- 2 -“หวัดดีครับพี่ชาย” เปลวยกมือไหว้ คุณชายยกมือรับไหว้ไม่ลืมส่งยิ้มอบอุ่นให้เช่นเคย
เปลวเองก็ยิ้มตอบทำเอาบรรยากาศภายในห้องทำงาน
อบอวลไปด้วยความชื่นมื่นขึ้นมาทันตาทีเดียว
เพียงแค่เห็นรอยยิ้มหนุ่มหล่อกับหนุ่มหน้าสวยปรากฏบนใบหน้า
ก็แผ่กระจายความสุขออกมา จนคนรอบข้างสัมผัสความอบอุ่นละมุนละไมนี้ได้ด้วยเช่นกัน
พี่กล้าเอาถุงต่างๆ มาวางลงที่โต๊ะ ค่อยเร้นกายหายออกไปเงียบๆ
ปล่อยให้สามพี่น้องอยู่กันเพียงลำพัง หญิงมุกเป็นคนเปิดการสนทนาเอง
“วันนี้มุกกับเปลวไปเดินช้อปของกันสนั่นเลยค่ะพี่ชายเพชร”
“ไม่ต้องบอกพี่ก็พอจะดูออก สีหน้ามีความสุขขนาดนี้กระเป๋าฉีกไปเท่าไหร่ล่ะเรา”
คุณชายยิ้มระบายทั่วหน้าหล่อ ถามอย่างอารมณ์ดี
“ของมุกไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ ต้องชายเปลวเขาโน้น หมดไปไม่น้อย
ส่วนใหญ่เปลวเขาเลือกให้น้องหนิมนะคะ” หญิงมุกรีบออกตัวก่อนเลย
“แล้วหนิมล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันหืม” คุณชายนึกขึ้นได้ถามถึงสนิม
“หนิมหลังจากรักษาสิวยิงเลเซอร์ก็ขอตัวกลับวังไปก่อน คงไม่ชินที่หน้ามีรอยแดง
เปลวกับพี่หญิงมุกเลยให้พี่กล้าไปส่ง แล้วค่อยวนกลับมารับตามจุดที่นัดหมายไว้ครับพี่ชาย”
คราวนี้เป็นเปลวชี้แจงให้คุณชายทราบ ถึงสาเหตุที่ไม่เห็นสนิมตามมาที่นี่ด้วย
“อย่างนั้นหรือ” คุณชายไม่ได้ถามอะไรอีก แค่รับรู้แล้วก็เงียบไป
“มุกแวะมาหาพี่ชายว่าจะชวนดินเนอร์มื้อค่ำ มุกโทรบอกที่วังแล้ว ให้จัดการดูแลมื้อค่ำหนิมด้วย
ตั้งใจมาชวนพี่ชายไปหาของอร่อยทานกัน บรรยากาศสบายๆ สามคนเรา ตกลงนะคะ” หญิงมุกบอกจุดประสงค์
“หึหึ..พี่มีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยหรือ เข้ามาแบบนี้คงเช็คตารางงานของพี่จากคุณดุจดาวเรียบร้อยแล้วสิ
ถึงได้มั่นใจพี่จะว่าง” คุณชายมีสัพยอกน้องสาวท่าทางดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
“แหมอย่าเรียกว่าเช็คได้ไหม เรียกว่ามุกไม่อยากมาเสียเที่ยวเปล่า
คนเราทำอะไรก็ต้องวางแผนก่อน สรุปพี่ชายรับปากไปดินเนอร์แล้วนะคะ
นี่ก็ใกล้เวลาแล้วเตรียมตัวเถอะ รีบเคลียร์งานจะได้ไปกันเลย
เดี๋ยวออกไปช่วงเร่งด่วนรถติดแย่นะคะ” หญิงมุกเร่งคุณชายทันควัน
“ตกลงครับ” พูดจบเหมือนนึกอะไรได้ หันมาบอกน้องสาวอีกว่า
“หญิงมุกทางมูลนิธิเขาส่งหนังสือขอบคุณกับเอกสารใช้ลดหย่อนภาษีที่เราบริจาค 10 ล้านเข้ามูลนิธิมาให้แล้ว
ยังมีรูปงานเลี้ยงคืนนั้นผู้จัดเขาส่งมาให้ด้วย เดี๋ยวพี่ถามคุณดุจดาวดูก่อน
เธอเก็บไว้ไหนคลับคล้ายคลับคลาจะอยู่บนโต๊ะพี่นะ ยังหยิบมาดูก่อนไปประชุม กลับมาไม่เห็นแล้ว
เผื่อเธอเอาไปเก็บใส่แฟ้ม” คุณชายพูดจบลุกไปกดโทรศัพท์ ถามเลขาก่อนจำหน้านิ่วคิ้วขมวด
พูดคุยสองสามประโยคค่อยวางหู
“มีอะไรค่ะ” คุณหญิงมุกเห็นผิดสังเกต ไม่รีรอที่จะถาม
“เธอยืนยันไม่ได้เก็บนี่สิ บอกอยู่บนโต๊ะทำงานพี่ เดี๋ยวจะเข้ามาช่วยหา..รอแป๊บนะ”
ไม่ทันไรเลขาหน้าห้องก็เคาะประตู ก่อนจะเปิดเข้ามาด้วยสีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ขอโทษค่ะเจ้านาย ดิฉันจำได้ว่าเมื่อเช้ายังวางอยู่บนโต๊ะนี่คะ”
“ก่อนผมเข้าประชุมก็ยังเห็นอยู่ คุณลองทบทวนดูอีกที ย้ายไปไว้ที่ไหนหรือเปล่า”
คุณชายเสียงทุ้มนุ่ม ไม่ได้มีทีท่าอารมณ์เสียแต่อย่างใด
“ไม่นะคะ พอเจ้านายไปประชุม ดิฉันก็ไม่ได้เข้ามาในห้องอีกเลย แต่เอ๊ะ!..เดี๋ยวก่อนค่ะ”
เธอมีสีหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ กลับหยุดไม่ยอมพูดต่อ เหมือนเกิดความลังเลขึ้นดื้อๆ ว่าจะพูดดีหรือไม่
“มีอะไรงั้นหรือ” คุณชายถามเสียเอง ทำให้เธอมองหน้าเจ้านาย ค่อยกล้าที่จะปริปากเอ่ยสิ่งที่ค้างไว้ออกมา
“คือหม่อมหลวงมรกตเธอมาขอพบเจ้านายค่ะ แต่ดิฉันบอกแล้วว่าเจ้านายติดประชุมกับลูกค้า
ดูเหมือนเธอไม่เชื่อหรือยังไง จึงได้เปิดประตูเข้ามาในห้องเจ้านาย ก่อนจะกลับออกไปด้วยท่าทางแปลกๆ”
พอคุณดุจดาวเลขาเล่าจบ คุณชายเพชรก็คิ้วขมวดเครียดขึ้นทันที ทั้งที่ก่อนหน้าไม่ได้แสดงอาการอะไร
ทำให้หญิงมุกกับเปลวหันมาสบตากันอย่างไม่ต้องนัด เหมือนจะรู้ว่าคุณชายมีเรื่องไม่สบายใจแน่แล้ว
“ไม่มีอะไรแล้วล่ะ เชิญคุณกลับไปทำงานเถอะครับ ไว้มีอะไรเดี๋ยวผมค่อยเรียก”
คุณชายบอกกับเลขา เธอค้อมศีรษะเคารพแล้วออกจากห้อง
“มีอะไรคะ” หญิงมุกเมื่อเห็นอยู่กันส่วนตัวจึงได้ถาม
“พี่ไม่แน่ใจมรกตเอาไปหรือเปล่า ถ้าใช่ก็เป็นเรื่องแล้วสิ”
“เป็นเรื่อง..ทำไมคะ” หญิงมุกถามทันควัน
“หนังสือขอบคุณกับเอกสารลดหย่อนภาษีไม่มีปัญหา ถ้าจะมีคงเป็นรูปถ่ายในงานเลี้ยงที่เจ้าภาพคัดส่งมาให้
เป็นรูปพี่เต้นรำเปิดฟลอร์กับเปลวในคืนนั้น น่าจะเป็นรูปถ่ายมรกตเขาคงสงสัย ถ้าหากมองให้ละเอียด
ก็คงพอจะเดารู้ คนในรูปที่เต้นรำคู่กับพี่..เป็นชายเปลว” ข้อสรุปคุณชายทำให้หญิงมุกพยักหน้าเข้าใจทันที
สาเหตุที่ทำให้คุณมรกตเอาเอกสารทั้งหมดไป คงมาจากเปลวที่อยู่ในลุคนางโชว์ไฮไลท์ในงานกับการประมูลเปิดฟลอร์เต้นรำ
“คงเป็นอย่างนั้นแล้วค่ะพี่ชาย คิดว่าป่านนี้คงถึงมือหม่อมทับทิม ถ้ามุกเดาไม่ผิดหม่อมอารำไพก็คงรู้แล้วเช่นกัน”
“มีอะไรหรือครับพี่ชายเพชร หรือว่าการที่เปลวแต่งตัวเป็นนางโชว์จะทำให้เกิดปัญหา”
เปลวแทรกขัด หลังฟังสองพี่น้องราชนิกุลวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์กันมาพักใหญ่
“เรื่องนี้จะว่าไม่สำคัญก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ประเด็นมีอยู่ว่าเปลวเป็นมณีรมย์
แต่ใช้ชีวิตนางโชว์ซึ่งสังคมพวกเราถือว่าไม่ใช่อาชีพที่ควรยกย่อง โดยเฉพาะเปลวเป็นหม่อมราชวงศ์ยังไงล่ะครับ”
วินาทีนี้ คุณชายจำต้องบอกความจริงชี้ให้เปลวเห็นถึงปัญหา ที่ผ่านมาไม่เคยพูดในลักษณะนี้
เพราะคิดว่าถ้าไม่มีใครจำได้ ก็ไม่ควรคุ้ยแคะให้เป็นประเด็น ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าคุณมรกตเธอจำเปลวไม่ได้เสียด้วยสิ
“หมายความว่าอาชีพนางโชว์ ทำให้การที่เปลวเป็นหม่อมราชวงศ์กลายเป็นปัญหาอย่างนั้นหรือครับ”
เปลวเชิดหน้าลืมตัวทันที ในใจค้านว่าอาชีพที่ทำอยู่ไม่ได้ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีเสียหน่อย
ทำไมต้องมาเป็นประเด็น ในเมื่อความเป็นจริงชาติกำเนิดคือใครก็พิสูจน์กันได้อยู่แล้ว
“ฟังพี่มุกนะเปลว..ชนชั้นพวกเราถ้าไม่ใช่คนในชนชั้นมีอาชีพซึ่งเปลวทำมาหากินมาก่อน
ก็คงไม่มีใครสนใจกันหรอก ถือเป็นการประกอบอาชีพสุจริตสร้างความบันเทิงให้คนทั่วไป
แต่ถ้าใครในพวกเรามีอาชีพนี้ย่อมเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์แน่นอน โดยเฉพาะหม่อมราชวงศ์คนวังมณีรมย์
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงย่อมได้รับความสนใจมาก ขึ้นอยู่กับว่าเราควรจะทำยังไงให้การพูดถึง
หรือเรื่องที่จะกลายเป็นประเด็น เป็นบวกมากกว่าลบ สิ่งนี้ต่างหากที่พี่ชายเพชรกังวล
เปลวอย่าลืมสิ..อาชีพนางโชว์นั้นบ่งบอกตัวตนของคนทำงานชัดเจนอยู่แล้ว
ผู้ชายที่เป็นนางโชว์ย่อมไม่ใช่ชายจริงหญิงแท้ ซึ่งคนในสังคมเขารู้ดี
เมื่อเปลวมีข่าวออกมาคนย่อมจับตามองว่าเปลวเป็นอะไร มีรสนิยมแบบไหน
พี่ไม่เถียงคนในชนชั้นพวกเรามีรสนิยมเรื่องเพศเดียวกันมากมาย อย่างคุณนิลก็คนหนึ่งล่ะ
แต่พวกเขาไม่ได้ให้วงนอกล่วงรู้หรือนำไปเป็นข่าว ภาพลักษณ์ยังคงดูดี เข้าใจใช่ไหม”
หญิงมุกอธิบายเปลวด้วยเหตุด้วยผล คุณชายยืนมือล้วงกระเป๋าจ้องมองเปลวนิ่งๆ
ไม่ได้พูดแทรกหรือเสริมอะไรเลย ยกให้หญิงมุกจัดการ
“แล้วพี่หญิงมุกคิดว่าข้อเท็จจริง รวมทั้งตัวตนของเปลวจะปกปิดสังคมหรือพวกเขาได้ตลอดไป..อย่างนั้นหรือครับ”
“พี่ก็ไม่คิดว่าความลับนี้จะปกปิดได้ เปลวน้องพี่มุกหน้าตาสะสวยเสียขนาดนี้
ลองเปิดตัวในงานเลี้ยงก็ย่อมเป็นที่จับตามอง คราวนี้ที่มาที่ไปรวมถึงเรื่องราวชีวประวัติ
ย่อมมีพวกสอดรู้สอดเห็นไปคุ้ยแคะออกมาตีแผ่จนได้ล่ะ เพียงแต่พี่มุกกับพี่ชายเพชร
เราอยากให้ผ่านพ้นงานเลี้ยงต้อนรับเปลวไปก่อน ส่วนข่าวที่มาทีหลังไม่มีผลรุนแรง
ทำให้ภาพลักษณ์ของเปลวเสียหายจนแก้ไขไม่ได้ แน่นอนย่อมมีข่าว แต่เมื่อสังคมรับรู้ว่าเปลวคือใคร
ความเป็นมาหลังจากได้ประกาศเปิดตัวไปแล้ว เราเผยชีวิตก่อนจะกลับคืนสู่วังมณีรมย์เรียกคะแนนความสงสารเห็นใจได้
ถ้าหากมีคนนำไปเปิดเผยแล้วโจมตีเชิงลบ แขกเหรื่อผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาในงานก็จะไม่มีใครมา
เปลวอย่าลืมงานนี้เจ้าภาพคือเปลว คนสำคัญที่เราจัดงานนี้ขึ้นคือเปลว เมื่อเจ้าภาพเป็นข่าวในเชิงลบ
แขกผู้ใหญ่ที่เชิญไปจะมากันไหม จะมีใครให้เกียรติล่ะ ไม่เท่ากับงานนี้ล้มตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม
และยิ่งเป็นแบบนี้จะยิ่งดูเลวร้ายเข้าไปอีก อาจส่งผลรวมไปถึงพี่ชายเพชรและคนของวังมณีรมย์
ที่จะพลอยรับผลกระทบไปด้วย จะรู้ก็ตอนออกงานสังคมจากสายตาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์
คำพูดส่อเสียดค่อยทยอยหลุดออกจากปากพวกเขา ให้เรารู้กันตอนนั้นนั่นล่ะ”
ขอคิดเห็นอย่างมีน้ำหนักน่าเชื่อถือของหญิงมุกทำให้เปลวไม่โต้ตอบ และทำความเข้าใจได้ในทันที
“แล้วพี่ชายกับพี่หญิงมุกจะทำยังไง ในเมื่อตอนนี้คุณมรกตเธอได้เอารูปกับหลักฐานพวกนั้นไปแล้ว”
เปลวจึงเลือกมาขอฟังความเห็นแทน
“พี่ไม่รู้เหมือนกัน” หญิงมุกตอบ ก่อนจะหันมาขอความเห็นเอากับคุณชายเพชรอย่างลุ้นรอฟัง
คุณชายเอามือออกจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาลูบปลายคางอย่างใช้ความคิด แล้วค่อยจ้องสบตาเปลวจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ในเมื่อมันไม่สามารถปกปิดจนถึงวันงาน ก็ทำให้มันเปิดเผยชิงให้ข่าวเสียก่อนที่เรื่องจะบานปลาย
พี่ว่าเรื่องนี้พี่จัดการเอง ปล่อยเป็นธุระของพี่เถอะ ไหนบอกจะไปหาอะไรอร่อยกินกันไง ไปสิ..พี่ไม่ติดอะไรแล้ว”
คุณชายเปลี่ยนเรื่องตัดบทจะรับเป็นธุระแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเอง ก่อนจะเบี่ยงเบนความสนใจทุกคน
หันมาชักชวนออกไปทานมื้อค่ำตามที่ได้รับปากคุณหญิงมุกเอาไว้ ถึงคุณชายจะพูดแบบนั้น
แต่เปลวก็ไม่คิดจะปล่อยวางเรื่องนี้ แค่เก็บงำความคิดโดยไม่ได้เอ่ยอะไร
นอกจากมาดหมายบางสิ่งบางอย่างภายในใจ ก่อนทั้งหมดจะพากันออกจากห้องไปในที่สุด
>
>
“เห็นแล้วใช่ไหมคะ หม่อมอาคิดว่ายังไงคะ” คุณมรกตที่ห้อมาถึงตำหนักหม่อมรำไพ
ชนิดไม่รอเจอคุณชายเพชรพร้อมหลักฐานชิ้นสำคัญกำลังใจจดจ่อรอคำตอบจากหม่อมรำไพ
ซึ่งวางรูปถ่ายหลายใบลงบนโต๊ะกลางยังห้องรับรองของตำหนักปีกขวา ยังมีหม่อมทับทิมนั่งอยู่ด้วยอีกคน
“เรื่องนี้สำคัญเกี่ยวพันชื่อเสียงหน้าตาของวังมณีรมย์
แปลกตรงที่ชายเพชรต้องรู้เรื่องนี้ดีที่สุด แล้วทำไมถึงปิดเงียบ” หม่อมรำไพเปรย
“หึ!..มรกตไม่อยากจะคาดเดาว่าพี่ชายเพชรหลงเสน่ห์ชายเปลว ถึงได้ไม่คิดจะทำอะไร
ทั้งที่รู้ว่าเป็นพวกลักเพศเป็นนางโชว์หากินอยู่พัทยา เกาะพวกนักท่องเที่ยว
ไม่รู้ใครต่อใครได้หลับนอนด้วย สักกี่รายแล้วก็ไม่รู้”
“นั่นสิคะ ฉันก็คิดไม่ต่างมรกต หม่อมทับทิมเห็นควรจัดการยังไงดี
ขืนเราไปคุยกับชายเพชรก็คงไม่มีประโยชน์ ในเมื่อชายเพชรรู้เห็นตั้งแต่ต้น
ย่อมปกป้องให้ท้ายชายเปลวเป็นแน่ สำคัญคือภาพพจน์คนของวังมณีรมย์ชื่อเสียงสร้างสมกันมานับร้อยปี
สิ้นสุดลงคราวนี้เพราะทายาทมีอาชีพเป็นนางโชว์หากินกับนักท่องเที่ยวนี่แหละ”
หม่อมทับทิมมีปั้นหน้าลำบากใจ แอบลอบสบตากับคุณมรกต หลังสองแม่ลูกพากันยุยงให้หม่อมรำไพออกหน้าเรื่องนี้
อย่างน้อยชายเพชรก็ต้องเห็นแก่หน้าของหม่อมเธอในฐานะอาสะใภ้ ซ้ำยังมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยง
ของคนที่กำลังถูกนำมาเป็นประเด็นอยู่อีก เพราะคือคู่สมรสของหม่อมเจ้าทองเกล้า ซึ่งเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดชายเปลว
มาอัพต่อแล้วนะคะ ขออภัยที่หายไปนาน
ต้องบอกว่าติดภารกิจวุ่นวายพอสมควร
ไว้จะมาอีกทีวันเสาร์นะคะ จะมายาวๆ เลยค่ะคราวนี้่
ขอบคุณนะคะ
