- 2 -“ห้องเสื้อนี้ชื่อเสียงโด่งดังมาก เซเลบไฮโซใช้บริการอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเริ่มมาฮอตปีนี้ เจ้าของเพิ่งได้รับรางวัลดีไซเนอร์ดีเด่นแห่งปีหมาดๆ” พี่ตาลยังคงการันตีคุณภาพห้องเสื้อ
ที่กลายมาเป็นผู้สนับสนุนหลักของวงบอยแบนด์ดังแห่งยุค
“ตกลงเป็นของใครครับพี่ตาล” พี่เกรย์เร่งเอาคำตอบเสียเอง
“ห้องเสื้อราณี”
“ห๊ะ!...อย่าบอกของแฟนคุณพนม” พี่คมอุทานแบบไม่เก็บอาการ ผมเองก็อึ้งไปครู่พอได้ยินชื่อนี้เข้า
“อืม..ของคุณราณีแฟนคุณพนม คุณพนมกับคุณราณีเขาเสนอขอเป็นสปอนเซอร์ให้วงเราอย่างเป็นทางการ
สัญญาระยะยาวเลยมั้ง” พี่ตาลยืนยันเสร็จ ผมแอบเบนสายตาหันไปจ้องหน้าพี่ร็อค
บัดนี้ยังคงนิ่งไม่แสดงความคิดเห็น หรือกระทั่งออกอาการแต่อย่างใด
“ตกลงพรุ่งนี้พวกเราต้องไปห้องเสื้อราณี” พี่เกรย์ย้ำกำหนดการ
“อืมพรุ่งนี้รถตู้บริษัทฯ จะมารับตอนสิบโมงเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
พี่ตาลกลับไปแล้วตอนสองทุ่มเศษ โดยสรุปว่าหลังจากไปวัดตัวที่ห้องเสื้อเสร็จ
ก็จะพาไปกินอาหารเที่ยงที่ร้านดัง ซึ่งจองห้องวีไอพีเพื่อความเป็นส่วนตัวไม่ให้นักข่าวรู้
ไม่เช่นนั้นคงได้มีแฟนคลับแห่กันไปดักรอเป็นแน่ ทุกความเคลื่อนไหวของศิลปินดัง
มักต้องเก็บเป็นความลับ โดยเฉพาะวงของพวกพี่ Lucky One เป็นข่าวไม่ได้เด็ดขาด
ไม่อย่างนั้นมีสิทธิ์แฟนคลับดักเต็มพื้นที่ หากรู้ว่าพวกพี่เขาจะไปกรากฏตัวที่ไหนเข้าล่ะก็
>
>
>
“พี่ยังไม่นอนหรือครับ” ผมเอ่ยปากถาม หลังกลับออกจากห้องน้ำเพื่อเข้านอน
พี่ร็อคพิงหัวเตียงมือประสานหนุนท้ายทอยอย่างใช้ความคิด
“มึงง่วงก็นอนไปก่อน ปิดไฟได้ไม่ต้องห่วง กูขอคิดอะไรนิดหน่อย”
เสียงพี่เขาฟังเหงาๆ จนจับความรู้สึกได้ไม่ยากนัก
“พี่หนักใจที่จะไปเจอคุณราณี..อดีตแฟนเก่าหรือครับ” ไอ้ป๊อปขอเสือกเรื่องส่วนตัวอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่
“เปล่า..ทำไมกูต้องหนักใจ” ปากแข็งชะมัด
“แน่ใจหรือครับ ตอนบ่ายผมยังเห็นพี่ร่าเริงแกล้งแหย่พี่เกรย์ พี่คมหัวเราะสนุกสนานอยู่เลย
พอรู้ข่าวจากพี่ตาลต้องไปวัดตัวร้านคุณราณี พี่ก็เหมือนไม่มีความสุข จมอยู่กับความคิดแบบนี้มาโดยตลอด”
“หึ!..มึงสังเกตกูขนาดนั้นเชียว แล้วไอ้เรื่องที่กล่าวหากูแกล้งไอ้คม
ไอ้เกรย์..มึงอ้างจากหลักฐานอะไร ไหนลองบอกให้กูฟังหน่อยดิ” กวนชัดๆ
“ก็..ผมเห็นพี่เกรย์กับพี่คม เขาแสดงสีหน้าใส่พี่
จึงเดาเอาว่าคงไม่สบอารมณ์ที่โดนพี่แกล้งหรือเปล่า” จะให้บอกตรงๆ หรือไงวะ!
“แถนะมึง..แน่จริงมึงพูดมาเลยว่ามันสองคนแย่งกันเอาใจมึงจนออกนอกหน้า
กูก็แค่เข้าไปขัดตาทัพหาเรื่องสนุกทำ ที่พวกมันหัวเสียล้วนเป็นเพราะพวกมันกำลังแข่งกันทำคะแนนใส่มึงอยู่”
กะแล้วเชียวพวกพี่แม่ง กวนส้นกันจริงด้วย
“หมายความว่าไง อย่าบอกพี่เกรย์กับพี่คมเขาคิดจะจีบผมกันน่ะ”
ตรงๆ แม่งเลยดีกว่า อ้อมไปอ้อมมาดันหาว่ากูแถอีก
“มึงไม่โง่นี่หว่า ไม่รู้หน้าตามึงโดนใจพวกมันอีท่าไหน กูก็สุดจะรู้ ไม่คิดเพื่อนคบกันมาเป็นสิบปี
นึกอยากควงเด็กผู้ชายคิดจะเปลี่ยนรสนิยมก็ตอนมาเจอมึงนี่แหละ กูเลยนึกสนุกแกล้งแม่งเสียเลย”
พูดพร้อมอมยิ้มเจ้าเล่ห์ เปลี่ยนอารมณ์จากก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง
“อ้อ! สรุปเพื่อนพี่กำลังจะเป็นเกย์ฝึกหัด อาศัยผมเป็นหนูทดลอง”
ย้ำอย่างติดประชดประชัน ให้รู้กันไปเลยว่ากูนอยด์
“คงงั้น..ส่วนมึงจะเป็นหนูทดลองหรือจะเป็นไอ้หนูให้พวกมันลอง ข้อนี้กูไม่กล้าฟันธง
ขึ้นอยู่กับมึงจะเล่นด้วยหรือปฏิเสธ ที่กูสงสัยมีอยู่เรื่อง แฟนคลับทั้งเก้ง กวาง เกย์ ตุ๊ด แต๋ว
มีมากรี๊ดมะรุมมะตุ้มพวกมันไม่ขาด ส่งของขวัญบอกรักคลั่งไคล้กันไม่หวาดไม่ไหว
ไม่ยักเห็นพวกมันมีทีท่าจะสนใจหรือคิดเบี่ยงเบนเลยนี่หว่า
หรือกลัวเป็นข่าวเลยกะแดกคนในวงหวังรวบหัวจมท้ายง่ายดี
ประเภทกินกันเองไม่ต้องกลัวรั่วไหล ข้อนี้กูสุดจะเดา”
“ความคิดระยำ..ผมคงไม่บ้าจี้ไปให้พวกพี่เขารวบหัวรวบหางแน่ๆ
ผมแมนเหอะ..ใครจะไปยอมวะ! ว่าแต่พี่ไม่ได้คิดแบบเดียวกับเพื่อนใช่ป่ะ
ไอ้ที่ทำแค่ต้องการแกล้งพี่คมกับพี่เกรย์เอามันเท่านั้นใช่ไหม”
กูชักกังวลล่ะ พี่เขาไม่ตอบในทันที ดันเอามือเกาคางกลอกตาสำรวจร่างกายผม
จาบจ้วงปนเจ้าเล่ห์โดยไม่เก็บอาการ เห็นแล้วแทบอยากจะเอานิ้วจิ้มตาทะลุเบ้า
“หึหึ! กูลองมองมึงชัดๆ ก็น่ารักน่าเอาไม่น้อยนี่หว่า มิน่าเพื่อนกูถึงได้คิดอยากลองของแปลก
มึงนี่ดูยังไงก็แมนมาก มากจนไม่เหลือว่ามึงแมนเลยไอ้ป๊อป แมนเหี้ยไรหน้าสวยปนหวานผิวขาวหุ่นบาง
ที่สำคัญกลิ่นตัวมึงหอมเหมือนเด็ก กูเคยแอบใช้สบู่จอห์นสันมึงแล้ว
ไม่เห็นหอมเหมือนที่ติดอยู่บนตัวมึงสักนิด เพราะแบบนี้ไง..เพื่อนกูมันถึงได้อยากลองดู”
“พี่พูดบ้าอะไรวะ..ผมไม่เล่นด้วยนะ คิดพิเรนทร์แบบนี้” กูไม่เอาด้วยนะเว้ย!..
“มึงจะยอมหรือไม่ยอมไม่ใช่ปัญหา ในเมื่อมึงอยู่ในกำมือพวกกู
คิดหรือถ้าพวกกูจะทำขึ้นมา..มึงจะรอดไอ้เปี๊ยก!” ขู่กูเหรอ..ชิส!
“เฮ้ย! ไม่เอาผมไม่เล่นพี่ร็อค ไอ้บ้าปล่อยสิวะ! ไม่เล่นนะโว้ยเฮ้ย!”
เสียงแหกปากของผมไม่เป็นผล เมื่อพี่เขาดึงผมลงไปปลุกปล้ำ
คงต้องการจะแกล้งผมเสียมากกว่า สีหน้าท่าทางพี่แกดูสนุกที่ได้แกล้งผมดิ้นเหมือนหนูติดจั่น
ในขณะที่พี่เขาทั้งกอดทั้งฟัดเป็นที่สนุกสนานไปพร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจของคนโรคจิต
ดูพี่แกมีความสุขที่แกล้งคนอื่น..ซาดิสม์ชัดๆ
>
>
>
“คอมึงไปโดนอะไรมา” คำถามแรกทำเอาสะดุ้ง พี่เกรย์ถือวิสาสะเปิดปกคอเสื้อผมเลย
ผมก็ได้แต่เม้มปากอย่างนึกโมโห จะให้ตอบยังไงเล่ารอยบนคอเป็นฝีมือไอ้พี่ร็อคขี้แกล้ง
มันจับผมปล้ำอย่างสนุกสุนทรีย์ไปเลย กว่าจะยอมปล่อยให้ผมนอนหอบแฮ่กๆ
แล้วมันก็เดินตัวปลิวเข้าห้องน้ำไปแปรงฟันเข้านอนด้วยท่าทางสบายใจเฉิบ
“รอยแบบนี้ไอ้ร็อคทำมึงใช่ไหม” พี่คมอีกคน กูหุบปากนิ่งแล้วแต่ยังสามารถคาดเดากันได้อีก ผมเงียบไม่ยอมปริปาก
“ไอ้เหี้ยร็อคคค!!!” แล้วผมก็เห็นสองเพื่อนรัก พากันพุ่งเข้าในห้องพี่ร็อคที่ยังนอนไม่ตื่น
พร้อมกับได้ยินเสียงพี่ร็อคโวยลั่น ไม่รู้เขาทำอะไรกัน รู้แต่ว่าตอนนี้พี่ร็อคโดนรุม
สมน้ำหน้าโดนเสียมั่งจะได้รู้สึก แรงเยอะกว่าตัวโตกว่าแกล้งได้แกล้งดี
ใครจะสู้แรงควายของคุณมึงได้ แค่ดิ้นก็พาเหนื่อยหายใจกันไม่ทันแล้ว
จับกูหักสองท่อนก็คงไม่เกินความสามารถของพี่เขานิ แต่ละคนแม่งโคตรควายอ่ะ
เทียบกับผมแล้วเหมือนไม้ซีกกับไม้ซุงเลยเชียว
“ถ้ามันทำมึงเสียใจ ให้มึงรู้ยังมีกูอยู่ตรงนี้” พี่เกรย์ครับ ดราม่าเฉย
“ถ้ามันทำให้มึงผิดหวัง กูยินดีซับน้ำตาให้” พี่คมหนุ่มร่างควายๆ นั่งหน้าเศร้าจ้องผมพร้อมคำพูดพางง?
ได้แต่มองพวกเขาสองคนตาปริบๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี หลังกลับออกมาจากห้องพี่ร็อค
พวกพี่ก็สวมบทดราม่า พร่ำพูดในสิ่งที่ผมยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยด้วยซ้ำ
“กูเข้าใจแล้ว พวกมึงสองคนนอนห้องเดียวกัน ไอ้ร็อคมันก็ว่างเว้นเรื่องอย่างว่ามานาน
ไม่ยอมเปิดใจให้ใครเข้ามาวุ่นวายในชีวิต ของแบบนี้ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง กูยอมถอยให้ก็ได้
เพียงแค่นึกโมโหอยู่บ้างเล็กน้อย ก่อนหน้าทำเป็นนิ่ง ที่แท้ใส่เกียร์หมาชิงคาบไปแดก”
พี่คมยังคงบ่นไม่หยุด ทำเอาผมนั่งฟังอย่างงงงันไม่เลิกเช่นกัน
“มึงก็รู้ตั้งแต่สมัยไหนแล้ว ลองไอ้ห่าร็อคเล็งใครไม่พลาดสักราย
ขนาดราณีดาวแฟชั่นดีไซมีคนรุมขายขนมจีบยังเสร็จมันจนได้
เพียงแต่ว่ารายนี้มันจริงจังมากแต่กลับโดนหักอก
กูหวังว่ากรณีไอ้ป๊อปมันคงจะไม่แค่เล่นๆ ไม่งั้นได้เจอกูแน่”
พี่เกรย์พูดกับพี่คม แต่พอมีชื่อผมเข้าไปเกี่ยว เริ่มจะจับเค้าลางประเด็นเรื่องราวที่พี่เขาพูดได้บ้าง
ผมไม่รอช้าอ้าปากเตรียมแก้ต่างให้ตัวเองพ้นข้อกล่าวหาบ้าบอคอแตกทันที
“เดี๋ยว!..พวกพี่พูดเรื่องผมกับพี่ร็อค..” ยังไม่ทันเอ่ยจบประโยค
“พวกมันเข้าใจเรื่องของกูกับมึงแล้ว ไม่ต้องถามอะไรอีกไอ้ป๊อป
นับตั้งแต่นี้กูจะดูแลมึง ในฐานะที่มึงเป็นของกูแล้ว” พี่ร็อคโผล่ชิงตัดหน้าพูดม้วนเดียวจบ
ผมได้แต่อ้าปากค้าง..อึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยินเต็มสองหู
“มึงไม่ต้องย้ำไอ้เหี้ยร็อค กูไม่คิดมึงจะเปลี่ยนแนวชิงคาบไปแดก ตัดหน้าพวกกูเสียเสร็จสรรพ”
พี่เกรย์เสียงขุ่น หน้าบูดค้อนพี่ร็อคให้ไปขวับ
“หึหึ!..กูทำถูกแล้ว แทนที่มึงกับไอ้คมแย่งกันเอง กูเป็นคนกลางจะได้ไม่มีใครผิดหวัง
เพื่อนกันเกลียดขี้หน้ากันวงจะไปไม่รอด” ไอ้ที่ตั้งท่าจะค้านหัวชนฝาผมเริ่มเข้าใจบางอย่าง
พอฟังเหตุผลและสายตาที่มองสบมาเหมือนให้สัญญาณ
ทำให้ผมยอมหุบปากนิ่งอย่างไร้คำปฏิเสธโดยปริยาย หรือนี่อาจจะเป็นวิธีให้พี่คมกับพี่เกรย์
เขาเลิกตอแยผมอย่างที่ทำกันอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีชิงรักหักสวาท
โดยมีผมเป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาขึ้นก็ได้ พี่ร็อคเลยสมอ้างรับเป็นแมวขโมยไปเสียเอง
“ถ้าสาเหตุนี้กูไม่มีทางยอมมึงหรอก กูกับไอ้คมตกลงแข่งกันอย่างยุติธรรม
น้องมันเอนเอียงให้ใคร ก็จะยอมรับโดยไม่กินแหนงแคลงใจกันเป็นอันขาด
นี่มึงไม่ได้ลงสนามแข่งไม่ได้ให้คำมั่นสัญญากับพวกกู ดันแอบโซ้ยกินตับเรียบร้อย
ถ้าไม่ใช่มึงยืนยันว่าเล็งน้องมันมาก่อน สำคัญไอ้ป๊อปมันเสือกเลือกมึงอีก
ถึงขั้นยอมให้มึงกินตับ กูกับไอ้คมไม่มีทางยอมรามือให้เป็นอันขาด”
ฉิบหายฟังประโยคนี้เข้า ผมถึงกับอึ้งกิมกี่ สภาพนี้แสดงว่าทุกคนเข้าใจตรงกันเป็นที่เรียบร้อย
ผมกับพี่ร็อคเมื่อคืนที่ผ่านมาเราสองคนแดกตับกันไปเรียบร้อยแล้วสิท่า
“ถ้าเด็กมันไม่ชอบกู พวกมึงคิดว่ามันจะยอมให้กูแดกตับเหรอวะ!
ของแบบนี้กูคงไม่ไปบังคับเอามันได้หรอก ไม่แหกปากลั่นห้องให้พวกมึงมาช่วยกันรุมกระทืบกูหืม
รู้แบบนี้กูหวังว่าพวกมึงจะรักษาคำพูดไม่ตีท้ายครัวอย่างอดีตที่กูถูกกระทำมาใช่ไหม ไอ้เกรย์..ไอ้คม”
พี่ร็อคแอบขยิบตาให้ผมเหมือนต้องการส่งซิกไม่ให้ค้าน
ผมจึงได้แต่นั่งหุบปากด้วยสภาพหน้าสุกจนไหม้เป็นริ้วแดงไปแล้วแน่ๆ
“เออ..พวกกูคำไหนคำไหน มึงไม่ใช่ใครอื่นเพื่อนรักเพื่อนตายใครจะหักหลังได้ลงคอวะ
กูรับปากไม่วุ่นวายกับแฟนมึง ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
แต่จะขอทำหน้าที่พี่ชายมึงโอเคป่ะ..?” พี่เกรย์เอ่ยขึ้นมาก่อน
“กูก็เช่นกัน” พี่คมย้ำมาอีกคน
“ดีมากเพื่อน ขอบใจพี่พวกมึงเห็นแก่มิตรภาพ กูเองก็ต้องขอโทษที่ทำให้พวกมึงผิดหวัง
อย่างว่าเด็กมันยั่วกูอดใจไม่ไหว พอได้ลองกูเสือกถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นอีก..คงไม่ว่ากันนะเพื่อน”
กูอยากจะทึ้งหนังหัวพี่ร็อคชะมัด หน้ามึนตีบทแตกแทบไม่เชื่อ ว่าพี่แกจะทำได้เนียนขนาดนี้
แต่คำว่าเด็กมันยั่ว กูไปยั่วพี่มึงตอนไหนวะ? คงได้แค่คิดเลยตามเลยมาถึงขั้นนี้
คงต้องยอมไหลไปตามน้ำ..แม่ง!!
สรุปกว่าผมจะได้ความกระจ่างเรื่องราวเป็นมายังไง ก็รอโอกาสอยู่ตามลำพังกับพี่ร็อค
ในขณะที่สองหนุ่มร่างถึกเขาเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปวัดตัวที่ห้องเสื้อคุณราณี
พี่ร็อคก็ได้ให้ถ้อยแถลงกับผมมาว่า พี่เขาสองคนพากันรุมกระหน่ำเค้นเอาความจริง
ว่ารอยที่คอผมเกิดขึ้นได้ยังไง พี่ร็อคพานตีเนียนว่าพี่เขาดูดทำหลักฐาน
หลังจากเมื่อคืนเราสองคนเมคเลิฟกันไปเรียบร้อย โดยที่ผมแอบชอบพี่ร็อคแต่ไม่กล้าบอก
พี่เขาสังเกตเอาเองจึงเนียนจีบผม กระทั่งใจเราตรงกัน ตกลงคบหากันก่อนมีเพศสัมพันธ์ไปเมื่อคืน
โดยไม่ลืมขอร้องพี่เกรย์กับพี่คมเลิกคิดที่จะจีบผม ให้เห็นแก่ความเป็นเพื่อน
นับจากนี้ให้รู้เอาไว้ผมเป็นแฟนพี่ร็อคแล้ว ขอให้เก็บเป็นความลับเฉพาะในวงพวกเรา
อย่าให้ใครรู้เป็นอันขาด คือข้อตกลงที่ไอ้ป๊อปเองก็ต้องรับสมอ้างไปด้วย
พี่ร็อคให้เหตุผลกึ่งขอร้องผมว่า เป็นครั้งแรกที่พี่เขาได้เห็นอิทธิพลของผมที่สามารถทำให้เพื่อนรักของเขา
ยอมเปลี่ยนรสนิยมถึงขั้นมีการทำพันธะสัญญาแข่งกันจีบตรงไปตรงมา
แต่พี่ร็อคเห็นถึงปัญหาที่จะมีตามมา หากพวกเขาผิดใจกันเข้ามีหวังวงแตก ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้แน่นอน
พี่เขาจึงเนียนสมอ้างใช้วิธีนี้เข้าไปตัดไฟแต่ต้นลม พวกเพื่อนเขาทั้งคู่ก็ยอมรับปาก
ที่จะยุติบทบาทการจีบผมแล้วเรียบร้อย โดยตกลงจะอยู่ในฐานะพี่ชายและเพื่อนร่วมงาน
ยอมให้พี่ร็อคกับผมคบหาเป็นแฟนกันอย่างไม่มีสิทธิ์โกรธเคืองใส่
เพราะผมเป็นฝ่ายเลือกที่จะคบกับพี่ร็อคยอมมอบร่างกายให้พี่เขาด้วยความเต็มใจ
พร้อมกับรับปากจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้บุคคลที่สามล่วงรู้ พวกเราจะรู้กันเฉพาะภายในวงเท่านั้น
เมื่อเหตุผลมากมายขนาดนี้ ผมกับพี่ร็อคจึงกลายเป็นแฟนลับๆ ไปแล้วเรียบร้อย
ท่ามกลางสักขีพยานคือพี่เกรย์กับพี่คม โดยเราสองคนจะไม่สวีทหวานแหววให้ใครจับพิรุธได้
หรือนำไปตั้งข้อสังเกตเป็นอันขาด
ทุกคนจะทำตัวปกติ พูดคุยมึงกูเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น พอถึงตรงนี้ผมก็ไม่คิดจะโวยวาย
ไม่ได้มีอะไรเสียหายสักหน่อย ล้วนเป็นผลดีกับส่วนรวมถ้าวิธีของพี่ร็อคเป็นการแก้ปัญหาล่วงหน้า
ที่อาจจะเกิดหรือไม่ก็ยากจะคาดเดา แต่ถ้าเป็นหนทางตัดไฟแต่ต้นลม
ตามที่พี่เขาได้ให้เหตุผลบอกให้ผมฟังเป็นการส่วนตัว ผมจึงตกลงร่วมเออออห่อหมก
ไหลไปตามน้ำอย่างไม่ต้องการฟื้นฝอยหาตะเข็บ เพราะเรื่องมันกลับไปสู่จุดเริ่มต้นได้อีก
มาถึงตอนนี้ผมรู้ตัวแล้ว ผมคือบุคคลดึงดูดให้ผู้ชายกลายเป็นเกย์ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
เดิมทีจากประสบการณ์ที่พบในโรงเรียน ผมเคยเข้าใจไปเองว่า
คงเป็นเพราะกระแสสังคมในหมู่วัยรุ่น หรือไม่ก็คงเพราะรูปร่างหน้าตาสเป็กเพศที่สาม
ย่อมไม่แปลกที่จะมีบุคคลกลุ่มนี้สนใจ ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่า
ชายแท้หลีหญิงอย่างพวกพี่เขาก็เล็งผมเช่นกัน..สมควรภูมิใจหรือควรไว้อาลัยให้กับชะตากรรมของตนเองดี..?
อัพตามนัดค่ะ เจอกันอีกทีวันศุกร์นะคะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ และแฟนนิยายที่ติดตามกันไม่ขาดหาย