ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว  (อ่าน 197182 ครั้ง)

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ครอบครัวนี้น่ารักมากจริงๆ
 :กอด1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ว้าวววว ครอบครัวนี้ได้ใจไปเลย เต็มร้อย
 :3123: :3123: :3123:

meili run

  • บุคคลทั่วไป
เอาล่ะ เตรียมรายชื่อแขกไว้เนิ่นๆ จะได้ไม่ฉุกละหุก พร้อมร่อนการ์ดได้เลยเมื่อเรียนจบ เอ หรือไม่ต้องจบก็ก :mew2:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ครอบครัวน่ารัก
ทางสะดวก พี่ซันลุยยย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
2 ผ่านละค่าาาา
พี่ซันสู้ต่อไป

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
บทที่ 10



   รวีกับเมฆาแวะเวียนมาเป็นแขกขาประจำของบ้านได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว และเพราะความหล่อโดดเด่นชวนสะดุดตาเพื่อนบ้านรอบข้างของทั้งสองหนุ่ม ในระยะสองสามวันแรกนั้นจึงทำให้เกิดข่าวลือแปลก ๆ ขึ้นมา ทว่ารวีก็ใช้ความไหลลื่นในการสนทนา ทำให้เพื่อนบ้านแต่ละรายเข้าใจไปว่า ชายหนุ่มนั้นแวะเวียนมาที่นี่เพราะความเป็นญาติห่าง ๆ กับวารี และสนอกสนใจที่จะทำธุรกิจทางด้านเกษตรร่วมกับณรงค์อีกด้วย

   "น้องฟ้าครับ วันพรุ่งนี้พวกเราไปเที่ยวทะเลกันไหมครับ...ไปเที่ยวพักผ่อนค้างสักคืนสองคืนที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลของพี่กันนะครับ"

   หลังมื้ออาหารเย็นภายในซุ้มนั่งนอกบ้าน รวีก็จัดแจงพูดอ้อนเด็กหนุ่มตรงหน้าตนด้วยรอยยิ้มหวาน ทำเอาเวหาชะงักไปเล็กน้อย เพราะเมื่อสองสามวันก่อน เขาเพิ่งเปรยบ่นลอย ๆ กับครอบครัวระหว่างทานข้าวกลางวันว่าอากาศร้อนแบบนี้น่าจะไปเที่ยวทะเลกัน มาวันนี้รวีก็กลับมาชวนเขาไปเที่ยวบ้านพักตากอากาศของเจ้าตัวเข้าเสียแล้ว

   "ชวนพี่ฟ้าคนเดียวหรือครับ แล้วคนอื่น ๆ ในบ้านล่ะ ไม่คิดจะชวนกันเลยหรือไง"

   มีนาที่นั่งอยู่ด้วยกันขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะแสร้งเปรยขัดขึ้นมาทำเอารวีหันมายิ้มน้อย ๆ ให้กับคนพูด ก่อนจะเอ่ยตอบ

   "พี่ก็ต้องชวนน้องมีน แล้วก็พวกคุณน้าไปด้วยอยู่แล้วครับ เพราะบ้านพักตากอากาศหลังนี้ค่อนข้างใหญ่โต อยู่กันได้หลายคนสบาย ๆ อยู่แล้วล่ะครับ"

   มีนาฟังแล้วก็ทำปากมุบมิบบ่น ส่วนเวหาขมวดคิ้วนิด ๆ ก่อนจะถามย้อนกลับไปคล้ายกับสงสัยอะไรบางอย่าง

   "บ้านพักที่ว่านั่น มีมานานแล้ว หรือเพิ่งติดต่อซื้อขายมากันไม่กี่วันนี้ล่ะครับ..."

   รวีสะดุ้งโหยง ก่อนจะรีบทำเป็นยิ้มแย้มแล้วพูดกลบเกลื่อนตามมา

   "แหม! ก็ต้องมีมานานแล้วสิครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ มีคนดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ ไม่สกปรกแน่!"

   เวหาหรี่ตามองแล้วนิ่งเงียบคล้ายกำลังจ้องจับผิดโดยไม่พูดอะไรต่อ ทำเอารวีชะงักและสุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมา

   "คือบ้านน่ะสร้างมาเกือบสิบปีแล้ว แต่พี่เพิ่งติดต่อซื้อไปเมื่อสองวันก่อน...ก็เห็นน้องฟ้าบ่นว่าอยากไปเที่ยวทะเล พี่ก็เลยคิดว่า ถ้ามีบ้านพักริมทะเลไว้เป็นของตัวเองสักหลัง ก็คงจะดีไม่น้อย ...ก็เลยติดต่อซื้อไปแล้วมาชวนน้องฟ้าไปเที่ยวด้วยกันนี่ล่ะครับ"

   พอรวียอมบอกเล่าความจริง เด็กหนุ่มที่นิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ก็เริ่มยิ้มออก ทำให้รวีโล่งอกแล้วยิ้มตาม ส่วนเมฆามองเพื่อนด้วยความตะลึง เพราะไม่คิดว่าเพื่อนของเขาจะกลายเป็นลูกแมวเชื่อง ๆ ยามเมื่ออยู่ต่อหน้าเวหาเช่นนี้

   "ผมอยากไปเที่ยวทะเลก็จริง แต่ผมก็ไม่อยากให้พี่ซันต้องมาสิ้นเปลืองไปมากมายเพราะผมแบบนี้เลย"

   เวหาเอ่ยขึ้นหลังจากที่ได้ฟังรวีบอกเหตุผลที่แท้จริง แต่พอรวีได้ยินดังนั้นก็รีบแย้งกลับมาทันที

   "พี่ไม่เคยคิดว่าตัวเองสิ้นเปลืองเลยนะครับน้องฟ้า! สำหรับน้องฟ้าแล้ว อะไรก็ได้ ขอแค่น้องฟ้ามีความสุข พี่ก็พร้อมยินดีจะทำทุกอย่าง"

   เด็กหนุ่มสั่นศีรษะค่อย ๆ คล้ายเอือมระอา ส่วนเมฆาที่เห็นว่าบรรยากาศระหว่างทั้งคู่กำลังเริ่มลงตัวเขาจึงตัดสินใจจับมือของมีนาแล้วส่งสัญญาณให้เด็กหนุ่มเงียบและเดินตามตนมา ทำเอาคนถูกวิสาสะจับมือขมวดคิ้วยุ่ง แต่พอเห็นรอยยิ้มของชายหนุ่ม เจ้าตัวก็ค้อนขวับเข้าให้ แล้วยอมเดินตามไปอีกทางแต่โดยดี



   ทางด้านเวหานั้นหลังจากนิ่งเงียบมาครู่ใหญ่ เขาก็ยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยนให้กับชายตรงหน้าตน

   "พี่ซันครับ...ถ้าผมจะรักใครสักคน ผมจะไม่รักเขาที่ทรัพย์สินเงินทองหรือรูปลักษณ์ภายนอกหรอกนะครับ แต่ผมจะรักเขาเพราะเขานั้นมีความรัก ความจริงใจ และมั่นคงซื่อสัตย์ต่อผม ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังก็ตาม"

   รวีมองเด็กหนุ่มเบื้องหน้าตนอย่างตื้นตัน ในชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้น ล้วนเจอแต่คนเข้าหาเพราะหน้าตา ฐานะ และอำนาจที่มี หากแต่เวหากำลังแสดงให้เขาได้เห็นว่า ของพวกนั้นมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ หากแต่เป็นความจริงใจและความรักต่างหาก ที่สำคัญกับเจ้าตัวมากกว่า

   "พี่ดีใจจังเลยนะครับน้องฟ้า ที่ได้มีโอกาสเจอน้องฟ้า ได้รักน้องฟ้า  ต่อให้พี่จะต้องผิดหวัง แต่พี่ก็ยังดีใจ ที่ในชีวิตนี้ของพี่ มีโอกาสได้รักคนดี ๆ อย่างน้องฟ้าแบบนี้"

   เวหายิ้มเขิน ๆ ให้คนตรงหน้าเขา แล้วอุบอิบพึมพำตอบแผ่วเบา

   "บางทีพี่ซันอาจจะไม่ต้องผิดหวังก็ได้นะครับ..."

   รวีชะงักนิ่งงันไปชั่วครู่กับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะเบิกตากว้างตามมาด้วยความตกตะลึงเป็นที่สุด

   "น้องฟ้า! ที่พูดมานั่นหมายความว่ายังไงครับ! หรือว่า....!"

   รวีมีสีหน้าตื่นตกใจปนคาดหวัง ทำให้คนที่เผลอหลุดปากพูดความในใจออกไปหน้าแดงยิ่งขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะตอบกลับออกไปด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างติดขัดผิดเคย

   "กะ...ก็ ยังไม่แน่ใจนักหรอกครับ... เอ่อ...แต่ตอนนี้ ดูท่าทางมันจะเอนมาทางสมหวัง...มากกว่าผิดหวังอยู่มากน่ะครับ"

   รวียิ้มกว้างด้วยความยินดีเป็นที่สุด เขาเผลอดึงร่างคนตรงหน้ามากอดหมับ ทำเอาเวหาสะดุ้งโหยง ทว่าสักพักคนกอดก็คืนสตินึกขึ้นได้ เจ้าตัวรีบปล่อยร่างในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ แล้วรีบขอโทษด้วยใบหน้าที่แสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด จนเวหานึกขำ

   "กอดแค่นี้ผมไม่โกรธอะไรหรอกครับ...แต่อย่าเผลอกอดต่อหน้าคนอื่นแล้วกันนะครับ"

   รวีตาเบิกกว้างพลางพยักหน้าหงึกหงักยิ้มรับอย่างมีความสุข เสียจนคนที่มองอยู่อดยิ้มตามไปไม่ได้



   อีกด้านหนึ่งนั้น มีนากับเมฆาที่กำลังแอบมองอยู่ห่าง ๆ คนหนึ่งมีใบหน้ายิ้มแย้มพึงพอใจ ส่วนอีกคนมีสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ ตามมาอย่างนึกปลง ทำเอาเมฆาที่อยู่ด้วย ต้องเหลือบมองคนตัวเล็กข้างกาย ก่อนจะหวนนึกถึงคำพูดของเพื่อนสนิทที่เคยได้คุยกันเป็นการส่วนตัวก่อนหน้านั้นเมื่ออาทิตย์ก่อน

   "น้าณรงค์เขาฝากมาบอกนายว่า ถ้าไม่คิดจริงจังอะไร ก็อย่าทำเหมือนไปจีบให้ความหวังลูกชายเขา...แล้วฉันก็รับปากมาแล้วว่าจะพูดเตือนให้ ก็เลยมาบอกกับนายแบบนี้นี่ล่ะ!"

   เมฆาจำได้ว่าหลังจากฟังถ้อยคำตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมของเพื่อนสนิท ก็ทำให้เขานิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ๆ เลยทีเดียว เนื่องจากเขานั้นถูกใจมีนามากก็จริง แต่ก็ยังไม่มากถึงกับขนาดจะปักใจและยอมหยุดอยู่ที่เด็กหนุ่มเพียงแค่คนเดียว ...แต่จะให้ตัดใจจากเด็กคนนี้ไปเลย เขาก็เกิดรู้สึกเสียดายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจทำตัวสนิทสนมไปแบบเดิม แต่พยายามพูดหยอกล้อเล่นในแง่นั้นกับเด็กหนุ่มให้น้อยลงแทน

   "นี่! เมื่อไหร่จะปล่อยมือผมเสียทีนี่! จับมานานแล้วนะ!"

   เสียงของมีนาที่ดังขึ้นเรียกสติชายหนุ่มให้กลับคืนมา เมฆาชะงักเล็กน้อย แล้วจึงรีบปล่อยมือก่อนจะเอ่ยขอโทษด้วยสีหน้ารู้สึกผิด ทำให้คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้วยกันต้องนิ่วหน้าอย่างนึกแปลกใจกับท่าทางเช่นนั้นของอีกฝ่าย แถมอาการขยับตัวหนีถอยทิ้งระยะห่างของเมฆาที่ตามมา ก็ทำให้มีนาชักเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเข้าให้แล้ว



   หลังจากที่รวีกับเวหาช่วยพูดกล่อมเรื่องไปเที่ยวค้างคืนริมทะเล ก็ทำให้วารีและณรงค์ยอมตอบตกลงรับคำอนุญาต ทว่าทั้งสองคนนั้นขอเลือกอยู่เฝ้าบ้านแทน และปล่อยให้ลูก ๆ ไปสนุกกันเองตามประสา ทำเอามีนากับเวหาชักรู้สึกไม่อยากไปเที่ยวขึ้นมาเสียแล้ว  ร้อนถึงรวีกับเมฆาต้องช่วยกันพูดโน้มน้าวผู้ใหญ่ทั้งสองกันยกใหญ่

   "นะครับ...ไปค้างแค่ไม่กี่วันเอง ส่วนเรื่องสวนก็จ้างคนดูแลก็ได้นี่ครับ  หรือถ้าคุณน้ากลัวคนที่จ้างจะดูแลให้แบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ เดี๋ยวผมสั่งให้คนของผมมาช่วยแบบครั้งก่อนนั่นก็ได้  รับรองเลยครับว่าสวนของคุณน้าและบ้านหลังนี้จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่องแน่นอน!"

   ณรงค์รับฟังแล้วมองหน้าวารี ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

   "ก็เพราะกลัวคนจะแตกตื่นเอาแบบครั้งก่อนนั่นล่ะ น้าถึงไม่อยากทิ้งบ้านไปน่ะ"

   ณรงค์ที่เริ่มหันมาพูดคุยกับพวกรวีอย่างเป็นกันเองบอกกับชายหนุ่มตามตรง ทำเอารวีและเมฆาชะงักกึก ก่อนที่ทั้งคู่จะยิ้มเจื่อนตามมา เนื่องจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ณรงค์หกล้มขาแพลง ทำให้ไปทำงานลำบาก ส่วนรวีเองก็ไม่อยากให้เวหาต้องรับผิดชอบงานแทนพ่อหนักจนเกินไป เลยจัดแจงออกคำสั่งให้บรรดาบอดี้การ์ดของเขาที่คอยดูแลติดตามเขาอยู่ห่าง ๆ ไม่ให้เห็นตัวเป็นที่สะดุดตาก่อนหน้านั้น  ให้เปิดเผยตัวและออกมาช่วยงานสวนของณรงค์  ซึ่งก็ทำให้คนอื่นในละแวกนั้น พากันแตกตื่นตกใจที่ได้เห็นคนใส่สูทชุดดำ สวมแว่นตาดำ ท่าทางโหด ๆ เหมือนพวกตัวร้ายในหนัง ราวสามสี่คน  มาลงมือช่วยกันทำสวนทำไร่ให้ได้เห็นเช่นนี้

   "ไม่เป็นไรหรอกฟ้า...มีน...พ่อกับแม่ก็อายุมากแล้ว นั่งรถนาน ๆ ก็เมื่อย แถมพ่อยังเมารถอีก ไปถึงก็คงเที่ยวได้ไม่สนุกนัก สู้ให้เด็ก ๆ ไปเที่ยวกันตามประสาน่าจะดีกว่า แล้วอีกอย่างพ่อกับแม่ก็ไว้ใจว่า พวกพี่ ๆ เขาจะดูแลลูกของพ่อทั้งสองได้เป็นอย่างดีแน่ ...จริงไหม"

   ณรงค์บอกกับบุตรชายแล้วหันมาทางชายหนุ่มอีกสองคน ก่อนจะส่งสายตาแฝงความนัยบางอย่างที่ทำให้คนมองทั้งคู่ชะงัก ทว่าสักพักทั้งคู่ก็พยักหน้ารับรู้ แล้วตอบกลับไปด้วยสายตาหนักแน่นจริงจังแทบจะพร้อมกัน

   "ครับ! คุณน้า!"

   ณรงค์กับวารียิ้มแย้มตอบรับ จากนั้นณรงค์จึงหันมาทางลูก ๆ ของพวกตนบ้าง

   "ส่วนพวกลูกก็อย่าไปก่อความเดือดร้อนอะไรให้พวกพี่เขานักนะ ...อ้อ! แล้วถ้าพวกพี่เขาเกิดใช้จ่ายอะไรฟุ่มเฟือยให้พวกลูกจนเกินไป ก็ช่วยกันปราม ๆ ห้าม ๆ เขาด้วยล่ะ"

   เวหากับมีนามองหน้ากัน แล้วเหลือบไปมองชายหนุ่มทั้งสองที่ต่างสะดุ้งนิด ๆ เมื่อถูกพาดพิง ท่าทางยิ้มเจื่อนของพวกรวีที่ได้เห็นทำเอาสองพี่น้องหลุดขำนิด ๆ อย่างลืมตัว แล้วจึงหันกลับไปตอบบิดาด้วยน้ำเสียงร่าเริงพร้อมกัน

   "ได้เลยครับพ่อ!"

   วารีจ้องมองครอบครัวของเธอที่ครึกครื้นขึ้นมามาก หลังจากที่มีพวกรวีและเมฆาเข้ามาในชีวิต หญิงสาวแย้มยิ้มน้อย ๆ อย่างมีความสุข สำหรับเรื่องบุตรชายคนโต เธอคงไม่ต้องห่วงอะไรมากนัก เพราะรวีนั้นแสดงออกให้เห็นว่ารักและหลงใหลในตัวของเวหาเสียเหลือเกิน มิหนำซ้ำหลัง ๆ มานี้ยังดูเชื่อฟังลูกชายของเธอเสียจนน่าสงสารอีกด้วย

   ทว่าแม้จะไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของเวหาแล้ว แต่มีนานั้นกลับดูน่าเป็นห่วงมากกว่า เพราะเธอสังเกตได้ว่าเมฆานั้นแม้จะพูดคุยสนิทสนมกับมีนาเป็นอย่างดี แต่ก็วางตัวในลักษณะแบบพี่น้องและดูจะไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าความเอ็นดู หากแต่ลูกชายคนเล็กของเธอนี่สิ ชักเริ่มมีท่าทางผิดแผกแปลกไปยามที่ได้อยู่ใกล้ชิดเมฆาเข้าให้เสียแล้ว

   หากว่ามีนานั้นตกหลุมรักเมฆาเข้าให้จริง และตัวเมฆาเองก็มีใจและคิดจริงจังกับมีนาแบบรวีที่มีต่อเวหาบ้าง เธอก็คงยินดีและไม่คิดขัดขวางในความรักของทั้งคู่  แต่ถ้าไม่ใช่ แม้จะต้องเห็นลูกเสียใจก็ตาม ทว่าเห็นทีเธอคงต้องเป็นคนลงมือบอกให้มีนาเป็นฝ่ายตัดใจจากชายหนุ่มเสียก่อนที่เจ้าตัวจะถลำลึกลงไปมากกว่านี้เสียแล้วล่ะนะ



   หัวค่ำคืนนั้น วารีลงมือช่วยสองพี่น้องเก็บเสื้อผ้าเตรียมไปเที่ยว พอหญิงสาวสังเกตเห็นลูกชายคนเล็กของเธอทำเป็นบ่นในเรื่องนี้แต่กลับมีท่าทางกระตือรือร้นผิดเคย ก็ทำให้เธอต้องถอนหายใจเบา ๆ แล้วแสร้งเปรยขึ้นคล้ายบ่นกับตัวเอง

   "...บางทีการที่เราเลิกแกล้งโกหกตัวเองและหันมามองความรู้สึกของตัวเองอย่างจริงจังสักที มันก็อาจจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดที่จะตามมาในอนาคตก็เป็นได้นะลูก"

   มีนาชะงักและหยุดมือที่กำลังจัดเก็บเสื้อผ้าลง ส่วนเวหานั้นมองมาที่มารดาอย่างแปลกใจ

   "หมายความว่ายังไงหรือครับแม่"

   วารียิ้มน้อย ๆ แล้วจึงทำเป็นเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่น

   "ก็ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ แม่ก็แค่นึกอะไรได้ก็เลยพูดเรื่อยเปื่อย อ๊ะ! จริงสิฟ้าเอาครีมกันแดดไปหรือยังจ๊ะ แดดทะเลแรงกว่าบ้านเราเยอะนะ เดี๋ยวผิวลอกแสบเอาแย่"

   "ฟ้าเตรียมไว้แล้วล่ะครับ ขืนดำมากไปกว่านี้ เดี๋ยวพอเปิดเทอม เพื่อนฟ้ามันจะจำกันไม่ได้พอดี"

   เวหาพูดแล้วก็หัวเราะเบา ๆ ส่วนมีนาแสร้งทำเป็นยิ้มตามพี่ชาย แต่ก็ยังคงเหลือบมองมารดาที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ใส่เขา เด็กหนุ่มเม้มปากน้อย ๆ ก่อนจะแสร้งทำเป็นผสมโรงชวนพี่ชายคุยเรื่องอื่นต่อ และเมื่อมารดาออกจากห้องไปแล้ว เขาก็ยังคงหวนคิดถึงถ้อยคำที่มารดาพูดเปรยขึ้นโดยไม่ระบุตัวใครนั่นอีกครั้ง

   'มีนรู้ว่าแม่ตั้งใจจะเตือนมีนทางอ้อม...แต่แม่อย่าห่วงเลยนะครับ...มีนยังไม่รู้สึกอะไรกับเขาถึงขั้นนั้นหรอก....ยังไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นสักนิด...ไม่รู้สึกเลยจริง ๆ ...'

   มีนาลอบถอนหายใจเบา  ๆ แล้วพยายามข่มตาหลับ เขาได้ยินเสียงเวหาขยับกายปิดไฟตรงหัวนอนของเจ้าตัว จากนั้นสักพักใหญ่เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของพี่ชายก็ดังขึ้น ทว่ามีนานั้นกลับยังคงนอนไม่หลับ เจ้าตัวลืมตามองเพดานไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบตีสอง เปลือกตาของเด็กหนุ่มก็เริ่มหนักลงและผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียในที่สุด



   พอถึงเวลานัดในตอนเช้าเวหาก็ต้องแปลกใจที่เห็นมีนาซึ่งมักตื่นเช้าอยู่เสมอ กลับมีท่าทางสะลึมสะลืองัวเงีย เหมือนคนอดนอน ทั้งที่เมื่อคืนเขาก็เห็นว่าน้องชายเข้านอนก่อนเขาแท้ ๆ ส่วนทางด้านวารีและณรงค์หลังจากฝากฝังลูกชายกับพวกรวีเสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่ก็ขอตัวตรงไปที่สวนผลไม้ด้วยกัน เพราะวันนี้วารีนั้นตั้งใจจะตามไปเป็นลูกมือช่วยสามี แทนลูกชายคนโตที่มักจะคอยไปช่วยอยู่ทุกวันนั่นเอง

   "น้องมีนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับสินะครับ ตาเป็นหมีแพนด้าเชียว"

   เมฆาเอ่ยกระเซ้าเมื่อได้เห็นสีหน้าของเด็กหนุ่ม หากแต่เขาก็ต้องแปลกใจที่เห็นมีนาชะงักแล้วทำเป็นเมินมองไปอีกทาง ไม่โวยวายต่อล้อต่อเถียงเหมือนที่เคยเป็น

   "มีนไม่สบายหรือเปล่า...ถ้าไปไม่ไหวเราเลื่อนเวลาไปช้ากว่านี้สักหน่อยก็ได้นะ...ได้ไหมครับพี่ซัน"

   เวหาหันไปถามชายหนุ่มเพราะความเป็นห่วงน้อง ซึ่งรวีก็รีบพยักหน้าหงึกหงักตอบรับโดยไม่มีการเกี่ยงงอน

   "ได้เลยครับ! ยังไงทะเลก็ไม่หนีเราไปอยู่แล้ว ...น้องมีนอยากให้พวกพี่พาไปหาหมอก่อนไหมครับ"

   มีนามองรวีและพี่ชายของเขาก่อนจะฝืนยิ้มน้อย ๆ ให้

   "มีนไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ แค่ง่วงนิดหน่อย...เมื่อคืนก็คงตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวเลยทำให้นอนไม่หลับ เหมือนที่พี่เมฆบอกมานั่นล่ะครับ"

   คนฟังทั้งคู่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ส่วนเมฆานั้นรู้สึกติดใจกับท่าทางของเด็กหนุ่มอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แย้งอะไรขัดออกไป

   "ถ้าอย่างนั้นน้องมีนก็นอนหลับไปบนรถก็ได้นะครับ เดี๋ยวถ้าถึงแล้วพี่จะปลุกเอง"

   เมฆาบอกกับเด็กหนุ่ม ซึ่งมีนาก็ฝืนยิ้มรับ และพอขึ้นไปนั่งตรงหลังรถ เจ้าตัวก็หลับตาลงไม่ได้พูดคุยอะไรกับใคร หากแต่พอรถแล่นไปสักพัก เด็กหนุ่มก็ผล็อยหลับไปจริง ๆ เสียงกรนเบา ๆ อย่างคนหลับสนิททำให้คนที่นั่งข้าง ๆ อมยิ้มอย่างเอ็นดู ส่วนเวหาพอเห็นน้องชายหลับสบายเขาก็สบายใจตาม และเริ่มหันไปคุยกับรวีพลางมองโน่นนี่ข้างทางตามที่คนขับแนะนำอย่างสนอกสนใจ และยิ่งพอรวีเอาขนมหวานที่แอบไปซื้อมายื่นส่งให้ เวหาก็ยิ้มหวานตอบรับด้วยความยินดีเสียจนทำให้คนขับแทบจะลืมมองทางข้างหน้า จนเมฆาต้องคอยกระแอมเตือนถี่อยู่บ่อยครั้ง เพราะพอเผลอ ๆ คนขับก็เหลือบชำเลืองมองคนนั่งข้าง ๆ อยู่เรื่อยจนน่าเป็นห่วง



   ขับรถมาได้เกือบสองชั่วโมงพวกรวีก็ตัดสินใจจอดรถพักในปั๊มใหญ่ เพื่อเข้าห้องน้ำและยืดเส้นยืดสาย รวมถึงซื้อของกินของใช้ที่ขาดเหลือติดรถไปต่อด้วย

   "อืม...ถึงแล้วหรือครับ"

   มีนาที่ถูกปลุกขึ้นถามพี่ชายของตน ซึ่งเวหาก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วบอกว่ารถแวะจอดพักชั่วครู่ จากนั้นเด็กหนุ่มก็สอบถามอาการของน้องชาย ซึ่งมีนาก็ยิ้มแล้วตอบไปตามตรง

   "ดีขึ้นมากเลยครับ คงเพราะนอนไม่พอจริง ๆ นั่นล่ะ"

   "ถ้าอย่างนั้นน้องมีนไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นดีไหมครับ เดี๋ยวพี่จะไปซื้อเครื่องดื่มเย็น ๆ มาให้ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ"

   เมฆาถามคนข้างกายอย่างเอาใจ ทำเอามีนาสะดุ้งและขยับห่างอย่างลืมตัว แต่พอเห็นสีหน้าแปลกใจของอีกฝ่ายก็ทำให้เด็กหนุ่มพยายามตั้งสติ แล้วแสร้งยิ้มน้อย ๆ พร้อมตอบกลับไป

   "ผมขอพวกโคล่าเย็น ๆ ซ่า ๆ ก็ได้ครับ ...ขอบคุณนะครับพี่เมฆ"

   เมฆายิ้มรับพร้อมพยักหน้า แม้จะยิ่งสงสัยต่อพฤติกรรมที่แปลกไปของเด็กหนุ่มยิ่งขึ้นไปอีก

   จากนั้นเวหากับมีนาก็แยกย้ายไปล้างหน้าล้างตาและทำธุระส่วนตัว ส่วนพวกรวีกับเมฆาก็แยกไปซื้อเครื่องดื่ม ขนมของขบเคี้ยวเพิ่มเติม เมฆามองเพื่อนสนิทจ้องช็อกโกแลตแล้วต้องรีบปรามเสียก่อนที่อีกฝ่ายจะเหมามาหมดชั้น

   "ขืนกินหมด น้องฟ้าคงได้อิ่มก่อนกินข้าวกลางวันกันแน่ ...มันคงไม่ดีใช่ไหมล่ะ ถ้าพวกเรากินข้าวกัน แล้วต้องให้น้องเขานั่งมองเพราะกินขนมจนอิ่มเกินไปน่ะ"

   รวีนิ่วหน้า ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมา

   "ช่วยไม่ได้นี่นะ แต่หน้าน้องฟ้าตอนได้รับขนมแล้วก็ตอนกินขนมน่ะน่ารักมากเลยนะ เหมือนตอนเด็กไม่มีผิด"

   เมฆามองหน้าเพื่อนตอนกำลังเคลิ้มฝันถึงอดีตด้วยสีหน้าค่อนข้างขยาด เพราะนึกยังไงรวีในวัยสิบสองที่ตกหลุมรักกับเวหาตอนสามขวบ มันก็ดูไม่ค่อยจะปกตินักอยู่ดีนั่นเอง

   และเมื่อทั้งหมดมารวมกันที่รถ เมฆาก็เสนอตัวเป็นคนขับรถแทนเพื่อนสนิทที่สมาธิไม่ค่อยจะอยู่กับร่องกับรอยนัก ทำให้เวหากับมีนานั้นจำต้องย้ายที่สลับกัน โดยมีนาตอนนี้มานั่งเป็นเพื่อนข้างคนขับแทนที่พี่ชาย ซึ่งเด็กหนุ่มก็กลับมาพูดคุยกับเขาสนิทตามเดิม ทำให้เมฆาบอกตัวเองว่า บางทีเขาอาจจะคิดมากไปเอง เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายนั้นดูค่อนข้างผิดปกติไปเมื่อตอนเช้านี้

   ส่วนทางด้านมีนาค่อนข้างโล่งอกเล็กน้อย ที่เขาสามารถพูดคุยกับเมฆาได้เหมือนก่อนหน้านั้น เนื่องจากระหว่างไปเข้าห้องน้ำ เด็กหนุ่มพยายามบอกตัวเองว่า หากเขายังคงทำตัวผิดปกติต่อหน้าเมฆาออกไปมากกว่านี้ ก็เท่ากับเขายอมรับว่าเขาแอบมีใจให้กับเมฆาจริง ๆ ซึ่งนั่นทำให้ มีนาทนไม่ได้ ที่จะกลายเป็นว่าตัวเขาเองอาจจะเป็นฝ่ายตกหลุมรักข้างเดียวเช่นนี้

   'เราไม่ได้คิดอะไรกับผู้ชายคนนี้สักหน่อย....ไม่ได้คิดสักนิด...ใช่แล้ว! เพราะอย่างนั้นก็ทำตัวตามปกติไปเหมือนเดิมสิ มีนา!'

   เด็กหนุ่มเฝ้าบอกตัวเอง แล้วทำเป็นค้อนใส่เมื่ออีกฝ่ายพูดแหย่ตน ซึ่งนั่นก็สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับคนขับรถได้เป็นอย่างดี และนั่นจึงทำให้คนที่แอบลอบชำเลืองมองยามที่อีกฝ่ายเผลอ ต้องหลุดยิ้มเศร้า ๆ ออกมา แต่แล้วเพียงครู่เดียวก็กลับเป็นปกติ และหันไปหาเรื่องแซวสลับขัดคอคู่หวานด้านเบาะหลังแทน จนกระทั่งถึงที่พักส่วนตัวของรวีในที่สุด


 
.... TBC .....


ใครจะรอดราม่า คาดว่าอาจจะรอเก้อค่ะ  เพราะคนแต่งไม่ค่อยชอบอะไรบีบคั้นเท่าไหร่ มาแป๊บ ๆ ก็ผ่านไปละ เน้นสุขสันต์หรรษามากกว่า หุ ๆ :impress2:


ออฟไลน์ epoch

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มารออ่านค่า ชอบเรื่องที่อ่านแล้วสบายใจอย่างนี้มากเลยค่า ไม่ชอบดราม่า :katai2-1:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เรื่องนี้อ่านแล้วสุข

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 o13 no drama 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ไม่ชอบมาม่าเท่าไหร่ มันให้รู้สึกหนึบ ๆ ยังไงพิกล
ขอบคุณคนเขียนมากเลยน๊ะจ๊ะ

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
อยากให้พี่เมฆาแสดงให้ชัดเจนกว่านี้ ว่ารักน้องมีนเหมือนกัน

น้องมีนจะได้ไม่ต้องคิดไปเองฝ่ายเดียว

คู่พี่ก็มีความสุขไปแล้ว ลุ้นคู่น้องนี่ละ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เอ๊ะ คู่เมฆมีนนี่ยังไงแน่
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

meili run

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
โธ่น้องมีน เฮ้ออออ

ขอบคุณที่ไม่มีดราม่า กรุบกริบพอได้ มาเต็มๆนี่บอกเลยไม่ถูกกัน 5555555 

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
สงสารน้องมีนาจังครับ

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
เรื่องนี้น่ารักมุ้งมิ้งมากเลยอะ น้องฟ้าเปิดตัวมานึกว่ารวีจะโดนตั๊นหน้าให้รักคุดเข้าให้ซะแล้ว ที่ไหนได้เป็นเด็กดีแถมยังกตัญญูด้วย  :-[  สมกับที่พระเอกของเราปักใจรักมานับสิบกว่าปี

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
แบบน่ารักอบอุ่นแบบนี้ก็ดีแล้วค่ะ
ไม่ต้องมีดราม่าเลยก็ยิ่งดี  :-[

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

บทที่ 11



   "ว้าว! บ้านหลังเบ้อเริ่มเลย สุดยอด!"

   มีนาโพล่งออกมาด้วยความตื่นเต้นอย่างลืมตัว ทำให้เวหาและอีกสองหนุ่มต้องอมยิ้มน้อย ๆ มองตามคนที่กำลังมองซ้ายมองขวาไปทั่วอย่างเอ็นดู

   "พี่ซัน! ผมขอไปดูรอบ ๆ บ้านได้ไหมครับ!"

   "ได้สิ ตามสบายเลยนะครับน้องมีน"

   รวีบอกพร้อมรอยยิ้ม ส่วนเวหาถอนหายใจเบา ๆ แล้วเหลือบไปมองกระเป๋าเสื้อผ้าของน้องชายที่เจ้าตัวควรจะนำไปเก็บเข้าห้องก่อน ทว่าเจ้าของกระเป๋าตอนนี้กลับวิ่งเล่นไปสำรวจรอบบ้านเสียแล้ว

   "เดี๋ยวพี่ช่วยถือนะครับ"

   รวีหันมาบอกคนใกล้ตัว ซึ่งเวหาก็ยิ้มน้อย ๆ ตอบ พร้อมกับพึมพำขอบคุณแผ่วเบา ทางด้านเมฆาพอเห็นดังนั้นเจ้าตัวก็คว้ากระเป๋าของตัวเองออกมาแล้วเดินแยกตัวไป ปล่อยให้ว่าที่คู่รักใช้เวลาส่วนตัวกันตามลำพังแทน



   ทางด้านมีนาพอสำรวจรอบบริเวณบ้านจนเป็นที่พอใจแล้ว เด็กหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่าต้องเอากระเป๋าไปเก็บเข้าห้อง แต่พอไปที่รถก็ไม่เห็นมีใคร เขาจึงเข้าใจว่าทุกคนเข้าไปอยู่ในบ้านพักหมดแล้ว

   "พี่ฟ้า...อยู่ห้องนี้หรือเปล่า"

   มีนาเดินเข้าไปในห้องที่เปิดประตูแง้มเอาไว้ ข้างในมีกระเป๋าเดินทางเปิดอยู่ ไม่แน่ใจว่าเป็นของเมฆาหรือรวี แต่เจ้าของกระเป๋าดูท่าทางว่าจะไม่อยู่ในห้อง มีนาเดินเข้าไปหมายจะชะโงกหน้าดูในห้องน้ำว่ามีคนอยู่ไหม แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเมฆานั้นเดินสวนออกมา จนทำให้พวกเขาเกือบชนกัน

   "อ้าว! น้องมีน มีอะไรหรือครับ"

   เมฆายิ้มน้อย ๆ ให้ ทำเอาคนที่กำลังตกใจชะงัก แล้วฝืนยิ้มตอบ

   "ผมกำลังหาห้องที่พี่ฟ้าอยู่น่ะครับ...งั้นผมขอตัวก่อนนะ"

   "เดี๋ยวสิครับ...น้องมีนดูแปลก ๆ ไปอีกแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่าครับหรือว่ายังเกลียดหน้าพี่อยู่"

   เมฆาดึงมือของเด็กหนุ่มเอาไว้แล้วถามด้วยความสงสัย ทว่าคำถามของชายหนุ่มนั้นทำให้มีนาชะงัก ก่อนจะหันกลับไปมอง

   "ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับ...มาถึงตอนนี้ผมเองก็พอจะรู้แล้วว่าถึงทั้งคู่จะดูไม่ค่อยปกตินัก  แต่พวกพี่สองคนก็น่าจะเป็นคนดีคนหนึ่ง"

   คำปฏิเสธพร้อมถ้อยคำอธิบายที่ทำให้คนฟังขมวดคิ้วนิด ๆ แต่ก็ยังคงย้อนถามกลับไป

   "แล้วทำไมน้องมีนถึงทำตัวเหมือนจะพยายามเหินห่างจากพี่จังล่ะครับ"

   มีนาชะงักแล้วเงียบไปชั่วครู่ แต่พอเมฆาย้ำถามอีกครั้งโดยไม่ยอมปล่อยมือ ก็ทำให้เด็กหนุ่มหลุดโพล่งออกไปในที่สุด

   "คนที่เหินห่างไปก่อนน่ะ นั่นพี่เมฆเองไม่ใช่รึ! แล้วผมเองจะทำแบบเดียวกันบ้างมันผิดด้วยหรือไง!"

   เมฆานิ่งอึ้งแล้วจ้องมองคนที่เถียงกลับมาอย่างลืมตัวนั่นด้วยสายตาวิเคราะห์พิจารณา ก่อนจะย้อนถามกลับไปอย่างไม่แน่ใจนัก

   "หรือว่าน้องมีนจะ...ชอบพี่หรือครับ"

   มีนาชะงักกึก หน้าแดงก่ำ ปากสั่นตัวสั่น ตกใจที่ถูกอีกฝ่ายรู้ถึงความในใจของตน

   "น้องมีน..."

   เมฆาที่เห็นอาการเช่นนั้นเรียกชื่อเด็กหนุ่มอย่างตกใจ ส่วนมีนาที่เริ่มจะสติแตกพอเห็นชายหนุ่มขยับเข้ามาหาใกล้ขึ้น เจ้าตัวจึงหลุดโพล่งออกไปลั่นด้วยความลืมตัว

   "หยุดนะ! ถ้าไม่คิดจะชอบกัน ก็ไม่ต้องมาทำเป็นใจดีด้วยหรอก!"

   เมฆานิ่งอึ้งกับถ้อยคำนั้น เจ้าตัวเผลอผ่อนแรงที่จับข้อมือของอีกฝ่ายไว้ ทำให้มีนาสะบัดมือออก แล้ววิ่งหนีไปจากห้อง ชายหนุ่มได้ยินเสียงฝีเท้าที่ห่างไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นวิ่งออกจากบ้านพักไปแล้ว เมฆายืนเงียบไปอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงตัดสินใจออกจากห้องวิ่งตามมีนาไปเช่นกัน

   

   อีกด้านหนึ่งทางด้านเวหา พอเขาได้ยินเสียงน้องชายของตัวเองตะโกนดังแว่ว ๆ เจ้าตัวก็รีบลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องออกไปดู และทันได้เห็น   มีนาวิ่งร้องไห้ผ่านหน้าตัวเองไป ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกตกใจยิ่งนัก แต่พอเขากำลังจะวิ่งตามไป รวีที่เปิดประตูห้องออกมาหลังจากนั้นก็หันมามองเขาแล้วบอกขึ้นทันที

   "พี่ไปด้วยคนนะครับ!"

   "ครับ...รีบตามไปกันเถอะครับ ผมเป็นห่วงน้อง!"

   เวหารีบรับคำ แล้ววิ่งตามออกไป หากแต่พอไปถึงหาดส่วนตัวหน้าบ้านพักที่ไร้ผู้คน เขาก็ได้เห็นมีนายืนนิ่งอยู่เบื้องหน้าทะเล เจ้าตัวสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะตะโกนออกไปสุดเสียง

   "ไอ้พี่เมฆบ้า! ถ้าไม่ชอบกันแต่แรก จะมาทำให้คนเขาเข้าใจผิดทำไมกันวะ! งี่เง่าที่สุด!"

   เวหานิ่งอึ้งไม่แพ้รวี ทว่าพอตั้งสติได้ รวีก็หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงทำเป็นตะโกนเป็นเพื่อนขึ้นบ้าง

   "ไอ้เมฆ ไอ้เพื่อนงี่เง่า! อุตส่าห์มีคนน่ารักมาชอบแท้ ๆ ยังทำเล่นตัวอีก น้องเขาหมดรักเมื่อไหร่ จะสมน้ำหน้าให้ดู!"

   เวหามองคนข้างกายตาปริบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ส่วนมีนาหันมามองรวีอย่างอึ้ง ๆ ในทีแรก ก่อนที่จะมีรอยยิ้มตามมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายยิ้มให้เขา

   "ใช่แล้ว! ถ้าเลิกชอบเมื่อไหร่ ต่อให้เปลี่ยนใจมาจีบอีก ก็จะไม่สนอีกแล้วล่ะ!"

   มีนาตะโกนต่อ แล้วหัวเราะออกมา น้ำตาที่ไหลเมื่อครู่นั้นก็เหือดแห้งไปตั้งแต่ตอนไหนเขาก็ไม่อาจทราบได้ รู้แต่ว่าตอนนี้กำลังโล่งอกและสบายใจ ที่ได้เปิดเผยความในใจออกมาเช่นนี้

   "อย่าคิดมากเลยนะครับน้องมีน คนน่ารักอย่างน้องมีน พี่แน่ใจว่าจะมีคนมารอคิวจีบอีกเยอะแน่  ปล่อยให้เพื่อนโง่ ๆ ของพี่มันโง่ต่อไปดีกว่า หมอนั่นมันโสดเสียเคยตัว แถมยังมัวแต่กลัวที่จะมีพันธะ ก็เลยทำให้ชวดคนดี ๆ ไปหลายคนแล้วล่ะนะ"

   รวีเดินมาปลอบเด็กหนุ่ม ส่วนเวหาก็โอบบ่าน้องชายมาปลอบโยนโดยไร้คำพูด แต่นั่นกลับทำให้มีนารู้สึกสบายใจมากขึ้น ทว่ามีนาก็ต้องชะงักเมื่อเขาหันไปเห็นเมฆากำลังเดินตรงมาหาตน

   "น้องฟ้า...ซัน ...ขอเวลาส่วนตัวให้ฉันพูดคุยกับน้องมีนตามลำพังจะได้ไหม"

   คนที่เดินมาถึงหันไปบอกเพื่อนสนิทและเวหา ซึ่งเวหานั้นก็มีท่าทางลังเลเล็กน้อย หากแต่รวีนั้นจับไหล่เด็กหนุ่มบีบนิด ๆ แล้วพยักหน้าให้เวหาวางใจ จากนั้นรวีจึงหันไปทางมีนาแล้วเอ่ยขึ้น

   "ถ้าเจ้าเมฆมันทำอะไรล่วงเกินน้องมีนล่ะก็ อย่าลืมตะโกนเรียกให้พี่ช่วยดัง ๆ เลยนะครับ เดี๋ยวพี่จะมาต่อยมันให้เอง"

   เมฆาชะงัก พลางหันไปมองเพื่อนสนิทตาปริบ ๆ ส่วนมีนาหลุดหัวเราะเบา ๆ แล้วพยักหน้าหงึกหงัก จากนั้นจึงหันไปเผชิญหน้ากับเมฆาด้วยใจที่ชื้นขึ้น ทำให้เวหาที่เดินห่างออกไปพร้อมรวีรู้สึกโล่งอกนิด ๆ ที่เห็นท่าทางน้องชายกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

   

   มีนาจ้องมองคนที่ยืนนิ่งตรงหน้าตนอย่างเริ่มอึดอัด เพราะเมฆานั้นนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรมาได้สักพักแล้ว

   "นี่! พี่เมฆ มีอะไรก็พูดมาสิ ยืนเงียบแบบนี้ผมอึดอัดนะ!"

   มีนาโพล่งออกมาอย่างอดรนทนไม่อยู่ในที่สุด ทำให้คนฟังชะงัก ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ทำให้เด็กหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วยุ่งอย่างหงุดหงิดมากขึ้น

   "ขำอะไร!"

   "พี่ขำที่เห็นน้องมีน คิดอะไรก็ออกมาทางสีหน้าหมด แถมยังพูดออกมาตรง ๆ ให้ได้รู้อีกต่างหาก"

   มีนาค้อนขวับเข้าให้ ก่อนที่ทั้งคู่จะเงียบกันต่ออีกสักพัก และสุดท้ายเด็กหนุ่มจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน

   "พี่เมฆ...เมื่อครู่ผมขอโทษนะ...พี่ไม่ผิดหรอก ผมเองต่างหากที่ดันใจง่าย คิดเองเออเองเข้าข้างตัวเองแบบนี้ แล้วก็ดันมาโทษว่าเป็นความผิดพี่อีก"

   เมฆานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ แล้วจึงถอนหายใจตามมาเฮือกใหญ่

   "ไม่ใช่ความผิดน้องมีนหรอกครับ...พี่ยอมรับนะ ว่าตอนแรกพี่ก็คิดจะจีบน้องมีนอยู่เหมือนกัน...แต่พอได้ยินที่น้าณรงค์ฝากเจ้าซันมาบอกพี่ว่าถ้าไม่คิดจริงจังก็อย่ามาสร้างความหวังให้ลูกชายเขา...พี่ก็เลยตัดสินใจถอยห่างออกมา"

   มีนาเงียบกริบ เขารู้สึกตกใจที่บิดามองออกในเรื่องนี้ และรู้สึกผิดหวังที่เมฆานั้นคิดจีบเขาเล่น ๆ ไม่ได้จริงจังอย่างที่เขาเคยคาดหวังเอาไว้

   "...พี่ขอโทษนะน้องมีน พี่ชอบน้องมีนมากก็จริง แต่เรื่องที่จะตกลงปลงใจกับใครสักคน สำหรับพี่มันเป็นเรื่องใหญ่... เพราะพี่ตั้งใจแล้วว่า หลังจากนี้ ถ้าพี่จะลงเอยกับใครสักคน พี่ก็จะซื่อสัตย์ต่อเขาคนเดียว และไม่เหลียวมองใครอีก... น้องมีนเป็นคนดี น่ารัก แต่ระยะเวลาที่เรารู้จักกัน มันยังสั้นเกินไปกว่าที่พี่จะยืนยันกับหัวใจตัวเองได้ว่า น้องมีนเป็นคนที่ใช่แล้วสำหรับพี่"

   มีนานิ่งเงียบรับฟัง เด็กหนุ่มก้มหน้านิ่งเงียบไปนาน จนเมฆารู้สึกใจเสีย แต่พอจะเอ่ยปลอบ อีกฝ่ายก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วเงยหน้าขึ้น พร้อมกับแย้มยิ้มกว้างส่งให้ จนเมฆาแปลกใจ

   "ได้ยินอย่างนี้ค่อยโล่งอกหน่อย  เอาเหอะ! ถ้าเป็นแบบนี้มีนก็เข้าใจแล้วไม่โกรธอะไรพี่หรอก ก็พี่เมฆไม่ได้รักมั่นปักใจมานานแบบพี่ซันนี่นะ...ถ้ามาเจอกันไม่กี่วัน แล้วหลงมีนหัวปักหัวปำแบบนั้น มีนก็คงคิดว่าพี่เมฆผิดปกติอะไรเข้าให้ไปแล้วล่ะ!"

   เมฆาฟังแล้วก็ไม่รู้ว่าจะขำหรือสงสารเพื่อนสนิทที่ถูกอ้างถึงดี แต่พอเห็นสีหน้ายิ้มแย้มของเด็กหนุ่มตรงหน้าก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

   "ได้คุยกันตรง ๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะ! งั้นเอาเป็นว่าหลังจากนี้ มีนก็จะถือว่าพี่เมฆเป็นพี่ชายคนหนึ่งแล้วกัน เราจะได้สบายใจกันทั้งคู่ยังไงล่ะ!"

   คนฟังชะงักกึก แม้ว่าจะออกมาเป็นอย่างที่เขาต้องการ แต่พอได้ฟังมีนาพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแบบนั้น มันก็ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดในหัวใจขึ้นมาอย่างประหลาด

   "น้องมีนพูดเหมือนจะเลิกชอบพี่แล้วเลยนะครับ"

   มีนาขมวดคิ้วนิด ๆ แล้วย้อนถามกลับไปอย่างงุนงง

   "ก็พี่เมฆต้องการแบบนั้นไม่ใช่หรือไง"

   เมฆาชะงัก แล้วมีสีหน้าครุ่นคิดหนัก ส่วนมีนาก็ได้แต่เอียงคอมอง สักพักชายหนุ่มก็ถอนหายใจตามมา แล้วบอกออกไปตามตรง

   "พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน ใจหนึ่งก็ยังอยากโสด แต่อีกใจพอคิดว่าน้องมีนไม่ชอบพี่แล้ว มันก็รู้สึกหงุดหงิดพิลึก"

   มีนานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ แล้วจึงมีสีหน้าแดงระเรื่อนิด ๆ ให้เห็น

   "...แบบนี้มันเห็นแก่ตัวชัด ๆ"

   เด็กหนุ่มพึมพำบ่น ทว่าสีหน้าที่แสดงให้เห็นว่าดีใจนั้นก็ทำให้คนมองอมยิ้ม

   "ครับ...พี่เห็นแก่ตัว...แต่ถ้าน้องมีนไม่ว่าอะไร ช่วยอย่าเพิ่งคบใครตอนนี้ แล้วรอจนกว่าพี่จะรู้ใจตัวเองแน่ ๆ จะได้ไหมล่ะครับ"

   มีนาก้มหน้างุด ๆ ไม่กล้าสบตาของชายหนุ่ม แต่ก็ยังคงตอบอุบอิบ กลับไป

   "ถ้าพี่เมฆยังไม่คิดคบกับคนอื่น...ผมก็จะยังไม่คบใครเหมือนกัน"

   เมฆาเผลอหลุดยิ้มออกมาอย่างลืมตัว ชายหนุ่มจับมือของอีกฝ่ายขึ้นจูบเบา ๆ แต่ก็ทำให้เจ้าของมือหน้าแดงวาบ แล้วเผลอผลักอีกฝ่ายไปเต็มแรงด้วยความตกใจปนอาย ส่งผลให้คนไม่ทันได้ตั้งตัว ต้องหงายหลังล้มลงก้นจ้ำเบ้าไปบนทราย ซึ่งพอเห็นดังนั้น มีนาก็หน้าแดงก่ำแล้วรีบวิ่งหนีกลับเข้าบ้านพักไป โดยไม่แม้แต่จะคิดหยุดทักทายเวหากับรวีที่ยืนแอบดูอยู่แถวนั้นแม้แต่น้อย
..
..

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
..
..


   ทางด้านเวหานั้น ถึงกับมองตามไล่หลังน้องชายของตนไปอย่างมึนงง แถมถ้าสังเกตจากปฏิกิริยาที่ทั้งคู่คุยกัน ดูเหมือนว่าสถานการณ์ระหว่างทั้งสองคนนั้นจะค่อนข้างไปในทางดีมากกว่าร้าย

   "เรื่องความรักมันก็แบบนี้ล่ะครับน้องฟ้า...บางครั้งมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรรองรับ...บางทีเจอกันพูดคุยกันไม่กี่คำ แต่ดันตกหลุมรักไปแล้วก็ยังมี"

   รวีที่สังเกตเห็นสีหน้าของคนข้างกายเอ่ยขึ้น ทำให้เวหาหันมามองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจที่เจ้าตัวนั้นคาดเดาความคิดของเขาได้ ทว่าพอได้เห็นรอยยิ้มหวานของรวี ก็ทำเอาเวหาถึงกับนิ่งอึ้ง ก่อนจะแย้มยิ้มน้อย ๆ ตามมา

   "นั่นสินะครับ...ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะไม่สนใจ แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็เผลอรักไปแล้วโดยไม่ทันรู้ตัว"

   เวหาพึมพำพร้อมยิ้มตอบ ทว่าคำพูดของเด็กหนุ่มกลับทำให้คนฟังชะงักแล้วจ้องมองกลับด้วยสีหน้าตกตะลึง ก่อนจะย้อนถามกลับไปอย่างคาดหวัง

   "หรือว่า...น้องฟ้าจะหมายถึงเรื่องของน้องฟ้ากับพี่..."

   เวหาหน้าแดงระเรื่อ เพราะคนตรงหน้าเล่นถามเขาแบบไม่คิดจะอ้อมค้อมเลยสักนิด

   "ก็แล้วแต่พี่ซันจะคิดแล้วกันครับ..."

   เด็กหนุ่มตัดบท แล้วหันหลังกลับเดินเข้าบ้านพัก ทำให้คนที่ยืนนิ่งอึ้งด้วยความตกตะลึงเริ่มได้สติ เจ้าตัวรีบจ้ำฝีเท้าเดินตามไปอ้อนถามให้เด็กหนุ่มยอมตอบออกมาตรง ๆ  จนเมฆาที่เดินตามมาถึงกับต้องถอนหายใจอย่างเอือมระอาต่อพฤติกรรมช่างตื๊อของเพื่อนสนิท ทว่าพอเขาหันไปเห็นคนตัวเล็กกำลังยืนรออยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มก็หลุดยิ้มออกมาน้อย ๆ  ส่วนมีนาพอเห็นว่าเมฆาเดินตามมาด้วย เด็กหนุ่มก็หน้าแดงนิด ๆ แล้วรีบเดินกลับหายเข้าไปในบ้านพักทันที



   เวหาเข้ามาหลบหน้ารวีในห้องส่วนตัวเพียงลำพัง เนื่องจากมีนานั้นไม่กล้าสู้หน้าพี่ชาย เพราะเกรงว่าจะถูกซักถามเรื่องเมฆา ทำให้เด็กหนุ่มขอตัวไปพักอีกห้องที่อยู่ไม่ห่างกันนัก

   "น้องฟ้าครับ...ให้พี่เข้าไปในห้องได้ไหมครับ"

   เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงของรวี ทำให้เวหาสะดุ้งโหยง ทีแรกเด็กหนุ่มจะไม่ยอมลุกไปเปิดประตูเพราะรู้สึกเขิน แต่พอได้ยินเสียงของคนข้างนอกที่ฟังแล้วซึมเศร้าลง เขาก็เริ่มใจอ่อน

   "น้องฟ้าครับ...โกรธอะไรพี่หรือครับ...พี่ขอโทษนะครับ ถ้าพี่เผลอทำอะไรให้น้องฟ้าโกรธพี่ไป...ยกโทษให้พี่นะครับ"

   เวหาถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูให้ชายหนุ่ม

   "ไม่ได้โกรธอะไรหรอกครับ...เอ่อ...ก็แค่อายเท่านั้นเอง"

   เด็กหนุ่มตัดสินใจบอกไปตามตรงพร้อมกับใบหน้าเขินอายที่ทำให้คนมองกลืนน้ำลายลงคอ ยิ่งมองผ่านเข้าไปเห็นเตียง ก็ทำให้รวีต้องจับบ่าของเด็กหนุ่มดันเข้าไปในห้อง ส่วนตัวเองก็ปิดประตูห้องโดยไม่ได้เข้ามาด้วย ทำเอาเวหามองบานประตูที่ถูกปิดลงอย่างงุนงง

   "น้องฟ้าครับ...รบกวนน้องฟ้าอยู่ในนั้นสักพักนะครับ ไว้พี่ตั้งสติควบคุมตัวเองได้ค่อยออกมา  เพราะขืนได้จ้องหน้าน้องฟ้านานกว่านี้ พี่คงควบคุมตัวเองไม่ได้แน่...พี่ไม่อยากผิดสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ของน้องฟ้าหรอกนะครับ"

   คำเฉลยที่ได้ยินจากอีกด้านของประตู ทำให้คนที่ยืนอยู่ในห้องหน้าร้อนวาบ แต่ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกชื่นชมที่เห็นรวียอมอดทนและรักษาสัญญาเพื่อเขาเช่นนี้

   "ขอบคุณนะครับ พี่ซัน...ผม...เอ่อ ฟ้าดีใจที่พี่ยอมอดทนรักษาสัญญาเพื่อฟ้าแบบนี้"

   รวีแทบอยากจะยกเลิกสัญญาตรงเข้าไปกอดจูบคนในห้อง เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเปลี่ยนสรรพนามเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นกับเขา ชายหนุ่มพยายามสงบสติระงับอารมณ์แล้วบอกออกไป

   "น้องฟ้าครับ...พี่ขอตัวก่อนนะครับ ขืนอยู่ตรงนี้นานอีกนิดคงอดทนไม่ไหวแน่"

   เวหาหน้าแดงพร้อมกับรับคำ เขาได้ยินเสียงฝีเท้าห่างออกไป และเสียงประตูห้องปิดลง เด็กหนุ่มจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะเขาก็ไม่แน่ใจตัวเองว่า หากได้ยินรวีอ้อนขอความรักให้เขาฟังนานกว่านี้อีกนิด บางทีเขาอาจจะเป็นฝ่ายใจอ่อนยอมให้ชายหนุ่มเข้ามาหาในห้องเองก็เป็นได้

   

   จากนั้นพักใหญ่ ๆ รวีก็มาเคาะประตูห้อง แต่คราวนี้ชายหนุ่มพาเมฆามาด้วย เพื่อที่จะได้ให้เพื่อนสนิทคอยปราม เผื่อเวลาเขาลืมตัว

   "ไปกินข้าวกลางวันกันนะครับ"

   รวีเอ่ยชักชวนซึ่งเวหาก็ตอบตกลง เพราะตอนนี้ก็ล่วงเวลาเที่ยงเข้าไปแล้ว และเขาก็เริ่มหิวแล้วด้วยเช่นกัน

   "เดี๋ยวฟ้าไปตามมีนก่อนนะครับ"

   เวหาบอกกับรวี ซึ่งรวีก็ยิ้มหวานรับ ทำให้เด็กหนุ่มนึกเขินนิด ๆ ทว่าเมฆาที่อยู่ด้วยถึงกับตกตะลึงเล็กน้อย ต่อพัฒนาการในด้านความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ค่อนข้างก้าวกระโดดไปไวกว่าที่เขาคิด

   และเมื่อทุกคนออกมาพร้อมกันที่รถ เมฆาก็รับอาสาเป็นคนขับตามเคย เนื่องจากชายหนุ่มไม่ค่อยมั่นใจกับอารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอยของเพื่อนสนิท ที่แม้แต่เวลาเดินมาที่รถ รวีก็ยังคอยแต่ส่งสายตาหวานไปให้เด็กหนุ่มสุดที่รักของเจ้าตัวอยู่เป็นระยะเลยทีเดียว



   เมื่อมาถึงร้านอาหารชื่อดังร้านหนึ่งย่านนั้น รวีก็เริ่มเอาอกเอาใจคนนั่งตรงข้ามอย่างออกนอกหน้า โดยการสั่งอาหารจากเมนูเรียงลงมาซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของโปรดของเวหาด้วยกันทั้งสิ้น

   "เอ่อ...พี่ซันครับ พอแค่นี้ก่อนดีกว่าไหมครับ แค่นี้ก็จะกินกันไม่หมดแล้ว"

   เวหารีบขัดขึ้นเมื่อเห็นรวีพึมพำว่าจะสั่งเพิ่มอีกสักสองสามอย่าง ส่วนมีนามองชายหนุ่มแล้วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย แต่พอหันมาสบตาอีกคนที่นั่งตรงข้ามกับตน เด็กหนุ่มก็ต้องชะงักแล้วหน้าแดงนิด ๆ พร้อมกับรีบหลบสายตาอย่างลืมตัว

   "หรือครับ...งั้นก็ได้ครับ ถ้ากินไม่อิ่มค่อยสั่งเพิ่มแล้วกันเนอะ!"

   คนพูดบอกพร้อมยิ้มหวานให้ ทำเอาเวหารู้สึกเขินที่เห็นอีกฝ่ายยังคงแสดงออกต่อตนเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าจะอยู่กันลำพังหรือท่ามกลางผู้คนมากมายในร้านแบบนี้

   "เฮ้ย! เจ! คนนั่งเต็มเลย ไปร้านอื่นดีไหมวะ"

   เสียงคุ้นหูที่ดังขึ้นแว่ว ๆ ทำให้เวหาหันขวับไปมองยังทิศทางของต้นเสียง และเมื่อเห็นว่าเป็นใครเวหาก็ตาเบิกกว้างแล้วโบกมือตะโกนเรียกเด็กหนุ่มหน้าตาคมเข้มผิวคล้ำที่กำลังยืนลังเลอยู่ข้าง ๆ คนผิวขาวหน้าตี๋อีกคน ด้วยน้ำเสียงยินดี

   "ต้น! เจ! ทางนี้ ๆ"

   คนถูกเรียกชื่อสะดุ้งโหยง แล้วพอเห็นว่าใครเป็นคนเรียก ทั้งคู่ก็รีบเดินตรงเข้ามาหาอย่างดีใจระคนแปลกใจ

   "ฟ้า! ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันที่นี่เลยนะ  เอ๋? แล้วนี่..."

   เวทิต กับ เจตต์ มองคนร่วมโต๊ะอีกสองคนอย่างประหลาดใจ เพราะพวกเขารู้จักมีนาและพ่อแม่ของเวหาดี หากแต่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เพื่อนสนิทนั้นจะมีญาติพี่น้องหน้าตาดีแถมยังดูเหมือนเป็นชาวต่างชาติอย่างนี้ด้วย

   "เอ่อ...นี่พี่ซัน กับพี่เมฆ...เป็น...เอิ่ม..."

   เวหาไม่รู้จะอธิบายยังไง เห็นดังนั้นรวีจึงยิ้มน้อย ๆ แล้วเป็นฝ่ายแนะนำตัวเองแทน

   "สวัสดีครับ พี่ชื่อซัน เคยเป็นเพื่อนบ้านของน้องฟ้าสมัยน้องฟ้ายังเด็ก และตอนนี้ก็เป็นเพื่อนบ้านปัจจุบันกับน้องฟ้าด้วยครับ"

   พอได้ยินดังนั้นทั้งสองคนก็ยกมือขึ้นไหว้ทั้งรวีและเมฆาตามมารยาท เนื่องจากทั้งคู่นั้นอายุมากกว่าพวกตน ซึ่งรวีกับเมฆาก็ยกมือรับไหว้ ก่อนจะเชื้อเชิญให้ทั้งคู่ร่วมโต๊ะด้วยกัน

   "เอ่อ...จะดีหรือครับ"

   เวทิตบอกอย่างเกรงใจ ส่วนเวหานั้นเหลือบมองคนนั่งตรงข้ามด้วยแววตาลังเล แต่แล้วเขาก็ยิ้มออกเมื่อเห็นรวียิ้มหวานให้

   "ไม่ต้องเกรงใจกันหรอกครับ คนรู้จักของน้องฟ้าก็เหมือนคนรู้จักของพี่นั่นล่ะ"

   รวีบอกกับทั้งสองคน ซึ่งก็ทำให้ทั้งคู่หันไปสบตากัน แล้วตัดสินใจร่วมโต๊ะกับทั้งสี่ในที่สุด

   "แล้วเป็นไงมาไงถึงได้มาโผล่ที่นี่กับเจสองคนได้ล่ะต้น"

   เวหาชวนคุยระหว่างรออาหาร ซึ่งพอได้ยินดังนั้นเจตต์ก็ถอนหายใจแล้วเหลือบมองเวทิตด้วยสายตาเอือมระอา

   "ก็เพราะหมอนี่มันเลิกกับแฟนแล้วเกิดเซ็งอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ก็เลยโทรมาบังคับฉันให้ไปเที่ยวด้วยกันตั้งแต่เช้า พอฉันโบ้ยให้โทรไปชวนนายแทน หมอนี่ก็บอกว่าโทรไปแล้วแต่นายไม่อยู่บ้านออกไปเที่ยวทะเล หมอนี่ก็เลยชวนฉันมาทะเลเหมือนกัน ...ทะเลเมืองไทยมีตั้งหลายที่ แม่นายก็ไม่ได้บอกว่าไปทะเลไหน แต่มันดันพาฉันมาเจอนายได้นี่สงสัยจะเป็นพรหมลิขิตเนอะ"

   เจตต์แกล้งแหย่เพื่อน ส่วนเวหานั้นแม้จะตกใจกับเนื้อความตอนแรก แต่พอได้ยินท้ายประโยคเขาก็เผลอหลุดยิ้ม เพราะรู้ดีว่าเพื่อนพูดเล่น หากแต่บางคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยกันชักไม่สบอารมณ์มากขึ้นทุกขณะ

   "พี่ต้นเลิกกับแฟนแล้วหรือครับ...เห็นพี่ฟ้าบอกว่าคนที่คบนี่ คบกันมาตั้งแต่ตอน ม.ปลายไม่ใช่หรือครับ"

   มีนาถามอย่างแปลกใจ ซึ่งเวทิตก็หันมามองคนพูด แล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ

   "ใช่...ก็คบกันมาได้เกือบสองปีแล้วล่ะ แต่หลัง ๆ นี่ไม่ไหว ทั้งเหวี่ยงทั้งวีน ทั้งไร้เหตุผล ขี้หึงก็เท่านั้น ...หึงได้กระทั่งเพื่อนของพี่ ขนาดอธิบายให้ฟัง ก็ไม่ยอมเชื่อ แถมมีการมาแอบเปิดมือถือพี่เช็คเบอร์เช็คเมล์อีก...ไอ้รักน่ะก็รักอยู่นะ แต่คนเราลองมันไม่มีความเชื่อใจไม่ให้เกียรติกันเหลืออยู่แบบนี้ ขืนคบกันต่อ ก็คงจะจบลงด้วยการเกลียดกันแทนมากกว่า สู้เลิกเสียตั้งแต่ตอนนี้ ไอ้เจ้าความรู้สึกดี ๆ มันก็ยังคงจะเหลือให้คิดถึงกันอยู่บ้างล่ะนะ"

   แทบทั้งโต๊ะเงียบกริบเมื่อได้ยินคำพูดของเด็กหนุ่ม  ทางด้านเมฆาเหลือบไปมองเพื่อนที่ทีแรกกำลังมีสีหน้าบึ้งตึงด้วยความหึง แต่พอได้ยินที่เวทิตพูด อีกฝ่ายก็มีสีหน้าเจื่อน ๆ แทนอย่างน่าขำ

   "ก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่าไม่พอใจ แต่มันร้ายแรงถึงกับต้องเลิกกันเลยหรือ...ลองบอกเขาหรือยังล่ะ ว่านายไม่พอใจที่เขาทำแบบนั้นกับนาย ถ้าเขาพร้อมจะปรับตัว นายก็ควรจะให้โอกาสเขา แต่ถ้าไม่ยอมปรับ หรือยังทำแบบเดิม ๆ อยู่  อันนี้ก็แล้วแต่นาย เพราะถือว่านายกับเขาคงจะไปกันได้ไม่รอดจริง ๆ"

   เวหาเสนอความเห็นบ้าง ซึ่งก็ทำให้เวทิตชะงัก แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

   "จริง ๆ เมื่อวานนี้เราทะเลาะกัน เรื่องที่เขามาไล่ลบเบอร์เพื่อนผู้หญิงในเครื่องฉัน ก็พวกเบอร์ไอ้แคท ไอ้พิม ไอ้นิด กลุ่มสาวแสบในห้องเรานั่นล่ะ พวกนั้นไปเที่ยวกันแล้วเจอหนังสือที่ฉันเคยบ่นว่าอยากได้ ก็เลยโทรมาถามว่ายังอยากได้อยู่ไหมจะซื้อให้ แล้วนายก็รู้ว่าพวกนั้นมันชอบเรียกฉันป๋าคะป๋าขาแบบล้อเล่นอะไรของพวกมันตลอด แล้วแฟนฉันก็ดันบังเอิญได้ยินเข้าเพราะฉันเผลอไปเปิดลำโพงคุย ทีนี้แม่คุณก็วีนใหญ่ ขนาดฉันบอกแล้วว่านั่นมันเพื่อนในห้องเธอก็ยังไม่ยอมเชื่อ แถมโวยวายหาว่าฉันนอกใจ  พอฉันรำคาญมาก ๆ เข้า ฉันก็เลยโพล่งไปว่าถ้ายังระแวงไร้สาระแบบนี้ก็เลิกกันเถอะแล้วก็แยกมาเลย ...เขาโทรมาฉันก็ไม่รับ วันนี้ก็ปิดเครื่องแล้วชวนไอ้เจมันมาเที่ยวแก้เซ็งแบบนี้ล่ะ"

   เวหาพยักหน้ารับรู้ แล้วจึงแนะนำให้เพื่อนสนิทลองโทรไปคุยกับแฟนสาวอีกครั้ง เพราะบางทีอีกฝ่ายอาจจะเริ่มคิดได้ แล้วอยากจะปรับความเข้าใจกันก็เป็นได้

   "ก็ได้...จะลองคุยดู  เอ่อ...ขอตัวสักครู่นะครับ"

   เวทิตรับคำเพื่อน ก่อนจะหันไปบอกขอตัวกับรวีและเมฆา จากนั้นจึงเดินเลี่ยงออกไปห่าง ๆ เพื่อโทรติดต่อแฟนสาว สีหน้าเด็กหนุ่มดูเคร่งเครียดในทีแรก ก่อนจะถอนหายใจให้เห็นเฮือกใหญ่ แล้วจึงพูดอะไรต่ออยู่อีกสักพัก จากนั้นจึงวางสายแล้วกลับมาสมทบกับคนอื่น ๆ

   "เป็นไงวะ ตกลงเลิกกันแล้วสินะ"

   เจตต์ถามออกไปเป็นคนแรก ซึ่งก็ทำให้คนถูกถามต้องแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะกระแทกเสียงตอบ

   "แช่งจริงนะมึง!"

   "แล้วตกลงเป็นไง ปรับความเข้าใจกันได้หรือยัง"

   เวหาถามตามมา ซึ่งเวทิตก็หันมามองเพื่อนสนิท ก่อนจะถอนหายใจยาว แล้วตอบคำถามของอีกฝ่าย

   "แฟนฉันเขาร้องไห้ขอโทษ บอกว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก...ฉันก็เลยบอกเขาว่า ให้เราลองห่างกันสักสองสามวันโดยไม่ต้องติดต่อกันอีกหลังจากนี้ เพื่อที่จะให้เขาได้ทบทวนตัวเองบ้าง เพราะตอนนี้เขาก็แค่เสียใจกลัวจะถูกทิ้ง ต่อให้ฉันบอกอะไรก็คงยอมรับปากส่ง ๆ ไปทุกอย่าง ฉันไม่อยากให้เหตุการณ์เดิม ๆ ย้อนกลับมาอีก  มันจะทำให้ฉันพลอยผิดหวังในตัวเขามากขึ้น และหลังจากนี้อีกสามวัน ฉันถึงจะโทรไปหาเขาอีก ถ้าเขาตกลงยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อฉัน เราก็จะยังคงคบกันต่อ  ถ้าไม่ได้ก็คงต้องจบกันไปเลยนั่นล่ะ"

   เวหานิ่งเงียบรับฟังการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของเพื่อน ส่วนคนอื่น ๆ นั้นฟังแล้วต่างก็คิดว่าเวทิตนั้นเลือกทางที่ดีสำหรับความรักของเจ้าตัวแล้ว  และสักพักพออาหารมาเสิร์ฟ ทั้งหมดก็หันมาสนใจเรื่องอาหารการกินและคุยเรื่องสนุก ๆ ระหว่างทานกันแทน

   

   เมื่ออิ่มหนำสำราญกันดีแล้ว รวีจึงตัดสินใจพาสองหนุ่มไปส่งที่พัก แต่ก็ได้รับฟังว่า ทั้งคู่นั้นเพิ่งมาถึงและตั้งใจสะพายกระเป๋าแบกเป้กันไปหาที่พักริมหาดเอาข้างหน้าสักที่นั่นเอง

   "ตกลงว่าพวกน้องยังไม่ได้จองบ้านพักกันสินะ ถ้ายังไงจะมาพักที่เดียวกันไหมล่ะครับ"

   รวีเอ่ยชักชวนเจตต์กับเวทิตอย่างเป็นมิตร ทำเอามีนาและเวหาลอบมองชายหนุ่มอย่างนึกแปลกใจ เพราะก่อนหน้านั้นแค่มีนาแกล้งแหย่ว่าเวหามีเพื่อนสนิทมาก รวียังออกอาการหึงหวงให้เห็นชัดเจนอยู่เลยด้วยซ้ำ

   "จะดีหรือครับพี่ แค่ที่พี่เลี้ยงอาหารกลางวันเมื่อครู่นี้ พวกผมก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงกันแล้ว"

   เวทิตเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ ส่วนเมฆารีบเปรยขัดบอกกับเด็กหนุ่มแทนเพื่อนสนิทไปอย่างอารมณ์ดี

   "ไม่ต้องห่วงเลยครับน้องต้น บ้านหลังใหญ่ห้องเยอะแยะ อีกอย่างมีคนมาเพิ่มเยอะ ๆ ก็สนุกดีออก เนอะซัน!"

   รวีหันไปฉีกยิ้มแยกเขี้ยวให้เพื่อน เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายแกล้งพูดแหย่ตน เนื่องจากเมฆานั้นย่อมรู้ดีว่า ใจจริงแล้ว เขานั้นไม่อยากให้เพื่อนของเวหาได้อยู่ใกล้ชิดเด็กหนุ่ม แต่ก็ไม่อยากถูกเวหามองตนเป็นคนใจแคบเห็นแก่ตัว และกลัวว่าเวหาจะเก็บเอาเรื่องแฟนของเวทิตมาเปรียบเทียบกับเขา รวีจึงจำต้องแสดงตัวเป็นคนใจกว้างไม่หึงหวงพร่ำเพรื่ออย่างที่ควรจะเป็นเช่นนี้

   "ถ้าอย่างนั้นผมกับเพื่อนก็ต้องขอบคุณมากเลยครับ"

   เวทิตบอกขอบคุณอย่างจริงใจเช่นเดียวกับเจตต์ที่พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับเพื่อน และจากนั้นสักพักพวกเขาก็ทยอยกันขึ้นไปนั่งเบียดกันบนรถยนต์คันหรู  ใช้เวลาไม่นานนัก รถก็แล่นเลี้ยวเข้ามาในซอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่งและเข้ามาจอดภายในบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสวนหย่อมกว้าง ซึ่งความใหญ่โตและสวยงามของมันก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่เพิ่งมาถึงยิ่งนัก

   "โห! บ้านใหญ่มากเลย ติดหาดด้วยอ่ะ  อ๊ะ! มีสระว่ายน้ำในบ้านด้วยว่ะต้น หรูชิบ!"

   "เข้าบ้านเอาของไปเก็บก่อนสิ  หรือพวกนายจะไปนอนห้องเดียวกับฉันก็ได้นะ"

   เวหาบอกกับเพื่อนทั้งสอง ทว่าก็ทำเอารวีสะดุ้งโหยงพร้อมกับรีบตะโกนห้ามออกไปอย่างลืมตัว

   "ไม่ได้นะครับน้องฟ้า!"

   เวหาชะงักกึก เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน ส่วนมีนาหันไปลอบถอนหายใจ และเมฆากลั้นหัวเราะอย่างนึกขำ

   "อ่า...เอ่อ...อ้อ! คือพี่กำลังจะบอกว่า ห้องว่างเหลืออีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องไปนอนเบียดกันก็ได้ครับ"

   พวกเวทิตร้องอ๋อตามมา แล้วก็ยิ้มให้ในความมีน้ำใจของชายหนุ่ม ส่วนเวหานั้นจ้องมองอีกฝ่ายอย่างจับผิด ซึ่งรวีก็แสร้งทำเป็นมองไปทางอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้แทน

   "งั้นเดี๋ยวมีนพาพวกพี่ไปเก็บของที่ห้องก่อนแล้วกัน จะได้บอกให้รู้ด้วยว่าห้องไหนมีคนจองแล้ว"

   มีนาแทรกขัดการสนทนาขึ้น แล้วกวักมือเรียกเด็กหนุ่มทั้งสองให้ตามตนไป ส่วนเวหานั้นไม่ได้ตามไปด้วย เห็นดังนั้นเมฆาจึงหาเรื่องปลีกตัวหนีไปบ้าง ทำเอารวีต้องอุบอิบบ่นใส่เพื่อนที่ไม่ยอมช่วยเหลือกันเลยสักนิด

   "พี่ซันหึงเพื่อนของฟ้าหรือครับ"

   รวีสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคำถามของเด็กหนุ่ม ทว่าพอหันไปเห็นสายตาคาดคั้นคู่นั้น เขาก็ต้องทอดถอนหายใจแล้วยอมสารภาพตามมา

   "พี่ไม่ได้หึงอะไรนั่นหรอกครับ ถ้าหึงจริงก็คงไม่ให้มาค้างด้วยแต่แรก แต่ถึงจะพยายามไม่หึงแต่ก็ยังหวงนี่ครับ...มันต่างกันนะครับหึงกับหวงเนี่ย"

   เวหาชะงักเล็กน้อย ทว่าสักพักเจ้าตัวก็ต้องหลุดยิ้มอย่างเอือมระอาตามมาเมื่อเห็นสีหน้าเศร้า ๆ กับแววตาอ้อน ๆ ของคนตัวใหญ่ตรงหน้าตน

   "เอาเถอะครับ...หวงฟังแล้วก็ยังดีกว่าหึง เพราะถ้าหึง ก็แสดงว่าไม่เชื่อใจกัน จริงไหมครับ"

   "พี่เชื่อใจน้องฟ้าเสมอนะครับ!"   

   รวีรีบยืนยันตัวเองทำให้เวหาถึงกับหลุดหัวเราะในลำคอด้วยความขำปนเอ็นดู

   "ครับ...ฟ้าเชื่อพี่"

   บอกจบเวหาก็มองซ้ายมองขวาแล้วแสร้งกระแอมนิด ๆ ก่อนจะชะโงกหน้าไปหอมแก้มรวีตอนที่อีกฝ่ายเผลอ จากนั้นจึงรีบจ้ำพรวดหนีเข้าบ้านพัก โดยทิ้งคนที่กำลังยืนตัวแข็งทื่อด้วยความตกตะลึงเอาไว้ที่สวนหน้าบ้านเพียงลำพังนั่นเอง




... TBC ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
ฟินแทนรวี  :heaven  คืนนี้พี่รวีจะนอนหลับมั้ย  :laugh:
พี่เมฆนี่หล่อขึ้นมาเลยอะ น้องมีนาก็น่ารักมีเหตุผล ดีมากที่รู้ว่ายังไม่แน่ใจก็ยังไม่เดินหน้าต่อ ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สมหวังแล้วนะซัน

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :o8: ความอดทนของพี่ซันกำลังถูกทดสอบ ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :hao7:
ว้าว   ... พี่ซันช็อกไป 3 วิ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
อ่านแล้วอมยิ้มแก้มตุ่ยจจริง ๆ เรื่องนี้   ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
55555 โดนเวหารุกเข้าให้รวีถึงกับเงิบ

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ซันหัวใจวายแล้วมั้งนะ :heaven

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
โอ๊ยยย นับวันพี่ซันชักจะทำตัวน่ารักไปนะ
น่ารักแซงหน้าน้องฟ้า น้องมีนกันเลยทีเดียว

แต่อยากบอกว่าคนเขียนขยันมากจริงๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น้องมีนน่ารักเชียว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด