MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: MAFIA'S DANGER [บทที่ 13 เรามาจบเรื่องกันเถอะ!! 2 (ตอนจบ)] P.8 - 25/6/57  (อ่าน 74729 ครั้ง)

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2014 20:35:37 โดย Death Y »

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
บทนำ

   ผมนั่งนิ่งมองรูปคนที่ผมรัก เธอคนนั้นมีรอยยิ้มที่งดงาม อ่อนโยน เธอคนที่คอยปลุกผมตอนเช้า ทำอาหารให้ทาน คนที่บางครั้งผมเผลอรำคาญและพูดจาทำร้ายจิตใจ แต่ทุกครั้งเธอก็จะเป็นฝ่ายให้อภัยผมเสมอ ผมจะยินดีนั่งมองรูปนั่นเป็นชั่วโมง เพื่อซึมซับรอยยิ้มงดงามสดใสนั่น หากมันไม่ได้เป็นรูปขาวดำ ผมจะยินดีให้เธอโกรธและทำโทษที่ผมกลับบ้านช้าทุกครั้ง ทันทีที่เธอลืมตาขึ้นมา  แต่นั้นไม่อาจทำให้ผมหนีความจริงที่ว่า เธอได้ไปจากผม อย่างไม่มีวันกลับ  แม่ของผม ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกคนนั้น ได้...จากผมไปแล้ว

   เรื่องเศร้าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในงานศพ ไม่ว่าจะมีเพื่อนมากแค่ไหนผมก็ยังรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ดี เพื่อนผมที่มหาลัยและที่ทำงานต่างก็ทยอยกันมาเคารพศพ บางคนที่ว่างก็จะมาช่วยงาน  ผมกับแม่มีกันสองคน เราไม่มีญาติที่ไหน แต่แม่มีเพื่อนเยอะเสมอ แม่เป็นผู้หญิงใจดีและมีน้ำใจ เวลาทำกับข้าวก็เผื่อคนอื่นเสมอ ตามที่ฐานะทางบ้านจะอำนวย เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ไม่มีใครไม่รักแม่ ...ยกเว้นพ่อ ผมต่างกับแม่โดยสิ้นเชิง ผมไม่ค่อยพูด ไม่ได้มีอัธยาศัยดีเหมือนแม่ ดวงตาและผมสีดำสนิท ทำให้ผมดูมืดมนเหมือนบุคลิก  หน้าผมติดหวานเหมือนแม่ แม้หลายคนจะบอกว่าผมหน้าหวานเหมือนผู้หญิง แต่ผมก็ไม่ได้โกรธอะไร ผมดีใจที่หน้าผมไม่เหมือนเขา และจะดีใจกว่านี้ถ้าผมมีผมและตาสีน้ำตาอบอุ่นเหมือนแม่

   “คิม นายไปต้อนรับแขกเถอะ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน มานั่งมองหน้าแม่เป็นชั่วโมงแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็หาว่านายหลุดไปแล้วหรอก” ทัศเพื่อนสนิทผม สะกิดผมเบาๆ ก่อนจะบุ้ยหน้าไปที่หน้างาน

   “อืม” ผมพยักหน้าตอบก่อนจะเดินไปหน้างานด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่ตาบวมแดงจนผมคิดว่าคืนนี้ ถึงไม่อยากหลับก็คงต้องหลับเสียบ้าง

   ผมเดินไปหน้างาน รับแขกจนกระทั่งแขกเริ่มกลับ เพื่อนผมไปช่วยข้างหลังเขาล้างจาน ผมเองก็เตรียมเตรียมจะไปนอนก่อน เพราะเหนื่อยสะสมมาหลายคืนแล้ว แต่ทันใดนั้นรถลิมูซีนสีดำที่ประกบหน้าหลังด้วยรถฟอร์จูนเนอร์อีกสอง คันก็วิ่งเข้ามาจอดหน้างาน  ผมหันไปมองอย่างงๆ  แต่เมื่อชายภูมิฐานคนหนึ่งลงจากลิมูซีนคันหรู ผมก็ผงะด้วยความตกใจ  เขาเดินมาหยุดอยู่หน้าผม พร้อมคนในสูทดำที่ตามเขาราวกับเงาตามตัวห้าคน และมีบางส่วนยืนรออยู่ที่รถ  ผมพยายามทำใจเย็นๆ และสงบจิตใจที่สับสนของผมไว้ ผมยืนนิ่งเพื่อหยั่งเชิงท่าทีและจุดประสงค์ของเขา ผมไม่ได้ผลักไสไล่ส่งเขา ไม่ได้กรีดร้องทำร้ายหรือด่าทอเขา ผมแค่ยืนมองเขาอยู่นิ่งๆ  แม่เคยบอกผมเสมอ สิ่งที่ตรงข้ามกับความรักไม่ใช่ความเกลียด ...มันคือความเย็นชา

   เขายืนมองผมนิ่งๆ แววตาเสียใจและรู้สึกผิดอย่างสุดซึ้ง แต่สิ่งที่ผมจะให้เขาเห็นมีเพียงแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น เขาหันไปมองรูปของแม่ก่อนจะหันมามองผม ผมเลยเดินนำเขามาที่หน้าโลงศพของแม่ ผมจุดธูปและยื่นให้เขา เขารับไว้และเคารพศพ ก่อนจะยืนขึ้นเพื่อนไล้มือไปยังรูปแม่ ก่อนจะหันมามองผมแล้วพูดคำสั้นๆ

   “พ่อรักแม่นะ”

   เขาเดินจากไปพร้อมกับเหล่าบอดี้การ์ดชุดดำ ผมรอจนรถของเขาเคลื่อนออกไป ก่อนจะหันไปมองหน้าแม่ และเดินเข้าห้องไปอย่างไร้วิญญาณ ผมอยากหลับ ร่างกายผมก็ต้องการพัก แต่ตาผมกลับลืมโพลง ผมนั่งอยู่บนเตียงทั้งคืน สายตาไม่โฟกัสไปที่จุดไหนทั้งนั้น จนกระทั่งพระอาทิตย์กลับมาทักทายอีกครั้ง ผมแต่งตัวเพื่อเตรียมไปเคารพศพแม่เป็นครั้งสุดท้าย 

วันนี้เป็นวันเผา แขกเริ่มทยอยกันมา เขาเองก็เช่นกัน เหมือนเมื่อวานเขาเดินมาหาผมโดยไม่ได้พูดอะไร ผมพาเขาไปเคารพศพแม่ แม้บางคนจะสงสัยระคนหวาดกลัวว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามเขาหรือถามผม ตาของเขาบวมแต่ไม่ได้บวมแบบผม ผมบวมเพราะร้องไห้ แต่ของเขาคงบวมเพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืน จนกระทั่งถึงเวลาเผา ผมไปดูหน้าแม่เป็นครั้งสุดท้าย เขาก็เช่นกัน เมื่อเผาเสร็จแล้ว ผมเก็บอัฐิแม่ไว้ ผมไม่ให้เขาหรอก แม่จะไม่มีวันไปอยู่กับเขาแน่นอน ผมจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น เขาเองก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร  เขาเดินมามองหน้าผมเป็นครั้งสุดท้าย

“ขอโทษ”

เขาพูดแค่นั้นก่อนจากไปเหมือนเมื่อวาน ผมกำมือแน่น ไม่เจอกัน  13 ปี เขากลับพูดกับผมแค่สองประโยค แต่ก็เท่านั้นแหละ ผมก็หวังว่าจะไม่ได้เจอกับเขาอีก ทัศหันมาหาผมและทำท่าว่าจะเดินเข้ามาหา ผมยกมือห้ามไว้ ผมไม่พร้อมจะตอบคำถามอะไรตอนนี้ ผมรีบขับรถมอเตอร์ไซด์ของผมกลับบ้าน ก่อนจะเดินไปยังห้องนั่งเล่น เก็บอัฐิของแม่ไว้บนหิ้ง แล้วเดินเข้าห้องนอน ผมนั่งลงบนเตียง อยากหลับเต็มที เห็นทีวันนี้ต้องหลับให้ได้ แม้จะไม่อยากหลับก็ตาม ผมนอนลงพยายามข่มตาหลับ...แม่เป็นคนอัธยาศัยดี แต่ผมกลับมืดมนเสียจนหลายคนกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ เคยสงสัยเหมือนกันว่าเหมือนใคร ตอนนี้...ผมว่าผมรู้แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2014 12:01:08 โดย Death Y »

ออฟไลน์ Cockroach

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: MAFIA'S DANGER [บทนำ]
«ตอบ #2 เมื่อ25-04-2014 21:34:25 »

โดน!!ชอบมากจ้า แล้วจะรอดูตอนต่อๆไปนะ นั่นคุณพ่อ??

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
   ผมตื่นสาย อาจเป็นเพราะไม่ได้นอนมาหลายวันหรืออาจเป็นเพราะไม่มีคนคอยปลุกเหมือนแต่ก่อน  ตั้งแต่แม่จากไป บ้านดูใหญ่ขึ้นและเงียบเหงามากกว่าเดิมหลายเท่า  ผมคงเข้าคลาสแรกไม่ทัน เพราะกว่าจะได้ออกจากบ้านก็เที่ยงแล้ว ผมรีบตรงไปที่โรงอาหารเพราะพวกทัศคงกำลังกินข้าวอยู่ที่นั่น

   “อ้าว คิม กูนึกว่าวันนี้มึงจะไม่มาเรียนซะอีก มึงหยุดก็ได้นะที่จริง เพราะอาจารย์แกก็ไปงาน แกยังบอกให้กูแวะไปหามึงหลังเลิกเรียนอยู่เลย”ไอทัศพูด พร้อมกับยื่นน้ำโค้กที่มันกินอยู่มาให้ผม ผมเองก็ไม่ขัดศรัทธา กินของมันจนหมดแก้วจนมันตบหัวให้ป๊าบนึง

    “ไอนี่ ปกติก็พูดน้อยอยู่แล้วนะมึง เอา กูให้”ไอเป้ เพื่อนผมอีกคนนึง เป้มันเป็นนักฟุตบอลมหาลัย หล่อ เท่ห์ สมาร์ทแบบที่สาวๆ ชอบ แต่มันเป็นพวกอ่อนไหวนะผมว่า แบบบางทีก็รั่วเกิน แต่ก็นับว่าเป็นคนดีใช้ได้เลยทีเดียว มันยื่นนมสตอร์เบอร์รี่กับขนมนมเนยต่างๆที่พวกแฟนคลับมันเอามาให้มาให้ผม  ผมก็รับไว้หมดเพราะตั้งแต่เช้ามายังไม่ได้กินอะไรเลย

   “แล้วนี่เย็นนี้มึงจะไปทำงานมั้ย”ไอเอกถามผม มันทำงานที่ร้านอาหารหลังเลิกเรียนที่เดียวกับผม

   “ทำ”ผมตอบ

   เมื่อกินเสร็จพวกเราก็เดินไปเข้าชั้นเรียนกัน แต่ผมรู้สึกเหมือนมีใครมองอยู่ เลยหันไปดู แต่ก็ไม่เจอใคร บางทีผมอาจรู้สึกไปเอง หรือบางทีอาจเป็นแม่ที่ยังเป็นห่วงผมอยู่  ...แม่ครับ ผมไม่เป็นไร ผมจะต้องอยู่ให้ได้ครับ ผมรักแม่นะครับ
   
   คาบบ่ายเป็นวิชาภาษาอังกฤษ ผมเรียนคณะอักษรศาสตร์ของมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ผมอยู่เอกญี่ปุ่น แต่ผมพูดได้หลายภาษาเพราะความชอบส่วนตัวด้วย ผมพูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และจีนแมนดารินได้ แต่ที่ชอบมากที่สุดคือญี่ปุ่น อาจเป็นเพราะผมเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นและอยู่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่เกิด จนอายุ 9 ขวบ ตอนที่เกิดเรื่องแล้วย้ายตามแม่กลับมาไทย แต่แม่ก็อยากให้ผมฝึกภาษานี้ไว้ เพราะเป็นมันเป็นภาษาเกิดผม และเป็นภาษาของพ่อ  แม่ไม่เคยเกลียดพ่อ...ไม่เคย

   “พ่อรักแม่นะ”

   ผมสะบัดหัวเพื่อไล่ภาพไร้สาระออกไป และตั้งใจเรียน อาจารย์เองก็ถามสารทุกข์สุกดิบผมบ้างตามประสา ก่อนจะสั่งการบ้านหฤโหดเหมือนอาจารย์ผู้อ่อนโยนที่นั่งเช็ดน้ำตาผมในงานศพไม่เคยมีอยู่จริง

   “คิม มึงเก็บของเสร็จยัง”ทัศมันหันมาหาผม ผมเก็บของเสร็จพอดี

   “อืม”

   “มึงพารถมาใช่มะ”

   “พามา”

   “เออ กูขอติดรถมึงกลับด้วยดิ ทางไปร้านอาหารมันผ่านหน้าบ้านกู”

   “มึงขับนะ”

   “เออ”

   เป็นอันว่าวันนี้ผมกับทัศนั่งรถไปร้านอาหารด้วยกัน ส่วนมันก็ลงกลางทาง ไอเอกมันก็ขับรถมาติดๆ ตอนแรกไอเป้มันจะมาด้วย แต่น้องน้ำฟ้าแฟนมันโทรมานัดทานเข้าก่อน มันเลยชวดไป ส่วยไอทัศมันกลับบ้านเสร็จแล้วมันก็ตามมาที่ร้าน ผมทำงานที่ร้านอาหารเป็นพนักงานเสิร์ฟ เจ้าของร้านคือคุณโจ เขารู้จักกับแม่ แม่ผมเลยฝากผมเข้าทำงานเพราะตอนแรกผมจะไปทำในผับ อย่างที่รู้ว่าจะทำงานกลางคืนถ้าไม่ทำที่ผับแล้วจะทำที่ไหน แต่แม่บอกว่ามันไม่ปลอดภัย เลยฝากผมทำงานกับน้าโจ ร้านนี้เป็นร้านอาหารไทยขึ้นชื่อที่เปิดถึงเที่ยงคืน ผมเข้ากะตอน 4 โมงเย็น เพราะดูตารางเรียนแล้วผมสามารถทำงานเวลานี้ได้  ที่นี่จะมีวงดนตรีของไอทัศกับไอเป้และเพื่อนที่คณะอีกสองสามคนมาเล่นเป็นบางวัน บางวันก็เป็นวงอื่น อีกอย่างที่นี่ไปบ้านผมก็ไม่ไกลมากนักด้วย แม่เลยสบายใจ

   “มาเร็วนะคิม ไอเอก น้านึกว่าเราจะหยุดซะอีกวันนี้”ประโยคแรกน้าโจพูดรวมๆ แต่ประโยคหลังหันมาพูดกับผม
   “ทำไมสองมาตรฐานงี้อ่ะ”ไอเอกโวยวาย

   “เอ็งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย ข้าจะคุยกับหลานข้า” แกเอ่ยปากไล่ ไอเอกเลยออกไปอย่างรู้งาน

   “มานั่งนี่ก่อนมา” แกเลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่ง ผมเองก็เกร็งๆ เพราะน้ำเสียงแกจริงจังน่าดู

   “มีอะไรรึเปล่าครับน้าโจ”

   “เรื่องเรานั่นแหละ คิม ก่อนแม่เราตาย แม่เราฝากฝังเราไว้กับน้า น้าเองก็ไม่มีลูก มีแต่แกคนเดียวแหละ น้าเลยคุยกับเมียน้า เรื่องที่จะรับเลี้ยงแกเป็นลูกบุญธรรม คิมมาอยู่กับน้านะ”น้าโจพูดพร้อมกับจับไหล่ผมเบาๆ

   “ผมว่าอย่าเลยครับ ผมเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร ผมอยู่คนเดียวได้ครับ”

   “แต่น้าว่าเราควรมาอยู่กับน้านะ ไหนจะเรื่องค่าเล่าเรียน เมื่อก่อนแม่เรายังทำงานหาเงินมาจ่ายค่าบ้านค่าน้ำค่าไฟ และเรื่องอาหารการกิน แต่ตอนนี้เราเหลือตัวคนเดียวแล้ว จะไปหาเงินมาจากไหน”

   “ผมจะจัดการเรื่องนั้นเองครับ น้าโจไม่ต้องเป็นห่วง”ผมปฏิเสธเสียงแข็ง

   “น้าอยากให้เราเก็บไปคิดก่อน ไม่ต้องตอบตกลงตอนนี้ คิดให้ดีๆนะ น้าน่ะรักเราเหมือนลุกคนนึง น้างามเมียน้าเองก็เหมือนกัน”
 
   “ครับ”ผมตอบก่อนจุกเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  นี่ก็เป็นความจริงอันโหดร้ายอีกเรื่องหนึ่ง บ้านของผมเป็นบ้านที่ยังผ่อนธนาคารไม่เสร็จ ปกติแม่จะดูเรื่องค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายจิปาถะ ผมทำงานหาเงินเรียน เงินเหลือก็จะมาช่วยแบ่งเบาภาระแม่ แต่ตอนนี้ไม่มีแม่แล้ว ผมคงต้องหางานทำเพิ่ม

   ผมทำงานไปเรื่อยๆ เหมือนเดิม เสิร์ฟอาหารไป ตอน 6 โมงเย็นก็ผลัดกับเพื่อนมาทานข้าวเย็น พอทานเสร็จก็ออกมาทำงานต่อ ตอนนั้นเองที่ผมสังเกตเห็นว่าตรงมุมวีไอพีของร้านที่จะมีผ้าม่านบางๆ กั้นไว้ ถูกจับจองด้วยชายชุดดำหลายคนที่ยืนและนั่งอยู่บริเวณรอบ ส่วนคนที่นั่งทานอาหารอยู่นั้น ผมคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี

   “ไอคิม นั่นมันคนที่ไปงานศพมึงนี่หว่า แม่มึงรู้จักเขาด้วยเหรอ มึงเองเถอะ รู้จักมะ น่ากลัวชิบหาย อย่างกะมาเฟีย”ไอเอกมันเดินมากระซิบกับผม

   “รู้จัก แค่คนรู้จัก”ผมตอบก่อนจะเดินไปทำงานตามปกติ ไม่สนใจใยดีอะไรทั้งนั้น
   

   ผมทำงานเสร็จตอนเที่ยงคืน แต่คนที่นั่งอยู่นั้นก็ไม่ได้ย้ายก้นไปไหนเลย พวกบอดี้การ์ก็ยืนเหมือนมีหมุดตรึงเท้าไว้อยู่ตรงนั้น ผมเดินไปเช็คบิล แพงเอาการอยู่เพราะโซนนั้นเขาคิดค่านั่งด้วยรายชั่วโมง แน่นอนว่าเขาจ่ายไปเต็มๆ 8 ชั่วโมง  ผมขับรถกลับบ้าน เขาเองก็ขึ้นรถกลับไปเหมือนกัน

   แต่อยู่ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซเมาเทียบผมและถีบรถผมล้มลง ก่อนมันจะจอดรถใกล้ๆ ผมแล้วเดินลงมาพร้อมเอามีดขู่ผม

   “เอาเงินมา มึงเอาเงินมาให้กู นาฬิกานั่นด้วย ถอดมาให้หมด”มันถือมีดชี้หน้าผม แกว่งไปมา ผมหยิบเงินในกระเป๋าตังค์ให้มัน ก่อนจะถอดนาฬิกาออกให้ เงินมีสองสามพัน นาฬิกานั่นก็ของปลอม ตอนนี้ผมสนใจแค่มีดที่อยู่หน้าผมเท่านั้น ผมไม่เก่งบู๊หรอกนะ ไม่อยากลองของตอนนี้หรอก แต่ถ้ามันจะแทงผมจริงๆ ก็คงต้องตามไปอยู่กับแม่แล้ว ผมได้แต่ภาวนาให้มันไม่กล้าพอ และโชคดี พอมันได้เงินเสร็จมันก็เก็บมีดแล้วก็เดินมาซ้อมผม แตะผมที่หัวทีหนึ่งก่อนจะซ้ำหนักๆ ที่ท้องและหน้าอก พผมกระอักเลือดออกมาสักสองสามทีผมก็แกล้งสลบ มันเลยรามือแล้วขึ้นรถหนีไป ผมจำป้ายทะเบียนแล้วนอนสักพักให้หายจุก โทรเรียกไอทัศเพราะบ้านมันใกล้สุด

   “ทัศ”

   (ไง โทรมาซะดึกเลยนะมึง ถึงบ้านยัง)

   “โดนจี้ อยู่ซอบเปลี่ยวทางกลับบ้านกู”

   (ไอเหี้ย มึงเป็นไงบ้าง มันไปยัง มันทำอะไรมึง!!!!)

   “มันไปแล้ว กูโดนซ้อม ขับรถไม่ไหว มึงมารับกูหน่อย”

   (เออๆ นี่กูขับอกมาแล้ว มึงรอกูแปปนึงนะไอคิม)

   พูดจบมันก็วางสาย สักพักก็เห็นรถมันบึ่งมาทางผม มันกรีบวิ่งหน้าตั้งมาด้วยความตกใจ

   “โอ๊ย ไอสัด มึงจำหน้ามันได้มั้ยวะ กูคันตีนชิบหาย เย็นขนาดนี้มึงนอนให้มันเอามึงอย่างเดียวเลยซิท่า”มันบ่นก่อนจะช่วยพยุงผมขึ้น ส่วนรถผมมันก็ลากไปข้างทาง 

   “เดี๋ยวกูพามึงไปส่งบ้านก่อน แล้วเดี๋ยวกูเวียนมาเก็บรถมึงให้”

   “อืม”

   มันแบกผมขึ้นรถมันก่อนจะขับพาผมมาส่งบ้าน มันหยิบอ่างน้ำกับผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าให้ผม

   “เดี๋ยวกูทำเอง”

   “ให้กูทำให้เหอะ ไอห่านิ แรงจะยกผ้ายังไม่มีเสือกทำอวดเก่ง”มันว่า มนเช็ดหน้าผมเบามากๆ ก่อนจะบิดผ้าลงอ่างน้ำ และทำความสะอาดบางแผลให้ผม ผมมีเจ็บบ้างซี๊ดบ้าง ก็จะร้องโอยๆ เหมือนเจ็บเสียเองแล้วก็ขอโทษขอโพยผมใหญ่  พอทำแผลเสร็จมันก็พาผมไปนอนในห้อง

   “เดี๋ยวกูไปเอารถให้มึงแล้วเดี๋ยวมานอนเป็นเพื่อน”

   “ไม่ต้องหรอก”

   “มึงอย่ามาโลกส่วนตัวตอนนี้ พรุ่งนี้มึงระบมแน่ ใครจะดูแลมึง แล้วไม่ต้องเสือกไปมหาลัยเลย เดี๋ยวกูโทรไปลาอาจารย์ให้ แกรักมึงจะตาย เผลอๆ จะวิ่งมาหามึงด้วยซ้ำ”

   มันพูดถึงอาจารย์อากาโอะที่สอนภาษาญี่ปุ่น แกเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นเหมือนผมแต่อยู่ญี่ปุ่นมาตลอดชีวิต พึ่งกลับมาไทยเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว แกได้สามีไทยน่ะ ผมมักจะได้คะแนนเป็นอันดับท๊อปของคลาสเสมอในวิชาแกและวิชาอื่นๆ อีกด้วย ทำให้ถึงแม้ผมจะมีอัธยาศัยไม่ค่อยดี แต่ไม่เคยเสียมารยาทกับอาจารย์คนไหนเลย พวกแกเลยค่อน้างจะชอบผมเป็นพิเศษ กับแม่ผมแกก็รู้จัก แลมักจะบอกข่าวคราวทุนการศึกษาให้ผมเสมอ

   มันออกไปเอารถให้ผม ผมเองก็เผลอหลับไปเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดที่มันเอาให้กินก่อนไป

   ผมตื่นขึ้นมาก็เกือบเที่ยงแล้ว ไอทัศก็ยังนั่งหน้าสลอนดูทีวีในห้องนอนผม

   “มึงไม่ไปเรียนรึไง”

   “จาร์ยให้กูหยุดเฝ้าไข้มึง ฮ่าๆๆๆโชคดีชิบหาย”

   “ไอสัด”

   “หิวข้าวยังมึง”

   “อืม”

   “ไปๆ กูทำข้าวต้มให้แล้ว มา เดี๋ยวกูพยุงมึงลงไป” แล้วมันก็พยุงผมไปกินข้าว รู้สึกเหมือนว่าเลือดเมื่อวานที่ออกมาจากปากผมไม่ใช่กะอักเลือดจากเครื่องใน แต่เป็นเพราะปากผมแตกตอนมันเตะหน้าผม ที่ท้องกับอกก็แค่พกช้ำ แต่รอยช้ำชัดมากเพราะผมมีผิวขาวเหมือนคนญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจะเจ็บอยู่มาก แต่ผมก็พอจะทนไหว  ผมเลยบอกมันว่าผมจะไปทำงานตอนเย็น มันไม่ยอมท่าเดียว แต่ผมก็ดึงดันจนมันยอมแพ้

   ตอนเย็นมันมาส่งผมที่ร้านน้าโจ ทั้งน้าโจและไอเอกรวมถึงเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ต่างตกใจกันใหญ่ น้าโจบอกว่าจะพาผมไปแจ้งความ แต่ผมขี้เกียจตอบคำถามตำรวจ อีกทั้งเงินนั่นก็ไม่ได้มากมายอะไร ผมไม่อยากวุ่นวายเลยบอกปัดไป แต่น้าโจไม่ยอม ผมเลยเดินหนีไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไอเอกเดินตามมา ก่อนจะถามสารทุกข์สุกดิบผมและหยิบตลับสีขาวออกมาจากกระเป๋ามัน

   “เวลากูมีเรื่องชกต่อยแล้วได้แผลมา ถ้าโผล่ไปที่บ้านอย่างนี้เดี๋ยวพ่อกูจะประเคนตีนเพิ่มมาให้ กูเลยซื้อไอนี่มาจากไอเจ มันคล้ายๆ รองพื้นของผู้หญิง จะช่วยปดรอยได้อยู่ แต่ของมึงอาจปิดได้ไม่มากเท่าไหร่ เพราะรอยแผลมันก็มี อาจจะเห็นๆ บ้าง แต่ไม่น่ากลัวเท่าตอนนี้หรอก”ไอเอกมันพูดพลางทาแป้งนั่นให้ผม

   ผมบอกได้เลยว่าถึงแม้ชีวิตผมจะอาภัพ แต่ผมมีแม่ที่ดี มีเพื่อนที่ดี พวกมันทุกคนรวมทั้งไอเป้ต่างรักและเป็นห่วงผม ผมโชคดีที่เป็นเพื่อนกับพวกมัน

   “ทำไมมึงมองกูอย่างนั้นอ่ะ สายตาชวนขนลุกชิบหาย มึงคิดไรกับกูรึเปล่าเนี่ย”มันรีบยกมือมาปิดอกตัวเอง
   ผมเลยกอดหมับเข้าให้

   “ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”


   ผมทำงานเหมือนเดิม แป้งนั่นได้ผลดี แม้จะเห็นรอยบ้าง แต่ไม่ชัดมากนัก ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะไม่ค่อยเห็น แต่ผมคิดว่าเขาเห็น เขามานั่งที่โซนนั้นเหมือนเดิม เวลาเดิม ตอนแรกที่ผมต้องไปรับออร์เดอร์ที่โต๊ะเขา เขาจ้องผมเขม็งก่อนจะก่อนจะจับผมไว้ แล้วสำรวจหน้าผม ผมผงะอย่างตกใจ

   “ปล่อย”

   “ไปโดนอะไรมา”

   “.....”

   “.....”

   “โดนจี้”

   “มันเป็นใคร”

   “ไม่รู้”

   “จำอะไรได้บ้าง”

   “ป้ายทะเบียน”

   “บอกมา”

   เขามองผมอย่างคาดคั้น ตาดุๆสีดำสนิทเหมือนหุบเหวนั่นจ้องมองมาที่ผมนิ่งและหนักแน่น ผมไม่เคยเจอสายตากดดันแบบนี้มาก่อน ไม่มีใครมีสายตาที่ทรงอำนาจอย่างเขา ผมหลบสายตาเขาก่อนจะบอกป้ายทะเบียนรถไป เขาหันหน้าไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา ก่อนที่คนคนนั้นจะเดินออกไป

   น้าโจเดินเข้ามาที่โต๊ะ แกมองผมอย่างสงสัย เขาเลยปล่อยมือจากผม แล้วไล้ปลายนิ้วที่แผลบนหน้าผมก่อนจะปล่อยผมไป เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขากดรับสาย แต่ไม่ได้พูดอะไร สักพักเขาก็เดินออกไป บอดี้การ์ดของเขาก็ออกไปหมด

   “คิม ตามไปเจอน้าที่ห้องหน่อย”

   น้าโจพูดก่อนจะเดินออกไป ตามเดินตามไป คนในร้านหลายคนมองตาม เพราะม่านแค่กั้นไว้ แต่ก็พอจะเห็นเหตุการณ์รางๆ พอไปถึงห้องทำงาน น้าโจกดไหล่ผมให้นั่งลง

   “เขาเป็นใคร”

   “แค่คนรู้จักครับ”

   “แค่คนรู้จักไม่ทำขนาดนี้หรอก เขามานั่งเฝ้าเราตลอดเวลาอย่างนี้ ไหนจะลูกน้องเขาอีก ข้างในแค่นั้น ข้างนอกนี่เป็นสิบๆ เขาเป็นใครกันแน่ เจ้าหนี้เรารึเปล่า เราไปทำอะไรแบบนั้นรึเปล่าคิม คิมมีอะไรคิมบอกน้าได้นะ”

   “.....”

   “เขาเป็นใคร”

   “เขาเป็นพ่อผมเองครับ”

   “เขาทำงานอะไร ดูแล้วไม่น่าจะใช่คนไทยเพราะยังพูดไม่ค่อยชัด เขาเป็นคนสำคัญเหรอ ถึงได้มีคนคุ้นกันขนาดนั้น ดูแล้วไม่น่าจะใช่คนธรรมดาเลย”

   “เขาไม่ใช่คนไทยครับ และ...เขาเป็นมาเฟีย”

   น้าโจทำหน้าตกใจ แต่แกค่อนข้างจะรับราวเรื่องต่างๆ ได้ดี และเหมือนเขาจะเดาคำตอบได้อยู่บ้างเลยไม่ได้ตกใจมากไหร่นัก พอแกทำใจได้ แกก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ก่อนะยิ้มนิดๆ ที่มุกปาก

   “งั้นเราก็เป็นคุณหนูมาเฟียงั้นซิ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2014 14:09:06 โดย Death Y »

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ติดตามครับ  :L2:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
ติดตามจ้าาา  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Cockroach  :  นั่นคุณพ่อจ้า
nunnan      : ขอบคุณที่ติมตามจ้า
★KVH™★  : ขอบคุณที่ติดตามเหมือนกันจ้า

มีอะไรก็ติชมกันได้นะจ๊ะ  ตอนนี้ยังพึ่งเริ่มเรื่อง ยังต้องเท้าความกันก่อน ส่วนคุณพ่อกับคุณลูกจะเหมือนกันแค่ไหนเอา ติดตามดูนะจ๊ะ ส่วนพระเอกของเรื่องจะโผล่มาเมื่อคุณพ่อง้อน้องคิมเสร็จแล้วจ้า

ออฟไลน์ duck-ya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
นิ่งมากแต่อ่านแล้วอินอ่ะ
พ่อจะง้อยังไงเนี่ย
อยากรู้จักพระเอกแล้ว ลุ้นๆ
ติดตามจ้าา
 o13

ออฟไลน์ zaszaq

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
ตามมาติดๆๆ  :hao3: เพราะ รอค่ะติดตาม


 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ beamintron

  • บีมๆ BMs / l3eamRessT
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ตามๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากให้พ่อจิ้นลูกจัง

5555+ ร้ายกาจจริงเรา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Cockroach

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อร้ากกก ชอบๆว่าแต่พระเอกจะออกตอนไหนจ๊ะ555 รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคร้าบ>.,<

ออฟไลน์ kururu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-3
นายเอกแลดูมืดมนจัง แต่ก็เข้มแข็งดี รอตอนต่อไปจ้าาา

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
สนุกครับ
ท่าทางจะมีเรื่องราวอีกเยอะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ knightprince

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เปิดเรื่องมาก็ชอบเลยคะ ติดตามด้วยคน ชอบคุณพ่ออะ ออกมาพูดนิดเดียว ก็หลงละอะ
ใครจะเป็นพระเอกเนี่ย อยากเจอละๆๆๆๆ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ลูกมาเฟียซะด้วย คึคึ
รอติดตาม


ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :m28: ตอนนี้อยากจะรู้ว่า ทำไมพ่อกะแม่ของคิมถึงเลิกกัน

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สนุกๆ คิมนี่นิ่งแล้วก็เงียบๆมากเลยนะคะ  ต่อไปจะโดนพาไปอยู่ในแก๊งที่ญี่ปุ่นมั้ยน้อออ :hao7:

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
555 ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจจ้า

แต่ขอบอกว่าพ่อลูกกันแท้ๆ จ้า 555

ส่วนพระเอกจะออกมาอีก 2 ตอนข้างหน้า

เดี๋ยวก็จะไปญี่ปุ่นแล้วนะจ๊ะ

ปล. ตอนนี้กำลังปั่นตอนที่ 2 อยู่ ถ้าเอามาลงทันจะลงให้วันนี้นะค่ะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
พระเอกจะมาตอนไหนเนี่ย คุณพ่อดูรักคุณลูกดีนะ แต่จะทำยังไงเพราะคุณลูกคงไม่ให้อภัยง่าย ๆ แน่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
อุต่ะ ดูจากที่คนเขียนสปอยมา

พ่อลูกเค้ามีเรื่องราวในอดีตแน่ๆ เลย (มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แล้วฉันจะสงสัยอะไรเนี่ย555)

แล้ว คุณพ่อ จะง้อ คิม ยังงัยเนี่ย มันต้องน่าดูมากแน่ๆ

ก็มาเฟียเค้าง้อลูกเลยนะ

555

ออฟไลน์ GoodNice

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ จ๊ะจ๋า

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 o13

ชอบอ่า!!!

รอติดตาม

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
รอติดตามจ้า   :mew1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
รอคุณหนูมาเฟียด้วยคนจ้า

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
บทที่ 2 จุดประสงค์และอดีต
   
   วันต่อมา ผมมาทำงานเหมือนเดิม วันนี้วงดนตรีของไอเป้กับไอทัศก็มาแสดงที่ร้านน้าโจด้วยวันนี้  ส่วนเรื่องพ่อของผม ตอนนี้เขารู้กันทั้งร้านแล้วว่าพ่อผมเป็นใคร แต่น้าโจขู่จะไล่ออกถ้าเอาเรื่องไปแพร่งพราย หลายคนเลยไม่ค่อยอยากจะยุ่งด้วย  หลายคนไม่กล้าเข้ามาคุยกับผมหรือไปเสิร์ฟที่โต๊ะนั้นอีก หน้าที่นั้นเลยตกเป็นของผมไปโดยปริยาย

   “มึงรู้ยังว่าไอกันต์ จิ๊กโก๋หลังซอยมันไม่รู้ไปฟัดกับใครที่ไหนมา ป้าน้อยแม่มันร้องห่มร้องไห้พามันไปโรงพยาบาล เห็นบอกว่าซี่โครงซีกขวาหัก ฟันนิร่วงเกือบทั้งปาก คิวแตก แถมแขนกับขานิต้องเข้าเฝือกทั้งสองข้างเลยนะเว้ย”

   “จริงเหรอวะ มันไปมีเรื่องกับใครวะ เขาถึงได้เล่นมันขนาดนั้น หรือมันไปจี้โดนของจริงเข้าให้”

   “กูไม่รู้ แต่ก็ดีแล้ววะ มันติดยา ชอบจี้ปล้นชาวบ้านเขาไปทั่ว จับส่งตำรวจมาก็หลายครั้งแล้วมันก็ยังไม่เข็ด เจอเสียบ้างจะได้หลาบจำ” เสียงของพนักงานคนอื่นๆ ในร้านคุยกันเบาๆ อยู่หลังแคชเชียร์ ผมเดินไปเสิร์ฟน้ำที่โต๊ะเขาก่อนจะเดินออกไปหาไอทัศและไอเป้ที่หลังเวที  ผมรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก เรื่องนี้เกี่ยวกับผมรึเปล่า แต่ไม่แน่นะ อาจจะไม่ใช่คนเดียวกับที่ปล้นผมก็ได้ แต่สังหรณ์ใจยังไงไม่รู้แหะ

   “ไง ไอคิม โดนยำตีนมาเหรอ โห หน้าหมดสวยเลย”

   “หุบปาก ไอเป้”

   “สัด กูไม่ใช่หมา”

“ไปคาบมา” ผมโยนผ้าเช็ดกีตาร์ของมัน มันก็บ่นผมหน่อยๆ แล้ววิ่งไปเก็บ เพื่อนมันหัวเราะ ไอเป้มันเป็นมีกีตาร์ ไอทัศเป็นมือกลอง ส่วนนักร้องนำกับมือเบสผมไม่รู้จักชื่อ

“แผลมึงเป็นไงบ้าง พอจะทุเลาลงบ้างมั้ย เอานี่ แม่กูเขาทำผัดเผ็ดหมูมาฝากมึง เห็นมึงชอบกินของเผ็ดนักนี่”มันโยนถุงผัดเผ็ดมาให้ผม ผมเอาไปเก็บไว้ที่ล็อกเกอร์ก่อนจะกลับมาหามัน

   “ไม่ค่อยเจ็บแล้ว ฝากขอบคุณแม่มึงด้วย”

   “เออ กูพึ่งรู้จากไอเอกว่าพวกที่เจอตอนงานศพเป็นพ่อมึง”มันลากผมมาไกลจากคนอื่นก่อนจะกระซิบคุยกันเบาๆ

   “อืม”

   “กูควรจะโกรธมั้ยที่กูไม่รู้ และพอได้รู้ก็รู้จากปากคนอื่น”

   “คนนั้นพ่อกู”

   “ไม่ต้องมาเล่นลิ้นกับกู มึงอย่าให้กูโกรธมึงจริงๆ นะ”

   “มึงไม่เคย”

   “สัด มึงอย่ามา เดี๋ยวกูจะโกรธจริงๆ ก็คราวนี้แหละ มีไรไม่ยอมบอกกู เรื่องมึงกับแม่ กูก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องในครอบครัว แต่ถ้ามึงไม่ระบายออกมาบ้าง กูจะแช่งให้มึงอึดอัดตาย”ไอทัศเอ่ยอย่างอาฆาต น้ำเสียงทีเล่นทีจริง

   “ไม่ใช่ไม่อยากบอก แต่ไม่มีโอกาสดีๆ แล้วก็ขี้เกียจบอกด้วย”

   “คราวนี้กูอยากรู้จริงๆ มึงก็รู้ว่าเขาตามมึงตลอด วันนี้ที่มหาลัยกูก็เห็นเขาที่ลานจอดรถ”

   “กูไม่รู้ว่าเขาไปที่มหาลัยด้วย”ผมตกใจเล็กน้อย

   “ไม่ใช่ที่แค่มหาลัย เมื่อวานกูออกไปซื้อข้าวเซเว่นตอนเที่ยงคืนกว่าๆ กูผ่านหน้าร้านแล้วเห็นว่ามึงกลับแล้วกูก็ไม่ได้แวะรับ แต่เผอิญกูเห็นหลังมึงไวๆ ตอนมึงขี่รถกลับบ้าน กูกำลังจะขับไปเทียบ เหลือบไปเห็นฟอร์จูนเนอร์สีดำตามหลังมึงหยุดกะทันหัน แม่งโบกรถกู เรียกให้กูจอด กูเองก็พอคุ้นๆ หน้าเขาว่าเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างพ่อมึงตลอดเลยถามเขาทำเรียกทำไม เขาเองก็คุ้นหน้ากู เลยบอกให้กูไปต่อ ไม่มีอะไร ...กูว่าเขาคงส่งให้ลูกน้องเขาตามคุ้มกันมึง”

   “เขาจะทำแบบนั้นทำไม”ผมตอบอย่างไม่เข้าใจ ช่วงสามสี่วันนี้เขาก็มาเฝ้าดูผมตลอด แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ผมบอกตามตรงว่าไม่รู้จุดประสงค์ของเขา

   “กูก็ไม่รู้ แต่ถ้าตามปกติแล้ว กูคิดว่าเขากำลังง้อมึงอยู่นะ”

   “ง้อเหี้ยไร ไม่เห็นพูดกับกูสักคำ”

   “เหมือนมึงแหละสัด ตอนมึงง้อกูที่กูโกรธที่มึงไม่ยอมไปดูหนังกับกู มึงก็ตามกูไปซ้อมดนตรี นั่งรอจนกูซ้อมเสร็จ แล้วก็ยื่นตั๋วหนังรอบเย็นวันนั้นให้กู ครั้นกูจะงอนมึง ปฏิเสธมึงก็ทำไม่ลงเพราะยังไงมึงก็ซื้อตั๋วมาแล้ว อารมณ์เดียวกับพ่อมึงตอนนี้ไง”

   “ง้อไปก็เท่านั้น กูไม่ได้โกรธเขา”ความเฉยชาที่เขาให้แม่ ผมจะสนองมันให้เขา

   “มึงไม่โกรธ มึงก็ออกไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องซิวะ”

   “กูไม่มีอะไรจะคุย”

   พูดจบผมก็เดินออกมาเลย ผมรับผิดชอบเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะเขา แต่เรื่องจิ๊กโก๋ที่จี้ผมก็ยังกวนใจผมอยู่ เมื่อวานเขาออกไปก่อนร้านปิดหลังจากถามป้ายทะเบียนรถ ผมกังวลว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ผมคงต้องเดินไปถามเขา

   ผมเดินมาที่โต๊ะเขา เอาน้ำมารินเสิร์ฟ

   “เมื่อวานมีจิ๊กโก๋หลังซอยโดนทำร้าย”

   “.....”

   “ใช่คนเดียวกับที่จี้ผมรึเปล่า”เขามองหน้าผมก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

   “ฝีมือคุณรึเปล่า”

   “ใช่”

   ผมกำเหยือกน้ำแน่น

   “คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นอีก แล้วก็ไม่ต้องส่งใครตามผมด้วย แล้วคุณเองก็เลิกมาที่ร้านนี้ได้แล้ว คนอื่นเขาทำงานลำบาก”

   “ไม่”

   ผมพยายามสงบสติอารมณ์ เขาทำแบบนี้ทำไม เขาต้องการอะไร

   “อย่ามายุ่งกับผม!!!”ผมพูดก่อนเดินออกมา เขาจะกลับเข้ามาในชีวิตผมอีกทำไม ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ เขาทิ้งผมกับแม่ไปเมื่อ 13 ปีก่อนแท้ๆ เขาเป็นคนทิ้งพวกเราก่อนแท้ๆ แล้วพอมาวันนี้ เขากลับมาทำไม เขาต้องการอะไรจากผมกันแน่!!!


   หลังจากวันนั้นผมไม่คุยกับเขาอีกเลย โต๊ะเขาผมก็ให้ไอเอกไปเสิร์ฟแทน  เรื่องผ่านมาได้สองอาทิตย์ ทำให้ผมได้รู้อีกเรื่องนึงก็คือ เขาจับตาดูผม 24 ชั่วโมง ที่มหาลัยเขาจะให้ลูกน้องเขาไป ที่ร้านอาหารเขาจะมานั่งทุกวันเวลาเดิม ที่เดิมจนคนในร้านชินกันไปหมดแล้ว ส่วนตอนผมกลับบ้านก็จะมีคนคอยตามมาเหมือนเดิม และที่ผมโมโหมากที่สุดคือ หลังจากผมกลับบ้านแล้วจะมีคนคอยเฝ้าอยู่หน้าบ้านตลอด และมีการผลัดเวรกันตลอดคืน เวลาผมออกไปข้างนอกก็มักจะมีฟอร์จูนเนอร์สีดำตามเสมอ ผมไม่อยากจะคุยกับเขาอีก  ผมไม่ได้อ่อนโยนและอ่อนไหวเหมือนแม่ขนาดเจ็บแค้นแทนไอจิ๊กโก๋ที่มันมาจี้ผม ผมแอบสะใจเล็กน้อยด้วยซ้ำ ตราบใดที่มันยังไม่ตาย ผมถือว่าเขาไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ  แต่ที่ผมไม่ชอบก็คือ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเขากำลังต้องการบางอย่างจากผม ผมรู้สึกระแวง มนุษย์ทำทุกอย่างให้คนคนหนึ่งเพราะต้องการสิ่งตอบแทนเสมอ ตอนนี้ที่ผมอยากรู้คือ เขาต้องการอะไร

   อีกเดือนนึงผมจะจบปริญญาตรี  ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ น้าโจแกยอมใจอ่อนกับความหัวดื้อของผม แกเลยเพิ่มเงินเดือนให้ผม โดยที่ผมจะต้องช่วยเก็บร้านและล้างจานรวมถึงงานจิปาถะต่างๆ ในร้าน แต่นั่นเป็นแค่ข้ออ้างในการเพิ่มเงินเดือนนะผมว่า เพราะเก็บร้านทุกคนก็ช่วยกันเก็บอยู่แล้ว ล้างจานก็มีคนที่ทำหน้าที่นี่อยู่แล้ว ผมโดนเรียกใช้น้อยมาก อย่างเช่นในกรณีที่คนล้างจานลาหยุด แต่เงินเดือนที่น้าโจแกเพิ่มให้นี่ซิ รวมๆ แล้วหลายหมื่นเลยทีเดียว แต่ผมก็ไม่ขัดศรัทธาหรอกนะ เพราะตอนนี้ ผมไม่สามารถไปหางานที่ไหนได้อีกแล้ว ผมไม่มีเวลาแล้ว ครั้นจะให้เจียดเวลาเรียนไป ผมก็ไม่อยากให้การเรียนตกลง ผมสัญญากับตัวเองว่าตอนนี้ขอเป็นคนเลวเอาเปรียบน้าโจไปก่อน วันหน้าต้องหาโอกาสทดแทนบุญคุณน้าแกให้ได้

   วันนี้ก็เช่นเคย เขามาทุกวันเลยให้ตายเหอะ วันนี้ไอเอกลาหยุด ผมเลยต้องไปเสิร์ฟโต๊ะเขา

   “อีก 2 วันพ่อต้องกลับโตเกียวแล้ว”

   “ครับ”

   “ไปกับพ่อ”

   ผมเกือบราดต้มยำกุ้งลงหัวเขา นี่ใช่มั้ยคือจุดประสงค์ของเขา คิดจะไล่ก็ไล่คิดจะพากลับก็พูดออกมาง่ายๆ เห็นผมเป็นอะไร แล้วทำไมต้องเรียกกลับตอนแม่ตาย ทำไมต้องมาตอนนี้ รู้รึเปล่าว่าแม่คิดถึงเขาแค่ไหน ...รู้บ้างรึเปล่า

   “ไม่”

   “ให้พ่อได้ดูแลเราบ้าง”

   “แล้วแม่ละครับ”

   “หมายความว่ายังไง”

   “ที่จริง คุณควรจะมาตอนที่แม่ยังอยู่”

   “พ่อ”

   “ผมจะไม่มีวันไปกับคุณ แล้วคุณก็ไม่ต้องมาทีนี่อีก”

   “ที่ให้มาอยู่ที่นี่ เพราะจำเป็น”

   “ผมไม่อยากฟัง”

   “คิม พ่อต้องการลูกนะ”

   “แล้วตอนที่ผมต้องการพ่อ พ่อไปอยู่ที่ไหน!!”ผมเผลอตวาดเขา ทุกคนเงียบกริบ คนในร้านหันมามองผมเป็นตาเดียว ผมรีบเดินไปหลังร้าน นั่งสงบสติอารมณ์ นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ เมื่อ 13 ปีก่อน

ตอนนั้นผมยังเด็ก อายุแค่ 9 ขวบ ผมอาจจำเรื่องราวได้ไม่ดีนัก ความทรงจำขาดๆ หายๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อ ผมจำได้ดี

   เราสามคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ 2 ชั้น 2 ห้องนอน บ้านไม้สีขาวทรงญี่ปุ่นผสมตะวันตก ข้างบ้านมีสวนเล็กๆ และมีบ่อน้ำเลี้ยงปลาคราฟสองสามตัว ทุกอย่างดู...อบอุ่น ผมมักจะเจอพ่อเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แม่บอกผมว่าวันอื่นพ่อจะต้องไปทำงาน มาอยู่กับพวกเราไม่ได้ ทุกเสาร์-อาทิตย์บ้านเราเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ พ่อจะกลับมาพร้อมกับของเล่นและของขวัญสำหรับแม่ ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ แม่ชอบดอกลิลลี่ ลิลลี่สีขาว งดงามและอ่อนโยน ดอกไม้ของแม่ พ่อเลยซื้อลิลลี่มาปลูกเสียเต็มสวน ส่วนผมก็จะได้ของเล่นเด็กผู้ชายจนแม่ต้องสั่งห้ามพ่อไม่ซื้อเพราะมันเต็มบ้านแล้ว  ครอบครัวเราเปี่ยมไปด้วยความสุข จนกระทั่ง...ผู้หญิงคนนั้นมากดออดหน้าบ้านเรา

   วันนั้นเป็นวันจันทร์ หลังจากพ่อออกรถไปได้ 5 นาที ก็มีผู้หญิงในชุดกิโมโนสีสีส้มมายืนกดออดอยู่หน้าบ้าน พอแม่เห็นเธอ ผมเห็นแม่หน้าซีดเผือด แม่บอกให้ผมขึ้นไปอยู่บนห้องและห้ามลงมาเด็ดขาด ผมขึ้นไปเล่นกับหุ่นยนต์บนห้อง จนกระทั่งได้ยินเสียงของตกแตก

   เพล้ง!!!

   ผมตกใจเลยวิ่งลงมา แต่กลัวแม่ว่าเลยแอบดูตรงเชิงบันได

   “แกมันหน้าด้านไร้ยางอาย แกก็รู้ว่าเขามีฉันอยู่แล้วแกยังจะนอนกับเขาได้ลงคอ”ผู้หญิงคนนั้นชี้หน้าด่าแม่ แม่นั่งร้องไห้อยู่บนพื้น ข้างๆซากกรอบรูปของเราสามคน

   “ฉันกับเขาเรารักกันค่ะ เขาไม่ได้รักคุณเลย เขาถูกบังคับให้แต่งงานกับคุณ”แม่พูดปนสะอื้น

   “ถึงอย่างนั้น เขาก็เป็นสามีฉัน ต่อให้เขารักกับแก แต่แกมาทีหลัง แกมันนังผู้หญิงแพศยา”

   หล่อนเงื้อมือจะตบแก้มแม่ ผมเลยวิ่งไปผลักเขาและกอดแม่ไว้

   “อ้อ นี่เองซินะ เด็กคนนั้นน่ะ หึ เป็นลูกชายซะด้วย แกคงหวังจะใช้เด็กคนนี้ไต่เต้าขึ้นมาเป็นเมียอีกคนสิท่า เป็นเด็กผู้ชาย ถ้าฉันไม่มีลูกชาย เด็กคนนี้ก็คงได้สืบทอด ฉันจะไม่มีวันให้มันอยู่ถึงวันนั้นหรอกนะ จำไว้ให้ดี”

   “อย่านะค่ะ อย่าเลยค่ะ ได้โปรด ฉันจะไม่ให้เขาสืบทอดตำแหน่งค่ะ ได้โปรดอย่าทำอะไรเขานะค่ะ”แม่ตัวสั่น ทั้งที่สั่นขนาดนั้นแต่ก็กอดผมไว้แน่น จนผมแทบจะจมไปอยู่ในอกแม่

   “งั้นแกก็พิสูจน์สิ ไปจากที่นี่ กลับประเทศไทยของแกไปซะ”

   “ไม่ค่ะ ฉันจะอยู่กับเขา ฉันจะไม่แยกจากเขาเป็นอันขาด ถ้าจะไล่ฉัน คนไล่ก็ต้องเป็นเขาเท่านั้น ไม่งั้นฉันไม่ไปค่ะ”แม่เงยหน้าตะโกนใส่ผู้หญิงคนนั้น เธอสะแหยะยิ้ม ก่อนจะก้มลงมาบีบหน้าแม่ให้มองหน้าเธอ

   “งั้นแกก็เตรียมตัวเก็บของได้เลย แกกับสามีฉัน จะไม่มีวันได้เจอกันอีก ฉันขอสาบานไว้ตรงนี้เลย ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้แกรู้ว่า ผมกรรมของการเอาสามีคนอื่นมากกไว้ตั้งหลายปี ทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่งี่เง่าที่นั่งรออยู่ที่บ้านเพราะคิดว่าเขาไปทำงาน แต่เขากลับมานอนอยู่กับแก มันทรมานแค่ไหน แกแย่งเขาไปจากฉัน ฉันขอให้แกทุกข์ทรมาณที่ไม่ได้อยู่กับคนที่แกรัก เหมือนอย่างที่ฉันทรมาน ที่ตัวเขาอยู่ที่ฉัน แต่แกขโมยใจเขาไป!!!”หน้าแม่หันไปตามแรงสะบัดมือของเธอ เธอเดินจากไป แม่กอดผมไว้แน่นราวกลับกลัวว่าผมจะหายไป ตอนนั้นผมนั่งเช็ดน้ำตาให้แม่ แต่มันกลับทำให้แม่ร้องไห้หนักขึ้น

   วันต่อมาพ่อมาที่บ้าน ผมตกใจเพราะวันนี้เป็นวันอังคาร ไม่ใช่เสาร์-อาทิตย์ ผมวิ่งไปกอดพ่อ พ่อกอดผมแน่นเหมือนอย่างที่แม่กอด ราวกับมันเป็นกอดสุดท้าย ก่อนจะถามผมว่าแม่อยู่ไหน ผมเลยพาพ่อเดินไปหาแม่ที่ห้องนั่งเล่น พ่อหันมองแม่และผมสลับกัน แม่เดินเข้ามากอดพ่อ เรากอดกันสาม...กอดสุดท้าย

   “คุณต้องกลับไทย”

   “อะไรนะค่ะ”

   “ผมอยากให้คุณกลับไทย”เสียงพ่อสั่น

   “คุณค่ะ ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากให้ฉันไปจริงๆ หรอก ฉันไม่กลัวเธอหรออกนะค่ะ เราจะต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยกัน เหมือนที่เราเคยคุยกันไงค่ะ นะค่ะคุณ คุณอย่าพึ่งยอมแพ้เลยนะค่ะ”

   “ผมไม่ได้รักคุณแล้ว”

   “ฉันจะหนีไปสักพัก รอให้เธอตายใจแล้วเราค่อยกลับมาอยู่ด้วยกันนะค่ะ”

   “ผมไม่รักคุณแล้ว”

   “คุณจะยังสามารถไปหาฉัน เราอาจจะนัดเจอกันบ้างเป็นครั้งคราว แล้วเราก็จะ......อะไรนะค่ะ”

   “ผมไม่รักคุณแล้ว”น้ำเสียงพ่อมั่นคงและจริงจัง สีหน้าของพ่อเหมือนแบกโลกทั้งใบไว้ แววตาเจ็บปวดรวดร้าว

   “ไม่จริง”

   “นี่คือเงินและตั๋วเครื่องบิน คุณจะต้องไปขึ้นเครื่องตอน 4 โมงเย็น เดี๋ยวผมให้คนขับรถไปส่ง”พ่อลุกขึ้นและหันหลังกลับ กำลังจะเดินออกไป แม่รีบวิ่งไปกอดพ่อจากทางด้านหลังไว้

   “ทาเคชิ ที่พูดมานี่ ล้อเล่นใช่มั้ยค่ะ”

   “ผมไม่เคยล้อเล่น”

   “ทาเคชิ”

   “คุณต้องไป เราจบกันเท่านี้”พ่อเริ่มออกเดิน แม่ล้มลงไปกอดขาพ่อไว้

   “คุณค่ะ อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ”

   “ปล่อยผม รินลดา”

   “ไม่รักกันแล้วจริงๆ เหรอค่ะ”แม่ถามทั้งน้ำตา ผมในตอนนั้นได้แต่นั่งงงอยู่บนโซฟา เพราะไม่เข้าใจเรื่องที่พ่อกับแม่พูด
   พ่อไม่พูดอะไร พ่อแกะมือแม่ออกจากขาพ่อ แล้วพ่อก็เดินขึ้นรถไป ทิ้งให้แม่นั่งร้องไห้เพียงลำพัง ผมเองก็รู้สึกได้ถึงอารมณ์ของแม่ จึงนั่งร้องไห้อยู่บนโซฟา สักพัก แม่เดินมาปลอมผม เก็บของทั้งน้ำตา แม่พาของไปไม่มาก ไม่อนุญาติให้ผมเอาของเล่นหรือของใดๆ ก็ตามที่พ่อซื้อให้ แม้แต่กางเกงในก็ไม่ยอม แม่ทิ้งทุกอย่างไว้พร้อมกับความทรงจำ แต่ผมเห็นแม่แอบหยิบกล่องไม้กล่องนึงไป  ผ่านไปหลายปีเมื่อผมพอจะอ่านหนังสือออก  ผมแอบหยิบกล่องไปเปิดดู  ข้างในมีรูปพ่อกับแม่ที่ไปเที่ยวกันที่สวนสนุก และมีดอกลิลลี่ขาว แห้งๆ ดอกนึง ผมพลิกดูข้างหลังรูป มีภาษาญี่ปุ่นเขียนอยู่ว่า

   ------รักและจะเคียงข้างกันตลอดไป------


   หลังจากกลับมาไทย แม่โยนเงินพ่อทิ้งให้ขอทานคนหนึ่งที่เจอ แม่ไม่มีญาติที่ไหน เราหาบ้านเช่าพักกัน จนเมื่อแม่ได้งานทำ เราก็เริ่มหาซื้อบ้านและจ่ายแบบผ่อนเป็นเดือนกับธนาคาร ไม่มีการติดต่อจากพ่อ แม่ก็ไม่เคยพูดถึงพ่ออีกเลย ตอนแรกผมก็ถามบ้าง แต่หลังๆ ชักจะเบื่อที่จะถามแล้วไม่ได้คำตอบ เลยหยุดถามไป

   จนเมื่อปีก่อน ผมพึ่งรู้ว่าแม่เป็นโรคหัวใจ อาจเพราะทำงานหนักและสะเทือนใจจากเรื่องพ่อ ภายนอกแม่เข้มแข็งและร่าเริง อัธยาศัยดีจนใครๆ ก็หลงรักความสดใสของแม่ แต่ข้างในแม่ทุกข์ระทม แม้ว่าจะผ่านไปหลายปี แต่ผมรู้ว่าแม่รักพ่อแค่ไหน ผมคิดว่าแม่คงยังทำใจไม่ได้ ผลออกมาคือแม่ตายอย่างสงบ หลังต้องเข้าไปนอนโรงพยาบาลเพราะหัวใจวายเฉียบพลัน แม่ตายตอนที่ยังหลับอยู่ หมอบอกว่าเธอหลับและหมดลมหายใจไปเลย ตายอย่างสงบ เป็นจุดจบที่เหมาะสำหรับคนดีๆ อย่างแม่

   “ผมรักแม่นะครับ”

   “พ่อรักแม่นะ”

   ผมสะบัดภาพในหัวทิ้งก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน แต่ทันทีที่ผมกำลังจะเปิดประตู รถมอเตอร์ไซด์ก็เข้ามาจอดตรงหน้าผม ชายชุดดำใส่หมวกกันน็อคแบบทั้งหัวสองคนนั่งอยู่บนรถ คนนึงขับ ส่วนอีกคน...หยิบปื่นมายิงผม ผมตกใจ แต่ก่อนจะได้ทำอะไร ผมก็ได้ยินเสียงลั่นไก พร้อมกับประเสียงประตูที่ถูกกระชากออกอย่างแรก

   “คิมมมมมม!!!!!”

   ปัง!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2014 14:09:40 โดย Death Y »

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :serius2: อ๊ากกกก ยิ่งค้างเข้าไปใหญ่

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
นิยายที่อ่านแล้วไม่ค้าง อ่านแล้วเดาทางออก มันจะสนุกอะไระค่ะ

โฮะๆๆๆๆ (คนแต่งโรคจิต)

 :laugh:

ออฟไลน์ e-ga-g

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
 :m16: :m16: :m16:
ไม่น่ามาอ่านเลย
.
.
.
............ค้าง

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :hao5: อาร๊ายอ๊า ใครโดนยิงเป่าอ๊า
ค้างง๊า มาต่อไวเลยๆ  :fire:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด