พิมพ์หน้านี้ - MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Death Y ที่ 25-04-2014 21:03:54

หัวข้อ: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 25-04-2014 21:03:54
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER รักอันตรายของคุณหนูมาเฟีย [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 25-04-2014 21:07:01
บทนำ

   ผมนั่งนิ่งมองรูปคนที่ผมรัก เธอคนนั้นมีรอยยิ้มที่งดงาม อ่อนโยน เธอคนที่คอยปลุกผมตอนเช้า ทำอาหารให้ทาน คนที่บางครั้งผมเผลอรำคาญและพูดจาทำร้ายจิตใจ แต่ทุกครั้งเธอก็จะเป็นฝ่ายให้อภัยผมเสมอ ผมจะยินดีนั่งมองรูปนั่นเป็นชั่วโมง เพื่อซึมซับรอยยิ้มงดงามสดใสนั่น หากมันไม่ได้เป็นรูปขาวดำ ผมจะยินดีให้เธอโกรธและทำโทษที่ผมกลับบ้านช้าทุกครั้ง ทันทีที่เธอลืมตาขึ้นมา  แต่นั้นไม่อาจทำให้ผมหนีความจริงที่ว่า เธอได้ไปจากผม อย่างไม่มีวันกลับ  แม่ของผม ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกคนนั้น ได้...จากผมไปแล้ว

   เรื่องเศร้าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในงานศพ ไม่ว่าจะมีเพื่อนมากแค่ไหนผมก็ยังรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ดี เพื่อนผมที่มหาลัยและที่ทำงานต่างก็ทยอยกันมาเคารพศพ บางคนที่ว่างก็จะมาช่วยงาน  ผมกับแม่มีกันสองคน เราไม่มีญาติที่ไหน แต่แม่มีเพื่อนเยอะเสมอ แม่เป็นผู้หญิงใจดีและมีน้ำใจ เวลาทำกับข้าวก็เผื่อคนอื่นเสมอ ตามที่ฐานะทางบ้านจะอำนวย เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ไม่มีใครไม่รักแม่ ...ยกเว้นพ่อ ผมต่างกับแม่โดยสิ้นเชิง ผมไม่ค่อยพูด ไม่ได้มีอัธยาศัยดีเหมือนแม่ ดวงตาและผมสีดำสนิท ทำให้ผมดูมืดมนเหมือนบุคลิก  หน้าผมติดหวานเหมือนแม่ แม้หลายคนจะบอกว่าผมหน้าหวานเหมือนผู้หญิง แต่ผมก็ไม่ได้โกรธอะไร ผมดีใจที่หน้าผมไม่เหมือนเขา และจะดีใจกว่านี้ถ้าผมมีผมและตาสีน้ำตาอบอุ่นเหมือนแม่

   “คิม นายไปต้อนรับแขกเถอะ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน มานั่งมองหน้าแม่เป็นชั่วโมงแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็หาว่านายหลุดไปแล้วหรอก” ทัศเพื่อนสนิทผม สะกิดผมเบาๆ ก่อนจะบุ้ยหน้าไปที่หน้างาน

   “อืม” ผมพยักหน้าตอบก่อนจะเดินไปหน้างานด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่ตาบวมแดงจนผมคิดว่าคืนนี้ ถึงไม่อยากหลับก็คงต้องหลับเสียบ้าง

   ผมเดินไปหน้างาน รับแขกจนกระทั่งแขกเริ่มกลับ เพื่อนผมไปช่วยข้างหลังเขาล้างจาน ผมเองก็เตรียมเตรียมจะไปนอนก่อน เพราะเหนื่อยสะสมมาหลายคืนแล้ว แต่ทันใดนั้นรถลิมูซีนสีดำที่ประกบหน้าหลังด้วยรถฟอร์จูนเนอร์อีกสอง คันก็วิ่งเข้ามาจอดหน้างาน  ผมหันไปมองอย่างงๆ  แต่เมื่อชายภูมิฐานคนหนึ่งลงจากลิมูซีนคันหรู ผมก็ผงะด้วยความตกใจ  เขาเดินมาหยุดอยู่หน้าผม พร้อมคนในสูทดำที่ตามเขาราวกับเงาตามตัวห้าคน และมีบางส่วนยืนรออยู่ที่รถ  ผมพยายามทำใจเย็นๆ และสงบจิตใจที่สับสนของผมไว้ ผมยืนนิ่งเพื่อหยั่งเชิงท่าทีและจุดประสงค์ของเขา ผมไม่ได้ผลักไสไล่ส่งเขา ไม่ได้กรีดร้องทำร้ายหรือด่าทอเขา ผมแค่ยืนมองเขาอยู่นิ่งๆ  แม่เคยบอกผมเสมอ สิ่งที่ตรงข้ามกับความรักไม่ใช่ความเกลียด ...มันคือความเย็นชา

   เขายืนมองผมนิ่งๆ แววตาเสียใจและรู้สึกผิดอย่างสุดซึ้ง แต่สิ่งที่ผมจะให้เขาเห็นมีเพียงแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น เขาหันไปมองรูปของแม่ก่อนจะหันมามองผม ผมเลยเดินนำเขามาที่หน้าโลงศพของแม่ ผมจุดธูปและยื่นให้เขา เขารับไว้และเคารพศพ ก่อนจะยืนขึ้นเพื่อนไล้มือไปยังรูปแม่ ก่อนจะหันมามองผมแล้วพูดคำสั้นๆ

   “พ่อรักแม่นะ”

   เขาเดินจากไปพร้อมกับเหล่าบอดี้การ์ดชุดดำ ผมรอจนรถของเขาเคลื่อนออกไป ก่อนจะหันไปมองหน้าแม่ และเดินเข้าห้องไปอย่างไร้วิญญาณ ผมอยากหลับ ร่างกายผมก็ต้องการพัก แต่ตาผมกลับลืมโพลง ผมนั่งอยู่บนเตียงทั้งคืน สายตาไม่โฟกัสไปที่จุดไหนทั้งนั้น จนกระทั่งพระอาทิตย์กลับมาทักทายอีกครั้ง ผมแต่งตัวเพื่อเตรียมไปเคารพศพแม่เป็นครั้งสุดท้าย 

วันนี้เป็นวันเผา แขกเริ่มทยอยกันมา เขาเองก็เช่นกัน เหมือนเมื่อวานเขาเดินมาหาผมโดยไม่ได้พูดอะไร ผมพาเขาไปเคารพศพแม่ แม้บางคนจะสงสัยระคนหวาดกลัวว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามเขาหรือถามผม ตาของเขาบวมแต่ไม่ได้บวมแบบผม ผมบวมเพราะร้องไห้ แต่ของเขาคงบวมเพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืน จนกระทั่งถึงเวลาเผา ผมไปดูหน้าแม่เป็นครั้งสุดท้าย เขาก็เช่นกัน เมื่อเผาเสร็จแล้ว ผมเก็บอัฐิแม่ไว้ ผมไม่ให้เขาหรอก แม่จะไม่มีวันไปอยู่กับเขาแน่นอน ผมจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น เขาเองก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร  เขาเดินมามองหน้าผมเป็นครั้งสุดท้าย

“ขอโทษ”

เขาพูดแค่นั้นก่อนจากไปเหมือนเมื่อวาน ผมกำมือแน่น ไม่เจอกัน  13 ปี เขากลับพูดกับผมแค่สองประโยค แต่ก็เท่านั้นแหละ ผมก็หวังว่าจะไม่ได้เจอกับเขาอีก ทัศหันมาหาผมและทำท่าว่าจะเดินเข้ามาหา ผมยกมือห้ามไว้ ผมไม่พร้อมจะตอบคำถามอะไรตอนนี้ ผมรีบขับรถมอเตอร์ไซด์ของผมกลับบ้าน ก่อนจะเดินไปยังห้องนั่งเล่น เก็บอัฐิของแม่ไว้บนหิ้ง แล้วเดินเข้าห้องนอน ผมนั่งลงบนเตียง อยากหลับเต็มที เห็นทีวันนี้ต้องหลับให้ได้ แม้จะไม่อยากหลับก็ตาม ผมนอนลงพยายามข่มตาหลับ...แม่เป็นคนอัธยาศัยดี แต่ผมกลับมืดมนเสียจนหลายคนกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ เคยสงสัยเหมือนกันว่าเหมือนใคร ตอนนี้...ผมว่าผมรู้แล้ว
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 25-04-2014 21:34:25
โดน!!ชอบมากจ้า แล้วจะรอดูตอนต่อๆไปนะ นั่นคุณพ่อ??
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER รักอันตรายของคุณหนูมาเฟีย[บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 26-04-2014 10:19:35
   ผมตื่นสาย อาจเป็นเพราะไม่ได้นอนมาหลายวันหรืออาจเป็นเพราะไม่มีคนคอยปลุกเหมือนแต่ก่อน  ตั้งแต่แม่จากไป บ้านดูใหญ่ขึ้นและเงียบเหงามากกว่าเดิมหลายเท่า  ผมคงเข้าคลาสแรกไม่ทัน เพราะกว่าจะได้ออกจากบ้านก็เที่ยงแล้ว ผมรีบตรงไปที่โรงอาหารเพราะพวกทัศคงกำลังกินข้าวอยู่ที่นั่น

   “อ้าว คิม กูนึกว่าวันนี้มึงจะไม่มาเรียนซะอีก มึงหยุดก็ได้นะที่จริง เพราะอาจารย์แกก็ไปงาน แกยังบอกให้กูแวะไปหามึงหลังเลิกเรียนอยู่เลย”ไอทัศพูด พร้อมกับยื่นน้ำโค้กที่มันกินอยู่มาให้ผม ผมเองก็ไม่ขัดศรัทธา กินของมันจนหมดแก้วจนมันตบหัวให้ป๊าบนึง

    “ไอนี่ ปกติก็พูดน้อยอยู่แล้วนะมึง เอา กูให้”ไอเป้ เพื่อนผมอีกคนนึง เป้มันเป็นนักฟุตบอลมหาลัย หล่อ เท่ห์ สมาร์ทแบบที่สาวๆ ชอบ แต่มันเป็นพวกอ่อนไหวนะผมว่า แบบบางทีก็รั่วเกิน แต่ก็นับว่าเป็นคนดีใช้ได้เลยทีเดียว มันยื่นนมสตอร์เบอร์รี่กับขนมนมเนยต่างๆที่พวกแฟนคลับมันเอามาให้มาให้ผม  ผมก็รับไว้หมดเพราะตั้งแต่เช้ามายังไม่ได้กินอะไรเลย

   “แล้วนี่เย็นนี้มึงจะไปทำงานมั้ย”ไอเอกถามผม มันทำงานที่ร้านอาหารหลังเลิกเรียนที่เดียวกับผม

   “ทำ”ผมตอบ

   เมื่อกินเสร็จพวกเราก็เดินไปเข้าชั้นเรียนกัน แต่ผมรู้สึกเหมือนมีใครมองอยู่ เลยหันไปดู แต่ก็ไม่เจอใคร บางทีผมอาจรู้สึกไปเอง หรือบางทีอาจเป็นแม่ที่ยังเป็นห่วงผมอยู่  ...แม่ครับ ผมไม่เป็นไร ผมจะต้องอยู่ให้ได้ครับ ผมรักแม่นะครับ
   
   คาบบ่ายเป็นวิชาภาษาอังกฤษ ผมเรียนคณะอักษรศาสตร์ของมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ผมอยู่เอกญี่ปุ่น แต่ผมพูดได้หลายภาษาเพราะความชอบส่วนตัวด้วย ผมพูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และจีนแมนดารินได้ แต่ที่ชอบมากที่สุดคือญี่ปุ่น อาจเป็นเพราะผมเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นและอยู่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่เกิด จนอายุ 9 ขวบ ตอนที่เกิดเรื่องแล้วย้ายตามแม่กลับมาไทย แต่แม่ก็อยากให้ผมฝึกภาษานี้ไว้ เพราะเป็นมันเป็นภาษาเกิดผม และเป็นภาษาของพ่อ  แม่ไม่เคยเกลียดพ่อ...ไม่เคย

   “พ่อรักแม่นะ”

   ผมสะบัดหัวเพื่อไล่ภาพไร้สาระออกไป และตั้งใจเรียน อาจารย์เองก็ถามสารทุกข์สุกดิบผมบ้างตามประสา ก่อนจะสั่งการบ้านหฤโหดเหมือนอาจารย์ผู้อ่อนโยนที่นั่งเช็ดน้ำตาผมในงานศพไม่เคยมีอยู่จริง

   “คิม มึงเก็บของเสร็จยัง”ทัศมันหันมาหาผม ผมเก็บของเสร็จพอดี

   “อืม”

   “มึงพารถมาใช่มะ”

   “พามา”

   “เออ กูขอติดรถมึงกลับด้วยดิ ทางไปร้านอาหารมันผ่านหน้าบ้านกู”

   “มึงขับนะ”

   “เออ”

   เป็นอันว่าวันนี้ผมกับทัศนั่งรถไปร้านอาหารด้วยกัน ส่วนมันก็ลงกลางทาง ไอเอกมันก็ขับรถมาติดๆ ตอนแรกไอเป้มันจะมาด้วย แต่น้องน้ำฟ้าแฟนมันโทรมานัดทานเข้าก่อน มันเลยชวดไป ส่วยไอทัศมันกลับบ้านเสร็จแล้วมันก็ตามมาที่ร้าน ผมทำงานที่ร้านอาหารเป็นพนักงานเสิร์ฟ เจ้าของร้านคือคุณโจ เขารู้จักกับแม่ แม่ผมเลยฝากผมเข้าทำงานเพราะตอนแรกผมจะไปทำในผับ อย่างที่รู้ว่าจะทำงานกลางคืนถ้าไม่ทำที่ผับแล้วจะทำที่ไหน แต่แม่บอกว่ามันไม่ปลอดภัย เลยฝากผมทำงานกับน้าโจ ร้านนี้เป็นร้านอาหารไทยขึ้นชื่อที่เปิดถึงเที่ยงคืน ผมเข้ากะตอน 4 โมงเย็น เพราะดูตารางเรียนแล้วผมสามารถทำงานเวลานี้ได้  ที่นี่จะมีวงดนตรีของไอทัศกับไอเป้และเพื่อนที่คณะอีกสองสามคนมาเล่นเป็นบางวัน บางวันก็เป็นวงอื่น อีกอย่างที่นี่ไปบ้านผมก็ไม่ไกลมากนักด้วย แม่เลยสบายใจ

   “มาเร็วนะคิม ไอเอก น้านึกว่าเราจะหยุดซะอีกวันนี้”ประโยคแรกน้าโจพูดรวมๆ แต่ประโยคหลังหันมาพูดกับผม
   “ทำไมสองมาตรฐานงี้อ่ะ”ไอเอกโวยวาย

   “เอ็งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย ข้าจะคุยกับหลานข้า” แกเอ่ยปากไล่ ไอเอกเลยออกไปอย่างรู้งาน

   “มานั่งนี่ก่อนมา” แกเลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่ง ผมเองก็เกร็งๆ เพราะน้ำเสียงแกจริงจังน่าดู

   “มีอะไรรึเปล่าครับน้าโจ”

   “เรื่องเรานั่นแหละ คิม ก่อนแม่เราตาย แม่เราฝากฝังเราไว้กับน้า น้าเองก็ไม่มีลูก มีแต่แกคนเดียวแหละ น้าเลยคุยกับเมียน้า เรื่องที่จะรับเลี้ยงแกเป็นลูกบุญธรรม คิมมาอยู่กับน้านะ”น้าโจพูดพร้อมกับจับไหล่ผมเบาๆ

   “ผมว่าอย่าเลยครับ ผมเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร ผมอยู่คนเดียวได้ครับ”

   “แต่น้าว่าเราควรมาอยู่กับน้านะ ไหนจะเรื่องค่าเล่าเรียน เมื่อก่อนแม่เรายังทำงานหาเงินมาจ่ายค่าบ้านค่าน้ำค่าไฟ และเรื่องอาหารการกิน แต่ตอนนี้เราเหลือตัวคนเดียวแล้ว จะไปหาเงินมาจากไหน”

   “ผมจะจัดการเรื่องนั้นเองครับ น้าโจไม่ต้องเป็นห่วง”ผมปฏิเสธเสียงแข็ง

   “น้าอยากให้เราเก็บไปคิดก่อน ไม่ต้องตอบตกลงตอนนี้ คิดให้ดีๆนะ น้าน่ะรักเราเหมือนลุกคนนึง น้างามเมียน้าเองก็เหมือนกัน”
 
   “ครับ”ผมตอบก่อนจุกเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  นี่ก็เป็นความจริงอันโหดร้ายอีกเรื่องหนึ่ง บ้านของผมเป็นบ้านที่ยังผ่อนธนาคารไม่เสร็จ ปกติแม่จะดูเรื่องค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายจิปาถะ ผมทำงานหาเงินเรียน เงินเหลือก็จะมาช่วยแบ่งเบาภาระแม่ แต่ตอนนี้ไม่มีแม่แล้ว ผมคงต้องหางานทำเพิ่ม

   ผมทำงานไปเรื่อยๆ เหมือนเดิม เสิร์ฟอาหารไป ตอน 6 โมงเย็นก็ผลัดกับเพื่อนมาทานข้าวเย็น พอทานเสร็จก็ออกมาทำงานต่อ ตอนนั้นเองที่ผมสังเกตเห็นว่าตรงมุมวีไอพีของร้านที่จะมีผ้าม่านบางๆ กั้นไว้ ถูกจับจองด้วยชายชุดดำหลายคนที่ยืนและนั่งอยู่บริเวณรอบ ส่วนคนที่นั่งทานอาหารอยู่นั้น ผมคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี

   “ไอคิม นั่นมันคนที่ไปงานศพมึงนี่หว่า แม่มึงรู้จักเขาด้วยเหรอ มึงเองเถอะ รู้จักมะ น่ากลัวชิบหาย อย่างกะมาเฟีย”ไอเอกมันเดินมากระซิบกับผม

   “รู้จัก แค่คนรู้จัก”ผมตอบก่อนจะเดินไปทำงานตามปกติ ไม่สนใจใยดีอะไรทั้งนั้น
   

   ผมทำงานเสร็จตอนเที่ยงคืน แต่คนที่นั่งอยู่นั้นก็ไม่ได้ย้ายก้นไปไหนเลย พวกบอดี้การ์ก็ยืนเหมือนมีหมุดตรึงเท้าไว้อยู่ตรงนั้น ผมเดินไปเช็คบิล แพงเอาการอยู่เพราะโซนนั้นเขาคิดค่านั่งด้วยรายชั่วโมง แน่นอนว่าเขาจ่ายไปเต็มๆ 8 ชั่วโมง  ผมขับรถกลับบ้าน เขาเองก็ขึ้นรถกลับไปเหมือนกัน

   แต่อยู่ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซเมาเทียบผมและถีบรถผมล้มลง ก่อนมันจะจอดรถใกล้ๆ ผมแล้วเดินลงมาพร้อมเอามีดขู่ผม

   “เอาเงินมา มึงเอาเงินมาให้กู นาฬิกานั่นด้วย ถอดมาให้หมด”มันถือมีดชี้หน้าผม แกว่งไปมา ผมหยิบเงินในกระเป๋าตังค์ให้มัน ก่อนจะถอดนาฬิกาออกให้ เงินมีสองสามพัน นาฬิกานั่นก็ของปลอม ตอนนี้ผมสนใจแค่มีดที่อยู่หน้าผมเท่านั้น ผมไม่เก่งบู๊หรอกนะ ไม่อยากลองของตอนนี้หรอก แต่ถ้ามันจะแทงผมจริงๆ ก็คงต้องตามไปอยู่กับแม่แล้ว ผมได้แต่ภาวนาให้มันไม่กล้าพอ และโชคดี พอมันได้เงินเสร็จมันก็เก็บมีดแล้วก็เดินมาซ้อมผม แตะผมที่หัวทีหนึ่งก่อนจะซ้ำหนักๆ ที่ท้องและหน้าอก พผมกระอักเลือดออกมาสักสองสามทีผมก็แกล้งสลบ มันเลยรามือแล้วขึ้นรถหนีไป ผมจำป้ายทะเบียนแล้วนอนสักพักให้หายจุก โทรเรียกไอทัศเพราะบ้านมันใกล้สุด

   “ทัศ”

   (ไง โทรมาซะดึกเลยนะมึง ถึงบ้านยัง)

   “โดนจี้ อยู่ซอบเปลี่ยวทางกลับบ้านกู”

   (ไอเหี้ย มึงเป็นไงบ้าง มันไปยัง มันทำอะไรมึง!!!!)

   “มันไปแล้ว กูโดนซ้อม ขับรถไม่ไหว มึงมารับกูหน่อย”

   (เออๆ นี่กูขับอกมาแล้ว มึงรอกูแปปนึงนะไอคิม)

   พูดจบมันก็วางสาย สักพักก็เห็นรถมันบึ่งมาทางผม มันกรีบวิ่งหน้าตั้งมาด้วยความตกใจ

   “โอ๊ย ไอสัด มึงจำหน้ามันได้มั้ยวะ กูคันตีนชิบหาย เย็นขนาดนี้มึงนอนให้มันเอามึงอย่างเดียวเลยซิท่า”มันบ่นก่อนจะช่วยพยุงผมขึ้น ส่วนรถผมมันก็ลากไปข้างทาง 

   “เดี๋ยวกูพามึงไปส่งบ้านก่อน แล้วเดี๋ยวกูเวียนมาเก็บรถมึงให้”

   “อืม”

   มันแบกผมขึ้นรถมันก่อนจะขับพาผมมาส่งบ้าน มันหยิบอ่างน้ำกับผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าให้ผม

   “เดี๋ยวกูทำเอง”

   “ให้กูทำให้เหอะ ไอห่านิ แรงจะยกผ้ายังไม่มีเสือกทำอวดเก่ง”มันว่า มนเช็ดหน้าผมเบามากๆ ก่อนจะบิดผ้าลงอ่างน้ำ และทำความสะอาดบางแผลให้ผม ผมมีเจ็บบ้างซี๊ดบ้าง ก็จะร้องโอยๆ เหมือนเจ็บเสียเองแล้วก็ขอโทษขอโพยผมใหญ่  พอทำแผลเสร็จมันก็พาผมไปนอนในห้อง

   “เดี๋ยวกูไปเอารถให้มึงแล้วเดี๋ยวมานอนเป็นเพื่อน”

   “ไม่ต้องหรอก”

   “มึงอย่ามาโลกส่วนตัวตอนนี้ พรุ่งนี้มึงระบมแน่ ใครจะดูแลมึง แล้วไม่ต้องเสือกไปมหาลัยเลย เดี๋ยวกูโทรไปลาอาจารย์ให้ แกรักมึงจะตาย เผลอๆ จะวิ่งมาหามึงด้วยซ้ำ”

   มันพูดถึงอาจารย์อากาโอะที่สอนภาษาญี่ปุ่น แกเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นเหมือนผมแต่อยู่ญี่ปุ่นมาตลอดชีวิต พึ่งกลับมาไทยเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว แกได้สามีไทยน่ะ ผมมักจะได้คะแนนเป็นอันดับท๊อปของคลาสเสมอในวิชาแกและวิชาอื่นๆ อีกด้วย ทำให้ถึงแม้ผมจะมีอัธยาศัยไม่ค่อยดี แต่ไม่เคยเสียมารยาทกับอาจารย์คนไหนเลย พวกแกเลยค่อน้างจะชอบผมเป็นพิเศษ กับแม่ผมแกก็รู้จัก แลมักจะบอกข่าวคราวทุนการศึกษาให้ผมเสมอ

   มันออกไปเอารถให้ผม ผมเองก็เผลอหลับไปเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดที่มันเอาให้กินก่อนไป

   ผมตื่นขึ้นมาก็เกือบเที่ยงแล้ว ไอทัศก็ยังนั่งหน้าสลอนดูทีวีในห้องนอนผม

   “มึงไม่ไปเรียนรึไง”

   “จาร์ยให้กูหยุดเฝ้าไข้มึง ฮ่าๆๆๆโชคดีชิบหาย”

   “ไอสัด”

   “หิวข้าวยังมึง”

   “อืม”

   “ไปๆ กูทำข้าวต้มให้แล้ว มา เดี๋ยวกูพยุงมึงลงไป” แล้วมันก็พยุงผมไปกินข้าว รู้สึกเหมือนว่าเลือดเมื่อวานที่ออกมาจากปากผมไม่ใช่กะอักเลือดจากเครื่องใน แต่เป็นเพราะปากผมแตกตอนมันเตะหน้าผม ที่ท้องกับอกก็แค่พกช้ำ แต่รอยช้ำชัดมากเพราะผมมีผิวขาวเหมือนคนญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจะเจ็บอยู่มาก แต่ผมก็พอจะทนไหว  ผมเลยบอกมันว่าผมจะไปทำงานตอนเย็น มันไม่ยอมท่าเดียว แต่ผมก็ดึงดันจนมันยอมแพ้

   ตอนเย็นมันมาส่งผมที่ร้านน้าโจ ทั้งน้าโจและไอเอกรวมถึงเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ต่างตกใจกันใหญ่ น้าโจบอกว่าจะพาผมไปแจ้งความ แต่ผมขี้เกียจตอบคำถามตำรวจ อีกทั้งเงินนั่นก็ไม่ได้มากมายอะไร ผมไม่อยากวุ่นวายเลยบอกปัดไป แต่น้าโจไม่ยอม ผมเลยเดินหนีไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไอเอกเดินตามมา ก่อนจะถามสารทุกข์สุกดิบผมและหยิบตลับสีขาวออกมาจากกระเป๋ามัน

   “เวลากูมีเรื่องชกต่อยแล้วได้แผลมา ถ้าโผล่ไปที่บ้านอย่างนี้เดี๋ยวพ่อกูจะประเคนตีนเพิ่มมาให้ กูเลยซื้อไอนี่มาจากไอเจ มันคล้ายๆ รองพื้นของผู้หญิง จะช่วยปดรอยได้อยู่ แต่ของมึงอาจปิดได้ไม่มากเท่าไหร่ เพราะรอยแผลมันก็มี อาจจะเห็นๆ บ้าง แต่ไม่น่ากลัวเท่าตอนนี้หรอก”ไอเอกมันพูดพลางทาแป้งนั่นให้ผม

   ผมบอกได้เลยว่าถึงแม้ชีวิตผมจะอาภัพ แต่ผมมีแม่ที่ดี มีเพื่อนที่ดี พวกมันทุกคนรวมทั้งไอเป้ต่างรักและเป็นห่วงผม ผมโชคดีที่เป็นเพื่อนกับพวกมัน

   “ทำไมมึงมองกูอย่างนั้นอ่ะ สายตาชวนขนลุกชิบหาย มึงคิดไรกับกูรึเปล่าเนี่ย”มันรีบยกมือมาปิดอกตัวเอง
   ผมเลยกอดหมับเข้าให้

   “ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”


   ผมทำงานเหมือนเดิม แป้งนั่นได้ผลดี แม้จะเห็นรอยบ้าง แต่ไม่ชัดมากนัก ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะไม่ค่อยเห็น แต่ผมคิดว่าเขาเห็น เขามานั่งที่โซนนั้นเหมือนเดิม เวลาเดิม ตอนแรกที่ผมต้องไปรับออร์เดอร์ที่โต๊ะเขา เขาจ้องผมเขม็งก่อนจะก่อนจะจับผมไว้ แล้วสำรวจหน้าผม ผมผงะอย่างตกใจ

   “ปล่อย”

   “ไปโดนอะไรมา”

   “.....”

   “.....”

   “โดนจี้”

   “มันเป็นใคร”

   “ไม่รู้”

   “จำอะไรได้บ้าง”

   “ป้ายทะเบียน”

   “บอกมา”

   เขามองผมอย่างคาดคั้น ตาดุๆสีดำสนิทเหมือนหุบเหวนั่นจ้องมองมาที่ผมนิ่งและหนักแน่น ผมไม่เคยเจอสายตากดดันแบบนี้มาก่อน ไม่มีใครมีสายตาที่ทรงอำนาจอย่างเขา ผมหลบสายตาเขาก่อนจะบอกป้ายทะเบียนรถไป เขาหันหน้าไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา ก่อนที่คนคนนั้นจะเดินออกไป

   น้าโจเดินเข้ามาที่โต๊ะ แกมองผมอย่างสงสัย เขาเลยปล่อยมือจากผม แล้วไล้ปลายนิ้วที่แผลบนหน้าผมก่อนจะปล่อยผมไป เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขากดรับสาย แต่ไม่ได้พูดอะไร สักพักเขาก็เดินออกไป บอดี้การ์ดของเขาก็ออกไปหมด

   “คิม ตามไปเจอน้าที่ห้องหน่อย”

   น้าโจพูดก่อนจะเดินออกไป ตามเดินตามไป คนในร้านหลายคนมองตาม เพราะม่านแค่กั้นไว้ แต่ก็พอจะเห็นเหตุการณ์รางๆ พอไปถึงห้องทำงาน น้าโจกดไหล่ผมให้นั่งลง

   “เขาเป็นใคร”

   “แค่คนรู้จักครับ”

   “แค่คนรู้จักไม่ทำขนาดนี้หรอก เขามานั่งเฝ้าเราตลอดเวลาอย่างนี้ ไหนจะลูกน้องเขาอีก ข้างในแค่นั้น ข้างนอกนี่เป็นสิบๆ เขาเป็นใครกันแน่ เจ้าหนี้เรารึเปล่า เราไปทำอะไรแบบนั้นรึเปล่าคิม คิมมีอะไรคิมบอกน้าได้นะ”

   “.....”

   “เขาเป็นใคร”

   “เขาเป็นพ่อผมเองครับ”

   “เขาทำงานอะไร ดูแล้วไม่น่าจะใช่คนไทยเพราะยังพูดไม่ค่อยชัด เขาเป็นคนสำคัญเหรอ ถึงได้มีคนคุ้นกันขนาดนั้น ดูแล้วไม่น่าจะใช่คนธรรมดาเลย”

   “เขาไม่ใช่คนไทยครับ และ...เขาเป็นมาเฟีย”

   น้าโจทำหน้าตกใจ แต่แกค่อนข้างจะรับราวเรื่องต่างๆ ได้ดี และเหมือนเขาจะเดาคำตอบได้อยู่บ้างเลยไม่ได้ตกใจมากไหร่นัก พอแกทำใจได้ แกก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ก่อนะยิ้มนิดๆ ที่มุกปาก

   “งั้นเราก็เป็นคุณหนูมาเฟียงั้นซิ”
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 26-04-2014 10:55:16
ติดตามครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 26-04-2014 13:00:53
ติดตามจ้าาา  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 26-04-2014 13:38:36
Cockroach  :  นั่นคุณพ่อจ้า
nunnan      : ขอบคุณที่ติมตามจ้า
★KVH™★  : ขอบคุณที่ติดตามเหมือนกันจ้า

มีอะไรก็ติชมกันได้นะจ๊ะ  ตอนนี้ยังพึ่งเริ่มเรื่อง ยังต้องเท้าความกันก่อน ส่วนคุณพ่อกับคุณลูกจะเหมือนกันแค่ไหนเอา ติดตามดูนะจ๊ะ ส่วนพระเอกของเรื่องจะโผล่มาเมื่อคุณพ่อง้อน้องคิมเสร็จแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 26-04-2014 16:12:35
นิ่งมากแต่อ่านแล้วอินอ่ะ
พ่อจะง้อยังไงเนี่ย
อยากรู้จักพระเอกแล้ว ลุ้นๆ
ติดตามจ้าา
 o13
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: zaszaq ที่ 26-04-2014 16:20:45
ตามมาติดๆๆ  :hao3: เพราะ รอค่ะติดตาม


 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: beamintron ที่ 26-04-2014 16:29:22
ตามๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากให้พ่อจิ้นลูกจัง

5555+ ร้ายกาจจริงเรา
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 26-04-2014 16:46:45
อร้ากกก ชอบๆว่าแต่พระเอกจะออกตอนไหนจ๊ะ555 รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคร้าบ>.,<
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: kururu ที่ 26-04-2014 17:20:59
นายเอกแลดูมืดมนจัง แต่ก็เข้มแข็งดี รอตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 26-04-2014 17:23:44
สนุกครับ
ท่าทางจะมีเรื่องราวอีกเยอะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-04-2014 17:43:37
 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 26-04-2014 18:08:08
เปิดเรื่องมาก็ชอบเลยคะ ติดตามด้วยคน ชอบคุณพ่ออะ ออกมาพูดนิดเดียว ก็หลงละอะ
ใครจะเป็นพระเอกเนี่ย อยากเจอละๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 26-04-2014 18:20:06
ลูกมาเฟียซะด้วย คึคึ
รอติดตาม

หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 26-04-2014 18:42:30
 :m28: ตอนนี้อยากจะรู้ว่า ทำไมพ่อกะแม่ของคิมถึงเลิกกัน
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: เลิฟลี่ ที่ 26-04-2014 18:49:15
สนุกๆ คิมนี่นิ่งแล้วก็เงียบๆมากเลยนะคะ  ต่อไปจะโดนพาไปอยู่ในแก๊งที่ญี่ปุ่นมั้ยน้อออ :hao7:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 26-04-2014 19:05:13
555 ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจจ้า

แต่ขอบอกว่าพ่อลูกกันแท้ๆ จ้า 555

ส่วนพระเอกจะออกมาอีก 2 ตอนข้างหน้า

เดี๋ยวก็จะไปญี่ปุ่นแล้วนะจ๊ะ

ปล. ตอนนี้กำลังปั่นตอนที่ 2 อยู่ ถ้าเอามาลงทันจะลงให้วันนี้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-04-2014 19:11:07
พระเอกจะมาตอนไหนเนี่ย คุณพ่อดูรักคุณลูกดีนะ แต่จะทำยังไงเพราะคุณลูกคงไม่ให้อภัยง่าย ๆ แน่
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 26-04-2014 19:24:26
อุต่ะ ดูจากที่คนเขียนสปอยมา

พ่อลูกเค้ามีเรื่องราวในอดีตแน่ๆ เลย (มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แล้วฉันจะสงสัยอะไรเนี่ย555)

แล้ว คุณพ่อ จะง้อ คิม ยังงัยเนี่ย มันต้องน่าดูมากแน่ๆ

ก็มาเฟียเค้าง้อลูกเลยนะ

555
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: GoodNice ที่ 26-04-2014 19:58:11
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: จ๊ะจ๋า ที่ 26-04-2014 20:07:13
 o13

ชอบอ่า!!!

รอติดตาม
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 26-04-2014 20:17:25
รอติดตามจ้า   :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 1 คุณหนูมาเฟีย] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 26-04-2014 20:25:35
รอคุณหนูมาเฟียด้วยคนจ้า
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 26-04-2014 20:30:06
บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต
   
   วันต่อมา ผมมาทำงานเหมือนเดิม วันนี้วงดนตรีของไอเป้กับไอทัศก็มาแสดงที่ร้านน้าโจด้วยวันนี้  ส่วนเรื่องพ่อของผม ตอนนี้เขารู้กันทั้งร้านแล้วว่าพ่อผมเป็นใคร แต่น้าโจขู่จะไล่ออกถ้าเอาเรื่องไปแพร่งพราย หลายคนเลยไม่ค่อยอยากจะยุ่งด้วย  หลายคนไม่กล้าเข้ามาคุยกับผมหรือไปเสิร์ฟที่โต๊ะนั้นอีก หน้าที่นั้นเลยตกเป็นของผมไปโดยปริยาย

   “มึงรู้ยังว่าไอกันต์ จิ๊กโก๋หลังซอยมันไม่รู้ไปฟัดกับใครที่ไหนมา ป้าน้อยแม่มันร้องห่มร้องไห้พามันไปโรงพยาบาล เห็นบอกว่าซี่โครงซีกขวาหัก ฟันนิร่วงเกือบทั้งปาก คิวแตก แถมแขนกับขานิต้องเข้าเฝือกทั้งสองข้างเลยนะเว้ย”

   “จริงเหรอวะ มันไปมีเรื่องกับใครวะ เขาถึงได้เล่นมันขนาดนั้น หรือมันไปจี้โดนของจริงเข้าให้”

   “กูไม่รู้ แต่ก็ดีแล้ววะ มันติดยา ชอบจี้ปล้นชาวบ้านเขาไปทั่ว จับส่งตำรวจมาก็หลายครั้งแล้วมันก็ยังไม่เข็ด เจอเสียบ้างจะได้หลาบจำ” เสียงของพนักงานคนอื่นๆ ในร้านคุยกันเบาๆ อยู่หลังแคชเชียร์ ผมเดินไปเสิร์ฟน้ำที่โต๊ะเขาก่อนจะเดินออกไปหาไอทัศและไอเป้ที่หลังเวที  ผมรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก เรื่องนี้เกี่ยวกับผมรึเปล่า แต่ไม่แน่นะ อาจจะไม่ใช่คนเดียวกับที่ปล้นผมก็ได้ แต่สังหรณ์ใจยังไงไม่รู้แหะ

   “ไง ไอคิม โดนยำตีนมาเหรอ โห หน้าหมดสวยเลย”

   “หุบปาก ไอเป้”

   “สัด กูไม่ใช่หมา”

“ไปคาบมา” ผมโยนผ้าเช็ดกีตาร์ของมัน มันก็บ่นผมหน่อยๆ แล้ววิ่งไปเก็บ เพื่อนมันหัวเราะ ไอเป้มันเป็นมีกีตาร์ ไอทัศเป็นมือกลอง ส่วนนักร้องนำกับมือเบสผมไม่รู้จักชื่อ

“แผลมึงเป็นไงบ้าง พอจะทุเลาลงบ้างมั้ย เอานี่ แม่กูเขาทำผัดเผ็ดหมูมาฝากมึง เห็นมึงชอบกินของเผ็ดนักนี่”มันโยนถุงผัดเผ็ดมาให้ผม ผมเอาไปเก็บไว้ที่ล็อกเกอร์ก่อนจะกลับมาหามัน

   “ไม่ค่อยเจ็บแล้ว ฝากขอบคุณแม่มึงด้วย”

   “เออ กูพึ่งรู้จากไอเอกว่าพวกที่เจอตอนงานศพเป็นพ่อมึง”มันลากผมมาไกลจากคนอื่นก่อนจะกระซิบคุยกันเบาๆ

   “อืม”

   “กูควรจะโกรธมั้ยที่กูไม่รู้ และพอได้รู้ก็รู้จากปากคนอื่น”

   “คนนั้นพ่อกู”

   “ไม่ต้องมาเล่นลิ้นกับกู มึงอย่าให้กูโกรธมึงจริงๆ นะ”

   “มึงไม่เคย”

   “สัด มึงอย่ามา เดี๋ยวกูจะโกรธจริงๆ ก็คราวนี้แหละ มีไรไม่ยอมบอกกู เรื่องมึงกับแม่ กูก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องในครอบครัว แต่ถ้ามึงไม่ระบายออกมาบ้าง กูจะแช่งให้มึงอึดอัดตาย”ไอทัศเอ่ยอย่างอาฆาต น้ำเสียงทีเล่นทีจริง

   “ไม่ใช่ไม่อยากบอก แต่ไม่มีโอกาสดีๆ แล้วก็ขี้เกียจบอกด้วย”

   “คราวนี้กูอยากรู้จริงๆ มึงก็รู้ว่าเขาตามมึงตลอด วันนี้ที่มหาลัยกูก็เห็นเขาที่ลานจอดรถ”

   “กูไม่รู้ว่าเขาไปที่มหาลัยด้วย”ผมตกใจเล็กน้อย

   “ไม่ใช่ที่แค่มหาลัย เมื่อวานกูออกไปซื้อข้าวเซเว่นตอนเที่ยงคืนกว่าๆ กูผ่านหน้าร้านแล้วเห็นว่ามึงกลับแล้วกูก็ไม่ได้แวะรับ แต่เผอิญกูเห็นหลังมึงไวๆ ตอนมึงขี่รถกลับบ้าน กูกำลังจะขับไปเทียบ เหลือบไปเห็นฟอร์จูนเนอร์สีดำตามหลังมึงหยุดกะทันหัน แม่งโบกรถกู เรียกให้กูจอด กูเองก็พอคุ้นๆ หน้าเขาว่าเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างพ่อมึงตลอดเลยถามเขาทำเรียกทำไม เขาเองก็คุ้นหน้ากู เลยบอกให้กูไปต่อ ไม่มีอะไร ...กูว่าเขาคงส่งให้ลูกน้องเขาตามคุ้มกันมึง”

   “เขาจะทำแบบนั้นทำไม”ผมตอบอย่างไม่เข้าใจ ช่วงสามสี่วันนี้เขาก็มาเฝ้าดูผมตลอด แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ผมบอกตามตรงว่าไม่รู้จุดประสงค์ของเขา

   “กูก็ไม่รู้ แต่ถ้าตามปกติแล้ว กูคิดว่าเขากำลังง้อมึงอยู่นะ”

   “ง้อเหี้ยไร ไม่เห็นพูดกับกูสักคำ”

   “เหมือนมึงแหละสัด ตอนมึงง้อกูที่กูโกรธที่มึงไม่ยอมไปดูหนังกับกู มึงก็ตามกูไปซ้อมดนตรี นั่งรอจนกูซ้อมเสร็จ แล้วก็ยื่นตั๋วหนังรอบเย็นวันนั้นให้กู ครั้นกูจะงอนมึง ปฏิเสธมึงก็ทำไม่ลงเพราะยังไงมึงก็ซื้อตั๋วมาแล้ว อารมณ์เดียวกับพ่อมึงตอนนี้ไง”

   “ง้อไปก็เท่านั้น กูไม่ได้โกรธเขา”ความเฉยชาที่เขาให้แม่ ผมจะสนองมันให้เขา

   “มึงไม่โกรธ มึงก็ออกไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องซิวะ”

   “กูไม่มีอะไรจะคุย”

   พูดจบผมก็เดินออกมาเลย ผมรับผิดชอบเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะเขา แต่เรื่องจิ๊กโก๋ที่จี้ผมก็ยังกวนใจผมอยู่ เมื่อวานเขาออกไปก่อนร้านปิดหลังจากถามป้ายทะเบียนรถ ผมกังวลว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ผมคงต้องเดินไปถามเขา

   ผมเดินมาที่โต๊ะเขา เอาน้ำมารินเสิร์ฟ

   “เมื่อวานมีจิ๊กโก๋หลังซอยโดนทำร้าย”

   “.....”

   “ใช่คนเดียวกับที่จี้ผมรึเปล่า”เขามองหน้าผมก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

   “ฝีมือคุณรึเปล่า”

   “ใช่”

   ผมกำเหยือกน้ำแน่น

   “คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นอีก แล้วก็ไม่ต้องส่งใครตามผมด้วย แล้วคุณเองก็เลิกมาที่ร้านนี้ได้แล้ว คนอื่นเขาทำงานลำบาก”

   “ไม่”

   ผมพยายามสงบสติอารมณ์ เขาทำแบบนี้ทำไม เขาต้องการอะไร

   “อย่ามายุ่งกับผม!!!”ผมพูดก่อนเดินออกมา เขาจะกลับเข้ามาในชีวิตผมอีกทำไม ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ เขาทิ้งผมกับแม่ไปเมื่อ 13 ปีก่อนแท้ๆ เขาเป็นคนทิ้งพวกเราก่อนแท้ๆ แล้วพอมาวันนี้ เขากลับมาทำไม เขาต้องการอะไรจากผมกันแน่!!!


   หลังจากวันนั้นผมไม่คุยกับเขาอีกเลย โต๊ะเขาผมก็ให้ไอเอกไปเสิร์ฟแทน  เรื่องผ่านมาได้สองอาทิตย์ ทำให้ผมได้รู้อีกเรื่องนึงก็คือ เขาจับตาดูผม 24 ชั่วโมง ที่มหาลัยเขาจะให้ลูกน้องเขาไป ที่ร้านอาหารเขาจะมานั่งทุกวันเวลาเดิม ที่เดิมจนคนในร้านชินกันไปหมดแล้ว ส่วนตอนผมกลับบ้านก็จะมีคนคอยตามมาเหมือนเดิม และที่ผมโมโหมากที่สุดคือ หลังจากผมกลับบ้านแล้วจะมีคนคอยเฝ้าอยู่หน้าบ้านตลอด และมีการผลัดเวรกันตลอดคืน เวลาผมออกไปข้างนอกก็มักจะมีฟอร์จูนเนอร์สีดำตามเสมอ ผมไม่อยากจะคุยกับเขาอีก  ผมไม่ได้อ่อนโยนและอ่อนไหวเหมือนแม่ขนาดเจ็บแค้นแทนไอจิ๊กโก๋ที่มันมาจี้ผม ผมแอบสะใจเล็กน้อยด้วยซ้ำ ตราบใดที่มันยังไม่ตาย ผมถือว่าเขาไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ  แต่ที่ผมไม่ชอบก็คือ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเขากำลังต้องการบางอย่างจากผม ผมรู้สึกระแวง มนุษย์ทำทุกอย่างให้คนคนหนึ่งเพราะต้องการสิ่งตอบแทนเสมอ ตอนนี้ที่ผมอยากรู้คือ เขาต้องการอะไร

   อีกเดือนนึงผมจะจบปริญญาตรี  ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ น้าโจแกยอมใจอ่อนกับความหัวดื้อของผม แกเลยเพิ่มเงินเดือนให้ผม โดยที่ผมจะต้องช่วยเก็บร้านและล้างจานรวมถึงงานจิปาถะต่างๆ ในร้าน แต่นั่นเป็นแค่ข้ออ้างในการเพิ่มเงินเดือนนะผมว่า เพราะเก็บร้านทุกคนก็ช่วยกันเก็บอยู่แล้ว ล้างจานก็มีคนที่ทำหน้าที่นี่อยู่แล้ว ผมโดนเรียกใช้น้อยมาก อย่างเช่นในกรณีที่คนล้างจานลาหยุด แต่เงินเดือนที่น้าโจแกเพิ่มให้นี่ซิ รวมๆ แล้วหลายหมื่นเลยทีเดียว แต่ผมก็ไม่ขัดศรัทธาหรอกนะ เพราะตอนนี้ ผมไม่สามารถไปหางานที่ไหนได้อีกแล้ว ผมไม่มีเวลาแล้ว ครั้นจะให้เจียดเวลาเรียนไป ผมก็ไม่อยากให้การเรียนตกลง ผมสัญญากับตัวเองว่าตอนนี้ขอเป็นคนเลวเอาเปรียบน้าโจไปก่อน วันหน้าต้องหาโอกาสทดแทนบุญคุณน้าแกให้ได้

   วันนี้ก็เช่นเคย เขามาทุกวันเลยให้ตายเหอะ วันนี้ไอเอกลาหยุด ผมเลยต้องไปเสิร์ฟโต๊ะเขา

   “อีก 2 วันพ่อต้องกลับโตเกียวแล้ว”

   “ครับ”

   “ไปกับพ่อ”

   ผมเกือบราดต้มยำกุ้งลงหัวเขา นี่ใช่มั้ยคือจุดประสงค์ของเขา คิดจะไล่ก็ไล่คิดจะพากลับก็พูดออกมาง่ายๆ เห็นผมเป็นอะไร แล้วทำไมต้องเรียกกลับตอนแม่ตาย ทำไมต้องมาตอนนี้ รู้รึเปล่าว่าแม่คิดถึงเขาแค่ไหน ...รู้บ้างรึเปล่า

   “ไม่”

   “ให้พ่อได้ดูแลเราบ้าง”

   “แล้วแม่ละครับ”

   “หมายความว่ายังไง”

   “ที่จริง คุณควรจะมาตอนที่แม่ยังอยู่”

   “พ่อ”

   “ผมจะไม่มีวันไปกับคุณ แล้วคุณก็ไม่ต้องมาทีนี่อีก”

   “ที่ให้มาอยู่ที่นี่ เพราะจำเป็น”

   “ผมไม่อยากฟัง”

   “คิม พ่อต้องการลูกนะ”

   “แล้วตอนที่ผมต้องการพ่อ พ่อไปอยู่ที่ไหน!!”ผมเผลอตวาดเขา ทุกคนเงียบกริบ คนในร้านหันมามองผมเป็นตาเดียว ผมรีบเดินไปหลังร้าน นั่งสงบสติอารมณ์ นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ เมื่อ 13 ปีก่อน

ตอนนั้นผมยังเด็ก อายุแค่ 9 ขวบ ผมอาจจำเรื่องราวได้ไม่ดีนัก ความทรงจำขาดๆ หายๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อ ผมจำได้ดี

   เราสามคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ 2 ชั้น 2 ห้องนอน บ้านไม้สีขาวทรงญี่ปุ่นผสมตะวันตก ข้างบ้านมีสวนเล็กๆ และมีบ่อน้ำเลี้ยงปลาคราฟสองสามตัว ทุกอย่างดู...อบอุ่น ผมมักจะเจอพ่อเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แม่บอกผมว่าวันอื่นพ่อจะต้องไปทำงาน มาอยู่กับพวกเราไม่ได้ ทุกเสาร์-อาทิตย์บ้านเราเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ พ่อจะกลับมาพร้อมกับของเล่นและของขวัญสำหรับแม่ ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ แม่ชอบดอกลิลลี่ ลิลลี่สีขาว งดงามและอ่อนโยน ดอกไม้ของแม่ พ่อเลยซื้อลิลลี่มาปลูกเสียเต็มสวน ส่วนผมก็จะได้ของเล่นเด็กผู้ชายจนแม่ต้องสั่งห้ามพ่อไม่ซื้อเพราะมันเต็มบ้านแล้ว  ครอบครัวเราเปี่ยมไปด้วยความสุข จนกระทั่ง...ผู้หญิงคนนั้นมากดออดหน้าบ้านเรา

   วันนั้นเป็นวันจันทร์ หลังจากพ่อออกรถไปได้ 5 นาที ก็มีผู้หญิงในชุดกิโมโนสีสีส้มมายืนกดออดอยู่หน้าบ้าน พอแม่เห็นเธอ ผมเห็นแม่หน้าซีดเผือด แม่บอกให้ผมขึ้นไปอยู่บนห้องและห้ามลงมาเด็ดขาด ผมขึ้นไปเล่นกับหุ่นยนต์บนห้อง จนกระทั่งได้ยินเสียงของตกแตก

   เพล้ง!!!

   ผมตกใจเลยวิ่งลงมา แต่กลัวแม่ว่าเลยแอบดูตรงเชิงบันได

   “แกมันหน้าด้านไร้ยางอาย แกก็รู้ว่าเขามีฉันอยู่แล้วแกยังจะนอนกับเขาได้ลงคอ”ผู้หญิงคนนั้นชี้หน้าด่าแม่ แม่นั่งร้องไห้อยู่บนพื้น ข้างๆซากกรอบรูปของเราสามคน

   “ฉันกับเขาเรารักกันค่ะ เขาไม่ได้รักคุณเลย เขาถูกบังคับให้แต่งงานกับคุณ”แม่พูดปนสะอื้น

   “ถึงอย่างนั้น เขาก็เป็นสามีฉัน ต่อให้เขารักกับแก แต่แกมาทีหลัง แกมันนังผู้หญิงแพศยา”

   หล่อนเงื้อมือจะตบแก้มแม่ ผมเลยวิ่งไปผลักเขาและกอดแม่ไว้

   “อ้อ นี่เองซินะ เด็กคนนั้นน่ะ หึ เป็นลูกชายซะด้วย แกคงหวังจะใช้เด็กคนนี้ไต่เต้าขึ้นมาเป็นเมียอีกคนสิท่า เป็นเด็กผู้ชาย ถ้าฉันไม่มีลูกชาย เด็กคนนี้ก็คงได้สืบทอด ฉันจะไม่มีวันให้มันอยู่ถึงวันนั้นหรอกนะ จำไว้ให้ดี”

   “อย่านะค่ะ อย่าเลยค่ะ ได้โปรด ฉันจะไม่ให้เขาสืบทอดตำแหน่งค่ะ ได้โปรดอย่าทำอะไรเขานะค่ะ”แม่ตัวสั่น ทั้งที่สั่นขนาดนั้นแต่ก็กอดผมไว้แน่น จนผมแทบจะจมไปอยู่ในอกแม่

   “งั้นแกก็พิสูจน์สิ ไปจากที่นี่ กลับประเทศไทยของแกไปซะ”

   “ไม่ค่ะ ฉันจะอยู่กับเขา ฉันจะไม่แยกจากเขาเป็นอันขาด ถ้าจะไล่ฉัน คนไล่ก็ต้องเป็นเขาเท่านั้น ไม่งั้นฉันไม่ไปค่ะ”แม่เงยหน้าตะโกนใส่ผู้หญิงคนนั้น เธอสะแหยะยิ้ม ก่อนจะก้มลงมาบีบหน้าแม่ให้มองหน้าเธอ

   “งั้นแกก็เตรียมตัวเก็บของได้เลย แกกับสามีฉัน จะไม่มีวันได้เจอกันอีก ฉันขอสาบานไว้ตรงนี้เลย ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้แกรู้ว่า ผมกรรมของการเอาสามีคนอื่นมากกไว้ตั้งหลายปี ทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่งี่เง่าที่นั่งรออยู่ที่บ้านเพราะคิดว่าเขาไปทำงาน แต่เขากลับมานอนอยู่กับแก มันทรมานแค่ไหน แกแย่งเขาไปจากฉัน ฉันขอให้แกทุกข์ทรมาณที่ไม่ได้อยู่กับคนที่แกรัก เหมือนอย่างที่ฉันทรมาน ที่ตัวเขาอยู่ที่ฉัน แต่แกขโมยใจเขาไป!!!”หน้าแม่หันไปตามแรงสะบัดมือของเธอ เธอเดินจากไป แม่กอดผมไว้แน่นราวกลับกลัวว่าผมจะหายไป ตอนนั้นผมนั่งเช็ดน้ำตาให้แม่ แต่มันกลับทำให้แม่ร้องไห้หนักขึ้น

   วันต่อมาพ่อมาที่บ้าน ผมตกใจเพราะวันนี้เป็นวันอังคาร ไม่ใช่เสาร์-อาทิตย์ ผมวิ่งไปกอดพ่อ พ่อกอดผมแน่นเหมือนอย่างที่แม่กอด ราวกับมันเป็นกอดสุดท้าย ก่อนจะถามผมว่าแม่อยู่ไหน ผมเลยพาพ่อเดินไปหาแม่ที่ห้องนั่งเล่น พ่อหันมองแม่และผมสลับกัน แม่เดินเข้ามากอดพ่อ เรากอดกันสาม...กอดสุดท้าย

   “คุณต้องกลับไทย”

   “อะไรนะค่ะ”

   “ผมอยากให้คุณกลับไทย”เสียงพ่อสั่น

   “คุณค่ะ ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากให้ฉันไปจริงๆ หรอก ฉันไม่กลัวเธอหรออกนะค่ะ เราจะต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยกัน เหมือนที่เราเคยคุยกันไงค่ะ นะค่ะคุณ คุณอย่าพึ่งยอมแพ้เลยนะค่ะ”

   “ผมไม่ได้รักคุณแล้ว”

   “ฉันจะหนีไปสักพัก รอให้เธอตายใจแล้วเราค่อยกลับมาอยู่ด้วยกันนะค่ะ”

   “ผมไม่รักคุณแล้ว”

   “คุณจะยังสามารถไปหาฉัน เราอาจจะนัดเจอกันบ้างเป็นครั้งคราว แล้วเราก็จะ......อะไรนะค่ะ”

   “ผมไม่รักคุณแล้ว”น้ำเสียงพ่อมั่นคงและจริงจัง สีหน้าของพ่อเหมือนแบกโลกทั้งใบไว้ แววตาเจ็บปวดรวดร้าว

   “ไม่จริง”

   “นี่คือเงินและตั๋วเครื่องบิน คุณจะต้องไปขึ้นเครื่องตอน 4 โมงเย็น เดี๋ยวผมให้คนขับรถไปส่ง”พ่อลุกขึ้นและหันหลังกลับ กำลังจะเดินออกไป แม่รีบวิ่งไปกอดพ่อจากทางด้านหลังไว้

   “ทาเคชิ ที่พูดมานี่ ล้อเล่นใช่มั้ยค่ะ”

   “ผมไม่เคยล้อเล่น”

   “ทาเคชิ”

   “คุณต้องไป เราจบกันเท่านี้”พ่อเริ่มออกเดิน แม่ล้มลงไปกอดขาพ่อไว้

   “คุณค่ะ อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ”

   “ปล่อยผม รินลดา”

   “ไม่รักกันแล้วจริงๆ เหรอค่ะ”แม่ถามทั้งน้ำตา ผมในตอนนั้นได้แต่นั่งงงอยู่บนโซฟา เพราะไม่เข้าใจเรื่องที่พ่อกับแม่พูด
   พ่อไม่พูดอะไร พ่อแกะมือแม่ออกจากขาพ่อ แล้วพ่อก็เดินขึ้นรถไป ทิ้งให้แม่นั่งร้องไห้เพียงลำพัง ผมเองก็รู้สึกได้ถึงอารมณ์ของแม่ จึงนั่งร้องไห้อยู่บนโซฟา สักพัก แม่เดินมาปลอมผม เก็บของทั้งน้ำตา แม่พาของไปไม่มาก ไม่อนุญาติให้ผมเอาของเล่นหรือของใดๆ ก็ตามที่พ่อซื้อให้ แม้แต่กางเกงในก็ไม่ยอม แม่ทิ้งทุกอย่างไว้พร้อมกับความทรงจำ แต่ผมเห็นแม่แอบหยิบกล่องไม้กล่องนึงไป  ผ่านไปหลายปีเมื่อผมพอจะอ่านหนังสือออก  ผมแอบหยิบกล่องไปเปิดดู  ข้างในมีรูปพ่อกับแม่ที่ไปเที่ยวกันที่สวนสนุก และมีดอกลิลลี่ขาว แห้งๆ ดอกนึง ผมพลิกดูข้างหลังรูป มีภาษาญี่ปุ่นเขียนอยู่ว่า

   ------รักและจะเคียงข้างกันตลอดไป------


   หลังจากกลับมาไทย แม่โยนเงินพ่อทิ้งให้ขอทานคนหนึ่งที่เจอ แม่ไม่มีญาติที่ไหน เราหาบ้านเช่าพักกัน จนเมื่อแม่ได้งานทำ เราก็เริ่มหาซื้อบ้านและจ่ายแบบผ่อนเป็นเดือนกับธนาคาร ไม่มีการติดต่อจากพ่อ แม่ก็ไม่เคยพูดถึงพ่ออีกเลย ตอนแรกผมก็ถามบ้าง แต่หลังๆ ชักจะเบื่อที่จะถามแล้วไม่ได้คำตอบ เลยหยุดถามไป

   จนเมื่อปีก่อน ผมพึ่งรู้ว่าแม่เป็นโรคหัวใจ อาจเพราะทำงานหนักและสะเทือนใจจากเรื่องพ่อ ภายนอกแม่เข้มแข็งและร่าเริง อัธยาศัยดีจนใครๆ ก็หลงรักความสดใสของแม่ แต่ข้างในแม่ทุกข์ระทม แม้ว่าจะผ่านไปหลายปี แต่ผมรู้ว่าแม่รักพ่อแค่ไหน ผมคิดว่าแม่คงยังทำใจไม่ได้ ผลออกมาคือแม่ตายอย่างสงบ หลังต้องเข้าไปนอนโรงพยาบาลเพราะหัวใจวายเฉียบพลัน แม่ตายตอนที่ยังหลับอยู่ หมอบอกว่าเธอหลับและหมดลมหายใจไปเลย ตายอย่างสงบ เป็นจุดจบที่เหมาะสำหรับคนดีๆ อย่างแม่

   “ผมรักแม่นะครับ”

   “พ่อรักแม่นะ”

   ผมสะบัดภาพในหัวทิ้งก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน แต่ทันทีที่ผมกำลังจะเปิดประตู รถมอเตอร์ไซด์ก็เข้ามาจอดตรงหน้าผม ชายชุดดำใส่หมวกกันน็อคแบบทั้งหัวสองคนนั่งอยู่บนรถ คนนึงขับ ส่วนอีกคน...หยิบปื่นมายิงผม ผมตกใจ แต่ก่อนจะได้ทำอะไร ผมก็ได้ยินเสียงลั่นไก พร้อมกับประเสียงประตูที่ถูกกระชากออกอย่างแรก

   “คิมมมมมม!!!!!”

   ปัง!!!
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 26-04-2014 20:35:57
 :serius2: อ๊ากกกก ยิ่งค้างเข้าไปใหญ่
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 26-04-2014 20:51:01
นิยายที่อ่านแล้วไม่ค้าง อ่านแล้วเดาทางออก มันจะสนุกอะไระค่ะ

โฮะๆๆๆๆ (คนแต่งโรคจิต)

 :laugh:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: e-ga-g ที่ 26-04-2014 21:12:10
 :m16: :m16: :m16:
ไม่น่ามาอ่านเลย
.
.
.
............ค้าง
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 26-04-2014 21:30:53
 :hao5: อาร๊ายอ๊า ใครโดนยิงเป่าอ๊า
ค้างง๊า มาต่อไวเลยๆ  :fire:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 26-04-2014 21:40:33
อร้ากกกก มัน-ค้างงงงงงง คนเขียน!!ส่งตอนที่สามมาให้ผมเลยนะ!นี่คือการปล้น! :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 26-04-2014 21:48:16
ค้างงงงง ใครใครกันที่ยิงหนูคิม
อยากรู้อ่า มาต่อไวๆน้าาา
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 26-04-2014 22:32:52
ใครมายิงคิม?
แล้วคุณพ่อมาบังป่ะเนี่ย? ลุ้นค้าง อ๊ากก  :ling1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 26-04-2014 22:37:59
 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: pamnana ที่ 26-04-2014 22:50:38
อ้าก!! เป็นอะไรไหมเนี่ยคิม แง่งๆๆๆ :z3:

คนเขียนนี่ชอบให้คนอ่านค้างจัง!!!  :sad4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 26-04-2014 23:29:15
นี่แค่ตอนที่สองเองน้าาา
ค้างมากอ่ะ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 27-04-2014 01:27:48
ตัดได้ทำร้ายจิตใจมากๆ   :hao5:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Kan_wora ที่ 27-04-2014 22:14:35
พล็อตเรื่องน่าสนใจมากค่ะ  o13  เพิ่งตามอ่าน

ติดตามนะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: karmdodcom ที่ 28-04-2014 02:08:48
อั๊ยยยย ได้โปรดอัพเถอะค่าาา T^T
เสียงปืนนั่น ใครยิง ยิงใคร และใครโดน??
ชอบเรื่องนี้น้าาา พล็อตดูแปลกดี ภาษาอ่านแล้วรื่นค่ะ
ว่าแต่ ใครคู่ใครกันคะเนี่ย จะเป็นคุณพ่อกับน้องรึเปล่าา *[]* หรือว่าไปญี่ปุ่นแล้วค่อยเจอออ?
(ความจริงเราแอบเชียร์คู่ผิดศีลธรรมเล็กๆ)

แต่ยังมีผิดตรง คะ / ค่ะ อยู่ค่ะ.
..คะ มักใช้ลงท้ายประโยคคำถามประมาณ 'นะคะ' 'ได้ไหมคะ'
...ส่วน ค่ะ จะเป็นพวก 'ได้เลยค่ะ สวัสดีค่ะ...ประมาณนี้

รอตอนต่อไปเน้อ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 28-04-2014 10:52:50
มันค้างนะค้าาาาาาาาาาาา

มาต่ออย่างด่วนเลยค่ะ ค้างนานไม่ดีเดี๋ยวเราหัวใจวายก่อนน้า

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต] P.1 - 26/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 28-04-2014 11:23:07
แงง ค้างอ่ะ รอพระเอกโผล่ คริคริแต่คงอีกสักพักสินะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 28-04-2014 11:57:59
บทที่ 3 กลับโตเกียว

   “นายท่าน!!!”

   “พ่อ!!!”

   ทันทีที่ปืนถูกลั่นไก เขาก็เปิดประตูออกมาพอดี เขาเอาตัวบังกระสุนผมไว้ กระสุนเจาะเข้าที่ไหล่ขวาของเขา ส่วนมือปืนสองคนนั้นโดนลูกน้องของเขาที่ตามมายิงกระจุย จนดับคารถ

   “เรียกรถพยาบาล”บอดี้การ์ดคนที่ออกไปหาป้ายทะเบียนรถของจิ๊กโก๋คนที่จี้ผมหันไปบอกลูกน้องอีกคน ก่อนจะถอดเสื้อสูทสีดำมากดปากแผลของเขา ผมเองก็ประคองเขาอยู่ เพราะกระสุนฝังในทำให้เขาล้มลง

   “ไม่ต้องเรียกแล้ว พาไปเลย”ผมพยุงเขาขึ้น พาเขาไปขึ้นรถลิมูซีนสีดำ ลูกน้องบางส่วนอยู่จัดการเรื่องต่างๆที่นี่ แต่ส่วนใหญ่ตามมาคุ้มกันเราสองคนไปโรงพยาบาล ผมประคองให้เขานั่งพิงอกผม บอดี้การ์ดคนนั้นก็เอาสูทเขากดแผลไว้

   “คิม เป็นไรมั้ยลูก” เขาหันมาถามผม

   “ผมไม่เป็นไร”ถึงแม้ว่าผมไม่อยากจะสนใจใยดีเขาแค่ไหน แต่เมื่อเห็นกับตาแบบนี้ เลือดเขาที่ไหลชุ่มลงมาถึงหน้าท้อง มือผมที่เปื้อนเลือดตอนกดแผล เขากะอักเลือดออกมาเล็กน้อย ผมเอื้อมไปเช็ดเลือดให้เขา

   ไม่ว่ายังไง เขาก็ยังเป็นพ่อ แม้ผมจะยังไม่ยกโทษให้เขา แต่ก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้ ความทรงจำที่เลวร้ายยากจะลืม แต่ความทรงจำที่ดีๆ ก็ยังมีอยู่

   วันนี้ผมจะขอลดทิฐิตัวเองสักวัน พาเขาไปส่งโรงพยาบาล ดูให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัย เรื่องหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที

   “ยางามิ จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย รู้ให้ได้ว่าเป็นใคร แล้วถอนรากถอนโคนให้สิ้นซาก”

   “ครับ”บอดี้การ์ดคนที่กดแผลพ่ออยู่ขานรับ ก่อนจะยื่นผ้าให้ผมกดแผลพ่อต่อ ส่วนเขาโทรศัพท์ไปสั่งการลูกน้อง ภาษาญี่ปุ่นรัวถี่ยิบซะจนผมฟังไม่ทัน

   “พ่ออยากให้ลูก กลับโตเกียวกับพ่อ”

   “นอนนิ่งๆ ไม่ต้องพูดมาก”ผมเอ่ยดุเขา

   จนรถพามาถึงโรงพยาบาล บุรุษพยาบาลก็เอาเตียงมารับเขาแล้วเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน ยางามิไปจัดการเรื่องประวัติคนไข้ ส่วนผมก็รออยู่หน้าห้อง ด้วยความกระวนกระวาย

   กริ๊งงงงง

   “ครับ”ผมรับโทรศัพท์ น้าโจโทรมา

   (คิม น้าได้ยินเสียงปืนหลังร้าน เราเป็นยังไงบ้าง โดนยิงรึเปล่า)

   “เปล่าครับ”

   “คิม แต่น้าเห็นรอยเลือด”

   “เขาโดนครับ”

   “พ่อเรานะเหรอ”

   “ครับ”

   “มือปืนนั่นตั้งใจมาเก็บเขาเหรอ นั่นซินะ พวกมาเฟีย ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ขนาดมานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารยังโดนลอบยิง น้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมต้องเดินทางนี้ด้วยนะ” น้าโจบ่นอย่างเอือมๆ ปนเป็นห่วง

   “ผมขอโทษที่เรื่องนี้มาเกิดที่ร้าน”ร้านแกคงทำบากเพราะมีเรื่องยิงกันที่ร้านแก อาจทำให้ลูกค้าหายไปเยอะเหมือนกัน

   “น้าไม่เป็นไรหรอก เราไม่โดนยิงแค่นั้นน้าก็ดีใจแล้ว”

   “ขอบคุณครับ”

   “อืมๆ เราก็ไปดูพ่อเราเถอะไป เขาอุตส่าห์มาง้อถึงที่นี่ ตอนนี้เขาเจ็บอยู่ เราอย่าถือทิฐิอีกเลยนะคิม”

   “ครับ สวัสดีครับ”ผมกดวางสาย เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า

   มือปืนมันต้องการยิงผม ไม่ใช่ยิงเขา ถ้าเขาไม่เอาตัวมาบังวิถีกระสุน กระสุนนั่นปักกลางหัวใจผมพอดี แต่เพราะเอาตัวมาบัง หันหน้าเข้าหาผม มันเลยกลับจากซ้ายเป็นขวา นับว่าน่าหวาดเสียวเหมือนกัน ถ้าเพียงแค่เขาหันหน้าผิดด้าน เขาคงได้ไปเจอแม่ก่อนผมแน่ๆ

   ผมไม่ยักรู้ว่าตัวเองถูกเพ่งเล็งด้วยเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยไปทำอะไรให้ใครเจ็บช้ำน้ำใจถึงขนาดจะฆ่าจะแกงกันขนาดนี้ เรื่องนี้คงต้องถามยางามิ เหมือนเขาจะไม่ได้เป็นแค่บอดี้การ์ด น่าจะเป็นคนสนิทของพ่อด้วย เห็นมีอะไรก็สั่งผ่านเขาตลอด

   ว่าแล้วก็เดินมา ตายยากจริงคนบ้านนี้

   “คุณหนูครับ”เขาเรียกผม ว่าคุณหนูงั้นเหรอ

   “อะไรนะ”ผมขมวดคิ้ว ถามเขาเสียงแข็ง

   “คะ...คุณหนู”เขาตอบอย่างงงๆ ทำหน้าเหมือนกับจะถามว่าพูดอะไรผิดไป

   “ผู้ชาย”

   “ห๊ะ ครับ”

   “ผมเป็นผู้ชาย”

   “.....”

   “.....”

   “ขอประทานโทษครับ คุณชาย ผมแค่อยากจะถามว่า คุณชายบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ”นับว่าเขาปรับสีหน้าได้รวดเร็วมาก ตอนแรกแปลกใจแต่ตอนนี้หน้าเป็นปกติแล้ว ยกเว้นสีแดงนิดๆ ตรงแก้มนั่น

   “ไม่”

   “ครับ”

   เขานั่งข้างๆ ผม ผ่านไปสักชั่วโมงกว่าๆ หมอก็ออกมา

   “ไม่โดนอวัยวะสำคัญครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้ว จะย้ายไปห้องพิเศษที่ 401 นะครับ”

   “ครับ อ้อ หมอครับ หวังว่าเรื่องนี้จะไม่แพร่งพรายไปเข้าหูใครนะครับ”ยางามิขู่ทั้งรอยยิ้ม แต่หมอหน้าซีดเผือด เหงื่อออกแล้วออกอีก

   “คะ...คะ...ครับ”แล้วหมอก็รีบโกยอ้าวเข้าห้องส่วนตัวไปอย่างรวดเร็ว

   “งั้นผมกลับแล้วนะ”ผมยืนขึ้น เตรียมตัวกลับ

   “คุณชายไม่อยู่เฝ้าท่านหน่อยเหรอครับ”เขารีบมาดักหน้าผมไว้

   “ไม่ล่ะ”

   “คุณชายครับ ยกโทษให้ท่านเถอะครับ ท่านยอมตายแทนคุณชายได้เลยนะครับ”

   “ถอยไป”

   “คุณชายครับ อย่าหาว่าผมจุ้นจ้านเลยนะครับ แต่ 13 ปีมานี้ที่คุณชายกับคุณหญิงเล็กไม่อยู่ ท่านเองก็ทุกข์ใจมาก โหมงานหนักทุกวัน ไหนจะคอยคุ้มกันพวกคุณสองคนอยู่ห่างๆ แค่เพราะคุณไม่ได้เจอหน้าท่าน ไม่ได้หมายความว่าท่านไม่ได้สนใจพวกคุณนะครับ”

   “พูดไปก็เท่านั้น เรื่องมันเป็นอดีตไปแล้ว”

   “คุณชายก็กำลังจมอยู่ในอดีตเหมือนกันครับ พอท่านรู้ข่าวว่าคุณหญิงเล็กเสียชีวิต ท่านก็ทิ้งงานทั้งหมดให้คุณไทจิดูแล ส่วนท่านก็มาหาพวกคุณที่นี่ ผมไม่เคยเห็นท่านเสียใจขนาดนี้มาก่อนเลยนะครับ”

   “คุณก็ดูแลเขาดีๆ ละกัน”ผมเดินออกมา

   “ท่านรักคุณนะครับ แม่ของคุณด้วย ท่านรักพวกคุณทุกคนมากกว่าชีวิตท่าน เพื่อให้พวกคุณปลอดภัย ท่านยอมทำทุกอย่าง ยอมทุกๆ อย่างจริงๆนะครับ”เขาพูดเสียงอ่อน น้ำเสียงขมขื่นเมื่อนึกถึงยามหลัง

   ผมเดินกลับออกมา ลืมไปว่ารถอยู่ที่ร้านน้าโจ ผมเลยเรียกแท็กซี่แถวนั้นกลับบ้าน  รักผมงั้นเหรอ รักแม่งั้นเหรอ ถ้ารักกันแล้วทำไมถึงได้ไล่ออกมาล่ะ เรื่องในวันนั้นเขาจะอธิบายว่ายังไง

   “ผมทำถูกแล้วใช่มั้ยครับ แม่”

   ผมกลับมาบ้าน อาบน้ำแต่งตัวเตรียมเข้านอน อีกเดือนนึงผมก็จะเรียนจบ เมื่อถึงตอนนั้น ผมจะทำยังไงนะ ผมจะให้อภัยเขาแล้วไปอยู่กับเขารึเปล่า แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ คนที่ไล่ผมกับแม่ออกมา หล่อนคงไม่ยอมหรอก ผมข่มตานอกให้หลับ แต่ไม่หลับ หน้าของพ่อและคำพูดของยางามิคอยหลอกหลอนผม หลังจากพยายามหลับอยู่ครึ่งค่อนคืน แล้วผมก็ไม่ได้นอนทั้งคืน

   ผมตื่นเช้าไปมหาลัย พวกไอทัศ ไอเอก ไอเป้ก็อยู่กันครบ

   “เมื่อวานไอเอกมันบอกกูว่าพ่อมึงโดนยิงงั้นเหรอ”ไอทัศมันถามผมด้วยความเป็นห่วง

   “อืม”

   “มึงโอเคใช่ปะ”ไอเป้มันถามผม ก่อนจะยื่นขนมให้อีกตามเคย

   “เออ”

   “เย็นนี้มึงไปเยี่ยมพ่อมั้ยวะ”ไอเอกมันถามผม ทุกคนหันมามองหน้าผมผมหายหัวเบาๆ พวกมันเงียบไป แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร
   พอเรียนเสร็จผมก็ไปทำงานที่ร้านน้าโจตามปกติ ผมเข้าไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้อง น้าโจก็เดินเข้ามา

   “ไม่ไปเยี่ยมพ่อเราหน่อยเหรอ”

   “เมื่อคืนพาไปส่งโรงบาลแล้วครับ”

   “ใจดำจังน้า เรานะ เขาอุตส่าห์ยอมเจ็บแทน เราจะใจแข็งไปถึงไหน”

   “.....”

   “โอเค ไม่ไปก็ไม่ไป งั้นช่วยไปจัดการรอยเลือดตรงหลังร้านที”

   “ครับ”

   ผมเดินไปหลังร้าน หยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดไปด้วย แต่พอเปิดประตู รอยเลือดที่หน้าประตูทำให้ผมแปลกใจ  อาจเป็นเพราะเมื่อคืนมันมืด ทำให้ผมมองเห็นไม่ค่อยชัดว่าเลือดเขาออกเยอะแค่ไหน แต่พอตอนนี้พึ่งสี่โมงกว่าๆ รอยเลือดที่เห็นนี่เยอะเอาการเหมือนกัน เช็ดไปเช็ดมาผมก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ  เขาคงจะเจ็บมากน่าดู

   ผมควรไปเยี่ยมเขารึเปล่า แต่ว่า ไปหน่อยก็คงไม่เสียหายหรอกมั้ง เขาเจ็บเพราะผมนี่ ผมไม่อยากติดหนี้บุญคุณเขาหรอกนะ แต่ถ้าจะลางานก็คงไม่เหมาะ แต่ให้ไปหลังเที่ยงคืนพยาบาลคงไม่ให้เข้าเยี่ยมแล้ว

   “ไปเถอะ น้าให้หยุดวันนึง”

   “ครับ”ผมตกใจที่อยู่ๆ น้าโจแกก็มายืนอยู่ข้างหลัง ผมรีบเช็ดรอดเลือดให้เสร็จแล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับ

   ผมขับรถไปโรงพยาบาล ขับเรื่อยๆ ไม่ได้รีบมาก อีกอย่าง ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาด้วย จะบอกเขาว่าอะไรนะ มาเยี่ยมงั้นเหรอ ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเขาก็คิดว่าเรายกโทษให้แล้วหรอก ยังไม่ยกโทษให้หรอก หรือจะบอกว่าทางผ่าน  คนละทางกันเลยเหอะ

   ผมหันไปเห็นร้านขายดอกไม้ ไปเยี่ยมไข้ก็คงต้องมีของฝากซินะ อืมงั้นแวะซื้อสักหน่อยแล้วกัน  ผมซื้อดอกลิลลี่มาหนึ่งดอก แล้วก็แวะซื้อข้าวต้มหมูเจ้าโปรดของผมมาด้วย 2 ถุง เผื่อยางามิด้วย

   พอถึงโรงพยาบาล ผมก็เดินไปยังห้อง 401 พอผมมาถึงพวกบอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ 4-5 คนก็หลีกทางให้ผม นี่เขาต้องมีคนติดตามมากขนาดนี้ตลอดเวลาเลยรึไง  พอผมเข้าไปในห้อง ข้างในเหลือแค่เขากับยางามิ ทั้งสองคนหันมามองผม ยางามิมองด้วยสายตาแปลกใจ ส่วนสายตาเขาดู...ดีใจ

   ผมไม่ได้พูดอะไร เอาดอกไมไปวางไว้ในแจกันข้างหัวเตียง ก่อนจะเอาข้าวต้มไปยื่นให้ยางามิ

   “ข้าวต้ม ให้เขา เผื่อคุณด้วย”

   “แหะๆ ผมทานแล้วละครับ เชิญคุณชายเถอะครับ”เขาบอกก่อนจะเอาข้าวต้มไปใส่ถ้วยมาให้ผม พ่อนอนอยู่บนเตียงกำลังดูทีวีอยู่ เขาหันมาหาผม

   “ทานข้าวด้วยกันนะ”

   “ผมซื้อข้าวต้มมา”

   “รู้แล้ว”

   “อืม”

   ยางามิส่งถ้วยข้าวต้มให้ผม แล้วเขาก็เลื่อนโต๊ะอาหารของผู้ป่วยมาให้พ่อแล้ววางข้าวต้มของพ่อลงบนนั้น จากนั้นเขาก็ขอตัวออกไปข้างนอก พอไม่มีเขาอยู่ ห้องเงียบสิ้นดี ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไร บอกแล้วไงว่าผมไม่รู้จะพูดอะไร  ผมนั่งกินข้าวต้ม เขาก็กินข้าวต้มเงียบๆ แขนขวายังยกไม่ค่อยขึ้น แต่เขาก็ใช้แขนซ้ายจัดการข้าวต้มได้ ไม่มีปัญหา การนั่งกินข้าวเย็นด้วยกันครั้งแรกในรอบ 13 ปีนี้ดูแปลกๆ พิกล ถึงแม้ว่าเราสองคนจะไม่ได้พูดอะไร  แต่ผมก็ไม่ไดรู้สึกอึดอัด เหมือนกับว่าเราทั้งสองคนพอใจจะให้มันเงียบอย่างนี้  จนกระทั่งกินเสร็จ ผมก็เก็บจานไปล้างแล้วผมก็มานั่งดูทีวีเหมือนเดิม  แต่ว่าความคิดนึงแวบเข้ามาให้หัวผม สิ่งที่ผมค้างคาใจมาตลอด

   แม่เองก็ตายไปแล้ว ผมเองก็ยังพอจำความได้ ผมรู้ว่าทั้งสองคนมีเรื่องปิดบังผม ทั้งพ่อและแม่นั่นแหละ ผมอยากรู้ว่าทำไมผมกับแม่ต้องระเห็จมาอยู่ที่นี่ ผมอยากรู้ว่าทำไมพ่อถึงขาดการติดต่อไป ผมอยากรู้ต้นตอของปัญหาทั้งหมด ว่ามันเกิดมาจากจุดไหน  และตอนนี้ ผมกำลังเปิดใจพร้อมที่จะรับฟัง ถ้าเขาต้องการจะอธิบาย ตอนนี้ก็เหมาะแล้ว เพราะว่าผมอยู่ในช่วงอาการ .....ใจอ่อน

   “เมื่อ 13 ปีก่อน ...ทำไม” ผมเริ่มเปิดประเด็น

   “โกรธมากเลยละสิ”

   “เหตุผลล่ะพ่อ”

   เขากดรีโมทปิดทีวี ก่อนจะลุกขึ้นนั่งดีๆ ผมเห็นเขานิ่วหน้า แต่ก็ไม่ได้เข้าไปช่วย เพราะมันมีให้เห็นแค่แวบเดียวแล้วหน้าพ่อก็ปกติพอดีกับที่นั่งท่าสบาย

   “อยากฟังเรื่องไหนล่ะ”

   “ทั้งหมด”

   “โมโมโกะ ผู้หญิงที่ลูกเจอวันนั้น เป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกับพ่อ เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าแก๊งฟูจิมิยะ มาเฟียที่ค่อนข้างจะมีอิทธิพลในอดีต พ่อของพ่อเลยให้พ่อแต่งงานกับเธอ เพราะตอนนั้นแก๊งพ่อไม่ค่อยแข็งแรงมั่นคงเท่าไหร่ เพราะอาของพ่อทรยศแก๊ง ทำให้เรามีปัญหาทั้งภายในและภายนอกจากคู่แข่งคนสำคัญคือแก๊งโทระซึกิ  แต่งงานกันได้ 2 ปี หล่อนคลอดลูกสาวให้พ่อคนนึง พี่สาวของลูก อายากะ หลังจากนั้นอีก 1 ปี พ่อก็มาเจอกับแม่ที่มาเที่ยวญี่ปุ่น รักแรกพบเป็นยังไงวันนั้นพ่อได้ประจักษ์เห็นด้วยตนเอง พ่อเห็นแก่ตัว จึงขอให้แม่ของลูกอยู่กับพ่อ ถ้าในมุมมองของคนนอก แม่ลูกก็คือเมียน้อย แต่สำหรับพ่อ รินลดา คือผู้หญิงที่พ่อรัก คือภรรยาที่พ่อควรจะแต่งงานด้วย คู่ชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของพ่อ”

   “ทำไมพ่อไม่เปิดเผยล่ะ มาเฟียมีเมียหลายคนไม่มีใครกล้าว่าหรอก”

   “ปัญหามันอยู่ที่โมโมโกะ พ่อไม่กล้าบอก เพราะเธอขี้หึงมาก และหึงแรงเสียด้วยส่วนพ่อของเธอที่เป็นหัวหน้าแก๊งฟูจิมิยะอาจจะรู้สึกเสียหน้า พ่อไม่กล้าเสี่ยงให้แม่ตกอยู่ในอันตราย ตอนนั้นพ่อไม่มีความสามารถพอจะปกป้องแม่ของลูกได้เลย เลยมาหาได้แค่เสาร์-อาทิตย์ อ้างกับโมโมโกะ ว่าต้องบินไปดูงานที่ฮ่องกงที่พึ่งเปิดกิจการใหม่ โดยให้ยางามิปลอมตัวไปแทน แล้วก็ไม่มีใครจับได้ จนกระทั่งโมโมโกะ เกิดระแคะระคายเรื่องนี้เข้า เลยตามพ่อมาจนเจอบ้านหลังนั้น แล้วเธอก็รอให้พ่อออกไปในเช้าวันจันทร์ เรื่องหลังจากนั้นลูกรู้ดี”

   “แล้วทำไมต้องไล่เราสองคน ทำไมต้องบอกว่าไม่รักแม่แล้ว”ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ทำไมตอนนั้นพ่อต้องดึงดันจะให้เราไปให้ได้ ถ้าพ่อไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น ทำไมต้องยอม

   “เธอขู่พ่อ ลูกอาจจะคิดว่าพ่อขี้ขลาด พ่อยอมรับ เพราะถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกและแม่ของลูก พ่อกลัวไปหมด พ่อไม่อยากเสียเธอไป โมโมโกะ บอกว่าถ้าไม่ไล่ลูกกับแม่ไป เธอจะฆ่าให้หมดทั้งสองคน ตอนนั้นฟูจิมิยะมีอิทธิพลมากเกินไป ถ้าลำพังพ่อตัวคนเดียวพ่อไม่กลัวหรอก ถึงไหนถึงกัน ตายเป็นตาย แต่แม่ของลูกกับลูกเป็นเหมือนดวงใจของพ่อ ถ้าพ่อจะต้องเสียลูกไปไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง พ่อเลือกจากเป็นมากกว่าจากตาย ”

   “ดังนั้นจึงไล่มา ถ้าพ่อเพียงแค่จะอธิบายให้พวกเราฟัง เราคงจากกันด้วยดี”

   “แม่ลูกจะไม่ยอมไป พ่อกับแม่เคยคุยกันแล้วเรื่องทางออกที่เป็นไปได้ แต่ไม่ว่ายังไงจะไม่แยกจากกันเด็ดขาด นั่นคือสิ่งที่เธอเคยบอกกับพ่อ”

   “พ่อเลยบอกว่าหมดรัก”

   “ใช่ ตอนนั้นพ่อก็กินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวัน เป็นห่วง และเสียใจ รู้สึกผิดต่อรินลดาที่ทำร้ายจิตใจเธอ เกลียดที่ตัวเองขี้ขลาด สมเพชที่พ่อเป็นถึงหัวหน้าแก๊งมาเฟียในตอนนั้น แต่ต้องทำตามคำสั่งปู่ของลูก และพ่อของโมโมโกะที่เป็นคนนอก และที่เกลียดที่สุดก็คือ มันเป็นความจริงที่ว่า พ่อไม่สามารถปกป้องคนที่พ่อรักได้เลย พ่อเดินหนีปัญหา แม่ของลูกคงจะไม่ให้อภัยพ่อ”

   “.......”

   “.......”

   พ่อไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งมา พ่อโดนบังคับ ด้วยกรอบแห่งศีลธรรมและความกตัญญู พ่อรักเราสองคน.....

   “แล้วทำไมถึงมาตอนนี้”

   “เวลามักเล่นตลกกับเราเสมอ”

   “หมายความว่าไง”

   “โมโมโกะพึ่งตายไปเมื่อสองสามเดือนก่อน ปู่ของลูกตายไปเมื่อห้าปีที่แล้วพร้อมๆ กับที่พ่อของโมโมโกะเองก็เสียไปเช่นเดียวกัน อาของลูกเลยทำการยึดแก๊งฟูจิมิยะ และหันหัวหอกมาทางพ่อ ตอนนี้พ่อมีอำนาจและบารมีของตนเองพอ พ่อไม่กลัวอะไรอีกแล้ว อีกทั้งแก๊งของเรา แก๊งซากุรากะก็กลายเป็นแก๊งใหญ่ทรงอิทธิพลมากกว่าที่เคยเป็นมา พ่อโหมงานหนักสร้างรากฐานให้มั่นคงให้เหนือกว่าปู่ของลูก เหนือกว่าพ่อของโมโมโกะ เพื่อที่สักวันนึง เราจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง”

   “แต่แม่ดันมาตายเสียก่อน แม่คงจะดีใจกว่านี้ถ้าได้รู้ความจริงจากปากพ่อ”

   “พ่อว่าแม่เองก็คงรู้อะไรๆ มาบ้าง แม่ของลูกไม่ใช่คนโง่ เธอคือวิญญาณอีกครึ่งนึงของพ่อ เราเป็นคนคนเดียวกัน พ่อว่าแม่รู้ แต่ที่โกรธ คงโกรธความอ่อนแอของพ่อ โกรธที่พ่อเลือกหนีปัญหา โกรธที่ต้องแยกจากกัน”

   “.......”

   “.......”

   เรานั่งเงียบกันอยู่สักพัก เพื่อให้ผมได้มีเวลาทำใจ ผมกับพ่อมองไปยังดอกลิลลี่ตรงหัวเตียง คิดถึงคนคนเดียวกัน แม่ชอบดอกลิลลี่เสมอ แม้ตอนนี้ที่บ้านก็พอมีดอกลิลลี่อยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก ดอกลิลลี่ทำให้แม่คิดถึงพ่อ แม่จึงออกมาดูมันเป็นครั้งคราว ผมไม่รู้ว่าแม่รู้เรื่องอย่างที่ทึกทักเอาเองรึเปล่า แต่สิ่งที่อยู่ในแววตาแม่ตลอดมาคือความเศร้า ความเหงาและเปล่าเปลี่ยว ไม่ใช่โกรธแค้น รวดร้าวเหมือนที่มีในวันที่เราออกจากญี่ปุ่น บางทีการรักใครสักคนมันก็ไม่ง่ายเหมือนกัน  ไม่ง่ายเลยกับการใช้ชีวิตในสายทางนี้  ตอนนี้ผมหลุดพ้นแล้ว แต่กลับไม่รู้สึกถึงอิสระ จิตใจของผมได้รับการปลดปล่อยจากความไม่เข้าใจ แต่กลับไม่ได้รู้สึกเติมเต็มช่องว่างในจิตใจ ผมรู้ว่าที่ที่ผมจะเรียกว่าบ้านมันอยู่ที่ไหน และที่นี่ไม่ใช่บ้านผม ผมรู้ว่าถ้าไม่อยากประสบชะตากรรมอันรันทดแบบพ่อ ผมควรจะอยู่ที่นี่และใช้ชีวิตอย่างปกติ แต่ผมกลับไม่เคยรู้สึกว่าที่นี่คือที่ของผม  ครอบครัวเพียงคนเดียวของผมอยู่ตรงหน้าผม แต่ผมกลับผลักไสไล่ส่งเขา ทั้งๆ ที่ความทรมานของคนไล่นั้น มากกว่าคนที่ไปหลายเท่านัก ทั้งเขาและผม อีกทั้งแม่เองก็ทุกข์ใจจากการจากลามามากพอแล้ว ผมคิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่ผมจะวางทิฐิลง ถึงเวลาแล้วที่ผมจะเผชิญหน้ากับความจริง ผมเป็นลูกของเขา และผมเป็นลูกของแม่ด้วย ผมจะไม่ทำให้ท่านทั้งสองต้องผิดหวังอีก เราจะกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง

   “ผมจะกลับไปกับพ่อ”

   เขาหันมามองหน้าผมด้วยความดีใจ ริมฝีปากยิ้มกว้าง เขาดูเด็กลงไปสักสิบปีเลย

   “แต่ต้องหลังจากผมเรียนจบ อีกเดือนนึง”

   “ไม่เป็นไร พ่อรอได้”

   “พ่อจะกลับไปก่อนก็ได้”

   “กลับไปพร้อมกันดีกว่า”

   “แล้วงานพ่อล่ะ”

   “ทิ้งให้ไทจิมันทำไป”

   “ใครกันครับ ไทจิ”

   “ลูกบุญธรรมของโมโมโกะ เธอยืนยันจะให้ไทจิเป็นผู้สืบทอดของพ่อ เธอกันท่าลูกจนตายไปแล้วก็ยังไม่ยอมวางมือ”พ่อพูดอย่างเจ็บใจ แต่ผู้หญิงคนนั้นแค้นได้ยาวนานเสียจริง

   “ผมไม่ต้องการเป็นผู้สืบทอดของพ่อ”

   “มันเป็นของลูก ของลูกมาตั้งแต่ต้น และไทจิก็รู้ดี เขาไม่ว่าอะไร”

   “ยังไงเรื่องมันก็ยังมาไม่ถึง เราอย่าคุยเรื่องนี้กันเลยครับ .....ผมแค่อยากกลับบ้าน ก็เท่านั้นเอง”

   พ่อพยักหน้า

   “พ่อกอดหน่อยได้มั้ย”

   ผมเงยหน้ามองพ่อ แววตาอ้อนวอนจนผมไม่กล้าปฏิเสธ ผมลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงข้าๆ พ่อ ก่อนจะยอมให้พ่อกอด เรากอดกันแน่นเหมือนครั้งสุดท้ายที่พ่อกอดผมเมื่อ 13 ก่อน  และนานกว่าครั้งนั้นมาก กอดของพ่ออบอุ่นและคุ้นเคย เป็นอ้อมกอดนี้เองที่ผมโหยหามาตลอด

   หลังจากนั้นประมาณ 3-4 วันเขาก็ออกจากโรงพยาบาล เขาจัดการซื้อบ้านเช่าหลังนั้นให้เป็นชื่อของผม เขาบอกว่าอยากจะเก็บบ้านหลังนี้ไว้เป็นบ้านพักต่างอากาศหลังที่ 2 เพราะหลังแรกเป็นคฤหาสน์หลังโตที่อยู่ในย่านคนรวยที่เขาพักตั้งแต่มาไทย แต่หลังนี้เป็นความทรงจำของแม่ เป็นที่ที่ผมโตมา ผมเองก็อยากเก็บไว้เหมือนกัน พอเขาออกจากโรงพยาบาล เขาก็ขนของมาไว้บ้านผม และอยู่ที่บ้านผมจนกว่าเราจะกลับญี่ปุ่น

   ผมบอกน้าโจว่าผมจะกลับญี่ปุ่น และบอกเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ ให้น้าแกรู้บ้าง ส่วนพวกไอทัศ พอมันรู้ว่าผมจะไปญี่ปุ่น มันก็งอนไม่คุยกับผมหลายวันเลยเหมือนกัน แต่พอมันคิดได้ว่าเวลาที่จะอยู่ด้วยกันเหลือน้อยแล้ว มันก็ดีกับผมมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ พาผมไปเที่ยว พาไปซื้อของที่ระลึก ถ่ายรูปทำเฟรนชิพ สร้างความทรงจำที่ดีระหว่างกัน
   เดือนนึง เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก วันรับปริญญา ผมดีใจที่ในที่สุด ฝันของแม่ก็เป็นจริง แม่รอคอยที่จะเห็นวันนี้ของผม แต่ก็ไม่ได้เห็น  แต่ผมก็ดีใจนะ เหมือนชีวิตสำเร็จมาแล้วครึ่งทาง

   วันนี้พ่อเองก็มา พ่อพาลูกน้องมาแค่ 3 คนเดินตาม แต่ที่รออยู่ข้างนอกผมว่าเพียบแน่ พ่อยื่นชื่อลิลลี่สีขาวให้ผม เราถ่ายรูปกัน พ่อยิ้มแก้มแทบปลิ เหมือนภูมิใจในตัวผมไม่น้อย พวกไอภูมิมันก็พากันมาสวัสดีพ่อ เพื่อนในคณะหลายคนแปลกใจเพราะรู้ว่าผมไม่มีพ่อ เลยค่อนข้างงงๆ  แต่ผมก็ไม่ได้อธิบายอะไร เพราะเดี๋ยวก็ไม่เจอกันแล้ว ยกเว้นพวกไอทัศที่ผมบอกหมดเปลือกเพราะเดี๋ยวมันโกรธอีก
   วันพรุ่งนี้ผมต้องขึ้นเครื่องกลับญี่ปุ่น ผมตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ไหนจะเรื่องพี่ไทจิกับพี่อายากะ ผมไม่รู้ว่าเขาทั้งสองคนจะคิดยังไงกับผม กับพี่ไทจิ ผมแย่งตำแหน่งเขา ส่วนพี่อายากะผมเองก็แย่งความรักจากแม่ของเขาไป มันไม่แปลกเลยถ้าทั้งสองคนจะเกลียดผม แต่ผมก็คงไม่สบายใจถ้ามันจะเป็นอย่างนั้น

   ผมเก็บของไปเท่าที่จำเป็น แน่นอนว่าผมต้องเอาอัฐิกับกล่องไม้นั่นไปด้วย ทันทีที่พ่อเห็นกล่องไม้ พ่อก็เองไปดูแล้วก็เข้าห้องไปเลย แต่ผมเห็นแวบๆ ว่าพ่อร้องไห้  เขาสองคนคงรักกันมาก ผมเองก็หวังจะเจอคู่ชีวิตที่ดีแบบนี้เหมือนกัน สักวันหนึ่ง

   นั่งเครื่องไปญี่ปุ่นประมาณ 7 ชั่วโมง พอลงจากเครื่องก็มีลิมูซีนมารับ ส่วนรถที่ตามรู้สึกว่าจะเป็นโตโยต้านะ ถ้าผมจะไม่ผิด ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องรถสักเท่าไหร่ รู้ยี่ห้อรถก็หรูแล้ว จากที่เห็นขบวนมีประมาณ 5 คัน รวมของพ่อผมที่อยู่ตรงกลางด้วย ผมหันมาใช้ภาษาญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว ยังไงผมก็เรียนเอกนี้มาและเป็นภาษาเกิดผม เรื่องนี้สบายมาก  รถแล่นไปได้สัก  2 ชั่วโมงก็เลี้ยวขึ้นมาบนเนินเขา คฤหาสน์หลังโตรออยู่เบื้องหน้า คนรับใช้ชายหญิงเรียงกันสองแถวคอยต้อยรับเหมือนหนังมาเฟียในโทรทัศน์ มาเจอกับตัวแบบนี้ ผมอดขนลุกไม่ได้เลย พ่อก้าวลงจากรถก่อน ผมลงมาตามหลัง ทันใดนั้นทุกคนก็ก้มหัวให้ผม ก่อนจะกล่าวอย่างพร้อมเพรียงว่า

   “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ นายท่าน คุณหนู!!!”

   ผมซึ้งอยู่นะครับ แต่ผมไม่ใช่คุณหนูครับ=_=  จะต้องให้บอกอีกกี่ครั้งว่าผมเป็นผู้ชาย!!!

------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคำติชม จะนำไปแก้ไขนะค่ะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่า

 :katai4:

หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับญี่ปุ่น] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: เปลว แว๊บแว๊บ ที่ 28-04-2014 12:00:23
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: แปะไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: pamnana ที่ 28-04-2014 12:26:28
แหมๆ คุณหนูก็คุณหนูเถอะ เขาเรียกอย่างนี้ก็น่ารักดี   :-[
แล้วคิมพูดภาษาญี่ปุ่นได้รึยังเนี่ยมาอยู่   :mew5:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 28-04-2014 12:32:34
อยากเจอไทจิแล้วสิ สู้นะคะ เนื้อเรื่องน่าติดตามมากเลย
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 28-04-2014 12:54:59
ก็ในเมื่อเค้าเรียก คิม ว่าคุณหนูก็ปล่อยเค้าไปเถอะ ออกจะเหมาะมากกว่า คุณชาย ซะอีก

เชื่อเค้าเถอะ 55555

หวังว่าการมาญี่ปุ่นคราวนี้ของ คิม จะมีเรื่องราวดีๆ ให้พบเจอนะ อ่ะรวมเนื้อคู่ด้วย

หุหุ

หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 28-04-2014 13:12:01
ใครเป็นพระเอกคะเนี่ย รอๆ 5555  :hao7:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 28-04-2014 13:40:58
คุณหนูนะดีแล้วคิมเอ้ย กร๊ากๆๆๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 28-04-2014 14:58:46
น่ารักออก  :hao3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 28-04-2014 15:13:01
คิมเป็นคุณหนูไปซะแล้ว ว่าแต่ไทจิเป็นพระเอกหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 28-04-2014 16:43:47
รอๆตอนต่อไปค่ะ พ่อพระเอกเราใช่ไทจิมั้ยหนอ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 28-04-2014 19:43:48
 :คุณหนู~  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 28-04-2014 20:11:55
 :m4: แหมๆ ดีใจนิสนุงกะได้นะ ที่ได้เปงคุงหนูอ่ะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 28-04-2014 21:58:05
ว้าวววว กลับญี่ปุ่นแล้วสินะ :hao3:
พระเอกกก พระเอกอยู่ไหนนนน โผล่หน้าออกมา วู้ :z3:
คงต้องแก้ความเข้าใจคนทั้งบ้านอีกนาน คุณชาย :laugh:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Minerva ที่ 28-04-2014 22:23:23
อร๊ายยยย คุณหนูน่ารักจัง
พระเอกเป็นใครกันน๊า
(แอบอยากให้หักมุมเฉียดแบบพ่อเป็นพระเอก ฮะฮิ//โรคจิต)
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 28-04-2014 22:32:30
 :hao6:  คุณหนูจะได้เจอเนื้อคู่แล้วน๊าาาา
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 29-04-2014 10:36:44
เหยียบแผ่นดินญี่ปุ่นแล้วสินะ

จะต้องเจออะไรบ้างยังไม่รู้เลย
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: SAFERNSAZAAAAA ที่ 29-04-2014 13:03:50
ไทจิเป็นพระเอกแน่เลอะ ชิมิชิมิ o18
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 29-04-2014 14:08:44
ได้กลับบ้านแล้วนะ คิม  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 29-04-2014 14:22:01
อยากเจอไทจิกะอายากะแล้วอ่าาา คิมโดนเรียกว่าคุณหนูก็น่ารักดีนะคะ แต่ถ้าเรียกนายน้อยก็ดูโอนะ
นายท่านกะนายน้อย น่ารักออก ติดตามตอนต่อไปค่าาาา
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 3 กลับโตเกียว] P.2 - 28/4/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 29-04-2014 15:56:06
อุ้ยยย ชอบอ่าา เรื่องแนวมาเฟีย แถมยังเป็นญี่ปุ่นที่รัก  :mew3:
3ตอนมานี้เพิ่งจะเริ่มเรื่องสินะ จะเกิดไรขึ้นกับคิมป่าวเนี่ย
ไทจิจะเป็นพระเอกหรือป่าวน้า? อายากะดีกับคิมหน่อยนะจ๊ะ ขอให้เป็นเช่นนั้น

จะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 01-05-2014 16:11:51
บทที่ 4  พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ
   
   หลังจากผ่านขบวนต้อนรับอันน่าตกใจ  ผมก็ได้พบกับพี่ชายและพี่สาวที่ห้องรับแขก บางทีผมอาจจะทำตัวถูกที่ถูกทางกว่านี้ ถ้าทั้งสองคนนั้นไม่.......

   “หวา ผิวขาวจังเลย เนียนกว่าฉันอีกเนอะ พี่ไทจิ”อายากะ พี่สาวผมพูดพร้อมกับดึงแก้มผมสองข้างจนผมปวดแก้มไปหมด

   “ใช่ ขาวน่ากิน เอ้ย! ขาวเกินไปแล้ว ไม่เคยออกแดดเลยรึไงวะเนี่ย” ไทจิ พี่ชายผมก็เอาแต่ลูบแขนผมพร้อมทำหน้าตาน่ากลัวนั่น เรื่องแบบนี้มันดำเนินมามากกว่ายี่สิบนาทีแล้วที่ทั้งสองคนเอาแต่วิจารณ์รูปร่างหน้าตาผม  ตาสวยคมบ้างล่ะ ริมฝีปากน่าจุ๊บบ้างล่ะ แก้มนิ้มนิ่มบ้างละ เอวบางร่างน้อย น่ากอดบ้างล่ะ แถมไม่พูดเปล่า จับทุกอย่างที่พูดเลยด้วย  ถ้าจะบอกว่าตอนนี้ผมถูกพี่ชายและพี่สาวกำลังลวนลามอยู่ละก็ ถูกต้องเลยล่ะ

   “ผะ...ผมเจ็บแก้มครับ อย่าดึงครับ ...อะ...อย่าลูบครับ ไม่ได้ครับ”

   พอผมห้ามตรงนี้ ก็ไปตรงนั้น สองคนนี้มืออย่างกะปลาหมึก โว้ย เมื่อไหร่พ่อจะมาสักทีวะ ทำไมทิ้งผมให้อยู่กับคนประหลาดแบบนี้เนี่ย

   “เรียกพี่สาวสิจ๊ะ พี่อายากะ แล้วจะปล่อย”เธอพูดยิ้มๆ แล้วดึงแก้มผมเล่นต่อไป

   “ใช่ๆ เรียกพี่ชายด้วย พี่ไทจิไง”แล้วจะมาลูบขาผมทำไมวะ ขนลุกโว้ยยยยยย

   “ครับๆ พี่อายากะ พี่ไทจิ ปล่อยผมก่อนเถอะครับ”ถ้าไม่ปล่อยคราวนี้ผมจะโกรธจริงๆด้วยนะ

   “แหมน่ารัก”แล้วพี่สาวคนสวยก็หอมแก้มผมไปฟอดนึง

   “น่ากิน เอ้ย! น่ารัก”แล้วพี่ไทจิก็ตามมาอีกฟอด

   ผมนั่งเช็ดแก้มอย่างมึนๆ เมื่อทั้งสองกลับไปนั่งอย่างเป็นปกติอีกครั้ง

   “ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกนะเนี่ย เนอะ พี่ไทจิ”

   “ใช่ พี่ร่ำๆ จะบินไปหาตั้งหลายรอบ ถ้าไม่ติดว่าคุณแม่ไม่ยอมอะนะ”

   ผมมองพี่ชายและพี่สาวสุดสยองของผมสองคน

   พี่ไทจิ เป็นคนที่สูงมาก ราว 185 เซนติเมตร จมูกโด่งอย่างกับสันเขื่อน ดาวตานิดุกว่าผมอีก คิ้วเข้มเฉียงขึ้นอย่างคนที่อารมณ์เสียตลอดเวลา ผมสีน้ำตาลเข้มหวีไปด้านหลังเพื่อเก็บผมให้เรียบร้อย แต่ก็มีปล่อยๆ ลงมาข้างหน้าบ้าง เขาถือว่าหล่อมากคนนึง ถ้าไม่ติดไอนิสัยมือปลาหมึกนั่นน่ะนะ

   ส่วนพี่อายากะ จะเป็นผู้หญิงที่สวยเข้ม คนบ้านนี้หน้าดุกันทั้งบ้าน แม้ว่าเธอจะมีดวงตากลมโตสีดำดูน่ารัก แต่คิ้วกับตาค่อนข้างใกล้กันเลยทำให้ตาดูคมสวยไปเลย ริมฝีปากหนาหน่อยๆ พอเซ็กซี่ ผมสีดำหยิกเป็นลอนสลวย  ทรวดทรงองค์เอวก็ถือว่าสะบึ้ม สวยอย่างหาที่จับได้ยากเลยทีเดียว

   ส่วนผมก็หน้าคล้ายแม่มาด้วยเลยติดหวาน ยกเว้นตาดุๆ สีดำที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนัก ผมสีดำตรงยาวระต้นคอ บางส่วนก็ปรกลงมาปิดตาผม ทำให้ผมดูมืดมนเข้าไปอีก ผมตัวเล็กเพราะไม่เล่นกีฬา แล้วผมก็สูงแค่ 170 เซนติเมตรเอง ผมว่ามันก็ไม่น้อยนะ แต่พอยืนเทียบกับพี่ไทจิแล้ว ผมเตี้ยไปเลย

   “ได้ข่าวว่าพึ่งจบปริญญาตรีมาหมาดๆ จบอะไรล่ะเรา” พี่ไทจิถาม แต่ยื่นหน้ามาใกล้ไปมั้ย

   “อักษรศาสตร์เอกญี่ปุ่นครับ”

   “อืม ก็ดี แล้วนอกจากญี่ปุ่นพูดอะไรได้อีกบ้าง”

   “จีนแมนดาริน อังกฤษ ฝรั่งเศส แล้วก็ไทยครับ”

   “อืม ใช้ได้ พูดได้หลายภาษาเลยทีเดียว ไว้ไปช่วยงานพี่ที่บริษัทดีมั้ย ยังไงสักวันมันก็ต้องเป็นของเราอยู่แล้ว”

   “ไม่ดีกว่าครับ ผมแค่อยากกลับบ้าน ไม่ได้จะมาแย่งอะไรใคร”ผมรีบปฏิเสธ กลัวพี่เขาโกรธ

   “แย่งเยิ่งอะไรกัน แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวเมื่อถึงเวลาพ่อก็คงคุยกับเราเอง”

   พี่ไทจิขยี้หัวผมอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป ส่วนอีกคนที่เงียบมาตลอดการสนทนาก็ยังคงใช้ตาดุๆ นั่นมองผมตาไม่กระพริบ

   “มะ...มีอะไรครับ” ขนลุกเลยแฮะ

   “หน้าหวานจังน้า แต่หน้าเหมือนแม่เล็กมาก ก็แม่เล็กเขาสวยขนาดนั้น ยกเว้นทรงผมน่ะ ผมปรกปิดหน้าปิดตาไปหมดแล้วรู้มั้ย แล้วพี่ก็รื้อกระเป๋าเสื้อผ้าเราแล้ว รสนิยมห่วยมากเลย เอางี้ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป เดี๋ยวพี่พาไปซื้อชุดใหม่แล้วก็ของใช้ส่วนตัว พาไปตัดผมด้วยเลยดีกว่า”เธอพูด แล้วดันตัวผมขึ้น พาขึ้นไปชั้นบน บังคับให้ผมอาบน้ำแล้วเธอก็เลือกๆ เสื้อผ้าที่เธอคิดว่าดูดีออกมา ผมก็รับมาแล้วเอาไปใส่อย่างงงๆ ก่อนจะโดนเธอลากตัวออกไปห้าง

   เธอพาผมไปร้านตัดผมเป็นอย่างแรก พอเราเข้ามา คนที่นั่งทาเล็บอยู่บนโซฟาก็ลุกขึ้นมาหาพวกเราพอดี ดูจากแหวนเพชรและการแต่งการแล้ว เขาน่าจะเป็นเจ้าของร้าน

   “สวัสดีค๊า คุณหนูซากุรากะ ว๊ายพาใครมาคะเนี่ย ไหนขอเจ๊ดูหน่อยสิค่ะ”อืม ผมว่าเขาไม่ใช่ชายแท้แล้วละนะ ผมจับหน้าผมเงย หันซ้ายหันขวาจนพอใจ ก่อนจะกรี๊ดว๊ายออกมา

   “ตายแล้ว ลูกเต้าเหล่าใครค่ะเนี่ย ผิวเนียนสุดๆ เป็นคุณหนูที่สวยมากเลยนะค่ะ แต่ มอมแมมไปหน่อย”เธอก้มลงวิจารณ์การแต่งกายของผมด้วยสายตา เสื้อยืดกางเกงยืนมันผิดตรงไหนครับ=_=

   “น้องของฉันเองค่ะ เจ๊ช่วยตัดผมให้เขาหน่อยได้มั้ยค่ะ เอาแบบที่เหมาะกับหน้าหวานๆของเขานะค่ะ”

   “หา”ผมร้องเสียงหลง ตัดผมงั้นเหรอ

   “โอเคเลยค่า แต่ตัดสั้นระวังจะเหมือนทอมบอกนะค่ะ เจ๊เตือนไว้ก่อน”ปากพูดไป มือก็เซ็ตๆ ผมลวกๆ หาทรงที่เหมาะๆ

   “เด็กคนนี้เป็นผู้ชายต่างหากล่ะค่ะ”

   “หา! เป็นผู้ชายที่หน้าหวานมากเลยนะค่ะ แหม ถึงเจ๊จะรับแต่ถ้าหนูยอมล่ะก็ เจ๊รุกให้ก็ไดนะจ๊ะ”

   “มะ...ไม่ดีกว่าครับ” เหวอ น่ากลัวชะมัด

   “ฮ่าๆๆๆ เจ๊ค่ะ นี่น่ะน้องชายคนสุดท้องของฉันนะคะ ลูกรักสุดหวงของพ่อเขา ถ้าเผลอทำอะไรลงไปละก็ เชือดค่ะ”พี่อายากะพูดขำๆ แต่เจ๊นี่หงอยไปเลย ....ขอบคุณนะพี่

   “แหม เจ๊แค่ล้อเล่นค่ะ”

   แล้วเจ๊แกก็พาผมไปนั่งบนเก้าอี้แล้วเริ่มตัดผมให้ผม ส่วนพี่อายากะก็นั่งอ่านนิตยสารรอ 

   พอตัดเสร็จ ทั้งเจ๊ ทั้งพี่อายากะ ทั้งผมเองต่างอึ้งไปเลย ผมซอยสั้นระต้นคอ หน้าม้าตัดสไลด์สั้นเหนือคิ้ว แต่แสกไปทางด้านข้างเพื่อไม่ให้บดบังใบหน้า ทำให้หน้าผมตอนนี้หวานขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยทีเดียว

"วาว!!!"

   “สวยขึ้น หวานขึ้น ว๊ายยย น้องของพี่”แล้วผมก็โดนพี่อายากะกอดหมับซะเต็มรักเลย

   “สวยจนเจ๊อายละนะค่ะเนี่ย”เจ๊จะอายทำไมละครับ=_=

   “ไป พี่พาเราไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้ดีกว่า เปลี่ยนชุดสักหน่อยรับรอง เริด!!!”พี่แกยืนเงินไปให้เจแกปึกนึง ผมว่ามันเยอะกว่าค่าตัดผมจริงๆ อีกนะ โหย น่าเสียดาย

   พี่อายากะพาผมมาหยุดที่ร้านขายเสื้อผ้าบุรุษ ดูจากการตกแต่งร้านแล้วผมว่า ราคาเสื้อผ้านี่ แพงหูฉี่แน่ ผมยื้อแขนพี่เขาไว้นิดนึง ผมไม่อยากได้ของแพงขนาดนี้หรอกนะ

   “พี่ครับ ไปร้านอื่นเถอะครับ”

   “ไม่เป็นไรหรอก พ่อจ่าย ไม่ต้องห่วง”แล้วพี่แกก็ชูสองนิ้วให้ผม ผมก็เหนื่อยจะค้าน ยังไงพี่อายากะก็ไม่ยอมอยู่ดี   “เอาเสื้อผ้าโทนขาว น้ำเงิน ฟ้า ดำ เทา มาหน่อย เอาเป็นเสื้อแขนยาวมีกระดุมก่อนแล้วกัน”พี่สั่งพนักงานเหมือนมาบ่อย แล้วผมก็คิดว่าเธอคงมาบ่อยจริงๆ เพราะพนักงานที่เห็นเธอก็รีบมาตอนรับ ผู้จัดการร้านเองยังมา พนักงานคนหนึ่งเอาน้ำกับเค้กส้มมาเสิร์ฟ อีกหลายคนที่เหลือก็คอยหยิบของตามที่พี่แกสั่ง

   “ไม่เอาตัวนี้ ใช่ๆ สีฟ้าอ่อนตัวนั้นแหละ”

   “ไซส์นี้ใหญ่ไป เล็กกว่านี้อีกไซส์นึง”   

   “กางเกงสีน้ำตาลอ่อนตัวนี้เอา”

   “เอาสีดำไปเก็บแล้วเปลี่ยนเป็นสีขาวมา”

   ผมวุ่นกับการลองเสื้อผ้า แล้วชุดก็ไม่ใช่น้อยๆ พี่แกเลือกมาไว้ตอนนี้เกือบยี่สิบชุดแล้ว แต่นับว่ารสนิยมของพี่ดีสุดๆ ไปเลย เพราะผมใส่แล้วดูดีเลยทีเดียว แถมสีไม่ฉูดฉาด ให้ความรู้สึกสบายตา กว่าจะเสร็จ เราใช้เวลาอยู่ที่ร้านนี้ไปเกือบสามชั่วโมง และชุดก็มากกว่าสี่สิบชุด ผมไม่รู้ว่าเธอเสียเงินไปเท่าไหร่ แต่ที่รู้ก็คือ ฟุ่มเฟือยมากกกกก

   ผมคิดยังไงก็คิดไม่ตกว่าเราจะถือของทั้งหมดนี่ออกไปหมดได้ยังไง แต่เธอกลับหันไปนอกร้านกวักมือเรียกเบาๆ บอดี้การ์ดสูทดำห้าคนก็เดินเข้ามาในร้าน

   “ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”ผมอ้าปากค้าง

   “ตลอดแหละจ๊ะ”เธอหันมายิ้มนางฟ้าให้ผม

   “เราจะกลับกันแล้วใช่มั้ยครับ”

   “เรายังได้เส้อผ้าไม่ครบเลย ไหนจะรองเท้าอีก อ้อจริงสิ เธอเอาชุดนี้ไปเปลี่ยนเถอะไป”เธอยื่นเสื้อเชิตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสีน้ำตาลอ่อนให้ผม ผมเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยใจจำยอม  ผมเหนื่อยจะตายชัก....

   แต่เธอกลับบอกว่ายังซื้อเสื้อผ้าไม่ครบ พ่อ !!! กลับบ้านไป ผมจะโกรธพ่อ คอยดู

   “โอเค เรียบร้อยใช่มั้ย ไปกันเถอะ เราต้องตัดสูทไว้ไปงานสังคมด้วยนะ” แล้วเธอก็ดึงแขนผมไปร้านตัดสูท
   คนในร้านก็วัดนู่นนี่นั่นไปเรื่อย ผมก็ยืนไปหุ่นให้พี่จัดการตามใจชอบ หลังจากที่เธอสั่งตามใจชอบแล้ว เธอก็พาผมไปร้านขายรองเท้า แล้วก็ร้านขายกระเป๋า และด้วยผมที่เธอเป็นคนที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เธอพาผมไปร้านของชุดชั้นในบุรุษด้วย คราวนี้ผมรีบบอกเธอว่าผมจะขอเลือกเอง เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็คอยดูผมเลือกอยู่ห่างๆ ถ้าอันไหนผมเลือกไม่ถูกใจเธอก็จะเดินมาบอกผมแล้วก็ช่วยเลือกอยู่ดี ผมอยากบอกว่าตอนนี้ผมอายมาก พนักงานในร้านพากันมองผมแล้วอมยิ้ม ผมรีบๆ ซื้อแล้วเดินออกมา ส่วนพวกบอดี้การ์ดที่ตอนนี้โดนลดความสำคัญไปเป็นคนถือของก็น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อย กลับบ้านไปคงเคล็ดขัดยอกน่าดู   

   กว่าจะได้กลับบ้าน ผมเกือบเป็นลมด้วยความหิว ในห้องอาหารพี่ไทจิกับพ่อก็นั่งรออยู่แล้ว ผมก็ไปนั่งที่ว่างข้างพี่ไทจิ ส่วนพี่อายากะนั่งข้างพ่ออีกฟาก คนรับใช้จึงค่อยๆ ยกอาหารเข้ามาเสิร์ฟ

   “ได้ของมาครบรึเปล่าเรา”พี่ไทจิหันมาถามก่อนจะจิ้มเนื้อของกุ้งมังกรเข้าปาก

   “ครบครับ ขอบคุณนะครับ”ประโยคแรกผมตอบที่ไทจิ ส่วนประโยคหลังผมหันไปขอบคุณพ่อกับพี่อายากะ

   “จ้า แต่พี่ยังไม่ได้พาเราไปสปาเลย ไหนจะยังเรื่องพวกของจุกจิกเช่นผ้าเช็ดหน้า นาฬิกา แหวน บลาๆๆๆ”

   พี่อายากะเองก็ร่ายรายการใส่ผมซะยืดยาว ถึงแม้จะทำตัวไม่ค่อยถูก เพราะไม่ได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์แบบนี้มา แต่ผมก็รู้สึกดีมากๆ เลย แม้จะไม่ได้เหมือนภาพที่ผมเคยวาดไว้ แต่กลับเติมเต็มความรู้สึกในใจอย่างน่าประหลาด ความอบอุ่นของครอบครัว การพูดคุยเรื่องวันที่ผ่านมาบนโต๊ะอาหารตอนเย็น  อยู่กันพร้อมหน้า.... ตอนนี้ผมได้แต่ภาวนา อย่าได้มีสิ่งใดมากพรากเอาความสุขของผมไปอีกเลย

   “พรุ่งนี้พี่จะพาเราเข้าบริษัทนะ พี่จะให้เราไปดูๆ งานจากเลขาพี่ เพราะเขาได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นหัวหน้าฝ่ายขาย ตำแหน่งนั้นเลยว่างพอดี ช่วงนี้เราเรียนรู้งานเป็นเลขาพี่ไปก่อนแล้วกัน”

   “ครับ”

   “เอานี่ กินเข้าไปเยอะๆนะ”พี่ไทจิคีบเอาเนื้อปลาหิมะย่างซีอิ๊วใส่จานผม ผมก็นั่งทานเงียบๆ ฟังพี่อายากะกับพี่ไทจิพูดคุยกัน ส่วนพ่อก็นั่งพยักหน้าเป็นผู้ฟังเหมือนผม

   พอทานเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอน พ่อแวะมาหาผมถามไถ่สารทุกข์สุขดิบก่อนจะออกไปตอนสี่ทุ่ม ผมเองก็เหนื่อยมาทั้งวันเลยนอนสลบทันทีที่หัวถึงหมอน

   ตื่นเช้ามา ผมก็รีบแต่งตัวในชุดที่เรียบร้อยลงไปรอพี่ไทจิข้างล่าง พอพี่ไทจิลงมาเราก็ทานอาหารเช้าด้วยกัน ก่อนที่ผมจะไปที่บริษัทกับพี่ไทจิ

   บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างและการขนส่งทางทะเล ซึ่งทำเม็ดเงินมหาศาลพอที่จะให้พี่อายากะถลุงเล่นๆ แบบเมื่อวานได้วันละหลายๆ หน  และมีหลายสาขากระจายตามจังหวัดต่างๆ รวมถึงต่างประเทศ ตอนนี้พี่ไทจิทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราวเพราะพ่อหนีงานไปง้อผม พี่ไทจิเองก็ดีกับผม ไม่เคยคิดน้อยใจหรือเคียดแค้นผมเลย ซึ่งทำให้ผมสบายใจมาก

   “ตื่นเต้นรึเปล่าเรา”   

   “ครับ”

   “จำไว้อย่างนึงว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ก็ต้องให้บอดี้การ์ดตามไปด้วยเสมอ เราต้องระวังทุกย่างก้าว บอดี้การ์ดไม่ได้มีไว้ทำเท่ห์ แต่มีเพื่อไว้ เพื่อให้รอดชีวิต คิมต้องนึกถึงความจริงข้อนี้ให้ดี บางคนอาจเรียกพ่อว่ามาเฟีย แต่นั่นมันอดีตไปแล้ว ตอนนี้เราทำธุรกิจอย่างขาวสะอาด แต่อำนาจก็ต้องกุมไว้ไม่ให้สั่นคลอน เพราะฉะนั้นอาจมีศตรูเหม็นขี้หน้าบ้าง หรือไปเหยียบเท้าใครเข้า จำไว้ว่าตั้งแต่เราเหยียบเท้ามาญี่ปุ่นในฐานะคุณหนูของบ้านซากุรากะ เราก็ถูกหมายหัวเรียบร้อยแล้ว”พี่ไทจิพูดเครียดๆ ผมเองก็ได้แต่พยักหน้ารับ

   สักพักรถก็มาถึงบริษัท พอผมลงจากเบาะหลังพร้อมพี่ไทจิ ทุกคนก็หันมามองผมด้วยความสงสัยว่าผมเป็นใคร พี่ไทจิเองก็ไม่ได้พุดอะไร เดินดุ่มๆ เข้าลิฟต์ ผมเองก็รีบเดินตามเข้าไปติดๆ

   ทุกอย่างดูราบรื่น เลขาของพี่ไทจิก็สอนงานผมและผมเองก็คอยดูเวลาเขาทำงาน เรียนรู้เงียบๆ ไปควบคู่กัน พี่ไทจิทำงานหนักมาก เขาแทบไม่ได้พักเลยเมื่ออยู่ในเวลางาน  แต่พี่ก็มันจะหันมายิ้มน้อยๆ เป็นกำลังใจให้ผมทุกครั้งที่เราเผลอสบตากัน  ผมก็ยิ้มตอบ พักเที่ยงเราก็ลงไปกินข้าวกัน พอบ่ายพี่เขามีประชุม พี่ให้ผมตามไปประชุมด้วยและแนะนำผมกลางที่ประชุมว่าผมเป็นใคร ทุกคนโค้งคำนับผมอย่างเข้าใจดีว่าในอนาคตผมอาจจะมาบริหารแทนพี่ ทุกคนเลยดูนอบน้อมเป็นพิเศษ แต่กับเรื่องนี้ ผมต้องคุยกับพ่อแล้วว่าผมอยากให้ทุกอย่างเป็นของพี่ไทจิตามเดิม ผมไม่อาจทำร้ายจิตใจคนที่แสนดีกับผมได้หรอก

   “พี่ไทจิ ผมจะไม่ขอรับช่วงต่อจากธุรกิจใดๆ ของพ่อทั้งนั้น มันจะเป็นของพี่ พี่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้”ผมบอกกับพี่ตอนที่เราอยู่ในห้องทำงานหลังประชุมเสร็จ

   “มันเป็นของคิมนะ มันไม่ใช่ของพี่มาตั้งแต่แรก”

   “พี่เป็นพี่ของผม ยังไงมันก็เป็นของพี่” 

   “เอาไว้ถึงเวลานั้น เราค่อยมาคุยกันแล้วกัน พี่ขี้เกียจเถียงเราแล้ว”

   “ผมก็ขี้เกียจเถียงเหมือนกัน”

   “วะ! ไอหนูนี่นิ ฮ่าๆๆๆ”

   เย็นวันนั้นเป็นวันแรกที่ผมยิ้มได้อย่างปรอดโปร่งในช่วงเวลา 13 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผมขาดผมได้รับกลับมาแล้ว

   นับวันพี่ทั้งสองคนก็ได้เติมเต็มความรู้สึกให้ผมจนตอนนี้ผมไม่รู้สึกว่ามันขาดแล้ว ส่วนพ่อ ผมเองก็ไม่ค่อยได้คุยกับเขานัก เพราะเขายังต้องเคลียร์งานที่ทิ้งไปนานสองเดือน  แต่ผมก็ไม่เหงาหรอกนะ จะเพราะอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะบอดี้การ์ดผมคอยตามติดเป็นเงาตามตัวผมขนาดนี้

   “นี่คือ คุณโทชิโร่ จะมาเป็นบอดี้การ์ดของลูกนะ”พ่อแนะนำผู้ชายตัวใหญ่ยักษ์ สวมสูทดำ หน้าตาค่อนข้างดีให้ผม เดี๋ยวนี้มาเฟียเขาคัดหน้าตาด้วยรึเปล่านะ ลูกน้องพ่อหน้าตาดีทุกคนเลย เค้าโค้งคำนับผมหนึ่งครั้ง

   “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับคุณหนู”

   “เช่นกันครับ”ผมก็โค้งคำนับเขาไปครั้งนึงตามมารยาท

   ตอนนี้คนที่ผมพอจะคุยด้วยตอนที่พี่โทจิกับยุ่งกับงานและพี่อายากะออกไปข้างนอกก็คือโทชิโร่นั่นเอง 

   “โทชิโร่ซัง วันนี้วันอาทิตย์”

   “ครับ คุณหนูจะไปไหนรึเปล่าครับ”

   “ผมอยากไปซื้อหนังสือกับพวกเครื่องเขียนหน่อยนะครับ”

   “งั้นผมจะพาไปครับ”

   วันนี้พี่ไทจิกับพ่อต้องไปดูงานที่ท่าเรือแถวๆชินากาว่า ผมอยู่บ้านก็เบื่อๆ อยากไปหาหนังสืออ่านด้วย เลยรบกวนให้โทชิโร่พาไป ผมไปตอนบ่ายๆ ซื้อหนังสือเสร็จก็ประมาณสี่โมงเย็น ผมกับโทชิโร่ก็เดินเลนแถวๆ นั้นสักพัก ห้าโมงค่อยกลับไปทานข้าวเย็นที่บ้าน
   
   
   “คุณหนูทราบหรือเปล่าครับ ว่าอาทิตย์หน้าจะเป็นงานวันเกิดของคุณไทจิ”

   “เฮ้ย ผมไม่รู้เรื่องเลย”

   “จะไปหาของขวัญให้คุณไทจิมั้ยครับ คุณหนูอยากซื้ออะไรให้คุณไทจิ ก็ตามสบายเลยครับ นายท่านให้เงินมากับมาผมไว้แล้ว คุณหนูต้องการอะไรก็แค่บอกผมครับ”

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ”

   “คุณหนูอย่าห้ามเลยครับ นี่เป็นเงินของคุณหนูเอง นายท่านใส่เงินไว้ให้ทุกเดือนตั้งแต่คุณหนูจากไปเมื่อ 13 ปีก่อน ตอนนี้มันก็เหมือนเงินเก็บของคุณหนูครับ”

   “งั้น ก็ได้ครับ”

   เราเดินกันไปเรื่อยๆ ผมเองก็ไม่รู้จะซื้ออะไรให้พี่ไทจิดี และก็ไม่มีอะไรถูกใจเป็นพิเศษ

   “ผมไม่รู้จะซื้ออะไรดีครับ คุณโทชิโร่พอจะรู้ของพี่ไทจิอยากได้บ้างมั้ย”

   “ผมเองก็ไม่ได้สนิทกับคุณไทจิ ต้องขออภัยด้วยครับ”

    “ไม่เป็นไรครับ ...งั้น ผมซื้อนาฬิกาให้ดีกว่า”

   เราสองคนเดินกันไปร้านขายนาฬิกาที่โทชิโร่แนะนำ ผมเลือกนาฬิกาเรือนเหล็กสีดำ หน้าปัดเป็นกลไกสีทองงดงามดูล้ำค่า เหมาะกับตำแหน่งของพี่ไทจิ ผมเอาให้คุณโทชิโร่ดู เขาก็พนักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย ผมจึงเอานาฬิกาให้พนักงานแล้ววานเขาให้เขาห่อของขวัญให้ด้วย เมื่อจ่ายเงินเสร็จ ผมกำลังจะเดินออกจากร้าน แต่ทว่า

   ฟุบ!!!

   โทชิโร่รีบเข้ามาบังร่างผมให้ถอยห่างจากผู้มาเยือน  ชายร่างสูงในชุดสูทราคาแพงที่เทาควันบุหรี่พร้อมผู้ติดตามในสูทดำของบอดี้การ์ดห้าหกคน  ข้างนอกร้าน คนของพ่อที่ผมคุ้นหน้า สามคนกำลังคุมเชิงอยู่ คิดยังไงคนฝ่ายเราก็น้อยกว่า ผมอยากจะคิดในแง่ดีว่าบางทีเขาอาจจะมาซื้อนาฬิกา แต่ดูจากสีหน้าของโทชิโร่ซังแล้ว สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดเลยทีเดียว

   “สวัสดีครับ คุณโทระซึกิ ทาคุยะ”โทชิโร่เอ่ยทักคนที่ดูแล้วน่าจะเป็นหัวหน้า ถ้าผมจำไม่ผิด โทระซึกิเป็นชื่อของแก๊งมาเฟียที่เป็นคู่แข่งของพ่อนี่นา

   “คุณหนูซากุรากะ ยูกิสินะ”ยูกิเป็นชื่อของผมในภาษาญี่ปุ่น

   “ทักทายกันแบบนี้ คุณหนูของผมก็ตกใจแย่สิครับ ผมว่า ไว้พบกันอย่างเป็นทางการในงานวันเกิดของคุณไทจิเถอะครับ”โทชิโร่กันผมให้อยู่หลังเขา ก่อนจะเอ่ยเจรจากับทาคุยะอย่างใจเย็น 

   “ไม่ใช่เรื่องของแก ถอยไป”เขาเอ่ยไล่โทชิโร่เสียงแข็ง ก่อนจะผลักโทชิโร่ให้พ้นทาง ผมผงะถอยหลังด้วยความตกใจ เขาเลยจับแขนผมไว้ไม่ให้หนีได้ ท่าทีเขาคุกคามอย่างเห็นได้ชัด

   “ไง คุณหนูยูกิ ไม่ทักทายกันหน่อยเหรอครับ”แสยะยิ้มได้น่ารังเกียจจริงๆ

   “โปรดมีมารยาทด้วยครับ”โทชิโร่รีบดึงผมออกมา ก่อนจะดันผมไปไว้หลังเขาเหมือนเดิม คนที่อยู่ขางนอกก็พยายามจะเข้ามาหาผมให้ได้ แต่ก็โดนลูกน้องของทาคุยะกันไว้ พนักงานในร้านเองก็รีบออกไปทางหลังร้าน ส่วนผู้จัดการก็ยืนสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ ไม่กล้าเข้ามายุ่ง

   “อะไรกัน แค่เข้ามาทักทายแค่นี้ ทำเป็นหวงไปได้”เขายืนพิงตู้โชว์นาฬิกาอย่างเซ็งๆ

   “กรุณาถอยไปด้วยครับ”โทชิโร่พยายามพูดอย่างใจเย็นทั้งที่ร้อนใจใจจะขาด

   “หึๆ แล้วพบกันใหม่นะ ยูกิจัง”เขายื่นหน้ามาหาผม โทชิโร่รีบกันไว้ จากนั้นพวกลูกน้องเขาก็เปิดทาง โทชิโร่รีบพาผมเดินออกไปจากร้าน  แต่ก่อนที่ขาผมจะก้าวออกจากร้าน เสียงพูดไม่น่าฟังที่ออกมาจากปากของหัวหน้ากลุ่มโทระซึกิที่ลอยมาเข้าหูผมกับโทชิโร่เข้า ก็ทำให้เราทั้งสองคนรีบเร่งฝีเท้า เดินไปสมทบกับพวกที่รออยู่ข้างนอกแล้วกลับบ้านให้เร็วที่สุด  โทชิโร่เองก็ถึงกับเคร่งเครียดจนถึงขีดสุด ส่วนผมเองก็รู้สึกไม่สบายใจถึงเรื่องวุ่นๆ ต่อจากนี้ขึ้นมาทันที

   “หวงมากนักนะ หึ แต่ก็ทำให้อยากได้เข้าไปใหญ่เลย”

------------------------------------------------------------------------------------
ตัวละครยังออกมาไม่ครบ อย่าพึ่งทายพระเอกเลยค่ะ โฮะๆๆๆๆ :laugh:

ขอโทษที่หายไปนะ ไม่ค่อยได้เข้ามาตอบ ช่วงนี้เผอิญยุ่งเรื่องที่บ้านนิดหน่อย 555+

แล้วขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  อ่านแสดงความคิดเห็นแล้วกระปรี้ประเปร่าขึ้นมาทันทีเลย ฮึตสู้เลยค่ะ   :katai4:  สปอยไว้ก่อนว่าตอนหน้า รักใครชอบใครก็เชียร์คนนั้นนะค่ะ ส่วนสาวกคุณพ่อ ขอบอกเลยว่างานนี้ไม่มีพ่อ-ลูกแน่นอน 555+ คุณพ่อของเราเป็นชายแท้ค่ะ

นายเอกของเราชื่อไทยจะชื่อ คิม  ส่วนถ้าอยู่ญี่ปุ่น ทุกคนจะรู้จักในชื่อ ซากุรากะ ยูกิค่ะ

ยังไงก็ ขอฝากยูกิของเราด้วยนะค่ะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 01-05-2014 17:10:16
ตัวละครยังไม่ครบ พระเอกยังไม่ออกรึป่าวหว่า?
ยังไม่เห็นความเป็นไปได้เลย
พี่ไทจิไม่น่าใช่ ดูจากคาแรกเตอร์ ฮ่าาาาาาาาา
คุณบอดีการ์ดน่าสนใจอยู่
รอลุ้นตอนหน้าล่ะกันเผื่อมีใครมาเพิ่ม อิอิ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 01-05-2014 17:16:55
พี่ๆหลงกันน่าดู อิอิ  :z1: :haun4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: zalapao14 ที่ 01-05-2014 17:32:53
น้องคิมคงน่ารักมาก ดูท่าทางจะถูกใจพี่สาวกะพี่ชายมากเลย

พระเอกรีบๆเผยตัวนะ อยากรู้

 :pig4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: pamnana ที่ 01-05-2014 18:19:58
คิมคงเงิบน่าดู เหมือนพี่ๆจะเฝ้าดูน้องคิมมานานพอตัวเลยนะเนี่ย  :hao3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 01-05-2014 18:22:23
ทาคุยะนี่พระเอกป่าว? หรือตัวโกง 5555 :hao6:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 01-05-2014 19:01:52
โชคดีที่เข้ากับครอบครัวทางนี้ได้ มีตัวละครใหม่โผล่มาอีกแล้วเดาพระเอกไม่ถูก
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 01-05-2014 20:04:16
เดายากแฮะ ..  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 01-05-2014 20:17:48
พระเอกยังไม่มาแน่ๆ ยังไม่เชียร์ใครเลย   :o11:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 01-05-2014 20:23:45
ตัวละครยังไม่ครบสินะ งั้นยังไม่ลุ้นดีกว่าว่าใครพระเอก กรั๊กๆ ถ้าคนที่เชียร์ไม่เข้าวินผมจะงอนจริงๆนะ555
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 01-05-2014 20:37:27
พระเอกยังไม่ออกมาสินะ  :katai3:
นายทาคุยะนี่ตัวโกงแหง่มๆ จากรูปการณ์แล้ว

รอติดตามสถานการร์อย่างใกล้ชิด  :katai5:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 01-05-2014 21:03:19
ดีจังไม่มีดราม่าในครอบครัวภาคต่อ ให้จบไปกับคนรุ่นก่อนเถอะ
แต่ศัตรูข้างนอกท่าทางจะเยอะจริง
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: ployyuki ที่ 01-05-2014 22:18:16
แอบงงกับอายุของคิมนิดหน่อยค่ะ จากญี่ปุ่นตอน 5 ขวบ อยู่ไทยมา 13 ปี = อายุ 18 แต่เรียนจบแล้ว?
ปกติเรียนจบน่าจะประมาณ 22 นะคะ (อย่างเร็วก็ 21)

ส่วนชื่อของคิมหันต์ แปลว่าฤดูร้อน แต่ชื่อญี่ปุ่น คือ ยูกิ แปลว่าหิมะ
ตั้งใจจะตั้งให้ตรงฤดูกาลหรือเปล่าคะ? ถ้าจะให้ตรง หน้าร้อนของญี่ปุ่นคือ นัตสึค่ะ (ถ้าไม่ได้คิดเรื่องฤดูก็ขอโทษด้วยนะคะ พอดีคิดเยอะไปหน่อย ^^;)
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 02-05-2014 08:39:11
เป็นพี่ชายกับพี่สาวที่คาดไม่ถึงเลยแฮะ

ดีแล้วล่ะรักกันไว้ๆ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 02-05-2014 08:54:39
พี่ชายพี่สาวน่ารักจัง  :-[
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 02-05-2014 09:33:37
คงไม่มีดราม่าในครอบครัวนะ :mew2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 02-05-2014 13:06:24
ployyuki : ขอบคุณที่เตือนมากเลยค่ะ พอดีคนแต่งเบลอไปหน่อย คนแต่งนึกว่าคิมหันต์คือฤดูหนาวอ่ะ หลงหับเหมันต์ แงๆ โทษทีค่า  เรื่องอายุก็เหมือนกัน  เดี๋ยวจะทำการแก้ไขให้เดี๋ยวนี้เลย ค่าาาา  :sad4:

ต้องขออภัยทุกคนที่ทำให้เสียอรรถรส กันนะค่ะ  :o12:

ให้อภัยคนแต่งคนนี้ด้วยเถอะค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: ployyuki ที่ 02-05-2014 13:10:12
ยินดีค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maiar1996 ที่ 02-05-2014 22:59:49
อยากอ่านต่อ มาต่อเร็วนะ  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 03-05-2014 00:04:43
พระเอกยังไม่ออกแน่เลย
หรือว่าจะเป็นคุณบอดี้การ์ดกันนะ

หวังว่าคงไม่พลิกล็อคให้พี่ไทจิ
มาหักหลังที่หลังน๊าาาาาาาาาา


เค้ารักบุคลิกหนุ่มขี้เล่นแต่เอาจริงกับงานของพี่ไทจิ

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 03-05-2014 01:39:28
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Blackbone ที่ 03-05-2014 03:13:52
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ สนุกมากๆเลย >o< ชอบคาแร็กเตอร์ของหนูคิมถูกใจมากๆค่ะ จะรอตอนต่อไปนะค้าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 4 พี่ชาย พี่สาว และแก๊งโทระซึกิ P.3 - 1/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: beamintron ที่ 03-05-2014 03:54:48
สรุปบ้านนี้ตระกูลนี้หน้าดุกันทั้งบ้านสินะ  ..หวังว่าพี่ๆนี่จะรักน้องจากใจจริงนะไม่เอาแบบ พ่อคิมนะที่ต้องโกหกทำให้เราเสียใจอะ #ไม่รู้อ่านเข้าใจกันป่าวเค๊าเด็กกลางคืนอะ #ตี4 ตบกะบาลตัวเอง
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 05-05-2014 18:24:33
แหะๆ รู้สึกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีไฟ

แต่ถ้าเสร็จทันวันนี้ จะเอามาลงให้อ่านกันนะค่ะ

 :katai4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข้าว] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 05-05-2014 20:05:05
สู้ๆ รออ่านอยู่น้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 05-05-2014 20:26:08
บทที่ 5 งานวันเกิด

   พี่โทชิโร่รีบขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วท้านรก คนนั่งเบาะข้างคนขับก็วอหารถคันอื่นๆไปด้วย

   “มันขับตามมารึเปล่า”เขาพูดใส่วอ

   (ไม่ครับ)

   “อย่าวางใจ”

   “ครับ”

   ขบวนรถของผมมีแค่ 2 คนเท่านั้น แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมว่าคุณพ่อต้องเพิ่มการ์ดแหงๆ

   รถขับกลับมาถึงบ้านใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที ทั้งที่ปกติเกือบชั่วโมง พอกลับมาถึงผมก็เห็นพ่อกับพี่ไทจิออกมายืนรับพร้อมทั้งบอดี้การ์ดหลายคนที่เดินวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวบ้าน และทางขึ้นเนิน

   พอผมลงจากรถ พ่อก็ดึงตัวผมเข้าไปกอด แม้ผมจะรู้สึกเสียขวัญอยู่บ้างจากการคุกคามของทาคุยะ แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้น ทุกคนทำกับว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ผมก็อดรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยไม่ได้ในอ้อมกอดพ่อ

   “เป็นอะไรมั้ย”

   “ไม่ครับ”

   “มันทำอะไรรึเปล่า”

   “เขาแค่มาทักทาย”

   “ช่วงนี้อย่าออกจากบ้านเลยนะ อยากได้อะไรบอกโทชิโร่”

   “ครับ”

   พ่อดันตัวผมออก พี่ไทจิก็ดึงผมไปกอดแรงๆ ครั้งนึงแล้วปล่อยออก ก่อนที่เราจะแยกย้ายกันเข้าบ้าน ผมเดินเอาของขึ้นไปเก็บบนห้อง ก่อนจะนั่งเล่นคอมอย่างไม่มีอะไรทำ


อีกด้านหนึ่ง ทาเคชิกับไทจิก็เรียกโทชิโร่บอดี้การ์ดของคิมและคนที่ติดตามไปอีก 3 คนไปที่ห้องทำงานของไทจิ

   “พวกแกดูแลลูกฉันประสาอะไร!!!”ทาเคชินั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟา ข้างๆไทจินั่งอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยจนน่ากลัว

   “ขออภัยด้วยครับ”ทั้งสี่คนโค้งคำนับ

   “เรื่องที่ยูกิถูกทำร้ายที่ไทยก็ยังสืบอะไรไม่ได้”ทาเคชิพูดอย่างเครียดๆ เรื่องที่ไทยนั้นจับมือใครดมไม่ได้เลย  คนที่ทำมีความเป็นมืออาชีพมากเลยทีเดียว และเรื่องที่เขาไปหายูกิที่ไทยนั้นเป็นเรื่องที่มีแต่คนในเท่านั้นที่รู้ว่าเขามีลูกนอกสมรส เขาเลยมุ่งเป้าไปที่อาโยชิทาเกะ ที่เคยทรยศแก๊งค์ไปก่อนหน้านั้น

   “เรื่องนี้ผมคงต้องช่วยอีกแรงแล้วล่ะครับ ผมเป็นห่วงน้อง น้องเองก็พึ่งมา ยังไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก ผมกลัวน้องจะไม่ระวังตัวเท่าที่ควร เรื่องงานในบริษัท ผมจะให้หยุดไว้ก่อน”ไทจิพูด

   “อืม ตามนั้น ส่วนพวกแก ทำไมวันนี้ไม่ดูให้ดี ปล่อยให้ไอหนูทาคุยะนั่นเข้าถึงตัวยูกิได้”

   “ขอประทานโทษครับท่าน พวกเรามีน้อยกว่าครึ่งๆ ครับ”

   “ต่อให้เหลือแค่คนเดียว ก็ต้องกันไม่ให้มันแตะยูกิได้แม้แต่ปลายนิ้วก้อย!!! พวกแกทำฉันผิดหวัง โดยเฉพาะแก โทชิโร่ โทระซึกิ ทาคุยะ ไม่ใช่คนที่เราประมาทได้ มันเก่ง พ่อมันถึงได้ยอมลงจากตำแหน่งให้มันปกครองตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ดูเหมือนเลือดร้อน แต่รอบคอบ อย่าดูถูกความสามารถของเจ้านั่นเป็นอันขาด”ทาเคชิปรายสายตาดุสีดำก้นเหวไปที่โทชิโร่

   “ขอโทษครับ”โทชิโร่รีบก้มลงคำนับกับพื้นเพื่อขอโทษอย่างสุดซึ้ง เพราะทาเคชิเองก็โกรธมาก  ส่วนไทจิทำหน้าเครียดอย่างคนกำลังใช้ความคิด 

   “ช่วงนี้เพิ่มเวรยามเป็น 2 เท่า ส่วนแก โทชิโร่ จับตาดูยูกิตลอดเวลาด้วย ยางามิ แกส่งคนไปจับตาดูโยชิทาเกะและแก๊งโทระซึกิไว้ ยูกิเป็นทายาทผู้สืบทอดตระกูลฉัน จะให้มาเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นฉันคง....” ประโยคหลังทาเคชิพูดเสียงเบาเสียจนมีแต่เขาและไทจิที่นั่งอยู่ข้างๆ เท่านั้นที่ได้ยิน
ยูกิเป็นเพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่ สิ่งที่ผิดพลาดก็ได้ทำลงไปแล้วเมื่อ 13 ปีก่อน เขาแสดงความอ่อนแอออกมาให้ลูกและผู้หญิงที่เรารักเห็น เธอโกรธเขาเป็นฟืนเป็นไฟ จนถึงขั้นตัดขาดความช่วยเหลือทุกอย่างของเขา เขาเองก็สืบตามจนรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่เธอก็เมินเฉยราวกับว่าไม่เคยรู้จักคนที่ชื่อ ซากุรากะ ทาเคชิมาก่อน  นั่นเองทำให้เขารู้ว่าสุดที่รักของเขานั้นดื้อและทิฐิเยอะขนาดไหน  และที่ทำให้เขาแปลกใจมากที่สุดก็คือ การที่เธอเปลี่ยนชื่อลูกชายตัวน้อยของเขาจากยูกิมาเป็นคิม เพียงแค่คิม ในภาษาเกาหลีซึ่งแปลว่าทองคำ นอกจากนั้นแล้วเขาก็ไม่รู้อะไร  แต่ยูกิตัวน้อยเกิดในฤดูหนาว เขาจึงตั้งชื่อว่ายูกิ ชื่อเหมือนเด็กผู้หญิงแต่นั่นก็เพราะเจ้าตัวเล็กเกิดมาหน้าหวานมากจนเขาคิดว่าเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆ ถ้าไม่ติดตรงหนอนน้อยที่ได้มาจากเขาอะนะ

   เขาได้แต่บอกกับตัวเอง ว่าความอ่อนแอและความผิดพลาดทั้งหมดในอดีตจะสามารถลบเลือนออกจากความทรงจำของยูกิของเขาได้ในสักวันหนึ่ง แต่ว่าคนที่มันต้องการฆ่ายูกินั้น มันจะต้องได้รับผลกรรมของมันอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะกระหายอยากจะพิสูจน์ความเข้มแข็ง ความแข็งแกร่ง อยากเป็นฮีโร่ในสายตาของลูกชายของเขามากเท่าไหร่ แต่ก็เขาก็ไม่ต้องการจะพิสูจน์ด้วยวิธีนี้  ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ไม่ว่ามันต้องการอะไร เขาจะให้มันลิ้มรสความกลัวและความเจ็บปวด อย่างที่มันต้องการจะให้ยูกิของเขาเจอ  แม้ว่าเขาจะต้องกลายเป็นปีศาจร้ายเขาก็จะทำ เพื่อที่บทบาทในฐานะพ่อของเขาจะไม่ต้องถูกโยนทิ้งไว้ข้างหลัง เหมือนเมื่อ 13 ปีก่อน ที่หัวใจสามดวง ต้องมาแตกสลายพร้อมๆกัน.....


   ผมขึ้นมาบนห้องและนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยๆ สักพัก โทชิโร่ก็ตามขึ้นมา เขาเดินมาพร้อมกับช็อกโกแลตกล่องใหญ่ที่พี่อายากะฝากไว้ก่อนจะออกไปข้างนอก  ช่วงนี้ผมไม่ค่อยเจอพี่อายากะเลย พี่เขาออกจากบ้านบ่อยมาก จะได้เจอกันก็แค่ตอนทานข้าวเย็นเท่านั้น อืม...บางทีผมควรจะถามโทชิโร่ดูอาจจะได้อะไรบ้าง

   “โทชิโร่ซัง เจอพี่อายากะบ้างมั้ยครับ ช่วงนี้”

   “ไม่เลยครับ ผมอยู่กับคุณหนูตลอดเวลานี่ครับ”

   “ผมมาอยู่ได้หลายวันแล้ว แต่กลับไม่ได้รู้เรื่องของทางนี้เลย” ผมทำสีหน้าหนักใจ

   “คุณหนูอยากรู้เรื่องอะไรล่ะครับ ถามผมได้ครับ ถ้าผมสามารถตอบได้ ผมก็จะตอบ” ถ้าสามารถตอบได้ก็จะตอบ หมายความว่ายังไม่พร้อมจะเปิดเผยกับผมทุกเรื่องสินะ

   “พี่อายากะ ออกไปข้างนอกบ่อยมาก” ผมเดินมานั่งที่โซฟา แล้วผายมือให้คุณโทชิโร่นั่งลง

   “คุณอายากะเป็นรองประธานกรรมการ ฝ่ายบริหารของบริษัทครับ ช่วงนี้เองบริษัทมีปัญหานิดหน่อยครับ”

   “รองพี่ไทจิ”

   “ครับ ช่วงนี้คู่ค้าของเราที่เป็นผู้มีอิทธิพลของฮ่องกงดูเหมือนจะเปลี่ยนใจที่จะทำธุรกิจกับเรา ไปทำธุรกิจกับบริษัทในเครือฟูจิมิยะแทน คุณหนูอายากะเลยต้องวิ่งเต้นคอยดึงลูกค้ารายนี้ไว้ ช่วงนี้เธอเลยยุ่งๆ หน่อย”

“ฟูจิมิยะ”แก๊งของภรรยาคุณพ่อ และแก๊งที่คุณอาของคุณพ่อยึดครองอยู่

“ครับ ถือว่าเป็นสารท้ารบเลยก็ได้ เขาจงใจที่จะทำให้เราเสียลูกค้ารายใหญ่ไป คุณฟานหลงเองก็เหมือนมาเฟียฮ่องกง เขามีอิทธิพลและเป็นพันธมิตรต่างแดนของเรา”

“ทำไมถึงต้องทำการค้ากับมาเฟียล่ะครับ อันตรายไม่ใช่เหรอ”

   “คุณหนูอย่าลืมสิครับ ว่าเราเองก็เป็นมาเฟีย”

   “แต่เราทำธุรกิจสุจริตนี่ครับ”

   “คุณหนูต้องพูดว่า เราเปลี่ยนมาทำธุรกิจสุจริตมากกว่า”

   “แล้วเมื่อก่อน ทำอะไรกันครับ”ผมพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเตรียมรับความจริง

   “เมื่อก่อน ในสมัยของคุณปูของคุณหนู คุณพ่อของนายท่านยังมีชีวิตอยู่ เราทำธุรกิจการก่อสร้างและการขนส่งทางทะเลเป็นฉากบังหน้า เบื้องหลังก็มีส่งออกและนำเข้าอาวุธเถื่อน และของเถื่อน แต่ไม่เคยทำเรื่องยาเสพติดหรือค้ามนุษย์นะครับ” เขารีบแก้ข่าวเมื่อเห็นว่าหน้าผมคิดเตลิดไปไหนต่อไหนแล้ว

   “การที่จะทำการค้าแบบนั้น จำเป็นต้องมีเส้นสายจากพวกคนใหญ่คนโต และอิทธิพลจากตระกูลฟูจิมิยะที่เป็นเจ้าแห่งการส่งออกทางทะเลขณะนั้น จากนั้นเมื่อคุณปู่ของคุณหนูตาย นายท่านก็ขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งคนต่อไป ท่านคงเจ็บใจที่ไม่สามารถปกป้องคุณหนูกับคุณหญิงเล็กได้ จึงพยายามปฏิเสธทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับฟูจิมิยะ จึงทำให้ท่านโยชิทาเกะที่เป็นอาของนายท่าน ที่ไม่ลงรอยกันตั้งแต่แรก เกิดความคิดที่จะทำการทรยศและยึดแก๊งซากุรากะไปเป็นของตัวเอง แต่ก็ทำการไม่สำเร็จ จึงต้องออกจากแก๊งไปในที่สุด”

   “แล้วพ่อก็เลิกค้าอาวุธเพื่อที่จะได้ไม่ต้องพึงฟูจิมิยะ และเริ่มทำธุรกิจอย่างเต็มตัวจนแซงหน้าฟูจิมิยะที่กำลังจะล่มสลายแล้วในตอนนี้”

   “ครับ พอผู้นำแก๊งฟูจิมิยะตาย คุณโยชิทาเกะก็ยึดแก๊งนั้นมาเป็นของตนและทำธุรกิจชั่วทุกอย่างที่คุณหนูจินตนาการออก การที่ฟูจิมิยะล่มสลาย ผมว่าก็เป็นเพราะเขาด้วยเหมือนกัน พวกเส้นสายที่ฟูจิมิยะเคยเลี้ยงไว้ต่างก็ไม่มั่นใจในตัวคุณโยชิทาเกะ เลยพากันถอนตัว เขาเลยทำการค้าได้ไม่ราบรื่นเท่าไหร่นัก”   

   “ตอนนี้เขายังไม่ชีวิตอยู่มั้ยครับ”

   “ครับ เป็นคนที่อายุยืนมากเลยทีเดียว”คุณโทชิโร่ยิ้มนิดๆ แต่มันช่างเป็นรอยยิ้มที่เหี้ยมมากเลยทีเดียว

   “ตอนนี้นายท่านที่หันมาทำธุรกิจอย่างเต็มตัว แต่ก็ยังต้องคงอิทธิพลไว้ เพราะศตรูตอนเรายังทำธุรกิจสกปรกนั้นยังมีอยู่เยอะเกินไป และธุรกิจก็ไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่ครับเพราะท่านโยชิทาเกะคอยขัดขวางอยู่”

   “งั้นเรื่องที่ผมโดนสั่งเก็บที่ไทยก็....”

   “เรื่องนั้นทางเรายังสืบไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นของท่านโยชิทาเกะครับ เพราะคนที่รู้ว่านายท่านมีลูกนอกสมรสก็มีแค่คนในเท่านั้น”

   “.........” ลูกนอกสมรส ฟังแล้วผมรู้สึกโกรธๆ ยังไงไม่รู้

   “ช่วงนี้ยังไม่ปลอดภัย คุณหนูอยู่แต่ในบ้านนะครับ ต้องการอะไรก็บอกผมได้”

   “ครับ แต่คุณโทชิโร่ครับ ถ้าการมีตัวตนของผมมีแต่คนในที่รู้ ทำไมโทระซึกิ ทาคุยะถึงรู้ชื่อผมละครับ”

   “นั่นก็เพราะ ตั้งแต่คุณหนูเหยียบลงแผ่นดินญี่ปุ่น ข่าวของคุณหนูก็กระจายออกไปแล้วครับ อันนี้คาดเดาได้ไม่ยากเลยว่าเป็นฝีมือใคร”ยิ้มเหี้ยมๆแบบนั้น นับวันยิ่งมืดมนนะครับ โทชิโร่ซัง


   เดาไม่ยากเลยว่าชีวิตในบ้านต่อจากนี้ของผมจะเป็นยังไง โชคดีทีซื้อของขวัญให้พี่ไทจิแล้ว สูทที่สั่งตัดจะได้อีก 2 วัน ช่วงนี้ผมก็เดินดูรอบๆ บ้านแล้วก็ทำความรู้จักกับพวกแม่บ้านและการ์ดคนอื่นๆแก้เหงา ผมชอบเล่นกับสัตว์นะ คิดว่าถ้ามีหมาน่ะคลายเหงาได้บ้าง คุณโทชิโร่ก็พาผมไปหาหมา แต่ล็อกไวเลอร์สีดำตัวสูงเท่าเอวผม 5 ตัวไม่ใช่อะไรที่จะเอามาคลายเครียดได้เลย

   ผมถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปในบริษัท วันอาทิตย์พี่ไทจิก็จะมาขลุกอยู่กับผมทั้งวัน เรานอนดูหนังกัน ก่อนที่พี่ไทจิจะเผลอหลับไปจริงๆ ผมเองก็ชักง่วงๆแล้วเหมือนกัน กำลังจะเคลิ้มหลับถ้าไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของพี่ไทจิดัง ผมเอื้อมมือไปที่โต๊ะเล็กข้างหน้าเพื่อจะดูว่าใครโทรมา

   (ไค)

   ชื่อไคงั้นเหรอ สั้นจัง ผมกำลังจะกดรับโทรศัพท์ แต่อยู่ๆ พี่ไทจิก็กระชากโทรศัพท์ออกจากมือผมแล้วเดินออกไปข้างนอก พร้อมกับโทรศัพท์เจ้ากรรมที่ยังแผดเสียงจนกว่าจะมีคนรับสาย  วินาทีนั้นผมเหมือนไม่รู้จักพี่ชายคนนี้ เขาดูโกรธมาก แม้ผมจะเห็นแววตาของเขาแค่แปปเดียว แต่นั่นกลับทำผมเสียวสันหลังวาบได้เลย

   ผมนั่งดูหนังต่อเงียบๆ ไม่อยากคิดอะไรมาก สักพักพี่ไทจิก็เดินเข้ามา เขานั่งลงข้างๆ ผมเหมือนเดิม จับมือผมขึ้นมา ก่อนจะลูบรอยแดงที่มือที่เขากระชากโทรศัพท์อย่างแผ่วเบา

   “พี่ขอโทษ”

   “ไม่เป็นไรครับ”

   “โกรธพี่มั้ย”พี่เขาเอาหน้าผากมาแนบหน้าผากผม ก่อนจะหอมแก้มผมเบาๆ

   “มะ ไม่ครับ”ผมรีบเอาหน้าออก ก่อนจะรีบปฏิเสธ ถึงผมจะชายแท้ แต่ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ ผมก็เขวได้เหมือนกันนะ ชักจะเขินๆแล้วสิ นี่เป็นสิ่งปกติของประเทศนี้รึไง

   “งั้นดูหนังกันต่อ”แล้วพี่ไทจิก็นั่งดูหนังอย่างคนปกติเขาได้สักที

   การใช้ชีวิตน่าเบื่อในบ้านดำเนินเรื่อยมาจนถึงงานวันเกิดของพี่ไทจิ วันนี้โทชิโร่บอกผมว่าพ่อจะเปิดตัวผม ผมใส่สูทสีขาวกับเสื้อเชิตสีฟ้าอ่อน พ่อชมใหญ่ บอกว่าผมเหมือนเทวดาตัวน้อยๆไม่มีผิด พีไทจิใส่สูทสีเทากับเชิตสีชมพูที่พี่อายากะให้เป็นของขวัญ ส่วนผมก็ยืนนาฬิกาเรือนเหล็กสีดำหน้าปัดกลไกสีทองให้พี่ พี่เอ่ยขอบคุณก่อนดึงผมเข้าไปกอด เราลงไปที่งานพร้อมกัน

   พี่ขึ้นไปเอ่ยต้อนรับแขกบนเวทีงาน งานนี้จัดที่สวนหน้าบ้านของเรา แขกเหรื่อพากันมานับร้อยคน แต่ละคนแต่งตัวหรูหราเครื่องเพชรแพรวพราวอย่างกับตู้เพชรเคลื่อนที่ แต่คนที่เด่นจริงๆ คงจะเป็นพี่อายากะที่มาในชุดเดรสยาวสีแดงสลวย พี่เฉิดฉายโดยไม่ต้องพึ่งของพวกนั้นเลย

   และที่ทำให้ผมรู้สึกขัดใจมากที่สุดก็คือ เจ้าคนสูทสีเทาบุหรี่เชิตสีแดงเลือดนกนั่น งานเลี้ยงจะจัดโต๊ะอาหารเป็นโต๊ะๆ คล้ายโต๊ะจีน โต๊ะที่ผมนั่งอยู่ก็มีพ่อ ผม พี่อายากะ พี่ไทจิ และก็ชายหนุ่มหน้าตาดีมากคนนึง ที่มาพร้อมกับพี่อายากะ ชุดลายมังกรแบบที่คนจีนชอบใส่ มังกรแดง เสื้อดำ และคนประกบหลัง 2 คนที่ประกบไม่ห่าง ผมมารู้ตอนที่พี่อายากะแนะนำว่าเขาคือฟานหลง ลูกค้าคนสำคัญที่พี่อายากะตามประกบอยู่นั่นเอง

   ส่วนโทระซึกิ ทาคุยะนั่น พอเห็นผมก็เดินดุ่มๆ เข้ามานั่งลงข้างผมที่โต๊ะของพวกผมโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น พ่อจ้องเขาเขม็ง แต่เขาก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ยื่นของขวัญให้พี่ไทจิ พี่เองก็รับมาอย่างเสียไม่ได้

   “สวัสดีครับคุณทาเคชิ คุณไทจิ คุณหนูอายากะ และคุณหนูยูกิ” ผมนั่งติดกับพ่อด้วย และเขาก็นั่งข้างผม

   “ขอบคุณที่ให้เกียรติมางานวันเกิดผมนะครับ”พี่ไทจิพูดตามมารยาท

   “หึ ยังไงก็ต้องมาอยู่แล้ว ได้ข่าวว่าคุณหนูยูกิพึ่งกลับมาจากไทย ผมเลยเข้ามาทำความรู้จัก ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหนู”เขายื่นมาออกมา ผมเลยต้องยื่นมือไปจับเขาเพื่อทักทาย แม้ว่าจะไม่อยากทำก็ตาม

   “ครับ”

   อาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ ผมนั่งทานอาหารกันเรื่อยๆ ฟังพี่อายากะกับคุณฟานหลงและพี่ไทจิคุยกัน ส่วนคนข้างๆ ผมก็กินไปเงียบๆ เหมือนกับผม แต่สายตากลับมองมาที่ผมตลอด จนผมทนไม่ไหว

   “มองอะไรครับ” ผมทำหน้าบึ้งนิดๆ

   “มองดูครอบครัวสุขสันต์ครับ”เขาเหยียดยิ้มก่อนจะไล่มองทีละคนตั้งแต่ผม พ่อ พี่อายากะ และก็พี่ไทจิ ก่อนจะก้มลงมากระซิบที่หูผมเบาๆ

   “ระวังไว้ให้ดีนะครับคุณหนู เพราะถ้าไม่ระวังละก็ จะโดนเก็บนะครับ หึๆ”

   ผมกำตะเกียบในมือแน่น แบบนี้เขาเรียกว่าขู่กันรึเปล่า คนอื่นๆ ไม่สังเกตเห็นท่าทีผิดปกติของผม ผมเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ อึดอัด ระคนหวาดกลัว ...เป็นเขาเหรอ คนที่สั่งเก็บผม เป็นเขาอย่างนั้นเหรอ...  ผมล้างหน้า ก่อนจะยืนสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำสักพัก แล้วเดินออกมา แต่ทว่า ทันทีที่ออกมา ก็มีคนโถมตัวผลักผมกลับเข้าไปในห้องน้ำ เสียงกระสุนทะลุประตูที่เปิดค้างไว้ทำให้ผมรู้สึกตัว ก่อนที่เขาจะดึงผมลุกขึ้น แล้วยิงสวนกลับไป ฝ่ายนั้นไม่ได้มีคนเดียว แต่ฝีมือของคนตรงหน้านั้นอาจเรียกได้ว่านักแม่นปืนเลยทีเดียว เพราะกระสุนทุกนัดที่ยิงไป เข้าเป้าทุกนัด จนมั่นใจว่าจัดการได้หมดแล้ว เขาจึงหันมาหาผม

   “ทาคุยะ!!!”

   “ผมบอกแล้วไงว่าให้ระวังตัว เกือบโดนเก็บเลยเห็นมั้ย”ยิ้มอีกแล้ว เขาจะยิ้มเยาะเหมือนผมเป็นคนโง่ไปอีกนานแค่ไหน  แล้วทำไมต้องปกป้องผมด้วย หรือว่าที่โต๊ะอาหารไม่ใช่คำขู่ แต่เป็นคำเตือนงั้นเหรอ.....

ถ้าไม่ใช่เขา แล้วคนที่ต้องการชีวิตผม มันเป็นใครกัน!!!
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 05-05-2014 20:40:12
งานเข้าแล้วไหมล่ะ
บอกตามตรง แอบสงสัยพฤติกรรมพี่ไทจินะ o18
คนชื่อไค ทำให้พี่ดูน่าสงสัยมากกก
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 05-05-2014 20:48:30
 ตกลงใครพระเอกหว่า แล้วใครปองร้ายหนูยูกิ โฮกกก  :z3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-05-2014 21:05:41
โฮกกกก...ไม่เอาดราม่าพี่น้องนะ!!!
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 05-05-2014 21:06:29
พระเอกของเราจะมาตอนไหนเนี่ย

จะเชียร์ ทาคุยะ แล้วนะ

หุหุ

หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 05-05-2014 21:17:06
อย่าเป็นพี่ไทจิเลยนะ T_______T
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 05-05-2014 21:26:26
โอ๊ะ  :really2:
ใครเป็นคนร้าย
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 05-05-2014 22:00:35
พี่ไทจิเป็นคนร้ายหรอ

คนที่ดูเหมือนจะดีกลับร้าย
คนที่ดูเหมือนจะร้ายกลับดี

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 05-05-2014 22:07:35
พี่ไทจิ??? น่าสงสัยอ่ะ ทำไมต้องโกรธขนาดนั้น?? คนชื่อไคเนี่ยใคร?  :serius2:
ทาคุยะคุง ตกลงนายพระเอกสินะ  o18 คิดว่าจะได้พระเอกเป็นมาเฟียฮ่องกงละ อิอิ
คนที่บงการคือใคร? ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!!


 :pig4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 05-05-2014 22:09:56
สงสัยไทจิเลย  ตอนนี้ทาคุยะทำคะแนนนะเธอ   o13
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 05-05-2014 22:19:13
 :serius2: :serius2:

ทาคุยะพระเอกป่าวเนี่ย ~

หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 05-05-2014 22:25:28
น่าลุ้นๆ สนุกๆ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: zalapao14 ที่ 06-05-2014 01:32:03
ทาคุยะพระเอกป้ะ?

ใครปองร้ายหนูยูกิล้ะ

แล้วไคคือใคร ไทจิอยู่เบื้องหลังป้ะ

ฮ่าๆ เราคิดเยอะไปนะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 5 งานวันเกิด] P.3 - 5/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 06-05-2014 10:27:50
เอิ่มมม ตอนนี้แอบเชียร์ทาคุยะแล้ว
ไม่รู้จะใช่ตัวจริงมั้ย คริคริ

พี่ทั้งสองน่าสงสัยทั้งคู่เลย
พี่อายากะที่ออกไปข้างนอกบ่อยๆ
พี่ไทจิที่ติดต่อกับใครบางคน

แต่ส่วนตัวพี่อายากะนี่น่าสงสัยสุด
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 10-05-2014 20:25:06
บทที่  6  คำเตือน
   

   “หึ” แววตาที่ทาคุยะมองมา เหมือนจะบอกว่าผมมันช่างน่าสมเพช ผมไม่รู้ว่าผมไปทำอะไรให้เขา เขาถึงได้มองผมด้วยสายตาแบบนั้น

   “ทำไมมองผมแบบนั้น!!”ผมถามอย่างเหลืออด แค่เพียงโดนลอบฆ่า ผมก็ยังขวัญเสียไม่หาย แล้วยังจะมาโดนทาคุยะช่วยชีวิตอีก เหมือนอะไรที่คาดการณ์ไว้ไม่เป็นไปตามที่คิด เหมือนผมคิดว่าตนเองรู้สถานการณ์และควบคุมทุกอย่างอย่างระมัดระวังแล้ว แต่สุดท้าย ก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ กลายเป็นคนตาบอดที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหมือนเดิม เหมือนเดินอยู่บนเกมของใครบางคน

   “มองลูกแกะ ลูกแกะตัวน้อยที่หลงมาในดงหมาป่า”ริมฝีปากเหยียดยิ้ม แต่แววตาไหวระริกเหมือนกำลังมองเห็นเรื่องสนุก

   “หมายความว่าอะไร คุณรู้อะไร!!!”

   “ฟังนะคุณหนู ผมน่ะ ไม่มีเวลามานั่งเล่นเกมตอบคำถามกับคุณหรอกนะ และก็ไม่คิดจะตอบด้วย ไม่งั้นก็ไม่สนุกสิ”เขากระซิบเบาๆ ที่หูผมและจับปลายผมผมเล่นอย่างจาบจ้วง

   “แล้วคุณช่วยผมทำไม คุณต้องการอะไร”

   “ต้องการอะไรงั้นเหรอ ฮ่าๆๆๆ ผมก็แค่....เผอิญมาเข้าห้องน้ำก็เท่านั้นเอง”เขาปล่อยผมผม ก่อนจะผลักผมออกมานอกห้องน้ำ แล้วเขาก็เข้าไปข้างใน

   ทันทีที่ผมออกมา ก็ได้ยินเสียงคนหลายคนกำลังวิ่งมาทางผม ผมผงะด้วยความตกใจเพราะคิดว่าทาคุยะยังจัดการพวกมันไม่หมด แต่พอเห็นว่าเป็นพ่อกับพี่ไทจิ และการ์ดคนอื่นๆที่ดูแลความเรียบร้อยในงาน ผมก็โล่งใจ พ่อรีบเข้ามาสำรวจผมว่าเป็นอะไรรึเปล่า โทชิโร่ซังตอนนี้ก็กำลังหาผู้รอดชีวิตที่พอจะตอบคำถามของเขาได้บ้าง พี่ไทจิจับมือผมแน่นราวกับว่ากลัวผมจะหายไป พี่อายากะเองก็รีบเข้ามาถามไถ่จนตอนนี้ผมมึนหัวไปหมด

   “เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะยูกิจัง พี่ขอโทษนะ ไม่น่าปล่อยให้เรามาคนเดียวเลย”พี่อายากะเองก็ตกใจไม่น้อย มือเธอสั่นจนพาลทำให้มือผมที่อยู่ในอุ้งมือเธอสั่นไปด้วย

   “มันเข้ามาถึงในบ้าน ใช้จังหวะที่เราจัดงานเลี้ยงแล้วรอให้ยูกิอยู่คนเดียวจึงค่อยลงมือ ผมไม่ไหวแล้วนะพ่อ มันต้องเป็นฝีมือไอทาคุยะแน่ พี่เห็นว่ามันลุกตามเรามา ก่อนหน้านั้นมันก็กระซิบอะไรกับเรา แล้วเราก็เดินมาเข้าห้องน้ำ มันขู่เราหรือเปล่า ยูกิ”พี่ไทจิคั้นความจริงจากผม พี่ดูเครียดอย่างเห็นได้ชัด เหงื่อโทรมจนเปียกสูทไปหมด

   “เปล่าครับ เขามาช่วยผมไว้”

   “ช่วยงั้นเหรอ”พี่ไทจิทำหน้าประหลาดใจ

   “ครับ เขาเข้าห้องน้ำอยู่” พอได้ยินดังนั้น พ่อก็รีบไปเปิดประตูห้องน้ำดังปัง แต่ปรากฏว่าไม่มีใคร มีเพียงหน้าต่างที่เปิดออกเท่านั้น เขาคงออกไปทางหน้าต่าง แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ ทำไมเขาต้องไป

นี่มันเรื่องอะไรกัน เขาทำตัวแปลกมากๆ วันแรกที่เจอ เขาคุกคามผมอย่างชัดเจน ตอนอยู่ที่โต๊ะอาหารผมคิดว่าเขาเขาขู่ผม คิดว่าเขาคือคนที่บงการอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารผม แต่กลับมาช่วยผมซะงั้น คำขู่กลายเป็นคำเตือน แต่ช่างเป็นคำเตือนที่ปราศจากความหวังดีเสียจริง   ผมแน่ใจว่าเขาต้องรู้อะไรบางอย่าง แต่เขากลับทำเหมือนมันเป็นเกมเกมนึงที่ผมเป็นผู้เล่นส่วนเขาเป็นผู้ชมกิตติมาศักดิ์ที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ตามที่ใจต้องการ  จะช่วยก็รอด ไม่ช่วยก็ตาย ส่วนเขาก็รับชมความสนุกไปเต็มๆ

ผมเกลียดเขา เกลียดที่เขาไม่ยอมช่วยผม เกลียดที่ผมกำลังหวาดกลัว เกลียดที่ผมกลัวเจ็บ ผมกลัวตาย.....

“ทาคุยะ” พ่อคำรามอยู่ในคอ ทั้งสับสน แค้นเคือง ขัดใจ ทุกสิ่งบอกอยู่ในเสียงของพ่อ

   ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงถูกตามฆ่า เท่าที่ผมรู้ตอนนี้ก็คือ ผมไม่อาจทำเป็นครึ่งๆกลางๆ ไม่อาจคิดแค่ว่าทำธุรกิจสะอาดก็ไม่ต้องกลัวใคร ผมสมควรกลัว ผมสมควรรู้ตัวว่าสถานะของผมในตอนนี้มันไม่เหมือนชาวบ้านเขา  ชีวิตของผมกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย และมือที่มาตัดเส้นด้ายของผมก็หลบตัวอยู่ในความมืด ที่แม้แต่พ่อก็ไม่อาจมองเห็น ตอนนี้ไม่มีใครช่วยผมได้ ผมต้องช่วยตัวเอง

   “พ่อ”ผมเรียกเขา

   “ยูกิ”สายตาที่เขามองมาที่ผมเต็มไปด้วยความละอาย เขาหลบสายตา ผมรู้เขากำลังเจ็บปวด

   ผมเดินเข้าไปกอดเขา เราสองคนกอดกันแน่น ท่ามกลางความวุ่นวาย การ์ดกำลังหาคนที่ยังรอดชีวิต แต่ทาคุยะก็แม่นเกินไปทำให้หาคนที่ว่านั่นไม่เจอ พี่ไทจิก็รีบกลับไปที่งาน เพื่อบอกเลิกงานเลี้ยง พี่อายากะก็พาคุณฟานหลงไปส่งโรงแรม พ่อตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัดเลย พ่อ......

   พ่อพาผมเข้ามาในบ้าน เราสองคนได้แต่เงียบ ผมรู้ว่าพ่อกำลังโทษตัวเอง ผมเลยได้แต่ปลอบใจ

   “ผมไม่เป็นไร”ผมรีบบอกเมื่อหัวคิ้วพ่อขมวดจนแทบจะเป็นโบว์

   “มันเข้ามาถึงในบ้าน ที่ที่พ่อคิดว่าปลอดภัย”

   “แต่ก็ไม่ใช่ความผิดพ่อ”

   “มันเป็นความผิดพ่อ พ่อคิดว่าพ่อแข็งแกร่ง อย่างน้อยก็คิดว่าเพียงพอที่จะปกป้องลูกของพ่อได้”

   “พ่อยังคงปกป้องผมอยู่”

   “แต่ถ้าเจ้าหนูทาคุยะนั่นไม่ได้อยู่ตรงนั้น ลูกคง......”

   “พ่อเชื่อใจผมบ้างสิ ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอกนะ”ผมอ่อนแอมากกว่านั้นต่างหาก แต่ตอนนี้ผมต้องปลอบใจตัวเองก่อน

   “พ่อไม่น่าพาลูกกลับมา”

   “!!!!”ผมตกใจ เขากำลังพูดอะไร เขากำลังเสียใจที่พาผมกลับมางั้นเหรอ

   “อย่าเข้าใจผิด แน่นอนว่าพ่ออยากอยู่กับลูก แต่พ่อเป็นห่วงลูกมากกว่า”พ่อรีบพูดแก้ตัว เมื่อเห็นว่าสีหน้าผมไม่ดีนัก

   “ต่อให้อันตรายแค่ไหนก็ไม่สำคัญ ตราบเท่าที่เราได้อยู่ด้วยกัน”พ่อดึงผมเข้าไปกอด ลูบหัวผมไปมาก่อนจะยิ้มน้อยๆ แววตาเลื่อนลอยนึกถึงความหลัง

   “หึ ลูกตอบเหมือนแม่ไม่มีผิด”

   “ก็ผมลูกแม่นิ”

   “ลูกพ่อด้วย”

   “ก็ทั้งสองคนแหละน่า”



   อีกด้านหนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่งที่ซุ่มอยู่ตรงเงามืดด้านหลังของคฤหาสน์ แต่ก็เป็นจุดที่มองเห็นเหตุการณ์ชัดเจนก็เดินออกจากที่มั่นไปพบผู้ชายอีกคนหนึ่ง

   “ทำงานพลาดอีกแล้ว”ชายผู้มาหลัง ร่างสูงสูทสีเทากล่าว

   “มันดวงแข็ง”ผู้ชายในเงามืดตอบ แอบทึ่งกับดวงของเด็กคนนี้ไม่ได้ ทั้งๆ ที่เขาเองก็รอบคอบขนาดนั้น

   “แต่ก็ดี แบบนี้สิ ถึงจะสนุก”เขายิ้มเหี้ยม ก่อนจะเดินหันหลังจากไป



   คืนนั้นผมไปนอนกับพ่อ พ่อเองก็ผวาถึงกับเพิ่มเวรยามเข้าไปอีก รุ่งเช้ามาพ่อก็ให้ผมไปฝึกยิงปืนและศิลปะการป้องกันตัวกับโทชิโร่และยางามิ  เรื่องที่บริษัท ผมถูกสั่งห้าม ให้อยู่บ้านสักพัก พวกเขายังคงไม่ไว้ใจสถานการณ์ในตอนนี้ พ่อและพี่ไทจิพยายามติดต่อโทระซึกิ ทาคุยะหลายครั้ง แต่เขามักบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมให้เข้าพบอยู่เรื่อยไป พ่อเองก็โมโหมาก และก็ไม่โทรไปอีก เพราะไม่จำเป็นต้องขอร้องเจ้านั่นถึงขนาดนั้น

   ทุกคนมีหน้าที่เป็นของตัวเอง ผมก็มีหน้าที่ของผม ใจจริงแล้ว ผมไม่อยากให้พ่อลำบากใจไปมากกว่านี้ แต่นับตั้งแต่ก้าวลงเหยียบโตเกียว มีสถานที่หนึ่งที่ผมอยากไปมาตลอด ที่ที่ผมเติบโตมา บ้านของผม บ้านหลังนั้นที่เราสามคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข บ้านของแม่ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ พี่ไทจิกับพ่อและพี่อายากะ ทุกคนอยู่บ้านหมด ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว บางทีผมควรจะขอพ่อไป เรื่องมันก็ผ่านมาหลายวันแล้ว แม้ว่าพ่อจะยังสืบเบาะแสอะไรไม่ได้เลย เพราะทาคุยะไม่เหลือนักโทษสักคนให้สอบปากคำ แต่ผมก็อยากไปที่บ้านหลังนั้นจริงๆ แม้มันจะมีความทรงจำที่เลวร้ายแต่ความทรงจำดีๆ ก็ยังมีอยู่ และผมก็อยากเก็บความทรงจำนี้ไว้ ตราบชั่วนิรันดร์

   พอถึงตอนเที่ยง แม่บ้านก็เข้ามาเรียกผมให้ไปทานข้าว เมื่อมาถึงโต๊ะอาหาร ผมจึงรู้ว่าทุกคนมาพร้อมกันหมดแล้ว เหลือแต่รอผม ผมก้มหัวลงขอโทษที่มาสาย ก่อนจะนั่งลงข้างๆ พี่ไทจิ ส่วนพี่อายากะก็นั่งอีกฝั่งหนึ่ง พ่อนั่งตรงหัวโต๊ะ วันนี้บรรยากาศดูแปลกๆ พี่อายากะไม่ยิ้มให้ผมเลย ปกติเวลาเจอกันเธอจะต้องหาเรื่องมาดึงแก้มผมทุกครั้ง จนวันนี้ แม้แต่หน้าผมเธอก็ไม่มอง  ผมพยายามนึกว่าตัวเองทำอะไรให้พี่อายากะโกรธรึเปล่า แต่พอนึกได้ว่าผมแทบจะไม่ได้เจอหน้าพี่อายากะเลย ผมเองก็จนปัญญา

   “วันนี้เรียนอะไรเหรอลูก ยางามิกับโทชิโร่สอนอะไรให้เราล่ะ”พ่อถามอย่างใจดีก่อนจะตักกุ้งใส่จานผม

   “วันนี้เรียนยิงปืนครับ ยางามิบอกว่าผมยิงปืนเก่ง แต่เรื่องต่อสู้ตัวต่อตัวผมไม่ได้เรื่องเลย”พูดแล้วก็เจ็บใจ แม่เองก็ตัวเล็กขนาดนั้น ผมนี่สิ ตัวเล็กเกือบเท่าแม่เลยทั้งที่ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ยางามิเองพอจับตัวผมได้ก็ทุ่มอย่างเดียวจนนี่ปวดเอวไปหมด โทชิโร่ก็ไม่ต่างกันนักหรอก พวกเขาสองคนมักจะเผลอมือทำรุนแรงกับผมเสมอ แล้วยังมีหน้ามาบ่นว่าผมตัวบางเกินไปอีก เพราะฉะนั้นพอถึงตอนเย็นหรือวันว่างทีไร ทั้งสองคนมักชอบชวนผมเข้าฟิตเน็ตอยู่ร่ำไป

   “หึ ก็เราตัวบางขนาดนี้ จะจับใครเขาทุ่มได้”พี่ไทจิหัวเราะ

   “พวกพี่ตัวหนาเองต่างหาก”

   “เหรอ งั้นก็กินเข้าไปเยอะๆ ผอมจนจะปลิวอยู่แล้ว”เรื่องผอมผมไม่เถียง ผมกินเยอะนะ แต่ไม่อ้วน เป็นความโชคดีในความโชคร้ายละมั้ง

   “แล้วเรื่องคุณฟานหลงล่ะ อายากะ เขาตกลงเซ็นต์สัญญากับเราแล้วใช่มั้ย”พ่อหันไปถามพี่อายากะที่เอาแต่นั่งเงียบ

   “ค่ะ เขาบอกว่าถึงทางนั้นจะเสนอแผนงานคล้ายๆ เราและราคาถูกกว่า คุณฟานหลงเลยอดสนใจไม่ได้ แต่เขายังเกรงใจพ่ออยู่ เลยยังคงตอบรับทางเรา”พี่อายากะพูดพร้อมกับส่งสายตาแปลกๆมาทางผมกับพี่ไทจิ

   “งั้นก็ ฝากด้วยนะ”

   “ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณพ่อ อายากะไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังอยู่แล้ว”

   พี่อายากะมีสายตาที่มุ่งมั่น วันนี้บรรยากาศในการทานข้าวเป็นอะไรที่เงียบมาก นอกจากพ่อแล้ว พี่อายากะไม่พูดกับใครอีกเลย พอเราทานข้าวกันเสร็จ เราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน แต่ผมมีเรื่องต้องคุยกับพ่อ ผมเลยเดินตามพ่อไปที่ห้องทำงาน

   “มีอะไรเหรอ ยูกิ”พ่อหันมาถามด้วยความแปลกใจที่เห็นผมตามมา

   “ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องพ่อน่ะครับ”

   “นั่งลงก่อนสิ”พ่อดึงผมนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะตั้งใจฟังผมอย่างจริงจัง

   “พ่อจำบ้านของเราได้มั้ยครับ บ้านที่ผมอยู่กับแม่ตอนเด็ก”พอพูดถึงแม่ พ่อชะงัก ผมเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความรู้สึกผิดของพ่อ

   “จำได้”เสียงของพ่อแตกและแหบพร่า ราวกับว่าพ่อกำลังเจ็บปวด แต่บางทีพ่ออาจจะกำลังเจ็บปวดจริงๆ  ผมกำลังชั่งใจว่าควรจะพูดต่อรึเปล่า เพราะเห็นพ่อท่าทางไม่ค่อยดี แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนของผมเหมือนกัน มันเป็นความทรงจำที่มีความสุขที่สุดและทุกข์ที่สุดของผม

   “ผมอยากกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้ง”

   “แต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้....”

   “ผ่านมาหลายวันแล้ว ไม่เป็นไรหรอกครับ”

   “อย่าวางใจอะไรง่ายๆ โลกมาเฟียไม่เคยปราณีใคร หากปราศจากความระมัดระวัง แม้แต่วินาทีเดียวก็ไม่อาจรักษาชีวิตได้ จำเอาไว้ในยูกิ”พ่อพูดกับผมด้วยสีหน้าจริงจัง ผมพยักหน้าตอบ เป็นอันเข้าใจว่าพ่อไม่ให้ไป

   ผมลาพ่อ และเดินคอตกกลับห้อง ผมน่าจะรู้ดีว่าพ่อไม่ให้ไป ผมน่าจะรู้สถานการณ์และทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่กันมากกว่านี้ ผมควรทำตัวดีๆ เพราะปัญหาทุกอย่างที่ทำให้ทุกคนเหนื่อยและปวดหัวอยู่ตอนนี้มีสาเหตุมาจากผม

   เมื่อกลับมาถึงห้อง ผมก็นั่งท่องอินเทอร์เน็ตเหมือนเดิม สักพักก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   ผมเดินไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่าเป็นพี่อายากะ ผมก็แปลกใจแต่ก็เปิดประตูให้พี่อายากะเดินเข้ามา

   “มีอะไรรึเปล่าครับ”ผมถามเมื่อพี่เอาแต่จ้องห้องผม พี่เดินเข้าไปนั่งที่โซฟา ผมเลยนั่งตาม

   “พี่ครับ”ผมเรียกอีกครั้ง เมื่อพี่อายากะยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ เอาแต่จ้องมองผมอยู่อย่างนั้น จนผมทำอะไรไม่ถูก พี่ไม่ได้โกรธ เพียงแต่รู้สึกเหมือนจะสับสนปนเสียใจ

   “ยูกิ”พี่อายากะเรียกผม ดึงตัวผมเข้าไปกอด ผมทำอะไรไม่ถูก รับรู้ถึงความเครียดของพี่สาว เลยยอมให้เธอกอดอยู่อย่างงั้น

   “ครับ”

   “อย่าไว้ใจใคร”พี่บอก พร้อมกับกอดผมแน่นเข้าไปอีก ผมรู้สึกอึดอัดและเจ็บเหมือนกระดูกจะหัก แต่คำของพี่กลับทำให้ผมแปลกใจและสับสน  พี่หมายความว่ายังไง อย่าไว้ใจใคร พี่รู้อะไร

   “พี่หมายความว่ายังไง”

   “พี่ยังไม่มีหลักฐาน สัญญากับพี่ อย่าไว้ใจใครทั้งนั้น ไม่ว่าใคร”พี่พูดกับผมอย่างจริงจัง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป คืนนั้นผมนอนไม่หลับเลย ไม่แปลกใจว่าทำไมผมผอมนัก เพราะผมเบิร์นพลังงาน 24 ชั่วโมงมาหลายวันแล้ว และบ่อยมากขึ้นเมื่อชีวิตพลิกผันกลับมาอยู่กับพ่อ เป็นลูกชายมาเฟีย

   พี่บอกว่ายังไม่มีหลักฐาน แต่ดูจากสีหน้าพี่ พี่ดูเจ็บปวดมาก ทำไมถึงดูเจ็บปวดและสับสนขนาดนั้น พี่รู้อะไรมา...
   รุ่งเช้า ผมรีบตื่นแต่เช้า เพราะอยากเจอพี่อายากะอีกครั้ง แต่พอผมออกมาจากห้องกลับเจอพี่ไทจิ

   “อรุณสวัสดิ์ ยูกิ”พี่ไทจิส่งยิ้มรับอรุณมาให้ผม

   “อรุณสวัสดิ์ครับ”ผมยิ้มตอบ ก่อนจะขอตัว

   “จะไปไหนเหรอ”

   “จะไปหาพี่อายากะครับ”

   “ถ้าอย่างนั้นคงต้องผิดหวังแล้วล่ะ อายากะต้องไปทำงานให้พี่ที่ต่างจังหวัด ไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เธอไม่ได้บอกเหรอ”พี่ไทจิทำสีหน้าแปลกใจ

   “ไม่ครับ เมื่อคืนพี่อายากะมาหาผม แต่ไม่บอกว่าจะไปต่างจังหวัด”

   “แล้วเมื่อคืนพี่อายากะไปหาเราทำไมล่ะ”พี่ไทจิเดินมาใกล้ๆ ผมก่อนะเกลี่ยผมที่ปิดหน้าให้ผม

   “พี่อายากะแค่บอกว่าอย่า....อย่า....อย่านอกดึกครับ”ตอนแรกผมกำลังจะบอก แต่พอนึกถึงพี่อายากะที่บอกว่าอย่าไว้ใจใคร กลับทำให้ผมชะงักและเปลี่ยนคำพูด พี่ไทจิขมวดคิ้วและมีสีหน้าไม่พอใจ แต่เมื่อผมมองอีกทีกลับเห็นแต่เพียงรอยยิ้มของเขาเท่านั้น หรือผมจะตาฝาด

   ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมต้องเปลี่ยนคำพูด ปกปิดเรื่องที่พี่อายากะคุยกับผมกับพี่ไทจิด้วย พี่ไทจิเป็นพี่ชายผมนะ ถึงจะไม่ใช่พี่แท้ๆ แต่ก็ดีกับผมมาตลอด ผมควรจะบอกความจริงไปมั้ย แต่ควรจะบอกดีกว่า ผมกำลังจะบอกอยู่แล้ว แต่เสียงโทรศัพท์ของพี่ไทจิกลับดังขึ้นเสียก่อน

   “พี่ขอตัวนะ”

   แล้วพี่ไทจิก็เดินเข้าห้องไปเลย ผมเลยเดินลงมาข้างล่างด้วยความสับสนกับตัวเอง

   “อรุณสวัสดิ์ครับคุณหนู”เสียงของยางามิกับโทชิโร่ดังขึ้นพร้อมกันที่ขั้นล่างสุดของบันได ผมก้มหัวทักทายพวกเขา

   “คุณยางามิไม่อยู่กับคุณพ่อเหรอครับ”

   “นายท่านออกไปข้างนอกครับ”

   “ตั้งแต่เช้าขนาดนี้เลยเหรอครับ”ผมแปลกใจ นี่มันยังเช้ามากเลยนะ พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นดีเลย

   “ครับ ท่านมีธุระครับ”

   “วันนี้ซ้อมยิงปืนอย่างเดียวมั้ยครับ ผมอยากยิงปืน”ยิงปืนช่วยให้ใจผมสงบ

   “ครับ เชิญครับ”

   เราลงกันไปชั้นใต้ดิน ที่นี่มีชั้นใต้ดินไว้ฝึกการต่อสู้ และเคยเป็นโกดังเก็บอาวุธมาก่อน ทางเข้ายุ่งยากแต่ได้ปรับให้ง่ายลงเพราะกลายเป็นชั้นสาธารณะไปแล้ว

   ฝีมือการยิงปืนของผมจัดอยู่ในขั้นที่ดีอย่างมีพรสวรรค์ ผมได้แต่อยู่บ้านอย่างเบื่อๆ เคยคิดโกรธพ่อที่ดึงผมกลับเข้ามาในวังวนนี้ ชีวิตผมก็ดีอยู่แล้ว  แต่เมื่อมานึกดูอีกที เป็นผมเองต่างหากที่อยากกลับเข้ามา เป็นผมเองต่างหากที่ดึงดันว่าไม่ว่ามันจะอันตรายแค่ไหนก็ไม่สำคัญของเพียงเราได้อยู่ด้วยกัน  นั่นคือสิ่งที่ผมคิดและสิ่งที่ผมจะยึดถือนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในเมื่อเลือกที่จะก้าวเข้ามาแล้วผมก็รู้ว่าจะไม่มีวันก้าวออกไป ในเมื่อไม่อาจถอนตัว สิ่งที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงการยอมรับและทำให้ตัวเองแข็งแกร่ง เพื่อที่จะยืนได้ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะไม่ต้องทำให้พ่อเป็นห่วง

   เกือบเดือนที่เรื่องมือสังหารเงียบไป บางทีอาจเป็นเพราะการระวังภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด แต่พ่อกลับโมโหมากกว่าเดิม เพราะพ่อเองก็สืบเรื่องอะไรไม่ได้เลยเหมือนกัน แม้ว่าทางคุณอาของพ่อ คุณโยชิทาเกะที่ครองฟูจิมิยะจะน่าสงสัย แต่ยังไม่มีหลักฐาน แต่ที่เงียบไปเลยตั้งแต่วันนั้นกลับเป็นพี่อายากะ ปกติ ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหนขอเพียงยังอยู่ในโตเกียว เราก็จะได้มานั่งทานข้าวเย็นด้วยกัน แต่ตั้งแต่วันที่พี่ไทจิบอกว่าพี่อายากะไปทำงานที่ต่างจังหวัดให้ พี่อายากะก็ไม่ได้กลับบ้านมาอีกเลย ทั้งๆ ที่เกือบเดือนแล้วแท้ๆ พ่อเองก็ไม่สบายใจเพราะติดต่อพี่อายากะไม่ได้เลย พอถามพี่ไทจิ พี่ไทจิก็บอกว่าอาจจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เธอยังคงเมลมาหาพี่ไทจิอยู่ ทุกคนเลยพลอยโล่งใจไปด้วย

   สุดท้ายแล้ว แม้ว่าผมจะไม่เอาไหนเรื่องการต่อสู้ตัวต่อตัว แต่เรื่องยิงปืนกลับดีวันดีคืนจนพ่อเองก็อดภูมิใจในตัวผมไม่ได้ ยางามิกับโทชิโร่ก็โม้ใหญ่ว่าผมได้ดีเพราะมีครูดีอย่างพวกเขา ผมเองก็หน้าบานไปหลายวัน พ่อให้ผมออกจากบ้านได้บ้าง ผมเลยไปที่บ้านของแม่ พร้อมบอดี้การ์ดเกือบสิบคน แต่ผมไม่สนตราบใดที่ผมได้ออกจากบ้านบ้าง ร้อยคนผมก็เอาไหว 

   ที่บ้านยังคงเหมือนเดิม สะอาดและเต็มไปด้วยลิลลี่สีขาวปลูกเต็มไปหมด ไม่เหลือที่ไว้ให้เดินเลย มองไกลๆเหมือนสุสานเลย ถ้าไม่ติดว่ามีบ้านอยู่ตรงกลางแบบนี้ ผมเข้าไปในบ้าน ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ตำแหน่งเดิมอย่างที่มันอยู่ กลิ่นดอกลิลลี่ลอยเข้ามาในบ้านจนหอมไปหมด บ้านเองก็สะอาดสะอ้าน เหมือนมีคนคอยทำความสะอาดให้ คงเป็นพ่อที่จัดการเรื่องนี้ 

   ผมนั่งเล่นและเดินซึมซับบรรยากาศสักพัก นึกถึงตอนที่เรายังอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข นึกถึงรอยยิ้มของแม่ ของเล่นที่พ่อมักจะเอามาฝาก โทชิโร่บอกว่าตั้งแต่แม่ไป พ่อก็มานอนที่นี่บ่อยขึ้น บางครั้งก็นานติดต่อกันเป็นเดือน ภรรยาของพ่อเองก็คงจะเจ็บปวดใจไม่น้อย ที่มีสามีแต่สามีกลับเกลียดชังหล่อน ผมเคยนึกเกลียดหล่อน แต่เมื่อมาเห็นว่าความรักที่พ่อมีต่อแม่มั่นคงถึงขนาดนี้แล้ว ผมก็ขออโหสิกรรมให้เธอ ขอให้เธอไปสู่สุขติ หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้เธอได้พบรักกับคนที่รักเธอจริงและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ความสุขมากกว่าที่เธอได้รับในชาตินี้

   “คุณหนูครับ กลับคฤหาสน์เถอะครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ!!!”โทชิโร่วิ่งหน้าตื่นมา ก่อนจะรีบพาผมกลับบ้าน

   ผมร้อนใจ ใครเป็นอะไรรึเปล่า พอผมถามกลับไม่มีใครตอบ เมื่อมาถึงบ้าน ทั้งพ่อและพี่ไทจิก็อยู่ที่นั่นกันหมดแล้ว ผู้ชายคนนึงที่ผมรู้สึกว่าเป็นบอดี้การ์ดของพี่อายากะนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพ่อด้วยสภาพที่สะบัดสะบอม เสื้อขาดหวิ้น ภายใต้เสื้อผ้าที่เหมือนผ้าขี้ริ้วเหล่านั้นมีผ้าพันแผลเต็มไปหมด จนแทบจะเป็นมัมมี่อยู่แล้ว ผมตกใจ ถ้าเขามาอยู่ที่นี่แล้วพี่อายากะอยู่ไหน

   “แกบอกว่าอะไรนะ!!!”พี่ตวาดชายคนนั้น ผมรีบเข้าไปหาทั้งสองคน ชายคนนั้นน้ำตานองหน้า ในมือถือเพียงเศษเสื้อสีน้ำเงิน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเสื้อใคร นั่นคือเสื้อที่พี่อายากะใส่ตอนเข้ามาเจอผมในห้องเป็นครั้งสุดท้าย!!!

“ผมขอโทษครับ พวกมันมากกันเยอะมาก ผมพยายามพาคุณหนูอายากะหนีแล้ว แต่ก็ไม่ทันเราโดนต้อนให้จนมุมที่หน้าผา มันรุมยิงผมกับคุณหนู ผมเองก็โดนยิงจนตกหน้าผาไปด้วยกันกับคุณหนู แต่พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าอยู่ที่โรงพยาบาลชุมชนใกล้ๆ นั่น ชาวประมงคนหนึ่งเก็บผมขึ้นมาจากทะเล แต่ไม่เห็นคุณหนูครับ พอผมได้สติก็รีบกลับมาหานายท่าน แต่ไม่นึกว่าจะหลับไปเกือบเดือน”

   ทุกคนหน้าซีด พ่อกับพี่ไทจิทำหน้าเครียด พี่ไทจิจ้องมองบอดี้การ์ดคนนั้นอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ พ่อทรงตัวลงบนโซฟา เหมือนจะเป็นลม ผมเลยเข้าไปพยุงท่าน

   “วันไหน พี่อายากะโดนลอบฆ่าวันไหน”ผมถาม พยายามใจเย็น แต่เสียงผมสั่นเต็มทน ผมมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

   “วันที่ออกจากบ้านไปน่ะครับ ผมติดตามคุณอายากะไปทำงานที่คาวาซากิ แต่โดนลอบฆ่าเสียก่อนระหว่างทาง ผมขอโทษครับนายท่าน ผมขอโทษที่ดูแลคุณหนูไม่ดี ผมขอโทษครับ ผมขอโทษครับ”ผู้ชายคนนั้นคำนับโขกหัวลงกับพื้นเสียงดังลั่นจนหัวแตก พ่อนั่งนิ่งไม่ไหวติง แววตาร้าวราน หัวใจสลาย ผมรีบไปห้ามชายคนนั้นไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง

   “หยุดเถอะครับ ขอโทษไปก็เท่านั้น ต่อให้คุณโขกหัวจะเลือดออกตายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ถ้าคุณอยากไถ่โทษ คุณต้องไปพาพี่อายากะกลับมา”ผมพูดอย่างจริงจัง เตือนสติทุกคนให้มีความหวัง

   “ตะ แต่ว่า นี่ผ่านมา เกือบเดือนแล้วนะครับ”ชายคนนั้นละล่ำละลักตอบ น้ำตานองหน้าไม่ขาดสาย

   “เธอคือ ซากุรากะ อายากะ คุณหนูคนโตของตระกูลซากุรากะที่ยิ่งใหญ่ ผมไม่เชื่อว่าเธอจะมาตายแบบนี้ เธอยังคงมีชีวิตอยู่ และกำลังรอความช่วยเหลือจากเรา ผมไม่อยากให้ทุกคนทอดทิ้งเธอตอนนี้  ส่วนคนที่คิดจะฆ่าเธอ มันจะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม!!!”ผมประกาศกร้าว ทุกคนดูมีความหวัง แม้แต่พ่อเอง ยางามิเดินมาพยุงบอดี้การ์ดคนนั้น

   พี่อายากะ รอหน่อยนะครับ น้องชายของพี่คนนี้จะไม่รอให้ใครมาปกป้องอีกแล้ว ผมจะเป็นซากุระที่เบ่งบาน และยืนบนลำแข้งของตัวเอง หายใจด้วยจมูกของผมเอง ส่วนพี่ก็รอเป็นเจ้าหญิงให้ผมไปช่วยด้วยเถอะนะครับ  รอผมนะครับ.....พี่


-----------------------------------------------------------------------------
ขอบอกเลยว่าตอนหน้า เรื่องจะเข้มข้นขึ้นมากกว่านี้

จะผ่านตอนหน้าเบื่อไปแล้ว

ขอทุกคนอย่างได้ทอดทิ้งนิยายเรื่องนี้เลย

ขอโทษที่มาลงช้าค่าาาาา

ตอนนนี้ขอปั่นตอนที่ 7 ต่อ :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
   
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 10-05-2014 20:50:54
 :katai1: :katai1: :katai1:

รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 10-05-2014 21:21:29
พี่ไทจิน่าสงสัยสุด อายะโดนลอบทำร้ายตั้งแต่วันที่ไป

แล้วทำไมไทจิบอกว่าได้รับเมลจากอายะ?
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: pamnana ที่ 10-05-2014 21:37:26
พี่อายากะ!!!  no!!! ;w;  :ling1:
พี่อายากะจัง คงไม่เป็นไรแหละนะ วุ่นซะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 10-05-2014 21:38:22
สงสัยไทจิสุดแล้วตอนนี้ สงสารยูกิอะไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยQAQ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 10-05-2014 21:48:17
ผู้ร้ายเนี่ยอิตาไทจิใช่ไหม?!! แบบว่าน่าสงสัยสุด มีปมชวนคิดที่สุด
อายากะจ๋า รอน้องยูกิก่อนนะ  :mew4:
พระเอกจะออกมาช่วยยูกิจังเราไหมนะ ทาคุยะคุงงงงง  :serius2:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 10-05-2014 21:54:16
ได้กลิ่นตุๆจากพี่ชายแสนดี :ling3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 10-05-2014 22:06:16
ว่าแล๊วววว แอบคิดเล่นๆตั้งแต่คนพ่อบอกว่ามีลูกสองคน
ต้องมีกรณีนี้แน่ๆ เรื่องพี่น้องแย่งชิงกัน คนร้ายตัวจริงคงไม่พ้นไทจิ
แล้วอายะเกิดไปรู้อะไรเข้าเลยโดยเก็บ T-T
อยากให้ยูกิเติมโตเป็นพญาหงส์เร็วๆจังเลย
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: kururu ที่ 10-05-2014 22:27:08
ไทจิ ทำกันได้นะ แน่แน่เลย
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: แป้งข้าวหมาก ที่ 10-05-2014 23:42:16
สนุกอ่ะ รอค่ะ
เดาๆคนร้ายเอาไว้ในใจ มันต้องเป็นใครสักคนนี่แหละ
เราเชื่ออย่างนั้น...5555
 :hao7:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 10-05-2014 23:46:14
ไทจิ  :ruready
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 11-05-2014 00:05:01
เพิ่งมาอ่าน

ยังอ่านไม่ทัน
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 11-05-2014 01:12:26
ไทจิแน่ๆเลย ตีสองหน้าเก่งนะเรา   :beat:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: suisui ที่ 11-05-2014 02:07:30
 :katai1: มันต้องเป็นอีตาไทจิแน่ เพราะไม่อยากเสียตำแหน่งผู้สืบทอดไปใช่ม้ายยยยยย
ถึงฝ่ายอริจะรู้ว่ามียูกิเป็นลูกนอกสมรส แต่คงไม่ร่วงรู้ถึงเรื่องที่จะถูกตามกลับมาหรอก โทชิโร่ก็บอกว่าคนรู้จักยูกินตอนมาถึงญี่ปุ่น มันก็มีแต่คนในบ้านนี่ล่ะ ที่จะรู้ก่อนหน้า
 :serius2: น่าสงสัยตั้งแต่ตอนแย่งโทรศัพท์ไปละ มันต้องติดต่ออีตาไค เรื่องรอบสังหารแน่ๆ ไหนจะบุรุษลึกลับสูทสีเทากับอีกคน อีตาไทจิมันก็ใส่สูทสีเทานะคืนนั้น!! แง่ม!! :angry2:
อายากะต้องไม่เป็นไรนะคะ มาช่วยยูกิกระชากหน้ากากอีตาไทจิก๊อนนนนน พระเอก ณ ตอนนี้ก็พึ่งไรไม่ได้ เห็นเป็นเรื่องเล่นไปหมด ชริ!!
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 11-05-2014 21:23:37
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 12-05-2014 02:36:13
อยากเดาว่าเป็นพี่ไทจิหรือเปล่าที่พี่อายากะเตือนอ่ะ
 :hao7: :hao7: :hao7: :angry2: :angry2: :angry2: :fire: :fire: :fire: :serius2: :serius2: :serius2:

ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากกกกก ขอให้พี่อายากะรอดด้วยเถอะะะะะะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 12-05-2014 09:18:07
ชั้นไม่ใจตาพี่ชายเลย พี่อายากะคงรู้อะไรมาแหละ เลยโดนทำร้าย
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 12-05-2014 12:15:45
บทที่  7  คาดไม่ถึง

   ผมหันไปมองพี่ไทจิ พี่อายากะโดนลอบทำร้ายตั้งแต่วันที่ออกจากบ้านไป แต่ทำไมพี่ไทจิบอกว่าพี่อายากะส่งเมลมา มันหมายความว่ายังไง

   “เรื่องเมลใช่มั้ย ยูกิ”พี่ไทจิพูดเหมือนเขาอ่านสีหน้าผมออก พอเขาพูดออกมา ทุกคนก็หันไปมอง

   “ครับ พี่บอกว่าพี่อายากะส่งเมลหาพี่ตลอดนี่”

   “พี่ได้รับเมลจริงๆ ไม่เชื่อก็เอาไปดู”เขายื่นไอแพดมาให้ผม ผมเปิดเข้าเมลแล้วเลื่อนดู เห็นเมลที่พี่อายากะส่งมาประมาณ 3 วันครั้งรายงานเกี่ยวกับความก้าวหน้าของงานที่พี่ไทจิสั่งไป บางเมลก็บอกความเป็นอยู่เหมือนน้องคุยกับพี่ ผมไม่เข้าใจ.....

   “พี่เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเมลอายากะถึงส่งมาหาพี่ตลอด หรือคนร้ายจะใช้โทรศัพท์ของอายากะส่งมา”พี่ไทจิครุ่นคิด

   “เขาก็ต้องมีรหัสสิครับ”พี่อายากะคงไม่เลินเล่อถึงกับใส่รหัสไว้หรอก

   “พี่ก็คิดว่าอย่างนั้น หรือว่า แกโกหก”พี่เขาเบนเข็มไปหาบอดี้การ์ดของพี่อายากะ

   “ไม่นะครับ เราถูกทำร้ายวันนั้นจริงๆ ผมสาบาน”เขารีบแก้ต่าง ส่ายมือเป็นพัลวัน

   “พี่ว่าเราต้องสืบหาจากเมลนี่ เราไม่รู้ว่ามันจะสวมรอยแทนอายากะทำไม พี่คิดออกเรื่องเดียวคือมันกำลังถ่วงเวลาให้คิดว่าอายากะยังมีชีวิตอยู่ เมลที่มันส่งมาจะกลายเป็นหลักฐานสาวไปหาต้นตอของมัน”พี่ไทจิยิ้มเหี้ยม แม้จะเคยเห็นพี่ไทจิยิ้มแบบนั้นหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ผมกลับมองรอยยิ้มนั้นอย่างไม่สบายใจ ราวกับว่าพี่ชายคนเดิมได้หายไปแล้ว

   “ถ้าอย่างนั้น พ่อฝากด้วยล่ะ”แล้วพ่อก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง พ่อดูเหมือนคนจิตหลุด  ผมเองก็รีบตามไปดูแลท่าน  จึงไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มของพี่ชายผู้ที่ผมเคยคิดว่า แสนดี


   “พ่อ”ผมเรียกเมื่อเห็นพ่อนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องนอน พ่อดูแกลงสักสิบปีเลย

   “ตอนแรกก็ลูก ตอนนี้ก็อายากะ พวกมันก็ยังหลบอยู่ในเงามืดเหมือนเดิม พ่อ......”น้ำตาของพ่อหยดลงบนฝ่ามือที่พ่อใช้ปิดหน้า ผมเดินเข้าไปกอดพ่อโอบให้พ่อร้องไห้บนไหล่ผม  พ่อเจ็บปวด ผมรับรู้ได้แม้ว่าพ่อจะไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น

   “พี่อายากะจะต้องปลอดภัย”

   “อายากะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เกิดมาจากความรัก แต่พ่อก็รักเขานะ พ่อรักเขาเหมือนกับที่พ่อรักลูก”

   “ครับ ผมรู้ครับ”

   “พ่อไม่รู้ว่าอายากะโดนเพ่งเล็งด้วย ถ้าพ่อรู้ พ่อไม่มีวันให้เขาไป”

   “ครับ ผมรู้ครับพ่อ พ่ออย่าโทษตัวเองนะครับ ผมจะไปตามพี่อายากะกลับมาเอง”

   “ไม่ ไม่ ห้ามไปไหน ห้ามออกไปไหนทั้งนั้น พ่อไม่อาจเสียลูกไปอีก”

   “พ่อจะไม่เสียผมไป และจะไม่เสียลูกคนไหนไปทั้งนั้น พ่อไม่ต้องเป็นห่วงผม พี่อายากะเป็นคนเข้มแข็ง ผมเองก็เหมือนกัน ในเมื่อพ่อเป็นคนดึงผมกลับมาในวงการนี้ พ่อก็ต้องยอมรับว่าผมสามารถใช้ชีวิตในเส้นทางนี้ได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ผมไม่ต้องการหลบใต้ปีกพ่อไปตลอดชีวิต และไม่หลบด้วย ผมพร้อมแล้วพ่อ และผมจะเป็นคนไปพาพี่อายากะกลับมาเอง”

   ผมให้ยาสลบอ่อนๆพ่อ เพราะพ่อบ่นปวดหัวแต่ว่านอนไม่หลับ เมื่อพาพ่อเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินออกไปหาพี่ไทจิ
“พี่ครับ”พี่ไทจิกำลังอยู่ในห้องทำงาน มีลูกน้องจัดการเอกสารบนโต๊ะ รวมถึงคอมพิวเตอร์เครื่องยักษ์รวมถึงจอโปรเจคเตอร์ขนากใหญ่ที่กินพื้นที่ของฝาผนังด้านหนึ่งไปเลย ดูเหมือนกำลังถอดรหัสคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับเมลปริศนานั่น

   “ยูกิ พ่อเป็นไงบ้าง”พี่ไทจิถามด้วยความเป็นห่วง

   “พ่อไม่เป็นอะไรมากครับ ผมให้นอนไปแล้ว”

   “เรื่องนี้คงสะเทือนใจพ่อจริงๆ”

   “เกินจะบรรยายครับ  แกะรอยไปถึงไหนแล้วครับ”ผมถาม ทั้งผมและพี่ไทจิตอนนี้เพ่งความสนใจไปที่คอมพิวเตอร์แกะรอย

   “กำลังหาอยู่ เขาบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงน่าจะได้”

   “ครับ”

   ระหว่างนั้นพี่ไทจิสั่งให้ลูกน้องดูว่าโยชิทาเกะทำอะไรอยู่ที่ไหนในวันที่พี่อายากะโดนลอบทำร้าย ทาคุยะก็ด้วย นึกถึงเขาผมก็นึกฉุนขึ้นมาทันที โทระซึกิ ทาคุยะ ผมรู้ว่าเขารู้เรื่องนี้ไม่มากก็น้อย ถ้าเพียงแต่เขาบอกผมในสิ่งที่เขารู้ ถ้าเพียงแค่เขาบอกเรา เรื่องมันก็คงไม่ต้องมาถึงขึ้นนี้ พี่อายากะก็จะไม่ต้องโดนลอบฆ่า  ถ้าเกิดว่ามีเบาะแสอะไรด็ตามที่ชี้ว่าเขาเป็นคนลงมือละก็ ผมจะให้เขาได้รู้ซึ้งถึงคำว่าทรมานจนตายเสียยังดีกว่า

   “เจอแล้วครับ”คนที่นั่งแกะรอยเมลรีบหันมาบอกพี่ไทจิ ผมกับพี่ไทจิเลยรีบเข้าไปดู

   “เมลส่งมาจากไหน”พี่ไทจิถาม

   “ส่งมาจากในโตเกียวครับ”เขาบอก หน้าตาแปลกใจ

   “ส่งมาจากโตเกียวเหรอ รู้มั้ยว่ามาจากคอมเครื่องไหน สามารถบอกได้มั้ยว่าเป็นของใคร แล้วระบุแหล่งที่มาให้มันแคบกว่านี้หน่อยได้มั้ย”พี่ไทจิสั่งรัวเป็นชุด

   ชายหนุ่มคนนั้นรับคำและรัวคีย์บอร์ดย่างรวดเร็ว ไม่นานเราก็ได้คำตอบ

   เป็นเขาจริงๆ ซากุรากะ โยชิทาเกะ เขาเป็นคนส่งเมลของพี่อายากะมาให้พี่ไทจิ ดังนั้นพี่อายากะจะต้องโดนพวกมันลอบทำร้าย  ทำกันได้ลงคอ พี่อายากะก็เหมือนเป็นหลานของเขา เขาทำได้ลงคอจริงๆ สายเลือดเดียวกันแท้ๆ

   ผมกับพี่ไม่รอช้า รีบพาคนทั้งหมดที่มี พร้อมอาวุธ ไปยังคฤหาสน์ฟูจิมิยะ  ทางนั้นเองก็ดูเหมือนจะรู้ความเคลื่อนไหว เมื่อไปถึงผมก็พบกองกำลังติดอาวุธล้อมรอบคฤหาสน์ฟูจิมิยะไว้เหมือนกัน

   พี่ไทจิกับผมลงจากรถ สักพักคนกลุ่มนั้นก็แหวกทางให้ผู้ชายผมขาวโพลนในชุดยูกาตะสีขาวเกินออกมา เขามีดวงตาที่คมดุเหมือนพ่อ มองดูรูปหน้าก็รู้ว่าตอนหนุ่มๆ เขาคงหล่อมากใจเลยทีเดียว  หน้าตาก็เหมือนคนแก่ใจดี เขายิ้มนิดๆ ให้พี่ก่อนจะยิ้มให้ผม ถ้าคนดูไม่ออกก็จะมองว่าเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่น แต่สำหรับผม ผมว่ามันช่างเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งจนน่าอ๊วก

   “คุณปู่โยชิทาเกะ”พี่ไทจิก้มหัวคำนับ ผมก็ทำตาม

   “ไทจิ ไม่เจอกันนานเลยนะ แต่ไม่เห็นจะต้องมาทักทายกันแบบนี้เลยนี่ มาพร้อมปืนแบบนี้ เขาเรียกว่ามาหาเรื่องนะ ไอหลานชาย”เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม อย่างไม่สะทกสะท้าน

   “ผมเองก็แค่จะมาคุย ทักทายคุณปู่ที่ออกจากบ้านไปนานเท่านั้นแหละครับ กลัวคุณปู่เหงา คุณปู่เลยอาจจะเรียกหลานๆ มาเที่ยวเล่นที่บ้านแบบผิดวิธีได้”

   “อ้อ งั้นเหรอ แต่ฉันก็ไม่ได้เหงาขนาดนั้นหรอกนะ”

   “งั้นเหรอครับ แต่ผมได้ข่าวว่าพี่อายากะโดนลอบทำร้าย ไม่ทราบว่าคุณปู่โยชิทาเกะ พอจะรู้เรื่องนี้บ้างมั้ยครับ”

   “รู้เรื่องงั้นเหรอ ฉันไม่คิดว่าที่แกบุกมาถึงที่นี่ ก็เพื่อจะมาถามฉันหรอกนะ”

   “ครับ ผมมาขออายากะคืน”

   “มาขอคืน งั้นเหรอ คิดเหรอว่าจะได้คืน”

   “งั้นก็แสดงว่าพี่อายากะอยู่กับคุณสินะ”ผมโพล่งออกไป ปู่โยชิทาเกะเลยเบนสายตามาหาผม

   “ไง ยูกิจัง โตขึ้นแล้วสวยเหมือนแม่เลยนะ สนใจจะมาอยู่กับปู่อีกคนมั้ยล่ะ”

   “เอาพี่อายากะคืนมา”

   “คืนก็กลัวนะสิ แล้วก็อีกอย่างนะ ถึงอยากจะคืนจริงก็คงทำไม่ได้”

   “ทำไม”หรือว่า......

   “ก็โยนให้ฉลามมันกินไปแล้วน่ะสิ ฮ่าๆๆๆ”โยชิทาเกะหัวเราะอย่างสะใจ ผมกับพี่ไทจิหน้าซีด

   กว่าผมจะรู้ตัว ปืนในมือผมก็ยิงก็ออกไปแล้ว ลูกน้องที่มายืนบังโยชิทาเกะไว้ทันก็ล้มลงไปนอนกับพื้น กระสุนปักทะลุกลางหัวเขา หลังจากนั้นการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น โยชิทาเกะถูกคุ้มกันให้กลับเข้าไปในบ้าน ผมกับพี่รีบฝ่าตามเข้าไป แต่ก็ไม่ทัน เพราะสมรภูมิตรงนี้ก็ดุเดือดพอกัน จะฝ่าเข้าไปง่ายๆ ก็ไม่ได้ ผมกับพี่และการ์ดอีกห้าหกคนที่คอยตามคุ้มกันเลยอ้อมเข้าไปทางหลังบ้าน แม้ว่าจะเจอพวกศตรูบ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าข้างหน้า หลายครั้งที่ผมมีโอกาสยิง แต่ก็ไม่สามารถตัดใจยิงได้....

ผมพึ่งฆ่าคนเป็นคนแรก แววตาที่เขามองมาตอนสิ้นใจ มันช่างดูว่างเปล่า เขาแทบไม่ได้คิดอะไรเลยในตอนนั้น ผมยิงเข้าไปกลางหน้าผากเขาพอดี เขาคงตายอย่างไม่ทรมาน แต่ใบหน้านั่นกลับติดวนเวียนอยู่ในหัวผม ถ้าสมมติว่าเขามีลูกมีเมีย ถ้าเขามีครอบครัว แล้วครอบครัวเขาจะอยู่ยังไง เสี้ยววินาทีที่ลั่นไก เหมือนใจของผมจะติดไปกับลูกกระสุนด้วย ผมกลัว ผม...ผม...ผมอยากจะอาเจียน

   อ๊วกกกกกกกกกกกกกก

   ผมก้มลงอาเจียน ทุกคนหันกลับมามองผม พี่ไทจิรีบเข้ามาลูบหลังให้ผม ผมอ๊วกได้สักพักก็หยุด ผมต้องต้องหยุด ต้องรีบตามมันไป ต้องรีบตาม ผมไม่เชื่อว่าพี่อายากะตายแล้ว ไม่เชื่อ ไม่เชื่อเด็ดขาด

   “ยูกิ!!”พี่ไทจิรีบเข้ามาประคองผม เอาชายเสื้อเช็ดปากให้ผม ผมขืนตัวยืนขึ้นแล้วรีบวิ่งตามไป ทุกคนก็ตามมา

   “ต้องรีบไปช่วยพี่อายากะ”ผมบอก เราต้องรีบไป ก่อนที่มันจะหนี ไม่งั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาพี่จากไหน

   เราวิ่งมาถึงทางเข้าคฤหาสน์ทางด้านหลัง ที่นั่นมีเฮลิคอปเตอร์จอดรออยู่คนหนึ่ง การ์ดคนหนึ่งของเรา ถ้าผมมองไม่ผิด น่าจะเป็นการ์ดของพี่อายากะ รีบวิ่งไปที่ฮอนั่นแล้วยิงนักบินทิ้ง ก่อนจะดับเครื่องฮอ  ผมกับพี่และคนที่เหลือก็คอยซุ่มอยู่ตรงประตู รออยู่ไม่ถึงหนึ่งนาที โยชิทาเกะก็วิ่งมาติดกับ

   ผมกับพี่จึงเดินออกไปดักหน้ามัน ก่อนชี้ปืนไปที่หัวของมัน ลูกน้องของมันที่ตามมาคุ้มกันมีห้าหกคนเท่าๆ กันกับเรา แต่ผมไม่กลัว ยังไงมันก็ต้องพาเราไปหาพี่อายากะ ต้องบอกทุกเรื่อง มันต้องบอกผมว่าทำไมถึงต้องคิดจะฆ่าพี่!!!

   “คุณหนู เล่นปืนแบบนี้ไม่ดีเลย”มันหันมายิ้มให้ผม โดนปืนจ่อแบบนี้แต่กลับไม่กลัวเลยสักนิด จะประสาทดีเกินไปแล้ว คิดว่าผมไม่กล้ายิงรึไง

“คิดว่าผมไม่กล้ายิงรึไง”ผมถามเสียงเหี้ยม ผมยิงแน่ ไม่มีลังเลอีกแล้ว

“กล้าสิ เธอกล้าแน่ ทำไมไม่ล่ะ แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะทำอันตรายฉันได้หรอกนะ”

   “อย่ามั่นใจหน่อยเลย”

   “งั้นเหรอ เห็นแก่ความเป็นญาติกัน เธออยากรู้อะไรล่ะ ฉันจะตอบให้”อะไรกัน ท่าทีสบายๆ แบบนั้น

   “ทำไม ทำไมต้องฆ่าพี่ แล้วคุณรึเปล่าที่คิดจะฆ่าผม”

   “คิดจะงั้นเหรอ ฉันไม่ใช่คนคิดหรอกนะ ฉันเป็นคนทำต่างหาก”

   “หมายความว่ายังไง”


   “จุ๊ๆ อย่ารีบสิ ให้ฉันตอบทีละคำถาม”
   “มันหมายความว่ายังไง!!! ไม่ต้องมาเล่นลิ้นกับผม ตอบคำถามผมมา”ผมไม่เข้าใจ บรรยากาศมันดูแปลกๆ ไป ทำไมกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงยิ้มแบบนั้น ทำไมถึงทำท่าทีสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย

   “หมายความว่าอย่างงี้ไง”คราวนี้พี่ไทจิเป็นคนพูด แต่เขาไม่พูดเปล่า เขาหันปืนมาทางผมอีกด้วย

   “พะ พี่”ผมเรียก นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมพี่ต้องหันปืนใส่ผม!!!

   “อ้าว เปิดเผยตัวซะแล้วเรอะ ฮ่าๆๆๆ”โยชิทาเกะหัวเราะอย่างชอบใจ พี่ไทจิยกยิ้มที่มุมปาก

   การ์ดของเราที่ตามมาชี้ปืนใส่ผมและการ์ดของพี่อายากะ เราสองคนตอนนี้เลยตกอยู่ในวงล้อมของปืน ผมมองหน้าพี่ไทจิอย่างไม่เข้าใจ แววตาอ่อนโยนของพี่ มือที่เคยขยี้หัวผมอย่างอ่อนโยน คำพูดที่คอยสั่งสอนและปลอบใจ ตอนนี้เหลือเพียงรอยยิ้มของชายที่ผมไม่รู้จัก

   “อึ้งเลยใช่มั้ย ยูกิจัง”พี่เดินเข้ามาบีบคางผมให้ผมหน้าเขา ทำให้ผมเห็นแววตาสะใจของเขาอย่างชัดเจน

   “ทำไม ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้”

   “ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ พวกแกสองคนไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ ของฉันสักหน่อย”

   “แต่ผมไม่เคยทำอะไรให้พี่”

   “ไม่เคยงั้นเหรอ เฮอะ แค่แกเกิดมา นั่นก็ผิดมากแล้ว”

   “หรือว่า.....พี่คิดว่าผมจะมาแย่งของของพี่ไปใช่มั้ย ผมก็เคยบอกพี่แล้วว่าผมไม่อยากได้ ทำไม ทำไมพี่ไม่บอกผมดีๆ ผมจะไม่ลังเลเลยถ้าจะต้องยกให้พี่ ผมไม่เคยอยากได้เลย มันเป็นของพี่ พี่เข้าใจมั้ย ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้!!”ผมตะโกนออกไปอย่างเหลืออด ทำไมพี่ต้องทำให้สถานการณ์มันแย่แบบนี้ ทำไมต้องฆ่าพี่อายากะ ทำไมต้องฆ่าผม!!!

   “มันไม่ง่ายเหมือนเด็กเล่นขายของหรอกนะ ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษพ่อของเธอ เขาค้านหัวแข็ง บอกกับผู้ใหญ่ในตระกูลว่าคนที่จะเป็นทายาทของเขามีเพียงเธอเท่านั้น ส่วนอายากะ ฉันเองก็ไม่อยากให้เธอตายหรอกนะ แต่เธอดันเสือกไม่เข้าเรื่อง ก็เลยต้องไปอยู่ที่ก้นทะเลไงล่ะ”

   “เป็นแกนั่นเอง ไอคนสารเลว นายท่านเลี้ยงแกมาอย่างดี เลี้ยงแกมาด้วยความไว้ใจ นายเองก็ได้ยกโรงแรมให้แกให้ตั้งหลายที่ ท่านไม่ได้ลืมแกเลย แล้วทำไมแกถึงตอบแทนท่านแบบนี้!!!”การ์ดของพี่อายากะตะโกนใส่หน้าพี่ไทจิ พี่ไทจิหันไปตบหน้าเขาจะหน้าสะบัดไปตามแรงมือ เลือดกบปาก แถมยังเปื้อนมาที่มือพี่ไทจิด้วย

   “คุณมันสารเลว ผมจะไม่มีวันนับถือคุณเป็นพี่อีก”

   “ฉันก็ไม่ได้อยากนับญาติกับเธอหรอกนะ ยูกิจัง ดวงแข็งแบบนี้ก็ดี แต่ดวงเธอก็คงหมดแค่นี้ ครั้งแรกมีพ่อ ครั้งที่สองมีไอทาคุยะ แต่ครั้งนี้เธอไม่มีใครมาช่วยแล้วหรอกนะ”แววตาที่เปลี่ยนไป เย็นชาและน่ารังเกียจ ผมรังเกียจ...

   “ทำไมทำตาแบบนั้นล่ะ รังเกียจพี่มากเลยรึไง”

   “อย่ามาแทนตัวเองว่าพี่ คุณไม่ใช่พี่ผม”ผมตะโกนใส่เขา แต่เขากลับหัวเราะ

   “แล้วใครกันที่เรียกฉันว่า พี่ไทจิอย่างนั้น พี่ไทจิอย่างนี้ หึ หมาตัวไหนมันเรียกกัน”

   ผมได้แต่กัดริมฝีปากด้วยความแค้นใจ

   “ไอหลานชาย ไปกันได้แล้วมั้ง เดี๋ยวมันก็ตามมาทันหรอก”โยชิทาเกะพูดเตือนๆ พลางหันไปทางหน้าบ้าน

   “นั่นสิ แผนล่อลูกแมวออกจากถ้ำเสือก็ผ่านไปด้วยดีล่ะนะ  อ้อ ขอชมเชยที่แกฉลาดมากนะ โฮซึเกะ ที่ไปยิงนักบินทิ้งน่ะ แต่ว่า เสียใจด้วยที่ฉันขับเฮลิคอปเตอร์เป็น”พลัน ผมกับการ์ดของพี่อายากะที่ชื่อว่าโฮซึเกะ ก็หน้าซีด เขากำลังจะหนีกันแล้ว แล้วเขาจะทำยังไงกับผม หรือว่าจะฆ่าทิ้ง ไม่สิ เขาจะต้องฆ่าทิ้งเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะเขายึดอำนาจไม่ได้ ถ้ายังมีผมเป็นมารขวางทางเขาอยู่

   “ไอหลานชาย แกจะยิงมันทิ้งเลยมั้ย หรือจะเก็บไว้ดูเล่นก่อน บอกตามตรง หน้าสวยขนาดนี้ฉันแอบเสียดายแทน ถึงจะไม่ใช่ผู้หญิงก็เถอะ”โยชิทาเกะมีสายตาโลมเลียอย่างจาบจ้วงจนผมแทบจะอ๊วก

   “นั่นสิ ผมเองก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว พาไปด้วยแล้วกัน ส่วนอีกคน ยิงๆทิ้งไปซะ”

   “อย่านะ!! อย่านะพี่ อย่าฆ่าใครอีกเลย แค่นี้ยังบาปไม่พอรึไง!!”ผมรีบเอาตัวบังโฮซึเกะไว้

“ใจดีจังนะ คนที่มีจิตใจที่ขาวสะอาดราวกับหิมะอย่าเธอ ไม่น่ากลับมาเลย”ไทจิมองดูอย่างสมเพช

“พี่ต้องปล่อยเขาไปด้วย ไม่งั้นผมไม่ไป”

“เธอมีสิทธิ์ต่อรองด้วยเหรอ”พี่ไทจิแสร้งทำหน้าครุ่นคิด ผมมองด้วยความแค้นใจ

“.........”ผมเงียบ ผมไม่มีจริงๆ

“ยิงทิ้งซะ”พี่ไทจิหันไปสั่ง พลันเสียงปืนดังลั่นพร้อมกับโฮซึเกะที่ล้มลง

“ไม่มมมมมมม”ผมกรีดร้อง ทำเกินไปแล้ว ทำไมถึงเลือดเย็นขนาดนั้น พี่ไทจิของผมหายไปไหน!!


พี่ไทจิ ไม่สิ ไทจิเดินมากระชากตัวผมให้เดินขึ้นไปในฮอ โยชิทาเกะกับลูกน้องอีกคนก็หาเชือกมามัดตัวผม ส่วนไทจิก็ขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งคนขับ พร้อมกับลูกน้องอีกคนหนึ่ง

   ผมถูกมัดมือ มัดเท้า ปิดปาก ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย โยชิทาเกะหันมามองผมด้วยแววตาไม่น่าไว้วางใจ เขายิ้มให้ผมนิดๆที่มุมปาก ห่อนจะหันออกไปมองวิว บินมาได้สักชั่วโมงหนึ่งเราก็มาอยู่บนเรือสำราญขนาดใหญ่กลางทะเล ไทจิลงมาดึงผมเข้าไปข้างใน เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรือของพวกเขา เพราะการ์ดชุดดำคุมเชิงอยู่เต็มไปหมด ไทจิพาผมเข้าไปนั่งในห้องรับแขกหรูหราของเรือ ผมถูกโยนลงบนพรมอย่างหยาบคาย ก่อนที่พวกเขาจะไปนั่งบนโซฟาอย่างสบายใจ พลางมองผมอย่างกำลังใช้ความคิดว่าจะทำยังไงกับผมดี  แต่รอยยิ้มนั่น ผมมองทีไรก็เสียวสันหลังทุกที

   แม้ผมจะหวาดกลัว แต่ผมก็แค้นเคืองไม่น้อย เมื่อก่อนความรู้สึกที่ผมมีต่อเขา เป็นเหมือนน้องชายกับพี่ชาย แม้จะไม่ใช่พ่อแม่เดียวกัน แต่ผมไม่เคยคิดว่าเขาเป็นคนอื่น เมื่อฟังจากโฮซึเกะว่าเมื่อพ่อประกาศให้ตำแหน่งผม เขาก็ยังได้โรงแรมหลายที่  ที่ที่จะให้เขาบริหารคงไม่ใช่โรงแรมต๊อกต๋อยแน่ๆ ทำไม เขาถึงต้องทำแบบนี้

   “ยูกิของพี่ ทำไมมองพี่อย่างนั้นล่ะ”เขาหันมาพูดยิ้มๆให้ผม แต่ขอโทษเถอะ ผมจะไม่ยอมโดนหลอกด้วยรอยยิ้มนั่นอีกแล้ว     
   ผมอยากจะถามเขาเหลือเกินว่าเขาเคยรักผม เคยรักพ่อ เคยรักพี่อายากะบ้างมั้ย แต่ผมถูกปิดปากอยู่  พอเห็นอย่างนั้น เขาก็ดึงสก็อตเทปที่ปิดปากผมอยู่อย่างรวดเร็ว จนผมเจ็บจนชาปากไปหมด

   “พี่เคยรักพวกเราบ้างรึเปล่า”

   “รักเหรอ อย่างนี้รึเปล่า”แล้วเขาก็หยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมา ก่อนจะเขียนคำว่ารักลงไปแล้วยื่นให้ผมดู

   ผมกัดฟันกรอด เขาไม่เคย เขาไม่เคยคิดว่าเราเป็นครอบครัว หัวของเขาคิดถึงแต่อำนาจ

   “เป็นพี่มาตลอด ตั้งแต่ที่ไทยใช่มั้ย”ผมถาม น้ำตารื้อขึ้นมาแต่ผมจะไม่ยอมให้มันไหลเด็ดขาด

   “ใช่ เรื่องปล่อยข่าวของแก ฉันก็ทำเหมือนกัน แต่ก็ได้แต่โยนไปให้ปู่โยชิทาเกะก็เท่านั้นเอง”

   “แล้วพี่อายากะ ทำไมต้องฆ่าล่ะ พี่อายากะไม่มีหลักฐานซะหน่อย เธอแค่สงสัย ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น”

   “ถ้าถึงขั้นสงสัย สืบต่อไปก็คงได้หลักฐาน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องคิดอย่างรอบคอบ ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น ก็เลยตัดไฟแต่ต้นลมไงล่ะ”เขาตอบ ตลอดการสนทนา รอยยิ้มไม่เคยหายไปจากใบหน้าของเขาเลย

   “งั้นเรื่องเมล ก็ตบตาสินะ”

   “แน่นอน ฉันรอบคอบขนาดนั้น ถ้าไม่ตั้งใจปล่อยออกมา พวกแกก็ไม่มีวันหาเจอหรอกนะ หึ คิดแล้วตลกชะมัด ให้ฉันจัดการคนร้ายงั้นเหรอ ฮ่าๆๆๆๆ ฉันจะไล่จับตัวเองทำไม”เขาหัวเราะอย่างขบขัน โยชิทาเกะก็ขำนิดๆ อย่างเอือมๆ

   “.........”ผมพูดอะไรไม่ออก เพราะตลอดมา พ่อไว้ใจให้เขาจัดการเรื่องทั้งหมด เขาเลยมีโอกาสเบี่ยงประเด็นและคอยกำจัดหลักฐานไปเรื่อยๆ คนร้ายอยู่ใต้จมูกเราตลอดแต่เรากลับไม่รู้เลย

   “ยูกิ จะไม่ถามต่อแล้วเหรอไง”

   “ผมไม่อยากรู้เรื่องเลวๆ ของพวกคุณอีกต่อไปแล้ว ถ้าอยากฆ่าก็ฆ่าผมซะ”ผมสิ้นหวัง พี่อายากะ พี่ตายแล้วจริงๆ เหรอ พี่สาว พ่อ ผม....ผมสับสน ผมคิดอะไรไม่ออกเลย ทำไมถึงเป็นพี่ไทจิ ทั้งๆที่เขาบอกจะปกป้องผมแท้ๆ

   “อย่าพึงรีบตาย พี่อยากเราเห็นนะ จุดจบของเราแล้วก็พ่อเรา”

   “อะ...อะไรนะ พี่จะทำอะไร!!”พ่อเหรอ พ่ออยู่ที่นี่ด้วยเหรอ

   “ล่อลูกแมวออกจากถ้ำ แน่นอนเพื่อฆ่าลูกแมวทิ้ง แต่เสือชราก็ปล่อยเอาไว้ไม่ได้เหมือนกัน หึๆ คนน้อยอย่างนั้น จะทำอะไรได้ คดว่าพี่มีคนแค่นี้เหรอ คิดว่าพี่มีแค่กองกำลังของตระกูลฟูจิมิยะงั้นเหรอ เราคิดว่าพี่จะไม่มีเป็นของตัวเองบ้างรึไง”เขาไขว่ห้าง จิไวน์อย่างสบายอารมณ์ แต่ผมกลับร้อนใจ

   เขาล่อผมออกมา นึกแปลกใจอยู่แล้วที่เขาไม่ได้ห้ามผมเลยเมื่อผมขอจะมาด้วย ส่วนที่คฤหาสน์ก็เหลือคนน้อยมาก ผมให้ยาสลบอ่อนๆ กับพ่อ พ่อคงตื่นมาอีกทีก็รุ่งเช้า เขาคงอาศัยจังหวะนี้เขาไปฆ่าพ่อถึงข้างใน!!! ใจทรามหยาบช้าที่สุด เลวที่สุด!!!

   “ไอสารเลว อย่างน้อยพ่อก็เลี้ยงแกมา รักแกเหมือนลูกแท้ๆ ทำไมแกถึงทำกับท่านแบบนั้น!!! แกทำร้ายคนที่แกเรียกว่าพ่อได้ยังไง พวกเราไปทำอะไรให้แก ทำไมถึงฆ่ากันได้ลงคอ!!!”

   “หึ หุบปากสวยๆไว้ครางดีกว่านะ ยูกิจัง ถ้าคิดถึงคุณพ่อละก็ อีกเดี๋ยวคุณพ่อก็มาแล้ว”

   พลัน ผมได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ ไทจิหันออกไปมองข้างนอก ก่อนจะยิ้มให้ผม

   “คุณพ่อมาแล้วล่ะ”

   ผมเสียวสันหลังวาบ รู้สึกเหมือนมีอะไรบีบแน่นอยู่ในอก หายใจไม่ออก เจ็บปวด จนเจียนจะขาดใจ นี่สินะเป็นความรู้สึกที่เห็นคนที่รักกำลังตกอยู่ในอันตราย พ่อก็คงรู้สึกแบบนั้นแต่คงจะมากกว่าผมหลายเท่า เมื่อรู้ว่าคุณโมโมโกะขู่จะฆ่าแม่กับผม จึงยอมส่งเราสองคนกลับไทย น่าขัน ผมพึ่งมาเข้าใจความรู้สึกของท่านอย่างแท้จริง ก็เมื่อวันสุดท้ายของชีวิตเราสองคน

   “ปล่อยยูกิ”นี่เป็นคำแรกที่พ่อพูดเมื่อเข้ามาในห้อง พ่อโดนมัดมือ แต่ไม่โดนมัดเท้ากับปาก พ่อจ้องเขม็งไปที่พี่ไทจิกับโยชิทาเกะ แต่สำหรับไทจิ ผมมองเห็นแววตาเจ็บปวดของพ่อ

   “ออกไปให้หมด”พี่ไทจิหันไปสั่งลูกน้อง ทุกคนออกไป เหลือเพียงผม พ่อ โยชิทาเก และเขาเท่านั้น

   “สวัสดีครับ คุณพ่อ”

   “ฉันไม่มีลูกอย่างแก”คุณพ่อตอบเสียงเรียบ

   “งั้นเหรอครับ หึ ผมไม่แปลกใจหรอก คงจะเจ็บใจสินะ ที่โดนผมหลอกมาตั้งนาน”

   “ปล่อยยูกิ อยากได้อะไรก็เอาไปให้หมด แล้วปล่อยเราไป”

   “หึ ถ้าคุณพ่อที่รัก กับยูกิของผมตายไป ผมก็โยนความผิดให้โยชิทาเกะ หลังจากนั้น พวกบอร์ดบริหารก็จะให้ผมขึ้นแทน คนในแก๊งก็เคารพผมและไม่เคยระแคะระคายเรื่องนี้มาก่อน ส่วนคนที่รู้ ก็ตายไปหมดแล้ว ผมก็จะทำทีเป็นไล่ฆ่าล้างแค้นโยชิทาเกะ แล้วให้โยชิทาเกะแสร้งตาย ก่อนที่ผมจะเข้าไปครอบครองแก๊งฟูจิมิยะ แล้วบังเอิญว่าผมเจอญาติที่หายไปของผมโดยบังเอิญ และไม่อาจแบ่งเวลาคุมสองแก๊งได้อีกต่อไป ด้วยความเคารพ ผมจึงให้ญิคนนั้นของผมขึ้นครองฟิจิมิยะแทน เป็นไงพ่อ สมกับที่พ่อสอนมารึเปล่า”

   “หึ ญาติผู้ใหญ่คนนั้น ก็คือโยชิทาเกะที่ปลอมตัวมาสินะ”

   “แน่นอนครับ เพราะฉะนั้น ผมบอกไว้เลย ว่าตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของผมแล้ว”

   “ทำไม ทำไมแกถึงต้องทำขนาดนี้ ทำไมต้องไปร่วมมือกับโยชิทาเกะ”

   “เพราะคุณไงล่ะ เพราะคุณไม่เคยยอมรับผม คุณแม่ก็ใช้ผมเป็นเครื่องมือแก้แค้น ถ้าผมไม่แอบรู้โดยบังเอิญว่าความพยายามทั้งหมดของผม ต้องมาสูญเปล่าเพราะสักวันหนึ่ง คนที่จะมายึดความสำเร็จทั้งหมดไปกลับเป็นมัน ลูกลับๆ ของคุณ ผมพยายามเรียนรู้งาน ทำทุกอย่างเพื่อให้คุณพอใจ เหนื่อยจนเลือดตาแทบกระเด็น แต่คุณก็ไม่เคยคิดว่าผมเป็นลูกของคุณ คุณมันเห็นแก่ตัว คุณคิดจะใช้ผม เสร็จแล้วก็ทิ้งใช่มั้ย มันไม่ง่ายนักหรอกนะ ผมจะไม่ยอมให้คุณเขี่ยผมทิ้งหรอก ไม่มีวัน!!!”พี่ไทจิไม่อาจรักษารอยยิ้มไว้ได้อีกแล้ว

   “ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้น ฉันคิดมาตลอดว่าแกเป็นลูกคนหนึ่ง”

   “โกหก ถ้างั้นทำไมไม่ให้ผมครอง”

   “มันไม่ใช่ของแกมาตั้งแต่แรกแล้ว!!!”

   “มันเป็นของผม!!!”

   “งั้นก็ได้ อยากได้อะไรก็เอาไป ฉันสัญญาจะไม่มายุ่งกับแกอีก แต่แกต้องปล่อยยูกิไป แกจะฆ่าจะแกงฉันยังไงก็ตามใจ”พ่อพยายามต่อรอง

   “ไม่นะ ไม่เอานะพ่อ พี่ปล่อยเราสองคนไปเถอะ ผมกับพ่อจะกลับไทย จะไม่กลับมาเหยียบที่ญี่ปุ่นอีก พี่ปล่อยเราไปเถอะ”ผมพยายามขอร้อง ไม่นะพ่อ เราจะไม่แยกจากกันอีกแล้วนะ

   “โถๆๆ ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะยูกิจัง พี่ปล่อยแน่ ยูกิจังกับพ่อจะได้ไปอยู่ด้วยกันในนรกไงล่ะ แต่ก่อนหน้านั้น พี่จะทำให้เราขึ้นสวรรค์ก่อนเป็นไง”

   “มะ ไม่ อย่านะ”

   ผมกระเถิบถอยหลังด้วยความตกใจ พ่อพุ่งเข้ามาหาผม แต่ก็โดนโยชิทาเกะจับไว้ โยชิทาเกะซ้อมพ่อจนพ่อนิ่งไปเพราะความจุก พีไทจิย่างสามขุมเข้ามาหาผม แกะที่มัดเท้าของผมออก ก่อนประกบปากผมอย่างรุนแรงจนผมได้กลิ่นคาวเลือดที่แตกออกมาจากปากผม  มันเป็นจูบที่น่าขยะแขยงที่สุด เขากำลังจะข่มขืนผมต่อหน้าพ่อ!!! ทำไมต้องทำกันแบบนี้ ผมหน้าตาไหลพราก ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เขาเอื้อมมือลงไปปลดกางเกงผม ก่อนจะดึงมันออกไป ผมหนีบขายื้อไว้สุดชีวิตและพยายามกัดลิ้นเขา แต่เขาก็ไหวตัวทันทุกครั้งจนเขาเริ่มรำคาญ

   เพี๊ยะ

   ไทจิตบปากผมจนเลือดกลบ หัวผมสะบัดไปตามแรงตบจนเสียหลักล้มลงกับพื้น เขาอาศัยจังหวะนั้นดึงกางเกงออกไปจากขาผม ทั้งกางเกงนอกและกางเกงใน ผมหุบขาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผมกลัวมากจริงๆ ผมได้ยินเสียงพ่อร้องออกมาด้วยความตกใจ เสียงพ่อที่ตะโดนด่าไทจิปนขอร้องอ้อนวอนให้ปล่อยผมไป

   แม่....แม่ครับ ผมกลัว ผมภาวนาในใจของให้มีใครสักคนมาช่วย เขาปลดกระดุมเสือเชิตของผมออกก่อนจะก้มลงเลียหน้าอกผมอย่างหิวกระหาย จนถึงวินาทีนี้ผมแทบจะอ๊วกออกมาด้วยความกลัวและขยะแขยง ผมใช้มือผมที่โดนมัดอยู่ดันหัวเขาออก เขาจึงเอามือข้างหนังจับมือที่โดนมัดของผมไว้เหนือหัว ก่อนจะไซร้ซอกคอเสียงดังน่ารังเกียจ ผมร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร ผมดิ้นจนเริ่มเหนื่อยและหมดหวังที่จะดิ้นอีกต่อไป ไทจิเห็นอย่างนั้น จึงยิ้มแล้วปล่อยผม ก่อนจะยันตัวเองขึ้นแล้วปลดกระดุมกางเกงของเขาออก ผมเบือนหน้าหนี พยายามหนีบขาสุดชีวิต แต่เขาก็กระชากขาผมให้อ้าออกจนได้  หึ สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่กลับต้องมาโดนข่มจืนก่อนจะโดนฆ่าตาย ชีวิตผมมันช่างบัดซบจริงๆ

   พ่อตะโกนร้องของความเมตตาตลอด ผมได้ยินเสียงโยชิทาเกะเตะพ่อเพื่อให้พ่อหยุดส่งเสียง ...ผมขอโทษครับพ่อ แต่ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมหลับตาลงช้าๆ สติของผมเลือนรางเต็มทน อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ผมไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้ว
   ท่ามกลางสติที่เลือนราง ผมได้ยินเสียงเปิดประตูอย่างแรงดังโครม และเสียงสุดท้ายในห้วงคำนึง เสียงคุ้นหูของคนที่ผมคาดไม่ถึงว่าเขาจะมา....

   “กำลังสนุกกันเชียว ขอร่วมวงด้วยคนสิ”

   ปัง!!!

-------------------------------------------------
สาวกไทจิของโทษด้วยนะค่ะ (:z6:)

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่าาาาาาาา

จะไปปั่นตอนที่ 8 ให้เดี๋ยวนี้ละค่ะ พบกันใหม่ในตอนหน้านะค่ะ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 12-05-2014 12:52:24
ไทจิจริงๆด้วยสินะ แบบนี้เค๊าม้ายอาววววววววววววววววววววววว :hao5: :hao5:

ว่าแต่สรุปใครพระเอกเนี่ย???

ปล.ไทจิจริงเหรอ เหรอ เหรอ เหรอ//จ้องลูกกะตาคนแต่ง
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 12-05-2014 16:58:07
ทาคุยะมาช่วยสินะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 12-05-2014 17:26:01
 :ling1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 12-05-2014 17:40:02
ไทจิไม่น่าเลย :'(

หลบหน่อยพระเอกมา...ใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 12-05-2014 17:46:50
ฮือ ไทจิไอเลว ทาคุยะมาช่วยยูกิเร็ววววส
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 12-05-2014 18:30:33
*ตบเข่า ฉาด!!*
ใช่จริงๆด้วยเป็นแบบที่สันนิฐาน(เดา)ไว้ ขอแค่พี่อายากะอย่าเพิ่งตายเท่านั้น
เรื่องนี้คงจะแฮปปี้ ยูกิจังก็รอพระเอกขี่ม้าทมิฬอย่างทาคุยะมารับละกันนะ  o18
รอคอยยูกิจังกลายเป็นพญาหงส์ที่สวยงามเก่งกาจ

 :pig4: นะคะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 12-05-2014 18:43:06
 :mew2:เป็นไทจิทำจริงๆเหรอ แล้วใครเข้ามาอีกคนหว่า
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: แป้งข้าวหมาก ที่ 12-05-2014 21:17:01
นั่นปะไร...ทำไมซื้อหวยไม่ถูกแบบเน้
แล้วทาคุยะนี่มาช่วยหรือมาอะไรฟระ
เอ็งเป็นพระเอกป่ะฟระเนี่ยเฮ้ยยย

 :a5:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 12-05-2014 22:06:41
ไทจิเลวมากอะ


จะรอดไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 12-05-2014 22:49:02
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 12-05-2014 23:21:27
ไทจิชั่วจริง ๆ เนรคุณ

 :z6: :z6: :z6: :z6:


พระเอกมาช่วยแล้วซินะ

 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: เลิฟลี่ ที่ 13-05-2014 00:17:58
เค้าอยากให้เป็นเฟยหลงที่มาช่วยค่ะแต่เสียงที่ยูกิคุ้นเคยและสำเนียงกวนส้นน่าจะเป็นทาคุยะ

มาช่วยวินาทีจะเสียซิง โรคจิตเนอะ มาช่วยก่อนหน้านี้ก็ได้ไม่ช่วย หรืออายากะกลับมาทวงบัญชีแค้น :katai1:

คนเขียนรีบปั่นมาไวไวเลยค่ะ คนอ่านลุ้นมากกก
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 13-05-2014 01:23:20
 :katai1: :katai1:

 :sad4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 7 คาดไม่ถึง] P.4 - 12/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 13-05-2014 13:01:21
เห่ยยยยยยย คือเเบบ เลวไปไหมอ่ะ ไทจิ :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
ว่าเเล้วมันทะเเม่งๆแปลกๆ ตั้งเเต่ที่ยูกิกลับมาล้ะ :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.5 - 15/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 15-05-2014 21:32:35
อ๊ากกกกกกกกกกก หัวหมุนไปหมดแล้ว

ตอนนี้กำลังปั่นอยู่จ้า พอดีช่วง 2-3 วันนี้อาหารเป็นพิษ เลยไม่ได้แต่งเลย เพราะมีธุระอยู่กับห้องน้ำ :katai5:

ถ้าปั่นทันพรุ่งนี้จะเอามาลงนะค่ะ

แต่ถ้าไม่ทันก็คงจะเป็นวันมะรืน

ราตรีสวัสดิ์ หลับฝันดีนะค่ะ :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.5 - 15/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 15-05-2014 21:38:19
ขอให้หายไวๆๆน้าจ้าาาาา :bye2: :bye2: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.5 - 15/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 15-05-2014 21:39:49
รอๆๆจ้า หายไวๆน้าาาาาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.5 - 15/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 15-05-2014 21:46:10
รอได้ค่าาา หายไวๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.5 - 15/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 15-05-2014 23:01:00
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:กรี้ดดมีคนมาช่วยแล้ว :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.5 - 15/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 16-05-2014 07:20:00
หายไวไวนะค้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.5 - 15/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 16-05-2014 11:51:03
หายไว ๆ นะคะ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 16-05-2014 16:54:46
บทที่  8  ลูกแมวแสนเชื่อง?


[Part’s ทาคุยะ]

   ซากุรากะ ยูกิ  ครั้งแรกที่เจอ หัวใจผมเต้นรัวแบบไม่รู้สาเหตุ ทั้งๆ ที่วันนั้นตั้งใจแค่ว่าจะมาดูหน้าหมากในเกมของไอ้ไทจิมันซะหน่อย  แววตาตื่นตระหนกยามผมประชิดตัว แม้จะตกใจ แต่ก็กล้าสู้ตาผม เหมือนแมวน้อยๆ เลย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเขาทำให้ผมเผลอสูดดมเข้าไปเต็มปอด  หึ แต่ไอ้บอดี้การ์ดนั่นก็กันแจเลย ปกป้องกันดีนัก ทำให้ผมชักอยากจะได้ขึ้นมาแล้วละสิ

   เจอกันครั้งที่สอง งานเลี้ยงนี้ผมรู้มาว่าจะเป็นการเปิดตัวคุณหนูยูกิลูกชายลับของซากุรากะ ทาเคชิ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมแอบสืบรู้มาเพิ่มก็คือ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของแมวน้อยของผมซะนี่  ผมควรจะเข้าไปยุ่งดีมั้ยน้า ผมเคยปรึกษาพ่อเรื่องนี้ พ่อบอกว่าผมจะยุ่งหรือไม่ยุ่งก็ได้ แล้วแต่ผม สำหรับผมจะยูกิครองหรือไทจิครอง ผมก็ไม่สนอยู่แล้ว เพราะผมทำธุรกิจส่งออกรถยนต์และอะไหล่ ที่ไม่กินเส้นกันไม่ใช่เพราะขัดขากันด้านธุรกิจ แต่พ่อผมกับทาเคชิเหม็นขี้หน้ากันมานานแล้วต่างหาก  ตอนไปถึงงาน ผมรีบมองหาแม่แมวน้อยของผม ยิ่งเห็นยิ่งน่ารัก ผมมีรสนิยมแบบนี้อยู่แล้ว พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่านให้ผมตัดสินใจเอง ผมทนเห็นครอบครัวสุขสันต์นี่ไม่ไหว ยูกิจังก็ไม่ได้รู้อะไรเลย ผมเลยหวังดีเตือนเขาไป แต่กลับหงุดหงิดใส่ผมซะงั้น แถมยังลุกไปเข้าห้องน้ำอีก ไปคนเดียว ไม่มีใครตาม ผมเห็นท่าไม่ดีเลยตามไป สุดท้ายเป็นไงล่ะ ถ้าผมไปไม่ทันก็คงโดนเก็บไปแล้ว อันที่จริงผมก็ไม่อยากไปช่วยหรอกนะ แต่ว่า ผมก็อยากเห็นเหมือนกันว่าแม่แมวน้อยจะทำยังไงเมื่อรู้ความจริง เกมที่อีกฝ่ายคุมหมากไว้หมดมันจะสนุกและเร้าใจตรงไหนกันเล่า เพิ่มหมากที่คุมไม่ได้หน่อยเป็นไง ยูกิจัง ผมอุตส่าห์ยอมเข้าเล่นเกมแล้ว คุณก็ช่วยทำให้มันตื่นเต้นกว่านี้หน่อยเป็นไง ^^

   คืนวันนั้นหลังจากผมกลับไป ก็ต้องไปทำธุระที่คาวาซากิ ระหว่างทางก็แอบเห็นการลอบฆ่าเข้าโดยบังเอิญ เห็นทีดวงของผมคงต้องพัวพันเข้ากับตระกูลนี้แหงๆ ชาติที่แล้วคงทำกรรมไม่ก็บุญด้วยกันมาเยอะ ชาตินี้ถึงได้ต้องมาเจอะมาเจอไม่รู้จักจบจักสิ้น ผมไม่อยากกะโตกกะตากให้ไอ้ไทจิมันรู้ตัว หลังจากอายากะจังโดนยิงตกมาจากหน้าผาแล้ว ผมก็ให้ลูกน้องตามไปเก็บกู้ร่างเธอกลับขึ้นมาและพาไปรักษาตัวที่บ้านผม

   ไทจิมันคงทุ่มหมดตัวแล้วคราวนี้ มันถึงกับฆ่าอายากะ แสดงความเวลาเปิดเผยตัวก็คงจะเร็วๆ นี้ ผมอยากจะเห็นหน้ายูกิจังชะมัด จะทำหน้ายังไงกัน ร้องไห้ หรือแค้น? ผมแอบตามเงียบๆ ไม่จำเป็นต้องยื่นมือเข้าช่วยตอนนี้ ผมตามมันตั้งแต่มันพาแมวน้อยของผมขึ้นรถไปถล่มฟูจิมิยะ เห็นตลอดจนมันพาเขาขึ้นเฮลิคอบเตอร์บินออกไป ผมไม่รอช้ารีบยิง GPS ไปติดที่ตัวลำ แล้วหาตำแหน่งเพื่อตามไป ผมติดต่อฮอของผมขับตามไปทันที ไทจินับว่าวางแผนได้ดีเยี่ยมสำหรับหลอกคนใกล้ตัวอะนะ แต่สำหรับผม ผมมองออกตั้งแต่แรก ก็มันทะเยอทะยานจะตาย

   ผมเคลียร์คนของมันบนด่านฟ้า ก่อนจะเข้าไปในตัวเรือ หาตัวแมวน้อยของผม หวังว่ามันคงยังไม่ฆ่าทีหรอกนะ ผมอุตส่าห์ถูกใจมากแท้ๆ
   ผมเดินหาเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงคนตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังออกมาจากห้องห้องหนึ่ง ผมเลยเดินเข้าไป สภาพที่ผมเห็นในห้องดูไม่จืดเลย ทาเคชิโดนซ้อมจนน่วม โยชิทาเกะก็กำลังคร่อมทาเคชิก่อนจะซ้อมอย่างเมามัน ไทจิชันเข่ากำลังปลดกางเกง ส่วนคนที่นอนอยู่ใต้ร่างของมัน ก็คือยูกิจัง แมวน้อยของผม เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะ เรียบเนียนราวกับผ้าไหม รอยแดงๆ สองสามรอยตรงหน้าอกและรอบคอ รวมกับใบหน้าเปื้อนน้ำตานั่นทำให้ผมแทบสำลักอากาศเลยทีเดียว หึ ยั่วขนาดนี้ใครจะไปอดใจไหว ถึงแม้จะเป็นไอไทจิก็เถอะ เห็นแบบนี้ผมก็ชักจะโมโหขึ้นมาแล้วนะ ผมอุตส่าห์จองไว้แล้ว จะให้ใครมาแย่งไปได้ยังไง

   “กำลังสนุกกันเชียว ขอร่วมวงด้วยคนสิ”

   ปัง!!!

   ผมยิงไปที่ไทจิอย่างรวดเร็วแบบไม่ให้มันตั้งตัว ยิงทั้งๆที่มันยังหันหลังอยู่นั่นแหละ จะหาว่าผมลอบกัดผมก็ไม่สน แต่มันเองก็ไม่ใช่ขี้ๆ มันไหวตัวทัน กระสุนเลยถากไหล่มันไปเท่านั้นเอง

   ปัง!!!

   ผมยิงไปอีกนัดติดๆ กัน คราวนี้โดนจังๆ ที่กลางหลังบนซ้าย ตำแหน่งหัวใจ แต่มันก็ยังลุกได้ และหยิบปืนที่เอวมันยิงสวนมาทางผม ผมรีบหลบไปที่หลังประตู มันยิงสกัดผมไว้หลายนัด ผมเองก็ไม่กล้าโผล่ออกไปให้หัวเป็นรู เลยหลบซักพัก พอเสียงเงียบ ผมเลยโผล่หัวเข้ามา แต่ว่าในห้องกลับไม่พบไทจิกับโยชิทาเกะแล้ว ตรงพื้นมีรอยเลือดไหลเป็นทาง ไปอีกด้านหนึ่งของห้องที่มีประตูอยู่ ผมเดินตามรอยเลือดไป จนมันสุดทางที่ท้ายเรือ พอมาถึงตรงนี้ เห็นเรือบดเล็กๆถูกนำออกไป ที่เรือผมเห็นไทจิ โยชิทาเกะ และลูกน้องมันอีก 5-6 คนเล็งปืนมาทางผม ผมเลยหลับเข้าไปที่หลังประตูอีกตามเคย พอพ้นระยะยิง ผมให้ลูกน้องผมลงเรือบดอีกลำตามไป ส่วนผมก็หันกลับไปดูยูกิจังกับทาเคชิซะหน่อย

   พอมาถึง ผมเห็นทาเคชิพยายามกระเถิบตัวเข้ามาหายูกิที่กำลังนอนไม่ได้สติในสภาพที่ล่อแหลมเป็นอย่างมาก ผมรีบแก้มัดให้ยูกิแล้วถอดสูทผมไปห่มตัวเขาไว้ แล้วก็ไปแก้มัดทาเคชิต่อ

   “มาช่วยฉันทำไม”เขาผมเสียงเข้ม หึ ผมน่ะ กวนๆ เหมือนพ่อ ส่วนทาเคชิก็ดื้อเงียบ หล่อ เข้ม ขวัญใจสาวๆ พ่อเคยบ่นให้ผมฟังตั้งหลายครั้งว่าน่าหมั่นไส้ วันนี้ผมเห็นด้วยเลย

   “ผมก็แค่อยากช่วยน่ะครับ”ผมยิ้มให้ด้วยความจริงใจ แต่พ่อเห็นทีไรก็ตบหัวผมให้ หาว่าผมกวนบาทา

   “เสแสร้ง! แกต้องการอะไร”กลัวดอกพิกุลทองจะร่วงรึไงครับ

   “กล่าวหากันชัดๆ เลยนะครับ ผมหวังดีต่างหาก”

   “ฉันรู้ว่าแกรู้มาตลอดว่าคนร้ายคือไทจิ แต่แกก็ไม่เคยบอกเรา แล้วนี่จะให้ฉันเชื่อเหรอ ว่าแกหวังดี”

   “แหมๆ ผมบอกไปแล้วใครจะเชื่อละครับ”ไม่งั้นก็หมดสนุกนะสิ

   “แกก็แค่เห็นว่ามันน่าสนุกก็เท่านั้นเอง!!”

   “หึ ถ้ารู้แล้วจะถามผมทำไมล่ะครับ”

   “แกต้องการอะไร บอกมาแล้วปล่อยเราไป”

   “โอเค เข้าเรื่องเลยก็ได้ ผมต้องการยูกิ จะรับไปเลยแล้วกันนะครับ”ผมอุ้มยูกิขึ้นในท่าเจ้าหญิง ทาเคชิรีบเข้ามาจะแย่งยูกิไปจากผม แต่ลูกน้องของผมสกัดไว้ คนในอ้อมกอดผมก็นอนไม่ได้สติเลย ผมพาทั้งยูกิและทาเคชิกลับบ้านผม เมื่อรวมกับอายาเมะจังแล้ว ผมน่าจะเปิดสวนสัตว์ครอบครัวเสือซากุระได้เลยนะเนี่ย หึๆ ยูกิจัง คราวนี้ผมเหนื่อยมามาก รางวัลที่ผมหวังไว้ก็คือคุณ ถ้าอย่างนั้น เมื่อคุณตื่นขึ้นมา ก็ช่วยน่ารักกับผมหน่อยแล้วกันนะ หึๆ


   ผมกลับมาถึงบ้าน ทาเคชิดึงดันจะอยู่ห้องเดียวกับยูกิ แต่ผมไม่ยอมหรอก เรื่องอะไรจะเอาเข้ามาเป็นมารความสุขเล่า ผมเลยยกทาเคชิให้พ่อจัดการ แล้วเรียกหมอมาดูทั้งสองคน

   ผมพายูกิจังไปวางไว้บนเตียงผม เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ โอย ผมแทบทนไม่ไหว ทำไมผิวขาวเนียนอย่างนี้นะ ผิวผู้หญิงบางคนที่ผมเคยนอนด้วยยังไม่ขนาดนี้เลย เลยแอบลวนลามลูบตรงโน่นตรงนั้นทีอย่างละนิดอย่างละหน่อย ไม่อยากทำอะไรมากตอนนี้ ผมไม่มีรสนิยมปล้ำคนตอนหลับหรอกนะ ผมปล่อยให้เขานอนพักสักพัก รอเวลาฟื้น อยากรู้จังว่าถ้าเขารู้ว่าผมเป็นคนช่วย จะทำหน้าแบบไหนกันนะ

   “อืม”ร่างบางบนเตียงครางเบาๆ ผมว่าเขาตื่นแล้วละนะ

   “เป็นไงบ้าง ยูกิจัง”ผมโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ ทักทายด้วยรอยยิ้มจริงใจสุดๆ (เหรอ=_=)

   “มะ ไม่ อะ ออกไป ไม่มมมมมมมมม อย่าเข้ามา!! ออกไป ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย ฮือๆๆ” อยู่ๆ ยูกิจังก็อาละวาดขึ้นมา เขากรีดร้องก่อนจะใช้สองแขนบางๆ นั่นตีผมข่วนผมซะจนผมต้องจับมือทั้งสองข้างไว้ และก็กลายเป็นยึดตัวเขาไว้กลายๆ ยูกิจังจึงหยุดดิ้นแล้วร้องไห้แทน แถมเรียกให้คนช่วยอีกต่างหาก อะไรกัน ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย

   “ยูกิ ฉันมาช่วยเธอ จำได้มั้ย ฉันไม่ได้จะทำร้ายเธอ”ผมพยายามปลอบ

   “มะ ไม่ ออกไป ฮือๆ พ่อครับ แม่ครับ พี่อายากะ ช่วยด้วย”เขาร้องไห้ใหญ่ ขนาดร้องไห้ยังดูยั่วเลยให้ตายเถอะ

   “อย่าร้องสิ จำฉันได้มั้ย ทาคุยะไง โทระซึกิ ทาคุยะ”

   “ฮึกๆ ทะ ทาคุยะ”ยูกิหันมามองหน้าผม ก่อนจะช้อนตามองอย่างกล้าๆ กลัวๆ โอยๆ ไม่ไหว เซ็กซี่เกินไปแล้ว

   “ใช่ ทาคุยะ ฉันมาช่วยเธอ ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว”ผมพยายามกอดปลอบเขา คิดว่าจะทำให้เขาดีขึ้น แต่ที่ไหนได้กลับแย่ลงกว่าเดิมอีก

   “ไม่ ไม่มมมมมม ปล่อยผม ปล่อย อย่าทำผมเลย อย่าทำผมเลยนะครับ พี่ไทจิ โฮฮฮฮฮ” อะไรกัน ผมบอกแล้วไงว่าชื่อทาคุยะ ไทจิมันเหมือนผมมากนักรึไง เอ๊ะ หรือว่า.....

   “หมอ ใครอยู่ข้างนอกนั่น เรียกหมอมาหน่อยโว้ยยยย” ผมรีบหันไปตะโกน สองมือก็จับคนตรงหน้าไม่ให้อาละวาดฟาดงวงฟาดงา  สักพักผมก็ได้ยินเสียงตึงตังๆ ของคนกำลังวิ่งมา ประตูเปิดตังโครม ไม่ถนอมของกันเลยให้ตายเหอะ ทาเคชิรีบเข้ามาในห้อง แผลได้รับการดูแลหมดแล้ว ตามด้วยพ่อผม และก็หมอน่ะนะ รวมถึงคุณหนูอายากะก็มากับเขาด้วย เฮ้อ เหนื่อยจริงๆ

   “ยูกิลูก”ทาเคชิรีบเข้ามาหายูกิ ปลดมือผมที่จับยูกิออก แล้วก็กระแทกตัวใส่ผมจนผมตกลงจากเตียงอย่างไม่ทันตั้งตัว ให้ตายเถอะ ผมเป็นเจ้าของห้องนะ

   อายากะก็เดินเข้าไปหายูกิ ทาเคชิดึงยูกิเข้ามากอดปลอบ แต่พอกอดเท่านั้นแหละ ยูกิก็อาละวาดขึ้นมาทันที

   “อย่า อย่า ออกไป ออกไปปปปปป พ่อช่วยด้วย ฮือๆๆ พ่อช่วยผมด้วย”ก็กอดอยู่นั่นไง เฮ้อ คราวนี้ทั้งแขนทั้งขาเลย แต่ทาเคชิก็ยังดันกอดยูกิจนเขาขยับไม่ได้ เขาพยายามปลอบยูกิสักพักจนยูกิจังเงียบไป ยูกิเลยค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเขา แต่พอเห็นเท่านั้นแหละ ก็กรีดร้องขึ้นมาอีก

   “ไม่ พี่ไทจิอย่า อย่า ผมขอร้อง อย่า ฮือๆๆ .....ทะ ทาคุยะ ทาคุยะช่วยด้วย”ทาเคชิทำหน้างงแบบไม่เข้าใจ ผมยิ้มรับ ยูกิจังเรียกหาผม ฮ่าๆๆๆ ผมรีบลุกเข้าไปแทรกกลางทั้งสองคน ถึงทาเคชิจะไม่ยอมปล่อยยูกิจัง แต่พอยูกิจังเห็นผม ก็โผเข้าใส่ ทำให้เขาจำใจต้องยอมปล่อยมือให้ผม ผมโอบยูกิจังเข้ามาในอ้อมกอด เขาร้องไห้สะอกสะอื้นอย่างน่าสงสาร

   “แกถอยออกมาก่อนเถอะทาเคชิ หนูอายากะด้วย ให้หมอตรวจดูก่อน อาการของยูกิจังดูไม่เป็นปกติเลย”พ่อผมบอกเครียด ก่อนจะช่วยดึงทาเคชิออกมา

   “อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะยอมยกโทษให้นะ ยามาดะ”ทาเคชิหันไปใช้สายตาพิฆาตกับพ่อ

   “อย่ามาทวงบุญคุณความแค้นกันตอนนี้เลยค่ะ ยูกิเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ อย่าพึ่งทะเลาะกันเลยนะคะ”อายากะพูดเสียงอ่อยๆ เธอเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย แต่นอนพักมาหลายวันก็พอจะดีขึ้นบ้าง เธอมองมาทางยูกิที่ซุกอกผมอย่างเป็นห่วง สองมือน้อยๆ กำเสื้อผมแน่นจนผมกลัวว่ามันจะขาด อาการแปลกๆ จริงๆ ปกติ แค่เจอหน้าผม ยูกิจังก็แทบจะต่อยผมอยู่รอมร่อแล้ว ไม่มีทางโผเข้ากอดแบบนี้แน่ๆ

   “ขอหมอดูหน่อยนะครับ”หมอทำท่าจะเข้ามาตรวจ แต่แม่แมวน้อยก็ผมก็หลบหน้าหมอ ซุกเข้าอกผมเข้าไปใหญ่ ผมนี่เป็นปลื้ม แต่เมื่อคิดได้ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาแบบนั้น ผมเลย รวบกอดยูกิจากทางด้านหลัง ให้เขาหันหน้าออกไปให้หมอตรวจได้ ชลมุนเหมือนกันเพราะเขาไม่ยอมให้ใครจับตัวเลยนอกจากผม หมอก็ถามนู่นถามนี่ เอาไฟฉายส่องตาบ้าง ถามเรื่องทั่วไปบ้าง ถามถึงครอบครัวบ้าง ถ้าเขาตอบได้เขาก็จะตอบ เสียงอ้อมแอ้มน่ารัก แต่ถ้าตอบไม่ได้ก็จะส่ายหน้าดิกเลย  โอ๊ย ผมแทบจะอดใจไม่ไหวแล้วนะ ทำไมน่ารักแบบนี้ คนละคนกับที่ผมเจอเมื่อครั้งก่อนๆ เลยนะเนี่ย

   พอหมอตรวจเสร็จแม่แมวน้อยก็หันหลังกลับมาซุกอกผมทันที ผมก็ได้แต่นั่งให้เขากอด ส่วนคุณทาเคชิกับอายากะก็คอยส่งสายตาพิฆาตมาให้ผม ประมาณว่าอย่าทำอะไรล่วงเกินยูกิจังที่กำลังหลงผิด(มาหาผม)เป็นอันขาด

   “หมอตรวจดูแล้ว ความทรงจำของคุณหนูยูกิเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปยังปกติอยู่นะครับ แต่ความทรงจำสุดท้ายที่เขาเกือบจะโดนข่มขืนยังคงเด่นชัดอยู่ในห้วงความคิด ประกอบกับเกิดอาการช็อคกับเหตุการณ์นั้น ทำให้สมองปิดรับเหตุการณ์อื่นๆ รวมถึงอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่ว่าเขาเสียความทรงจำนะครับ เพียงแค่...อืม อาจจะเรียกได้ว่าขวัญหายจนจิตกู่ไม่กลับเท่านั้นเอง เขาอาจจะมีอาการแปลกๆ บ้าง ช่วงนี้ก็ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลและอย่าให้มีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจ พยายามพูดกับเขา ให้เขาคุ้นชินและรู้สึกปลอดภัยก็พอ”

   “แล้วยูกิจะหายเมื่อไหร่”ทาเคชิถามอย่างเป็นห่วง

   “อันนี้ต้องแล้วแต่ตัวเขาเองนะครับ ว่าจะทำใจยอมรับได้เมื่อไหร่ ตอนนี้เขากำลังปิดกั้นตัวเองอยู่ คนใกล้ชิดก็ควรที่จะดูแลเอาใจใส่เขานะครับ ตอนนี้เขามีสภาพจิตใจที่บอบบาง ต้องการการดูแล”

   “ครับ ขอบคุณครับ”

   “ครับ แล้วหมอจะแวะมาใหม่นะครับ ขอตัวครับ”


   หลังจากหมอออกไป ยูกิจังก็ยังไม่ปล่อยผม ผมเองก็ต้องทนกับสายตาเชือดเฉือนต่อไป

   “นี่ๆ ลูกแกมันมาซบอกลูกฉันเอง ไม่ต้องมาทำสายตาแบบนั้นเลยนะ”พ่อผมเอ่ยทำลายความเครียด

   “เขากำลังขวัญเสีย”พ่อผมเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าทาเคชิยังไม่ยอมใจอ่อน

   “แกช่วยฉันทำไม”ทาเคชิหันไปหาพ่อ ผมกับอายากะก็หันไปตาม

   “ถามจริงถามเล่นวะ”พ่อผมตอบกวนๆ ทาเคชิเองก็แทบปรี๊ด แต่ก็ยังพยายามควบคุมอารมณ์ รู้รึยังว่าผมได้นิสัยมาจากใคร

   “โอเคๆ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้เว้ย เฮ้อ ฉันว่าแกก็รู้เหตุผมเหมือนกันว่าทำไม เรื่องตอนนั้น ฉันรู้ความจริงแล้ว และคนเราไม่สมควรจมอยู่กับอดีต”พ่อพูดอย่างเป็นปริศนาที่มีแค่พ่อกับทาเคชิเท่านั้นที่รู้ พอได้ยินอย่างนั้น ทาเคชิก็อ่อนลง ถอนหายใจ

   “ฝากด้วยแล้วกัน ตอนนี้ยูกิคงยังไม่เปิดใจให้ใคร ให้เขาพักก่อนแล้วค่อยว่ากัน”ทาเคชิพูดกับผม ก่อนจะดึงตัวอายากะและพ่อออกไปข้างนอก

   ผมก้มลงมองคนในอ้อมแขน ยูกิจังยังร้องไห้กระซิกกระซิกอยู่แล้ว ผมดันตัวเขาออก เช็ดน้ำตาให้ก่อนจะโอบไว้หลวมๆ

   “จำฉันได้มั้ย ยูกิจัง ฉันชื่ออะไร”ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ตอนนี้คงต้องใช้ไม้อ่อนไปก่อน เกิดตกใจแล้วหนีผมจะทำยังไง

   “ทะ ทาคุยะ”เขาตอบผมอ้อมแอ้ม น่ารักจัง

   “จำใครได้อีกบ้าง หืม คนเก่ง”ผมไล้แก้มเนียนนั่น ไม่ได้ตั้งใจจะลวนลามนะ ผมกำลังทำความสนิทสนมคุ้นเคยกับลูกแมวของผมอยู่

   “ทะ ทาคุยะ พะ พี่ ฮึก ไทจิ”เป่าปี่อีกแล้ว เฮ้อ ยูกิจังเวอร์ชันนี้ก็เหนื่อยเหมือนกันแฮะ

   “โอ๋ๆ ไม่เอาไม่ร้อง ไม่ถามแล้ว ไม่ถามแล้วนะครับ”

   “ยูกิจังอยู่กับพี่ทาคุยะนะครับ พี่ทาคุยะจะดูแลยูกิจังเอง”

   “ฮึก ครับ”

   “อ้อ ยูกิจัง เวลามีใครมาเข้าใกล้ยูกิจัง ที่ไม่ใช่หมอกับพี่ ยูกิจังต้องไล่เขาไปไกลๆ เลยนะครับ จำไว้นะครับ มีพี่ทาคุยะเท่านั้นที่จับตัวยูกิจังได้ เข้าใจมั้ย”ผมถามยูกิจัง ไม่ได้ๆ เผื่อทาเคชิมาตีสนิทแล้วยูกิจังจำเขาได้ ผมก็อดลวนลาม เอ้ย อดดูแลน้องเขานะสิ โอกาสมารออยู่ตรงหน้า ผมก็ต้องคว้าไว้ หึๆ

   “ครับ”

[จบ Part’s ทาคุยะ]
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 16-05-2014 17:04:28
ทาคุยะตอนนี้นายพระเอกมาก  o13

ถึงจะหวังผลตอบแทนก็เถอะ ดูแลยูกิดีๆละ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: zalapao14 ที่ 16-05-2014 17:55:27
ทาคุยะไม่ค่อยเลยยย จะล่อลวงน้องหรอ?

มีการสั่งไมาให้ใครจับตัวด้วย หวงซะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 16-05-2014 17:56:24
แอบจิ้นคู่คุณพ่อจะผิดมั้ย? 555+
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 16-05-2014 18:12:20
อยากได้คู่คุณพ่อ เหมือนกันนนนน  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-05-2014 18:25:13
5555  :laugh: บอกเลยว่าทาคุยะแจ่มมากกกก
คุณพ่อสองคนคะ? แอบมีซัมติงอะไรกันรึเปล่า  :impress2:
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
รอตอนต่อไป  :z3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: เลิฟลี่ ที่ 16-05-2014 18:28:01
หึหึ นายแน่มากทาคุยะ เห็นน้องยูกิเป็นของเล่นดรอะ ระวังโดนเอาคืนจะร้องไม่ออกนะจ๊ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 16-05-2014 18:54:59
เจ้าเล่ห๋ไม่เบานะทาคุยะ   :mew5:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 16-05-2014 19:04:42
เย้ๆ พระเอกกกก
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 16-05-2014 19:23:12
  o13 o13

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 16-05-2014 19:23:33
เหมือนล่อลวงเด็กเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 16-05-2014 19:57:20
พระเอกเจ้าเล่ห์จุงเบย

จิ้นคู่คุณพ่อ :hao7:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: kururu ที่ 16-05-2014 20:25:19
 :katai1:พระเอกเรื่องนี้กวนดีจังน้าาา

แต่ เอาแบบนี้แหละ นิสัยประมาณนี้ โอเค เหมาะๆ :katai3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 16-05-2014 21:21:33
ทาคุยะ!!ล่อลวงน้องเรอะ! ถถถถ

คนแต่งจ๋าขอตอนต่อไป> < อยากอ่านแว้ว :call:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 16-05-2014 21:32:36
ทาคุยะ ฮามาก
เจ้าเล่ห์จริง ๆ


 :laugh: :laugh:

แอบฟินคู่คุณพ่อเบาๆ 
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 16-05-2014 22:47:07
ร้ายนะยะ ทาคุยะมีการสอนน้องยูกิผู้ที่กำลังไม่สบายอย่างนั้นร้ายมากแต่ก็ชอบ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 17-05-2014 00:08:47
ช็อกกับไทจิ

ถ้าทางนั้นยังไม่ตายทางนี้ก็ไว้ใจไม่ได้สินะ

ทาคุยะ ฉวยโอกาสสสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Orange151987 ที่ 17-05-2014 00:43:45
 :hao6: :hao6:จะเป็นยังไงต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: แป้งข้าวหมาก ที่ 18-05-2014 00:08:11
แหม่...ไม่ค่อยฉวยโอกาสเลยนะอิพระเอก
 o18
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 18-05-2014 02:58:04
ทาคุยะมันแผนสูงจริงๆ
แล้วยูกิน้อยก็ดันมาเป็นแมวเชื่องๆซะเนี่ย
แต่ยูกิน่ารักฝุดๆ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 18-05-2014 08:51:22
แหมๆ อะไรๆมันช่างเข้าทางพี่ทาคุยะจอมเจ้าเล่ห์ซะจริงๆ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 18-05-2014 14:16:13
เจ้าเล่ห์จริงนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 18-05-2014 14:57:12
หลบหน่อยค่ะๆ คุณตัวโกง พระเอกเค้ามาละนะ  :laugh:

คู่คุณพ่อเนี่ยย ยังไงๆคะ  o18

 :pig4: นะคะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 19-05-2014 00:30:41
คนแต่งจ๊าาา ตอนต่อไปเค๊าอยู่หนายยQAQ  :call:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 19-05-2014 02:37:12
สงสัยตั้งแต่อายากะมาเตือนล่ะว่าอย่าไว้ใจคนใกล้ตัว คนที่น่าสงสัยที่สุดจะมีใครล่ะ ก็เล่นทะเยอทะยานเอาซะขนาดนั้น ดูไม่ยาก

ปลื้ม ทาคุยะตั้งแต่ออกครั้งแรกล่ะ คิดเลย ไอ่นี่ต้องพระเอกชัวร์ ปลื้มค่ะ

แล้ว ทาคุยะ แกสอนยูกิให้ไว้ใจแค่แก กับหมอเรอะ เจ้าคนโลภ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 19-05-2014 11:00:55
ไม่ค่อยกอบโกยเลยนะ ทาคุยะ

5555
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 19-05-2014 12:05:31
กรี้ดดดดดดดดดดด
ไอ้ไทจิ!!!! ไอ่ชั่วววววว ไม่ผิดจากที่คิดไว้จริงๆ
พ่อทาคุยะ พ่อพระเอกกกกโอ้ยยยชอบบบ ะึงตะดูกวน แต่ก็ยอมช่วยด้วยความจริงใจ แล้งยิ่งตอนนี้น้องยอมแค่ทาคุยะ อร้ายยยย ปริ่มจุงงงง
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: monaligo ที่ 19-05-2014 12:28:46
เจ้าเลห์สมเป็นมาเฟียจริงๆ มีการหลอกหล่อน้องด้วย :hao3:
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ สนุกอ่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 19-05-2014 19:37:18
ทาคุยะนั่นพ่อน้องยูกิเค้านะ

แหม่ๆ  :m25:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 19-05-2014 21:13:45
หึหึ นายแน่จริง ทาคุยะ ร้ายกาจ สกิลเอาเปรียบขั้นเทพ จริง ๆ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Thanthip ที่ 19-05-2014 21:42:52
ทาคุยะร้ายกาจนะเนี่ย  แอบเสี้ยมน้อง
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 22-05-2014 13:27:45
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:ถ้าไม่หื่นคิดไม่ได้นะเนี้ยทาคุยะ :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: owo.balloon ที่ 22-05-2014 20:56:11
 :ling1: สนุกมากเลย มาต่อเร็วน้าา
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pnomsod ที่ 25-05-2014 19:05:55
แหม่ะ  เล่นงี้เลยเหรอทาคุยะ

 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 25-05-2014 19:56:28
เข้ามารอน้องยูกิ  :mew2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 25-05-2014 20:50:57
 :hao6: ร้ายนักนะๆ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 8 ลูกแมวแสนเชื่อง?] P.5 - 16/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 25-05-2014 21:09:19
เราชอบคุณพ่ออออออ
ทั้งสองคุณพ่อเลย
หลงรัก
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 28-05-2014 13:45:48
บทที่  9  พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ

   
   หลายวันต่อมา ผมพักอยู่ที่บ้านของพี่ทาคุยะ แม้ว่าผมจะรู้สึกคุ้นหน้าหลายคน แต่เท่าที่จำหน้าได้ก็มีแต่พี่ทาคุยะเท่านั้น เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินคือเสียงปืน เสียงน่ารังเกียจของพี่ไทจิ....คนที่ผมคิดว่าเป็นพี่ชายที่แสนดี และพี่ทาคุยะ ที่มาช่วยผม  พี่ทาคุยะดูแลผมอย่างดี ป้อนข้าวให้ผม อาบน้ำให้ผม? แม้ว่าผมจะยืนยันว่าอาบเองได้ก็ตาม นอนเป็นเพื่อนผม ทำให้ผมเริ่มจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น และเกิดความรู้สึกประหลาดๆ ผสมปนเปไปด้วย 

   ผู้ชายแก่ๆ 2 คนกับพี่สาวคนสวยก็คอยมาดูแลผม แต่พี่ทาคุยะไม่ให้เข้าใกล้ผมมากนัก บ่นว่าเป็นห่วงกลัวผมจะนึกไปถึงเรื่องแย่ๆ ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่คนพวกนั้นก็ทำให้ผมปวดหัวจี๊ดตอนมองหน้าเหมือนกัน  ตอนนี้ผมแทบจะตัวติดเป็นปาท่องโก๋กับพี่ทาคุยะแล้ว แต่ผมก็ดีใจนะ ชอบความรู้สึกแบบนี้จัง

   ตอนนี้บ่ายแก่ๆแล้ว ทุกคนนั่งรวมกันอยู่ในห้องนั่งเล่น สีหน้าดูเคร่งเครียด ผมนั่งโซฟาเดียวกับพี่ทาคุยะ พี่ทาคุยะโอบเอวผมไว้แน่น ส่วนคนที่นั่งตรงข้ามผมชื่อทาเคชิ กับอายากะ ส่วนคนที่นั่งโซฟาข้างๆพี่ทาคุยะคือคุณพ่อของพี่ทาคุยะ คุณโทระซึกิ ยูตะ

   “เราต้องพายูกิหนีไปก่อน ผมไม่อยากให้ลูกต้องมารับรู้เรื่องนี้อีกแล้ว”ทาเคชิพูด

   “ฉันมีบ้านพักต่างอากาศอยู่ในหุบเขา จะให้ทาคุยะพายูกิไปซ่อนซักระยะ นายกับอายากะก็ไปด้วยเลยแล้วกัน เรื่องของไท.....เรื่องของมัน เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง”พ่อของพี่ทาคุยะพูด

   “ไม่ ฉันจะอยู่ด้วย”ทาเคชิพูดแทรกขึ้นมา เขามีสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

   “เอ่อ ขอโทษค่ะ คุณลุง คุณพ่อ แต่ว่า ทำไม ยูกิจังถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ”พอพี่สาวคนสวยพูดจบ ทุกสายตาก็หันมาที่ผม อะไรกัน ผมแค่ไม่อยากห่างพี่ทาคุยะเองนะ

   “เขาติดผมน่ะ เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ”พี่ทาคุยะหยิกแก้มผมอย่างหมั่นเขี้ยว ผมรู้สึกอบอุ่นแต่ก็รู้สึกคุ้นเคยแปลกๆด้วย โอย....ไม่เอา ปวดหัวจัง ผมขมวดคิ้วนิดๆ

   “ถ้ายูกิหายดีเมื่อไหร่ แกเตรียมเจ็บตัวได้เลย ไอทาคุยะ”ทาเคชิขู่อย่างอาฆาต ก่อนจะมองมาที่ผมอย่างมีจุดประสงค์

   “ฮ่าๆๆ ให้ถึงวันนั้นแล้วค่อยว่ากันครับ”พี่ทาคุยะพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันมาหอมแก้มผมเบาๆ

   
   “ใช่ๆ เรียกพี่ชายด้วย พี่ไทจิไง”

   “ครับๆ พี่อายากะ พี่ไทจิ ปล่อยผมก่อนเถอะครับ”

   “แหมน่ารัก”แล้วพี่สาวคนสวยก็หอมแก้มผมไปฟอดนึง

   “น่ากิน เอ้ย! น่ารัก”แล้วพี่ไทจิก็ตามมาอีกฟอด

 
   ภาพภาพหนึ่งแวบเข้ามาในหัวผม ผมขมวดคิ้วหนักขึ้น ปวดหัวตุบๆ แต่ไม่อยากลุกออกไปตอนนี้เลย ผมซบหัวลงกับไหล่พี่ทาคุยะ

   “ฉันว่าแกรีบหนีไปก่อนเถอะ คราวนี้มันต้องตามเก็บแกก่อนที่คนในตระกูลจะรู้ว่ามันโกหก”

   “ฉันจะไม่หนีให้แกต้องมารับเคราะห์แทนหรอกนะ ส่วนอายากะลูกไปกับทาคุยะนั่นแหละ อย่าเถียงพ่อ”ทาเคชิรีบชิงตัดหน้าพี่สาวคนสวย ก่อนที่เธอจะทันได้เถียงอะไร

   “ค่ะ”เธอพยักหน้ารับอย่างเหงาหงอย ผมแปลกใจที่ตัวเองรู้สึกไม่ดีตามเธอไปด้วย

   “งั้นผมจะไปเก็บเสื้อผ้าเลยนะครับ คุณหนูด้วยนะครับ เราจะไปกันทันทีเมื่อพร้อมเลย”

   พูดจบพี่ทาคุยะก็พาผมขึ้นมาข้างบน เก็บเสื้อผ้าและข้าวของที่จำเป็น ก่อนจะลงไปรอพี่สาวที่ห้องรับแขก สักพักพี่สาวก็เดินมา แล้วเราก็ออกเดินทาง

   
   ระหว่างทางในรถไม่มีใครพูดอะไร บรรยากาศเต็มไปด้วยความเครียดของพี่สาว ส่วนพี่ทาคุยะก็ไม่ได้ดูทุกข์ร้อนอะไรเท่าไหร่ เขาเอาแต่ป้อนขนมให้ผมกิน ผมก็อ้าปากกินไป มีบ้างที่ส่งขนมให้พี่สาว ผมไม่อยากให้เธอเครียดเลย เธอยื่นมือมาจับมือผม บีบๆ ผมบีบมือเธอกลับ ให้กำลังใจเธอ

   “กลับมาสักทีสิ ยูกิ”เธอหันมาพูดกับผมเบาๆ มีแค่ผมกับเธอเท่านั้นที่ได้ยิน แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว เธอรีบหันหน้าไปอีกข้าง แต่ผมเห็นมันแล้ว ใบหน้าเปื้อนน้ำตาและแววตาที่รวดร้าวของเธอ

   
   “วาว!!!”

   “สวยขึ้น หวานขึ้น ว๊ายยย น้องของพี่”

   “สวยจนเจ๊อายละนะค่ะเนี่ย”

   “ไป พี่พาเราไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้ดีกว่า เปลี่ยนชุดสักหน่อยรับรอง เริด!!!”


   อะไรกัน ภาพพวกนี้อีกแล้ว คราวนี้ชัดเจนกว่าเดิม พี่สาวคนสวย พี่อายากะ ผมเป็นน้องเธองั้นเหรอ อะไรกัน

   “ยูกิ”

   “ครับ”

   “อย่าไว้ใจใคร”

   “พี่หมายความว่ายังไง”

   “พี่ยังไม่มีหลักฐาน สัญญากับพี่ อย่าไว้ใจใครทั้งนั้น ไม่ว่าใคร”



   หลังจากนั้น ภาพในอดีตก็ตามมาหลอกหลอนผม ผมปวดหัวแทบระเบิด แต่มันแค่อึดใจเดียวเท่านั้น ไม่ทันให้ได้ร้องออกมาสักแอะเลยด้วยซ้ำ  ......สติของผมกลับมาครบถ้วนสมประดี ทั้งภาพในอดีต ความทรงจำอันโหดร้ายและ....ไอ้บ้าทาคุยะ บังอาจทำกับผมเหมือนแมวตัวเชื่องๆนั่น ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด

   ทาคุยะเอาหัวมาพิงผม ป้อนขนมให้ผมเหมือนเดิม ผมกำลังจะปัดมือนั่นออก แต่ผมนึกเรื่องสนุกๆ ได้ ผมเลยกินขนมนั่นเงียบๆ เป็นแมวน้อยยูกิเหมือนเดิม แต่ก็เริ่มขยับตัวออกมาจากทาคุยะ พอไม่ให้ผิดสังเกต ตลอดทางผมนั่งเกร็งจนเมื่อยไปหมด พี่อายากะไม่หันมามองผมอีกเลย เหมือนเธอจะหลับไปแล้ว แต่ไอ้หมึกทาคุยะนี่สิ เกาะผมหนึบแถบยังอยู่ไม่สุข จับนู้นจับนี่ตลอด ผมไม่ไหวแล้ว.....

   เพี๊ยะ!!!

   ผมตบมือทาคุยะที่จับเอวผมออก เขาหันมามองผมอย่างตกใจ ผมก็ตกใจเหมือนกัน ลืมตัวไปเลยว่ายังสติไม่สมประกอบอยู่

   “ผะ...ผมเจ็บเอวน่ะครับ พี่ทาคุยะจับผมแรงไปอา”ผมรีบทำเสียงอ้อนๆ แบบที่ผมทำบ่อยๆตอนที่สติยังไม่ครบ

   “อืม ครับ พี่ขอโทษนะครับ”แล้วเขาก็หอมแก้มผมอีกฟอดนึง

   ฉาด!!!

   ผมเผลอตบหน้าเขา ตายจริง ไม่นึกเลยว่ามือผมจะไวขนาดนี้ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้มาลวนลามผมเล่า

   “ผะ...ผม...ผม...ผมนึกว่ายุงกันอา พี่ทาคุยะเจ็บมั้ยครับ ขอโทษนะครับ”

   “อืม ไม่เป็นไร”คราวนี้หน้าบูดเป็นตูดลิงเลย ฮ่าๆๆๆ แอบสะใจเล็กๆ เหมือนกัน

   ตลอดทางไปบ้านพักต่างอากาศ ทาคุยะมายุ่งกับผมอีก 2-3 ครั้ง แต่ก็โดนผมตอกกลับไปทุกครั้ง(หลังๆ นี่ ตั้งใจล่ะ) จนเขานั่งเงียบมาตลอดทางเลย สงสัยจะโกรธ แต่ผมไม่ง้อหรอกนะ ไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในปากเสือที่มีงูอยู่บนหัว  แต่ก็มีปัญหาจนได้ เพราะพอถึงบ้านพัก ทาคุยะยืนยันจะให้ผมนอนห้องเดียวกับเขาน่ะสิ เหอะ ไปก็โง่แล้ว

   “ทุกที เราก็นอนกับพี่ ทำไมวันนี้อยากไปนอนกับอายากะจังล่ะ”พี่ทาคุยะถามเสียงแข็ง หรี่ตาจ้องจับผิด

   “ผมแค่เห็นพี่สาวคนสวยไม่สบายใจ ตั้งแต่นั่งรถมาแล้ว เลยจะไปนอนปลอบ”ผมทำหน้าไร้เดียงสา ทาคุยะนิ่งไป ก่อนจะครุ่นคิด คิ้วขมวด พี่อายากะก็มองมาอย่างแปลกใจ

   “นะครับ น้าพี่ครับ ให้ผมไปน้า”ผมทำเสียงอ้อน ผมเห็นทาคุยะพยักหน้าอย่างใจลอย เลยร้องดีใจแล้วรีบจูงมือพี่อายากะไปเลือกห้องพักข้างบน

   ที่นี่เป็นที่ที่ผมไม่รู้จัก เพราะไม่มีสมาธิมาดูทางตลอดการเดินทางเลยไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แต่ว่าบรรยากาศร่มรื่นมากๆเลย ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว ผมได้ยินเสียงทาคุยะแว่วๆมาว่าให้รีบเก็บของแล้วลงไปกินข้าว ผมเลยเลือกห้องที่คิดว่าจะหันหน้าไปทางน้ำตก ที่ผมแอบเห็นตอนเดินเข้าบ้าน แม้ว่าบ้านหลังนี้จะอยู่ในป่าค่อนข้างลึก แต่ก็มีความสะดวกสบายเหมือนอยู่ในเมืองเลยทีเดียว แถมยังมีน้ำตกด้วย รอบๆ ข้างผมก็เห็นต้นผลไม้หลายต้น และมีบ้านพักหลังๆเล็กๆเหมือนหมู่บ้านย่อมๆ อยู่ห่างจากที่นี่นิดหน่อย  ถึงแม้จะดูสงบมากแค่ไหน แต่ผมก็คิดว่าพวกเขาคงยังไม่วางใจนัก ดูจากจำนวนบอดี้การ์ดแล้ว อย่างกับมารักษาความปลอดภัยให้นักการเมือง

   พอเข้ามาในห้อง พี่อายากะก็เอาของไปเก็บ เธอหันมามองผมนิดๆ ผมกำลังชั่งใจว่าจะบอกเธอเรื่องอาการป่วยของผมดีมั้ย แต่ผมกลัวเธอทำให้ทาคุยะจับได้ว่าผมหายดีแล้ว ผมเลยเงียบไว้ก่อน ผมว่าค่อยบอกเธอตอนกลางคืนดีกว่า

   “ยูกิ เอาของมาซิ เดี๋ยวพี่จัดของให้”

   “เอ่อ ผมจัดการเองได้ครับ”ผมเอ่ยอย่างเกรงใจ

   “ไม่เป็นไร เอามาเธอ”แต่เธอก็ยังเป็นเธอ พี่ยื่นมือมาดึงกระเป๋าผมไป ก่อนจะจัดของให้เข้าที่เข้าทาง ผมขอบคุณเธอเบาๆ ก่อนจะชวนเธอลงไปทานเข้า เพราะเริ่มหิวแล้ว


   
   ที่โต๊ะอาหาร ทาคุยะนั่งหน้าบึ้งนิดๆ สงสัยยังโกรธผมอยู่ ผมนั่งลงตรงข้ามกับพี่อายากะ ทาคุยะนั่งหัวโต๊ะ พอเริ่มทานอาหาร ทาคุยะก็เริ่มป้อนผมเหมือนเดิม ผมอยากจะบอกความจริงให้รู้แล้วรู้รอดว่าผมได้สติแล้ว แต่ถ้าเป็นแบบนั้น มันก็ไม่สนุกสิ ผมยังอยากแก้แค้นไอ้บ้านี่ที่ทำให้ผมเสียหน้า

   ผมรับเทมปุระมากินอย่างเสียไม่ได้ อ้อ จริงสิ ทาคุยะกินเผ็ดไม่ได้นี่นา หึๆ

   “พี่ทาคุยะ ทานแกงกะหรี่หน่อยนะครับ”ผมตักแกงกะหรี่ในจานผมให้ทาคุยะ ผมอยู่ไทยมานานจนชอบกินเผ็ดไปแล้ว อาหารที่นี่กินยังไงก็ต้องใส่พริกไปทุกครั้ง

   “เอ่อ”ทาคุยะทำหน้าเหล่อหลา

   “นะครับ นะ”ผมเลยจ่อช้อนที่ปากทาคุยะมัน ฮ่าๆๆๆๆ ดูทำหน้าเข้า

   ทาคุยะทนลูกอ้อนของผมไม่ไหว เลยจำใจกินเข้าไป พอเห็นอย่างนั้นผมรีบตักช้อนต่อไปให้เขากินโดยไม่ให้เขาทันได้เอ่ยปากปฏิเสธ เสร็จแล้ว ก็ตามด้วยแซลมอนดิบๆ ที่ผมจงใจตักวาซาบิก้อนเบ้อเร้อยัดเข้าไปในปากเขา จนกระทั่งทาคุยะทนไม่ไหว ยกมือขึ้นห้าม ฝืนใจกลืนที่อยู่ในปากลงไป ก่อนจะกินน้ำตามอย่างรวดเร็ว ทั้งหน้าทั้งคอแดงก่ำเหมือนจะพ่นไปได้อยู่รอมร่อ ผมกับพี่อายากะก็หัวเราะออกมาด้วยความขบขัน

   “ยูกิจัง แกล้งพี่เหรอครับ”เขาพูด ปากแดงเจ่ออย่างน่าสงสาร

   “เปล่านะครับ ผมกินแล้ว ไม่เห็นจะเผ็ดเลย”ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

   “เหรอ งั้นทานนี้หน่อยแล้วกัน”แล้วทาคุยะก็ตักสาหร่ายญี่ปุ่นที่เป็นหน้าซูชิมาให้ผม ผมเกลียดอันนี้สุดๆ เขาก็คะยั้นคะยอให้ผมกิน ผมเลยต้องกิน  อ๊ากกก อยากอ๊วก  ผมฝืนใจกลืนเข้าไป เพราะทาคุยะจ้องเขม็งมาบอกเป็นนัยว่า ถ้าอ๊วกออกมา จะให้กินเข้าไปทั้งจานเลย พี่อายากะหัวเราะนิดๆ แต่ก็ไม่ยอมมาช่วยผมอ่า

   มื้ออาหารมื้อนี้ผมกับทาคุยะประกาศสงครามป้อนอาหารที่เกลียดกันทั้งมื้อ พี่อายากะก็เหมือนจะลืมเรื่องเครียดไปได้ในชั่วขณะ แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว ผมอยากให้พี่ได้คลายกังวลบ้าง แม้ว่ามันจะไม่ได้ง่ายอย่างนั้น แต่สักวันหนึ่ง ผมจะยืนหยัดและเข้มแข็งพอที่เราจะไม่ต้องหนีอีกต่อไปแล้ว


   ทานข้าวเสร็จก็ขึ้นห้องนอน ชีวิตผมช่างวนเวียนอยู่แค่นี้ก็ดูไร้สาระเหมือนกัน ดีนะที่ห้องนอนมีทีวี ผมเลยนอนดูกับพี่อายากะจนเกือบๆ เที่ยงคืนถึงได้อาบน้ำเข้านอนจริงๆ ตอนนี้เราสองคนนอนปิดไฟแต่ตาไม่ปิด มองดูเพดานสีดำสนิทในห้องที่มืดมิด พี่อายากะเอื้อมมือมาจับมือผมไว้แน่น

   “ยูกิจัง ได้สติแล้วใช่มั้ยจ๊ะ”

   “ครับ”ผมแปลกใจ รู้ได้ไง

   “พี่ว่าแล้ว เพราะแมวน้อยยูกิจังของทาคุยะน่ะ ไม่มีทางแกล้งทาคุยะแบบนั้นแน่ แถมยังไม่มีทางเข้าใกล้พี่ด้วย พี่ว่าทาคุยะก็รู้แล้วเหมือนกันละนะ”พี่อายากะยิ้มน้อยๆ แต่ปกปิดความไม่สบายใจไว้ไม่มิด

   “ต่อจากนี้ไป ผมจะเป็นเสือแล้วครับ ไม่ใช่แมวน้อยเชื่องๆ ของทาคุยะ ไม่ใช่ไอ้หนูของพี่ไทจิ แต่เป็นซากุรากะ ยูกิที่เข้มแข็ง ผมจะไม่ปล่อยให้พ่อและพี่อายากะต้องสู้ศึกเพียงลำพัง ผมจะไม่ทิ้งทุกคนไปเหมือนเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาอีกแล้ว ผมขอโทษนะครับ”

   “จ๊ะ พี่เชื่อ พี่เองก็ไม่คิดว่าพี่ไทจิจะทำอย่างนั้น....ตะ....ตลอดมา เราอยู่กันอย่างครอบครัว เรารักกันและปลอบใจกันทุกครั้งที่แม่ไม่ได้ในสิ่งที่แม่ต้องการ จนต้องมาลงกับเรา ....พี่กับพี่ไทจิ เป็นความหวังของท่านเสมอมา แต่พ่อมียูกิอยู่ในใจแล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้ ที่แม่จะได้ในสิ่งที่แม่หวัง พี่เองก็ไม่เคยรังเกียจยูกิ พี่รักทุกคนที่เป็นครอบครัว เลือดย่อมข้นยิ่งกว่าน้ำ ....และ พี่ก็คิดเสมอว่าพี่ไทจิคือเลือด ฮึก ไม่นึกเลย สิบกว่าปีที่โตมาด้วยกัน ความผูกพัน ความรัก ความเข้าใจ พี่ไทจิ ยอมทิ้งทุกอย่างไป เพื่ออำนาจ ฮือๆๆๆ”

   พี่อายากะร้องไห้อย่างน่าสงสาร ผมลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ดึงเธอให้นั่งพิงอกผม เธอร้องไห้เงียบๆ แต่เสียงที่เธอสะอื้อออกมาเสียงแทงหัวใจผมและทับถมจนผมรู้สึกเจ็บ ผมสนิทกับพี่ไทจิไม่กี่เดือน ยังเสียใจถึงขึ้นสิ้นสติ แต่พี่อายากะกับพี่ไทจิผูกพันกันมาสิบกว่าปี ย่อมต้องรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอย่างแสนสาหัส

   “ร้องออกมาเถอะครับ ร้องออกมาให้พอ เพราะต่อจากวันนี้ไป เราจะไม่เสียน้ำตาให้เขาอีก ต่อจากนี้ไป ไทจิก็คือคนทรยศ คือน้ำเน่าที่อยู่ต่ำสุดของพื้นดิน น้ำที่ไม่อาจมีค่าเทียบกับเลือด เราจะตัดเขาให้ได้ เหมือนกับที่เขาตัดเราออกมา ตัดเราออกง่ายๆ ฮึก เหมือนตัดก้อนขนมปัง”ผมไม่รู้ความรู้สึกในตอนนั้นเลย เพราะมันอื้ออึงไปหมด

   ภาพพี่ชายที่แสนดีกับไอ้ชั่วที่มันคิดฆ่าพี่อายากะกับพ่อและจะข่มขืนผม ผมไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ ว่าทำไม เขาต้องทำถึงขนาดนั้น ผมนึกถึงมือที่เคยขยี้หัวผมอย่างเอ็นดู สายตาที่มองมาอย่างอ่อนโยน เขาเคยรู้สึกจริงๆสักครั้งมั้ย หรือนั่นเป็นเพียงการเสแสร้ง

   เสียงร้องไห้ของผมและพี่อายากะมีเพียงเสียงสะอื้นเท่านั้น มันเป็นความรู้สึกเสียใจและอยากให้ทุกอย่างเป็นเพียงเรื่องโกหก อยากให้เขากลับมาหาเราอีกครั้ง....ผมพร้อมที่จะให้อภัยถ้าเขาแสดงให้ผมเห็นว่าเขาคือเลือดไม่ใช่น้ำ คือคนในครอบครัว ไม่ใช่คนอื่น.....แต่ผมก็คงจะคิดเป็นเด็กไป หากคิดว่าเขาจะทำอย่างนั้น หากผมจะสู้ ผมก็ต้องลุกขึ้นแสดงจุดยืนที่ชัดเจน เขาเป็นศตรู เรื่องที่อยากให้กลับมา คงเป็นไปไม่ได้ แต่ผมก็แค่หวัง หวังลึกๆเท่านั้น....


   รุ่งเช้า เราตื่นขึ้นมาด้วยความเพลีย เพราะเมื่อคืน เราสองคนแทบไม่ได้นอนกันเลย ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำ ตาผมบวมเป็นไข่เต่าเลย ผมรีบอาบน้ำแล้วลงไปเอาน้ำแข็งมาประคบตา ตอนนี้ยังเช้าอยู่ หวังว่าทาคุยะจะยังไม่ตื่น ผมไม่อยากโดนล้ออ่ะ ผมเอามาเผื่อพี่อายากะด้วย เพราะพี่น่าจะบวมกว่าผมนะ เรานั่งประคบตาสักพักก็มีคนมาเรียกให้ลงไปกินข้าวข้างล่าง วันนี้เป็นอาหารเช้าแบบอเมริกัน ผมเลยไม่ต้องทำสงครามโต๊ะอาหารกับทาคุยะอีก

   “นี่ วันนี้ผมกับพี่อายากะจะไปเที่ยวน้ำตกนะ”ผมขี้เกียจแกล้งแล้ว ไม่มีอารมณ์ เอาคืนวิธีอื่นก็ได้

   “ไปด้วย”

   “ไม่ต้อง ผมจะไปกับพี่อายากะสองคน”ผมตอบเสียงแข็ง

   “จะไปด้วย”จบ ผมขี้เกียจเถียงแล้ว

   ทาคุยะวิ่งไปสั่งแม่บ้านให้ทำของกินปิกนิก ก่อนจะให้คนรับใช้ไปหยิบเสื่อกับหมอนมา แถมยังจะไปหยิบร่มกับเก้าอี้เปลอีก ผมกับพี่อายากะก็นั่งรอจนผมทนไม่ไหวต้องบอกเขาว่าเอาไปแค่เสื่อกับหมอนแล้วก็อาหารพอ ผมช่วยเขาถืออาหาร ส่วนของอื่นๆ ให้เขาถือเอง  ตอนนี้ผมกลับมาเป็นผมคนเดิม ที่ไม่ได้อ้อนไม่โผเข้าใส่เขาอีกแล้ว ส่วนเขาก็ได้แต่บ่นงุบงิบว่า เป็นแมวน้อยยูกิเหมือนเดิมก็ดีอยู่แล้ว  ผมหันไปทำตามขวาง เขาก็ยิ้มลวงโลกกลับมา

   เราปูเสื่อที่ริมน้ำตก มันสวยกว่าที่มองเห็นเมื่อวานอีก น้ำตกไม่ได้สูงชันมากนัก กระแสน้ำก็ไม่ได้ไหลแรงมาก แต่มันให้ความรู้สึกสงบ รอบๆก็มีดอกไม้มากมาย ดูแล้วเขาน่าจะเอามาปลูกไว้มากกว่าที่มันจะขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ก็สวยมากจริงๆ และที่ผมชอบมากทีสุดก็คือ ดอกไม้ที่นี่ส่วนใหญ่แล้วเป็นดอกลิลลี่ ดอกไม้ของแม่ และมีกุหลาบ ทานตะวัน อืม ผมรู้จักดอกไม้ไม่มาก แต่นี่ก็สวยเหมือนสวรรค์เลยทีเดียว ผม พี่อายากะ และทาคุยะ นั่งกินบรรยากาศไปเรื่อยๆ สักพัก พี่อายากะก็ทนไม่ไหว ชวนผมไปเล่นน้ำ

   ผมกับพี่อายากะลงไปเล่นน้ำทั้งชุดนั่นแหละ เสื้อยืดกางเกงขาสั้น น้ำใสและเย็นมากทีเดียว ในนี้มีปลาด้วย ตัวเล็กๆ พอว่ายเข้าไปใกล้มันก็กระเจิงหมดเลย ผมว่ายเล็กสักพักก็เหนื่อย ด้วยความที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ผมเลยขอขึ้นมานั่งพัก ทาคุยะก็นั่งชมวิวอยู่ พอเห็นผมขึ้นมา ก็ยื่นผ้าเช็ดตัวมาให้

   “ขอบคุณครับ”

   “สนุกมั้ย”

   “ครับ”

   “ชอบที่นี่รึเปล่า”

   “ชอบ”

   “พ่อสร้างมันมาได้หลายปีแล้ว รอผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เธอก็ไม่มาสักที”ทาคุยะทำหน้าเศร้า

   “คุณแม่ของคุณเหรอ”ผมถาม

   “ไม่ใช่หรอก แม่ของฉันชอบดอกกุหลาบ แต่ที่นี่แม่ดอกกุหลาบแค่สองสามพุ่มเท่านั้นเอง คนที่พ่อรอ เขาชอบดอกลิลลี่ต่างหาก ดอกลิลลี่สีขาว”

   “.........”ผมเงียบ เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลซะแล้ว หรือจะเป็นรักสามเศร้าของพ่อ แม่ พ่อของทาคุยะ

   “ยูกิชอบดอกอะไร”

   “ผมชอบลิลลี่สีขาวนะ อาจเป็นเพราะเห็นมาตั้งแต่เด็กแล้วก็ได้ มันสวย และบริสุทธิ์ เหมือนแม่ผม”ผมยิ้มเมื่อนึกถึงวันเก่าๆที่เราได้อยู่ด้วยกัน

   “แต่ฉันชอบดอกทานตะวันนะ ความหมายดี”

   “หืม?”

   “มันหมายความว่า ฉันจะมองแต่เธอเพียงคนเดียว”

   ตอนนั้นเหมือนทุกอย่างขาวโพลน ผมเห็นรอยยิ้มของทาคุยะ รอยยิ้มจริงๆของเขา ไม่ใช่ยิ้มเสแสร้งเหมือนที่เคยทำ มันช่างเป็นรอยยิ้มที่สว่างไสว ผมไม่รู้ตัวเลยเมื่อริมฝีปากเขาแนบชิดริมฝีปากผม จูบแผ่วเบาราวผีเสื้อขยับปีก ผมไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้ผลักใส ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาแต่ไม่ได้จาบจ้วง ดวงตาเขาสบตาผมไม่ได้ละสายตาไปที่ไหนเลย ไม่รู้ว่าบรรยากาศพาไปหรือผมเองที่เผลอใจ แต่ตอนนี้ มันรู้สึกดีมากๆเลยทีเดียว นานเหมือนจะขาดอากาศหายใจ ก่อนที่เขาจะละริมฝีปากออก หน้าเขาแดงมาจนถึงคอ ผมคิดว่าผมก็คงหน้าแดงไม่แพ้กัน มือของเขาไล้เก็บผมของผมไว้ที่หลังใบหู หัวแม่มือไร้ริมผีปากผมเบาๆ ก่อนที่เขาจะประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง อ่อนโยนและแผ่วเบา

   “อะแฮ่ม!!”

   เสียงกระแอมไอของพี่อายากะเรียกสติผมและทาคุยะคืนมา เขาผละออกจากผมอย่างอ้อยอิ่ง

   นี่ผมพึ่งจูบกับเขามาใช่มั้ย บ้าไปแล้ว ผมจูบกับเขา!! ผมรีบหันไปมองพี่อายากะก็เห็นพี่ว่ายน้ำไปด้วยแต่หน้านี่แดงเถือกเลย มองไปรอบๆ บอดี้การ์ดหลายคนหันหน้าหนี แต่รอยยิ้มนี่ปิดไม่มิดเลย นี่ผมทำอะไรกลางวันแสกๆเนี่ย คนก็มีตั้ง 4-5 คน ผมทำอะไรลงไปเนี่ย

   ผมหันไปมองทาคุยะ เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้ยิ้มแบบอวดดีหรือเสแสร้ง แต่เป็นยิ้มที่มาจากใจ ผมก้มหน้างุด ลงไปว่ายน้ำไปหาพี่อายากะ 

   “เอ่อ ผม ผมแค่...เหมือนจะเป็นหวัด ทาคุยะเลยวัดไข้ให้”ผมแก้ตัวข้างๆคูๆ พี่อายากะมองผมแปลกกว่าเดิมอีก

   “อะ อืม”ทำไมพี่ยิ้มแบบนั้นอ่า

   “จริงๆนะครับ”

   “ฮะๆ แค่เรามีความสุขก็พอแล้ว”

   “พี่อะ ไม่พูดด้วยแล้ว”

   “ฮ่าๆๆๆ เขินก็บอกมาเถอะ”

   พี่อายากะหัวเราะ ผมเลยว่ายน้ำหนี มุดหัวลงใต้น้ำเลย เขินอะไรกันเล่า ไม่ได้เขินสักหน่อย...///>.<///

--------------------------------------------------------------------
ขอโทษนะคะ  555555555

ขอโทษค่ะ

หายไปนานมากกกกกกกกกกกกก

ช่วงนี้เพลียๆ 55555555555

ปั่นตอนที่ 10 ต่อค่าาาาาาาาาา :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
   
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 28-05-2014 14:27:41
เขินก็บอกมาเถอะ ยูกิ

555555555
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 28-05-2014 14:31:48
แบบว่ารักสามเส้าของรุ่นคุณพ่อสินะ :m15:
แต่ช่างคุณพ่อก่อน เมนหลักมันอยู่ที่ยูกิต่างหากเล้าาาาาาา :impress2:
ชอบอายากะ จริงๆนะ ไม่ได้เกี่ยวกับที่บ่นๆมาข้างบนเลย :z3:
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 28-05-2014 18:14:05
 :hao6: แหม่ ยูกิจัง
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 28-05-2014 18:44:22
แหมมมมมม
ยูกิเขินก็บอกมาเถอะ
>.<
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 28-05-2014 18:59:20
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 28-05-2014 19:26:36
 :-[  ยูกิเขินอ่ะไม่แปลก แต่ทาคุยะนะสิ ไม่คิดว่าจะมีอารมณ์นี้กับเขาด้วย   :jul3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 28-05-2014 19:30:05
ยูกิเขินใช่ม่ะ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 28-05-2014 19:42:28
มุ้งมิ้งมากตอนนี้ รักเขาแล้วชิมิล่า :z2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: wi_OoO_wi ที่ 28-05-2014 20:07:51
คือเห็นมาหลายตอนเเล้ว ยูกิเป็คนสุพรรณแน่เลย เอะอะก็ อ๊วก อ๊วก ไม่อ้วกซักที  :laugh: :laugh:

คำผิดเยอะใช้ได้เลย  :katai4: :katai4:

ทาคุยะ เธอรุกหนักมากกกกกกกก  :ling3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 28-05-2014 20:37:27
คิดถึงเรื่องนี้ คิดถึงยูกิจังงง

 :pig4: นะคะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 28-05-2014 20:45:40
5555 งงกับคนสุพรรณ

แต่คำผิด ต้องขอโทษด้วยค่ะ พอดีไม่ได้ตรวจเลย 555
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: wi_OoO_wi ที่ 28-05-2014 20:54:22
อ้างถึง
5555 งงกับคนสุพรรณ

แต่คำผิด ต้องขอโทษด้วยค่ะ พอดีไม่ได้ตรวจเลย 555

ลองไล่เสียงสามัญ ตรี โท เอก จัตวาดูนะ เเล้วลองพูดว่า 'ยากอ๊วก' สำเนียงสุพรรณอ้ะ ถ้าคิดไม่ออกก็นึกถึงเฮย์จิในโคนันเข้าไว้ นั่นเเหละ ฮาเลย :pigha2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 28-05-2014 20:59:02
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 28-05-2014 21:10:34
หล่อตอนตอบดอกทานตะวันนะ ทาคุยะ 55555555
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 28-05-2014 22:11:50
ยูกิเอ้ย แต่ก็น่ารักดีนะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 28-05-2014 22:39:22
ลองไล่เสียงสามัญ ตรี โท เอก จัตวาดูนะ เเล้วลองพูดว่า 'ยากอ๊วก' สำเนียงสุพรรณอ้ะ ถ้าคิดไม่ออกก็นึกถึงเฮย์จิในโคนันเข้าไว้ นั่นเเหละ ฮาเลย :pigha2:

55555555 เก็ทแล้ว

อันนั้นพิมพ์ผิด!!!!
 
55555555
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักต่างอากาศ] P.6 - 28/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 29-05-2014 09:03:28
เจ้าแมวน้อยจำได้ซะแล้ว

แต่คือเขินอ่ะ น้องยูกิน่ารัก  :mew3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 05-06-2014 15:29:46
บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)


   หลักจากกลับจากน้ำตก ผมไม่พูดกับทาคุยะไปหลายวันเหมือนกัน แต่หมอนั่นกลับหาเรื่องมาอยู่ใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ พี่อายากะก็เหมือนมีความสุขดีที่ได้แกล้งผม  เราเหมือนจะลืมกันไปชั่วขณะว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย

   คืนนี้เป็นอีกคืนที่ผมตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้ายกลางดึก ผมฝันถึงวันนั้น และตอนนี้ก็ตาสว่างเกินกว่าจะหลับลงได้อีก ผมเงยหน้ามองนาฬิกาบนผนัง  ตีสาม เป็นเวลาที่ไม่ควรจะตื่นมาเลยทีเดียว ผมเลยลงไปข้างล่าง อุ่นนมร้อนดื่มสักแก้ว นั่นน่าจะช่วยให้หลับลงได้บ้าง

   แอ๊ดดด

   ทันทีที่ผมเปิดประตูออกมา เสียงเปิดประตูก็ดังมาจากห้องของทาคุยะที่เป็นห้องตรงข้ามผม ผมหันไปมอง ทาคุยะก็มองผมอย่างแปลกใจ เขาดูไม่เหมือนคนฝันร้ายสะดุ้งตื่นแบบผม แต่ผมว่าเขาพึ่งตื่นแน่ๆ ดูจากหน้างัวเงียและผมยุ่งๆนั่น  ผมหลบสายตาแปลกๆที่เขาส่งมาให้ ก่อนจะกลั้นใจถามออกไป

   “ตื่นมาทำไมตีสามครับ”

   “เผอิญสะดุ้งตื่นน่ะ แล้วยูกิล่ะ”

   “เผอิญสะดุ้งตื่นเหมือนกันครับ ผมกำลังจะไปหานมร้อนดื่มสักแก้ว คุณสนใจมั้ย”ผมชวนตามมารยาท

   “ดีเหมือนกัน”

   เราเลยลงไปข้างล่างพร้อมกัน ผมกับเขานั่งดื่มนมที่ผมอุ่นตรงเคาท์เตอร์ในครัว

   “ทำไมถึงสะดุ้งตื่นล่ะ ฝันร้ายเหรอ”เขาถามเปรยๆ

   “ครับ แล้วคุณละครับ ฝันร้ายเหมือนกันเหรอ”

   “เปล่า ฝันเปียกน่ะ”

   ปู๊ดดดดดดดดด

   ผมพ่นนมออกมาก่อนจะสำลัก นมอุ่นๆ จากปากผมสาดไปเต็มเคาท์เตอร์เลย ทาคุยะตกใจรีบเข้ามาลูบหลังผม ผมหายสำลัก หน้าตาเหลอหลาเหมือนไม่รู้จะพูดอะไร ส่วนคนพูดก็ยิ้มทะเล้น หน้าด้านเหมือนเดิม

   “แหม แค่บอกว่าฝันเปียกยังสำลักขนาดนี้ ถ้าบอกว่าคนที่ผมฝันเปียกด้วยเป็นคุณ คุณจะกระอักเลือดเลยรึเปล่า”

   ผมรีบหันขวับไปด้วยความตกใจ อะไรเนี่ย ประตูหลังผมกำลังจะโดนบุกเหรอ!!

   “แหะๆ ล้อเล่น อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ”

   “ใครเขาล้อเล่นเรื่องแบบนี้กันบ้างเล่า ไอโรคจิต”

   “พึ่งรู้เรอะ”

   “รู้มานานแล้วต่างหาก ไอบ้า”

   “ตกลงผมโรคจิตหรือบ้ากันแน่”เขาทำหน้าครุ่นคิดอย่างจริงจัง

   “ผมว่าทั้งสองอย่างนั่นแหละ คุณจะมาเถียงกับผมเรื่องนี้ตอนตีสามเนี่ยนะ เฮ้อ”ผมถอนหายใจอย่างหน่ายๆ

   “ฮะๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้”

   ผมกับเขานั่งเงียบกันสักพัก แต่ไม่มีท่าทีว่าเราสองคนจะกลับขึ้นห้อง

   “คืนนี้ ไปนอนกับผมมั้ย”

   “ห๊ะ!!!”คราวนี้ผมแทบจะตกเก้าอี้

   “ไปนอนกับผม”

   “เป็นบ้าอะไรของนาย!!!”ผมตวาดอย่างตกใจ ไอหมอนี่ชวนผมไปนอนกับมัน คิดจะทำอะไรผม หรือว่า จะปล้ำผม ไม่นะ ผมยังไม่พร้อม(?)  ไม่จริง ผมกำลังจะเสียเอกราชเหรอเนี่ย มีดอยู่ไหน....

   “คุณต่างหากที่เป็นอะไร ทำหน้าตกใจซะ .....อ้อ คิดว่าผมจะชวนไป จึ๊กๆ ละสิ”เขายิ้มกริ่ม

   “คุณมันไอโรคจิต คุณสารภาพแล้วใช่มั้ยว่าคิดอุตริกับผม”ผมรวบคอเสื้อ ชี้หน้าด่า

   “นี่ๆ ผมนอนไม่หลับเลยจะชวนคุณไปนอนเป็นเพื่อน คุณต่างหากที่คิดอุตริกับผม คิดไปไกลซะด้วย ฮ่าๆๆๆ”แล้วเขาก็หัวเราะออกมาลั่นบ้าน แต่ผมนี่อายหน้างุดเลย

   “แล้วก็ไม่บอก”ผมพึมพำเบาๆ อย่างคนหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ

   “มาเถอะ มานอนเป็นเพื่อนหน่อย ผมนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว ไม่มียูกิจังตัวน้อยๆ ให้กอด”

   “นี่ ผมไม่ใช่หมอนข้างนะ”

   “คุณชอบให้ผมกอดจะตาย จำไม่ได้รึไง”ทำไมจะจำไม่ได้วะ ความอัปยศในชีวิตของผม TT^TT

   “ตอนนั้นผมยังสติไม่สมประดี คุณน่ะ มันพวกฉวยโอกาส”พูดไปก็เดินตามเขาเข้ามาในห้อง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน  ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยไว้ใจทาคุยะแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับเชื่ออย่างสนิทใจ หรือเป็นเพราะความปลอดภัยที่เขาหยิบยื่นให้ตอนหวาดกลัว อาจเป็นเพราะความอบอุ่นที่เขาคอยปลอบประโลมในยามไร้ที่พึ่ง  ความรู้สึกที่ผมมีให้เขา ไม่ใช่สิ ความรู้สึกที่ยูกิจังตอนไม่มีสติให้เขา ยังหลงเหลืออยู่ในจิตใจของผม และผมเองก็รู้สึกว่าความรู้สึกของเขาที่มีให้ผมในตอนนี้ ยังคงอยู่ทีเดิม ไม่เสื่อมคลาย   ไม่ว่าจะด้วยเหตุผมอะไรก็ตามตอนนี้ ผม.....รู้สึกแปลกๆ กับเขาเอามากๆเลย

   ผมล้มตัวนอนบนเตียงของเขาอีกด้านหนึ่ง เขาปิดไฟในห้อง รวมทั้งไฟหัวเตียงด้วย เราสองคนต่างไม่พูดอะไร ผมรู้ว่าเขายังไม่หลับ เพราะผมก็ยังไม่หลับเหมือนกัน ผมตื่นเต้นหน่อยๆ น่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่นอนเตียงเดียวกับเขา(ตอนที่มีสติ)  หัวใจมันเต้นแปลกๆ ระรัวราวกับจะเด้งออกมาจากอก  ผมรู้สึกถึงตัวเขาที่พลิกตัวมาทางผม รู้สึกถึงแขนแกร่งที่พาดผ่านหน้าอกไปยังไหล่ แล้วดึงผมเข้าไปกอด  ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก  ผมซุกตัวเข้าไปในอกเข้ามากขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆของกายเขาลอยเข้าแตะจมูกผม  มันเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยอย่างประหลาด แน่ล่ะ ผมในตอนนั้นคงสูดดมเข้าไปทุกวันทุกเวลา  ไม่นานทั้งเขาและผมก็หลับด้วยกันทั้งคู่ 

   แสงแดดยามเช้าแยงตาผม ผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอิ่ม จากการหลับสนิท  ผมบอกได้เลยว่าผมหลับสนิทในรอบหลายคืนเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะผมรู้สึกปลอดภัยด้วยก็ได้มั้ง ผมไม่ใช่คนหลอกตัวเอง ผมยอมรับว่ารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่ครั้งที่อยู่ในอ้อมอกเขา แม้ว่าเราจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ความจริงคือ ผมไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ เมื่อไทจิยังลอยนวลอยู่แบบนี้ แต่เมื่อคืนนี้ ดูต่างออกไป ทาคุยะยังไม่ตื่น ผมมองใบหน้าที่กำลังหลับด้วยรอยยิ้มนิดๆ ตอนเขาหลับ เขาดูไม่เหมือนคนเจ้าเล่ห์เลยสักนิด เป็นแค่ผู้ชายที่ดูดีมากๆ คนนึงเท่านั้น  ผมดูได้ไม่เท่าไหร่ เขาก็ลืมตาขึ้นมา ผมตกใจ เขาเองก็ตกใจเหมือนกัน เพราะสภาพผมตอนนี้คือยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขามากๆ ส่วนตัวก็ถูกเขากอดอยู่ ผมเลยขยับไปไหนไม่ได้ แต่พอเขาตั้งสติได้ ก็ยิ้มทะเล้นให้ผม ก่อนจะจุ๊บปากผมเบาๆ ผมตกใจรีบดันตัวเขาออกแต่ก็ไม่ทันแล้ว ไอ้บ้านี่มันคึกอะไรแต่เช้านะ!!!

   “มอร์นิ่ง คิส”

   “โรคจิต”ผมบ่นเบาๆ ก่อนจะดันตัวเขาออก เขาหัวเราะชอบใจก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ผมเองก็ควรจะไปอาบน้ำได้แล้ว เลยบอกเขาให้ไปเจอกันข้างล่างตอนทานอาหารเช้าเลย

   ผมเดินเข้าห้องมาก็เห็นพี่อายากะนั่งหน้ามุ้ยอยู่บนเตียง ผมลงไปนั่งข้างๆ เธอ ก่อนจะอ้อนหนุนตักเธอ ทำตัวน่ารักๆ เข้าไว ด้วยสำนึกในความผิดดี เมื่อคืนผมไปนอนค้างห้องผู้ชายแล้วปล่อยให้พี่สาวคนสวยต้องนอนคนเดียว เธอคงเคืองผมแย่

   “เมื่อคืนไปไหนมาไหนไม่บอกพี่นะยูกิ พี่ตื่นขึ้นมาไม่เห็นเรา พี่ตกใจแทบแย่”พี่อายากะดุผมอย่างเหนื่อยๆ 

   “ผมขอโทษครับ พอดีสะดุ้งตื่นเลยลงไปข้างล่างหานมร้อนดื่มน่ะครับ”

   “แล้วทำไมไม่กลับขึ้นมานอน”

   “เอ่อ คือว่า”

   “อย่าบอกนะ ว่าเราไปนอนห้องทาคุยะมา”พี่อายากะพูดยิ้มๆ แต่ตานี่จ้องมาที่ผมไม่กระพริบเลย

   “พะ พี่อายากะ”

   “ไม่ต้องมาทำเป็นเสียงดังกลบเกลื่อน นี่มันสมัยไหนกันแล้ว ผู้ชายรักกับผู้ชายด้วยกันมันไม่แปลกสักหน่อย พี่ว่าพี่พอจะรู้ตั้งแต่ตอนที่ไปน้ำตกนั่นแล้วน่ะนะ เราล่ะ ยูกิ รักทาคุยะจริงๆ รึเปล่า”พี่อายากะถามสีหน้าจริงจัง

   ผมฉุกคิด ผมไม่เคยรังเกียจอ้อมกอดหรือจูบของทาคุยะ อาจเป็นเพราะความรู้สึกของผมตอนที่ยังไม่ได้สติดียังคงหลงเหลืออยู่ อยากอยู่ใกล้ๆ เพราะอยู่ด้วยแล้วรู้สึกดี และทาคุยะเองก็เป็นคนที่ดีคนหนึ่งและมักจะโผล่มาเสมอในยามที่ผมเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ ถ้าถามว่ารักมั้ยผมยังตอบไม่ได้หรอก เพราะตอนนี้ผมสับสนเหลือเกิน แต่ถ้าถามว่าชอบมั้ย ผมตอบได้เต็มปากเลยว่าชอบ และรู้สึกดีๆ ด้วย ขออย่างเดียว ขอเพียงนี่ไม่ใช่หนึ่งในเรื่องสนุกที่ทาคุยะคิดจะทำก็พอ ผมคงฆ่าเขาแน่ถ้าเขาทำไปเพื่อความสนุก ไม่ได้ออกมาจากใจเขาจริงๆ

   “คงยังไม่ถึงขั้นรักหรอกครับ”

   “งั้น ก็ยอมรับนะสิ ว่าชอบเขา”

   “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ”ผมตอบไปตามความจริง

   พี่อายากะยิ้ม ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เธอหน้าแดงหน่อยๆ ก่อนจะหันมากอดผม เธอลูบหัวผมเบาๆ

   “ในเรื่องร้าย ก็ยังคงมีเรื่องดีสินะ ยูกิจังของพี่”


   เมื่อเราสองคนอาบน้ำเสร็จ ก็ลงมาทานข้าวข้างล่าง ผมเห็นทาคุยะนั่งรออยู่แล้ว ด้วยกาแฟแก้วนึงกับขนมปังหน่อยๆ แต่ขอผมและพี่อายากะนี่จัดเต็มเลย

   “ลงมากันแล้วเหรอครับ”ทาคุยะทัก

   “อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณทาคุยะ”

   “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณหนูอายากะ”

   เรานั่งลง ผมนั่งข้างทาคุยะ พี่อายากะนั่งอีกฝั่ง อาหารน่าทาน แต่ทำไมหมอนี่กินแต่กาแฟนะ

   “ไม่ทานเหรอครับ”ผมหันไปถามทาคุยะ

   “ไม่ล่ะ ผมดื่มกาแฟตอนเช้าจนชินแล้ว”

   “มันไม่ดีต่อสุขภาพ เก็บกาแฟแล้วทานอาหารเช้าเถอะครับ”ผมดึงแก้วกาแฟออกจากมือเขา ก่อนจะวางไว้ข้างๆ ผม แล้วยื่นจานให้เขา เขารับไว้อย่างงงๆ ก่อนจะทานอาหารเช้าด้วยกัน  พี่อายากะนั่งกระแอมไอ ผมหันไปมองก็เห็นเธอยิ้มล้อเลียนผม ทาคุยะก็เห็น แต่เขากลับยิ้มแก้มแทบปริ ทำเอาผมหน้าแดงไปด้วย เมื่อสำนึกว่าตัวเองทำเหมือนศรีภรรยาเป็นห่วงสามีอย่างไรอย่างนั้น
   “เมื่อคืนหลับสนิทมั้ยค่ะ คุณทาคุยะ”

   “ครับ ในรอบหลายวันเลยล่ะครับ”ทาคุยะหันมายิ้มให้ผม จะหันมาทำไมเล่า ///^///

   “ยูกิก็เหมือนกันสินะ”พี่อายากะหันมาล้อผม

   “อะไรเล่า พี่ทานอาหารไปเลย”ผมปัดแก้เขิน แต่ทั้งสองคนที่ฟังอยู่หัวเราะผมร่าเลย ทาคุยะจับหัวผมโยกไปมาผมรีบดึงมือเขาออก แล้วทำทีเป็นจัดผมแก้เขิน แต่นั่นยิ่งทำให้สองคนนี้หัวเราะผมเข้าไปกันใหญ่เลย

   เฮ้อ! ช่างเป็นมื้ออาหารที่วุ่นวายเสียจริง    


   “ทาคุยะ”ผมเรียกเขา เมื่อเห็นว่าเขากำลังรดน้ำดอกไม้ในสวนอยู่  เขาหันมาหาผม ก่อนจะยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี

   “มีอะไร ยูกิจัง”

   “คุณทำอะไรอยู่น่ะ”รดน้ำต้นไม้ไง ทำไมผมถามอะไรโง่ๆวะ

   “ซักผ้าครับ”

   “กวน”

   “อ้าว คุณก็เห็นว่าผมรดน้ำต้นไม้อยู่”เขาหัวเราะนิดๆ ก่อนจะเดินไปปิดน้ำ แล้วจูงมือผมไปนั่งบนเก้าอี้ในสวน

   “มีอะไรก็พูดมา”เขาพูด

   “ผมไม่สบายใจ”

   “ถามหมายังรู้เลย”เขาพูดกวนๆ

   “เอ๊ะ! คุณนี่ยังไง หาเรื่องผมได้แบบอันลิมิตเลยนะ”

   “ฮ่าๆๆๆ ผมแค่อยากให้คุณหายเครียด”

   “เถียงกับคุณแล้วเครียดกว่าเดิมอีก”ผมบ่นอุบอิบอย่างเหนื่อยใจ

   “โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว ไม่แกล้งแล้วครับ”เขายกมือขึ้นยอมแพ้

   “ผมรู้นะว่าเรากำลังหนีปัญหาให้ผู้ใหญ่จัดการอยู่”ผมเปรย ผมรู้ว่าพ่อกำลังสู้กับไทจิเพียงลำพัง แล้วให้ผมมาหลบอยู่ที่นี่กับพี่อายากะ กับทาคุยะ

   “มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น ยูกิฟังนะ ถึงแม้ว่ายูกิจะเป็นห่วงพ่อมากแค่ไหน แต่ยูกิก็ต้องเชื่อใจท่าน แล้วอีกอย่างพ่อพี่ก็อยู่ด้วย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”

   “แต่ผมก็อดห่วงไม่ได้ พ่อผมทั้งคน”

   “ไม่ใช่คนสิแปลก เอ๊ะ! อย่านะ โอ๊ย เจ็บ ยูกิพี่ขอโทษ โอเคๆ ไม่พูดแล้วววววว”ผมหยิกจังๆที่ต้นแขน ทาคุยะบิดตัวตามแรงผมด้วยความเจ็บ  สะใจจัง....

   “เป็นเล่นตลอด”

   “ก็ไม่อยากให้เครียดนี่”

   “ก็บอกแล้วไงว่าเครียดกว่าเดิมอ่ะ”ผมงอนแก้มป่อง

   เรานั่งมองพระอาทิตย์ชมสวนกันสักพัก ผมก็รู้สึกว่ามือของทาคุยะ จับมือของผม ผมตกใจชักมือกลับ แต่เขากลับยื้อไว้ไม่ยอมปล่อย ผมก็เลยเลยตามเลย

   “เป็นแฟนกันนะ”

   “ห๊ะ!!! ไม่สบายรึเปล่าเนี่ย”

   “สบายดี ตอนนี้ผมอยากได้ยินคำตอบจากปากคุณ ผมรักคุณ ชอบคุณ หลงคุณ ทุกๆ อย่างที่สามารถรู้สึกได้ด้วยหัวใจ รับรู้ด้วยสมอง ผมรู้สึกทุกอย่างกับคุณ คุณอาจคิดว่าผมวิปริต แต่ผมก็เป็นของผมแบบนี้ คุณไม่ชอบก็บอกมาตรงๆ ได้ ผมไม่ว่าอะไร ขอเพียงแค่เรายังคงความสัมพันธ์ฉันเพื่อนกันก็พอ แต่ถ้าคุณนักผมก็ได้โปรดอย่างหลอกตัวเอง พูดออกมาตามที่ใจคุณคิดเถอะ”
   เขาพูดรวดเดียวจบ พูดช้าๆ ชัดๆ อย่างมั่นคง ผมไม่เคยเห็นเขาจริงจังแบบนี้มาก่อน เขาไม่มองหน้าผมเลย เอาแต่มองไปข้างหน้าตลอด ผมแอบขำน้อยๆ เหมือนเขาจะกลัวคำตอบเหมือนกัน

   “ถ้านอกใจ นอกจากคุณจะตายศพไม่สวยแล้ว ผมจะเจื๋อนของคุณไปให้เป็ดกิน ชาติหน้าจะแช่งขอให้พิการตรงนั้นด้วย”ผมพูดเสียงปนแววอาฆาต แต่คนฟังกลับยิ้มหน้าระรื่น

   นี่เป็นการบอกรักที่ธรรมดาที่สุดเลย ดอกไม้สักช่อ ดินเนอร์หรูๆ ไม่มีสักอย่าง แต่ท่ามกลางธรรมชาติเหล่านี้ ผมกลับรู้สึกพิเศษที่สุด วิปริตงั้นเหรอ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ผมรักเขา เรารักกัน ถ้ามันก็วิปริต ก็ปล่อยให้มันเป็นไป

   ผมไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ต้องกลัวมามัวเหนียมอาย ผมขยับตัวขึ้นคร่อมเขาบนเก้าอี้ โน้มตัวไปจูบ เขาเองดูตกใจ แต่ก็ขำกับจูบเงอะงะของผม แต่จูบของเขาช่างวิเศษ  ก็แค่จูบ ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น แต่เมื่อมาจากคนที่เรารัก กลับทำให้รู้สึกพิเศษได้อย่างน่าเหลือเชื่อ อา.....ให้ตายพรุ่งนี้ผมก็ยอม

---------------------------------------------------------------------
เหมือนคนอ่านจะหายๆ ไป

ขอโทษด้วยค่ะ ที่คนแต่งไม่ค่อยมาลง

น้อมรับความผิดแต่โดนดี

ตอนนี้เอื่อยๆ พักเหนื่อยไปก่อนนะค่ะ

ตอนหน้าคนที่รอคอยจะมากันแล้วค่ะ

ปล. รู้สึกว่าคนอ่านหายไป TT^TT
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 05-06-2014 15:43:39
หวานจริงๆ แบบมดขึ้นกันเบาๆ น่ารักมากกกกก อ่านแล้วต้องยิ้มให้กับความน่ารักของ ยูกิจัง
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 05-06-2014 15:58:39
หุหุ หวานกันซะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 05-06-2014 16:18:52
นี่คือการสารภาพรักสินะ
สุด ๆ ประมานถ้าทิ้งกันมีตัด...ด้วย

แต่ตอนท้ายสุดนี่ยูกิหล่ะก็.........
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 05-06-2014 16:35:48
ตามๆๆอยู่จ้า ไม่หายเน้อ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 05-06-2014 17:52:51
ข้ากระผมยังอยู่นะขอรับ //me รีบวิ่งเข้ามายืนยันตัวตน

ปล.น่ารักอะตอนนี้

ปล2.อยากให้มีตอนพิเศษช่วงที่ยูกิยังความจำเสื่อมอยู่จังเลย QAQ!  :call:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 05-06-2014 18:35:28
เป็นแฟนกันแล้วววว ~ :impress2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 05-06-2014 19:22:25
ไม่หายไปไหนค่าาา ช่วงนี้คนอ่านมีภาระกิจ อิอิ
รอได้เสมอค่ะ มาเราก็ยิ่งคิดถึงงง
ยูกิจังน่ารักมากๆ เป็นคนที่ไม่หนีใจตัวเองแบบนี้ทาคุยะรักตายยยย  o18

 :pig4: นะคะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 05-06-2014 20:18:21
น้อง(ยูกิ)ทำแบบนี้ระวังพี่(ทาคุยะ)จับปล้ำนะแจ๊ะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 05-06-2014 20:40:42
ในที่สุดก็เป็นแฟนกันแล้ว

ฮิ้ว~~~~
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 05-06-2014 21:12:37
เย่ๆ ยังอยู่ ช่วงนี้จะอัพให้เร็วขึ้นนะค่ะ

ส่วนตอนพิเศษคงรอให้จบก่อนดีกว่า

ไม่แน่ใจว่าจะมีตอนยูกิความจำเสื่อมมั้ย

แต่ตอนหน้าจะหวานกว่าตอนนี้อีกค่ะ (พอจะชดเชยกันได้เนอะ)

แล้วตอนหน้าไทจิก็จะมาแล้วววววว

กำลังปั่นค่าาาาาาาาาาาาาา  :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 05-06-2014 21:48:45
เป็นแฟนกันแล้ว

 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 05-06-2014 22:30:54
ไม่ได้หายน๊าาาาา รออยู่จ้า   :m13:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: แป้งข้าวหมาก ที่ 06-06-2014 00:34:23
ไม่โรแมนติกเท่าไหร่
แต่จริงใจนะเออ.
 :hao7:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 10 รักนั้นสำคัญฉะไหน (หวานหยดย้อย)] P.7 - 5/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 06-06-2014 00:49:29
 :hao7: อ่าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 12/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 06-06-2014 13:06:22
บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)

   รู้กันทั้งบ้าน เอาให้รู้กันทั้งเมืองเลยมั้ย  แล้วนั่นอะไร ทำไมถึงมีปาร์ตี้บาร์บีคิว นี่ทาคุยะมันคึกอีกแล้วใช่มั้ย!!

   “มาแล้ว คู่ข้าวใหม่ปลามัน”พี่อายากะพูด ก่อนจะดึงพลุกระดาษ  ทั้งบอดี้การ์ดและคนรับใช้ต่างเฮกันลั่น ทาคุยะยิ้มและโอบเอวผมอย่างรู้งาน ผมเองก็งงๆ แต่ก็พยักหน้ารับคำอวยพร

   ดูยังไงก็เหมือนงานแต่งงาน  แต่ผมกับเขาแค่เป็นแฟนกัน แถมแต่งงานกันก็ไม่ได้ ทำไมต้องฉลองกันขนาดนี้ด้วย 

   “ทำไมพี่ทำกับผมแบบนี้ล่ะ”ผมถามพี่อายากะ เมื่อทาคุยะโดนบอดี้การ์ดทั้งหลายจับไปมอมเหล้าแสดงความยินดี

   “แหม พี่ก็แค่อยากให้ทุกคนได้คลายเครียดกันบ้าง มีงานรื่นเริงบ้างอะไรบ้าง ทีนี่เครียดมานานแล้วนะ”พี่อายากะพูดยิ้มๆ แต่ดวงตาหมองลงเมื่อรู้ว่าเราทั้งสองคนคือต้นเหตุแห่งความวุ่นวานทั้งปวง

   “ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่เขินอ่ะพี่”ผมอายม้วน 555+ ตอนแรกผมนึกว่าเราจะต้องแอบคบกันสะอีก คิดว่าทุกคนจะมองว่ามันวิปริต แต่เมื่อเห็นทุกคนรับได้ ผมก็สบายใจ

   “ดีๆ พี่บอกแล้ว ว่าเราน่ะ น่ารัก เราน่ะไม่มีทางมีภรรยาได้หรอก ไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้หรอกนะที่มีสามีสวยกว่า ฮ่าๆๆๆ”พี่อายากะหัวเราะอย่างขบขัน ผมเองก็ยิ้มๆ วันนี้อารมณ์ดี

   ผมหันไปมองทาคุยะ เห็นเขากำลังลำบาก เพราะพวกบอดี้การ์ดจะมอมเหล้าเขาลูกเดียว ส่วนพวกคนรับใช้ผู้หญิงก็นั่งดื่มน้ำอัดลมหรือผลไม้ น้อยคนจะดื่มเหล้า หลายคนก็นั่งปิ้งบาร์บีคิว พี่สาวผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมเองก็ไม่รู้จะไปสถิตตรงไหนก็เลยไปหาพี่อายากะ ไปปิ้งด้วยดีกว่า จะได้หาอะไรทานรองท้องด้วย

   “อาว ทำไมไม่อยู่กับทาคุยะล่ะ ยูกิจัง”พี่อายากะทัก เมื่อผมหยิบบาร์บีคิวหมูมาปิ้ง

   “นั่นนะสิค่ะ คุณชายเธอเหงาแย่”คนรับใช้หญิงคนหนึ่งพูดกับผมยิ้มๆ

   “ไม่เหงาหรอกครับ คึกครื้นขนาดนั้น”ผมเพยิดไปทางวงเหล้า เธอเห็นดังนั้นเลยหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะช่วยพี่อายากะปิ้งของต่อ 
 
   “สบายใจขึ้นมั้ย ยูกิจัง”พี่อายากะถามผม

   “ครับ รู้สึกหายใจได้โล่งขึ้น”

   “พี่ก็เหมือนกัน พี่เห็นทุกคนอารักขาเราอย่างเคร่งเครียด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ศึกของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่เคยบ่นเลย พี่ล่ะนับถือในน้ำใจของพวกเขาจริงๆ”พี่ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คนที่ได้ยินก็ยิ้มแก้มปริอย่างดีใจที่เราไม่ถือตัวและมองเห็นสิ่งที่พวกเขาทำ ผมหันไปมองรอบๆ ก้มหัวขอบคุณทุกคนเท่าที่ผมจะทำได้ ก่อนจะหันมาปิ้งย่างต่อ

   “ผมเองก็ต้องขอบคุณครับ เพราะผมแท้ๆ ถ้าไม่มีผม พี่ไทจิก็คงได้ครองแก๊ง”บางทีผมก็คิดว่า ผมไม่ควรเกิดมาเลยจริงๆ
   “อย่าคิดแบบนั้น มันไม่ใช่ความผิดของยูกิเลย น้องและพี่ไทจิต่างเดินไปในเส้นทางแห่งชะตากรรม ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น พี่ไทจิเลือกอำนาจเอง”พี่อายากะพูดเสียงเศร้า ผมโอบไหล่เธอเบาๆ อย่างให้กำลังใจ แล้วพลิกหมูที่กำลังไหม้ ทาเนยแล้วก็ราดซอสพริก โปรยพริกไทยหน่อยๆ

   จ๊อก จ๊อก

   เสียงท้องผมร้องดังขึ้นมา ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นพอได้ยินก็หัวเราะลั่นเลย ผมก้มหน้างุดด้วยความอาย พี่อายากะและแม่บ้านอีกคนก็ช่วยกันเอาบาร์บีคิวใส่จานแล้วยื่นให้ผมยิ้มๆ ผมเลยต้องไปนั่งทานบาร์บีคิวรองท้องก่อน

   ทาคุยะหันมาเห็นผมนั่ง ก็ผละจากวงเหล้ามานั่นข้างผม  โห กลิ่นเหล้าหึ่งเลย ขนาดไม่ได้ไปนานนะเนี่ย

   “กินด้วย”

   “หยิบได้เลย”

   “ไม่เอาอ่ะ ป้อนหน่อย”ทาคุยะยื่นหน้ามา ผมขี้เกียจเถียงด้วยเลยป้อนบาร์บีคิวไปไม้นึง เท่านั้นแหละ...

   ฮิ้วววววววววววววววววววววววว

   หอนกันทันทีเลยนะ  ทาคุยะหัวเราะชอบใจ ผมเลยจับยัดเข้าไปอีกไม้นึงด้วยความหมั่นไส้

    “โอ๊ย เจ็บนะ ยูกิ”

   “สมน้ำหน้า”

   “ยูกิจังใจร้าย”ทาคุยะจับปากเบาๆ สงสัยจะเจ็บจริงแฮะ ผมเลยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ปากเป็นรอยแดงหน่อยๆ ผมเลยลูบๆ ให้พอหายเจ็บ ทาคุยะก็ยิ้มหน้าระรื่นเชียว แต่ผมไม่กล้าทำให้เขาเจ็บแล้วอ่ะ

   “ไม่ได้เป็นไรมากสักหน่อย ใจเสาะจริง”

   “ใจเสาะที่ไหนเล่า เขาเรียกว่าอ้อนเหอะ”

   ผมขี้เกียจพูดแล้ว เถียงไปก็ไม่ชนะหรอก

   เรานั่งกินกันไปสักพัก ผมก็เริ่มรู้สึกง่วง เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ ผมนึกว่ายังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่พอมองนาฬิกาอีกทีนี่ก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว  ทาคุยะเห็นผมเริ่มง่วงๆ เลยขอตัว แต่อนุญาตให้ทุกคนสนุกกันต่อได้

   “คืนนี้ นอนห้องผมสิ”ทาคุยะ ยั้งมือผมที่กำลังจะเปิดประตูเข้าห้องพี่อายากะ

   “อาว ทำไมอ่ะ”

   “ก็คุณเป็นแฟนผมอ่ะ จะนอนห้องผู้หญิงได้ไง”

   “นั่นพี่สาวผมนะ”

   “เหมือนกันนั่นแหละ ไม่เอานะ ผมหึง”ทาคุยะทำแก้มป่อง ผมยอมแพ้ก็ได้ น่ารักดี ///><///

   “โอเคๆ งั้นผมเข้าไปเอาชุดนอนก่อน”

   “คร๊าบบบบ จะรอที่ห้องนะที่รัก”แล้วเขาก็วิ่งหายไปเลย ถ้าอยู่ละก็ไม่วายโดนตีนผมแน่

   ผมเข้าไปเก็บเสื้อผ้าในห้องพี่อายากะ แต่พอเข้าไปก็เห็นกระเป๋าใบหนึ่งวางอยู่บนเตียง พอเปิดดู ก็เห็นข้าวของของผมอยู่ในนั้นหมดแล้ว เฮ้อ พี่อายากะคงรู้ว่าผมจะไม่ได้กลับมานอนที่นี่แล้วแน่เลย เพราะเขาคงไม่ปล่อยมาแน่ ผมขนกระเป๋าเข้าไปในห้องทาคุยะ เห็นเขานอนรออยู่บนเตียง

   “ทำไมยังไม่อาบน้ำล่ะ”

   “รออาบพร้อมยูกิจังน่ะ”

   “ทะลึ่ง ใครจะอาบพร้อมนายกัน”ผมรีบหยิบผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟันและชุดนอนด้วยความเร็วแสง เขาเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งลงจากเตียงมาหาผมอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ทันหรอก ผมเข้าห้องน้ำและล็อคประตูเรียบร้อยแล้ว ข้างนอกนั่นผมได้ยินเสียงดัง ปัง!! ฮ่าๆๆๆ ทาคุยะชนประตูอ่ะ

   “ยูกิจางงงงงง ผมเจ็บน้า เปิดประตูสิ ให้ผมอาบด้วยนะ นะ”ทาคุยะทำเสียงอ้อน ผมขำเบาๆในห้องน้ำ

   “เรื่องอะไรล่ะ อาบหลังผมแล้วกันนะที่รัก”

   ผมอาบน้ำใช้เวลาไม่นานมากนัก ออกมาเห็นทาคุยะนั่งหน้าบูดเป็นตูดลิง ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะไปเอาผ้าเช็ดตัวมายื่นให้เขาแล้วไล่เขาไปอาบน้ำ

   ผมขึ้นไปนอนบนเตียง นึกถึงวันเก่าๆ ที่ผมกับเขาเจอกันครั้งแรก ตอนนั้นเขาคุกคามผม หยาบคายอย่างที่สุด ดูแล้วเหมือนตัวร้ายมากกว่าจะเป็นพระเอกเสียอีก ผมรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเขาอย่างจัง เจอกันครั้งที่สอง ชีวิตของผมแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่เขากลับเห็นมันเป็นเรื่องสนุก แต่พอครั้งที่สาม เหตุการณ์บนเรือทำให้ผมแทบสิ้นสติ แต่แล้วเขาก็โผล่มา เมื่อมานึกๆ ดูแล้ว แม้เขาจะไม่เหมือนคนดีเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่ผมมีปัญหา เขาก็จะเป็นคนที่มาช่วยผมเป็นคนแรกเสมอ เขาไม่เคยทิ้งผม ผมไม่รู้ว่าเขาเห็นผมเป็นแค่หมากในเกม หรือเรื่องสนุกๆ ที่เขากำลังดูอยู่หรือเปล่า แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกดีและสุขใจมากที่ได้อยู่กับเขา หากสวรรค์มีจริง ผมขออยู่อย่างมีความสุขแบบนี้.....ตลอดไป

   “คิดอะไรอยู่”เสียงของทาคุยะกระซิบที่หูผม

   ผมใจลอยคิดเรื่อยเปื่อย จนไม่รู้สึกตัวว่าเขาอาบน้ำเสร็จแล้วล้มตัวนอนข้างผม

   “เปล่า แค่ใจลอยไปเรื่อย”

   “คิดถึงผมละสิ”

   “หลงตัวเอง”

   “ไม่จริงแล้วหน้าแดงทำไม”

   “ห๊ะ”ผมรีบจับแก้มตัวเอง ผมหน้าแดงเหรอ  ทาคุยะหัวเราะ ก่อนจะขโมยหอมแก้มผม

   “ยูกิ”ทาคุยะเรียกผม ตอนนี้ผมใจสั่นยังไงไม่รู้

   “หืม”

   “รักผมบ้างมั้ย”

   “อืม”บ้า ถามอะไรอย่างนั้นเล่า

   “อืมอะไรเล่า บอกผมหน่อยสิ ผมอุตส่าต์บอกคุณแล้วนะ”

   “ผมรักคุณ พอใจรึยัง”เขินอ่ะ

   “ผมก็รักคุณ”

เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม ผมรู้ว่าสักวันวันนี้จะต้องมาถึง แต่ผมเขินมากนี่นา จูบของทาคุยะอ่อนโยนเหมือนเดิม แต่คราวนี้มีความเร่าร้อนเพิ่มเข้ามา เขาพลิกตัวขึ้นมาคร่อมผมไว้ ผมรู้สึกกลัวหน่อยๆ เพราะไม่เคย และเคยเกือบจะโดนข่มขืนมาแล้ว แต่ผมไม่อยากให้คืนแรกของเราจบแบบนั้น ไม่อยากคิดเรื่องของผู้ชายคนอื่นบนเตียงของเขา ผมข่มความกลัว จูบตอบเขา สัมผัสของเขาอ่อนโยนไม่จาบจ้วง แต่ไม่อาจทำให้ผมหายสะดุ้งได้ ทุกครั้งที่เขาสัมผัส ผมมักจะถอยหนีด้วยความตกใจ แต่ผมจะพยายาม นี่คือทาคุยะ คนที่ผมรัก.....และผมยินดีมอบกายให้เขา

   ตัวผมสั่นน้อยๆ เมื่อเขาถอดเสื้อผ้าของผมและของเขาออก ตัวเราเปลือยเปล่าทั้งคู่ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความจริงใจ รวมถึงอารมณ์ดิบของผู้ชายที่เริ่มก่อตัว 

“อะ อืม”ผมหลุดเสียงคราวผะแผ่ว เมื่อเขาครอบครองหน้าอกผมด้วยริมฝีปากบาง พลัน ภาพบนเรือฉายชัดในห้วงคำนึง จนผมเผลอสะดุ้งกัดปากตัวเอง ผมรีบยั้งปากตัวเองที่กำลังจะพูดปฏิเสธ ผมไม่อาจหักหาญน้ำใจเขา ทาคุยะมองหน้าผมด้วยแววตาเป็นห่วง

   เขาลุกขึ้นจากตัวผมก่อนจะหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวผม แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ

   “คุณจะไปไหน”ผมยื้อเขาไว้ ถามด้วยความตกใจเมื่อเขาหยุดบทรักอย่างกะทันหัน

   “ผมจะไม่บังคับคุณ”เขาตอบ แต่ไม่ยอมสบตาผม

   “รังเกียจผม ฮึก เหรอครับ”ผมเริ่มใจเสีย เขารู้ว่าไทจิทำอะไรกับผมบ้าง แม้จะไม่ได้สอดใส่ แต่ร่างกายของผม ไทจิก็ได้เห็นและได้สัมผัสมาหมดแล้ว ผมเริ่มสะอื้น ขอร้อง ได้โปรดอย่าผลักใสไล่ส่งผม....

   ทาคุยะรีบหันกลับมากอดผม ผมสะอื้นเงียบๆ เขาดูตกใจเมื่อเห็นผมร้องไห้

   “ผมไม่เคยรังเกียจคุณ ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องรู้สึกแบบนั้น ยูกิอย่างร้องไห้เลยนะ”เขาเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างอ่อนโยน ผมรู้สึกอุ่นวาบเข้ามาในหัวใจ

   “แล้วทำไมไม่ทำล่ะ”ผมเงยหน้ามองเขาทั้งน้ำตา เขาดูอึ้งไปพักใหญ่

   “ผมนึกว่าคุณไม่อยากมีเซ็กส์กับผม ผมจะไม่บังคับคุณ ผมเห็นคุณสะดุ้งและตกใจกลัวทุกครั้งที่ผมสัมผัส ผมต่างหากที่นึกว่าคุณรังเกียจผม”เขาตอบกลับมา ผมทุบหน้าอกเข้าด้วยความหมั่นไส้

   “ตาบ้า คุณจำไม่ได้หรือไง ว่าผมต้องประสบพบเจอสถานการณ์แบบไหนมา ผมไม่ได้รังเกียจคุณ ผมรักคุณ ยินดีมอบกายให้คุณ ฮึก ผมพยายามแล้ว แต่ผม ฮึก นึกถึง...วะ วันนั้น ผม...”ผมพูดทั้งน้ำตา ทาคุยะดึงผมเข้าไปกอด แล้วประกบจูบโดยไม่รอให้ผมได้พูดจบ จูบย้ำรางกับจะให้ผมแน่ใจว่านี่คือทาคุยะ ไม่ใช่ไทจิ จูบซ้ำที่ริมฝีปาก จูบซับรอยน้ำตาที่รินไหล น้ำตาที่เขาไม่อยากเห็น น้ำตาที่เขาสาบานว่าจากนี้เป็นต้นไป เขาจะไม่มีวันได้เห็นมันอีก

   เขาดันผมลงนอน และตัวเขาก็ขึ้นคร่อมผมอีกครั้ง คราวนี้ผมรู้ว่าเขาจะไม่หยุด และผมก็ไม่ต้องการให้หยุดด้วย  เขาละจากริมฝีปากผม มือของเขาไล้หน้าผมอย่างอ่อนโยน จัดผมของผมให้ทัดหูอย่างเอาใจใส่ แววตาสุดซึ้งที่ส่องความหมายว่ารักยิ่ง มองจ้องมายังนัยน์ตาผม

   “ไม่ต้องนึกถึงคนอื่น ตอนนี้เบื้องหน้าคุณก็คือผม ทาคุยะคนรักของคุณ ผมรักคุณด้วยใจจริง ไม่มีวันทอดทิ้ง ไม่เคยรังเกียจคุณ ไม่ว่าคุณจะโดนมันย่ำยีมาหรือไม่ก็ตาม สำหรับผม คุณขาวสะอาดและบริสุทธิ์เสมอ สิ่งที่สำคัญมีเพียงแค่คุณรักผม และผมรักคุณ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”

   “แต่ผมมีลูกให้คุณไม่ได้ ผมไม่มีหน้าอกใหญ่ๆ แบบที่คุณชอบ ผมไม่สามารถเป็นภรรยาออกงานสังคมของคุณ ไม่สามารถเป็นหน้าเป็นตาให้คุณ ไม่สามรถเป็นประโยชน์ต่อคุณ คุณจะไม่สามารถมีชีวิตแบบปกติได้เลย”

   “ช่างปะไร ผมไม่เห็นว่าตรงนั้นจะสำคัญ ในเมื่อชีวิตผม ผมเจอคนที่ผมรักมากที่สุดแล้ว งานสังคมเป็นเพียงงานหน้ากาก ผมไม่เอามาใส่ใจ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ผมเป็นเกย์ก็ไม่ได้ทำให้บริษัทเจ๊งหรอกนะ แล้วรู้มั้ย คุณพูดผิดอยู่สองอย่างนะ หนึ่งคือ คุณมีประโยชน์ต่อผมอย่างมาก เพราะมีคุณ ผมถึงได้รับรู้ถึงความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะมีคุณ ผมถึงรู้สึกว่าโลกนี้น่าอยู่ขึ้น คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของผม และ...ผมชอบหน้าอกแบนๆ ของคุณมากกว่า”

   ทาคุยะก้มลงชิมหน้าอกผม ตอนนี้ผมจะนึกถึงแค่เขา ทาคุยะเท่านั้น  ผมรู้สึกได้ถึงนิ้วของเขาที่เบิกช่องทางด้านหลัง มันรู้สึกเจ็บมากเลยแม้จะแค่นิ้วเดียว ผมนิ่วหน้า เขาเลยจูบเพื่อคลายเจ็บให้ผม และช่วยกระตุ้นด้านหน้าเพื่อให้ผมสุขสันต์พอที่จะคลายเจ็บ สองนิ้ว สามนิ้ว เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเปิดช่องทางให้พร้อมรับสิ่งที่ใหญ่กว่านั้น

   “พอเถอะ เข้ามาเถอะ”ผมขอร้องเขาเมื่อผมเริ่มจะไม่ไหว

   เขายันตัวขึ้น แล้วเริ่มสอดใส่

   “อึก”ผมกลั้นเสียง เมื่อสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วสอดแทรกเข้ามา เขาทำอย่างช้าๆ และอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ผมก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี เขาเล้าโลมและปรนเปรอผมที่ส่วนหน้ามากขึ้นเพื่อบรรดาอาการเจ็บ เมื่อผมเริ่มจะผ่อนคลาย เขาก็แทรกเข้ามาทีละน้อยจนมิดลำ

   “อา”ผมครางออกมา สุขสมและเติมเต็ม เขาขยับเข้าออกช้าๆ ผมได้ยินเสียงครางต่ำๆของเขา นั่นทำให้ผมเสียวซ่านมากกว่าเดิมหลายเท่า

   “อะ อืม”

   “อา”

   เสียงของเราสองคนที่สอดประสานกันทำให้ผมรู้สึกอาย แต่ก็อิ่มเอมใจ ผมผวากอดเขาเมื่อใกล้จะถึงจุดสุดยอด เขากระแทกหนักขึ้น แรงขึ้น และเร็วขึ้น เขาเองก็คงใกล้แล้วเหมือนกัน  ไม่นานนัก ผมก็รู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆ ที่ฉีดวาบเข้ามาในช่องท้อง ผมกับเขาเสร็จพร้อมกันพอดี เขาล้มตัวลงนอนข้างผม กอดผมไว้ในอ้อมแขน ผมซุกตัวในอ้อมอกเขา เขาจูบหน้าผากผมเบาๆ ก่อนจะกอดผมแน่นขึ้น ทั้งๆที่เขายังอยู่ในตัวผม

   “เสร็จแล้วก็เอาออกไปสิ”ผมพูดอย่างอายๆ

   “รอบเดียวจะไปพออะไร”

   “ไม่เอาแล้ว ผมเหนื่อยแล้วนะ อะ....”

   เขาไม่ฟังเสียงค้านของผม พลิกตัวผมให้นอนคว่ำทั้งๆที่ยังสอดใส่อยู่ ผมตกใจคว้าหมอนไว้ เขายกสะโพกผมให้ลอยขึ้นก่อนจะขยับอีกครั้ง

   เสียงครางของผมและเขาดังสอดประสานกันไปอีกนานจนรุ่งสางถึงได้สงบลง ผมหลับไปด้วยความอ่อนเพลียในอ้อมอกเขา เสียงนกร้องยามเช้าแว่วเข้ามา.... เราสองคนนอนกอดกันอยู่บนเตียง แสงแดดอุบอุ่นส่องเข้าถึงมาก้นบึ้งในหัวใจ  เขาบอกว่าผมทำให้เขาได้รับรู้ถึงความสุขที่สุดของชีวิต ผมเองก็อยากจะบอกว่า เขาก็ทำให้ผมรับรู้ถึงความสุขที่สุดเหมือนกัน ผมรักคุณทาคุยะ รักที่สุด....โทระซึกิ ทาคุยะ ดวงใจผม

----------------------------------------------------------------------------------

ชีวิตนี้ไม่เคยแต่งฉาก NC มาก่อน ถ้าไมาถึงอารมณ์ หรือไม่ชอบยังไงก็ขอโทษด้วยนะค่ะ

ปล. ตอนแรกที่กะว่าจะให้ไทจิมา แต่ตอนนี้เขาหวานอ่ะ ไม่อยากเอาไทจิมาให้เป็นมารอารมณ์ จึงขอยกไว้ตอนหน้าแทน

ดีใจที่ยังมีคนติดตาม  ขอบคุณมากนะค่ะ

จะรีบปั่นตอนต่ไปให้นะค่ะ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 06-06-2014 15:20:59
ยูกิจังงงง เสร็จทาคุยะแล้วเหรอลูกกกก T___T
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 06-06-2014 15:28:13
เรียบร้อยทาคุยะซะแล้ว
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 06-06-2014 16:12:30
 :hao7:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 06-06-2014 19:06:57
หวานเลือดสาดดด อิอิ  :haun4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 06-06-2014 19:40:33
เรียบร้อยโรงเรียนทาคุยะล่ะ
ฟ้ามาก่อนฝนสินะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 06-06-2014 21:09:14
เสร็จทาคุยะไปซะแล้ว ยูกิจัง
รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 06-06-2014 23:02:43
เพิ่งได้มาอ่าน

แค้นใจแทนมากค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะมีพี่ชายแสนดีคอยดูแล ปรากฏว่าอีตาไทจิมันดันหลอกลวง แง่งง

ทาคุยะมาวินมากค่ะ ส่วนพี่อายากะ พี่เป็นสาววายใช่ไหมคะ? 5555

ยูกิจังสู้ ๆ นะ เข้มแข็งขึ้นแล้วไปซัดมันให้หงายเลย!
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 06-06-2014 23:56:48
 :katai1:ช่วงนี้เป็นช่วงพักเติมพลังใจใช่มั้ยนี่

แต่ก็ดีจะได้มีแรงสู้ไทจิ  :fire:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 07-06-2014 09:17:28
 :-[
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 07-06-2014 09:29:08
 :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 07-06-2014 15:16:39
ตอนอ่านหัวข้อเรื่องนึกว่าจะยิงกันจนเลือดสาด

แต่ที่ไหนได้ เราเลือดหมดตัวแทน

 :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 11 ความรักนั้นสำคัญฉะไหน 2 (เลือดสาด)] P.8 - 6/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 09-06-2014 22:23:43
สุโคค่ยยยยยยยยย หวานเฟ่อรรรรรร์อ่ะ 
อยากได้เเบบนี้บ้างจุงงงง :hao5: :hao5: :hao5: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 12 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 1] P.8 - 15/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 15-06-2014 12:25:36
บทที่ 12 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 1


   ผมตื่นนอนมาด้วยอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวชนิดที่แทบจะขยับไปไหนไม่ได้เลย จนต้องทานอาหารเช้าบนเตียง แล้วก็นอนซมไปจนถึงเย็นเพราะไข้ขึ้น พี่อายากะที่เข้ามาดูแลก็บ่นทาคุยะใหญ่เมื่อเห็นร่องรอยของเมื่อคืนบนตัวผม ผมอายจนแทบจะพลิกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว แต่ทาคุยะกลับหัวเราะเหมือนมันเป็นเรื่องน่าขำซะงั้น

    “คืนนี้ไปนอนข้างนอกเลย”ผมคาดโทษอย่างฉุนๆ

   “โถ ที่รัก โกรธอะไรผมกันเล่า”ทาคุยะรีบขึ้นเตียงมากอดอ้อนผม

   “ถอยไปห่างๆ แล้วก็ไม่ต้องมาเรียกว่าที่รักด้วย จะอ๊วก”ผมผลักเขาออกโกรธๆ ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจนะว่าผมอาย บอกคนอื่นหน้าระรื่น แบบนี้ใครๆ เขาก็รู้หมดอะดิว่าผม....รับน่ะ

   “โถ ก็ที่รักเป็นที่รัก จะให้ผมไม่เรียกที่รักว่าที่รัก มันใช้ได้ที่ไหนกันละครับที่รัก”กวนได้โล่

   “งั้นคืนนี้ ที่รักก็นอนนอกห้องนะครับ เพราะผมไม่อยากเห็นหน้าที่รักเลย ขาผมกระตุกไม่หยุด กลัวจะกระแทกปากที่รักเข้าสักวัน”อยู่กับเขาผมจะประสาทกินตาย

   “ฮ่าๆๆๆ โอเค ไม่แกล้งแล้วก็ได้ โกรธอะไรผมนักหืม บอกมาสิ”ถ้าอยากจะง้อก็ไม่ต้องทำเนียนมากอดสิ

   “ผมอายนี่ คุณพูดได้อย่างไม่อายปากถึงเรื่องเมื่อคืนกับคนอื่น คุณลองให้ผมรุกดูสักครั้งนึงสิ จะได้รู้ว่าความรู้สึกของผมเป็นยังไง”

   “โถ ถึงผมไม่พูด คนอื่นเขาก็รู้กันหมดแล้วล่ะครับ ยูกิจัง จุ๊บ”ผมหน้าแดง รีบหันหน้าหนีก่อนที่เขาจะทำมากกว่าจูบ

   “อย่านะ ผม....ผม”

   “อะไร หืม?” หยุดเป็นไม้เลื้อยสักทีได้มั้ย

   “ผมยังเจ็บอยู่”ผมตอบเสียงสั่น กลัวทำเขาไม่พอใจ แต่มันเจ็บจะตายอยู่แล้ว ให้ทำอีกคงไม่ไหวอ่ะ

   “ฮะๆๆๆ ผมแค่จูบเอง คิดไปถึงไหนเนี่ย หึๆ ผมไม่ทำอะไรสุดที่รักหรอก”ทาคุยะขยับมานั่งซ้อนหลังผม แล้วเปิดทีวีดูหนังกัน เปิดมาเจอ twilight 2 – New moon พอดี เขาเกยคางที่ไหล่ผม เรานั่งดูกันจนหนังเกือบจะจบ ผมอดสะเทือนใจไม่ได้ที่พระเอกยอมหนีห่างมาเพราะกลัวนางเอกจะมีอันตราย จนสุดท้ายเมื่อรู้ว่าไม่อาจตัดใจได้ จึงมุ่งหน้าสู่ความตายเพื่อจบปัญหาทั้งหมด มันทำให้ผมนึกถึงพ่อกับแม่ ผมกลัวว่าผมจะมีวันนั้น ผมหันหลังไปหาทาคุยะ เขาหันมามองอย่างแปลกใจ

   “ทาคุยะ”ผมเรียกเบาๆ

   “ครับ มีอะไรเหรอ”

   “ถ้าคุณเป็นพระเอก ถ้าผมต้องตกอยู่ในอันตราย...คุณ อย่าทิ้งผมนะ”อดีตเป็นบนเรียนที่สำคัญ ผมเห็นความล้มเหลวของการอยู่อย่างแยกกันของพ่อกับแม่แล้ว ไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากความเจ็บปวดของทั้งสองคน สุดท้ายก็พรากจากกันตลอดกาล

   “แค่คุณปลอดภัยเท่านั้น ก็พอแล้ว ผมคงทนไม่ได้ หากต้องเสียคุณไป”คำตอบของทาคุยะทำให้ผมไม่สบายใจ

   “แล้วคุณคิดว่าผมทนได้เหรอ ถ้าต้องทนเห็นคุณตาย ...ทาคุยะ ถ้ามันจะตาย ก็ตายด้วยกันทั้งสองคนเถอะ ผมอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีคุณ”

   ทาคุยะกระชับอ้อมกอดให้มากขึ้น ผมเองก็เอนตัวจมลงอ้อมกอดของเขา ผมอยากอยู่แบบนี้ตลอดไป ไม่อยากออกไปจากบ้านหลังนี้เลย ไม่อยากออกไปเผชิญโลกภายนอก ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น ผมอยากเห็นแก่ตัว ผมอยากอยู่กับเขา อยากอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า....ปรารถนา จากก้นบึ้งหัวใจ


   งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกรา....สองสามวันหลังจากนั้นเราได้ข่าวจากพ่อผมและคุณยูตะพ่อของพี่ทาคุยะว่ากำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะคนของไทจิมันมีมากกว่าที่คิดไว้ ทาคุยะจึงต้องไปช่วยพวกเขา โดยที่ผมกับพี่อายากะและคนอีกส่วนหนึ่งต้องอยู่ที่นี่  ผมไม่อยากให้เขาไป แต่ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะคนที่รอความช่วยเหลืออยู่คือพ่อของผม  ผมอยากไปด้วย แต่เขาก็ไม่ยอมอยู่ดี.....จนเราทะเลาะกัน

   “ทำไมดื้อแบบนี้นะยูกิ ผมบอกว่าไปไม่ได้ไง”ทาคุยะเอ่ยเสียงเครียด

   “ทำไมจะไปไม่ได้ ผมขอร้อง ผมจะไม่อยู่ห่างจากคุณเลย ผมแค่อยากไปด้วย อยากไปเจอพ่อ อยากอยู่ใกล้ๆคุณเท่านั้นเอง”

   “คุณจะทำให้ผมเป็นห่วงจนไม่เป็นอันทำอะไรมากกว่า อยู่ที่นี่นะคนดี เชื่อฟังหน่อย”

   “ไม่ ทำไมคุณไม่เข้าใจผมนะ อยู่ที่ไหนก็อันตรายทั้งนั้น ยังไงไทจิก็ต้องเจอที่นี่เข้าสักวัน มัวแต่ซ่อนตัวผมแล้วจะได้อะไรขึ้นมา”

   “ก็เลยจะไปเผชิญหน้างั้นสิ เพื่ออะไร ยูกิฟังนะ ทั้งหมดที่เราทำตอนนี้ก็เพื่อให้คุณและคุณหนูอายากะปลอดภัย คุณจะต้องอยู่ที่นี่ ตราบใดที่คุณและคุณหนูอายากะยังมีชีวิตอยู่ ไทจิมันจะไม่ได้ในสิ่งที่มันหวัง หรือคุณต้องการให้ตระกูลคุณล่มสลาย”เขาพยายามกล่อมผม

   “คุณบอกว่าคนของไทจิมีมากกว่า แต่คุณกลับแบ่งคนครึ่งหนึ่งไว้รักษาความปลอดภัยให้ผมที่นี่ นี่มันเป็นความคิดที่ดีงั้นเหรอ ถ้าพ่อบอกว่าคนขาด นั่นหมายถึงเขาต้องการคนทั้งหมด ผมกำลังเสนอทางออกที่เป็นไปได้และดีที่สุดให้คุณอยู่นะ ทาคุยะ จะรับฟังหน่อยไม่ได้รึไง”ผมพยายามหาเหตุผลต่างๆ นาๆ เขาเริ่มคล้อยตาม แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว

   เขาจากไปโดยเหลือคนไว้รักษาความปลอดภัยให้ผมและพี่อายากะแค่หนึ่งในสี่เท่านั้น  ผมอุ่นใจเมื่อเขามีคนไปด้วยมากขึ้น แต่จะอุ่นในกว่านี้ถ้าเขาพาผมไปด้วย  ผมโกรธเขามากที่เขาไม่ยอมฟัง ผมเลยไม่ได้ไปยืนส่ง....เราจากกันแบบไม่สวยนัก


   ผมแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ป่านนี้ทาคุยะคงถึงที่บ้านนั้นแล้ว ผมกังวล กลัวว่าเขาจะเป็นอันตราย อยากรู้ว่าพ่อเป็นไงบ้าง ตอนนี้ทุกคนวุ่นวายมาก เพราะคนเหลือน้อย จึงต้องวางแผนเปลี่ยนเวรยามและระบบรักษาความปลอดภัยใหม่หมด จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงรุ่งเช้า ทุกคนก็ยังไม่ได้นอน ผมเดินเข้าห้องครัวรับกาแฟมาจากแม่บ้านดื่มแก้ง่วง เพราะถึงจะนอนไปก็คงหลับตาไม่ลง

   “คุณหนูยูกิครับ มีคนมาหาครับ”การ์ดคนหนึ่งเดินเข้ามารายงาน ผมพยักหน้าอนุญาต  เขาจึงไปตามคนคนนั้นมา

   “โทชิโร่!!!”เขามาที่นี่ได้ยังไง

   “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณหนู”เขาโค้งคำนับ

   “คุณมาที่นี่ได้ยังไงกัน”

   “คุณทาคุยะส่งผมมาครับ เขาอยากให้ผมมาอารักขาคุณหนู”

   “งั้นเหรอ คุณมาก็ดีแล้ว คุณช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดที่นั่นให้ผมฟังหน่อย ผมอยากรู้เรื่องความเคลื่อนไหว พ่อเป็นยังไงบ้าง สถานการณ์เลวร้ายมากมั้ย ผมอยากรู้หมดทุกอย่างเลย”ผมดึงเขามานั่งด้วยกันที่โต๊ะอาหาร

   “ใจเย็นๆ ครับ คุณหนู”เขาพูดยิ้มๆ แต่มันช่างเป็นยิ้มที่ดูเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน

   “บอกมาเถอะ”ผมคาดคั้น

   “คนของไทจิมีมากกว่าเราเท่าหนึ่งได้ครับ ผมกับนายท่านกำลังติดต่อไปที่ทางตระกูลเพื่อให้พวกเขาได้รู้เรื่องทั้งหมด แต่ไทจิมันวางหมากไว้หมดแล้ว คนที่รับสายเราเป็นคนของมัน วันรุ่งขึ้น ตระกูลโทระซิกิก็ได้จดหมายจากทางตระกูลของเรา เขาหาว่าท่านยูตะ ท่านพ่อของคุณทาคุยะ ร่วมมือกับโยชิทาเกะ ไทจิจึงนำกองกำลังมาบุกที่นั่นได้อย่างเปิดเผย อ้างว่าเพื่อแก้แค้นแทนพ่อและน้องชาย”โทชิโร่มีสีหน้าเคียดแค้นอย่างเห็นได้ชัด ผมไม่โทษเขาหรอก ไทจิทำกับเราไว้มากจริงๆ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเราเชื่อเขาอย่างสนิทใจแท้ๆ

   “งั้นตอนนี้ คนในตระกูลก็นึกว่าผมกับพ่อและก็พี่อายากะตายแล้วงั้นสิ”

   “ครับ”

   เอ๊ะ...เรื่องนี้มันมีจุดอ่อนนะ เดี๋ยวก่อน....ใช่แล้ว การที่ผมยังไม่ตาย คือจุดอ่อนของแผนการนี้ ผมคิดวิธีที่จะช่วยทาคุยะกับพ่อได้แล้ว

   “โทชิโร่ ถ้ามีหนทางแก้ไขปัญหาเรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี่ นายพร้อมจะทำตามคำสั่งฉันรึเปล่า”

   “หา? อะไรนะครับ”เขาทำหน้างงๆ

   “ตอบมา นายพร้อมจะรับฉันเป็นเจ้านาย นับถือ และทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดหรือไม่”

   “คะ ครับ”

   “งั้นก็ดี เพราะเราจะกลับบ้านกัน”ใช่ กลับไปสะสางเรื่องทั้งหมด

   “มะ ไม่ได้นะครับ คุณหนูคิดอะไรอยู่เนี่ย คนของไทจิมันอยู่เต็มไปหมด กลับไปมีหวังได้ตายจริงๆ แน่”เขาละล่ำละลักห้าม 

   “ฟังนะ โทชิโร่ คนในตระกูลคิดว่าผม พ่อ และพี่อายากะตายแล้ว ทายาทโดยสายเลือดไม่เหลือ เหลือแค่บุตรบุญธรรมอย่างไทจิ ทำให้เขาสามารถใช้อำนาจและขึ้นเป็นผู้นำได้ แต่ถ้าผมปรากฏตัว บอกความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับแผนสกปรกของมันแล้วละก็ ทุกอย่างก็จะจบ เราสามารถขอกองกำลังของตระกูลมาช่วยกำจัดไทจิได้ เรื่องทั้งหมดก็จะจบลง”

   “ผมกับนายท่านเคยลองแล้วครับ แต่ไม่สามารถเข้าไปในบริเวณตัวคฤหาสน์ได้เลย ผมเสียใจด้วยครับ”

   “มีสิ มีอีกทางหนึ่ง เป็นทางที่มีแต่ฉันเท่านั้นที่รู้” มีแต่ผมเท่านั้นที่รู้....

   “ทางไหนครับ”



   ผมกับโทชิโร่หลบการ์ดออกมาได้อย่างหวุดหวิด ต้องอ้อมไปทางด้านหลังน้ำตกแล้วเดินป่าออกไปเพื่อไม่ให้คนของทาคุยะจับได้ เราไปกันแค่สองคนเพราะยิ่งคนน้อย ยิ่งเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ตอนนี้ผู้อาวุโสในตระกูลรวมถึงหัวหน้าในแต่ละเขตก็มารวมตัวอยู่ภายในบริเวณของคฤหาสน์ซากุรากิ มันเป็นมาตรการป้องกันในตอนนี้ที่แก๊งมีปัญหา เราใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะขับรถมาถึงคฤหาสน์ พอเรามาถึงฟ้าก็มืดพอดี ผมสั่งให้โทชิโร่ไปจอดรถที่ด้านหลังของเนิน บริเวณท่อน้ำทิ้ง....ใช่ เดาไม่ผิดหรอก ทางลับที่ผมว่าก็คือท่อน้ำทิ้งขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อไปทั่วทั้งคฤหาสน์ แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่ามันมีอยู่ แต่ไม่มีใครคิดว่ามันจะสามารถใช้เป็นทางลับได้จริงๆ แต่ผมทำมาแล้ว ตอนที่พ่อไม่ให้ออกไปไหน ผมแอบออกไปเที่ยวเล่นผ่านช่องนี้ โดยไม่มีใครสังเกต

   ผมเปิดประตูเหล็กที่กั้นไว้ออก เดินถือไฟฉายนำหน้าโทชิโรเข้าไป ข้างในนี้เหมือนเขาวงกต ถ้าไม่รู้เส้นทางอาจหลงได้ ผมใช้เวลาร่วม 20 นาทีกว่าจะเดินมาจนถึงเส้นทางที่ผมต้องการ

   “มันจะไปโผล่ตรงไหนครับ”โทชิโร่ถามเมื่อผมหยุดตรงหน้าท่อท่อหนึ่ง

   “ที่ที่เราฝึกยิงปืนกันไงครับ”ผมยิ้มให้กำลังใจเขา

   เราตรวจเช็คอาวุธและลำกล้องปืนที่พกมา ตรวจสภาพและความเรียบร้อย เตรียมมันให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา ก่อนที่โทชิโร่จะปืนนำขึ้นไปข้างบน  ผมรออยู่ข้างล่างด้วยความใจจดใจจ่อ ตรงนั้นไม่ใช่ที่ทึบ ผมอยากออกไปทางอื่นแต่ผมไม่รู้ทาง กลัวหลงแล้วจะลำบาก แต่แล้วผมก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อโทชิโร่โผล่หัวลงมาบอกว่าข้างบนปลอดภัย เราปืนออกไปนอกท่อ หลบเข้าพุ่มไม้เมื่อมีคนเดินผ่านได้อย่างเฉียดฉิว เราไม่รู้ว่าคนที่รักษาความปลอดภัยในคฤหาสน์เป็นคนของใครเลยต้องระวังไว้ก่อน

   ผมกับโทชิโร่ต้องไปให้ถึงเรือนรับรอง ที่ซึ่งผู้อาวุโสและคนสำคัญในแก๊งพักอยู่ และมันอยู่ข้างหลังของสนามฝึกยิงปืนนี่เอง แต่ถ้าผมเป็นไทจิ ก็คงจะต้องวางกองกำลังไว้ที่ตรงนั้นอย่างแน่นหนาเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเหมือนตอนนี้ และเมื่อไปถึงผมก็ได้รู้ว่าผมกับไทจินั้น ใจตรงกันไม่น้อยเลย กองกำลังเกือบ 10 คนเดินวุ่นเต็มหน้าเรือนรับรองไปหมด นี่ยังไม่นับข้างหลังนะ ถ้าผมยิงปืนออกไปมีหวังได้แห่กันมาหมดแน่ แม้จะมีที่เก็บเสียงก็ตาม ผมกับโทชิโร่มีกันแค่ 2 คน เราคงต้องเดินสำรวจบริเวณเพื่อหาจุดบอดเข้าไปข้างใน

   แล้วก็เจอจนได้หน้าต่างชั้นสองของห้องห้องหนึ่งมีต้นไม้ข้างๆที่มาเกี่ยวพอที่จะให้เราปืนต้นไม้เข้าไปได้ ผมถามโทชิโร่ว่าพอจะรู้มั้ยว่าตรงนั้นเป็นห้องใคร แต่เขาก็ส่ายหน้า ไม่รู้อะไรเลย

   นั่นเป็นทางเดียวที่เราจะเข้าไป ยังไงก็ต้องยอมเสี่ยง คราวนี้ผมนำหน้าไปก่อน ผมปืนต้นไม้อย่างเงียบเชียบ ใจตกไปอยู่ตาตุ่มทุกครั้งที่มีการ์ดเดินผ่านไปผ่านมาข้างล่าง ใช้เวลาไม่นานผมก็ส่งตัวเองมาอยู่ที่ริมระเบียงชั้นสองจนได้ ผมรอจนโทชิโร่ขึ้นมาถึง นับหนึ่งสองสามในใจ ก่อนจะเปิดบานประตูเข้าไป

   อึก!!!!!!!!!!

   คนในห้องมองมาที่ผมอย่างตกใจ ผมและโทชิโร่ก็เหมือนกัน เราก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ เหอะ! ใครบอกว่าความบังเอิญไม่มีในโลก ผมล่ะอยากจะให้ปู่เต่าในกังฟูแพนด้ามาเห็นผมตอนนี้จริงๆ  คนในห้องที่กำลังนั่งพักผ่อนอยู่บนโซฟา กับลูกน้องอีกคนหนึ่งหันมายิ้มเหี้ยมให้ผม โดยไม่ทันตั้งตัว ลูกน้องของมันที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ยิงมาที่ขาของโทชิโร่

   ปัง!!!!

   โทชิโร่ล้มลงไปนอนกับพื้นด้วยความเจ็บ ผมจะก้มลงประคองเขา แต่ผืนที่ตอนนี้มาจ่อหัวผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ไม่ยอมให้ผมทำอย่างนั้น มือปืนคนนั้นกระชากตัวผมไปหานายมัน โยนผมลงบนโซฟาก่อนจะใช้ปืนจี้ผมไว้ตามเดิม

    “พี่กำลังจะไปหาเราอยู่พอดี อดคิดถึงพี่ไม่ไหวรึไง หืม” ใช่แล้ว คนที่ผมเข้ามาเจอที่ห้องก็คือ ไทจินั่นเอง บ้าชะมัด

   “หุบปากเหม็นๆ ของแกซะ”ผมขยับออกห่างอย่างรังเกียจ ลึกๆแล้วผมกลัวเขามาก ความทรงจำตอนนั้นมันทำร้ายผมมากจริงๆ

   “พี่พึ่งอาบน้ำแปรงฟันมา จะเหม็นได้ยังไง”เขาตอบอย่างอารมณ์ดี แต่ผมนี่สิ แทบจะเป็นบ้าไปแล้ว อุตส่าห์หนีได้ตั้งนาน แต่กลับวิ่งมาให้มันฆ่ามันเฉยเลย

   “อย่ามาเล่นลิ้นนะ”

   “หึ ปากดีจังนะ อุตส่าห์มาได้ไกลถึงเรือนรับรอง แต่กลับดวงซวยมาเข้าห้องฉันซะได้ แบบนี้ก็ยอมรับเถอะ ว่าโชคชะตากำหนดฉันมาให้เป็นหัวหน้าแก๊ง และกำหนดให้แกต้องตายในมือฉัน”เขาบีบคางผมแน่น ดวงตาฉายแววกระหายอำนาจและสะใจอย่างปิดไม่มิด

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   “คุณไทจิครับ ผมได้ยินเสียงปืน เป็นอะไรรึเปล่าครับ”เสียงการ์ดข้างนอกตะโกนเข้ามา ใช่แล้ว...ผมต้องตกโกนให้เขารู้ว่าผมอยู่ที่นี่ อย่างน้อยให้คนที่พักอยู่ในห้องอื่นได้ยินก็ยังดี

   แต่ยังไม่ทันได้อ้าปาก ไทจิเหมือนรู้ความคิดผม เขาเอามือปิดปากผมแน่น ก่อนจะตะโกนกลับไป

   “ไม่มีอะไร ไคมันปืนลั่นน่ะ กลับไปเถอะ”

   “ครับ”

   ไค งั้นเหรอ มือปืนที่อยู่ในห้องนี้ชื่อไคงั้นเหรอ อ้อ คนที่อยู่ในโทรศัพท์ของมันเมื่อตอนนั้นสินะ ผมเหลือบตาไปมองไค ผมดำ ตาดำ สูทแดงทึบ....นักฆ่า ดวงตาแบบนั้น ยิงคนไม่สะทกสะท้าน นี่มันนักฆ่าชัดๆ

   ผมเหลือบไปมองโทชิโร่ เขาอาการไม่สู้ดีนัก ถ้าปล่อยไว้แบบนั้น เขาต้องเลือดออกตายแน่ๆ ผมเขย่าๆ ไทจิเบาๆ เพื่อให้เขาหันมาสนใจ พยายามใบ้ให้เขาเอามือผมออก เขาเอามือออก แล้วยิ้มเสแสร้งให้ผม

   “โทชิโร่ ช่วยเขา ปล่อยไว้แบบนั้น เขาตายแน่”

   “ก็ช่างมันสิ มันไม่มีประโยชน์อยู่แล้ว”เขาตอบอย่างไม่หยี่ระ แล้วหันไปเปิดทีวีดู และผมก็คงจะสุขใจกว่านี้ถ้าลูกน้องผมไม่ได้บาดเจ็บ และไม่มีปืนจ่อหัวผมอยู่

   “บ้าไปแล้วรึไง นั่นชีวิตคนคนหนึ่งเลยนะ เอางี้ ถ้าคุณช่วยเขา ผมจะยอมอยู่กับคุณ ไม่หนีอีกแล้ว นะ ขอร้อง”ผมยอมทิ้งศักดิ์ศรี คนแบบโทชิโร่ไม่ได้หาได้ง่าย เขาเชื่อใจผม ดูแลผม ภักดีต่อผม ผมไม่ยอมให้เขาเป็นอะไรเป็นอันขาด

   ไทจิหันมามองผมด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ไค ไคเดินเข้าไปหาโทชิโร่ อุ้มเขาพาดบ่าแล้วพาเดินออกไปข้างนอก ผมคิดในแง่ดีว่าเขาอาจพาโทชิโร่ไปห้องพยาบาล แม้ว่าท่าทีจะเหมือนอุ้มไปฆ่าก็เหอะ ไทจิอาจเลวจริง แต่ผมคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนไม่รักษาสัญญา

   “เอาล่ะ มาคุยเรื่องของเราดีกว่านะน้องรัก บุกมาถึงที่นี่ คงนึกจะมาบอกความจริงกับพวกโง่พวกนั้นละสิ หึ แต่กลับมาดวงซวยซะได้”เขามองผมอย่างสมเพช

   “อย่างน้อยสิ่งที่ผมทำก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง”

   “สิ่งที่ถูกต้อง...หึ แล้วทำไมคนที่ทำสิ่งที่ถูกต้องถึงตกมาอยู่ในสภาพนี้ล่ะ”

   “จะสภาพไหนก็ดีกว่าสภาพแกในตอนนี้แล้วกัน น่าสมเพช”

   “ใครน่าสมเพชกันแน่ อย่ามากวนประสาทพี่ดีกว่านะยูกิ เพราะบรรดาพ่อๆ รวมถึงไอทาคุยะ มันกำลังรับศึกหนัก จะตายแหล่ไม่ตายแหล่อยู่แล้ว”เขาบีบแก้มผม ก่อนจะสะบัดออกอย่างแรงเมื่อพูดเสร็จ

   “แกทำอะไรพวกเขา”ผมถามอย่างตื่นตระหนก จะเป็นอะไรมากมั้ยนะ

   กริ๊งงงงงงงงงงงงงง

   เสียงโทรศัพท์ขัดจังหวะเสียก่อน เขารับโทรศัพท์ ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่แสยะยิ้มเท่านั้น ก่อนจะหันมามองผม แววตาตื่นเต้นของคนมีชัย

   “เราได้เห็นกัน”เขากระชากตัวผมออกไปข้างนอก ผมพยายามมองหาคนอื่นในเรือนรับรอง แต่ประตูทุกห้องมีการ์ดเฝ้าอยู่ พวกเขามองผมโดยไม่แปลกใจสักนิด ...นี่คงเป็นการ์ดของไทจิ ผมถูกโยนเข้าในรถลิมูซีน ไทจินั่งตามลงมา รถออกไปอย่างรวดเร็ว ผมอยากถามเขาว่าเราจะไปไหนกัน แต่ก็ไม่กล้าถาม เขายิ้มเหี้ยมไม่หยุดหลังจากได้รับโทรศัพท์ ผมใจคอไม่ดีเลย ภาวนาขอให้พ่อปลอดภัย ให้ทุกคนปลอดภัย.....ขอให้ ทาคุยะของผม ปลอดภัย....

----------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอแบ่งเป็น 2 ตอนแล้วกัน

5555555555555555

ช่วงนี้วุ่นวายกับเรื่องมหาลัย อาจอัพช้าหน่อย (ปกติก็ช้าเหอะ แถไปเรื่อย)

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะค่ะ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 12 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 1] P.8 - 15/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 15-06-2014 13:10:07
หนูยูกิแกว่งเท้าหาเสี้ยนทำไมลูกกกก  :katai1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 12 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 1] P.8 - 15/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 15-06-2014 18:36:29
ยูกิจังงงงงง  :ling3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 12 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 1] P.8 - 15/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 15-06-2014 19:55:33
นู๋ยูกิหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ววววว
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 12 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 1] P.8 - 15/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-06-2014 00:18:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 12 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 1] P.8 - 15/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 17-06-2014 00:35:15
ยูกิ ในโลกของมาเฟียยากูซ่าเนี้ย ถ้าคิด กระโดดเข้าไปเอี่ยวอีกล่ะก็ มีแต่ตายกับตาย ละไอ่เรื่องที่คิดจะโผล่ตัวไปบอกน่ะ อยากบอกว่าคิดง่ายเกิ๊น
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 12 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 1] P.8 - 15/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 21-06-2014 20:33:58
ดวงหนูจะซวยไปแล้วนะยูกิ! งานนี้ทาคุยะสติแตกแหง ๆ ให้อยู่บ้านดี ๆ ดั๊นโผล่มาโดนจับอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 12 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 1] P.8 - 15/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 25-06-2014 01:43:55
เครียดแทนทาคุยะ

ยูกิน้ายูกิ จะดวงซวยไปไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 12 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 1] P.8 - 15/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 25-06-2014 09:49:45
อ่านตอนนี้แล้วอิฉันโมโห น้องยูกิ มากจร้า

อยู่ดีๆ ไม่ชอบนะหาเรื่องตลอดเว แล้วทีนี้มันจะจบแบบไหนละเนี่ย

ขออย่าให้จบแบบที่อิฉันมโนไว้เลยนะ มันจะขำไม่ออก

หึหึ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 25-06-2014 16:04:43
วันนี้ เย็นๆ ค่ำๆ

จะมาลงตอนจบให้นะค่ะ

555555

แต่รับรองว่าหลังจากนี้จะมีตอนพิเศษตามมาแน่นอน 

ขอบคุณคนอ่านที่มห้กำลังใจกันมาตลอดนะคะ

 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [แจ้งข่าว] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 25-06-2014 18:52:51
รอนะฮะ :')
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 25-06-2014 20:34:32
บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)


   ผมถูกคุมตัวให้นั่งรถมากับไทจิ โดยที่มีไคเป็นคนขับรถ ผมถามเขาเกี่ยวกับอาการของโทชิโร่ แต่เขาก็ไม่ได้ตอบอะไร นั่นทำให้ผมใจเสีย ผมเป็นคนขอร้องให้โทชิโร่มากับผม ถ้าเขาเป็นอะไรไป คนที่ผิดก็คือผม....

   ผมอยากรู้ว่าเนื้อหาที่ไทจิคุยในโทรศัพท์คืออะไร ทำไมเขาถึงได้เบิกบานใจราวกับเป็นผู้ชนะอย่างนั้น  พ่อครับ คุณยูตะ พี่ทาคุยะครับ ได้โปรด อย่าเป็นอะไรไปนะครับ  ผมขอให้มันไม่เป็นอย่างที่ผมคิด แม่ครับ คุ้มครองพวกเขาด้วยนะครับ  ผมเริ่มใจเสีย เมื่อทางที่ไปเริ่มคุ้นเคยมากขึ้น....ทางไปบ้านของทาคุยะ  ผมหันไปมองหน้าไทจิอย่างตกใจ เมื่อเห็นควันโขมงลอยมาไกลๆ ตำแหน่งนั้นไม่ใช่ที่ไหนเลย แต่เป็นที่ที่ผม พ่อ และพี่อายากะเคยพักรักษาตัวยามโดนหักหลัง  ไทจิหันมายิ้มให้ผม ณ ตอนนั้น ผมพึ่งสำเหนียกว่าตัวเองคงรู้จักไทจิน้อยไป รอยยิ้มปีศาจบนใบหน้าเทวดา  แววตากระหายอำนาจ เขาเป็นคนที่ผมไม่ควรรู้จักจริงๆ

   เมื่อเข้าไปใกล้บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งเห็นในสิ่งที่พ่อและทาคุยะพยายามปกป้องผมมาตลอด ทีละเล็ก ทีละน้อย  ศพของการ์ดชุดดำถูกลากไปกองรวมกันในพงหญ้า เพื่อเคลียร์ทาง รอยเลือดบนพื้นถนน หยดเป็นหย่อมๆ บางสีแดงเข้ม บ้างน้ำตาลกรอบ หลากหลายเฉดตามเวลาที่ผ่านไป ใบหน้าเจ็บปวด ตกใจสุดขีด หวาดกลัว สิ้นหวังของพวกเขาเหล่านั้น ผู้ที่กลายเป็นโล่ป้องกันให้กับคนไม่กี่คน และหนึ่งในนั้นก็คือผม....

   ผมหลับตาลง อยากให้ทั้งหมดนี่เป็นเพียงแค่ความฝัน แต่สภาพของบ้านหลังนี้ คงได้รับศึกหนักมาตลอดคืน และการที่รถของไทจิสามารถแล่นเข้ามาในตัวบ้านได้อย่างสบายๆ แบบนี้ มีเพียงกรณีเดียว นั่นคือ...เราแพ้แล้ว

   รถแล่นมาจอดหน้าบ้าน ยิ่งใกล้ตัวบ้านมากเท่าไหร่ ศพยิ่งมากขึ้นเท่านั้น หากผู้ชายไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนอ่อนแอ เขาไม่ควรร้องไห้ ผมไม่เคยร้องไห้ตอนที่ลำบากอยู่ในไทย ยกเว้นตอนเดียวก็คือวันที่แม่ตาย  แต่วันนี้ น้ำตาของไม่อดกลั้นมันไว้ได้อีกแล้ว ผมปล่อยให้มันไหลลงมา ทุกย่างก้าวที่โดนกระชากไป หยดน้ำตาหล่นรินไหลลงสู่พื้นที่เปื้อนเลือดของพี่น้องที่คอยปกป้อง ทุกหย่อมหญ้าที่เท้าเหยียบลง การ์ดหลายคนนอนทอดร่างปกป้องผู้เป็นนาย

   จวบจนก้าวสุดท้าย เมื่อมองไปที่ประตู ผมก้าวขาไม่ออก ราวกับเท้าถูกตรึงไว้กับหมุดที่มองไม่เห็น ราวกับหัวใจถูกกระชากด้วยมือปริศนา หากคนเราสามารถตายได้ในเวลาที่ต้องการ ผมก็อยากจะขอตายตรงนั้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรับรู้ในสิ่งที่เห็น ให้ผมได้ชดใช้บาปที่เป็นสาเหตุที่เขาต้องตาย.....

   “ยางามิ!!!!!!!!”ผมกรีดร้องสุดเสียง

   “อึก ไม่นะ ไม่นะ ยางามิ ทำไมทิ้งกันอย่างนี้!!!! ตื่นขึ้นมานะ ตื่นขึ้นมา!!!! ฮือๆ ผมขอโทษ ผมขอโทษ ฮือๆๆ ไม่นะ อย่าทิ้งผมไป ฮึก ยางามิ”

   ยางามินั่งพิงประตู ตาเบิกโพรงไม่ยอมหลับแม้จะไม่เหลือลมหายใจ เสื้อเชิตสีขาวถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยเลือด ผมวิ่งเข้าไปประคองเขา เขย่าให้เขารู้สึกตัวอย่างไร้ประโยชน์ เขาตายแล้ว....  พลัน หัวใจผมหนักอึ้งอีกเป็นเท่าตัว  ยางามิเป็นคนสนิทของพ่อ เขาตามคุ้มครองผมในไทย คอยเป็นคนประสานราวร้าวให้พ่อกับผม  เป็นอาจารย์สอนยิงปืนให้ผม เป็นเพื่อนคลายเหงา และเป็นพี่ชายที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง....ยางามิ ทิ้งกันทำไม ฮึก แม้ว่าตัวจะตาย แต่ก็นั่งเฝ้าประตู ไม่ยอมให้ใครเข้าไปได้  พ่อคงอยู่ข้างในนั้น ผมซุกหน้าลงกับศีรษะของเขา ผมขอโทษนะครับ เพราะผม คุณถึงต้องมาตาย ฮึก ผมทนไม่ไหวแล้วนะ นี่มันจะมากไปแล้วนะ ไอ้ไทจิ!!!!!

   “มันเป็นเพราะแก เพราะความอยากมีอยากได้ของแก มันทำร้ายคนอื่น แกมันชั่วช้าสามานย์ แกทำได้ยังไง ยางามิเขาก็เหมือนพี่ชายแกคนนึง เขาเองก็อยู่กับแกมาตั้งแต่แกยังเด็ก แกฆ่าเขาได้ยังไง!!!!”

   ผมพุ่งตัวเข้าจะทำร้ายไทจิ แต่เขารวบตัวผมได้ทัน ผมจึงทำได้แค่ทุบอกเขาอย่างจนปัญญา  แวบหนึ่งที่ผมเห็นสีหน้าสลดของไทจิยามเมื่อเขามองดูศพยางามิ แต่ราวกับมันเป็นเพียงแค่ตาผมฝาด เพราะตอนนี้สิ่งที่ผมเห็นมีเพียงแววตาเฉยเมยและสีหน้าของคนเลวเท่านั้น  บางที...เพราะผมตอนนี้มองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากม่านน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย

   ไคใช้เท้าเขี่ยศพยางามิให้พ้นทาง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ผมได้กลิ่นเหมือนน้ำมันดิบ ไทจิลากผมให้เดินตามมา พอเราเข้ามาถึง ห้องโถงที่เคยอบอุ่นตอนนี้มีเพียงการ์ดแปลกหน้าอยู่เต็มไปหมด การ์ดของไทจิ ตรงกลางคนเหล่านั้น ผมมองเห็นสิ่งที่ผมถวิลหามากที่สุดตั้งแต่มาที่นี่ พ่อ คุณยูตะ และพี่ทาคุยะ แม้สภาพจะดูไม่ดีนัก ด้วยถูกมัด ถูกจองจำ แต่รวมๆ แล้วก็ถือว่ายังอยู่ครบ  ทั้งสามคนตกใจเมื่อเห็นผมอยู่กับไทจิ ทาคุยะจะถลาเข้ามาหาผม แต่โดนการ์ดให้ดามปืนตบหน้าเขาจนล้มลง ผทส่งสายตาอ้อนวอนให้เขาอยู่เฉยๆ ผมไม่อยากเห็นเขาเจ็บตัวอีก 


   “ครอบครัวสุขสันต์ กลับมาพร้อมหน้ากันแล้ว ดีใจมั้ยพ่อ ...อ้อ ลืมไป ขาดพี่อายากะไปคนหนึ่ง แต่อีกไม่นานหรอก ผมจะพาพี่เค้ามาอยู่กับพ่อกับน้องแล้วกัน ฮ่าๆๆๆ”


   “แกไม่ใช่ลูกฉัน”พี่กัดฟันพูด ตาของพ่อจ้องไทจิจนเส้นเลือดปูด


   “หึ นั่นแหละดี เพราะเวลาผมฆ่าพ่อ จะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดมากนัก  อ้อ ไง ทาคุยะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้อินเลิฟนี่”ไทจิเดินไปนั่งที่โซฟาก่อนจะดึงผมนั่งลงบนตัก ผมยื้อตัวไว้จนไคต้องกดไหล่ให้ผมนั่งลง ผมเบ้หน้า ก่อนจะหันไปสบตากับทาคุยะ ...ขอโทษ
   ทาคุยะมองผมอย่างโมโหปนเป็นเป็นห่วง จนเมื่อไทจิดึงผมนั่งลงบนตัก สายตาของเขาก็เปลี่ยนไป...ดูหึงหวง ผมจะดีใจมากถ้าเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดแบบนี้


   “หึ อุตส่าห์ปกป้องมาได้ตั้งนาน แต่ลูกแมวน้อยของแกเดินเข้ามาหาฉัน ไม่ว่าจะเป็นความบังเอิญหรือโชคชะตา แต่มันก็กำหนดไว้แล้วว่าเด็กคนนี้ต้องตาย เพื่อให้ฉันขึ้นครองแก๊ง  ไงล่ะพ่อ เพราะพ่อฝืนชะตาฟ้าลิขิต จึงโดนสาปให้ต้องตายพร้อมกัน รวมทั้งพวกแกสองคนด้วย”เขาหันหน้าไปมองยูตะและทาคุยะ


   “ถ้าพ่อให้ผมขึ้นเป็นผู้สืบทอดตั้งแต่แรก เรื่องมันคงไม่เลวร้ายขนาดนี้”


   “จะให้บอกอีกกี่ครั้ง ว่ามันไม่ใช่ของของแก”พ่อกดเสียงต่ำ


   “มันเป็นของผมแล้วพ่อ ไม่ว่าพ่อจะพูดยังไงก็ตาม และวันนี้ จะไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น วันนี้ทั้งพ่อ ยูตะ ทาคุยะ และยูกิ จะต้องตายลงที่นี่ ปิดฉากอย่างสวยงาม ผมจะเผาบ้านหลังนี้ ทิ้งหลักฐานทุกอย่างไว้ในกองเพลิง”


   “หึ”ท่ามกลางความเงียบ ทาคุยะหัวเราะออกมา ยิ้มที่เสแสร้งแบบที่เขาเคยทำเป็นประจำถูกหยิบออกมาใช้อีกครั้ง ไทจิมองหน้านั้นอย่างไม่สบอารมณ์นัก


   “จะตายอยู่แล้วยังมาทำเป็นปากดีอีกนะ”


   “ขอย้อนคำนั้นกลับไปหาแก”พี่ทาคุยะที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นในสภาพที่ถูกมัดเงยสีหน้าที่ยิ้มเหยียดราวกับตนเองเป็นผู้ชนะส่งไปให้พี่ไทจิ ดวงตาคมเป็นประกายกล้า ผมหันไปมองก็เห็นไทจิดูงงๆ กับเหตุการณ์ที่ไม่เหมือนที่ตั้งใจไว้


   “ไค”ไทจิหันไปเรียกไค แต่คนเสื้อแดงคนนั้นยังคงนิ่งงันเหมือนไม่ได้ยินเสียงเรียก


   “ไค!!!! จัดการมันซะ”ไทจิตวาดเขาด้วยความโกรธ แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้จากน้ำเสียงของเขา มันคือความกังวลและสับสน
   ไคหันหน้ามามองพี่ไทจิช้าๆ ก่อนจะยกปืนขึ้นยิง


   ปัง!!!!  ปัง!!!  ปัง!!!ๆๆๆๆ


   เสียงกระสุนหลายนัดดังติดต่อกัน ผมหันไปมองรอบๆ ด้วยความแปลกใจ การ์ดชุดหันมายิงกันเอง และไคเอง...ก็ยิงพี่ไทจิ เสียงปืนในระยะใกล้ทำเอาผมตกใจจนยกมือปิดหูแล้วทรุดลงพื้น แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผมตกใจเท่ากับไค หลังจากยิงพี่ไทจิแล้ว เขาก็เดินเข้าไปแก้เชือกที่มัดพ่อ คุณยูตะ และพี่ทาคุยะออก พี่ทาคุยะรีบเข้ามาหาผมทันที


   “ยูกิ เป็นไรมั้ย โดนตรงไหนรึเปล่า”เขาสำรวจบาดแผลบนร่างกายผมด้วยความร้อนใจ เมื่อพบว่าไม่เป็นอะไร เขาก็หายใจอย่างโล่งอก


   “บอกให้รออยู่ในบ้านทำไมไม่ฟังกันบ้าง หา!!!!”


   “ก็ผมเป็นห่วงพี่ ผมอยากจะช่วย”


   “แล้วถ้าสมมติว่าไคไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา ยูกิจะเป็นยังไง คิดบ้างมั้ย!!!”


   “แล้วไคมาอยู่ฝ่ายเราได้ยังไงครับ”


   “อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ!!!”


   ผมโดนทาคุยะบ่นอีกนิดหน่อย ก่อนพ่อจะเดินเข้ามาดึงผมไปกอด ผมกอดตอบพ่อ เพื่อย้ำเตือนว่าร่างกายนี้ยังคงมีชีวิต


   “ผมขอโทษครับพ่อ ผมขอโทษ”


   “ไม่เป็นไร ในเมื่อลูกปลอดภัยก็ดีแล้ว”


   ไคยืนมองพวกเราอยู่ห่างๆ ผมไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น แต่ก่อนที่เราจะซักไซ้ไล่ถามอะไรกันมากกว่านี้ พ่อก็เดินไปหาไทจิ ที่ตอนนี้ถูกยิงที่ไหล่ซ้าย เสียเลือดมาก แต่ยังไม่ตายที


   “ถ้าแกไม่ทะเยอทะยาน เรื่องมันก็คงไม่ออกมาเป็นแบบนี้”พ่อบอกพี่ไทจิเสียงอ่อย แม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่พ่อก็รักพี่ไทจิไม่น้อยเลยทีเดียว


   “อึก โทษ...ใคร...ได้...แม่...เลี้ยงผม...ให้เป็นแบบ...นั้น”คุณโมโมโกะคอยกรอกหูและใส่ความฝันความทะเยอทะยานให้เขาในสิ่งที่ไม่มีวันเป็นของเขา เขาเป็นเพียงเหยื่อของความแค้นเคืองของคุณโมโมโกะเท่านั้น


   “ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ ฉันคงปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่ไม่ได้”ทาคุยะรีบชิงพูด เมื่อเห็นพ่อกับผมมีท่าทีที่อ่อนลง


   “ผมขอโทษนะครับ ที่เป็นต้นเหตุให้คุณต้องทำแบบนี้”ผมกล่าวไป ผมอยากให้เขาให้อภัย ส่วนตัวแล้ว มันเป็นเพราะผมด้วย เพราะพ่อรักผมกับแม่ คุณโมโมโกะเลยรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง พาลไปลงกับพี่ไทจิ เขาเลยต้องทำแบบนี้


   “ขอให้เขาตายอย่างสงบ”พ่อบอกกับคุณยูตะและไค ก่อนที่ทาคุยะจะพาผมและพ่อเดินไปอีกทาง


   ปัง!!!!!





   หลายปีต่อมา


   หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ทาคุยะก็มาสู่ขอผมกับพ่ออย่างเป็นทางการ ตอนแรกพ่อก็ทำท่าจะไม่ยอม เพราะมีลูกชายแค่คนเดียว แต่ทาคุยะก็คือทาคุยะ เขาเจ้าเล่ห์และมักหาทางได้เสมอ 


   คุณจำไคได้ใช่มั้ย ไคเป็นน้องชายต่างแม่ของคุณฟานหลง ที่ปลอมตัวมาเป็นนักฆ่าให้กับไทจิตามคำสั่งของคุณฟานหลง ที่ตอนแรกเขาเข้ามาแทรกแทรงเรา แต่พอเจอเรื่องนี้เข้า ประกอบกับเจอพี่อายากะเป็นตัวเป็นตน เลยปิ้งพี่สาวผมให้อย่างจัง จากที่ตอนแรกจะเข้ามาสืบ กลายเป็นช่วยเหลือไปซะงั้น ที่พี่อายากะถูกพี่ไทจิลอบฆ่าแล้วไม่ตาย ก็เป็นฝีมือการยิงปืนที่โคตรแม่นของไคคนนี้ ทาคุยะก็สืบเรื่องนี้ได้เมื่อไม่นานมานี้ เลยค่อนข้างวางใจในแผนของตัวเองอยู่ แม้จะต้องยอมเสียลูกน้องฝีมือดีเพื่อล่อให้ไทจิมันเข้ามา แต่ก็ต้องมาชะงักเพราะผมดันมากับไทจิด้วย แต่ด้วยความที่ไคแม่นปืนมาก (ทาคุยะบ่นใหญ่เพราะกลัวผมโดนลูกหลง) แผนเดิมดำเนินไปตามเดิมได้อย่างหวุดหวิด


   พี่ทาคุยะยืนยันให้เผาบ้านตามเดิม เพราะยังไงก็ต้องกลบเกลื่อนหลักฐานกับตำรวจอยู่แล้ว ตอนนี้เลยเป็นขแกที่บ้านผม แม้ว่าพี่เค้าจะมีบ้านหลายหลัง แต่ก็ยังยืนยันจะมานอนบ้านผมเหมือนเดิม คุณพ่อของพี่ทาคุยะก็มา แต่รายนั้นนอนห้องพ่อ(เอ๊ะ ยังไงกัน) 
   ส่วนเรื่องทายาท คุณไคที่หลงรักพี่อายากะอย่างจังนั้นก็ได้มาดองกับเราอย่างเป็นทางการ ตอนนี้เขากับพี่อายากะมีลูกชายด้วยกันคนหนึ่ง หนูฮิคารุสุดที่รักของผม(น่ารักมากกกก)  และคุณไคก็ขึ้นครองเป็นหัวหน้าแก๊งค์ต่อจากพ่อ ผมก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนนั้นไปสปาร์คกันตอนไหน แต่ผมไม่กล้าอยู่ใกล้เขาอีกเลย  คนอะไรน่ากลัวชะมัด โหดเงียบเหมือนพ่อไม่มีผิด(พ่อบ้านบอกมา และดูเหมือนว่าพ่อจะถูกใจลูกเขยคนนั้นไม่น้อยเลย) เรื่องคนสืบทอดเลยหมดไป


   “คิดอะไรอยู่ หืม”ทาคุยะเดินเข้ามากอดผมจากทางด้านหลัง ผมเอนตัวพิงหลังเขา ให้ลมพัดผ่านไป


   “คิดถึงเรื่องเก่าๆ”


   “อดีตก็คืออดีต”เขาพูดพร้อมกับเอาคางมาเกยไหล่ผม ตอนนี้เรายืนดูพระอาทิตย์อยู่ในบ้านริมน้ำตกที่เขาเคยพาผมมานั่นแหละ สงบและเงียบดี เป็นการฮานิมูนครั้งที่ 2 น่ะ ><


   “โชคดีจังที่เรื่องจบได้ด้วยดี ผมไม่อยากจะคิดเลย ว่าถ้าขาดคุณไป ผมจะเป็นยังไง”ผมหันหน้าไปหาเขา

   ทาคุยะจูบเผาเบาๆ ผมเขย่งตัวเพื่อที่จะจูบเขาได้มากขึ้น ไม่มีสักวันที่ผมไม่รักเขา


   “ผมก็ขาดคุณไม่ได้เหมือนกัน รู้มั้ยวันนั้นผมตกใจแค่ไหนที่เห็นคุณมากับมันน่ะ แล้วไอ้ไคก็น่าโมโหชะมัด ยิงเปรี้ยงไม่ฟังใคร ถ้าโดนคุณขึ้นมาจะทำยังไง”


   “ฮ่าๆๆๆ ผมยังเสียวไม่หายเลยนะเนี่ย”


   “ยูกิ”


   “หืม”   


   “รักผมมั้ย”เขาถามเสียงจริงจัง


   “ถามทำไมอย่างงั้น”


   “ก็อยากฟังอีกอ่ะ อยากฟังๆๆๆๆ”ทาคุยะเริ่มงอแงเหมือนเด็ก ผมหัวเราะก่อนจะหันตัวกลับไป


   “รักครับ รักทาคุยะที่สุดในโลกเลย”ผมจับหน้าเขาให้จ้องมาที่ผม เพราะตอนนี้พระอาทิตย์กำลังตกดิน ผมเลยไม่รู้ว่าสีแดงๆ บนแก้มนั่นเป็นเพราะเขาเขินหรือแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์


   “รักเหมือนกัน ยูกิของผม รักยิ่งกว่าท้องฟ้า ยิ่งกว่าจักรวาล”


   จูบท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดง....โรแมนติกเป็นบ้า!!!





……………………………………………………………อวสาน……………………………………………………………



ตอนพิเศษจะตามมาทีหลังค่ะ

ขอบคุรสำหรับการติดตามค่ะ

 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 25-06-2014 22:28:53
 :pig4: ชอบไคๆๆๆๆ อายากะโดดถีบ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 25-06-2014 23:10:31
โห ผิดคาดแฮะไคเป็นคนดี
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 26-06-2014 18:20:58
ไม่ได้เดาเรื่องไคไว้เลย 555

แอบพลิกล็อก รอตอนพอเศษนะค้า

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 26-06-2014 23:02:08
ถ้าไม่มีไคนะ เรื่องนี้คง the end เร็วแน่ๆ 555555
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 26-06-2014 23:47:31
 o13
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 27-06-2014 07:05:18
เฮ้ออออออ

ถอนหายใจยาวๆ

อ่านแบบลืมหายใจ(นึกว่าตายเสียแล้ว)

อำนาจช่างน่ากลัวจริงๆ

แต่ความรักก็ชนะได้

รอตอนพิเศษขอรับ



หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 27-06-2014 10:06:10
 :mew1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 27-06-2014 15:41:05
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: ckk ที่ 27-06-2014 16:40:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 27-06-2014 17:42:05
เล่นเอาใจหายใจคว่ำหมด นึกว่าจะมีใครเป็นอะไรไปซะแล้ว

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

รอตอนพิเศษจ้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 27-06-2014 20:38:23
 :pig4:ดีจังจบแบบแฮปปี้ รอตอนพิเศษด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: namtan15 ที่ 28-06-2014 19:17:00
ตอนพิเศษนิขออของคุนพ่่อทั้งสองได้ป่าวอ่า   อิอิ :hao6: :hao6: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 29-06-2014 14:56:23
เดวสิอย่าพึ่งจบ โทชิโร่ ของผมละ :ling1:
ปล.เอาคู่พ่อมาเซ่นเลยนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 30-06-2014 17:10:04
ชวนใจหายใจคว่ำซะจริงเรื่องนี้
แต่ก็ยังค้างคาเรื่องของน้องชายพ่ออยู่นะว่าหลังจากนี้จัดการยังไง เพราะถึงไทจิจะตายก็ยังเหลือหมากอยู่อีกตัว
แล้วก็ยังค้างคาเรื่องสองพ่อนี่สรุปจะเอายังไงกันแน่ แต่เรื่องในอดีตนี่พอจะเดา (แค่เดานะ) ได้ลางๆ อยากอ่านคู่พ่อต่อ
น่าสงสารยางามิ สรุปโทชิโร่โดนไคเอาไปเก็บไว้ไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 30-06-2014 20:35:54
หวานฉ่ำมากๆเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 30-06-2014 23:01:13
 :กอด1: อ่านรวดเดียวจบเบยจ้า
รอตอนพิเศษนะคร๊า  :hao5:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Ningg.Destiny ที่ 01-07-2014 03:53:56
กรี๊ดดดดดด~ ตามอ่านทัน 555
ชีวิตยูกิจังน่าสงสารมากอ่ะ แต่ยังดีที่พ่อกลับมาเมื่อรู้ว่าแม่ไม่อยู่แล้ว
เสียดายไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก

ส่วนทาคุยะแรกๆนางดูเป็นตัวร้ายมาก 555
มีแต่คนสงสัยว่าเป็นศัตรูเค้า แล้วยังแอบมาเต๊าะยูกิ
แต่พี่ไทจิเป็นคนที่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ
เพราะตั้งแต่แรกพี่เค้าดูใจดีมาก ไม่น่าเลย

รวมๆแล้วเราก็ชอบเรื่องนี้น้าาา
อ่านแล้วลุ้นดีว่าใครเปนตัวร้าย รอตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 01-07-2014 11:01:24
เขินอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-07-2014 01:41:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 10-07-2014 15:01:51
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 11-07-2014 16:04:41
น่ารักจัง
ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆ ปนโหดหน่อยๆ ด้วยครับ ^^
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 12-07-2014 19:10:34
ถ้าไทจิไม่มักใหญ่ใฝ่สูงอยากได้อยากมีในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง

คงไม่ต้องมามีจุดจบแบบนั้นหรอก  :เฮ้อ:

รอตอนพิเศษหวาน ๆ ของยูกิกับทาคุยะนะจ๊ะคนเขียน

แต่ถ้าจะให้ดีขอตอนพิเศษคู่คุณพ่อด้วยน๊าา   :pig4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-07-2014 19:54:41
อ่านไปลุ้นไปว่าจะเป็นยังไง
เหมือนตอนจบจะรวบไปหน่อย แต่ก็โอเค
รอตอนพิเศษค่าาา
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 21-07-2014 22:39:49
สนุกจ้า
แต่งเก่งมากๆเลย
รอตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 26-07-2014 08:23:28
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ รอตอนพิเศษค่ะ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 27-07-2014 02:19:22
สนุกมากๆเลย พอเดาเรื่องออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ขอติเรื่องหนึ่งนะคะ เรื่องที่คนเขียนใช้ "นะค่ะ" ในหลายๆประโยค ซึ่งจริงๆแล้วต้องใช้ "นะคะ" ลองกลับไปอ่านดูนะแล้วจะรู้สึกว่ามันตะหงิดแปลกๆ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-07-2014 01:19:17
ตอนพิเศษอยู่หนายยยยย
ทำไมยังไม่มา~
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 16-01-2015 01:59:20
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 16-01-2015 20:35:14
รอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: yibsee2009 ที่ 03-12-2015 13:18:41
 :mew1:จบแล้วครับ  ลุ้นแทบแย่  แต่ก็จบแบบแฮปปี้ดีครับ :z2:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: sawapalm ที่ 03-12-2015 21:02:59
อ่านกี่รอบก็น่าร้ากกกก ขอตอนพิเศษ อิอิ :hao7:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 03-12-2015 23:56:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 04-12-2015 13:02:27
ตอนนี้อ่านมา 6 ตอน รู้สึกเลยว่าตัวร้ายจริงๆคือ ไทจิ ทาคุยะน่าจะเป็นพระเอกนะ :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 04-12-2015 17:42:18
โอ้ย ทาคุยะ ยูกิ มันหวาน อิน ฟินเวอร์สุดๆไปเลยอ่ะ  :impress2: :impress2: :impress2:

ไทจิแม่งเลวมากกกกก  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: archaeoloable ที่ 04-12-2015 18:10:43
โอ้ยน่ารัก พี่ทาคุยะ. 
 :-[
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 13-12-2015 21:56:01
ลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบเลย
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 13-01-2016 00:12:23
คู่คุณพ่อ คือไร?
อยากอ่านของคุณพ่อทั้ง2
ค้างกับคู่นี้มากกกกก
รอตอนพิเศษนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 27-06-2016 12:04:08
สนุกมาก ๆ ครับ ทาคุยะ-ยูกิ น่ารักมาก แต่อยากรู้เรื่องของรุ่นพ่อมากกว่า ทาเคชิ-ยูตะ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 29-06-2016 01:40:25
 o13
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: oppapp ที่ 02-07-2016 21:08:53
อยากอ่านคู่คุณพ่อ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: armsa2531 ที่ 01-01-2018 20:39:06
ชอบแบบมาเฟียละ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 05-03-2021 00:35:41
  พี่ไทจิก็บอกว่าอาจจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เธอยังคงเมลมาหาพี่ไทจิอยู่ 
ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ แต่ส่งเมลได้ จะเอาฮาไปถึงไหน 555
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 6 คำเตือน] P.4 - 10/5/57
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 05-03-2021 00:41:18
    เธอยังคงเมลมาหาพี่ไทจิอยู่
   
   “วันไหน พี่อายากะโดนลอบฆ่าวันไหน”ผมถาม พยายามใจเย็น แต่เสียงผมสั่นเต็มทน ผมมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

   “วันที่ออกจากบ้านไปน่ะครับ
ไทจิเป็นตัวร้ายแน่ๆ
หัวข้อ: Re: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 16-04-2021 23:19:43
จบแล้ว สนุกดีค่ะ