MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57  (อ่าน 74730 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
อุ้ยยย ชอบอ่าา เรื่องแนวมาเฟีย แถมยังเป็นญี่ปุ่นที่รัก  :mew3:
3ตอนมานี้เพิ่งจะเริ่มเรื่องสินะ จะเกิดไรขึ้นกับคิมป่าวเนี่ย
ไทจิจะเป็นพระเอกหรือป่าวน้า? อายากะดีกับคิมหน่อยนะจ๊ะ ขอให้เป็นเช่นนั้น

จะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
บทที่ 4  พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ
   
   หลังจากผ่านขบวนต้อนรับอันน่าตกใจ  ผมก็ได้พบกับพี่ชายและพี่สาวที่ห้องรับแขก บางทีผมอาจจะทำตัวถูกที่ถูกทางกว่านี้ ถ้าทั้งสองคนนั้นไม่.......

   “หวา ผิวขาวจังเลย เนียนกว่าฉันอีกเนอะ พี่ไทจิ”อายากะ พี่สาวผมพูดพร้อมกับดึงแก้มผมสองข้างจนผมปวดแก้มไปหมด

   “ใช่ ขาวน่ากิน เอ้ย! ขาวเกินไปแล้ว ไม่เคยออกแดดเลยรึไงวะเนี่ย” ไทจิ พี่ชายผมก็เอาแต่ลูบแขนผมพร้อมทำหน้าตาน่ากลัวนั่น เรื่องแบบนี้มันดำเนินมามากกว่ายี่สิบนาทีแล้วที่ทั้งสองคนเอาแต่วิจารณ์รูปร่างหน้าตาผม  ตาสวยคมบ้างล่ะ ริมฝีปากน่าจุ๊บบ้างล่ะ แก้มนิ้มนิ่มบ้างละ เอวบางร่างน้อย น่ากอดบ้างล่ะ แถมไม่พูดเปล่า จับทุกอย่างที่พูดเลยด้วย  ถ้าจะบอกว่าตอนนี้ผมถูกพี่ชายและพี่สาวกำลังลวนลามอยู่ละก็ ถูกต้องเลยล่ะ

   “ผะ...ผมเจ็บแก้มครับ อย่าดึงครับ ...อะ...อย่าลูบครับ ไม่ได้ครับ”

   พอผมห้ามตรงนี้ ก็ไปตรงนั้น สองคนนี้มืออย่างกะปลาหมึก โว้ย เมื่อไหร่พ่อจะมาสักทีวะ ทำไมทิ้งผมให้อยู่กับคนประหลาดแบบนี้เนี่ย

   “เรียกพี่สาวสิจ๊ะ พี่อายากะ แล้วจะปล่อย”เธอพูดยิ้มๆ แล้วดึงแก้มผมเล่นต่อไป

   “ใช่ๆ เรียกพี่ชายด้วย พี่ไทจิไง”แล้วจะมาลูบขาผมทำไมวะ ขนลุกโว้ยยยยยย

   “ครับๆ พี่อายากะ พี่ไทจิ ปล่อยผมก่อนเถอะครับ”ถ้าไม่ปล่อยคราวนี้ผมจะโกรธจริงๆด้วยนะ

   “แหมน่ารัก”แล้วพี่สาวคนสวยก็หอมแก้มผมไปฟอดนึง

   “น่ากิน เอ้ย! น่ารัก”แล้วพี่ไทจิก็ตามมาอีกฟอด

   ผมนั่งเช็ดแก้มอย่างมึนๆ เมื่อทั้งสองกลับไปนั่งอย่างเป็นปกติอีกครั้ง

   “ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกนะเนี่ย เนอะ พี่ไทจิ”

   “ใช่ พี่ร่ำๆ จะบินไปหาตั้งหลายรอบ ถ้าไม่ติดว่าคุณแม่ไม่ยอมอะนะ”

   ผมมองพี่ชายและพี่สาวสุดสยองของผมสองคน

   พี่ไทจิ เป็นคนที่สูงมาก ราว 185 เซนติเมตร จมูกโด่งอย่างกับสันเขื่อน ดาวตานิดุกว่าผมอีก คิ้วเข้มเฉียงขึ้นอย่างคนที่อารมณ์เสียตลอดเวลา ผมสีน้ำตาลเข้มหวีไปด้านหลังเพื่อเก็บผมให้เรียบร้อย แต่ก็มีปล่อยๆ ลงมาข้างหน้าบ้าง เขาถือว่าหล่อมากคนนึง ถ้าไม่ติดไอนิสัยมือปลาหมึกนั่นน่ะนะ

   ส่วนพี่อายากะ จะเป็นผู้หญิงที่สวยเข้ม คนบ้านนี้หน้าดุกันทั้งบ้าน แม้ว่าเธอจะมีดวงตากลมโตสีดำดูน่ารัก แต่คิ้วกับตาค่อนข้างใกล้กันเลยทำให้ตาดูคมสวยไปเลย ริมฝีปากหนาหน่อยๆ พอเซ็กซี่ ผมสีดำหยิกเป็นลอนสลวย  ทรวดทรงองค์เอวก็ถือว่าสะบึ้ม สวยอย่างหาที่จับได้ยากเลยทีเดียว

   ส่วนผมก็หน้าคล้ายแม่มาด้วยเลยติดหวาน ยกเว้นตาดุๆ สีดำที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนัก ผมสีดำตรงยาวระต้นคอ บางส่วนก็ปรกลงมาปิดตาผม ทำให้ผมดูมืดมนเข้าไปอีก ผมตัวเล็กเพราะไม่เล่นกีฬา แล้วผมก็สูงแค่ 170 เซนติเมตรเอง ผมว่ามันก็ไม่น้อยนะ แต่พอยืนเทียบกับพี่ไทจิแล้ว ผมเตี้ยไปเลย

   “ได้ข่าวว่าพึ่งจบปริญญาตรีมาหมาดๆ จบอะไรล่ะเรา” พี่ไทจิถาม แต่ยื่นหน้ามาใกล้ไปมั้ย

   “อักษรศาสตร์เอกญี่ปุ่นครับ”

   “อืม ก็ดี แล้วนอกจากญี่ปุ่นพูดอะไรได้อีกบ้าง”

   “จีนแมนดาริน อังกฤษ ฝรั่งเศส แล้วก็ไทยครับ”

   “อืม ใช้ได้ พูดได้หลายภาษาเลยทีเดียว ไว้ไปช่วยงานพี่ที่บริษัทดีมั้ย ยังไงสักวันมันก็ต้องเป็นของเราอยู่แล้ว”

   “ไม่ดีกว่าครับ ผมแค่อยากกลับบ้าน ไม่ได้จะมาแย่งอะไรใคร”ผมรีบปฏิเสธ กลัวพี่เขาโกรธ

   “แย่งเยิ่งอะไรกัน แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวเมื่อถึงเวลาพ่อก็คงคุยกับเราเอง”

   พี่ไทจิขยี้หัวผมอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป ส่วนอีกคนที่เงียบมาตลอดการสนทนาก็ยังคงใช้ตาดุๆ นั่นมองผมตาไม่กระพริบ

   “มะ...มีอะไรครับ” ขนลุกเลยแฮะ

   “หน้าหวานจังน้า แต่หน้าเหมือนแม่เล็กมาก ก็แม่เล็กเขาสวยขนาดนั้น ยกเว้นทรงผมน่ะ ผมปรกปิดหน้าปิดตาไปหมดแล้วรู้มั้ย แล้วพี่ก็รื้อกระเป๋าเสื้อผ้าเราแล้ว รสนิยมห่วยมากเลย เอางี้ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป เดี๋ยวพี่พาไปซื้อชุดใหม่แล้วก็ของใช้ส่วนตัว พาไปตัดผมด้วยเลยดีกว่า”เธอพูด แล้วดันตัวผมขึ้น พาขึ้นไปชั้นบน บังคับให้ผมอาบน้ำแล้วเธอก็เลือกๆ เสื้อผ้าที่เธอคิดว่าดูดีออกมา ผมก็รับมาแล้วเอาไปใส่อย่างงงๆ ก่อนจะโดนเธอลากตัวออกไปห้าง

   เธอพาผมไปร้านตัดผมเป็นอย่างแรก พอเราเข้ามา คนที่นั่งทาเล็บอยู่บนโซฟาก็ลุกขึ้นมาหาพวกเราพอดี ดูจากแหวนเพชรและการแต่งการแล้ว เขาน่าจะเป็นเจ้าของร้าน

   “สวัสดีค๊า คุณหนูซากุรากะ ว๊ายพาใครมาคะเนี่ย ไหนขอเจ๊ดูหน่อยสิค่ะ”อืม ผมว่าเขาไม่ใช่ชายแท้แล้วละนะ ผมจับหน้าผมเงย หันซ้ายหันขวาจนพอใจ ก่อนจะกรี๊ดว๊ายออกมา

   “ตายแล้ว ลูกเต้าเหล่าใครค่ะเนี่ย ผิวเนียนสุดๆ เป็นคุณหนูที่สวยมากเลยนะค่ะ แต่ มอมแมมไปหน่อย”เธอก้มลงวิจารณ์การแต่งกายของผมด้วยสายตา เสื้อยืดกางเกงยืนมันผิดตรงไหนครับ=_=

   “น้องของฉันเองค่ะ เจ๊ช่วยตัดผมให้เขาหน่อยได้มั้ยค่ะ เอาแบบที่เหมาะกับหน้าหวานๆของเขานะค่ะ”

   “หา”ผมร้องเสียงหลง ตัดผมงั้นเหรอ

   “โอเคเลยค่า แต่ตัดสั้นระวังจะเหมือนทอมบอกนะค่ะ เจ๊เตือนไว้ก่อน”ปากพูดไป มือก็เซ็ตๆ ผมลวกๆ หาทรงที่เหมาะๆ

   “เด็กคนนี้เป็นผู้ชายต่างหากล่ะค่ะ”

   “หา! เป็นผู้ชายที่หน้าหวานมากเลยนะค่ะ แหม ถึงเจ๊จะรับแต่ถ้าหนูยอมล่ะก็ เจ๊รุกให้ก็ไดนะจ๊ะ”

   “มะ...ไม่ดีกว่าครับ” เหวอ น่ากลัวชะมัด

   “ฮ่าๆๆๆ เจ๊ค่ะ นี่น่ะน้องชายคนสุดท้องของฉันนะคะ ลูกรักสุดหวงของพ่อเขา ถ้าเผลอทำอะไรลงไปละก็ เชือดค่ะ”พี่อายากะพูดขำๆ แต่เจ๊นี่หงอยไปเลย ....ขอบคุณนะพี่

   “แหม เจ๊แค่ล้อเล่นค่ะ”

   แล้วเจ๊แกก็พาผมไปนั่งบนเก้าอี้แล้วเริ่มตัดผมให้ผม ส่วนพี่อายากะก็นั่งอ่านนิตยสารรอ 

   พอตัดเสร็จ ทั้งเจ๊ ทั้งพี่อายากะ ทั้งผมเองต่างอึ้งไปเลย ผมซอยสั้นระต้นคอ หน้าม้าตัดสไลด์สั้นเหนือคิ้ว แต่แสกไปทางด้านข้างเพื่อไม่ให้บดบังใบหน้า ทำให้หน้าผมตอนนี้หวานขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยทีเดียว

"วาว!!!"

   “สวยขึ้น หวานขึ้น ว๊ายยย น้องของพี่”แล้วผมก็โดนพี่อายากะกอดหมับซะเต็มรักเลย

   “สวยจนเจ๊อายละนะค่ะเนี่ย”เจ๊จะอายทำไมละครับ=_=

   “ไป พี่พาเราไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้ดีกว่า เปลี่ยนชุดสักหน่อยรับรอง เริด!!!”พี่แกยืนเงินไปให้เจแกปึกนึง ผมว่ามันเยอะกว่าค่าตัดผมจริงๆ อีกนะ โหย น่าเสียดาย

   พี่อายากะพาผมมาหยุดที่ร้านขายเสื้อผ้าบุรุษ ดูจากการตกแต่งร้านแล้วผมว่า ราคาเสื้อผ้านี่ แพงหูฉี่แน่ ผมยื้อแขนพี่เขาไว้นิดนึง ผมไม่อยากได้ของแพงขนาดนี้หรอกนะ

   “พี่ครับ ไปร้านอื่นเถอะครับ”

   “ไม่เป็นไรหรอก พ่อจ่าย ไม่ต้องห่วง”แล้วพี่แกก็ชูสองนิ้วให้ผม ผมก็เหนื่อยจะค้าน ยังไงพี่อายากะก็ไม่ยอมอยู่ดี   “เอาเสื้อผ้าโทนขาว น้ำเงิน ฟ้า ดำ เทา มาหน่อย เอาเป็นเสื้อแขนยาวมีกระดุมก่อนแล้วกัน”พี่สั่งพนักงานเหมือนมาบ่อย แล้วผมก็คิดว่าเธอคงมาบ่อยจริงๆ เพราะพนักงานที่เห็นเธอก็รีบมาตอนรับ ผู้จัดการร้านเองยังมา พนักงานคนหนึ่งเอาน้ำกับเค้กส้มมาเสิร์ฟ อีกหลายคนที่เหลือก็คอยหยิบของตามที่พี่แกสั่ง

   “ไม่เอาตัวนี้ ใช่ๆ สีฟ้าอ่อนตัวนั้นแหละ”

   “ไซส์นี้ใหญ่ไป เล็กกว่านี้อีกไซส์นึง”   

   “กางเกงสีน้ำตาลอ่อนตัวนี้เอา”

   “เอาสีดำไปเก็บแล้วเปลี่ยนเป็นสีขาวมา”

   ผมวุ่นกับการลองเสื้อผ้า แล้วชุดก็ไม่ใช่น้อยๆ พี่แกเลือกมาไว้ตอนนี้เกือบยี่สิบชุดแล้ว แต่นับว่ารสนิยมของพี่ดีสุดๆ ไปเลย เพราะผมใส่แล้วดูดีเลยทีเดียว แถมสีไม่ฉูดฉาด ให้ความรู้สึกสบายตา กว่าจะเสร็จ เราใช้เวลาอยู่ที่ร้านนี้ไปเกือบสามชั่วโมง และชุดก็มากกว่าสี่สิบชุด ผมไม่รู้ว่าเธอเสียเงินไปเท่าไหร่ แต่ที่รู้ก็คือ ฟุ่มเฟือยมากกกกก

   ผมคิดยังไงก็คิดไม่ตกว่าเราจะถือของทั้งหมดนี่ออกไปหมดได้ยังไง แต่เธอกลับหันไปนอกร้านกวักมือเรียกเบาๆ บอดี้การ์ดสูทดำห้าคนก็เดินเข้ามาในร้าน

   “ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”ผมอ้าปากค้าง

   “ตลอดแหละจ๊ะ”เธอหันมายิ้มนางฟ้าให้ผม

   “เราจะกลับกันแล้วใช่มั้ยครับ”

   “เรายังได้เส้อผ้าไม่ครบเลย ไหนจะรองเท้าอีก อ้อจริงสิ เธอเอาชุดนี้ไปเปลี่ยนเถอะไป”เธอยื่นเสื้อเชิตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสีน้ำตาลอ่อนให้ผม ผมเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยใจจำยอม  ผมเหนื่อยจะตายชัก....

   แต่เธอกลับบอกว่ายังซื้อเสื้อผ้าไม่ครบ พ่อ !!! กลับบ้านไป ผมจะโกรธพ่อ คอยดู

   “โอเค เรียบร้อยใช่มั้ย ไปกันเถอะ เราต้องตัดสูทไว้ไปงานสังคมด้วยนะ” แล้วเธอก็ดึงแขนผมไปร้านตัดสูท
   คนในร้านก็วัดนู่นนี่นั่นไปเรื่อย ผมก็ยืนไปหุ่นให้พี่จัดการตามใจชอบ หลังจากที่เธอสั่งตามใจชอบแล้ว เธอก็พาผมไปร้านขายรองเท้า แล้วก็ร้านขายกระเป๋า และด้วยผมที่เธอเป็นคนที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เธอพาผมไปร้านของชุดชั้นในบุรุษด้วย คราวนี้ผมรีบบอกเธอว่าผมจะขอเลือกเอง เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็คอยดูผมเลือกอยู่ห่างๆ ถ้าอันไหนผมเลือกไม่ถูกใจเธอก็จะเดินมาบอกผมแล้วก็ช่วยเลือกอยู่ดี ผมอยากบอกว่าตอนนี้ผมอายมาก พนักงานในร้านพากันมองผมแล้วอมยิ้ม ผมรีบๆ ซื้อแล้วเดินออกมา ส่วนพวกบอดี้การ์ดที่ตอนนี้โดนลดความสำคัญไปเป็นคนถือของก็น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อย กลับบ้านไปคงเคล็ดขัดยอกน่าดู   

   กว่าจะได้กลับบ้าน ผมเกือบเป็นลมด้วยความหิว ในห้องอาหารพี่ไทจิกับพ่อก็นั่งรออยู่แล้ว ผมก็ไปนั่งที่ว่างข้างพี่ไทจิ ส่วนพี่อายากะนั่งข้างพ่ออีกฟาก คนรับใช้จึงค่อยๆ ยกอาหารเข้ามาเสิร์ฟ

   “ได้ของมาครบรึเปล่าเรา”พี่ไทจิหันมาถามก่อนจะจิ้มเนื้อของกุ้งมังกรเข้าปาก

   “ครบครับ ขอบคุณนะครับ”ประโยคแรกผมตอบที่ไทจิ ส่วนประโยคหลังผมหันไปขอบคุณพ่อกับพี่อายากะ

   “จ้า แต่พี่ยังไม่ได้พาเราไปสปาเลย ไหนจะยังเรื่องพวกของจุกจิกเช่นผ้าเช็ดหน้า นาฬิกา แหวน บลาๆๆๆ”

   พี่อายากะเองก็ร่ายรายการใส่ผมซะยืดยาว ถึงแม้จะทำตัวไม่ค่อยถูก เพราะไม่ได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์แบบนี้มา แต่ผมก็รู้สึกดีมากๆ เลย แม้จะไม่ได้เหมือนภาพที่ผมเคยวาดไว้ แต่กลับเติมเต็มความรู้สึกในใจอย่างน่าประหลาด ความอบอุ่นของครอบครัว การพูดคุยเรื่องวันที่ผ่านมาบนโต๊ะอาหารตอนเย็น  อยู่กันพร้อมหน้า.... ตอนนี้ผมได้แต่ภาวนา อย่าได้มีสิ่งใดมากพรากเอาความสุขของผมไปอีกเลย

   “พรุ่งนี้พี่จะพาเราเข้าบริษัทนะ พี่จะให้เราไปดูๆ งานจากเลขาพี่ เพราะเขาได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นหัวหน้าฝ่ายขาย ตำแหน่งนั้นเลยว่างพอดี ช่วงนี้เราเรียนรู้งานเป็นเลขาพี่ไปก่อนแล้วกัน”

   “ครับ”

   “เอานี่ กินเข้าไปเยอะๆนะ”พี่ไทจิคีบเอาเนื้อปลาหิมะย่างซีอิ๊วใส่จานผม ผมก็นั่งทานเงียบๆ ฟังพี่อายากะกับพี่ไทจิพูดคุยกัน ส่วนพ่อก็นั่งพยักหน้าเป็นผู้ฟังเหมือนผม

   พอทานเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอน พ่อแวะมาหาผมถามไถ่สารทุกข์สุขดิบก่อนจะออกไปตอนสี่ทุ่ม ผมเองก็เหนื่อยมาทั้งวันเลยนอนสลบทันทีที่หัวถึงหมอน

   ตื่นเช้ามา ผมก็รีบแต่งตัวในชุดที่เรียบร้อยลงไปรอพี่ไทจิข้างล่าง พอพี่ไทจิลงมาเราก็ทานอาหารเช้าด้วยกัน ก่อนที่ผมจะไปที่บริษัทกับพี่ไทจิ

   บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างและการขนส่งทางทะเล ซึ่งทำเม็ดเงินมหาศาลพอที่จะให้พี่อายากะถลุงเล่นๆ แบบเมื่อวานได้วันละหลายๆ หน  และมีหลายสาขากระจายตามจังหวัดต่างๆ รวมถึงต่างประเทศ ตอนนี้พี่ไทจิทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราวเพราะพ่อหนีงานไปง้อผม พี่ไทจิเองก็ดีกับผม ไม่เคยคิดน้อยใจหรือเคียดแค้นผมเลย ซึ่งทำให้ผมสบายใจมาก

   “ตื่นเต้นรึเปล่าเรา”   

   “ครับ”

   “จำไว้อย่างนึงว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ก็ต้องให้บอดี้การ์ดตามไปด้วยเสมอ เราต้องระวังทุกย่างก้าว บอดี้การ์ดไม่ได้มีไว้ทำเท่ห์ แต่มีเพื่อไว้ เพื่อให้รอดชีวิต คิมต้องนึกถึงความจริงข้อนี้ให้ดี บางคนอาจเรียกพ่อว่ามาเฟีย แต่นั่นมันอดีตไปแล้ว ตอนนี้เราทำธุรกิจอย่างขาวสะอาด แต่อำนาจก็ต้องกุมไว้ไม่ให้สั่นคลอน เพราะฉะนั้นอาจมีศตรูเหม็นขี้หน้าบ้าง หรือไปเหยียบเท้าใครเข้า จำไว้ว่าตั้งแต่เราเหยียบเท้ามาญี่ปุ่นในฐานะคุณหนูของบ้านซากุรากะ เราก็ถูกหมายหัวเรียบร้อยแล้ว”พี่ไทจิพูดเครียดๆ ผมเองก็ได้แต่พยักหน้ารับ

   สักพักรถก็มาถึงบริษัท พอผมลงจากเบาะหลังพร้อมพี่ไทจิ ทุกคนก็หันมามองผมด้วยความสงสัยว่าผมเป็นใคร พี่ไทจิเองก็ไม่ได้พุดอะไร เดินดุ่มๆ เข้าลิฟต์ ผมเองก็รีบเดินตามเข้าไปติดๆ

   ทุกอย่างดูราบรื่น เลขาของพี่ไทจิก็สอนงานผมและผมเองก็คอยดูเวลาเขาทำงาน เรียนรู้เงียบๆ ไปควบคู่กัน พี่ไทจิทำงานหนักมาก เขาแทบไม่ได้พักเลยเมื่ออยู่ในเวลางาน  แต่พี่ก็มันจะหันมายิ้มน้อยๆ เป็นกำลังใจให้ผมทุกครั้งที่เราเผลอสบตากัน  ผมก็ยิ้มตอบ พักเที่ยงเราก็ลงไปกินข้าวกัน พอบ่ายพี่เขามีประชุม พี่ให้ผมตามไปประชุมด้วยและแนะนำผมกลางที่ประชุมว่าผมเป็นใคร ทุกคนโค้งคำนับผมอย่างเข้าใจดีว่าในอนาคตผมอาจจะมาบริหารแทนพี่ ทุกคนเลยดูนอบน้อมเป็นพิเศษ แต่กับเรื่องนี้ ผมต้องคุยกับพ่อแล้วว่าผมอยากให้ทุกอย่างเป็นของพี่ไทจิตามเดิม ผมไม่อาจทำร้ายจิตใจคนที่แสนดีกับผมได้หรอก

   “พี่ไทจิ ผมจะไม่ขอรับช่วงต่อจากธุรกิจใดๆ ของพ่อทั้งนั้น มันจะเป็นของพี่ พี่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้”ผมบอกกับพี่ตอนที่เราอยู่ในห้องทำงานหลังประชุมเสร็จ

   “มันเป็นของคิมนะ มันไม่ใช่ของพี่มาตั้งแต่แรก”

   “พี่เป็นพี่ของผม ยังไงมันก็เป็นของพี่” 

   “เอาไว้ถึงเวลานั้น เราค่อยมาคุยกันแล้วกัน พี่ขี้เกียจเถียงเราแล้ว”

   “ผมก็ขี้เกียจเถียงเหมือนกัน”

   “วะ! ไอหนูนี่นิ ฮ่าๆๆๆ”

   เย็นวันนั้นเป็นวันแรกที่ผมยิ้มได้อย่างปรอดโปร่งในช่วงเวลา 13 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผมขาดผมได้รับกลับมาแล้ว

   นับวันพี่ทั้งสองคนก็ได้เติมเต็มความรู้สึกให้ผมจนตอนนี้ผมไม่รู้สึกว่ามันขาดแล้ว ส่วนพ่อ ผมเองก็ไม่ค่อยได้คุยกับเขานัก เพราะเขายังต้องเคลียร์งานที่ทิ้งไปนานสองเดือน  แต่ผมก็ไม่เหงาหรอกนะ จะเพราะอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะบอดี้การ์ดผมคอยตามติดเป็นเงาตามตัวผมขนาดนี้

   “นี่คือ คุณโทชิโร่ จะมาเป็นบอดี้การ์ดของลูกนะ”พ่อแนะนำผู้ชายตัวใหญ่ยักษ์ สวมสูทดำ หน้าตาค่อนข้างดีให้ผม เดี๋ยวนี้มาเฟียเขาคัดหน้าตาด้วยรึเปล่านะ ลูกน้องพ่อหน้าตาดีทุกคนเลย เค้าโค้งคำนับผมหนึ่งครั้ง

   “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับคุณหนู”

   “เช่นกันครับ”ผมก็โค้งคำนับเขาไปครั้งนึงตามมารยาท

   ตอนนี้คนที่ผมพอจะคุยด้วยตอนที่พี่โทจิกับยุ่งกับงานและพี่อายากะออกไปข้างนอกก็คือโทชิโร่นั่นเอง 

   “โทชิโร่ซัง วันนี้วันอาทิตย์”

   “ครับ คุณหนูจะไปไหนรึเปล่าครับ”

   “ผมอยากไปซื้อหนังสือกับพวกเครื่องเขียนหน่อยนะครับ”

   “งั้นผมจะพาไปครับ”

   วันนี้พี่ไทจิกับพ่อต้องไปดูงานที่ท่าเรือแถวๆชินากาว่า ผมอยู่บ้านก็เบื่อๆ อยากไปหาหนังสืออ่านด้วย เลยรบกวนให้โทชิโร่พาไป ผมไปตอนบ่ายๆ ซื้อหนังสือเสร็จก็ประมาณสี่โมงเย็น ผมกับโทชิโร่ก็เดินเลนแถวๆ นั้นสักพัก ห้าโมงค่อยกลับไปทานข้าวเย็นที่บ้าน
   
   
   “คุณหนูทราบหรือเปล่าครับ ว่าอาทิตย์หน้าจะเป็นงานวันเกิดของคุณไทจิ”

   “เฮ้ย ผมไม่รู้เรื่องเลย”

   “จะไปหาของขวัญให้คุณไทจิมั้ยครับ คุณหนูอยากซื้ออะไรให้คุณไทจิ ก็ตามสบายเลยครับ นายท่านให้เงินมากับมาผมไว้แล้ว คุณหนูต้องการอะไรก็แค่บอกผมครับ”

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ”

   “คุณหนูอย่าห้ามเลยครับ นี่เป็นเงินของคุณหนูเอง นายท่านใส่เงินไว้ให้ทุกเดือนตั้งแต่คุณหนูจากไปเมื่อ 13 ปีก่อน ตอนนี้มันก็เหมือนเงินเก็บของคุณหนูครับ”

   “งั้น ก็ได้ครับ”

   เราเดินกันไปเรื่อยๆ ผมเองก็ไม่รู้จะซื้ออะไรให้พี่ไทจิดี และก็ไม่มีอะไรถูกใจเป็นพิเศษ

   “ผมไม่รู้จะซื้ออะไรดีครับ คุณโทชิโร่พอจะรู้ของพี่ไทจิอยากได้บ้างมั้ย”

   “ผมเองก็ไม่ได้สนิทกับคุณไทจิ ต้องขออภัยด้วยครับ”

    “ไม่เป็นไรครับ ...งั้น ผมซื้อนาฬิกาให้ดีกว่า”

   เราสองคนเดินกันไปร้านขายนาฬิกาที่โทชิโร่แนะนำ ผมเลือกนาฬิกาเรือนเหล็กสีดำ หน้าปัดเป็นกลไกสีทองงดงามดูล้ำค่า เหมาะกับตำแหน่งของพี่ไทจิ ผมเอาให้คุณโทชิโร่ดู เขาก็พนักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย ผมจึงเอานาฬิกาให้พนักงานแล้ววานเขาให้เขาห่อของขวัญให้ด้วย เมื่อจ่ายเงินเสร็จ ผมกำลังจะเดินออกจากร้าน แต่ทว่า

   ฟุบ!!!

   โทชิโร่รีบเข้ามาบังร่างผมให้ถอยห่างจากผู้มาเยือน  ชายร่างสูงในชุดสูทราคาแพงที่เทาควันบุหรี่พร้อมผู้ติดตามในสูทดำของบอดี้การ์ดห้าหกคน  ข้างนอกร้าน คนของพ่อที่ผมคุ้นหน้า สามคนกำลังคุมเชิงอยู่ คิดยังไงคนฝ่ายเราก็น้อยกว่า ผมอยากจะคิดในแง่ดีว่าบางทีเขาอาจจะมาซื้อนาฬิกา แต่ดูจากสีหน้าของโทชิโร่ซังแล้ว สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดเลยทีเดียว

   “สวัสดีครับ คุณโทระซึกิ ทาคุยะ”โทชิโร่เอ่ยทักคนที่ดูแล้วน่าจะเป็นหัวหน้า ถ้าผมจำไม่ผิด โทระซึกิเป็นชื่อของแก๊งมาเฟียที่เป็นคู่แข่งของพ่อนี่นา

   “คุณหนูซากุรากะ ยูกิสินะ”ยูกิเป็นชื่อของผมในภาษาญี่ปุ่น

   “ทักทายกันแบบนี้ คุณหนูของผมก็ตกใจแย่สิครับ ผมว่า ไว้พบกันอย่างเป็นทางการในงานวันเกิดของคุณไทจิเถอะครับ”โทชิโร่กันผมให้อยู่หลังเขา ก่อนจะเอ่ยเจรจากับทาคุยะอย่างใจเย็น 

   “ไม่ใช่เรื่องของแก ถอยไป”เขาเอ่ยไล่โทชิโร่เสียงแข็ง ก่อนจะผลักโทชิโร่ให้พ้นทาง ผมผงะถอยหลังด้วยความตกใจ เขาเลยจับแขนผมไว้ไม่ให้หนีได้ ท่าทีเขาคุกคามอย่างเห็นได้ชัด

   “ไง คุณหนูยูกิ ไม่ทักทายกันหน่อยเหรอครับ”แสยะยิ้มได้น่ารังเกียจจริงๆ

   “โปรดมีมารยาทด้วยครับ”โทชิโร่รีบดึงผมออกมา ก่อนจะดันผมไปไว้หลังเขาเหมือนเดิม คนที่อยู่ขางนอกก็พยายามจะเข้ามาหาผมให้ได้ แต่ก็โดนลูกน้องของทาคุยะกันไว้ พนักงานในร้านเองก็รีบออกไปทางหลังร้าน ส่วนผู้จัดการก็ยืนสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ ไม่กล้าเข้ามายุ่ง

   “อะไรกัน แค่เข้ามาทักทายแค่นี้ ทำเป็นหวงไปได้”เขายืนพิงตู้โชว์นาฬิกาอย่างเซ็งๆ

   “กรุณาถอยไปด้วยครับ”โทชิโร่พยายามพูดอย่างใจเย็นทั้งที่ร้อนใจใจจะขาด

   “หึๆ แล้วพบกันใหม่นะ ยูกิจัง”เขายื่นหน้ามาหาผม โทชิโร่รีบกันไว้ จากนั้นพวกลูกน้องเขาก็เปิดทาง โทชิโร่รีบพาผมเดินออกไปจากร้าน  แต่ก่อนที่ขาผมจะก้าวออกจากร้าน เสียงพูดไม่น่าฟังที่ออกมาจากปากของหัวหน้ากลุ่มโทระซึกิที่ลอยมาเข้าหูผมกับโทชิโร่เข้า ก็ทำให้เราทั้งสองคนรีบเร่งฝีเท้า เดินไปสมทบกับพวกที่รออยู่ข้างนอกแล้วกลับบ้านให้เร็วที่สุด  โทชิโร่เองก็ถึงกับเคร่งเครียดจนถึงขีดสุด ส่วนผมเองก็รู้สึกไม่สบายใจถึงเรื่องวุ่นๆ ต่อจากนี้ขึ้นมาทันที

   “หวงมากนักนะ หึ แต่ก็ทำให้อยากได้เข้าไปใหญ่เลย”

------------------------------------------------------------------------------------
ตัวละครยังออกมาไม่ครบ อย่าพึ่งทายพระเอกเลยค่ะ โฮะๆๆๆๆ :laugh:

ขอโทษที่หายไปนะ ไม่ค่อยได้เข้ามาตอบ ช่วงนี้เผอิญยุ่งเรื่องที่บ้านนิดหน่อย 555+

แล้วขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  อ่านแสดงความคิดเห็นแล้วกระปรี้ประเปร่าขึ้นมาทันทีเลย ฮึตสู้เลยค่ะ   :katai4:  สปอยไว้ก่อนว่าตอนหน้า รักใครชอบใครก็เชียร์คนนั้นนะค่ะ ส่วนสาวกคุณพ่อ ขอบอกเลยว่างานนี้ไม่มีพ่อ-ลูกแน่นอน 555+ คุณพ่อของเราเป็นชายแท้ค่ะ

นายเอกของเราชื่อไทยจะชื่อ คิม  ส่วนถ้าอยู่ญี่ปุ่น ทุกคนจะรู้จักในชื่อ ซากุรากะ ยูกิค่ะ

ยังไงก็ ขอฝากยูกิของเราด้วยนะค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2014 14:07:32 โดย Death Y »

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ตัวละครยังไม่ครบ พระเอกยังไม่ออกรึป่าวหว่า?
ยังไม่เห็นความเป็นไปได้เลย
พี่ไทจิไม่น่าใช่ ดูจากคาแรกเตอร์ ฮ่าาาาาาาาา
คุณบอดีการ์ดน่าสนใจอยู่
รอลุ้นตอนหน้าล่ะกันเผื่อมีใครมาเพิ่ม อิอิ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
พี่ๆหลงกันน่าดู อิอิ  :z1: :haun4:

zalapao14

  • บุคคลทั่วไป
น้องคิมคงน่ารักมาก ดูท่าทางจะถูกใจพี่สาวกะพี่ชายมากเลย

พระเอกรีบๆเผยตัวนะ อยากรู้

 :pig4:

ออฟไลน์ pamnana

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
คิมคงเงิบน่าดู เหมือนพี่ๆจะเฝ้าดูน้องคิมมานานพอตัวเลยนะเนี่ย  :hao3:

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
ทาคุยะนี่พระเอกป่าว? หรือตัวโกง 5555 :hao6:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
โชคดีที่เข้ากับครอบครัวทางนี้ได้ มีตัวละครใหม่โผล่มาอีกแล้วเดาพระเอกไม่ถูก

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
พระเอกยังไม่มาแน่ๆ ยังไม่เชียร์ใครเลย   :o11:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Cockroach

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตัวละครยังไม่ครบสินะ งั้นยังไม่ลุ้นดีกว่าว่าใครพระเอก กรั๊กๆ ถ้าคนที่เชียร์ไม่เข้าวินผมจะงอนจริงๆนะ555

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
พระเอกยังไม่ออกมาสินะ  :katai3:
นายทาคุยะนี่ตัวโกงแหง่มๆ จากรูปการณ์แล้ว

รอติดตามสถานการร์อย่างใกล้ชิด  :katai5:

 :pig4:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ดีจังไม่มีดราม่าในครอบครัวภาคต่อ ให้จบไปกับคนรุ่นก่อนเถอะ
แต่ศัตรูข้างนอกท่าทางจะเยอะจริง

ออฟไลน์ ployyuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
แอบงงกับอายุของคิมนิดหน่อยค่ะ จากญี่ปุ่นตอน 5 ขวบ อยู่ไทยมา 13 ปี = อายุ 18 แต่เรียนจบแล้ว?
ปกติเรียนจบน่าจะประมาณ 22 นะคะ (อย่างเร็วก็ 21)

ส่วนชื่อของคิมหันต์ แปลว่าฤดูร้อน แต่ชื่อญี่ปุ่น คือ ยูกิ แปลว่าหิมะ
ตั้งใจจะตั้งให้ตรงฤดูกาลหรือเปล่าคะ? ถ้าจะให้ตรง หน้าร้อนของญี่ปุ่นคือ นัตสึค่ะ (ถ้าไม่ได้คิดเรื่องฤดูก็ขอโทษด้วยนะคะ พอดีคิดเยอะไปหน่อย ^^;)

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
เป็นพี่ชายกับพี่สาวที่คาดไม่ถึงเลยแฮะ

ดีแล้วล่ะรักกันไว้ๆ

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
พี่ชายพี่สาวน่ารักจัง  :-[

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
คงไม่มีดราม่าในครอบครัวนะ :mew2:

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ployyuki : ขอบคุณที่เตือนมากเลยค่ะ พอดีคนแต่งเบลอไปหน่อย คนแต่งนึกว่าคิมหันต์คือฤดูหนาวอ่ะ หลงหับเหมันต์ แงๆ โทษทีค่า  เรื่องอายุก็เหมือนกัน  เดี๋ยวจะทำการแก้ไขให้เดี๋ยวนี้เลย ค่าาาา  :sad4:

ต้องขออภัยทุกคนที่ทำให้เสียอรรถรส กันนะค่ะ  :o12:

ให้อภัยคนแต่งคนนี้ด้วยเถอะค่ะ :katai2-1:

ออฟไลน์ ployyuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Maiar1996

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากอ่านต่อ มาต่อเร็วนะ  :katai4: :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พระเอกยังไม่ออกแน่เลย
หรือว่าจะเป็นคุณบอดี้การ์ดกันนะ

หวังว่าคงไม่พลิกล็อคให้พี่ไทจิ
มาหักหลังที่หลังน๊าาาาาาาาาา


เค้ารักบุคลิกหนุ่มขี้เล่นแต่เอาจริงกับงานของพี่ไทจิ

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

ออฟไลน์ Blackbone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ สนุกมากๆเลย >o< ชอบคาแร็กเตอร์ของหนูคิมถูกใจมากๆค่ะ จะรอตอนต่อไปนะค้าาา  :mew1:

ออฟไลน์ beamintron

  • บีมๆ BMs / l3eamRessT
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
สรุปบ้านนี้ตระกูลนี้หน้าดุกันทั้งบ้านสินะ  ..หวังว่าพี่ๆนี่จะรักน้องจากใจจริงนะไม่เอาแบบ พ่อคิมนะที่ต้องโกหกทำให้เราเสียใจอะ #ไม่รู้อ่านเข้าใจกันป่าวเค๊าเด็กกลางคืนอะ #ตี4 ตบกะบาลตัวเอง

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.3 - 5/5/57
«ตอบ #84 เมื่อ05-05-2014 18:24:33 »

แหะๆ รู้สึกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีไฟ

แต่ถ้าเสร็จทันวันนี้ จะเอามาลงให้อ่านกันนะค่ะ

 :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2014 19:54:52 โดย Death Y »

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข้าว] P.3 - 5/5/57
«ตอบ #85 เมื่อ05-05-2014 20:05:05 »

สู้ๆ รออ่านอยู่น้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
«ตอบ #86 เมื่อ05-05-2014 20:26:08 »

บทที่ 5 งานวันเกิด

   พี่โทชิโร่รีบขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วท้านรก คนนั่งเบาะข้างคนขับก็วอหารถคันอื่นๆไปด้วย

   “มันขับตามมารึเปล่า”เขาพูดใส่วอ

   (ไม่ครับ)

   “อย่าวางใจ”

   “ครับ”

   ขบวนรถของผมมีแค่ 2 คนเท่านั้น แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมว่าคุณพ่อต้องเพิ่มการ์ดแหงๆ

   รถขับกลับมาถึงบ้านใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที ทั้งที่ปกติเกือบชั่วโมง พอกลับมาถึงผมก็เห็นพ่อกับพี่ไทจิออกมายืนรับพร้อมทั้งบอดี้การ์ดหลายคนที่เดินวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวบ้าน และทางขึ้นเนิน

   พอผมลงจากรถ พ่อก็ดึงตัวผมเข้าไปกอด แม้ผมจะรู้สึกเสียขวัญอยู่บ้างจากการคุกคามของทาคุยะ แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้น ทุกคนทำกับว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ผมก็อดรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยไม่ได้ในอ้อมกอดพ่อ

   “เป็นอะไรมั้ย”

   “ไม่ครับ”

   “มันทำอะไรรึเปล่า”

   “เขาแค่มาทักทาย”

   “ช่วงนี้อย่าออกจากบ้านเลยนะ อยากได้อะไรบอกโทชิโร่”

   “ครับ”

   พ่อดันตัวผมออก พี่ไทจิก็ดึงผมไปกอดแรงๆ ครั้งนึงแล้วปล่อยออก ก่อนที่เราจะแยกย้ายกันเข้าบ้าน ผมเดินเอาของขึ้นไปเก็บบนห้อง ก่อนจะนั่งเล่นคอมอย่างไม่มีอะไรทำ


อีกด้านหนึ่ง ทาเคชิกับไทจิก็เรียกโทชิโร่บอดี้การ์ดของคิมและคนที่ติดตามไปอีก 3 คนไปที่ห้องทำงานของไทจิ

   “พวกแกดูแลลูกฉันประสาอะไร!!!”ทาเคชินั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟา ข้างๆไทจินั่งอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยจนน่ากลัว

   “ขออภัยด้วยครับ”ทั้งสี่คนโค้งคำนับ

   “เรื่องที่ยูกิถูกทำร้ายที่ไทยก็ยังสืบอะไรไม่ได้”ทาเคชิพูดอย่างเครียดๆ เรื่องที่ไทยนั้นจับมือใครดมไม่ได้เลย  คนที่ทำมีความเป็นมืออาชีพมากเลยทีเดียว และเรื่องที่เขาไปหายูกิที่ไทยนั้นเป็นเรื่องที่มีแต่คนในเท่านั้นที่รู้ว่าเขามีลูกนอกสมรส เขาเลยมุ่งเป้าไปที่อาโยชิทาเกะ ที่เคยทรยศแก๊งค์ไปก่อนหน้านั้น

   “เรื่องนี้ผมคงต้องช่วยอีกแรงแล้วล่ะครับ ผมเป็นห่วงน้อง น้องเองก็พึ่งมา ยังไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก ผมกลัวน้องจะไม่ระวังตัวเท่าที่ควร เรื่องงานในบริษัท ผมจะให้หยุดไว้ก่อน”ไทจิพูด

   “อืม ตามนั้น ส่วนพวกแก ทำไมวันนี้ไม่ดูให้ดี ปล่อยให้ไอหนูทาคุยะนั่นเข้าถึงตัวยูกิได้”

   “ขอประทานโทษครับท่าน พวกเรามีน้อยกว่าครึ่งๆ ครับ”

   “ต่อให้เหลือแค่คนเดียว ก็ต้องกันไม่ให้มันแตะยูกิได้แม้แต่ปลายนิ้วก้อย!!! พวกแกทำฉันผิดหวัง โดยเฉพาะแก โทชิโร่ โทระซึกิ ทาคุยะ ไม่ใช่คนที่เราประมาทได้ มันเก่ง พ่อมันถึงได้ยอมลงจากตำแหน่งให้มันปกครองตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ดูเหมือนเลือดร้อน แต่รอบคอบ อย่าดูถูกความสามารถของเจ้านั่นเป็นอันขาด”ทาเคชิปรายสายตาดุสีดำก้นเหวไปที่โทชิโร่

   “ขอโทษครับ”โทชิโร่รีบก้มลงคำนับกับพื้นเพื่อขอโทษอย่างสุดซึ้ง เพราะทาเคชิเองก็โกรธมาก  ส่วนไทจิทำหน้าเครียดอย่างคนกำลังใช้ความคิด 

   “ช่วงนี้เพิ่มเวรยามเป็น 2 เท่า ส่วนแก โทชิโร่ จับตาดูยูกิตลอดเวลาด้วย ยางามิ แกส่งคนไปจับตาดูโยชิทาเกะและแก๊งโทระซึกิไว้ ยูกิเป็นทายาทผู้สืบทอดตระกูลฉัน จะให้มาเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นฉันคง....” ประโยคหลังทาเคชิพูดเสียงเบาเสียจนมีแต่เขาและไทจิที่นั่งอยู่ข้างๆ เท่านั้นที่ได้ยิน
ยูกิเป็นเพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่ สิ่งที่ผิดพลาดก็ได้ทำลงไปแล้วเมื่อ 13 ปีก่อน เขาแสดงความอ่อนแอออกมาให้ลูกและผู้หญิงที่เรารักเห็น เธอโกรธเขาเป็นฟืนเป็นไฟ จนถึงขั้นตัดขาดความช่วยเหลือทุกอย่างของเขา เขาเองก็สืบตามจนรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่เธอก็เมินเฉยราวกับว่าไม่เคยรู้จักคนที่ชื่อ ซากุรากะ ทาเคชิมาก่อน  นั่นเองทำให้เขารู้ว่าสุดที่รักของเขานั้นดื้อและทิฐิเยอะขนาดไหน  และที่ทำให้เขาแปลกใจมากที่สุดก็คือ การที่เธอเปลี่ยนชื่อลูกชายตัวน้อยของเขาจากยูกิมาเป็นคิม เพียงแค่คิม ในภาษาเกาหลีซึ่งแปลว่าทองคำ นอกจากนั้นแล้วเขาก็ไม่รู้อะไร  แต่ยูกิตัวน้อยเกิดในฤดูหนาว เขาจึงตั้งชื่อว่ายูกิ ชื่อเหมือนเด็กผู้หญิงแต่นั่นก็เพราะเจ้าตัวเล็กเกิดมาหน้าหวานมากจนเขาคิดว่าเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆ ถ้าไม่ติดตรงหนอนน้อยที่ได้มาจากเขาอะนะ

   เขาได้แต่บอกกับตัวเอง ว่าความอ่อนแอและความผิดพลาดทั้งหมดในอดีตจะสามารถลบเลือนออกจากความทรงจำของยูกิของเขาได้ในสักวันหนึ่ง แต่ว่าคนที่มันต้องการฆ่ายูกินั้น มันจะต้องได้รับผลกรรมของมันอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะกระหายอยากจะพิสูจน์ความเข้มแข็ง ความแข็งแกร่ง อยากเป็นฮีโร่ในสายตาของลูกชายของเขามากเท่าไหร่ แต่ก็เขาก็ไม่ต้องการจะพิสูจน์ด้วยวิธีนี้  ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ไม่ว่ามันต้องการอะไร เขาจะให้มันลิ้มรสความกลัวและความเจ็บปวด อย่างที่มันต้องการจะให้ยูกิของเขาเจอ  แม้ว่าเขาจะต้องกลายเป็นปีศาจร้ายเขาก็จะทำ เพื่อที่บทบาทในฐานะพ่อของเขาจะไม่ต้องถูกโยนทิ้งไว้ข้างหลัง เหมือนเมื่อ 13 ปีก่อน ที่หัวใจสามดวง ต้องมาแตกสลายพร้อมๆกัน.....


   ผมขึ้นมาบนห้องและนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยๆ สักพัก โทชิโร่ก็ตามขึ้นมา เขาเดินมาพร้อมกับช็อกโกแลตกล่องใหญ่ที่พี่อายากะฝากไว้ก่อนจะออกไปข้างนอก  ช่วงนี้ผมไม่ค่อยเจอพี่อายากะเลย พี่เขาออกจากบ้านบ่อยมาก จะได้เจอกันก็แค่ตอนทานข้าวเย็นเท่านั้น อืม...บางทีผมควรจะถามโทชิโร่ดูอาจจะได้อะไรบ้าง

   “โทชิโร่ซัง เจอพี่อายากะบ้างมั้ยครับ ช่วงนี้”

   “ไม่เลยครับ ผมอยู่กับคุณหนูตลอดเวลานี่ครับ”

   “ผมมาอยู่ได้หลายวันแล้ว แต่กลับไม่ได้รู้เรื่องของทางนี้เลย” ผมทำสีหน้าหนักใจ

   “คุณหนูอยากรู้เรื่องอะไรล่ะครับ ถามผมได้ครับ ถ้าผมสามารถตอบได้ ผมก็จะตอบ” ถ้าสามารถตอบได้ก็จะตอบ หมายความว่ายังไม่พร้อมจะเปิดเผยกับผมทุกเรื่องสินะ

   “พี่อายากะ ออกไปข้างนอกบ่อยมาก” ผมเดินมานั่งที่โซฟา แล้วผายมือให้คุณโทชิโร่นั่งลง

   “คุณอายากะเป็นรองประธานกรรมการ ฝ่ายบริหารของบริษัทครับ ช่วงนี้เองบริษัทมีปัญหานิดหน่อยครับ”

   “รองพี่ไทจิ”

   “ครับ ช่วงนี้คู่ค้าของเราที่เป็นผู้มีอิทธิพลของฮ่องกงดูเหมือนจะเปลี่ยนใจที่จะทำธุรกิจกับเรา ไปทำธุรกิจกับบริษัทในเครือฟูจิมิยะแทน คุณหนูอายากะเลยต้องวิ่งเต้นคอยดึงลูกค้ารายนี้ไว้ ช่วงนี้เธอเลยยุ่งๆ หน่อย”

“ฟูจิมิยะ”แก๊งของภรรยาคุณพ่อ และแก๊งที่คุณอาของคุณพ่อยึดครองอยู่

“ครับ ถือว่าเป็นสารท้ารบเลยก็ได้ เขาจงใจที่จะทำให้เราเสียลูกค้ารายใหญ่ไป คุณฟานหลงเองก็เหมือนมาเฟียฮ่องกง เขามีอิทธิพลและเป็นพันธมิตรต่างแดนของเรา”

“ทำไมถึงต้องทำการค้ากับมาเฟียล่ะครับ อันตรายไม่ใช่เหรอ”

   “คุณหนูอย่าลืมสิครับ ว่าเราเองก็เป็นมาเฟีย”

   “แต่เราทำธุรกิจสุจริตนี่ครับ”

   “คุณหนูต้องพูดว่า เราเปลี่ยนมาทำธุรกิจสุจริตมากกว่า”

   “แล้วเมื่อก่อน ทำอะไรกันครับ”ผมพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเตรียมรับความจริง

   “เมื่อก่อน ในสมัยของคุณปูของคุณหนู คุณพ่อของนายท่านยังมีชีวิตอยู่ เราทำธุรกิจการก่อสร้างและการขนส่งทางทะเลเป็นฉากบังหน้า เบื้องหลังก็มีส่งออกและนำเข้าอาวุธเถื่อน และของเถื่อน แต่ไม่เคยทำเรื่องยาเสพติดหรือค้ามนุษย์นะครับ” เขารีบแก้ข่าวเมื่อเห็นว่าหน้าผมคิดเตลิดไปไหนต่อไหนแล้ว

   “การที่จะทำการค้าแบบนั้น จำเป็นต้องมีเส้นสายจากพวกคนใหญ่คนโต และอิทธิพลจากตระกูลฟูจิมิยะที่เป็นเจ้าแห่งการส่งออกทางทะเลขณะนั้น จากนั้นเมื่อคุณปู่ของคุณหนูตาย นายท่านก็ขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งคนต่อไป ท่านคงเจ็บใจที่ไม่สามารถปกป้องคุณหนูกับคุณหญิงเล็กได้ จึงพยายามปฏิเสธทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับฟูจิมิยะ จึงทำให้ท่านโยชิทาเกะที่เป็นอาของนายท่าน ที่ไม่ลงรอยกันตั้งแต่แรก เกิดความคิดที่จะทำการทรยศและยึดแก๊งซากุรากะไปเป็นของตัวเอง แต่ก็ทำการไม่สำเร็จ จึงต้องออกจากแก๊งไปในที่สุด”

   “แล้วพ่อก็เลิกค้าอาวุธเพื่อที่จะได้ไม่ต้องพึงฟูจิมิยะ และเริ่มทำธุรกิจอย่างเต็มตัวจนแซงหน้าฟูจิมิยะที่กำลังจะล่มสลายแล้วในตอนนี้”

   “ครับ พอผู้นำแก๊งฟูจิมิยะตาย คุณโยชิทาเกะก็ยึดแก๊งนั้นมาเป็นของตนและทำธุรกิจชั่วทุกอย่างที่คุณหนูจินตนาการออก การที่ฟูจิมิยะล่มสลาย ผมว่าก็เป็นเพราะเขาด้วยเหมือนกัน พวกเส้นสายที่ฟูจิมิยะเคยเลี้ยงไว้ต่างก็ไม่มั่นใจในตัวคุณโยชิทาเกะ เลยพากันถอนตัว เขาเลยทำการค้าได้ไม่ราบรื่นเท่าไหร่นัก”   

   “ตอนนี้เขายังไม่ชีวิตอยู่มั้ยครับ”

   “ครับ เป็นคนที่อายุยืนมากเลยทีเดียว”คุณโทชิโร่ยิ้มนิดๆ แต่มันช่างเป็นรอยยิ้มที่เหี้ยมมากเลยทีเดียว

   “ตอนนี้นายท่านที่หันมาทำธุรกิจอย่างเต็มตัว แต่ก็ยังต้องคงอิทธิพลไว้ เพราะศตรูตอนเรายังทำธุรกิจสกปรกนั้นยังมีอยู่เยอะเกินไป และธุรกิจก็ไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่ครับเพราะท่านโยชิทาเกะคอยขัดขวางอยู่”

   “งั้นเรื่องที่ผมโดนสั่งเก็บที่ไทยก็....”

   “เรื่องนั้นทางเรายังสืบไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นของท่านโยชิทาเกะครับ เพราะคนที่รู้ว่านายท่านมีลูกนอกสมรสก็มีแค่คนในเท่านั้น”

   “.........” ลูกนอกสมรส ฟังแล้วผมรู้สึกโกรธๆ ยังไงไม่รู้

   “ช่วงนี้ยังไม่ปลอดภัย คุณหนูอยู่แต่ในบ้านนะครับ ต้องการอะไรก็บอกผมได้”

   “ครับ แต่คุณโทชิโร่ครับ ถ้าการมีตัวตนของผมมีแต่คนในที่รู้ ทำไมโทระซึกิ ทาคุยะถึงรู้ชื่อผมละครับ”

   “นั่นก็เพราะ ตั้งแต่คุณหนูเหยียบลงแผ่นดินญี่ปุ่น ข่าวของคุณหนูก็กระจายออกไปแล้วครับ อันนี้คาดเดาได้ไม่ยากเลยว่าเป็นฝีมือใคร”ยิ้มเหี้ยมๆแบบนั้น นับวันยิ่งมืดมนนะครับ โทชิโร่ซัง


   เดาไม่ยากเลยว่าชีวิตในบ้านต่อจากนี้ของผมจะเป็นยังไง โชคดีทีซื้อของขวัญให้พี่ไทจิแล้ว สูทที่สั่งตัดจะได้อีก 2 วัน ช่วงนี้ผมก็เดินดูรอบๆ บ้านแล้วก็ทำความรู้จักกับพวกแม่บ้านและการ์ดคนอื่นๆแก้เหงา ผมชอบเล่นกับสัตว์นะ คิดว่าถ้ามีหมาน่ะคลายเหงาได้บ้าง คุณโทชิโร่ก็พาผมไปหาหมา แต่ล็อกไวเลอร์สีดำตัวสูงเท่าเอวผม 5 ตัวไม่ใช่อะไรที่จะเอามาคลายเครียดได้เลย

   ผมถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปในบริษัท วันอาทิตย์พี่ไทจิก็จะมาขลุกอยู่กับผมทั้งวัน เรานอนดูหนังกัน ก่อนที่พี่ไทจิจะเผลอหลับไปจริงๆ ผมเองก็ชักง่วงๆแล้วเหมือนกัน กำลังจะเคลิ้มหลับถ้าไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของพี่ไทจิดัง ผมเอื้อมมือไปที่โต๊ะเล็กข้างหน้าเพื่อจะดูว่าใครโทรมา

   (ไค)

   ชื่อไคงั้นเหรอ สั้นจัง ผมกำลังจะกดรับโทรศัพท์ แต่อยู่ๆ พี่ไทจิก็กระชากโทรศัพท์ออกจากมือผมแล้วเดินออกไปข้างนอก พร้อมกับโทรศัพท์เจ้ากรรมที่ยังแผดเสียงจนกว่าจะมีคนรับสาย  วินาทีนั้นผมเหมือนไม่รู้จักพี่ชายคนนี้ เขาดูโกรธมาก แม้ผมจะเห็นแววตาของเขาแค่แปปเดียว แต่นั่นกลับทำผมเสียวสันหลังวาบได้เลย

   ผมนั่งดูหนังต่อเงียบๆ ไม่อยากคิดอะไรมาก สักพักพี่ไทจิก็เดินเข้ามา เขานั่งลงข้างๆ ผมเหมือนเดิม จับมือผมขึ้นมา ก่อนจะลูบรอยแดงที่มือที่เขากระชากโทรศัพท์อย่างแผ่วเบา

   “พี่ขอโทษ”

   “ไม่เป็นไรครับ”

   “โกรธพี่มั้ย”พี่เขาเอาหน้าผากมาแนบหน้าผากผม ก่อนจะหอมแก้มผมเบาๆ

   “มะ ไม่ครับ”ผมรีบเอาหน้าออก ก่อนจะรีบปฏิเสธ ถึงผมจะชายแท้ แต่ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ ผมก็เขวได้เหมือนกันนะ ชักจะเขินๆแล้วสิ นี่เป็นสิ่งปกติของประเทศนี้รึไง

   “งั้นดูหนังกันต่อ”แล้วพี่ไทจิก็นั่งดูหนังอย่างคนปกติเขาได้สักที

   การใช้ชีวิตน่าเบื่อในบ้านดำเนินเรื่อยมาจนถึงงานวันเกิดของพี่ไทจิ วันนี้โทชิโร่บอกผมว่าพ่อจะเปิดตัวผม ผมใส่สูทสีขาวกับเสื้อเชิตสีฟ้าอ่อน พ่อชมใหญ่ บอกว่าผมเหมือนเทวดาตัวน้อยๆไม่มีผิด พีไทจิใส่สูทสีเทากับเชิตสีชมพูที่พี่อายากะให้เป็นของขวัญ ส่วนผมก็ยืนนาฬิกาเรือนเหล็กสีดำหน้าปัดกลไกสีทองให้พี่ พี่เอ่ยขอบคุณก่อนดึงผมเข้าไปกอด เราลงไปที่งานพร้อมกัน

   พี่ขึ้นไปเอ่ยต้อนรับแขกบนเวทีงาน งานนี้จัดที่สวนหน้าบ้านของเรา แขกเหรื่อพากันมานับร้อยคน แต่ละคนแต่งตัวหรูหราเครื่องเพชรแพรวพราวอย่างกับตู้เพชรเคลื่อนที่ แต่คนที่เด่นจริงๆ คงจะเป็นพี่อายากะที่มาในชุดเดรสยาวสีแดงสลวย พี่เฉิดฉายโดยไม่ต้องพึ่งของพวกนั้นเลย

   และที่ทำให้ผมรู้สึกขัดใจมากที่สุดก็คือ เจ้าคนสูทสีเทาบุหรี่เชิตสีแดงเลือดนกนั่น งานเลี้ยงจะจัดโต๊ะอาหารเป็นโต๊ะๆ คล้ายโต๊ะจีน โต๊ะที่ผมนั่งอยู่ก็มีพ่อ ผม พี่อายากะ พี่ไทจิ และก็ชายหนุ่มหน้าตาดีมากคนนึง ที่มาพร้อมกับพี่อายากะ ชุดลายมังกรแบบที่คนจีนชอบใส่ มังกรแดง เสื้อดำ และคนประกบหลัง 2 คนที่ประกบไม่ห่าง ผมมารู้ตอนที่พี่อายากะแนะนำว่าเขาคือฟานหลง ลูกค้าคนสำคัญที่พี่อายากะตามประกบอยู่นั่นเอง

   ส่วนโทระซึกิ ทาคุยะนั่น พอเห็นผมก็เดินดุ่มๆ เข้ามานั่งลงข้างผมที่โต๊ะของพวกผมโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น พ่อจ้องเขาเขม็ง แต่เขาก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ยื่นของขวัญให้พี่ไทจิ พี่เองก็รับมาอย่างเสียไม่ได้

   “สวัสดีครับคุณทาเคชิ คุณไทจิ คุณหนูอายากะ และคุณหนูยูกิ” ผมนั่งติดกับพ่อด้วย และเขาก็นั่งข้างผม

   “ขอบคุณที่ให้เกียรติมางานวันเกิดผมนะครับ”พี่ไทจิพูดตามมารยาท

   “หึ ยังไงก็ต้องมาอยู่แล้ว ได้ข่าวว่าคุณหนูยูกิพึ่งกลับมาจากไทย ผมเลยเข้ามาทำความรู้จัก ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหนู”เขายื่นมาออกมา ผมเลยต้องยื่นมือไปจับเขาเพื่อทักทาย แม้ว่าจะไม่อยากทำก็ตาม

   “ครับ”

   อาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ ผมนั่งทานอาหารกันเรื่อยๆ ฟังพี่อายากะกับคุณฟานหลงและพี่ไทจิคุยกัน ส่วนคนข้างๆ ผมก็กินไปเงียบๆ เหมือนกับผม แต่สายตากลับมองมาที่ผมตลอด จนผมทนไม่ไหว

   “มองอะไรครับ” ผมทำหน้าบึ้งนิดๆ

   “มองดูครอบครัวสุขสันต์ครับ”เขาเหยียดยิ้มก่อนจะไล่มองทีละคนตั้งแต่ผม พ่อ พี่อายากะ และก็พี่ไทจิ ก่อนจะก้มลงมากระซิบที่หูผมเบาๆ

   “ระวังไว้ให้ดีนะครับคุณหนู เพราะถ้าไม่ระวังละก็ จะโดนเก็บนะครับ หึๆ”

   ผมกำตะเกียบในมือแน่น แบบนี้เขาเรียกว่าขู่กันรึเปล่า คนอื่นๆ ไม่สังเกตเห็นท่าทีผิดปกติของผม ผมเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ อึดอัด ระคนหวาดกลัว ...เป็นเขาเหรอ คนที่สั่งเก็บผม เป็นเขาอย่างนั้นเหรอ...  ผมล้างหน้า ก่อนจะยืนสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำสักพัก แล้วเดินออกมา แต่ทว่า ทันทีที่ออกมา ก็มีคนโถมตัวผลักผมกลับเข้าไปในห้องน้ำ เสียงกระสุนทะลุประตูที่เปิดค้างไว้ทำให้ผมรู้สึกตัว ก่อนที่เขาจะดึงผมลุกขึ้น แล้วยิงสวนกลับไป ฝ่ายนั้นไม่ได้มีคนเดียว แต่ฝีมือของคนตรงหน้านั้นอาจเรียกได้ว่านักแม่นปืนเลยทีเดียว เพราะกระสุนทุกนัดที่ยิงไป เข้าเป้าทุกนัด จนมั่นใจว่าจัดการได้หมดแล้ว เขาจึงหันมาหาผม

   “ทาคุยะ!!!”

   “ผมบอกแล้วไงว่าให้ระวังตัว เกือบโดนเก็บเลยเห็นมั้ย”ยิ้มอีกแล้ว เขาจะยิ้มเยาะเหมือนผมเป็นคนโง่ไปอีกนานแค่ไหน  แล้วทำไมต้องปกป้องผมด้วย หรือว่าที่โต๊ะอาหารไม่ใช่คำขู่ แต่เป็นคำเตือนงั้นเหรอ.....

ถ้าไม่ใช่เขา แล้วคนที่ต้องการชีวิตผม มันเป็นใครกัน!!!

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
«ตอบ #87 เมื่อ05-05-2014 20:40:12 »

งานเข้าแล้วไหมล่ะ
บอกตามตรง แอบสงสัยพฤติกรรมพี่ไทจินะ o18
คนชื่อไค ทำให้พี่ดูน่าสงสัยมากกก
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ Cockroach

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
«ตอบ #88 เมื่อ05-05-2014 20:48:30 »

 ตกลงใครพระเอกหว่า แล้วใครปองร้ายหนูยูกิ โฮกกก  :z3:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
«ตอบ #89 เมื่อ05-05-2014 21:05:41 »

โฮกกกก...ไม่เอาดราม่าพี่น้องนะ!!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด