- 2 -“ถ้าพี่ชายลำบากใจ ถือว่าเปลวไม่ได้ถามก็แล้วกัน” เปลวเลี่ยงไม่ตอบคุณชาย พลันตัดบทเอาดื้อๆ
“ไม่ใช่ไม่อยากพูด เปลวพอจะบอกให้พี่รู้ได้ไหม คิดยังไงถึงถาม ได้คำตอบแล้ว
พี่รับปากจะตอบคำถามเปลวครับ” คุณชายยิ้ม หน้านวลพลันเห่อแดงทันที
เปลวรู้ตัวกำลังโดนต้อนถึงได้เบี่ยงประเด็น คุณชายกลับรุกไล่ไม่ยอมให้เปลวตัดจบ
“แค่อยากรู้พี่ชายอายุก็ไม่น้อย น่าจะมีคนรักหรือมีใครในใจ ตั้งแต่รู้จักกับพี่ชาย
ไม่เห็นมีใครนอกจากคุณมรกต เธอแสดงออกชัดว่าคิดยังไง เมื่อพี่ชายยืนยันคิดกับเธอแค่น้องสาว
ก็คงมีใครอยู่ในใจ แต่ถ้าเป็นการไม่สมควรละลาบละล้วงเปลวก็ขอโทษ ถือซะว่าไม่ได้ถามก็ได้ครับ”
“ไม่ละลาบละล้วงหรอก ก็จริงนะ..พี่อายุไม่น้อยไม่เคยประกาศให้สังคมรับรู้พี่คบหาดูใจใครอยู่
ที่ผ่านมามีบ้างไม่ใช่ไม่มี เพียงแต่ยังไม่เข้าขั้นเรียกแฟน เป็นเพราะพี่ยังไม่เจอคนที่ใช่สำหรับพี่มั้ง
ถามพี่เวลานี้บอกได้ว่าสถานะโสดครับ แต่คำถามของเปลวลึกมากกว่านั้น เปลวถามพี่มีใครอยู่ในใจหรือเปล่า
ทำให้ต้องการรู้ก่อนคิดยังไงถามแบบนี้ บอกพี่ได้ไหม” เจอไม้นี้เข้าเปลวเริ่มบอกตัวเอง คุณชายเพชรไม่ใช่พวกไก่อ่อน
ไม่ใช่ผู้ชายอ่อนหัด เมื่อคิดจะรุกไล่ก็ต้องพร้อมชนเป้าหมาย พอบอกตัวเองแบบนี้เปลวก็ฮึดสู้
และกล้าที่จะกลบฝังความอายที่พุ่งขึ้น ไม่ไปสนใจโฟกัสเฉพาะเรื่องที่ต้องการรู้
หาโอกาสขยับความสัมพันธ์หวังให้พัฒนาขึ้นไปอีก ดีกว่ารีรอไม่กล้าอยู่แบบนั้นคงไปไม่ถึงฝัน
“พี่ชายรู้..ว่าเปลวเป็นยังไง” เปลวเริ่มถางเส้นทางถามนำร่อง
“ครับ..แล้ว” คุณชายหน้านิ่งสายตายากจะคาดเดา เอ่ยค้างไว้
“พี่ชายคงไม่คิดว่าเปลวใกล้ชิดด้วย จะไม่รู้สึกอะไรใช่ไหมครับ”
“เปลวกำลังจะบอกพี่ว่า แอบชอบพี่หรือครับ” สายตากรุ้มกริ่มหรี่จ้องหน้าเปลว
ทำเอาหน้าขาวร้อนฉ่า แต่ก็เลือกที่จะไม่ถอยหรือเบือนหลบ
“เปลวยอมรับรู้สึกแบบนั้นจริง” ปล่อยหมัดฮุก คุณชายถึงกับอึ้ง แม้จะเตรียมตั้งรับแล้ว
กลับไม่คาดคิดว่าคนอย่างเปลวบทจะลุยก็ตรงจนไม่มีอ้อมค้อมแบบนี้ เจอไม้นี้เข้าคุณชายกระพริบตาปริบๆ
“เดี๋ยวนะ ขอพี่ตั้งสติสักครู่” คุณชายยกมือขอเวลาทบทวนที่ได้ยิน ทำเอาเปลวถึงกับเลือดพุ่งขึ้นหน้า
แต่เป็นคนละอารมณ์จากที่สะกดกลั้นความเขินอายในทีแรก กลายเป็นความโกรธโมโหขึ้นมาแทน
“ง่วงแล้วครับ สิ่งที่เราคุยกันพี่ชายลบออกจากสมองเสียเถอะครับ
อย่าใส่ใจถือซะว่าเปลวละเมอยามดึกก็แล้วกัน ขอตัวครับ” พูดจบไม่มีรอ ก้าวขาเดินหนีทันควัน
อารมณ์โมโหปนโกรธที่ถูกคุณชายทำแบบนี้ต่อหน้า จึงไม่คิดจะสนใจยืนรออะไรอีก
ร่างโปร่งปลิวหวืดด้วยการจับต้นแขนดึงไม่ให้ตั้งตัว หันกลับมาเผชิญหน้าร่างสูงตอนนี้แดงก่ำ
ดวงตาเข้มวาววับไม่ได้นิ่งสุขุมหรือแฝงแววกรุ้มกริ่มหลงเหลือให้เห็นแต่อย่างใด
“อย่าใช้อารมณ์ เปลวเป็นคนเริ่มเองนะ แล้วมาบอกให้พี่ไม่ต้องสนใจลบสิ่งที่ได้ยินงั้นหรือครับ
ตกลงเปลวต้องการแบบนี้แน่ใจหรือครับ” คุณชายเกิดโทสะบ้าง ทั้งที่เป็นคนสุขุมไม่ใช่พวกเลือดร้อนเจ้าอารมณ์เลย
หนนี้ประมุขวังไม่ชอบใจจนไม่อาจควบคุมตัวเองได้เช่นกัน
“ปล่อย..เปลวเจ็บนะครับ” เปลวยื้อแขนให้เป็นอิสระ เริ่มรู้สึกเจ็บเมื่อคุณชายเผลอกำเสียแน่น
“พี่ขอโทษ” คุณชายผ่อนแรงลง ก่อนจะปล่อยแขนเปลวในที่สุด
“เจ็บมากไหม” เสียงทุ้มนุ่มมาพร้อมสายตารู้สึกผิด เปลวใจอ่อนยวบลดความพลุ่งพล่านลงไปทันที
“ไม่ครับ ไม่คิดว่าพี่ชายจะโกรธ” เปลวพูดตรงๆ
“พี่ยอมรับว่าโกรธ เปลวไม่ทันฟังก็คิดจะเดินหนี ซ้ำยังบอกให้ลืมเรื่องที่เราคุยกัน
จนพี่หลุดแสดงกิริยาไม่สุภาพ ยกโทษให้พี่นะ” เปลวมองคนตรงหน้า
คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ก่อนจะตอบกลับไปว่า
“พี่ชายไม่ได้ทำอะไรผิดครับ เปลวต่างหากที่ไม่รู้จักประมาณตัว
เปลวรู้พี่ชายไม่ได้คิดอะไรกับเปลว ไม่แตกต่างที่คิดกับคุณมรกต”
“พี่พูดหรือยัง ว่าพี่คิดยังไง” คุณชายชิงตัดบท ไม่เปิดโอกาสให้เปลวพูดต่อ
โดยแทรกขัดขึ้นเสียก่อน เปลวมองคุณชายด้วยสีหน้าไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณชายบอกออกมา
“พี่พอมองออก ว่าเปลวรู้สึกยังไง” เปลวยืนฟังตอนนี้ไม่กล้าสบตาเข้มของคนตรงหน้าอีก
หลุบมองเท้าตัวเองแทนเสียแล้ว
“เปลวรู้ดีมันเป็นไปไม่ได้ เปลวไม่ควรไปคิดแบบนั้นกับพี่ชายเลย” เปลวอ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียง
หากคุณชายจะมีตาทิพย์มองเห็นว่าเปลวตอนนี้นอกจากหน้าแดงแล้ว ยังแอบอมยิ้มเจ้าเล่ห์
ไม่ได้มีอาการเขินไร้เดียงสาอย่างที่แสดงออกอย่างเดียว นางโชว์ยังไงก็มีจริตพอตัว
จะใสซื่อเป็นนางเอกในนิยายคงไม่ใช่กับเปลวล่ะ..
“พี่ไม่รู้จะอธิบายยังไง พี่ไม่รังเกียจหรือแคร์ว่าเปลวเป็นแบบไหน ประเด็นคือพี่ไม่เคย
เออพี่ไม่เคยมีประสบการณ์ในแบบเปลวมาก่อนนี่สิ สำคัญเรื่องนี้ไม่เหมาะสมเข้าใจใช่ไหม
ถ้าพี่คบกับเปลวอย่างเปิดเผยล่ะก็ เกรงจะเป็นที่ครหาส่งผลต่อวังมณีรมย์
พอจะเข้าใจที่พี่บอกหรือเปล่าครับ” คุณชายพูดจบถอนหายใจยาว
เหมือนได้บอกสิ่งที่หนักใจให้คนตรงหน้ารับรู้ไปแล้ว ที่เหลือเปลวก็ต้องตรองดูเช่นกัน
“พี่ชาย..” เปลวครางชื่อคุณชายเสียงแผ่ว ก่อนจะเงยหน้าสบตากับร่างสูง
ลูกตาสวยวายวับฉายความดีใจชัด คุณชายเองก็จ้องค้างไปแล้วเช่นกัน
เมื่อเผลอพิศมองหน้านวลใกล้แค่มือสัมผัส ท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ด้วย
แต่ก็ไม่คิดแตะต้องตามความต้องการที่เรียกร้องอยู่ข้างใน
“เปลว..พี่..” คุณชายนิ่งหยุดคำพูดไว้แค่นั้น มีเพียงสายตาที่บอกผ่านความรู้สึกแทนคำพูด
แค่นั้นเปลวก็หัวใจฟูฟ่องคับแน่นอกซ้ายแล้ว
“ไม่ต้องเปิดเผยไม่ต้องประกาศ เปลวรู้เป็นเรื่องไม่ดีแน่ ถ้ามีใครรู้ว่าเปลวหลงรักพี่ชาย”
เปลวทำตาใสซื่อ เอ่ยคำพูดยอมรับสภาพความจริง ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ซึ่งเรื่องนี้คุณชายมีเหตุผลถูกต้องแล้ว
“ทำแบบนั้นไม่เท่ากับพี่เห็นแก่ตัวหรือ” คุณชายทนต่อไปไม่ไหวเมื่อหน้างามผ่องลอยเด่นแหงนเงยไม่ห่าง
แถมคำพูดบวกแววตาของเปลวแสดงให้เห็นชัดว่ารู้สึกยังไงแบบนี้ด้วย นิ้วยาวค่อยเกลี่ยไล้ใบหน้าด้วยหลังนิ้วเบาๆ
สัมผัสความเนียนละเอียดของผิวทั้งนุ่มทั้งลื่น จนไม่อยากหยุดนิ้วที่ไล่เอื่อยบนแก้มนวล
ไม่คิดว่าผิวของเปลวจะละเอียดอ่อนละมุนปานนี้ เปลวไม่มีเบี่ยงหนีหรือขัดขืน
กลับพูดเสียงพร่าส่งสายตาหวานฉ่ำ พร้อมประโยคเด็ด ทำเอาคุณชายหัวใจกระตุกสั่นไหวอย่างรุนแรง
“ไม่เอาเปรียบเลยครับ เปลวเข้าใจฐานะของเราดี
ขอแค่พี่ชายมีเปลวเพียงคนเดียว ไม่เปิดเผยแต่ไม่นอกใจปันใจให้ใคร..แค่นี้เปลวรับได้”
“เปลว...” คุณชายไม่รู้ตัวความอดทนสิ้นสุดลงตอนไหน พอรู้ตัวอีกทีก็เข้าชิดดันร่างโปร่งของเปลว
ถอยหลังพิงต้นไม้ใหญ่ไปแล้วเรียบร้อย ร่มเงาไม้กำบังตาปกคลุมบดบังไม่ยืนในที่โล่ง
นิ้วยาวเชยคางมนให้เงยสูง สายตาสองคู่สบกันนิ่ง ระยะห่างใบหน้าลดลงเรื่อย
ก่อนริมฝีปากหนาค่อยประกบทาบทับริมฝีปากบาง เปลวปิดเปลือกตาหลับตวัดแขนเกี่ยวคล้องลำคอหนา
ซึมซับสัมผัสหวานละมุนจากเรียวลิ้นที่สอดแทรกเข้าเกี่ยวต้อนดูดดุนลิ้นนุ่มอย่างอ่อนโยน
จูบดูดดื่มที่คุณชายมอบให้เปลวชักนำให้ทั้งคู่จมดิ่งอยู่ในรสสัมผัสซาบซ่านเนิ่นนาน
สองมือของคุณชายประคองเอวบางของเปลวเพื่อยึดจับรั้งแนบชิดไปด้วย
เปลวลืมหายใจชั่วขณะ เมื่อถูกจูบหวานดึงวิญญาณลอยละล่องเหมือนหลุดออกจากร่างตัวเบาไร้น้ำหนัก
โอนอ่อนตอบรับรสจูบซึ่งคุณชายดูเชี่ยวชาญ ทั้งตักตวงพร้อมชักนำให้เปลวเคลิ้มหวามตามอย่างง่ายดาย
“อืม..อ้าห์สส” ปากได้รูปถอนออกจากปากบางสีสด บัดนี้บวมเจ่อเพราะแรงบดคลึงยาวนานไม่น้อย
ยิ่งดูเย้ายวนดึงดูดขึ้นไปอีก จนคุณชายอดใจไม่ไหว ฉกจูบดูดคลึงอีกสองสามที
ก่อนตัดใจถอนริมฝีปากออกกลัวเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ ไม่คิดว่าเปลวจะหวานหอมถึงเพียงนี้
“เปลวครับพี่ตีตราจองไว้แล้วนะ พี่ยังไม่สันทัดถ้าเราจะข้ามขั้นไป วันนี้คงไม่สะดวก
พี่อาจทำตัวรุ่มร่ามห้ามใจไม่อยู่ รอผ่านงานเลี้ยงต้อนรับเปลวเสียก่อนนะ พี่จะบอกกับหญิงมุกและหนิม
ว่าพี่คบเปลวฐานะคนรัก อย่างน้อยให้คนในตำหนักรับรู้ หนิมกับหญิงมุกคือคนในครอบครัวพี่ไว้ใจ
เปลวคิดว่ายังไงครับ” คุณชายยังคงเกลี่ยนิ้วสัมผัสแก้มนวลเบาๆ
ดวงตาฉ่ำใช้มองเปลวบ่งบอกอารมณ์คุกรุ่นยังคั่งค้างอยู่
ใครบอกว่าบุรุษที่ดูนิ่งสุขุมควบคุมอารมณ์เก่ง บทจะร้อนขึ้นมาก็เล่นเอาเปลวแทบหลอมละลายได้เช่นกัน
การขยับก้าวข้ามความสัมพันธ์หลังดูเชิงกันมาพักใหญ่ ทำให้เปลวรู้สึกคับแน่นหัวใจจนแทบดันอกซ้ายทะลุออกมา
วันนี้ตัดสินใจไม่ผิดที่ออกมาเดินอ่อยในสวน เลือกเอาบริเวณตรงระเบียงห้องคุณชายเป็นหลัก
ถ้าไม่ใช้แผนยั่วเมือง เห็นทีคงยากจะได้ก้าวกระโดดอย่างนี้ เปลวรู้แก่ใจถ้าไม่เริ่มรุกคืบก่อน
คุณชายคงได้แต่จ้องไม่กล้าบุกแน่ อุปสรรคปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง ทำให้คุณชายคิดเยอะ
เปลวซึ่งคลุกคลีในสังคมนางโชว์ พบเห็นเรื่องแบบนี้กับตัวมามาก ที่ผ่านมามีแต่คนพุ่งเข้าหามาโดยตลอด
เป็นเพราะเปลวไม่รู้สึกอะไรด้วย จึงวางตัวนิ่งเฉยไม่สานไมตรีตอบ แต่ไม่ได้แปลว่าเปลวจะรุกไล่ไม่เป็นนี่
สัญชาตญาณบวกประสบการณ์รักแรก เพาะบ่มเปลวระดับหนึ่ง ทั้งยังเคยรับงานตามราวีรับจ๊อบจัดการเมียน้อยมาหลายราย
เปลวไม่ได้ไร้เดียงสาอ่อนต่อโลก ถึงกับเล่นบทอ่อยเหยื่อไม่เป็น ที่ไม่ทำเพราะยังไม่มีใครคู่ควรให้ทำต่างหาก
คราวนี้จำเป็นต้องทำ ก่อนที่จะหลุดมือไปแล้วทำอะไรไม่ได้ เมื่อแน่ใจว่าคุณชายเพชรรัตน์ไม่มีใครเป็นพิเศษ
ผิดตรงไหนถ้าเปลวจะเริ่มเปิดเกมรุกเข้าหาคุณชายก่อน
“ครับ..รอผ่านงานพรุ่งนี้ไปก่อน เปลวยินดีเป็นคนรักของพี่ชายให้รับรู้เป็นการภายใน
เปลวจะไม่ทำให้เสื่อมเสียต่อฐานะของประมุขวังและทายาทมณีรมย์เป็นอันขาด
แต่มีบางอย่างที่เปลวอยากบอกพี่ชายให้รู้ไว้ เปลวเป็นพวกขี้หึง เมื่อพี่ชายเป็นคนรักเปลวแล้ว
นับจากนี้เปลวต้องมีสิทธิ์ ใครก็ตามที่เข้ามาข้องแวะพี่ชาย เปลวไม่ยอมให้มายุ่งกับคนรักเปลวอีก
เรื่องนี้พี่ชายอนุญาตนะครับ” เปลวอ้อนทั้งคำพูดและสายตาที่มองคุณชาย ทำเอาประมุขวังเพิ่งมีคนรักหนุ่มหน้าสวย
ถึงกับเผยยิ้มหล่อ ยังไม่ข้ามวัน เปลวคนเดิมคนเจ้าเล่ห์ที่คุณชายเจอช่วงแรก ผู้มากพิษสงกลับมาเสียแล้ว
“ครับทำอะไรระวังด้วยนะเปลว ผลกระทบตามมามันสำคัญมาก” คุณชายแม้จะอนุญาต
ก็ยังเตือนสติไปด้วยเช่นกัน เป้าหมายที่เปลวยกอ้างคงไม่พ้นคุณมรกตคนแรก ทำไมคุณชายจะดูไม่รู้เล่า
คนที่มาของแวะตีมึนตามคุณชายวางตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ก็เห็นจะมีรายนี้ออกหน้ารายเดียว
“ไว้ใจได้ครับ เปลวมีวิธีของเปลว ในแบบฉบับของเปลว พี่ชายไม่ต้องกังวลสิทธิ์นี้เปลวต้องรักษาแน่นอน”
ไม่ทันไรเปลวรีบฉวยจังหวะสร้างโอกาสให้ตนเองทันที การจะมีคนรักเป็นหนุ่มหล่อมากเสน่ห์
แถมยังเป็นประมุขวังมณีรมย์ถ้าไม่มีเขี้ยวเล็บก็คงจะลำบาก เรื่องนี้เปลวคิดไว้แต่ต้น
ที่ผ่านมาประสบการณ์ความผิดหวังในรักแรก สอนเปลวแข็งแกร่งและรู้วิธีรักษาคนรัก
ไม่ใช่แค่คนเราจะรักกันเท่านั้นถึงจะประคับประคองชีวิตรักให้อยู่รอดปลอดภัย
สมัยนี้เปลวเห็นมานักต่อนัก คนบางจำพวกต่อให้รู้เขามีเจ้าของก็ยังคิดจะแย่ง
ประสาอะไรคุณชายกับเปลวไม่สามารถประกาศให้โลกรู้ว่าเป็นคนรักกัน
ย่อมมีเหลือบไรเข้ามาสร้างปัญหาไม่หยุด เปลวจำต้องมีวิธีจัดการกับคนพวกนี้
อย่างน้อยประสบการณ์รับจ้างกำจัดเมียน้อยก็ไม่เลวทีเดียว ทำให้เปลวรู้ว่าควรจัดการคนจำพวกนี้ด้วยวิธีไหน
เรื่องนี้เปลวไม่สนเลยสักนิดว่าจะมาเป็นอุปสรรค ในเมื่อเวลานี้คนรักของเปลวยอมยกฐานะมอบตำแหน่งคนรักให้แล้ว
แค่นี้ก็มากเกินพอที่เปลวจะมีจุดยืนชัดเจน กับความรู้สึกของคุณชายและของตัวเอง
ที่เหลือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเปลวจะไม่อ่อนแอให้ถูกกระทำเหมือนอดีตอีก
ในช่วงนั้นเปลวไร้หนทางต่อสู้เมื่ออำนาจเงินเหนือกว่า และรักแรกของเปลวก็รักความสบาย
แต่ตอนนี้คนรักของเปลวมีพร้อมรูปสมบัติทรัพย์สมบัติ ทำไมจะรั้งให้เขาอยู่กับเปลวไม่ได้
ของแบบนี้ต้องวัดฝีมือ เปลวมั่นใจไม่ด้อยกว่าใครแน่นอน
มาอัพครบแล้ว 100% นะคะ เจอกันอีกทีวันพุธนะคะ
เหลืออีก 2 ตอนจบในเล้าน์แล้วนะคะ