SPECIAL EPISODE : Knight x August I “กูไปสูบบุหรี่นะ” ผมตะโกนบอกกับเพื่อนและเดินหลบออกมาจากด้านในที่มีบีทหนัก ๆ และเพลงเสียงดังตามแบบฉบับสถานบันเทิงทั่วไป.. แต่บางทีผมก็คิดว่ามันน่ารำคาญนะ
ริมฝีปากสีซีดคาบมวนบุหรี่เอาไว้ก่อนจุดไฟที่ปลายอีกด้าน ฉับพลันสายตาเหลือบไปเห็นคนสองคนกำลังฉุดกระชากกันอยู่ ดูเหมือนจะมีคนไม่เต็มใจนะ.. แต่ผมก็แค่มองและปล่อยควันสีเทาให้ลอยไปตามอากาศ
“ปล่อย!!!” เสียงเล็กติดแหลมแต่ยังไงก็รู้ว่านั่นคือเสียงผู้ชาย ตวาดสั่งพร้อมทั้งสะบัดมือออกจากการพันธนาการ
“อยู่เฉย ๆ น่า”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!! อย่าเอามือสกปรกของนายมาแตะตัวฉัน!” ผมผิวปากออกมาอย่างไม่รู้ตัว ที่ตรงนั้นค่อนข้างมืดเลยทำให้ผมมองไม่เห็นว่าพวกเขาเป็นใคร
“ปากดีจริงนะ”
“หึ!” ไอ้คนตัวเล็กกว่าสะบัดมืออกอีกครั้งจนหลุดแล้วหันหลังเดินมา.. มาทางที่ผมอยู่ซะด้วย
ดูจากลักษณะแล้วน่าจะยังอยู่มัธยมปลายอยู่เลยด้วยซ้ำ ตัวเตี้ยเป็นถั่วงอกอย่างนี้กระแดะเข้าผับ ในชีวิตผมเคยเจอผู้ชายที่สวยเหมือนผู้หญิงก็มีไอ้น้องเห็ด และอีกคนก็คนนี้.. มั้ง
เด็กนั่นเบิกตาโตเมื่อเห็นผมยืนอยู่ แต่สักพักก็ทำหน้าปกติ และไม่นานอีกคนก็ตามมา..
ผมเดาะลิ้นก่อนจะแสยะยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกคนเป็นใคร อ่า.. อริของผมนี่เอง มันชื่อมิคครับ ไม่เชิงว่าอริหรอก แค่ไม่กินเส้นกันเท่านั้นเอง พอดีผมมันเพอร์เฟกต์จนน่าอิจฉาอะนะ เลยเหมือนจะไปขัดแข้งขัดขามันเข้า
มันคว้ามือไอ้ตัวเล็กไว้อีกครั้ง ไอ้นี่ก็จับง่ายจังวะ แล้วผมดูพวกมันทะเลาะกันเพื่ออะไรวะเนี่ย!
“บอกว่าอย่ามาแตะตัวฉันไง!”
“ทำไม หรือกลัวผัวใหม่จะทิ้ง”
“ผัวใหม่เหี้ยไรเนี่ย ปล่อย!!”
“จะไปด้วยกันดี ๆ หรืออยากเจ็บตัว!”
“ใครจะไปกับคนสารเลวแบบนาย! เลิกมายุ่งวุ่นวายกับฉันสักที!”
ผมส่ายหน้าเบา ๆ บี้ปลายบุหรี่กับที่เขี่ยบุหรั้แล้วจะเดินกลับเข้าไปด้านใน แต่จังหวะที่กำลังจะเดินผ่านแขนของผมก็ถูกคว้าเอาไว้ก่อน
“เนี่ย มีคนใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นเลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว”
ดึงกูไปเกี่ยวอีก.. แล้วทำไมผมถึงไม่สะบัดออกนะ..
“ไหนว่าไม่ใช่ผัวไงสัด”
“ตอนนี้ยัง แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เป็นแล้วแหละ”
“หือ..” ผมครางไปแบบงง ๆ
“มึงมันง่าย”
“อ่ะฮ่ะ แต่นายก็ยังไม่ได้ฉันหนิ ง่ายแต่ก็เลือกนะ ยิ่งคนอย่างนายไม่ได้อยู่ในตัวเลือกฉันหรอก”
“ปากดีนักนะมึง!” มันง้างมือจะตบไอ้เด็กแรด แต่ผมคว้าข้อมือมันไว้ก่อน มันมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง แต่ผมไม่สนใจเท่าไหร่
“รีบไปให้พ้นสักทีเถอะ”
“กูไม่หยุดแค่นี้แน่”
“ก็ลองดู ถ้าพี่จูนรู้จะหยุดหรือไม่หยุด คิดเอาเองแล้วกัน ตอนนี้ไปให้พ้นรัศมีสายตาฉันได้แล้ว” คนตัวเล็กแสดงท่าทีไม่ยี่หระ ส่วนอีกคนแทบจะเข้าไปบีบคอ แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยืนกัดฟันกรอดและเดินออกไปพร้อมกับความเครียดแค้น
น่าสมเพชว่ะ..
คนข้างตัวผมถอนหายใจเฮือก ปล่อยที่คล้องแขนผมออกก่อนจะยกมือขึ้นพัดหน้าตัวเอง
“ขอโทษที่ลากมายุ่งนะครับ”
หืม? ผมเลิกคิ้วกับประโยคของคนตรงหน้า ท่าทางหยิ่งยโสเมื่อสักครู่ไม่เหลืออยู่แม้แต่น้อย นี่มันคนเดียวกันจริงเหรอ?
“กลับบ้านไปซะ”
“ไปส่งหน่อยสิ”
“ไม่ล่ะ”
“หน้าตาก็ดี ทำไมใจร้ายจัง”
“เหอะ”
“พี่!”
“อะไรอีกวะ?” ผมถามมันเสียงขุ่นพร้อมทำหน้าหงุดหงิด
“พี่ชื่ออะไรอ่ะ?”
“ไนต์”
“กลางคืน?”
“อัศวินต่างหาก” เด็กแรดนั่นหัวเราะพอใจ พอใจห่าอะไรวะ ผมส่ายหัวแล้วจะเดินกลับเข้าไปด้านใน
“พี่.. เอากันป่ะ?”
!!!!!
“ล้อเล่น”
“กูเพื่อนเล่นมึงเหรอ”
“โห่.. ไม่เห็นต้องทำเสียงเข้มอย่างนี้เลย ล้อเล่นไง ล้อเล่น” ผมมองหน้ามันนิ่ง ๆ ก่อนจะหันหลังให้และเดินเข้าไปด้านใน ไม่ได้หันไปมองว่าเด็กแรดนั่นจะด่าผมหรือว่าทำหน้ายังไง...
อย่าได้เจอกันอีกเลยไอ้เด็กแรด!
ผมเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าก่อนเข็นรถเข็นที่มีข้าวของมากมายไปชำระเงิน วันนี้เลิกเรียนเร็วจึงแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนเพื่อซื้อของเข้าห้อง ของใช้ที่ห้องก็ใกล้หมดเต็มที ไหน ๆ มีเวลาแล้วก็มาหาซื้อเลยแล้วกัน ตอนมันหมดจะได้ไม่ต้องหงุดหงิดให้เสียอารมณ์ นอกจากของใช้ทั่วไปก็มีของสด ของแห้งที่สามารถประกอบอาหารได้ แหม.. เห็นหล่อขนาดนี้ผมก็ทำอาหารเป็นนะครับ แล้วผมชอบทำกินเองมากกว่าซื้อกินข้างนอกด้วย แต่ไม่ค่อยมีเวลาทำเท่าไหร่ ดูย้อนแย้งแต่ช่างมันเถอะ
“ว่างมากก็กลับไปอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้เถอะ” ผมชะงักมือที่กำลังจัดของใส่ท้ายรถ เสียงติดแหลมที่ค่อยข้างคุ้นทำให้ผมมองหา แต่นึกไม่ออกว่าเสียงของใคร..
“แล้วทำไมนายไม่ไปอ่านหนังสือบ้างล่ะ มัวแต่ไปอ่อยแฟนคนอื่น เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้คนจะสมน้ำหน้าเอาหรอก” อีกเสียงว่าขึ้นดูมีอารมณ์อยู่นิดหน่อย
“ติดสอบตรงแล้วครับผม” ผมเผลอหัวเราะ ปิดท้ายรถลงแล้วมองหาต้นเสียง “แล้วก็ ขอโทษน้า ผมไม่เคยไปอ่อยแฟนคุณเลย แฟนคุณเป็นใครผมยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ”
“ตอแหล! เมื่อวานฉันเห็นนายอยู่กับคิม”
“คิม? อ๋ออออ แฟนเก่าเราเอง” เชี่ย.. นึกว่าใคร เด็กแรดที่ผับนั่นเองครับ ผมเห็นพวกเขาแล้ว อยู่ถัดจากบล็อคที่ผมจอดรถไม่ไกล เหมือนฝ่ายตรงข้ามเขาจะเยอะกว่านะ ไม่เหมือนสิ มันเยอะกว่าจริง ๆ เพราะฝ่ายนั้นมีสี่คน และเด็กแรดมีคนเดียว
“แล้วมาบอกว่าไม่รู้จัก!”
“เอ๊า ก็ไม่รู้จักนายไง ไม่น่าเชื่อว่าคิมจะไปคบกับ... แต่ก็ดูเหมาะกันดี” เด็กแรดยกยิ้มมุมปากก่อนฉีกยิ้มกว้างที่ดูยั่วตีนสุด ๆ ผมมองอยู่นี่ยังคันตีนยิบ ๆ
“เหอะ! ถ้าเป็นแฟนเก่าก็อยู่ส่วนของแฟนเก่าไปแล้วกัน อย่าสะเหล่อเข้ามายุ่งเด็ดขาด”
“โอ๊ยยยย ไม่ยุ่งหรอก เลิกกับมันได้นี่แทบจะจ้างมาร์รูนไฟว์มาเล่นหน้าบ้าน ถือว่าหมดเคราะห์หมดโศก หมดเวรหมดกรรม” ดูมันพูด “หวังว่าจะคบกันนาน ๆ น้า ระวังจะโดนคิมมันเขี่ยทิ้งล่ะ หวังดีนะเนี่ย”
“นี่!!!” เด็กหน้าหวานฝั่งคู่กรณีทำหน้าโมโหก่อนจะเปลี่ยนท่าทาง “เอ๊ะ.. หรือเพราะนายอิจฉาที่คิมเลิกกับนายมาคบกับฉัน”
“โอ้มายก้อด.. หน้าอย่างนี้ต้องอิจฉาใครไหม คิดสิ คิด! แล้วก็ขอโทษที่ทีน้า.. คนบอกเลิกคือผมเองครับ อ๋อ ที่เลิกเนี่ยไม่ใช่อะไรหรอก เพราะมัน... หวา ไม่สปอยล์ดีกว่าเนอะ เดี๋ยวไม่สนุก ลองคบกับคิมไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ สู้ ๆ นะ”
“อย่ามากวนประสาทนะไอ้บ้า!”
“ไม่ได้กวนเลย ยืนอยู่เฉย ๆ เลยเนี่ย” เด็กแรดทำเป็นมองซ้ายมองขวา “ขอตัวนะ เสียเวลานานแล้ว ไร้สาระจริง ๆ โอ๊ย!” และพอเด็กแรดหันหลังจะเดินออกไปก็ถูกกระชากแขนเอาไว้ก่อน
“ฉันยังพูดไม่จบ ใครบอกให้นายสะเออะเดินหนี!”
“อ้าว ไอ้เชี่ย แล้วมึงมีสิทธิอะไรมาสั่งกู เดี๋ยวพ่อชกหน้าแหก”
“อันธพาล นิสัยเสีย!”
“มึงดีมากดิ เพิ่งรู้ว่าผู้ดีเขาพาพวกมารุมคนอันธพาล ยี๋ กาก!” มันว่าแล้วยกมือกอดอกและหันหน้าไปทางอื่น และนั่นทำให้ผมกับเด็กแรดสบตากันพอดี... “พี่ไนต์!!!”
เรียกกูหาพ่อมึงเหรอ!
เรียกไม่พอมันวิ่งเข้ามาหาและคล้องแขนผมเสร็จสรรพ
“เหี้ยไรมึง ปล่อยกู”
“พี่ช่วยผมแป๊บนึงนะ น้า.. รำคาญพวกมันมากเลยเนี่ย”
“ช่วยไรวะ”
“อยู่เฉย ๆ ก็พอครับ” ผมเลิกคิ้ว “นี่! ไม่ต้องห่วงหรอกว่าผมจะไปยุ่งกับคนของคุณน่ะ ผมก็มีคนของผม เพราะฉะนั้นเลิกมายุ่งวุ่นวายด้วยสักที รำคาญโว้ย!”
กูไปเป็นคนของมึงตอนไหนไอ้เด็กแรด!
ซวยจริง ๆ ผมไม่นานยืนดูพวกมันทะเลาะกันเลย แล้วนี่อะไร ปล่อยแขนผมแล้ววิ่งสะดีดสะดิ้งไปขึ้นรถผมแล้ว เฮ้ย! มึงจะเนียนมากไปแล้ว!
“อะไรของมึง ลงไป!”
“ขอผมไปด้วยนะ ผมไม่อยากโดนพวกนั้นตบ”
ตอแหล..
“รถมึงก็มีไม่ใช่ไง? มายุ่งอะไรกับกู”
“ผมอยากให้พี่ไปส่งนี่นา.. ส่วนรถก็ให้คนที่บ้านมาเอาก็ได้ นะครับ ไปส่งผมหน่อยนะ”
“ไม่!!”
“ขอบคุณมากนะครับที่อาสาจะไปส่ง”
กวยยยยยยยยยย!
ใครก็ได้ลากคอได้เด็กนรกนี่ไปเก็บที!
“มึงไปมีเรื่องอะไรกับเด็กกลุ่มนั้น?” อยู่ ๆ ผมก็ถามไอ้เด็กที่นั่งเคี้ยวขนม(ที่ควอทซ์มันซื้อมาไว้)กร้วม ๆ ที่เบาะข้าง ๆ ขณะที่รถติดไฟแดง
“พวกมันเป็นใครก็ไม่รู้ จู่ ๆ มาหาว่าผมไปยุุ่งกับแฟนมันเฉย ประสาท”
“แล้วมึงยุ่งจริงไม่ใช่?”
“ยุ่งบ้าไรล่ะลุง เพิ่งรู้เนี่ยว่าแฟนมันคือแฟนเก่าผม ที่คุยกันกับมันวันนั้นเพราะแม่งจะมาขอคืนดี เหี้ยอย่างนั้นใครจะกลับไปวะ”
อ้าวเชี่ย.. ลามปามเรียกกูลุงอีก
“คนเดียวกับไอ้ที่ผับวันนั้น?”
“หึ ไม่ใช่อ่ะ คนที่ผับนั่นยังไม่ได้เป็นแฟน แต่ก็อยู่ในระยะคุยกันอยู่”
“อ้าว แล้ววันนั้นพวกมึงตีกัน?”
“ก็ผมไปเจอมันเอากับคนอื่นอ่ะ ก็เลยขอยุติความสัมพันธ์แต่แม่งดันไม่ยอม”
แล้วตอนนี้กลายเป็นว่าผมไปชวนมันคุยซะงั้น ไอ้เด็กแรดก็เล่าออกมายาวเลยครับ ผมข้อสรุปให้คุณฟังตามที่ผมเข้าใจเลยนะครับ แฟนเก่าของเด็กแรดนี่ชื่อคิม ส่วนคนที่ผับนั่นชือมิค กับไอ้เด็กคิมมันก็คบกันดี ๆ นั่นแหละ แต่แล้วมีอยู่วันหนึ่งที่เด็กแรดนี่โดนแฟนมันชวนไปที่บ้านแล้วกลับเกือบโดนวางยาโดยแฟนตัวเอง เพราะไอ้เด็กคิมจะให้เพื่อนมันเอากับออกัส(คุยกับแม่งมาตั้งนานเพิ่งนึกชื่อออก) แต่ไอ้กัสดันไปบังเอิญได้ยินเข้าเลยตั้งสติระงับความโกรธและโมโหก่อนหาทางหนีออกจากบ้านนั้น โดยทำเป็นว่าจะออกไปซื้อของที่ร้านค้า ที่จริงแล้วคือชิ่ง พอจากวันนั้นมันก็บอกเลิกเด็กคิม
โอ้โห โคตรอึ้ง เด็กอายุสิบแปดมึงคิดเหี้ย ๆ แบบนี้ได้ด้วยเหรอ อยากจะรู้จริง ๆ ว่าโตมาในครอบครััวแบบไหน
และส่วนของไอ้มิคนั้น(ซึ่งไม่ค่อยถูกกับผมด้วย) หลังจากเลิกกับไอ้คิมแล้ว ไอ้มิคก็เข้ามา พวกมันก็คุยกันไปเรื่อย ๆ เหมือนดูใจว่างั้น จนกระทั่งพี่ชายของเด็กแรดชวนไปผับด้วย(พี่มึงนี่ก็นะ..) และความบังเอิญอีกครับ แม่งจะไปเข้าห้องน้ำแล้วเสือกเห็นคนที่ตัวเองกำลังจะเป็นแฟนด้วยนัวเนียกับคนอื่นในห้องน้ำ แล้วเหตุการณ์ด้านบนมันก็เกิดขึ้น...
ชีวิตมึงนี่น่าสงสารจริง ๆ
“มองขนาดนี้เค้าเขินนะลุง”
กลับเข้าสู่ความเป็นจริง ๆ . . . ผมกลอกตาเมื่อไอ้เด็กที่นอนหนุนตักผมอยู่พูดขึ้นมา ผมไปมองหน้ามันตอนไหนวะ
“คิดไปเอง”
“โธ่..” มันเด้งตัวลุกขึ้น นั่งขัดสมาธิโดยเกยขาข้างหนึ่งบนขาผม “ลุงอ่านไรอ่ะ?” ชะโงกหน้ามาดูเอกสารในมือผม “อี๋ มีแต่ภาษาอังกฤษ” มันเป็นข้อมูลที่ต้องใช้ประชุมในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งก็มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ต้องดีลงานกับชาวต่างชาติก็เลยต้องมี
“มึงเรียนนานาชาติไม่ใช่? มาสะดีดสะดิ้งใส่ภาษาอังกฤษทำไม”
“เอ๊า! ก็เห็นแล้วมันหยึ๋ย ๆ จั๊กจี้ ขนลุกไปถึงซอกเล็บเลยเนี่ย” ซอกเล็บมึงมีขนด้วยหรือไง ผมม้วนเอกสารในมือแล้วตีหัวไอ้เด็กพูดมาก
วันนี้เป็นวันเสาร์ ถึงได้มีเวลาหยุดอยู่ด้วยกัน ถ้าได้อยู่ด้วยกันทั้งวันก็มีแต่วันหยุดเสาร์ อาทิตย์นี่แหละครับ แต่บางทีวันหยุดผมยังต้องเข้าบริษัทเลย ออกัสมันก็เรียนไงครับ วันหยุดก็อาจจะมีไปติว ไปทำงานกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยบ้าง ช่วงนี้ก็เลยยุ่ง ๆ อยู่ด้วยกันก็เหมือนไม่ได้อยู่กัน บางทีผมต้องเคลียร์งานที่บริษัทจนดึก กลับมาไอ้เด็กนี่ก็หลับ หรือว่าหากมันต้องทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยพอมันกลับมาผมก็หลับไปแล้วเพราะเหนื่อยจากการทำงาน
ผมวางเอกสารในมือลง “อยากไปไหนไหม?”
คนอายุน้อยกว่าทำหน้าแปลกใจ ก่อนสะบัดศีรษะจนผมกระจาย “ไม่อ่ะ อยู่ห้องนี่แหละ”
“แน่ใจ?”
“อือ” มันพยักหน้าหงึก ๆ ก็ตามใจ ถามแล้วนะ ถ้ามางอแงทีหลังจะได้ถีบ
“ลุงดูบาร์บี้ไหม เค้ายืมของน้องไอ้อ้วนมา” ไอ้อ้วนนั่นเพื่อนมันครับ ไม่ได้ชื่อไอ้อ้วนแต่เรียกอย่างนั้นเพราะตัวอ้วน คนถามไม่รอคำตอบกระโดดจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าห้องนอนไป ก่อนกลับออกมาพร้อมกล่องพลาสติกสีชมพู เด็กแรดกดเปิดเครื่องเล่นดีวีดีแล้ววิ่งกลับมานั่งที่เดิม
“อ้าว! ปิดทำไม กำลังสนุกเลย” เด็กข้าง ๆ โวยวายเมื่อผมคว้ารีโมทมากดปิดการ์ตูนที่เพิ่งเล่นไปแค่สิบนาที ความสนุกในตามึงมันไม่มีเลย หึ..
ผมรวบเอวเด็กแรดขึ้นมานั่งบนตักและกอดเอวบางไว้หลวม ๆ “อยากไปไหนหรือเปล่า?”
มันส่ายหน้า “...อยู่...ลุง”
“พูดอะไร ชัด ๆ ดิ แล้วเงยหน้าขึ้นมาด้วย” บอกแกมสั่งคนบนตัก ออกัสเงยหน้าขึ้นมา ตาคมมีหยาดน้ำเอ่อคลอ ฟันขาวขบริมฝีปากปากไว้แน่น “ร้องไห้ทำไม?”
“ไม่...ร้อง”
“เป็นอะไร บอกกูสิ” น้ำตาไหลออกมาแล้วยังกล้าบอกว่าไม่ได้ร้อง พูดบ้าอะไรอยู่ในคอคิดว่ากูจะฟังรู้เรื่องไหม ตั้งแต่ประโยคแรกแล้วนะ “ออกัส” ผมเรียกเสียงเข้มเมื่ออีกฝ่ายยังคงเงียบ เด็กแรดมองผมทั้งน้ำตาอาบแก้ม จนต้องเกลี่ยปลายนิ้วปาดมันออก
“คิดถึง.. เค้าคิดถึงลุงอ่ะ ฮือ” ให้ตาย.. ผมกดหน้าเด็กขี้แยให้ซบไหล่ แขนเล็กยกกอดคอผมโดนทันที “คิดถึงอะไร ก็อยู่นี่ป่ะ?”
“เรา.. เราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเลยนี่..”
“น้อยใจ? กูต้องทำงานไง”
“ไม่ได้น้อยใจ.. ก็รู้ว่าลุงงายยุ่ง เค้าไม่งี่เง่าหรอก แต่พี่จูนมันบอกว่าลุงเบื่อเค้าแล้ว เลยเอางานมาอ้างเพราะจะออกไปกับคนอื่น ฮึก”
“แล้วมึงเชื่อพี่มึงหรือเปล่า?” ไอ้ห่าจูนนี่ก็กวนตีนนะ มาเสี้ยมให้เมียกูนอยด์อีก สัด! เดี๋ยวกูยุบะหมี่ไม่ให้เอามึง
ไอ้จูนคือพี่ชายของออกัสครับ ซึ่งผมรู้จักมันอยู่แล้วแต่ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก จนกระทั่งเด็กแรดนี่เริ่มเข้ามาป่วนผมและมีเหตุให้ได้เจอไอ้จูนบ่อย ๆ แล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนผมกับเพื่อนนัดสังสรรค์กัน แล้วไอ้จูนมันเลยได้เจอบะหมี่ ไม่รู้ไปโดนมนต์อะไรเข้า ตามจีบเพื่อนผมเฉย แต่เจ้าแม่ยังไม่เล่นด้วย
สมน้ำหน้าแม่ง
แล้วผมจะมาเล่าเรื่องคนอื่นทำไมวะ!
“ถ้ากูบอกว่ากูทำงานจริง ๆ ไม่ใช่ข้ออ้าง ไม่ได้ไปกับคนอื่น
กัสจะเชื่อพี่ไหมครับ?”
“เชื่อดิ.. เค้าเชื่อพี่อยู่แล้วแหละ..”
“งั้นก็เลิกร้องซะ” ผมขยี้ผมมัน “ทีหลังอย่าไปฟังไอ้จูนมาก มันบ้า ไม่รู้เหรอ?”
“อื้อ แต่..”
“แต่อะไร?”
“เปล่า เดี๋ยวลุงด่า” มันเงยหน้าจากไหล่ผม แล้วใช้หลังมืดเช็ดน้ำตาบนแก้มพร้อมสูดน้ำมูกฟืด ร้องไห้แล้วแม่งน่าเกลียดฉิบหาย
“ไม่พูดนั่นแหละเดี๋ยวกูจะด่าให้”
“..มัน.. เขวนิดหน่อย โอ๊ย! เจ็บนะไอ้เหี้ยลุง!” ทีนี้ละแหวขึ้นมาเลย ผมบีบปากมันซ้ำไปอีกที ไอ้เด็กแรดสะบัดหน้าแล้วเม้มปาก
“ปัญญาอ่อน คิดเหี้ยอะไรไร้สาระ”
“.. เห็นไหม! ลุงด่าเค้า”
“มันน่าไหม เดี๋ยวเถอะ ไปขลุกอยู่กับไอ้จูนมาก ๆ โดนมันล้างสมอง ยิ่งโง่ ๆ อยู่ด้วยมึงเนี่ย”
“เค้าไม่ได้โง่!!”
“หึหึ” ผมปล่อยเด็กโง่เป็นบ้าไปคนเดียว ก่อนจะถาม “อยากไปเที่ยวหรือเปล่า?”
เพราะผมกับมันไม่ค่อยได้ไปเที่ยวด้วยกันเลยช่วงนี้ อีกอย่าง เห็นมันชอบเข้าไปดูโซเชียลของไรเฟิลกับไอ้น้องเห็ดที่ขยันอัพรูปกันฉิบหาย ก็เผื่อมันอยากจะไปอย่างนั้นบ้าง ซึ่งผมก็คิดไปเองคนเดียวนั่นแหละครับ ก็กลัวมันจะน้อยใจอยู่นะ ผมก็ทำแต่งานไม่ค่อยได้พาเที่ยวเหมือนเมื่อก่อน เกิดแม่งนอยด์ผมก็แย่ดิ แล้วตอนนี้สองศรีสามีภรรยาเขาจูงมือกันไปเรียนต่อไกลถึงอังกฤษ แต่เรียนปริญญาโทมันว่างมากจนมีเวลาไปเที่ยวแล้วมาอัพโหลดรูปโชว์เพื่อนทุกวันเลยไง? ชีวิตดีไปไหนพวกมึง
“อยาก.. แต่ก็ไม่อยาก”
“ดี ๆ ดิ”
“กัสอยากอยู่กับพี่” ไม่ต้องมาช้อนตามองไอ้สัด
“แล้วไปเที่ยวไม่อยู่กับกูตรงไหน”
“อ้าว ไม่ได้ให้เค้าไปคนเดียวเหรอ?”
“ไอ้โง่” ดีดหน้าผากมนไปที “กูไปด้วย”
มันยิ้มกว้างตาปิด “งั้นไป!!” สักพักก็เหี่ยวเหมือนผักโดนลวก “แต่ลุงงานยุ่ง โกหกเค้า”
“โกหกเหี้ยไร กูเคลียร์งานได้”
“เดี๋ยวลุงเหนื่อยอีก เค้าก็ต้องอ่านหนังสือสอบด้วย”
“ไปหลังมึงสอบเสร็จ กูยังมีเวลาเคลียร์งาน”
“ไม่ไปแล้ว.. เค้าไม่อยากให้ลุงทำงานหนัก แล้วไม่ได้นอน” หืม.. มึงไปหัดทำตัวน่ารักมาจากไหน
“แน่ใจ? งั้นกูไปคนเดียว”
“ได้ไง!!!”
“ได้ดิ เงินซื้อตั๋วก็เงินกู ค่าใช้จ่ายอะไรก็เงินกู คุยกับไอ้เห็ดไว้แล้วเนี่ย”
“หะ!!! ไปหาพี่ควอทซ์เหรอ!!?” มันถามพลางพลิกตัวหันหน้าเข้าหาผม เอาจริงแล้วแม่งนั่งคร่อมตักผมอยู่ ชอบนักท่าเนี้ย ไอ้แรด! กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโคร่งที่มันชอบใส่ เพราะเสื้อใหญ่กว่าตัวไปมากทำให้คอเสื้อเทไปด้านหนึ่งมากกว่าาทำให้เห็นลาดไหล่ขาวเนียน ตาคมมีสีแดงจาง ๆ เพราะเพิ่งร้องไห้และยังมีหยาดน้ำฉาบอยู่ ริมฝีปากที่ถูกกัดจนขึ้นสีสดนั่นอีก
แม่ง.. เซ็กซี่ฉิบหาย
“อืม”
“ไปด้วยยยยย เค้าไปด้วยยยยยยย” พูดเฉย ๆ ไม่ต้องเด้งตัวได้ไหม!!!
“อืม”
“เย้เย้ ลุงใจดีที่สูดดดดดดดด! จุ๊บ!” มันร้องแล้วจุ๊บปากผมเร็ว ๆ ก่อนจะรีบลุกออกไปแต่ยังติดที่แขนผมยังล็อคเอวบางเอาไว้ ส่งผลให้สะโพกของมันกระแทกกลับลงมาที่ตักผมเต็ม ๆ
...เริ่มอันตรายล่ะ
ผมเนี่ยอยู่ในจุดอันตรายแล้วโว้ย!
มันทำหน้าเหวอเมื่อผมเลื่อนมือไปลูบเอวและไล้ลงไปเคล้นก้นนิ่มเบา ๆ “ล.. ลุง”
“หืม?”
“อย่าเล่นงี้ดิ”
“กูไม่ได้เล่น..” ผมว่าเสียงแหบพลางไล้ปลายนิ้วตั้งแต่ข้อเท้าเล็กขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ จนกระทั่งถึงโคนขาของมันแล้วจึงแทรกมือผ่านขาเกางเกงขาสั้นเข้าไป.. เด็กแรดเกร็งตัวกัดริมฝีปาก ผมยกยิ้มในใจก่อนเลื่อนไปแนบริมฝีปากกับเรียวปากบางและพรมจูบไปทั่วในหน้าสวยอย่างอ้อยอิ่ง.. “คิดถึงกูไม่ใช่เหรอ?”
“ม ไม่ใช่แบบนี้ อื้อ..” เด็กอายุน้อยกว่าดิ้นพร้อมดันหน้าผมออก “ลุงอย่าดูดคอ โอ๊ย!”
“สะดีดสะดิ้งนะเดี๋ยว”
“ไอ้บ้าลุง! ไม่เอาาาาาาา อ๊ากกกกกก!”
“กู-จะ-เอา” ผมเน้นทีละคำพร้อมยกไอ้ตัวเล็กขึ้นพาดไหล่แล้วพาเดินเข้าไปที่ห้องนอนก่อนโยนร่างเล็กลงเตียงและตามขึ้นไปคร่อมทับ..
และมันจะปฏิเสธอะไรผมได้.. นอกจากครางและบอกกระแทกแรง...
ความตลกของโชคชะตาคือการที่ผมขออย่าได้ให้เจอเด็กคนนี้อีกตั้งแต่ครั้งแต่ที่เราเจอกัน แต่ตอนนี้.. ผมกลับเจอเด็กนี่...
ทุกวัน------------------------------------
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด มาแล้วค่าาาาา ไนต์กัสที่รอคอย(ใครรอยะ?) (แฮ่)
ไม่มีอะไรนิยามสำหรับคู่นี้ ...
คาแรคเตอร์อาจจะแปลกไปขออภัยงับ เพราะคนเขียนลืมบท แงงง (โดนตบ)
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ขอบคุณจริง ๆ มีอะไรแนะนำได้นะคะ จะได้เอาไปปรับปรุง ; __ ;
ไว้เจอกันพาร์ทหน้านะงับ ไม่แน่ใจว่าจะมีกี่พาร์ทจบ ขึ้นอยู่กับขีดความขยันของคนเขียน (โดนตบอีกที)
ไปดีกว่าาาา ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้าาา จุ้บๆ