วีกลับไปเรียนในอีกสองวันถัดมา..ทิ้งให้ผมต้องอยู่บ้านไม้หลังใหญ่เพียงคนเดียว เพราะคุณตาของเขาก็ต้องออกไปทำงานในสวนทั้งวัน ตกกลางคืนก็รีบเข้านอนแต่หัวค่ำอีก..ผมเลยได้แต่ทำงานบ้าน นั่งอ่านหนังสือเก่าๆ ในตู้ของคุณตาแก้เหงาไปเรื่อย
.
.
“วันนี้ทำอะไรบ้าง..”
“อ่านหนังสือเล่มสุดท้ายในตู้..”
ผมตอบกลับไป..เมื่อได้ยินคำถามที่เขาใช้เปิดบทสนทนาระหว่างเรา วีมักจะโทรมาหาผมในช่วงหัวค่ำของทุกๆ วัน..โทรเข้าเบอร์มือถือของคุณตาที่ท่านมักจะไม่ค่อยได้ถือติดตัวเท่าไร นอกเสียจากเวลาที่ต้องเข้าไปส่งของ หรือซื้อของในตัวเมือง
“อยากได้อะไรหรือเปล่า..ให้ผมบอกตาหาหนังสือเพิ่มให้เอาไหม”
“ไม่ต้องหรอก..” ผมรีบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ “ต่อไปผมคิดว่าจะลองไปเดินเล่นที่ลำธารแทนแล้ว..”
“อืม..”
เกิดความเงียบขึ้นมาระหว่างเรา..ผมแหงนหน้ามองดาวบนฟ้าจากชานบ้าน ก่อนจะเผลอยิ้มออกมา เมื่อเห็นดวงดาวเหล่านั้นเป็นใบหน้าของเขา “คิดถึงวีจัง”
“ผมก็คิดถึงทิว” เขาตอบกลับมาแทบจะทันที “อยากไปหาจัง..”
“ทำไมว่าที่คุณหมอถึงได้พูดจาเหมือนคนขี้เกียจแบบนี้..” ผมแกล้งเย้า “ตั้งใจเรียนเถอะ..ไว้ว่างจริงๆ ค่อยมาหา”
“อืม..”
ผมกดวางสายไปหลังจากไล่วีไปนอนแล้ว นั่งมองฟ้าอยู่ได้ไม่นานก็เดินลงจากบ้านมาเดินเล่นในสวน เดินไปเรื่อยๆ แบบไม่นึกกลัวอะไร คงเพราะที่นี่มันดูเงียบสงบและปลอดภัยมาก..ผมถึงได้สบายใจที่จะทำอะไรแบบนี้
“หนาวจัง..”
ผมเดินกลับเข้ามาในบ้าน..ล้มตัวลงนอนกับฟูกแข็งๆ ในห้องของวี ก่อนจะนอนจ้องหมอนที่เขาใช้หนุนนอนตอนอยู่ที่นี่เงียบๆ คิดถึง..คิดถึงเขามากจริงๆ นั่นแหละ
“บ้าจริงๆ” ผมบ่นว่าตัวเอง..ก่อนจะเผลอหลับไป
.
.
“อยากเข้าไปเที่ยวในเมืองบ้างไหม..”
คุณตาถามผมในช่วงสายๆ ของวันหนึ่ง..หลังจากผมมาขออาศัยอยู่ที่นี่ได้เกือบๆ เดือนครึ่งแล้ว ผมส่ายหน้ายิ้มๆ เป็นคำตอบให้ท่าน..ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมือต่อ พอเห็นแบบนั้นท่านเลยไม่เซ้าซี้ถามอะไรอีก..แล้วเดินไปสตาร์ทรถกระบะออกไปส่งของเหมือนปกติ
ผมถอนหายใจออกมาแบบเหนื่อยๆ เพราะรู้สึกหดหู่ในใจแปลกๆ วีไม่ได้มาหาผมอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ไป..จะมีก็แค่โทรมาหา แต่ก็ได้คุยกันแค่แปบเดียว วีต้องอ่านหนังสือ..เขาต้องตั้งใจเรียน ผมรู้และเข้าใจดีทุกอย่าง..แต่มันก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้จริงๆ
“ลืมกันแล้วหรือเปล่า..”
“หรือมีใครเข้ามาทำให้ผมดูสำคัญน้อยลง..”
ได้แต่พูด..ได้แต่ถามคำถามที่มันบั่นทอนกำลังใจตัวเองไปแบบนั้น เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเพื่อให้ไดคำตอบกับตัวเอง ผมออกไปไหนไม่ได้..จะโทรไปหาเขาบ่อยๆ ก็รู้สึกเกรงใจ มือถือของตัวเองก็ไม่กล้าจะเปิดใช้..ผมรู้สึกเหมือนตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย
.
.
เสียงรถ..และเสียงหมาเห่าปลุกผมจากความคิด ผมลุกขึ้น..เดินออกไปชะโงกหน้าดูที่หน้าต่างว่าใครมา..ก่อนจะต้องยิ้มจนแก้มปริ เมื่อเห็นว่าคนที่กำลังเดินมาจากรถนั่นคือ วี
“ทำไม่ไม่บอกเลยว่าจะมา..” ผมถามทั้งที่ยังสวมรองเท้าไม่เสร็จด้วยซ้ำ “แล้วนี่ไม่มีเรียนแล้วเหรอ..”
“หยุดอ่านหนังสือสอบน่ะครับ..หยุดตั้งสามวันเลยนะ” เขาบอกยิ้มๆ “ผมเลยรีบขนหนังสือมาอ่านที่นี่”
“...”
“เพราะทนคิดถึงทิวไม่ไหว”
ผมวิ่งเข้าไปกอดเขา..กอดแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ วีหัวเราะออกมา..ก่อนจะกอดผมตอบกลับมาบ้าง เรากอดกันอยู่นานมาก..นานจนคนงานในสวนต้องแอบเดินมาจ้องด้วยความสงสัยเลย
“ขะ..เข้าบ้านกันเถอะ..” ผมบอกแล้วก้มหน้างุด “คนมองกันใหญ่แล้ว”
เขาหันกลับไปมองเมื่อได้ยินผมพูด..ก่อนจะหัวเราะออกมาแบบชอบใจ ไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นมาโอบเอวผมเอาไว้ตอนเดินขึ้นมาบนบ้าน “ต้องรีบแล้ว..ผมไม่อยากให้ใครเห็นความน่ารักของทิว..”
“...”
“เดี๋ยวจะหลงเสน่ห์ไปด้วยอีกคน”
“เพี้ยนไปแล้วหรือไง..”
“ฮะๆๆๆ”
.
.
เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาที่วีกลับมา ผมเกาะติดเขาแจ..ส่วนเขาก็ตามใจผมด้วยการไม่ทำท่ารำคาญเลยสักนิด เราคุยกัน..ส่งยิ้มให้กัน ผมพยายามทำตัวดีๆ ไม่ก่อกวนเขาเวลาอ่านหนังสือ..แถมยังเสียสละตักให้เขาได้นอนหนุนอ่านหนังสือแทบทุกวัน
“พรุ่งนี้ต้องกลับแล้ว..” เขาบอกขณะนอนหนุนตักผมอยู่ “แต่สอบเสร็จแล้วจะรีบกลับมาหา..”
“อืม..”
“ไม่ต้องคิดถึงผมมากนะ..” เขาทำหน้าทะเล้น “ให้ผมคิดถึงทิวคนเดียวก็พอ..”
เราหัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน..ก่อนที่ผมจะไล่วีให้ไปอาบน้ำ เตรียมตัวพักผ่อน เพราะต้องออกเดินทางแต่เช้า วีทำท่าอิดออดนิดหน่อย..แต่ก็ยอมลุกไปอาบน้ำโดยดี ผมจัดแจงปัดที่นอน..แล้วลุกกางมุ้งให้เขา คืนนี้ผมจะนอนกอดเขาทั้งคืนเลย..จะได้ชดเชยที่จะไม่ได้เจอกันอีกตั้งอาทิตย์หนึ่ง
.
.
“ขับรถดีๆ นะ..” ผมกำชับอีกรอบ “ถึงแล้วโทรมาบอกด้วย..”
“ครับๆ” เขารับคำผม..ก่อนจะหันไปลาคุณตา “ผมไปนะครับ”
“อืม..เดินทางปลอดภัยนะ..”
ผมมองรถเขาที่กำลังขับออกไปไกลเรื่อยๆ มองอยู่แบบนั้นจนลับตาไป..คุณตาส่งยิ้มให้แล้วตบบ่าผมเบาๆ สองสามครั้ง ก่อนจะขับรถออกไปทำงานบ้าง ผมเลยเดินกลับขึ้นมาบนบ้าน..เก็บกวาดทำความสะอาดมันตามหน้าที่เหมือนอย่างเคย แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านอีกครั้ง
ผมละถ้วยจานที่กำลังล้างในมือ..ตักน้ำในโอ่งมาล้างแบบลวกๆ ก่อนจะรีบวิ่งลงมาดู แล้วก็ต้องทรุดหมดแรงอยู่ตรงบันไดบ้านแบบนั้น..เมื่อเห็นหน้าคนที่ขับรถเข้ามา
“คะ..คุณนัท..”
“คิดว่าจะหนีกูพ้นหรือไง..” มันส่งยิ้มเยาะๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ “กูคิดไว้แล้วว่าไอ้วีมันต้องรู้..”
“...”
“ทำไม่มาหามึงได้เป็นเดือนๆ”
“...”
“สุดท้ายก็โง่พลาดจนได้..” ผมหลับตาลงตอนถูกมันตบแรงๆ บนหน้า “กล้ามากนะ..ที่หนีกูมาแบบนี้”
“...”
“กล้าดียังไงมาทำแบบนี้..ทั้งที่กู..”
“เราเป็นพี่น้องกันนะครับ !” ผมตวาดลั่น “เรามีพ่อคนเดียวกัน..”
“...”
“แล้วคุณก็ยังจะมาทำแบบนั้นกับผมอึก..”
“หึ..”
“ไม่ละอายใจบ้างหรือไง !”
เพี๊ยะ !!
มันตบผมจนหน้าหันไปกระแทกกับราวบันได..ก่อนจะตามมากระชากผมให้ลุกขึ้น
“กูไม่เคยเห็นว่ามึงเป็นอะไรกับกู !” มันว่าแล้วบีบกรามผมแน่น “นอกจากลูกของผู้หญิงแพศยา..น่ารังเกียจ”
“คุณนัท !”
“ไปขึ้นรถ..แล้วอย่าทำให้กูต้องโมโหอีก”
“ไม่ !” ผมตอบกลับทันควัน “ผมไม่ไป !”
“มึงกล้าขัดคำสั่งกูเหรอ..” ผมนิ่วหน้า..เมื่อมันเพิ่มแรงบีบที่แขน “คิดว่ามันมีปัญญาคุ้มกะลาหัวมึงหรือไง”
“ผมจะไม่กลับไปให้คุณทำเรื่องเลวๆ แบบนั้นกับผมอีกแล้ว..”
“หึ..”
“...”
“เรื่องเลวๆ งั้นเหรอ..”
“...”
“นี่มึงกล้าด่าผัวตัวเองว่าเลวหรือไง !”
เพี๊ยะ !!
ผมง้างมือขึ้นตบมันสุดแรง
“อย่ามาพูดจาน่ารังเกียจแบบนั้นกับผม..”
“...”
“เรามีสายเลือดเดียวกันนะ !”
“แล้วไง..” มันคงหมดความอดทนแล้ว..ถึงได้ทั้งลากทั้งดึงผมให้ไปขึ้นรถแบบนี้ “กูไม่สนหรอกว่ามึงจะเป็นใคร..”
“คุณนัท !”
“ในเมื่อมึงเป็นของกูแล้ว !”
ผมทั้งดิ้นทั้งขัดขืนมันสุดแรง..แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็ถูกมันลากขึ้นมาบนรถมา ผมพยายามจะเปิดประตูหนีออกไปอีก..แต่ก็ถูกมันชกเข้าที่ท้องจนจุกขยับตัวไม่ได้ สุดท้ายก็ทำได้แค่หมดแรงนอนหายใจนิ่งๆ อยู่ที่เบาะหลังรถนั่น ปล่อยให้มันเอาตัวผมกลับมาที่คอนโดจนได้
ผมถูกมันมัด..ถูกขังเอาไว้ในห้องแบบสัตว์ ไม่มีสิทธิได้ออกไปไหน..นอกจากจะต้องออกมากินข้าวพร้อมมันในบางวัน ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่เคยเปิดช่อง..หรือเปิดโอกาสให้ผมได้หนีออกไปอีก
Ma-NuD_LaW
เคยเล่นน้ำแบบนั้น..ตอนไปเยี่ยมน้าที่แม่ฮ่องสอน แต่เดี๋ยวนี้คงไม่มีแล้วล่ะ..((นานมากแล้ว))
.
.
ยังไม่ได้อ่านทวนนะ..อาจจะเบลอๆ ไว้พรุ่งนี้มาแก้ให้น้า ง่วงแล้ว
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
ปล.ตอนนี้ยาวกว่าปกติแล้วนะ