EPISODE 29 ผม ไรเฟิล ไอ้ไนต์และน้องตัวเล็ก(ก็ยังไม่รู้จักชื่อนี่หว่า) นั่งกินข้าวกันด้วยบรรยากาศอึดอัดสุด ๆ มีเพียงเสียงช้อนกระทบจาน ไม่มีใครพูดอะไร ผมกินข้าวด้วยท่าทีสบาน ๆ ไม่เหมือนไอ้ไนต์ที่หน้านิ่วคิ้วขมวด หึ รู้ไว้บ้างว่าเล่นกับใคร!
หลังจากกินข้าวเสร็จก็ยังไม่มีใครพูดอะไรครับ ผมสามคนนั่งกันที่โซฟาที่ห้องนั่งเล่น เด็กไอ้ไนต์อาสาล้างจานอยู่ในครัว ผมเอนตัวพิงพนักไขว้ห้างเล่นโทรศัพท์ด้วยอารมณ์สบายสุด ๆ ไอ้ไนต์กับไรเฟิลนั่งอยู่ที่โซฟาทรงตัวแอล ส่วนผมนั่งอาร์มแชร์บุนวมคนเดียว สักพักคนที่อายุน้อยที่สุดก็เข้ามา หน้าตาปั้นยากไม่รู้จะแสดงสีหน้าแบบไหน คงอึดอัดไม่น้อย. . .
“มานั่งนี่” ไอ้ไนต์ดึงแขนน้องให้นั่งลงข้าง แต่น้องตัวเล็กบิดแขนออกและนั่งห่างจากไอ้ไนต์ประมาณหนึ่งฟุต หึ.. แม้ผมจะก้มหน้าเล่นโทรศัพท์แต่ผมเห็นทุกอย่างนะครับ
“ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอวะ?” ผมยังคงเงียบ แสร้งทำเป็นไม่สนใจ แม้ความเป็นจริงจะคันยิบ ๆ อยากจะถามออกไปตรง ๆ แต่เดี๋ยวก่อนครับ.. ผมต้องเผือกอย่างมีชั้นเชิง
ครืน~ ผมแตะแบนเนอร์ที่เด้งขึ้นมาก่อนจอจะเปลี่ยนวินโดว์ไปที่แอพพิเคชั่นไลน์
R. : แกล้งใช่ไหม? ผมหลุดหัวเราะออกมา แม่ง รู้ทันกูตลอดเลย เกลียดดดดดดดดด
q.ra : อย่ามารู้ทันดิ (สติกเกอร์กอดอก)
R. : (อีโมจิแสยะยิ้ม) Turn up! ผมกดยิ้ม กดล็อกสกรีนแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว
“น้องเห็ด~~ พูดอะไรบ้างดิวะ”
ผมเสยผมเลิกคิ้วก่อนจะกอดอก “พูดอะไรเหรอ?”
“ก็... โว้ย!” ไอ้ไนต์ขยี้ผมตัวเองจนฟู หน้าหล่อนั่นดูเหมือนเด็กโดนขัดใจ
“กูมาเอาชีท เอามาให้หน่อยดิ อยากกลับแล้ว ง่วง” ผมพูดแทรกขณะที่มันกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง มันหน้าเจื่อน ก็ง่วงจริง ๆ นี่ครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว..
ผมเพ่งมองชื่อที่ปักบนอกของน้องตัวเล็ก(เจ้าตัวยังใส่ชุดนักเรียนอยู่)
‘กนต์นธี’ เดี๋ยวนะ.. คุ้น ๆ แล้วไม่นานผมก็นึกออก จำวันที่ผมเมาแล้วไอ้พี่สองมันก็มาส่งผมที่ห้องไอ้ไนต์ได้ไหมครับ พอตอนเช้าผมก็เจอรายงานเล่มนึงที่บนปกมันเขียนว่า
‘นาย กนต์นธี คณาพันธ์’ ผมเลื่อนสายตาขึ้นมองก่อนจะสะดุดที่ลำคอขาว.. ยังไม่จางเลย หึ
“เดี๋ยวดิ กูอธิบายได้นะเว้ย”
“หาวววว อธิบานอะไรเหรอ รีบ ๆ เอาชีทมาเหอะ กูง่วง”
“มึงจะไม่ถามอะไรหน่อยเหรอ”
“หือ? ถาม ถามอะไร?” ผมพูดตาใส ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามันหมายถึงอะไร ไอ้ไนต์ชี้ไปที่คนข้างตัว
“ไม่ถามหรอว่าเด็กนี่เป็นใคร?”
“แล้วเป็นใครล่ะ? เป็นอะไรกับมึงล่ะ? ..ถ้ามึงอยากบอกมึงก็บอกตั้งนานแล้วไหม? แต่นี่มึงไม่อยากบอกไง ถ้าวันนี้กูไม่บังเอิญมาหามึง กูจะรู้ไหมว่ามึงกำลังคบกับใครอยู่ แม้แต่ชื่อน้องเขามึงยังไม่บอกกูเลย!”
อารมณ์ล้วน ๆ ไม่มีแกล้งผสม. . .
“ใจเย็นก่อน”
“มึงก็เหมือนกันอ่ะไรเฟิล รู้ทุกอย่างแต่ไม่เคยบอกอะไรกูเลย ถามจริงเหอะ กูมีความสำคัญกับพวกมึงบ้างไหม!? คิดจะบอกอะไรกูบ้างไหม?! กูเป็นเพื่อนหรือเป็นคนอื่นวะ รู้กันทุกคนยกเว้นกู ดีอ่ะ ดี๊ดี เหอะ! จากที่ว่าจะแกล้งเล่น ๆ ตอนนี้กูชักเริ่มไม่พอใจขึ้นมาจริง ๆ แล้ว”
“มึงไม่ถามนี่หว่า” ผมมองไอ้ไนต์ กูอยากจะกลอกจาเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย
“ไม่ถามน้อยไปสิ! ถามแล้วมึงบอกไหมล่ะ ก็ไม่ เพื่ออะไรวะ อ้อ! มึงเคยบอกว่าเป็นหลายมึงนี่เนอะ โทษทีกูลืมไป แต่ไม่ยักรู้ว่ามึงกับหลานจะดูดคอกันจนช้ำแบบนั้น หึ”
สองคนนั้นมองหน้ากัน น้องตัวเล็กกำคอเสื้อตัวเองอัตโนมัติ ผมถอนหายใจ ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของผม แต่มันจำเป็นต้องปิดบังผมเหรอ?
“กู..”
“พอเถอะ เรื่องขอพวกมึง กูกลับล่ะ”
“เดี๋ยวกูไปเอาชีทมาให้” ไอ้ไนต์ลุกออกไป ในห้องนั่งเล่นเลยเหลือกันอยู่สามคน ผมจ้องน้องตัวเล็กไม่วางตา
“ชื่ออะไร?”
“เอ่อ.. กัสครับ” น้องแลบลิ้นเลียริมฝีปากคล้ายคนประหม่า
“เรียนอยู่ชั้นไหนแล้ว” รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแม่ผัวที่เพิ่งจะลูกสะใภ้ครั้งแรกเลย - -
“ม.6 ครับ”
“รู้จักมันนานยัง?”
“เอ่อ.. น่าจะเดือนหนึ่งมั้งครับ”
“เหรอ..”
“ทำตัวยังกับแม่ผัวกับลูกสะใภ้” ผมถลึงตาใส่ไรเฟิลก่อนจะถีบจามันไปด้วยแรงปานปลาง
“ไอ้เหี้ย!”
“หึ แล้วยังไง มึงไม่โอเคกับน้องมันเหรอ?” ผมหรี่ตามองคนพูด ก่อนจะหันไปมองน้องตัวเล็ก(รู้ชื่อแล้วแต่จะเรียกน้องตัวเล็กอ่ะ จะทำไม) เราสบตากันพอดี น้องกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตา กลัวผมเหรอ ผมน่ากลัวเหรอวะ
“ทำไม ถ้ากูไม่โอเคแล้วจะเลิกกันเหรอ ..เดี๋ยว แล้วนี่เป็นอะไรกันเนี่ย?”
“ม ไม่รู้สิครับ” น้องตัวเล็กเม้มปาก มือบางจิกมือตัวเองจนผมกลัวว่าน้องจะเจ็บ
ไม่รู้.. คือไรวะ พวกมึงอยู่ด้วยกันแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันเนี่ยนะ?
“ไอ้ไนต์!” ผมเรียกมันเสียงดัง ไอ้ไนต์เดินออกมาจากห้องห้องหนึ่งพร้อมกับปึกกระดาษที่ความหนาประมาณหนึ่งนิ้ว ลากเลือดแน่กู T_____T
“ห้ะ? อะไร?” มันทำหน้างง นั่งลงข้างน้องตัวเล็ก ส่งปึกชีทให้ไรเฟิล
“มึงกับน้องตัวเล็กนี่เป็นอะไรกัน ห้ะ!”
“เป็น..... เป็นอะไรวะ”
สัดหมาไหมล่ะ?..
“เวร.. มึงพาน้องมาเนี่ยพ่อแม่เขารู้ไหมไอ้สัด”
“มันมาเอง กูไม่ได้พามา”
“หมายความว่าไง?”
“ทำตัวขี้เสือก” ไอ้เหี้ยไรเฟิล!!!!!!
“แน่ดิ! มึงรู้ทุกอย่างก็พูดได้หนิ!”
“อย่าเพิ่งตีกันไอ้สัด” ผมเบ้หน้า เดินหนีเข้าไปในครัว รื้อตู้เย็นไอ้ไนต์แล้วหยิบไอศกรีมมาหนึ่งแท่งก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง
“ขโมยของบ้านกูอีก”
“แบร่! เล่าเรื่องมึงมาเลย” ผมวกกลับเข้าเรื่องเดิม ไอ้ไนต์กลอกตา
“เรื่องมันยาว”
“ไม่เป็นไร กูว่าง” ว่างเหี้ยไรล่ะ งานจะทัพหัวตายอยู่แล้ว
“ไหนบอกง่วง”
“ง่วงอะไร ไม่มี้”
“เสียงสูงมาเชียวไอ้น้องเห็ด”
“เล่า ๆ”
“เสือก”
“ไม่ได้เสือก .. แค่อยากรู้ข้อมูลเชิงลึก” ผมยิ้มแฉล้ม งับไอศกรีมไปด้วย ก่อนจะเบี่ยงหน้าหลบมือหนาของไรเฟิลที่ยื่นมาเช็ดมุมปากให้ ผมทำปากขมุบขมิบ แม่ง อายบ้างไหมเนี่ย!
“ไว้ก่อนได้ไหมล่ะ ฮึ?”
“เออ ๆๆ ...จริงน้องแม่งน่ารักนะ ไม่น่าหลงมาอยู่กับมึงได้เลย หลอกเขามาป่ะเนี่ย”
“หลอกห่าไรล่ะ เด็กแรดนี่ต่างหากที่หลอกกู”
“เด็กแรด?” ไอ้ไนต์ไหวไหล่ ไล่น้องน้องตัวเล็กไปอาบน้ำ ทำการบ้าน น้องแม่งเถียงด้วย เมื่อกี้ยังหงออยู่เลย (‘ ‘
.....................................
ผมมุดเข้าใต้ผ้าห่มหลังจากที่อาบน้ำเสร็จและตอนนี้ไรเฟิลกำลังอาบน้้ำอยู่ เรากลับจากห้องไอ้ไนต์ตอนเกือบ ๆ สี่ทุ่มครึ่ง มาถึงห้องก็ห้าทุ่มไปแล้ว ทีแรกผมบอกให้มันไปส่งที่หอ แต่คุณชายมันบอกว่าขี้เกียจ ไอ้นี่...
กำลังเคลิ้มจะหลับก็รู้สึกถึงสัมผัสเย็น ๆ ที่หน้าผาก ผมปรือตาขึ้นมามองแล้วหลับลงไปอีกครั้ง กำมือหนาที่เกลี่ยผมผมเล่นเอาไว้
“ไม่รอกูเลย..” เสียงทุ้มพูดกระซิบข้างหู ผมหย่นคอเพราะจั๊กจี้เมื่อปากเย็น(เพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ)กดลงบนผิว
“ฮื่อ.. ง่วง”
“หึ” แขนแกร่งรั้งเอวผมเข้าไปใกล้ ศีรษะผมตกจากหมอนกลายเป็นผมหนุนแขนอีกฝ่ายแทน ใบหน้าแทบจะชิดกับอกเปลือยเปล่าของคนตัวสูงกว่า ..แม่งชอบไม่ใส่เสื้อนอน ไอ้ฝรั่งขี้ร้อน!
“ฮื่อ... ไรเฟิล!”
“ครับ” ครับส้นตีนอะไรล่ะ! ผมตระปบมือที่กำลังลูบต้นขาผมเล่นแล้วสะบัดทิ้ง พลิกตัวหนีแต่ก็โดนรั้งไว้อยู่ดี ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าไรเฟิลนอนซ้อนหลังผมอยู่
“อย่าทำ...” ผมร้องห้ามเมื่อริมฝีปากนุ่มหยุ่นแตะเข้าที่หลังคอ ลิ้นชื้นแลบเลีบก่อนจะใช้ฟันขบเบ้า ๆ ตัวผมถูกรั้งเข้าไปแนบชิดยิ่งกว่าเดิม ลำตัวถูกรัดจากแขนแข็งแรง ท่อนขาถูกขาอีกฝ่ายก่ายทับ ขยับตัวไม่ได้เลยสักนิด
“ร ไรเฟิล..”
“หือ?”
“ไม่เอา ไม่เล่น” ผมว่าเสียงสั่น พยายามจับมือของไรเฟิลที่สอดเข้ามาภายในเสื้อนอน มือก็ลูบหน้าท้องผมไปมา ริมฝีปากยังไม่หยุดกดจูบลงบนรอยสักที่หลังต้นคอผมเสียที
“ใครบอกว่าเล่น หืม?”
“อ๊ะ.. อย่ากัดดิ ร ไรฟ์!”
“ตัวมึงหอมแบบนี้ใครจะทนไหว
ฟึ่บ!
ผมเบิกตากว้างเมื่อร่างกายถูกพลิกให้นอนหงายโดยมีร่างกายกำยำของไอ้ฝรั่งผมทองคร่อมทับ มือหนาตรึงมือผมทั้งสองข้างเอาไว้ ตาคมมองผมอย่างจาบจ้วง สิ้นสีสดแลบเลียริมฝีปาก อ..ไอเหี้ย! มันดูโรคจิตมากเลย ผมส่ายหัวไปมาแรง ๆ จนผมฟู แต่ดูเหมือนไอ้ยักษ์มันจะไม่สน!!
ตาสว่างเลยไอ้สัด! ตาสว่างเลย!!
“พอแล้วววววว นอนเถอะ”
“พออะไร ยังไม่ได้ทำอะไรเลย..” ไม่ได้ทำของมึงแต่ปลดกระดุมกูไปแล้วนี่นะ ไม่ได้ทำแล้วที่ดูดคอกูอยู่นี่คืออะไร!!
“ไรเฟิล อื้อ..อ๊ะ”
“อืม..”
“ไรเฟิลจ๋า... พอแล้วนะ นะน้าาา”
การกระทำทุกอย่างหยุดนิ่ง ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม มันเบิกตากว้างก่อนจะสบถออกมา
“เหี้ย!”
“ขยับออกไปได้ไหมงะ” ผมบอก ใช้มือดันไหล่อีกฝ่ายออกไปด้วย แต่ร่างสูงกลับเบียดตัวลงมาจน ‘อะไร ๆ’ มันสัมผัสกัน แง T______T
“ขยับออกได้ยังไง ...ยังไม่ได้ใส่เข้าไปเลย” แค่พูดทำไมต้องทำเสียงเซ็กซี่ด้วย!!!!!
“นะ...” ผมทำตาแป๋วมองอีกฝ่ายอ้อน ๆ ขอเถอะครับ อย่าทำอะไรกูเลย.. แต่ฟังที่ไหนล่ะ ก้มหน้ามาจูบกูเฉย ไอ้เวร!!! แล้วผมจะทำอะไรได้นอกจากอ่อนระทวยไปกับจูบของมันล่ะ!! ฮือ...
ผมบิดตัวเมื่อมือร้อนแตะเข้ากับยอดอก ปลายนิ้วเรียวสะกิดเขี่ยเบา ๆ
“อื้อ..!!” ไรเฟิลถอนจูบออก ผมหลบตาอีกฝ่าย ใบหน้าเห่อร้อนอย่างห้ามไม่อยู่ มือหนาแหวกสาบเสื้อผมออกก่อนจะใช้ลิ้นเล่นกับมันจะเปียกชื้น
“อ๊ะ อื้อ..”
“ถ้าจะไม่ยอมก็ควรขัดขืนให้มากกว่านี้นะบันนี่...
เพราะทำแบบนี้น่ะ กูจะคิดว่ามึงอ่อย..”
“อ่อยเหี้ยอะไรล่ะ!! อ๊ะ อ๊า!!” ผมพยายามดันศีรษะไรเฟิลออก แต่จนแล้วจนรอดก็ยังสู้แรงไอ้ยักษ์นี่ไม่ได้สักที ว้อยยยยย! กูก็เป็นผู้ชายนะเว้ยทำไมต้องแพ้มันด้วย!!
“พ พี่ไรเฟิล.. พรุ่งนี้ น น้องมีเรียนนะ อื้อ..” พูดไปแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ไอ้เหี้ยยยยยย น่าอายฉิบหาย ไรเฟิลหูแดง มองผมอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะแสยะยิ้มออกมาทำเอาผมขนลุกซู่
“แล้วน้องไม่สงสารพี่หรอครับ หืม?” กลายเป็นผมที่ต้องตกใจ ไอ้สัด ๆๆ ไอ้เหี้ยยยย ใครบอกให้พูดแบบนั้น!! น้ำเสียงทุ้มต่ำกับสายตาหวานเยิ้มทำให้หัวใจผมเต้นแรงจนกลัวอีกฝ่ายจะได้หยิบ ตาย! ตายแน่ ๆ กูเนี่ยตายแน่ ๆ !!
“แต่..”
“ไม่สงสารมันหน่อยเหรอ..” มือหนาคว้ามือผมให้ไปสัมผัสกับ ‘มัน’ ผมเบิกตากว้างพยายามดึงมือตัวเองออกแต่ไม่สำเร็จ ความอุ่นร้อนถูกส่งผ่านมาสู่มือขาวแม้จะมีเนื้อผ้าปิดกั้น
ผมทำหน้าจะร้องไห้ ไรเฟิลขยับตัวขึ้นนั่งแล้วดึงผมตามไปด้วย เรานั่งกันอยู่กลางเตียงกว้าง โดยมีผมนั่งเกยนั่งอีกฝ่ายอยู่ ผมซุกหน้ากับไหล่กว้างเพื่อซ่อนริ้วแดงบนใบหน้า ร่างสูงหัวเราะในลำคอ มือหนาบังคับมือผมให้แนบชิดกับสิ่งนั้นของเจ้าตัวมากขึ้น ขยับมือขึ้นลงตามความยาวผ่านเนื้อผ้าบางจนผมรับรู้ว่ามันแข็งขึ้นและร้อนมากกว่าเดิม!!!!
“อ๊ะ..” จิกเล็บกับไหล่ของไรเฟิล มือหยาบกว่าสอดผ่านกางเกงขาสั้นของผมเข้ามาแล้วบีบนวดสะโพกกลมอย่างหยาบโลน ส่วนอีกข้างนั้นยังบังคับชักนำให้ผมเล่นกับน้องของมัน ..มาขนาดนี้ถ้าไม่ยอมผมคงถูกโยนทิ้งจากระเบียงแน่ ๆ
ป๊าครับ.. คุณย่าครับ .. ไอ้ไรเฟิลทำผมใจแตก T_____T
“อืม.. ถอดกางเกงให้หน่อย”
กระซิบบอกข้างหูก่อนจะใช้ปากเม้มติ่งหูเบา ๆ ไรเฟิลปล่อยมือผมเป็นอิสระ ผมเม้มปาก จิกมือตัวเองอย่างชั่งใจก่อนจะยื่นมือไปจับขอบกางเกงนอนของร่างสูง ริมฝีปากสีซีดกดลงที่แก้มใสซ้ำ ๆ ผมสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่แล้วค่อย ๆ ดึงขอบกางเกงอีกฝ่ายลงและเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี(ไอ้เหี้ยไรเฟิลไม่ใส่กางเกงในด้วยอ่ะ มึงวางแผนไว้แล้วใช่ม้ายยยยยยยยย T____T) ในขณะเดียวกันมือหนาก็ถอดกางเกงพร้อมกับชั้นในผมออก.. (กูขัดขืนตอนนี้จะโดนฆ่าไหม?)
“ยกสะโพกขึ้นหน่อย” ฮืืออออ แล้วทำไมกูต้องทำตามที่มึงบอกทุกอย่างเลย!!!
ไรเฟิลดันร่างผมให้นอนราบกับเตียง ร่างหนาตามมาคร่อมทับก่อนจะบดจูบกับริมฝีปากของผม ปากหยักขบเม้มซ้ำไปซ้ำมาลิ้นร้อนไล่เลียไปตามรอยแยกของริมฝีปากแล้วสอดเรียวลิ้นเข้ามาภายในโพรงปากนุ่ม
“อื้อ อ๊ะ..” ร่างกายของผมสั่นสะท้านเมื่อปลายนิ้วเรียวไล้ผ่านผิวกาย มือหนาหยุดอยู่ที่หน้าท้องแบนราบก่อนจะลากต่ำลงไป. . .
“ฮื่อ.. อื้อ..” ผมบิดกายเร่าเมื่อมือใหญ่สัมผัสกอบกุมส่วนอ่อนไหวเอาไว้ ไรเฟิลถอนจูบออก ดวงตาสีน้ำทะเลจ้องมองจนผมต้องหลบสายตา ร่างสูงหัวเราะหึ ขยับมือรูดรั้งส่วนนั้นจนมันตื่นตัว น่าอายเป็นบ้า.. ครั้งแรกนั้นยังมีความเมาที่ทำให้ลืมความอาย แต่พอมาตอนนี้สติครบถ้วนทุกอย่าง ให้ตายเถอะ ผมอายมากจริง ๆ นะ
“อ๊ะ.. ป..ปิดไฟ.. อ๊า” ร่างสูงโน้มตัวไปปิดโคมไฟ แม้ห้องตกอยู่ในความมืดแต่ผมก็ยังมองเห็นใบหน้าหล่อของอีกคนอย่างชัดเจน มือหนาปล่อยน้องชายผมก่อนจะจับขาเรียวชันขึ้นแล้วอ้าออก... ผมคว้าหมอนมาปิดหน้า
“น่ารัก..”
“ฮื่อ...” เสียงกุกกักดังอยู่สักพัักก่อนจะเงียบไป ผมขยับสะโพกหนีเมื่อความเย็นแตะเข้าที่ช่องทางด้านหลัง ไรเฟิลใช้มือข้างหนึ่งยึดสะโพกผมเอาไว้ไม่ให้ขยับ ปลายนิ้วกดวนที่ช่องทางแล้วค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไป
“อย่าเพิ่งรัดสิ” เสียงทุ้มเอ่ยติดจะล้อเลียน ซุกไซร้ริมฝีปากกับซอกคอผมไปพลาง
“ห้ามได้ที่ไหนเล่า! อ๊า!!” ผมร้องเมื่อนิ้วเรียวขยับเข้าออก ไรเฟิลดึงหมอนที่ผมใช้ปิดหน้าออกแล้วเอาไปรองใต้สะโพกผม มือทั้งสองของถูกดึงให้ไปคล้องคออีกฝ่าย ปากสีซีดเลื่อนมาดูดดึงกับกลีบปากล่างของผมในขณะที่เพิ่มนิ้วที่สองและสามเข้ามา ผมครางอืออึงในลำคอ ความฝืดของช่องทางทำให้ผมเจ็บแม้จะมีเจลเป็นตัวช่วยก็ตาม..
มือหนาลูบไล้สะกิดเขี่ยยอดอกผมจนแข็งเป็นไต ผละจูบออกไปหยอกจูกกับเม็ดอกจนเปียกชื้นไปด้วยน้ำลาย ร่างหนาขบเม้มผิวกายขาวไปทั่วจนเกิดรอยแดงตามตำแหน่งที่ริมฝีปากร้อนลากผ่าน
“อ๊าก!!”
ผมหวืดร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายดันสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วเข้ามาโดนไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ามันถอนนิ้วออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไรเฟิลกดจูบที่ขมับชื้นเหงื่อเป็นชิงปลอบ มือหนาขยับชักนำรูดรั้งความเป็นชายของผมหนักขึ้น
“ฮื่อ เจ็บ ฮึก.. อ๊ะ”
“อย่าเกร็ง..หายใจลึก ๆ ..นั่นแหละ”
ปากอิ่มเม้นแน่น มือบางจิกลงบนไหล่กว้างเพื่อระบายความเจ็บที่แล่นเข้ามา ไรเฟิลกัดฟันจนสันกรามขึ้นนูน ช่องทางของผมตอดรัดร่างกายของอีกคนไว้แน่นจนแทบขยับไม่ได้ แต่สุดท้ายมันก็เข้ามาจนสุดพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นริ้วเข้ามาในความรู้สึก
“อ่า.. อย่าเพิ่งรัด อืม..”
“อื้อ อึดอัด อ๊ะ..” มือใหญ่จับขาผมให้รัดรอบเอวสอบก่อนจะยันมือกับพื้นเตียงพยุงตัว คนตัวสูงกดจูบซับหยาดน้ำที่หางตา ไรเฟิลเริ่มขยับตัวเมื่อสังเกตเห็นว่าผมเริ่มปรับตัวได้ แรงเสียดสีภายในทำให้ผมร้องไม่เป็นภาษา
“บันนี่.. อ่า..” ไรเฟิลครางเสียงต่ำ ขยับกายเข้าออกช้า ๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นเมื่ออารมณ์ความต้องกายพุ่งสูง ฟันขาวกัดเข้าที่ไหล่หนาระบายอารมณ์ ความเจ็บค่อย ๆ เลือนหายไปก่อนที่ความเสียวซ่านจะเคลื่อนเข้ามาแทนที่
“อ๊ะ อ๊า อ๊ะ..”
“ร ไรเฟิล เบา อ๊ะ! เบา ๆ !!”
“แน่นชะมัด.. จ๊วบ!”
เสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงครางกระเส่าของเราสองคนดังปะปนจนแทบแยกไม่ออก ร่างกายของผมสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกที่รุนแรงที่อีกฝ่ายมอบให้ ห้ามก็แล้ว จิกข่วนก็แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่เห็นจะสนใจ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ กายหนาขยับรัวเร็วจนผมทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งเสียงคราง..
“อื้อ อ๊ะ ม ไม่ไหว..”
“ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อ๊า!!!”
หยาดน้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจากส่วนปลายเปรอะเปื้อนหน้าท้องของตัวเอง ผมหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ตากลมมองสบกับคนที่ยังขยับกายไม่หยุดและเหมือนจะเร่งจังหวะขึ้น ด้านหลังตอดรัดของอีกฝ่ายอย่างห้ามไม่อยู่ มือบางบีบมือไรเฟิลที่ประสานกันไว้แน่น
“อ่า..!!”
กายหนาหยุดนิ่ง ภายในกระตุกสองสามที ความอุ่นร้อนฉีดอัดเข้ามาจนผมรู้สึกได้แม้อีกฝ่ายจะสวมถุงยางอยู่ก็เถอะ! ไรเฟิลทิ้งตัวลงทับผมไว้ทั้งตัว ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ากระทบข้างแก้ม ช่องทางของผมขมิบรัดแก่นกายที่ยังไม่ได้ถอนออกเป็นจังหวะ..
“หนัก..”
“รัดไม่หยุดแบบนี้เดี๋ยวก็ได้ต่ออีกรอบหรอก” เพี๊ยะ! ผมฟาดเข้าที่แผ่นหลังกว้างเต็มแรงที่เหลืออยู่น้อยนิด อนาถแท้.. เสียงทุ้มหัวเราะหึยิ่งทำให้ผมหมั่นไส้ ฮึ่ย!! ทำกูหมดแรงแล้วยังไม่สำนึกอีก!!
“ออกไป”
“แป๊บนึง..”
“หนักโว้ยยย โอ๊ย! อื้อ!” ผมเผลอตัวดิ้น แต่เมื่อนึกออกว่าร่างกายเรายังเชื่อมกันอยู่ก็นิ่งไป
“บันนี่เด็กน้อย” “เอาออกไปได้แล้ว!! อึดอัด!” ผมกลบความเขินด้วยการโวยวาย ไรเฟิลยันตัวขึ้น จมูกโด่งกดลงที่แก้มนุ่มจนจม ฟันคมขบกัดเบา ๆ เหมือนลูกหมาคันฟัน คนตัวสูงแกล้งขยับตัวไปมาทำให้ส่วนนั้นที่ยังไม่ได้เอาออกครูดกับผนังด้านใน ผมเอามือปิดปากกลั้นเสียงร้อง ถลึงตาใส่คนที่ยักคิ้วมาให้ เจ้าตัวก้มลงมาฟัดแก้มผมอีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ ถอดกลางกายออก...
“อ๊ะ!”
จนได้.. ไรเฟิลกดยิ้ม เอื้อมมือไปดึงกระดาษทิชชู่มาก่อนจะวางทับที่ความเป็นชายของเจ้าตัวรูดอุปกรณ์ป้องกันออกแล้วโยนทิ้งลงถังขยะใกล้ ๆ แล้วผมมานอนมองบ้าอะไรอยู่เนี่ย!!! ไอ้ปืนใหญ่นั่นน่ะเหรอที่เข้าไปในตัวผม เข้าไปได้ยังไงวะ!!!
“อะไร อยากได้อีกหรอ?”
“ได้ตีนกูนี่” ผมดึงผ้าห่มมาคลุมตัว ไรเฟิลไหวไหล่หัวเราะ มันเดินโทง ๆ ไปหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอว
“อาบน้ำไหม?” ผมนิ่งคิด อยากอาบแต่เหนื่อยมาก แรงจะขยับตัวยังแทบไม่มี เจ็บอีกต่างหาก แต่ถ้าไม่ตัวก็เหนียวฉิบหาย จะให้นอนแบบนี้นอนไม่หลับแน่ ผมมองไรเฟิลที่ยืนพิงกรอบประตูห้องก่อนจะพยักหน้า
มันคงจะสงสาร สมเพชหรือยังไงไม่รู้ ไรเฟิลเอาผ้าขนหนูอีกผืนมาห่อตัวผมไว้แล้วอุ้มผมเข้าไปในห้องน้ำ มันวางผมลงในอ่างอาบน้ำเบา ๆ น้ำอุ่นกับกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำทำให้ผมผ่อนคลายขึ้น แต่ระหว่างที่อาบน้ำผมก็เกือบจะเสียตัวให้มันอีกรอบ ให้ตายเถอะ! ไอ้หื่นเอ๊ย!!!
และตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยเข้ามาเช้าวันใหม่ได้สามชั่วโมงแล้ว เอาใจช่วยให้ผมตื่นไปเรียนพรุ่งให้ทันด้วยนะครับ
สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์ฮะ...
------------------โปรดติดตามตอนต่อไป------------------
ก็นั่นแหละครับคุณผู้ชม..
---------------------------------------
แฮปปี้วาเลนไทน์ค่ะ /ปาหัวใจใส่รัว ๆ
ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ