บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)
รู้กันทั้งบ้าน เอาให้รู้กันทั้งเมืองเลยมั้ย แล้วนั่นอะไร ทำไมถึงมีปาร์ตี้บาร์บีคิว นี่ทาคุยะมันคึกอีกแล้วใช่มั้ย!!
“มาแล้ว คู่ข้าวใหม่ปลามัน”พี่อายากะพูด ก่อนจะดึงพลุกระดาษ ทั้งบอดี้การ์ดและคนรับใช้ต่างเฮกันลั่น ทาคุยะยิ้มและโอบเอวผมอย่างรู้งาน ผมเองก็งงๆ แต่ก็พยักหน้ารับคำอวยพร
ดูยังไงก็เหมือนงานแต่งงาน แต่ผมกับเขาแค่เป็นแฟนกัน แถมแต่งงานกันก็ไม่ได้ ทำไมต้องฉลองกันขนาดนี้ด้วย
“ทำไมพี่ทำกับผมแบบนี้ล่ะ”ผมถามพี่อายากะ เมื่อทาคุยะโดนบอดี้การ์ดทั้งหลายจับไปมอมเหล้าแสดงความยินดี
“แหม พี่ก็แค่อยากให้ทุกคนได้คลายเครียดกันบ้าง มีงานรื่นเริงบ้างอะไรบ้าง ทีนี่เครียดมานานแล้วนะ”พี่อายากะพูดยิ้มๆ แต่ดวงตาหมองลงเมื่อรู้ว่าเราทั้งสองคนคือต้นเหตุแห่งความวุ่นวานทั้งปวง
“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่เขินอ่ะพี่”ผมอายม้วน 555+ ตอนแรกผมนึกว่าเราจะต้องแอบคบกันสะอีก คิดว่าทุกคนจะมองว่ามันวิปริต แต่เมื่อเห็นทุกคนรับได้ ผมก็สบายใจ
“ดีๆ พี่บอกแล้ว ว่าเราน่ะ น่ารัก เราน่ะไม่มีทางมีภรรยาได้หรอก ไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้หรอกนะที่มีสามีสวยกว่า ฮ่าๆๆๆ”พี่อายากะหัวเราะอย่างขบขัน ผมเองก็ยิ้มๆ วันนี้อารมณ์ดี
ผมหันไปมองทาคุยะ เห็นเขากำลังลำบาก เพราะพวกบอดี้การ์ดจะมอมเหล้าเขาลูกเดียว ส่วนพวกคนรับใช้ผู้หญิงก็นั่งดื่มน้ำอัดลมหรือผลไม้ น้อยคนจะดื่มเหล้า หลายคนก็นั่งปิ้งบาร์บีคิว พี่สาวผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมเองก็ไม่รู้จะไปสถิตตรงไหนก็เลยไปหาพี่อายากะ ไปปิ้งด้วยดีกว่า จะได้หาอะไรทานรองท้องด้วย
“อาว ทำไมไม่อยู่กับทาคุยะล่ะ ยูกิจัง”พี่อายากะทัก เมื่อผมหยิบบาร์บีคิวหมูมาปิ้ง
“นั่นนะสิค่ะ คุณชายเธอเหงาแย่”คนรับใช้หญิงคนหนึ่งพูดกับผมยิ้มๆ
“ไม่เหงาหรอกครับ คึกครื้นขนาดนั้น”ผมเพยิดไปทางวงเหล้า เธอเห็นดังนั้นเลยหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะช่วยพี่อายากะปิ้งของต่อ
“สบายใจขึ้นมั้ย ยูกิจัง”พี่อายากะถามผม
“ครับ รู้สึกหายใจได้โล่งขึ้น”
“พี่ก็เหมือนกัน พี่เห็นทุกคนอารักขาเราอย่างเคร่งเครียด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ศึกของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่เคยบ่นเลย พี่ล่ะนับถือในน้ำใจของพวกเขาจริงๆ”พี่ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คนที่ได้ยินก็ยิ้มแก้มปริอย่างดีใจที่เราไม่ถือตัวและมองเห็นสิ่งที่พวกเขาทำ ผมหันไปมองรอบๆ ก้มหัวขอบคุณทุกคนเท่าที่ผมจะทำได้ ก่อนจะหันมาปิ้งย่างต่อ
“ผมเองก็ต้องขอบคุณครับ เพราะผมแท้ๆ ถ้าไม่มีผม พี่ไทจิก็คงได้ครองแก๊ง”บางทีผมก็คิดว่า ผมไม่ควรเกิดมาเลยจริงๆ
“อย่าคิดแบบนั้น มันไม่ใช่ความผิดของยูกิเลย น้องและพี่ไทจิต่างเดินไปในเส้นทางแห่งชะตากรรม ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น พี่ไทจิเลือกอำนาจเอง”พี่อายากะพูดเสียงเศร้า ผมโอบไหล่เธอเบาๆ อย่างให้กำลังใจ แล้วพลิกหมูที่กำลังไหม้ ทาเนยแล้วก็ราดซอสพริก โปรยพริกไทยหน่อยๆ
จ๊อก จ๊อก
เสียงท้องผมร้องดังขึ้นมา ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นพอได้ยินก็หัวเราะลั่นเลย ผมก้มหน้างุดด้วยความอาย พี่อายากะและแม่บ้านอีกคนก็ช่วยกันเอาบาร์บีคิวใส่จานแล้วยื่นให้ผมยิ้มๆ ผมเลยต้องไปนั่งทานบาร์บีคิวรองท้องก่อน
ทาคุยะหันมาเห็นผมนั่ง ก็ผละจากวงเหล้ามานั่นข้างผม โห กลิ่นเหล้าหึ่งเลย ขนาดไม่ได้ไปนานนะเนี่ย
“กินด้วย”
“หยิบได้เลย”
“ไม่เอาอ่ะ ป้อนหน่อย”ทาคุยะยื่นหน้ามา ผมขี้เกียจเถียงด้วยเลยป้อนบาร์บีคิวไปไม้นึง เท่านั้นแหละ...
ฮิ้วววววววววววววววววววววววว
หอนกันทันทีเลยนะ ทาคุยะหัวเราะชอบใจ ผมเลยจับยัดเข้าไปอีกไม้นึงด้วยความหมั่นไส้
“โอ๊ย เจ็บนะ ยูกิ”
“สมน้ำหน้า”
“ยูกิจังใจร้าย”ทาคุยะจับปากเบาๆ สงสัยจะเจ็บจริงแฮะ ผมเลยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ปากเป็นรอยแดงหน่อยๆ ผมเลยลูบๆ ให้พอหายเจ็บ ทาคุยะก็ยิ้มหน้าระรื่นเชียว แต่ผมไม่กล้าทำให้เขาเจ็บแล้วอ่ะ
“ไม่ได้เป็นไรมากสักหน่อย ใจเสาะจริง”
“ใจเสาะที่ไหนเล่า เขาเรียกว่าอ้อนเหอะ”
ผมขี้เกียจพูดแล้ว เถียงไปก็ไม่ชนะหรอก
เรานั่งกินกันไปสักพัก ผมก็เริ่มรู้สึกง่วง เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ ผมนึกว่ายังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่พอมองนาฬิกาอีกทีนี่ก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว ทาคุยะเห็นผมเริ่มง่วงๆ เลยขอตัว แต่อนุญาตให้ทุกคนสนุกกันต่อได้
“คืนนี้ นอนห้องผมสิ”ทาคุยะ ยั้งมือผมที่กำลังจะเปิดประตูเข้าห้องพี่อายากะ
“อาว ทำไมอ่ะ”
“ก็คุณเป็นแฟนผมอ่ะ จะนอนห้องผู้หญิงได้ไง”
“นั่นพี่สาวผมนะ”
“เหมือนกันนั่นแหละ ไม่เอานะ ผมหึง”ทาคุยะทำแก้มป่อง ผมยอมแพ้ก็ได้ น่ารักดี ///><///
“โอเคๆ งั้นผมเข้าไปเอาชุดนอนก่อน”
“คร๊าบบบบ จะรอที่ห้องนะที่รัก”แล้วเขาก็วิ่งหายไปเลย ถ้าอยู่ละก็ไม่วายโดนตีนผมแน่
ผมเข้าไปเก็บเสื้อผ้าในห้องพี่อายากะ แต่พอเข้าไปก็เห็นกระเป๋าใบหนึ่งวางอยู่บนเตียง พอเปิดดู ก็เห็นข้าวของของผมอยู่ในนั้นหมดแล้ว เฮ้อ พี่อายากะคงรู้ว่าผมจะไม่ได้กลับมานอนที่นี่แล้วแน่เลย เพราะเขาคงไม่ปล่อยมาแน่ ผมขนกระเป๋าเข้าไปในห้องทาคุยะ เห็นเขานอนรออยู่บนเตียง
“ทำไมยังไม่อาบน้ำล่ะ”
“รออาบพร้อมยูกิจังน่ะ”
“ทะลึ่ง ใครจะอาบพร้อมนายกัน”ผมรีบหยิบผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟันและชุดนอนด้วยความเร็วแสง เขาเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งลงจากเตียงมาหาผมอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ทันหรอก ผมเข้าห้องน้ำและล็อคประตูเรียบร้อยแล้ว ข้างนอกนั่นผมได้ยินเสียงดัง ปัง!! ฮ่าๆๆๆ ทาคุยะชนประตูอ่ะ
“ยูกิจางงงงงง ผมเจ็บน้า เปิดประตูสิ ให้ผมอาบด้วยนะ นะ”ทาคุยะทำเสียงอ้อน ผมขำเบาๆในห้องน้ำ
“เรื่องอะไรล่ะ อาบหลังผมแล้วกันนะที่รัก”
ผมอาบน้ำใช้เวลาไม่นานมากนัก ออกมาเห็นทาคุยะนั่งหน้าบูดเป็นตูดลิง ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะไปเอาผ้าเช็ดตัวมายื่นให้เขาแล้วไล่เขาไปอาบน้ำ
ผมขึ้นไปนอนบนเตียง นึกถึงวันเก่าๆ ที่ผมกับเขาเจอกันครั้งแรก ตอนนั้นเขาคุกคามผม หยาบคายอย่างที่สุด ดูแล้วเหมือนตัวร้ายมากกว่าจะเป็นพระเอกเสียอีก ผมรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเขาอย่างจัง เจอกันครั้งที่สอง ชีวิตของผมแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่เขากลับเห็นมันเป็นเรื่องสนุก แต่พอครั้งที่สาม เหตุการณ์บนเรือทำให้ผมแทบสิ้นสติ แต่แล้วเขาก็โผล่มา เมื่อมานึกๆ ดูแล้ว แม้เขาจะไม่เหมือนคนดีเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่ผมมีปัญหา เขาก็จะเป็นคนที่มาช่วยผมเป็นคนแรกเสมอ เขาไม่เคยทิ้งผม ผมไม่รู้ว่าเขาเห็นผมเป็นแค่หมากในเกม หรือเรื่องสนุกๆ ที่เขากำลังดูอยู่หรือเปล่า แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกดีและสุขใจมากที่ได้อยู่กับเขา หากสวรรค์มีจริง ผมขออยู่อย่างมีความสุขแบบนี้.....ตลอดไป
“คิดอะไรอยู่”เสียงของทาคุยะกระซิบที่หูผม
ผมใจลอยคิดเรื่อยเปื่อย จนไม่รู้สึกตัวว่าเขาอาบน้ำเสร็จแล้วล้มตัวนอนข้างผม
“เปล่า แค่ใจลอยไปเรื่อย”
“คิดถึงผมละสิ”
“หลงตัวเอง”
“ไม่จริงแล้วหน้าแดงทำไม”
“ห๊ะ”ผมรีบจับแก้มตัวเอง ผมหน้าแดงเหรอ ทาคุยะหัวเราะ ก่อนจะขโมยหอมแก้มผม
“ยูกิ”ทาคุยะเรียกผม ตอนนี้ผมใจสั่นยังไงไม่รู้
“หืม”
“รักผมบ้างมั้ย”
“อืม”บ้า ถามอะไรอย่างนั้นเล่า
“อืมอะไรเล่า บอกผมหน่อยสิ ผมอุตส่าต์บอกคุณแล้วนะ”
“ผมรักคุณ พอใจรึยัง”เขินอ่ะ
“ผมก็รักคุณ”
เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม ผมรู้ว่าสักวันวันนี้จะต้องมาถึง แต่ผมเขินมากนี่นา จูบของทาคุยะอ่อนโยนเหมือนเดิม แต่คราวนี้มีความเร่าร้อนเพิ่มเข้ามา เขาพลิกตัวขึ้นมาคร่อมผมไว้ ผมรู้สึกกลัวหน่อยๆ เพราะไม่เคย และเคยเกือบจะโดนข่มขืนมาแล้ว แต่ผมไม่อยากให้คืนแรกของเราจบแบบนั้น ไม่อยากคิดเรื่องของผู้ชายคนอื่นบนเตียงของเขา ผมข่มความกลัว จูบตอบเขา สัมผัสของเขาอ่อนโยนไม่จาบจ้วง แต่ไม่อาจทำให้ผมหายสะดุ้งได้ ทุกครั้งที่เขาสัมผัส ผมมักจะถอยหนีด้วยความตกใจ แต่ผมจะพยายาม นี่คือทาคุยะ คนที่ผมรัก.....และผมยินดีมอบกายให้เขา
ตัวผมสั่นน้อยๆ เมื่อเขาถอดเสื้อผ้าของผมและของเขาออก ตัวเราเปลือยเปล่าทั้งคู่ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความจริงใจ รวมถึงอารมณ์ดิบของผู้ชายที่เริ่มก่อตัว
“อะ อืม”ผมหลุดเสียงคราวผะแผ่ว เมื่อเขาครอบครองหน้าอกผมด้วยริมฝีปากบาง พลัน ภาพบนเรือฉายชัดในห้วงคำนึง จนผมเผลอสะดุ้งกัดปากตัวเอง ผมรีบยั้งปากตัวเองที่กำลังจะพูดปฏิเสธ ผมไม่อาจหักหาญน้ำใจเขา ทาคุยะมองหน้าผมด้วยแววตาเป็นห่วง
เขาลุกขึ้นจากตัวผมก่อนจะหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวผม แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ
“คุณจะไปไหน”ผมยื้อเขาไว้ ถามด้วยความตกใจเมื่อเขาหยุดบทรักอย่างกะทันหัน
“ผมจะไม่บังคับคุณ”เขาตอบ แต่ไม่ยอมสบตาผม
“รังเกียจผม ฮึก เหรอครับ”ผมเริ่มใจเสีย เขารู้ว่าไทจิทำอะไรกับผมบ้าง แม้จะไม่ได้สอดใส่ แต่ร่างกายของผม ไทจิก็ได้เห็นและได้สัมผัสมาหมดแล้ว ผมเริ่มสะอื้น ขอร้อง ได้โปรดอย่าผลักใสไล่ส่งผม....
ทาคุยะรีบหันกลับมากอดผม ผมสะอื้นเงียบๆ เขาดูตกใจเมื่อเห็นผมร้องไห้
“ผมไม่เคยรังเกียจคุณ ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องรู้สึกแบบนั้น ยูกิอย่างร้องไห้เลยนะ”เขาเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างอ่อนโยน ผมรู้สึกอุ่นวาบเข้ามาในหัวใจ
“แล้วทำไมไม่ทำล่ะ”ผมเงยหน้ามองเขาทั้งน้ำตา เขาดูอึ้งไปพักใหญ่
“ผมนึกว่าคุณไม่อยากมีเซ็กส์กับผม ผมจะไม่บังคับคุณ ผมเห็นคุณสะดุ้งและตกใจกลัวทุกครั้งที่ผมสัมผัส ผมต่างหากที่นึกว่าคุณรังเกียจผม”เขาตอบกลับมา ผมทุบหน้าอกเข้าด้วยความหมั่นไส้
“ตาบ้า คุณจำไม่ได้หรือไง ว่าผมต้องประสบพบเจอสถานการณ์แบบไหนมา ผมไม่ได้รังเกียจคุณ ผมรักคุณ ยินดีมอบกายให้คุณ ฮึก ผมพยายามแล้ว แต่ผม ฮึก นึกถึง...วะ วันนั้น ผม...”ผมพูดทั้งน้ำตา ทาคุยะดึงผมเข้าไปกอด แล้วประกบจูบโดยไม่รอให้ผมได้พูดจบ จูบย้ำรางกับจะให้ผมแน่ใจว่านี่คือทาคุยะ ไม่ใช่ไทจิ จูบซ้ำที่ริมฝีปาก จูบซับรอยน้ำตาที่รินไหล น้ำตาที่เขาไม่อยากเห็น น้ำตาที่เขาสาบานว่าจากนี้เป็นต้นไป เขาจะไม่มีวันได้เห็นมันอีก
เขาดันผมลงนอน และตัวเขาก็ขึ้นคร่อมผมอีกครั้ง คราวนี้ผมรู้ว่าเขาจะไม่หยุด และผมก็ไม่ต้องการให้หยุดด้วย เขาละจากริมฝีปากผม มือของเขาไล้หน้าผมอย่างอ่อนโยน จัดผมของผมให้ทัดหูอย่างเอาใจใส่ แววตาสุดซึ้งที่ส่องความหมายว่ารักยิ่ง มองจ้องมายังนัยน์ตาผม
“ไม่ต้องนึกถึงคนอื่น ตอนนี้เบื้องหน้าคุณก็คือผม ทาคุยะคนรักของคุณ ผมรักคุณด้วยใจจริง ไม่มีวันทอดทิ้ง ไม่เคยรังเกียจคุณ ไม่ว่าคุณจะโดนมันย่ำยีมาหรือไม่ก็ตาม สำหรับผม คุณขาวสะอาดและบริสุทธิ์เสมอ สิ่งที่สำคัญมีเพียงแค่คุณรักผม และผมรักคุณ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”
“แต่ผมมีลูกให้คุณไม่ได้ ผมไม่มีหน้าอกใหญ่ๆ แบบที่คุณชอบ ผมไม่สามารถเป็นภรรยาออกงานสังคมของคุณ ไม่สามารถเป็นหน้าเป็นตาให้คุณ ไม่สามรถเป็นประโยชน์ต่อคุณ คุณจะไม่สามารถมีชีวิตแบบปกติได้เลย”
“ช่างปะไร ผมไม่เห็นว่าตรงนั้นจะสำคัญ ในเมื่อชีวิตผม ผมเจอคนที่ผมรักมากที่สุดแล้ว งานสังคมเป็นเพียงงานหน้ากาก ผมไม่เอามาใส่ใจ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ผมเป็นเกย์ก็ไม่ได้ทำให้บริษัทเจ๊งหรอกนะ แล้วรู้มั้ย คุณพูดผิดอยู่สองอย่างนะ หนึ่งคือ คุณมีประโยชน์ต่อผมอย่างมาก เพราะมีคุณ ผมถึงได้รับรู้ถึงความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะมีคุณ ผมถึงรู้สึกว่าโลกนี้น่าอยู่ขึ้น คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของผม และ...ผมชอบหน้าอกแบนๆ ของคุณมากกว่า”
ทาคุยะก้มลงชิมหน้าอกผม ตอนนี้ผมจะนึกถึงแค่เขา ทาคุยะเท่านั้น ผมรู้สึกได้ถึงนิ้วของเขาที่เบิกช่องทางด้านหลัง มันรู้สึกเจ็บมากเลยแม้จะแค่นิ้วเดียว ผมนิ่วหน้า เขาเลยจูบเพื่อคลายเจ็บให้ผม และช่วยกระตุ้นด้านหน้าเพื่อให้ผมสุขสันต์พอที่จะคลายเจ็บ สองนิ้ว สามนิ้ว เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเปิดช่องทางให้พร้อมรับสิ่งที่ใหญ่กว่านั้น
“พอเถอะ เข้ามาเถอะ”ผมขอร้องเขาเมื่อผมเริ่มจะไม่ไหว
เขายันตัวขึ้น แล้วเริ่มสอดใส่
“อึก”ผมกลั้นเสียง เมื่อสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วสอดแทรกเข้ามา เขาทำอย่างช้าๆ และอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ผมก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี เขาเล้าโลมและปรนเปรอผมที่ส่วนหน้ามากขึ้นเพื่อบรรดาอาการเจ็บ เมื่อผมเริ่มจะผ่อนคลาย เขาก็แทรกเข้ามาทีละน้อยจนมิดลำ
“อา”ผมครางออกมา สุขสมและเติมเต็ม เขาขยับเข้าออกช้าๆ ผมได้ยินเสียงครางต่ำๆของเขา นั่นทำให้ผมเสียวซ่านมากกว่าเดิมหลายเท่า
“อะ อืม”
“อา”
เสียงของเราสองคนที่สอดประสานกันทำให้ผมรู้สึกอาย แต่ก็อิ่มเอมใจ ผมผวากอดเขาเมื่อใกล้จะถึงจุดสุดยอด เขากระแทกหนักขึ้น แรงขึ้น และเร็วขึ้น เขาเองก็คงใกล้แล้วเหมือนกัน ไม่นานนัก ผมก็รู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆ ที่ฉีดวาบเข้ามาในช่องท้อง ผมกับเขาเสร็จพร้อมกันพอดี เขาล้มตัวลงนอนข้างผม กอดผมไว้ในอ้อมแขน ผมซุกตัวในอ้อมอกเขา เขาจูบหน้าผากผมเบาๆ ก่อนจะกอดผมแน่นขึ้น ทั้งๆที่เขายังอยู่ในตัวผม
“เสร็จแล้วก็เอาออกไปสิ”ผมพูดอย่างอายๆ
“รอบเดียวจะไปพออะไร”
“ไม่เอาแล้ว ผมเหนื่อยแล้วนะ อะ....”
เขาไม่ฟังเสียงค้านของผม พลิกตัวผมให้นอนคว่ำทั้งๆที่ยังสอดใส่อยู่ ผมตกใจคว้าหมอนไว้ เขายกสะโพกผมให้ลอยขึ้นก่อนจะขยับอีกครั้ง
เสียงครางของผมและเขาดังสอดประสานกันไปอีกนานจนรุ่งสางถึงได้สงบลง ผมหลับไปด้วยความอ่อนเพลียในอ้อมอกเขา เสียงนกร้องยามเช้าแว่วเข้ามา.... เราสองคนนอนกอดกันอยู่บนเตียง แสงแดดอุบอุ่นส่องเข้าถึงมาก้นบึ้งในหัวใจ เขาบอกว่าผมทำให้เขาได้รับรู้ถึงความสุขที่สุดของชีวิต ผมเองก็อยากจะบอกว่า เขาก็ทำให้ผมรับรู้ถึงความสุขที่สุดเหมือนกัน ผมรักคุณทาคุยะ รักที่สุด....โทระซึกิ ทาคุยะ ดวงใจผม
----------------------------------------------------------------------------------
ชีวิตนี้ไม่เคยแต่งฉาก NC มาก่อน ถ้าไมาถึงอารมณ์ หรือไม่ชอบยังไงก็ขอโทษด้วยนะค่ะ
ปล. ตอนแรกที่กะว่าจะให้ไทจิมา แต่ตอนนี้เขาหวานอ่ะ ไม่อยากเอาไทจิมาให้เป็นมารอารมณ์ จึงขอยกไว้ตอนหน้าแทน
ดีใจที่ยังมีคนติดตาม ขอบคุณมากนะค่ะ
จะรีบปั่นตอนต่ไปให้นะค่ะ