“รู้หรือเปล่าว่าตั้งแต่เกิดมา ผมยังไม่เคยได้ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองอยากทำเลย..”
“...”
“ทุกๆ วันผมต้องคอยแต่จะทำตามคำสั่งของคนโน้นคนนี้..”
“...”
“ทิวทำอย่างนั้นสิ..ทำอย่างนี้สิ..”
“...”
“ไม่ว่าจะที่บ้านเด็กกำพร้า..หรือแม้แต่บ้านที่รับผมมาเลี้ยง..ที่ไหนก็ไม่ต่างกันเลย..”
วีนั่งฟังเงียบๆ ไม่แสดงความคิดเห็นหรือพูดอะไรแทรกเลย ผมระบายมันออกมาหมด..หมดทุกอย่างที่มันอัดอั้นอยู่ในใจผม เหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าที่ผมทยอยกระดกมันเข้าปาก..ช่วยเพิ่มความกล้าให้ ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะวิ่งลงไปในทะเล..ตะโกนด่าว่ามันแข่งกับเสียงคลื่นไม่ยอมหยุด
ผมเกลียดมัน..
เกลียด..เกลียด..เกลียด..
.
.
“สบายใจหรือยัง..” เขาถาม..เมื่อลากผมกลับขึ้นมาบนหาดสำเร็จแล้ว “เจ็บคอหรือเปล่า..”
“ไม่เลย..”
บอกไปแบบนั้นแม้จะเริ่มแสบๆ คอขึ้นมาแล้ว คงเพราะว่าตอนนี้ผมรู้สึกโล่งอก..รู้สึกสบายใจที่ได้พูดระบายอะไรออกมาจนหมดแล้ว และคิดว่าหลังจากนี้ไปผมคงจะหลุดพ้น..ได้พบเจอสิ่งดีๆ ในชีวิตบ้าง
“กลับขึ้นห้องกันเถอะ..ทิวเมามากแล้วนะ..”
“อืม..” ผมเอียงหัวเข้าไปซบไหล่เขา “เชื่อหรือเปล่าว่าผมไม่เคยกินเหล้าเลยนะ..”
“หืม..”
“เรื่องจริง..” ค่อยๆ หลับตาลงช้า..ก่อนจะสูดกลิ่นไอทะเลเข้าไปเต็มปอด “ไม่เคยมีใครบอกว่าผมจะกินได้..แถมยังต้องคอยมานั่งดูแลมันเวลาเมา”
“...”
“ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองโคตรเสียโอกาสเลย..”
“พูดไม่เพราะ..”
“หึๆ”
.
.
วีพยุงผมกลับขั้นไปที่ห้อง..ก่อนจะช่วยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ผมจ้องมองการกระทำทุกอย่างของเขานิ่งๆ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในห้องน้ำ..หรือแม้แต่บนเตียงตอนนี้ วีก็ไม่ได้ทำอะไรกับผมมากเกินไปกว่าการช่วยเหลือ ก็แค่ช่วยถอดเสื้อผ้า..ช่วยอาบน้ำ..ช่วยแต่งตัว มันดูเป็นสุภาพบุรุษเกินไปจนน่าแปลกใจ..
“ขอบคุณนะ..” ผมพึมพำบอก..ตอนถูกเขาดึงเข้าไปกอด “ขอบคุณจริงๆ”
.
.
ตื่นเช้ามา..ก็เจอเขาเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว ถึงจะไม่ได้ทำเอง..แต่ก็อดปลื้มไม่ได้ที่เขาใส่ใจจะสั่งมันมาให้ แถมยังกะเวลาสั่งได้อย่างเหมาะเจาะ เพราะตอนผมตักมันเข้าปาก..ก็ยังรู้สึกว่าอาหารมันยังอุ่นๆ อยู่
“กินเสร็จแล้วก็รีบไปเตรียมตัวนะ..ผมจะพาทิวไปหาตา..”
“ตา ?”
“ใช่..” เขาตอบยิ้มๆ “จะพาไปที่หลบภัยไง..”
เราออกเดินทางกันทันทีที่กินมื้อเช้าเสร็จ..วีพาผมขับรถข้ามจังหวัดไป ขับขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ไปไกลจนถึงจังหวัดเชียงราย..
“สวนลิ้นจี่ ?”
“อืม..”
“บ้านคุณตาของวีเหรอ..”
“ครับ..ใช่..”
วีพาผมขับผ่านสวนลิ้นจี่มาเรื่อยๆ ผมรู้สึกเหมือนทางมันยาวจนแทบจะไม่มีที่สิ้นสุด..บ้านคุณตาของเขาอยู่ลึกเข้าไปในสวน ลึกจนผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าจะเดินเข้ามาเองโดยไม่มีรถ..ผมจะมีสภาพยังไงตอนไปถึง เผลอๆ อาจจะไปไม่ถึงด้วยซ้ำ
.
.
“ที่นี่ปลอดภัยแน่เหรอ..”
“ปลอดภัยสิ..” เขาลูบหัวผม “ไม่มีใครหาทิวเจอหรอก..เพราะตาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับแม่ผมเลย..”
“หมายความว่ายังไง..”
“ตายกแม่ให้คนอื่นตั้งแต่ยังไม่เกิดแล้ว..ไม่เคยมีชื่อในใบเกิดของแม่ด้วยซ้ำ”
“แล้วทำไมวี..”
“ยายบอก..ยายที่โกหกว่าผู้ชายคนอื่นเป็นตาของผมมาตั้งแต่จำความได้”
“...”
“เขาสารภาพออกมาให้ผมรู้ก่อนจะตาย..”
“วี..” ผมเข้าไปกอดเขาเอาไว้
“จริงๆ แม่ก็เคยทำ..” เขาถอนหายใจออกมาแรงๆ “ผมเคยคิดว่าพ่อที่เลี้ยงผมมาคนนี้เป็นพ่อแท้ๆ ด้วยนะ”
“วี..”
ผมร้องออกมาด้วยความตกใจ..แต่เขากลับหัวเราะออกมาซะอย่างนั้น “ผมล้อเล่น..”
“...”
“เชื่อจริงๆ เหรอ” เขาทำหน้าแปลกใจ “ผมขอโทษนะ..”
“...”
“แต่เรื่องตากับยายน่ะเรื่องจริง..” เขากุมมือผมเอาไว้ “อยู่ที่นี่ไม่มีใครมาทำอะไรทิวได้หรอก..”
“อืม..” ไม่รู้จะโกรธเขาไปทำไม..ในเมื่อเขาก็แค่ล้อเล่น ถึงมันจะแรงไปหน่อยก็เถอะ
“รีบเข้าไปหาตากัน..”
เขาพูดเปลี่ยนเรื่อง..ก่อนจะดึงมือผมให้เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน..บ้านไม้ยกชั้นลอยมีใต้ถุนบ้านตามแบบฉบับชาวเหนือ วีพาผมเดินขึ้นบันไดตรงไปที่ครัวที่ต่อยื่นออกไปเป็นชานโล่งๆ นอกตัวบ้าน
“ตาไม่อยู่..”
“...”
“สงสัยจะเข้าไปในสวน..” เขาหันมาบอกผม “งั้นผมพาทิวไปดูห้องที่จะพักก่อนดีกว่า..”
“อืม..”
ผมเดินตามแรงดึงของวีกลับเข้าไปในตัวบ้าน..ก้าวขาขึ้นไปเหยียบพื้นบ้านที่ถูกยกขึ้นมาให้สูงขึ้นอีกระดับ เพื่อแยกเป็นเขตส่วนตัวสำหรับเจ้าของบ้าน ผ่านประตูบานพับไม้แบบเก่า..เพื่อเข้าไปยังห้องนอนสองห้องที่อยู่ติดกัน
“นี่ห้องผม..” เขาชี้ไปห้องทางด้านขวา “ทิวนอนห้องนี้แล้วกัน..เพราะอีกห้องเป็นของตา”
“...”
“ผมไม่เคยอยู่ที่นี่หรอก..แต่เท่าที่เคยมา มันน่าอยู่มากจริงๆ นะ” เขาหันมาบอกยิ้มๆ “ถึงมันจะดูหลอนๆ ไปหน่อยก็เหอะ..”
“หึๆ” ผมหัวเราะไปกับคำพูดของเขา..ก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจห้อง มันไม่ได้เล็ก..แต่ก็ไม่ได้ใหญ่มาก ไม่มีแอร์..ไม่มีเตียง แต่แค่ที่นอนยัดนุ่นที่ดูแข็งๆ นั่นก็ทำให้ผมรู้สึกดีแล้ว “วีนอนตรงนี้เหรอ..”
“ใช่..” เขาเดินเข้าไปนั่งลงบนที่นอน “ตาบอกว่าคนที่นี่จะทำที่นอนไว้นอนเอง..”
“...”
“เย็บผ้าให้เป็นทรง..แล้วยัดนุ่นลงไป..”
“เคยเห็นตอนทำไหม..” ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆ เขาบ้าง “ผมอยากเห็นจัง..”
“ไม่เคย..แต่ไว้จะถามตาให้นะ”
“อืม..”
.
.
เรานั่งเล่นกันบนที่นอนแบบนั้น..จนกระทั่งได้ยินเสียงรถเข้ามา วีบอกว่าคุณตาของเขาคงกลับมาแล้ว..ผมเลยรีบลุกเดินตามเขาลงมาข้างล่าง ยกมือไหว้คุณตาที่ดูแข็งแรงผิดกับคนวัยเจ็ดสิบปลายๆ ทั่วไป
“ไหว้พระเถอะ..” คุณตาบอกพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่ดูคล้ายๆ กับของเขามาให้ “มาถึงกันนานแล้วเหรอ..”
“ครับ..สักพักแล้ว” วีตอบ..ก่อนจะหันมามองผม “คนนี้ไงครับ..ที่ผมจะฝากให้ตาดูแล”
“อืม..” ผมมองคุณตาที่กำลังมองผมด้วยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นเหมือนกันกับของวี “โยนเรื่องทุกข์ใจทั้งหมดทิ้งไปเสีย..”
“...”
“แล้วคิดว่าที่นี่คือบ้านของเราเถอะนะ..”
Ma-NuD_LaW
คิดถึงบ้านหลังเก่าของปู่กับย่าที่เคยเห็นตอนเด็กๆ จัง.. 
.
.
ขอโทษที่หายไปหลายวัน..พอดีคนเขียนป่วย 
พอดีขึ้นก็รีบมาต่อเลย 
.
.
เห็นด้วยกับคุณ Why-Not-Me .. คอมเม้นแต่ละคนสนุกมากจริงๆ 
แล้วก็ความเห็นของคุณ deshiwa .. "คนเราต้องมอง2ด้าน เข้าใจความรู้สึกของนัทที่มีทั้งความเกลียดและรักในตัวทิว ส่วนทิวบอกเลยว่าไม่ค่อยชอบนิสัยเท่าไรแบบคิดถึงตัวเองมากไป" .. ชอบเม้นนี้แบบบอกไม่ถูกเลย 
ส่วนเม้นอื่นไม่ตอบแล้ว..เดี๋ยวเดาเรื่องได้ ((ยิ่งคิดอะไรไม่ออกอยู่ด้วย..โดนดักทางเยอะ
))
สุดท้าย..ขอบคุณทุกความเห็นครับ

