EPISODE 37 “เอาจริงเหรอครับ?”
“จริงที่สุดค่ะหลานรัก”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถามกี่รอบก็ได้คำตอบแบบเดิม
วันศุกร์แสนสุขของผมถูกพังลงเพราะคุณย่าสุดที่รักดันโทรมาเรียกตัวให้ไปพบกระทันหัน พอมาถึงที่หมายผมแทบอยากหลังกลับ ฮือ ดีนะวันนี้ไม่ได้เข้าม. (อีกแล้ว)
น่าจะถามรายละเอียดก่อนไม่น่าพลาดเลยเชี่ย!
คุณย่ากับอาณิช ขอร้องให้ผมเป็นพรีเซนเตอร์นาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ของอาณิชที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ ถ่ายแบบยังพอไหวแต่จะให้ผมขึ้นแคทวอล์คด้วยนี่ไม่ใช่สไตล์ แค่เดินปกติยังไม่ตรงเลย T____T
“แต่ผมเดินไม่เป็นนี่นา”
“ของแบบนี้มันฝึกกันได้” อาณิชพูด อาณิชเป็นผู้ายแต่..ใจเป็นหญิง ตัวขาว ๆ น่ารักมาก เจ้าของแบรนด์นาฬิกาชื่อดัง แต่ละเรือนโคตรพ่อโคตรแม่แพงเลยขอบอก
“เกิดไปทำงานอาล่มควอทซ์ก็แย่สิครับ”
“ไม่ล่มหรอก มีแต่จะปัง!” ว่าแล้วก็หัวเราะกับคุณย่า โอยยยยยย
“แต่ควอทซ์...”
“ถือว่าช่วยอาเถอะนะ งานนี้ไม่ฟรีมีค่าตอบแทนนะ”
“อะไรครับ?”
อาณิชยิ้มเจ้าเล่ห์ “นาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ เรือนที่หนูใส่เดิน เอาไปเลยจ้ะ”
เชี่ยยยยยยยยยยยย! ผมเบิกตา นาฬิกาที่จะเปิดตัวแต่ละเรือนมันหลายหลักเลยนะเว้ย!
“ล้อเล่นหรือเปล่าอาณิช”
“อาจะล้อเล่นทำไมล่ะลูก! ถ้าหนูเดินนะต้องปังแน่ ๆ หน้าตาแบบนี้เนี่ยยยยยย กำลังเป็นกระแสเชียวล่ะ ถือว่าเปิดตัวทายาทคนเดียวของอัครไพศาลกุลด้วย ดีไหมคะคุณย่า” จะไม่ตกลงเพราะอันสุดท้ายนี่แหละครับ ความวุ่นวายวิลฟอลโล่ยู - -*
“นั่นสิ แต่ย่าไม่บังครับหรอก ถ้าไม่ช่วยเหลือคนรู้จักก็ดูใจร้ายไปหน่อย เด็กสมัยนี้ไม่มีน้ำใจกันเลย” คุณย่ายิ้มใจดี แต่แหม มันขัด ๆ กันอยู่นะครับย่า
ผมยกมือสองข้างคล้ายยอมแพ้
“โอเค! ยอมแล้วครับ ยอม!” คุณย่ากับอาณิชยิ้มพอใจ เป็นอันว่าตกลง
หลังจากนั้นผมก็ถูกพาไปวัดตัว คนวัดก็อาณิชนั่นแหละ เพราะผมไม่ให้คนอื่นทำ มันยังไม่รู้อ่ะครับ จั๊กจี้ จั๊กกะดึ๋ย กว่าทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยก็บ่ายสองแล้ว และตอนนี้!!! ผมเป็นอิสระแล้วครับ!!!!!
“อย่าลืมนัดของเราวันพุธนะจ้ะ”
“คร้าบบบบ”
“มากอดทีสิ ฟอดดด” กอดแล้วยังหอมแก้มอีก ฮือ -///////-
อ่า...วันพุธ..นัดของเรา..วันถ่ายแบบ..
T_____T
...................................
ผมเดินเล่นในศูนย์การค้ารอเวลาที่จะไปรับไรเฟิลที่มหาวิทยาลัย วันนี้พี่ท่านไม่ได้ขับรถไปครับ ไม่รู้นึกยังไง ผมเลยต้องไปส่ง แต่เห็นบ่น ๆ ว่าปวดหัว ตัวรุ่ม ๆ ด้วย
กระซิบ ๆ ผมจะบอกความลับของไรเฟิลให้ฟังครับ ..เห็นตัวโต ๆ แบบนั้นน่ะ คุณชายแม่งกินยายากฉิบหายเลยครับ! ผมทั้งกล่อมทั้งเว้าวอน พี่ท่านปฏิเสธอย่างเดียว จนต้องเล่นบทโหดนั่นแหละ กินไปรอบแรกแม่งสำรอกออกมาเลย เล่นเอาผมกังวล แต่จะไม่กินก็ไม่ได้อ่ะเนอะ
“แฮ่!!”
“เชี่ย!” ผมหลุดสบถออกมาเมื่ออยู่ ๆ มีใครไม่รู้มาแตะไหล่แล้วยังทำเสียงให้ตกใจอีก
“ไอ้เด็กเวร” เป่าลมจากปากอย่างโล่งอกพอรู้ว่าเป็นใคร
ฟาโรห์นั่นเอง จำได้ป่ะครับ น้องชายไรเฟิลไง
“พี่มาทำไรอ่ะ?”
“เดินเล่น ..โดดเรียนหรือไง?” มองฟาโรห์ที่อยู่ในชุดไปรเวท แถมนี่ยังเป็นวันธรรมดาอีก อีกอย่างยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนด้วย
“โห่... ปิดเทอมแล้วคร้าบบบ” อ่า.. ลืมไปว่ามหา’ลัยกับมัธยมปิดเทอมไม่ตรงกัน
“อ้อ..”
“ป่ะพี่ ไปกินข้าวกัน ผมเลี้ยง”
“เฮ้ย! เดี๋ยวดิ!” ไม่ทันแล้ว แม่งลากผมเลยอ่ะ ได้เด็กยักษ์นี่! นิสัยเผด็จการนี่ถูกถ่ายทอดทางดีเอ็นเอหรือไง...
.....
ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง...
“พี่ควอทซ์!”
“สวัสดีครับน้องฟิงซ์ สวัสดครับ” ผมทักน้องฟิงซ์ แล้วยกมือสวัสดีผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างน้องฟิงซ์ด้วย
“พี่ นั่นแม่ผม ..แม่ครับ นี่พี่ควอทซ์ครับ” ฟาโรห์พูดเป็นภาษาอังกฤษ ผมไหว้เธออีกรอบ
เดี๋ยวนะ..
แม่ฟาโรห์.. แม่ฟาโรห์ก็แม่ไรเฟิลอ่ะดิ!!!
ตัวชาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว...
“ฟา..” ผมกระตุกชายเสื้อเด็กแสบข้าง ๆ
“เฮ้ยยย กลัวไรพี่ แม่ผมใจดี เนอะ”
“ช่ายยยยย” น้องฟิงซ์ผสมโรง
ผมถูกฟาโรห์ดันเข้าไปนั่ง แล้วก็ดันนั่งตรงข้ามกับคุณแม่ของมันด้วย อ๊อยยยยย เกร็งสุด ๆ
ไรเฟิลช่วยด้วยยยยยยยย T_____T
“So cute~!” กระพริบตาปริบ ๆ คุณแม่ไรเฟิลยิ้มหวานหยด โอยยย ใจจะละลาย ท่านสวยมาก ๆ ..ผมเกาแก้มแก้เขิน เห็นน้องฟิงซ์กระซิบอะไรกับท่านไม่รู้
“Where is my boy?”
“He was at university” ก็พอรู้มาบ้างว่า my boy, my girl คือคำที่คุณแม่ไรเฟิลใช้เรียกลูก ๆ น่ารักดีครับ ไรเฟิลเคยเล่าให้ฟัง
“I’m hungry!!” หลังจากที่น้องฟิงซ์พูด เราก็สั่งอาหารกัน ภาษาที่ใช้สื่อสารล้วนแต่เป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น โชคดีที่ผมรู้เรื่อง ไม่งั้นมีมึน
ฟาโรห์แอบกระซิบว่าคุณแม่ของมันฟังภาษาไทยรู้เรื่อง พูดได้แต่ไม่ชัด เพราะฉะนั้นครอบครัวนี้เลยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลััก และผมเพิ่งรู้ว่าไรเฟิลมีตั้งเจ็ดเชื้อชาติ!!!
“คุณแม่มองแบบนั้นพี่ควอทซ์ก็เขินแย่สิคะ”
“ก็น้องควอทซ์น่ารักนี่ค่ะ ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกแน่ะ”
“หา..?” รูป.. รูปอะไรครับ!
“อ้อ.. แม่เห็นรูปพี่จากพี่ไรเฟิลน่ะ ส่งมาให้ตลอด”
“เดี๋ยวนะ..”
“แม่รู้เรื่องที่พี่กับพี่ชายผมเป็นอะไรกันด้วย” บอกแล้วยักคิ้วให้
“O_O!!!”
“ผ่านไหมคะคุณแม่?” ผมกลื้นน้ำลายเอือก คุณแม่ไรเฟิลมองผมยิ้ม ๆ แล้วพยักหน้าตอบคำถามน้องฟิงซ์
“ผ่านค่ะ! หน้าตาน่ารัก มารยาทก็ดี พูดก็เพราะ ไรเฟิลตาถึงนะเนี่ย”
อ๋อยยยย หน้าจะไหม้อยู่แล้ว เขินนะเชี่ย -/////////-
การมาเจอแม่สามี เอ๊ย! แม่แฟนแบบไม่ได้ตั้งใจแบบนี้มันเหนือความคาดหมายมาก ๆ แล้วท่านยังบอกว่าชอบผมอีก ใจเต้นตุบ ๆ ใจชื้นมาบ้างแล้ว อย่างน้อย ๆ ครอบครัวไรเฟิลส่วนมากก็ชอบผมล่ะว่ะ (ยังไม่เคยเจอพ่อกับพี่สาว T___T)
คุณแม่(ทีแรกเรียกคุณป้าแล้วถูกบังคับให้เรียกแม่ เผด็จการทั้งบ้าน!)บอกว่ารู้เรื่องของผมตลอดเพราะไรเฟิลเล่าให้ฟัง แล้วที่มันขอผมเป็นแฟนกับถามท่านก่อนด้วย (ถ้าแม่ไม่ยอมมึงจะขอกูเป็นแฟนม้ายยยยยย) แล้วยังบ่นอีกว่าไรเฟิลไม่ยอมพอผมไปเจอสักที
ผมได้แต่ยิ้ม ยิ้มจนเมื่อยแต่หุบไม่ลง ก็คนมันมีความสุขอ่ะ ใครจะทำไม!
หลังจากทานข้าวกันเสร็จก็เดินย่อยครับ ย่อยด้วยการเดินถือถุงช็อปปิ้งให้สาว ๆ ฟาโรห์บ่นว่านอกจากเป็นลูกก็เป็นคนถือของนี่แหละ 55555 หน้ามันตลกมาก ระหว่างที่คุณแม่กับน้องฟิงซ์เลือกของผมกับฟาโรห์ก็ยืนคุยกันอยู่หน้าร้าน
แล้วเราก็มาที่ร้านร้านหนึ่ง เป็นร้านเสื้อผ้าครับ แบรนด์เดียวกับเสื้อที่ผมใส่ตอนนี้เลยนี่หว่า.. จำได้ว่าไรเฟิลเป็นคนซื้อมา
“ร้านของแม่น่ะ” ฟาโรห์บอกมางี้ มิน่า พนักงานถึงต้อนรับดีจัง
ออกจากร้านเสื้อผ้าก็ต่อที่ร้านรองเท้าจากนั้นก็ไปร้านกระเป๋าแล้วไปเครื่องประดับ บลา ๆๆ อยากจะบอกว่าเหนื่อยมาก!! ถึงผมจะชอบแฟชั่นแต่แบบนี้ก็ไม่ไหวครับ ขาจะลาก ฮื่อ
“ฟา...เมื่อย”
“555 โอเค เดี๋ยวผมบอกแม่ให้” แล้วมันก็แวบเข้าไปในร้าน คุยกับแม่สองสามประโยคก็ออกมา
“คุณแม่ขอโทษนะคะ พอดีเพลินไปหน่อย แหะๆ” ยิ้มตาปิดเหลือขีดเดียวแบบนั้นคิดว่าผมจะโกรธไหมครับ...
“เอ่อ..ผมขอไปนั่งรอที่คาเฟ่ได้ไหมครับ?”
“หืม.. ได้ค่ะ ไปกันทั้งหมดนี่เลย คุณแม่ก็เริ่มจะเมื่อยแล้วเหมือนกันค่ะ”
ตามนั้นครับ
.................
ครืด~ ครืด~
Q’s
“อื้อ?”
(“อยู่ไหน?”) เหลือบตามอง เห็นทั้งสามคนกำลังมองมาที่ผม -/////-
“อยู่ที่ CCC อ่ะ”
(“ดีเนอะ ไม่มารับ”)
“O_O เฮ้ยยยยยยยยย ขอโทษษษษษ” มองนาฬิกาบนข้อมือขวา บ่าสามสี่สิบแปดแล้ว ไรเฟิลเลิกเรียนบ่ายสามโมงตรง ไม่ได้เข้าชมรมเพราะผมห้าม เวร.. เวรแล้ว
(“...............”) แย่ล่ะ เงียบใส่ผมอ่ะ TT0TT ยกโทรศัพท์ออกห่างก่อนจะพูด
“เอ่อ.. ผมขอตัวก่อนได้ไหมครับ?”
“รีบไปไหนคะ ธุระด่วนเหรอคะ?”
“ผมต้องไปรับไรเฟิลอ่ะครับ” คุณแม่ฉีกยิ้ม
“เดี๋ยวแม่คุยให้ค่ะ”
“อ่า..ครับ”
“Hi, Fiona --Yes that me --oh your love here with me --calm down my boy --haha O.K. See you bye.” คุณแม่ยิ้มอย่างนึกสนุก ผมมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปแล้วแล้วสั่นหัว ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าข้างกาย
15 นาทีต่อมา
ร่างสูงคุ้นตาเดินเข้ามาที่โต๊ะที่เรานั่งอยู่(ยังอยู่ที่คาเฟ่) หน้าตาบึ้งตึงทิ้งตัวลงนั่งข้างผม (ที่นั่งของเราเป็นรูปตัวยู ฟาโรห์ น้องฟิงซ์ คุณแม่ไรเฟิล ผม ไรเฟิล)
“หน้าบึ้ง ๆ” น้องฟิงซ์แซวพี่ชาย ผลที่ได้คือตาคม ๆ ตวัดมอง แต่น้องไม่มีสะท้านครับ ยักคิ้วใส่อีก
“เจอกันได้ไง”
“ฟาโรห์พามาค่ะ”
ปึง!
“ouch!!” ฟาโรห์สบถ
“ทำอะไรน้อง?!” คุณแม่ตีแขนไรเฟิลเพียะ คุณชายไหวไหล่ไม่สน
“ดีขึ้นป่ะ?” ผมถามพลางแตะมืออังหน้าผากและเลื่อนมาแตะคอไรเฟิล ร่างสูงสั่นหัว อื้อ.. ตัวร้อนกว่าเมื่อเช้าอีก
“ไม่สบายหรอคะ?”
“นิดหน่อยครับ” ไรเฟิลตอบคุณแม่ก่อนจะเลื้อยพิงไหล่ผม อายไหมเนี่ย
“ไม่ได้กินยาเหรอวะ?” ไรเฟิลเบ้ปาก กูรู้ล่ะ..มึงไม่กินแน่ ๆ
ดีดนิ้วเปาะเรียกพนักงานมากรับออเดอร์ เท่มากมั้ง แล้วคนรับออเดอร์ดันเป็นผู้หญิงอีก ยิ้มอ่อยมาเชียว ฮึ!
“ไอซ์เอสเพรสโซ่”
“ไม่เอา เปลี่ยนเป็นฮอตช็อกโกแลตแทนครับ”
“ไอซ์...”
“ฮอตช็อกโกแลตครับไม่ต้องหวานมากนะฮะ” ปิดปากไรเฟิลที่กำลังจะแย้ง พนักงานมองงง ๆ แต่ก็ยอมเดินออกไป
พอพนักงานเอามาเสิร์ฟไรเฟิลกลับไม่แตะต้องแก้วช็อกโกแลตร้อนนั่นเลยสักนิด ...หน้าชาเลยดิ ผมเม้มปาก ดึงมือออกจากมือใหญ่ที่จับไว้ใต้โต๊ะแล้วเท้าคาง
“พี่ควอทซ์ฝึกงานหรือยังคะ?”
“ยังครับ เทอมหน้า”
“จะฝึกที่ไหนคะ มาฝึกกับคุณแม่ไหม?”
“อ่า..คงฝึกกับที่บ้านแหละครับ”
คนสตรอเบอร์รี่มิลค์เช็กเล่นอย่างไม่รู้จะทำอะไร
“พี่เฟิลไม่ดื่มเหรอ พี่ควอทซ์สั่งให้เลยน้าาาา” น้องฟิงซ์
“แล้ว?”
“ฟู่...” เปล่าลมออกจาก และเป็นจังหวะเดียวกับโทรศัพท์สั่นครืด
อาณิชโทรมา..
“หลบ” บอกไรเฟิลที่นั่งปิดทางออก
“ไม่”
“หลบไป” ยังลอยหน้าไม่สนใจ ผมจิ๊ปาก เบียดตัวออกไปอย่างไร้มารยาท
“สวัสดีครับ”
(“หนูจ๋า อาลืมบอกสตูดิโอที่จะถ่ายกัน”)
“โธ่ อาครับ”
(“ฮิฮิ จะให้อาเมล์ไปไหมลูก หรือยังไงดี”)
“ตามสะดวกเลยครับ ขอแผนที่แบบระเอียดด้วยนะครับ”
(“ได้ครับพ่อเด็กนอก วันพุธ สิบโมง ห้ามลืมนะคะ”
“คร้าบบบบ” หลังจากวางสายไปไม่ถึงนาทีก็ได้รับอีเมล์จากอาณิช ผมดูคร่าว ๆ แล้วเก็บมือถือไว้
...........
เดินมาหน้าเคานต์เตอร์แล้วสั่งเครื่องดื่มไปหนึ่งอย่าง
“ไอซ์เอสเพรสโซ่แก้วนึงครับ” จ่ายเงินแล้วก็รอ
ที่ผมห้ามเพราะผมเป็นห่วงหรอก กลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บคอ ยิ่งไม่สบายอยู่ด้วย แต่ความหวังดีของผมกลับถูกเมินซะงั้น เหอ ๆ อยากจะราดด้วยฮอตช็อกโกแลตจริง ๆ ไอ้คุณชายเอาแต่ใจเอ๊ย!
ดันถ้วยฮอตช็อกโกแลตออกแล้ววางแก้วเอสเพรสโซ่ไว้แทน ..โดยไม่สังเกตเลยว่าฮอตช็อกโกแลตพร่องไปมากกว่าครึ่ง..
“ขยับหน่อย” บอกฟาโรห์ เด็กแสบทำหน้าลังเล แต่ยังไม่ทันที่จะได้นั่ง ผมก็ถูกดึงข้อมือให้นั่งลงข้างคนที่คุณก็รู้ว่าใคร - -
“เป็นบ้าอะไร”
“ถามตัวเองเหรอ?” เลิกคิ้วกวนประสาท ผมอยากเงียบนะ แต่มันอดไม่ได้จริง ๆ เราไม่ได้อยู่กันสองคน มาเถียงกันแบบนี้ใช่เรื่องที่ไหน
“ควอทซ์” กดเสียงต่ำ ไม่ได้น่ากลัวสำหรับผมเลยตอนนี้ มันน่าหมั่นไส้มากกว่า ไอ้ขี้เก๊ก!
“เฮ้ อย่าทะเลาะกันดิครับ แม่ก็อยู่เนี่ย”
“ขอโทษครับ” ผมบอกก่อน คุณแม่ยิ้มให้ไม่ถือโทษ
เฮ้อ...
“เฮ้ย!” ผมร้อง จู่ ๆ ไรเฟิลก็ดึงมือถือผมไปแถมยังเปิดดูอย่างถือวิสาสะอีก
“อาณิชนี่ใคร?”
“เอาคืนมา นิสัยเสีย ไม่มีมารยาท”
“โอ้ววววว” สามเสียงประสานกัน ผมยิ้มแหย่แล้วขอโทษเบา ๆ ก็แหม ไปว่าลูกเขานี่ครับ ผมไม่มีพวกด้วย
“ไม่เป็นไรค่ะ อย่างไรเฟิลน่ะต้องโดนซะบ้าง”
“มัม!”
“ฮึ!” ผมยิ้มเย้ยแล้วดึงโทรศัพท์คืนมา
ก่อนจะแยกกันน้องฟิงซ์ขอให้พนักงานถ่ายรูปให้ ผมยิ้มกว้างตาปิดเป็นขีดเดียว มีไรเฟิลคนเดียวที่ไม่ยิ้ท พี่ท่านไม่มองกล้องเลยด้วยซ้ำ (รูปที่ออกมาไรเฟิลคาบช้อรอยู่พอดี) จะแลกไลน์กับน้องฟิงซ์กะจะให้น้องส่งรูปให้ แต่พี่ชายเขากลับบอกว่าส่งให้มันแทนแล้วมันจะส่งให้ผมอีกที ยุ่งยากไปไหม หื้มมมมม!
......................
“ตัวร้อนกว่เดิมอีกแหนะ” อังหน้าผากคนตัวสูงอีกรอบ
“อื้ม ปวดหัวว่ะ” ซบหน้าผากกับศีรษะผม แขนหนัก ๆ พาดอยู่บนบ่า อายไหมเนี่ย คนเยอะแยะ
“กลับบ้านกันป่ะ”
“ไปดูรองเท้าก่อน” ดื้อฉิบ ผมยอมตามใจคนป่วย ไปร้านรองเท้าร้านประจำของคนตัวสูง เจ้าตัวบอกมาว่าตัวใหม่เพิ่งมากลัวหมด แล้วทางร้านก็นำเข้าไม่เยอะ
...ในร้านรองเท้า
“เฮ้ย ไรเฟิลเปล่าวะ?” ผมหันไปมองตามเสียง
ผู้ชายตัวสูงพอ ๆ กับไรเฟิล สวมชุดนักศึกษาคนละสถาบันกับเรา มีกล้องถ่ายรูปคล้องอยู่ที่คอ หล่อมาก!! ผิวออกแทนนิด ๆ ด้วย ข้าง ๆ มีผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าเขาอยู่ด้วย หน้าตาดี หล่อค่อนไปทางสวย สวยแบบเท่ ๆ อ่ะครับ เก็ทไหมงะ ผมยาวระต้นคอสีบลอนด์ทองเพราะน้ำยาสังเคราะห์ ตัวสูงกว่าผม น่าจะราว ๆ 178-179 ซม.
“อ้าว พี่เจ้า หวัดดี” ไรเฟิลทักตอบ
“เออ ไม่เจอกันนาน เป็นไงวะ”
“เรื่อย ๆ หึ” ล็อกคอผมชิดกว่าเดิม
“ใครวะ? เดี๋ยวนี้ควงผู้ชายด้วย หน้าหวานเชี่ย”
“หึ แฟนผม ชื่อควอทซ์” เชี่ย! ผมไม่คิดว่ามันจะบอกแบบนี้!! ในใจคิดว่าต้องบอกว่าเป็นเพื่อนทำนองนั้นมากกว่า (แอบดีใจนิด ๆ นิดเดียวพอ) พี่เจ้า(เรียกตามไรเฟิล)กับคนข้าง ๆ เขาเบิกตาคล้ายตกใจ ผมยิ้มแหย่
“ส สวัสดีฮะ”
“หวัดดีครับ พี่ชื่อเจ้า เป็นรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันกับไรเฟิล” ผมยิ้มพยักหน้าหงึกหงัก (มารู้อีกทีว่าพี่เจ้า ชื่อ เจ้าชีวัน โคตรยิ่งใหญ่ เท่มาก)
“แล้วนั่น?”
“อ๋อ.. เพลิงฟ้า รุ่นน้องที่ม.”
“อื้อฮึ รุ่นน้อง หึหึ” ไรเฟิลหัวเราะหึ มองเพลิงฟ้าแล้วยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ พี่เจ้าเหมือนอยากจะเข้ามาบีบคอมัน ผมมองพี่เจ้ากับเพลิงฟ้าสลับกัน ก่อนจะยิ้มมุมปากเลียนแบบไรเฟิล หึหึ
“หน้าซีดแล้ว” บีบหลังคออีกคนเบา ๆ
“ผมขอตัวก่อนแล้วกัน”
“เออ ๆ ไว้เจอกัน”
จากนั้นไรเฟิลก็ไปดูรองเท้า ได้มาคู่หนึ่ง รองเท้าเหี้ยไรไม่รู้คู่เกือบหมื่น จริง ๆ มันจองไว้แล้ว แล้วจะรีบมาเอาทำแป๊ะ!
-----------------------TBC-----------------------
แม่สามีกับลูกสะใภ้เขาเจอกันแล้วค่าาาาา ฮิ้ววววววววว
