ตอนที่...หก
ป๋ากับหลุมใหญ่ๆที่เรียกว่ารัก
ผมชื่อนิธานครับ...หรือคุณจะเรียกว่าพี่นิด น้องนิด หรือเพื่อนนิดก็ตามแต่เห็นควร ส่วนอีกชื่อนึงที่ฟังดูขัดหูสักเล็กน้อย แต่ฟังไปบ่อยครั้งก็ยอมรับเป็นชื่อตัวเองอย่างเต็มใจ ‘ป๋า’ ชื่อนี้เมียผมเรียกได้คนเดียวนะครับจะบอกให้รู้
“ป๋า...” เสียงพึมพำละเมอดังขึ้นมาจากปากจิ้มลิ้มน่ารักของคนที่นอนอยู่ข้างๆ ใบหน้าขาวผ่องใสวิ้งค์อิ่มเอิบหลังจากได้รับโปรตีนชั้นดีจากผมไปหลายรอบ ไม่ว่าจะมองเบบี๋อีกสักกี่ครั้งกี่ปีผมก็ยังยิ้มได้เสมอ ไอ้เด็กคนนี้ไม่ได้หน้าตาตลกอะไรหรอก ไม่ได้ขี้เหร่อย่างที่ตัวเองเข้าใจด้วย ผมแค่ยิ้มมันออกมาง่ายๆจากส่วนลึกข้างใน
รูปถ่ายหลายรูปที่แปะอยู่ตามผนังห้องล้วนแต่เป็นความทรงจำของเราทั้งสิ้น สถานที่ต่างๆที่เราไป บรรยากาศที่มีแต่เราสองคนเท่านั้นที่รู้ ความสุขที่มีแค่เราที่เข้าใจ
ผมก้มจูบหัวไหล่มนขาวจั๊วะหนักๆ สูดความกรุ่นหอมเข้าเต็มปอดก่อนจะดึงผ้านวมขึ้นห่มให้มิด เบบี๋ตัวน้อยก็รีบซุกกายเข้าหาความอบอุ่นนั้นทันที
ผมจำได้ไม่มีวันลืมตอนที่หน่อยน้องชายผมพาเพื่อนคนแรกมาที่บ้าน บอกตรงๆว่าตื่นเต้นกันทั้งครอบครัวเพราะไอ้น้องชายคนนี้มันรักสันโดษ แม้เพื่อนจะดูเยอะแต่มันก็คบผ่านๆ ไม่ใส่ใจใคร เพราะฉะนั้นไอ้เพื่อนที่เรียกว่าถูกใจถึงขนาดที่มันพามาบ้านได้ เด็กคนนั้นคงไม่ธรรมดา
แล้วก็จริงอย่างนั้น
ไอ้เด็กตัวเล็กๆ หน้าขาวใสที่ดูเหมือนอาตี๋ แต่ติดที่ตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อย ตัวบางๆผอมๆ เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน... สารภาพตามตรงว่าชั่วขณะที่ผมมองเด็กคนนี้ ไม่มีความคิดอื่นใดเลยในหัวนอกจากคำว่า น่ารักเหี้ยๆ!!
รู้สึกว่าตอนนั้นเบบี๋อายุแค่14 ถ้าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ผมว่ามันเป็นวัยที่เด็กจะกร้านโลกในระยะเริ่มแรก เท่าที่จำได้ตอนนั้นซิงผมก็สลายไปแล้วกับรุ่นพี่คนสวยที่โรงเรียน อย่างไอ้หน่อยเองก็น่าจะไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ ยิ่งบวกกับความเป็นเอกเทศในตัว ก็เลยดูไปกันไม่ได้เลยกับเด็กหน้าซื่อตาใสท่าทางบ้องแบ๊วที่ชื่อน่ารักน่าชังว่า เบบี๋
โดยส่วนตัวแล้วการที่ผมเจอเบบี๋เหมือนกับผมค้นเจอโลกอีกใบ โลกที่ทำให้ผมสับสนกับตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เด็กอายุ 14 ทำให้ผมนอนไม่หลับ ทำให้ผมอยากเจอหน้าบ่อยๆ รบเร้าให้ไอ้หน่อยพาน้องมาบ้านทุกอาทิตย์ ถึงขนาดขับรถไปรับไอ้หน่อยที่โรงเรียนแค่เพราะจะได้ไปส่งเบบี๋ที่บ้าน อ้างนั่นอ้างนี่เพื่อพาเบบี๋ไปเที่ยวในวันหยุด เห็นของอะไรน่ารักน่าสนใจก็อยากจะซื้อมาให้น้อง
เบบี๋แค่อยู่นิ่งๆเฉยๆ มีแต่ผมเนี่ยแหละที่เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวไปพัน
ตอนแรกๆเบบี๋ก็ยังดูไม่ไว้ใจผมเท่าไหร่หรอก แต่พอผมเข้าหาบ่อยครั้งเข้า เอาของฝากมาล่อนิด เอาของกินมาล่อหน่อย เด็กน้อยก็เชื่องกับผมได้ไม่ยากเย็น อารมณ์ผมตอนนั้นคงคล้ายๆกับการฝึกสุนัข จำได้ว่าอ่านหนังสือแนวนี้เยอะมาก วิธีฝึกสอนสัตว์เลี้ยง ฝึกหมาให้แสนรู้ 108วิธีพิชิตใจแมว เยอะแยะมากมาย ก็ในเมื่อมันไม่มีหนังสือว่าด้วยการเลี้ยงเด็กให้เชื่องนี่นะ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ผลหรอกนะ
ไอ้การที่เพิกเฉยในสิ่งที่ไม่พอใจ ให้รางวัลเมื่อทำดี เล่นด้วยกัน สอนนั่นนิดนี่หน่อย เบบี๋ก็ติดผมอย่างที่หนังสือบอกไว้เป๊ะ ได้ยินเสียงเรียกพี่นิดๆแล้วมันชื่นมื่น ผมเจอกับน้องบ่อยมาก รับไปเที่ยว ไปติวหนังสือให้ถึงบ้าน จนสนิทกับครอบครัวบี๋อย่างไม่ยากเย็น จะเว้นก็แต่ป๊าของเบบี๋นี่แหละที่ชอบมองเขม่นผมแปลกๆ บอกตรงๆว่าผมก็ไม่ใคร่จะถูกจริตกับป๊าแกเท่าไหร่ คงเข้าทำนองที่ว่าเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ใช่มั้ยนะ? เพราะหวังเคลมลูกเขาผมก็จำต้องยิ้มสู้เข้าไว้
อะไรๆมันก็กำลังไปได้ดี ผมทำตัวเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงมาสองปี มีไอ้หน่อยน้องรักรู้เห็นเป็นใจทำตัวเป็นนกกระจิบคาบข่าวเบบี๋มาให้ผมรับรู้เป็นระยะโดยแลกกับของกำนัลนิดๆหน่อยๆที่ราคามากน้อยขึ้นอยู่กับระดับความสำคัญของข่าวสาร ยิ่งเบบี๋เติบโต รัศมีความน่าปล้ำยิ่งผุดผาด ยิ่งเห็นยิ่งอยากจับกินให้ตัวเองเป็นอมตะให้รู้แล้วรู้รอด
แต่ก็ใช่ว่าจะมีแค่ผมที่คิดอกุศลกับน้องแค่คนเดียว
ผมเครียด ผมอยากมีเมีย ผมอยากมีพันธะ แต่น้องยังเพิ่งอายุ16 ส่วนผมก็บินหลาไปไกลถึง 22 แล้ว เรียนจบ มีงานทำฐานะมั่นคง ผมพร้อมจะเป็นสามีจนตัวซีดตัวสั่นแต่มันติดตรงที่เบบี๋ยังไม่รู้เห็นเป็นใจด้วย ยังดีที่ผมมีไอ้หน่อยคอยกีดกันบรรดาไฮยีน่าที่หวังกินชิ้นเนื้อของผม แต่ใครจะรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ไปได้ถึงเมื่อไหร่ ผมว่าที่ผมปฏิบัติกับเบบี๋มันก็ใกล้เคียงกับคำว่าตามจีบแล้วนะ แต่น้องก็ยังคงไม่ได้รับรู้อะไรเอาเสียเลย ยังเบลอๆ ลอยๆ แม้ผมจะลอบแทะเล็มไปบ้างก็ยังไม่รู้ตัว และผมก็ทนไม่ได้ถ้าคนอื่นจะทำแบบผมแล้วเบบี๋ก็ยังคงเอ๋ออยู่แบบนี้
เพื่อนแสนชั่วของเบบี๋ แต่เป็นน้องแสนดีของผมอย่างไอ้หน่อย จึงได้เริ่มคิดแผนการให้ผมได้เมียสมใจ วันดีคือวันเกิดมันนั่นแหละครับ ด้วยเหตุผลที่ว่าผมจะได้สำนึกบุญคุณมันได้ง่ายสำหรับเหตุการณ์ในวันนี้
คุณเคยได้ยินมั้ยครับที่เขาว่าในสำนึกของคนเรามักจะมีเทวดากับปิศาจคอยถกเถียงกันอยู่ ไอ้เทวดามันเอาแต่คอยบอกผมว่า
‘อย่าทำเลยนะ น้องยังเด็ก ค่อยๆจีบค่อยๆเรียนรู้กันไป’ แต่ไอ้ปิศาจมันกลับเอาแต่ตะโกนเสียงสนั่น
‘ทำไปเลย มึงจะได้เป็นคนแรกของน้อง คนอื่นจะได้ไม่มีสิทธิ์มายุ่งอีก จีบให้ตายเบบี๋ก็ไม่รู้ตัวหรอกโว้ย!!!’โอเค...ผมยอมรับว่า
ผมเลวหลังจากที่ผมนั่งมองไอ้หน่อยมอมเหล้าเบบี๋ พอได้ที่พี่น้องก็ส่งซิกกัน ผมเดินขึ้นไปบนห้องนอนตัวเอง จัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมใช้ในระยะมือเอื้อมถึง และไม่นาน... ลูกปลาน้อยก็ถูกพามาปล่อยถึงที่
ผมเพิ่งจะรู้ว่าคนเมาแล้วยั่วเป็นยังไง สติผมก็ขาดผึงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ไม่ๆ พี่นิด!! ผมเจ็บ เอาออกไปนะ ฮือๆ”
บอกตามตรงว่าตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากความรัดแน่นที่ตุบตอดร่างอยู่ มันอุ่นร้อน นุ่มแน่น ชนิดที่ทำให้หน้ามืดตามัวได้เลย
“อย่านะ อ๊ะ ไม่ ผมเจ็บ”
จำได้ว่าตัวเองชั่วเอามากๆ พยายามเล้าโลมทุกทางให้เบบี๋สมยอม จากที่น้องร้องกระสับกระส่ายทรมานก็เริ่มมีเสียงครางหวานแซมเข้ามาบ้าง ผมพยายามอ่อนโยนอย่างที่สุดแม้ว่าใจจะอยากรุนแรงแค่ไหนก็ตาม ผมไม่อยากให้เบบี๋กลัวมากไปกว่านี้
“อ๊า อ่ะ อ่ะ อื้ม!!”
เสียงครางยิ่งเร้าความกระหายอยากของผมให้มากขึ้น จนในที่สุดเบบี๋ก็ทะลักทะลายความต้องการออกมา ผมหยุดเคลื่อนไหว ลมหายใจของเราหอบแรง หน้าเบบี๋ระเรื่อแดงน่ากิน ตาปรือฉ่ำ มองผมอย่างยั่วเย้าโดยไม่รู้ตัว ผมโน้มกายลงทาบทับ จูบริมฝีปากเจ่อเซ็กซี่ ซอกคอชื้นเหงื่อหอมๆ แวะชิมรสเม็ดทับทิมแรงๆจนน้องคราง เบบี๋ไม่ร้องต่อต้านอีกแล้ว กลับกันยามที่ผมหมุนวนสะโพกบดเบียดจนแก่นกายคว้านกับผนังนุ่มๆ เบบี๋ยิ่งบิดตัวครางกระเส่า ผมว่าน้องเริ่มพร้อมกับการทำรักต่อแล้ว
เสียงครางหวานดังไม่หยุด เบบี๋โน้มคอผมยื่นริมฝีปากต้องการจูบ มีเหรอที่ผมจะไม่สนองตอบ แต่ผมยังคงเชื่องช้าเนิบนาบจนกระทั่งถึงปลายทาง ผมแช่ค้างเอาไว้บดเบียดบั้นท้ายแนบแน่นยามชักพาให้เบบี๋ถึงฝั่งไปอีกรอบ แต่น้องกลับทำสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง
“พี่นิด อา...” เสียงครางเรียกชื่อผมไม่หยุดซ้ำยังตอบรับการบดคลึงของผมด้วยการส่ายสะโพกไปมา
เบบี๋ติดเบ็ดผมจนได้
ผมยักยิ้มกับปลาตัวขาวๆที่ตกได้ และคันเบ็ดผมมันก็เริ่มเข็งแรงอีกครั้งเมื่อปลาเอาแต่ตอดมันไม่หยุด
“ต้องการพี่มั้ย อยากให้พี่ทำต่อรึเปล่า” ผมกระซิบข้างๆหูน้องที่ข้างแก้มแดงซ่าน เบบี๋ไม่ตอบแต่กลับพลิกหน้ามาจูบผมแทน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของรอบที่สอง ช่องทางนั้นเริ่มตอบรับผมได้ดีขึ้น มันลื่นเพราะน้ำรักของผมที่ทะลักทะลายในส่วนลึก
“อ๊าๆๆ!~” เบบี๋ครางไม่หยุดเมื่อผมเพิ่มแรงมากกว่าเดิม แม้จะไม่ใช่ความแรงในระดับปกติของผม แต่น้องก็หัวสั่นหัวคลอนกอดไหล่โอบตัวผมวุ่นไปหมด ปากก็เรียกพี่นิดๆ เดี่ยวก็จูบตัวผมเดี๋ยวก็จูบปากผม เซ็กซี่ที่สุด
แต่นั่นยังไม่ร้ายแรงเท่ารอบที่สาม
ผมรู้ดีว่าผมเป็นคนแรกของน้อง แต่เบบี๋กลับเรียนรู้ไวอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนกับว่าน้องเกิดมาเพื่อสิ่งนี้(?) เบบี๋ส่ายสะโพกตอบรับผมไม่หยุด มีการตอดเน้นๆยามที่ผมเคลื่อนกายออก เมื่อผมหยุดแต่เบบี๋ก็ยังคลึงเค้นให้มันแนบชิด
ผมเพิ่งจะรู้ว่าสวรรค์มันเป็นอย่างนี้ เมื่อผมหมดเนื้อหมดตัวทิ้งร่างซบแนบแผ่นหลังทั้งที่ยังคั่งค้างในช่องทางกับหยาดน้ำที่คงมีเต็มเปี่ยมข้างใน ผมไม่รู้ว่าเราจูบกันไปกี่ครั้ง ไม่รู้ว่าเบบี๋ข่วนผมไว้กี่รอย หรือผมดูดเนื้อตัวของน้องไปกี่จุด แต่ที่รู้ที่สุดคือความอิ่มเอมทั้งอารมณ์และร่างกาย เหมือนผมถูกเบบี๋ดึงให้ดำดิ่งลงไปในหลุมนั้นยิ่งกว่าเดิม ลึกเข้าไป จนไม่รู้ว่าจะออกมาได้หรือเปล่า
เบบี๋กำลังทำให้ผมคลั่งไคล้
ตอนเช้าน้องแค่มองผมด้วยตาโตๆคู่นั่นกับแก้มที่ยังเป็นสีระเรื่อเพราะความอาย แต่เราก็ยังจูบกัน สัมผัสตัวกันและกันโดยไม่มีเซ็กส์มาเกี่ยวข้อง เราไม่ได้คุยกันถึงความสัมพันธ์ แต่เมื่อผมมองตาน้อง ผมก็รู้ได้ทันที ว่าน้องไม่ได้มองผมเป็นแค่พี่ชายของเพื่อนอีกต่อไป เราเป็นคนรักกันโดยที่ไม่ต้องเอ่ยขอ ก็แน่ล่ะ ผมหลั่งน้ำสร้างอาณาเขตไว้แล้วนี่!
จากวันนั้นผมก็แอบลักกินขโมยกินลูกชาวบ้านมาตลอดโดยที่น้องก็โอนอ่อนผ่อนตามทุกครั้ง และผมก็ยิ่งกว่าถูกรางวัล เพราะนอกจากเมียผมจะเด็ก จะน่ารักและเซ็กซี่ เบบี๋ยังมีพรสวรรค์ในเรื่องเซ็กส์เอามากๆ น้องทำผมคลั่งทุกครั้งที่ขึ้นเตียง แม้หลายครั้งจะไม่ใช่เตียงแต่ผมก็ยังคลั่งได้เสมอ
แม้เบบี๋จะเป็นของผมทั้งตัว ทั้งใจ แต่คนอื่นก็ไม่ได้รับรู้ในสิ่งนั้น และมันทำให้ผมไม่พอใจเอามากๆ ที่ไม่สามารถตามหึงหวงน้องได้อย่างที่ต้องการ เพราะน้องเป็นผู้เยาว์ แน่ล่ะ ทุกวันนี้ผมก็ไอเป็นเสียง คุกๆๆๆ อยู่ทุกวัน การที่น้องเป็นผู้ชายก็ว่ายากแล้ว แต่น้องยังเป็นผู้ชายที่ยังเป็นผู้เยาว์อีก นั่นแหละปัญหาของผม
เคยได้ยินว่าผู้หญิงเมื่อผ่านค่ำคืนแรกแล้วจะเปล่งปลั่งขึ้น ผมเพิ่งจะรู้ว่ากับผู้ชายก็ใช้ได้ เพราะไม่ว่าจะมองยังไงน้องก็สุดแสนจะน่ารัก มีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งไปทั้งตัว จะไปชมใครได้นอกจากผม ที่ให้น้องได้รับโปรตีนดีๆอย่างสม่ำเสมอ
ผมตัดสินใจประกาศก้องต่อหน้าคนทั้งบ้านในเวลาผ่อนคลายหลังอาหารค่ำในคืนวันนึ่งหลังจากคบเบบี๋มาได้เกือบครึ่งปี
“
ผมมีเมียแล้วครับ”
พ่อตาค้าง แม่อ้าปากเหวอกว้าง ไอ้หน่อยนี่พ่นน้ำกระเจี๊ยบออกทางจมูกเลย ส่วนยัยน้อยน้องสาวคนเล็ก เพียงแค่ปรายตาหันมามองผมแล้วก็กลับไปอ่านหนังสือรวมเรื่องฆาตกรต่อเนื่องของมันต่อ
“เบบี๋เพื่อนหน่อยไงครับ ที่แม่กับพ่อบอกว่าน่ารักน่าเอ็นดู”
...ผมก็เลยชวนน้องดูเอ็นซะเลยตอนนี้พ่ออ้าปากพะงาบๆเหมือนปลาอมอากาศ แม่ผมนี่ตาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าแล้ว ส่วนหน่อยกำลังมองพ่อกับแม่หน้าตาเลิ่กลั่ก คงไม่คิดว่าผมจะกล้าพูด
“ผมรักน้องตั้งแต่เห็นครั้งแรกแล้วครับ” ผมชี้แจงต่อ “หลังจากที่ผมปล้ำน้องมาเป็นเมีย ก็ได้เสียกันมาเรื่อยเลยครับ”
ไอ้หน่อยพ่นน้ำอีกรอบแต่คราวนี้เพราะมันขำ ส่วนแม่กับพ่อผมน่ะเหรอ...
“คุณพระช่วย!!”
“Oh my GOD!!”ถือว่าเป็นการรวมตัวกันทางศาสนาเลยทีเดียว ก่อนที่แม่ผมจะเป็นลมล้มตึงไป ทำเอาคนทั้งบ้านวิ่งวุ่นหายาลมยาดมกันให้ควั่ก แต่สุดท้ายผมก็ผ่านด่านครอบครัวตัวเองมาได้โดยการขอร้องเสียงอ่อนน่าสงสาร
“ถ้าพ่อกับแม่ไม่ยอมไปขอเบบี๋ให้ผม ผมจะไปมอบตัวกับตำรวจว่าทำอนาจารและกักขังหน่วงเหนี่ยวเด็กอายุต่ำกว่า18ปี ผมคงติดคุกไม่กี่ปีหรอกครับพ่อกับแม่อย่ากังวลเลย” ด้วยความรักที่มีต่อผม พ่อกับแม่ถึงได้เตรียมพร้อมไปสู่ขอเบบี๋ที่บ้าน น้องดูจะเขินอายตลอดเวลาตลอดการสารภาพผิดของผมต่อหน้าป๊ากับแม่ของเบบี๋ แม่มีสีหน้าตกใจอย่างมากแต่ก็ยังรับฟังด้วยทีท่าเยือกเย็น ผิดกับป๊า...
“เก๋าเจ้ง!!!”เต็มๆครับ ทางบ้านผมไม่มีใครแปลออกสักคนได้แต่ส่งสายตาตกใจไปกับน้ำเสียง แต่คุณแม่กับเบบี๋งี้ตาโตออกปากปรามป๊ากันใหญ่ เดาเลยครับว่าคงเป็นคำด่าร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วหลังจากนั้นครับภาษาจีนนี่พ่นมากลางวงแบบยาวเหยียด ไม่รู้เรื่องเลยครับ ประมาณว่าถึงพ่อตาด่าผมว่าไอ้เหี้ยผมก็คงยิ้มรับเพราะไม่รู้เรื่อง แต่แม่ผมก็ไม่ยอมแพ้ครับส่งเสียงสปีคอิตาเลียโน่เข้าแข็งขัน เอาให้งงกันไปทั้งวง คนนึงจีน คนนึงอิตาลี คนไทยเลยได้แต่เงียบกริบ
“อั๊วไม่ยอม!!”
“ต้องยอมสิคะ”แล้วก็จบลงที่ภาษาไทย ป๊ากับแม่ผมส่งสายตาปะทะกันอย่างดุเดือด แล้วจู่ๆเมียผมก็ตกเป็นเป้าหมาย
“อาโซ้ยตี๋ ลื้อเป็นผู้ชายนะ จะไปเป็นเมียคนอื่นได้ยังไง”
“หนูเบบี๋จ๊ะ เรื่องเพศมันไม่สำคัญแล้วจ้ะในยุคสมัยนี้ รักกันชอบกันก็อยู่ด้วยกันไปเลย”
“เอ๊ะ ลื้อนี่มันยังไงกัน มาสอนลูกอั๊วอย่างนี้”
“ตอนนี้เบบี๋ก็เหมือนลูกสะใภ้บ้านดิฉันแล้วนี่คะ”
ระหว่างที่คนแรงทั้งคู่จัดการพ่นสองภาษาใส่กันอีกหนึ่งยก ผมจึงอาศัยจังหวะนี้กุมมือเบบี๋ที่นั่งข้างๆเอาไว้ น้องช้อนสายตาขึ้นมองผม ริมฝีปากบิดเม้มคล้ายไม่มั่นใจ
“พี่นิดเอาจริงเหรอ... รักบี๋แน่ๆใช่มั้ย?”
“ทั้งตัวทั้งใจพี่เป็นของบี๋คนเดียวครับ”
“ห้ามทิ้งบี๋นะ บี๋รักพี่จริงๆนะโว้ย”
“งั้นก็เป็นเมียพี่นะครับ”
“อ้าว? ไม่ใช่ว่าเป็นไปแล้วเหรอ”
ค่อกแค่กๆๆๆเสียงไอแบบเสแสร้งดังขึ้นมาจากพ่อของผม สงครามน้ำลายเงียบกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ รู้เพียงว่าตอนนี้สายตาผู้ใหญ่ทั้งหมดหันมาจ้องผมกับน้องเป็นจุดเดียว
“ตกลงว่ายังไงเบบี๋” แม่ของเบบี๋ถามขึ้น ป๊านี่ตั้งถ้าจะแหววแต่ก็โดนสายตาพิฆาตใส่ทำให้สงบเสงี่ยมขึ้น “พี่เขาพาพ่อแม่มาขอเราแล้ว เราจะยอมรับมั้ย”
“.................” เบบี๋เงียบไป มองหน้าผมเลยไปจนถึงป๊าที่กำลังยกยิ้มคล้ายว่ากำลังเป็นต่อ แต่... “รับสิครับ พี่เขาได้บี๋จนพรุนไปหมดแล้วนะ”
เมียผมชนะเลิศไปเลยส่วนป๊าก็ตาเหลือกลมใส่กันไป เป็นอันว่าผมได้แต่งเมียเป็นฝั่งเป็นฝา แม่เบบี๋ก็ปฏิเสธสินสอดจากผม แต่ผมก็ยินดีที่จะให้เป็นการขอขมาซึ่งตัวเลขนั้นผมก็บอกเบบี๋ไปชนิดที่ว่าต่ำกว่าความเป็นจริงหลายเท่า กลัวน้องไม่สบายใจ ป๊านี่จดลงสมุดบัญชียิกๆแบบไม่มีตกหล่นแถมมีการบอกอีกว่าพร้อมคืนให้ผมทุกเมื่อ
ผมพาเบบี๋ไปกราบคุณย่า กะว่าได้ไฟท์กันแน่ แต่ท่านก็ยอมรับได้ง่ายๆแถมออกจากเอ็นดูเบบี๋เสียด้วย และอะไรๆก็ดูจะง่ายดายไปเสียหมด เมื่อป๊าเป็นคนออกปากเองว่าจะให้เบบี๋ย้ายมาอยู่กับผมที่คอนโดฯ ผมนี่ดีใจจนเนื้อเต้นที่จะได้รักเบบี๋ให้สมใจอยาก แต่คุณแม่ก็กระซิบผมมาว่า คุณป๊าแกอยากจะให้อยู่ด้วยกันมากๆ จะได้ทะเลาะกันเยาะๆ ยิ่งอยู่กันไป นิสัยแย่ๆก็จะโผล่ขึ้นมา... ทั้งหมดทั้งมวลคือต้องการให้ผมกับบี๋เลิกกันว่างั้น...
แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็หลายปีดีดัก
ผมกับเบบี๋ก็ยังรักกันหวานแหวว เป็นเหตุให้คุณป๊ากับผมเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด
ตั้งแต่แวบแรกที่ผมเห็นน้องผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองก้าวพลาดตกลงไปในท่อระบายน้ำที่ทางการมาเปิดทิ้งไว้ คนเป็นร้อยเป็นพันมองเห็นและเดินหลบ แต่ผมกลับตกร่วงลงไปคนเดียว ในโลกนี้จะมีคนแบบผมสักกี่คนกันนะ
การมาอยู่ด้วยกันก็ต้องอาศัยการปรับตัวอย่างมาก แต่ผมกับบี๋ก็มักจะบอกกันและกันว่าอันไหนชอบ อันไหนรับไม่ได้ ต่อให้รักกันมากแค่ไหนแต่ถ้าไม่ปรับตัวเข้าหากันมันก็ไปไม่รอด ผมเคยถามตัวเองเหมือนกัน ว่าจะรักเบบี๋ไปอีกนานแค่ไหน แต่จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังตอบคำถามนั้นไม่ได้เลย แค่นึกถึงวันที่ไม่มีน้องอยู่ข้างๆ ตัวผมจะเป็นยังไงก็ยังไม่รู้
คุณเคยเห็นหลุมรักกันไหม?
ผมกำลังอยู่ในหลุมนั้นครับ และรู้สึกเหมือนว่าหลุมนั้นจะลึกขึ้นทุกที
ถ้ามีใครเดินผ่านไปผ่านมาเห็นผม แล้วเกิดใจดีหย่อนเชือกลงมาช่วย
เก็บไปเถอะครับ... ผมขออยู่ในหลุมที่ชื่อว่าเบบี๋นี้ไปจนตายปล.ไอ้หน่อยจะชอบว่าเมียผมแรด อยากจะตบหัวมันซะทุกครั้งที่ได้ยิน ผมเสี้ยม เอ้ย ผมดูแลของผมมาอย่างนี้ แรดที่ไหนกันน่ารักออกจะตาย เนอะ...
รักคนอ่าน
รักคนเม้น
Untill we meet agaiN