“ หนังสดเมื่อกี้น่ะ ดูดดื่มจังเลยนะคุณหมอ " ผมหันไปตามเสียง และจากที่อารมณ์เสียก็เหมือนจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นล้านเท่า คนที่ผมเจอวันนี้และคิดว่ามันก็เต็มอิ่มจนเกินจะทนเจอได้อีก
“ มึง.. ไอ้โรม "
“ รสชาติมันแย่ถึงกับต้องอ้วกเลยเหรอว่ะ " สาวเท้าเดินเข้ามาใกล้พิงตัวเองกับรถของผมแบบไม่ฟังชวน ผมมองหน้ามันก่อนจะเดินไปทิ้งขวดน้ำที่ถังขยะ " อะไรวะทะเลาะกับแฟนเหรอไง "
“ ไม่ใช่แฟน แค่เพื่อน "
“ แค่เพื่อนแล้วจูบดูดดื่มขนาดนั้นเลย อมKให้ด้วย เพื่อนแบบนี้ดีว่ะ งั้นเรามาเป็นเพื่อนกันมั๊ย " ผมมองหน้ามัน ไอ้โรมยกยิ้มขึ้นมา
“ เห็นตั้งแต่ตอนไหน "
“ ออกมาจากตึกเลยละ เข้าไปในรถทำเรื่องแบบนั้นก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่าไฟรเวท แต่ช่วยดูหน่อยว่า รถนะมันจอดอยู่ใต้ไฟ แถมกระจกฟิล์มก็ไม่ได้มืดเท่าไหร่ ดีนะไม่ได้เอากัน "
“ แล้วยุ่งไรด้วยวะ "
“ ภาระลูกกะตาเว้ย " มันชี้เข้าไปที่ตาของตัวเองก่อนจะตวัดสายตามามองผม " กูออกมาสูบบุหรี่เนี้ย ไม่ได้อยากจะมาดูหนังสดของมึงกับแฟนหรอกนะ หนังโป๊ที่บ้านกูเยอะแยะ "
“ ก็บอกว่าไม่ใช่แฟนกู แค่เพื่อน "
“ แค่เพื่อน ทำไมต้องจูบกันด้วยวะ เอากันนี่แค่เพื่อนเหรอวะ " ผมกลืนน้ำลายลงคอก้มหน้ามองพื้นที่ว่างเปล่า
“ นั่นสินะ กูเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำอะไรอยู่ " ทุกอย่างเงียบ มีแต่เสียงหายใจที่ดังขึ้นมา พร้อมกับมือข้างนึงที่ตบลงบนหัวผม
“ แต่เป็นสิ่งที่มึงอยากจะทำใช่มั๊ยละ "
“ กูไม่อยากเอากับใครนะ " โรมถอนหายใจออกมาเสียงดังอีกครั้ง
“ ไม่ใช่ แต่กูหมายถึงว่า เพราะเป็นเค้าใช่มั๊ยมึงถึงอยากทำแบบนั้น "
“ แสนรู้ไปทุกเรื่องเลยนะมึง แต่ตอนนี้ที่มึงมาเสือกเรื่องกูอยู่เนี้ย ลูกมึงอยู่ไหนเหรอ กูได้ข่าวอยู่ด้วยกันสองคน แล้วมึงมาทำอะไรที่นี่ " มองไปที่ตึก ที่นี่มีร้านอาหารไม่เยอะ ผมคิดว่ามันคงมากินร้านอาหารเดียวกับผม
“ พาลูกน้องมาเลี้ยงข้าว เสร็จโปรเจ็ค "
“ ดี ดีมาก มึงมาเลี้ยงลูกน้องแล้วปล่อยให้ลูกอยู่บ้านคนเดียว ดีว่ะ " ผมหลุดหัวเราะในลำคอออกมา อีกคนก็ดึงเข้าตัวให้เข้าไปหา " เชี่ยไรวะ ไอ้สัด "
“ มึงดูนี่ " โชว์ภาพในมือถือให้ผมดู เป็นภาพน้องอลิซกับผู้หญิงมีอายุคนนึง
“ แม่มึงเหรอวะ "
“ คนทำงานที่คอนโดนะ กูจ้างเค้าพิเศษให้มาดูแลอลิซให้ช่วงที่กูไม่ได้อยู่บ้าน "
“ ไม่มีใครสำคัญกว่าพ่อแม่หรอก " บอกแค่นั้นผมดึงตัวเองออกมา " กูกลับบ้านละ ถอยออกไปจากรถกูได้แล้วครับ "
“ เฮ้ยเดี๋ยว " มันจับแขนผมไว้ แต่ตาก็มองโทรศัพท์ที่มีสายเข้ามา “ ครับป้าแมว มีอะไรเหรอครับ "
“ คุณโรมค่ะ คุณโรมคุณอลิซเธอโรคหอบกำเริบค่ะ ป้าพ่นยาแล้วแต่เธอไม่ดีขึ้นเลย ทำยังไงดีคะ ป้าทำอะไรไม่ถูกแล้วค่ะ “ เสียงลนๆลอดออกมาจากปลายสายผมมองหน้ามันที่มองผมก่อนจะกรอกเสียงลงไป
“ ผมจะไปเดี๋ยวนี้เหละครับ "
“ เรียกรถพยาบาลดิว่ะ มึงจะไปทำไม มึงคิดว่าทันเหรอไงว่ะ " ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากำลังจะโทรออก แต่ไอ้โรมเร็วกว่ามันคว้ามือผมเดินออกไปที่รถของมัน
“ กูเร็วกว่ารถพยาบาลอีก คอนโดกูอยู่อ่อนนุชแปปเดียวก็ถึง "
“ แล้วเอากูไปทำไม "
“ เอาไปรักษาลูกกูสิ " ความคิดกากๆของคนโง่ๆ
“ กูไม่มีเครื่องมือ มึงจะบ้ารึไงพาลูกมึงไปโรงพยาบาลดิว่ะ " บอกมันแต่ขาก็วิ่งไปที่รถ ขึ้นไปนั่งบนรถแลนด์โลเวอร์ที่สภาพข้างหลังเหมือนกองขยะ
“ กูรู้ว่ามึงต้องช่วยลูกกูได้ กูเลยจะพามึงไป "
“ พ่อคนแบบมึงเอา ตระกะไหน คิดว่าหมอทำอะไรได้ทุกอย่างรึไง "
“ แล้วมึงเรียนหมอทำไม ถ้าช่วยคนอื่นไม่ได้ กูเรียนวิศวะสร้างบ้านให้คนอื่นอยู่ สร้างความปลอดภัยให้บ้านไม่หล่นลงมาทับคนตาย งั้นมึงเรียนหมอทำไม ไม่ช่วยคน มึงบ้าป่ะว่ะ "
“ รีบๆขับไปเลยไอ้เหี้ย เถียงกับกูอยู่ลูกมึงได้ตายจริงๆ " รถขับออกไปเร็วอย่างที่ผมสั่ง ถึงคอนโดของมันเพียงแค่ห้าห้าทีแทบจะเร็วกว่าบีทีเอส ลงจากรถรีบวิ่งขึ้นคอนโด ชั้นเกือบชั้นบนสุดของที่นี่
“ อลิซ! ”
“ คุณโรม ช่วยด้วยคะ คุณอลิซแก " ผมวิ่งเข้าไปหาอลิซที่กำลังนอนหายใจหอบแรงๆพยุงเธอขึ้นมาให้นอนให้ท่าที่สบาย ยาพ่นตั้งอยู่บนโต๊ะผมกดใส่ปากของเธอแต่ไม่มียาออกยาหลอดนั้น
“ ยาพ่นหมด เมื่อกี้คุณป้าได้พ่นยาใส่ปากเธอมั๊ยครับ "
“ พ่นค่ะ แต่ออกนิดเดียว "
“ นี่ เอาไป " ไอ้โรมโยนยาขวดใหม่ให้ผม พ่นใส่ปากของอลิซที่พอผ่านไปสักพักเธอก็เริ่มหายใจเป็นปกติแต่ก็ยังมีอาการหายใจหอบอยู่ ผ่านไปยี่สิบนาทีที่อาหารเริ่มคงที่ ผมพ่นยาให้เธออีกครั้ง
“ ยาแก้หอบเอามาเม็ดนึง " โรมยื่นมาให้ผมทั้งถุง ป้าแม่บ้านเอาน้ำมาให้เธอถือมันมามือสั่น ตาก็เอาแต่มองอลิซ " กินยานะครับ คนเก่ง นิดนึงนะ "
“ คุณหมอ " ดึงตัวเองขึ้นมากอดผมปากเล็กๆที่อ้าออก ผมใส่ยาลงไปในปากเธอก่อนจะยื่นน้ำให้กิน
“ ป้าแมว ป้ากลับไปเลยก็ได้ครับ เดี๋ยวอลิซผมกับอินดูแลเอง ไม่ต้องห่วงหรอกครับ อินเป็นหมอดูแลอลิซอยู่แล้ว "
“ ค่ะ งั้นป้ากลับก่อนนะคะ " เธอว่าแค่นั้นก่อนจะก้มหน้าลุกออกไป ห้องกลับมาเงียบอีกครั้ง ไอ้โรมเดินเข้าไปในครัวที่อยู่เยื้องกับห้องนั่งเล่น
“ ทำไมมึงให้คนแก่มาดูแลเด็กว่ะ "
“ ก็กูจ้างใครไม่ได้ "
“ มันไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลยว่ะ กูว่า วันนี้แค่อลิซหอบแกยังทำอะไรไม่ถูก แล้วถ้ามึงต้องไปต่างจังหวัดหลายวัน อลิซจะทำยังไงว่ะ มึงคิดอะไรอยู่ กูไม่เข้าใจพ่อแบบมึงเลยจริงๆ "
“ หิวมั๊ย กูมีมาม่ากระป๋องอยู่จะต้มพอดี จะแดกด้วยกันเปล่า " เขย่ามาม่าอยู่ตรงหน้าผม ไอ้โรมเป็นคนที่ชอบพูดเรื่องอื่นตอนที่คนอื่นกำลังด่า จัดว่าสันดานไม่ดี แต่ผมก็แอบกลืนน้ำลายกับของที่มันเอามาเบรคอยู่เหมือนกัน อยากกินน้ำซุปหมู
“ เออเอาดิ "
“ ก็อ้วกของเก่าออกหมดแล้วนี่นะ " อลิซเริ่มหลับไปเพราะฤทธิ์ยา ขนตายาวเรียงตัวกันสวยผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าไอ้โรม
“ ห้องอลิซอยู่ไหนว่ะ "
“ ห้องขวาห้องนั้น " อุ้มอลิซเดินออกไปตามที่มันบอก ถึงตอนนี้เจอมันมาสองวันก็ยังไม่รู้ว่าแม่งเป็นพ่อประเภทไทน ห้องนอนอลิซที่น่าจะอยู่ติดกับห้องนอนของมันเป็นห้องขนาดกลางที่มีทุกอย่างในนั้นเป็นสีชมพู เตียงนุ่มๆกับตุ๊กตาเยอะๆผมวางเธอลงบนเตียงไฟหัวนอนเป็นแบบดาวที่ติดอยู่ทั่วทั้งห้องกระพริบไปมา สวยดีครับเป็นอะไรที่แปลกดีผมเองก็ไม่เคยเห็น
“ เดี๋ยวกูกลับละนะ "
“ ได้ไงว่ะ ถ้าลูกกูเป็นอะไรตอนกลางคืนขึ้นมา "
“ ก็พาไปโรงพยาบาลสิครับ " บอกแค่นั้นก่อนจะเดินไปรอบๆห้องของมัน เป็นคอนโดที่เรียบร้อยดีครับเป็นแบบสามห้องนอนสามห้องน้ำ มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น ก็ถือว่าใหญ่มาก แถมระเบียงก็ยังกว้างอีก
แต่ที่แปลกคือคอนโดของมันไม่ค่อยมีภาพอลิซเลยครับ ผิดจากบ้านไฟท์ รายนั้นแทบจะเรียกได้ว่าทั้งบ้าน หลานน่ารัก ถ่ายภาพไหนก็น่ารักภาพนั้น สรุปก็เลยมีภาพเต็มบ้านไปหมด
“ อะ มาม่าได้ละ " ยื่นมาให้ผมพร้อมกับช้อนส้อมก่อนจะนั่งลงข้างๆกันที่โซฟา “ ขอบใจนะมึง กูต้องขอบใจมึง "
“ ก็หน้าที่กูนี่ มึงเป็นวิศวะมึงสร้างบ้านให้แข็งแรง กูเป็นหมอก็ต้องดูแลคนป่วย " ไอ้โรมหัวเราะมันพยักหน้าก่อนจะตักมาม่าเข้าไปกินเต็มปาก
“ คำพูดคุ้นสัด "
“ หมาแม่งพูด "
“ เออ มึงอยากรู้มั๊ยว่าทำไมกูถึงจ้างป้าแมวมาดูแลอลิซ ทั้งๆที่แกก็แก่แล้วแถมยังขี้ตกใจ "
“ อื้ม ทำไมละ "
“ แกจนมากเว้ย แทบจะเรียกว่าหามื้อกินมื้อ มึงลองคิดดูดิ คนแก่ขนาดนั้นแล้วยังต้องทำความสะอาดคอนโดมันใช่เหรอว่ะ วันนึงกูจ้างแกมาทำความสะอาดห้อง อยู่ๆแกก็เป็นลม กูเลยรู้ว่าเพราะแกไม่ได้กินข้าว แถมคนที่นี่จะไล่แกออกเพราะแกทำงานไม่ไหว "
“ มึงเลยจ้างแกไว้ ใจดีผิดประเด็นว่ะ เหมือนเอาลูกมาฝากไว้กับคนแก่ ลูกมึงหอบเค้าช๊อค คงเจริญกันไปใหญ่ "
“ กูแค่อยากช่วยเค้า ถ้าเค้าบอกว่าเค้าทำได้นั่นคือเค้าทำได้ ใจที่อยากทำงานมีค่ามากว่าแรงกำลัง " ผมหันมองหน้ามันตอนที่พูดคำนั้น
“ โรม มึงช่วยพวกเค้าไว้ไม่ได้ทั้งหมดหรอกนะเว้ย "
“ แต่ถ้าเค้ายืนอยู่ตรงหน้า กูก็คงใจดำไม่ลงว่ะ " มันว่าแค่นั้นก่อนจะก้มลงกินมาม่าต่อ " แต่บ้านกูก็สะอาดนะ ป้าแมวทำความสะอาดทุกวัน อลิซจะได้เจอฝุ่นน้อยๆ ก็ดีนะ งานไม่หนักเท่าไหร่หรอก "
“ ภาระแกเยอะเหรอว่ะ "
“ หลานคนนึงเรียนอยู่ เห็นว่าม.ปลาย แล้วก็สามีแกไม่สบาย " มองหน้าคนที่นั่งกินมาม่าอยู่ข้างผมตอนนี้ แว็บแรกที่ผมเจอมัน ผมคิดว่ามันเป็นคนที่เหี้ยมากแถมยังไม่มีความรับผิดชอบ บ้างานจนลืมลูก แต่ตอนนี้ผมเหมือนเจออีกด้านนึงของเหรียญ ด้านที่คนทั้งโรงพยาบาลที่ไม่ชอบมัน ไม่เคยได้เห็น ด้านที่ไม่ใช่คุณพ่อที่ดีแต่ไข่ทิ้งไว้ " ไม่แดกเหรอว่ะ "
“ แดกดิ " ก้มหน้าลงคนมาม่าในคัพ
“ มึงซึ้งในความดีของกูจนแดกไม่ลงเลยเหรอวะ "
“ กูไม่คิดว่าพ่อที่วันๆเอาแต่ทำงาน ทิ้งลูกไว้โรงพยาบาลอย่างมึง จะช่วยเหลือสังคมกับเค้าด้วย "
“ ก็แน่เหละ คนหล่อก็ต้องทำดีดิว่ะ " เราหันมองหน้ากันต่างฝ่ายต่างหลุดหัวเราะออกมา
“ มึงขี้โม้สัดอะไอ้เหี้ย "
“ เหมือนมึงอะ ดูเงียบๆปากแรงๆ ไม่คิดเหมือนกันว่าจะจูบผู้ชายแบบดูดดื่มอยู่กลางที่จอดรถ ใครจะเชื่อว่าเป็นหมอคนเดียวกันกับที่ด่ากู " มันมองหน้าผมที่เงียบลงไป ในถ้วยยังมีมาม่าอยู่ผมพอคิดถึงเรื่องนั้นมันก็ไม่อยากกินซะดื้อๆ
“ เขาเป็นเพื่อนสนิทกูตั้งแต่เด็กๆแล้วละ "
“ แอบชอบเพื่อนเหรอว่ะ "
“ มั้ง กูคิดว่าแบบนั้น "
" ไม่ต้องกินแล้ว มาม่าอืดหมดแล้ว อืดเหมือนเรื่องของมึงเลย เอามานี่ "
“ จะทิ้งเหรอว่ะ "
“ ถ้าใช้ไม่ได้ จะเก็บไว้ทำซากอ้อยอะไรละ " ลุกเดินไปที่ครัว มองมันจากมุมนี้ผมเดินออกไปยืนอยู่ตรงหน้ามัน
“ ถ้าเป็นมึงจะบอกรึเปล่าถ้าชอบใครสักคน "
“ สำหรับกูรู้ตัวเองดีว่า ตอนไหนควรบุก ตอนไหนควรนิ่ง และตอนไหนที่กูสมควรจะยอมแพ้ บอกรักเพื่อนสนิทนะ กูไม่กลัวหรอก ว่าเพื่อนจะเลิกคบ เพื่อนกูมีเยอะแล้ว แฟนดิที่ยังไม่มี " โรมจ้องหน้าผมสายตาของมันมองพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก " ถ้ากลัวเสียเพื่อนไปก็ไม่ต้องบอก เพื่อนมึงคงน้อย "
“ กูไม่ได้อยากบอก เพราะกูคิดว่าเค้าคงไม่ได้อยากฟัง "
“ มีหลายคนบนโลกใบนี้รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่แค่ขอเวลายืดออกไปหน่อย ไม่ใช่ว่าทำใจไม่ได้ บางทีเค้าแค่ไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลง คิดในแง่ดีไว้ มึงก็เป็นผู้ชายที่สวยคนนึงจะกลัวอะไรว่ะ "
“ คนหน้าตาดีไม่ได้จำเป็นว่าต้องเป็นที่ต้องการนี่หว่า "
“ ไม่หรอก เพราะคนอย่างกูก็ต้องการนะ " มองหน้ามันตอนที่พูดคำนั้น " คนแบบมึง น่าสนใจดีออก ไม่ใช่เพราะว่ากูพูดให้มึงรู้สึกดี แต่กูรู้สึกแบบนั้น อย่างน้อยก็ไม่ใช่หมอทุกคนใช่มั๊ยที่จะห่วงลูกสาวกูจากใจจริงๆ แต่กูเห็นได้จากตามึงนะ " เดินเข้ามาใกล้ผม มือของมันยกขึ้นลูบหัวของผมจะดันไปข้างหลังจนหน้าเงยขึ้น ผมที่ตกลงมาที่เดิมตอนที่ก้มหน้าอยู่ตรงนั้น " อีกด้านกูคิดว่ามึงอ่อนโยนดี และนั่นเลยทำให้มึงเป็นคนที่น่าสนใจ "
“ นี่มึง.. “
“ อย่างที่บอก กูรู้ตัวเองดีว่า ตอนไหนควรบุก ตอนไหนควรนิ่ง และตอนไหนที่กูสมควรจะยอมแพ้ " ยกมือขึ้นยอมแพ้เหมือนโดนตำรวจจับต่อหน้าผม " ไม่ต้องหลงตัวเองหรอก นี่ไม่ใช่การสารภาพรัก มึงยังไม่โดนใจกูขนาดนั้น แค่เป็นคนที่น่าสนใจเท่านั้นเหละ "
................................................
มันแล้วแต่สเป็คของแต่ละคนจริงๆ สำหรับคำถามที่ว่า ใครดีกว่ากัน หรือว่าเลือกใครดี
แต่มันก็มีที่อาจจะไม่ดีทั้งคู่ แต่ไม่มีใครดีที่สุดหรอก
ทุกคนมีข้อเสียและข้อดี ขนาดเหรียญยังมีสองด้าน
ใครไม่มียูสในเล้า สามารถเม้นท์ผ่านทวิตและเฟสได้ ด้วยแท็ก #Choiceไฟท์อิน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นะคะ ฝากด้วยจ้า