งบุหรี่ในมือทิ้งที่ทิ้งบุหรี่ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาผม
  
  “พี่ชื่ออะไรอะครับ” มันดึงแขนผมไว้
  
  “ต้องบอก?” มันยิ้ม ปล่อยมืออกจากแขนผม
  
  “บอกเถอะครับ ไม่ให้เบอร์บอกชื่อก็ได้”
  
  “เฮ้อ ดึกแล้วกลับบ้านไปซะ เป็นแค่เด็กม.ปลายอย่าทำตัวเถลถไล”
  
  “โห่ ไรอ่ะ งั้นพี่ก็บอกชื่อพี่ก่อนสิ ผมชื่อเทมส์นะ”มันบอก แต่ผมไม่ได้สนใจ มองหน้ามันแล้วถอนหายใจอีกครั้ง
  
  “ควอทซ์ . . .กลับบ้านไปซะ” ผมบอกแค่นั้นแล้วเดินออกมา ได้ยินเสียงห้าว ๆ ตะโกนตามหลังมาว่า. . .
  
  “แล้วเจอกันอีกนะครับพี่ควอทซ์!”
  
  
  
  
  
  ..................................................................
  
  
  
  
  ผมเดินไปตามท้องถนนยามค่ำคืน มองดูผู้คนมากมายที่ยังคงหนาแน่น อากาศค่อนข้างร้อบอบอ้าวทำให้ผมหงุดหงิดนิดหน่อย สองขาเดินเข้าไปในซอยซึ่งเป็นทางลัดไปถึงหอพักที่ผมพักอยู่ ผมไม่ได้โทรบอกให้พวกสี่สหายมารับ ถึงแม้จะอ่านข้อความของไรเฟิลที่ส่งมาให้ตอนสองทุ่มกว่า ๆ ว่าติดธุระมารับไม่ได้แล้วให้ผมโทรหาสามคนที่เหลือให้มารับแทน เหอะ คิดว่าผมจะทำตามเหรอ ไม่น่ะสิ! ให้ผมไปไหนมาไปไหนเองบ้างเถอะเถอะน่า ผมไม่ใช้เด็กสามขวบที่จำทางกลับบ้านหรือดูแลตัวเองไม่ได้ อีกอย่างผมเองก็เป็นผู้ชายด้วย!! (ถึงหน้าจะไม่ให้ก็เถอะ - - )
  
  
  “เฮ้ย!!” ผมยืนนิ่งเมื่อถูกมือปริศนาจับเข้าที่ไหล่ ซอยนี้ค่อนข้างมืดไฟก็ติด ๆ ดับ ๆ ผมเคยมาทางนี้ตอนกลางวัน แต่ตอนนี้มันกลางคืน. . . ไอ้เหี้ยควอทซ์มึงพลาดแล้ว!!!!!!

  “เอ่อ....” ผมตั้งสติแล้วค่อย ๆ หันไปมองไอ้คนปริศนานั่น อื้อหือออออออ กลิ่นเหล้าหึ่งเลยครับ!
  
  “มึงเป็นใครวะ” มันพูดแล้วยื่นหน้ามาใกล้ผม ถึงจะดูเมาแต่ก็เหมือนยังพอมีสติอยู่
  
  “อ เอ่อ ผมแค่ผ่านมานะครับ ปล่อยผมไปเถอะนะ” ผมทำใจดีสู้เสือ ค่อน ๆ ขยับตัวออกจากมัน
  
  ปึก!
  
  ฉิบหาย.... ไม่ได้มีคนเดียวหรอวะ
  
  “แต่งตัวดีท่าทางคุณหนูแบบนี้คงจะรวยไม่เบา เอาไงดีวะมึง” ไอ้หน้าหนวดถามเพื่อนมันที่ล็อคแขนผมอยู่
  
  “ผมเป็นแค่นักศึกษาไม่มีเงินหรอกครับ....”
  
  “อย่ามาโกหกพวกกูน่า อืม... ตัวมึงนี่หอมดีจริง ๆ วะ” ไอ้เวรนั่นทำจมูกฟุดฟิดแถว ๆ คอผม ผมหดคอหนี บอกตรง ๆ โคตรขยะแขยง
  
  “ดู ๆ ไปมันหน้าตามันก็ดีนี่หว่า จับทำ  เมียดีไหมมึง” ไอ้หนวดทำหน้าหื่นกาม ผมขนลุกเกรียวด้วยความขยะแขยง มันเดินเข้ามาใกล้ มือหยาบบีบแก้มผมจนเจ็บ จะดิ้นมากก็ไม่ได้เพราะโดนอีกคนล็อกเอาไว้
  
  ฉิิบหาย..... ไม่มีคำไหนบอกความรู้สึกตอนนี้ได้ดีเท่าฉิบหายแล้วครับ...
  
  “ปล่อยผมไปเถอะครับพี่”
  
  “เก็บเสียงไว้ครางดีกว่าไอ้หนู”
  
  
  !!!!!!!!!
  
  
  “ไอ้เหี้ย!!! ปล่อยกู!!!” ความอดทนของผมแตกเพล้งเมื่อไอ้เหี้ยนั่นกดริมฝีปากลงที่หลังคอผม ผมออกแรงดิ้นแต่งก็สะบัดไม่หลุด
  
  เพี้ยะ!!
  
  มือหยาบของไอ้หนวดกระทบเข้ากับใบหน้าของผม....  สัดเอ้ย!!!
  
  
  ผมยกเท้าถีบไอ้หนวดเต็มแรงจนมันถอยไปสามสี่ก้าวก่อนจะกระทืบเท้าลงบนเท้าไอ้เหี้ยอีกตัวที่ล็อคผมอยู่อย่างไม่ออมแรง ผมหลุดจากการถูกล็อค ปลายเท้าเตะเสยคางของไอ้หนวดเข้าไปอีกทีและหันมาเหวี่ยงหมัดใส่ไอ้ปลาดุกที่บังอาจเอาปากสาก ๆ มาสัมผัสกับคอของผม !
  
  “ฤทธิ์เยอะจริงนะมึง!!” ไอ้ปลาดุกจะเข้ามาหาผมแต่ผมยกเท้าถีบเข้าที่กลางอกมันไปเสียก่อน คงเพราะความเมาทำให้สติพวกมันมีอยู่ไม่ครบ นั่นถือว่าเป็นโชคดีของผม เพราะต่อให้เก่งการต่อสู้แค่ไหนก็คงสู้ผู้ชายตัวควายสองคนไม่ไหว (ผมถูกส่งให้ไปเรียนศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่เด็กแล้วครับ) ผมใช้เท้าเตะมันซ้ำอีกทีจนมันลุกไม่ไหว สายตาเหลือบไปเห็นไอ้หนวดที่เดินเซ ๆ เข้ามาใกล้ ยืนให้ตรงก่อนเถอะไอ้สัด!! ผมขยับตัวนิดหน่อยก่อนจะปล่อยหมัดลุ่น ๆ เข้าที่สันกรามของมัน และถีบมันจนล้มไปทับเพื่อนมัน ผมมองพวกมันอย่างชั่งใจว่าจะซ้ำหรือจะวิ่ง เห้อะ! ลูกผู้ชายแมน ๆ อย่างผมหรอ
  
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  
  
  
  วิ่งสิครับ!!!!!



---------------------------------

TBC.

เอาตอนที่ 4 มาส่งค่ะ
หายไปนาน(์?) เนื่องจากสัญญาณอินเทอร์เน็ตมีปัญหา
 5555555555555555555555555555555555 /เห็นน้ำตาในเลขห้าพวกนั้นไหม
อาจจะมีคำผิดเยอะ ฝากเตือนด้วยนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 4 (24.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-10-2014 13:37:15
สนุกดี
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 4 (24.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 25-10-2014 16:44:46
น่ารักกรุ้งกริ้ง -...-
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 5 (29.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 29-10-2014 19:55:29
EPISODE 5





  เช้านี้ช่างเป็นวันที่ไม่สดใสเอาเสียเลย ผมตื่นมาพร้อมอาการปวดศีรษะและเจ็บที่มุมปากและแก้ม เพราะผมที่โดนไอ้หนวดเมื่อตบเมื่อคืน แม่ง! แก้มผมบวมแถมมุมปากยังแตกช้ำ   ถ้าโผล่หน้าไปให้พวกสี่สหายเห็นต้องโดนจ้วกแน่
  
  
  
  “ซี้ด~” ผมซี้ดปากเมื่อเผลอแลบลิ้นไปโดนแผลที่มุมปาก ให้ตายเถอะ หน้าหล่อ ๆ ของผมเสียหายหมด
  
  ครืด~ ครืด~
  
  ผมยื่นหน้าไปมองโทรศัพท์ที่สั่นครืด ๆ อยู่บนโต๊ะกลางหน้าโซฟา วางถ้วยซีเรียลรูปดาวรสฮันนี่ฮันนี่ลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบมือถือมาดู
  
  ✔ RIFLE ✔
  
  “โหล~”
  
  “ไม่ได้ไปรับนะ”
  
  “ห้ะ” ผมกระพริบตาปริบ ๆ กับคำที่ได้ยิน โห้!! ฟังผิดหรือเปล่าวะ เมื่อกี้คุณชายมันบอกว่าไงนะ
  
  “ไม่ได้ไปรับ. . .”
  
  “อ๋อ ๆ โอเค ซี้ด~”
  
  “เป็นอะไร” เสียงนิ่ง ๆ ส่งมาตามสาย ให้เดานะ คิ้วเข้มต้องขมวดเป็นปมแน่ ๆ
  
  “เปล่า เผลอเตะโต๊ะน่ะ” เปล่า ยิ้มกว้างจนแผลมันตึงต่างหาก . . .
  
  “ซุ่มซ่าม แค่นี้แหละ”
  
  “อื้อ ๆ” ผมพยักหน้าหงึก ๆ ราวกับเจ้าตัวจะเห็น ก่อนจะกดวางสายไป
  
  
  ผมยังยิ้มไม่หุบแม้จะซี้ดปากไปหลายทีแล้วก็ตาม ผมตักซีเรียลฮันนี่ฮันนี่มากินจนหมดเก็บล้างให้เรียบร้อย ก่อนจะสะพายกระเป๋าและออกจากห้องพัก
  
  
  


  
  
  ผมแกะหูฟังที่กำลังพันกันยุ่งเหยิงขณะยืนพิงกับประตูอีกด้านของรถไฟฟ้า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้ไปมหาวิทยาลัยเองในรอบหลายเดือน เย้! ดีใจกับผมสิครับรออะไรกันอยู่
  
  
  อ่า. . ผู้คนยามเช้าแออัดมากจริง ๆ ทั้งเด็กนักเรียน นิสิตนักศึกษา ทั้งพนักงานออฟฟิซ และตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงกว่า ๆ เองด้วย ที่ต้องแหกขี้ตามาเช้าขนาดนี้เพราะวันนี้มีควิซเช้าและยังขาดไม่ได้อีกนี่สิครับ คนหล่อเซ็ง !
  
  วันนี้ผมมีพร้อพเสริมมาหนึ่งชิ้นนั่นก็คือ. . . !!! แมสปิดปากครับ !!! ที่ต้องใช้เพราะผมต้องปิดไอ้รอยช้ำที่มุมปากกับแก้มบวม ๆ ของตัวเองไงครับ ยังเจ็บจี๊ด ๆ อยู่เลย ให้ตายเถอะ นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็พาลขนลุกตลอดเลย
  
  ปึก!
  
  “ขอโทษครับ” ผมมองเด็กมัธยมปลายที่เพิ่งจะชนผมเข้าก่อนจะพยักหน้าเบาเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร นิ้วมือเลื่อนไปเลือกเพลงที่จะฟังในเพลย์ลิสต์
  
  
  
  “สัดฟา! อย่าเบียดกู!”
  
  “โห่ ไอ้เหี้ย มึงลืมตาตี่ ๆ ของมึงดูด้วยว่ามีที่ไหม” เด็กที่ชนผมเถียงกันกับเพื่อน อ่า ไม่ได้แอบฟังนะครับ แต่มันได้ยินเอง ผมไม่ผิดนะ
  
  “ขยับไปอีกดิ้!” พวกมันดันกันไปมาจนมาชนกับผมอีกครั้ง
  
  “เอ่อ...” เด็กสองคนนั้นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก “เพราะมึงเลยห่าเทมส์ ขอโทษอีกครั้งนะครับพี่” ผมมองหน้าเด็กสองคนนั้นชัด ๆ ไอ้เด็กที่ชนผมนี่ผมไม่รู้จัก แต่กลับรู้สึกคุ้นหน้า ยิ่งจมูกโด่ง ๆ กับดวงตาสีฟ้าอ่อน ๆ นั่นอีก มันเหมือนกับ. . .
  
  “เฮ้ย!! พี่ควอทซ์ใช่ไหมครับ จำผมได้ไหม เทมส์ไงพี่” หือ ไอ้เด็กซุปเปอร์มาร์เก็ตเมื่อวาน !!
  
  “เราเคยรู้จักกันเหรอ”
  
  “โห่ ไรอะ พี่จำผมไม่ได้หรอ” มันทำหน้างอ น่ารักตายแหละมึง
  
  “ใครวะ” คนที่ชนผมกระซิบถามไอ้เด็กเทมส์ ไม่ได้ยินหรอกครับ อ่านปากเอา(ความสามารถพิเศษผมล่ะ ฮ่า ๆๆ)
  
  “คนที่กูเล่าให้ฟังไง” เด็กตาฟ้าพยักหน้า ก่อนจะหันมามองผมแล้วยิ้มให้
  
  “พี่ควอทซ์นี่เพื่อนผมครับ ชื่อฟาโรห์” มันแนะนำเด็กนั่น อืม ถามกูไหม กูอยากรู้หรือเปล่า
  
  “สวัสดีครับ” ฟาโรห์พูดพร้อมกับยิ้มให้(มีลักยิ้มด้วยว่ะ ผมอยากมีบ้าง)
  
  “อ่า หวัดดี”  ผมตอบไปแบบมึน ๆ ยิ้มให้มันหน่อย ๆ แต่มันคงไม่เห็นเพราะผมใส่แมสอยู่
  
  
  
  “สถานีต่อไป....”  เสียงประกาศเรียกสติให้กลับมา ผมขยับตัวหน่อย ๆ เพราะใกล้ถึงสถานีที่ต้องลงแล้ว เมื่อรถไฟฟ้าหยุดสนิทผมก็เบียดผู้คนออกไป ไม่รู้อะไรดลใจให้หันกลับไปมองในโบกี้อีกครั้ง เด็กสองคนนั้นโบกมือพร้อมกับรอยยิ้มส่งมาให้ผมที่ยืนอยู่บนชานชลา ผมเลยยกมือตอบพอเป็นพิธี(เดี๋ยวมันหาว่าผมหยิ่ง)ก่อนประตูจะปิดและขบวนที่เคลื่อนออกไป
  
  
  
  
  
  ................................................................
  
  
  
  
  
  
  “ไนต์อยู่ไหน”
  
  “ที่คณะดิเห็ด มึงอยู่ไหนเนี่ย ใกล้ถึงเวลาแล้วนะ” ผมมองนาฬิกา อีกแค่ 25 นาทีเท่านั้น ถ้าเดินจากตรงนี้เข้าไปกว่าจะถึงตึกเรียนก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง
  
  “อยู่ ....... อ่ะ ออกมารับหน่อย” ได้ยินเสียงมันสบถไม่ได้ศัพท์มายาวเหยียด ผมไม่มีโอกาสได้สวนกลับมันก็ชิงตัดสายทิ้งไปก่อน
  
  และภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที Audi R8 สีขาวก็โฉบมาจอดตรงหน้า
  
  
  “ไอ้ปืนไปไหนทำไมปล่อยมึงมาเองได้” ขึ้นรถได้ยังไม่ทันได้ปิดประตูเลยด้วยซ้ำ มันก็บ่นมาทันที (ปืนคือชื่อที่ไนต์ กาย และ ฟอร์สใช้เรียกไรเฟิลครับ พวกมันบอกขี้เกียจเรียกยาว ๆ)
  
  “มันบอกไม่ว่าง” ไนต์ส่งเสียงเหอะ พลางออกรถ
  
  “ช่างกล้า ถ้ามันรู้ว่ามึงมาเองนะ... หึหึ” หัวเราะเสียผมขนลุก ไอ้ห่าาาา ไซโคเพื่อ!!
  
  “ มึงก็อย่าบอกมันสิ~” มันหรี่ตามองผม ผมเลยยิ้มตาหยีไปให้
  
  “ยิ้มแต่ใส่แมส เพื่อ?” ผมหุบยิ้มฉับ เวร! ลืมไปแล้วว่าผมใส่แมสอยู่
  
  “ลืม แฮะ ๆ”
  
  “แล้วมึงใส่ทำไม” เฮือก!!
  
  “ก็อยากใส่ไง พูดมากจังมึง...” ผมตัดบทด้วยการหันหน้าหนีออกนอกหน้าต่าง แต่ก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่เชื่อหรอก....
  
  
  
  
  ผมกับไนต์มาถึงห้องก่อนเวลาประมาณ 3 นาที ที่มาช้าเพราะเชี่ยไนต์ดันอยากเข้าห้องน้ำนี่สิครับ พอโผล่หัวเข้ามาในห้องปุ๊บ บะหมี่มันก็เทศนาพวกผมเลยทันที
  
  
  เวลาผ่านไปนานแสนนานสำหรับความรู้สึก ลากสังขารออกจากห้องอย่างยากลำบากเพราะโดนดูดพลัง ยิ่งไอ้ไนต์กับบะหมี่ยิ่งแล้วใหญ่
  
  
  
  
  “ไอ้เหี้ยยยยยยย สมองกูจะระเบิด” ไนต์มันบ่นพลางขยุ้มหัวตัวเอง ตอนนี้พวกเราย้ายร่างมาที่โต๊ะม้าหินริมสระบัว ฐานทัพของพวกผมครับ
  
  “ออกข้อสอบไม่ให้เกียรติสมองกูเลย เหี้ย!!” และนี่ก็เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของอดีตดาวคณะวิศวกรรมศาสต์
  
  “หนังสือไม่อ่านโวยวายทำเหี้ยไร” ไอ้สองคนนั้นหัวขวับมามองผมแทบจะทันที
  
  “โอ๊ยยยย  มึงมันอัจฉริยะ เกิดมามึงเคยโง่บ้างไหมห้ะ! อิฉลาด” บะหมี่มันพูดพลางเอานิ้วมาจิ้นหน้าผากผมจึก ๆๆ
  
  “มึงลองโง่ดูสิเห็ด” หมาไนต์ว่าพลางเบ้ปาก ผมเลยหัวเราะลั่น หน้ามันโคตรจี้อ่ะครับ ปากแทบติดกับจมูกอยู่แล้ว
  
  “หัวเราะอีก สอบคราวหน้ามึงติวให้พวกกูเลยนะ” บะหมี่มันดันหัวผมจนหงายก่อนจะรวบกระโรงแล้วนั่งคล่อมม้านั่ง กุลสตรีได้อีก...
  
  “เออ ~” ผมตอบรับพยักหน้าหงึก
  
  หมับ!
  
  ผมสะดุ้งเมื่อรู้ถึงแรงกอดรัดจากด้านหลัง พอหันไปมองก็เจอกายยิ้มหล่อมาให้ มองเลยไปอีกนิดก็เห็นฟอร์สกับไรเฟิลยืนอยู่
  
  “ทำไมไรกัน ทำไมทำหน้าเป็นตูดแบบนั้น” ฟอร์สมันว่าแล้วนั่งลงม้านั่งอีกตัวฝั่งตรงข้ามผม กายเองก็ขยับนั่งลงข้างผม แขนหนัก ๆ ยังพาดไว้บนไหล่ผม ส่วนไรเฟิลก็เดินไปนั่งกับไนต์ แต่ก็อยู่ข้างผมอยู่ดี ส่วนบะหมี่ก็ฝั่งตรงข้ามหมาไนต์กับไรเฟิล
  
  “ใส่แมสทำไม” เสียงทุ้ม ๆ ของไรเฟิลทำเอาผมขนลุก เนื่องจากมีเรื่องปกปิดพวกมันไว้
  
  “เออ นั่นดิ กูว่าจะถามตั้งนานแล้ว” บะหมี่มันหันหน้ามาถาม ถึงขนาดยอมผละจากโม้กับกาย ถ้าผมเบ้ปากพวกมันจะรู้ไหมครับ
  
  “ก็เปล่า แค่อยากใส่” แต่พอเห็นสายตานิ่ง ๆ ของไรเฟิลก็เผลอหลบตา โคตรแสดงพิรุธ
  
  “หิวแล้ววววววว” ผมแสร้งพูดตัดบทเอามือลูบท้องประกอบ ไล่มองหน้าพวกมันแล้วกระพริบตาปริบ ๆ จนมาหยุดที่ไรเฟิล
  
  “หึ อยากกินอะไร” ลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นรอยยิ้มแสยะของคุณชาย สยองสัดหมา...
  
  “อ เอ่อ.. พวกมึงอะ จะกินไร”
  
  “พิซซ่า!!!!” เมื่อสตรีนางเดียวโพล่งขึ้นมาก็ไม่มีใครขัดครับ กายเป็นคนโทร แล้วก็เปิดสปีกเกอร์ พวกมันก็แย่งกันสั่งจนผมกลัวพนังงานจะสาปแช่ง
  
  
  
  ประมาณ 30 นาทีต่อมา พิซซ่าขนาดกลาง 2 ถาด สปาเก็ตตี้ สลัด ขนมปังกระเทียม บลา ๆ ๆ สั่งมาเหมือนกินกันเป็นสิบคน - -
  
  “กินสิ” ผมมองหน้าไรเฟิลที่ยิ้มแปลก ๆ มาให้ ทำไมผมถึงรู้สึกสยองก็ไม่รู้
  
  “อ้าว น้องควอทซ์ จะกินก็ถอดแมสออกก่อนสิ” ผมเบิกตากว้างมองหน้ากายที่พูดขึ้นมาซื่อ ๆ ฉิบหาย!!! ผมลืมไปได้ไงวะ แล้วนี่ก็เท่ากับขุดหลุมฝังตัวเองชัด ๆ
  
  “หิวไม่ใช่หรือไง กินสิ” ผมแอบเบ้ปาก นี่สินะสาเหตุไรเฟิลยิ้มแปลก ๆ ให้ตายเถอะไอ้ควอทซ์!!
  
  พรึ่บ!
  
  กายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยื่นมือมาดึงแมสผมออก ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยปัดป้องไม่ทัน และเหมือนทุกอย่างถูกกดพอสเอาไว้ ผมก้มหน้านิ่งชิดอกตัวเองไม่กล้าเงยขึ้นมาสบตากับใครทั้งนั้น
  
  “เงยหน้ามาควอทซ์” ผมส่ายหัว แม้เสียงนิ่ง ๆ ของไรเฟิลจะน่ากลัวแต่การที่ผมต้องเงยหน้ามันน่ากลัวกว่า
  
  มือหนาบีบเข้าที่แก้มของผม เพราะโดนแผลที่มุมปากเข้าเต็ม ๆ ผมเจ็บจนร้องออกมาและสุดท้ายก็เผลอเงยหน้าขึ้นมาจนได้
  
  “Shit!!” ไรเฟิลสบถออกมา ผมค่อย ๆ เอื้อมมือไปจับข้อมือร่างสูงอย่างกล้า ๆ กลัว
  
  “เจ็บ ปล่อย...” ผมว่าเสียงค่อย คนตัวสูงพ่นลมหายใจแรง ๆ ก่อนจะสะบัดมือออก
  
  “ไปทำอะไรมาวะน้องควอทซ์” ผมเม้มปาก
  
  “ควอทซ์”
  
  “ไม่มีอะไรน่า กินสิ เดี๋ยวก็ไม่อร่อยหรอก” ผมตัดบท หยิบพิซซ่ามางับ แสร้งทำเหมือนว่ามันอร่อยนักหนา ทั้งที่ตอนนี้มันไม่มีความรู้สึกนั้นอยู่เลยสักนิด
  
  “ควอทซ์ บอกพวกกูมา” ผมเมินเสียงของฟอร์ส แล้วก้มหน้ากินพิซซ่าในมือต่อ จนไนต์มันยื่นมือมาดึงออกไปจากมือผม
  
  “โอเค บอกก็ได้ มันไม่มีอะไร แค่อุบัติเหตุนิดหน่อย”
  
  “ขอความจริง” ผมหันไปมองหน้าคนพูด ไรเฟิลจ้องมองผมด้วยสายตาคาดคั้นจนทำให้ผมรู้สึกอึดอัด
  
  “เมื่อคืน?” ผมพยักหน้าเป็นคำตอบให้บะหมี่และนั่นทำให้สี่สหายขมวดคิ้มหนักกว่าเดิม
  
  “หลังจากเลิกงานมึงกลับยังไง”
  
  “ก็.... เดินกลับ”
  
  “ให้ตาย! บอกให้โทรหาพวกมัน...” ผมยัดขนมปังกระเทียมใส่ปากไรเฟิลก่อนที่มันจะพูดจบ
  
  “เออ รู้แล้ว ไม่อยากโทร ไม่อยากกวน อยากกลับเองบ้าง ไอ้เหี้ย! กูเป็นผู้ชายนะ กลับเองก็ได้ อีกอย่างมันไม่ได้ไกลอะไรมากมายด้วยซ้ำ เพียงแค่เมื่อคืนดันซวยไปเจอพวกขี้เมาดัก... เชี่ย!!” ผมสบถออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเผลอพูดอะไรออกไปหลังจากร่ายไปยาวเหยียด
  
  “ดักฉุด?” มึงไม่ต้องต่อก็ได้ไหมสัดหมี่ ดูหน้าคุณชายด้วยหน่อยก็ดี
  
  “รอยที่แก้มนี่โดนตบสินะ” กายมันจับหน้าผมพลิกไปมา
  
  “มึงเล่ามาให้หมดดิ้!” ผมเบ้ปากใส่ฟอร์สแล้วส่ายหน้ารัว ๆ
  
  “มึงจะเล่าไม่เล่า ไม่เล่ากูโทรบอกเจ๊ทิชาว่ามึงขอลาออกตอนนี้เลย!”
  
  “หมาไนต์!!!” ผมถลีงตาใส่ไนต์ แต่มันไม่เคยสำนึกห่าอะไรอยู่แล้ว แถมยังยกโทรศัพท์ขึ้นมาขู่
  
  “เออ ๆ ๆ เล่าก็ได้ .................” ผมเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้พวกมันฟัง แต่แน่นอนผมไม่เล่าทั้งหมดหรอกครับ ไอ้ที่ไม่สมควรจะนึกถึงก็ตัดออกไปดีกว่า พอเล่าจบพวกมันกลับทำหน้าเครียดยิ่งกว่าเดิม...
  
  “เกือบได้ผัวแล้วไหมมึงอิสวย!”
  
  “หุบปากไปเลยมาม่า”
  
  “ดื้อ!” ผมยิ้มโง่ ๆ ให้ไรเฟิล มันเลยยื่นมือมาผลักหัวผม
  
  “ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ทำไมไม่คิดบ้าง”
  
  “ง่า.... ฟอร์สดุเรา” ผมซบหน้าผากกับแขนกาย มือก็ยกมาเกาะแขนมันไว้ กายยกมือมาลูบหัวผมเบา ๆ
  
  “เหี้ยกายก็โอ๋มันตลอด” ผมแลบลิ้นใส่หมาไนต์ มันเลยชี้หน้าคาดโทษแล้วโยนเศษกระดูกไก่ใส่ผม เชี่ย!
  
  “พวกมึงก็โอ๋มันพอกันทั้งสี่คนนั้นแหลั กูว่าให้มันเจออะไรกับตัวเองบ้างเถอะ ควอทซ์มันก็ผู้ชาย ดูแลตัวได้แน่นอนอยู่แล้ว อีกอย่างพวกมึงตามดูแลมันตลอดไม่ได้หรอก” โฮ ~ บะหมี่ที่รัก กูรักมึงจัง ~




-----------------------------

TBC.
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 5 (29.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 29-10-2014 20:46:50
สนุกมากๆๆๆจ้า  รอๆๆตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 5 (29.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 29-10-2014 21:35:38
ผ่านมาหลายตอนแล้ว ชื่อเรื่องกับเนื้อหาเกี่ยวกันยังไงหรอ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 5 (29.10.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: leefever ที่ 29-10-2014 21:47:41
สนุกดีค่ะ  นุ้งเห็ดดูฮอต

 :mew1:

มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 6 (01.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 01-11-2014 19:47:34
EPISODE 6




   ตอนเย็นผมถูกไรเฟิลลากกลับด้วย มาถึงก็จับผมยัดใส่รถไม่พูดไม่จา ผมเองก็ไม่กล้าพูดอะไร ผมไม่ได้ป๊อดนะ! ก็ใครใช้ให้คุณชายทำหน้าบึ้งแบบนั้นเล่า!
  
  “ไรฟ์ ไปไหน” ผมท้วงเมื่อไรเฟิลขับรถเลยซอยที่ตั้งเลี้ยวไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตแล้ว ที่ยอมนั่งนิ่ง ๆ เพราะคิดว่ามันจะไปส่งผมที่ซุปเปอร์ฯ เหมือนทุกทีน่ะสิ! คุณชายไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้า แต่กลับเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้นอีก
  
  “ไรเฟิล...”
  
  “เงียบน่า” ใบหน้าคมฉายแววหงุดหงิดไว้อย่างชัดเจนจนผมไม่กล้าขัด ได้แต่ขมุบขมิบปากบ่นกับตัวเองเบา ๆ เท่านั้น อะไรวะ มาหงุดหงิดอะไรใส่ผมเนี่ย
  
  
  
  
  “จะไปทำงาน!!!!” ผมตะโกนใส่หูไรเฟิล เมื่อเจ้าตัวเลี้ยวรถเข้าที่คอนโดมิเนียมสุดหรูที่เป็นที่พักอาศัยของคุณชาย...  ไรเฟิลเพียงแค่ตวัดตามองผมเท่านั้น เหอะ คิดว่ากลัวเหรอ
  
  “ปลดล็อคเดี๋ยวนี้” ผมบอก ก็จอดรถได้ตั้งนานแล้วแต่ไม่ยอมปลดล็อคให้สักที
  
  “เรามีเรื่องต้องคุยกัน ควอทซ์”
  
  “ไม่มี! จะไปทำงานนนนนนนน” คนตัวสูงพ่นลมหายใจแรง ๆ แล้วหันมามองหน้าผม ผมสบกับตาสีน้ำทะเลอย่างไม่เกรงกลัว มุมปากบางของไรเฟิลกระตุกยิ้ม
  
  “ไม่ต้องทำแล้ว มานี่” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ลงจากรถ จังหวะนั้นผมเองก็รีบลงไปด้วย กะจะวิ่งหนีแต่ก็ไม่ทันคนที่ขายาวกว่า ไอ้เหี้ยยยยยยย เร็วไปไหน!!
  
  เจ้าตัวกดล็อครถก่อนจะลากผมไปที่ลิฟต์
  
  “ไรฟ์ปล่อย!!!” ผมทั้งดิ้นทั้งตีแต่มันกลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลย เหนื่อยฉิบหาย
  
  “หยุดดิ้นได้แล้ว” ผมเบ้ปาก มันดันผมเข้ากับมุมลิฟต์ มือก็เอื้อมไปกดปุ่มตัวเลขที่อยู่ด้านข้าง
  
  
  ตึ้ง!
  
  เมื่อสัญญาณดังขึ้นไรเฟิลก็ลากผมออกจากลิฟต์ ชั้นนี้คือชั้น 49 เป็นชั้นสูงสุดและมีเพียง 2 ห้องเท่านั้น ห้องฝั่งซ้ายคือของไรเฟิล ส่วนฝั่งขวาผมไม่รู้ - - มือหนาแตะที่แผ่นอิเล็กทรอนิกส์ก่อนจะมีแสงไฟแสดงตัวเลขขึ้นมา นิ้วเรียวกดรหัส 4 ตัว เสียงสัญญาณเซ็นเซอร์ดังยาว ๆ ไรเฟิลผลักประตูเข้าไปแต่ก็ไม่ลืมลากผมไปด้วยและมันก็ปิดประตูด้วยการยกเท้าถีบ - -*
  
  “เหนื่อยหรือยัง หืม?” คนตัวสูงกอดอกมองผมที่ยืนหอบแฮ่ก ๆ อยู่กลางห้อง ก็ทั้งดิ้นทั้งอะไรขนาดนั้นไม่เหนื่อยก็ให้มันรู้ไปสิวะ !! ผมสะบัดหน้าใส่มันเดินหนีไปนั่งที่โซฟาสีดำหรูหรา
  
  ห้องของไรเฟิลตกแต่งด้วยโทนสีดำขาว เรียบแต่หรูหรา ซึ่งผมไม่ขอบรรยายก็แล้วกันนะครับ
  
  “ขอบคุณ” ผมรับแก้วน้ำเย็น ๆ จากไรเฟิลมาดื่มอึก ๆ รวดเดียวจนเหลืออยู่ค่อนแก้ว แล้ววางมันลงบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา ไรเฟิลนั่งลงที่โซฟาอีกตัว
  
  “เอาโทรศัพท์มา”
  
  “ไม่ให้ เอาไปทำไม”
  
  “เอามาเถอะน่า อย่าดื้อได้ไหมควอทซ์” คำก็ดื้อสองคำก็ดื้อ !!
  
  “เฮ้ย ๆ !! อย่าค้นกระเป๋ากูนะ!” ผมรีบถลาตัวไปดึงกระเป๋าสะพายของผมในมือไรเฟิลออก แต่มันทันครับ มันเทพรวดลงบนโต๊ะไปหมดแล้ว ไอ้เวร!!!
  
  “โทษที ซิบมันไม่ได้รูด” ผมได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ มองไรเฟิลยักคิ้วกวน ๆ มาให้
  
  “มึงสิรูด!”
  
  “เอามือถือมาได้แล้ว” ผมส่ายหัวพรืดมือก็ตะปบที่โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกางเกงไว้ แต่เหมือนการกระทำของผมจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอก
  
  ไรเฟิลลุกจากโซฟาตัวที่มันนั่งเข้ามาหาผมด้วยความเร็วทำให้ผมไม่ทันตั้งตัวปะทะเข้ากับตัวหนา ๆ ของมันจนหงายเงิบล้มลงไปนอนบนโซฟา คนตัวสูงใช้ขากดขาของผมไว้ ส่วนมือข้างหนึ่งรวบมือของผมทั้งสองข้างไปตรึงไว้เหนือศีรษะ มืออีกข้างของมันล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงผมและเอาโทรศัพท์ออกมา(ท่าแม่งโคตรล่อแหลม)
  
  “รหัสอะไร”
  
  “ไม่บอก!!”
  
  “บอกมา”
  
  “ไม่ โอ๊ย!!! เจ็บนะไอ้เหี้ย!” ไรเฟิลใช้กดน้ำหนักลงบนขาของผม เจ็บฉิบหาย!
  
  “จะบอกไหม”
  
  “1108”
  
  “ก็แค่นั้น” มันว่า แต่มันไม่ยอมปล่อยผมเป็นอิสระ มือหนาทำอะไรยุกยิกกับโทรศัพท์ของผมสักพักก่อนจะยกมาแนบหู
  
  
  “สวัสดีครับ ผมไรเฟิลนะครับ....  วันนี้ควอทซ์ไม่ไป.. โอ๊ย!!” ไรเฟิลหันมาถลึงตาใส่ผม ก็เพราะผมอาศัยจังหวะตอนมันเผลอยกขาถีบมันไปไม่เบาหนัก โทรหาเจ๊ทิชาแน่ ๆ
  
  “เจ๊ !!!! อย่าไปเชื่อมัน” ผมแหกปาก ดิ้นจนหลุดจากไอ้หมีควายนั่น ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์แต่ไรเฟิลไหวตัวทันเลยหลบได้อย่างหวุดหวิด
  
  ผมกับไรเฟิลยื้อหยุดฉุดกระชากกันอยู่นานก่อนที่มันจะเสียหลักล้มนอนที่โซฟาแต่มึงลากกูไปด้วยทำมายยยยยยยยย !
  
  สภาพตอนนี้คือ ไรเฟิลนอนหงายอยู่บนโซฟาซึ่งมีผมนอนทับอยู่บนตัวมัน หน้าของผมอยู่ด้านข้างหน้าของมัน(ถ้ายืนคางผมก็เกยไหล่มันอยู่อ่ะครับ)ขาหนัก ๆ ยกขึ้นมารัดขาผมไว้ ส่วนมือข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์ก็จับแขนผมไปไพล่หลัง ไอ้เหี้ยไรเฟิลลลลลลลล!
  
  “ต๊ายยย ทำอะไรกันเสียงดังเชียว” ได้ยินเสียงเจ๊แว่ว ๆ หลอดออกมา เจ๊ !! เจ๊อย่าคิดไปไกลนะ!!
  
  “วันนี้ควอทซ์ไม่ไปทำงานนะครับ หวังว่าเจ๊คงไม่ว่าอะไร” ผมส่ายหัวจนผมสะบัด
  
  “ไม่!!”
  
  “เงียบ!”
  
  “ตามนี้นะครับ สวัสดี” ไรเฟิลวางสายแล้วปล่อยโทรศัพท์ผมลงพื้นพรมดัง ตุบ!
  
  
  “ทำไมพูดแบบนั้น” เสียงผมอู้อี้
  
  “ไม่ต้องไปทำแล้ว ไม่ให้ไปแล้ว”
  
  “อย่ามาเอาแต่ใจ นี่มันงานของกูนะ!”
  
  “ไม่ต้องทำ ลาออกไปเลยยิ่งดี” ที่พูดเนี่ยฟังไม่รู้เรื่องใช่ไหม !!
  
  “ไรฟ์... กูรู้ว่ามึงเป็นห่วง แต่กูเป็นผู้ชาย..”
  
  “ผู้ชายแล้วไงวะ ตัวเท่าลูกหมา” ลูกหมาบ้านมึงสูง 173 เหรอ !!
  
  “กูดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า นะ” ไรเฟิลปล่อยมือที่จับผมไว้และขาผมออกแล้ว แต่กลับเลื่อนมือมากอดเอวผมเอาไว้หลวม ๆ แทน - -’
  
  “ลาออก”
  
  “เฮ้ย... จะลาออกได้ยังไง กูต้องใช้เงินนะ” ผมไม่ได้โกหกนะครับ ถึงป๊าจะส่งเงินให้ทุกเดือนแต่ผมอยากหาเงินใช้เองมากกว่าอยู่ดี (เงินส่วนนั้นถ้าไม่จำเป็นผมไม่แตะเลยด้วยซ้ำ)
  
  “มาทำกับกู”
  
  “งับ! เอาแต่ใจ!” ผมงับไหล่คนเอาแต่ใจไปทีหนึ่ง มึงเป็นทายาทฮิตเลอร์ใช่ไหม ตอบ!
  
  “ตามใจกูสิ” ผมกัดไหล่ไรเฟิลไปอีกที(น้ำลายเปื้อนเสื้อนักศึกษาของมันเลยแฮะ สมน้ำหน้า!)
  
  “ทำไมต้องตามใจด้วย” ผมพูดงืมงำปากก็งับไหล่ไรเฟิลไม่หยุด มันเพลินดีครับ แฮ่
  
  “นอกจากเป็นกระต่ายแล้วยังเป็นหมาอีกหรือไง” มือหนากระชากผมผมเบา ๆ ห่าาาาาา กูเป็นคนเถอะครับ “ทำงานกับกู กูให้เดือนละสามหมื่นเลย” ผมตาพราว ผงกหน้าขึ้นมามองหน้าคนพูด
  
  “จริง? ให้ทำอะไรวะ”
  
  “ทั่วไป” มันพูดแล้วยกยิ้ม หล่อไปแล้วไอ้เหี้ย “ความสะอาด ทำกับข้าวให้กูด้วย ง่าย ๆ แม่บ้าน” ผมเลิกคิ้ว แม่บ้านเงินเดือนสามหมื่นเลยเหรอวะ
  
  “แต่....”
  
  “ไม่มีแต่ ตกลงตามนี้ พรุ่งนี้ไปลาออกซะ” โห ไอ้เชี่ย ไอ้เผด็จการ!
  
  “เผด็จการ! แล้วแม่บ้านคนเก่าละ?” ผมฟุบลงกับไหล่กว้างเหมือนเดิม เนื่องจากเกร็งคอจนปวดไปหมด แต่อยู่แบบนี้ก็สบายดีเหมือนกันนะครับ อุ่นดี กลิ่นตัวหอม ๆ ของไรเฟิลทำผมเคลิ้มจะหลับ มันเป็นกลิ่นเหงื่อผสมกับกลิ่นโคโลญจ์จนกลายเป็นกลิ่นประจำตัวของมันไปแล้ว ดมแล้วเพลินดี เชี่ย!! คิดอะไรของมึงเนี่ยไอ้ควอทซ์
  
  “แม่บ้านจากบ้านใหญ่ ไม่มีปัญหาหรอก ถามแบบนี้ยอมแล้วใช่ไหม?” อืม แบบนี้ก็โอเค แต่ถ้าต้องไปแม่บ้านคนเก่าออกเพราะผม ผมก็ไม่ยอมหรอกครับ
  
  “มีทางเลือกเหรอ ถึงไม่ยอมก็บังคับอยู่แล้วนี่ ใช่ไหมครับคุณชายรังสิมันต์”
  
  “รู้ดี” แล้วมันก็ขยี้หัวผมสนุกสนาน สัด...
  
  “ไรฟ์”
  
  “หืม?”
  
  “ขอบคุณนะ” ผมพูดเสียงเบา แต่อยู่ใกล้ขนาดนี้คุณชายท่านได้ยินแน่นอนอยู่แล้ว
  
  “อืม”
  
  
  
  
  
  
  ......................................................................................
  
  
  
  
  
  “ขอโทษนะครับเจ๊ ผมไม่ได้อยากลาออกเลยนะ” ผมพูดอย่างรู้สึกผิด มองตัวต้นเหตุที่ส่งยิ้มอย่างผู้ชนะมาให้
  
  “ไม่เป็นไร ๆ เจ๊ไม่ได้ว่าอะไร พนักงานเองก็มีเยอะแยะ อย่าคิดมากเลย”
  
  “ขอบคุณนะครับ แต่ผมขอโทษด้วยจริง ๆ นะ” เจ๊ทิชายกมือลูบหัวผมเบา ๆ พร้อมกับยิ้มเอ็นดู
  
  “เดี๋ยวเจ๊โอนเงินเดือนสุดท้ายให้แล้วกัน ว่าง ๆ ก็แวะเอาหน้าสวย ๆ ของหล่อนมาให้เจ๊เห็นบ้างล่ะ”
  
  “โห ผมหล่อเหอะ แต่ยังไงก็ขอบคุณนะครับ” ผมยกมือไหว้
  
  สุดท้ายก็ต้องลาออกจนได้ เมื่อวานคุณชายจอมเอาแต่ใจมันบังคับให้ผมค้างกับมันแล้วบ่ายวันเสาร์ซึ่งก็คือวันนี้พี่ท่านก็ลากผมมาที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตของเจ๊ทิชาทันที มึงจะรีบไปไหนไอ้เวร!
  
  
  “เสียดาย?”
  
  “อื้อ เจ้านายดีี ๆ เจอได้บ่อย ๆ ที่ไหนล่ะ” ผมหันไปตอบไรเฟิลที่กำลังบังคับพวงมาลัยอยู่ วันหยุดแต่รถก็ติดบรรลัยเลยครับ
  
  “กูไง” ถุ้ยยยยยยย จริง ๆ อยากสบถออกไปมาก แต่กลัวคุณชายท่านจะฆาตกรรมผมเสียก่อน เลยได้แต่เบ้ปากให้ด้วยความหมั่นไส้
  
  “แล้วนี่จะไปไหน”
  
  “ซื้อของไง ต่อไปนี้มึงต้องทำอาหารเช้าและเย็นให้กูทุกวันนะครับ” พูดจบก็ยกยิ้ม
  
  “อ้าว! ปกติไม่กินข้าวเช้านี่” ผมถามด้วยความแปลกใจ ปกติคุณชายเขาไม่กินอาหารเช้านะครับ เวลาพวกผมกิน พี่ท่านแค่นั่งจิบกาแฟหล่อ ๆ เท่านั้น
  
  “อยากกินไม่ได้เหรอ?”
  
  “ครับ ๆ กินได้ครับ”
  
  
  
  
  
  คุณชายพาผมมาซื้อของที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง มาถึงก็ลากตรงดิ่งที่โซนของซุปเปอร์มาร์เก็ตทันที(แล้วทำไมแม่งซื้อตั้งแต่อยู่ร้านเจ๊ทิชาวะครับ!) มันผลักรถเข็นใส่ผม ถ้าหลบไม่ทันคือชนผมเต็ม ๆ เลยครับ ทำผิดแล้วยังมีหน้ามาหัวเราะให้อีก ไอ้คนไร้จิตสำนึก!
  
  “อยากกินอะไร” ผมหันไปถามคนข้างตัว ขณะที่เข็นรถเข็นไปด้วย
  
  “ไม่รู้สิ ซื้อไปเก็บไว้ไม่ได้เหรอ”
  
  “ของสดมันต้องซื้อวันต่อวัน ถ้าจะซื้อไปไว้ก็ได้ แต่มันจะเก็บได้ไม่นานหรอกนะ” คุณชายขมวดคิ้วคิดหนัก ถามว่าจะกินอะไรนี่ควรจัดเป็นปัญหาโลกแตกได้แล้วนะครับผมว่า
  
  “แล้วแต่มึง”
  
  “อ้าว ลำบากกูอีก” ผมเกาหัวแกรก ๆ คิดอาหารให้คนอื่นนี่ยากมากเหมือนกันนะครับ ทำแล้วเขาจะกินได้ไหม เขาจะชอบหรือเปล่า บลา ๆ ๆ
  
  สุดท้ายผมก็เป็นคนคิดอยู่ดีนั่นแหละครับ เลือกซื้อผักสด เนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้ง หมึก ไปด้วย คุณชายเขาไม่กินปลาครับ มันบอกคาว เออ ก็แล้วแต่ เลือกซื้อของสดเสร็จก็ไปที่โซนอาหารแห้งต่อ จริง ๆ มันควรจะซื้อของสดทีหลังไหมครับหรือยังไง ผมก็ไม่เข้าใจคุณชายมันนะ จากคำให้การของคุณชายคือที่ห้องมันไม่มีห่าอะไรที่สามารถเอามาปรุงอาหารได้เลย ก็เลยต้องซื้อทุกอย่าง อย่างเช่นพวกเครื่องปรุงเครื่องเทศทั้งหลายแหล่ ผมยืนอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์อยู่ เงยหน้ามาอีกทีก็ไม่เจอคุณชายแล้ว
  
  “หายไปไหนวะ” ผมวางของในมือใส่ในรถเข็นก่อนจะออกตามหาไรเฟิล ไปไหนไม่บอก ไอ้บ้านี่
  
  และผมก็มาเจอมันยืนหน้าเครียดอยู่ที่โซนเครื่องดื่ม แค่เครื่องดื่มมึงจะเครียดอะไรครับ
  
  “ทำไรวะ มาไม่เห็นบอก” ไรเฟิลหันมามอง มันไม่พูดอะไร วางโคล่าใส่่ในรถเข็น 2 แพ็คกับ hoegaarden 1 หลัง ผมได้แต่มองตาค้าง มึงซื้อไปแดกหรือซื้อไปอาบครับ!
  
  “ซื้อทำไมเยอะแยะ”
  
  “กูจ่าย” ครับ - - กูคงจ่ายให้มึงหรอกครับไอ้สัด
  
  
  
  
  
  มาถึงห้องไรเฟิลมันปลีกตัวไปนั่งดูสารคดีสัตว์โลที่หน้าทีวีพร้อมกับเบียร์หนึ่งขวดและขนม(ของผม)อีกหนึ่งห่อ ปล่อยให้ผมจัดการของที่ซื้อมาเพียงคนเดียว แหม่ ก็หน้าที่ผมนี่ครับ ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่หลวมตัวมาเป็นพ่อบ้านให้มันเนี่ย


  กว่าจะจัดของเสร็จก็ปาไปเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว ผมเลยจัดการผมอาหารง่าย ๆ อย่างข้าวผัดเบค่อนกับทอดไข่ดาวให้คุณชาย ทีแรกกะจะทำแค่จานเดียวแต่พอทำเสร็จทำไมมันเยอะจังเลยละครับ
  
  “คุณชายครับ!! กับข้าวเสร็จแล้วนะ”
  
  “ทำอะไรกิน” คุณชายมันถามพลางเดินไปล้างมือที่อ่าง มันก็นิสัยคุณชายตามที่ผมชอบเรียกนั่นแหละครับ บ้านเขาสอนมาดี
  
  “ข้าวผัดเบค่อน กินได้เปล่า”
  
  “อื้อ กินด้วยกันสิ” ไรเฟิลนั่งลงที่โต๊ะกินข้าวก่อนจะเงยหน้ามาคุยกับผม
  
  “ร่วมโต๊ะกับเจ้านายได้เหรอครับ ว้าว!”ผมแกล้งแซว เลยโดนคุณชายโยนแตงกวาด้วยความเอ็นดู ...เหรอวะ
  
  “นั่ง!” ตามนั้นครับ หึหึ ผมจัดการตักข้าวให้ตัวเองกับไรเฟิลคนละจานซึ่งมันก็สำหรับสองทีพอดีเดะ
  
  “เป็นไง อร่อยละสิ” ผมมองไรเฟิลที่กินแบบไม่พูดไม่จา
  
  “ก็กินได้” แหม อยากจะแหมใส่สักล้านแหม ผมทำกับข้าวอร่อยมากเถอะ แล้วมาบอกก็กินได้นี่คืออะไรครับ
  
  ที่ผมทำกับข้าวได้เพราะคุณย่าสอนมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ อาหารไทย อาหารต่างประเทศ ผมทำได้หมดอ่ะ ขอแค่มีวัตถุดิบก็พอ แล้วทำผมทีไรคนที่บ้านก็บอกอร่อยมาทุกทีเลยนะ อ่อ ไม่ใช่แค่อาหารคาวนะครับ อาหารหวานก็ด้วย พวกขนมงี้ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทำ ไม่รู้ฝีมือตกไปหรือยัง เดี๋ยวต้องกลับบ้านไปขอสูตรคุณย่าสักหน่อย. . .


------------------------------------

TBC.

ผ่านมาหลายตอนแล้ว ชื่อเรื่องกับเนื้อหาเกี่ยวกันยังไงหรอ  :hao4:

ชื่อเรื่องกับเนื้อหาเกี่ยวกันยังไง...?
ยังพูดยังไงดี เพราะคนแต่งเองก็ยังมึน ๆ อยู่เลยค่ะ  :mew6:
ประมาณว่าเกี่ยวกับความรู้สึกของทั้งสองคน ที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในใจอะไรงี้
แต่เราก็ยังงงอยู่ว่ามันเกี่ยวกันยังไง .พับเพียบร้องไห้

แต่ยังไงก็ฝากติดตามนิยายป่วย ๆ ของเราด้วยนะคะ จุ้บ ๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 6 (01.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 03-11-2014 15:23:26
เนื้อเรื่องน่ารักอ่ะ ต่อไปไรฟ์ จะมุ้งมิ้งใส่ ควอทซ์ ขนาดไหนน้อ

น้องควอทซ์นี่ความรู้สึกช้าจริง ไม่รู็หรอเพื่อนคิดไม่ซื่อ? รึมันดูแลกันเป็นพิเศษทุกคน?
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 6 (01.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 03-11-2014 17:11:22
โอเคเข้าใจแระ ขอบคุณที่ตอบคำถามค่ะ

เนื้อเรื่องสนุกดี จะติดตามต่อ ไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 6 (01.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: Ѷanᴉ££a ที่ 03-11-2014 17:33:49
เมื่อไหร่จะรู้ใจกันสักทีนะ คู่นี้
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 7 (06.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 06-11-2014 21:14:58
EPISODE 7





  เช้าวันอาทิตย์ผมมีนัดติวกับไนต์และบะหมี่เกี่ยวกับเนื้อหาการสอบกลางภาคที่กำลังจะมาถึง จริง ๆ นัดไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ แต่ผมถูกไรเฟิลลากไปลาออกไง อ่า พวกสามหน่อที่เหลือก็รู้แล้วครับว่าผมลาออกจากร้านเจ๊ทิชาแล้วไปเป็นพ่อบ้านให้ไรเฟิลแทน
  
  “ขอพักได้ไหมวะเห็ด สมองกูจะระเบิด!” หมาไนต์ปาชีทลงบนโต๊ะที่เรานั่งอยู่ ก่อนจะเอามือขยุ้มหัวตังเองจนฟู หน้าแม่งบ่งบอกมากว่าใกล้ตาย ผมมองดาวคณะปีสามบ้าง บะหมี่เองก็มีสภาพไม่ต่างกันกับไนต์เท่าไหร่ อยากให้แฟนคลับพวกมันมาเห็นจริง ๆ เลยครับ ซอมบี้ดี ๆ นี่เอง
  
  “ยี่สิบนาที”
  
  “หนึ่งชั่วโมง!!!” แล้วมันก็โพล่งมาพร้อมกัน โอเค เห็นว่าตั้งใจตั้งแต่เช้า(ตอนนี้เกือบเที่ยงแล้วครับ)แล้ว ยอมให้ก็ได้ พอเห็นผมพยักหน้ายินยอมพวกมันก็พากับฟุบหน้าลงกับโต๊ะทันที ผมส่ายหน้าระอา
  
  “เดี๋ยวกูไป I Wish นะ” ไนต์เงยหน้ามามองก่อนจะโยนกุญแจออดี้ลูกรักของมันมาให้ ผมยิ้มกริ่ม นาน ๆ ทีจะมันจะยอมให้ขับ แม่งหวงรถกันจะตายห่า ไม่เฉพาะไนต์นะครับ แต่ทั้งกลุ่มเลย ยิ่งไรเฟิลนะ แค่เฉียดมันก็มองตาขวางแล้ว
  
  “ซื้อมาเผื่อกูด้วย” ว่าแล้วก็โยนกระเป๋าเงินของมันมาให้ด้วย ผมรีบตะปบเลยครับ เดี๋ยวแม่งเปลี่ยนใจ
  
  “ม่ามึงเอาไร” ผมถามสาวสวยที่กลายร่างเป็นซฮมบี้บ้าง
  
  “แล้วแต่มึงเลย กูไม่มีสมองจะคิดแล้วไอ้สัด!”
  
  
  
  
  
  
  
  
  ::: I Wish :::
  
  
  
  “ทาร์ตผลไม้ 4 ชีสเค้กสตรอเบอร์รี่ 2 ชีสพายบลูเบอร์รี่ 3 กรีนทีบราวน์นี่ 2 มัฟฟินช็อกโกแลต 2  เครปเค้กเรนโบว์ 1 กรีนทีลาเต้ปั่น 1 อเมริกาโน่เย็น 1 คาราเมลวิปครีม 1 ทั้งหมดเทคโฮมนะครับ” ผมสั่งไปตามความเคยชินโดยที่ไม่ต้องดูเมนู พนังงานมองผมอึ้ง ๆ โธ่ อย่ามองผมอย่างนั้นสิครับ! ผมไม่ได้กินคนเดียวสักหน่อย
  
  ร้านไอวิช เป็นร้านเบเกอร์รี่และคอฟฟี่ชอปครับ มีขนมให้เลือกเยอะมาก แล้วก็อร่อยด้วย ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านประจำของผมพวกเลยก็ว่าได้ ร้านขนาดกลาง ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่มาก ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น อบอวนไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟและขนมชวนน้ำลายไหล บรรยากาศดี ขนมอร่อย พนักงานเองก็บริการดีมาก...
  
  “เทคโฮมนะคะ ทานนี่หรือกลับบ้านคะ” เดี๋ยวนะ.... ไม่รู้ว่าผมเบลอหรือพนักงานเธอเบลอกันแน่ เทคโฮมกับกลับบ้านนี่มันไม่เหมือนกันเหรอครับ หรือยังไง แล้วถ้าบอกว่าไม่กินที่นี่แล้วก็ไม่กลับบ้านพนักงานจะเอาถาดฟาดผมไหมครับ...
  
  “กลับบ้านครับ...”
  
  “ทั้งหมด x85 บาทค่ะ” ผมเอาเงินในกระเป๋าไนต์จ่าย ก่อนจะรับสลิปมาระหว่างรอก็คิดว่าจะซื้ออะไรอีกหรือเปล่า แต่พอดีกว่าครับ เดี๋ยวคงโดนลากให้ไปกินข้าวเที่ยงเร็ว ๆ นี้แน่
  
  “ขอบคุณนะคะ โอกาสหน้าเชิญใหม่ค่ะ” ผมยิ้มตอบพนักงานสาวขณะรับถุงขนมมาถือ...
  
  
  
  
  
  
  
  .........................................................
  
  
  
  
  
  
  
  กลับมาถึงฐานทัพกลับเจอสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเพื่อนนั่งอยู่มากกว่าสอง แต่เพียงแค่เห็นผมสีบลอนด์เป็นประกายหยอกล้อกับแสงแดดนั่นก็รู้แล้วว่าใคร (แม้จะเห็นแค่ด้านหลังก็เถอะ)
  
  “ไง” ผมทักคุณชายแล้วนั่งลงที่ม้านั่ง
  
  “ไปไหนมา”
  
  “ไอวิช” ผมตอบพลางส่องอเมริกาโน่ให้หมาไนต์และส่งคาราเมลวิปครีมให้บะหมี่ ส่วนผมก็ยกกรีนทีลาเต้ขึ้นมาดูด ก่อนจะยื่นไปตรงหน้าไรเฟิล มันมองผมสลับกับแก้วในมือผมอย่างชั่งใจ(คุณชายเขาขึ้นชื่อเรื่องไม่กินของต่อจากคนอื่นครับ)แต่สุดท้ายก็รับไปดื่มจนได้ ผมเลยยิ้มกว้างจนตาปิด(ฟอร์สมันบอกว่าเวลาผมยิ้มแบบนี้แล้วเหมือนกระต่าย ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าเหมือนยังไง เพราะผมมีฟันกระต่ายเหรอ?)
  
  “จีบกันอีกล่ะ!” ผมขึงตาใส่บะหมีที่ลอยหน้าลอยตาจ้วงชีสพายเข้าปาก(บ่นว่ากลัวอ้วนแต่เสือกแดกเค้กแทนข้าว)
  
  “ไม่เอาเค้กส้มมาด้วยวะ” หมาไนต์บ่น
  
  “ก็แล้วแต่กูป่ะ!” ผมยัดมัฟฟินเข้าปากไนต์ก่อนจะเอาชีสเค้กสตรอเบอร์รี่สุดโปรดมากินบ้าง(ผมขอช้อนพลาสติกจากที่ร้านมาด้วยครับ ไม่งั้นคงต้องใช้มือจ้วงกัน -.-)
  
  “เป๋าตังค์กู กุญแจรถด้วย มึงอย่าเนียน” ผมยื่นสมบัติของมันใส่มือใหญ่ที่แบอยู่ตรงหน้า กูลืมได้ไหมล่ะไอ้เวร! “แบงค์พันกูหายหนึ่งใบ ไอ้ปืนมึงจ่ายมา!” ผมกลอกตา ส่วนไรเฟิลก็ส่ายหน้าระอา
  
  “เสร็จแล้วไปหากูที่ชมรมนะ” ผมพยักหน้าให้ไรเฟิล มันวางแก้วกรีนทีลาเต้ของผมที่เหลือไม่ถึงครึ่งลง ก่อนที่จะลุกออกไป ผมคว้ามาดื่มอีกสองอึกก็วางไว้
  
  “ว้าว! กินน้ำหลอดเดียวกันแบบนี้เขาเรียกอะไรน้าาาาาาา” เสียงตอแหลของบะหมี่วิ่งเข้ามากระทบโสตประสาทของผม
  
  “แถวบ้านกูเรียกจูบทางอ้อมน้าาาาาา” จูบทางอ้อมส้นตีนอะไรของพวกมึง!! แล้วนี่ ใครเอาไฟมาจุดใต้แก้มผมเนี่ย ทำไมมันร้อนอย่างนี้ล่ะ!!!
  
  “พ่อง!!” ไนต์กับบะหมี่หัวเราะร่วนก่อนจะพากันเอามือมารุมขยี้หัวผมจนผมฟูไปหมด !!!!
  
  
  ก่อกวนผมเสร็จก็ได้เวลาติวต่อเสียที พวกผมอ่านหนังสือกันจนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น มองดูเวลาจากโทรศัพท์ถือ ตัวเลข 16.37 แสดงบนหน้าจอ
  
  “พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน” ผมบอก สภาพสองหน่อใกล้ตายเข้าไปทุกที เราจัดการเก็บของให้เรียบร้อย เดินไปส่งบะหมี่ขึ้นรถ ส่วนไนต์ก็มาส่งผมที่ชมรมว่ายน้ำก่อนจะรีบขับรถออกไปเพราะโดนที่บ้านโทรตาม
  
  
  
  
  
  
  
  ผมเดินเข้าไปด้านใน มีคนอยู่ประปราย บางคนก็กำลังว่ายน้ำอยู่ บางคนก็นั่งอยู่ที่อัฒจรรย์ ผมมองหาคนที่บอกให้ผมมารอแต่กลับหาไม่เจอ ไปอยู่ที่ไหนวะ! มีหลาย ๆ คนหันมามองผม ซึ่งผมโคตรไม่ชอบเลย ผมไม่ชอบโดนจ้อง มันทำให้ผมรู้สึกประหม่า
  
  “อ้าว ~ เจ้าหญิง มาเดียวเหรอครับ” ผมหันควับไปมองคนพูด
  
  “เจ้าหญิงพ่อมึงสิ!” ไอ้วอร์มหัวเราะเอิ้กอ้ากไม่มีสลด วอร์มเป็นนักศึกษาปี 2 คณะศิลปกรรมศาสตร์ และมันก็เป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมว่ายน้ำ  หน้าตามันก็ดีนะครับ ตัวสูง หุ่นก็โอเคไม่เก้งก้าง รวม ๆ แล้วถือว่าดูดี แต่ติดที่นิสัยที่ค่อนข้างจะกวนตีนเท่านั้นเอง
  
  “แค่ล้อเล่นเองครับ อย่างสั่งประหารชีวิตผมนะครับเจ้าหญิง” ผมกลอกตา ที่ผมเซ็งเพราะเรียกผมว่าเจ้าหญิงนี่แหละครับ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะ แต่มันเรียกทุกครั้งที่เห็นหน้าผมเลย !
  
  “หุบปากเลยไอ้เวร ไรเฟิลล่ะ?”
  
  “ว้าาาาา~ เจ้าหญิงถามหาเจ้าชายเสียแล้ว โอ๊ย!! ตบผมทำไมเนี่ย”
  
  “แล้วมึงกวนตีนกูทำไม ตอบมา!” ไอ้วอร์มลูบหัวตัวเองปรอย ๆ
  
  “เฮียอยู่ข้างในนู่น” วอร์มดันหลังผมเข้าไปที่ห้องสำหรับเปลี่ยนชุด
  
  
  
  “เฮีย!! ผมเอาของมาส่ง โอ๊ยยยย!!!” ไอ้วอร์มแหกป่ากตะโกน ผมเลยยันโครมจนมันถลาแทบจูบกับพื้น วอร์มหันมาทำหน้างอใส่ผมแล้วหันไปโวยวายใส่พวกที่หัวเราะมัน
  
  “หวัดดี” ผมทักพร้อมกัับยิ้มน้อย ๆ ให้พวกเขา
  
  “โหววววววว นางฟ้ามาให้เชยชมถึงที” ไรเฟิลโบกหัวคนที่โห่ร้องทันที ส่วนผมก็ได้แต่หน้าหงิก นางฟ้าพ่องงงงง!
  
  “มายังไง” คุณชายเดินเข้ามาหาผม สภาพมันตอนนี้คือผ้าขนหนูพันที่เอวเส้นผมสีบลอนด์เปียกลู่แนบกับใบหน้า ลำตัวมีหยดน้ำเกราะพราว คงกำลังอาบน้ำอยู่และคงออกมาเพราะได้ยินเสียงตะโกนของไอ้วอร์ม
  
  “ไนต์มาส่ง” เจ้าตัวพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปตะโกนเรียกวอร์ม
  
  “ไอ้วอร์ม!!”
  
  “ครับเฮีย!” วอร์มวิ่งหูตั้งหางกระดิกเข้ามาหาไรเฟิล (ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมพวกนี้ถึงเรียกไรเฟิลว่าเฮียทั้งที่หน้าก็ฝรั่งขนาดนั้น) “ได้ครับ!” มันสองคนกระซิบกระซาบอะไรกันไม่รู้ ผมมองพวกมันสลับกัน
  
  “อยู่กับไอ้วอร์ม อย่าไปไหนคนเดียว เข้าใจไหม”
  
  “หะ?” ผมยังไม่ทันหายมึนก็โดนวอร์มลากออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด วอร์มพาผมมานั่งที่เก้าอี้ตัวยาวสำหรับนักกีฬา หน้าตาระริกระรี้เสียจนผมหมั่นไส้ เลยซัดป้าบ!! เข้าไปเต็มแรง
  
  “ถ้าไม่ใช่เจ้าหญิงผมซัดคืนแล้วนะเนี่ย!”
  
  “เลิกเรียกกูเจ้าหญิงสักที!!”
  
  “เจ้าหญิง! เจ้าหญิง! เจ้าหญิง!” ป่วยการจะเถียง จะเรียกก็เรียกไปเถอะ ไอ้เวร!
  
  ผมแกะอมยิ้มรสส้มมากิน วอร์มมองตามตาละห้อยเหมือนหมาขออาหารจากเจ้านาย ผมเลยส่งรสโคล่าให้มันไป(ผมพกอมยิ้มติดตัวตลอดแหละครับ ลูกอมก็มีนะ สนไหม *ขยิบตา*) ก่อนจะหยิบ PSP ในกระเป๋ามาเล่นเกมฆ่าเวลา
  
  “เจ้าหญิงน่ารักแบบนี้ไง เจ้าชายเลยหวง อิอิ” อิอิพ่องงงงง!!! ผมหรี่ตามองไอ้วอร์มที่ทำหน้าระรื่นก่อนจะหน้ายุ่งเพราะแกะเปลือกอมยิ้มไม่ได้ - -*
  
  “เจ้าหญิงเจ้าชายห่าไรมึง”
  
  “เอ้า!! พี่ควอทซ์เป็นเจ้าหญิง ส่วนเฮียก็เป็นเจ้าชายไง วันนี้ไอ้วอร์มถูกเจ้าชายแต่งตั้งให้เป็นองครักษ์ด้วย ~” เห็นมันยิ้มอารมณ์ดีขนาดนั้นก็ไม่อยากขัดครับ แม้จะรู้สึกแปลก ๆ กับคำว่าเจ้าหญิง เจ้าชาย เลยได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก เลิกสนใจไอ้เด็กเพี้ยนแล้วมาสนใจพีเอสพีในมือแทน
  
  
  
  
  
  
  ........................................
  
  
  
  
  “ขับรถดี ๆ ล่ะ” ผมบอกไรเฟิล คนตัวสูงพยักหน้าอือออ
  
  “จะไม่ชวนเข้าห้องจริงเหรอวะ” ผมเลิกคิ้ว
  
  “อะไรกัน อ่อยพี่ควอทซ์เหรอน้องไรฟ์” ผมแกล้งกระแซะไหล่หนา เพราะความหมั่นไส้หรืออะไรไม่รู้ มันดันหัวผมจนแทบหงาย
  
  “ตีนเหอะ” ผมหัวเราะ มองตามหลังไรเฟิลที่เดินหายเข้าไปในห้องผม แล้วที่บอกให้ขับรถดี ๆ นี่ไม่มีประโยชน์เลยสินะ
  
  “นอนนี่นะ” เสียงทุ้มบอกแผ่วเบา ผมมองร่างสูงที่นอนเหยียดอยู่บนโซฟา มือประสานกันที่หน้าท้อง ดวงตาหลับนิ่ง
  
  “หือ ทำไมอะ”
  
  “ขี้เกียจขับรถ เหนื่อย..” คงต้องยอมแหละครับ เพราะสภาพแม่งเหนื่อยมากจริง ๆ
  
  วันนี้ไรเฟิลจัดการอะไรไม่รู้ที่ชมรมแทบทั้งวัน ที่มาหาผมนั่นก็แอบมาด้วยซ้ำ และต้องรีบกลับไปเพราะโดนไอ้วอร์มโทรจิก(ไรเฟิลเป็นประธานชมรมว่ายน้ำครับ)
  
  “ไม่อาบน้ำสิ จะได้สบายตัว” ผมจิ้มแก้มไรเฟิลเบา ๆ โดนมือหนาปัดออกด้วยความรำคาญ คิ้วขมวดมุ่นเมื่อโดนขัดใจ ตลกดี ผมยิ้มบางให้คนตัวโตที่ลืมตามามอง เราสบตากันนิ่ง ๆ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ผมไม่สามารถผละออกจากดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลคู่นี้ได้เลย
  
  “หึ” ไรเฟิลหัวเราะหึ แล้วเอานิ้วดันหน้าผากผมที่นั่งยอง ๆ อยู่ข้างโซฟาจนหงายเงิบ ผมได้ทีเลยนั่งขัดสมาธิบนพื้นนั่นแหละ! สะบัดค้อนใส่คนตัวโตที่ตอนนี้เปลี่ยนจากนอนมาเป็นนั่งแทน
  
  “ไปอาบน้ำ~”
  
  “อาบให้หน่อย” ผมเงยหน้ามองคนพูดที่กำลังทำสายตาเจ้าชู้ส่งมาให้
  
  “ฝันไปเถอะ!” ผมลุกขึ้นแล้วเดินหนีมันเข้าไปในห้องนอน
  
  
  เราสองคนผลัดกันอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว โดนที่สุดท้ายแล้วก็โดนไรเฟิลไล่ไปอาบก่อน ผมนั่งพิงหัวเตียงในมือมีหนังสือเล่มหนาที่เปิดค้างเอาไว้ส่วนอีกข้างมีปากกาไฮไลท์สีเขียวอยู่
  
  “นอนได้แล้ว” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น พร้อมกับไฟที่ดับมืด
  
  “งื่อ แป๊บนึง” ไรเฟิลไม่ยอมเปิดไฟ แต่กลัับปืนขึ้นมานอนบนเตียงแทน ผมเลยเอือมมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง อ่านไปสักพักผมก็วางหนังสือกับปากกาลงที่โต๊ะหัวเตียง ถอดแว่นที่สวมอยู่ออกวางไว้ข้าง ๆ กัน(ผมใส่แว่นเวลาอ่านหนังสือกับใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ น่ะครับ)ยกมือนวดขมับกับหัวตาเบา ๆ ก่อนจะเอือมมือไปปิดโคมไฟ
  
  “อย่าไปใส่แว่นให้ใครเห็นนะ” เสียงพูดเบา ๆ ดังมาจากคนที่ผมคิดว่าหลับไปแล้ว ผมมุดตัวเข้าไปใต้ผผ้าห่มโผล่ออกมาแค่ส่วนของจมูกกับตา ขยับพลิกตัวหันหน้าไปทางไรเฟิล ในอ้อมแขนมีพี่หมีอยู่(พี่หมีคือตุ๊กตากระต่ายที่ผมได้จากป๊าตั้งแต่อยู่ประถมหนึ่งตอนนี้สภาพก็เน่าพอสมควรเลยครับ)
  
  “ทำไมละ? น่าเกลียดเหรอ?” ผมถามเสียงอู้อี้เพราะปากถูกผ้าห่มปิดเอาไว้
  
  “มาก” ผมกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่จะฟาดแขนมันไปเพราะประโยคต่อมาของไรเฟิลที่บอกว่า..
  
  “ล้อเล่น” โธ่เอ้ย! เสียความมั่นใจหมด คุณชายหัวเราะพอใจที่แกล้งผมได้ จิ๊! อย่าให้ผมเอาคืนบ้างแล้วกัน
  
  ผมกับไรเฟิลสบตากับอีกครั้งท่ามกลางความมืด แต่ผมกลับเห็นประกายแวววาวในดวงตาคู่สวยอย่างชัดเจน ผมไล่มองตั้งแต่ดวงตาสีฟ้า จมูกโด่งเป็นสัน จนกระทั่งริมฝีปากบางเฉียบที่ติดจะซีดนิดหน่อย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมรู้สึกเพียงว่าใบหน้าของเรามันค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้กันอย่างช้า ๆ อยากจะผละออกแต่กลับควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่ร่างกายของผม ผมนอนนิ่งเมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากเย็นของไรเฟิลที่สัมผัสเข้ากับริมฝีปากของผม อยากจะโวยวาย อยากจะผลักอีกคนออกไปให้ไกล แต่ร่างกายกับไม่ขยับราวกับมีบุคคลที่มองไม่เห็นคอยบังคับ มือหนาเลื่อนมาประคองท้ายทอยขึ้น เรียวลิ้นชื้นไล้เลียไปตามแนวริมฝีปากช้า ๆ ราวกับจะขออนุญาติ ทั้ง ๆ ที่ควรปฏิเสธ แต่ผมกลับหลับตารับสัมผัสหวาบหวามนั่นอย่างเผลอไผล่ ริมฝีปากค่อย ๆ เปิดอ้าก่อนที่ลิ้นของอีกฝ่ายจะสอดเข้ามา
  
  ไรเฟิลเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของผม รสจูบของร่างสูงทำให้ผมเคลิ้มตามอย่างง่ายดายจนผมเผลอจูบตอบ !!! ผมครางในลำคออย่างห้ามไม่ไหว ได้เสียงทุ้มหัวเราะอย่างพึงพอใจนั้นยิ่งทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้า ! ร่างสูงดูดลิ้นผมเบา ๆ ก่อนจะถอนลิ้นออกไป แต่ริมฝีปากยังแนบชิดกับปากของผม มือหนานวดคลึงท้ายทอยของผมเบา ๆ ปากกดจูบย้ำ ๆ ก่อนจะผละออกช้า ๆ อย่างอ้อยอิ่ง. . .
  
  “แฮ่ก...” ผมหอบแฮก เมื่อได้รับอิสระก็รีบสูดอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็ว พอเห็นโครงหน้าหล่อผมก็นิ่งไป ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้อีกฝ่าย มือขยุ้มลงที่ตำแหน่งของอกด้านซ้ายที่กระหน่ำเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ. . .
  
  “ควอทซ์...”
  
  “ช ช่างเถอะ” ผมรีบตัดบท ไม่อย่าได้ยินอะไรทั้งนั้น ให้ตายสิ! แอร์ก็เย็น แต่ทำไมหน้าผมถึงได้ร้อนวูบวาบแบบนี้กันเล่า!
  
  “...Goodnight”
  
  “ฝ ฝันดี”



----------------------------------

TBC.

ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรานะคะ  :กอด1:

สวัสดีวันลอยกระทง ~
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 7 (06.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 06-11-2014 21:47:07
เห็นมาอัพแล้วต้องรีบอ่านเลยค่ะ

มาต่ออีกเร็วๆนะ กำลังสนุก

สุขสันต์วันลอยกระทงค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 7 (06.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 07-11-2014 10:12:39
เค๊าจูบกันแล้วอ่ะ  :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 8 (08.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 08-11-2014 22:17:12
EPISODE 8




  จากเหตุการณ์คืนนั้นก็ล่วงเลยมาเกือบหนึ่งสัปดาห์ ผมกับไรเฟิลแทบไม่ได้คุยกันเลย เพราะต่างคนต่างยุ่ง ผมเข้าไปจัดการทำความสะอาดที่คอนโดของคนตัวสูงแค่วันที่พอมีว่างเท่านั้น(คุณชายเขาไม่มีปัญหา เพราะเข้าใจว่าผมต้องเร่งทำโปรเจกต์และอ่านหนังสือสอบ) วันนี้ก็เช่นกัน. . .
  
  
  ตี๊ด....
  
  เสียงเซ็นเซอร์ดังขึ้นเมื่อผมกดรหัสผ่าน 4 ตัวตามที่เจ้าของห้องให้ไว้(มันให้คีย์การ์ดสำรองผมด้วย) เมื่อเข้ามาถึงกลางห้องก็ผมผงะ คุณรู้ไหมผมเจออะไร? โจร? โน ไม่ใช่ครับ ผมเจอเจ้าของห้องนั่นเอง.. ผมตกใจทำไมเหรอ ก็ใครจะไปคิดว่าจะได้มาเผชิญหน้ากันตรง ๆ แล้วแบบนี้เล่า! เพียงแค่ได้ยินคนพูดถึงชื่อ ‘ไรเฟิล’ ภาพเหตุการณ์คืนนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวราวกับแผ่นหนังที่ถูกตั้งให้อยู่ในโหมดรีเพลย์ โคตรหลอนตัวเองเลย
  
  “ง ไง อยู่ด้วยเหรอ” ผมทักคุณชายที่นั่งจมอยู่กับกองเอกสารต่าง ๆ ที่โซฟา
  
  “อืม” เงยหน้ามามองกูหน่อยไม่ได้หรือไง! ไอ้กระดาษนั่นน่าสนใจกว่าผมตรงไหน ! แล้วทำไมผมต้องหงุดหงิดด้วยเนี่ย รีบทำหน้าที่มึงสิไอ้ควอทซ์ จะได้รีบไสหัวกลับ
  
  
  
  
  ครืด ครืด~
  
  ผมมองโทรศัพท์ที่นอนสั่นอืด ๆ อยู่บนโต๊ะกินข้าว ตัวผมกำลังเช็ดหม้อเช็ดตู้ก็จำต้องวางผ้าลง ชะโงกหน้าดูพอเห็นว่าใครโทรมาก็รีบกดรับทันที
  
  “ป่าป๊า~~” ใช้แล้ว ป๊าผมโทรมาครับ!!
  
  “ไงเจ้าตัวแสบ หายหัวไม่เห็นหน้าหลายเดือน”
  
  “โธ่ หลายเดือนที่ไหนกัน ป๊าอย่ามั่ว” ลองนับนิ้วดูก็แค่เดือนกว่า ๆ เอง
  
  “กูนึกว่าตัวเองไม่มีลูกแล้วนะรู้ไหมไอ้แสบ!”
  
  “ว่าไปนั่น เดี๋ยววันเสาร์นี้ได้เจอหน้าหล่อ ๆ ของควอทซ์แน่ ๆ” ผมว่ายิ้ม ๆ นึกจินตนาการถึงหน้าป๊า คงจะทำหน้าเหมือนมีคนบอกว่าเจอนกแก้วออกลูกเป็นตัว ฮ่า ๆ ผมขยับตัวหน่อย ๆ เมื่อเห็นคุณชายเข้ามา ไรเฟิลมองหน้าผมหน่อย ๆ แล้วก็เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบเบียร์ไปหนึ่งกระป๋องแล้วออกไป ไม่มีการกวนตีนใด ๆ ทั้งสิ้น... มองเห็นเงาสะท้อนของตัวจากตู้กรจก แล้วทำไมผมต้องขมวดคิ้วขนาดนี้กัน...
  
  “ให้มันแน่เถอะ ไปหาย่าเขาบ้าง”
  
  “พรุ่งนี้ควอทซ์มีสอบตัวสุดท้าย งั้นพรุ่งนี้ตอนเย็นเจอกันนะครับ อ๋อ! ป๊าอย่าเพิ่งบอกคุณย่านะ” คุยต่ออีก 2-3 นาทีก็วางสายไป เพราะคุณผู้ชายท่านมีประชุม
  
  
  
  “แก้เครียดหน่อยไหม?” ผมพยักพเยิดหน้าไปที่จานพุดดิ้งสีสวยที่วางอยู่บนโต๊ะ
  
  พรึ่บ! ผมดึงชีทในมือหนาออก และก็ได้รับสายตาดุ ๆ นั่นเป็นสิ่งตอบแทน อะไร! แค่กลัวว่าจะอ่านหนังสือจนเป็นบ้าหรอก คนเอาขนมมาให้ยังจะเมินอีก เดี๋ยวกูฟาดเลย
  
  “อย่ากวนน่า” ผมวางชีทแผ่นนั้นลงบนโต๊ะ ยกจานพุดดิ้งที่ดูท่าคงจะเป็นหมันกลับไปใส่ไว้ในตู้เย็น จากนั้นก็คว้ากระเป๋าขึ้นพาดไหล่ พอจะก้มลงใส่รองเท้าข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน ผมหันไม่มองตัวต้นเหตุ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ไรเฟิลนั่นแหละ
  
  “ปล่อยดิ” ผมบิดข้อมือออกแต่ไม่หลุด
  
  “จะไปไหน” ถามแปลก กลับบ้านสิวะ!
  
  “จะกลับแล้ว ปล่อยยยยยย” คนตัวสูงพ่นลมหายใจ แล้วลากผมกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง มือหนาผลักผมลงที่โซฟา
  
  “เป็นอะไร?”
  
  “มึงนั่นแหละเป็นอะไร!”
  
  “เปล่า” เปล่าส้นตีนอะไร!
  
  “เหอะ กูก็เปล่า ปล่อยดิ จะกลับบ้าน” ผมพยายามผลักมันออก แต่ไม่เป็นผล แขนแกร่งเท้าคล่อมกับโซฟา ท่านี้ก็เท่ากับว่าผมถูกขังด้วยแขนของมันนั่นแหละ แล้วหน้าน่ะจะก้มลงมาทำไมไม่ทราบ!!!
  
  “มองหน้ากู” ผมหลับตานิ่ง เอียงหน้าซบกับพนักพิง
  
  “ควอทซ์” ผมยังคงหลับตาอยู่เหมือนเดิม ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกลมหายใจร้อน ๆ กระทบกับผิวแก้ม และเมื่อลืมตาขึ้นมาก็ต้องชะงักค้างเพราะใบหน้าคมที่อยู่ใกล้ ถ้าขยับแค่นิดเดียวจมูกโด่งนั่นคงได้ฝังลงบนแก้มผมอย่างแน่นอน. . .
  
  “เป็นอะไร ทำไมต้องทำเหมือนรำคาญด้วย...” ผมถามเสียงแผ่ว มองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าที่มีเงาของผมสะท้อนอยู่
  
  “ไม่ได้รำคาญ”
  
  “แต่มึงเมินกู!” ผมสวนขึ้นทันควัน ไรเฟิลพ่นหายใจก่อนจะยิ้มบาง ๆ (ฮื้อ ทีใครเคยบอกไหมว่าเวลาไรเฟิลยิ้มมัน... หล่อมาก ๆ แต่เจ้าตัวมันดันชอบทำหน้านิ่ง)
  
  “หืม? เมื่อไหร่?” เมื่อกี้ไง!!! อยากตะโกนใส่หน้า แต่พอเอาเข้าจริงก็ทำเพียงแค่กลอกตา
  
  “ไม่รู้สิ” ผมไม่ไหวไหล่ “ไปอ่านหนังสือดิ จะกลับแล้ว” ดันไรเฟิลออก และครั้งนี้เจ้าตัวก็ยอมแต่โดยดี ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะขยับตัวมานอนหนุนที่ตักของผม... กูจะได้กลับหอไหมเนี่ย
  
  “เฮ้! จะนอนก็ไปนอนที่ห้องสิ”
  
  “อื้อ” อื้อก็ลุกสิวะ มือที่กำลังจะเขย่าปลุกคนตัวสูงที่นอนอยู่จำต้องลดกลับ ใบหน้าคมยังคงดูเหนื่อยล้า ขอบตาคล้ำนิดหน่อย คงมีสาเหตุมาจากการอดนอน เห็นสภาพแบบนี้จะใจร้ายปลุกขึ้นมาก็คงจะเกินไปหน่อย เลยเปลี่ยนเป็นยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมสีบลอนด์เบา ๆ ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าไรเฟิลหลับสนิท
  
  
  
  
  ผมค่อย ๆ ขยับตัวลุกไม่ให้กระทบคนที่กำลังหลับ คว้าหมอนมารองศีรษะแทบตักของผม แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาก็ทรุดลงกับพื้นพรม เพราะนั่งท่าเดิมนานกว่าหนึ่งชั่วโมง แถมยังโดนทับอีก สรุปก็... เหน็บแดกไปตามระเบียบครับ - - ผมเหยียดขาออกเบา ๆ แต่ก็ต้องเบ้หน้าเพราะเจ็บจี๊ด ยกมือทุบเบา ๆ พอความรู้สึกเจ็บและชาหายไป ถึงได้เดินไปที่ครัว ทำอะไรไว้ให้สักหน่อย นี่ก็ค่ำกบ้ส ตื่นมาคงจะหิวไม่เบา
  
  ในตู้เย็นมีของสดอยู่แค่ไม่กี่อย่าง(นอกนั้นถูกยัดด้วยเบียร์ โคล่า และเจ้าพุดดิ้งที่เห็นแล้วอยากเอามาสับให้เละ) ไข่ไก่ 2 ฟอง พอดูช่องฟรีซก็เจอหมูบดและหมึกอยู่ อ่า ถือว่ายังดี ต่อไปมีผักกาดขาวกับแครอทอยู่หนึ่งหัว ขึ้นฉ่าย 2 ต้น (อยากจะสะบัดขาขึ้นมาก่ายหน้าผาก)
  
  ทำแกงจืดกับไข่เจียวก็แล้วกัน! ผมจัดการหุงข้าว ก่อนจะมาล้างผักและหมึก หมึกตัวน้อยถูกยัดไส้ด้วยหมูบดจนอวบอ้วนนอนเรียงกันในจานประมาณ 7-8 ตัว เมื่อน้ำซุปที่ปรุงไว้(ก่อนจะล้างผักและหมึก)เดือดได้ที่ก็ใส่แครอทที่หั่นเอาไว้ลงไป รอสักพักก็ใส่หมึกและผักกาดขาวปิดหม้อทิ้งไว้ ระหว่างรอแกงจืดสุก ผมก็ตั้งกระทะเตรียมทอดไข่ รอให้น้ำมันเดือดก็เทไข่ที่ตอกและปรุงไว้ลงไป อ่า... กลิ่นหอม ๆ ที่โชยออกมาทำเอาท้องร้องโคลกคลาก
  
  
  “ทำไมไม่ปลุก” ผมสะดุ้ง หันไปมองต้นเสียงก็เจอคุณชายในสภาพหัวฟูตาปรืดยืนพิงเคานต์เตอร์อยู่ใกล้ ๆ
  
  “ไม่อยากกวน ไปล้างหน้าล้างตาไป” พยักหน้ารับเนือย ๆ แล้วเดินออกไป ผมตักไข่เจียวใส่จานไปวางบนโต๊ะกินข้าวแล้วเดินกลับมายกชามแกงจืดหมึกยัดไส้ตามไป
  
  “กินกับกู” ไม่บอกก็จะกินอยู่แล้วแหละน่า ผมกลับมาที่โต๊ะพร้อมข้าวสองจาน แล้วไปกดน้ำเย็นมา 2 แก้ว ให้คุณชาย 1 ของผมอีก 1 แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี จะกินแล้วนะคร้าบบบบบบ
  
  “ของสดหมดแล้ว ได้แค่นี้แหละ”
  
  “อื้อ พรุ่งนี้ก็ไปซื้อ”
  
  “เอ่อ... พรุ่งนี้หลังจากสอบเสร็จ กูว่าจะกลับบ้าน” ผมลอบมองไรเฟิล คุณชายเหลือบตามองด้วยสายตานิ่ง ๆ
  
  “นะ ไม่ได้กลับบ้านนานแล้วอ่า~ เดี๋ยวป๊าจะตัดออกจากทะเบียบบ้านแล้วเนี่ย นะ นะ นะครับเจ้านาย” ผมรีบอ้อนพร้อมกับกระพริบตาปริบ ๆ เมื่อคนตรงหน้าเริ่มหน้ายุ่ง ที่จะขออนุญาตเพราะผมต้องรับเงินเดือนจากมันนะครับ มีอย่างที่ไหนเพิ่งเริ่มทำงานแค่ไม่กี่สัปดาห์ก็ขอหยุดเสียแล้ว แบบนี้ต้องอ้อนอย่างเดียวครับ!
  
  “ก็ยังไม่ได้ว่าอะไร” ผมยิ้มกว้างจนตาปิด ตักไข่เจียวให้คนตัวสูงอย่างประจบ เอ๊ะ! ประจบเหรอ ไม่สิ ต้องเป็น’เอาใจ’ต่างหาก! แต่ทำไมถึงรู้สึกทะแม่งกว่าเมื่อกี้ล่ะ เออ ช่างเถอะ
  
  เมื่อกินเสร็จผมก็เก็บถ้วยชามไปล้าง เช็ดโต๊ะ เช็ดเตา เก็บขยะที่จะเอาทิ้ง ออกมาจากครัวก็เจอไรเฟิลนั่งกินพุดดิ้ง(อันที่ผมเอาไปให้แล้วมันเมินนั่นแหละครับ)อยู่
  
  “จะกลับแล้วนะ”
  
  “แป๊บ” ไรเฟิลวางจานเปล่าลง ก่อนจะเดินหายขึ้นไปชั้นสองซึ่งเป็นส่วนของห้องนอน และกลับออกมาอีกครั้งผมเสื้อผ้าชุดใหม่(เมื่อกี้มันใส่แค่กางเกงวอร์มตัวเดียว)กับกระเป๋าเงินและกุญแจรถ
  
  “เฮ้ย! เดี๋ยวกลับเองก็ได้ ไปอ่านหนังสือต่อเถอะ” เมื่อคุณชายท่านคิดจะทำอะไรใครหน้าไหนก็ห้ามไม่ได้ทั้งนั้นแหละครับ... สุดท้ายก็ยอมให้มันมาส่งที่หออยู่ดี เฮ้อ
  
  
  
  
  
  
  
  
  ..................................
  
  
  
  
  
  
  
  ผ่านพ้นไปสำหรับการสอบกลางภาค ผมเป็นไทแล้ว แต่การสอบวิชาเดียวแต่ใช้เวลาไปสามชั่วโมงก็ทำเอาสติของผมหายไปเกือบครึ่งอยู่เหมือนกัน ตอนนี้มึนมากเลยครับ ขนาดผมยังมึน แล้วมิตรสหายสองหน่อจะเหลือเหรอครับ
  
  “ออกข้อสอบแบบนี้ไม่แนบลายเซ็นให้กูด้วยเลยวะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาดรอป!” บะหมี่บ่น หน้าตามันเคียดแค้นมาก หมดสภาพดาวปีสามของวิศวะ...

  “ไงมึง” ไนต์ส่ายหน้า สภาพไม่ต่างกันกับบะหมี่เท่าไหร่ ผมหัวเราะพวกมันที่ทรุดนั่งลงกับขั้นบันไดทางขึ้นตึก(บะหมี่นี่รวบกระโปรงนั่งไปก่อนไอ้ไนต์เลย)
  
  “ยังจะหัวเราะอีกไอ้น้องเห็ด” ผมนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าพวกมัน แล้วยิ้มหวานให้ทีนึง
  
  “เอ้า! กลัวไรวะ ที่ออกสอบก็ตามที่ติวทั้งนั้น”
  
  “ฟาย! สมองแบบกูจำได้เกินครึ่งก็แทบกราบขอบคุณตัวเองแล้ว” บะหมี่มันว่าแล้วส่ายหัวจนผมสะบัด หันไปมองไนต์ มันเองก็สั่นหัวเหนื่อย ๆ ดูไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ผมกัดปาก
  
  “ไม่เชื่อใจกูเหรอ”
  
  “เปล่า กูไม่ค่อยมั่นใจตัวเองเนี่ย พอ ๆ ตกก็ดรอปแค่นั้นแหละ หาไรแดกแก้เซ็งเหอะ” ผมได้แต่เกาหัวงง ๆ พอพูดถึงของกินซอมบี้ก็กลายร่างเป็นคนทันที บะหมี่ตาวาวก่อนจะบอกเป้าหมาย
  
  “กินเนื้อย่างกันมึง!” ตามนั้นครับ
  
  
  
  
  
  
  ร้านที่มาเป็นร้านที่บะหมี่เสนออีกนั่นแหละครับ ผมกับไนต์ยังไงก็ได้อยู่แล้ว เข้ามาในร้านพนักงานก็ต้อนรับดีครับ พวกผมขอโต๊ะที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว พนักงานก็จัดให้เลยครับ ในสุดเลย เออ ก็ดี๊
  
  ผมมองบรรยากาศรอบ ๆ ร้านค่อนข้างกว้างเลยครับ เตาย่างไม่มีปล่องดูดควันด้านบนก็สะอาดตาดีครับ เพดานตกแต่งด้วยโคมไฟดีไซน์ต่าง ๆ โต๊ะที่นั่งก็ใหญ่ ตัวโต ๆ อย่างไนต์นั่งได้สบายเลย..
  
  “เอาไรมั่ง” เสียงบะหมี่กระชากผมออกมาจากบรรยากาศของร้าน ผมชะโงหน้าเข้าไปดูใบจดรายการอาหาร
  
  “ควอทซ์มึงเอาไร” ผมสั่นหัว
  
  “ให้เจ้าแม่สั่งดิ แต่เอาเบค่อนมาให้กูด้วย ห้ามเห็ดนะ” บะหมี่จิกตาใส่ผมที่เรียกมันว่าเจ้าแม่ แต่ผมไม่สะท้านหรอก ฮ่า ๆ แล้วมันก็ก้มลงจิ้ม ๆ ในรายการ
  
  “จะดื่มอะไร”
  
  “Milk Green Tea” ผม
  
  “Heineken” ไนต์ - -*
  
  บะหมี่ส่งรายการอาหารให้พนักงาน เธอบอกให้รอสักครู่แล้วขอตัวออกไป ระหว่างรอพวกผมก็คุยกันสัพเพเหระ ประเด็นหลักก็ไม่พ้นเรื่องผมอยู่ดี เพื่อ!
  
  “โทรบอกพ่อมึงยังออกมากับกูเนี่ย” ผมเลิกคิ้วใส่หมาไนต์
  
  “ทำหน้าหมางงอีก” เอ้า ก็งงจริงนี่หว่า
  
  “พ่อไหนวะ?” ผมถาม เลยได้คำตอบเป็นการถอนหายใจอย่างระอาจากหมาไนต์และบะหมี่
  
  “ไอ้ปืนไง” อ่อออออ มันเป็นพ่อกูเหรอ? - -
  
  “ฮึ” ผมสั่นหัว ไนต์มันเลยควักมือถือออกมากดอะไรยุกยิกไม่รู้
  
  “มึงกับไรเฟิลนี่ทำตัวยิ่งกว่าแฟนกัน” คำพูดของบะหมี่ทำเอาผมแทบสำลักน้ำลาย แฟนส้นตีนอะไรวะ!
  
  “เมาข้อสอบเหรอมาม่า เพี้ยนแล้วมึงเนี่ย”
  
  “หึ หมาโง่” ผมมองพวกมันสลับกันไปมา ใบหน้ามีแต่รอยยิ้มแห่งความชั่วร้าย - -
  
  ทุกอย่างถูกพับเก็บเมื่อพนักงานยกออเดอร์มาเสิร์ฟ ทั้งหมดที่สั่งมาผมแทบอ้าปากค้าง คือแม่งสั่งมาเยอะมาก! จนแทบจะล้นโต๊ะเลยด้วยซ้ำ
  
  “แน่ใจว่ากินสามคน” ผมถาม กวาดตามองสิ่งที่เรียกว่าอาหารอย่างหวาด ๆ คือกินหมดนี่มีจุกอ่ะครับ
  
  “กลัวไรวะ แดก ๆ เข้าไปเหอะ” เออ กูลืมว่ามากับตัวเขมือบ(แต่ผมก็กินเยอะนะ-.-)
  
  
  
  
  “เหี้ย จุก!”
  
  “มึงสั่งทั้งนั้นอ่ะ” สภาพพวกผมตอนนี้คืออืดมากครับ ถ้าเอาเข็มหรืออะไรมาเจาะอาจแตกได้ แน่นพุงฉิบหาย
  
  “น้ำหนักกูขึ้นแน่ ๆ ไม่น่าเลย TwT” ผมกับไนต์ทำหน้าเอือมระอาใส่บะหมี่ นั่งย่อยกันจนพอใจก็ถึงเวลาจ่ายเงินครับ สิริรวมทั้งก็สองพันกว่าบาท... (แชร์นะครับ ไม่มีการเลี้ยง)
  
  
  ถึงเวลาอันสมควรที่ต้องแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนแล้ว ส่งบะหมี่ขึ้นรถเสร็จ ผมก็ต้องมมาเถียงกับหมาไนต์ต่อ
  
  “กูกลับเองได้น่า”
  
  “เดี๋ยวกูไปส่ง”
  
  “ไม่เอา จะกลับเอง บ้านมึงอยู่คนละทางเลย ขับรถกลับไปกลับมาเหนื่อยตายพอดี ไหนจะรถติดอีก”
  
  “ช่างดิ! ปล่อยมึงไปคนเดียวไอ้ปืนฆ่ากูตาย”
  
  “โห้ะ! กูบอกไรเฟิลตั้งแต่เมื่อวานแล้ว!” ไนต์มันหรี่ตามองผม บอกแล้วจริง ๆ นะ บอกว่าจะกลับบ้านแต่ไม่ได้บอกว่าจะกลับเอง... แฮ่
  
  “ไม่ต้องมามองแบบนั้น บอกแล้วจริง ๆ ไรเฟิลเซย์เยสแล้วด้วย ไม่เชื่อโทรไปถามดิ โทร ๆ” ตอนนี้ไรเฟิลน่าจะยังสอบไม่เสร็จเพราะเพิ่งจะบ่ายสองกว่า ๆ แต่ถ้าหมาไนต์มันบ้าจี้โทรไปจริง ๆ ผมก็คงซวย...
  
  “เออ ๆ ขึ้นรถดิ กูจะไปส่งที่บีทีเอส” ผมยิ้งกว้างเมื่อมันยอมแพ้ แล้วรีบขึ้นรถอย่างว่าง่าย
  
  
  
  “บ๊ายบาย เจอกันวันจันทร์นะ จุ้บ” ผมยืนอยู่บนฟุตบาทโบกมือให้ไนต์ก่อนจะส่งจูบแกล้งมัน ไอ้ไนต์ทำหน้าจะอ้วกแต่ก็ยกมือตอบ หน้ามันยังกังวลอยู่ เลยยืนยันว่าผมดูแลตัวเองได้ สีหน้าถึงดีขึ้นมาหน่อย


----------------------------------

TBC.

ตอนที่แปดมาแล้วววววววววววววว
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 8 (08.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: ์NRNAAM ที่ 08-11-2014 22:31:00
ตอนไหนจะเป็นแฟนนนนนนนนนนนนนนนน :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 8 (08.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 08-11-2014 22:33:53
น้องดื้ออีกแล้วง่ะ ไรฟ์รู้แล้วจะซวยนะจ๊ะหนู  o18
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 8 (08.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-11-2014 22:58:38
พ่อเล่นงานแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 9 (10.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 10-11-2014 21:08:50
EPISODE 9





  ผมนั่งลงที่นั่งใกล้ประตู(คนไม่เยอะครับเพราะเป็นช่วงกลางวัน ที่นั่งเลยเหลือเยอะ)ก่อนจะหยิบหูฟังมาต่อกับโทรศัพท์พลางกดเลือกเพลงไปด้วย จากนั้นก็ล้วงเอา PSP ในกระเป๋าออกมา(ผมพกมันไปด้วยแทบทุกที่)
  
  
  
  “ควอทซ์ พี่ควอทซ์ครับ” รู้สึกได้ยินคนเรียกแว่ว ๆ ผมมองหาตามสัญชาตญาณก่อนจะโป๊ะเชะ! กับแปะยิ้มที่มองผมอยู่ ใครวะ รู้สึกคุ้น ๆ แฮะ
  
  “ผมแพคไง คนที่ฝากขนมไปให้ จำได้ไหมครับ” หือ ผมนึกตามก่อนจะร้องอ๋อออกมา แพคยิ้มกว้างโชว์รอยบุ๋มข้างแก้ม
  
  “ทำไมมาคนเดียวได้ละครับ บอดี้การ์ดหายไปไหนเนี่ย” ผมกดลดวอลลุ่มเพลงลง เลิกคิ้วมองคนที่ทิ้งตัวนั่งที่ว่างข้าง ๆ
  
  “โตแล้วป่ะ?” ไอ้แพคหัวเราะ
  
  “โธ่ ผมแค่แปลกใจ ปกติไม่เห็นอยู่คนเดียวเลยนี่นา” ผมส่ายหน้าไม่สนใจ กดเกมในมือต่อ แล้วอยู่คนเดียวไม่ปกติยังไงวะ!
  
  “พี่ควอทซ์ คืนนี้ผมโทรหาได้ไหมครับ?”
  
  “หือ? เพื่อ?” ผมถามกลับโดยที่ไม่ได้มองหน้าคนพูด เพราะสายตายังจดจ่อกับพีเอสพีในมือ
  
  “เอ่อ.. ผม ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย นะครับ” ผมยัดเกมลงกระเป๋า ปลดหูฟังออกข้างหนึ่งง
  
  “เดี๋ยว! คุยตอนนี้เลยดิ แล้วนี่มึงไปเอาเบอร์กูมาจากไหน” แพคยิ้ม ถ้ผมเป็นผู้หญิงคนละลายเป็นไอเพราะรอยยิ้มมันแน่ แต่ผมเป็นผู้ชายไง เลยรู้สึกเฉย ๆ (เพื่อ?)
  
  “ความลับครับ ถ้าอยากรู้คืนนี้ก็รับโทรศัพท์ผมนะ” ผมหรี่ตามองหน้ายิ้ม ๆ ของมัน ก่อนจะสะบัดหัวเบา ๆ
  
  “ไปล่ะ” ผมบอกแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากโบกี้เมื่อรถไฟหยุดสนิดที่สถานีที่ผมต้องลงและไม่ได้หันกลับไปมองด้านหลัง
  
  
  
  
  ...............................
  
  
  
  
  
  ออด~
  
  
  
  “มาหาใครครับ อ้าว! คุณหนู” ผมยิ้มให้น้ามิ่งที่กุรีกุจอเปิดประตูรั้วให้
  
  “สวัสดีครับน้ามิ่ง สบายดีไหมครับ?”
  
  “สบายดีครับสบายดี มาครับ เดี๋ยวผมไปส่งข้างใน” ทีแรกกะจะส่ายหน้าปฏิเสธ แต่พอมองระยะทางจากตรงนี้ไปถึงในตัวบ้านก็เกือบ ๆ 300 เมตรเลยนะครับ
  
  “รบกวนด้วยนะครับ” ผมกระโดดขึ้นซ้อนท้ายจักรยานน้ามิ่ง “ขอบคุณนะครับ” น้ามิ่งบอกไม่เป็นไรก่อนจะขอตัวไปทำงานที่ที่ทำค้างไว้ต่อ
  
  ผมย่องเข้าไปในบ้าน ทำตัวอย่างกับขโมยทั้ง ๆ ที่ก็บ้านตัวเองแท้ ๆ - -
  
  “ใครหนะ!!” ผมสะดุ้งกับเสียงแหลม ๆ ลื่นสลิปเปอร์ที่กำลังจะสวมก้นประแทกพื้น
  
  “อูยยยย”
  
  “คุณหนู พี่แก้วขอโทษค่ะ”
  
  “ไม่ ไม่เป็นไรครับ” ผมบอกพี่แก้วแม่บ้านของคุณย่าที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ มือเล็กช่วยพยุงผมขึ้น
  
  “พี่แก้วขอโทษนะคะคุณหนู เจ็บไหมคะ”
  
  “ไม่เจ็บหรอกครับ อย่าคิดมาก คุณย่าอยู่ไหนครับ”
  
  “คุณท่านอยู่ในครัวค่ะ” บอกขอบคุณพี่แก้ว ก่อนจะย่องเข้าไปในครัว คนสวยของผมกำลังง่วนทำอะไรสักอย่าง ข้าง ๆ กันนั้นมีป้าอิ่มอยู่ด้วย ผมจรดนิ้งที่ริมฝีปากเป็นเชิงให้เงียบเมื่อป้าอิ่มหันมาเจอ
  
  “คุณย่า!!!” ผมกอดคุณย่าจากด้านหลัง ท่านสะดุ้งแล้วฟาดมือลงบนแขนผมดัง เพี๊ยะ!
  
  “ต๊าย! หัวใจฉันจะวาย แกล้งคนแก่แบบนี้มันน่าตีให้ตัวลายนัก” ผมยิ้มเผล่ จูบไหล่คุณย่าเบา ๆ แล้วผละออกมา
  
  “คิดถึงคุณย่าจังเลยยยยยยย คิดถึงป้าอิ่มด้วยนะครับ”
  
  “เจ้าเด็กคนนี้ใครกันแม่อิ่ม ใครปล่อยให้เข้ามาเนี่ย เดี๋ยวฉันไล่ออกเสียเลย” ผมหน้าเหวอ เมื่อเจอมุกของคุณหญิงสรินกานต์กระแทกหน้าเข้าอย่างจัง
  
  “ง่ะ... คุณท่านใจร้ายจังเลยป้าอิ่ม”
  
  “คุณท่านแค่แกล้งเท่านั้นแหละค่ะ” ป้าอิ่มยิ้ม มือที่เริ่มมีรอยเหี่ยวย่นเพราะอายุที่มากขึ้นลูบหัวผมเบา ๆ ผมร้องโอ๊ยอีกครั้งเพราะได้รับฝ่ามือพิฆาตขากคุณย่า
  
  “นึกว่าลืมทางกลับบ้านแล้วเสียอีก”
  
  “จะไปลืมได้ยังไงกัน ช่วงนี้ควอทซ์ยุ่งนี่ครับ วันนี้สอบเสร็จก็รีบมาเลยนะ คุณย่าไม่โกรธนะครับ” ผมมองคุณย่าตาแป๋ว จับมือคุณย่ามาแนบแก้ม
  
  “โอ๊ยยยย ทำตังอย่างนี้ใครจะไปโกรธลงกัน ดูสิแม่อิ่ม หน้าอย่างกับกระต่ายถูกทิ้ง” เดี๋ยวนะ....
  
  “คุณหนูไปเปลี่ยนชุดเถอะค่ะ วันนี้คุณท่านทำลูกชุบไว้ด้วย” ผมตาวาว ถึงจะเพิ่งกินมาอย่างหนักหน่วงแต่พอมาขนมสีสันสดใสแล้วรู้สึกท้องมันว่าง ๆ ขึ้นมา
  
  “คร้าบบบบ”
  
  
  
  
  
  เดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นสองของบ้าน ห้องนอนของผมอยู่ปลีกซ้าย เปิดประตูเข้าไปก็เจอกับห้องนอนที่สะอาดสะอ้าน แม้ผมจะไม่อยู่แต่คุณย่าคงสั่งให้ทำความสะอาดประจำ  ด้านขวามือเยื้องกับประตูทางเข้าคือประตูห้องน้ำ ตรงข้ามคือห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet รวมทั้งตู้รองเท้า ตู้ใส่เครื่องประดับทั้งหลายของผม เดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะกับเตียงนอนแบบเตี้ยติดกับพื้น บนเตียงมีตุ๊กตาทั้งหลายจับจองอยู่ ปลายเตียงคือทีวี เครื่องเล่นดีวีดี และชุดโฮมเทียร์เตอร์ ถัดจากนั้นคือตู้กระจกที่เป็นที่อยู่ของโมเดลลูกรักของผม ผสมพวกโมเดลครับ มีทั้งรถรุ่นต่าง ๆ เครื่องบิน หรือแม้กระทั่งหุ่นยนต์ นอกจากนั้นยังมีใบประกาศต่าง ๆ ของผมด้วย ที่มุมห้องใกล้หน้าต่างมีโต๊ะทำงานของผมอยู่ มีคอมพิวเตอร์อยู่หนึ่งเครื่อง(อีกเครื่องผมยกไปไว้ที่หอ) และชั้นหนังสือที่ส่วนใหญ่จะมีหนังสือการ์ตูนและนิยายต่างประเทศ
  
  ผมเดินไปเปิดม่านหน้าต่างที่เป็นกระจกทั้งบานความสูงจากพื้นจรดเพดาน จะว่าหน้าต่างก็คงไม่ใช่เพราะมันเป็นประตูที่ออกไประเบียง ใกล้ ๆ บานกระจกมีโซฟาเดย์เบดตัวใหญ่ตั้งอยู่ และที่พื้นถูกปูด้วยพรมขนสัตว์หนานุ่ม บนนั้นมีหมอนและตุ๊กตา(อีกแล้ว)วางอยู่ โซนนี้จะเป็นที่ที่ผมจะมานั่ง ๆ นอน ๆ เล่น บางที่ก็หลับไปเลย ที่ผนังถูกตกแต่งด้วยรูปภาพโพราลอยด์(ใช้เชือกสวย ๆ ยืดกับผนังแล้วเอาไม้หนีบมาหนีบรูปแต่ละใบ)เป็นรูปของผม ไรเฟิล ไนต์ กาย และ ฟอร์ส มีทั้งรูปเดี่ยว รูปคู่ และรูปรวม บางรูปก็มีบะหมี่อยู่ด้วย แต่ที่เอามาแต่งคือมีนิดเดียวครับ ส่วนใหญ่ผมจะทำเป็นอัลบั้มไว้
  
  เอาล่ะ ทัวร์ห้องผมแล้วก็ปล่อยผมไปเปลี่ยนชุดเถอะนะ เดี๋ยวคุณย่าท่านจะบ่น ฮาาาา ผมเปลี่ยนจากชุดนักศึกษาเป็นเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นพอดีตัว ส่องกระจกดูตัวเองอย่างกับเด็กกะโปโลแน่ะ
  
  
  
  
  “โฮ่ง! โฮ่ง!” ผมชะงักเท้าก่อนจะวิ่งลงบันไดด้วยความไวแสง
  
  “หมูปิ้ง!!!” เจ้าหมูปิ้งพอได้ยินเสียงผม ก็วิ่งหูตั้งหางกระดิกเข้ามา ผมกับมันกดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นาน จนคุณย่าเข้ามาตาม หมูปิ้งเป็นสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ สุดหล่อของผม ขนฟูหนานุ่ม ตัวอ้วนมากครับ แทบจะทับผมตาย ผมว่ามันควรลาออกจากการเป็นหมาแล้วไปยื่นใบสมัครเป็นหมูแทน
  
  “แกกินไม่ได้หรอกไอ้หมู!” ผมกินลูกชุบยั่วหมูปิ้งที่มองตามตาละห้อย นอน ๆ กลิ้ง ๆ บนพรมกับหมูปิ้งอยู่ในห้องนั่งเล่น ส่วนคุณย่านั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา
  
  “ไม่ไปหามดแดงเหรอน้องควอทซ์”
  
  “ลืมไปเลย!!! หมูปิ้ง Go! Go!” ผมวางจานลูกชุบดังเคร้ง! คุณย่าส่ายหัว ผมวิ่งออกไปที่หลังบ้าน มีหมูปิ้งวิ่งตามมา
  
  “ลุงชื่นนนนนน!!!” ผมตะโกนเรียก ลุงชื่นยืนอยู่ใกล้ ๆ ตู้กระจกใส ในมือมีถังอะไรสักอย่างอยู่ ว้าว!! จะให้อาหารมดแดงเหรอ!!!
  
  “คุณหนู มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
  
  “มาเมื่อบ่ายนี่เองครับ ลุงชื่นจะให้อาหารมดแดงเหรอ”
  
  “ครับ คุณหนูอย่าเข้าไปใกล้นักสิครับ” ผมมุ่ยหน้า ก่อนจะหันไปหาลุงชื่นตาวาว ยิ้มถูกใจก่อนจะสอดส่องหาเจ้ามดแดงลูกรัก
  
  มดแดง คือ Burmese Python หรือ งูหลาม นั่นเองครับ ผมเลี้ยงมันมาเกือบ 2 ปีแล้ว ซื้อมาจากฟาร์มเพาะพันธุ์ เลี้ยงมาตั้งแต่มันยังตัวเล็ก ๆ จนตอนนี้ยาวเกือบ 3 เมตรเลย เมื่อก่อนเลี้ยงในตู้ปลาครับ พอมันตัวใหญ่ขึ้นก็เลยเลี้ยงในที่ที่ใหญ่กว่า บ้านของมดแดงถูกสั่งทำขึ้นพิเศษ ถูกกรุด้วยกระจกใสทั้งหมด(เหมือนกล่องกระจกขนาดใหญ่นั้นแหละครับ) พื้นที่ค่อนข้างกว้าง แต่ไม่มาก ด้านในถูกตกแต่งให้ใกล้เคียงธรรมชาติ มีแอ่งน้ำไว้ให้มดแดงดื่ม ต้นไม้ กอหญ้า ขอนไม้ กิ่งไม้ ไว้สำหรับให้มดแดงเลื้อย หรือถูกตัวเมื่อลอกคราบ รวมทั้งที่ที่สามารถให้มันซ่อนตัวได้ ส่วนพื้นเป็นพื้นหญ้านี่แหละครับ อ๊ะ!! เจอแล้ว นอนแผ่สบายเลยนะ ผมมองตัวสีเหลืองนวลสวยของมดแดงตาวาวระยับ(มดแดงของผมคืองูหลามทองนั่นเองครับ) สงสัยจะลืมบอก ผมได้มดแดงเป็นของขวัญจากป๊าเมื่อวันเกิดตอน 17 ปี(ตอนนี้ผม 19 จะ 20)
  
  “คุณหนูอยู่ด้านนอกนะครับ”
  
  “ไม่เอา! เดี๋ยวผมให้อาหารมดแดงเองลุงชื่นไปพักเถอะ”
  
  “ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับคุณหนู”
  
  “ลุงชื่นครับ...”
  
  สุดท้ายผมก็ได้เป็นคนให้อาหารเจ้ามดแดงจนได้ แต่มีลุงชื่นอยู่ข้าง ๆ ด้วยครับ ลุงแกไม่ปล่อยผมอยู่กับมดแดงตามลำพังเลย พ่อลูกเขาจะใช้เวลาร่วมกัน ลุงทำไมไม่เข้าใจครับ!! ไอ้เจ้าหมูปิ้งรออยู่ข้างนอกครับ มันก็นั่งสงบเสงี่ยมเลยนะ ดีจริง ๆ
  
  “ฮื่อ ถ้ามันกินอาหารแล้วก็ไม่ได้อุ้มน่ะสิ!” ผมบ่นหลังจากที่ให้อาหารเสร็จ อาหารที่มดแดงกินคือเนื้อไก่สดครับ ก่อนให้มันก็เอาแช่น้ำอุ่นให้พออุ่นก่อน เมื่อก่อนตอนเอามาใหม่ ๆ ก็ให้มันกินหนูขาวครับ จากนั้นจึงค่อย ๆ ฝึกให้มันกินเนื้อไก่ ทีแรกมดแดงไม่ยอมกินเลย กว่าจะกินได้ก็นานอยู่เหมือนกัน...
  
  “นั่นสินะครับ” ผมเบ้ปาก หลังจากที่งูกกินอาหารเสร็จเราไม่ควรเข้าไปจับเล่นเด็ดขาดเลยครับ ไม่งั้นมันจะสำรอกอาหารออกมา ต้องปล่อยไว้สัก 2 วัน ถึงจะจับเล่นได้ ไว้เจอกันนะเจ้ามดแดง...
  
  
  
  “หมูปิ้ง!!!” เมื่อเล่นกับมดแดงไม่ได้ก็มาลงที่หมูปิ้งแทน ไซบีเรียนตัวหนากระโจนใส่ผมจนแทบล้ม
  
  “โฮ่ง!” ผมกับหมูปิ้งนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นหญ้าใต้ร่มไม้(ที่บ้านผมปลูกต้นไม้เยอะแยะไปหมดเลย) ไอ้หมาอ้วนหอบแฮกเอาหัวมาค้างบนหน้าท้องผม หลับตาพริ้มพร้อมจะหลับ สบายเกินไปแล้วไอ้หมาขี้เกียจ!!!
  
  “แกเคยรู้สึกแปลก ๆ ไหมหมูปิ้ง..”
  
  “หงิง~” ผมถอนหายใจ ลูบขนหมูปิ้งไปด้วย ป่านนี้ไรเฟิลคงจะสอบเสร็จแล้ว ไม่รู้จะทำหน้ายังไงถ้ารู้ว่าผมไม่รอ เดี๋ยว... แล้วทำไมผมจะต้องนึกถึงมันด้วยเนี่ย โว้ะ!!! ประสาทแล้วมึงไอ้ควอทซ์
  
  
  
  
  .....................................
  
  
  
  
   ผมสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังแว่วเข้ามา ไม่รู้เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้ฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว หมูปิ้งยังนอนอยู่ท่าเดิม หนักชะมัดเลย!
  
  “หมูปิ้งตื่น~” ผมเขย่าตัวหมูปิ้งพลางดันตัวเองลุกขึ้น หาวววว~ ไอ้หมูอ้วนสะบัดตัวครางหงิง ๆ
  
  “เข้าบ้านกันเถอะหมู” แต่ก่อนจะเข้าบ้านขอไปส่องมดแดงสักหน่อย มันยังคงนอนอยู่นิ่ง ๆ Goodnight นะมดแดง
  
  
  
  
  “ป๊าาาา!!!!!” ผมโถมตัวกอดผู้ชายวัยกลางคนอายุ 47 ปี แต่ถึงจะอายุมากแล้วแต่ป๊าผมยังดูหนุ่มอยู่เลยแถมยังหล่อมากอีกด้วย
  
  “ไงไอ้แสบ เนื้อตัวมอมแมมเชียว” ป๊ารับตัวผมเข้าไปกอด มือหนาลูบหัวผมเบา ๆ ฮื่อ ชอบจัง
  
  “คิดถึงป๊าจัง” ผมมุดหน้ากับอกของป๊า
  
  “อยากได้อะไรวะ?”
  
  “โธ่ เห็นควอทซ์เป็นคนยังไงเนี่ย คิดถึงไม่ได้เหรอครับ” ผมผละออก ก่อนจะไถตัวจากโซฟาไปนั่งขัดสมาธิบนพื้นกับหมูปิ้งแทน
  
  “เอ้า ๆ มากินข้าวกันได้แล้วสองพ่อลูก” ผมผลักหัวหมูปิ้งออกแล้วควงแขนป๊าไปที่ห้องกินข้าว
  
  
  
  หลังจากกินข้าวเสร็จก็ออกมาพูดคุยกันตามประสาครอบครัว คุณย่าขอตัวขึ้นไปพักผ่อน เลยเหลือแค่ผมกับป๊า
  
  “พรุ่งนี้เข้าบริษัทกับกูไหม?” ผมช้อนตาขึ้นมองป๊า(ตอนนี้ผมนอนหนุนตักป๊าอยู่ครับ)
  
  “ไม่ดีกว่า.. แต่ขอติดรถไปด้วยหน่อยนะครับ” คุยกันอยู่สักพัก ป๊าก็ขอตัวไปพักบ้าง และหลังจากไปส่งหมูปิ้งถึงที่นอนของมันผมก็ขึ้นห้องตัวเองบ้าง คลุกฝุ่นมาทั้งบ่ายก็ได้เวลาทำความสะอาดร่างกาย ผมใส่แค่เสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงบ็อกเซอร์ มันสบายดีนี่ครับ
  
  “หือ” ผมหยิบโทรศัพท์ที่ถูกชาร์จแบตฯทิ้งไว้ที่ข้างเตียง ถึงว่าทำไมมันเงียบ ๆ
  
  ฉิบหาย!!!!!
  
  103 missed ทั้งหมดล้วนมาจากไรเฟิลทั้งนั้นเลย มันโทรมาตั้งแต่ช่วงสี่โมงเย็นและสายล่าสุดคือ 21.18 ตอนนี้เวลา 21.36 ผมรีบกดต่อสายหาอีกฝ่ายทันที
  
  “เป็นห่าไรทำไมไม่รับโทรศัพท์!!!” สัญญาณดังไม่ถึงสองครั้งดีเลย พี่ท่านก็กดรับเสียแล้ว แทบยังตะคอกใส่ผมอีก แง ช่วยด้วย~
  
  “ฮื่อ อย่าเสียงดังสิ”
  
  “ตอบมา!!”
  
  “ก็ ก็ชาร์จแบตฯไว้บนห้องนี่นา ไม่ได้ถือลงไปด้วย” ผมพูดเสียงอ่อน
  
  “เหอะ!”
  
  “อย่าโกรธดิ” ผมกดฟังชั่นเฟซไทม์ก่อนจะยิ้มเผล่ให้คนที่กำลังทำหน้ายุ่งมองผมอยู่
  
  “ทำไมไม่ให้ไอ้ไนต์ไปส่ง” คุณชายไม่เสียงดังแล้วแต่เสียงยังแข็งอยู่เลย
  
  “แค่กลับบ้านเอง” ผมมุดหน้าลงกับหมอน
  
  “จะกลับวันไหน”
  
  “อืม.. เย็นวันอาทิตย์ ทำไมอะ ถ้าจะมารับห้ามเลยนะ!” คนถูกดักขึงตาใส่ผม โธ่ รู้ทันหรอกน่า
  
  “กินอะไรยัง” ผมถาม คุณชายพยักหน้า คุยกันต่ออีกพักหนึ่งก็วางสายไป ไรเฟิลมีสอบพรุ่งนี้อีกเลยต้องไปอ่านหนังสือ
  
  
  ครืด ครืด~
  
  “มีไรอีกอะ” ผมกดรับทันทีเพราะคิดว่าไรเฟิลโทรมา แต่เปล่าครับ...
  
  “ผมแพคนะครับ” อ๋อ
  
  “หือ โทรมาทำไมเหรอ”
  
  “พี่ควอทซ์ว่างไหมครับ?”
  
  “อื้อ ว่าง”
  
  “ถ้าว่างอยู่งั้นผมจีบพี่นะ”

  
  ด เดี๋ยวนะ!!!!!!!


--------------------------

TBC.

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
นุ้งควอทซ์โดนจีบบบบบบบบบบบบบ  :sad4:
(ควอทซ์อายุน้อยกว่าสี่สหายหนึ่งปีนะครัช นางเรียนเร็ว 555555555555555555555)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 9 (10.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 10-11-2014 22:16:30
เด็กมาแบบมึนมาก 555

ไรเฟิลจัดการหน่อยเร็ววววว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 9 (10.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-11-2014 22:38:18
เล่นทีเผลอนี้
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 9 (10.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 14-11-2014 17:21:20
แพครุกหนักๆเบย ชอบไรเฟิลหึง -.-
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 10 (14.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 14-11-2014 21:57:49
EPISODE 10







  “ถ้าว่างอยู่งั้นผมจีบพี่นะ”
  
  ด เดี๋ยวนะ!!!!!!!

  
  
  ผมช็อกอยู่กับประโยคนั้นของมันอยู่ราว 10 วินาที ก่อนสติจะถูกกระชากกลับเพราะเสียงเรียกของมัน

  “พี่ควอทซ์!”
  
  “ม มึง ว่าไงนะ!”
  
  “ผมบอกว่า ผมจะจีบพี่นะครับ”
  
  “ตีนเหอะ!!!” ผมกดวางสายแบบไม่ร่ำลา โยนโทรศัพท์ลงข้างตัว ยกมือทึงหัวตัวเอง เชี่ยเอ้ยยยยย! กูก็ผู้ชาย มึงก็ผู้ชาย จะมาจีบกูทำไม!! แล้วทำไมชีวิตผมไม่มีสาว ๆ สวย ๆ เข้ามาบ้างวะ มีแต่อะไรเนี่ย ตัวผู้เหมือนกันอีก เหี้ย!
  
  
  
  กว่าจะนอนหลับก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง แทบยังต้องตื่นแต่เช้าอีก สภาพผมเลยไม่ต่างจากศพเท่าไหร่ วันนี้ผมแต่งตัวสบาย ๆ (มั้ง) อันประกอบไปด้วย เสื้อยืดคอวีสีเทาแขนสั้นยัดชายเสื้อด้านหน้าใส่ในกางเกงยีนส์สกินนี่สีดำโชว์หัวเข็มขัด ส่วนรองเท้าเป็นหนังสือขาว สไตล์ sandel ส่วนทรงผมก็จัดง่าย ๆ ขยี้ให้เข้าทรงเท้านั้น หน้าด้านหน้าจะทิ่มตาแล้วแฮะ ผมคว้ากรรไกรสับผมออกมาเล็มผมด้านหน้าออกให้เข้าที่ อืม คนอะไรหล่อฉิบหาย! คว้ากระเป๋า Duffle ขึ้นมาพาดไหล่แล้วลงไปด้านล่าง
  
  
  “แต่งตัวหล่อเชียว จะไปไหนคะ”
  
  “จะออกไปถ่ายรูปเล่นครับป้าอิ่ม”
  
  “เมื่อคืนนอนดึกหรือไง หือ” ผมตอบรับคุณย่าด้วยการอ้าปากหาว เพราะไอ้แพคนั่นแหละ! นึกถึงแล้วพาลจะอารมณ์เสีย
  
  
  หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็ได้เวลาฝ่าฟันกับรถติด ทันทีที่ขึ้นรถได้ผมก็เอนตัวซบไหล่ป๊าพร้อมกับหลับตาลง
  
  “เป็นอะไร ฮึ?” ป๊าถามพลางเอามือมาลูบผมผมด้วย ผมเลยคว้ามือป๊ามาแนบแก้ม
  
  “ง่วง” ตอบไปทั้งที่ยังหลับตา แล้วก็ต้องยู่ปากเพราะคุณเกรย์บอดี้การ์ดและคนขับรถของป๊าพูดว่า..
  
  “คุณหนูขี้อ้อนจังเลยนะครับ” ถ้าไม่สนิทไม่มีทางได้เห็นผมลุคนี้หรอก!
  
  “นั้นสิ ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต”
  
  “ไม่ให้อ้อนป๊าจะให้ไปอ้อนใครเล่า~”
  
  “เดี๋ยวมีแฟนก็เลิกอ้อนแล้ว”
  
  “งื่อ ไม่มีหรอก..”
  
  “หึหึ” การสนทนาจบลงแค่นั้น แล้วผมก็หลับมาตลอดทาง
  
  
  
  
   “ให้เกรย์ไปส่งแล้วกันนะ” ป๊าบอก ตอนนี้อยู่ที่หน้าบริษัท เอ.เค กรุ๊ป ที่ป๊าเป็นผู้บริหารอยู่ ธุรกิจของครอบครัวผมเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีครับ ทั้งส่งออก และนำเข้า บลา ๆๆ และก็มี เอ.เค จิวเวลรี ( A.K. Jewelry) ซึ่งเป็นร้านขายพวกเครื่องประดับต่าง ๆ นานา ที่ทำจากอัญมณีทั้งหลาย
  
  “ควอทซ์ไปเองก็ได้ครับ ไม่รบกวนคุณเกรย์หรอก”
  
  “ไม่รบกวนหรอกครับคุณหนู”
  
  “ฝากด้วยแล้วกัน ดูแลตัวเองด้วยล่ะควอทซ์” ป๊าบอกคุณเกรย์ แล้วหันมาบอกผม ก่อนที่ท่านจะเดินเข้าไปในบริษัท ผมเลยย้ายตัวเองไปนั่งด้านหน้าคู่กับคุณเกรย์
  
  “นั่งด้านหลังก็ได้นี่ครับ”
     
  “ไม่เอาหรอกครับ มันรู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้” คุณเกรย์ยิ้มบาง คุณเกรย์นี่อายุสามสิบแล้วนะครับ แต่หน้าอย่างกับยี่สิบต้น ๆ แถมยังหล่ออีก คุณเกรย์ค่อนข้างตัวใหญ่ตามสไตล์ชาติตะวันออก
  
  “คุณเกรย์ทำงานกับป๊ามาตั้งนาน ไม่อยากลองไปทำที่อื่นบ้างเหรอครับ?” ผมถาม คุณเกรย์ยังคงตั้งใจกับการขับรถ เช้าวันศุกร์รถก็ติดสุด ๆ (จริง ๆ แม่งก็ติดทุกวัน)
  
  “ไม่หรอกครับ คุณท่านมีพระคุณกับผมมาก ขอผมทำงานตอบแทนไปจนกว่าจะหมดลมหายใจเลยดีกว่า”
  
  “โห้ น่าดีใจแทนป๊าจังเลย”
  
  “คุณหนูล่ะครับ ไม่อยากลองมาทำงานที่บริษัทบ้างหรือ?”
  
  “ไม่รู้สิครับ ถ้าให้ช่วยบ้างบางครั้งก็โอเค เอ้อ! กะจะถามตั้งนานแล้ว คุณเกรย์พอจะรู้จักร้านแทททูเจ๋ง ๆ ไหมครับ?”
  
  “ก็พอรู้จักอยู่ครับ คุณหนูจะสักหรือครับ?”
  
  “กะจะสักเพิ่มน่ะครับ” ตอนนี้ผมมีรอยสักอยู่ 3 ที่ครับ คือที่หลังใบหูด้านซ้ายซึ่งเป็นรูปนกตัวเล็ก ๆ 3 ตัว ที่ต้นคอด้านหลังจะเป็นรูปเพชรหนึ่งเม็ดอยู่ตรงกลางและมีเครือไม้รอบกรอบอยู่ด้านซ้ายและขวาของเพชร และที่ท้องแขนข้างขวา เป็นตัวอักษร คำว่า ‘Born again still your son’
  
  “อ๊ะ! จอดตรงนี้แหละครับคุณเกรย์ ถ้ายังไงโทรมาแล้วกันนะครับ” ผมพูดรัวแล้วเปิดประตูลงไป ได้ยินคุณเกรย์ตอบ ครับ ก่อนประตูจะปิด
  
  
  
  
  
  
  ......................................................................
  
  
  
  
  
  
  แม้จะยังเช้าอยู่แต่แดดแรงเอาเรื่องเลยครับ แดดประเทศไทยนี่มันแดดประเทศไทยจริง ๆ หมวกกับแว่นก็ไม่ได้เอามาด้วย แล้วยังเสร่อใส่แขนสั้นมาอีก โถ้ะ!
  
  ผมตบตีกับตัวเองสักพักก่อนจะมองหาม้านั่งสักตัว เมื่อล็อคเป้าหมายได้ก็สร้างแลนด์มาร์คเลยครับ! ผมวางกระเป๋าไว้ข้างตัว ก่อนจะหยิบกระเป๋ากล้องออกมาอีกที งานอดิเรกของผม นอกจากเขียนโปรแกรมกับอ่านหนังสือ(ที่ไม่ใช่หนังสือเรียน)ก็ถ่ายภาพนี่แหละครับ เมื่อเช็คกล้อง เช็คเลนส์เสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาปฏิบัติการ!
  
  
  ผมถ่ายภาพเกือบทุกอย่างที่เดินผ่าน รถที่ติดยาวเหยีนดบนท้องถนน ร้านรวงริมทาง ผู้คนที่เดินสวนกันไปมา หมาแมวต่าง ๆ นกตัวน้อยที่เกาะอยู่บนกำแพงและเสาไฟ ต้นไม้ ดอกไม้ ตึกรามบ้านช่อง...
  
  ปาดเหงื่อจากหน้าผาก ยกข้อมือดูเวลา เข็มสั้นชี้เลข 1 เข็มยาวชี้ระหว่างเลข 9 กับเลข 10 อ้าว! จะบ่ายสองแล้วเหรอวะ! แล้วผมเดินมาไกลแค่ไหนแล้วเนี่ย พอหยุดพักแบบนี้ก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเสียอย่างนั้น มองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินข้ามถนนไปร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
  
  หยิบน้ำเปล่าขวดเล็กมา 1 ขวดก็เดินไปจ่ายเงินที่เคานต์เตอร์ ระหว่างที่ยืนรอคิวอยู่ ความรู้สึกของผมมันบอกว่ามีคนมองผมอยู่ เซนส์ผมค่อนข้างแรงเลยนะครับ ไอ้ความรู้สึกแรกเนี่ย นั่นไง! แม่งใช่จริง ๆ ด้วย ก็จังหวะที่ผมเงยหน้าขึ้นมามันดันไปสบตากับคนคนนั้นพอดีนี่สิครับ แล้วทำไมคนที่มองต้องเป็นผู้ชายด้วยวะ!
  
  “รับขนมจีบ ซาลาเปาเพิ่มไหมคะ”
  
  “ไม่ครับ”
  
  “9 บาทค่ะ” ผมค้นหาเหรียญสิบจากซอกหลืบของกระเป๋าแล้วส่งให้พนักงาน คว้าขวดน้ำแล้วเดินออกจากร้าน ผมยืนดื่มน้ำที่หน้าร้านนั่นแหละพลางเอาโทรศัพท์มาดูด้วย
  
  “ชื่ออะไรอะ?” ผมหันไปมองตามเสียง คนที่มองผมนั่นเองครับ
  
  “หือ?”
  
  “ถามว่าชื่ออะไร แล้วมาแถวนี้บ่อยเหรอ?”
  
  “อ๋อ เพิ่งเคยมาครับ” ผมตอบแล้วมองโทรศัพท์ในมือ กาย 5 ไนต์ 7 โทรมาทำไมกันวะ ผมตัดสินใจโทรกลับหากาย เพราะสายล่าสุดที่โทรมาเพิ่ง 10 นาทีก่อนนี่เอง
  
  “ขอ..”
  
  “กาย มีไรอะ” ผมตีเนียนเดินออกมาจากผู้ชายคนนั้น เนียนกว่าบีบีครีมก็รักษ์ธิสุดนี่แหละครับ
  
  “น้องควอทซ์อยู่ไหนวะ โทรไปทำไมไม่รับสาย”
  
  “อยู่แถว.... อ่ะ โทษทีพอดีไม่ได้เปิดเสียง”
  
  “สัดเห็ด มึงรีบมาที่.... ด่วน ๆ เลย” แล้วเสียงหมาไนต์ก็ดังแทรกมา เห็ดพ่องงงง!
  
  “อื้อ แค่นี้นะ” ผมวางสาย กระดกน้ำดื่มอึกสุดท้ายแล้วโยนลงถังขยะแถวนั้น
  
  “เฮ้ย ถามไม่ตอบ หยิ่งเหรอวะ!” ระหว่างที่เดินอยู่บนฟุตบาท แขนของผมก็ถูกกระชากโดยไอ้ซาลาเปา(ก็ตอนนั้นเขาอยู่ที่หน้าตู้ซาลาเปานี่) - -* ผมขมวดคิ้วแล้วสะบัดแขนออก ดูเหมือนการกระทำของผมยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ
  
  “เท่าที่จำได้เราไม่เคยรู้จักกันนี่ครับ” ผมบอกแค่นั้นแล้วเดินออกมา แต่เขายังคงเดินตามผมอยู่ดี เหี้ยไรอีกเนี่ย!
  
  “แค่บอกชื่อจะอะไรนักหนาวะ” ผมถอนหายใจเสียงดัง บอกให้รู้ว่ากูรำคาญ มองหน้ามันชัด ๆ เอาจริง ๆ หน้าตาแม่งก็ดี มายุ่งอะไรกับกูเนี่ย โว้ะ! ดูจากชุดก็คงเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยไหนสักแห่ง เพราะเข็มกับเนคไทมันไม่ใช่ของที่มหาวิทยาลัยผมแน่ ๆ
  
  “ผมไม่สะดวกใจที่จะบอก เข้าใจนะครับ แล้วก็ปล่อยมือจากไหล่ผมด้วย” บอกให้ปล่อยแต่ดันบีบแน่นกว่าเดิม มึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ! ผมปัดมือของมันออกอย่างเสียมารยาท จุดนี้มารยงมารยาทเหี้ยไรไม่รู้จักแล้วโว้ย ขอโทษคุณย่าที่สั่งสอนผมมาด้วยนะครับ
  
  “ขอตัวนะครับ” ผมเดินเร็ว ๆ ตรงไปที่ศูนย์การค้าชื่อดังใจกลางเมืองหลวงที่อยู่ไม่ไกลไม่ใกล้ อันซึ่งเป็นสถานที่ที่กายมันบอกไว้ ผู้ชายคนนั้นยังตามผมมาอยู่ ไม่ได้หันไปมองหรอกครับ แต่ความรู้สึกมันบอก ช่างเขาแล้วกัน ถ้าว่างมากอยากทดลองเป็นสตอล์กเกอร์ ก็ได้ ก็แล้วแต่เลย...
  
  
  
  
  
  ......................................
  
  
  
  
  
  ปึก!
  
  “ขอโทษครับ” ผมรีบขอโทษขอโพยคนที่ผมเดินชน
  
  “ควอทซ์” รู้จักกูด้วย แต่เสียงคุ้น ๆ แฮะ
  
  “ไรฟ์!!” พอเงยหน้ามองก็กระจ่างเลยครับ ฟู่~
  
  “ทำไมอยู่คนเดียว แล้วนี่หนีอะไรมา” ผมสั่นหัว แล้วผลักไรเฟิลให้เดิน แต่เจ้าตัวมันยังไม่ขยับเขยือนเลยแม้แต่น้อย พอหันไปมองด้านหลังก็เห็นไอ้ซาลาเปามันเดินเข้ามา
  
  “อ้าว ไม่เจอกันนานนะครับ”
  
  “หึ นึกว่าตายไปแล้วเสียอีก” ผมมองไรเฟิลสลับกับซาลาเปา(ไม่รู้จักชื่อเรียกแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน)งง ๆ
  
  “พอดีกูรอมึงตายก่อนว่ะ ไง คนสวย หยิ่งจังนะครับ” มันพูดแล้วหันมายิ้มใส่ผม ขนลุกไอ้สัด แล้วคนสวยห่าไรมึง!
  
  “อย่ามายุ่งกับคนของกู” ไรเฟิลผลักไอ้ซาลาเปาออกแล้วดันผมไปอยู่ด้านหลัง ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดขืนใด ๆ
  
  “ว้าว! หวงด้วยแฮะ”
  
  “อย่ามากวนตีน จะไปตายห่าที่ไหนก็ไป” ว่าแค่นั้นคุณชายก็ลากผมเดินออกมา ได้ยินเสียงไอ้ซาลาเปาดังตามหลังว่า
  
  “ไว้เจอกันนะครับคนสวย” ไอ้สัด!!!
  
  
  
  
  “ใครวะ รู้จักด้วยเหรอ” ผมถาม
  
  “ไม่” เอ้า! “แล้วมึงไปเจอมันได้ไง” ไม่ตอบแล้วเสือกถามกลับอีก
  
  “อ๋อ บังเอิญเจออ่ะ เขามาถามชื่อ แต่ไม่ได้บอกไปหรอก”
  
  “อื้อ อยู่ห่าง ๆ มันไว้ แต่คงไม่มีโอกาสได้เจอกันหรอก” คุณชายยิ้มเย็น ทำเอาผมอดขนลุกไม่ได้
  
  ผมว่านะ สองคนนี้มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังกันแน่ ๆ ไม่งั้นคุณชายไม่แสดงท่าทางอยากจะเข้าไปบีบคอมันขนาดนั้นหรอก อาจจะรู้จักกันก่อนที่ผมจะมารู้จักผมพวกมัน หรืออาจจะเป็นคู่อริกันก็ได้ ตามหลักการแล้ว ก็น่าจะเป็นอย่างนี้ ........มั้ง
  
  
  
  
  “ทำไมมาด้วยกันวะ” พอมาถึงร้านที่นัดไว้ หมาไนต์ก็รีบเสนอหน้าทันที กายกับฟอร์สแต่ยกมือทักเพราะปากไม่ว่าง ฟอร์สคงเพิ่งจะสอบเสร็จ เพราะมันยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลย ไรเฟิลก็ไม่ต่างกัน
  
  “เจอกันที่หน้าร้าน...อ่ะ” ผมตอบ เพราะหน้าคุณชายตอนนี้โคตรไม่สบอารมณ์
  
  “แล้วมึงเป็นไรวะ หน้าอย่างกับคนขี้ไม่ออก” คุณชายแสยะยิ้มที่เห็นทีไรแล้วต้องรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ตลอด
  
  “แทนไท” ไนต์ตาโตกับคำตอบของไรเฟิล กายสำลัก ฟอร์สขมวดคิ้ว
  
  “เชี่ย!!! เมื่อไหร่วะ!” หน้าหมาไนต์มันดูโกรธมาก ฟอร์สเองก็เหมือนกัน กายวางตะเกียบลงแล้วทุบโต๊ะดัง ปัง!
  
  “เมื่อกี้”
  
  “มันเข้ามาทักมึงเหรอ” กายถาม คุณชายตอบอืมแล้วปรายตามองผม เดี๋ยวนะ ขอเวลาเรียบเรียงก่อน แทนไท..  เมื่อกี้..  เข้ามาทัก... ตามหลักการแล้ว คนที่เข้ามาทักไรเฟิลเมื่อกี้ก็คือไอ้ซาลาเปาสตอล์กเกอร์นั่น แล้วแทนไทก็คงจะเป็นชื่อของผู้ชายคนนั้น...
  
  “เวร!” ไนต์ กาย ฟอร์ส สบถออกมาพร้อมกัน
  
  “อะไรวะ พูดอะไรให้กูเข้าใจบ้างดิ!” ผมโวย เมินกุ้งตัวโมงที่คุณชายคีบมาให้อย่างไม่ใยดี
  
  “ไม่เกี่ยวกับเด็ก”
  
  “เด็กพ่องหมาไนต์” ผมเบะปากเพราะไนต์มองผมแบบ... มึงหุบปากไปซะ
  
  “ไม่มีอะไรหรอกน่า”
  
  “เชื่อมากเลยไรฟ์ เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นเหรอ”
  
  “น้องควอทซ์มึงลองนี่ หมูร้านนี้นุ่มมาก อ่ะ อ้าปาก!” ผมปัดมือกายที่คีบหมูย่างยื่นมาตรงหน้าออก ผมไม่สนใจอาการหน้างอแบบเสแสร้งของกาย
  
  “อยากรู้อะไรก็ถามมันแล้วกัน” ฟอร์สใช้ตะเกียบชี้ไปที่ไรเฟิล ผมไหวไหล่ ถ้าไม่อยากบอกผมก็ไม่อยากรู้แล้วล่ะ
  
  ครืด~
  
  “ครับคุณเกรย์”
  
  “ผมส่งชื่อร้านและแผนที่เข้าอีเมล์คุณหนูแล้วนะครับ” ผมเงียบไปพักหนึ่งเพราะถูกสายตาทั้งสี่คู่จ้องมองอยู่
  
  “อ่า ขอบคุณมากเลยครับ”
  
  “ขอโทษนะครับที่โทรมาบอกช้า พอดีติดงานน่ะครับ”
  
  “ไม่เป็นไรครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ ยังไงก็ขอบคุณนะครับ” ผมกดวางสายแล้วหย่อนโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋า
  
  “ใครโทรมา”
  
  “ไม่มีอะไรหรอกน่า” ผมเลียนประโยคที่ไรเฟิลเพิ่งพูดกับผมไปเมื่อครู่ด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย คิ้วหนาขมวดแน่นแต่ผมไม่สนใจหรอก!



----------------------------------------

TBC.

มีตัวละครใหม่มาแทบทุกตอนเลย ฮืออออออออออออ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 10 (14.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 14-11-2014 22:04:37
เขาเป็นใครรรรรรรรรรรรรร
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 10 (14.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-11-2014 23:31:45
ความลับ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 10 (14.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 15-11-2014 00:07:31
เรื่องสนุกมากค่าา น่าติดตาม พ่อปืนเนี่ยดูซึนๆแต่หวงมากนเนี่ย
จูบเพื่อนไม่ผิดหรอกกกกก  :hao7:
รอคนสวยรู้ตัว รู้ใจ

รอตอนต่อไปค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 11 (18.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 18-11-2014 21:56:16
EPISODE 11






  ผมตีหน้ามึนใส่พวกมันตลอดระหว่างการทานอาหาร ถามคำตอบคำจนพวกมันเหวอแดก
  
  “เฮ้~ โกรธพวกกูเหรอวะ” ผมปรายตามองหมาไนต์ ที่ยื่นหน้ามาอยู่ในระดับสายตาผม
  
  “เปล่าครับ”
  
  “พูดแบบนี้มันแปลก ๆ นะน้องควอทซ์”
  
  “แปลกยังไงเหรอกาย” ผมถามหน้าซื่อ กายกัดปากก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากสหาย
  
  “เลิกงอนไร้สาระได้แล้ว” ผมมองหน้าไรเฟิล
  
  “งอนไรเหรอ?” พวกมันสี่คนถอนหายใจพรืด ผมยิ้มแล้วหมุนตัวเดินหนีจากพวกมัน แต่โดนคว้าแขนเอาไว้ก่อน กายนั่นเอง
  
  “ปล่อย ๆๆ” ผมสะบัดแขนรัว
  
  “ไอ้ห่า จะไปไหนห้ะ?” หมาไนต์แม่งไม่พูดเฉย ๆ เอามือฟาดหัวผมด้วย
  
  “จะไปซื้อไอศกรีม ไอ้สาดดดดด” พวกแม่งหน้าเหวอ คงคิดว่าผมงอนจริง ๆ โธ่ ผมไม่ใช่คนไร้เหตุผลนะเว้ยยยย พวกมันไม่บอกก็แสดงว่ามีเหตุผลที่บอกไม่ได้ ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละน่า เนอะ
  
  “สัด!!” ไอ้พวกสี่สหายพากันรุมทำร้ายผม ไอ้เหี้ยยยย! ตบอยู่ได้หัวกูเนี่ย ถ้ากูโง่ใครจะรับผิดชอบ ห๊า!!!!!
  
  


  
  ได้ไอศกรีมช็อกโกแลตมา 1 สกูป โดยที่ไรเฟิลเป็นคนจ่าย ดีดิ! ไม่ต้องจ่ายเอง ประหยัดเงินในกระเป๋า ฮาาาาา
  
  “พวกมึงจะไปไหนกันต่ออะ?” ผมถามพลางงับไอศกรีมไปด้วย พวกมันทั้งสี่สั่นหัวกับพรึ่บแล้วถามผมกลับ
  
  “งั้นไป...”
  
  “พี่ไรเฟิลจริง ๆ ด้วย” ผมกำลังจะพ฿ดแต่กลับมีเสียงแหลม ๆ ของสาวน้อนคนหนึ่งแทรกเข้ามา เธอเดินเข้าไปควงแขนไรเฟิลที่กำลังคิ้วขมวด
  
  “ใครวะ?” ไนต์ถาม เธอหน้าเสียนิดหน่อย ๆ ก่อนจะยิ้มกว้างพร้อมกับปรับสีหน้าให้เป็นปกติและเหมือนว่าน้องกับกำลังจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไรเฟิลพูดขึ้นมาก่อนแล้วแกะมือน้องออก
  
  “เมื่อกี้จะพูดอะไรนะ?” ห้ะ? ถามกูเหรอ? คงเห็นผมทำหน้าเอ๋อใส่มันเลยพยักหน้าประมาณว่า มึงนั่นแหละ
  
  “ไป ไป ไปร้านหนังสือ” คุณชายไม่พูดพร่ำทำเพลงลากแขนผมออกมาเฉยเลย ห่าเอ๊ย เกือบสะดุดขาตัวเองล้ม
  
  



  
  “ไรมึงเนี่ยยยยยย”
  
  “.....” ไม่ตอบ แต่ยักคิ้วกวนตีนใส่ ผมเบ้ปากแล้วเดินกระแทกไหล่มันเข้าไปในร้านหนังสือ มาหยุดที่โซนนวนิยาย ส่วนไรเฟิลมันก็เดินดูอะไรของมันไม่รู้ ส่วนสามแสบอย่าง ไนต์ กาย ฟอร์ส ก็แยกกันไปโซนที่ตัวเองชอบ พวกผมชอบอ่านหนังสือนะครับ อ่านได้ทุกอย่างที่ไม่ใช่หนังสือเรียน(กำ - -) แต่นิยายที่ผมอ่านส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ ของไทยก็มีครับ แต่ไม่เยอะ
  
  ผมได้หนังสือนิยายมาหนึ่งเล่มแล้วเดินไปที่โซนอาหารและเครื่องดื่ม เลือกดูอยู่สักพักก็ได้หนังสือมาสองเล่ม เล่มนึงเป็นภาษาไทยอีกเล่มเป็นภาษาอังกฤษ
  
  “อันนี้มึงจ่าย” ผมยิ้มแป้นยัดหนังสือวิธีการทำอาหารทั้งสองแล้วใส่มือไรเฟิล มันเลิกคิ้ว
  
  “โห่ยยยยยยยยย อะไร คู่มือการทำอาหาร แม่บ้านแม่ศรีเรือนสัด ๆ ครับ!” ผมชูกำปั้นเหมือนจะต่อย ไอ้ไนต์แลบลิ้นส่งสายตาล้อเลียน บังอาจมากนะมึงมาล้อกู เดี๊ยะ ๆ
  
  “ทำไมกูต้องจ่าย?” เอ้า! ไอ้ห่านี่
  
  “เพราะน้องควอทซ์มันต้องทำให้มึงแดกไง ใช่มะ?”
  
  “ฉลาดมากเบบี๋” ผมยกนิ้วโป้งให้กาย
  
  “งี้มึงก็ว่าไอ้ปืนโง่อ่ะดิ ใช่เปล่าวะ?” ฟอร์สมันแสร้งถามหน้าซื่อแต่แววตานี่บ่งบอกว่ากูกำลังกวนตีนอยู่นะ แล้วมันก็โดนคุณชายท่านฟาดไปหนึ่งทีเน้น ๆ
  
  “สัด!!” พวกผมยกเว้นไรเฟิลหัวเราะลั่น หน้ามันโคตรตลกอ่ะ ฮ่า ๆๆๆๆๆ
  
  
  
  

  ............................................
  



  
  “กลับมาแล้วคร้าบบบบบ~!” ผมแหกปากลั่นบ้าน แต่ทำไมบ้านเงียบ ตอนนี้ก็สามทุ่มกว่าเองนะ หลังจากแยกกับพวกสี่สหายที่ห้างผมที่บอกว่าจะกลับบ้านแต่จริง ๆ แล้วผมแวะไปถ่ายรูปมา ถ้าบอกว่าจะไปถ่ายรูปพวกแม่งคงตามไปด้วยแหงแซะ เพราะฉะนั้นผมไม่เสี่ยงดีกว่า
  
  “โฮ่ง! โฮ่ง!”
  
  “หมูปิ้ง~” ผมขยี้หัวมันแรง ๆ เล่นกับหมูปิ้งสักพักก็เข้าไปหาน้ำดื่มที่ครัว เจอพี่แก้วเข้าพอดี
  
  “คุณย่ากับป๊าล่ะครับ?”
  
  “คุณท่านทั้งสองไปออกงานค่ะ” ผมพยักหน้า บอกพี่แก้วว่าไม่ต้องทำกับข้าวให้ เพราะก่อนเข้าบ้านผมกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยมาแล้ว
  
  

  อาบน้ำเสร็จก็มานั่งคัดรูปแยกใส่โฟลเดอร์ กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน เยอะฉิบหายเลย จริง ๆ มันก็ไม่ได้ยากหรอก เพราะสร้างโฟลเดอร์มันแล้วแยกวันที่เท่านั้น แต่มันเสียเวลาตรงที่ต้องแยกรูปที่เสียและรูปพวกไอ้ไนต์ออกด้วยนี่สิ มีทั้งรูปที่ตั้งใจ รูปตอนเผลอ ถ่ายเล่นไปทั่วเลย แต่แล้วกลับสะดุดกับภาพภาพหนึ่ง ผมมองรูปนั้นอยู่นานราวกับโดนสะกด  ภาพของผู้ชายคนนั้นที่หันมามองกล้องแบบเผลอ ๆ พอดี ริมฝีปากยกยิ้ม นัยต์ตาสีน้ำทะเลส่องประกาย. . . ตึกตึก ตึกตึก.. ฉิบหาย! ทำไมอยู่ ๆ ถึงใจเต้นแรงแบบนี้ แล้วไอ้หน้าร้อนวูบวาบนี่คืออะไร! เขินเหรอ? บ้าสิ! ให้ตายเถอะรักษ์ธิสุด ทำไมต้องมานั่งฟุ้งซ่านเพราะรูปภาพโง่ ๆ รูปเดียวด้วย!! ผมสะบัดหัวแรง ๆ กดปิดแท็บทั้งหมดแล้วปิดคอมฯ นอนโว้ย!!!!
  
  
  
  ครืดดดดดด
  
  กำลังจะเคลิ้มหลับโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา ผมควานมือหาแล้วหยิบมาดู ปรากฏว่าเป็นความข้อจากเบอร์ที่ผมไม่ได้เซฟไว้ - * -
  
  ‘พี่ควอทซ์นอนยัง? ฝันดีนะครับ’
  
  กูตื่นเพราะมึงเนี่ยไอ้สัด!! กดล็อคสกรีนแล้วโยนโทรศัพท์ไปอีกฟากของเตียง
  
  



  
  “หาววววว” อ้าปากหาววอดเดินเข้ามาใรครัวพร้อมกับท้องร้องโครกคราก วันนี้ผมตื่นมาก็เกือบเที่ยงแล้ว ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน แต่ก่อนจะหลับก็ตีสองกว่าเข้าไปแล้ว
  
  “ทำไมตื่นสายวะ?”
  
  “นอนดึก” ตอบป๊าไป ท่านเดินเข้ามาในครัวพอดี “ย่าอะ?” ผมถามพลางตักข้าวเข้าปาก เมื่อกี้แม่บ้านเพิ่งมาอุ่นให้
  
  “ออกไปสมาคมมั้ง”
  
  “อื้อ ไมวันนี้อยู่บ้าน?”
  
  “เรื่องของกู” กวนตีน...
  
  กินข้าวเสร็จก็ถูกป๊าลากให้ไปช่วยงาน เหนื่อยสัดอ่ะครับ จริง ๆ มันก็ไม่ได้ใช้แรงเยอะหรอก แต่มันต้องใช้สมองไง ถูกใช้แรงงานจนถึงเย็น ผมก็เป็นอิสระออกไปวิ่งเล่นกับไอ้หมูปิ้งแล้วไปส่องมดแดงด้วย
  
     
  



  
  เวลาผ่านไปไว้เหมือนโกหก เผลออีกทีก็วันจันทร์แล้ว หยุดสองวันเหมือนสองนาที ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าคณะ อีกครึ่งชั่วโมงถึงจะถึงเวลาเข้าเรียน อีกอย่างคือรอหมาไนต์ด้วย
  
  “ไม่ไปเรียนไง?” ผมถามไรเฟิลที่นั่งอยู่ตรงข้าม เมื่อเช้าผมแวะเข้าไปหาอาหารเช้าให้มันก็เลยถูกมันลากให้มาพร้อมกันซะงั้น
  
  “ครึ่งชั่วโมง” มันตอบ ผมพยักหน้าก้มลงอ่านเนื้อหาที่ต้องเรียนวันนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนครับ ไม่งั้นงานมึนต้องมา
  
  “ช่วงนี้มีเบอร์แปลก ๆ โทรหามึงไหม?”
  
  “หื้อออ” ผมร้องในคอเสียงสูง นึกสักพักแล้วพยักหน้า
  
  “ใคร มันโทรมาทำไม”
  
  “ชื่ออะไรวะ แพท แพค อะไรสักอย่าง”
  
  “พูดถึงผมอยู่เหรอครับ? พี่ไรเฟิลสวัสดีครับ” เอ่อ.. ต้องบอกไหมครับว่าใคร
  
  “มึงมาทำไม?” ไม่ใช่ผมนะ คุณชายต่างหาก ถามโคตรหาเรื่อง
  
  “ผมเอาขนมมาฝากพี่ควอทซ์น่ะครับ นึกว่าจะไม่เจอแล้วนะเนี่ย” ไอ้แพคยิ้มแล้ววางถุงขนมลงพร้อมกับนั่งลงข้างผม ผมขยับให้ห่างออกจากมันอีกหน่อย แม่งเล่นเบียดซะแทบจะร่วมร่างอยู่แล้ว
  
  “กึ้ดมอร์นิ่งมายเฟรนด์~~!!” เสียงแปดหลอดกับน้ำเสียงกระแดะ ๆ ของไนต์ดังมากระทบโสตประสาทจากระยะสามเมตร
  
  “มึงมาทำไมวะ!?” เสียงสดใสของมันเปลี่ยนเป็นขุ่นมัวทันที
  
  “ผมเอาขนมมาให้พี่ควอทซ์”
  
  “ขยันส่งขนมเพื่อนกูขนาดนี้ จีบเพื่อนกูอยู่เหรือไง?” มึงจะถามตรงไปไหมครับอัศวิน ไอ้ห่า!
  
  “ครับ” ไอ้นี่ก็ไม่ปฏิเสธอีก โว้ะะะ!! ไอ้ไนต์ไล่สายตามองไอ้แพคตั้งแต่เท้าจรดหัวแล้วแสยะยิ้มเย็น
  
  “หึ พวกมึงขึ้นตึกไปได้ล่ะ” ไรเฟิลสั่ง
  
  “เออ!  มึงมากับกูเลยน้องเห็ด!” ไอ้ไนต์พูดจบก็ลากคอผมเดินขึ้นตึก แต่มือแม่งยังจะคว้าเอาถุงขนมของไอ้แพคมาอีก งกมากเพื่อนกู!
  
  

  
  “เสน่ห์แรงจริ้งจริงงงงง กูล่ะหมั่นไส้” ไม่ว่าเปล่าผลักหัวผมอีก สัดไนต์!!
  
  “อะไรอะ ก็ไม่ได้บอกให้มันมาจีบกูสักหน่อยเหอะ”
  
  “แล้วนี่มึงคุยอะไรกับมันบ้าง?” ผมสั่นหัว ไม่ได้คุยอะไรจริง ๆ นี่
  
  “แฮ่!! คุยอะไรกันวะ ใครจีบใคร!? เล่าสิเล่า!” บะหมี่มาจากไหนไม่รู้ มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วมองผมกับไอ้ไนต์สลับกันไปมา หน้ามาบ่งบอกว่าอยากเสือกเต็มที - -
  
  “เด็กส่งขนมมาจีบเพื่อนมึงอ่ะ”
  
  “ใครวะ? พูดอย่างกับมีคนส่งขนมให้เพื่อนมึงคนเดียวงั้นแหละ” มันหรี่ตามอง มือคว้าหมับเข้าถุงขนมก่อนจะค้นหาอันที่ชอบแล้วแกะเข้าปากทันที นี่ดาวคณะหรือปอบครับ พูด!
  
  “ชื่อแพค” ผมบอก ไอ้บะหมี่สำลักค่อกแค่ก
  
  “อ๋ออออออ น้องรหัสไรเฟิลน่ะนะ หรือเปล่าวะ?”
  
  “เออ!!”
  
  “มึงจะกระแทกเสียงทำไมเนี่ยไอ้ไนต์ หึงหรอวะ?”
  
  “หือออ หึงพี่ควอทซ์หรือจ้ะน้องไนต์” ผมแกล้งวาดแขนไปโอบไหล่ไอ้ไนต์แล้วดึงมันมาซบไหล่แต่แล้วก็ถูดมันสะบัดออก
  
  “พวกมึงก็คิดได้เนอะ” มันสั่นหัวเอือม ๆ
  
  “แต่ไอ้น้องแพคนี่ไม่ธรรมดานะเว้ย สายกูรายงานว่ามันเป็นลูกชายคนเล็กของจิระวากุลเลยนะ หล่อ รวย เรียนเก่ง กีฬาเลิศ โปรไฟล์แจ่มมาก!”
  
  “มึงนี่ก็ขี้เสือกใช่ย่อยนี่หว่า เยี่ยม ๆ” ไอ้ไนต์ยื่นมือไปเกาคางบะหมี่เลยถูกเจ้าแม่ฟาดผั้วลงกลางหลังเน้น ๆ
  
  “สัด!”
  
  “อัศวิน จริญญา รักษ์ธิสุด ถ้าไม่เรียนก็ออกไป! ส่งเสียงดังรบกวรคนอื่น ไร้มารยาท!” ผมนี่ถึงกับเงียบเลยครับ....
  
  
  
  
  
  
  .......................................................
  
  


  
  
  เลิกเรียนก็สี่โมงเย็นแล้ว และตอนนี้ผมก็นั่งเซ็งอยู่ที่ชมรมว่ายน้ำ ไอ้วอร์ม(ยังจำมันได้ใช่ไหมครับ?)ที่เพิ่งเข้ามา พอเห็นผมแม่งก็วิ่งหูตั้งหางกระดิกแหกปากตะโกน ‘เจ้าหญิง!!!!’ ดังลั่น สัดวอร์ม!!!
  
  “แหกปากหาพ่อง!”
  
  “โห่ เฮียแม่ง” ไอ้วอร์มทำหน้างอใส่ไรเฟิลแล้วหันมายิ้มใส่ผม ผมรู้สึกหลอน ๆ มันยังไงไม่รู้ ฮือ..
  
  “ไรมึง?”
  
  “ช่วงนี้เจ้าหญิงน่ารักขึ้นเปล่าวะ?” ไม่พูดเฉย ๆ แม่งมีการยื่นมือมาล็อคคางผมพลิกซ้ายทีขวาที เดี๋ยวนี้ชักลามปามใหญ่แล้วไอ้สัด!
  
  “น่ารักเหี้ยไร เดี๋ยวกูยันไปนู้น! อย่างกูต้องหล่อมากเท่านั้น” ผมพูดแล้วปัดมือมันออก
  
  “บ๊ะ! อย่างเจ้าหญิงหล่อผมก็โคตรพ่อโคตรแม่หล่อเลยอ่ะดิ เนี่ยยยยยย หนังหน้าอย่างเนี่ย! น่ารักสัด ๆ อ่ะ! เนอะเจ้าชายเนอะ” ผมกลอกตา มองไอ้วอร์มที่ยังพล่ามไม่หยุด ไรเฟิลก็ไม่ช่วยห่าอะไรผมเลย ผมยกขายันโครมจนไอ้วอร์มที่ยังโม้ไม่หยุดเซล้มเพราะมันไม่ได้ตั้งตัว
  
  “พูดมากไอ้สัด ที่บ้านพ่อแม่มึงห้ามพูดหรือไงห้ะ!!”
  
  “โด่วววว ไรอ่าาาา เจ้าหญิงถีบน้องวอร์มทำไมอ่าาาา”
  
  “เดี๋ยวกูจะยันให้ตกสระ ไอ้ห่าาาา”
  
  “ไปเปลี่ยนชุดไปซ้อมได้แล้วมึง ไป!”
  
  “ไปก็ด๊ะะะ เชอะ! เหตุใดเติมใจเธอไม่เคยเต็ม..” ก่อนไปก็ยังไม่วายกวนตีนอีกจนได้ ไอ้วอร์มสะบัดหน้างอนใส่ผมกับไรเฟิลแล้วเดินก้นสะบัดออกไป แรดสัดหมา
  

  
  
  “น้องมึงกวนตีน”
  
  “หึ มันก็บ้าของมันอยู่แล้ว” ผมยู่ปาก สภาพคุณชายไรเฟิลตอนนี้คือ... มีผ้าขนหนูพันอยู่ที่เอว ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่ามีหยดน้ำเกราะพราวไปทั่ว ผมสีบลอนด์เปียกน้ำถูกเสยไปด้านหลังทำให้เห็นโครงหน้าหล่อเต็ม ๆ แม่งงงง! รู้ว่าหุ่นดีแต่ไม่ต้องโชว์ได้ป่ะ! สาว ๆ ที่นั่งอยู่บนอัฒจรรย์งี้ ตาวาววับเลย บางคนนี่ถึงกับเขินหน้าแดง ด้วยความหมั่นไส้ผมเลยต่อยเข้าไปที่หน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของมัน กล้ามหน้าท้องไรเฟิลสวยมากนะครับ มันไม่ได้เยอะจนน่ากลัว แต่มันพอดี ๆ แบบกำลังดี ผมเองก็อยากมีบ้างนะ เคยลองอยู่ช่วงนึง ไม่ได้ผลครับ เลยเลิกไป ไม่มีซิกแพคไม่เป็นไร แต่ขอแค่อย่ามีพุงเป็นพอ ฮาาาาา
  
  
  “ไรวะ?”
  
  “หมั่นไส้โว้ยยยยยยย”
  
  “อิจฉา?” เลิกคิ้วถามคิดว่าเท่เหรออออ เออ โคตรเท่เลยไอ้สัด!! ผมเบ้ปากค้นเอาอมยิ้มมากิน ไรเฟิลลุกขึ้นปลดผ้าขนหนูออกแล้วโยนมันมาคลุมหัวผม พอเอาผ้าออกก็ได้ยินเสียง ตู้ม!!! พร้อมกับร่างสูงที่กระโดดลงสระว่ายน้ำอย่างสวยงาม... ท่ามกลางเสียงกรีดร้องดังระงมจากทั้งสาวแท้และสาวเทียม
  
  “อร้ายยยยย แก!!! พี่ไรเฟิลเท่สุด ๆ เลยอ่ะ กรี๊ดดดด”
  
  “ว้ายยยย หุ่นดีมากอ่ะแก!”
  
  “ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียน!!”
  
  “อีบ้าาา พี่ไรเฟิลของฉันย่ะ!”

  น้อง ๆ กลุ่มนั้นก็ตบตีกันไป ผมว่าพวกเขาน่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนกันนะ คงจะเป็นเด็กปีหนึ่งเพราะยังใส ๆ กันอยู่เลย ผมอมยิ้มขำ ๆ กับอาการคลั่งของพวกเธอ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเพราะเสียงของคนที่นั่งอยู่ที่อัฒจรรย์ด้านหลังไม่ไกลจากผมพูดว่า. . .
  
  “พวกนั้นตลกเป็นบ้า” สาวนิรนามคนที่ 1
  
  “หึ ก็แค่พวกฝันลม ๆ แล้ง ๆ พี่ไรเฟิลของฉันต่างหาก” คนที่ 2
  
  “ได้กันแล้ว ใช่ว่าพี่เขาจะเลือกเธอสักหน่อยนี่” คนที่ 3
  
  
  อ่า.... ผมอยู่ ๆ ผมก็รู้สึกหงุดหงิดนะ อยากจะหันไปดูหน้าคนพูดให้รู้แล้วรู้รอด ให้ตายสิวะ!! บ้าเอ๊ย!! ผมตบตีกับตัวเองอยู่ไอ้วอร์มก็เข้ามากวนตีนเลยจัดการถีบแม่งไปเต็มแรงจนมันตกลงไปในสระ เหอะ! ค่อยหายหงุดหงิดมาหน่อย แค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ!!



----------------------------

TBC.
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 11 (18.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-11-2014 22:24:24
น่าสงสารน้องที่ชมรมว่ายน้ำโดนตลอด
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 11 (18.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 21-11-2014 21:42:13
สงสารวอร์ม 555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 11 (18.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: ρℓuto ที่ 21-11-2014 22:10:17
หึงแล้วพาลจริงๆ หนูเห็ด อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 11 (18.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 22-11-2014 01:44:30
ชอบอ่ะ ภาษาดีมากแต่อยากแนะให้กำหนดทิศเรื่องนะ ไม่งั้นจะบานปลาย กลายเป็นงงไป  แต่โดยร่วมคือชอบมากกกก  ไม่คิดว่าคาแรคเตอร์น้องเห็ดจะแอบเถื่อนนิดๆ มีสักด้วยอ่ะ  พี่ปืนก็เท่ห์โคตรรรรร
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 12 (22.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 22-11-2014 21:58:35
EPISODE 12



  “หน้างอ เป็นไร?” ผมสั่นหัว ไม่ตอบไรเฟิล เดินนำหน้าเข้ามาในห้องของมัน จะให้ตอบอะไรล่ะ ขนาดผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไร โว้ย!!  กำลังจะกลับมาที่ห้องของไรเฟิล ก็มีสาวสวยเดินมาหาถึงรถไปคุยกันยังไงไม่รู้กลับมาถึงได้มีรอยลิปสติกเลอะปาก เหอะ! ไรเฟิลคงไม่ได้ขอลิปของน้องคนนั้นมาทาหรอก จะมีอะไรนอกจากจูบล่ะ! จูบน่ะ จูบบบบบ! อะไร! อย่ามาบอกว่าผมหึงนะ บ้าสิ! ผมจะไปหึงมันทำไมล่ะ โด่ววว พวกคุณนี่มั่วมาก แล้วหงุดหงิดผมไมหรอ เพราะมันไปจูบกับสาวแล้วทิ้งให้ผมรอไง! ใช่แล้ว ใช่นั่นแหละ เพราะผมต้องรอไงเลยหงุดหงิด ไม่ได้หึงสักหน่อย ไม่ได้เป็นอะไรกันจะหึงทำไมเล่า! โธ่เอ๊ยยย!
  
  “เป็นไร? เปล่าสักหน่อย”
  
  “เปล่ามากกกก หน้างอขนาดนี้ โกรธที่กูปล่อยให้รอ?” ก็รู้นี่หว่า จิ๊!
  
  “สำคัญจังเลยยยยยยย”
  
  “หึ” ไรเฟิลผลักหัวผมก่อนที่มันจะเดินขึ้นไปชั้นสอง ผมแลบลิ้นใส่แผ่นหลังกว้างนั้น โยนกระเป๋าไปไว้ที่โซฟา แล้วเริ่มต้นทำความสะอาดห้องให้มัน รกสัด ๆ มากครับ ทั้งชีท ทั้งหนังสือ แฟ้มต่าง ๆ เกลื่อนห้องเลย ปัดกวาดเช็ดถูไปเรื่อย ไอ้คุณชายที่ขึ้นไปเปลี่ยนชุดกลับลงมาก็ไปนั่งดูสารคดีสัตว์โลกของมัน มีบ้างที่แวะเวียนมาค่อยกวนประสาท ถามนู่นถามนี่ โยนเศษซากขนมลงพื้นให้ผมตามเก็บบ้าง แกล้งทำน้ำหกบ้าง ใครว่าแม่งเย็นชาไม่จริงเลยสักนิด!! กวนตีนฉิบหาย ไอ้ตับหมา!
  
  “ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยย!!” ไรเฟิลหัวเราะลั่น เอานิ้วมาเขี่ยแก้มผมแล้วเดินหนีไป พอผมจะเอาคืนแม่งก็ใช้คำว่าเจ้านายกับลูกจ้างมาขู่ แถมยังบอกว่าจะหักเงินเดือนอีก สาดดดดดดดดดดดดด!!
  
  
  
  “เหนื่อยยยยยยยย” ผมบ่นเมื่อทำความสะอาดเสร็จ ห้องแม่งก็กว้างจะเลยไอ้เหี้ย!
  
  “มานั่งทำอะไรตรงนี้วะ!?” ไรเฟิลมันเดินมาใกล้แถมยังเอาเท้าเขี่ยผมที่นั่งแหมะอยู่ที่พื้นอีก ช่วยทำให้กูรู้สึกว่ากูเป็นคนหน่อยได้ไหมครับไอ้สัด!
  
  “ทำหน้าไม่พอใจ หักเงินเดือนดีไหมเนี่ย หือออ?” ไรเฟิลนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้า มันเอามือมาวางแปะบนหัวผมแล้วโยกไปซ้ายทีขวาที
  
  “ขู่ตลอดดดดด จิ๊! ปล่อยเลย!” ไม่ปล่อยแถมยังขยุ้มหนักกว่าเก่า
  
  “เป็นอะไรครับ?” ผมกระพริบตาปริบ ๆ เดี๋ยวนะ. . . ไรเฟิลโหมดสุภาพผมปรับตัวไม่ทัน
  
  “เอ่อ...ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” ผมพูดเสียงค่อย
  
  “เอาความจริง”
  
  “ไม่ได้เป็นไรจริง ๆ นะเว้ยยย ตอนนี้หิวแล้ว เลี้ยงข้าวหน่อยสิ” ผมรีบยิ้มประจบสบตากับมันแล้วทำตาวิงค์ ๆ ก่อนจะโดนมันผลักหัวจนหงายเงิบด้วยความรักใคร่. . . ถุยยยยย!!!
  
  
  “จะกินไร?” มันถาม ตอนนี้เราย้ายมานั่งที่โซฟาแล้วครับ
  
  “อะไรก็ได้”
  
  “อะไรก็ได้นี่ร้านไหนมีขาย?” สัด..
  
  “กวนตีน! กินพิซซ่า!!!” ไรเฟิลยกยิ้มแล้วโยนโทรศัพท์มาบนตักผม
  
  “รหัสไร?” เมื่อรู้รหัสก็จัดเลยสิครับรอเหี้ยอะไรอยู่!
  
  
  ครืดดดด ครืดดดดด
  
  โทรศัพท์ผมสั่นครืดอยู่บนโต๊ะ แต่ตอนนี้ผมกำลังคุยกับพนักงานร้านพิซซ่าอยู่นี่สิ ผมขยับปากแบบไม่มีเสียงบอกให้มันรับให้หน่อย มันทำหน้ารำคาญแต่ก็ยอมรับให้อยู่ดี
  
  “ใคร?” รับโทรศัพท์ได้นักเลงมากครับมึง คิ้วหนาขมวดมุ่นแล้วมันก็ลุกเดินออกไปที่ระเบียงด้านนอก อะไรวะ ใครโทรมา! แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ผมหันมาสนใจสั่งอาหารต่อ เรื่องกินเรื่องใหญ่ครับ
  
  
  
  “ใครโทรมาอะ?”
  
  “ไอ้แพค”
  
  “มันโทรมาทำไม?”
  
  “จีบมึงไง”
  
  “....” พูดไม่ออกเลยกู
  
  “มันมีเบอร์มึงได้ไง?”
  
  “ไม่รู้ดิ ...มึงเอาให้มันเปล่า! น้องรหัสมึงนี่ ใช่ไหม!!?”
  
  “ก่อนพูดออกมานี่ปรึกษาสมองก่อนหรือเปล่า?” โอ้โห. .  มึงจะบอกว่ากูพูดไม่คิดก็บอกมา! ผมปาหมอนใส่มันเต็มแรงแต่ต้องเจ็บใจเพราะแม่งดันรับทัน แถมยังปากลับมาแรงกว่าที่ผมปาใส่มันอีก โห่! เข้าเต็มหน้ากูเลย!
  
  “มึงแม่ง!!”
  
  “อะไร ๆ สู้ไม่ได้ก็งอแงใส่”
  
  “ไม่ได้งอแงโว้ย!! เจ็บอ่ะ” ผมพูดพลางลูบจมูกตัวเองไปด้วย
  
  “อ่อน” แล้วสงครามระหว่างผมกับไรเฟิลก็เกิดขึ้น สุดท้ายก็หอบแฮกลิ้นห้อยไป เหนื่อย! ไม่น่าไปสู้กับมันเลย สภาพผมอย่างกับเพิ่งผ่านสงครามโลกมา ส่วนไรเฟิลไม่มีอะไรบุบสลายเลย ยังมีหน้ามายิ้มเยาะผมอีก
  
  
  
  กริ้งงงง กริ้งงงง
  
  
  “ไปรับดิ้” ผมไปรับโทรศัพท์ตามคำบัญชาของคุณชาย แหม่ ก็เป็นแค่ลูกจ้างนี่ครับ จะขัดอะไรได้! หลังจากรับสายก็ได้ใจความสำคัญว่า พิซซ่าที่สั่งไว้มาส่งแล้วกรุณาไปเอาและจ่ายเงินด้วย พอบอกคุณชายมันก็ทำเพียงแค่ยื่นกระเป๋าเงินให้แล้วไปสนใจทีวีต่อ
  
  
  
  ผมจัดอาหารทุกอย่างลงบนโต๊ะ ตอนที่สั่งก็ไม่ได้คิดหรอกครับว่ามันจะเยอะ พอมองดูบนโต๊ะเท่านั้นแหละ....
  
  “เยอะสัด”
  
  “หมดแน่!”
  
  “ไม่หมดกูหักเงินขีดละสองพัน”
  
  “พูดเป็นเล่น!” ห่าไรรรรร หักเงินขีดละสองพัน แพงกว่าค่าพิซซ่าอีก ไอ้งก!!
  
  “หึหึ หยิบเบียร์ให้กูด้วย” ผมหน้างอ เดินไปหยิบเบียร์ให้มัน
  
  “กูเอาด้วยนะ!”
  
  “อือ” ผมยกยิ้มกับตัวเอง หยิบเบียร์ขวดเล็กออกมาสองขวดพร้อมกับแก้วสองใบ
  
  “ไม่มีขนมปังกระเทียม?”
  
  “เฮ้ย! ลืมมมมม!” ก็ผมไม่ชอบนี่เลยไม่ได้สั่งมาด้วย คือผมเกลียดกลิ่นกระเทียมไง เลยพาลไม่กินกระเทียไปเลย
  
  “มึงนี่มัน..”
  
  “หล่อ!”
  
  “ถุยยยย” ผมยิ้มกว้างจนตาปิดแล้วหัวเราะลั่นโยกตัวหลบเบรดสติกส์ที่ไรเฟิลโยนมา
  
  
  
  
  
  
     “นี่... ถามไรหน่อยดิ..” ผมเอานิ้วจิ้มแขนไรเฟิล หลังจากจัดการยัดอาหารลงท้องกันจนหมดก็มานั่งที่ห้องนั่งเล่น สรุปแล้วไม่เสียค่าปรับครับ ไรเฟิลแม่งกินเยอะกว่าผมอีก! แล้วมาบอกว่าจะหักเงิน อะเด่ออออ!

     “อะไร?” มันถามกลับไม่ได้เงยหน้ามาสบตา เพราะเจ้าตัวกำลังง่วนกับการอ่านอะไรสักอย่างอยู่ ผมกัดปากชั่งใจ จะถามดีปะวะ

   “เอ่อ... น้องคนที่มาหามึงอ่ะ ใครเหรอ?” คราวนี้แม่งหันมามองผมควับเลยเว้ย!

     “เด็ก” ผมพยักหน้า

     “ทำไมอยู่ ๆ มาถามอะไรแบบนี้?” นั่นสิ ทำไมอยู่ ๆ ถึงถามอะไรแบบนี้ งงตัวเองไปสิ

     “เปล้าาาา” เสียงสูงไปไหนไอ้สัด! ไรเฟิลหรี่ตามอง สายตาโคตรกดดันอ่ะ ผมกะแอมไอแล้วเสมองไปทางอื่น

     “หัดเป็นคนโกหกตั้งแต่เมื่อไหร่?”

     “ไม่ได้โกหก! ก็.. ก็แค่อยากรู้เฉย ๆ”

     “หึ ไม่จำเป็นต้องถามเลยควอทซ์ มึงน่าจะรู้อยู่แล้ว หรือไม่จริง?”

     “.....” ผมเงียบ ก็จริงอย่างที่มันพูด ผมนี่ขุดหลุมฝังตัวเองชัด ๆ คิดว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร แฟนมันเหรอ เหอะ! คนอย่างไรเฟิลจะคบใครจริงจังวะ? นอกจากคู่ควง คู่นอน พูดให้ดูดีหน่อยก็เด็ก(นี่ดูดีแล้ว?) ผมนี่บ้าเนอะ

     “ที่งอแงใส่กูตอนเย็นเพราะเรื่องนี้เหรอ?”

     “เปล่า..” หนักแน่นหน่อยสิไอ้ควอทซ์! ตอบให้มันเต็มเสียงหน่อยสิวะ!

     “หึ จะพยายามเชื่อแล้วกัน” ผมเม้มปาก ที่พูดแบบนั้นแปลเป็นไทยก็คือ ’กูไม่เชื่อที่มึงพูด’

     “กู เอ่อ.. กูกลับล่ะ”





  ........................................................................................






     หลังจากอาบน้ำกะว่าจะให้มันช่วยไล่อาการแปลก ๆ ออกไป ดูเหมือนมันจะไม่ช่วยเลยสักนิด ผมก็มานั่งฟุ้งซ่านอยู่บนเตียง ให้ตายสิ! ผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย! ต้องหาที่ปรึกษาแล้ว เหลือบสายตามองนาฬิกา ตอนนี้ห้าทุ่มแล้ว ที่นิวยอร์คคงประมาณสิบเอ็ดโมง หวังว่าจะว่างนะวิคตี้...



     ตู๊ดดดด ตู๊ดดดดด ตู๊ดดดดด

     โทรไปครั้งแรกไม่มีคนรับ กดโทรไปครั้งที่สองก็ยังเหมือนเดิม จนกระทั่งสายที่สาม

   “Hi!!, Victoria!”

     ”Hi, Victoria i’m Quartz” ผมแทบจะกระโดดลงจากเตียงเมื่อได้ยินเสียงของวิคตอเรีย ดีใจไง โด่ววว แต่น้ำเสียงงัวเงียมาก สงสัยยังไม่ตื่น

     “โอ้มายก็อด!! เบบี๋!! โทรมาหาฉันแบบนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า หืมมม?” เกลียดนักคนรู้ทัน!

     “เธอว่างหรือเปล่า ฉันมีเรื่องอยากปรึกษาหน่อย”

     “ว่างก็ได้เพื่อนาย ถ้าเป็นคนอื่นโทรมารบกวนเวลานอนของฉัน ฉันจะด่าให้ลืมทางกลับบ้านเลย เอ๊ะ! ตอนนี้ที่ประเทศไทยดึกแล้วนี่”

  “ขอบคุณครับมาดาม ฮ่า ๆ ไม่ดึกหรอก ฉันคงนอนไม่หลับถ้ามันยังคาใจแบบนี้”
  
  “ไหนเล่าปัญหาของนายมาสิ้เบบี๋” ผมเริ่มเล่าอาการแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้วิคตอเรียฟังแบบไม่มีกั๊ก พอเล่าจบยัยนั่นก็เงียบไปก่อนที่จะหัวเราะออกมา นั่นมันทำให้ผมรู้สึกสยองเป็นบ้า!
  
  “ฮะฮะ ถ้านายรู้ว่านายเป็นอะไร นายอาจจะนอนไม่หลับไปเลยก็ได้นะเบบี๋”
  
  “ง่ะ...”
  
  “เอาล่ะ ฉันคิดว่าตอนนี้นายกำลังตกหลุมรักซัมวันอยู่นะจ้ะ”
  
  !!!!!!!!!!!
  
  ต ตกหลุมรัก!!! ตกหลุมรักเหรอ!!! บ้า! บ้าไปแล้ว ยัยนั่นต้องบ้าแน่ ๆ !!
  
  “ม มั่วหรือเปล่าวิคตี้...” ผมถามเสียงติดจะสั่น
  
  “ไม่มั่วแน่นอน ตั้งสติแล้วฟังดี ๆ ตอนนี้นายกำลังหลงรักซัมวันอยู่นะ ว้าว!!! แฟนทาสติกมาก ๆ เลยเบบี๋!” ผมทำหน้าแหยงกับน้ำเสียงมั่นใจของวิคตอเรีย
  
  “ร รักเลยเหรอ?”
  
  “อืมมมมม อาจจะยังไม่รัก แค่เริ่มต้นมั้ง บางทีนายอาจจะชอบซัมวันมานานแล้วก็ได้ เพียงแค่นายไม่รู้ใจตัวเอง โอ้ยยยยย! ความรู้สึกนายฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ!!” ช ชอบ... ผมชอบเหรอ? ชอบมันเหรอ ไรเฟิลน่ะนะ! ผมเนี่ยนะ!!
  
  “แต่... ฉันเป็นผู้ชายแล้วซัมวันนั่นก็เป็นเป็นผู้ชาย ฉัน ฉัน... ฉันไม่ใช่เกย์นะวิคตี้”
  
  “ฉันรู้ แต่ครั้งหนึ่งนายก็เกือบจะมีแฟนเป็นผู้ชายนะ” อึก... นั่นมันก็จริง แต่ แต่ผมไม่ได้เป็นเกย์
  
  “แต่ว่า...”
  
  “นายไม่ใช่เกย์ เพียงแค่คนที่นายชอบเป็นผู้ชายก็แค่นั้น”
  
  “......” ผมเงียบ
  
  “เอางี้นะ นายแค่ตอบฉันมา แค่ Yes or No เท่านั้น โอเคไหม?” ผมสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตั้งสติและตั้งใจฟังวิคตอเรีย
  
  “นายชอบเวลาเขาเอาใจนาย” อื้อ ใคร ๆ ก็ชอบให้คนเอาใจนั้นแหละ
  
  “Yes”
  
  “นายชอบที่เขายิ้มให้”
  
  “Yes”
  
  “หัวใจของนายเต้นแรงเวลาอยู่ใกล้เขา”
  
  “.......Yes”
  
  “นายไม่ชอบเวลามีผู้หญิงคนอื่นเข้าใกล้เขา”
  
  “Yes”
  
  “นายรู้สึกหงุดหงิดเวลามีผู้หญิงหรือคู่ควงของเขาเข้ามาหาเขา”
  
  “Yes”
  
  “นายหึง”
  
  “Yes เฮ้ย!!!! No!!!”
  
  “ฮ่า ๆๆ ไม่ทันแล้วเบบี๋ ความรู้สึกแรกของนายมันคือ Yes!”
  
  “เดี๋ยวสิ! ฉ ฉันไม่ได้หึงนะ”
  
  “Shut up Baby! นายรู้สึกเขินเวลาเขายิ้มหรือทำตัวน่ารักกับนาย”
  
  “Maybe....”
  
  “Yes or No”
  
  “Y Yes”
  
  “แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วล่ะ นายชอบเขา!!! ชอบเขามาก!!! อาจจะรักไปแล้วแต่นายไม่รู้ใจตัวเอง” ผมเงียบ พูดอะไรไม่ออก
  
  “ฉันเดาว่าตอนนี้นายกำลังทำหน้ายุ่งแล้วทึ้งผมตัวเองอยู่”
  
  “รู้ดี!!” วิคตี้หัวเราะ เหอะ! ได้ใจไปเถอะ
  
  “ถามจริงนะ นายกับเขาจูบกันหรือยัง?” เฮือก!!!
  
  “เอ่อ.. จ จูบแล้ว..” ผมตอบเสียงเบา แม่งต้องล้อผมแน่ ๆ
  
  “กรี๊ดดดดดดดดดดดด!! เรียลลี่!!! นายรู้สึกยังไงตอนนั้น หัวใจเต้นแรง? เขิน? หน้าร้อนวูบ? อยากทำมากกว่าจูบ?”
  
  “เฮ้!! อย่าเพ้อให้มากนัก!! ก็แค่รู้สึกแปลก ๆ เท่านั้นแหละน่าาา!” พอพูดเรื่องจูบ ภาพเหตุการณ์วันนั้นก็ดันไหลเข้ามาในหัวซะงั้น ผมยกมือพัดหน้าเมื่ออยู่ ๆ ก็ร้อนวูบขึ้นมา ทั้งที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ
  
  “จ้าาาาา เป็นไง เขาจูบเก่งไหม?”
  
  “.....มาก.....”
  
  “กรี๊ดดดดดดดดด!! โอ้มายก็อด!!! นายกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้าเบบี๋!! วิคเตอร์ต้องรู้!! Victor!! Where are you!!!?” ให้ตายเถอะ โคตรคิดผิดเลยที่โทรหายัยนี่
  
  “เธอกำลังทำให้ฉันคิดว่าไม่น่าโทรหาเธอเลยวิคตอเรีย...”
  
  “โนโนเบบี๋ นายคิดถูกสุด ๆ แล้วที่โทรหาฉัน คิก นายต้องจีบเขานะ ขอเขาเป็นแฟนเลย!” ผมกลอกตา
  
  “ยัยบ้า! เลิกเพ้อได้แล้ว แค่นี้แหละ ฉันจะนอนแล้ว ขอบคุณที่ฟังฉันและขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ไม่น่าทำตามเลยสักนิด!”
  
  “ฮ่าๆๆๆๆ กู๊ดไนต์จ้าาา คิดถึงนายนะ บาย”
  
  “Me too, bye”
  
  
  หลังจากวางสายจากวิคตอเรีย ก็เป็นไปตามที่ยัยนั่นพูดไว้เป๊ะว่าผมอาจนอนไม่หลับ ผมนอนมองเพดานท่ามกลางความมืดมือก็หมุนโทรศัพท์ไปมา ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ยังช็อกไม่หายเลยครับ เฮ้อออ สรุปคือผมชอบไรเฟิลจริง ๆ ใช่ไหม? ชอบ แบบ ชอบเลยนะ มากกว่าเพื่อนน่ะนะ? ผมมันจริง ๆ เหรอ? แล้วความรู้สึกนี่มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กัน โอเค! ผมอาจจะรู้ชอบมันนานแล้วอย่างที่วิคตอเรียว่า เพียงผมยังสับสนและไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง เพียงเพราะเราเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อน และผมคงคิดว่ามันไม่น่าจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น แต่ตอนนี้มันไม่ใช่มัน มันเปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งก็คือผม คือผมเองที่คิดกับอีกฝ่ายเกินเลยมากกว่าคำว่าเพื่อน แล้วไอ้ความรู้สึกหงุดหงิดของผมที่เกิดขึ้นแบบไม่มีสาเหตุ จริง ๆ คือผมหึง.. เหรอวะ? บ้าชะมัดเลย!
  
  ตอนนี้จะตีสี่อยู่แล้ว ผมยังตาสว่างโล่ หลับไม่ลงจริง ๆ ครับ แค่หลับตา หน้าหล่อ ๆ ของไรเฟิลก็ลอยไปมา โอ้ยยยยยยยยยยยยย!!! ผมเกลียดตัวเองตอนนี้ชะมัด ไม่นอนก็ได้วะ!


-----------------------------------

TBC.

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เขารู้ใจตัวเองแล้วอ่ะแกรรรรรรรรรรรร
งานนี้ต้องขอบคุณวิคตอเรียนะ 55555555555555555555555555
นิยายยืด ๆ เนอะ น่ารำคาญอ่ะ ฮืออออออออออออ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ทุกคนเลยนะคะ ~
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 12 (22.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-11-2014 22:26:27
รู้แล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 12 (22.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 23-11-2014 20:36:32
น่ารักมากเลย ชอบๆๆๆ ดีใจที่เจอเรื่องนี้ เย้ๆๆๆๆ
เพราะวิคตอน่ะเนี่ยทำให้เจ้าหญิงเริ่มรู้ใจตัวเอง อิอิ
มาไวไวๆๆๆน่ะ รอจร้าาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 12 (22.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 24-11-2014 17:32:24
รอพี่ปืนกดน้อง 555  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 25-11-2014 20:40:55
EPISODE 13




         “เป็นอะไรวะ? หน้าโคตรง่วง”

  “อื้อ เมื่อคืนไม่ได้นอน”
  
  “หื้อ?”
  
  “ทำรายงาน มองนาฬิกาอีกทีฟ้าก็สว่างแล้ว” อ่า... ผมไม่ได้โกหกแต่อย่างใด้นะครับ หลังจากคุยกับวิคตอเรียอาการฟุ้งซ่านของผมไม่หายไปเลยสักนิด ซ้ำยังจะหนักกว่าเก่า ผมเลยลุกมาทำรายงานที่ต้องส่งอาทิตย์หน้าจนเสร็จ แถมยังมีเรียนเช้าอีกด้วย ก็เลยไม่ได้นอนเลย แต่ตอนนี้โคตรง่วงเลย เช้านี้ผมก็มาพร้อมไรเฟิลอยู่ดี เจอหน้ามันแล้วคำพูดของวิคตอเรียก็ลอยวนอยู่ในหู สะบัดยังไงก็ไม่หลุด ชิ่งหลับแม่งเลยแล้วกัน
  
  

  
  “ควอทซ์ ตื่น”
  
  “อื้อ” ผมส่งเสียงรำคาญกับสิ่งที่กำลังรบกวนการนอน
  
  “ถึงแล้ว ตื่น” ลืมตาขึ้นแล้วหลับลงอีกครั้งเมื่อโดนแสงกระทบจัง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่และปรับโฟกัสให้ชัด
  
  “เฮือก!” ผมผงะเมื่อรู้ว่าหน้าไรเฟิลอยู่ไปไม่ไกล ไอ้หัวใจนี่ก็เต้นแรงจังเลยเว้ย!!
  
  “ป ไปล่ะนะ ขอบคุณมาก บาย” ผมพูดรัว ๆ แล้วเปิดประตูออกไป พอมาถึงห้องเรียนก็ถอนหายใจเฮือก ไม่ไหว แบบนี้ไม่ไหวแน่ ทำไมพอรู้ความรู้สึกตัวเองแล้วมันเหนื่อยแบบนี้เนี่ย เฮ้ออออออ อีกเกือบสิบห้านาทีจะเริ่มคลาส ผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้วฟุบหน้าลง ของีบก่อนแล้วกันนะครับ...
  
  
  

  
  
  “ไอ้ควอทซ์!!!”
  
  “สัด!” ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงแหลม ๆ ของบะหมี่กับแรงเขย่าจากไอ้ไนต์
  
  “เป็นไรวะ เมื่อคืนไม่ได้นอนไง?”
  
  “เออ!” พวกมันอ้าปากกำลังจะพูดแต่อาจารย์เข้ามาซะก่อน บะหมี่แยกไปนั่งกับเพื่อนสาวของมัน ส่วนไอ้ไนต์ก็นั่งลงข้างผม
  
  “เลคเชอร์เผื่อกูด้วยนะ” เรียนไปได้ประมาณสามสิบนาทีผมก็กระซิบบอกไอ้ไนต์ไม่รอให้มันได้ปฏิเสธผมก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะทันที
  
  “ห่าแม่ง!” ได้ยินมันบ่นแต่ผมไม่สนใจ กูง่วง จะนอนโว้ยยยยย!
  
  
  
  รู้สึกตัวตื่นก็ใกล้จะหมดคาบแล้ว ลูบหน้าลูบตาปิดปากหาว ผมนี่นะ หลับในคาบ ท้าทายอาจารย์และสั่นคลอนตำแหน่งเด็กทุนของตัวเองมาก
  
  “ง่วงก็กลับบ้านไปนอนไปไอ้สัด” ผมยักคิ้วใส่หมาไนต์ ค้นเอาทิชชู่เปียกในกระเป๋ามาเช็ดหน้า อาการมึน ๆ ยังเหลืออยู่ ทำไมรู้สึกยิ่งนอนยิ่งง่วงวะเนี่ยยยย
  
  


  
  “พี่ควอทซ์โว้ยยยยย!!! พี่ไนต์สวัสดีค่ะ” ผมสะดุ้งตกใจ อยู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนนึงวิ่งมาดักหน้า ในขณะที่ผมกับไอ้ไนต์กำลังเดินอยู่ที่หน้าตึก พอมองดี ๆ แม่งน้องรหัสผมนี่หว่า แล้วดูมันทักผมกับไอ้ไนต์โคตรแตกต่าง
  
  “เหี้ย!! ตกใจหมด มีไรวะ?” ผมถาม
  
  “โหยยย! พูดกับน้องดี ๆ หน่อยก็ไม่ได้ คืองี้นะเจ๊ พี่สองบอกให้เจ๊โทรหาค่ะ ได้ยินว่าจะคุยเรื่องเลี้ยงสาย”
  
  “เรียกเจ๊เดี๋ยวกูยันไปนู้น แล้วทำไมไอ้พี่สองไม่โทรมาหากูเองอะ?” ไอ้พี่สองนี่เป็นพี่รหัสผมเองครับ มันอยู่ปีสี่ ส่วนไอ้เด็กนี่เป็นน้องรหัสปีหนึ่ง
  
  “มิกิเพิ่งเดินสวนกับพี่สองมาเมื่อกี้ พี่มันพูดเร็ว ๆ แล้วก็วิ่งไปไหนไม่รู้ ยุ่ง ๆ มั้ง”
  
  “อื้อ ๆ เดี๋ยวโทรหาเอง ขอบใจมาก” แล้วมิกิมันก็วิ่งดุ๊กดิ๊กไปหาเพื่อน มิกิเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก สูงถึง 160 หรือเปล่าไม่รู้ ลูกครึ่งญี่ปุ่น ผิวขาว ตาโต ตัดผมม้า แบ๊ว ๆ น่ารัก คาวาอี้ แต่นิสัยก็แสบเซี้ยวพอควรเลย มีมันเป็นผู้หญิงคนเดียวในสาย พี่ ๆ เลยค่อนข้างโอ๋ แต่ก็แกล้งหนักพอกัน ฮ่า ๆๆ ส่วนน้องรหัสปีสองของผมมันชื่อพี จะว่าไปแล้วไม่ได้เลี้ยงสายนานแล้วนี่หว่า ไม่ได้แบบนี้ต้องจัดให้เต็ม!
  
  “มิกิแม่งคนหรือตุ๊กตายางวะ” ไอ้ไนต์มันพูด
  
  “สัด! พูดอะไรให้ัมันดี ๆ หน่อย แต่ตอนเด็กแม่มันเอาคิตตี้เลี้ยงหรือเปล่าวะ” พูดจบก็หัวเราะกัน ถ้ามิกิมันมาได้ยินคงจะงอนพวกผมไปหลายวัน
  
  



  
  
  “แดกไม่รอไอ้สัด!” ไอ้ไนต์ตบหัวกายไปเต็ม ๆ จนอีกฝ่ายสำลักขนมจีบค่อกแค่ก ผมหัวเราะขำก่อนจะหยุดเสียงหัวเราะลงเพราะมีคนที่ผมไม่รู้จักนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย เป็นผู้หญิงครับ หน้าก็.. สวย เธอนั่งอยู่ข้างไรเฟิล แขนทั้งสองของโอบกอดแขนของไรเฟิลเอาไว้ จะแย่ป่ะวะถ้าผมรู้สึกอยากเบ้ปากใส่ภาพนั้น
  
  
  “หิวแย้ววววว ไปซื้อข้าวกันนนน” ผมพูดจบก็ลากไอ้ไนต์ออกไปทันที
  
  “ห่าเอ๊ย! ถ้าากูล้มจะทำไงห้ะ!?”
  
  “หัวเราะไง” ยักคิ้วไปหนึ่งทึ ไอ้ไนต์ตบเพี้ยะเข้ากลางหน้าผากผมเต็ม ๆ จนผมด้านหน้าสะบัด เจ็บ!!!
  
  “สัด! จะกินไรวะ?”
  
  “อืมมมมมม.... ก๋วยเตี๋ยว!!!”
  
  “จัดไป!!!”
  
  
  



  “หมี่เหลืองหมูต้มยำพิเศษไม่ใส่หอมไม่ใส่กระเทียมครับ” ยืนรอสักพัก พอได้ตามที่สั่งผมก็ขยับออกมาปรุง แล้วรอไอ้ไนต์ กว่าจะถึงคิวพวกผมนี่ก็นานพอสมควรเลย เพราะร้านนี้ลูกค้าเยอะม้ากกกกกกกกกมาก! เพราะมันอร่อยมาก!
  
  “ป่ะ” ผมกับไนต์เดินกลับมาที่โต๊ะ หมาไนต์มันดันไปนั่งข้างฝั่งเดียวกับฟอร์สและกาย ถ้าผมไปนั่งด้วยคงเบียดกันตาย แต่มันสามคนก็ตัวใหญ่มากแล้ว ผมเลยต้องนั่งลงข้างไรเฟิลอย่างปฏิเสธไม่ได้
  




  
  “ละเมอป่ะเนี่ยน้องควอทซ์”
  
  “งั้นมั้ง เหี้ยฟอร์ส!! ลูกชิ้นลูกกู!!” ไอ้ฟอร์สนิสัยไม่ดีแม่ง แยกลูกชิ้นผมไปกินหน้าตาเฉย
  
  “ไม่รู้แม่งไปอดนอนมาจากไหน ในคลาสก็หลับทั้งคลาสทิ้งให้กูเรียนคนเดียว” ไอ้หมาไนต์บ่น
  
  “หน้าอย่างมึงเรียนด้วยเหรอวะ?” ฟอร์สถามหน้าซื่อ
  
  “สัด!”
  
  

  “แค่ก ๆๆ” กิน ๆ อยู่ดันสำลักน้ำซุปซะงั้น ไอ้พวกเหี้ยนี่ก็รักกูมากเลย ยกแก้วน้ำหนีกูหมด! ผมเลยคว้าแก้วน้ำที่อยู่ตรงหน้าไรเฟิลมาดื่ม คงเป็นของมันแหละมั้ง ไอค่อกแค่กน้ำหูน้ำตาไหลแสบคอไปหมด
  
  “ระวังหน่อย” เสียงทุ้ม ๆ นั้นพูด ผมเอียงหน้าไปมองก็เห็นมันมองอยู่ พอสายตาสบกันพอดีหน้าก็ร้อนวูบขึ้นมาซะงั้น เลยต้องรีบหันไปทางอื่น
  
  “พวกมึงแม่ง!!” ไอ้หมาสามตัวหัวเราะเสียงดัง แกล้งกูได้นี่สนุกกันใหญ่ อย่าให้ต้องเอาคืนนะ!
  
  “พวกพี่ดูสนิทกันจังเลยนะคะ” น้องนิ้ง(เพิ่งรู้จักชื่อเมื่อห้านาทีก่อนเพราะได้ยินเธอแทนชื่อตัวเองตอนพูดกับไรเฟิล)
  
  “หือ?”
  
  “ไม่น่าเชื่อว่าพวกพี่กับพี่ควอทซ์จะมาเป็นเพื่อนกันได้เลยค่ะ” เธอยังคงพูดต่อ ‘พวกพี่’ ที่เจ้าตัวหมายถึงก็คงพวกสี่สหาย แต่ตรงชื่อผมถ้าผมไม่ได้คิดไปเองมันติดเหยียดหน่อย ๆ นะ
  
  “เหรอครับ? แล้วทำไมพวกพี่ ถึงจะเป็นเพื่อนกับควอทซ์ไม่ได้ล่ะครับ?” ไนต์พูด มันเองก็ย้ำตรงคำว่า พวกพี่ เหมือนกัน
  
  “ก็พี่ควอทซ์เป็น...”
  
  “เด็กทุน?” ผมต่อให้ก่อนที่เธอจะพูดจบ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกถ้าจะมีคนมาดูถูกเรื่องที่ผมเป็นเด็กทุน ผมไม่โกรธเพราะมันคือเรื่องจริง  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมโดนแบบนี้ ผมอยู่ที่นี่มาเกือบ 3 ปี มหาวิทยาลัยเอกชนแบบนี้คงมีแต่ลูกคุณหนู ครอบครัวร่ำรวย เด็กทุนก็มีไม่ถึง 20 คนด้วยซ้ำ คุณคิดว่าผมโดนดูถูกบ่อยขนาดไหนล่ะ บอกตรง ๆ นะ ชิน..
  
  “หึ ถ้าให้คบกับพวกลูกคุณหนูแต่ไม่จริงใจ พี่ขอคบกับเด็กทุนแบบควอทซ์ดีกว่าครับ พี่แนะนำให้ลองดูตัวอย่างจากเพื่อนน้องก็ได้นะครับ” กายพูดแล้วแสยะยิ้ม น้องนิ้งหน้าเสียไปเลย
  
  “ถ้าจะมาพูดอะไรแบบนี้ก็กลับไปซะ”
  
  “พี่ไรเฟิล.. นิ้ง นิ้ง.. ไม่ได้ตั้งใจ”
  
  “โดนไล่ขนาดแบบนี้ เป็นพี่พี่ไม่กล้าอยู่หรอกนะครับ” ฟอร์สพูดแล้วยิ้ม ยิ้มหวานแต่มองดูแล้วกลับขนลุก
  
  “หึ! นิ้งก็ไม่อยากร่วมโต๊ะกับเด็กทุนหรอกค่ะ ยี้” เธอพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจแล้วเดินกระแทกเท้าออกไป บางคนน่าตาดีใช้ว่า ความคิดจะดี...
  
  “เหอะ! เด็กมึงนี่ปากดีจริง ๆ” ไนต์พูด ไรเฟิลไหวไหล่
  
  “โอเคเปล่า?”
  
  “สบายยย ไม่สะเทือนความรู้สึกกูหรอก” พูดจบก็ยักคิ้วไปให้พวกมัน เลยโดนรุมยีหัวไปซะงั้น
  
  
  



  .....................................................
  
  


  
  
  “โว้ยยยยยยยยยยย!!! พวกมึงแม่งโกงกูแน่ ๆ” เสียงของกายโวยวายลั่น ตอนนี้มันมารวมตัวกันอยู่ที่คอนโดของไรเฟิลตั้งแต่เลิกเรียนจนตอนนี้ก็จะสองทุ่มแล้ว ผมเองก็ทำงานของผมเสร็จแล้ว แต่ตอนนี้กำลังทำกับข้าวให้พวกมันกินอยู่
  
  “มึงกากไอ้สัด อย่ามาโทษพวกกู” เสียงฟอร์สสวนกลับ ตอนนี้พวกมันเล่นไพ่กันอยู่ กายนี่อ่อนสุดในกลุ่มเลยเรื่องการพนัน แต่มันดันชอบเล่น ว่าที่นักกฏหมายเล่นไพ่ เออ เอากับมันดิ
  
  
  “จะเอาอะไรอะ?” ผมถามไรเฟิลที่เดินเข้ามาในครัว ร่างสูงยืนกอดอกหันหลังพิงกับเคาน์เตอร์
  
  “ไม่เอา”
  
  “เอ้า แล้วเข้ามาทำไม ออกไปข้างนอกนู่นนน”
  
  “กล้าไล่กู?”
  
  “อือ ไล่ เกะกะ” ผมแลบลิ้นใส่มัน เลยโดนเตะป้าบเข้าเต็ม ๆ โห แทบทรุด เดี๋ยวกูเอาตะหลิวฟาดหน้า
  
  “เดี๋ยวจะโดน”
  
  “ไรหยออออออ อ้ากกกกก!!” ผมร้องลั่น ก็ไรเฟิลมันเข้ามาล็อคคอผมอ่ะดิ แม่งแรงควายชะมัด ล็อคเฉย ๆ ไม่พอ แม่งยังเอามืออีกข้างกดหัวผมจนชิดกับอกตัวเองอีก
  
  “หึหึ”
  
  “ปล่อยยยย” ผมฟาดมือตีมันรัว แต่แม่งไม่สะท้านเลย
  
  “เจ็บ ๆๆ ไรเฟิลลลล ปล่อยยยยยยย”
  
  “เล่นไรกันวะ?”
  
  “กายยยยยยย ช่วยด้วยยยย แค่กๆ”
  
  “ฮ่าๆๆ หน้ามึงโคตรตลกอ่ะน้องควอทซ์ ไอ้ไนต์!! เอาโทรศัพท์กูมาดิ้!!” สัด!!! ไม่ช่วยแล้วยังจะทำร้ายซ้ำ
  
  “ไรเฟิล. . . เราเจ็บ” เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล ลองไม้อ่อนแล้วกัน ผมพูดเสียงเบาน้ำเสียงติดจะอ้อน ให้ได้ยินกันแค่สองคน ไอ้กายกับไอ้ไนต์มันกำลังถ่ายรูปแบล็คเมล์ผมอยู่ สักพักฟอร์สก็มาสมทบ ผมเลยมุดหน้ากับอกของไรเฟิลซะเลย(เอ่อ... ไม่ได้อ่อยนะเว้ย)
  
  “มุมนี้แม่งสวยสัด อัพแม่งเลย” เสียงไอ้หมาสามตัวมันคุยกัน ผมกัดปาก ขยุ้มเสื้อไรเฟิลแน่น อยู่ใกล้กันแบบนี้ไม่ดีเลย ถ้าไรเฟิลได้ยินเสียงหัวใจผมล่ะ!!!
  
  “ไรเฟิล..”
  
  “อื้อ” ไรเฟิลปล่อยผมแล้ว และมันก็เดินไปหาเพื่อนมัน ผมพ่นลมหายใจออกมา ทั้ง ๆ ที่ยืนเฉย ๆ ทำไมรู้สึกเหนื่อยแบบนี้ หัวใจทำงานหนักเป็นบ้าเลย
  
  

  
  
  
  “เดี๋ยวพวกกูไปส่งไอ้น้องควอทซ์เอง” หลังจากเล่นกันอยู่นาน ก็ควรกลับบ้านไปพักผ่อนเสียที
  
  “หาวววว” ผมอ้าปากหาวบวกกับตาที่ใกล้จะปิด ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะสี่ทุ่ม แต่กลับง่วงมาก ๆ คงเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอน
  
  “งั้นก็นอนนี่แหละ!” ผมหันควับไปมองหมาไนต์พร้อมกับสั่นหัวรัว
  
  “เอาไง เร็ว ๆ ดึกแล้วเนี่ย”
  
  “ไอ้ควอทซ์จะนอนนี่” ไรเฟิลแม่งพูดอะไรไม่ปรึกษาเลย
  
  “ไม่อาววววว”
  
  “ตามนี้ พวกมึงกลับไปได้ล่ะ”
  
  “แสดงว่าคืนนี้ไม่ออก หึ ไปล่ะ” แล้วไอ้หมาสามตัวก็เดินออกไปจากห้อง ผมกำลังจะตามไปแต่ถูกคว้าแขนเอาไว้ พร้อมกับประตูที่ปิดลงดัง ปัง!
  
  
  

  “เล่นอะไรเนี่ย!!”
  
  “ไม่ได้เล่น”  ไรเฟิลยกยิ้มมุมปาก ผมล่ะอยากข่วนหน้าแม่งสักที!! ทำไงได้ล่ะ จะกลับก็กลับไม่ได้ อะไรก็ไม่รู้!!!
  
  “หาชุดให้ด้วย!” ไรเฟิลเลิกคิ้ว
  
  “ในตู้เลย หาเองครับ” มันเคาะหัวผมทีนึงแล้วเดินผ่านหน้าผมไป จิ๊! หาเองก็ได้วะ ผมเลือกหยิบกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดของไรเฟิลมา จากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำ เจ้าของห้องไม่ไหนไม่รู้ ณ จุดนนี้ผมยึด หลังจากอาบน้ำเสร็จ พอออกมาก็เจอไรเฟิลนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่ ชุดพร้อมนอนมาก กางเกงวอร์มตัวเดียว เสื้อไม่ใส่อีก
  
  “อ้าว...” ผมส่งเสียงงง ๆ
  
  “อาบไหนอะ?” ผมถาม
  
  “ข้างล่าง” อ่า... ผมปืนขึ้นไปนั่นบนเตียง คลุมผ้าขนหนูผืนเล็กไว้บนหัว ผมที่เพิ่งสระยังไม่เช็ด
  
  “เช็ดผมให้โหน่ยยยยย” ผมเป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกียจเช็ดผม ส่วนใหญ่จะปล่อยให้มันแห้งเอง แต่ว่าวันนี้ถ้าปล่อยให้แห้งเองตงไม่ได้นอน ไรเฟิลปรายตามอง มันเลยยิ้มอ้อนไปที มันสั่นหัวแล้วทำหน้าหน่าย แต่ก็ยอมอยู่ดี ^O^
  
  “ขยับมา” ผมยิ้มกว้าง รีบขยับตัวนั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหาไรเฟิล เดี๋ยวมันเปลี่ยนใจก่อนก็แย่ดิ ไม่ดี ๆ ระหว่างที่ให้ไรเฟิลเช็ดผมให้ผมก็เล่นโทรศัพท์ไปพลาง
  




  “เฮ้ย!!!”
  
  “อะไร?” ผมยื่นจอให้ไรเฟิลดู มันเป็นรูปภาพที่กายเป็นคนอัพโหลดลงในแอพพิเคชั่นที่ชื่อว่าอินสตาแกรมเมื่อประมาณสามชั่วโมงที่แล้ว พร้อมกับคำบรรยายใต้ภาพที่มีเพียงอิโมจิขยิบตาข้างหนึ่งแล้วแลบลิ้นกับอีกตัวคือลิงเอามือปิดตา ในรูปไม่เห็นหน้าหรอกและมันก็ไม่ได้แท็กใครด้วย แต่ผมก็พอรู้ว่าคนในภาพคือผมกับไรเฟิล เป็นภาพที่ไรเฟิลมันล็อคคอผมแล้วมืออีกข้างก็กดหัวผมอยู่ ส่วนผมก็มุดอยู่ที่อกของมัน เห็นมือข้างที่ผมกำชายเสื้อของอีกฝ่ายด้วย มองแบบนี้ไม่ต่างจากกอดกันเลยสัดนิด... ตึกตึก ตึกตึก...
  
  “สวยดี”
  
  “โว้ะ!” ผมดึงโทรศัพท์คืนมา เลื่อนดูคอมเม้นท์ ส่วนใหญ่ก็จะมีแค่ถามว่าคนในรูปคือใคร เพราะมันไม่เห็นหน้าแล้วยังใส่ฟิลเตอร์เป็นขาวดำอีก
  
  “หึหึ” ผมดูรูปจากหน้าฟีดไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเบิกตาโต ไม่ใช่เจออะไรเข้าหรอกครับ แต่เพิ่งจะนึกออกว่าลืมโทรหาไอ้พี่สองก็ตอนที่เห็นรูปที่มันอัพโหลดเมื่อเก้าชั่วโมงที่แล้ว โทรไปตอนนี้คงไม่เป็นไรมั้ง ผมคิดพร้อมกับกดโทรออก รอสายอยู่นานมันก็กดรับพร้อมกับน้ำเสียงโคตรเหวี่ยง
  
  “โทรมาเหี้ยอะไรตอนนี้วะ!! ...แป๊บนึงนะครับเกล”
  
  “อ้าว ก็มิกิมันบอกให้โทรหาพี่นี่หว่า”
  
  “โทรมาถูกจังหวะมากได้สัด!”
  
  “เอากับเมียอยู่หรอวะ?”
  
  “เออ!!” คราวนี้ผมหัวเราะลั่น เสียงมันโคตรหงุดหงิด ฮ่าๆๆๆ
  
  “แล้วตกลงจะไปวันไหน”
  
  “อืม...... อ โอ๊ย!! เจ็บ ไรเฟิล! เบา ๆ ดิ!” ผมร้องโวยวายก็ไรเฟิลมันขยี้หัวผมซะแรงเลย
  
  “ทำไรอยู่วะ! ถ้าไม่ว่างวันหลังค่อยโทรมาก็ได้นะ กูไม่รีบ หึหึ” ไอ้เหี้ยพี่สองมันพูดกลั้วหัวเราะ คิดอะไรของมึงเนี่ย!!
  
  “ไม่มีอะไรทั้งนั้นอ่ะ!! วันศุกร์แล้วกันจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องตื่นไปเรียน”
  
  “ตามบัญชาครับ แค่นี้แหละกูจะไปต่อกับเมีย พวกมึงก็อย่ารุนแรงนะ เดี๋ยวตื่นไปเรียนไม่ไหว กร้ากกกกก!” สัดหมาไอ้เหี้ยพี่สอง!!!! 
  
  “ไป เสร็จแล้ว” ไรเฟิลพูดพลางผลักหัวผมจนแทบหงาย กว่าจะแห้งก็นานอยู่นะ ผมหนาก็งี้ - -
  
  “ขอบคุณครับ โอ๊ย!” คราวนี้หงายจริง ๆ เลยครับ ไอ้เหี้ยยยยยยยยย ผมปาหมอนใส่มันแล้วยืดตัวไปคว้าที่ชาร์จแบตฯมาเสียบเข้ากับโทรศัพท์แล้ววางไว้บนโต๊ะหัวเตียงตั้งนาฬิกาปลุกไว้เรียบร้อย
  
  “หาววววว”
  
  “พรุ่งนี้มึงเรียนกี่โมง?” ผมพลิกตัวหันมาทางไรเฟิล ดึงผ้าห่มที่ปิดหน้าออก
  
  “บ่ายโมง”
  
  “อืม นอนไปซะ รำคาญ”
  
  “จิ๊ ฝันดีนะครับน้องไรฟ์” ผมยื่นมือไปลูบหัวมันเหมือนกล่อมเด็ก แต่เจ้าตัวมันปัดออกแล้วมองผมตาขวาง ผมพลิกตัวนอนหงายอีกครั้ง ตามองเพดานท่ามกลางความืดสลัว คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะผล็อยหลับไปเพราะความเพลียพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างและจังหวะหัวใจที่เต้นระรัว. . .
  



  “ฝันดี..”




-----------------------------------------

TBC.

แฮ่ สวัสดีค่าาา เอาตอนสิบสามมาส่งแล้วววววววววววววววววววววว
ถ้ามีคำผิดก็ขอโทษด้วยเนอะ พอดีแป้นพิมพ์ของเราไม่มีภาษาไทย .พับเพียบร้องไห้  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 25-11-2014 20:58:14
ฮ่าๆๆๆ โทรไปได้จังหวะมากกกกก
ละมุนๆๆๆๆ มีหวงด้วย ฮิ้วๆๆๆๆๆ
แบบว่าไม่ได้ช่วยดูคำผิดให้เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-11-2014 21:14:08
เดี๋ยวได้หงายเงิบตอนฐานะเผย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 26-11-2014 21:02:31
รู้สึกขัดใจ   :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 26-11-2014 22:50:50
 :L2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: minibusez ที่ 27-11-2014 19:53:56
รออยู่น้า น้องควอทซ์  :ruready ชื่อเขียนยากมากฮะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 14 (28.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 28-11-2014 20:45:02
EPISODE 14






  


  “อื้ออออ” ผมาส่งเสียงรำคาญ เอามือลูบน้ำเย็น ๆ ออกจากใบหน้า(ไม่ใช่น้ำลายนะครับ)แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมให้มิดหัว
  
  “เที่ยงแล้วไอ้สัด!!”
  
  “อีก 5 นา... ห เหี้ย!!!” ผมเด้งตัวลุกขึ้น พอปรับโฟกัสได้สายตาก็ป๊ะ! เข้ากับนาฬิกาที่ตั้งอยู่ไม่ไกล 8 โมง 49 นาที ......
  
  “ไอ้หมาไรฟ์!!!” ไรเฟิลหัวเราะ เอามือจุ่มน้ำในแก้วแล้วดีดใส่หน้าผม
  
  “หึหึ กูหิว” มันบอกแค่นั้นแล้วเดินออกจากห้องไป สัดเอ๊ย!! ไม่มีใครสอนหรอว่าไม่ให้รบกวนคนนอน !!!! ผมทุบตีหมอนแทนไอ้ตัวการ จะนอนอีกรอบก็คงไม่หลับเลยลุกไปล้างหน้าแปลกฟัน ลงมาข้างล่างก็เจอคุณชายมันกำลังดูทีวีอยู่ ผมค่อย ๆ ย่องเข้าไปด้านหลังไรเฟิลก่อนจะคว้าหมอนฟาดใส่มันไปเต็ม ๆ ก่อนจะรีบวิ่งหนีเข้าไปในครัว ไม่งั้นเดี๋ยวคุณชายแม่งเอาคืนหนักกว่านี่ผมตายแน่ ๆ ผมค้นตู้เย็นหาวัตถุดิบมาทำอาหารเช้าให้มัน


  เจอขนมปังที่กำลังจะหมดอายุอีกสองวันข้างหน้า  งืมมมม.... ทำแซนวิซแล้วกัน ผมหยิบขนมปัง แฮม ผักกาดหอม มะเขือเทศ เบค่อน ไข่ไก่ มายองเนส เนย แล้วก็ ชีสแผ่น ออกมา  ขั้นตอนแรกก็ล้างผักก่อนครับ แล้วจากนั้นก็เอาผักกาดหอมมาฉีก หั่นมะเขือเทศให้เป็นแว่น เมื่อเตรียมผักเสร็จก็ทอดไข่ดาวอีกสองฟอง ให้สุกทั้งไข่แดงและไข่ขาว เมื่อไข่ดาวสุกก็ต่อด้วยแฮมและเบค่อน ระหว่างนั้นก็ปิ้งขนมปังไปด้วย เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ลุยเลยครับ! เอาเนยทาขนมปังแผ่นแรกจากนั้นก็วางไข่ดาวลงไปตามด้วยแฮมวางขนมปังแผ่นที่สองแล้วทาเนยอีกครั้ง ใส่ชีสไปหนึ่งแผ่น ต่อไปก็มะเขือเทศที่หั่นเอาไว้ตามด้วยเบค่อนและผักกาดหอมแล้วก็โปะขนมปังแผ่นที่สามลงไป ใช้มีดตัดให้เป็นสามเหลี่ยมวางใส่จานแล้วราดมายองเนสด้วยบน เสร็จเรียบร้อยไปแล้วหนึ่งชุด แล้วก็เริ่มทำอีกชุดสำหรับของผมเอง
  



  “เสร็จแล้ว!!!” ผมตะโกนลั่น ไปล้างมือ ไอ้คุณชายเดินหน้ายุ่งเข้ามา มันปรายตามองแซนวิซบนโต๊ะแล้วมองหน้าผม
  
  “มองแบบนี้หมายความว่าไง ห้ะ!” ผมพูดพลางเอาส้อมชี้หน้าไรเฟิลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม คุณชายมันเปลี่ยนไปใส่ชุดนักศึกษาแล้วครับ แต่แต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย - -
  
  “เปล่า” มันยักไหล่แล้วเริ่มกิน ผมนี่ลุ้นตัวโก่งเลย อยู่ ๆ ก็ไม่มั่นใจซะงั้น
  
  “เป็นไง?” ไรเฟิลเงียบไปนานบวกกับหน้านิ่ง ๆ ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ยิ่งทำให้ผมใจเสีย
  
  “...ก็ดี”
  
  “ฟู่วววว~” ผมถอนหายใจโล่งอกก่อนจะยิ้มออกแล้วเริ่มกินของตัวเองบ้าง
  
  “ลุ้นอะไรขนาดนั้น”
  
  “มึงไม่เคยทำอาหารนี่ ไม่เข้าใจหรอกว่ามันต้องคิดเยอะขนาดไหน”
  
  “แล้วต้องคิดเยอะขนาดไหน?”
  
  “อืม... ก็ทำแบบนี้คนกินจะชอบไหม ถ้าใส่อันนี้เขาจะกินหรือเปล่า ถ้าทำอันนี้มันจะออกมารสชาติดีไหม มันจะถูกปากคนกินหรือเปล่า แล้วถ้าคนที่กินไม่ชอบอาหารที่เราทำไมล่ะ บลา ๆๆ.....”
  
  “ชอบ”
  
  “หื้อออ?”
  
  “ก็บอกว่าชอบ ชอบอาหารที่มึงทำ .....ทุกอย่าง....” ผมนิ่งค้างกับสิ่งที่ได้ยิน หน้าร้อนฉ่าราวกับมีไฟมาจุดอยู่ ใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ
  
  “เอ่อ...” ผมเกาแก้ม เกาท้ายทอยแก้เก้อ ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหน บอกตรง ๆ เลยนะเว้ย! เขิน! เขินเหี้ย ๆ อ่ะ ไอ้สัดเอ๊ย! ตาย ๆๆ หุบยิ้มยังไงบอกผมที!
  
  “อะไร? แค่นี้เขิน? อ่อนว่ะ” ผมเบ้ปาก ตอนนี้อารมณ์ดี กูไม่โกรธก็ได้ ผมโคตรรู้สึกดีเลยอ่ะบอกเลย มันบอกว่าชอบอาหารที่ผมทำนั่นก็ว่าดีใจแล้ว แล้วแม่งยังบอกต่ออีกว่า ทุกอย่าง ด้วย ให้ตายเถอะ!!! ผมอยากกดปุ่มระเบิดตัวเองชะมัดเลย!!
  
  “หน้าแดงด้วยเว้ย!”
  
  “Shut up!!!”
  
  
  
  
  
  
  ................................................................
  
  
  
  
  
  


  “ไปกัน” ผมกับไรเฟิลเดินออกจากหอพักของผม ผมกลับมาเปลี่ยนชุดอาบน้ำที่หอแล้วตอนนี้ก็กำลังจะไปมหาวิทยาลัยครับ
  
  “รถติดฉิบหาย” ไรเฟิลมันบ่น
  
  “เรื่องปกติ”
  
  “หึ” ผมไม่สนใจไรเฟิล เคาะนิ้วไปตามจังหวะเพลงที่เปิดคลอเอาไว้
  
  
  ครืดดดด ครืดดดด
  
  “ว่า?” ผมรับโทรศัพท์บะหมี่ที่โทรเข้ามา
  
  “มึงอยู่ไหนเนี่ย”
  
  “บนรถ”
  
  “กวนตีน จริงจังดิ กูซีเรียส”
  
  “หื้อ มีไรวะม่า ก็กำลังไปม.เนี่ย”
  
  “ใกล้ถึงยัง?”
  
  “อีกสักพัก มีไรวะ?”
  
  “มาถึงก็รู้เองแหละ รับรองมึงต้องร้อง หึหึ เร็ว ๆ นะมึง กูให้เวลายี่สิบนาที” มันพูดเองเออเองเสร็จสรรพก็วางสายไปทันที
  
  “ไรวะ” ผมมองโทรศัพท์ในมืองง ๆ มันต้องมีเรื่องออะไรเกิดขึ้นกับผมแน่ ๆ
  
  “อะไร?”
  
  “ไม่รู้ว่ะ มาม่าโทรมาบอกให้รีบไปม. มีเรื่องอะไรก็ไม่บอก”
  
  “กูต้องรีบไหม?” - -’
  
  “ไม่ต้อง... แม่งต้องมีอะไรแน่ ๆ เสียงเจ้าเลห์สัด ๆ มึงอย่าขับเร็วนะ”
  
  “กูทำตามแล้วจะได้อะไร?”
  
  “ได้ทำไง อะนี่ ให้ลูกอมอันนึงเลย” ผมพูดพลางยัดลูกอมรสมิ้นต์ใส่ในกระเป๋าเสื้อนักศึกษาของไรเฟิล
  
  “แกะให้ดิ”
  
  “มีมือไหม แกะเองดิ”
  
  “ขับรถอยู่ แหกตาดูด้วย”
  
  “งั้นก็ไม่ต้องกิน... โอ๊ย!!” ไรเฟิลแม่ง! อยู่ดี ๆ ก็เหยียบเบรกกระทันหัน ตัวผมเด้งไปด้านหน้า โดนเข็มขัดนิรภัยรั้งจนกระแทกกลับไปกับเบาะ
  
  “โทษที ตีนลั่น หึหึ” เหี้ยเอ๊ย! ผมกอดอก หันหน้าออกไปมองหน้าต่าง ไม่คุยด้วยแม่ง กูไม่พอใจนะรู้ไว้ด้วย! มันไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอก แต่มันก็จุกอ่ะ หลังผมกระแทกเต็มแรงเลยนะเว้ย...
  
  “ไม่ง้อนะ” มันพูดแล้วยื่นมือมาโยกหัวผมไปมา จิ๊! ช่างดิ ใครสน ผมไม่ได้ปัดป้องหรือขัดขืนใด ๆ นั่งนิ่ง ๆ เท่านั้น ก็ไม่สนไง ฮึ่ยยย ไม่รู้พอผมนิ่งมันเลยได้ใจหรือเปล่า จากโยกไปมาก็วางบนหัวผมนิ่ง ๆ เฉ้ยยยยยย แล้วมึงจะม้วนผมกูเล่นทำไมเนี่ยยยยยย หัวคนนะไม่ใช่ที่พักมือ ผมปรายตามองมันนิ่ง ๆ ไอ้คุณชายยักคิ้วมาให้ ผมเลยเมินมันหันกลับมามองนอกหน้างต่างตามเดิม แต่ไอ้ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายไม่นิ่งตามเล่า!!
  
  
  
  
  
  
  
  พอรถจอดสนิทผมก็ลงจากรถไปทันที พร้อมกับปิิดประตูดัง ปัง! ไม่ขอบคุณ ขอบใจ แธ้งกิ้วมายเฟรนด์เหี้ยไรทั้งนั้นอ่ะ
  
  
  
  
  “อิสวยยยยย!!!!”
  
  “เชี่ยม่า! กูตกใจหมด” ผมผลักหัวบะหมี่ ที่วิ่งเข้ามาหาผมจากทิศไหนไม่รู้ ตะโกนเสียงดังอีก
  
  “มึงช้า!!!!”
  
  “ตะโกนหาพ่อง บ้านมึงอยู่ใกล้โรงสีหรือไง!”
  
  “อ้าว ๆ อะไรวะ หน้าบูดเป็นแกงเน่าเลยมึง อารมณ์เสียไรอ่ะ?” ตามันวาววับเต็มไปด้วยความอยากรู้
  
  “ไม่เสือกดิ” ผมยักคิ้วให้มันอีกหนึ่งที มันสะบัดนิ้วกลางมาให้
  
  “ให้รีบมามีไรวะ” ผมถามระหว่างนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปด้วย ลิฟต์คนเยอะ ไม่ไหวจะเบียด
  
  “ไม่ทันแล้วโว้ย!! กูบอกให้รีบมาภายในยี่สิบนาที นี่อะไรให้ปล่อยให้กูรอเกือบชั่วโมง สัด!”
  
  “หึ” ผมไม่ถามต่อว่าผมไม่ทันอะไร จุดนี้คือกูไม่อยากรับรู้เหี้ยไรทั้ง เซ็งมากบอกเลย
  
  “ไม่อยากรู้หน่อยเหรอวะ กูคันปากยิบ ๆ เลยเนี่ย”
  
  “ไม่อ่ะ รู้แล้วทำไมวะ”
  
  “โว้ะ! มึงนี่แม่ง ไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องรู้ รอไอ้ไนต์มาก็ได้วะ ว่าแต่มันไปไหนเนี่ย”
  
  “ไม่รู้ดิ เมื่อคืนหนักมั้ง”
  
  “เออ ๆ ช่างมัน แล้วมึงมายังไง มากับไรเฟิลเหรอวะ?”
  
  “อื้อ” ได้ยินชื่อมันแล้วก็พาลหงุดหงิด รู้ว่าผมไม่พอใจแม่งยังไม่พูดอะไรเลย นิสัย!
  
  “ตีกันมาเหรอวะ?”
  
  “เสือกจังเลยมึงเนี่ย” ผมเดินหนีบะหมี่เข้าไปในห้องเรียน มันก็ยังเสนอหน้ามาป่วนผมอยู่
  
  “บอกเถอะน้าาาา นะสุดสวยยย กูอยากรู้มาก ๆ เลยยยย” บะหมี่กระพริบตาปิ๊ง ๆ เอามือประสานกันไว้ที่อก อ้อนมาก. . . อ้อนตีนกูมาก... ผมปรายตามองแล้วพ่นลมหายใจดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม
  
  “ชิ เมนส์ไม่มาหรือไงวะ” บะหมี่มันพูดเบา ๆ เหมือนบ่นกันตัวเอง แต่ขอโทษครับ กูได้ยิน และผมก็เลือกที่จะไม่สนใจมันตั้งใจเรียน ตลอดคาบบะหมี่มันก็ชวนคุยบ้างบางครั้ง ผมก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง
  
  
  
  
  ..............................................................
  
  
  
  
  
  “จ่ายให้ด้วย” ผมส่งไอศกรีมแท่งให้บะหมี่แล้วเดินไปหยิบขนมปังหมูหยองมาหนึ่งชิ้นกับน้ำเปล่าหนึ่งขวด ตอนนี้มีเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงถึงได้เวลาเข้าเรียนคลาสต่อไป และวันนี้ไอ้ไนต์ไม่มาเรียน จากที่เจ้าแม่มันบอกมาคือไอ้ไนต์เมาค้างจากเมื่อคืนแล้วเกิดอาการขี้เกียจ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าแม่งรู้ได้ยังไง สามารถมากจริง ๆ
  
  
  
  “กูถามจริงนะเว้ย มึงเป็นอะไรเนี่ย?”
  
  “เปล่านี่” ผมสั่นหัวประกอบ งับไอศกรีมในมือไปพลาง
  
  “ไม่เชื่อโว้ยยย ปกติมึงต้องพูดมากกว่านี่ดิ ตัวปลอมเปล่าวะ?”
  
  “ไม่มีอะไรจริง ๆ ใครสั่งใครสอนให้มึงทำตัวขี้เสือกวะ”
  
  “ดอก! กูเป็นห่วงได้ไหมล่ะ ห้ะ! มึงเป็นแบบนี้แล้วแปลก ๆ ว่ะ”
  
  ครืดดดดด
  
  “แปลกไงวะ กูก็เป็นของกูแบบนี้” ผมพูดพลางเอาโทรศัพท์มาดู เป็นแจ้งเตือนจากแชทของแอพพิเคชั่นเมสเสจเจอร์ ผมกดเข้าไปดูก่อนจะขมวดคิ้วกับสิ่งที่เห็น หัวใจของผมเต้นระรัวจนปวดหนึบและมือผมกำลังสั่น รูปภาพของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังจูบกัน ไม่เห็นหน้าฝ่ายหญิงและเห็นเพียงด้านข้างของฝ่ายชาย แต่ที่ชัดเจนก็คือผมสีบลอดน์เป็นประกายนั่น. . .
  
  “อะไรวะ? เฮ้ยย!!” บะหมี่มันยื่นหน้าเข้ามาดูแล้วฉกโทรศัพท์ไปจากมือผม
  
  “ไรเฟิลเหรอวะ?”
  
  “งั้นมั้ง” ผมไหวไหล่
  
  “แม่งใช่จริง ๆ ด้วยว่ะ แล้วชะนีนี่ใครวะ” บะหมี่หันจอมาให้ผมดู คราวนี้เป็นรูปที่เห็นหน้าชัดเจนเลยล่ะ
  
  “จะไปรู้เหรอ”
  
  “กูส่องแป๊บ” มันกดอะไรยุกยิกกับโทรศัพท์ของผม หน้าจริงจังสุด ๆ กับการเรียนมึงทุ่มเทขนาดนี้ไหม. . .
  
  “อื้อหือออออออ! นี่มันอิน้องเนสคณะแพทย์นี่หว่า”
  
  “มึงนี่มัน...”
  
  “แม่งส่งมาให้มึงทำไมวะ ดูจากมุมไม่ได้ถ่ายเองแน่ ๆ โอ้โห! ทำงานเป็นขบวนการ” นั่นสิ เขาจะส่งมาให้ผมทำไมวะ ต้องการอะไรจากผม
  
  “ไม่รู้โว้ยยย! มึงนี่ เลิกเสือกได้แล้ว เอาโทรศัพท์กูคือมา” จากที่อารมณ์ไม่ปกติอยู่แล้ว คราวนี้แม่งหนักกว่าเดิมอีก
  
  “แป๊บ!”
  
  “Fck!!!” บะหมี่หัวเราะ มันไม่ได้คืนโทรศัพท์ผมมา แต่กลับส่งของมันมาแทนและเข้าแอพพิเคชั่นเฟซบุ๊กให้เรียบร้อย
  
  “ลบเดี๋ยวนี้”
  
  “อีกสักสิบนาทีค่อยลบนะนะ” ผมเกาหัวเซ็ง ๆ มองดูโพสต์ที่โพสต์จากแอคเคานต์ของตัวเองอย่างเหนื่อยหน่าย
  
  
  ‘ทำอะไรเกรงใจสถานที่บ้างก็ดีนะ ถ้าว้อนท์มากขนาดนั้นก็เปิดโรงแรมเลยดีกว่า (:’
  
  
  
  ‘ไม่ลบกูโกรธ’
  
  บะหมี่เงยหน้ามามองผมทันทีหลังจากที่ผมโพสต์ข้อความนั้น ไม่ได้คอมเม้นท์ ไม่ได้แท็กใคร แค่โพสต์ลอย ๆ โดยใช้บัญชีของมันนั่นแหละ
  
  “อีกนิดนะ กูอยากเห็นคนดิ้น” มันทำหน้าอ้อนวอน ผมไม่สนุกด้วยหรอก จะไปดิ้นตามทำไมวะ คนที่ส่งภาพพวกนั้นมาเป็นใครก็ไม่รู้ ส่งมาเพื่ออะไรก็ไม่รู้อีก
  
  “แล้วแต่เลย” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ จ้องหน้าบะหมี่ตรง ๆ มันเม้มปากเหมือนชั่งใจ
  
  “โอเค ๆ ลบแล้วค่าาา ไม่เห็นต้องดาร์กใส่เลย”


-------------------------------------
TBC.


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ทำไมไรเฟิลทำแบบนี้!!   :katai1:
เชิญตบตีนางได้ตามสบายเลยค่าาาาา 55555555555555555555555555

ไว้เจอกันตอนหน้า ขอบคุณคนอ่านทุกคนเลยยยยยย จุ้บบบบบบ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 14 (28.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: minibusez ที่ 28-11-2014 20:59:50
อยากเห็นคนดิ้นอ่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 14 (28.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 29-11-2014 09:42:36
อยากเห็นด้วย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 14 (28.11.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-11-2014 11:29:53
อยากเห็นเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 15 (01.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 01-12-2014 20:39:43
EPISODE 15





  “หิว หิว หิว หิวโว้ยยยยย!” บะหมี่แหกปากโวยวาย ผมสั่นหัวหน่าย ๆ ตอนนี้เราเลิกเรียนกันแล้วครับ แล้วผมกับบะหมี่ก็กำลังเดินไปที่ห้องล็อคเกอร์ พอดีมีแลปเลยเอากระเป๋าไปไว้ที่นั่น ผมล้วงเอาช็อกโกแลตสนิกส์เกอร์ในกระเป๋าเสื้อช็อปแล้วโยนให้บะหมี่
  
  “โอ้! ขอบคุณพระเจ้า” แล้วมันก็ทำท่าโอเว่อร์แอคติ้งไปเรื่อย
  
  “มึงนี่พกของพวกนี้ตลอดเลยเนอะ” ผมเลิกติ้ว มือก็สาละวนกับการเปิดล็อคเกอร์ ไอ้ตัวเลขนี่มันก็หมุนยากจริง
  
  “เพื่อนรักกูเลย”
  
  “จ้าาาาา ไม่เช็คโทรศัพท์อ่อวะ?” ไอ้หมี่กระแซะไหล่ผม มันคงเห็นว่าพอเปิดล็อคเกอร์ได้เอาก็เอากระเป๋ามาสะพายทันทีไม่ได้เช็คดูอะไร
  
  “เดี๋ยวค่อยดู ป่ะ” ผมบอก เมื่อล็อคล็อคเกอร์เสร็จก็ชวนมันกลับ เดินออกมาด้านนอกฟ้าก็เปลี่ยนสีเสียแล้ว พอดูเวลาก็ปาเข้าไปทุ่มกว่า
  
  “หิวว่ะมึง หาอะไรกินกันเถอะ”
  
  “อื้อ กินไรดีวะ? มึงอยากกินอะไร?” ผมเองก็หิวแล้วเหมือนกันนั่นแหละแต่ไม่ได้แสดงออกมากมายแบบบะหมี่
  
  “อยากกินกุ้งเผาตัวโต ๆ หมึกย่างสด ๆ กับน้ำจิ้นซีฟู๊ดรสเด็ดเผ็ดแสบถึงไส้ติ่ง แค่นึกก็ซี้ดแล้ว สัดเอ๊ย!” ผมยิ้ม
  
  “เดี๋ยวกูพาไปกินร้านเด็ด แต่ไกลหน่อย สนเปล่า?”
  
  “สน!”
  
  “เอากุญแจรถมาเดี๋ยวกูขับเอง” บะหมี่ตาวาวส่งกุญแจรถให้ผมแต่โดนดี
  
  
  
  


  
  “ไอ้เหี้ย!!!! ใครสั่งใครสอนให้มึงขับรถมาถึงพัทยาด้วยเวลาสี่สิบห้านาที ห๊า!!!” ผมยืนหัวเราะบะหมี่ที่บ่นกระปอดกระแปดจนตัวงอ มันตลกจริง ๆ นะครับ หน้าซีดอย่างกับไก่ต้มหาได้ยากมากบะหมี่เวอร์ชั่นนี้ ถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์ดีกว่า โคตรฮาอ่ะ
  
  “หัวเราะเข้าไปไอ้สัด! ถ่ายรูปไปชิงโชคหรือไง!!!”
  
  “ฮ่า ๆๆๆๆ ก็มึงบอกว่าหิว กูเลยรีบพามาไง”
  
  “ฟังขึ้นมาค่ะ ถุยยยย! หัวใจกูจะวาย เกิดเป็นคนออกจากท้องแม่มาได้ยี่สิบเอ็ดปีไม่เคยนั่งรถเร็วขนาดนี้!” ผมกัดปากกลั้นหัวเราะจนไหล่สั่น บะหมี่หันมาค้อนผมวงใหญ่ ฮ่า ๆๆๆ พอได้ขับรถเร็ว ๆ ปล่อยอารมณ์แบบนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย เพราะอารมณ์ดีผมเลยได้แต่ยิ้มรับสารพัดคำด่าจากปากเจ้าแม่จริญญา
  
  “ไปครับ เดี๋ยวกระผมนายรักษ์ธิสุด จะหาของอร่อย ๆ มาเซ่นเจ้าแม่เต็มที่เลยนะครับผม”
  
  “*วย!!” บอกผมทีว่ามันเป็นผู้หญิง คำพูดมึงนี่...
  
  
  
  
  “กุ้งเผา หมึกย่าง ปูนึ่ง กุ้งผัดพริกไทยดำ ยำทะเลรวมมิตร ส้มตำปูม้า ปลากระพงทอดราดน้ำปลา หอยเชลล์ผัดฉ่า ไข่เจียวหอยนางรม กุ้งชุบแป้งทอด มึงเอาอะไรอีกไหม?” ผมสั่นหัว แค่ที่มันสั่งมาจะกินหมดหรือเปล่าไม่รู้
  
  “รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ?”
  
  “เบียร์!” ผมกับบะหมี่มองหน้ากันแล้วหัวเราะ เพราะดันพูดขึ้นมาพร้อมกัน พนักงานรับออเดอร์เสร็จก็เดินออกไป ไม่นานเบียร์เย็น ๆ ก็มาเสิร์ฟ แต่อาหารคงต้องรออีกสักพัก เพราะลูกค้าก็เยอะพอสมควรเลย ระหว่างนั้นเลยกินของกินเล่นรองท้องไปก่อน
  
  แชะ!
  
  “เช็คโทรศัพท์หน่อยมึง” ผมเอาโทรศัพท์มาดูแต่ที่มันบอก มึงจะอะไรกับโทรศัพท์กูหนักหนาครับ อื้อหือออออ แจ้งเตือนอะไรเยอะแยะวะเนี่ย
  
  “ห่าไรเนี่ย?”
  
  “สวยดีออก ฟีลกำลังดีเลย” ภาพผมขณะที่กำลังทองไปที่ชายทะเล ในมือถือแก้วเบียร์จรดริมฝีปาก มีฟองติดอยู่จาง ๆ มุมปากยกยิ้ม ผมถูกจับไปทัดหู



  ‘เรื่องราวของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อารมณ์ไม่ดีและไม่ยิ้มแทบตลอดมั้งวันและเขาเพิ่งจะยิ้มจนเต็มปากเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว’

  
  ผมยิ้มกับคำบรรยายใต้ภาพของบะหมี่ ถือว่าทำดี กดไลค์ให้ก็ด้ะ!
  
  “ถ้าพวกนั้นรู้นะมึง กูว่าต้องโวยวายแน่เลยว่ะ” ไม่ทันขาดคำ โทรศัพท์ในมือก็สั่นครืด ผมโชว์ให้บะหมี่ดู มันหัวเราะ
  
  “สวัสดีครับ”
  
  “อยู่ไหน?” เสียงเย็นยิ่งกว่าแป้งตรางูอีก ผมนี่ขนลุกเลย เดาออกไหมครับว่าใครโทรมา?
  
  “พัทยา...”
  
  “หึ กูโทรหาทำไมไม่รับสาย?”
  
  “อย่าทำเสียงงั้นดิ มากินข้าวกับบะหมี่เนี่ย ไม่ได้มาคนเดียวสักหน่อย”
  
  “ตอบให้ตรงคำถามไม่เป็น?” แม่ง...
  
  “ที่รับไม่ได้รับเพราะไม่ว่าง อีกอย่างโทรศัพท์อยู่ในล็อคเกอร์”
  
  “แค่โทรกลับมาไม่ได้เลยใช่ไหม? แค่เวลาไม่กี่นาทีนี่ไม่ได้เลยใช่ไหม?” ผมกระพริบตาปริบ ๆ อะไรมึง.. มึงกำลังตัดพ้อกูอยู่ใช่ไหม?
  
  “ก็ไม่ว่าง. . .”
  
  “โอเค! ตอนนี้ก็คงไม่ว่าง” ผมกัดปากแน่น โทรศัพท์ยังแนบอยู่ที่หูแม้ว่าอีกฝ่ายจะวางสายไปแล้ว
  
  “เป็นไงวะ?” บะหมี่ถาม มือมันก็ง่วนอยู่กับการแกะเปลือกกุ้ง
  
  “เหมือนโดนโกรธเลยว่ะ” ผมถอนหายใจแรง ๆ
  
  “กูว่าไม่เหมือน โดนชัวร์ป้าบ! แดกก่อนค่ะ เรื่องอื่นวางไว้ก่อน” โคตรให้กำลังใจเลย ก็ตามนั้นครับ เรื่องกินต้องมาก่อน ถ้าโรคกระเพาะกำเริบผมก็ไม่สนุกหรอก
  
  
  
  
  
  “ขับรถดี ๆ นะ” ผมบอกบะหมี่
  
  “เออ มีอะไรโทรหากูได้นะเว้ย ไปล่ะ ฝันดี”
  
  “อื้อ” บะหมี่ยิ้มให้ก่อนจะขับรถออกไป ผมเองก็เดินเข้าหอพัก เรามาถึงกรุงเทพประมาณสี่ทุ่มครึ่ง จริง ๆ ผมยังไม่อยากกลับเลยด้วยซ้ำ แต่พรุ่งนี้มีเรียนเช้าและขาดไม่ได้ด้วย ก็โอเค ไว้ค่อยไปใหม่ก็ได้
  
  “ฮัดชิ้ว!” อ้าว ฉิบหายล่ะ แค่ตากลมที่ทะเลไม่กี่ชั่วโมงก็โดนหวัดแดกแล้วเหรอ อ่อนว่ะ กินยาดักไว้ก่อนก็แล้วกัน สำหรับวันนี้ ฝันดีครับ. . .
  
  
  
  
  
  
  ...........................................................
  
  
  
  
  
  “ไอ้ควอทซ์!!! หนีเที่ยวเหรอมึง!?” ผมเบ้ปากใส่หมาไนต์ที่ตีหน้ายักษ์ใส่
  
  “หนีเที่ยวอะไร แค่ไปกินข้าว” ผมไม่สนใจสายตาดุ ๆ ของพวกมันที่จ้องมา กูก็โตแล้วป่ะบางที ทำอย่างกับผมเป็นเด็กสามขวบ
  
  “ไม่ชวน!”
  
  “อ้าว. . .”
  
  “ช่างแม่งล่ะกัน พวกกูไม่อะไรมาก แต่ไอ้คุณชายนี่หนักว่ะ” ผมหลุบสายตาลงต่ำ ก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ที่โต๊ะมีพวกผมสี่คน ขาดไรเฟิล...
  
  “ไรเฟิลไปไหน?”
  
  “ที่คณะมันนู้น” กายตอบ
  
  “อื้อ”
  
  “ทะเลาะกันเหรอวะ?” ฟอร์สมันถามพลางเอามือมายีผมผมด้วย เลยยกหัวไปวางบนแขนมันซะเลย อาการปวดหัวของผมมีมากขึ้นจากเมื่อวาน อยากจะนอนนิ่ง ๆ ทั้งวัน แต่การเรียนไม่เป็นใจ น้ำตามาทำไม. . .
  
  “ไม่รู้. .”
  
  “อ้าว!” สามคนนั้นอุทานขึ้นมาพร้อมกัน นั่งคุยกันอีกสักพักก็แยกย้ายกันไปเรียน ถ้าเกิดยังช้ากว่านี้คงเข้าเรียนไม่ทัน
  
  
  
  “ไหวป่ะเนี่ย ไม่สบายเหรอวะ?”
  
  “นิดหน่อย” ผมบอกแล้วตักข้าวเข้าปาก ตั้งแต่เช้าจนพักเที่ยง อาการปวดหัวของผมไม่ได้ลดน้อยลงเลย ผมเลยเลือกที่จะกินข้าวที่โรงอาหารคณะแทน ขี้เกียจไปไกล วันนี้ที่โต๊ะเลยมีแค่ผมกับไนต์
  
  “เมื่อวานมึงไม่ได้รับสายมันเลยเหรอ?”
  
  “มันไหน?”
  
  “ไอ้ปืนไง” ผมสั่นหัว เมื่อคืนก่อนที่ผมจะหลับก็โทรไปหามันแล้ว แต่เจ้าตัวมันไม่รับนี่. . . ทั้ง ๆ ที่อุตส่าห์ฝืนตัวเองไม่ให้หลับไปเพราะฤทธิ์ยาแท้ ๆ
  
  “ถึงว่า. . . หึ”
  
  “อะไร?” ผมมองไนต์ด้วยความไม่ไว้ใจ ผมส่ายหัวยิ้ม ๆ ไม่ตอบ
  
  “วอทซัพแมนนนนนน!!!”
  
  “แหกปากเพื่อ!!?”
  
  “ห่าไนต์ เดี๊ยะ ๆ เดี๋ยวเอาราดหน้าสาดเลยนี่ นั่งด้วยดิ”
  
  “มึงไม่กินให้หมดก่อนแล้วค่อยขอวะ?” ผมมองบะหมี่กับหมาไนต์เถียงกันก่อนจะยิ้มให้บีเพื่อนสาวของบะหมี่
  
  “ว้าวววว~ หนูบีมานั่งด้วยแบบนี้พี่ไนต์ก็เขินแย่สิจ้ะ”
  
  “แหม่ ตอนนั่งอยู่บนเตียงทำไมไม่เขินล่ะจ้ะ?” บีพูดแล้วยิ้มหวานใส่ โหยยยย มันต้องอย่างนี้! เด็ดมาก ฮ่า ๆๆๆ บีไม่ได้เรียนคณะเดียวกับพวกผมครับ พี่ท่านเรียนนิเทศ แต่เป็นเพื่อนกับบะหมี่ตั้งแต่มัธยม บีน่ารักมากกก  ตัวเล็ก ๆ ผิวขาว ๆ แต่ไม่ซีด ขาวธรรมชาติอ่ะครับ ไม่ใช่ขาวเพราะฉีดยา แฮ่
  
  
  ผมนั่งมองพวกมันสามคนคุยกัน มีบางที่เข้าไปร่วมแจมด้วย แต่ส่วนใหญ่จะนั่งฟังและขำมากกว่า เอาจานไปเก็บเรียบร้อย บะหมี่กับบีก็ไปซื้อผลไม้มานั่งกินกันต่อ ผมกับไนต์เลยได้รับอานิสงค์ผลบุญไปด้วย  (เดี๋ยวนะ...)
  
  
  
  “ได้ข่าวว่าไรเฟิลคั่วอยู่กับเด็กแพทย์” เปิดประเด็นมาก็เล่นเอากูสำลักเลย
  
  “ได้ข่าวมาจากไหน?” ไนต์ถาม
  
  “คนเขาพูดกันทั่วม. ชะนีเด็กนั่นก็ประกาศไปทั่ว” บี
  
  “เด็กแพทย์ไหนวะอีบ๊วย” บีจิกตาใส่บะหมี่ ก่อนจะเริ่มเล่า ผมเองก็นั่งฟังเงียบ ๆ
  
  “ชีชื่อเนสนะรู้สึก ปีหนึ่งเฟรช ๆ ซิงไหมฉันมิทราบ” เนส. . . คุ้น ๆ แฮะ ผมเบิกตาหันไปมองบะหมี่ซึ่งมันก็หันมามองผมพอดี
  
  “อีที่ส่งรูปมาให้มึงเมื่อใช่ไหม?!”
  
  “รูปอะไรวะ?” บีไนต์
  
  “ไม่รู้ว่ะ กูลบไปแล้ว” ผมพูด บีหน้าเสียดายก่อนที่จะยิ้มพราวเพราะคำพูดของบะหมี่
  
  “กูส่งเข้าของกูไว้อยู่ หาแป๊บ”
  
  “เอามาดูดิ้ หื้มม สวยนี่หว่า” ไอ้ไนต์มันพูดตาก็ดูรูปที่บะหมี่ส่งให้ดู
  
  “ก็โอเค แต่อย่างไรเฟิลมันก็ต้องควงคนสวยอยู่แล้ว”
  
  “บ๊วยพูดถูก แต่กูยังไม่หายงงตั้งแต่เมื่อวาน นางจะส่งมาให้ไอ้ควอทซ์ทำไมวะ?”
  
  “เดี๋ยวกูตบให้ดั้งหักชื่อบีโว้ย!”
  
  “มึงไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจมึงเปล่าเห็ด” ผมกลอกตา
  
  “ใช้ไขสันหลังคิดเหรอไนต์? เขาเป็นใครกูไม่รู้จักด้วยซ้ำ”
  
  “ตามหลักการแล้ว. . .”
  
  .
  .
  .
  .
  .
  
  “มึงจะเว้นช่วงอะไรยาว ๆ ห้ะ” บะหมี่ตบหัวบีจนผมกระจาย เอ่อ. . . ผู้หญิงเป็นเพศที่ฮาร์ดคอร์จริง ๆ
  
  “นางคงคิดว่านังหนูควอทซ์เป็นแฟนไรเฟิลไง! ถึงได้ส่งรูปมายั่วอย่างนั้น” ผมล่ะเกลียดที่บีเรียกผมว่านังหนูจริง ๆ แล้วผมเนี่ยนะแฟนไรเฟิล บ้าเหอะ!
  
  “กูไม่ใช่แฟนมัน”
  
  “โอ๊ยยยย! ทำไมถึงได้โง่อย่างนี้ลูก หล่อนกับไรเฟิลมันยิ่งกว่าแฟนกันด้วยซ้ำ!”
  
  “อ้าว. .”
  
  “มึงนี่โง่หรือไม่ฉลาดนี่ ฮึ?” บะหมี่มันเอานิ้วจิ้ม ๆ หน้าผากผมก่อนจะดันแรง ๆ เบ้ปากแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง
  
  “น้องเขาก็น่ารักดีนี่ เหมาะกันจะตาย. .” จะตาย.. จะตายแล้วเนี่ย เจ็บจะตายแล้ว. . .
  
  “ฉันว่าชีแอ๊บใส”
  
  “รู้ได้ไงครับหนูบี เขาอาจจะใสจริงก็ได้”
  
  “แหม่ ไนต์ ของแบบนี้มันดูกันได้ อย่าดูถูกเซนส์ฉันนะหล่อน!”
  
  
  เรื่องของไรเฟิลยังเป็นประเด็นที่พวกมันคุยกันอยู่ ผมได้แต่นั่งฟังอยู่อย่างนั้น ทั้งที่ใจอยากจะลุกหนีออกไปให้ไกลด้วยซ้ำ ไม่อยากรู้ ไม่อยากฟัง ไม่อยากได้ยิน เรื่องของอีกฝ่ายกับผู้หญิงคนไหน แย่ แย่มาก ๆ อยากจะย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ผมยังไม่ได้ชอบมัน ถ้าย้อนกลับไปได้ ผมจะไม่คิดเกินเลยกับอีกฝ่ายเลย เพราะตอนนี้ผม. . ผมเจ็บ. . เจ็บ. . จนอยากจะร้องออกมาดัง ๆ มันเหมือนหายใจไม่ออก หัวใจของผมบีบแน่นไปหมด. . . นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น แล้วต่อจากนี้ล่ะ? ผมจะต้องเจ็บอีกมากมายแค่ไหน?
  
  
  
  
  
  
  
  
  ตอนเย็นผมมาทำความสะอาดตามหน้ามีและทำอาหารเอาไว้ให้ ไม่รู้ว่าเจ้าของห้องจะกลับมากินมันไหม. . . หรือไม่แน่ตอนนี้ก็อาจจะกำลังนั่งกินข้าวกับใครสักคนอยู่ก็ได้
  
  ผมรอจนกระทั่งสามทุ่ม ไรเฟิลยังไม่กลับ. . . แต่ตอนนี้ผมควรจะกลับได้แล้ว ไว้พรุ่งนี้จะมาใหม่นะ. . .
  
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  
  
  Goodnight





......................................................


TBC.

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย ทำไมกลายเป็นนังหนูโดนโกรธอ่าาาาาา
ปลดไรเฟิลดีไหมงะ ไนต์ควอทซ์ดีไหม ; ____ ;


สวัสดีธันวาคม ~
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 15 (01.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 01-12-2014 21:13:36
ชิชิ  :angry2:  อิตาไรเฟิลทำน้องควอทซ์เสียใจอีกแล้ว เจ้าชู้ดีนักเดี่ยวหาแฟนให้ควอทซ์เลยนิ :angry2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 15 (01.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 02-12-2014 22:27:48
ปืนมึงทำหนูหินเสียใจ กูตบนะเดี๋ยวหาสามีใหม่ให้หนูหินซะเลยหนิ  :beat:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 15 (01.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 02-12-2014 23:05:14
พี่ปืนไม่ชัดเจนเลยอ่ะ แง่งงง   :angry2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 16 (04.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 04-12-2014 19:56:26
EPISODE 16








  เฮ้!!! พวกคุณรู้อะไรไหม? ไรเฟิลไม่คุยกับผมมาสองวันแล้ว!! ถ้านับรวมวันนี้ด้วยก็จะเป็นสาม! ซึ่งวันนี้มันก็วันศุกร์แล้วด้วย ให้ตายเถอะ ผมอึดอัดเป็นบ้า! ไม่อยากจะคิดไปเองว่ามันงอนเลย แต่มันควรคิดไหมละ? ฮือ. ..
  
  “โว้ยยยยย!!!!” ผมเหวี่ยงกระเป๋าลงบนโต๊ะ ไอ้ไนต์กับบะหมี่สะดุ้งแล้วหันมาทำตาขวางใส่
  
  “เป็นเหี้ยอะไรของมึงไอ้เห็ด!!” เห็ดพ่อเห็ดแม่มึงสิ!
  
  “เพื่อนมึงไม่คุยกับกูจะสามวันแล้วนะ!!”
  
  “เพื่อนกูคนไหน?” ไอ้ไนต์ถามมึน ๆ แม่งแกล้งกวนตีนผมแน่ ๆ เลย ฮึ่ย!! อะไรก็ขัดใจไปหมดทุกอย่างเลย
  
  “ไรเฟิลอะไรเฟิล!!”
  
  “ฮะ ฮ่า ๆๆๆ” หัวเราะหาพ่อมึงเหรอ!
  
  “ไม่ตลกไอ้สัด!”
  
  “โถ ๆๆ น้องควอทซ์ของพี่มามะ มาพี่จุ๊บเหม่งปลอบขวัญ”
  
  “Fck u!!!” ไอ้สองตัวนั่นไม่มีสลด หัวเราะผมเสียงดังลั่นจนคนแถวนั้นหันมามอง
  
  “กูซีเรียสนะเว้ย!! จะร้องไห้แล้ว แม่ง!” เตะฝุ่น เตะหญ้า ระบายอารมณ์ไปเรื่อย
  
  “เอ้า! มึงโทรหามันหรือยัง?”
  
  “โทรจนโทรศัพท์จะไหม้อยู่แล้ว!”
  
  “แล้วเป็นไง? มันไม่รับ? มึงรู้สึกยังไง? หงุดหงิด? จะเป็นบ้า? ประสาทแดก? ถ้าใช่ งั้นก็รู้ไว้ว่าไรเฟิลมันก็ไม่ต่างจากมึงหรอก เผลอ ๆ หนักกว่าด้วยซ้ำ” ผมเงียบ. . มันรู้สึกจุก ๆ พูดไม่ออก ไนต์กอดอกมองผมด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก
  
  “ฮืออออ”
  
  “อย่ามาเพ้อไอ้สัด มันไม่รับสาย มึงก็ไปหามันดิ”
  
  “กูไปแล้ว ไม่เจอมันอ่ะ”
  
  “ที่ไหน?”
  
  “คอนโด ที่ชมรมแม่งก็ไม่ไปอ่ะ”
  
  “หื้อออ เมื่อวันก่อนยังกินข้าวด้วยกันอยู่เลย”
  
  “แล้วมันคุยกับกูไหมละ? มึงก็เห็นนี่” พวกผม 5 คนจะนัดกินข้าวเที่ยงด้วยกันตลอดอ่ะถ้าเวลามันตรงกันอ่ะนะ หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ถึงจะแยกกัน แล้วแม่งไม่คุยกับผมเลย  วันนี้ก็มีแค่พวกผม 4 คน ขาดก็แต่ไรเฟิล พอฟอร์สโทรไปหาเจ้าตัวมันก็บอกว่าไม่อยากมา แล้วก็ตัดสายไปดื้อ ๆ
  
  
  “เท่าที่กูเห็นมึงก็ไม่คุยกับมันนะ หรือไม่จริง?” ก็จริง  หน้าผมมันยังไม่มองด้วยซ้ำ ใครจะกล้าเข้าไปคุยด้วยเล่า! เฮ้อออ ผมถอนหายใจเหนื่อย ๆ
  
  “คอตกเลยเว้ย!”
  
  “หมาม่าอย่าพูดมาก!”
  
  “อะไร ๆ พาลเหรอจ้ะ ว้ายยยย น่าสงสารเนาะ โดนเมินอ่ะ” บะหมี่มันเยาะเย้ยผมอ่ะ! นิสัยไม่ดี
  
  “เงียบไปเลย ปวดหัวก็ปวด ฮึ่ย!”
  
  “ยังไม่หายอีกเหรอวะ? หลายวันแล้วนะ” ไนต์ถามเสียงดุ
  
  “ก็.. ยังมึน ๆ อยู่นิดหน่อย” พวกมันสั่นหัวหน่าย ๆ ป่วยง่ายหายยากแล้วกูผิดหรือไง!
  
  “โทรไปไม่รับ ไปหาที่คอนโดไม่เจอ ชมรมไม่เข้า งั้นก็....”
  
  “ก็...?” ผมมองบะหมี่ด้วยสายตาแห่งความหวัง เจ้าแม่แสยะยิ้ม
  
  
  
  
  
  
  
  
  “บุกคณะแม่งเลย!!” เอ้อะ...
  
  “ได้เหรอ?”
  
  “You can if you want!” ผมกระพริบตามปริบ ๆ มองหมาไนต์
  
  “ฮื่ออออ! โคตรรักพวกมึงอ่ะ Thank you very much!” ผมพุ่งไปหอมแก้วไอ้ไนต์กับบะหมี่คนละทีด้วยความดีใจและลืมตัว(ดีใจมาก ๆ แล้วเป็นแบบนี้ทุกทีเลย TwT) พวกมันดูจะอึ้งเล็กน้อยถึงปานกลาง
  
  “กูไปนะ บาย!” โบกมือให้พวกมันเร็ว ๆ รวบกระเป๋ามาสะพายแล้ววิ่งไปที่คณะเศรษฐศาสตร์
  
  
  .
  .
  
  “เป็นเอามาก”
  
  “เหอ ๆ นอกจากเรื่องเรียนแล้วมันฉลาดเรื่องอะไรบ้างเนี่ย” ไนต์และบะหมี่มองตามร่างบางที่วิ่งไกลห่างออกไปอย่างขำ ๆ ปนเอือมระอา
  
  “พอกันทั้งคู่เลยกูว่า”
  
  “กว่าพวกมันจะได้กันกูคงใส่ฟันปลอมแล้วเปล่าวะ”
  
  “กูว่างั้น” ไนต์พูดเสริม ก่อนทั้งสองคนจะส่ายหัวอย่างปลง ๆ
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  ......................................................
  
  
  
  
  


  
  แฮ่ก ๆ กว่าจะถึง โคตรเหนื่อยเลย ตึกคณะผมกับคณะมันอยู่คนละฟากเลย ทีแรกก็วิ่งมาอยู่หรอก แต่ระยะทางไม่เห็นด้วยเลยต้องเปลี่ยนเป็นเดิน เพราะแม่งไม่ไหวจริง ๆ ครับ ผมมองนาฬิกา ตอนนี้บ่ายโมงกว่า ๆ ผมมีเรียนอีกทีบ่ายสองครึ่ง มีเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่ผมไม่รู้ว่าไอ้คุณชายมันอยู่ส่วนไหนของตึกสูง ๆ นี่ คงเสียเวลากับตรงนี้ไม่น้อยเลย. . แค่คิดก็เซ็งแล้ว
  
  “รับหน่อยเถอะ พลีสสสส” ผมพูดกับตัวเอง มือข้างที่ว่างก็พัดหน้าตัวเองก่อนจะปาดเหงื่อที่ซึมอยู่ตามไรผมออก
  
  “ฮู่ววว” เบ้ปากใส่โทรศัพท์เมื่อคนที่ผมโทรหามันไม่รับ หาเองก็ได้วะ! ผมตัดสินใจเดินเข้าไปในตึกเศรษฐศาสตร์ ยืนด้านนอกอย่างร้อนอ่ะ แต่ผมก็โง่เองที่ยืนตากแดด โธ่ ชีวิต เหงื่อเปียกเสื้อหมด แล้วใส่เสื้อช็อปอีก ร้อนไปสิ คนแม่งก็มองกันจัง ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีหรือไง
  
  
  
  “เด็กทุนมาทำอะไรที่นี่?” แหม่ มีสาวสวยมาต้อนรับด้วยเว้ย ควรดีใจไหมเนี่ย ผมเลิกคิ้วมองคนตรงหน้า ปากแดงฉิบหาย ทาลิปหรือกินไก่สดมาวะ
  
  “นายนั่นแหละ ยี้” อ้าว มาทักกูเอง แล้วทำท่ารังเกียจเพื่อ!
  
  “นอกจากจนแล้วยังโง่ด้วยหรือไง?! ฉันพูดกับนายอยู่นะ!!” เสียงแหลม ๆ ที่เพิ่มระดับขึ้นทำให้คนยิ่งให้ความสนใจมากขึ้นไปอีก บางคนถึงขั้นเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูป ประสาท -_-
  
  “อ้าวเหรอ? ผมไม่รู้จักคุณ ขอโทษทีครับ” ผมพูดยิ้ม ๆ
  
  “เหอะ! คนจนอย่างหมอนี่จะรู้ยังเธอได้ยังไงล่ะกรีน” อื้อฮึ เพื่อนเจ้ปากแดงพูด หน้าตาก็อยู่ในเกณฑ์ดีนะ แต่ปากนี่... จงเติมคำในช่องว่าง 10 คะแนน
  
  “นั่นสิ ฉันก็ลืมไป” เธอเหยียดยิ้มมองผมดูสายตาดูแคลน
  
  “พูดเรื่องไร้สาระกันเนอะ งั้นผมขอตัวนะ” ผมพูดด้วยรอยยิ้ม ถ้าคนฉลาดก็คงรู้ว่าผมกวนตีนเขาอยู่
  
  “แก !!” เอ้า แค่บอกว่าไร้สาระก็จะตบเลยเหรอ ผมผิดอะไรครับ? .___.
  
  
  ผมไม่มีเวลามากมายกับเรื่องแบบนี้หรอก! มิชชั่นของผมคือตามหาไรเฟิลต่างหากเล่า!! แม่ง ไปอยู่ไหนวะ โทรไปก็ไม่รับ ว้ากกกก!! โอ๊ะ เจอแล้วววว! ไม่ใช่ไรเฟิลอ่ะ แต่เป็น...
  
  “มึง!!!” ผมวิ่งเข้าไปคว้าไหล่มันจากด้านหลัง มันหันมาพร้อมกับง้างหมัดเหมือนจะต่อย พอเห็นว่าเป็นผมก็ลดมือลง
  
  “นึกว่าใคร เกือบต่อยไปแล้วไหมเนี่ย” มันยิ้ม ลักยิ้มมึงน่ะ กูขอได้ไหม อ้าว ผิดประเด็นนี่หว่า ผมสะบัดหัวไล่ความบ้าบอของตัวเองทิ้งแล้วเรียกสติกลับมา
  
  “มึงเห็นไรเฟิลไหม?” แพคหุบยิ้ม มันมองเพื่อมันสองสามคนที่ยืนอยู่ด้วย ผมเลยยิ้มทักทายไป บางคนก็ยิ้มตอบ บางคนก็เบ้ปากใส่ ก็โอเค
  
  “เห็นไหม..?” ผมถามเสียงค่อย เงยหน้ามองสบตากับอีกฝ่าย ไอ้แพคถอนหายใจแล้วสั่นหัว ผมนี่คอตกเลย
  
  “ทำไมพี่ไม่โทรหาล่ะครับ?”
  
  “โทรแล้ว มันไม่รับ” นึกแล้วจะวีน ฮึ่ยยย เมินได้เมินไปเถอะ!
  
  “แล้วจะทำยังไงละ มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ?”
  
  “ไม่รู้..” เสียงเบาพร้อมกับส่ายหน้า ไอ้แพคจูงมือผมแล้วดันให้นั่งลงที่ม้านั่งใต้โถงคณะ ส่วนมันก็นั่งลงข้างผม เพื่อนมันก็นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
  
  “ผมโทรให้ไหมล่ะ?”
  
  “จริงนะ!!?” น้ำเสียงผมแสดงออกถึงความดีใจสุด ๆ แพคพยักหน้ายิ้ม ๆ แต่ทำไมตาไม่ยิ้มด้วย หรือผมคิดไปเอง...
  
  “แต่มีข้อแม้นะครับ” ผมหน้างอ
  
  “อะไรละ?”
  
  “ไว้ค่อยบอก ขอไปคิดก่อน” ผมพยักหน้ารับ ไอ้แพคยิ้มพอใจแล้วหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมา
  
  
  
  
  “พี่ไรเฟิล ผมแพคนะครับ” อะไรอะ! ทำไมไอ้แพคโทรไปแป๊บเดียวก็รับแล้ว ไม่ยุติธรรมนี่!
  
  “มีอะไร?” เสียงนิ่งสัด ๆ เอ่อ.. ที่ผมได้ยินเพราะขยับตัวเอาหูไปแนบกับโทรศัพท์ของแพคอยู่น่ะ แฮะ ๆ
  
  “ผมมีธุระนิดหน่อย พี่ว่างหรือเปล่าครับ?” ผมใจเต้นตึกตักด้วยความลุ้น มือข้างนึงกำสายกระเป๋าแน่น อีกข้างก็เขียนไดอาล็อกให้แพคอ่าน
  
  “ว่าง”
  
  “ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนครับ?”
  
  “4C”
  
  “ครับผม” ไอ้แพควางสายไปแล้ว
  
  “4C?”
  
  “ชั้น 4 ห้อง C ครับ”
  
  “อ่าาา ขอบใจมาก!” ผมยิ้มกว้างจนตาปิด
  
  “เอาลูกอมไปล่ะกัันเนอะ” วางลูกอมไว้ตรงหน้าไอ้แพคหนึ่งเม็ดแล้วให้เพื่อนมันอีกคนละเม็ด
  
  “ผมไม่ใช่เด็กนะเว้ย!”
  
  “เออน่า! แต่เดี๋ยว.. ไม่สบายเปล่าวะ? หน้าแดง ๆ นะ เอ๊ะ! หรือเขินกู?” ผมแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ไอ้แพคผงะแล้วเบี่ยงหลบ
  
  “หึหึ” เพื่อนมัันหัวเราะ
  
  “ช่างหน้าผมเถอะ รีบไปหาพี่ไรเฟิลไม่ใช่หรือไง ไปสิ” โอ้โห ไล่ ผมเบ้ปาก
  
  “ไปล่ะ”
  
  
  
  
  
  
  
  ....................................................
  
  
  
  
  
  
  “4C อ๊ะ! เจอแล้ว!” ผมเดินเร็ว ๆ ไปที่จุดหมาย ไรเฟิลคงจะอยู่ด้านใน ผมเดินวนไปวยมาอยู่หน้าห้อง ทำไงดีวะ
  
  
  
  “เอ่อ...” ผมเงยหน้ามองคนที่ยืนอ้ำอึ้งอยู่ตรงหน้า แว่นหนาเตอะเลย เขามองผมด้วยสายตาหวาด ๆ ด้วย ผมไม่ได้น่ากลัวสักหน่อย TwT
  
  “หือ?”
  
  “ข ขอทางผมได้ไหมครับ?”
  
  “จะเข้าไปในห้องนี่หรอครับ?” ผมถามอยากสุภาพ ชี้นิ้วไปท่ห้อง 4C ก็เขาสุภาพก่อนนี่ผมก็ต้องสุภาพด้วยสิ
  
  “ครับ”
  
  “งั้น... ช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ?” ผมมองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน
  
  “คุณควอทซ์จะให้ผมช่วยอะไรหรือครับ?”
  
  “เฮ้ย! ทำไมรู้จักผมด้วย เออ ช่างมันเถอะ” ผมบอกปัดเมื่อเขากำลังจะอ้าปาก ออกนอกทะเลมาไกลแล้วเข้าฝั่งสักทีเถอะ
  
  “ช่วยตามไรเฟิลให้หน่อยได้ไหมครับ?” เขาทำหน้าอึกอัก โธ่ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ ช่วยคนหล่อกุศลแรงมากเลยนะรู้ยัง!
  
  “เอ่อ.. ค คุณไรเฟิล.. เขาน่ากลัว”
  
  “นะครับ นะนะช่วยผมหน่อยนะ แค่บอกเขาว่ามีคนรออยู่ด้านนอก นะครับ นะ ช่วยผมเถอะนะ คุณแว่น” ผมดึงมือเขามาแล้วเขย่าไปด้วย (เขาจะไม่ช่วยเพราะมึงไปเรียกเขาแว่นเนี่ยแหละ - -)
  
  “ก ก็ได้ครับ” คุณแว่นตอบรับ แต่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ โธ่...
  
  “ขอบคุณครับ!” ผมปล่อยเขาให้เขาไปในห้อง ส่วนผมก็ทำได้แค่รอเท่านั้น
  
  
  
  
  
  
  ตึก
  
  ตึก
  
  
  ผมว่าผมได้ยินเสียงคนเดินนะ!
  
  
  ครืดดด ปัง!
  
  สัด! ตกใจหมด ผมหันไปมองตามเสียง
  
  “โอ๊ย!” ฮืออ เต็ม ๆ จมูกผมชนเข้ากับร่างของใครสักคนเต็ม ๆ พอมองเท่านั้นแหละ แทบจะกรีดร้อง ไรเฟิล!! มันยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว แต่ทำไมถึงมองด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ...
  
  “เอ่อ.. ว ว่างไหม? ขอคุยด้วยหน่อยสิ”
  
  “ไม่” หะ? ผมมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ
  
  “ไม่? ไม่อะไร? ไม่ว่างหรือไม่คุย?”
  
  “ทั้งสอง” ผมกัดปาก มันเป็นไปอย่างเคยชิรเมื่อสิ่งที่หวังไม่เป็นดั่งใจ
  
  “ก ก็ตอนไอ้แพคโทรมายังว่างอยู่เลย..” ไรเฟิลแสยะยิ้ม ร่างสูงเอนตัวพิงกับพนังใกล้ ๆ
  
  “แค่คุยเอง..”
  
  “ก็ไม่ว่าง” อึก. . . ผมกำลังโดนเอาคืนใช่ไหม? ประโยคนี้มัน.. ตอนเป็นฝ่ายพูดก็รู้สึกเฉย ๆ ทำไมพอต้องมาเป็นฝ่ายฟัังถึงได้เจ็บแบบนี้
  
  “ไรฟ์...”
  
  “แกดูสิ โดนปฏิเสธแล้วยังหน้าด้านอยู่อีกอ่ะ” เสียงของใครสักคนดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะ ผมเม้มปากหลับตานิ่งและสูดหายใจเข้าลึก ๆ
  
  “นั่นสิแก น่าสงสารเนอะ อุ้ย!” พวกเธอหน้าเจื่อนแล้วเดินหนีไป ไม่รู้เพราะผมหันไปมองหรือเพราะสายตาคมกริบสีน้ำทะเลของคนตัวสูง
  
  “อยากคุยด้วย แป๊บเดียวก็ได้ จะไม่กวนแล้ว”




--------------------------------

TBC.


เห่นโล้วววววววววววววววววววววววววว
แพคควอทซ์ไหมคะ แพคควอทซ์ไหม 55555555555555555555555555555555555555555
มีใครอยากตบตีไรเฟิลไหมคะ? ตามสบายเลยค่าาาาาา  :hao7:


ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ บะบายยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 16 (04.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 04-12-2014 20:03:14
นิสัยไม่ดีเลยนะไรเฟิล งอนสิบชาติ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 16 (04.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 04-12-2014 20:06:36
เอาจริงๆไรเฟิลก็โกรธไร้สาระไปนะ -_- หงุดหงิดอ่ะ
คือนี่ถ้าเราเป็นควอทซ์นี่ไม่ง้อละ ปล่อยเลย ไม่อยากคุยก็ไม่ต้องคุย
ฮึ่ยยยย หงิด !  :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 16 (04.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 04-12-2014 20:25:23
ไรเฟิลเอาไปเก็บ... เอาน้องแพคดีกว่า #ทีมพระรอง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 16 (04.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-12-2014 21:29:17
ถ้าคราวนี้ไม่สำเร็จนี่กระโดดถีบเลยน่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 17 (07.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 07-12-2014 19:59:25
EPISODE 17









  “รีบ ๆ พูดมา” ผมมองไรเฟิลที่ทำหน้ารำคาญอย่างไม่ปิดปัง ตอนนี้เราอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าของตึกเศรษฐศาสตร์
  
  “ขอโทษ. . .”
  
  “เรื่อง?”
  
  “เรื่องที่ทำให้ไม่พอใจ”
  
  “หึ..”
  
  “จะไม่พูดกับกูจริง ๆ เหรอ...”
  
  “................” สิิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบ
  
  “อย่าเงียบดิ! คิดว่าไม่พอใจเป็นคนเดียวหรือไง” ประโยคหลังผมบ่นกับตัวเองเบา ๆ
  
  “....................”
  
  “กูก็เสียใจเป็นเหมือนกันนะ!”
  
  “........................” มันยังคงเงียบ ผมกัดปากแน่นจนรู้สึกเจ็บ มองแผ่นหลังกว้างของคนที่ยืนหันหลังให้
  
  “ไรฟ์” คิดว่าตัวเองเป็นใครวะ ทำไมผมต้องมาตามง้อมันแบบนนี้ด้วยเนี่ย!
  
  “ไรเฟิล!! จะไม่พูดกับกูจริง ๆ ใช่ไหม? โอเค เอางั้นก็ได้.. ขอโทษที่ไม่รับสายเพราะตอนนั้นกำลังเรียนอยู่ ขอโทษที่ไม่ได้โทรกลับเพราะกำลังขับรถ ขอโทษที่สองสามวันมานี้โทรไปหาบ่อย ๆ เพราะแค่อยากคุยให้รู้เรื่อง ขอโทษถ้าทำให้รำคาญ ขอโทษที่มากวน ขอโทษที่.. ฮึก..” ผมยกมือปิดป่กกลั้นเสียงสะอื้น ไม่รู้ว่าเผลอร้องไห้ตอนไหน พอจะรู้ก็สะอื้นและน้ำตาที่เปียกแก้มนี่แหละ รู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่อีกฝ่ายหันหลังให้
  
  “อึก”
  
  
  หมับ!
  
  
  ผมตัวแข็งทื่อเมื่อถูกดังเข้าไปกอด ความรู้สึกตีกันไปหมด
  
  “ใครบอกให้ร้องไห้?”
  
  “...อึก” มือหนาลูบหัวผมพร้อมกับโยกตัวไปมาเหมือนปลอบเด็ก - -
  
  “มึงนิสัยไม่ดี” ผมทุบหลังมันไปด้วย
  
  “มึงมากกว่านะ” มันว่า เหอะ!
  
  “มึงนั่นแหละ!!”
  
  “กูนิสัยไม่ดียังไง ฮึ?”
  
  “ก็มึงไม่รับโทรศัพท์กู ไม่คุยกับกู เมินกูด้วย!” ผมดันมันออกแล้วเผชิญหน้ากับมัน ยกมือเช็ดน้ำตาออกแรง ๆ น่าอายฉิบหาย ทำไมต้องร้องไห้ต่อหน้ามันด้วยเนี่ย
  
  “ขอโทษกูเลย!!”
  
  “ทำไมต้องขอโทษวะ?” ไรเฟิลมันถาม กอดอกมอง
  
  “ก็มึงผิดอ่ะ!”
  
  “ผิดอะไรอีก?”
  
  “ไม่รู้แล้ววว มึงต้องขอโทษ ทำกูร้องไห้เนี่ย ขอโทษเลย!”
  
  “หึ มึงไม่ผิดเลยเนอะ”
  
  “ก็... ขอโทษไปแล้วไง..” เสียงอ่อย ก้มหน้ามองพื้น
  
  โป๊ก!
  
  เขกหัวกูเพื่อ!!! ผมเงยหน้ามอง ถลึงตาใส่มัน แต่เจ้าตัวกลับลอยหน้าลอยตา หาได้สนใจไม่
  
  
  
  “ขอโทษ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบา ๆ หลังจากที่เงียบไปสักพัก หันเสมองไปทางอื่น รู้สึกหน้ามันร้อน ๆ ยังไงไม่รู้ อ้อ! เพราะแดดมันแรงนี่เอง อย่ามั่ว! ผมไม่ได้เขินหรือฟินเหี้ยอะไรเลยนะ! อะไร ไม่ได้ร้อนตัวด้วย จิ๊!
  
  “คิดว่าจะหายโกรธเหรอ!?” จริง ๆ ไม่ได้โกรธอะไรหรอก แค่เคืองนิดหน่อย(เหรอวะ?)
  
  “ก็แล้วแต่” มันยักไหล่ ไอ้เหี้ยแม่ง! ทำไมมีแค่ผมที่ดิ้นเนี่ย!
  
  
  ครืดดด ครืดดด
  
  “มีเหี้ยไร?!” ขอโทษนะหมาไนต์ที่พาลมึงเนี่ย
  
  “อ้าว ไอ้สัด เหี้ยปืนไม่ยอมคุยด้วยไง้?”
  
  “กวนตีน โทรมามีไร”
  
  “มึงจะมาเรียนไหมเนี่ย?”
  
  “...หึ ไม่อ่ะ ฝากเช็คชื่อด้วยดิ”
  
  “ทำไมวะ ง้อยาวเหรอ ถ้ามันไม่หาย มึงก็แก้ผ้าง้อแม่งเลย”
  
  “สัด! ใช้ส้นตีนคิดหรือไง ทำไมต้องทำตามที่มึงบอกด้วย แค่นี้นะ!!” ผมกดตัดสาย ขมุบขมิบปากด่าไอ้ไนต์ แล้วทำไมต้องให้กูแก้ผ้าด้วย นี่ก็เชียร์ให้กูเสียตัวจังเลย สัด! เฮ้ย!! หรือว่ามันจะรู้ว่าผมชอบไรเฟิล!! ไม่นะเว้ยยยยย!
  
  
  “มึงไม่ไปเรียนเหรอ?” ถามไอ้คุณชายที่ยืนเก็กอยู่ เมื่อยหน้าป่ะถาม - -
  
  “หมาตัวไหนลากกูมา?” กูเปล้าาาาาา มึงมาเองงงง กูแค่เดินตามมาาาาาาาาาาา
  
  “เหอะ” แล้วโทรศัพท์ของมันก็มีคนโทรเข้ามา ได้ใจความว่า... เพื่อนมันโทรตาม สรุปผมกับมันหายโกรธกันยังวะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  .............................................................
  
  
  
  
  
  
  
  
  “เจ้าหญิง!!!”
  
  “เจ้าหญิงโว้ยยยย!!” ผมมองไอ้วอร์มที่แหกปากลั่น
  
  “ไม่เคยแหกปากหรือไง?”
  
  “โหยยย ไรวะ อุตส่าห์มาทัก ทำไมเดินมาถึงนี่ได้อะ?” หือออ ผมมองไปรอบ ๆ ไม่คุ้นเลยว่ะ มาได้ไงวะเนี่ย
  
  “ไม่รู้”
  
  “อ้าว เฮ้ย!! ทำไมตาแดงอ่ะ ร้องไห้มาเหรอ!?” ไอ้วอร์มถาม ท่าทางมันดูตกใจ ผมแสยะยิ้ม
  
  “ทำนองนั้น”
  
  “ใครทำเจ้าหญิงร้องไห้วะ บอกกระผมมาเลยขอรับ”
  
  “ประสาท”
  
  “โด่วววว ถ้าเจ้าหญิงไม่บอกกระผมจะไปบอกเจ้าชายถูกเยี่ยงไรเล่า” หึ เจ้าชายของมึงนั่นแหละที่เป็นคนทำ เอ้า ตาผมยังไม่หายแดงอีกเหรอวะ เกือบยี่สิบนาทีแล้วหนา - -*
  
  “ไม่มีเรียนหรือไง?” ผมไม่ตอบแต่ถามกลับไปแทน
  
  “เปลี่ยนเรื่อง ๆ ไม่มีหรอก แต่มีงานที่ต้องส่ง” มันเบ้ปาก ชี้นิ้วไปที่กระดานวาดรูปของมันที่ตั้งอยู่ไม่ไกล
  
  “แล้วเจ้าหญิงอะ? ไม่มีเรียนเหรอวะ?”
  
  “โดด” ไอ้วอร์มมองผมเหมือนไม่เชื่อ
  
  “เด็กทุนโดดได้ด้วย”
  
  “ได้ กูทำอยู่นี่ไง”
  
  “เจ๋ง!! อยากดูผมวาดรูปเปล่าาา”
  
  “ก็ดี”
  
  
  เพราะไม่รู้ว่าจะไปไหนเหมือนกัน อยู่กับไอ้วอร์มคงหายนอยด์ได้บ้าง ผมนั่งดูมันวาดรูปไปเรื่อย ฟังมันพูดบ้าง ไม่ฟังบ้าง ไอ้ห่านี่ผีเจาะปากมาพูดหรือไงวะ จนกระทั่งบ่ายสาม มันก็ปลุกผมที่หลับไปตอนไหนไม่รู้ แล้วตอนนี้ก็มานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถกับมันเสียแล้ว.. จะพากูไปไหนวะเนี่ย ผมนี่ก็ใจง่ายยอมขึ้นรถมากับมันเฉ้ยยยยยย
  
  
  
  
  
  
  
  “มาไมวะ?” ผมถามไอ้วอร์ม มันมองหน้าผมแล้วยิ้มกวนตีน
  
  “รับเด็ก” ยักคิ้วให้กูอีก คือตอนนี้แม่งขับรถมาจอดที่หน้าโรงเรียนมัธยมเอกชนไฮโซแห่งหนึ่ง เป็นนานาชาติด้วยนะ กำลังเลิกเรียนกับเลย ผมเองก็มองไปรอบ ๆ เด็ก ๆ น่ารักว่ะ
  
  “นี่พี่ ผมถามอะไรหน่อยดิ”
  
  “อะไร?”
  
  “ร้องไห้ทำไมเหรอ?”
  
  “ไม่มีอะไร มึงนี่” ผมบอกแล้วยักคิ้ว ไอ้วอร์มถอนหายใจใส่ก่อนจะบ่นตัดพ้อไปเรื่อย
  
  
  
  
  
  “มึง! อยากกินอันนั้น!” ผมชี้ไปที่เด็กผู้ชายหน้าสวยคนหนึ่งที่กำลังกินไส้กรอกเสียบไม้อยู่เหมือนมันจะมีอะไรพันรอบ ๆ ไส้กรอกไว้ด้วย น่ากินอ่ะ
  
  “โว้ะ!!”
  
  “ซื้อให้หน่อยสิ” ผมกระพริบตาใส่ไอ้วอร์ม มันเออออแล้วโทรศัพท์หาใครสักคน
  
  
  
  
  “กูต้องไปนั่งด้านหลังไหม?” จากที่ฟัง ๆ มา คือคนที่มันมารับจะมาแล้วไง ไอ้วอร์มสั่นหัว โอเค้!
  
  
  
  
  

  
  “ไอ้สัด! อ้าว...” ประตูฝั่งผมถูกเปิดออก ผมก็ตกใจ ไอ้คนที่เปิดก็ตกใจ นี่มัน!! ไอ้เด็กซุปเปอร์มาเก็ตที่เคยขอเบอร์ผมนี่หว่า! เด็กนั่นมองผมด้วยสีหน้างง ๆ มึน ๆ
  
  “งงไรหมวย ขึ้นรถดิ” เด็กนั่นไปนั่งที่เบาะหลังพร้อมกับเพื่อนมันอีกคน คนที่เคยเจอบนบีทีเอสนั่นแหละ
  
  “หวัดดีพี่วอร์ม สวัสดีครับพี่บีทีเอส” บีทีเอสพ่อง...
  
  “เออ หวัดดี พวกมึงรู้จักกันเหรอ” ไอ้วอร์มถาม
  
  “ก็ไม่เชิงรู้จัก” เด็กตาฟ้าตอบ
  
  “มึงก็แนะนำดิ!” อันนี้ไอ้เด็กตาชั้นเดียว ไอ้วอร์มมองผ่านกระจกด้วยสายตาดุ ๆ กูไม่เคยเห็นมึงโหมดนี้เลยว่ะ
  
  “หึ นี่ชื่อควอทซ์ เป็น......” วอร์มแกล้งเว้นช่วงยาว ๆ แล้วมองผมตาเยิ้ม
  
  “อย่ามองกูด้วยสายตาแบบนั้น” ผมพูดแล้วผลักหัวมัน เชี่ยวอร์มหัวเราะแล้วพูดต่อ
  
  “เป็นรุ่นพี่ที่มหา’ลัย ส่วนไอ้ตาตี่นั่นชื่อเทมส์ ตาฟ้าหน้าฝรั่งนั่นชื่อฟาโรห์”
  
  “แฟนกันเหรอ?”
  
  “เพื่อน!!” แล้วมึงต้องตะโกนขนาดนี้เหรอไอ้เหี้ยยยย ผมหัวเราะขำ ๆ กับท่าทางหัวเสียของไอ้วอร์ม ไม่ค่อยจะเห็นมันโหมดนี่เท่าไหร่ ปกติแม่งบ้าไง ยุยังไงก็ไม่ขึ้น
  
  “เอาไป!” เทมส์วางถุงอะไรสักอย่างลงตรงคอนโซลกลาง
  
  “อะไรวะ?”
  
  “ที่มึงบอกให้ซื้อไง ไอ้ห่า”
  
  “อ้อ” แล้วไอ้วอร์มมันก็วางถุงนั่นใส่ตักผม
  
  “ไรวะ?”
  
  “แรมต่ำหรอเจ้าหญิง ใครบอกว่าอยากกินวะ” ผมยู่ปาก พอหยิบมาดูก็รู้ว่าเป็นไส้กรอก ไอ้ที่พัน ๆ อยู่คือแป้งแพนเค้กครับ
  
  “อ้าว...” ไอ้น้องเทมส์ร้องงง ๆ ผมเลยหันไปมอง หน้าอย่างมึน พอมองชัด ๆ แบบนี้ หน้ามันค่อนไปทางสวยนะครับ สวยแบบอาหมวยอะไรทำนองนั่น ตาชั้นเดียวอีก หมวยสัด ๆ
  
  “เฮ้ยๆๆ อย่ากินบนรถนะเว้ย” ไอ้เหี้ยวอร์มโวยวายเมื่อผมดึกไส้กรอกออกจากถุง มันบอกเดี๋ยวรถมันเหม็น ใครสนวะ หื้อออ อร่อยอ่ะ หันไปยักคิ้วให้ไอ้วอร์ม มันหน้างอ
  
  “ซื้อมาเท่าไหร่อ่ะ?”
  
  “สามสิบ” เทมส์ตอบ ผมค้น ๆ หาเงินในกระเป๋าแล้วส่งให้มัน
  
  “ไม่เป็นไรครับ”
  
  “อ้าว งั้นก็ขอบใจมาก ถ้าจะเอาก็เอาจากไอ้วอร์มแล้วกัน” ผมยิ้มแล้วหันกลับมานั่งให้ปกติ
  
  “ผมเกี่ยวไรวะ”

  “อย่าพูดมาก ขับรถไปมึงน่ะ” ไอ้วอร์มจิ๊ปาก
  
  


  
  “พี่ควอทซ์เรียนวิศวะ สาขาอะไรอะ?” ฟาโรห์ถาม
  
  “คอมง่ะ”
  
  “โห ยากป่ะพี่” ผมเอี้ยวตัวไปมองไอ้เด็กม.ปลายสองคนที่เบาะหลัง แล้วแสยะยิ้ม
  
  “ยาก.. มาก”
  
  “จริงดิ! หลอกป่ะเนี่ย?”
  
  “หลอกเหี้ยอะไรล่ะ ขนาดกูยังแทบไม่รอด ยากสัด ๆ อ่ะ อาจารย์อย่างโหด” หึหึ หน้าฟาโรห์โคตรตลก
  
  “อย่าไปเชื่ออออ เจ้าหญิงมันหลอกมึง” เชี่ยวอร์ม!
  
  “อ้าว ไมทำงี้อ่ะพี่ โห่ หมดกำลังใจเลย”
  
  “จะเข้าวิศวะหรอวะ สาขาไร? แล้วนี่จะเข้าคณะอะไร?” ผมถามฟาโรห์ แล้วถามเทมส์บ้าง
  
  “คิดว่างั้นครับ ไม่คอม ฯ ก็โยธาอ่ะพี่” ฟาโรห์ตอบ
  
  “สถาปัตย์..มั้ง” เทมส์
  
  “กูนึกว่ามึงจะเข้าศิลปกรรม” ฟาโรห์พูดเหมือนแซว ไอ้น้องเทมส์ถลึงตาใส่
  
  “หึหึ เจ้าหญิงก็ติวให้น้องมันหน่อยดิ” ห่าวอร์มหางานให้กู ฟาโรห์แม่งมองผมตาพราวเลย
  
  “คิดดูก่อน” ผมยักคิ้ว
  
  
  
  ผมกับพวกเด็กนั่นแยกกันเมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เดินหาซื้อของใช้ กับพวกของกิน พอซื้อเสร็จก็กลับหอ นอนพักเอาแรงสักชั่วโมงสองชั่วโมงค่อยไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปตามนัดไอ้พี่สอง
  
  
  
  



  ........................................................................................
  
  
  
  
  

  
  
  “อีกแก้วเลยมึง มาช้าตามคนอื่นเขาให้ทัน” ไอ้พี่สองดันแก้วเหล้ามาให้ผม เพราะผมมาช้า มันเลยบังคับให้กินให้ทันนี่ไง! ไอ้ห่าาาา กว่ากูจะมาถึงพวกมึงล่อไปครึ่งขวดแล้ว!
  
  “เยอะแล้วนะเว้ยยย มอมกูป่ะเนี่ย” พอพูดแบบนั้น ไอ้พี่สองตบหัวผมไปป้าบใหญ่ สัด!
  
  “คิดได้เนอะมึง” ผมเบ้ปาก ร้านที่มันพามาเป็นร้านเหล้าชิล ๆ ครับ ไม่ใช่ผับ มาบ่อยจนซี้กับเจ้าของร้านคิดเอาแล้วกัน
  
  “ไอ้พี!” เฮียเต็ม เจ้าของร้านเดินหัวเสียเข้ามาหาน้องรหัสปีสองของผม
  
  “สาวฝากเบอร์มาให้ หล่อมากนะมึง!” แล้วเฮียมันก็ตบหัวไอ้พีไปเต็ม ๆ ด้วยความรักใคร่และหมั่นไส้ เหอ ๆ พีมันหล่อนะ ถึงหล่อไม่มาก แต่มันก็หล่ออ่ะ มันเป็นคนมีสเน่ห์ ที่สำคัญมันรวยมาก! (คนที่เรียนที่นั่นก็รวยแม่งแทบทุกคน -.-)  สาว ๆ เข้ามาชอบเยอะอยู่เหมือนกัน ไอ้ห่านี่มันชอบมีสาวรุ่นพี่มาติด แล้วแม่งชอบลองของไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - -
  
  “คนไหนวะเฮีย?”
  
  “ชุดแดง สิบเอ็ดนาฬิกา” พวกผมงี้มองกันทั้งโต๊ะ
  
  “โห่ สวยเหี้ยยยย” ไอ้พี่สอง
  
  “พวกมึงว่าไง?” แล้วมันก็ถามต่อ
  
  “ก็ดี” ผม ไอ้พี มิกิ พูดขึ้นพร้อมกัน ที่สองกับเฮียเต็มมองหน้าพวกผมด้วยสายตาเหยียดหยาม ประมาณว่า ...พวกมึงตาไม่ถึง...
  
  
  ดื่มกันจนร้านปิด ถ้ามีแรงเหลือคงได้ช่วยเฮียเต็มมันเก็บร้าน
  
  


  
  “ผมกลับเองได้” ผมบอกไอ้พี่สอง มันทำหน้าไม่ไว้ใจ คือกูไม่ได้เมาปะวะ แค่มึนนิด ๆ หน่อย ๆ สติยังเหลือตั้ง 75%
  
  “มาขึ้นรถ เดี๋ยวกูไปส่ง!”
  
  “ไมต้องเสียงดังด้วยยย จะกลับเองงงงง”
  
  “เสียงไปแล้วไอ้สัด มึงอย่าดื้อได้ไหม ห้ะ!”
  
  “ไม่ ๆๆ อย่ามาจับบบบบ บ้านไม่ได้อยู่ทางเดียวกันสักหน่อย”
  
  “โว้ยยย ไอ้ควายยยย ขึ้นรถ!!”
  
  “อย่ามาเสียงดังใส่เรานะ!!”
  
  “เวรกรรม” สามเสียงพูดขึ้นพร้อมกัน
  
  “เอาไงวะแม่ง มึงนี่ดื้อนักนะไอ้ควอทซ์ เดี๋ยวเถอะ” ตัวปัญหาอย่างผมยิ้มเผล่ ไม่สนใจ
  
  “โทรหาพี่ไรเฟิลไหมคะ?”
  
  “กูมีเบอร์ที่ไหนเล่า โว้ะ!”
  
  “บ้านพี่สองผ่านคอนโดพี่ไนต์ ไปส่งไว้ที่นั่นเลยเป็นไง?”
  
  “เออ ความคิดดีมากไอ้พี”
  
  “ไม่ ๆๆ ไม่ปายยยยย”
  
  “ตามนี้แหละ พวกมึงกลับเถอะ กูจัดการเอง” มิกิกับไอ้พีไปแล้ว ไอ้พี่สองเท้าเอวมองผมเซ็ง ๆ ก่อนจะจับผมยัดไปในรถ แล้วมาจอดที่หน้าคอนโดที่เป็นที่พักอาศัยของหมาไนต์ งื่อออ จะกลับบ้านอ่ะ !!!!




------------------------------------


TBC.

สรุปดีกันยังเนี่ย 55555555555555555555555

รู้สึกชอบยัยวอร์ม มีใครชอบนางเหมือนเราไหมงะ  :impress2:

ขอบคุณคนอ่านทุกคนงับ ไว้เจอกันตอนหน้า  :bye2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 17 (07.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 07-12-2014 20:10:53
มาต่อเย้วๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 17 (07.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-12-2014 20:20:50
ชวนงง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 17 (07.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 07-12-2014 20:25:11
ไรเฟิลเอาไงอ่ะ เปลี่ยนพระเอกไหม ช้าเหลือเกิน ฟาโรห์จัดดิ้ 55555555555555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 17 (07.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 07-12-2014 22:25:38
 :z2: เปลี่ยนพระเอกเห้อ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 17 (07.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 08-12-2014 00:15:19
ตามมาอ่านแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 18 (10.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 10-12-2014 21:51:37
EPISODE 18











  “อื้อ..”
  
  ตื่นมาพร้อมกับอาการปวดหัวฉิบหาย ขยับตัวบิดขี้เกียจ ปรับสายตามองรอบ ๆ ตายห่า! ไม่ใช่ห้องผมนี่หว่า! มาโผล่ห้องใครวะเนี่ย ก้มดูสภาพตัวเอง ไม่ใช่ชุดที่ใส่เมื่อวาน แล้ว แล้ว แล้ว!! ชุดกูอยู่ไหนนนนนนนน!!
  
  
  
  “ทำหน้าตลกไอ้สัด!” สาดดดดดดดดดดดดดด! ไอ้หมาไนต์!!
  
  “ไมกูมาอยู่นี่อะ?” คือเมื่อคืนไปกินเหล้ากับพวกไอ้พี่สองมา แล้วก็เมา แล้วก็อะไรอีกวะ โว้ยยยย
  
  “พี่รหัสมึงพามาส่ง ไอ้ห่า ลำบากกูฉิบหาย ดีนะเมื่อคืนกูไม่ได้ออกไปไหน”
  
  “แล้วทำไมมันมาส่งที่นี่วะ โว้ยยย ช่างแม่ง ขอยาแก้ปวดหัวหน่อย” ไอ้ไนต์ทำหน้าเหม็นเบื่อ ไล่ผมไปอาบน้ำ ส่วนมันบอกจะไปหาข้าวหายาไว้ให้ เออ ดีมาก!
  
  
  
  
  
  “เฮ้ยมึง! รายงานของใครวะ!!?” ผมร้องถามไอ้ไนต์ บนโต๊ะกระจกหน้าทีวีถูกวางเกลื่อนไปด้วยกระดาษนู่นนี่นั่น แล้วหนึ่งในนั้นคือรายงานเล่มนี้
  
  “นาย กนต์นธี... เฮ้ย!!!” จู่ ๆ รายงานเล่มนั้นก็ถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา ไอ้ไนต์!! อ่านไม่ทันจบเลย ใครวะ กนต์นธี แต่เห็นนะเว้ย กูเห็นนะมันเขียนไว้ว่า ‘มัธยมศึกษาปีที่ 6’
  
  “ไม่มีอะไร มึงนี่ซนจังเว้ย”
  
  “ของใครวะ?” ผมจ้องไอ้ไนต์เขม็ง ส่วนมันก็จ้องผมตอบ
  
  “ของหลานกู!!!”
  
  “เสียงดังหาพ่อง! มีพิรุธนะมึงเนี่ย” ไอ้ไนต์กลอกตาล่อกแล่ก พิรุธออกสัดหมา
  
  “เด็กมึงอ่ออออออ?” ผมลากเสียงยาวทำหน้าล้อมัน
  
  “เด็กพ่องไอ้สัด! ปวดหัวก็นอนไป!!”
  
  “มีความลับกับกูเหรออออ กิ๊กมึงใช่มะะะ”
  
  “เอ่อ....” อึกอักแบบนี้แม่งใช่แน่ ๆ แล้วเด็กคีรตินั่นเป็นใคร คำนำหน้าว่านาย.. เฮ้ย!!! นาย!!!
  
  “ไอ้ไนต์มึง!”
  
  “เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง” มันยกมือยอมแพ้ แล้วทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้นวม ผมยกขาขึ้นมานั่งขัดสามธิบนโซฟาตัวใหญ่
  
  “เรื่องมันมีอยู่ว่า...”
  
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  
  
  
  
  “เรื่องอะไรกูจะบอกมึงวะ!!!”
  
  
  
  
  ตุ๊บ!!
  
  หมาไนต์พูดจบก็หัวเราะลั่น จากนั้นหมอนอิงใบใหญ่ในมือผมก็ลอยกระทบกับหน้าหมา ๆ ของมันเต็ม ๆ ไอ้สัด!!!
  
  “สารเลว!!!”
  
  
  “กร้ากกกกกกกกกก หน้ามึงอย่างเอ๋ออ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” หัวเราะตายไปเลยนะไอ้ห่า
  
  
  
  
  “มึง...” ผมเรียกไอ้ไนต์ที่กำลังกินมันฝรั่งทอดกรอบตาก็จ้องทีวีที่กำลังฉายการ์ตูนเจ้าหญิงบาร์บี้ -_-
  
  “ไรวะ?” มันพูดด้วยแต่ไม่มองหน้าเพราะยังสนใจพวกบาร์บี้อยู่ ไอ้สัดเอ๊ย!! โตเป็นควายแล้วยังดูบาร์บี้อยู่อีก ถ้าดูอย่างอื่นกูจะไม่แปลกใจเลย ตอนแรกที่รู้ว่าหมาไนต์มันชอบบาร์บี้นะ ผมนี่ช็อคไปเลย. . .
  
  “กลุ้มว่ะ” เปลี่ยนจากนั่งขัดสามาธิเป็นชันเข่าแล้ววางคางบนเข่า
  
  “เรื่องไรวะ?” มันยังไม่หันมาสนใจเลยผม T___T
  
  “กู...”
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  “กูกำลังมีความรัก T_______T”
  
  
  
  
  
  
  “มึง!! มึงว่าไงนะ!!!!” ไอ้ไนต์ทิ้งห่อขนมและปิดทีวีทิ้งเจ้าหญิงบาร์บี้แล้วหันมาจ้องหน้าผม แงงงงงง ผมคิดอะไรอยู่ถึงพูดมันออกปายยยยยยยยยยยยยยย อยากร้องไห้ฉิบหายครับ
  
  
  “ไม่พูดซ้ำ”
  
  “มีความรัก ไอ้ห่า!! ตั้งแต่เมื่อไหร่” เห็นมะ แม่งไม่ใช่ไม่ได้ยินจริง ๆ สักหน่อย โด่วววว
  
  “ไม่รู้ว่ะ มึงงงงง กูจะทำยังไงดี”
  
  “มึงรักใคร?”
  
  “เอ่อ...” ผมกลอกตาล่อกแล่ก พูดไม่ออก บอกไม่ถูก เรื่องแบบนี้มันพูดยากนะเว้ย!!!!
  
  “ให้กูเดานะ....” ไอ้ไนต์พูดพลางแสยะยิ้ม ป๊าาาาาา ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยย T______T
  
  
  
  
  


  
  “ไรเฟิล....ใช่ไหม?”
  
  
  
  “O_O ม มึง!!!” โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย กูอยากจะร้องไห้!!
  
  “มึงรู้ได้ไง..?”
  
  “ใครดูไม่ออกก็โง่แล้วไอ้สัด!” เดี๋ยว.. คือไรวะ ขนาดกูยังเพิ่งรู้ตัวไม่กี่วัน มึงเป็นใคร!!! มารู้ความรู้สึกกูได้ยังไง TwT
  
  “หึง หวง ห่วง ครบเลย! มึงแสดงออกไปแบบที่มึงไม่รู้ตัว” ผมกลืนน้ำลายลงคอ โฮฮฮฮฮฮ กูไปทำอะไรแบบนั้นตอนหนายยยยยยยยยยยย
  
  “ToT”
  
  “ดูทำหน้าเข้า มึงจะบอกมันไหม?” ผมสั่นหัวจนผมกระจาย
  
  “ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวเสียเพื่อน”
  
  “เสียเพื่อนแต่ได้ผัวนะเว้ยยยยย!” ผัวเหี้ยอะไร! ไม่คิดว่ากูจะเป็นผัวมันบ้างหรือไง โธ่!
  
  “หึ ถ้าบอกแม่งคงเกลียดกูอ่ะ ปล่อยไว้แบบนี้แหละ” ว่าแล้วก็ซบหน้ากับเข่าตัวเอง เฮ้ออออ แอบรักแบบนี้ก็คงจะสนุกเนอะ ..... เหรอวะ?
  
  “หึหึ มึงรู้ว่าชอบมันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
  
  “ไม่กี่วันก่อน. . .”
  
  “อื้อฮึ จีบมันเล้ยยยยยยย กูเชียร์”
  
  “ไม่เอา. .  แล้วมึง มึงไม่รังเกียจกูเหรอ กู... กูชอบผู้ชายอ่ะ”
  
  
  
  โป๊ก!!!
  
  
  “รังเกียจส้นตีนอะไร มึงเพื่อนกูนะเว้ย คิดได้นะมึงน่ะ” แค่นี้ต้องเขกหัวด้วย เจ็บง่ะ
  
  
  
  
  ....ซึ้งเลย
  
  
  
  “ทำไมมึงบอกกู ไม่กลัวกูเอาไปบอกคนอื่นหรือไง?” ผมสั่นหัว ถึงมันจะปากหมา ปากเสียไปบ้าง(เอ้อะ..) แต่มันไม่ใช่พวกที่ชอบเอาเรื่องคนอื่นไปพูด.. ยิ่งผมเป็นเพื่อนมันด้วย..
  
  “เพราะ.. มึงเป็นเพื่อน.. คนแรก(ตั้งแต่อยู่ประเทศไทย)ของกู”
  
  
  
  
  “หวายยยยยยยยยยยยยยย ดีใจจุงเบยยยยยยยยยย” จุงเบยพ่อง!! หมดซึ้งเลยไอ้ห่า!
  
  
  
  
  ครืดดดดดด ครืดดดดดด
  
  “ฮาโหย๋ววววว” ไอ้ไนต์รับโทรศัพท์ทำเสียงแอ๊บแบ๊วจนน่าถีบ
  
  “เออ มันอยู่กับกูเนี่ย ........ ที่ห้องกูดิ ...... หูยยยยย นอนกอดทั้งคืนเลยง่ะ ..... ตัวโคตรนิ่ม หอมด้วย จุ้บบบ”
  
  “หอมแก้มกูหาพ่อมึงหรอ!!!!” ผมทุบไอ้ไนต์ ไอ้ห่าาาาาา อยู่ ๆ มาหอมแก้ม ขนลุกหมด ไอ้เหี้ยไนต์ไม่มีสลดห่าเหวอะไรทั้งนั้น มันหัวเราะคิกคัก มีความสุขนักนะมึง!
  
  
  “กร้ากกกกกกกกกกกก อยากเพิ่งด่าครับสัด ....... เออ จะมาก็มา ซื้อของกินเข้ามาด้วย ........... พูดมากเดี๋ยวกูกินเห็ดก่อนมึงเลยนี่ หึหึ” แล้วมันก็วางสาย
  
  “ใครโทรมาวะ?”
  
  “ว่าที่ผัวมึง”
  
  
  
  
  โครม!!!!
  
  
  มันพูดจบผมก็ถีบมันจนมันหน้าคว่ำ ตกโซฟา สัด! กูไม่น่าเล่าให้มึงฟังเล้ยยยยยยยยยยยย!
  
  
  “ไอ้สัดเห็ด!!!!”
  
  
  ผมแลบลิ้นใส่มัน ตบตีกันอยู่เกือบสิบนาทีไอ้ไนต์ก็ยกมือยอมแพ้ กระดิกนิ้วเรียกผมเข้าไปใกล้แล้วกระซิบบางอย่างที่ทำให้ผมใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ...
  
  
  
  อยากรู้ล่ะสิ... ว่ามันบอกอะไรผม...
  
  
  
  ไม่เอา ไม่บอกหรอก ผมเขิน (เอามือกุมแก้มทั้งสองข้าง) อีกอย่างเผื่อมันอำเล่น (กอดอก ถอนหายใจ) ผมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองนะ. . . (ทำตาละห้อย)
  
  
  อะไร? อยากรู้เหรอ บอกก็ด้ะะะ ไอ้ไนต์มันบอกว่า....
  
  
  
  
  ‘มึงรู้ป่ะ ไรเฟิลน่ะ. . . . ก็. . . .
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  คิดแบบมึง’
  

  
  
  
  
  
  
  
  
  
  ....................................................................
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  “อยากกินอันนี้ อันนี้ อันนี้แล้วก็อันนี้ด้วย หูยยยยย อันนี้ก็น่ากิน” ผมชี้นิ้วไปที่ขนมที่วางเรียงอยู่ในตู้ ระรานตาไปหมด หลังจากกลับจากห้องไอ้ไนต์ ไรเฟิลมันก็ลากผมกลับไป ไล่ให้ไปเปลี่ยนชุด(ตอนนั้นใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงบ็อกเซอร์ของหมาไนต์) แล้วก็ลากผมออกมาข้างนอกอีกครั้ง งงมะ ;-;
  
  
  
  
  แล้วตอนนี้มันพาผมที่ร้านขนมเปิดใหม่ ร้านสีขาวน่ารักม้ากกกกกกกกกกมาก! ไม่รู้มันไปสรรหามาจากไหน เอ่อ... ชื่อร้านสีขาวจริง ๆ ครับ ทุกอย่างในจะถูกตกแต่งด้วยสีขาวซะส่วนใหญ่
  
  
  “แดกเยอะ เปลือง” ยู่หน้าใส่แม่ง
  
  “จิ๊!”
  
  “กูยังไม่หายโกรธมึง 100% นะครับ มึงไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไร”
  
  “ง่ะ...”
  
  “ไปนั่งที่โต๊ะไป เกะกะ” บอกไม่พอ เอาเท้าเขี่ยกูอีก ผมหน้างอ เดินหนีไ ปนั่งที่โต๊ะตามที่มันบอก
  
  
  รอเซ็ง ๆ ก็เอาโทรศัพท์มาเล่น เลื่อนดูทวีตจนหมด ก็เข้าไปดูเฟซบุ๊ก เลื่อนดูจนหมด ก็เข้าไปดูอินสตาแกรม พอดูจนหมดอีกก็เลยล็อคสกรีนเอาไว้แล้ววางลงบนโต๊ะ
  
  
  
  
  “ช้า. . .” คำพูดถูกกลืนลงคอ เปลี่ยนเป็นอ้าปากค้าง มองขนมในถาดที่ไรเฟิลยกมา น นั่น! มีแต่อันที่ผมบอกว่าอยากกินทั้งนั้นเลย!

  “ท ทำไมเยอะงี้?”
  
  “หมาที่บอกอยากกิน?” ผมงี้ยิ้มกว้างเลย ขยันทำกูใจสั่นจังเลยไอ้เหี้ย ฮืออออออออออออ T____T
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  “หยิบกล่องด้านหลังมาให้กูดิ้” ผมพยักหน้าหงึกหงัด ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเอี้ยวตัวไปหาไอ้กล่องที่ว่านั่นให้ไรเฟิล เราอยู่บนรถกันครับ กำลังจะกลับล่ะ
  
  “โห... รกสัด” ผมบ่น คือมันรถมากจริง ๆ นะ อะไรบ้างเนี่ย กล่องรองเท้า ถุงเสื้อ กระเป๋า ชีท เกลื่อนเลย แล้วกล่องที่ว่านี่มันคือกล่องอะไรวะ โอ๊ะ!!
  
  
  “เจอยัง?”
  
  “อันนี้มะ. . . . จุ้บ”
  
  
  
  
  
  ไอ้สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
  
  
  
  
  ผมนิ่งค้าง เบิกตากว้าง คือ คือเมื่อกี้ ผม ผม ผมหอมแก้มไรเฟิลอ่ะ แง มันเป็นอุบัติเหตุนะ! ก็ตอนที่จะหันกลับนั่งดี ๆ ไรเฟิลมันก็ยื่นหน้ามาพอดี แล้ว แล้ว แล้วปากกับจมูกผมก็ชนกับแก้มมันเต็ม ๆ เลย T______T
  
  “หึ” อย่าทำเสียงอย่างนั้นสิ ฮืออออออออออออ
  
  “ม มัน เอ่อ... ไม่ได้ตั้งใจนะเว้ย!”
  
  ผมรีบโวยวาย แล้วจะโวยวายให้มันแปลก ๆ ทำไมเล่า!! เหมือนแก้ตัวเลยอ่ะ ToT หน้าร้อนเกินไปแล้ว แก้มผมต้องแดงแน่ ๆ เลย ใจเต้นเร็วฉิบหายเลยด้วย มันอึ้งอ่ะ แต่ แต่แก้มไรเฟิลมันหอมง่ะ แล้วมันมันก็ฟินด้วยอ่ะ แง ไม่ใช่ดิ สติ!!! สติกลับมาได้แล้ว!!!  ฮือออออออออ ผมเป็นอารายยยยยยยยยยยยย T_____________T





----------------------------TBC.


วันนี้(สิบธันวา) นิยายเราครบสองเดือนแล้วค่ะ!!!!! (รัวมือ)
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลย ทั้งคนเม้นต์ คนอ่าน คนซุ่ม ยอดวิวก็ห้าพันกว่าแล้ว เย้!
(แค่คนเขียนคนเดียวก็ปาไปห้าพันแล้ว กำแบ..)

*จากตอนที่แล้วมีคนงงกัน...
บอกตรง ๆ นะคะ เราก็งงเหมือนกันค่ะ 5555555555555555555555 (เห็นน้ำตาในเลขห้าพวกนั้นไหม)
ยอมรับเลยค่ะ ว่าเขียนได้ไม่ดีนัก สื่อความหมายก็ยังอาจจะไม่ดีเลยทำให้งง ๆ กันไป ยังไงก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ เราจะได้เอาไปปรับปรุงตัวเอง .____.


สุดท้ายนี้ก็ขอฝากนิยายกาก ๆ เรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 18 (10.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 10-12-2014 22:06:03
น้องเห็ดน่าร้ากกก o13 :m20:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 18 (10.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-12-2014 22:59:39
เมื่อไรจะตกลงเป็นแฟนกัน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 18 (10.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 10-12-2014 23:22:15
เราว่าเรื่องนี้ไม่กากนะคะ  ..  เขียนออกมาได้ดีเลยล่ะ
เราอ่านแล้ว เราชอบมาก 555555
ได้แต่นั่งลุ้น กัดหมอน ดูเค้าห่วงกันไปกันมา
อ๊าากกกกกกกกกก!!!!! เมื่อไหร่จะแดกกันเอง ฮ่าาาา
แต่ก็น่ารักดีค่ะ ตัวละคร ค่อยๆมีพัฒนาการ เรื่องความรัก ♡
เราชอบนะ  (เม้นยาวไม่เป็น แต่ยังรอที่จะอ่านอยู่เสมอนะ)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 18 (10.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 11-12-2014 00:00:51
เมื่อไหร่เค้าจะได้กันเอ้ยคิดตรงกัน เค้าลุ้นจนเยี่ยวเหนียวร้ะ  :hao6:  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 18 (10.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: jusmine ที่ 16-12-2014 20:38:59
มารอ...... :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 19 (16.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 16-12-2014 21:21:52
EPISODE 19









  ตั้งแต่วันที่รู้ตัวว่ารู้สึกเกินกว่าเพื่อนกับไรเฟิล นี่ก็ผ่านมาเดือนกว่าแล้วครับ ควบคุมตัวเองยากฉิบหาย ไม่รู้ว่ามันเป็นคนหรือกาแฟ. . . อยู่ใกล้ทีไรใจก็สั่นอย่างกับแผ่นดินไหว... เฮ้ออออ เหนื่อยครับบอกตรง ๆ เหนื่อยที่ต้องพยายามบังคับตัวเองไม่ให้แสดงอาการอะไรออกไป เหนื่อยที่ต้องห้ามตัวเองไม่ให้โวยวาย เหนื่อยที่ต้องห้ามตัวเองไม่ให้หึงหรือหวงมัน เพราะผม
  
  
  
  
  
  
  
  
  . . .ไม่มีสิทธิ์. . .
  
  
  
  
  
  
  อย่างเช่นตอนนี้. . . .
  
  
  
  “ไรเฟิลคะ วันนี้กรีนกลับด้วยนะคะ” กรีน. . . สาวสวยแห่งเศรษฐศาสตร์ เป็นดาวคู่กับไรเฟิลเมื่อสองปีก่อน คนเดียวกับคนที่หาเรื่องผมตอนไปหาไรเฟิลที่คณะนั่นแหละครับ .....เจ๊ปากแดง (กลอกตามองบนแล้วเบ้ปาก)
  
  “ผมไม่ว่าง กรีนกลับไปก่อนเถอะ”
  
  “แต่ว่า...”
  
  “กลับไปเถอะครับ”
  
  “ก ก็ได้ค่ะ แต่วันเสาร์นี้ไรเฟิลต้องไปดูหนังกับกรีนนะ”
  
  “ครับ ๆ”
  
  
  
  ผมแอบเบ้ปากกับบทสนาทาแสนหวาน(?)ของทั้งสอง เจ๊เขียว(เอ่อ... ได้ข่าวว่าเจ๊แกชื่อกรีนนะนังหนู)ยิ้มร่าจนเห็นริ้วรอยใต้ตา ก่อนจะไปก็จุ้บแก้มไรเฟิลไปที จิ๊! ไอ้บ้านั่นก็อยู่นิ่ง ๆ ให้เขาหอม
  
  
  
  บอกตรง ๆ หมั่นไส้.  .  .
  
  
  ทำไมกูต้องมาฟัง มาดูอะไรที่มันเสียดแทงหัวใจตัวเองด้วยเนี่ย
  
  
  “หึหึ” ผมตวัดสายตาไปมองไอ้ไนต์ที่หัวเราะในคอมองผมอย่างรู้ทัน
  
  ปึก!
  
  ผมชกไหล่มันไปด้วยแรงปานกลาง ลงกับตัวต้นเหตุไม่ได้ก็ลงกับเพื่อนซี้มันแทนแล้วกัน !
  
  “ใจเย็นนนนนนนนน” มันลากเสียงล้อ ๆ ผมตีหน้ายุ่ง หยิบหูฟังมาใส่แล้วเปิดเพลงกลบเสียงที่พวกมันทั้งสี่คนคุยกัน ฟุบหน้ากับโต๊ะหลบเจ้าของนัยต์ตาสีน้ำทะเลที่กำลังจ้องมองมา
  
  
  
  ครืด~
  
  
  พลิกจอสมาร์ทโฟนในมือขึ้นดู ก็เจอกับแบนเนอร์พรีวิวข้อความจากแอพพิเคชั่นแชทยอดนิยมอย่างไลน์ - -
  
  
  
  
Pharaoh : พี่ควอทซ์!!!!! ผมสอบได้ท๊อปวิชา........
  
  
  พอเข้าไปดูเต็ม ๆ จึงรู้ว่ามันได้ท๊อปวิชาฟิสิกส์ด้วยคะแนน 28:30
  
  
  qrtz : คนติวเก่งก็งี้
  
  (สติ๊กเกอร์มูนถือแก้วไวน์ขยิบตาหนึ่งข้างมีประกายวิ้งค์ ๆ อยู่รอบ ๆ)
  
  Pharaoh : ครับโผมมมมมมมม เก่งเหี้ยยยยยยยยยยเลย!
  
  (อิโมจิผู้ชายผู้เขียวกลอกตาไปทางขวา)

  
  qrtz : (สติ๊กเกอร์หมีบราวน์ตีเข่าใส่โคนี่)
  
  

  
  อย่าสงสัยว่าผมไปสนิทกับฟาโรห์ได้เยี่ยงไร เพราะผมกำลังจะบอก.. เรื่องมันมีอยู่ว่า ไอ้วอร์มมันเอาผมไปโฆษณาว่าเก่งอย่างนู้นอย่างนี้(ยืดอกรับด้วยความภาคภูมิใจ) แล้วแม่งเสือกยัดเยียดตำแหน่งติวเตอร์จำเป็นให้ผมน่ะสิ!! พอผมปฏิเสธแม่งก็สรรหาคำตัดพ้อต่าง ๆ นานา สารพัดมากรอกหู จนสุดท้าย!! ฟาโรห์มันก็มารบเร้าให้ผมช่วยติวให้เพราะมันอยากเรียนวิศวะจริง ๆ แล้วเป็นไง? คนหล่อมาก หน้าตาดีโคตร ใจดีสุด ๆ แบบผมจะไม่ช่วยมันก็ยังไงอยู่นาาาาา (ถุยยยยย)
  

  
  ผมนัดติวให้มันสัปดาห์ละสามวันเอง ผมเองก็มีเรียนนี่หว่า แถมยังต้องทำงานอีก สามวันนี่ก็เยอะแล้วนะเออ
  

  แล้วมีอยู่วันหนึ่งครับ!!! ไรเฟิลมันบังเอิญมาเจอผมกับฟาโรห์!! แล้วเป็นไงล่ะ? พวกมันก็ ป๊ะ!! ตู้มมมมม เกิดเป็นโกโกครันช์อร่อยเต็มรสช็อกโกแลต! (ยังจะเล่น - -) เปล่า ไม่ได้ตีกัน คือพวกมันรู้จักกันง่ะ แต่ที่ช็อคกว่านั้นคือ !!!!!!
  
  
  

  ฟาโรห์เป็นน้องชายแท้ ๆ ของไรเฟิลครับคุณ!!!! สัดหมามากมาย. . . ตอนนั้นผมแดกจุดไปเลย จำได้ไหมครับ ที่ผมเคยพูดว่าฟาโรห์มันคล้ายใครสักคนที่ผมรู้จัก ยิ่งตาฟ้านั่นนะ! แล้วผมก็กระจ่างเลย พอแม่งยืนด้วยกันคือเหมือนกันมากกกกกกกกกกกกกกกก ไรเฟิลสูงกว่าฟาโรห์ประมาณ 5-6 เซนได้ โครงหน้าก็คล้ายกัน ตากับจมูกยิ่งเหมือนกัน มีเพียงแค่สีผมที่ต่างกัน (ผมฟาโรห์สีน้ำคาลหม่น ๆ)
  
  เฮ้ออออออออออออ โลกมันกลมหรือโลกมันแคบผมก็ยังแยกไม่ค่อยออก
  
  
  Pharaoh : อิอิ
  
  Pharaoh : เย็นนี้เลี้ยงไอศกรีมผมด้วยยยยยยยยยยยย
  
  Pharaoh : ลืมบอกแฮะ ไอ้เทมส์ได้ 25 อ่ะ กากกกกกกก!
  
  (สติ๊กเกอร์กุมท้องอ้าปากกว้างหัวเราะ)
  
  qrtz : ไม่เลี้ยงโว้ยยยยยยยยยย
  qrtz : บอกมันว่าดีใจด้วย ^O^

  
  
  “คุยกับใคร?” เบนสายตาไปมองคนพูด เสียงเรียบยิ่งกว่ากระดาษเอสี่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน...
  
  “ยุ่ง” ผมตอบกลับ ใบหน้าหล่อฉายความไมาพอใจอย่างชัดเจน ผมต้องสนใจไหมงะ? ;-;
  
  
  
  Pharaoh : ตกลงว่าเลี้ยงนะพี่! 16.30 ที่ร้าน B1 นะ
  
  qrtz : ไม่โว้ยยยยยยยยยยยยย!

  
  
  
  
  
  
  “กี่โมงแล้ววะ” ผมโพลงถาม ไม่ได้เจาะจงใคร
  
  “สี่โมงสิบสอง” กายเงยหน้าจากตำรามาตอบ ซึ้งมาก น้ำตาจะไหล แต่!!
  
  “ฉิบหาย! กูไปก่อนนะเว้ยยย” ผมกวาดของที่อยู่บนโต๊ะลงกระเป๋าลวก ๆ
  
  “ไปไหนวะ” เชี่ยฟอร์ส ดึงกูไว้ทำมายยยยยยยยยยยยย
  
  “มีนัด ไปนะ บายยยยย” แกะมือไอ้ฟอร์สออกแล้ววิ่งออกมา
  
  
  หมับ!
  
  
  “จับไมมม ปล่อยยยยย”
  
  “ไปกับกู” คนพูดว่าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ยัดผมเข้าไปในรถคันหรู
  
  
  
  ตั้งแต่ขึ้นรถมา ผมก็ไม่คุยกับมันสักคำ ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยย น่าหงุดหงิดเหี้ย ๆ อ่ะ มายุ่งกับผมเพื่ออะไรวะ
  
  “ปากจะชนจมูกแล้ว”
  
  “เรื่องของกู!”
  
  “พูดได้แล้วหรือไง?”
  
  “จิ๊!”
  
  “เป็นอะไร?”
  
  “ไม่รู้!” ผมตอบเสียงห้วนติดจะเหวี่ยง งี่เง่า....
  
  “แค่พูดออกมา...”
  
  ผมเงียบ ไม่เข้าใจคำพูดของไรเฟิล จะสื่อถึงอะไร? ให้พูดอะไร? เหอะ!
  
  
  
  
  
  
  
  
  

  ...................................................................................
  
  
  
  


  
  
  
  :: B1 ::
  
  
  
  รู้ได้ไงว่าต้องมาที่นี่..
  
  “ลืมไปแล้วหรือไง ฟาโรห์น้องกู” ไรเฟิลพูดขึ้น หน้าผมคงมีแต่คำว่างงเต็มไปหมด
  
  ฟาโรห์!!! ไอ้เด็กกบฏ!!
  
  
  
  
  “พี่!! ทางนี้ครับ!!” เสียงติดแหบของฟาโรห์ดึงสติผมคืนมา มันกำลังโบกมือไหว ๆ อยู่มุมหนึ่งของร้าน ที่โต๊ะไม่ได้มีแค่มัน แต่มีเทมส์และเด็กผู้หญิงอีกคน. . . ใครวะ?
  
  “ไม่รู้ว่าพี่เฟิลจะมาด้วย” น้องผู้หญิงหน้างอ ไรเฟิลยิ้มบางยื่นมือไปยีผมเด็กคนนั้นเบา ๆ มันดูอบอุ่นแปลก ๆ แฮะ..
  
  “ก็บอกแล้วว่ามีเซอร์ไพรส์” ฟาโรห์พูดแล้วยิ้มกว้างโชว์รอยบุ๋มข้างแก้ม
  
  “ก็ตัวไม่บอกเค้าว่าพี่เฟิลมาด้วยนี่”
  
  “บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิวะ”
  
  
  

  “พี่ควอทซ์จะกินไรอะ เดี๋ยวผมสั่งให้”
  
  “ห ห้ะ?”
  
  “ผมว่าจะกินอะไรครับ?” ไอ้เทมส์พูดช้า ๆ ชัด ๆ อีกครั้ง
  
  “อ เอ่อ สตรอเบอร์รี่โซดา”
  
  “สั่งเยอะ ๆ เลยพี่ ไม่ต้องเกรงใจ! พี่เลี้ยงทั้งที” ผมรู้สึกอยากเอาตีนลูบหน้าฟาโรห์จังเลยครับ กวนตีน..
  
  “สัด...”
  
  “งั้นเดี๋ยวผมเลือกให้ ไอ้ฟามึงมากับกู”
  
  “เดี๋ยว ๆ แล้วพี่จะกินไร จะได้สั่งทีเดียว” ฟาโรห์ดึงแขนเทมส์ไว้แล้วถามไรเฟิล
  
  “ไวท์ช็อกฯ มอคค่า”
  
  “รอสักครู่นะครับผม” พอสองคนนั้นเดินออกไป ทั้งโต๊ะก็เหลือเพียงความเงียบ แต่ไม่นานน้องที่นั่งอยู่อีกฝั่งก็พูดขึ้น (ผมกับไรเฟิลนั่งที่โซฟาฝั่งเดียวกัน ส่วนโซฟาฝั่งตรงข้ามคือที่ของเด็กสามคนนั้น)
  
  “พี่คนนี้ ใครเหรอตัว?”
  
  “เพื่อนน่ะ ชื่อควอทซ์”
  
  “สวัสดีค่ะพี่ควอทซ์ หนูชื่อสฟิงซ์นะคะ เรียกฟิงซ์ก็ได้ เป็นน้องสาวพี่เฟิลกับฟา ^O^” น้องฟิงซ์ยิ้มให้ น่ารัก... น่ารักเหี้ย ๆ เดี๋ยว! เมื่อกี้น้องบอกว่าไงนะ! น้องสาว!! น้องสาวของไรเฟิลเหรอ! คือก็พอรู้มาบ้างว่ามันมีน้องแต่ไม่เคยเจอไง พี่ขอโทษที่แวบนึงคิดว่าน้องเป็นเด็กในสต็อคของไรเฟิล TwT
  
  “อ่า สวัสดีครับ ^^”
  
  “อร้ายยยย! ยิ้มน่ารักจัง!”
  
  “แฮะ” ผมเกาแก้มแก้เก้อ คือแม่งมีสาวมาชมผมอ่ะ!!
  
  แปะ!
  
  โดนมารขัดจนได้ - - ผมถลึงตาใส่ไรเฟิลที่ตบแปะที่แก้มผม ไม่แรงแต่แก้มสั่น สัด
  
  “น้อย ๆ หน่อย”
  
  “ไอ้...”
  
  


  
  “มาแล้วคร้าบบบบบบบ” สองเพื่อนซี้กลับมาพร้อมกับขนม ไอศกรีม และเครื่องดื่ม
  
  “ทำไมเยอะงี้วะ!” ผมโวย คือกูต้องเลี้ยงป่ะ?
  
  “ไม่เยอะหรอก ถ้าไม่อิ่มก็สั่งเพิ่มได้นะพี่ ไม่ต้องเกรงใจ” ไอ้ฟาโรห์ลอยหน้าลอยตายิ้มแป้นแล้น
  
  
  “ฟา! เค้าขอชีสเค้ก!!” แล้วน้องฟิงซ์กับไอ้ฟาก็ก่อสงครามแย่งชิงชีสเค้ก
  
  “ของฟา! ตัวก็กิบบราวน์นี่ตัวไปสิ!”
  
  “เค้าอยากกินอ่ะ! เอามาให้เค้านะ!” คนพี่ก็ไม่ยอม ไอ้คนน้องก็ไม่ยอม สรุปชีสเค้กชิ้นนั้นเสร็จม้ามืดอย่างไอ้เทมส์ไป สองพี่น้องนั้นถึงกับเหวอ ผมล่ะอยากจะหัวเราะ
  
  “หื้มมมมมมมมมมม อร้อยยยยยยยยยอร่อย เนื้อเค้กนุ่มสัด ๆ อ่ะ” เทมส์ตักเค้กเข้าปากแล้วทำหน้ายั่ว(ตีน) สองพี่น้องได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
  
  “แล้วไม่ไปไปสั่งใหม่เล่า?”
  
  “มันเหลือชิ้นเดียวง่ะ” ฟาโรห์ตอบคำถามพี่ชาย ผมไม่ได้สนใจพวกมันแล้วเพราะกำลังสนใจกับเค้กช็อกโกแลตตรงหน้าแทน
  
  

  “อุ้ยยย” เสียงน้องฟิงซ์ร้องเบา ๆ ในจังหวะที่สัมผัสอุ่น ๆ แตะที่เหนือริมฝีปากของผม กระพริบตาปริบ ๆ มองไรเฟิลที่ใช้นิ้วเช็ดคราบช็อกโกแลตที่เลอะอยู่ออกให้ ก่อนจะเอานิ้วมาปาดริมฝีปากผมอีกที ไอ้สัดเอ๊ยยยยยยยยยยยยย ลมแทบจับ หัวใจแทบหลุด ฮือออออออ T_____T
  
  “เด็ก” มันยกยิ้ม
  
  “ว่าใครเด็ก!!”
  
  “ว่าฟิงซ์” มันยักคิ้วข้างนึง ไอ้กวนตีน!!! นอกจากกวนตีนแล้วยังกวนใจอีก ฮอลลลล
  
  “อ้าววววว เค้าเกี่ยวไรอ่ะ ;-;”
  
  “น้องสาวก็น่ารัก แต่ทำไมพี่ชายถึงน่าถีบ” ผมพูดลอย ๆ ลอยไปกระทบไรเฟิลกับฟาโรห์โครมใหญ่ ส่วนน้องฟิงซ์ก็ยิ้มกว้าง ฟาโรห์หน้างิก ไรเฟิลกดยิ้ม
  
  “อ้าว..”
  
  “พี่ควอทซ์น่าย้ากกกกกกกกกก” ยิ้มสิครับรอเหี้ยอะไรอยู่! ไม่น่าเชื่อว่าไอ้คุณชายจะมีน้องน่ารักขนาดนี้ ลืมไปก่อนว่าชอบมัน ตอนนี้ขอจีบน้องฟิงซ์ก่อนได้ไหมงะ
  
  “หล่อเถอะครับ”
  
  “หูยยยยยยยยย อย่างพี่ควอทซ์ต้องน่ารักค่ะ! หน้าอย่างนี้ไม่เรียกหล่อ!”
  
  “555555555 / หึ” ไอ้สามคนที่นั่งฟังหัวเราะ - -
  
  “พี่หล่อนะ! หล่อมากด้วย!” ผมเถียง น้องฟิงซ์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ราวกับจะสำรวจ
  
    “ตาโต๊โต ขนตาก็ย๊าวยาว งอนเด้งยิ่งกว่าติดขนตาปลอมทามาสคาร่า ปากก็แดง ผิวก็ขาวยิ่งกว่าหยวกอีก หน้าใสไม่มีสิว ตัวเล็กกระทัดรัดพกพาสะดวก สเปกเกย์ง่ะ รวม ๆ แล้วก็... หล่อมากเลยค่าาาาา” คราวนี้ได้พวกมันหัวเราะดังกว่าเดิม ผมนี่เอ๋อแดกไปเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวดิ!!! มันทะแม่ง ๆ รู้สึกจะขัดกันยังไงไม่รู้ ToT
  
  “เห็นพี่ควอทซ์แล้วอยากจะเป็นเกย์! อ่าาา ทำไมหนูไม่เป็นผู้ชายนะ”
  
  “พอครับ!! หยุด!!” น้องฟิงซ์ไม่น่ารักแล้วว่ะ โอ้ยยยยย
  
  “ความจริงทั้งนั้น”
  
  “หุบปากไปเลย!” ผมเหวี่ยงค้อนใส่ไรเฟิล ไม่มีสลดแถมยังเอามือมายีหัวผมอีก ฟูหมดแล้ว แม่ง!!
  
  “พี่ควอทซ์สูงเท่าไหร่คะ?”
  
  “ร้อยเจ็ดสามครับ” พูดแล้วอยากจะร้องไห้ พ่อผมก็สูงนะ ทำไมถึงได้ให้ความสูงผมมานิดเดียวก็ไม่รู้...
  
  “ว้ายยย” สฟิงซ์ทำหน้าเคลิ้ม ๆ ฟิน ๆ ส่วนผมก็งงสิครับ อยู่ ๆ ก็กรี๊ด ผีเข้าป่ะวะ -0-
  
  “ท ทำไมหรอครับ?”
  
  “เคะง่ะ~”
  
  “เลิกเพ้อได้แล้วยัยบ้า!” ขอบคุณฟาโรห์ที่ช่วยชีวิต T_T
  
  
  

  “พี่ควอทซ์ลองนี่ อร่อยมาก!” เทมส์ดันจานเค้กชาเขียวมาให้ โดยมีฟาโรห์กับสฟิงซ์พยักหน้ารัว ๆ ราวกับจะยืนยันคำพูดของเทมส์
  
  
  เค้กชาเขียว...
  
  
  ชา...เขียว...
  
  
  เขียว....

  
  
  “กูไม่ชอบสีเขียว!” ผมพูด ดันจานเค้กชิ้นนั้นคืนให้เด็กสามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
  
  มันอาจจะ.. ไม่อาจดิ มันไร้สาระถ้าผมจะบอกว่าแค่เห็นเค้กนั่น หน้าของกรีนก็ลอยมา แล้วพาลไม่อยากกิน ทั้ง ๆ ที่ผมโคตรชอบเค้กชาเขียวด้วยซ้ำ อคตินี่มันอคติจริง ๆ
  
  “โด่ววววว / ง่ะ”
  
  “ชอบไม่ใช่หรือไง?” ไรเฟิลพูด
  
  “ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว!” เพราะมึงนั่นแหละ หุ้ยยยยย
  
  “ไร้สาระ”
  
  “เรื่องของใครล่ะ?”
  
  “ควอทซ์!!”
  
  “เสียงดะ...”
  
  “อย่าทะเลาะกันสิค่ะ...”






-------------------------------------TBC.

มาแล้วค่าาาาาาาาาา ถ้าบอกว่าที่ไม่ได้มาอัพเพราะลืมนี่จะมีคนด่าเราไหม  :hao5:
ชะนีสีเขียวนี่มายังไงอ่ะ  :katai1:

มันดูยืด ๆ เนอะ 55555555555555555555555555
อีกไม่นานเดี๋ยวสองนางเขาก็.. ล่ะ -/////////////-

ขอบคุณคนทุกท่านนะคะ รักนะ จุ้บ ๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 19 (16.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 16-12-2014 22:41:24
ไรเฟิลชัดเจนแบบเยอะๆโหน่ยยยยยย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 19 (16.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-12-2014 00:01:13
สาระคือ...ศัตรูหัวใจ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 19 (16.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 17-12-2014 09:40:05
เรื่องนี้สนุกง่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 19 (16.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 17-12-2014 10:27:25
ปากแข็งกันอยู่นั่นแหละ ชอบก็บอกไปเลยดิ :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 19 (16.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 17-12-2014 17:28:03
แบบว่าหึงเบาๆนะน้องควอทซ์ ><
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 20 (19.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 19-12-2014 21:10:47
EPISODE 20








  “อื้อ...”
  
  เสียงครางอื้ออาดังเล็ดรอดออกมาจากลำคอ ใบหน้าเอียงรับจูบดูดดื่มที่อักฝ่ายมอบให้ สติที่ขาดหายเพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ทำให้ผมไม่ขัดขืน หนำซ้ำยังจูบตอบเสียด้วย!!!!! แผ่นหลังบางแนบชิดกับผนังห้อง แขนเล็กวาดโอบกอดรอบคอคนตัวสูง ร่างกายของผมกับมันเบียดเสียดกันจนไร้ช่องว่าง. . .
  
  “อา. . .”
  
  เรียงลิ้นชื้นเกี่ยวกระหวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร มือหนาสอดแทรกเข้ามาภายใต้เสื้อยืดที่ผมสวมใส่แล้วลูบไล้ไปทั่ว เสียงจ๊วบจ๊าบดังขึ้นไม่ขาดสาย ปากบางเฉียบของคนตัวสูงขบเม้มริมฝีปากของผมจนบวมเจ่อ มือเรียวขยุ้มกลุ่มผมคนตัวโตกว่าเพื่อระบายอารมณ์วาบหวามที่เกิดขึ้น ปากอิ่มของผมดูดดุนเรียวลิ้นร้อนของอีกฝ่าย เราผละออกจากกันเมื่อเริ่มขาดอากาศ หยาดน้ำสีใสไหลปริ่มที่ขอบปาก. . .
  
  “อ๊ะ!”
  
  ผมเบิกตาโพลงกับความรู้สึกเจ็บที่บริเวณไหปลาร้า จิกเล็บลงบนไหล่กว้างของคนตัวโตที่กำลังซุกไซร้ที่ซอกคอ ร่างสูงผลักผมลงกับโซฟา แต่แล้วศีรษะของผมมันดันกระแทกกับโต๊ะไม้ใกล้ ๆ
  
  “เจ็บหรือเปล่า..?”
  
  เสียงทุ้มแหบพล่ากระซิบถาม ลิ้นชื้นแลบเลียที่หลังใบหู มือหนาลูบบริเวณที่โดนกระแทกเบา ๆ ความเจ็บทำให้สติที่เลือนรางแค่ ๆ กลับคืนมา. . .
  
  “แฮ่ก. . .”
  
  แสงจากด้านนอกที่ลอดผ่านเข้ามาทำให้ผมมองห็นคนที่คร่อมทับอยู่ด้านบน
  
  “อื้อ.. ร ไรเฟิล. . . หรอ?” อีกฝ่ายชะงักแล้วเงยหน้ามาสบตา ใช่. . .จริง ๆ ด้วย ให้ตาย! ผมกำลังทำบ้าอะไรอยู่!
  
  “หึ.. จะต่อไหม?”
  
  “ม ไม่.. ไม่เอา” ผมกระถดตัวหนี ดันตัวอีกฝ่ายออกไปก่อนจะลุกขึ้นเดินโซเซเข้าห้องนอน
  
  เกือบ. . . เกือบไปแล้ว
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  “Shit!”
  
  ร่างสูงสบถลั่น ยกมือลูบหน้าตัวเองอย่างหัวเสียแล้วเดินออกจากห้องพักของเพื่อนตัวเล็กโดยที่ไม่ลืมล็อคประตูให้ด้วย ตอนนี้อารมณ์ของเขามันยังคงมีอยู่และตัวของร่างบางเองก็คงไม่ต่าง.. ให้ตายสิ! เพราะไอ้โต๊ะโง่ ๆ นั้นแท้ ๆ
  
  ไรเฟิลพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด มือหนาหยิบสมาร์ทโฟนออกมาแล้วกดโทรออกหาใครสักคนที่เขาจะใช้ปลดปล่อยความต้องการในเวลานี้. . .
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  ...............................................................................
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  ปวดหัว ปวดหัวเหี้ย ๆ
  
  
  ผมยังคงนอนแช่อยู่บนเตียงนิ่ง ๆ ม้วน ๆ ผ้าห่มมากอด บี้หน้าลงกับหมอน ก่อนจะยกมือขยี้หัวแรง ๆ จนมันฟูหนักกว่าเดิม มองนาฬิกาก็เกือบจะเที่ยงแล้ว โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ อยากจะนอนต่อก็ไม่หลับสักที
  
  “เหี้ย!!” ผมร้องออกมาเมื่อเห็นสภาพตัวเองในกระจก อะไรวะเนี่ย? ปากบวมแดงยังกะโดนมดทั้งรังรุมกัด(?) ที่ผมปากตึง ๆ อ้าวเฮ้ย! ปากแตกได้ไงวะหรือเมื่อคืนไปตีกับใครมา - - (นางปากแตกเพราะโดนกัด) คิสมาร์ที่คอกับบริเวณใกล้ ๆ ไหปลาร้าอีกสองสามรอย โอ้มายก็อด!!!! ไอ้สัด! รอยแม่งชัดมากเลย แล้ว แล้ว แล้วกูจะหน้าร้อนทำเหี้ยไร! ผมรีบกวักน้ำใส่หน้าตัวเอง เพื่อดับไอร้อนที่โชยออกมาจากผิวแก้ม อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  หลังจากอาบน้ำเสร็จ พอเดินออกมาด้านนอกก็แทบทรุด รู้สึกเกลียดตัวเองที่ความจำดีก็ตอนนี้แหละ ฮืออออ T______T แค่เห็นโซฟากับประตูห้องภาพเมื่อคืนก็ลอยมาอย่างกับวีดีโอที่ถูกตั้งเวลาเอาไว้
  
  
  ท้าวความไปเมื่อคืน ไอ้พวกสี่สหายมันนัดสังสรรค์กันแล้วก็ลากผมไปด้วย แล้วผมที่มีอะไรในใจก็เลยดื่มไปซะเยอะ แล้วสุดท้ายเป็นไง? เมาไงครับ! ดื่มไปเยอะขนาดนั้นคอแข็งมาจากไหนก็เมานะเออ ตอนกลับไอ้คุณชายไรเฟิลก็เป็นคนมาส่ง แต่... มันดันทำมากกว่ามาส่งนี่สิ ไม่รู้ว่าหรอกว่าใครเริ่มก่อน ที่น่าอับอายคือผมดันตอบสนองนี่สิ น้ำตาจะไหลหยุดหั่นหัวหอมด้วยครับ. . .
  
  
  ไม่อยากจะคิด ถ้าเมื่อคืนสติผมไม่กลับมาอะไรจะเกิดขึ้น บางทีไรเฟิลอาจจะตกเป็นเมีย(?)ผมก็ได้ แต่เดี๋ยวนะ... ผมสงสัย ทำไมไรเฟิลมันถึงได้มาจูบกับผมล่ะ? คุณไม่สงสัยเหรอ? ไรเฟิลมันผู้ชายนะเว้ย! ไม่มีท่าทางจะพิศวาทผมด้วยเลยนะ(คงมีแค่ผมที่คิดอยู่คนเดียวTwT) แล้วมันมาจูบผมไมวะ แถมเกือบจะทำมากกว่าจูบอีกด้วยง่ะ
  
  
  
  
  
  
  ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองสักนิดว่าอีกฝ่ายก็มีใจ. . .
  
  
  
  แต่. . .
  
  
  
  มันดันเผลอคิดไปแล้วนี่สิจะแก้ยังไง. . .

  
  
  
  
  
  
  “ฮันนี่ฮันนี่เคยแอบรักใครไหม? ไม่เคยล่ะสิ? เฮ้อออออ” บ้า ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ มานั่งคุยกับซีเรียลแบบนี้ได้ไงวะ! แต่จะว่าไป ฮันนี่ฮันนี่ใกล้หมดแล้วนี่หว่า เดี๋ยวค่อยไปซื้อแล้วกัน




  
  จดรายการของที่ต้องซื้อเสร็จก็พับเก็บใส่กระเป๋า ในขณะที่กำลังใส่รองเท้าโทรศัพท์ก็สั่นพอดี
  
  
  “โหลลลล”
  
  (พี่ควอทซ์ว่างป่ะ?)
  
  “ไม่ว่างอ่ะ กำลังจะไปซื้อของ มึงมีไร?”
  
  (พี่จำข้อแม้ที่ผมเคยบอกได้ป่ะ? ตอนที่พี่ไปตามหาพี่ไรเฟิลที่คณะน่ะ)
  
  “..........”
  
  (ไปเดทกัน!)
  
  “!!!!!!!” ช็อคing
  
  (เดี๋ยวผมไปรับที่หอนะครับ) พูดจบมันก็ตัดสายไป ผมได้แต่แดกจุด โธ่ ชีวิต....
  
  
  จำใจลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุด จากกางเกงขาสั้นเป็นกางเกงยีนส์ขายาว จากเสื้อวอร์มแขนยาวที่รูดซิบขึ้นจนปิดคอ ก็เปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ต Military สีเขียวแบบชุดทหาร ติดกระดุมจนติดคอ(ถ้าไม่ติดเม็ดบนแม่งจะเห็นคิสมาร์คที่คอไง TwT) พับแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอก หยิบพีเอสพี เจลลี่ ลูกอม อมยิ้ม หนังสือการ์ตูน หูฟังยัดใส่กระเป๋าเป้ใบโปรด(ที่ไม่ค่อยได้ใช้) รองเท้าก็ผ้าใบนี่แหละ....
  
  
  
  
  
  
  “น่ารักว่ะ” เสียงทักจากไอ้แพค มันยืนกอดอกพิง Maserati Granturismo สีขาวของมันอยู่ สวยง่ะ TwT
  
  “ตีนหนิ” ผมยกเท้าถีบหน้าขามันไปทีนึง ไอ้แพคก็ทำแค่ยิ้ม ไอ้ห่านี่แม่งบ้า!
  
  “หึหึ เชิญครับผม” มันเปิดประตูให้ผมขึ้นไปนั่งแล้วมันก็อ้อมไปนั่งตำแหน่งคนขับ ทำอย่างกับกูเป็นผู้หญิง -_-
  
  
  
  “ติดกระดุมชิดคอขนาดนั้น ไม่ร้อนหรือไง” ผมสะดุ้งเฮือก สั่นหน้าปฏิเสธรัว ๆ
  
  “ไม่ ๆๆ ขับรถใครเขาให้พูด!”
  
  “เอ้า แล้วใครออกกฎหมายว่าขับรถห้ามพูดครับ” มันถามด้วยน้ำเสียงยียวน ถ้าไม่ติดว่าขับรถอยู่นะ จะยันให้ล้มเลยไอ้สัด!
  
  “กูไง!!”
  
  “ฮ่า ๆๆ ......ทีแรกนึกว่าพี่จะไม่ยอมาด้วยซะอีก”
  
  “มีให้โอกาสกูปฏิเสธหรือไง? แม่งงงง ผ่านมาตั้งนานแล้วยังจำได้อยู่อีก”
  
  “หึ ผมใส่ใจทุกอย่างนั้นแหละ.... ถ้ามันเกี่ยวกับพี่”
  
  
  ผมนี่หน้าชาเลย.....
  
  
  
  
  
  
  
  ......................................................................................
  
  
  
  
  
  
  
  
  “ไม่ชอบหรอ?”
  
  ผมยืนอ้าปากค้าง ตาเบิกกว้าง มองปติมากรรมตรงหน้า สถานที่ที่ไอ้แพคพามา..
  
  “สวนสนุกเนี่ยนะ!!?”
  
  “อื้อ สวนสนุกเนี่ยแหละ ป่ะ ไปกัน” แล้วมันก็ลากผมไปที่ทางเข้า ไม่ถงไม่ถามสุขภาพสักคำ!
  
  
  
  “ไม่เล่นแล้วนะพี่!”
  
  “อ่อนว่ะ” ผมมองไอ้แพคที่หอบแฮ่ก ๆ ทำท่าจะอ้วกตั้งแต่ลงจากรถไฟเหาะ โด่วววว
  
  “เหี้ยแม่ง มึนหัวฉิบหาย” มันบ่น เอามือพัดหน้าตัวเองไปพลาง ผมเลยส่งขวดน้ำที่เปิดฝาแล้วไปให้มัน นั่งพักกันอยู่ที่ม้านั่งใต้ร่มไม้ครับ แม้ตอนนี้จะห้าโมงเย็นแล้วแดดยังแรงฉิบหายอยู่เลย. . .
  
  ถึงผมจะทำอิดออดตอนรู้ว่ามันพามาที่ไหน แต่พอเอาเข้าจริงผมเล่นเยอะกว่าไอ้คนที่พามาอีก
  
  คุณรู้ไหม...ทำไมมันถึงมาผมมาสวนสนุก? มันบอกว่า....
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  “ผมอยากพาแฟนมาเดทที่สวนสนุก”
  
  
  
  
  
  
  เหอ ๆ แล้วกูแฟนมึงเหรอ!!!!
  
  
  
  “กลับกันเถอะ”
  
  “ยังเล่นไม่ครบเลย”
  
  “กูเหนื่อยแล้ว ที่เหลือก็ช่างแม่งเหอะ บัตรฟรีนี่!” นี่คือหนึ่งเหตุผลที่อยากถีบแม่งฉิบหาย - -
  
  “ฮะฮะ ก็ได้ครับ ๆ”
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  ..................................................................................
  
  
  
  
  
  
  
  “ปลดล็อกดิ” ผมบอกไอ้แพค ตอนนี้รถจอดอยู่หน้าหอพักของผมแล้ว แต่ไอ้เจ้าของรถมันยังไม่ยอมปลดล็อกให้สักที แถมยังทำหน้านิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่. . .
  
  “พี่. . .”
  
  “........” ผมเงียบเพื่อรอฟังมันพูด
  
  “ผมคิดอยู่นานเลยนะ ว่าจะพูดมันออกไปดีหรือเปล่า. . .”
  
  “อ อะไร?”
  
  “ถ้าผมพูดไปพี่อาจจะเกลียดผมก็ได้ หึ”
  
  “มึง...ก็ลองพูดมาสิ”
  
  “เป็นแฟนกับผมนะ”
  
  “.... O_O”
  
  “หึ คิดซะว่าผมไม่ได้พูดแล้วกันนะครับ”
  
  “ม มึง. . . กู กู เอ่อ. . .ขอโทษ”
  
  “ผมสิต้องขอโทษ ทำให้พี่ลำบากใจเฉยเลย อย่าคิดมากนะครับ”
  
  “ขอโทษแพค กู.....ไม่ได้ชอบมึง....”
  
  “ผมรู้. . .” มันพูดเสียงแผ่ว ฟุบหน้ากับพวงมาลัย ยิ่งเห็นแบบนั้นแล้วรู้สึกแย่ขึ้นมาซะงั้น
  
  “แต่ แต่เรายังเป็นพี่น้องกันได้นี่. . .”
  
  “................”
  
  “แพค....”
  
  “ผมไม่เป็นไรพี่ รู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ผมนี่โง่เนอะ พี่ไปพักผ่อนเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ฝันดีนะครับ”
  
  “. . . . . . .ขอโทษ”
  
  ผมพูดทิ้งท้ายแล้วลงจากรถไป มองดูรถยนต์ขับผ่านหน้าไปแล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อย ๆ
  
  แปลก. . . ทำไมผมถึงไม่ได้รู้สึกโกรธเลยสักนิด แต่กลับรู้สึกเห็นใจด้วยซ้ำ แต่ถ้าจะให้สงสารแล้วยอมคบด้วยอันนั้นก็คงไม่ดีต่อตัวผม ผมรู้ว่ามันรู้สึกแย่ คุณจะเชื่อคำว่า ไม่เป็นไร ของคนที่เพิ่งโดนหักอกมากแค่ไหนละ? เอาจริง ๆ โคตรนับถือใจมันเลยนะ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผลจะเป็นยังไง แต่ก็ยังพูดออกมา โคตรเท่! ผิดกับผม. . . รักข้างเดียวก็เป็นอย่างนี้แหละ







----------------------------------TBC.
โอ้มายก็อด... แพคมาหาเรามาลูกมา TwT
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 20 (19.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 19-12-2014 21:58:21
ไรเฟิลไม่ควรโทรหาคนอื่นเพื่อ .. อืมนะ
ชอบควอทซ์ก็ต้องเลิกยุ่งกับคนอื่นดิ่ ไม่งั้นคบกันขึ้นมาต้องเป็นปัญหาแน่ๆ :katai1:

สงสารน้องแพคด้วย ; - ;
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 20 (19.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 21-12-2014 23:26:50
โอ้ว........!!!! ไรเฟิล เกือบไปแล้ว......
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 21 (25.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 25-12-2014 21:54:14
EPISODE 21









  “คิดอะไรอยู่?” ผมเงยหน้ามองคนถาม คุณย่ากำลังจัดขนมใส่กล่อง
  
  “มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยครับ”
  
  “ไม่สบายใจในวันเกิดตัวเองเนี่ยนะ?” ผมพยักหน้าเนือย ๆ
  
  
  วันนี้คือวันเกิดผมอย่างที่คุณย่าว่านั้นแหละครับ สิริรวมแล้วก็ยี่สิบปีพอดี ผมกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน พอตอนเช้าก็ตื่นมาใส่บาตรพร้อมป๊ากับคุณย่า
  
  
  แล้วเรื่องที่ไม่สบายใจเนี่ย ก็นับตั้งแต่วันที่ไอ้แพคขอผมเป็นแฟนนั่นแหละ จากวันนั้นผมก็ไม่เจอหน้ามันอีกเลย เกือบ ๆ อาทิตย์นึงแล้ว โทรศัพท์อย่าหวังว่าจะมี เงียบมาก. . . เงียบฉิบหาย ทั้งที่ปกติจะมีทั้งเช้าทั้งเย็น ข้อความกวนประสาทอีกล่ะ ไม่รู้ว่าแม่งคิดสั้นไปโดดสะพานแล้วหรือยัง - -
  
  นอกจากไอ้แพคที่หายไปจากสารบบชีวิตแล้วยังมีไรเฟิลอีกคน. . . เศรษฐศาสตร์เรียนหนักมากเหรอวะ!
  
  
  “ฮื่ออออ งั่ม” อย่าสงสัย ป๊าที่นั่งฟังอยู่ยัดผักปลอม(ลูกชุบ)ของปากผมแบบไม่ทันตั้งตัว
  
  “ถ้าติดคอตายทำไงเนี่ยยยยย”
  
  “จองวัด” ป๊าพูดแล้วยักคิ้ว เลยถูกย่าฟาดไหล่ไปทึนึง
  
  “เค้าตายก็อย่าร้องไห้แล้วกันนนนนน”
  
  “ดี กูจะได้ไม่ต้องมีภาระ”
  
  “แง่ง!”  ผมแยกเขี้ยวใส่ป๊า พลางหยิบขนมเม็ดขนุนที่คุณย่าทำไว้เข้าปากไปด้วย ส่วนคุณย่าก็ส่ายหัวหน่าย ๆ คงเบื่อกับการตีกับของผมกับป๊า ฮาาาาาา
  
  “มึงมีเรียนกี่โมง?”
  
  “เอ้าโองอรึ่ง..”
  
  “มึงจะไปพร้อมกูป่ะ?” คุณผู้ชายท่านถามพลางจิบกาแฟ
  
  “อื้อ”
  
  “งั้นเอาขนมไปแบ่งเพื่อนด้วยนะควอทซ์” คุณย่าเอ่ย จัดขนมใส่กล่องให้ราวห้ากล่อง มีทั้งขนมไทยทั้งขนมไม่ไทย เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก! แต่ละกล่องใช่ว่าจะเล็กนะครับ เอาให้อ้วนกันไปข้าง
  
  
  
  
  
  
  “ควอทซ์ไปเรียนแล้วน้าาาาาาา จุ้บ” ผมบอกแล้วจุ้บแก้มจุ้บไหล่คุณย่า
  
  “จ้ะ ๆ ตั้งใจเรียนล่ะ มีความสุขมาก ๆ นะ เรื่องที่ไม่สบายใจก็ลืมมันไปก่อน”
  
  “ขอบคุณครับ” ผมกอดคุณย่าแน่น ๆ อีกทีแล้ววิ่งออกจากบ้านไปหาป๊าที่รออยู่ที่รถแล้ว เดี๋ยวท่านจะบ่น ผมขี้เกียจฟัง - -
  
  
  
  
  
  
  “ช้านะมึง” นั่นไง...
  
  “บ่นเป็นคนแก่เลยยย เอ้อลืม ป๊าแก่แล้วนี่หว่า เนอะ อ๊ะ!” ผมพูดแล้วหันไปเนอะกับคุณเกรย์ แต่โดนป๊าเขกหัวมาอย่างแรงเลย
  
  “หึหึ สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณหนู”
  
  “ขอบคุณคร้าบบบบบบบบ จริง ๆ ไม่ต้องให้ของขวัญก็ได้นะครับ เปลืองเปล่า ๆ” ผมรับกล่องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ห่ออย่างดีจากคุณเกรย์มาแล้วแกะทันที
  
  
  “เช้ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!” ร้องเสียงหลงกับสิ่งที่อยู่ในกล่อง มันเป็นปากกาครับ! งงล่ะสิ แค่ปากกาจะร้องทำไม.. มันเป็นปากกาสั่งทำง่ะ ระดับคุณเกรย์นี่ไม่ธรรมดา มีสลักชื่อด้วย!
  
  “ถ่ายภาพและบันทึกเสียงได้นะครับ”
  
  “งื่อออออ ขอบคุณฮะ คงแพงมากแน่ ๆ เลย” ผมพูดพลางสำรวจของขวัญชิ้นใหม่ที่เพิ่งได้มาไปด้วยจนพอใจก็เก็บใส่กล่องไว้เหมือนเดิม
  
  “คุณหนูชอบ ผมก็ดีใจ” แล้วผมก็ยิ้มจนตาหยี
  
  “คุณเกรย์ใจดีเนอะ ไม่เหมือนป๊า ของขวัญก็ไม่มี คำอวยพรก็ไม่ให้”
  
  “น้อย ๆ หน่อย ไอ้เด็กเวร”
  
  “ไม่จริงหรือไง?”
  
  “เหอะ! อยากได้อะไรมึงก็ไปหาซื้อเองแล้วกัน” ว่าจบคุณท่านก็โยนซองเล็ก ๆ ใส่ตักผม
  
  “อะไรอะ? หูยยยยยยยยยยยยยยย กิฟต์การ์ด!!!! ขอบคุณคร้าบบบ จุ้บบบบ”
  
  “ออกไป รำคาญ” ป๊าผลักหน้าผมหนีแล้วเอามือเช็ดแก้มตรงที่ผมหอมออก เห็นหรอกว่าแอบยิ้ม แบร่!
  
  “คิคิ เท่าไหร่งะ?”
  
  “ไม่รู้โว้ยยยย”
  
  “x0,000 ครับคุณหนู”
  
  “O_O!!! ทำไมเยอะงี้อ่ะ”
  
  “ไม่เอาก็เอาคืนมา”
  
  “บ้าสิ คืนให้โง่อ่อ ขอบคุณนะครับ รักป๊าม้ากกกกกกกกกมา จุ้บๆๆ” รีบเก็บการ์ดเข้ากระเป๋าแล้วโถมตัวไปกอดและหอมแก้มป๊าอย่างไม่กลัวชุดจะยับ
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  ......................................................................
  
  
  
  
  
  
  
  
  “อิสวยยยยยยยยยยยยยย!! ใครมาส่งวะ?”
  
  “เสือกตลอดดดดด”
  
  “ย่ะ! ถุงไรอ่ะ ว้าวววววววว!” แล้วบะหมี่มันก็แย่งถุงขนมในถือผมไปถือเอง - -
  
  “ไอ้ไนต์มายัง?”
  
  “มาแล้ว นั่งหล่ออยู่ที่โต๊ะนู่นนนน”
  
  
  
  “เฮ้ยยยยย น้องเห็ด! แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะมึง” ทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะ ไอ้ไนต์ก็เดินมากอดคอผม
  
  “อื้อ ขอบใจมาก” ผมยิ้มแล้วกอดมันตอบ คนอื่น ๆ ก็มีมาบ้าง แต่ก็ส่วนน้อยอ่ะนะ เพราะส่วนใหญ่เขาไม่ชอบผมกันไง คนรักเป็นสิบ คนเกลียดเป็นแสน เย้  (ยักไหล่เก๋ๆ)
  
  “กูก็ขอให้มึงแฮปปี้. . . . . มาก ๆ คิดอะไรก็สมหวังนะยู ของขวัญอยู่บ้านว่ะ ลืมหยิบมา ค่อยเอาเนอะ” ไอ้บะหมี่มันว่า มึงจะเน้นตรงแฮปปี้เพื่ออะไรครับ ตอบ!
  
  “เออ ๆ ยังไงก็ได้ ไปเรียนเหอะ เดี๋ยวอาจารย์ล็อกห้อง”
  
  
  
  
  
  
  
  วันนี้กว่าจะเลิกเรียนก็ปาไปหกโมงเย็นแล้วครับ เพราะต้องลงแลปด้วย ให้ตาย ร่างจะพัง. . .
  
  “เดี๋ยวกูไปส่งมึงเอง ไอ้ปืนมันไม่ว่าง” อยู่ ๆ ไอ้ไนต์ก็พูดขึ้นแล้วก็ลากผมไปที่รถมัน
  
  “กูกลับเองก็ได้นะ”
  
  “กลับได้ แต่กูจะไปส่งไง มึงอย่าดื้อได้ป่ะ” ผมบึนปากใส่ไอ้ไนต์ ยอมนั่งนิ่ง ๆ ก็ดี ไม่เปลืองตังค์
  
  “หน้างอทั้งวันเลยนะมึงนี่”
  
  “อะไรมึงเนี่ย”
  
  “น้อยใจไอ้ปืนเหรอวะ?”
  
  “ทำไมต้องน้อยใจวะ?” ผมถามกลับ
  
  ต้องน้อยใจเหรอ? ก็แค่วันนี้เป็นวันเกิดผม แค่มันไม่ได้โทรมา แค่มันไม่ได้ส่งข้อความมา แค่มันไม่ได้ให้ของขวัญ แค่วันนี้ยังไม่ได้เห็นหน้ามันเลย แค่นั้นเอ๊งงงงง ต้องน้อยใจอ่อ? (‘ ‘
  
  “รู้ป่ะ หน้ามึงแม่งบอกทุกอย่างอ่ะ”
  
  “เหอะ!”
  
  “มันติดธุระ อย่าน้อยใจเลยนะน้องเห็ด ไอ้ปืนไม่แคร์ พี่ไนต์แคร์นะคร้าบบบ” มันเอามือมายีหัวผม ทำไมมึงต้องมาแก้ตัวให้ไอ้บ้านั่นด้วยวะ - -
  
  “ไม่ได้น้อยใจ ไม่ได้อะไรทั้งนั้นอ่ะ! พูดมากว่ะ”
  
  “ปากแข็งไปเถอะ หึหึ ลงไปได้ล่ะ กูจะกลับไปดูแมวที่ห้อง”
  
  “เออ! ไล่นะไล่!” ผมปิดประตูรถเสียงดัง มันลดกระจกลงมาด่า ผมไหวไหล่แล้วแลบลิ้นใส่ ไปดูแมว... ถุยยยยย น้ำหน้าอย่างมึงเหรอเลี้ยงแมว คนที่เกลียดสัตว์ฉิบหายอ่ะนะจะเลี้ยงแมว ไปหลอกเด็กอนุบาลเถอะครับ!
  
  
  
  
  
  
  
  อาบน้ำอาบท่าเสร็จผมก็ออกมาเปิดคอมเล่น ล็อกอินเข้าโซเชียลต่าง ๆ ที่มี พอถึงวันเกิดนี่รู้สึกจะฮอตมากมาย แจ้งเตือนเด้งมาเป็นสิบ (รู้สึกเซ็กซี่)  ผมกดไลค์ให้ทุกข้อความที่ส่งมา ตอบกลับด้วยประโยคสุดเบสิกอย่าง ‘ขอบคุณครับ ^^’ ด้วยการ copy แล้ว paste (แฮร่) เข้าทวิตเตอร์ กล่องเมนชั่นแทบพังอ่ะบอกเลย รีทวีตจนกลัวลิมิต ผมก็ฮอตพอตัวนี่หว่า บางคนก็อวยพรมายาวมากอย่างกับเขียนเรียงความ บางคนมาแบบสั้น ๆ บางคนก็ฮา ๆ เกรียน ๆ ตลกดี ผมละสายตาจากคอมพิวเตอร์ เพราะแสงสว่างจากโทรศัพท์มือถือพร้อมกับไอ้เครื่องสี่เหลี่ยมนั่นสั่นครืด
  
  
  ‘Happy Birthday’
  
  ข้อความสั้น ๆ ที่ถูกส่งมา พอมองชื่อคนส่งก็แทบหงายตกเก้าอี้ ...ไอ้แพค
  
  
  
  
  
  ครืดดดดดด
  
  “ว่า?” ผมกรอกเสียงลงไปเซ็ง ๆ ไอ้ไนต์มันโทรมาง่ะ
  
  “มึง!!!!! มึงรีบมาที่ห้องไรเฟิลด่วนเลยไอ้เห็ด!!!”
  
  “ม มีอะไร?!” เสียงร้อนรนของไอ้ไนต์ทำเอาผมร้อนไปด้วย
  
  “ไอ้ปืน.. มัน...”
  
  “มันทำไมเล่า!!!”
  
  “มึงใจเย็นนะ กูรู้สึกตงิดใจแปลก ๆ เลยมาหามันที่ห้อง แล้วก็เจอ...”
  
  “มึงจะพล่ามอะไรนักหนาวะ!!”
  
  “กู.. กู กูไม่รู้จะพูดยังไง มึงมาดูเองแล้วกัน” ผมวางสายแล้ววิ่งเข้าไปเปลี่ยนชุด หยิบกุญแจห้อง คีย์การ์ดต่าง ๆ นานากับกระเป๋าตังค์แล้วรีบออกไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าปากซอย
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  .........................................................................................
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  มาถึงคอนโดไรเฟิลก็เกือบสี่ทุ่ม แตะการ์ดก่อนจะเดินกึ่งวิ่งเข้าไปด้านใน กดลิฟต์ไปที่ชั้นสี่สิบเก้า (อยู่สูงไปไหนไอ้สัด!) ไม่รู้ว่าลิฟต์มันช้าหรือเพราะผมใจร้อน เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีกลับทำให้ผมรู้สึกว่าติดอยู่ในนั้นราวชั่วโมง
  
  
  
  
  
  ตึ้ง!
     
  
  
  เสียงที่รอคอย...
  
  ผมก้าวยาว ๆ ออกจากลิฟต์ กดรหัสอย่างแม่นยำจนสิ้นเสียงสัญญาณจึงผลักประตูเข้าไป ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะกับผิว ภายในห้องมืดสนิท ผมยืนนิ่งอยู่ที่เดิมตั้งแต่ก้าวเข้ามา รอให้สายตาชินกับความมืด ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไป มือก็คลำหาสวิตซ์ (ใครใช้ให้ติดตั้งสวิตซ์ไกลประตูวะ!)
  
  “ย อยู่ไหน..” ผมเอ่ยถามเสียงติดจะสั่น และสิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบ
  
  “...ไรเฟิล...”
  
  “..........”
  
  “ไนต์...”
  
  “..........”
  
  “ไอ้เหี้ย!!!” ผมตะโกนออกมาในที่สุด แม่งเอ๊ย! หงุดหงิดแล้วนะ เล่นบ้าอะไรกันวะ!
  
  พรึ่บ!
  
  มือของผมไปโดนสวิตซ์ด้วยความบังเอิญ แต่ยังไม่ทันมองเห็นอะไรตาก็ถูกใครสักคนปิดเอาไว้ พร้อมกับไฟที่ดับลงอีกครั้ง
  
  ...ไอ้ฟอร์ส
  
  มันแน่ ๆ ผมจำกลิ่นน้ำหอมมันได้!
  
  “ไอ้เหี้ยฟอร์ส!”
  
  “อ้าว รู้ได้ไงวะ?”
  
  “เล่นเหี้ยอะไรกัน!!!?”
  
  “ใจเย็นนะน้องนะ พวกมึงออกมาได้แล้วห่า เสียแผนหมดแล้ววุ้ย!” ไอ้ฟอร์สมันบ่น ถึงปากจะพูดมากแต่มือยังไม่ยอมปล่อยออกจากตาผม แล้วแผน แผนอะไรของพวกมึง!!
  
  แล้วไม่นานมันก็ปล่อยให้ผมเป็นอิสระ ไฟยังคงถูกปิด แต่เสียงสีส้มเหลืองที่มาพร้อมกับเสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ทำให้ผมหันไปมอง
  
  ไอ้เหี้ย... รู้สึกน้ำตาจะไหล
  
  ผมนิ่งค้างมองไอ้พวกสี่สหายที่แหกปากร้องเพลง(ยกเว้นไรเฟิลน่ะนะ) มีไรเฟิลเป็นคนถือเค้ก. . . กายเข้ามากอดคอแล้วโยกตัวไปมา
  
  “Happy birthday to you...~~” เพลงท่อนสุดท้ายจบลงพร้อมกับเสียงโห่ร้องของพวกลูกหมาสามตัว(ไนต์ กาย ฟอร์ส)
  
  “อธิฐานแล้วเป่าเลย!” เสียงกายตะโกนบอก ผมหลับตาอธิฐานในใจก่อนจะเป่าฟู่ เปลวไฟจากแสงเทียนดับลงแล้วถูกแทนที่ด้วยไฟภายในห้องแทน(ใครเปิดไม่รู้ ที่ผมหาสวิตซ์ไม่เจอเพราะพวกแม่งเอาอะไรแปะไว้ไม่รู้ ปกติมันจะเรืองแสงในความมืด)
  
  
  
  จากห้องเรียบหรูสไตล์คุณชาย ถูกเปลี่ยนเป็นปาร์ตี้ไปแล้ว มีลูกโป่งหลากหลายสีลอยติดเพดาน ที่ผนังด้านหลังมีลูกโป่งสีเงินเป็นตัวอักษรเรียงกันเป็นคำว่า HAPPY BIRTHDAY มีริบบิ้นต่าง ๆ ตกแต่งไปด้วย ก็เหมือนปาร์ตี้ทั่วไป มันไม่ได้สวยมาก ก็ผู้ชายจัดนี่ครับ ได้ขนาดนี้ก็เก่งแล้ว ผมมองรอบ ๆ แล้วยิ้มออกมา ทีแรกว่าจะโกรธที่โดนหลอก แต่ถือว่าทำดี รอดตัวไปนะพวกมึง!
  
  
  ผมถูกลากให้มานั่งที่โซฟา ไอ้ไนต์เอามงกุฏมาใส่ให้(มึงถามความสมัครใจกูยัง?) บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาเต็มไปด้วยขวดเหล้าและเบียร์ แอลกอฮอร์ทั้งนั้น แล้วนั่นโคล่า มึงเอามาให้ใครวะ! นอกจากเหล้าเบียร์แล้วยังมีกับแกล้มด้วย พวกไก่ทอดอะไรงี้ และสารพัดเมนู ไม่รู้ว่าทำเองหรือซื้อมา (กายกับไนต์พอทำอาหารได้ แต่ฟอร์สกับไรเฟิลสกิลจมดิน) เค้กถูกวางไว้บนโต๊ะไม่มีใครแตะเลยสักนิด
  
  “พวกมึงนี่มัน!!”
  
  “ด่ามันนู่น!” ไอ้พวกลูกหมาสามตัวชี้นิ้วไปที่ไรเฟิลที่ยกเหล้าดื่มทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
  
  “มัน..?”
  
  “เออ! ยอมลงทุนขาดเรียนเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เท่สาดดดดดด!” จะทำให้กูอึ้งไปถึงไหนวะ... อย่างไรเฟิลน่ะนะ? พูดเป็นเล่น
  
  “ก็คนมัน...มากกกก พวกมึงไม่รู้เหรอวะ” ไอ้ไนต์พูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วไอ้ที่เว้นไว้นี่คืออะไร
  
  “พูดมากว่ะ เอาของขวัญกูมาเลย!”
  
  “โมโหกลบเกลื่อนนี่.. อุ๊ก!” ไอ้ฟอร์สกุมท้องตัวงอเพราะผมเอาหมอนฟาดไปเต็ม ๆ สมน้ำหน้า!
  
  “เอาไป” รับของจากพวกมันมาก็เปิดดูทันทีเลยครับ เช้ดดดดดดดดดดดดดดด! กล่องแรกที่เปิดมาคือของฟอร์สครับ!! รองเท้าอ่ะรองเท้า!! รุ่นนี้ผมกำลังอยากได้ แต่กำลังเก็บเงินเพราะมันแพงมาก! ไอ้เหี้ยน้ำตาจะไหล กล่องที่สองของไอ้ไนต์ เป็นหมวกครับ หมวกหนังสีดำล้วนไม่มีลวดลายใด ๆ ทั้งสิน สวยดี และกล่องสุดท้ายคือของกาย แกะออกมาทำเอาผมแทบดิ้น ไม่ได้ดิ้นด้วยความดีใจแต่ดิ้นเพราะอยากถีบมัน ไม่ใช่ว่าของขวัญที่มันให้มันไม่ดีนะครับ มันจะดีกว่านี้ถ้ามันไม่ใช่ตุ๊กตา แถมยังเป็นตุ๊กตากระต่ายอีก ถึงจะเป็นรุ่นลิมิตเต็ดก็เถอะ! ผมโตเป็นควายแถมยังเป็นผู้ชาย ยังจะให้ตุ๊กตาอยู่อีก(ได้ข่าวที่ห้องของหล่อนก็มีตุ๊กตาอยู่เต็มเตียงเลยนะ..)
  
  “ขอบใจมาก มันจะดีกว่านี้ถ้ามึงไม่ให้ตุ๊กตานะไอ้กาย!” ผมชี้หน้าคาดโทษ จะเอาคืน วันเกิดมันก็ผ่านมาแล้ว ไว้ปีหน้าเดี๋ยวมึงเจอ!
  
  “กร้ากกกกกก! เหมาะกับมึงจะตาย” ผมเบ้ปาก หันไปหาไรเฟิลแล้วแบมือตรงหน้ามัน
  
  “ของกูอ่ะ?”
  
  ไอ้คุณชายปรายตามองแล้วยิ้มมุมปากก่อนจะพูดออกมานิ่ง ๆ ตามสไตล์ว่า “...ไม่มี”
  
  ก็ตามนั้น... ไม่มีก็ไม่มี ผมจะพยายามไม่น้อยใจก็แล้วกัน ยังไงซะมันก็อุตส่าห์จัดปาร์ตี้ให้แล้ว ถือว่านี่เป็นของขวัญก็ได้ ปล่อยผ่านเรื่องของขวัญไปก็ดื่มกันจริงจังราวกับพรุ่งนี้ไม่มีเรียน ผมรับแก้วเหล้าจากกายมาแก้วแล้วแก้วเหล้า ดื่มกันไปจนนับไม่ถ้วน เหล้ากับเบียร์สลับกันไปมาจนตอนนี้เริ่มจะมึน ๆ
  
  
  
  
  ดื่มไปเท่าไหร่จำไม่ได้ ขณะนี้ล่วงเลยเข้าสู่เช้าวันใหม่แล้ว ที่ห้องเหลือแค่ผมกับไรเฟิล ลูกหมาสามเพิ่งตัวกลับไปไม่นาน โดยที่พวกมันให้เหตุผลว่า .. พรุ่งนี้มีเรียน (ข้ออ้างชัด ๆ)
  
  “จะดื่มต่อหรือจะนอน?” มองหน้าคนถาม
  
  ไรเฟิลนั่งเหยียดขาไปตามแนวความยาวของโซฟา ขาข้างหนึ่งชันพิงพนัก แขนหนึ่งข้างยกพาดโซฟา อีกข้างวางอยู่ที่หน้าขา ...  เท่สัด ผมก็นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน นั่งในลักษณะเดียวกัน หันหน้าเข้าหากัน เพียงแค่นั่งคนละมุมและผมไม่ได้เอาแขนพาดโซฟา ขาทั้งสองข้างเหยียดพาดขาไรเฟิล มือข้างหนึ่งมีแก้วเหล้าที่เหลือมากกว่าครึ่ง เพราะมันเป็นเหล้ายี่ห้อต้องห้ามสำหรับผม.. ดื่มแล้วสติแตกเลยยังไม่กล้าดื่ม
  
  “ไม่รู้..”
  
  “ดื่มให้หมดแก้วแล้วไปนอนซะ” .. เหมือนบอกเด็กดื่มนมก่อนนอน
  
  “อือ”
  
  ตอบรับคำเสียงยานคาง ยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด แสบคอฉิบหาย ... อึก ..  ผมวางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะกระจก ไถลตัวลงนอนบนโซฟา รู้สึกร้อนวูบในช่องท้อง กูว่าล่ะ ไม่น่าเลยจริง ๆ ต่อให้ผมจะดื่มเก่งสักแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเหล้ายี่ห้อนี่แก้วเดียวก็จอด..
  
  
  
  จอดในที่นี้ไม่ได้แปลว่าน็อค แต่แปลว่า.. จอดไอ้ควอทซ์คนเดิมไว้แล้วแปลงร่างเป็นอีกคน..
  
  
  “เข้าไปนอนในห้องไป”
  
  “ห้องรก..”
  
  “พรุ่งนี้ค่อยเก็บ ไปนอนซะ”
  
  “ฮือ.. อุ้มหน่อย..” ชูมือประกอบให้ด้วยเลย
  
  ..ทำหน้านิ่งเหมือนจะไม่ทำแต่ก็อุ้มผมอยู่ดี ^^
  
  
  
  
  
  
  ตุ้บ!
  
  มันเหวี่ยงผมลงบนเตียง เล่นเอาแทบอ้วก และด้วยความตกใจทำให้ผมคว้าคอมันลงมาด้วย ไรเฟิลที่ไม่ทันตั้งตัวเสียหลักล้มลงมาทับตัวผม หน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ. . . ลมหายใจของมันเป่ารดหน้าผม ไม่รู้เพราะความเมา เพราะแรงโน้มถ่วงของโลก หรือเพราะจิตใต้สำนึกภายในใจ ที่ทำให้ผมรั้งคออีกฝ่ายลงมาใกล้ยิ่งกว่าเดิม ปลายจมูกโด่งชนกับแก้มของผม ริมฝีปากบางเฉียบลอยอยู่ไม่ไกล...
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  ..อยากจูบ
  
  
  
  
  
  
  
  
  ไวเท่าความคิดผมก็รั้งคอมมันลงมาจนใบหน้าชิด ริมฝีปากเราสัมผัสกันแผ่วเบา ผมเม้มปากของมันเบา ๆ ก่อนจะเริ่มรุนแรงขึ้น กัดปากล่างของไรเฟิลให้มันยอมเปิดปากแล้วสอดลิ้นเข้าไปภายใน คนตัวสูงเริ่มตอบสนอง จากที่เป็นฝ่ายเริ่มรุกตอนนี้กลับถูกรุกเสียเอง.. มือหนาที่ยันที่นอนเอาไว้ก่อนหน้านั้นตอนนี้ถูกเปลี่ยนหน้าที่มาลูบไล้ไปตามลำตัวของผมก่อนที่มันจะสอดเข้าไปใต้เสื้อ ฝ่ามือร้อนสัมผัสกับผิวโดยตรงทำให้ผมสะดุ้ง.. และปลายนิ้วเรียวลูบผ่านแผ่นอกผมไป. .
  
  
  
  
  “อื้อ ... อ๊ะ”
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  (.......................................................ตัดฉากไปที่โคมไฟ................................................................)
  
  55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555



--------------------------------------TBC.



เมอร์รี่คริสต์มาสค่ะ~
(เฟดตัวออกไปเงียบ ๆ พร้อมทั้งกระโดดหลบขวดถังกะละมังหม้อและทุกสิ่งอย่าง...)
รัก..


 :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 21 (25.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 25-12-2014 22:13:54
 :katai3: กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ได้กันมั้ย 5555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 21 (25.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 25-12-2014 22:46:13
ม่ายยยยยยยย  :serius2: ตัดแบบนี้ได้งัยยยยถือทิชชู่รอฉากนี้เลยน๊าาาาอยากเสียเลือดดดดดด :z1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 21 (25.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 25-12-2014 22:51:32
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก

ทุ่มคนเขียนด้วย ต้นคริตมาส แว๊กกกกกกกกก ตัด ตัด ตัด ได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 21 (25.12.2014)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 26-12-2014 22:02:59
ตัดฉากไปที่โคมไฟคืออัลไล ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 01-01-2015 19:19:48
EPISODE 22












  “อ๊า..” เสียงหวานครางแผ่วเมื่อผมแกล้งสะกิดยอดอกของมันเล่น เสื้อยืดสีน้ำตาลถูกเลิกขึ้นไปค้างอยู่เหนือแผ่นอกบาง โชว์หน้าท้องแบนราบที่เหมือนจะมีกล้ามเนื้ออยู่นิดหน่อย(จนมองแทบไม่เห็น) ผิวขาวเนียนปรากฏแก่สายตายิ่งกระตุ้นความต้องการของผมให้เพิ่มมากขึ้น
  
  “อือ”
  
  “อาบน้ำไหม..?” ผมถามเสียงพล่าที่ข้างหูของควอทซ์ มันปรือตาขึ้นมามองแล้วพยักหน้า ตาโคตรเยิ้ม สัด!
  
  “อาบ อึก .. อาบให้หน่อย .. อ๊ะ”
  
  
  
  ผมก้มลงไปดูดกลีบเนื้ออิ่มที่เผยอยั่วแล้วอุ้มมันเข้าห้องน้ำ ถอดเสื้อและกางเกงของมันออกเหลือเพียงชั้นในเอาไว้ อืม... ขาว ขาวมาก ขาวไปทั้งตัว ยิ่งตอนนี้เมาด้วย ตัวแดงไปแล้ว คนเหี้ยไรแค่ยืนเฉย ๆ ก็ยั่วฉิบหาย
  
  “ฮือ .. ขี้โกง”
  
  “หืม?”
  
  “ทำไมให้เราถอดคนเดียว งือ..” อ่า . . ผมแสยะยิ้มทันทีที่ได้ยิน แล้วแกล้งกระซิบที่ข้างหูกระต่ายแสนยั่ว
  
  “ถอดให้ด้วยสิ” ตากลมโตช้อนมอง แววตาสั่นไหวไม่แน่ใจเหมือนกำลังต่อต้านกับตัวเอง .. ยั่วกูเองนะครับบันนี่(บันนี่คือชื่อที่ผมใช้เรียกมันคนเดียวในใจ - -)แล้วจะมากลัวอะไร
  
  
  
  มือบางค่อย ๆ ยื่นมาแตะที่ไหล่ก่อนจะไล้ลงมาช้า ๆ แล้วไล่ปลดกระดุมเสื้อตั้งแต่เม็ดบนลงมาจนเม็ดสุดท้าย ระหว่างนั้นผมก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองว่างหรอก ซุกหน้ากับซอกคอขาวพร้อมกับขบเม้มฝากรอยสีกุหลาบไปด้วย... นิ้วเรียวของเจ้าบันนี่แหวกสาบเสื้อผมออกก่อนจะกรีดปลายนิ้วตั้งแต่กลางอกลงมาอย่างเชื่องช้าจนถึงขอบกางเกง . . . ในขณะเดียวกับผมก็ดูดเม้มยอดอกสีแดงที่ยวนใจอย่างหื่นกระหาย
  
  “อ๊ะ! อื้อ!”
  
  “อืม .. ถอดกางเกงด้วยสิ”
  
  “ถ ถอดเองสิ อ๊า!”
  
  “ถอดให้หน่อย .. นะครับ”
  
  “อ๊ะ อื้อ”
  
  
  
  ขณะนี้ร่างกายของเราเปลือยเปล่าทั้งคู่ แก้มขาวของกระต่ายน้อยแดงซ่านใบหน้าเบี่ยงไปทางอื่นไม่ยอมสบตา ผมดันร่างของบันนี่เข้าไปในเชาเวอร์สทอล (Shower stall) เอื้อมมือไปเปิดเรนเชาเวอร์ สายน้ำอุ่นกระทบร่างของเราจนเปียกปอน มือหน้าไล้ครีมอาบน้ำไปตามร่างบอบบาง ควอทซ์มันตัวเล็กกว่าผมมาก พอมาอยู่ใกล้ ๆ ในสภาพที่ไม่มีสิ่งใดปกปิด เห็นทุกส่วนของร่างกายยิ่งรู้ว่ามันตัวเล็กแค่ไหน หน้าท้องแบนราบกับเอวคอดนั่น มันทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่า  .. ถ้าเผลอกระแทกแรง ๆ ไปมันอาจจะหักได้ (ยกยิ้มมุมปาก)
  
  .
  
  .
  
  .
  
  .
  
  .
  
  .
  
  .
  
  .
  
  
  
  “อ๊ะ! เจ็บ!” ผมชะงักนิ้วเอาไว้ โน้มตัวไปจูบปลอบประโลมอีกฝ่ายแล้วค่อย ๆ สอดนิ้วที่ถูกชะโลมเจลหล่อลื่น(ที่ไอ้เหี้ยไนต์เอามาไว้ให้)เข้าไปภายในช่องทางคับแคบ
  
  “อืม .. อย่าเกร็งครับ” เลื่อนมืออีกข้างไปสอดประสานกับมือบางที่ขยุ้มผ้าปูเตียงไว้แน่น (อาบน้ำเสร็จย้ายมาที่เตียง ในห้องน้ำยังไม่ได้ทำ)
  
  “อ๊า!!” สอดเข้าไปได้สองนิ้วแล้วเริ่มขยับเบา ๆ ...รัดฉิบหาย! ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเปลี่ยนจากนิ้วเป็นของผมแล้วมันจะ ... ขนาดไหน!
  
  เมื่อเบิกทางจนเริ่มพอใช้ได้แล้วก็เอ่ยบอกอีกคน “หยิบถุงยางหน่อย”
  
  “..ต ตรงไหน? อ๊ะ อ๊า!!” ผมกดยิ้ม เมื่อรู้ตัวว่ากดนิ้วไปโดนจุดของมันเข้า หึ เสร็จกูล่ะ!
  
  “ลิ้นชักฝั่งซ้าย อ่า..”
  
  “อ๊า!!”
  
  
  เจ้ากระต่ายหวีดร้องเมื่อผมดึงนิ้วออกอย่างรวดเร็ว คว้ากล่องถุงยางที่คนให้มันโยนใส่อกเต็ม ๆ เมื่อจัดการและชะโลมเจลเรียบร้อยแล้ว ผมแทรกตัวเข้าไปกลางระหว่างขาของบันนี่ จับขาเรียวตั้งชันกับพื้นเตียงแล้วแยกออก เจ้าของมันก็ไม่ขัดขืน ยกหมอนปิดหน้าปิดตา ผมยิ้มบาง ๆ กับภาพนั้น
  
  
  
  
  
  
  
  “อ๊าก! เจ็บ ฮืออออ...”
  
  เข้าไปยังไม่ถึงไหนบันนี่ก็หวีดร้องขึ้นมาอีกจนได้ ผมดึงหมอนที่มันใช้ปิดหน้าออก ใบหน้าหวานเบะเบ้เพราะความเจ็บ ตากลมคลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำตา ประกบปากกับปากอิ่มสีสด สอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวพันกับลิ้นเล็ก เลื่อนมือไปสัมผัสกับน้องชายของมันแล้วขยับมือไปตามความยาว ผละจากริมฝีปากไปที่ใบหูขาว แลบลิ้นเลียสัมผัสกับรอยสักที่หลังหูซ้ายของเจ้าบันนี่เป็นการเบี่ยงความสนใจ
  
  
  
  “ทำต่อหรือจะหยุด หืม?”
  
  ผมเอ่ยถามเสียงอ่อน ขยับกายด้านล่างเข้าไปได้เพียงครึ่งคนใต้ร่างก็กรีดร้องเสียงหลง .. ก็พอรู้มาอ่ะนะว่าครั้งแรกมันเจ็บ (อย่ามองอย่างนั้น ผมไม่เคยโดนเสียบ - -) แต่เล่นร้องขนาดนี้ใครจะทำต่อได้วะ สงสารไงครับ ผมไม่ได้หื่นจัดจนหน้ามืดตามัวกระแทกเข้าพรวดเดียวหรอก! ใครมันจะอยากให้คนรักเจ็บวะ! อ่า.. เหมือนจะหลุดปากแฮะ แต่ช่างมันเหอะ
  
  
  
  “อ อยากทำก็ทำสิ .. ข แข็งแล้ว ม ไม่ใช่เหรอ?” ไอ้สัด! ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้ แล้วเสียงสั่น ๆ แหบ ๆ นั่น มันกระตุ้นผมได้มากเลยล่ะ!
  
  “Are you sure?”
  
  “อ อืม..”
  
  “ต่อให้ร้องก็ไม่หยุดแล้วนะ”
  
  “อื้อ”
  
  จะมาโทษกูไม่ได้แล้วนะบันนี่ .. ผมปลุกอารมณ์และเบี่ยงความสนใจของควอทซ์อีกครั้ง โดยครั้งนี้มันก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างนี้ อาการเกร็งก็มีบ้างแต่มันก็ไม่มากเหมือนตอนแรก..
  
  
  
  
  
  “อ๊ะ! อ๊า! บ เบาหน่อย อ๊ะ!”
  
  “อ่า .. ควอทซ์ อืม..”
  
  
  
  บทเพลงรักแสนเร้าร้อนยังคงบรรเลงอย่างต่อเนื่องแม้เวลาจะผ่านมานานสักเพียงไหน กายใหญ่สอดประสานกับเอวบางที่เด้งรับอย่างรู้จังหวะ เสียงผิวเนื้อกระทบกันดังลั่นทั้งเสียงครางระงมทั่วห้อง ยิ่งสัมผัสยิ่งต้องการ . . และเมื่อบทเพลงแรกจบลง เพลงใหม่ก็ถูกบรรเลงขึ้นอีกครั้ง... อีกครั้ง... และอีกครั้ง...
  
  
  “อ๊ะ อ๊า! ร ไรเฟิล!! อ๊า!!!”
  
  “อ่า...”
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  

  ..............................................................................................
  
  
  
  
  
  
  

  
  วันนี้ผมตื่นสายกว่าปกติ... มาก ทั้ง ๆ ที่วันนี้มีเรียนด้วยซ้ำ และไอ้คนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างกายเองก็เช่นกัน เจ้ากระต่ายตัวขาว(แต่ตอนนี้ตัวแดงเพราะรอยจูบ)นอนตะแคงหันหลังให้ ผมไล้มือไปตามกายเนียนเบา ๆ ร่องรอยกุหลาบตามตัวอีกฝ่ายเป็นหลักฐานชั้นดีว่าเรื่องเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นและมันไม่ใช่ความฝัน. . .
  
  
  
  ผมค่อย ๆ ขยับตัวลุกจากเตียงไม่ให้สะเทือนคนที่กำลังหลับสบาย(หรือเปล่าวะ) เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า ปล่อยมันพักผ่อนไปแล้วกัน เข้าไปล้างหน้าอาบน้ำก่อนจะออกมาโทรศัพท์เรียกแม่บ้านประจำคอนโด(ซึ่งเป็นของครอบครัวผม)มาทำความสะอาดห้อง ซากอารยธรรมจากเมื่อคืนยังไม่ได้เก็บเลยสักนิด และโทรสั่งอาหารเช้าควบมื้อเที่ยงสำหรับตัวเองและคนที่หลับอยู่
  
  
  ผมกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง กดริมฝีปากลงกับปากอิ่มที่บวมเจ่อเบา ๆ ก่อนจะหยิบกล่องบุหรี่(ที่ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่)ออกมาพร้อมกับซิปโปดีไซน์เรียบสีเงิน ในจังหวะที่กำลังจะเดินออกไปที่ระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงก็สั่นครืด(ผมเป็นคนที่ไม่ชอบเปิดเสียงโทรศัพท์เพราะมันน่ารำคาญ และไอ้ควอทซ์มันก็ได้รับอิทธิพลนั้นไปด้วย)
  
  
  
  
  
  
  “มีเหี้ยไร?” ถามปลายสายพลางสูดนิโคตินเข้าปอด
  
  (“ไอ้ห่า! เมื่อคืนหนักหรือไง ไม่มาเรียนทั้งคู่!”)
  
  “หึ”
  
  (“เชี่ยยยยยยยยยยปืน!!”) ไอ้ไนต์ร้องด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น(?) มันคงรู้แล้วล่ะว่าเมื่อคืนระหว่างผมกับบันนี่มันมีอะไรเกิดขึ้นมา
  
  “บันนี่แม่งโคตรยั่ว สัดเอ๊ย!” พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนผมก็กดยิ้มแล้วสูดนิโคตินเข้าปอดไปอีกเฮือก มีคนบอกว่าผมยิ้มยาก ก็เปล่านะ.. คนจะยิ้มมันก็แล้วแต่สถานการณ์ อีกอย่างก็ต้องดูด้วยว่าอยู่กับใคร..
  
  (“ห่า! ถนอมน้องเห็ดมันบ้างป่ะเนี่ย”)
  
  “ก็แค่ช่วงแรก” แรกเริ่มก็อ่อนโยนอยู่หรอก พอหลังจากนั้นผมก็จัดเต็มทันที อารมณ์ความต้องการครอบงำจนลืมว่าต้องถนอมร่างบางเอาไว้ ยิ่งนั้นเป็นครั้งแรกของมัน พอเห็นสภาพของบันนี่ก็เพิ่งจะสำนึกว่าทำรุนแรงกับมันเข้า... ตื่นมาคงระบมไม่น้อย
  
  
  
  
  
  
  
  ก็บันนี่มันทั้งยั่ว ทั้งเซ็กซี่ แถมยังน่ารักขนาดนั้น .. ใครจะไปทนไหวกันล่ะ หึ
  
  
  (“*วย! สัดกายโวยแน่มึง ไปทำลูกมัน”)
  
  “เหอะ! กูต้องเรียกมันพ่อไหมล่ะ? สัด!” อย่าว่าแต่ไอ้กายเลยที่จะโวยผม รวมไอ้ไนต์ไอ้ฟอร์สด้วยนั่นแหละ หวงไอ้กระต่ายตาโตยังกับคลอดออกมาเอง
  
  (“หึหึ // กูจะเรียกค่าสินสอดแพง ๆ เลยไอ้สัด!” ) ผมยกยิ้มกับเสียงไอ้กายที่แทรกเข้ามา
  
  “พร้อมมาทั้งชีวิตแล้วครับไอ้เหี้ย!”
  
  (“ถุยยยยยยย!”) แล้วพวกมันก็ประสานเสียงกัน ดีไม่ดีอาจมีไอ้ฟอร์สอยู่ด้วย
  
  (“แล้วนี่ลูกสาวกูเป็นไงบ้าง?”) ไอ้กายถามเสียงขุ่น บางที่ก็คิดนะว่าพวกแม่งนี่คิดอะไรกับบันนี่ของผมหรือเปล่า - -
  
  “ยังไม่ตื่น”
  
  (“เออ ดูแลดี ๆ นะมึง! ไม่งั้นกูซัดมึงแน่”)
  
  “อื้อ กูไม่ทำให้มึงสมหวังหรอก หึ”

  “พวกมึงมีไรอีกไหม?”
  
  (“สูบบุหรี่อยู่ล่ะสิมึง?”) ไอ้ไนต์ถาม
  
  “เออ”
  
  (“หึ เตรียมตัวรับโทษจากบันนี่ของมึงด้วยล่ะ ได้เลี้ยงกระต่ายสมใจแล้วนี่”)
  
  “พวกมึงก็คงโดนด้วยในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด หึ”
  
  ผมกดวางสายไม่รอฟังเสียงโวยวายของไอ้ลูกหมาสามตัว(เรียกตามบันนี่ - -*)  มองผ่านประตูกระจกเข้าไปเห็นกระต่ายตัวน้อยขยับตัวอยู่บนเตียงกว้าง ผมบี้บุหรี่ลงกับที่เขี่ยบุหรี่แล้วเดินเข้าไปในห้อง
  
  
  
  
  
  
  
  อ้อ! ลืมบอกไป .. ความลับของผมคือ ...
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  ...ผมจะสูบบุหรี่แค่ตอนมีความสุขนะ...




-------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป...

โอยยยยยยยยยยยยยยยย อยากจะกรีดร้อง มันแบบ ฟฟฟวกสใแาเยนพยวกวอ ฮือออ
งงไหมคะ งงเนอะ 555555555555555 ขอโทษ ~ สรุปแล้วสองนางก็ได้กันแล้วนะคะ  :hao7: เย้ 5555555555555
เราไม่ถนัดเขียนฉากเลิฟซีน (แต่ถนัดอ่าน -0-  :mew5: ) กราบขออภัยในความกาก
ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ ขอบคุณคนอ่านทุกคน รักนะคะ  :mew1:



สวัสดีปีใหม่...
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 01-01-2015 19:44:24
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ฟินค่าเราฟินนนน ได้กันแย้ว แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง้
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-01-2015 12:08:43
คุณปืนในที่สุดก็ได้ยิงกระสุนสักที
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 02-01-2015 12:11:06
 :haun4:  :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:


เรียบร้อยโรงเรียนไรฟ์  :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 02-01-2015 12:41:18
เลี้ยงกระต่ายดีดีล่ะ   อย่าให้คัยมารังแกบันนี่น๊าาาา    :z1: :z2: :mew3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 02-01-2015 21:46:21
ว๊ายย >< ไรเฟิลไม่ถนอมกันเลย!!

ปล. อ่านแล้วยังงงอยู่เลยว่าทำไมต้องทำตัวจน ทั้งๆที่ก็ดูรวย??
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 02-01-2015 22:18:25
จัดหนักจัดเต็ม  :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:


เค้าชอบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 03-01-2015 10:19:07
อ่านแล้วติดเลยอ้ะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 03-01-2015 10:30:38
เลี้ยงกระต่ายดีๆนะพี่ปืน555


หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 03-01-2015 10:51:14
สนุกมากกกกกกกกกค่ะ. ตามอ่านรวดเดียวเลย เห็นเรื่องนี้มานานละ แต่ไม่กล้าเข้ามากลัวหน่วง ที่ไกนได้สนุกมากกกกก . รอตอนต่อไปนะคะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 03-01-2015 18:27:43
สนุกมากๆ  :mew1:   อ่านรวดเดียวเลย  เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเพลินมาก ><    รอดูปฏิกิริยาน้องต่าย  :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 05-01-2015 20:11:28
 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 06-01-2015 23:30:09
 มาต่อไวๆนะ.  :mew2: :mew6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 22 (01.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 08-01-2015 02:14:33
คนเขียนหายไปไหนน้า..... รอตอนต่ออยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 23 (08.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 08-01-2015 20:32:04
EPISODE 23











  ผมยืนมองกระต่ายขาวที่เอาผ้าห่มห่อตัวโผล่ออกมาแค่ตากับจมูกอยู่ปลายเตียง (มึงจะคอสเพลย์เป็นดักแด้หรือไง?) หลังจากที่มันเห็นผมก็นิ่งไม่ยอมปริปากพูด ซึ่งผิดคาดมาก ผมคิดว่ามันจะโวยวายเสียอีก
  
  “จะไม่พูดอะไรหรือไง?” กลายเป็นคนไม่ชอบพูดแบบผมที่ต้องถาม ไอ้คนพูดมากยังเงียบสนิทเพียงแค่ส่ายหน้าเท่านั้น
  
  “ตามใจ ไปอาบน้ำไป จะได้มากินข้าว” มันยังคงนั่งนิ่งจ้องผมตาแป๋ว ทำตัวน่าฟัดอีกล่ะ  - -
  
  “.............ไหว”
  
  “ห้ะ?”
  
  “บอกว่าลุกไม่ไหว!!!” เต็มหูกูเลยไอ้สัด ผมกดยิ้ม เดินเข้าไปข้างเตียง กะจะดึงผ้าห่มมันออกแต่เจ้ากระต่ายกลับยึดไว้แน่น
  
  “จะเอาผ้าห่มเข้าไปด้วยหรือไง?!”
  
  “แล้วใครใช้ให้ไม่ใส่เสื้อผ้าให้เล่า!!!” บันนี่ทำหน้าหงุดหงิดขึ้นเสียงดัง(แต่ติดจะแหบ เพราะอะไรคงรู้ ๆ กันอยู่นะ ..หึ)มองผมตาขวาง โอเค.. กูผิดเอง เมื่อคืนเพลียมากไง ใช้แรง ใช้พลังงานเยอะ กินกระต่ายรอบสุดท้ายจนอิ่มแรงขยับตัวยังแทบไม่มี อย่าว่าแต่ไอ้ควอทซ์เลยที่หมดแรง ผมเองก็ด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องที่ว่าทำเสร็จแล้วจะเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น่ะ เหอะ! ฝันไปเถอะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำให้ แต่เพราะเหนื่อยมาก สุดท้ายก็นอนกันทั้งร่างเปล่า ๆ ทั้งผมกับมันนั่นแหละ
  
  
  “หึ”
  
  “จะทำอะไร?!! อย่ามาจับ!” กระต่ายน้อยร้องโวยวาย ผมดึงก้อนดักแด้เข้ามาใกล้ตัวควอทซ์มันดิ้นแล้วคงสะเทือนด้านล่างถึงได้นิ่วหน้าแบบนั้น ตากลมมีหยาดน้ำคลอจาง ๆ ผมแตะริมฝีปากกับปลายจมูกโด่งแล้วเอ่ยขอโทษเบา ๆ ใช้จังหวะที่มันอึ้งนั่นอุ้มมันเข้าไปในห้องน้ำ(ทั้งก้อนผ้าห่มนั่นแหละ)
  
  “เสร็จแล้วเรียกนะ กูจะลงไปด้านล่าง” ผมบอกขณะวางเจ้าบันนี่ลง มันพยักหน้ารับรู้แต่ไม่มองหน้า ผมออกจากห้องน้ำแล้วลงบันไดไปที่ส่วนของห้องนั่งเล่นด้านล่าง
  
  
  
  
  
  
  
  
  เศษซากความสกปรกจากปาร์ตี้เมื่อคืนถูกทำความสะอาดให้มันเรียบร้อยเหมือนเดิมแล้ว ความเป็นมาของปาร์ตี้นั้นมันก็ไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ ก็แค่อยากทำให้แค่นั้นแหละ แต่ผมไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครไง ก็เลยต้องให้อีกสามคนมันช่วย ผลก็ออกมาอย่างที่เห็น ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ ก็ถือว่าดีอ่ะนะ แล้วของขวัญ ที่บอกว่าไม่มันก็แค่มุก วันเกิดมีแค่ปีละครั้ง มันก็ควรมีอะไรพิเศษบ้าง รอดูแล้วกันนะ หึหึ
  
  
  เอาล่ะ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่า ... ไรเฟิล รังสิมันต์ เมเยอร์ ศิริวัฒนามงคล นั่นคือชื่อเต็มของผม (ชื่อแม่งจะยาวไปไหน) ผมเป็นลูกครึ่ง ไม่ดิ ต้องเรียกว่าลูกผสม เพราะผมมีทั้งหมด 7 เชื้อชาติ ปู่ผมเป็นคน สวิส-ไอริช-อเมริกา ย่าเป็นคนไทย พ่อผมก็เลยมี 4 เชื้อชาติคือ สวิส-ไอริช-อเมริกา-ไทย ตาผมเป็นคนรัสเซีย ยายเป็นคนอังกฤษ-อิตาลี ออกมาเป็นแม่ที่มีเชื้อชาติ รัสเซีย-อังกฤษ-อิตาลี พ่อกับแม่รวมกันก็กลายเป็น 7 นั่นก็คือ สวิส-ไอริช-อเมริกา-ไทย-รัสเซีย-อังกฤษ-อิตาลี ที่รวมอยู่ในตัวผม (เว่อวัง - -)
  
  ครอบครัวผมมี 6 คน พ่อ แม่ พี่สาว ตัวผมเอง น้องชาย และน้องสาวคนเล็ก น้องผมพวกคุณก็ได้รู้จักกันไปแล้ว พี่สาวผมเดี๋ยวผมจะพามาแนะนำทีหลังแล้วกัน ครอบครัวผมก็จัดว่าดีนะ ไม่ค่อยมีปัญหากันเท่าไหร่(ซึ่งไอ้ใน ‘ไม่ค่อย’ มันก็มีบ้าง) พ่อผมเป็นนักธุรกิจที่ค่อนข้างจริงจังกับงาน ค่อนข้างที่จะบ้างาน แต่ก็ยังดีที่ท่านชอบหาเวลาว่างมาอยู่กับครอบครัว กับแม่บ้าง ส่วนแม่ของผม พ่อไม่อยากให้ทำงาน แต่แม่ผมดื้อ สุดท้ายก็เลยเปิดร้านเสื้อผ้าทำแบรนด์ของตัวเองที่มีพี่สาวผมเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วย(แม่เป็นดีไซน์เนอร์ พี่สาวผมมันเป็นนักธุรกิจแบบพ่อ แต่ถูกแม่บังคับให้มาทำด้วย - -)
  
  ผมเรียนคณะเศรษฐศาตร์ ชั้นปีที่ 3 ที่ผมเลือกเรียนคณะนี้ก็ไม่ใช่อะไร โดนพ่อบังคับ.. แต่พอเอาจริงผมดันชอบมัน เรื่องที่ถูกบังคับก็เลยไม่มีปัญหา ผมอาจจะเกิดมาเพื่อเป็นนักธุรกิจก็ได้ (เหอะ)
  
  
  อาหารที่สั่งไว้มาส่งตั้งนานแล้ว และตอนนี้ผมก็โคตรหิว แต่ยังกินตอนนี้ไม่ได้เพราะบันนี่มันยังไม่ลงมา
  
  
  
  ....เฮ้อ
  
  
  
  “ทำไมไม่แต่งตัว?” ผมถาม ไอ้กระต่ายดื้อสะดุ้ง ยังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำอยู่เลย นั่งตาลอยอยู่บนเตียงไม่ยอมใส่เสื้อผ้า ตากลมนั่นมองผมแล้วหลุบต่ำมองตักตัวเองเสียอย่างนั้น
  
  “...............” ผมพ่นหายใจเบา ๆ กับความเงียบที่ตอบกลับมา เข้าใจละ เวลาโดนเงียบใส่แม่งน่าหงุดหงิดแค่ไหน ผมเดินไปหาเสื้อผ้าที่มันพอจะใส่ได้ในตู้มาให้
  
  
  “หรือต้องให้ใส่ให้?”
  
  “ไม่ต้อง”
  
  ผมไหวไหล่ถอยออกมายืนพิงผนัง จ้องทองกระต่ายขาวบนเตียงนิ่ง ๆ ตากลมจ้องหน้าผมแล้วแก้วใสก็ขึ้นสีแดง อืม.. อายสินะ โอเค ได้! ผมกลอกตาแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดน้ำล้างหน้าตัวเอง แล้วจ้องมองภาพสะท้อนใบหน้าตัวเองภายในกระจก...  เฮ้อ ..  พอออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เจอบันนี่แล้ว ..คงลงไปข้างล่าง ผมชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูเปลี่ยนไปนั่งลงบนเดย์เบดริมระเบียง
  
  
  
  ...ผมน่าจะโทรหาแม่สักหน่อย
  
  
  
  “กรี๊ด!! ฉันฝันอยู่หรือเปล่านี่” คิดถูกหรือเปล่าเนี่ย - -
  
  “โทรหาไม่ได้หรือไง”
  
  “โทรได้สิคะ แค่แปลกใจว่าอะไรเข้าสิง ดลใจให้ยูโทรหามัมได้ เอ๊ะ! หรือว่าการที่ไอสวดมนต์ก่อนนอนจะช่วยให้ยูโทรหาไอนะมายบอย...” เพราะแม่เป็นคนต่างชาติ การสื่อการของเราเลยใช้ภาษาอังกฤษเป็นตัวช่วย
  
  “ให้ตาย...”
  
  “คิดถึงไอละสิ”
  
  “งั้นมั้ง”
  
  “อ้ะ! จริงสิ วันนี้เป็นวันแม่ของประเทศไทยนี่นา” นั่นแหละ เหตุผลที่ผมโทรหาแม่ (วันเกิดของควอทซ์คือวันที่สิบเด็กสิงหาซึ่งเป็นเมื่อวาน(ตอนที่21-22)แล้ววันนี้ของเรื่องก็เลยเป็นวันที่สิบสองสิงหา)
  
  “อื้อ.. นั่นแหละ”
  
  “กลับมาให้กอดหน่อยสิมายบอย” เป็นปกติที่คุณนายฟีโอน่าจะเรียกผมว่า มายบอย แต่แม่ก็เรียกลูกชายตัวเองว่า มายบอย อยู่แล้ว ไอ้ฟาก็โดน ส่วนลูกสาวท่านจะเรียก มายเกิร์ล
  
  “อาจจะ.. มัม ยูจะว่ายังไงถ้าไอมีแฟน?”
  
  “....... อืม ไม่ยังไงนะ นั่นมันเป็นสิทธิ์ของยู ยูโตแล้ว คิดด้วยตัวเองได้แล้ว ดีเสียอีก จะได้มีคนช่วยดูแลยู”
  
  “มัมคิดอย่างนั้นเหรอ แล้วถ้า.. คนนั้นเป็นผู้ชายล่ะ?”
  
  “...........”
  
  “มัม...” แม่เงียบไปนานจนผมต้องเรียก นั่นมันให้ผมใจเสียไม่น้อยเลยล่ะ
  
  “คนที่ยูจะขอเป็นแฟนคือผู้ชายเหรอมายบอย? ไอ.. แป๊บนึงนะ ไอแค่ตกใจ”
  
  “เฮ้อ..”
  
  “ยูแน่ใจว่ายูรักเขาจริงใช่ไหม? ถ้ายูแน่ใจตรงนั้นไอก็ไม่มีปัญหา ยูจะคบกับใครมันเป็นสิทธิของยู เข้าใจใช่ไหม?” สรุปง่าย ๆ จากที่แม่ผมพูดคือ ... ‘เรื่องของมึง’
  
  “ขอบคุณ... ขอบคุณครับ”
  
  “อย่าลืมพามาให้ไอรู้จักล่ะ ใครกันนะทำให้เพลย์บอยอย่างยูขอเป็นแฟนได้~”
  
  “มันจะคบด้วยหรือเปล่ายังไม่รู้เลย เหอ ๆ”
  
  “แน่นอนสิ ยูทั้งหล่อ ทั้งเก่ง ใคร ๆ ก็ต้องสยบทั้งนั้นแหละ”
  
  “อย่ามั่นใจไปหน่อยเลย..”
  
  “คิกคิก”
  
  “....รักนะ”
  
  “รักเหมือนกันค่ะ”
  
  
  
  
  
  
  
  
  ...................................................
  
  
  
  
  มาถึงข้างล่างบันนี่มันนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว แต่กับข้าวทุกอย่างไม่ได้ถูกแตะต้องเลย ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามันรอผมอยู่.. หึ แล้วตาช้ำ ๆ กับปลายจมูกแดง ๆ นั่นคืออะไร? ร้องไห้? ร้องทำไม? มันคงรู้ตัวเพราะผมจ้องไม่วางตา หน้าใสก้มลงหลบสายตา ตักข้าวปากกลบเกลื่อน ไม่ได้สนใจผมเลย
  
  
  
  
  
  “เป็นอะไรวะ!?” ผมถามติดจะใส่อารมณ์ ระหว่างกินข้าวมันก็ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรสักอย่าง ทั้งที่ปกติมันเป็นแบบนั้นที่ไหน แม่งไม่เกี่ยวกับมารยาทบนโต๊ะอาหารเหี้ยอะไรทั้งนั้นแหละ นี่ก็เงียบมาจะเป็นชั่วโมงอยู่แล้ว มันน่าโมโหไหมละ?!
  
  “เปล่า..”
  
  “กูต้องเชื่อไหม ฮึ?” เอนหลังพิงพนักโซฟา ควอทซ์นั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาวคนละตัวกับผม
  
  “ก็แล้วแต่”
  
  ผมทำเสียงขึ้นจมูก “อยากพูดอะไรก็พูดมา”
  
  “...... กูจะไปเรียน” อยากจะหัวเราะ...
  
  “เดินให้ตรงก่อนเถอะ” ฟันขาวขบริมฝีปากล่าง มือกำแน่นจนขึ้นสีขาว ตากลมมองผมด้วยความไม่พอใจพร้อมทั้งหยาดน้ำที่เคลือบหน่วยตา..
  
  “มึงมัน..!”
  
  “ทำไม กูมันทำไม เสียใจมากใช่ไหมที่เป็นของกู!”
  
  “อึก..”
  
  “ถ้าเป็นไอ้แพคมึงคงไม่..”
  
  “หุบปาก!!  ถ้ามึงไม่รู้ก็อย่าพูด! กูไม่ได้เสียใจที่โดนมึงทำแบบนั้น แล้วกูก็ไม่ได้ดีใจถ้าคนนั้นเป็นไอ้แพค มึงแม่ง! ฮึก มีแต่กูที่รู้สึกอ่ะ มีแค่กูที่รู้สึกกับมึงอยู่คนเดียว ฮึก..  ถ้า ถ้ามึงไม่ได้รู้สึกอะไรก็ไม่ควรทำดิ กูผิดที่เริ่มก่อน กูขอโทษ อึก แล้วมึงแค่เมา...”
  
  “กูไม่ได้เมา!! แล้วมึงรู้ได้ยัง!? รู้ได้ยังไงว่ากูไม่รู้สึกอะไร มึงเป็นใคร มีสิทธิอะไรมาตัดสินความรู้สึกของกู! ....แล้วเรื่องเมื่อคืน รู้ไว้เลยว่ากูตั้งใจ!”
  
  .
  .
  .
  
  “มึงชอบกูเหรอ?” หลังจากนิ่งไปหลายนาทีมันก็พูดขึ้นมา ตาโต ๆ นั่นเบิกกว้างยิ่งโตกว่าเดิม ผมพ่นลมหายใจแรง ๆ เสยผมไปด้านหลัง ขนาดนี้แล้วยังกล้าถามอีก มึงโง่หรือมึงโง่
  
  “.............”
  
  “.............”
  
  “...คิดว่าไง?”
  
  .
  .
  
  “คิดว่า.. แค่อยากลอง หึ”
  
  ปึก!!
  
  ผมผลักร่างของไอ้กระต่ายโง่ให้นอนราบกับโซฟา ตรึงมือของมันไว้เหนือศีรษะ ผมไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง ความรู้สึกหลาย ๆ อย่างผสมปนเปจนแทบแยกไม่ออก
  
  “มึงกล้าพูดออกมาได้ยังไง..?”
  
  “แล้วทำไมจะพูดไม่ได้!! หรือไม่จริง เหอะ! มึงอาจจะเอากูเพราะอยากลองก็ได้นี่ ชีวิตมคงมีแต่ผู้หญิงเข้ามาหา...”
  
  “เกี่ยวเหี้ยอะไรกับผู้หญิงวะ!?”
  
  “มึงแม่งเจ้าชู้! เอาไปเรื่อย! มึงไม่เคยลองกับผู้ชายนี่! แล้วเมื่อคืน..”
  
  “แล้วยังไง!! มึงคิดว่ามีแค่ผู้หญิงที่เข้าหากูหรือไง ถ้ากูอยากลองกูลองกับคนอื่นก็ได้! ถ้าแค่อยากลองกูไม่ต้องมาทำกับมึงก็ได้!”
  
  “......”
  
  “กูเคยดูแลใครนอกจากมึงไหม กูเคยพูดคำว่าขอโทษออกมาง่าย ๆ กับคนอื่นนอกจากมึงไหม กูเคยต้องหยุดเรียนเพื่อทำเซอร์ไพรส์ให้ใครนอกจากมึงไหม กูเคยอ่อนข้อให้ใครนอกจากมึงไหม มึงเห็นกูใจดีจะไปรับไปส่งใครก็ได้งั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่มึงกูก็ไม่ทำให้หรอก!!!”
  
  เกิดมาไม่เคยต้องพูดอะไรมากมายขนาดนี้ ไอ้เหี้ยนี่เป็นใคร กล้าดียังไงมาทำให้ผมน็อตหลุดแบบนี้วะ! ผมหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน คลายมืออกจากข้อมือเล็กที่ตอนนี้แดงช้ำเพื่อแรงบีบของผม ดันตัวเองขึ้น ยกมือลูบหน้าตัวเองก่อนจะเดินเลี่ยงขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นสอง ผมกำลังโมโห ถ้าไม่หนีขึ้นมาคงได้เผลอทำร้ายมันเข้า นิสัยผมเป็นคนนิ่ง ๆ ก็จริง แต่ถ้าน็อตหลุดผมก็ใส่แหลกเหมือนกัน
  
  
  
  ทิ้งตัวนอนคว่ำบนเตียง เขี่ยกล่องของขวัญที่เพิ่งเอาออกมาจากตู้เล่นไปมา ...ผมปัดกล่องนั่นลงพื้นในจังหวะที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออกจากด้านนอกพอดี กล่องของขวัญที่ถูกห่ออย่างดี(ซึ่งแน่นอนผมไม่ได้ห่อเอง)ตกกระทบแทบเท้าของคนเข้ามาใหม่ ผมพลิกตัวนอนหงาย ไอ้บันนี่หยิบกล่องนั่นขึ้นมาแล้วเริ่ม ผมกลอกตาก่อนจะหลับลง สักพักเตียงก็ยวบลง ผมยังคงนอนหลับตานิ่ง ๆ
  
  
  ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบ แทบจะได้ยินเสียงฝุ่นละอองกระทบกับกับวัตถุ (นี่ก็เวอร์ไป) ลืมตามองเพดาน ก่อนจะเบนสายตาไปมองแผ่นหลังบางของคนที่นั่งอยู่บนเตียง แก้วเลนส์และกล่องเปล่าถูกวางไว้ข้างตัวของมัน ...เห็นแล้วสินะ ร่างบางลุกขึ้นยืนหันหน้าเข้าหาเตียงและตาก็มองผมอยู่
  
  “...อ่านว่าอะไร?” มันชูกระดาษสีขาวธรรมดาที่มีรอยพับครึ่งขึ้นมา บนกระดาษแผ่นนั้นมีตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่หนึ่งประโยค มืออีกข้างกำอะไรสักอย่างเอาไว้..
  
  “อ่านไม่ออก” ผมไหวไหล่ มันจิ๊ปากทำหน้าขัดใจ (ไอ้บ้านี่อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงมีประจำเดือน)
  
  “มึงไม่เป็นเขียนไม่ใช่หรือไง”
  
  “ก็ใช่ แต่ตอนนี้อ่านไม่ออกแล้ว ลืมมันไปเถอะ”
  
  “ง่ายเนอะ ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้วะ มึงพูดเหมือนทุกอย่างมันไม่มีความหมายอะไรเลย!”
  
  “Will you be my boy?”
  
  “?”
  
  “ในกระดาษนั้นไง ‘Will you be my boy?’ ให้อ่านไม่ใช่ไง? อยากให้พูดก็บอกดิ หึ”
  
  “Fck you!!”
  
  และแล้ววัตถุขนาดเล็กก็ลอยมากระทบกับอกผม(ตอนนี้ผมนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง)ก่อนที่มันจะกลิ้งไปนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ผมกดยิ้ม หยิบเจ้าวัตถุนั้นขึ้นมา ส่งมือไปปัดมือซ้ายที่ไอ้บันนี่มันยื่นมาทิ้ง แล้วคว้ามือขวามาแทนก่อนจะสวมสิ่งนั้นลงไปบนนิ้วกลางข้างขวาของมัน..
  


  “กูไม่ได้ขอแต่งงานครับ หึหึ”
  
  “ไอ้สัด... -///////-”

  
  
  
  
  
  สิ่งที่ผมให้มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรหรอก ก็แค่แก้วทรงเลนส์กล้องที่ข้างใรมีแหวนทองคำจาวเรียบ ๆ มีเพชรเม็ดเล็ก ๆ ประดับอยู่รอบตัววง กับกระดาษหนึ่งแผ่นที่มีคำว่า ‘Will you be my boy’ ก็แค่นั้น เห็นไหม? ไม่เห็นจะมีความหมายอะไรเลย หึ




------------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป....

มาแล้วค่าาาาาาาาาาาา ไม่ได้หายไปไหนหรอก TwT
งือออ มีคนรอด้วย  :hao5: ตอนนี้สองนางก็ตกลงปลงใจ(?)กันแล้ว ปรบมือรัวๆ  :katai2-1:
ตอนนี้คนเขียนเปิดเทอมแล้วค่ะ เพิ่งเปิดเทอมวันนี้ เลยมาอัพนิยายฉลอง(?) 55555555555555
หนาวก็หนาว หิมะก็ตก ฮื่ออออออ
และอยากจะบอก... ตอนนี้สต็อคหมดแล้วค่ะ  :o12:
ขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคะ รักนะ จุ้บๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 23 (08.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaido ที่ 08-01-2015 20:49:49
เชื้อชาติไปไรเฟิลเยอะมาก ถถถถถถถถถถถถถถ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 23 (08.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 08-01-2015 20:56:12
คุณแม่ไรเฟิลน่ารักดีจุง มีเงิบนิดๆด้วยนะที่ลูกคบลูกชาย :laugh: :laugh:

หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 23 (08.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 08-01-2015 21:09:16
ดูยังอึนๆใส่กันนะคะ. ตอนหน้าขอหวานๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 23 (08.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 08-01-2015 21:15:23
บันนี่ทำพี่ปืนน็อตหลุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ระวังจะเจอโหมดโหดนะ

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 23 (08.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-01-2015 21:23:31
บทจะหวานก็หวานซะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 23 (08.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 08-01-2015 23:13:48
ก็อยากให้ใส่มือซ้ายนี่นา!~
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 23 (08.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 08-01-2015 23:15:02
โอ้วว เค้าตกลงปลงใจกันแล้วววววว

รักษาสุขภาพนะคะ คนเขียน♡
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 23 (08.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 09-01-2015 00:09:00
 :mew1: :mew1: :mew1:ตามอ่านทันแล้ววววว :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 23 (08.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 09-01-2015 09:37:32
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:


ขอแบบจัดหนัก เหมือนตอนก่อนหน้าได้ป่ะ  :haun4: :haun4:

ว่าแต่เหมือนสองคนจะคุยกันดีๆ ไม่ค่อยได้ 555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 24 (14.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 14-01-2015 20:12:26
EPISODE 24







  “กูไม่ได้ขอแต่งงานครับ หึหึ”
  
  “ไอ้สัด... -///////-”
  
  
  ..............................................

  
  



  ถ้าถามว่าตอนนี้รู้สึกยัไง.. ผมรู้สึกว่าตัวเองใจง่ายฉิบหาย ทำไมยอมมันง่าย ๆ แบบนี้วะ ทำควรจะเล่นตัวสักหน่อยไหม..
  
  ผมมองแหวนบนนิ้วกลางข้างขวาด้วยความรู้สึกหลาย ๆ อย่าง ดีใจ? ตกใจ? มึนงง? สับสน? ใช่ .. ใช่แม่งทุกอย่างนั้นแหละ ไม่รู้ว่าที่มันพูดออกมาเชื่อได้มากแค่ไหน แต่ก็นะไรเฟิลไม่ใช่คนที่จะพูดอะไรพร่ำเพรื่อ และเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนั้นที่มันพูดออกมามากมาย นั่นทำให้ผมตกใจไม่น้อยเลย..
  
  แล้วการที่ผมตกเป็นของไรเฟิลเมื่อคืนนั้นจัดว่าช็อคมาก(แล้วแม่งก็เจ็บมากด้วยTwT) แต่ผมเองก็ผิดที่ดันไปเริ่มก่อน รู้งงี้ไม่ดื่มแม่งเข้าไปหรอก ฮือ ผมจะเททิ้งก็ได้นะที่จริง แต่ไม่รู้อะไรดลใจถึงไปดื่มมัน..
  
  “เป็นเหี้ยไร?” ผมหยุดการทำร้ายร่างกายตัวเอง(ทึงผม) หันไปมองเจ้าของเสียงทุ้มที่นั่งพิงหัวเตียงอ่านชีทอยู่
  
  ..ดูเหมือนผมจะไปทำลายสมาธิมันนะ ช่างเถอะ ในเมื่อทำลายแล้วเราก็ควรทำลายให้ถึงที่สุด! - โดราเอม่อนไม่ได้กล่าวไว้ .. ขอโทษครับ ผมไม่ควรออกนอกทะเล
  
  “มึง!” ผมกระถดตัวนั่งขัดสมาธิแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้จนเข่าเกยขามัน ไอ้คุณชายวางชีทไว้ข้างตัวแล้วจ้องหน้าผมพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างนึง ไอ้สัดเอ๊ย! อยู่ ๆ ก็เขินขึ้นมาเสียอย่างนั้น
  
  “อะไร?”
  
  “คือแบบ... มึงกับกู เอ่อแบบ..”
  
  “ได้กันแล้ว” ผมเอาหมอนฟาดไอ้คนพูดทันที ใครใช้ให้พูดแบบนั้นวะ!
  
  “ไอ้สัด!!”
  
  “ไม่จริงหรือไง?” มันพูดด้วยท่าทียียวน “มึงจะพูดอะไรก็พูดมา”
  
  “ตอนนี้ .. มึงกับกู .. เป็นอะไรกันวะ..” ไรเฟิลพ่นลมหายจ กลอกตาขึ้นข้างบน
  
  “อยากเป็นอะไรล่ะ กิ๊ก? คู่นอน? วันไนท์สแตนด์ไหม? เพื่อนที่ขึ้นขี่กันได้? แฟน? หรือจะเป็นเมีย?” ผมกระพริบตาปริบ ๆ รู้สึกหน้าเห่อร้อน พ เพื่อนที่ขึ้นขี่กันได้เหรอ.. มึงไปจำคำใครมา!!
  
  “ไอ้เหี้ยยยยย! ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้ ห้ะ!”
  
  “หึ มึงอยากเป็นอะไร แล้วแต่มึงเลย”
  
  “ล แล้วมึงคิดว่ากูเป็นอะไรล่ะ..” ถามเองก็กลัวเอง ผมหลุบตามองมือตัวเองที่เขี่ยผ้าปูที่นอนไปมา .. อาการของคนไม่มั่นใจ
  
  “เป็นของกู” ผมกัดปาก “กูรู้ว่ามึงคิดมาก ถ้ามีคนถามว่ากูกับมึงเป็นอะไรกัน ใช่มะ? แต่มึงไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ ไม่จำเป็นเลย เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของเราบันนี่ ถ้ามีคนถามกู ก็แค่บอกว่า มึงเป็นของกู ก็แค่นั้น แล้วขอร้องเถอะ อย่าเพิ่งคิดมากกับเรื่องที่มันยังมาไม่ถึงได้ไหม”
  
  ผมก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม มืออุ่น ๆ วางลงบนศีรษะของผมแล้วโยกไปมาก่อนจะขยี้เบา ๆ การกระทำอ่อนโยนนั่นทำให้ผมใจเต้นแรง รู้สึกตัวร้าน ๆ ทั้งที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ .. ไอ้สัด น้ำตาจะไหล
  
  “มึงไม่ชอบผูกมัด..แล้วก็ไม่ขอบให้ใครทำตัวเป็นเจ้าของ..”
  
  “ถ้าเป็นมึง.. กูยินดี”
  
  
  
  ฉ่า. . .
  
  
  ให้ตายสิ เขิน เขินเป็นบ้าเลย ไม่ไหว แบบนี้ไม่ไหว หัวใจทำงานหนักไปแล้ว นี่มันไรเฟิลตัวปลอมหรือเปล่า คุณชายรังสิมันต์แสนเย็นชานั้นหายไปไหน
  
  มือหนาดันคางผมขึ้น “ฮะฮะ หน้ามึงโคตรแดงเลยบันนี่ แค่นี้เขินอ่อนว่ะ” เสียงหัวเราะล้อ ๆ ของมันทำให้ผมยิ่งเขินหนักกว่าเดิม จะหันหลังหนีแม่งก็จับตัวผมไว้แล้วรั้งตัวจนผมซุกหน้าอยู่กับไหล่มัน ไรเฟิลขยับตัวนอนราบกับพื้นเตียง มีผมทับตัวมันไปมากกว่าครึ่ง..
  
  นังหน้าด้าน..
  
  “ทำไมต้องบันนี่วะ! ชื่อกูออกจะเท่”
  
  “เรื่องของกู หึหึ”
  
  “นิสัยไม่ดี” พลิกตัวลงจากตัวของไรเฟิลแล้วกลิ้งไปนอนอีกฟากของเตียง ผมนอนมองเพดานนิ่ง ๆ ระหว่างเรามีเพียงความเงียบลอยตัวอยู่รอบ ๆ มันไม่ใช่ความเงียบที่น่าอึดอัด แต่มันเป็นความเงียบที่ผมรู้สึกดีสุด ๆ
  
  

        
  
  “ยังเจ็บอยู่ไหม”
  
  “อื้อ... นิดหน่อย”
  
  “ทำบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชิน หึ”
  
  “เหี้ยเหอะ! ไม่ทำอีกแล้ว!!”
  
  “จำคำมึงไว้”
  
  “ให้กูอยู่ข้างบนดิ เดี๋ยวรู้เลย!”
  
  “ออนท็อปอ่ะนะ โอเคได้” แล้วสารพัดคำพูดและสัตว์นานาชนิดก็หลุดออกจากปากผมอย่างกับก็อกแตก.....
  
  
  
  
  
  “ไรฟ์...” ผมเรียกอีกฝ่าย หันไปมองไรเฟิลที่ตอนนี้นอนหลับตาอยู่แป๊บนึงแล้วหันกลับมองเพดานเหมือนเดิม มันไม่ได้มองมาที่ผม แต่มือที่ใหญ่กว่าก็จับมือของผมเอาไว้ภายใต้ผ้าห่ม..
  
  
  เขิน..
  
  
  “หืม?”
  
  “ถามไรอย่างดิ”
  
  “อืม”
  
  “มึงชอบกูตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ?”
  
  “หึ” ไรเฟิลเขย่ามือที่จับกันไว้อยู่เบา ๆ คงเพราะผมเผลอบีบมืออีกฝ่ายเข้า.. “นานล่ะ”
  
  “โกหกเปล่า ทำไมกูไม่เคยรู้งะ?”
  
  “มึงโง่ไง”
  
  “......”
  
  “ไม่เคยรู้ตัวเลยหรือไงว่าพิเศษกว่าคนอื่น ฮึ?”
  
  “พ พิเศษยังไงเล่า..?”
  
  “มึงนี่นอกจากเรื่องเรียนแล้วฉลาดเรื่องอะไรบ้าง”
  
  “.....ก ก็กูโง่ไง มึงก็บอกมาสิ” มันหัวเราะหึแล้วก็เงียบ
  
  “มึ้งงงงงงงงงงงงงงงง มึงอ่ะ!”
  
  “ปัญญาอ่อนนะรู้ตัวป่ะ”
  
  “จิ๊! ถามอย่างอื่นก็ได้ว่ะ”
  
  “สะสมครบสามคำถามแลกได้หนึ่งจูบ ครบสามจูบ ได้สิทธิเมคเลิฟหนึ่งยก...ตอนนี้ครบสามแล้ว”
  
  ให้ตาย!!! ทำไมไรเฟิลเป็นคนแบบนี้วะ!! แล้วแม่งงงงง คำพูดแบบนั้นมันใช่ไรเฟิลหรอ มันไม่ใช่นะเว้ย!! เอาไรเฟิลคนเย็นชาคืนมา!!! ไอ้เหี้ยนี่มันกวนตีน กวนตีนฉิบหายเลยยยยยยยยยยยยยย T____T
  
  “เฮ้ยยยยยย! ได้ไงวะ พูดอะ.. อื้ออออ”
  
  ..แฮ่ก ถึงกับแฮ่ก..
  
  หลังจากปล้นจูบผมเสร็จไอ้คุณชายเอาแต่ใจก็กลับไปนอนแบบเดิม
  
  “จะถามอะไร ถามมาสิ”
  
  “ไม่ถามแล้ววว” ผมพลิกตัวนอนหันหลังให้อีกฝ่าย ดึงมืออกจากการกอบกุมแต่ไม่เป็นผลเพราะแม่งบีบมือผมแน่นเลย
  
  “งอนหรอวะ?”
  
  “เปล่า...” เปล่าจริง ๆ นะ ไม่ได้งอนห่าอะไรเลย ผมก็แค่.. ยังไงดีล่ะ บอกไม่ถูกแฮะ
  
  “เปล่าก็หันมา” ผมหันไปตามที่มันบอก แทบผงะตกเตียง ไม่รู้มันเข้ามาใกล้ขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อผมพลิกตัวนอนตะแคงก็เจอหน้าอีกฝ่ายอยู่ห่างกันไม่กี่เซนติเมตร ไม่ให้ตกใจยังไงไหว
  
  
  
  “เอ่อ...”
  
  “ถามมา” ผมกัดปากชั่งใจแต่สุดท้ายความอยากรู้ก็ชนะทุกสิ่งอย่าง.. - -
  
  “มึงจะมีกู...คนเดียวไหม?”
  
  “หึ ถามอะไรนี่ปรึกษาสมองก่อนป่ะ”
  
  “ตอบเด้ะ!”
  
  ไรเฟิลมองหน้าผม เราสบตากัน นัยต์ตาสีฟ้าฉายแววจริงจัง ผิดกับผมที่กำลังสั่นไหว.. “อืม มีคนเดียวนี่แหละ”
  
  ผมซุกหน้ากับอกอีกฝ่ายไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปาก มันพูดไม่ออก เอาจริง ๆ ผมไม่รู้ว่าผมจะมั่นใจคำพูดของไรเฟิลได้มากแค่ไหน คนที่มีแต่ผู้คนเข้าหา คนเจ้าชู้อย่างมันน่ะ! ไม่รู้สิ บอกตรง ๆ ก็กลัวมั้ง แต่ตอนนี้เราเพิ่งจะเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนเลื่อนมาเป็นแฟน... ผมว่าผมไม่ควรเยอะใส่มัน รอให้ผ่านไปสักพักน่าจะดีกว่า.. มั้ง
  
  
  
  
  
  
  “มึง... กูขอกลับไปตั้งหลักก่อนได้เปล่าวะ”




-----------------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป

เหมือนจะหวานนะ..หรือเปล่า  :mew5:
คุณชายเริ่มพูดมากแล้ว เยยยยย้ 555555555555555
ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ อย่าทิ้งคุณชายกับยัยควอทซ์ไปไหนนะคะ~  :mew2:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 24 (14.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ์NRNAAM ที่ 14-01-2015 21:13:13
อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เขินนอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 24 (14.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 14-01-2015 22:37:17
"สะสมสามคำได้หนึ่งจูบ ครบสามจูบได้เมคเลิพหนึ่งครั้ง"    ถามเยอะๆนะบันนี่   :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 24 (14.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 14-01-2015 22:38:01
เขิลล์อ่ะ.  บทจะพูดก็พูดซะเยอะเลยน้าาาา. ไรเฟิลล^^
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 24 (14.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 14-01-2015 23:58:44
หวานอีกหวานอีก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 24 (14.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 15-01-2015 00:37:52
ตั้งหลักอะไรคร๊าาาา ตัดจบขัดใจแม่ยกสุดๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 24 (14.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-01-2015 01:56:15
บทจะหวานได้นี่รั่วใส่ไม่หยุดเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 24 (14.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Lovelyjess ที่ 15-01-2015 03:40:50
อ่านรวดเดียวจบภายในคืนเดียว ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องแล้วดูไม่นาสนใจ
แต่เห็นจำนวนตอนที่ลงเยอะดี เลยเข้ามาอ่าน
แล้วก้พบว่าสนุกดี แต่บางครั้งก้งงๆ อึนๆ กับตัวละคร
แต่โดยรวมแล้วอ่านไปยิ้มขำไป มาอัพเรื่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 24 (14.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-01-2015 13:51:32
 :pig4:  เพิ่งจะได้มาอ่านจ้า  ทีแรกเห็นชื่อเรื่องนึกว่าออกแนว ดร์าค ๆ หน่วง ๆ เลยไม่ได้เข้ามาอ่านซะที  วันนี้ได้ลองอ่านดู  น่ารักดีค่า  รอติดตามอ่านตอนต่อไปจ้า  สู้ ๆ :L2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 25 (23.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 23-01-2015 20:08:36
EPISODE 25











  สามวัน!!!! สามวันแล้วที่ผมต้องใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ สามวันที่แล้วที่ผมขาดเรียน ให้ตายเถอะ!!! หลังจากที่ผมบอกกับไอ้คุณชายว่าขอไปตั้งหลักก่อน ซึ่งมันก็ยอมครับ (จริง ๆ คือจำใจยอมมากกว่า) หลังจากที่ไรเฟิลมาส่งผมที่หอ ผมก็จัดการเก็บกระเป๋ากะจะกลับบ้านเสียหน่อยไหน ๆ ก็ขาดเรียนมันแล้ว  พอไปถึงบ้านไม่ถึงสองชั่วโมงดีด้วยซ้ำก็ถูกป๊าลากไปที่สนามบินโดยให้เหตุผลว่ามีธุระด่วน เดี๋ยวนะครับท่าน .. ธุระของท่านมันเกี่ยวอะไรกับผมครับ ท่านจะลากผมไปด้วยทำม้ายยยยยยยยยยยย ผมนี่ไม่รู้จะกรีดร้องเป็นภาษาอะไรดีเลย รู้สึกคิดผิดมหันต์ที่กลับบ้านวันนั้น แต่ก็ยังดีที่ผมได้เล่นกับลูกรักทั้งสองอย่างมดแดงกับหมูปิ้ง เฮ้ออออ
  
  
  
  
  
  
  จุดหมายปลายทางก็คือภูเก็ตครับ เกาะภูเก็ต! ป๊าผมบอกจะไปคุยธุรกิจเกี่ยวกับฟาร์มมุกของอัครกรุ๊ปหรือเอเคกรุ๊ปนั้นแหละ พอไปถึงก็ต้องนั่งรถจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตไปอีกเป็นชั่วโมง!! ผมแทบจะดิ้นตายตรงนั้น แต่ทะเลสวย ๆ ก็ช่วยทำให้ผมเลิกงอแงใส่ป๊าได้ดีเลย ไปถึงจุดหมายคุณท่านก็ไปคุยงานทันทีครับ แล้วผมล่ะ!! ผมก็ถูกทิ้งไง!! ไม่ทันได้โวยวายคุณเกรย์ก็พอผมไปที่บ้านพักแล้วก็ทิ้งผมไปรับใช้ป๊า โอ้พระเจ้า.. พาผมมาทำไมวะ
  
  
  
  โทรศัพท์ที่เหลือแบตอยู่ไม่ถึง 20% ที่ชาร์จก็ไม่ได้เอามาด้วย!!! มันช่างเป็นอะไรที่กระทันหันมากจริง ๆ ..... ผมทำได้เพียงส่งข้อความไปบอกพวกสี่สหายว่าผมถูกพามาปล่อยเกาะโดยผู้เป็นพ่อ ยังดีที่โทรศัพท์ผมมีเซฟโหมดไม่งั้นนะ..... บึ้ม!!! (ถ้ายังใช้เครื่องเดิมแม่งชิ่งดับหนีความผิดตั้งแต่ 40% แล้ว) ได้คุยกับคุณชายอยู่ไม่นานก็วางไปเพราะมันบอกว่าจะกลับบ้าน มีเพียงคำพูดที่บอกว่าดูแลตัวเองดี ๆ เป็นประโยคสุดท้ายก็สายจะถูกตัด งานน้ำตาต้องมา...
  
  
  
  
  
  
  วันที่สองผมเลยวานให้คุณเกรย์ช่วยไปหาที่ชาร์จแบต ฯ ให้ นั่นแหละ เลยได้ต่อชีวิตผม แต่ความฝันทุกอย่างก็พลันสลายเหมือนทะเลสดใสมีแสงแดดรำไรก่อนจะถูกแทนที่ด้วยพายุฝน โฮฮฮฮฮ ผมไม่ได้แตะมันเลย!!!! วันที่สองนั้นป๊าพาผมไปที่ฟาร์มด้วยครับ!! วันแรกนี่คือหลอกให้ตายใจสินะ.. ป๊านี่ป๊าจริง ๆ ..... ป๊าพาผมไปแนะนำกับคนงาน แล้วหลังจากนั้นผมก็ถูกป๊าใช้งานทำนู่นทำนี่ ดูการเลี้ยงมุก กระบวนการเพาะเลี้ยงต่าง ๆ นานา จนไปถึงขั้นตอนการประดิษฐ์เครื่องดังมุกแสนสวย กลับถึงบ้านพักก็หลับเป็นตาย โทรศัพท์ไม่ได้แตะ ใครโทรมาก็ไม่ได้รับสาย เหมือนมีไว้ทับกระดาษและให้ฝุ่นพักอาศัย ถุยยยย มันเหนื่อยมากจริง ๆ ครับ ร่างจะแหลก ร่างกายของผมมันยังไม่ทันกลับมาสมบูรณ์ 100% จากคืนงานวันเกิด (-///-) พอใช้ร่างกายหนักแบบนี้มันเลยคล้ายจะป่วย TwT
  
  
  
  
  
  วันที่สามบนเกาะภูเก็ต..  ป๊าพาผมไปที่ฟาร์มอีกแล้ว แต่คราวนี้ไม่ได้ไปที่ห้องแสดงการเลี้ยงมุก โรงงาน หรือห้องแสดงผลิตตภัณฑ์เครื่องประดับจากไข่มุก ป๊าพาผมไปดูการเลี้ยงมุกถึงกลางทะเลเลยทีเดียว...  เรานั่งเรือจากท่าเรือไปที่กระชังเลี้ยงมุกประมาณสิบนาที มันก็สนุกดีนะครับ แต่... คุณรัชพล(ชื่อพ่อผม)จะรู้ไหมว่าแดดประเทศไทยมันเป็นยังไง.... ร้อนเหี้ย ๆ ไง! แต่คุณรัชพลหาได้สนใจไม.. ยังทำหน้าที่ผู้บริหารอัครกรุ๊ปได้อย่างดีเยี่ยม ไม่สนไอ้ลูกชายหน้าตาดี ๆ อย่างผมเลยสักนิด แต่คนงานที่ฟาร์มเขาดูเคารพนับถือพ่อผมมากเลย แถมยังเผื่อแผ่มาหาผมอีก (ถ้าไม่เคารพเขาก็อาจตกงานไหมเห็ด - -*)
  
  
  
  
  
  
  
  กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน....
  
  
  “ป๊า.. เราจะกลับกรุงเทพวันไหนงะ?” ผมถามระหว่างที่เรากำลังทานอาหารเย็นกันอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านพัก ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ลมพัดเย็น ๆไม่มีแดดรบกวนกับอาหารทะเลสด ๆ นี่มันดีจริง ๆ
  
  “ทำไม มึงรีบ?”
  
  “โห่.. นี่ขาดเรียนมาสามวันแล้วนะป๊า”
  
  “เพิ่งมาแค่สองคืนทำไมมึงขาดเรียนสามวัน?” ป๊ายกเบียร์ขึ้นจิบถามด้วยน้ำเสียงเข้มนิดหน่อย ผมกลืนน้ำลายเอือก กับเรื่องเรียนป๊าค่อนข้างซีเรียสระดับนึงเลยครับ...
  
  
  “ก็วันเกิดใช่ม้าาา ก็แบบดื่มเยอะไง พอเช้ามาก็เลยแฮงค์ เลยไม่ได้ไปเรียน ตอนเย็นกลับบ้านป๊าก็ลากมานี่แล้วง่ะ”
  
  “เหร้อออออ” ผมยิ้มกว้างโชว์ฟันกระต่าย
  
  “แฮะ ๆ”
  
  “จะทำอะไรก็ได้แต่อย่าทิ้งการเรียน เกรดตกล่ะมึง...”
  
  “รู้คร้าบบบบบ เคยสอบตกให้เห็นป่ะละ”
  
  “ก็ไม่แน่”
  
  “แล้วนี่เราจะกลับเมื่อไหร่งะ สามวันแล้วนาาาาา ..ฟืดดด” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง สูดน้ำมูกตบท้ายซะงั้น ป๊าหรี่ตามอง
  
  “ไม่แน่ใจ”
  
  “งานยังไม่เสร็จเหรอ? ขอบคุณครับ” ผมบอกของคุณเมื่อป๊าแกะกุ้งเผาตัวโตมาให้
  
  “เสร็จแล้ว กูจะอยู่เที่ยวต่อ อุส่าห์หนีย่ามึงมาได้” ป๊าพูดแล้วยักคิ้ว โหยยยยยย หนีย่ามาเหรอเนี่ย แล้วเมื่อกี้ใครบอกผมว่าจะทิ้งการเรียนวะ ตัวเองดันทิ้งงานมา
  
  “เที่ยวไหน ไปด้วยดิ อยากดูโคโยตี้ โอ๊ย!!” ผมเอามือลูบหัวตัวเอง ป๊าน่ะสิ! โยนน้ำแข็งใส่ผม งือ...
  
  
  
  
  
  
  ............................................................................
  
  
  
  
  
  
  
  “ยังไม่รู้เลยว่าจะกลับวันไหน” หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จผมก็วาร์ปมาเดินเล่นที่ชายหาด ตรงนี้เป็นหาดส่วนตัว เลยเงียบสงบและไม่มีคนเลย เพราะมีแต่คนภูเก็ต ถุย! (มุกไม่ฮานำพาส้น..) มันก็มีแค่ผมนี่แหละ ตอนนี้ก็กำลังคุยโทรศัพท์กับคุณชายอยู่
  
  (“ป๊ามึงว่าไง?”)
  
  “ป๊าบอกงานเสร็จแล้วแต่จะอยู่เที่ยวต่อ เจ๋งสัดไหมล่ะมึง ฮ่า ๆ”
  
  (“หึ รีบ ๆ กลับมาได้ล่ะ ห้องกูสกปกมากแล้วเนี่ย”) จำกันได้เปล่า ผมทำงานเป็นพ่อบ้านให้มันไง
  
  “คิดถึงก็บอกคิดถึงไม่ใช่คิดถึงแล้วบอกว่าห้องกูสกปกมาก”
  
  (“สำคัญเนอะ”)
  
  “ไม่จริงเหรอ หว้าาาา เสียใจจัง”

  (“เปิดกล้องดิ้”) ผมกดเปิดกล้องตามที่มันบอก หัวฟู ๆ ของมันลอยเด่นมาเลย จากโลเคชั่นน่าจะอยู่ที่ระเบียง... แต่ระเบียงที่ไหนวะ
  
  “อยู่ไหนงะ?”
  
  (“ห้องไอ้ไนต์”)
  
  “อ้อออ สวยเปล่าาาา เห็นเปล่าวะ” ผมหมุนกล้องให้เห็นบรรยากาศรอบ ๆ
  
  (“อื้อ”)
  
  “ไปทำไรห้องหมาไนต์อ่ะ”
  
  (“ดริ้งค์”) มันยักคิ้ว คิดว่าเท่เหรอสาดดดดด เออ เท่มาก! แม่ง คิดถึงอ่ะ แต่ทำไมผมรู้สึกตัวเองแรด ๆ ยังไม่รู้ TwT
  
  
  
  ตอนเย็นแบบนี้รู้สึกหนาวแปลก ๆ แฮะ หรือเพราะผมจะไม่สบาย - - อาจมีส่วนก็ได้ พอเป็นแบบนั้นผมเลยเปลี่ยนความคิดที่ว่าจะเดินเล่นดูพระอาทิตย์ตกเป็นกลับเข้าบ้านพักแทน เดินผ่านห้องนั่งเล่นก็เจอป๊ากำลังดูข่าวอยู่ ผมก็เลยวิ่งขึ้นชั้นสองแล้วไปกบดานในห้องนอน
  
  
  
  ระหว่างที่คุยกับไรเฟิล ไอ้ไนต์ก็มาก่อกวน มันหาว่าผมหนีเที่ยวไม่ชวนมัน สาดดดดดด ขนาดนั้นกูยังไม่ทันตั้งตัวเล้ยยยยยยยยยยยยย ผมยักคิ้วลิ่วตาเยาะเย้ยแล้วบอกให้มันเก็บชีทเรียนไว้ให้ .... และไม่รู้ว่าคุยกับพวกมันจนเผลอหลับไปตอนไหน เพราะรู้สึกตัวอีกทีสายก็ตัดไปแล้ว
  
  
  ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัว แสบตา และแสบจมูก แถมยังรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอีก สวัสดีความป่วย -_-
  
  
  
  
  
  แกร็ก..
  
  ผมหันไปมองประตู ป๊าเดินเข้ามาแล้วยืนกอดอกอยู่ข้างเตียง พร้อมทั้งทำหน้าสมน้ำหน้าสุดขีด
  
  “ไง”
  
  “ปวดหัวอ่ะ” ผมเบ้ปาก ขยับตัวขึ้นพิวหัวเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมจนถึงคอ
  
  “ลงไปกินข้าว กินยาแล้วนอนพักซะ”
  
  “อื้อ...~~”
  
  
  
  .
  
  
  
  “กี่โมงแล้วครับ?”
  
  “สามทุ่มครึ่ง”
  
  “ป๊าไม่ไปเที่ยวอ่อ? ฟืดดดด” ตักข้าวต้มกินไปก็สูดน้ำมูกไป อนาถแท้ชีวิต
  
  “ทิ้งมึงไปเที่ยวย่ามึงก็ฆ่ากูสิ”
  
  “ห่วงก็บอกมาดิ้”
  
  ป๊าหรี่ตามองก่อนจะเหยียดยิ้มหยัน “รีบกิน จะได้ไปพัก พรุ่งนี่เช้าเราจะกลับกรุงเทพ”
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  .............................................................................
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  ให้ตาย! นอนพักมาทั้งคืนนึกว่าจะดีขึ้น แต่ทำไมมันกลับแย่ลงจนต้องมานอนพัักที่โรงพยาบาลด้วย! หลังจากกลับจากภูเก็ต พอถึงบ้านไม่นานผมก็ถูกหามส่งโรงพยาบาลซะงั้น ...เกลียดชะมัด
  
  
  
  อาการโดยรวมก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ไข้ขึ้นสูง แค่น้ำมูกไหล แค่เจ็บคอ แค่ไซนัสอักเสบ แค่ปวดหัวจนอยากร้องไห้ แค่หมอบอกว่าควรอยู่โรงพยาบาลสัก 2-3 วัน แค่นั้นเอ๊งงงงง ไม่มีอะไรเล้ยยยยยย โอมาก ๆ
  
  
  
  .....โอโห้ไอ้เหี้ยเป็นขนาดนี้มึงตายไปเถอะ!
  
  
  
  
  “เป็นไงบ้างลูก?” คุณย่าถามพลางห่มผ้าให้ นี่ต้องใช้ผ้านวมที่ซื้อมาใหม่ด้วยนะครับ แค่ผ้าห่มโรงพยาบาลบาง ๆ มันไม่พอ ย่าบอกมางี้
  
  “ชิล ๆ ฮะ...”
  
  “ชิลมากไหมล่ะ เสียงแหบขนาดนี้”
  
  “งื่อ... ปวดไปหมดเลย...” ผมพูดทั้งที่หลับตา ผมไม่สามารถลืมตาได้จริง ๆ ครับตอนนี้ น้ำตาผมไหลตลอดเลย แถมยังแสบมาก ๆ อีกด้วย
  
  “ดื้อ!”
  
  “...ไม่ดื้อนะ...”
  
  คุณย่าส่ายหน้า “ลืมตาไม่ได้เลยเหรอคะ?”
  
  “ลืมได้... แต่มันแสบ...”
  
  “อื้ม... เดี๋ยวก็หายนะ”
  
  “อยากได้พี่หมี...”
  
  “เดี๋ยวย่าบอกคนที่บ้านเอามาให้ นอนพักซะคนเก่ง” พี่หมีคือตุ๊กตา(กระต่าย)ตัวโปรดของผม พี่หมีทั้งนุ่ม ทั้งอุ่น แถมยังกอดได้พอดีอีกต่างหาก ผมรักพี่หมีมาก ๆ เลย. . .
  
  
  
  
  
  
  “เพื่อนควอทซ์เหรอจ้ะ? ......... น้องยังหลับอยู่เลย”
  
  “ฮือ....” ผมปรือตามองรอบห้อง แสงแดดที่ส่องเข้ามาจนต้องหยีตาใส่ เห็นคุณย่านั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่โซฟา ท่านหันมามองก่อนจะเดินเข้ามาหา
  
  “ตื่นพอดีเลย เพื่อนหนูโทรมานะ”
  
  
  
  
  “โหล...”
  
  “ไอ้สัด!” ฟังแค่เสียงก็รู้แล้วว่าใครโทรมา ผมกระชับกอดพี่หมีให้แน่นขึ้น หนาวอ่ะ..
  
  “ฮือ.. ไม่เสียงดังดิ...”
  
  “อีก 20 นาทีเจอกันแน่บันนี่!!”
  
  
  
  
  แล้วหลังจากนั้นราวยี่สิบนาทีหรืออาจไม่ถึงด้วยซ้ำ สี่สหายก็มาปรากฏตัวต่อหน้าผม และป๊าเองก็มาก่อนพวกมันไม่กี่นาทีที่แล้ว ...รู้สึกเสียวสันหลังยังไงไม่รู้แฮะ
  
  “เอ่อ..”
  
  “ใคร? เพื่อนมึงหรอ” ป๊าถาม ผมพยักหน้า
  
  “นี่.. พ่อกับย่ากู”
  
  “สวัสดีครับ” สี่สหายประสานเสียงสวัสดีป๊ากับคุณย่า
  
  “หล่อกันจริง ๆ เด็กสมัยนี้” พวกมันยิ้มแป้นรับคำชม ยกเว้นก็แค่ไรเฟิลที่ทำหน้านิ่งจ้องผมเขม็ง เลยต้องยกพี่หมี่ขึ้นมารับหน้าแทน ผมไม่ไหวกันสายตามันจริง ๆ ครับ น่ากลัว...
  
  “แล้วอาการเป็นไงบ้างเหรอครับ?” ฟอร์สถาม
  
  “ไข้ขึ้นสูงแล้วก็ไซนัสอักเสบเฉียบพลันจ้ะ” รู้สึกถึงสายตาพิฆาตทั้งสี่คู่ ผมเลื่อนผมห่มมาคลุมหน้า เหลือไว้ดวงตานิดหน่อย
  
  “ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย..”
  
  “หน้าตามึงน่าเกลียดมากตอนนี้”
  
  “..เพราะป๊าแหละ”
  
  “เหอะ!” ป๊าลุกจากเก้าอี้ข้างเตียงแล้วเดินไปนั่งโซฟากับย่า และมีคุณชายไรเฟิลมานั่งแทน หน้านิ่ง ๆ ของมันทำให้ผมไม่กล้าที่จะมอง
  
  “ทำไมถึงป่วยวะ” กายถาม ผมส่ายหัวเป็นคำตอบ มันปืนมานั่งที่ปลายเตียง ทำให้ผมต้องเบี่ยงขาหลบ .. เบียดเบียนกูอีก
  
  “ต้องอยู่กี่วัน?” ไรเฟิลถามไม่มองหน้า ตาคมมองหลังมือผมที่มีสายน้ำเกลือเชื่อมอยู่พร้อมกับใช้ปลายนิ้วไล้บริเวณหลังมือเบา ๆ
  
  “หมอบอก 2-3 วันง่ะ”
  
  “อืม ... แหวนไปไหน”
  
  “หือ” ผมยกมือข้างขวามาดู ไม่มีแหวนจริง ๆ ด้วย! แหวรหายไปแต่ได้สายน้ำเกลือบนหลังมือมาแทน
  
  “... ป๊า ... ป๊า!”
  
  “อะไร?”
  
  “แหวนอ่ะ แหวนผมล่ะ?” ผมถามเสียงร้อนรน รู้สึกกระบอกตาร้อน ๆ
  
  “มึงใส่แหวนด้วยเหรอ ไม่รู้แฮะ”
  
  “ก็... อึก”
  
  “อย่าไปแกล้งลูกสิ!” ป๊าทำไมหน้าไม่พอใจ(สาบานว่านี่นักธุระกิจไม่ใช่เด็กอนุบาลโดนแย่งของเล่น)แต่ก็ยอมเอาแหวนมาให้ผมอยู่ดี ท่านบอกว่าคุณหมอถอดออกตอนผมเข้าห้องตรวจ
  
  
  
  
  
  .....โล่งอกไปที.....
  
  
  
  
  
  
  “อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมของไอ้ลูกหมาสามตัวกับสายตาล้อของพวกมันทำให้ผมเขินขึ้นมาดื้อ ๆ เล่นเอาต้องหลบตาพวกมันเป็นพัลวัน
  
  
  
  “ตีนติดคออ่อ? แค่ก ๆ”
  
  “มึงน่ะเหรอน้องเห็ด หึ” สัด! ก็คนป่วย เพราะป่วยนี่แหละเลยทำอะไรมันไม่ได้ ได้แต่ส่งสายตาคาดโทษไปให้ ให้กูหายก่อนเถอะพวกมึง!
  
  “น้องควอทซ์ ย่ามีธุระด่วย อยู่ได้ไหมลูก?”
  
  “ได้ครับ..”
  
  “คุณย่าไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมดูให้” ไอ้เชี่ยไนต์..
  
  “งั้นฝากด้วยนะจ้ะ เดี๋ยวย่ากลับมานะลูก”
  
  พอคุณย่ากับป๊าออกไป ไอ้สี่สหายก็มองผมอย่างดุร้าย แง.. คุณย่ากลับมาก๊อนนนนน
  
  
  
  
  “มึงเสร็จแน่ไอ้เห็ด!”
  
  “อ่า...” ทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มโง่ ๆ ไปให้ หวังว่าจะได้รับความเมตตาบ้าง แต่เปล่าเลย..
  
  
  
  
  “ตอบคำถามพวกผมด้วยนะครับ” กาย
  
  “ขอแบบระเอียดเลยนะครับ” ฟอร์ส
  
  “ตอบให้ตรงประเด็นด้วยนะครับ” ไนต์
  
  “โทษที ผมไม่ช่วยคุณไม่ได้ครับ” ไรเฟิล
  
  
  ผมเบ้ปาก หลังจากส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากไปหาไรเฟิล แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มเย็นเยือก กับข้อความแสนโหดร้าย TwT
  
  
  
  
  คำพูดสุภาพของมันพวกมันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีเลยสักนิด แต่กลับกัน ผมรู้สึกเหมือนนักโทษที่รอวันประหาร...
  
  
  
  
  
  
  .....น้ำตามาทำไม......





---------------------โปรดติดตามตอนต่อไป-----------------------

สวัสดีค่ะทุกคน เอาน้องเห็ดมาส่งแล้วววววววว
คำวิบัติส่วนใหญ่จะวิบัติเพื่อเสียงนะคะ
เอาใจช่วยน้องเห็ดจากสี่สหายกันด้วยเนอะ ฮ่าๆ
 :bye2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 25 (23.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: idemonize ที่ 23-01-2015 22:16:46
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 25 (23.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 23-01-2015 22:44:09
น่อวววว จะถามไรน้องเห็ดเนี่ย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 25 (23.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 23-01-2015 22:45:12
เหมือนน้องจะโดนซักฟอก  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

น่าจะซักซะขาวสะอาด อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 25 (23.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 23-01-2015 23:27:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 25 (23.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-01-2015 02:23:47
ตายแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 28-01-2015 21:00:49
EPISODE 26







  “กูป่วยอยู่นะ”
  
  “ป่วยก็ไม่ยกเว้นโว้ย”
  
  “พวกมึงมันใจร้าย!! แค่ก ๆ” เหี้ยแม่ง เมื่อไหร่จะหายป่วยวะ ไอค่อกแค่กน่ารำคาญชะมัด
  
  “......”
  
  “เอาสิ จะถามอะไรก็ถามมา” พวกมันบอกหน้ากัน ราวกับปรึกษากับผ่านสายตา
  
  “เปลื่ยนใจล่ะ ให้มึงบอกเองดีกว่า” กายว่า
  
  “อยากรู้อะไรก็ถาม..”
  
  “หน้ามึงตอนนี้คิดว่าพวกกูจะพูดออกหรอวะ”
  
  “ก็พูดอยู่นี่..” พวกมันถอนหายใจ “อยากรู้อะไรก็ถามมาเถอะ”
  
  “ถือว่ามึงโอเคแล้วนะครับลูกสาว” กายมันพูด ผมบึนปากใส่ อะไรของพวกมึงเนี่ย ต้องการอะไรจากสังคม พูด!
  
  “อื้ออออ พวกมึงห้ามโกรธด้วยฎ
  
  “พวกกูสงสัยเกี่ยวกับมึงมานานแล้ว แต่ที่ไม่ถามแค่อยากให้มึงพูดเอง แต่คงยากว่ะ” เชี่ยฟอร์ส..
  
  “พวกมึงไม่รู้จักพ่อกูเหรอ?”
  
  “รู้ดิ แค่ไม่คิดว่าเขาเป็นพ่อมึง”
  
  “คุณรัชพล อัครไพศาลกุล ผู้บริหารคนปัจจุบันของอัครกรุ๊ป กับธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีทุกประเภท..” กายพูดจบแล้วเลิกคิ้วเป็นชิงถามวาใช่อย่างที่มันพูดหรือเปล่า ผมพยักหน้ารับ “กูเคยออกงานกับแม่แล้วก็เคยเจอ หลายครั้งด้วย”
  
  “หน้ากูไม่เหมือนพ่อเลยเหรอวะ? แล้วนามสกุลกู พวกมึงไม่สังเกตกันเลยเหรอ?”
  
  “เอาตรง ๆ พวกกูจำนามสกุลมึงไม่ได้” ไอ้เชี่ยไนต์!! มึงสนิทกับกูที่สุดเลยนะ!
  
  “ตรงกว่าคือ ไม่ใช่จำไม่ได้..แต่..ไม่ได้จำ” ไอ้เหี้ยฟอร์ส!!! ผมอ้าปากเหวอ พวกมึงแม่ง!!
  
  “ห้ะ...”
  
  “มึงไม่เหมือนพ่อมึงเลย จะเหมือนหรอ จมูกมั้ง” ไอ้ไนต์
  
  “นั่นดิ มึงคงเหมือนแม่ เดี๋ยวนะ...” ไอ้ฟอร์สทำตาโตเหมือนตกใจนักหนาแล้วตีแขนไอ้กายรัว สัด..
  
  “คุณรัชพลเขาไม่ได้แต่งงานนี่หว่า แล้วมีลูกได้ไง”
  
  “เออว่ะ” พวกมันมองมาที่ผม แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกอยากหายตัวไปจากตรงนี้ชะมัด.. นั่นสิ ป๊าไม่ได้แต่งงาน รูปแต่งงานผมก็ไม่เคยเห็น รูปผู้หญิงที่น่าจะเป็นแฟนป๊าก็ไม่มี แล้วผมล่ะ? ลูกใครวะ แม่ผมเป็นใครกัน...
  
  “หรือเขาเก็บมึงมาเลี้ยง!”
  
  “ฮึก..”
  
  “อ้าวสัด กูล้อเล่นนนนนนนน” ผมโบกมือเป็นเชิงไม่เป็นไร
  
  “กูไม่เคยรู้ด้วยซ้ำ....ว่าแม่กูเป็นใคร แม้แต่รูปก็ไม่เคยเห็น..”
  
  “เฮ้ยยยยยยยย พวกกูขอโทษษษษครับบบบบบ เพราะมึงเลยไอ้สัดกายพูดไรของมึงเนี่ย”
  
  “อ้าวไอ้ไนต์ มาว่ากูได้ไงวะ ไอ้ฟอร์สแม่งเริ่มอ่ะ”
  
  “สัด! โทษกูคนเดียวได้ไง”
  
  “!”##%%&¤”#”#%//%/()=&%”
  
  “พอ! หยุด! เถียงกันทำเหี้ยไร เดี๋ยวแม่มึงก็มาด่าหรอก” ไรเฟิลเป็นคนห้ามทัพ ไอ้พวกลูกหมาสามตัวที่เถียงกันเสียงดังเงียบกริบ
  
  “เปลี่ยนเรื่องดีกว่า.. ทำไมมึงต้องเข้ามาเรียนในฐานะเด็กทุนวะ?” หลังจากแยกเขี้ยวใส่กันฟอร์สก็กายก็เปิดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง
  
  “ก็สอบได้พอดี...”
  
  “บ้านมึงรวยติดท็อปของประเทศเลยนะเว้ย! ทำไมต้องทำงานพิเศษด้วยวะ” พวกมันพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของฟอร์ส ผมเกาหัวแกรก ๆ มันค่อนข้างอธิบายยากนะ
  
  “จะบอกไงดีวะ” ผมบีบจมูกเบา ๆ กระพริบตาถี่ ๆ “กูอยากพิสูจน์ตัวเองอ่ะ ว่ากูอยู่ได้โดยไม่ได้ขอเงินที่บ้านใช้ ก็เลย..หางานพิเศษทำ”
  
  “ก็เลยไม่เคยบอกพวกกูเลย นี่ถ้าไม่ถามก็จะไม่บอกใช่ป่ะ” อ้าว.. ทำไมอยู่ ๆ ก็เปลี่ยนโหมดง่ะ กูตามอารมณ์พวกมึงไม่ทันนะ!
  
  “ไม่ใช่แบบนั้น..”
  
  “มีเรื่องอะไรที่มึงยังไม่บอกพวกกูบ้างเนี่ย ห้ะ!” ฟอร์สพูดแล้วลากกายไป พวกมันสองคนนั่งสุมหัวกันที่โซฟา ไนต์มองหน้าผมแล้วส่ายศีรษะไปมาก่อนจะเดินไปหากายกับฟอร์ส ผมเม้มปากแน่น ถึงแม้ไรเฟิลจะไม่ได้ลุกไปหาอีกสามคนแต่มันก็ไม่คุยกับผมอยู่ดี
  
  
  
  
  
  
  
  ถึงแม้จะมีเสียงพูดคุยของสี่เพื่อนซี้แต่ผมกลับรู้สึกแย่ พวกมันไม่คุยกับผมเลย พอผมพูดด้วยก็กลายเป็นถูกเมิน แย่.. แย่มาก ๆ นอกตากพวกมันแล้วผมก็ไม่มีเพื่อนที่ไหนอีก ถ้าพวกมันโกรธ.. ก็คงไม่โอเค แต่ยังพอทำให้หายได้ แต่ถ้าเกลียดล่ะ? นั่นไม่โอเคแน่ ๆ ที่ผมไม่บอกใช่ว่าพวกมันไม่สำคัญ แต่เรื่องนี้มันไม่จำเป็นต้องประกาศนี่.. ผมไม่ได้มีเจตนาจะปิดบังว่าผมเป็นใคร แต่ก็ไม่ได้ป่าวประกาศไปทั่ว ‘เฮ้ย พวกมึง นามสกุลกู อัครไพศาลกุล นะเว้ย รู้จักเปล่า พ่อกูเป็นนักธุรกิจนะ’ งี้หรอ? มันไม่ใช่..
  
  
  
  
  
  
  “อึก.. ขอโทษ.. ฮือ..”  ไม่รู้ว่าพวกมันมีปฏิกิริยาแบบไหน ผมซุกหน้าและกอดพี่หมีแน่นขึ้น รู้สึกแสบตามาก ๆ และน้ำตาก็ไหลออกมาจะเลอะแก้ม ตอนนี้ผมกำลังร้องไห้ ไม่ใช่จากอาการป่วย แต่เพราะพวกมัน... ท่าทางเมินเฉยของพวกมันเมื่อสักครู่ทำให้ผมรู้สึกแน่นหน้าอกคล้ายจะหายใจไม่ออก..
  
  
  
  
  ...ผมผิดมากเลยเหรอ...
  
  
  
  
  “ม ไม่ได้ตั้งใจนะ ฮึก.. ไม่ให้โกรธนะ ไม่ให้เกลียดด้วย..”
  
  “ขี้แย” ผมเงยหน้ามองคนพูดทั้งน้ำตานองหน้าแล้วเบะปากเหมือนเด็ก ๆ ไรเฟิลดึงผมไปกอด ใบหน้าของผมจมลงกับหน้าท้องแกร่ง มือหนาลูบหัวลูบหลังปลอบ ผมยิ่งสะอื้นหนักขึ้น
  
  “ขอโทษ อึก.. อย่าโกรธนะ อย่าโกรธเรา ไม่ได้ตั้งใจนะ ฮึก..”
  
  “เวรแล้ว เชี่ยฟอร์ส กูบอกแล้วว่าอย่าเล่น โอ๋ ๆ น้องควอทซ์ไม่ร้องนะ” ผมนิ่ง เล่นเหรอ เล่นงั้นเหรอ! ผมดันตัวเองออกจากกอดของไรเฟิล ใช้หลังมือปาดน้ำตาบนแก้ม มองกายที่เพิ่งพูดประโยคเมื่อกี้
  
  “หมายความว่าไง อึก..” น้ำตายังไม่หยุดไหล เสียงสะอื้นก็ยังไม่หาย ไหนจะน้ำมูกอีก... น่ารำคาญ
  
  “พวกกูแค่แกล้งมึง ไม่ได้โกรธเลยครับผม”
  
  “ไม่ได้เกลียดด้วยนะเว้ย!”
  
  “ฮึก ฮืออออออ”
  
  “เฮ้ย ๆๆๆ ทำไมร้องหนักกว่าเดิมอีก สาดดดด พวกกูขอโทษษษษษษ” ฟอร์สพูดแล้วดึงมือผมข้างที่ไม่ได้เจาะสายน้ำเกลือไปเขย่า
  
  “แค่แกล้งเล่นอย่าซีเรียสดิน้องเห็ด”
  
  “ไม่ซีเรียสได้ไงอ่ะ ฮึก.. พวกมึงเพื่อนกูอ่ะ นอกจากพวกมึงกูก็ไม่มีใคร แล้วมาแกล้งแบบนี้ได้ไง พวกมึงเห็นความรู้สึกกูเป็นเรื่องล้อเล่นเหรอ อึก..” ผมดึงมือออกจากการกอบกุมของฟอร์ส ผลักไรเฟิลออกด้วย มันเลิกคิ้ว แต่ผมไม่สนใจ ดึงห้าผ่มขึ้นมานอนคลุมโปง แต่ก็ถูกขัดขวางจากพวกมันอยู่ดี เลยต้องใช้พี่หมี่เป็นตัวช่วย
  
  “น้องเห็ด~~”
  
  “ควอทซ์~~”
  
  “น้องควอทซ์~~”
  
  “หึ..”
  
  ต้องบอกไหมว่าใครบ้าง ไอ้หมาไนต์ ไอ้เหี้ยฟอร์ส ไอ้เชี่ยกาย แล้วก็ไอ้บ้าไรเฟิล ตามลำดับ (ถูกเติมยศไปโดยปริยาย..)
  
  ผมลดพี่หมี่ลงเพราะเริ่มหายใจไม่ออก ยกมือกุมขมับ รู้สึกปวดหัวตุบ ๆ
  
  “กูหายป่วยพวกมึงโดนแน่”
  
  
  
  
  ก็อก ก็อก ก็อก
  
  
  
  “ได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ” เสียงหวาน ๆ จากพยาบาลดังเข้ามา พร้อมร่างบาง ๆ ของเธอที่เข็นรถอาหารเย็นที่ว่านั้นมา ผมเบ้ปาก กับข้าวโรงพยาบาลแม่งไม่อร่อย จืดชืดทุกอย่าง(ไม่โทษตัวเองหรอกว่าป่วย - -) พวกสี่สหายหลีกทางให้พยาบาลสาวสวย เธอเรียงถาดอาหารลงบนโต๊ะคร่อมเตียงแล้วเลื่อนมาให้ ไรเฟิชช่วยพยุงผมนั่ง มีไนต์เป็นคนปรับเตียงให้อยู่ในองศาที่พอดี
  
  “มีอะไรบ้างครับ” ผมถามเสียงเรียบ
  
  “เอ่อ..” เธอตอบไม่ได้ แต่รีบเปิดฝาภาชนะออก สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำเอาผมอยากจะกวาดมันทิ้งให้หมด ข้าวต้ม เมนูเบสิคสำหรับคนป่วย แกงจืดที่มีเห็ดหอมลอยเคว้งอยู่ ผัดผัก ซุปเห็ดหรืออะไรสักอย่างที่ผมไม่แน่ใจ และผลไม้สองสามอย่าง
  
  “เอาออกไป”
  
  “เอ่อ.. คนไข้ต้องทาน..”
  
  “เอา-ออก-ไป” ผมเน้นย้ำทีละคำ คุณพยาบาลหน้าเสียก่อนจะปรับให้เป็นปกติและแย้มยิ้มให้ผม สี่สหายมองผมงง ๆ
  
  “ทานสักนิดก็ยังดีนะคะ จะได้ทานยาด้วย จะได้หายป่วยไว ๆ ไงคะ”
  
  “เอาออกไปครับ ผมไม่กิน”
  
  “เฮ้ยมึง..”
  
  “ญาติคนไข้ช่วยพูดหน่อยสิคะ” แค่พูดทำไมต้องทำเสียงอ่อนเสียงหวานขนาดนั้นเลยเหรอ ผมไล่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางดูหนาเตอะ เสื้อรัดจนเห็นรูปร่าง กระโปรงสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเป็นคืบ อืม...
  
  “ไม่กินครับ เอาออกไป ทิ้งไว้แค่ยานั้นแหละ”
  
  “ไม่กินข้าวจะกินยาได้วะน้องควอทซ์”
  
  “นั่นสิคะ ทานสักนิดนะคะ จะได้หายเร็ว ๆ”
  
  “คุณรู้ได้ยังไงว่ากินของพวกนั้นแล้วผมจะดีขึ้น หึ ผมคิดว่าจะแย่ลงนะ ดีไม่ดีผมอาจตายเพราะอาหารพวกนั้นก็ได้”
  
  “เฮ้ย! / เอ๋?”
  
  “อาหารพวกนี้แทบจะมีเห็ดเป็นส่วนประกอบทุกอย่าง นี่โรงพยาบาลหรือโรงเพาะเห็ดกันครับ”
  
  “แต่เห็ดที่เรานำมาทำได้มาตรฐานนะคะ แล้วก็..”
  
  “ผมแพ้เห็ด”
  
  “ฉันไม่รู้จริง ๆ ขอโทษค่ะ”
  
  “คุณคะยั้นคะยอให้ผมกินมัน แล้วถ้าผมตายล่ะ คุณจะทำยังไง รับผิดชอบไหวเหรอ? คุณไม่ได้ดูข้อมูลคนไข้เลยเหรอว่าเขาแพ้อะไร เขากินอะไรไม่ได้บ้าง ถ้าเกิดที่คนไข้คนอื่นที่แพ้อาหารแบบผมล่ะ คุณจะบังคับให้ผมกินในสิ่งที่จะทำให้เขาตายได้น่ะเหรอครับ แพ้อาหารคุณคิดว่ามันเล็กน้อยเหรอ?ชีวิตคนนะครับ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ  ถ้าทำให้ไม่พอใจ ผมขอโทษด้วยครับ”
  
  “ขอโทษค่ะ ฉันขอโทษค่ะ เดี๋ยวเปลี่ยนให้ใหม่นะคะ คนไข้แพ้อะไรอีกไหมคะ?” ตาของเธอแดงช้ำ คงพยายามกลั้นน้ำตา รู้สึกตัวเองเลวเลย ทำผู้หญิงร้องไห้เนี่ยนะ
  
  “เยอะแยะ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ชอบอาหารโรงพยาบาล ขอบคุณคุณมากครับ”
  
  “แต่ว่า..”
  
  “เอาไว้แค่ยาพอครับ เชิญ”
  
  “ค่ะ” เธอรีบเก็บอาหารออกไป เหลือไว้แค่ยาตามที่ผมบอก ดู ๆ ไปแล้ว เธอก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไร ยังดูอายุไม่เยอะเลย แต่ยังไงก็แก่กว่าผมอยู่ดี แล้วโดนเด็กแบบผมพูดอย่างนั้นเข้าคงเสียศูนย์ไม่น้อย
  
  “หูยยยยยยยยยยยยยย น้องเห็ดเหวี่ยงเป็นด้วย”
  
  “เดี๋ยวกูจะเหวี่ยงมึงตกขอบโลกเลยหมาไนต์”
  
  “โทษทีวะ โลกเป็นวงกลม กร้ากกกกก” สัด!
  
  “เพิ่งเคยเห็นไอ้น้องควอทซ์โหมดนี้ ลืมถ่ายคลิป เสียดายว่ะ” ผมแยกเขี้ยวใส่ไอ้ฟอร์ส มันทำท่ากลัวไอ้เสแสร้งสุด ๆ ไปเลย
  
  “ลูกสาวก็มีโหมเดาร์คนี่หว่า ไอ้ปืนตายแน่” เกี่ยวอะไรกับไรเฟิลล่ะกายยยยยยยยยยยยยย
  
  “หึ”
  
  “กู... กูหิว พวกมึงลงไปซื้อกับข้าวให้กูเลย”
  
  “เปลี่ยนเรื่อง ๆ จะเอาอะไรก็มาเลยครับคุณรักษ์ธิสุด”
  
  “บอกด้วยนะครับว่าคุณแพ้อะไรบ้าง ผมไม่อย่างโดนเหวี่ยง” สัด.. เหวี่ยงหรอ นั่นเรียกเหวี่ยงหรอ ผมว่าไม่นะ ก็แค่ปกป้องตัวเอง ผมไม่ได้เหวี่บงนะครับ!
  
  
  
  ผมลิสต์เมนูที่อยากกินใส่กระดาษให้พวกมันพร้อมทั้งระบุแบบระเอียดว่าแพ้อะไรว่า(โดนพวกมันสั่งอ่ะ!) ลูกหมาสามตัวอาสาลงไปซื้อให้ โดยให้ไรเฟิลเป็นคนเฝ้าผม พวกมันบอกว่า ‘มึงควรมีคนอยู่ด้วยเผื่ออยากได้อะไรให้คนรู้ใจช่วยจะได้สื่อสารกันได้ง่าย’ สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
  
  
  
  “ไม่เห็นรู้ว่าแพ้อะไรพวกนี้”
  
  “ก็ไม่เคยบอก”
  
  “มึงควรบอกนะบันนี่”
  
  “โอยยยยย เจ็บคอจังเบบ แค่ก ๆๆ”
  
  “Fake!” แลบลิ้นใส่ไอ้คุณชาย กล้าว่ากูเสแสร้งหรอ! เดี๋ยวปั๊ด!
  







  
  “หิวน้ำ” คุณชายวางโทรศัพท์ไว้บนเตียงแล้วเดินไปรินน้ำให้ ผมหยิบมือถือมันมาดูพอใส่รหัสเข้าไปก็เจอเกมที่เปิดค้างไว้ ผมเลยเล่นต่อซะเลย แต่ก็มีอุปสรรคเล่นไม่ถนัดเพราะสายน้ำเกลือนี่แหละ ขณะนั้นก็งับหลอดที่ไรเฟิลยื่นมาให้ด้วย เมื่อดื่มน้ำเสร็จก็คายหลอดให้พี่ท่านเอาแก้วไปเก็บ
  
  
  กินน้ำไปเยอะก็รู้สึกปวดฉี่ อึ้ยยยย ผมหันซ้ายหันขวามองไรเฟิลที่เล่นเกมอยู่(มันแย่งคืนไปแล้ว)ก่อนจะขยับตัว หย่อนจาลงข้างเตียงแล้วกระดึบๆ
  
  “จะไปไหน” ไรเฟิลถาม มันคงมองเห็นความอนาถของผม
  
  “ห้องน้ำ” ไรเฟิลวางโทรศัพท์ลง สอดแขนเข้ามาใต้วงแขนผมก่อนจะอุ้มผมลง พลางคว้าเสาน้ำเกลือมาให้ ผมค่อย ๆ เดินแต่เกือบจะล้ม คุณชายท่านเลยต้องช่วยพยุง แค่เป็นไข้ ทำไมขาไม่มีแรงวะ - -
  
  
  “เสร็จแล้วก็เรียก” ไรเฟิลเดินออกจากห้องน้ำ ผมจัดการธุระตัวเองจนเสร็จก็ลากตัวไปที่อ้างล้างมือ ขณะที่ล้างมืออยู่ยั้นประตูห้องน้ำก็เปิดพลั้วเข้ามา
  
  “ทำไมไม่เรียกวะ เกิดลื่นล้มจะทำไง”
  
  “ก็..กูช่วยเหลือตัวเองได้น่า”
  
  “อวดเก่ง”
  
  “ฮือ..” ผมเบี่ยงหน้าหนีมือหนาที่พรมด้วยน้ำเย็น
  
  “หลับตา”
  
  สัมผัสเปียกชื้นแตะลงที่ใบหน้าของผมพร้อมกับมือหนาที่ลูบเบา ๆ บริเวณรอบดวงตา ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปที่หน้าผาก ลงมาแก้ม ริมฝีปากและจมูก ผมลืมตาขึ้นมองคนที่กำลังล้างหน้าให้ผม ระยะห่างของเรามีไม่มากนัก ผมมองใบหน้าหล่อราวกับรูปปั้นจากฝีมือศิลปะชั้นเอกดั่งต้องมนต์สะกด ใบหน้าคมแลดูจริงจัง นัยต์สีน้ำทะเลที่เรียบนิ่งแต่ถ้ามองดี ๆ ก็จะเห็นบางอย่างที่แฝงอยู่ อ่า.. ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกิดไป ผมว่าผมเห็นความห่วงใยในแววตาคู่นั้นนะ ... การกระทำแสนอ่อนโยนทำให้ผมห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้เต้นแรงไม่ได้...
  
  
  “เสร็จแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ผมสะดุ้งเฮือก หลุดออกจากภวังค์ สะบัดหน้าเบา ๆ เรียกสติ พึมพำขอบคุณในลำคอ ก่อนจะหลบสายตาที่มองมาแล้วชิ่งหนี แต่ร่างกายดันไม่เห็นด้วย ผมสะดุดพรมหน้าหเองน้ำหัวเกือบทิ่ม ถ้าไม่ติดว่าไรเฟิลคว้าไว้ทันคงได้ลงไปจูบพื้นแล้วแหง
  
  
  
  
  “หิว ๆๆ เมื่อไหร่พวกมันจะมาาาาา” ผมงอแง ไรเฟิลก็เล่นแต่โทรศัพท์ ส่วนผมนั่งห้อยขาบนเตียงแล้วเตะขาไปมา จนกระทั่งพลาดไปเตะเก้าอี้ไรเฟิลนั่นแหละถึงได้หยุด เจ็บอ่ะ เท้าแดงเลย TwT
  
  
  “โทรตามดิ”
  
  “มึงโทร” มันเปลี่ยนท่านั่ง กอดอกพิงพนักเก้าอี้หันหน้าเข้าหาผม ท่าทางที่แสดงออกว่าจะไม่ทำตามนั้นทำให้ผมเบะปาก ไรเฟิลไหวไหล่แล้วโยนสมาร์ทโฟนราคาแพงใส่ตักผม ถ้ารับไม่ทันมีร้าวอ่ะ
  
  
  
  “พวกมึงจะมาพรุ่งนี้เลยมะ!”
  
  “อย่าเพิ่งเหวี่ยง ๆ เหลืออีกนิดหน่อยเนี่ย ไม่นานหรอก”
  
  “อื้อ เร็วด้วย” ผมกดวางสายแล้วโยนมือถือไปอีกฟากของเตียง ทำหน้าบึ้งมองไอ้คนที่นั่งอยู่ต่ำกว่าพลางเตะขาไปมาอีกรอบ
  
  
  
  “เป็นอะไร”
  
  “เปล่านี่...”
  
  “คิดว่าเชื่อไหม พูดออกมา”
  
  “เปล่าจริง ๆ ก็แค่...”
  
  “หิว?” ผมพยักหน้า ไอ้คุณชายหัวเราะหึก่อนจะพูดบางคำออกมาเล่นเอาผมแทบจะยกเท้าถีบมันให้หงาย แต่ที่ทำได้คือสะบัดหน้าหนี สาวน้อยไปอี๊กกกกกก
  
  “เด็กน้อย”
  
  ผมเลื่อนเท้าทั้งสองข้างไปวางบนหน้าขาของอีกฝ่ายพลางมองมันอย่างลุ้น ๆ ว่ามันจะว่าอะไรหรือเปล่า แต่สิ่งที่ได้มาคือความเงียล ไม่มีสายตาคมกริบเชือดเฉือนแต่อย่างใดนั่นถือว่าโอเค
  
  
  
  “ก้มหน้าลงมาหน่อย”
  
  “หือ?” ผมทำหน้างง แต่ร่างกายกลับทำตามคำสั่งของอีกฝ่ายไปแล้ว
  
  “อีก”
  
  “มีไรอ่ะ? อื้อออ”
  
  
  คงไม่ต้องตอบแล้วว่ามีอะไร... ไรเฟิลรั้งคอผมลงไปจนใบหน้าของเราไม่มีช่องว่างก่อนที่ริมฝีปากบางของอีกฝ่ายจะจู่โจมผม ปากอุ่นร้อนขบเม้มริมฝีปากผมเป็นระยะ กดย้ำจูบซ้ำ ๆ ในขณะที่ลิ้นชื้นไล้เลียไปตามกลีบปากก่อนจะสอดเข้ามาในโพรงปากของผม จูบที่ไม่ทันตั้งตัวทำให้ผมตกใจแต่พอปรับตัวได้ทันก็เริ่มจูบตอบ ปลายเท้าผมกดแรงเหยียบลงบนหน้าขาของไรเฟิล แขนเรียวโอบรอบคอหนาพร้อมกับส่งมือบางไปขยุ้มกลุ้มผมสีบลอนด์ ผมส่งเสียงประท้วงในลำคอ เบี่ยงลิ้นหลบลิ้นร้อนของอีกฝ่ายที่ไล่ตามจนจนมุม เกี่ยวกระหวัดพัวพันจนแทบจะรวมกัน เสียงจ๊วบจ๊าบดังมาให้อายเป็นระยะ รู้สึกถึงหยาดน้ำที่ไหลเลอะมุมปาก แต่กลับไม่มีใครสนใจ ผมดันไหล่ไรเฟิลประท้วงเมื่อเริ่มขาดอากาศ ร่างสูงผละออกอย่างอ้อยอิ่ง ถอนลิ้นออกมาแต่ริมฝีปากยังคลอเคลียไม่ห่าง ไม่ถึงสองนาทีคนฉวยโอกาสก็ประทับกลีบปากลงมาอีกครั้ง มือหนาไล้ข้อเท้าผมขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งหยุดที่เอวบางแล้วสอดมือเข้าไปภายในเสื้อคนป่วย ผมเกร็งหน้าท้องอัตโนมัติเมื่อมือหนาอุ่นร้อนลากผ่าน
  
  
  
  
  
  ณ ตอนนั้นเองที่ประตูห้องพักคนป่วยถูกเปิดออก พร้อมกับเสียงโห่แซวของลูกหมาสามตัว...
  
  
  
  “เย้ดดดดดดดดดดดดด โทษ ๆ พวกกูไม่รู้” กาย
  
  “ต่อเลย ๆ เดี๋ยวพวกกูออกไปก็ได้” ฟอร์ส
  
  “เสร็จแล้วเรียกพวกผมนะครับพี่” ไนต์
  
  
  ผมซุกหน้ากับไหล่ไรเฟิลอย่างหมดสภาพ รู้สึกเห่อร้อนไปแทบทั้งตัว ส่วนคนต้นเหตุก็หัวเราะหึหึ ไม่ได้สนผมเลย
  
  
  ...อ ไอ้เหี้ยเอ๊ย น่าอายชะมัด...





----------------------โปรดติดตามตอนต่อไป-----------------------
น้องเห็ดมาแล้วววววววววววววว
มึน ๆ งง ๆ กันไหมคะ ;-;
สี่สหายก็ขยันแกล้งน้องจังเลยยยยย -/-
ไรเฟิลเป็นคนที่เย็นชากับคนทั้งโลกแต่อบอุ่นกับน้องเห็ดคนเดียวนะ
 :o8: :-[ :impress2:
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ขอบคุณทุกคนนะคะ รักนะงับ -///-
 :mew1:  
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 28-01-2015 22:13:03
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

น่ารักง่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 28-01-2015 22:56:28
หน่องเห็ดแพ้เห็ด  :mew5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-01-2015 00:18:25
ชื่อเห็ดดันแพ้เห็ด
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 29-01-2015 01:14:17
บันนี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆน่าร๊ากกกๆๆๆๆ


>////////////<
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 29-01-2015 12:42:38
เขากำลังหวานเลย ไม่น่ารีบมา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 30-01-2015 22:41:37
สนุกมากครับ อ่านทั้งวัน ทันแล้ว  พลาดเรื่องนี้ไปได้ไง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 31-01-2015 00:10:27
น่าร้ากอ่า.  ไรเฟิลลอบอุ่นมาก.    อยากมีแฟนแบบนี้บ้างจุงงงงงงงง






  “กูไม่ได้ขอแต่งงานครับ หึหึ”
  
  “ไอ้สัด... -///////-”
  
  
  ..............................................

  
  



  ถ้าถามว่าตอนนี้รู้สึกยัไง.. ผมรู้สึกว่าตัวเองใจง่ายฉิบหาย ทำไมยอมมันง่าย ๆ แบบนี้วะ ทำควรจะเล่นตัวสักหน่อยไหม..
  
  ผมมองแหวนบนนิ้วกลางข้างขวาด้วยความรู้สึกหลาย ๆ อย่าง ดีใจ? ตกใจ? มึนงง? สับสน? ใช่ .. ใช่แม่งทุกอย่างนั้นแหละ ไม่รู้ว่าที่มันพูดออกมาเชื่อได้มากแค่ไหน แต่ก็นะไรเฟิลไม่ใช่คนที่จะพูดอะไรพร่ำเพรื่อ และเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนั้นที่มันพูดออกมามากมาย นั่นทำให้ผมตกใจไม่น้อยเลย..
  
  แล้วการที่ผมตกเป็นของไรเฟิลเมื่อคืนนั้นจัดว่าช็อคมาก(แล้วแม่งก็เจ็บมากด้วยTwT) แต่ผมเองก็ผิดที่ดันไปเริ่มก่อน รู้งงี้ไม่ดื่มแม่งเข้าไปหรอก ฮือ ผมจะเททิ้งก็ได้นะที่จริง แต่ไม่รู้อะไรดลใจถึงไปดื่มมัน..
  
  “เป็นเหี้ยไร?” ผมหยุดการทำร้ายร่างกายตัวเอง(ทึงผม) หันไปมองเจ้าของเสียงทุ้มที่นั่งพิงหัวเตียงอ่านชีทอยู่
  
  ..ดูเหมือนผมจะไปทำลายสมาธิมันนะ ช่างเถอะ ในเมื่อทำลายแล้วเราก็ควรทำลายให้ถึงที่สุด! - โดราเอม่อนไม่ได้กล่าวไว้ .. ขอโทษครับ ผมไม่ควรออกนอกทะเล
  
  “มึง!” ผมกระถดตัวนั่งขัดสมาธิแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้จนเข่าเกยขามัน ไอ้คุณชายวางชีทไว้ข้างตัวแล้วจ้องหน้าผมพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างนึง ไอ้สัดเอ๊ย! อยู่ ๆ ก็เขินขึ้นมาเสียอย่างนั้น
  
  “อะไร?”
  
  “คือแบบ... มึงกับกู เอ่อแบบ..”
  
  “ได้กันแล้ว” ผมเอาหมอนฟาดไอ้คนพูดทันที ใครใช้ให้พูดแบบนั้นวะ!
  
  “ไอ้สัด!!”
  
  “ไม่จริงหรือไง?” มันพูดด้วยท่าทียียวน “มึงจะพูดอะไรก็พูดมา”
  
  “ตอนนี้ .. มึงกับกู .. เป็นอะไรกันวะ..” ไรเฟิลพ่นลมหายจ กลอกตาขึ้นข้างบน
  
  “อยากเป็นอะไรล่ะ กิ๊ก? คู่นอน? วันไนท์สแตนด์ไหม? เพื่อนที่ขึ้นขี่กันได้? แฟน? หรือจะเป็นเมีย?” ผมกระพริบตาปริบ ๆ รู้สึกหน้าเห่อร้อน พ เพื่อนที่ขึ้นขี่กันได้เหรอ.. มึงไปจำคำใครมา!!
  
  “ไอ้เหี้ยยยยย! ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้ ห้ะ!”
  
  “หึ มึงอยากเป็นอะไร แล้วแต่มึงเลย”
  
  “ล แล้วมึงคิดว่ากูเป็นอะไรล่ะ..” ถามเองก็กลัวเอง ผมหลุบตามองมือตัวเองที่เขี่ยผ้าปูที่นอนไปมา .. อาการของคนไม่มั่นใจ
  
  “เป็นของกู” ผมกัดปาก “กูรู้ว่ามึงคิดมาก ถ้ามีคนถามว่ากูกับมึงเป็นอะไรกัน ใช่มะ? แต่มึงไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ ไม่จำเป็นเลย เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของเราบันนี่ ถ้ามีคนถามกู ก็แค่บอกว่า มึงเป็นของกู ก็แค่นั้น แล้วขอร้องเถอะ อย่าเพิ่งคิดมากกับเรื่องที่มันยังมาไม่ถึงได้ไหม”
  
  ผมก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม มืออุ่น ๆ วางลงบนศีรษะของผมแล้วโยกไปมาก่อนจะขยี้เบา ๆ การกระทำอ่อนโยนนั่นทำให้ผมใจเต้นแรง รู้สึกตัวร้าน ๆ ทั้งที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ .. ไอ้สัด น้ำตาจะไหล
  
  “มึงไม่ชอบผูกมัด..แล้วก็ไม่ขอบให้ใครทำตัวเป็นเจ้าของ..”
  
  “ถ้าเป็นมึง.. กูยินดี”
  
  
  
  ฉ่า. . .
  
  
  ให้ตายสิ เขิน เขินเป็นบ้าเลย ไม่ไหว แบบนี้ไม่ไหว หัวใจทำงานหนักไปแล้ว นี่มันไรเฟิลตัวปลอมหรือเปล่า คุณชายรังสิมันต์แสนเย็นชานั้นหายไปไหน
  
  มือหนาดันคางผมขึ้น “ฮะฮะ หน้ามึงโคตรแดงเลยบันนี่ แค่นี้เขินอ่อนว่ะ” เสียงหัวเราะล้อ ๆ ของมันทำให้ผมยิ่งเขินหนักกว่าเดิม จะหันหลังหนีแม่งก็จับตัวผมไว้แล้วรั้งตัวจนผมซุกหน้าอยู่กับไหล่มัน ไรเฟิลขยับตัวนอนราบกับพื้นเตียง มีผมทับตัวมันไปมากกว่าครึ่ง..
  
  นังหน้าด้าน..
  
  “ทำไมต้องบันนี่วะ! ชื่อกูออกจะเท่”
  
  “เรื่องของกู หึหึ”
  
  “นิสัยไม่ดี” พลิกตัวลงจากตัวของไรเฟิลแล้วกลิ้งไปนอนอีกฟากของเตียง ผมนอนมองเพดานนิ่ง ๆ ระหว่างเรามีเพียงความเงียบลอยตัวอยู่รอบ ๆ มันไม่ใช่ความเงียบที่น่าอึดอัด แต่มันเป็นความเงียบที่ผมรู้สึกดีสุด ๆ
  
  

        
  
  “ยังเจ็บอยู่ไหม”
  
  “อื้อ... นิดหน่อย”
  
  “ทำบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชิน หึ”
  
  “เหี้ยเหอะ! ไม่ทำอีกแล้ว!!”
  
  “จำคำมึงไว้”
  
  “ให้กูอยู่ข้างบนดิ เดี๋ยวรู้เลย!”
  
  “ออนท็อปอ่ะนะ โอเคได้” แล้วสารพัดคำพูดและสัตว์นานาชนิดก็หลุดออกจากปากผมอย่างกับก็อกแตก.....
  
  
  
  
  
  “ไรฟ์...” ผมเรียกอีกฝ่าย หันไปมองไรเฟิลที่ตอนนี้นอนหลับตาอยู่แป๊บนึงแล้วหันกลับมองเพดานเหมือนเดิม มันไม่ได้มองมาที่ผม แต่มือที่ใหญ่กว่าก็จับมือของผมเอาไว้ภายใต้ผ้าห่ม..
  
  
  เขิน..
  
  
  “หืม?”
  
  “ถามไรอย่างดิ”
  
  “อืม”
  
  “มึงชอบกูตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ?”
  
  “หึ” ไรเฟิลเขย่ามือที่จับกันไว้อยู่เบา ๆ คงเพราะผมเผลอบีบมืออีกฝ่ายเข้า.. “นานล่ะ”
  
  “โกหกเปล่า ทำไมกูไม่เคยรู้งะ?”
  
  “มึงโง่ไง”
  
  “......”
  
  “ไม่เคยรู้ตัวเลยหรือไงว่าพิเศษกว่าคนอื่น ฮึ?”
  
  “พ พิเศษยังไงเล่า..?”
  
  “มึงนี่นอกจากเรื่องเรียนแล้วฉลาดเรื่องอะไรบ้าง”
  
  “.....ก ก็กูโง่ไง มึงก็บอกมาสิ” มันหัวเราะหึแล้วก็เงียบ
  
  “มึ้งงงงงงงงงงงงงงงง มึงอ่ะ!”
  
  “ปัญญาอ่อนนะรู้ตัวป่ะ”
  
  “จิ๊! ถามอย่างอื่นก็ได้ว่ะ”
  
  “สะสมครบสามคำถามแลกได้หนึ่งจูบ ครบสามจูบ ได้สิทธิเมคเลิฟหนึ่งยก...ตอนนี้ครบสามแล้ว”
  
  ให้ตาย!!! ทำไมไรเฟิลเป็นคนแบบนี้วะ!! แล้วแม่งงงงง คำพูดแบบนั้นมันใช่ไรเฟิลหรอ มันไม่ใช่นะเว้ย!! เอาไรเฟิลคนเย็นชาคืนมา!!! ไอ้เหี้ยนี่มันกวนตีน กวนตีนฉิบหายเลยยยยยยยยยยยยยย T____T
  
  “เฮ้ยยยยยย! ได้ไงวะ พูดอะ.. อื้ออออ”
  
  ..แฮ่ก ถึงกับแฮ่ก..
  
  หลังจากปล้นจูบผมเสร็จไอ้คุณชายเอาแต่ใจก็กลับไปนอนแบบเดิม
  
  “จะถามอะไร ถามมาสิ”
  
  “ไม่ถามแล้ววว” ผมพลิกตัวนอนหันหลังให้อีกฝ่าย ดึงมืออกจากการกอบกุมแต่ไม่เป็นผลเพราะแม่งบีบมือผมแน่นเลย
  
  “งอนหรอวะ?”
  
  “เปล่า...” เปล่าจริง ๆ นะ ไม่ได้งอนห่าอะไรเลย ผมก็แค่.. ยังไงดีล่ะ บอกไม่ถูกแฮะ
  
  “เปล่าก็หันมา” ผมหันไปตามที่มันบอก แทบผงะตกเตียง ไม่รู้มันเข้ามาใกล้ขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อผมพลิกตัวนอนตะแคงก็เจอหน้าอีกฝ่ายอยู่ห่างกันไม่กี่เซนติเมตร ไม่ให้ตกใจยังไงไหว
  
  
  
  “เอ่อ...”
  
  “ถามมา” ผมกัดปากชั่งใจแต่สุดท้ายความอยากรู้ก็ชนะทุกสิ่งอย่าง.. - -
  
  “มึงจะมีกู...คนเดียวไหม?”
  
  “หึ ถามอะไรนี่ปรึกษาสมองก่อนป่ะ”
  
  “ตอบเด้ะ!”
  
  ไรเฟิลมองหน้าผม เราสบตากัน นัยต์ตาสีฟ้าฉายแววจริงจัง ผิดกับผมที่กำลังสั่นไหว.. “อืม มีคนเดียวนี่แหละ”
  
  ผมซุกหน้ากับอกอีกฝ่ายไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปาก มันพูดไม่ออก เอาจริง ๆ ผมไม่รู้ว่าผมจะมั่นใจคำพูดของไรเฟิลได้มากแค่ไหน คนที่มีแต่ผู้คนเข้าหา คนเจ้าชู้อย่างมันน่ะ! ไม่รู้สิ บอกตรง ๆ ก็กลัวมั้ง แต่ตอนนี้เราเพิ่งจะเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนเลื่อนมาเป็นแฟน... ผมว่าผมไม่ควรเยอะใส่มัน รอให้ผ่านไปสักพักน่าจะดีกว่า.. มั้ง
  
  
  
  
  
  
  “มึง... กูขอกลับไปตั้งหลักก่อนได้เปล่าวะ”




-----------------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป

เหมือนจะหวานนะ..หรือเปล่า  :mew5:
คุณชายเริ่มพูดมากแล้ว เยยยยย้ 555555555555555
ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ อย่าทิ้งคุณชายกับยัยควอทซ์ไปไหนนะคะ~  :mew2:
 :bye2:
[/quote]
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 01-02-2015 19:06:46
สนุกดีค่ะ แบบว่าควอทซ์ก็ดูเป็นผู้ชายน่ารักธรรมดาๆดี แต่เป็นคนที่ดูเสน่ห์อ่ะ เห็นแล้วอยากปกป้องดูแล

ส่วนไรเฟิล บางทีก็ปากแข็งไปหน่อยนะเว้ย แค่การกระทำบางทีมันก็ไม่พอหรอกนะ ถ้ารักถ้าชอบควอทซ์ก็บอกไปเล๊ยย
ถึงตอนนี้ทั้ง 2 จะได้กันแล้วก็เถอะ

เอาเป็นว่ารักกันแบบนี้ หวานกันแบบนี้ไปนานๆนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 01-02-2015 19:39:33
คุณชาย-บันนี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

>/////////////<
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 26 (28.01.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-02-2015 22:20:55
เข้ามารอน้องควอทค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 27 (04.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 04-02-2015 19:59:00
EPISODE 27









  วันที่สามของการอยู่โรงพยาบาล.. อาการดีขึ้นจนแทบหายเป็นปกติแล้ว แค่ยังมีหวัดอยู่นิดหน่อย ผมนั่งเล่นเกมที่ให้คนที่บ้านเอามาให้ เบื่ออ่ะ ไม่อยากอยู่แล้ว เพื่อนก็ไม่เรียนหมด ไม่มีใครว่างมาอยู่กับผมเลย คุณย่าก็เข้าสมาคม ป๊าก็เข้าบริษัท แต่มีพี่แก้วมาเฝ้า แล้วตอนนี้พี่แก้วก็หายไปไหนไม่รู้ โอ๊ย!! เบื่อโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย
  
  
  
  ก็อก ก็อก ก็อก
  
  
  เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมกดหยุดเกมแล้วหันไปมอง ตากลมเบิกกว้าง มองคนที่เดินเข้ามาอย่างอึ้ง ๆ ผสมมึนงง คือ.. คือผมไม่คิดว่ามันจะมา
  
  “เป็นไงบ้างครับ?” มันถาม ผมพยักหน้าเบลอ ๆ แม่งไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
  
  “ก็ดี .. ม มึงมาได้ไง?” แพคยิ้มบางแล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง ผมวางจอยเกมลงแล้วมองมัน
  
  “พี่ไรเฟิลบอก”
  
  ผมขมวดคิ้ว “ไรเฟิลน่ะนะ?”
  
  “ครับ แล้วพี่ไปทำอะไรมาถึงได้มานอนโรงพยาบาลแบบนี้”
  
  “ก็.. ผจญภัยนิดหน่อย มึงหายไปไหนมาวะ”
  
  “คิดถึงผมอ่ะดิ”
  
  พลั้ว!
  
  ผมฟาดหัวมันไปทีนึง หลงตัวเองจริงมึง
  
  “ตีนหนิ แค่คิดว่ามคงจะโดดสะพานไปล่ะ”
  
  “โหยยยยย พี่ไม่ได้มีอิทธิพลกับผมขนาดนั้นนะเว้ย ตายเพราะอกหักเนี่ยนะ รู้ถึงไหนอายถึงนั้น น่าสมเพชตายห่า” โห.. ใส่มาเป็นชุดเลย จากที่มันพูดมาเหมือนผมหลงตัวเองเลยว่ะ แต่ที่มันพูดก็ถูก ตายเพราะอกหักคนน่าอายพิลึก  ผมรู้สึกหยึ่ย ๆ กับคนที่ฟูมฟาย กรีดแขน จะฆ่าตัวตายเพราะอกหักมากเลย ไม่รู้ทำไม คงเพราะผมไม่เคยอกหักมั้ง เลยไม่รู้ว่าพวกเขารู้สึกยังไง...
  
  ผมวางมือบนศีรษะแพคแล้วขยี้เบา ๆ ผมไม่ได้รังเกียจหรือนึกเกลียดมันเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมมองมันเหมือนน้องชายคนหนึ่งมาตลอด ไม่รู้สิ ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่มันก็คนผู้ชายที่ดี ทั้งหน้าตา การเรียน ฐานะ การวางตัว ดีทุกอย่าง เพอร์เฟกต์แมนสัด ๆ แต่ผมไม่สามารถมองมันในฐานะผู้ชายคนหนึ่งได้ อาจเพราะผมไม่ใช่เกย์ แต่ในกรณีของไรเฟิล.. ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้ตัวอีกที่มันก็เข้ามาอยู่ในใจผมแล้ว..
  
  “พี่อย่ามาให้ความหวังผมดิ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่มันก็ไม่ได้ปัดป้อง ซ้ำยังเอียงศีรษะรับฝ่ามือผมอีก ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย
  
  “มึงยังชอบกูอยู่เหรอ”
  
  “ก็นะ แต่ผมยังไม่ได้รักไง ถ้านานกว่านี้คงรักไปแล้ว แต่พอมาโดนปฏิเสธอีก เลยตัดใจง่ายหน่อย”
  
  “รู้สึกผิดแฮะ..”
  
  “พี่น่าจะเลิกเรียนคอมแล้วซิ่วไปเรียนการแสดง ท่าจะรุ่ง”
  
  “ไอ้สัดแพค!!!”
  
  “ฮ่า ๆๆ ล้อเล่นครับ หืิม.. แหวนสวยเนอะ เหมือนของพี่ไรเฟิลเลย..” ผมนิ่ง มองปลายนิ้วอีกฝ่ายที่กำลังเกลี่ยแหวนบนนิ้วผมแผ่วเบา แพคเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม นัยต์ตายังเจือแววเสียใจแต่มันก็ไม่ได้มากมาย ผมยิ้มบาง ๆ
  
  “อื้อ..” ยุติเรื่องแหวนไปเท่านั้น ผมชวนมันเล่นเกมด้วยกัน มันก็ตกลง จัดไปครับ ผมมีเพื่อนแล้ว เย้!
  
  “ไม่มีเรียนเหรอวะ?”
  
  “เสร็จแล้ว เฮ้ย ๆ พี่โกงผมอ่ะ!”
  
  “อ่อนหัด... กูชนะแล้ว มาเลย เปิดหน้าผากมึงมา” ข้อตกลงของเราคือคนแพ้ต้องโดนดีดหน้าผากครับ ไอ้แพคหน้างอ เอามือเสยผมข้างหน้าขึ้น
  
  “หัวเหม่งนะมึงอ่ะ” ผมลูบหน้าผากมันเพื่อกะระยะ(?) ไอ้แพคหลับตา คิ้วขมวด ผมดีดแปะลงไปเต็มแรง
  
  “โอ๊ยเชี่ย!”
  
  “หูยยยยยยยยย แดงเลย กร้ากกกกก แค่ก ๆ” หัวเราะมากแม่งก็ไออีกจนได้ พวกผมเล่นเกมกันไปเรื่อยผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ เล่นเอาหน้าผากแดงเถือกกันทั้งสองคน สักพักพี่แก้วก็กลับมา พอถามว่าไปไหนมา เธอก็ว่าบอก ‘ขอโทษค่ะคุณหนู พี่เม้าท์กับคุณพยาบาลเพลินไปหน่อย’ อยากจะกุมขมับ.. พอผมแนะนำไอ้แพค พี่ท่านก็เล่นอายม้วนหน้าเน่อนี่แดงไปหมด
  
  
  
  
  “คุณหมอบอกว่าคุณหนูออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะคะ” เสียงของพี่แก้วที่ลอยเข้ามาในหูทำเอาผมแทบกระโดดลงจากเตียง นี่เป็นครั้งแรกที่รอมาเนินนาน....~
  
  
  “จริงเหรอ! พี่แก้วเก็บของเลย”
  
  “หา... ค่ะ ๆ”
  
  “ดีใจเว่อร์ไปป่ะพี่”
  
  “ไม่เว่อร์หรอก สัดเอ๊ย! กูรอคำนี้มาสามวันแล้วนะเว้ย” ผมบอก ยิ้มกว้างสุดชีวิต ใช้ไอ้แพคปิดเกมส่วนตัวเองก็ควานหาโทรศัพท์ก่อนจะกดเลขหนึ่งค้างไว้ เบอร์ที่โชว์ขึ้นมาคือเบอร์ของคนที่ผมเพิ่งจะเปลี่ยนชื่อไปไม่นาน... อย่าไปบอกมันนะครับ ถือเป็นความลับระหว่างเรานะ
  
  
  Q’s
  
  แรดสัด - -
  
  
  (“มีอะไร?”)
  
  “หมอให้ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะเว้ยยยยยยยยย”
  
  (“วันนี้เหรอ”)
  
  “อื้อ พี่แก้วกำลังเก็บของให้ เดี๋ยวต้องรอพยาบาลมาถอดสายน้ำเกลือด้วย”
  
  (“อืม เดี๋ยวไปรับ”)
  
  “โอเค! ถึงแล้วโทรมานะ” วางสายจากไรเฟิล คุณพยาบาลก็เข้ามาพอดี ผมรีบให้ความร่วมมืออย่างกระตือรือร้นจนคุณพยาบาลเธอเอ่ยแซว(พยาบาลคนเดียวกับคนที่เอาเมนูเห็ดมาให้ผมเลย...)
  
  
  
  
  
  
  “มีความสุขจังเนอะ” ไอ้แพคกระแซะระหว่างที่รอพี่แก้วไปรับยา (ยังจะให้ยามาอีก - -) ผมเปลี่ยนจากชุดคนป่วยมาเป็นชุดไปรเวทสุดแสนจะชิล เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ผมยุ่ง ๆ ไม่ได้เซ็ทได้สาง หน้าจืด ๆ ชืด ๆ ข้างตัวมีกระเป๋าของใช้ต่าง ๆ ถ้าเบ้าหน้าไม่ดีมีดับนะครับถ้าสภาพแบบนี้ ฮา...
  
  “แน่ดิ ได้ออกจากโรงพยาบาลทั้งที จะให้กูทำหน้าเศร้าอาลัยอาวรณ์เหรอวะ”
  
  “หึ..” ผมตีหน้ายุ่ง ไอ้แพคสั่นหัวแล้วเล่นมือถือไปด้วย ต้องการอะไรวะ... “พี่ไรเฟิลจะมาเมื่อไหร่อะ ผมไปส่งป่ะ”
  
  “หือ.. ไม่เป็นไร โอ๊ะ! นั่นไง มาพอดี” ผมชูไม้ชูมือให้ไรเฟิลเห็น เจ้าตังเหมือนจะกำลังใช้โทรศัพท์ พอเห็นผมมันก็เก็บไป แล้วเดินเข้ามาหา
  
  “หวัดดีครับ”
  
  “อื้อ”
  
  “เรียนเสร็จแล้วเหรอ?” ผมถามหลังจากที่พี่น้องสายรหัสเขาทักทายกันเสร็จ ไรเฟิลพยักหน้าตอบผมเอื้อมมือมาคว้ากระเป๋าผมไปถือ เรารอพี่อยู่ไม่นานเธอก็กลับมาพร้อมกับยาหนึ่งกระสอบ T____T
  
  
  
  
  
  
  
  
  ...........................................................
  
  
  
  
  
  
  
  “หมูอ้วนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!” ผมวิ่งลงจากรถทันทีที่รถจอดสนิท หมูปิ้งที่กำลังเกลือกกลิ้งอยู่กลางสนามหญ้าพอเห็นผมมันก็วิ่งหางสะบัดมาหา เจ้าหมาอ้วนกระโจนใส่จนผมเซล้ม ฟัดกันอยู่อย่างนั้นจนโดนป้าอิ่มเรียกเข้าบ้าน หมูปิ้งพอเห็นไรเฟิลทีแรกก็เห่าซะ แต่ทำไมตอนนี้มันกลับมานอนมอบอยู่แทบเท้าของคุณชายได้วะ!
  
  
  
  “ออกไปข้างนอกเลยไอ้หมาอ้วน!” หมูสะบัดหางไปมาหาได้สนใจผมไม่..  ขยับตัวเข้าไปใกล้ไรเฟิลอีก หนอยยยยย หมูปิ้ง ไอ้หมาแรด!
  
  “ชิ! หมูปิ้งงงง ไอ้หน้าหมา!”
  
  “หึ..”
  
  “งื่อออ หมูปิ้งงงงง” ผมเอาเท้าเขี่ยพุงหมูปิ้ง มันก็ยังไม่สนใจผมอยู่ ผมปาหมอนใส่ไรเฟิล บังอาจมาทำให้หมากูคิดกบฏเดี๋ยวเถอะมึง
  
  “ไม่มีคนอยู่เหรอ?”
  
  “มีดิ กูนี่ไง แม่บ้านนั่นไง หรือมึงไม่ใช่คน”
  
  “กวนตีน” ผมยิ้มแป้น หยิบขนมเขาปาก เอนตัวนอน หนุนหัวกับที่วางแขน เหยียดขาพาดตักไรเฟิล ไอ้คุณชายปัดออกแต่ผมก็หน้าด้านพอที่จะยกขาไปวางอีกรอบจนมันยอมแพ้ไป... นอน ๆ อยู่ก็เคลิ้มจะหลับ แต่ก็มีบางอย่างแวบเข้ามาในความคิด ผมเด้งตัวขึ้นนั่ง สะกิดไหล่ไรเฟิล
  
  
  
  “เดี๋ยวพาไปหามดแดง” ผมลุกขึ้นยืน ไรเฟิลเลิกคิ้วแต่ก็ยอมลุกตาม ผมพามันเดินออกมาทางหลังบ้าน เดินตามทางหินอ่อนเข้าไปในสวน จนกระทั่งมาถึงบ้านของมดแดง
  
  “ถึงแล้ว~”
  
  “ที่นี่คือ?” ไรเฟิลมองบ้านมดแดงอย่างพิจารณา ผมกดยิ้มก่อนจะปลดตัวล็อกแล้วเข้าไปข้างใน กวาดตามองหามดแดง เจ้าตัวยาวนอนขดตัวอยู่ใกล้ ๆ กับก้อนหินก้อนใหญ่ พอรับรูถึงผู้บุกรุกมดแดงก็ขยับตัวเลื้อยเข้ามาใกล้ ผมย่อตัวลงแล้วนั่งขัดสามาธิกับพื้น ยืิ่อมือไปสัมผัสผิวลื่น ๆ ของมดแดง
  
  “เหี้ย!” เจ้าของเสียงทุ้มถอยไปด้านหลัง มันมองผมสลับกับมดแดงแววตาคมเจือปนความตกใจ ผมใช้ปลายนิ้วลูบหัวมดแดงเบา ๆ มดแดงเลื้อยขึ้นมาจนหัวของมันวางอยู่บนหน้าขาผม แม้รู้สึกจั๊กจี้นิด ๆ แต่ผมก็ไม่ได้ปััดออก  ลุงชื่นให้อาหารมดแดงไปแล้วเมื่อ 3-4 วันก่อน เพราะฉะนั้นผมถึงเล่นกันมดแดงแบบถึงเนื้อถึงตัว(?)ได้ หมูปิ้งตอนนี้ก็อยู่ด้านนอกอย่างรู้งาน เจ้าหมาอ้วนถูกสั่งห้ามเข้าบ้านมดแดงเด็ดขาด

  “กลัวเหรอ?” ถามไปงั้น ไรเฟิลสั่นหัว คุณชายมันไม่กลัวหรอก แค่ตกใจเท่านั้น ส่วนคนที่กลัวงูน่ะ คือสามคนที่เหลืือตังหาก ไรเฟิลย่อตัวลงนั่งข้างผมใช้ปลายเท้าช่วยในการทรงตัว
  
  “นี่เหรอมดแดงที่มึงว่า”
  
  “อื้อ นี่แหละมดแดง”
  
  “ทักษะการตั้งชื่อของมึงต่ำเตี่ยเรี่ยดินมาก”
  
  “ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยย เดี๋ยวจับให้เป็นอาหารมดแดงเลยนี่” ไรเฟิลเบ้หน้า ก่อนจะเอ่อยประโยคต่อมาที่ทำให้ผมหน้าแดง
  
  “ให้ไอ้งูนี่กินกู มึงก็เป็นหม้ายสิ”
  
  “อ ไอ้สัด!” ไรเฟิลหัวเราะหึหึอย่างพอใจแกมสะใจ
  
  
  ครืด ครืด
  
  
  “มีไร? ... บ้านไอ้ควอทซ์ ... เออ ...”
  
  “ใคร?”
  
  “สัดไนต์” ผมพยักหน้ารับรู้ เหล่มองมดแดงที่นอนอยู่บนตักก่อนจะมองไรเฟิล เราสบตากันตาพอ ดวงตาสีน้ำทะเลฉายแววเจ้าเล่ห์ ไรเฟิลกดยิ้มร้ายและผมเองก็เช่นกัน.. หึหึ
  
  “น่ายยยยยยยยยยยยต์ ไนต์จ๋าาาาาาาาาาาา” ผมส่งเสียงเรียกคนในสายด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยได้ใช้บ่อย ๆ ไรเฟิลขมวดคิ้วมอง ผมพยักเพยิดหน้าให้มันกดเปิดสปีกเกอร์
  
  “เชี่ยเห็ด!”
  
  “น่ายยยยยยยยยต์ ไนต์มาหาเราที่บ้านหน่อยยยยยยยยยย” ผมอ้อนอีก พยายามกลั้นหัวเราะจนไหล่สั่น
  
  “ไปทำไมวะ”
  
  “อยากเจอ มาหาโหน่อยยยยยยยย ชวนกายกับฟอร์สมาด้วยน้าาาาาาา เดี๋ยวส่งที่อยู่ไปให้ แล้วเจอกันนะ จุ้บ ๆ” ไม่รอให้มันปฏิเสธผมก็ชิ่งตัดสายไปก่อนแล้วฉกโทรศัพท์ของไรเฟิลมาส่งที่อยู่ผ่านข้อความไปให้ไอ้ไนต์อย่างไร้มารยาท แต่จุดนั้นวางมันไปก่อนครับ ฮา... เสร็จแน่พวกมึง ผมอุ้มมดแดงลงจากตัก แล้วออกมาจากบ้านของมดแดง ไว้จะมารบกวนใหม่นะเบบี๋
  
  
  
  “เป็นไรอ่ะ?” ผมถามไรเฟิลที่กำลังเล่นกับหมูปิ้ง มันตีหน้านิ่งไม่สนใจผมเลย ตั้งแต่ออกจากบ้านของมดแดงมันก็เอาแต่เมินผม บ้าอะไรเนี่ยยยยยยยยยยยยยย
  
  “เป็นไรอ่ะ ไรเฟิลลลลลลลลลลลลลลลลล~~”
  
  “เปล่า” โอ้โห.. เปล่ามากเลย เสียงเย็นยิ่งกว่าแป้งเย็นตรางูอีก
  
  “ไม่เชื่อโว้ยยยยยย อยู่ ๆ ก็ไม่คุยกับกูอ่ะ สนใจแต่หมูปิ้งเนี่ย”
  
  “ก็บอกว่าเปล่าไง”
  
  “บอกมา”
  
  “รำคาญ”
  
  “.......” ผมเม้มปาก กำมือแน่นจนเล็บจิกเนื้ออย่างไม่รู้ตัว
  
  “บันนี่” ผมสะบัดตัวหนี วิ่งเข้าบ้านไปก่อน อยากอยู่กับหมูปิ้งก็อยู่ไปเลย รำคาญกูก็ไปอยู่กับหมูปิ้งนั่นแหละ จากที่ว่าจะง้อมันสักหน่อยแต่ตอนนี้ไม่ต้องง้อแม่งแล้ว กูงอนมึงแล้วด้วย กล้าดียังไงมาบอกว่ารำคาญ ฮึ่ยยยยยยยย
  
  
  “กำลังไปตามพอดีเลยค่ะ”
  
  “มีไรอ่ะพี่แก้ว”
  
  “เพื่อนคุณหนูมาแล้วค่ะ”
  
  “อ้อออออ ขอบคุณครับ” ทำไมไม่ได้ยินเสียงรถพวกมันเลยนะ ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องรับแขก เจอพวกมันสามคนนั่งกันอยู่ ผมโถมตัวใส่ไอ้ไนต์จนมันล้มไปกับโซฟาโดยมีผมนอนทับมันอยู่ด้านบน
  
  “อะไรของมึงเนี่ยไอ้เห็ด”
  
  “ฮืออออออออออ” ผมส่งเสียงฮือในลำคอเหมือนคนร้องไห้ แต่เปล่า ผมยังไม่ได้ร้อง แล้วจะไม่ร้องด้วย!!
  
  
  
  “บันนี่!!” พอได้ยินเสียงไรเฟิลผมก็กอดคอไอ้ไนต์แรงขึ้นอีก รู้สึกถึงแรงดึงจากข้างหลัง ฮึ่ย!
  
  “อะไรของพวกมึงห้ะ เชี่ยเห็ดปล่อยกู”
  
  “เล่นอะไรพวกมึง” ผมไม่ให้ความร่วมมือกับไนต์แล้วก็ไม่ตอบฟอร์สด้วย
  
  “ควอทซ์” เสียงเย็น ๆ ของไรเฟิลทำให้ผมมุ่ยหน้า
  
  “โฮ่ง! ๆๆ งับ!” ผมเด้งตัวขึ้นอัตโนมัติ ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยย เห่าคนแปลกหน้าพอเข้าใจ แต่มางับขากูคืออะไรวะหมูปิ้ง!!!
  
  “หมูปิ้ง!!!” ผมเด้งตัวขึ้นนั่ง ลูบขาตัวเองเบา ๆ มีรอยฟันหมูปิ้งด้วยแต่ไม่เข้าเนื้อ หนอยแหนะ! ไอ้หมาอ้วนเอ๊ย!
  
  “หมามึงหรอน้องควอทซ์”
  
  “อื้อ” ผมตอบกายและมีเสียงเห่าของหมูปิ้งเป็นซาวนด์ประกอบ หมูปิ้งยังเห่าไม่หยุดเลย
  
  “หมูปิ้งหุบปาก ออกไปข้างนอกเลยนะ”
  
  “โฮ่ง ๆๆๆ”
  
  “เงียบ!!”
  
  “โฮ่ง!” ยังจะเถียงอีก หมาบ้านี่
  
  “ออกไปข้างนอกเลย get out!” ไม่ยอมทำตามแต่นั่งลงกับพื้น ลิ้นแลบออกมาพร้อมกับทำหน้าแบ๊ว เหอะ! งอนแล้ว งอนทั้งคนทั้งหมาเลย ผมบึนปากกอดอกหันหน้าหนี(บางทีก็รู้สึกตัวเองปัญญาอ่อน - -)
  
  
  “โอ๊ย!” ผมร้องเมื่อแก้มโดนบีบจนปากจู๋ คนทำไม่ใช่ใคร ไอ้ไรเฟิลนั่นแหละ! (เติมคำนำหน้าให้ซะงั้น)
  
  “มาคุยกันหน่อย” ไม่รอให้ผมพูดอะไรมันก็คว้าหมับที่ข้อมือผมแล้วลากออกมาจากห้องนั่งเล่น ไรเฟิลลากผมขึ้นบันไดมาที่ชั้นสองอย่างถือวิสาสะ เจ้าบ้านยังไม่อนุญาตเลยนะ!!
  
  
  “ห้องมึงอยู่ไหน”
  
  “ไม่บอก!”
  
  “ควอทซ์”
  
  “แบร่!” ผมแลบลิ้นใส่ ไรเฟิลกลอกตาขึ้นบนก่อนจะแสยะยิ้ม
  
  “งั้นกูหาเอง” มันพูดแล้วเดินไปทางปีกขวา
  
  “ไอ้สัด! นั่นห้องพ่อกู” ไรเฟิลกดยิ้ม ผมเบ้ปาก จำใจเดินไปทิศทางห้องของตัวเอง (ทำไมผมต้องสมยอมมันด้วยเนี่ยยยยย) มือหนาที่จับข้อมือผมไว้ยังไม่ปล่อยออกมันเลยเหมือนผมลากมันมา
  
  
  
  
  
  “อื้อ!” พอปิดประตูได้แม่งก็ดันผมเข้ากับกำแพงแล้วตามมาจู่โจมริมฝีปากผม ผมพยายามดันอีกฝ่ายออกแต่แรงเราต่างกัน ร่างของไรเฟิลไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ถึงจะเป็นผู้ชายทั้งคู่ ขนาดตัวมันก็กินขาดแล้ว แรงนี่อย่าไปพูดถึง ยิ่งผมที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาด้วย มือหนาคว้ามือผมให้กอดรอบคอตัวของเจ้าตัว ไอ้ร่างกายทรยศนี่ก็ยอมมันไปหมด ฮือ!
  
  
  ร่างสูงช่วงชิงลมหายใจผมอยู่หลายนาทีก็ผละออก แต่กลับไปซุกไซร้ที่ซอกคอผมแทน ให้ตายเถอะ ขนลุกเป็นบ้า!
  
  “อื้อ... ปล่อย อ๊ะ! อย่าดูด!”
  
  “กูกำลังลงโทษมึงอยู่” เสียงทุ้มเอ่ยบอก ริมฝีปากซุกซนของร่างสูงเลื่อนไปคลอเคลียที่ตำแหน่งรอยสักที่หลังใบหูก่อนจะใช้ฟันคมขูดงับเบา ๆ
  
  “ล ลงโทษเชี่ยไรล่ะ อ๊ะ บอกว่าอย่าดูดไง! อื้อ..”
  
  “กระต่ายโง่..”
  
  “แฮ่ก.. ไหนบอกรำคาญไง หยุดนะ!”
  
  “ใช่ รำคาญ” มือหนาประคองใบหน้าผมเอาไว้ ก่อนจะแนบหน้าผากลงมาจนหน้าผมเราติดกัน รวมถึงปลายจมูกผมที่ชนกับปลายจมูกของคนตัวสูงกว่าอย่างพอดี ใจผมเต้นระรัว นิ้วเรียวยาวของไรเฟิลเลื่อนมาคลึงปากผมเล่น
  
  “รำคาญก็ปล่อยดิ” เสียงสั่นจนรู้สึกได้ ผมกัดปากแต่นิ้วของมันก็เป็นตัวขัดขวางชั้นดี มือบางบีบต้นแขนอีกฝ่ายแน่นจนเล็บจิกลงไปกับผิวเนื้อของอีกฝ่ายแม้จะมีเนื้อผ้าขวางอยู่
  
  “อย่ากัดปาก...” บอกกูอย่ากัดแต่มึงอ่ะกัดปากกูอยู่ สัด.. ไรเฟิลกดปากลงบนกลับปากผมสองสามครั้งแล้วผละออก “กูรำคาญมึงที่พูดกับไอ้ไนต์แบบนั้น รำคาญที่มึงทำตัวแนบชิดกับมันแบบนั้น กอดทำไม อยากกูมากอดกูนี่ อ้อนมันทำไม อยากอ้อนก็มาอ้อนกูนี่! จำไว้เลย กูไม่ชอบ”
  
  
  “ห้ะ....?” ผมกระพริบตาถี่ ๆ ขณะที่สมองกำลังประมวลผม จากคำพูดของไรเฟิล หมายความเป็นอย่างอื่นไม่ได้แน่นอน นอกเสียจาก.... “หึงเหรอ?”
  
  
  
  
  
  
  
  “เออ!”
  
  
  
  
  
  
  แม้จะเป็นเพียงแค่คำตอบสั้น ๆ แต่มันก็ทำให้หัวใจผมเต้นแรงและก็รู้สึกดีสุด ๆ ไปเลยครับ :)





-----------------------โปรดติดตามตอนต่อไป------------------------
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 27 (04.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-02-2015 20:33:51
ตาปืนนี่ขี้หึง ขี้หวงมากกกกก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 27 (04.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 04-02-2015 21:16:56
ปืนหึงบันนี่ :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 27 (04.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 04-02-2015 21:19:45
หึงๆๆๆๆๆ

อ๊ายๆๆ เขินตายไปเลยๆๆ

 :-[ :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 27 (04.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 04-02-2015 22:24:21
พี่ไรเฟิล.  หึงบันนี่.
ว้าวววววววว
^^
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 27 (04.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 05-02-2015 00:49:53
น่ารักมากกกกกกกกกกกกก
มีหมาชื่อหมู งูชื่อมด ตุ๊กตากระต่ายชื่อหมี
น้องบันนี่ช่างตั้งชื่อไปไหน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 27 (04.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kakax ที่ 07-02-2015 21:57:59
สนุกดี รอสามสหายไปเจอมดแดง 5555555555555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 28 (09.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 09-02-2015 20:30:39
EPISODE 28




  
  
  
  
  ปรับความเข้าใจกันแล้วพวกผมก็ลงมาด้านล่าง เหตุการณ์นั้นเกิดจากผมเข้าใจผิดแต่ไรเฟิลเองก็ไม่พูดให้เคลียร์ เข้าใจกันแล้วก็แล้วไปครับ แต่ผมนี่เก่งเนอะ ทำให้คุณชายพูดน้อยอย่างไรเฟิลพูดอะไรยาว ๆ ได้เนี่ย... ไม่ธรรมดาเเลยจริง ๆ (ไม่มีคนอวยก็อวยตัวเองครับ ฮ่าๆ”
  
  
  ที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง หมาสามตัวกำลังคุยกับคุณย่าผมอยู่ มีตัวประกอบที่เสนอหน้าตลอดคือหมูปิ้งที่นอนกระดิกหางดิ๊ก ๆ ผมเดินไปใกล้แล้วใช้เท้าแหย่มัน หมูปิ้งสะดุ้งแล้วก็นอนต่อ - -*
  
  “สวัสดีครับ” ไรเฟิลทักคุณย่า ท่านรับไหว้พร้อมกับยิ้มให้
  
  “หายไปไหนมาลูก?”
  
  “เอ่อ...” ผมอึกอัก
  
  “เป็นเจ้าบ้านแท้ ๆ แต่กลับปล่อยแขกไว้ ใช้ได้ที่ไหน”
  
  “แขกที่ไหนครับคุณย่า พวกมันคนไทย โอ๊ย ๆ” เพราะนั่งติดกับคุณย่า ท่านเลยดึงแก้มผมได้ง่าย ๆ งื่อ.. เจ็บอ่ะ ไม่ได้สนเลยว่าผมเพิ่งหายป่วย
  
  “ดูพูดเข้า น่าตีจริง ๆ”
  
  “งื่อ....” ผมดุนศีรษะกับไหล่คุณย่า ไม่ได้สนสายตาพวกสี่สหายนั่นหรอก แต่เหมือนสมองจะนึกอะไรออกแฮะ... “เฮ้ยพวกมึง! มากับกูหน่อยดิ มีอะไรจะให้ดู”
  
  “อะไรวะ”
  
  “น่าาาาา ตามมาเถอะ” ผมลุกขึ้นยืน ลอบยิ้มกับไรเฟิลไม่ให้ใครเห็น หึหึ
  
  “อย่าไปเล่นซนล่ะน้องควอทซ์ เด็ก ๆ อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันนะจ้ะ” สี่สหายขานรับอย่างพร้อมเพรียงแล้วเดินตามผมมา ผมหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของมดแดง หันไปมอง ไนต์ กาย ฟอร์ส ที่ทำหน้าอยากรู้อยากเห็น
  
  
  
  “รอตรงนี้แหละ เดี๋ยวกูพาลูกรักมาให้พวกมึงยลโฉม รับรองพวกมึงต้องร้อง!” หึหึ
  
  
  ผมเข้าไปในบ้านกระจกของมดแดง แล้วค่อย ๆ อุ้มเจ้าตัวยาวขึ้นพาดคอก่อนจะดินออกมาด้านนอก
  
  
  “นี่ไง!”
  
  “เหี้ย!!!!” เสียงลูกหมาทั้งสามประสานกันก่อนจะวิ่งไปคนละทิศละทาง ไอ้ไนต์วิ่งไปอยู่หลังเสานู่น กายกับฟอร์สหลบอยู่หลังต้นไม้ ผมกับไรเฟิลแท็กมือกันแล้วหัวเราะ พามดแดงกลับเข้าบ้านไป แกล้งพวกมันแค่นี้พอล่ะ เดี๋ยวแม่งตกใจตายในบ้านผมแล้วจะซวยเอา
  
  
  
  “ฮ่า ๆๆๆ” แต่ละคนหน้าอย่างซีด ผมยิ้มร่าโชว์ฟันกระต่าย นั่งแมะลงที่พื้นหญ้าแล้วเรียกสี่สหายมานั่งด้วย ไรเฟิลอ่ะไม่อะไรหรอก แต่อีกสามคนที่เหลือนี่... มองผมกสลับกับบ้านมดแดงแบบระแวงสุด ๆ อยากจะอัดคลิปไปขายให้แฟนคลับสี่ขั้วอำนาจฉิบหายเลยครับ ฮ่า ๆๆ
  
  
  “ไอ้เชี่ยยยยยยยยยย” ผมรีบหลบหลังไรเฟิลก่อนที่กาย ไนต์ ฟอร์ส จะรุมทึ้ง แต่พวกมึงแม่งแขนยาวไงลากผมไปจนได้ ตอนนี้ผมเลยนั่งอยู่กลางวงโดนมีสี่สหายล้อมรอบ ตรงหน้าผมคือฟอร์ส ข้างซ้ายคือกาย ข้างขวาคือไนต์ ส่วนด้านหลังคือไรเฟิล... อันตราย แบบนี้อันตรายแน่ ๆ สัญญาณเตือนภัยบอกว่าผมกำลังจะโดนเอาคืน...
  
  
  “ว้ากกกกกกกกกกกกกกก!!” ผมร้องลั่น อยู่ ๆ ไอ้ฟอร์สก็โยนบางอย่างใส่ผม ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย! หนอน!!! มันคือหนอน!!! มึงไปเอามาจากไหนวะ!!!! แขนทั้งสองข้างของผมถูกกายกับไนต์ยึดไว้คนละข้าง สะบัดยังไงก็ไม่หลุด ดิ้นอย่างเดียวครับงานนี้ แล้วไรเฟิลแม่งไม่ช่วยอะไรผมเลย แง!!!!
  
  “ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยย!! เอาออกไป!!!” แรงดิ้นของผมไม่ได้ทำให้เจ้าหนอนหลุดออกเลย ทำไมเกาะแน่นแบบนี้วะ!! ผมยันขาไปมา ไม่รู้ว่ามันฟาดโดนใครบ้าง แต่ช่างแม่งเถอะ ไอ้ฟอร์สมึง!!
  
  “มึงต้องโดนเอาคือไอ้ลูกสาว! สัดหมาเอ๊ย!”
  
  “แง!! เอามันออกไปน้าาาาาาาาา”ไอ้สามตัวนั่นหัวเราะสะใจ เอวผมถูกรั้งไปด้านหลังก่อนที่มือหนาจะส่งเข้ามาแล้วหยิบเอาเจ้าหนอนบ้านั่นออกแล้วโยนใส่ไอ้ฟอร์ส เมื่อเป็นอิสระจากกายกับไนต์ผมก็เบียดร่างตัวเองเข้าหาไรเฟิล เอนหลังพิงกับอกแกร่ง ชันขาขึ้นไว้กันเป็นป้องกันตัวเอง
  
  “ไอ้ปืนก็ช่วยแม่งตลอด ไม่หนุกเลย” ไอ้ไนต์บ่น ผมถีบหน้าขามันไปทีนึง พอมันทำท่าเหมือนจะขว้างอะไรบางอย่างใส่ผมก็สะดุ้งแล้วขยับหนี รีแอคชั่นของผมดูจะถูกใจพวกมันไม่น้อยเลย จิ๊!
  
  “เอ้า! ไม่ช่วยเมียแล้วจะให้ช่วยใครวะ โอ๊ยยยย!” ไอ้กายร้องเสียงหลงเมื่อผมถีบมันไปเต็มแรง
  
  “ดูหน่อยว่าอยู่ที่ไหน” ผมหน้าบึ้ง ขยับตัวออกจากกลางวงมานั่งปกติตามเดิม ที่นี่คือบ้านของผม ถ้าเกิดมีคนในบ้านผ่านมาได้ยิินแล้วเอาไปพูดต่อล่ะ? ผมไม่ได้คิดที่จะปิดเรื่องที่ตัวเองมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ผมกลัว กลัวว่าถ้าป๊ากับย่ารู้แล้วท่านจะรับไม่ได้ ผมไม่อยากให้ท่านอยู่จากคนอื่น แต่ตอนนี้ผมขอเวลาให้อะไรมันลงตัวมากกว่านี้ แล้วผมจะบอกกับพวกท่านเอง..
  
  
  
  “มึงจะไม่บอกครอบครัวหรอวะ เฮ้ยยย เพื่อนกูคนดีนะเว้ย”
  
  “บอกดิ แต่กูขอให้มั่นใจกว่านี้ก่อนไม่ได้หรอวะ เกิดวันนี้บอกไปแล้วพรุ่งนี้เพื่อนพวกมึงทิ้งกูทำไง” ผมเบ้หน้ากับคำพูดตัวเอง นึกแล้วก็จี๊ด ๆ ในใจ
  
  “คิดมาก” ผมหันไปมองเจ้าของเสียงทุ้มข้าง ๆ แววตาที่มีแต่ความเฉยชาเมื่อมองคนอื่น แต่กลับแปลเปลี่ยนเป็นความอบอุ่นอ่อนโยนเมื่อมองมาที่ผม.. ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ
  
  “งั้นมั้ง”
  
  
  “พอ ๆ เปลี่ยนเรื่อง ๆ” กายโวย
  
  “เรื่องไรล่ะ เอ้อ! กูยังไม่คิดบัญชีแค้นพวกมึงเลย!”
  
  “บัญชีแค้นอะไรของมึงไอ้เห็ด”
  
  “ก็วันเกิดกู ไรเฟิลบอกพวกมึงสมรู้ร่วมคิดกัน”
  
  “ยังไม่ลืมอีก” ฟอร์สเกาหัวเซ็ง ๆ
  
  “ไม่ลืมโว้ยยยย” ผมปาหญ้าที่ดึง ๆ เล่นใส่ไอ้ฟอร์ส
  
  “ถือว่าหายกันนะลูกสาว”
  
  “หายกันบ้าไรอ่ะ”
  
  “ยังไม่ได้คิด”
  
  
  กวนตีน....
  
  “พวกมึงก็....กัน แฮปปี้ มึงต้องขอบคุณมากกว่าแก้แค้นนะน้องเห็ด”
  
  “แฮปปี้พ่อมึงอ่ะไอ้ไนต์” มันยิ้มแฉ่งจนน่าหมั่นไส้
  
  
  
  “โฮ่ง ๆ” หมูปิ้งมาจากไหนไม่รู้สิ่งเข้าแทรกกลางวง แล้วนั่งจมปุกสะบัดหางไปมาสบายใจเฉิบ
  
  “หมาหรือหมูวะ”
  
  “เลี้ยงมานานยังน้องควอทซ์”
  
  “สองปีกว่าแล้ว” ผมได้หมูปิ้งมาเลี้ยงตอนกลับมาอยู่ที่ไทย และได้มาก่อนที่จะได้มดแดงมาไม่นานเท่าไหร่ สองตัวนี้ถือเป็นคู่หูคู่ซี้ของผมเลย
  
  
  
  
  เรานั่งเล่นคุยเล่นกันไป แม่บ้านก็มาตาม ผมถูกคุณย่าไล่ไปอาบน้ำ  เพราะเนื้อตัวมอมแมมสุด ๆ แน่สิ ก็เกลือกกลิ้งขนาดนั้น ทั้งเศษดิน เศษหญ้า อาบน้ำเสร็จแต่งตัวปะแป้งจนตัวหอมฟุ้งก็กลับลงมาด้านล่าง สี่สหายนั่งกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ผมไปส่อง(?)พวกมันแป๊บนึงก่อนจะปล่อยพวกมันคุยกันไปแล้ววาร์ปไปในครัว
  
  
  
  
  เพี้ยะ!
  
  
  คุณย่าฟาดเข้าที่มือผมเน้น ๆ ขณะที่ผมกำลังหยิบกุ้งชุบแป้งทอดสุดโปรดในจานมาลิ้มลอง ผมยิ้มแหย่วางกุ้งลงอย่างจำยอม มองดูกุ้งสุดรักตาละห้อย อนาถแท้ชีวิต...
  
  
  “ออกไป ไป เกะกะจริงเชียว” ดูคุณย่าพูดกับผมดิ แต่อย่าให้ท่านได้สมหวังครับ ผมยังค่อยยืนเกะกะก่อความวุ่นวายให้ท่านอยู่ไม่ห่าง หยิบนู่นจับนี่สร้างความรำคาญให้คุณย่ากับป้าอิ่มเป็นระยะ สนุกอ่ะ แฮ่
  
  
  
  
  “ไปเรียกเพื่อนมาไป”
  
  “อาหารยังไม่เสร็จ ควอทซ์ช่วย”
  
  “ไม่ต้อง ๆ ไปเรียกเพื่อนไป”
  
  “แต่ว่า...”
  
  “อยู่ไปก็ไม่ช่วยอะไร เหลืออีกแค่อย่างเดียว ไปตามเพื่อนไป ท่านคงรำคาญผมเต็มที่แล้วล่ะ ฮ่า ๆ ปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่าสำเร็จ
  
  “ครับผม” ผมออกไปตามสี่สหายแล้วเดินนำพวกมันไปที่โต๊ะอาหาร แค่ได้กลิ่นหอมที่โชยมาท้องก็ร้องโครกครากพอไป กับข้าวหลายอย่างถูกลำเลียงออกมาวางบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ จากสุดท้ายถูกวางลงพร้อมกับคุณย่าที่เดินเข้ามา ท่านนั่งลงที่หัวโต๊ะ ผมนั่งที่ประจำของตัวเอง คนที่นั่งข้างผมคือไนต์ ตรงข้ามผมคือกาย ถัดจากกายคือฟอร์สและไรเฟิล
  
  ไม่มีเวลาให้ตะลึงกับอาหารตรงหน้ามากมายนักหรอกครับ ความหิวไม่เคยปรานีใคร เราจัดการยัดอาหารลงกระเพาะกันแทบจะทันที
  
  
  “ป๊าไปไหนงะ”
  
  “บริษัทจ้ะ”
  
  “งืมๆๆ ไรฟ์มึงหยิบจานนั้นมาให้กูหน่อยดิ” จานที่ผมอยากกินมันอยู่ตรงหนน้าไรเฟิลพอดีนี่ครับ ผมตักไม่ถึงง่ะ แต่คุณย่าตีผมอีกแล้ว TwT
  
  “เป็นเด็กเป็นเล็กพูดให้มันเพราะ ๆ หน่อย เราอายุน้อยกว่าพี่เขานะ” ผมยู่ปาก ก่อนจะยิ้มแห้ง ๆ ก็คุณย่าเล่นจ้องเขม็ง ไม่เอาอ่ะ ผมไม่สู้
  
  “พี่ไรเฟิลครับ หยิบจานกับข้าวจานนั้นให้น้องควอทซ์หน่อยได้ไหมครับ น้องควอทซ์หยิบไม่ถึง” เปล้าาาาาาาา ผมไม่ได้ประชดนะ คุณย่าส่ายหน้าปลง ๆ สี่สหายมองผมแบบ... มึงเป็นบ้าไร แล้วพวกมันก็ทำหน้าเหมือนจะพ่นอาหารในปากออกมา สาดดดดดดดดดดดดดด ไอ้เชี่ยฟอร์สแม่งถึงกับสำลัก
  
  “น่าตีจริง ๆ” ผมรับจานมาแล้วยิ้มแผล่ใส่คุณย่า
  
  กินข้าวกันจนอิ่มสบายกระเพราะ อาหารคาวจบไปอาหารหวานก็มาครับ ทับทิมกรอบคนละถ้วย เปรมไปเลยสิ
  
  “พวกมึงจะกลับยัง”
  
  “อ้าว ไล่เหรอ ๆ”
  
  “เปล่าโว้ยยยย จะสองทุ่มแล้วเนี่ย” พวกมันเบ้ปาก มีปัญหากับกูมาไหมห้ะ!
  
  “น้องควอทซ์เป็นห่วงพวกพี่เหรอครับ” ไอ้เหี้ยไนต์!!!!!
  
  “ไม่ได้เป็นห่วงครับ เป็นคน” แล้วหมาไนต์มันก็สะบัดนิ้วกลางใส่ผม แบร่ คิดว่ากลัวเหรอ
  
  
  ก็นั่นแหละ กวนตีนกันไปตามประสาเพื่อน พอเวลาล่วงเลยมาเกือบ ๆ สามทุ่ม พวกมันก็ขอตัวกลับ เนื่องจากพรุ่งนี้มีเรียนครับ ผมตัดสินใจจะนอนที่บ้าน จริง ๆ ถ้ากลับไปนอนหอมันคงสะดวกกว่านะ แต่ว่าคิดถึงเตียงที่บ้านไง เลยนอนบ้านดีกว่า พรุ่งนี้ไม่มีเรียบเช้าด้วย สบายไป~
  
  ส่งสี่สหายกลับบ้านแล้วผมก็ไปส่งหมูปิ้งเข้านอนที่บ้านของมันด้วย เสร็จแล้วครับภาระกิจวันนี้ ถึงเวลาขึ้นห้องแล้ว ล้างเท้าล้างมือเปลี่ยนชุดนอนก็โดดลงเตียง นอนคว่ำตีขาไปมา หยิบโทรศัพท์มาเล่น ดูนู่นนี่ไปเรื่อย ก่อนจะเอามันไปชาร์จแบต สำหรับคืนนี้ ฝันดีครับ
  
  
  
  
  
  
  ..........................................................................................
  
  
  
  
  
  ขาดเรียนไปหลายวันนี้ผมก็ได้มาเรียนแล้วครับ!! ทำไมตอนหยุดเรียนแล้วอยากมาเรียนวะ พอได้มาเรียนแล้วเสือกอยากหยุด โว้ะ! ผมเดินเลียบไปตามฟุตบาธ วันนี้มาเองครับ ไม่มีคนไปรับ เพราะผมไม่ได้บอกให้ใครไปรับ ไรเฟิลมันมีเรียนเช้า ตอนนี้ก็คงเรียนอยู่มั้ง ไอ้ไนต์แม้จะเรียนเวลาเดียวกันแต่บ้านมันกับบ้านผมอยู่คนละฟากเลย วนไปวนมาเสียเวลา ผมเลยตัดปัญหาด้วยการมาเองดีกว่า
  
  
  
  
  “ไอ้เหี้ยควอทซ์!!!!!!!” พอมาถึงตึกคณะปุ๊บไม่รู้เจ้าแม่มันอยู่ตรงไหนแต่เสียงนางมาก่อนแล้วครับ ผมหันซ้ายหันขวามองหาต้นเสียง แล้วร่างผอมเพรียวของเจ้าแม่บะหมี่ก็โผล่มา
  
  “เสียงดังไอ้สัด”
  
  “อิดอกกกกกกก หายป่วยแล้วเหรอ” มันถาม แถมยังลากผมไปนั่งกับมันที่โต๊ะด้วย มีพวกเพื่อน ๆ ผู้หญิงของมันด้วย ตอนที่ผมยังอยู่โรงพยาบาลมันก็มาเยี่ยมครับ แต่ไม่เชิงเยี่ยมเท่าไหร่ มาสมน้ำหน้า เหอะ
  
  “หายแล้วดิ หวัดดีครับ” ผมยิ้มทักเพื่อนมัน
  
  “ดีเว้ย” นี่แหละผู้หญิงวิศวะ หาความเป็นกุลสตรีแทบไม่เจอ
  
  “มึงมาอยู่แม่งไม่มีคนทำงานให้กูลอกเลย สัดเอ๊ย ทีหลังมึงห้ามป่วยอีกนะ”
  
  “สัด..”
  
  
  เข้าเรียนแล้วก็เรียนไป ตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้าง ผมเหล่มองไอ้ไนต์ที่นั่งข้าง ๆ มันเอาแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหน้าบึ้ง บ้าอะไรของมันไม่รู้ คุยกับใครก็ไม่บอก พอผมยื่นหน้าเจ้าดูแม่งก็ดันผมออกแถมยังบอกให้ผมตั้งใจเรียนอัก สาดดดดดด มึงไหมล่ะที่ต้องตั้งใจเรียน แล้วแม่งก็เป็นอย่างนั้นไปจนหมดคาบ...
  
  
  
  ระหว่างที่มีเวลาพักเพื่อรอเรียนคาบต่อไปก็ไลน์คุยกับคุณชายเขาหน่อย ไม่ใช่ไรครับ แม่งรัวสติกเกอร์มาฉิบหายอ่ะ ได้ความว่าพี่ท่านเรียนเสร็จแล้วแล้วก็กำลังจะไปที่ชมรมว่ายน้ำของมัน และหลังจากที่ผมบอกว่าจะเข้าเรียนแล้วคุณชายก็ส่งมาว่าถ้าเรียนเสร็จก็ให้โทรหามัน
  
  
  
  
  
  
  
  “มึงกลับไง?”
  
  “ไรฟ์มารับ”
  
  เลิกเรียนแล้วครับ ตอนนี้ผมกับบะหมี่นั่งแกร่วที่หน้าคณะ บริเวณตรงนี้ไม่มีคนเลย มีแค่ผมมันเจ้าแม่สองคน ก็มันเย็นมากแล้วนี่หว่า.. แล้วไอ้ไนต์ไปไหน.. ไปแล้ว ไปแล้วครับ พออาจารย์บอกเลิกคลาสปุ๊บไอ้เหี้ยนั่นก็วาร์ปเลย ยังดีที่แม่งมาเซย์กู๊ดบายผมก่อน ไม่รู้รีบไปตายที่ไหน ชีทที่ว่าจะเอาจากมันก็เลยไม่ได้ กูตามไปที่คอนโดมึงก็ด้ายยยยยยยยย
  
  
  “จ้ะ! หมั่นไส้โว้ยยยย พวกมึงนี่ตกลงยังไงวะ” ผมยิ้ม ๆ ไม่ตอบ ปล่อยมันทำหน้าหมั่นไส้ไป
  
  นอกจากพวกผมห้าคนแล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องที่ผมกับไรเฟิลเป็นอะไรกัน ไม่ได้ปิดบังนะ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมากมาย ถ้าถามผมก็บอกอ่ะ
  
  “ทำยิ้มไอ้สัด ตกลงยังไง เป็นแฟนกันยัง ..เร็วดิกูอยากเสือก” จุดยืนมึงชัดเจนมาก ผมแยกเขี้ยวใส่มัน ไม่ตอบแต่ยกมือข้างขวาขึ้นมา บะหมี่คว้าหมับ เบิกตากว้างจนผมกลัวมันจะถลนออกมา บะหมี่มันฉลาด เข้าใจอะไรไวมาก ถ้าเรื่องเรียนมึงตั้งใจแบบใส่ใจเรื่องคนอื่นนะ ได้เกียรตินิยมไปล่ะ
  
  “อิดอกกกกกกกกกกกกกกกก จริงป่ะเนี่ย!”
  
  “อื้อ”
  
  “โว้ยยยยยยยย นานยังวะ”
  
  “อาทิตย์กว่า ๆ”
  
  “ทำดี! งานฉลองต้องมา ได้กันยัง?!”
  
  ...สัดหมี่
  
  “อื้อ”
  
  “กรี๊ดดดดดดดดดดด แม่ช้อยยยยยยยยยยยยยยยย” แล้วมันก็พ่นภาษาต่างดาวใส่เป็นชุด ผมเกาหัวแกรก ๆ คิดถูกป่ะวะที่บอกมันเนี่ย ก่อนที่ผมจะสะดุ้งเฮือกเมื่อมีสัมผัสเย็น ๆ แตะลงที่หลังคอ
  
  “อ้าว” ไรเฟิลนั่นเองครับ ตกใจหมด นึกว่าใคร ไรเฟิลสวมเสื้อนักศึกษาพับแขนขึ้นไปถึงข้อศอก กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้มความยาวระดับเข่า (-_-) รองเท้าแตะราคาสี่หลัก ผมสีบลอนด์ที่ไม่แห้งดีถูกปล่อยลงมาปรกหน้าผาก ผมเบ้หน้า หมั่นไส้ คนห่าไรดูดีได้ตลอดขนาดนี้
  
  “เหี้ย” ไรเฟิลสบถ บะหมี่ฉุดมือมันไปแล้วเอามาเทียบกับมือผม
  
  “มายก็อด! แหวนคู่!” แล้วมันก็สะบัดทิ้งพร้อมทำหน้าหมั่นไส้สุดชีวิต
  
  “บอกแล้วหรอ?”
  
  “อื้อ มันถาม”
  
  “อืม”
  
  “ต้องมีปาร์ตี้สละโสดนะยะ” ผมกับไรเฟิลกลอกตา แต่เจ้าแม่หาได้สนใจไม่.. มันขอร้องแกมบังคับบวกมัดมือชกให้ไรเฟิลไปส่งที่คณะนิเทศ เจ้าแม่มันจะไปหาเพื่อนที่นั่นครับ
  
  
  
  
  
  “ไอ้วอร์มฝากมาให้” ไรเฟิลยื่นซองเล็ก ๆ มาให้ ผมรับมาก่อนจะเปิดดู มีการ์ดที่เขียนด้วยตัวหนังสือไก่เขี่ยว่า ‘จากไอ้หมวย’
  
  
  มันคือที่ห้อยกระเป๋าที่ผมเคยบ่นว่าอยากได้เมื่อตอนที่ไอ้วอร์มมาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาลแล้วหนีบหมวยเทมส์มาด้วย แล้วผมดันไปเห็นมันที่กระเป๋าเทมส์พอดี ทีแรกก็งอแงจะเอาของน้องแหละครับ แต่มันไม่ให้ แล้วบอกว่าจะซื้อมาให้แทน ผมแกะมันออกจากซองแล้วห้อยกระเป๋าทันทีก่อนจะถ่ายรูปแล้วอัพโหลดลงอินสตาแกรมพร้อมแท็กไอ้วอร์มกับเทมส์
  
  
  
  “นี่...”
  
  “หือ?”
  
  “พาไปห้องไอ้ไนต์ก่อนได้มะ จะไปเอาชีทที่ห้องมัน” ไรเฟิลใช้หางตามองก่อนจะพยักหน้า
  
  
  
  
  
  กว่าจะฝ่ารถติดมาได้ก็กินเวลาไปพอสมควร มาถึงคอนโดไอ้ไนต์ก็ไม่ต้องกังวลว่าคุณยามจะไม่เปิดประตูให้
  
  1 มาบ่อย
  
  2 มากับไรเฟิล
  
  
  ไอ้คุณชายนี่ใบเบิกทางดี ๆ นี่เองครับ (ฮา) ไม่มีคีย์การ์ดคุณยามเขาก็เปิดให้ เข้ามาด้านในได้ก็เรียกลิฟต์เลย ผมไม่ได้บอกได้ไอ้ว่าจะมา ถ้าโทรบอกเดี๋ยวมันไหวตัวทัน สาเหตุจริง ๆ ก็มาเอาชีทนี่แหละ แต่สาเหตุรองนั้น... หึหึ
  
  
  
  
  ออด~ ออด~
  
  
  แกร็ก
  
  “อ้าว พี่ไรเฟิล ....สวัสดีครับ” ประโยคหลังแผ่วลงเมื่อผมโผล่ออกมาจากด้านหลังไรเฟิล ผมเอ๋อไปชั่วขณะ
  
  เด็กผู้ชายร่างเล็กผอมบาง(ตัวเล็กกว่าผมอีก) รูปหน้าค่อนไปทางสวย ดวงตากลมโตแต่ดูเฉี่ยวคมสีน้ำตาลอ่อน ปากสีชมพู จมูกรั้นเชิด ....ทำไมเด็กร่างบางนี่ถึงได้ถึงได้มาเปิดประตูแทนที่จะเป็นไอ้เพื่อนหุ่นหมีควาย จะว่าผิดห้องก็ไม่ใช่ แล้วเมื่อกี้น้องเขาก็ทักไรเฟิลด้วย...
  
  
  “ใครมาวะ?! ...ฉิบหาย...” ผมเลื่อนสายตาไปมองเจ้าของห้องตัวจริง ไอ้ไนต์หน้าเหวอก่อนจะลูบหน้าตัวเอง
  
  “หึ.. โชคดีมึง” ไรเฟิลพูด ตบบ่าไอ้ไนต์ มันดันหลังผมให้เขาไปในห้องของไอ้ไนต์ ผมยังคงไม่หายมึน เด็กคนนั้นเป็นใคร เกี่ยวข้องยังไงกับไอ้ไนต์..
  
  
  เตรียมเสียมรอขุดเลยดีกว่า






---------------------โปรดติดตามตอนต่อไป---------------------
ยัยควอทซ์จะแกล้งเขาแต่กลับโดนแกล้งซะงั้น โธ่...
เลี้ยงงูตัวยาวเกือบสามเมตร แต่กลัวหนอนตัวไม่ถึงสามนิ้ว.....
 :mew5: :mew5:
อ้าววววววว อ้าววววว เด็กตาโตคนนั้นเป็นใคร
เกี่ยวข้องอะไรกับนายอัศวิน งานขุดต้องมา!
 :hao7: :hao7:

------------------

ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยที่เข้ามาอ่านนิยายของเรา
ฮื่อ.. ยังไงก็ช่วยติ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ยังไงก็จะพยายามเนอะ
รักนะงับ /ทำมือเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่ๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 28 (09.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-02-2015 21:04:37
โดนแน่ๆไนต์
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 28 (09.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HanTwoH ที่ 09-02-2015 21:08:29
เรื่องนี้สนุกอ่ะชอบๆสู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 28 (09.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-02-2015 21:22:27
5555555555+ ไนต์เสร็จแน่
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 28 (09.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 09-02-2015 21:55:46
โดนเผือกเต็มที่แน่ๆ

เตรียมตัวตอบคำถามน้องควอตไว้นะ555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 28 (09.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 09-02-2015 22:14:18
แล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

โดนน้องควอทซ์ซักจนขาวสะอาดแน่นอน เพื่อนไนต์ :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 28 (09.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 11-02-2015 09:52:01
สนุกดี ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องคิดว่าหมายถึง Underground ที่หมายถึงรถไฟใต้ดิน เลยไม่อ่าน เหอออออ

ไรเฟิลไปบอกเลิกความสัมพันธ์กันชะนีหมดยัง
บางตอนเราว่ามันข้ามๆ อย่างตอนที่กินเค้กฉลองกะน้อง เถียงกัน ตัดจบ แล้วเปลี่ยนเรื่องเลยอ่ะ กลายมาเป็นเมา? งงเลย

ต่ออีกๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 28 (09.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: rk ที่ 14-02-2015 00:13:25
ชอบเรื่องนี้จัง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 28 (09.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: dariganae ที่ 14-02-2015 11:02:33
เรื่องนี้น่ารักมากกกกกกก
ชอบมากๆเลยค่ะ
ปล.หวังว่าไรเฟิลจะเคลียร์สาวในสต้อคหมดและชัดเจนแล้วนะ^^
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 29 (14.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 14-02-2015 20:32:47
EPISODE 29








  ผม ไรเฟิล ไอ้ไนต์และน้องตัวเล็ก(ก็ยังไม่รู้จักชื่อนี่หว่า) นั่งกินข้าวกันด้วยบรรยากาศอึดอัดสุด ๆ มีเพียงเสียงช้อนกระทบจาน ไม่มีใครพูดอะไร ผมกินข้าวด้วยท่าทีสบาน ๆ ไม่เหมือนไอ้ไนต์ที่หน้านิ่วคิ้วขมวด หึ รู้ไว้บ้างว่าเล่นกับใคร!
  
  
  
  
  หลังจากกินข้าวเสร็จก็ยังไม่มีใครพูดอะไรครับ ผมสามคนนั่งกันที่โซฟาที่ห้องนั่งเล่น เด็กไอ้ไนต์อาสาล้างจานอยู่ในครัว ผมเอนตัวพิงพนักไขว้ห้างเล่นโทรศัพท์ด้วยอารมณ์สบายสุด ๆ ไอ้ไนต์กับไรเฟิลนั่งอยู่ที่โซฟาทรงตัวแอล ส่วนผมนั่งอาร์มแชร์บุนวมคนเดียว สักพักคนที่อายุน้อยที่สุดก็เข้ามา หน้าตาปั้นยากไม่รู้จะแสดงสีหน้าแบบไหน คงอึดอัดไม่น้อย. . .
  
  “มานั่งนี่” ไอ้ไนต์ดึงแขนน้องให้นั่งลงข้าง แต่น้องตัวเล็กบิดแขนออกและนั่งห่างจากไอ้ไนต์ประมาณหนึ่งฟุต หึ.. แม้ผมจะก้มหน้าเล่นโทรศัพท์แต่ผมเห็นทุกอย่างนะครับ
  
  
  “ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอวะ?” ผมยังคงเงียบ แสร้งทำเป็นไม่สนใจ แม้ความเป็นจริงจะคันยิบ ๆ อยากจะถามออกไปตรง ๆ แต่เดี๋ยวก่อนครับ.. ผมต้องเผือกอย่างมีชั้นเชิง
  
  ครืน~
  
  ผมแตะแบนเนอร์ที่เด้งขึ้นมาก่อนจอจะเปลี่ยนวินโดว์ไปที่แอพพิเคชั่นไลน์
  
  
  R. : แกล้งใช่ไหม?
  
  ผมหลุดหัวเราะออกมา แม่ง รู้ทันกูตลอดเลย เกลียดดดดดดดดด
  
  q.ra : อย่ามารู้ทันดิ (สติกเกอร์กอดอก)
  
  R. : (อีโมจิแสยะยิ้ม) Turn up!

  
  
  
  ผมกดยิ้ม กดล็อกสกรีนแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว
  
  “น้องเห็ด~~ พูดอะไรบ้างดิวะ”
  
  ผมเสยผมเลิกคิ้วก่อนจะกอดอก “พูดอะไรเหรอ?”
  
  “ก็... โว้ย!” ไอ้ไนต์ขยี้ผมตัวเองจนฟู หน้าหล่อนั่นดูเหมือนเด็กโดนขัดใจ
  
  “กูมาเอาชีท เอามาให้หน่อยดิ อยากกลับแล้ว ง่วง” ผมพูดแทรกขณะที่มันกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง มันหน้าเจื่อน ก็ง่วงจริง ๆ นี่ครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว..
  
  ผมเพ่งมองชื่อที่ปักบนอกของน้องตัวเล็ก(เจ้าตัวยังใส่ชุดนักเรียนอยู่) ‘กนต์นธี’ เดี๋ยวนะ.. คุ้น ๆ แล้วไม่นานผมก็นึกออก จำวันที่ผมเมาแล้วไอ้พี่สองมันก็มาส่งผมที่ห้องไอ้ไนต์ได้ไหมครับ พอตอนเช้าผมก็เจอรายงานเล่มนึงที่บนปกมันเขียนว่า ‘นาย กนต์นธี คณาพันธ์’ ผมเลื่อนสายตาขึ้นมองก่อนจะสะดุดที่ลำคอขาว.. ยังไม่จางเลย หึ
  
  
  “เดี๋ยวดิ กูอธิบายได้นะเว้ย”
  
  “หาวววว อธิบานอะไรเหรอ รีบ ๆ เอาชีทมาเหอะ กูง่วง”
  
  “มึงจะไม่ถามอะไรหน่อยเหรอ”
  
  “หือ? ถาม ถามอะไร?” ผมพูดตาใส ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามันหมายถึงอะไร ไอ้ไนต์ชี้ไปที่คนข้างตัว
  
  “ไม่ถามหรอว่าเด็กนี่เป็นใคร?”
  
  “แล้วเป็นใครล่ะ? เป็นอะไรกับมึงล่ะ? ..ถ้ามึงอยากบอกมึงก็บอกตั้งนานแล้วไหม? แต่นี่มึงไม่อยากบอกไง ถ้าวันนี้กูไม่บังเอิญมาหามึง กูจะรู้ไหมว่ามึงกำลังคบกับใครอยู่ แม้แต่ชื่อน้องเขามึงยังไม่บอกกูเลย!”
  
  อารมณ์ล้วน ๆ ไม่มีแกล้งผสม. . .
  
  
  “ใจเย็นก่อน”
  
  “มึงก็เหมือนกันอ่ะไรเฟิล รู้ทุกอย่างแต่ไม่เคยบอกอะไรกูเลย ถามจริงเหอะ กูมีความสำคัญกับพวกมึงบ้างไหม!? คิดจะบอกอะไรกูบ้างไหม?! กูเป็นเพื่อนหรือเป็นคนอื่นวะ รู้กันทุกคนยกเว้นกู ดีอ่ะ ดี๊ดี เหอะ! จากที่ว่าจะแกล้งเล่น ๆ ตอนนี้กูชักเริ่มไม่พอใจขึ้นมาจริง ๆ แล้ว”
  
  “มึงไม่ถามนี่หว่า” ผมมองไอ้ไนต์ กูอยากจะกลอกจาเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย
  
  “ไม่ถามน้อยไปสิ! ถามแล้วมึงบอกไหมล่ะ ก็ไม่ เพื่ออะไรวะ อ้อ! มึงเคยบอกว่าเป็นหลายมึงนี่เนอะ โทษทีกูลืมไป แต่ไม่ยักรู้ว่ามึงกับหลานจะดูดคอกันจนช้ำแบบนั้น หึ”
  
  สองคนนั้นมองหน้ากัน น้องตัวเล็กกำคอเสื้อตัวเองอัตโนมัติ ผมถอนหายใจ ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของผม แต่มันจำเป็นต้องปิดบังผมเหรอ?
  
  “กู..”
  
  “พอเถอะ เรื่องขอพวกมึง กูกลับล่ะ”
  
  “เดี๋ยวกูไปเอาชีทมาให้” ไอ้ไนต์ลุกออกไป ในห้องนั่งเล่นเลยเหลือกันอยู่สามคน ผมจ้องน้องตัวเล็กไม่วางตา
  
  “ชื่ออะไร?”
  
  “เอ่อ.. กัสครับ” น้องแลบลิ้นเลียริมฝีปากคล้ายคนประหม่า
  
  “เรียนอยู่ชั้นไหนแล้ว” รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแม่ผัวที่เพิ่งจะลูกสะใภ้ครั้งแรกเลย - -
  
  “ม.6 ครับ”
  
  “รู้จักมันนานยัง?”
  
  “เอ่อ.. น่าจะเดือนหนึ่งมั้งครับ”
  
  “เหรอ..”
  
  “ทำตัวยังกับแม่ผัวกับลูกสะใภ้” ผมถลึงตาใส่ไรเฟิลก่อนจะถีบจามันไปด้วยแรงปานปลาง
  
  “ไอ้เหี้ย!”
  
  “หึ แล้วยังไง มึงไม่โอเคกับน้องมันเหรอ?” ผมหรี่ตามองคนพูด ก่อนจะหันไปมองน้องตัวเล็ก(รู้ชื่อแล้วแต่จะเรียกน้องตัวเล็กอ่ะ จะทำไม) เราสบตากันพอดี น้องกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตา กลัวผมเหรอ ผมน่ากลัวเหรอวะ
  
  “ทำไม ถ้ากูไม่โอเคแล้วจะเลิกกันเหรอ ..เดี๋ยว แล้วนี่เป็นอะไรกันเนี่ย?”
  
  “ม ไม่รู้สิครับ” น้องตัวเล็กเม้มปาก มือบางจิกมือตัวเองจนผมกลัวว่าน้องจะเจ็บ
  
  
  ไม่รู้.. คือไรวะ พวกมึงอยู่ด้วยกันแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันเนี่ยนะ?
  
  “ไอ้ไนต์!” ผมเรียกมันเสียงดัง ไอ้ไนต์เดินออกมาจากห้องห้องหนึ่งพร้อมกับปึกกระดาษที่ความหนาประมาณหนึ่งนิ้ว ลากเลือดแน่กู T_____T
  
  “ห้ะ? อะไร?” มันทำหน้างง นั่งลงข้างน้องตัวเล็ก ส่งปึกชีทให้ไรเฟิล
  
  “มึงกับน้องตัวเล็กนี่เป็นอะไรกัน ห้ะ!”
  
  “เป็น..... เป็นอะไรวะ”
  
  สัดหมาไหมล่ะ?..
  
  “เวร.. มึงพาน้องมาเนี่ยพ่อแม่เขารู้ไหมไอ้สัด”
  
  “มันมาเอง กูไม่ได้พามา”
  
  “หมายความว่าไง?”
  
  “ทำตัวขี้เสือก” ไอ้เหี้ยไรเฟิล!!!!!!
  
  “แน่ดิ! มึงรู้ทุกอย่างก็พูดได้หนิ!”
  
  “อย่าเพิ่งตีกันไอ้สัด” ผมเบ้หน้า เดินหนีเข้าไปในครัว รื้อตู้เย็นไอ้ไนต์แล้วหยิบไอศกรีมมาหนึ่งแท่งก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง
  
  “ขโมยของบ้านกูอีก”
  
  “แบร่! เล่าเรื่องมึงมาเลย” ผมวกกลับเข้าเรื่องเดิม ไอ้ไนต์กลอกตา
  
  “เรื่องมันยาว”
  
  “ไม่เป็นไร กูว่าง” ว่างเหี้ยไรล่ะ งานจะทัพหัวตายอยู่แล้ว
  
  “ไหนบอกง่วง”
  
  “ง่วงอะไร ไม่มี้”
  
  “เสียงสูงมาเชียวไอ้น้องเห็ด”
  
  “เล่า ๆ”
  
  “เสือก”
  
  “ไม่ได้เสือก .. แค่อยากรู้ข้อมูลเชิงลึก” ผมยิ้มแฉล้ม งับไอศกรีมไปด้วย ก่อนจะเบี่ยงหน้าหลบมือหนาของไรเฟิลที่ยื่นมาเช็ดมุมปากให้ ผมทำปากขมุบขมิบ แม่ง อายบ้างไหมเนี่ย!
  
  “ไว้ก่อนได้ไหมล่ะ ฮึ?”
  
  “เออ ๆๆ ...จริงน้องแม่งน่ารักนะ ไม่น่าหลงมาอยู่กับมึงได้เลย หลอกเขามาป่ะเนี่ย”
  
  “หลอกห่าไรล่ะ เด็กแรดนี่ต่างหากที่หลอกกู”
  
  “เด็กแรด?” ไอ้ไนต์ไหวไหล่ ไล่น้องน้องตัวเล็กไปอาบน้ำ ทำการบ้าน น้องแม่งเถียงด้วย เมื่อกี้ยังหงออยู่เลย (‘ ‘
  
  
  
  
  
  .....................................
  
  
  
  
  
  ผมมุดเข้าใต้ผ้าห่มหลังจากที่อาบน้ำเสร็จและตอนนี้ไรเฟิลกำลังอาบน้้ำอยู่ เรากลับจากห้องไอ้ไนต์ตอนเกือบ ๆ สี่ทุ่มครึ่ง มาถึงห้องก็ห้าทุ่มไปแล้ว ทีแรกผมบอกให้มันไปส่งที่หอ แต่คุณชายมันบอกว่าขี้เกียจ ไอ้นี่...
  
  กำลังเคลิ้มจะหลับก็รู้สึกถึงสัมผัสเย็น ๆ ที่หน้าผาก ผมปรือตาขึ้นมามองแล้วหลับลงไปอีกครั้ง กำมือหนาที่เกลี่ยผมผมเล่นเอาไว้
  
  “ไม่รอกูเลย..” เสียงทุ้มพูดกระซิบข้างหู ผมหย่นคอเพราะจั๊กจี้เมื่อปากเย็น(เพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ)กดลงบนผิว
  
  “ฮื่อ.. ง่วง”
  
  “หึ” แขนแกร่งรั้งเอวผมเข้าไปใกล้  ศีรษะผมตกจากหมอนกลายเป็นผมหนุนแขนอีกฝ่ายแทน ใบหน้าแทบจะชิดกับอกเปลือยเปล่าของคนตัวสูงกว่า ..แม่งชอบไม่ใส่เสื้อนอน ไอ้ฝรั่งขี้ร้อน!
  
  “ฮื่อ... ไรเฟิล!”
  
  “ครับ” ครับส้นตีนอะไรล่ะ! ผมตระปบมือที่กำลังลูบต้นขาผมเล่นแล้วสะบัดทิ้ง พลิกตัวหนีแต่ก็โดนรั้งไว้อยู่ดี ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าไรเฟิลนอนซ้อนหลังผมอยู่
  
  “อย่าทำ...” ผมร้องห้ามเมื่อริมฝีปากนุ่มหยุ่นแตะเข้าที่หลังคอ ลิ้นชื้นแลบเลีบก่อนจะใช้ฟันขบเบ้า ๆ ตัวผมถูกรั้งเข้าไปแนบชิดยิ่งกว่าเดิม ลำตัวถูกรัดจากแขนแข็งแรง ท่อนขาถูกขาอีกฝ่ายก่ายทับ ขยับตัวไม่ได้เลยสักนิด
  
  “ร ไรเฟิล..”
  
  “หือ?”
  
  “ไม่เอา ไม่เล่น” ผมว่าเสียงสั่น พยายามจับมือของไรเฟิลที่สอดเข้ามาภายในเสื้อนอน มือก็ลูบหน้าท้องผมไปมา ริมฝีปากยังไม่หยุดกดจูบลงบนรอยสักที่หลังต้นคอผมเสียที
  
  “ใครบอกว่าเล่น หืม?”
  
  “อ๊ะ.. อย่ากัดดิ ร ไรฟ์!”
  
  “ตัวมึงหอมแบบนี้ใครจะทนไหว
  
  ฟึ่บ!
  
  ผมเบิกตากว้างเมื่อร่างกายถูกพลิกให้นอนหงายโดยมีร่างกายกำยำของไอ้ฝรั่งผมทองคร่อมทับ มือหนาตรึงมือผมทั้งสองข้างเอาไว้ ตาคมมองผมอย่างจาบจ้วง สิ้นสีสดแลบเลียริมฝีปาก อ..ไอเหี้ย! มันดูโรคจิตมากเลย ผมส่ายหัวไปมาแรง ๆ จนผมฟู แต่ดูเหมือนไอ้ยักษ์มันจะไม่สน!!
  
  
  ตาสว่างเลยไอ้สัด! ตาสว่างเลย!!
  
  
  “พอแล้วววววว นอนเถอะ”
  
  “พออะไร ยังไม่ได้ทำอะไรเลย..” ไม่ได้ทำของมึงแต่ปลดกระดุมกูไปแล้วนี่นะ ไม่ได้ทำแล้วที่ดูดคอกูอยู่นี่คืออะไร!!
  
  “ไรเฟิล อื้อ..อ๊ะ”
  
  “อืม..”
  
  “ไรเฟิลจ๋า... พอแล้วนะ นะน้าาา”
  
  การกระทำทุกอย่างหยุดนิ่ง ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม มันเบิกตากว้างก่อนจะสบถออกมา
  
  “เหี้ย!”
  
  “ขยับออกไปได้ไหมงะ” ผมบอก ใช้มือดันไหล่อีกฝ่ายออกไปด้วย แต่ร่างสูงกลับเบียดตัวลงมาจน ‘อะไร ๆ’ มันสัมผัสกัน แง T______T
  
  
   “ขยับออกได้ยังไง ...ยังไม่ได้ใส่เข้าไปเลย”  แค่พูดทำไมต้องทำเสียงเซ็กซี่ด้วย!!!!!
  
  “นะ...” ผมทำตาแป๋วมองอีกฝ่ายอ้อน ๆ ขอเถอะครับ อย่าทำอะไรกูเลย.. แต่ฟังที่ไหนล่ะ ก้มหน้ามาจูบกูเฉย ไอ้เวร!!! แล้วผมจะทำอะไรได้นอกจากอ่อนระทวยไปกับจูบของมันล่ะ!! ฮือ...
  
  ผมบิดตัวเมื่อมือร้อนแตะเข้ากับยอดอก ปลายนิ้วเรียวสะกิดเขี่ยเบา ๆ
  
  “อื้อ..!!” ไรเฟิลถอนจูบออก ผมหลบตาอีกฝ่าย ใบหน้าเห่อร้อนอย่างห้ามไม่อยู่ มือหนาแหวกสาบเสื้อผมออกก่อนจะใช้ลิ้นเล่นกับมันจะเปียกชื้น
  
  “อ๊ะ อื้อ..”
  
  “ถ้าจะไม่ยอมก็ควรขัดขืนให้มากกว่านี้นะบันนี่... เพราะทำแบบนี้น่ะ กูจะคิดว่ามึงอ่อย..
  
  “อ่อยเหี้ยอะไรล่ะ!! อ๊ะ อ๊า!!” ผมพยายามดันศีรษะไรเฟิลออก แต่จนแล้วจนรอดก็ยังสู้แรงไอ้ยักษ์นี่ไม่ได้สักที ว้อยยยยย! กูก็เป็นผู้ชายนะเว้ยทำไมต้องแพ้มันด้วย!!
  
  
  
  
  “พ พี่ไรเฟิล.. พรุ่งนี้ น น้องมีเรียนนะ อื้อ..” พูดไปแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ไอ้เหี้ยยยยยย น่าอายฉิบหาย ไรเฟิลหูแดง มองผมอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะแสยะยิ้มออกมาทำเอาผมขนลุกซู่
  
  “แล้วน้องไม่สงสารพี่หรอครับ หืม?” กลายเป็นผมที่ต้องตกใจ ไอ้สัด ๆๆ ไอ้เหี้ยยยย ใครบอกให้พูดแบบนั้น!! น้ำเสียงทุ้มต่ำกับสายตาหวานเยิ้มทำให้หัวใจผมเต้นแรงจนกลัวอีกฝ่ายจะได้หยิบ ตาย! ตายแน่ ๆ กูเนี่ยตายแน่ ๆ !!
  
  “แต่..”
  
  “ไม่สงสารมันหน่อยเหรอ..” มือหนาคว้ามือผมให้ไปสัมผัสกับ ‘มัน’ ผมเบิกตากว้างพยายามดึงมือตัวเองออกแต่ไม่สำเร็จ ความอุ่นร้อนถูกส่งผ่านมาสู่มือขาวแม้จะมีเนื้อผ้าปิดกั้น
  
  
  
  ผมทำหน้าจะร้องไห้ ไรเฟิลขยับตัวขึ้นนั่งแล้วดึงผมตามไปด้วย เรานั่งกันอยู่กลางเตียงกว้าง โดยมีผมนั่งเกยนั่งอีกฝ่ายอยู่ ผมซุกหน้ากับไหล่กว้างเพื่อซ่อนริ้วแดงบนใบหน้า ร่างสูงหัวเราะในลำคอ มือหนาบังคับมือผมให้แนบชิดกับสิ่งนั้นของเจ้าตัวมากขึ้น ขยับมือขึ้นลงตามความยาวผ่านเนื้อผ้าบางจนผมรับรู้ว่ามันแข็งขึ้นและร้อนมากกว่าเดิม!!!!
  
  
  “อ๊ะ..” จิกเล็บกับไหล่ของไรเฟิล มือหยาบกว่าสอดผ่านกางเกงขาสั้นของผมเข้ามาแล้วบีบนวดสะโพกกลมอย่างหยาบโลน ส่วนอีกข้างนั้นยังบังคับชักนำให้ผมเล่นกับน้องของมัน ..มาขนาดนี้ถ้าไม่ยอมผมคงถูกโยนทิ้งจากระเบียงแน่ ๆ
  
  
  ป๊าครับ..  คุณย่าครับ .. ไอ้ไรเฟิลทำผมใจแตก T_____T
  
  
  
  “อืม.. ถอดกางเกงให้หน่อย”
  
  กระซิบบอกข้างหูก่อนจะใช้ปากเม้มติ่งหูเบา ๆ ไรเฟิลปล่อยมือผมเป็นอิสระ ผมเม้มปาก จิกมือตัวเองอย่างชั่งใจก่อนจะยื่นมือไปจับขอบกางเกงนอนของร่างสูง ริมฝีปากสีซีดกดลงที่แก้มใสซ้ำ ๆ ผมสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่แล้วค่อย ๆ ดึงขอบกางเกงอีกฝ่ายลงและเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี(ไอ้เหี้ยไรเฟิลไม่ใส่กางเกงในด้วยอ่ะ มึงวางแผนไว้แล้วใช่ม้ายยยยยยยยย T____T) ในขณะเดียวกันมือหนาก็ถอดกางเกงพร้อมกับชั้นในผมออก.. (กูขัดขืนตอนนี้จะโดนฆ่าไหม?)
  
  
  “ยกสะโพกขึ้นหน่อย” ฮืืออออ แล้วทำไมกูต้องทำตามที่มึงบอกทุกอย่างเลย!!!
  
  
  ไรเฟิลดันร่างผมให้นอนราบกับเตียง ร่างหนาตามมาคร่อมทับก่อนจะบดจูบกับริมฝีปากของผม ปากหยักขบเม้มซ้ำไปซ้ำมาลิ้นร้อนไล่เลียไปตามรอยแยกของริมฝีปากแล้วสอดเรียวลิ้นเข้ามาภายในโพรงปากนุ่ม
  
  
  “อื้อ อ๊ะ..” ร่างกายของผมสั่นสะท้านเมื่อปลายนิ้วเรียวไล้ผ่านผิวกาย มือหนาหยุดอยู่ที่หน้าท้องแบนราบก่อนจะลากต่ำลงไป. . .
  
  
  “ฮื่อ.. อื้อ..” ผมบิดกายเร่าเมื่อมือใหญ่สัมผัสกอบกุมส่วนอ่อนไหวเอาไว้ ไรเฟิลถอนจูบออก ดวงตาสีน้ำทะเลจ้องมองจนผมต้องหลบสายตา ร่างสูงหัวเราะหึ ขยับมือรูดรั้งส่วนนั้นจนมันตื่นตัว น่าอายเป็นบ้า.. ครั้งแรกนั้นยังมีความเมาที่ทำให้ลืมความอาย แต่พอมาตอนนี้สติครบถ้วนทุกอย่าง ให้ตายเถอะ ผมอายมากจริง ๆ นะ
  
  
  “อ๊ะ.. ป..ปิดไฟ.. อ๊า” ร่างสูงโน้มตัวไปปิดโคมไฟ แม้ห้องตกอยู่ในความมืดแต่ผมก็ยังมองเห็นใบหน้าหล่อของอีกคนอย่างชัดเจน มือหนาปล่อยน้องชายผมก่อนจะจับขาเรียวชันขึ้นแล้วอ้าออก...  ผมคว้าหมอนมาปิดหน้า
  
  “น่ารัก..”
  
  “ฮื่อ...” เสียงกุกกักดังอยู่สักพัักก่อนจะเงียบไป ผมขยับสะโพกหนีเมื่อความเย็นแตะเข้าที่ช่องทางด้านหลัง ไรเฟิลใช้มือข้างหนึ่งยึดสะโพกผมเอาไว้ไม่ให้ขยับ ปลายนิ้วกดวนที่ช่องทางแล้วค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไป
  
  “อย่าเพิ่งรัดสิ” เสียงทุ้มเอ่ยติดจะล้อเลียน ซุกไซร้ริมฝีปากกับซอกคอผมไปพลาง
  
  “ห้ามได้ที่ไหนเล่า! อ๊า!!” ผมร้องเมื่อนิ้วเรียวขยับเข้าออก ไรเฟิลดึงหมอนที่ผมใช้ปิดหน้าออกแล้วเอาไปรองใต้สะโพกผม มือทั้งสองของถูกดึงให้ไปคล้องคออีกฝ่าย ปากสีซีดเลื่อนมาดูดดึงกับกลีบปากล่างของผมในขณะที่เพิ่มนิ้วที่สองและสามเข้ามา ผมครางอืออึงในลำคอ ความฝืดของช่องทางทำให้ผมเจ็บแม้จะมีเจลเป็นตัวช่วยก็ตาม..
  
  
  มือหนาลูบไล้สะกิดเขี่ยยอดอกผมจนแข็งเป็นไต ผละจูบออกไปหยอกจูกกับเม็ดอกจนเปียกชื้นไปด้วยน้ำลาย ร่างหนาขบเม้มผิวกายขาวไปทั่วจนเกิดรอยแดงตามตำแหน่งที่ริมฝีปากร้อนลากผ่าน
  
  “อ๊าก!!”
  
  ผมหวืดร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายดันสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วเข้ามาโดนไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ามันถอนนิ้วออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไรเฟิลกดจูบที่ขมับชื้นเหงื่อเป็นชิงปลอบ มือหนาขยับชักนำรูดรั้งความเป็นชายของผมหนักขึ้น
  
  “ฮื่อ เจ็บ ฮึก.. อ๊ะ”
  
  “อย่าเกร็ง..หายใจลึก ๆ ..นั่นแหละ”
  
  ปากอิ่มเม้นแน่น มือบางจิกลงบนไหล่กว้างเพื่อระบายความเจ็บที่แล่นเข้ามา ไรเฟิลกัดฟันจนสันกรามขึ้นนูน ช่องทางของผมตอดรัดร่างกายของอีกคนไว้แน่นจนแทบขยับไม่ได้ แต่สุดท้ายมันก็เข้ามาจนสุดพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นริ้วเข้ามาในความรู้สึก

  
  “อ่า.. อย่าเพิ่งรัด อืม..”
  
  “อื้อ อึดอัด อ๊ะ..” มือใหญ่จับขาผมให้รัดรอบเอวสอบก่อนจะยันมือกับพื้นเตียงพยุงตัว คนตัวสูงกดจูบซับหยาดน้ำที่หางตา ไรเฟิลเริ่มขยับตัวเมื่อสังเกตเห็นว่าผมเริ่มปรับตัวได้ แรงเสียดสีภายในทำให้ผมร้องไม่เป็นภาษา
  
  
  “บันนี่.. อ่า..” ไรเฟิลครางเสียงต่ำ ขยับกายเข้าออกช้า ๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นเมื่ออารมณ์ความต้องกายพุ่งสูง ฟันขาวกัดเข้าที่ไหล่หนาระบายอารมณ์ ความเจ็บค่อย ๆ เลือนหายไปก่อนที่ความเสียวซ่านจะเคลื่อนเข้ามาแทนที่
  
  
  
  “อ๊ะ อ๊า อ๊ะ..”
  
  
  
  
  “ร ไรเฟิล เบา อ๊ะ! เบา ๆ !!”
  
  “แน่นชะมัด.. จ๊วบ!”
  
  
  
  เสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงครางกระเส่าของเราสองคนดังปะปนจนแทบแยกไม่ออก ร่างกายของผมสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกที่รุนแรงที่อีกฝ่ายมอบให้ ห้ามก็แล้ว จิกข่วนก็แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่เห็นจะสนใจ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ กายหนาขยับรัวเร็วจนผมทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งเสียงคราง..
  
  
  
  “อื้อ อ๊ะ ม ไม่ไหว..”
  
  
  
  “ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อ๊า!!!”
  
  
  หยาดน้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจากส่วนปลายเปรอะเปื้อนหน้าท้องของตัวเอง ผมหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ตากลมมองสบกับคนที่ยังขยับกายไม่หยุดและเหมือนจะเร่งจังหวะขึ้น ด้านหลังตอดรัดของอีกฝ่ายอย่างห้ามไม่อยู่ มือบางบีบมือไรเฟิลที่ประสานกันไว้แน่น
  
  
  
  “อ่า..!!”
  
  
  
  กายหนาหยุดนิ่ง ภายในกระตุกสองสามที ความอุ่นร้อนฉีดอัดเข้ามาจนผมรู้สึกได้แม้อีกฝ่ายจะสวมถุงยางอยู่ก็เถอะ! ไรเฟิลทิ้งตัวลงทับผมไว้ทั้งตัว ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ากระทบข้างแก้ม ช่องทางของผมขมิบรัดแก่นกายที่ยังไม่ได้ถอนออกเป็นจังหวะ..
  
  “หนัก..”
  
  
  
  “รัดไม่หยุดแบบนี้เดี๋ยวก็ได้ต่ออีกรอบหรอก”
  
  
  เพี๊ยะ!
  
  
  ผมฟาดเข้าที่แผ่นหลังกว้างเต็มแรงที่เหลืออยู่น้อยนิด อนาถแท้.. เสียงทุ้มหัวเราะหึยิ่งทำให้ผมหมั่นไส้ ฮึ่ย!! ทำกูหมดแรงแล้วยังไม่สำนึกอีก!!
  
  
  “ออกไป”
  
  “แป๊บนึง..”
  
  “หนักโว้ยยย โอ๊ย! อื้อ!” ผมเผลอตัวดิ้น แต่เมื่อนึกออกว่าร่างกายเรายังเชื่อมกันอยู่ก็นิ่งไป
  
  
  
  “บันนี่เด็กน้อย”
  
  
  
  “เอาออกไปได้แล้ว!! อึดอัด!” ผมกลบความเขินด้วยการโวยวาย ไรเฟิลยันตัวขึ้น จมูกโด่งกดลงที่แก้มนุ่มจนจม ฟันคมขบกัดเบา ๆ เหมือนลูกหมาคันฟัน คนตัวสูงแกล้งขยับตัวไปมาทำให้ส่วนนั้นที่ยังไม่ได้เอาออกครูดกับผนังด้านใน ผมเอามือปิดปากกลั้นเสียงร้อง ถลึงตาใส่คนที่ยักคิ้วมาให้ เจ้าตัวก้มลงมาฟัดแก้มผมอีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ ถอดกลางกายออก...
  
  
  “อ๊ะ!”
  
  
  
  จนได้.. ไรเฟิลกดยิ้ม เอื้อมมือไปดึงกระดาษทิชชู่มาก่อนจะวางทับที่ความเป็นชายของเจ้าตัวรูดอุปกรณ์ป้องกันออกแล้วโยนทิ้งลงถังขยะใกล้ ๆ แล้วผมมานอนมองบ้าอะไรอยู่เนี่ย!!! ไอ้ปืนใหญ่นั่นน่ะเหรอที่เข้าไปในตัวผม เข้าไปได้ยังไงวะ!!!
  
  “อะไร อยากได้อีกหรอ?”
  
  “ได้ตีนกูนี่” ผมดึงผ้าห่มมาคลุมตัว ไรเฟิลไหวไหล่หัวเราะ มันเดินโทง ๆ ไปหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอว
  
  “อาบน้ำไหม?” ผมนิ่งคิด อยากอาบแต่เหนื่อยมาก แรงจะขยับตัวยังแทบไม่มี เจ็บอีกต่างหาก แต่ถ้าไม่ตัวก็เหนียวฉิบหาย จะให้นอนแบบนี้นอนไม่หลับแน่ ผมมองไรเฟิลที่ยืนพิงกรอบประตูห้องก่อนจะพยักหน้า
  
  
  
  มันคงจะสงสาร สมเพชหรือยังไงไม่รู้ ไรเฟิลเอาผ้าขนหนูอีกผืนมาห่อตัวผมไว้แล้วอุ้มผมเข้าไปในห้องน้ำ มันวางผมลงในอ่างอาบน้ำเบา ๆ น้ำอุ่นกับกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำทำให้ผมผ่อนคลายขึ้น แต่ระหว่างที่อาบน้ำผมก็เกือบจะเสียตัวให้มันอีกรอบ ให้ตายเถอะ! ไอ้หื่นเอ๊ย!!!
  
  
  
  
  
  และตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยเข้ามาเช้าวันใหม่ได้สามชั่วโมงแล้ว เอาใจช่วยให้ผมตื่นไปเรียนพรุ่งให้ทันด้วยนะครับ
  
  สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์ฮะ...





------------------โปรดติดตามตอนต่อไป------------------

ก็นั่นแหละครับคุณผู้ชม..
 :hao7: :hao7:
---------------------------------------
แฮปปี้วาเลนไทน์ค่ะ /ปาหัวใจใส่รัว ๆ
ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 29 (14.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 14-02-2015 20:57:45
เอาทิชชู่มาที :haun4: :jul1: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 29 (14.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 14-02-2015 21:01:04
เจ้มจ้มมั่กๆ ซับเลือดกันมิทันเลยทีเดียว :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 29 (14.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 14-02-2015 21:51:04
 :impress2: :oo1: :jul1:อ้ายๆๆๆๆๆๆไรเฟิล
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 29 (14.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Cream A ที่ 15-02-2015 01:52:53
ขอเม้นรวดเดียวนะคะ กดเข้ามาอ่านเพราะชื่อเรื่องนึกว่าเป็นเรื่องเครียดๆ ที่ไหนได้กลับเป็นรักวัยใส มุ้งมิ้งมากก :impress2:

ช่วงแรกๆอ่านแล้วยังงงเพราะไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องจะไปทิศทางไหนแถมคำพูดของตัวละครก็แปลกไปนิด

แต่พออ่านไปได้สักพักเหมือนคนแต่งเริ่มใส่ประเด็นเข้ามา ทีนี้แหละอ่านติดหนึบเลย ยิ่งบทหลังๆบรรยายได้ไหลลื่นขึ้น

ยิ่งอ่านยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ อ่านเพลินรวดเดียวจบ ชอบนะคะเรื่องน่ารักดี อ่านได้อย่างสบายใจเพราะยังไม่มีมาม่า  :laugh:

นี่แต่งเรื่องแรกจริงๆเหรอ  เอ็นซีแต่งดีมากปกติที่เราอ่านส่วนมากถ้าคนแต่งๆเรื่องแรกเอ็นซีมันขาดๆเกินๆไม่ค่อยสมูท

เม้นเริ่มเรทไปแระ  :beat: เอาเป็นว่าจะติดตามน้องควอตซ์ พี่ไรฟ์และผองเพื่อนต่อไปนะจ๊ะ :mew1:

หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 29 (14.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-02-2015 02:09:11
หวังว่าพรุ่งนี้คงจะไปเรียนได้น่ะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 29 (14.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 15-02-2015 02:22:26
 :haun4:  :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 29 (14.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-02-2015 10:44:56
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 29 (14.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-02-2015 12:07:28
พี่ไรฟ์ขี้หื่นนนนน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 30 (20.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 20-02-2015 19:47:07
EPISODE 30





  สวัสดีวันเสาร์ในที่สุดก็แวะเวียนมาเจอกัน...
  
  ผมเดินหาววอดออกจากห้องนอนก่อนจะไปล้างหน้าแปรงฟังแล้วมาหาอะไรกินในครัว เทซีเรียลรูปดาวรสน้ำผึ้งใส่ชามตามด้วยนมจืดแล้วมานั่งแหมะดูการ์ตูนที่ส่วนของห้องนั่งเล่น
  
  
  ถามว่าตอนนี้กี่โมง อืม..เจ็ดโมงครับ.. แล้วผมตื่นมาทำไมแต่เช้าทั้งที่เป็นวันหยุดแท้ ๆ เอาจริง ๆก็ไม่อยากตื่นเช้าหรอก เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าแล้ว(โปรดอย่าถามว่าทำอะไร..) ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองหรอกครับว่าตื่นเช้ามาทำซากอะไร ง่วงนะ แต่นอนไม่หลับง่ะ
  
  
  ผมยกขานั่งขัดสมาธิก่อนจะร้องซี้ดเพราะเจ็บสะโพก ไอ้สัด! ผมนี่อยากจะยันไอ้ตัวต้นเหตุฉิบหาย พูดแล้วขึ้น! เอ้อ! ไหน ๆ ก็พูดแล้ว ขอผมรายงานเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อกวันนั้นหน่อยได้ไหม อย่างที่บอกว่าผมมีเรียนในวันถัดมา แต่ไอ้(เหี้ย)คุณชายก็ยังบังคับขืนใจ(ได้ข่าวว่าหล่อนสมยอม - -)ผมจนได้ แล้วเป็นไงกว่าจะได้นอนแม่งก็ปาไปตีสาม แล้วนี่มีเรียนเช้าด้วยเว้ย! สรุปเลยแล้วกัน สรุปว่าผมไปเรียนสายครับ!!! เข้าคลาสเช้าไม่ทัน ตื่นมาก็เที่ยงล่ะ เลยต้องโดดคลาสเช้าอย่างช่วยไม่ได้ หนำซ้ำยังต้องมาโดนไอ้ไนต์กับมาม่าแซวอีก ซึ่งมันแย่ตรงนี้.. แซวว่าอะไรน่ะเหรอ... หึ
  
  
  ‘อ้าวววววว น้องเห็ดไปโดนยุงที่ไหนกันมาครับ คอแดงเชียว’
  
  
  ‘หว่ายยยยยย ยัยสวยตกบันไดเหรอลูก เดินแปลก ๆ นะคะ’

  
  
  บ้านพวกมึงขายอะไหล่รถเหรอไอ้สัด!! ชอบล้อจังเลยไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยย นอกจากนั้นก็ยังมีสารพัดคำแซวที่พวกมันขุดมาล้อผม ผมนี่อยากจะแจกฟัคให้พวกแม่งไปทั้งสวน
  
  
  
  
  
  น่าเบื่อ... ผมมองซ้ายมองขวา กดปิดทีวีแล้วเอาชามไปล้างก่อนจะกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง บนเตียงดับเบิ้ลเบดมีร่างของฝรั่งตัวสูงนอนอยู่ ผมเบ้หน้า ขนาดนอนยังดูดี ไอ้หล่อ! ไอ้ดูดีพร่ำเพรื่อ! ผมนั่งยอง ๆ ลงข้างเตียง วางคางบนที่นอนแล้วจ้องมองคนที่หลับอยู่ ไรเฟิลเป็นผู้ชายที่ขนตาค่อนข้างยาว(แต่ก็ผมก็ยาวกว่าอยู่ดี)เวลาที่หลับตาเลยทำให้แพรขนตาแนบกับผิวหน้า เวลาที่ไรเฟิลน่ารักคือตอนมันนอนนิ่ง ๆ เหมือนเด็กเลย ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวยังหลับสนิท ไม่รู้ว่าฝันดีอะไรมุมปากถึงได้ยิ้มบาง แล้วทำไมผมต้องยิ้มตามด้วยววะ!?
  
  
  
  
  ไม่รู้ว่านั่งมองหน้าไรเฟิลไปนานเท่าไหร่(จากนั่งยอง ๆ จนต้องเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิแทนเพราะปวดขา เวรกรรม) รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่นิ้วเรียวจิ้มเข้าที่ริมฝีปากนั่นแหละ ปลายนิ้วเกลี่ยกลีบปากผมไปมาเบา ๆ แล้วหลับตาลงอีกครั้ง ผมปัดมือหนาออกแต่กลับโดนอีกคนจับไว้แทน
  
  
  “ตื่นนนนนนน” ผมเขย่ามือเล่นไปมา ไรเฟิลลืมตาขึ้นมามองผมดุ ๆ ที่ไปรบกวนการนอนของมัน ปกติมันตื่นง่ายจะตายไป อะไรนิดหน่อยก็รู้สึกตัวแล้ว แต่ดูตอนนี้สิ!
  
  
  “เฟิล เฟิล เฟิลลลลลล~” ไรเฟิลยกผ้าห่มคลุมศีรษะ พลิกกายหันหลังให้อีกต่างหาก!!!
  
  “ไรฟ์~ ไรเฟิลลลลลล~ รังสิมานนนนนนนต์~”
  
  
  “ตื่นเร็ววววว มาเล่นกานนนน มาเล่นกันเราโหน่ยยยยยย”
  
  
  พึ่บ!
  
  
  ผ้าห่มถูกผมกระชากออก ไรเฟิลขยี้ผมตัวอย่างหงุดหงิด มองผมด้วยสายตาคมกริบ คือแม่งเป็นมีดอ่ะ ผมคงแหลกละเอียดเลย ผมเอียงคอมองตาแป๋วกลบเกลื่อนความผิด ปากหยักแสยะยิ้มแล้วยื่นมือมาดึงแก้มผมจนยืด
  
  
  “เจ็บ!!”
  
  “ง้องแง้งอะไรแต่เช้าวะบันนี่”
  
  “ง้องแง้งไรหยอ ;-;” ไรเฟิลกลอกตา ผมยิ้มตาหยีก่อนลุกขึ้น แต่เพราะนั่งท่าเดิมนาน ๆ แล้วยังนั่งทับขาตัวเองอีก ความซวยก็บังเกิดเมื่อผมโดนเหน็บแดก.. ให้ตายเถอะ เพราะทรงตัวไม่ได้ผมจึงเซล้มไปทับคนที่นอนอยู่บนเตียง นี่ก็เป๊ะอย่างกับจับวาง มือหนาฉวยโอกาสยกมาโอบกอดผมเอาไว้
  
  
  “หึ.. ตื่นมาทำไมแต่เช้าวะ”
  
  “เก้าโมงแล้วไม่เช้าแล้ว” ผมพูดเสียงอู้อี้เพราะหน้าจมอยู่กับอกกว้าง
  
  “ลุกไหวด้วย เมื่อคืนนี่ไม่เหนื่อยเลยใช่ไหม ตอนเช้าอีกรอบก็ดีนะ” พูดมากทำซากอ้อยอะไรเล่า!! ผมฟาดอกไรเฟิลดังเพี๊ยะ ไม่เหนื่อยบ้านมึงดิ! ไอ้เหี้ยยยยยย กูไม่ถึกเหมือนมึงนะ
  
  
  “ไอ้หื่น!”
  
  “ก็มึงยั่ว”
  
  “ยั่วบ้าอะไรล่ะ ปล่อยเลย ไปอาบน้ำไป”
  
  “อาบด้วยกันไหมล่ะ?”
  
  “-____-”
  
  
  
  
  
  
  
  
  ................................................
  
  
  
  
  
  “มึง... มึงรู้จักร้านนี้ป่ะ?” ผมหมุนเก้าอี้ไปถามคนที่นั่งอยู่ที่โซฟา ไรเฟิลเลิกคิ้ว ผมกวักมือเรียกแล้วมันก็เดินมาหา เออ เชื่องดีแหะ
  
  
  “อะไร?” ผมขยับผมให้ไรเฟิลมองเห็นจอคอมพิวเตอร์ พอดีผมเปิดคอมทำงานไง พอพักงานเอาไว้ก็เลยเข้ามาเช็คอีเมล์ที่ไม่ได้ดูมานาน แล้วก็เจอกับอีเมล์ที่คุณเกรย์ส่งมาให้พอดี มันเป็นร้านสักอ่ะครับ ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพมหานคร แม้จะมีรายละเอียดแผนที่ระบุบไว้แบบละเอียดก็ตาม..
  
  
  “ร้านสัก” พอผมบอก คุณชายท่านก็ขมวดคิ้วฉับเลย
  
  “จะสักเพิ่ม?” ผมพยักหน้า “เยอะแล้วนะ”
  
  “เยอะอะไร นี่มีแค่สามที่เอง”
  
  “จะสักตรงไหน?”
  
  “อื้ม... ข้อมือ ข้อเท้า แล้วก็ตรงนี้...มั้ง” ตรงนี้ที่ว่าคือบริเวณใต้สะดืออ่ะครับ เหนือขอบกางเกงขึ้นมานิดนึง ถ้าสักเพิ่มทั้งหมดนี่รวมกับของเดิมก็จะกลายเป็นหก โห่... แต่ก็นะ ไม่รู้สิครับ ถ้าได้ทำแล้วมันหยุดไม่ได้อ่ะ . ____ .
  
  “เยอะ”
  
  “ไม่เยอะหรอกกกกกกกก”
  
  “ไม่ให้ทำ”
  
  “เรื่องดิ! นี่ตัวกูนะ!”
  
  “ก็อยากสัก มึงสักด้วยกันสิ” ผมยุ ไรเฟิลมันไม่สักอ่ะ ทั้งตัวไม่มีรอยอะไรเล้ยยยยย เนียนสุดอะไรสุด ถ้าเรื่องสักต้องคุยกับไอ้ฟอร์สไม่ก็ไอ้ไนต์ คุณชายกายกับคุณชายไรเฟิลเขาเบ้ปาก
  
  นิ้วเรียวจิ้มหน้าผากผม “จะสักลายไหน?” ถามแบบนี้แม่งไฟเขียวแล้วแน่นอน จริง ๆ มันบังคับผมไม่ได้นะ เรื่องสักนี่มันเป็นความชอบส่วนบุคคล ห้ามกันได้ที่ไหน เนอะ
  
  “ไม่บอก แล้วร้านมันอยู่ตรงไหนวะ?”
  
  “บอกละเอียดขนาดนี้หลับตาไปยังไปได้ มึงนี่มัน...”
  
  “โห่.. ท่านครับ ผมเพิ่งมาอยู่ได้แค่สองปีกว่า ๆ เองครับ ขนาดไปสยามคนเดียวกูยังไม่ไปค่อยถูกเลยไอ้ห่า!”
  
  “กระจอกสัด” ผมเบ้ปาก ถีบขาไรเฟิลไปหนึ่งที แล้วหันมาสนใจเจ้าจอคอมพิวเตอร์ต่อ
  
  “จะไปวันไหน”
  
  “อื้ม.. ไม่รู้แฮะ จะพาไปเหรอ?”
  
  “อยากให้พาไปก็จะพาไป ว่าไง?”
  
  “ไป ๆๆ” เรื่องงอะไรจะให้เสียโอกาสล่ะ
  
  “วันนี้เลยนะ ตอนเย็น ๆ ก็ได้”
  
  “ไม่ต้องจองก่อนเหรอ?” เออว่ะ ผมนิ่งคิดก่อนจะหยิบโทรศัพท์โทรไปหาคุณเกรย์ แค่นั้นก็ได้เรื่องครับคุณเกรย์บอกจะคุยให้แล้วจะส่งข้อความมาบอกอีกที
  
  ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างกันกับไรเฟิลที่นั่งดูสารคดีสัตว์โลกอยู่ ผมหยิิบหนังสือมาอ่าน(แน่นอนว่าไม่ใช่หนังสือเรียน) และแล้วจู่ ๆ ผมก็นึกบางอย่างออกแล้วพูดออกไปอย่างไม่คิด
  
  “นี่..”
  
  “หืม?”
  
  “คืนนั้นน่ะ.. ในห้องนี้.. หลังจากที่กลับออกไปแล้วมึง.. เอ่อ..ได้ไป..เอ่อ..กับใครหรือเปล่า” ให้ตาย ถามบ้าอะไรของมึงไอ้ควอทซ์!!! ไรเฟิลละสายตาจากจอโทรทัศน์แล้วมองผม ส่วนผมเองก็กลอกตาล่อกแล่กกัดปากอย่างทำอะไรไม่ถูกผสมปนเปกับความกลัว.. กลัวอะไร? กลัวคำตอบที่ได้รับจะทำให้ผมปวดใจไง
  
  
  “ไป” แทบหยุดหายใจ ผมกัดปากแรงกว่าเดิม รู้สึกร้อน ๆ ที่ขอบตา
  
  “เหรอ..”
  
  “หึ แต่พอจะทำหน้ามึงก็ลอยมาเฉย ทำต่อไม่ได้แล้วต้องกลับไปช่วยตัวเองที่ห้อง” ผมเบิกตากว้าง มองอีกคนอย่างอึ้ง ๆ มือหนายื่นมาขยี้ผมผมเบา ๆ ปากบางระบายยิ้มอ่อน ก่อนจะพูดต่อ
  
  “ตลกตายห่า คนอย่างกูเนี่ยนะช่วยตัวเอง เพราะมึงเลยบันนี่!”
  
  “ฮ.... ฮะฮาฮ่า” ผมหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ ไรเฟิลถลึงตามอง หน้าตาไม่สบอารมณ์อย่างมาก โคตรจี้
  
  “ตลกมากมั้ง” ผมยิ้มกว้างไรเฟิลเบ้หน้า
  
  “รักกูมากอ่ะดิ~”
  
  “อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย” มันแสยะยิ้ม ขยำแก้มผมทั้งสองข้างอยากสนุกสนาน ไอ้เหี้ยยยยย เจ็บโว้ย!!! พอโดนกระทำใครจะยอมอยู่เฉย ๆ ล่ะครับ ผมไม่ใช่คนยอมคนโดนนิสัยอยู่แล้ว งานเอาคืนต้องมาสิ !!
  
  
  
  
  
  
  
  ......................................
  
  
  
  
  
  
  
  ผมยืนอยู่หน้าร้านร้านหนึ่ง มีตัวอักษรภาษาอังกฤษเรียงกันว่า ‘TATTOO ADDICT’ ตากลมมองมันด้วยความตื่นเต้นผิดกันคนข้าง ๆ ที่มองมันด้วยความว่างเปล่า ผมคว้าข้อมือไรเฟิลแล้วลากมันเข้าไปด้านใน
  
  
  ทันทีที่เข้ามาในร้านหัวใจผมเต้นแรงมาก มองรอบ ๆ ร้านอย่างตื่นเต้น ถ้านี่เป็นการ์ตูน ดวงตาของผมคงมีประกายพราวระยับแน่ โอ๊ยยยย โคตรชอบความรู้สึกนี้เลย ผมมองซ้ายมองขวา สักพักก็มีผู้คนหนึ่งเดินออกมา พี่เขาน่าจะอายุราว ๆ สามสิบ ที่ต้นแขนมีรอยสักประดับอยู่ โคตรเท่!!!
  
  “สวัสดีครับ”
  
  “ชื่อควอทซ์ใช่ไหม?”
  
  “ใช่ครับ” ผมตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้างเหมือนเด็กได้ของเล่น
  
  “อืม นั่งก่อนก็ได้” พี่สาวเดินไปนั่งที่โซฟาชุด คงมีไว้ให้ลูกค้านั่งรอ ผมกับไรเฟิลเลยเดินตามไป
  
  
  
  ระหว่างนั้นก็คุยรายละเอียดกัน ผมส่งกระดาษลายสักให้พี่อิน(พี่เขาบอกชื่อเมื่อกี้) มันเป็นลายที่ผมวาดเองน่ะครับ ลักษณะของมันจะเป็นเส้นโค้งเฉียงขึ้นไปด้านบน ปลายเส้นด้านล่างเป็นหยัก ๆ คล้ายคลื่นหัวใจ ตรงกลางมีเลข 8 และเลข 11 ห้อยอยู่ ธรรมดามาก ๆ แต่ความหมายของมัน... หึ
  
  
  
  เมื่อเครื่องสักสัมผัสกับผิววินาทีแรกก็เจ็บนะครับ แต่พอทนได้ นานไปก็เริ่มชิน เริ่มปรับตัวได้ ลายของผมมันไม่ใหญ่ รายละเอียดไม่เยอะก็เลยใช้เวลาไม่นาน แค่ชั่วโมงกว่า ๆ เองครับ พอเสร็จแล้วลายเส้นสวยมาก ผมยิ้มจนแก้มแทบปริ
  
  
  พี่อินบอกวิธีดูแลรอยสักผมมาแบบละเอียดยิบเลย ถึงผมจะเคยสักมาแล้วแต่ก็ตั้งใจฟังพี่เขาพูดมาก ๆ อะไรที่มันดีต่อตัวเราก็ใส่ใจหน่อยเนอะ..  ที่แรกก็กะจะสักพร้อมกันทั้งข้อมือและข้อเท้าเลย แต่ผมเกิดลังเลไอ้ลายที่ข้อมือนี่สิเลยยังไม่ทำดีกว่า
  
  
  “แก้มจะแตกแล้วมั้ง” ผมเงยหน้ามองคนพูด ไรเฟิลกอดอกมองนิ่ง ๆ หน้าตาไม่ยินดียินร้ายอะไรทั้งนั้น
  
  “แน่นอน~” ผมมองข้อเท้าตัวเองด้วยความปลื้มปริ่ม จะว่าผมเว่อร์ก็ได้อ่ะ ผมไม่สน ตำแหน่งของรอยสักใหม่ตัวนี้คือบริเวณข้อเท้าขวาด้านในอ่ะครับ
  
  “หึ..” ผมแลบลิ้นใส่ไรเฟิล คว้าถุงเท้ามาใส่แล้วเดินไปจ่ายเงินที่เคานต์เตอร์
  
  “มีปัญหาอะไรก็โทรมาปรึกษาได้นะ”
  
  “ครับผม”
  
  
  
  
  
  ออกมาจากร้านสักก็มุ่งตรงไปยังศูนย์การค้าแห่งหนึ่งเพื่อซื้อของเข้าห้อง ที่หอผมมันไม่มีอะไรเหลือแล้วง่ะ T_____T
  
  
  
  “เอาอะไรบ้าง?”
  
  “อืม... แป๊บนึง มึงไปเอารถเข็นให้หน่อยสิ” ไรเฟิลผลักหัวผมเบา ๆ จนแทบหงาย แหม่ เบามากเลย ไอ้บ้านี่! ระหว่างที่รอคุณชายผมก็หยิบโทรศัพท์ประจำตัวมาเปิดดูว่าลิสต์อะไรไว้บ้าง
  
  
  
  
  ภาพของคู่รักที่เดินเคียงข้างกันโดนมีคนตัวสูงเข็นรถเข็น คนตัวเล็กเป็นคนเลือก ทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข หัวเราะกันบ้างบางเวลา ถ้าสังเกตให้ดีคงได้เห็นประกายสีชมพูพร้อมทั้งหัวใจน้อยใหญ่ล่องลอยอยู่รอบตัวของทั้งคู่...
  
  
  เพล้ง!!!
  
  
  
  ฉับพลันภาพด้านบนก็แตกสลาย.. พอ!! หยุด!! พวกคุณอย่าไปคิดอย่างนั้น โธ่ ผมกับไรเฟิลเนี่ยนะมายิ้มหวานให้กัน มันไม่ใช่!! แค่คิดก็ขนลุกแล้ว อึ้ยยยย เดินจับมือสวีทหวานน้ำตาลเรียกพี่แบบนั้นยังห่างไกลนัก..  คุณชายอบอุ่นยิ้มละไมเหรอ เหอะ ไม่มีหร้อกกกกกกก มีแต่ปีศาจเนี่ย! อย่างตอนนี้เป็นต้น... ก็ไรเฟิลดิ ผมหยิบจับอะไรมันก็เอาออกหมด บอกว่ามันไม่ดีบ้างล่ะ อันนี้ดีกว่าบ้างล่ะ อันนี้ถูกไปบ้างล่ะ เออ!!! ไอ้รวย!!! แม่ง! เถียงกันมาครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่ได้ของสักชิ้นเลย!
  
  
  “พอ!! มึงหุบปากไปเลยนะ!”
  
  “เหอะ!” ยัง ยังจะมาสะบัดเสียงใส่อีก!
  
  “มึงอย่าห้ามกูดิ!”
  
  “มึงดูมึงเลือกแต่ละอย่างดิ๊!”
  
  “อะไรเล่า!”
  
  “แหกตาดูบ้างไหม มึงผิวบางแต่ยังจะเลือกพวกที่มีสารเคมีเยอะอีก โง่หรือโง่ ห้ะ!”
  
  เล่นเอาพูดไม่ออกเลย... “ก็..แพคเกจมันสวย” ไรเฟิลกลอกตาคล้ายเบื่อหน่ายเต็มที
  
  “Oh shit.. สวยแต่เป็นภัยกับตัวมึง มึงจะเอาไหมล่ะ?”
  
  “.......”
  
  “ถ้าไม่ห่วงก็ไม่พูดหรอก”
  
  “ง่ะ..” มือหนาดึงแก้มผมก่อนจะแย่งโทรศัพท์ในมือผมไป แล้วก็กลายเป็นไรเฟิลที่เป็นคนเลือกซื้อของทั้งหมดให้ผม โห่.. เพิ่งจะเคยเจอไรเฟิลโหมดนี้ ขอถอนคำพูดที่บอกว่ามันเป็นปีศาจนะครับ แฮ่
  
  
  
  
  
  
  ซื้อของครบแล้วครับ!!!! ตอนนี้ไรเฟิลกำลังเอาของไปเก็บไว้ที่รถแล้วมันก็สั่งให้ผมไปรอที่ร้านอาหารสักที แต่ขณะที่ผมกำลังเดินไปร้านอาหารนั้นก็ดันชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งนี่สิ
  
  
  
  “ขอโทษครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ผมรีบพูดขอโทษแล้วช่วยเก็บของที่ตกลงพื้นให้ แต่กลับถูกกระชากไปอย่างแรง
  
  “เดินยังไงของเธอ!?”
  
  “ขอโทษครับ ขอโทษจริง ๆ ครับ” เธอทำหน้าไม่พอใจแล้วเดินจากไป ทิ้งแค่ผมที่ทำหน้างง ๆ อยู่อย่างนั้น อะไรวะ ขอโทษแล้วยังจะวีนใส่อีก ดูจากภายนอกแล้วคุณผู้หญิงคนนั้นน่าจะมีอายุแล้ว แต่ใบหน้ายังดูอ่อนวัยอยู่
  
  
  ...ทำไมผมถึงรู้สึกแปลก ๆ นะ
  
  ....ความรู้สึกที่ตีตื้นขึ้นมานี่มันคืออะไรกัน






--------------------โปรดติดตามตอนต่อไป--------------------
ไม่ทันจะหวานก็ตีกันอีกแล้ว เฮ้อออออ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
*คำวิบัติ วิบัติเพื่อเสียงนะคะ*

**แต่งเรื่องแรกไหม.. จริง ๆ ก็ไม่เชิงเรื่องแรกนะคะ แต่เป็นนิยายช-ชเรื่องแรกที่จริงจังและลงเว็บค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ~ มีอะไรก็ช่วยแนะนำด้วยเน้อ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 30 (20.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-02-2015 10:17:47
แม่ของบันนี่รึป่าวลูก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 30 (20.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 21-02-2015 11:14:50
ไรเฟิลหื่นนนน

ผญคนนั้นใคร
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 24-02-2015 20:27:01
EPISODE 31








  ในเย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียน... ผมถูกผู้เป็นพ่อเรียกตัวมาที่บริษัทโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น พอก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องทำงานของผู้บริหาร แฟ้มเอกสารเล่มหนาก็ถูกโยนโครมมาตรงหน้า พร้อมกับคำสั่งเสียงทรงพลังจากผู้มีอำนาจสูงสุด.. ‘ตรวจดูให้ละเอียด’ อยากจะแย้งเหลือเกินว่าตัวผมนั้นเรียนวิศวะนะครับ ให้มานั่งตรวจเอกสานเนี่ยนะ! แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ เกิดโดนไล่ออกจากทะเบียนบ้านทำไง อดได้มรดกอ่ะดิ อ้าว.. ไม่ใช่ล่ะ
  
  
  
  
  ผมครางฮื่อขยับตัวบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบ ถอดแว่นที่สวมอยู่ออกแล้วนวดคลึงสันจมูกกับหัวตาเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลงพักความล้า ...สายตาผมปกติดีครับ ใส่แค่ตอนจ้องอะไรนาน ๆ เฉย ๆ
  
  “เสร็จแล้วหรือ?”  น้ำเสียงของป๊าเรียบนิ่งน่าเกรงขาม.. นั่นก็กับคนนอกอ่ะนะ แต่กับคนในครอบครัวมันกลับไม่ได้น่ากลัว พวกคุณน่ารู้ว่าป๊าผมกวนตีน - -
  
  “เสร็จแล้วครับ.. ไม่มีอะไรผิดปกติ.. ไม่มีอะไรน่าสงสัย..” ผมบอกทั้งที่ยังหลับตา ค่อย ๆ เอนตัวนอนราบกับโซฟา สะบัดรองเท้าให้หลุดออกแล้วยกขาขึ้นมาเหยียดยาว.. ง่วงอ่ะ นั่งอ่านเอกสารของป๊าตั้งนาน แทบจะอ้วกออกมาเป็นตารางกราฟ
  
  “อืม.. มึงฝึกงานเมื่อไหร่?”
  
  “หือ.. เทอมหน้ามั้ง”
  
  
  
  
  “ป๊าหิวป่ะ?”
  
  “กาแฟแก้วนึง”
  
  โอเค้!
  
  ผมเดิินข้ามถนนไปยังร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม สั่งเครื่องดื่มกับขนมอีกหลายอย่าง ผมมาที่บริษัทบ่อยนะ ก็มาช่วยงานป๊านั่นแหละครับ ถึงจะเรียนวิศวะมาแต่ผมก็พอมีความรู้เรื่องพวกนี้นะ ก็เพราะป๊าสอนอีกนั่นแหละ นอกจากช่วยพวกเอกสารงานบริหารอะไรพวกนี้แล้วบางครั้งก็ดูพวกระบบคอมพิวเตอร์ พวกฐานข้อมูลบ้าง ผมเก่งใช่ป่ะ? ใช่ ผมเก่ง เฮ้ย! อย่าเบ้ปากกันสิครับ
  
  
  
  
  
  “ผมซื้อมาฝากครับ” พูดพร้อมกับส่งถุงขนมกับแก้วสตรอเบอร์รี่สมูตตี้ให้กับคุณเลขาของป๊า
  
  “ขอบคุณค่ะคุณควอทซ์” ผมยิ้มแล้วเข้ามาในห้องทำงานของผู้บริหาร วางถุงขนมลงบนโต๊ะแล้วเดินเอากาแฟที่ป๊าสั่งไปให้ท่าน จากนั้นก็ลากเก้าอี้มานั่งลงที่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของป๊า
  
  
  “มีอะไร?”
  
  “มีเรื่องจะบอกอ่ะ.. จริง ๆ ก็ยังไม่อยากบอกหรอกแต่อีกใจก็อยากบอก” ป๊าวางปากกาลง เงยหน้ามามองผมเต็มตา มือทั้งสองประสานกันวางไว้บนโต๊ะ
  
  “สำคัญไหม?”
  
  “ก็แล้วแต่ป๊าจะตัดสิน”
  
  “ว่ามา”
  
  ผมกัดปาก บีบฝ่ามือแน่นจนเริ่มเจ็ม เริ่มรู้สึกไม่กล้าขึ้นมา ..กลัว “มีแฟนล่ะนะ.. เป็น..เป็นผู้ชาย..”
  
  
  
  ..ป๊าเงียบไป เงียบไปนานจนผมใจเสีย ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองด้วยซ้ำ
  
  “กูไม่เคยสอนให้มึงขี้ขลาด เงยหน้าขึ้นมา” เสียงเรียบนิ่งทรงพลังของป๊าทำให้ต้อมยอมเงยหน้าขึ้นมาตามคำสั่ง ผมสบตากับป๊าอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ..ปกติแล้วดวงตาของป๊าจะฉายแววอบอุ่นใจดีเสมอเวลาที่ผมมอง แต่ตอนนี้.. ตอนนี้มันไม่ใช่..
  
  “ป..ป๊า..”
  
  “พูดใหม่อีกทีสิ”
  
  “ม มีแฟนแล้ว.. เป็นผู้ชาย..” ฟันขาวขบกัดริมฝีปาก ตากลมสั่นไหวทั้งมีหยาดน้ำเอ่อคลอ
  
  “ใคร?”
  
  “.....”
  
  “กูถามว่ามันเป็นใคร!!”
  
  “ไรเฟิล”
  
  ปัง!
  
  
  ป๊าทุบโต๊ะเสียงดัง ผมสะดุ้งเฮืิอก หยาดน้ำตาล่วงหล่นจากดวงตาผ่านผิวแก้ม ป๊าลุกขึ้นยืนและจ้องมองมาจนผมประหม่า อยากจะวิ่งหนีแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ลูกผู้ชายเขาทำกัย อย่าที่ป๊าว่า ป๊าไม่เคยสอนให้เป็นคนขี้ขลาด
  
  
  “อึก..”
  
  “ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
  
  “ตอนเช้าหลังจากวันเกิด”
  
  “เหรอ.. นานแล้วนี่”
  
  “.........”
  
  “แล้วการที่มึงคบกับผู้ชายคิดว่ากูรู้สึกยังไง?”
  
  “ป๊า...ผม ผมขอโทษ”
  
  “ถ้ากูบอกให้เลิก..”
  
  “ไม่เอา!” ผมแทรกอย่างไร้มารยาท ป๊าเดินอ้อมโต๊ะทำงานหลังใหญ่มาหยุดที่ด้านหลังผม ฝ่ามือหนาหมุนเก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่ให้หันไปหา
  
  “อย่าให้ต้องพูดซ้ำ”
  
  “ทำไม..”
  
  “มึงก็รู้ว่าบ้านเรามีหน้ามีตาในสังคม ถ้าคนอื่นเขารู้ว่ากูมีลูกเป็นเกย์..น่าขายหน้าสิ้นดี
  
  
  
  ไม่ไหว.. ผมปล่อยน้ำตาให้ล่วงพรูออกมาอย่างไม่คิดจะกลั้นกับคำพูดโหดร้ายที่เสียดแทงจิตมจ.. ทำไมคนที่ผมคิดว่าจะเข้าใจผมถึงไม่เข้าใจ..
  
  
  “ป๊าแคร์สังคมบ้า ๆ นั่นมากกว่าความรู้สึกผมเหรอ!?”
  
  “แล้วจะทำไม?”
  
  “ฮึก.. ทำไมอ่ะ..แค่มีแฟนเป็นผู้ชายแล้วผมผิดอะไร..”
  
  “ผิดที่มึงมีแฟนเป็นผู้ชายไง!!”
  
  “แล้วยังไง!”
  
  “กับคนที่คบผู้หญิงมาทั้งชีวิตคิดว่าเขาจะจริงจังกับมึงไหม รักหรือหลง แยกให้ออก”
  
  “ฮึก..”
  
  
  “เลิกกันซะ”

  “ไม่เลิก! ผมไม่เลิก!!!”
  
  “อย่าขัดคำสั่งกู”
  
  “ใจร้าย!! ป๊าใจร้าย!!!”
  
  กายบางสั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้น มองผู้เป็นพ่อด้วยสายตาตัดพ้อ ป๊าแสยะยิ้มกับท่าทางของผม มือกร้านง้างขึ้นผมหลับตาลงด้วยปฏิกิริยาที่เป็นไปอย่างอัตโนมัติ
  
  
  
  
  จะทำอะไร..
  
  
  
  
  ตบเหรอ..
  
  
  
  
  
  เอาสิ..
  
  
  
  ผมยังคงหลับตารอรับความเจ็บปวด.. หอบหายใจแรงขึ้นแข่งกับก้อนเนื้อที่เต้นระรัวจนแทบบ้า ถึงจะโมโหยังไงป๊าก็ยังไม่เคยทำท่าว่าจะลงไม้ลงมือกับผมเลยสักครั้ง.. เวลาผ่านไป ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ไม่มีแรงกระทบที่ผิวหน้า มีเพียงสัมผัสบางเบาบนศีรษะ ฝ่ามือของป๊าขยี้เส้นผมนุ่มอย่างเบามือ
  
  
  
  อะไรกัน...
  
  
  
  
  
  “คิดว่ากูจะตบหรอห้ะ!” ผมกระพริบตาถี่ มองป๊าด้วยความงุนงง มุมปากหยักยกยิ้มคล้ายพอใจ นัยน์ตาดุที่เมื่อสักครู่มองผมด้วยความเย็นชาบัดนี้กลับฉายแววสนุก
  
  “ล ล้อเล่นกันเล่นเหรอ?”
  
  “โอ้.. ฉลาดสมกับเป็นลูกกู”
  
  “ป๊าล้อเล่นแบบนี้ได้ไงอ่ะ!?”
  
  “แกล้งมึงสนุกจะตาย ขี้แงนะมึง”
  
  ผมเบะปาก “จะฟ้องคุณย่า..”
  
  “เรื่องของมึง” หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะสะใจ บ้าไปแล้ว! หัวใจจะวายตาย ผมได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ป๊าคว้าแก้วกาแฟที่ตอนนี้คงเย็นชืดแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา ซ้ำยังเอาขนมผมไปกินอีก เอาตรง ๆ นะ ผมไม่เข้าใจสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าพ่อเลย!!
  
  
  
  “ป๊า!!! แล้วสรุปยังไง ที่บอกให้เลิกกันก็ล้อเล่นใช่ไหม?”
  
  “เออ!”
  
  “จริงอ่ะ! แล้วที่บอกว่าขายหน้านี่ยังไง”
  
  ป๊าไหวไหล่ “ก็ไม่ยังไง”
  
  “แล้วถ้าคนอื่นรู้ว่าลูกป๊ามีแฟนเป็นผู้ชายล่ะ”
  
  “ช่างหัวคนอื่นสิวะ! รู้แล้วไง ลูกกูมีแฟนเป็นผู้ชายแล้วโลกจะแตกเหรอ!” ผมฉีกยิ้มกว้าง พุ่งตัวไปกอดป๊าทั้งตัว
  
  “ฮื่อ.. ขอบคุณนะครับ ป๊าแม่งน่ารักที่สุดในโลกเลย!”
  
  “ตอแหล! เมื่อกี้ยังบอกกูใจร้ายอยู่เลย” ผมยู่ปากเลยได้มะเหงกจากป๊ามาหนึ่งที
  
  “ใคร! ใครพูด! บอกมาเดี๋ยวผมจัดการมันเอง” ผมหัวเราะเมื่อป๊าหรี่ตามอง มือใหญ่ผลักผมออก
  
  “ลูกกอดทำเป็นรังเกียจ อย่าให้รู้ว่าไปกอดสาวนะ”
  
  “แล้วมึงเป็นสาวเหรอ ออกไป ไป”
  
  
  
  ฮึ่ย! จะไม่โกรธก็แล้วกัน พวกคุณรู้ไหมตอนนี้ผมรู้สึกยังไง? ก็...
  
  
  
  
  มีความสุขฉิบหายเลยครับ!!!!!!
  
  
  
  
  “พาแฟนมึงมาหากูด้วย”
  
  “เคยเจอแล้วนี่ โอ๊ย!” ได้มะเหงกมาอีกโป๊ก ทำไมชอบเขกหัวผมจังนะ! “โอเค ๆ หาทองมารับขวัญลูกสะใภ้ด้วยนะ”
  
  “ลูกสะใภ้? ถ้าอย่างมึงจะเป็นผัวใครได้”
  
  “โห่... ดูถูก”
  
  “หึ”
  
  “ทำไมป๊าถึงไม่ขัดขวางล่ะ?”  อันนี้สงสัยจริง ๆ นะ อย่างตอนแรก ๆ อ่ะ เล่นโคตรเนียน เล่นเอาผมใจเสีย สุดท้ายก็แค่แกล้งกัน
  
  “อยากให้กูขัดขวาง?” ผมสั่นหน้ารัวอย่างไม่คิด “ความสุขของมึงกูไม่อยากขัดหรอก ทำแบบนี้แล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะ พ่อที่ไหนจะไม่อยากเห็นลูกมีความสุข ชีวิตนึงเกินมาครั้งเดียวก็ใช้ให้คุ้ม สังคมมันยังไม่แคร์มึงเลยแล้วมึงจะไปแคร์สังคมมันทำไม อ้อ! กูน่ะ...ก็เคยมีเมียเป็นผู้ชายเหมือนกัน
  
  
  
  ผมอ้าปากค้าง กำลังจะซึ้งแต่โดนไอ้ประโยคสุดท้ายนั่นแย่งซีนไปหมด เหลือก็แต่ความอึ้ง มีเมียเป็นผู้ชาย.. ป๊าน่ะนะ!! โอ้มายก็อด! ไม่รู้จะสบถออกมาเป็นอะไรดี บอกตรง ๆ ว่าช็อคมาก ช็อคเหี้ย ๆ เลยไอ้สัด!
  
  ป๊ายิ้มกริ่มแล้วโบกมือไล่
  
  “กลับไปได้แล้วไป”
  
  
  
  
  
  ......................................
  
  
  
  
  
  ผมเดินเข้ามาในหอพักด้วยความมึนที่ยังไม่หาย หลังจากโดนป๊าไล่ผมก็จำใจมาแม้ในใจอยากจะไซ้ต่อ มีเรื่องที่อยากจะถามแต่ยังไม่ได้ถามเลย เฮ้อ.. เอาเถอะ ใช่ว่าจะไม่ได้เจอกันอีกเสียหน่อย
  
  
  เปิดประตูเข้ามาในห้องก็มีไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศมาต้อนรับ เย็นขนาดนี้ไม่เอาเพนกวินมาเลี้ยงเลยล่ะ! ทีวีที่เปิดทิ้งไว้แต่กลับไม่มีคนดู ผมขมวดคิ้ว สอดส่องสายตาหาสิ่งมีชีวิตที่มาอยู่เป็นรูมเมท ไล่ก็ไม่ไป ไอ้บ้านี่! ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ไรเฟิลนั่นแหละ พอบังคับให้ผมไปอยู่ที่คอนโดสุดหรูของตัวเองไม่ได้ ก็เลยย้ายตัวมาอยู่กับผมซะงั้น
  
  
  “กลับมาแล้วเหรอ?” ผมสะดุ้งตกใจกับเสียงกระซิบจากคนที่เดินเข้ามาซ้อนอยู่ด้านหลังก่อนจะตอบอือในลำคอ
  
  
  
  กลับมาแล้วเหรอ?
  
  
  ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่รู้สึกชอบคำนี้ มันเหมือนคนถามกำลังเฝ้ารอให้เรากลับมา.. หึ แค่ไม่ประโยกธรรมดาไม่รู้จะยิ้มทำไม
  
  
  
  “หิว”
  
  “ฮื่อ..” ผมดิ้นเมื่อปากหยุ่นเม้มเข้ากับผิวเนื้อที่โผล่พ้นจากคอเสื้อ “หิวก็ไปหาอะไรกิน อย่ามางับกูสิ!”
  
  “กินมึงดีกว่า..” ไม่พูดเปล่าไรเฟิลเม้มผิวผมแรงขึ้นจนรู้สึกจี๊ด ๆ จากงับธรรมดาก็เปลี่ยนเป็นกัด ถ้าไม่ห้ามคงไม่เลิก ผมกระทืบเท้าไรเฟิล เจ้าตัวร้องโอ๊ยแล้วผละออก ชี้หน้าผมอย่างคาดโทษ หึหึ รู้จักกูน้อยไปแล้วมึง และก่อนจะมีการวางมวยผมจึงลากอีกฝ่ายออกจากห้องไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารแถวหอพัก
  
  
  
  “อันนี้อร่อย” หลังจากกินข้าวเสร็จกะว่าจะเดินย่อยกัน แต่กลับเจอร้านค้ารถเข็นที่ขายกันริมถนนก็หยุดซื้อกินอีก ผมยื่นลูกชิ้นปิ้งให้ตรงหน้าไรเฟิล เจ้าตัวก็อ้าปากงับไปแต่โดนดี ดูจากสีหน้าเหมือนจะโอเคแฮะ พอลูกชิ้นหมด เดินไปอีกไม่กี่ก้าวก็เจอร้านไอศกรีม ผมรีบปรี่เข้าไปอย่างตื่นเต้น สั่งไอศกรีมกะทิไปหนึ่งถ้วย
  
  “อร่อย~”
  
  “มีอะไรที่มึงไม่อร่อยบ้าง?”
  
  “ไม่รู้!  ฮ่าฮ่า” ผมตอบอย่างอารมณ์ดี ตักไอศกรีมให้คนตัวสูงกินบ้าง อยากจะเดินดูอีกเผื่อมีอะไรให้กิน แต่โดนไรเฟิลเบรกเอาไว้ มันบอกว่าขี้เกียจ พอผมบอกจะเดินคนเดียวก็ไม่ยอมอีก สุดท้ายผมก็แพ้ แพ้ด้วยวิธีปัญญาอ่อนที่ตัวเองเสนอขึ้นมาด้วยการเป่ายิงฉุบ ให้ตายเถอะ! คนชนะยิ้มพอใจ แขนแกร่งยกขึ้นกอดคอผมเหมือนแต่ก่อนตอนที่เป็นเพื่อนกัน ถามว่าอายไหมที่มาทำอะไรแบบนี้ในที่สาธารณะ ก็ไม่อายนะ ผมค่อยข้างหน้าด้านระดับนึง แล้วเรื่องสกินชิพ แตะเนื้อต้องตัวมันธรรมดาสำหรับผมที่อยู่ต่างประเทศมาตั้งแต่เด็ก(แต่ผมไม่ชอบให้คนไม่สนิทมาแตะเนื้อต้องตัวเท่าไหร่นะ)
  
  
  และที่ผมกล้าทำอะไรแบบนี้คงเพราะ...ประโยคนี้ของป๊ามั้ง
  
  
  
  
  
  
  
  สังคมมันยังไม่แคร์มึงเลยแล้วมึงจะไปแคร์สังคมมันทำไม











----------------โปรดติดตามตอนต่อไป----------------

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 24-02-2015 20:48:14
ป๊าน่ารักจังงงงงงง :mew1:
กำลังซึ้งๆอยู่ มีเมียเป็นผู้ชาบเหมือนกัน :a5: :a5:
กรี๊ดดดดดดดดดดดดอยากรู้เรื่องป๊าด้วยอ่ะ มาแรงแซงโค้งมากกกก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 24-02-2015 20:54:16
ชอบนะคะ เบาสบายยย  คนเขียนมีวินัยมากๆ มีต่อตลอดเลย
ปกติเราจะเป็นนักอ่านเงา ถึงเน็ตจะช้าทอสับจะค้าง ก็จะพยายามมาเม้นให้กำลังใจนะคะ
ว่าเรายังรออยู่ เป็นกำลังใจให้ค่าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 24-02-2015 22:02:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-02-2015 22:51:25
ป๊าเท่มากอ่ะ ชอบแกลูกตลอดดด
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Cream A ที่ 24-02-2015 23:04:17
ถึงกับชอคตามน้องควอทซ์  o22  ป๊าแรว๊งงง แต่เป็นแบบนี้ดีแล้วล่ะสร้างสีสันให้กับเรื่องดี 555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 25-02-2015 01:40:20
ครอบครัวนี้น่ารักจังๆๆๆ

ป๊าฮาๆๆๆ555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 25-02-2015 07:42:53
ป๊าแกล้งงงงง!! ใจหายหมด ก็ว่าป๊าไม่น่าจะห้ามนะ 5555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 25-02-2015 08:55:15
คุณคนเขียน แต่งได้น่ารักมากเลยจ้า มีพัฒนาการของตัวละคนไปในทางที่ดีขึ้นมาก ตั้งแต่เฟิล กับ ควอทซ์ เป็นแฟนกัน รู้สึกเฟิลจะมุ้งมิ้งกุ๊งกิ๊งขึ้นน่ะ55555555 ชอบคุณป๋าจัง ตลกอ่ะครอบครัวนี้ขี้แกล้ง
ขอบคุณที่มาต่อเร็วแบบนี้เสมอนะคะ จะตามเป็นกำลังใจเรื่อยๆถึงตอนจบเรื่องเลย :mew1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 26-02-2015 23:45:36
ป๊าน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 31 (24.02.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 27-02-2015 19:10:45
เย้ๆ ป๊าสุดยอดเลย ไฟเขียวแว้ววว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 32 (01.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 01-03-2015 20:18:08
EPISODE 32






  
  “เจ้าหญิงงงงงงง” ผมหันไปมองตามเสียงพลางดูดนมเย็นไปด้วย ไอ้วอร์มกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหา มันอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนมีผ้าขนหนูพันอยู่ที่เอวเนื้อตัวยังแห้ง สงสัยเพิ่งเปลี่ยนชุดมา
  
  “ไรวะ?”
  
  “ไม่ได้เจอนาน สวยขึ้นป่ะเนี่ย” ได้ข่าวเมื่อวานก็เพิ่งเจอป่ะ? แล้วมาบอกกูสวยคือเหี้ยไร ตอบ!!
  
  “ตีนไหม?”
  
  “โหดจริงจริ้ง แล้วประธานอยู่ไหนอ่ะ?”
  
  ผมชี้นิ้วไปที่สระว่ายน้ำ ประธานที่ว่าก็ไรเฟิลนั่นแหละ ไอ้วอร์มพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะขอตัวไปซ้อม
  
  
  
  
  
  ผมขยับตัวอย่างเบื่อหน่าย บรรยากาศรอบ ๆ ก็นะ... มีนักศึกษาคนอื่นมานั่งดูพวกนักกีฬา พวกชมรมว่ายน้ำซ้อมกับประปราย ผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้สำหรับนักกีฬาด้านล่าง ไม่ได้ขึ้นไปนั่งบนอัฒจรรย์ ใจจริงก็อยากจะขึเนไปนะครับ แต่ผมโดนห้ามเอาไว้ คงไม่ต้องบอกเนอะว่าใคร
  
  
  
  เสียงกรี๊ด เสียงพูดคุยดังมาเป็นระยะ มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกสนุกเลย.. ให้ตายสิ ผมนั่งแบบนี้มาเป็นชั่วโมงแล้วนะ เล่นเกมก็แล้ว อ่านบทเรียนก็แล้ว กินก็แล้ว แต่ก็ยังไม่หายเบื่อสักที ผมปลดหูฟังออก ปัดมือกับเสื้อช็อปเบา ๆ แล้วเดินไปริมสระอย่างเซ็ง ๆ
  
  
  
  
  
  “ปกติซ้อมกันนานไหมอ่ะ?” ผมถามหนึ่งในสมาชิกชมรมว่ายน้ำที่ยืนอยู่ริมสระ
  
  “2-3 ชั่วโมง ประมาณนี้นะ”
  
  “โห่...”
  
  “แต่บางทีก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ทำไม?”
  
  “เบื่อว่ะ ประธานชมรมพวกนายนี่แม่ง!” ดู ๆ แล้วน่าจะอายุน้อยกว่าผมแฮะ
  
  “ฮ่า ๆ โหดสัดอ่ะคนนั้น”
  
  “อื้อ.. อยู่ปีไหนเนี่ย?”
  
  “ปีหนึ่งครับ” ผมพยักหน้าแล้วบอกว่าอยู่ปีสาม มันรีบยกมือไหว้สวัสดีแล้วบอกขอโทษ ยังไม่ทันถามว่าขอโทษทำไมก็มีบางอย่างโผล่ขึ้นมาจากสระเล่นเอาผมสะดุ้ง
  
  
  
  “เล่นบ้าอะไรเนี่ย!” ผมโวยวายใส่ไรเฟิลที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง มนุษย์ตาฟ้ามองผมเขม็ง คิ้วเข้มขมวดเป็นปม เป็นอะไรไปล่ะนั่น ผมย่อตัวนั่งยอง ๆ รู้สึกถึงไอสีดำแปลก ๆ
  
  
  “ทำไมไร?” เสียงแข็งยิ่งกว่าไม้หน้าสาม..
  
  “ไม่ได้ทำอะไรนี่”
  
  “คุยอะไรกับมัน”
  
  “เปล่า” ‘มัน’ ไม่อยู่แล้วครับ หายไปตั้งแต่ไรเฟิลโผล่มาแล้ว ผมใช้แขนกอดขาเอาไว้ เอียงหน้าแล้ววางแก้มบนเข่า ช้อนตามองคนที่อยู่ในสระแล้วพูดเสียงเบา “เบื่ออ่า.. ..กลับก่อนไม่ได้เหรอ?...”
  
  
  
  
  “อืม กลับพร้อมกับเลย” ว่าแล้วก็ดันตัวขึ้นจากสระ เสียงกรี๊ดนี่ดังระงมเลย ทั้งจากสาวแท้ สาวเทียวม ผมเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ พอผมลุกขึ้นได้ก็ชกหน้าท้องอีกฝ่ายไปด้วยแรงไม่เบานะ ก็หมั่นไส้อ่ะ ใครจะทำไม!
  
  
  
  
  “ไปข้างในด้วยไหม?” ผมสั่นหัว ไรเฟิลใช้ผ้าซับตัวพอเป็นพิธีแล้วเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด คงจะอาบน้ำด้วยมั้ง ใช้เวลาไม่ต่ำกว่ายี่สิบนาทีแน่ ไหน ๆ ก็รอมาเป็นชั่วโมงแล้ว รออีกยี่สิบนาทีจะเป็นอะไรไป
  
  
  
  
  “พี่ไรเฟิลกับพี่ควอทซ์เหมือนแฟนกันเลยเนอะ” กำลังฟังเพลงอยู่ก็ดันได้ยินคำนินทาจากสามนิรนามเข้า ปลายนิ้วกดหยุดเพลงเอาไว้แต่แสร้งทำเหมือนยังฟังอยู่ จากระดับเสียงคงนั่งไม่ไกลจากผมไปไม่มาก
  
  “คู่นี้ต้องมีซัมธิงแน่เลย กรี๊ด!” สาวนิรนามคนที่สอง
  
  “ฉันยังแอบเชียร์ให้พี่เขาเป็นแฟนกันเลยนะ” สาวนิรานามคนแรก
  
  
  
  อ่า. . .
  
  
  
  “พวกหล่อโง่หรือไงยะ! เด็กป.สองยังดูออกว่าเขาไม่ใช่เพื่อน” สาวนิรนามคนที่สาม
  
  
  
  แต่..เสียงเหมือนจะไม่ใช่สาวแฮะ...
  
  
  “นั่นสิ เจ้าชายน้ำแข็งกับคุณหนูจอมซน แอร้ยยยยยย แค่คิดก็เขินไส้บิดแล้วอ่ะแก” สาวนิรนามคนแรก
  
  “คุณหนู? พี่เขาเป็นเด็กทุนไม่ใช่เหรอ? เป็นเด็กทุนไม่น่าจะเป็นคุณหนูป่ะวะ”  สาวนิรนามคนแรก
  
  “อีดอกกกกกกก หล่อนไม่แหกตาดูนามสกุลพี่เขาหรือไง! นี่นะ ฉันจะชี้ทางสว่างให้  นามสกุลนี้น่ะเป็นเจ้าของธุรกิจอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดในไทยเลยนะ!” สาวนิรนามคนแรก
  
  
  
  ผมเบอกตา รู้ได้ไงวะ! ขนาดพวกไอ้ไนต์แม่งยังไม่รู้เลยนะ!
  
  “จริงอ่ะ! รู้ได้ไงวะ?!”
  
  “ฉันเนี่ยยยยยยยย ...เป็นแฟนคลับพี่ควอทซ์นะยะ! เพราะฉะนั้นอยากรู้ก็ต้อง..... สืบจ้ะ!”
สาวนิรนามคนแรกพูด
  
  
  
  ผมมีแฟนคลับกับเขาด้วยเหรอวะ ปกติมีแต่คนไม่ชอบขี้หน้า โอ้ย! ตื่นเต้น ผมอดยิ้มไม่ได้จริง ๆ อยากจะหันไปมองหน้าน้องแล้วจุ้บเหม่งขอบคุณสักที เอ่อ.. อย่างหลังตัดออกก็ได้ฮะ
  
  “สืบหรือเสือก” ผมหลุดขำกับคำพูดของสาวนีรนามคนที่สาม
  
  
  แล้วอยู่ ๆ เสียงของทั้งสามก็เงียบไป ผมเงยหน้ามองเงาที่ทาบทับลงมา ที่แท้ก็เพราะไรเฟิลมานี่เอง มองนาฬิกาที่ข้อมือก็ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีกว่า ๆ อย่างที่คิดไว้เลย แค่นี่ไม่ได้เป็นการรอที่น่าเบื่อ เพราะสามสาวเขาเม้าท์กันนี่แหละ ทั้ง ๆ ที่ผมถูกนินทาแต่กลับสนุกซะงั้น
  
  
  
  
  กระเป๋าของผมถูกไรเฟิลแย่งไปถือ ก่อนจะกลับผมหันไปมองกลุ่ม(ที่คิดว่าน่าจะเป็น)สามสาวแล้วยิ้มให้ พวกเธอเบิกตากว้างยกมือปิดปาก ผมยิ้มขำแล้วชูสองนิ้วไป คราวนี้กรี๊ดออกมาเลย คงรู้แล้วล่ะว่าผมได้ยินที่พวกเเธอคุยกัน ฮ่า ๆ
  
  
  
  
  
  
  
  ............................................
  
  
  
  
  
  
  “เออมึง ไปบ้านกูป่ะ?” ผมพูดระหว่างที่เรากำลังออกจากมหาวิทยาลัย
  
  “อ่อยเหรอ?”
  
  “อ่อยเหี้ยไรล่ะ ป๊าบอกให้พามึงไปต่างหาก....” ไรเฟิลเลิกคิ้ว ผมหันหน้าหนีไปอีกฝั่่ง
  
  “ทำไม? หรือว่า... หึหึ”
  
  “เออ!! นั่นแหละ!! พูดมากทำไมเล่า!”
  
  “ตั้งแต่เมื่อไหร่”
  
  “วันที่ไปบริษัท”
  
  “หืม.. เกือบสองอาทิตย์แล้วนะ”
  
  “ก็เพิ่งนึกออก!!!”
  
  “โอเค ๆ ไม่เห็นต้องเขินเลย หึหึหึ” ผมค้อนใส่อีกฝ่าย กล้าดียังไงมาแซวผม ห้ะ!!!!
  
  
  
  จากที่จะกลับหอพักเลยต้องเปลี่ยนเส้นทางไปที่บ้านผม ระหว่างทางผมกับไรเฟิลก็ยังเถียงกันกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หาสาระไม่เจอเลยสักนิด แวะซื้อของฝากไปด้วย ไปตัวเปล่ามันก็ดูยังไง ๆ อยู่นะ
  
  
  
  
  
  
  ...
  ....
  
  
  
  
  
  วิ่งหยองแหยงเล่นกับหมูปิ้งก่อนจะพากันไปหามดแดง แต่โดนลุงชื่นห้ามเข้าใกล้เพราะยังไม่ให้อาหาร คนหล่อเซ็ง เล่นกับหมูปิ้งสักพักก่อนจะไปล้างมือ ล้างเท้า มองดูท้องฟ้าครึ้ม ๆ คล้ายฝนจะตก
  
  เวรละ..
  
  
  ณ ห้องนั่งเล่น. . .
  
  
  “หิวหรือยังลูก?” บอกคุณย่าว่าหิวแล้วก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ
  
  “คุยอะไรกันงะ?”
  
  “เปล่าจ้ะ ไป ไปกินข้าวกัน” อะไร.. ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเหมือนคุยกันอยู่แท้ ๆ ทำไมพอผมมาแล้วเงียบล่ะ? หันมองหัวทองก็ยกยิ้มไม่พูดอะไร โว้ะ!
  
  
  
  
  อาหารมากมายบนโต๊ะเรียงรายระรานตา ผมตาวาว ได้ยินเสียงท้องร้องโครกครากประกอบ
  
  
  ต้มข่าไก่ ไข่พะโล้ หมูพะแนง ต้มจืดยัดไส้ ปีกไก่ทอด กุ้งมะนาว และ กุ้งชุบแป้งทอด ของโปรดผม
  
  มายก็อดดดดดดด หวานหมูล่ะทีนี้ พ่อจะซัดให้เกลี้ยง ได้พุงก็ไม่สนแล้ววววววว
  
  
  “เช็ดน้ำลายหน่อยไอ้ดื้อ”
  
  “ไม่มีสักหน่อย” ปากบอกไม่มีแต่กลับยกมือเช็ดปากเสียงั้น พอโดนหัวเราะก็หน้างอใส่
  
  “อ่ะ กิน ๆ ตามสบายนะไรเฟิล” คุณชายยิ้มบาง ตอบครับเบา ๆ
  
  ระหว่างที่กินก็คุยกันบ้างพอเป็นพิธี ผมที่ตั้งใจกินเกินไปก็โดนแซวไปหลายที แต่ไอ้ควอทซ์หาได้แคร์ไม่.. เรื่องกินมาก่อนเรื่องอื่่นช่างแม่ง เฮ้!
  
  
  
  “โอ๊ยยยยยย อิ่มท้องจะแตก!”
  
  “ฟาดเรียบขนาดนั้นไม่อิ่มให้รู้ไปสิ” คุณย่าว่า ผมยิ้มแหยะลูบพุงตัวเองเบา ๆ ..ตามที่บอกไปฟาดเรียบถ้าเลียจานได้คงทำไปแล้ว
  
  
  ไม่มีกับข้าวที่ไหนอร่อยกว่าที่บ้านเราหรอกครับ..
  
  ..อร่อยจนต้องร้องขอชีวิต
  
  
  
  “อิ่มแล้วของหวานคงไม่ต้องเอา มีทับทิมกรอบใช่ไหมแม่?” ป๊าพูด ผมตาวาววับก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัดว่า..
  
  “เอา!!!” เท่านั้นแหละ ทุกคนหัวเราะเลย โด่ มีอะไรน่าขำ
  
  “ทับทิมกรอบ!!!” เหมือนจะมีแค่ผมคนเดียวแฮะที่ตื่นเต้น แล้วทำไมทุกคนต้องมองผมแบบเอือมระอาด้วยหว่า... คนหล่อไม่เก็ท
  
  
  
  “ไหนบอกอิ่ม?” หันไปมองคนถาม ขณะที่ผมกำลังซดทับทิมกรอบถ้วยที่สอง ไรเฟิลถ้วยแรกยังไม่หมดเลย กากว่ะ
  
  “อิ่มของคาวไง โววววว้ มึงนี่”
  
  “กินเก่งขนาดนี้ใครจะเลี้ยงไหว ฮึ” คุณย่า
  
  “เงีนก็มีซื้อกินเองก็ได้นี่ครับ Who cares?”
  
  
  
  
  ....
  
  
  
  
  
  สภาพผมตอนนี้ยังกะมดแดงตอนกินอิ่มใหม่ ๆ เลย ขยับตัวแทบไม่ได้ แน่นมากครับ ตัวจะแตก ทรมานเหี้ย ๆ ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่มือทรยศกลับหยิบขนมเข้าปากไม่หยุด ตาก็มองทีวีไปด้วย จากรายการข่าวก็เปลี่ยนเป็นรายการกอสซิปไฮโซ..
  
  
  
  “...ผู้หญิงคนนั้น...” ผมรำพึง มองทีวีตาไม่กระพริบ
  
  ผู้หญิงที่ผมชนเธอที่ห้างเมื่อหลายวัันก่อน ผมจำได้...
  
  
  
  
  เธออยู่ในชุดราตรีผ้าไหมสีชมพูดอ่อน ผมถูกเกล้าขึ้นเป็นทรงสวยงานเปิดให้เห็นรูปหน้าเรียวสวยชัดเจน ใบหน้าแต่งด้วยเครื่องสำอางอย่างพองาม ดวงตากลมโตมีหยาดน้ำชุ่มฉ่ำนั้นช่างดูคุ้นเคยในความรู้สึกราวกับได้เห็นอยู่ทุกวัน... ริมฝีปากถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพู ลำคอระหงประดับด้วยสร้อยเพชรน้ำงาม
  
  
  
  ข้างกายมีผู้ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐาน แขนของพวกเขาสอดคล้องกัน ...คงจะเป็นสามีของเธอ...
  
  
  
  ผมมองเธอราวกับต้องมนต์สะกด หัวใจเต้นระรัวอย่างบ้าครั้งอย่างตื่นเต้นแต่กลับเต้นแรงจนทำให้เจ็บ
  
  
  
  “ควอทซ์..”
  
  “ควอทซ์ ลูก..”
  
  “ห ห๊าา ว่าไงนะครับ” ผมหลุดจากภวังค์ คุณย่ามองผมด้วยสายตาแปลก ๆ ป๊าก็ด้วย..
  
  “ย่าถามว่ารู้จักเขาหรอลูก?”
  
  “หือ.. อ้อ.. เปล่าครับ คือผมเดินชนเธอเมื่อหลายวันก่อนน่ะฮะ เลยจำได้ ทำไมเหรอครับ..?”
  
  “เปล่าจ้ะ ย่าคิดว่าหนูรู้จัก” คุณย่ายิ้มบาง ลูบศีรษะผมเบา ๆ ผมยิ้มให้ท่านก่อนจะพูด
  
  “เธอสวยดีนะครับ ..ตาสวยมากเลย.. ทำไมผมถึงรู้สึกคุ้น ๆ แฮะ” คุณย่ากับป๊าเงียบแล้วมองหน้ากัน ไรเฟิลขมวดคิ้ว คงจะงงกับท่าทางของผมมั้ง ผมยังรู้สึกงงตัวเองเลย เป็นอะไรไปวะ..
  
  
  “...แม่ไอ้แพค”
  
  เสียงพึมพำของไรเฟิลทำให้ผมหันไปมอง ไม่ใช่แค่ผม ป๊ากับย่าด้วย ..คุณย่าทาบอกราวกับตกใจ ผมได้แต่ทำหน้างงกับอาการของแต่ละคน อะไรกัน..
  
  
  
  ทีวีถูกเปลี่ยนช่องไปแล้ว ป๊าบอกว่าไร้สาระสังคมจอมปลอมไม่รู้จะดูทำไม แล้วเปลี่ยนไปดููอย่างอื่นซะงั้น แล้วสักพักก็เรียกไรเฟิลไปคุย ผมถูกสั่งห้ามเข้าไปด้วย คุยไรกันวะ!
  
  
  
  
  
  
  “ฝนตกแบบนี้ค้างที่นี่นะลูก”
  
  “หา.. ฝนตกหรอครับ?” ตกตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ผมวิ่งโร่ไปที่ประตูหน้าบ้าน สายฝนกำลังโปรยลงมาจนน้ำเจิ่งนองที่พื้น ตกหนักพอสมควรแฮะ มีลมด้วย อืม..
  
  
  
  ผมเบ้ปาก แม้บรรยากาศตอนฝนตกจะทำให้เย็นสบายและเหมาะกับการนอนสุด ๆ ละก็... แต่ผมกลับไม่ชอบมัน ไม่ชอบ..แต่ไม่ได้เกลียด.. ผมไม่เวลาก่อนฝนตกมันทำให้อากาศร้อนอบอ้าว ไม่ชอบน้ำฝนมันทำให้ผมเปียกและไม่สบาย ไม่ชอบเสียงฟ้าร้องมันทำให้ผมกลัว...
  
  
  
  และตอนนี้ไม่มี ...นั่นก็ดีแล้ว
  
  
  
  
  ...
  
  
  
  กลับเข้ามาด้านในบ้านก็ถูกคุณย่าไล่ไปอาบน้ำ แต่ผมยังดื้อ วิ่งหนีไปที่ห้องทำงานของป๊า เอาหูแนบกับบานประตูไม้สักแกะสลักสวยงาม
  
  
  คุยอะไรกันวะ พูดดัง ๆ กว่านี้หน่อยสิ!!!
  
  
  
  “คุณหนูทำอะไรคะ?” สะดุ้งหงายหลัง ก่อนจะถอนหายใจ
  
  “ชู่ววววว เบา ๆ สิพี่แก้ว” พี่แก้วยิ้มขำแล้วเดินจากไป ผมยังคงมุ่งมั่นกับการ(พยายาม)แอบฟัง หุ้วววว ทำไมทำหน้าหนานักนะ! ทำปากยื่นใส่ประตูแนบตัวเข้าไปชิดกว่าเดิม
  
  
  
  20 นาทีต่อมา..
  
  
  
  ปัง! ปึก! ตึง!
  
  
  
  ประตูถูกผลักออกมาจากด้านในด้วยแรงไม่ธรรมดานั้นทำให้ผมที่แทบจะรวมร่างกับบานประตูโดนไปเต็ม ๆ
  
  
  
  #ร้องเหี้ยหนักมาก
  
  
  
  “เฮ๊ยยย เป็นไรเปล่า?” ตัวต้นเหตุรีบมาพยุงผมที่นั่งกุมศีรษะที่พื้นขึ้น ให้ตายเถอะ เจ็บฉิบหายเลย
  
  “เจ็บ!!!!!” ผมแหวใส่ มันหัวเราะหึหะ โด่!
  
  
  “สมน้ำหน้า”
  
  “ป๊า!!!!” หัวเราะเยาะลูกจนพอใจก็เดินหนีหาย ผมมองค้อนไรเฟิลที่ยังประคองตัวผมไว้อยู่ สะบัดออกแม่ง
  
  
  
  “คุยไรกันอ่ะ?”
  
  “ไม่เสือกเนอะ ^^”
  
  
  
  
  ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!
  
  
  
  
 


--------------------------TBC---------------------------
เอ่อ.. วันนี้มาแบบรีบ ๆ คำผิดไม่ได้เช็ค(แม่แย่งคอม T__T)
ผู้หญิงปริศนาคนนั้น..คงรู้แล้วเนาะว่าเป็นใคร
ไม่เจอกันตอนหน้าค่ะ ตอนหน้าไรเฟิลจะเป็นคนเล่า..
 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 32 (01.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 01-03-2015 21:28:14
เป็นแม่แพค OMG
แต่เราขอเดาว่า เป็นแม่ ควอทซ์ ด้วยหรือเปล่า??
ถ้าใช่ แพค ควอทซ์ ก็พี่น้องกันอ่ะดิ เพราะแม่เดียวกัน??? :a5: :a5: (เดาๆน่ะ)
รอตอนไปจ้าาา :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 32 (01.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-03-2015 21:30:44
น้อนควอทซ์น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 32 (01.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 03-03-2015 11:33:35
รับลูกเขยเข้าบ้านละ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 32 (01.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-03-2015 16:38:51
คุณแม่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 33 (03.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 03-03-2015 20:09:21
EPISODE 33






  RIFLE’s
  
  
  
  
  
  บันนี่บอกว่าป๊าให้พาไปหา..
  
  ผมไม่ตกใจเท่าตอนที่รู้ว่าทำไม..
  
  กระต่ายน้อยของผมบอกพ่อของตัวเองไปแล้วว่ามีผมเป็นแฟน..

  
  
  ไปเอาความกล้าแบบนั้นมาจากไหนกัน
  
  ผมว่า..ผมต้องพากระต่ายน้อยไปหาครอบครัวผมบ้างแล้วล่ะ
  
  
  
  
  พอถึงบ้านกระต่ายก็เข้าไปนัวเนียคุณย่า แต่ยังดีที่ลากผมเข้าไปด้วย
  ...โดนคุณย่าว่านิดหน่อยที่มาไม่บอกก่อน หลานชายหัวเราะแหะ ๆ จากนั้นไม่นานพ่อของควอทซ์ก็มา ท่านมองผมเขม็งตอนที่กระต่ายขาวพูดกับผมเสียงอ้อน
  
  
  เออ..หวงลูกเหมือนกันนี่หว่า
  
  
  
  
  บันนี่ออกไปเล่นกับเพื่อนซี้สี่ขาและไม่มีขา(เห็นไอ้มดแดงลูกรักของมันทีไรขนลุกทุกที)
  โดยทิ้งผมไว้กับพ่อและย่าของมัน ..ขอบคุณ -_-
  
  
  
  
  “นึกว่ากลัวจนไม่กล้ามาเสียแล้ว เหอะ” พ่อควอทซ์ค่อนขอด
  
  “ควอทซ์เพิ่งบอกผมครับ”
  
  “มีเรื่องอะไรกันงั้นหรือ?” คุณย่าถาม ท่านคงยังไม่รู้เรื่องของผมกับบันนี่
  
  “บอกไปสิ” พ่อควอทซ์
  
  “ผมกับควอทซ์เป็นแฟนกันครับ”
  
  คุณย่ายิ้มอ่อนโยน “ว่าแล้วเชียว”
  
  “ครับ?”
  
  “ท่าทางเราสองคนมันเหมือนเพื่อนนักงั้นหรือ ใคร ๆ เขาก็ดูออก”
  
  “เอ่อ..”
  
  พูดไม่ออกเลยแฮะ ผมเกาท้ายทอยแก้เก้อ และยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อกระต่ายของผมก็เข้ามาก่อน ทำให้ต้องเบรกบทสนทนาเอาไว้
  
  
  
  ............
  
  
  
  
  “...แม่ไอ้แพค”
  
  เสียงพึมพำของผมเรียกความสนใจจากทุกคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ.. 
  
  
  
  
  ..........
  
  
  
  ในห้องทำงาน
  
  
  “รู้จักผู้หญิงคนนั้นงั้นหรือ?” คุณอาถาม
  
  “เธอเป็นแม่ของน้องรหัสผมครับ”
  
  “อืม.. แล้วเด็กคนนั้นรู้จักควอทซ์หรือเปล่า?”
  
  “รู้ครับ เด็กนั่นเคยจีบควอทซ์”
  
  “แย่ละ...”
  
  “มีอะไรหรอครัวคุณอา?”
  
  “คงต้องบอกนายแล้วมั้ง แน่ใจไหมว่าจะดูแลลูกของฉันได้?”
  
  “ครับ ผมแน่ใจ”
  
  “เรื่องที่เป็นแฟนกันฉันไม่ว่าอะไร ดีเสียอีกที่มีคนมาช่วยดูแลเจ้าดื้อนั่น”
  
  “แต่แฟนลูกชายคุณอาเป็นผู้ชาย”
  
  “เรื่องนั้นฉันไม่สน แค่รักและดูแลลูกฉันได้ก็พอ”
  
  “ครับ”
  
  
  
  “เมื่อวันนั้นเจ้าดื้อนั่นมาบอกว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย พอแกล้งบอกให้เลิกกันเท่านั้นก็ร้องไห้โยเยสะอึกสะอื้นจะต้องรีบเฉลยว่าแค่ล้อเล่น”
  
  “......”
  
  “ก็รู้อยู่แล้วหน้าอย่างนั้นคงเป็นผัวใครไม่ได้หรอก หึ ตอนเด็ก ๆ ควอทซ์น่าสงสาร
  เขาคลอดก่อนกำหนดตอนอายุครรภ์แค่เจ็ดเดือนถึงได้ตัวเล็กแบบนั้น ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ ป่วยง่าย แพ้อะไรง่าย ๆ พอโตมาหน่อยค่อยดีขึ้น
  ไปโรงเรียนกลับมาก็ร้องไห้มาทุกวัน ทั้งโดนแกล้ง โดนล้อ ...อยากรู้ไหมว่าโดนล้อว่าอะไร?”
  
  “ครับ”
  
  “ไอ้ลูกไม่มีแม่”
  
  คุณอาพูดเสียงเย็น นัยน์ตาแสดงถึงความเจ็บปวด
  
  บันนี่ของผม..จะเจ็บปวดขนาดไหนกัน
  
  “..ทำไม..”
  
  “ฉันกับแม่ของควอทซ์เคยเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เมื่อก่อนฉันถูกส่งไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่อเมริกา
  วัยรุ่นนี่เนอะ ห่างไกลผู้ปกครอง ปาร์ตี้กันแทบทุกวัน แต่มีวันหนึ่ง เราดื่มกันหนักมาก ฉันกับแม่ของควอทซ์เราเมาทั้งคู่ สุดท้ายก็ได้ควอทซ์มา
  ...เราไม่ได้รักกันและผู้หญิงคนนั้นไม่ต้องการลูก ตอนที่รู้ว่าเธอท้องฉันตกใจมากแต่ก็พร้อมจะรับผิดชอบ
  
  หากแต่เธอไม่ต้องการ แน่สิ เราไม่ได้รักกันในเชิงชู้สาว เธอมีคนที่รักอยู่แล้ว และเพราะเรื่องนั้นทำให้เธอตัดขาดการเป็นเพื่อนกัน
  วันหนึ่งหลังจากกลับจากเรียน ฉันแวะไปหาเธอที่บ้านของเธอ และเห็นว่าเธอกินยาเพื่อจะฆ่าเด็ก... (ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ) ฉันพาเธอไปที่โรงพยาบาลได้ทันและโชคดีที่เด็กรอด..
  
  พอดีตอนนั้นสบโอกาสที่ย่าของควอทซ์มาเยี่ยมฉันพอดี ฉันปรึกษาท่านและท่านก็เป็นคนพูดกับแม่ของควอทซ์ให้เก็บเด็กไว้แล้วท่านจะเลี้ยงเอง เพราะแม่ไม่ดูแลตัวเอง ทั้งดื่มเหล้าจัดและสูบบุหรี่ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คลอดก่อนทำหนด ตอนออกมาร้องไห้ลั่น ตัวแดง ๆ เล็กนิดเดียว หึ”
  
  “ล แล้ว...หลังจากนั้นล่ะครับ?”
  
  “หลังจากนั้น... ตอนที่พยาบาลอุ้มเด็กมาให้ แม้แต่หน้าลูกเธอยังไม่มองด้วยซ้ำ พอรักษาตัวหายดีเธอก็หายไป ฉันจึงพยายามเลี้ยงดูเขาให้ดี แต่ถึงจะดียังไง เติมเต็มให้มากแค่ไหนก็ยังขาด ขาดความอบอุ่นจากคนเป็นแม่
  ไม่กี่ปีหลังจากนั้นฉันจึงรู้ว่าเธอกลับมาที่ประเทศไทยและแต่งงานกับคนที่เธอรัก พวกเขามีลูกด้วยกันหนึ่งคน
  
  ตลอดชีวิตยี่สิบปีควอทซ์ไม่เคยรู้ว่าแม่ตัวเองเป็นใคร ไม่เคยเห็นหน้า รูปภาพก็ไม่เคยเห็น แม้แต่ชื่อก็ไม่เคยรู้จัก...”
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  “ศนิตา จิระวากุล....คือแม่ของควอทซ์”
  
  
  
  
  
  
  พระเจ้า...
  
  
  ..จิระวากุล..
  
  นามสกุลของแพค
  
  น้องรหัสปีหนึ่งของผม
  
  คนที่เคยประกาศตัวว่าจะจีบกระต่ายขาว
  
  และความจริงที่ผมเพิ่งรู้....
  
  
  
  
  
  
  ควอทซ์กับแพค..มีแม่คนเดียวกัน
  
  
  
  
  
  
  ถ้ากระต่ายน้อยของผมรู้จะเจ็บปวดแค่ไหน รอยยิ้มสวยที่ประดับใบหน้าและดวงตาที่เป็นประกายที่จ้องมองผู้หญิงคนหนึ่งที่ตัวเองไม่รู้ว่าเป็นใครผ่านจอโทรทัศน์เมื่อสักครู่ เผลอเอ่ยปากชื่นชมโดนที่ไม่รู้ว่าคนคนนั้นคือแม่ของตัวเอง...
  
  
  
  ถ้ารู้..
  
  ถ้ารู้ว่าคนที่คลอดเขาออกมาไม่ได้ต้องการเขาเลย..
  
  ถ้ารู้ว่าคนคนนั้นกินยาเพื่อที่จะฆ่าเขาตั้งแต่อยู่ในท้อง..
  
  ถ้ารู้..กระต่ายของผม..จะเจ็บมากไหม..จะร้องไห้มากมายหรือเปล่า..?

  
  
  
  
  “ผม..”
  
  “ไม่ต้องพูดอะไรหรอก ถ้าจะมีคนมาให้ความรัก ความอบอุ่น เติมเต็มสิ่งที่ขาด ทำให้ลูกของฉันมีความสุข ฉันพร้อมจะยกเขาให้คนคนนั้นดูแลลูกของฉัน”
  
  “ผมจะทำ”
  
  “เมื่อก่อนฉันก็แค่คนเหลวแหลกคนหนึ่ง แต่พอมีลูกก็ทำให้อยากเปลี่ยนตัวเอง มองตากลมแป๋วนั่นแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้เสียที ..ถึงเด็กดื้อนั่นจะแสดงออกมาแค่ด้านที่ร่าเริงสดใส แสดงออกมาแค่ความเข็มแข็ง แต่ข้างในลึก ๆ แล้วมันไม่ใช่ ..ฝากลูกของฉันด้วยนะ อย่าทำให้เขาต้องเจอกับความเจ็บปวดอีกเลย”
  
  
  “ผมสัญญา”
  
  
  
  
  
  
  
  ..............................................
  
  
  
  
  บันนี่นอนเล่นคอมฯอยู่บนเตียง ส่วนผมยืนมองผนังห้องที่มีรูปภาพประดับอยู่ รูปพวกเรา.. ผม ไนต์ กาย ฟอร์ส และ เจ้าบันนี่ (แอบมีรูปเจ้าแม่บะหมี่ด้วย) ทั้งรูปเดี่ยว รูปคู่ รูปรวม เยอะแยะไปหมด หึ ทำไมกระต่ายของผมถึงได้น่ารักขนาดนนี้นะ
  
  
  “หน้าผากเป็นยังไงบ้าง?” นั่งลงที่เตียวเหยียดขายาวกับพื้น(เตียงของควอทซ์เป็นแบบเตี้ย)
  
  กระต่ายน้อยหันมาตอบแล้วยิ้มแฉ่งโชว์ฟันกระต่าย “หายเจ็บแล้ว แต่ยังแดงอยู่เลย”
  
  “หึ” ไล้ปลายนิ้วบนรอยแดงที่หน้าผากขาว ผมว่าผมผลักประตูไม่แรงด้วยซ้ำทำกลับกระแทกอีกฝ่ายซะล้มแล้วยังได้รอยแดงมากอีก
  
  
  “ไปอาบน้ำดิ เหม็น”
  
  “เหรอ” ก้มหน้าไปฟัดแก้มนุ่ม กลิ่นครีมอาบน้ำผสมกลิ่นแชมพูหอม ๆ ทำให้ไม่อยากถอนจมูกออกเลย หอม.. หอมไปทั้งตัว
  
  “ฮื่อ... อย่ามาหอมมมมมม” มือเล็กยื่นมาผลักหน้าออก ผมหัวเราะ ฟัดแก้มไปอีกสามสี่ฟอดแล้วยอมผละออก ถือผ้าเช็ดตัวกับชุด(ที่ไปยืมคุณอามาให้)เข้าไปในห้อง ปล่อยกระต่ายน้อยนอนเล่นไป
  
  
  
  
  ............
  
  
  
  ครืนนนนน เปรี้ยง!!!
  
  
  ผมอาบน้ำและแต่งตัวด้วยรวดเร็วแล้วออกไปด้านนอก
  
  
  กระต่ายน้อยทรุดตัวนั่งชันเข่ายกมือปิดหูอยู่ใกล้บานกระจก ผมรีบเข้าไปหาแล้วรวบตัวร่างบางมากอด ยื่นมือไปดึงม่านให้ปิดสนิท
  
  
  
  กระต่ายของผมกลัวเสียงฟ้าร้อง..
  
  
  
  “คนเก่ง..ไม่เป็นอะไรแล้วนะ” ลูบศีรษะปลอบประโลม
  
  ประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามาโดนคุณย่าและคุณอา
  
  “ไม่เอา..ไม่ชอบ”
  
  
  
  “ไม่มีอะไรนะลูก ไม่มีอะไร” ส่งตัวกระต่ายให้คุณย่าปลอบขวัญ มือยังจับกันไว้ บันนี่บีบมือผทแน่นเมื่อท้องฟ้าคำราม
  
  อยู่ปลอบจนคนตัวเล็กคลายสั่นจึงแยกไปพักผ่อน ผมอุ้มกระต่ายน้อยวางลงบนเตียง ห่มผ้าให้แล้วจูบที่หน้าผาก
  
  
  “นอนนะ” มองตาแป๋วกำเสื้อผมไว้แน่น สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มกอดอีกคนเอาไว้
  
  “ผมเปียก..”
  
  “ไม่เป็นไร” เมื่อกี้รีบตยไม่ทันได้สนใจตัวเอง เช็ดตัวยังไม่แห้งดีด้วยซ้ำ
  
  “เดี๋ยวไม่สบาย ...เช็ดก่อน”
  
  “แน่ใจ?” พยักหน้าหงึกหงัก จุ๊บปากสีสดเบา ๆ แล้วผละออก หันกลับไปมองเจ้าบันนี่คว้าพี่หมี(ตุ๊กตาทุกตัวล้วนชื่อพี่หมี)มากอด
  
  
  เช็ดผมลวก ๆ ก่อนจะใช้ไดร์เป่าผมเป็นตัวช่วย เสียงฟ้าร้องยังดังมาเป็นระยะแข่งกับเสียงฝน คืนนี้คงไม่หยุดแน่ แล้วกระต่ายของผมจะรอดไหมเนี่ย..
  
  
  หรือท้องฟ้าจะร้องไห้ให้กลับกระต่ายของผมกันนะ..
  
  
  ปิดไฟในห้อง ดึง(ไอ้)พี่หมีออกจากอ้อมแขนเล็กแล้วโยนไปที่พื้น กระต่ายน้อยส่งเสียงขัดใจแค่ไม่ขัดขืนกอดจากผม
  
  กดริมฝีปากกับหน้าผากมนอีกครั้งพร้อมกับบอกฝันดีเบา ๆ




------------------------TBC------------------------
กระต่ายของพี่ช่างน่าสงสาร #ร้องไห้หนักมาก
ความลับเปิดเผยแล้ว...  :z10: :z10:
เป็นกำลังใจให้น้องควอทซ์ด้วยนะคะ
 :mew6: :mew6: :mew6:
(รู้สึกว่าบรรยายแปลก ๆ 5555555555 T__T)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 33 (03.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 03-03-2015 20:34:39
ไรเฟิลต้องดูแลบันนี่ให้ดีนะๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 33 (03.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 03-03-2015 20:35:10
สงสารควอทซ์ คุณแม่ใจร้ายมากเลยอ่ะ TT
แต่ก็สงสารแพคด้วย อุตส่าจะจีบเขาเป็นแฟน สุดท้ายเป็นพี่ชายเฉย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 33 (03.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 03-03-2015 21:00:11
สงสารนุ้งควอทซ์ คุณแม่ใจร้ายมากๆ T^T
ถ้าควอทซ์รู้ความจริงเรื่องแม่เมื่อไหร่น่ะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะดราม่าขนาดไหน สงสารน้อง :m15: :m15:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 33 (03.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-03-2015 21:12:12
ถ้ารู้นี้คงน้ำตาท่วมจอ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 33 (03.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-03-2015 21:34:43
สงสารบันนี่อ่ะ

แม่ใจร้ายมากกกก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 33 (03.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 05-03-2015 15:28:10
น่ารักจังเลยย ลุ้นๆๆต่อออ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 33 (03.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-03-2015 22:26:05
มาให้กำลังใจจ้า

อ่านยังไม่ทัน

เรื่องสนุกมากๆเลย

หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 33 (03.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-03-2015 00:00:57
ยังอ่านไม่ทันจ้า

ยิ่งอ่านยิ่งสนุก

ตอนนี้ได้กันแล้วด้วย

กด+จ้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 07-03-2015 20:25:49
EPISODE 34





  RIFLE’s

  
  
  
  
  
  “คิก~”
  
  “เล่นอะไร หือ?” จับมือกระต่ายน้อยเอาไว้ เล่นซนอะไรแต่เช้า
  
  “ตื่นเร็ววววว เจ็ดโมงแล้ว” ปลายนิ้วจิ้มแก้มจึก ๆ หัวเราะคิกคักเห็นผมหน้ายุ่ง
  
  
  ....ฟัดแม่ง
  
  
  “อ๊าาาาาา ปล่อย! คิ ๆๆ หยุดดดดด”
  
  “ป่วนแต่เช้าเลยบันนี่ ฮึ่มมมม”
  
  “พออออ แฮ่ก... ห หายใจไม่ทัน อ้ากกกก”
  
  กระต่ายหอบแฮ่ก หัวเราะน้ำตาคลอ เห็นหน้าแล้วอยากฟัดให้จม
  
  “ตื่นทำไมแต่เช้าวะ” ยังเคลียแก้มนุ่มไม่ห่าง
  
  “ฮึ่ยยย แก้มช้ำหมด!”
  
  “งั่ม”
  
  “อี๋ น้ำลาย แหยะ” ทำท่ารังเกียจแต่ไม่ขัดขืน หึหึ
  
  “โอ๊ย!” ฟาดเพียะเข้าที่อกเปลือยเปล่า(ผมไม่ได้ใส่เสื้อ) ทำหน้ามู่แล้วชิ่งลงจากเตียง คว้าไว้ไม่ทัน ตัวแสบไปเปิดม่านออกครึ่งหนึ่งของผนังกระจก
  
  “โห... ฝนยังปรอยอยู่เลย” บ่นแล้วเปิดประตูออกไประเบียง
  
  ผมลุกขึ้นบ้างแล้วตามออกไป  ผมยืนพิงกรอบประตูดูคนตัวบางบิดขี้เกียจ
  
  “ฮ้าาาาาา สดชื่นสุด ๆ So goooooood~” ยิ้มกว้างจนตาปิด เดินกลับมาอยู่ตรงหน้าผม โขกศีรษะกับอกผมปั่ก
  
  “เข้าข้างในได้แล้ว”
  
  “เท้าเปียก..” ก้มมองเท้าแล้วยิ้มแหย่ ผมสั่นหัว พื้นระเบีนงเปียกชื้นเพราะน้ำฝนแต่ยังเดินออกไปทั้งเท้าเปล่า ตวัดกระต่ายซนขึ้นพาดไหล่ เลื่อนประตูปิดแล้วเข้าห้องไปทั้งคู่
  
  
  
  ..............
  
  
  
  ห้องอาหารด้านล่าง
  
  “อรุณสวัสดิ์คร้าบบบบบบ” คุณหนูของบ้านตะโกนลั่น
  
  “เสียงดังแต่เช้าเลยเจ้าเด็กนี่ ไรเฟิลหลับสบายหรือเปล่าลูก?”
  
  “ครับ” ตอบคุณย่า
  
  “ข้าวต้มกุ้ง~~~” เด็กน้อยร่าเริงซดข้าวต้มไม่สนใคร
  
  
  
  ใกล้เวลาเดินทาง เจ้าบันนี่ไล่กอดคนในบ้านไม่เว้นแม้แต่แม่บ้าน ยิ้มร่าโบกมือลาบอกว่าจะมาใหม่
  
  
  
  .................
  
  
  มาที่โรงรถกระต่ายขาวกลับไม่ตามมา พอหันไปมองก็แทบจะกลายร่าง เด็กดื้อท้าวแขนบนประตู Aston Martin Vanquish Volante สีขาวสุดหรู ที่จอดอยู่ข้าง Mercedes Benz SL Class ของผม
  
  “เอารถไปนะ เนี่ยยย ไม่ได้ใช้เลย เดี๋ยวพัง” ยิ้มตาใส
  
  “เอาไปก็ไม่ได้ใช้”
  
  “เผื่อฉุกเฉินไง เกิดมึงไม่อยู่ไรงี้”
  
  “มีรถหลายคัน”
  
  “โธ่ ไรวะ จะเอาไปอ่ะ จะเอาาาาาา”
  
  “แน่ใจ?”
  
  “แน่ดิ เจอกันที่ม.ตอนเที่ยงนะ” บอกเท่านั้นก็ยัดตัวเข้ารถแล้วขับออกไปไม่รอผมเลย ให้ตาย อย่าให้จับได้นะ
  
  
  
  
  
  ....................
  
  
  
  
  
  “บันนี่ถึงยัง?” กรอกเสียงถามไอ้ไนต์ ไม้กันหมาชั้นเยี่ยม
  
  (“ถึงแล้ว โหยแม่ง ขับแอสตันมาซะ เล่นเอาคนที่คณะงงเป็นแถบ มึงยอมได้ไงวะ โอ๊ย! / นินทากูเหรอไอ้ลูกหมา!”)
  
  “อืม ดูด้วย”
  
  (“ครับผม”) วางสายตากเพื่อนแล้วเข้าอาคาร
  
  
  
  เจอคนที่ไม่อยากเจอเข้า กลอกตาเซ็งจะเลี่ยงหนีแต่แขนดันถูกคว้าเอาไว้ซะก่อน
  
  “ทำไรเฟิลไม่รับสายกรีนเลยคะ!?” สะบัดแขนออกอย่างไม่ไว้หน้า เดินออกมาไม่สนใจ ใช่เรื่องป่ะ
  
  
  
  ครืด~
  
  
  R’s : ไอ้เชี่ยไนต์แกล้งงงงงง
  
  R’s : (สติกเกอร์กอดอกหน้างอ)
  
  R. : จัดการเลย
  
  R’s : (สติกเกอร์ยิ้มเจ้าเล่ห์)
  
  R’s : (สติกเกอร์โบกมือ)

  
  
  ผมกดยิ้ม เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เจอโซ่เพื่อนร่วมชั้นเลยเข้าเรียนไปพร้อมกัน
  
  โซ่ หนุ่มตี๋ใส่เหล็กดัดฟัน ลูกชายคนเล็กของบ้าน
  ทำธุรกิจส่งออก-นำเข้า ติดอันดับในประเทศ
  
  สนิทกับมันที่สุดแล้ว นอกจากพวกไอ้ไนต์
  
  
  
  ในห้องเรียน..
  
  
  “มีข่าวซุบซิบว่ามึงซุกเด็ก บอกกูมาครับท่าน” โซ่ชกไหล่
  
  “หึ เด็กไหนล่ะ”
  
  “เด็กตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ หน้าตาน่ารัก น่าฟัดด้วย ผู้ชายว่ะ” คิ้วกระตุกทันที่กับคำว่าน่าฟัด
  
  “เหรอ?”
  
  “กูมีรูปด้วย มึงดิ้นไม่หลุด เล่าเลย” ยื่นโทรศัพท์ให้ดู รูปที่โชว์บนจอสมาร์ทโฟนคือรูปที่ผมกอดคอกับบันนี่(กระต่ายใส่ช็อปวิศวะหรา)มือของกระต่ายจับนิ้วผมข้างที่ใช้พาดคอ
  
  “ไปเอามาจากไหน”
  
  “เพจ XO Boyslove มึงไปอยู่บนเพจคู่เกย์แบบนี้ได้ไงวะ” ส่ายหัวไม่รู้ ทัชจอดูวันที่อัพโหลด หืม.. สามวันที่แล้ว อ่านแคปชั่นแล้วพูดไม่ออก นอกนั้นไม่พอยังโพสต์ชื่ออินสตาแกรมทั้งของผมและของกระต่ายอีก
  
  เวรละ..หายนะชัด ๆ
  
  “สรุปยังไง” ไอ้นี่ก็ไม่เลิกซัก
  
  “ตามนั้น” ไหวไหล่แล้วยิ้มมุมปาก ตาตี่เบิกกว้างก่อนจะร้องเฮ๊ย
  
  
  ก็ดี..คนอื่นจะได้รู้ว่ากระต่ายน้อยเป็นของผม หึ
  
  “มึงเซฟภาพแล้วส่งให้กูด้วย” บอกแกมสั่งไม่สนหน้าอึ้ง ๆ ของมัน
  
  
  
  
  ...................
  
  
  
  โรงอาหารวิศวะ
  
  
  
  “เป็นอะไร?” ถามกระต่ายหน้างอข้าง ๆ
  
  “ไอ้ไนต์มันแกล้ง..” พูดเสียงอ่อยก้มหน้างุด
  
  “หือ แกล้งอะไรครับ?”
  
  “มันโยนบุ้งใส่ โดนแขน ผื่นขึ้นด้วย” เงยหน้าตอบ ตาฉ่ำน้ำ ปากยื่นคล้ายเด็กโดนขัดใจ
  
  ...น่ารักฉิบ
  
  “ทายาหรือยัง?” เด็กน้อยพยักหน้า
  
  จับแขนขึ้นมาดู เม็ดผื่นกินพื้นที่ผิวเป็นวางแดงเถือก เพราะผิวขาวจัดเลยเห็นชัดเจน
  ผมขบกรามกรอด มองไอ้ตัวต้นเหตุยิ้มแหย่

  
  “กูไม่ได้ตั้งใจ.. ไม่รู้ว่ามันเป็นผื่นนี่หว่า”
  
  “บอกให้ดูแลแต่เสือกรังแก ไอ้เวร!!”
  
  “โดดดด่ อย่าด่า ๆ กระต่ายของมึงไม่คุยกับกูจะสองชั่วโมงแล้วเนี่ย ...น้องเห็ดดีกันเถอะน้าาา” ประโยคสุดท้ายพูดพลางยื่นนิ้วก้อยไปให้กระต่ายของผม
  
  
  
  กระต่ายน้อยหรี่ตามองก่อนตะกอดอกเชิดหน้าใส่ ไอ้ไนต์หน้าเสียไปแล้ว
  
  “ยอมทุกอย่างเลยอ่ะ ดีกันเถอะ ดีกันน้าาา”
  
  “เลี้ยงข้าวสิบวัน! น้ำด้วย! ของหวานด้วย! ห้ามขาดแต่เกินได้!” ไม่ค่อยจะเห็นแก่กินเท่าไหร่ - -
  
  “เยอะว่ะ ...โอเคครับ สิบวันครับ ไม่ขาดไม่เกินครับผม!” บันนี่คลี่ยิ้มยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับไอ้ไนต์
  
  
  ...นานไปล่ะ ดึงออกแม่ง
  
  
  “หิว...”
  
  “สองคนนั้นจะมาเมื่อไหร่?” ผมถาม
  
  “โอ้ ชิท.. ลืมบอก ไอ้กายติดสอบ ไอ้ฟอร์สเผางาน แหะ ๆ”
  
  กลอกตาเซ็ง ผมกับไนต์ไปซื้อข้าว บันนี่เฝ้าโต๊ะ
  
  
  
  
  ...................
  
  
  
  
  
  “ไง มีเรื่องอะไรดี ๆ บอกกูไหม?” ไนต์ถาม ใช้ศอกกระทุ้ง ผมยกยิ้ม
  
  “เมื่อวานไปบ้านกระต่ายมา”
  
  “นี่มึง! อย่าบอกนะว่าทางนั้นรู้แล้ว”
  
  “อื้อฮึ” ไนต์ตาโตร้องเสียงดัง ถามรัวว่าเมื่อไหร่ อะไร ยังไง เลยต้องเล่าให้ฟัง พอรู้เรื่องราวก็ชมกระต่ายของผมว่าใจเด็ด
  
  
  
  เอาจริง ๆ พวกผมไม่เคยมีความลับกันหรอก มีอะไรก็จะบอก
  
  เรื่องของบันนี่ผมก็เล่าให้พวกมันฟัง
  
  ไม่รู้ว่ามีใครสักคนเข้ามาอยู่ในใจตั้งแต่เมื่อไหร่
  
  ช่วงนั้นใกล้สอบ ทำงานหัวปั่นไหนจะต้องอ่านหนังสือสอบอีก ได้บันนี่มาอยู่ด้วย คนตัวเล็กทำอะไรให้สารพัด คอยดูแลไม่ห่าง ทั้งที่ตัวเองก็ยุ่งเหมือนกัน ไนซ์บอยสุด ๆ
  
  
  สุดท้ายเผลอเปิดใจรับเพื่อนตัวเล็กคนนี้เข้ามาหลังจากปิดล็อคไว้นาน...
  
  
  ใช้เวลาทบทวนกับตัวเองอยู่มาก วันนึงดันไปเห็นกระต่ายน้อยคุยกับคนอื่นเข้า เกิดหวงขึ้นมาซะงั้น ทั้งที่ก็แค่คนรู้จักธรรมดา
  
  ...ไม่อยากให้ไปยิ้มกับใคร
  
  ...ไม่อยากให้หัวเราะกับใคร
  
  ...ไม่อยากให้ใครเห็นว่าคนตัวเล็กนั้นน่ารักขนาดไหน
  
  รู้ใจตัวเองก็ตอนนั้น ช่วงปีสองมั้งถ้าจำไม่ผิด วันถัดมาเดินไปบอกเพื่อนสนิททั้งสามว่า
  
  
  
  ‘กูอยากเลี้ยงกระต่าย’
  
  
  เพื่อนเข้าใจผิดคิดว่าหมายถึงสัตว์เลี้ยง อธิบายให้กระต่างก็อึ้งกันไป ด้วยความที่ผมไม่ใช่เกย์ ไม่ได้เป็นไบ ไม่เคยอะไรกับผู้ชาย และควงผู้หญิงมาตลอด
  
  สุดท้ายสามคนนั้นก็คอยช่วยเหลือ จนวันนี้ได้กระต่ายน้อยมาเลี้ยงจนได้
  
  วันที่บอกว่า ‘กูได้เลี้ยงกระต่ายแล้ว’ เพื่อนทั้งสามแค่ยิ้ม แล้วบอกว่าดีใจด้วย
  
  
  
  
  
  .............
  
  
  
  
  “แล้วมึงมีอะไรบอกกูไหม?” ถามกลับ เพื่อนสนิทกดยิ้ม แค่นี้ก็พอรู้ว่ามีความสุขดี
  
  “ชีวิต ดี๊ดี 5555”
  
  หัวเราะกันไป เพื่อนคนนี้ก็เพลย์บอยไม่ต่าง
  
  ใครจะไปคิดว่าคนอย่างมันจะตกหลุมเด็กผู้ชาย เด็กผู้ชายที่เข้าหามันเพราะต้องการประชดหรืออะไรไม่ทราบ แต่หลังจากนั้นผมก็ไม่เห็นไนต์วอแวกับผู้หญิงคนไหนอีก
  
  ฟอร์ส กาย บ่นให้ได้ยินว่ากลัวจะกลายพันธุ์ตามพวกผม หึหึ
  
  
  .................
  
  
  
  กินข้าวเที่ยงเสร็จ เจ้าถิ่นวิศวะทั้งสองไม่มีเรียนต่อ(แต่ได้งานมาเป็นกอง) ไนต์กลับไปแล้วแต่ก่อนกลับยังไม่วายแหย่กระต่ายให้หน้างอ
  
  
  “ได้งานมาเยอะเลย สั่งไปถมที่หรือไงไม่รู้ หุ้ววว”
  
  “หึ จะกลับเลยไหม?” ยิ้มโชว์ฟันกระต่าย คงพูดถูกใจเขา
  
  “กลับดิ! ไม่รอมึงหรอก” ดึงแก้มนุ่มจนยืด กระต่ายร้องอ๋อยถึงปล่อยมือ
  
  “อืม จะไปไหนก็บอกด้วย”
  
  “ครับผม... ยักษ์เลิกกี่โมง?”
  
  ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เรียกผม ยักษ์ อืม... ปลง
  
  “สี่ ต้องเข้าชมรมต่อด้วย”
  
  “อ่า... มีเวลาหนีเที่ยวตั้งเกือบสี่ชั่วโมงแน่ะ เจ๋ง!!”
  
  “ห้าม! อยู่แต่ห้องห้ามไปไหน!”
  
  “โดดดด่ ไรวะ เมื่อกี้ยังบอกจะไปไหนให้บอก”
  
  “เปลี่ยนใจแล้ว ห้าม!”
  
  “ครับ ๆ ไปเรียนได้แล้ว ชิ่ว ๆ”
  
  เดินมาส่งถึงรถ ก่อนไปจุ๊บมุมปากคนตัวเล็กให้หน้าแดงเล่น
  
  
  ........................
  
  
  
  กลับมาที่คณะ
  
  
  อีกประมาณสิบห้านาทีถึงเข้าเรียน
  
  น่าเบื่อ... อยากกลับไปกอดกระต่ายขาวจะแย่
  
  
  “พี่!”
  
  “มีอะไร?”
  
  แพค
  
  อภิภู จิระวากุล
  
  คนที่มีสิทธิ์เป็นน้องชายของบันนี่...

  
  “เอ่อ... พี่ควอทซ์สบายดีไหมครับ?” ตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม
  
  ในใจคล้ายภูเขาไฟปะทุ ภายนอกกลับต้องวางท่าเย็นชาไม่รู้สึก
  
  “สบายดี มีอะไรอีกไหม?”
  
  อยากจะบอกเหลือเกินว่าคนนี้ของกู กูดูแลเองได้ ไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมาถามถึง
  
  
  “พี่คงไม่ว่าอะไรถ้าผมจะคุยกับพี่ควอทซ์บ้าง”
  
  “ถ้าในฐานะพี่น้องก็ไม่มีปัญหา แต่อย่าล้ำเส้น เขาเป็นของกูแพค”
  
  “ผมรู้..”
  
  “จะให้ดีมึงต้องตัดใจแพค ตัดให้ขาด”
  
  ...เพราะถ้ามึงรู้ความจริงว่าคนที่มึงชอบคือพี่ชายของมึง..คนที่เจ็บก็คือมึง
  
  ได้แต่พูดในใจ
  
  “ยากอ่ะ ไม่ตัดได้ไหม”
  
  “หึ ถ้าคิดจะแทงข้างหลัง กูไม่ปล่อยไว้แน่”
  
  “ผมไม่ทำหรอกครับ ให้ผมชอบของผมต่อไปเถอะ”
  
  “กูเตือนด้วยความหวังดี ตัดใจจากคนของกูซะ”







--------------------------TBC--------------------------
กระดึ้บ ๆ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-03-2015 20:32:38
มาให้กำลังใจ

และมาตามอ่านจ้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-03-2015 20:53:10
เพิ่งตามมาอ่าน สนุกดีนะ
บันนี่ของยักษ์ขี้อ้อน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 08-03-2015 00:00:08
ใกล้อ่านทันแล้วจ้า

เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 08-03-2015 00:16:16
ตัดใจซะนะแพคๆๆ



ไรเฟิลกับบันนี่สวีทแต่เช้าเลยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-03-2015 02:40:24
คุณปืนบทโหด
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 08-03-2015 03:25:57
ขี้หวงนะคะ.  พี่ไรเฟิล
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 08-03-2015 03:51:21
บันนี่น่ารักน่าแกล้งจริงๆ แพคตัดใจเถอะเดี๋ยวพอรู้ว่าเป็นพี่น้องกันจะเจ็บมากกว่านี้อีก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 08-03-2015 06:44:19
ไปๆมาๆก็สงสารแพคชอบพี่ตัวเอง :mew2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 08-03-2015 08:56:33
หวังว่าคงไม่เกิดเหตุการ์ณอะไรนะ ไม่อยากให้บันนี่จังร้องไห้อะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 08-03-2015 09:06:59
ตอนนี้บันนี่กับยักษ์น่ารัก :mew1:
สงสารน้องแพค หาคู่ใหม่ให้แพคเถอะค่ะ5555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-03-2015 09:50:40
สงสารแพคเบาๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-03-2015 16:32:45
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Cream A ที่ 09-03-2015 16:51:50
เฟิลกะควอตซ์ยังน่ารักมุ้งมิ้งเหมือนเดิม :mew1:

ส่วนแพคก็เชื่อไรเฟิลซะนะถ้ายังดื้ออยู่ จะไม่น่าสงสารแล้ว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 34 (07.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 09-03-2015 17:46:42
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 10-03-2015 20:22:16
EPISODE 35





  RIFLE’s

  
  
  
  
  
  
  ห้องของเรา...
  
  เวลาสิบแปดนาฬิกาโดยประมาณ
  
  
  
  “กลับมาแล้วเหรอ?” กระต่ายน้อยเงยหน้าจากคอมพิวเตอร์ขึ้นถาม ผมยกยิ้มก่อนจะเข้าไปคลอเคลียกายหอม
  
  เติมพลังครับ วันนี้ใช้เอนเนอร์จีเกินตัว เหนื่อยฉิบ
  
  
  “ยัง นี่ร่างที่สอง”
  
  “กวนตีน”
  
  “หึ” ฟัดแก้มนิ่มอีกหลายทีแล้วหนีไปอาบน้ำ(ทั้ง ๆ ที่อาบจากชมรมมาแล้ว)
  
  
  
  แต่งตัวสบาย ๆ กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดธรรมดา คนหล่อใส่อะไรก็หล่ออยู่ดี หึ
  
  กระต่ายยังนั่งอยู่ท่าเดิม บนพื้นพรมหน้าทีวี เอนหลังพิงโซฟา มีคอมพิวเตอร์วางอยู่บนโต๊ะกลาง มือขาวคลิกเม้าส์สลับกับคีย์แป้นไปมา อื้ม...วันนี้มีพร้อพ ใส่แว่นด้วยแฮะ
  
  
  ผมเข้าไปนั่งบนโซฟาด้านหลังของกระต่าย กางขาออกให้คนตัวเล็กอยู่ตรงหว่างขาพอดี
  
  
  “ทำอะไร?”

  “ทำเว็บให้มิกิ” ตอบพลางเอนหัวพิงต้นขาผม “เย็นวะ..ชอบ” หึ ได้แต่ยิ้มกับตัวเอง ใจฟูเต็มอก
  
  
  “อืม”
  
  “น้องบอกตั้งนานแล้วแต่จำไม่ได้ วันนี้เจอกันไม่รู้ยังไงเข้ามาทวง เจ้! เจ้ทำเว็บให้มิกิยัง อ้าว เว็บไรวะ น้องหน้างอบอกที่เคยบอกไปไงคะ เจ้ลืมเหรอ พอกูพยักหน้า คิตตี้เกิร์ลแทบพุ่งมาบีบคอ อย่างฮา! 555”
  
  พูดแจ้ว ๆ หัวเราะเสียงใส ดัดเสียงเลียนแบบน้องรหัสปีหนึ่ง
  
  น้องมิกิลูกครึ่งญี่ปุ่นตัวเล็ก สมญานาม ‘คิตตี้เกิร์ล’ ที่พี่บันนี่ปีสามตั้งให้
  
  
  “รับปากส่ง ๆ ไปก่อน ตอนนั้นกำลังจะเข้าแลปบวกกับเมินไอ้ไนต์ด้วย กลับมาเปิดสมุด reminders ดูถึงจำได้ เลยนั่งทำอยู่นี่ไง”
  
  “เว็บอะไร?”
  
  “เว็บขายของ เปิดแอคเคานต์อินสตาแกรมก็ได้แต่ไม่ทำ หาเรื่องมาให้กูซะงั้น
  คิตตี้เกิร์ลบอกว่าอยากโละของ แต่จะทิ้งก็เสียดายเลยขายดีกว่า พี่สาวก็จะขายด้วยมั้ง ขอให้ช่วยทำเว็บไซต์ให้ นี่ก็ถามทำไมไม่ทำเอา น้องบอกยังไม่เชี่ยวให้พี่ทำดีกว่า ติดสินบนกูด้วยเอาบัตรบุฟเฟต์เค้กมาโบกล่อ ไอ้ควอทซ์ก็ตกลงแบบไม่คิดเลย”
  
  “ของกินเป็นเหตุ หึหึ”
  
  “บู่วววว (โขกศีรษะกับขาผม) ช่วยไม่ได้ก็เงียบไปเลย”
  
  
  โครก~
  
  กระต่ายยืดตัวนั่งตรง ผมกลั้นขำ อย่าบอกนะว่ายังไม่ได้กินอะไรเพราะรอผม
  
  
  
  
  
  
  .................
  
  
  
  ที่โต๊ะกินข้าว
  
  
  “ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เรียนล่ะ แต่งานเยอะมากกกกกกกกกกกก __งั่ม” ยังคงบ่นเรื่องเรียนไม่ขาด อ้าปากรับกุ้งชุบแป้งทอดของโปรดที่ผมส่งให้ถึงปาก
  
  ไม่รู้ติดใจไอ้กุ้งทอดนี่อะไรหนักหนา เห็นกินได้ตลอดไม่มีเบื่อ
  
  “อื้อฮึ”
  
  “เศษสาดงานเยอะป่ะวะ?”
  
  “เยอะเหมือนกัน”
  
  “งืม... ล่ะนี่จะไม่บอกจริงอ่ะว่าคุยไรกับป๊า” วกเข้าเรื่องนี้อีกจนได้
  
  ผมเมินกระต่ายที่ช้อตามองอ้อน ไม่ไหว เกิดใจอ่อนขึ้นมาก็แย่ดิ
  
  “อืม.. ลืมแฮะ”
  
  “อะไรอ่าาาาา ใครเขามีความลับกับแฟน... อุ๊ป!” ปิดปากตาเบิกโต แก้มขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง ผมอมยิ้มกับคำว่า ‘แฟน’ ที่หลุดออกมา
  
  
  “อย่ายิ้มอย่างนั้นนะ!!” กระต่ายโวยวายหน้าแดงก่ำ ขยับปากมุบมิบบ่นกับตัวเอง
  
  “ยิ้มยังไง?”
  
  “ก็... อ้ากกกก ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ แง่ง!”
  
  “หึหึหึ”
  
  “จิ๊”
  
  “ก็ดี ทุกอย่างเรียบร้อย คุณอาเซย์เยส คุณย่าโอเค แฮปปี้”
  
  “ก็แค่นั้น เล่นตัวอยู่ได้ หึ!!” สะบัดเสียงขึ้นจมูก แก้มยังแดงระเรื่อ
  
  
  
  กระต่ายน้อยยังไม่คลายสงสัยหรอกผมว่า ตากลมยังเคลือบความอยากรู้ แต่กลับไม่ถามเซ้าซี้ เขาก็เป็นแบบนี้ ซักมาก ๆ แล้วไม่ได้คำตอบก็ปล่อยผ่าน ทำเป็นไม่สนใจ รอให้บอกออกมาเอง
  
   ‘เรื่องของมึง กูไม่รู้ก็ได้’
  
  ประมาณนั้น..
  
  
  
  .......................
  
  
  
  “อย่ามากวนนนนนนนนนน” ลากเสียงยาวติดรำคาญ
  
  ผมป้วนเปี้ยนก่อกวนกระต่ายตัวน้อยที่ล้างจากอยู่ มือขาวสะบัดดฟองใส่ แต่ผมยังด้านไม่ขยับ
  
  เข้าประชิดจนแผ่นหลังบางชิดอก สอดมือกอดเอวกระต่ายเอาไว้ บันนี่ตัวแข็งทื่อ จานหลุดจากมือกระทบก้นอ่าง
  
  หึหึ
  
  
  “อืม.. หอมจัง” หย่นคอหนีจมูกที่ซุกไซร้ เบี่ยงตัวหลบไม่ได้หรอก ผมเบียดจนเขาติดกับเคานต์เตอร์
  
  “ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย ออกไป!!!” get out เต็มหู แต่เรื่องอะไรจะยอม งับติ่งหูอีกฝ่ายเบา ๆให้พอสยิว
  
  “พูดไม่เเพราะ งั่ม”
  
  “กัดทำเชี่ย เป็นหมาเหรอ!” ทิ้งชามลงโครม ล้างมือเปื้อนฟองแล้วดึงมือผมออกจากเอว
  
  “ไม่ได้เป็นหมา เป็น...ผัว อ้าก!” ร้องเสียงหลงหลุดคาแรคเตอร์ กุมท้องตัวงอ บันนี่กระทุ้งศอกใส่ไม่เบานัก เล่นเอาจุก
  
  ตัวการกอดอกยิ้มเยาะ
  
  
  “ไอ้โรคจิต!”
  
  “โรคจิตเชี่ยไร”
  
  “มึงนั่นแหละ! ห้าม! ต่อไปนี้ห้ามพูดคำนั้นให้ได้ยิน!”
  
  “คำนั้น คำไหน?”
  
  “ก็ ก็...ไง” แผ่วเบาจนไม่ได้ยิน แก้วขาวขึ้นสีน่าฟัด
  
  ยกกำปั้นบังรอยยิ้ม คนตัวเล็กขยับปากพูดคำว่า ‘ผัว’ แบบไม่มีเสียง แก้มเข้าราวกับลูกมะเขือเทศ ตาโตค้อนควับก่อนหันหลังให้
  
  
  
  น่ารักเรี่ยราดอีกแล้ว
  
  
  
  
  
  
  .......................
  
  
  
  ในห้องนอน
  
  
  ผมนั่งพิงพนักหัวเตียง มีกระต่ายตัวหอมนั่งอยู่กลางหว่างขาเอนหลังพิงอก จมูกผมฝังกับกลุ่มผมนุ่มพอดี บนตักมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กวางอยู่ ทำงานสลับตอบแชทไปมา..
  
  
  สบายไปไหม?
  
  
  
  ไอ้นิสัยถึงเนื้อถึงตัวชอบการสกินชิพนี่แก้ไม่หายสักที เป็นแบบนี้ประจำตั้งแต่เริ่มสนิทกัน เข้ามาคลอเคลีย แตะนิดแตะหน่อยก็ก็เอา ไนต์ กาย ฟอร์ส ก็โดนไม่มียกเว้น ใครที่เขาสนิทด้วยโดนหมด ดีหน่อยกับคนอื่นที่ไม่สนิทไม่ยอมให้สัมผัสตัว แต่ถ้าเขาเริ่มก่อนคือไม่เป็นไร
  
  สิทธิพิเศษสำหรับคนสนิทเท่านั้น ถ้าเขาปล่อยฟรี เฟรนด์ลี่ไม่เลือกผมคงอกแตกตาย
  
  
  
  
  ขาดความอบอุ่น...
  
  
  
  อยากจะชกตัวเองแรง ๆ ที่ปล่อยให้ความคิดนั้นแล่นเข้ามาในหัว
  
  
  ...กระชับมือกอดเอวบางแน่นขึ้น
  
  
  “บันนี่”
  
  “หือ?”
  
  “เลือกสักอย่างจะทำอะไร”
  
  “โห่ ทั้งสองเลย”
  
  “เลือก” กดเสียงต่ำ
  
  “งื่อ..”
  
  สุดท้ายยอมปิดแท็บแชททิ้งแล้วเลือกงาน ก็ดี..
  
  
  แต่!!!
  
  
  สิบห้านาทีต่อมาเจ้ากระต่ายก็ปิดโปรแกรมที่ใช้ทำงานลงและเข้าเว็บเบราว์เซอร์อีกรอบ
  
  เวร...
  
  
  
  
  ..................
  
  
  
  
  “นี่”
  
  “หืม?”
  
  “เป็นไส้เดือนหรือไงไซร้อยู่ได้”
  
  “หึ ..ชอบ” ทำเสียงฮึดฮัดในคอ แต่แก้มยกเหมือนกลั้นยิ้ม เงยคางบนไหล่บาง หึหึ
  
  
  
  ชอบ...
  
  
  ชอบกลิ่นหอมประจำตัวเขา
  
  ชอบผิวนุ่มนิ่มของเขา
  
  ชอบนิ้วเรียวยาวของเขา
  
  ชอบมือคู่นี้ของเขา
  
  ชอบตัวเองเวลาอยู่กับเขา
  
  (ไม่ต้องเก๊ก ไม่ต้องปั้นหน้านิ่ง อยากยิ้ม อยากหัวเราะ ก็ทำได้โดนไม่ต้องแคร์ เป็นตัวของตัวเอง)
  
  ชอบที่สบายใจเมื่ออยู่กับเขา
  
  ชอบ...
  
  ชอบทุกอย่างที่เป็นคนคนนี้..
  

  
  
  .......................
  
  
  
  Jarinya Bmj like this photo from OfQuartz
  
  
  “oh my god..” เสียงหวานครางแผ่ว บะหมี่ปล่อยไก่มาทั้งเล้า
  
  
  OfQuartz
  
  เด่นหรา รูปโปรไฟล์เป็นรูปคนของผมในมุมแอบถ่าย
  
  
  แฟนเพจของบันนี่..ท่าทางจะช็อคไม่เบา
  
  
  เลื่อนเม้าส์คลิก ‘About’
  
  
  ‘สวัสดีค่ะทุกคน ขอชี้แจงก่อนว่าเพจนี้คือเพจแฟนคลับ
  ย้ำนะคะว่า ‘แฟนคลับ’ ของพี่ควอทซ์ รักษ์ธิสุทธ อัครไพศาลกุล
  คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
  
  Contact
  
  FACEBOOK : Rukthisud Qrtz
  
  TWITTER : THE8QRTZ
  
  INSTAGRAM : the8qrtz’

  
  
  
  บอกซะครบ...
  
  
  “เชี่ย.. อะไรวะเนี่ย”
  
  ผมพอรู้มาบ้างว่ากระต่ายของผมมีแฟนคลับ เขาฮอตนะครับ แต่ไม่ค่อยจะสนใจเลยไม่รู้ตัว
  
  แฟนเพจนี้ผมก็รู้ ไนต์เป็นคนบอก ‘เฮ้ย คนของมึงมีแฟนคลับว่ะ น้องปีไหนไม่รู้กูไม่ได้จำ ทักแชทกูมา หนูขอทำแฟนเพจพี่คอวทซ์นะคะ’ ไนต์มาบ่นอยู่หลายวัน จะทำเพจไอ้เห็ดทำไมไม่บอกมันเองวะ มาบอกกูเพื่อ! นั่นก็แค่บ่น แต่ที่มันบอกน้องเขาคือ.. ‘เอาเลยครับ ตามสบาย ส่งให้พี่ด้วย’ หึ
  
  แต่มีคุยกันนอกรอบ กำชับอย่างหนักว่าอย่าทำให้กระต่ายตัวขาวเสียหาย
  
  
  
  “คนไลค์เป็นหมื่นเลยแฮะ” อันนี้ไม่ชอบเท่าไหร่ มีคนรู้จักกระต่ายของผมเยอะไป ไม่ดีครับ ผมหวง
  
  “ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ไม่นาน.. ประมาณสามสี่เดือนแค่นั้นเอง
  
  “บะหมี่กับหมาไนต์ไลค์ด้วย อะไรวะ มิกิ พี พี่สอง... เหี้ยยยย ทำไมกูไม่รู้เรื่อง!” ไล่ชื่อเพื่อนที่คนไลค์มาเกือบหมด เหอ ๆ งานเข้าพวกมึงแล้ว
  
  “ใจเย็น”
  
  “มึงก็รู้ใช่ไหม?” ถามเสียงแข็งโป๊ก หันควับมามอง แก้มนุ่มชมปลายจมูกผม
  
  “รู้”
  
  “ทำไมไม่เคยบอก!”
  
  “น่า..”
  
  “ฮึ่ยยย”
  
  “ไม่ชอบก็อินบ็อกซ์ไปบอกให้เขาลบก็ได้ ไม่งั้นก็ให้ไนต์คุยให้”
  
  “..ยังไม่ได้พูดเลย..”
  
  ผมเงียบ
  
  “..ปกติเจอแต่คนไม่ชอบ แล้วนี่มาเจอแฟนเพจแบบนี้ให้ช็อคบ้างดิ..”

  
  
  
  อ่า....
  
  
  “น่าตกใจตรงไหน”
  
  “ไม่รู้ดิ กูเจอแต่คนที่ไม่ชอบกู ตั้งแง่ใส่ โดนหมั่นไส้ ไม่คิดว่าจะมีคนชอบด้วย” น้ำเสียงเรียบเฉยขัดกับแววตาวูบไหว
  
  
  กระต่ายขาวไล่ดูโพสต์ทีละโพสต์ รูปทีละรูป เซฟไปด้วยแทบทุกรูป
  
  บางรูปก็แอบถ่าย แต่ถ่ายออกมาได้สวยมาก ถ้าจำไม่ผิดเหมือนคนทำจะเรียนสาขาภาพถ่ายด้วย
  
  บางรูปก็เอามาจากอินสตาแกรม(แน่นอนว่าของคนรอบตัวกระต่ายด้วย)
  
  
  
  ....................
  
  
  
  “เล่าเรื่องตอนเด็กให้ฟังหน่อยสิ” พูดพลางลูบมือขาวไปมา คอมพิวเตอร์ถูกปิดและวางที่โต๊ะข้างเตียง เรื่องแฟนเพจผมถูกซักฟอกจนขาวสะอาด
  
  
  “ตอนเด็ก ...เป็นเด็ก จบ!”
  
  “เอาดี ๆ”
  
  “ปกติเอาไม่ดีเหรอ?” เกรียนแตกอะไรตอนนี้ เดี๋ยวก่อก็ ‘เอา’ ซะหรอก
  
  “อยากโดน?”
  
  “ไม่ ๆๆ เล่าก็เดะ!” ขยับตัวยุกยิกหาท่าสบาย
  
  “ตอนเด็ก ๆ ตัวเล็กนิดเดียว โดนแกล้งก็บ่อย ตั้งแต่อนุบาลจนประถม มาไฮสคูลก็ยังโดนอยู่อีก อ่า..เคยต่อยหัวโจกตอนอยู่ ป.2 ด้วย เลือดกลบปาก ฟันหัก สะใจมาก ถูกเรียกผู้ปกครองมาพบ โดนคุณย่าดุด้วย แต่คุ้มมาก
  
  หัวโจกคนนั้นชื่อเปา ตัวกลม ๆ อวบ ๆ ขาว ๆ เหมือนซาลาเปา จำหน้าไม่ได้แล้ว บ้านเป็นภัตตตาคารอาหารจีน มันชอบล้อ แล้วก็พาพวกมาแกล้ง ทนไม่ไหวเลยซัดแม่ง ร้องไห้แง วันต่อมาเรียกกูลูกพี่เฉย งงมาก จำได้จนวันนี้”
  
  “พอจบป.6 แล้วตอนนั้นย่าป่วย เลยไปเมกากับย่า  เรียนอยู่ที่นั้น จนพอย่าหายดี ก็เลยอยู่ที่นั่นต่อคนเดียว ไม่เชิงว่าคนเดียวสิ มีคุณลุง รุ่นพี่ของป๊าค่อยดูแลด้วย ที่พักใกล้ ๆ กัน
  
  เพื่อนคนแรกที่เมกาชื่อวิคตอเรีย เป็นผู้หญิงตัวสูงมาก สวยด้วย แต่นิสัยแมนมาก! วีรกรรมเด็ดสุดตอนเกรดสิบสอง วิคตอเรียถีบอกฝรั่งหัวทองเจ้าถิ่นตัวบึกเป็นนักบาสด้วย กระแทกกับตู้ล็อกเกอร์ดังโครม โหดมาก นี่เอ๋อไปเลย วิคเตอร์ แฝดน้องของวิคตอเรียมาเล่าให้ฟังทีหลังว่าไอ้คนนั้นน่ะเป็นคนเอาหนอนมาเทใส่ล็อกเกอร์กู นึกแล้วแหยงไม่หาย หนอนยั้วเยี้ยะเป็นร้อยตัว แอ้ะ”
  
  “ไม่สู้คนหรอ ทำไมปล่อยให้ตัวเองโดนแกล้งวะ”
  
  “เปล่าหรอก แค่ไม่อยากให้ยุ่งวุ่นวาย เกลียดรองจากหนอนก็ความวุ่นวายนี่แหละ ...ไม่สู้คนบ้าไร ผมนี่เทควันโดสูงสุดนะบอกไว้ก่อน อย่าหือกับพี่นะน้อง” ตบแก้มผมเบา ๆ
  
  “หึ เล่าต่อสิ”
  
  “อื้ม.. จากนั้นหรอ ก็มีคนมาสารภาพรัก เกือบได้เป็นแฟนกันล่ะ คนนั้นเป็นผู้ชายด้วย ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ คนญี่ปุ่น ชื่อไดกิ น่ารักมากกกกกกกกกกก ตัวเล็กกว่ากูอีก ทุกวันนี้ยังเสียดาย จะมีเมียแต่ดันมาพลาดให้มึงเนี่ย ชิ”
  
  “หึหึ หน้าอย่างนี้หาเมียไม่ได้หรอก”
  
  “ดูถูก!”
  
  “เล่าต่อสิ ทำไมแค่เกือบ?”
  
  “อ้อ แม่ง! นึกแล้วแค้น วันนั้นเรียบจบแล้ว ก็มีปาร์ตี้กันใช่มะ กับไดกิก็ไม่ได้รักหรือชอบอะไรหรอก ที่เกือบยอมนั่นเพราะเกรงใจหน้าตาน่ารัก ๆ นั่นต่างหาก
  
  แต่โดนไอ้บ้านักบาสนั่นเข้ามา บอกมีเรื่องจะคุยด้วย คะยั้นคะยอให้ดื่มมาร์การิต้า สุดท้ายโดนวางยา แต่วิคเตอร์ไปช่วยทัน ทุกวันนี้ก็ไม่เคยดื่มมาร์การิต้าห่าเหวอะไรนี่อีกเลย เข็ด จบ! กับไดกิก็ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้ติดต่อ มารู้ทีหลังว่านักบาสคนนั้นแอบชอบไดกิ ที่แกล้งกูเพราะหมั่นไส้ที่ไดกิมาชอบ หน้าตาดีก็อยู่ยากเนอะ แย่ ๆ”
  
  “ยาอะไร”
  
  “แค่ยานอนหลับ ทำไมอะ คิดว่ายาปลุกเซ็กส์เหรอ”
  
  “อืม”
  
  “ฮ่า ๆ คิดมากนะเราน่ะ”
  
  “ถ้าเพื่อนไปช่วยไม่ทัน..”
  
  “ถ้าไม่ทันเหรอ.. คงโดนอะไรไม่รู้ หลับอยู่นี่” กูจะบ้า!!!!
  
  “เล่าที่บ้านด้วย”
  
  “ชาติที่แล้วเกิดเป็นแบบสอบถามหรือไง!”
  
  “อยากรู้เรื่องเมียไม่ได้หรือไง” เสียงอู้อี้เพราะซุกหน้ากับคอขาว
  
  “อ่า.. ที่บ้านหรอ มีคุณย่า ป๊า หมูปิ้ง มดแดง ป้าอิ่ม พี่แก้ว ลุงชื่น น้ามิ่ง แม่บ้านคนอื่น ๆ ด้วย คุณปู่เสียตอนนี่อายุ 11 มั้ง นอกจากนั้นก็มี ไนต์ ฟอร์ส กาย แล้วก็...นี่”
  
  จิ้มนิ้วที่อกผมตรงคำว่า ‘นี่’
  
  “ครอบครัว?”
  
  “ช่ายยยยยยย ครอบครัว You guys are my family!”
  
  อยากยิ้ม...แต่ยิ้มไม่ออก
  
  “นอนกันเถอะ ง่วงแล้ว” ออกจากอ้อมแขมผมไปปิดไฟ ทิ้งตัวนอนบนเตียงที่ประจำ เพิ่งจะผ่านสี่ทุ่มมาแค่ไม่กี่นาที..
  
  “แล้วแม่ไปไหน ไม่เห็นพูดถึง” อาจจะดูใจร้ายไปหน่อย รู้ทั้งรู้แต่ยังถาม จี้ใจให้อีกคนเจ็บช้ำ
  
  
  
  “...ไม่มี...” เสียงหวานแผ่วเบา ปลายนิ้วที่ลูบเสียงผมนุ่มชะงัก
  
  “...ไม่รู้...ไม่เคยเห็น! อึก”
  
  “บันนี่”
  
  “ไม่เคยรู้จัก ..แม้แต่ชื่อยังไม่รู้เลย ฮื่อ..”
  
  “บันนี่ ขอโทษ..อย่าร้องนะ..” พูดเหมือนคนโง่
  
  ดึงตัวกระต่ายขาวมากอดไว้แนบอก ลูบแผ่นหลังบางเบามือ หยดน้ำอุ่นสัมผัสกับผิวกายราวกับน้ำกรดกัดเซาะให้เจ็บแสบ
  
  ผมหลับตานิ่ง กร่นด่าตัวเองในใจ
  
  ทำคนที่รักต้องเสียน้ำตาจนได้

  
  ไอ้โง่!
  
  รังสิมันต์ คนโง่!!
  
  
  
  
  END OF RIFLE’s PART






----------------------------------TBC----------------------------------
รังสิมันต์คนโง่.. T_________T

----------------------
เบื่อยัง? ห้ามเบื่อนะ ไม่ให้เบื่อ
วันนี้ครบรอบห้าเดือนแหละ เย้
 :m3: :m3: :m3:
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ รักทุกคนเลยยยยยยย  <3
 :กอด1: :mew1: :L1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 10-03-2015 20:45:06
สงสารบันนี่ถ้ารู้ว่าแม่เป็นใคร
คงเจ็บปวดไม่น้อย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-03-2015 21:02:32
ตามไปไลค์แฟนเพจบันนี่
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-03-2015 21:17:35
ฮือพี่ไรเฟิล ทำบันนี่น้อยร้องไห้อะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 10-03-2015 21:33:43
สงสารบันนี่ เรื่องคุณแม่เหมือนเดิม

พารท์นี้ อิเฟิล น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไรเฟิลดูพูดมากขึ้น กวนขึ้นด้วย ถึงตอนท้ายจะทำบันนี่น้อยร้องไห้ก็เถอะ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 11-03-2015 00:01:33
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 11-03-2015 00:17:28
 :-[
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 11-03-2015 00:48:38
กระต่ายน้อยน่ารักอ่าาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 11-03-2015 02:25:25
 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:อ่านตามทันแล้ววววววว :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 11-03-2015 05:37:25
ปลอบบันนี่เลยๆๆๆๆนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 11-03-2015 07:10:50
สงสารบันนี่ :mew2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 11-03-2015 13:47:02
โถ่ๆๆๆๆ น้องบันนี่ หวังว่าเรื่องนี้คงไม่มาม่านะ
ไม่อยากเห็นบันนี่ร้องไห้
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 11-03-2015 14:58:44
ไม่อยากเห็นน้องบันนี่ร้องไห้เลยยยยยย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-03-2015 18:12:15
ได้กลิ่นมาม่าลอยมาแล้ว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: loveatalltime ที่ 11-03-2015 19:32:54
ชอบบันนี่จัง เป็นกำลังใจให้คนเขียนน้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 11-03-2015 22:41:54
บันนี่ อย่าร้องไห้ มีพี่ไรเฟิลอยู่ข้างๆล่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: smilepengy ที่ 12-03-2015 09:13:45
ชอบความรักของเพื่อน หวงเพื่อน เหมือนลูก 555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 12-03-2015 13:04:42
อว๊ากกกกส์น่าร้าาาากอ่า.  บันนี่
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 12-03-2015 19:01:04
ไรเฟิล...เค้ากวนนนนมากกกกก!!!

น่าจะเก็บกดดดด...!!!
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 13-03-2015 22:42:17
จะทันแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 35 (10.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-03-2015 09:39:37
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 14-03-2015 20:41:46
EPISODE 36





  กราบสวัสดีผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน... กลับพบกับผม นาย รักษ์ธิสุทธ คนหล่อเหมือนเดิมแล้ว เย้!! หลังจากโดนยักษ์หัวเงินแย่งไปสามตอนเน้น ๆ ฮอลลลลล
  
  
  
  
  ชีวิตช่วงนี้ก็โอนะ
  
  .
  
  .
  
  .
  
  .
  
  .
  
  .
  
  โอโหไอ้สัดจะตายแล้ว!!!
  
  
  
  มรสุมรุมเร้า รู้สึกเข้าใจประโยคที่บอกว่า ‘ครูคือผู้ให้’ ของคนไทยอย่างถ่องแท้ก็วันนี้
  
  
  
  ให้จริง ๆ
  
  
  ....ให้งานและการบ้านมากมายมหาศาลละเกิล~
  
  
  
  
  วันนี้เป็นอังคาร ผมนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของคุณชายรังสิมันต์ มาที่นี่ทำไม? ตอบครับ... เนื่องจากเราตกลงกันว่าถ้าสัปดาห์นี้อยู่หอผม สัปดาห์ถัดไปก็ต้องมาอยู่ที่คอนโดคุณชาย(จริง ๆ โดนไรเฟิลมัดมือชก) สลับไปมาแบบนี้ เพราะไรเฟิลชวนผมมาอยู่ด้วย แต่ผมไม่ยอม เลยมีข้อตกลงนี้ขึ้นมา งุงิ
  
  
  แหม~ คุณครับ จะให้ผมตกลงเลยมันก็ดูง่ายไป ขอเล่นตัวบ้างได้ไหมล่ะ ห้ะ!
  
  
  
  
  ผมแกร่วอยู่คนเดียว สวมวิญญาณโปรแกรมเมอร์ระดับเทพ ภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ชิ้นนี้คือ....สร้างโปรแกรมก็อะไรหนึ่งโปรแกรม มีเวลาให้สามสิบวันหรือหนึ่งเดือนนั่นแหละครับ อาจารย์สั่งตั้งแต่ต้นเดือน เพิ่งจะมาเริ่มทำตอนกลางเดือน ไม่ต้องเข้าม. เพราะได้งานมาแล้ว ชิลปายยยยยย~
  
  
  
  เมื่อวันก่อนเพิ่งได้ไวรัสตัวใหม่จากพี่แธทมาด้วย แจ่มว้าวมาก! ยกนิ้วให้เลย ฮิฮิ
  
  
  พี่แธทคือใคร? พี่แธทคือลูกชายของคุณลุงซึ่งเป็นรุ่นพี่ของป๊า(คนที่คอยดูแลผมตอนยังอยู่เมกา) พี่แธทเป็นคนแรกที่สอนผมให้เป็นโปรแกรมเมอร์และแฮกเกอร์ อยากจะบอกว่าพี่คนนี้เทพมาก ขอคารวะ!
  
  
  
  นอกจากเก่งแล้วยังหล่อมากด้วย เสียใจครับสาว ๆ พี่ชายผมคนนี้แต่งงานมีลูกแล้ว
  
  
  
  “โอ๊ย...” ร้องโอดโอยเมื่อขยับตัวแล้วตะคริวแดก ...นั่นก็ส่วนนึง แต่สาเหตุหลักคือเมื่อคืน T_____T เชี่ยไรเฟิลมันยิงประตูโผมมมมมมมม! โหดร้ายมากไอ้ยักษ์! มันเอาวันครบรอบสองเดือนมาหลอกให้ผมสมยอม!! ร้ายมาก! กูผิดเองก็ได้ ขอโทษที่ใจง่าย ฮือ
  
  
  
  ตอนเช้ายักษ์หน้าบลิ้งมาก อารมณ์ดีสดใส แฮฟอะไนซ์เดย์ ไปเรียนด้วยความอะเลิร์ทสุด ๆ ส่วนผมน่ะเหรอ!! เหอะ!! ขุดตัวเองออกจากเตียงได้ก็เก่งฉิบหายแล้ว แม่ง!
  
  อย่าเผลอแล้วกันพ่อจะเสียบให้!
  
  
  
  ครืด~ ครืด~
  
  พูดถึงยักษ์ ยักษ์ก็มา
  
  “โหล”
  
  (“กินข้าวยัง?”) เหลือบมองมาม่ากระป๋องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ
  
  “กินแล้ว”
  
  (“กินอะไร”)
  
  “มาม่า”
  
  “.......”
  
  อ้าว อย่าเงียบเด้ะ!
  
  “เงียบไม..”
  
  (“ไปกินข้าว”)
  
  “ฮือ.. อิ่มบะหมี่แล้ว ขี้เกียจ เจ็บ!”
  
  (“เฮ้อ...เดี๋ยวปวดท้อง”)
  
  “ค่อยกินยาเอาก็ได้...”
  
  (“...เป็นห่วง ...นะครับ”) แม่เง้ยยยยยยยยยยยยย! ใครบอกให้ใช้เสียงอบอุ่นแบบนี้!! อยากได้อะไรบอก ควอทซ์ยอมทุกอย่างเลย พ่ายมาก T_____T
  
  “..ก็ได้”
  
  (“เด็กดี”)
  
  “แง.. ไรเฟิลลลล~”
  
  (“หืม?”)
  
  “อยากอ้อน เง่ออออ” ได้ยินปลายสายหัวเราะ ช่างแม่ง ไม่เห็นหน้า ไม่อายเว้ย!
  
  (“อีกสองชั่วโมง”)
  
  “ตั้งสองชั่วโมง..”
  
  (“ไม่งอแงเนอะ”) จะงอแงเพราะมึงพูดนี่แหละ! ฮืออออออ
  
  “ง่ะ.. สั่งข้าวให้เลย”
  
  (“อยากกินอะไรละ?”)
  
  “ไม่รู้ สั่งมาเหอะ”
  
  (“อะฮะ”)
  
  “.......” และก็เข้าสู่ความเงียบเมื่อไม่รู้จะคุยอะไร ในที่สุดไรเฟิลก็เป็นคนเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง
  
  (“....บันนี่”)
  
  “ว่า?”
  
  (“...miss you”)
  
  “คิดถึงก็กลับมาาาาาาาา”
  
  “อ่า... อยากกอด อยากหอม อยากจูบ อยาก...”
  
  “หยุด!!! Stop it now!!” เริ่มหื่นล่ะไอ้นี่
  
  “..โดดเรียนแม่ง!” สายถูกตัดไปพร้อมกับความงงของผม อะไร เมื่อกี้ว่ายังไงนะ ฟังไม่ทันโว้ยยยยยยย!
  
  
  
  .........................
  
  
  
  “5555555555555” ผมหัวเราะลั่นกับคำพูดของไรเฟิล
  
  (“หัวเราะไปเถอะ”)
  
  “55555 ตั้งใจเรียนหน่อยเด็กน้อย”
  
  (“เด็กน้องพ่อง!”)
  
  “ไป ๆ ไปเรียนได้แล้ว” ไรเฟิลบ่นไม่เป็นาษาทำให้ผมปล่อยก๊ากออกมาอีกจนได้
  
  ‘ไปไม่ได้แล้วว่ะ มาเทสต์เหี้ยไรตอนนี้!’
  
  
  เพิ่งเข้าใจว่ามันจะโดดเรียนมาหา แต่โดนมารผจญเสียก่อน คุณต้องได้ยินเสียงมันบ่น อย่างฮา!
  
  
  กินข้าวจากรูมเซอร์วิสที่ไรเฟิลสั่งมาให้ไปดูทีวีไป (ถ้าคุณชายอยู่มานั่งกินข้าวที่ห้องนั่งเล่นแบบนี้ไม่ได้นะครับ มันจะด่าเอา ใจร้ายมาก!) มีความสุขสุด สบายจายยยยยยยยย
  
  
  
  ...................
  
  
  
  ผมกลิ้ง ๆ นอน ๆ อยู่ในห้องไม่ได้ออกไปไหน อย่างเก่งก็ระเบียงแค่นั่น แดดประเทศไทยน่ากลัวมากครับ อยู่นานไม่ได้ จะไหม้เอา
  
  
  ได้ยินเสียงกุกกักจากด้านนอกแผ่ว ๆ พร้อมกับเสียงตึก ๆ ของคนเดิน
  
  
  ไรเฟิลคงกลับมาแล้ว ...แกล้งหลับดีกว่า
  
  
  มุดผ้าห่มจัดแจงท่าทาง คว้าพี่หมีที่กายซื้อให้เมื่อวันเกิดมากอด หลับตาพริ้ม หายใจเข้าออกให้สม่ำเสมอ เผยอปากเล็กน้อย
  
  ...นี่คนหรือบีบีครีม
  
  
  
  แกร็ก...
  
  
  เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ รู้สึกถึงเงาที่ทาบลงมาจากนั้นไม่นานปากของผมก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของอีกคนด้วยสัมผัสบางเบาแล้วผละออก
  
  อ๊าาาาาาาาาาาา! เขิน -///////////////-
  
  
  ผมแอบลืมตามอง เห็นคุณชายกับกำลังเปลี่ยนชุด (ถอดเสียงเชิ้ตนักศึกษาออกแต่ยังไม่ถอดกางเกง) หูยยยยย แผ่นหลังน่ากอดฉิบ (แอบเห็นรอยข่วนด้วยง่ะ ตายละ -////-)
  
  และสบโอกาสเมื่อร่างสูงทำขวดสเปรย์ตกจนเกิดเสียงดัง ผมเสียงงัวเงีย ขยี้ตาด้วยความสะลึมสะลือ ไรเฟิลหันมามองขยับปากไม่มีเสียงว่า ‘Sorry’ แล้วเดินมาหา
  
  
  “นอนต่อไหม?”
  
  “ไม่ ..เมื่อกี้...แกล้งหลับ แบร่!” แลบลิ้นใส่แล้วดึงผ้าห่มปิดหน้า
  
  ใบหน้าผมร้อนผ่าวด้วยความเขิน อ๋อยยยย เมื่อกี้สายตาดันไปเห็นรอยฟันบนไหล่กว้างเข้าพอดีน่ะสิ -//////-
  
  “นิสัย” ผมเบ้หน้า ไรเฟิลทับผมทั้งตัว
  
  “หนัก!” ไม่ขยับแถมยังทิ้งน้ำหนักลงมามากกว่าเดิมอีก เวรรรรรร! ผมเปิดผ้าห่มออกเพราะเริ่มหายใจไม่ออก(เวรกรรม) เจอเข้ากับหน้าหล่อคมในระยะประชิดแบบนี้หัวใจจะวาย
  
  
  
  “คิดถึง..” อ่า...แทบละลายกับเสียงทุ้มนั่น จมูกโด่งซุกอยู่ที่คอผมพอดี (ได้ยินเสียงมันสูดหายใจด้วย ดังฟอดเลยเชี่ยยยยยย)
  
  “ลงไป! หนัก!” ไล่ยักษ์ตัวสูงกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง ฝรั่งหัวเราะหึในคอแล้วพลิกตัวลงจากร่างผม แม่ง! ตัวไม่ใช่เล็ก ยังกล้ามานอนทับผมอีก เดี๋ยวเหอะ!
  
  
  
  “วันนี้มำอะไรมั่ง?” ดึงตัวผมไปหา คางมนเกยอกแกร่งพอดี สยิวแปลก ๆ  แอะ มือหนาวางพาดบนเอวเหนือสะโพกมาเล็กน้อย อีกข้างยื่นมาไล้แก้มผมเล่น ...อะไรของมัน
  
  “กิน ทำงาน กิน ทำงาน กิน กิน กิน แล้วก็กิน”
  
  “อ้วน” ดึงแก้มผมยืดออก
  
  รู้สึกตัวนิ่ม ๆ แล้วเหมือนกันครับ กล้ามเนื้อ(ที่มีอยู่น้อยนิด)ก็เริ่มหายไปแล้ว แย่ะล่ะ! ต้องเริ่มออกกำลังกายแล้ว
  
  “ทำไม อ้วนแล้วจะทำไม!”
  
  “ไม่ทำหรอก กอดแล้วนิ่มดี” บีบปากบางสวยให้เป็นปากเป็ด หนอยแหนะ!! ไอ้ฝรั่งบ้า!!
  
  “ไม่ได้เข้าชมรมหรือไง?” เปลี่ยนเรื่องถาม ขยับจมูกฟุดฟิดไม่ได้กลิ่นเย็น ๆ หลังอาบน้ำอย่างที่ควรจะเป็น อีกอย่างถ้าเข้าชมรมเจ้าตัวจะมาช้ากว่าประมาณหนึ่งชั่วโมง
  
  ไรเฟิลสั่นหัวแล้วบอกว่าโดด โอ้โห้เฮะ เป็นถึงประธานชมรมแต่ดันโดน ดีจริง ๆ
  
  “หายยัง?” งงได้ไม่นานก็เข้าใจเพราะมือที่พาดอยู่บนเอวเมื่อสักครู่เลื่อนต่ำไปวางแหมะที่สะโพก
  
  “ยังโว้ย! มึงอ่ะ...แม่ง.. ปล้ำกูทั้งคืนแถมยังทำแรงอีก” ขยับปากพูดเสียงเบา เอียงใบหน้าแนบกับอกของอีกคน อ่า.. ได้ยินเสียงหัวใจด้วยแฮะ เต้นตึกตักแรงมาก ๆ จังหวะเดียวกับผมหรือเปล่าวะ..
  
  “ปล้ำที่ไหน สมยอมเองไม่ใช่เหรอ” ร้องจิ๊ขัดใจ ไม่ได้โต้ตอบ เพราะไม่รู้จะตอบยังไง T___T
  
  
  แต่เมื่อคืนนี่มัน... พอรู้ว่าผมไม่ต้องเข้าม.ก็ได้ ไอ้ยักษ์บ้ากามก็ใส่ไม่ยั้ง ไม่ถนอมผมเลยสักนิด เลวมาก! แต่ที่น่าโมโหไปกว่านั้นคือผมที่ดันโอนอ่อนสมยอมมันทุกครั้ง!!! ฮึ่ยยย หงุดหงิดโว้ยยย ก็ให้บอกให้แม่งทำให้ผมมีอารมณ์ล่ะ!!!
  
  
  “ไม่ต้องมีอะไรกันสักสองสามเดือนมะ?”
  
  “สองสามวันก็จะตายแล้ว”
  
  “ไอ้เหี้ย!” ขยับตัวนั่งขัดสมาธิเข่าเกยบนตัวไรเฟิลหน่อย ๆ ผมเบ้หน้าเพราะยังรู้สึกเสียด ๆ
  
  
  มองหน้าไรเฟิลเงียบ ๆ ส่วนคนตัวสูงก็มองผมอยู่เหมือนกัน แล้วไม่รู้นึกยังไงถึงได้โน้มตัวลงไปประกบริมฝีปากอีกฝ่าย ผมแตะริมฝีปากไว้เฉย ๆ ไม่ได้ดูดดึงหรือสอดแทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวฟัน เหลือบตามองก็เจอกันตาตมที่จ้องมองอยู่ก่่อนแล้ว ผมหลับตาลงก่อนจะเริ่มจู่โจมริมฝีปากของไรเฟิล
  
  
  
  ...จากสัมผัสบางเบาแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นจูบลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
  
  
  
  .....................
  
  
  
  เวลาประมาณเกือบสามทุ่ม
  
  ผมกับไรเฟิลนั่งกันอยู่ที่ระเบียง บนโต๊ะมีขวดเบียร์สองขวดตั้งอยู่  จัดมุมและองศาให้ดูดีก่อนจะคว้าโทรศัพท์มาถ่ายรูปและอัพลงอินสตาแกรม
  
  ‘Clillin’ night’
  
  Knight2802 left a comment on your photo : ชิลมากไหมไอ้สัด! now
  
  เร็วไปไหมเชี่ยไนต์
  
  The8qrtz @knight2802 ชิลมากกกกกกกกก อิจฉาอ่ะดิ
  
  ตอบโต้กับไปมาก่อนจะหยุด ปล่อยให้คนอื่นคอมเมนต์ไป ผมเลื่อนฟีดดูรูปไปเลื่อนแจกใจให้บ้างข้ามบาง ลากนิ้วลงในมันโหลดใหม่ ไอ้แพคอัพรูปพอดี เป็นรูปมันฟุบหน้าบนแขนตัวเองแล้วมีชีทวางอยู่ข้าง ๆ ‘เหนื่อย’ นั่นคือแคปชั่น ผมกดไลค์แล้วคอมเมนต์ว่าสู้ ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเข้าไปแอพพิเคชั่นอื่น
  
  “มานั่งนี่” ผมสั่นหัว ไรเฟิลนั่งเหยียดขาอยู่บนเดย์เบดในมือถือขวดเบียร์ เอนหลังพิงพนักสบายใจ
  
  “เร็ว”
  
  “โว้ะ” ผมลุกจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่แล้วเดินไปหาคุณชายเอาแต่ใจ นั่งลงที่ว่างที่เจ้าตัวเว้นไว้ให้ เว้นก็เว้นตรงกลางหว่างขามันนั่นแหละ เอนหลังพิงอกกว้างเล่นโทรศัพท์ไปด้วย
  
  อ้อ! เรื่องแฟนเพจออฟควอทซ์อะไรนั่น ผมกดไลค์ไปแล้ว แฮ่ รูปผมเยอะแยะไปหมดเลย แอบถ่ายทั้งนั้น แต่ละรูปสวยมาก ผมเซฟจนเต็มเครื่อง ฮี่~ ไม่คิดว่าจะมีคนมาชอบจนตั้งแฟนเพจให้แบบนี้ แถมคนกดไลค์เป็นหมื่นอีก ช็อคซีนีม่า...
  
  “เลิกเล่น” ยักษ์ฮิตเลอร์ดึงโทรศัพท์ออกจากมือผมแล้วโยนลงบนโต๊ะ โห่... ไม่ถนอมให้กูเล้ยยยย
  
  ผมยกเบียร์ขึ้นดื่มอึกใหญ่ ใช้หลังมือปาดเบียร์ที่หกเลอะมุมปาก
  
  ท้องฟ้ามืดดำสนิทแต่กลับมองไม่เห็นดาวสักดวง..
  
  “ไปเที่ยวกันไหม?” ผมเอ่ยถามขณะยังทอดสายตามองท้องฟ้า
  
  “หืม? เที่ยวที่ไหน”
  
  “ไม่รู้สิ ทะเล ภูเขา น้ำตก หรือจะไปตั้งแคมป์กลางทะเลทรายดี”
  
  “ตลก”
  
  “ฮึ! ไปคนเดียวก็ได้”
  
  “บอกดิ จะพาไป”
  
  “ยังไม่รู้ว่าอยากไปไหน แต่อยากเที่ยวอ่ะ ไกล ๆ ขับรถชิล ๆ งี้ เบื่อกรุงเทพ”
  
  “อื้อฮึ” ผมเปลี่ยนท่า นั่งห้อยขาหันข้างให้ไรเฟิล ซุกหน้ากับไหล่กว้าง ยกมือกอดรอบคออีกคนเอาไว้
  
  “เป็นอะไร?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
  
  “ไม่รู้..ฮื่อ”
  
  “อ้อนหรืออ่อย?”
  
  “แล้วแต่จะคิด งั่ม” งับไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ หมั่นไส้ล้วน ๆ ไม่มีเอ็นดูผสม
  
  “หึหึ..จะทำให้หลงไปถึงไหน”
  
  “จนตาย”

  
  “อ่า..”
  
  “ใจเต้นแรงจัง”
  
  “เพราะใครล่ะ” ขอคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็นเพราะผมแล้วกันนะ
  
  “ไรเฟิล...”
  
  “หืม?”
  
  “เอ่อ..คือ” ผมลังเล เพราะไม่รู้ว่ามันเร็วไปหรือเปล่าที่จะพูดออกมา ยิ่งร่างสูงเงียบรอฟัง ผมก็ยิ่งประหม่า มือเย็นแต่กลับชื้นเหงื่อ หัวใจเต้นตึกตัก
  
  อ๊าาาา! ผมไม่อยากบอกแล้ว!!
  
  “จะพูดอะไร?”
  
  “งื่อ.. ไม่เอา ไม่พูดแล้ว”
  
  “อ้าว”
  
  “มัน..น่าอาย” ซุกหน้าลงหนักกว่าเดิม รู้สึกถึงความร้อนที่วิ่งไปมาบนแก้ม อ๊ากกกก หน้าผมจะไหม้แล้ว!!
  
  “บอกเถอะ”
  
  
  ฟู่.. เป่าลมจากปากก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ เรียกกำลังใจ ผมหลับตาทำใจสักพัก
  
  เอาว่ะ! เป็นไงเป็นกัน บอกก็บอก!
  
  
  
  
  
  
  
  “...รัก”
  
  
  
  
  อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก บอกแล้ววววววววววววว พูดไปแล้ววววววววววววววว!!
  
  ให้ตายเถอะ!!! ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!!!!!!!! เหมือนมีไฟลุกที่หน้าของผมเลย อ๊ากกกกกก!!
  
  เขินจะตายอยู่แล้ว แม้จะพูดเบา ๆ แต่อยู่ใกล้กันแบบนี้ยังไงก็ได้ยินชัดอยู่แล้ว ผมเพิ่มแรงกอดคอไรเฟิลให้แน่นขึ้น แต่ถ้าเงยหน้าขึ้นไปมองคงจะได้เห็นรอยยิ้มกว้างที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของคนตัวสูง...
  
  น่าเสียดาย...
  
  
  “พูด..พูดอีกทีสิ” เสียงทุ้มสั่นนิด ๆ ราวกับไม่แน่ใจ ผมส่ายหัวไปมากับอกกว้าง
  
  “ไม่เอา..พูดอะไร ไม่ได้พูด”
  
  “อ่า.. ให้ตายเถอะบันนี่”
  
  “หยุดเลย! พูดรอบเดียวพอแล้ว”
  
  “อยากฟังอีก”
  
  “บอกแต่เราทีตัวเองยังไม่เคยบอกเลย..”
  
  “ฮะฮะ..” หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเอียงหน้ามาใกล้จนริมฝีปากชิดกับใบหูของผมแล้วกระซิบแผ่วเบา แต่กลับชัดเจนในความรู้สึก หัวใจของผมเต้นระรัวพอ ๆ กับของอีกคนที่เต้นแรงไม่แพ้กัน ผมซ่อนรอยยิ้มกว้างไว้คนเดียว ไม่ให้อีกฝ่ายเห็น..
  
  
  
  
  
  
  
  “รักษ์ธิสุทธ”
  
  
  
  
  
  
  รักษ์ธิสุทธ.. ชื่อของผม.. ที่ออกเสียงคล้ายกับคำว่า. . .
  
  
  
  
  ‘รักที่สุด’

  





--------------------TBC-----------------
โอยยยยยยยยยยยยยยยย รักกันมากมั้ยยูววววววววว
หมั่นส้วยยยยยยยย  :m16: :m16:
มาบอกรงบอกรัก อี๋ ไม่ใช่ไร อิจฉา 5555555555555555555

ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ รัก ๆ เยิ้ฟ ๆ
 :yeb: :yeb:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 14-03-2015 21:26:09
หวานอะ อิจฉาจังเน้อ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 14-03-2015 21:47:11
 :impress2: :impress2: :impress2:>/////////////<


อ้ายๆๆๆๆ น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตัวบิดจะขาดแล้วววว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-03-2015 22:11:01
หวานนนนนนน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 14-03-2015 22:23:49
ตอนนี้หวานมากกกก  :-[ :-[ ยักษ์กับบันนี่น้อย โครตรน่ารัก อิจฉาาาาา สุดๆ

สกิลความุ้งมิ้งของไรเฟิล คือเพิ่มขึ้นทุกตอน :impress2: อยากโดน อิเฟิล บอกมิสยู กับ บอกรักบ้างจัง55555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 14-03-2015 22:50:32
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[โอ้ยยยยยตูเขินแทนอะ :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 14-03-2015 23:00:29
รักที่สุด

บอกเบาๆ แต่ดังไปถึงใจ

หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 14-03-2015 23:09:28
อร๊ายยยยย หวานกันเกินไปแล้ว~~~~

ทำเราเขินมากมาย เขารักกันงุ้งงิ้งดีเนอะ แต่อย่างนี้ก็ดีแล้ว  บันนี่น่ารักแบบนี้ดีกว่าร้องไห้เยอะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 14-03-2015 23:18:32
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

หวานที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

อิจฉามากกกกกกกกกกกก     :fire:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: bowtotay ที่ 15-03-2015 00:45:40
หวานเกิ๊นนนนนน อิจฉา ตาร้อน
เดี๋ยวนี้พัฒนามาน่ารัก มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง นะ คู่นี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 15-03-2015 01:07:48
ช่วยด้วยค่า!! มดกัดไปหมดเลย อิอิ หวานนนน จนอิจฉาเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-03-2015 11:31:20
หวานจริง บันนี่ชอบอ้อนชอบอ่อยยักษ์
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: F AND W ที่ 15-03-2015 12:13:35
พึ่งเข้ามาอ่านเมื่อวานอ่านรวดเดียว แบบว่าบันนี่น่ารักกกก  :hao5:   หวานกันจนมดขึ้นไม่ไหวๆอิจฉาค่ะ 55555555   :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกสมุนตัวเอฟ ที่ 15-03-2015 14:08:19
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-03-2015 15:46:25
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Cream A ที่ 16-03-2015 22:00:46
หวานกันมากๆ บันนี่น่ารักอ่า อิจฉาจริงๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 17-03-2015 21:52:32
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เราบอกตามตรง  ว่า  เราเพิ่งเข้ามาอ่านนนนนนนนนนนนนนนนนน
วันเดียวอ่านทันจนได้


หลงรักบันนี่น้อยเลยอ่ะ                 


 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 18-03-2015 01:24:06
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกค่ะ รอตอนต่อไป :pig4: :pig4: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 36 (14.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-03-2015 12:44:43
มารอน้องควอทซ์
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 18-03-2015 20:50:37
EPISODE 37







  “เอาจริงเหรอครับ?”
  
  “จริงที่สุดค่ะหลานรัก”
  
  
  ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถามกี่รอบก็ได้คำตอบแบบเดิม
  
  
  วันศุกร์แสนสุขของผมถูกพังลงเพราะคุณย่าสุดที่รักดันโทรมาเรียกตัวให้ไปพบกระทันหัน พอมาถึงที่หมายผมแทบอยากหลังกลับ ฮือ ดีนะวันนี้ไม่ได้เข้าม. (อีกแล้ว)
  
  น่าจะถามรายละเอียดก่อนไม่น่าพลาดเลยเชี่ย!
  
  คุณย่ากับอาณิช ขอร้องให้ผมเป็นพรีเซนเตอร์นาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ของอาณิชที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ ถ่ายแบบยังพอไหวแต่จะให้ผมขึ้นแคทวอล์คด้วยนี่ไม่ใช่สไตล์ แค่เดินปกติยังไม่ตรงเลย T____T
  
  “แต่ผมเดินไม่เป็นนี่นา”
  
  “ของแบบนี้มันฝึกกันได้” อาณิชพูด อาณิชเป็นผู้ายแต่..ใจเป็นหญิง ตัวขาว ๆ น่ารักมาก  เจ้าของแบรนด์นาฬิกาชื่อดัง แต่ละเรือนโคตรพ่อโคตรแม่แพงเลยขอบอก
  
  “เกิดไปทำงานอาล่มควอทซ์ก็แย่สิครับ”
  
  “ไม่ล่มหรอก มีแต่จะปัง!” ว่าแล้วก็หัวเราะกับคุณย่า โอยยยยยย
  
  “แต่ควอทซ์...”
  
  “ถือว่าช่วยอาเถอะนะ งานนี้ไม่ฟรีมีค่าตอบแทนนะ”
  
  “อะไรครับ?”
  
  อาณิชยิ้มเจ้าเล่ห์ “นาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ เรือนที่หนูใส่เดิน เอาไปเลยจ้ะ”
  
  เชี่ยยยยยยยยยยยย! ผมเบิกตา นาฬิกาที่จะเปิดตัวแต่ละเรือนมันหลายหลักเลยนะเว้ย!
  
  “ล้อเล่นหรือเปล่าอาณิช”
  
  “อาจะล้อเล่นทำไมล่ะลูก! ถ้าหนูเดินนะต้องปังแน่ ๆ หน้าตาแบบนี้เนี่ยยยยยย กำลังเป็นกระแสเชียวล่ะ ถือว่าเปิดตัวทายาทคนเดียวของอัครไพศาลกุลด้วย ดีไหมคะคุณย่า” จะไม่ตกลงเพราะอันสุดท้ายนี่แหละครับ ความวุ่นวายวิลฟอลโล่ยู - -*
  
  “นั่นสิ แต่ย่าไม่บังครับหรอก ถ้าไม่ช่วยเหลือคนรู้จักก็ดูใจร้ายไปหน่อย เด็กสมัยนี้ไม่มีน้ำใจกันเลย” คุณย่ายิ้มใจดี แต่แหม มันขัด ๆ กันอยู่นะครับย่า
  
  ผมยกมือสองข้างคล้ายยอมแพ้
  
  “โอเค! ยอมแล้วครับ ยอม!” คุณย่ากับอาณิชยิ้มพอใจ เป็นอันว่าตกลง
  
  หลังจากนั้นผมก็ถูกพาไปวัดตัว คนวัดก็อาณิชนั่นแหละ เพราะผมไม่ให้คนอื่นทำ มันยังไม่รู้อ่ะครับ จั๊กจี้ จั๊กกะดึ๋ย กว่าทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยก็บ่ายสองแล้ว และตอนนี้!!! ผมเป็นอิสระแล้วครับ!!!!!
  
  “อย่าลืมนัดของเราวันพุธนะจ้ะ”
  
  “คร้าบบบบ”
  
  “มากอดทีสิ ฟอดดด” กอดแล้วยังหอมแก้มอีก ฮือ -///////-
  
  อ่า...วันพุธ..นัดของเรา..วันถ่ายแบบ..
  
  
  T_____T
  
  
  
  
  ...................................
  
  
  
  
  ผมเดินเล่นในศูนย์การค้ารอเวลาที่จะไปรับไรเฟิลที่มหาวิทยาลัย วันนี้พี่ท่านไม่ได้ขับรถไปครับ ไม่รู้นึกยังไง ผมเลยต้องไปส่ง แต่เห็นบ่น ๆ ว่าปวดหัว ตัวรุ่ม ๆ ด้วย
  
  กระซิบ ๆ ผมจะบอกความลับของไรเฟิลให้ฟังครับ ..เห็นตัวโต ๆ แบบนั้นน่ะ คุณชายแม่งกินยายากฉิบหายเลยครับ! ผมทั้งกล่อมทั้งเว้าวอน พี่ท่านปฏิเสธอย่างเดียว จนต้องเล่นบทโหดนั่นแหละ กินไปรอบแรกแม่งสำรอกออกมาเลย เล่นเอาผมกังวล แต่จะไม่กินก็ไม่ได้อ่ะเนอะ
  
  
  
  “แฮ่!!”
  
  “เชี่ย!” ผมหลุดสบถออกมาเมื่ออยู่ ๆ มีใครไม่รู้มาแตะไหล่แล้วยังทำเสียงให้ตกใจอีก
  
  “ไอ้เด็กเวร” เป่าลมจากปากอย่างโล่งอกพอรู้ว่าเป็นใคร
  
  ฟาโรห์นั่นเอง จำได้ป่ะครับ น้องชายไรเฟิลไง
  
  “พี่มาทำไรอ่ะ?”
  
  “เดินเล่น ..โดดเรียนหรือไง?” มองฟาโรห์ที่อยู่ในชุดไปรเวท แถมนี่ยังเป็นวันธรรมดาอีก อีกอย่างยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนด้วย
  
  “โห่... ปิดเทอมแล้วคร้าบบบ” อ่า.. ลืมไปว่ามหา’ลัยกับมัธยมปิดเทอมไม่ตรงกัน
  
  “อ้อ..”
  
  “ป่ะพี่ ไปกินข้าวกัน ผมเลี้ยง”
  
  “เฮ้ย! เดี๋ยวดิ!” ไม่ทันแล้ว แม่งลากผมเลยอ่ะ ได้เด็กยักษ์นี่! นิสัยเผด็จการนี่ถูกถ่ายทอดทางดีเอ็นเอหรือไง...
  
  
  
  .....
  
  
  
  
  ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง...
  
  “พี่ควอทซ์!”
  
  “สวัสดีครับน้องฟิงซ์ สวัสดครับ” ผมทักน้องฟิงซ์ แล้วยกมือสวัสดีผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างน้องฟิงซ์ด้วย
  
  “พี่ นั่นแม่ผม ..แม่ครับ นี่พี่ควอทซ์ครับ” ฟาโรห์พูดเป็นภาษาอังกฤษ ผมไหว้เธออีกรอบ
  
  
  เดี๋ยวนะ..
  
  แม่ฟาโรห์.. แม่ฟาโรห์ก็แม่ไรเฟิลอ่ะดิ!!!
  
  ตัวชาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว...
  
  “ฟา..” ผมกระตุกชายเสื้อเด็กแสบข้าง ๆ
  
  “เฮ้ยยย กลัวไรพี่ แม่ผมใจดี เนอะ”
  
  “ช่ายยยยย” น้องฟิงซ์ผสมโรง
  
  
  ผมถูกฟาโรห์ดันเข้าไปนั่ง แล้วก็ดันนั่งตรงข้ามกับคุณแม่ของมันด้วย อ๊อยยยยย เกร็งสุด ๆ
  
  ไรเฟิลช่วยด้วยยยยยยยย T_____T
  
  
  “So cute~!” กระพริบตาปริบ ๆ คุณแม่ไรเฟิลยิ้มหวานหยด โอยยย ใจจะละลาย ท่านสวยมาก ๆ ..ผมเกาแก้มแก้เขิน เห็นน้องฟิงซ์กระซิบอะไรกับท่านไม่รู้
  
  “Where is my boy?”
  
  “He was at university” ก็พอรู้มาบ้างว่า my boy, my girl คือคำที่คุณแม่ไรเฟิลใช้เรียกลูก ๆ น่ารักดีครับ ไรเฟิลเคยเล่าให้ฟัง
  
  “I’m hungry!!” หลังจากที่น้องฟิงซ์พูด เราก็สั่งอาหารกัน ภาษาที่ใช้สื่อสารล้วนแต่เป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น โชคดีที่ผมรู้เรื่อง ไม่งั้นมีมึน
  
  
  ฟาโรห์แอบกระซิบว่าคุณแม่ของมันฟังภาษาไทยรู้เรื่อง พูดได้แต่ไม่ชัด เพราะฉะนั้นครอบครัวนี้เลยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลััก และผมเพิ่งรู้ว่าไรเฟิลมีตั้งเจ็ดเชื้อชาติ!!!
  
  
  “คุณแม่มองแบบนั้นพี่ควอทซ์ก็เขินแย่สิคะ”
  
  “ก็น้องควอทซ์น่ารักนี่ค่ะ ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกแน่ะ”
  
  “หา..?” รูป.. รูปอะไรครับ!
  
  “อ้อ.. แม่เห็นรูปพี่จากพี่ไรเฟิลน่ะ ส่งมาให้ตลอด”
  
  “เดี๋ยวนะ..”
  
  “แม่รู้เรื่องที่พี่กับพี่ชายผมเป็นอะไรกันด้วย” บอกแล้วยักคิ้วให้
  
  “O_O!!!”
  
  “ผ่านไหมคะคุณแม่?” ผมกลื้นน้ำลายเอือก คุณแม่ไรเฟิลมองผมยิ้ม ๆ แล้วพยักหน้าตอบคำถามน้องฟิงซ์
  
  “ผ่านค่ะ! หน้าตาน่ารัก มารยาทก็ดี พูดก็เพราะ ไรเฟิลตาถึงนะเนี่ย”
  
  อ๋อยยยย หน้าจะไหม้อยู่แล้ว เขินนะเชี่ย -/////////-
  
  การมาเจอแม่สามี เอ๊ย! แม่แฟนแบบไม่ได้ตั้งใจแบบนี้มันเหนือความคาดหมายมาก ๆ แล้วท่านยังบอกว่าชอบผมอีก ใจเต้นตุบ ๆ ใจชื้นมาบ้างแล้ว อย่างน้อย ๆ ครอบครัวไรเฟิลส่วนมากก็ชอบผมล่ะว่ะ (ยังไม่เคยเจอพ่อกับพี่สาว T___T)
  
  
  
  คุณแม่(ทีแรกเรียกคุณป้าแล้วถูกบังคับให้เรียกแม่ เผด็จการทั้งบ้าน!)บอกว่ารู้เรื่องของผมตลอดเพราะไรเฟิลเล่าให้ฟัง แล้วที่มันขอผมเป็นแฟนกับถามท่านก่อนด้วย (ถ้าแม่ไม่ยอมมึงจะขอกูเป็นแฟนม้ายยยยยย) แล้วยังบ่นอีกว่าไรเฟิลไม่ยอมพอผมไปเจอสักที
  
  ผมได้แต่ยิ้ม ยิ้มจนเมื่อยแต่หุบไม่ลง ก็คนมันมีความสุขอ่ะ ใครจะทำไม!
  
  
  
  
  
  หลังจากทานข้าวกันเสร็จก็เดินย่อยครับ ย่อยด้วยการเดินถือถุงช็อปปิ้งให้สาว ๆ ฟาโรห์บ่นว่านอกจากเป็นลูกก็เป็นคนถือของนี่แหละ 55555 หน้ามันตลกมาก ระหว่างที่คุณแม่กับน้องฟิงซ์เลือกของผมกับฟาโรห์ก็ยืนคุยกันอยู่หน้าร้าน
  
  
  แล้วเราก็มาที่ร้านร้านหนึ่ง เป็นร้านเสื้อผ้าครับ แบรนด์เดียวกับเสื้อที่ผมใส่ตอนนี้เลยนี่หว่า.. จำได้ว่าไรเฟิลเป็นคนซื้อมา
  
  “ร้านของแม่น่ะ” ฟาโรห์บอกมางี้ มิน่า พนักงานถึงต้อนรับดีจัง
  
  
  ออกจากร้านเสื้อผ้าก็ต่อที่ร้านรองเท้าจากนั้นก็ไปร้านกระเป๋าแล้วไปเครื่องประดับ บลา ๆๆ อยากจะบอกว่าเหนื่อยมาก!! ถึงผมจะชอบแฟชั่นแต่แบบนี้ก็ไม่ไหวครับ ขาจะลาก ฮื่อ
  
  
  “ฟา...เมื่อย”
  
  “555 โอเค เดี๋ยวผมบอกแม่ให้” แล้วมันก็แวบเข้าไปในร้าน คุยกับแม่สองสามประโยคก็ออกมา
  
  “คุณแม่ขอโทษนะคะ พอดีเพลินไปหน่อย แหะๆ” ยิ้มตาปิดเหลือขีดเดียวแบบนั้นคิดว่าผมจะโกรธไหมครับ...
  
  “เอ่อ..ผมขอไปนั่งรอที่คาเฟ่ได้ไหมครับ?”
  
  “หืม.. ได้ค่ะ ไปกันทั้งหมดนี่เลย คุณแม่ก็เริ่มจะเมื่อยแล้วเหมือนกันค่ะ”
  
  
  ตามนั้นครับ
  
  
  
  .................
  
  
  
  
  ครืด~ ครืด~
  
  
  Q’s
  
  “อื้อ?”
  
  (“อยู่ไหน?”) เหลือบตามอง เห็นทั้งสามคนกำลังมองมาที่ผม -/////-
  
  “อยู่ที่ CCC อ่ะ”
  
  (“ดีเนอะ ไม่มารับ”)
  
  “O_O เฮ้ยยยยยยยยย ขอโทษษษษษ” มองนาฬิกาบนข้อมือขวา บ่าสามสี่สิบแปดแล้ว ไรเฟิลเลิกเรียนบ่ายสามโมงตรง ไม่ได้เข้าชมรมเพราะผมห้าม เวร.. เวรแล้ว
  
  (“...............”) แย่ล่ะ เงียบใส่ผมอ่ะ TT0TT ยกโทรศัพท์ออกห่างก่อนจะพูด
  
  “เอ่อ.. ผมขอตัวก่อนได้ไหมครับ?”
  
  “รีบไปไหนคะ ธุระด่วนเหรอคะ?”
  
  “ผมต้องไปรับไรเฟิลอ่ะครับ” คุณแม่ฉีกยิ้ม
  
  “เดี๋ยวแม่คุยให้ค่ะ”
  
  “อ่า..ครับ”
  
  “Hi, Fiona --Yes that me --oh your love here with me --calm down my boy --haha O.K. See you bye.” คุณแม่ยิ้มอย่างนึกสนุก ผมมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปแล้วแล้วสั่นหัว ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าข้างกาย
  
  
  
  15 นาทีต่อมา
  
  
  ร่างสูงคุ้นตาเดินเข้ามาที่โต๊ะที่เรานั่งอยู่(ยังอยู่ที่คาเฟ่) หน้าตาบึ้งตึงทิ้งตัวลงนั่งข้างผม (ที่นั่งของเราเป็นรูปตัวยู ฟาโรห์ น้องฟิงซ์ คุณแม่ไรเฟิล ผม ไรเฟิล)
  
  
  “หน้าบึ้ง ๆ” น้องฟิงซ์แซวพี่ชาย ผลที่ได้คือตาคม ๆ ตวัดมอง แต่น้องไม่มีสะท้านครับ ยักคิ้วใส่อีก
  
  “เจอกันได้ไง”
  
  “ฟาโรห์พามาค่ะ”
  
  ปึง!
  
  “ouch!!” ฟาโรห์สบถ
  
  “ทำอะไรน้อง?!” คุณแม่ตีแขนไรเฟิลเพียะ คุณชายไหวไหล่ไม่สน
  
  “ดีขึ้นป่ะ?” ผมถามพลางแตะมืออังหน้าผากและเลื่อนมาแตะคอไรเฟิล ร่างสูงสั่นหัว อื้อ.. ตัวร้อนกว่าเมื่อเช้าอีก
  
  “ไม่สบายหรอคะ?”
  
  “นิดหน่อยครับ” ไรเฟิลตอบคุณแม่ก่อนจะเลื้อยพิงไหล่ผม อายไหมเนี่ย
  
  
  “ไม่ได้กินยาเหรอวะ?” ไรเฟิลเบ้ปาก กูรู้ล่ะ..มึงไม่กินแน่ ๆ
  
  ดีดนิ้วเปาะเรียกพนักงานมากรับออเดอร์ เท่มากมั้ง แล้วคนรับออเดอร์ดันเป็นผู้หญิงอีก ยิ้มอ่อยมาเชียว ฮึ!
  
  “ไอซ์เอสเพรสโซ่”
  
  “ไม่เอา เปลี่ยนเป็นฮอตช็อกโกแลตแทนครับ”
  
  “ไอซ์...”
  
  “ฮอตช็อกโกแลตครับไม่ต้องหวานมากนะฮะ” ปิดปากไรเฟิลที่กำลังจะแย้ง พนักงานมองงง ๆ แต่ก็ยอมเดินออกไป
  
  พอพนักงานเอามาเสิร์ฟไรเฟิลกลับไม่แตะต้องแก้วช็อกโกแลตร้อนนั่นเลยสักนิด ...หน้าชาเลยดิ ผมเม้มปาก ดึงมือออกจากมือใหญ่ที่จับไว้ใต้โต๊ะแล้วเท้าคาง
  
  “พี่ควอทซ์ฝึกงานหรือยังคะ?”
  
  “ยังครับ เทอมหน้า”
  
  “จะฝึกที่ไหนคะ มาฝึกกับคุณแม่ไหม?”
  
  “อ่า..คงฝึกกับที่บ้านแหละครับ”
  
  คนสตรอเบอร์รี่มิลค์เช็กเล่นอย่างไม่รู้จะทำอะไร
  
  
  
  “พี่เฟิลไม่ดื่มเหรอ พี่ควอทซ์สั่งให้เลยน้าาาา” น้องฟิงซ์
  
  “แล้ว?”
  
  “ฟู่...” เปล่าลมออกจาก และเป็นจังหวะเดียวกับโทรศัพท์สั่นครืด
  
  
  อาณิชโทรมา..
  
  “หลบ” บอกไรเฟิลที่นั่งปิดทางออก
  
  “ไม่”
  
  “หลบไป” ยังลอยหน้าไม่สนใจ ผมจิ๊ปาก เบียดตัวออกไปอย่างไร้มารยาท
  
  
  
  
  “สวัสดีครับ”
  
  (“หนูจ๋า อาลืมบอกสตูดิโอที่จะถ่ายกัน”)
  
  “โธ่ อาครับ”
  
  (“ฮิฮิ จะให้อาเมล์ไปไหมลูก หรือยังไงดี”)
  
  “ตามสะดวกเลยครับ ขอแผนที่แบบระเอียดด้วยนะครับ”
  
  (“ได้ครับพ่อเด็กนอก วันพุธ สิบโมง ห้ามลืมนะคะ”
  
  “คร้าบบบบ” หลังจากวางสายไปไม่ถึงนาทีก็ได้รับอีเมล์จากอาณิช ผมดูคร่าว ๆ แล้วเก็บมือถือไว้
  
  
  ...........
  
  

  เดินมาหน้าเคานต์เตอร์แล้วสั่งเครื่องดื่มไปหนึ่งอย่าง
  
  “ไอซ์เอสเพรสโซ่แก้วนึงครับ” จ่ายเงินแล้วก็รอ
  
  
  ที่ผมห้ามเพราะผมเป็นห่วงหรอก กลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บคอ ยิ่งไม่สบายอยู่ด้วย แต่ความหวังดีของผมกลับถูกเมินซะงั้น เหอ ๆ อยากจะราดด้วยฮอตช็อกโกแลตจริง ๆ ไอ้คุณชายเอาแต่ใจเอ๊ย!
  
  
  ดันถ้วยฮอตช็อกโกแลตออกแล้ววางแก้วเอสเพรสโซ่ไว้แทน ..โดยไม่สังเกตเลยว่าฮอตช็อกโกแลตพร่องไปมากกว่าครึ่ง..
  
  
  “ขยับหน่อย” บอกฟาโรห์ เด็กแสบทำหน้าลังเล แต่ยังไม่ทันที่จะได้นั่ง ผมก็ถูกดึงข้อมือให้นั่งลงข้างคนที่คุณก็รู้ว่าใคร - -
  
  
  “เป็นบ้าอะไร”
  
  “ถามตัวเองเหรอ?” เลิกคิ้วกวนประสาท ผมอยากเงียบนะ แต่มันอดไม่ได้จริง ๆ เราไม่ได้อยู่กันสองคน มาเถียงกันแบบนี้ใช่เรื่องที่ไหน
  
  “ควอทซ์” กดเสียงต่ำ ไม่ได้น่ากลัวสำหรับผมเลยตอนนี้ มันน่าหมั่นไส้มากกว่า ไอ้ขี้เก๊ก!
  
  “เฮ้ อย่าทะเลาะกันดิครับ แม่ก็อยู่เนี่ย”
  
  “ขอโทษครับ” ผมบอกก่อน คุณแม่ยิ้มให้ไม่ถือโทษ
  
  เฮ้อ...
  
  “เฮ้ย!” ผมร้อง จู่ ๆ ไรเฟิลก็ดึงมือถือผมไปแถมยังเปิดดูอย่างถือวิสาสะอีก
  
  “อาณิชนี่ใคร?”
  
  “เอาคืนมา นิสัยเสีย ไม่มีมารยาท”
  
  “โอ้ววววว” สามเสียงประสานกัน ผมยิ้มแหย่แล้วขอโทษเบา ๆ ก็แหม ไปว่าลูกเขานี่ครับ ผมไม่มีพวกด้วย
  
  “ไม่เป็นไรค่ะ อย่างไรเฟิลน่ะต้องโดนซะบ้าง”
  
  “มัม!”
  
  “ฮึ!” ผมยิ้มเย้ยแล้วดึงโทรศัพท์คืนมา
  
  
  
  ก่อนจะแยกกันน้องฟิงซ์ขอให้พนักงานถ่ายรูปให้ ผมยิ้มกว้างตาปิดเป็นขีดเดียว มีไรเฟิลคนเดียวที่ไม่ยิ้ท พี่ท่านไม่มองกล้องเลยด้วยซ้ำ (รูปที่ออกมาไรเฟิลคาบช้อรอยู่พอดี) จะแลกไลน์กับน้องฟิงซ์กะจะให้น้องส่งรูปให้ แต่พี่ชายเขากลับบอกว่าส่งให้มันแทนแล้วมันจะส่งให้ผมอีกที ยุ่งยากไปไหม หื้มมมมม!
  
  
  
  
  ......................
  
  
  
  
  “ตัวร้อนกว่เดิมอีกแหนะ” อังหน้าผากคนตัวสูงอีกรอบ
  
  “อื้ม ปวดหัวว่ะ” ซบหน้าผากกับศีรษะผม แขนหนัก ๆ พาดอยู่บนบ่า อายไหมเนี่ย คนเยอะแยะ
  
  “กลับบ้านกันป่ะ”
  
  “ไปดูรองเท้าก่อน” ดื้อฉิบ ผมยอมตามใจคนป่วย ไปร้านรองเท้าร้านประจำของคนตัวสูง เจ้าตัวบอกมาว่าตัวใหม่เพิ่งมากลัวหมด แล้วทางร้านก็นำเข้าไม่เยอะ
  
  
  
  ...ในร้านรองเท้า
  
  
  “เฮ้ย ไรเฟิลเปล่าวะ?” ผมหันไปมองตามเสียง
  
  ผู้ชายตัวสูงพอ ๆ กับไรเฟิล สวมชุดนักศึกษาคนละสถาบันกับเรา มีกล้องถ่ายรูปคล้องอยู่ที่คอ หล่อมาก!! ผิวออกแทนนิด ๆ ด้วย ข้าง ๆ มีผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าเขาอยู่ด้วย หน้าตาดี หล่อค่อนไปทางสวย สวยแบบเท่ ๆ อ่ะครับ เก็ทไหมงะ ผมยาวระต้นคอสีบลอนด์ทองเพราะน้ำยาสังเคราะห์ ตัวสูงกว่าผม น่าจะราว ๆ 178-179 ซม.
  
  “อ้าว พี่เจ้า หวัดดี” ไรเฟิลทักตอบ
  
  “เออ ไม่เจอกันนาน เป็นไงวะ”
  
  “เรื่อย ๆ หึ” ล็อกคอผมชิดกว่าเดิม
  
  “ใครวะ? เดี๋ยวนี้ควงผู้ชายด้วย หน้าหวานเชี่ย”
  
  “หึ แฟนผม ชื่อควอทซ์” เชี่ย! ผมไม่คิดว่ามันจะบอกแบบนี้!! ในใจคิดว่าต้องบอกว่าเป็นเพื่อนทำนองนั้นมากกว่า (แอบดีใจนิด ๆ นิดเดียวพอ) พี่เจ้า(เรียกตามไรเฟิล)กับคนข้าง ๆ เขาเบิกตาคล้ายตกใจ ผมยิ้มแหย่
  
  “ส สวัสดีฮะ”
  
  “หวัดดีครับ พี่ชื่อเจ้า เป็นรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันกับไรเฟิล”  ผมยิ้มพยักหน้าหงึกหงัก (มารู้อีกทีว่าพี่เจ้า ชื่อ เจ้าชีวัน โคตรยิ่งใหญ่ เท่มาก)
  
  “แล้วนั่น?”
  
  “อ๋อ.. เพลิงฟ้า รุ่นน้องที่ม.”
  
  “อื้อฮึ รุ่นน้อง หึหึ” ไรเฟิลหัวเราะหึ มองเพลิงฟ้าแล้วยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ พี่เจ้าเหมือนอยากจะเข้ามาบีบคอมัน ผมมองพี่เจ้ากับเพลิงฟ้าสลับกัน ก่อนจะยิ้มมุมปากเลียนแบบไรเฟิล หึหึ
  
  “หน้าซีดแล้ว” บีบหลังคออีกคนเบา ๆ
  
  “ผมขอตัวก่อนแล้วกัน”
  
  “เออ ๆ ไว้เจอกัน”
  
  
  จากนั้นไรเฟิลก็ไปดูรองเท้า ได้มาคู่หนึ่ง รองเท้าเหี้ยไรไม่รู้คู่เกือบหมื่น จริง ๆ มันจองไว้แล้ว แล้วจะรีบมาเอาทำแป๊ะ!



-----------------------TBC-----------------------
แม่สามีกับลูกสะใภ้เขาเจอกันแล้วค่าาาาา ฮิ้ววววววววว
 :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 18-03-2015 21:06:57
 :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 18-03-2015 21:16:56
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ได้เจอแม่สามีแล้ววววว :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-03-2015 21:28:56
ผ่าน!!!!
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 18-03-2015 21:31:28
ครอบครัวสุขสันต์ 555555555555555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-03-2015 21:32:55
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 18-03-2015 21:51:40
คุณแม่ไรเฟิล น่ารักอะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 18-03-2015 21:57:00
ชอบอ่ะ รีบมาต่อน้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 18-03-2015 21:59:26
อยากอ่านตอนควอทซ์ไปถ่ายแบบล้าวววว ปังมากแน่นแน่ ทายาทคนเดียวววว แอร้กก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 18-03-2015 22:16:29
อยากเห็นควอทซ์  เดินแบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ


 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 19-03-2015 08:45:01
ไรเฟิลนี่บางทีก็น่าหมั่นไส้จริงนะ นี่แกแอบไม่กินเพื่ออ้อนปะเนี่ยยยย ฮาาาา

หายไวๆนะนู๋ไรเฟิล เดี๋ยวพลาดงานเดินแบบของควอทซ์นะเว้ยยย

ว่าแต่ไรเฟิลไม่ว่าเหรอ งานเดินแบบเนี่ย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 19-03-2015 09:06:08
ครอบครัวอิเฟิล น่ารักทั้งบ้านเลย :katai2-1:

อยากเห็นบันนี่น้อยเดินแบบแล้วอ่ะ อิเฟิลต้องหึงแน่ๆเลย555  :hao7:

มาต่อไวๆนะคะ plese  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 19-03-2015 11:12:47
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 19-03-2015 13:45:04
แม่สามีผ่านแล้ว เหลือพี่กับพ่อสินะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: MintELF13 ที่ 19-03-2015 13:55:21
ชอบบบบบบบบบมากกกกกกกกกกกกกกกก อ่านรวดเดียวเลยยยย

ครอบครัวสุขสันต์ อรั๊ยยยยย


รอๆ รออ่านตอนน้องเดินแบบ ถ้าไรฟ์รู้น้องจะได้เดินไหมนิ ต้องบ่นแน่ๆเลยย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-03-2015 14:16:48
อ๊ายย แม่ไรเฟิลน่ารักกกก

ชอบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 20-03-2015 13:15:59
แม่สามีกับคุณลูกสะใภ้เข้ากันได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 37 (18.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 21-03-2015 12:46:51
แฮปปี้ค่าาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 22-03-2015 23:10:05
EPISODE 38







  “นอนพักไปก่อนนะ จะไปซื้อยาให้”
  
  “ไปด้วย”
  
  “นอนไป อย่าดื้อสิ”
  
  “.............”
  
  “แป๊บเดียวครับ”
  
  
  กดไหล่ร่างสูงให้นอน ผมดึงผ้าห่มมาห่มให้คนป่วย หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ตัวก็ร้อน ไม่สบายอยู่ยังจะดื้ออีก ตอนนี้คอนเฟิร์มได้แล้วล่ะว่าเจ้ายักษ์นี่โดนพิษไข้เล่นงานแล้ว ..สาเหตุคงมาจากนอนไม่พอ เรียนหนักด้วยช่วงนี้ งานก็เยอะ อ่านหนังสือดึกอีก แล้วไหนจะยังต้องไปว่ายน้ำด้วย ไม่ป่วยให้มันรู้ไป
  
  
  
  ในห้องไรเฟิลไม่มียาเลย ยาสามัญเบสิคอย่างพาราเซตามอลยังไม่มีอ่ะคิดดู ไม่รู้เกลียดยาอะไรนักหนา ที่ให้กินเมื่อก่อนหน้านั้นคือยาที่มีอยู่ในกระเป๋าผม ตอนนี้ก็หมดแล้วด้วย ผมเลยต้องออกไปซื้อ
  
  
  
  
  ร้านขายยาอยู่ไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่ นั่นคือโชคดี ซื้อยาลดไข้ ยาแก้ปวด ยาแก้เจ็บคอ ยาอมแก้เจ็บคอ คูลเจล แล้วก็ปรอทวัดไข้ พอได้ทุกอย่างครบก็รีบกลับห้องทันที เดี๋ยวคนป่วยจะอาละวาดเอา
  
  
  
  เมื่อกลับมาถึงผมแทบจะพ่นไฟ คนที่ควรนอนอยู่บนเตียงตอนนี้กลับเดินออกมาจากห้องน้ำ  อาบน้ำอย่างเดียวไม่พอแม่งสระผมด้วย ไอ้เชี่ย!!!!
  
  
  “ไรเฟิล! ใครบอกให้อาบน้ำ!”
  
  “ไม่มี”
  
  “ถ้าใช้สมองคิดสักนิดมึงจะรู้ว่าไม่ควรอาบ!” ผมขยี้ผมอย่างหัวเสีย คว้าผมขนหนูผืนเล็กออกมา ดันตัวไรเฟิลให้นั่งลงก่อนจะเช็ดผมให้
  
  
  
  “มึงนี่มัน..ไอ้ดื้อเอ๊ย!”
  
  “ขี้บ่น”
  
  “ฮึ่ย! ถ้าไม่หายจะสมน้ำหน้าให้” ใช้ไดร์เป่าผมแทนผ้าจนแห้งดีก่อนจะไปรื้อหาชุดนอนมาให้อีกฝ่าย มีติดตู้แต่กลับไม่เคยใช้ ผมเลือกชุดนอนสีน้ำเงินเข้มออกมา
  
  
  “ใส่นี่นะ”
  
  “อึดอัดตาย”
  
  “มีสิทธิ์บ่นหรอ?” ถอนหายใจแล้วรับชุดจากมือผมไปอย่างจำใจ พอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็จูงมือเด็กโข่งไปชั้นล่าง
  
  
  
  ------------------
  
  
  
  “รอนี่ เดี๋ยวทำข้าวต้มให้” พยักหน้าอืออา นั่งดูสารคดีสัตว์โลกสุดโปรดไป
  
  ผมเข้าครัวจัดการทำข้าวต้มให้ยักษ์ดื้อ ไม่นานก็ได้ข้าวต้มหอมฉุย อ่า.. น้ำลายจะไหล กะจะทำให้คนป่วยกินแต่สุดท้ายอดไม่ไหวก็กินด้วยมันด้วยกันนี่ล่ะ!
  
  
  
  และแล้วเวลานี้ก็มาถึง!!! บังคับไรเฟิลกินยานั่นเองครับ! ขอกำลังใจให้ผมด้วย ปวดหัวมากตอนนี้ (T____T) ก็แม่งงอแงจะไม่กินอย่างเดียวเลยอ่ะดิ อยากจะอัดคลิปไปแชร์ให้แฟนคลับมันดูชะมัด
  
  
  “ถ้าไม่กินจะหายไหม?”
  
  “เดี๋ยวก็หายน่า”
  
  “เดี๋ยวน่ะมันเมื่อไหร่ล่ะ”
  
  “เมียหรือแม่วะ”
  
  “ได้ยินโว้ย! กินยาสักทีเถอะไรเฟิล~” แถบจะยกมือไหว้อยู่แล้ว ไรเฟิลมองหน้าผมก่อนจะเสมองเม็ดยาในแก้วที่ผมเตรียมไว้แล้วทำหน้าแหยง
  
  “ขม”
  
  “ก็อย่าไปอมมันกิน กลืนอ่ะกลืนนนนน” คนตัวสูงส่ายหน้าไม่เอา โว้ยยยยยย ไอ้ยักษ์นี่!! ไอ้ใจมด! ไอ้กาก!
  
  “ไม่กินยาแล้วจะหายไหม จะกินดี ๆ หรือจะให้กรอกปาก ห้ะ!” แม่ง! พูดด้วยดี ๆ ไม่ชอบ ชอบให้โหดใช่ไหม ด้ายยยยยยยยยยยย
  
  “ไม่กินก็หาย”
  
  “เมื่อไหร่ล่ะ? ยาแค่สามเม็ดเนี่ย กลัวอะไร ยาน้ำไหม ฮึ้?” พิงสะโพกกับขอบโต๊ะ กอดอกมองคนป่วย ถ้าจะกินยาน้ำจริง ๆ นี่มันก็..นะ
  
  “ฮึ!”
  
  “ไม่เอาก็กิน แป๊บเดียวเอง ถ้ายังมีไข้อยู่แบบนี้ก็ไม่ต้องเข้าใกล้เลยนะ เดี๋ยวจะไปอยู่หอด้วย  ปล่อยให้อยู่คนเดียวด้วย รู้ใช่ไหมว่ากูป่วยง่าย หืม? เกิดติดขึ้นมานี่หนักกว่ามึงนะ” ในเมื่อกล่อมให้อีกคนกินยาเพื่อตัวของมันเองไม่ได้ ก็เอาตัวเองนี่แหละเป็นข้ออ้าง ..เดี๋ยว! ต้องบอกว่าเหตุผลสิ!
  
  ผมลอบยิ้มเมื่อหน้าคมฉายแววลังเล ตาสีฟ้ากลอกล่อกแล่ก ผมขยับออกห่างจากเขาเป็นการกระตุ้น ตาคมตวัดมองอย่างไม่ชอบใจ คิ้วเข้าขมวดฉับ หึหึ ถือเป็นรีแอคชั่นที่ดี
  
  
  “........เม็ด”
  
  “หือ? ว่าไงนะ?”
  
  “กินทีละเม็ดได้ไหมล่ะ!?”
  
  “หึ ฮะ ฮ่า ๆ โทษ ๆ ทีละเม็ดก็ได้ครับ” ปิดปากซ่อนรอยยิ้มขำ ไรเฟิลมองผมตาขวาง ไอ้เชี่ยเอ๊ยยยยยยยย น่ารักฉิบหายยยยยยยย
  
  
  
  “แค่ก ๆ สัด!” รีบคว้าทิชชู่เช็ดปากให้ ลูบหลังร่างสูงไปด้วย มือหนากุมคอตัวเอง หน้าตาพะอืดพะอมสุดขีด เห็นแบบนี้ก็น่าสงสารนะครับ แต่ทำไงได้ล่ะ ผมอยากให้เขาหายไว ๆ นี่. . .
  
  
  
  ------------------
  
  
  
  “นอนนะ” ห่มผ้าให้หลังจากเช็ดตัวเสร็จ บนหน้าผากผมแปะคูลเจลไว้ให้ เด็กโข่งทำหน้าขัดใจอยู่ตลอด คงจะหงุดหงิด แม้ไข้จะลดลงบ้างแล้วแต่อุณหภูมิก็ยังสูงอยู่ดี
  
  “ร้อน..” บอกเสียงแหบ
  
  “ทนหน่อย เหงื่อออกเยอะ ๆ จะได้หายไว ๆ ไง” ผมไม่ได้เปิดแอร์ ให้เขาใส่ชุดนอนครบชุดทั้งที่ปกติเจ้าตัวแทบจะแก้ผ้านอน ซ้ำยังห่มผ้าให้อีก เหงื่อซกเลยงานนี้ ไรเฟิลเป็นคนขี้ร้อนครับ แบบนี้ไม่สบายตัวแน่ คงต้องเช็ดตัวให้บ่อย ๆ
  
  “ฟู่..”
  
  “Goodnight” บอกฝันดีพร้อมกับคิสเบา ๆ
  
  ไรเฟิลค่อย ๆ หลับไปเพราะฤทธิ์ยา ผมถึงได้ไปจัดการตัวเอง อาบน้ำครับ! ไอ้เชี่ยยย ร้อนมาก เหงื่อออกจนหลังเปียกแล้ว ผมก็ขี้ร้อนพอกันกับไรเฟิลนั่นแหละน่า แต่มีความอดทนมากกว่าแค่นั้นเอง คืนนี้คงใส่เสื้อกล้ามกับเกางเกงขาสั้น
  
  
  
  
  -------------------------
  
  
  
  ครืด~ ครืด~
  
  รีบลุกไปคว้าโทรศัพท์ของไรเฟิลที่สั่นครืดอยู่บนโต๊ะมาก่อนที่มันจะรบกวนคนหลับแล้วออกไปที่ระเบียง
  
  
  ‘Mum’
  
  “สวัสดีครับคุณแม่”
  
  (“น้องควอทซ์เหรอคะ?”)
  
  “ครับ”
  
  (“มายบอยเป็นยังไงบ้างคะ?”)
  
  “ดีขึ้นแล้วครับ ตัวยังร้อนอยู่ ตอนนี้หลับไปแล้วฮะ”
  
  (“ค่ะ น้องควอทซ์คงลำบากน่าดู รายนั้นน่ะดื้อมากเลย”)
  
  “นิดหน่อยครับ ลำบากแค่ตอนให้เขากินยา แหะ ๆ”
  
  (“ใช่ค่ะ มายบอยกินยายาก ตั้งแต่เด็กแล้ว”)
  
  “ครับ คุณแม่อย่าห่วงเลยครับ เดี๋ยวผมดูเขาให้”
  
  (“ได้ยินแบบนี้คุณแม่ก็สบายใจค่ะ ฝากด้วยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าคุณแม่จะแวะไปหา”)
  
  “ครับผม ราตรีสวัสดิ์ครับ”
  
  
  และก็ตามคาด ผมแทบไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ ค่อยกังวลเกี่ยวกับคนป่วยจนนอนไม่หลับ ไหนจะต้องค่อยเช็ดตัวให้เขาด้วย ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหนเหมือนกัน เบลอมาก T____T
  
  
  
  -----------------
  
  
  
  ในเช้าวันถัดมาคุณผู้หญิง ฟีโอน่า เมเยอร์ ศิริวัฒนามงคล ย่างกรายเข้ามาภายในคอนโดมิเนียมสุดหรูซึ่งเป็นหนึ่งในเครือธุรกิจของครอบครัวเธอ ข้างกายมีลูกสาวคนเล็กอยู่ด้วย พวกเธอก้าวเข้าไปภายในลิฟต์โดยสารก่อนจะกดเลือกชั้นที่อยู่ของลูกชายคนโต
  
  
  
  เมื่อมาถึงที่หมายคุณผู้หญิงฟีโอน่าแตะคีย์การ์ดก่อนจะผลักประตูเข้าไป อย่าสงสัยว่าเธอได้คีย์การ์ดมายังไง ก็นี่มันธุรกิจของครอบครัวเธอ แถมห้องนี้ยังเป็นห้องของลูกชายเธออีก แค่นี้ไม่เกินความสามารถเธอหรอก
  
  
  
  “เงียบจังค่ะ” สฟิงซ์ ลูกสาวคนเล็กเอ่ยขึ้น ขณะที่มองผู้เป็นแม่จัดวางกล่องอาหารบนโต๊ะ
  
  “คงยังไม่ตื่นมั้งคะ เพิ่งจะเจ็ดโมงครึ่งเองนี่นา” เธอพูดตอบพลางยิ้มให้ลูกสาว จากนั้นทั้งคู่เลือกที่จะขึ้นไปชั้นสองซึ่งเป็นห้องนอนของลูกชาย
  
  
  
  “oops” ทั้งคู่อุทานออกมาแผ่วเบากับภาพที่เห็น
  
  
  บนเตียงกว้างมีลูกชายจองเธอนอนหลับอยู่และมีเด็กผู้ชายอีกคนนั้นหลับอยู่ข้างเตียงโดนฟุบศีรษะกับที่นอน มือของทั้งสองต่างจับกันเอาไว้
  
  และบนพื้นไม่ไกลกันนั้นมีกะละมังใส่น้ำและผ้าขนหนูผืนเล็กวางอยู่
  
  เธอยิ้มออกมาอย่างปลาบปลื้ม เด็กคนนี้คงวุ่นกับการดูแลลูกชายของเธอทั้งคืนจนเผลอหลับไปเป็นแน่ ลูกชายเธอช่างเลือกคนรักได้ดีจริง ๆ พอเห็นแบบนี้เธอก็หายแปลกใจที่ลูกชายจะมีคนรักเป็นผู้ชาย ก็เด็กคนนี้เป็นคนดีขนาดนี้ ต่อให้เป็นอะไรเธอก็ไม่มีทางขัดขวางหรอก ถ้าสามีของเธอได้เห็นก็คงจะเอ็นดูเด็กคนนี้ไม่ต่างจากเธอ
  
  
  ...ขอบคุณที่ดูแลลูกชายของคุณแม่นะคะน้องควอทซ์...
  
  
  
  
  ---------------------
  
  
  
  
  “อื้อ” ผมค่อย ๆ ลืมตาช้า ๆ รู้สึกเมื่อยไปทั้งตัว เวรล่ะ ทำไมมานอนข้างเตียงแบบนี้ เอาเถอะ ช่างมัน ผมมองคนป่วยที่ยังนอนหลับอยู่ แตะหลังมือกับซอกคออีกคอเบา ๆ อื้ม ไม่ร้อนเท่าเมื่อวานแล้วแฮะ ผมยิ้มพอใจแกะมือไรเฟิลออกเบา ๆ ก่อนจะไปล้างหน้าแปรงฟัง อยากอาบน้ำด้วยแต่เอาไว้ก่อน
  
  เดินไปเปิดม่านให้แสงแดดสาดเข้ามา ผมย่อตัวนั่งบนเตียง เอื้อมมือไปลอกแผ่นเจลบนหน้าผากไรเฟิลออก คนป่วยขยับตัวสงเสียงขัดใจก่อนจะปรือตาขึ้นมา
  
  
  “อรุณสวัสดิ์”
  
  “อื้ม อรุณสวัสดิ์” เสียงแหบมาเชียวพ่อ ผมเทน้ำใส่แก้วให้ไรเฟิลที่ขยับตัวขึ้นนั่ง
  
  “เป็นไงบ้างอ่ะ?”
  
  “ก็ดี” เอนศีรษะซบไหล่ผม ผมลูบหลังอีกคนเบา ๆ อื้อหือออออ เหงื่ออย่างเยอะ เสื้อเปียกจนแนบกับแผ่นหลัง
  
  “นอนต่อไหม?” สั่นหัวไปมา “งั้นก็ไปล้างหน้าแปรงฟัน”
  
  “อาบน้ำได้ไหม?” เสียงเบาแหบพร่า ผมนิ่งคิดสักพักก่อนจะยอมตกลง เห็นว่าเหงื่อออกเยอะหรอก คงจะร้อนน่าดู ยอม ๆ ไปก่อน ถึงจะยังไม่อยากให้อาบก็เถอะ
  
  “ห้ามสระผม ห้ามอาบนาน”
  
  “ครับ”
  
  “ครับก็ทำตามด้วย ห้ามดื้อ!”
  
  ระหว่างที่ไรเฟิลอาบน้ำก็เก็บที่นอนเก็บของให้เข้าที่ ก่อนจะลงไปข้างล่างกะจะทำอะไรให้คนป่วยกิน
  
  
  
  -----------------------
  
  
  
  
  “เฮ้ย!” ผมร้องตกใจ เกือบลื่นตกบันได “ค คุณแม่ น้องฟิงซ์ สวัสดีครับ”
  
  “สวัสดีค่ะ” คุณแม่กับน้องฟิงซ์พูดพร้อมกัน แถมยังยิ้มพิมพ์เดียวกันมาให้อีก
  
  “มาได้ไงครับ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
  
  “มาถึงตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่งแล้วค่ะ ส่วนมาได้ยังไง...” คุณแม่ยิ้มก่อนจะชูคีย์การ์ดขึ้นมา
  
  “อ่า..”
  
  “พี่ไรเฟิลละคะ?”
  
  “อาบน้ำครับ”
  
  “เอ๋ หายไข้แล้วหรอคะ?”
  
  “ผมสงสารเขาน่ะครับ กลัวว่าจะไม่สบายตัว แหะ ๆ” ผมบอกก่อนจะขอตัวขึ้นไปข้างบน
  
  
  
  
  
  เข้ามาในห้องนอนไรเฟิลก็ออกมาจากห้องน้ำพอดี
  
  “คุณแม่กับน้องฟิงซ์มา” ผมบอกระหว่างถอดเสื้อ คว้าผ้าขนหนูมาพันเอวก่อนจะถอดกางเกงแล้วโยนใส่ตะกร้า
  
  “อื้อฮึ แก้ผ้าต่อหน้าแบบนี้อยากโดนเหรอ?”
  
  “โดนตีนนี่ไหมล่ะ รีบไปแต่งตัวได้แล้ว!”
  
  
  
  เวลาที่สายน้ำอุ่น ๆ ไหลผ่านตังนี่มันช่าง..ดีสุด ๆ ผมเป็นคนประเภทที่ชอบอาบน้ำอุ่น ต่อให้อากาศจะร้อนแค่ไหนก็ยังอาบน้ำอุ่นอยู่ดี ผมเคยคิดเล่น ๆ ว่าถ้าผมได้ไปอยู่ในที่ที่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นมันจะเป็นยังไง.. สุดท้ายก็ไม่ยังไงครับ วันนั้นเลยลองอาบน้ำเย็น หนาวดีแต่ก็ไม่ตายแฮะ นั่นแหละฮะ ของแบบนี้ต้องลองครับ
  
  
  
  -------------------------
  
  
  
  ที่ชั้นล่าง
  
  ไรเฟิลนอนหนุนตักคุณแม่โดยเหยียดขาพาดตักน้องฟิงซ์ เอ่อะ...
  
  “พี่ควอทซ์มาแล้ววววววว” น้องฟิงซ์ตั้งท่าจะลุกมาหา แต่ถูกพี่ชายหนีบเอาไว้ ครับ หนีบจริง ๆ ไรเฟิลยกขาข้างหนึ่งข้ามศีรษะน้องฟิงซ์รัดเอวน้องเอาไว้แล้วไขว่เท้าเป็นการล็อก ฮาร์ดคอร์กันไปไหม..
  
  “โอ๊ยยย คุณแม่ขาาาาา”
  
  “อย่าแกล้งน้องสิคะ” ตีแขนลูกชายไม่จริงจังนัก แต่ไรเฟิลไม่สนแล้วเหมือนจะออกแรงมากกว่าเดิม น้องฟิงซ์ถึงได้หน้าเบ้แล้วร้องเสียงดัง
  
  “ไรเฟิล” ผมกดเสียงต่ำมองอีกฝ่ายนิ่ง ๆ ไรเฟิลเบ้ปากก่อนจะปล่อยน้องฟิงซ์ พอหลุดมาได้ก็ปาหมอนใส่หน้าพี่ชายดังตุบแล้ววิ่งมาเกาะแขนผม
  
  
  
  
  ที่โต๊ะอาหารน้องฟิงซ์กับไรเฟิลยังตีกันไม่เลิก คนพี่ก็ชอบแหย่คนน้องก็ไม่ยอม ผมล่ะปวดหัวจริง ๆ คุณแม่ไม่ห้ามแถมยังหัวเราะขำอีก
  
  “เลิกแกล้งเค้าได้แล้ว!”
  
  “หึหึ” นี่ก็ยังคงแหย่น้องไม่เลิก
  
  “ถ้ายังไม่หยุดเค้าขอให้พี่ควอทซ์ไม่รัก” จึก! คุณชายหยุดกึกเสตามองผม แล้วสนใจแค่จานข้าวตัวเอง ไม่ได้แหย่น้องฟิงซ์อีก หืมมมม นี่มันกลัวผมไม่รักเหรอ? โอยยยยย ไอ้บ้าเอ๊ยยยย ผมกัดปากห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้ม
  
  
  
  พอทานข้าวเสร็จผมก็ให้ไรเฟิลกินยา น้องฟิงซ์ที่ได้ทีเอาคืนพี่ชายตัวสูงก็คอยแหย่จนไรเฟิลเตะน้องไปทีหนึ่ง ไอ้เชี่ยยย เล่นกันรุนแรงฉิบ คุณแม่แอบกระซิบมาว่าบ้านนี้เขาเล่นกันแบบนี้ มีครั้งหนึ่งน้องฟิงซ์กับฟาโรห์โดนไรเฟิลจับทุ่ม ผมได้แต่อ้าปากค้างกับคำบอกเล่า ฟาโรห์ผมไม่ตกใจเท่าไหร่เพราะผู้ชายคงเล่นแรง ๆ ไม่มีปัญหา แต่ข้องที่น้องฟิงซ์นี่สิ คือ.. น้องเป็นผู้หญิงป่ะ แล้วโดนจับทุ่ม.. มึง.. โอ้โห บ้านนี้นอกจากเผด็จการแล้วยังฮาร์ดคอร์กันอีก โหดสัดมากจริง ๆ
  
  
  
  
  -----------------------
  
  
  
  
  
  คุณแม่กับน้องฟิงซ์กลับไปแล้ว ห้องนี้เลยได้ความสงบคืนมา แฮ่ ไรเฟิลนอนอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ผมนั่งบนพรมหน้าโซฟาตัวที่ไรเฟิลนอน กำลังดูแผนที่ที่อาณิชส่งมาให้ ดูตั้งนานแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
  
  “ไรฟ์”
  
  “หือ?” ตอบรับเสียงแหบ หายปวดหัวแต่ได้อาการเจ็บคอมาแทน น่าสงสารจริง ๆ
  
  “ดูให้หน่อยสิ มันไปยังไงอ่ะ” ส่งกระดาษแผนที่ที่ปริ้นท์ออกมาให้อีกฝ่ายดู
  
  “ไกล” ผมพ่นหายใจ กระถดตัวไปดูกับไรเฟิลด้วย
  
  “ถ้าขับรถไปต้องไปยังไง?”
  
  “ไม่ยาก จะไปทำไม”
  
  “ก็..” ผมเล่าเรื่องที่อาณิชขอให้ไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ยักษ์ฟัง ไรเฟิลมองผมด้วยสายตาคมกริบ หน้าหล่อบูดบึ้งไม่สบอารมณ์
  
  “ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อน”
  
  “หึ”
  
  “ไปด้วยกันไหมล่ะ?”
  
  “มีเรียน” แป่ว..  วันที่อาณิชนัดนั้นผมว่างครับ ฟรี ก่อนจะนัดวันอาณิชขอตารางเรียนผมไปดูก่อน
  
  ผมเบียดขึ้นไปบนโซฟา นอนทับตัวไรเฟิลก่อนจะเบี่ยงไปนอนตะแคงหลังชิดกับพนักโซฟา วางคางบนอกกว้าง ใช้นิ้วจิ้มอกยักษ์หน้าบึ้งเบา ๆ
  
  กำลังจะอ้าปากพูดก็ถูกขัดจังหวะซะก่อน ไรเฟิลเอื้อมมือไปคว้าสมาร์ทโฟนเครื่องสวยมาก่อนจะเปิดดู
  
  
  Sphinx : (รูปควอทซ์ฟุบหลับจับมือไรเฟิลที่นอนอยู่บนเตียงตอนเช้า)
  
  Sphinx : รักกันมากม้ายยยยยยยยยยย
  
  Sphinx : หมั่นไส้มากอ่ะบอกเลย
  
  Sphinx : แหวะ ๆๆ

  
  
  ผมกระพริบตาถี่ ไรเฟิลหัวเราะหึ ร่างสูงส่งสติกเกอร์แสยะยิ้มกลับไปให้แล้วเซฟรูปภาพก่อนจะตั้งเป็นรูปโฮมสกรีน อ่า... ผมควรเขินไหม หรือยังไงดี /เกาแก้ม
  
  “ส่งให้ด้วยดิ”
  
  “กล้าสั่ง? มีความผิดอยู่ อย่าลืม”
  
  “โหยยยยยยย ขอโทษคร้าบบบบบบบบบบ” โขกหัวกับอกไรเฟิล คนตัวสูงใช้มือดันหน้าผากผมไว้
  
  “หึ”
  
  “น่าาาาา ไม่ให้โกรธ ห้ามโกรธ ห้ามมมม”
  
  “ออกไป” หยุดกึก มองอีกคนงง ๆ ขยับตัวลงจากคนตัวสูงแบบเบลอ ๆ
  
  “ไล่?”
  
  “เออ ไปไกล ๆ ไป” ผมมองคนที่นอนอยู่อึ้ง ๆ กัดปากแน่น แค่คำพูดไม่พอยังสะบัดมือไล่อีก แม่เง้ย น้ำตาจะไหล
  
  “......อื้อ”
  
  “เดี๋ยวติดไข้ แล้วไปถ่ายแบบไม่ได้”
  
  “ห้ะ?! ยอมหรอ ไม่โกรธเหรอ” งงแรงมากตอนนี้
  
  “กูเป็นคนงี่เง่าหรอ ไม่มีเหตุผลหรอ?” ผมสั่นหน้าแล้วยิ้มกว้างโชว์ฟันกระต่าย
  
  “ขอบคุณน้าาาาา!
  
  “นับถอยหลังรอบทลงโทษเลยบันนี่ หึ”
  
  
  
  
  เฮือก!!!!!





------------------TBC------------------

กระดึ้บ ๆ ฝากกระต่ายน้อยไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยน้าาาา
 :impress: :impress: :impress:
แล้วก็ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ รักทุกคนเยยยยยย /ทำมือเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่หญ่ายยยยยย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 22-03-2015 23:32:44
นั่ลล้าคคคคคคคคคคค :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Cream A ที่ 22-03-2015 23:40:54
ยิ่งนานวันยิ่งเห็นออร่าความมุ้งมิ้งในตัวไรเฟิล ชอบบบน่ารักอ่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 23-03-2015 00:10:38
บทลงโทษของบันนี่จะเป็นอะไรน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 23-03-2015 00:23:07
น่ารัก :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 23-03-2015 00:28:29
อย่าลงโทษ   บันนี่  รุนแรงล่ะ  ไรเฟิล

 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 23-03-2015 00:39:12
ก่อนจะลงโทษเอาให้หายไข้ก่อนนะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-03-2015 02:54:39
พูดเพราะๆดีๆไม่เคยจะเป็น
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-03-2015 11:01:44
บันนี่เตรียมตัวไว้ให้ดี ถ่ายแบบเสร็จโดนยักษ์ลงโทษแน่
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 23-03-2015 13:01:09
ผมงี้ นับถอยหลังรอบทลงโทษเลย 555

 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 23-03-2015 14:39:00
น่าร้ากกกกกก :katai2-1: :katai2-1:

ว่าแต่บทลงโทษไรง่ะ เฟิล?? อยากรู้ด้วยจัง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-03-2015 17:07:35
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-03-2015 17:53:28
ไรเฟิลมุ้งมิ้ง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 23-03-2015 20:48:46
น่ารักอ่าค่ะ. มีคอยดูแลกันด้วย
^^
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 24-03-2015 13:08:26
ควอทซ์ไม่น่าจะได้ไปคนเดียวนะ ถ้าปืนไม่ไปด้วยตัวเองก็ต้องส่งลูกสมุน(???)ตามไปคุมแน่เลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 24-03-2015 18:58:51
น่ารักอะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 24-03-2015 22:20:41
อีกนิดเดียว

จะตามทันละ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 25-03-2015 00:40:21
น่ารักอ้ะ จะละลาย บันนี่น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 38 (22.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 25-03-2015 17:30:41
กระต่ายน้อย น่าร๊ากกกกกกกกก
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
สนุกมากกกกกกกกกกก
ไรเฟิล มีครอบครัวที่อบอุ่นมากกกกกก
คุณป๋า กับคุณย่า น้องกระต่ายน้อย ก็น่ารัก
ไม่มีแม่ก็ไม่เป็นไรเน๊าะ
คริ คริ คือ ป้าแอบชอบพี่เจ้านะ อยากรู้เรื่องจัง
จะมีมาเพิ่มเติมใหม พี่เจ้า.....
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 25-03-2015 21:27:46
EPISODE 39





  
  วันเวลาผ่านไป วันนี้ก็เป็นวันพุธแล้ว ผมกำลังเก็บของใส่กระเป๋าใบโปรด ไรเฟิลกำลังแต่งตัวอยู่ วันนี้ฝรั่งมีเรียนแค่ช่วงบ่าย ช่วงเช้าถูกแคนเซิลไป เขาเลยจะไปกับผมด้วย ก็ดีครับ ผมไม่อยากไปคนเดียวเหมือนกัน กลัวหลง แฮะ ๆ ไรเฟิลเองก็หายป่วยแล้วครับ สบายยยย เรื่องบทลงโทษน่ะหรอ อย่าไปพูดถึงมันเลย ผมไม่อยากนึกถึง ระแวงมากครับไม่รู้จะให้ผมทำอะไรแผลง ๆ หรือเปล่า สรุปว่าตอนนี้..ผมยังไม่ถูกลงโทษครับ ฮิ้ววววววว
  
  
  
  
  “นัดกี่โมง”
  
  “สิบโมงอ่ะ”
  
  “อื้อฮึ” ตอนนี้แปดโมงนิด ๆ เราต้องเผื่อเวลาด้วย เพราะสตูดิโอดันอยู่ไกลจากย่านที่เราอยู่ อีกอย่างการจราจรมันค่อนข้าง... นะ
  
  
  ผมจัดคอเสื้อคนตัวสูงให้เข้าที่ ไรเฟิลสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวซึ่งไม่ใช่เสื้อนักศึกษา พับแขนเสื้อขึ้นไปถึงข้อศอก(ผมพับให้อีกนั่นแหละ) ท่อนล่างเป็นกางเกงยีนส์สีเข้มมีร้อยขาด ๆ น่าหมั่นไส้! ไอ้หล่อ  ไอ้เท่ ไอ้ดูดี ไอ้ขายาว ไอ้ยักษ์!
  
  
  ผมกับไรเฟิลแวะกินข้าวที่ร้านหน้าปากซอย ก่อนจะขับรถไปที่สตูดีโอ ใช้คนละคันครับ จริง ๆ จะให้ไรเฟิลไปส่งก็ได้ แต่ผมไม่รู้ว่าจะถ่ายเสร็จกี่โมงไง ขี้เกียจรอด้วย เผื่อเลิกไม่ตรงกัน ก็เลยให้ไรเฟิลขับนำหน้าแล้วผมขับตาม
  
  
  
  
  ----------------------
  
  
  
  
  มาถึงสตูดีโอก่อนเวลาประมาณยี่สิบนาที ผมเกิดเกร็ง ๆ ขึ้นมา อ๋อยยยยย อยากกลับบ้านนนน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยทำไมถึงตื่นเต้นก็ไม่รู้ ผมกับไรเฟิลยืนอยู่หน้าสตูดิโอยังไม่เข้าไปข้างใน แล้วเหมือนคนข้าง ๆ จะจับอาการได้ถึงหัวเราะหึออกมา ผมชกไหล่ไรเฟิลไม่แรงนัก
  
  “เข้าไปได้ยัง ร้อน”
  
  “งื่อออ”
  
  
  
  
  ภายในสตูดิโอค่อนข้างวุ่นวาย ทีมงานหลายคนวิ่งวุ่นจัดเตรียมสถานท่และอุปกรณ์ประกอบฉาก ผมเงียบ ไม่กล้าส่งเสียง กลัวจะไปรบกวนเขา ไรเฟิลกวาดตามองผ่านแว่นกันแดด ผมยกมือไหว้พี่คนนึงที่หันมาทางเราพอดี แล้วพี่เขาก็เดินเข้ามาหา
  
  
  “สวัสดีครับ”
  
  “น้องควอทซ์ใช่ไหมคะ ตามพี่มาค่ะ” พี่เข้าพาพวกผมไปที่ห้องห้องหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นห้องแต่งตัว แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ
  
  
  
  ในห้องนั้นมีเสื้อผ้าแขวนอยู่มากมาย รวมทั้งพวกเครื่องสำอางด้วย มีพี่ ๆ หลายคนอยู่ในนี้ ผมยกมือสวัสดีทุกคนตั้งแต่ฝ่ายคอสตูม เมคอัพ สไตล์ลิสต์ บลา ๆ อ้อ มีอาณิชด้วย กำลังเม้าส์ได้ที่เลย
  
  “มาไวจังลูก” อาณิชเข้ามาหา
  
  “กะเวลาไม่ถูกฮะ”
  
  “แล้วนั่น..ใครเหรอจ้ะ?” อาณิชส่งสายตาล้อ ๆ
  
  “อ้อ ไรเฟิลครับ ไรฟ์ นี่อาณิช”
  
  “สวัสดีครับ” ไรเฟิล
  
  “สวัสดีครับ เป็นอะไรกับหลานอาเนี่ย หืม”
  
  “อาณิชชชชชชช” รู้อยู่แล้วยังจะถามให้ผมอายอีก ฮือออ อาณิชยิ้มล้อก่อนจะแนะนำผมให้พี่ทีมงานรู้จัก
  
  
  
  
  
  “ผิวดี๊ดีนะคะคุณน้อง ดูสิหน้าใสแก้มเด้งเชียว” พี่จุ๊บแจงพูดขณะใช้แปรงปัดแก้มผมไปด้วย ผมยิ้มขอบคุณก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแหย่เมื่อสายตาสบกับไรเฟิลผ่านกระจก คุณชายกอดอกหน้านิ่งแบบนั้นเล่นเอาผมหวั่นใจ
  
  
  
  เมื่อก่อนหน้านั้นไม่กี่นาทีไรเฟิลเขาถูกรุมครับ จากพี่ ๆ ทีมงานทั้งสาวแท้สาวเทียม หน้าตาหงุดหงิดเข้าขั้น ใช้ความนิ่งเงียบสยบทุกความเคลื่อนไหว พวกพี่ ๆ เขาเลยมองแต่ตามือต้องไม่ได้ อ้อ! แต่ยังแทะโลมด้วยคำพูดเป็นระยะนะครับ หน้าไรเฟิลตลกมาก หึหึ
  
  
  “หน้าหว้านหวาน ไม่น่าเชื่อว่าจะเรียนวิศวะนะหนู ดูสิสักลายด้วย อร้ายยยย โดนใจเจ้” พี่แฮร์สไตล์ลิสต์พูด ลูบ ๆ จิ้ม ๆ แทททูที่หลังหูกับต้นคอด้านหลังผม ขนลุกมากครับ อยากจะปัดออกแต่ทำไม่ได้ ผมยิ้ม ไม่รู้จะพูดอะไร รู้สึกหิว ๆ ขึ้นมาอีกแล้วสิ อ๊อยยยยย ผมกระดิกนิ้วเรียกไรเฟิล คนถูกเรียกเลิกคิ้วสูงแต่ก็ยอมเดินมาหา พี่จุ๊บแจงกับพี่แฮร์สไตล์ลิสต์(ขอโทษครับจำชื่อไม่ได้)ถึงกับทำหน้าเคลิ้ม เจ้อย่า...เขาเป็นของผม
  
  
  “ว่า?”
  
  “หิว”
  
  “อื้อฮึ”
  
  
  โอเค รู้เรื่อง พูดไม่กี่ประโยคแต่เข้าใจกันดี แฮ่ ก่อนไรเฟิลจะออกไปผมบอกให้มันเอากระเป๋าเงินผมไปด้วย ฝรั่งเปิดดูแล้วบอกว่ามีร้อยแปดสิบก่อนจะโยน LV ผมทิ้งอย่างไม่ใยดี โอยยยย ลืมไป อยู่กับคุณชายแทบไม่ได้ใช้เงินตัวเอง ช่วงนี้เลยไม่ได้กดเงินเลย แหะ ๆ มีแฟนรวยก็งี้ ชีวิตดี [ตบให้ดิ้น หมั่นหน้า]
  
  ระหว่างนั้นก็มีทีมงานเข้ามาคุยเรื่องคอนเซปต์ครับ คอนเซปต์นี้คือ ‘ความเป็นธรรมชาติ’ ก็นะ ก็ไม่มีอะไรมาก แต่ทำออกมาให้มันเป็นธรรมชาติ แค่นั้น จบ! เหมือนจะง่ายนะ เหมือนจะ...
  
  
  “มีผมคนเดียวหรอครับอา?”
  
  “ใช่จ้ะ”
  
  “คนอื่นจะไม่ว่าใช้เส้นเหรอฮะ”
  
  “ช่างเขาสิ อาจะพรีเซนต์หลานอา”
  
  “ผมกลัวเขาว่าอานี่” อาณิชยิ้มเอ็นดูแล้วหยิกแก้มผม
  
  “ไม่มีใครว่าหรอก อย่าคิดมากเลยเด็กดี”
  
  ผมอยู่กับอาณิชสองคนในห้องพักครับ แต่งหน้าเสร็จแล้ว แต่งตัวก็เสร็จแล้ว สบาย แค่รอเวลาออกไปถ่ายแบบก็แค่นั้น
  
  
  ------------------
  
  
  ก็อก ก็อก
  
  เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามา ในมือหนามีถุงจากร้านสะดวกซื้อถุงใหญ่ ...ประชดกูหรือเปล่าครับ - -
  
  “ซื้ออะไรมาบ้าง”
  
  “ดูเองดิ”
  
  “เป็นอะไร?” ตอนนี้ไรเฟิลหน้าหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมซะอีก
  
  “เดี๋ยวอาออกไปข้างนอกดีกว่าเนอะ” อาณิชพูดจบก็เดินออกไปทันที ผมดึงแขนไรเฟิลให้นั่งลงข้างกัน ถึงได้เห็นว่าบนแขนแกร่งมีรอยแดงเป็นเส้นยาว รอยเล็บชัด ๆ โดนข่วนตอนโดนรุมแน่ ๆ
  
  “เจ็บป่ะ”
  
  “หึ เริ่มถ่ายเมื่อไหร่?”
  
  “อีกประมาณสามสิบนาที แล้วนี่จะเข้าม.เมื่อไหร่?”
  
  
  
  ไรเฟิลยกข้อมือดูนาฬิกาก่อนจะบอกว่าอีกนาน ตอนที่อาณิชเห็นคนตัวสูงนี่แทบจะเปลี่ยนตัวนายแบบจากผมเป็นไรเฟิลแทน แหม อาครับ.. ก็คุณชายมันทั้งสูง หล่อ หุ่นดี มีกล้าม เบ้าฝรั่ง ตาสีฟ้า ผมบลอดน์เงินสวยขนาดนี้ ถ้าได้ไปเป็นพรีเซนเตอร์จริง ๆ คงดีไม่น้อย แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญวันนี้ไรเฟิลใส่นาฬิกาคอลเลคชั่นก่อนหน้านั้นของแบรนด์อาณิชมาด้วย อาผมยิ้มปลื้มฝรั่งตาฟ้านี่ใหญ่ ไรเฟิลอย่างนั้น ไรเฟิลอย่างนี้ ควอทซ์ไร้ตัวตนมาก กลายเป็นหมาหัวเน่าเลย พูดแล้วน้ำตาจะไหล..
  
  “เลิกทำหน้าหงุดหงิดแล้วน่า”
  
  “กินดี ๆ” เฉไฉเขี่ยเศษแยมโรลออกจากมุมปากผม พอผมกินอิ่มก็คว้าขวดน้ำยาป้วนปากเดินเข้าไปห้องน้ำไป ไอ้นี่ก็ฉลาดซื้อจริง ๆ
  
  
  
  --------------------
  
  
  
  ถึงเวลาต้องเริ่มถ่ายแบบแล้วครับ!! ผมเดินเข้าไปในฉากอย่างเก้ ๆ กัง ๆ อ๋อยยย ตื่นเต้นอ่ะ เหลือบตาไปทางไรเฟิล มันแต่ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ อาณิชที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไรเฟิลก็ยิ้มให้เช่นก่อน พี่ทีมงานเอานาฬิกาเรือนแรกที่ต้องถ่ายมาให้
  
  “ตามสบายครับ ไม่ต้องเกร็ง” คุณตากล้องพูดแล้วยิ้มใจดี ยิ่งบอกแบบนี้ยิ่งเกร็งครับ T_T
  
  “ฟู่..” ผมเป่าลมจากปาก ก่อนจะเริ่มโพสท่าเมื่อพี่ตากล้องสั่งเริ่ม
  
  
  เซ็ทแรกผ่านไปแล้วเรียบร้อย โดนตินิดหน่อย  ก็ไม่ใช่นายแบบมืออาชีพนี่ครับ  ผมเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อถ่ายเซ็ทที่สอง พอเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาพี่ฝ่ายเมคอัพก็มาเติมหน้าให้ ในระหว่างที่พี่ ๆ กำลังดูแลความเรียบร้อยของผมอยู่นั้นไรเฟิลก็เข้ามา ผมเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม พูดไม่ได้ครับกำลังทาลิปให้ผมอยู่เดี๋ยวพี่จุ๊บแจงตบปาก (เพื่อ!!!) เป็นอันเข้าใจว่าคนตัวโตจะไปแล้ว พอขอนุญาตพี่ทีมงานได้ผมก็ออกมาหาไรเฟิล และเราก็มาที่ลานจอดรถของสตูดิโอ
  
  
  
  
  “ขับรถดี ๆ ล่ะ อื้อ...”
  
  
  มือหนาดึงเนคไทด์ทำให้ผมต้องโน้มตัวตามลงไป ก่อนที่จะเลื่อนมือมากดท้ายทอยผมเอาไว้ ริมฝีปากร้อนบดเบียนกับปากของผม มือเรียวยันไหล่กว้างเอาไว้เป็นตัวช่วยพยุง แทรกตัวเข้าไปกลางระหว่างขาของคนตัวสูงที่นั่งอยู่ในรถแต่เหยียดจาออกมาด้านนอก ไรเฟิลบดจูบรุนแรงในคราแรกก่อนจะเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนและค่อย ๆ ร้อนแรงขึ้นจนผมแทบยืนไม่อยู่  ...ผมอ้าปากเพื่อจะหายใจแต่กลับเป็นการเปิดโอกาสให้คนตัวสูงสอดปลายลิ้นเข้ามาเสียอย่างนั้น ลิ้นร้อนไล้ตามแนวฟันก่อนจะวกกลับมาเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นผมที่ตอบกลับไปอย่างดีเยี่ยม
  
  เราผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง หยาดน้ำสีใสเชื่อมระหว่างริมฝีปากของผมกับอีกคนก่อนมันจะขาดไป ปลายนิ้วหัวแม่มือเช็ดน้ำที่เคลือบบนกลีบป่กผมออกอย่างเบามือ
  
  
  
  ...ชักไม่อยากให้คนตัวสูงไปเรียนแล้วสิ
  
  
  
  
  “กลับเข้าไปได้แล้ว” กดจูดที่มุมปากผมแผ่วเบาก่อนจะผละออก ผมพยักหน้าหงึกหงักทั้งที่ใจยังไม่อยากเข้าไป ขยับตัวออกห่างจากตัวรถ ไรเฟิลบอกว่าถ่ายเสร็จแล้วให้โทรหรือส่งข้อความไปบอก ผมตอบรับอือ มองรถยนต์ที่เคลื่อนผ่านออกไปจนลับตาถึงได้กลับเข้าไปในสตูดิโอ
  
  
  
  
  
  -----------------------------------
  
  
  
  
  การถ่ายแบบผ่านไปจนกระทั่งถึงเซ็ทสุดท้าย ผมรับเสื้อเชิ้ตสีขาวกับสูทปกกว้างสีเข้มแบบกระดุมเม็ดเดียวมาเปลี่ยน แต่พอออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด พี่นัชชี่สาวสวยที่เคยเป็นชาย(แปลงเพศแล้ว)ฝ่ายคอสตูมกลับปลดกระดุมเสื้อผมออกทุกเม็ดทั้งสองตัวแล้วแหวกสาบเสื้อผมออกก่อนจะจัดให้เข้าที่อีกที ทำไมต้องปลดกระดุมด้วยวะ!!! โชคดีที่ผมพอมีกล้ามหน้าท้องอยู่บ้าง แม้จะไม่ค่อยมองเห็นก็เถอะ ถ้ามีแค่หน้าท้องนิ่ม ๆ คงน่าอายพิลึก ฮืออออ
  
  “ขอเจ๊สัมผัสได้ไหมจ้ะ” เจ๊จะขอเพื่ออะไรถ้ามือเจ๊จะลูบหน้าท้องผมไปแล้วน่ะครับ!! เจ๊พี่นัชชี่ขยับมาใกล้จนหน้าอกหน้าใจตู้ม ๆ ของเจ๊แกจะแนบตัวผมอยู่แล้ว ผมเกร็งตัวหลับตาปี๋ปลายจมูกราคาแพงของพี่นัชชี่เฉียดซอกคอ โอ๊ยยยย หัวใจจะวาย ช่วยด้วยยยยยยย ผมกลัวแล้วววววว T___T
  
  
  ผมยิ้มแห้ง ขยับตัวออกห่างอย่างสุภาพ พี่แฮร์สไตล์ลิสต์ดันผมให้นั่งเก้าอีกหน้ากระจก ก่อนจะจัดแต่งทรงผมอีกนิดหน่อย มีพร้อพเสริมคือมงกุฎดอกไม้เพิ่มเข้ามา มันก็ดูดีอยู่นะ แต่ก็อย่าว่า คนหล่อทำอะไรก็หล่ออยู่แล้วล่ะครับ เนอะ อ้าว! ใครบอกให้อ้วก!
  
  
  
  “เอียงคอนิดนึงลูก” พี่อีกคอเข้ามา ก่อนจะแปะแทททูบนต้นคอผม ไม่ให้ผมตั้งตัวเล้ยยยยยยยยยย
  
  
  
  
  
  -------------
  
  
  
  “พร้อมนะ!” คุณตากล้องร้องถาม พอผมตอบรับก็เริ่มถ่ายกัน เซ็ทนี่พี่เขาบอกอยากได้เซ็กซี่นิด ๆ ถึงจะงง ๆ แต่ก็ตามน้ำไปครับ เป็นแค่เด็กจะไปขัดอะไรใครเขาได้ แล้วให้ผมทำท่าเซ็กซี่นี่แน่ใจแล้วเหรอ เกรงว่ามันจะออกมาเซ็กเสื่อมนี่สิ
  
  
  
  
  “สุดท้ายแล้วนะครับ” ผมนั่งบนที่วางแขนของอาร์มแชร์ตัวใหญ่ กัดริมฝีปากเอียงใบหน้านิดหน่อย เท้าแขนกับพนักพิงพยุงตัวเองไว้ ส่วนอีกข้างยกปลายนิ้วแตะริมฝีปากเพื่อโชว์นาฬิกา ตามองจิกกล้องและหลับตาลงข้างหนึ่ง
  
  
  “เรียบร้อยครับ!” สิ้นเสียงคุณตากล้องผมก็ลดมือลง รวบชายเสื้อให้ชิดกัน เอ่ยขอบคุณทีมงานทุกคนแล้วรีบเข้าไปเปลี่ยนชุด ไม่ทันได้ฟังเสียงพี่ ๆ บางคนที่เรียกผมไว้กะจะขอถ่ายรูป ผมเปลี่ยนมาใส่ชุดที่ใส่มาเมื่อเช้า ออกมาก็เจออาณิชรออยู่ก่อนแล้ว
  
  
  “สุดยอดมากหลานอา ขอบคุณที่ช่วยอานะ”
  
  “ไม่เป็นไรครับ หลานอาณิชซะอย่างนี่เนอะ” ผมยิ้ม
  
  “รีบเปลี่ยนชุดทำไมล่ะ อากะจะขอถ่ายรูปด้วยสักหน่อย”
  
  “เหอ ๆ ขนลุกแปลก ๆ อ่ะครับ ไม่เห็นรู้ว่ามีแบบนี้ด้วย”
  
  “อื้ม.. อาก็เพิ่งรู้เหมือนกัน”
  
  “อ่า... ผ่านไปแล้ว ช่างมันเถอะครับ”
  
  “โอเคครับ มาถ่ายรูปกัน” ผมถ่ายรูปกับอาณิชสองสามรูปก่อนจะขอตัวไปล้างหน้า แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนก็ถูกพี่ ๆ ทีมงานลากไปถ่ายรูปซะก่อน ทั้งถ่ายคู่ ถ่ายเดียว ถ่ายรวม เล่นเอาเหนื่อย อินสตาแกรมผมคงมีแจ้งเตือนเยอะแน่ ๆ
  
  
  
  ---------------
  
  
  
  “ขอโทษนะครับ ช่วยส่งไฟล์รูปทั้งหมดให้ผมได้ไหมครับ?” ผมถามคุณตากล้อง ก่อนจะมาผมคุยกับอาณิชก่อนแล้ว แล้วเอาก็อนุญาตแล้วด้วย เพียงแค่บอกว่าอย่าเพิ่งปล่อยรูปต้องรอให้ทางแบรนด์ปล่อยออกมาก่อน เพราะไม่อย่างนั้นมันอาจมีผลกระทบกับตัวงานได้
  
  
  “ได้ครับ จะให้พี่ส่งให้ทางไหนดี” แล้วจำเป็นต้องมองผมตาเยิ้มแบบนั้นหรอครับ - -
  
  “อีเมล์เลยครับ เดี๋ยวผมเขียนให้” ผมว่าก่อนจะหากระดาษกับปากกามาจดอีเมล์ให้คุณตากล้อง
  
  “ครับ ถ้าส่งไปแล้วเดี๋ยวพี่โทรบอก..” เดี๋ยวครับ.. คุณไม่มีเบอร์ผมสักหน่อย ตลกแล้ว - -
  
  “ไม่จำเป็นครับ ผมเช็ดเมล์ประจำอยู่แล้ว ขอบคุณครับ ผมขอตัวก่อน” จากนั้นผมก็ไปบอกอาณิชว่าจะกลับแล้ว และปฏิเสธคำชวนที่อาณิชชวนไปกินข้าวด้วย(อาณิชเลี้ยงข้าวทีมงานฮะ)
  
  
  
  
  
  
  
  ---------------------------
  
  
  
  
  วางกระเป๋าไว้ที่เบาะข้างคนขับ ก่อนจะออกรถแล้วตรงไปที่มหาวิทยาลัย(มีเนวิเกเตอร์เป็นตัวช่วย) หลังจากที่โทรหาไรเฟิล มันก็บอกให้ผมไปหาหรือเรียกให้ถูกคือไปรับนั่นแหละ รถไรเฟิลกายยืมไปครับ ไม่รู้กายมีเหตุผลอะไร คนขี้หวงอย่างไรเฟิลถึงยอมให้ยืมรถได้
  
  
  
  มาถึงมหาวิทยาลัยก็บ่ายสามเกือบสี่โมงแล้ว
  
  “ถึงแล้วนะ อยู่หน้าตึก”
  
  (“ยังไม่เลิก ไปรอที่คาเฟ่ข้างคณะ เดี๋ยวไปหา”)
  
  “อืม ได้ ตัวใจเรียนล่ะ” วางสายจากไรเฟิล ผมก็ขับรถไปจอดใกล้ ๆ คาเฟ่ที่ว่านั่น แล้วทำไมตอนผมลงจากรถต้องมีคนมองด้วยเนี่ย
  
  
  
  กรุ้ง กริ้ง
  
  เสียงโมบายกระดิ่งดังขึ้นเมื่อเปิดประตู พนักงานเอ่ยต้อนรับเสียงใส
  
  “สวัสดีจ้า คาลี่คาเฟ่ยินดีตอนรับค่ะ” ผมยิ้มหน่อย ๆ
  
  “ว้าย! น้องควอทซ์ใช่ไหมคะ?” พี่คนเดิมถามเสียงตื่นเต้น
  
  “อ่า.. ครับ”
  
  “อร้ายย ตัวจริงน่ารักจัง ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ?” ผมตอบครับ พี่คาลี่(เพิ่งรู้ชื่อและก็เป็นเจ้าของร้านด้วย)วิ่งออกมาจากเคานต์เตอร์แล้วมายืนข้างผม ให้พนักงานคนอื่นถ่ายให้ รวมทั้งพี่คาลี่ถ่ายเองด้วย
  
  “ขอบคุณค่ะ ไม่เห็นหยิ่งเลย ฮิฮิ รับอะไรดีคะ?”
  
  “อ่า.. ช็อกโกแลตครีมแฟรบฯ กับไวท์ช็อกโกแลตชีสเค้กแล้วกันครับ”
  
  “สักครู่นะคะ เชิญนั่งรอก่อนเลยค่ะ”
  
  
  
  ร้านนี้ตกแต่งด้วยโทนสีสดใส หลากหลายแต่เข้ากันอย่างลงตัว ตัวร้านไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็กเกินไป อีกอย่างเมนูก็มีให้เลือกเยอะด้วย ทั้งพวกเครื่องดื่ม เบเกอร์รี่ รวมทั้งอาหารอย่างอื่นก็มี หูยยยยย ทำไมผมเพิ่งมาเจอร้านนี้เนี่ย ผมเลือกนั่งด้านในติดกระจก คนในร้านตอนนี้ก็ถือว่าเยอะ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์กับคณะบริหาร (ร้านอยู่ระหว่างสองคณะ)
  
  
  
  
  “ขอบคุณครับ” บอกพี่คาลี่ที่เอามาเสิร์ฟ ผมตักเค้กขึ้นชิม อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก! ไม่หวานมากแล้วก็ไม่เลี่ยนด้วย ถูกใจควอทซ์ ผมว่าไรเฟิลแม่งต้องมาคลุกอยู่นี่บ่อยแน่เลย
  
  
  
  --------------------
  
  
  
  “เด็กทุนมากินอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ” เอาล่ะ เสียงดังเข้ามากระทบโสตประสาท ผมเลือกที่จะไม่สนใจ ไม่ได้มองด้วยว่าใครพูด จิ้มสมาร์ทโฟนเล่น คุยไลน์กับไอ้ไนต์ กินเค้กต่อ
  
  ...ก็ไม่เห็นหน้าร้านมีป้ายบอกว่าห้ามเด็กทุนเข้านี่หว่า...
  
  
  “มีปัญญาจ่ายหรือเปล่าไม่รู้นะ” คนพูดคงจะมากับคนแรก เพราะเข้าขากันดีเหลือเกิน เสียงพูดคุยกันในร้านเงียบกริบจากจอแจตอนแรก หึ ผมแสยะยิ้มกับตัวเอง เอนตัวพิงพนักแล้วมองหน้าคนพูด พอเห็นผมมองพวกเธอก็เหยียดยิ้ม นึกว่าใคร ที่แท้ก็ดาวเศรษฐศาสตร์ที่คู่กับไรเฟิลนี่เอง
  
  
  กรีน...
  
  
  
  “หึ”
  
  “ยี๋ ร้านเขาเสียคลาสหมด” กรีีนทำหน้ารังเกียจ เดินมาทางผมและแกล้งสะดุด ทำให้กาแฟที่เธอถือมาหกใส่ผมเต็ม  ๆ อื้ม... กาแฟร้อนด้วยครับ แม่เง้ยยยยยย! แล้วเสื้อที่ผมใส่ดันเป็นสีขาวด้วยนี่สิ ดีจริง ๆ
  
  “อุ้ย.. โทษที” บอกขอโทษแต่ปากเหยียดยิ้มเยาะ คนเรานี่นะ..
  
  “ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้องสะเออะพูดมันออกมาก็ได้ครับ” ผมพูดยิ้ม ๆ พลางดึงกระดาษทิชชู่มาซับกาแฟที่เลอะ
  
  
  “นี่แก!”
  
  “ว้ายยย เกิดอะไรขึ้นคะ” พี่คาลี่ถามหน้าตื่น
  
  “คุณผู้หญิงคนนี้เขาเกิดมือเปลี้ยไม่มีแรงขึ้นมากระทันหันแค่นั้นครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ”
  
  “เอ่อ.. เดี๋ยวพี่หาผ้ามาเช็ดให้นะคะ”
  
  “ขอบคุณครับแต่ไม่เป็นไร”
  
  
  
  “เป็นบ้าหรือไง ปรึกษาแพทย์ไหมเดี๋ยวนัดให้” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแม้ในใจระคุกรุ่น ยืนขึ้นประจันหน้ากับกรีน
  
  “ฉันไม่ได้บ้า!”
  
  “ผมว่าบ้านะ บ้า...ผู้ชายไง :-)”
  
  “กรี๊ดดดดด!”
  
  “ผมไม่รู้หรอกว่าคุณเกลียดผมเพราะอะไร มาทำผมแบบนี้คิดว่าผมจะยอมไหม”
  
  “เหอะ! ไม่รู้ก็โง่เต็มทีแล้ว!”
  
  “งั้นก็ช่วยสนองคนโง่อย่างผมหน่อยสิ”
  
  “เหอะ! ไรเฟิลไง”
  
  “อ่า.. ไรเฟิลเกี่ยวอะไรล่ะครับ”
  
  “อย่ามาทำไขสื่อ! ฉันรู้ว่าแกกับไรเฟิลเป็นอะไรกัน และเพราะแกไรเฟิลถึงไม่เลือกฉัน!!”
  
  “เพราะตัวคุณเองมากกว่ามั้ง”
  
  “กรี๊ดดดดดดดดด แก!!”

  
  
  
  “จะทำบ้าอะไร!!” เสียงทุ้มเข้มตวาดลั่น มือหนากำข้อมือของกรีนที่ง้างค้างไว้แล้วสะบัดออกก่อนจะเข้ามายืนบังผม
  
  “ร ไรเฟิล.. กรีน ไม่..”
  
  “หุบปาก! ผมถามว่าจะทำอะไร!” ผมดึงเสื้อไรเฟิลเบา ๆ คนในร้านหันมามองอย่างโจ้งแจ้ง  แล้วการที่กรีนมาตะคอกใส่ผมแบบนี้ถือว่าเป็นการประจารตัวเองเลยนะ
  
  “เหอะ! รู้อยู่แล้วจะถามทำไมล่ะ! กรีนก็จะตบมันน่ะสิ” เชิดหน้าใส่ราวกับไม่เกรงกลัว ทั้งที่นัยน์ตาวูบไหว
  
  “อยากตายหรือไง!!”
  
  “ห่วงมันมากหรือไง!”
  
  “เออ!”
  
  “ไรฟ์” เรียกให้อีกฝ่ายใจเย็น แต่เหมือนจะคิดผิด เมื่ออีกฝ่ายหันมาเจอสภาพผม ร่างสูงขบกรามแน่น
  
  “ทำเป็นเสียงอ่อนเสียงหวาน น่ารำคาญ”
  
  “ไม่เสือกดิครับ” ผมพูด เริ่มหงุดหงิดบ้างแล้วนะ
  
  “แก!”
  
  “ผมจะถือว่าเรื่องไม่นี้ไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน”
  
  “คนดีจัง เหอะ” ผมถอนหายใจแล้วกลอกตาเซ็ง
  
  “บำบัดไหม?”
  
  “แกน่ะสิ!”
  
  “พอเหอะ อายคนเขาไหมนั่น ...กลับเหอะ” ในจังหวะที่ผมกำลังจะเดินผ่านเธอไป กรีนกระชากผมก่อนที่ฝ่ามือของเธอจะกระทบลงบนแก้มผม

  
  เพี้ยะ!


  ผมหลับตาสะกดอารมณ์ มือกำแน่นบังคับไม่ให้เผลอทำร้ายคนตรงหน้าเข้า ได้ยินไรเฟิลสบถคำหยาบ ผมจับแขนอีกคนไว้แล้วดันออก ลืมตามองกรีนด้วยสายตาเรียบนิ่ง เกิดมายี่สิบปีไม่เคยโดนตบหน้า แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร กล้าดียังไงมาตบหน้าผม!
  
  “คิดว่าตัวเองเป็นใคร.. คิดว่าจะไปตบหน้าใครก็ได้งั้นเหรอ..”
  
  “อย่า อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ”
  
  “หึ รู้ป่ะว่าคุณมันงี่เง่า ไม่แปลกใจเลยทำไมผู้ชายเขาถึงไม่เอา”
  
  “กรี๊ดดดด”
  
  “แล้วไอ้ร้องกรี๊ด ๆ เวลาไม่พอใจเนี่ยเลิกได้ป่ะ น่ารำคาญ”
  
  กรีนมองผมอย่างโกรธแค้น เพื่อนของเธอที่มาด้วยกันไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ
  
  “อ้อ อีกอย่างนะถึงไม่มีผมไรเฟิลก็ไม่เลือกคุณหรอกครับ”
  
  ผมมองหน้ากรีนแล้วเหยียดยิ้มมุมปากเป็นเชิงเห็นใจเบา ๆ
  
  
  
  
  -------------------
  
  
  
  
  “เกิดอะไรขึ้นวะ” ผู้ชายหน้าตี๋เข้ามาหาไรเฟิล ผมไม่ได้สนใจเพราะกำลังหงุดหงิด เปิดท้ายรถหาเสื้อมาเปลื่ยน ถอดเปลี่ยนแม่งตรงนี้เนี่ยแหละ!! ดีนะมีเสื้อติดมาด้วย เทน้ำที่มีติดอยู่ในรถล้างคาบเหนียว ๆ
  
  “ทำบ้าอะไรวะ!”
  
  “แหกตาดูเองสิ! ฮึ่ยยย” สะบัดมือให้หยดน้ำกระเซ็นใส่ไรเฟิล
  
  “ขาวมาก..”
  
  ตุบ!
  
  เพื่อนไรเฟิลถูกถีบด้วยฝีเท้าของไรเฟิลเอง เหอ ๆ ผมรีบสวมเสื้อยืดให้เรียบร้อยแล้วปาขวดน้ำลงถังขยะใกล้ ๆ เห็นกรีนกับเพื่อนออกมาพอดี
  
  “เชิดขนาดนั้นไม่ปวดคอรึไง” ผมว่าเสียงหงุดหงิด เพื่อนตี๋ของไรเฟิลหัวเราะขำ
  
  “ไปว่าเขา”
  
  “ทำไม! แม่งเอ้ย ถ้าไม่เป็นผู้หญิงนะกูจะยันให้หงาย”
  
  “ฮ่า ๆๆ เมียมึงแม่งห่ามฉิบหาย”
  
  “หึ”
  
  “ป่ะ ไปได้ยัง ป่านนี้ไอ้ปูนบ่นล่ะกูว่า”
  
  คุยกันสักพักก็รู้ว่าเพื่อนมันชื่อโซ่ แล้วปูนที่ว่านี่ก็เพื่อนพวกมันอีกนั่นแหละ พวกมันตกลงกันจะไปหาอะไรกินก่อนแล้วให้ปูนไปรอที่ร้าน ไรเฟิลปฏิเสธไม่ได้เพราะโทรศัพท์มันถูกโซ่ยึดไป(ถึงว่าทำไมมันไม่โทรหาผม)แล้วส่งต่อให้ปูนอีกที ถ้าจะเอาก็ต้องตามไปเอาที่ร้านอาหารนั่น คุณชายมันจะทำอะไรได้ล่ะครับ ก็ดี ผมก็หิวแล้วเหมือนกัน เสียพลังงานมาเยอะ เซ็งโว้ยยยยยยย!
  
  
  
  ---------------------
  
  
  
  “มึงไปทำเสน่ห์ใส่เขาหรอวะถึงได้หลงมึงขนาดนั้น” ผมพูด มองไรเฟิลที่เป็นคนขับ ตาคมเหลือบมองแล้วกลับไปมองถนน
  
  “เจ็บหรือเปล่า?”
  
  ผมดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มข้างที่โดนตบ “เจ็บดิ มือหนักฉิบ” พอได้ยินคำตอบของผมเหมือนหน้าคมจะขึงขังขึ้นยิ่งกว่าเดิม มือหนากกำพวงมาลัยแน่น
  
  “อย่าคิดมาก แค่โดนตบ ชิลลลล”
  
  “เหอะ ใครจะไปชิลได้วะ”
  
  “น่าาา แล้วจะทำไง ไปตบเขาเหรอ”
  
  “ทำได้ก็ดิสิ ถ้าแตะคนของกูอีกเมื่อไหร่ไม่ไว้หน้าแน่”
  
  “หึหึ ขอบคุณนะ” ..ที่เป็นห่วง
  
  
  
  เรื่องของกรีนผมไม่รู้ว่าที่เธอทำเพราะรู้สึกเสียหน้าหรือเปล่า อาจจะใช่ แต่ถ้ามีครั้งที่สองล่ะก็... หึ ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมายหรอก  ก็บอกแล้วว่าผมเป็นคนที่มีความอดทนสูง แต่อย่าให้หมดความอดทนแล้วกัน มันอาจจะดูไม่ดีเพราะตัวผมเองเป็นผู้ชาย แล้วใครเป็นคนบอกว่าผู้ชายตอบโต้ผู้หญิงไม่ใช่ลูกผู้ชายวะ ต้องยืนนิ่งให้ผู้หญิงทำฝ่ายเดียวหรือไง .... ไม่มีสิทธิจะป้องกันตัวเองเลยหรอ ลองถามใจดู..
  
  
  
  ----------------
  
  
  
  
  ที่หมายของเราคือร้านสเต็กครับ ตอนเย็น ๆ แบบนี้คนค่อนข้างเยอะเลย ไรเฟิลพาผมเข้าไปข้างในและมองหาเพื่อนของมัน
  
  
  
  “เฮ้ย! ทางนี้!” เสียงโซ่ร้องเรียก แม่งมาถึงไวฉิบ
  
  “เอามือถือกูมา” ไรเฟิลพูด คนที่นั่งข้างโซ่ ไหวไหล่ เขาเป็นผู้ชายผิวแทนนิด ๆ หล่อเข้ม ตัดสกินเฮด เจาะหู สักลายด้วย เท่สัด! คนนี้คงจะชื่อปูน
  
  “นั่งก่อนดิ รีบไปไหนวะ” โซ่
  
  “หวัดดีครับ” ปูนหันมาทักผมแล้วโปรยยิ้มใส่ อื้อหือออ ยิ้มแล้วมีเสน่ห์เหี้ย ๆ
  
  “หวะ หวัดดี”
  
  “จ้องขนาดนั้นแดกมันเลยไหม”
  
  “ห้ะ..” ผมกระพริบตาปริบ ไรเฟิลหน้าบึ้ง โซ่หัวเราะร่า ปูนยิ้มมุมปากเท่ ๆ ///////
  
  “เอ้า สั่งได้ล่ะ กูหิว” ปูนพูดอีกครั้ง เสียงน่าฟังมาก ๆ แล้วทำไมผมถึงคันหัวใจยิบ ๆ แบบนี้เล่า!
  
  “ควอทซ์ ๆ”
  
  “หือ?” โซ่บุ้ยปากไปทางไรเฟิลแล้วยิ้มขำ ผมมองตาม คุณชายจ้องเขม็งเลยเว้ย!
  
  “ไรหยอ?” ไรเฟิลผลักหัวผมอีก ไอ้บ้านี่!
  
  “แรดนะ”
  
  “หวงก็บอกว่าหวงไม่ใช่หวงแล้วบอกว่าแรดนะ” ผมพูดกลั้วหัวเราะจิ้มแก้มไรเฟิลจึก ๆ ลืมว่ามีอีกสองคนอยู่ด้วย เวรกรรม...
  
  พออาหารมาเสิร์ฟก็ลงมือกััน สเต็กจานใหญ่มากกกกกกก!! ได้เนอะด้วย แถมยังอร่อยอีก
  
  และหลังจากที่ได้รู้จักเพื่อนไรเฟิลสองคนนี้ ก็ดีครับ กวนตีนดีมาก ทั้งโซ่ทั้งปูนเลย แม่งงง โซ่มันพูดมากมากกกกก พูดจนเพื่อนเอือม ไม่มีคนฟังก็ยังพูดอยู่นั้นแหละ ส่วนปูนนิ่ง ๆ แนวหล่อร้าย แต่ไม่ร้าย เอ๊ะ ยังไง อย่าให้มันพูดนะครับ แม่เง้ยยยยย แซวแต่ละทีผมแทบจะมุดกำแพงอยู่แล้ว ฮือ T_T
  
  
  “ซี้ด..”
  
  “เป็นไร?”
  
  “เจ็บอ่ะ” ผมเบะปาก แลบลิ้นแตะมุมปากที่เริ่มตึง ๆ มือหนาวางลงบนหัวแล้วยีเบา ๆ
  
  
  
  
  “ทำไมซอสแม่งหวานงี้ว้าาาาาา” ไอ้โซ่!!!! ไอ้กวนตีนนนนนนน ผมแยกเขี้ยวใส่โซ่ มันลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ ยุปูนให้แซวผมอีก แล้วปูนก็ดั๊นนนนนนนน บ้าจี้ตามโซ่ ถ้าไม่หล่อนะจะถีบให้!







---------------TBC-------------
กราบสวัสดีค่ะ เอาน้องกระต่ายมาถวายทุกคนแล้ว~
เด็กเรามีเรื่องกับผู้หญิงอีกแล้ว T___T แมนมากลูก(55555555555555)
บทลงโทษนั้น... อย่าคาดหวังอะไรเลยค่ะ ไว้รวบยอดตอนวันเกิดพี่เฟิลเนอะ
 :hao7: :hao7:

-ถ้าผิดพลาดหรือควรปรับปรุงยังไงก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
 :mew6: :mew6:
-พี่เจ้า.. พี่เจ้ามีเรื่องของพี่เจ้าเองค่ะ ตอนนี้มีแค่อินโทร(แต่งไว้นานแล้วแต่คิดบทยังไม่ออก)
ชื่อเรื่อง WAIT FOR LOVE รักแล้วรอหน่อย
คิดว่าเรื่องนี้จบค่อยจะแต่งต่อ แหะๆ
 :m17: :m17:

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและทุกคอมเมนต์ค่ะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 25-03-2015 22:42:41
ฮาตรงไรเฟิล บอก แรดน่ะ 5555555555555 :hao7:

นุ้งนี ที่ตบบันนี่ ระวังพี่เฟิลจะพิโรธนะลูก ป้าขอเตือน :fire:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 25-03-2015 22:42:56
อยากตบอีนังกรีนชะนีหลงป่าจริงๆเลย โทษอินไปหน่อย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 25-03-2015 22:54:22
หวานไม่เกรงใจกันเลย 5555


น่าร๊าาากกก

ตอกให้กรีนหน้าหงายไปเลย 5555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 25-03-2015 23:09:12
โซ่ กะ ปูน

คู่นี้ก็น่าสนน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-03-2015 23:14:41
น่าจะจัดสักยกน่ะกับหล่อนคนนั้น
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-03-2015 23:54:00
บันนี่ก็สู้คนนะ เกือบได้ตบคนแล้ว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 26-03-2015 00:34:27
หวานจนฟิน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 26-03-2015 01:37:03
ฮือออออออออออออออออออออออออ

อยากอ่านอีกอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ยังไม่จุใจเลย   

มาต่อเร็วๆน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 26-03-2015 04:09:45
รอดูบทลงโทษ   กับรอดูชะนีหน้าแตกเสียจริต
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 26-03-2015 08:02:28
บันนี่แรด คิคิ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 26-03-2015 10:06:00
ไม่เอานะคะบันนี่

ยัยเจ้กรีนอะไรนั่น

ไม่ใช่เมีย ไม่ใช่ลูก หนูนะจ๊ะ กระต่ายน้อย

อย่าปล่อยให้เขามาตบเล่นซิคะ

เตะสวนเลยค่ะ บอกคนรอบข้างไป ว่าเราบ้าจี้

โดนตบแล้ว เส้นเท้ากระตุกจร้า

ไม่มีใครเชื่อ ไม่มีใครเป็นพยาน

เดี๋ยวป้าเป็นพยานให้เองลูก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 26-03-2015 11:18:25
ควอทซ์ใจเย็นไปมั้ย ตบมาก็ต้องต่อยกลับสิ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 26-03-2015 13:06:11
จัดการชะนี เลยไรเฟิล มาทำน้องบันนี่ได้ไง   :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 26-03-2015 15:03:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 26-03-2015 15:14:58
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 26-03-2015 18:15:23
น่ารักอะเนอะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 26-03-2015 19:46:25
ยี้รำคาญชะนีที่ผู้ชายเขาไม่เอาแล้วมายืนกรี๊ดๆ -_-
ปูลู นุ้งควอทซ์น่ารักอีกล้าวว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: honey_noii ที่ 26-03-2015 20:45:27
 :katai2-1: :katai2-1: :mew1: :mew1: น่ารักจิงจ้ง บันนี่
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Cream A ที่ 26-03-2015 21:20:00
ยัยกรีนนี่ไม่ไหวแล้วนะ เด๋วให้บันนี่จัดไปสักยกสองยก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 26-03-2015 23:00:34
 :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:นังกรีนแกบังอาจมากนะ :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 28-03-2015 09:59:34
เรื่องนี้น่ารักมากกกก

มาต่อเร็วๆน้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 39 (25.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 28-03-2015 21:25:51
เข้ามาอ่านีรวดเดียวยาวๆเลยครับ
ติดใจควอล์์กับไรเฟิลแล้วดิ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 29-03-2015 22:08:49
EPISODE 40







  “เออมึง ศุกร์สิ้นเดือนวันเกิดไอ้ฟา มึงจะไปเปล่า?” ไนต์ถามขณะที่ผมพิมพ์งานต็อกแต็ก ส่วนมันนั่งกระดิกเท้าจิบเบียร์ - -
  
  “ไม่รู้ดิ อาจจะฝากแค่ของขวัญ” ผมตอบ ตาไม่ละจากคอมพิวเตอร์ วันนี้เป็นวันเสาร์ผมมาสิงที่ห้องไอ้ไนต์ มาทำงานกันครับ ตอนนี้อยู่กับมันสองคน น้องตัวเล็กไปอะไรไม่รู้ข้างล่างหลังจากรับโทรศัพท์ ส่วนไรเฟิลผมไม่รู้ว่าไปไหน ถามไม่ตอบบอกแค่ว่าธุระ
  
  “ไอ้ปืนลากไปอยู่แล้ว”
  
  “อ่ะฮ่ะ” ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น วันเกิดฟาโรห์ตรงกับวันศุกร์พอดี วันถัดไปก็เป็นวันเสาร์ เมาได้ไม่ต้องกลัวขาดเรียน ชิลลลลล
  
  “จัดควบวันเกิดไอ้ปืน”
  
  “เหรอวะ” จากที่ไนต์บอก ศุกร์สิ้นเดือน ตรงกับวันที่ 31 ไรเฟิล เกิด 8 พฤศจิกา
  
  “กูว่ามึงต้องไป หึหึ”
  
  “จัดที่ไหนวะ?”
  
  “บ้านศิริวัฒนามงคล” ห้ะ! บ บ้านมันเหรอ ผมสั่นหน้าหวือ ไอ้ไนต์หัวเราะ ถ้าไปบ้านมันจริง ๆ ก็ต้องเจอครอบครัวมันอ่ะดิ ไม่เอา กูไม่พร้อม!!
  
  
  “น้องตัวเล็กของกูเมื่อไหร่จะมาเนี่ย” เปลี่ยนเรื่องร้องหาคนของเพื่อนที่โมเมว่าเป็นของตัวเอง ผมซี้กับน้องตัวเล็กแล้ว รู้มาอีกว่าน้องเกิดเดือนเดียวกันกับผม นี่มันเนื้อคู่ชัด ๆ ฮิฮิ
  
  “ของกู!!”
  
  “มึงของน้องเป็นแฟนยัง?”
  
  “ยัง”
  
  “นั่นไง  น้องไม่มีแฟนก็จีบได้ดิ”
  
  “เดี๋ยวไอ้สัด มึงมีผัวแล้ว” ตุบ! หมอนอิงลอบมากระแทกหน้าผมเต็ม ๆ แล้วย้ำเรื่องผะลัวของกูทำเชี่ย!
  
  “กูหมายถึงคนอื่นต่างหาก มึงคิดดูนะเว้ย น้องตัวเล็กของกูน่ารักจะตายอ่ะ ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ สเปคผู้ชายเลยนะมึง ยิ่งตาคม ๆ นั่นน่ะ โคตรน่าหลงใหล มึงไม่คิดว่าจะมีคนมาชอบน้องเหรอ”
  
  “มันเป็นของกู”
  
  “เหรอ? แล้วเป็นอะไรกันล่ะ ...เห็นมะ แค่นี้มึงยังตอบไม่ได้เลย” ไนต์สะอึกไปนั่นทำให้ผมยกยิ้ม
  
  “มึงไม่รู้อะไร...”
  
  “เอ้า! มึงไม่เล่ากูจะรู้ไหมล่ะ”
  
  “หึ”
  
  “คิดดี ๆ แล้วกัน ....~อะไรคือความสัมพันธ์ อะไรที่เราเป็นกัน ไม่รู้เลย ไม่รู้เลย ไม่กล้าจะคิดคำนั้น~” ผมร้องเพลงที่เคยฟังขึ้นมาก่อนจะหัวเราะเพราะหน้ายุ่ง ๆ ของไอ้ไนต์
  
  “มันเร็วไป”
  
  “จะรอให้สายไปว่างัั้น”
  
  
  คิดห่าอะไรให้ซับซ้อนวะ ดูก็รู้ว่ามันห่วงมันหวงน้องตัวเล็กขนาดนั้น แล้วน้องก็เหมือนกันนั่นแหละ ไอ้พวกนี้แม่ง อย่าให้ต้องสอน
  
  
  
  
  ----------------
  
  
  
  
  เสียงเปิดปิดประตูดังแว่วมา ทำให้ผมกับไนต์เงียบกันไป น้องตัวเล็กเข้ามาพร้อมกับถุงผ้าในอ้อมกอด
  
  “ไปไหนมา” ทำเป็นเก๊กเสียงเข้ม ไอ้หมาเอ๊ยยยยย
  
  “เอาหนังสือ”
  
  “ใครเอามาให้”
  
  “เพื่อน”
  
  “หึหึหึ” ผมยกกำปั้นบังรอยยิ้ม ไอ้ไนต์ตวัดตามองแล้วถามเสียงขุ่น
  
  “หัวเราะเหี้ยไร”
  
  “หัวเราะหมา อืม... หมาหวงก้างด้วย ฮ่า ๆๆ”
  
  “ไอ้เห็ด!” ไอ้ไนต์กระโจนมาล็อกคอผมแน่ เท่านั้นยังไม่พอมือใหญ่ ๆ ของมันปิดปากผมด้วย ไอ้สาดดดดด มันปิดจมูกกูด้วยเนี่ยยยยยยย หายใจไม่ออกโว้ยยยยย ผมยกมือทุบไอ้ไนต์อั่ก ๆ แต่ความอยากมันไม่สะท้านเลย ผมเปลี่ยนเป็นบิดหูมันก่อนใช้อีกข้างบีบจมูก ทั้งจิก ทั้งข่วน รู้จักกูน้อยไปแล้ว!
  
  น้องตัวเล็กไม่ช่วยซ้ำยังหัวเราะขำ ไม่พอแค่นั้นยกโทรศัพท์ขึ้นมาอีก ไม่รู้ถ่ายรูปหรือถ่ายคลิป
  
  
  “แฮ่ก ๆ” หอบหายใจกันคนละมุม ผมกับไนต์มองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา สภาพแม่งแบบ... นะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
  
  
  “ไอ้เชี่ยยยยย เลือด!”
  
  “ไหน” ผมกำลังจะเข้าไปดูแต่น้องตัวเล็กเร็วกว่า เข้าถึงตัวไอ้ไนต์ก่อน ผมเลยนั่งอยู่ที่เดิม มองจากคนนอกแบบนี้มันเห็นได้ชัดกว่าคนในซะอีก
  
  ห่วงนี่มันห่วงจริง ๆ
  
  “แผลนิดเดียวร้องยังกะโดนกรีดหน้า!” น้องตัวเล็กจิ้มรอยแผลไอ้ไนต์แล้วหนีไปอ่านหนังสือที่ถูกกางทิ้งไว้ เล็บผมข่วนสันกรามของมันตอนตี(?)กันยาวประมาณสองเซนฯได้ มีเลือดซิบ ๆ นิด ๆ แต่ไอ้ไนต์แม่งเว่อร์ ตกใจหมด
  
  “ไอ้ปืนไม่พาไปตัดเล็บตัดขนหรือไง ยาวเชี่ย”
  
  “กูคนไม่ใช่มังกร!”
  
  “มังกร ถุย!” ผมแยกเขี้ยวใส่ ไล่ไอ้ไนต์ไปทำงานของมันให้เสร็จ ส่วนผมก็ว่างครับ มองเล็บตัวเอง อืม... แม่งยาวมากจริง ๆ
  
  
  
  
  -------------------------
  
  
  
  
  “หิวว่ะ” ผมพูด
  
  “เอาดิ กูก็หิวล่ะ” ไนต์
  
  “ซูชิ~” น้องตัวเล็กพูดเสียงใส ปิดหนังสือฉับ! แล้วโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี ไนต์ผลักศีรษะน้อง ส่วนคนน้องก็ค้อนควับ ไอ้ไนต์ยกนิ้วชี้หน้าน้องตัวเล็กคล้ายจะดุ หึหึ เห็นหรอกว่ามึงยิ้มน่ะ
  
  ผมกับน้องตัวเล็กสุมหัวกันอยู่หน้าคอม ฯ กำลังเลือกหน้าซูชิกันอยู่ครับ คืนขี้เกียจออกไปกินที่ร้านมันไง ร้อนก็ร้อน รถก็ติดอีก เลยสั่งมากินที่ห้องดีกว่า
  
  “แซลมอนต๋าาาาา” ออกัสอะเลิร์ทสุด ๆ
  
  “หอยเชลล์ย่างของพี่ด้วย คลิกเลย ๆ”
  
  “อันนี้น่ากินอ่ะ  เอาด้วย”
  
  “เออว่ะ สองเลย” ผมกับน้องตัวเล็กเลือกกันเพลินจนไอ้ไนต์มาขัดจังหวะนั่นแหละ
  
  “พวกมึงอดอยากมาจากไหน ห้ะ!”
  
  “เป็นคนจ่ายเงียบไปเลย”
  
  “ลุงเอาไร?”
  
  “พวกมึงสั่งมาจนหมดเมนูแล้วมั้ง” เป็นอันว่าไอ้ไนต์ไม่เอาเพิ่ม แต่ที่พวกผมเลือกมาก็หลายหน้าแล้วครับ หน้าละ 2-3 คำ บางหน้าก็ 4 คำ ฮาาาา
  
  “เท่าไหร่วะ?” คนจ่ายถาม (จริง ๆ มันไม่เต็มใจจะจ่ายหรอกครับ พวกผมมัดมือชก ฮิฮิ)
  
  “4,xxx”
  
  “เชี่ยไรตั้งสี่พันกว่า พวกมึงจ่ายเองเลย!”
  
  “โหยยยยยย ได้ไงอ่ะ สั่งมาแล้วลุงกินด้วยป่ะล่ะ”
  
  “เดี๋ยวกูต้มมาม่าแดก”
  
  “ไม่ใจเลย” ผมหลบฉากออกมาให้คู่รัก(?)เขาเคลียร์กันไป ไม่อยู่ฟังไอ้ไนต์บ่นหรอก
  
  
  
  
  ครืด~
  
  “เห่นโล้ววววว”
  
  (“เอาอะไรไหม?”)
  
  “หือ? จะมาแล้วหรอ”
  
  (“อื้อฮึ”)
  
  “อ่า... แป๊บนึงนะ /--ไรเฟิลจะมาอ่ะ เอาไรเปล่า?!” ผมตะโกนถามคู่รักที่ยังตบตีกันอยู่ แล้วตีกันยังไงไอ้ไนต์ถึงได้กัดปากน้องตัวเล็กของผมวะ!!
  
  “เอาครับ!!”
  
  (“ท่าจะยาว เมสเสจมานะ”) แล้วมันก็วางสายไป...
  
  
  
  ---------------
  
  
  
  “น้องตัวเล็ก”
  
  “ครับ?” น้องเงยหน้าจากหนังสือมามองตาคมเจือความสงสัย น่ารักมากกกกกกกกกกกก
  
  “กับเพื่อนพี่.. ดีหรือเปล่า?” น้องขมวดคิ้ว ที่กล้าถามเพราะตอนนี้เราอยู่กันสองคนครับ ไนต์ลงไปข้างล่าง ไปเอาของที่สั่งมานั่นแหละ
  
  “ก็..ดี..มั้ง”
  
  “เอ้า!” น้องยิ้มบางส่ายหน้าไม่พูดต่อ โอเค ผมจะไม่ยุ่ง
  
  
  
  
  อ๊อดดดดด อ๊อดดดดด อ๊อดดดดดด
  
  
  เสียงรัวออดดังขึ้น ผมกับน้องตัวเล็กมองหน้ากันแล้ววิ่งไปดูอินเตอร์คอม พอเห็นว่าในจอเป็นไรเฟิลกับไนต์ก็รีบไปเปิดประตูให้ ในมือทั้งสองเต็มไปด้วยถุงต่าง ๆ
  
  
  “ทำไมเยอะงี้อ่ะ!”
  
  “ใครสั่งมาล่ะ” ไอ้ไนต์เตะตูดผม นิสัยไม่ดี!!
  
  “เด็กมึง” ชี้นิ้วไปที่น้องตัวเล็กที่ทำหน้าเหลอหลา แกะซูชิใส่จาน
  
  “พี่ควอทซ์เหอะ”
  
  “ทั้งสองนั้นแหละ ห่า!” ไอ้เชี่ยไนต์ ไอ้คนหยาบ!!!
  
  
  “ลุง!! แซลมอนของเค้า!” ตีกันอีกล่ะ ไอ้ไนต์รู้ว่าน้องชอบแซลมอนมันก็แย่งน้องมากิน พอน้องโวยวายก็หัวเราะชอบใจ ไนต์ยัดซูชิแซลมอนย่างเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยสีหน้าฟินสุด ๆ
  
  “ติดคอตายไปเลย!” หึหึ คู่นี้มันน่ารักครับ ไอ้พวกซึนเอ๊ย
  
  
  ผ่านสงครามซูชิมาได้ก็มาต่อที่สงครามเค้ก เค้กหลายรสวางเรียงกันบนโต๊ะ มีทั้งเค้กส้ม เค้กมะพร้าวอ่อน ช็อกโกแลตคาราเวย์ เค้กนมสด และก็บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก ที่กล่าวมานั้นไรเฟิลซื้อมา(ตามลิสท์ที่(น้องตัวเล็ก)เมสเสจไปให้)อย่างละปอนด์ แล้วยังมีแบบปอนด์ตัดอีกแปดชิ้นแปดรส ให้ตายเถอะ! กินหมดนี่ไม่เอียนให้มันรู้ไปสิ
  
  
  
  “พี่.. ประชดผมหรือเปล่า..”
  
  “หึ” คนซื้อมากดยิ้ม
  
  “กินไม่หมดกูจับยัด” ไนต์
  
  “บ้าสิ ..เท่าไหร่อ่ะครับ เดี๋ยวผมจ่ายคืน” ว่าไอ้ไนต์แล้วถามไรเฟิล
  
  “ไนต์จ่ายแล้ว”
  
  “อ่า...” นั่นแหละครับคุณผู้ชม เลิกคุยกัน กินได้แล้ว อยาก!!
  
  มนุษย์ชอบเค้กมาเจอเค้กแบบนี้คิดว่ายังไงล่ะครับ ที่ไรเฟิลซื้อมาเยอะไม่ใช่เพราะมันจะประชดน้องตัวเล็กของผมหรอก มันซื้อมากินเองต่างหาก!!!  กินไปเรื่อย ๆ รู้ตัวอีกทีก็หมดไปสามปอนด์แล้ว จุกมาก อิ่มมาก T___T ที่เหลือให้น้องตัวเล็กจัดการแล้วกันครับ ไม่ไหวแล้ว บาย
  
  
  
  
  
  
  -----------------------
  
  
  
  
  
  
  หวัดเดดดดดด วันนี้วันศุกร์ที่ 31 สิ้นเดือนแล้วครับ ฮิ้วววววว วันฮาโลวีนด้วย ผมบิดตัวอย่างขี้เกียจ เพิ่งพรีเซนต์งานเสร็จไป ดันจับฉลากได้ลำดับสุดท้าย เลยต้องพรีเซนต์วันสุดท้ายนี่ไง แต่ตัวงานให้อาจารย์ดูไปแล้ว ได้แก้สองรอบ พูดแล้วอยากจะร้องไห้ แต่วันนี้ก็ผ่านไปแล้วเรียบร้อย วู้วววว มีความสุข แบบนี้มันต้องฉลอง หุหุ
  
  
  “หมดเวรหมดกรรมสักทีโว้ย!!” บะหมี่ตะโกน ผมกับไนต์ตบไหล่มันปุ ๆ ชะตากรรมพวกผมก็ไม่ต่างกันครับ T_____T
  
  “จะไปไหนต่อ?” ไนต์ถาม
  
  “คาลี่คาเฟ่” ผมตอบ
  
  “ไม่รู้ กูอยากดริ้ง” บะหมี่
  
  “ไรเฟิลชวนมึงยัง?” ไนต์ถามบะหมี่
  
  “ที่ว่าวันเกิดน้องมันอ่ะนะ ชวนแล้ว”
  
  “ไปไหม”
  
  “ไปดิ! ของฟรี ใครจะพลาด” เจ้าแม่แม่งงก
  
  จากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกัน ไนต์มาส่งผมที่คาลี่คาเฟ่ข้างคณะเศรษฐศาสตร์แล้วไปทันที มันรีบไปรับเด็กครับ เด็กไหนคงไม่ต้องบอก หมั่นไส้จริง ๆ
  
  
  
  
  
  -----------------
  
  
  
  
  กรุ้งกริ้ง~ เสียงโมบายกระดิ่งยังดังทักทายเหมือนเดิม หลังจากที่มาสร้างวีรกรรมเอาให้ที่ร้านพี่คาลี่ผมกลับต้องมาที่นี่บ่อยขึ้น เวลาที่ต้องรอไรเฟิลก็เปลี่ยนจากหน้าตึกคณะตัวเองมาเป็นร้านนี้แทน มาทีไรก็ยังอดรู้สึกผิดไม่ได้ แม้จะขอโทษไปแล้วและพี่คาลี่จะไม่ถือโทษก็เถอะ แล้วเหตุการณ์วันนั้นก็ทำให้ผมมีคนรู้จักเยอะขึ้นด้วย(เรื่องของผมกับไรเฟิลก็ถูกสงสัยด้วย TwT) รู้จักเพราะเรื่องแบบนั้นมันน่าดีใจที่ไหนล่ะ ฮือ
  
  “พี่คาลลี่ หวัดดีครับ”
  
  “สวัสดีจ้า”
  
  คุยกันนิดหน่อยพอเป็นพิธีพี่คาลี่ก็เอาของที่ผมฝากไว้มาให้ เค้กครับ เลม่อนชีสเค้ก ผมแอบมาทำไว้ตอนเที่ยงแล้วฝากพี่คาลี่ไว้ พี่คาลี่เองก็ใจดีให้ผมยืมครัว โคตรซึ้ง ทั้ง ๆ ที่ผมมาสร้างความวุ่นวายให้แท้ ๆ ทีแรกนึกว่าจะเกลียดผมตั้งแต่วันนั้นแล้วซะอีก แต่ที่ไหนได้กลับชอบผมยิ่งกว่าเดิม ไรเฟิลบอกว่าพี่คาลี่เป็นแฟนคลับผมครับ ที่มันไม่เคยมาผมมาที่คาลี่คาเฟ่เพราะเหตุผลนี้แหละฮะ ไอ้ยักษ์ขี้หวง! แล้วก็ที่ผมทำเค้กเป็นเนี่ยเพราะเคยทำงานพาร์ทไทม์ในร้านเบเกอร์รี่ครับ(ตอนยังไม่กลับไทย) เลยพอมีความรู้ติดตัวมาบ้าง ก็ไม่เก่งอะไรมากมายหรอกครับ แค่พอทำได้ หน้าตาออกก็มาดี รสชาติก็อร่อย ทำได้หลายอย่าง พอที่จะเปิดร้านเองได้เท่านั้นเอง /เสยผม [ตบให้คว่ำ]
  
  
  
  
  
  --------------------
    
  
  
  
  
  “ไปไหนวะ” ผมถามเมื่อไรเฟิลขับรถออกนอกเส้นทาง คือ..มันไม่ใช่ทางกลับคอนโดหรือหอผมไง
  
  “ไปบ้าน” บอกพร้อมร้อยยิ้มมุมปาก คือ? ว้อท!?
  
  
  รถยนต์คันหรูเคลื่อนมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ มือหนาคว้ารีโมทคอนโทรลมาเปิดประตูอัลลอยบานใหญ่ แค่ประตูก็หรูฉิบหายแล้ว เมอร์เซเดส เอสแอล คลาส เคลื่อนตัวเข้าไปภายใน ผมเกร็งสุดตัว แม้ไรเฟิลจะจอดรถแล้วแต่ผมยังนิ่งไม่ไหวติง ตัวใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ บอกตรง ๆ เลยว่า กลัว! จะกลับบ้านนนนนนนนน!
  
  
  “ลงดิ” ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ไรเฟิลชนกำปั้นกับหน้าผากผมแล้วลงจากรถไปก่อน ปิดประตูปัง และแน่นอนผมก็ต้องตามไปสิ โอยยย ขาสั่นไปหมด บ้านใหญ่มาก!!!! จริง ๆ มันไม่ควรเรียกว่าบ้านหรอกครับ เรียกว่าคฤหาสน์จะเหมาะกว่ามาก พื้นที่กว้างมาก ๆ แค่ด้านนอกก็หรูจะไม่รู้จะบรรยายยังไงแล้ว คฤหาสน์หลังนี้เป็น Barocco Style อ่ะครับ พอก้าวเท้าเข้ามาในตัวบ้านรู้สึกว่ามือตัวเองสั่นมาก เหงื่อออกจนชื้นไปหมด
  
  
  
  
  “กลัวหรือไง”
  
  “มือสั่นเลยอ่ะ กลับบ้านก่อนนะ” พอหันหลังกลับก็ถูกไรเฟิลคว้าคอเสื้อเอาไว้
  
  “ไม่มีอะไรให้กลัวหรอก” ไรเฟิลพูดเสียงอ่อน ผมพยักหน้าหงึกหงัก บอกตัวเองให้ผ่อนคลาย
  
  
  
  --
  
  --
  
  
  “คุณหนูมาแล้วหรือคะ” คุณแม่บ้านท่าทางมีอายุเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม ผมยกมือสวัสดีทันที แต่เดี๋ยว... เมื่อกี้เรียกไรเฟิลว่าคุณหนูใช่ไหม ...คุณหนู..ไรเฟิล ฮ่า ๆๆ
  
  “แม่ละ”
  
  “คุณผู้หญิงอยู่ในครัวค่ะ” คุณแม่บ้านบอกก่อนจะเรียกสาวใช้อีกคนมาเอากระเป๋าไรเฟิลไปเก็บ และยังเผื่อแผ่มาถึงผมด้วย แต่ปฏิเสธไป แค่เค้กกล่องเดียวเอง อีกอย่างผมกลัวเขาทำเละ แหะ ๆ
  
  
  ข้างนอกบ้าว่าสวยแล้วข้างในยิ่งกว่าอีก ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างดูเรียบหรู รวมถึงสไตล์การตกแต่ง สวยมาก ๆ สวยกว่าบ้านผมอีก แล้วบ้านไรเฟิลก็ใหญ่กว่าบ้านผมมากมากกกกกก พื้นที่บริเวณก็กว้าง ที่เหมือนกันคงจะเป็นบรรยากาศร่มรื่น ต้นไม้ ดอกไม้ เยอะ ๆ นี่แหละ
  
  
  
  
  -----------
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 29-03-2015 22:10:09
  -----------
  
  
  
  
  ในครัวบ้านไรเฟิล
  
  
  
   “มัม” คุณผู้หญิงของบ้านหันมาตามเสียงเรียกก่อนจะยิ้มกว้างแล้วเข้ามากอด. . .ผม เดี๋ยวสิครับ แป๊บนึง ทำไมถึงกอดผมแทนที่จะเป็นลูกชายตัวเองล่ะครับ
  
  “น้องควอทซ์ คิดถึงจังเลยค่ะ”
  
  “สวัสดีครับ” วางกล่องเค้กบนเคานต์เตอร์บาร์ใกล้ ๆ แล้วยกมือไหว้ แม่บ้านมองงง ๆ ว่าผมเป็นใคร พอผมยิ้มให้ก็พากันหลบตาซะงั้น
  
  “สบายดีไหมคะ”
  
  “สบายดีครับ เอ่อ..ผมขอฝากนี่แช่ตู้เย็นได้ไหมฮะ?” ชี้ไปที่กล่องเค้ก
  
  “ได้ค่ะ ก้อยมาเอาไปแช่ตู้ที”
  
  “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเอาไปเองดีกว่า” คุณแม่ยอมพยักหน้าโอเค
  
  “อ้าว แล้วนั่นใครคะ?” มองไรเฟิลสลับกับคุณแม่ เล่นอะไรกันแม่ลูกคู่นี้ ไรเฟิลเลิกคิ้วสูงก่อนจะกลอกตาแล้วเบ้ปาก
  
  “ตู้เย็นอยู่นั่น” ชี้นิ้วบอกผมเมินแม่ตัวเอง
  
  
  ผมเดินไปหาตู้เย็น ทว่าในขณะที่กำลังจะเปิดตู้เย็นนั้นสิ่งมีชีวิตจำนวนสองคนก็วิ่งใส่ผมโครม เพราะไม่ทันได้ตั้งตัวและผมถือกล่องแบบใช้ฝ่ามือรองเท่านั้น ฟาโรห์กับสฟิงซ์พุ่งกอดแบบนี้ทำให้กล่องเค้กในมือหล่นตุบ! นอกจากจะหล่นแบบหน้าคว่ำแล้วฟาโรห์ยังเหยียบเค้กผมซะเต็มเท้า. . .
  
  
  
  
  น้ำตามาทำไม. . .
  
  
  “พี่ควอทซ์ ผม/ฟิงซ์ ขอโทษษษษษษษ” สองแสบพูดพร้อมกัน แต่ผมไม่มีกะจิตกะใจจะรับคำ  ย่อตัวนั่งยอง ๆ ยื่นมือสั่น ๆ ของตัวเองไปดูสภาพเค้ก แม้จะพอเดาออกอยู่แล้วก็เถอะ เลม่อนชีสเค้กที่ผมตั้งใจทำเสียดิบดีเละแหลกไม่เหลือเค้าเดิม มันไม่เรียกว่าเค้กอ่ะ มันคือเศษซากอะไรก็ไม่รู้ สภาพโคตรน่าสะเทือนใจ T_____T
  
  
  
  เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเค้กชิ้นนี้ หยาดน้ำเคลือบหน่วยตา หางคิ้วตกลงต่ำ เอ่ยพูดเสียงอ่อย(ไม่รู้เลยว่ามันน่าเอ็นดูและน่ารังแกมากขนาดไหน)
  
  “เละ..เลย”
  
  “เลม่อนชีสเค้ก?”
  
  “อือ...” ผมเลือกทำเลม่อนชีสเค้กก็เพราะก่อนหน้านั้นไม่กี่วันไรเฟิลบ่นว่าอยากกินไง เลยกะจะเซอร์ไพรส์ให้วันนี้ แล้วเป็นไงล่ะ เซอร์ไพรส์มากเลยไหม..
  
  
  “เวร.. เล่นบ้าอะไรกันห้ะ!!” ตวาดใส่น้องเสียงดัง สฟิงซ์สะดุ้งขยับไปหลบหลังพี่ชายอย่างฟาโรห์ มองพี่ชายคนโตอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ทั้งสองคน
  
  
  “ผมไม่ได้ตั้งใจอ่ะ” ไม่ตั้งใจยังเละขนาดนี้ T___T ผมเบะปากคล้ายเด็กจะร้องไห้ ใช้มือกวาดครีมเค้กที่เลอะพื้นมาไว้ในกล่อง ไรเฟิลร้องห้ามเสียงดังแต่ไม่ทันแล้วล่ะ เหอ
  
  “น้องควอทซ์ซื้อมาจากไหนคะ ไปซื้อตอนนี้ก็ทันนะ” คุณแม่พูด ย่อตัวนั่งข้างผม
  
  “.....เองครับ”
  
  “หืม? ว่าไงนะคะ?”
  
  “ทำเอง..ครับ ตั้งใจทำด้วย...ตอนนี้...กินไม่ได้แล้ว...” น้ำตาล่วงเผาะกลิ้งผ่านผิวแก้ม ไม่ได้จะร้องไห้แต่มันไหลออกมาเอง..
  
  
  “โธ่...อย่าร้องไห้สิคะ” คุณแม่เข้ามากอด มือสวยลูบศีรษะปลอบโยน ซากเค้กถูกแม่บ้านเก็บกวาดทำความสะอาดแล้ว เหลือแต่มือผมนี่แหละที่ยังไม่ได้ล้าง เห็นครีมเค้กที่ติดมือแล้วยิ่งสะเทือนใจ พอเด็กแสบเห็นผมร้องไห้ก็ขอโทษกันไม่หยุด ความจริงแล้วผมไม่มีความรู้สึกโกรธน้องเลยนะ น้องไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นสักหน่อย ผมก็แค่ช็อค. . .
  
  
  
  การที่เห็นสิ่งที่เราตั้งใจทำพังลงต่อหน้าแบบนี้....มันโคตรช็อค
  
  
  
  
  
  
  -------------------------
  
  
  
  
  
  ไรเฟิลพาผมเดินออกไปด้านหลังบ้าน ตรงนี้มีสระว่ายน้ำ และมีอาคารที่แยกออกไปเป็นหลัง ๆ (เหมือนสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง) ริมสระมีเด็กผู้ชายหลายคนนั่งกันอยู่ คงเป็นเพื่อนฟาโรห์ ไรเฟิลพาผมเดินผ่านไปไม่สนใจเด็กกลุ่มนั้น เดินขึ้นบันไดเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ข้างในแต่งด้วยโทนขาวดำ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าบ้านหลังนี้คือของใคร ยังไม่ทันได้สำรวจอะไรก็ถูกสวมกอดโดยเจ้าของบ้าน ผมกระพริบตางง ๆ แต่ก็ยกมือกอดตอบและตบหลังอีกคนเบา ๆ
  
  
  “เป็นอะไร?”
  
  “เคยบอกไปหรือยังว่าห้ามร้องไห้”
  
  “โธ่... ไม่ได้อยากร้องสักหน่อย น่าอายจะตาย”
  
  “ห้าม..”
  
  “ครับคุณหนู อั่ก!” ไรเฟิลบีบท้ายทอยผมอ่ะ เจ็บ!
  
  
  
  เข้าโหมดสวีทได้ไม่ทันไรก็ตีกันซะงั้น ไรเฟิลปล่อยผมสำรวจบ้าน มีหนึ่งห้องนอน สองห้องน้ำ ลีฟวิ่งรูม แล้วก็เคานต์เตอร์ครัว สำรวจครบทุกมุมก็กลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง คนตัวสูงกำลังรื้อของในกระเป๋าออก ของใช้ทั้งของผมและของเขา รวมทั้งพวกเสื้อผ้า นี่มึงวางแผนไว้แล้วใช่ไหม! เราอยู่ในบ้านนี้จนกระทั่งหกโมงเย็น เสียงทุบประตูปัง ๆ ออกไปดูก็เจอกับพวกไอ้ไนต์มาก่อกวน พวกมันเลยโดนไรเฟิลเตะไปคนละทีสองที
  
  
  
  
  -------------------------
  
  
  
  
  
  ริมสระว่ายน้ำบริเวณจัดงาน ผมนั่งที่เก้าอี้ริมสระกับน้องตัวเล็ก บะหมี่แล้วก็น้องฟิงซ์ ฟาโรห์อยู่กับเพื่อนของมัน สี่สหายไปขนเครื่องดื่ม แน่นอนแอลกอร์ฮอลอยู่แล้ว ผมว่าคืนนี้พวกมันเมาแหลกแน่ ๆ
  
  “ม่า มึงไปฝึกงานที่ไหนวะ”
  
  “ไม่รู้ มึงฝึกไหน”
  
  “อัครกรุ๊ปอ่ะ”
  
  “เหรอ กูไปด้วยดิ ขี้เกียจหา” มึงนี่มัน... ผมส่ายหน้าระอา
  
  “ตัวเล็กกินอะไรไหม” ผมถามน้องตัวเล็กที่นั่งข้าง ๆ
  
  “ผมยังไม่ค่อยหิว”
  
  “แต่พี่หิว ไปกัน!” ว่าจบก็จูง(ลาก)น้องตัวเล็กไปที่โต๊ะยาวที่มีอาหารหลายอย่างวางเรียงไว้เต็มไปหมด
  
  
  
  
  “หวัดดีออกัส” แล้วก็มีเด็กผู้ชายตัวสูงหล่อร้ายเข้ามาทัก ผมลอบมองทั้งสองคน เหมือนจะตึง ๆ ใส่กันแฮะ เพื่อนฟาโรห์คนนี้มัน... ผมรู้สึกถึงรังสีอันตรายจากเด็กนี่นะ น้องตัวเล็กมองด้วยหางตาไม่พูดอะไร สักพักก็มีเด็กอีกคนเข้ามา
  
  “เฮ้กัส เรามีห้าร้อยอ่ะ ไปกับเรากับเราได้มะ?” เด็กมาใหม่พูดแล้วหัวเราะขำ  ไอ้เด็กเวรนี่! ...คำพูดอย่างนั้นไม่ต้องอธิบายอะไรมากก็พอจะแปลความหมายออกอยู่แล้ว
  
  
  
  “พี่ควอทซ์เอาเฟรนซ์ฟรายไหมครับ” น้องไม่สนใจเด็กนั่นแต่ถามผมแทน
  
  “หือ.. เอา ๆ”
  
  “อ้าว หยิ่งด้วย อย่าเล่นตัวเลยน่า” เด็กคนเดิมพูด น้องตัวเล็กตวัดตาคม ๆ มองอย่างรำคาญ
  
  “แยกคำว่าหยิ่งกับไม่รู้จักกันไม่ออกเหรอ?” เด็กสองคนนั้นผิวปากเหมือนชอบใจ บ้าอะไรกันวะเนี่ย ผมชวนน้องตัวเล็กกลับไปที่โต๊ะ ถ้ายังอยู่ตรงนั้นน้องอาจจะเขวี้ยงจานใส่เด็กสองคนนั้นได้อ่ะนะ
  
  
  --
  
  --
  
  
  
  “เตี้ย!” ไอ้ไนต์มาจากไหนไม่รู้พุ่งพรวดเข้ามาจ๊ะเอ๋น้องจากข้างหลัง ออกัสสำลักไอค่อกแค่ก ไอ้ไนต์เลยต้องลูบหลังให้ ผมเองยังสะดุ้ง
  
  “ไรเฟิลอ่ะ?” แค่ถามไม่ต้องทำหน้าล้อก็ได้มั้งไอ้พวกเวร
  
  “ห่างกันนิด ๆ หน่อย ๆ จะตายเหรอ มันอยู่ในบ้าน” ผมแยกเขี้ยวใส่แล้วพยักหน้ารับรู้ “มึงลุกขึ้นดิ้” ไนต์บอก ผมลุกขึ้นงง ๆ แล้วเชี่ยไนต์มันก็นั่นแทนที่ผม ไอ้เวรรรรรรรรร ไม่ต้องมายักคิ้วเลย ห่า! ผมยัดนักเก็ตใส่ปากมันแล้วเดินไปฝั่งบะหมี่กับน้องฟิงซ์ สองสาวเม้าส์กันเพลินเลย สนิทกันไวมากจนผมงง
  
  “ม่า!”
  
  “ดอก! เล่นเหี้ยไรเนี่ย” ผมหัวเราะ เมื่อกี้แอบย่องไปด้านหลังมันแล้วตะโกนใส่หู หน้าสวยเลอะซอสมะเขือเทศ
  
  “แก้มแดงจังนะ ใช้แป้งอะไรอ่ะ ฮ่าๆๆ
  
  แปะ!
  
  “ไอ้หะ...”
  
  “ทำอะไร!” บะหมี่พูดยังไม่จบประโยคเสียงเข้มของไรเฟิลก็แทรกเข้ามาซะก่อน แถมยังตวัดตามองบะหมี่อย่างฉุน ๆ อีก
  
  “หือ เปล่านี่”
  
  “บะหมี่ทำอะไรมัน”
  
  “ห้ะ? เปล่าเว้ยยยย” ผมพยักหน้ายืนยัน เมื่อกี้มันแค่ตบแก้มผมเบา ๆ แค่นั้นเอง เดี๋ยวนะ..
  
  
  ...ตบแก้ม...
  
  
  ...ตบ...แก้ม...
  
  
  ...ตบ...
  
  
  
  ฮืออออ กูรู้แล้ว!
  
  “อ เอ่อ แค่เล่นกันเฉย ๆ อ่ะ” ผมรีบบอก เหมือนไรเฟิลมันจะฝังใจมากกับการที่ผมโดนตบหน้า T_T ไม่ใช่แค่ไรเฟิล พอลูกหมาสามตัวรู้พวกมันก็แทบจะแปลงร่างเหมือนกัน ไม่รู้จะโอเวอร์กันทำไม ห่วงผมเกินไปยังกะคลอดออกมาเอง ตลกมากครับพวกนี้ แต่ลึก ๆ แล้วมันรู้สึกดีนะ
  
  
  
  ...พวกนี้แม่ง...เป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ
  
  
  
  
  --------------------
  
  
  
  
  
  เวลาสองทุ่มโดยประมาณเจ้าของวันเกิดทั้งสองก็เป่าเทียน เห็นเค้กแล้วน้ำตาจะไหล ผมไม่ได้ทำใหม่หรอกครับ จิตใจยังบอบช้ำ อดแดกนะมึง อ่า.. แล้วตอนนี้ผมก็ได้เจอกับครอบครัวของไรเฟิลทุกคนแล้วครับ... คุณพ่อของไรเฟิลดูดีมาก ภูมิฐาน น่าเกรงขาม และน่ากลัวสุด ๆ พี่สาวของไรเฟิลก็สวยมาก ถ้าไม่รู้ว่าเป็นผู้บริหารต้องคิดว่าเป็นนางแบบแน่ ๆ (บ้านนี้สูงทั้งบ้านเลย T_T) ผมแค่สวัสดีและไม่ได้คุยอะไรด้วยมาก พอไรเฟิลกับฟาโรห์เป่าเค้กเสร็จพวกท่านก็ขอตัวไปพักผ่อนหลังจากให้ของขวัญ
  
  
  
  อ่า..ของขวัญ
  
  ผม..
  
  ลืม..
  
  เอา..
  
  มา..
  
  
  T_______T
  
  
  “สิบแปดแล้วมึง ทำตัวให้มันดี ๆ หน่อย” กายว่าพร้อมกับตบศีรษะฟาโรห์แปะ ๆ
  
  “เคยทำตัวไม่ดีหรอคร้าบบบบ”
  
  “บ่อย” สิ้นเสียงไรเฟิล ก็ตามมาด้วยเสียงโห่ร้องและเสียงหัวเราะ
  
  “พี่ก็โตแล้วทำตัวให้มันดี ๆ หน่อย” น้องย้อน
  
  “สัด” พี่ชายปาเชอร์รี่ที่แต่งหน้าเค้กใส่น้อง ของกินยังจะเล่น
  
  “โดดด่ ไหนของขวัญผมอ่ะ” ผมเลิกคิ้ว อยู่ ๆ เบนเข็มมาหาผมเฉย
  
  “ลืมอ่ะ” มองมือฟาโรห์ที่ยื่นมาแล้วยิ้มแหยะ
  
  “โหหหหหหหหหห่”
  
  “ก็พี่มึง..”
  
  “ในกระเป๋า ค่อยเอา” ไรเฟิลพูดแล้วยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นดื่ม มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง เท่มากไหมล่ะ - -* แล้วไรเฟิลไปเอาของขวัญของผมมาตอนไหน ทำไมตอนคนตัวสูงรื้อกระเป๋าผมไม่เห็นวะ
  
  
  “พี่คนนี้น่ารักว่ะ ติดต่อให้กูหน่อยดิ” เพื่อนฟาโรห์มองผมอย่างจาบจ้วง เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวครับน้อง ใจเย็นนนนนน
  
  “อยากตายหรอไอ้สัด” ฟาโรห์กอดคอเพื่อนแล้วตบหัวเพื่อนดังผั้ว
  
  “ไมอ่ะ ก็น่ารัก กูอยากได้” เอิ่ม น้องครับ อย่าหางานให้พี่เลย ผมเหลือบมองไรเฟิล คุณชายบีบแก้วแน่นจ้องเขม็งไปที่เด็กหัวเกรียน ฟอร์สที่ยืนอยู่ข้างผมสอดมือมากอดเอวผมเอาไว้ ไรเฟิลยืนอยู่เยื้องกับผมไปประมาณสามสี่คนคั่น “หูยยยยย มีเจ้าของแล้วก็ไม่บอก” น้องเกรียน(?)คร่ำครวญ ฟาโรห์หัวเราะสมน้ำหน้า งานนี้หมวยเทมส์ไม่มาครับ ได้ยินฟาโรห์บอกว่าไปฮ่องกงกับครอบครัว
  
  
  
  
  
  ---------------------
  
  
  
  
  
  ปาร์ตี้ยังดำเนินต่อไปแม้จะล่วงเข้าวันใหม่แล้ว เสียงเพลงยังกระหึ่มไม่เกรงใจใคร ผมเองก็เริ่มกรึ่ม ๆ มึน ๆ แล้ว พวกเรา ผม ไรเฟิล กาย ไนต์ ฟอร์ส บะหมี่ แล้วก็น้องตัวเล็กของผม น้องฟิงซ์ไปนอนตั้งแต่ห้าทุ่มแล้ว เรานั่งแยกกลุ่มกับพวกฟาโรห์  ไม่อยากไปแจมด้วย เดี๋ยวเด็ก ๆ จะอึดอัดกัน อีกอย่างคืนผมไม่ค่อยชอบใจสายตาที่มองมาของเพื่อนฟาโรห์เท่าไหร่ ก็เด็กสองคนที่เข้ามาตอนผมกับน้องตัวเล็กไปตักอาหารตอนนั้นแหละครับ มันยังไงล่ะ ไม่ชอบอ่ะ ไม่ชอบ
  
  “พอแล้ว” มือหนาดึงแก้วเหล้าในมือผมออก ผมทำปากยื่นใส่ไรเฟิลแล้วจะดึงแก้วคืนมา แต่ไอ้คนแขนยาวก็ยกหนี ฮึ่ยยยย
  
  “เอามาาาาาา”
  
  “โคล่าไหม ฟอร์สเอาโคล่าให้มันด้วย” ไอ้เชี่ยยยยยยยยยย จะเอาเหล้าอ่าาาาาาา ไม่เอาโคล่าาาาา
  
  “ไม่อาววววววว”
  
  “ไม่เอาก็ไม่ต้องดื่ม พอแล้ว”
  
  “ทีตัวเองยังดืื่มเลยยยยยยยยย” ถูไถหน้าผากกับต้นแขนแกร่ง มือหน้ากดท้ายทอยให้ไปซุกอก ฮื่อ...
  
  “ลุง..ง่วง” เสียงน้องตัวเล็กงุ้งงิ้ง
  
  “อื้ม กูไปนอนล่ะ” ไนต์พูดก่อนจะพาร่างน้องตัวเล็กของผมไปนอนที่ห้องรับรองแขกบ้านไรเฟิล ไรง่าาา อยากนอนกับน้องตัวเล็กกกกก จะกอดดดด ตัวนิ่ม ๆๆ
  
  “เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน” บะหมี่พูด ก็นะ เมื่อสถานการณ์มันบีบบังคับ พวกเราแยกย้ายกันไปพักผ่อน ผมงอแงกับไรเฟิลเพราะยังอย่างดื่มต่อ แต่คุณชายแม่งยกผมขึ้นบ่าพาเข้าบ้านมันไปเลย




----------------TBC-------------
ตอนที่ 40 แล้วววววววววววววววว
แล้วตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเลย... T_____T
นิยายยืดมาก อย่าเพิ่งเบื่อเลยนะฮะ
  :mew2: :mew2:
ผมรักทุกคนเลยนะ <3

edit*สี่สหายฝังใจจากที่น้องควอทซ์โดนกรีนตบนะคะ  o1
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 29-03-2015 22:24:46
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 29-03-2015 22:25:41
ยืดอีกก็ได้ฮะะ ชอบบบบบ น่ารักง่า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 29-03-2015 22:37:44
ยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบบบบบบบ สะใจไปเลย มายาวแบบนี้ก็รักไปเลย อิอิ 55555

พาร์ทนี้น่ารักอีกแล้ว แต่ขอถามได้ไหมค่ะ ว่าทำไม4สหายถึงต้องตกใจ ตอนควอทซ์โดนบะหมี่ตบเบาๆที่หน้า หรือจะเป็นประเด็นเรื่องกรีน จากพาร์ทที่แล้ว ไรเฟิลเลยฝังใจ ไม่อยากเห็นบันนี่โดนทำร้ายอีก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 30-03-2015 00:46:25
บันนี่น่าสงสาร เค้กเละหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 30-03-2015 01:33:06
ยก  กลับไปเก็บให้ไวเลยเฟิล เสน่ห์แรงจริงจริ๊ง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-03-2015 02:11:10
เข้าใจอารมณ์นั้นเลย แบบว่าช็อค!!! ไม่โกรธหรอกแต่เสียใจมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 30-03-2015 02:46:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 30-03-2015 08:13:14
ตอนนี้ยาวสะใจมาก ขอบคุณค้าบบ
เรื่องยืดไม่เป็นไรเค้าชอบ 555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 30-03-2015 08:28:27
บันนี่ขี้อ้อนๆๆๆๆๆๆ

น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 30-03-2015 10:23:49
บันนี่ น่ารักกกกกกกก

อุตส่าทำเค้กมา  แต่ไม่ได้กินซะงั้น

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-03-2015 10:33:53
ไอ้เด็กหัวเกรียนนั่น มันใช้ตระกะ อะไรในการทักคน



น้อง ออกัส น่าร๊ากกกกกกกกก


แต่ น้องกระต่ายน้อย  อย่ามาทำให้ จิ้นกะน้องตัวเล็กนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 30-03-2015 14:58:12
เพื่อนฟาโรห์แต่ละคนนี่ไม่ไหวเลยนะ นิสัยเห้มาก

ทั้งชอบดูถูกคนอื่น ทั้งลามปามปีนเกลียว

ไรเฟิลสั่งสอนน้องเรื่องคบเพื่อนหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 30-03-2015 15:24:44
 :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-03-2015 19:46:10
นิสัยเพื่อนฟาโรห์แต่ละคนนี่ใช้ไม่ได้
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 30-03-2015 21:20:04
ยกขึ้นบ่าแล้วก็ยังไงต่อน้าาาาาาา   โดนแน่ๆ :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 30-03-2015 23:28:50
ตามอ่านทันจนได้

2-3ตอนนี้อ่านไปจิกหมอนไป

คือแบบว่าฟินมากก อิอิ

ชอบๆขอเป็นกำลังใจให้และติดตามต่อไปจ้า

ปล กด+
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 30-03-2015 23:32:43
โดนอุ้มไปเคลียร์เรื่องของขวัญวันเกิดใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 31-03-2015 07:32:00
น่ารักอะ ตอนที่เค้กตก ทำเอาใจร่วงไปด้วยเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 31-03-2015 21:56:43
 :ruready :ruready  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 31-03-2015 23:12:45
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 40 (29.03.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 01-04-2015 13:25:31
เข้ามารอครับผม :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 4 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 02-04-2015 18:52:17
EPISODE 41





  ร่างบางขยับตัวอย่างอึดอัด มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาอย่างงัวเงีย ตากลมกระพริบถี่ปรับโฟกัส พอหายแสบตาแล้วสำรวจตัวเอง เฮ้ออออ กี่โมงแล้ววพ มองหานาฬิกาแต่ไม่เจอจึงขยับตัวคว้านาฬิกาข้อมือของคนตัวสูงมาดู จะบ่ายโมงแล้ว ให้ตาย.. ไม่แปลกใจเลยทำไมหิวแบบนี้ แขนแกร่งพาดบนเอวผมกระชัดแน่น หนักโว้ยยยยยยยยยยย
  
  
  “ไรเฟิลตื่นนนนน” ปลุกคนที่นอนกอดอยู่ อยากอาบน้ำจะแย่ เหนียวตัวไปหมดแล้ว ฮึ่ยยย แขนนี่ก็รัดแน่นจนแกะไม่ออก
  
  “ง่วง” พึมพำเสียงเบาเม้มหลังคอผม ไอ้เวรนี่ เมื่อคืนไม่พอใช่ไหม!!! แล้วมือนี่หยุดลูบสักที! ไหนบอกว่าง่วงไงวะ! ผมกำมือซน ๆ ของยักษ์ฝรั่งไว้แน่นไม่ให้ลูบไล้ผิวกายผม เดี๋ยวอารมณ์จะเตลิด ตอนนี้ยิ่งไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น เอ่อะ.. ไม่ใช่แล้ว
  
  “จะบ่ายแล้วนะ จะไปอาบน้ำ”
  
  “แป๊บนึง เดี๋ยวอาบให้” ผมร้องเหอะ ให้มึงอาบให้เมื่อไหร่จะอายเสร็จ ไอ้ยักษ์หื่น!
  
  “ไม่ตื่นก็ปล่อยกู!”
  
  “Shut up, honey” ผมชะงักกึก หน้าร้อนผ่าวทั้งที่ไม่น่าจะรู้สึกอย่างนั้นกับสรรพนามที่ใช้เรียก(กัดปลายผ้าห่ม) ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดต้นคอสม่ำเสมอคงพอเดาได้ว่าอีกคนหลับไปอีกแล้ว ผมเองก็ง่วงเหมือนกัน กว่าจะได้นอนก็แทบเห็นแสงแดดรำไร T_____T
  
  
  
  พอแน่ใจว่าไรเฟิลหลับสนิทแล้วก็ค่อย ๆ แงะแขนหนัก ๆ นี่ออกจากเอว ก่อนจะพาร่างเปลือยเปล่าของตัวเองเข้าห้องน้ำ คราบเหนียว ๆ ขุ่น ๆ ยังเลอะซอกขาผมอยู่เลย เอ๊ะ! แล้วผมจะบอกพวกคุณทำไมเนี่ย พอ! อาบน้ำดีกว่า
  
  
  
  
  
  ----
  -----------
  
  
  ผมใส่ชุดคลุมออกมาจากห้องน้ำ เห็นคนขี้เซานอนทำหน้าบึ้งส่งมาให้ ผมยักไหล่ไม่สน เดินไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วทาโลชั่น จากนั้นก็ไปหาเสื้อผ้ามาใส่ กางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดแขนสั้น ชิล
  
  
  “ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำ” ผมพูดระหว่างแต่งตัว ปลดชุดคลุมออกไปแล้วตอนนี้กำลังใส่กางเกง ไม่มีอะไรต้องอายแล้ว
  
  “อ่อย”
  
  “อย่ามาเพ้อ ไปอาบน้ำเถอะ หิวจะตายแล้ว” ไรเฟิลเบ้หน้า ลงจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป มองแผ่นหลังกว้างที่มีรอยข่วนเป็นทางแล้วสยองแปลก ๆ (ผมตัดเล็บไปแล้วนะ หลังจากที่ข่วนหน้าไนต์ไปวันนั้นอ่ะ ทำไมยาวเร็วจังวะ) ก้มมองตัวเอง เบ้ปากกับรอยแดงระเรื่อจ้ำ ๆ ยังกะคนเป็นโรค T____T ดีนะมันทำไว้ในร่มผ้า ถ้ามีคนเห็นละน่าดู!
  
  
  
  
  
  -----------------
  
  
  
  
  
  ไรเฟิลพาผมเข้ามาในบ้านใหญ่เพื่อหาอะไรกิน ท้องร้องโครกครากยังกะฟ้าร้อง พออาหารเข้าปากก็กินกันเหมือนอดอยากมานาน ต่างคนต่างกินไม่สนใจจะคุยเหมือนทุกที ฟาโรห์กับน้องฟิงซ์มาแซวผมยังไม่ได้สนเลยว่าน้องแซวเรื่องอะไร หิวแบบหิวมาก ๆ ถ้ามีใครมาดึงจานข้าวไปล่ะก็...อาจมีการฆาตกรรมกันเกิดขึ้น
  
  
  
  ----
  ----
  
  
  
  “อิ่ม” ผมพูดเสียงอ่อยหลังจากยัดอาหารทั้งหมดลงท้อง ต้องเรียกว่ายัดอ่ะ กินข้าวหมดไปสามจานเลยอ่ะ อย่างกับวาฬเกยตื่น สภาพไรเฟิลก็ไม่ต่างกัน ฝรั่งฟุบหน้ากับโต๊ะกินข้าวไม่สนโลก ผมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ลูบท้องป้อย ๆ
  
  “ไม่อิ่มก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว..” ฟาโรห์
  
  “กินกันแบบนี้ป้านิ่มคงดีใจมาก” น้องฟิงซ์ ป้านิ่มคือคุณแม่บ้านที่เข้ามาทักไรเฟิลตอนมาถึงอ่ะครับ
  
  “พวกนั้นกลับแล้วหรอ” ไรเฟิลถามน้องพลางดันตัวขึ้นนั่ง
  
  “กลับไปนานแล้ว” พวกนั้นที่ว่าคงหมายถึงลูกหมาสามตัว
  
  
  
  “ทำอะไรกันอยู่คะเด็ก ๆ” นายหญิงของบ้านเข้ามาทักทาย
  
  “สวัสดีครับ” ผม
  
  “สวัสดีค่ะ เมื่อคืนหนักหรอคะ ตื่นเสียบ่ายเชียว” อ่า.. หมายถึงอะไรครับ ดื่มหนักหรือ...หนัก ควอทซ์ง่วง ควอทซ์มึน
  
  “อืม..หนัก” ไรเฟิลพูด กดยิ้มแล้วยกปลายนิ้วไล้ริมฝีปาก
  
  “อืม... แฮงค์ไหมคะ?”
  
  ฟู่...
  
  “ไม่ พ่อไปไหน?”
  
  “ห้องทำงานค่ะ”
  
  “อื้อฮึ”
  
  
  
  
  --------------------------
  
  
  
  
  
  
  ย้ายทัพมาที่ลีฟวิงรูม ครอบครัวเขาคุยกันไป ผมกับฟาโรห์สุมหัวกันอยู่บนพรมผืนนุ่ม ตรงหน้ามีแนวข้อสอบวางอยู่ อยู่ ๆ ก็ถูหฟาโรห์ขอให้ติวให้เฉยเลย
  
  “งงว่ะ พี่พูดช้า ๆ หน่อยดิ”
  
  “อธิบายตรงนี้ซ้ำมาหลายรอบแล้วนะเว้ย”
  
  “ก็มันไม่เข้าใจอ่ะ พอแล้ววว ไม่เอาแล้ว” แล้วมันก็ดิ้นแด่ว ๆ กับพื้น -____-
  
  “แค่นี้ก็ไม่ไหว กระจอกว่ะ” ฟาโรห์เด้งตัวขึ้นนั่ง
  
  “โหยยย ก็มัันยากอ่ะ ใครจะไปเก่งแบบพี่วะ” ฟาโรห์ยีผมตัวเองจนฟูแล้วจับดินสออีกครั้ง ก่อนจะบอกให้ช่วยอธิบายอีกที ... ผมใช้เวลาอธิบายข้อนั้นให้ฟาโรห์เข้าใจประมาณสามสิบนาทีได้ คอแห้งไปหมด ทำไมมึงเป็นคนเข้าใจอะไรยากขนาดนี้!
  
  
  
  “พี่! ขอยืมพี่ควอทซ์สักเดือนสิ” เด็กแสบหันไปพูดกับพี่ชาย
  
  ตุบ!
  
  หมอนอิงปักเลื่อมสีทองลอยข้ามหัวผมอัดเข้ากับหน้าฟาโรห์เต็ม ๆ
  
  “กำลังง่วง ขอบคุณครับ ฮ่าๆๆ” 
  
  
  ---
  ---
  
  
  “สวัสดีครับ” ผมพนมมือไหว้คุณพ่อไรเฟิลที่เพิ่งเข้ามา ท่านจ้องมองก่อนจะพยักหน้ารับ
  
  “ทำอะไรกัน”
  
  “ให้พี่ควอทซ์ติวให้ครับพ่อ”
  
  “เหรอ เรียนอะไรมาล่ะ”
  
  “วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ครับ”
  
  “อืม”
  
  ฟาโรห์เก็บหนังสือลวก ๆ แล้วลากผมไปเล่นเกม ที่ห้องนั่นเองนี่แหละครับ ไม่ได้สนเลยว่าผู้ใหญ่เขาคุยอะไรกัน ผมเกร็งมากแล้วยิ่งเกร็งขึ้นไปอีกเมื่อพี่สาวไรเฟิลเข้ามา ผมไม่รู้ว่าท่านรู้เรื่องผมกับไรเฟิลหรือเปล่า เอาตรง ๆ คือทำตัวไม่ถูก กลัวจะทำอะไรไม่เหมาะสมน่ะครับ แต่สักพักก็หายเกร็งเพราะเริ่มสู้กับฟาโรห์ อย่างว่าแหละ เป็นตัวของตัวเองอีกกว่าเนอะ ^^
  
  
  ---
  ---
  
  
  “พี่ควอทซ์โกงอ่าาาาา” ผมร้องเหอะ เล่นแพ้เองแล้วยังโทษผมอีก
  
  “โกงบ้าไรล่ะ แพ้แล้วอย่าพาลดิ” ฟาโรห์หน้ามุ่ย ไม่ได้เข้ากับตัวควาย ๆ ของมึงเล้ยยยยยยยย
  
  “โกงดิโกงงงง มัมมมม พี่ควอทซ์โกงโผมมมมม” โหยยยยย มีฟ้องแม่
  
  “มายบอยแพ้เพราะเก่งสู้น้องควอทซ์ไม่ได้หรือเปล่าคะ” ผมหัวเราะบ้าง ยักคิ้วให้สองจึก
  
  “โห่ ทำไมไม่เข้าข้างกันเลย ใช่ซี้~ ได้ใหม่ก็ลืมคนเก่า เชอะ!”
  
  “อ่อนหัด”
  
  “นี่เล่นห้าตาพี่ควอทซ์ชนะไปแล้วสี่ โกงนี่มันโกงชัด ๆ” เด็กตัวโย่งบ่นเป็นหมีกินผึ้งปิดเกมปึงปัง ก็คนมันเทพอ่ะน้อง ฮ่า ๆๆ
  
  
  
  ปึก!
  
  
  “อ๊อย!” ใครโยนยางลบใส่หัวผมวะ! มองกลับไปด้านหลังเห็นไรเฟิลมองอยู่ มันแน่ ๆ
  
  “ไปทำเค้กให้กินหน่อย”
  
  “Me?” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง กูเหรอ? ฝรั่งหัวเงินพยักหน้าเป็นเชิงว่า มึงนั่นแหละ
  
  “Right now!”
  
  “บ้านนั้นจะมากี่โมงคะ?” พี่สาวไรเฟิลพูดขึ้น
  
  “เย็น ๆ มั้งคะ” คุณแม่
  
  “จะมาเร่งเรื่องหมั้นหรือไง” พี่สาวไรเฟิล
  
  “เฟลิเซีย” ไรเฟิล
  
  “อ่า.. เพื่อนไรเฟิลออกไปก่อนได้ไหมคะ พอจะคุยเรื่องส่วนตัวกัน” ผมรับคำพี่สาวไรเฟิล แล้วเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น คำพูดของพี่สาวไรเฟิลทำให้ผมหน่วงแปลก ๆ คนนอกอย่างผมจะไปยุ่งทำไมล่ะ เนอะ
  
  
  ...แล้วผมจะไปไหนดี...
  
  
  
  -----------------
  
  
  
  “ไปทำเค้กให้กินหน่อย”
  
  
  คำพูดของไรเฟิลลอยเข้ามาในหัว มันจะบอกใบ้ให้ผมออกมาจากตรงนั้นหรือเปล่านะ เรื่องหมั้น.. คืออะไร ใครจะหมั้น พี่สาวคนโตหรือลูกชายคนโตอย่างไรเฟิล แล้วหมั้นกับใคร บ้านนั้นคือบ้านไหน ให้ตาย ทำไมหน้าของกรีนถึงลอยมาตอนนี้ล่ะ
  
  โอเค..พอ..หยุดคิด อย่าคิดไปเอง
  
  ไปทำเค้กให้มันก็ได้ว่ะ!
  
  
  ปั่ก!
  
  “ouch!! ซี้ด...” ผมทรุดตัวนั่งกุมนิ้วเท้าตัวเอง นิ้วก้อยตีนนี่ทุกออกแบบมาเพื่อเตะทุกสิ่งอย่างใช่ไหม นอกจากนี้แล้วมึงประโยชน์อะไรบ้าง!
  
  “ตายแล้ว! เป็นอะไรคะ” คุณป้าแม่บ้านเข้ามา คงได้ยินเสียงผมร้อง
  
  “เตะกรอบประตูครับ”
  
  “ไหนคะ ขอป้าดูหน่อย” พอเอามือออกเท่านั้นแหละ อยากจะเป็นลม เลือดสีแดงฉานไหลเปื้อนเท้าผม มีหยดลงพื้นด้วย เลอะมือผมอีกก็มี เล็บเปิดเลยครับ T____T
  
  “เลือดออกเยอะเลย เดี๋ยวป้าทำแผลให้ค่ะ”ผมนั่งอยู่ที่พื้น ไม่อยากขยับตัว กลัวมันสะเทือน เลือดยังไหลไม่หยุด มีคุณแม่บ้านอีกคนเข้ามาหาแล้วจะช่วยพยุงขึ้นนั่งแต่ผมปฏิเสธไป นั่งอยู่พื้นดีกว่า
  
  
  
  “พี่ควอทซ์เป็นอะไรคะ!?” น้องฟิงซ์ร้องถามหน้าตื่น ผมบอกเตะประตู คุณแม่บ้านเข้ามาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลพอดี
  
  “เดี๋ยวผมทำเองได้ครับ” วางกระดาษทิชชู่ที่ใช้กดนิ้วก้อยเท้าไว้เมื่อกี้ออกวางไว้ใกล้ตัว เดี๋ยวค่อยเอาไปทิ้ง
  
  “อ๋อยยย จะเป็นลม”
  
  “กลัวเลือดหรอครับ” ผมถามน้องฟิงซ์ระหว่างใช้สำลีเช็ดคราบเลือดไปพลาง คุณแม่บ้านก็มองอยู่
  
  “ไม่กลัวค่ะ แค่เห็นแล้วแหยงเฉย ๆ ฟิงซ์ไปตามพี่เฟิลดีกว่า” ร้องห้ามไม่ทัน น้องวิ่งไปนู้นแล้ว
  
  “ทำเป็นหรือคะคุณ”
  
  “เป็นครับ ผมทำให้ตัวเองบ่อย” ผมยิ้มตอบ กวักน้ำในกะละมังล้างคราบเลือดที่ติดมือ ต่อไปก็เช็ดแอลกอฮอล
  
  
  ----
  
  ----
  
  
  “เป็นอะไร!?” ผมหน้าเอ๋อ ทำไมมากันทุกคนเลย... คุณพ่อไรเฟิล คุณแม่ พี่สาวไรเฟิล ไรเฟิล ฟาโรห์ น้องฟิงซ์
  
  ผมขยับเท้าหนีมือไรเฟิลที่เอื้อมมาจับ แต่แล้วความซวยก็บังเกิด.. เมื่อเท้าผมดันไปชนเข้ากับกะละมังใส่น้ำและขวดแอลกอฮอลล้างแผล Damn it!!!
  
  
  น้ำตาไหลพราก T___T
  
  
  
  “เวรเอ๊ย!” คนตัวสูงสบถอย่างหัวเสีย แขนแกร่งช้อนใต้วงแขนและขาพับ ยกตัวผมขึ้นไปวางที่อาร์มแชร์ในห้องนั่งเล่น แถมยังเรียกแม่บ้านมาทำแผลให้ผมเสร็จสรรพ จะอ้าปากปฏิเสธคุณชายก็ชี้หน้าทำตาดุใส่จนต้องหุบปากฉับ
  
  
  
  
  “ขอบคุณครับ” บอกคุณแม่บ้านที่ทำแผลให้
  
  
  “ว่างหรือไงถึงได้ไปเตะประตูเล่นน่ะห้ะ!!” ไรเฟิลเริ่ม ในเมื่ออีกฝ่ายมาร้อนแบบนี้ ผมก็ควรเย็น
  
  “มันเป็นอุบัติเหตุ”
  
  “คลาดสายตาแค่แป๊บเดียวก็ได้แผลมาแล้ว ระวังตัวเองบ้างดิ!”
  
  “ครับคุณหนู”
  
  “ตลกเหรอ”
  
  “แล้วจะซีเรียสทำไมงะ แผลแค่นี้ไม่กี่วันก็หาย ชิล” พูดไปงั้นแหละ จะหายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เจ็บฉิบหาย อย่าไปบอกมันนะครับ
  
  “ชิลแม่งตลอด สัดเอ๊ย!” ผมยิ้มแหยะ ไรเฟิลประสาทเสียไปแล้ว คำหลังเหมือนสบถกับตัวเองมากกว่าด่าผม เอ๊ะ! หรือมันด่าผมวะ @_@
  
  
  
  
  
  --------------------
  
  
  
  
  ผ่านพายุไรเฟิลผมก็วาร์ปเข้ามาในครัวอีกครั้ง ไรเฟิลจะตามมาด้วยแต่ถูกพี่สาวเรียกไว้ก่อน
  
  “คุณแม่บ้านครับ”
  
  “อ้าว ว่าไงคะ เท้าเป็นยังไงบ้างคะคุณ”
  
  “ผมขอยืมครัวหน่อยได้ไหมฮะ”
  
  “ได้สิคะ”
  
  “ขอบคุณครับ” ผมยิ้ม คุณแม่บ้านยิ้มตอบแล้วหันกลับไปทำงานของตัวเอง(ขออนุญาตคุณแม่แล้วแต่ขอคุณแม่บ้านด้วยเพื่อความสบายใจ แฮ่)
  
  
  
  
  จัดเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วก็ลงมือเลยครับ อ่า..ลืมบอก ผมกำลังจะทำเค้ก ออเรนจ์เค้ก ชดเชยให้ไรเฟิลที่เลม่อนชีสเค้กแหลกละเอียด (T_T) พอดีเห็นมีส้มอยู่เยอะแล้วก็มีวัตถุดิบที่สามารถทำเค้กส้มได้ด้วย จัดเลยสิครับ ระหว่างอบขนมปังก็ผสมซอสส้มเอาไว้ราดหน้าเค้ก
  
  
  “พี่ควอทซ์! ทำอะไรคะ” น้องฟิงซ์นี่เอง
  
  “เค้กส้มครับ”
  
  “หูยยยยย ทำเป็นด้วย เก่งจัง”
  
  “น้องฟิงซ์ชอบกินหรือเปล่าครับ”
  
  “ชอบค่ะ บ้านเรานะ ชอบเค้กกันทั้งบ้านเลย”
  
  “เหรอครับ อยากกินได้อะไรเพิ่มไหม”
  
  “อืม.. บราวน์นี่! ทำบราวน์นี่น้าาาาา”
  
  “น้องฟิงซ์ทำสิครับ”
  
  “โห หน้าอย่างฟิงซ์หรือจะทำเป็น เจียวไข่ยังไม่มีปัญญากลับด้านเลยค่ะ” ผมหัวเราะ
  
  “บราวน์นี่ทำง่ายครับ เดี๋ยวพี่สอน สนเปล่า” น้องตาวาว พยักหน้ารัว วิ่งกลับออกไปนอกครัวก่อนกลับเข้ามาพร้อมกับผมที่มัดเรียบร้อย
  
  
  
  ----
  ----
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 02-04-2015 18:53:24
  ----
  ----
  
  
  
  “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด! เสร็จแล้วววววววววววว!” น้องฟิงซ์ร้องกรี๊ดแล้วกระโดดโลดเต้นไปรอบ ๆ หน้าตามอมแมมเปื้อนฝุ่นแป้ง ผมส่ายหน้ายิ้ม ๆ ปาดซอสส้มในทั่วเค้กต่อ
  
  “พักไว้ให้เย็นก่อนนะครับ ค่อยเอาออกจากพิมพ์”
  
  “ค่ะ! เดี๋ยวฟิงซ์มานะคะ” ผมเองก็ใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน เหลือราดซอสด้านข้างนิดหน่อยกับแต่งหน้า
  
  
  
  
  
  “เค้กส้มมมมมม” ผมยกไม้พายที่ใช้ปาดซอสส้มชี้หน้าฟาโรห์ อย่านะ อย่าเข้าใกล้กูนะ เรื่องเมื่อวานยังหลอนในหัวกูอยู่นะ
  
  “อย่าเข้าใกล้เกินหนึ่งเมตร”
  
  “อะไรอ่ะ!”
  
  
  เพี้ยะ!
  
  
  “เค้าให้มาดูบราวน์นี่ของเค้าหรอก!” น้องฟิงซ์ตีไหล่ฟาโรห์ดังเพี้ยะ ดันตัวพี่ชายคนรองไปดูบราวน์นี่ที่ทำไว้
  
  “กินได้หรอวะ” เด็กแสบทำหน้าแหยง
  
  “กลิ่นหอมจังค่ะ” คุณแม่ชม น้องฟิงซ์ยิ้มร่า บอกให้ทุกคนไปรอที่โต๊ะ ผมตัดบราวน์นี่ให้เป็นชิ้น ส่วนน้องฟิงซ์เป็นคนจัดใส่จาน
  
  
  “พี่ควอทซ์ไม่ไปด้วยกันหรอคะ”
  
  “ขอพี่จัดการตรงนี้ให้เสร็จก่อนนะครับ”
  
  “โอเคค่ะ” น้องบอกแล้วเรียกมาบ้านมาช่วยยกบราวน์นี่ไปเสิร์ฟ เมื่อเค้กเซ็ตตัวดีแล้วผมก็จัดการเอาส้มในน้ำเชืื่อมมาแต่งหน้าเค้กให้เสร็จ เรียบร้อยแล้ว วู้วววว ยกถาดเค้กไปวางไว้ ก่อนจะผละไปล้างอุปกรณ์
  
  
  ---
  ---
  
  
  
  “ทำอะไร ให้แม่บ้านทำดิ” ผมยู่หน้าใส่ไรเฟิล(ที่เข้ามาตอนไหนไม่รู้) แค่ล้างอุปกรณ์แค่นี้ทำเองก็ได้หรอก แม่บ้านคนอื่นก็มีงานของเขา จัดเตรียมของทำอาหารกันเยอะแยะเลย
  
  “ล้างมือแล้วไปไกล ๆ เลย” แล้วมันก็เรียกแม่บ้านมาทำ พอล้างฟองออกแล้วถึงได้เห็นรอยแดงบนฝ่ามือ แพ้เหรอวะ เฮ้ยยยย คันยิบ ๆ ด้วย
  
  “มึง..มือแดงอ่ะ”
  
  “แพ้หรอวะ” ไรเฟิลคว้ามือไปดู
  
  “ไม่รู้ เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นเลย เนี่ย คันด้วย” บอกไม่พอ เกาให้ดูด้วย คันจริง ๆ ครับ เหมือนมีอะไรมามุดอยู่ในมือเลย
  
  
  
  ไรเฟิลดันตัวผมให้นั่งที่เก้าอี้ก่อนจะดูมือผมอย่างพิจารณา ... ปกติก็ล้างจานเองทำไมเพิ่งมาเป็นวันนี้ รอยแดงพวกนี้มัน.. เดี๋ยวนะ.. หรือแพ้มานานแล้ววะ ตอนนั้นมันมีแค่รอยแดงไม่คันแบบนี้ ผมเลยคิดว่ามันแดงเพราะใช้น้ำอุ่น ไม่จะน่ามีอะไรเลยไม่สนใจ เวรกรรมแท้ ๆ คุณหนูฉิบหาย ขอหมั่นไส้ตัวเองได้ไหม ฮึ -_- นอกจากจะดูมือผมแล้วยังเลื่อนไปดูแผลที่นิ้วก้อยเท้าอีก โอ้โห.. เลือดชุ่มเลย  ยกมือปิดปากคนตัวสูงไว้ไม่ให้บ่น มันถอนหายใจแล้วเดินไปบอกแม่บ้านให้เอากล่องยามาให้
  
  
  
  “ทำตัวให้เป็นห่วงนี่สนุกมากไหม?” เคาะปลายนิ้วกับปลายจมูกผม
  
  “รู้สึกดีจัง ฮะฮ่าาา” ร่างสูงแสยะยิ้ม ก่อนจะได้พูดอะไรคุณแม่บ้านก็เอาของมาให้พอดี กล่องปฐมพยาบาลกับหลอดยาอะไรสักอย่าง
  
  “ยานี่ใช้ได้หรอวะ”
  
  “คงได้แหละ” ผมหยิบหลอดยาขึ้นมา ไรเฟิลแย่งไปดูก่อนจะพยักหน้า บีบยาใส่มือผมแล้วนวดให้ พอนวดก็ยกกล่องปฐมพยาบาลไป
  
  
  “เฮ้ย!!! จะทำอะไร” ผมร้องตกใจ อยู่ ๆ ไรเฟิลก็รุดตัวนั่งขัดสมาธิบนพื้นหินอ่อนตรงหน้าผม คนตัวสูงไม่ตอบรื้อหาอุปกรณ์ทำแผลในกล่อง ผมขืนเท้าไว้เมื่อมือหนายื่นมาจับ
  
  “อย่าขืนดิ จะทำแผลให้เนี่ย” กระพริบตาถี่ มองคนที่นั่งต่ำกว่าอย่างอึ้ง ๆ ไรเฟิลจับเท้าผมไปวางบนหน้าขาตัวเอง ค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลอันเก่าออกอย่างเบามือ
  
  “ทำเป็นหรือไง”
  
  “หึ ไม่”
  
  “อ้าว”
  
  “บอกดิ”
  
  นั่นแหละฮะคุณผู้ชม ผมบอกไรเฟิลไปที่ละขั้นตอน มือหนักบ้างเบาบ้างสลับกัน เท้ากระตุกหวิดจะได้ถีบอกอีกคนหลายที แอลกอฮอลให้เช็ดรอบแผลไม่ใช่เช็ดโดยแผลโดยตรงโว้ยยยย T__T แต่ก็นะ... อดปลื้มไม่ได้ว่ะ ใจฟูจนเต็มอก ทำไมทำตัวน่ารักแบบนี้ห้ะ! ไรเฟิลทำแผลให้เลยนะครับ ไรเฟิลนะ ไรเฟิล รังสิมันต์ ศิริวัฒนามงคล เลยนะเว้ย! โคตรอเมซิ่งอ่ะ คนอย่างไรเฟิลจะไปทำอะไรแบบนี้ใครให้บ้างผมไม่รู้ แต่เขาทำให้ผม โคตรรักเลยไอ้เหี้ยเอ๊ย! -///-
  
  
  “เฮ้!! แม่ให้มา..ตาม” ฟาโรห์เสียงแผ่วไปท้ายไปประโยค ตาสีฟ้าเบิกกว้างก่อนจะเปลี่ยนเป็นวาวระยับ มุมปากยกยิ้มล้อ
  
  ฟาโรห์ไอ้เด็ก...!!!!
  
  
  
  
  
  ---------------------
  
  
  กลับมาที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง
  
  
  “พี่ควอทซ์ขาาาาาา”
  
  “หือ ว่าไงครับ?”
  
  “คุณพ่อกับคุณแม่บอกว่าอร่อยแหละ” น้องฟิงซ์ยิ้มกว้างโชว์ฟันขาว ดันผมให้นั่งข้างตัวเอง กำลังจะยื่นมือไปยีผมน้องก็ต้องชะงักก่อนละลดมือลง เพิ่งทายามา กลิ่นยังฉุนอยู่เลย
  
  “ชมตามมารยาทหรือเปล่า” ผมแซว น้องฟิงซ์หน้างอขยับปากบ่นงุบงิบ
  
  “มือเป็นอะไรคะน้องควอทซ์” คุณแม่ถามก่อนจะจับมือผมไปดู
  
  “เอ่อ..”
  
  “บอกไปดิ” ไรเฟิลที่นั่งอาร์มแชร์เดี่ยวยักคิ้วให้
  
  “แพ้น้ำยาล้างจานครับ”
  
  “โรคคุณหนูนี่เอง” พี่สาวไรเฟิลพยักหน้าช้า ๆ มุมปากสวยเหยียดยิ้ม
  
  “ไปแย่งงานแม่บ้านทำทำไมล่ะคร้าบบบบ” ฟาโรห์พูดพลางยัดมันฝรั่งทอดเข้าปาก ไอ้เด็กตะกละ - -
  
  “เสือกไง” ถ้าโดดถีบไรเฟิลนี่ผมจะมีชีวิตรอดกลับบ้านไหมครับ..
  
  “ไรเฟิลนี่ก็ .. คราวหน้าระวังด้วยนะคะ” คุณแม่เอ็ดลูกชายแล้วบอกผม
  
  “ครับคุณแม่”
  
  “เรียกแม่คนอื่นว่าแม่ได้เต็มปากเต็มคำเลยนะ”
  
  “เฟคะ”
  
  “ก็แม่เฟ เฟหวง เฟไม่ชอบ ไม่มีแม่ให้เรียกหรือไง เหอะ” ผมยิ้มขื่น ความรู้สึกตีตื้นมาจุกอยู่ที่คอ
  
  “ขอโทษครับ ถ้าทำให้คุณไม่ชอบใจ”
  
  “เพิ่งรู้สึกตัวงั้นเหรอ” พูดอะไรไม่ออก ได้แค่ยิ้มโง่ ๆ เท่านั้น
  
  “ผม..ขอโทษครับ”
  
  
  
  
  
  
  --------------------
  
  
  
  
  
  
  นั่งกอดขาวางคางบนเข่าตัวเอง สายตาเหม่อลอยไร้จุดโฟกัส ในหัวครุ่นคิดไปต่าง ๆ นาน คำพูดเสียดแทง สายตาเหยียดหยาม และท่าทางรังเกียจของพี่สาวไรเฟิลที่มีต่อผมนั้นไม่ได้ทำให้เจ็บเท่าประโยคเดียวที่หลุดออก.. ‘ไม่มีแม่ให้เรียกหรือไง’ ใช่.. ผมไม่เคยได้เรียกใครว่าแม่เลยตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งตอนนี้ เพราะไรเฟิล เพราะคนที่กำลังกอดผมอยู่ตอนนี้ คนคนนี้พาผมให้มาเจอคนใจดีอย่างคุณแม่ของเขา ท่านเอ็นดูผม ให้ผมเรียกท่านว่าแม่ ทั้งที่ผมเป็นใครก็ไม่รู้  ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจแม้จะรู้ว่าผมเป็นอะไรกับลูกชายตัวเอง คนที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน.. แถมยังมอบกอดอบอุ่นให้ผมอีกต่างหาก
  
  
  ก็อย่างว่า..ไม่มีใครรักเราชอบเราทุกคนหรอก พี่สาวไรเฟิลแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบผม บางที..เธออาจจะรู้ว่าผมกับน้องชายของเธอเป็นอะไรกัน ถึงได้มีท่าทีอย่างนั้น รับไม่ได้.. แน่สิ อยู่ ๆ น้องชายที่ควงผู้หญิงอยู่ตลอด ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าจะมาชอบผู้ชายด้วยกันแบบนี้
  
  บ้านผมอาจจะไม่คิดอะไรมาก มีตรรกะประหลาด เป็นประเภทสุขนิยม ไม่ชอบอะไรที่มันวุ่นวายมากเรื่อง อยากทำอะไรก็ทำไป แต่คุณต้องรู้จักคิดเอง ... แต่ผมลืมคิดไปว่า ความคิดของเราคนเราไม่เหมือนกัน คนนี้ไม่คิดอะไรเลย อีกคนอาจจะคิดมาก ถ้าพี่สาวไรเฟิลไม่ชอบผมแบบนี้ ผมกับไรเฟิลต้องเลิกกันหรือเปล่า ให้ตายเถอะ แค่คิดก็เจ็บเป็นบ้าแล้ว ผมต้องสู้ดิวะ ไม่ใช่มานั่งจมกับความคิดตัวเองแบบนี้ อย่ามาขี้ขลาดสิควอทซ์
  
  
  
  
  “ไรเฟิล...” เอ่ยเรียกชื่ออีกคนแผ่วเบา
  
  “หืม?” แรงกระชับกอดเอวแน่นขึ้น แผ่นหลังบางชิดกับอกแกร่งมากกว่าเดิน คางคมขยับวางเกยไหล่
  
  “พี่สาวมึง..รู้เรื่องของเรา..ไหม?”
  
  “...อืม”
  
  “แล้วเขา.. ไม่ชอบกูหรอ”
  
  “ไม่หรอก ชิลดิ”
  
  “ฮะฮะ แบบนี้จะชิลได้ยังไง..ในเมื่อเขาเป็นพี่มึงอ่ะ..แล้ว...แล้วครอบครัวของมึงไม่ชอบกู..”
  
  “เดี๋ยวคุยเอง อย่าคิดมากดิว่ะ”
  
  “.................”
  
  “เฟเป็นคนมีเหตุผล ....แต่ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้”
  
  “ขอโทษนะ..”
  
  “เรื่อง?”
  
  “ขอโทษ”
  
  “อย่าพูด ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยบันนี่”
  
  “ขอโทษที่ดีไม่พอ... ขอโทษ.. ...ขอโทษจริง ๆ”
  
  “บอกว่าอย่าพูดไง! อย่าโทษตัวเองแบบนี้” ผมเม้มปากแน่น พยายามบังคับไม่ให้น้ำตาไหลออก เพราะรับปากอีกคนไว้ว่าจะไม่ร้องไห้ แต่มัน.. กลั้นน้ำตามันยากจริง ๆ . . .
  
  “เรา.. ต้องเลิกกันหรือเปล่า..อึก”
  
  “ไม่มีทาง!! ห้ามพูดว่าเราเลิกกัน ห้าม.. อย่าพูดคำนั้นออกมา..”
  
  “ฮึก.. ขอโทษ ...ร้องไห้อีกแล้ว.. อึก”
  
  “ไม่เป็นไร..” ร่างสูงพลิกตัวผมให้หันไปหาเขา นิ้วเรียวปาดน้ำตาออกให้แผ่วเบา กดหน้าผมให้ซุกกับบ่ากว้าง เขากอดผมไว้อย่างนั้น ไม่มีคำพูดปลอบโยน มีเพียงอ้อมกอดแข็งแรงนี้ นั่นทำให้ผมอุ่นใจจริง ๆ
  
  
  
  
  
  ....ขอบคุณนะ....
  
  

  
  
  -----------------------
  
  
  
  
  ภายในบ้านใหญ่ ครอบครัวศิริวัฒนามงคลกำลังตึงเครียด นายหญิงของบ้านเดินไปมาสีหน้าไม่สบายใจ เกินไป.. ลูกสาวของเธอทำเกินไป วินาทีที่เห็นใบหน้าคนรักของลูกชายเจื่อนลงเพราะคำพูดของเฟลิเซียมันทำให้เธอเจ็บปวดไม่น้อยเลย เธอเอ็นดูน้องควอทซ์เหมือนลูกชายของเธอจริง ๆ แต่ดูที่ลูกสาวเธอพูดสิ โตเสียเปล่า ทำไมพูดอะไรไม่คิดอย่างนี้
  
  “เฟพูดเกินไป เฟเห็นหน้าน้องไหมคะ?” แม้จะโกรธก็ยังคงใช้น้ำเสียงอ่อนโยนเสมอ เฟลิเซียรองประธานผู้บริหารขมวดคิ้วอย่างคิดไม่ตก
  
  “เฟขอโทษ”
  
  “คนที่เฟต้องขอโทษคือน้องควอทซ์ ไม่ใช่แม่ค่ะ”
  
  “ไรเฟิลต้องโกรธแน่ ๆ” ความรู้สึกของคนในครอบครัวคือสิ่งที่เฟลิเซียแคร์มากที่สุด จึงไม่แปลกที่เธอจะเครียดแบบนี้ ถ้าน้องชายโกรธเธอ เธอคงบ้าตายแน่ ๆ โอ๊ยยย ไม่น่าไปแกล้งกระตายของน้องแบบนี้เลย
  
  
  อ่า...ใช่ เธอแค่แกล้งเท่านั้นแหละ
  
  
  
  ----
  ---
  
  
  
  “เฟลิเซีย!!!!” เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือก มองหน้าน้องชายคนโตอย่างหวั่น ๆ เจ้าเด็กนี่ยิ่งไม่เหมือนใครอยู่ด้วย
  
  “ไรเฟิล มีอะไร”
  
  “ยังจะถามอีก! ทำบ้าอะไรลงไปรู้ตัวหรือเปล่า!!”
  
  “ก็..รู้มั้ง ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”
  
  “กล้าพูดนะ ...พี่ทำคนของผมร้องไห้!! รู้ไหมว่าเรื่องนี้มันอ่อนไหวกับเขามากแค่ไหน!”
  
  “จะไปรู้ได้ยังไงเล่า! แค่นี้เองจะอะไรนักหนา”
  
  “แค่นี้หรอ! สิ่่งที่พี่ทำกับเขามันไม่ได้ทำให้เขาเสียใจเท่ากับประโยคเดียวของพี่หรอก! พี่ถามเขาว่าไม่มีแม่ให้เรียกหรือไงใช่ไหม และคำตอบมันคือใช่! พี่เห็นหน้าเขาไหม ตอนที่พี่พูดคำนั้นเห็นหน้าเขาไหม!!
  
  กับคนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยมีโอกาสเรียกแม่ แม้แต่ชื่อเขายังไม่เคยรู้ พี่ว่ามันแค่นี้่ไหม!!! ขอโทษผม ขอโทษที่ทำให้พี่ไม่ชอบเขา ขอโทษที่ตัวเขาไม่ดีพอให้พี่ยอมรับ ขอโทษที่ผิดคำพูดกับผม เขาเอาแต่โทษคัวเองแบบนั้น.. พี่คิดว่าผมรู้สึกยังไงวะ...ผมต้องมองคนที่ผมรักร้องไห้โดยทำอะไรไม่ได้เลย ผมต้องสึกยังไง..” ใบหน้าคมแหงนขึ้นสูงหลังจากพูดจบ มือหนายกปิดตาตัวเอง ตาคมกระพริบถี่ไหล่หยาดน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
  
  
  
  ทุกคนได้แต่อึ้งกับคำพูดที่หลุดออกมา คำบอกเล่านั้นยิ่งทำให้เฟลิเซียรู้สึกผิด ยิ่งเห็นท่าทางของน้องชายก็ยิ่งตอกย้ำว่าเธอทำผิด น้องชายคนนี้ของเธอไม่เคยจะพูดยาว ๆ แบบนี้สักครั้ง ไรเฟิลไม่เคยแสดงออกว่าจะร้องไห้แบบนี้ ไม่เคยแคร์ใครมากขนาดนี้ เด็กคนนั้นมีอิทธิพลกับน้องชายเธอขนาดนี้เชียวหรือ เธอไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ ...ไม่ได้ตั้งใจเลย
  
  
  “ขอไปหาได้ไหม”
  
  “เพื่อ?”เฟลิเซียสะอึกกับสายตาเย็นชาของไรเฟิล ไม่ใช่แค่เธอ คุณพ่อ คุณแม่ และน้องของเธอทั้งสสองคนก็ไม่ต่างหัน ตาคมแม้จะเย็นชาแต่แดงก่ำเพราะกลั้นน้ำตา นัยน์ตาสีฟ้าสวยถูกเคลือบด้วยหยาดน้ำตาบาง ๆ
  
  
  ..ไรเฟิลไม่เคยเป็นแบบนี้
  
  “เหอะน่า”
  
  “หึ! ถ้าพูดอะไรไม่คิดอีกก็อย่ามาคุยกันอีกเลยเฟลิเซีย”




-------------------TBC-----------------
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 02-04-2015 19:27:17
สงสารควอทซ์มากเลยอ่ะ พี่ไรเฟิลพูดแรงไปจริงๆ โกรธ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 02-04-2015 19:40:07
เจ๊ปากพาหาเรื่องจริงๆ สงสารควอทซ์
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 02-04-2015 19:44:27
คุณพี่สาวแกล้งแรงเกินไปแล้วววววววววววว    :mew5: :mew5: :mew5:

สงสารควอทซ์  อย่าร้องน้าาาาาาาาาาา             :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 02-04-2015 19:57:03
สงสารบันนี่ ก็คนมีปมเรื่องแม่
พี่สาวแกล้งแรงไปนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-04-2015 20:00:19
เป็นเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 02-04-2015 20:08:21
น้องควอทซ์น่าสงสารมากอ่ะ

 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 02-04-2015 20:17:27
เฟ พูดแรงไปนะเนี่ย. 
ทำร้ายจิตใจบันนี่มากมายเรย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 02-04-2015 20:47:13
เจ็บเลย แกล้งแรงไปแล้ว
สงสารควอทซ์ตอนนั่งร้องไห้ขอโทษไรเฟิล นี่ร้องไห้ไปพร้อมๆกับควอทซ์เลย T________T
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 02-04-2015 20:52:51
เอาสะน้ำตาใหล เข้าใจอารมย์ของควอดเลยอ่ะ :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 02-04-2015 21:00:25
ดูดิด แกล้งกระต่ายน้อยของไรเฟิลอะ โป้งละ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Cream A ที่ 02-04-2015 21:02:14
เจ๊แกแกล้งแรงไปป่ะเนี่ย สงสารบันนี่เลย เฟิลรีบปลอบใจด่วนๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 02-04-2015 21:14:40
เจ๊เฟลิเซียพูดแรงมากอ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 02-04-2015 21:18:46
นี่พี่สาวไรเฟิลแค่แกล้งหรอกหรือ

นึกว่าูพูดจริง ทำจริง

เห็นพูดซะขนาดนั้น

แต่ไม่เป็นไรยังไงๆก็มีไรเฟิลอยู่เคียงข้าง

สู้ต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: WASHABHI ที่ 02-04-2015 21:33:05
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน เพลินมากๆๆ อ่านรวดเดียวเลยยยย  :katai2-1: :katai2-1:
แต่งได่น่ารักมาก ควอทซ์น่าสงสาร นี่แอบร้องตามหลายรอบเลย  :hao5: :hao5:
อินสุดๆๆ รอติดตามต่อไปเรื่อยๆน๊าาา  o13 o13
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: bowtotay ที่ 02-04-2015 21:35:53
แกล้งแรงไปนะ ถึงจะไม่รู้ ก็ไม่สมควรแกล้งพูดแบบนี้ กับคนที่เพิ่งเจอกัน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 02-04-2015 21:47:16
อ่านแล้วน้ำตาซึมสงสารควอล์ทมากๆยิ่งมีปมอยู่ด้วยไรเฟิลนายสุดยอดไปเลย
ปกป้องคนรัก เฟริเซียพูดไปไม่คิดยังไงก็ขอโทษสะนะคนไม่รู้นิ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 02-04-2015 22:07:10
สงสารจังเลย :mew4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 02-04-2015 22:33:02
สมน้ำหน้าอีเฟ ปากหมาดีนัก โกรธนานๆเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 02-04-2015 22:41:11
สงสารน้องควอทซ์ ฮือๆ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 02-04-2015 22:51:15
ประเด็นเรื่องพ่อแม่มันแรงนะ จงใจแกล้ง กับแหย่นิดหน่อยมันต่างกันเยอะ
ถ้าเด็กประถมทำมันตอบได้ว่า เด็กคิดไม่ได้
แต่บอกว่าพี่ไรเฟิล เป็นรองประธานบริษัท.... ที่เข้าไปทำงานได้นี่เพราะเป็นลูกเจ้าของรึเปล่า?

คือ ไร้หัวคิดแบบไร้สมองมาก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 02-04-2015 23:31:32
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 02-04-2015 23:37:03
โอ๋ๆๆๆๆ บันนี่ๆๆๆๆ

กอดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-04-2015 23:46:08
สงสารบันนี่อ่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 03-04-2015 01:32:43
เฮ้อ ประโยคเดียวนะ
"ตอนพูดไม่คิด พูดเสร็จคิดได้ แต่ความรู้สึกมันก็เสียไปแล้ว มันกลับมาไม่ได้อีกแล้ว"
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 03-04-2015 04:07:56
สงสารทั้งควอทซ์ทั้งไรเฟิล พี่เฟลิเซียรีบไปง้อน้องเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 03-04-2015 09:40:28
บ้านไหน ใครจะหมั้น
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 03-04-2015 10:03:05
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 04-04-2015 05:23:04
ยังอ่านไม่จบ
แต่ตอนน้องว่าพยาบาลนี่ไม่น่ารักเลยนะ
ตามจริงๆคนไข้กับญาติต้องเป็นคนแจ้งว่าแพ้อาหารอะไรบ้างเค้าจะได้จัดหาอาหารได้ถูก
พยาบาลนะไม่ใช่พระพุทธเจ้าจะได้ตรัสรู้ได้เอง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 41 (02.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 05-04-2015 20:24:32
ไรเฟิล เยี่ยมมากอะ อยากได้แบบนี้ พี่เฟ ไม่ตั้งใจก็ไปขอโทษเนอะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 05-04-2015 20:25:44
EPISODE 42







  เฟลิเซียเปิดประตูอย่างเบามือ ภายในบ้านเงียบกริบ เธอเดินเข้ามาจนถึงส่วนของห้องนั่งเล่น เด็กผู้ชายตัวบางกำลังเขียนอะไรยุกยิกพอหันมาเจอเธอก็ทำปากกาหลุดมือเสียงั้น ตากลมเบิกกว้าง ปากอิ่มอ้าค้าง หน้าตาเลิ่กลั่ก รีบลุกขึ้นแล้วถอยหลังไป
  
  
  อะไรกันเจ้าเด็กนี่ กลัวเธอมากหรือไงเนี่ย
  
  
  “เอ่อ..” หน้าตาตื่นกลัวแบบนั้นมันยิ่งน่าแกล้งนะหนูน้อย ..เฟลิเซียยกยิ้มในใจ
  
  รู้สึกอยากแกล้งคนของน้องชายขึ้นมาอีกแล้ว อย่าว่าเธอเลย ถ้าได้มาเห็นหน้าของกระต่ายตัวขาวตอนนี้ก็คงคิดไม่ต่างจากเธอหรอก ตากลมโตบวมช้ำกับปลายจมูกแดง ๆ เพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มานั่นน่ะ มันทั้งน่าเอ็นดูและน่ารังแกในเวลาเดียวกัน
  
  แต่ไม่เอาดีกว่า ถ้าเจ้าน้องชายของเธอรู้คงได้บีบคอเธอแน่ ๆ ไม่รู้จะหวงอะไรขนาดนั้น
  
  
  “กลัวฉัน?” กอดอกเลิกคิ้วถาม กระต่ายของน้องชายส่ายหน้าหวือแล้วพยักหน้า ตกลงยังไงแน่
  
  “ค คุณมีอะไรหรอครับ?”
  
  “คุณ?” รู้สึกขัดใจกับสรรพนามนั้นไม่น้อย แต่ก็เลือกที่จะปล่อยผ่าน “แค่มีเรื่องจะคุยด้วย นั่งสิ”
  
  “อ่า.. ครับ”
  
  “ฉัน.. ไม่สิ พี่..ขอโทษ”
  
  “...........”
  
  “เฮ้ อย่าเงียบสิ”
  
  “ผม.. ไม่ได้โกรธหรอกครับ” ...แค่เสียใจนิดหน่อย
  
  “ถึงอย่างนั้นก็ต้องขอโทษอยู่ดี”
  
  “.............” พูดไม่ออกเพราะกำลังอึ้ง ไม่คิดว่าพี่สาวไรเฟิลจะมาขอโทษแบบนี้
  
  “จริง ๆ ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก แค่อยากแกล้งเท่านั้นแหละ ขอโทษด้วยนะที่พูดไม่คิดแบบนั้น”
  
  “ผม.. แกล้ง..ผม..”
  
  “อื้อฮึ เรื่องที่ไรเฟิลมีแฟนเป็นผู้ชายนั่นน่ะ เด็กยักษ์นั่นก็บอกตั้งนานแล้ว” เฟลิเซียไม่ใช่คนแก่หัวโบราณสักหน่อยที่จะรับเรื่องชายรักชายแบบนี้ไม่ได้ อีกอย่างอย่าลืมว่าเธอเป็นฝรั่งสิ เรื่องแบบนี้มันธรรมดามาก ปัจจุบันนี้มันก็มีให้เห็นเยอะแยะ ตอนที่รู้ก็แค่ช็อค ไม่คิดว่าน้องจะรักจะชอบผู้ชายด้วยกันเอง พ่อเธอแค่แสยะยิ้มตบไหล่ไรเฟิลแล้วบอกให้พามาเจอเหมือนกันรู้อยู่แล้ว และคงจะไม่ขัดขวางอะไรหรอก(และแน่นอนไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจมืดของคุณนายฟีโอน่า)
  
  “ล แล้ว.. คุณรับได้หรอครับ?”
  
  “คุณอีกแล้ว เรียกพี่สิ พี่เฟ น่ะพูดเป็นไหม” ควอทซ์ยิ้มกว้างพยักหน้าหงึก ๆ
  
  “ครับ พี่เฟ!” เรียกขันแข็งอย่างกับทหารโดนฝึก เฟลิเซียยิ้มเอ็นดู ปรับความเข้าใจกับคนของน้องชายอยู่สักพักก็ไล่กระต่ายน้อยไปล้างหน้าล้างตา จะได้เข้าบ้านใหญ่ไปพร้อมกัน ป่านนี้น้องชายคนโตของเธอคงอกแตกตายไปแล้วมั้ง
  
  
  ควอทซ์เป็นคนน่ารัก ใครเห็นก็ต้องหลงในความน่ารัก เฟลิเซียก็เป็นหนึ่งในนั้น. . .
  
  
  ที่เธอร้ายมันก็แค่การแสดงเท่านั้นแหละ จำไว้
  
  
  
  
  --------------------
  
  
  
  
  พี่เฟจูงมือผมเข้ามาในบ้านใหญ่(มือพี่เฟนุ่มมากครับ) ตอนนี้ได้เรียกพี่เฟแทนพี่สาวไรเฟิลหรือคุณเฟแล้ว แฮ่ ดีใจมากกกกกกกกก พี่เฟแค่แกล้งโผมมมมมมมมม แกล้งแบบนั้นผมใจไม่ดีนะครับ แต่ป๊าก็แกล้งผมทำนองนี้นี่หว่า โอยยยย ชีวิตผมทำไมโดนแกล้งบ่อยขนาดนี้! T____T สรุปแล้วครอบครัวไรเฟิลไม่ได้รังเกียจผมและรับรู้เรื่องของผมกับไรเฟิลตลอด(ไรเฟิลเล่าให้คุณแม่ฟังแล้วคุณแม่ก็เล่าให้ลูก ๆ คนอื่นฟังด้วย) อยากจะร้องไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยดัง ๆ ดีใจฉิบหายเลยอ่ะ
  
  ----
  -------
  
  
  “ไอ้เด็กบ้า!” พี่เฟแหวใส่น้องชาย พอไรเฟิลเห็นผมกับพี่เฟเข้ามาก็เดินมาแล้วกระชากมือพี่เฟที่จับมือผมอยู่ออกซะงั้น
  
  “ยัยบ้านั่นทำอะไรหรือเปล่า”
  
  “เรียกพี่แบบนั้นได้ไง นิสัยไม่ดี”
  
  “ใช่! ด่าอีกเยอะ ๆ เลย” พี่เฟพูด ... เหมือนเด็กชอบเลยครับ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือผู้บริหาร
  
  “น้องควอทซ์มาหาคุณแม่หน่อยสิคะ” ผมมองหน้าไรเฟิล คนตัวสูงพยักหน้า ผมจึงเข้าไปหาแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าของคุณแม่ไรเฟิล มือสวยประคองหน้าผม บอกให้ขึ้นไปนั่งข้างบน
  
  “มีอะไรเหรอครับ?”
  
  “มาเป็นลูกแม่อีกคน...ได้ไหมคะ?” ท่านพูดเสียงอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มใจดี ในหัวผมขาวโพลน คิดอะไรไม่ออก งงมาก ๆ ..ไรเฟิลเล่าอะไรให้ท่านฟังเหรอ..
  
  “ผม...” ภาพตรงหน้าพร่าเลือนมองไม่ชัด น้ำตาไหลออกมาตอนไหนไม่รู้ตัว ปลายนิ้วของคุณแม่เกลี่ยหยดน้ำสีใสออกให้อย่างเบามือ
  
  “รังเกียจคุณแม่หรอคะ?”
  
  “ป เปล่าครับ.. แต่ผม ผม...เป็นใครก็ไม่รู้ แล้ว...”
  
  “พี่ควอทซ์คิดอะไรมากว้าาาา” เสียงฟาโรห์แทรกเข้ามา
  
  “ว่าไงคะ?”
  
  “....ครับ”
  
  “เยยยยยย้!!” เสียงน้องฟิงซ์กับฟาโรห์ร้องลั่น คุณแม่ยิ้มกว้างดึงผมเข้าไปกอด ผมกอดท่านตอบ เอียงหน้ามองเห็นไรเฟิลอมยิ้มบาง ๆ และที่เหนือความคาดหมายคือคุณพ่อไรเฟิลยื่นมือมายีผมผมเบา ๆ บนใบหน้ามีรอยยิ้มอบอุ่นประดับอยู่... ที่เคยบอกว่าท่านน่ากลัวผมขอถอนคำพูดนะครับ
  
  
  
  
  และที่สำคัญที่สุดก็คือ. . .
  
  
  
  
  . . . ผมมีแม่แล้วฮะ . . .
  
  
  
  
  
  ---------------------------
  
  
  
  
  
  “คุณคะ คุณ ๆ โชติจินดามาแล้วค่ะ” คุณแม่บ้านเข้ามาบอก
  
  “จัดโต๊ะหรือยัง?”
  
  “เรียบร้อยแล้วค่ะ”
  
  
  
  
  
  “ไรเฟิลพาน้องควอทซ์ไปล้างหน้าแล้วตามไปที่ห้องอาหารเลยนะคะ” ไรเฟิลพยักหน้ารับคำ พาผมไปห้องน้ำ
  
  “ขี้้แง” ขยี้ผมผมระหว่างที่กำลังล้างหน้า ผมเงยหน้าให้คนตัวสูงซับหน้าให้แล้วโถมกอดอีกคนแน่น บี้หน้ากับไหล่กว้าง
  
  “ขอบคุณนะ”
  
  “เรื่อง?”
  
  “ทุกเรื่องเลย..” เขย่างตัวจุ๊บปากคนตัวสูงเบา ๆ แล้วผละออก ไรเฟิลตีหน้านิ่งแต่หูแดงเถือก
  
  “อยากสูบบุหรี่ไหม?” ผมกระแซะถาม ยักษ์หัวเงินกลอกตา
  
  “มาก!”
  
  ตรรกะแปลก ๆ ของคนตัวสูงที่ชอบสูบบุหรี่เวลามีความสุขน่ะ ผมก็รู้หรอก หึหึ
  
  
  
  ---
  ----
  
  
  
  ผมชะงักเมื่อเข้ามาในห้องอาหารแล้วเจอกันใคร ดูเหมือนฝ่ายนั้นก็ตกใจที่เห็นผม ใบหน้าสวยของกรีนบูดบึ้ง ผมยกยิ้ม
  
  
  ใช่ครับ.. กรีนกับครอบครัวของเธอ
  
  
  เรื่องหมั้นที่ว่านั้นคือไรเฟิลกับกรีนหรอ..?
  
  
  
  ผมนั่งลงข้างไรเฟิล ยกมือสวัสดีพ่อแม่ของกรีน ท่านรับไหว้ผมแล้วหันไปคุยกับพ่อแม่ไรเฟิล ..คุณพ่อไรเฟิลนั่งหัวโต๊ะ ฝั่งซ้ายมือคือคุณแม่ ถัดมาฝั่งเดียวกันคือฟาโรห์ ไรเฟิลแล้วก็ผม ฝั่งตรงข้ามมีคุณพ่อของกรีน แม่ของกรีน กรีน น้องฟิงซ์และพี่เฟ
  
  
  “ทานไปคุยไปดีกว่านะคะ” คุณแม่พูด จากนั้นเราก็เริ่มทานอาหารกัน
  
  “ไม่มีกุ้งทอด หึหึ” ผมยู่ปากใส่ไรเฟิล ไม่มีก็กินอย่างอื่นได้เหอะ แค่นี้ต้องแซว
  
  “เพื่อนไรเฟิลหรอจ้ะ?” ผมมองคนพูด แม่ของกรีนนั่นเองครับ ผมยิ้มบางก่อนจะตอบครับอย่างสุภาพ
  
  “เพื่อนสนิทเลยนะคะ” กรีนเน้นคำว่าสนิท เหยียดยิ้มมองผม
  
  “กรีนรู้จักน้องควอทซ์ด้วยเหรอคะ?” คุณแม่ไรเฟิลถาม
  
  “รู้จักสิคะ ที่มหา’ลัยเขาดังจะตาย อืม.. เพราะเป็นเด็กทุนที่อยู่กลุ่มของไรเฟิลมั้งคะ” แล้วจำเป็นต้องกระแนะกระแหนขนาดนี้ไหมล่ะสังคม... ผมอยากจะกลอกตาเป็นรูปแผนที่โลกจริง ๆ
  
  
  ‘กลุ่มไรเฟิล’ มีสี่คน คือ ไรเฟิล ไนต์ กาย และ ฟอร์ส พวกคุณรู้อยู่แล้ว กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างดังและมีอำนาจครับ มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอยู่ คือของทั้งสี่ครอบครัวนี้ร่วมกันสร้างขึ้นมา ชื่อที่ใช่เรียกกลุ่มนี้มีหลายอย่างครับ สี่สหาย ที่ผมใช้เรียกบ่อย ๆ หรือ ‘สี่ขั้วอำนาจ’ ที่คนส่วนใหญ่รู้จัก
  
  
  ที่ผมโดนเกลียด โดนหมั่นไส้ก็เพราะได้เป็นเพื่อนกันสี่ขั้วอำนาจนี่แหละครับ สี่คนนี้มีแต่ทายาทมหาเศรษฐีกันทั้งนั้น แล้วผม...ซึ่งเป็นเด็กทุน เด็กทุนในความคิดของเด็กเอกชนแบบนี้กรีนก็คงหมายความว่า ‘จน’ ผมในความคิดเขาคือสิ่งที่ไม่เข้าพวกสำหรับสี่ขั้วอำนาจ ดังนั้นที่ผมโดนเกลียดหรือหมั่นไส้มันก็ไม่แปลก หรือจะอิจฉาที่ผมสนิทกับสี่สหายก็ไม่รู้นะ /ถอนหายใจ
  
  
  “ที่บ้านทำอาชีพอะไรเหรอจ้ะ?” คุณแม่ของกรีนถามพร้อมรอยยิ้ม(ที่ปั้นแต่ง)
  
  “ขายของครับ”
  
  “ลำบากหรือเปล่าจ้ะ?”
  
  “ไม่ลำบากอะไรมากหรอกฮะ ผมเป็นเด็กทุน 100% ไม่ได้จ่ายค่าเทอมน่ะครับ”
  
  “งี้พี่ควอทซ์ก็เก่งมากเลยสิคะ ถึงว่าสอนให้ฟาเป็นคนได้” ผมกลั้นหัวเราะ เกลียดตัวเองที่เข้าใจคำพูดน้องฟิงซ์ คนถูกพาดพิงทำหน้างงสักพักแล้วชี้หน้าน้องสาว
  
  
  “ไม่เห็นรู้” ไรเฟิล
  
  “ไม่เห็นถาม” ยิ้มยิฟงันกวนประสาทอีกคนเล่น โดนผลักศีรษะเป็นของตอบแทน โด่ววววว
  
  “ไรเฟิลคงต้องเลือกคบเพื่อนดี ๆ หน่อยแล้วนะคะเนี่ย คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ ค่ะ” แล้วเพื่อนดี ๆ ในความคิดของคุณผู้หญิงคืออะไรหรอครับ?
  
  
  
  
  
  ----------------------
  
  
  
  
  หลังจากทานอาหารเสร็จก็ย้ายไปที่ห้องนั่งเล่นครับ ผมกะว่าจะออกไปนั่งเล่นที่ริมสระว่ายน้ำไม่ก็ไปป้วนเปี้ยนในครัว แต่ถูกไรเฟิลดึงแขนเอาไว้ เลยได้อยู่ฟังเขาคุยกันด้วย
  
  
  
  “ไรเฟิลกับน้องกรีนก็โตพอที่จะทำตามสัญญาแล้วนะคะ”
  
  “เรื่องแบบนี้ก็ต้องเต็มใจทั้งสองฝ่ายนะคะ” คุณแม่ไรเฟิลพูดท่าทีใจเย็น
  
  “จะลืมสัญญาระหว่างเรางั้นหรือ?” คุณพ่อของกรีน
  
  “ดิฉันไม่ลืมค่ะ แต่นั้นมันก็แค่คำพูดของผู้ใหญ่ เด็ก ๆ ก็โตกันแล้วให้เขาตัดสินใจเองดีกว่าค่ะ
  
  “แค่หมั้นไว้ก่อนไม่เห็นเสียหายอะไร เรียนจบจะได้แต่งกันเลยไงคะ”
  
  “ผมว่าถามความสมัครใจเด็กก่อนดีกว่า” คุณพ่อไรเฟิลพูดหลังจากที่เงียบอยู่นาน
  


  ผม ไรเฟิล พี่เฟ น้องฟิงซ์ ฟาโรห์ เป็นแผนกนั่งฟัง ผู้ใหญ่เขากำลังโต้เถียงเรื่องการหมั้นของไรเฟิลกับกรีน จากที่ฟัง ๆ อยู่เนี่ย ทั้งสองครอบครัวนี้เหมือนจะตกลงทำสัญญาปากเปล่ากันเอาไว้ว่าจะให้ลูกคนแรกเกี่ยวดองกันอะไรทำนองนั้นมั้งครับ ลูกคนแรงของศิริวัฒนามงคลดันเป็นผู้หญิง ส่วนกรีนเธอก็เป็นลูกคนเดียว ดังนั้นผลกรรม(?)จึงมาตกที่ไรเฟิล. . .
  
  
  “ผมไม่หมั้น” ไรเฟิลพูดด้วยเสียงเรียบนิ่งและจริงจัง
  
  “แต่เราตกลงกันแล้วนะจ้ะ”
  
  “ถ้าต้องใช้ชีวิตกับคนที่ผมไม่ได้รัก ผมตายดีกว่า” ผมลูบหลังไรเฟิลให้ใจเย็น ครอบครัวของกรีนแสดงออกว่าไม่พอใจคำพูดไม่เฟิลชัดเจนมาก รวมทั้งกรีนที่มองผมอย่างโกรธเคือง
  
  “อยู่ ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง”
  
  “ตายทั้งเป็นน่ะสิ”
  
  “ไรเฟิล” คนโดนเอ็ดไม่สนใจ เด็กเอาแต่ใจเข้าสิงหรือยังไง
  
  
  
  
  
  ‘ถือว่าสร้างความฮือฮาในวงการไฮโซเลยก็ว่าได้นะคะ กับนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่จาก Vaanische(วานิเช่)’
  
  
  
  
  เสียงพิธีกรสาวรายการกอสซิปไฮโซดังแว่วมาให้ได้ยินจากโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้ ผมหันไปให้ความสนใจเพราะเชื่อแบรนด์ของมันต่างหาก!! แบรนด์ของอาณิช!
  
  
  ‘ในเว็บไซต์ของวานิเช่ได้ปล่อยภาพออกมาให้ได้ชมกันแล้วนะคะ นายแบบไม่คุ้นตาแต่ว่าหน้าตาน่ารักเชียว เราไปชมภาพจากวานิเช่และสัมภาษณ์ของคุณวาณิชกันค่ะ’
  
  
  
  โอ้มายก็อด... ผมอ้าปากค้างกับภาพที่ฉายอยู่บนจอพาสม่า รูปผมประมาณสี่ห้ารูปถูกฉายขึ้น(ไม่มีภาพเซ็ทสุดท้ายนั่นถือว่าโชคดีมาก) ทำไมอาณิชไม่บอกว่าจะออกทีวีแบบนี้วะ!!! ผมกลืนน้ำลายเอือก ไรเฟิลยังไม่เคยเห็นภาพที่ผมไปถ่ายมา ถึงแม้ผมจะได้ไฟล์ภาพทั้งแล้วก็เถอะ ไม่กล้าเอาให้ดูครับ กลัว.. T____T
  
  
  เหมือนทุกคนจะลืมเรื่องที่กำลังคุยกันและไปสนใจจอพาสม่านั่นแทน..
  
  
  ‘นายแบบคนนี้เป็นใครกันคะ’ คุณพิธีกรก็อยากรู้จั้งงงง
  
  ‘คนสำคัญครับ สำคัญยังไงนั้นขอยังไม่เฉลยนะครับ’ ฮืออออออออออ T____T และพิธีกรก็พูดอะไรอีกไม่รู้ จบประเด็นนายแบบไป ผมซบหน้ากับฝ่ามือตัวเองไม่กล้ามองคนข้าง ๆ เลยครับ
  
  
  
  
  ----------
  ------
  
  
  
  “ดิฉันต้องการจัดงานหมั้นเร็วที่สุดค่ะ” บอกเล่าความต้องการตัวเองอย่างโจ้งแจ้ง
  
  “จะไม่มีงานหมั้นใด ๆ เกิดขึ้นค่ะ” คุณแม่บอกกลับทันควัน
  
  “ได้ยังไงกัน!”
  
  “ลูกชายของดิฉันกับลูกสาวคุณไม่ได้รักชอบกัน ดิฉันจะไม่บังคับลูกค่ะ”
  
  “แต่กรีนรักไรเฟิล”
  
  “รักข้างเดียวไม่เรียกว่ารักกันค่ะ” อยากจะกดรีพีตคำพูดคุณแม่ซ้ำ ๆ กรีนกำมือแน่น จิกตามองผมอย่างโกรธจัดแล้วแสยะยิ้ม คิดจะทำอะไรครับคุณ...
  
  “คุณอาทั้งสองรู้ว่าไรเฟิลมีแฟนเป็นผู้ชายหรือเปล่าคะ? แล้วยังเป็นคนที่นั่งข้างไรเฟิลตอนนี้ด้วย” โอ้โห.. เล่นแบบนี้เลยแฮะ พ่อกับแม่กรีนช็อคมากดูจากสีหน้า ..แต่ว่าคุณพลาดแล้วล่ะกรีน
  
  “รู้สิคะ ลูกชายมีแฟนทำไมพ่อแม่จะไม่รู้ล่ะคะ”
  
  “รับได้หรอคะ!?”
  
  “ลูกเป็นอะไรพ่อแม่ก็รับได้ทั้งนั้นแหละค่ะ”
  
  “เหอะ! เป็นผู้ชายด้วยกันฐานะยังต่างกันอีก ไม่คู่ควรเลยสักนิด” กรีนกอดอกเชิดหน้าจิกตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเหยียดหยาม ผมระบายยิ้มอ่อนก่อนจะพูดออกไป
  
  “โทษนะครับ พ่อของผมเป็นนักธุรกิจ และผม...รวยมาก!”
  
  “โกหกล่ะสิ พ่อหรือเสี่ยเลี้ยงกันแน่”
  
  “ขอโทษนะครับที่ต้องถามตรง ๆ นอกจากปากแล้วมีอะไรดีบ้าง?
  
  “oh~” พี่เฟกับน้องฟิงซ์แท็กมือกัน
  
  “หยาบคาย! ไม่มีสมบัติผู้ดีเอาเสียเลย” ผมยิ้มกับคำพูดของแม่กรีน
  
  “ต้องดูถูกคนอื่นใช่ไหมครับ ถึงจะเป็นผู้ดี” ผมรู้..ว่าเถียงผู้ใหญ่มันไม่เหมาะสม แต่ทำไปแล้วหนิ..
  
  “แก..!!”
  
  “อยากตายก็สาดมา” ไรเฟิลพูดเสียงเย็น กรีนกำแก้วน้ำแน่นจนขึ้นข้อขาว
  
  “เอาเป็นว่า การหมั้นจะไม่เกิดขึ้นนะคะ เดินทางปลอดภัยค่ะ” บอกแบบนั้นเหมือนไล่กลาย ๆ เลยแฮะ ครอบครัวของกรีนกลับไปด้วยความไม่พอใจมาก ๆ เลยนะผมว่า
  
  
  
  
  
  -------------------------
  
  
  
  Rifle’s
  
  
  
  
     ตอนเช้าวันอาทิตย์. . . ผมกำลังนอนมองหน้าคนตัวเล็กกว่าที่กำลังหลับตาพริ้ม ตอนนี้เพิ่งแปดโมงเช้า ปล่อยเขานอนไปก่อน เหนื่อยมาตั้งแต่เมื่อวาน ...เดี๋ยว ผมไม่ได้ทำอะไรเขา เมื่อคืนแค่กอดเฉย ๆ เหนื่อยเพราะมีเรื่องให้คิดมาก ผมเองก็เครียด ช่วงนี้งานเยอะ เพิ่งเสร็จไป งานใหม่ก็มา ไหนจะต้องอ่านหนังสืออีก ใกล้สอบไฟนอลแล้วก็อย่างนี้ นอกจากเรื่องเรียนแล้วยังต้องช่วยงานบริษัทอีก ให้ตาย!   


   
     ครืด~


     Felicia : (สติกเกอร์กระต่าย)

     R. : What?

     Felicia : Where are your Bunny?

     R. : In my arm

     Felicia : (สติกเกอร์เบ้ปาก)

     Felicia : Open the door!
   
     R. : For what?

     Felicia : Don’t ask me why but you must come and open the door for me, right now!



   
     เหี้ยไรเนี่ย ผมวางมือถือไว้ที่โต๊ะข้างเตียง จับแขนกระต่ายขี้เซาที่พาดอยู่บนเอวอย่างเบามือ ขาที่ก่ายอยู่นี่อีก บันนี่ครางฮื่อแต่ไม่ตื่น ผมเป่าลมออกจากปากแล้วออกไปเปิดประตูให้เฟลิเซีย



     ตรงหน้าผมคือผู้หญิงผมทองสูงกว่าร้อยเจ็ดสิบ หน้าสวยยิ้มพราว เจ้าเล่ห์สัด ๆ ในอ้อมแขนมีสัตว์หน้าขนตัวเล็กอยู่ มันคือกระต่าย



     “มีอะไร” ไม่ตอบแต่เบียดผมเข้ามาในบ้าน เดินลิ่วไปที่ห้องนอนทันที เฟลิเซียวางกระต่ายตัวน้อยลงบนเตียง แล้วยิ้มพอใจ ไอ้กระต่ายสีขาวหูตกนั่นเดินดุกดิกอยู่บนเตียง จะกวนเมียกูหรือไง



     ผมลากเฟลิเซียออกมาด้านนอก คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่สาวบอกว่าซื้อกระต่ายฮอลแลนด์ลอปอายุสองเดือนนั่นมาให้คนของผม บอกอีกว่าเหมือนกัน แถมต่ออีกว่ามีไอ้กระต่ายนั่นมาอยู่ด้วย บันนี่ของผมจะสนใจแต่สัตว์เลี้ยงไม่สนใจผม อืม.. ดีไหมล่ะพี่สาวผม



     ชอบแกล้งนักล่ะ ตั้งแต่เมื่อวานที่แกล้งคนของผมจนร้องไห้นั่นแล้ว เล่นเหี้ยอะไรแรงแบบนั้น เรื่องนี้ผมยังไม่รู้มาก่อน เพียงแค่ตะหงิดในใจเท่านั้น เพราะตอนแรกที่มาบอกกับครอบครัวว่ามีแฟนเป็นผู้ชายก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร ก็แค่ช็อคไปแค่นั้น เอารูปมาให้ดูยังบอกว่าน่ารักเลย แล้วนี่มาทำท่ารังเกียจ ไม่ชอบกระต่ายของผม เล่นใหญ่ซะผมเขว



     กลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งหลังจากไล่เฟลิเซียกลับบ้านใหญ่ไปแล้ว กระต่ายสีขาวขนฟูปีนขึ้นไปบนตัวคนของผม เท้าเล็ก ๆ ย่ำบนอกเดินขึ้นสูงจนหัวชนกับปลายคางมน แล้วฟุบนอนนิ่ง ๆ บนอกบันนี่ เออเว้ย! เหมือนกันจริง ๆ ขี้เซาฉิบหาย ผมส่ายหน้าช้า ๆ เหมือนเอือมระอา แต่คว้าโทรศัพท์มาเก็บภาพเอาไว้




     “งืม... เฮ้ย!” บันนี่เด้งตัวขึ้นนั่งทำให้กระต่ายตัวกลมบนอกไหลไปกองบนตัก ตากลมสบมองผมงง ๆ ก่อนจะกลับไปสนใจฮอลแลนด์ลอปบนตัก

     “กาต่ายยยยยยยยยย มาไงอ่ะ อ้ากกกกกก น่าย้ากกกกกกกกกกกกก” ถูไถจมูกกับตัวกระต่าย

     “พันธุ์อะไรอ่ะ ไอ้เหี้ยยยย น่ารักมากเลย ดูดิ ตัวกลม ๆ สั้น ๆ เป็นก้อนเลย อ้ากกกกกกกกก อ้วนกลมของเราาาาาา” บ้าไปแล้ว...

     “ฮอลแลนด์ลอป เฟเอามาให้”

     “ให้ใคร ให้กูหรอ” ผมพยักหน้า บันนี่ร้องอ้ากดีใจ ฟัดก้อนกระต่ายไม่สนใจผม





     เริ่มเห็นเค้าลางการเป็นหมาหัวเน่า...




     ไอ้กระต่ายเหี้ย...!!





---------------------TBC------------------------

ตอนนี้ไม่ม่าแล้วน้าาาาา
ตกใจคอมเม้นต์มาก พี่เฟโดนหนักมาก T______T
 :hao5: :hao5: :hao5:
ขอบคุณทุก ๆ คนนะคะ รักน้าาาาาา
ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ
 :z10: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: jamesnaka ที่ 05-04-2015 20:50:24
อยากเลี้ยงกระต่ายบ้างจัง แต่ม๊าไม่ให้เลี้ยง  :hao5:

ขอบคุณที่มาลงตอนใหม่  แล้วตั้งหน้าตั้งตารอตอนต่อไปจ้า

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 05-04-2015 20:52:45
กระต่าย เลี้ยงกระต่าย น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-04-2015 21:10:33
อย่าเอาไปเปลียบเลย

ยังไงนายเอกของเราก็รักพี่ไรเฟิลอยู่แล้ว

นายเอกออกทีวีแบบนี้อีกหน่อยก็มีคนมาจีบเยอะแน่เลย

แบบนี้พี่ไรเฟิลคงปวดหัวน่าดู
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: caramel ที่ 05-04-2015 21:14:07
น่าย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก    :impress2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 05-04-2015 21:17:01
พึ่งเคยเจอ บันนี่ไม่โกรธเว้ย o22
ปล.กระต่าย(คน)เจอกระต่าย(ตัว)  งี้ปืน(ไรเฟิล)คงต้องเก็บเข้ากล่องใช่ไหม  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 05-04-2015 21:28:27
ไรเฟิลโดนแย่งความรัก  :m20:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 05-04-2015 21:42:08
“โทษนะครับ พ่อของผมเป็นนักธุรกิจ และผม...รวยมาก!”
“ขอโทษนะครับที่ต้องถามตรง ๆ นอกจากปากแล้วมีอะไรดีบ้าง?”
ลั่นสองประโยคนี้แรงมาก 555555555555555555555555555555555555555
 :m20: :m20: :m20: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: tang ที่ 05-04-2015 21:49:46
น่าร้ากกก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 05-04-2015 21:53:45
ขอบันนี่มาเลี้ยงที่บ้านๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 05-04-2015 22:00:29
สงสัยพี่ปืนของเราจะตกกระป๋อง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 05-04-2015 22:32:12
กระต่ายเจอกระต่าย
^^
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 05-04-2015 22:48:53
 o13 o13 o13สุดยอดพ่อแม่เลยยยย o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 05-04-2015 22:53:55
 :laugh: :laugh: :laugh:ไรเฟิลโดนเมินแน่งานนี้ :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 05-04-2015 23:13:51
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-04-2015 23:20:06
แพ้กระต่าย   :hao3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 05-04-2015 23:27:13
คิกคิก ซะเห็นภาพเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 06-04-2015 10:38:08
ไรเฟิล

ผู้มีอนาคต

เป็น

หมาหัวเน่า


 :jul3: :m20:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-04-2015 11:18:22
ตั๊ลร๊ากกกกกกกกก



ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 06-04-2015 12:30:07
อย่าได้รู้ความจริง บ้านกรีนมีหนาว
ดูถูกกันดีนัก.

พ่อปืนมีแววหัวเน่านะเรา บันนี่มีเพื่อนเล่นใหม่แล้ว


หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 06-04-2015 13:08:16
อร๊ายยยยยย เดาว่า วันนี้อาหารมื้อเย็นของบ้านนี้อาจจะเป็นกระต่ายย่าง ==
บันนี่ดูแลกระต่ายดีๆนะ 5555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jjay ที่ 06-04-2015 14:54:39
น่าย้ากทั้งคนทั้งกระต่ายยยยย :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 06-04-2015 17:41:56
ถ้าจะหมาหัวเน่าจริงๆนะเนี่ย ขนาดพึ่งได้ ไรเฟิลรับศึกหนักแน่
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 06-04-2015 17:43:44
โอ้ย น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :mew1: :mew1:

เจ้าบันนี่ เจ้าไรเฟิล น่ารักที่สุด อยากบอกว่า เราชอบแม่ไรเฟิลมากเลยอ่ะ คุณแม่ในอุดมคติ ดีใจกับบันนี่น้อยด้วย มีแม่แล้วน่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 42 (05.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 06-04-2015 21:36:34
น่ารัก....
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 10-04-2015 18:20:53
SPECIAL FOR
RIFLE’s B-DAY
[/size]



  
  
  
  
  อีกประมาณยี่สิบนาทีจะเปลี่ยนเป็นวันใหม่ และจะกลายเป็นวันเกิดของไรเฟิล คนตัวเล็กเดินวนในห้องน้ำไปมาเป็นหนูติดจั่น กัดเล็บอย่างครุ่นคิด เอาไงดีวะ! มองตัวเองในกระจก เส้นผมเปียกหมาดเพราะเพิิ่งผ่านการสระผม ร่างบางสวมชุดคลุมสีขาวตัวสั้น ถ้าจะทำตามแผนที่คิดกับลูกหมาสามตัวมันน่าอายเกินไป เอาไงดี. . . แม่งบอกมาได้ยังไงว่าให้ ‘ยั่ว’ แค่ปกติไม่ยั่วก็ลุกจากเตียงแทบไม่ไว้อยู่แล้ว!!
  
  
  
  
  แต่จะให้แค่ของขวัญมันก็ยังไง ๆ อยู่นะ ตอนวันเกิดเขาไรเฟิลก็จัดปาร์ตี้ให้ด้วยซ้ำ  เอาว่ะ! เป็นไงเป็นกัน กระต่ายตัวขาวสูดหายใจเข้าปลอดลึกเรียกกำลังใจให้ตัวเองแล้วเปิดประตูออกจากห้องน้ำ
  
  
  “อ อ้าว”
  
  “ตกใจอะไร”
  
  “เปล่า นึกว่ายังอ่านหนังสืออยู่อีก” ก็มันใกล้จะสอบไฟนอลแล้วนี่นา เขาเองก็เพิ่งอ่านจบไปไม่กี่บท ไรเฟิลไหวไหล่ หรี่ตามองกระต่ายตัวขาว คนตัวเล็กที่พอรู้สึกตัวก็ยกมือกอดตัวเอง
  
  
  “ไป ไปอาบน้ำดิ!!” ตะโกนไล่ยักษ์ฝรั่ง ส่วนตัวเองก็หนีเข้า closet walk in เพื่อจะแต่งตัว
  
  
  มือขาวเปิดลิ้นชักหยิบกางเกงชั้นในขาสั้นมาสวม ปลดชุดคลุมอาบน้ำพาดไว้บนราวแขวน ร่างบางที่สวมเพียงชั้นในตัวเดียวเดินไปนั่งที่เก้าอี้ มือขาวหยิบโลชั่นมาทาผิวกาย
  
  
  ควอทซ์เดินมาหยุดที่หน้าตู้เสื้อผ้าส่วนของคนตัวสูง ไล้ปลายนิ้วผ่านเสื้อผ้าตัวแล้วตัวเล่าก่อนจะหยุดที่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวในสุด กระต่ายน้อยหยิบออกมาทาบเข้ากับตัวเองก่อนจะยกยิ้ม  คงพอได้เนอะ ชายเสื้อเชิ้ตยาวพอที่จะคลุมสะโพกเขาได้ มือเรียวติดกระดุมเพียงแค่สองเม็ดล่างเท่านั้น
  
  
  
  ยืนมองตัวเองหน้ากระจกแล้วเบ้หน้าอยากกระดากอาย ตัดสินใจเดินออกมายังส่วนของห้องนอน นาฬิกาฉายตัวเลข 00:06 เลยเข้าวันใหม่มาหกนาทีแล้ว กระต่ายขาวเดินไปปิดม่านและปิดไฟในห้องลงก่อนจะเปิดโคมไฟสีส้มสลัวขึ้น วางกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ข้างในนั้นบรรจุของขวัญที่เขาสั่งทำขึ้นมา ต่างหูทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ประดับด้วยนิลเม็ดเล็กเรียงต่อกันเป็นรูปตัวอักษร R
  
  แล้วปืนขึ้นไปนั่งบนเตียง
  
  สยองตัวเองชะมัด ทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ยยยยยย
  

  คร่ำครวญไปก็เท่านั้น เสียงน้ำจากห้องน้ำหยุดลง ส่งผลให้หัวใจของคนที่นั่งอยู่บนเตียงเต้นระรัว
  
  
  
  ร่างสูงออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ หยดน้ำเกราะพราวบนผิวกายแกร่ง ส่วนล่างพันด้วยผ้าขนหนู มีผ้าอีกผืนพาดบนไหล่ คนตัวสูงชะงักมองกระต่ายบนเตียงด้วยความตะลึง ขายาวก้าวเข้าใกล้เตียงราวกับต้องมนต์ บันนี่เงยหน้าช้อนตามองคนตัวสูงกว่าด้วยสายตายั่วยวน
  
  
  
  นึกพิเรนท์อะไรขึ้นมาวะ?!
  
  
  
  การที่มานั่งโชว์ขาขาว ๆ แบบนี้ยั่วเขาใช่ไหม.. เสื้อเชิ้ตที่เขาให้ได้พอดีพอมาอยู่บนตัวของควอทซ์แบบนี้มันกลับดูตัวใหญ่มาก กระดุมเสื้อที่กลัดเพียงสองเม็ดล่างนั้นทำให้เห็นผิวขาวเนียบรวมทั้งยอดอกสีสวยที่ลอยเด่นล่อตาคนตัวสูง ไหนจะไหล่เสื้อข้างหนึ่งที่ตกไปอีก
  
  “ยั่วหรือไง?” ตีหน้าซื่อ เอียงคอสงสัย มันน่าขย้ำให้แหลกจริง ๆ กระต่ายยั่วขยับลงจากเตียง ผลักคนตัวสูงให้นั่งลงบนเตียง มือขาวประคองใบหน้าหล่อคมเอาไว้แล้วโน้มหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกชนกัน
  
  
  “Happy birthday” กระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปากอีกคน ฟันขาวขบริมฝีปากของร่างหนาเบา ๆ ไรเฟิลยกยิ้มมุมปาก ไล้นิ้วโป้งกับริมฝีปากอิ่มที่เผยอนิด ๆ และเจ้าบันนี่ก็ทำสิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือแลบลิ้นเลียปลายนิ้วของเขา !!! กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แผ่นออกหนาสะท้อนขึ้นลงด้วยแรงอารมณ์ กลางกายพองตัวดันผ้าขนหนูสีขาว บันนี่จอมซนหลุบตามองต่ำ หน้าหวานแดงซ่านเพราะความอาย
  
  
  
  ขยับกายคุกเข่าคร่อมตักคนที่นั่งอยู่บนเตียง มือโอบรอบลำคอแกร่ง ไล้มือบนแผ่นหลังกว้างไปมาอย่างยั่วเย้า อีกคนกัดฟันกรอด ในเมื่อมายั่วเขาแบบนี้ก็อย่าคิดว่าจะได้ลงจากเตียงเลยบันนี่!! ฝ่ามือร้อนลูบเรียวขาขาวก่อนจะสอดมือเข้าไปในชั้นในขาสั้นแล้วบีนเคล้นสะโพกนิ่ม ร่างบอบบางกัดริมฝีปากกลั้นเสียงคราง เบียดตัวแนบชิดกับร่างกำยำ
  
  
  พลิกตัวผลักกระต่ายขาวให้นอนราบกับเตียงนุ่ม เท้าแขนยันตัวเอง ตาคมจ้องมองกายขาวของคนรักอย่างจาบจ้วง ลิ้นชื้นแลบเลียริมฝีีปากแห้งผากของตน ร่างกายร้อนรุ่มแม้จะเพิ่งผ่านการอาบน้ำมา ก้มลงมอบจูบร้อนแรงให้คนใต้ร่าง ขบเม้มเรียวปากอิ่มอย่างดุดันก่อนจะสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปฉิกชิมความหวานภายใน
  
  
  “อื้อ..อืม” ครางเสียงหวานอ้ืออึงในลำคอ ยกขารัดเอวสอบของคนด้านบนแล้วใช้เท้าค่อย ๆ ดันผ้าขนหนูที่อีกคนใช้ปกปิดร่างกายออก มือหนาฟ้อนเฟ้นตุ่มไตชูชันท้าสายตาอย่างสนุกมือเล่นเอาอีกคนครางซ่าน ผละจูบออกเลื่อนลงซุกไซร้ลำคอระหง ขบเม้มสร้างรอยรักสีระเรื่อ เบียดกายแนบชิดแบ่งปันความร้อนของร่างกายให้อีกคนรับรู้
  
  
  
  “อ๊ะ..อ๊า” มือสวยดันศีรษะอีกคนออกแต่กลับแอ่นออกให้คนตัวสูงกว่าลงลิ้นกับเม็ดอกได้ถนัดขึ้น ไรเฟิลดูดชิมเม็ดอกเล็กทั้งสองข้างของกระต่ายตัวน้อยสลับกันไปมาจนเปียกชื้นน้ำลาย เลื่อนมือลงต่ำเคล้นคลึงส่วนกลางลำตัวของคนตัวเล็กผ่านเนื้อผ้าบาง
  
  
  
  “แข็งแล้วนี่” ครางฮื่อปิดหน้าและแก้มแดงซ่อนความเขินอาย ไม่แข็งได้ไงเขาก็มีความรู้สึกนะ!
  
  
  “อ๊ะ... อ๊ะ” มือหนาเกี่ยวรั้งขอบชั้นในตัวเล็กลง อีกคนยกสะโพกขึ้นให้ร่างสูงดึงมันออกอย่างไม่ขัดขืน ขยับมือรูดรั้งกลางกายกระต่ายตัวเล็กรัวเร็วจนคนถูกกระทำร้องครางไม่เป็นภาษา ก่อนจะปลดปล่อยหยาดน้ำขาวขุ่นออกมาเปรอะมือหนา
  
  
  “แฮ่ก ๆ” ตาปรือปรอยมองคนรัก ปากอิ่มเผยอขึ้นอย่างเซ็กซี่ อ่า.. จะยั่วกันไปถึงไหน หมดสิ้นความอดทน ไรเฟิลโน้มตัวไปคว้าหลอดเจลและคอนดอมออกมาแล้วสวมให้ตัวเองอย่างรีบร้อน จับเรียวขาให้ตั้งชัน บีบเจลใสใส่ช่องทางเล็กสวย ไล้ปลายนิ้วรอบ ๆ ก่อนจะค่อย ๆ กดเข้าไปช้า ๆ
  
  
  แค่นิ้วเดียวก็รัดฉิบหายแล้ว!!!
  
  
  
  “อึก อ๊า!!”
  
  “ซี้ด... รัดเชี่ย ๆ” ขยับนิ้วเข้าออกช้า ๆ เพื่อให้ช่องทางคลายตัวก่อนจะสอดนิ้วที่สองเข้าไปอีก มืออีกข้างรูดรั้งแท่งร้อนของตัวเองที่ขยายใหญ่จนน่ากลัว ดึงนิ้วออกพรวดแล้วถูไถส่วนปลายกับปากทางที่ขยิบถี่ ไม่กดเข้าไปสักทีอยากอย่างแกล้งอีกคนให้ทรมาน แม้ตัวเขาเองก็ทรมานไม่แพ้กันก็ตาม
  
  
  “เข้ามาสักที! อ๊าาาา!!” ขอมาก็จัดให้ กดแท่งร้อนขนาดใหญ่เข้าไปในช่องทางคับแคบทีเดียวจนมิดด้าม ส่งผลให้กระต่ายน้อยร้องลั่น ร่างสูงโน้มตังจูบซับหยดน้ำที่ปริ่มขอบตา แช่กลางกายเอาไว้จนอีกคนผ่อนคลายลงถึงได้เริ่มขยับ ยกเรียวขาสวยขึ้นพาดบ่า
  
  “อึก อ๊า อ๊ะ”
  
  “ซี้ด..อ่า..” ร่างสูงครางเสียงต่ำ ขยับกายเข้าออกอย่างร้อนแรง ช่องทางร้อนบีบรัดเขาจนแทบคลั่ง อยากจะกระแทกเอวลงไปแรง ๆ แต่อารมณ์ห่วงอีกคนยังมีมากกว่า มือเล็กยื่นออกมาเหมือนต้องการไขว่คว้า ไรเฟิลยื่นมือไปจับ พรมจูบบนปลายนิ้วเรียวแล้วเลื่อนไปกดจูบที่วงแหวนบนนิ้วกลางข้างขวาของกระต่ายน้อยเบา ๆ
  
  
  
  
  
  “อ๊ะ อ๊า! ไร..อ๊ะ เฟิล ลึก อ๊ะ อึก!”
  
  “หืม... เอาลึก ๆ เหรอ”
  
  “ม ไม่!! อ๊า! อ๊ะ อื้อ!!” รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้จะหมายความอย่างนั้นแต่ก็ยังเสือกกายเข้าไปจนแท่งร้อนสอดลึกกว่าเก่า ร่างบางร้องครางเสียสั่นด้วยความเสียวซ่าน จิกเล็บกับไหล่กว้างระบายอารมณ์
  
  
  
  “บันนี่.. อ่า”
  
  “ไรเฟิล อ๊ะ... แรงไป อ๊ะ อ๊า!”
  
  
  พั่บๆๆ
  
  
  “ร..อ๊ะ..จะ..อื้อ เสร็จ อ๊า!” ส่วนกลางลำตัวเสียดสีกับหน้าท้องแกร่งที่มีกล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวย จนในที่สุดควอทซ์ก็ชิงเสร็จก่อน หยาดน้ำสีขุ่นฉีดเลอะหน้าท้องของไรเฟิลและสาบเสื้อเชิ้ตที่ยังไม่ถอดออก
  
  “อ๊ะ อ๊ะ” กดสะโพกกระต่ายขาวให้ชิดกว่าเดิม ขยับกายแข็งใส่ช่องทางร้อนก่อนจะกระตุกเกร็งและปลดปล่อยออกมาภายในช่องทางที่ตอดรัดถี่ยิบไม่หยุด
  
  “อ่า...” ขาสวยตกลงที่ข้อพับแขน ร่างบางหอบหายใจกวาดอากาศเข้าปลอด บทรักที่เพิ่งจบไปทำให้เขาทั้งคู่สูญเสียพลังงานไปน้อยเลย
  
  
  แต่ก็นะ... รอบเดียวก็ไม่ใช่ไรเฟิลสิ
  
  
  
  
  ------------------
  
  
  
  “บันนี่”
  
  “หือ?”
  
  “สัญญาบทลงโทษ” ลืมตามองคนที่นอนเท้าแขนมองตัวเองอยู่ มุมปากบางยกยิ้มร้าย ควอทซ์กลืนน้ำลาย ถ้าพูดมาอย่างนี้คงไม่พ้นเรื่องอย่างว่า...
  
  “อะไร?” ถามอย่างหวาดระแวง จะไม่ให้ระแวงได้ยังไง รอยยิ้มที่ติดอยู่บนหน้าหล่อนั่นมันน่าไว้ใจที่ไหนกันล่ะ ไรเฟิลโน้มหน้ากระซิบเสียงเบาชิดใบหู คนฟังตัวแข็งทื่อก่อนแก้มขาวจะแดงซ่าน
  
  
  “On top”
  
  “ไม่อาววววว”
  
  “ให้ไว”
  
  “จะตีสองแล้วน้าา นอนกันเถอะ นะนะ นอนกันน้าาา”
  
  “อืม” ตอบเสียงเย็นทั้งยังทำหน้านิ่งจนอีกคนหน้าเสีย แต่ร่างสูงหาได้สนใจไม่. .  เขาลุกขึ้นกะจะเข้าไปล้างตัว แต่ยังไม่ทันไรก็มีอ้อมแขนเล็กกอดรัดเอวเขาไว้จากด้านหลัง
  
  
  
  “ปล่อยดิ”
  
  “จะ...ไปไหน”
  
  “ล้างตัว ปล่อย”
  
  “ล้างทำไม..เดี๋ยวก็เลอะอีก” พูดเองก็อายเอง หน้าสวยขึ้นริ้วสีแดง แขนที่รัดเอวหนาคลายออกและค่อย ๆ ลูบไล้หน้าท้องของอีกคนไปมา
  
  
  
  หึ..ติดกับแล้วบันนี่
  
  
  
  ไรเฟิลเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ คิดว่าเขาจะไม่ทำจริง ๆ หรือไง แค่แกล้งเมินเฉายรอให้กระต่ายตัวน้อยวิ่งเข้าใส่กับดักที่วางไว้ คนอย่างบันนี่ถ้าไม่บังคับจริง ๆ ก็ไม่ยอมทำหรอก แบบนี้ต้องทำให้เป็นฝ่ายเริ่มเอง เหมือนอย่างตอนนี้ไง คิดจะยกเลิกโทษหรอ ชาติหน้าเถอะครับ!!!
  
  
  “ไรเฟิล...” เอ่ยเรียกชื่ออีกคนเสียงสั่น มือซนเลื่อนลงลูบไล้แกนกายของคนตัวสูงไปตามความยาว ร่างหนากัดปากสะกดกลั้นอารมณ์ มองมือเล็กที่กอบกุมแท่งร้อนของตน
  
  
  “อ่า. .” จนได้.. หลุดครางออกมาให้กระต่ายซนได้ใจจนได้ พอกันที ฟอร์มเหี้ยอะไรไม่ต้องมีมันแล้ว!
  
  
  “อ๊ะ!!!” คนตัวเล็กถูกผลักลง ตากลมเบิกกว้าง
  
  “อย่าฝืน”
  
  “ไม่ได้ฝืน”
  
  “ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ไม่ได้บังคับ”
  
  
  
  หรา. . . ไม่บังคับแต่กดดันน่ะสิ กล้าพูดนะ คิดว่าเขารู้ไม่ทันหรือไง หา!!!
  
  
  
  “ไม่ได้โง่เว้ย!”
  
  “งั้นก็... ทำสิ” ปล่อยข้อมือเล็กออก พลิกกายพิงหัวเตียงในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน สมยอมสุด ๆ ร่างบางเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ ออนท็อปหรอ ด้ายยยยย! ถ้าเผลอนะ พ่อจะเสียบให้!
  
  
  
  
  ควอทซ์คร่อมทับไรเฟิลโดยทิ้งตัวนั่งบนหน้าท้องแกร่ง ไรเฟิลประสานมือรองท้ายทอยมองร่างบางว่าจะทำยังไง กดยิ้มมุมป่กกับท่าทางกระดากอายและแก้มแดงปลั่ง น่าฟัดให้จมเขี้ยวจริง ๆ
  
  
  
  ร่างบางแสยะยิ้ม มือเล็กเกาะไหล่กว้างเอาไว้แล้วบดเบียดสะโพกเนียนกับแท่งเนื้อร้อนของไรเฟิล ...แม่ง! แข็งฉิบหาย... เผลอย่นจมูกอย่างไม่รู้ตัว ปล่อยมือข้างหนึ่งออกแล้วเอื้อมไปเปิดลิ้นชักข้างเตียงแล้วคว้าหาบางอย่างภายใน
  
  
  
  
  “ถุงยางหมด”
  
  “หืม?”
  
  “......สดก็ได้” หืม.. ให้สดด้วยแฮะ ไม่บ่อยหนักหรอกที่ควอทซ์จะยอมให้ใส่สด กำไรเห็น ๆ
  
  
  
  อย่าได้ใจไปเลยไอ้ยักษ์ ถ้าไม่ใช่วันเกิดก็ไม่ยอมหรอกนะ!!!
  
  
  
  ควอทซ์คว้าหลอดเจลมาและบีบใส่มือก่อนจะยกสะโพกขึ้นเล็กน้อนแล้วป้ายเจลลงที่ช่องทางของตัวเอง นิ้วเรียวกดเข้าไปในทางร้อนช้า ๆ แล้วขยับเข้าออกเปิดทางให้ตัวเองจากนั้นจึงชโลมเจลหล่อลื่นกับแกนกายของไรเฟิล มือหนาส่งไปปลดกระดุมเสื้อทั้งสองเม็ดออกแล้วกระชากมันทิ้งลงข้างเตียง ใส่ก็เหมือนไม่ใส่ แล้วจะใส่มันไปทำไม
  
  
  
  
  ควอทซ์ใช้เข่ายันตัวเอง ฟันขาวขบริมฝีฝากขณะประคองท่อนเนื้อยักษ์ให้เข้าไปในตัว ร่างบางค่อย ๆ กดตัวลงไปอย่างช้า ๆ โดยมีไรเฟิลช่วย ควอทซ์นั่งนิ่งเมื่อกดตัวลงจนสุด ปากสวยเม้มแน่นเพราะความเจ็บที่แล่นเข้ามา ตาโตปริ่มน้ำ .. ช่องทางคับแคบบีบรัดแกนกายจนไรเฟิลอย่างเด้งสะโพกสวนขึ้นไปแรง ๆ
  
  
  “เจ็บ. . .” เสียงหวานเอ่ยเบา จิกไหล่ออีกคนแน่น ไรเฟิลเองก็เจ็บ..เพราะช่องทางที่ตอดรัดแน่นจนเขาอึดอััด
  
  
  “ขยับได้ไหม” พยักหน้าตอบแล้วยกตัวขึ้นช้า ๆ ก่อนจะกดลงมา เมื่อเริ่มผ่อนคลายจึงเร่งจังหวะขึ้น
  
  
  
  
  
  “อ๊ะ อ๊ะ อ๊า!” กระต่ายน้อยเชิดหน้าครางเสียงกระเซ่า เม็ดอกถูกไรเฟิลครอบครองด้วยปาก มือหนาข้างหนึ่งขยับรูดรั้งส่วนแข็งขืนของควอทซ์ ส่วนอีกข้างยกประคองแผ่นหลังบางเอาไว้
  
  
  
  
  “อ๊าาา!” ไรเฟิลเด้งตัวสวนขึ้นมาในขณะที่ควอทซ์กดสะโพกลงพอดี ร่างบางครางลั่น สอดมือขยุ้มกลุ้มผมหนาของไรเฟิล เอวบางขยับบดเบียดกับแท่งร้อนด้วยแรงอารมณ์
  
  
  
  “อะ..อะ..อ๊า! ไรเฟิล อื้อ!” กดใบหน้าควอทซ์ให้รับจูบ มือหนาชักนำรูดรั้งแกนกายของคนตัวเล็กด้วยความช่ำชองจนร่างบางหดเกร็งหน้าท้องเพราะความเสียวซ่าน
  
  
  
  
  “อะ อ๊า”
  
  
  “อ๊าาาา อะ!” ควอทซ์หวีดร้อง ร่างกายกระตุกเกร็ง ปล่อยธารน้ำสีขุ่นเลอะมือใหญ่ กายบางสั่นทึ่มซบศีรษะกับไหล่กว้าง มือสวยคล้องคออีกคนด้วยความเหนื่อยอ่อน ไรเฟิลผลักร่างเล็กให้นอนราบกับผืนเตียงและเป็นฝ่ายบดขยี้กายแกร่งกับสะโพกนุ่ม
  
  
  
  
  
  “อะ อ๊าาา!!” ร่างกายสั่นไหวตามแรงกระแทก เล็บคมจิกไหล่อีกคนแน่นและกรีดข่วนแผ่นหลังกว้างจนเกิดรอยแดง
  
  
  
  “อืม..อ่าาาา!” ไม่นานนักไรเฟิลกฌปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง เขากดสะโพกให้สอดลึกปล่อยทุกหยาดในตัวของร่างบาง ช่องทางคับแคบยังคงบีบรัดเขาเป็นจังหวะ โน้มตัวจูบปากอิ่มบวมเจ่ออีกคราก่อนจะเลื่อนไปจูบขมับชื้นเหงื่อ ทิ้งตัวนอนทับร่างบางที่นอนหายใจหอบ
  
  
  
  
  เหนื่อยฉิบหายไอ้เหี้ยเอ๊ย!!!!
  
  
  ก็ออนท็อปมันเหนื่อยไงเลยไม่อยากทำ ถ้านับครั้งนี้ก็แค่ครั้งที่สอง เอ๊ะ! หรือสาม เออ ช่างเถอะ!
  
  
  
  “หนัก..” น้ำเสียงแหบแห้ง มือเล็กดันไหล่ไรเฟิลเบา ๆ คนตัวสูงยืดตัวขึ้น กด จูบกับปากอิ่มอีกที แล้วถอนตัวเองออก ควอทซ์ยกมือปิดปากปิดหน้ากลั้นเสียงและความอาย
  
  
  น้ำอุ่นสีขาวเหนอะหนะไหลย้อนออกมาจากช่องทางอ่อนนุ่ม ... ตาคมจ้องมองอย่างจาบจ้วง แลบลิ้นเลียริมฝีปาก
  
  
  
  “เอ็กซ์ฉิบ” อยากจะยกเท้าถีบคนพูดให้หงาย แต่แรงจะขยับตัวยังแทบไม่มี
  
  
  
  “เงียบไปเลย! ...ล้างตัวให้ด้วย” หัวเราะขำกระต่ายน้อย ยื่นมือไปคว้าผ้าขนหนูที่กองหนูปลายเตียงมาพันกายแล้วอุ้มควอทซ์เข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ
  
  
  
  เซอร์วิสเขาหน่อย หึหึ
  
  
  
  
  ----
  ---
  --
  
  
  
  วางร่างกระต่ายน้อยที่หลับไปแล้วเบา ๆ บนเดย์เบด ก่อนจะเดินไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนผืนใหม่ แล้วอุ้มควอทซ์มานอนที่เตียง เกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าสวยออกก่อนจะมอบจุมพิศแสนอ่อนโยนที่หน้าผากให้หลับฝันดี มือใหญ่ไล้ข้อเท้าขาวเบา ๆ แล้วกดริมฝีปากแนบชิดกับรอยสักบนข้อเท้าข้างขวาของควอทซ์ ตาคมทองมองคนตัวเล็กอย่างรักใคร่ ..ห่มผ้าให้ถึงอกก่อนจะหยิบกล่องบุหรี่และซิปโป้ไปที่ระเบียง
  
  
  
  
  ...วันนี้เกิดปีนี้เป็นปีที่เขามีความสุขมากที่สุด
  
  ...ไม่ใช่เพราะบทรักที่ผ่านมาเมื่อสักครู่
  
  ...แต่เป็นเพราะเขามีควอทซ์มาอยู่ข้างกาย...

  
  
  
  
  
  ความลับที่ยังไม่เฉลย. . . ความหมายของรอยสักบนข้อเท้าขาวนั้น... ตัวเลข 8 และเลข 11 ที่อยู่ข้างกันนั้น.. มันมาจากวันเกิดของเจ้าของรอยสักนั้นแหละ ... วันเกิดของควอทซ์คือวันที่ 11 เดือน 8 และวันเกิดของไรเฟิลคือวันที่ 8 เดือน 11 ตัวเลขเดียวกันด้วยความบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ. .
  
  ถ้านำเลข 8 มาวางในแนวนอนก็จะได้เป็นเครื่องหมาย Infinity ที่แปลว่า ‘ไม่มีที่สิ้นสุด’ ส่วนเลข 11 นั้น ก็เหมือนตัวแทนของคนสองคนที่ยืนอยู่ข้างกัน ถ้าขาดตัวใดตัวหนึ่งไปมันก็จะไม่ใช่เลขสิบ 11
  
  
  หรือที่แปลง่าย ๆ ว่า. . .
  
  
  คนสองคนที่จะอยู่ด้วยกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด. . .






---------------------------------
แม่คะ. . . พี่เขาน่าหมั่นไส้จังเลยค่ะ
 :haun5: :haun5: :haun5:

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านน้าาาาา
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 10-04-2015 19:07:12
ทิชชูด่วนๆค่าาา :haun4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-04-2015 19:32:28
H.B.D ไรเฟิล


ไม่รู้จะเม้นอะไรดี



ตอนนี้สติ สตังค์ ไม่อยู่กับตัว



ตัวแข็งกลิ้งออกจากใต้เตียงไม่ใหว



เลือดออกหมดตัว :pighaun: :jul1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-04-2015 19:37:07
อิจฉาคนมีความสุข
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 10-04-2015 19:50:47
อ่านไปได้สักพัก

เลือดแทบพุ่งออกมา

อิจฉามาก ทำไมมันหวานกันขนาดนี้

ไม่สงสารคนอ่านบ้างเหรอ

ไม่คาดคิดว่านายเอกของเรา

จะยั่วได้เหมือนกัน

และได้ผลซะด้วย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 10-04-2015 19:56:43
ตั้ลล้าคคคคคคคคคคคค :o8: :-[ เขินอ่ะ บันนี่ขี้ยั่ว กับไรเฟิล จอมเอาแต่ใจ

ขอบคุณค่าไรท์ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 10-04-2015 20:01:47
เฮ้ยๆเขินนความหมายของ 8 11 ง่อววว
สสวกน้าาไรเฟิล อิ่มเลยอ่ะดิวันเกิดปีนี้555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 10-04-2015 20:05:08
ช่างน่าอิจฉาอะไรเยี่ยงนี้ 

 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 10-04-2015 20:11:26
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jjay ที่ 10-04-2015 20:12:04
อิ่มไปเลยนะไรเฟิลลลลลลลลลลล :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 10-04-2015 20:14:29
บันนี่  ยั่วซะลุกไม่ขึ้นเลยทีเดียว       :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 10-04-2015 20:21:22
พี่ปืนเจ้าเล่ห์ๆๆๆ บันนี่น่ารัก

เป็นวันเกิดที่ร้อนแรง และอบอุ่น :mew3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 10-04-2015 22:26:12
แหน่ะๆ. ฟินเว่อร์ค่าาาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-04-2015 00:33:28
 :pighaun: :z1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 11-04-2015 00:33:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 43 (10.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 11-04-2015 22:27:08
พี่ปืนเราได้กำไรเต็มๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 14-04-2015 19:15:29
EPISODE 44










  ช่วงเวลาที่ผ่านมาผมจมอยู่กับแค่หนังสือและโปรเจกต์งานที่ต้องส่งก่อนสอบไฟนอล ร่างจะแหลก พังมาก! กับไรเฟิลก็ไม่ค่อยได้เจอ ผมกลับมานอนที่หอ ไรเฟิลนอนที่คอนโดมันไป แยกกันช่วงสอบ เพราะถ้าอยู่ด้วยกันมันต้องไม่มีสมาธิแน่ แต่ระหว่างที่ทำงานหรืออ่านหนังสือดึก ๆ ก็โทรหากันตลอดแหละ โทรหาแต่ไม่ได้คุย เปิดสปีกเกอร์เอาไว้ฟังเสียงก็อกแก็ก เสียงพลิกหน้ากระดาษ และเสียงสบถ(เป็นระยะ) แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็เหมือนอยู่ด้วยกันอยู่ดี ผมไม่เหงาหรอก มีบันบันกระต่ายฮอลแลนด์ลอปขนฟูตัวป้อมอยู่ด้วย ฮี่~
  
  
  
  มีเรื่องจะอัปเดตคือ... ไอ้ไนต์กับน้องตัวเล็กของผมเป็นแฟนกันแล้ว!!!! เยยยยย้! ฉลองสิครับ! พอได้น้องเป็นแฟนหมาไนต์ก็ยิ่งหวงน้อง น้องตัวเล็กก็แสบมากนะครับ ชอบยั่วให้เพื่อนผมหึง นายอัศวินก็มีโรคขี้หวงเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้วด้วย ฮาเลยงานนี้
  
  
  สองหนุ่ม กาย ฟอร์ส สองคนนี้ยังเป็นผี ล่องลอยไปทั่ว ควงคนนู่น ทิ้งคนนี้ เพลย์บอยกันไป ช่วงใกล้สอบก็หายจ๋อม แทบไม่เห็นหน้า สถาปัตย์ก็งานเยอะอยู่แล้ว นิติอย่างกายก็ต้องอ่านหนังสือเยอะอีก กิตติพิชญ์แทบจะเอาประมวลไปเผา
  
  
  
  -------
  -----
  
  
  
  
  “สอบเสร็จเมื่อไหร่?” เงยหน้าจากชีทมองคนถาม ไรเฟิลเดินมานั่งบนโซฟาด้านหลังผม(ผมนั่งพื้น) ผมอยู่กลางระหว่างขาอีกฝ่ายพอดี
  
  “วันมะรืน” วันนี้สอบเสร็จไปแล้วสองตัว พรุ่งนี้ไม่มีสอบ อยากจะนอนทั้งวัน แต่คงทำอย่างนั้นไม่ได้ นัดติวกับหมาไนต์และเจ้าแม่ ส่วนวันมะรืนมีสอบตัวสุดท้าย
  
  “อืม” ผมซบหน้าผากกับหน้าขาของไรเฟิล มือหนายื่นมาลูบผมเบา ๆ
  
  
  ----
  ---
  
  
  “หือ..” ผมมองเจ้าขนฟูที่พยายามปืนขึ้นตักแล้วอุ้มมันขึ้นมา ตัวกลัมเชียวเจ้าอ้วนเอ๊ยยยยยย
  
  
  
   บันบันดิ้นดุ๊กดิ๊กก่อนจะนอนนิ่ง ๆ ผมวางมันบนเบาะข้างไรเฟิล เก็บหนังสือ ดินสอ ปากกา ต่าง ๆ นานาให้เป็นระเบียบ ลุกไปดื่มน้ำแล้วกลับมาเล่นกับบันบัน
  
  
  
  
  ขนสีขาวฟูฟ่องนุ่มนิ่ม ตัวกลมเล็ก หูตก ตาใสแจ๋ว มันน่ารักมากนะครับ กินเก่งด้วย ซนมาก เชื่องดีด้วย เหมือนหมาเลย ยิ่งมีบันบันมาอยู่ด้วยแบบนี้ทำให้คิดถึงหมูปิ้งกับมดแดง ไม่รู้สองตัวนั้นจะเป็นไงบ้าง พักนี้ยิ่งไม่ค่อยได้กลับบ้านอยู่ด้วย
  
  
  
  ช่วงแรกที่ได้บันบันมาผมก็ลืมไปเลยว่าไรเฟิลคือใคร ในอินสตาแกรมก็เต็มไปด้วยรูปของบันบัน กิจวัตรประจำวันของผมคือ
  
  
  1 กิน
  
  2ไปเรียน
  
  3 นอน
  
  4 เล่นกับบันบัน
  
  .
  .
  .
  .
  .
  .
  
  100 เล่นกับบันบัน
  
  
  
  เวลาออกไปข้างนอกก็เอาบันบันไปด้วยแทบทุกที่ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ออกไปไหนหรอกครับ ผมอยู่ติดห้องตั้งแต่มีบันบัน(ปกติก็ไม่ค่อยอยากออกไปไหนอยู่แล้ว) ใครชวนไปไหนก็ไม่ไป จะไปหาบันบันอย่างเดียว จนไรเฟิลและสามคนที่เหลือ รวมทั้งบะหมี่บอกจะเอาบันบันไปปล่อย ไรเฟิลนี่หนักหน่อย มันทำหน้าเบื่อหน่ายบันบันของผมมาก ตีกันทุกวัน แล้วยังพาลมานอยด์ผมอีก ไรเฟิลบอก ‘มึงเล่นกับไอ้ก้อนแค่ก่อนไปเรียนก็พอ นอกนั้นเวลาของมึงคือของกู’ ดูมันสิ แล้วยังเรียกบันบันของผมด้วยชื่อทุเรศ ๆ อย่าง ‘ไอ้ก้อน’ อีก น่าซัดสักเปรี้ยงจริง ๆ
  
  
  
  “ไรฟ์ ปิดเทอมไปเที่ยวกันไหม?” เงยหน้าถามคนที่นั่งอยู่สูงกว่า ไรเฟิลเลิกคิ้วสูง
  
  
  “เอาสิ” ผมยิ้มกับคำตอบ ลูบขนบันบันเบา ๆ บันบันตัวกลมนอนหลับบนตักไรเฟิล(ไม่รู้ปืนขึ้นไปตอนไหนหรือไรเฟิลอุ้มไปไม่รู้) มือหนาประคองตัวกระต่ายตัวจิ๋วเอาไว้กันล่วง . . .ถึงจะตีกันทุกวันแต่เขาก็รักก็ห่วงกันนะครับ ^^
  
  
  
  
  
  
  --------------------
  
  
  
  
  
  วันพฤหัสบดี..
  
  
  
  
  “สอบเสร็จแล้วโว้ยยยยยยย!!!” หมาไนต์แหกปาก เราเดินออกจากห้องสอบด้วยสภาพซอมบี้สุด ๆ ผมซบหน้าผากกับไหล่ของไนต์ มึนมากจริง ๆ ครับ อยากอ้วกฉิบหาย ถ้าการสอบแค่ตัวเดียวมันจะดูดกลืนพลังงานผมมากขนาดนี้นะ!! ไนต์ทำข้อสอบเสร็จต้องแต่สองชั่วโมงแรก(มีเวลาสอบสามชั่วโมง)แต่ยังไม่ส่งกระดาษคำตอบ เจ้าตัวฟุบหลับกับโต๊ะนอนรอผม ดีนะน้ำลายไม่ยืด
  
  
  
  “นักศึกษาข้างนอกเงียบ ๆ ด้วย!” เสียงอาจารย์คุมสอบดังไล่หลัง ไนต์เบ้ปากแล้วไหวไหล่
  
  
  “มีแพลนป่ะ?”
  
  “อยากกลับไปนอน แต่ต้องไปซ้อมเดินแบบ งื่อ...” บี้หน้ากับไหล่ไอ้หมาไนต์ มันดึงแก้มผมจนยืดแล้วจูงกึ่งลากออกจากตึก
  
  
  
  
  นักศึกษาคนอื่นก็มีสภาพซอมบี้ไม่ต่างกัน สอบเสร็จก็คงปลดปล่อยกันเต็มที่ บะหมี่ก็วาร์ปหายไปแล้ว สาวเจ้าออกจากห้องสอบก่อนผมกับไนต์ซะอีก ดูจากข้อความที่ส่งไว้ให้เห็นบอกว่ามีธุระต้องไปต่างจังหวัดกระทันหัน
  
  
  “โทรหาไอ้ปืนยัง?” ผมสั่นหัว ไนต์ถอนหายใจ วาดแขนโอบไหล่ กดโทรศัพท์หาเพื่อนฝรั่งให้แทน
  
  
  
  -----
  ----
  
  
  
  จากนั้นไม่นาน เมอร์เซเดส เอสแอล คลาส ก็มาจอดเทียบใกล้ ๆ ผมปรือตามองไรเฟิล คุณชายเอาแก้วกาแฟเย็นแตะแก้มผมก่อนจะส่งให้ไนต์ ผมครางฮื่อเช็ดหยดน้ำเย็นบนแก้มออก มันไม่ได้ทำให้สดชื่นเลยรู้เปล่า ปิดเปลือกตาเอนศีรษะซบไนต์อย่างเดิม
  
  
  “เป็นไร”
  
  “โดดดูดพลัง” เสียงไนต์ตอบ
  
  “อืม มึงไปไหนต่อ”
  
  “ไม่รู้ มึงจะพามันไปไหน ...โทษ ๆ” ไนต์พูด ขยับตัวยุกยิกศีรษะผมตกจากไหล่หนา ผมงึมงัมรับคำ
  
  
  “กะจะพามันไปหาอะไรกิน นัดเขาไว้กี่โมงบันนี่” ผมชูสองนิ้วให้เชิงว่าบ่ายสอง ตอนนี้สิบเอ็ดโมงกว่า ๆ มีเวลาอีกเยอะ
  
  “อื้ม ลุก จะพาไปกินข้าว” พอได้ยินแบบนั้นท้องก็ร้องขึ้นมาดื้อ ๆ ผมเซนิดหน่อยตอนลุก
  
  “มึงไปด้วยไหม” ไรเฟิลถามไนต์
  
  “ไป”
  
  
  
  -----------
  ------
  
  
  “บันบันกินไรยังอ่ะ”
  
  “แล้ว”
  
  “อืม...”
  
  “หน้าซีด” มือใหญ่ยื่นมาแตะแก้ม ผมเอียงหน้าซบฝ่ามืออุ่น ไรเฟิลเลยต้องขับรถมือเดียว
  
  “อยากอ้วก”
  
  “ขนาดนั้น”
  
  “อือ..โคตรมึนเลยอ่ะ”
  
  “กลับไปนอนไหม?”
  
  “ไม่เป็นไร อยากกินมากกว่า”
  
  
  
  
  ----------------
  
  
  
  
  
  ผมกับไรเฟิลเข้ามาในร้านอาหารไม่ใหญ่มาก มีคนนั่งประปราย ส่วนใหญ่น่าจะเป็นนักศึกษา ไรเฟิลพาผมไปนั่งโต๊ะมุมในสุด ดันผมเข้าไปนั่งด้านในชิดผนังแล้วตัวสูงก็นั่งลงข้างผม ฝั่งตรงข้ามให้ไนต์นั่ง ระหว่างรอไนต์ผมกับไรเฟิลก็สั่งอาหารรอ ไนต์มาค่อยให้มันสั่งเพิ่ม ร้านก็ดีครับ บรรยากาศดี มีอาหารให้เลือกเยอะแยะ ทั้งอาหารคาวและหวาน อาหารไทยและโซนยุโรปด้วย คิดถึงกายกับฟอร์สเลย สองคนนั้นน่าจะมาด้วย ... แล้วจากนั้นประมาณสิบนาทีไนต์ก็มาถึง
  
  
  
  “ไอ้ปืนล่ะ”
  
  “ห้องน้ำ” ผมตอบพลางยกชามะนาวขึ้นจิบ ไนต์พยักหน้ารับ เรียกพนักงานมาสั่งอาหาร
  
  “คนมองมึงเยอะดีเนอะ”
  
  “หือ?” ผมเงยหน้ามองรอบ ๆ เผลอสบตากับกลุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะเยื้อง ๆ กัน เอ่อ.. มองผมทำไมกันครับ จะว่าไปคนก็มองตั้งแต่เข้ามาในร้านแล้วนะ และความสงสัยก็หายไปเมื่อมีสาว ๆ กลุ่มหนึ่ง(กลุ่มที่ผมไปสบตาเขานั้นแหละ)เดินเข้ามาหาพร้อมสมาร์ทโฟนในมือ
  
  
  
  
  “ใช่คนที่เป็นนายแบบวานิเช่หรือเปล่าคะ?” หะ? ผมกระพริบตา มองหน้าไอ้ไนต์ มันสั่นหัว ประมาณว่า กูไม่รู้ กูก็งง ผมพยักหน้าตอบพวกเธอแบบมึน ๆ
  
  
  “โหย! ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีก ขอถ่ายรูปได้ไหมคะ?”
  
  “เอ่อ...ครับ” พอได้สิ่งที่ต้องการพวกเธอก็กลับไปที่โต๊ะ แต่ว่า..มันเริ่มจะวุ่นก็ตอนที่มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยเรื่อย ๆ นี่แหละฮะ ไอ้ไนต์มองผมอย่างสงสารปนสมเพชและสมน้ำหน้า แล้วผมก็ได้ความสงบสุขกลับคืนมาตอนที่ไรเฟิลกลับมา แค่คุณชายตวัดตาคม ๆ มองก็ถอยทัพกันแล้ว
  
  
  
  
  ก็นับตั้งแต่วันที่ปล่อยภาพออกมานั้นก็เกือบเดือนหนึ่งแล้ว รูปโปรโมทนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์วานิเช่มันก็ปังตามที่อาณิชบอกจริง ๆ นอกจากบนเว็บไซต์วานิเช่แล้วยังถูกอัพโหลดในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ด้วย ตามพวกแมกกาซีน หนังสือพิมพ์ ป้ายโฆษณาในห้างสรรพสินค้า แล้วยังมีป้ายโฆษณาอันใหญ่ยักษ์อีก มองจากเชียงใหม่ยังเห็น
  
  
  พอนายแบบหน้าตาไม่คุ้น แปลกหน้าก็มีคนขุดคุ้ยว่า เฮ้ย! ไอ้เหี้ยนี่มันใครวะ มีคนรู้จักผมมากขึ้น จากเดินไปไหนไม่มีใครสนใจก็มีคนหันมามอง ชี้ชวนให้เพื่อนมองด้วย สะกิดถามเพื่อนว่าใช่ไอ้คนที่อยู่ในรูปนั่นไหม ช่วงแรกก็อึดอัดนะครับ แต่ก็เริ่มปรับตัวเอง ถือว่าโปรโมทให้อาณิช
  
  
   ยอดฟอลโล่เวอร์ผมเพิ่มขึ้นเยอะมาก ทั้งในอินสตาแกรม ทวิตเตอร์ รวมทั้งเฟซบุ๊กด้วย แล้วที่แย่ไปกว่านั้นคือผมโดนจีบ!!!! ...ทั้งจากผู้หญิงและผู้ชาย...! ประเด็นนี้ทำให้ไรเฟิลหัวเสียมาก ๆ เขาแทบจะล่ามผมไว้แค่ในห้อง
  
  
  
  
  ----------------------
  
  
  
  
  
  กินข้าวเสร็จอาการมึน ๆ ของผมก็หายไปเกือบหมด ได้พลังกลับคืนมาแล้ววววว! ผมกับไรเฟิลเราแยกกับไนต์แล้วตรงไปที่สถานที่นัดหมายงานครั้งนี้!
  
  
  
  เมื่อมาถึงโรงแรมเราก็ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 4 ก่อนจะไปที่ห้องจัดเลี้ยงหรือแกรนด์บอลรูมที่ใช้จัดงานครั้งนี้ โรงแรมนี้เป็นโรงแรมในเครือธุรกิจของบริษัทเอ็มเอสของบ้านไรเฟิลนั่นเอง ภายในห้องจัดเลี้ยงถูกจัดเตรียมเกือบสมบูรณ์แล้ว
  
  
  เลิกสนด้านนอกดีกว่า ผมเข้ามาที่ห้องด้านหลังที่ใช้เป็นห้องแต่งตัว ตอนนี้กำลังวุ่นวายได้ที่เลย ยกมือสวัสดีพี่ทีมงานก่อนจะโดนพี่เมี่ยงที่เป็นแฮร์สไตล์ลิสต์ลากไป ยังดีที่ไรเฟิลตามมาด้วย
  
  
  “มีอะไรหรอครับ?”
  
  “มาเปลี่ยนสีผมกันลูก”
  
  “ครับ?”
  
  “ไม่ทำ” ไรเฟิลแย้ง
  
  “แต่คุณวาณิชรีเควสมาเลยนะ” พอได้ยินแบบนั้นไรเฟิลก็หน้าตึง คงขัดอะไรไม่ได้ ตอนนี้อาณิชก็ไม่อยู่ด้วย ผมยิ้มแห้ง ลูบหลังมือไรเฟิลเบา ๆ เรื่องทำสีผมไม่มีปัญหานะ ยังไงก็ได้อยู่แล้ว
  
  
  
  -----------
  -------
  
  
  
  พี่เมี่ยงพาผมไปที่ร้านทำผมของพี่เขาที่เปิดกับเพื่อน แน่นอนว่าไรเฟิลไปด้วย พอมาถึงร้านก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง พี่เมี่ยงก็จัดการกัดสีผมให้ผมทันที คันหัวยิบ ๆ แต่พอทนได้ เวลคัมความแข็งกระด้างทูมายแฮร์ หลังทำสีคงได้บำรุงหนักแน่ ๆ ผมเคยทำสีผมตอนเกรดเก้า เล่นเกมแพ้วิคตอเรีย ยัยแม่มดเลยถลกหนังหัวผม T_____T และเมื่อกัดสีผมจนเสร็จแล้วรอจนแห้งแล้วพี่เมี่ยงก็ลงครีมย้อมผมบนหัวผมเลย มายก็อด.. กลิ่นโคตรแรง เริ่มมึน ๆ มวนท้องจะอ้วกแล้ว .. มองไรเฟิลผ่านกระจกกอดอกหน้านิ่งจ้องผมเขม็งเลย
  
  
  
  30 นาทีผ่านไป. . .
  
  
  ผมมองตัวเองในกระจกอย่างอึ้ง ๆ ไอ้หัวแดงนี่มันใครวะ!!! สีที่พี่เมี่ยงใช้คือสีแดงครับ.. แดงสดด้วย.. ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้
  
  “เลิศมากค่าาาา!” พี่เมี่ยงปรบมือชอบใจ มีลูกค้าในร้านหันมองผมกันเต็มเลย อายฉิบหาย . . . ไรเฟิลไม่พูดอะไรเอาแต่ทำหน้านิ่ง เขาไม่พอใจแน่ ๆ ทำไมอ่ะ น่าเกลียดมากหรอ แต่พี่เมี่ยงก็บอกว่าดูดีนะ T___________T
  
  
  ------
  ----
  
  
  กลับมาที่โรงแรมอีกครั้ง นายแบบนางแบบมากันครบแล้ว เหมือนจะรอแค่ผมคนเดียว บางคนจิกตามองผมด้วย แต่แปลี่ยนเป็นตาเยิ้มเมื่อมองไรเฟิล จิ๊!
  
  
  เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เริ่มซ้อมเดินรอบสุดท้ายกัน นายแบบนางแบบงานนี้มีแต่มีอาชีพกันทั้งนั้นจึงไม่ได้ใช้เวลาเยอะมาก คนอื่น ๆ ไม่ต้องซ้อมบ่อย ๆ แบบผมที่ไม่มีประสบการณ์เลย ตั้งแต่การทรงตัว การเดิน การโพส การแสดงสีหน้า บลา ๆ  แล้วมันดันตรงกับช่วงที่ต้องอ่านหนังสือแล้วก็ทำโปรเจกต์ส่งด้วย โชคดีที่ไม่ต้องไปฝึกเดินทุกวัน นายแบบนางแบบคนอื่น ๆ ก็มาแค่บล็อกกิ้งกันแค่ไม่กี่ครั้ง แล้ววันนี้ก็เป็นอีกครั้ง ถือเป็นการซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้ายเลย เพราะงานก็จะจัดขึ้นในคืนวันเสาร์นี้แล้ว. . .
  
  
  
  ซ้อมรอบสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย ผมได้รับคำชมว่าทำได้ดีขึ้นมาก ปลื้มมากครับ พอเข้ามาในห้องด้านหลังดันมาเจอกับภาพที่ทำให้อารมณ์ดี ๆ เมื่อกี้หายไปหมด มีนางแบบคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างไรเฟิล สาวเจ้าพูดเจื้อแจ้วในขณะที่ไรเฟิลทำหน้านิ่ง ๆ ถ้าจำไม่ผิดเธอคนนี้กำลังดังเลยนะ มาอ่อยคนของผมทำไมเนี่ย!!!
  
  
  “ไรฟ์” ผมเรียกเสียงค่อย คนถูกเรียกลุกขึ้นมายืนข้างผมทันที
  
  “เสร็จแล้วหรอ?”
  
  “อื้อ” พยักหน้าหงึก ๆ พลางขยี้ตา แล้วก็ถูกมือหนาจับมือออก
  
  “เพื่อนเหรอคะ?” ไรเฟิลปรายตามอง ไม่ตอบ จูงมือผมเดินหนีไปอีกฟาก จากนั้นไม่นานก็มีออแกไนซ์เซอร์มาบอกกำหนดการต่าง ๆ อีกรอบ ทุกอย่างในวันนี้จบลงแล้ว และจากนี้ก็จะเป็นเวลาพักผ่อนของโผมมมมมม เหนื่อยมาทั้งวัน อย่าลืมเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ (ประสานมือไว้กลางอกช้อนตามองอ้อน)



--------------------------
ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ
ขอบคุณทุกคอมเมนต์และก็คนอ่านด้วยน้าาาา
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-04-2015 19:49:01
กำลังเพลินกับการอ่าน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 14-04-2015 20:39:15
ทำไมคนเขียนหักดิบเราขนาดนี้อ่ะ

แล้วตอนหน้านี่คนเขียนจะมาต่อตอนไหนอ่ะ

คือ มันค้างมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-04-2015 20:57:14
อีกหน่อยไรเฟิลก็ปวดหัวไปอีกนาน

หลังจากที่นายเอกของเราเดินเฉิดฉายในการเดินแบบ

คิดแล้วก็น่าตื่นเต้น
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 14-04-2015 21:29:42
กระต่ายน้อยเริ่มดังร๊ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 14-04-2015 21:34:40
บันนี่ฮอตๆๆๆ

ระวังพี่ปืนหึงโหดนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 14-04-2015 21:51:49
คนเรานี่ก็นะแค่นี้ก็ยังไม่รู้อีเพื่อนที่ไหนจะมีความอดทนมานั่งเฝ้าทั้งวันทั้งคืน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-04-2015 22:42:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 14-04-2015 23:12:27
มันสั้นอะ ยังไม่จุใจเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 15-04-2015 00:53:54
รอวันงาน :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-04-2015 01:57:55
อิอิ ตอนนี้บันนี่จังของปืนดังเป็นพลุแตก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 15-04-2015 07:35:03
กระต่ายของไรฟ์ฮอตแล้ววว น้องหนูทำผมแดงต้องมิ้งมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 15-04-2015 09:44:54
พี่ปืนหงุดหงิดละ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 15-04-2015 11:12:02
สู้ๆครับผม :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 15-04-2015 11:25:35
บันนี่น้อย ฮอท ปรอทแตกเลยค่า พี่เฟิลหึงหนักแน่งานนี้ ระวังจะโดนขังอยู่แตในห้องน่ะจ๋ะ บันนี่น้อย

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-04-2015 14:48:56
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 15-04-2015 16:46:10
ค้าง นิดๆๆๆ มาต่อเร็วๆๆๆๆน๊า :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 15-04-2015 19:39:56
กระต่ายน้อยดังใหญ่แล้ว ว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 15-04-2015 20:22:32
ต่อไปปืนต้องเดือดเพราะมีคนมาชอบบันนี่เยอะมากกว่าเดิมแน่ อิอิ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 16-04-2015 21:50:02
ไรฟ์ต้องหึงฝุดๆแน่นอน 5555555555555555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 44 (14.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 17-04-2015 01:18:37
 o13 o13 o13 :L2: :L2: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 17-04-2015 18:33:06
EPISODE 45







  
  
  และแล้วก็มาถึงวันเสาร์. . .
  
  
  
  
  ผมกำลังถูกจับแต่งหน้า โมเดลคนอื่นก็เหมือนกัน หลายคนก็เสร็จเรียบร้อยกันแล้ว ตอนนี้หกโมงเย็น งานจะเริ่มตอนสองทุ่มและเริ่มเดินตอนประมาณสองทุ่มครึ่ง
  
  
  
  “ว้าย! งามมากลูกสาวเจ้!” พี่จุ๊บแจงวางแปรงลงแล้วกรี๊ดออกมา ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองตัวเองในกระจก เหยดดดดดดดดด! มันเป็นใครวะ นี่ผมจริง ๆ เหรอ ทำไมถึงสวยขนาดนี้ล่ะ ขอจีบตัวเองได้ไหมครับ!
  
  
  
  ใบหน้าหวานถูกแต่งบาง ๆ ราวกับไม่ได้แต่ง แต่ออกมาดูมีสุขภาพดี แต่ที่เน้นหนักคือดวงตา ขอบตาล่างและบนถูกกรีดด้วยอายไลน์เนอร์จนตาหวานคมขึ้น บริเวณขอบตาก็ถูกแต่งแต้มด้วยอายแชร์โดว์สีน้ำตาลแดงเลยไปถึงหางตาให้เป็นปลายแหลมนิดหน่อย ซ้ำยังมีคอนเทคเลนส์สีเทาอีกด้วย
  
  
  
  โอ้มายก็อด. . . อย่างกับแวมไพรส์
  
  
  “มันแปลก ๆ” ผมพูดเสียงค่อยอย่างไม่มั่นใจ
  
  “โอ๊ยยยย แปลกตรงไหนลูก สวยแล้วค่าาา” โธ่.. เจ้ครับ..
  
  
  ผมล้วงหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงแล้วเข้าไปในแอพพิเคชั่นกล้องถ่ายรูป ถ่ายผ่านกระจกก่อนจะเปลี่ยนเป็นกล้องหน้าอีกที ได้ไปประมาณห้ารูป ผมกดเลือกรูปที่ถ่ายไว้แล้วส่งเข้าไปในไลน์กลุ่มที่มีผมและสี่สหายอยู่สองรูป รอดูฟีดแบ็คครับ ตอนนี้สี่สหายคงจะอยู่ด้วยกันที่ไหนสักที่
  
  
  Knight : เหยดดดดดดดดดดดด น้องเห็ดจริงหรอวะ!!
  
  Paran : ขอจีบได้ป่ะครับ
  
  Theguy : ลูกชายโตเป็นสาวแล้ว เย็บแม่ม!!
  
  qra. : (สติ๊กเกอร์แลบลิ้น)
  
  qra. : มันดูดีเปล่าวะ กูไม่มั่นใจเลย

  

  ขึ้นอ่านสี่แต่ตอบแค่สามคน ไรเฟิลมันอ่านไม่ตอบอ่ะ!!!
  
  
  ครืดดดด~
  
  
  เช้ดดดดดดดดดด ที่ไม่ตอบเพราะแม่งโทรมาเลยเว้ย
  
  
  “ฮัลโหล!”
  
  (“สัด!”)
  
  “อ้าว.. ด่าไมวะ”
  
  (“ใครบอกให้แต่งหน้าแบบนั้น ห้ะ!”)
  
  “ทำไมอ่ะ มันน่าเกลียดมากเลยเหรอ”
  
  (“มาก!”)
  
  “ลูกหมาสามตัวยังบอกว่าดูดีเลย...”
  
  (“น่าเกลียดจะตายชัก”)
  
  “จิ๊! แค่นี้แหละ!” วางสายก่อนแม่งเลย กล้าดียังไงมาบอกกูน่าเกลียด ไอ้ยักษ์นี่! หวงก็บอกดิว่าหวง โธ่เอ๊ยยยยย! ผมยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
  
  
  
  “น้องควอทซ์มาเปลี่ยนชุดลูก” เจ๊นัชชี่เจ้าเก่าตะโกนเรียก ผมรีบเข้าไปหาแล้วรับชุดจากเจ๊ไปเปลี่ยน ยัดชายเสื้อเชิ้ตสีขาวใส่กางเกงสีเข้ม แล้วใส่หูกระต่ายสีดำลายจุดสีขาวจัดนิดหน่อยให้เข้าที่ พอแต่งเสร็จก็ออกมาหาเจ๊นัชชี่ที่ถือสูทสีน้ำเงินรออยู่ เจ๊นัชชี่จัดปกเสื้อเชิ้ตกับหูกระต่ายให้ผมอีกรอบ แล้วจากนั้นก็จัดทรงเสื้อสูทที่ผมใส่อยู่ ส่งมือมาติดกระดุมสูทให้ผมหนึ่งเม็ด ปกเสื้อเป็นผ้ามันเงา และเป็นแบบ Shawl Colalr โค้ง ๆ มน ๆ ส่วนของรองเท้านั้น เป็นสไตล์ Oxford shoes สีดำมันปลาบ
  
  
  “เลิศมาก!”
  
  “มีคนบอกผมน่าเกลียด”
  
  “ต๊ายยยยย ใครตาต่ำขนาดนั้น” ผมยู่ปาก เกาหัวแกรก ๆ
  
  
  
  ผมนั่งนิ่งให้แฮร์สไตล์ลิสต์จัดแต่งทรงผมให้ ผมของผมมันเริ่มยาวแล้ว หน้าม้าเลยถูกปัดไปด้านข้าง(หมาไนต์ไม่สามารถเรียกผมว่าเห็ดได้อีกแล้ว) ผมสีแดงสดถูกดัดเป็นลอนเล็กน้อย จัดให้เข้าที่อีกนิดหน่อยพี่เขาก็เอามงกุฎมาใส่ให้ มงกุฎสีทองฉลุลวดลายสวยงามรอบตัวของมันและถูกประดับตกแต่งด้วยเพชรพลอยน้ำงามหลากหลายสีโดยรอบอย่างลงตัว. . .
  
  
  
  
  
  ------------
  --------
  
  
  
  “หน้าบึ้ง” ผมบีบแก้มไรเฟิลเบา ๆ ร่างสูงปรายตามองแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด
  
  “น่าเกลียด”
  
  “ดูดีออก ใคร ๆ ก็บอกอย่างนั้น” ผมยิ้มยิงฟัน ไรเฟิลบีบแก้มผมคืนแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ไอ้สาดดดดด คนอยู่เยอะนะเว้ย!! คือตอนนี้เราอยู่ที่ห้องด้านหลังไง แล้วมันก็มีนายแบบ นางแบบ รวมทั้งทีมงานอยู่กันด้วย ทุกคนเลย. . .
  
  “ไม่ชอบเหรอ?”
  
  “หวง” ผมอมยิ้ม มองซ้ายมองขวา ไม่มีคนสนใจเลยยื่นหน้าไปจุ๊บปากอีกคนเร็ว ๆ แล้วผละออก หน้าแดงฉ่า... น่าอายฉิบหาย
  
  
  
  
  -----
  ---
  
  
  
  เวลาสองทุ่มโดยประมาณ
  
  
  
  “ฟู่...” ผมเป่าลมออกจากปาก ตอนนี้งานเริ่มแล้ว เมื่อสักครู่อาณิชเข้ามาหา บอกว่าไม่ต้องกังวล แค่ทำเหมือนตอนซ้อมก็พอ ก่อนจะออกไปที่หน้างาน
  
  
  “ตื่นเต้นเหรอลูก?”
  
  “ครับ..” พยักหน้าตอบคุณย่าที่เข้ามาหาถึงหลังเวที ป๊าไม่เข้ามาด้วย บอกสภาพผมน่าเกลียดเดี๋ยวสายตาเสีย ฮึ่ยยยย
  
  
  
  “หลานย่าเก่งอยู่แล้ว” คุณย่ายิ้มให้พร้อมกับลูบหลังมือผมเบา ๆ ผมรวบมือคุณย่ามาจับเอาไว้
  
  “ถ้าผมทำพังล่ะครับ” จริงใกล้ถึงเวลาก็ยิ่งจิตตก ผมจะเป็นบ้าแล้วน้าาา!
  
  “คิดมากไปได้ ทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว”
  
  “งื่อ. . .”
  
  
  
  
  ไรเฟิลเดินเข้ามาหาหลังจากคุณย่าออกไป อีกไม่กี่นานทีการเดินแบบก็จะเริ่มขึ้นแล้ว มือหนาส่งมือมากุมมือผมก่อนจะพาเดินไปที่ห้องเปลี่ยนชุด ไรเฟิลสอดมือข้างหนึ่งมาประคองท้ายทอยผมไว้ก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้
  
  “จะ..ทำอะ.. อือ” ริมฝีปากหยักทาบทับลงมาประกบกับริมฝีปากผม กดค้างไม่นิ่ง ๆ ไม่ได้รุกล้ำเข้ามาภายใน ผมหลับตาลงรับสัมผัสบางเบาราวกับปุยนุ่น
  
  
  “Don’t worry”
  
  
  
  
  
  ---------------------------
  
  
  
  
  
  ผมยืนสแตนบายอยู่หลังเวที พี่จุ๊บแจงกำลังลงลิปกลอสให้อีกที เจ๊แกมองผมแบบ.. จิกแรง ทำนองนั้น ผมยิ้มแหยะ มีทีมงานเอานาฬิกาเรือนที่ผมต้องใส่เดินมาให้สวม(เมื่อกี้ถูกไรเฟิลลากไปเลยยังไม่ได้)
  
  
  “ฟินนาเล่ครับ!!”
  
  
  
  ผมพรูลมหายใจก่อนจะก้าวขึ้นบันได ไฟในแกรนด์บอลรูมถูกหรี่ลง ผมเสียจังหวะนิดหน่อยตอนที่ได้ยินเสียงฮือฮาและปรบมือและยังมือสปอร์ตไลท์ที่ส่องมาที่ผมอีก หัวใจผมเต้นตึกตักอย่างตื่นเต้น พยายามผ่อนคลายและทำออกมาให้เป็นธรรมชาติ แสงแฟลชสาดเข้ามามากมายจนต้องหรี่ตา ผมก้าวเดินอย่างที่ซ้อมมา ผมหยุดโพสท่าตรงสุดปลายแคทวอล์คอย่างที่เคยซ้อมมา หางตาดันเหลือบไปเห็นไรเฟิลนั่งหน้าบึ้งอยู่ ผมหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่และเผลยกมือขึ้นปิดหน้า(ยังดีที่ยกข้างที่ใส่นาฬิกา) ผมยิ้มเขิน ๆ แล้วหมุนตัวกลับเข้าไปหลังเวที
  
  
  
  โคตรพลาด!!!
  
  
  
  โดเมลทุกคนขึ้นเดินกันอีกรอบ ไฟในห้องจัดเลี้ยงถูกเปิดให้สว่าง ในอ้อมแขนผมมีดอกไม้ช่อโตอยู่ และผมก็ต้องเป็นคนมอบให้อาณิช อาณิชกระซิบบอกว่าอย่าเพิ่งเปลี่ยนชุด
  
  
  
  
  ------------
  -------
  
  
  
  กลับมาหลังเวทีอีกครั้ง.. ผมทรุดนั่งบนขั้นบันได ซบหน้ากับฝ่ามือตัวเอง รู้สึกตอนซ้อมทำได้ดีกว่าอีก รู้สึกแย่นิด ๆ แฮะ เฮ้อ..
  
  “เป็นอะไร” เงยหน้ามองคนที่เข้ามาทัก ไรเฟิลยืนอยู่ตรงหน้า ผมยิ้มฝืดส่ายหน้าเบา ๆ
  
  “สวัสดีครับเจ้าชาย”
  
  “ไอ้ลูกหมา!!” ไนต์ กาย ฟอร์ส โบกมือให้ ผมยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน
  
  
  “ทำหน้าดี ๆ หน่อยดิคร้าบบบ” ฟอร์ส
  
  “ช่ายยย มาถ่ายรูปกันเหอะ” กายพูดแล้วคว้าข้อมือผมไป ยกแขนขึ้นพาดไหล่แล้วยกเอาสมาร์ทโฟนเครื่องสวยออกมาก เปิดกล้องหน้าเสร็จสรรพ
  
  “เฮ้ยยยย กูถ่ายด้วย!” เป็นอันว่าผมอยู่ท่ามกลางยักษ์ทั้งสี่ ถ่ายรูปกันเพลินจนลืมเรื่องที่คิดอยู่ไปเลย
  
  
  
  “รูปที่มึงถ่ายแบบ สวยดีนะ” ผมกลืนน้ำลายเอือกกับคำพูดของกาย ...แม่งในงานมีรูปทุกเซ็ทเลยนี่หว่า!!
  
  “ภาพที่ปลดกระดุมนะมึง อื้อหือออออ” สัดฟอร์ส!!
  
  “ไอ้ปืนแทบจะพังทิ้ง ฮ่า ๆๆ” และเชี่ยไนต์
  
  “หึ..”
  
  “อ เอ่อ.. เดี๋ยวเอานาฬิกาไปคืนก่อนนะ”
  
  
  
  -----
  ---
  
  
  “ขอบคุณครับ” ผมบอกพี่ที่เอามงกุฎออกจากหัวให้ ถอดนาฬิกาคืนด้วย จากนั้นก็กลับไปหาสี่สหาย หืม. . . สาว ๆ รุมเพียบเลย น่าหมั่นไส้จริง ๆ
  
  “ขอโทษนะ” ก่อนผมจะไปถึงสี่สหายก็มีคนมาขวางทางซะก่อน
  
  “ครับ?”
  
  “ชื่อควอทซ์ใช่ป่ะ?” เขาถาม
  
  “อื้อ” หมอนั่นยิ้ม
  
  “ขอเบอร์ได้...”
  
  “ไม่ได้” เสียงเย็นยะเยือกของไรเฟิลแทรกเข้ามา ใบหน้าเรียบนิ่ง สายตาคมกริบมองคนที่ทักผมอย่างเย็นชา มือหนาวาดโอบเอวผมแล้วดึงไปชิดตัว นายแบบคนนั้นมองตามแล้วยกยิ้ม
  
  “อ๋อ.. ถ้าเลิกกับเขาก็บอกผมนะ” หมอนั่นยักคิ้วให้อย่างกวนตีนแล้วเดินกลับไป
  
  “ไอ้เหี้ย..” ผมสบถออกมาเบา ๆ แม่งแช่งผมอ่ะ! ไรเฟิลยังคงหน้านิ่ง ผมชวนสี่สหายออกไปด้านนอก  แต่ผมง่วงจังเลย ฮ้าว. . .
  
  
  
  
  ------------------
  
  
  
  “ชอบเหรอ?” ผมถามไรเฟิลที่ยืนมองนาฬิกาอยู่ในตู้โชว์
  
  “ก็ดี”
  
  “ไม่ซื้ออ่ะ”
  
  “ไม่ล่ะ แพงไป” ผมกระแทกไหล่ไรเฟิล ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากคุณชายศิริวัฒนามงคล
  
  
  
  “ขอโทษนะครับ”
  
  “ครับ?”
  
  “คุณวาณิชเชิญครับ”
  
  “อ่า.. ขอบคุณครับ” ผมค้อมหัวให้คนที่เข้ามาบอกนิดหน่อย กระตุกมือไรเฟิลแล้วเดินไปหาอาณิช
  
  
  
  ------
  ----
  
  
  
  “อาณิชครับ”
  
  “อ้าว มาแล้วเหรอ เป็นไงบ้างครับ?”
  
  “มันออกมาดีหรือเปล่าอ่ะครับ ผมทำพลาดด้วยอ่ะ”
  
  “พลาดตรงไหนกัน อาไม่เห็นรู้เลย”
  
  “ง่า.. ก็ตอนที่เริ่มนิดหน่อยแล้วก็ตอนที่หยุดโพสไงครับ”
  
  “หืม? ที่ยิ้มนั่นเหรอ? (ผมพยักหน้า) อานึกว่าตั้งใจเสียอีก รู้ไหมมีคนพูดถึงตรงนั้นเยอะมาก อย่าทำหน้าอย่านั้นสิ เขาพูดในทางที่ดีนะ มีแต่คนชม มันน่ารักมาก”
  
  “ผมกลัวว่าจะทำงานอาพัง”
  
  “มันดีแล้วครับ อย่าคิดมาก มา ๆ ไปถ่ายรูปกัน นักข่าวเขาอยากรู้จักเจ้าชายของอาเยอะแยะเลย” ผมมองหน้าไรเฟิล คนตัวสูงพยักหน้า ผมเดินไปกับอาณืช ไรเฟิลไปหาครอบครัว ครอบครัวศิริวัฒนามงคลมากันหมดเลยครับ ไรเฟิลบอกว่าครอบครัวมันมาดูผมเดินโดนเฉพาะเลย T////T
  
  
  
  
  
  -----
  ---
  
  
  
  
  โดนแฟลชสาดใส่จนแสบตาไปหมดแล้ว พอหลุดจากดงนักข่าวอาณิชก็พาผมทัวร์รอบงานเลย ทักคนนู้น สวัสดีคนนี้ แล้วคนที่มางานนี้ก็มีแต่คนมีหน้ามีตาในวงสังคมทั้งนั้นเลย
  
  
  
  
  “สวัสดีครับ คุณศนิตา” ผมยกมือไหว้ตามอาณิช ผู้หญิงคนนี้.. คุณศนิตา ...คนที่ผมชนที่ห้างและคนที่ผมจ้องมองในทีวีวันนั้น.. ตัวจริงสวยกว่าในทีวีเสียอีก คนที่ไรเฟิลบอกว่าเป็นแม่ของแพค และคงจะจริงเพราะแพคก็ยืนอยู่ด้วย
  
  
  
  “สวัสดีค่ะคุณวาณิช แล้วนั่น..” เธอยิ้มตอบอาณิชแล้วปรายตามองทางผม
  
  “ควอทซ์ครับ หลานผมเอง”
  
  “อ๋อ เหรอคะ” อาณิชกดยิ้มมุมปากก่อนจะคลี่ยิ้มหวาน
  
  
  “ขอถ่ายรูปด้วยได้ป่ะครับ” ผมมองค้อนไอ้แพค มันยิ้มโชว์รอยบุ๋มข้างแก้ม
  
  “เอาดิ” แล้วมันก็เดินมาหาผม ถ่ายรูปกับแพคไปสองสามรูป
  
  “พี่แม่งสวยว่ะ โอย!” เผลอพลั้งมือทุบหลังเด็กลักยิ้ม
  
  “เฮ้ย ขอโทษ”
  
  “ฮ่า ๆ ผมไม่ได้..”
  
  “โอ๊ย!” เป็นผมที่ร้องออกมาบ้าง แขนผมถูกกระชากไปด้านหลัง รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ข้อเท้าขึ้นมานิดหน่อยเพราะใช้เท้ารับแรงมากเกินไป แต่ไม่นานความเจ็บก็หายไป คุณศนิตาตำหนิผมผ่านทางสายตา
  
  “แม่ทำอะไรครับ?! พี่เป็นควอทซ์เป็นไงบ้าง”
  
  “น้องควอทซ์เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” อาณิชถามแล้วเดินเข้ามาหาผม
  
  “ไม่เป็นอะไรครับ” ผมตอบอาณิชกับแพค
  
  “กล้าดียังไงมาตีลูกฉัน” คุณศนิตาพูดเสียงเบาแต่เย็นยะเยือก
  
  “ผ ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ ผมขอโทษครับ”
  
  “แม่ครับ แพคไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยนะ”
  
  
  
  “มีเรื่องอะไรกัน?” ผมกันไปมองคนพูด ป๊าผมเอง.. ป๊าดึงผมเข้าไปใกล้แล้วโอบไหล่ผมเอาไว้
  
  “ไม่มีอะไรหรอกป๊า”
  
  “ลูก..คุณ..เหรอ?” คุณศนิตาถามเสียงติดขัด มองหน้าป๊าอย่างตื่นตระหนก
  
  “ใช่ ลูกผมเอง ขอตัวก่อนนะครับ” ป๊าพูด ถ้ามองไม่ผิดเหมือนป๊าจะตวัดตาดุอาณิชด้วย.. ผมถูกป๊าลากคอออกมาจากวงล้อมนั้น ครับ.. ลากคอนนั่นแหละไม่ผิดหรอก
  
  
  
  
  
  “ป๊าาาา เจ็บบบบ” ผมลากเสียงยาว พอบอกแบบนั้นป๊ายิ่งออกแรงล็อคคอผมแน่นกว่าเดิมจนต้องร้องโอดโอย
  
  
  “เจ็บ ๆๆ” สะบัดศีรษะหนีมือที่เขกหน้าผากแต่ก็หนีไม่พ้น
  
  “ป๊าาา พอแล้ววว คนมองหมดแล้ว”
  
  “ช่างแม่งดิ! ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรกับมึงบ้าง เล่ามาให้หมด!”
  
  
  
  “เกิดอะไรขึ้นครับ” ก่อนผมจะได้เล่า ไรเฟิลก็เข้ามาซะก่อน ไม่ใช่แค่ไรเฟิลอ่ะ ศิริวัฒนามงคล ทุกคนเลย
  
  “เล่ามา”
  
  “โงยยย” ผมลูบหัวป้อย ๆ ป๊านี่ก็ชอบตีหัวผมจังเลยยยย ฮืออออ
  
  
  “ก็. . . .” ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง พอเล่าจบหน้าทุกคนก็แบบ.. นะ จำกัดความไม่ได้
  
  “ไม่น่าได้เจอกันเลย...” ป๊าพูดเหมือนบ่นกับตัวเองแต่ผมดันได้ยินแต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
  
  “ป๊าพูดไรอ่ะ” ป๊าปรายตามองก่อนจะพูดออกมาคำเดียวแต่ทำให้ผมหน้าสั่น
  
  “เสือก” ดู!!!! ดูพ่อผมสิ!!!!
  
  
  
  
  ผมโดนพี่น้องศิริวัฒนามงคลลากไปถ่ายรูป ในขณะที่ป๊ากับคุณย่ากำลังคุยกับพ่อแม่ของไรเฟิลอยู่ รู้สึกเหมือนโดนกีดกัด ฮึก..
  



  นี่ถ้าคิดเงินค่าถ่ายรูปด้วยผมคงรวยไปแล้วล่ะครับ



-------------------
รู้สึกเหมือนตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรเลย ตัดบทเยอะไปไหมหล่อน T_T
ขอบคุณทุกคนนะค้าา รักนะ จุ้บๆ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
[/size]
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 17-04-2015 18:50:55
ถ้ากระต่ายน้อยรู้ความจริงเรื่องแม่จะเสียใจแค่ไหนเนี่ย  :mew2:
รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 17-04-2015 19:04:26
เป็นไงล่ะคุณแม่ เจอหน้าลูกทั้งทีก็ทำไม่ดีใส่อีกกก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 17-04-2015 19:21:53
ฮึกก สงสารบันนี่ รอตอนต่อไปค่ะ  :ling2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 17-04-2015 19:30:58
รู้สึกไม่ชอบขุ่นแม่เลย  :z3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 17-04-2015 20:01:06
ทำไมคุณศนิตาต้องทำกับควอทซ์แบบนั้นด้วยอะ หรือเพราะเซนส์มันบอกว่าไม่ชอบเด็กคนนี้? เพราะเขาเป็นลูกที่ไม่ต้องการให้เกิดมาน่ะหรอ ฮือออออออควอทซ์น่าสงสารอะ T_T
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-04-2015 20:01:49
แม่แพคเป็นแม่ที่น่าตบมาก

บอกตรงๆเลย

พี่ไรเฟิลต่อไปคงปวดหัวน่าดูเลย

ใจร่มๆเด้อพี่ไรเฟิล
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: caramel ที่ 17-04-2015 20:17:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 17-04-2015 20:21:01
ทำไมแม่ทำอย่างงั้นอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ถ้าน้องควอทซ์รู้ความจริงต้องดราม่าแน่ๆๆๆๆๆๆ  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 17-04-2015 20:22:14
บันนี่ จะรู้ความจริง มั๊ยเนี่ย  น่าสงสารจัง :mew2: :mew4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-04-2015 20:34:02
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 17-04-2015 20:58:13
พี่ปืนขี้หวงๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 17-04-2015 21:05:15
บทนี้นี่แอบดีใจแทนควอทช์ที่ไม่ได้แม่แบบนี้เลี้ยงมาเลยนะ มีแม่แบบนี้น้องควอทช์ไม่ได้น่ารักแบบนี้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Cream A ที่ 17-04-2015 22:22:18
หึ๊ยยย อ่านแล้วขัดใจคุณแม่จริงๆ สงสารบันนี่จัง

แต่ไม่เป็นไรเนอะยังไงก็ยังมีคุณพ่อกับเฟิลที่รักหนู่สุดหัวใจ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 17-04-2015 22:23:57
บันนี่น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มีคนมาจีบด้วย ระวังพี่ปืนฆ่าหมกป่าน่ะ5555 ไม่อยากให้ดราม่าเรื่องแม่เลย :katai1:

รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-04-2015 22:41:36
สรุปนางเป็นแม่เหรออย่าเลยนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 17-04-2015 23:47:54
 o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Altasia ที่ 17-04-2015 23:59:32
อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ อยากรู้ว่าเมื่อแม่ควอทซ์รู้แล้วจะเป็นไง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 18-04-2015 00:25:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 18-04-2015 00:32:42
เจอแม่ตัวจริงแล้วสินะควอล์ท   คุณแม่คงสะอึกพิลึกสินะด่าลูกตัวเอง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 18-04-2015 02:23:05
ทำแบบนั้นกับน้องควอทซ์ได้งัย อะ แย่มาก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 18-04-2015 02:27:03
สงสารบันนี่
>.<
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 18-04-2015 03:14:26
ใจร้ายยย ทำร้ายบันนี่  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 18-04-2015 11:32:49
ไม่ควอทซ์เยอะ! ไม่ชอบเลย!
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 45 (17.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 19-04-2015 10:15:05
แพคกับควอทซ์ใครน่าสงสารกว่ากัน ???
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 19-04-2015 21:30:33
EPISODE 46







  
  ลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่มองเห็นคือเพดาน - -* นาฬิกาบอกเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว เมื่อคืนหลังงานจบผมกับไรเฟิลก็กลับคอนโด ไม่ได้ไปอาฟเตอร์ปาร์ตี้กับเขาหรอก ร่างกายต้องการพักผ่อน มันไม่เชิงเหนื่อยครับ แต่เพลียมากกว่า ผมกระดึ้บ ๆ ลงจากเตียงแล้วไปล้างหน้าแปรฟันในห้องน้ำ
  
  
  
  “ตื่นนานยัง?”
  
  “เมื่อกี้ ฮ้าว. . .” ไรเฟิลบอกว่าสั่งอาหารไว้แล้วเลยกะจะขึ้นมาปลุกผม คุณชายอาบน้ำแต่งตัวซะหล่อ ใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นธรรมยังหล่อ น่าหมั่นไส้แบบไม่มีที่สิ้นสุดจริง ๆ ส่วนผมเหรอ ยังใส่ชุดนอนอยู่เลย เหอ ๆ
  
  
  
  “บันบัน~~” กระต่ายตัวกลมเดินเตาะแตะเข้ามา ผมย่อตัวนั่งยอง ๆ ลูบหัวลูบตัวบันบัน กำลังจะอุ้มตัวจิ๋วขึ้น มารผจญอย่างไรเฟิลก็เอาเท้าเขี่ยบันบันจนหงายท้อง ไอ้ยักษ์บ้านี่!!
  
  
  
  พอกินข้าวเสร็จผมก็มานั่งเล่นกับบันบัน ไรเฟิลนอนเอกเขนกบนโซฟา วางมือข้างหนึ่งบนศีรษะผม หัวคนนะครับไม่ใช่ที่พักมือ
  
  
  “ทำไมอ้วนจังเลยวะ”
  
  “แดกเก่งไง เหมือนมึง”
  
  “แล้วไมกูไม่อ้วนอ่ะ”
  
  “กูพามึงออกกำลังกายบ่อย”
  
  
  ฉ่า. . .
  
  ผมแสร้งเมินไม่สนใจไรเฟิล ไม่พูด ไม่หันมอง ไม่ให้เห็นแก้มแดง ๆ นี่ แม่งชอบทำให้ผมอาย นิสัยไม่ดีจริง ๆ
  
  
  
  “ปล่อยไอ้ก้อนไป มาเล่นกับกูนี่”
  
  “ใครจะอยากเล่นกับมึง”
  
  “อย่าดื้อ”
  
  “ไม่ได้ดื้อสักหน่อย” ผมบึนปากใส่ไรเฟิล แย่งรีโมทในมืออีกฝ่ายมากดเปลี่ยนช่อง ขยับตัวนั่งเหยียดขาพิงโซฟา(ยังคงนั่งอยู่ที่พื้น)มีกระต่ายตัวกลมนอนอยู่บนตัก ผมกดหาไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่ช่องช่องหนึ่งซึ่งกำลังออนแอร์รายการบันเทิงกอสซิปไฮโซทำนองนั้น แล้วมันก็เป็นช่วงของงานเปิดตัวนาฬิกาของวานิเช่ด้วย
  
  
  ผมมองตัวเองในจอแอลอีดีด้วยความอึ้ง.. นั่นผมจริงเหรอวะ โห... มันแบบ.. ผมไม่รู้จะบอกยังไง มันบอกไม่ถูกอ่ะครับ แล้วที่ผมหลุดยิ้มทันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร แถมตอนนั้นยังโดนแสงแฟลชสาดใส่หนักกว่าเดินอีก ผมว่ามันก็ดีนะ
  
  
  “คิดว่าไงอ่ะ?” ผมหันไปถามคนที่นอนอยู่ ตาคมย้ายจากจอแอลอีดีแล้วมองหน้าผม ส่งปลายนิ้วเรียวปัดปอยผมที่ปรกหน้าออก
  
  “หวงไง”
  
  “-///- ผ ผิดประเด็นแล้ว หมายถึงกูนี่”
  
  “ก็ดี๊”
  
  “ก็ดี๊ ครับ”
  
  -__-
  
  
  
  
  
  -----------------
  
  
  
  สามวันต่อมา...
  
  
  
  “ไรเฟิล” ผมเรียกคนที่กำลังยืนแต่งตัวอยู่ วันนี้มีมิชชั่นครับ ต้อนไปงานประมูลเพื่อการกุศลอะไรสักอย่าง ผมไม่อยากไปแต่โดนป๊าบังคับ ปกติไม่เห็นจะเคยพาออกงาน งานนี้ไม่รู้นึกยังไงให้ผมไปด้วย
  
  
  
  “หืม?” หันมาหาพลางจัดเนคไทด์สีดำสลับเทา ผมสีสว่างถูกเซ็ทเปิดหน้าผาก คนตัวสูงสวมสูทสีดำไม่ติดกระดุม เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแลคสีเข้มเข้ากับขายาว ๆ นั่นเป็นอย่างดี คนเหี้ยอะไรใส่อะไรก็ดูดี
  
  
  
  “ให้” ผมส่งกล่องสีเทาให้ คนตัวสูงเลิกคิ้วมอง ผมพยักเพยิดให้เขาหยิบมันไป
  
  “นาฬิกา?”
  
  “แหวนมั้งครับ”
  
  “หึ ซื้อมา?”
  
  “เปล่าอ่ะ อาณิชให้มา ค่าจ้าง” ผมยิ้มแฉ่ง เมื่อวันก่อนอาณิชเรียกให้ไปพบแล้วก็เอานาฬิกาเรือนที่ผมใส่เดินให้เป็นค่าตอบแทน ผมก็ปฏิเสธไปตามระเบียบ แต่ภาพที่ไรเฟิลยืนมองดูนาฬิกาอยู่ตั้งนานสองนานก็ผุดมาในหัว เขาคงอยากได้แต่ก็คงยังไม่อยากซื้อ ผมเลยขอเปลี่ยนเป็นเรือนที่ไรเฟิลอยากได้แทน ถึงราคาเรือนนั้นจะมากกว่าก็เถอะ ผมเป็นคนดีล่ะสิ ไม่ต้องชมหรอก
  
  
  “ไม่เห็นต้องทำแบบนี้”
  
  “ก็. . . เห็นใครไม่รู้ มองอยู่น้านนานแหนะ”
  
  “หึ ขอบคุณครับ” ไรเฟิลพูดนิ่ง ๆ ตามสไตล์ แต่นัยน์เป็นประกายวาววับ . . . ใจในผมพองโตจนคับอก นี่หรือเปล่าที่เขาบอกว่า แค่เห็นคนที่เรารักมีความสุข เราก็มีความสุขตามไปด้วย . . .
  
  
  
  
  
  -----
  ---
  
  
  
  ผมกับไรเฟิลยืนอยู่หน้าสถานที่จัดงาน กำลังรอป๊ากับคุณย่าอยู่ บัตรเชิญอยู่ที่ป๊าครับ แล้วอีกอย่างป๊าบอกให้รออยู่หน้างาน เพื่อที่จะเข้าไปพร้อมกัน บ้านไรเฟิลเองก็เช่นกัน . . . และไม่นานพวกท่านก็มา ศิริวัฒนามงคลขาดสองแสบที่ไม่ได้มาด้วยเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องไปโรงเรียน
  
  
  
  พอเข้ามาในงานก็ไปถ่ายรูปที่แบ็คดรอป ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะ และผมไรเฟิลก็ได้อยู่โต๊ะเดียวกัน
  
  
  “สวัสดีค่ะคุณรัชพล คุณหญิงรินดา(คุณย่า) คุณฟีโอน่า และคุณอาทิตย์(คุณพ่อไรเฟิล)” มีผู้หญิงท่านหนึ่งท่าทางมีอายุเดินเข้ามาทักทาย พวกเราลุกขึ้นยืนแล้วทักทายท่านกลับ คงจะเป็นเจ้าของงานนี้
  
  
  “สวัสดีครับ/ค่ะ คุณหญิงวิภา”
  
  “เป็นเกียรติจริง ๆ ที่มางานของดิฉัน เชิญตามสบายเลยนะคะ”
  
  “ครับ”
  
  “เอ๊ะ นั่นใช่เจ้าชายวานิเช่หรือเปล่าคะ?” ผมสะดุ้ง ทำตัวไม่ถูก ‘เจ้าชายวานิเช่’ คือชื่อที่นักข่าวใช้เรียกผมตั้งแต่วันงานคืนนั้น เพราะไม่รู้ชื่อจริง ๆ แล้วก็ก็ถูกเรียกว่า ‘เจ้าชาย’ ไม่ก็ ‘เจ้าชายน้อย’ ไปเลย..
  
  
  “สวัสดีครับ” ผมขยับไปยืนข้างป๊าเมื่อเห็นป๊าส่งสัญญาณให้
  
  “ไหว้พระเถอะลูก ชื่ออะไรงั้นหรือ?”
  
  “ควอทซ์ครับ”
  
  “รักษ์ธิสุทธ ลูกชายผมเองครับ”
  
  “จริงหรือคะ?” คุณหญิงวิภายกมือทาบอกท่าทางตกใจ ก็ไม่แปลกที่ท่านจะมีท่าทีอย่างนั้น เพราะป๊าไม่เคยแต่งงาน แถมผมยังไปอยู่ประเทศตั้งแต่เด็ก เรื่องที่ป๊ามีลูกก็น้อยคนมากที่จะรู้ แล้วป๊าก็ไม่ได้พาผมไปเปิดตัวหรือออกงานอะไรเลย ผมชอบนะ สงบดี แต่ตอนนี้มันเริ่มไม่ใช่แบบเดิมแล้วนี่สิ
  
  “ครับ” ผู้ใหญ่คุยกันอยู่สักพักคุณหญิงวิภาก็ขอตัวไปทักทายคนอื่น ๆ
  
  
  -------
  ----
  
  
  
  “เบื่อล่ะสิ” พี่เฟพูดแล้วยิ้มมุมปาก
  
  “มาก ๆ เลยครับ” ผมยู่ปาก ผมหาวเป็นสิบรอบแล้วทั้งที่มายังไม่ถึงชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ หิวก็หิว อาหารก็จัดแบบค็อกเทล หยิบมาเยอะก็จะหาว่าตะกละอีก ฮอลลลล
  
  “ทน ๆ ไปหน่อย พี่ก็เบื่อ”
  
  “ซะงั้น ฮาฮ่า” ผมคุยเล่นไปเรื่อยแก้เบื่อ จะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นก็ดูไร้มารยาทเกินไป เฮ้อออ ทนหน่อยก็ได้วะ
  
  
  “ฮื่อ”
  
  “เป็นอะไร?”
  
  “แสบตาอ่ะ สาดแฟลชใส่อยู่ได้” ผมตอบไรเฟิลพลางขยี้ตาแต่ก็โดนมือหนาปัดออก
  
  “เหอะ”
  
  “ดังมากหรอมึง” ป๊าพูด แถมยังผลักหัวผมอีก ผมขยุ้มผมตัวเอง ตอนนี้ผมผมยังเป็นสีแดงอยู่นะฮะ แล้วก็ไม่รู้เมื่อไหร่สีถึงจะหลุด โคตรเด่นเลยอ่ะ
  
  “หล่อก็งี้” ผมยักคิ้วใส่
  
  “ไปเอาความมั่นใจผิด ๆ แบบนั้นมาจากไหนวะ”
  
  “คุณย่าาา ดูป๊าสิครับ” ป๊ายกยิ้มเหนือกว่า แถมยังยักคิ้วให้ผมอีก คุณย่าไม่ช่วยผมเลยอ่าาา
  
  “ดูสนิทกันจังเลยนะคะ” คุณแม่พูดยิ้ม ๆ
  
  “ไม่อยากสนิทกับมันหรอกครับ หึ” ป๊า
  
  “ถามด้วย ว่าผมอยากสนิทกับป๊าเปล่า”
  
  “เอ๊ะ โตแล้วเล่นเป็นเด็กไปได้ พ่อลูกคู่นี้นี่” คุณย่าเอ็ด ผมยิ้มเผล่ ป๊าไหวไหล่
  
  
  
  -----
  ---
  
  
  
  “คุณแม่ไม่ให้ตัวจิ๋วไปถ่ายแบบคอลเลคชั่นหน้าร้อนให้ล่ะคะ”
  
  “อ่า... นั่นสินะ ขอจองตัวไว้ก่อนเลยนะคะ” เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวนะครับ ถ่ายแบบอะไรกัน คอลเลคชั่นหน้าร้อนอะไรครับ เปลี่ยนเรื่องกันไวจริง ๆ ถามผมก่อนนนนนนนนนน
  
  “ไม่ให้” ขอบคุณไรเฟิล..
  
  “อย่ามาขัดแม่สิคะ”
  
  “มัมอย่าดื้อดิ บอกว่าไม่ให้ไง”
  
  “มายบอยนั่นแหละดื้อ”
  
  “ช่างเหอะ ผมไม่ให้”
  
  “เอ๊ะ!”
  
  “ถ้ามันยุ่งยากก็เอาไปทั้งสองนั้นแหละ”
  
  “ว้าว! จริงด้วย ความคิดดีจริง ๆ เลยคุณ”
  
  “เวร..” ผมกับไรเฟิลตบหน้าผากตัวเองในขณะที่ผู้ใหญ่หัวเราะกันสนุกสนาน
  
  
  
  
  “หัวเราะอะไรกันหรือคะ?” เสียงของคนมาใหม่แทรกแหวกอากาศเข้ามา เสียงหัวเราะหยุดชะงักและหันไปมองคนมาใหม่
  
  
  กรีนและแม่ของเธอ
  
  
  “สวัสดีค่ะคุณกนกนาฏ เชิญนั่งด้วยกันก่อนสิคะ”
  
  “ขอบคุณค่ะคุณหญิงรินดา” ที่โต๊ะเราเหลือที่วางสองที่พอดีเลยครับ
  
  “เด็กคนนั้น หน้าคุ้น ๆ นะคะ” แม่ของกรีนพูด
  
  “เพื่อนสนิ้ทสนิทไรเฟิลไงคะคุณแม่”
  
  “อ๋อ คนที่บอกว่าเป็นเด็กทุนใช่ไหมลูก”
  
  “ขอบคุณครับที่จำผมได้”
  
  “เหอะ”
  
  
  ---
  --
  
  
  “คุณพิชัยไม่มาด้วยหรือครับ?” คุณพ่อไรเฟิล
  
  “มาค่ะ กำลังคุยกับท่านส.ว.อยู่ค่ะ” แม่ของกรีนตอบ
  
  “เหรอครับ”
  
  “แล้วคุณ ๆ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ?” แม่กรีนถามต่อ
  
  “ก็เรื่อย ๆ ตามประสาคนแก่นั่นแหละค่ะ แล้วนี่ลูกสาวอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ?” คุณย่าผม
  
  “21 แล้วค่ะคุณหญิง เขาเรียนเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกันกับไรเฟิลเลยค่ะ แถมยังเป็นดาวมหา’ลัยด้วยนะคะ หนุ่ม ๆ เข้ามาจีบเยอะจนดิฉันปวดหัวเลยค่ะ”
  
  “อ๋อ..เหรอคะ”
  
  
  
  “น่ารำคาญว่ะ” ป๊าก้มมากระซิบข้างหูผม เสียงเบื่อหน่ายเต็มที่
  
  “หึหึ มีมารยาทหน่อยสิป๊า โอย!” เอะอะอะไรก็ผลักหัว ฮึ่มมมม
  
  “อะไรกันอีกแล้วสองคนนี้” คุณย่าท่าทางจะเหลืออดแล้วจริง ๆ ป๊าชี้นิ้วมาที่ผม อ้าว.. ทำไมโยนให้กันแบบนี้อ่ะ
  
  
  
  
  “เด็กคนนี้มากับไรเฟิลเหรอจ้ะ? ดูแลหน่อยสิ” ไรเฟิลกลอกตากับคำพูดของแม่กรีน
  
  “สงสัยจะไม่เคยมางานแบบนี้มั้งคะคุณแม่”
  
  “ทำไมพูดเหมือนคนไม่มีมารยาทอย่างนี้ละคะน้องกรีน?”
  
  “เฟคะ”
  
  “ปกป้องจังเลยนะ โดนเด็กทุนนี่เล่นของใส่กันหรอคะ”
  
  “What the hell” ไรเฟิลพ่นคำไม่สุภาพออกมา ไม่ดังมากแต่ก็ได้ยินกันทั้งโต๊ะ กรีบกับแม่ของเธอที่ไม่พอใจตั้งแต่คำพูดพี่เฟแล้วยิ่งไม่พอใจหนักไปอีก
  
  
  “เด็กทุน? ..หมายถึงเด็กหัวแดงนี่เหรอครับ?” ป๊าถามเสียงเรียบ ปากยิ้มแต่แววตาเย็นยะเยือก บรรยากาศมาคุขึ้นมาหน่อย ๆ
  
  “อ๋อ ค่ะ ทำไมถึงมางานแบบนี้ได้ก็ไม่รู้นะคะ” กรีนพูด เหยียดทั้งสีหน้าและแววตา ..ผมได้คำตอบล่ะ นอกจากปากแล้วคงไม่มีอะไรดีจริง ๆ
  
  “น่าสงสารนะครับ”
  
  “นั่นสิคะ เห็นบอกว่าบ้านทำอาชีพขายของ คงจะลำบากน่าดู” แม่ของกรีน
  
  “เปล่า ผมหมายถึงพวกคุณน่ะครับ น่าสงสารจริง ๆ ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่าการเป็นเด็กทุนมันไปหนักบนหัวคนอื่น”
  
  “คุณรัชพล!”
  
  “หืม? ไม่พอใจหรือครับ? ผมก็ไม่พอใจเหมือนกัน ต้องมานั่งฟังคนอื่นดูถูกลูกตัวเองนี่ อ้อ! บ้านผมขายของจริง ๆ ครับ แต่ขายเพชรขายพลอยนะ คุณก็รู้ ไม่ลำบากอ่ะเลย เชิญคุณกลับไปที่โต๊ะคุณดีกว่าครับ ขอโทษที่เสียมารยาท แต่หรรษามากเกินไปแล้วล่ะ” พูดประโยคยาว ๆ แล้วยิ้มปิดท้าย กรีนกับแม่ของเธอหน้าเจื่อนลง มองผมอย่างไม่เชื่อสายตา ก็เคยบอกแล้วว่าพ่อเป็นนักธุรกิจแล้วผมก็รวยมาก ไม่เชื่อกัน ... จากนั้นทั้งสองก็เก็บความอับอายแล้วกลับไปพร้อมกับความไม่พอใจ(และเศษหน้าที่แตกละเอียดยิบ)
  
  
  
  
  --------------
  
  
  
  
  “มึง.. โดนแบบนี้บ่อยเหรอ?”
  
  “บ่อย” ไรเฟิลบอก ที่ผมส่ายหน้าไปไม่มีประโยชน์เลย..
  
  “ทำไมไม่บอกกู”
  
  “คนเขาพูดแบบไม่คิด เราก็มีสิทธิ์ฟังแบบไม่คิดได้เหมือนกัน ....อีกอย่างผมก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดสักหน่อย ชิล”
  
  “ชิลแม่งทั้งปี” ผมหัวเราะ ก็จริง ๆ นี่ ไม่รู้จะเก็บคำพูดคนอื่นมาคิดมากทำไม เราต้องแคร์แค่คนที่ควรแคร์ไม่ใช่เหรอ เสียเวลาใช้ชีวิตหมด
  
  
  “ผมขอไปเข้าห้องน้ำนะครับ” ผมบอกก่อนจะลุกออกมา มีไรเฟิลตามมาด้วย แค่ไปห้องน้ำจะตามมาทำไมไม่รู้ บู่ววว
  
  
  
  
  ----
  ---
  
  
  
  
  “ไปเดินเล่นกัน” ผมเอ่ยชวนคนตัวสูง ไรเฟิลพยักหน้า
  
  
  
  ผมกับไรเฟิลเดินมาถึงสวนของโรงแรม อากาศเย็น ๆ ดี ตรงนี้ไม่มืดมากเพราะยังมีไฟในสวนเปิดอยู่
  
  
  “ไรฟ์”
  
  “หืม?”
  
  “กับกรีนน่ะ..เคยมีอะไรกันหรือเปล่า?” ผมหลุบตามองต่ำ ไม่กล้ามองหน้าคนข้าง ๆ ในใจเต้นตุบตับด้วยความลุ้น
  
  “ไม่เคย” ผมเงยหน้าไปสบตา
  
  “จริงเหรอ...”
  
  “อืม”
  
  “แล้ว... ทำไมเขาถึงยึดติดมึงจัง”
  
  “ไม่รู้สิ” ไรเฟิลไหวไหล่ ตาคมมองผมนิ่ง ๆ จนผมต้องหลบตาไปก่อน มองหน้ามันนาน ๆ ไม่เคยได้ มันเขิน -///////-
  
  
  “ก กลับข้างในกันเถอะ”
  
  “หึหึ” เราเดินไปตามทางเดินแต่ก่อนจะหยุดปลายเท้าเพราะได้ยินเสียงคนคุยกัน มันจะไม่อะไรถ้าเสียงนั้นไม่ใช่เสียงของป๊า... แล้วตรงนี้มันค่อนข้างมืด ทำไมถึงมาคุยกันที่แบบนี้..
  
  
  
  
  
  “อย่าห่วงเลย ผมไม่ให้ลูกผมได้เจอคุณหรอก”
  
  “ก็ดี อ้อ! แล้วอย่าไปบอกใครล่ะว่าเด็กนั่นเกิดมาจากใคร”
  
  “ปิดมาได้ตั้งยี่สิบปี จะกลัวอะไร”
  
  “มันก็ไม่แน่หรอก ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้ทั้งนั้น”
  
  “หึ คุณนี่มีสำนึกของความเป็นแม่บ้างหรอเปล่า”
  
  “ไม่จำเป็นต้องมีกับลูกที่เกิดจากความผิดพลาด”
  
  “เลือดเย็นดีแฮะ แต่ก็ยังดีที่ยังบอกว่าเป็นลูก”
  
  “ลืมมันไปเถอะ”

  
  
  
  ผมตัวแข็งทื่อ มือเย็นเฉียบ รู้สึกหายใจไม่ออก ผมไม่ได้โง่พอที่จะไม่เข้าใจคำพูดพวกนั้น มันหมายถึงผม... มือหนาของไรเฟิลส่งมาจับและดึงผมให้เดิน ผมสะบัดมือไรเฟิลทิ้งและยังยืนอยู่ตรงนั้น . . . ยืนฟังเสียงที่เป็นดั่งคมมีดกรีดแทงให้เจ็บปวด . . .
  
  
  
  “Shit!” ป๊าสบถออกมาเมื่อมองเห็นผม และตอนนั้นเองที่ผมได้เห็นคนที่คลอดผมออกมา... นี่มันบ้าอะไรกัน!! ผมจำไม่ผิดและไม่ได้คิดไปเอง แม้ที่ตรงนั้นจะมืดแต่ผมมองเห็นใบหน้าของเธอได้ชัดเจน. . .
  
  

  โลกชักตลกเกินไปแล้ว
  


  คุณศนิตา แม่ของแพค..
  
  
  
  “บัดซบ! อย่าไปบอกเรื่องนี้กับใครล่ะ!” คุณศนิตาเอ่ยบอก ปลายนิ้วชี้หน้าและมองผมด้วยความเกลียดชังก่อนจะเดินออกไป ผมแทบทรุดไปกองกับพื้น
  
  
  
  “ป๊า. . .”
  
  “ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น”
  
  “บอกผม..”
  
  “ไม่”
  
  “ทำไมต้องปล่อยให้ผมโง่อยู่คนเดียวด้วย! เกิดมายี่สิบปีผมไม่เคยได้รู้อะไรเลย! อึก.. ป๊า... บอกผม. . .”
  
  “ไม่รู้จะดีกว่า”
  
  “ขอร้องล่ะครับ. .  บอกผมเถอะ..นะ” ป๊ามองหน้าผมด้วยความลำบากใจแล้วถอนหายใจออกมา
  
  “ไรเฟิล..พากลับไปที่บ้าน เดี๋ยวฉันตามไป”
  
  “ครับ”





---------------------------------
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ควอทซ์รู้แล้วว่าใครเป็นแม่ โอยยยย ทำไมคุณแม่ใจร้ายขนาดนี้
T_____________T
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 19-04-2015 21:47:55
คนแบบนี้อย่าเป็นแม่คนเหอะเลวเกิน  :fire:
สงสารบันนี่น้อย ฮื่อๆ  :m15:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 19-04-2015 21:53:57
บันนี่สู้ๆๆๆๆๆ อย่าร้องๆๆ

พี่ปืนรีบปลอบเลยนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 19-04-2015 21:56:22
ฮือ สงสารน้องควอทซ์อะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 19-04-2015 21:57:44
มีแม่แบบนี้.  อย่ามีดีกว่ามั้ยอ่า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 19-04-2015 22:00:10
แย่..
หมามันยังรักลูกของมันเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 19-04-2015 22:25:28
แม่บันนี่ คือ ไม่มีสายใยแห่งความผูกพันกับลูกที่ตัวเองคลอดมาเลยเหรอ 9เดือนที่อุ้มท้องเลยน่ะ ถึงจะไม่อยากให้เกิด บลาๆๆ เข้าใจว่าคือความผิดพลาด แต่จำเป็นไหมอ่ะป้าที่ต้องเกียจลูกตัวเองขนาดนี้ อ่านแล้วโมโห :fire: ควอทซ์ไม่ต้องเสียใจให้มนุษย์ป้าคนนั้นน่ะลูก เขาไม่เเคร์เราก็ไม่จำเป็นต้องแคร์เขา /สะบัดบ๊อบใส่
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-04-2015 22:26:31
มีแม่แบบนี้ไม่มีดีกว่า

ต้องใจแข็งไว้นะเจ้าชายน้อย

สะใจสองแม่ลูกนั้นจริงๆ

ตามอ่านตามเชียร์เสมอจ้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 19-04-2015 22:28:30
บันนี่น่าสงสารมากๆอะ เข้มแข็งไว้นะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 19-04-2015 22:30:50
คุณศนิตานี่ต้องใช้คำไหนมานิยามนิสัยกันนะ... ทำไมถึงใจร้ายได้ขนาดนี้อะ T____T
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 19-04-2015 22:34:58
 :katai1: :katai1:

บันนี่ไม่เป็นไรลูก คนรักหนูมีเยอะ

ไรเฟิลปลอบบันนี่ด่วนเลย

รีบมาต่อไวไวนะ ฮือออออ :sad4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 19-04-2015 22:40:59
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 19-04-2015 23:00:00
 :katai1: :angry2: :m31: :m31: :mew5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: rabbit-orange ที่ 19-04-2015 23:01:29
สงสารน้องมากกกกกก..... :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: bowtotay ที่ 19-04-2015 23:19:40
เป็นแม่ที่ใจร้ายมาก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 19-04-2015 23:25:40
น้องควอทซ์ดราม่าแล้วอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 20-04-2015 00:38:40
อิชะนีกรีนกับแม่หน้าแตกยับไปไงหละชอบดูถูกคนอื่นดีนัก
ส่วนเรื่องแม่ควอร์ทเค้ามีแบบนี้จริงๆเหรอเนี่ย ลูกทั้งคนนะนั่น
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-04-2015 03:18:47
คนรักเยอะแยะจะแคร์ทำไมแค่คนๆเดียวที่เขาไม่เห็นค่าเรา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 20-04-2015 09:03:31
โอ๋.....ควอร์ท กระต่ายน้อยลูก  :กอด1:

ไม่ต้องเสียใจนะ ไม่มีแม่มาได้ตั้ง ยี่สิบปีแล้ว แค่ไม่มีต่อไป ก็ไม่เป็นไรหรอลูก

กรีนกับแม่ เกลียด ควอร์ท คงไม่แปลกแล้วละ เพราะขนาดยัยเจ้นี่เป็นแม่แท้ๆยังไม่มีสำนึกมารักลูกเลย

โถ๋..กระต่ายน้อยของป้า :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jjay ที่ 20-04-2015 09:53:21
เป็นแม่ที่ใจร้ายมาก :fire: สงสารบันนี่  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 20-04-2015 10:02:18
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

สงสารน้องควอทซ์จัง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 20-04-2015 17:32:01
อยากให้คนทั้งโลกรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนยังไง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-04-2015 10:43:10
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ปังอุ่น ที่ 21-04-2015 22:46:09
เป็นแม่ที่เลวบัดซบ  :z6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 46 (19.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-04-2015 01:15:50
เป็นแม่ที่แย่มากกกกก

ทำไมทำร้ายบันนี่แบบนี้
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 22-04-2015 18:54:50
EPISODE 47







  ที่บ้านของผม...


  ไรเฟิลนั่งเป็นเพื่อนผมที่ห้องนั่งเล่นระหว่างที่รอป๊า มือหนาจับมือผมไม่ปล่อย ..แม่บ้านตกใจกันที่ผมมาแบบไม่ได้บอก แต่นั่นไม่สำคัญอะไรหรอก..  และไม่นานป๊าก็มาถึง มาคนเดียว.. คุณย่าคงจะอยู่ที่งาน ผมเข้าในห้องทำงานของป๊า ให้ไรเฟิลไปรอที่ห้องนอนของผม...
  
  
  
  
  
  “อยากรู้อะไร”
  
  “ทุกอย่าง”
  
  “มึงมันดื้อ”
  
  “เล่าสักทีเถอะ...”
  
  “โอเค รับให้ได้แล้วกัน”
  
  “เรื่องมันเกิดตอนที่กูเรียนอยู่. . . .” ผมนั่งฟังป๊าเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง ... ใบหน้าของป๊าค่อนข้างลำบากใจ และเหมือนจะเลี่ยงการใช้คำ หรือเล่าผ่านหลาย ๆ อย่างไป ผมไม่รู้หรอก..แต่ความรู้สึกมันบอก เหมือนท่านไม่อยากให้ผมต้องรับรู้ ไม่อยากให้เสียใจ..
  
  
  ความจริงที่ออกมาจากปากของป๊าทำให้ผมเจ็บปวดจนแทบบ้า คุณศนิตาเป็นคนที่คลอดผมออกมา เธอก็คือแม่ของผม แต่.. ในขณะเดียวกัน คุณศนิตาก็มีลูกอยู่แล้วหนึ่งคนนั่นก็คือแพค แพค. . . กับผม มีแม่คนเดียวกัน แพคคือน้องชายของผม...เหรอ? ฮะฮะ ตลกฉิบหาย แต่ทำไมผมถึงร้องไห้วะ
  
  
  “สรุปก็คือพลาด แล้วก็มีนี่..” ป๊าชี้นิ้วมาที่ผมตรงคำว่า ‘นี่’
  
  “ผมคือความผิดพลาดสินะ..”
  
  “เอ่อ.. ไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
  
  “เจ็บจังเลยป๊า... ฮึก”
  
  “...........”
  
  “ทำไมเขาถึงใจร้ายขนาดนั้นล่ะ ..ฮือ”
  
  “ควอทซ์...”
  
  “ผมมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมล่ะ ทำไมถึงไม่รักผมสักนิดเลย ฮึก ฮือออ”
  
  “อย่าร้อง”
  
  “เจ็บก็ต้องร้องสิ ฮึก.. ป๊า ฮือ... ผม ผมเหมือนจะตายเลย ฮึก...”
  
  “ชู่ววว” ป๊ารวบตัวผมเข้าไปก่อน มือใหญ่ลูบหัวลูบหลังปลอบประโลม ผมวาดแขนกอดป๊าแน่น
  
  “ผม ผมเป็น ฮะ..ฮึก เป็นลูกป๊า .... จริง ๆ หรือเปล่า ฮืออออ”
  
  “เป็นสิ”
  
  “จริงเหรอ.. แล้ว แล้วถ้าไม่ใช่ ฮึก ป๊าจะทิ้ง ฮึก ผมไหม?”
  
  “เลี้ยงมาจนโตขนาดนี้จะทิ้งได้ยังไง. . .”
  
  “ไม่รู้ ฮือ ขนาดนั้น ... คนนั้น อึก.. ยังทิ้งผมเลย...”
  
  “อย่าไปนึกถึงคนที่ไม่ต้องการเรา”
  
  “ป๊า... ป๊า ฮืออออออ”
  
  
  
  โอบกอดลูกชายไว้แนบอก ควอทซ์สะอึกสะอื้นกับอกของคนเป็นพ่อราวกันจะขาดใจ น้ำตามากมายไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย พร่ำบอกแค่ ‘อย่าทิ้งผมนะ’ ซ้ำไปซ้ำมา น้ำตาของลูกก็เหมือนน้ำกรดที่รดลงกลางใจ เมื่อเห็นลูกต้องเจ็บปวด คนเป็นพ่อก็เจ็บปวดมากยิ่งกว่า. . .
  
  
  
  
  . . .เพราะอย่างนี้. . .ถึงไม่เคยบอก
  
  . . .เพราะอย่างนี้. . .ถึงไม่อยากให้รู้
  
  . . .เพราะไม่อยากต้องเห็นลูก. . .ต้องร้องไห้
  
  
  
  
  
  --------------------
  
  
  
  
  
  RIFLE’s
  
  
  
  
  ในห้องนอนของบันนี่. . .
  
  
  
  
  “ไรฟ์...” บันนี่โถมตัวใส่ผมทั้งตัว เสียงสั่นเครือปนสะอื้น
  
  “.............”
  
  “ถ้า...ไม่ต้องการ...แล้วให้เกิดมาทำไม...อึก”
  
  “...........”
  
  “กูอยากรู้มาตลอดว่าแม่เป็นใคร อยากเรียกแม่เหมือนที่คนอื่นเรียก อยากโดนกอดเหมือนที่คนอื่นด้วยแม่กอด แต่...คนที่กูต้องการ เขาไม่ต้องการกู ฮึก...”
  
  “บันนี่. . .” ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากกอดเขาไว้แบบนี้
  
  “ฮึก ฮือ. . .”
  
  “ร้องให้พอแล้วจากนี้ก็ไม่ต้องร้องแล้วนะ”
  
  “ฮือออ ไรเฟิล ฮึก... อ อึก..” บันนี่หายใจขาดห้วง ตัวสั่นทึม ผมกระชับกอดเขาแน่น จูบซับกลุ่มผมนุ่มปลอบโยน
  
  
  “ไรเฟิล.. ฮือ... เจ็บ.. เราเจ็บ ... เจ็บจังเลย ฮ..ฮึก”
  
  “รู้แล้วครับ เดี๋ยวก็หายนะ”
  
  “ในนี้... มันปวดไปหมดเลย ฮึก ฮือออ” มือเล็กจับมือผมไปทาบที่อกข้างซ้ายของเจ้าตัว ตากลมบอบช้ำ น้ำตาเปรอะนองไปทั้งหน้า ริมฝีปากสั่นระริก ผมเช็ดน้ำตาให้บันนี่อย่างเบามือ กลัว. . . กลัวว่าเขาจะเจ็บไปมากกว่านี้ กลัวว่าถ้าทำแรงคนตรงหน้าอาจจะแตกสลายในพริบตา
  
  “คนดี. .”
  
  “ป๊า.. บ บอกว่า.. อึก เราเกิดมา ฮึก ๆ ..เพราะความผิดพลาด ฮือออ”
  
  “ไม่ต้องเล่าก็ได้ครับ พอแล้ว”
  
  “ร ไรฟ์ ฮึก.. รู้อยู่แล้วเหรอ”
  
  “ครับ”
  
  “ท ทำไมไม่บอก..”
  
  “เพราะรู้ว่าจะร้องไห้แบบนี้ไง.. บางเรื่องไม่รู้จะดีกว่านะ”
  
  “นั่นสินะ..”
  
  “ยิ้มหน่อย” ผมบอกเขาพลางพรมจูบไปทั่วใบหน้าหวาน กระต่ายน้อยเบะปาก
  
  “ยิ้มไม่ออก. .” สะเทือนใจฉิบ..
  
  “โอเค. . . งั้นไปอาบน้ำกัน หน้าตามอมแมมหมดแล้ว”
  
  “อาบด้วยกัน..”
  
  “ก็ได้ เดี๋ยวไปขอชุดจากแม่บ้าน”
  
  “ไม่เอา..ไม่ให้ไป ไม่อาบแล้ว อึก..”
  
  “ไม่อาบได้ยังไง รออยู่นี่ แป๊บเดียวนะ” ผมบอกแล้วจูบเขาไปอีกที บันนี่ทำหน้าลังเลแล้วก็ยอมพยักหน้า ผมออกจากห้องเขาแล้วลงไปข้างล่างและก็เจอพ่อของบันนี่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
  
  
  
  
  “ควอทซ์ล่ะ?”
  
  “ข้างบนครับ”
  
  “แล้วนี่มีอะไร”
  
  “ผมอยากได้เสื้อผ้าสักชุดครับ”
  
  “อืม.. เดี๋ยวบอกแม่บ้านเอาไปให้”
  
  “ครับ”
  
  “ฝากดูมันหน่อยนะ”
  
  “ครับ”
  
  
  
  
  
  ---------------
  
  
  

  
  จุ๊บ

  
  “พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันไหม” ผมถามหลังจุ๊บหน้าผากกระต่ายขี้แงไป บันนี่มองผมตาแป๋ว
  
  “เที่ยวไหน..” เสียงแหบเชียว..
  
  “อยากไปไหน?”
  
  “ไป..ทะเล”
  
  “ทะเลาหน้าหนาว?” พยักหน้าหงึกหงัก คงไม่มีปัญหาอะไร หน้าหนาวของไทยมันก็ไม่หนาวอยู่แล้ว
  
  “โอเค ไปทะเลกัน”
  
  “อื้อ.. ชวนหมาสามตัวด้วย”
  
  “ครับ”
  
  “น้องตัวเล็กของเราด้วย”
  
  “น้องมีเรียน ..โอเค เดี๋ยวคุยกับไนต์ให้ ไม่ต้องร้องแล้ว” ผมรีบบอกเมื่อคนตัวเล็กเริ่มมีน้ำตาคลออีกรอบ
  
  “อื้อ..”
  
  “อยากไปทะเลที่ไหน จะได้จองที่พัก”
  
  “มีบ้าน.. ที่ภูเก็ต” เป็นอันว่าเรียบร้อย ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องที่พัก ที่จริงโรงแรมที่เครือของบ้านผมก็มีอยู่หลายที่ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ผมกล่อมกระต่ายให้นอนหลับแล้วออกไปโทรหาเพื่อน บอกรายละเอียดทริปกระทันหันกับไอ้ไนต์ไปแล้วให้มันไปชวนไอ้ฟอร์สกับไอ้กายอีกที ไม่ลืมที่จะบอกให้เพื่อนพาน้องตัวเล็กไปด้วย ‘น้องตัวเล็กของเรา’ เหอะ! บอกให้มันจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินด้วย พอคุยกับไอ้ไนต์เสร็จกลับเข้ามาในห้องก็เห็นกระต่ายของผมนอนร้องไห้อยู่
  
  
  “เป็นอะไร หืม?”
  
  “หายไปไหน อึก..”
  
  “ไปคุยกับไนต์มา ไม่ร้องนะ ตาบวมหมดแล้ว”
  
  “นึกว่า อึก.. หนีไปแล้ว”
  
  “ไม่หนีไปไหนหรอก นอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยวกัน”
  
  “จริงนะ?”
  
  “อื้อฮึ” ผมยิ้มให้เขา บันนี่พยักหน้าแล้วหลับตาลง แขนเล็กกอดเอวผมแน่น ไหนจะขาที่ยกมาก่ายอีก กลัวผมหนีขนาดนั้นหรือไง..
  
  “Goodnight babe, everything will be better.”
  
  
  
  
  
  ------------------
  
  
  
  
  
  ตอนเช้า
  
  
  ผมตื่นขึ้นมาก่อน บันนี่ยังหลับอยู่ ตาโตบวมช้ำ แพขนตายาวเปียกชื้น ปลายจมูกเป็นสีแดงจาง ๆ เมื่อคืนก็หลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งเขาและผม บันนี่สะดุ้งตื่นขึ้ามาร้องไห้อยู่ประมาณสองสามครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้แม่งสาหัสจริง ๆ ไม่คิดว่าคุณศนิตาจะเลือดเย็นได้ขนาดนี้ ช่วงเวลาที่อุ้มท้องมาไม่ได้มีความผูกพันกับลูกคนนี้เลยจริง ๆ เหรอ. . . และผมเกลียด เกลียดตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย เกลียดที่แบ่งรับความเจ็บปวดจากคนตัวเล็กไม่ได้เลย. . .
  
  
  
  
  “อื้อ..” ควอทซ์ขยับตัวนิดหน่อย เปลือกตาบางค่อย ๆ ปรือขึ้น ตาแดงเลยบันนี่..
  
  “Good morning” จับมือเล็กที่กำลังขยี้ตาออก แก้ไม่หายสักทีนิสัยนี้
  
  “งื่อ.. มอนิ่ง..”
  
  “ไม่อาบน้ำเร็ว จะพาไปเก็บของ”
  
  “งืม.. ปวดหัวอ่ะ” แน่ล่ะ ร้องไห้หนักขนาดนั้น
  
  “ป่ะ อาบน้ำกัน”
  
  
  
  
  -------
  ----
  
  
  
  ผมกลับมาใส่ชุดเดิม เดี๋ยวค่อยไปเปลี่ยนที่คอนโด แต่กระต่ายแต่งตัวจากที่นี่เลย ตัวเล็กใส่กางเกงสามส่วน เสื้อยืดสีฟ้าอ่อน ผูกแจ็คเก็ตไว้บนไหล่ ห้อยหมวกสแนปแบล็คไว้กับสายกระเป๋าเป้ เสียบแว่นกันแดดไว้ที่หูกางเกง.. ตรง ๆ นะ โคตรน่ารัก อย่าจะยกเลิกทริปตอนนี้เลย ไม่อยากให้แม่งออกไปข้างนอก ผมหวง
  
  
  
  
  “กำลังจะให้เด็กไปตามพอดีเลยลูก”
  
  “อรุณสวัสดิ์ครับ”
  
  “อรุณสวัสดิ์จ้ะ มา ๆ กินข้าวกันลูก” อาหารเช้าวันนี้คือข้าวต้มทะเล. .
  
  
  “ทำไมตาบวมอย่างนั้นล่ะ หืม?” คุณย่าเอ่ยถามพลางลูบศีรษะกระต่ายขาวด้วย คุณอาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองลูกชายแล้วถอนหายใจ บันนี่ยิ้มแห้ง คนข้าวต้มในชาม
  
  
  “อร่อยจัง..” เฉไฉไม่ตอบคำถาม ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มอย่างเดียว ก็ได้แค่มองอย่างห่วง ๆ ไม่เอ่ยถามมากมายเพราะเกรงจะไปสะกิดบาดแผลที่ยังปิดไม่สนิทในหัวใจ
  
  
  “ป๊า... ขอกุญแจบ้านที่ภูเก็ตด้วยนะครับ”
  
  “จะไป?”
  
  “อื้อ..”
  
  
  ก่อนออกจากบ้าน คุณย่ากอดบันนี่และพูดอะไรกันไม่รู้ กระต่ายของผมน้ำตาแตกอีกรอบ..
  
  
  
  
  
  ----------------------
  
  
  
  
  เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าของใช้อะไรเสร็จก็ขับรถไปที่สนามบิน ช่วงเวลาแบบนี้รถติด บอกเผื่อเวลาเช็คอินด้วย โทรบอกมัมให้มาเอาไอ้ก้อนไปดูแลให้ระหว่างที่พากระต่ายอีกตัวไปพักผ่อน บันนี่งอแงอยากพาไอ้ก้อนไปด้วย แต่ผมไม่ให้
  
  
  
  “Hey! guys!” เสียงไอ้ไนต์ดังมา ยกมือไฮไฟว์กับบันนี่ที่ยกมือรออยู่แล้ว
  
  “ตัวเล็กของกูล่ะ” ของไอ้หมาที่ยืนหน้ายุ่งอยู่นั้นมั้งบันนี่..
  
  “อยู่นี่ครับ! แฮ่!” ออกัสโผล่ออกมาจากหลังไอ้ไนต์ “พี่ควอทซ์แต่งตัวน่ารักจัง” หมวกที่เคยห้อยอยู่ที่สายกระเป๋าถูกเอาไปสวมไว้บนศีรษะโดยหันปีกหมวกไปด้านหลัง และสวมแว่นกันแดดเป็นพร้อพอีกชิ้น คนมองกันฉิบหาย
  
  “หล่อเถอะ” ค้อนใส่น้องไม่จริงจัง เห็นคุยเล่นได้แบบนี้ก็สบายใจขึ้นมาหน่อย แค่นิดหน่อยจริง ๆ ครับ
  
  “สองคนนั้นล่ะ” ผมถาม
  
  “นั่น มาพอดี” ผมพยักหน้ารับรู้ ลุกขึ้นยืน ฉุดมือบันนี่ให้ลุกด้วย เมื่อทุกคนมาครบก็ไปเช็คอินกัน
  
  
  
  ระหว่างทางเข้าเก็ต
  
  “กระต่ายของมึงซึม ๆ นะ” กายพูด กายเป็นคนที่ค่อนข้างจับสังเกตอะไรได้ง่าย ยิ่งกับบันนี่แล้วยิ่งง่ายไปใหญ่ ปกติจะร่าเริงอยู่ตลอด แต่พอมาวันนี้กับซึมไป ใครไม่ผิดสังเกตก็บ้า ไอ้ไนต์กับไอ้ฟอร์สก็คงจะคิดเหมือนกันแต่ไม่พูดออกมา ผมมองแผ่นหลังของคนที่เดินนำหน้าแล้วถอนหายใจออกมา
  
  “เจอเรื่องแย่ ๆ มา”
  
  “เรื่อง?”
  
  “ไว้ค่อยคุย”
  
  
  
  
  -----
  ---
  
  
  
  
  เครื่องแลนด์ดิ้งที่สนามบินภูเก็ตตอนบ่ายสองนิด ๆ คนที่ตื่นเต้นที่สุดหนีไม่พ้นออกัส ส่วนกระต่ายของผม... เฮ้อ.. อยู่บนเครื่องก็เอาแต่มองไปนอกหน้าต่าง ดวงตากลมโตที่เคยมีแต่ประกายสดใสตอนนี้กลับหม่นแสงลง โคตรแย่.. ผมเนี่ยโคตรแย่
  
  
  
  มีรถมารับไปที่บ้านพัก พ่อของบันนี่คงเป็นคนจัดการให้ บ้านหลังนี้ค่อนข้างโมเดิร์นและใหญ่มาก พื้นที่รอบ ๆ ก็เยอะ ในบ้านสะอาดสะอ้านเรียบเรียบดีทุกอย่าง คงทำความสะอาดอยู่ตลอด
  
  
  
  “โหววววววว บ้านสวยจังงง” ออกัสวางเป๋าตุบ! วิ่งไปเปิดม่านออก เพราะฝั่งนั้นเป็นกระจกทั้งบานเลยทำให้มองเห็นทะเลด้านนอก
  
  “มึงอยู่เฉย ๆ ได้ไหม ห้ะ!” ไอ้ไนต์ตะโกนดุ แต่น้องมันไม่สนใจ หันมายักคิ้วใส่แล้วเดินดูมุมนู้นมุมนี้
  
  “กายกับฟอร์สนอนข้างบนนะ สองห้องฝั่งซ้าย แต่ห้องเล็กนะ ไม่มีห้องน้ำในตัวแล้วก็เป็นเตียงเดี่ยว” เจ้าของบ้านบอก
  
  “สบายมาก” กาย ฟอร์สรับคำ
  
  “ห้องนอนข้างล่างมึงกับนอนตัวเล็กแล้วกัน ห้องนั่นเป็นเตียงคู่”
  
  “โอเค ได้ เตี้ย!!! มาเก็บของ!”
  
  “บอกว่าอย่าเรียกเตี้ยไงลุง!!”
  
  “บ่ายสามครึ่งลงมา แล้วไปหาอะไรกินกัน เคนะ” ฟอร์สบอกปิดท้าย แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไปเก็บของ




--------------------------
รู้สึกว่ามันแปลก ๆ . . .
ถ้าผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ . .
บันนี่ร้องไห้แบบ... T______T สะเทือนใจ /ดึงมากอด
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยน้า ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 22-04-2015 19:12:51
ไปเที่ยวๆๆๆให้หายเศร้านะๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: rabbit-orange ที่ 22-04-2015 19:19:48
สงสารน้อง.....ร้องไห้หนักมาก..... :mew4: :mew4: :mew6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-04-2015 19:29:25
รู้สึกว่ามันสั้นจังเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 22-04-2015 19:30:55
เข้าใจอารมณควอทซ์เลย ร้องไห้แทบจะขาดใจ คือถ้าเป็นเรา ก็คงเสียใจมากๆเหมือนควอทซ์ แม่ทั้งคนถึงจะไม่รัก ไม่ได้เลี้ยงมา แต่มันก็น่าจะมีสายใยบางๆเหลือบ้าง กลับมาเข้มแข็งเร็วๆน่ะกระต่ายน้อยของไรฟ์ :mew6:

ขอบคุณคนเขียนมากเหมือนกันนะคะ ขยันอัพมาก มาตรงเวลาตลอด สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-04-2015 19:41:07
อย่าเศร้าไปเลย คนรักเยอะแยะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 22-04-2015 19:45:26
ฮือ บันนี่อย่าร้องไห้อีกเลยนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 22-04-2015 19:52:10
ตอนที่แล้วยังสะใจกับอาการเงิบของสองแม่ลูกงูเขียวได้ไม่เท่าไหร่เลย งานดราม่าก็มาซะงั้น

แต่ยังดีที่ดราม่าไม่นาน ไม่รู้ว่าหลังจากนี้บันนี่จะมองหน้าแพคได้เหมือนเดิมรึเปล่า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 22-04-2015 19:53:10
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-04-2015 20:14:59
แล้วเรื่องเศร้าๆจะผ่านไปนะกระต่ายน้อย



ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 22-04-2015 20:25:03
สงสารบันนี่จุงงง.  ไรเฟิลต้องทำให้บันนี่กลับมาร่าเริงอีกครั้งน้าาาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-04-2015 20:47:52
สงสารบันนี่มากๆ

แต่ทำไงได้

นอกจากส่งกำลังใจไปให้บันนี่

สู้ๆจ้า

พี่ไรเฟิลก็ปลอบบันนี่หน่อยซิ

ไหนๆก็มาเที่ยวกันทั้งที
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-04-2015 20:51:24
บันนี่ยิ้มได้ไวไวนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 22-04-2015 20:56:54
สงสารบันนี่ T_________T
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 22-04-2015 21:44:49
ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นผู้หญิงที่แปลกประหลาดทิ้งชูกของตัวเองได้ง่ายๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 22-04-2015 21:48:04
บันนี่~~~~ :sad4: โอ้ๆๆ  :กอด1:

รอตอนต่อไปจ้าๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 22-04-2015 21:51:24
โถ๋.......

บันนี่น้อยของป้า

ปืนดูน้องดีๆนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 22-04-2015 21:56:31
เดี๋ยวมันก็ผ่านไปบันนี่ อย่าแคร์คนไม่รักเรา แต่แคร์ที่รักดีกว่า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 22-04-2015 22:31:17
สงสารบันนี่จัง :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 22-04-2015 23:08:08
เป็นแม่ที่แย่มากกก :angry2: ทำบันนี่เสียใจ

ยิ้มๆนะบันนี่  :L2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 22-04-2015 23:44:58
โอ๋ๆไม่เอาไม่ร้องนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-04-2015 00:23:55
สงสารบันนี่อ่ะ บันนี่สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jjay ที่ 23-04-2015 06:40:44
ร้องตามบันนี่ :sad4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 23-04-2015 07:59:16
ฮืออ สงสารบันนี่น้อย  :m15:
สู้ๆนะลูก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 23-04-2015 12:16:55
มาม่า มากกกกกก  :mew4: :mew6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 47 (22.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 23-04-2015 12:46:19
ช่างแม่เถอะบันนี้ ก็แค่คนอุ้มท้อง สายใยอะไรนั่นมันไม่มีจริงหรอกค่ะ อยู่กับปัจจุบันมันดีที่สุดแล้วล่ะมีคนรักล้อมรอบ :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 25-04-2015 20:26:16
EPISODE 48


  
  
  
  
  
  
  “ไรฟ์..” ผมเรียกชื่อของคนที่กำลังจัดของ ไรเฟิลวางมือแล้วหันมามองผม
  
  “ว่าไง?”
  
  “ขอโทษนะ” ไรเฟิลถอนหายใจ เดินมายืนข้างหน้าผมที่นั่งอยู่บนเตียง มือหนาประคองหน้าผมให้เงยขึ้นแล้วบีบแก้มผม
  
  “ถ้ารู้สึกผิดกับกูก็เลิกเป็นแบบนี้ได้แล้ว”
  
  “ยากแฮะ”
  
  “ยากก็ต้องทำให้ได้”
  
  “อื้อ”
  
  “รู้ไหมว่ามีคนเป็นห่วง ..พวกนั้นมันก็รู้แค่ไม่พูดออกมา”
  
  “ขอโทษ...”
  
  “มึงไม่ได้อยู่คนเดียวนะบันนี่ ยังมีกู มีพ่อของมึง มีคุณย่า มีเพื่อน ไอ้หมูปิ้งของมึงอีก มดแดง บันบัน!! ก็รู้ว่ามันยากจะทำใจ แต่ตอนนี้ก็มีแม่อยู่แล้วหนิ คุณฟีโอน่าไงบันนี่..”
  
  “ฮึก..”
  
  “เศร้าได้ แต่อย่าเศร้านาน คนที่เป็นห่วงเขาไม่สนุก ไม่สนุกเลยสักนิด..” น้ำตาผมไหลอาบแก้ม ไรเฟิลใช้นิ้วเช็ดให้แล้วดึงตัวผมเข้าไปกอด
  
  “เห็นมึงร้องไห้แบบนี้แล้วกูโคตรรู้สึกว่าตัวเองแย่”
  
  “ไม่ใช่..”
  
  “ต้องมองมึงร้องไห้โดยที่กูทำอะไรไม่ได้เลย.. มันแย่มากนะบันนี่”
  
  “ฮึก..ฮือ.. ขอโทษ..ฮือ”
  
  “เลิกร้องได้แล้วคนเก่ง”
  
  “ฮือ... ไรเฟิล อึก..” ผมเอาแต่เรียกชื่ออีกฝ่ายซ้ำ ๆ รู้สึกแย่ที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงอย่างนี้ ไรเฟิลต้องมาเจ็บไปกับผมด้วยต้องที่ไม่ใช่เรื่องเลย และน้ำเสียงแหบพร่าราวกับเปล่งออกมาอย่างยากลำบากของเขาทำให้ผมเจ็บเหมือนกัน ผมกอดไรเฟิลแน่น พูดเรียกชื่อเขาและคำขอโทษไม่หยุด
  
  “ไม่เป็นไรบันนี่ ไม่เป็นไร..”
  
  “จะ..ไม่ร้องแล้ว..อึก..” ผละออกจากอ้อมกอดอุ่น ใช้หลังมือปาดหยดน้ำน่ารำคาญออกจากใบหน้า ยิ่งเช็ดยิ่งออกมาเยอะ ไรเฟิลจับมือผมไว้แล้วเป็นคนเช็ดให้แล้วมันก็หยุดไหลไปดื้อ ๆ . . .
  
  
  
  “มีอะไรจะบอก”
  
  “บอก อึก.. อะไร?” น้ำตาหยุดไหลแล้วแต่ยังสะอื้นอยู่ ตาคมจ้องมองมาอย่างจริงจัง
  
  “ตั้งใจฟังดี ๆ”
  
  “............”
  
  “ผมรักคุณ..”
  
  “ฮือออออออออออ”
  
  “เวร!”
  
  “ฮึก ฮือออออ รัก รักด้วย มาก ๆ เลย ฮืออออ” ไรเฟิลประทับริมฝีปากลงมาทั้งที่ผมยังร้องไห้อยู่ ร่างสูงขบเม้มริมฝีปากผมเบา ๆ อย่างอ่อนโยน... เหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัวบินวนอยู่ในท้องผมเลย
  
  
  
  
  . . . ในเมื่อมีคนรักผมมากขนาดนี้ทำไมผมต้องมานั่งร้องไห้เสียใจกับคนที่ไม่ได้รักผมเลยสักนิดด้วยนะ . . งี่เง่าจริง ๆ เลย ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิดกับคนที่รักและเป็นห่วงผม ป๊ากับคุณย่าจะเจ็บปวดขนาดไหนกับการที่เห็นผมเป็นแบบนี้ ไม่มีเลย เสียใจไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีอะไรดีเลย ต่อให้ร้องไห้จนน้ำตากลายเป็นสายเลือดผู้หญิงคนนั้นก็ไม่มีทางรักผมหรอก.. ที่ผ่านมาไม่มีคนที่ขึ้นชื่อว่าแม่ผมก็อยู่ได้นี่นา แถมยังมีความสุขดีด้วย จะไม่มีอีกก็จะเป็นอะไรไป หรือที่ผ่านผมไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยไม่คิด แต่ยังไงก็ช่างมันดีกว่า ผมควรใส่ใจคนที่รักผม ไม่ให้พวกเขาต้องเจ็บปวดเพราะความเสียใจของผม . . .
  
  
  
  “ขอบคุณนะ”
  
  
  
  
  
  
  
  ---------------------------
  
  
  
  
  
  
  “ร้องไห้มาหรอวะ” กายดึงแว่นกันแดดผมออก มันมองผมสลับกับไรเฟิลแล้วขมวดคิ้ว
  
  “อื้อ จัดการมันเลย” ชี้นิ้วไปที่ไรเฟิล ตัวสูงปัดมือผมทิ้งแล้วจับไปกุมไว้ -//-
  
  “ทำอะไรมันวะ เห็นซึม ๆ ตั้งแต่สนามบินแล้ว” หลบตาฟอร์สที่จ้องมา ลูกหมาสามตัวมองผมอย่างคาดคั้น อย่าทำให้กูลำบากใจเลยเพื่อนรัก. . .
  
  “ป เปล่า .. หิวแล้ว ไปกันเถอะ”
  
  “ไม่บอกก็ได้ แค่เพื่อนหนิ ไม่สำคัญหรอก” โคตรตัดพ้อเลยหมาไนต์ ไนต์มองผมด้วยหางตาแล้วเดินออกไปคนแรก แล้วกายกับฟอร์สก็ตามไปด้วย น้องตัวเล็กมองพวกเรางง ๆ ก่อนจะวิ่งไปหาไอ้ไนต์
  
  “ลุง! รอเค้าด้วยยย”
  
  
  

  “อึก...”
  
  “ไม่ต้องร้องเลยนะ” ไรเฟิลพูดดัก ผมเบะปากพยักหน้าหงึก ๆ
  
  “ทำไมเป็นงี้อ่ะ..”
  
  “ฟอร์มไปงั้น”
  
  “ไม่เอา.. ไม่ให้โกรธนะ” ผมมองแผ่นหลังของทั้งสี่คนที่เดินนำหน้าอยู่ พวกมันไม่ได้หันมามองเลยสักนิด
  
  “จะบอกพวกมันหรือไง”
  
  “อยากบอก แต่ แต่ไม่อยากพูดเอง บ บอกพวกมันนะ ไรฟ์บอกให้หน่อยนะ” ไรเฟิลถอนหายใจขยี้ผมตัวเอง
  
  “แน่ใจ”
  
  “(พยักหน้าหงึกหงัก) ขอไม่อยู่ตรงนั้นนะ” ผมดึงมือออกจากการกอบกุมของไรเฟิล ดันหลังคนตัวสูงให้เดินไปข้างหน้า ไรเฟิลกลอกตาแต่ก็ยอมเดินไปหาพวกนั้น ตอนนี้เหลือผมที่เดินตามหลังอยู่คนเดียว ทิ้งระยะห่างไว้พอสมควร ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากนึกถึง ไม่อยากเจ็บกับมันอีกแล้ว..
  
  
  
  -----
  ---
  
  
  
  
  “เฮือก!” สะดุ้งเฮือก เดินชนชาวต่างชาติคนหนึ่งเข้าเพราะมัวแต่เหม่อ
  
  “Sorry” ผมบอก ค้อมศีรษะให้เขาเล็กน้อย กะจะเดินออกมาแต่ถูกจับแขนเอาไว้ ผมขมวดคิ้วมองอย่างไม่ชอบใจ
  
  “Are you O.K.?”
  
  “I’m O.K.” บิดแขนออกอย่างสุภาพ แต่เขายังตามมาจับไว้อีก
  
  “I like you, can you go with me?”
  
  “I can’t”
  
  “Only 2 hours”
  
  “Leave me!”    ผมสะบัดแขนแรง ๆ แต่ไอ้เหี้ยยยย มึงจะแรงควายไปไหน! ผมมองหาพวกไรเฟิล เดินไม่ดูกูเลยไอ้พวกนี้ ฮือออ
  
  
  “ไรเฟิล!!!!” ผมตะโกนสุดเสียง ยกเท้าถีบไอ้ฝรั่งหน้าม่อนี่แล้ววิ่งหนี แต่ความซวยมันไม่เคยเตือน เพื่อนไอ้เหี้ยนั่นคว้าคอเสื้อผมไว้ก่อน Fuck you all!!!!!! ผมยกเท้าถีบแม่งไปอีกที ไอ้ห่า! กูไม่ใช่เด็กขาย!!!
  
  
  “มีอะไร!”
  
  “พวกมัน..” ผมชี้ไปที่ไอ้ฝรั่งสองคนนั่น พวกมันทำหน้าเลิ่กลั่ก แม่งคิดว่าผมมาคนเดียวหรือไง ไอ้เหี้ย!
  
  “What wrong?” ย่างสามขุมเข้าไปหา สองคนนั้นบอก Sorry แล้วพากันหนีไป
  
  “เป็นอะไรไหม”
  
  “ไม่อ่ะ”
  
  “มึงนี่นะ ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย” ผมยิ้มแหยะ ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย. . .
  
  “ขอโทษ. .” พวกมันถอนหายใจแล้วพากันรุมขยี้ผมผม เห็นหัวกูเป็นของเล่นกันหรือไง! แต่ผมจะไม่ถือโทษ เพราะถ้าพวกมันทำแบบนี้แสดงว่าพวกมันคืนดีกับผมแล้ว
  
  “ดีกัน” ผมยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าลูกหมาสามตัว พวกมันยิ้มแล้วยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับผม
  
  


  ----
  ---
  


  
  ผจญภัยกันพอแล้วก็มาถึงร้านอาหารสักที เราหกคนแย่งกันสั่งอาหารเสียงดัง แถมยังสั่งรัวจนพนังงานจดไม่ทันอีก
  
  “ควอทซ์”
  
  “หือ?” ผมเงยหน้าจากกล้องถ่ายรูปมองคนเรียก ฟอร์สนั่นเอง
  
  “โอเคไหม?”
  
  “ชิล..” ไหวไหล่ยิ้มบาง ตอนนี้ผมไม่ซีเรียสแล้ว เศร้าไปก็ป่วยจิตเปล่า ๆ ทำให้คนรอบข้างเป็นห่วงอีก มีแต่ผลเสียทั้งนั้น
  
  “ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรแล้ว ขอบคุณนะ” ผมพูดดักพวกมันที่ยังทำหน้าเครียดกันอยู่ ไม่รู้ทำไมพวกมันถึงได้ห่วงผมนัก ทั้งที่รู้จักกันยังไม่ถึงสามปีเลยด้วยซ้ำ ค่อยดูแล ช่วยเหลือแทบทุกอย่าง นั่นมันทำให้ผมรู้สึกขอบคุณมากจริง ๆ
  
  
  
  
  เราหยุดคุยไปเมื่ออาหารมาเสิร์ฟ สั่งมาซะเต็มโต๊ะ กุ้งเผา หมึกย่าง ปูนึ่ง ต้มยำทะเล ข้าวผัดปู ส้มตำทะเล กุ้งทอด ปลาทอด หอยแครงลวก หอยนางรม บลา ๆๆ เยอะมากจนไม่รู้จะกินอะไรก่อนดี
  
  
  
  “แกะให้กูบ้างดิ!” ฟอร์สร้องขึ้นมาตอนผมวางเนื้อปูที่เพิ่งแกะเสร็จใส่จานไรเฟิล ผมแยกเขี้ยวใส่แล้วแกะให้มัน ปากมันยังมีเศษเปลือกปูติดอยู่เลย สุดท้ายผมเลยต้องแกะให้พวกมันทั้งโต๊ะ โธ่! หางานให้ตัวเองชัด ๆ ไอ้ควอทซ์! ในเมื่อผมเป็นคนแกะปู(ด้วยเทคนิคขั้นเทพ) พวกมันจึงต้องแกะกุ้ง แกะปลาให้ผม ส่วนหอย... ผมไม่กินครับ แพ้ T_T
  
  
  
  
  “อยากกินไอติม” พูดทั้งที่มือกำลังแกะเปลือกกุ้งอยู่ พวกเรากินอยู่นี่ร่วมชั่วโมงแล้วครับ อาหารทุกอย่างบางตามาก ใกล้หมดแล้ว
  
  “กินให้หมดก่อน”
  
  “สั่งเลย กายยยยย สั่งงงง” ผมเมินไรเฟิลแล้วอ้อนกายที่นั่งอยู่ตรงข้าม กายส่ายหน้าก่อนจะเรียกพนักงานมารับออเดอร์ ไอศกรีมกะทิมะพร้าวอ่อน ใส่ถ้วยกะลามะพร้าว โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่ว ขนุน มันเชื่อม ลูกชิดแล้วก็เฉาก๊วย ฮี่~ แล้วไอ้คนที่ห้ามผมนะ พอเขาเอามาเสิร์ฟก็มาแย่งผมกิน ไอศกรีมถ้วยเดียวกินกันตั้งหกคน สั่งเพิ่มอีกก็ไม่สั่ง ดีนะที่มันได้เยอะ อร่อยดีครับ ตอนที่แย่งกันกินนะ โคตรอร่อยเลย /เก็บเข้าในลิสต์ความทรงจำดี ๆ ... ^^
  
  
  
  
  
  
  ---------------------------
  
  
  
  
  
  วันที่สองบนเกาะภูเก็ต. . .
  
  
  “พวกมึง ๆๆ” ผมวิ่งเข้ามาหาสี่สหายที่นั่งกันอยู่ที่หาด น้องตัวเล็กนั่งสั่นหงก ๆ มีผ้าห่มห่อตัวอยู่ในอ้อมกอดหมาไนต์(โรงเรียนน้องหยุดให้อ่านหนังสือเตรียมสอบเลยไม่มีปัญหาที่จะมาเที่ยวแบบนี้(ออกัสอยู่ม.6)) คงจะเพิ่งขึ้นจากน้ำ
  
  
  “มีไรวะ”
  
  “คืนนี้ปาร์ตี้บาร์บีคิวกันเถอะ!” ผมบอกอย่างตื่นเต้น เมื่อกี้ผมไปสำรวจรอบบ้านมา ไปเจอเตาบาร์บีคิวเข้าเลยเกิดความอยาก ชีวิตไอ้ควอทซ์เศร้าได้ไม่นานหรอกครับ ผมมันก็บ้าแบบนี้แหละ
  
  
  “เอาดิ” สี่ขั้วอำนาจบอกเป็นเสียงเดียวกัน ผมยิ้มแฉ่ง คว้าเบียร์กระป๋องในถังน้ำแข็งมาเปิดดื่ม ฮ้าาาาา สดชื่นที่สุด!
  
  “มึง..” ผมเรียกพวกมันอีก สี่สหายทำหน้ารำคาญแต่ก็ยอมฟัง “ไป Flying Hanuman กัน..”
  
  “แค่ก ๆ” กายสำลักเบียร์ ผมยิ้มกริ่ม พุ่งตัวไปกอดแขนออเซาะมันทันที จุ๊ ๆ อย่าไปบอกใครนะครับ กายกลัวความสูง
  
  “น้าาาา กายน้าาาา ไปกันน้าาาาา”
  
  “อย่าทำแบบนี้ดิไอ้เหี้ยน้องควอทซ์” กายทำหน้าแหยง ดันหัวผมออก เมื่อคืนผมเพิ่งไปหาข้อมูลมา อยากไปมากครับ มันจะเป็นอะไรที่แอดเวนเจอร์ โหนสลิงอะไรงี้ อยากไปอ่ะครับ
  
  “ไปนะ นะนะนะ ไปกันน้าาา”
  
  “เอาดิ หึหึ” หมาไนต์กับฟอร์สตอบตกลง ผมยิ้มกว้างทันที มองหน้าไรเฟิล ฝรั่งเลิกคิ้ว ยกขวดเบียร์ขึ้นจิบ กล้าไม่สนใจผมเหรอ! ผมปล่อยแขนกายแล้วไปออเซาะไรเฟิล ไม่ต้องอายมันล่ะ มีแต่เพื่อนกันทั้งนั้น!
  
  “ไปนะ นะ”
  
  “ขี้เกียจ”
  
  “โหยยยยยยยยยยยย ไรอ่าาา ไปดิ ไปด้วยกัน” ผมใช้เวลาออเซาะสองหน่ออยู่นานมากกกกกก! แม่งเล่นตัวจริง ๆ เลยให้ตายเถอะ! ไรเฟิลมันแกล้งผมอ่ะ จริง ๆ ก็ยอมตั้งแต่บอกเลยว่าอยากไป น่าถีบจริง ๆ ส่วนกาย. . . รายนั้นมันไม่อยากไป ความสูง it’s not him style แต่ถ้าให้ผมได้อ้อนยังไงก็ต้องแพ้ล่ะนะ ฮาฮ่าาาาาา เมื่อตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันไปเตรียมตัวครับ วู้วววววววว
  
  
  
  Let’s go to Flying Hanuman!!!
  
  
  
  
  
  -------
  ----
  
  
  
  แล้วพวกเราก็มาถึงฟลายอิ้งหนุมานแล้วครับ มีผมอะเลิร์ทที่สุดแล้ว ไปคุยกับเจ้าหน้าที่จากนั้นก็ไปใส่อุปกรณ์เซฟตี้กัน กายหน้าซีดมากตอนขึ้นมาบนฐานแรก ดู ๆ ไปก็น่าสงสารนะครับ แต่ก็อยากจะแกล้งมันด้วย ทำไมผมถึงนิสัยแย่แบบนี้เนี่ย . . .
  
  “ไหวไหมมึง” ฟอร์สถาม ตบไหล่กายปุ ๆ แต่กลั้นหัวเราะ
  
  “ไม่” กิตติพิชญ์สั่นหัว ไม่มีฟอร์มอะไรทั้งนั้น
  
  “ไม่เล่นก็ได้นะ” ผมบอก กายมองหน้าผมเหมือนอยากจะถีบผมให้ตกลงไปข้างล่างมาก โอ๊ยยย ตลกอ่ะ! ฮ่า ๆๆ
  
  “พี่กายต้องทำได้ดิ อย่าไปกลัวววววว” น้องตัวเล็กเชียร์
  
  “ไปให้ดูคนแรกดิ้ ไป!” กายดันตัวน้องตัวเล็ก น้องสั่นหัวจับเสื้อไอ้ไนต์แน่น
  
  “ไม่เอา ผมป๊อด”
  
  “เดี๋ยวกูไปคนแรกเอง” ผมบอกก่อนจะเดินไปให้เจ้าหน้าที่เขาล็อคตัวล็อคกับเส้นสลิง แมนสัดอ่ะ!
  
  
  
  “วู้ววววววว~” เสียงไอ้ไนต์ดังแว่วมา ตอนนี้ผมผ่านฐานแรกมาแล้ว กำลังยืนรอพวกมันอยู่กับไรเฟิล กาย ฟอร์ส น้องตัวเล็กของผม ยังไม่มาเลยเนี่ย
  
  “อ้ากกกกกกก! กรี๊ดดดด!” น้องตัวเล็กมาแล้ววววววว กรี๊ดเสียงแหลมเป็นผู้หญิงเลย ผมยกกล้องถ่ายภาพน้องเอาไว้ ได้ทั้งช็อตฮา ทั้งช็อตดูดี ฮ่า ๆๆ
  
  “ฮือออ ลุง” ไอ้ไนต์ยืนหัวเราะน้องแต่ก็ไปช่วยจับ ตอนนี้ก็เหลือกายกับฟอร์ส ผมไม่รู้ว่ากายจะมาหรือเปล่า ฐานแรกระยะห่างมันไม่ได้ไกลมากนะ ต้องมานะกาย. . .
  
  
  “ไอ้เหี้ยยยยยย!!!!!” เย็บแม่ม!!! กายยยย เสียงกาย!!! พวกผมมองอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะยิ้มออกมา ผมรัวชัตเตอร์ไม่ยั้งมือจนอีกฝ่ายมากถึง กายหอบแฮ่ก หน้าซีดเผือด แล้วฟอร์สก็มาเป็นคนสุดท้าย
  
  “เป็นไงบ้าง?” ผมถาม
  
  “เหมือนจะตาย” มันตลกนะ แต่ขำไม่ออก หน้ากายซีดมากเลย..
  
  “ไหวไหมอ่ะ เลิกเล่นก็ได้”
  
  “กูว่าไม่ทันแล้วมั้งน้องควอทซ์” ผมหัวเราะแหะ ๆ ทำไงดี งื่อ.. มองไรเฟิล ตัวสูงสั่นหัวเชิงไม่เป็นไร โอเค ก็ได้วะ! เล่นกันต่อเลย
  
  พวกเราเล่นกันไปแต่ละฐาน กายเองก็ใจแข็งมากครับ มันกลัวแต่ก็ยอมเล่นด้วยอ่ะ โคตรแมนเลย! และตอนนี้ก็มาถึงฐาน...ที่เท่าไหร่ไม่รู้ แหะ ฐานนี้ระยะทางมันยาวมากกกกกกกกกกกกกกก ผ่านฐานนี้มากายหน้าซีดกว่าเดิมเสียอีก เง้อ..
  
  
  
  
  “มึงไหวไหมเนี่ย” ไนต์เอาเท้าเตะกายเบา ๆ กิตติพิชญ์สั่นหัว
  
  “เหลืออีกเยอะไหมวะ” เสียงแหบแห้งราวกับคนไม่มีแรง T_T
  
  “ถ้าจะหยุด มึงก็ต้องโดดลงไปอ่ะ” ฟอร์สพูด กายสะบัดนิ้วกลางให้
  
  “ไปเหอะ รีบเล่นให้จบสักที ถึงพื้นเมื่อไหร่มึงตายแน่น้องควอทซ์!” กายชี้หน้าคาดโทษ
  
  
  
  ----
  --
  
  
  
  “ไอ้สัด!!!! ใครโยก!!! ไอ้เหี้ย!!! #@#%&/7483”#@” กายสบถยาวเหยียด ตอนที่เรากำลังเดินข้ามสะพานแขวน มองไปด้านหลัง ไอ้ไนต์กับฟอร์สยังไม่ข้ามมาเลยแล้วมันสองคนนั่นแหละที่เป็นโยกสะพาน แม่งยังมีหน้ามาหัวเราะสะใจอีก!
  
  “ลุงงงง!! ไอ้เหี้ยลุง!!!”
  
  
  “ฮ่า ๆๆๆๆๆๆ” เวรมากไอ้พวกเหี้ย!! กว่าจะผ่านสะพานมาได้แทบจะตีกันตาย ตอนนี้ก็มาถึงฐานสุดท้ายแล้วครับ แต่มัน...เอ่อ.... ต้องโรยตัวลงไป จากต้นไม้สูง 40 เมตร!!!!!!
  
  “ตาย ตาย ตายแน่กู!!” ไม่ใช่แค่มึงกาย.. กูก็จะตายด้วย เหมือนบาปกรรมตามทัน T_____T
  
  “ลงไปก่อนดิไอ้เห็ด” ผมสะบัดหัวแรง ๆ ฐานนี้กูขอผ่านครับ ไม่ไหวจริง ๆ สูง 40 เมตรเลยนะเฮ้ย!!
  
  “ไม่เอา! มึงแหละลง”
  
  “ตีนหนิ ไอ้ปืนมึงลงก่อน” โยนให้ไรเฟิลซะงั้น
  
  “อ่อนหัด” คุณชายว่านิ่ง ๆ แต่เจ็บไปถึงทรวงใน ร่างสูงเดินไปประจำที่แล้วโรยตัวลงไป ไม่มีเสียงร้องสักแอะ มึงจะเทพไปไหน..
  
  “ไปมึง” ไอ้เหี้ยไนต์ผลักผมไปข้างหน้า ไอ้เชี่ย!! ถ้าพลาดนี่ตกนะเว้ย!!!
  
  
  
  “อ้าก!!!!” ผมร้องเสียงหลง แม่งงงงงง หัวใจเต้นตุบ ๆ มาถึงพื้นนี่เล่นเอาขาอ่อนเลย ฮืออออ
  
  แล้วจากนั้นก็คือฟอร์สครับ ฟอร์สก็ร้องเหมือนกัน (ฮ่าๆๆ) แล้วก็น้องตัวเล็กของผม ออกัสเสียงแหลมมากเลยฮะ ถึงพื้นก็ล้มพับไปเลย แล้วไอ้ไนต์ก็ลงมา มันสนุกสนานมาก และคนสุดท้าย กาย. . .
  
  
  “มึงรีบลงมาดิ๊ กูหิว!” ฟอร์ส
  
  “ไอ้สัด!!! 40 เมตร ไม่ 40 เซนฯ ไอ้ควาย!” กายตะโกนด่าจากข้างบน
  
  “ฮ่า ๆๆๆๆ”
  
  
  
  กายยืนทำใจอยู่สักพักแล้วทิ้งตัวลงมา
  
  
  “ไอ้... อ้ากกกกก แมมมมมมม่!!!!!” ฟอร์สกับไนต์หัวเราะจนตัวงอ ไรเฟิลหัวเราะนิ่ง ๆ ตามสไตล์ น้องตัวเล็กนั่งพิงโคนต้นไม้พัดให้ตัวเองหน้าสวยยังซีดอยู่นิดหน่อย
  
  
  “ไอ้ห่า!!!” กายนอนแผ่บนเบาะรอง หอบหายใจแฮ่ก ๆ สภาพดูไม่จืดเลย อย่างนี้ต้องเก็บภาพไว้แบล็คเมล์ หลังจากเล่นพวกนี้ไปมันคงหายกลัวความสูงได้บ้าง หรือไม่ก็คงกลัวหนักกว่าเดิม ... ทุกคนเหมือนได้ปลดปล่อย ผมเองก็ด้วย ตอนที่กรีดร้องตะโกนออกมามันเหมือนได้ปล่อยเรื่องที่ไม่สบายใจในใจผมออกไปด้วย . . .
  
  
  
  
  
  ----------------------
  
  
  
  
  
  เรามาหาของกินง่าย ๆ กันที่ตลาด ถึงจะกินง่าย ๆ แต่ก็หมดไปเยอะเหมือนกันครับ แต่ละคนกินอย่างกับเพิ่งออกจากคุก พอกินอิ่ม เติมพลังให้ตัวเองแล้วก็หาซื้อของสดเพื่อทำปาร์ตี้กันคืนนี้ครับ ทั้งหมดทั้งมวนทั้งหกคนนี้มีทำอาหารเป็นกันอยู่สองคน คือผมกับไนต์ นอกนั้นแผนกแดก -__- จึงให้พวกมันเป็นคนถือของ ระหว่างเดินเลือกซื้อของก็แวะร้านของกินกับแทบทุกร้าน กินกันจนพุงกาง
  
  
  
  
  
  -----
  ---
  
  
  
  “แม่ แม่จ๋า อย่าเอาเงินหนูไป” ผมหยุดเท้า หันมองไปตามเสียงที่ได้ยิน เด็กหญิงอายุประมาณ 12-13 ปี กำลังพยายามยื้อหยุดฉุดกระชากกระเป๋าใบเก่าจากผู้หญิงวัยน่าจะ 30 ต้น ๆ
  
  “เงินมึงก็เงินกูนั่นแหละ! ปล่อยนะอีแก้ว” คนเป็นแม่ผลักเด็กหญิงจนล้ม
  
  “ฮึก แม่จ๋า อย่าเอาไปเลยนะจ้ะ”
  
  “มึงกล้าดียังไงมาห้ามกู ห้ะ!”
  
  “เราไม่มีเงินแล้วนะแม่ ฮึก”
  
  “ไม่มีเงินก็ไปหาสิวะ ปล่อยกู” เธอพยายามสะบัดขาที่เด็กหญิงกอดอยู่กอด มือก็ตีไปตามร่างกายของเด็กน้อย
  
  “มึงมันมารชีวิต มึงไม่เกิดมาเลยอีแก้ว! กูน่าจะฆ่ามึงทิ้งตั้งแต่อยู่ในท้อง ไม่น่าเชื่อยายมึงแล้วเก็บมึงไว้เลย เพราะมึงกูถึงซวยแบบนี้ ปล่อยกู!!”
  
  “ฮึก ฮือ แม่จ๋า ฮือออ”
  
  
  
  อึก. . .
  
  
  
  “บันนี่ ยืน... ร้องไห้ทำไมวะ!”
  
  “ห ห้ะ?” ผมยกมือแตะแก้ว สัมผัสชื่อ ๆ บนใบหน้าบอกให้ผมรู้ว่าผมกำลังร้องไห้อยู่จริง ๆ ผมเช็ดมันออกลวก ๆ ส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่มีอะไร ตายังมองสองแม่ลูกคู่นั้นอยู่
  
  
  
  
  “ทำไมถึงใจร้ายงี้อ่ะ!” น้องตัวเล็กพูดเสียงดัง แถมชี้ไปอีก ไอ้ไนต์เอามือปิดปากน้องแทบไม่ทัน
  
  “มันก็อย่างนี้แทบทุกวันแหละหนู” คุณป้าร้านขายผักพูด
  
  “ทำไมเขาต้องตีลูกตัวเองด้วยล่ะครับ” น้องตัวเล็ก
  
  “มันเกลียดลูกมันไงนังหนู แม่ของเด็กนั่นน่ะ มีมันตอนอายุยังน้อย ไม่รู้ว่าไปท้องกับใครมา ทีแรกมันก็จะไปเอาเด็กออกนั่นแหละ แต่แม่มันห้ามไว้ก่อน แก้วมันถึงได้เกิดมา พอแก้วมันได้ห้าขวบ ยายมันก็ด่วนจากไปเสียก่อน แม่มันก็เอาแต่ทุบตี ไม่ดูแลมันเลย งานการก็ไม่ทำ เอาแต่กินเหล้า เฮ้อ.. คนแถวนี้เขาเห็นกันจนชินแล้ว ค่อยช่วยเหลือก็แค่ให้ข้าวให้น้ำ ไม่ให้อดอยากเท่านั้นแหละ”
  
  
  “น่าสงสารจัง. . .”
  
  
  ผมแหงนหน้าขึ้นสูง กระพริบตาไล่หยาดน้ำไม่ให้เอ่อออกมา . . . เรื่องของน้องคล้าย ๆ กับผมเลยแฮะ . . แม่ไม่ต้องการ . . เหอะ ผมโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่ดี ถึงจะไม่มีแม่เหมือนคนอื่น ๆ แต่ผมยังมีป๊ากับคุณย่าที่คอยดูแล บางที..การไม่มีแม่ก็ไม่ได้แย่เสมอไป . . . ขอบคุณที่ให้ผมได้เกิดมาเจอกับคนที่รักผมมากขนาดนี้. . .





--------------------
เราจะไม่ดราม่า... แต่จะดราม่าเพราะหมั่นไส้ควอทซ์นี่แหละ (555555555555555)
น่าหมั่นไส้จริง ๆ มาบอกรักกันอี๊กกกก
 :katai1: :katai1:
แล้วก็.. ขอบคุณทุกคนมาก ๆ นะคะ รักนะจุ้บ ๆ
ไว้เจอกันตอนหน้าเน้อออออ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 25-04-2015 20:55:36
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 25-04-2015 21:21:12
เอ้า!!!! สู้เข้าน๊า~~~~
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 25-04-2015 21:44:40
 :angry2: :m16: :m31: :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 25-04-2015 21:51:49
รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 25-04-2015 22:00:05
อย่าเสียใจเลยบันนี่. เดี๋ยวคนที่รักบันนี่จะเสียใจไปด้วยน้าาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-04-2015 22:02:24
มาให้กำลังใจก่อนจ้า

กด+
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 25-04-2015 22:10:43
ปลอบบันนี่ๆๆๆๆ มาซบอกเราก่อนได้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 25-04-2015 23:30:59
หายเศร้าได้แล้ว สังคมเป็นแบบนี้แหละ สังคมแย่ๆหล่อหลอมคนให้แกร่งนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-04-2015 00:01:37
เอาใจช่วยบันนี่ให้หายเศร้าไวๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 26-04-2015 00:16:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 26-04-2015 03:12:20
สู้ๆนะบันนี่ อย่าไปสนใจคนที่ไม่ได้รักเราให้มากจนเสียน้ำตา ทำให้คนรอบข้างเป็นห่วงเลยน้า

บันนี่เหมาะกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่สุดแล้ว อ้าววยิ้มมม  :hao6: (ผิดหน้าละ)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jjay ที่ 26-04-2015 07:32:07
น้องบันนี่ไม่ร้องน้าาาา มีอีกหลายคนที่รักและต้องการบันนี่ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 26-04-2015 08:37:42
สงสารบันนี่ แม่พรรค์นั้นไม่ต้องไปสนใจให้มากหรอก บันนี่ยังมีคนอื่นๆที่รักและห่วงบันนี่อีกเยอะเลยนะ

ฟลายอิ้งหนุมานนี่น่าสนุกจัง * 0 *
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 26-04-2015 10:27:05
สงสารน้องจัง ;-;
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 26-04-2015 11:06:12
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 26-04-2015 12:01:21
เอิ่ม....

มี่แต่ ปัญหาเข้า น้องๆ :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 27-04-2015 18:49:40
สงสารควทล์ทจังเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 48 (25.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-04-2015 01:16:36
ดีแล้วที่คิดได้อย่างนั้น
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 29-04-2015 16:36:43
EPISODE 49






  ผมกับไนต์เตรียมของกันอยู่ที่หน้าบ้าน มีน้องตัวเล็กคอยช่วย....ให้วุ่นวายกว่าเดิม ฟอร์สกับไรเฟิลจัดการสถานที่และเครื่องดื่ม ส่วนกายนอนหลับอยู่ในบ้าน ให้มันพักไปดีแล้วครับ เหนื่อย(ทรมาน)มาทั้งวันแล้ว
  
  
  
  “อย่ามาเกะกะได้ปะ!” ไนต์โยนมืดลงจนเกิดเสียงดัง น้องตัวเล็กสะดุ้งโหยง ผมเองยังสะดุ้งเลย
  
  “ลุงรำคาญเหรอ?”
  
  “เออ”
  
  “รำคาญมากเลยเหรอ?”
  
  “จะรำคาญมากถ้ามึงยังถามไม่หยุดแบบนี้”
  
  “โอเค. .” น้องตัวเล็กถอดถุงมือพลาสติกออกแล้วเดินเข้าบ้านไป หน้าโคตรหงอย ไนต์มองตามแล้วส่ายหน้า
  
  “ไม่ตามไปหน่อยเหรอ”
  
  “ฮึ” สั่นหัวแต่ตายังจ้องประตู
  
  “หน้าน้องเจื่อนมากเลยนะมึง”
  
  “แล้ว?”
  
  “น้องน้อยใจมึงแน่อ่ะ แอบไปร้องไห้แล้วมั้ง...”
  
  “โว้ยยย! นี่ก็เสี้ยมจังเลยไอ้เหี้ย!” ไนต์โยนมีดทิ้งอีกรอบ เดินหัวเสียเข้าไปในบ้าน ผมหัวเราะลั่นกับท่าทางของมัน ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย! ฟอร์มเยอะฉิบหาย มันไล่น้องไปคงเพราะไม่อยากให้เหนื่อยต่างหาก ไม่ใช่เพราะรำคาญหรอก ผมรู้ ผมเรียนมา
  
  
  
  
  
  -----
  ---
  
  
  
  ตกตอนเย็นก็ได้เวลาเริ่มปาร์ตี้กันแล้ว วู้ววว สายลมเย็น ๆ นี่มันดีจริง ๆ นะครับ น้องตัวเล็กกับไอ้ไนต์ไม่รู้ไม่ง้อกันยังไง พอออกมาน้องตัวเล็กของผมถึงได้ปากบวมเจ่อ ส่วนไนต์ก็ยิ้มหน้าระรื่น
  
  
  “ทำไมของเค้าได้โคล่าล่ะ!” ตีกันอีกแล้วครับคู่นี้ คนอื่นดื่มเหล้าส่วนเด็กน้อยหนึ่งเดียวต้องดืื่มน้ำอัดลม
  
  “เพิ่ง 18 กระแดะจะดื่มเหล้า”
  
  “แล้วลุงดืมตอน 20 เลยเหรอออออ”
  
  “ลามปามแล้วมึง จะแดกโคล่หรือแดกนม น้ำผลไม้ไหม หืม?” กวนตีนได้อีก
  
  “เชอะ!” น้องจำใจรับแก้วโคล่าจากกายมา แต่ผมเห็นนะครับว่ากายแอบเทเหล้าผสมให้ด้วย สารเลวจริง ๆ
  

  “ควอทซ์ ๆ แกะปูให้หน่อยดิ” ฟอร์สร้องสั่ง
  
  “มึงควรหาเมียนะฟอร์ส” ไอ้นี่หนิ เมียก็ไม่ใช่ ใช้กูจัง! ผมตัดปัญหาด้วยการสอนให้มันแกะเอง ไม่ไหวครับ เจ็บมืออ่ะ
  
  “มาเป็นเมียกูสิ”
  
  
  
  โครม!
  
  
  
  รวดเร็วทันใจ ฟอร์สยังพูดไม่จบประโยคดีก็ถูกไรเฟิลยันโครมจนลงไปนอนกับพื้น
  
  “ไอ้เหี้ย!”
  
  “พี่ฟอร์สหิวหญ้าเหรอครับ ฮ่า ๆๆ”
  
  “ปากดีนะไอ้เตี้ย ไอ้ไนต์จัดการเมียมึงดิ๊!”
  
  “ถึงผมจะเตี้ยแต่ผมก็ฮอตนะครับ” น้องยักคิ้วจึก ๆ กวนตีนฉิบหาย ถึงว่าอยู่กับไอ้ไนต์ได้
  
  
  
  ----
  --
  
  
  
  “เอาอะไรอ่ะ?” ผมถามไรเฟิลที่เพิ่งเดินเข้ามา กำลังดูกุ้งบนเตา
  
  “เปล่า”
  
  “เอ้า!” ไรเฟิลกดยิ้มแล้วยื่นมือมายีผมผมก่อนจะเดินจากไป เพื่อ...?
  
  
  
  พวกเรานั่งคุยกันไป แหย่น้องตังเล็กให้หน้างอบ้าง กวนตีนกันบ้าง สนุกดีครับ ถ้าผมไม่มีพวกนี้เป็นเพื่อน ชีวิตผมจะเป็นยังไงนะ.. นอกจากฝาแฝดวิคตี้ก็มีแค่สี่สหายที่เป็นเพื่อนของผม อ้อ! บะหมี่ด้วย . . . ความสุขของผมส่วนใหญ่ก็มาจากเพื่อนเลยนะ . . โคตรรักพวกมันอ่ะ
  
  
  
  ----
  ---
  
  
  
  
  “ไอ้ห่า! มึงผสมเหล้าให้มันเหรอ ไอ้พวกเหี้ย!” ไนต์โวยวายเมื่อน้องตัวเล็กเริ่มมีอาการคอพับคออ่อน กายยิ้มตาใสหัวเราะหึหึ
  
  “เด็กมันโตแล้ว ปล่อย ๆ ไป”
  
  “ปล่อยเชี่ยไร”
  
  “ทำไมลุงต้องบ่นด้วยง่าาา”
  
  “นั่งดี ๆ เมาแล้วมึงเนี่ย” รวบตัวน้องให้ไปนั่งอยู่กลางระหว่างขา ออกัสเอียงศีรษะซบไหล่เพื่อนผม เทียบอย่างนี้แล้วน้องยิ่งตัวเล็กไปใหญ่ ออกัสเป็นคนตัวเล็ก ๆ (ตัวเล็กเป็นประโยคสุภาพของคำเตี้ย..) ตัวบางด้วย สูงประมาณ 167 เซนติเมตร ส่วนไนต์เหรอ ตัวหนา หุ่นนักกีฬา(แล้วมันก็เป็นนักกีฬาด้วย) สูง 188 เซนติเมตร นี่มันคู่รักเสาไฟฟ้ากับหลักกิโลเมตร. . .
  
  
  
  “พอได้แล้ว”
  
  “อะไรล่ะ” ผมดึงแก้วคืนจากไรเฟิล คุณชายตีหน้านิ่ง แต่ผมสนไหม ต้องทำตามหรือเปล่า จำเป็นด้วยเหรอ มันเป็นใครอ่ะ มีสิทธิอะไรมาสั่งโผมมมมม
  
  
  
  
  แกรก.. (เสียงแก้วกระทบโต๊ะ)
  
  
  
  แป่ว....
  
  
  
  ก็แหม ถ้าไม่วางผมคงศพไม่สวยอ่ะ ทำหน้าเหมือนจะจกตับผมขนาดนั้น ผมยังไม่เมาเลยนะ ห้ามผมทำไมไม่รู้ ห้ามเขาแล้วกินเองเนี่ยนะ ยุติธรรมจังเลยยยยย ฮ ฮ้าวววว อ้าว อ้าปากหาวซะงั้น หยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา อื้อหือออออออ ตีหนึ่งแล้ว!!! ทำไมมันเร็วจังวะ!!
  
  
  “ง่วงเหรอ?”
  
  “ไม่ง่วงอะ ฮ ฮ้าวว”
  
  “อืม ไม่ง่วงเลยยยย” ไรเฟิลลากเสียงล้อเลียน มือหน้าเสยผมด้านหน้าผมขึ้นก่อนที่ใบหน้าหล่อจะเคลื่อนเข้ามาใกล้และแตะริมฝีปากกับหน้าผากผมดังจุ๊บ!
  
  
  
  “ฮิ้วววว”
  
  “ไปหวานกันไกล ๆ ไอ้เชี่ยยยยย” ผมมุดหน้ากับหลังไรเฟิล รู้สึกหน้าร้อน ๆ อ้ากกกก หน้าผมต้องแดงมากแน่ ๆ เลย ฮือออ ผมไม่ได้หน้าด้านเหมือนไรเฟิลนะ เขินเป็นนะเว้ย!
  
  
  “ไปนอนไหม?”
  
  “ไม่เอา”
  
  “เดินเล่นไหม?”
  
  ผมนิ่งคิดสักพักก่อนจะพยักหน้า “ไป”
  
  
  
  คนตัวสูงลุกขึ้น และผมก็ลุกตาม บอกพวกมันว่าจะไปเดินเล่นแล้วก็เดินออกมา ผมกับไรเฟิลถอดรองเท้าไว้ที่ชานบันได เหยียบย่ำผืนทรายด้วยเท่าเปล่าเปลือย . . . เวลาตีหนึ่งแบบนี้มันค่อนข้างหนาวเลยนะ.. ยิ่งบวกกับสายลมที่พัดมาเป็นระยะกับอากาศตอนกลางดึกของเดือนธันวาคมแล้วนี่มัน. . . ยึ้ยยยยยย
  
  
  
  
  
  ---------------------
  
  
  
  
  “บันนี่”
  
  “หือ ว่า?” หยุดเท้าแล้วหันไปมองหน้าคนเรียก ไรเฟิลมองหน้าผมแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา ..อะไรของเขา
  
  “มีอะไรอะ?” ผมถามซ้ำ ไรเฟิลส่ายหน้า คนตัวสูงยื่นมือมาตรงหน้าผม ผมเลิกคิ้วก่อนจะยิ้มแล้วส่งมือไปประสานกับมือใหญ่ และเราก็เดินไปเรื่อย ๆ ตามแนวชายหาด. . .
  
  
  “ถ้าเรียนจบ.. จะทำงานเลยหรือเปล่า?” ผมถามทำลายความเงียบ ผมกับไรเฟิลเรานั่งลงกันบนพื้นทราย ทะเลตอนกลางคืนก็สวยไปอีกแบบนะครับ.. สวยแต่ซ่อนความอันตรายเอาไว้
  
  “ไม่รู้สิ ..แล้ว?”
  
  “ว่าจะเรียนต่อ”
  
  “หึหึ เรียนอะไร?”
  
  “บริหาร..มั้ง” อืม.. ไม่มั้งหรอก ผมจะเรียนต่อจริง ๆ ถึงยังไงผมก็ต้องรับช่วงต่อจากป๊าอยู่ดี เลยมีแพลนว่าจะเรียนต่อป.โทบริหารที่ไหนสักที่ อาจจะหลังเรียนจบป.ตรีสักปีหรือไม่ก็เรียนจบก็ไปเรียนต่อเลย แต่ผมยังไม่คิดหรอกว่าจะไปเรียนที่ไหน
  
  “อื้อฮึ”
  
  “ไปด้วยกันไหม?” ผมถาม ไม่ได้มองหน้าคนข้าง ๆ สายตาทอดมองผืนทะเลข้างหน้า ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง
  
  “คิดดูก่อน..”
  
  “โธ่.. แล้วถ้าเรียนจบแล้วจะทำอะไรอะ?”
  
  “อืม. . . แต่งงานกับมึง” ผมนิ่งค้าง กลืนน้ำลายลงคอเอือก มองคนพูดอย่างไม่อยากเชื่อ ม เมื่อกี้.. ผมหูฟาดไปหรือเปล่า หรือเมาจนเพี้ย แต่.. ผมไม่ได้เมานี่หว่า..
  
  “ว ว่าไงนะ..” คนตัวสูงหันมองนิดหน่อย ยกยิ้มมุกบาง ๆ มือหนารั้งเอวผมเข้าไปจนชิด ก้มหน้าลงมาให้ริมฝีปากชิดกับใบหูของผม
  
  “ลืมแล้ว” ผมเบ้ปาก โอเค.. ลืมแล้วก็ลืมไป ถ้าพูดอีกผมขอหูหนวกกระทันหันก็อย่ามาแล้วกัน หึ! แต่ก็นะ.. อาจจะไม่มีวันนั้นก็ บางทีเรา .. อาจจะ .. เลิก .. กัน .. ก็ได้ ทำไมผมต้องคิดอะไรแบบนี้ด้วยวะ! แค่คิดน้ำตาก็ไหลออกมาแล้ว ผมโอบแขนกอดรอบลำคอของไรเฟิลแล้วเกยคางบนบ่ากว้าง
  
  “เป็นอะไร?” ไรเฟิลถามพลางลูบผมผมไปด้วย
  
  “เรา..จะ..ละ...”
  
  “อย่าพูด!” พูดแทรกขึ้นมาเหมือนรู้ทัน ผมกระชับแรงกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้น รู้สึกวูบในอกแปลก ๆ
  
  “ไรเฟิล..”
  
  “อย่าแม้แต่จะคิด”
  
  “อื้อ..” ยกหลังมือปาดน้ำตาออกลวก ๆ ก่อนจะคลายกอดแล้วถดตัวนั่งปกติ แขนไรเฟิลยังโอบเอวผมไว้อยู่
  
  “ขี้แงนะเดี๋ยวนี้”
  
  “ฮื่อ!” ส่งเสียงฮือในคอ สะบัดหน้าหนีมือที่บีบจมูกผมอยู่ จะฆ่ากูหรือไง! หายใจไม่ออกโว้ย!
  
  “กลับเถอะ หนาว”
  
  “อืม”
  
  
  
  
  กลับถึงบ้านพักก็เจอลูกหมาสามตัวนั่งดื่มกันอยู่ในบ้านคงเพราะข้างนอกมันหนาว น้องตัวเล็กไนต์คงให้ไปนอนแล้ว เราดื่มกันต่อจนเกือบตีสามก่อนจะแยกย้ายกันไปพัก พรุ่งนี้คงได้ตื่นกันสาย ๆ ไม่ก็คงบ่าย . . . ฮ้าววววว ขี้เกียจอาบน้ำอ่ะ ไม่อาบได้ไหม ผมไม่ได้ซกมกนะ ผมแค่ง่วงอ่ะ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้วด้วย อาบให้เปลืองน้ำทำไมล่ะครับ ฮือ แต่ไรเฟิลแม่งไม่เข้าใจผมมมมมม! มันบังคับให้ผมอาบน้ำอ่ะ พอผมขัดขืนไม่ยอมก็แบกผมเข้าออกห้องน้ำ แถมยังโยนผมลงพื้นอีก ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยย ไอ้ยักษ์บ้าอำนาจ!!!!!!
  
  
  
  
  
  
  ------------------------
  
  
  
  
  
  
  หลังจากที่ไปผักผ่อนจิตใจบวกกับถือโอกาสเที่ยวกับเพื่อนที่ภูเก็ตแล้วก็ต้องกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครอันแสนวุ่นวาย... เฮ้ออออ ขอวาร์ปกลับไปอีกได้ไหมครับ จริง ๆ ตอนนี้ก็ยังไม่เปิดเทอมนะ ผมอยากไปเที่ยวที่อื่นนอกจากทะเลบ้าง แต่น้องตัวเล็กต้องไปโรงเรียน ขาดเรียนมาหลายวันจะเป็นปัญหาเอา ไว้คราวหน้าค่อยไปใหม่ก็ได้~
  
  
  
  “สวัสดีค่ะ”
  
  “สวัสดีครับ” ผมตอบรับคำทักของพนักงานก่อนจะเดินไปกดลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นผู้บริหาร พนักงานบางคนก็รู้จักผมครับ อย่างเช่นคนที่ทักผมเมื่อกี้ แต่คนส่วนมากก็ไม่รู้หรอกว่าผมเป็นใคร . . . หลังจากเครื่องแลนดดิ้งผมก็ให้ไรเฟิลมาส่งที่บริษัทป๊า กะจะว่ามาสักหน่อย ส่วนไรเฟิลก็กลับคอนโดไปแล้วครับ ผมไล่มันกลับเองแหละ
  
  
  
  
  เสียงสัญญาณดังขึ้นพร้อมกับประตูลิฟต์ที่เปิดออก บรรยากาศเงียบ ๆ แบบนี้มันชวนกดดันพิลึก ผมก้าวเท้าไปตามทางเดินที่ทอดยาวก่อนจะหยุดที่หน้าห้องทำงานของป๊า คุณเลขาไม่อยู่แฮะ . . ผมพรูลมหายใจ ไม่รู้ทำไมจู่ ๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา เอ่อ.. ผมมาแบบไม่ได้บอกป๊าก่อนน่ะครับ มาเซอร์ไพรส์ทำนองนั้น แต่ถ้าป๊าติดประชุมหรือออกไปเจอลูกค้าผมก็แห้ว แค่นั้นแหละ. . . ผมเปิดประตูเข้าไปเบา ๆ โดยไม่เคาะอย่างไร้มารยาท แล้วค่อย ๆ ย่องเข้าไป
  
  
  
  “Oh shit...” ผมสบถเบา ๆ ตากลมเบิกกว้าง ปากอิ่มอ้าค้าง แก้วกาแฟในมือหล่นตุบ! ยืนนิ่งตัวแข็งทื่อราวกับโดนสาป ภาพตรงหน้าทำให้ผมโคตรช็อค!!! . . . ป๊าของผมนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ บนตักมีผู้ชายร่างเล็กกว่าที่ผมรู้จักดีนั่งอยู่ แขนเล็กโอบกอดลำคอของป๊าเอาไว้และป๊าเองก็วาดแขนข้างหนึ่งโอบเอวของคนบนตัก ส่วนอีกข้างกำลังลูบไล้หน้าอกของอีกคน ริมฝีปากของทั้งคู่แนบชิดจนแทบแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร . . .  และผู้ชายร่างเล็กคนนั้นก็คือ . . 
  
  
  
  
  
  
  อาณิช. . .
  
  
  
  
  ผมกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ขยับตัวกำลังจะหันหลังกลับ แต่คงไม่ทันแล้ว เมื่อทั้งสองหันมาเจอผมเข้า ใบหน้าตื่นตะหนกตกใจกันทั้งคู่ อาณิชลุกขึ้นจากตักป๊าแล้วขยับไปยืนห่าง ๆ โดยหันหลังให้ผม ป๊าเองก็ลุกขึ้นพร้อมกับจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ . . . ผมกำมือไปมาอย่างไม่รู้จะทำอะไร มันเก้อ ๆ ทำตัวไม่ถูก และตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองแสดงสีหน้าแบบไหนออกมา. . .
  
  
  
  เซอร์ไพรส์มากไหมล่ะไอ้ควอทซ์!!
  
  
  
  “อ เอ่อ. . ผม ผมไปก่อนนะ สวัสดีครับ” ผมพูดเร็ว ๆ แล้วหันหลังเดินออกจากห้องทำงานป๊าไปโดนไม่รอฟังเสียงเรียกอะไรทั้งสิน โอ๊ยยย อยากจะกรีดร้อง ออกมาก็เจอกับคุณเลขาของป๊าพอดี เธอดูตกใจที่เห็นผมก่อนจะยิ้มให้ ผมยิ้มตอบแล้วเดินตรงไปที่ลิฟต์ และทันทีที่ลิฟต์เปิดออกก็ต้องผงะถอดหลังกลับเข้าไปใหม่ มีตัวยักษ์ยืนอยู่หน้าลิฟต์ คุณเกรย์นั่นเองครับ โอ๊ยยย ตกใจหมด!
  
  
  
  
  “ข ขอทางหน่อยครับ” คุณคุณเกรย์ไม่หลบ เดินเข้ามาในลิฟต์และบังทางออกไว้ ในขณะที่มือก็กดตัวเลขชั้นที่ผมเพิ่งลงมา กวนตีนอะไรเนี่ยคุณเกรย์
  
  “คุณเกรย์น่าจะให้ผมออกไปก่อน”
  
  “นายท่ายสั่งให้พาคุณหนูขึ้นไปครับ”
  
  “หะ?” กระพริบตาปริบ ๆ เอนตัวพิงผนังลิฟต์ ให้ขึ้นไปทำไมคร้าบบบบบบ จะจูบกันโชว์ผมอีกเหรอ เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ ป๊าบอกว่าเคยมีเมียเป็นผู้ชายนี่หว่า แล้วเมียคนนั้นใช่อาณิชหรือเปล่า แล้วสองคนนั้นไปมีซัมธิงอะไรกันตอนไหน โวยยยย งงเว้ย! งั้นถือโอกาสนี้ถามเลยแล้วกัน ผมยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ และลิฟต์ก็เปิดออกพอดี ผมค้อมศีรษะให้คุณเกรย์เล็กน้อยแล้วเดินออกจากลิฟต์(คุณเกรย์ไม่ได้ออกมาด้วยครับ)ไปที่ห้องทำงานของป๊า
  
  
  
  “เชิญค่ะ”
  
  “ขอบคุณครับ” บอกคุณเลขาของป๊าที่ผมเพิ่งขอร้องให้ต่อสายหาป๊าให้ กลัวจะเปิดเข้าไปขัดจังหวะเขาอีกง่ะ
  
  
  
  ---
  --
  
  
  “สวัสดีฮะ” ผมยกมือไหว้ทั้งสองคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาข้าง ๆ กัน ป๊าผมพยักหน้าหน้านิ่ง ๆ อาณิชรับไหว้ผมด้วยท่าทีค่อนข้างกังวล ดูจากสีหน้าอะนะ
  
  
  “มีอะไรจะบอกผมเหรอครับ?” ผมถามเสียงเรียนและทำหน้านิ่ง เก๊กสุด ๆ ป๊าเอนตัวพิงพนักด้วยท่าทางสบาย ๆ ยกแขนวางพาดบนพนักโซฟา ดูจากมุมนี้แล้วเหมือนกับโอบอาณิชไว้กลาย ๆ
  
  “มึงกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
  
  “เมื่อกี้”
  
  “แลนด์ดิ้งแล้วก็มาหากู?”
  
  “Yes!” ป๊ากลอกตา คงจะนึกด่าผมในใจที่มาขัดจังหวะ เหอ ๆ
  
  
  
  “ป๊าอย่ามาเฉไฉ มีอะไรจะบอกก็บอกมา” ผมกอดอกจ้องป๊าเขม็ง คนเป็นพ่อเดาะลิ้น เหลือบมองอาณิชแล้วถอนหายใจ  อาณิชเอาแต่ก้มหน้ามองมือตัวเอง พอป๊าพาดแขนโอบไหล่ก็สะดุ้งเฮือกแล้วขยับตัวออกห่างจากป๊า แต่ป๊าไม่ยอมครับ รั้งเอวอาณิชมาจนชิดกันจนได้ โธ่! ให้เด็กอนุบาลดูยังดูออกเลยว่าเขาเป็นอะไรกัน. . . แม้จะพอเดาออกแต่ผมอยากให้ป๊าบอกผมด้วยตัวเองมากกว่า. . .
  
  
  
  “อย่างที่เห็น อยู่นิ่ง ๆ สิ” ป๊าไหวไหล่ตามสไตล์ ก่อนจะหันไปบอกอาณิชที่พยายามขยับตัวออกห่างจากป๊าและแกะมือตุ๊กแกออกจากเอว
  
  “ปล่อยณิชเถอะครับ..”
  
  “บอกมันไปเถอะ” ป๊าพูดสบาย ๆ แต่อาณิชลำบากใจชัดเจนมาก ตาหวานเหลือบมองผม พอเห็นผมมองอยู่ก่อนแล้วก็หลบตาวูบ
  
  “บอกอะไรอะ? ผมยังไม่รู้อะไรอีกงั้นเหรอ”
  
  “กูกับณิช..”
  
  “อย่าเลยครับ” อาณิชร้องขัดเสียงอ่อน ทำไมต้องไม่อยากให้ผมรู้ด้วยวะ...
  
  “คุณย่าก็รู้ใช่ไหมครับ?” ผมถาม ป๊าตอบอืมในคอ มีแค่ผมที่ไม่รู้สินะ . . แค่ผม. . อีกแล้ว. .
  
  “โอค.. ผมเข้าใจ ถ้าลำบากใจที่จะบอกผม ไม่ต้องบอกก็ได้ครับ”
  
  “น้องควอทซ์.. อา..”
  
  “ผมเดาเองก็ได้ ไม่ต้องบอกผมแล้วครับ”
  
  “กูกับณิชเรารักกัน”
  
  “หึ” ก็แค่นั้น. . .
  
  “พี่เพชรครับ..” อาณิชเรียกป๊าเสียงเบา ผมแค่นยิ้มพยักหน้ารับช้า ๆ เอนศีรษะพิงกับพนักอาร์มแชร์ยกมือข้างหนึ่งปิดตาในแนวขวาง
  
  
  
  “ป๊ากับอาณิชรักกันแล้วทำไมไม่เคยบอกผมเลย. . ผมรู้สึกแย่นะที่ตอนนี้คิดว่าตัวเองเป็นคนนอกที่ไม่สมควรที่จะรู้อะไร.. ทำไมต้องทำเหมือนกีดกันผมด้วยอะ . . ทุกคนรู้ทุกอย่างแต่มีแค่ผม แค่ผมคนเดียวที่ไม่เคยรับรู้อะไรเลย.. ในขณะที่ผมบอกพวกคุณทุกอย่าง แต่..แต่พวกคุณกลับไม่เคยบอกอะไรผมเลย ฮะ..ฮึก”
  
  
  ร้องไห้อีกแล้ว เหี้ยเอ๊ย! ทำไมผมถึงอ่อนแอขนาดนี้วะ! ผมใช้มืออีกข้างปาดน้ำตาออกจากแก้ม ไม่ได้มองว่าป๊ากับอาณิชมองผมยังไง ตอนนี้ผมรู้สึกอย่างที่พูดจริง ๆ ไม่ได้แอคติ้งอะไรทั้งนั้นอ่ะ ผมเหมือนถูกผลักให้ออกห่าง ไม่เคยมีใครบอกอะไร มีแต่รู้เอาเอง ทั้งเรื่องแม่ ทั้งเรื่องป๊ากับอาณิช ถ้าผมไม่บังเอิญไปได้ยินหรือเจอเข้าพอดีผมจะรู้ไหม ป๊าจะบอกผมหรือเปล่า..
  
  
  
  “กูแค่กลัวมึงรับไม่ได้”
  
  “ป๊าพูดเหมือนไม่รู้จักผมเลย กลัวผมรับไม่ได้หรือไม่อยากบอกกันแน่ ผมเป็นคนงี่เง่าหรอ เป็นคนไม่มีเหตุผลเหรอครับ”
  
  “น้องควอทซ์ อาขอโทษ.. อา..”
  
  “ผมไม่โกรธนะ แต่ผมน้อยใจ เหมือนผมไม่มีความสำคัญเลย”
  
  “กูขอโทษ”
  
  “ช่างเถอะครับ .. นี่ของฝากป๊า ผมไม่รู้ว่าอาณิชอยู่ด้วยเลยไม่ได้หยิบมา” ผมวางถุงของฝากลงบนโต๊ะ ค้ำศอกกับที่วางแขนแล้วเอียงหน้าวางแก้มบนฝ่ามือมองป๊ากับอาณิชที่นั่งอยู่ข้างกัน . . ดูเหมาะสมกันดีนะ แต่นิสัยทั้งสองต่างกันสุดขั้วเลย ว่าแต่แอบไปมีซัมธิงอะไรกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ. .
  
  “ไม่เป็นไรครับ” อาณิชบอกยิ้มบาง ๆ
  
  
  
  ------
  ---
  
  
  
  
  “เล่าให้ฟังหน่อยสิครับ”
  
  “เรื่องอะไร?” อยากจะเบะปากใส่ป๊าจริง ๆ รู้อยู่แล้วยังจะถามอีก
  
  “Your love..” ป๊ากลอกตา อาณิชเบิกตามองผมก่อนที่แก้มจะขึ้นสี บางทีผมก็คิดว่า. . . ป๊าหลอกมอมเหล้าอาณิชหรือเปล่า - -
  
  
  
  
  สุดท้ายป๊าก็เล่าให้ฟัง . . ป๊ากับอาณิชเจอกันที่อเมริกาครับ ป๊าย้ายอพาร์ทเมนท์ใหม่ไปที่ที่ใหญ่กว่าที่เดิมเพราะมีผมมาเป็นภาระ(ป๊าบอกอย่างนี้จริง ๆ ครับ มันน่าน้อยใจนัก!) และที่นั่นก็เป็นอพาร์ทเมนท์เดียวกันกับอาณิชด้วยแถมยังอยู่ห้องข้างกันอีก ตอนนั้นอาณิชยังเรียนไฮท์สคูลอยู่เลย จากนั้นทั้งคู่ก็ทำความรู้จักกันตามประสาเพื่อนบ้าน และก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะอยู่ใกล้กันและยังเป็นคนไทยเหมือนกันอีก


      เวลาที่ป๊าต้องไปมหาวิทยาลัยก็จะฝากผมผมไว้ที่บ้านอาณิช(ตอนนั้นอาณิิชอยู่กับคุณป้า) และอาณิชก็ยังเป็นคนคอยดูแลผมตั้งแต่ยังนั่งไม่ได้เลยด้วยซ้ำ... (ผมโคตรช็อค เพราะไม่รู้ว่าอาณิชรู้จักผมตั้งแต่ยังแบเบาะ) พอเวลาผ่านไปเมื่อป๊าเรียบจบก็ต้องกลับประเทศไทยทำให้ต้องแยกกับอาณิช โดยที่ทั้งสองคนยังไม่รู้ตัวว่าตกหลุมรักกันแล้ว. . แล้วทั้งคู่ก็มาเจอกันตอนที่อาณิชย้ายกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศไทย. . เหตุผลหลักคือมาตามหาป๊า. . โอ้มายก็อด โคตรนิยายเลย. . ก็นั่นแหละครับตำนานรักระหว่างพ่อของผมกับอาณิช
  
  
  
  
  รักแท้..ต่อให้ห่างกันไกลแค่ไหนก็ยังเป็นรักแท้. .
  
  คู่กันแล้ว..ต่อให้มีอะไรมาพรากให้จากกันไกลก็ยังกลับมาคู่กันอยู่ดี. .
  
  
  
  
  
  อ้อ! ผมลืมบอกไป อาณิชกับป๊าอายุห่างกัน 5 ปีเชียวนะ ตอนนี้ป๊าก็จะ 41 แล้ว เฮ้อออออ ควรมีคนดูแลสักทีสิน่า.. เอ๊ะ! หรือว่ามีมาตลอดอยู่แล้วแต่ผมไม่รู้แค่นั้นเอง อืม.. คงใช่
  
  
  
  แล้วก็อีกเรื่อง.. จำที่ป๊าเคยบอกว่าเคยมีเมียเป็นผู้ชายได้ไหมครับ? นั่นแหละ ก็อาณิชนั่นแหละ ที่บอกว่า ‘เคย’ คงเพราะไม่อยากให้ผมรู้ล่ะมั้ง เคยมันเป็นรูปอดีตนี่น่าผมเลยไม่ใส่ใจถามว่าคนคนนั้นเป็นใคร.. น้อยใจเลเวลสิบสอง
  
  
  
  
  --------
  ----
  
  
  
  
  “อาณิชโดนป๊าหลอกใช่ไหมครับ?”
  
  “เอ๋..?”
  
  “หลอกเชี่ยไรล่ะ!” ผมเบะปากใส่ทั้งคู่ก่อนจะยิ้มออกมา ความรู้สึกน้อยใจอะไรในใจผมออกไปหมดแล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกดีนะ ก็บอกแล้ว ผมดราม่าได้ไม่นานก็คืนสภาพมาบ้าบอคอแตกอยู่ดี
  
  “หึหึ”
  
  
  “น้องควอทซ์ไม่รังเกียจอาใช่ไหมครับ?”
  
  “ไม่มีเหตุผลที่จะรังเกียจสักนิด” ผมตอบพลางยิ้มกว้างจนตาปิด ไม่ได้แสร้งพูดเพื่อให้สบายใจ แต่ผมพูดจริง ๆ อาณิชเป็นคนดีจะตาย ใจดีีกับผมมาก ๆ ด้วย แถมยังรักผมมากอีก . . . ถึงผมจะรู้จักอาณิชไม่นานเท่าที่อาณิชรู้จักผม แต่ผมก็รักและเคารพอาณิชนะครับ (ผมรู้จักอาณิชตอนอายุ 17)
  
  
  “มึงโอเคใช่ไหม?”
  
  “โอเคสิครับ อาณิชน่ารักจะตายยยยย โอ๊ย!” ผมร้องเพราะป๊าปาหมอนอิงใส่ดังปึก! หวงชะมัด- -
  
  “เมียกู”
  
  “พี่เพชร!!!” อาณิชแหวใส่ หน้าเน่อแดงไปหมด น่ารักโคตร ๆ นึกอิจฉาป๊าตะหงิด ๆ ถึงแม้อายุจะขึ้นเลขสามแล้วแต่อาณิชยังหน้าเด็กอยู่เลย.. แต่ผมยังมีความคิดว่าป๊าหลอกอาณิชอยู่นะ ดูสิครับ นิสัยต่างกันมากเลยนะ ป๊าผมค่อนข้างใจร้อนแล้วก็เจ้าเล่ห์ด้วย ส่วนอาณิชนะใจเย็นสุด ๆ ไปเลย อาณิชไม่น่าจะมาตกหลุมป๊าได้เลย
  
  
  “อะไรล่ะ”
  
  “พูดแบบนั้นได้ยังไงครับ หน้าไม่อาย”
  
  “แล้วจะทำไมวะ”
  
  “วะเหรอครับ?” ป๊ากลอกตารอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ โคตรตลก กลัวเมียแน่ ๆ โธ่เอ๊ยยย
  
  “อย่าตีกันสิครับ ถ้าอณิชบ่นป๊าก็จูบเลยสิ”
  
  “น้องควอทซ์!” ผมยิ้มโชว์ฟันกระต่าย อาณิชหน้าแดงกว่าเดินเสียอีก
  
  
  
  
  
  ----------
  -----
  
  
  
  “เรื่องนั้นมึงโอเคหรือยัง?”
  
  “เรื่องอะไรงะ”
  
  “ศนิตา” ผมยิ้มค้างก่อนรอยยิ้มจะค่อย ๆ หายไป
  
  
  “ผมโอเค”
  
  “แน่ใจ?”
  
  “แน่สิ มีคนรักผมตั้งเยอะไม่เห็นต้องไปสนใจคนที่เขาไม่รักผมเลยนี่นา.. ชิล”
  
  “น้องควอทซ์คิดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ”
  
  “ครับ ไม่มีแม่ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรสักหน่อย ตอนนี้ผมมีพ่อตั้งสองคนแหน่ะ!” ผมยิ้งแฉ่ง ชูสองนิ้วประกอบ แหย่อาณิชให้เขินเล่นอีก ป๊ายกนิ้วโป้งให้เลยถูกอาณิชฟาดเพี้ยะเข้าที่ต้นแขน เราอยู่คุยกันไม่นานป๊าก็ไล่ผมกลับ ย้ำอีกครั้งครับ ป๊าไล่ผมกลับ ขีดเส้นใต้ด้วยปากกาสีแดงตรงคำว่า ไล่ อยากอยู่กับอาณิชสองคนก็ไม่เห็นต้องอ้างว่าอยากให้ผมได้พักผ่อนเลย ชิ!





--------------------------

อาณิชกับป๊าคืออะไร ฮ่าๆๆๆๆ(ฮือออ)
ดูงง ๆ เนอะ ตัดบทได้น่าตบมากจริง ๆ T_____T
ใกล้จบแล้วค่ะ อีกไม่กี่ตอน หลังจากที่ยืดมานาน 55555555
ไว้เจอกันตอนหน้าน้าาา
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลย รักนะ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 29-04-2015 17:09:53
แหนะ เนียนนะป๊า  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 29-04-2015 17:33:05
เรื่องคุณป๊า กับ คุณอา นี่พอจะเดาได้น่ะ ว่าน่าจะมีซัมธิงรอง

บันนี่กับพี่เฟิลจะแต่งงาน โอ้เรารออ่านฉากนี้เลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 29-04-2015 17:38:24
นิสัยกวนๆ ของบันนี่มาจากป๊าเต็มๆ
ป๊าอาณิช ฟินอ่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-04-2015 17:51:50
มีความสุข
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 29-04-2015 17:54:55
กรี๊ดดดด ขุ่นพ่อกับอาณิช  :-[
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 29-04-2015 18:13:16
เราว่าละว่าสองคนนี้ต้องมีsomething กันแน่ๆ

โอ๊ยยยย. กรี๊ดค่ะ ฟินนนนนน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 29-04-2015 18:34:53
ป๊าซัมติงกับอาณิช  นี่เอง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 29-04-2015 18:48:20
 :impress2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 29-04-2015 19:09:38
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 29-04-2015 19:24:50
รักยืนยงแท้ ตั้ง 17 ปีแน่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 29-04-2015 19:33:34
บันนี่กวนได้อีก  :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-04-2015 19:43:50
แหมป๊าาาาา ไม่ค่อยสวีทเลยนะ
ออกตัวแรงตัลลอดดดดด

บันนี่สู้ๆน้าาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-04-2015 20:07:38
ป๊ากับอาณิชมาแย่งซีนเลยตอนนี้

เรื่องมันเปนมาอย่างนี้นี่เอง

ไรเฟิลเป็นผู้ชายที่มั่นคงและน่ารักมาก

เพราะว่าคิดจะแต่งงานกับนายเอกด้วย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 29-04-2015 20:50:43
บอกเลยว่า   เราเข้าใจว่าอาณิชเป็นน้องของป๊ามาตลอดอ่ะ

5555555555555555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 29-04-2015 22:12:23
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 30-04-2015 00:17:43
น่ารักทั้งคู่คุณพ่อกะคุณลูกเลยค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 49 (29.04.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 30-04-2015 11:22:03
คิดว่าอาณิชเป็นน้องของป๊าบันนี่อะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 04-05-2015 19:48:44
EPISODE 50








  เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก... ตอนนี้ผมก็เปิดเทอมแล้วด้วย ขอเบิกวันปิดเทอมเพิ่มได้ไหมครับ แล้วตอนนี้ผมก็มานั่งโง่ ๆ ที่คาลี่คาเฟาข้างคณะเศรษฐศาสตร์ที่เดิม.. มาทำไม? มารอไรเฟิลครับ เบื่ออ่ะ ง่วงด้วย กินเค้กหมดไปสามชิ้นแล้วพี่ท่านยังไม่มาเลย T__T
  
  
  
  
  “พี่ควอทซ์!” ผมเงยหน้ามองคนเรียก รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นมัน ..แพค
  
  “ม มีอะไรเหรอ?”
  
  “นั่งด้วยได้ไหมครับ?”
  
  “อื้อ นั่งดิ” พอได้รับคำอนุญาตแพคก็นั่งลงที่นั่งตรงข้ามผม ใบหน้ายังประดับด้วยรอยยิ้ม
  
  “เออ เห็นว่าไปภูเก็ตมา สนุกป่ะพี่”
  
  “ก็สนุกดีอ่ะ โทษทีว่ะ ไม่มีขอฝากให้” แพคคงรู้เพราะตามอินสตาแกรมผม ตอนนั้นผมลงรูปรัวมาก สองแสบฟาโรห์สฟิงซ์ก็เข้ามาคอมเมนท์โวยวายใหญ่ว่าไม่ชวน แล้วพอเห็นว่าน้องตัวเล็กไปด้วยก็ยิ่งงอแง
  
  
  “ไม่เป็นไรครับ” แพคยิ้ม ในตอนนั้นเองที่มือถือของมันมีสายเข้าพอดี แพคดูแล้วก็รับมันตรงนั้นแหละ
  
  
  “ครับแม่ ... อยู่ที่ม.ครับ ... รอพวกไอ้เรย์อยู่อ่ะครับ ... วันนี้ไม่ได้กลับนะครับ ... แพคต้องทำรายงานกับเพื่อนน่ะ ... ครับ ไม่ต้องห่วงหรอกฮะ ... ครับผม สวัสดีครับ”
  
  
  ตอนนี้ผมรู้สึกยังไม่รู้ นัยน์ตาสดใสกับใบหน้าที่มักจะมีรอยยิ้มติดอยู่เสมอ ถูกเลี้ยงมายังไงนะ.. ถึงได้มีความสุขตลอดเวลาอย่างนี้ คงได้รับความรักจากพ่อและแม่เยอะเลยสินะ มันก็คงจะเป็นอย่างนั้น ไม่อยากจะเชื่อว่าเราจะมีแม่คนเดียวกัน ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กคนนี้คือน้องชายของผม.. จากที่ได้รู้จักกับแพคมา ถ้าไม่ได้คิดไปเอง ผมรู้สึกว่าเรามีนิสัยบางอย่างคล้าย ๆ กัน อย่างเช่น.. เป็นคนที่ค่อนข้างชิลกับทุกอย่าง ทว่าความต่างของผมกับแพคก็ต่างกันสุด ๆ จะยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ เลยแล้วกัน เช่น..
  
  แพคเกิดมาจากความรักของพ่อและแม่ แต่ผม.. เกิดมาจากความผิดพลาด...
  
  
  
  โอเค.. ผมสารภาพเลยก็ได้ว่ายังเก็บเรื่องนั้นมาคิดอยู่ จะทำเหมือนปกติก่อนหน้านั้นมันก็ได้นะครับ แต่ว่ามันยาก ไม่โดนกับตัวก็คงไม่รู้หรอก แต่ผมไม่ได้เศร้าอะไรมากมายนะ มีแค่บางครั้งที่เรื่องนั้นมันแวบเข้ามาในหัวใจปวดเจ็บเล่น ๆ ไม่นานก็หายไป
  
  
  
  
  “จ้องหน้าผมแบบนี้ผมก็เขินนะครับ” ผมหลุดจากภวังค์เพราะเสียงพูดของแพค คนอายุน้อยกว่าเกาท้ายทอยเขิน ๆ ประกอบคำพูด
  
  “หึ เขินจริงเหรอ” ผมแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แพคกลอกตาล่อกแล่กแก้มขึ้นริ้วจาง ๆ
  
  “พ พี่อย่าเล่นงี้ดิ”
  
  “เล่นอะไรเหรอ?” ผมเอียงคอมอง แล้วมันยิ่งหน้าแดงกว่าเดิม
  
  “พี่ควอทซ์แม่ง! ทำไมแบบนี้ผมตัดใจไม่ได้ก็แย่ ..ทำไมต้องชอบทำตัวน่ารักด้วยวะ..” ผมยิ้มเจื่อน ประโยคหลังแพคพูดเบา ๆ จนผมแทบไม่ได้ยิน
  
  “มึง.. ยังชอบกูอยู่เหรอ..”
  
  “อื้อ(พยักหน้าประกอบ) ผมพยายามตัดใจแล้วนะเว้ย ตั้งแต่พี่ปฏิเสธผมวันนั้นอ่ะ แถมพี่ไรเฟิลยังบอกให้ผมตัดใจอีก แต่ยิ่งพยายามก็เหมือนผมยิ่งคิดถึงพี่อ่ะ” ผมสะอึก รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล แพคไม่ควรคิดกับผมแบบนี้ ไม่ควรคิด..
  
  “.......”
  
  “ผมขอโทษที่อาจทำให้พี่ลำบากใจ”
  
  “ม ไม่เป็นไร แต่แพค.. มึงก็รู้ว่า..”
  
  “ครับ ผมรู้ รู้ว่าระหว่างผมกับพี่มันเป็นไปไม่ได้ พี่มีพี่ไรเฟิลอยู่แล้วนี่หว่า” . . .ถึงไม่มีไรเฟิลระหว่างมึงกับกูก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี. . .
  
  “ขอโทษ”
  
  “พี่ไม่ผิดสักหน่อย ผมต่างหากที่ผิด รักคนมีเจ้าของนี่เจ็บดีเนอะ”
  
  “.........”
  
  “ขอบคุณที่ไม่เกลียดผมนะครับ”
  
  “ก็มึงน้องกูหนิ” ผมคิดว่าแพคเป็นเหมือนน้องชายผมมาตลอดนะครับ แต่วันนี้มันกลับเป็นน้องชายของผมจริงๆ ซะงั้น ตลกดี..  แต่ถ้าวันหนึ่งแพคมันรู้ว่าผมกับมันมีแม่คนเดียวกัน ไม่รู้ว่ามันจะเกลียดผมหรือเปล่า ถ้ารู้แล้วเราจะยังมองหน้ากันได้อยู่หรือเปล่าวะ..
  
  
  “แพค.. มึงเป็นลูกคนเดียวเหรอ?”
  
  “อื้อ ครับ ผมเป็นลูกคนเดียว”
  
  “งั้น.. อยากมีพี่ชายไหม?”
  
  “ก็เคยอยากมีนะ ทำไมอ่ะ พี่จะมาเป็นพี่ชายผมเหรอ ไม่เอาเว้ยยย พี่น้องมันรักกันแบบคนรักไม่ได้อ่ะ!!” งอแงเป็นเด็กเลย..
  
  “แต่พี่น้องเลิกกันไม่ได้นะ”
  
  “โธ่.. พูดงี้ผมจะปฏิเสธไงวะ ผมอยากเล่นตัวบ้างอ่ะ แต่ทำไมถึงปฏิเสธพี่ไม่ได้สักครั้งเลยวะ แต่ยอมก็ได้ เห็นว่าขอร้องหรอก”
  
  “ไอ้เด็กบ้า”
  
  “ได้เป็นน้องก็ยังดีกว่าไม่ได้เป็นอะไรเลย ขอบคุณนะครับ”
  
  
  
  
  แพคอยู่เป็นเพื่อนคุยเล่นกับผมจนไรเฟิลมา แต่เพื่อนของแพคยังไม่มาเลยผมก็เลยอยู่กับมันก่อน ระหว่างนั้นผมก็เล่นเกมไป พี่น้องสายรหัสเขาก็พูดคุยกันเรื่องเรื่องไป จนเพื่อนไอ้แพคมานั่นแหละผมกับไรเฟิลจึงกลับคอนโด
  
  
  
  กลับมาก็เล่น ๆ นอน ๆ แล้วก็กิน จากนั้นก็แยกไปอ่านหนังสือกันคนละมุม ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเรียนเท่าไหร่แล้ว แต่มีภาระงานชิ้นใหญ่ที่ต้องทำส่งก่อนการเริ่มฝึกงาน ในเร็ว ๆ นี้ เฮ้อออ
  
  
  
  
  
  
  --------------
  
  
  
  
  
  ก็อย่างที่เคยบอกว่าเวลามันผ่านไปเร็วมากจนตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว อ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมเรียนจบแล้ว!!!!! (คนเขียนแม่งตัดบทได้น่าข่วนมากเลยครับ T_T)
  
  
  เดี๋ยวผมขอเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้ฟังพอคร่าว ๆ แล้วกันนะครับ ผมไปฝึกงานที่บริษัทของป๊าที่แผนกควบคุมระบบและก็มีบะหมี่ไปด้วย(เจ้าแม่เคยบอกว่าจะไปฝึกที่เดียวกับผม) ที่บริษัทก็ดีครับ พี่เขาก็สอนงานดี สนุกดีด้วย แต่ที่งานหนักคงจะเป็นบะหมี่ ไม่ใช่เพราะทำงานหนักนะครับ แต่เพราะมันต้องเป็นไม้กันหมาให้ผมต่างหาก คอยกันคนที่เข้ามาจีบผม ไม่รู้ไรเฟิลจ้างมันไปเท่าไหร่ มีผู้หญิงแวะเวียนมาส่งขนมบ้างบางวัน แต่ทุกวันนี่เป็นผู้ชายว่ะครับ.. เฮ้อออ ชีวิตไอ้ควอทซ์ทำไมถึงมีแต่ตัวผู้มาจีบก็ไม่รู้ ปวดกระดองใจ..
  
  
  พอวันสุดท้ายของการฝึกงาน ตอนเย็นของวันนั้นบริษัทก็จัดงานเลี้ยงให้ ทั้งนักศึกษาฝึกงานและรวมทั้งพนักงานของบริษัทด้วย แล้ววันนั้นป๊าก็ดั๊นนนนนนนนประกาศเรียกผมขึ้นไปบนเวทีแล้วก็บอกว่า ไอ้เด็กมันเป็นลูกชายของผมนะ! จริง ๆ ป๊าไม่ได้พูดงั้นหรอกครับ ผมแค่พูดให้เข้าใจง่าย ๆ เล่นเอาเงิบกันหมด พี่แผนกผมกับบางคนที่แกล้งผมแทบลมจับ พอดีผมไม่ได้บอกอ่ะครับว่าเป็นลูกเจ้าของบริษัท ผมไม่ผิดนะเว้ย!
  
  
  
  พอขึ้นปีสี่ก็ลุยเรื่องโปรเจกต์จบกันหัวฟูเลยครับ แก้งานกันหลายรอบจนแทบจะไปวางบอมบ์ตึกเรียน หรรษากันฉิบหาย กว่าจะผ่านเล่นเอาร่างพัง อาจารย์ก็โหดสัดมากจริง ๆ พลาดแค่จุดเล็ก ๆ นิดเดียวก็โดนแฉ่งจนหูชา เพราะฉะนั้นต้องตั้งใจเต็มที่เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด...
  
  
  
  
  
  -------------------
  
  
  
  
  
  และแล้ววันนี้ก็มาถึง เรียนมาสี่ปีเพื่อวันนี้วันเดียวเลย!!!! วันรับปริญญาไงครับ!! ให้ตายเถอะ น้ำตาจะไหล ผมเรียนจบแล้วนะ ตื้นตันฉิบหายอ่ะบอกเลย หลังจากผ่านการซ้อมมาอย่างหนักหน่วงก็ถึงวันรับจริงสักที . . . ผมกับไนต์รับช่วงเช้า ส่วนกาย ฟอร์ส ไรเฟิล รับช่วงบ่าย เพราะว่าวิศวะคนเยอะเลยต้องมารับช่วงเช้าพร้อมกับนักศึกษาปริญญาเอก ปริญญาโท และอีกคณะหนึ่งที่คนเยอะเหมือนกันซึ่งผมจำไม่ได้ T_T
  
  
  “สู้มึง!” ไนต์ตบไหล่ผมก่อนจะเดินแยกไปเรียงแถวเพื่อนเข้าหอประชุมใหญ่ ผมกับไนต์ไม่ได้นั่งด้วยกัน เพราะไนต์มันต้องนั่งเรียงสาขาและตามอักษรแล้วสาขาคอมพิวเตอร์ดันอยู่สุดท้ายด้วยนี่สิครับ ไกลกันคนละซีกโลกเลย ..ส่วนผมเหรอ คนแรกของคณะวิศวกรรมศาสตร์เลยครับ โคตรกดดันอ่ะ ข้าง ๆ ผมเป็นใครไม่รู้ผมไม่รู้จักอีกนั่นแหละ รู้จักแค่ว่ามาจากโยธา
  
  
  
  ผมสะดุ้งเพราะคนที่นั่งข้าง ๆ สะกิด เอ่อ.. เมื่อกี้ผมเผลอหลับอ่ะครับ ไม่รู้ว่าเผลอไปตอนไหน น่าอายฉิบหาย ตอนนี้นักศึกษาปริญญาเอกและปริญญาโทก็รับเสร็จแล้วด้วย ต่อไปก็จะเป็นวิศวะ. . . ตื่นเต้นว่ะ
  
  
  
  “คณะวิศวกรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับหนึ่งและเหรียญทอง นาย รักษ์ธิสุทธ อัครไพศาลกุล”
  
  ผมก้าวเดินตามจังหวะที่ได้ซ้อมมา โคตรเกร็งอ่ะบอกเลย ถ้าพลาดนี้มีเฮแน่ ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่พลาดครับ.. พอรับใบประกาศปริญญาบัตรพร้อมทั้งเหรียญทองก็กลับไปนั่งที่เดิม รอให้คนอื่น ๆ รับเสร็จ ผมอยากจะหลับอีกรอบ ง่วงมาก ๆ ตื่นก็ตื่นแต่เช้า แถมคืนก่อนหน้านั้นยังดื่มกันดึกอีก เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง พิธีมอบใบปริญญาบัตรก็เสร็จสิ้นลง ขั้นตอนสุดท้ายคือกล่าวคำปฏิญาณตนและรับฟังโอวาทก็เป็นอันจบ ผมถูกปลดปล่อยแล้ว....
  
  
  
  
  --------
  ----
  
  
  
  
  “ป๊าาาาาาาา!!” ผมกระโดดกอดป๊าโดนไม่อายสายตาใคร ป๊าเองก็รับผมเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นไปลงไปนอนที่พื้นทั้งคู่
  
  “ไหน เอามาดูดิ” ผมส่งใบปริญญาบัตรกับกล่องเหรียญทองให้ป๊า ป๊ารับไปดูแล้วพยักหน้านิ่ง ๆ แต่ดวงตากลับยิ้ม โธ่ หมดเวลาเก๊กแล้วท่าน
  
  “เก่งจนน่าหมั่นไส้” ผมยิ้มกว้างจนตาปิด รับใบประกาศคืนจากป๊า ก่อนจะถูกพี่เจ้าเรียกไปถ่ายภาพ พี่เจ้ามาเป็นช่างภาพให้พวกผมตั้งแต่วันซ้อมใหญ่แล้วครับ ทั้ง ๆ ที่เป็นช่างภาพชื่อดังแถมตารางงานยังแน่นเอี๊ยดขนาดนี้แต่ก็ยังเสียเวลามาเป็นช่างภาพให้พวกผมอีกแหนะ
  
  
  แล้วตอนนี้ทุกคนอยู่ที่นี่หมดเลย ครอบครัวของสี่ขั้วอำนาจ ครอบครัวผม อ้อ ลืมบอก ครอบครัวนี่รวมอาณิชด้วยนะครับ ฮิฮิ จริง ๆ เราถ่ายรูปรวมกันตั้งแต่วันซ้อมใหญ่แล้วล่ะครับ ผมเองก็บอกป๊าไปแล้วว่าวันจริงไม่ต้องมาก็ได้ ผมไม่อยากให้มารอนาน ๆ อ่ะ แต่มีเหรอป๊าผมจะฟัง ป๊าผมโคตรดื้ออ่ะบอกเลย ในเมื่อห้ามไม่ได้ก็ปล่อยเลยตามเลย ตอนนี้ก็รออีกสามที่ตอนนี้คงจะนั่งหาวกันในหอประชุม
  
  
  
  “หิวอ่ะ ฮ ฮ้าววว ง่วงด้วย” ผมพูดตาปรือกับสายรหัสตัวเอง มองไปเจอไนต์กำลังอยู่กลางวงล้อมของสายรหัสมันเหมือนกัน
  
  
  “น้ำไหมพี่?”
  
  “เอา ขอบใจมาก” ผมรับน้ำขวดจากคิตตี้เกิร์ล(มิกิ)มาเปิดดื่ม ร้อนมากจริง ๆ ผมนี่เปียกไปหมดแล้วมั้ง ครุยก็ยังไม่ได้ถอดด้วย
  
  
  “ควอทซ์ ๆ มาตรงนี้หน่อย”
  
  “พี่คอวทซ์เอาเหรียญมาถ่ายรูปหน่อย”
  
  “น้องควอทซ์ถ่ายรูปคู่ด้วย”
  
  “เด็กทุนมาข้างหน่อย”
  
  “ควอทซ์ยิ้มหน่อย
  
  “ควอทซ์.....”
  
  “พี่ควอทซ์...”
  
  “ควอทซ์...”
  
  “ควอทซ์.....”
  
  
  ไอ้เหี้ย!!! เหนื่อยฉิบหาย ผมถูกคนนู้นลากไปนี่ คนนี้ลากไปนู้น แทบจะกระอักเลือด มึนมาก ช่อดอกไม้เต็มมือไปหมด ไหนจะตุ๊กตาอีก(ทำไมต้องให้ตุ๊กตาผมด้วยยยยย) ของขวัญที่ได้มากก็ถือไม่ไหวแล้ว ขอผมวาร์ปไปพักก่อนแล้วกันนะครับ
  
  
  
  
  
  “พี่ควอทซ์” เงยหน้ามองคนเรียก ผมนั่งที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ ตรงนี้ไม่ค่อนมีคนเพราะมันข้างไกลกับจุดที่ถ่ายรูป แต่ก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ข้าง ๆ ตัวผมมีของที่ได้จากรุ่นพี่รุ่นน้องเยอะจนอยากจะเอากระสอบมาใส่
  
  
  “มาด้วยเหรอวะ”
  
  “มาดิ! ยินดีด้วยนะครับ” ผมยิ้มขอบคุณพร้อมกับยื่นมือไปรับของขวัญจากแพคมา แพคไม่ได้ให้ดอกไม้หรือตุ๊กตาเหมือนคนอื่น ๆ แต่มันให้หนังสือผม..
  
  “ขอบใจ”
  
  “นี่ด้วยครับ”
  
  “นึกว่าจะไม่ให้แล้ว” ผมรื้อถุงเบอร์เกอร์ที่แพคส่งมาให้แล้วแกะกินมันตรงนั้นแหละ คือผมจ้องนานแล้วไง กำลังลุ้นอยู่ว่ามันจะให้ผมหรือเปล่า
  
  
  
  
  
  “เหี้ยควอทซ์! หนีมาไม่รอกู” ก็ตามนั้น พอรุ่นพี่รุ่นน้องเลิกมารุมผมผมก็วาร์ปมานั่งที่นี่แหละ ผมยกมือปรก ๆ เป็นเชิงขอโทษ แล้วส่งเบอร์เกอร์อีกชิ้นให้ไนต์ หมาไนต์มันก็หิวไม่ต่างกันหรอกครับ หลังจากกินเบอร์เกอร์หมดก็เหมือนจะอิ่มนะ เหมือนจะ...
  
  “พี่ไรเฟิลเสร็จกี่โมงอ่ะพี่?”
  
  “ไม่รู้วะ มันไม่แน่นอน เย็น ๆ มั้ง” ผมตอบแพค
  
  “อืม ตามนั้น ไปส่งพวกกูที่เรือนรับรองหน่อยดิ”
  
  “ครับ”
  
  
  
  เรือนรับรองอยู่ในส่วนหลังมหาวิทยาลัยนู่นนนน ไม่รู้ทำไมถึงสร้างไว้ไกลขนาดนั้น และที่จะไปที่นั่นเพราะผู้ใหญ่เขารออยู่ที่นั่นกันครับ อย่าลืมสิ มหาวิทยาลัยนี้เป็นของสี่สหายนะ ... พอมาถึงเรือนรับรองก็ให้แพคช่วยขนของลงเอาเข้าไปข้างใน แพคสวัสดีผู้ใหญ่แล้วก็ขอตัวกลับ มันบอกไว้ไรเฟิลออกจากหอประชุมจะมาใหม่ แล้วมันจะแวะไปหาเพื่อนด้วย ... ผมทิ้งตัวนอนบนพื้นหินอ่อน เหนื่อยอ่ะ เมื่อยขาไปหมดแล้ว เจอแอร์เย็น ๆ แล้วอยากหลับม่ ไนต์เอาตีนเขี่ยผมก็ไม่ได้โวยวายอ่ะ ครุยจะเปื้อนก็ไม่ได้สนแล้วจุดนี้  T w T
  
  
  
  “โฮ่ง ๆ !” เสียงหมูปิ้งเห่าแต่ผมไม่ได้ลุกไปเล่นด้วย ป๊าพามันมา บันบันก็มาด้วย แต่มดแดงไม่ได้มา.. คิดถึงอ่ะ คิดถึงมดแดงงงงงง
  
  “มานอนอะไรกันที่พื้นเนี่ย”
  
  “เหนื่อยอ่ะแม่” ไนต์พูดกับคุณแม่ของมัน ตอนนี้ผมกับไนต์นอนกันที่พื้นนี่แหละครับ โดยมีผมนอนคว่ำอยู่แล้วหมาไนต์ก็นอนหงายหนุนศีรษะกับเอวผมอีกที
  
  
  
  “บัณฑิตหมดสภาพเลยว่ะ”
  
  “พี่เป็นแบบนี้ป่ะวะ” ไนต์งึมงำถามพี่เจ้า
  
  “หนักกว่าพวกพี่อีก” แต่เพลิงฟ้าเป็นคนตอบ
  
  
  
  “จะนอนก็ไปนอนดี ๆ ห้องนอนก็มี” คุณลุง พ่อของไนต์พูด ไนต์ลุกขึ้นแล้วลากขาผม ไม่ได้นานหรอกครับผมถีบ หึ! ผมกับไนต์ไปที่ห้องนอนห้องหนึ่งภายในบ้านนี้ นอนมันห้องเดียวกันนั่นแหละ อยากจะโดนลงเตียงมากเลยแต่โดนหมาไนต์ดึงคอเสื้อเอาไว้
  
  
  “ถอดครุยก่อนไอ้สัด” ตามนั้นครับ ผมถอดครุยแขวนไว้ ตามด้วยเสื้อนักศึกษาและเนคไทแล้วไปรื้อเสื้อยืดในกระเป๋ามาใส่ เดี๋ยวนับ ต้องใส่อีกรอบเพื่อนที่จะไปถ่ายรูปกับอีกสามคน จริง ๆ ก็ถ่ายด้วยกันแล้วตั้งแต่วันซ้อมใหญ่ แต่อยากถ่ายอีกอ่ะ ก็วันนั้นยังไม่ได้ปริญญาบัตรนี่นา.. ผมนอนบนเตียงโดยเว้นที่อีกฝั่งไว้ให้ไนต์ด้วย ตอนนี้ออกไปลากน้องตัวเล็กอยู่ กำลังเคลิ้มจะหลับเสียงไอ้ไนต์ก็ดังแว่วเข้ามาในหู ผมเลยถีบมันไปทีหนึ่งโทษฐานทำให้หมั่นไส้..
  
  
  
  สองชั่วโมงผ่านไป.. ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา ปิดปากหาววอด ลุกขึ้นนั่งพิงตัวเตียงทั้งที่ตายังไม่เปิดดี อยากจะนอนต่อนะแต่นอนไม่ได้แล้ว กระเพาะไม่เป็นใจเลย แล้วที่ตื่นก็เพราะหิวล้วน ๆ เลยฮะ . . . มองไปเจอไอ้ไนต์ก็ถึงกับเบะปาก หมาไนต์กอดน้องตัวเล็กของผมไว้ทั้งตัวจนน้องแทบจะจมไปกับอกมัน กอดไม่พอยังเอาขาก่ายเกี่ยวน้องไว้อีก ส่วนน้องตัวเล็กก็หลับตามไอ้ไนต์เรียบร้อย.. ผมสะบัดศรีษะไล่ความง่วงงุนแต่ดูจะไม่เป็นผลเท่าไหร่ กระดึ้บลงจากเตียงให้เบาที่สุดเดี๋ยวจะไปกวนคนที่หลับอยู่ พอขาแตะพื้นก็ถึงกับทรุด มึนอะไรวะเนี่ย
  
  
  
  
  
  -----------
  -------
  
  
  
  
  “สวัสดีฮะ..” ผมยกมือไหว้สวัสดีผู้ใหญ่ที่นั่งคุยกันที่โซฟาในส่วนของห้องนั่งเล่น เดินมึน ๆ ไปนั่งแหมะบนพื้นพรมข้างหน้าป๊าแล้วเอียงศีรษะซบขาป๊าซะเลย เปลือกตาค่อย ๆ ปรือลง ยิ่งป๊าลูบหัวอยู่แบบนี้ยิ่งเคลิ้มหนักไปใหญ่ ฮ้าววววว
  
  
  “ขี้อ้อนจังนะคะ” คุณแม่ของฟอร์สพูด
  
  “หึ ครับ”
  
  “ป๊า..”
  
  “อะไร”
  
  “หิวง่ะ..” ผมพูดงึมงำเบา ๆ และผมที่ได้คือการโดนป๊าเอามือใหญ่ ๆ บี้หน้า อืม.. หน้าคนนะครับไม่ใช่แป้งโรตี ผมดึงมือป๊าออกก่อนจะคลานไปหาคุณย่าที่นั่งอยู่ไม่ไกลกัน
  
  “อะไร หือ?”
  
  “ผมหิว.. มีอะไรกินไหมครับ?” เงยหน้ามองคุณย่าตาแป๋ว
  
  “ในครัวมีกับข้าวอยู่ เดี๋ยวอาไปดูให้” อาณิชพูดแล้วลุกขึ้นเดินไป ผมเห็นดังนั้นจึงลุกตามบ้าง จะให้ผู้ใหญ่มาหาให้อย่างนี้ก็ดูจะใช้เรื่อง.. แต่อนิจา เพราะลุกเร็วเกินไปจึงทำให้ผมหน้ามืดแล้วทรุดลงหัวโขกกับขอบโต๊ะดังโป๊ก! T________T
  
  
  
  “เป็นอะไรหรือเปล่าลูก!?” ดูทุกคนจะแตกตื่นกับความเบลอของผมเลย ฮือ..
  
  “ม ไม่เป็นอะไรครับ” ผมบอกแต่ยังคลำหน้าผากตัวเองอยู่ ยิ้มแหยะ ๆ แล้วลุกออกไปที่ครัว
  
  
  
  
  -----
  ---
  
  
  
  “เดี๋ยวผมทำเองดีกว่าครับ” ผมดึงกล่องอาหารจากอาณิชมาเปิดฝาแล้วยัดเข้าไมโครเวฟ
  
  “ทำไมดื้ออย่างนี้ครับน้องควอทซ์” อาณิชว่าเชิงดุไม่จริงจัง ผมยิ้มอ้อนทันที
  
  “มีป๊าเป็นไอดอลฮะ”
  
  “จริง ๆ เลย แล้วหัวเป็นยังไงบ้างหนะ? อยู่ ๆ ก็เอาหัวไปโหม่งโต๊ะแบบนั้น”
  
  “ก็มันมึนนี่ฮะ ตอนนี้สบายมากครับ ชิล”
  
  “อาขอซื้อไอ้ไหมคำนี้ ฮึ?”
  
  “ไม่ขายครับ ฮี่~ อ๊ะ! เสร็จแล้ว” ผมเบี่ยงประเด็นไปที่ไมโครเวฟที่เพิ่งส่งสัญญาณเตือน ยกกล่องทัปเปอร์แวร์ไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว ไม่ต้องใช้จานหรอก จะได้ไม่ต้องล้างเยอะ ... ในระหว่างที่ผมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากอยู่นั้น อาณิชก็เอาอย่างอื่นมาให้อีก รู้ใจผมจริง ๆ สปาเก็ตตี้กล่องเดียวไม่ทำให้ผมอิ่มได้หรอกครับ
  
  “ขอบคุณครับ”






----------------------------------------
มาแล้วววววว บันนี่เรียนจบแล้ววววววว
คนเขียนตัดบทได้น่าตบมาก 555555555555555
ตอนนี้เหมือนจะมีอะไรแต่ก็ไม่มีอะไร TwT
แพคยังไม่รู้ว่าตัวเองมีแม่คนเดียวกับบันนี่นะคะ(แล้วก็จะไม่รู้ต่อไปTwT)
แล้วก็ขอฝากนิยายอีกเรื่องของเราหน่อยน้าาา
เรื่อง 「WAIT FOR LOVE」รักแล้วรอหน่อย ♡ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46605.0) เป็นเรื่องของพี่เจ้ากับเพลิงฟ้าค่ะ
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 04-05-2015 20:05:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 04-05-2015 20:10:42
จะจบแล้วหรอ อีกสัก 100 ตอน ค่อยจบไม่ได้หรอ

 :ling1: :ling1: :ling1:

5555 ถ้าจบไปต้องคิดถึงแน่เลย

ส่วนอีกเรื่องไม่ต้องฝากก็ตามค่าาาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 04-05-2015 20:16:57
กรี๊ดเรียนจบกันแล้ว :katai2-1:

รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-05-2015 20:43:50
เรียนจบแล้ว หมดสภาพเลยนะพ่อบัณฑิต
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 04-05-2015 20:50:08
ทำไมตัดจบไปเร็วจังอ่าาาาาาา

ยังไม่อยากให้จบเลยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-05-2015 20:52:09
ยินดีด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 04-05-2015 21:27:25
เรียนจบกันแล้ว เรื่องก็ใกล้จะจบแลัวสิน่ะ ม่ายยย :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 04-05-2015 21:38:05
ใกล้จบแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 04-05-2015 21:58:44
เรียจบกันแล้ววว แต่อย่างเพิ่งจบเลยนะะะะ 55555555555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-05-2015 22:05:36
อย่าเพิ่งจบเลย

ยังอยากอ่านต่ออีก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 04-05-2015 22:25:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 04-05-2015 22:44:18
เรียนจบแล้ววว ต่อไปจะทำอะไรกันนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-05-2015 22:47:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-05-2015 23:01:52
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 04-05-2015 23:25:10
เรียนจบกันแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 04-05-2015 23:42:59
ขอพาสหลังจากเฉลยว่าเป็นลูกใครได้ไหมเอ่ย อยากรู้อะว่าที่มหาลัยจะพูดยังไงตอนรู้ว่าน้องเป็นลูกป๋า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 05-05-2015 01:22:30
บันนี่เรียนจบแล้วววว เย้  :L2: o13
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ปังอุ่น ที่ 05-05-2015 01:50:32
ตอนนี้ไม่มีบทไรเฟิล  :z3:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 05-05-2015 12:28:00
ตัดฉากได้อลังการมากค่ะ 55555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 05-05-2015 16:42:01
บันนี่น้อยเรียนจบแล้วเก่งจัง

แล้วที่มึนๆ เบลอๆนี่คงไม่เป็นโรคอะไรใช่ใหม

แค่พักผ่อนไม่เพียงพอใช่ใหม เป้นห่วงจัง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: sodawan1 ที่ 05-05-2015 16:56:55
กระพริบตาทีเดียวเรียนจบแล้ววววววว
เร็วววววววววไปไหนน!!!!!
5555555

ตอนนี้ไม่มีไรเลออออ่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 05-05-2015 18:55:19
อ่านรวดเดียวเลย ชอบๆๆๆ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 05-05-2015 19:21:39
มาต่ออีกหน่อยเถอะ อยากอ่านอีก  :katai2-1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 05-05-2015 21:48:19
เรียนจบนี่คือจะจบแล้วเหรอ ยังหวานไม่จุใจเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 05-05-2015 23:07:55
เรียนจบแล้ววววววววววววววววววว เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 50 (04.05.2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 06-05-2015 10:12:40
แพคกลายเป็นน้องจริงๆ แล้ว ไม่ใช่แค่รุ่นน้อง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 08-05-2015 21:09:08
EPISODE 51
  
  
  
  
  
  
  
  
  ตอนนี้เวลาก็ห้าโมงเย็นโดยประมาณ เรากำลังจะไปหาไรเฟิลกายฟอร์สกันครับ ผมกับไนต์ก็กลับมาแต่งตัวเหมือนเมื่อเช้าแล้ว ... มาถึงบัณฑิตก็ทยอยกันมาออกจากหอประชุมแล้วครับ คนเยอะมากเลยอ่ะ ทั้งญาติบัณฑิต เพื่อนพี่น้องของบัณฑิต ตอนนี้ก็แค่รอให้สามบัณฑิตมาที่จุดนัดพบตรงนี้ ระหว่างรอผมก็อ้อนขอดูรูปกับพี่เจ้า แต่พี่เจ้าไม่ให้ดูอ่ะ บอกว่าค่อยดูทีเดียวตอนส่งให้ โธ่! ก็ผมอยากดูก่อนหนิ T_T
  
  
  
  “โอ๊ะ! มาแล้วค่ะ!” น้องฟิงซ์พูดเสียงดัง ผมมองตามนิ้วน้องไปก็เห็นไรเฟิลกำลังเดินมา หน้าบึ้งไปไหนนั่น..
  
  “กายกับฟอร์สล่ะ?”
  
  “จำเป็นคนต้องถามถึงผู้ชายคนอื่นไหม?”
  
  “จำเป็นต้องหงุดหงิดไหม?” ไรเฟิลหรี่ตามองก่อนจะเอาปริญญาบัตรเคาะหัวผมแล้วเดินไปหาคุณแม่ แล้วครอบครัวศิริวัฒนามงคลก็ถ่ายรูปกับ(แล้วผมก็โดนเรียกให้ไปถ่ายด้วย เขินอ่ะ T w T) และจากนั้นไม่นานกายกับฟอร์สก็มาครับ สองคนแยกไปถ่ายรูปกับครอบครัว จากนั้นผู้ใหญ่ก็กลับไป เราห้าคนเลยถ่ายรูปด้วยกันบ้าง และผมกับไรเฟิลก็ถ่ายรูปคู่กันไปเยอะเลย.. พี่เจ้าคุ้มค่าตัวสุดอ่ะ
  
  
  
  “กูหิว”
  
  “มึงเพิ่งกินไปตอนบ่ายสาม”
  
  “กินตอนบ่ายสามตอนนี้หกโมงเย็นแล้ว นานแล้ว”
  
  “เฮ้อออออ” ไนต์กับน้องตัวเล็กถอนหายใจออกมาพร้อมกัน โอ้โห เอือมมากไหมถามใจตัวเองดู..  ตอนนี้ผม ไนต์ น้องตัวเล็ก พี่เจ้า แล้วก็ เพลิงฟ้านั่งกันอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่กัน ส่วนไรเฟิล กาย ฟอร์ส ไปถ่ายรูปกับกับรุ่นพี่รุ่นน้องคณะ ทีแรกไรเฟิลก็จะไม่ไปหรอก แต่ก็นะ คนฮอต ใคร ๆ ก็อยากถ่ายด้วย ผมเลยบอกให้เขาไป
  
  “หนมปังป่ะ?”
  
  “เอา!” ผมตอบพร้อมตะครุบขนมปังในมือเพลิงฟ้า ผมกับเพลิงฟ้าอายุเท่ากันเพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องสุภาพอะไรมากมาย(บันนี่อายุน้อยกว่าสี่ขั้วอำนาจหนึ่งปี)
  
  
  
  “ไม่มีอะไรแล้วกูกลับก่อนนะเว้ย” พี่เจ้าบอก
  
  “ครับพี่ คืนนี้มาเปล่า?”
  
  “งานฟรี ไม่พลาดว่ะ”
  
  “ครับ! ชวนพี่ขลุ่ยมาด้วยดิ”
  
  “เออ ๆ กูกลับก่อนละ ต้องไปทำรูปให้พวกมึงอีก เยอะฉิบหาย”
  
  “บ่น ๆ ค่าตัวก็แพงยังจะบ่นอีก”
  
  “เด็กทอมนี่ใคร?” โอ้โหหหหหหหหหหห! ขึ้นเลยขึ้น! เรียกทอมนี่ขึ้นเลย!
  
  “พี่เจ้า!!!”
  
  “ฮะฮ่า ๆๆ ไปแล้ว ๆ ดื้อ! กลับ”
  
  “เออ!” แล้วสองคนนั้นก็จากไป คืนนี้มีแพลนจะฉลองกันครับ เรียนจบทั้งทีต้องจัดให้เต็มสิคร้าบ! เตรียมเมาได้เลย ถึงไรเฟิลจะห้ามผมก็จะดื้ออ่ะ
  
  
  
  
  
  
  ---------------------------
  
  
  
  
  
  “ไปอาบน้ำ” ผมยังนอนนิ่งบนเตียงกับบันบัน หันหน้าไปมองไรเฟิล คนตัวสูงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ มีผ้าเช็ดตัวพันช่วงเอวไว้อย่างหมิ่นเหม่ ร่างกายกำยำพราวไปด้วยหยดน้ำดูเซ็กซี่บวกกับเส้นผมเปียกชื้นนั่นอีก.. ผมกลืนน้ำลายเอือกแล้วหันหน้าหนี อยู่ ๆ ก็นึกอายขึ้นมา บ้าเอ๊ย!
  
  
  “อื้อออ”
  
  “อื้อก็ลุก” ผมจำใจลุกขึ้นแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป อยากนอนอ่ะ แต่อยากไปดื่มก็อยากไป ขอแยกร่าง T_T
  
  
  ผมใช้เวลาอาบน้ำเกือบยี่สิบนาที ออกมาเจอไรเฟิลกำลังเซ็ทผมอยู่ ผมเลยไปแต่งตัวบ้าง ผมเลือกกางเกงยีนส์เดนิมสีเข้มกับเสื้อยืดคอกว้างสีขาว กับรองเท้าสนีกเกอร์คู่โปรด เท่านั้นแหละ แต่งอะไรเยอะแยะ ผมไม่ใช่ไรเฟิลนะครับ เหล่มองคุณชายที่แต่งตัวเสร็จแล้ว ผมสีเงินถูกเซ็ทเปิดหน้าผาก เลื่อนลงที่เสื้อเป็นเสื้อเชิ้ตสำดำพอดีตัว กางเกงก็เป็นยีนส์เหมือนกันผม แอคเซสเซอรีส์มีแหวนที่นิ้วกลางข้างขวา นาฬิกาและต่างหูที่ผมให้(ใส่แค่หูขวาข้างเดียว อีกข้างเขาให้ผม) เป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า..
  
  
  
  หลังจากแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาออกเดินทาง!! ไปหาอะไรกินรองท้องกันก่อนจะไปที่ผับ แม้ก่อนออกมาจะตีกันไปหนึ่งยกเพราะคุณชายมันจะให้ผมเปลี่ยนเสื้อ! เสื้อผมมันทุเรศตรงไหนอ่ะ ใส่แล้วออกจะดูดี ไอ้ตาต่ำ!  แต่ตอนนี้สมานฉันท์กันแล้วฮะ
  
  
  
  มาถึงผับตอนสองทุ่มเกือบครึ่ง เลยเวลานัดมาเกือบครึ่งชั่วโมง ไม่ใช่ผมทำไม่ได้นะครับ(ฮ่าๆๆ) เข้าไปหาพวกมันที่โต๊ะแน่นอนว่าโดนด่า โธ่ มีใครมาเป๊ะ ๆ บ้างวะ! พวกที่มาก่อนก็สั่งเครื่องดื่มไว้แล้ว นั่นก็ดีไปครับ จะได้ไม่ต้องรอ ~ คนที่มาไม่ได้มีแค่พวกผมหรอกครับ มีคนอื่น ๆ ด้วย เพื่อนในคณะของสี่สหายนั่นแหละครับ รุ่นพี่รุ่นน้องมากันให้พรึ่บ โซ่กับปูนก็มา ปูนยังหล่อแบดเหมือนเดิม โซ่ก็ยังกวนตีนเหมือนเดิม อย่างเช่นตอนนี้...
  
  
  “ไปเต้นกับพี่ไหมน้องสาวววว”
  
  “สาวพ่อง!”
  
  “ใจร้ายจริง ๆ พี่เสียใจนะครับ” ผมแทบจะเอาเหล้าสาดหน้ามันอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่าเสียดายอ่ะนะ กวนตีนผมแล้วก็หัวเราะสนุกสนานแล้วก็มากวนผมอีก
  
  “ไปไกล ๆ” ไรเฟิลสะบัดมือไล่โซ่ มันยิ้มแล้วยอมไปง่าย ๆ แต่ปัญหาจะไม่เกิดถ้าก่อนไปมันไม่หอมแก้มโผมมมมมมมมม ไอ้โซ่!!!! ไอ้เหี้ยโซ่!!!! ผมตาเหลือกยกมือกุมแก้มตัวเองอย่างตกใจ เหลือบตามองไรเฟิลที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยักษ์ฝรั่งขบกรามกรอดจนขึ้นสันนูน สายตาคมกริบมองไปทางโซ่อย่างเย็นยะเยือก โซ่ค่อย ๆ หุบยิ้มลงแล้วก้าวถอยหลังไปช้า ๆ พร้อมกับยังมือขึ้นสองข้าง
  
  
  “ใจเย็น..” ผมจับข้อมือไรเฟิลไว้แล้วเกลี่ยเบา ๆ ร่างสูงกระแทกแก้วเหล้าในมือลงกับโต๊ะกระจกจนเกิดเสียงดังก่อนจะคว้ามือผมลากออกไปจากตรงนั้นไปที่ด้านหลังของผับ
  
  
  “ไม่โมโหเนอะ”
  
  “(จ้องเขม็ง)”
  
  “อย่ามองอย่างนั้นสิ..”
  
  “ให้มันหอมแก้มทำไม”
  
  “ใครจะไปรู้ว่ามันจะเล่นแบบนั้น..”

  “แม่ง!”
  
  “นี่ ๆ ไม่มีแล้ว” ผมใช้มือเช็ด ๆ ถู ๆ แก้มตรงที่โดนโซ่หอมไปแรง ๆ ไรเฟิลคว้ามือผมไว้แล้วทำหน้ายุ่งยิ่งกว่าเดิม คิ้วเข้มขมวดหมุ่นแทบจะชนกัน
  
  “...”
  
  “I’m sorry” ไรเฟิลส่ายหน้าช้า ๆ โน้มใบหน้าลงมาใกล้กดปลายจมูกโด่งกับแก้มของผมพร้อมกับกัดแก้มผมไปไม่แรงแต่ก็ไม่เบา ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากมาประกบกลีบปากของผม ผมหลับตารับสัมผัสจากร่างสูงก่อนจะจูบตอบ เราจูบกันอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้คิดว่าจะมีคนมาเจอ..
  
  
  “ไงพวก!” ผมกับไรเฟิลผละออกจากกัน ไรเฟิลกดท้ายทอยผมให้ซบหน้ากับอกของเขา ผมไม่รู้ว่าคนที่มาใหม่นั้นเป็นใครเพราะหันหลัง เสียงก็ไม่คุ้นไม่น่าใช่คนที่ผมรู้จัก
  
  “มีอะไรเหรอ?” ผมจะเงยหน้าถามแต่ก็ถูกกดศีรษะไว้อีกพร้อมกับพูดห้ามเสียงเข้ม
  
  “ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมา”
  
  “หวงมากสินะ อืม ๆ” คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่พูดอย่างกวนอารมณ์
  
  “จะไปไหนก็ไป”
  
  
  “ไม่ได้เจอกันตั้งนาน โดนไล่แบบนี้เสียใจนะเนี่ย” เสียงคนพูดไม่ได้เสียใจอย่างที่บอก แต่กลับเต็มไปด้วยความกวนประสาท อยากหันไปมองจริง ๆ ว่าคนคนนั้นเป็นใคร
  
  “เหอะ”
  
  “ขอดูหน้าเด็กมึงหน่อยดิวะ”
  
  “เสือก!” ไรเฟิลพลิกตัวผมให้ไปอยู่ข้างหลังแล้วจูงกึ่งลากผมออกจากตรงนั้น ได้ยินเสียงหัวเราะไล่หลังมา กำลังจะหันกลับไปมองก็ถูกไรเฟิลล็อคคอเอาไว้
  
  
  
  
  -------
  ----
  
  
  
  “ใครหรอ”
  
  “ไม่ใช่เรื่องของเด็ก”
  
  “เด็กบ้านมึงสิ ใครอ่ะ ใคร”
  
  “อยู่นิ่ง ๆ” ไรเฟิลจับผมที่ดิ้นแด่ว ๆ ให้นิ่งแล้วพาเดินเบียดฝูงชนเพื่อขึ้นไปชั้นวีไอพีด้านบน เฉไฉเปลื่ยนเรื่องชัด ๆ แต่มันได้ผลว่ะ เพราะผมเลิกสนใจไรเฟิลแล้วหันมองรอบ ๆ แทน เหมือนจะตกเป็นเป้าสายตาแฮะ... มีสาว ๆ มองมาที่ไรเฟิลเยอะแยะเลยครับ เฮ้ย!! ไม่ได้นะ ห้ามมองนะเว้ย คนนี้ของผมนะ!! ผมขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจแล้วยกแขนกอดเอวไรเฟิลไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ยักษ์หัวเงินเหมือนจะรับรู้ปฏิกิริยาของผมถึงได้ส่งยิ้มยั่วสาว ๆ ให้ละลายไปกองกับพื้น หนอยแหนะ! ไอ้ฝรั่งนี่!!
  
  
  
  “ไปไหนกันมาวะ” ทันทีที่มาถึงโต๊ะไนต์ก็เสนอหน้าเข้ามาหา
  
  “ข้างนอก” ยักษ์ตอบ ผมยังหน้าบึ้งตึงกวาดตามองรอบ ๆ อย่างไม่สบอารมณ์ โว้ยยยย! มองกันอยู่ได้ไม่เคยเห็นคนหรือไง!
  
  “แล้วเห็ดนั่นเป็นไร หน้างอเป็นตูด” ไนต์พยักเพยิดหน้ามาทางผม ผมสะบัดค้อนวงใหญ่ไปให้
  
  “หึง”
  
  “ไม่ได้หึงสักหน่อย!!!”
  
  “บ๊ะ! เดี๋ยวนี้เยอะนะ” ไอ้หมานี่! ผมไม่ได้หึงนะ ไม่ได้หึงจริง ๆ นะ ก็แค่ไม่ชอบที่คนอื่นมามองคนของผมอ่าาา ผมไม่ได้หึงงงงงง!
  
  “หึ”
  
  “ฮึ่ย!” ผมสะบัดแขนไรเฟิลที่โอบไหล่ไว้ออกแล้วเดินไปแทรกกลางระหว่างกายกับสาวสวยสุดเอ็กซ์ที่ยืนคุยกันอยู่อย่างไร้มารยาท ผมอ่ะนะไร้มารยาท .. กวนตีนกายแล้วก็เดินเลยไปนั่งกับฟอร์สที่นั่งดื่มกับเพื่อนมันอยู่
  
  
  “เป็นอะไรวะ?”
  
  “เพื่อนมึงกวนตีน”
  
  “ก็เลยหนีมันมา เดี๋ยวก็โดนคาบไปหรอก มึงดูโน่น”  ผมกับฟอร์สกระซิบกระซาบกันกันใกล้ ๆ เพราะเพลงมันดัง ถ้ามองไกล ๆ คงเหมือนกำลังนัวกันอยู่ .. ฟอร์สชี้นิ้วไปที่ตำแหน่งที่ไรเฟิลยืนอยู่ มันจะไม่อะไรเลยถ้าไม่มีผู้หญิงยืนอยู่ข้าง ๆ มัน!! แล้วจำเป็นต้องเบียดกันขนาดนั้นไหมวะ! เจ๊ครับ! นั่นของผม นมใหญ่ใช่ว่าจะอ่อยแฟนคนอื่นได้นะครับ!!
  
  “เหี้ย!”
  
  “ใจเย็นสหาย” ฟอร์สพูดกลั้วหัวเราะแล้วส่งแก้วเหล้ามาให้ ผมรับแก้วน้ำสีอำพันมาดื่มรวดเดียวจนไอ้ฟอร์สร้องห้ามไม่ทัน ใครชงวะ อย่างเข้ม!
  
  “เจ๊ปากแดงนั่นเป็นใครวะ!”
  
  “อยากรู้ก็เข้าไปดูดิ” นี่ก็เสี้ยมจัง! ผมวางแก้วไว้แล้วเดินไปหาไรเฟิล แทรกกลางแม่งเลย ชิ
  
  
  “สวัสดฮะ คุยอะไรกันอยู่เหรอ” ผมพูดยิ้ม ๆ เจ๊ปากแดงดูงง ๆ ที่อยู่ ๆ ผมก็เข้ามา สาวเจ้าคลี่ยิ้มหวานแต่ตามองจิกผมซะ...
  
  “ใครเหรอคะ”
  
  “แฟน” ไรเฟิลพูดนิ่ง ๆ แล้วโอบเอวแล้วก่อนจะพาเดินหนีจากเจ๊คนนั้น ผมหันหลังกลับไปมองเห็นเจ๊แกช็อคอยู่ก่อนจะกัดฟันกรอด ผมเลยยิ้มให้เบา ๆ ไปทีหนึ่ง ฮึ่ยยย!
  
  
  “กูเจอไอ้แทนไท” กายพูดขึ้น แทนไทนี่ใครวะ บอกกูบ้างดิเฮ้ย!
  
  “เพิ่งเจอ” ไรเฟิลไหวไล่ เพิ่งเจอเหรอ.. ถ้านอกจากเจ๊คนเมื่อกี้แล้วที่เพิ่งก็ตอนที่อยู่หลังผับ ผู้ชายกวนประสาทคนนั้น...
  
  “คนที่อยู่หลังผับน่ะเหรอ?”
  
  “อื้อ”
  
  “ทำไมไม่ให้กูหันไปมองอ่ะ”
  
  “บอกว่าไม่ใช่เรื่องของเด็ก”
  
  “อีกละ” ผมเหลือบตามองบนเอียงตัวไปซบกายที่นั่งอยู่ฝั่งขวาของผม ไรเฟิลดึงผมกลับแต่ผมกอดแขนกายแน่น หึ! กูไม่พอใจ!
  
  “บันนี่”
  
  “เสียงอะไรอ่ะ” ผมยกมือปัดแถวหูเหมือนปัดแมลง
  
  “สัด.. พวกมึงเล่าดิ๊” พอไรเฟิลบอกแค่นั้นอีกสามคนก็หัวเราะลั่น ผมเหล่มองไรเฟิลนิดหน่อยพอเห็นว่าอีกฝ่ายมองอยู่ก็หันหน้าหนีแล้วช้อนตามองกาย กายยักไหล่แล้วก้มลงมาเป็นคนเล่าเรื่องให้ผมฟัง เรื่องมันมีอยู่ว่า... แทนไทกับไรเฟิลเขาไม่ถูกกัน มีปัญหากันมาตลอด ชิงดีชิงเด่นอะไรทำนองนั้น แทนไทก็ชอบแย่งผู้หญิงที่ไรเฟิลควง แต่ไรเฟิลไม่ได้สนใจหรอก แทนไทก็เลยยิ่งไม่ชอบใจ ไอ้เหี้ยนี้ขี้เก๊กสัด ๆ กูหมั่นไส้ อะไรทำนองนั้น ก็กลายเป็นไม่ชอบขี้หน้ากันไป บ้าบอดีแท้
  
  
  “สวย!”
  
  “หะ?”
  
  “ไปแด๊นซ์กัน”
  
  “เออ ๆ” ผมลุกตามแรงลากของบะหมี่ ไรเฟิลพยักหน้าโอเคแล้วไม่มีปัญหา ผมกับบะหมี่ลงไปที่ฟลอร์ชั้นล่าง ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะแฮะ เพลงที่เปิดก็ยิ่งเพิ่มระดับความันขึ้นไปอีก คนมองกันให้พรึ่บ ถ้าสายตาคนพวกนั้นเป็นมีดผมกับบะหมี่คงพรุน วันนี้เจ้าแม่สวยนะครับ ผมยาวสวยถูกรวบเป็นหางม้า เมคอัพผมไม่รู้อ่ะแต่แต่งออกมาสวยมาก ต่างหูเล็ก ๆ ใส่เรียงกันยาวเลย (บะหมี่เจาะหูหลายรูมากครับข้างละ 5-6 รูเลยมั้ง) ส่วนชุดเป็นเดรสเปิดไหล่รัดรูปสีน้ำเงินหุ่นมันสวยอยู่แล้วเลยออกมาสวย รองเท้าหนังส้นสูงสีน้ำเงินเหมือนชุด เพราะอย่างนี้มั้ง คนเลยมองกันเยอะ
  
  “มึงขยับมาหน่อย”  บะหมี่ดึงแขนผมเข้าไปหามันแล้วกอดคอผมเอาไว้ระหว่างที่เต้นอยู่
  
  “มีอะไรวะ”
  
  “มึงโดนสีไม่เห็นหรอ หะ” คือ.. กูเป็นผู้ชายไหม? กูต้องเป็นคนดูแลมึงเปล่าวะม่า ทำไมกลายเป็นมึงดูแลกูเนี่ย หาาาาา
  
  “มึงนั่นแหละ ระวังด้วย”
  
  “กูสบายอยู่แล้ว มึงอ่ะ ระวังโดนอุ้ม หน้าตายิ่งน่าล่ออยู่ด้วย”
  
  
  “สวัสดีครับ”
  
  “พูดไม่ทันขาดคำ” บะหมี่กระซิบกับผมเสียงเบา มึงไม่คิดว่าเขามาทักมึงเลยเหรอ หะ!
  
  “สวัสดีค่ะ” บะหมี่ใส่หน้ากากยิ้มหวานกลับไปให้คุณผู้ชายคนนั้น ตาเยิ้มมาเลย คงจะเมาแล้วแน่ รู้สึกสยองฉิบหาย
  
  “เพื่อนหรือแฟนกันครับนี่”
  
  “เพื่อนค่ะ”
  
  “อ้อ ชื่ออะไรกันเหรอครับ”
  
  “บะหมี่ค่ะ ส่วนคนนี้ควอทซ์ มีเจ้าของแล้วค่ะ”
  
  “ว้า... เสียดายจังแฮะ” หืม.. เสียดายอะไรเหรอคุณ.. บะหมี่สะกิดเอวผมยิก ๆ ทำนองว่า เห็นไหม กูบอกแล้วว่าเขามาเต๊าะมึง!
  
  บะหมี่ยิ้ม “มาคนเดียวหรอคะ?”
  
  “เปล่าครับ ผมมากับเพื่อนน่ะ แล้วพวกคุณล่ะ?”
  
  “มากับเพื่อนเหมือนกันค่ะ เอ่อ.. ขอตัวก่อนนะคะ” บะหมี่พูดจบก็ลากผมกลับขึ้นชั้นบนเหมือนเดิม ระหว่างทางเจ้าแม่ก็เป็นคนค่อยกันคนที่จะเข้ามาหานะครับ ไม่ธรรมดา แม่ง มันโคตรทำให้ผมรู้สึกไร้ประโยชน์ทั้งที่เกิดเป็นผู้ชายอ่ะครับ
  
  
  “เอาคืนไป!” เจ้าแม่ผลักผมใส่ไรเฟิล ห่าาา! ถ้าพลาดคือลงไปกองกับพื้นอ่ะครับ แล้วตอนนี้คือ.. ผมนั่งตักไรเฟิลอยู่ จะลุกขึ้นก็ล็อคเอวผมไว้ซะงั้น แล้วแยกขาออกให้ผมนั่งลงที่ว่างตรงระหว่างขาของตัวเอง อายคนอื่นไหมเนี่ย ไอ้หน้าด้าน!
  
  “ทำไมมาเร็ววะ ยังไม่ถึงยี่สิบนาทีเลย” ไนต์พูด บะหมี่กลอกตามองบนแล้วถอนหายใจออกมา ยกเหล้าขึ้นดื่มพร้อมกับที้งตัวนั่งที่ว่าง
  
  “เพื่อนมึงนี่ฮอตเนอะ ไม่ถึงสิบนาทีกูต้องคอยกันผู้ที่เข้ามาเต๊าะนาง ไอ้ห่า! เหนื่อย”
  
  “มึงนี่ชอบทำตัวเป็นภาระคนอื่น” ผมเบะปาก โยกตัวหลบก้อนน้ำแข็งที่หมาไนต์โยนมา
  
  “อะไรอ่ะ! กูไม่ผิดสักหน่อย เขาเข้าหาบะหมี่เถอะ!”
  
  “ควอทซ์มันดึงดูดเพศเดียวกันไง”
  
  “อ้าว.. พูดงี้ต่อยกันไหมฟ้า”
  
  “เพลิงฟ้าโว้ย!”
  
  “มึงก็เยอะยังจะไปว่าเขา” ผมหัวเราะลั่นเพราะคำพูดพี่เจ้า เพลิงฟ้าหน้างอไปเลย หึหึ ว่าคนอื่นเข้าตัวเองเฉย เพลิงฟ้านี่ไม่ธรรมดานะครับ ถึงจะไม่ได้สนิทอะไรมาก(แต่ก็สนิทอ่ะ) แต่ก็พอรู้มาเหมือนกันว่ามันก็ฮอตมาก ถ้าผมเป็นพี่เจ้าคงประสาทแดกตายก่อน
  
  “ฮอตนักหรอ หืม”
  
  “อื้อ อย่ากัดดิ!” ผมฟาดแขนไรเฟิลเพี้ยะ(อยากฟาดปากแต่มือไม่ถึง เศร้า T_T) ใครใช้ให้มันมากัดไหล่ผมล่ะ เจ็บเว้ย กัดไม่ใช่เบา ๆ
  
  
  
  แล้วงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา เราดื่มฉลองกันผับเกือบปิดถึงได้แยกย้ายกันกลับ แยกกับเพื่อน ๆ ที่ไม่รู้ว่าเหมือนไหร่จะได้เจอกันอีก เรียนกจบก็คงแยกย้ายกันไปทำงานตามสาขาวิชาที่เรียนมา แต่ทุกอย่างมันก็ไม่แน่นอน บางทีก็ได้ทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา คิดแล้วก็ใจหายเหมือนกันแฮะ เจอกันแทบทุกวันตลอดระยะเวลาสี่ปี วันนี้ก็ต้องไม่เจอกันแล้ว. . . ก็ขอให้โชคดี
  
  
  
  ---------------------
  
  
  
  
  ผมมึนมากเลยครับแต่ไม่ถึงกับเมานะ ยังพูดรู้เรื่องอยู่ แล้วตอนนี้ก็กำลังจะกลับคอนโด มาถึงห้องผมก็สะบัดรองเท้าไปคนละทิศทางเลย เดินเซ ๆ ไปส่องบันบันที่นอนอยู่ในกรง แล้วขึ้นบันไดไปห้องนอนบนชั้นสอง รู้สึกเกลียดบันไดก็วันนี้แหละฮะ
  
  
  “อาบน้ำไหม?”
  
  “No...Yes”
  
  “ดี ๆ สิ”
  
  “อื้อ.. ถอดเสื้อให้หน่อย” ผมชูแขนชูขาเป็นเด็ก ๆ ไรเฟิลสั่นหัว มือหนาจับข้อเท้าผมแล้วลากไปปลายเตียง จับตัวผมให้ลุกขึ้นนั่งแล้วเริ่มเปลื้องผ้าผม
  
  “ไม่ต้องอาบมันแล้ว”
  
  “อ้าว” แล้วที่แก้ผ้ากูนี่คืออะไรวะครับ ผมปรือตาช้อนมองคนตัวสูงด้วยความงุนงง ไรเฟิลกัดปากก่อนจะแสยะยิ้มออกมาแล้วผลักผมนอนราบกับเตียงเหมือนเดิมแล้วร่างสูงก็เคลื่อนตัวมาคร่อมทับ เดี๋ยวครับเดี๋ยว ท่านี้มันใช้เหรอ...
  
  
  “ท ทำอะไร”
  
  “ทำอะไรดีล่ะ?”
  
  “อาบน้ำ ใช่ ไปอาบน้ำ”
  
  “อาบแล้วก็เปื้อน”
  
  “ฮื่อ.. จะอาบน้ำ!”
  
  “งอแงนะ”
  
  “อาบน้ำเถอะนะ เหนียวตัวอ่ะ เหนื่อยด้วย”
  
  “อื้อฮึ” ผมยิ้มแฉ่ง ลุกขึ้นนั่งแล้วเดินหนีไรเฟิลเข้าห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันได้ปิดประตูคนตัวสูงก็ตามเข้ามาซะก่อน อาบด้วยกันก็ได้ว่ะ เหอะ!
  
  
  
  
  -------
  ---
  
  
  
  “บันนี่”
  
  “หือ..” ผมครางตอบในคอ ตาปิดสนิทแต่สติยังไม่ดับ กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็เหนื่อยฉิบหายอ่ะครับ ไรเฟิลมัน... ไม่เอา ไม่พูดดีกว่า ตอนนี้น่าจะตีสี่มั้งครับ ง่วงอ่ะ
  
  “เอ่อ...”
  
  “หือ มีอะไรเหรอ ไว้คุยพรุ่งนี้ได้ไหมอ่า...” ผมพูดทั้งยังหลับตา ยิ่งไรเฟิลเล่นผมผมอยู่แบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกง่วง
  
  
  
  
  
  “แต่งงานกันไหม”
  
  
  
  
  “...............หะ!!!!!” ผมนิ่งไปให้สมองประมวลผมก่อนจะออกมาพร้อมกับเด้งตัวขึ้นนั่งตัวตรง หัวใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ไรเฟิลที่นอนอยู่ก็ลุกขึ้นมาด้วย ผมมองหน้าเขาอย่างตื่น ๆ ส่วนคนวางบอมบ์ก็ทำหน้านิ่งเฉย ราวกับไม่รู้สึกอะไร
  
  “แต่งงานกันไหม?” ไรเฟิลพูดอีกครั้ง ใบหน้ายังเรียบนิ่งเหมือนเดิม เหมือนประโยคที่พูดไม่เมื่อสักครู่ไม่ใช่การขอแต่งงาน แต่แค่ถามว่า ‘ไปกินข้าวกันไหม’
  
  
  “ร ไรฟิล..”
  
  “น้องควอทซ์จะแต่งงานกับพี่ไหมครับ?”
  
  “ฮึก..”
  
  “ร้องทำไม”
  
  “ไม่รู้ ฮืออออ” ผมโผเข้ากอดคอไรเฟิล เกยคางกับไหล่กว้าง ปล่อยให้น้ำตาเม็ดโตไหลอาบแก้มไว้อย่างนั้น ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกภายในออกมายังไง..
  
  “เด็กน้อย... ตกลงไหม หืม?”
  
  “อื้อ” ผมพยักหน้ารัว ๆ พร้อมกับกอดคอคนตัวสูงแน่นยิ่งกว่าเดิม
  
  “อื้อ คืออะไร?”
  
  “ต แต่งไง ฮ ฮึก”
  
  “หึ ไหน เอาดูหน้าสิ” ผมปล่อยแขนจากลำคอแกร่ง ไรเฟิลช้อนมือประคองใบหน้าผมเอาไว้พร้อมทั้งไล้ปลายนิ้วเช็ดหยาดน้ำตาออกให้ ผมไม่ได้ร้องไห้เพราะเศร้าหรือเสียใจ แต่ร้องเพราะดีใจ ใครจะไปคิดว่าคนที่ไม่ชอบการผูกมัดอย่างไรเฟิลจะขอผมแต่งงาน มันตื้นตันจริง ๆ นะครับ.. ภาพเหตุการณ์ที่ทะเลเมื่อตอนผมยังเรียนอยู่ปีสามไหลย้อนเข้ามาในหัวราวกับวีดีโอที่ถูกกดรีเพลย์
  
  
  “เรียนจบแล้วจะทำอะไรเหรอ”
  
  “อืม.. แต่งงานกับมึง”

  
  
  ผมไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างที่เคยพูดไว้จริง ๆ เราคบกันในฐานะแฟนแค่ปีกว่า ๆ เองด้วยซ้ำอ่ะ มันดูเร็วไป แล้วเขามั่นใจอะไรในตัวผมขนาดนั้น..
  
  “หน้าตาน่าเกลียด”
  
  “ไม่น่าเกลียดนะ..”
  
  “หึ นอนเถอะ” ไรเฟิลล้มตัวนอนเหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แขนยาวดึงผมให้นอนด้วยแล้วสอดแขนเข้ามาให้ผมหนุนแทนหมอน ผมนอนไม่หลับแล้ว ความง่วงมันหายไปหมดตั้งแต่ได้ยินประโยคแรก ผมขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วแนบหูกับอกข้างซ้ายตำแหน่งหัวใจของไรเฟิล.. หัวใจเต้นแรงมากเลยฮะ.. ผมยิ้มกับตัวเอง เจ้าชายน้ำแข็งของผมตื่นเต้นสินะ หึหึ
  
  “ตื่นเต้นเหรอ หัวใจเต้นแรงมากเลย..”
  
  “เงียบน่า.. นอนได้แล้ว”
  
  “เขินก็บอกสิ เขินใช่ไหม”
  
  “นอน”
  
  “เขินเหรอ เขินใช่มะ”
  
  “อื้อ..”
  
  “ฮะฮะ .......รักนะ จุ้บ!” ผมยืดหน้าไปจุ้บปลายคางไรเฟิล จุ้บปากไม่ถึงง่ะ T_T
  
  “อื้ม”
  
  “รักไหม ไรเฟิลรักเราไหม?”
  
  “อื้อ”
  
  “รักไหม พี่ไรเฟิลรักน้องควอทซ์ไหมครับ?” ผมยังแกล้งเซ้าซี้ให้อีกฝ่ายรำคาญ ที่ถามแบบนี้ไม่ใช่ไม่เขินนะครับ เขินมากกก ผมร้อนไปทั้งตัวแล้ว T_____T
  
  
  “รักครับ”
  
  
  
  ขอปุ่มกดระเบิดตัวเองครับ...







-----------------------
แป๊บนึงค่ะ.. ขออนุญาตหมั่นไส้แป๊บนึงนะ..
ชีวิตเขาดีเกินไปไหมคะ ขออุปสรรค..
 :fox2: :fox2:
อยากจะบอกว่า.. ตอนหน้าจบแล้วค่ะ...(น้ำตามา) ไว้เจอกันตอนหน้าเนาะ บ้ายบาย
 :bye2: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 08-05-2015 22:06:00
อยากบอกบันนี่ว่า  ชีวิตดี๊ดี  ><
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Shinning_day ที่ 08-05-2015 22:08:21
จิ้มแรกไม่ทัน กรี้ดเสียใจ จริงหมั่นนายเอกของไรท์ทุกคนเพราะพระเอกคสรเป็นของเรานะคะ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 08-05-2015 22:34:04
จัดวันไหนล่ะเนี่ยยยยยย  งานแต่ง  เราจะไปด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย         :hao7: :hao7: :hao7:

อิตาแทนไท  โผล่มาให้น่าสงสัยอีกล่ะ    :hao4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 08-05-2015 23:04:06
ยางงายยยยบันเนนนนนนน่  :hao7:
เขินตัวพรุนสุดดด ฮรือออออ

รอคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 08-05-2015 23:04:19
จะจบแล้วเหรอ

ยังไม่ดราม่าเลย

ขอๆก่อนจบ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-05-2015 23:52:49
บันนี่น่ารักตลอดดด
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 08-05-2015 23:59:36
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 09-05-2015 00:41:54
ชีวิตดี้ดีน้า  :hao7: อิจฉาๆ แต่เศร้าใจมากกว่าว่าจะจบแล้ว  :hao5:

นักอ่านยังอยากอ่านอีกยาววววเลยอ้า  :L2:  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 09-05-2015 00:55:47
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-05-2015 01:47:13
 เขินเลย
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jjay ที่ 09-05-2015 10:03:30
เขินแทนน้องควอทท์ :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 17-05-2015 20:31:05
EPISODE 52




  3 เดือนต่อมา...
  
  
  
  
  
  “ใกล้เสร็จหรือยัง เร็ว ๆ หน่อยนะ” เสียงอาณิชร้องเร่งช่างแต่งหน้าที่กำลังละเลงแปรงกับหน้าผม ผมนั่งให้พี่เขาลงนั่นลงนี่ให้เป็นชั่วโมงแล้วครับ ช่างก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เจ๊จุ๊บแจงเจ้าเก่า(เคยออกตอนถ่ายแบบและงานเดินแบบ) วันนี้ผมตื่นตั้งแต่ตีห้า ซึ่งง่วงมาก ๆ เผลอหลับไปหลายรอบแล้วครับระหว่างที่แต่งหน้า . . . แต่งหน้าทำไม? นั่นสิแต่งทำไม ที่จริงผมไม่อยากแต่งเลยนะครับ แต่ขัดผู้ใหญ่ไม่ได้ วันนี้เป็นวันสำคัญ. . . เอ่อ จะว่ายังไงดี ผมเขินอ่ะ วันนี้...เป็นวัน...แต่งงานของผมกับไรเฟิลครับ!!!! (ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าไรเฟิลเขาไปคุยกับผู้ใหญ่ก่อนหน้าที่จะมาขอผมแต่งงานแล้วTwT)
  
  
  
  ตามที่ผู้ใหญ่ตกลงกันคือหมั้นเช้าแต่งบ่ายจัดเลี้ยงเย็น พิธีหมั้นช่วงเช้าจะจัดแบบไทย ส่วนงานช่วงบ่ายจะเป็นแบบคริสต์ เพราะครอบครัวของไรเฟิลเป็นคริสต์ทั้งหมด แล้วครอบครัวผมเป็นพุทธ(ผมไม่ได้นับถืออะไรเป็นหลักแต่บัตรหรือเอกสารเป็นศาสนาพุทธ) และเพื่อเป็นการให้เกียรติทั้งสองฝ่าย จึงตกลงกันที่จะจัดทั้งสองแบบ
  
  
  เมื่อช่วง 3-4 เดือนก่อนวันงาน ผู้ใหญ่เขาก็เข้ามาพูดคุยตกลงกันเรื่องต่าง ๆ  ติดต่อเรื่องอาหาร เรื่องสินสอด(อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงกันเท่าไหร่) ตัดชุด เลือกแหวนหมั้นและแหวนแต่งงาน(แน่นอนว่าสั่งทำกับอัครกรุ๊ป) และเริ่มพิมพ์การ์ด เพลิงฟ้าเป็นคนออกแบบการ์ดให้ครับ ไรเฟิลเขาก็โอเค ผมก็ไม่มีปัญหานะ แต่คนที่คัดค้านคือพี่เจ้า เพราะพี่เจ้ากลัวเพลิงฟ้าจะทำเละ แต่พอดูตัวอย่างการ์ดแล้วมันสวยนะครับ
  
  
  
  ชุดที่ใช้ในพิธีเช้าจะเป็นชุดไทยครับและทุกคนก็แต่งชุดไทยกันหมดเลย.. ชุดของผมจะเป็นสูทแต่เป็นผ้าไหมแบบไทย ๆ สีครีมของไรเฟิลก็คล้าย ๆ กัน แต่ไม่เข้าใจทำไมของผมต้องมีลูกไม้ประดับด้วย!! ควอทซ์ไม่เก็ท แต่ก็ขัดไม่ได้อีกนั่นแหละครับ เศร้า...
  
  
  
  “wake up!” เสียงแหลม ๆ ของวิคตอเรียดังข้างหู ผมสะดุ้งแล้วลืมตามองเห็นหน้าวิคตอเรียใกล้ ๆ แล้วเกือบหงายหลัง สาวเจ้าอยู่ในชุดไทยประยุกต์สีชมพูอ่อน แต่งหน้าบาง ๆ กลายไปสาวหวานหมดลุคสาวเปรี้ยวไปเลย ฝาแฝดวิคตี้เพื่อนสนิทของผมพอรู้ข่าวก็บอกว่าจะมางานให้ได้ สุดท้ายก็มาอย่างที่บอกจริง ๆ วิคเตอร์แฝดน้องก็คงอยู่ข้างล่าง
  
  
  “เสร็จแล้วค่าาา”
  
  “ขอบคุณครับ..”
  
  “Sooooo beautifuuuuul!” ไล่วิคตี้กลับประเทศทีครับ! สวยบ้าบออะไรล่ะ หล่อบ้างเถอะ!
  
  
  
  “เรียบร้อยหรือยัง ใกล้ได้เวลาแล้วนะลูก” คุณย่าเข้ามาในห้องแล้วเข้ามาสำรวจความเรียบร้อยให้ผมก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ ผมอยู่ในห้องที่ใช้เป็นห้องส่งตัว งานตอนเช้าจัดที่บ้านผม ในห้องตอนนี้ก็มีผม วิคตี้ อาณิช บะหมี่ พี่จุ๊บแจง(ช่างแต่งหน้า) พี่ชิคเพื่อนพี่เจ้าที่มาคอยเก็บภาพให้ แล้วก็คุณย่าที่เพิ่งเข้ามา
  
  
  
  
  “มาแล้วค่ะ!!” บะหมี่ร้องเสียงดัง แหวกม่านดูฝั่งหน้าบ้าน ผมจึงเดินไปดูด้วย รถตู้คันใหญ่เข้ามาภายในรั้วบ้านก่อนจะจอดสนิทและคนในรถทยอยเดินกันลงมา
  
  
  ตึก ตึก..
  
  
  
  ท ทำไมหัวใจผมถึงเต้นเร็วแบบนี้ล่ะ!! ไม่ได้การละ เห็นจากมุมไกล ๆ เองนะเว้ย! ทำไมตื่นเต้นขนาดนี้เนี่ย! คุณย่ากับอาณิชขอตัวออกไปต้อนรับข้างล่าง(และอาณิชก็ลากพี่จุ๊บแจงไปด้วย) ส่วนวิคตอเรียก็ถูกบะหมี่ลากออกไปเพื่อกันประตูเงิน ประตูทอง เอิ่ม... สองคนนี้มันมาเพื่อเป็นเพื่อนเจ้าสาว คืิอ... กูผู้ชายไหม เจ้าสาวบ้าอะไรล่ะ
  
  
  
  
  “ตื่นเต้นเหรอ”
  
  “โคตร ๆ” ผมตอบพี่ชิคที่ยังอยู่ด้วย พี่แกยังรัวชัตเตอร์ไม่หยุด ทำงานคุ้มค่าจ้างไปไหน - - ช่างภาพไม่ได้หาที่ไหนไกลเลยครับ 1 พี่เจ้า 2 พี่ขลุ่ย และ 3 พี่ชิค
  
  “พี่ชิค! ผมโอเคไหมอะ?” ผมมองพี่ชิคอย่างลุ้น ๆ พี่ชิคลดกล้องลงแล้วยิ้มมาให้พร้อมกับชูนิ้วโป้ง
  
  “สวยมาก”
  
  เฮ้ออออ -__-
  
  
  
  ก็อก ก็อก
  
  
  ผมสะดุ้ง มองไปที่ประตูอย่างตื่น ๆ หันมองพี่ชิค ไม่สนผมเลยอ่ะ เอาแต่ถ่ายรูปอยู่ได้!
  
  
  
  แกรก
  
  
  
  ไอ้สัด!!! เอ่อะ.. โอเค งานมงคลจะไม่พูดคำหยาบ(?) ผมถอยหลังครูด กระพริบตาปริบ ๆ มองคนที่เดินเข้ามา.. รู้สึกแสงมันจ้า ๆ แสบตาฉิบ.. ไรเฟิลในชุดสูทแบบไทยหล่อมาก!!! ผมยกมือกุมอกข้างซ้ายที่เต้นระรัวน่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมา ยืนตัวแข็งทื่อ โดนไรเฟิลจูงมือออกไปยังไม่รู้ตัวเลย สองสาววิคตอเรียกับบะหมี่ รวมถึงพี่ชิคเดินตามหลังผมเพื่อลงไปข้างล่าง
  
  
  
  
  
  เมื่อมาถึงที่ที่เตรียมเอาไว้ผมกับไรเฟิลก็คลานเข่าไปฝั่งของคุณพ่อคุณแม่ของไรเฟิลก่อนก่อนจะก้มกราบพวกท่านแล้วจากนั้นก็คลานเข่าไปฝั่งคุณย่ากับป๊าของผม เมื่อกราบผู้ใหญ่เสร็จผมกับไรเฟิลก็คลานไปนั่งพับเพียบที่พื้นโดยหันหน้าออก สถานที่ที่ใช้คือพื้นที่ตรงส่วนห้องนั่งเล่นครับ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายนั่งอยู่บนโซฟา และจัดเก้าอี้ให้แขกนั่งเยื้องไปทางขวามือ . . . ทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบร้อยจนกระทั่งถึงพิธีสวมแหวน. . . (ตรวจสินหมั้นก็ทำพอเป็นพิธีเท่านั้น ป๊าแทบจะจับผมใส่พานให้ไรเฟิลพร้อมกับแถมเพชรให้อีกทั้งโรงงาน สินหมั้นคงไม่จำเป็นแล้ว TwT)
  
  
  
  
  หัวใจผมเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะเลย แล้วมือก็ชื้นมาก ๆ หน้าผมต้องแดงอยู่แน่ ๆ เลย!!!
  
  
  
  ผมก้มลงกราบที่ตักของไรเฟิลโดยที่อีกฝ่ายพนมมือรับไว้ มือหนาจับมือข้างซ้ายของผมไปก่อนจะค่าย ๆ บรรจงสวมแหวนลงมาที่นิ้งนาง ให้ตายเถอะ!!!! หน้าผมร้อนมากเลย!! เห็นไรเฟิลยกยิ้มด้วย ไม่ไหวแล้ว หน้าผมเหมือนจะระเบิดเลย!! . . . พอไรเฟิลสวมแหวนให้เสร็จผมก็กราบขอบคุณอีกฝ่ายอีกครั้งก่อนจะยื่นมือไปหยิบแหวนอีกวงออกมา ผมยื่นมือไปจับมือข้างซ้ายของไรเฟิลแล้วค่อย ๆ สวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายให้อีกฝ่ายด้วยมือสั่น ๆ . . . เมื่อสวมแหวนเสร็จก็เป็นอันจบพิธี จากนั้นก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก พอถ่ายรูปเสร็จทุกอย่างจบ ผมก็พุ่งไปที่โต๊ะของกินทันที ได้ยินเสียงคุณย่าเอ็ดด้วย แฮ่ ก็ผมหิวอ่ะ
  
  
  
  
  
  -----------------
  
  
  
  
  “ไง ตัวเล็ก”
  
  “ไม่ตัวเล็กแล้ว” ผมยักคิ้วจึก ๆ ให้พี่แธท วันนี้พี่แธทมาด้วยแหละ ผมเคยเปรยถึงพี่แธทอยู่นะ คนที่ส่งไวรัสให้ผมไงครับ ... คนที่มาช่วงเช้าก็มีแค่ครอบครัวกับเพื่อนสนิทแค่นั้น ครอบครัวผม ครอบครัวไรเฟิล คุณลุง คุณป้า(พ่อแม่ของพี่แธทรุ่นพี่ของป๊าและเป็นคนที่ดูแลผมตอนที่เรียนไฮท์สคูล) พี่แธท พี่จีน่า(ภรรยาพี่แธท) น้องเจสเธอร์(ลูกชายพี่แธทกับพี่จีน่า) บะหมี่ ฝาแฝดวิคตี้ ไนต์ กาย ฟอร์ส เพลิงฟ้า พี่เจ้า พี่ขลุ่ย พี่ชิค ... สามคนหลังมาเป็นช่างภาพให้ครับ พี่เจ้าคือกล้องหลัก พี่ขลุ่ยกับพี่ชิคคือแคนดิท
  
  
  “ครับ ๆ โตก็โต” พี่แธทยิ้มอบอุ่นตามสไตล์พร้อมกับยื่นมือมาลูบหัวผม
  
  “เจสเธอร์ล่ะครับ”
  
  “ไม่รู้สิ”
  
  “อ้าว” เมื่อได้อาหารที่จะกินผมก็เดินกอดเอวพี่แธทไปที่โต๊ะ พอมาถึงโต๊ะก็โดนเลยครับ โดนสายตาคมกริบกรีดแทง.. ผมปล่อยมือจากเอวพี่แธทแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ว่างข้างไรเฟิลที่เหมือนจะจงใจให้ว่าง
  
  
  “ดาดี้!” เจสเธอร์กระโดดลงจากตักของกายแล้ววิ่งไปกอดขาดาดี้ พี่แธทย่อตัวอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาแล้วหอมแก้มนุ่มไปฟอดใหญ่ อ่า.. อยากหอมบ้างอ่ะ แต่ไม่ทัน พี่แธทอุ้มเจสเธอร์ออกไปแล้ว...
  
  
  
  
  --------
  ----
  
  
  
  
  “กินไหม?” ไรเฟิลพยักหน้าผมเลยจิ้มไส้กรอกให้
  
  “เบาหวานแดกแน่ ๆ เลยว่ะ” ผมลอยหน้าลอยตา ตักกินเองบ้าง ป้อนไรเฟิลบ้าง โดนแซวบ่อยจนเลิกอายไปแล้วครับ กลายเป็นพวกมันเอือม ฮ่า ๆๆ
  
  
  
  
  “ควอทซ์..” เจสเธอร์เงยหน้ามองผมตาแป๋ว มือเล็กวางบนหน้าขาผม คงหนีพี่แธทมา .. ผู้ใหญ่กินข้าวกันอยู่อีกโต๊ะครับ เด็ก ๆ อย่างเราเลยแยกออกมาอีกโต๊ะ
  
  “ว่าไงครับ?” ผมก้มหน้าลงไปใกล้ เด็กน้อยมองรอบ ๆ กลอกตาล่อกแล่กแล้วเงยหน้ามองผมอีกที ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามากระซิบผม นิ้วเล็กชี้ไปที่ไรเฟิล
  
  
  “เขากินคนไหม..”
  
  “หะ? ฮะฮ่า ๆๆๆๆ”
  
  “ไม่ไหวแล้ว แป๊บนึงนะ ฮ่า ๆๆ” ผมหัวเราะตัวงอ น้ำตาไหลเลยอ่ะคิดดู
  
  “หัวเราะอะไรวะ” ดูทุกคนข้องกับผมมากเลย แน่สิ มีแค่ผมที่ได้ยินเจสเธอร์พูดนี่ครับ
  
  “น้องถาม.. ฮะฮะ ว่า.. เขากินคนไหม” ผมพูดกลั้วหัวเราะชี้นิ้วไปที่ไรเฟิล ทุกคนนิ่งไปพักนึงแล้วหัวเราะออกมา มีแค่ไรเฟิลที่ขมวดคิ้วเป็นปม
  
  “งื่อ..” เจสเธอร์บี้หน้ากับหน้าขาผม ตากลมเหลือบมองแล้วหลุบลงไปอีก
  
  “ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ?” ผมถามเจสเธอร์พลางอุ้มเด็กน้อยขึ้นมานั่งตัก เจสเธอร์กอดคอแล้วซบหน้ากับคอผม .. (เราคุยกันเป็นภาษาอังกฤษนะครับ)
  
  “ดาดี้บบอกว่าถ้าดื้อเขาจะกิน” พี่แธทไปหลอกอะไรลูกวะเนี่ยยยย
  
  
  “อ่ะห่ะ ลองถามสิ”
  
  “ไม่เอา เขาน่ากลัว”
  
  “ใจดีนะ ลองถามสิ” เด็กน้อยทำหน้าลังเล มองหน้าไรเฟิลแวบนึงแล้วก็มุดคอผม เป็นอย่างนี้อยู่สองสามรอบถึงกล้ามองไรเฟิลตรง ๆ
  
  
  “กินคนเหรอฮะ?” พวกผมเงียบ รอฟังคำตอบ ไรเฟิลหันมองเด็กน้อย มุมปากแสยะยิ้มสยอง เดี๋ยวเด็กก็กลัวหรอกไอ้นี่หนิ - -
  
  
  “ถ้าดื้อ”
  
  “เจสไม่ดื้อ!”
  
  “เหรออออ แต่ควอทซ์ว่าดื้อนะ ให้เขากินดีไหมนะ”
  
  “ไม่ดี เจสไม่ดื้อ เจสน่ารัก”
  
  “ไหนนนน น่ารักจริงเหร้ออออ” ผมฟัดแก้มเจสเธอร์อย่างหมั่นเขี้ยว แก้มนุ่มฉิบหาย เด็กน้อยดิ้นใหญ่หัวเราะคิกคักเพราะจั๊กจี้
  
  “เดี๋ยวก็หายใจไม่ทัน” ผมหยุดจั๊กจี้เจสเธอร์เพราะเสียงไรเฟิล อืม.. นั่นสิ ลืมคิดไปเลย เด็กน้อยบนตักหอบหายใจแฮ่ก แก้มยุ้ยแดงก่ำ ...น่าเอ็นดูฉิบหาย
  
  
  
  “Baby! Look at me!” ผมมองวิคตอเรีย แสงแฟลชสาดวูบเข้าหน้าพอดี -__-
  
  “กรี๊ดดด เจสเธอร์น่ารักจัง” อ้าว.. เรียกเบบี้นี่ไม่ได้หมายถึงผมหรอกหรอ
  
  
  
  ------
  ---
  
  
  
  
  ตอนนี้ผมกำลังนั่งรถเพื่อไปที่โบสถ์ครับ ผมกับไรเฟิลแยกกันไปคนละคัน ผมเปลี่ยนชุดจากชุดไทยเป็นสูทสากลแต่ยังเป็นสีครีมเหมือนเดิม ระหว่างที่กำลังเดินทางผมก็เล่นโทรศัพท์เพื่อฆ่าเวลา ... อื้อหือ!!! เห็นตัวเลขโนติฯ แล้วแทบจะโยนทิ้ง แต่ไหน ๆ แล้วก็ดูหน่อยแล้วกัน ผมไล่กดไลค์รูปที่ถูกแท็กในอินสตาแกรมจนหมดแล้วย้ายไปเฟซบุ๊กบ้าง รูปงานหมั้นเมื่อเช้าก็ถูกแท็กเข้ามาเช่นกัน... แอดมินเพจ OfQuartz ก็ได้เอารูปไปอัพโหลดในเพจเหมือนกัน คอมเม้นต์เยอะมากกกกกกกกกกกกกกก!! ทั้งแสดงความยินดี ทั้งวิจารณ์
  
  “ถึงแล้วลูก” คุณย่าสะกิดบอก ผมทิ้งข้อความไว้ในรูปภาพที่อัพเดตล่าสุดว่า ‘ขอบคุณครับ’ ก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้คุณย่าเก็บไว้ให้
  
  
  
  ทุกคนเข้าไปภายในโบสถ์แล้ว แต่ผมกับป๊ายังอยู่ด้านนอกเพื่อรอเวลา แล้วไม่ไกลนั้นก็มีเด็ก ๆ ที่จะต้องเดินนำอยู่ด้วย ผมเดินไปเดินมา หยุดแล้วก็เดิน เดินแล้วก็หยุด จนป๊ารำคาญมั้งครับเลยเบรกเข้าให้
  
  
  “แค่นี้ตื่นเต้นเหรอมึง”
  
  “ไม่ตื่นเต้นก็แปลกแล้ว”
  
  “กระจอก” โห่.. ท่านครับ แต่งงานนะครับไม่ใช่กินข้าว ครั้งเดียวในชีวิตนะเว้ยไม่ตื่นเต้นได้ไงอ่ะ
  
  “เหอะ แล้วป๊าไม่คิดจะขออาณิชแต่งงานบ้างหรอ” ป๊าไม่พูดแล้วยกยิ้มมุมปาก
  
  “ได้เวลาแล้ว” ผมย่นจมูก จังหวะดีจริง ๆ
  
  
  
  ------
  ---
  
  
  
  
  แขนเรียวคล้องแขนของผู้เป็นบิดา มืออีกข้างถือช่อดอกไม้ และดอกไม้ที่ใช้คือกุหลาบขาว  ข้างหน้าผมมีคือเด็กโปรยดอกไม้และเด็กถือแหวน ผมก้าวเข้าไปเมื่อเสียงเปียโนบรรเลงอย่างประหม่า ทุกคนในโบสถ์ลุกขึ้นยืน และเมื่อมองเห็นไรเฟิลผมก็ยิ่งประหม่า ได้ยินป๊าหัวเราะเบา ๆ ด้วย ... จนกระทั่งผมและป๊าไปถึงหน้าแท่นพิธี ป๊าส่งมือผมให้ไรเฟิลและไรเฟิลก็มายืนข้างผมแทนป๊า จากนั้นบาทหลวงก็อ่านคัมภีร์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ก่อนจะถามความสมัครใจของผมและไรเฟิล
  
  
  
  
  “นาย รังสิมันต์ เมเยอร์ ศิริวัฒนามงคล นาย รักษ์ธิสุทธ อัครไพศาลกุล ท่านทั้งสองมาที่นี่โดยไม่ถูกบังคับ แต่มาด้วยความสมัครใจอย่างแท้จริง เพื่อเข้าพิธีสมรสหรือ?”
  
  “ครับ”
  
  “ครับ”
  
  “เมื่อเข้าสู่พิธีสมรสเช่นนี้แล้ว ท่านทั้งสองพร้อมจะรักและยกย่อง ให้เกียรติแก่กันและกันจนตลอดชีวิตหรือ?”
  
  “ครับ”
  
  “ครับ”
  
  “โดยที่ท่านทั้งสองมีเจตจำนงที่จะสมรสกัน ขอให้ท่านจับมือขวาของกันและกัน และแสดงความสมัครใจต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า และพระศาสนจักรของพระองค์”
  
  
  ผมและไรเฟิลจับมือขวาของกันและกัน แล้วจากนั้นไรเฟิลก็กล่าวออกมาเสียงดัง...
  
  
  
  “ข้าพเจ้านาย รังสิมันต์ เมเยอร์ ศิริวัฒนามงคล ขอรับคุณรักษ์ธิสุทธ อัครไพศาลกุล เป็นภรรยา และขอสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
  
  ผมน้ำตาคลออย่างห้ามไม่อยู่ และพยายามสะกดกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้แล้วกล่าวคำมั่นสัญญาออกไปบ้าง
  
  
  
  “ข้าพเจ้า นาย รักษ์ธิสุทธ อัครไพศาลกุล ขอรับคุณ รังสิมันต์ เมเยอร์ ศิริวัฒนามงคล เป็นสามี และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักแล้วยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่...”
  
  
  
  “ความสมัครใจที่ท่านทั้งสองได้แสดงต่อหน้าพระศาสนจักรนี้ ขอพระเจ้าทรงเมตตาทะนุบำรุงให้เข้มแข็ง และประทานพรแก่ท่านทั้งสองอย่างอุดมสมบูรณ์เทอญ สิ่งที่พระเจ้าได้รวมไว้ให้ชิดสนิทกัน มนุษย์อย่าแยกออกจากกันเลย..”
  
  
  “อาเมน”
  
  
  
  หลังจากกล่าวคำปฏิญาณก็ถึงพิธีแลกแหวน ไรเฟิลรับแหวนจากเด็กน้อยแล้วส่งให้ผู้ประกอบพิธีทำพิธีเสกแหวน
  
  
  
  “พระเจ้าข้า โปรดเสกแหวนสองวงนี้ ซึ่งข้าพเจ้าเสกในนามของพระองค์ เพื่อให้ผู้สวมนั้นถือสัตย์ต่อกัน ดำรงอยู่ในสันติสุขและความโปรดปรานของพระองค์ จะได้เจริญชีวิตอยู่ในความรักต่อกันตลอดไป ทั้งนี้อาศัยพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย..”
  
  
  “อาเมน”
  
  
  เมื่อเสร็จพิธีเสกแหวนไรเฟิลก็รับแหวนกลับมาและสวมให้ผมที่นิ้วนางข้างซ้าย ผมรับแหวนอีกวงมาสวมให้ร่างสูงที่นิ้วนางข้างซ้ายเช่นกัน. . .
  
  
  หลังพิธีแลกแหวนบาทหลวงก็ทำการประกาศให้เราเป็นสามี ภรรยาอย่างเป็นทางการ เมื่อเสร็จพิธีผมกับไรเฟิลก็เดินออกจากโบสถ์ โดยมีทุกคนช่วยกันโปรยกลีบดอกไม้ จนกระทั่งถึงหน้าโบสถ์ และแล้วก็มาถึงเวลาสำคัญ..หรือเปล่า โยนช่อดอกไม้นั่นเองครับ
  
  
  
  “พร้อมน้าาา” ผมร้องถามสี่สาว พี่เฟ น้องฟิงซ์ บะหมี่และวิคตอเรีย สาว ๆ ที่ยังไม่แต่งงานก็มีแค่นี้แหละครับ ฮ่า ๆๆ แต่เหมือนผมจะใช้แรงมากไป ช่อดอกไม้ในมือลอยละลิ่วข้ามสี่สามและหล่นตุบใส่ศีรษะน้องตัวเล็กที่เหมือนจะกำลังเถียงกับไนต์อยู่พอดี และตามสัญชาตญาณของคนเรามักจะตะครุบไว้ใช่ไหมฮะ? และก็ครับ!! น้องตัวเล็กจับมันไว้อย่างงง ๆ พวกผมร้องฮิ้วเสียงดังและเหมือนน้องจะรู้ตัว ออกัสยึกยักว่าจะโยนมันทิ้งหรือจะถือเอาไว้ แต่สุดท้ายน้องก็เลือกที่จะถือมันไว้ครับ พอโดนแซวก็มุดหลบกับหลังของไนต์ เหมือนเราจะได้เจ้าสาวคนต่อไปแล้วนะครับ หึหึ
  
  
  
  
  
  ----------------
  
  
  
  
  
  ฟรึ่บ!
  
  
  ผมทิ้งตัวนอนคว่ำบนเตียงนุ่มโดยยื่นขาเลยออกนอกเตียงและเตะขาเล่นไปมา อยากนอนอ่ะครับ ไม่ง่วงนะแค่อยากนอน ...  หลังจากเสร็จพิธีที่โบสถ์เราก็แยกกันไปพักผ่อนครับ เพื่อรอเวลาจัดเลี้ยงตอนหกโมงเย็น ตอนนี้ผมกับไรเฟิลอยู่ที่ห้องพักห้องหนึ่งของโรงแรม MS ไม่ใช่ห้องที่ใช้เป็นห้องหอหรอกครับ ห้องพักชั่วคราวน่ะ ผมหยุดนิ่งทุกการกระทำ รู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ทาบทับบนตัวผม..  ผมกลั้นหายใจก่อนจะทำใจกล้าเอียงหน้าไปมอง เท่านั้นแหละ! ตัวผมก็ถูกจับพลิกให้นอนหงายโดยพลังงานหัวเงินที่ชื่อว่าไรเฟิล..
  
  
  
  “เล่นอะไร”
  
  “เล่นกับเมีย” ผมเอียงหน้าหลบตาร่างสูง สายตาเจ้าชู้ฉิบหาย ผมแพ้ครับ สู้ไม่ไหวจริง ๆ จิตใจไม่แข็งพอ T_T
  
  “พูดได้ไม่อายปาก”
  
  “ทำไมต้องอาย ฮึ?” ถามเฉย ๆ ก็ได้ ไม่ต้องโน้มหน้ามาใกล้ขนาดนี้!!!
  
  “ลุกได้แล้ว หนัก!”
  
  “ก็ไม่เคยรับนะ” อ ไอ้เหี้ย! ไอ้หน้าด้าน!
  
  “คนละลุกโว้ย!”
  
  “หึ” มุมปากแสยะยิ้มโน้มหน้าลงมาใกล้หน้าผมยิ่งกว่าเดิม ถ้าขยับนิดเดียวปากก็ชนกันแล้ว.. จะเอาไง จะจูบไม่จูบ ว่ามา!
  
  
  
  
  ก็อก ก็อก ก็อก
  
  
  
  ไรเฟิลพ่นลมหายใจ ไอ้ยักษ์ดูดปากผมแรง ๆ แล้วผละออกไปเปิดประตู ไอ้เชี่ย! เจ็บนะเว้ย! ผมถูปากแล้วด่ามันในใจ ตีอกชกลมกับตัวเองก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วคลายไทออกก่อนจะถอดสูทตัวนอกออก
  
  
  “ใครมาอ่ะ”
  
  “ฟิงซ์” ผมพยักหน้าหงึก ๆ ปลดกระดุมเสื้อไปพลาง กะว่าจะเปลี่ยนชุดแล้วนอน แต่ตอนนี้คิดว่าคงไม่ได้นอนแล้วครับ กระเพาะมันเรียกร้องหาอาหารอีกแล้ว
  
  
  
  “บันนี่!”
  
  “หา!?”
  
  “มานี่ดิ” ผมมุ่ยหน้า หยิบผ้าขนหนูมาพาดไหล่แล้วเดินไปตามเสียงเรียก เข้าห้องน้ำแล้วเรียกผมทำไมวะ
  
  “มีอะไรอ่ะ?” ผมชะโงกหน้าตรงกรอบประตู ไรเฟิลกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ที่เคานต์เตอร์อ่างล้างหน้า
  
  “มานี่” มือหนากวักเรียก ผมเดินเข้าไปงง ๆ ถึงรู้ว่ามันกำลังรื้อพวกคลีนเซอร์ พวกโฟมล้างหน้าอยู่ ทำหน้าเครียดอย่างกับโดนไล่ออก ไอ้บ้า!
  
  
  “จะล้างหน้าเหรอ ล้างดิ” ผมพูดมึน ๆ หันหลังจะเดินออกจากห้องน้ำแต่ถูกล็อกคอเอาไว้ก่อน แม่ง!
  
  “อะไรอ่าาาา”
  
  “ล้างให้กูก่อน” ผมแยกเขี้ยวใส่มันก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนเคานต์เตอร์ ไรเฟิลแม่งสูงอ่ะ สูงขึ้นด้วย ร้อยเก้าสิบไปแล้วมั้ง แต่ผมไม่ขยับเลยสักนิด ทำไมไม่มีความยุติธรรมให้คนหล่อบ้างก็ไม่รู้ ควอทซ์เศร้า
  
  
  
  “เสร็จแล้ว” ผมใช้ผ้าผืนเล็กซับหน้าให้อีกฝ่ายเป็นขั้นตอนสุดท้าย หน้าก็ไม่มีอะไรจะล้างทำไมไม่รู้ แต่ก็นะ คุณชายไรเฟิลเขาเป็นพวกรักความสะอาด หนังหน้ามันดีมากเลยนะครับ กระจ่างใสสุด ๆ ผิวนุ่มด้วย ไม่ด้าน ไม่หยาบเลย(ส่วนนิสัยยังด้านและหยาบเหมือนเดิม T_T) ดูแลดีก็งี้ หมายถึงไรเฟิลนะดูแลตัวเองดี ไม่ใช่ผมที่ดูแลมันดี . . .
  
  
   ไรเฟิลบอกขอบคุณแล้วออกเดินจากห้องน้ำไป ผมกระโดดลงจากเคานต์เตอร์แล้วล้างหน้าตัวเองบ้าง สักพักไรเฟิลก็กลับเข้ามาอีก ในสภาพเปลือยท่อนบน ท่อนล่างมีผ้าเช็ดตัวพันเอวอยู่ ร่างสูงเดินผ่านไปที่ shower stall สะบัดผ้าเช็ดตัวไม่อายกูเลย แล้วผมจะไปมองมันทำไมวะเนี่ย!!!! .... กระจกชาวเวอร์สทอลขึ้นฝ้าเพราะไอน้ำจากฝักบัวทำให้มองเห็นร่างสูงข้างในเพียงลาง ๆ แต่แม่งโคตรเซ็กซี่อ่ะ! เชี่ยยยยยย ผมคิดอะไรอยู่เนี่ยยยยย ผมสะบัดหัวไล่ความคิดตัวออกไป แต่คนหล่อโดนกลั่นแกล้งยิ่งไล่แม่งยิ่งคิด แล้วยิ่งได้ยินเสียงน้ำกระทบพื้นด้วยนะ มันยิ่ง... พอ!!!!! ผมรีบล้างหน้าให้เสร็จแล้วออกจากห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว ทรมานจิตใจฉิบหาย อยู่กับไรเฟิลนานวันเข้าผมยิ่งหื่นเหมือนมัน T____T
  
  
  
  
  
  --------------------
  
  
  
  
  “เจ้าสาว มองกล้องหน่อยครับ” ผมชูสองนิ้วยิ้มแฉ่งใส่กล้องพี่เจ้าก่อนจะหน้าบึ้ง กวนตีนผมอ่ะ พี่มันหัวเราะแล้วก็ลั่นชัตเตอร์ใส่ผมไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาของงานเลี้ยงตอนเย็นแล้วครับ วู้วววว! ผมตื่นเต้นกว่างานตอนเช้ากับตอนบ่ายรวมกันอีก มันไม่ได้มีแค่ครอบครัวเราไงครับ มีคนอื่นมาร่วมงานด้วยอ่ะ แล้วก็มีเยอะด้วย งานนี้มีแขกราวสี่ร้อยคนได้เลยครับ ครอบครัวผมกับครอบครัวไรเฟิลรู้จักคนน้อยเสียที่ไหนล่ะครับ แต่มันก็ไม่ได้มีพิธีอะไรมากหรอกมั้ง...
  
  
  “งานจะเริ่มแล้วเด็ก ๆ” เท่านั้นแหละครับ ความวุ่นวายก็เริ่มขึ้น ไรเฟิลเดินมาลากคอผมที่กำลังยืนดูรูปกับพี่เจ้าอยู่(ไม่รู้ยังไงยอมให้ดูก่อนด้วย)เพื่อไปรอต้อนรับแขกที่หน้างาน
  
  
  
  
  
  
  ---------
  -----
  
  
  
  “สวัสดีครับ” กลุ่มแรกที่มาถึงคือกองทัพนักข่าวครับ ต้องใช้คำว่ากองทัพเพราะมากันเยอะมากเลย น่ากลัวอ่ะ T_T นักข่าวที่ถูกเชิญมาจะมาก่อนเวลาของแขกทั่วไปราวครึ่งชั่วโมงครับ เผื่อเวลาที่จะสัมภาษณ์ด้วย อันนี้ความคิดพี่เฟ ผมว่ามันก็ดีนะ
  
  
  
  แสงแฟลชวูบวาบสาดเข้าเต็ม ๆ ทำให้ผมต้องหยีตา จะหลบก็ไม่ได้ ที่ทำได้คือยิ้มสู้แค่นั้น หน้าผมต้องออกมาแปลก ๆ แน่เลย
  
  “ปิดแฟลชได้ไหมครับ” เสียงไรเฟิลพูด นักข่าวทำหน้างงกันนิดหน่อยก่อนจะยอมปิดแฟลชตามที่บอก ฮือ คนดีของผมมมมมมมม
  
  
  
  “ไม่กลัวกระแสสังคมจะมองไม่ดีหรือคะ?” คำถามแรกก็เอาซะแล้ว ผมกลัวคำถามแบบนี้จริง ๆ นะครับ ถึงจะเตรียมใจมาบ้างแล้วก็เถอะ พอเอาเข้าจริงมันก็อดไม่ได้นะ งานนี้ผมควรเงียบดีป่ะ กลัวเผลอเหวี่ยงอ่ะครับ TwT
  
  “ไม่มีอะไรต้องกลัวครับ” ไรเฟิล
  
  “ทั้งสองครอบครัวก็เป็นนักธุรกิจกันทั้งคู่ ลูกชายแต่งงานกันอย่างนี้ ไม่กลัวจะเสียไปถึงงานหรือครับ?”
  
  “อืม.. ถามว่ากลัวไหม ก็ไม่ได้กลัวนะครับ งานก็สำคัญ แต่ลูกมันสำคัญกว่า”
  
  “ผมเห็นด้วยกับคุณรัชพลครับ” หลังจากนั้นก็มีคำถามมากมายหลั่งเข้ามา ผมตอบบ้างเงียบบ้าง ส่วนใหญ่นักข่าวจะถามเรื่องกระแสสังคมอะไรทำนองนั้น โยงเข้าเรื่องธุรกิจบ้างประปราย แล้วคนตอบก็เป็นป๊ากับพ่อของไรเฟิลมากกว่าผมกับไรเฟิล เป็นอันจบ ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในห้องจัดเลี้ยง และต่อไปคือต้องต้อนรับแขกที่มางาน
  
  
  
  ----------
  ------

หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 51 SEMI-FINAL (08:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Shinning_day ที่ 17-05-2015 20:41:01
จิ้มจิ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม   :katai5: :katai5: :katai5: มีพี่เจ้ามาแจมด้วยอิอิ
หัวข้อ: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 17-05-2015 20:43:05
  ----------
  ------
  
  
  
  เราถ่ายรูปกับแขกกันที่แบ็คดรอปไปเยอะมากกกก แขกก็มากันหลายคนแล้ว ตอนนี้ก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้วฮะ
  
  “เหนื่อยเหรอ?”
  
  “นิดหน่อย”
  
  “ทนหน่อย” ผมพยักหน้าหงึก ๆ รอต้อนรับคนต่อไป
  
  
  “สวัสดีครับ”
  
  “ยินดีด้วยนะครับ” ผมยิ้มตอบแพค แพคมากับพ่อและแม่ครับ เพิ่งจะเคยเจอครบทุกคน
  
  “นึกว่าจะไม่มา”
  
  “ไม่พลาด” แพคยักคิ้ว กำลังจะคุยต่อก็ถูกขัดโดยไรเฟิล คุณชายบอกให้รีบถ่ายรูปแล้วเข้าไปในงานซะ ไม่มีมารยาทเลย!
  
  
  
  “ต๊ายยย ทำงานมันหรูอย่างนี้ล่ะเนี่ย” ผมชะโงกหน้ามองหาเจ้าของเสียง เจ๊ทิชากำลังเดินเข้ามากับพี่เจ๋ง จำได้ไหมครับ เจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ผมเคยทำงานด้วยไง
  
  “เจจจจจจจ้!”
  
  “ว้าย! สวยขึ้นหรือเปล่าลูก ตายแล้ว เจ้าบ่าวก็หล่อจริง ๆ”
  
  “เจ๊ก็สวย พี่เจ๋งหล่อมาก!” ผมยกนิ้วโปงให้ เจ๊ทิชาสวยชุดเดรสพริ้ว ๆ ส่วนพี่เจ๋งใส่สูทมาเลย
  
  “ปากหวานจริงจริ๊ง ยินดีด้วยนะลูก แวะไปหาเจ๊ที่ซุปเปอร์บ้าง ไอ้เจ๋งมันบ่นคิดถึงทุกวัน ..ไม่มีคนให้มันใช้” ผมหัวเราะ ประโยคหลังเจ๊ทิชาทำท่ากระซิบ แต่มันก็ดังพอพอให้พี่เจ๋งได้ยิน
  
  “ไม่ใช่นะน้องควอทซ์ พี่ไม่เคยคิดอย่างนั้นครับ”
  
  “ฮ่า ๆ มาถ่ายรูปครับ ๆ”
  
  “ถ่ายเจ๊ให้ออกมาสวย ๆ นะสุดหล่อ” นั่น.. ไปหยอดพี่เจ้าอีก
  
  
  หลังจากต้อนรับแขกทุกคนแล้วเราก็เข้าไปในงานบ้างครับ อ้อ ลืมบอกไป พ่อแม่ของกรีนก็มาด้วยนะครับ แต่เหมือนกรีนจะไม่มา เธอคงจะเกลียดผมมากเลยมั้ง . . .
  
  
  
  จากนั้นพิธีกรก็กล่าวต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน พิธีกรก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ กายกับฟอร์สนั่นเอง ใช้คนรู้จักให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับงานนี้ ...  และเมื่อกล่าต้อนรับแล้วก็จะเป็นคิวของพรีเซนท์เทชั่น
  
  
  
  คลิปวีดีโอถูกเปิดขึ้นพร้อมกับไฟในแกรนด์บอลรูมที่ถูกดับลง ผมมองที่จอโปรเจกต์เตอร์อย่างสนใจ ผมยังไม่ได้ดูเลยอ่ะครับ ... ในจอปรากฏภาพวัยเด็กของเด็กผู้ชายลูกเสี้ยวผมสีเงินยืนหน้าบึ้งใส่กล้อง ก่อนที่จะมีตัวอักษรขึ้นมาว่า

  ‘Rifle Rangsiman Meilleure Siriwatthanamomgkol (ไรเฟิล รังสิมันต์ เมเยอร์ ศิริวัฒนามงคล) Birthday 8th november xxx (เกิดวันที่ 8 พฤศจิกายน xxxx)’ และต่อไปก็เป็นรูปถ่ายในช่วงเวลาต่าง ๆ ของไรเฟิล ตั้งแต่แบเบาะ โตขึ้นมาอีกหน่อย เข้าอนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัยจนกระทั่งเรียนจบ ตอนเด็กไรเฟิลก็หน้านิ่งเป็นหินเหมือนตอนโตเด๊ะเลยครับ น่ารักดีนะ ^^
  
  
  เมื่อพาร์ทของไรเฟิลจบไปพาร์ทของผมก็ถูกเปิดขึ้น ภาพเด็กน้อยน่าจะสองขวบนั่งแหมะบนพื้นตัวขาววอกเพราะเล่นแป้งอเนกประสงค์ยิ้มแฉ่งโชว์ฟันหน้าสองซี่.. เลือกรูปได้ดี(กัดฟันทำไม) แล้วก็มีเท็กซ์ชื่อกับวันเกิดขึ้นมา และจากนั้นก็เป็นรูปทั่วไป รูปตอนเด็ก เข้าโรงเรียน ไปเที่ยว ร้องไห้ กิน นอน สารพัด รูปผมเยอะมากอ่ะครับ แล้วที่น่าอับอายมากคือมีรูปตอนผมแต่งหญิงด้วย!!! ทุเรศมากครับ ตอนนั้นน่าจะอยู่เกรด 10 ผมเล่นเกมแพ้เลยถูกลงโทษไป แฝดวิคตี้เป็นคนส่งรูปนี้มาแน่ ๆ ทำไมถึงทำกับผมอย่างนี้!! ตอนรูปนั้นขึ้นมาไรเฟิลมองผมด้วยอ่ะ แถมยังยกยิ้มอีก น่าอายเป็นบ้า TwT
  
  
  เมื่อพาร์ทของผมจบไปก็เป็นพาร์ทคู่ครับ รูปคู่ต่าง ๆ ส่วนมากจะเป็นแนวแอบถ่ายมากกว่า มีรูปตอนไปทะเลคราวนั้นด้วย ภาพที่ไรเฟิลกอดคอผมแล้วเดินด้วยกันบนชายหาด เป็นภาพที่ถูกถ่ายจากข้างหลัง ..มีตอนรับปริญญาด้วย ภาพที่ผมกับไรเฟิลยืนคุยกัน ภาพที่ผมเช็ดเหงื่อให้ ภาพที่ไรเฟิลป้อนขนมให้ และภาพอื่น ๆ อีก ..โห่ ผมทำอะไรเลี่ยน ๆ แบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย จั๊กจี้ดีแฮะ และที่พีคมากคือภาพที่ผมกับไรเฟิลจูบกัน!!!! ผมอ้าปากค้างอย่างอึ้ง ๆ ใครเป็นคนถ่ายวะ!!!! แล้วเสียงโห่นี่มันอะไรกันครับ! ฮือ TwT และภาพนิ่งก็จบลงตรงนั้นและเป็นภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่งที่ใช้ในพรีเซนท์เทชั่นทั้งหมดไม่ใช่ภาพที่ถ่ายขึ้นมาใหม่นะครับ เป็นภาพเก่า ๆ ที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว และผมกับไรเฟิลก็ไม่ได้ถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยฮะ
  
  
  
  ‘แฮ่! สวัสดีวันเสาร์ ตอนนี้ก็... อืม เจ็ดโมงเช้าฮะ ไม่รู้ตื่นมาทำไมเหมือนกัน ฮ้าวววว เจ้าตัวนี้ชื่อบันบัน เป็นกระต่ายนะไม่ใช่หมู แต่ก็คล้าย ๆ แหละเนอะ ตัวอ้วนเชียว ฮะ ๆ เราขึ้นข้างบนกันดีกว่าเนอะ ไม่รู้คุณชายตื่นหรือยัง แล้วทำไมผมมาคุยคนเดียวเนี่ย..’ ในวีดีโอคือผมที่กำลังคุยกับกล้องและกำลังจะเดินขึ้นบันไดขึ้นชั้นสอง คลิปนี้ผมถ่ายไว้นานแล้วครับ ไปหาเจอได้ไงวะ ผมไม่เคยให้ใครดูเลยนะ
  
  
  “ไปเจอได้ไงอ่ะ?” ผมกระซิบถามไรเฟิล ไรเฟิลไหวไหล่แล้วชี้นิ้วไปที่จอโปรเจกต์เตอร์
  
  
  ผมกำลังเดินย่องเข้าไปใกล้เตียง หมุนกล้องให้ไปโฟกัสคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง กดซูมเข้าไปใกล้จนแทบจะเห็นรูขุมขน แล้วหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว ร่างบางนั่งลงบนเตียงแล้วยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มไรเฟิล ‘เมื่อวานเขาไปแฮงค์เอาท์มา ท่าจะหลับอีกนาน ทำอะไรดีฮะ? กด 1 ปล่อยให้นอนต่อ กด 2 ปล่อยแม่งไว้งี้แหละ หรือกด 3 ไม่ทำอะไรเลย หืม? มันเหมือนกันเหรอ? นั่นสิ เพื่ออะไรวะ ปัญญาอ่อนแล้วนะเนี่ย’ เสียงผมพูดเบา ๆ ก่อนเสียงกุกกักจะตามมา ผมถ่ายหน้าตัวเองพร้อมกับยิ้มชั่วร้ายคู่กับปากกาเมจิกในมือสองแท่ง และจากนั้นใบหน้าหล่อใสก็ถูกเนรมิตให้เต็มไปด้วยศิลปะขั้นเทพ จากนั้นจอก็ดับวูบ ผมจำได้ หลังจากที่ไรเฟิลตื่นมาแล้วเห็นหน้าตัวเองเป็นอย่างนั้นเขาก็งอนไม่คุยกับผมไปเกือบวันเลย ตลกมากครับ
  
  
  
  ‘Bunnie!’ เสียงไรเฟิลเรียกผมเสียงดังในขณะที่ผมกำลังง่วนกับการทำอาหารเช้าอยู่ (ยังใส่ชุดนอนอยู่เลย) ‘ทำอะไร’ ‘’แหกตาดูสิครับ’ และจากนั้นสงครามในครัวยามเช้าก็เกิดขึ้น ไรเฟิลพูดถามนั่นนี่ไม่หยุดจนผมรำคาญ เอ่ยปากไล่ก็หลายครั้ง เหตุการณ์วันนั้นแทบจะฆ่ากันตาย ‘leave me alone please~~~’ แม้จะขอร้องอ้อนวอนแต่ฝรั่งไม่มีความเห็นใจสักนิด ยังดำเนินการแกล้งผมต่อ กล้องก็จับโฟกัสไม่ได้ จนกระทั่งผมฟิวด์ขาดตะโกนไปเสียงนะ ‘get the fuck out!!!’ นอกจากไม่โกรธแล้วยังหัวเราะสะใจ หมุนกล้องถ่ายหน้าตัวเองพร้อมกับบอกว่า ‘mission complete’ ด้วยเสียงนิ่ง ๆ พร้อมกับยิ้มมุมปากเท่ ๆ . . .
  
  
  
  
  ไฟในห้องจัดเลี้ยงถูกเปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อพรีเซนท์เทชั่นจบลง..
  
  
  
  “ผมคิดว่าทุกท่านคงอยากรู้จักตัวจริงของคู่บ่าวสาวแล้วนะครับ” กาย
  
  “เราเชิญทั้งคู่ขึ้นมาบนเวทีเลยดีไหมครับ?” ฟอร์ส
  
  “ขอเชิญทุกท่านปรบมือต้อนรับคู่บ่าวสาวของเราด้วยครับ” สิ้นเสียงกายเสียงปรบมือก็ดังขึ้น ผมขืนตัวเองนิดหน่อยแต่ก็ยอมเดิมตามแรงลากของไรเฟิล มันรู้สึกแปลก ๆ อ่ะครับ เอาตรง ๆ นะ ผมเขิน T/////T
  
  
  “เจ้าบ่าวของเรานะครับ คุณรังสิมันต์ เมเยอร์ ศิริวัฒนามงคล หรือ ไรเฟิล เป็นบุตรของคุณฟีโอน่า และคุณอาทิตย์ เมเยอร์ ศิริวัฒนามงคล จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย F” ฟอร์ส
  
  “มาถึงฝ่ายเจ้าสาวบ้างนะครับ คุณรักษ์ธิสุทธ อัครไพศาลกุล หรือ ควอทซ์ เป็นบุตรของคุณรัชพล อัครไพศาลกุล จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย F แถมยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งและเหรียญทองด้วยนะครับ ไม่ธรรมดาจริง ๆ” กาย.. หลายครั้งแล้วนะที่เรียกผมว่าเจ้าสาวเนี่ย ผมเป็นผู้ชายทำไมเรียกเจ้าสาวล่ะครับ มันใช่เหรอ? T_T
  
  
  “ต่อไปขอเชิญคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่าย ขึ้นเวทีเพื่อถ่ายรูปร่วมกับคู่บ่าวสาวครับ เชิญครับ” คุณย่ากับป๊าขึ้นมายืนข้างผม และคุณพ่อกับคุณแม่ไรเฟิลก็ยืนข้างลูกชาย หลังจากถ่ายภาพเสร็จพิธีการก็เชิญประธานในพิธีขึ้นมากล่าวอวยพร จากนั้นพิธีกรก็เชิญพวกท่านไปพักผ่อนที่ด้านล่างเวที และต่อไปก็จะเป็นการสัมภาษณ์ครับ ไม่รู้กายฟอร์สจะมีคำถามแปลก ๆ มาหรือเปล่า..
  
  
  
  
  -------------
  -------
  
  
  “เอาล่ะครับ เรามาพูดคุยกับคู่บ่าวสาวบ้างดีกว่านะฮะ สต๊าฟของไมค์ให้บ่าวสาวด้วยครับ”
  
  “ขอกล่องคำถามด้วยครับ” กล่องคำถามที่ว่าคือคำถามที่แขกที่มาร่วมงานจะเป็นคนเขียนใส่กระดาษแล้วหยอดใส่กล่องตั้งแต่ที่หน้างานเพื่อที่จะเอามาให้พิธีกรถาม ไม่มีสคริปต์ ไม่รู้ด้วยว่าจะได้คำถามแบบนี้ ด้นสดอย่างเดียวเลย งานนี้ที่ต้องมีคือสติฮะ
  
  “ได้มาแล้วนะครับ คำถามแรก บ่าวสาวเตรียมใจก่อนไหมครับ?”
  
  “ผมขออ่านคำถามแรกเลยนะครับคุณพารัน .. เจอกันครั้งแรกที่ไหนครับ?”
  
  “มหาวิทยาลัยครับ” ผมกับไรเฟิลตอบพร้อมกัน มองหน้ากันนิดหน่อย พิธีกรแซวพอเป็นพิธีก่อนจะถามคำถามต่อไป
  
  “คำถามนี้เหมือนจะถามเจ้าสาวนะครับ ..เจ้าบ่าวขอคุณแต่งงานยังไงครับ?” ผมกลืนน้ำลายเอือก กระพริบตาปริบ ๆ
  
  “เอ่อ.. ก็ถามว่า แต่งงานกันไหม?”
  
  “ไม่มีอีเวนท์เซอร์ไพรส์ คุกเข่ายื่นแหวนอะไรอย่างนี้เลยเหรอครับ”
  
  “ไม่มีครับ อยู่ ๆ ก็พูดออกมาทื่อ ๆ ตอนนั้นผมกำลังจะหลับเลยฮะ”
  
  “ไม่มีความโรแมนติคเลยนะครับเจ้าบ่าวของเรา  เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ถามคำถามต่อไปเลยครับคุณกิตติพิชญ์”
  
  “คำถามต่อไปนะครับ ความประทับใจแรกของกันและกันคืออะไรครับ?”
  
  “ไม่มี” ตอบพร้อมกันอีกแล้ว ผมย่นจมูกใส่คนตัวสูง ไรเฟิลเองก็ยักคิ้วใส่
  
  “ซะงั้นนะครับ งั้นผมขอถามเลยแล้วกันนะครับว่าเจอกันครั้งแรกเลยนะครับ แรกพบสบตาหัวใจฉันก็ปลิวไม่หาเธอ.. ”
  
  “ใจเย็นครับคุณพารัน”
  
  “ฮะฮะ ขอโทษครับ เจอกันครั้งแรก ความรู้สึกแรกคืออะไรครับ?” อืม... เจอกันครั้งแรกหรอ มันก็ไม่มีอะไรนะ แค่...
  
  “เอาตรง ๆ หรือเอาที่สบายใจครับ?” ผมเอียงคอมองไรเฟิล ฝรั่งเลิกคิ้วก่อนจะตอบ
  
  “เอาที่สบายใจตรง ๆ” ครับ... -__-
  
  “อืม.. เจอกันครั้งแรก รู้สึกว่า.. คนอะไรขี้เก๊กจัง หน้านิ่่งตลอดไม่มีความรู้สึกเลยเหรอ ชีวิตเครียดมากเหรอครับ”
  
  “โอ้โห.. เจ้าบ่าวยอมเหอครับ?”
  
  “หึ ความรู้สึกแรก.. ทอม?” น็อคเอาท์.. ผมแพ้ไปสำหรับยกนี้ ถึงกับหน้าสั่น ได้แต่เค่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกับตัวเอง เจ็บปวดมากครับกับคำว่าทอม แต่ทุกคนหัวเราะกันสนุกสนานอย่างนี้ผมยอมก็ได้ครับ..  การตอบคำถามผ่านไปอย่างรวดเร็ว มีหลายคำถามที่ตัดออกเพราะแนวคล้าย ๆ กัน เพื่อกระชับเวลาเวลาไม่ให้น่าเบื่อเกินไป
  
  
  “คำถามสุดท้ายนะครับ มีอะไรอยากจะบอกกันและกันหรือเปล่าครับ? เชิญเจ้าสาวก่อนเลยครับ”
  
  
  “. . .ขอบคุณ ขอบคุณนะ ....ขอบคุณที่คอยอยู่ข้าง ๆ ตลอด ก็ไม่มีอะไรจะบอกนอกจากคำว่าขอบคุณ แล้วก็... รักนะ” ผมมองหน้าไรเฟิลก่อนจะโผเข้าไปกอดคนตัวสูงเอาไว้ ไรเฟิลโอบกอดผมตอบแล้วโยกตัวไปมาเหมือนปลอบเด็ก มือหนาลูบผมผมไปด้วยเบา ๆ ... ผมอยากพูดอะไรให้มันบอกกว่านี้ แต่มันพูดไม่ออกจริง ๆ ความรู้สึกที่มีอยู่ข้างในมันมากมายจนกลั่นออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ แต่ที่อยากบอกก็คืออยากขอบคุณเขา. . .
  
  “แล้วเจ้าบ่าวมีอะไรจะบอกเจ้าสาวไหมครับ?” ไรเฟิลไม่ได้พูดอะไร เขาดันตัวผมออกแล้วเดินลงจากเวที ผมมองตามอย่างงง ๆ แล้วเหมือนทุกคนก็จะงงเหมือนกัน จนกระทั่งคนตัวสูงไปหยุดที่ฟลอร์วงดนตรี ...จะทำอะไร เขารับกีต้าร์จากนักดนตรีมากก่อนจะนั่งที่เก้าอี้แล้วปรับไมค์ให้อยู่ในระดับที่พอดี ผมเบิกตากว้างเมื่อเริ่มจะเดาออก โอ้มายก็อด...!!! นิ้วเรียวเกาสายกีต้าร์ ไอ้เชี่ยยยยยยยย อินโทรเพลงนี้มัน!!!!
  
UNTIL YOU (https://www.youtube.com/watch?v=TAPSkkC4wfU)
(ฟังเพลงกันค่ะ(ลงเพลงไม่เป็นของใส่เป็นลิ้งก์นะคะ))
  
  Baby life was good to me
  But just you made it better..

  
  (ที่รัก ชีวิตผมมันก็ดีอยู่แล้วนะ แต่พอมีคุณข้ามามันก็ดีขึ้น)

  
  เสียงทุ้มเปล่งร้องออกมาเหมือนทุกอย่างถูกหยุดเวลาเอาไว้ ผมไม่สามารถละสายตาจากไรเฟิลได้เลย และไม่คิดว่าไรเฟิลจะทำอะไรแบบนี้ด้วย
  
  I love the way you stand by me
  Through any kind of weather

  
  (ผมชอบที่คุณยืนอยู่ข้างผมแบบนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม)
  
  
  I don’t wanna run away, just wanna make your day
  When you feel the world is on your shoulders

  
  (ผมไม่ต้องการที่จะหนีไปไหน แค่อยากทำให้วันของคุณสดใส..เมื่อเวลาคุณทุกข์เหมือนแบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า)

  Don’t wanna make it worse, just wanna make us work
  Baby, tell me I will do whatever

  
  (ผมไม่ต้องการให้มันเลวร้ายลง แค่ต้องการให้เราผ่านไปได้ด้วยดี . . . ที่รัก บอกผมสิ ผมจะทำทุกอย่าง)
  
  
  It feels like nobody ever knew me until you knew me
  Feels like nobody ever loved me until you loved me
  Feels like nobody ever touched me until you touched me
  Baby nobody, nobody,until you

  
  (มันรู้สึกเหมือนว่าไม่มีใครเคยรู้จักผม จนกระทั่งคุณได้รู้จักผม
  รู้สึกเหมือนว่าไม่มีใครเคยรักผม จนกระทั่งคุณได้รักผม
  รู้สึกเหมือนว่าไม่มีใครเคยสัมผัสผม จนกระทั่งคุณได้สัมผัสผม
  ที่รัก.. ไม่มีใครเลย ไม่มีใคร จนกระทั่งคุณ)
  

  
  ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองร้องไห้อยู่ จนตอนที่กายส่งผ้าเช็ดหน้ามาให้ ผมไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกตอนนี้ยังไง มันตื้อไปหมดเลยครับ ไปแอบเตรียมอะไรอย่างนี้ไว้ตอนไหนกัน
  
  
  Baby it just took one hit of you now I’m addicted
  You never know what’s missing
  Till you get everything you need,yeah

  
  (ที่รัก แค่สัมผัสของคุณครั้งเดียวผมก็เสพติดมันไปแล้ว
  คุณจะไม่รู้หรอกว่าคุณขาดอะไรไป
  จนกระทั่งคุณได้ทุกสิ่งที่ต้องการ)

  
  I don’t wanna run away, just wanna make your day
  When you feel the world is on your shoulders
  Don’t wanna make it worse, just wanna make us work
  Baby, tell me I will do whatever
  
  It feels like nobody ever knew me until you knew me
  Feels like nobody ever loved me until you loved me
  Feels like nobody ever touched me until you touched me
  Baby nobody, nobody,until you
  
  
  
  See it was enough to know
  If I ever let you go
  I would be no one
  Cos I never thought I’d feel
  All the things you made me feel
  Wasn’t looking for someone until you

  
  
  (เห็นไหมว่ามันเพียงพอแล้วที่จะทำให้รู้
  หากผมปล่อยคุณไป
  ผมจะไม่เหลือใคร
  ผมไม่เคยคิดว่าจะรู้สึก
  แต่คุณทำให้ผมรู้สึกทุกอย่าง
  ที่ผ่านมาผมไม่เคยมองหาใครเลย จนกระทั่งมีคุณเข้ามา. . .)

  
  
  It feels like nobody ever knew me until you knew me
  Feels like nobody ever loved me until you loved me
  Feels like nobody ever touched me until you touched me
  Baby nobody, nobody,until you
  
  
  
  It feels like nobody ever knew me until you knew me
  Feels like nobody ever loved me until you loved me
  Feels like nobody ever touched me until you touched me
  Baby nobody, nobody,until you
  
  
  Nobody, nobody,until you
  

  
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 17-05-2015 20:44:21
  
  
  เสียงปรบมือดังขึ้นเมื่อเพลงจบ ไรเฟิลวางกีต้าร์ลงก่อนจะลุกและเดินตรงเข้ามาหาผม คนตัวสูงส่งปลายนิ้วมาเช็ดคราบน้ำตาออกให้อย่างเบามือ ก่อนมือหน้าจะช้อนใบหน้าของผมเอาไว้แล้วประกบริมฝีปากลงมาเคล้าคลึงกับกลีบปากของผมก่อนจะแทรกเรียวลิ้นล่วงล้ำเข้ามาควานหาความหวานภายใน. .
  
  
  ปัง!!!
  
  
  เราผละออกจากกันและหันไปมองต้นเสียง
  
  “shit..” ไรเฟิลสบถออกมาเบา ๆ แล้วเดินไปขวาง
  
  
  คนที่เข้ามาใหม่คือกรีน กรีนมาในชุดสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า ในมือสวยมีช่อดอกไม้ช่อโตอยู่ มองไกล ๆ จะเหมือนช่อดอกไม้ทั่วไป แต่เมื่อได้มองใกล้ ๆ คุณจะเห็นได้ถึงความผิดปกติของมัน.. ช่อดอกไม้ในมือกรีนคือดอกไม้จันทน์. . . เสียงฮือฮาดังขึ้นซ้ำยังมีเสียงชัตเตอร์จากนักข่าวอีกด้วย
  
  
  “ขอโทษทีที่มาช้า พอดีไปหาของขวัญให้อยู่น่ะ” ใบหน้าสวยเหยียดยิ้มร้ายพร้อมกับสาวเท้าเข้ามาใกล้
  
  
  “ฉันแค่จะมาแสดงความยินดีด้วย รับไปสิ” กรีนยื่นช่อดอกไม้จันทน์มาให้และผมก็ไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ ไรเฟิลปัดมันทิ้งจนมันตกกระทบพื้น
  
  “ทำอย่างนี้กรีนก็เสียใจนะคะไรเฟิล”
  
  “ถ้าจะมาทำอะไรบ้า ๆ อย่างนี้อย่ามาเลยยังดีกว่า”
  
  “ก็อุตส่าห์หน้าด้านส่งการ์ดมาให้ กรีนก็เลยต้องมาแสดงความยินดียังไงล่ะคะ”
  
  “กรีน อย่าทำอย่างนี้ลูก” คุณแม่ของกรีนเข้าไปขวางเธอเอาไว้ พ่อของกรีนจับข้อมือลูกสาวไว้แต่ถูกสะบัดออก กรีนก้าวเท้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อย ๆ
  
  “อย่าทำเหมือนกลัวฉันสิ”
  
  “กรีน..”
  
  “ก็ไม่รู้จักอวยพรยังไงดี เอาเป็นว่า.. เลิกกันไว ๆ นะ ฉันรอสมน้ำหน้าอยู่” ผมได้แต่เงียบ มันพูดไม่ออกจริง ๆ ครับ ไรเฟิลดึงผมให้ไปอยู่ข้างหลังของเขา แม่ของกรีนพยายามจะห้ามลูกสาวตัวเองแต่เหมือนกรีนจะไม่ฟัง กรีนก้าวเข้ามาใกล้อีกครั้ง
  
  “กรีน อย่าทำอย่างนี้เลยนะคะ”
  
  “กรีนทำอะไรเหรอคะคุณป้า กรีนแค่มาแสดงความยินดีแค่นั้นเอง” กรีนปรายตามองคุณแม่ไรเฟิลนิดหน่อย ก่อนจะมองมาที่ผมด้วยสายตาเย็นเฉียบ ปากสวยคลี่ยิ้ม มันดูน่ากลัว..
  
  “ฉันมีของขวัญจะให้ด้วยนะ” กรีนเปิดกระเป๋าถือของตัวเองแล้วหยิบกล่องขนาดกลางออกมาและยื่นมาตรงหน้า พอไรเฟิลยื่นมือออกไปจะรับกรีนก็ดึงกลับแล้วบอกว่า..
  
  “กรีนให้เจ้าสาวของคุณค่ะ ถ้านายรับฉันจะยอมกลับไปก็ได้” ผมสูดหายใจก่อนจะยื่นมือออกไปรับกล่องนั้นจากมือกรีน ไม่รู้ว่าผมมองโลกในแง่ร้ายมากเกินไปหรือเปล่าที่คิดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดี
  
  
  
  ผมเปิดกล่องอย่างระวังแล้วเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในก็เผลอปล่อยของในมือหล่นพื้นไปอัตโนมัติ ของในกล่องคือรูปถ่ายของผมที่ถูกกรีดด้วยของมีคมและอีกหลายรูปที่ถูกฉีกจนเป็นเพียงแค่เศษกระดาษซ้ำยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงไปทั่ว มันคือเลือดจริงแน่นอนเพราะกลิ่นคาวที่โชยออกมา และผมคิดว่ามันคงเป็นเลือดสัตว์มากกว่าเลือดคน ...บ้าไปแล้ว กรีนบ้าไปแล้ว..
  
  
  “ว้าย!” เสียงวี้ดว้าดดังขึ้นพร้อมกับความวุ่นวาย ไรเฟิลผลักกรีนออกไป ก่อนจะดันตัวผมไปหาป๊า คุณย่าเรียกสต๊าฟมาเก็บกล่องบ้า ๆ นั่นกับช่อดอกไม้จันทน์ออกไป หัวใจผมเต้นแรงมาก ไม่ใช่เพราะกลัวแต่คงเป็นเพราะช็อคและตกใจมากกว่า..
  
  
  “น้องควอทซ์ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ” ผมส่ายหน้าไปมาตอบอาณิช ผมไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ แต่ผู้ใหญ่คงไม่คิดอย่างนั้น มือนุ่มของอาณิชลูบศีรษะผมเบา ๆ และป๊าก็บีบมือผมราวกับให้กำลังใจ
  
  
  
  “กลับไปซะ”
  
  “กรีนก็แค่อยากมาดูไอ้หน้าด้านที่แย่งไรเฟิลไปจากกรีน”
  
  “ฉันไม่เคยเป็นของเธอ ถ้าจะมาป่วนก็กลับไป”
  
  “เหอะ! ถ้าไม่มีมันคนที่เป็นเจ้าสาวก็คือกรีน”
  
  “เลิกเพ้อได้แล้ว ต่อให้ไม่มีเขาฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเธอ”
  
  “กรีนไม่ดีตรงไหน..”
  
  “ไม่ได้อยู่ที่ว่าดีหรือไม่ดี แต่เพราะฉันไม่ได้รักเธอ”
  
  “กรี๊ดดดดดดดดด!”
  
  “กรีน กรีน! มีสติหน่อย! อายคนอื่นเขาบ้างไหมห้ะ!”
  
  “กรีนไม่อาย คุณแม่ปล่อยกรีนนะ!! กรีนจะไปตบมัน!”
  
  
  เพี้ยะ!
  
  
  ผมตัวแข็งทื่อ ฝ่ามือของแม่กรีนฟาดเข้าที่ใบหน้าของเธออย่างแรงจนใบหน้าสวยสะบัด กรีนยกมือกุมแก้มตัวเองไว้ก่อนน้ำตาจะไหลอาบแก้ม
  
  
  “ม แม่..”
  
  “เลิกบ้าหรือยัง! กลับบ้าน!” แม่ของกรีนลากกรีนออกไป ไรเฟิลเดินกลับมาหาและพ่อของกรีนก็เข้ามาด้วย ท่านบอกขอโทษที่กรีนมาทำให้วุ่นวายแล้วขอตัวกลับไปก่อน
  
  
  
  
  -----------
  -------
  
  
  
  
  พีธีกรทั้งสองพูดสร้างบรรยากาศจนกลับมาเหมือนเดิม แต่เหมือนความรู้สึกในใจผมจะไม่เหมือนเดิมเลยนะ.. เราดำเนินพิธีการต่าง ๆ ตามที่วางไว้ กล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานรวมทั้งกล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย และจากนั้นก็เป็นการตัดเค้ก เมื่อเสร็จพิธีการตัดเค้กก็โยนช่อดอกไม้(อีกครั้ง) เป็นอันจบพิธีการบนเวที . . ที่ผมไม่เล่ารายละเอียดเพราะมันไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ T_T
  
  
  
  “ในนามของเจ้าภาพ และคู่บ่าวสาว กระผมขอขอบพระคุณประธานในพิธี และท่านผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีในวัยที่สำคัญที่สุดของคู่บ่าวสาวในวันนี้ และหากมีข้อบกพร่องประการใด ทางเจ้าภาพและคู่บ่าวสาวต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ ขอบคุณครับ”
  
  
  
  “กระผมขอจบช่วงพิธีการเพียงเท่านี้ครับ ขอเชิญท่านผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมถ่ายรูป และรับประทานอาหาร พร้อมรับฟังการแสดงดนตรี ขอบคุณครัับ”
  
  
  ผมพรูลมหายใจออกมาเมื่อสิ้นเสียงกายและฟอร์ส ไรเฟิลจับมือผมและเราสองคนก็เดินไปทักทายแขกตามโต๊ะ หลาย ๆ คนก็ทั้งกล่าวอวยพรและปลอบใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น ผมยิ้มรับและขอบคุณ จนกระทั่งทักทายครับทุกโต๊ะผมกับไรเฟิลถึงได้เวลาพักบ้าง
  
  
  นั่งกินข้าวกับกลุ่มเพื่อน พูดคุยกันนั่นนี่ ประเด็นวันนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องที่กรีนบุกมาป่วน (นักข่าวได้เขียนข่าวกันสนุกแน่ เฮ้อ)  นึกแล้วยังอดรู้สึกแย่ไม่ได้ ใครจะอยากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในงานแต่งตัวเอง จริงไหมครับ มันดูไม่เป็นมงคลเลยนะ ผมนู้ว่ากรีนเกลียดผมเพราะไรเฟิล แต่ผมไม่ได้ไปแย่งไรเฟิลมาจากกรีนนี่นา.. เรารักกันอ่ะ ผิดเหรอครับ ที่กรีนทำอาจเพราะเสียหน้าหรือแค้นอะไรผม แต่มันเกินไปหรือเปล่า ใส่ชุดดำมาผมไม่ว่าแต่ช่อดอกไม้จันทน์กับรูปผมที่โดนกรีดเปื้อนเลือดนั่นผมไม่โอเคจริง ๆ
  
  
  . . . แล้วงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา เวลาผ่านไปจนกระทั่งงานเลิก งานเลิกก็ไม่มีอะไร เจ้าภาพส่งแขกก็เป็นอันจบ ได้เวลาพักจริง ๆ แล้วววว
  
  
  
  ---------------------------
  
  
  
  
  “บันนี่”
  
  “หือ?” ผมเงยหน้ามองไรเฟิล ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนเตียงในห้องพักชั้นสูงสุดของโรงแรมเอ็มเอส
  
  “เปล่า”
  
  “เปล่าอะไร มีแน่ ๆ พูดมาสิ”
  
  “ไปอาบน้ำ” แป่ว.. จบกัน นึกว่าจะบอกอะไรซึ้ง ๆ ซะอีก ผมทำปากยื่นใส่เลยถูกคุณชายดึงจนยืด เง่อออ ไอ้บ้าหนิ
  
  “ไม่อาบได้มะ?”
  
  “ไม่อาบก็ไปนอนข้างนอก”
  
  “โหยยยย งั้น.. อาบให้หน่อยสิ”
  
  “อ่อยเหรอ?”
  
  “อ่อยแล้วชอบไหม”
  
  “ไม่”
  
  “งะ..”
  
  “ไม่อ่อยก็ชอบ” เหยดดดดดดดดดดดด! ไปเอาคำพูดอย่างนี้มาจากไหนครับ!!! เพราะมัวแต่อึ้งเลยถูกไอ้ยักษ์มันอุ้มเข้าห้องน้ำไป.. จากนั้นสงครามก็บังเกิด เล่นเอาเหนื่อย..
  
  
  
  ------
  ---
  
  
  
  “นอนได้แล้ว” ผมพยายามดันศีรษะไรเฟิลออกจากการกัดแทะ(?)หัวไหล่เปล่าเปลือยของผม ไอ้บ้านี่ คนง่วง จะนอนเว้ย!
  
  “ไม่ง่วง”
  
  “แต่กูง่วง.. นอนเถอะน้าาา เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว มึงไม่เหนื่อยหรอ”
  
  “ไม่”
  
  “จริงเหร้อออออ” ผมพูดเสียงสูงพร้อมกับตอบแก้มไรเฟิลเบา ๆ ไรเฟิลกดยิ้มมุมปากก่อนจะรวบมือผมไว้และใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแหวนบนนิ้วผม ผมมองนิ่ง ๆ ก่อนจะเผลอกลั้นหายใจเมื่อไรเฟิลกดจูบลงที่วงแหวน. . .
  
  “ตอนนี้มึงเป็นของกูแล้ว” ไรเฟิลพูดเสียงนิ่ง หน้านิ่ง แต่ดวงตาสีน้ำตะเลเป็นประกายระยับ
  
  “อ่า... ก็เป็นมานานแล้วหนิ” ผมพูดอู้อี้ซุกหน้ากับอกแกร่งซ่อนอาการเขิน
  
  
  
  ตอนนี้ผมกับไรเฟิลเราเป็นสามี ภรรยากันอย่างเป็นทางการแล้ว ..ก็อาจจะไม่ต่างจากเมื่อก่อนสักเท่าไหร่ แต่มันถือเป็นความมั่นใจอีกอย่างว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปทั้งชีวิต . . . ผมคิดว่าผมคิดถูกแล้วที่แต่งงานกับเขา ไรเฟิลที่อยู่กับผมเสมอแม้จะทุกข์หรือสุข เขาก็ไม่เคยหายไปไหน เหมือนเพลงที่เขาร้องให้ผม..  และคงต้องขอบคุณเหล้าวันนั้นที่ทำให้ผมเมาจนกล้ายั่วเขา(ใช่เรื่องไหมเนี่ย) ถ้าไม่มีคืนนั้นตอนนี้ผมกับไรเฟิลอาจจะเป็นแค่เพื่อนกัน และผมคงต้องแอบรักไปคนเดียวเรื่อย ๆ แต่วันนี้.. เราแต่งงานกันแล้ว ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรักมันเหมือนฝันเลยนะครับ . . . และผมก็รักเขาจริง ๆ ไม่ได้รักที่หน้าตาหรือฐานะของเขา แต่รัก รักที่เขาเป็นเขา รักเพราะเขาคือไรเฟิล. .
  
  
  “ไรฟ์..”
  
  “หืม?”
  
  “ขอบคุณนะ”
  
  “อื้อฮึ”

  
  “I love you”
  
 
  “I love you too”

  
  
  
  
  
THE END
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Shinning_day ที่ 17-05-2015 20:46:42
ขอโทษที่ปาดนะไรเตอร์อิอิ :katai5: :katai5: //นุ้งควอทซ์เป็นเจ้าสาวแล้ว กรี้ดดดดดด พี่เฟิลหล่อมากกกกกก ชอบเอิ้กๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 17-05-2015 20:48:51
  จบแล้วค่าาาาาาาา  :hao5: :hao5: :hao5:

  ตอนนี้เรื่องพิธีการอาจจะไม่เป๊ะและเขียนออกมาได้ไม่มี ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ
  ขอบคุณข้อมูลจาก clpark.rmuti.ac.th  siamviva.com centerwedding.com แล้วก็ขอบคุณพี่สาวที่ช่วยให้ข้อมูลด้วยนะคะ สำหรับพิธีการต่าง ๆ ไม่งั้นแย่แน่ ๆ

  รู้สึกใจหายที่ตอนนี้จบแล้ว บันนี่กับพี่เฟิลอยู่กับมา 7 เดือน 7 วัน ในที่สุดก็ถึงตอนสุดท้ายแล้ว ขอบคุณตัวละครทุกตัว ถ้าไม่มีพวกนายนิยายเราคงไม่จบ

  ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ก็ยังกากเหมือนเดิม ไม่มีพัฒนาการอะไรเล้ยยยยย /ตะกรุยผนัง
  
  ขอขอบคุณนะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยค่ะที่ติดตามนิยายของเรา ขอบคุณคนอ่านทุกคน ทุกคอมเมนต์ ทุกยอดวิว ขอบคุณกำลังใจที่ให้เรา ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไร พล็อตก็อมตะมาก แต่เราตั้งใจเต็มที่เลยน้า ทีแรกที่ลงก็นึกว่าจะแป้ก ไม่มีคนอ่านแล้ว แต่ตอนนี้มีคนเอ็นดูบันนี่กับพี่ปืน เราขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ
  หลังจากเรื่องนี้จบก็คงพุ่งไปที่พี่เจ้า แต่จะแต่งตอนพิเศษมาให้อ่านกันนะคะ(ใครจะอ่านนนน)
  
  ก็ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำว่า ‘ขอบคุณค่ะ’ (ไม่รู้จะพูดอะไรยังยาวขนาดนี้ - -) ส่วนนี่ @spttrx (https://twitter.com/spttrx) ทวิตเตอร์ของคนเขียนเอง มาคุยกันได้น้าาาา (ใครขอยะ) แฮ่ คุยได้ค่ะ เราเชื่องมากฉีดยามาแล้ว มาจิกหัวทวงนิยายก็ได้ค่ะ 555555
  
  รู้สึกจะพูดมากเกินไปแล้วหยุดเถอะ งั้นไปเจอกันตอนพิเศษนะคะ(แต่ก็ไม่รู้จะได้แต่งเมื่อไหร่ /วิ่งหลบทุกสิ่งอย่าง) ถ้าใครคิดถึงพี่เฟิลกับบันนี่ บางทีสองหน่อก็อาจจะมีไปแจมในเรื่องของพี่เจ้ากับเพลิงฟ้าค่ะ ยำกันมั่ว ใช้ตัวละครให้คุ้ม 5555 ไหนบอกจะหยุดเพ้อไง หุ้ววว ไปจริง ๆ แล้วค่ะ ทอล์คยาวกว่านิยายอีก ฮืออออ บ้ายบายเน้ออออ รักทุกคนนะค้าาาาา
 :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtoon ที่ 17-05-2015 21:15:03
ออกเรือนเป็นฝั่งเป็นฝาไปซะแล้วน้องควอทซ์  :hao3: :hao3: ข่มพี่ไรฟ์ให้เต็มที่เลยค่ะ 55555555
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: jamesnaka ที่ 17-05-2015 21:36:52
เป็นนิยายอีกเรื่องหนึ่งที่ชอบมาก ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆให้ได้อ่านกันค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้คนแต่งได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆอื่นๆอีกต่อไป

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 17-05-2015 21:41:39
หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-05-2015 21:45:59
ขอไปฟินกับความหวานก่อน Thx
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-05-2015 22:10:48
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 17-05-2015 22:17:33
ดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย จบแล้ว :mc4: รู้สึกใจหายเบาๆ เราคงจะคิดถึงบันนี่น้อยกับพี่ปืนไปอีกนาน ยังไงถ้ามีเวลาว่างแวะมาลงตอนพิเศษให้หายคิดถึงกันบ้างนะคะ :katai2-1:

ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆแบบนี้ ขอบคุณที่สละเวลามาแชร์เรื่องราวดีแบบนี้ มาลงตอนต่อๆไปแบบสม่ำเสมอ เราขอเป็นกำลังใจให้คุณในงานเขียนเรื่องอื่นๆ สัญญาว่าจะตามไปอ่านทุกเรื่องเลย :กอด1: ไฟท์ติ้ง o18
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 17-05-2015 22:21:05
ยังคงรอตอนพิเศษอยู่นะค๊าาาาาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 17-05-2015 22:22:00
ตามมาจาก พี่เจ้ากับน้องเพลิงฟ้าจ้า
เพิ่งเข้ามาก็จบพอดีเลย เดี๋ยวจะไปตามอ่านตั้งแต่ต้นก่อนนะ
ท่าทางเรื่องจะน่ารักไม่แพ้กัน แอบดูตอนจบว่าแฮปปี้แล้วยิ่งชอบ
มาเม้นท์ให้กำลังใจคนเขียนก่อนค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารัก ๆ น้า
แล้วก็ รอติดตามพี่เจ้ากับน้องเพลิงฟ้าอยู่นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 17-05-2015 22:35:59
ขอบคุณนักเขียนที่เขียนเรื่องน่ารักๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ
^^
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 17-05-2015 22:39:32
มันน่าจะมีบทเรียนให้กรีนเสียหน่อยนะ :beat: :beat: :beat:

ยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-05-2015 23:09:55
อีกรีนนี่ก็บ้าเนอะ คิดเองเออเองว่าเค้าเป็นของตัว

ทุเรศอ่ะกรีนน

รอตอนพิเศษนะ ขอให้มีตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 17-05-2015 23:52:44
เป็นการแต่งงานที่น่าอิจฉามากมายยยย ยิ่งตอนนายปืนร้องเพลงให้บันนี่ คนอ่านอยากจะทะลุจอคอม

ไปร่วมงานแต่ง ณ ตอนนั้นด้วยเลยละค่ะ มันฟินนมาก ของมากที่สุด  :o8:  :-[

รออ่านตอนพิเศษน้าาา   :L2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 18-05-2015 00:06:05
จบแล้ววววววววววววววววววววววววววว

ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะ

ขอตอนพิเศษด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ     :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 18-05-2015 00:16:33
แต่งงานกันแล้ว ดีใจกับไรเฟิลน้องบันนี่ด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 18-05-2015 00:26:58
ยินดีด้วย  พี่ไรเฟิล  น้องควอทซ์        :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3:

รู้สึกใจหาย  เหงาๆ  หวิวๆ  ชอบกล  ที่เรื่องนี้ต้องจบแล้ว    :sad11: :sad11: :sad11:

เราก็ติดตามเรื่องนี้มา  คอยอ่านคอยดูเรื่องราวความรักของทั้งไรเฟิลและควอทซ์มาเรื่อยๆ

มันรู้สึกผูกพันกัน   :hao5: :hao5: :hao5:

อยากอ่านภาค 2  อ่ะ  คนเขียน   :z3: :z3: :z3:  (ฝันอยู่เหรอห๊ะ   :heaven)   :c3:

หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 18-05-2015 03:28:01
หวาน ละลาย เสียอย่างเดียว กรีนมาทำไมมมมม

ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ ค่ะ :D
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 18-05-2015 07:22:18
ดีใจกับบันนี่และไรเฟิลได้แต่งงานกันแล้ว
จบแล้วรู้สึกใจหายจัง  จะรอตอนพิเศษน้า
ขอบคุณนักเขียนที่เขียนเรื่องราวสนุกๆให้อ่านนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 18-05-2015 16:06:12
รอจ้า :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015)
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 18-05-2015 16:23:34
ดีใจกับทั้งคู่ด้วยที่ Happy Ending กันแล้ว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 19-05-2015 08:49:38
ในที่สุดบันนี่ก็มีครอบครัวของตัวเอง

อยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทอง


กระบองยอดเพชรนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 19-05-2015 13:19:31
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 19-05-2015 16:42:57
ยัยกรีนนี่ไร้สติจริงๆ! :z6:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 20-05-2015 06:25:52
อ้ายๆๆๆๆๆ เราเขินอ่ะๆๆๆ

บันนี่เปนฝั่งเปนฝ้าแล้ว
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 20-05-2015 17:45:49
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆของบันนี่กับไรเฟิลค่ะ... แต่แอบมีมาม่านิดๆ ทำเราเศร้า T^T  เหมือนกันนะ   o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 21-05-2015 17:00:27
อ้ายย น่ารักกก ควอทช์ไรเฟิล ในที่สุดก็แต่งงานนนน
ต่อไปนี้ก็เป็นคุณสามีปืนเต็มตัวแล้วเน้าะ อยากรุ้คู่ไนต์
ออกัสด้วย จะตามไปอ่านคู่พี่เจ้าเพลิงฟ้าด้วยนะ
ลูปู. น่าเอาดอกไม้จันท์ฟาดหน้ายัยกรีนสักที
ไม่คิดว่าแม่แพคจะกล้ามางาน นางใจร้ายมากจริงๆ
แอบอยากให้แพครู้ความจริง

หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 21-05-2015 18:35:00
 o13
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 23-05-2015 07:28:36

น่ารัก

สนุก

ชิลอ่ะ

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ



หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 24-05-2015 16:27:49
คือบันนี่กับไรฟ์น่ารัก เนื้อเรื่องน่ารัก ไม่เครียดดี ดราม่าไม่เยอะ ซึ่งเป็นอะไรที่ดี
รอตอนพิเศษ

สงสัยว่าเจ้าบันบันได้เจอกับมดแดงหรือยัง
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: jeen ที่ 24-05-2015 16:30:57
เขียนเรื่อง ป๊ากะอาณิช บ้างน๊าาา อยากอ่านมากกกกก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 24-05-2015 18:26:24
ชอบบบบบบบ :o8:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 26-05-2015 01:21:47
ตามมาจากพี่เจ้าน้องเพลิงเช่นกันค่ะะะ เรื่องนี้ก็น่ารักไม่แพ้กันเลย
แอบได้กลิ่นอายพี่เจ้าในตัวไรเฟิลนิดๆอยู่ (หรือจริงๆต้องกลับกัน ?) 5555555555 คือซึนๆน่ะค่ะ - . -
ก็ . ยังไงดี มันเยอะจนเขียนไม่ถูกเลย เอาเป็นว่าน่ารักมากๆทุกช็อตทุกฉากเลยค่ะ
ตอนแต่งงานสุดท้ายแอบเฟลนิดๆเหมือนกันที่กรีนเข้ามาป่วน =____= ถ้านางไม่มาไปเลยน่าจะดีกว่านี้ ; ;


ก็ขอเป็นกำลังใจให้คนเขียนต่อไปแล้วกันนะคะ <3
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 26-05-2015 07:44:38
อยากตบยัยกรีนจนวินาทีสุดท้ายจริงๆๆๆ :z6:
บันนี่น่ารักให้ยักษ์หลงได้หลงดีจริงๆ 5555
เค้าจะรอตอนพิเศษน๊าาาาาา :mew1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ม่วงระย้า ที่ 26-05-2015 13:24:49
สนุกดี แต่มีแม่ที่เกลียดลูกได้ชนาดนั้นเลยหรือ? ดีใจที่น้องเข้มแข็งนะคะ

อยากอ่านตอนพิเศษจัง

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: แ ฝ ง. ที่ 26-05-2015 18:56:31
สะเทือนใจแทนควอทซ์
อยากตบยัยกรีนนนน นี่แน่ะๆๆๆ   :z6: :z6: :beat: :beat:

อ่านรวดเดียวเลย สนุกมากค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 27-05-2015 10:36:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: pkpiko ที่ 27-05-2015 13:34:24
ต้องขอโทษจริงๆนะ เราอ่านนิยายเถื่อนๆมาตลอด5555555 นี่เรื่องนี้มุ้งมิ้งมากกกก
อ่านได้ถึงตอนที่30กว่า ต่อไม่ไหวแล้ววหวานแบ็วสดใส แต่เรื่องน่ารักมากเลยยชอบนะคะ ภาษาสวยแต่หวานไปสำหรับเรา


เราเดาถูกด้วยว่าคนเขียนอยู่เมืองนอก เอาใจช่วยนะคะ สู้ๆเป็นกำลังใจให้ในการเขียนนิยายเรื่องต่อๆไปค่ะ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 01-06-2015 17:54:09
ตอนจบเกือบจะหวามมา นางกรีนโผล่ออกมาทำม่ายยยยยยย รอตอนพิเศษค้าาาาา
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 02-06-2015 23:54:40
น่ารักสุดๆ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: sodawan1 ที่ 04-06-2015 14:41:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 04-06-2015 17:16:26
สนุกดีนะครับ อ่านเพลินดี อ่านรวดเดียวจบเลย
ชอบกลุ่มเพื่อนของน้องกระต่ายกลุ่มนี้มากๆ ทั้งสี่คนเลย ดูรักกันทุกคนเลย

แต่เสียดายแพคที่ไม่รู้ว่าน้องกระต่ายเป็นพี่ แง่มๆ
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 05-06-2015 18:16:32
ฟินมากกก อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากค่า เอ๊ะ!!! แล้วชื่อเรื่องเกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องล่ะหนิ ???
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 06-06-2015 02:48:04
 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 06-06-2015 22:16:06
อ่านทั้งวันจนจบ

ชอบจริงๆ

สนุก อบอุ่น น่ารัก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 07-06-2015 09:56:45
จิ้มน้องควอทช์
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 10-06-2015 07:22:39
อ่านจบแล้ว. สนุกดีค่ะ. ไรเฟิลดี๊ดี น้องควอทก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: ☆ underground ☆ EPISODE 52 FINALE (17:05:2015) (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 13-06-2015 08:43:53
สนุกมากเลยจ้า รอตอนพิเศษด้วยคน  :กอด1:
หัวข้อ: ☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 14-06-2015 19:49:07
SPECIAL : R8Q’s DAY




  
  สวัสดีคร้าบบบบบบบ คิดถึงผมกันหรือเปล่าาาาาา ควอทซ์อิสแบ็ค!! ผมกำลังนอนเกลือกกลิ้งบนเตียง ในหัวพยายามนึกว่าลืมอะไรบ้างหรือเปล่า อ้อ พรุ่งนี้ผมกับไรเฟิลมีแพลนว่าจะไปเที่ยวกัน หรือที่เรียกอย่างเลี่ยน ๆ ว่า ฮันนีมูน.. ดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมเนอะ แต่งงานแล้วก็ต้องมีฮันนีมูน อืม.. ก็แล้วแต่ สถานที่ที่ผมเลือกคือเชียงใหม่ครับ ไม่อยากไปทะเล เคยไปแล้ว.. อ่า.. อยากโยนอะไรใส่ผมนะครับบบบ จริง ๆ ต่างประเทศก็อยากไปนะแต่ขี้เกียจนั่งเครื่องบินนาน ๆ อ่ะ เพราะฉะนั้นเที่ยวในประเทศนี่แหละครับ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ^O^
  
  
  ขออัปเดตชีวิตสักนิดนึงแล้วกัน หลังจากงานแต่งเนอะ ผ่านมาก็แค่สองสัปดาห์เองเนอะ ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกครับ ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง  ผมก็มีความสุขดี รอบข้างก็แฮปปี้ อาจจะมีข่าวโจมตีบ้าง ก็แหม ลูกชายของสองตระกูลที่มีหน้ามีตาในสังคมธุรกิจนี่เนอะ แต่ในเมื่อเลือกที่จะไม่หยิบมาใส่ใจให้ปวดหัวมันก็ทำอะไรเราไม่ได้
  
  
  แต่ที่โดนหนักคงจะเป็นกรีน จากนั้นผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอหรอกครับ ได้ยินพี่เฟพูดว่ากรีนถูกส่งไปอยู่ต่างประเทศหลังจากสร้างวีรกรรมอันเลืองชื่อไว้ให้กับวงตระกูล. . . ก็ดี ขอให้โชคดีแล้วกัน อย่ามาอะไรกับผมอีกเลย ผมกลัวแล้ว ไม่โอเคจริง ๆ กับผู้หญิงคนนี้ T__T
  
  
  ขอบคุณทุกคนที่ยินดีกับผมนะครับ ส่วนเรื่องแม่นั้นผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง แม้เขาจะไม่ยอมรับผมเป็นลูก ยังไงเขาก็เป็นแม่ผมอยู่ดี แค่มางานผมก็ดีใจแล้วล่ะฮะ ผมไม่ได้โลกสวยอะไรหรอก มันก็นะ เศร้าไปก็ไม่เห็นมีประโยชน์อะไร ผมกับแพคก็ยังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันเหมือนเดิม แม้แพคจะไม่รู้ว่าผมเป็นพี่ชายของมันจริง ๆ ก็ตาม ผมว่านั่นมันก็ดีแล้ว.. ถ้าเกิดแพครู้มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดี
  
  
  
  ผมผุดลุกจากเตียงแล้วไปนั่งบนเดย์เบดก่อนจะเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมาเปิด ค้นหาดูสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ไปเรื่อย แม้จะลิสต์ไว้แล้วก็เถอะ จริง ๆ แล้วมันก็แค่ข้ออ้าง เหตุผลที่แท้จริงคือผมนอนไม่หลับ ตอนนี้ก็จะเที่ยงคืนแล้วครับ ไรเฟิลยังไม่กลับมาเลยอ่าาาาา พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้าด้วย!! ที่เลือกไฟลท์เช้าเพราะจะได้เที่ยวเยอะ ๆ ไงครับ
  
  
  
  เอ๊ะ! หรือผมจะโทรไปหาดีนะ ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวมันจะว่าผมจิก เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า... เมื่อตอนสาย ๆ ไรเฟิลเอาบันบันไปฝากให้ที่บ้านดูแลให้ระหว่างที่เราไม่อยู่ และทีนี้มันมีเรื่องงานเข้ามา รีสอร์ทที่กำลังก่อสร้างที่จังหวัดกาญจนบุรีมีปัญหานิดหน่อย พี่เฟก็ดั๊นบินไปดูงานที่ต่างประเทศตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว คุณพ่อก็ติดประชุมไปดูไม่ได้ ไรเฟิลก็เลยต้องไปแทน
  
  
  
  ผมยกคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กลงจากตักแล้ววิ่งลงไปที่ชั้นล่าง เสียงกุกกักดังมาอยากต่อเนื่องก่อนที่จะเงียบไปพร้อมกับร่างสูงคุ้นตาเดินเข้ามา พอมันเห็นผมก็ขมวดคิ้วเป็นปม ผมสิต้องทำอย่างนั้น!!
  
  
  “ทำยังไม่นอน”
  
  “รอ” ก็พูดความจริงไปสิ จะเก๊กทำไมเล่า โธ่!
  
  “ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า”
  
  ผมสั่นหน้าเดินตามไรเฟิลเข้าไปในครัว “ทำไมมาดึกอย่างนี้อ่ะ” ไรเฟิลเอาแก้วน้ำเย็นมาแนบแก้มผมก่อนจะตอบ
  
  “ปัญหามันไม่ได้นิดเดียวน่ะสิ พอเคลียร์เสร็จ จะกลับ ก็โดนดึงตัวให้อยู่ดื่มด้วย จะปฏิเสธยังไงล่ะ นี่ก็รีบสุด ๆ แล้ว” ผมมองไรเฟิลอย่างห่วง ๆ คงจะเหนื่อยมากสินะ
  
  “อย่าทำหน้าอย่างนั้น” ปลายนิ้วเขี่ยปากผมไปมาสองสามที วางแก้วลงในอ่าง แล้วดันผมให้เดินขึ้นชั้นสอง
  
  “เป็นห่วง... ทำไมไม่โทรมาบอกเลย” ผมเงยหน้ามองคนที่กอดคอผมอยู่
  
  “แบตหมดครับ” ผมมุ่ยปาก ก่อนจะหาวออกมา ง่วงอ่ะ ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องตื่นเช้าอีก “ไปนอนไป” พยักหน้ารับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะกระโดดขึ้นเตียง ไรเฟิลก็ถือผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำ ผมขอนอนก่อนเหอะ ง่วงตั้งแต่สี่ทุ่มแล้วแต่ฝืนตัวเองรอไรเฟิลกลับมาเฉย ๆ หรอก ฮ้าววว
  
  
  
  
  
  --------------------
  
  
  
  
  
  “บันนี่” ผมขยับตัวเบา ๆ ปรือตาขึ้น หน้าไรเฟิลอยู่ห่างแค่เส้นผมกั้น ไรเฟิลแตะริมฝีปากกับปากผมแล้วผละออก กลิ่นครีมอาบน้ำหอม ๆ เย็น ๆ จากคนตัวสู้งทำให้ผมโคตรเคลิ้มเลย
  
  “กี่โมงแล้วอ่า...”
  
  “ตีห้าครึ่ง ไปอาบน้ำเร็ว”
  
  “ฮื่อ.. อีก 10 นาที..”
  
  “ไม่ได้” ฮือ! ใครบอกให้เลือกไฟลท์เช้าแบบนี้วะ!!! แต่จะด่าเยอะก็ไม่ได้เพราะผมเลือกเอง แง T_T
  
  “อุ้มหน่อย..” ชูมือขึ้นสองข้างเป็นเด็ก ๆ ตาก็จะปิดอีกรอบ ไรเฟิลจุ้บหน้าผากผมหนึ่งทีแล้วช้อนตัวผมขึ้นในท่าเจ้าสาว.. ขอบคุณความง่วงที่ทำให้ผมไม่รู้สึกเขินมาก
  
  
  อาบน้ำเสร็จผมก็เดินมึน ๆ ไปแต่งตัว ทุกอย่างเรียบร้อยตอนหกโมงเช้าพอดี ฮ้าววววว อยากนอนง่ะ แต่เครื่องเทคออฟเจ็ดโมงยี่สิบห้า กว่าจะขับรถไปแอร์พอร์ต ไหนจะเช็คอินอีก ไปนอนบนเครื่องก็ได้ว่ะ!
  
  
  
  ผมออกจากห้องนอนลงไปชั้นล่าง ได้กลิ่นอาหารหอม ๆ ลอยมาท้องก็ร้องโครกเลยทันที เดี๋ยวนี้ไรเฟิลพัฒนาแล้วนะครับ ทำอาหารเป็นแล้วนะเออ ผมลืมบอกไปว่าเขาไปเรียนทำอาหารมาด้วย จะหกเดือนได้แล้วมั้ง โคตรอึ้งอ่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารฝรั่งทั้งนั้น แรก ๆ นี่หมาไม่แดกอ่ะครับ พอฝึกมาเรื่อย ๆ ก็ดีขึ้น อร่อย! แต่อย่าให้ทำอาหารไทยนะครับ คำเดียวเลยว่า... พัง!!!
  
  
  
  “หอมจางงงงง”  ก้มลงสูดกลิ่นไข่ดาว เบค่อนก่อนจะทำหน้าฟิน ไรเฟิลสั่นหัวเอือมระอา อาหารเช้ามื้อเป็นเป็นอเมริกันสไตล์ครับ
  
  “กินไป”
  
  “ไม่บอกก็กินเหอะ”
  
  
  
  -----------
  ------
  
  
  
  ฮึ้บ! ผมเขย่งเท้าจะหยิบรองเท้า ใครแม่งเอาไปไว้สูงขนาดนั้นวะ!!! ผมมองไรเฟิล คุณชายวางกระเป๋าเดินทางทั้งสองใบไว้แล้วมาหยิบรองเท้าให้ผม
  
  “ขอบคุณ”
  
  “เรียบร้อยแล้วนะ?”
  
  “อื้อ!”  ผมพยักหน้าหงึก ๆ กระชับกระเป๋าเป้ประกอบ ผมนี่เหมือนเด็ก ๆ ที่ตื่นเต้นตอนที่โรงเรียนพาไปทัศนศึกษาครั้งแรกเลย
  
  
  Let’s go!!!
  
  
  
  
  ---------------------------
  
  
  
  
  -สนามบิน-
  
  
  ผมมองผู้คนเดินสวนกันไปมาอย่างสนใจแล้วยกกล้องที่คล้องอยู่บนคอขึ้นมาถ่ายภาพ แม้จะยังเช้าอยู่แต่คนค่อนข้างเยอะเลยครับ และระหว่างที่เรากำลังจะลากกระเป๋าไปเช็คอินนั้น...
  
  
  “Oops!! Sorry!” สำเนียงภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างกระแดะ.. ทำให้ผมหันไปมอง เอ่อ ขอโทษฮะ แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ผู้หญิงสองคนผงกหัวขอโทษไรเฟิลอยู่ ผมคิดว่าน่าจะเดินชนกัน..
  
  
  “ไม่เป็นไร” คนตัวสูงบอกกลับเป็นภาษาไทยแล้วเดินมากอดคอผมเข้าไปที่เคานต์เตอร์เช็คอิน

  
  -----------
  -----
  
  
  “เข้าไปในเก็ตเลยไหม?” ผมถาม ไรเฟิลพยักหน้า ระหว่างเดินเข้าเก็ตทำไมมีแต่คนมองไม่รู้ ก็รู้นะว่าผมหน้าตาดี แต่แบบ.. นะ อึดอัดอ่ะ รู้สึกแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ แต่ผมหลงตัวเองไปงั้นอ่ะ จริง ๆ เขามองไรเฟิลกันต่างหาก คุณชายเดินไม่สนใครเลย ออร่านายแบบเปร่งประกายระยิบระยับ ผมไล่สายตามองร่างสูงแล้วเบ้ปาก หมั่นไส้ว่ะ ไอ้หล่อเอ๊ย!
  
  
  
  ผมสีเงินถูกจัดให้ปรกหน้าผากแบบนั้นยิ่งทำให้ดูเด็กลงไปอีก แล้วหล่อฉิบหายด้วย ใบหน้าหล่อนิ่งสยบทุกความเคลื่อนไหวรวมถึงหัวใจของสาว ๆ (ขออนุญาตเบ้ปากครับ) สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดบนโชว์แผงอกขาว ๆ ให้เห็นรำไร มีแว่นกันแดดเสียบไว้ที่คอเสื้อเพื่อความเท่ แขนเสื้อถูกพับขึ้นถึงข้อศอก เลื่อนลงมาด้านล่างเป็นกางเกงสแลคสีดำและรองเท้า Deck สีดำเช่นกัน
  
  
  ในขณะที่ผม.. เสื้อยืดคอวีกับกางเกงขาสั้นและรองเท้าแซนเดิล.. โคตรต่างกันเลยอ่ะครับ เหมือนคุณชายกับเด็กรับใช้ โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรม!!!
  
  
  
  ---------
  -----
  
  
  “นั่งนี่!” ผมทิ้งตัวนั่งบนเก้าอีกที่เรียงแถวยาวอยู่ไม่ไกลจากเก็ตที่เราต้องออก ไรเฟิลก็ทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ระหว่างรอเวลาตรวจบอร์ดดิ้งพาสผมก็เล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย แต่นั่งนานไปชักปวดฉี่
  
  
  “ไรฟ์”
  
  “หือ?”
  
  “ไปห้องน้ำแป๊บนะ”
  
  “ให้ไปด้วยไหม?” ผมส่ายหน้า ส่งกระเป๋ากับกล้องให้ไรเฟิลเก็บไว้ให้ แค่ไปห้องน้ำแค่นี้เองสบาย!!  ผมแวะซื้อกาแฟหลังจากทำธุระในห้องน้ำเสร็จ กลับมาหาไรเฟิลก็ถึงกับชักสีหน้าออกมาอย่างไม่รู้ตัว ที่นั่งของผมตอนนี้มันไม่ว่างแล้ว!! ถ้าจำไม่ผิดคือกลุ่มผู้หญิงเมื่อกี้นะ ผมว่าผมจำได้
  
  
  -----------
  -----
  
  
  “อ่ะ” ผมยื่นแก้วอเมริกาโน่ให้ไรเฟิลและยืนอยู่ข้างหน้ามันนั่นแหละ พอเห็นผมผู้หญิงที่นั่งที่ของผมก็หยุดคุยกับไรเฟิลแล้วเงยหน้ามองก่อนจะยิ้มให้ ยิ้มให้ผมทำไมวะ ฮึ! แต่ผมก็ยิ้มตอบไปตามมารยาทที่ดี
  
  
  และอีกประมาณสิบนาทีจะได้เวลาขึ้นเครื่อง... ผมกวาดสายตามองหาที่นั่ง จะให้ยืนอย่างนี้ก็ได้นะ แต่นั่งคงดีกว่า ทำไมไม่มีที่ว่างเลยยยยยยยยย!
  
  
  “มานั่งนี่” ผมขืนตัวสั่นหัวทันที จะให้นั่งตักหรอ ไม่เอาอ่ะ! ไม่ได้อยู่กันสองคนนะเว้ย!
  
  “ดรีมมาแย่งที่หรือเปล่าคะเนี่ย” ในใจอยากบอกว่าครับ แต่สิ่งที่ทำคือยิ้มบาง ๆ
  
  “จะไปเที่ยวที่ไหนกันเหรอคะ”
  
  “เชียงใหม่ครับ” ผมตอบ ตาก็กวาดมองไปรอบ ๆ ไรเฟิลลุกขึ้นแล้วผลักผมให้นั่งลงที่ของเขาโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว และในขณะนั้นเองที่ที่นั่งฝั่งตรงข้ามมีคนออกไป ไรเฟิลจึงไปนั่งตรงนั้น ข้าง ๆ ร่างสูงเป็นชาวต่างชาติทั้งสองคน
  
  “ดรีมก็ไปเชียงใหม่ค่ะ!!”
  
  “อ่า..”
  
  “พักที่ไหนกันเหรอคะ?”
  
  “โปรดทราบ เครื่องบินของสายการบิน xx เที่ยวบินที่ XX 123 พร้อมแล้วที่จะออกเดินทางไปเชียงใหม่ ขอเชิญผู้โดยสารทุกท่านขึ้นเครื่องได้ ณ ทางออกหมายเลข 11 โปรดขึ้นเครื่องได้ ณ ทางออกหมายเลข 11 ขอบคุณค่ะ”
  
  
  ไม่ทันได้ตอบสาวเจ้าไปเสียงหวาน ๆ ของคุณแอร์โฮสเตสก็ดังขึ้นมาก่อน ผมลุกขึ้น ยกเป้ขึ้นพาดไหล่ ไรเฟิลก็ลุกขึ้นด้วยและเราก็เดินไปพร้อมกัน.. ผมมีลางสังหรณ์ว่าจะได้เจอสองสาวนั้นอีกแน่
  
  
  
  -----------------------
  
  
  
  ขึ้นเครื่องได้ทั้งผมและไรเฟิลก็หลับ มาตื่นอีกทีตอนที่กัปตันประกาศจะแลนด์ดิ้ง ผมบิดขี้เกียจ รับเป้มาจากไรเฟิล คุณชายให้ผมเดินออกไปก่อนก่อนที่เขาจะเดินตาม พอได้กระเป๋าเราก็เดินออกไปเพื่อหาคนของโรงแรมที่มารอรับ
  
  
  
  เจอแล้วครับ พนักงานของโรงแรมยืนถือป้ายชื่อโรงแรมอยู่ แต่พอเข้าไปเขากลับบอกว่าไฟลท์นี้ไม่ได้มีแค่ผมกับไรเฟิล และต้องรอนักท่องเที่ยวคนอื่นที่เข้าพักที่นี่ด้วยเช่นกัน ก็โอเค ผมผิดเองแหละที่ไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อน รอก็รอว่ะ คุณชายก็ไม่หือไม่อือ ยกกระเป๋าเก็บก็ลากผมขึ้นรถ ในรถนั้นมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ก่อนแล้วสองคน ผมกับไรเฟิลทักทายพอเป็นพิธีก็ตั้งท่าจะงีบกันอีกรอบ
  
  
  
  --------
  ---
  
  
  
  “อุ้ย! บังเอิญจังเลยนะคะ” ผมเงยหน้ามองตามสัญชาตญาณ เซ้นต์ผมแม่งแรงจริง ๆ แก๊งสองสาวที่เจอที่สนามบินไงครับ
  
  “อ่ะ.. ครับ” ผมผงกหัวงง ๆ ไรเฟิลไม่สนอ่ะ พิงศีรษะกับไหล่ผมหลับไปแล้ว ทุกอย่างเงียบไปพร้อมกับรถที่เคลื่อนตัวออกไป โรงแรมที่เราเข้าพักก็เป็นโรงแรมของบ้านไรเฟิลนั้นแหละครับ ใช้เวลาประมาณสามสิบนาทีก็ถึงที่พัก ลงจากรถก็บิดขี้เกียจเลยเป็นอันดับแรก
  
  
  --------
  ----
  
  
  “ป่ะ” ผมพยักหน้าหงึก ๆ เดินตามไรเฟิลเข้าไป พอมาเข้าด้านในแทบจะก้าวขาไม่ออก สวยมากกกกกกกกกกกกก!! แค่ล็อบบี้ยังสวยเชี่ย ๆ ผมมัวแต่ถ่ายรูปไรเฟิลเลยต้องมาลากแขนผมไป มีพนักงานออกมาต้อนรับอย่างดี และมีเวลคัมดิ้งให้ด้วย น้ำอะไรไม่รู้ อร่อยดี ฮี่ ผมนั่งบนกระเป๋าเดินทางระหว่างรอไรเฟิลเช็คอิน แล้วอยู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาทักผมซะงั้น!
  
  
  “สวัสดีค่ะ คุณรักษ์ธิสุทธ” เอ่อ.. รู้จักผมได้ไงครับ ผมลุกขึ้นยืนแล้วทักตอบอย่างมึน ๆ
  
  “ส สวัสดีครับ”
  
  “ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมของเรานะคะ ดิฉันเป็นผู้จัดการที่นี่ค่ะ” อ่า.. อย่างนี้นี่เอง อย่างนี้คืออะไรวะ!! ไรเฟิลคนดีมาช่วยกูด้วยยยย! ผมไม่พูดอะไรเพราะไม่รู้จะพูดอะไร เลยได้แต่ยิ้มโง่ ๆ มองหาไรเฟิลที่ยังอยู่หน้าเคานต์เตอร์
  
  “ขอบคุณครับ” แค่นั้นแหละที่สมองจะกลั่นกรองออกมาได้ T_T
  
  
  “สวัสดีครับ”
  
  “สวัสดีค่ะ คุณรังสิมันต์”
  
  “ช่วยหารถสักคันให้ผมหน่อยนะครับ” ไรเฟิลบอก
  
  “ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจัดการให้ ว่าแต่ จะเอาเป็นรถยนต์หรือจักรยานยนต์คะ? จักรยานยนต์จะสะดวกกว่านะคะ แล้วยังได้เห็นวิวรอบ ๆ ด้วย แม้จะร้อนไปหน่อย”
  
  “เอาไง?” อืม.. เชียงใหม่ก็คงรถเยอะพอ ๆ กับกรุงเทพล่ะมั้ง นักท่องเที่ยวเยอะด้วย รถยนต์อาจจะช้า แต่จักรยานยนต์จะให้ขับไปไกล ๆ มันก็ไม่สะดวก เผื่ออยากออกไปเที่ยวต่างอำเภองี้
  
  “ทั้งสองเลยได้ป่ะ?”
  
  “อื้อ จัดการให้ด้วยนะครับ” ไรเฟิลตอบผมแล้วหันไปบอกคุณผู้จัดการ
  
  “ได้ค่ะ”
  
  “ผมขอตัวก่อน”
  
  
  ----------
  ------
  
  
  
  “โห่ววววววววววว สวยมากกกกกกกกก” ห้องพักของเราเป็นแบบวิลล่าครับ ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมาก ๆ ภายในตกแต่งได้สวยมากด้วย
  
  
  
  วิลล่าหลังนี้ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นวินเทจ เอ่อ.. เดี๋ยว มันขัด ๆ กันนะ แต่ก็เข้าใจใช่ไหมฮะ มันวินเทจนะ แต่มันก็โมเดิร์นอ่ะ เออ นั่นแหละครับ ช่างมัน ..ผมทิ้งกระเป๋าลงพื้นแล้วสำรวจรอบ ๆ ทันที ภายในวิลล่ามีห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และห้องนอน อย่างละห้อง ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนแล้วเบิกตากว้างก่อนจะยิ้มออกมาอย่างถูกใจ
  
  วิ่งกระโจนลงเตียงทันที เตียงสปริงนุ่ม ๆ ทำให้ร่างผมเด้งขึ้นประมาณสามเซนติเมตรและเกือบกลิ้งตกเตียง คงเพราะผมกระโดดแรงไป ให้อารมณ์เหมือนเวลาเราโยนโทรศัพท์ใส่เตียงแล้วมันดันกระเด็นลงพื้นเลยครับ อย่างนั้นเลย!!
  
  
  
  ผมกลิ้ง ๆ ไปทั่วเตียงจนผ้าปูยับยู่ยี่ เหลือบตามองไรเฟิลที่ทำหน้าซังกะตายแล้วหัวเราะออกมา จากนั้นผมก็ลงจากเตียงแล้วพุ่งไป้ปิดประตูซึ่งเป็นกระจกแบบเลื่อนออก ตรงนี้เป็นเฉลียงไม้ยื่นออกไป มีจากุซซี่กลางแจ้งด้วย เหวยยยยยยยยยย หนีไปให้ไกลเลยครับ
  
  
  ผมเดินไปที่สระว่ายน้ำขนาดพอดีสีฟ้าสดใสส่องประกายระยิบระยับเล่นกับแสงแดด ท่าทางจะลึกอยู่นะเนี่ย และไม่ไกลจากผมนั้นเป็นเตียงริมสระสองเตียงตั้งอยู่ บริเวณรอบ ๆ มีต้นไม้เยอะแยะเลยครับ มองไปเห็นภูเขาไกล ๆ ด้วย ร่มรื่นแล้วก็เย็นสบายด้วย สวยมาก ๆ และมันก็เป็นส่วนตัวมากเลยครับ ที่พักผ่าน! แฮปปี้!!! (และผมเพิ่งรู้ว่ามาว่าวิลล่าหลังนี้สร้างมาเพื่อคู่รักฮันนีมูนโดยเฉพาะ...  T__T
  
  
  
  
  ---------
  -----
  
  
  
  “ไรรรรรรรรรเฟิลลลลลลล” ผมกระโดดทับไรเฟิลที่นอนหงายอยู่บนเตียง ตั้งแต่แต่งงานเนี่ยผมเหมือนหลายร่างเป็นเด็กสิบขวบไปเลยล่ะ เฮ้อออ
  
  “ว่าไง” ร่างสูงงืมงัมพร้อมกับมือใหญ่ที่วางแหมะบนศีรษะผมและยีเบา ๆ อ่า... ชอบจัง ผมขยับตัวขึ้นไปจนคางเกยอยู่บนอกกว้างและวาดแขนกอดเอวอีกฝ่ายไว้
  
  “ไปเที่ยวกานนนนนน เที่ยว เที่ยว”
  
  “อือ.. ไปจัดของเข้าตู้สิ” ผมยู่ปากแล้วอ้าปากงับปากล่างของไรเฟิลก่อนจะกัดเบา ๆ และหันไปมองกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งสองใบหน้าตู้แล้วถอนหายใจออกมา ก่อนจะมุดจากอ้อมแขนไรเฟิลแล้วลงจากเตียง
  
  
  
  นั่งขัดสมาธิที่พื้นแล้วเปิดกระเป๋าทั้งสองใบออก ของเยอะเหมือนจะย้ายบ้านเลย ผมหยิบกระเป๋าใบเล็กที่ใส่ของใช้ในห้องน้ำออกมาแล้วเอาให้ไรเฟิลเอาเข้าไปจัด จากนั้นผมก็เอาเสื้อผ้าเข้าตู้และเก็บของบางอย่างใส่ไว้ในเซฟ
  
  
  ------
  ---
  
  
  “บันนี่..”
  
  “ว่า?”
  
  “หิวยัง?”
  
  “ก็นิดหน่อย หิวแล้วหรอ” ไรเฟิลพยักหน้า ผมปิดกระเป๋าแล้วยกไปไว้ข้างตู้ ดีนะที่จัดเสร็จแล้ว
  
  “ไปหาอะไรกินไหมหละ? จะเปลี่ยนชุดไหม”
  
  “ไป” เรื่องกินปฏิเสธที่ไหนล่ะ ผมกับไรเฟิลไม่ได้เปลี่ยนชุด เพราะที่ใส่มาก็สบายอยู่แล้ว แค่ล้างหน้าให้สดชื่นก่อนจะไปเอากุญแจรถกับคุณผู้จัดการที่ล็อบบี้แล้วออกไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกัน ผมจะกินให้พุงกางเลยคอยดูสิ!!
  
  
  
  -----------------------------
  
  
  
  
  วันที่ 4 ของการเที่ยวที่เชียงใหม่..
  
  
  เรียกได้ว่าหรรษาสุด ๆ สนุกดีครับ ได้เที่ยวเยอะเลย ทั้งในเมือง นอกเมือง เดินป่า ขึ้นดอย น้ำตกชอปปิ้ง บลา ๆๆ และวันนี้ผมกับไรเฟิลไม่มีแพลนจะไปที่ไหน ตอนนี้ยังนอนง่อยกันอยู่ที่วิลล่าอยู่เลยครับ เที่ยวมาหลายวันแล้วเหนื่อย ๆ แต่ก็สนุกมากเช่นกัน
  
  “อือ..” ขยับตัวบิดขี้เกียจแล้วกระพริบตาถี่ ๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงอีกครั้งแล้วขยับกายเข้าหาความอุ่นจากร่างกายของคนที่นอนข้าง ๆ ..ไม่อยากตื่นเลย
  
  “หิวยัง? จุ้บ” ไรเฟิลเอ่ยถามแล้วจูบที่หน้าผากผมเบา ๆ
  
  “นิดหน่อย.. อือ.. ตื่นนานแล้วเหรอ”
  
  “สักพักแล้ว จะนอนต่อหรือยังไง?”
  
  ผมสั่นหน้า “จะอาบน้ำ”
  
  “อืม”
  
  ผมลืมตา ลุกขึ้นนั่งแล้วโน้มตัวไปคว้าเสื้อคุมอาบน้ำที่ตกอยู่ข้างเตียงมาสวม
  ไรเฟิลแม่ง! ไม่ใส่เสื้อผ้าให้ผมอ่ะ เมื่อคืนหลังจาก.. เอ่อ.. นั่นแหละ ผมก็หลับไปเลย ไม่รู้ด้วยว่าหลับไปตอนกี่โมง
  
  ตอนนี้หรอ เหอะ! ปวดสะโพกฉิบหาย TwT
  
  
  ------
  ---
  
  
  อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็ออกไปด้านนอก ได้กลิ่นหอมของอาหารโชยมาแตะจมูก อ่า..
  
  “รูมเซอร์วิสหรอ” ผมถามพลางหั่นสเต็กเข้าปาก
  
  “อือ วันนี้อยากไปไหน” ผมเงยหน้ามองคนถาม คิดสักพักก่อนจะตอบ
  
  “ไม่ไป นอนอยู่ห้องเนี่ยแหละ แต่ตอนเย็นไป Walking street กันไหม วันนี้วันอาทิตย์ด้วย”
  
  “เอางั้นก็ได้”
  
  “อ่ะฮ่ะ”
  
  
  หลังจากกินอาหารเช้าควบเที่ยงไปเสร็จแล้ว ผมก็นั่ง ๆ นอน ๆ เล่นเกม ตอบแชท อัพเดตสเตตัส ถ่ายรูปไปเรื่อยระหว่างวัน ตอนนี้ก็บ่ายสามกว่า ๆ ครับ
  
  แชะ
  
  ลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพฝรั่งผมเงินที่นั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ ไม่เล่นสิ ทำงานต่างหาก.. มาพักผ่อนยังจะทำงานอีก แต่ก็นะ กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัวเป็นผู้บริหารนี่เนอะ ก็เลยต้องศึกษาเรื่องงานเอาไว้ก่อน..
  
  ไรเฟิลเงยหน้ามองนิดหน่อย ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่ไอ้ยักษ์ก็กลับไปสนใจคอมพิวเตอร์บนตัก
  
  ผมกดดูภาพที่เพิ่งถ่ายเมื่อกี้แล้วยิ้มอย่างพอใจ ถ่ายมุมไหนก็ออกมาดูดีจริง ๆ .. สั่นศีรษะกับความคิดตัวเองก่อนจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับกล่องแล้วอัพโหลดลงโซเชียลเน็ตเวิร์ค
  
  
  ทริปนี้ผมถ่ายรูปไปเยอะมากกกกกกกกก มาก ๆๆๆๆ จริง ๆ ก็แหม ผมมันชอบถ่ายรูปอยู่แล้วนี่นา ยิ่งมาเจอธรรมชาติสวย ๆ งาม ๆ ก็เลยไม่ห้ามใจตัวเองเลย ในเมื่อมีรูปสวย ๆ เยอะก็เลยแบ่งปันให้เพื่อนพี่น้องที่ตามผมอยู่ได้ดูบ้าง แต่พออัพโหลดไป ไม่ว่าจะรูปไหนก็โดนด่าทั้งนั้น..
  
  จากมิตรสหายเพื่อนรัก.. ไนต์กายฟอร์สและบะหมี่.. พร้อมใจกันมาก.. ควอทซ์ตื้นตัน
  
  แต่โดนพวกมันด่าคือบรรลุเป้าหมายของผมแล้วครับ กร้ากกกกกกก
  
  กับคอนเซ็ปต์ที่ว่า...
  
  
  ...ใช้ชีวิตยังไงให้คนด่าและอิจฉา (หัวเราะ)




-มีต่อข้างล่างค่ะ-
หัวข้อ: ☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 14-06-2015 19:52:14
  
  
  เวลา 17.20 นาฬิกา ผมกับไรเฟิลก็ออกจากวิลล่าเพื่อนที่จะไปถนนคนเดินตามที่บอกไว้ ขับรถกันไปเองเพราะคิดว่าน่าจะได้ซื้อของเยอะแน่ ๆ
  
  รถในเมืองเชียงใหม่ค่อนข้างเยอะเลยครับเราเลยมาถึงช้ากว่าที่คิดไว้นิดหน่อย และที่สำคัญคือหาที่จอดรถยากมาก!!!!!
  
  “ป่ะ”
  
  “เดี๋ยว ไปยืนตรงนั้น” ผมชี้ไปที่ตรงกับหน้าประตูท่าแพพอดี ไรเฟิลไปยืนตามที่บอก ผมเลยยกกล้องขึ้นถ่ายรูปอีกฝ่ายไว้แล้วยิ้มเฉ่ง วันนี้มีพร้อพคือกล้องห้อยคอคนละตัว เย่
  
  
  “คนเยอะอ่ะ” ผมบ่น
  
  “จับไว้” คุณชายยื่นมือมาให้ ผมเลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนจะยกยิ้มแล้วยื่นมือไปประสานกับมือใหญ่
  
  
  ผู้คนเยอะมากเลยครับ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เบียดกันสุด ๆ แทบจะไม่ต้องเดินเลยครับเพราะมันไหลไปเอง
  
  “อ๊ะ!” ผมร้องเบา ๆ เมื่อแขนครูดกับอะไรสักอย่างกับคนที่เดินสวนกันเมื่อกี้
  
  “เป็นอะไร?”
  
  “อะไรครูดไม่รู้อ่ะ” ยื่นแขนให้ดู มีรอยแดงยาว ๆ แปะไว้เป็นหลักฐาน ไม่ได้เจ็บหรอกครับ ที่ร้องเพราะตกใจมากกว่า
  
  “ไม่ระวังเลย” ยิ้มแหย่ให้ไปกับคำดุ ไรเฟิลสั่นหัวเบา ๆ แล้วดันให้ผมยืนข้างหลังเขาแล้วพาเดิน
  
  อ่า.. มันเหมือนเขาเอาตัวใหญ่ ๆ ของตัวเองเป็นเกราะป้องกันคนให้ผมเลย. . .
  
  
  มีแฟนดีคือลาภอันประเสริฐ...
  
  
  “ไรฟ์!”
  
  “ว่า?” ผมชี้ไปที่ร้านร้านหนึ่ง เป็นร้านขายของแฮนด์เมดอ่ะครับ แล้วผมก็ลากคนตัวสูงไปทันที
  
  “อันนี้ตัวเท่าไหร่ครับ?” ผมชี้ไปตุ๊กตาตัวขนาดเท่าฝ่ามือ เป็นตุ๊กตาผ้าครับ เป็นรูปทรงสัตว์ตัวต่าง ๆ แล้วก็มีเป็นคนด้วย น่ารักมากเลย
  
  “ตัวละ xxx จ้าา เลือกดูได้จ้า” ผมยิ้มให้แม่ค้าแล้วหันไปหาไรเฟิล
  
  “ตัวไหนดีอ่ะ”
  
  “ซื้อให้ใคร?”
  
  “น้องตัวเล็ก” ผมตอบ ไรเฟิลพยักหน้าแล้วชี้ไปแมวกับลิง คือ... ถ้าเอาไปให้น้องตัวเล็กคงกระโดดข่วนหน้าแน่ ๆ อ่ะครับ แต่ก็.. เหมาะดีนะ ฮ่า ๆ ๆ สุดท้ายแล้วผมก็เลือกแมวกับเสือมาอย่างละตัว เมื่อจะจ่ายเงินไรเฟิลก็ดันหยิบตุ๊กตากระต่ายมาอีกตัว ผมเลยแยกเขี้ยวใส่ แต่คุณชายไหวไหล่ไม่สน
  
  
  
  เราเดินไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ทั้งของกินของฝากของตัวเองเต็มมือเต็มกระเพาะไปหมดแล้วครับ นี่ก็เอาของไปเก็บไว้ที่รถแล้วรอบหนึ่ง กระเป๋าตังผมตอนนี้รู้สึกจะเบา ๆ แล้วล่ะครับ T_T
  
  ผมแวะที่ร้านเครื่องประดับ พวกเครื่องประดับอย่างนี้เพลิงฟ้าน่าจะชอบ แล้วผมก็ตัดสินใจซื้อไปสองอย่างคือสร้อยข้อเท้ากับปิ่นปักผม อาจจะดูสาวไปนิดแต่เพลิงฟ้าได้ใช้แน่ ๆ ล่ะ เรียบร้อยไปอีกหนึ่งราย..
  
  
  ของฝากจริง ๆ ก็ซื้อให้ครบทุกคนแล้วล่ะครับ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอมาเดินอย่างนี้อีกเห็นอะไรก็นึกถึงหน้าพวกนั้นขึ้นมาก็เลยซื้ออีก แฮ่
  
  “เดินดูทางหน่อย”
  
  “ดูอยู่”
  
  “ดูยังไงจะชนกับราวเขาอยู่แล้ว”
  
  “ก็คนมันเยอะอ่ะ!”
  
  “อย่าโทษคนอื่น”
  
  “อะไรวะ! เงียบไปเลย ฮือ!” ผมว่าแล้วจิ้มแตงโมงใส่ปากไรเฟิล ไม่รู้ยังไงถึงมาเถียงกันได้เนี่ย โว้ะ!
  
  “อ๊ะ!” ยุติการทะเลาะแล้วลากแขนไรเฟิลไปที่ร้านเป้าหมายทันที มันเป็นร้านที่ขายของพวกเครื่องแต่งกายของชาวเขาอ่ะครับ ผมอยากได้มานานแล้ว โอยยยย ตื่นเต้น! แล้วไรเฟิลนี่อะไร ทำไมต้องมองผมแล้วส่ายหน้าด้วย เชอะ!
  
  
  ผมเอื้อมมือไปหยิบหมวกมาลองใส่ “น่ารักมะ?”
  
  ไรเฟิลส่ายหน้า “ไม่” แต่ก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูป ผมเลยยิ้มเฉ่งชูสองนิ้ว เต๊ะท่าให้คนตัวสูงถ่าย สนุกดี จากร้านชาวเขาผมได้หมวกมาหนึ่งใบกับกระเป๋าสะพายของปักลายอีกหนึ่งใบ
  
  
  “ไรฟ์ ซื้อผ้าคลุมไหล่ฝากคุณแม่ไหม”
  
  “ก็ดี” แล้วพี่ท่านก็เดินไปจับ ๆ ดู ๆ ผ้าแบบต่าง ๆ หลายสี หลายลายจนตัดสินใจเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว
  
  
  -----
  ---
  
  “บันนี่”
  
  “หา? ว่า?”
  
  “เมื่อยยัง กูเมื่อยแล้ว”
  
  “อ่า ๆ กลับเลยไหม?”
  
  “ก็ดี”
  
  “อือ กลับกัน”
  
  
  เดินซื้อของตั้งนานไม่เหนื่อยแต่ทำไมพอจะเดินกลับไปที่รถแล้วมันเหนื่อยแบบนี้ล่ะ... งื่อ
  
  
  “อุ๊ย เจอกันอีกแล้วนะคะ” ผมกระพริบตาปริบ ๆ ใส่ผู้หญิงสองคนที่เข้ามาทักระหว่างที่ยืนรอให้รถผ่านไปเพื่อที่จะข้ามถนน. . .
  
  ใครวะ
  
  “อ่า..”
  
  “จำดรีมกับแพรวไม่ได้หรอคะ ที่เจอกันที่สนามบินแล้วก็ที่โรงแรมไง”
  
  “เอ่อ.. อ่อ จำได้ครับ” ผมยิ้มแห้ง แอบส่งสายตาให้ไรเฟิลเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่คุณชายแค่มองหน้าผมแล้วยิ้มมุมปาก นี่แกล้งกูใช่ม้ายยยยย แก้แค้นที่พาเดินตลาดตั้งแต่หกโมงเย็นจนสามทุ่มหรอที่รัก!
  
  “จะกลับแล้วหรอคะ” ผู้หญิงอีกคนพูด ผมถามพยักหน้าช้า ๆ “กลับยังไงอ่า แพรวกับดรีมก็จะกลับเหมือนกัน” ผมยิ้มรับ พลางเดินข้ามถนน
  
  “ไหน ๆ ก็พักที่เดียวขอเราสองคนกลับด้วยได้ไหมคะ” โอ้โห.. ถึงกับนิ่งค้างไปเลย จะทำไงดีล่ะ ผมกับไรเฟิลหันมองหน้ากัน แล้วก็มองสองสามที่ยืนมองตาปริบ ๆ ไม่ต้องทำตาแป๋วก็ได้มั้ง..
  
  “ไรเฟิล”
  
  “...........” ไรเฟิลเงียบ ไม่ตอบ ผมกัดปากอย่างคิดหนัก ถ้าบอกว่าไม่มันก็ยังไงล่ะครับ ถ้าบอกได้มันก็ขัดกับความรู้สึกอ่ะ ทำไมผมต้องเกิดมาเป็นคนใจดีด้วยเนี่ยTwT(โดนโบก)
  
  “ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ”
  
  “อ่า.. ไปด้วยกันก็ได้ครับ..”
  
  “หึ” ไรเฟิลแค่นเสียงแล้วเดินน้ำออกไป ผมเม้มปากแล้วยิ้มแห้งให้กับสองสาว พอมาถึงรถคุณชายก็เปิดกระโปรงด้านหลังแล้วยกของไปวาง ไม่รอผมเลยอ่ะ!
  
  
  
  “ทั้งสองคน.. ชื่ออะไรหรอคะ?” อ้าว ไม่รู้จักแต่ยังขึ้นรถมาด้วยนี่มันคืออะไร ไม่กลัวกันหรอครับ!
  
  “ควอทซ์ครับ”
  
  “.........”
  
  “ส่วนนี่ ไรเฟิล”
  
  “แพรวค่ะ”
  
  “ดรีมค่ะ”
  
  “ครับ” ผมแอบพรูลมหายใจ
  
  
  “บันนี่” คุณชายเพิ่งจะเปิดปากตั้งแต่ขึ้นรถ ต้องกระตือรือร้นกันหน่อย
  
  “หือ?”
  
  “กี่โมงแล้ว?”
  
  “สามสี่(สามทุ่มสี่สิบ)”
  
  “เวร!”
  
  “มีอะไรอ่ะ?”
  
  “เปล่า” ว่างั้นก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา กดอะไรยุกยิกแล้วยกขึ้นแนบหู
  
  “สวัสดี ... รังสิมันต์ ... รังสิมันต์ ศิริวัฒนามงคล ... ใช่ ... ยกเลิกโต๊ะที่จองไว้ ... อืม ครับ” วางสายแล้วโยนโทรศัพท์ใส่ช่องวางของ ผมได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ อะไรของเขา
  
  “มีอะไรหรอ?”
  
  “หึ” แล้วทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบ ผมขมุบขมิบปากกับตัวเองเป็นบ้าอยู่คนเดียว อารมณ์เสียอะไรก็ไม่รู้ ฮึ่ย!
  
  
  -----------
  
  
  ไรเฟิลจอดรถที่หน้าโรงแรมให้สองสาวลงและไม่มีการลงไปช่วยขนอะไรทั้งสิ้น ก็นะ.. ผมก็ไม่มีอารมณ์จะช่วยหรอก ส่งสองสาวแล้วเราก็กลับวิลล่า
  
  ผมมองข้าวของที่วางอยู่เกลื่อนพื้นอย่างปลงตก พอเอามาวางรวมกันแบบนี้แล้วมันเยอะมาก!!!!! กระเป๋าจะพอหรือเปล่า แล้วน้ำหนักจะได้ไหม โอ๊ยยยย เครียด!
  
  สุดท้ายก็ยัดของทุกอย่างใส่กระเป๋าได้หมด เสียพื้นที่ไปหนึ่งใบเต็ม ๆ โดยการที่ผมย้ายเสื้อผ้าของผมไปใส่รวมกับกระเป๋าไรเฟิลจนหมด ที่ต้องรีบจัดไว้เพราะพรุ่งนี้ก็กลับกรุงเทพแล้วครับ Go back to real life!
  
  เหนื่อยชะมัด ปวดขามากเลย ไปอาบน้ำหน่อยดีกว่า ว่าแต่ไรเฟิลอยู่ไหนเนี่ย!
  
  
  “ไรเฟิล!!” ผมตะโกนเรียก ได้ยินเสียงน้ำแว่ว ๆ มาเข้าหู อยู่ในห้องน้ำสินะ แต่พอเข้าไปในห้องน้ำกลับไปเจอ หรือจะอยู่ด้านนอก
  
  
  “ทำอะไรอ่ะ” ผมร้องถามคนที่ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ที่อ่างจากุซซี่ แล้วในอ่างก็มีน้ำเต็มแล้วด้วย..
  
  ไรเฟิลหันมายิ้มมุมปาก “แช่น้ำไหม”
  
  “เอ่อ..”
  
  “มานี่” ผมเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างระแวงหน่อย ๆ ก็ทั้งสีหน้าและแววตามันวิบวับมากเลยนี่! ไม่น่าไว้ใจสักนิดเลยครับ
  
  ผมหรี่ตามอง “อะไร” ไรเฟิลยังคงยกยิ้มมุมปาก มือหนาคว้าข้อมือผมแล้วดึงเข้าไปใกล้ตัวก่อนจะดันผมให้นั่งบนขอบอ่าง
  
  “ม มีอะไรวะ”
  
  “แช่น้ำหน่อย” ผมกระพริบตาปริบ ๆ ยังคงมองมันอย่างไม่ไว้เจอ แต่ในระหว่างที่ผมล่องลอย(?)กับความคิดตัวเองอยู่นั้นไรเฟิลก็ถอดเสื้อผมออกไปอย่างง่ายดายโดยที่ยังไม่ทันป้องกันตัวเองเลยสักนิด!!!
  
  “กางเกง จะถอดเองหรือถอดให้” เลิกคิ้วใส่ทำเสียงเข้ม หน้านิ่ง คิดว่าเท่หรือไง ไอ้ฝรั่งขี้เก๊ก!
  
  ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วใช่ไหมครับ เออ ก็ได้! ถอดก็ถอด ชิ!
  
  ผมปลดกระดุมกางเกงแล้วถอดออกตอนนี้เลยเหลือแค่ชั้นในขาสั้นปกปิดร่างกาย เลยกระโดดลงอ่างอาบน้ำหลบสายตาคมกริบสีฟ้าสวย แล้วทำไมผมต้องบ้าจี้ทำตามที่มันบอกด้วยเนี่ยยยย! น่าอายเป็นบ้า แล้วที่นี่มันด้านนอกด้วยอ่ะครับ ฮือ!
  
  
  ออดดดดดด
  
  ผมหันมองหน้าไรเฟิล ใครมากดออดอะไรตอนนี้อ่ะ.. คุณชายไหวไหล่แล้วเดินออกไป ผมเลยนั่งแช่น้ำงง ๆ กลิ่นหอม ๆ กับฟองนุ่ม ๆ นี่มันทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก ๆ ไหนจะน้ำวนนี่อีก ฮี่
  
  
  สักพักไรเฟิลก็กลับเขามาพร้อมกับของในมือ ผมกระพริบตาปริบ ๆ ไวน์ราคาแพงนั่นมัน..
  
  “เอ่อ..”
  
  “หึ” ไรเฟิลรินไวน์ใส่แก้วทั้งสองใบแล้วส่งมาให้ผม เขาเดินไปจุดเทียนหอมที่วางอยู่รอบ ๆ ก่อนจะปิดไฟลง แสงสว่างสีเหลืองนวลของเปลวไฟทำให้ผมรู้สึกแปลก อ่า.. ชักเขิน ๆ ขึ้นมาแฮะ
  
  
  ไรเฟิลตามลงมาในอ่างด้วยร่างกายเปล่าเปลือย ทำเอาผมกลืนน้ำลายเอือก.. ใบหน้าหล่อและสันกรามคมเฉียบทำให้ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่ายิ่งมีแค่แสงไฟจากเปลวเทียนแล้วผมรู้สึกว่ามันดูอีโรติก...
  
  “ขยับมานี่หน่อย” ผมสั่นหัว “อย่าดื้อดิ”
  
  “ไม่เอา อยู่นี่ก็ใกล้แล้ว”
  
  “ใกล้กว่านี้ไม่ได้หรือไง” ว่าแล้วก็ยกไวน์ขึ้นจิบ ชิลไปไหมพ่อ แต่พอเห็นสายตาดุ ๆ ที่ส่งมาก็เล่นเอาใจสั่น ไม่ต้องขู่ก็ได้ ยอมแล้วคร้าบบบบ
  
  “จำเป็นต้องเกร็งขนาดนี้ไหม?”
  
  “จิ๊” จิ๊ปากใส่แล้วหันหน้าหนี ผมแกว่งแก้วไวน์ในมือเบา ๆ แล้วยกขึ้นจิบ “นึกยังไงทำอะไรแบบนี้”
  
  “พอใจ”
  
  “ฮึ่ย! เอ้อ! นึกออกแล้ว ที่คุยโทรศัพท์บนรถนั่นเรื่องอะไรหรอ”
  
  “จองโต๊ะดินเนอร์ไว้ แต่ผิดแพลนหมด เพราะไปวอล์คกิ้งสตรีทนั่นแหละ กลับไม่ทันเลยต้องยกเลิกไง”
  
  “อ่า.. โอ๋ ๆ ไม่งอแงนะคนดี” ผมยื่นมือไปตบใต้คางไรเฟิลเบา ๆ แล้วยืดตัวขึ้นไปจูบแก้มของไรเฟิล แล้วก็ตีฟองเล่นแก้เขิน...
  
  T////T
  
  
  
  “เฮ้ย!” ผมร้องออกมาอีกครั้งเมื่ออยู่ ๆ ไรเฟิลก็กระชากผมขึ้นไปนั่งบนตัก และด้วยความตกใจทำให้ผมเผลอขยับมือจนไวน์หกราดตัวเอง ซ้ำมืออีกข้างยังปัดไปโดนแก้วของไรเฟิลที่วางอยู่บนขอบอ่างตกพื้นไปอีก. . .
  
  
  ไรเฟิลคว้าแก้วเปล่าในมือผมออกไปจากนั้นเขาก็อาศัยช่วงที่ผมกำลังมึนเปลี่ยนให้ผมนั่งบนตักโดยหันหน้าเข้าหาเขา!!!
  
  เร็วฉิบหาย!
  
  
  “อือ!” ล แล้วจำเป็นต้องบีบก้นผมหรอ!!! “ไรเฟิล ไม่เล่นนะ”
  
  “ใครบอกเล่น นี่เอาจริง”
  
  
  น้ำตามา. . .
  
  
  ไรเฟิลโอบรอบเอวของควอทซ์แล้วดันเข้าหาตัวจนแผ่นอกทั้งคู่แนบกัน ก่อนที่ร่างสูงจะฝังใบหน้ากับซอกคอของกระต่ายตัวขาว
  
  
  แทนที่จะห้ามแต่ทำไมถึงได้เอียงคอสมยอมอย่างนี้เล่า!!
  
  
  “ร ไรเฟิล..”
  
  “ถ้าไม่อยากโดนจนลุกไม่ขึ้นอย่าเรียกด้วยเสียงแบบนั้น”
  
  
  ไรเฟิลเคลื่อนริมฝีปากไปที่หลังใบหูขาวก่อนจะค่อยๆ เลื่อนลงมาตามแนวลำคอ พร้อมทั้งใช้ฟันครูดและขบเม้มไปด้วย ริมฝีปากร้ายอ้าครอบบนเม็ดอกที่โผล่พ้นน้ำ กระต่ายน้อยสะดุ้งเฮือกจิกเล็บกับไหล่กว้างเพื่อระบายอารมณ์
  
  “อะ.. อือ..”
  
  มือใหญ่ซุกซนลูบไล้ตามแผ่นหลังบางไปจนถึงสะโพกกลมกลึง ไรเฟิลบีบเคล้นก้อนเนื้อนุ่มอย่างมันมือ ก่อนที่มือหนาจะค่อย ๆ ร่นชั้นในตัวน้อยที่ปดปิดกายขาวออก
  
  “อื้อ!! อย่า อย่ากัดสิ!!”
  
  
  ช้าเกินไปกับคำห้ามปรามเมื่อฟันคมขบลงบนเม็ดอกสีสวยเข้าแล้ว
  
  
  เจ็บ.. แต่กลับรู้สึกดีจนไม่อยากใส่ใจความเจ็บนั้นเลย..
  
  
  “อือ อ๊า ร ไรเฟิล ม ไม่เอานะ!”
  
  ไม่ใช่ว่าจะเล่นตัวหรอกนะ ตอนนี้ผมก็มีอารมณ์แล้ว แต่นี่มันด้านนอกนะเว้ย! ถึงแม้จะดึกแล้วก็เถอะ มันน่าอายนี่นา!
  
  
  “อื้อ!!”
  
  
  นอกจากจะไม่ฟังคำขอแล้วยังมีหน้ามาจูบเขาอีก!! กระต่ายจอมดื้ออยากัดริมฝีปากบางนั่นแรง ๆ แต่พออ้าปากก็กลายเป็นเปิดทางให้ลิ้นร้อนสอดเข้ามาอย่างง่ายดาย!
  
  ความรู้สึกวาบหวามทำเอาขนลุกซู่ แม้อุณหภูมิภายนอกจะค่อนข้างเย็น แต่ภายในร่างกายกลับร้อนรุ่มจนทรมาน..
  
  
  จะ..ทนไม่ไหว..แล้วนะ..
  
  
  “อือ อืม”
  
  สุดท้ายก็ต้องยอมให้จนได้ ควอทซ์ตอบรับจูบไรเฟิลกลับไปอย่างดุเดือดเช่นกัน ริมฝีปากร้อนของทั้งคู่บดเบียดจนไร้ช่องว่าง เรียวลิ้นเกี่ยวพันอย่างไม่มีใครยอมใครจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบดังก้องในโสตประสาท
  
  กระต่ายขาวกระตุกเฮือกเมื่อเรียวนิ้วยาวของไรเฟิลกรีดผ่านรอยแยกระหว่างก้อนเนื้อกลม ไรเฟิลขยับปลายนิ้วทักทายช่องทางคุ้นเคยก่อนจะค่อย ๆ สอดแทรกปลายนิ้วเข้าไป
  
  ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ยังตอดรัดทุกทีสิน่า.. ยกยิ้มในใจอย่างพอใจกับปฏิกิริยาที่ได้รับ เมื่อคนตัวเล็กในอ้อมแขนดูเหมือนจะหายใจไม่ทันเขาถึงต้องผละจูบออกอย่างเสียดาย
  
  แก้วนุ่มขึ้นสีแดงจัด ดวงตากลมโตฉ่ำวาวด้วยแรงอารมณ์ ปากอวบอิ่มสีสดเผยออ้าหอบอากาศเข้าปอด ก่อนจะเชิดหน้าครวญครางเมื่อไรเฟิลขยับเรียวนิ้วเข้าออกอย่างร้อนแรง
  
  “อ๊ะ อื้อ!”
  
  “อืม..” ไรเฟิลครางต่ำเมื่อช่องทางของภรรยาตัวน้อยตอดรัดนิ้วเขาเสียจนแทบขยับไม่ได้ อ่า.. อยากจะเปลี่ยนให้เป็นของเขาแล้วสิ..  เมื่อคิดอย่างนั้นก็ดึงนิ้วออกจนควอทซ์ผวาเฮือก จับมือบางของกระต่ายน้อยให้สัมผัสกับท่อนเนื้อร้อนที่ผงาดรอ
  
  “ม ไม่..”
  
  “ทำให้หน่อยสิ..” กระซิบบอกก่อนจะกดจูบลงบนขมับของคนตัวเล็ก ควอทซ์สั่นหน้าหวือปฏิเสธ
  
  ที่บอกให้ทำให้ไม่ใช่ให้เขาใช้มือขยับ ๆ  นะ! แต่เขาต้องกดสะโพกกลืนกินแท่งร้อนของมันต่างหากเล่า!!!
  
  “ท ทำเองสิ อื้อ..!”
  
  “หึหึ”
  
  “ด เดี๋ยว! ป ไปที่เตียงสิ บอกว่าเดี๋ยวไง!!”
  
  ฟาดเพี๊ยะลงบนอกแกร่งของคนขี้แกล้ง ไรเฟิลยกยิ้มก่อนจะช้อนตัวกระต่ายจอมดื้อขึ้นแนบอกแล้วพาไปที่เตียงตามคำเรียกร้อง วางร่างบางลงบนเตียงอย่างเบามือก่อนจะใช้ผ้าสะอาดเช็ดฟองสบู่ออกจากร่างกายของตัวเองและเจ้าบันนี่ แล้วเหวี่ยงผ้าทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
  
  
  
  
  
  “อ๊ะ! อ๊า! อื้อ!” กายบางสั่นคลอนตามแรงกระแทกจากร่างสูง มือเล็กจิกดึงผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ระบายความเสียว แต่ความเสียวซ่านในความรู้สึกกลับไม่ได้น้อยลงไปเลยสักนิด! จะบ้าตายอยู่แล้วนะ ทำไมถึงได้ร้อนแรงขนาดนี้!!
  
  “ร ไรเฟิล อ๊า!!” ใบหน้าหวานสะบัดไปมา ปากก็ร้องครางเรียกชื่อเขาเสียงหวาน ยิ่งเมื่อควอทซ์ขบริมฝีปากอย่างเสียวกระสัน มันยิ่งเร้าอารมณ์ให้เขาโหมกระแทกความเป็นชายเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง
  
  
  
  “อือ จ จะไม่ไหว แฮ่ก แล้ว อ๊ะ!”
  
  “อ่า.. ปล่อยออกมา อืม.. เลยคนดี”
  
  “ฮือ อะ อะ อ๊า!!”
  
  
  ควทอซ์หวีดร้องเมื่อร่างกายถึงจุดสูงสุด หยาดน้ำสีขุ่นเปรอะเลอะหน้าท้องแกร่งของไรเฟิลและของตัวเอง ร่างบางหอบหายใจถี่รัวจากความเหน็ดเหนื่อย ไรเฟิลเร่งขยับซอยสะโพกเร็ว ๆ รัว ๆ จนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้ออย่างหยาบโลน ก่อนจะปลดปล่อยน้ำคาวเข้าไปในกายบางทุกหยาดหยด..
  
  “อ่า..”
  
  กดจูบบนหน้าผากมนแผ่วเบาก่อนจะย้ายไปที่ริมฝีปาก คราวนี้ไม่ใช่จูบร้อนแรงอย่างก่อนหน้าที่ผ่านมา ไรเฟิลกดย้ำซ้ำ ๆ กับกลีบปากอิ่มเบา ๆ ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหวานภายในอย่างช้า ๆ
  
  
  หัวใจของเจ้าชายน้ำแข็งอย่างไรเฟิล...มีเพียงควอทซ์เท่านั้นที่ได้ครอบครอง
  
  
  
  เนื้อกระต่ายแสนหวานล้ำเลิศอย่างควอทซ์...ก็มีเพียงไรเฟิลเท่านั้นที่ได้ลิ้มลอง





----------------------------------------
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด คิดถึงบันนี่กันไหม เอาตอนพิเศษมาให้แล้วค่าาาาาาาาาาา
มันก็ยังแปลก ๆ เหมือนเดิมและคนเขียนก็ยังตัดบทได้น่าตบเหมือนเดิม 555555555555
ชีวิตสองนางต้องมีอะไรมาป่วนตัลลอดดดดด (หัวเราะยังไงไม่ให้รู้ว่าสะใจ)
ขอบคุณนะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่เข้ามาอ่านกัน
ไว้เจอกันใหม่กับสเปเชียลนะครับบบบบ อีกเมื่อไหร่ไม่รู้ ฮือ จะพยายามแต่งมาให้อ่านกันนะฮะ (ถ้ายังมีคนอ่านอยู่อ่ะนะ แต่ถึงไม่มีก็จะลง แบร่)
บ๊ายบาย จุ้บ ๆ รักทุกคนเยยน้าาาาาา
  
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 14-06-2015 20:43:30
 :pig4: :bye2: o13
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: THESUNINSSH ที่ 14-06-2015 21:08:38
 o13 :pighaun: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 14-06-2015 22:14:18
อ๊ายๆๆๆๆๆ

หวานกันตลอดๆๆ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 15-06-2015 06:01:52
อิจฉา...หวานกันจริงๆ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-06-2015 20:05:28
 :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 15-06-2015 23:21:59
อ๊ายยยย เลือดพุ่งค่ะ หวานกันตลอดอะคู่นี้
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 16-06-2015 11:43:28
น่าร๊ากกกกกกกก :z1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 16-06-2015 13:59:46
 :m25:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: wann ที่ 16-06-2015 16:21:59
ขอบคุณนะค้าาา

น่ารักตลอดเรื่องเลยยบันนี่ :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-06-2015 18:30:42
 :pighaun: ให้กับความหวาน
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: HanTwoH ที่ 17-06-2015 15:50:55
หวานเนอะ มาอัพสเปบ่อยๆนะคร้าาา สู้ๆด้วย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-06-2015 19:48:26
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: แ ฝ ง. ที่ 18-06-2015 17:23:43
รับบริจาคเลือดค่ะ  :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: Niinuii ที่ 28-06-2015 18:20:03
 :hao6: :katai2-1: :hao6: :katai2-1: :hao6: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: New_Tai ที่ 28-06-2015 18:21:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : R8Q's DAY [14:06:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: b2friend ที่ 19-07-2015 23:18:31
อ่านรวดเดียว..จนจบ
เป็นตอนพิเศษที่น่ารักมากกกกก :-[
หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 21-07-2015 20:26:13
*ย้อนกลับไปตอนยังอยู่ปีสาม(เทอมสอง)นะงับ*


SPECIAL SPORT DAY 1





  ตอนนี้ผมอยู่ห้องประชุมรวมของคณะ ในขณะที่คนอื่น ๆ ปรึกษากันว่าคณะเราจะส่งใครลงแข่งขันอะไรบ้างในวันกีฬามหาวิทยาลัย ผมที่ไม่ได้ช่วยอะไรจึงปลีกตัวออกมานั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ข้าง ๆ ก็มีหมาไนต์อยู่นั่นแหละ ตามติดยิ่งกว่าเงา!
  
  
  “มึงจะไม่คุยกับไอ้ปืนหน่อยหรอวะ?” เสียงหมาไนต์ดังอยู่ข้างหูแต่ผมแสร้งไม่สนใจ เล่นเกมในมือถือตัวเองต่อไป
  
  “มันไม่ได้ตั้งใจขึ้นเสียงใส่ มึงก็รู้น่า..” นั่นแหละที่ผมไม่คุยกับไรเฟิล ผมไม่ได้งี่เง่านะเว้ย! แต่แบบ.. เออ งี่เง่าก็ได้ ไม่ชอบอ่ะ ทำไมต้องขึ้นเสียง
  
  
  เหตุการณ์มันเกิดหลังจากที่กินข้าวเที่ยงเสร็จ ไรเฟิลดูโทรศัพท์แล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา ผมก็ชวนคุยดี ๆ แต่แล้วอยู่ ๆ ก็ตะคอกผมเฉยเลย กูก็งงสิ ที่ผมไม่เข้าใจคือมันตะคอกทำไม หงุดหงิดเองแล้วมาพาลผมเพื่ออะไรวะ ใคร ๆ ก็ไม่ชอบโดนขึ้นเสียงใส่ทั้งนั้นแหละครับ แล้วนี่โดนทั้งที่ไม่ได้ผิดห่าอะไรเลยด้วย หงิดสิหงิด!
  
  
  แล้วนี่ไม่คิดจะมาง้อเลยหรือไง!! โทรมาก็ไม่ได้หรอไอ้ยักษ์!!
  
  
  “ปีใหม่แล้วมึงอย่าคิดเล็กคิดน้อยงี้ดิ” ..ผ่านปีใหม่จะสองอาทิตย์ละนะ
  
  แล้วไรเฟิลจ้างมึงมาเท่าไหร่ครับ หื้อออออ!!!
  
  “โวะ! งอนเป็นผู้หญิงไปได้ ถ้าเป็นกูนี่เลิกเลย”
  
  ตีนกูนี่สั่นไปหมด..
  
  “เสือกไร?”
  
  “หาเสียงเจอแล้วหรอคร้าบบบบ โอ๊ย!” ผมเอาโทรศัพท์ฟาดหัวไอ้ไนต์ไปอย่างหมั่นไส้ กูรำคาญ!!!
  
  
  
  “ม่า” สะกิดบะหมี่ที่ยืนเป็นเจ้าแม่ให้น้องปีหนึ่งปีสองสักการะ.. ไม่ใช่ละ มันกำลังช่วยปีสี่คัดกรองและหาคนที่จะลงแข่งอยู่ นึก ๆ แล้วผมกับไอ้ไนต์โคตรไร้ประโยชน์ หัดไปมองไอ้หมา นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่และไม่มีใครกล้าว่าด้วย
  
  “ไร?”
  
  “กูออกไปได้ป่ะ?” สัด ละยื่นไมค์มาหาพ่อมึงหรอ เสียงออกลำโพงไปดิ คนก็มองกันพรึ่บ รู้สึกได้ถึงการมองแรง.. ผมเหยียดริมฝีปากเป็นเส้นตรง ยกมือลูบหน้าแล้วยื่นไปตบกะบาลเจ้าแม่ที่หัวเราะพอใจ
  
  “จะไปไหน คนอื่นยังอยู่กันเลย มึงอย่ามาเห็นแก่ตัวดิวะ”
  
  “เบื่อหน้ามึงอ่ะ”
  
  “อ่ะจ่ะ”
  
  “....”
  
  “แล้วมาหน้างอใส่กูไมว้าาาาา เบื่อก็มาช่วยกูนี่” บะหมี่ยัดกระดาษประมาณสี่แผ่นใส่มือผม
  
  “โห.. เอาคืนไปเลย” ผมยัดคืนให้มันแล้วกะว่าจะกลับไปนั่งหลบมุมเหมือนเดิม
  
  “เจ้ ๆ จับมันลงหลีดดดดด!”
  
  “เออว่ะ คุณหนูมาหาเจ้หน่อยสิลูก” ไม่ใช่ชื่อกู กูไม่หัน “ไอ้ควอทซ์!!! กูบอกให้มานี่”
  
  แทบลงไปกองกับพื้น ผมหน้างอ หันไปหาคนเรียก เจ้บาน่าพี่รหัสปีสี่ของไอ้บะหมี่ท้าวสะเอวทำหน้ายักษ์ใส่ ทำนองว่า ‘ถ้ามึงไม่อยากตายก็รีบมา’
  
  
  “ครับ?” ผมถูกเจ้แกลากแขนไปอีกฝั่งท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของหลาย ๆ คน
  
  “เป็นหลีดไหม?”
  
  “ไม่” ตอบกลับไปทันควันส่ายหน้าจนผมกระจาย เจ้บาน่าจิ๊ปาก
  
  “โหย.. ไรวะ เสียดายเบ้าหน้า มึงจะอยู่เฉย ๆ หรือไง”
  
  “ผมลงกีฬาได้นะเจ้” เอาดิ! ผมไม่ยอมเป็นหลีดแน่อ่ะ
  
  “หน้าอย่างมึงเนี่ยนะคุณหนู หมากเก็บหรอลูก?” ผมกลอกตา ตั้งแต่ที่มีข่าวออกมาก็เปลี่ยนชื่อผมจาก ‘เด็กทุน’ เป็น ‘คุณหนู’ ซะงั้น แต่เจ้บาน่าแกเรียกเพราะจะกวนตีนเฉย ๆ เมื่อก่อนก็ซี้กัน
  
  
  ข่าวอะไรหรอ ก็หลังจากงานเดินแบบของอาณิช ก็มีข่าวเปิดตัวทายาทนักธุรกิจพันล้าน.. พร้อมกับแปะรูปผมขนาดเท่าฝาบ้าน เท่านั้นแหละ บึ้ม! ความวุ่นวายก็เข้ามาทันที..  แรก ๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกครับเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมด้วยไงไม่ค่อยได้เจอใคร พอเปิดเทอมปุ๊บ ก็ไม่ผิดจากที่คาดเท่าไหร่
  
  
  จากคนที่เคยถูกมองด้วยความรังเกียจและสายตาเหยียดหยาม ก็แปรเปลี่ยนเป็นอยากเข้าหา ทึ่ง รู้สึกผิด(ที่น้อยมาก ๆ) ตลกดี..
  
  
  ปัง!!
  
  
  เสียงเปิด-ปิดประตูอย่างไม่เกรงใจใครทำให้ทุกคนหันไปมองรวมทั้งผมด้วย คนที่เข้ามาใหม่เดินตรงมาไม่สนสายตาใครด้วยใบหน้านิ่งเฉย ผมอ้าปากเหวอ กระพริบตาปริบ ๆ ใครให้มันเข้ามา!!!!!!
  
  “มาคุยกันหน่อยไหม?”
  
  “... เจ้ ผมว่าหลีดก็น่าจะดีนะ” ผมหันไปยิ้มให้เจ้บาน่าที่ทำตาพราวระยับ เมินเสียงเข้ม ๆ ของไอ้ยักษ์ฝรั่งราวกับมันเป็นเสียงแมลงวี่แมลงวัน หึ!
  
  “กรี๊ดดด! เลิศ! หล่อนเขียนชื่อยัยคุณหนูไป”
  
  “ว่าไงนะ”
  
  “อุ้ย.. สวัสดีจ้ะสุดหล่อ” กลอกตาแป๊บ เจ้หันไปหาไรเฟิลละ
  
  “บันนี่”
  
  “ระ?”
  
  “ลงหลีด..งั้นเหรอ?”
  
  “แล้วจะทำแมะ”
  
  “ใครอนุญาต”
  
  “อนุญาตตัวเอง ทำไมครับ มีปัญหาอะไรเหรอ?”
  
  “มีแน่” คนตัวสูงแสยะยิ้ม “ถ้าเขียนชื่อไอ้เตี้ยนี่ลงไปก็ไม่ต้องเอางบ”
  
  ไอ้สาดดดดดดดดดดดดด!!
  
  ทุกคนแม่งแดกจุดกันไปเต็มกระเพาะแล้วมั้ง พี่ที่กำลังจะเขียนชื่อผมก็รีบวางปากกาทันที
  
  “ทำงี้ได้ไง!!”
  
  “แล้วทำไมจะไม่ได้ มานี่เลย”
  
  “ไม่ไป!!! ไม่ว่าง!! กลับไปเลย เขาไม่ให้คนนอกเข้าไม่รู้หรอ!”
  
  “เหรอครับ?” หันไปหาประธานคณะที่ยืนเอ๋ออยู่ พี่อย่าไปยอมมมมมม
  
  “เอ่อ.. อือ.. แต่ถ้านายจะอยู่ก็.. ไม่เป็นไร”
  
  ฟ้าคคคคคคคคคคคคคคคคคค!
  
  แล้วก็ไม่มีใครค้านห่าอะไรเลยอ่าาาาาาาาาาาา แค่เป็นขั้วอำนาจนี่ต้องยอมมันเหรออออ แค่มันเป็นลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยเนี่ยยยยยยยยย โว้ยยยยยยยยยยยยย!
  
  ไรเฟิลคว้าขอมือผมแล้วลาก ย้ำว่า ลาก! ออกจากห้องประชุม หันกลับไปมองเห็นไอ้หมาไนต์โบกมือให้พร้อมกับทำหน้ากวนตีน เดี๋ยวมึงเจอ!
  
  
  “ปล่อยปล่อยปล่อยปล่อยยยยยยยยย”
  
  “เงียบน่า”
  
  “ก็ปล่อยเดะ!!”
  
  “เฮ้อ..” ไรเฟิลถอนหายใจ ผมเลิกคิ้วมอง เอนตัวพิงกำแพงด้านหลัง มันก็แถว ๆ หน้าห้องประชุมเชียร์เนี่ยแหละ
  
  “ขอโทษครับ”
  
  “...”
  
  “ไม่ได้ตั้งใจ”
  
  “...”
  
  “จริง ๆ นะ” แล้วทำไมต้องทำเสียงอ่อยพร้อมกับช้อนตามองด้วยเล่า!!! ฟฟฟฟหกเ้าว ควอทซ์จะไม่ทน
  
  “แล้วตะคอกไมเล่า..”
  
  “น่า.. ไม่ได้ตั้งใจ ไม่งอนแล้วนะ”
  
  ปัดมือที่เขี่ยข้างแก้มออก “ไม่ได้งอนโว้ยยยยย”
  
  “แน่ใจ?”
  
  “เออดิ! กลับคณะไปเลยชิ้ว ๆ” ต้องรีบไล่ เพราะกลัวจะข่มยิ้มไว้ไม่ไหว เอาจริง ๆ แบบไม่ฟอร์มเลยนะ ผมนี่ใจอ่อนยวบตั้งแต่เห็นหน้ามันแล้ว ฮือออ ไอ้คนใจง่ายยยย
  
  “อยากอยู่ด้วย..”
  
  “แหวะ ที่คณะไม่มีอะไรทำหรือไง”
  
  “หึ”
  
  “เข้าด้านในละนะ มึงก็กลับไปได้แล้ว”
  
  “บันนี่..”
  
  “อย่าอ่อยเดี๋ยวกูไม่ทน” ผมพึมพำเบา ๆ
  
  “หือ?”
  
  “อืออออ กลับไปปปปป”
  
  “ไล่?”
  
  “เออ ไล่ นี่ออกมานานแล้ว เดี๋ยวโดนด่า”
  
  “ใครจะกล้า”
  
  “น่าาา เสียงานเสียการหมด โวะ”
  
  “อืม”
  
  “บ๊ายบาย” ผมยิ้มแฉ่งโบกมือไปมา คุณชายแสยะยิ้มกดลงมาแตะปากผมเร็ว ๆ และผละออก
  
  “ห้ามลงหลีด”
  
  “ไม่ลงหรอกน่าาาาา  Don’t worry!”
  
  “อืม” โบกมือให้อีกรอบ เมื่อคนตัวสูงหายลับตาผมก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วกลับเข้าไปด้านใน
  
  
  
  
  
  
  “ไง โดนดูดเปล่า”  ผมตบกระโหลกไอ้ไนต์ไปเต็มแรงด้วยความรักยิ่ง.. ดูดตีนกูนี่
  
  “ไปไกล ๆ เลยมึงน่ะ!” ไอ้ไนต์ทำหน้าตากวนตีนใส่ พอผมยกตีนขึ้นจะถีบมันก็หายวับไปเข้ากลุ่มกับพวกโยธา
  
  
  
  “อ้าว ฉิบหาย ยิงปืนขาดคนวะ!!” เสียงแมน ๆ ของประธานนักศึกษาวิดวะดังแหวกอากาศขึ้นมา
  
  “ขาดกี่คนวะ?” และก็มีอีกคนถามต่อ ระหว่างที่ผมออกไปคุยกับไรเฟิล เขาคงให้คนที่จะลงกีฬาลงชื่อกันเรียบร้อยแล้วทั้งครับ
  
  “คนเดียว” กรรมของเวร
  
  “เฮ้ย! มีใครจะลงยิงปืนไหม?”
  
  ..กริบ..
  
  
  “ไม่มีใครจะลงเลยหรอครับ!!?”
  
  ก็ยังคงกริบ..
  
  “ถือว่าช่วยคณะไงน้อง”
  
  ก็ยังกริบอีกอยู่ดี
  
  “ปีอื่นพวกมึงไม่มีแล้วหรอวะ?”
  
  กริบอะเกน
  
  
  ผมเลียริมฝีปาก ยัดโทรศัพท์ที่เอาออกมาเล่นเกมใส่กระเป๋าไว้แล้วเดินเข้าไปหาพวกเขา
  
  
  “เราลงให้” ผมบอกไปอย่างนั้น พี่ประธานมองผมอย่างไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ คนอื่นก็ด้วย เฮ้ยยยย อย่าดูถูกกูดิครับ เห็นหน้าอย่างนี้เคยเรียนยิงปืนมานะเว้ย! แม่นมากด้วยจะบอกให้!
  
  “ยิงปืนเป็นหรือไง?”
  
  “ก็พอได้ ถ้าไม่โอเคก็ไม่เป็นไร” หูยยย คราวนี้แม่งกริบกว่าเดิมอีกอ่ะครับ เงียบกันไมวะ คนหล่อไม่เข้าใจ จนกระทั่งเจ๊บาน่าประธานสมาคมสาวดุ้น(?)แห่งวิศวะพูดขึ้นมา
  
  “แน่ใจหรอคุณหนู ยิงปืนนะไม่ใช่เล่นหมากเก็บ”
  
  ผมดุ้นลิ้นกับกระพุ้งแก้มก่อนจะเดาะลิ้น “ไม่ให้ลงก็ไม่อะไร อยู่เฉย ๆ ก็ได้ สบายจะตาย” ไหวไหล่เสริมความหมั่นไส้ให้อีกเลยอ่ะ ก็ไม่แปลกใจละถ้าคนจะเกลียดผม ฮือ
  
  
  “มึงยิงเป็นแน่นะเว้ย โปรแกรมนี่เชี่ยปืนลงด้วยนะ” ไนต์วิ่งมากอดคอ ผมเซไปข้างหน้าเล็กน้อย บะหมี่เองก็มองเหมือนกัน ห่าอะไรของพวกมึงครับ กูถามหน่อย
  
  ผมเดาะลิ้นอีกที “ข้องเพราะกูเป็นเด็กทุน?”
  
  “มันไม่ใช่ แต่ยิงปืนอ่ะมึง ยิงปืนนนนน”
  
  “ก็ยิงปืนไง” อะไรนักหนาวะ กูจะหงิดแล้วนะ
  
  “ถ้าอยากลงก็ลง”
  
  พวกเขายังมีอคติกับผมอยู่ไง..
  
  “ไม่ได้อยากลง ที่บอกจะลงให้เพราะเห็นว่าไม่มีคนครับ ก็เลยจะช่วย ก็เท่านั้น”
  
  “จ้า ลงชื่อเลยมึง อันนี้ไอ้ไนต์ก็ลงไปละ” บะหมี่เข้ามาสมทบ มันตบไหล่ผมแปะ ๆ ผมมองหน้าประธานฯ อีกที เขาก็พยักหน้า ก็โอเค เดี๋ยวจะโชว์ให้ดูว่าของจริงมันเป็นยังไง.. หึ



-----------------------
แฮ่ ยังมีคนอ่านอยู่เปล่า เรามาแล้ววววว
เดี๋ยวตอนที่สองจะตามมานะ ขอเวลาไปปั่นแป๊บนึง TwT
เยิ้บบบ ♥
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: puna ที่ 21-07-2015 22:35:02
รออ่านคะๆ ทั้งน้องควอชท์ทั้งเพลิงฟ้า ^__^
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 21-07-2015 22:47:42
เค้าอยากอ่านอีก ชอบบบบบ
คิดถึงบันนี่ จุ๊ฟที  :z6: โดนอิปืนถีบ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 21-07-2015 23:08:51
ว้ายๆๆๆๆๆ กรี๊ดแป๊บบบบบ รอเลยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-07-2015 23:10:08
บันนี่ โชว์ให้โลกรู้เลยลูกว่าเราเก่ง ไม่ใช่มีดีแต่หน้าตา
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 22-07-2015 00:03:03
โชให้ที่ดูถูกมันหงายไปเลยนะบันนี่
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-07-2015 02:50:08
ไม่คิดว่าจะมีตอนพิเศษอีก อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆเลยจ้า ส่วนคุณหนูจ๊ะเอาให้พวกนั้นหงายเงิบในฝีมือไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 22-07-2015 03:27:20
หมั่นไส้บักปืนนน หงุดหงิดอย่างมาพาลตะคอกบันนี่ได้ไง บันนี่น่าจะเคืองนานๆให้รู้สึกซะหน่อย รออยู่นะคะ มาบ่อยๆเยอะก็ได้อ่านไหว เพราะคิดถึงงงว :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-07-2015 07:18:52
จัดให้หน้าหงายเลยนะบันนี่ :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 22-07-2015 12:55:51
กรี๊ดดดดดดดดดด บันนี่งอนน่าร๊ากกกกกก
จัดโชว์ไปเลยลูก เอะอะจะให้แต่เล่นหมากเก็บ o13
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 22-07-2015 13:31:52
บันนี่โชว์ให้พวกนั้นหน้าหงายไปเลยย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 22-07-2015 13:54:30
เพิ่งมาอ่าน กำลังสนุกเลยยย น้องควอตซ์ดูน่ารักกก
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-07-2015 14:03:05
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 22-07-2015 17:29:09
เข้ามาอ่านแล้วแบบ...ชอบอ่ะ เห้ย!! น้องบันนี่กับพี่ไรเฟิล ทำเราฟิน ยิ้มบ้าคนเดียวได้อ่ะ
มุ้งมิ้ง กุ้งกิ้ง ใส๊ใส(??) น่ารักเว่อร์
รออ่านสเปเชียลต่ออยู่เน้อ อิอิ :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 22-07-2015 20:02:42
เอาละสิ สามีภรรยาแข่งกันยิงปืน ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 23-07-2015 15:44:43
ยิงปืนนะครับยิงปืน  ไรเฟิลเรายังปราบมาแล้วเลย แค่ยิงปืน 5555
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: แ ฝ ง. ที่ 23-07-2015 16:38:30
คิดถึงเรื่องนี้มาก
ยังแวะเข้ามาเยี่ยมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
อยากให้รวมเล่มจังเลยยยยยยยย  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 23-07-2015 18:53:47
ตามอ่านจนจบแล้ววว ชอบมากเลยยย บันนี่โคตรน่ารัก เดี๋ยวตามไปอ่านอีกเรื่อง มาต่อตอนพิเศษไวไวน๊าาา อิอิ จริงๆ อนากอ่านพาร์ทของป๊ากับอาณิชด้วยแหะ แอบสงสารควอทซ์เรื่องแม่เหมือนกันนะ อยากให้แฮปปี้ อุ้มท้องมาตั้ง 7 เดือน (เกิดก่อนกำหนด) ไม่ผูกพันเลยคงไม่ใช่ แต่ออกมาแบบนี้ก็ไม่เป็นไร แนวสบายๆ ชิลๆ ตามน้องควอทซ์ 5555555555 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆ จ้า
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: am_ma ที่ 24-07-2015 10:05:04
 :ling1: :ling1: :ling1:

ดีใจๆๆ มีตอนพิเศษด้วย
คิดถึงทั้งคู่  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 24-07-2015 18:01:06
ตามมาเชียร์ค่ะ.....  แต่เชียร์ใครดีน๊อ บันนี่รึว่าพี่ปืนดี อิอิ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 25-07-2015 01:08:26
 :m1: :m3: :m1: :m3:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: pollapat ที่ 25-07-2015 23:02:47
รออ่านตอนต่อไป...
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 26-07-2015 12:58:04
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 27-07-2015 10:17:29
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 28-07-2015 21:59:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 30-07-2015 00:02:32
รอบันนี่โชว์ยิงปืน o13 o13 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 1 [21:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 30-07-2015 12:27:46
หลงรักน้องบันนี่
หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 31-07-2015 00:00:40
SPECIAL SPORT DAY 2





  “เสร็จยังงงงงงงงงง” ผมโผล่หัวไปหาคุณชายที่ยังยืนอยู่หน้ากระจกในห้องแต่งตัว คือมึงครับ แค่ใส่ชุดวอร์มมึงจะแต่งอะไรหนักหนาครับที่รัก
  
  
  
  วันนี้เป็นวันกีฬาวันแรก ซึ่งวันแรกนั้นผมไม่มีแข่งอะไร ก็เพราะผมลงไปอย่างเดียวแค่ยิงปืนซึ่งยิงปืนมันแข่งวันสุดท้ายนู้นนนน ชิลไปดิ สารรูปผมตอนนี้ก็ไม่อะไรมากหรอกครับ กางเกงยีนส์สีสนิมลายขาด ๆ กับเสื้อยืดคอวีสีขาว สวมทับด้วยแจ็คเก็ตเบสบอลอีกที คนหล่อไม่ต้องแต่งเยอะก็หล่อครับบอกไว้ก่อน กิกิ
  
  
  “รีบทำไมไม่ไปตั้งแต่เมื่อวาน”
  
  “กวนตีน”
  
  “หึ เล็มผมด้านหน้าให้หน่อยดิ”
  
  หะ? ไรเฟิลหันเบ้าหน้าหล่อ ๆ ของมันมาหา ปรากฏว่าผมด้านหน้าที่ปกติจะเซ็ทให้ตั้งขึ้นตอนนี้มันยาวถึงระดับตาแล้ว ผมชอบไรเฟิลตอนเอาผมลงมากกว่าเอาขึ้นอีก ผมว่ามันดูหล่อและหน้าเด็กกว่าปกติไง เห็นแล้วใจสั่นเป็นจังหวะ Love me like you do งี้ แต่พี่ท่านพอรู้ว่าผมชอบแม่งก็เอาเล้ยยยยย เซ็ทผมด้านหน้าขึ้นตลอดเลยยยยยย เลวมั่ก! แต่วันนี้พี่เขามีแข่งว่ายน้ำไง ผมด้านหน้าก็เลยถูกปล่อยลง หยั่งหล่ออ่ะบอกเลย วันนี้ไรเฟิลแข่งว่ายน้ำฟรีสไตล์ 200 เมตรครับ มาเชียร์กันด้วยนะครับ
  
  
  “เสร็จแล้ว” บอกพร้อมกับวางกรรไกรบนเคานต์เตอร์ก่อนจะใช้ผ้าปัด ๆ เศษเส้นผมบนตัวขาว ๆ นั่นออก ไรเฟิลจุ๊บปากเบา ๆ ก่อนจะบอกขอบคุณแล้วสวมเสื้อยืดสีดำก่อนจะใส่เสื้อวอร์มแขนยาวทับอีกที ฮือ หล่ออ่ะ มันสูงขึ้นด้วยอ่ะ แต่ผมยังเตี้ยต้อม่อเหมือนเดิมเยย เศร้าจัง TwT
  
  
  
  
  
  
  เรามาถึงมหาวิทายลัยก็ตอนเกือบจะเก้าโมงเลยง่ะ เพื่อนก็อยู่ไหนไม่รู้ โอยยยย ไอ้พวกเชี่ยยย โทรหาก็ไม่รับ ผมเลยต้องติดสอยห้อยตามไรเฟิลมาไปคณะเศรษฐศาสตร์ด้วย ทั้งที่จะปล่อยผมไว้ที่คณะก็ได้ แล้วมันก็บอกว่าผมไม่ได้แข่งอะไรตามกูมาน่ะดีแล้ว อย่าแรด แหม.. มันน่าลูบด้วยส้นเท้าจริง ๆ ไอ้หอกเอ๊ย
  
  
  “อูยยย พกเมียมาด้วยหรอครับ แค่นี้พกเมียมาด้วย”
  
  โครม!~
  
  โปรดอย่าสงสัย ผมยกเท้ายกเก้าอี้ที่โซ่นั่งอยู่จนมันหงาย เก้าอี้ล้มคว่ำแต่ไอ้โซ่ลุกขึ้นทัน
  
  “โหดสัด ฮ่า ๆ” ปูนอยู่ในชุดบอลพูดกลั้วหัวเราะพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ผม ส่วนโซ่หน้างอไปแล้ว แต่มันแค่ตอแหลเท่านั้นแหละฮะ
  
  “แข่งกี่โมง?” ไรเฟิลถาม
  
  “สิบครึ่ง” ปูนตอบ
  
  “จะไปร่วมพิธีเปิดหรือเปล่าวะ?” โซ่ถามต่อ
  
  “ขี้เกียจ” อันนี้ไรเฟิลกับปูนพูดพร้อมกัน ผมกับโซ่เบ้ปาก แต่จริง ๆ ก็ขี้เกียจด้วยแหละ ไม่ไปเขาก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่คนที่มีส่วนร่วมพิธีเปิดนั้นต้องไป อย่างพวกนักกีฬา(ยกเว้นไอ้สามคนนี้เพราะมันขี้เกียจ) คนที่ขึ้นแสตน คนถือธง ถือป้าย ดัมเมเยอร์ บลาบลาบลา..
  
  
  
  “ไปร้านพี่คาลี่กัน” ผมเสนอ อีกสามคนก็พยักหน้ารับ
  
  
  ในร้านมีคนไม่เยอะเลยครับ ประมาณสองสามคน ไม่รวมพวกผมนะ คนอื่น ๆ คงจะไปดูพิธีเปิดกัน พี่คาลี่ก็ออกมาต้อนรับ ยิ้มแย้มให้เหมือนเคย เรานั่งกินขนมกันไประหว่างรอเวลา จนสุดท้ายก็สิ้นสุดการรอ
  
  
  โปรแกรมแรกของวันนี้คือฟุตบอล ระหว่าง เศรษฐศาสตร์กับวิศวกรรมศาสตร์
  
  เอิ่ม..
  
  ไรเฟิลจูงมือผมผ่านฝั่งวิศวะไปนั่งที่สแตนฝั่งเศรษฐศาสตร์แบบ.. โอ้มายก้อด.. กูจะโดนแหกไหม
  
  “ไปหาไอ้ไนต์ละนะ”
  
  “อยู่นี่แหละ”
  
  “มึงดูสายตาเด็กคณะมึงมองกูสิ” ผมกระซิบกับมัน ไรเฟิลกวาดสายตามอง คนที่มองอยู่ก็หลบตากันแทบไม่ทัน
  
  “ช่างมัน”
  
  “กี่กิโล”
  
  “อย่าเล่นอีก” ผมหัวเราะ ไรเฟิลยื่นมือมายีผมแรง ๆ โด่ววว อุตส่าห์เซ็ทมา เสียทรงหมด
  
  
  ตอนนี้นักกีฬาทั้งสองทีมลงสนามแล้ว เสียงกองเชียร์ดังจนแทบไม่ได้ยินเสียงประกาศเลย ผมขยับมือพัดให้ตัวเอง อากาศก็ร้อนจังเลยเว้ย!
  
  
  ผ่านไปสิบห้านาทีแรกทีมวิศวะนำไปก่อนหนึ่งประตู.. เดี๋ยวครับ เด็กเศรษฐศาสตร์มองหน้าผมทำไมเหรอ? รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยที่คลืบคลานเข้ามาประชิดตัว ไม่คิดว่าผมเป็นหนอนหรอกใช่ไหม โธ่
  
  
  
  “ไปไหน?” เงยหน้าถามคนที่ลุกขึ้นยืน ไรเฟิลไม่ตอบแต่ส่งมือมาให้ ผมก็ดันบ้าจี้ยื่นไปจับซะงั้น ไรเฟิลบอกโซ่ว่าจะไปที่สระว่ายน้ำ โซ่พยักหน้ารับแล้วบอกสู้ ๆ จากนั้นไรเฟิลก็พาผมเดินออกจากสแตน
  
  
  
  รู้สึกหายใจโล่งขึ้นมาเลยทีเดียว..
  
  “ไปไหนวะ!!!” ไนต์ตะโกนถามผ่านโทรโข่งตอนเรากำลังเดินผ่านสแตนวิศวะ
  
  “สระ” สั้น ๆ ง่าย ๆ สไตล์ไรเฟิล หมาไนต์ส่งโทรโข่งให้คนแถวนั้นก็จะกระโดดข้ามกำแพงเตี้ย ๆ ออกมา แล้วจำเป็นต้องเอาแขนมาพาดคอผมป่ะวะ!
  
  
  
  มาถึงสระว่ายน้ำของมหาวิทยลัย ไรเฟิลปลีกตัวไปคุยกับเด็กคณะตัวเอง ให้ผมอยู่กับไนต์ไปก่อน ส่วนไอ้หมาไนต์ก็พาผมไปหาที่นั่ง นั่งมันชั้นแรกเลย.. สักพักไรเฟิลก็เดินกลับมา ร่างสูงกวักมือเรียกให้เข้าไปหา ผมเดินไปคว้ำมือกับขอบกำแพงที่กั้นระหว่างพื้นสระกับสแตนเชียร์
  
  
  “ฝาก” ไรเฟิลส่งกระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มือถือมาให้ ผมพยักหน้าแล้วรับมา
  
  “จะแข่งแล้วเหรอ?”
  
  “อีกยี่สิบนาที”
  
  “อ๋อ ไปวอร์มดิ”
  
  “จูบหน่อย”
  
  “เฮ้ยย บ้าเหรอ คนเยอะ” ไรเฟิลยกยิ้มมุมปาก
  
  “แคร์คนอื่นมากกว่ากู?” อ้าว มีตัดพ้อเว้ยเฮ้ย!
  
  “เปล่า..”
  
  “จูบสิ”
  
  “เดี๋ยวคนมองมึงไม่ดี”
  
  “ช่างแม่งดิ” ผมเบ้ปากหมั่นไส้ ก่อนจะยื่นหน้าไปแตะปากกับไอ้ฝรั่งตาฟ้าเร็ว ๆ แล้วรีบผละออก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้ยินเสียงผิวปากจากไอ้ไนต์อยู่ดี
  
  “แถวบ้านมึงเรียกจูบเหรอบันนี่?”
  
  “เอ้า ไอ้เชี่ย” มันส่งมือมาขยี้ผมผมแรง ๆ แล้วหยิกแก้มอย่างหมั่นเขี้ยว เจ็บอ่ะ..
  
  “ไปสักทีเถอะะะะะะ” ออกปากไล่อีกที คุณชายรังสิมันต์เลิกคิ้ว ยื่นแขนยาว ๆ มาโน้มท้ายทอยผมให้ก้มลงไปก่อนจะฉกริมฝีปากมาดูดดึงกลีบปากผมแล้วพละออกพร้อมกับหันหลังเดินออกไป
  
  
  ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!
  
  
  
  สิบห้านาทีต่อมานักกีฬาของแต่ละคณะก็เข้าประจำที ได้ยินเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ ดังมาไม่ขาดเลยครับ พร้อมกับสารพัดคำพูดแทะโลม
  
  อย่างเช่น
  
  “อูยยยย หุ่นแซ่บมาก ขอเจ้สัมผัสหน่อยได้ไหมจ๊ะ”
  
  “ซี้ดดด ซิกแพคช่างน่าลูบไล้”
  
  “โอ๊ยยยย ฉันขอยาโดมมมมม ไรเฟิลเศรษฐศาสตร์คือความเลอค่าของโลกใบนี้”
  
  “กรี๊ดดดด ไรเฟิลน่ากัดมาก”
  
  “หูยยยย เห็นเป้าไรเฟิลแล้วฉันจะอิจฉาหรือสงสารเมียของดีแก”
  
  “แอร๊ยยยย ขอพี่ไรเฟิลเทคโฮมทีนึงค่าาาา”
  
  
  เป็นต้น..
  
  กูละเพลียและกลัวแทน หญิงไทยหื่นไม่แพ้ชาติใดในโลกจริง ๆ ครับ ฮือ...
  
  
  
  เสียงสัญญาณนกหวีดเป่ายาวและนักกีฬาก็ขึ้นไปยืนบนแท่นกระโดด ผมยิ้มให้ไรเฟิลที่มองมาพร้อมกับยกกำปั้นเป็นเชิงให้สู้ ๆ
  
  
  “Take your marks!!!”
  
  
  ปัง!!
  
  พอสัญญาณปล่อยตัวดังขึ้นนักกีฬาก็กระโดดลงไปในสระ ผมจ้องลู่แปดตาไม่กระพริบ ไวเชี่ย..
  
  
  “มึงว่าใครจะชนะ”
  
  “ลู่แปด” ผมตอบไอ้ไนต์ ตาก็ยังคงจ้องมองเจ้าของร่างสูงที่แหวกว่ายอยู่ที่ลู่แปด ไรเฟิลว่ายไปจนถึงอีกด้านของสระก่อนจะม้วนตัวและถีบขอบสระว่ายน้ำเพื่อดันตัวออกไป.. เหลืออีกร้อยห้าสิบเมตร
  
  “อะไรทำให้มั่นใจขนาดครับเห็ด”
  
  ผมเหยียดยิ้ม “แล้วมึงว่าใคร”
  
  “ไรเฟิล”
  
  “นั่นแง่ะ” ผมกับไอ้ไนต์หัวเราะเมื่อคนที่คิดเป็นคนเดียวกัน ตอนนี้มาถึงรอบสุดท้ายแล้วและไรเฟิลก็ยังคงนำอยู่ ผมยิ้มออกมาก่อนยื่นกำปั้นไปชกกับไนต์เมื่อไรเฟิลแตะขอบสระเป็นคนแรก ตามคาดเลย.. ถ้าไม่ชนะก็ลาออกจากตำแหน่งประธานชมรมว่ายน้ำไปเลย
  
  
  ระหว่างรอไรเฟิลอาบน้ำเปลี่ยนชุดก็ดูเขาแข่งรายการอื่นกันไป วันนี้กายไม่มา ส่วนฟอร์สไม่รู้นอนตื่นหรือยัง แต่ก็ไม่น่าจะมาแล้ว ไอ้สองคนนั้นมันลงยิงปืนวันสุดท้ายเหมือนกัน แต่วันนี้ขนาดเพื่อนลงแข่งยังไม่มาเชียร์ ดีเยี่ยมจริง ๆ
  
  
  
  
  
  
  เดินทางมาถึงวันสุดท้ายของสปอร์ตเดย์กันแล้ว ผมอยู่ในชุดกางเกงยีนส์กับเสื้อยืดของคณะ ไรเฟิลเองก็เช่นเดียวกัน วันนี้เราออกช้าหน่อย เพราะโปรแกรมยิงปืนจะเริ่มก็บ่ายสองนู่น.. ของผมเป็นการยิงปืนสั้นครับ ไรเฟิลเองก็เช่นกัน แล้วทำไมต้องมาแข่งกันเองด้วยวะ
  
  
  
  “นี่.. พนันกันไหม?” ผมสะกิดแขนไรเฟิลระหว่างที่เดินไปสนามยิงปืนของมหาวิทยาลัย
  
  “อะไร?”
  
  “ก็แบบ... ถ้าใครชนะไรงี้”
  
  “หือ? ก็รู้อยู่แล้วไหมว่าใครจะชนะ” ไรเฟิลเหยียดยิ้มเหนือกว่า โห่ หยามกันมากไปละ
  
  “ลองป่ะละ? อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ” ผมยักคิ้วท้าทาย ไรเฟิลแสยะยิ้มแล้วพยักหน้า เป็นอันตกลง ใครชนะต้องทำตามคำสั่งของคนแพ้ เบ ๆ ครับ ธรรมดา
  
  “งดเซ็กส์หนึ่งเดือน” ผมเสนอ.. ไรเฟิลนี่อึ้งแล้ว ฮ่าฮ่า ตกใจอะไรขนาดนั้นล่ะคุณเจ้าชายน้ำแข็ง
  
  “บ้าเหรอ!!!”
  
  “เอ้า ถ้ามั่นใจว่าจะชนะแล้วกลัวอะไรล่ะครับ”
  
  “หึ ก็ได้ ถ้ากูชนะมึงก็เตรียมตัวไว้เลย” ไรเฟิลโน้มหน้าลงมาใกล้และมองผมด้วยสายตาที่โคตรจะคุกคาม.. เหมือนโรคจิตเลย ฮืออ ผมชักจะกลัวแล้วนะเว้ย!
  
  
  
  
  ไม่นานก็มาถึงสนาม มีคนมาดูพอสมควรเลยครับ ผมกับไรเฟิลเดินไปที่ฝั่งของนักกีฬา ตอนนี้มีการแข่งขันของประเภทอื่นอยู่พวกผมเลยต้องรอก่อน เรานั่งลงที่ที่กายและฟอร์สเว้นไว้ให้ สองคนนี้ก็ลงโปรแกรมนี้เหมือนกันครับ หรรษามากงานนี้ ไอ้ไนต์ที่ไม่ได้ลงก็มายื่นเท้ารั้วกั้นระหว่างสแตนกับพื้นที่สนาม วันนี้มีน้องตัวเล็กมาด้วย ยังน่ารักเหมือนกัน
  
  “น้องตัวเล็กอ้วนขึ้นหรือเปล่า?” คนถูกทักตาเหลือก ชะงักมือที่กำลังหยิบขนมเข้าปาก

  “เออ นั่นดิ แก้มออกแล้วนะกัส” กายก็เล่นด้วยเว้ย! น้องตัวเล็กของผมหน้าเหวอเหลือบมองไอ้ไนต์ หมาไนต์แสร้งกอดอกขมวดคิ้วหน้าเครียด
  
  “ไอ้ไนต์ไม่ชอบคนอ้วนรู้ป่ะกัส” ฟอร์สครับ ตอนนี้น้องหน้าเสียไปแล้ว แล้วปฏิกิริยาของไอ้ไนต์แม่งส่อด้วยไง
  
  “พวกมึงก็เสี้ยมจั๊ง!” ไนต์ยื่นมือมาจะตบหัว พวกผมหัวเราะ รู้ละว่าโดนแกล้ง ออกัสขยับปากบ่นมุบมิบแล้วล้วงมันฝรั่งทอดเข้าปาก
  
  “ลุงไม่ชอบจริงอ่ะ?” น้องช้อนตามถามพร้อมกับเคี้ยวขนมกรุบ ๆ คือมันน่าเอ็นดูมากเว้ย!
  
  “เออ”
  
  “เหรอ? แต่ลุงบอกจับละเต็มมือดี”
  
  “เชดดดดดดดดดดด” พวกผมประสานเสียง น้องตัวเล็กเลิกคิ้วเหมือนไม่มีอะไรและกินขนมต่อไป ไนต์กลอกตาแล้วยื่นมือไปดีดหน้าผากออกัส
  
  “แก่แดดนะมึงน่ะ”
  
  “เอ้า! ความจริงไหมล้าาาาา” จะแซวน้องมันนี่ต้องคิดนาน ๆ หน่อย ไม่เขินแล้วยังเล่นตัวเองอีก ดีจริง ๆ
  
  
  
  
  “สแตนดาร์ดเตรียมตัวครับ!!” ผมเป่าลมจากปากและลุกขึ้นยื่น ส่งมือไปไฮไฟว์กับไอ้ไนต์แล้วเดินไปประจำบล็อก แล้วบล็อกข้าง ๆ ผมดันเป็นไรเฟิลซะงั้น แม่งงงงง ใครเป็นคนจัดวะะะ!!
  
  
  
  “อย่าลืมล่ะ” เสียงทุ้มดังแว่วมา ผมปรายตามองแล้วเหยียดยิ้ม
  
  “บอกตัวเองเถอะ” ไรเฟิลหัวเราะหึในลำคอก่อนจะไปสนใจปืนที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมเองก็เช่นกัน
  
  
  ระหว่างการเตรียมตัวสิบนาทีก่อนแข่งขันผมหยิบปืนขึ้นมายิงแห้งประมาณสามสี่ครั้งก่อนจะวางไว้ที่เดิม จากนั้นจึงเอากระสุนมาใส่ในแม็กกาซีน เราจะยิงสิบนัดครับ ร้อยคะแนน ระยะการยิงยี่สิบห้าเมตร. . . เอื้อมมือไปคว้าที่ครอบหูมาใส่ ผมหลับตาลงทำสมาธิพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก้าวขาออกมายืนในจุดสำหรับยิง กางขาออกพอประมาณ
  
  
  “เริ่มยิง!!”
  
  
  ผมใช้มือข้างถนัดจับด้ามปืนเอาไว้ก่อนจะใช้อีกมือโอบ หลับตาลงข้างหนึ่งเพื่อเล็งไปที่เป้า
  
  ปัง!!
  
  กดปลายนิ้วลั่นไกปืนออกไป ผมไม่ได้สนใจจะมองใครจุดโฟกัสของสายตามีเพียงเป้าที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น..
  
  ปัง!!
  
  
  “เหลือเวลาหนึ่งนาที!!”
  
  
  เสียงของเจ้าหน้าที่สนามดังมาเมื่อผมลั่นไกกระสุนนัดสุดท้ายออกไปพอดี ผมลดปืนลง ยกยิ้มกับตัวเอง กดถอดแม็กกาซีนออกแล้วแขวนลูกเลื่อนก่อนจะวางปืนลงบนโต๊ะเหมือนเดิมโดยหันลำกล้องเข้าไปทางสนาม
  
  
  “หยุดยิง!!”
  
  
  ผมตรวจสอบดูความเรียบร้อยอีกรอบและมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบด้วย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีจึงออกจากช่องยิง
  
  
  
  “เจ๋งนี่หว่า”
  
  “เบ ๆ” ผมว่าพร้อมกับแบมือระดับหัวไหล่ ไนต์ทำหน้าประมาณว่า ‘กูไม่น่าพูดเลย’ ผมเลยหัวเราะออกมา
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  “ไม่ทำหน้างั้นดิ” จิ้มปลายนิ้วกับแก้มของไรเฟิล ร่างสูงจิ๊ปากรำคาญแล้วปัดมือผมออก ผมมองแผ่นหลังกว้างของคนที่เดินหนีก่อนจะหัวเราะออกมา
  
  
  ที่ไรเฟิลเป็นอย่างนี้ผมเพราะผลคะแนนที่ออกมา..
  
  ปรากฏว่าผมชนะด้วยคะแนนหนึ่งร้อยเต็ม.. แต่คะแนนของไรเฟิลก็ไม่น้อยนะครับ เก้าสิบเก้าเลยนะ.. ที่เขาพลาดเพราะมีช่วงหนึ่งที่เกร็งมากเกินไปจนปืนกระชากและทำให้กระสุนมันไปที่ตำแหน่งเก้าคะแนนแทน.. แล้วมันก็ไม่คุยกับผมเลยตั้งแต่นั้น นี่ก็สองทุ่มแล้วนะครับ ให้ตาย ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ!!
  
  
  
  ผมเดินตามเข้าไปแล้วกอดไรเฟิลจากด้านหลัง มันก็ไม่ได้ผลักออกนะครับแค่ไม่หันมาสนใจเท่านั้นเอง โขกหน้าผากกับแผ่นหลังกว้างไปก็หลายทีแต่อีกฝ่ายก็ยังเฉยผมเลยกอดเอวมันไว้แน่นและเบียดเข้าไปชิดจนหน้าบี้กับแผ่นหลังของไรเฟิลแล้ว ถ้าทำจมูกมานะคงหักไปแล้ว..
  
  
  กลิ่นเหงื่ออ่อน ๆ ผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ นี่มัน. . .
  
  
  ผมจะไม่คิดอะไร!
  
  
  “เฮ้.. คุยกันหน่อยดิคร้าบบบ”
  
  “...”
  
  “ไรฟ์.. ไรเฟิล.. ปืน.. ที่ร้ากกกกกกก”
  
  “อย่ามาอ่อยได้ไหม!” ผมยิ้มค้างเมื่ออีกฝ่ายหันมาโดยไม่ทันตั้งตัว ไรเฟิลขมวดคิ้วยุ่งพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง
  
  อะไรงะ..
  
  “อ่อยอะไร อย่ามโน”
  
  “ที่ทำอยู่นี่แหละ”
  
  “...”
  
  “มึงบอกห้ามไม่ใช่ไง ถ้าเกิดกูห้ามตัวเองไม่ได้แล้วจะบอกว่ากูผิดคำพูดไหม!”
  
  “เอ่อ..”
  
  “ให้ตาย! ไปไกล ๆ ก่อนกูจะปล้ำมึงบันนี่!”
  
  “ง่ะ.. ไม่ไล่ดิ เสียใจนะเนี่ย” ..ไม่โดนถีบให้คว่ำก็บุญของมึงแล้วควอทซ์. . . ผมยิ้มโง่ ๆ โชว์ฟันกระต่าย ไรเฟิลขบกรามเหมือนพยายามข่มอารมณ์
  
  
  
  
  “ถ้าสมยอมก็ไม่เรียกปล้ำป่ะวะ”




------------------------
จบแล้วค่ะ จบแบบกาก ๆ ตามประสาคนแต่ง ฮืออออ
แต่งออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรเลยฮือ รู้สึกผิด และถ้าผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ ._.
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยที่เข้ามาอ่าน รัก ♥
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 31-07-2015 07:55:42
บันนี่ง้อปืนได้ดีมาก555
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 31-07-2015 08:33:50
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 31-07-2015 11:08:03
 :hao6: บันนีไม่ค่อยเลยมีสมยอมด้วย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 31-07-2015 12:25:32
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-07-2015 16:40:54
บันนี่ขี้อ่อย ขี้ยั่วจริงๆ
ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 31-07-2015 17:08:02
จริงๆๆๆเลย บันนี่  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 02-08-2015 22:38:46
เรื่องนี้น่ารักมากกกกกก
อิจฉาาาา อยากได้แบบนี้เทคโฮมซักคนต้องสั่งที่ไหนน
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: Noostar ที่ 02-08-2015 23:02:07
บันนี่น่ารัก อ้อนเก่งนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-08-2015 23:11:54
เฮ้ ต่อดิ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 02-08-2015 23:14:34
บันนี่น่ารักเสมอ ชอบอ่าาาาา อยากได้ๆๆๆ แย่งมาจากไรเฟิลได้มั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 03-08-2015 00:02:20
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 03-08-2015 23:23:14
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-08-2015 12:51:31
น้องต่ายง้อไปน่ารักอ่ะ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: Misakiiz ที่ 09-08-2015 16:17:12
บันนี่ขี้อ่อย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 12-08-2015 09:01:15
สนุก น่ารักมากๆเลยคะ ชอบผู้ชายแบบไรเฟิลมาก ไม่เอาก็คือไม่เอา ใส่ใจแค่คนที่รัก ไม่ม่าด้วยนี่ละที่ชอบสุดๆอ่ะ น้องก็น่ารักตรงๆดีชอบไม่ชอบคือแสดงออก แบบคู่นี้ฟินมว๊ากกก  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: p9hmiew ที่ 12-08-2015 22:45:29
ตัวละครชีวิตดี๊วดี ตาร้อนสุด
ชอบครอบครัวไรเฟิลมากอะ(รวมทั้งน้องต่ายด้วย) เอฟซีแรง
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอิ่มมากๆเลยค่ะ ไม่มาม่าอืดจืดชืด ช๊อบชอบ~

ตอนพิเศษมาอีกน้า รอน้า
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 13-08-2015 18:02:40
เจ๋งมากบันนี่ ปืนอึ้งไปเลยอะจิ 555555 สมยอมมมมม
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 14-08-2015 08:59:42
น่ารักมากค่าาาา  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: 。Atlas ที่ 16-08-2015 17:43:52
ไล่อ่านจนจบแล้วว เย่ ตามมาจากเรื่องของพี่เจ้ากับน้องเพลิงฟ้าค่ะ อิอิ

ตอนแรกที่เห็นชื่อเรื่องคือนึกว่าเกี่ยวกับพวกองค์กรลับใต้ดินอะไรงี้ซะอีก 55555555

น่ารักมากเลยทั้งน้องควอทซ์ พี่เฟิล แล้วเจ้ามาสามตัว น้องตัวเล็ก ครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่าย (และแอบอึ้งกับป๊าและอาณิชมากกก 555555 เฟี๊ยวได้ใจจริง ๆ ป๊าาา)

ตอนที่จบแล้วก็แอบรู้สึกใจหาย เพราะมีความรู้สึกว่ายังอยากอ่านต่อไปเรื่อย ๆ อยากรับรู้ถึงชีวิตของตัวละคร
ว่าต่อไปจะเป็นยังไง 5555 มันเหมือนกับผูกพันธ์กับตัวละคร อย่างกับว่าพวกเค้ามีชีวิตจริง ๆ

แล้วก็ขอชื่นชมในเรื่องของภาษาที่ใช้บรรยายนะคะ ทำได้ดีมากก ไม่มีวิบัติอะไรเลย ลื่นไหลดีมากค่ะ แต่อาจจะยังมีบางจุดที่นักเขียนพิมพ์ผิด อาจจะตกสำรวจไปนิด ถ้ายังไงลองตรวจทานดูนะคะ

แล้วก็ตอนฉากงานแต่งงาน ฟีลลิงแอบสะดุดไปนิดตรงที่อยู่ดี ๆ กรีนก็โผล่มาป่วนงานแต่ง
นึกว่าจะรื่นเริงไม่มีอะไรให้ตะขิดตะขวงใจ เพราะมันเป็นตอนจบ 55555 แต่ไม่เป็นไรค่ะ แปลกใหม่ดี  o13
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 20-08-2015 14:07:53
ไรเฟิลน่ารักกกกกกก  เท่มากกก

น้องบันนี่ก็น่ารักกกกก

ชอบค่ะ  มุ้งมิ้งดี  ฟินแลนด์   :heaven

ไม่ชอบคนที่ดูถูกคนเลย แย่ๆ

ขอบคุณค่ะ รักคนแต่งง :3123:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 06-09-2015 13:41:13
5555555 บันนี่น่ารัก ชอบๆ
ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องสนุกๆมาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-09-2015 17:24:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 18-09-2015 20:48:03
บันนี่มันขี้อ่อยนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 23-09-2015 23:42:32
สนุกมากเลย พลาดเรื่องนี้ได้ยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 25-09-2015 20:52:40
อ่านจบแล้ว
บันนี่น่าร้ากกก อิอิ

ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : SPORT DAY 2 [31:07:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: zleep ที่ 26-09-2015 04:01:04
บันนี่น่ารักไม่เคยเปลี่ยนเลย
หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 26-09-2015 20:18:16
SPECIAL EPISODE : Knight x August I




  “กูไปสูบบุหรี่นะ” ผมตะโกนบอกกับเพื่อนและเดินหลบออกมาจากด้านในที่มีบีทหนัก ๆ และเพลงเสียงดังตามแบบฉบับสถานบันเทิงทั่วไป.. แต่บางทีผมก็คิดว่ามันน่ารำคาญนะ
  
  
  ริมฝีปากสีซีดคาบมวนบุหรี่เอาไว้ก่อนจุดไฟที่ปลายอีกด้าน ฉับพลันสายตาเหลือบไปเห็นคนสองคนกำลังฉุดกระชากกันอยู่ ดูเหมือนจะมีคนไม่เต็มใจนะ.. แต่ผมก็แค่มองและปล่อยควันสีเทาให้ลอยไปตามอากาศ
  
  
  
  
  “ปล่อย!!!” เสียงเล็กติดแหลมแต่ยังไงก็รู้ว่านั่นคือเสียงผู้ชาย ตวาดสั่งพร้อมทั้งสะบัดมือออกจากการพันธนาการ
  
  “อยู่เฉย ๆ น่า”
  
  “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!! อย่าเอามือสกปรกของนายมาแตะตัวฉัน!” ผมผิวปากออกมาอย่างไม่รู้ตัว ที่ตรงนั้นค่อนข้างมืดเลยทำให้ผมมองไม่เห็นว่าพวกเขาเป็นใคร
  
  “ปากดีจริงนะ”
  
  “หึ!” ไอ้คนตัวเล็กกว่าสะบัดมืออกอีกครั้งจนหลุดแล้วหันหลังเดินมา.. มาทางที่ผมอยู่ซะด้วย
  
  ดูจากลักษณะแล้วน่าจะยังอยู่มัธยมปลายอยู่เลยด้วยซ้ำ ตัวเตี้ยเป็นถั่วงอกอย่างนี้กระแดะเข้าผับ ในชีวิตผมเคยเจอผู้ชายที่สวยเหมือนผู้หญิงก็มีไอ้น้องเห็ด และอีกคนก็คนนี้.. มั้ง
  
  เด็กนั่นเบิกตาโตเมื่อเห็นผมยืนอยู่ แต่สักพักก็ทำหน้าปกติ และไม่นานอีกคนก็ตามมา..
  
  
  ผมเดาะลิ้นก่อนจะแสยะยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกคนเป็นใคร อ่า.. อริของผมนี่เอง มันชื่อมิคครับ ไม่เชิงว่าอริหรอก แค่ไม่กินเส้นกันเท่านั้นเอง พอดีผมมันเพอร์เฟกต์จนน่าอิจฉาอะนะ เลยเหมือนจะไปขัดแข้งขัดขามันเข้า
  
  
  มันคว้ามือไอ้ตัวเล็กไว้อีกครั้ง ไอ้นี่ก็จับง่ายจังวะ แล้วผมดูพวกมันทะเลาะกันเพื่ออะไรวะเนี่ย!
  
  
  
  “บอกว่าอย่ามาแตะตัวฉันไง!”
  
  “ทำไม หรือกลัวผัวใหม่จะทิ้ง”
  
  “ผัวใหม่เหี้ยไรเนี่ย ปล่อย!!”
  
  “จะไปด้วยกันดี ๆ หรืออยากเจ็บตัว!”
  
  “ใครจะไปกับคนสารเลวแบบนาย! เลิกมายุ่งวุ่นวายกับฉันสักที!”
  
  
  ผมส่ายหน้าเบา ๆ บี้ปลายบุหรี่กับที่เขี่ยบุหรั้แล้วจะเดินกลับเข้าไปด้านใน แต่จังหวะที่กำลังจะเดินผ่านแขนของผมก็ถูกคว้าเอาไว้ก่อน
  
  “เนี่ย มีคนใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นเลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว”
  
  ดึงกูไปเกี่ยวอีก.. แล้วทำไมผมถึงไม่สะบัดออกนะ..
  
  “ไหนว่าไม่ใช่ผัวไงสัด”
  
  “ตอนนี้ยัง แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เป็นแล้วแหละ”
  
  “หือ..” ผมครางไปแบบงง ๆ
  
  “มึงมันง่าย”
  
  “อ่ะฮ่ะ แต่นายก็ยังไม่ได้ฉันหนิ ง่ายแต่ก็เลือกนะ ยิ่งคนอย่างนายไม่ได้อยู่ในตัวเลือกฉันหรอก”
  
  “ปากดีนักนะมึง!” มันง้างมือจะตบไอ้เด็กแรด แต่ผมคว้าข้อมือมันไว้ก่อน มันมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง แต่ผมไม่สนใจเท่าไหร่
  
  “รีบไปให้พ้นสักทีเถอะ”
  
  “กูไม่หยุดแค่นี้แน่”
  
  “ก็ลองดู ถ้าพี่จูนรู้จะหยุดหรือไม่หยุด คิดเอาเองแล้วกัน ตอนนี้ไปให้พ้นรัศมีสายตาฉันได้แล้ว” คนตัวเล็กแสดงท่าทีไม่ยี่หระ ส่วนอีกคนแทบจะเข้าไปบีบคอ แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยืนกัดฟันกรอดและเดินออกไปพร้อมกับความเครียดแค้น
  
  น่าสมเพชว่ะ..
  
  
  
  คนข้างตัวผมถอนหายใจเฮือก ปล่อยที่คล้องแขนผมออกก่อนจะยกมือขึ้นพัดหน้าตัวเอง
  
  “ขอโทษที่ลากมายุ่งนะครับ”
  
  หืม? ผมเลิกคิ้วกับประโยคของคนตรงหน้า ท่าทางหยิ่งยโสเมื่อสักครู่ไม่เหลืออยู่แม้แต่น้อย นี่มันคนเดียวกันจริงเหรอ?
  
  “กลับบ้านไปซะ”
  
  “ไปส่งหน่อยสิ”
  
  “ไม่ล่ะ”
  
  “หน้าตาก็ดี ทำไมใจร้ายจัง”
  
  “เหอะ”
  
  “พี่!”
  
  “อะไรอีกวะ?” ผมถามมันเสียงขุ่นพร้อมทำหน้าหงุดหงิด
  
  “พี่ชื่ออะไรอ่ะ?”
  
  “ไนต์”
  
  “กลางคืน?”
  
  “อัศวินต่างหาก” เด็กแรดนั่นหัวเราะพอใจ พอใจห่าอะไรวะ ผมส่ายหัวแล้วจะเดินกลับเข้าไปด้านใน
  
  
  “พี่.. เอากันป่ะ?”
  
  !!!!!
  

  “ล้อเล่น”
  
  “กูเพื่อนเล่นมึงเหรอ”
  
  “โห่.. ไม่เห็นต้องทำเสียงเข้มอย่างนี้เลย ล้อเล่นไง ล้อเล่น” ผมมองหน้ามันนิ่ง ๆ ก่อนจะหันหลังให้และเดินเข้าไปด้านใน ไม่ได้หันไปมองว่าเด็กแรดนั่นจะด่าผมหรือว่าทำหน้ายังไง...
  
  อย่าได้เจอกันอีกเลยไอ้เด็กแรด!
  

  
  
  
  ผมเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าก่อนเข็นรถเข็นที่มีข้าวของมากมายไปชำระเงิน วันนี้เลิกเรียนเร็วจึงแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนเพื่อซื้อของเข้าห้อง ของใช้ที่ห้องก็ใกล้หมดเต็มที ไหน ๆ มีเวลาแล้วก็มาหาซื้อเลยแล้วกัน ตอนมันหมดจะได้ไม่ต้องหงุดหงิดให้เสียอารมณ์ นอกจากของใช้ทั่วไปก็มีของสด ของแห้งที่สามารถประกอบอาหารได้ แหม.. เห็นหล่อขนาดนี้ผมก็ทำอาหารเป็นนะครับ แล้วผมชอบทำกินเองมากกว่าซื้อกินข้างนอกด้วย แต่ไม่ค่อยมีเวลาทำเท่าไหร่ ดูย้อนแย้งแต่ช่างมันเถอะ
  
  
  
  “ว่างมากก็กลับไปอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้เถอะ” ผมชะงักมือที่กำลังจัดของใส่ท้ายรถ เสียงติดแหลมที่ค่อยข้างคุ้นทำให้ผมมองหา แต่นึกไม่ออกว่าเสียงของใคร..
  
  “แล้วทำไมนายไม่ไปอ่านหนังสือบ้างล่ะ มัวแต่ไปอ่อยแฟนคนอื่น เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้คนจะสมน้ำหน้าเอาหรอก” อีกเสียงว่าขึ้นดูมีอารมณ์อยู่นิดหน่อย
  
  “ติดสอบตรงแล้วครับผม” ผมเผลอหัวเราะ ปิดท้ายรถลงแล้วมองหาต้นเสียง “แล้วก็ ขอโทษน้า ผมไม่เคยไปอ่อยแฟนคุณเลย แฟนคุณเป็นใครผมยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ”
  
  “ตอแหล! เมื่อวานฉันเห็นนายอยู่กับคิม”
  
  “คิม? อ๋ออออ แฟนเก่าเราเอง” เชี่ย.. นึกว่าใคร เด็กแรดที่ผับนั่นเองครับ ผมเห็นพวกเขาแล้ว อยู่ถัดจากบล็อคที่ผมจอดรถไม่ไกล เหมือนฝ่ายตรงข้ามเขาจะเยอะกว่านะ ไม่เหมือนสิ มันเยอะกว่าจริง ๆ เพราะฝ่ายนั้นมีสี่คน และเด็กแรดมีคนเดียว
  
  “แล้วมาบอกว่าไม่รู้จัก!”
  
  “เอ๊า ก็ไม่รู้จักนายไง ไม่น่าเชื่อว่าคิมจะไปคบกับ... แต่ก็ดูเหมาะกันดี” เด็กแรดยกยิ้มมุมปากก่อนฉีกยิ้มกว้างที่ดูยั่วตีนสุด ๆ ผมมองอยู่นี่ยังคันตีนยิบ ๆ
  
  “เหอะ! ถ้าเป็นแฟนเก่าก็อยู่ส่วนของแฟนเก่าไปแล้วกัน อย่าสะเหล่อเข้ามายุ่งเด็ดขาด”
  
  “โอ๊ยยยย ไม่ยุ่งหรอก เลิกกับมันได้นี่แทบจะจ้างมาร์รูนไฟว์มาเล่นหน้าบ้าน ถือว่าหมดเคราะห์หมดโศก หมดเวรหมดกรรม” ดูมันพูด “หวังว่าจะคบกันนาน ๆ น้า ระวังจะโดนคิมมันเขี่ยทิ้งล่ะ หวังดีนะเนี่ย”
  
  “นี่!!!” เด็กหน้าหวานฝั่งคู่กรณีทำหน้าโมโหก่อนจะเปลี่ยนท่าทาง “เอ๊ะ.. หรือเพราะนายอิจฉาที่คิมเลิกกับนายมาคบกับฉัน”
  
  “โอ้มายก้อด.. หน้าอย่างนี้ต้องอิจฉาใครไหม คิดสิ คิด! แล้วก็ขอโทษที่ทีน้า.. คนบอกเลิกคือผมเองครับ อ๋อ ที่เลิกเนี่ยไม่ใช่อะไรหรอก เพราะมัน... หวา ไม่สปอยล์ดีกว่าเนอะ เดี๋ยวไม่สนุก ลองคบกับคิมไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ สู้ ๆ นะ”
  
  “อย่ามากวนประสาทนะไอ้บ้า!”
  
  “ไม่ได้กวนเลย ยืนอยู่เฉย ๆ เลยเนี่ย” เด็กแรดทำเป็นมองซ้ายมองขวา “ขอตัวนะ เสียเวลานานแล้ว ไร้สาระจริง ๆ โอ๊ย!” และพอเด็กแรดหันหลังจะเดินออกไปก็ถูกกระชากแขนเอาไว้ก่อน
  
  “ฉันยังพูดไม่จบ ใครบอกให้นายสะเออะเดินหนี!”
  
  “อ้าว ไอ้เชี่ย แล้วมึงมีสิทธิอะไรมาสั่งกู เดี๋ยวพ่อชกหน้าแหก”
  
  “อันธพาล นิสัยเสีย!”
  
  “มึงดีมากดิ เพิ่งรู้ว่าผู้ดีเขาพาพวกมารุมคนอันธพาล ยี๋ กาก!” มันว่าแล้วยกมือกอดอกและหันหน้าไปทางอื่น และนั่นทำให้ผมกับเด็กแรดสบตากันพอดี... “พี่ไนต์!!!”
  
  เรียกกูหาพ่อมึงเหรอ!
  
  เรียกไม่พอมันวิ่งเข้ามาหาและคล้องแขนผมเสร็จสรรพ
  
  “เหี้ยไรมึง ปล่อยกู”
  
  “พี่ช่วยผมแป๊บนึงนะ น้า.. รำคาญพวกมันมากเลยเนี่ย”
  
  “ช่วยไรวะ”
  
  “อยู่เฉย ๆ ก็พอครับ” ผมเลิกคิ้ว “นี่! ไม่ต้องห่วงหรอกว่าผมจะไปยุ่งกับคนของคุณน่ะ ผมก็มีคนของผม เพราะฉะนั้นเลิกมายุ่งวุ่นวายด้วยสักที รำคาญโว้ย!”
  
  กูไปเป็นคนของมึงตอนไหนไอ้เด็กแรด!
  
  ซวยจริง ๆ ผมไม่นานยืนดูพวกมันทะเลาะกันเลย แล้วนี่อะไร ปล่อยแขนผมแล้ววิ่งสะดีดสะดิ้งไปขึ้นรถผมแล้ว เฮ้ย! มึงจะเนียนมากไปแล้ว!
  
  “อะไรของมึง ลงไป!”
  
  “ขอผมไปด้วยนะ ผมไม่อยากโดนพวกนั้นตบ”
  
  ตอแหล..
  
  “รถมึงก็มีไม่ใช่ไง? มายุ่งอะไรกับกู”
  
  “ผมอยากให้พี่ไปส่งนี่นา.. ส่วนรถก็ให้คนที่บ้านมาเอาก็ได้ นะครับ ไปส่งผมหน่อยนะ”
  
  “ไม่!!”
  
  “ขอบคุณมากนะครับที่อาสาจะไปส่ง”
  
  กวยยยยยยยยยย!
  
  ใครก็ได้ลากคอได้เด็กนรกนี่ไปเก็บที!
  
  
  “มึงไปมีเรื่องอะไรกับเด็กกลุ่มนั้น?” อยู่ ๆ ผมก็ถามไอ้เด็กที่นั่งเคี้ยวขนม(ที่ควอทซ์มันซื้อมาไว้)กร้วม ๆ ที่เบาะข้าง ๆ  ขณะที่รถติดไฟแดง
  
  “พวกมันเป็นใครก็ไม่รู้ จู่ ๆ มาหาว่าผมไปยุุ่งกับแฟนมันเฉย ประสาท”
  
  “แล้วมึงยุ่งจริงไม่ใช่?”
  
  “ยุ่งบ้าไรล่ะลุง เพิ่งรู้เนี่ยว่าแฟนมันคือแฟนเก่าผม ที่คุยกันกับมันวันนั้นเพราะแม่งจะมาขอคืนดี เหี้ยอย่างนั้นใครจะกลับไปวะ”
  
  อ้าวเชี่ย.. ลามปามเรียกกูลุงอีก
  
  “คนเดียวกับไอ้ที่ผับวันนั้น?”
  
  “หึ ไม่ใช่อ่ะ คนที่ผับนั่นยังไม่ได้เป็นแฟน แต่ก็อยู่ในระยะคุยกันอยู่”
  
  “อ้าว แล้ววันนั้นพวกมึงตีกัน?”
  
  “ก็ผมไปเจอมันเอากับคนอื่นอ่ะ ก็เลยขอยุติความสัมพันธ์แต่แม่งดันไม่ยอม”
  
  แล้วตอนนี้กลายเป็นว่าผมไปชวนมันคุยซะงั้น ไอ้เด็กแรดก็เล่าออกมายาวเลยครับ ผมข้อสรุปให้คุณฟังตามที่ผมเข้าใจเลยนะครับ แฟนเก่าของเด็กแรดนี่ชื่อคิม ส่วนคนที่ผับนั่นชือมิค กับไอ้เด็กคิมมันก็คบกันดี ๆ นั่นแหละ แต่แล้วมีอยู่วันหนึ่งที่เด็กแรดนี่โดนแฟนมันชวนไปที่บ้านแล้วกลับเกือบโดนวางยาโดยแฟนตัวเอง เพราะไอ้เด็กคิมจะให้เพื่อนมันเอากับออกัส(คุยกับแม่งมาตั้งนานเพิ่งนึกชื่อออก) แต่ไอ้กัสดันไปบังเอิญได้ยินเข้าเลยตั้งสติระงับความโกรธและโมโหก่อนหาทางหนีออกจากบ้านนั้น โดยทำเป็นว่าจะออกไปซื้อของที่ร้านค้า ที่จริงแล้วคือชิ่ง พอจากวันนั้นมันก็บอกเลิกเด็กคิม
  
  โอ้โห โคตรอึ้ง เด็กอายุสิบแปดมึงคิดเหี้ย ๆ แบบนี้ได้ด้วยเหรอ อยากจะรู้จริง ๆ ว่าโตมาในครอบครััวแบบไหน
  
  และส่วนของไอ้มิคนั้น(ซึ่งไม่ค่อยถูกกับผมด้วย) หลังจากเลิกกับไอ้คิมแล้ว ไอ้มิคก็เข้ามา พวกมันก็คุยกันไปเรื่อย ๆ เหมือนดูใจว่างั้น จนกระทั่งพี่ชายของเด็กแรดชวนไปผับด้วย(พี่มึงนี่ก็นะ..) และความบังเอิญอีกครับ แม่งจะไปเข้าห้องน้ำแล้วเสือกเห็นคนที่ตัวเองกำลังจะเป็นแฟนด้วยนัวเนียกับคนอื่นในห้องน้ำ แล้วเหตุการณ์ด้านบนมันก็เกิดขึ้น...
  
  
  ชีวิตมึงนี่น่าสงสารจริง ๆ
  
  
  
  
  
  
  “มองขนาดนี้เค้าเขินนะลุง”
  
  กลับเข้าสู่ความเป็นจริง ๆ . . . ผมกลอกตาเมื่อไอ้เด็กที่นอนหนุนตักผมอยู่พูดขึ้นมา ผมไปมองหน้ามันตอนไหนวะ
  
  “คิดไปเอง”
  
  “โธ่..” มันเด้งตัวลุกขึ้น นั่งขัดสมาธิโดยเกยขาข้างหนึ่งบนขาผม “ลุงอ่านไรอ่ะ?” ชะโงกหน้ามาดูเอกสารในมือผม “อี๋ มีแต่ภาษาอังกฤษ” มันเป็นข้อมูลที่ต้องใช้ประชุมในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งก็มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ต้องดีลงานกับชาวต่างชาติก็เลยต้องมี
  
  “มึงเรียนนานาชาติไม่ใช่? มาสะดีดสะดิ้งใส่ภาษาอังกฤษทำไม”
  
  “เอ๊า! ก็เห็นแล้วมันหยึ๋ย ๆ จั๊กจี้ ขนลุกไปถึงซอกเล็บเลยเนี่ย” ซอกเล็บมึงมีขนด้วยหรือไง ผมม้วนเอกสารในมือแล้วตีหัวไอ้เด็กพูดมาก
  
  
  วันนี้เป็นวันเสาร์ ถึงได้มีเวลาหยุดอยู่ด้วยกัน ถ้าได้อยู่ด้วยกันทั้งวันก็มีแต่วันหยุดเสาร์ อาทิตย์นี่แหละครับ แต่บางทีวันหยุดผมยังต้องเข้าบริษัทเลย ออกัสมันก็เรียนไงครับ วันหยุดก็อาจจะมีไปติว ไปทำงานกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยบ้าง ช่วงนี้ก็เลยยุ่ง ๆ อยู่ด้วยกันก็เหมือนไม่ได้อยู่กัน บางทีผมต้องเคลียร์งานที่บริษัทจนดึก กลับมาไอ้เด็กนี่ก็หลับ หรือว่าหากมันต้องทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยพอมันกลับมาผมก็หลับไปแล้วเพราะเหนื่อยจากการทำงาน
  
  ผมวางเอกสารในมือลง “อยากไปไหนไหม?”
  
  คนอายุน้อยกว่าทำหน้าแปลกใจ ก่อนสะบัดศีรษะจนผมกระจาย “ไม่อ่ะ อยู่ห้องนี่แหละ”
  
  “แน่ใจ?”
  
  “อือ” มันพยักหน้าหงึก ๆ ก็ตามใจ ถามแล้วนะ ถ้ามางอแงทีหลังจะได้ถีบ
  
  
  
  “ลุงดูบาร์บี้ไหม เค้ายืมของน้องไอ้อ้วนมา” ไอ้อ้วนนั่นเพื่อนมันครับ ไม่ได้ชื่อไอ้อ้วนแต่เรียกอย่างนั้นเพราะตัวอ้วน คนถามไม่รอคำตอบกระโดดจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าห้องนอนไป ก่อนกลับออกมาพร้อมกล่องพลาสติกสีชมพู เด็กแรดกดเปิดเครื่องเล่นดีวีดีแล้ววิ่งกลับมานั่งที่เดิม
  
  
  “อ้าว! ปิดทำไม กำลังสนุกเลย” เด็กข้าง ๆ โวยวายเมื่อผมคว้ารีโมทมากดปิดการ์ตูนที่เพิ่งเล่นไปแค่สิบนาที ความสนุกในตามึงมันไม่มีเลย หึ..
  
  ผมรวบเอวเด็กแรดขึ้นมานั่งบนตักและกอดเอวบางไว้หลวม ๆ “อยากไปไหนหรือเปล่า?”
  
  มันส่ายหน้า “...อยู่...ลุง”
  
  “พูดอะไร ชัด ๆ ดิ แล้วเงยหน้าขึ้นมาด้วย” บอกแกมสั่งคนบนตัก ออกัสเงยหน้าขึ้นมา ตาคมมีหยาดน้ำเอ่อคลอ ฟันขาวขบริมฝีปากปากไว้แน่น “ร้องไห้ทำไม?”
  
  “ไม่...ร้อง”
  
  “เป็นอะไร บอกกูสิ” น้ำตาไหลออกมาแล้วยังกล้าบอกว่าไม่ได้ร้อง พูดบ้าอะไรอยู่ในคอคิดว่ากูจะฟังรู้เรื่องไหม ตั้งแต่ประโยคแรกแล้วนะ “ออกัส” ผมเรียกเสียงเข้มเมื่ออีกฝ่ายยังคงเงียบ เด็กแรดมองผมทั้งน้ำตาอาบแก้ม จนต้องเกลี่ยปลายนิ้วปาดมันออก
  
  “คิดถึง.. เค้าคิดถึงลุงอ่ะ ฮือ”
  
  ให้ตาย.. ผมกดหน้าเด็กขี้แยให้ซบไหล่ แขนเล็กยกกอดคอผมโดนทันที “คิดถึงอะไร ก็อยู่นี่ป่ะ?”
  
  “เรา.. เราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเลยนี่..”
  
  “น้อยใจ? กูต้องทำงานไง”
  
  “ไม่ได้น้อยใจ.. ก็รู้ว่าลุงงายยุ่ง เค้าไม่งี่เง่าหรอก แต่พี่จูนมันบอกว่าลุงเบื่อเค้าแล้ว เลยเอางานมาอ้างเพราะจะออกไปกับคนอื่น ฮึก”
  
  “แล้วมึงเชื่อพี่มึงหรือเปล่า?” ไอ้ห่าจูนนี่ก็กวนตีนนะ มาเสี้ยมให้เมียกูนอยด์อีก สัด! เดี๋ยวกูยุบะหมี่ไม่ให้เอามึง
  
  ไอ้จูนคือพี่ชายของออกัสครับ ซึ่งผมรู้จักมันอยู่แล้วแต่ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก จนกระทั่งเด็กแรดนี่เริ่มเข้ามาป่วนผมและมีเหตุให้ได้เจอไอ้จูนบ่อย ๆ แล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนผมกับเพื่อนนัดสังสรรค์กัน แล้วไอ้จูนมันเลยได้เจอบะหมี่ ไม่รู้ไปโดนมนต์อะไรเข้า ตามจีบเพื่อนผมเฉย แต่เจ้าแม่ยังไม่เล่นด้วย
  
  สมน้ำหน้าแม่ง
  
  แล้วผมจะมาเล่าเรื่องคนอื่นทำไมวะ!
  
  “ถ้ากูบอกว่ากูทำงานจริง ๆ ไม่ใช่ข้ออ้าง ไม่ได้ไปกับคนอื่น กัสจะเชื่อพี่ไหมครับ?
  
  “เชื่อดิ.. เค้าเชื่อพี่อยู่แล้วแหละ..”
  
  “งั้นก็เลิกร้องซะ” ผมขยี้ผมมัน “ทีหลังอย่าไปฟังไอ้จูนมาก มันบ้า ไม่รู้เหรอ?”
  
  “อื้อ แต่..”
  
  “แต่อะไร?”
  
  “เปล่า เดี๋ยวลุงด่า” มันเงยหน้าจากไหล่ผม แล้วใช้หลังมืดเช็ดน้ำตาบนแก้มพร้อมสูดน้ำมูกฟืด ร้องไห้แล้วแม่งน่าเกลียดฉิบหาย
  
  “ไม่พูดนั่นแหละเดี๋ยวกูจะด่าให้”
  
  “..มัน.. เขวนิดหน่อย โอ๊ย! เจ็บนะไอ้เหี้ยลุง!” ทีนี้ละแหวขึ้นมาเลย ผมบีบปากมันซ้ำไปอีกที ไอ้เด็กแรดสะบัดหน้าแล้วเม้มปาก
  
  “ปัญญาอ่อน คิดเหี้ยอะไรไร้สาระ”
  
  “.. เห็นไหม! ลุงด่าเค้า”
  
  “มันน่าไหม เดี๋ยวเถอะ ไปขลุกอยู่กับไอ้จูนมาก ๆ โดนมันล้างสมอง ยิ่งโง่ ๆ อยู่ด้วยมึงเนี่ย”
  
  “เค้าไม่ได้โง่!!”
  
  “หึหึ” ผมปล่อยเด็กโง่เป็นบ้าไปคนเดียว ก่อนจะถาม “อยากไปเที่ยวหรือเปล่า?”
  
  
  เพราะผมกับมันไม่ค่อยได้ไปเที่ยวด้วยกันเลยช่วงนี้ อีกอย่าง เห็นมันชอบเข้าไปดูโซเชียลของไรเฟิลกับไอ้น้องเห็ดที่ขยันอัพรูปกันฉิบหาย ก็เผื่อมันอยากจะไปอย่างนั้นบ้าง ซึ่งผมก็คิดไปเองคนเดียวนั่นแหละครับ ก็กลัวมันจะน้อยใจอยู่นะ ผมก็ทำแต่งานไม่ค่อยได้พาเที่ยวเหมือนเมื่อก่อน เกิดแม่งนอยด์ผมก็แย่ดิ แล้วตอนนี้สองศรีสามีภรรยาเขาจูงมือกันไปเรียนต่อไกลถึงอังกฤษ แต่เรียนปริญญาโทมันว่างมากจนมีเวลาไปเที่ยวแล้วมาอัพโหลดรูปโชว์เพื่อนทุกวันเลยไง? ชีวิตดีไปไหนพวกมึง
  
  “อยาก.. แต่ก็ไม่อยาก”
  
  “ดี ๆ ดิ”
  
  “กัสอยากอยู่กับพี่” ไม่ต้องมาช้อนตามองไอ้สัด
  
  “แล้วไปเที่ยวไม่อยู่กับกูตรงไหน”
  
  “อ้าว ไม่ได้ให้เค้าไปคนเดียวเหรอ?”
  
  “ไอ้โง่” ดีดหน้าผากมนไปที “กูไปด้วย”
  
  มันยิ้มกว้างตาปิด “งั้นไป!!” สักพักก็เหี่ยวเหมือนผักโดนลวก “แต่ลุงงานยุ่ง โกหกเค้า”
  
  “โกหกเหี้ยไร กูเคลียร์งานได้”
  
  “เดี๋ยวลุงเหนื่อยอีก เค้าก็ต้องอ่านหนังสือสอบด้วย”
  
  “ไปหลังมึงสอบเสร็จ กูยังมีเวลาเคลียร์งาน”
  
  “ไม่ไปแล้ว.. เค้าไม่อยากให้ลุงทำงานหนัก แล้วไม่ได้นอน”
  
  หืม.. มึงไปหัดทำตัวน่ารักมาจากไหน
  
  “แน่ใจ? งั้นกูไปคนเดียว”
  
  “ได้ไง!!!”
  
  “ได้ดิ เงินซื้อตั๋วก็เงินกู ค่าใช้จ่ายอะไรก็เงินกู คุยกับไอ้เห็ดไว้แล้วเนี่ย”
  
  “หะ!!! ไปหาพี่ควอทซ์เหรอ!!?” มันถามพลางพลิกตัวหันหน้าเข้าหาผม เอาจริงแล้วแม่งนั่งคร่อมตักผมอยู่ ชอบนักท่าเนี้ย ไอ้แรด! กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโคร่งที่มันชอบใส่ เพราะเสื้อใหญ่กว่าตัวไปมากทำให้คอเสื้อเทไปด้านหนึ่งมากกว่าาทำให้เห็นลาดไหล่ขาวเนียน ตาคมมีสีแดงจาง ๆ เพราะเพิ่งร้องไห้และยังมีหยาดน้ำฉาบอยู่ ริมฝีปากที่ถูกกัดจนขึ้นสีสดนั่นอีก
  
  แม่ง.. เซ็กซี่ฉิบหาย
  
  “อืม”
  
  “ไปด้วยยยยย เค้าไปด้วยยยยยยย” พูดเฉย ๆ ไม่ต้องเด้งตัวได้ไหม!!!
  
  “อืม”
  
  “เย้เย้ ลุงใจดีที่สูดดดดดดดด! จุ๊บ!” มันร้องแล้วจุ๊บปากผมเร็ว ๆ ก่อนจะรีบลุกออกไปแต่ยังติดที่แขนผมยังล็อคเอวบางเอาไว้ ส่งผลให้สะโพกของมันกระแทกกลับลงมาที่ตักผมเต็ม ๆ
  
  ...เริ่มอันตรายล่ะ
  
  ผมเนี่ยอยู่ในจุดอันตรายแล้วโว้ย!
  
  มันทำหน้าเหวอเมื่อผมเลื่อนมือไปลูบเอวและไล้ลงไปเคล้นก้นนิ่มเบา ๆ “ล.. ลุง”
  
  “หืม?”
  
  “อย่าเล่นงี้ดิ”
  
  “กูไม่ได้เล่น..” ผมว่าเสียงแหบพลางไล้ปลายนิ้วตั้งแต่ข้อเท้าเล็กขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ จนกระทั่งถึงโคนขาของมันแล้วจึงแทรกมือผ่านขาเกางเกงขาสั้นเข้าไป.. เด็กแรดเกร็งตัวกัดริมฝีปาก ผมยกยิ้มในใจก่อนเลื่อนไปแนบริมฝีปากกับเรียวปากบางและพรมจูบไปทั่วในหน้าสวยอย่างอ้อยอิ่ง.. “คิดถึงกูไม่ใช่เหรอ?”
  
  “ม ไม่ใช่แบบนี้ อื้อ..” เด็กอายุน้อยกว่าดิ้นพร้อมดันหน้าผมออก “ลุงอย่าดูดคอ โอ๊ย!”
  
  “สะดีดสะดิ้งนะเดี๋ยว”
  
  “ไอ้บ้าลุง! ไม่เอาาาาาาา อ๊ากกกกกก!”
  
  “กู-จะ-เอา” ผมเน้นทีละคำพร้อมยกไอ้ตัวเล็กขึ้นพาดไหล่แล้วพาเดินเข้าไปที่ห้องนอนก่อนโยนร่างเล็กลงเตียงและตามขึ้นไปคร่อมทับ..
  
  
  
  และมันจะปฏิเสธอะไรผมได้.. นอกจากครางและบอกกระแทกแรง...
  
  
  ความตลกของโชคชะตาคือการที่ผมขออย่าได้ให้เจอเด็กคนนี้อีกตั้งแต่ครั้งแต่ที่เราเจอกัน แต่ตอนนี้.. ผมกลับเจอเด็กนี่... ทุกวัน





------------------------------------
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด มาแล้วค่าาาาา ไนต์กัสที่รอคอย(ใครรอยะ?) (แฮ่)
ไม่มีอะไรนิยามสำหรับคู่นี้ ...
คาแรคเตอร์อาจจะแปลกไปขออภัยงับ เพราะคนเขียนลืมบท แงงง (โดนตบ)
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ขอบคุณจริง ๆ มีอะไรแนะนำได้นะคะ จะได้เอาไปปรับปรุง ; __ ;
ไว้เจอกันพาร์ทหน้านะงับ ไม่แน่ใจว่าจะมีกี่พาร์ทจบ ขึ้นอยู่กับขีดความขยันของคนเขียน (โดนตบอีกที)
ไปดีกว่าาาา ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้าาา จุ้บๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-09-2015 21:13:29
 :pig4 :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-09-2015 22:19:54
น้องแรดมีตอนของตัวเองด้วย ดีจัง
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 26-09-2015 22:23:55
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 27-09-2015 15:18:09
 :-[Wow... คิดถึงน้องกัสกะพี่ไนต์นะค๊า แอบสวีตเบาๆ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 27-09-2015 16:01:02
น้องกัสกับพี่ไนต์ คิดถึงงง
คิดถึงไรฟ์กับหนูควอทซ์ด้วย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: golffity_spt ที่ 27-09-2015 17:15:57
 :impress2: มุ้งมิ้งงง

คิดถึงน้องเห็ดด
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 27-09-2015 17:16:41
น้องกัสน่ารักก ไม่เห็นจะแรดเลยยย พี่ไนท์ของน้องหื่นจุงงงง
มีเยอะๆเลยค่าา ชอบบบ รอคอยคู่นี้  :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: zleep ที่ 27-09-2015 19:07:42
กัสไม่ได้แรดนะไนต์ กัสไม่ได้แรดจริงๆ
555555
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: HanTwoH ที่ 27-09-2015 19:49:59
 :z3: กัสน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 27-09-2015 23:11:58
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 28-09-2015 01:47:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 09-10-2015 19:53:40
ไนท์กับกัสสส มีตอนต่อไปใช่ไหมอ่าาา
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_BLove ที่ 10-10-2015 00:13:41
ชอบมากๆเลยค่าาาาา  o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-10-2015 14:59:46
คิดถึงบันนี่
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August I [26:09:2015] P.24
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-11-2015 11:34:16
คิดถึงน้องบันนี่ จุ๊บๆๆๆๆๆ :L2:
หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 16-11-2015 20:21:52

Knight x August II



  
  “เฮลโลลอนดอนนนนนนนนน~~~” ผมแหกปากทันทีที่เครื่องแลนด์ดิ้ง ไอ้พี่ลุงไนต์รีบเอามือปิดปากเพราะอายผู้โดยสายคนอื่นที่ส่งสายตามามองและด่า ก็คนมันดีใจอ่ะ โดดดดด่ หน้าบางจริงพ่อคุณเอ๊ยยยยย
  
  “อยู่นิ่ง ๆ ดิ๊!”
  
  “ก็ตื่นเต้น จะได้เจอพี่ควอทซ์แล้ว เย้เย้” ผมร้องอย่างดีใจ ไอ้พี่ไนต์ส่ายหน้าระอาพร้อมผลักหัวผมหนึ่งทีด้วยความรัก ถุย!
  
  ตอนนี้เรานั่งอยู่ในเครื่องบินอยู่เลย พี่มันบอกว่ารอให้คนน้อย ๆ ค่อยออกไป มันไม่อยากเบียด ก็นั่นแหละ เลยต้องติดแหง็กกันอยู่นี่ไง แต่ผมเห็นด้วยนะครับ คนเยอะวุ่นวายชะมัด เหมือนจะเป็นธรรมเนียมเนอะ พอแลนด์ดิ้งปุ๊บ คนก็ลุกพรึ่บ เปิดช่องเก็บของด้านบนเพื่อนเอาแฮนด์แบ็กเก็จแล้วก็ยืนออกันเหมือนรถติดในเมืองหลวง เฮ้อ...
  
  
  เมื่อคนใกล้หมดพี่ไนต์ก็พาผมออก เดินตามทางมาเรื่อย ๆ จนมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ผมยิ้มทักทายเจ้าหน้าที่พร้อมกับยื่นพาสปอร์ตและวีซ่าให้ ขอบคุณคุณแม่ที่ส่งเข้าเรียนนานาชาติจึงพอจะพูดภาษาอังกฤษกับเขาได้บ้างเลยไม่ตื่นกลัว ไม่งั้นตายอย่างเขียด(ไอ้พี่ไนต์แม่งไปก่อนแล้ว เลวมาก) ตอบคำถามนู่นนี่ที่เขาถามก่อนจะรับพาสปอร์ตกับวีซ่าคืนแล้วเดินออกไปเพื่อรับกระเป๋า
  
  ผมมองผู้คนมากมายเดินขวักไขว่อย่างตื่นเต้น ไม่ได้มองทางจนไอ้พี่ไนต์หงุดหงิด โดนด่าไปเยอะเลย แหะแหะ ขอโทษคร้าบบบบบ
  
  
  เดินออกมาจากเก็ตก็เจอกับพี่ควอทซ์และพี่ปืน (เรียกตามไอ้พี่ไนต์เพราะขี้เกียจเรียน 2 พยางค์ผมรู้สึกว่ามันยาว อิอิ) ผมปล่อยให้พี่ไนต์เข็นรถใส่กระเป๋าคนเดียวแล้ววิ่งเข้าไปกอดพี่ควอทซ์ที่ยิ้มกว้างและอ้าแขนรอ ไม่เจอกันนานอ่ะ คิดถึงงงงงงงงง!
  
  “พี่ควอทซ์!!!”
  
  “ตัวเล็กของพี่ ฟอดดดดด!” พี่ควอทซ์หอมแก้มผมไปฟอดใหญ่ เรากอดกันกลมโดยไม่สนสายตาใคร(รวมทั้งพี่ปืนและไอ้พี่ไนต์ที่แผ่รังสีความมืดเข้าปกคลุม...) พี่ไนต์กับพี่ปืนทักทายกันด้วยการชกมือ คูลละเกินนนนนนน
  
  “โอ๊ยยยย คิดถึงพี่ควอทซ์มาก ๆ”
  
  “คิดถึงเหมือนกัน ไหน! มาหอมอีกทีดิ๊” ผมเอียงแก้มให้ พอจะพี่ควอทซ์กำลังจะฝังจมูก ผมก็ถูกผลักหน้าหงายด้วยมือหนาของพี่ปืน และคอเสื้อของผมก็ถูกกระชากไปด้านหลัง...
  
  “อย่าเยอะ” ผมหัวเราะ เมื่อพี่ปืนพูดด้วยหน้าเซ็ง ๆ พี่ควอทซ์ยิ้มกว้างโชว์ฟันกระต่ายกระโดดเข้าไปเกาะแขนแฟนตัวเอง หรือจะใช้คำว่าสามีดีเพราะพี่เขาแต่งงานกันแล้ว คึคึ
  
  “นี่น้องนะ!” ผมโวยวาย
  
  “นี่เมียกู”
  
  ผมเบ้ปาก เถียงไม่ได้ เชอะ! กับน้องก็หวง พี่ควอทซ์ก็เอาแต่หัวเราะอย่างเดียวเลย
  
  
  
  
  พอออกมาด้านนอกสนามบินก็เล่นเอานิ่งเลย หนาว หนาวเหี้ย ๆ เมื่อกี้ตอนเดินลื่นแผ่นน้ำแข็งด้วย เกือบล้มหน้าแหก โชคดีที่พี่ไนค์คว้าไว้ทัน ไม่งั้นนะ... พอขึ้นรถผมก็ซุกพี่ไนต์เลย หนาวววววววว(มาหน้าหนาวร้อนก็แปลกแล้วเนอะ) ก็ว่าเนาะ.. พี่ควอทซ์ใส่โค้ทซะอลังการเลย ไหนจะหมวกไหมพรมอีก พี่ปืนบังคับแน่ ๆ
  
  “ตัวเล็กหนาวหรอ เอาเสื้อพี่ไหม?” พี่ควอทซ์ถามพร้อมกับถอดเสื้อโค้ทออก ผมสั่นหัวบอกไม่เป็นไร
  
  “มึงนั่นแหละใส่ไป ยิ่งป่วยง่าย ๆ” พี่ปืนบ่น พี่ควอทซ์ของผมเลยใช้เสื้อโค้ทที่เพิ่งถอดออกห่มให้ตัวเอง
  
  ตอนนี้ผมไม่หนาวเท่าไหร่แล้ว หนาวมากแค่ตอนแรก มาเจออากาศอุ่น ๆ ในรถก็ค่อยยังชั่ว หายสั่นละ มีกอดของพี่ไนต์อีก ฟินไปนู่นนนน ฮะฮ่าาาา
  
  
  
  “หิวป่ะ แวะหาอะไรกินก่อนหรือจะไปอพาร์ทเม้นท์?” พี่ควอทซ์เอี้ยวหน้ามาถาม
  
  “มึงเอาไง?”
  
  “เค้าไม่หิวอ่ะลุง” เพราะกินจากบนเครื่องก็เยอะอยู่ อยากนอนมากกว่า เมื่อยไปเกือบทั้งตัว
  
  “อือ ไปที่พักเลย”
  
  “ตามนั้น”
  
  
  
  
  
  
  ใช้เวลาเดินทางราวสองชั่วโมงก็มาถึงอพาร์ทเม้นท์ของพี่ควอทซ์กับพี่ไรเฟิล เหนื่อยมากเลยยยยยยยยย และความเหนื่อยนั่นแหละทำให้ผมทิ้งตัวดิ่งสู่พื้นไม้ลามิเนตแทบจะทันที.. ถ้าไม่เกรงใจก็อยากจะนอนตั้งแต่ที่ฮอลทางเข้าแล้ว ฮือ ร่างจะพัง
  
  “นอนทำเหี้ยไร ไปจัดของ” ผมยังคงนอนนิ่งแม้ไอ้พี่ไนต์จะเอาตีน เอ๊ย เท้าหนัก ๆ ของมันเตะผมอยู่ รักกูมากล่ะสิ เห้อ
  
  “เค้าเหนื่อย”
  
  “ไปจัดของ” ผมเบ้ปาก พลิกตัวนอนหงาย อ่า.. พื้นไม้เย็น ๆ นี่ก็ทำให้รู้สึกดีอยู่เหมือนกัน ฮิตเตอร์เพิ่งเปิดมันเลยยังไม่อุ่น ผมยิ้มเผล่ เด้งตัวขึ้นนั่ง ปล่อยให้พี่ไนต์มันตายใจก็กระโดดขี่หลังของพี่มัน “เล่นอะไรของมึง ลง!”
  
  “ม่ายยยยย”
  
  “มึงจะบ่นอะไรเนี่ย” พี่ควอทซ์ว่าพร้อมกับตบหัวพี่ไนต์แล้วเดินไปนั่งที่โซฟา
  
  “สัด” พี่มันด่า “ตัวหนักอย่างกับหมูยังสะเหร่อมาขี่หลังกูอีก” ผมหัวเราะร่า พี่ไนต์สะบัดตัวจะให้ผมตก แต่ผมมันดื้อ! รัดคอแม่งเลย ว่าใครเป็นหมูหาาาาา!!!
  
  ป๊าบ!!
  
  “โอ๊ย!” ผมร้อง ความเจ็บทำให้ผมเบ้หน้า กระโดดลงจากหลังพี่ไนต์แล้วลูบจับก้นตัวเอง ตวัดตามองพี่ปืนอย่างขุ่นเคือง อีกฝ่ายเลิกคิ้วมอง ยกยิ้มมุมปากแล้วยกเบียร์ขึ้นดื่มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฮืออออ เจ็บโว้ยยยยย
  
  “อะไรวะ?” พี่ไนต์ถามงง ๆ
  
  “พี่ปืนเตะก้นเค้า ลุงงงง จัดการให้เลยยยย” พี่มันกระพริบตาก่อนจะหัวเราะเสียงดัง วางมือบนหัวผมแล้วโยกเบา ๆ ก่อนจะพูดออกมาทำเอาผมซึ้งเลย
  
  “สมน้ำหน้า”
  
  จบท้ายด้วยยิ้มหล่ออีกหนึ่งดอก...
  
  ไอ้เหี้ยลุง!!!!
  
  
  อ้อนพี่ควอทซ์ก็ด้ายยยยย ผมยกยิ้มกับตัวเอง หันไปหาพี่ควอทซ์ เจ้าตัวเลิกคิ้วก่อนจะหัวเราะ ยังไม่ทันไปถึง พี่ปืนก็รวบเอวพี่ควอทซ์ไปนั่งตักซะแล้ว ฟหหยกำสใยแานนาหยกสฝฟบยไาสกนย
  
  “เชอะ!!!”
  
  และจากนั้นผมก็ถูกพี่ไนต์ลากคอเข้าไปที่ห้องนอน....
  
  
  
  
  ห้องนอนไม่ได้ใหญ่มาก แน่นอนอยู่แล้วเพราะมันไม่ใช่ห้องหลัก แต่บรรยายมันทำให้ผมชอบมากกกกกกกกกกกกก!!! แสงไฟสีส้มดูอบอุ่นขัดกับหิมะที่กำลังโปรยปรายอยู่นอกหน้าต่าง... อ๊ากกกกกกกกก เมืองไทยทำไมไม่มีแบบนี้บ้างงงงงงงงงงง
  
  
  “อย่าเพิ่งบ้า มาจัดของ” เสียงทุ้มต่ำจากด้านหลังดังดับฟิน ผมตีหน้างอแล้วนั่งลงที่เตียง
  
  “เค้าง่วง”
  
  “จัดแล้วค่อยนอน เร็ว!”
  
  “เดี๋ยวค่อยจัดก็ได้..”
  
  “มาทำให้มันเสร็จ ๆ มึงจะอะไรนักหนา”
  
  จิ๊!
  
  “ทำให้เสร็จได้ไง มันต้องใช้ความรู้สึกด้วย อ๋อ! ต้องมีอารมณ์ร่วมด้วย”
  
  “ไอ้เด็กทะลึ่ง”
  
  ผมหัวเราะ แลบลิ้นใส่พี่ไนต์แล้วมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนา อ๊าาาาา อุ่นนนนนนน
  
  
  
  
  “มึงนี่นะ...”
  
  จุ๊บ
  
  ก่อนจะหลับไปผมก็ได้ยินเสียงงึมงำอะไรสักอย่างที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องมากนักและสัมผัสอุ่น ๆ ที่หน้าผาก...
  
  
  
  
  
  
  ผมตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไป รู้สึกมึนหัวหน่อย ๆ มองไปที่หน้าต่างข้างนอกมืดซะแล้ว ก็นะ หน้าหนาวมันมืดเร็ว เดินงัวเงียไปที่ห้องนั่งเล่น ผมชะงักเมื่อเห็นว่ามีแขกอยู่ด้วย พี่ควอทซ์หันมายิ้มให้แล้วบอกให้ไปล้างหน้า เมื่อกลับออกมาอีกผมก็รู้ว่าคนที่มาใหม่เป็นคนไทย จึงยกมือไหว้ พี่ชื่อกวินเขาอยู่ห้องตรงข้ามกับพี่ควอทซ์
  
  “กูกลับดีกว่า” พี่กวินบอก
  
  “ไม่อยู่กินอะไรด้วยกันเหรอวะ?”
  
  “เห็นว่ามึงขอนะ อยู่ก็ได้” พี่ควอทซ์กลอกตา ผมแอบหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยิ้มใส่พี่ไนต์ที่หันมามอง
  
  “ดไวท์ล่ะวะ?”
  
  “อยู่ที่ห้อง”
  
  “มึงไม่พามาดิ ทิ้งไว้คนเดียวได้ไง” พี่กวินจิ๊ปากก่อนจะเดินออกไป สักพักก็กลับเข้ามาพร้อมกับเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก
  
  
  “สวัสดีพี่เขาสิ” พี่กวินผลักศีรษะเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ น้องยกมือไหว้แล้วยิ้มน่ารัก
  
  “สวัสดีฮับ”
  
  “น่ารักกกก ชื่ออะไรครับ?” ผมถาม น้องหลบอยู่หลังพี่กวินแต่ก็โผล่หัวออกมา
  
  “...Dwight”
  
  “พี่ชื่อกัสนะ ออกัส”
  
  น้องเงยหน้ามองพี่กวิน “ไปนั่งกับคาคาไป”
  
  ดไวท์วิ่งไปนั่งตักพี่ควอทซ์ แอบเห็นพี่ปืืนเบ้ปากตอนพี่ควอทซ์หอมแก้มน้อง ฮ่าฮ่า ตลกอ่ะ กับเด็กก็ยังหึง
  
  “น้องชายพี่กวินหรอฮะ?” พี่ควอทซ์หัวเราะเมื่อผมถาม อะไรอ่ะ..
  
  “ลูก”
  
  ผมเบิกตากว้าง ยื่นหน้าเข้าไปใกล้หนูน้อยดไวท์ สลับกับมองหน้าพี่กวินที่คุยกับพี่ปืนและพี่ไนต์ไม่สนใจอะไร เออว่ะ ตาคมเหมือนกันเลย แต่น้องน่าจะ 3-4 ขวบนะ ถ้าพี่กวินอายุเท่าพี่ไนต์ก็ต้องมีน้องตั้งแต่อายุ 18
  
  โอ้มายก็อด!!!!
  
  “ออฟา” น้องเรียกพี่กวิน
  
  “อะไร?” พอพี่กวินถาม เจ้าตัวเล็กก็เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ส่ายหน้า
  
  โอยยยยย น่ารักมากเลยอ่ะ ยัยตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ! แน่ใจว่านี่คืนเด็กผู้ชาย!!!
  
  “ฟังภาษาไทยออกด้วย”
  
  “ก็พูดไทยกับมัน แต่ก็มีงง ๆ บ้าง” พี่กวินบอก
  
  “อ๋อออออ” ผมลากเสียง “น่ารักจังเลย น่ารักกกก!”
  
  “อ่ะ ดไวท์เล่นกับพี่กัสก่อนนะ คาคาจะไปหาอะไรให้กิน”
  
  “ฮะ”
  
  
  
  
  “ลุงงงงง น้องน่ารักมากเลยยยยย”
  
  ไอ้พี่ไนต์ทำหน้ารำคาญ “เออ รู้แล้ว”
  
  “ขอเอากลับไปเล่นที่บ้านได้ป่ะครับ”
  
  “เอาไปดิ” พ่อเขาบอก
  
  “ดไวท์กลับไทยกับพี่กัสไหม”
  
  “ไม่กลับ หนูจะอยู่กับออฟา” กรรม.. ไอ้ลุงหัวเราะใหญ่เลย ยิ่งดไวท์วิ่งไปหาพี่กวินมันยิ่งหัวเราะเสียงดัง นิสัยไม่ดี เชอะ!!
  
  “อะไรมึง” โห พูดกับลูกงี้เลย
  
  “น้องไม่ชอบผมหรือเปล่าพี่?”
  
  “เปล่า มันอาย ดูแก้มดิ” พี่กวินบอกพร้อมกับดึงแก้มย้วยของดไวท์ น้องร้องงื่อบอกเจ็บ พี่กวินยิ่งบีบ เล่นกับลูกโหดฉิบ ผมระบายยิ้มเมื่อแก้มน้องขึ้นสีแดง หยั่งกะลูกตำลึง น่ารักมาก!!!
  
  “ออฟา หนูไปหาคาคานะ”
  
  “ไปดิ อย่าไปกวนมันนะ”
  
  “อือ”
  
  “ไปด้วยยยยยย”
  
  
  
  
  “ดไวท์มีชื่อไทยหรือเปล่า?” ผมถามเด็กน้อยที่เคี้ยวเฟรนส์ฟรายส์แก้มตุ่ย
  
  “มีฮะ”
  
  “ชื่อว่าอะไรเหรอ?”
  
  “กานต์ฮะ”
  
  “แล้วชื่อจริงล่ะ? มีไหม”
  
  “มี... แต่... หนูจำไม่ได้” อ้าว “คาคา หนูชื่ออะไร?” กรรม ผมหัวเราะ พี่ควอทซ์ก็เช่นกัน น้องยิ้มเขินที่จำชื่อตัวเองไม่ได้ น่ารักโว้ยยยยยยยยยยยย
  
  “ดมิสา หนูชื่ออะไรดมิสาไง ถ้ากวินรู้ว่าจำชื่อตัวเองไม่ได้โดนมันด่าเลยนะ”
  
  “ง่ะ.. ก็หนูจำไม่ได้นี่นา คาคาอย่าบอกออฟานะ”
  
  “ชื่อเหมือนผู้หญิงเลย” ผมว่า ดไวท์หน้างอไปแล้ว ผมจึงยื่นมือไปจิ้มแก้มนุ่มเป็นการง้อ
  
  “อืม แต่น่ารักดีออก”
  
  “แปลว่าอะไรหรอครับ” ถามพี่ควอทซ์
  
  “เจ้าเหนือความมืด หรือ พระจันทร์”
  
  “โห... เท่มาก!”
  
  “ออฟาตั้งให้แหละ คึคึ” น่ารักจริงลูกเอ๊ยยยยยยย
  
  “อาหารเสร็จแล้ว ตัวเล็กไปเรียกพวกนั้นมาหน่อยนะครับ พี่จะจัดโต๊ะ”
  
  “โอเคครับผม!”
  
  
  
  “ออฟาหนูอยากกินไส้กรอก”
  
  “มันมีไหมล่ะ”
  
  “ไม่”
  
  “ไม่มีก็ไม่ต้องกิน อย่าเรื่องมากดิ”
  
  “หนูอยากกิน...”
  
  “เดี๋ยวทำให้ก็ได้”
  
  “มึงไม่ต้องตามใจมันเลยไอ้ควอทซ์”
  
  “เอ๊า”
  
  “ลูกกูเสียการปกครองหมด วันนี้ไม่มี วันอื่นค่อยกิน ถ้าอยากกินก็บอกดิทีหลัง”
  
  “หนูก็บอกอยู่นี่ไง” ผมหัวเราะ ยกมือปิดปากเมื่อพี่กวินมองตาดุ กลัวแล้ววววว ฮะฮ่า
  
  “หมายถึงบอกล่วงหน้า”
  
  “งูยยย หนูไม่กินก็ได้”
  
  “เออ”
  
  “คาคา~”
  
  “ครับ?”
  
  “ไม่ต้องเลยไอ้ควอทซ์ มึงก็ไม่ต้องอ้อน มีอะไรให้กินก็กินไป”
  
  “ฮึ!!”
  
  เกือบจะเกิดสงครามบนโต๊ะอาหารซะแล้ว...
  
  
  
  “ขอบคุณครับ” ผมบอกพี่ไนต์ที่ตักแซลม่อนอบซอสฝีมือพี่ควอทซ์มาให้ จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วเช็ดมุมปากให้ผมอีก O_O!
  
  “ทำตาโตอีก”
  
  “ก็.. ทำไมลุงน่ารัก เค้าเขิน”
  
  “สัด”
  
  “แฮ่... อ๊า! ทำไมดไวท์เรียกพี่ควอทซ์ว่าคาคาล่ะครับ?”
  
  “ขี้เสือกนะมึง” ไอ้พี่ไนต์ว่าพร้อมกับทุบหน้าผากผมเบา ๆ
  
  “ไม่รู้เหมือนกัน” พี่ควอทซ์ไหวไหล่ตอบ
  
  “ออฟาด้วย?”
  
  “มันบอกคนอื่นเรียกแด๊ด เรียกแด๊ดดี้เยอะแล้ว ไม่อยากซ้ำเลยเรียกออฟา กวนตีน”
  
  อย่างนี้นี่เอง...
  
  “ฮิปสเตอร์ไหมล่ะ”
  
  “ฮะฮ่าาาาาา” หนูน้อยดไวท์ฉีกยิ้มกว้างในขณะที่คนอื่นหัวเราะกัน ความคิดสร้างสรรค์ดีนะครับ ฟา น่าจะมาจาก Father แต่ ออ นี่ผมไม่รู้เหอะ เดาไม่ได้เลย
  
  
  
  หลังทานอาหารเสร็จและครอบครัวตัวป่วนก็กลับห้องไปแล้ว...
  
  “ง่วงเหรอ?” พี่ไนต์ถาม คงเห็นผมนั่งโหงยเหงน
  
  “คงเจ็ทแลคมั้ง”  ตอนนี้เวลาสามทุ่มครับกว่าเองครับ ถ้าเป็นไทยก็น่าจะตีสี่แล้ว
  
  “เข้าไปนอนไป”
  
  “ฮือ ลุงไปกับเค้าสิ”
  
  “ไม่ล่ะ กูไม่ง่วง”
  
  “ลุงไม่เจ็ทแลคบ้างเหรอ?”
  
  “กูเก่ง”
  
  “โวะ!”
  
  “ไปนอนไป พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว”
  
  “จริงนะ! โอเค งั้นเค้าไปนอนก่อน จุ๊บ” ยื่นหน้าไปจุ๊บปากไอ้พี่ไนต์ด้วยความลืมตัวเพราะคิดว่าอยู่สองคน เมื่อผละออกเห็นสายตาสองคู่ของพี่ปืนกับพี่ควอทซ์แล้วผมก็หน้าร้อนผม รีบวิ่งเข้าห้อง ได้ยินเสียงหัวเราะตามมาด้วย โคตรอาย ฮือ!
  
  เอาเป็นว่าวันนี้ผมนอนก่อนแล้วกัน ราตรีสวัสดิ์นะครับ







---------------------------------
  :m5: หายไปนานกับเรื่องนี้ แงงงงง
มียัยบันนี่ด้วย คิดถึงงงงงงงงงงงง
เหลือไนต์กัสอีกหนึ่งตอน จากนั้นก็จะแต่งพี่ปืนกับน้องกระต่ายนะงับ (แต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ฮึก)
เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นานนนนนน~~
 :o11: o1
ขอบคุณทุกคนนะคะ จุ้บ ๆ
ถ้าเจอคำผิดก็บอกด้วยนะงับ
บ๊ายบายยยยยยยยย
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 16-11-2015 23:09:36
ออกัสน่ารักมากเลยยยยยยยย ฝ่ายสามีก็หวงกันจั๊งงงง น้องดไวท์น่าร้ากก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-11-2015 23:13:40
มาให้หายคิดถึง
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 20-11-2015 17:19:53
น่ารักมากค่า สารภาพตามตรงเห็นเรื่องนี้นานแล้วแต่ไม่อ่านเพราะกลัวชื่อเรื่องพาดราม่า
แต่พออ่านน่ารักมากมาย รอตอนพิเศษต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 20-11-2015 17:30:33
อยากได้แบบดไวท์สักตัวมาเล่นที่บ้านนน~~~ 555
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 20-11-2015 23:20:57
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 27-11-2015 14:18:19
ตามมาจากพี่เจ้า น้องฟ้า

บันนี่กับพี่ปืน และผองเพื่อนน่ารักมากๆๆๆๆๆ

 :กอด1: :L1: :pig4:

หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: zleep ที่ 27-11-2015 16:52:00
คิดถึงทุกคนเลย ฮือ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: HanTwoH ที่ 28-11-2015 04:11:27
 :ling1: :ling1: :ling1:มาต่อบ่อยๆนะคะ คิดถึงเรื่องนี้อ่า
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 28-11-2015 22:33:40
น่ารักกกกกกกกก แรดน้อยน่ากด ฮว้ากกก  :jul1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-12-2015 20:26:37
น้องกัสน่ารัก พี่ไนต์ชอบดุน้อง
แต่รักมาก
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: suonlyyou ที่ 14-12-2015 18:04:31
กลับเข้ามาอ่านอีกเป็นรอบที่3 เพราะว่าคิดถึงทุกๆตัวละครเลย  อยากให้มีตอนพิเศษอีกเยอะๆๆเลยอ่ะนะ รักคนเขียนนะค่ะ   :L1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 16-12-2015 20:05:04
เขิลลลลลล อ่านไปจิกหมอนไป เหมือนจะซึนทั้งคู่แต่ก็ไม่ ใจตรงกันตั้งแต่แรกเลย น่าร๊าคคคคคค
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: whyrockstarx3 ที่ 20-12-2015 21:38:16
แนวมุ้งมิ้งใสๆ เขินไรเฟิลหนักมากกกกกก :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 22-12-2015 13:17:31
สนุกนะคะ หลายๆคู่น่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August II [16:11:2015] P.25
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-12-2015 14:43:13
อ่านจบแล้ว น่ารักทั้งสองคู่เลยครับ ^^
หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August III [27:12:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 27-12-2015 20:03:47

Knight x August III





  “อื้อ...” ร่างเล็กพลิกตัวบิดขี้เกียจบนเตียงนุ่ม ตาคมค่อย ๆ ปรือขึ้นก่อนลุกนั่ง มือยกขยี้ตา อากาศหนาวทำให้กลับเข้าไปซุกผ้านวมอีกครั้ง นอนมองเพดานปรับระบบการประมวลผลของสมองสักพักก็นึกออกว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ประเทศไทย ก็ว่า.. ทำไมหนาว
  
  
  เดินมึน ๆ ทั้งหัวยุ่งฟูตามกลิ่นอาหาร เห็นตาลุงยืนทำอะไรสักอย่างอยู่ผมจึงเดินเข้าไป สอดแขนกอดเอวหนาจากด้านหลังแล้วซบหน้ากับแผ่นหลังกว้าง
  
  “ไปล้างหน้า”
  
  “จู๊บบบบบบหน่อยยยย จุ๊บโหน่ยยยยยย” พี่ไนต์จิ๊ปาก หันมาจุ๊บตามที่ผมร้องขอ ผมทำใจกล้า เขย่งตัวโอบแขนรอบคอพี่ไนต์ กดท้ายทอยอีกฝ่ายไว้แล้วเป็นฝ่ายรุกจูบ สอดเรียวลิ้นเข้าไปภายใน
  
  “เหม็นขี้ฟัน” พูดแบบนั้นแต่ยังขบปากล่างผมไม่หยุด ชิชะ!
  
  “ฮ๊าาาาา!!” รีบวิ่งหนีก่อนจะโดนตะหลิวเคาะกบาล เอิ๊ก ๆ
  
  
  
  “พี่ควอทซ์กับพี่ปืนไปไหนงะ?”
  
  “ไปเรียน”
  
  พยักหน้าหงึกหงักกับคำตอบ ใช้ส้อมจิ้มเนื้อหมูที่ถูกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำไว้แล้วเข้าปาก
  
  “ลุงจะพาเค้าไปเที่ยวไหน”
  
  “เล่นหิมะหน้าอพาร์ทเมนต์”
  
  “โหยยยยย”
  
  “มึงอยากไปไหน?”
  
  “ไม่รู้เหมือนกันแงะ แล้วแต่คนจ่ายตังค์ครับผม!”
  
  “งั้นนอนอยู่ห้องเนี่ยแหละ หึหึ”
  
  “เชอะ ๆ”
  
  
  
  
  บ่ายสองครึ่ง... พี่ไนต์พาออกจากอพาร์ทเมนต์ เจอดไวท์กับพี่กวินกำลังเปิดประตูเข้าห้องพอดี
  
  “Hi~”
  
  “Hi!” น้องทักตอบ มือน้อย ๆ โบกอย่างน่ารัก แถมยังยิ้มกว้างโชว์ลักยิ้มข้างแก้มทั้งสองข้างกับเขี้ยวเล็ก ๆ
  
  “ไปไหนกัน?”
  
  “แถวนี้แหละ” พี่ไหนบอก ส่วนผมเล่นกับดไวท์อยู่ น้องบอกว่าเพิ่งเลิกเรียน แด๊ดดี้ไปรับ แก้มยุ้ย ๆ ขาว ๆ น่าฟัดมาก! หมั่นเขี้ยว ๆๆๆ
  
  “ก้อนเข้าบ้านได้ละ” เมื่อพี่กวินบอกอย่างนั้นน้องก็เซย์กู๊ดบายผม
  
  
  
  
  
  
  “ว้ากกกกกก!!” ผมร้องออกมาเมื่อสะดุดลื่น รีบคว้าพี่ไนต์ไว้เป็นตัวยืดก่อนจะล้มหัวทิ่ม ฮืออออ โคตรอาย ร้องก็เสียงดัง คนก็มองเยอะด้วย แต่เจ็บปวดสุดก็คือไอศกรีมสุดเลิฟของผมดันหล่นตุบไปจูจุ๊บกับพื้นเหลือเพียงโคนวาฟเฟิลในมือที่เหลือน้อยนิดเพราะตกใจจนเผลอบีบให้ดูต่างหน้า
  
  โถถังกะละมังหม้อ ไอศกรีมลูกพ่อ...
  
  “ซุ่มซ่ามจริงมึง” ไอ้ลุงบ่น
  
  “ฮึก ลุงจ๋าาา ไอติมเค้า...”
  
  “ไม่ไปซื้อใหม่นะ ขี้เกียจ”
  
  แงงงงงงงงงงง!!
  
  ไอ้ลุงพี่ไนต์ไม่สนใจหน้างอแงของผมแถมยังลากให้เดินตามอีก คนใจร้าย!!! กว่าจะเดินมาถึง London eye ก็เถียงกันไปหลายรอบ แต่ที่ปลื้มมาก ๆ เลยก็คือพี่ไนต์จับมือผมไว้ตลอดแม้เราจะเถียงกัน คึคึ แฟนผมดีที่หนึ่ง!!!
  
  
  
  “คนเยอะสัด” คนตัวโตบ่นออกมาเมื่อเห็นคนที่เข้าแถวรอขึ้นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในยุโรป อ่า.. ผมก็เห็นด้วยนะครับ ไม่เถียงอ่ะ เลยพยักหน้าหงึก ๆ
  
  “ไม่ต้องขึ้นหรอกเนอะ”
  
  “ไม่เนอะ” เบะปากใส่ ช้อนตามองอ้อน “อีกแป๊บเดียวเอง..”
  
  “หึ” พี่ไนต์จิ้มแก้มผมแรง ๆ แล้วหันหน้ากลับไป เชอะ! ชอบแกล้งอ่ะ
  
  “ลุง... เค้าหนาว” ผมวางมืออีกข้างทับมือพี่ไนต์ พี่มันหันมามอง
  
  “มือเย็นจังวะ ทำไมไม่ใส่ถุงมือ”
  
  “ใส่ให้เค้าหน่อย” ยิ้มอ้อนไปให้พร้อมกะพริบตาปริบ ๆ
  
  “มึงนี่นะ” พี่มันปล่อยมือผม หมุนผมให้หันหลัง ทำอะไรยุกยิกกับกระเป๋าเป้ของผม ไม่นานก็หมุนตัวผมกลับ ในมือใหญ่มีถุงหนังสีดำที่ด้านในบุด้วยขนสัตว์นุ่ม ๆ ผมยิ้มกว้างจนตาปิดเมื่อพี่ไนต์คว้ามือผมไปแล้วค่อย ๆ สวมถุงมือให้ เมื่อสวมให้เสร็จก็ยังจัดหมวกไหมพรมและผ้าพันคอให้ผมอีกด้วย
  
  จุ๊บ!
  
  เขย่งขึ้นไปจุ๊บปากคนตัวโต
  
  “ขอบคุณครับ”
  
  
  
  
  
  “ลุงงงง ถ่ายรูปให้เค้าหน่อยจิ ให้เห็นวิวข้างล่างด้วยนะ”
  
  “เออ” พี่ไนต์รับคำพร้อมคว้ากล้องจากมือผมไป “มึงเลิกทำหน้าน่าเกลียดได้ป่ะ”
  
  “อะไรอ่ะ! เค้าน่าเกลียดตรงไหน!” ผมโวยวาย พี่ไนต์แสยะยิ้มกดถ่ายรัว ๆ โดยที่ผมไม่ตั้งตัว จิ๊! จะได้รูปดี ๆ ไปโพสต์อวดเพื่อนไหมเนี่ย!
  
  
  “หูวววว สูงจังเยยยยยย” ผมเกาะกระจกของตัวแคปซูล มองดูวิวรอบ ๆ แล้วพูดงุ้งงิ้งอยู่คนเดียว สงสัยผมจะอยู่กับตัวเองนานไป เพราะหันไปหาพี่ไนต์อีกทีแม่งคุยกับสาวที่ไหนอยู่ก็ไม่รู้ เกร้ดดดดดดดดด! ออกัสจะโกรธแล้วนะ!!!
  
  
  
  
  “ใครงะ?” เข้าไปกอดแขนแสงความเป็นเจ้าของ เงยหน้าถามพร้อมทำหน้าที่คิดว่าน่ารักสุด ๆ พี่ไนต์เหยียดมุมปากนิดหน่อย เป็นอันรู้กันล่ะ ว่าพี่มันก็ไม่รู้ เหอ ๆ แล้วเจ๊คนนี้เป็นใครล่ะเนี่ย สนิทหรือไงมาพูดแจ้ว ๆ โด่ววววว จะอ่อยแฟนเราเหรอออออ เร็วไปร้อยปีครับผม
  
  
  “น้องชายเหรอคะ น่ารักจังเลย” เธอพูด ผมแอบเบ้ปาก แต่ก็ยิ้มแฉ่งให้เจ๊แกด้วยความจริงใจ (ถุย) คนไทยซะด้วย~~~
  
  “คุณไนต์จะอยู่ลอนดอนกี่วันเหรอคะ? แพรวกับเพื่อนกะจะอยู่สัก 3-4 วัน” ครายยยยยยยย! ใครถามเจ๊ครับ ใครเขาอยากรู้ ไม่มี้!!!!
  
  “มาหนึ่งสัปดาห์ครับ”
  
  “อุ๊ย ดีจังเลยนะคะ คุณไนต์พักที่ไหนเหรอคะ?”
  
  “บ้านเพื่อนน่ะครับ”
  
  “อ๋อ ค่ะ”
  
  “ลุง” ผมพูดเสียงแข็ง จะหงิดละ อีกนิด อีกนิด ถ้ายังคุยต่อเนี่ยพ่อจะแดกหัวแล้วนะ!
  
  “เบื่อแล้วไง? ใครบอกอยากมา” พี่ไนต์วาดแขนโอบไหล่ หว่ายยยยยยยยยยยย เขิน! - -
  
  เจ๊ปากแดงมอง แต่ก็ยังจะหันไปจ้อกับพี่ไนต์ต่อได้ เฮ้อออออ
  
  “เรายังไม่ถ่ายรูปคู่กันเลยนะครับ...” พูดเสียงอ่อยพร้อมมองอ้อน “รบกวนพี่สาวช่วยถ่ายรูปให้เราหน่อยได้ไหมฮะ?”
  
  “เอ่อ... ได้ ได้จ้า”
  
  “ขอบคุณนะครับ” ส่งกล้องให้เจ๊แล้วลากพี่ไนต์ออกมา พี่มันมองหน้าผมแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ชิ! เกลียดคนรู้มาก
  
  “1”
  
  ผมยิ้มกว้าง
  
  “2”
  
  พี่ไนต์ยกแขนกอดคอผม
  
  “3”
  
  ผมหันหน้าไปหาพี่ไนต์แล้วเขย่งขึ้นประกบริมฝีปากลงที่กลีบปากของคนอายุมากกว่า และที่น่าตกใจคือพี่มันโดนโน้มคอลงมาซ้ำยังหันหน้ามาหาราวกับนัดกันไว้
  
  แชะ!
  
  
  ตู้วหู้ววววววววว เจ๊เขายืนนิ่งอย่างกับโดนคาถาสตูเปฟายแหนะ!
  
  “ขอบคุณครับ” พี่ไนต์พูดแล้วหยิบกล้องจากมือเจ๊ปากแดงมา
  
  “คะ ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวนะคะ”
  
  
  “บาย~” ผมขยับปากพูดแบบไม่มีเสียง
  
  “แสบนักนะ” พี่ไนต์บีบปลายจมูก
  
  “มาอ่อยแฟนเค้าทำไมล่ะ” งื่อ.... ซุกหน้ากับอกกว้างหลบสายตาเจ้าชู้และยิ้มทรงเสน่ห์ของอีกคนอย่างเขินอาย ให้ตายเถอะ!!! หน้าผมร้อนมากเลย ฮืออออ
  
  
  
  
  เมื่อลงจากลอนดอนอายเราก็เดินต่อไปที่หอนาฬิกาบิ๊กเบน ระหว่างนั้นผมก็ใช้พี่ไนต์ถ่ายรูปไม่หยุด ทั้งรูปเดี่ยว ไหนจะลากพี่มันมาถ่ายคู่กันอีก คึคึ มีความสุขที่สุดดดดดดดดดดดด!!
  
  
  “ลุง เค้าหิว” โขกหัวกับแขนแกร่ง พี่ไนต์ส่ายหน้าเอือม แต่ก็พาหาร้านอาหารเพื่อหาอะไรลงท้องสักหน่อย ผมอยากหาที่นั่งว่ะ เดินซะเยอะ ปวดเท้าไปหมดแล้วเนี่ย
  
  “พี่ไนต์จ๋าาา เค้าของขี่หลังได้ไหมจ๊ะ?”
  
  “ตีนกูหนิ”
  
  “เชอะ!!!”
  
  
  
  
  
  
  หลังจากตะลอนเที่ยวไปหลายชั่วโมง เดินไปนู่น มานี่ก็หลายที่จะน่องปูดไปหมดแล้ว ที่สุดท้ายของวันเลยจบลงที่ห้างสรรพสินค้า พี่ไนต์บอกจะพาไปซื้อพวกของใช้และเสื้อผ้าบางอย่าง แล้วมันดีตรงที่พี่ไนต์จ่ายครับโผมมมมมมมมม! เมื่อถึงบ้านก็เล่นเอาล้าไปหมดเลยครับ ไม่ไหวล้าววว
  
  
  
  “ไปไหนกันมาบ้าง!”
  
  “เยอะแยะมากเลยพี่ควอทซ์ เมื่อยสุด ๆ แต่สนุกมาก!!”
  
  “เก็บไว้เที่ยววันอื่นมั่งเหอะ!” พี่ควอทซ์ว่าพร้อมดึงแก้มผมเล่นเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู ผมได้ที่เลยฉวยโอกาส คลานไปหนุนตักนุ่ม ๆ ของพี่กระต่าย อิอิ
  
  “พี่ไรเฟิลล่ะครับ?”
  
  “ห้องกวิน” พยักหน้าหงึกหงักรับรู้ พี่ควอทซ์สางผมผมเล่นแบบนี้สบายโคตร ๆ พอเคลิ้ม ๆ จะหลับก็กลับถูกก่อกวนเสียอย่างนั้น..
  
  ฮื่อ! พี่ไนต์นิสัยไม่ดี!!
  
  “ไปเก็บของดิเตี้ย”
  
  “งื่อ เค้าเหนื่อย”
  
  “เดี๋ยวค่อยเก็บก็ได้มึง ของมันไม่วิ่งหนีไปไหนหรอก”
  
  “ให้ท้ายกันตลอด”
  
  งืม ๆ
  
  
  
  
  “ตื่นไปกินข้าวได้แล้ว”
  
  “หืม...” งัวเงียลืมตาขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงซะงั้น ผมขยับเข้าไปซุกอกพี่ไนต์และกอดคอคนตัวโตเอาไว้ด้วย “ตรงนี้ของกัส ห้ามใครแย่งทั้งนั้น”
  
  “หึ” พี่ไนต์หอมหน้าผากแรง ๆ “ไปกินข้าว”
  
  “ง่วงจังเลย กี่โมงแล้วง่ะ”
  
  “สองทุ่มครึ่ง”
  
  “หา!!!”
  
  “ไม่หาล่ะ มาเลยไอ้เตี้ย!”
  
  “เหวออออ!”
  
  บอกดี ๆ ก็ด้ายยยยยยยยยยย ไม่เห็นต้องอุ้มพาดบ่าแบบนี้
  
  “อ้ากกกกกก!! ฮืออออออ”
  
  “อ้าว ร้องไห้” พี่ปืนรีบวางผมลงพื้น เมื่อกี้พอออกจากห้องนอนมาพี่ไนต์มันก็โยนผมให้พี่ปืนอ่ะ ฮือออ ถ้าเกิดรับผมไม่ได้ผมก็ต้องตกดิ มันต้องเจ็บมากแน่เลยนะ ผมกลัวอ่ะ
  
  “แกล้งน้องอีกแล้ว!!”
  
  “พี่ควอทซ์ ฮือออ”
  
  “โอ๋ ๆ ไม่ร้องน้าาา เดี๋ยวพี่จัดการพวกมันให้”
  
  “ฮึก ฮือ กัสกลัว แงงงง”
  
  “ขี้แยเอ๊ย!” ไม่ปลอบแล้วยังแกล้งซ้ำอีก พี่ไนต์กับพี่ปืนรุมยีผมผมแรง ๆ แล้วพากกันเดินหนีไปที่โตอาหาร ฮือออออออออออ ไอ้บ้าาาาาาาาาาาาา!!!
  
  งอน! งอน! ออกัสจะงอน!
  
  
  ระหว่างมื้ออาหารผมไม่คุยกับพี่ไนต์และพี่ปืนเลย ไม่มองหน้าด้วย ผมคุยแค่กับพี่ควอทซ์คนเดียว แต่แม่ง! เกือบจะไปได้สวยอยู่แล้วเชียวถ้าไอ้พี่ไนต์ไม่ขยันเอาใจผมอ่ะ ทั้งตักอาหารให้ ทั้งเช็ดปากให้เป็นระยะ บริการดี๊ดี คิดว่าจะลบความผิดได้เหรอ เออ!! มันได้เว้ยยยย! ผมไม่ได้ใจง่ายนะ แต่พอคนทำมันคือพี่ไนต์ผมก็ใจอ่อนทันทีเลย ฮือ
  
  
  ก็เขาคือคนที่ผมรักนี่นา... เคยงอนได้นานที่ไหนล่ะ ไม่เคยจะมีหรอก แค่เขาทำดีด้วยนิด ๆ หน่อย ๆ ผมก็ใจอ่อนแล้ว ช่วยไม่ได้หนิ เพราะรักหรอกถึงยอม ฮึ! ผมก็รู้นะว่าเขาก็รักผมมากถึงได้ชอบแกล้งบ่อย ๆ พี่ไนต์มันบอกว่าผมตอนร้องไห้ยิ่งน่ารังแก นิสัยไม่ดีเลยเนอะ! ผมรักคนนิสัยไม่ดีแบบนี้ได้ยังไงกันนะ
  
  แต่ว่า... ผมอยากขอบคุณเขานะ
  ขอบคุณที่ทำให้ผมยิ้มและหัวเราะได้สดใสขนาดนนี้
  ขอบคุณที่เป็นความสุขของผม
  ขอบคุณที่คอยอยู่ข้าง ๆ ผม
  ขอบคุุณที่แม้จะบอกว่าผมมันน่ารำคาญแต่ก็ไม่เคยหนีไปไหน
  ขอบคุณที่ไม่เคยทิ้งให้ผมร้องไห้คนเดียว
  ขอบคุณที่รักผม
  ขอบคุณครับ...
  
  ผมรักพี่
  
  
  
  
  HAPPY : )






------------------------------
มาแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาา
ตอนสุดท้ายแล้วจ้าาาาาาา
ขออภัยในความล่าช้า คิดบทไม่ออกจริง ๆ ฮืออออออ
ฝากพี่ไนต์กับน้องกัสไว้ด้วยนะงับ
ขอบคุณที่ยังรอน้าาาา เยิ้ฟฟฟฟฟ
ขอบคุณคนอ่านทุกท่านค่ะ ♥
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August III [27:12:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 28-12-2015 02:32:55
นึกว่าตาฝาด :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August III [27:12:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 28-12-2015 09:39:49
น้องกัสน่าแกล้งจริงๆๆนั่นแหละ

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August III [27:12:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 28-12-2015 12:12:02
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August III [27:12:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-12-2015 12:31:45
อิลุงปากร้ายแต่ใจดีกับน้องกัสเสมอ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August III [27:12:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 29-12-2015 11:22:03
เขาก็รักแบบฮาร์ดคอร์ไงหนูกัส
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : Knight x August III [27:12:2015]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-12-2015 12:03:32
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 04-01-2016 22:05:19

SPECIAL EPISODE : Rifle with his naughty bunny







  “ไม่ทราบว่ามาพบใครคะ?”
  
  “คุณรังสิมันต์ครับ” ผมบอกกับเธอ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นใคร เพราะเลขาของไรเฟิลไม่ใช่คนนี้
  
  “นัดไว้หรือเปล่าคะ?”
  
  “เปล่าครับ”
  
  “บอสติดประชุมอยู่น่ะค่ะ”
  
  “อ่า.. แล้วจะประชุมเสร็จกี่โมงเหรอครับ?”
  
  “อีกนานเลยค่ะ ดิฉันว่าคุณกลับไปก่อนดีกว่านะคะ”
  
  “ผมต้องการพบเขาวันนี้ครับ เดี๋ยวเข้าไปรอในห้องก็ได้”
  
  “เดี๋ยว!” เสียงแหลมเบรกผมเอาไว้ “เข้าไม่ได้นะคะ?”
  
  “หือ?” ทำไมจะเข้าไม่ได้วะ
  
  “อยู่ ๆ จะให้ใครที่ไหนไม่รู้มาเข้าห้องบอสมั่ว ๆ แบบนี้ได้ยังไง” หล่อนจีบปากจีบคอ เชิดหน้า จิกตามองผม
  
  ยัยหน้าผีจีนนี่ไม่รู้จักผมงั้นเหรอ!?
  
  “ถ้าอยากรอก็เชิญนั่งรอที่ด้านนู่นเลยค่ะ แต่ดิฉันเองก็บอกไม่ได้นะคะว่าบอสจะประชุมเสร็จกี่โมง”
  
  
  โอเค ได้ รอด้านนอกก็ได้! ผมเดินไปนั่งตามที่เธอว่าเมื่อสักครู่ หรือผมควรโทรหาไรเฟิลดีวะ ไม่ดีกว่า มันประชุมอยู่ จะมาสร้างความวุ่นวายได้ยังไง ระหว่างรอผมจึงหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาเล่นเกมฆ่าเวลา... เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ รู้เพียงแค่ว่าผมเผลอหลับไป เหลือบมองไปที่ยัยผีจีนหน้าห้องทำงานไรเฟิล ไม่เล่นโทรศัพท์ก็แต่งหน้า โทะ! รายงานไรเฟิลดีไหมเนี่ย
  
  
  “กระต่ายน้อย!” น้ำเสียงคุ้นหูที่ร้องเรียกทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย
  
  “พี่เฟ สวัสดีครับ”
  
  “ดีจ้ากระต่ายน้อย ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้”
  
  “ผมมาหาไรเฟิลครับ”
  
  “ไม่ ๆ หมายถึง ทำไมไม่เข้าไปรอในห้อง”
  
  “ผู้หญิงคนนั้นเธอไม่ให้ผมเข้าครับ” ไม่ได้ฟ้องนะ พี่เฟถามเอง...
  
  ทันทีที่ผมพูดจบ พี่เฟก็ตวัดตามองไปที่เจ้าหล่อนพร้อมดันเข้าไปหา ทำเอาผมต้องรีบตามไปด้วย
  
  
  “คุณเฟลิเซีย สวัสดีค่ะ” เสียงอ่อนเสียงหวานเชียว..
  
  “เธอไม่รู้จักเขาเหรอ?”
  
  “เอ่อ...”
  
  “จำเอาไว้ว่าเขาเป็นน้องชายฉัน ไม่จำเป็นต้องมานั่งรอแบบนี้!”
  
  และก่อนที่พี่เฟจะเดือดจนต้มมาม่าได้มาก็บุคคลใหม่เข้ามา...
  
  
  “มีเรื่องอะไรกัน?” เสียงทุ้มต่ำแบบนี้.. ไอ้ยักษ์ของผมไงจะใครล่ะ
  
  “เธอไม่ให้กระต่ายน้องของพี่เข้าไปรอในห้องน่ะสิ” เห็นหน้าหดเหลือสองนิ้วแบบนั้นแล้วก็น่าสงสารนะ เจอพี่เฟผู้โหดสัดแล้ว ยังต้องมาทนต่อสายตาคมกริบของไรเฟิลผู้โหดสัดกว่าพี่เฟอีก สู้นะเจ๊ ผมแค่อยากให้เจ๊สู้ ฮึบ!
  
  
  “เก็บของแล้วย้ายกลับที่เดิมเลยแล้วกัน คุณเฟช่วยหาคนใหม่ให้ผมด้วย”
  
  ฉิบหาย...
  
  “บอสคะ..”
  
  “งานตรงนี้สำคัญมาก ผมคิดว่ามันคงไม่เหมาะกับคุณ การปล่อยให้แขกคนสำคัญต้องนั่งรอหน้าห้องมันใช่เรื่องไหม? แม้เธอจะมาทำตรงนี้แค่ชั่วคราว เธอก็ควรให้ความสำคัญกับงาน กับตำแหน่งที่เธอได้รับ  ถ้ามีปัญญาซื้ออาหารบำรุงผิวได้ก็น่าจะมีปัญญาซื้ออาหารบำรุงสมองด้วย”
  
  ขนาดผมยังเอ๋อ กลืนน้ำลายเอื๊อก ไอ้ยักษ์คว้าข้อมือผมเดินเข้าห้องทำงานโดยไม่สนใจจะหันกลับมองเลขาสาวชั่วคราวที่ยืนร้องไห้น้ำตาไหลพรากจนมาสคาร่าเยิ้ม...
  
  
  
  “อื้อ!” ริมฝีปากหยักประกบจูบโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ไรเฟิลกัดปากล่างผมจนต้องทุบไหล่กว้างไปแรง ๆ “เจ็บ!!”
  
  “ทำให้เจ็บ ทำไมไม่โทรหา” จำเป็นต้องถามเสียงเข้มหรือไง!!
  
  “ก็เธอบอกว่าประชุมอยู่เลยไม่โทร งื่อ..” ซุกหน้ากับอกแกร่งพร้อมกอดเอวเอาใจ ต้องเปิดการ์ดอ้อน ไม่อยากโดนดุเข้าใจม้ายยยยย
  
  “ให้ตาย! รอนานเท่าไหร่แล้ว?”
  
  “ทั้งแต่เที่ยงครึ่งง่ะ” ซึ่งตอนนี้มันก็จะบ่ายสามแล้วอ่ะเนอะ...
  
  ไรเฟิลกัดแก้มผม “ดื้อ! ถ้ารอนานกว่านี้จะทำยังไง”
  
  “กลับบ้านดิ โอ๊ย! ทำไมชอบกัด เจ็บ!” ผลักไรเฟิลออก แม่งรูดเนกไท ปลดกระดุมสามเม็ดบนของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไอ้คนมือไวใจเร็ว! ใช่ป่ะ? คนไทยเขาพูดแบบนี้หรือเปล่า
  
  “หมั่นเขี้ยว! มาจูบดิ๊!” คิดว่าผมจะต่อต้านมันได้ไหมล่ะครับ? ขัดขืนพอเป็นพิธีแบบนางเอกละครไทย พอโดนรุกจูบเข้าหน่อยก็ตัวอ่อนปวกเปียก เกือบมีได้เสียถ้าไม่มีเสียงเคาะประตู ผมเด้งตัวนี้จากคนมือปลาหมึก ไปนั่งที่โซฟารับรองแขก แม้ผมเผ้าจะไม่ทรง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ปากบวมเจ่อ สภาพแบบนี้มันก็ดีกว่าให้นั่งอยู่บนตักไรเฟิลแล้วมี่คนเข้ามาเห็นละน่า...
  
  “เอกสารจากฝ่ายการเงินค่ะ”
  
  “ขอบคุณครับ”
  
  “ค่ะ”
  
  “ขอบคุณครับ” ผมเลียนแบบเสียงของไรเฟิล
  
  คนตัวโตชี้หน้า “เดี๋ยวจะโดน”
  
  แลบลิ้นให้ไปที เดินกลับไปหาอีกฝ่ายที่โต๊ะทำงาน ไรเฟิลคว้าเอวผมให้นั่งตักก่อนที่จะกดจมูกลงที่แก้มของผม ไล่ลงไปจนถึงซอกคอ คือ.. จั๊กจี้โว้ยยยยย ไหนจะไรหนวดที่ขึ้นเป็นตอขูดผิวอีก แต่ปฏิเสธไหมล่ะ? ไม่ครับ เอียงคอให้ด้วยอ่ะ ฮือออ
  
  
  “ประชุมเป็นยังไงบ้าง?”
  
  “ก็ดี แล้ว?”
  
  “ก็ดีเหมือนกัน ไปเจอลูกค้ากับป๊ามา ดีลลลล~~” เงยหน้าขึ้นไปยิ้มโชว์ฟันกระต่าย ไรเฟิลก็จุ๊บปากผมไม่หยุดสักที “กินข้าวเที่ยงหรือยัง?”
  
  “เพิ่งประชุมเสร็จจะเอาเวลาที่ไหนไปกินครับ?”
  
  “ทำไมทำงี้วะ แล้วพี่เฟล่ะ?”
  
  “น่าจะกินแล้ว เฟลิเซียไม่ได้เข้าประชุมแต่ออกไปพบลูกค้า”
  
  “อ่า... งั้นไปกินข้าวกัน”
  
  “ยังไม่กินหรือบันนี่ อีกไม่กี่นาทีก็บ่ายสามแล้วเนี่ย”
  
  “กินนิดหน่อย ตอนนั้นมันไม่หิว ป่ะ”
  
  “หมดเวลาพักแล้วครับเบบี๋”
  
  บี๋พ่อง
  
  “ไรเฟิล!!”
  
  “Don’t be naugty your hubby ganna be angry”
  
  “มึงนั่นแหละอย่าดื้อ! ถ้าไม่ไปกินข้าวกูก็จะโกรธเหมือนกัน!”
  
  “งานยุ่งครับ” ผมขมวดคิ้ว มองเหล่าแฟ้มทั้งหลายที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ ก็รู้ว่ามันคือสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ แต่มันก็ควรจะกินข้าวหน่อยไหมล่ะ ไม่รู้หรอว่าผมเป็นห่วง แม่ง! จะงอนก็ดูงี่เง่าไป เฮ้อออ คนหล่อปวดเฮด
  
  “แล้วจะให้ไปกินคนเดียวหรอ...” พูดเสียงเบา ก้มหน้าต่ำ เกี่ยวปลายนิ้วน้ำเนกไทคนตัวสูงเล่น ผมโยนฟืนเข้ากองไฟอีกเมื่ออีกคนเงียบ ในหัวแม่งต้องคิดไปหนักแล้วแน่ ๆ “งั้น... อยากกินอะไรหรือเปล่า จะซื้อเข้ามาให้”
  
  “ไม่ต้อง เดี๋ยวออกไปด้วย” ช้อนตาขึ้นมอง ไรเฟิลจุ๊บปลายจมูกผมเพื่อเอาใจ ผมแสร้งถอนหายใจ ซบหน้ากับอกกว้างราวกับน้อยใจและรู้สึกผิดหนักหนา
  
  “ไม่ต้องหรอก งานเยอะหนิ เดี๋ยวซื้อมาให้” ยังคงระดับเสียงไว้เหมือนแรกเริ่ม เสียงหงอย ๆ เหงา ๆ หึหึ เสร็จกูแน่รังสิมันต์!
  
  “ไม่ทำละ เมียงอน”
  
  แสรดดดดดดดดดดดดดด!!
  
  “ไม่ได้งอนสักหน่อย”
  
  “เชื่อมาก ไปเหอะ อยากกินอะไร?”
  
  ผมยิ้มแฉ่งทันที “จะไปด้วยจริงงะ?” ไอ้ยักษ์พยักหน้า “กินแถวนี้ก็ได้”
  
  
  ร้านที่ไรเฟิลพาผมมาเป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรป ทั้งที่บอกว่ากินแถวบริษัทก็ได้แต่มันก็พามาเสียไกล
  
  “มีงานต้องทำต่าหรือเปล่า?” ไรเฟิลถาม
  
  “ไม่อ่ะ ตอนนี้ฟรี”
  
  “ดี ช่วยกูทำงานด้วย”
  
  “โหยยยย ไปช่วยกวินเลี้ยงน้องกานต์ยังดีกว่าอีก”
  
  “เห็นคนอื่นดีกว่าผัว?”
  
  “ไอ้สัด!” ผมด่า “คนอื่นที่ไหน นั่นเพื่อน นั่นก็หลาน”
  
  “อยากไปก็ไป”
  
  “หว่ายยยยย งอนเค้าหรือตัวเอง” วางมีดส้อมในมือแล้วยื่นมือไปเกาคางไรเฟิล อีกฝ่ายปรายตามองแล้วดันมือผมออก
  
  “....”
  
  “ไม่ไปหรอกน่า พูดเล่น กวินพาดไวท์ไปเที่ยว”
  
  “หึ”
  
  แต่ถ้ากวินไม่พาดไวท์ไปก็ไม่แน่... ชู่วววว อย่าบอกไรเฟิลนะครับ
  
  
  
  
  “น่ารักเนอะ” ยกโทรศัพท์มือถือให้ไรเฟิลดู เป็นภาพของหนูน้อยดไวท์กำลังกินสตรอว์เบอร์รี่ แก้มขาวขึ้นสีระเรื่อตามประสาเด็กและยังเปื้อนสตรอว์เบอร์รี่อีก น่าเอ็นดูมาก กวินก็ขี้อวด ชอบส่งรูปลูกมาอวดผม ต่อหน้าชอบด่าลูก พออย่างนี้ล่ะรักมากเชียว
  
  “อือ”
  
  “แค่อื้อเหรอ?” ผมเบะปาก “ถ้ามีเด็ก ๆ วิ่งเล่นอยู่ในบ้านคงจะดี..”
  
  “อยากมีลูกเหรอ?” ไรเฟิลก็ถามขึ้น แถวยังถามเสียงอ่อนโยนพร้อมกับยกมือลูบผมผมเบา ๆ ด้วยอีก ตอนนี้เรากลับจากร้านอาหารแล้วครับ และก็กำลังนั่งทำงานกันอยู่ที่ชุดโซฟาที่ตั้งอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงาน
  
  “ทำไมถามแบบนั้น?”
  
  “ไม่รู้สิ เห็นช่วงนี้ดูสนใจเรื่องเด็ก”
  
  ผมย่นจมูก “ก็ต้องช่วยไอ้กวินดูดไวท์ไง”
  
  “เหรอ? แล้วอยากมีเป็นของตัวเองไหม?”
  
  “มึงท้องไม่ได้”
  
  “คนท้องต้องเป็นมึงดิ”
  
  “ชิ! แล้วมึงอ่ะ อยากมีหรือเปล่า?”
  
  “อยากมีกับมึง มึงท้องได้หรือเปล่าล่ะ?”
  
  ผมส่ายหน้า รู้สึกเศร้านิดหน่อย เอาจริง ๆ แล้วผมอยากมีลูกนะ ไรเฟิลก็คงอยากมีเหมือนกันนั่นแหละ แต่เรามีไม่ได้จะให้ทำยังไงล่ะ... เฮ้อ
  
  “มึง..” ผมวางปากกา ถอดรองเท้าแล้วพับข้างขึ้นมานั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหาไรเฟิล “รับเด็กมาเลี้ยงได้เปล่า”
  
  ผมมองไรเฟิลอย่างมีหวัง อีกฝ่ายกระตุกยิ้มแล้วก็กลับไปนั่งอ่านเอกสารเหมือนเดิม
  
  บางที... ไรเฟิลคงไม่อยากมีลูก ที่ผมคิดไปก่อนหน้านั้นผมอาจคิดผิด
  
  
  
  
  
  “เป็นอะไร มานี่หน่อย” เบะปากใส่ไอ้คุณชาย เดินเตาะแตะเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ปลายเตียง ตั้งแต่คุยเรื่องรับเด็กมาเลี้ยงแล้วไรเฟิลเงียบไปก็พลอยทำให้ผมนอยด์จนไม่รู้จะพูดอะไร เลยเงียบด้วย ไม่ค่อยพูด สงสัยพี่ท่านจะทนไม่ไหว
  
  “เปล่านี่...”
  
  “คิดว่าเชื่อไหม นั่งลงคุยกันหน่อย”
  
  “ไม่เอา ไม่คุย ง่วงแล้ว นอนเถอะ” เดินเอาผ้าเช็ดผมไปตาก แล้วจึงปืนขึ้นเตียงจากนั้นก็ดึงผ้าห่มขึ้นสูงจนปิดเกือบมิดหัว
  
  “บันนี่”
  
  “อื้อ”
  
  “อย่างอแง มาคุยกันดิ๊”
  
  “ดึกแล้ว”
  
  “ให้พูดแล้วไม่พูดนะบันนี่ ถ้านอยด์กูจะด่าซ้ำ” แอบเบะปาก ก็ไม่รู้จะพูดอะไรหนิ
  
  “อยากมีลูกคิดดีแล้วเหรอ?”
  
  “...”
  
  “ก็บอกแล้วว่าไม่ใช่กูไม่อยากมี แต่ตอนนี้เราพร้อมหรือยัง?”
  
  “...”
  
  “การจะเลี้ยงเด็กสักคนมันไม่ง่ายนะบันนี่ จะคิดว่าอยากมีแล้วก็ไปรับมา ถ้าเกิดหลังจากนั้นแล้วมึงเกิดเบื่อ?”
  
  “ไม่ได้คิดอย่างนั้นสักหน่อย!”
  
  ไรเฟิลกระตุกยิ้ม “ร้องไห้ทำไม?”
  
  “มึงน่ะ!”
  
  “หึ” ไอ้ยักษ์ดึงแก้ม “อยากมีมากเหรอ?”
  
  ไม่รู้ แค่อยากมี เผื่อชีวิตเราจะสมบูรณ์ขึ้น ผมไม่ได้อยากมีเพราะเห็นคนอื่นมี แต่อยากมีเพราะอยากมีจริง ๆ ผมมั่นใจว่าผมสามารถเลี้ยงดูเขาได้ แต่เรื่องมีลูกมันก็ต้องปรึกษาไรเฟิลด้วย จะเอาแค่ความต้องการของผมคนเดียวมันก็ไม่ใช่ ถ้าไรเฟิลบอกว่าไม่โอเค จะก็จะยอมฟัง...ก็ได้
  
  “ก็... งืม”
  
  “รู้ใช่ไหมว่ามันไม่ง่าย”
  
  “รู้”
  
  “แล้วรู้ใช่ไหมว่าตัดสินใจคนเดียวไม่ได้”
  
  “รู้”
  
  “แน่ใจเหรอว่าจะดูแลเขาได้ มันไม่ใช่วันสองวัน หรืออาทิตย์สองอาทิตย์ พอเบื่อ ดูแลไม่ไหว ไม่โอเคกับจุดนั้นก็เอาเขากลับไปคืน แต่เราต้องดูแลรับผิดชอบชีวิตเขาไปตลอดชีวิต”
  
  “....”
  
  “คิดดูดี ๆ นะบันนี่ ความพร้อมเรื่องเงินเรามี แต่เวลาที่จะให้เขาล่ะ?”
  
  “ไม่อยากมีก็บอกดิ...”
  
  “อืม ไม่อยากมี” ผมช็อค น้ำตาไหลพราก “ไม่อยากมีตอนนี้ เพราะอยากใช้เวลากับมึงก่อน”
  
  “ฮีก”
  
  “ทุกวันนี้เรายังแทบจะหาเวลาว่างเจอกันไม่ได้ ขอกูอยู่กับมึงก่อนไม่ได้เหรอ”
  
  “ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกัน ถ้ารับเขามาอยู่ด้วย บางทีเราอาจจะได้เจอกันบ่อยขึ้นก็ได้”
  
  “ยังไงก็จะมีให้ได้ใช่ไหม?”
  
  “อื้อ แล้วมึงอ่ะ ไม่ให้มีจริง ๆ หรอ?”
  
  “นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้กูยังไม่อยากรับเขามา I hope you’ll understand”
  
  “You’re so maen!!”
  
  “Please be quiet, I’ll sleep”
  
  ฮืออออออออออ!!! ใจร้าย!! ไรเฟิลใจร้าย!!!
  
  ผมพยายามเข้าใจมัน แต่ทำไมมันไม่เข้าใจผมเลย เกลียด เกลียดรอยยิ้มร้ายที่ติดอยู่บนใบหน้า เกลียดนัยน์ตาสีฟ้าที่มองผมอย่างเหนือกว่า!!
  
  “Okey! Just do whatever you want!” พูดด้วยน้ำเสียงพยายามนิ่ง พลิกตัวหัันหลังให้ คว้ารีโมทคอนโทลมาปิดไฟในห้องให้มืดสนิท ผมไม่ต่อต้านอะไรแม้อีกฝ่ายจะรั้งเอวเข้าไปชิดและกอดผมเอาไว้
  
  “อย่างอนผมเลยคุณ”
  
  เหอะ!!
  
  “ต่อให้มึงไปคุยกับป๊า คุยกับคุณย่า ท่านก็จะบอกมึงแบบนี้เหมือนกันบันนี่”
  
  “...”
  
  “ให้อยู่แล้วแต่ขอกูอยู่กับมึงนานกว่านี้ก่อน”
  
  “...”
  
  “ยังไงกูก็ตามใจมึง”
  
  “แต่ครั้งนี้มึงไม่ตามใจ...”
  
  “เพราะนั่นมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ บันนี่ แค่เราคุยกับเองสองคนไม่ได้”
  
  “ถ้าผู้ใหญ่ยอมมึงจะยอมใช่ไหม?”
  
  “แน่นอนอยู่แล้ว” พอได้ยินแบบนั้นผมจึงพลิกตัวเข้าหาไรเฟิล จ้องมองใบหน้าหล่อผ่านความมืด ไรเฟิลกดจูบที่หน้าผาก จับมือผมไปแล้วกดจูบที่แหวนแต่งงานบนนิ้วผม
  
  “จริง ๆ นะ”
  
  “ครับ” ผมยิ้มกว้าง แต่เพียงไม่นานก็ต้องหุบยิ้มลง “แต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แน่นอน”
  
  “ไรเฟิลน่ะ!!”
  
  “หึ ต้องดูความประพฤติมึงด้วยบันนี่”
  
  “เชอะ ๆ”
  
  “รอหน่อยดิว่ะ ถ้าถึงเวลานั้นแล้วมึงยังอยากมีเขาอยู่ด้วย นั่นก็แสดงว่ามึงจริงจังกับเรื่องนี้จริง ๆ”
  
  “ก็ได้ ๆ”
  
  “นอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องทำงานอีก”
  
  “อือ... จุ๊บ”
  
  
  
  เราต้องอดทนรอ.. เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เราต้องการ






----------------------
หายไปนานเลยกับคู่นี้ ฮืออออ คิดถึงงงงงงงงงง
สวัสดีนะคะ สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังด้วยค่ะ
ฝากบันนี่กับพี่ปืนด้วยนะคะ หายหน้าหายตาไปนาน ลืมนางกันหรือยัง TwT
เราก็ไม่รู้จะเพ้ออะไรแล้ว ยังไงก็ฝากด้วยนะงับ

รัก♥

*ขออภัยหากมีคำผิดหรือพิมพ์ตก*
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: zleep ที่ 04-01-2016 23:23:53
โอ้ยคิดถึงบันนี่จังเลย
เดี๋ยวอีกไม่นานก็จะเป็นพ่อคนกันแล้วใช่ไหมมมม คิคิ


สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะคะ :3
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-01-2016 06:28:21
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 05-01-2016 10:09:12
คิดถึงม๊ากกกก น่ารักอะ
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 05-01-2016 10:27:21
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-01-2016 11:16:33
เลี้ยงเด็ก จะรอดหรือบันนี้
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 05-01-2016 12:51:18
รอกระต่ายน้อยกับพี่ปืนมีลูกกกกกกกกกก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 05-01-2016 12:59:03
ออกัสน่ารักมากเลยยยย งอแงง้องแง้งเด็กน้อยมากก
ไนท์ก็ชอบแกล้งน้องจริงๆ ทุกคนชอบแกล้งน้องเพราะน้องน่าเอ็นดูสินะะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 05-01-2016 13:05:48
โธ่เอ๊ยยหนูบันนี่ ถ้ารับลูกมาเลี้ยงงี้ไรเฟิลจะไม่มีลูกสองคนเลยเรอะ อ้าวผิดๆ โทษๆ  :pigha2:
่น่ารักก ขอบคุณค่ะ  :กอด1: :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 05-01-2016 14:47:17
ก็จริงอย่างที่ปืนพูดนะหนู หนูต้องมีเวลามากๆ นะ ไม่งั้นเดี๋ยวเด็กได้กลายเป็นปมอีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: SanadaTwinev ที่ 05-01-2016 20:17:52
 :hao5:ไม่เคยลืม //แต่บันนี่คือใครอ่ะ ฮืออออ. ต้องไปอ่านใหม่และ งื่อออออ.// :mew6:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 05-01-2016 20:29:28
รออีกหน่อยอย่างที่ปีนบอกก็ดีนะหนูบันนี่

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: ที่เดิมในหัวใจสาววาย ที่ 06-01-2016 16:28:17
คิดถึงจังเลย  :กอด1: สวัสดีปีใหม่ค้าบบ  :3123:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 06-01-2016 17:14:31
หึ สมน้ำหน้า ให้เมียบอสมารอแบบนี้ได้ไง
คิดถึงพี่ปืนกะบันนี่ว่ะ คิดถึ๊งงงงง คิดถึงงงงง
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 06-01-2016 21:57:56
บันนี่ ไรเฟิล น่าร้ากกก ขอบคุณนะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: HanTwoH ที่ 09-01-2016 15:29:44
 :hao5: :hao5: :hao5: คิดถึงคู่นี้มากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 09-01-2016 16:20:10
ชูมือทั้งสองข้างสนับสนุนพี่ปืนค่ะ
เหตุผลพี่น่ารักมาก อยากใช้เวลาอยู่กับกระต่ายน้อยก่อน  :-[ กับเรื่องความรับผิดชอบอีกชีวิตนึงจนเค้าโต  o13
คือเราเห็นด้วยกับการรับเด็กมาเลี้ยงนะ แต่อยากให้ทำเมื่อพร้อมทั้งคู่จริงๆอย่างพี่ปืนว่า

คิดถึงพี่ปืนกับบันนี่นะคะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-01-2016 21:48:11
บันนี่ยังคงดื้อเหมือนเดิม เระวังพี่ยักษ์โกรธน้าาาาาาา :hao3:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: secretowl ที่ 17-01-2016 23:04:31
น่ารักมากเลยค่าาาา
เราแพ้นายเอกขี้อ้อนนนน เลยอ่านรวดเดียวจบเลย
เสียดาย น่าจะเจอเร็วกว่าเน้
จะติดตามต่อไปน้าา
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 18-01-2016 02:44:33
คิดถึงบันนี่จังเลย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 21-01-2016 13:51:45
อ๊ากกกกก!! เกือบพลาดเรื่องนี้ ชอบมากกกกก มันฟินมากกก ทั้งยักษ์ ทั้งกระต่าย น่ารักมากกค่ะ ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องนี้ ขอยกเป็นหนึ่งใน Toplist ค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 23-01-2016 17:50:45
  :L2::impress2: :impress2: :impress2:  :L2:
:-[ :o8:  :-[ :-[
:hao7: :pig4: :pig4: :pig4: :bye2:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 26-01-2016 06:56:35
น่ารักอ่ะ ไรแบบเท่มากพ่อคุณ
รักๆ งอนกันบ้าง พูดตรงๆกันไปเลย
ฟินกับความน่ารักสุดๆ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: san ที่ 30-01-2016 06:35:08
 :L2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: SaKiNonZa ที่ 06-02-2016 12:19:45
มาต่อด้วยได้มั้ยอ่า อยากอ่านรุ่นลูก :ling1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 07-02-2016 00:50:31
คิดถึงมากๆ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 07-02-2016 21:48:19
รอดูพี่ปืนเลี้ยงลูกค่าาา :impress2:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 09-02-2016 23:29:28
หวานมาก ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE:Rifle with his naughty bunny [04:01:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: hmmm ที่ 22-02-2016 20:33:34
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 22-02-2016 20:36:05
(http://upic.me/i/g6/cx4ssy2ukae1ndu.jpg)


SPECIAL EPISODE : It’s because of you





   “บันนี่...” ได้ยินเสียงเรียกแว่ว ๆ ข้างหู แต่เพราะง่วงเหลือเกินจึงเลือกที่จะไม่สนใจแล้วนอนต่อ

   “บันนี่”

   “...”

   “Honey”

   ก็ไม่ได้อะไรกับสรรพนามแสนเลี่ยนนั่นหรอกนะ แต่เพราะรำคาญเลยต้องลืมตาขึ้นมามองไอ้ยักษ์หน้าหล่อ หัวทอง ตาฟ้า

   “ไรวะ...” ถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ลืมตามาจะสามนาทีอยู่แล้วคุณชายท่านก็ไม่พูดอะไร เอาแต่ยิ้มแล้วจูบหน้าผากผมอยู่นั่น

   เป็นบ้าหรอ

   “Happy birthday”

   พูดจบก็มอบจูบที่ริมฝีปากบ้านให้หนึ่งที นายรักษ์ธิสุทธ อัครไพศาล ที่สติยังมาไม่ครบก็ได้แต่มองตาแป๋ว

   อ่า...

   วันนี้วันเกิดผมนี่หว่า สาเหตุของการได้หยุดงานวันนี้ไง

   “ของขวัญ” พูดเสียงแหบแห้ง แบมือตรงหน้าไอ้หล่อ ไรเฟิลยกยิ้มมุมปากอันทรงเสน่ห์ ก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงทุ้มเป็นเอกลักษณ์ที่ทำเอาคนฟังอย่างผมแทบละลายเป็นขี้ผึ้งโดนไฟและน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้ง...

   “ไม่มีครับ”

   ซึ้งมากไหมละ...

   ผมหน้ามุ่ย ไรเฟิลหัวเราะ โน้มมาจุ๊บปากผมสามครั้งถ้วน

   “ไปล้างหน้า จะไปใส่บาตรหรือเปล่า?”

   เออว่ะ ลืมไปเลย เด้งตัวขึ้นนั่ง ยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มไอ้คนตัวโตกว่าแล้ววิ่งฉิวเข้าห้องน้ำ ดีนะเตรียมของไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ไม่งั้นล่ะฉิบหายแน่ ๆ

   ใช้เวลาไม่นานเราก็ออกมาที่หน้าปากซอยเพื่อใส่บาตรกัน ระหว่างรอก็ขออัพเดตชีวิตหน่อยแล้วกัน

   ตอนนี้ผมกับไรเฟิลเราซื้อบ้านกันแล้วครับ ฮูเร่! อยู่มาได้ห้าเดือนละ เป็นเงินที่ผมกับไรเฟิลช่วยกันออกคนละครึ่ง ไรเฟิลมันจะโชว์เท่ด้วยการออกคนเดียวนะ แต่ผมไม่ยอม บ้าดิ บ้านไม่ใช่หลังละสามสี่พัน บ้านที่เราซื้อเป็นบ้านสองชั้น ขนาดห้าห้องนอน เจ็ดห้องน้ำ และยังมีพื้นที่บริเวณรอบบ้านค่อนข้างเยอะ ปลูกต้นไม้กันสนุกสนาน และที่ขาดไม่ได้สำหรับอดีตประธานชมรมว่ายน้ำอย่างไรเฟิลนั่นคือก็สระว่ายน้ำ...

   ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงซื้อบ้านหลังใหญ่นัก แพงด้วยไงประเด็น ถอนเงินมาจ่ายค่าบ้านนี่ผมแทบทรุด ขาสั่นพั่บ ๆ ด้วยความสะเทือนใจ เงินเก็บผมด้วยนะนั่น (โดนไรเฟิลมองเหยียดประมาณว่า กูบอกว่าแล้วจะออกคนเดียวมึงก็ไม่เชื่อ...) ส่วนคอนโดที่อยู่ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยก็ยังอยู่ครับ ไรเฟิลไม่ขาย ไม่ให้เช่าด้วย ‘กูหวง จะทำไมวะ’ มันบอกมางี้ ไอ้หวงมันก็ใช่แหละ แต่ไม่ทั้งหมด จากที่ผมไปวอแวมันมา เหตุผลจริง ๆ มันบอกว่าที่นั่นมีความทรงจำของเราอยู่เต็มไปหมดก็เลยอยากเก็บไว้ ผมนี่เกือบจะกรี๊ดด้วยความฟิน แอร๊ยยยยยย เขินครับ 5555555555555555

   #ช่วงควอทซ์อวดผัว
   

   เมื่อใส่บาตรเสร็จแล้วก็เอาของไปเก็บไว้บนรถแล้วจึงเดินไปร้านโจ๊กเพื่อหาอาหารเช้ากิน

   “วันนี้จะพาไปที่ที่หนึ่ง” ไรเฟิลพูดขณะที่กำลังทานโจ๊กกันอยู่

   “ที่ไหน?”

   ไอ้หล่อยิ้มมุมปาก “ไปถึงก็รู้เอง”

   จ้ะ...



   “ไม่บอกจริง ๆ เหรอว่าจะพาไปไหน?” ผมถามไรเฟิลอีกครั้ง หลังจากฝากฝังให้ฟาโรห์ดูแลบันบันและหมูปิ้งให้ดี(พามดแดงมาอยู่ด้วยไม่ได้อ่ะ ที่ไม่พอ ฮือ) เพราะเหมือนไรเฟิลจะพาไปที่ไหนก็ไม่รู้ ด้วยปกติผมจะไม่ค่อยเซ้าซี้ แต่ครั้งนี้มันไม่ไหวจริง ๆ ความรู้สึกข้างในมันค่อนข้างแปลก ใจก็เต้นตึกตัก ไม่รู้จะตื่นเต้นอะไร

   “ไปถึงก็รู้ไง นอนไปเถอะ”

   “อยากรู้ตอนนี้อ่ะ!”

   “นอนไป” ไอ้ยักษ์ยื่นมือมาดันหัวผม

   “นิสัยว่ะ!” เบะปากคว่ำแต่อีกคนไม่สนใจ ไอ้คุณชายผิวปากอารมณ์ดีทั้งที่ปกติไม่ค่อยจะได้เห็น

   เป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ



   ตื่นมาอีกครั้งก็พบว่าทิวทัศน์ข้างทางได้เปลี่ยนไปแล้ว จากตึกรามบ้านช่อง กลายเป็นป่าไม้สีเขียวและทุ่งหญ้ากว้าง ๆ ผมรู้สึกคุ้นกับภาพเหล่านี้มาก ๆ ทว่านึกไม่ออก...

   รับขวดน้ำจากคนที่ขับรถอยู่มาดื่มและพูดขอบคุณเบา ๆ

   “หิวหรือยัง?”

   “นิดหน่อย... ตรงนี้คุ้นจัง” ไรเฟิลไม่ตอบอีกตามเคย แค่ยกยิ้มนิดหน่อย ผมที่เซ็งเพราะไม่ได้คำตอบสักทีก็เบ้ปาก อยากรู้จนไม่อยากรู้ไปละ...


   “เฮ้ย!!!” ร้านที่ไรเฟิลพาแวะกินข้าวคือร้านที่เคยมากันแล้ว ที่ผมจำทิวทัศน์ข้างทางพวกนั้นไม่ได้เพราะเวลามันผ่านมาปีกว่าแล้วไงครับ ผมหันไปมองมัน เจ้าตัวเลิกคิ้วเหมือนไม่รู้เรื่อง ปลดเบลท์แล้วลงจากรถ ผมรีบดึงสติแล้ววิ่งตามไป

   “ไรเฟิล!”

   “อะไร?”

   “น นี่...”

   “อะไร มากินข้าว”

   “มากินข้าวอะไรไกลขนาดนี้เล่า!! จะพาไปบ้านอุ่นรักใช่ไหม!!”

   “อือ” ตอบรับเสียงเรียบ ทำหน้านิ่ง ซึ่งผมดูออกว่ามันเก๊ก!! ถึงปกติจะนิ่งแต่ตอนนี้มันนิ่งจนไม่เป็นธรรมชาติ มึงกำลังแอ๊บ และมันไม่เนียนเว้ย!!!

   “จริงนะ จริง ๆ นะไรฟ์!!”

   “ครับ ๆ” คราวนี้ผมยิ้มกว้าง รัวคำถามใส่ไรเฟิลไม่ยั้งถึงแม้มันจะไม่ตอบ จนมันรำคาญมั้งถึงได้ยื่นมือมาปิดแล้วลากผมเข้าไปในร้านสักที



   “ไรฟ์ แวะซื้อขนมไปฝากเด็ก ๆ ก่อนได้เปล่า?” ผมช้อนตามองคนตัวสูงกว่าด้วยตาที่(คิดว่าน่าจะ)อ้อนสุด ๆ ตอนนี้เราทานอาหารกันเสร็จแล้วครับ และกำลังออกจากร้านเพื่อไปที่บ้านอุ่นรัก

   “อือ” ไรเฟิลตอบรับเสียงเรียบ แวะเข้าไปในเมืองก่อนจะไปบ้านอุ่นรักที่อยู่แถบชานเมือง

   เมื่อถึงที่หมาย ผมก็พุ่งเข้าร้านขายของทันที ร้านนี้น่าจะเป็นร้านขายส่งนะครับ ผมก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ เราสองคนเลือกซื้อทั้งขนมกรุบกรอบ ขนมกินเล่น ขนมปัง นมผง นมกล่อง และอีกหลายอย่างกันเลย เราซื้อกันเยอะมากจนแม่ค้ายิ้มหน้าบาน พอบอกว่าจะเอาไปให้เด็ก ๆ ที่บ้านอุ่นรัก คุณป้าแม่ค้าก็ให้นมมาอีก บอกฝากเอาไปให้เด็ก ๆ ด้วย ใจดีมากเลย!

   และนอกจากขนมแล้วผมก็อ้อนให้ไรเฟิลพาแวะตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารครับ ทั้งของแห้ง และของสดด้วย ของสดน่าจะซื้อเยอะไม่ได้เพราะเดี๋ยวจะเน่าก่อน น่าเสียดายมาก เมื่อซื้ออาหารเสร็จจะกลับไปที่รถก็ดันเดินผ่านร้านขายของใช้นี่สิครับ... ผมยิ้มหวานให้ไรเฟิลที่เริ่มทำหน้าเซ็ง ก็อยากซื้อของใช้ไปให้ด้วยนี่นา...



   เรามาถึงบ้านอุ่นรักหนึ่งชั่วโมงหลังจากซื้อของเสร็จ... ผมยิ้มกว้างทันที หัวใจก็เต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น ผมคิดไปเองได้ใช่ไหมว่าวันนี้คือวันที่ผมรออยู่...

   “สวัสดีครับครูอ้อ” ผมกับไรเฟิลยกมือสวัสดีคุณครูที่รับผิดชอบดูแลบ้านอุ่นรัก

   “สวัสดีค่ะ” เธอทักตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ผมมองเห็นว่ามีเด็ก ๆ หลายคนออกมามุงดูพวกเราด้วยแหละ น่ารักจัง...

   “เราซื้อของมาฝากด้วยครับ แต่ผมเพิ่งรู้ว่าเขาจะพามาที่นี่เลยไม่ได้เตรียมตัวเลย ซื้อแบบกะทันหันน่ะครับ” เขาที่ว่าหัวเราะหึ ไรเฟิลเดินไปเปิดท้ายรถเพื่อที่จะขนของที่ซื้อมาเข้าไปไว้ด้านใน ครูอ้อตาโตเมื่อเห็น และบอกว่าซื้อมาเยอะแต่ก็บอกขอบคุณไม่หยุด ครูอ้อเรียกให้เด็ก ๆ มาช่วยขน และก็มีครูคนอื่น ๆ ออกมาต้อนรับเราด้วย

   พอรวม ๆ แบบนี้ของที่ซื้อมามันก็เยอะนะครับ เหมือนรู้ล่วงหน้า ไรเฟิลเลยเอาฟอร์จูนเนอร์มาใช้ แต่ผมว่ามันวางแผนมาแล้วแน่ ๆ เอาล่ะครับ ถึงของที่ซื้อมาจะดูเยอะขนาดไหน แต่มันคงจะอยู่ได้ไม่กี่เดือนเพราะที่บ้านอุ่นรักมีเด็ก ๆ ค่อนข้างเยอะ ทั้งเด็กเล็ก และเด็กโตเลยล่ะครับ เมื่อตอนที่มาคราวก่อนนู้น(เมื่อราว ๆ หนึ่งปีที่แล้ว)พวกเราไม่ได้ซื้ออะไรมาเลย ก็เลยได้แค่บริจาคเงินไปแทน... (ไรเฟิลไม่บอกก่อนอีกเช่นเคยว่าจะมาบ้านอุ่นรัก)



    “น้องต้นน้ำล่ะครับ?

    “น้องมีคนมารับไปแล้วล่ะค่ะ” ครูอ้อบอกกับผมและยิ้มให้เล็กน้อย ผมยิ้มเจื่อนทันทีที่ได้ยิน น้องต้นน้ำคือเด็กที่ผมเจอเมื่อมาคราวก่อนและรู้สึกถูกชะตาด้วย แต่ว่าเมื่อสักครู่ที่แจกขนมให้เด็ก ๆ กลับไม่เจอน้องมาเข้าแถวรับขนมเลย

    “ไม่เป็นไรนะ”

    “อื้อ” พยักหน้าให้ไรเฟิล ไอ้ยักษ์ส่งมือมาขยี้ผม คนตัวโตบอกว่าเล่นไปก่อนและเดินออกไปจากห้อง ไม่บอกด้วยว่าจะไปไหน

   ผมยิ้ม เล่นกับเด็ก ๆ อย่างสนุก เห็นเด็กยิ้มมีความสุขแล้วก็พลอยมีความสุขไปด้วย ถึงมันจะเป็นความสุขที่น่าเศร้าก็เถอะ น่าสงสารเด็ก ๆ ถ้าเขารู้ว่าโดนทิ้งจะรู้สึกยังไงนะ... ต้องรู้สึกแย่มากแน่ ๆ เพราะผมก็รู้สึกแย่มากเมื่อรู้ว่าแม่ไม่ต้องการ... แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอะไรแล้วล่ะครับ

   เอ๋...

   ระหว่างที่คิดไปเรื่อยเปื่อยสายตาผมก็มองไปเห็นเด็กสองที่นั่งกันอยู่มุมห้อง พวกเขาต่างจากเด็กคนอื่น ๆ เพราะเรือนผมสีทองของพวกเขา... รู้ตัวอีกที่ผมก็เดินเข้าไปหาพวกเขาแล้ว ทำไมตอนที่แจกขนมให้เด็ก ๆ ผมไม่เห็นนะ

    “Hello babies” ผมทักทายพวกเขาอย่างเป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้ม เด็กน้อยตัวเล็กขยับเข้าหาและกอดแขนคนที่ตัวโตกว่า ผมคาดว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน

    “Hi”

   ผมยิ้มเมื่อพี่ชายยอมรับคำทักทายของผม “What’s your name?”

    “My name is Vincent. And Miguel, he’s my brother.”

    “Wow! My name is Quartz. Nice to meet you Vincent and Miguel.”

    “Vem är det?” ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงของคนเป็นน้อง อืม… นั่นมันภาษาสวีดิชนี่ ผมก็พอพูดได้นะ แค่นิดหน่อยอ่ะ

    “He asked who you are.” วินเซนต์บอกกับผม เขาลูบผมน้องชายและยิ้ม เขาดูเข็มแข็งและอบอุ่นไปในขณะเดียวกัน ผมไม่ได้ตอบว่าผมเป็นใคร เพียงส่งยิ้มให้เด็กทั้งสอง

    “Vill du har godis?” [ อยากได้ขนมไหมตัวเล็ก? ]

    ผมพูดพร้อมหยิบขนมออกมาส่ายไปมาตรงหน้าวินเซนต์และมิเกล วินเซนต์ทำหน้างง ในขณะที่มิเกลตาวาวและในดวงตาใสแจ๋วก็มีความลังเลอยู่ ผมยิ้ม ฉีกซองขนมและส่งให้เจ้าตัวเล็กทั้งสอง ได้ยินเสียงเล็กๆบอกว่า ‘Tack’ ซึ่งแปลว่าขอบคุณในภาษาไทย

    “Talar du svenska?” [ คุณพูดภาษาสวีดิชด้วยหรอ? ]

    “Jag kan bara lite.” [แค่นิดหน่อยเท่านั้นเองน่ะ]

    “Vill du har mer?” มิเกลพยักหน้าเมื่อผมถามว่าอยากได้ขนมอีกหรือเปล่า เด็กน้อยเคี้ยวกร้วม ๆ แก้มขาวบวมตุ่ยดูน่ารัก น่าเอ็นดู

   ผมว่า… ผมตกหลุมรักพวกเขาแล้วล่ะครับ…




    “ไรฟ์!”

    “ว่า?”

    “หายไปไหนมา?”

    “คุยกับครู อืม… ยากแฮะ”

    “เอ๋?”

    “จะไม่เสียใจใช่ไหม ถ้า…”

    “เสียใจ!!” ผมสวนขึ้นแม้ไรเฟิลจะยังพูดไม่จบ คนตัวสูงพรูลมหายใจและยกมือลูบหน้าตัวเองด้วยท่าทางเป็นกังวล และผมเริ่มน้ำตาคลอ…

   ไม่เอานะ ผมไม่อยากผิดหวัง…


   ไรเฟิลโอบไหล่ผมและบีบเบาๆ เพราะผมซบหน้ากับอกกว้างอยู่ด้วย ทำให้ไม่เห็นว่าไอ้หล่อมันยิ้มพอใจขนาดไหนที่แกล้งกันได้… จนกระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะปีศาจจากมันนั่นแหละ

    “ไอ้ชั่วเอ๊ย!!”

    “ฮ่า ๆ หลอกง่ายฉิบ” ผมทุบไหล่มันไปเต็มแรง ไรเฟิลยังคงยิ้มพอใจ มือหนาส่งมาคว้ามือผมไปจับและพาเดินเข้าไปในห้องที่ผมเพิ่งออกมา

    “Hej” คนตัวสูงส่งเสียงทักเด็กทักทั้งสองแล้วยื่นมือออกไปด้วย ทีแรกเด็กๆก็งง สักพักก็หันมามองหน้าผมแล้วก็ส่งมือไปจับมือไรเฟิลเป็นการทักทายเช่นกัน

    “ไรเฟิล… อย่างที่คิดใช่ไหม?”

    “อือฮึ เขาจะไปอยู่กับเรา” ทำเสียงเรียบนิ่งทว่าแฝงไปด้วยความอบอุ่น ตอนนั้นเองที่น้ำตาผมเอ่อล้นออกมา เป็นพวกเขาจริง ๆ หรอ?

    “ครูอ้อบอกว่าพ่อแม่พวกเขาประสบอุบัติเหตุแล้วเสียชีวิต ติดต่อไปที่บ้านเกิดของพวกเขาก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร ไม่มีใครมาแจ้งว่าเป็นญาติพวกเขา และพวกเขาอยู่ที่นี่มาน่าจะสองหรือสามเดือนแล้วล่ะ”

    “เลือกว่าเป็นพวกเขาหรอ?”

    “เปล่า… เราเลือกไม่ได้หรอก พวกเขาไม่ใช่สิ่งของ” ไรเฟิลพูด ขณะเดียวกันก็ส่งนิ้วไปเขี่ยแก้มแดง ๆ ของมิเกล “แค่พวกเขาตรงตามที่ระบุไป ก็เลย…” คนตัวสูงเดาะลิ้นและไหวไหล่ ซึ่งผมก็เข้าใจว่ามันจะสื่อถึงอะไร

    “ดีจัง…” ผมพูด และยื่นมือไปเล่นกับเด็กๆบ้าง มิเกลลุกขึ้นและเดินเตาะแตะเข้ามาหาและทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด นั่นก็คือการที่มือเล็กๆยื่นมาเช็ดน้ำตาให้ผม มันน่าจะเหือดหายไปแต่มันกลับไหลออกมามากกว่าเดิมซะอีก…

   “Varför gråter du?” [ร้องไห้ทำไมเหรอ?]

   “Därför jag är glad.” [เพราะว่ามีความสุขก็เลยร้องไห้ไง]

   เด็กน้อยทำหน้างง “Om du är glad, behöver du inte gråter.” [ถ้ามีความสุขก็ต้องไม่ร้องไห้สิ]

   ผมพยักหน้ารับคำพูดของหนูน้อยมิเกล ใช้หลังมือปาดน้ำตาออกแล้วยิ้มแฉ่งไปให้เด็กน้อย ไรเฟิลผลักหัวผมเบา ๆ ไปที่หนึ่ง แต่ก็ไม่พูดอะไร เราสองคนเล่นกับเด็ก ๆ อยู่นานมาก จนตอนนี้เริ่มจะสนิทกันขึ้นมาแล้ว และที่สำคัญคือ มิเกลปีนไปนั่งตักไรเฟิลแล้วครับ!! ทีแรกไอ้ยักษ์ก็ทำอะไรไม่ถูกนะ หน้าเหวอ ๆ ท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ตลกมาก แต่มันก็น่ารักมาก ผมเอากล้องออกมาถ่ายรูปและส่งเข้าไปในแชทกรุ๊ป แล้ว...

   ทำไมพวกมันอ่านแล้วไม่ตอบวะ!!!!



   “เหมือนพ่อลูกกันจริง ๆ เลยนะคะ...” ผมเงยหน้ามองคนพูด เป็นครูอ้อนั่นเอง ผมลุกขึ้นนั่งจากการนอนระบายสีกับวินเซนต์ มองไปทางไรเฟิล ไอ้ยักษ์เอนหลังพิงกับกำแพงห้อง บนตักมีมิเกลนอนหนุนอยู่ และมิเกลก็ใช้มือน้อย ๆ กำนิ้วมือของไรเฟิลเอาไว้ เออ... ก็เหมือนจริง ๆ นั่นแหละ โดนเฉพาะผมสีทอง กับตาสีฟ้าที่เหมือนกันนั่นอีก

   “นั่นสิครับ”

   “เด็ก ๆ เข้ากับพวกคุณได้แบบนี้ก็สบายใจนะคะ”

   “ครูอ้อไม่ต้องห่วงนะครับ เราจะดูแลอย่างดีเลย”

   “เพราะทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ทางบ้านอุ่นรักเลยต้องให้พวกคุณรับไปทั้งสองคน ไม่มีปัญหาใช่ไหมคะ?”

   “ไม่มีครับ!” ผมตอบเสียงแน่วแน่ ครูอ้อยิ้มให้อีกครั้ง เธอเข้าไปลูบหัวของเด็ก ๆ ทั้งสอง วินเซนต์ก็ส่งยิ้มให้กับครูอ้อ ส่วนมิเกลก็หลับไม่รู้เรื่องอะไร เธอให้พวกเราอยู่กับเด็ก ๆ เพราะขอตัวไปดูเด็กคนอื่น และถ้าจะกลับก็ขอให้บอกเธอด้วย



   เราอยู่ที่บ้านอุ่นรักจนถึงเย็น กินข้าวเย็นกับเด็ก ๆ และให้วินเซนต์กับมิเกลได้กินข้าวกับเพื่อน ๆ เป็นครั้งสุดท้ายด้วย ผมเดินเข้ามาบอกกับครูอ้อและคนดูแลคนอื่น ๆ ว่าจะกลับแล้ว ปล่อยให้ไรเฟิลคุยกับเด็ก ๆ ทั้งสองเรื่องที่จะพาพวกเขาไปอยู่ด้วยกัน ผมกลัวว่าถ้าเด็ก ๆ ไม่อยากไปกับเราแล้วผมจะร้องไห้อ่ะครับ มันก็แอบกังวลไม่ได้จริง ๆ (ผมไปเค้นถามไรเฟิลเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด ก็ได้ความว่าเขาจัดการยื่นเรื่องส่งคำขอไปเป็นปีแล้ว และด้วยขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อนทำให้ต้องใช้เวลานาน แล้วถึงพวกเขาจะไปอยู่กับเรา แต่ก็เป็นแค่การทดลองเลี้ยงดูเท่านั้น ต้องผ่านการประเมินก่อนถึงจะสามารถไปจดทะเบียนรับพวกเขาเป็นบุตรบุญธรรมได้จริง ๆ (พูดมาถึงตรงนี้แล้วก็เศร้า))

   “วินเซนต์กับมิเกลเป็นเด็กน่ารัก ฝากคุณควอทซ์และคุณไรเฟิลดูแลเด็ก ๆ ด้วยนะคะ”

   “ไม่ต้องห่วงครับ เราจะดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด” พูดไปตามที่ใจคิด ไม่ได้พูดเพื่อความสบายใจของใครทั้งนั้น ครูอ้อน้ำตาซึมนิด ๆ สักพักไรเฟิลก็จูงมือเด็กทั้งสองคนออกมา

   “Thank you for everything ขอบคุณครับ” วินเซนต์บอกและยกมือไหว้ มิเกลก็ทำและพูดตามพี่ชาย สำเนียงภาษาไทยแปร่ง ๆ ไม่ชัดของพวกเขาทำให้เรายิ้มเอ็นดู คุณครูย่อตัวลงไปนั่งให้สูงระดับเดียวกับเด็กทั้งสองและพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่าเป็นเด็กดีนะ มิเกลและวินเซนต์โผเข้ากอดครูอ้อ และผละออกไปกอดครูพี่เลี้ยงคนอื่น ๆ ด้วย

   ผมมองภาพเหล่านั้นด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ไรเฟิลเข้ามายืนข้าง ๆ มือหนาสอดประสานกับมือของผม เรายิ้มออกมาบาง ๆ และไม่ได้พูดอะไรกัน...



(มีต่อค่ะ)
หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 22-02-2016 20:37:39


   ใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนานระดับหนึ่ง กว่าจะถึงบ้าน หันไปมองเด็ก ๆ ที่เบาะหลัง หลับกันหมดแล้ว... ในขณะที่กำลังรอให้ประตูรั้วเปิดอยู่นั้น ผมก็คว้าโทรศัพท์มือถือออกมา เข้าไปที่กล้องถ่ายรูป และบันทึกภาพเด็ก ๆ เอาไว้

   “เห่อ”

   “อย่าให้รู้ว่ามึงไม่เห่อ” ไรเฟิลเดาะลิ้นและมองผมด้วยหางตา ผมจึงทุบไหล่หนาไปเต็ม ๆ ด้วยความหมั่นไส้...

   “เอาไงกับเด็ก ๆ อ่ะ?”

   “อุ้ม” โอเค ได้ ผมอุ้มมิเกล และให้ไรเฟิลอุ้มวินเซนต์ อ่า... เพราะมิเกลตัวเล็กกว่าไง แฮะ ๆ



   ปุง! ปัง! ปุง! ปัง!

   “Happy birhtday & Welcome Home!!!”


   เอ๋อแดก...

   เมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้าน ไฟที่ปิดมืดก็สว่างขึ้นพร้อมกับเสียงพลุกระดาษและเสียงของหลาย ๆ คนที่ตะโกนมา ด้วยความที่เสียงดังทำให้เด็กทั้งสองเริ่มจะงัวเงียตื่นขึ้นมา ผมมองรอบบ้านด้วยความอึ้ง ไนต์ กาย ฟอร์ส บะหมี่ น้องตัวเล็ก ฟาโรห์ สฟิงซ์ กวิน น้องกานต์(ดไวท์) โซ่และปูน กำลังยืนยิ้มและกล่าวต้อนรับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น และในมือก็มีอาวุธกันครบ ทั้งพลุ สเปรย์สายรุ้ง สเปรย์หิมะ บนเพดานมีลูกโป่งหลายหลากสีลอยอยู่เต็มไปหมด รวมทั้งที่พื้น ด้านหลังที่ผนังห้องมีป้ายตัวอักษรเขียนว่า HAPPY BIRHTDAY 25TH และป้าย WELCOME VINCENT & MIGUEL TO HOME

   What!! แอบไปเตรียมอะไรกันมาตั้งแต่ตอนไหน แล้วไอ้พวกนี้รู้เรื่องกันทุกคนยกเว้นผมงั้นเหรอ!!

   “โอ๊ยยยยยยยยยย น่ารักกกกกกกกกกก!” น้องตัวเล็กกับบะหมี่พุ่งเข้ามาหาผม และพากันจิ้มแก้มของมิเกลอย่างสนุก ก่อนจะพากันไปที่วินเซนต์บ้าง เด็กยังมึน ๆ ยืนขยี้ตาอยู่ก็ถูกก่อกวนซะ...

   “อายุเท่าไหร่กันบ้างวะ?” กายถาม

   “วินเซนต์ 6 ขวบ มิเกล 3”

   “เท่าหนู ๆ” ดไวท์พูดพร้อมกับชูมือและกระโดดโหยงเหยง

   “เออ เพื่อนมึงน่ะ ไปเล่นไป” พ่อก็ไล่ลูกจังเลย เด็กน้อยหันไปจิกตาใส่กวินแล้วก็เดินเข้าไปหาวินเซนต์กับมิเกล คุยอะไรกันก็ไม่รู้หงุงหงิง ๆ

   และไม่นานหลังจากนั้น...


   “งะ แง แงงงงงงง”

   ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย!!! ใครทำลูกกูร้องไห้!!!! ผมรีบวิ่งเข้าไปหามิเกลที่กำลังร้องไห้แง ๆ โดยมีฟอร์สยืนหน้าเหวออยู่ใกล้  ๆ

   “กู...ไม่...ได้...ทำ...”

   ยังไม่ถามมึงร้อนตัวทำไม!!!

   “มึงทำอะไรลูกกู!”

   “เอ่อ... เปล่า”

   “เปล่าแล้วทำไมน้องร้องไห้ ฟอร์สสสสสสส!”

   “อาฟอร์สทำอย่างงี้ ๆ” ดไวท์รีบบอกพร้อมกับยกมือดึงแก้มตัวเองจนยืด ผมตาโตหันไปมองไอ้ฟอร์ส มันยิ้มแห้งแล้วบอกว่าแก้มมิเกลน่าบีบ

   ไอ้ห่า!!!!!!

   “กู... ไม่ได้ตั้งใจ... ไม่คิดด้วยว่าจะร้องไห้” ผมพรูลมหายใจแรง ๆ กับคำพูดไอ้ฟอร์ส ขณะเดียวกันก็ลูบหลังเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อยไปด้วย ฟ้องไรเฟิลแม่ง!

    “พี่ควอทซ์มาเป่าเค้กได้ล่ะครับ อยากกิน” เสียงน้องตัวเล็กตะโกนเรียก ผมจึงอุ้มมิกเกลขึ้นและพาเดินไปหาออกัส อยู่ไม่ไกลนั้นเห็นวินเซนต์กำลังนั่งเล่นเกมอยู่กับโซ่และกาย

    “ไรเฟิลล่ะ?” ไนต์ถาม

    “ขึ้นไปอาบน้ำ” ผมบอกแล้วพามิเกลไปหาวินเซนต์ ไม่นานดไวท์ก็วิ่งดุ๊ก ๆ เข้ามา เราปล่อยให้เด็กทั้งสามอยู่ด้วยกัน จะได้สนิทและเป็นเพื่อนกันได้

    “มึงจะซึ้งก็งานนี้” ทำหน้างงใส่กวิน ซึ้งอะไร หมายถึงแผนเซอร์ไพรส์หรอ ยังมีอีกหรือยังไง? (ผ่านมาสักพักผมถึงเข้าใจว่าจะซึ้งของกวินนั้นคืออะไร... การเลี้ยงลูกไงครับ เหนื่อยเหี้ย ๆ แต่ก็มีความสุขมาก ๆ)


   Happy birthday to you
   Happy birthday to you
   Happy birthday dear Quartz
   Happy birthday to you~~~~~

   เมื่อเพลงจบลง ผมก็หลับตาอธิษฐาน ก่อนจะลืมตาขึ้นมาและเป่าลมให้เปลวเทียนดับไป…


    “It’s good?”

    “Yes!” เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงักและยิ้มแฉ่งทั้งที่ครีมเค้กเลอะปาก เปื้อนแก้มไปหมด

    “สมใจแล้วสิมึง”

    “สมใจอะไร?” เลิกคิ้วถามบะหมี่ เจ้าแม่จิ๊ปากคล้ายขัดใจ และปรายตามองเหมือนผมโง่นักหนา

    “มีทั้งลูกทั้งผัวแล้วหนิ ชีวิตดีไปไหนหล่อน!”

   ผมไม่รู้จะตอบอะไรจึงได้แต่ยิ้มกว้าง ๆ แอบมองไปที่ไรเฟิลที่กำลังคุยและดื่มอยู่กับเพื่อน อืม… เมื่อก่อนว่ามีความสุขมากแล้ว ตอนนี้ผมมีความสุขมากกว่าเดิมอีกครับ

    “พี่ไรเฟิลต้องรักพี่ควอทซ์มากแน่ ถึงได้ทำให้ได้ทุกอย่างแบบนี้ สาธุ! ขอให้แฟนฟิงซ์เป็นผู้ที่เหมือนพี่เฟิล” น้องฟิงซ์พนมมือขณะพูดแล้วก็เป่าลมอะไรไม่รู้จากนั้นก็เอามือไปลูบผม ลูบหัว

    “เพ้อเจ้อ”

    “ไปไกล ๆ เลยนะฟาโรห์!!” น้องฟิงซ์ว่าเสียงดังหลังจากที่โดนพี่ชายที่ผ่านมาได้ยินพอดีผลักหัวจนหน้าแทบจะทิ่มกับขนมเค้ก ใช้เวลาไม่นานก็กลับมาสดใสเหมือนเดิม น้องฟิงซ์เล่าว่า พี่เฟกับคุณพ่อคุณแม่ก็อยากมาเจอเด็ก ๆ แต่ว่าดันติดงานด่วนซะงั้น ไว้วันหลังจะพาไปเจอแล้วกัน ไปเจอป๊ากับย่าด้วย อาณิชด้วย

    “I wanna sleep.” มิเกลดึงเสื้อผมเบา ๆ และพูด ดวงตากลมโตปรือฉ่ำ นี่ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว คงต้องพาไปนอน แต่ก่อนจะนอนก็ต้องอาบน้ำ…

    “ไรฟ์ มิเกลง่วงแล้วอ่ะ”

    “พาไปนอนดิ วินเซนต์ล่ะ”

    “เล่นกับไอ้ก้อนอยู่นู่น” คนพี่ก็ตาปรือพอกันแต่ยังห่วงเล่น ไรเฟิลเข้าไปคุย ไม่นานก็จูงมือวินเซนต์มา เราสี่คนพากันขึ้นมาที่ชั้นสองของบ้าน ผมกำลังจะเข้าไปที่ห้องนอนต้องชะงักเมื่อไรเฟิลเรียกให้ไปอีกห้อง

    “ทำไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่!?” ไรเฟิลยกยิ้มมุมปาก คงแอบทำตอนผมไม่อยู่แน่ ๆ

   ห้องนี้เป็นห้องที่ถูกทาด้วยโทนสีสว่างสดใสและมีเตียงสำหรับเด็กอยู่สองเตียง มีของตกแต่งอย่างอื่นอยู่พอสมควรเลย ไม่มีกลิ่นฉุนของสีมากวนใจสักนิดก็แสดงว่าทำไว้นานแล้ว แล้วทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องเลยวะ…

   

    “แต่เรายังไม่ซื้อของให้เด็ก ๆ เลยนะ แล้วเสื้อผ้า” ผมพูดขณะที่นั่งเฝ้าเด็ก ๆ อาบน้ำ เขาบอกเขาโตแล้ว อาบเองได้ อือฮึ เด็กฝรั่งก็งี้ ทำอะไรเป็นเองตั้งแต่เด็ก

    “ในตู้” ไรเฟิลพูดสั้น ๆ ผมตาโตแล้วบอกว่าจะเข้าไปดูให้ไรเฟิลอยู่กับลูกไปก่อน


   เชรดดดดดดดดด!!! เปิดตู้มาถึงกับผงะ แม่งมีครบเลยนี่หว่า ทั้งชุดไปรเวท ชุดนอน ชุดเที่ยว หมวก กระเป๋า รองเท้า แล้วไซส์ก็น่าจะพอดีด้วย พอเสื้อผ้าที่ซื้อไว้มีสองไซส์เลย…

    “ไรฟ์! ไปแอบซื้อไว้ตอนไหน แล้วรู้ไซส์ได้ยังไง!”

    “พวกไอ้ไนต์ซื้อมาวันนี้ ซักแล้วไม่ต้องห่วง” โหยยยย งี้ก็แสดงว่าพวกนั้นมาตั้งแต่เช้าแล้วก็จัดการซักชุดเด็ก ๆ และจัดบ้านเพื่อรอพวกเราหรอ อ๋อ! ที่ไรเฟิลคุยโทรศัพท์บ่อย ๆ ก็คงโทรคุยกับพวกนี้สินะ! เจ้าแผนการจริง ๆ

   ระหว่างที่รอเด็ก ๆ อาบน้ำ ผมกับไรเฟิลก็คุยกับเรื่องของเด็กทั้งสองไปด้วย อย่างการใช้ชีวิตประจำวันงี้ เรื่องโรงเรียนไรงี้ คุณชายเขาก็บอกมาว่าจะให้วินเซนต์เข้าเรียนที่เดียวกับดไวท์ (ดไวท์เรียนโรงเรียนนานาชาติ) ส่วนมิเกลยังไม่ถึงเกณฑ์ก็คงต้องรอกันต่อไป... พอผมบอกว่านึกว่าจะได้เลี้ยงเด็กทารก ไรเฟิลก็มองเหยียดแล้วบอก ‘จะเอาเวลาที่ไหนไปดูแล’ เท่านั้นแหละ ไอ้ควอทซ์หน้าแห้งเลย... ก็จริงของมัน


    “Kan du läsa en saga för mig?” [ อ่านนิทานให้ผมฟังสักเรื่องหน่อยได้ไหมครับ? ] มิเกลพูดเสียงอ่อยพร้อมกับส่งสายตาออดอ้อน มือเล็กก็กำนิ้วของผมอยู่

   จบสิ้นแล้วชีวิตไอ้ควอทซ์ ต้องตกเป็นทาสลูกแน่ ๆ TwT

   ผมเดินไปที่ชั้นหนังสือ และเลือกนิทานออกมาหนึ่งเล่ม (ไม่รู้ว่ามันซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่) กลับไปนั่งบนเตียงเดียวกับมิเกล (ไรเฟิลนั่งอยู่บนเตียงกับวินเซนต์และกำลังเล่นรูบิคกัน) เด็กน้อยหัวเราะคิกคักเมื่อผมดัดเสียงไปตามบทของตัวละครในหนังสือนิทาน ทว่าเล่าไปได้ครึ่งเล่มมิเกลก็อ้าปากหาววอดพร้อมกับดวงตากลมโตที่ค่อย ๆ ปิดลง ผมปิดหนังสือ ขยับตัวลงจากเตียงและย่อตัวลงนั่งที่ข้างเตียง กระซิบบอก goodnight เบา ๆ และแนบริมฝีปากที่หน้าผากเล็ก กระชับผ้าห่มขึ้นไปให้ถึงอก แล้วถึงเดินเอาหนังสือไปเก็บเข้าชั้นเหมือนเดิม

   “หลับยัง?” ไรเฟิลพยักหน้า ผมรับรูบิคจากคนตัวโตไปเก็บ หอมหน้าผากวินเซนต์ไปทีหนึ่งแล้วก็ปิดไฟ ให้เด็ก ๆ ได้พักผ่อน




   “เมื่อไหร่พวกมึงจะกลับบ้านกันสักที?” ไรเฟิลกอดอกมองมนุษย์เพื่อนทั้งหลายที่กำลังปาร์ตี้กันอย่างเมามันโดยปราศจากเจ้าของบ้าน...

   “เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นอ่ะ”

   กวนตีนทั้งหมด...

   “ไหนของขวัญกูอ่ะ?” เมื่อบอกให้พวกมันกลับไม่ได้ก็ทวงของขวัญซะเลย หึหึ

   “นี่แหละของขวัญ” โซ่คือตัวแทน มันชี้นิ้วไปรอบ ๆ บ้าน ผมเบ้ปากทันที และแม่งไม่ได้หลอกด้วยครับ เพราะพวกมันไม่มีของขวัญมาให้ผมเลยสักคน! ช็อกมาก! แต่ก็นะ... ใจจริงก็ไม่ต้องการอะไรหรอก เพราะแค่ของขวัญจากไรเฟิลก็ทำให้ผมไม่อยากได้ของขวัญจากใครเลย...

   ทำไมถึงทำเพื่อผมได้มากขนาดนี้ก็ไม่รู้


   งานเลี้ยงก็ย่อมมีวันเลิกรา เพื่อนกลับไปหมดแล้วก็เหลือซากความเสียหายไว้ให้กูเก็บ ดีจริง ๆ และกว่าจะจัดการบ้านให้เรียบร้อยเวลาก็ล่วงเลยไปเช้าวันใหม่เสียแล้ว


   แสงไฟสีส้มสลัวจากโคมไฟที่หัวเตียงเป็นสิ่งเดียวที่ส่องสว่างในตอนนี้ ผมยืนเข่าอยู่บนเตียงนุ่มก่อนจะขยับเข้าไปคร่อมตัวไรเฟิลที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ ใบหน้าหวานโน้มลงต่ำ เอียงศีรษะเข้าใกล้จนริมฝีปากแทบจะชิดกับใบหูของอีกคนและกระซิบเบา ๆ

   “ขอบคุณนะ”

   “เรื่อง?”

   “ทุกอย่างเลย”

   “หึ ไม่เป็นไร”

   “ทั้งที่บอกว่าอยากอยู่ด้วยกันสองคนก่อน แต่ก็ยังรับพวกเขามาอยู่ด้วย”

   “เพราะไม่รู้ของขวัญเป็นอะไรดีต่างหาก คิดไม่ออกละ”

   “เป็นของขวัญที่ดีที่สุดเลย วันนี้ผมมีความสุขมาก ๆ” พูดจบก็งับปลายจมูกโด่งเบา ๆ ไรเฟิลยกมุมปากขึ้น ฝ่ามือหนาที่หยาบกร้านเล็กน้อยลูบไล้ตามเรียวขาของผม

   “คุณมีความสุขผมก็ดีใจ” ผมยิ้มกับคำพูดนั้น ก้มลงไปจูบริมฝีปากคนตัวโตกว่าอย่างอดใจไม่ไหว

   “เหนื่อยไหม?”

   “เหนื่อย เกือบจะเทไปแล้ว หลายขั้นตอนฉิบ”

   “แล้วทำไมถึงไม่เท?”

   “เพราะคุณ” ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยิ้มกว้าง ๆ หัวใจของผมพองโตจนคับอก เราจ้องตากันผ่านความสลัวของยามค่ำคืน มือเล็กโอบกรอบหน้าสมบูรณ์แบบเอาไว้แล้วประกบจูบไปอีกครั้ง

   “เพราะอยากให้คุณยิ้ม”

   “...”

   “เพราอยากเห็นคุณมีความสุข”

   “...”

   “เพราะผมรักคุณ” คราวนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ผมไม่รู้จะทำอะไรนอกจากยิ้มโง่ ๆ และกดจูบที่ริมฝีปากบางของอีกคนแช่อยู่เนินนาน


   “คุณมีความสุขหรือเปล่า?”

    “แน่นอนอยู่แล้ว เพราะการที่เห็นคุณมีความสุข นั่นคือความสุขของผม”

   ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้กำลังจะฆ่าผม ปกติไรเฟิลจะไม่พูดอะไรแบบนี้หรอก แต่ถ้าพูดนะ... ก็อย่างที่เห็น...

    “บางที... เราอาจจะมีความสุขมากขึ้นเพราะพวกเขาอย่างที่คุณว่าก็ได้”

    “คุณบอกว่าอยากใช้เวลากับผมก่อน”

    “มีพวกเขาเราก็ใช้เวลาด้วยกันได้... ที่เคยพูดไปมันก็แค่ข้ออ้างโง่ ๆ ที่เอามาใช้เพราะกลัวว่าคุณจะสนใจคนอื่นมากกว่าผมต่างหาก”

    “น่ารัก...”

    “อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น ไม่งั้นคืนนี้คุณไม่ได้นอนแน่” ผมยิ้มซุกซน ไล้ปลายนิ้วไปตามกรอบหน้าของไรเฟิล ลงไปเรื่อย ๆ ที่สันกรามคมเฉียบ ลำคอ แผงอกแกร่งเปลือยเปล่าเพราะอีกคนไม่ใส่นอน

    “อย่ายั่วบันนี่”

    “คิก... อ๊า!” ไรเฟิลกัดฟันราวกับข่มอารมณ์ ทว่ามือหนากลับบีบสะโพกผมไปเสียเต็มแรง

    “คุณจะรักพวกเขาไหม?”

    “แน่นอน” เสียงเรียบนิ่งแต่จริงจัง ทั้งแววตาที่หนักแน่น “ตอนนี้พวกเขาคือลูกของเราแล้ว และเรากลายเป็นครอบครัวแล้ว แม้มันจะยังไม่สมบูรณ์ก็เถอะ” คำพูดที่ออกมาจากปากผู้ชายที่คนอื่นบอกว่าเย็นชานักหนาทำให้ผมอดใจไม่ไว้อีกครั้งจนต้องก้มลงไปจูบเขา

   ผมกำลังจะตายจริง ๆ แล้ว!

    “ไม่สงสารหัวใจกันเลย...”

    “นั่นเป็นเรื่องที่ดีที่คุณยังใจเต้นเพราะผม” จบประโยคด้วยการยิ้มหล่อ

    “แล้วคุณล่ะ? ยังใจเต้นเพราะผมอยู่หรือเปล่า?”

    “Always”

    “เด็กดี…” ทำเป็นพูดจะกวนประสาททั้งที่อีกฝ่ายก็อายุมากกว่า นั้นมันก็เพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินจนทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าผมร้อนผ่าวไปหมด หัวใจก็สั่นไหวรุนแรงอย่างควบคุมไม่ได้ ไรเฟิลกำลังจะฆ่าผมให้ตายเพราะสายตาแสนรักและน้ำเสียงทุ้มนุ่มของเขา

    “มีรางวัลให้เด็กดีไหมครับ?”

    “เด็กดีอยากได้อะไรล่ะครับ?”

    “ผู้ใหญ่อย่างคุณน่าจะรู้ว่าผมต้องการอะไร…”

   อ่า… แบบนี้มัน… ทำไมในหัวผมถึงได้แต่คิดไปถึงเรื่องลามกนะ แต่ว่า… การที่ผมคร่อมอีกคนอยู่นี้มันไม่ลามกตรงไหนกัน…

   ไรเฟิลยิ้มมุมปากพลางขยับตัวขึ้นนสูงอีกนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับนั่งพิงกับหัวเตียง มือหนาข้างหนึ่งลูบขาผมขึ้นสูงจนกระทั่งแทรกเข้าไปใต้ชุดคลุมอาบน้ำที่ผมสวมอยู่ และอีกข้างกำลังเกลี่ยแก้มและริมฝีปากของผมหลังจากที่ปัดปอยผมไปทัดหูให้  ผมเท้าแขนทั้งสองข้างยันพื้นเตียงเอาไว้ นั้นทำให้ใบหน้าของเราห่างกันแค่คืน เรียวลิ้นเล็กแลบออกก่อนจะตวัดเลียปลายนิ้วใหญ่ที่ยังวนเวียนกับริมฝีปากสีสด ขณะที่ตาก็ไม่หลบสายตาคมที่จ้องกลับมา

    “อื้อ…” มือหนาคว้าท้ายทอยผมให้เข้าใกล้แล้วบดริมฝีปากมอบจูบอย่างดุดัน ลิ้นชื้นชำแรกเข้ามาในโพรงปาก ผมครางอืออึงในลำคอขณะที่ลิ้นของเรายังเกี่ยวกระหวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ร่างเล็กทรุดลงทับคนตัวโต ไรเฟิลพลิกผมให้อยู่ด้านล่างขณะที่ยังกวาดลิ้นในโพรงผมอย่างกระหาย

   มือเล็กลูบไปทั่วแผงอกแข็งแรงและเลื่อนต่ำลงไปจนถึงหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อเป็นลอนสวยก่อนจะหยุดมือไว้ที่ขอบกางเกง แม้จะยังไม่ได้สัมผัสกับส่วนนั้นโดยตรงผมก็รู้สึกถึงความร้อนที่กระจายออกมา ผมดึงเชือกของเสื้อคลุมให้คลายและแหวกสาบเสื้อออกจากกัน ไรเฟิลเลียริมฝีปากหลังจากผละจูบออก ใบหน้าหล่อคมคายซุกที่ซอกคอขาวและขบเม้มหนักเบาสลับกัน

    “อือ… อย่าทำรอยนะ”

   เสียงร้องห้ามเบาหวิวดูจะไม่มีผลต่ออีกคนหนักเมื่อริมฝีปากร้ายทำการดูดเม้มแรงขึ้นเรื่อย ๆ มือหนาลูบไล้ไปทั่วผิวขาว ผมแอ่นตัวขึ้น บิดเร่าเมื่อหน้าอกถูกขยี้และโดนขบเม้ม

    “หะ.. อา..”

    “ระ ไรเฟิล… ไม่ อ๊ะ!” ไรเฟิลยิ้มร้าย มือหนาชันขาผมให้แยกออกก่อนที่เข้าจะแทรกเข้าตรงกลาง ผมพยายามดันศีรษะคนตัวสูงให้ออกห่างจากส่วนนั้นของตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่ออีกคนครอบริมฝีปากไปปรนเปรอส่วนนั้นให้ และที่ทำได้ตอนนี้คือร้องครางเท่านั้น… ผมกัดริมฝีปากแน่นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้มีแค่เราสองคนอีกต่อไป มือเล็กจิกผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความซ่าน

    “ร้องดัง ๆ สิ ผมอยากได้ยินเสียงคุณ” ไรเฟิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เขาใช้มือรูดรั้งแกนกายของผมแทน แต่ก็ยังจะสามารถใช้ปากของเขาแกล้งผมด้วยการพรมจูบไปทั่วใบหน้า

    “ละ ลูก อึก… นอนอยู่ อะ อีกห้อง… ฮือ!”

    “ห้องเก็บเสียง เขาไม่ได้ยินหรอก”

    “อ๊า!!!” คราวนี้ผมกรีดร้องเสียงดังเมื่อก้านนิ้วยาวแทรกผ่านเข้าไปในช่องทางด้านหลังโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงครางเครือในลำคอและขยับวนนิ้วไม่หยุด เมื่อถูกปรนเปรอทั้งด้านหน้าและด้านหลังก็ทำเอาผมกลั้นความต้องการไว้ไม่อยู่ น้ำตาไหลซึมที่ขอบตา ร่างกายกระตุกเกร็งเมื่อใกล้ถึงจุด ไรเฟิลยิ้มพอใจเพราะแกล้งผมได้ เจ้ายักษ์ชูมือที่เปรอะไปด้วยหยาดน้ำแห่งความลามกขึ้นให้ผมได้อับอาย อยากจะด่าสักสองสามคำแต่ทำไม่ได้ เหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไร ผมหอบหายใจแฮ่กปล่อยไรเฟิลจัดการทำอะไรตามที่ต้องการ

   เด็กดีกลายร่างเป็นปีศาจร้ายที่กำลังทำให้ผมหายใจไม่ออก ไรเฟิลเตรียมความพร้อมให้ทั้งเขาและผม เมื่อเห็นว่ามันใช้ได้แล้วเขาก็เริ่มกดส่วนนั้นเข้ามา… ผมหลับตาปี๋และจิกเล็บกับผ้าปูที่นอนจนปวดไปหมด ริมฝีปากบางเกินชายของเจ้าฝรั่งผมทองมอบจูบให้ผมอีกครั้งให้ได้ลืมความเจ็บด้านล่างเมื่อถูกสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วเคลื่อนเข้าแทนที่ ผมลืมตาขึ้นมองสบตากับเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าสวย เผยอปากรับเรียวลิ้นที่สอดแทรกเข้ามา และผ่อนคลายตัวเองเพื่อรับการบุกรุกสำหรับส่วนล่าง มือเล็กเปลี่ยนที่ยึดไปโอบรอบคอของอีกคน แทรกฝ่ามือเข้าใต้เรือนผมสีทอง จิกและกระชากบางครั้งเมื่ออีกคนทำให้เจ็บ ไรเฟิลเริ่มขยับตัวจากจังหวะเนิบนาบและค่อยเร่งความเร็วขึ้น มือหนาช้อนสะโพกมนขึ้นเพื่อนรับการสอดใส่ เสียงที่จะร้องค้านเมื่ออีกฝ่ายดูจะขยับกายเร็วเกินไปกลับกลายเป็นร้องครางแทน

    “อะ อึก… อา!”

    “อืม…” ผมมองไรเฟิลตาปรือ เห็นเขายิ้มก็แทบละลายเป็นช็อกโกแลตโดนความร้อน เม็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นมาเคลือบร่างกายกำยำทำให้เขายิ่งเซ็กซี่ ผมเชิดหน้าร้องคราง ขยับสะโพกรับจังหวะการกระแทกด้วยแรงอารมณ์ ยื่นมือไปสัมผัสกับส่วนอ่อนไหวที่แข็งขื่นของตนแล้วขยับมือไปมา ผมจิ๊ปากเมื่อถูกปัดมือออก จึงระบายอารมณ์ด้วยการจิกและข่วนแผ่นหลังกว้าง นอกจากจะไม่แสดงความไม่พอใจแล้วยังหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางของผม ไรเฟิลเร่งจังหวะเร็วขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเมื่อใกล้จะถึงปลายทางจนร่างกายของผมสั่นคลอน

    “อะ อา!!” ไรเฟิลส่งเสียงร้องยาว ๆ เขาทิ้งตัวทับร่างผมไว้หลังจากปลดปล่อยทุกหยาดหยด ผมทำได้แค่นอนหายใจหอบ แรงที่จะผลักไสแทบจะไม่มี ลมหายใจร้อน ๆ ที่เป่ารดบริเวณซอกคอทำเอาผมขนลุกซู่…


    “เหนื่อยแล้วเหรอ?”

    “อือ…”

    “ทำไงดี ผมยังไม่เหนื่อยเลย”

    “ฮะ เฮ้ย!!!” ผมตาโตเมื่อไรเฟิลเริ่มขยับตัวอีกครั้ง เขาไม่ให้เวลาผมปฏิเสธเลยด้วยซ้ำ



   เด็กดีกลายร่างเป็นเด็กโลภมากที่คอยเอาแต่ทวงถามรางวัลจากผมทั้งคืนจนแทบจะไม่ได้นอน…

   ผมต้องตายจริงก็คราวนี้แหละ

   ถ้าไม่รักก็ไม่ยอมหรอกนะเว้ย!!



   FIN.




----------------------------------
- สวัสดีค่าาาาา หายไปนานเลยกับเรื่องนี้ ตอนที่ก็ล่อเข้าไปหกพันกว่าคำเลยนะคะ หวังว่าจะพอช่วยให้หายคิดถึงได้บ้าง /)_(\
- แล้วยัยกระต่ายก็มีลูกสมใจ 555555555555555555555
- อาจจะมีข้อผิดพลาดเรื่องข้อมูล ขออภัยด้วยนะคะ /โค้ง
- นี่เขียนไปก็หวีดไรเฟิลไป อยากมีคุณรังสิมันต์เป็นของตัวเองอ่ะ นางเป็นประเภทที่เย็นชากับคนทั้งโลก แต่อบอุ่นให้กับเมียคนเดียว ฮืออออออออ  :hao5: /ควอทซ์เตรียมปล่อยมดแดงกับหมูปิ้งให้ไล่คนเขียนไปไกล ๆ
- มีลูกแล้วภาคสองต้องมาไหมอ่ะ ยังไง 555555555555555555555 /หนีไปกบดาน
- ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ ทั้งคอมเมนต์และบวกเป็ด ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ
- ตอนนี้ก็คิดว่าน่าจะเลิกเพ้อได้แล้ว ฮ่า ๆ หวังว่าจะได้เจอกันอีกถ้ามีโอกาส

หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 22-02-2016 21:13:16
บันนี่ น่าอิจฉาอ่ะ มีทั้งลูกทั้งสามี แถมยังเพอร์เฟ็ค อร๊ายยย!! ขอแบบไรฟ์กลับบ้านคนนึงได้ไหมอ่า งื้อออออ!! อิจมากกกกก
ขอบคุณนะค่ะที่มาต่อให้หายคิดถึง
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-02-2016 21:26:05
ชักจะอิจฉาบันนี้ มีสามีก็แสนดี แถมยังมีลูกทีเดียวสองคนเลย
ชีวิตดี๊ดี
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: ที่เดิมในหัวใจสาววาย ที่ 22-02-2016 21:53:02
แอร๊ยยยยยยยย :hao7: ขอหวีดไรเฟิลก่อนเลย ผู้ชายอบอุ่น ยอมเมียทุกอย่างอ่า อยากได้ๆ ยินดีกับควอร์ตด้วยนะ มีลูกสมใจแล้ว ครอบครัวนี้ต้องเป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นมากๆแน่เลย 
แล้วก็อย่างที่คุณคนเขียนบอกว่า มีลูกแล้วต้องมีภาคสอง มันถูกต้องที่สุดค่ะ อิอิ ไม่ได้กดดันนะคะ แต่ตอนนี้จองคิวรออ่านแล้วค่ะ 55555
ขอบคุณมากๆนะคะที่มีตอนพิเศษมาให้อ่าน คิดถึงทุกคนเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 22-02-2016 22:37:21
รู้สึกไรเฟิลจะหื่นคงเส้นคงวามากอ่ะ

น่ารักและอบอุ่น

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 22-02-2016 22:57:03
บันนี่โชคดีมากอ่าาาา สามีตามใจตลอดดด มีทั้งสามีที่ดีแล้วก็มีลูกที่น่ารักอีกแหนะ ครอบครัวสุขสันต์เลยย  :กอด1:
มีรุ่นลูกก็ได้น้า อ่านได้หมดเลยค่าาา เย้ๆ
ขอตอนพิเศษเรื่องนี้เรื่อยๆก็ดีนะคะ อิอิ
ขอบคุณมากค่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 22-02-2016 23:00:35
บอกเลย อิจฉาบันนี่มากกกกก (ก.ไก่สิบล้านตัว)  :ling1: ชีวิตบันนี่น่าอิจฉาเพราะมีพี่ปืน
ผู้ชายอะไรเอาใจเมียเป็นบ้า ยิ่งฉากหวานๆตอนบันนี่ขอบคุณแล้วพี่ปืนบอกว่า เพราะคุณ อ๊าย กรีดร้อง จิกหมอนแน่น จะไปหาผู้ชายอย่างนี้ได้ที่ไหน  :เฮ้อ:

ยังค่ะ เรายังไม่หายคิดถึง ต้องเอาบันนี่กะพี่ไรเฟิลมาเสิร์ฟอีก  :กอด1:  รักคนเขียนนะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 23-02-2016 00:11:01
คิดถึงจังเลยยยยยยย  ควอร์ต  ไรเฟิล    :กอด1:

เป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ   :-[ 

ภาคสองจะมาตอนไหนเอ่ยยยยยยยยยย    :hao3: :hao3: :hao3:

หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: fernfabled ที่ 23-02-2016 00:32:30
นี่มันสามีดีเด่นจริงๆ
อยากได้ผู้แบบนี้บ้างงงง  :katai1:
ขอตอนพิเศษอีกน้าาาาา
อยากเห็นตอนเลี้ยงลูก  :impress2:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 23-02-2016 01:08:38
จะเอาไรฟ์อ่ะ จะเอาๆๆๆๆ บันนี่จังเราขอไรฟ์นะอยากได้มากกกกกก :hao7:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 23-02-2016 01:46:38
บันนี่น่ารักก ได้ทั้งลูก ทั้งสามี สมใจเลย 5555
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 23-02-2016 11:02:31
ภาคสองไหม ภาคสองเหอะ
เด็กๆมันต้องน่ารักมากแน่ๆ
อร๊ายยยยยยยย
ชอบอ่านอะไรที่มีเด็ก มันจะมุ้งมิ้ง งุ้งงิ้ง เพิ่มอีกเป็น 10 เท่า
 :-[ :-[
พี่ปืนน่ารักอ่ะ
แบบพี่ปืนนี่หาจากหน๊ายยยย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 23-02-2016 11:30:36
ตอนะิเศษ ฟินมากค่ะ มีลูกกันแล้ว
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 23-02-2016 12:57:00
น้องควอทซ์ ชีวิตน่าอิจฉามากๆๆ สามีแสนดี  มีลูกน่ารักพร้อม

ภาคสองควรต้องมีค่ะ :กอด1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-02-2016 21:08:10
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-02-2016 21:12:16
มีครบทั้งลูกทั้งผัว
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 23-02-2016 21:47:20
อะโห่ยยยชอบบ :katai2-1: อยากอ่านอีกกก

ปล.มีภาคสองก็ดีนะคะ คึคึ o13
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-02-2016 22:21:09
ขอภาคสองได้ไหม
นะๆอ้อนวอนเลยเราขอภาคสอง
ถ้าไม่ได้ภาคของไรเฟิลกับควอทซ์
ขอภาคลูกๆก็ได้นะๆ พลีสสสสสสสส
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: SaKiNonZa ที่ 23-02-2016 22:46:28
เอาอีกๆ ภาคสอง ไม่ก็ภาคลูกๆก็ได้   :ling1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-02-2016 01:21:25
บอกได้คำเดียวเลยว่าอิจฉาบันนี่มากๆ สามีดีโคตรๆ o13
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 26-02-2016 22:24:06
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 27-02-2016 00:52:55
หวานมดขึ้น ฟินจิกหมอน
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ^^
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: khunkun91 ที่ 17-03-2016 15:49:45
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรากลับมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกคือชอบมากจริงๆ
แล้วเพิ่งมาได้อ่านตอนพิเศษล่าสุด บอกตรงๆคืออิจควอทซ์มากจุดนี้
ได้ซะมีที่ดีงามประเสริฐศรีมาก แล้วยังได้ลูกถึงสองคนอีก คนรอบตัวก็รัก
อยากอ่านเรื่องราวของไรเฟิลกับควอทซ์ไปเรื่อยๆ กดดันให้มีภาคต่อ คิคิ

 :o8:

หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: peppermintt ที่ 25-03-2016 07:05:56
 :mew3:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Hortensia ที่ 25-03-2016 12:45:38
เพิ่งมาอ่านรวดเดียวจบ สนุกมากเลย
ฟินนนนน



:oni1: :oni1: :oni1: :oni1:

หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 26-03-2016 12:02:38
สนุกมากกด บันนี่น่าร้ากกก อยากอ่านตอนลูกๆโต อิอิ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 14-05-2016 21:12:44
ขอบคุณมากนะคะ น่ารักมากกก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 18-05-2016 16:28:46
น่ารักมากๆเลยยย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 21-05-2016 22:59:24
ตามอ่านจนจบภายในหนึ่งวัน อิจฉาบันนี่ที่ได้ไรเฟิลไปครอง แต่บันนี่น่ารักเรายอมยกให้

เรื่องนี้สนุกและน่ารักมากๆค่ะ ชอบมากๆเลย ตอนพิเศษตอนล่าสุดนี่เราชอบมาก จะหาผู้ชายแบบไรเฟิลได้ที่ไหนกันนะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Pramooknoi ที่ 23-05-2016 05:55:28
มันสนุกมากจริงๆ เขิลลลล น่ารักโฮก เลือดกระฉูด :haun4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: LM799 ที่ 30-05-2016 23:24:00
เกริ่นก่อนเลยว่าเป็นคนที่ชอบอ่านนิยายละมุนอ่านแล้วเหมือนมีผีเสื้อร้อยตัวบินในท้อง ซึ่งเรื่องนี้ตอบโจทย์มากค่ะ บังเอิญไปเจอคนแชร์ในทวิตเตอร์เลยลองเข้ามาอ่านดู ตอนแรกคิดว่าจะไม่ติด แต่อ่านไปอ่านมาหยุดไม่อยู่เลยค่ะ แต่ขอเสนอแนะไรท์อย่างนึงนะคะ พอดีอ่านแล้วเจอคำผิดเยอะและบ่อยมาก บางทึอ่านไปก็ขัดฟินนิดๆเวลาเจอคำผิด บางประโยคเจอคำผิดมากจนไม่เข้าใจว่าตัวละครต้องการสื่ออะไรก็มี โดยรวมถือว่าดีนะคะชอบเลย เพราะหาอ่านแนวนี้ยากมากเลยค่ะ สุดท้ายขอบคุณไรท์นะคะที่ตั้งใจและสละเวลาเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา อบอุ่นมากค่ะทั้งไรเฟิลและน้องบันนี่ น่ารักทั้งคู่เลย และแกงค์เพื่อนๆด้วย ชอบมากค่ะ จะติดตามผลงานไรท์ต่อไปนะคะ อยากให้มีแนวละมุนแบบนี้มาอีกบ่อยๆนะคะ ขอบคุณค่ะ
 :katai2-1:  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 01-06-2016 19:10:49
โอ้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
สนุกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
น่ารักมากกกกทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 06-06-2016 22:55:58
รบกวนห่อไรเฟิลกลับบ้านให้ที่นึงค่ะ!!

อะไรจะดีขนาดนั้นพ่อคู๊นนนนนนน

แต่บันนี่ก็น่ารักอะเนอะ เป็นนี่ก็ยอมถวายชีวิตเลยอะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 14-06-2016 00:07:12
น่ารักมากเลยอ่ะ อบอุ่น จริงใจ ผองเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างกัน   ดีที่สุดเลย :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 17-06-2016 09:19:25
โอ๊ยยยย ไม่อยากจะบอกเรื่องนี้โคตรน่ารักอ่ะ

บันนี่เป็นคนที่โชคดีมากๆ อยากได้ผู้ชายแบบไรเฟิล :กอด1:  :hao3:

แอร๊ยยยยย น่ารัก :-[

ขอบคุณนิยายดีๆ ชอบเนื้องเรื่องชอบการเขียน เขียนดีมากๆ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: yeelove ที่ 18-06-2016 22:10:07
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Nunnaly ที่ 19-06-2016 09:48:14
ชีวิตดี๊ดี 5555
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 10-07-2016 16:36:48
อิจฉาบันนี่จังเลยย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 11-07-2016 21:10:47
จะตามทุกเรื่อง ทุกตอนเพราะคนแต่ง เขียนออกมาดีจริงๆ :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 29-07-2016 14:38:22
 o13 อ่านรวดเดียวสนุกมากค่ะ อยากอ่านครอบครัวนี้อีกยาวๆจัง~
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 29-07-2016 19:37:40
อ่านรวดเดียวจบบ  :mc4:
พี่ไรฟ์นี่คงคอนเซ็ปหน้านิ่งได้ตลอดเวจริงๆ  :laugh:
ควอทซ์นี่อย่างน่ารักอ่ะ หลงมากมาย  :m3:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : It’s because of you [22:02:2016]
เริ่มหัวข้อโดย: ราตรีสีน้ำเงิน ที่ 01-08-2016 05:39:33
บันนี่xไรฟ์ น่ารัก

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: HEARTBREAKER ที่ 13-08-2016 20:17:06
   UNDERGROUND
   SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY





   ผ่านมาสองสัปดาห์แล้วกับการมีวินเซนต์และมิเกลมาอยู่ด้วย เด็ก ๆ เริ่มปรับตัวเข้ากับพวกเรามากขึ้น ไม่ค่อยเก็บตัวเหมือนช่วงแรก และนอกจากเด็ก ๆ แล้ว พวกเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับเด็ก ๆ เหมือนกัน ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ทั้งยังต้องเข้าใจความรู้สึกของเด็ก ๆ ที่อาจจะยังไม่สนิทใจกับการที่ต้องมาอยู่กับเรา และผมก็ได้รู้แล้วว่าการเลี้ยงเด็กนั้นมันไม่ง่ายเลย ถึงแม้วินเซนต์กับมิเกลจะไม่ใช่เด็กเล็ก แต่เราก็ต้องดูแลและใส่ใจพวกเขาอย่างดี รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ต้องดูให้รอบคอบ เหนื่อยนะครับ แต่ก็มีความสุขเช่นกัน พวกเขาเป็นลูกของผมนี่นา ต้องดูแลอย่างดีสิ ใช่ไหมล่า~

   “Papa” มาแล้วเด็กน้อยของผม มิเกลยืนอยู่หน้าประตูครัวด้วยท่าทางงัวเงียเพราะเพิ่งตื่นนอน ผมวางงานในครัวที่กำลังทำอยู่แล้วเข้าไปหาลูก คุกเข่าข้างหน้าเด็กน้อย หอมหน้าผากรับอรุณ

   “Good morning, good boy” อุ้มมิเกลขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ ตอนนี้ไรเฟิลกับวินเซนต์ยังไม่ลงมาเลยครับ ไม่รู้ว่าเดินลงบันไดมาได้ยังไงคนเดียว เจ้าตัวเล็กสามขวบเองนะ ทำไมไม่ส่งเสียงเรียกหรืออะไรเลย หาน้ำให้ลูกดื่มแล้วนั่งลงข้าง ๆ เขา คุยเล่นเรื่อยเปื่อยพอเด็กน้อยหายงัวเงียผมก็ไปจัดการอาหารเช้าต่อ มิเกลบอกจะไปเล่นกับพี่หมูปิ้งและพี่บันบัน ผมก็ไม่ห้ามครับ ถือว่าช่วยเสริมสร้างประสบการณ์และพัฒนาการของเด็กแล้วกัน

   ยืนทำอาหารเช้าไปคนเดียวเรื่อยเปื่อย ฮัมเพลงบ้างตามประสาคนอารมณ์ดี เหอ ๆ ที่บ้านเราไม่มีแม่บ้านประจำครับ มีแค่แม่บ้านจากบ้านใหญ่ที่มาทำความสะอาดสามวันต่อสัปดาห์แล้วก็กลับเท่านั้น แต่หลังจากนี้อาจจะมี เพราะจะได้ช่วยดูแลลูก ๆ ของผม เวลาผมก็ไรเฟิลไม่อยู่บ้านหรือไปทำงาน สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีบางอย่างมาคว้าเอว และศีรษะซบลงที่ไหล่ ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร ผมหันหน้าไปแล้วจุ๊บที่ศีรษะของคนตัวสูงเบา ๆ ไรเฟิลหัวเราะหึในลำคอก่อนจะเกยคางไว้บนไหล่ และเอ่ยด้วยเสียงแหบทุ้มเพราะเพิ่งตื่นนอน เซ็กซี่ชะมัด...

   “Give me a kiss” แหงนหน้าขึ้นแตะปากบนริมฝีปากของไรเฟิล คนตัวสูงกดจูบหนัก ๆ อีกหนึ่งทีแล้วผละออก ทุกเช้าที่ตื่นมาไรเฟิลมักจะพูดประโยคนี้กับผมเสมอ เหมือนกลายเป็นธรรมเนียมของคุณชายไปแล้ว แต่ผมก็ยินดีนะครับ หึหึ

   “เด็กล่ะ?”

   “อ้าว ไม่ได้เข้าไปดูเหรอ?” ผมถาม ไรเฟิลสั่นหัวเป็นคำตอบ “มิเกลตื่นแล้ว ลงมาข้างล่างเองด้วย ตอนนี้ไปหาหมูปิ้งกับบันบัน วินเซนต์คงยังไม่ตื่น มั้ง”

   “เดี๋ยวขึ้นไปดู” พยักหน้ารับรู้ ไรเฟิลจูบแก้มผมแรง ๆ ก่อนจะออกจากครัวเพื่อไปดูวินเซนต์ ผมเบะปาก ใช้หลังมือเช็ดแก้มตัวเอง เหมือนจะไม่ชอบ แต่หน้าร้อนผ่าว เห็นเงาสะท้อนในกระจก ขึ้นสีแดงนิด ๆ เฮ้อ อยากถอนหายใจ อยู่กันมากี่ปีแล้วยังไม่ชินสักที เลิกสนใจจูบที่แก้มแล้วมาสนใจหม้อข้าวต้มที่จะเป็นอาหารเช้ามื้อนี้ ทำข้าวต้มกุ้งครับ ง่าย ๆ กำลังได้ที่แล้ว

   ระหว่างรอข้าวต้มผมก็ไปจัดโต๊ะรอ นอกจากข้าวต้มกุ้งแล้วก็มีปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ด้วยครับ ขับรถออกไปซื้อตั้งแต่คุณชายทั้งสามยังไม่ตื่น ร้านนี้เจ้าประจำเปิดแค่ช่วงเช้าต้องรีบซื้อก่อนจะหมด ไรเฟิลยังบอกว่าอร่อยเลย วางถ้วยปาท่องโก๋ที่ทำเป็นชิ้น ๆ ให้เด็ก ๆ ข้างกันมีถ้วยสังขยากับนมข้นหวานให้เลือกจิ้ม และแก้วน้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง จัดอาหารเช้าสำหรับสี่ที่เสร็จเรียบร้อยแล้วแต่สมาชิกยังไม่มาเลย

   กะจะไปตาม ไรเฟิลกำลังจูงมือวินเซนต์ลงมาพอดี หน้าตายังงัวเงียอยู่เล็ก ๆ น่าเอ็นดูมาก หอมแก้มไปทีหนึ่ง แล้วบอกให้ไปที่โต๊ะอาหารเลยเพราะผมจะไปตามมิเกล ผุดยิ้มกว้างเมื่อเห็นเด็กน้อยที่ตามหา ผมรีบวิ่งกลับไปเอากล้องมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ หนูน้อยมิเกลของเรานอนหลับตาพริ้มหนุนท้องหมูปิ้งและมีบันบันกระต่ายอ้วนซุกอยู่ในอ้อมกอดของลูกชายคนเล็กของผม น่ารักมากกกกกกกกกกกก อยากเรียกไรเฟิลมาดู มองไปที่มุมห้อง ชามอาหารของหมูปิ้งกับบันบันมีร่องรอยของอาหารเม็ดหล่นอยู่ มิเกลต้องเป็นคนเอาให้แน่เลย โอ๊ย ให้ตายเถอะ เด็กอะไรทำไมน่ารักขนาดนี้

   “Miguel, wake up” แม้จะยังอยากมองต่อแต่ก็ต้องปลุกเด็กน้อยขึ้นมา เทวดาน้อยขยับตัว ตากลมปรือขึ้น เมื่อมิเกลตื่นเจ้าหมูปิ้งก็ตื่นด้วย บันบันเองก็เช่นกัน กระต่ายตัวกลมวิ่งเข้ามาคลอเคลียเท้าผม หมูปิ้งเห่าโฮ่งอรุณสวัสดิ์

   “Pick me...” หนูน้อยชูแขนทั้งสองข้างขึ้นและช้อนตาขึ้นมองซ้ำยังกะพริบตาปริบ ๆ ฮึ่ม!! ใครปฏิเสธก็แย่ละ! สอดแขนเข้าใต้รักแร้และอุ้มมิเกลขึ้นมา แขนเล็กกับกอดคอผมหมับ หอมแก้มนิ่มหนึ่งฟอดแล้วจึงพาไปที่ห้องอาหาร ล้างมือเรียบร้อยก็นั่งประจำที่

   เราทานอาหารกันเรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบ วันนี้ผมกับไรเฟิลไม่ไปทำงานกันทั้งคู่ เพราะจะพาเด็ก ๆ ไปสมัครเรียนครับ ได้โรงเรียนแล้ว จริง ๆ ไม่ได้เลือกอะไรมาก เพราะจะให้เรียนที่เดียวกับดไวท์ จะได้สนิทและเป็นเพื่อนกัน ไหน ๆ พ่อก็เป็นเพื่อนกันแล้ว (ฮา) ที่นั่นเป็นโรงเรียนนานาชาติ เปิดรับตั้งแต่ KG 1 ถึง ES 6 สำหรับมิเกลก็เข้าเรียน KG 1 หรือ อนุบาลหนึ่ง ส่วนวินเซนต์ก็ ES 1 หรือ ป.หนึ่ง แต่ค่อนข้างกังวลนิดหน่อยเพราะนี่ก็เลยช่วงกลางเทอมไปแล้ว เด็ก ๆ จะมีเพื่อนหรือเปล่า...

   “Thank you.” เสียงเล็กของมิเกลเอ่ยขึ้นหลังจากที่ไรเฟิลเช็ดคราบสังขยาออกจากริมฝีปากเล็กให้ คุณชายพยักหน้าหงึก ปาดปลายนิ้วนั่นเข้าปาก แอบเห็นหูแดงนิดหน่อย ไม่รู้ว่าเขินอะไร ไอ้กากเอ๊ย!

   เด็ก ๆ กินข้าวหมดทุกอย่างเลย เก่งมาก!! คนทำปลื้ม! (ถึงแม้จะทำเองแค่ข้าวต้มกุ้งก็ตาม) ส่วนไรเฟิลกินหมดไปสองชามไม่รู้ว่าอร่อยหรือกินไม่อิ่ม แต่ผมจะคิดเอาเองว่าอร่อย!!

   “อาบน้ำ ๆ ไปอาบน้ำกัน~” เด็ก ๆ ชอบน้ำมาก ชวนอาบน้ำทีไรไม่มีงอแง แถมยังให้ความร่วมมือดีเยี่ยม! แต่มีข้อเสียตรงที่อาบน้ำนานจนปากซีดนี่แหละ “ไรฟ์อยู่กับลูกนะ กูจะไปอาบน้ำ” ไรเฟิลกลอกตาขึ้นฟ้าแต่ยอมพยักหน้า ตบคางไอ้หล่อเบา ๆ ดีมากครับผม ไรเฟิลยังไม่ค่อยสนิทกับเด็ก ๆ ยังเก้ ๆ กัง ๆ ทำตัวไม่ถูก เดี๋ยวจะต้องหาทางละลายพฤติกรรมเสียแล้ว หึหึ

   “เฮ้ย!” ร้อง ตกใจ อยู่ ๆ ไรเฟิลก็เปิดประตูห้องน้ำเข้ามา ยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย คุณชายไม่แยแสอะไรทั้งนั้น โยนผ้าเช็ดตัวไปไว้ที่ราวอย่างแม่นยำแล้วเข้ามาในตู้อาบน้ำกับผม ฉิบหายละ... “ลูกละ!?”

   “ดูทีวีอยู่ข้างล่าง อืม... ถูตัวให้หน่อยสิ” พูดด้วยเสียแหบแห้งที่ข้างหู แล้วยังจับมือผมไปลูบตั้งแต่แผงอกไล่ต่ำไปเรื่อย ๆ ผ่านกล้ามหน้าท้อง หยุดค้างอยู่ที่สะดือให้ได้หายใจ ก่อนที่จะลงไปยังจุดอันตราย... ผมหลับตาปี๋ ตั้งสติได้ก็รีบผลักมันออก ถลึงตาใส่ให้รู้ว่ากูไม่พอใจนะเว้ย!!

   “รีบอาบไปเลย กูเสร็จแล้ว!”

   “อ้าว ยังไม่ทำอะไรเลย เสร็จแล้วเหรอ?”

   “ไรเฟิล!!!” ไรเฟิลหัวเราะเจ้าเล่ห์ ผมเลิกสนใจมันแล้วรีบล้างตัวแล้วออกมาเลย ไอ้หน้าด้าน! นับวันยิ่งหน้าด้าน อยากจะข่วนหน้าสักที แต่ทำไม่ได้ เสียดายเบ้าหน้ามัน

   แต่งตัวเสร็จลงมาหาลูกด้านล่าง เด็ก ๆ นั่งกินขนมดูทีวีกันตาไม่กะพริบ ขนาดผมเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาตัวเดียวกันแล้วยังไม่รู้ตัวและหันมามองเลย เด็กหนอเด็ก ทำอะไรก็น่ารักน่าเอ็นดูไปหมดเลย ฮึ่มมม มันเขี้ยว!

   “ไปยัง?” ไรเฟิลถาม แต่งตัวหล่อเชียว จะไปอ่อยครูหรือไง หมั่นไส้ แต่ไม่พูด

   “ออกตอนนี้ก็ได้ เผื่อรถติด”

   “อืม ตรวจเอกสารดูอีกทีดิ เดี๋ยวกูออกไปดูรถ” พยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะบอกให้เด็ก ๆ ไปเข้าห้องน้ำ แล้วตัวเองก็ตรวจเอกสารที่จะเอาไปสมัครเรียน เมื่อไม่มีอะไรขาดเหลือก็เก็บใส่ซองเอกสารแล้วเอาใส่กระเป๋าอีกที

   “อยากกินอะไรอีกไหมครับ?” ถามเด็ก ๆ เป็นภาษาอังกฤษ ทั้งสองทำหน้าคิด วินเซนต์สั่นหัวไม่รู้อยากได้อะไร แต่มิเกลบอกอยากกินเยลลี่ เลยหาของว่างใส่กล่องให้ไปกินบนรถด้วย ปาปาก็จะกินด้วย กร้ากกกก

   “เราจะไปไหนครับ?” เอี้ยวตัวไปมองเบาะด้านหลังหลังจากที่เสียงใส ๆ ของลูกชายคนโตร้องถาม เด็กนั่งเบาะนิรภัยกันเรียบร้อย

   “ปาปากับแด๊ดดี้จะพาพวกหนูไปสมัครเรียนครับ”

   “สมัครเรียน?”

   “ใช่แล้ว อยากไปโรงเรียนไหมครับ?”

   “อยาก!!!” เด็กน้อยทั้งสองตะโกนตอบเสียงดังแล้วหันไปคุยกันเอง เสียงหัวเราะคิกคักทำเอาผมอมยิ้มไปด้วยระหว่างมอง

   ใช้เวลาพอประมาณก็มาถึงโรงเรียน ตรวจดูเอกสารอีกหน่อยเพื่อความชัวร์ก่อนจะไปห้องธุรการ เด็ก ๆ ดูตื่นเต้นมาที่เห็นโรงเรียน แทบจะวิ่งเลยด้วยซ้ำ เลยต้องจับมือเอาไว้ โดยไรเฟิลจับมือมิเกล และผมจับมือวินเซนต์ ส่วนเด็ก ๆ ก็จับมือกันอีกที น่ารักมากจนอยากจะถ่ายรูปไว้เลย บอกตรง ๆ ว่าแค่เห็นเด็ก ๆ ทำอะไรผมก็อยากหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพไว้ทุกช่วงเวลา จะว่าเห่อลูกก็ว่าไปเถอะ ก็คนมันไม่เคยมีลูกนี่หว่า!!

   ที่โรงเรียนมีบริการรถรับ-ส่งด้วยครับ ผมกับไรเฟิลคิดหนักเลย ไม่รู้จะเอายังไงดี อยากไปรับไปส่งลูกเองนะ แต่บางทีเราก็ติดงานหรือไม่ว่าง เจ้าหน้าที่เขาก็แนะนำมาว่าถึงแม้จะใช้บริการรถรับ-ส่งของโรงเรียน หากวันไหนผู้ปกครองจะมารับหรือส่งบุตรหลานเองก็ได้ แต่ต้องแจ้งทางโรงเรียนก่อนล่วงหน้า

   คิดในใจ ดีจังเลยเนอะ... ไรเฟิลเหมือนรู้ทัน มองหน้าแล้วยิ้มล้อ มือหนาที่ไม่ได้จับมือลูกยื่นมาลูบต้นคอของผมและบีบเบา ๆ

   การสมัครเรียนผ่านไปด้วยดี เพราะเราเตรียมเอกสารไว้ครบถ้วน หลังจากสมัครเรียน ซื้อยูนิฟอร์มและสั่งปักชื่อ กับซื้อสมุดเรียบร้อยแล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่พาพวกเราเดินชมโรงเรียนในส่วนต่าง ๆ โดยเขาพาเราไปที่ห้องเรียนของชั้น KG 1 ก่อน และดูเหมือนห้องนี้จะเป็นห้องที่มิเกลต้องอยู่

   ภายในห้องเรียนตกแต่งด้วยสีสันสดใส มีรูปภาพ สื่อการเรียนติดอยู่ตามผนัง ในห้องมีนักเรียนน่าจะยี่สิบคนได้ เด็ก ๆ ที่เรียนก็มีความสุขสนุกสนาน และทีชเชอร์เองก็ดูใจดีมาก ๆ ด้วย พอเราเปิดประตูเข้าไป ก็นึกว่าจะไม่พอใจเรามากวนเสียอีก แต่เขาต้อนรับทักทายเราดีมากเลยครับ พูดคุยเป็นกันเองสุด ๆ เมื่อทีชเชอร์บอกว่ามิเกลจะมาเรียนด้วย เด็ก ๆ ในห้องก็แสดงออกว่าตื่นเต้นสุด ๆ

   เซย์กู๊ดบายชั้นอนุบาลหนึ่งแล้วไปที่อาคารเด็กประถมบ้าง เจ้าหน้าที่เคาะประตูขออนุญาต แนะนำตัวกับทีชเชอร์เล็กน้อย บรรยากาศดีเหมือนกันเลยครับ เด็ก ๆ เขาไม่แอนตี้นะที่มีคนย้ายมากลางเทอมแบบนี้ เจ้าหนูดไวท์โบกมือให้ด้วย เรื่องที่กังวลว่าลูกจะไม่มีเพื่อนคือลืมไปเลย เด็ก ๆ เฟรนด์ลี่และไนซ์มาก เมื่อออกจากห้องเรียนเจ้าหน้าที่ก็พาเดินดูที่ต่าง ๆ ตั้งแต่สนามเด็กเล่น ลานกว้าง สนามฟุตบอล สนามบาส โรงอาหาร ห้องน้ำ อาคารกิจกรรม ห้องแลป รวมทั้งอื่น ๆ อีกมากมาย

   ”หิวไหมครับ?”

   “หิวครับ!” ตอบพร้อมเพรียงเสียงดังฟังชัดกันสุด ๆ หันไปมองหน้าไอ้ยักษ์หน้าหล่อ คุณชายก็พยักหน้ารับ แล้วพาไปหาอะไรกิน

   มีชาวต่างชาติโดยส่วนใหญ่ ร้านอาหารที่เลือกจึงเป็นร้านอาหารต่างชาติ งานนี้ต้องเอาใจเด็ก ๆ หน่อย มาอยู่ไทยยังไม่นาน อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับอาหารไทย แต่ผมอยากให้เด็ก ๆ ลองกินอาหารไทยนะครับ จะได้รู้ว่าเขากินได้หรือไม่ได้ ฝึกให้เขาปรับตัวด้วย เดี๋ยวตอนเย็นทำอาหารไทยให้กินดีกว่า

   “อยากไปไหนต่อ”

   “ไปซื้อของไหม? เหมือนของใช้ที่บ้านจะใกล้หมดแล้วด้วย ซื้อของให้เด็ก ๆ ด้วย กระเป๋า รองเท้าเงี้ย โอเคมะ?”

   “ถ้าไม่จะงอแงหรือเปล่าล่ะ?”

   “แล้วทำไมต้องไม่ล่ะ!?”

   “หึหึ” ไรเฟิลหัวเราะในลำคอพร้อมยกยิ้มมุมปาก ยื่นมือมาผลักหัวผมหนึ่งที่แล้วเอาวางไว้อย่างนั้น และใช้มือข้างเดียวขับรถ ก่อนจะเลื่อนมาที่ลำคอแล้วรั้งผมให้เอียงไปซบไหล่

   จะทำอะไรก็เกรงใจลูกที่นั่งอยู่ด้านหลังบ้างดิถึงแม้จะหลับแล้วก็เถอะ...

   “อันตราย”

   “ไม่เป็นไรน่า” คุณชายบอกอย่างไม่แยแส เมื่อถึงตอนรถติดก็หันมาแนบริมฝีปากกับหน้าผากผม

   “เดี๋ยวนี้ชักจะถึงเนื้อถึงตัวนะ”

   “กับเมีย”

   “หูยยยยย”

   “หึ อยากที่คิดไว้เลย”

   “คิดอะไรครับคุณรังสิมันต์?” ผมผละออก เพราะเริ่มเมื่อยแล้ว แต่รวบมือซ้ายไรเฟิลมาจับไว้แทน

   “มีเด็กก็ไม่สนใจกู”

   “อ้าว... ไม่เรียกลูกหรอ?”

   “ขอเวลาหน่อย ยังไม่ชิน” พูดเหมือนไม่สนใจอะไรแต่ว่าหูกลับขึ้นสีแดงนิด ๆ ผมยิ้ม ยกมือหนาขึ้นมาจูบ

   “สนใจหมดนั่นแหละ เด็ก ๆ เพิ่งมาอยู่กับเรา เลยต้องใส่ใจเป็นพิเศษไงครับแด๊ดดี้”

   “ขนลุก” ผมหัวเราะ คำพูดกับความรู้สึกช่างขัดกันจริง ๆ รู้หรอกว่าเขินที่ถูกเรียกว่าแด๊ดดี้

   เมื่อครั้งแรกที่ลูก ๆ เรียกผมว่าปาปาและเรียกไรเฟิลว่าแด๊ดดี้ พวกเราถึงกับนิ่งไปเลย ก่อนที่ผมจะยิ้มกว้างแล้วคว้าเด็ก ๆ มาฟัด ส่วนไรเฟิลแล้วทำหน้านิ่งเหมือนไม่คิดอะไร แต่หูกับคอแดงมาก ถามไปถามมาว่าทำไมถึงเรียกพวกผมแบบนั้น วินเซนต์ก็เป็นคนบอกมาว่าน้องตัวเล็กบอกให้เรียกแบบนี้ น่ารักสุด ๆ ผมปลื้มมาก!

   เราจับมือกันไว้แบบนั้นจนกระทั่งมาถึงศูนย์การค้า เล่นเอาชื้นเหงื่อไปเลย ผมกับไรเฟิลเปิดประตูด้านหลังออกคนฝั่ง แล้วปลุกลูก หาน้ำให้ดื่มแก้กระหายและใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดใส่ผ้าสะอาดก่อนจะเช็ดหน้าให้เด็ก ๆ เพื่อความสดชื่น

   “ไปไหนกันก่อนดี?” หันไปถามความเห็นจากคุณชาย เจ้าตัวก็สั่นหัว ไม่รู้เหมือนกัน มาแบบไม่วางแผนมันก็แบบนี้แหละน้า... “เราควรซื้อรถเข็นป่ะไรฟ์?”

   “ควร” ตอบแบบไม่คิดเลย ผมหัวเราะหน่อย ๆ เอาเป็นว่าไปตามหารถเข็นเด็กกันก่อนแล้วกัน วินเซนต์ก็โตพอจะเดินเองได้นาน ๆ แล้ว แต่ก็ยังน่าห่วงอยู่ ส่วนมิเกลนั้นถึงจะเดินได้แต่หากเดินนาน ๆ ก็คงไม่ไหว อุ้มได้นะ แต่ร่างกายไม่เห็นด้วย ผมว่ามีรถเข็นก็ดีเหมือนกัน

   มาถึงร้านแล้วแต่งงกันอยู่ ไม่รู้จะเลือกซื้อแบบไหนดี โทรไปหากวินผู้มีประสบการณ์มันก็ไม่ว่าง โทรหาคุณแม่ก็ติดประชุม ป๊าไม่น่าจะช่วยได้ เฮ้อ... สุดท้ายได้พนักงานมาช่วยแนะนำ บวกกับเราช่วยกันตัดสินใจด้วย และในที่สุดก็ได้รถเข็นมาหนึ่งคัน รถเข็นเป็นแบบสามารถพับเก็บและปรับเอนนอนได้ น้ำหนักเบา มีระบบล็อกห้าจุด มีแท่นวางแขน ช่องเก็บของด้านล่างและร่มบังแสง ล้อใหญ่เพื่อที่จะสามารถเข็นได้ทุกสภาพถนน และสีสการ์เล็ตที่มิเกลเลือกเอง (ถามวินเซนต์แล้วลูกบอกผมโตแล้วไม่อยากได้ให้น้องคนเดียวก็พอ) ถึงจะราคาสูงหน่อยแต่เพื่อความปลอดภัยของลูกผมยอมแลกนะ

   ทดสอบระบบเบรกอะไรต่าง ๆ และจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วก็ใช้เลยครับ ไรเฟิลที่ออกกำลังกายประจำ กล้ามเนื้อแข็งแรงยังบอกว่าเมื่อย (มันอุ้มมิเกลตั้งแต่ลงจากรถแล้วครับเพราะเด็กน้อยยังไม่ตื่นดี) จากนั้นเราก็เดินดูของกันไปเรื่อย ๆ โดยมีผมรับหน้าที่เข็นมิเกล ไรเฟิลจับมือวินเซนต์เดิน สองพ่อลูกเขาเดินนำหน้าไปเลยครับ ไม่สนใจผมด้านหลังเลย เด็ก ๆ ค่อนข้างตื่นเต้นระดับหนึ่ง เพราะตั้งแต่รับมาอยู่ด้วยกันนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พามาเดินห้างแบบนี้ เพราะของใช้ส่วนใหญ่ซื้อไว้หมดแล้ว

   “ไรเฟิล!”

   “หืม?”

   ชี้นิ้วไปที่ร้านเสื้อผ้าเด็กพร้อมยิ้มหวาน “ไปกัน”

   มีหรือไรเฟิลจะปฏิเสธผม หึหึ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร เก่งมาจากไหนก็แพ้อำนาจเมียนะครับบอกเลย เมื่อเข้าไปด้านใน สงครามการเลือกซื้อของก็เริ่มขึ้นครับ ทั้งตัวผมและไรเฟิลก็ชอบแต่งตัวกันทั้งคู่ สนุกเลยงานนี้ หยิบจับเสื้อตัวนั้นมาแมชกับกางเกงตัวนี้ กางตัวนี้ไปแมชกับเสื้อตัวนั้น เด็ก ๆ วิ่งเข้าห้องลองกันเป็นว่าเล่น แต่ก็สนุกนะครับ ทั้งวินเซนต์และมิเกลก็แฮปปี้กันดี แถมยังออกความเห็นด้วยการเลือกเองด้วย บันเทิงแน่ งานเสียตังต้องมา

   ตุบ!

   ตัวเล็กสนุกมาก แกว่งเท้าแรงรองเท้าหลุดเลยอีกอย่างเชือกรองเท้ามันคลายด้วย มิเกลขยับตัวอยู่ในรถเข็น ขณะที่ผมกำลังจะไปหยิบรองเท้าคู่เล็กมา ก็ถูกไรเฟิลตัดหน้าไปก่อน ร่างสูงย่อตัวนั่งคุกเข่า คว้ารองเท้าข้างที่หลุดไปสวมคืนให้มิเกลเบามือ ผูกเชือกให้เป็นปมสวยงาม แถมยังแกะอีกข้างที่ดูเหมือนว่าจะหลวมนิดหน่อยออกแล้วผูกให้ใหม่ด้วย ถึงแม้จะทำด้วยใบหน้าเรียบนิ่งราวกับไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ แต่ผมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ออกมาจากตัวผู้ชายคนนี้นะ... เป็นภาพที่น่ามองจนยกกล้องขึ้นมาบันทึกเอาไว้ เดี๋ยวจะเอาไปปริ้นท์ออก ทำเป็นคอลเลคชั่น

   ไรเฟิลจะรู้ไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากแค่ไหน...

   “ขอบคุณครับ...” ไรเฟิลยกยิ้มบางเบา ส่งมือไปยีกลุ่มผมนุ่มสีจินเจอร์ของมิเกลแล้วลุกขึ้นเดินหันหลังไปจับมือวินเซนต์

   โธ่... ทำเป็นเก๊กนะไอ้หล่อ


   กว่าจะซื้อของเสร็จและกลับถึงบ้านก็เล่นเอาร่างแทบพัง ตอนเดินเล่นกันมันไม่เหนื่อยดิ เพลินมาก อย่าให้พัก ไม่งั้นจะรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันที เมื่อจอดรถสนิทผมรีบวิ่งไปเปิดประตูบ้านก่อนจะวิ่งกลับมาอุ้มมิเกล ส่วนไรเฟิลอุ้มวินเซนต์ ลูกหลับกันทั้งสองคนเลยเพราะเหนื่อยมาก แถมวันนี้ไม่ได้นอนกลางวันด้วย วางเด็กน้อยทั้งสองบนเตียงนอนอย่างเบามือ เอาหมอนข้างกั้นเอาไว้กันไม่ให้เด็ก ๆ กลิ้งไปทับกันแล้วห่มผ้าให้ ก่อนออกมาแอบจุ๊บแก้มนิ่ม ๆ ไปคนละที

   ตอนนี้เพิ่งเปลี่ยนเตียงให้เด็ก ๆ เป็น low platform bed ที่สั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้ได้ขนาดที่ต้องการ เนื่องจากด้วยความแพนิคว่าลูกจะตกเตียง แต่ก่อนจะแพนิคคือผมตกไปก่อนแล้วครับ อ่านนิทานให้ลูกฟังอยู่ดี ๆ พอขยับตัวหน่อยแล้วดันหงายเงิบหัวฟาดชั้นหนังสือที่ใช้กั้นระหว่างสองเตียงไปอีก พอเลย เลิก เปลี่ยนเป็นแบบเตี้ยแทน และให้เด็ก ๆ นอนด้วยกัน เพราะมันกว้างมากกกกกกกกกกกก มากขนาดที่ผมกับไรเฟิลขึ้นไปนอนด้วยยังสามารถกลิ้งได้อีกสิบตลบ

   “บันนี่” เสียงแหบทุ้มเอ่ยเรียกจากบนเตียง ผมที่กำลังนั่งรื้อของอยู่บนพื้นจึงหันไปมอง

   “มีอะไรเหรอ?”

   “มานี่” ไอ้หล่อกระดิกนิ้วเรียก พอเดินไปหาก็ถูกฉุดให้ล้มไปบนเตียงแถมถูกปล้นจูบอีกด้วย

   “อะ อื้อ พอแล้ว...” ดันหน้าอีกคนไว้ สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ไรเฟิลอมยิ้ม จูบหน้าผากผมหนึ่งทีก่อนจะทิ้งตัวนอนข้างกัน ผมขยับไปเกยคางบนอกกว้าง สอดนิ้วมือสางผมสีทองเล่น

   “มีความสุขไหม?”

   “มาก ๆ” ตอบคำถามคุณชาย “เราเป็นครอบครัวจริง ๆ แล้วเนอะ”

   “หึ อืม”

   “มึงจะเปิดใจให้เด็ก ๆ ไหม?”

   “แน่นอน ถ้าไม่เปิดใจจะรับมาอยู่ด้วยทำไม ถามไม่คิด”

   “ก็มึงเย็นชากับลูก”

   “เรียกลูกเต็มปากเชียว”

   “ก็เป็นลูกจริง ๆ นี่” ผมเถียง ไรเฟิลไม่พูดอะไร แค่ยิ้มบาง ๆ “แล้วเมื่อไหร่เด็ก ๆ จะได้ไปโรงเรียนเหรอ?”

   “รอชุดมาส่ง น่าจะอีกสองสามวัน” ส่งชุดไปปักชื้อทั้งชุดนักเรียนและชุดพละ โดยจะปักแค่ชื่อเล่นและตัวอักษรแรกของนามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ

   เด็ก ๆ เปลี่ยนมาใช้นามสกุลพวกเราแล้วครับ ที่บอกว่า พวกเรา นั้นก็เพราะว่า ใช้ทั้งของผมและของไรเฟิล ทีแรกคุณชายจะให้ใช้นามสกุลมันทั้งหมด แต่ผมไม่ยอม ผมอยากให้ลูกใช้นามสกุลผม เถียงกันอยู่หลายวันสุดท้ายก็ได้ข้อตกลงที่ว่าจะใช้ทั้งสอง คือ เมเยอร์ ของไรเฟิล และ อัครไพศาลกุล ของผม แฮปปี้สุด ๆ

   “สงสารลูกตอนต้องเขียนชื่อจัง” ผมว่า มันต้องยาวมากแน่ ๆ เลย นึกแล้วเครียดแทนเด็ก ๆ พวกเขาคงจะบ่น นี่ชื่อหรือบทสวดวะ!! ฮ่าฮ่าฮ่า

   ไรเฟิลหัวเราะ “ก็นามสกุลมึงยาว บอกให้ใช้ของกูไง”

   “ของมึงไม่ยาวเลยยยยยย สิริวัฒนามงคล เนี่ย ตั้งเจ็ดพยางค์ แล้วยังต้องใช้ เมเยอร์ อีก รวมเป็นเก้าแล้วนะ!”

   “วินเซนต์, มิเกล เมเยอร์ สิริวัฒนามงคล ... เท่ดีออก”

   “ดีออก ดีออกเลยยยยยยยยยยยย”

   “หึหึ เมเยอร์ อัครไพศาลกุล เท่กว่าเนอะ”

   ผมยิ้มกว้าง ถูกใจมาก เลยเขยิบไปจูบปากหยักนั่นทีหนึ่งแล้วผละออก “ไรฟ์”

   “หืม... เราควรมีแม่บ้านไหม?”

   “มีแล้วนี่”

   “หมายถึงที่มาทำบ้านเราทุกวันอ่ะ ไม่ใช่แค่ทำความสะอาด เด็ก ๆ ก็จะไปโรงเรียนแล้วไง จะได้มีคนช่วยดูแลลูกตอนกลับบ้าน เวลาเราไปทำงาน อีกอยากจะได้ช่วยให้อาหารหมูปิ้งกับบันบันด้วย”

   “ก็ได้นะ แต่กูไม่ให้พักที่นี่” ไรเฟิลชอบความเป็นส่วนตัว และจะไม่โอเคมาก ๆ ถ้ามีคนอื่นอยู่ในบ้าน ถ้ามาเช้าเย็นกลับแบบนั้นน่าจะโอเคกว่า

   “ก็... ให้อยู่เล่นกับเด็ก ๆ พอกูหรือมึงถึงบ้านก็ให้เขากลับ”

   “แล้วระหว่างนั้นจะให้เขาไปอยู่ไหน?”

   “บ้านเรามีบ้านพักด้านหลังอยู่นี่นา ทำความสะอาดตรงนั้นแล้วให้เขาอยู่”

   “เดี๋ยวค่อยคุยอีกทีแล้วกัน”

   “ก็ได้... เออ วันนี้ทำอาหารไทยนะ อยากกิน”

   “ทำเองสิ” แยกเขี้ยวใส่ไรเฟิล กูคงให้มึงทำหรอก! ครัวได้พังพอดี ที่เคยบอกไปว่าคุณชายเขาทำอาหารเป็นแล้วนั่นมันทำเป็นแค่อาหารฝรั่งครับ เพราะเรียนมาแค่นั้น ยอมใจ

   “กูไม่ให้มึงทำหรอก! บอกเฉย ๆ โว้ย”

   “หึหึ” เกลียดเสียงหัวเราะมันจริง ๆ “เดี๋ยววันเสาร์มัมจะมารับเด็กไปนะ”

   “ฮะ? รับไปไหน?”

   “ไม่รู้สิ พาไปเที่ยวนั่นแหละมั้ง”

   “อ๋อ โอเค เดี๋ยวต้องบอกเด็ก ๆ ไว้”

   ลูกผมนี่ฮอตจริง ๆ เมื่อเสาร์ที่แล้วป๊ากับอาณิชก็มาฉุดตัวไป จันทร์ถึงศุกร์ต้องทำงาน(ถึงแม้จะพาไปที่ทำงานด้วยแต่ไม่ค่อยได้เล่นกัน) พอหยุดกะจะอยู่กับลูกซะหน่อยดันโดนป๊ามาชิงตัวไปเฉยเลย พอมาเสาร์จะถึงนี้คุณแม่ก็จองตัวไว้เสียอย่างนั้น ชีวิตไอ้ควอทซ์ช่างน่าสงสาร ทำไมสังคมต้องรังแกคนหล่อด้วยครับ ผมไม่เข้าใจเลย

   แต่มันน่าดีใจที่ทุกคนให้ความรักและเอ็นดูเด็ก ๆ โดยไม่สนว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหน ไม่นึกรักเกียจซ้ำยังรักมากอีกด้วย ความรักของทุกคนทำให้เด็ก ๆ ปรับตัวเข้ากับเราได้เร็วขึ้น ไม่รู้สึกว่าแปลกแยกหรือเป็นคนแปลกหน้า พวกเพื่อน ๆ ผมก็แวะมาเล่นที่บ้านบ่อย ๆ พี่เฟ ฟาโรห์ น้องฟิงซ์ก็มาเล่นกับหลาน คุณพ่อคุณแม่ก็เห่อ ย่าผมก็เห่อหลานมากเหมือนกัน ป๊ากับอาณิชไม่ต้องพูดถึงเลย แทบจะเอาไปเป็นลูกตัวเอง ดีใจแทนลูกที่มีความรักห้อมล้อมมากมายแบบนี้

   แต่ผมขัดใจที่ทุกคนเอาแต่แย่งลูกผมไปจนไม่ได้เล่นกับลูกเลย!!!!

   “ไรเฟิลครับ”

   “ครับ?”

   “มึงว่าเราจะเลี้ยงลูกได้ดีไหม?”

   “มึงเก่ง ทำได้อยู่แล้ว”

   “งั้นเหรอ... แต่ถ้ากูทำคนเดียวต้องยากแน่เลย มึงต้องช่วยกูนะ”

   “อือ เราจะช่วยกัน”

   ผมยิ้ม รู้สึกขอบตาร้อน ๆ เหมือนจะร้องไห้ “กูรักมึงนะ”

   “รู้แล้ว บอกทำไมบ่อย”

   “โหยยยยย ขอโรแมนติกบ้างดิ!”

   “เบื่อแล้ว อีโรติกเถอะ”

   “ไอ้เชี่ย!!” ผมด่า ไรเฟิลหัวเราะ พอเลย แยกย้าย “กูจะลงไปเตรียมของทำกับข้าว มึงเก็บของพวกนี้ด้วยนะ แล้วห้าโมงเย็นไปปลุกลูกด้วยนะ”

   “Copy that”

   “Good job, daddy!”

   “Get out, babe!!” คราวนี้เป็นผมเองที่หัวเราะเสียงดังบ้าง การได้กวนตีนไรเฟิลเป็นอะไรที่สนุกมากจริง ๆ นะครับ

   รักษ์ธิสุทธ is so happy

   ก่อนจะลงไปชั้นล่างแอบย่องไปส่องลูก ๆ สักหน่อย เทวดาตัวน้อยของผมยังนอนหลับพริ้มสบายอารมณ์กันอยู่ น่าแปลกนะ แค่อะไรเล็ก ๆ น้อยแค่นี้ก็ทำให้ผมยิ้มกว้างแล้ว ผมว่าผมต้องใกล้บ้าแล้วแน่เลย หึหึ แต่เป็นคนบ้าที่มีความสุขก็ดีนะ







FIN.




(ขอเปลี่ยนสีผมเด็ก ๆ จากสีบลอนด์เป็นจินเจอร์นะคะ .__.)
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ รัก♥
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 13-08-2016 20:44:35
ครอบครัวสุขสันต์บันนี่หลงลูกมากๆๆ

 :pig4: :กอด1: :L1:

หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 14-08-2016 00:36:44
อ๊ากกก น่ารักมากครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-08-2016 08:23:53
ครอบครัวนี้เค้าน่ารัก  :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 14-08-2016 11:35:15
 :-[

เด็กๆน่ารักกก 5555

ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-08-2016 12:18:36
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ที่เดิมในหัวใจสาววาย ที่ 16-08-2016 00:13:54
happy family  :mew1: ขอบคุณนะคะ คิดถึงเรื่องนี้มากๆเลย
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 16-08-2016 02:45:34
เจ๊ขอสมัครเป็นแม่บ้านนะคะ ได้ส่องหนุ่มๆทุกวันเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 16-08-2016 21:38:04
อยากให้มีต่อ :hao5:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 16-08-2016 22:22:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-08-2016 14:10:55
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 10-09-2016 20:40:26
คนอ่าน is sooooo happy

ไม่คิดว่าไรเฟิ่ลจะหวานได้ขนาดนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 10-09-2016 21:18:08
ครอบครัวอบอุ่นน่าร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 11-09-2016 19:56:28
อยากได้เป็นอีบุ๊คอ่าาาา

เรื่องนี้มีขายเป็นอีบุ๊คไหมคะ :)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 17-09-2016 11:24:43
 :pig4: :pig4:

เรื่องน่ารักอบอุ่นมาก...ถ้ามีพิเศษมาอีกก็ติดตามรวมถึงเรื่องอื่นๆด้วย

ปล.บวกเป็ดบวกหนึ่งด้วยความฟิน.
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 26-09-2016 18:22:34
เรื่องนี้น่ารัก อ่านมัน2วันเลย จบแล้วฮี่ๆๆ สนุกมาก
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Chan-Alish ที่ 27-09-2016 10:53:10
นั่งอ่านทั้งคืนนนนนจนจบดีงามมากๆๆๆๆๆๆๆ แต่งอีกหลายๆๆๆๆเรื่องนะคะ เป็นกำลังใจให้สนุกจริงๆอิจฉาบันนี่อยากมีสามีแบบไรฟ์
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-09-2016 11:50:37
เด็กๆน่ารักจริงๆ หลงกันทั้งบ้านเลยนิ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Imagine_chic ที่ 05-12-2016 02:21:16
คิดถึงไรเฟิลกับบันนี่  :ling1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 05-12-2016 10:37:00
 :hao7: :hao7:
ฟินตัวแตกเลยคร้าาาา
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Pramooknoi ที่ 13-12-2016 01:25:26
กลับมาอ่านรอบ 2 ชอบเรื่องนี้มากกกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: B u T t e R ที่ 14-12-2016 22:04:47
รักเรื่องนี้ ฮืออออออออ
ครอบครัวนี้น่ารักมากมากเลยอะ
ชอบมากมากกกกกกกกกกก
ถ้ามีาวมเล่มจะซื้อถ้ามีภาคต่อจะรักมากถ้ายังไม่มีคิวจะอ่านซ้ำรอนะ 5555555
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 17-12-2016 13:32:29
 o13  o13 สนุกมากเลยจ้า
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 17-12-2016 21:53:23
อ่านจบแล้ววว
ขอบคุณสำหรับนิยายนะครับ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 20-12-2016 15:07:34
น่ารักมากกกกก ก.ไก่ ล้านตัว ขอบคุณนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: FiRMMiE ที่ 31-12-2016 01:38:08
ทำไมเพิ่งมาเจอเรื่องนี้
ถ้าเพื่อนไม่แนะนำน้องจันทร์เจ้ามา
ก็ไม่รู้ว่าเร่จะได้อ่านเรื่องนี้มั้ย

สนุกมาก ๆ ค่ะ รู้สึกได้ถึงความรักของตัวละคร
ผู้ชายแบบไรเฟิลจะหาได้จากที่ไหนคะ
ชอบมากเวลาสวีทกัน สัมผัสถึงความรักของทั้งสองคน
ทำไมรักกันขนาดนี้ ทำไมอบอุ่นจังเลย
ชอบมาก ๆ ตกหลุกรักเข้าจัง ๆ เลย
เป็นอีกเรื่องที่เราไม่อยากให้มีตอนจบเลย
อยากให้มีต่อไปเรื่อย ๆ 55555555555
ขอบคุณคนเขียนที่แต่งเรื่องราวสนุก ๆ อย่างนี้มาให้อ่านนะคะ
ทุกเหตุการณ์ในเรื่องมันสนุกและดีต่อใจจริง ๆ ค่ะ
  :pig4: o13 :impress2: :man1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 04-03-2017 12:33:11
ตามมาจากเรื่องของจันทร์เจ้ากับพี่ทิวาค่าาาา

เรารู้สึกว่าพลาดเรื่องนี้ไปจริงๆๆ งื่อออออ

คือมันสนุกมากกกกกไม่แพ้เรื่องของหมูอ้วนเจเจเลย

รู้สึกดีใจที่ได้อ่านนิยายของนักเขียนคนนี้จริงๆ

บรรยายไม่ถูก รู้แค่ว่าชอบเรื่องนี้ม๊ากมากกกกกก

 :mew1:          :pig4:          :mew1:          :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 04-03-2017 23:09:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 05-03-2017 00:23:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Fern666 ที่ 12-03-2017 22:04:46
เป็นเรื่องที่น่ารักมากมายก่ายกองเป็นยองไย แฮปปี้ทั้งเรื่อง ฟินสุด เลอค่ามากมาย  o13 o13
ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 22-03-2017 13:08:03
สนุกมากครับ น่ารักมาก ๆ เลยเป็นเรื่องที่อ่านแล้วยิ้มได้อารมณ์ดี



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: satiara ที่ 19-04-2017 17:50:53
น่าร้ากกก
#กลับมาอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: zenesty ที่ 23-04-2017 22:11:25
ด้วยความคิดถึง เลยกลับมาอีกครั้ง วนเวียนกันไปทั้งน้าเจ้ากะเพลิงฟ้า ลูกหมูของน้าเจ้า วนไปๆ คิดถึงจริงๆ  :mew6:  :mew6:

หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 11-10-2017 22:46:05
อิจฉานายเอก
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 12-10-2017 22:18:48
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 13-10-2017 13:44:26
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-03-2018 03:06:17
 หนุกหนาน  o13
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: jeabjunsu ที่ 22-04-2018 15:30:43
บันนี่นี่น่าฟัดมากๆเลยน้าาาา มีพ่อที่บ้านไม่พอมีพ่อที่มหาลัยด้วยยย โดยเฉพาพพ่อไรเฟิล 5555 พ่อทูลหัวชัดๆ ไรเฟิลรักนางมากเลยนะ ชีวิตนางนี่ไม่มีแม่ก็ไม่ได้แย่เลยสักนิด มีความสุขม่กๆเลยนะบันนี่
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: JanJanIsHappy ที่ 02-07-2018 17:09:07
ขอบคุณนะคะ เราตามมาจากรีวิวของใครซักคนในทวิต จำไม่ได้แล้ว แต่อ่านจบแล้วหวีดมาก น่ารักมากๆ คำผิดแอบมีพอสมควรเลย ภาษาอาจจะยังต้องใช้ประสบการณ์เขียนมากกว่านี้ แต่พล็อตน่ารักมากเลยค่ะ เราชอบตอนพิเศษมากกกกกกกก ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้ให้อ่านจนจบเรื่องนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: AdLy ที่ 20-07-2018 10:23:23
น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ(อยากพิมพ์ให้ถึงดาวเสาร์เลย)
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 12-08-2018 13:04:55
อ่านกี่ครั้งก็มีแต่รอยยิ้ม   :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: benceii ที่ 13-09-2018 15:53:09
คิดถึงบันนี่จังเลยน้าาาา
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 08-01-2019 20:37:08
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:n ชอบมาากกกกกกก อยากให้มีต่ออ่ะ  :katai1: :z3:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 29-09-2019 11:18:05
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 30-09-2019 18:23:38
อ่านกี่ครั้งก็มีแต่รอยยิ้ม   :pig4: :pig4: :pig4:


ก็ยังยืนยันคำเดิม :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: kiddie ที่ 15-07-2020 16:09:53
ชอบมากกกกกกกกกกก :mew1: :mew1: :mew1:
จริงๆ เคยอ่านเรื่องนี้มานานแล้ว แล้วกลับมาอ่านใหม่ก็ยังชอบอยู่ดี  :o8: :-[ :L1: :3123:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 28-11-2020 11:19:56
 :katai5: :katai5:

กระดึ้บมาอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 02-12-2020 10:39:49
กลับมาอ่านกี่ครั้งก็สนุกทุกครั้ง แต่มีความรู้สึกว่าเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปนิดหน่อยหรือป่าวไม่รู้นะคะ หรือเราคิดไปเอง แต่ยังคงสนุกเช่นเดิมค่ะ รีรันเรื่องอื่นต่อไปค่ะ ยาวๆ
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 28-06-2021 13:58:23
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 15-08-2021 15:21:59
 :กอด1: