- 2 -ผมตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน เพราะกลายเป็นผมต้องให้พวกพี่เขารอเฉย ให้ตายนึกว่าจะทานกันไปล่วงหน้า ดันไม่มีใครแตะต้องอาหาร
พร้อมใจกันรอผมเสียอย่างงั้น รู้สึกผิดเต็มๆ ไม่รู้นี่ครับ
“ขอโทษครับ ที่ทำให้ทุกคนรอ” เสียงอ่อยเลยครับ ตัวลีบนั่งลงยังเก้าอี้ตัวที่ติดกับหัวหน้าวงเสียด้วย
ก่อนหน้าผมนั่งติดกับพี่เกรย์นะถ้าจำไม่ผิดล่ะก็ ไปไงมาไงเหตุใดที่ว่างของผมจึงกลายเป็นข้างพี่ร็อค..เกร็งเลยกู!
“เอ้าเชิญครับ..” พี่ตาลช่วยผมทันท่วงที
ทุกคนจึงสนใจตักอาหารทานอย่างไม่ต้องมาคอยจ้องมองผม ให้รู้สึกอึดอัดอีก
“พี่ตาลคิดว่าใคร เป็นคนให้ข่าวกับพวกแฟนคลับและทัพนักข่าว”
พี่คมเปิดประเด็นในเรื่องที่ผมเองก็ต้องการรู้ด้วยเช่นกัน
“เรื่องนี้พี่ไม่รู้หรอก เท่าที่เราเปลี่ยนโปรแกรมก็มีเพียงทีมสไตล์ลิส
กับทางคุณราณีเท่านั้นที่ทำการนัดหมายวันเวลา”
พี่ตาลพูดจบหันไปหาพี่ปิงปิง หัวหน้าทีมสไตล์ลิสที่ดูแลพวกผม
“ไม่เกี่ยวกับทีมพี่นะคะ พวกพี่ประสานกับคุณราณีก็จริง เรื่องนี้พวกเราล้วนรู้หน้าที่ดี
ไม่สามารถแพร่งพรายให้รั่วไหลถึงหูนักข่าวเด็ดขาด” พี่ปิงปิงแกรีบออกตัวชนิดไม่ต้องรอให้ใครถามซ้ำ
“ผมเชื่อว่าไม่ใช่ทีมพี่แน่ เราทำงานร่วมกันมานานตั้งแต่แรก ทำไมพวกผมจะไม่รู้ว่าพี่เป็นกันชนให้พวกผมมาตลอด
ที่แปลกใจคือข่าวมันรั่วไปได้ยังไงกันครับ” พี่เกรย์พูดแทรกขึ้น
“นั่นสิ..เรื่องนี้พี่ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน” พี่ตาลคิ้วขมวดมุ่น
“ไม่เห็นต้องคิดให้ปวดหัวเลยนี่ครับ ผลประโยชน์ตกอยู่กับใครก็น่าจะเป็นคนนั่นแหละครับที่ให้ข่าว”
พี่ร็อคอ้าปากขึ้นบ้าง ทำเอาแต่ละคนชะงักมืออย่างพร้อมเพรียง หันมามองหัวหน้าวงของผมเป็นจุดเดียว
“ร็อคหมายความว่ายังไง” พี่ตาลย้ำให้แน่ใจอีกครั้ง
“ผมบอกว่าการให้ข่าวเกี่ยวกับวงของพวกเราจะมาปรากฏตัวนั้น
ย่อมเกิดจากน้ำมือของผู้ที่ได้ประโยชน์ พี่ลองคิดดูสิครับ..ใครได้ประโยชน์ถ้าหากพวกเราเป็นข่าวในครั้งนี้”
พี่ตาลนิ่งไปเช่นกัน ทุกคนต่างมีสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังใช้ความคิด ก่อนผู้ที่จะโพล่งออกมาเป็นพี่ปิงปิง
“คุณราณีอย่างนั้นเหรอ” พี่ร็อคไม่พูดตอบ สนใจตักอาหารเข้าปากทานเฉย
เหมือนเป็นการยอมรับการคาดเดาของพี่ปิงปิงไปในตัว
“เขาจะได้ประโยชน์อะไรในการให้เบาะแสนักข่าวกับแฟนคลับ”
เป็นพี่คมที่เอ่ยถาม ซึ่งผมพลอยหูผึ่งอยากรู้เหตุผลด้วยเช่นกัน
“ทำไมจะไม่ได้ อย่างน้อยต่อให้ไม่เจอตัวพวกคุณ แต่นักข่าวก็ต้องเขียนข่าวยกอ้างชื่อห้องเสื้อคุณราณี
ทำให้ร้านเธอเป็นกระแสยังไงล่ะค่ะ” พี่คมกับพี่เกรย์ถึงกับอึ้งไปในคำวินิจฉัยของพี่ปิงปิง
ผมเองก็คาดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ คุณราณีต้องการสร้างกระแสให้ห้องเสื้อเธออีกเหรอ
ทั้งที่ก็โด่งดังเป็นที่รู้จักในวงสังคมชั้นสูงอยู่แล้ว ทำไมต้องสร้างกระแสอีก
“เธอทำไปเพื่ออะไร ไหนบอกร้านเธอมีชื่อเสียงโด่งดังในวงสังคมอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ
รางวัลดีไซเนอร์ยอดเยี่ยมก็เป็นดีกรีการันตีให้แล้วนี่”
พี่เกรย์ยังมีข้อข้องใจ เหมือนจะนึกค้านซึ่งผมเองก็คิดไม่ต่างกัน
“ดังเฉพาะกลุ่มในวงสังคม กับโด่งดังเป็นที่รู้จักในทุกเพศทุกวัย มันต่างกันนะเกรย์
อย่างน้อยไม่ต้องเสียเงินทำพีอาร์โฆษณาในทีวีซึ่งก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่ากระแสจะเป็นที่สนใจให้ติดตาม
ต่างจากการสร้างข่าวให้ผู้คนกล่าวถึง ไม่เชื่อพรุ่งนี้ลองอ่านคอลัมน์ซุบซิบคนดังดูเอาเองค่ะ
คาดว่าเหตุการณ์วันนี้ต้องมีการเขียนถึงแน่ๆ ต่อให้พวกเขาไม่เจอตัววงดังก็ตาม
พี่เชื่อว่าต้องมีการพาดพิงหรือไม่ก็พูดถึงไม่มากก็น้อย จะแง่ลบหรือบวกก็มีประโยชน์สร้างเครดิตให้กับห้องเสื้อราณีเต็มๆ”
พี่ปิงปิงยืนกรานในแนวคิดของตนเอง จนทำให้ผมคล้อยตามเธอแล้วครับ
“ที่จริงไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้ก็ได้ แฟนของเธอคุณพนมเป็นถึงผู้บริหาร
หากจะให้พวกเราเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้คุณราณี ก็ขอกันมาตรงๆ พวกผมยินดีอยู่แล้ว
อย่างน้อยคุณราณีก็นิสิตร่วมสถาบันคุ้นเคยมาก่อน
เล็กๆ น้อยๆ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงทำไมพวกผมจะไม่ยินดีทำให้ล่ะครับ”
พี่เกรย์เป็นคนอ้างอิงเหตุผลประกอบ เหมือนจะเข้าข้างคุณราณีกลายๆ
ถ้าต้องการให้พวกพี่เขาโปรโมทห้องเสื้อ แค่คุณอาพนมออกปากมีหรือที่พวกพี่เขาจะไม่ร่วมมือด้วย
“บางครั้งคนเราทำแบบตรงไปตรงมา มันก็มีเรื่องศักดิ์ศรีค้ำคออยู่
มึงคิดหรือว่าคุณพนมจะกล้าขอร้องกูหืม ในเมื่อเราต่างรู้กันดี..เกรย์”
พี่ร็อควางช้อนส้อม ยกแก้วน้ำจิบก่อนจะเอ่ยปากตอบข้อสงสัยให้พี่เกรย์ด้วยตนเอง
ทำเอาไม่มีใครกล้าเอ่ยปากขัดแม้แต่น้อย เหมือนจำนนในเหตุผลของพี่ร็อคแบบไม่ต้องพิสูจน์
ทำให้ผมรู้เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งข้อว่า เรื่องของพี่ร็อคกับคุณอาพนมรวมถึงคุณราณี
ไม่ได้เป็นความลับสำหรับคนภายในที่ใกล้ชิด แสดงว่าอดีตของพี่ร็อคกับคุณราณีก่อนที่คุณอาพนมจะเป็นแฟนกับเธอ
คนใกล้ชิดพี่เขาต่างล่วงรู้กันดิบดี
“นั่นสินะ..กูลืมนึกถึงข้อนี้ไป เอาล่ะหมดข้อสงสัยกินต่อดีกว่ากูยังกินไม่อิ่มเลย”
พี่เกรย์ยิ้มก่อนจะส่ายหัวให้กับเรื่องนี้ ทำให้ผมรู้ว่าสรุปไม่ผิด
“คิดอะไรหืม..กูว่ามึงรีบกินเถอะไอ้แห้ง” ผมหน้าร้อนคงเห่อแดงไปแล้วแน่ๆ
หลังพี่ร็อคที่อิ่มเป็นคนแรก หันมาพูดกับผมลงท้ายดันเรียกผมแบบนี้
จนเรียกเสียงหัวเราะภายในโต๊ะขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
“ทำไมร็อคเรียกน้องอย่างนั้น ดูสิน้องป๊อปหน้าแดงใหญ่เลยนั่น”
พี่ปิงปิงเอ่ยปากถามพี่ร็อค พร้อมกับหยอกถึงอาการของหน้าผมไปด้วย
“ก็สมตัวนี่ครับพี่” พี่เขาไม่สำนึก ยังมีหน้ายักคิ้วข้างเดียวให้ผมอีก
“พี่อย่าไปยุ่งเรื่องผัวๆ เมียๆ เขาจะตีกันเลยพี่ ทานอาหารดีกว่า”
“แค่กๆๆ!!!..พี่เกรย์ๆๆๆ!!” ผมสำลักเลยทีเดียว หลังไอ้พี่เกรย์แม่ง ดันประกาศออกมากลางโต๊ะ
เรียกเสียงหัวเราะฮากระจายโดยไม่มีใครคิดจะถามอะไร แต่กลับขบขันในฐานะบทบาทของพี่ร็อคกับผมกันเฉย
“ฮะฮ่าๆๆ..จริงสิ ถึงว่าน้องร็อคของพวกเราจำศีลเป็นฤาษีไม่หือไม่อือกับสาวคนไหน
ที่แท้ก็รอหนุ่มน้อยน้องป๊อปคู่แท้นี่เอง แบบนี้ไอลดาคนสวยนางเอกเจ้าบทบาทก็แห้วแล้วสิ”
ใครว่ะไอลดานางเอกเจ้าบทบาท
“รายนั้นแห้วตั้งนานแล้วพี่ ไอ้ร็อคก็แค่หว่านเล่นไม่หวังแต่งหรอก แต่รายนี้ท่าจะเอาจริง..ฮะฮ่าๆๆ”
พี่คมสำทับร่วมสนับสนุนอีกแรง ผมแทบอยากเอาหน้ามุดโต๊ะ ถึงไม่ใช่เรื่องจริงเป็นเรื่องหยอกกันเล่น
ให้สนุกสนานครื้นเครงก็ตามเถอะ แต่พี่เกรย์พี่คมพวกเขาดันเข้าใจว่าผมกับพี่ร็อคกินตับกันไปแล้วนี่สิ
“อย่าให้เรื่องนี้รู้เข้าหูเธอเชียว ไม่งั้นน้องป๊อปเราเจอนางเอกสวมบทนางร้ายใส่แน่
พี่ไม่ได้ขู่นะคะ ขานี้ข่าวเรื่องวีนเก่งติดอันดับชนิดนางร้ายยอมศิโรราบให้เธอเลย
นอกจอกับในจอต่างกันราวนางฟ้าปีศาจ” ประเด็นนางเองแถวหน้าคุณไอลดาถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์
ให้ผมจับต้นชนปลายพอจะเหมารวมได้ว่า เธอตามตื๊อตามจีบพี่ร็อคออกตัวแรงมานานแล้ว
ถึงขั้นให้สัมภาษณ์ว่าผู้ชายที่เธอคบหาดูใจอยู่คือพี่เขาจนทำให้สื่อเอาไปเป็นข่าวสร้างกระแสอยู่พักใหญ่
ก่อนจะถูกแฟนคลับพี่ร็อคตั้งกระทู้โต้เธอช่วยแก้ข่าวจนเรื่องซาลง ผมพอคลับคลายคลับคลาจำได้บ้าง
แต่ช่วงนั้นไม่ได้สนใจเรื่องส่วนตัวพี่เขาเท่าไหร่ สนใจแต่ผลงานเพลงจึงไม่ใส่ใจอะไรมากนัก
คิดว่าคนในวงการย่อมมีข่าวแบบนี้เป็นธรรมดา
“งานนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ไอ้ร็อคมันเถอะพี่ปิง ไม่ต้องไปห่วงไอ้ป๊อป ในเมื่อมันเลือกจะคบกันแล้ว
ไอ้ร็อคมันต้องทำหน้าที่ปกป้องเมียมันสิครับ” ผมตาเหลือกถลนกับบทสรุปของพี่เกรย์
ที่ทำเอาลำไส้ผมบิดเกลียวแทบขย้อนอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปออกมาเสียเดี๋ยวนั้น พี่ช่างกล้าที่มาพูดแบบนี้
“เฮ้ย! พี่เกรย์จะบ้าเหรอพูดอะไรห๊ะ!” ถึงตอนนี้ผมไม่หุบปากล่ะ
“จะโมโหทำไมมันพูดเรื่องจริงมึงไม่ต้องไปออกตัว กลัวไม่มีคนเขารู้หรือไงว่ามึงเป็นเมียกูน่ะ”
พี่ร็อคกลับเบรกผมหน้าตาเฉย ทำเอาทั้งพี่ตาล พี่ปิงปิงทีมงานสไตล์ลิส
กระทั่งพี่การ์ดหัวเราะไหล่สั่น มีผมคนเดียวใบ้แดก ในเมื่อทุกคนเห็นเป็นเรื่องขำขันกูยอมไหลตามน้ำก็ได้ฟ่ะ!
ก็ได้ในเมื่อพี่เขาไม่อายแล้วผมจะมัวอายทำไมวะ?
“ได้เค้าแล้วห้ามทิ้งเค้านะตัวเอง ไม่งั้นเค้าจะโกรธตัวเองไปตลอดชาติเลยคอยดู”
ทำไปแล้ว..ไม่เคยคิดในชีวิตไอ้ป๊อปจะมาส่งสายตายั่วยวนให้พี่ร็อคระยะประชิด
ชนิดเผาขนต่อหน้าสายตาพยานนับสิบกว่าคู่
ผลสรุปการกระทำของผมครั้งนี้ เรียกเสียงฮาดังขึ้นอย่างไม่มีใครคิดจะหยุด
ที่แน่ๆ..ผมสามารถทำให้คนหน้าตายปั้นหน้านิ่งจนเป็นอาจิณอย่างพี่ร็อค
ถึงกับหูแดงหน้าแดงแถมคอยังแดงเถือกไปแล้ว จงมาร่วมเป็นผีตัวแดงแบบไอ้ป๊อปบ้างเถอะ
เรื่องอะไรกูจะนั่งหน้าแดงตัวแดงคนเดียว..?
>
>
“ไปเอากีต้าร์ใครมา” พี่ร็อคถาม หลังกลับออกจากห้องน้ำยืนเช็ดหัวไปด้วย คงจะสระผมมาถึงดูเปียก
“ผมยืมพี่เกรย์ครับ” บอกไปตามจริง แอบเห็นพี่เกรย์มีกีต้าร์โปร่ง เลยออกปากขอยืมเล่นหน่อย
ถึงผมจะเป็นมือกลองฝีมือการเล่นกีต้าร์ก็ใช่จะธรรมดานะขอบอก ผมเรียนดนตรีมาหลายชิ้น
ที่ชอบมากสุดกลองชุดเลยเลือกเอาดีด้านตีกลองก็เท่านั้น
“กูก็มี..ทำไมมึงต้องไปยืมไอ้เกรย์” อ้าว!
“ผมเห็นพี่มีกีต้าร์ไฟฟ้านิ ผมอยากเล่นกีต้าร์โปร่ง” เข้าใจกันป่ะ!
“หึ!..ไหนมึงจะเล่นเพลงอะไร ร้องให้กูฟังดิ” จะมาใกล้ทำไมหว้า? เสื้อผ้านุ่งให้เรียบร้อยก่อนไม่ได้หรือไง
เห็นแล้วอิจฉาหุ่นไม่ได้จะอะไรหรอก นุ่งผ้าขนหนูพันเอวต่ำอวดซิกแพคใส่กันอยู่ได้
“ผมจะร้องเพลงที่พี่ใส่โน้ตให้..แต่ขออย่างดิ”
“ขออะไร อย่าบอกจะให้กูเป็นคนร้อง” พี่แกสีหน้าปฏิเสธใหญ่
“เปล่าผมร้องเอง แต่พี่ต้องไปนุ่งผ้าก่อน” นี่แหละที่อยากขอ ถึงจะแมนเหมือนกัน
แต่มันต่างตรงที่หุ่นพี่ทำผมดูด้อยชะมัดยาดเลยว่ะ!
“ทำไม..อย่าบอกมึงหวั่นไหวหุ่นกู” ไอ้บร้า!!!!
“หวั่นไหวไรเล่า พี่จะมาโชว์นู้ดให้ผมดูทำไม อุจาดลูกตาหรอกวุ้ย! แบบนี้มันร้องไม่ได้อารมณ์
คือเพลงนี้ผมมีแรงบันดาลใจแต่งจากเรื่องราวของพี่จำได้ใช่ป่ะที่เคยบอกไง
ถ้าจะให้ร้องผมต้องมองแววตาพี่ไปด้วยครับ ถึงจะเข้ากับเนื้อหาของเพลง ตกลงจะฟังไหม” สร้างเงื่อนไขเสียเลย
“จิ๊!..ก็ได้ รอกูแป๊บ ตอนร้องถ้ามึงไม่จ้องตากูอย่างที่พูด
กูจะปล้ำดูดคอทำรอยให้มึงได้อายอีกสักรอบ..คอยดูสิ” ชี้หน้าขู่กูอีกง่ะ!
“เอ้า!..กูพร้อมแล้ว” พี่เขากลับมาด้วยชุดนอนลายทางสบายๆ
“โอเคผมก็พร้อมครับ ร้องไม่เพราะอย่าว่ากันล่ะ” ออกตัวเล็กน้อย
“อืมกูไม่ว่าหรอก ตรงท่อนฮุกอย่าลืมขึ้นเสียงสูงอย่างที่กูแนะนำ สำคัญตอนร้องจ้องตากูด้วย
กูอยากรู้มึงจะเปลี่ยนเงาในตากูได้จริงไหม?” พอพี่เขาพูดด้วยสีหน้าท่าทางไม่ติดเล่น
กลายเป็นผมไม่กล้าสบตาตอบซ้า รู้สึกแปลกๆ เลยเนียนขยับโน้ตเพลงแก้เก้อ
รู้ดีว่าตอนนี้หน้าผมคงเห่อแดงเป็นที่เรียบร้อย บอกไม่ถูกจะว่าเขินก็ใช่ที่ดันเข้าใจผิดแต่งเพลงนี้ให้พี่เขา
แค่คิดว่ามันเหมาะกับเรื่องราว พอให้จ้องตาแล้วร้องเพลงที่มีเนื้อหาแบบนี้ ยอมรับอย่างลูกผู้ชาย...ผมอายโคตรรรร!!!
สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือก จัดท่าทางเรียบร้อยขึ้นอินโทรร้องเพลงที่ผมแต่งเป็นเพลงแรก
โดยได้แรงบันดาลใจจากผู้ชายที่นั่งจ้องผมไม่กะพริบ และผมกำลังจ้องดวงตาของพี่เขาอย่างไม่มีทางเลือกเช่นกัน
อยากจะรู้ว่าในแววตาของพี่เขา มีเงาเธอคนนั้นอยู่หรือไม่
แล้วจะสามารถเปลี่ยนเงาในแววตาของพี่เขาได้หรือเปล่า..ใครล่ะจะเป็นคนเปลี่ยนเงาในตาคู่นี้หนอ..?
เพลง..อยากเปลี่ยนเงาในตาเธอ
ผลงานการขับร้องของน้องป๊อป เพลงนี้ ทั้งเนื้อร้อง ทำนอง ดนตรี จัดทำขึ้นเป็นพิเศษค่ะ
ศิลปินคือคนใกล้ต้วเองค่ะ ลองฟังดูเพื่อจะได้ฟินนนนน!! ไปกับเนื้อหาของเรื่องนี้
นึกจำลองเหตุการณ์ดูว่า พี่ร็อคกับน้องป๊อปกำลัง
นั่งจ้องตากันอยู่ โดยที่น้องป๊อปเกากีต้าร์แล้วร้องเพลงนี้นะคะ
ชอบไม่ชอบเนื้อเพลง หรือดนตรียังไง ฝากคอมเม้นท์เข้ามาให้ทราบด้วยนะคะ
เพราะเพลงนี้เราจะทำมิวสิคพิเศษ มอบเป็นของขวัญแฟนนิยายค่ะ
ขอคำติชมแนะนำด้วยนะคะ
เพลง อยากเปลี่ยนเงาในตาเธอ
ขับร้องโดย น้องป๊อปhttp://www.youtube.com/watch?v=2BwO_CBup6I