รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สามสิบสอง
“อ๊ะ...”
วินผวาส่งเสียงครางหวานหูเมื่อผมสอดฝ่ามืออุ่นร้อน
เข้าไปใต้เสื้อกล้ามเนื้อนุ่มตัวบางของวิน
“ขะ...เขม...”
ฝ่ามือที่ร้อนผ่าวล้วงเข้าไปใต้เสื้อกล้ามสีหวาน
แล้วเลื่อนสูงขึ้น ลูบไล้ เคล้นคลึง
ตั้งแต่หน้าท้องแบนราบ แผ่นอกเรียบเนียน
จนถึงปลายยอดอกที่เริ่มหดตัวชูชันขึ้นมา
ผิวขาวเนียนที่ปรากฎแก่สายตาเมื่อผมถอดเสื้อกล้ามและโยนลงพื้น
แค่นี้ก็เพียงพอที่จะดึงดูดสายตาของผมให้จ้องมองอย่างหลงใหล
ผมก้มลงกดริมฝีปากแผ่วเบาลงบนซอกคอขาวเนียน ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมไล่ริมฝีปากเลื่อนสัมผัสลงไปบนแผ่นอกขาวละเอียด
ผมเหลือบมองวินที่สะดุ้งตัวสั่น
จังหวะหัวใจของวินใต้ฝ่ามือของผมมันเต้นรัวแรง
วินแอ่นตัวขึ้นแล้วใช้สองมือสั่นๆกำสาบเสื้อนอนของผม
ร่างกายแบบบางของวินสั่นสะท้าน และส่งเสียงครางอยู่ในลำคอ
วินพยายามกลั้นเสียงเอาไว้โดยกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้
“อ่า...อื้อ....”
ริมฝีปากของผมไล้ไปจนถึงยอดอกสีอ่อนจาง ลิ้นร้อนๆของผมได้ลิ้มรสหวาน
และปากของผมก็บรรจงขบเม้มยอดอกของวิน
“อ๊า....”
เสียงหวานๆกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
สองมือของวินจิกลงบนแผ่นหลังจนผมรู้สึกแสบนิดๆ
ปากผมยังคงดูดชิมอย่างโหยหิว
สองมือบางขยำกำอกเสื้อของผมเสียแน่น
เมื่อผมใช้สองนิ้วบีบดึงและขยี้ซ้ำๆ
สลับกับปากที่ขบเม้มและดูดชิมยอดอกสีระเรื่อ
“อื้อ...ไม่...อย่านะ...อ๊าส์...”
ถึงจะหลุดปากร้องครางห้ามอย่างไรก็ตาม
หากสองมือน้อยยังดึงรั้งเสื้อของผมเอาไว้ไม่ให้ผละออก
เพียงไม่นานยอดเม็ดสีชมพูอ่อนจางก็แปรเปลี่ยนเป็นสีทับทิมแดงสวย
และแข็งตัวชูชันขึ้นสู้มือและปากของผม
“อื้อ..ยะ...อย่า...ไม่...ไม่เอา...อ๊าส์”
คนน่ารักใต้ร่างผมยังคงดื้อดึง แม้เสียงห้ามจะพร่า เสียงครางจะผะแผ่ว
ร่างกายจะอ่อนระทวยสั่นสะท้าน
ผมจึงจำเป็นต้องรุกหนักขึ้น
ริมฝีปากของผมเปลี่ยนมาเป็นพร่างพรมลงทั่วแผ่นอกขาวอย่างยั้งใจไว้ไม่อยู่
จนผิวขาวๆนั้นขึ้นรอยจูบแดงๆให้เห็นทันตา
ในขณะที่มือก็เลื่อนลงไปบีบคลึงสะโพกนุ่มภายใต้บ๊อกเซอร์สีขาวตัวบางโดยอัตโนมัติ
ร่างกายของเราทั้งคู่เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์
“อ๊ะ...ขะ..เขม”
เสียงหวานร้องสะดุ้งทันทีที่มือของผม
สอดเข้าไปลูบคลำตรงกลางระหว่างขาเรียวที่หนีบแน่น
และล่วงล้ำเข้าไปกอบกุมแก่นกายร้อนที่แข็งขืนขึ้นเต็มมือเอาไว้
ใบหน้าหวานของวินแดงซ่านด้วยความอายได้แต่เบือนหน้าเข้าหาพนักพิงของโซฟา
ยิ่งผมเร่งเร้า...รูดรั้งขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ
วินยิ่งครวญครางเสียวซ่านจนผมมองเห็นน้ำตาคลออยู่ที่ดวงตาหวาน
“ชอบ...ชอบมั๊ยครับ....ที่รัก”
คนใต้ร่างของผมสะดุ้งนิดๆ หยาดน้ำสวยเอ่อคลออยู่ที่หางตา
ปากบางแดงเม้มแน่น
ยิ่งวินรับรู้ได้ว่าไม่ใช่วินฝ่ายเดียวที่ถูกปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนา
เพราะตอนนี้ส่วนล่างที่แนบชิดของผมก็แข็งขืน โป่งนูน
จนแทบจะดันบ๊อกเซอร์ออกมาเช่นกัน
ผมละมือออกด้วยความเสียดาย
แล้วเปลี่ยนเป็นโยกขยับสะโพกให้น้องชายของเราสัมผัส บดเบียด และเสียดสีกัน
เราสองคนไม่สวมชั้นในเพราะเตรียมเข้านอน
สัมผัสที่ได้รับจึงเป็นเพียงผ่านบ๊อกเซอร์บางๆของเราทั้งสอง
ในจังหวะเดียวกันก็ขยับมือจัดการเคล้นคลึงยอดอก
ริมฝีปากของเราผวาเข้าหากันอีกครั้ง
วินเผยอปากออกเป็นการยินยอมให้ผมส่งลิ้นเข้าไปได้
ลิ้นร้อนของผมเกาะเกี่ยวลิ้นบางของวินอย่างอ่อนโยน
แล้วไต่ระดับเพิ่มความร้อนแรงขึ้น
ผมถอดเสื้อรวมทั้งดึงบ๊อกเซอร์ของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว
แล้วจึงใช้มือทั้งสองข้างจับที่ขอบบ๊อกเซอร์ของวิน
วินยกสะโพกขึ้นอย่างลืมตัว
“อือ...อืม...”
“อ่าส์....”
ผมเริ่มจูบหนักขึ้นแล้วดูดดุนลิ้นของวินจนผมรู้สึกหวามในอก
ผมบดเบียดร่างกายเข้าหาคนใต้ล่าง
จนทำให้แทบไม่เหลือช่องว่างระหว่างกัน
“ครางออกมา...ครางออกมาให้เขมฟังสิครับ”
ผมกระซิบชิดติดริมฝีปากบาง
เมื่อผมเลื่อนมือลงเกาะกุมส่วนกลางตัวของวินอีกครั้ง
ผมกระซิบเสียงพร่าแล้วเร่งขยับมือให้เร็วขึ้น
ลมหายใจร้อนถี่บวกกับเสียงครางหวานติดต่อกัน
“เขม...เขม...อ๊าส์....”
เสียงครางกระเส่าร้องเรียกชื่อผมเหมือนเป็นการเอ่ยขอ
เมื่อมือของผมที่เกาะกุมรูดรั้งลดผ่อนความเร็วลง
สายตาหวานฉ่ำเยิ้มที่ช้อนขึ้นมาสบ ปากบางแดงที่เม้มแน่น
สองมือที่จิกหลังผมอย่างแรงด้วยเผลอลืมตัว
อาการของวินทำให้ผมเข้าใจได้ไม่ยากว่า...กำลังเรียกร้องสิ่งใด
“หึหึ....”
เมื่อผมขยับมือหนาอีกครั้ง
เสียงครางหวานก็ดังกังวานไปทั่วห้องอีกครา
ใบหน้าหวานสะบัดไปมาเมื่ออุณหภมิของร่างกายพลุ่งพล่านจนควบคุมไว้ไม่อยู่
“อือ...มะ...ไม่...ไม่ไหว...ขะ....เขม.....”
หัวทุยสวยทิ้งตัวลงกับเบาะโซฟา
เมื่อผมขยับมืออย่างกระชั้นถี่ขึ้น ถี่ขึ้นไปทุกที
“อ๊าส์.....”
ของเหลวขุ่นขาวทะลักออกมา
“ขอนะครับ”
ผมกดจูบลงบนริมฝีปากบางร้อนผ่าว
แล้วเลื่อนมาขบเม้มฝากรอยขึ้นสีสวยที่ซอกคอ ระเรื่อยลงมาถึงแผ่นอก
ตวัดลิ้นร้อนแลบเลียดูดชิมยอดอกสีทับทิมแดงก่ำ
ผมรีบหยิบหลอดเจลที่วางแอบเอาไว้ในซอกโซฟาอย่างรวดเร็ว
ต้องขอบคุณสื่อต่างๆที่มีไว้ให้ผมเรียนรู้
หลอดเจลที่ผมแอบซื้อมาลับหลังวิน วางกระจายอยู่หลายจุด
ทั้งใต้หมอน ซอกโซฟา ห้องน้ำ แม้กระทั่งลิ้นชักหน้ารถ
“อ๊ะ...ทะ...ทำ...ทำอะไร”
วินสะดุ้งสุดตัว ผวาตัวจะลุกขึ้นนั่ง
เมื่อผมแตะปลายนิ้วเย็นๆจากเจลลงบนช่องทาง
นิ้วที่เปียกชื้นสอดดัน ล่วงล้ำ ลึกเข้าไปภายในช่องทางด้านหลังที่อ่อนนุ่ม
วินสะดุ้งเฮือก ร้องครางอื้ออึงขึ้นมาทันที
ดวงตากลมโตฉ่ำเยิ้มมีแววตระหนก ผมก้มลงมอบจูบหวานๆเพื่อปลอบขวัญ
วินผวาตัวคว้าคอผมเข้าไปกอดแน่นเมื่อผมขยับนิ้วที่ส่งเข้าไป ขยับเข้าออกช้าๆแล้วหมุนวน
ยิ่งผมขยับนิ้วถี่เท่าไหร่เสียงครวญครางหวานๆก็เพิ่มให้ได้ยินดังขึ้น
“อื้อ...เจ็บ...อ่า....อื้ม...อ๊าส์....”
วินนิ่วหน้า เนื้อตัวสั่นระริกเมื่อผมหมุนคว้านควงนิ้วจนรอบ
ยิ่งผมจงใจให้นิ้วครูดไปกับผนังนุ่มด้านใน
“อื้อ...ขะ...เขม...อ๊าส์....”
“ที่รัก....เขมขอนะครับ...เขมไม่ไหวแล้ว”
ผมกระซิบเบาๆที่ข้างหูแล้วขบเม้มใบหูบางจนวินขนลุกซู่
แล้วเผลอพยักหน้าให้ผมอย่างลืมตัว
มือเล็กจับโซฟาไว้แน่นจนเป็นรอยบุ๋มเพื่อต่อสู้กับความเจ็บปวดคับแน่น
“ระ...เร็ว...อีก...อื้อ....อ๊าส์”
วินร้องบอกเสียงสั่นน้ำตาเอ่อคลอ
ผมยิ้มรับเมื่อไล่สายตาก้มลงมองร่างกายของคนที่ผมรัก
ผิวขาวเนียนละเอียดร้อนผ่าวตรงหน้า ให้สัมผัสที่ดีเหลือเกิน
ยิ่งเห็นใบหน้าสวยที่ผมหลงใหลแดงก่ำ
ส่งสายตาฉ่ำเยิ้มเอ่อด้วยน้ำตา มันช่างยั่วยวนหัวใจผมนัก
เห็นแบบนี้แล้วเอาอะไรมาฉุดผมก็ไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือแน่นอน
ผมจับน้องชายของตัวเองที่ผงาดอยู่นานจนมีน้ำใสไหลปริ่มตรงปลาย
แตะลงบนช่องทางที่เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว
“เขม...รัก...วินนี่...ครับ”
ผมกระซิบบอกอย่างอ่อนโยน
ไม่ได้บอกเพื่อหวังให้วินยินยอมผมง่ายๆ
หากความเต็มตื้นในหัวใจมันเอ่อล้น
จนผมต้องพูดออกมา
“ซี๊ด...อ่า...ซี๊ดดดด...”
ผมนิ่วหน้าด้วยความเสียวซ่านเกินจะเอ่ยออกมาได้ รู้สึกดีเหลือเกิน
กับช่องทางรักด้านหลังของคนที่ผมรัก มันกำลังตอดรัดแก่นกายร้อนๆของผมไม่หยุด
ราวกับว่ามันยินดีตอบรับความรักที่ผมบรรจงมอบให้อย่างเต็มใจ
“อ๊ะ....อ๊าส์....”
วินร้องครางไม่หยุดหย่อนเมื่อผมค่อยๆเปลี่ยนจังหวะรักจากเนิบนาบให้เร่งเร้าขึ้น
เราโยกตัวรุกและรับส่งกันอย่างเร่าร้อน จนเสียงครางของเราระงมไปทั่วห้อง
แรงกระแทกไม่มีจังหวะพักจากร่างกายเปลือยเปล่าของเราทั้งสอง
ส่งให้เสียงเฉอะแฉะจนใจสั่น
“อ๊ะ....อ่า....”
เหมือนใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางทุกขณะ
ผมผ่อนแรงลงเพื่อยั้งมันเอาไว้
ผมไม่อยากให้ครั้งแรกของเราจบลงเร็วนัก
ถึงมันจะเป็นการทรมานต้วผมเองจนแทบคลั่งก็ตาม
แต่มันช่างเป็นความทรมานที่หอมหวานที่สุดในชีวิต
ผมก้มลงใช้ริมฝีปากจูบซับเหงื่อของคนด้านล่าง
ที่ยังนอนหอบหายใจถี่
บรรจงจูบซับหยาดน้ำตาที่หางตา
ก่อนจะกระซิบถามอย่างเอาใจว่า
“อีกสักยกมั๊ยครับ...ที่รัก”
“เย็นนี้....ไม่ต้องมารับนะ”
วินบอกผมก่อนที่เราจะแยกจากกันใต้ตึกเรียนของวิน
เมื่อตอนจะเริ่มต้นการเรียนคาบบ่าย
“ทำ...ทำไมล่ะ...ที่รัก...โกธรเค้าเหรอ”
ผมใจหายวาบ
แต่เมื่อเช้าวินก็คุยกับผมปกตินี่นา ถึงแม้จะสะเทิ้นอายเวลามองสบตาผม
วินเป็นของผมแล้ว....ทั้งตัว...และน่าจะหัวใจด้วย
ผมไม่อยากคิดมากถึงเรื่องไอ้เหี้ยหมอก ถึงแม้จะยังคาใจอยู่ไม่น้อย
การที่วินยอมยกครั้งแรกให้ผม...
แน่นอน...ผมรู้ว่าวินไม่เคยมาก่อน
นั่นก็ยิ่งทำให้ผมทั้งรักทั้งหวงคนของผม
แต่ถึงวินจะเคยมีอะไรกับคนอื่นมาก่อนผมก็ไม่สนใจหรอกครับ
เพราะนั่นมันเป็นเรื่องในอดีต
ตัวผมเองก็ผ่านมามากมายโชกโชนไม่น้อยกว่าใครในมหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำ
“ปะ...เปล่า...จะไปซื้อของกับปาล์ม”
ผมหันกลับไปมองหน้าไอ้ปาล์ม มันก็พยักหน้ารับ ไม่มีพิรุธอะไร
กับไอ้ปาล์มผมไม่ห่วงเพราะมันกำลังเดินหน้าจีบไอ้รุจน์เพื่อนผม
แต่ที่ผมไม่ค่อยสบายใจก็เป็นวินนั่นแหละ ที่หลบตาผม
“รอเขมเลิกเรียนไม่ได้เหรอ...เดี๋ยวเขมพาที่รักไปเอง”
ผมแตะหลังมือวิน
“ไม่ได้...เอ้อ...ไม่เป็นไรหรอก วันนี้วินเรียนตอนบ่ายแค่คาบเดียว
ขี้เกียจรอเขม เอาไว้เจอกันที่ห้องเลยนะ”
วินเงยหน้าที่ก้มงุดขึ้นมาสบตาผม
แววตาเศร้าๆแกมกังวลของวินทำให้ผมหงุดหงิดและเป็นห่วง
“ตามใจ...ฝากดูวินด้วยนะ”
ผมพูดโดยไม่มองหน้าวิน แล้วหันไปบอกปาล์ม
“เออ...ไม่ต้องห่วง”
สีหน้าไอ้ปาล์มเรียบเฉยไม่มีวี่แววล้อเล่นเหมือนปกติ
ผมเดินตัวตรงออกมาจากใต้ตึกนิเทศน์
ทำไม....อากาศมันอบอ้าว ลมไม่กระดิกสักนิด
ทำไม...ขากูมันทื่อๆหนักๆ จะเดินแต่ละก้าวมันยกขาแทบไม่ขึ้น
ทำไม...กูหวิวๆในอก ทั้งๆที่สภาพร่างกายกูมันก็เต็มร้อยเหมือนทุกวัน
ทำไม...กู...หงุดหงิด...เหี้ยๆเลยวะ
นอกจาก "แผลร้อนใน" จะเป็นโรคติดต่อแล้วนะครับ
"เลือดกำเดา...กระฉูด" ก็นับเป็นโรคที่ควรเฝ้าระวังในกลุ่มคนอ่าน....ฮะฮะ
ตอนหน้านี้....มี....ชะนี....ออกโรง....ครับผม