รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สามสิบสี่
“กลับ....กลับมาแล้ว”
ผมต้องหายใจเข้าออกลึกๆ พยายามระงับอารมณ์หงุดหงิดที่กำลังพลุ่งพล่าน
เมื่อเสียงพูดทักเบาๆสั่นๆลอยมาให้ได้ยินพร้อมกับร่างบางๆ
ที่ทำให้ผมกระวนกระวายใจตลอดบ่ายจนถึงหัวค่ำ
ตอนนี้เวลาล่วงเลยไปถึงเกือบสองทุ่มแล้ว
อีกไม่ถึงห้านาทีไอ้นกเวรนั่นก็ต้องโผล่ออกมาร้อง “กุ๊กกู” ถึงแปดครั้ง
ผมนั่งอยู่ตรงนี้ฟังมันร้องตั้งแต่...สี่ครั้ง...ห้าครั้ง...หกครั้ง...เจ็ดครั้ง....
และก็จะถึงแปดครั้งในอนาคตอันใกล้
ผมไม่รู้สึกหิวสักนิดทั้งๆที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่หลังมื้อเที่ยง
วินเดินตัวลีบไหล่ห่อก้มหน้าน้อยๆเข้ามาในห้อง
โดยไม่ยอมสบสายตาของผมที่นั่งรออยู่ที่โซฟา
แถมยังทำท่าจะเดินเลี่ยงหนีไปทางห้องน้ำอีกต่างหาก
“คุยกันหน่อยมั๊ย”
ผมทำใจเย็นอย่างที่สุดของที่สุดแล้วนะครับ ในรอบตลอดอายุยี่สิบเอ็ดปีของผม
เย็นอย่างที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำได้
“เอ้อ....นะ...นายมีอะไร....อ๊ะ”
วินร้องอย่างตกใจเมื่อโดนผมรวบตัวเข้ามากอดอย่างไม่ทันตั้งตัว
ทำให้ตอนนี้ตัววินถูกดึงมานั่งแหมะอยู่บนตักของผม
“ที่รักทำให้เขมเป็นห่วงรู้มั๊ย”
ผมกระซิบข้างหูคนบนตักเบาๆ แล้วเลื่อนลงไปฝังหน้ากับซอกคออุ่นๆ
กลิ่นกายของวินยังหอมมากแม้จะมีกลิ่นเหงื่ออ่อนๆปะปนมาบ้าง
แต่กลิ่นแบบนี้ละที่ทำให้อารมณ์ดิบส่วนลึกของผมเริ่มกระเจิดกระเจิง
เคยมั๊ยครับ
ของๆเราที่เหมือนจะกำลังถูกคนอื่นมาแย่งชิงเอาไปต่อหน้าต่อตา
มันทำให้ต้องข่มใจระงับอารมณ์ไม่ให้ผลีผลามทำอะไรที่อาจทำให้สิ่งนั้นหลุดลอยไป
“ขอ...ขอโทษนะ รออยู่เหรอ”
วินตัวสั่นน้อยๆ คางของวินเกยอยู่ที่ไหล่ของผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผมขบเม้มเบาๆที่ซอกคอหอมของวิน แม้จะไม่แรงแต่ขบย้ำๆอยู่อย่างนั้นจนขึ้นรอย
“อ๊ะ...เจ็บนะ”
วินดิ้นขลุกขลักอยู่บนตักของผม
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่านั่นไม่เป็นผลดีกับตัวเองแน่ๆ
เพราะอะไรๆที่หลับใหลของผมมันเริ่มขยับตัวตื่นขึ้นมา
จริงๆแล้วมันก็ตั้งแต่ที่ผมสูดกลิ่นกายของวินที่ซอกคอนั่นแหละครับ
“ไปไหนมา”
ผมกดข่มความต้องการที่เริ่มเกิดขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะพุ่งขึ้นเรื่อยๆในอีกไม่นานนัก
รสรักที่ผมได้รับและตักตวงมาแล้วครั้งหนึ่ง
ทำให้ผมรู้แล้วว่าการร่วมรักที่แท้จริงเป็นอย่างไร
นั่นหมายความว่าประสบการณ์มากมายที่ผ่านมาทั้งหมดมันเป็นแค่การ...ร่วม...เพศ
“ไป...ไป...ซื้อของกะปาล์มมา”
ผมเชยคางมนที่ก้มงุดให้เงยขึ้นมามองหน้ากัน
“เอา...จริงๆ”
ผมทำเสียงเรียบแต่ภายในใจมันคุกรุ่นและร้อนรน ทั้งหวาดระแวงทั้งกลัวการสูญเสีย
จะเป็นเรื่องอะไรผมรับได้หมด ขอแค่...อย่างเกี่ยวข้องกับไอ้เหี้ยหมอกเป็นพอ
“ก็...ก็จริง”
คนบนตักขยับตัวอย่างอึดอัด ผมกอดกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น
ผมไม่อยากให้คนๆนี้หลุดรอดไป
ไม่อยากสูญเสียคนที่ผมหวังจะหยุดชีวิตและฝากความรักทั้งหมดไว้ที่เขาเพียงคนเดียว
“แล้วนี่....นี่มันอะไรกัน”
ผมปวดแปลบในอกขึ้นมา บอกไม่ถูกว่า...เจ็บปวด โกรธ โมโห หรืออะไร แต่มันแทบคลั่ง
ผมไล้ปลายนิ้วสั่นระริกของผมลงบนแก้มซ้ายที่บวมและขึ้นรอยแดงเป็นปื้น
มันเหมือนรอยนิ้ว นี่...นี่วิน....โดนตบหน้า....
ผมแทบจะบ้าตาย นี่มันเกิดอะไรขึ้น
“ไม่...ไม่มีอะไรสักหน่อย”
ไอ้ตัวดีมันยังปากแข็ง...ได้....เดี๋ยวเขมจัดให้เอง
“งั้น....ลุกขึ้นก่อนครับ”
ผมยกตัวคนบนตักให้ลงนั่งบนโซฟาข้างๆกัน ตอนนี้ไม่อยากมองหน้าที่รักแล้วครับ
แก้มแดงๆบวมๆแบบนั้นยิ่งทำให้ความโกรธของผมพุ่งจนจะทะลุจุดเดือด
“จะ...จะไปไหน”
วินผวาเข้ามาเกาะแขนผมเมื่อผมทำท่าจะลุกขึ้น
“จะไปกระทืบไอ้ปาล์ม”
ที่พูดออกไป ผมหมายความแบบนั้นจริงๆ
ในเมื่อผมฝากให้มันดูแลคนของผม แต่นอกจากมันจะปกป้องไม่ได้
ปล่อยให้โดนตบหน้า แล้วยังกล้ามาปิดบังผม ไม่ยอมบอกว่าพวกมันไปทำอะไรกันมา
กูทนไม่ไหวแล้ว...ให้ตายเหอะ
“ปาล์ม....ปาล์มไม่เกี่ยวนะ”
จากเกาะแขนตอนนี้วินกอดเอวผมแน่น
นี่ถ้าไม่มีเรื่องปิดบังผม วินจะเป็นฝ่ายเข้ามากอดผมมั๊ย
มีแต่ผมฝ่ายเดียวที่ต้องการสัมผัส โอบกอด พร่ำคำรัก แล้ววินล่ะ
แค่ขัดผมไม่ได้รึเปล่า แล้วคนรักเก่าล่ะ ยิ่งมาตามถึงที่นี่แถมยังโดนผมกระทืบอีก
ถ้าความสงสารของวินมันจะมีโอกาสเปลี่ยนไปเป็นความเห็นใจแล้วจะกลายเป็นกลับมารักกันอีกครั้งล่ะ
ผมจะทำยังไงจะขัดขวางยังไง
“ปล่อยครับ”
ผมทำใจแข็งเดินไปหยิบกุญแจรถและมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ
“บอก...บอกแล้ว...อย่าไปเลยนะ”
โป๊ะเช๊ะ....ตามแผนเด๊ะๆ
“มานั่งก่อนนะ”
กลายเป็นผมที่เป็นฝ่ายถูกจูงมือให้ตามมานั่งที่โซฟาตัวเดิม
มือน้อยๆที่เย็นเฉียบของวิน ทำให้อารมณ์คุกรุ่นของผมลดลงจนเกือบหมด
“เขม...จริงๆแล้ว”
วินเงยหน้าขึ้นมาจากที่ก้มลงมองตักของตัวเองอยู่ชั่วอึดใจ
“หืม...”
ผมเลิกคิ้วขึ้น ตอนนี้รู้สึกจะเป็นต่อ
“วินไปเยี่ยม...หมอก”
ทันทีที่ชื่อไอ้เหี้ยนั่นหลุดออกมาจากปากบางที่ผมเคยจูบอย่างหวานชื่น
ผมลุกขึ้นยืน แล้วต้องกำสองหมัดเอาไว้แน่น
เจ็บ...เจ็บมากๆ...ทำไมใจผมมันจะขาดรอนๆ
มันเหมือนถูกกระชากออกมาจากอกแล้วขยำขยี้ให้แหลกคามือ
“เขม....ฟังวินก่อนนะ...นะครับ”
สองแขนเรียวสอดมากอดรอบเอวผมจากด้านหลัง
เสียงหัวใจจากแผ่นอกของคนข้างหลังดังรัวถี่กระทบหลังของผมจนรับรู้ได้
“บอกแล้ว...วินบอกแล้ว”
วินระล่ำระลักเมื่อผมแกะมือวินออก
“เขม....อ๊ะ”
ผมช้อนตัววินขึ้นแล้วมุ่งตรงไปที่เตียงคู่ของเรา เตียงที่ผมลากมาชิดกัน
ผมวางตัววินให้นั่งลงบนเตียงโดยที่ผมล้มตัวลงไปนอนหงายก่ายหน้าผาก
เมื่อรู้ว่าน้ำตาของผมมันเริ่มคลอและใกล้จะไหลซึมออกมา
ผมเลื่อนมือข้างหนึ่งลงมาปิดตาตัวเอง
กล้ามเนื้อก้อนเล็กๆในอกด้านซ้ายของผมมันทำงานอย่างหนัก แต่ไม่ยักกะสม่ำเสมอ
บางครั้งเต้นรัวแรงราวกับจะกระดอนออกมาภายนอก
บางคราเต้นแผ่วเบาจวนเจียนจะหยุด ใจผมมันแทบขาด
ทำไมมันรู้สึกแบบนี้ นี่รึเปล่าที่เรียกว่า...ทุกข์ระทม
“จุ๊บ”
ริมฝีปากนุ่มๆแตะลงบนปากของผม
กดย้ำๆซ้ำๆอยู่สามสี่ครั้งแล้วถอนออก
ตอนนี้น้ำตาของผมมันเอ่ออยู่ตรงหางตาแล้วสิ
“เขม...เขมครับ....วินขอโทษ”
หนักตรงหน้าอก วินคงซบหน้าลงกับอกผม
ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดอกเสื้อจนรับรู้ได้
ลำตัวของผมถูกกอดรัด
ผมละมือข้างที่ก่ายหน้าผากมาลูบผมนิ่ม
อีกมือพยายามเช็ดน้ำตาให้หมดไป คัดจมูกไปหมด อกใจมันหน่วงๆ
“วินไปเยี่ยมหมอก...เพราะ...กระแต....”
วินขยับตัวให้ตะแคงอยู่ในท่าที่สบายขึ้น หากยังนอนกอดและซบหน้าลงกับอกผม
“กระแตโทรมาหาวิน”
เสียงวินเริ่มมั่นคงขึ้น เสียงเล่าเนิบๆ
“วินไม่อยากไป แต่...”
วินผงกหัวขึ้นมามองหน้าผมเมื่อได้ยินเสียงหายใจที่ติดขัดของผม
“อย่าร้องนะครับ”
มือบางยื่นมาเกลี่ยซับน้ำตาให้ผมอย่างปลอบโยนจนแห้ง แล้วเลื่อนลงมาลูบแก้มผมไล้ไปมา
“กระแตขู่ว่าจะไปให้การกับตำรวจว่าเขมทำร้าย....หมอก”
ผมอ้าปากจะพูดแต่มือบางเลื่อนมาปิดปากผมเอาไว้
“เขม....ที่วินไปเยี่ยมหมอก ไม่ใช่เพื่อหมอก แต่...เพื่อเขม”
สายตาที่ส่งความรักมาให้ทำให้ผมสะอึก
นี่ผมดูถูกความรักของวินอย่างไม่น่าให้อภัย
“เขมรู้มั๊ย....นาทีที่เขมปิดประตูห้องน้ำ หายไปจากสายตาของวิน
วินรู้ตัวทันทีว่าวินห่วงเขมมากแค่ไหน วินรู้ใจทันทีว่า ตอนนี้ใจของวินมีใครครอบครองอยู่”
น้ำตาของผมมันไหลออกมาอีกครั้ง
แต่ผมไม่คิดจะฝืนมันเอาไว้
เพราะน้ำตาที่ไหลออกมาครั้งนี้ มันเป็นน้ำตาของความปิติ
“เฮ้อ....คนบางคนจะรู้มั๊ยน้าว่ามีใครเขาห่วงอยู่”
วินพลิกตัวกลับไปนอนหงายอยู่ข้างๆ
“ทั้งห่วงทั้งหวง ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวมั๊ยน้า”
เสียงหวานใสกลับมาพร้อมรอยยิ้ม
ผมพลิกตะแคงตัวแล้วเป็นฝ่ายซบหน้าลงกับอกบาง
สองแขนของผมกอดรัดร่างกายเนียนนุ่ม
ในขณะเดียวกันสองแขนเรียวก็ยกขึ้นกอดรัดผมเช่นกัน
“รักกันต้องเชื่อใจกันให้มากๆนะครับ”
มือบางข้างหนึ่งลูบเส้นผมของผมอย่างเบามือ
“รัก...รักกัน....หมายความว่า....”
ผมผงกหัวขึ้นมา
หัวใจผมมันพองโตและเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
อะไรเอ่ย......
เวลาหักบัญชีค่าบริการ....ตรงเวลาเด๊ะๆ
เวลาตามมาซ่อม.....ช่างไม่ว่าง งานเยอะ คิวยาว
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และการติดตามครับผม
พรุ่งนี้ไปเดทครับ มาลงอีกทีวันอาทิตย์ครับผม
ตอนหน้านี้....มี....ชะนีมา
แต่ชะนีนางนี้....มิใช่.....ชะนี....นางเดิม....ฮะฮะ