ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว  (อ่าน 197205 ครั้ง)

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :pig4:ชื่นมื่นค่ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อยากอ่านตอนพิเศษที่สมาชิกครอบครัวทั้งหมดมาเจอกันแล้วอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า

ออฟไลน์ ~@มาวินฮับ@~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
อยากเจอรักแท้อย่างนี้บ้างจัง. รอตอนพิเศษอีกนะครัล

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

ตอนพิเศษ / 2



   เวหากับรวี คบกันมาได้เกือบปีแล้ว โดยรวีนั้นตัดปัญหาจุกจิกกวนใจที่อาจจะเกิดขึ้นจากองค์กรของบิดา โดยการกลับอเมริกาและแสดงตัวปฏิเสธรับมอบอำนาจทุกตำแหน่งต่อหน้าผู้นำแต่ละขั้วอำนาจในองค์กร จนสุดท้ายพวกที่คิดจะพาตัวรวีกลับมาสืบทอดตำแหน่ง รวมไปถึงพวกที่ต่อต้าน จึงได้เลิกที่จะคอยตามมาจองล้างจองผลาญชายหนุ่มอย่างที่ควรจะเป็นในที่สุด

   และปัจจุบัน รวีก็กำลังเริ่มต้นใช้ชีวิตในฐานะนักธุรกิจซึ่งทำการค้าเกี่ยวกับสินค้าเกษตรแปรรูปอย่างที่เคยตั้งเป้าหมายเอาไว้ โดยมีณรงค์ผู้เป็นว่าที่พ่อตาคอยให้คำแนะนำอย่างเต็มใจ

   "น้องฟ้าครับ...พรุ่งนี้พี่คงจะไปรับน้องฟ้าที่มหาลัยเลทไปสักหน่อย  น้องฟ้าคอยพี่สักประมาณครึ่งชั่วโมงได้ไหมครับ"

   รวีเอ่ยกับคนซึ่งกำลังเดินให้อาหารปลาสวยงามในบ่อกว้างใกล้น้ำตกจำลอง ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยการที่ชายหนุ่มลงทุนซื้อบ้านทั้งสองหลังที่ปลูกขวางระหว่างบ้านพักของเขากับเวหา โดยวารีและณรงค์เองก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก เพราะอังเดรและเรไรบิดาและมารดาของรวีเองต่างก็เห็นดีเห็นงาม แถมยังยุให้ลูกชายรื้อบ้านเก่าบนที่ดินเดิม และต่อเติมบ้านหลังใหม่เตรียมไว้ให้พวกตนมาอยู่ในอนาคตอีกด้วย  ซึ่งในตอนนี้ บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงจำนวนสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ก็ได้ถูกปลูกสร้างเสร็จเรียบร้อย ท่ามกลางอาณาบริเวณกว้างของที่ดินซึ่งถูกดัดแปลงเป็นสวนหย่อมกึ่งป่า รวีสั่งซื้อต้นไม้ใหญ่น้อยมาลง และขุดบ่อทำน้ำตกจำลองเพื่อเลี้ยงปลาสวยงาม จนดูเสมือนว่าสถานที่แห่งนี้นั้นได้กลายเป็นรีสอร์ตขนาดย่อมไปแทนเลยด้วยซ้ำ

   "ฟ้าคอยได้อยู่แล้วครับ แต่ฟ้าว่าถ้าพี่ซันมีธุระ พี่ซันก็ไม่ต้องมารับฟ้าหรอกครับ ฟ้ากลับเองได้"

   เวหาฟังคำคนรักแล้วหันมาบอกพร้อมรอยยิ้ม แต่นั่นกลับทำให้คนที่อยู่ใกล้ขมวดคิ้วยุ่งทันที

   "ไม่เอาหรอกครับ พี่อยากจะไปรับน้องฟ้านี่ครับ...จริง ๆ พี่ก็ไม่อยากไปเลทด้วยซ้ำ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะโดนพ่อสั่งให้ไปรับที่สนามบินให้ได้ พี่ก็จะปล่อยให้คนอื่นไปรับแทนแล้วล่ะ!"

   "คุณพ่อจะมาเมืองไทยหรือครับ แล้วคุณแม่ล่ะครับ มาด้วยกันหรือเปล่า!"

   เวหาถามคนรักอย่างตื่นเต้น เพราะครั้งล่าสุดที่ได้เจอบิดาและมารดาของคนรัก ก็ผ่านมาแล้วเกือบสามเดือนเลยทีเดียว

   "ไม่ใช่พ่อกับแม่พี่จะมาหรอกครับ...ญาติของพี่จะมาต่างหาก เห็นว่าเจ้าตัวอยากจะมาพักผ่อนที่นี่สักเดือน พ่อก็เลยฝากให้พี่ช่วยดูแลเขาให้หน่อย ทั้งที่หมอนั่นก็ดูแลตัวเองได้สบาย ๆ อยู่แล้วแท้ ๆ"

   เวหารับฟังอย่างสนใจ เพราะลองถ้าบิดาของรวีฝากฝังให้ลูกชายดูแล แสดงว่าอีกฝ่ายนั้นคงต้องเป็นญาติคนสำคัญของชายหนุ่มเป็นแน่

   "เป็นญาติของพี่ซันหรือครับ อยากเจอจัง แล้วเขาจะพักแถวนี้หรือเปล่าครับ"

   รวีพอได้เห็นคนรักแสดงออกถึงความสนใจญาติของตน เจ้าความหึงหวงก็เริ่มก่อตัวขึ้นอีกเช่นเคย

   "ทำไมน้องฟ้าถึงอยากเจอเขาล่ะครับหมอนั่นไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกครับ"

   "ก็เขาเป็นญาติคนสำคัญของพี่ซันไม่ใช่หรือครับ...ฟ้าก็อยากทำความรู้จักเอาไว้บ้างเอ่อ...จริง ๆ ก็คือ ฟ้าอยากรู้เรื่องของพี่ซันเพิ่มให้มากขึ้นอีกสักเรื่องก็ยังดีน่ะครับ"

   คำตอบและท่าทางเขินอายนิด ๆ ของเวหา ทำเอาชายหนุ่มที่กำลังหึงหวงถึงกับนิ่งอึ้ง แล้วจึงหลุดถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมา

   "ยอมแพ้น้องฟ้าเลยครับ ถ้าอย่างนั้นพี่จะพาเขามาทำความรู้จักกับน้องฟ้าก็ได้...แต่น้องฟ้าห้ามสนใจเขาจนเกินไปนะครับ"

   ท้ายประโยครวีทำเสียงอ้อน ทำให้คนที่รู้นิสัยของอีกฝ่ายดีอมยิ้ม แล้วจึงชะโงกหน้าไปหอมแก้มคนรักหนึ่งฟอดแทนคำยืนยัน

   "รับรองครับ ว่าฟ้าจะไม่สนใจใครเกินพี่ซันเด็ดขาด...ทีนี้วางใจได้หรือยังครับ"

   รวียิ้มแก้มแทบปริ แล้วจึงหอมแก้มของคนรักคืนบ้าง โดยไม่คิดใส่ใจสายตาของใคร เนื่องจากฝั่งตรงกันข้าม ก็เป็นบ้านพักของเหล่าบอดี้การ์ดที่เขาซื้อมาจากเจ้าของที่ดินเดิมแถวนั้น  จนตอนนี้ถ้าไม่นับรวมบ้านของเวหา อาจจะกล่าวได้ว่าภายในซอยนี้ ทั้งบ้านฝั่งซ้ายและขวา ได้กลายเป็นที่ดินทั้งของรวีและเมฆา ที่มากว้านซื้อเอาไว้ไปจนหมดแล้วด้วยซ้ำ

   "อะแฮ่ม! คุณพี่ซันครับ! จะทำอะไรก็เกรงสายตาชาวบ้านเขาบ้าง ถึงซอยนี้ทั้งซอยมันแทบจะกลายเป็นดงมาเฟียไปหมดแล้วก็เถอะ!"

   มีนาที่ออกมาเห็นทั้งสองคนสวีทหวานกระแอมขัดอย่างนึกหมั่นไส้ในตัวคนรักของพี่ชาย ซึ่งก็ทำให้เมฆาที่เดินตามมานึกขำต่อคำพูดที่เด็กหนุ่มใช้ค่อนขอดเพื่อนสนิทของตน

   "มาฟงมาเฟียอะไรกันครับน้องมีน...แถวนี้มีแต่นักธุรกิจหน้าซื่อมือสะอาดทั้งนั้นนั่นล่ะครับ"

   มีนาหันมาค้อนขวับให้คนพูด เพราะพวกเมฆาไม่รู้หรอกว่าในตลาดเขาลือว่าอะไรกันบ้าง เวลาเขาและมารดาไปซื้อของทีไร ก็มักจะได้ยินคำถามเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ว่า พวกรวีกับเมฆา เป็นมาเฟียต่างชาติมากว้านซื้อที่ดินแล้วค้าของผิดกฎหมายในซอยนั้นกันหรือเปล่า  จนเขาต้องคอยแก้ตัวให้แทนอยู่เสมอว่า พวกที่ใส่สูทใส่แว่นดำท่าทางน่ากลัวที่อาศัยอยู่ในซอยนั้น เป็นเหล่าบอดี้การ์ดของพวกรวีและเมฆา ส่วนสองคนนั่นก็เป็นนักธุรกิจทุนหนาที่ตั้งใจมาลงทุนเกี่ยวกับพืชผลการเกษตรในไทย ไม่ใช่มาเฟียต่างชาติค้าของเถื่อนอย่างที่ทุกคนเข้าใจกันเลยสักนิด

   "อ๊ะ! จริงสิ  นายไปรับหมอนั่นแทนฉันก็ได้นี่เมฆ!"

   จู่ ๆ รวีก็โพล่งขัดขึ้นมาเหมือนนึกได้ ทำเอาเมฆาหันมาทำหน้างุนงงใส่เพื่อน เพราะไม่ทันได้รู้ต้นสายปลายเหตุที่อีกฝ่ายบอกมาก่อน

   "หมอนั่นก็ เอริค ญาติฉันไงเขาจะมาถึงเมืองไทยตอนบ่าย ๆ แล้วทีนี้พ่อสั่งให้ฉันไปรับ แต่ถ้าฉันไปรอหมอนั่น ก็ต้องไปรับน้องฟ้าที่มหาลัยเลทไปด้วย เพราะงั้นนายก็ไปรับเขาแทนฉันนะ!"

   รวีอธิบายพร้อมกับรวบรัดตัดบทเอาเองเสร็จสรรพ ทำเอาเมฆาสะดุ้งโหยง พร้อมกับปฏิเสธตามมาทันควัน

   "ไม่มีทาง!เย็นพรุ่งนี้ฉันมีนัดเดทกับน้องมีน เพราะงั้นคงไปรับหมอนั่นแทนนายไม่ได้หรอก!"

   "ก็แค่เดท เลื่อนไปก่อนก็ได้นี่!"

   คนเอาแต่ใจเถียงกลับ ทำเอาเมฆาจ้องมองเพื่อนตาปริบ ๆ เพราะอีกฝ่ายก็คิดจะหนีภาระไปรับคนรักไม่แตกต่างอะไรจากตนเลยสักนิด

   "...ถ้าต้องรบกวนคนอื่นขนาดนั้น ฟ้าว่าฟ้ากลับเองดีกว่าครับ"

   เวหาแสร้งเปรยขัด ทำเอารวีสะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบหันกลับไปอ้อนเด็กหนุ่มทันที

   "ไม่เอานะครับน้องฟ้า...ขอให้พี่ไปรับน้องฟ้าเหมือนเดิมนะครับ...เอ้า! พี่ยอมไปรับหมอนั่นด้วยตัวเองก็ได้!"

   เวหาอมยิ้มแล้วหันไปขยิบตากับเมฆาที่ก็ยิ้มเจื่อนตอบ เพราะดูเหมือนเพื่อนสนิทของเขานั้นจะอยู่ในโอวาทของแฟนเด็กชนิดหือไม่ขึ้นเสียแล้ว

   "จริง ๆ ก็แค่เดทเอง เลื่อนไปวันอื่นก็ได้ วันหยุดมีนก็อยู่กับพี่เมฆเป็นประจำอยู่แล้วล่ะนะ"

   มีนาเปรยขึ้นบ้าง ทำเอาคนข้างกายเขาสะดุ้งโหยง จากนั้นเมฆาจึงรีบพาร่างเล็กปลีกตัวไปทางอื่นเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเริ่มหันกลับมามองทางตนอีกครั้ง

   "เดี๋ยว! จะพามีนไปไหนน่ะพี่เมฆ!"

   มีนาร้องปรามเพราะคนตัวโตจูงแขนเขาเดินหลบไปอีกทางลิ่ว ๆ โดยไม่คิดจะหยุดเดิน ซึ่งพอได้ยินเสียงคนรักเมฆาก็ชะงักก่อนจะหยุดฝีเท้า แล้วจึงหันมายิ้มเจื่อน ๆ ส่งให้

   "ขอโทษทีครับน้องมีน แต่ขืนพี่ไม่รีบพาน้องมีนหลบมา มีหวังเจ้าซันมันหาเรื่องให้พี่ไปรับญาติมันแทนแน่"

   "ก็นั่นล่ะ มีนถึงว่าเลื่อนเดทไปแค่วันเดียวไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร มีนไม่อยากให้พี่ฟ้านั่งรถกลับเอง ทางมันไกล แล้ววันพรุ่งนี้พี่ฟ้าก็เลิกเย็นด้วย ขืนนั่งรถสองแถวมาเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็กลับบ้านมืด ๆ ค่ำ ๆ กันพอดี"

   มีนาให้เหตุผล แต่คนฟังนั้นถอนหายใจ แล้วตอบกลับมาเสียงอ่อย

   "พี่รู้ดีครับ ...แต่พี่ไม่อยากไปรับหมอนั่นด้วยตัวเองนี่ เกิดเขาบอกว่าอยากเจอน้องมีน พี่ก็คงปฏิเสธลำบาก...แล้วถ้าน้องมีนเจอเขาเข้า แล้วเกิดชอบใจขึ้นมา พี่คงหึงแย่"

   มีนารับฟังแล้วก็ถอนหายใจตามมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะตีแขนคนพูดดังเผียะ แล้วตอบออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึงนิด ๆ

   "พี่เมฆนี่นะ! คบกันมาก็เกือบปีแล้ว ยังเห็นมีนเป็นคนรักง่าย เปลี่ยนง่าย อยู่อีกหรือไง!"

   "พี่ไม่ได้ตั้งใจจะหมายถึงแบบนั้น พี่ก็แค่หึงกับหวง...พี่รู้ว่ามีนไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ แน่ ...แต่พี่ไม่ชอบที่จะเห็นมีนยิ้มกับผู้ชายคนอื่นนอกจากพี่ ถึงจะเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้คิดอะไรในแง่นั้นก็ตาม แต่พี่ก็ไม่ชอบอยู่ดี"

   มีนาชะงักก่อนจะเบือนหน้ามองไปทางอื่นอย่างนึกเขินอาย ที่อีกฝ่ายแสดงถึงความรักหลงเขาขนาดนั้นให้เห็น

   "พี่เมฆอะขี้หวง แถมไร้เหตุผลเป็นบ้า..."

   ร่างเล็กบ่นพึมพำ ทว่าใบหูที่แดงก่ำนั้นทำให้คนเฝ้ามองอยู่อมยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะแสร้งทำเป็นออดอ้อนด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร

   "ก็เพราะพี่ไม่เคยมีคนสำคัญจริง ๆ กับเขานี่ครับ...พอได้มาเจอเข้า ก็เลยอดหึงอดหวงไม่ได้สักที"

   มีนาหน้าแดงหนักขึ้น เจ้าตัวบ่นอุบอิบกับตัวเองเบา ๆ ส่วนเมฆาก็ลุ้นดูว่าคนรักจะทำอะไรต่อไป ทว่าชายหนุ่มก็ต้องนิ่งอึ้ง เมื่อคนตัวเล็กหันมามองตนด้วยใบหน้าแดงก่ำ พร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงอึกอักอย่างเขินอาย

   "แต่ถึงมีนจะบ่นว่าพี่ขี้หึงไร้เหตุผล...มีนก็ชอบนะที่พี่เห็นมีนสำคัญเสมอแบบนั้นน่ะ"

   "...น้องมีนของพี่น่ารักแบบนี้นี่นะ พี่ถึงอยากเก็บน้องมีนไว้มองคนเดียว ไม่อยากเผื่อแผ่ให้ใครได้เห็นเลย...เพราะงั้นรีบเรียนจบไว ๆ นะครับ จะได้มาเป็นเจ้าสาวของพี่ไง พี่จะได้สบายใจกับเขาสักที"

   เมฆาดึงร่างเล็กมากอดพร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม ทำเอาคนที่เขินอยู่แล้วยิ่งเขินหนัก แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงพึมพำตอบรับไปแผ่วเบาอยู่ดี



   อีกด้านหนึ่ง เวหานั้นก็กำลังแสร้งเดินมองโน่นนี่เรื่อยเปื่อย อย่างไม่คิดใส่ใจคนที่เดินตามตนมาต้อย ๆ ด้านหลัง ทว่าเป็นแบบนั้นได้สักพักเด็กหนุ่มก็อดใจอ่อนนึกสงสารคนที่ทำเป็นเงียบเพราะสำนึกผิดเข้าให้จนได้

   "พี่ซัน...นี่ก็ค่ำแล้ว พี่ยังไม่กลับบ้านอีกหรือครับ"

   รวีชะงักเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับไปเสียงอ่อย

   "พี่ยังไม่อยากกลับเลยครับ แต่ถ้าน้องฟ้าไม่อยากให้พี่อยู่ พี่กลับก็ได้"

   "หรือครับ...งั้นฟ้าเดินไปส่งให้ที่บ้านแล้วกัน"

   เวหาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ทั้งที่จริงก็รู้สึกสงสารแกมเอ็นดูคนใกล้ตัวเข้าให้จะแย่อยู่แล้ว

   "น้องฟ้าโกรธพี่จริง ๆ หรือครับ"

   คำถามของคนที่เดินตามมา ทำให้เวหาหยุดฝีเท้าแล้วจึงหันมาสบตากับอีกฝ่าย 

   "ใครโกรธกันครับ ถ้าโกรธล่ะก็จะไม่เดินมาด้วยแบบนี้หรอกครับ"

   คำตอบพร้อมรอยยิ้มที่ส่งมาให้น้อย ๆ ทำให้คนมองใจชื้น แต่ก็อดแปลกใจที่อีกฝ่ายอยากรีบส่งเขากลับบ้านทั้งที่ยังไม่ดึกนัก

   "แต่น้องฟ้า..."

   "ฟ้าก็แค่เป็นห่วงพี่ซัน เพราะพรุ่งนี้พี่ก็ต้องตื่นไปส่งฟ้าแต่เช้า พอส่งเสร็จก็ต้องตรงดิ่งไปที่บริษัท แถมบ่ายยังต้องออกไปรับญาติที่สนามบินอีก ...พี่ต้องขับรถตลอดแบบนั้น ถ้าไม่พักให้มาก ฟ้ากลัวพี่จะเพลียเอา..."

   เวหาบอกแล้วก็ต้องอุทานด้วยความตกใจ เมื่อจู่ ๆ คนที่ฟังอยู่ก็รั้งร่างเขาเข้าไปกอดทั้งที่เขายังพูดไม่จบดีด้วยซ้ำ

   "น้องฟ้า...พี่รักน้องฟ้ามากที่สุดเลยรู้ไหมครับ"

   "รู้ครับ...ก็เล่นบอกให้ฟังทุกวัน ไม่รู้ก็แย่แล้ว"

   เวหายิ้มอาย ๆ ตอบ แล้วจึงปล่อยให้รวีหอมแก้มของตนทั้งสองข้างอยู่อีกพักใหญ่ ก่อนจะยันกายออกจากอ้อมกอดนั้นค่อย ๆ

   "แล้วพรุ่งนี้ถ้าเป็นไปได้ ให้คนของพี่ซันขับรถพาพี่ไปสนามบินน่าจะดีกว่านะครับ ...จริงอยู่ที่ฟ้ารู้ว่าพี่ชอบขับรถเอง แต่ฟ้ากลัวพี่เพลีย อย่างน้อยฟ้าก็อยากให้พี่พักให้เต็มที่ช่วงนั้น จะได้มีแรงขับรถมารับฟ้าตอนเย็นยังไงล่ะครับ"

   รวียิ้มปลื้มต่อความเป็นห่วงของคนรัก จากนั้นชายหนุ่มจึงพยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย

   "ก็ได้ครับ พี่จะทำตามนั้น"

   เวหายิ้มตอบ แล้วจึงเดินคล้องแขนชายหนุ่มไปส่งที่บ้านพัก ทำให้รวีนึกอยากจะรั้งคนข้างกายให้ค้างคืนกับตนด้วยสักคืน แต่ขืนทำแบบนั้น เขาคงได้เผลอตัวทำมากกว่านอนหลับเฉย ๆ อย่างที่ควรจะเป็นแน่นอน


..
...
...

 

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

...
..


   เช้าวันถัดมา หลังจากรวีไปส่งคนรักที่มหาวิทยาลัยและกลับมาทำงานที่บริษัทของตนได้สักพัก เขาก็ได้รับการติดต่อจากบิดาซึ่งโทรมาเน้นย้ำอีกครั้งว่า อย่าลืมไปรับญาติคนนี้ให้ด้วย

   "รู้แล้วล่ะครับ! ไม่ต้องโทรมาย้ำแบบนี้ก็ได้ ผมรับปากไปแล้วไม่เบี้ยวหรอกน่า!"

   ทางปลายสายพอได้ยินน้ำเสียงหงุดหงิดเช่นนั้นก็หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะเอ่ยตามมา

   "ฉันรู้ว่าแกไม่อยากให้เอริคเจอกับหนูฟ้าเขาใช่ไหมล่ะ...ไอ้ลูกขี้หวง! ญาติแกเขาไม่ใช่พวกชอบแย่งของรักคนอื่นหรอก...ถ้าเจ้าตัวไม่ถูกใจเข้าให้ก่อนนั่นล่ะนะ"

   รวีเบ้หน้าใส่มือถือก่อนจะเอ่ยตอบ

   "ก็เพราะกลัวหมอนั่นถูกใจน้องฟ้าเข้าให้นั่นล่ะครับ! บอกไว้ก่อนนะ ถึงหมอนั่นจะเป็นหลานรักของพ่อก็ตาม แต่ขืนลองมายุ่มย่ามกับน้องฟ้าล่ะก็ ผมไม่ไว้หน้าแน่ ๆ"

   พอรวีพูดจบเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะราวกับไม่ทุกข์ร้อนต่อคำขู่ของตนดังขึ้น สักพักปลายสายก็เอ่ยขึ้นตามมาอีก

   "แกไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกน่าซัน...เพราะตอนนี้เอริคเขากำลังอยู่ในช่วงตกหลุมรักครั้งใหม่ ...แกก็รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องของแกคนนี้ เวลาเขารักใครชอบใครเข้า ถ้ายังไม่ผิดหวังหรือเลิกคบหากับคนปัจจุบัน ต่อให้มีคนใหม่มายั่วยวนยังไง เขาก็ไม่มีทางหวั่นไหวอยู่แล้ว"

   รวีเลิกคิ้วกับเรื่องที่ได้ยิน ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยกินเส้นกับบิดาเท่าใดนัก แต่กับญาติพี่น้องของอังเดรนั้น รวีก็ให้ความสนิทสนมดี โดยเฉพาะเอริคที่อายุไล่เลี่ยกัน  เมื่อสมัยอยู่อเมริกา รวีเองก็มักชอบชวนอีกฝ่ายไปเข้ากลุ่มดื่มกับเพื่อนสนิทของตนอย่างเมฆาอยู่บ่อยครั้งด้วยซ้ำไป

   "หมอนั่นกำลังตกหลุมรักอย่างนั้นหรือครับกับใคร? หวังว่าคงจะไม่ถูกพวกนักแสดง ดารา นางแบบนายแบบ อะไรพวกนั้นหลอกเอาเข้าอีกนะ!"

   "ญาติแกไม่โง่ขนาดให้โดนหลอกซ้ำสองแบบนั้นหรอกน่า...อีกอย่างหลังจากเหตุการณ์นั้นแล้ว คงไม่มีพวกหิวเงินหน้าไหนที่อเมริกานี่ กล้ามาหลอกญาติของแกอย่างเหมือนคราวไอ้นายแบบคนนั้นอีกแล้วล่ะ!"

   น้ำเสียงเข้มกึ่งห้วนที่ตอบกลับมาทำเอารวีลอบกลืนน้ำลายลงคอนิด ๆ เพราะครั้งที่เอริคจับได้ว่านายแบบหนุ่มคนรักที่คบกันมาแอบลักลอบเอาเงินที่ตนให้ไปปรนเปรอชู้รักนายแบบอีกคน ทำให้เอริคนั้นโกรธมาก ทว่าแม้จะพลั้งมือยิงอีกฝ่ายไป แต่ก็ไม่ถึงขั้นสาหัสและชายหนุ่มก็เลิกที่จะสนใจทั้งคู่อีกต่อไป

   ทว่าญาติพี่น้องที่รู้เรื่องราวนั้นต่างยอมไม่ได้ที่ชายหนุ่มถูกลูบคมเข้าให้เช่นนี้ นายแบบหนุ่มกับชู้รักของเจ้าตัว จึงถูกญาติพี่น้องของเอริคลงมือกระทำการบางอย่าง ที่ทำให้พวกนั้นไม่สามารถกลับมาทำงานในวงการบันเทิงได้อีกเลยตลอดชีวิต

   "เฮ้อ! ถ้าได้แบบนั้นก็ดี ...หมอนั่นมันชอบทำตัวนิ่งเฉย จนคนรอบข้างก็เดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ...แต่เท่าที่ผมรู้ ครั้งนั้นหมอนั่นก็เจ็บปวดอยู่ไม่น้อย  ผมเองก็ไม่อยากให้คนจริงจังอย่างหมอนั่น ต้องพบกับความผิดหวังอีก"

   อังเดรรับฟังคำพูดของลูกชาย แล้วแย้มยิ้มนิด ๆ แม้ว่ารวีจะบ่นเรื่องที่เอริคมาเมืองไทย และไม่อยากให้อีกฝ่ายเจอะเจอคนรักของตนเพียงใด แต่ลึก ๆ แล้ว ลูกชายของเขาก็ยังคงเป็นห่วงญาติผู้นี้อยู่ไม่น้อยนั่นเอง

   "คราวนี้เท่าที่ฉันรู้ คนที่เขาตกหลุมรักค่อนข้างจะแตกต่างจากคนก่อนหน้านั้นที่คบมา เห็นว่าพบเจออีกฝ่ายโดยบังเอิญ ได้พูดคุยกันชั่วครู่ แล้วเขาก็จากไป ...เหมือนกับเป็นซินเดอเรลล่า อะไรราว ๆ นั้นล่ะนะ"

   "ซินเดอเรลล่า?"

   รวีทวนคำพลางขมวดคิ้วยุ่งสักพัก จากนั้นเสียงหัวเราะจากบิดาจึงดังขึ้นตามมาอีกครั้ง

   "ใช่!เอริคเขาลงทุนตามหาตัวซินเดอเรลล่าของเขา จนกระทั่งเจอแล้วว่าเธอคนนั้นอยู่ที่ไหน  เพราะอย่างนั้นฉันถึงให้แกไปคอยรับเขาที่สนามบินยังไงล่ะ พอจะเข้าใจบ้างหรือยังเจ้าลูกชาย!"

   รวีนิ่งอึ้งพลางทบทวนสิ่งที่บิดาพูดมาชั่วครู่ ก่อนจะย้อนกลับไปอย่างตกใจ

   "หรือว่าซินเดอเรลล่าของหมอนั่นอยู่ในประเทศไทยนี่!"

   เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นแทนคำตอบ ทำให้คนฟังขมวดคิ้วยุ่งอีกครั้งแล้วจึงถามกลับไปต่อ

   "หวังว่าซินเดอเรลล่าคนนั้น คงจะไม่เกี่ยวข้องกับผมแล้วก็น้องฟ้านะพ่อ!"

   "ถ้าเกี่ยวแล้วจะมีปัญหาอะไร ขอแค่คนนั้นไม่ใช่หนูฟ้า แกก็ไม่น่าจะต้องวิตกไม่ใช่หรือไง"

   คำพูดที่ย้อนสวนมา ทำให้คนฟังขมวดคิ้วอีกรอบ แต่สักพักก็คลายลงแล้วถอนหายใจตามมา

   "ก็ถูกอย่างพ่อพูด ขอแค่ไม่ใช่น้องฟ้า หมอนั่นจะชอบใครก็เรื่องของเขาแล้วกัน"

   อังเดรหัวเราะอีกครั้ง ก่อนจะฝากฝังให้รวีดูแลหลานชายคนโปรด ซึ่งชายหนุ่มก็รับคำส่ง ๆ ก่อนวางสาย แต่เขาก็อดนึกสงสัยและลุ้นตามไม่ได้ว่า ญาติของตนนั้นไปตกหลุมรักใครคนไหนในประเทศไทยแห่งนี้ จนถึงขั้นเพ้อว่าอีกฝ่ายเป็นซินเดอเรลล่าขึ้นมาได้กันแน่



   ชายหนุ่มที่กำลังเดินตรงมาหารวีนั้น เป็นชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ ไว้ผมรองทรงสีทองสลวย หน้าตาคมเข้มหล่อเหลารูปร่างดีราวกับหลุดออกมาจากแคตตาล็อกนายแบบ ทว่าเพราะความเคร่งขรึมที่ชวนให้คนรอบข้างขยาดก็ทำให้มีแต่คนเฝ้ามองและซุบซิบอยู่ห่าง ๆ และต่างพากันหันขวับหลบเมื่อยามสายตาคมกริบนั้นตวัดมาทางพวกตน

   "ยินดีต้อนรับสู่เมืองไทยนะ เอริค"

   รวียื่นมือให้อีกฝ่ายสัมผัส ซึ่งชายหนุ่มตรงหน้าก็ยื่นมือของตนมาสัมผัสมือของญาติผู้น้องเช่นเดียวกัน

   "ขอบคุณที่มารอรับนะซัน ...ขอโทษด้วยที่รบกวนเวลาทำงานของนาย"

   เอริคบอกด้วยสีหน้าเคร่งขรึมไม่เปลี่ยน ซึ่งรวีก็ยิ้มรับ เพราะชินเสียแล้วกับบุคลิกของญาติผู้พี่ของตน

   "พ่อเล่าเรื่องนายให้ฟังแล้ว ได้ข่าวว่ามาที่เมืองไทยเพื่อตามหาซินเดอเรลล่าของนายอย่างนั้นสินะ"

   ทั้งสองคนเดินคุยกันไปพลางระหว่างตรงไปทางออก ซึ่งชายหนุ่มผู้เงียบขรึมก็พยักหน้าค่อย ๆ แล้วเอ่ยตอบไปตามตรง

   "ก็ตามนั้น..."

   "เล่าให้ฟังบ้างได้ไหม เรื่องรักแรกพบอะไรนั่นน่ะ"

   รวีถามอย่างสนใจ ซึ่งเอริคก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนตอบ

   "ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจนักหรอก ก็แค่ฉันเจอเขาตอนที่เขามาท่องเที่ยวที่ LA แล้วก็เลยถูกชะตา แล้วก็พอจะคาดเดาได้จากภาษาพูดที่เจ้าตัวหลุดปากออกมาว่าเป็นคนไทย เลยตามมาที่นี่นั่นล่ะ"

   รวีขมวดคิ้วยุ่งเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายบอก

   "แค่นั้น?"

   "อืม...แค่นั้น"

   เอริคตอบสั้น ๆ ทำเอารวีกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจตามมาแผ่วเบา

   "เฮ้อ...เอาเถอะ ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกมาแล้วกัน เผื่อจะช่วยเหลือให้ได้บ้าง"

   รวีบอกกับญาติของเขา ซึ่งอีกฝ่ายก็หลุดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบรับจากนั้นทั้งคู่ต่างก็พูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบ จนกระทั่งเดินมาถึงรถยนต์ที่มีคนของเขาจอดรอรับอยู่

   "แล้วเอาไง จะให้ฉันไปส่งที่ไหน นายมีที่พักหรือยังล่ะ"

   รวีถามอีกฝ่ายในขณะที่กำลังขึ้นรถออกจากสนามบินด้วยกัน

   "ไปที่มหาวิทยาลัยของคนรักนายเลยก็ได้จะได้ไม่เสียเวลา เพราะที่พักฉันก็อยู่แถว ๆ นั้น"

   รวีขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะย้อนถามกลับไป

   "หวังว่าคงจะไม่มีเป้าหมายที่น้องฟ้าหรอกนะ"

   "...เห็นฉันเป็นคนชอบแย่งของรักคนอื่นอย่างนั้นหรือไง"

   อีกฝ่ายย้อนพร้อมยิ้มน้อย ๆ แต่ก็ทำให้รวีรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที เพราะนั่นเป็นรอยยิ้มกึ่งแหย่ที่มันช่างคล้ายกับบิดาของเขายามที่ต้องการจะกลั่นแกล้งเขาให้หัวหมุนยิ่งนัก

   "เอริค...บางครั้งนายมันก็กวนโมโหเหมือนเจ้าพ่อบ้าของฉันไม่มีผิด!"

   คนฟังหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงเอ่ยขอโทษออกไปอย่างว่าง่าย

   "ขอโทษทีแล้วกัน  พอดีฉันได้ยินจากลุงว่านายหวงคนรักคนนี้มาก ก็เลยอยากลองพิสูจน์ดู อืม...ทีแรกก็นึกว่าลุงแค่พูดเล่นเสียอีกนะนั่น"

   "ของรักของหวงก็ต้องหวงเป็นธรรมดา นายเองก็เคยมีความรักมาก่อน ก็น่าจะรู้นะ!"

   รวีเอ่ยประชดใส่ แต่นั่นกลับทำให้คนฟังชะงัก แล้วจึงมีสีหน้าขรึมลงระหว่างหวนคิดถึงความหลัง

   "นั่นสิ...แต่ทั้ง ๆ ที่ให้ความสำคัญและหวงแหนขนาดนั้น เขาก็ยังทรยศหักหลังต่อความรักของฉันจนได้"

   รวีนิ่งอึ้ง เจ้าตัวเหลือบมองคนนั่งข้าง ก่อนจะกระแอมเบา ๆ แล้วแสร้งเปรยขึ้นกับตัวเองตามมา

   "เรื่องในอดีตที่ผ่านมาก็อย่าไปใส่ใจมันนักเลย อีกอย่างก็ใช่ว่าคนเรามันจะเหมือนกันทุกคนเสียเมื่อไหร่ ...ถ้าคราวนี้นายคิดว่าคนที่นายเลือกคือคนที่ใช่ นายก็พยายามทุ่มเทให้ความรักของนายกับเขา จนเขามีแต่นายเพียงคนเดียวในหัวใจ และไม่คิดเหลียวมองใครอีกต่อไปเลยสิ!"

   เอริคหันไปมองญาติผู้น้องที่นั่งข้างกายตน แล้วจึงมีรอยยิ้มน้อย ๆ พร้อมถ้อยคำขอบคุณต่ออีกฝ่าย ก่อนจะตัดสินใจบอกความจริงออกไปในที่สุด

   "ความจริงแล้ว คนที่ฉันตามหา เขาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับคนรักของนายน่ะ"

   รวีหันขวับไปมองคนพูดอย่างตกตะลึง ก่อนจะย้อนถามกลับไปอย่างรวดเร็ว

   "ใคร! รู้จักชื่อเขาไหม ปีเดียวกับน้องฟ้าหรือเปล่า"

   "...แล้วนายคิดว่าทำไมฉันถึงต้องให้นายมารับ และขอตามนายไปที่มหาวิทยาลัยนั่นด้วยกันล่ะ"

   คำตอบของเอริคทำให้รวีนิ่งอึ้ง ก่อนจะถอนหายใจตามมาเฮือกใหญ่

   "อย่าบอกนะว่าคนนั้นเกี่ยวข้องกับน้องฟ้าน่ะ..."

   เอริคยิ้มน้อย ๆ ส่งให้ เขาล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ลายสก็อตสีน้ำตาลออกมาจากเสื้อสูท พลางจ้องมองผ้าผืนนั้นด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยตามมาค่อย ๆ

   "เด็กคนนั้น...คนที่ฉันเจอที่ LA นั่น เขาเรียนคณะเดียวกัน ภาควิชาเดียวกัน และห้องเดียวกันกับคนรักของนายยังไงล่ะ ซัน"

   

   เวหานั่งรอคนรักมารับอยู่ที่ซุ้มพักผ่อนหน้าตึกอาคารคณะ ซึ่งเจตต์กับเวทิตก็มานั่งเป็นเพื่อนคุยกับอีกฝ่าย เพราะเวทิตนั้นบ้านอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ส่วนเจตต์นั้นก็เช่าบ้านพักอยู่ร่วมกับญาติซึ่งเรียนอยู่คนละคณะ จึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนกลับบ้านแต่อย่างใด

   "เห...แสดงว่าวันนี้ญาติของพี่ซันก็มาที่ไทยนี่สินะ...ว่าแต่จะใช่ญาติที่เคยเล่าว่าจะให้จับคู่กับฉันหรือเปล่าวะ...บรึ๋ย! แค่คิดก็หวาดเสียวละ คนอะไรโหดชะมัด แฟนนอกใจก็ถึงกะยิงทิ้งเลยทีเดียว!"

   เจตต์บอกแล้วทำท่ากอดอกขวัญเสีย จนเวทิตที่มองอยู่อดนึกหมั่นไส้ไม่ได้ เลยแกล้งใช้เท้าเตะขาอีกฝ่ายไปเบา ๆ จนคนถูกเตะหันมาทำหน้าหงิกใส่

   "จู่ ๆ มาเตะกันทำไมวะต้น!"

   "ก็หมั่นไส้อะ ก็เลยเตะ"

   คนพูดทำเบะปากยักไหล่ ซึ่งก็เรียกเสียงอุบอิบบ่นจากคนนั่งข้าง ๆ ขึ้นมาทันที

   "นิสัยแบบนี้ไงล่ะถึงได้เป็นโสด ชริ!"

   เวทิตฟังแล้วก็สั่นศีรษะอย่างเอือมระอา ไม่ได้ใส่ใจหรือโมโหในสิ่งที่เพื่อนสนิทว่าตนแต่อย่างใด อีกอย่างเขายอมรับว่าตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่าแล้ว เขารู้สึกมีอิสระและสบายใจขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว จนเด็กหนุ่มคิดไว้ว่าถ้าจะหาแฟนอีกครั้งก็คงจะเป็นตอนเรียนจบไปแล้วน่าจะดีกว่า

   "แต่ฉันก็เห็นแฟนนายเขาแอบมองนายอยู่บ่อย ๆ นะ คงอยากจะให้นายกลับมาคืนดีกันอีกครั้งล่ะมั้ง"

   เวหาพูดขึ้นบ้าง ทำให้เวทิตหันมามองเพื่อนสนิทอีกคนของตน แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

   "ไม่เอาแล้วล่ะ...เคยให้โอกาสไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่แค่ไม่กี่เดือนก็เป็นแบบเดิม ๆ  ถ้าแค่หึงหวงแล้วฟังกันบ้างเหมือนพี่ซันของนาย ฉันจะไม่ว่าเลย... แต่นี่หึงหวงแล้วอาละวาดใส่ อธิบายก็ไม่ฟัง แถมยังพาลไปถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องคนอื่น ฉันทนรับไม่ได้ว่ะ!"

   เวหายิ้มเจื่อนเมื่อได้ฟังดังนั้น ส่วนเจตต์มีสีหน้าเซ็งเล็กน้อย เพราะเมื่อเดือนก่อน แฟนสาวของเวทิตนั้นมาแผลงฤทธิ์ถึงที่ห้องเรียนของพวกเขา และยังตรงเข้าไปอาละวาดใส่และกล่าวหาหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสาวคนสนิทของพวกเขาว่าคิดแย่งแฟนตน ทั้งที่จริง ๆ แล้วเพื่อนสาวคนนั้นเป็นเพียงแค่เพื่อนสนิทและอยู่ชมรมเดียวกับเวทิตเท่านั้น ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ทำให้เวทิตหมดความอดทน เนื่องจากเขาได้พยายามอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมรับฟังท่าเดียว เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจประกาศเลิกกับเจ้าหล่อนต่อหน้าเพื่อนฝูงมากมายในห้องนั้นนั่นเอง

   "จะว่าไปเอ๋เขาก็รู้สึกผิดที่เหมือนเขามีส่วนให้ฉันกับก้อยเลิกกัน และพยายามช่วยให้ฉันกลับไปคืนดีกับก้อย แต่ฉันบอกเขาไปเองว่า ต่อให้ไม่มีเรื่องของเขา ยังไงเราก็คงต้องเลิกกันอยู่ดีในสักวัน ...เพราะฉันทนอยู่กับคนที่ไม่เชื่อใจและไม่ยอมฟังเหตุผลของกันและกันไม่ได้หรอก"

   "นึกถึงก่อนหน้านั้น เรื่องยัยเอ๋ก็เป็นข่าวลือไปอาทิตย์กว่าเหมือนกันนะ แต่โชคดีที่แฟนมันหนักแน่นพอ และพร้อมจะเลาะฟันใครก็ได้ที่นินทาแฟนตัวเองล่ะนะ...แหม! ก็ดันมีกัปตันชมรมมวยสากลเป็นแฟนแบบนี้ ใครล่ะจะกล้าหือ...จริงไหม!"

   เจตต์เสริมตามมา ซึ่งเวทิตก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อหวนคิดถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมาเมื่อราวเดือนก่อน

   "ตอนนั้นฉันล่ะเสียวสันหลังวาบ ที่พี่อิฐแกมาดักรอฉันแล้วถามเสียงห้วนว่าตกลงข่าวลือนั่นจริงไหม ฉันงี้นึกว่าจะถูกชกไปละ"

   "ฉันสิเสียวกลัวจะโดนลูกหลงมากกว่า ดันซวยกลับพร้อมนายพอดี!"

   เจตต์แย้งขัดขึ้นมาอย่างนึกเซ็ง ซึ่งก็ทำให้เวหาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

   "ฉันได้ยินพวกสาว ๆ คุยกันว่าเอ๋เขาขอให้แฟนเขาไปยืนยันกับแฟนเก่านาย ว่าคบกันมานานแล้ว และไม่ได้คิดนอกใจมาคบนาย ขอให้เลิกกังวลและเข้าใจผิดสักทีด้วย...นายรู้เรื่องนี้แล้วสินะ"

   เวทิตพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะตอบออกไปอย่างเบื่อหน่าย

   "ใช่...ก็เพราะงั้นล่ะ ก้อยเขาถึงได้โทรมาตามตื๊อฉันอีกตามเคย แต่ฉันปฏิเสธไปแล้วล่ะ แถมยังบอกเขาไปด้วยอีกว่า ไม่อยากให้เกิดเรื่องบ้า ๆ นี่ เป็นครั้งที่สามอีก"

   เจตต์กับเวหาฟังแล้วก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ เพราะพอจะรู้ดีว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนตัดสินใจเด็ดขาดพูดคำไหนคำนั้น แต่ไม่คิดว่าแม้แต่เรื่องความรักก็ไม่เว้นเช่นเดียวกัน

   "จะว่าไปผู้หญิงนี่ก็ปัญหามากชะมัด ฉันว่านายไปรักผู้ชายด้วยกันจะดีกว่าไหมวะต้น!"

   เจตต์โพล่งขึ้นพร้อมยิ้มยิงฟันกวนประสาทใส่เพื่อน ซึ่งก็ทำให้เจ้าตัวถูกมะเหงกจากเพื่อนสนิทเขกเข้าให้ที่กลางศีรษะหลังจากนั้น

   "นายนี่ก็รู้ทั้งรู้ว่าต้นมันของขึ้นง่าย ก็ยังขยันแหย่ให้เจ็บตัว...เป็นมาโซหรือไงนะเจ"

   เวหาบ่นอย่างเอือมระอา ทำเอาคนที่เตรียมจะโวยวายนิ่วหน้า ส่วนเวทิตหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ แทน จากนั้นทั้งสามก็นั่งคุยเรื่อยเปื่อยกันต่อ เพราะเวทิตกับเจตต์ตั้งใจแล้วว่าจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่ารวีจะมารับเวหานั่นเอง

   "...ช่วงหยุดยาวคราวหน้า ฉันว่าจะแวะไปค้างบ้านนายนะฟ้า ขอป๊ากับม๊าไว้แล้วด้วย ขี้เกียจโดนลากพาไปLA อีกแล้วอะ คราวก่อนกลับมาเซ็งแทบตาย ไม่รู้พวกคุณนายเขาเกิดคึกอะไรกัน เล่นช็อปกระจายไม่เกรงใจใคร...ช็อปมันได้ทุกที่ ขนาดปั๊มน้ำมัน พี่แกยังแวะช็อปเลยคิดดู!"

   เจตต์บ่นโอดครวญถึงพี่สาวทั้งสองและมารดาที่เป็นใหญ่ในบ้านโดยพี่สาวคนโตของเขานั้นแต่งงานอยู่กินกับสามีชาวต่างชาติที่ LA จึงมักชอบชวนมารดา บิดา ตัวเขา และพี่สาวคนรองไปเที่ยวที่นั่นในช่วงวันหยุดยาวของไทยอยู่เสมอ

   "จะว่าไปคราวนี้นายไม่เห็นอยากจะเล่าให้ฟังเลยนี่ ว่าที่ไป LA รอบนี้มาเป็นไงบ้าง ปกติเห็นไม่ถามก็เล่าเองตลอดนี่นะ"

   เวหาย้อนถามกลับ ซึ่งก็ทำให้คนฟังชะงักแล้วนิ่วหน้าน้อย ๆ ก่อนจะถอนหายใจตามมา

   "ก็พวกสถานที่ท่องเที่ยวอะไรที่อยากไปงวดนี้ก็ไม่ได้ไป เพราะพวกคุณนายเขาโฟกัสไปที่ช็อปปิ้งอย่างเดียวเลย แถมตอนจะกลับยังไปเจอคนแปลก ๆ อีก ก็เลยไม่รู้จะเล่าอะไรให้ฟัง เพราะมีแต่เรื่องไม่อยากจะจำทั้งนั้นน่ะ"

   เวทิตกับเวหาจ้องมองคนพูดตาปริบ ๆ แล้วเป็นเวทิตที่ย้อนถามกลับไปอย่างสงสัย

   "คนแปลก ๆ  แปลกแบบไหนกัน"

   เจตต์ขมวดคิ้วยุ่ง แล้วมีท่าทางลังเลว่าจะเล่าดีไหม แต่พอเห็นสายตากึ่งบังคับ และสายตาสนอกสนใจของเพื่อนทั้งสอง ก็ทำให้เขาต้องถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้ทั้งคู่ได้รับฟัง

   "ก็วันสุดท้ายก่อนจะกลับพวกเจ๊กับแม่ฉัน เขาก็เข้าไปเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมอะไรสักอย่างกันอยู่ในร้านเป็นนานสองนาน ฉันเบื่อก็เลยออกมานั่งรอที่สวนสาธารณะแถวนั้นคนเดียวเพราะป๊ากับพี่เขยฉันเขาอาสาเฝ้าบ้าน...แล้วระหว่างรอฉันก็เห็นรถขายไอติมจอดข้างทาง ฉันก็เลยไปซื้อมากินรอฆ่าเวลา แต่พอเดิน ๆ ก็ดันเกิดสะดุดแผ่นปูกระเบื้องที่มันไม่เสมอกันล้ม...แล้วเจ้าไอติมที่ฉันซื้อมาก็เลยไปหล่นแหมะเอาที่รองเท้าของผู้ชายคนหนึ่งเข้า"

   เจตต์นิ่งเงียบไปชั่วครู่ และมีสีหน้าสยดสยองเมื่อหวนคิดถึงชายที่เขาพบที่ LA คนนั้น

   "หมอนั่นสวมสูท ใส่แว่นดำมองโครงหน้าผ่าน ๆ ก็น่าจะหน้าตาดีหรอก แต่ออร่าความโหดมันแผ่ออกมาเหมือนกับพวกมาเฟียในหนังยังไงยังงั้น  แถมยังจ้องมาที่ฉันเขม็ง ถึงจะมองแววตาไม่เห็นก็เหอะ แต่ดูเขาจะไม่พอใจแน่ ฉันก็เลยรีบรน ๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดรองเท้าให้เขาแต่พอขัดเสร็จหมอนั่นก็ดันมาจับข้อมือฉันหมับ ฉันงี้สะดุ้งสุดตัวจนมือไม้อ่อนไปหมด แต่หมอนั่นก็ยังจ้องฉันนิ่งเหมือนไม่พอใจฉันกลัวก็เลยบอกขอโทษแต่ก็ลืมตัวพูดเป็นภาษาไทยออกไปล่ะนะ หมอนั่นก็เลยชะงักแล้วเผลอปล่อยมือ ฉันก็เลยฉวยโอกาสนั้นวิ่งหนีไปหลบในร้านที่ม๊ากับพวกเจ๊กำลังช็อปอยู่ แล้วแอบดูผ่านกระจกร้าน  แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นว่าเขาจะตามมาแต่กลับยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่เดิม ก่อนจะเดินหายไปที่ไหนแทนก็ไม่รู้....แต่ที่แน่ ๆ ผ้าเช็ดหน้าผืนโปรดของฉัน นอกจากจะต้องกลายเป็นผ้าขี้ริ้วเช็ดรองเท้าแล้ว ยังหล่นหายไปไม่ได้คืนอีก น่ากลัวคงตกตอนฉันเผลอวิ่งหนีมาก็ได้...พอย้อนกลับไปดูก็ไม่เจอ สงสัยใครเก็บไปแล้วก็ไม่รู้"

   เวทิตนิ่วหน้ารับฟังในท้ายประโยค แล้วจึงย้อนเพื่อนสนิทกลับไป

   "ใครจะเก็บไป ผ้าเลอะไอติมแบบนั้น...นายลองไปดูในถังขยะหรือเปล่าล่ะ อาจจะมีคนเอาไปทิ้งที่นั่นให้ก็ได้"

   เจตต์หันมามองเพื่อนแล้วจึงย้อนกลับไปด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ

   "ขนาดถ้วยโคนไอติมยังตกอยู่ที่เดิมเลย ...ฉันเองก็ตั้งใจจะไปค้นถังขยะดูหรอกนะ แต่พอม๊ารู้ว่าฉันจะไปทำอะไรก็เลยโดนด่าเปิง แล้วลากกลับโรงแรม ฉันก็เลยไม่ได้เช็คให้แน่ใจว่ามันอยู่ในนั้นจริงหรือเปล่าน่ะ"

   เวหามองเพื่อนตาปริบ ๆ ก่อนจะเอ่ยถามราคาผ้าเช็ดหน้าผืนโปรดของเจ้าตัวออกไปอย่างเกรงใจ

   "ตกลงผ้าผืนนั้นราคาเท่าไหร่น่ะ แพงมากสินะ"

   "ผืนละ 59  ซื้อจากตลาดนัดแถวนี้น่ะ"

   คนที่ไปซื้อด้วยกันเป็นฝ่ายตอบคำถามนั้นแทน ทำเอาเจตต์หันมาทำเป็นค้อนขวับใส่เพื่อนสนิทที่ขัดคอมาเช่นนี้

   "แค่ 59 แล้วไง ถึงราคาจะไม่แพงมาก แต่คุณค่าทางจิตใจมันสูงกว่านั้นเยอะ!"

   "เหอะ! ก็แค่คนขายเป็นแม่ค้าหุ่นเซ็กซี่ ที่หว่านล้อมให้ซื้อแล้วบอกว่าลายสก็อตนี่เหมาะกับน้องชายมากเลยนะคะ อะไรนั่นน่ะหรือ ...จะบอกให้นะ วันก่อนฉันเห็นเขามาขายที่ตลาด แต่คราวนี้มีผู้ชายที่ดูคล้ายสามีมานั่งคุมด้วย นายเลิกอ้างเอาผ้าเช็ดหน้าที่ซื้อใช้ ไปคุยกับเจ้าหล่อนฟรี ๆ โดยไม่ช่วยอุดหนุนอะไรนั่นได้แล้วล่ะ!"

   เวหามองเพื่อนสนิททั้งสองตาปริบ ๆ  แม้เขากับเวทิตจะเคยสนิทกันมากเมื่อสมัยเรียนมัธยมปลายก็จริง แต่พอขึ้นมหาวิทยาลัย ด้วยความใกล้ชิดและพูดคุยรู้ใจแถมยังเข้าขากันได้ดี ก็ทำให้เวหารู้สึกว่าทั้งเจตต์และเวทิตนั้นดูสนิทสนมกันมาก เสียยิ่งกว่าเขาที่คบกับเวทิตมานานกว่าเสียอีก

   "พวกนายนี่สนิทกันจังเลยน้า น่าอิจฉาจัง"

   "หา! ฉันกับหมอนี่อะนะ! น่าจะเหมือนคู่กัดกันเสียมากกว่าอะ!"

   เจตต์รีบแย้งกลับไปทันที ส่วนเวทิตเมื่อได้ยินดังนั้นจึงทำเป็นเปรยตอบพร้อมกับทำท่าเซ็ง เสียจนคนมองหมั่นไส้

   "ใช่! อยู่กับหมอนี่แล้วมีแต่เรื่องชวนปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน"

    "เหอะ! ใช่ซิ! แล้วทีหลังมีอะไร อย่ามาเรียกนายเจคนนี้ให้ไปเป็นเพื่อนแก้เหงาแล้วกัน ...พอหายเหงาก็ทิ้งเค้า พอเหงาก็กลับมาหากัน เชอะ!"

   คนพูดแสร้งทำเป็นจีบปากจีบคอดัดเสียงแถมค้อนขวับให้ เสียจนเวหาถึงกับหลุดหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ส่วนเวทิตพอเห็นดังนั้นก็อดขำไม่ได้เช่นกัน เจ้าตัวจึงเกิดนึกสนุกเล่นตามน้ำไปด้วยเสียเลย

   "โถ! หนูเจ ป๋าขอโทษ อย่างอนเลยนะ! เอ้า! ป๋าหอมแก้มให้ก็ได้!"

   "อ๊าย! ไม่เอานะคะป๋า เจอาย! คนมองใหญ่แล้ว!เอ๋...?!"

   คนทำเป็นสะบัดสะบิ้งเมื่อเพื่อนสนิทแกล้งทำเป็นจะหอมแก้ม ถึงกับชะงัก พลางเบิกตาค้างนิ่ง และนั่นจึงทำให้เวทิตมองตามสายตาเพื่อนไป รวมถึงเวหาที่นั่งฝั่งตรงกันข้ามหันกลับไปมองอย่างประหลาดใจ

   "อ้าว! พี่ซัน ...มากับใครน่ะ หือ...หรือว่าญาติที่ว่านั่น..."

   "เอ๋! คนนั้นน่ะ ญาติพี่ซันหรอกหรือ!"

   เจตต์ถามเพื่อนของตนอย่างตกใจ ทำให้เวทิตขมวดคิ้วยุ่ง เขามองหนุ่มชาวต่างชาติที่ยืนอยู่ข้างกับรวีอีกครั้ง ก่อนจะหันมามองเพื่อนสนิทที่กำลังมีสีหน้าซีดเผือดข้างกายตน

   "เป็นอะไรไปวะเจ ทำหน้ายังกับเห็นผี"

   เจตต์เหลือบมามองคนตั้งคำถาม แล้วหันกลับไปมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้หยิบแว่นตาดำจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตขึ้นมาสวม ซึ่งก็ยิ่งตอกย้ำให้เด็กหนุ่มมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่า ตนนั้นจำคนไม่ผิดแน่

   "ยิ่งกว่าผีอีกว่ะต้นฉันล่ะภาวนาให้สิ่งที่ฉันคิดแผลง ๆ อยู่ในหัวตอนนี้ มันไม่ใช่เรื่องจริงกับเขาล่ะนะ"

   เจตต์พึมพำกับตัวเองพร้อมยิ้มแห้ง ๆ ตอบ เพราะจู่ ๆ เรื่องที่รวีเคยพูดกับเขาเมื่อตอนช่วงราวปีก่อนที่พบกันเป็นครั้งแรก มันดันย้อนกลับมาแจ่มชัดในสมองเสียตอนนี้อย่างน่าประหลาด และเขาคิดว่า คงไม่มีคนไหนจะโกรธแค้นกับเรื่องถูกทำไอศกรีมหกใส่เท้า จนถึงกับต้องข้ามน้ำข้ามทะเล มาโผล่ตรงหน้าเขาเพื่อแก้แค้นแบบนี้แน่

   ...ก็ได้แต่ภาวนาว่า เรื่องหลงตัวเองที่เขากำลังคิดอยู่ตอนนี้ จะเป็นเรื่องไม่จริงเข้าให้ล่ะนะ ถึงตอนนั้นเขาจะยิ้มรับอย่างร่าเริง โดยไม่นึกอายเลยสักนิด ถ้าหากว่าสิ่งที่เขาคิดเป็นสิ่งที่เขาเข้าใจผิดไปเองนั่นล่ะ ...

   เจตต์คิดในใจ ขณะที่ทำเป็นยิ้มเจื่อนสู้ใส่คนที่เดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับรวี และเริ่มแนะนำตัวเองว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอีกฝ่ายให้พวกตนได้รับรู้หลังจากนั้น...



... END ...


(Talk By...ปัด)
     

   จบแล้วนะคะ อาจจะเป็นการจบที่ดูเหมือนตัดจบก็จริง แต่เป็นการจบเพื่อเริ่มเนื้อเรื่องของคู่ใหม่  ซึ่งก็คือ คู่ของเอริค และนายเจ นั่นเองค่ะ ซึ่งปัดจะเขียนเรื่องของคู่นี้เป็นเรื่องหลักต่างหาก  ดังนั้นจึงอยากจะสร้างเรื่องเพื่อเกริ่นนำการพบกันของทั้งคู่ให้ผู้อ่านได้ทราบ โดยผ่านตอนพิเศษเช่นนี้ซึ่งปัดก็หวังว่าคงจะไม่ค้างคาใจกันเท่าใดนักนะคะ  ยังไงก็รอติดตามคู่ใหม่ในเรื่องใหม่ แต่เป็นซีรียส์ตัวละครชุดเดียวกันด้วยนะคะ....ขอบคุณที่อ่านกันจนจบเล่มค่ะ


ps. แต่สำหรับคนที่ชอบพี่ซัน  อาจจะมีตอนพิเศษของฝั่งนี้งอกมาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ ก็ได้ ใครจะรู้เนอะ!

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
พรหมลิขิตเล่นงานน้องเจเข้าให้แล้วล่ะ
งานนี้มีหวังได้สามีเป็นตัวเป็นตนแน่ๆ
เป็นการพบกันที่ไม่เหมือนใครจริงๆ
ลงทุนมากเลยนะ เอาผ้าเช็ดหน้าผืนที่ชอบเช็ดรอยเปื้อนไอติมบนรองเท้าให้เอริค

รออ่านคู่นี้ในเรื่องต่อไปค่าา

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ขอบคุณครับ สำหรับเรื่องราวน่ารักๆ
รออ่านคู่ใหม่ ด้วยคน

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1: สองคู่พี่น้องหวานได้ตลอดจริงๆ
น้องเจ เป็นซินเดอเรลล่า จะรอเรื่องใหม่นะคะ
 :pig4:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
 :pig4: อีกครั้งค่ะ  สำหรับนิยาย น่ารัก ๆ เรื่องนี้



ปูเสื่อ :katai3:  รอ  น้องเจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
เขาไม่ได้ตามมาเพราะแค้น เขามาตามเนื้อคู่ตะหาก  :impress2:
บ้านนี้ท่าทางจะช่างตื๊อปักใจแล้วไม่ปล่อยทุกคน เตรียมตัวไว้เถอะเจตต์

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สองคู่ไม่พอต้องเผื่อแผ่ไปถึงญาติด้วยซัน

ออฟไลน์ wews

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
ชอบเรื่องน่ารัก ราบรื่น ไม่เครียดมาก
เพราะในชีวิตคนส่วนใหญต้องมีเรื่องเครียดอยู่แล้ว มากบ้างน้อยบ้าง
จึงชอบอ่านเรื่องที่ให้ความรู้สึกหวานๆ น่ารักๆ ไม่ดราม่าค่ะ
ขอบคุณมากๆที่แต่งเรื่องแนวนี้ให้อ่าน
 :L2:  :L2:

ออฟไลน์ rule

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
ขอชื่อเรื่องใหม่ลงให้ด้วยคะ ของคุณพี่มาเฟียเอริคกับพี่เจ ท่าทางพี่เจจะใส่ตีนหมาโกยแน่

ออฟไลน์ jj_girl

  • รูปโปรไฟล์ขำๆ นะคะ / Cr.สาววายในตำนาน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
 :pig4:

รอเอริคกับน้องเจนะคะ  อิอิ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :pig4:

อ่านรวดเดียวจนจบเลย และไม่ผิดหวังจริงๆ
เพราะอมยิ้มตลอดเรื่องค่ะ  :katai2-1:
เรื่องคงความน่ารักใสๆ อ่านเรื่อยๆ เป็นเอกลักษณ์
ไม่ผิดหวังที่คลิ๊กเข้ามาอ่าน  o13

ชอบซันฟ้า เมฆมีนมากเลย ตอนพิเศษที่อาจจะมี
ขอบทร้อนแรงสักนิดค่ะ ลุ้นให้ซัน เมฆสมหวังเสียหน่อย  :impress2:
จะได้ครบรส 555 เป็นในเล่มก็ได้ค่ะ เตรียมหยอดกระปุกรอ

รอคู่ใหม่เอริคเจนะคะ  :hao6:

เป็นกำลังใจและสนับสนุนคุณปัดเสมอค่ะ

 :L2:  :กอด1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
มารอคู่ใหม่จ้าาาาาาา
จะติดตามตลอดนะ
 :3123: :3123: :3123:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ว๊ายๆๆๆ เจนายเสร็จแน่ ฮิ้ววว

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
พี่ซันยังน่ารักเหมือนเดิม
รอๆเอริคกะเจด้วยจร้าา

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
แต่ละคู่นี่ก็ช่างน่ารักกันเสียจริง
จะผิดไหมคะคนเขียนอยากจะอ่าน NC ไม่ได้หื่นน้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
แบบนี้เค้าเรียกพรหมลิขิตชัดๆ
พอได้อ่านแล้วยิ่งอยากอ่านต่อ
 :mew3:

ออฟไลน์ Ryu_Chise

  • You love me?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
อ่านแล้วหมอนเปียก กัด กรี๊ด จนเพลีย กันไปข้าง น่ารักทุกคู่เลยอะ

><// ขอตอนแถมอีกนิดได้ไหมอ่ะๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พี่ซันนี่มั่นคงดีจังเลยเนอะ แต่น้องฟ้าน่ารักแบบนี้ก็สมควรหลงอยู่หรอก

คู่เมฆมีนนี่มาไวนะคะ แต่ก๊าวมาก ยิ่งฉากที่มีนงอนไปตะโกนริมหาดแล้วพี่เมฆมาง้อเนี่ย

รอติดตามเอริคเจค่ะ ท่าจะโหดมันฮา

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
ขอบคุณคุณปัดค่ะ แต่งเรื่องสนุกๆให้ได้อ่านเสมอ
รอคู่เอริค-เจนะคะ

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ยังอยากอ่านตอนพิเศษของพี่ซันเยอะๆเลยค่ะ
พี่ซันน่าร้าก น้องฟ้าโชคดีที่สุดเลยยยย  :-[

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
ชอบเรื่องนี้ อยากเห็นตอนหนูเมฆหึงบ้างงงงงงงงงงง
ปล.อยากเห็นหนูเมฆเวอร์ชั่นทำงานแล้วด้วย อิอิ

janeyuya

  • บุคคลทั่วไป
งือออออ น้องต้องต้องโดนอีริคหมายหัวแน่ๆอ่ะ เจนสัมผัสได้

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
รอออออออออ

ออฟไลน์ SOBANG✖

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ชอบคู่เมฆมีน มากกกกกกกกกกกกกกกกก
ขอตอนพิเศษเมฆมีนบ้างสิคะ >.< ขอแบบเต็มตอนเลย มาแค่นี้ใจมันคิดถึงงงงงง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด