(รวมเรื่องสั้น) By Pita No 8 ร้อยรักเคียงใจ (จบในตอน) : 21/8/14 P5
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (รวมเรื่องสั้น) By Pita No 8 ร้อยรักเคียงใจ (จบในตอน) : 21/8/14 P5  (อ่าน 36857 ครั้ง)

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

 ตอนที่ 3 ตัดสินใจ

“น้ำ น้ำเหรอ” ร่างสูงที่เพิ่งจะหาเสียงตัวเองเจอครางแผ่ว

“น้ำ ใครกัน ” ร่างขาวซีดนั้นเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย เมื่อทั้งมนุษย์ผู้ชายตรงหน้ากับเด็กน้อยในอ้อมกอดของเขามักจะพูดเหมือนว่าเขาเป็นคนอื่นเสียเรื่อย

“คุณ ไม่ใช่น้ำ?” ร่างสูงนั้นเอ่ยถามแม้จะดูเหมือนคนโง่ ที่พูดบ้าบอแต่เขาก็หวังว่าคนตรงหน้าจะเป็นคนที่เขารักแม้ความเป็นไป
ได้แทบจะเป็นศูนย์เพราะเห็นอยู่ชัดๆว่าร่างที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ มนุษย์

“เราชื่อชลัมพุ และเจ้าก็คงรู้ว่าเราเป็นอะไร” เสียงกังวานใสนั้นเอ่ยตอบ

“คุณเป็นเงือกจริงๆเหรอ” เป็นอีกครั้งที่ธราดลคิดว่าตัวเองทำตัวราวกับคนบ้า ที่พูดจาวกไปวนมาหาสาระไม่ได้ ทั้งๆที่หลักฐานยืนยันขนาดเห็นกับตาแล้วว่าอีกคนเป็นอะไรยังตั้งคำถามบ้าๆแบบนั้นออกไปอีก

“ตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยเป็นอย่างอื่น ดูเหมือนว่า เราจะออกมานานเกินไปแล้วคงต้องกลับเสียที เจ้าช่วยมารับยัยหนูไปหน่อยได้ไหม นอนตรงนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” น้ำเสียงนั้นยังคงราบเรียบ แต่เมื่อเอ่ยถึงลูกสาวตัวน้อยของเขา ธราดล กลับรู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยความห่วงใย  แต่ก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้าไปรับลูกสาวตัวน้อยจากอีกคนนั้น เจ้าหญิงน้อยของเขากลับตื่นเสียก่อน และสัญชาตญาณของเขามันบอกว่า จะต้องมีเรื่องยุ่งตามมาอีกแน่

“อื้อ คุณแม่” น้องอันดาที่เพิ่งตื่นเรียก ชลัมพุ เสียงเบาก่อนที่มือเล็กๆจะโอบรอบคอเงือกหนุ่มไว้แน่น

“น้องอันดา”  ธราดลเอ่ยเรียกลูกสาวก่อนคนที่ถูกเรียกจะหันไปยิ้มกว้าง

“คุณพ่อ!!”

“คุณพ่อมารับค่ะ เข้าบ้านเถอะนะคะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”  ผู้เป็นพ่อใช้น้ำเย็นเข้าลูบ เมื่อดูเหมือนว่าลูกสาวของเขาไม่ยอมปล่อยอีกคนเสียที

“ไม่เอาค่ะ” ร่างเล็กบอกเสียงเข้ม

“ทำไมล่ะคะ นี่มันดึกแล้วนะลูก หนูต้องไปนอนแล้วนะคะ”

“น้องอันดาไม่ไป น้องอันดาอยากอยู่กับคุณแม่ ถ้าน้องอันดาตามคุณพ่อเข้าบ้านไป คุณแม่ก็จะหายไปอีก น้องอันดาไม่ยอมหรอก น้องอันดาคิดถึงคุณแม่ อยากอยู่กับคุณแม่”  เด็กน้อยบอกเสียงสั่นไม่นานนักน้ำตาเม็ดโตก็ไหลอาบแก้ม

“น้องอันดา” ร่างสูงที่ยืนมองลูกน้อยที่ร้องไห้อยู่จวนจะขาดใจ สำหรับธราดล น้ำตาของลูกเป็นสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิต หากเลือกได้ชีวิตนี้เขาไม่อยากจะเห็นมันเลย

“อันดา ไม่เอาไม่ร้องอย่าร้องไห้นะ” เงือกหนุ่มเอ่ยปลอบก่อนจะลูบผมดำขลับนั้นอย่างอ่อนโยน  ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ร่างสูง ต้องลอบถอนใจเมื่อมันทำให้เขาหวนคิดถึงวันเก่าๆขึ้นมาอีกครั้ง หากว่าน้ำไม่ได้จากไป ครอบครัวของเขาคงมีความสุขมาก

“คุณแม่ขา กลับไปอยู่กับน้องอันดากับคุณพ่อไม่ได้เหรอคะ น้องอันดาคิดถึงคุณแม่ นะคะๆ” เจ้าตัวเล็กอ้อนพลางซุกหน้าลงกับอกบาง

“ไม่ได้หรอก เราไปอยู่กับเจ้าไม่ได้ ที่ของเราคือทะเล ไม่ใช่บนบก”




แม้จะแปลกใจที่ร่างบางนั้นยอมให้ลูกสาวของเขาเรียกว่า แม่ แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจมากกว่าคือแววตาคู่นั้น แววตาที่มองลูกสาวของเขาอย่างอ่อนโยนทำให้หัวใจของพ่อหม้ายหนุ่มกระตุกวาบ นานแล้วที่เขาไม่เคยมีความรู้สึกเต็มตื้นหัวใจ เช่นนี้ นานหรือเกินตั้งแต่วันที่คนรักของเขาจากไป




“คุณแม่โกรธน้องอันดา เหรอคะ น้องอันดาสัญญาจะไม่ดื้อ ไม่ซน คุณแม่กลับมาอยู่กับน้องอันดานะคะ” ร่างเล็กไม่ยอมแพ้ ยังคงส่งเสียงออดอ้อนร่างบางอย่างต่อเนื่อง

“น้องอันดาขา นั่นไม่ใช่คุณแม่นะคะ น้องอันดาปล่อยพี่เขาได้แล้วแล้วกลับเข้าบ้านกับคุณพ่อนะคะ”

“คุณพ่อโกหก!! คุณพ่อไม่รักน้องอันดากับคุณแม่แล้วใช่ไหม คุณพ่อไม่อยากให้คุณแม่กลับไปอยู่กับเราใช่ไหม ฮึกๆๆ คุณพ่ออยากให้ป้าๆปากแดงพวกนั้นเป็นแม่ใหม่น้องอันดา น้องอันดาไม่ยอมหรอก น้องอันดาจะอยู่กับคุณแม่ คุณพ่อใจร้าย น้องอันดาเกลียดคุณพ่อ!!!”

“น้องอันดา / อันดา” สองเสียงเรียกชื่อเจ้าตัวเล็กพร้อมกัน ทันทีที่ได้ยินคำว่าเกลียดหัวใจของพ่อก็แทบจะสลาย เขาใจร้ายมากหรือที่ไม่อยากเห็นลูกต้องเจ็บปวด เขาใจร้ายมากหรือที่ไม่อยากเห็นร่างน้อยๆต้องผิดหวัง

“อันดา เจ้าอย่าพูดเช่นนี้อีกนะ พ่อแม่ คือคนที่ให้ชีวิต คนที่พูดว่าเกลียดพ่อแม่จะกลายเป็นคนไม่ดี รู้ไหม เจ้าอยากเป็นเด็กไม่ดีหรือ ” เสียงใสนั้นบอกอย่างอ่อนโยน เด็กหญิงส่ายหน้าก่อนที่จะตอบคำถามของร่างบาง

“น้องอันดา อยากเป็นเด็กดี แต่น้องอันดาอยากให้คุณแม่ไปอยู่ด้วย ฮึกๆๆ คุณแม่ไปอยู่กับน้องอันดานะคะ  อะ ฮึก  อื้อออ”  ร่างเล็กจับหน้าอกตัวเองแน่น ก่อนจะหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ มือน้อยๆ ปัดป่ายไปทั่วราวกับต้องการหาที่ยึด จนคนเป็นพ่อแทบสติแตก

“น้องอันดา อย่าเป็นอะไรนะลูก อันดา!!” ร่างสูงตะโกนก้องเมื่อเห็นว่าอาการหอบของลูกกำเริบ น้องอันดาไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่แม้ปกติจะดูร่าเริงดี แต่ลูกสาวเขาก็มีโรคประจำตัวทำให้ต้องตัดสินใจย้ายจากเมืองใหญ่มาอยู่ที่นี่เพื่อไม่ให้อาการของเจ้าหญิงน้อยของเขาทรุดหนัก

“อันดาๆ เจ้าอย่าเป็นอะไรนะ อันดา” ร่างบางเองก็ตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูก ความเป็นห่วงถาโถมเข้ามาจนไม่สามารถห้ามหยอดน้ำตาตัวเองได้ ชลัมพุ ไม่เคยคิดว่า ตัวเองจะรู้สึกผูกพันกับเด็กมนุษย์คนนี้มากขนาดนี้   ร่างบางกอดเด็กหญิงไว้แนบอก เสียงเพลงทำนองแสนหวานดังขึ้นจากปากบาง เพลงที่ฟังดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่เพลงธรรมดา แต่กลับทำให้คนฟังรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดราวกับว่าทุกท่วงทำนองที่ได้ยินนั้น กำลังเยียวยาให้ความหม่นหมองและเมฆหมอกของความเศร้าหายไปเหลือเพียงความอบอุ่นที่ค่อยๆทำให้จิตใจผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ  ร่างสูงมองคนบนโขดหินราวกับต้องมนต์สะกด เมื่อร่างของเงือกหนุ่มตอนนี้ราวกับเรืองแสงได้ ประกายแสงสีทองอบอุ่นค่อยๆโอบไล้ร่างบางช้าๆก่อนจะหายเข้าไปในตัวของลูกสาวเขาอย่างไม่น่าเชื่อ น่าแปลกที่ร่างสูงกลับทำเพียงยืนมองอยู่อย่างนั้น เพราะสัญชาตญาณบางอย่างบอกเขาว่า คนตรงหน้าไม่มีทางคิดร้ายต่อลูกสาวของเขาเด็ดขาด

“คุณแม่” เสียงเล็กๆนั้นเอ่ยเรียก ก่อนที่ร่างเล็กจะยกยิ้มให้กับคนที่กอดตัวเองไว้

“เจ้าหายแล้ว” ร่างบางบอกทั้งน้ำตา ในเส้นเบ่งของความเป็นความตายเขามองเห็นบางอย่างที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจนักแต่เขาไม่อยากจะเสียร่างในอ้อมกอดไป เขายอมแลกได้ทุกอย่างแม้แต่แบ่งพลังของตัวเองเพื่อรักษาชีวิตเจ้าเด็กน้อยคนนี้เอาไว้ เขารักเด็กคนนี้โดยไม่มีเงื่อนไขใดใดแม้จะรู้จักกันเพียงสองวัน  แล้วเขาจะทนจากไปได้จริงหรือ ….

ไม่ เขาไม่ต้องการ จากไป

แม้จะไม่รู้ที่มา แม้จะไม่รู้ความหมาย แม้จะไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง แต่เขาก็ตัดสินใจแล้วที่จะได้อยู่เพื่อเห็นรอยยิ้มกว้างของเจ้าตัวน้อย

ชลัมพุ ตัดสินใจหลับตาลง และทำในสิ่งต้องห้ามร้ายแรงที่สุดของชาวเงือก นั่นคือ การเปลี่ยนแปลงร่างกายตนให้มี ขา เหมือนดัง
มนุษย์ และที่ร้ายแรงกว่าคือ เขากำลังจะไปอยู่กับมนุษย์


“คะ คุณ..” ร่างสูงแทบไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เขาเห็นเป็นเรื่องจริง นี่มัยยุคทีวีดิจิตอลนะ ทำไม ถึงยังมีเรื่องลี้ลับที่ไม่สามารถอธิบายได้แบบนี้อยู่อีกหากไม่เห็นกับตาเขาก็คงไม่เชื่อ ว่าเงือก มีจริง หากไม่ได้ยินกับหูก็คงไม่เชื่อ ว่าเพลงของ เงือก สามารถรักษาโรคได้ และหากไม่ยืนอยู่ตรงนี้เขาก็คงไม่เชื่อ ว่า เงือกสามารถเปลี่ยนหางให้เป็นขาได้ !!!

“คุณพ่อ!! น้องอันดาขอโทษ” ร่างเล็กของน้องอันดาถลาเข้าสู้อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อทันทีที่ เงือกหนุ่มอุ้มมาถึงชายหาด

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่น้องอันดาไม่เป็นก็ดีแล้ว” ร่างสูงบอกเสียงสั่นพลางกอดดวงใจของเขาไว้แน่น

“ไม่ค่ะ คุณแม่ช่วยน้องอันดาอีกแล้ว” เด็กหญิงบอกด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่ร่างสูง จะเงยหน้าขึ้นมองร่างขาวซีดตรงหน้า และต้องเบิก
ตาโพลงอีกครั้งเมื่อเห็น ร่างนั้นในระยะใกล้  ร่างบอบบางขาวซีดนั้นสะท้องแสงจันทร์จนเหมือนกำลังเรืองแสงกับ ผมยาวดำขลับที่ยาวจนเกือบจะถึงปลายเท้าพอจะช่วยปิดเรือนร่างที่เปือยเปล่านั้นได้อย่างดี แต่ร่างสูงกลับขมวดคิ้วแน่นเมื่อพิจารณาร่างที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

“คุณเป็นผู้ชาย???”

“ใช่ เราเป็นผู้ชาย มีสิ่งใดที่ผิดปกติหรือ” ร่างบางถาม ถึงตัวเอาจะไม่ได้รูปร่างสูงใหญ่เหมือนกับคนอื่นแต่ชาวเงือกก็ไม่มีใครบอกว่าเขาเหมือนผู้หญิงสักคน มีแต่มนุษย์พวกนี้ที่ชอบว่าเขาเหมือนผู้หญิง

“อะ เอ่อ ไม่มีๆ คุณใส่นี่ก่อนดีกว่านะ ถ้าใครมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี” ว่าพลางถอดเสื้อบอลทีมโปรดที่เจ้าตัวชอบใส่นอนให้ร่างบางทันที แต่คนรับกลับขมวดคิ้วแน่น

“เรารู้ว่า มันเรียกว่า เสื้อผ้า แต่เราใส่ไม่เป็นหรอก เพราชาวเงือกไม่จำเป็นต้องใส่”

“งะ งั้น ผมใส่ให้นะ” ไม่เข้าใจว่าจะเสียงสั่นทำไม เมื่อก็อยู่มาจนอายุปูนนี้แล้ว และอีกฝ่ายก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ธราดลยอมรับว่าหัวใจของเขาเต้นแรงมากเมื่อต้องเข้าใกล้ร่างบอบบางตรงหน้า กลิ่มหอมอ่อนๆที่เหมือนน้ำทะเลของอีกฝ่ายทำให้สติของเขาพล่าเลือนไปหมด นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนะ

“ยกแขนขึ้นหน่อยสิคุณ ผมใส่ไม่ถนัด” เสียงทุ้มบอกก่อนที่ร่างบางจะยกแขนขึ้นตามคำสั่ง ชลัมพุ กำลังไม่เข้าใจ เขาเป็นอะไรไป ทำไมถึงรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายมันสูงขึ้นและหัวใจก็เต้นแรงมาก เมื่อร่างสูงนั้นค่อยๆสวมเสื้อให้ นี่เขาเป็นอะไรไป หรือจะเป็นผลข้างเคียงจากการอยู่บนบก

“คุณพ่อ คุณแม่จะคุยกันอีกนานไหมคะ น้องอันดาง่วง” เด็กหญิงประท้วงดวงตากลมมอง คุณพ่อ กับ คุณแม่  สลับไปมาด้วยความไม่เข้าใจ

“อ่างั้นคุณพ่ออุ้มหนูไปนอน นะคะ”  ชายหนุ่มบอกแก้เก้อ ก่อนจะอุ้มลูกสาวสุดที่รักขึ้นแนบอก

“คุณแม่ขา เข้าบ้านกันเถอะค่ะ” คิ้วเข้มขมวดแน่น เมื่อลูกสาวของเขาชวนอีกคนเข้าบ้าน

“เจ้าจะอนุญาตไหม หากเราจะขออาศัยอยู่ด้วย”

“ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมก็ยินดีครับ”


...........................TBC............................

 :katai4:
แฟนซีกันไป แบบไร้สาระ ฮ่าๆๆ

อย่าลืม กด ไลค์ แฟนเพจ ด้วยนะคะ

หลังปิดยอด เล่ห์ร้าย พิตจะมีเกมให้เล่น เผื่อได้ ของ สมน้ำหน้า เอ้ย สมนาคุณ

กันไปเนาะ

ออฟไลน์ ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
มาอยู่ด้วยกันแล้วสิ จะเกิดอะไรขึ้น

จะมาม่ามั้ยน้าา  :ling3:

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
ว๊าว!!!! มีขาเหมือนช่องจ๋ามเลยอะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มาอยู่ด้วยกันแล้ว~จะเป็นไงต่อไปนะ?

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
แบบนี้คงต้องสอนอะไรอีกเยอะเลย  :hao7: 

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แบบนี้จะไม่มีปัญหาตามมาใช่มั๊ย

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ย้ายไปอยู่ด้วยกัน  :o8:

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอน 4 เป็นมนุษย์

ร่างบางนั่งตัวเกร็งอยู่บนโซฟาพลางมอง มนุษย์  หลายคนที่จ้องเขาอยู่อย่างนึกกลัว โดยปกติแล้วชาวเงือกเช่นเขามักจะออกมาในเวลากลางคืนเท่านั้น เพื่อเลี่ยงการพบปะกับมนุษย์ เพราะการได้ฟังเรื่องราวที่โหดเหี้ยมของมนุษย์ที่กระทำต่อชาวเงือกมาตั้งแต่เล็กจนโต ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ชลัมพุ รู้สึกกลัวกับผู้คนเหล่านี้เหลือเกิน

“อ้าว จ้องกันจน น้องเมีย ฉันจะทะลุแล้วมั้งน่ะ” เสียงทุ้มของเจ้าของบ้านเอ่ยขึ้นก่อนที่บรรดาคนงานในบ้านจะสะดุ้งกันเป็นแถว แต่ถึงจะกลัวก็ยังแอบลอบมองร่างบางตรงหน้าอยู่ดี  แม้ว่าเจ้าของบ้านจะพยายามบอกว่า คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาตอนนี้เป็น ผู้ชาย แต่ก็แทบไม่มีใครเชื่อ เพราะนอกจากร่างบางจะมีเค้าโครงหน้าที่ถอดแบบคุณผู้หญิงของพวกเขามาราวกับคนเดียวกันแล้ว รูปร่างที่มองเผินๆแทบจะไม่มีตรงไหนเหมือนผู้ชายสักนิดทั้งผิวขาวละเอียดกับผมดำขลับที่ยาวเกือบจะถึงข้อเท้านั่นอีก ยิ่งทำให้คำบอกเล่าของเจ้านายดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่

“เอาล่ะ ฉันจะแนะนำเป็นทางการนะ นี่คุณ ชลัมพุ เอ่อ เรียก คุณพุ ก็ได้ เขาเป็นน้องชายของ น้ำ เขาจะมาอยู่ที่นี่กับเราในฐานะ แม่ ของน้องอันดา ” หลังจากที่เจ้าของบ้านพูดจบเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นแทบจะทันที แต่ผู้เป็นนายก็ยกมือเป็นเชิงห้ามก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดไปมากกว่านี้

“หยุดก่อนๆ ทุกคนตั้งใจฟังนะ คุณพุ จะมาอยู่ที่นี่ในฐานะแม่ของน้องอันดาก็จริง แต่พุไม่ใช่ เมียฉัน เราทุกคนก็คงรู้ว่าน้องอันดาคิดถึงแม่ขนาดไหน และฉันก็คิดว่ามีแค่พุคนเดียวที่จะทำให้น้องอันดายิ้มได้อีกครั้ง ทุกคนเข้าใจใช่ไหม” เสียงทุ้มบอกต่อ ก่อนจะมองคนงานในบ้านด้วยแววตาที่คล้ายจะออกคำสั่ง

“ต่อไปให้นับถือคุณพุเป็นเหมือนเจ้านายคนหนึ่งแล้วกันนะ ”
ทุกคนต่างตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน ก่อนจะแยกย้ายไปทำงานของตัวเองโดยที่ไม่ได้ถามหรือเซ้าซี้อะไร เมื่อผู้เป็นนายบอกอย่างไรมันก็คงเป็นอย่างนั้น




“คุณ เป็นอะไรหรือเปล่า” ร่างสูงเอ่ยถามคนที่เอาแต่นั่งเงียบ

“เรา คือ เรา”

“คุณกลัวเหรอ” ธราดลเลิกคิ้วถาม เมื่อสังเกตว่าร่างตรงหน้ามีท่าทางที่กลัว คน อย่างเห็นได้ชัด

“เราไม่เคยใกล้ชิดกับมนุษย์ขนาดนี้มาก่อน เรา เอ่อ สำหรับชาวเงือกแล้วมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายทารุณ เจ้าเล่ห์หลอกลวง เชื่อถือไม่ได้ ”

“เดี๋ยวๆ แหม ด่าซะผมไม่อยากจะเป็นคนเลย ฮ่าๆ ไม่ต้องกลัวหรอกครับ คนที่นี่ใจดี ไม่มีใครทำร้ายคุณหรอก ” เจ้าของบ้านบอกอย่างอ่อนโยน ก่อนจะยกยิ้มให้กำลังใจกับเงือกพลัดถิ่น ที่หลงมาอยู่ในดงมนุษย์ ด้วยเหตุผลที่เขาเองก็ไม่รู้ ว่าทำไม คน ไม่ใช่สิ
เงือก ที่กลัวมนุษย์มากขนาดนี้จะตัดสินใจมาอยู่กับเขา

หืม ร่างสูงขมวดคิ้ว แน่น  อยู่กับเขา งั้นเหรอ เฮ้อ เขาคิดอะไรไม่เข้าท่าอีกแล้ว ร่างบางมาอยู่ดูแลน้องอันดาต่างล่ะ

“เราเชื่อ เพราะเจ้าใจดี” เสียงใสนั้นบอก

“ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ ผมอาจจะใจร้ายก็ได้นะ” ร่างสูงถามติดตลก ก่อนจะมองคนตัวบางที่ตอนนี้อยู่ในชุดกาเกงขาสั้นเหนือเข่ากับเสื้อยืดธรรมดาๆซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นของ แม่ของน้องอันดา เพราะความรีบร้อนทำให้เขาไม่ทันคิดว่า ร่างบางไม่ได้มีกระเป๋าเสื้อผ้าหรือของใช้อะไรมาสักอย่าง แต่จะให้ใส่ของเขาดูท่าจะใส่ไม่ได้ เลยต้องไปเอาเสื้อผ้าของภรรยาที่เขาเก็บไว้มาให้ร่างบางใส่ไปก่อน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า เงือกหนุ่มสามารถใส่มันได้พอดี จนธราดลยังอดแปลกใจไม่ได้

“ไม่หรอก เราเชื่อในสัญชาตญาณของเรา เจ้าไม่ใช่คนเลวร้าย เราเชื่อแววตาแห่งความรักคู่นี้ของเจ้า” เสียงใสนั้นเอ่ยตอบ แต่มันกลับทำให้คนฟังใจเต้นแรง อีกแล้วนะ ที่เขาใจเต้น นี่เขากำลังจะเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า


“คุณแม่ คุณแม่ขา คุณแม่อยู่ไหน!! ” เด็กหญิงจะวิ่งเข้ามากอด คุณแม่ของเธอ ก่อนจะปล่อยโฮจนคนถูกกอดทำหน้าไม่ถูก

“คุณแม่ อย่าทิ้งน้องอันดานะคะ ฮึกๆๆ ฮื่อๆๆ อย่าทิ้งน้องอันดาไปอีกนะ”

“อันดา เราไม่ได้ทิ้งเจ้าไปไหน อย่าร้องนะ อย่าร้อง นะ ลูก”

“ใช่คะ คุณแม่แค่ลงมาคุยกับคุณพ่อ พอดีเห็นหนูหลับอยู่ก็เลยไม่ได้ปลุก คุณแม่จะทิ้งน้องอันดาได้ยังไงคะ คนสวยของพ่ออกจะน่ารักขนาดนี้ ไหนมาหอมแก้มสิ” คนเป็นพ่อบอกก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มใสของลูกสาวทันที

“คุณแม่ไม่ทิ้งอันดา จริงๆนะคะ”

“เราสัญญา”

“น้องอันดารักคุณแม่ นะคะ” เด็กหญิงบอกเสียงใส 




ร่างสูงมอง น้องเมีย ในนามของตัวเองที่เล่นกับเจ้าหญิงน้อยของเขาก่อนจะยกยิ้มกว้าง นานแล้วที่น้องอันดาไม่ยิ้มกว้างขนาดนี้ นานแล้วที่บ้านที่แสนอบอุ่นหลังนี้ไม่มีเสียงหัวเราะ

“คุณพุ เธอดูเข้ากับคุณหนูได้ดีเลยนะครับ นายหัว” เสียงภาษาไทยสำเนียงใต้เอ่ยกับเจ้านาย

“นั่นสินะ เข้ากันได้ดีจนฉันเองยังแปลกใจเลยล่ะ”

“เห็นนายหัวยิ้มได้ผมก็สบายใจ”

“พูดอย่างกับว่า ฉันไม่เคยยิ้ม”

“นายหัวยิ้มครับ แต่ไม่ได้ยิ้มเหมือนวันนี้ นานแล้วที่ผมไม่ได้เห็นนายหัวยิ้มจากใจจริงๆ” หัวหน้าคนงานบอกเสียงเบา เขาทำงานกับธราดลมานานพอที่จะสามารถพูดคุยแบบเป็นกันเองได้ เมื่อก่อนร่างสูงเป็นคนยิ้มง่ายและดูผ่อนคลายมากกว่านี้แต่ตั้งแต่ คุณผู้หญิงเสียเมื่อสามปีก่อน เขาก็ไม่เคยเห็นเจ้านายยิ้มจากใจจริงอีกเลย มันคงจะดีไม่น้อยหากว่า คุณพุ จะทำให้บ้านหลังนี้กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิมอีกครั้ง



เกือบเดือนแล้วที่มีสมาชิกใหม่เพื่อเข้ามาในบ้านทำให้เจ้าของบ้านร่างสูงต้องปวดหัวอยู่ไม่น้อยเพราะต้องเปิดครอสสอน “การใช้ชีวิตแบบมนุษย์” ให้เจ้าหญิงเงือกน้อยของน้องอันดา ไม่ว่าจะสอนกินข้าวอันนี้กว่าจะไปผ่านไปได้ก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง สอนเดิน สอนพูด สอนแปรงฝัน อาบน้ำ แต่งตัว (เอ่อ อันนี้เขาให้น้องอันดาเป็นคนสอน)  จนแทบจะเรียกว่า วันทั้งวันเขาต้องคอยคลุกอยู่กับร่างบางและลูกสาวตัวน้อยจนแทบไม่ได้เข้าไปดูโรงงาน

“คุณพ่อขา น้องอันดาวาดเสร็จแล้วค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยบอกก่อนจะยื่นภาพวาดลายเส้นโย้ไปเย้มาของเด็กห้าขวบให้ผู้เป็นพ่อ

“ไหนน้องอันดาวาดอะไรให้คุณพ่อดูคะ”

“น้องอันดาวาดรูป คุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็น้องอันดาค่ะ ส่วนนี่ก็บ้านของเรา” เด็กน้อยบอกอย่างร่าเริงพลางอธิบายรูปต่างๆในภาพ

“แล้วนี่คุณแม่ไปไหนคะ เมื่อกี้ยังเห็นนั่งอยู่ด้วยกันเลย” ร่างสูงถามถึงอีกคนที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน ตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว จะบอกว่ายังเป็นห่วงอยู่ก็ไม่แปลกเพราะแม้ว่า ชลัมพุ จะปรับตัวและเรียนรู้การเป็นมนุษย์ได้เร็วกว่าที่เขาคิดแต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี

“อ้อ คุณแม่ไปเอาขนมให้น้องอันดาค่ะ”

“หืม นี่มันยังไม่ใช่เวลาของว่างไม่ใช่เหรอคะ กินขนมทุกวันแบบนี้ถ้าฟันผุ ขึ้นมาคุณพ่อไม่ช่วยนะคะ” ธราดลบอกเสียงเข้ม

“ชิ งอนคุณพ่อแล้ว น้องอันดาให้คุณแม่ช่วยก็ได้”

“คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ พี่ดล น้องอันดา” เสียงใสเอ่ยถามพลางวางจานคุกกี้ลงก่อนจะเลือกแก้วกาแฟให้เจ้าของบ้านอย่างรู้ใจ

“ไม่มีอะไรหรอกพุ กำลังขู่เด็กที่ชอบกินขนมมากๆ แล้วฟันจะผุ น่ะ” 

เกือบเดือนที่ผ่านมาสรรพนามระหว่างเขาทั้งสองคนเริ่มเปลี่ยนไป นั่นเป็นเพราะธราดลเองที่สอนให้ชลัมพุเรียกเขาแบบนั้น แต่ไม่ใช่แต่สรรพนามที่เปลี่ยนแต่การวางตัวระหว่างเขากับร่างบางก็เปลี่ยนไปด้วย จะเกิดจากความใกล้ชิดหรืออะไรเขาเองก็อธิบายไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่า นับวันร่างบางจะมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันเขามากขึ้นเรื่อยๆ



“พุ ผมยาวขึ้นหรือเปล่า” เอ่ยถามเมื่อลองสังเกตว่าผมของคนตรงหน้านั้นยาวขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เพราะมันยาวจนเกือบจะถึงพื้น
อยู่แล้ว

“เหรอครับ แปลกจัง แกติมันไม่ได้ยาวเร็วขนาดนี้นะ ” ร่างบางบ่นพึมพำ พลางจับผมตัวเองไว้แน่น

“งั้นวันนี้เราเข้าเมืองกันดีกว่าไหม พุมาอยู่ที่นี่ได้เกือบเดือนแล้วแต่ยังไม่เคยเข้าไปในตัวเองเลย วันนี้พี่พาไปเที่ยวดีไหม”

“ดีค่ะ คุณพ่อ น้องอันดาอยากไปเที่ยว!!” เจ้าตัวเล็กตอบแทบจะทันทีก่อนจะกระโดดดีใจใหญ่

“งั้นเราไปกันเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะสายนะคะ” ร่างสูงบอกก่อนจะอุ้มหนูน้อยไว้ด้วยมือข้างซ้าย ก่อนที่มือขวาจะกุมมือเรียวไว้แน่น


“โหยป้า คุณผู้ชายจับมือคุณพุด้วย ป้าดูสิ” น้อยที่ยืนมองอยู่นานบอกกับแม่ครัวคนเก่งของบ้าน

“นังน้อย เอ็งนี่จะไปยุ่งเรื่องเจ้านายท่านทำไม มาช่วยข้าทำงานไม่ดีกว่าเหรอห่ะ” หญิงชราเอ็ดเสียงดัง

“โหป้านวล ฉันเนี่ยลุ้นให้คุณผู้ชายกับคุณพุ รักกันจริงๆมาตั้งนานนะ เห็นแบบนี้แล้วมีความสุขชะมัด” พี่เลี้ยงสาวบอกก่อนจะ
อมยิ้มอย่างถูกใจ ถึงคุณพุของเธอจะเป็นผู้ชายแต่ก็เป็นผู้ชายที่สวยกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก แม้ว่าจะดูเหมือนไม่ค่อยทันคนแต่ว่าเพราะความใสซื่อนั่นแหล่ะที่ทำให้ ร่างบางเอาชนะใจคนทั้งเกาะได้อย่างไม่ยากเย็นนัก


“เอ็งนี่มันจริงๆเลยนะ”

“ป้าว่าแต่ฉัน หรือว่าป้าไม่คิดล่ะ”

“คิดสิวะ คุณพุเธอ งามทั้งกาย งามทั้งใจ กิริยามารยาทก็เหมือนจะเป็นลูกผู้ดี ข้าล่ะปลื้ม ถ้าคุณผู้ชายจะให้คุณพุมาเป็นแม่ของคุณหนูจริงๆ ข้าก็ดีใจเหมือนกัน แต่..”

“แต่อะไรป้า”

“คุณผู้ชายเธอรักคุณผู้หญิงมาก และคุณพุ ก็เป็นน้องชายของคุณผู้หญิง ข้าล่ะกลัวปากคนจริงๆ”


“ระดับนายหัว ธราดล แค่ปากคนจะไปกลัวอะไร”

“ข้าไม่ได้ห่วงนายหัว ข้าห่วงคุณพุ ซื่อขนาดนั้น ไม่รู้จะเป็นยังไง ข้าล่ะอดห่วงไม่ได้จริงๆ” หญิงชราบอกเสียงเบา เมื่อนึกถึงอนาคตข้างหน้าหากว่าเจ้านายของเธอจะทำในสิ่งที่เธอคิด

“นั่นสินะป้า คุณพุเธอบอบบางขนาดนั้น จะไปสู้รบปรบมือกับใครเขาได้ โดยเฉพาะ ผู้หญิงของคุณผู้ชายน่ะร้ายๆทั้งนั้น”

“พอเถอะนังน้อยไปทำงานทำการได้แล้ว”



ทางด้านธราดลหลังจากที่ให้เข้าเอาเรืออกมาได้สักพักก็สังเกตว่าคนข้างๆเอาแต่นั่งเงียบ

“พุเป็นอะไรหรือเปล่า”

“พุ กลัวครับพี่ดล พุไม่เคยเข้าเมืองมาก่อน พุไม่รู้จะต้องทำตัวยังไง ”

“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า มีพี่อยู่ด้วยกลัวอะไร ทำใจให้สบายแล้วก็เลิกขมวดคิ้วได้แล้วครับ” บอกเสียงนุ่มก่อนจะกดนิ้วลงบนหว่างคิ้วของอีกฝ่ายเป็นเชิงแกล้ง  แต่รอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้นั้นทำให้เงือกหนุ่มต้องก้มหน้าเพื่อซ่อนอาการ

ใจเต้นแรงอีกแล้ว

..........................TBC........................

ลงถี่ เพราะปั่นจบแล้วไง ฮ่าๆๆ
 :hao6:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ป้าพูดส่อแววดราม่าเลย
อาจจะมีเงือกน้อยหนีลงทะเลก็เป็นได้

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ดราม่ากำลังจะมา?   :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
กลัวพุโดนคนทำร้าย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
โนดราม่าได้ไหม??

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
แวะมาแอบดูงานใหม่  งานใหม่อีกแล้วเหรอ 555  ขยันจริงๆนะน้องเรา :laugh:

ออฟไลน์ oreena

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
แวะมาแอบดูงานใหม่  งานใหม่อีกแล้วเหรอ 555  ขยันจริงๆนะน้องเรา :laugh:

อันนี้เรื่องสั้นเขียนคลายเครียด ค่ะคุณพี่ อย่าได้หาสาร อัลไล จากหนู
ในตอนนี้ ฮ่าๆๆ ไม่ใช่ขยันอะไร เรื่องยาวดองมาจะเดือนแล้วค่ะ
เอิ๊กๆๆๆ

ออฟไลน์ ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
กลัวดราม่าจังเลย  :mew2:

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอนที่ 5 คนของผม

ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้เงือกหนุ่มชะงักนิ่ง ความใหญ่โตโอ่อาของมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือสายตาของคนรอบข้างที่กำลังจ้องมามามากกว่า ชลัมพุ รับรู้ได้จากสัญชาตญาณ พิเศษ ของชาวเงือก เงือกอ่านใจได้    ผู้คนที่นี่ต่างจากบนเกาะอย่างสิ้นเชิง มันเต็มไปด้วย ความโกรธ ความโลภ ริษยา และจิตที่มุ่งร้าย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงจิตใจที่เป็นฝ่ายดีอยู่มากพอสมควร แต่เพราะเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยทำให้ร่างบางรู้สึกกลัวไม่น้อย

“พุ ไม่มีอะไรหรอก เราเข้าไปข้างในกันนะ” เสียงทุ้มบอกก่อนจะกระชับอุ้งมือที่จับอยู่แน่น ร่างบางคลี่ยิ้มให้ก่อนจะพยักหน้าตกลงเมื่อเขาตัดสินใจที่จะอยู่ในฐานะมนุษย์ เขาก็ควรจะทำตัวให้ชิน


“คุณพ่อขาน้องอันดาอยากกินไอติม” เสียงเล็กๆบอกอย่างร่าเริงพลางนิ้วป้อมชี้ไปที่ร้านไอศกรีมชื่อดัง

“ยังกินไม่ได้ ค่ะ เอาไว้เราค่อยมากินนะคะ ยังเช้าอยู่เลยเดี๋ยวปวดท้อง”

“งั้นเราไปโซน ของเล่นกันนะคะ น้องอันดาอยากเล่นบ้านลม นะคะ คุณพ่อ น๊า” เด็กหญิงอ้อนเสียงหวานจนผู้เป็นพ่อได้แต่ส่าย
หน้าเบาๆแต่ก็ยอมตามใจอยู่ดี

ชลัมพุมองสองพ่อลูกก่อนจะยกยิ้มกว้าง เขาเองคิดว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกมาอยู่ตรงนี้  ธราดล รักน้องอันดามากจนเขารู้สึกได้และที่สำคัญเขาแทบไม่เห็นจิตใจด้านไม่ดีของอีกฝ่ายเลย นอกจาก ความเศร้า ในแววตาคู่นั้น ความเศร้าของการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

“พุ เหม่ออะไรอยู่ ตามมาเร็ว” ร่างสูงเอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าอีกคนเอาแต่เหม่อ

“ขอโทษครับ”

“หืม พี่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า อยู่นอกเกาะให้พูดยังไง” ร่างสูงถาม

“เอ่อ ขอโทษ ค่ะ”

“หึหึ ไปเถอะ เนี่ยเด็กดื้อ งอแงจะเล่นบ้านลมแล้ว” เมื่อใหญ่จับจูงข้อมือบางอย่างอ่อนโยน ธราดลยอมรับว่าตัวเองค่อนข้างจะเห็นแก่ตัวที่ให้ เงือกหนุ่มทำตัวเหมือนผู้หญิงเวลาอยู่นอกบ้าน นั่นเพราะเขาไม่ต้องการให้ผู้คนมองร่างบางด้วยสายตาที่มีข้อสงสัย เพราะ เจ้าของร่างบางที่เดินตามเขาต้อยๆ เนี่ย ดูเผินๆไม่มีส่วนไหนที่เหมือนผู้ชายเลยสักนิด และยิ่งน้องอันดาเรียก คุณแม่ ทุกคำแล้วด้วย ยิ่งแล้วใหญ่

“คุณพ่อ คุณแม่เร็วๆซิคะ น้องอันดาจะไปเล่นบ้านลมนะ” เด็กหญิงที่วิ่งนำไปก่อนแล้วหันกลับมาเร่งก่อนจะออกตัววิ่งไปอีกครั้ง

“อันดา อย่าวิ่งสิลูกเดี๋ยวหกล้มนะคะ” เสียงใสบอก ก่อนที่เด็กหญิงจะหยุดอยู่กับที่ ธราดล ยิ้มขำ เพราะน้องอันดาตัวน้อยดูจะกลัวคุณแม่เอามากๆ แม้ว่าคนข้างตัวเขาจะไม่เลยดุเลยสักครั้ง แต่เพราะเด็กหญิงสัญญาแล้วว่าจะไม่ดื้อ เพราะอย่างนั้น จึงมีแค่ คุณ
แม่ คนเดียวที่เอาน้องอันดาอยู่หมัด

“น้องอันดาขอโทษค่ะ” เด็กน้อยบอกเสียงเบา ก่อนที่ร่างบางจะเดินเข้าไปหา

“ไม่ต้องขอโทษ คุณแม่ไม่ได้โกรธ แต่เป็นห่วง ถ้าหนูล้มแล้วได้แผลทุกคนจะไม่สบายใจรู้ไหมคะ” เสียงใสบอกอย่างอ่อนโยน
ธราดลมองภาพนั้นอย่างตื้นตัน ก่อนจะสังเกตว่ารอบๆตัวพวกเขามีคนมองอยู่มากทีเดียวโดยเฉพาะ ร่างบางกับร่างเล็กตรงหน้าที่มีคนมองแล้วยิ้มให้กับความน่ารักของสองแม่ลูก แต่ก็มีสายตาของผู้ชายบางคนที่ทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วแน่น ความไม่พอใจแล่นพลิ้วมาจากกลางอก ไม่พอใจที่มีคนมองร่างบาง ของเขา ด้วยสายตาเจ้าชู้แบบนั้น

หืม ของเขา เหรอ ช่างเถอะ ตอนนี้ พุ ก็เป็นคนในบ้านของเขาจริงๆนิ

“พุ น้องอันดา ไปเล่นกันดีกว่านะคะ” เสียงทุ้มบอกก่อนจะอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยด้วยมือข้างเดียวส่วนอีกข้างกลับโอบเอวบางไว้หลวมๆ


“เอ่อ จริงสิ วันนี้ว่าจะพาพุมาตัดผม แต่ก็ลืมจนได้” ร่างสูงบอกก่อนจะยิ้มแห้ง

“ไม่เป็นไรค่ะ มันก็ไม่ได้เดือนร้อนอะไรอยู่แล้ว”

“เอาอย่างนี้ไหม เดี๋ยวกลับบ้านพี่ตัดให้เอง”

“พี่ดล ตัดเป็นด้วยเหรอคะ” ร่างบางเลิกคิ้วถาม

“เมื่อก่อนพี่เคยตัดให้น้ำบ่อยๆ น่ะ เพราะน้ำเขารักผมมาก ไม่ชอบให้ใครมายุ่ง พี่เลยกลายเป็นช่างตัดผมประจำตัวโดยปริยาย”

“พี่ดล รักคุณน้ำมากเลยนะคะ” ร่างบางถามเสียงเบา แต่กลับรู้สึกกลัวคำตอบเหลือเกิน ความวูบไหวในแววตาคมนั้นยิ่งทำให้หัวใจรู้สึกเจ็บ

“น้ำ คือรักแท้ของพี่”

ชลัมพุเงียบหลังจากที่ได้ฟังคำตอบ มือบางยกขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้าย ทำไมถึงเจ็บอย่างนี้ ทำไมเขาต้องเจ็บที่หัวใจทุกครั้งที่ฟัง เขาเป็นอะไร

“คุณพ่อ คุณแม่ขา น้องอันดาหิวน้ำ” เด็กดื้อที่เล่นซนมาได้พักใหญ่วิ่งมาหาผู้ปกครองที่นั่งอยู่ก่อนจะอ้อนเอาสิ่งที่อยากได้

“งั้นคนสวย รอคุณพ่อก่อนนะคะ เดี๋ยวคุณพ่อไปซื้อมาให้ แล้วอย่าซนนะคะ แล้วก็ฝากคุณแม่ด้วย” ประโยคสุดท้ายกระซิบกับเจ้า
ตัวเล็กเบาๆก่อนที่ร่างสูงจะผละไปซื้อน้ำตามบัญชาของเจ้าหญิงน้อย




“เอ่อ ขอโทษนะครับ ขอนั่งด้วยคนได้ไหม” เสียงหนึ่งเอ่ยทักก่อนที่ชายหนุ่มรูปร่างสูง ที่ดูจากหน้าตาแล้วน่าจะเพิ่งพ้นวัยมหาลัย
มาไม่นานเอ่ยถาม

“ได้ค่ะ”  ร่างบางบอกเสียงแผ่ว แม้ว่าคนตรงหน้าจะไม่มีจิตมุ่งร้าย แต่ ชลัมพุ กลับรู้สึกว่า ผู้ชายตรงหน้า อันตราย

“เอ่อ พอดีผมพาหลานชายมาเที่ยวน่ะครับ แต่แกงอแงจะเล่นบ้านลมเลยต้องพามา คุณก็เหมือนกันสินะครับ” ชายหนุ่มชวนคุย  พลางลอบมองใบหน้าขาวนวลที่อยู่ไม่ไกล ยอมรับว่าร่างบางตรงหน้านั้นสะดุดตามากเหลือเกิน แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่กลับโดดเด่นเหมือนมีบางอย่างที่แตกต่างจากคนทั่วไป ยิ่งได้นั่งใกล้ๆ  ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่า คนๆนี้มีอะไรน่าค้นหา ยิ่งมองยิ่งอยากทำความรู้จัก

“เอ่อ ค่ะ” ร่างบางตอบ แต่ก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆอยู่ดี  ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ด้วยความสงสัยเพราะเขาเองถือว่าเป็นชายหนุ่มที่สาวๆทั้งหลาย มองตามจนเหลียวหลัง แต่คนตรงหน้ากลับมีท่าทีเหมือนกลัวเขาเสียเต็มประดา

“ผมชื่อ ชานนท์ ครับ คุณชื่ออะไร” ชายหนุ่มไม่ละความพยายาม จะยังไงวันนี้เขาก็ต้องได้เบอร์ของคนสวยตรงหน้ามาให้ได้



“พุ!!” เสียงเข้มเอ่ยเรียกก่อนที่ร่างสูงของธราดลจะเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำปั่นของโปรดของลูกสาว แววตาคมจ้องชายหนุ่มที่น่าจะเด็กกว่าเขาหลายปี ด้วยความไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเสมองร่างบางตรงหน้าอย่างหัวเสีย ทำไมไม่รู้จักปฏิเสธนะ

“พี่ดล มาแล้วเหรอคะ” เสียงใสบอกก่อนจะยกยิ้มกว้าง ความกลัวเมื่อครู่หายไปหลังจากที่ได้เห็นร่างสูง ไม่รู้ทำไม ทุกครั้งที่คนๆนี้อยู่ใกล้ๆ ทุกครั้งที่มือใหญ่ กอบกุม เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่น และปลอดภัย

“ครับ แล้วนี่” ว่าพลางเสมองชายหนุ่มตรงหน้า

“พอดีว่าเขามาขอนั่งด้วย หลานเขาเล่นอยู่ในบ้านลมเหมือนกัน” ร่างบางตอบเสียงเบา

“อ้อ” ร่างสูงพยักหน้าก่อนที่มือหนาจะลูบผมดำขลับนั้นเบาๆ แต่แววตาคมกลับจ้องชายหนุ่มอีกคนไม่ลดละ ถ้าทำได้เขาอยากกระชากไอ้หนุ่มนั้นแล้วเหวี่ยงลงไปชั้นล่างเสียให้เข็ดกล้าดียังไงถึงได้มานั่งคุยกับ คนของเขา

“คุณพ่อ คุณแม่ขา น้ำน้องอันดาล่ะค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยตะโกนลั่นก่อนจะวิ่งเข้ามาหาคุณพ่อคุณแม่ของเธอ

“แม่??” ชายหนุ่มครางเสียงแผ่วก่อนจะมองร่างบางตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา แม้จะพอเดาอาการหึงหวงของร่างสูงออกแต่ก็ไม่คิดว่าทั้งสองจะเป็นสามีภรรยาที่มีลูกโตขนาดนี้แล้ว

“อยู่นี่ค่ะ โอรีโอ้ปั่น ของโปรดลูกสาวพ่อ” ว่าพลางยื่นแก้วโอรีโอ้ให้ลูกสาวตัวน้อย

“หนูเล่นเสร็จหรือยังคะ คุณพ่อว่าเราไปกินไอติมกันดีกว่า อยู่แถวนี้แมลงมันเยอะ” ธราดลบอกเสียงเข้ม

“น้องอันดาไม่เห็นมีสักตัวเลยค่ะคุณพ่อ”

“มีสิคะ ตัวใหญ่ด้วย ไปกินไอติมกันดีกว่า “

“ค่ะ” เด็กหญิงรับคำเสียงใสก่อนจะจับมือคุณแม่ไว้แน่น

ร่างสูงปล่อยให้สองคนเดินไปสักพักก่อนจะหันกลับมามองชายหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

“ขอบคุณนะครับที่นั่งเป็นเพื่อน ภรรยา ผม แต่ทีหลังไม่ต้อง” บอกเสียงเข้มก่อนจะสาวเท้าไปให้ทันสองคนที่นำไปก่อนมือหนาโอบเอวบางอย่างถือสิทธิ์ ก่อนจะหันกลับมามองชายหนุ่มที่ยังคงอึ้งไม่หาย


ธราดลไม่ใช่ ไก่อ่อน ร่างสูงผ่านความรักหนุ่มสาวมาไม่น้อย ทั้งรักจริงอย่าง น้ำ หรือรักเพียงข้ามคืน สำหรับผู้หญิงทั่วไป แต่ตอนนี้เขากลับไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองนัก ที่เขาแสดงออกเมื่อครู่ ดูเหมือนเขากำลัง หึงหวง อย่างนั้นหรือ คิดยังไงก็ไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้สักที ตกลงแล้ว เขาคิดยังไง กับร่างบางที่เขากำลังโอบกอดอยู่กันแน่


...................ต่อด้านล่างเบยนะ......................

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอน 6 รัก ???

ผ่านมาเกือบสองเดือนที่ชลัมพุเข้ามาอยู่ในฐานะ แม่ของน้องอันดา ธราดลเองก็วางใจที่จะให้ร่างบางไปไหนมาในในเกาะบ้างแล้วแต่ก็ยังต้องมีน้อยหรือป้านวลไปด้วยตลอด  ส่วนหนึ่งนั้นเพราะ กลัวว่าร่างบางจะมีอันตราย แต่เขารู้ดีว่ามันมีบางอย่างที่มากกว่านั้น บางอย่างที่เขาไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้สักที

“เดินวนจน พื้นจะสึกแล้วครับ คุณเพื่อน มึงมีอะไรในใจนักหนาวะ” เจ้าของห้องบอกก่อนจะลอบมองเพื่อนรักผ่านแว่นตาอย่างพิจารณา จู่ๆไอ้เพื่อนรักที่หายเข้ากลีบเมฆไปสองเดือนก็โทรมา บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมบอกสักทีว่ามีเรื่องอะไร

“ไอ้ดล ถ้ามึงยังเดินอยู่แบบนี้กลับบ้านมึงไปเถอะ กูเวียนหัว”

“ก็กูกลุ้ม”

“กลุ้ม กลุ้มอะไรวะ ธุรกิจมึงมีแต่รวยเอาๆ จะหยิบจะจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง สุขภาพก็แข็งแรง ลูกสาวก็น่ารัก แล้วมึงจะเอาอะไรอีก”

“เหอะ กูกลุ้มเรื่องนั้นซะที่ไหนล่ะ” ร่างสูงพ่นลมหายใจอย่างแรงก่อนจะกระแทกตัวลงบนโซฟาพร้อมกับโยนโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้เพื่อนสนิท

“เอามาทำไมเนี่ย”

“กูจะให้มึงดูรูป ในนั้นครับ”

วิชาญพยักหน้าอย่าง งงๆ เพราะกำลังไม่เข้าใจว่านายหัวธราดลต้องการอะไร ร้อยวันพันปีเคยให้ดูที่ไหนล่ะรูปในโทรศัพท์เนี่ย หวงยิ่งกว่าลูกอีก

“เฮ้ย!! ไอ้ดล มึงมีรูปน้ำอยู่ในเครื่องเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ น้ำไม่ชอบถ่ายรูปไม่ใช่เหรอ” คุณหมอนุ่มตาโต เมื่อภาพของผู้หญิงที่เขาคุ้นตาดีปรากฏตรงหน้า แต่พอสังเกตดีๆ กลับมีอะไรบางอย่างที่แปลกไป รูปพวกนี้ไม่ได้ถ่ายตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแต่ดูเหมือนเพิ่งจะถ่ายเมื่อไม่นานมานี้ !!

“มึงเล่นอะไรเนี่ยไอ้ดล” วิชาญถามเสียงเข้ม

“นั่นไม่ใช่ น้ำ แต่เป็น ชลัมพุ”

“ชลัมพุ ใครวะ ชื่อก็แปลก ไม่เห็นเหมือนชื่อผู้หญิงเลย แล้วที่สำคัญ คนเรามันจะหน้าเหมือนกันขนาดนี้ได้ยังไงวะ เท่าที่รู้ น้ำลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ” คุณหมอหนุ่มรัวคำถามจนร่างสูงตอบแทบไม่ทัน

“ไอ้หมอ ถ้ากูบอกอะไรไปมึงจะหาว่ากู บ้าไหมวะ”

“เฮ้ย ไอ้ดล นี่มันปรากฏการณ์ที่โลกต้องตกตะลึง เลยนะเว้ย กูคิดไม่ถึงจริงๆ นอกจากพระอภัยมณีแล้วยังมีมึงอีกคนที่ได้นางเงือกเป็นเมีย แต่ไม่ใช่นิ ของมึงมันนายเงือก ฮ่าๆๆ”  วิชาญหัวเราะลั่น ทันทีที่เพื่อนรักเล่าจบ ยอมรับว่าเขาเองก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับเรื่องที่เพื่อนสนิทเล่ามา แต่คิดอีกทีไอ้เพื่อนเขามันก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องโกหก

“กูไม่ตลก” ธราดลบอกเสียงเข้ม อยากจะถีบยอดอกไอ้เพื่อนสนิทที่เอาแต่ขำทั้งๆที่เขาเครียดจะตายอยู่แล้วเสียจริงๆ

“เฮ้ย น่าๆ กูแค่อยากให้มึงผ่อนคลาย ดล มึงเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีความรัก มึงไม่รู้จริงๆเหรอว่าความรู้สึกของมึงตอนนี้คืออะไรหรือมึงแค่ไม่อยากยอมรับ”  หมอหนุ่มตบบ่าเพื่อนเป็นเชิงให้กำลังใจ เขารู้ดีว่าเพื่อนสนิทของเขาสับสนแค่ไหน เป็นใครก็ต้องสับสนทั้งนั้นเมื่อคนที่ รู้สึกดีด้วย ดันมีหน้าตาเหมือนคนรักในอดีต 

“มึงต้องถามใจมึงเองแล้วล่ะ ว่ามึงชอบคุณพุเขา เพราะว่า เขาเป็นเขา หรือแค่หวั่นไหวที่เขาหน้าตาเหมือนน้ำ แต่ไม่ว่าผลมันจะออกมาทางไหน มึงต้องเผื่อใจไว้บ้างนะ คุณพุ เขาไม่ใช่ มนุษย์ สักวันหนึ่งเขาอาจจะต้องจากมึงไป”วิชาญบอก แม้มันจะดูโหดร้ายไปสักนิดแต่เขาก็อยากให้เพื่อนทำใจเอาไว้บ้าง ธราดลเป็นคนที่มั่นคงกับความรักมาก เขายังจำภาพวันที่น้ำจากไปเพราะเรือล่มได้ติดตา เพื่อสนิทของเขาแทบไม่เป็นผู้เป็นคน วันๆนอน จนอยู่กับขวดเหล้าจนไม่เป็นอันทำอะไร ไม่รู้ว่าโชคดีหรือมีกรรม น้องอันดาก็มาป่วยอีกคน แต่นั่นก็ทำให้เพื่อนของเขากลับมาเผชิญหน้ากับโลกอีกครั้งเพื่อรอยยิ้มเล็กๆของลูกสาวคนเดียว



ธราดลกลลับมาที่เกาะในช่วงเย็น แถมพ่วงคุณหมอหนุ่มอารมณ์ดีมาด้วยอีกคน

“คุณพ่อขา” เด็กหญิงตัวน้อยออกมารับคุณพ่อที่หน้าบ้านอย่างทุกวัน พร้อมกับร่างบางที่ยืนยิ้มรับอยู่เช่นกัน ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ธราดลรู้สึก ว่าการอยู่บ้านมันทำให้เขามีความสุขจริงๆหลังจากที่ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาสามปี บ้านที่มีเด็กหญิงตัวเล็กกับร่างบางเสียงใส ที่คอยยิ้มให้เขาเสมอ แม้ไม่พูดอะไรแต่เขากลับรับรู้ได้ถึงความห่วงใยผ่านรอยยิ้มนั้น

“ทักแต่คุณพ่อ ลุงหมอเสียใจนะคะ” คุณหมอหนุ่มยิ้มกว้างก่อนจะกางมือให้ร่างเล็กโผเข้ากอด

“คุณลุงหมอ คิดถึงจังเลยค่ะ”

“คุณลุงหมอก็คิดถึง คนสวยเหมือนกันค่ะ กินข้าว กินยา ตามเวลาไหม คนเก่ง”

“กินค่ะ น้องอันดาไม่ได้งอแง เวลากินยาเหมือนคุณพ่อนะคะ น้องอันดาเก่ง” เด็กหญิงยิ้มกว้าง พลางเอ่ยล้อนิสัยกินยายากของผู้
เป็นพ่อ ที่คุณลุงหมอชอบนินทาให้ฟัง

“อ่า คุณลุงหมอขา น้องอันดามีอะไรจะอวด คุณแม่ของน้องอันดากลับมาแล้วนะคะ อยู่นั่นไง” นิ้วป้องงชี้ไปที่ร่างบาง ก่อนที่คนยืนอยู่จะยกยิ้มให้  คุณหมอหนุ่มตาค้าง ถ้าหากว่าไอ้เพื่อนรักมันไม่บอกเขาว่า คนตรงหน้าเป็นผู้ชายล่ะก็เขาคงคิดว่า ชลัมพุ เป็นผู้หญิงแน่ๆ

สวย เป็นคำเดียวที่เขาคิดออกในตอนนี้

“ ไอ้หมอ เข้าไปกินน้ำในบ้านก่อนสิ เดี๋ยวส้น..ติดคอนะ” เสียงทุ้มของเจ้าของบ้านบอกก่อนจะโอบเอวของร่างบางอย่างแสดงความเป็นจ้าของ

“เหอะ ไอ้หมาหวงก้าง  ไปเถอะค่ะ น้องอันดา ลุงหมอมี วิตามินซีมาฝากเยอะแยะเลย อยากได้ไหมคะ”

“อยากได้ค่ะ”

“งั้นไปกันเลย”   คุณหมอใจดี บอกก่อนจะอุ้ม หลานสาวตัวน้อยเข้าไปในบ้าน



“ดูคนไม่ค่อยกลัวคนแปลกหน้าแล้วนะ” เสียงทุ้มในบอก แต่ ร่างสูงกลับรู้สึกว่าน้ำเสียงของเขามันดูประชดชอบกล

“คุณหมอเป็นคนดีครับ พุรู้สึกได้” ร่างบางตอบ

“เหอะ มันเหรอคนดี” ธราดลแค่นเสียง ทำไมถึงรู้สึกหงุดหงิดเพื่อนตัวเองขนาดนี้ก็ไม่รู้

“พี่ดล อย่าไปว่าคุณหมอสิครับ ไม่น่ารักเลย” เสียงใสพูดประโยคที่เอาไว้ ดุ ลูกสาว ตัวน้อยเพราะเขาบอกเลยว่า ร่างบางตามใจน้องอันดาเกินไป ไม่เคยดุเคยว่าลูกจะเคยตัว เจ้าตัวเลยได้คำดุที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เขาเคยฟังมา ไม่น่ารักเลย

“ครับๆ พี่ขอโทษครับ ไปเถอะเข้าบ้านกัน พี่หิวข้าวแล้ว”   

ธราดลแอบลอบถอนใจ ไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเอง หวั่นไหว กับร่างบางมากแค่ไหน ไม่ใช่ไม่รู้ว่า หวง ทุกครั้งที่มีคนอื่นเข้าใกล้ หึง ทุกครั้งที่เจ้าของใบหน้าหวานนั้นยิ้มให้กับคนอื่น และแทบขาดสติทุกครั้ง ที่มีใครแตะเนื้อต้องตัวร่างบาง และเขาเองก็มองออกว่าชลัมพุ ก็รู้สึกดี ต่อเขาเหมือนกัน แววตาที่เต็มไปด้วย ความรัก ของร่างบาง ที่มองมานั้นทำให้เขามีความสุข เขาพบเจอความรักในโลกมาแล้วทุกรูปแบบ แต่ ร่างบางในอ้อมกอดนั้นอ่อนต่อโลกเหลือเกิน ไม่ว่าจะคิดอะไร รู้สึกอะไรก็แสดงออกทางแววตาเสียหมด และธราดลก็ไม่ได้ไร้เดียวสาที่จะไม่เข้าใจ   แต่ร่างสูงกำลังสับสน ที่เป็นอยู่นี้ เพราะเขารักชลัมพุ หรือ เพราะ เขาเห็นร่างบางเป็นตัวแทนของน้ำ แต่จะให้ปล่อยร่างบางไปเขาก็ทำไม่ได้ แม้จะรู้ว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้เห็นแก่ตัวมากแค่ไหน แต่เขาก็ปล่อยไปไม่ได้จริงๆ



โต๊ะอาหารที่มีคุณหมอหนุ่มใจดีมาเพิ่ม ยังคงสนุกสนานเช่นเดิม เจ้าหนูจำไมประจำบ้านยังหาคำถามแปลกๆมาให้คนเป็นพ่อเป็น
แม่ รวมถึงคุณลุงต้องคิดหาคำตอบกันหัวปั่น

“ดีจริงๆเลยนะ” หญิงวัยกลางคนมองภาพครอบครัวอบอุ่นด้วยรอยยิ้ม

“อะไรดีเหรอป้า” น้อยเอ่ยถาม

“เอ็งก็ดูสิ นังน้อย ข้าไม่ได้เห็นคุณหนูกับคุณผู้ชายยิ้มกว้างขนาดนี้มาสามปีแล้วนะ ตั้งแต่คุณพุมาอยู่ที่นี่ ทุกอย่างก็ดีขึ้นมาก ”

“ใช่สิป้า คุณพุ ทั้งน่ารัก ทั้งแสนดี แถมยังรักคุณหนูขนาดนั้น ถ้าฉันเป็นคุณผู้ชาย ขอแต่งงานไปตั้งแต่สามวันแรกแล้วไม่รอนานขนาดนี้หรอก”

“นังน้อย เอ็งเนี่ยนะ ยุ่งเรื่องของเจ้านายจริงเชียว ไปล้างหม้อโน่นไป เร็วๆ”  นวลเอ็ดก่อนจะลอบถอนหายใจ หวังเหลือเกินว่า
ความสุขครั้งนี้มันจะยาวนานกว่าครั้งที่ผ่านมา อย่าให้มีอะไรมาพราก คุณพุ ไปจากคุณผู้ชายของเธออีกเลย




“อันดาหลับแล้วเหรอพุ” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เพิ่งเข้ามาในห้อง

“ครับ แล้วนี่พี่ดล ยังทำงานไม่เสร็จอีกเหรอครับ” ชลัมพุถามกลับ เมื่อสังเกตว่าร่างสูงเจ้าของห้องยังคงง่วนอยู่กับเอกสารที่คน
สนิทเอาให้ดูเมื่อตอนเย็น

“ยังเลยครับ แต่เหลืออีกไม่มากหรอก พุไปอาบน้ำแล้วนอนก่อนได้เลยนะ”

“ครับ” ร่างบางรับคำก่อนจะเลี่ยงไปเตรียมตัวอาบน้ำ  ธราดล พรูลมหายใจอย่างลำบาก เกือบสองเดือนที่อยู่ด้วยกัน ชลัมพุกับ
เขานอนห้องเดียวกันตลอด สาเหตุเพราะลูกสาวสุดที่รักไม่ยอมให้เขาแยกห้องกัน พอจะแยกก็ร้องไห้จ้าว่าคุณพ่อกับคุณแม่ไม่รักกันแล้ว เขาเลยต้องเลยตามเลยไปโดยปริยาย ธราดลเองก็ยอมรับ ว่า ไม่ได้ฝืนใจสักนิดที่ต้องนอนร่วมห้องกับ คน ไม่สิ ต้องบอกว่ากับเงือกที่ไม่รู้จัก  แต่ตอนนี้ชักจะเริ่ม ลำบากใจแล้ว ไม่ใช่ว่ารู้สึกไม่ดีอะไร เพียงแต่มันรู้สึกดี มากเกินไปต่างหาก มากจนเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะห้ามใจตัวเองได้อีกนานแค่ไหน  ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เขาไม่เคยล่วงเกินอีกคนไปมากกว่าการกอดหรือหอมแก้มตามคำขอของลูกสาว ร่างสูงรู้ตัวเองดีว่าเขา ไม่ใช่คนดีนัก และความอดทนของมนุษย์ก็มีขีดจำกัด การที่นอนกอดร่างนุ่มนิ่ม ที่ทำให้หวั่นไหว อยู่ทุกคืน มันทำให้ความอดทนของเขาลดต่ำลงทุกที


ร่างบางออกจากห้องน้ำด้วยชุดนอนลายเจ้าหญิงเงือกน้อยที่ลูกสาวสุดที่รักเลือกให้ ก่อนจะเสมองเจ้าของห้องตัวจริงทีนั่งหน้าเครียดอยู่บนโต๊ะทำงาน ชลัมพุ อยู่ที่นี่ได้สองเดือนแล้ว เป็นสองเดือนที่เขายอมรับว่ามีความสุขมากกว่าเวลา 250 ปี ที่อยู่ในทะเล นับวันหัวใจของเขายิ่งผูกพันกับผู้คนที่นี่มากขึ้นเรื่อย โดยเฉพาะ กับ คนตรงหน้า แววตาคมที่ทอดมองเขาอย่างอ่อนโยน มืออุ่นที่กอบกุมให้คลายกังวล อ้อมกอดที่มีไว้ให้เขาพักพิงเสมอ หรือแม้แต่ รอยยิ้มนั้น ก็ทำให้หัวใจของเงือกหนุ่มเต้นแรงทุกครั้งที่ได้เห็นมัน นั่นคือ ความรัก ใช่หรือเปล่า…

“พี่ดลดู เครียดๆนะครับ” เสียงใสถามก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างสูง

“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะ ดึกแล้ว พุไปนอนเถอะ”

“เอาอย่างนี้ดีไหม เมื่อกลางวัน พุดูในทีวีมา ถ้าเครียดมากๆ ต้องนวดขมับ พุทำให้พี่ดีกว่า” บอกอย่างร่าเริงเมื่อจะได้ลองวิชาที่แอบจำมาจากทีวี มือบางค่อยๆวางลงบนขมับทั้งสองข้างก่อนจะกดน้ำหนักลงบนขมับสลับหนักเบา

“รู้สึกดีขึ้นไหมครับ”

“อืม” ร่างสูงหลับตา ก่อนจะปล่อยให้ เจ้าของมือนิ่มนวดต่อไปเรื่อยๆ


“พุ”

“ครับ”

“พอแล้วล่ะ” ธราดลบอกก่อนจะจับมือนิ่มออกจากขมับ ร่างสูงลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับคนร่วมห้อง แววตาคมจ้องลึกเข้าไปดวงตาสีน้ำทะเลนั้นอย่างมีความหมาย มือหนาประคองใบหน้านวลไว้ ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะกดจูบลงบนปากบางอย่างอ่อนโยน

“พี่ดล ” ร่างบางเบิกตาโพลง หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาแต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าสัมผัสเมื่อครู่ทำให้เขารู้สึกดี

“พี่รู้ ว่าทุกอย่างมันเร็วเกินไป พี่รู้ว่าพี่เห็นแก่ตัว แต่พี่อยากขอร้อง ช่วยพี่หาคำตอบให้หัวใจตัวเองได้ไหม ช่วยพี่ให้รู้ทีว่าความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไร”

ชลัมพุไม่ได้ตอบคำถามนั้น แววตาสีน้ำทะเลสะท้อนเงาของร่างสูงก่อนที่ทาบริมฝีปากบางลงบนปากหนาของอีกคนแทนคำตอบ
ความรัก เหมือนห้วงเหวลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด คนที่พลาดพลั้งตกลงไปจะไม่มีวันได้กลับขึ้นมา ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่ ก็ไม่มีวันหลุดพ้นจากก้นเหวอันแสนเหน็บหนาวนั้นไปได้ แต่ผู้คนมากมายก็ยังเต็มใจที่กระโดดลงไป แค่หวังเพียงได้สัมผัส มันสักครั้ง ชลัมพุ เองก็เป็นหนึ่งในผู้คนจำนวนนั้น ที่ยอมกระโดดลงไปทั้งๆที่รู้ว่า มันจะมีแต่ความเจ็บปวด

ช่างโง่เขลานัก…


...........................TBC.......................


 :hao7:  หายหัวไปหลายวันเพราะไปปั่น น้องไม้ มาฮ่าๆๆๆ
รักวุ่นๆ ตอน 12 อัพแล้วนะจ๊ะตัวเธอออออออออออออ  :hao3:
ตอนนี้ก็  :katai5: กระดึบๆๆ ไปปั่น ต่อดีกว่า

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ฮืออออ ทำไมทั้งๆ ที่น่าจะมีความสุข
แต่กลับรู้สึกหน่วงมากกกกกก

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
อยู่ด้วยกันแบบนี้มีความสุขดี แต่ก็ต้องมีวันแยกจากกัน

ชลัมพุจะต้องจากไปด้วยเรื่องอะไรนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oreena

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
จะจบแบบเเฮปปี้มั้ยน้าาาาา        :m28: :m28: :m28: 

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เริ่มมีกลิ่นมาม่าโชยมา...

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ถ้าเห็นว่าเป็นตัวแทนไม่ต้องยุ่งเลยนะ  :beat:

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
 :mew6:
ตอบจบไม่อามาม่านะ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอน 7 คำตอบ

“มึงได้คำตอบแล้วสินะ” หมอหนุ่มเอ่ยถาม ทันที่ เพื่อนรักโทรไปหา

“อืม ขอบใจมึงมากนะที่ช่วย”

“เหอะ กูไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก็แค่พูดในสิ่งที่กูคิด แต่ดูเหมือนมึงจะฉลาดขึ้นนะ แปลว่า “กินปลา” ทะเลไปแล้วล่ะสิ”

“หึ” ร่างสูงไม่ตอบเพียงแค่แค่นเสียงในลำคอเท่านั้น แต่คนที่อยู่ด้วยกันมาเกือบทั้งชีวิต อย่างวิชาญมีหรือจะไม่รู้ว่า ป่านนี้ นาย
เงือกแสนสวยของเขาต้องเสร็จชาวประมงไปแล้วแน่นอน

“มึงจำที่กูบอกได้ไหม ไม่ว่าต่อไปมันจะเกิดอะไรขึ้น มึงต้องยอมรับมันให้ได้ ถ้ามึงกับคุณพุเกิดมาเพื่อกันและกันจริง สักวัน มันจะมีทางออกเว้ย”

“ขอบใจมึงมากนะเว้ยเพื่อนรัก แล้วเดี๋ยวกูไปเลี้ยงเหล้าตอบแทน”

“จะล้างท้องรอนะเว้ย แค่นี้นะ อีกห้านาทีกูต้องเข้าเวรแล้ว ดูแลคุณพุของกูดีๆด้วยล่ะ”

“สัด พุของกูเว้ย ไม่ใช่ของมึง!! แค่นี้นะ”

ธราดลวางสายจากเพื่อนรักก่อนจะทอดมองทะเลเบื้องหน้า จิตใจที่แสนว้าวุ่นกลับสงบลงอย่างประหลาด เขาไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว ตั้งแต่วินาทีที่ริมฝีปากบางนั้นทางทับลงมา หัวใจของเขาก็ได้คำตอบแล้ว ว่า เขาควรรักใคร อดีต ก็คืออดีต มันไม่มีวันที่จะย้อนกลับมาได้ คนเราต้องอยู่กับปัจจุบันและก้าวไปสู่อนาคต เขายังรักน้ำอยู่ก็จริง เธอจะยังคงอยู่ในความทรงจำของเขา แต่ชลัมพุ คือคนที่เขาจะรักนับจากวินาทีนี้ไปต้นไป

“อื้อ” เสียงใสครางอือ ก่อนที่เปลือกตาบางจะลืมขึ้นช้าๆ ดวงตาสีน้ำทะเลนั้นมองไปรอบๆราวกับกำลังหาอะไรบางอย่าง ร่างบางดู
เหมือนกำลังกังวลไม่น้อยที่ข้างกายไม่มีร่างสูงของเจ้าของบ้าน

“พุ มองหาใครครับ”

“พี่ดล” ชลัมพุเอ่ยเสียงแผ่ว ยอมรับว่าเมื่อครู่กำลังกลัว กลัวว่าจะถูกทิ้ง กลัวว่าจะไม่ได้รับการเอาใจใส่อีกต่อไป ตั้งแต่เมื่อไหร่
กันที่เขาขาดอีกฝ่ายไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ร่างสูงก้าวเข้ามาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา

“ทำไมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้น ล่ะครับ หรือว่า ยังเจ็บอยู่” ร่างสูงตามอย่างเป็นห่วงมือหนาลูปสะโพกมนอย่างถือวิสาสะ ความใกล้ชิดที่เกินคำว่า คนรู้จัก ทำให้ ชลัมพุอดเขินอายไม่ได้ แม้ว่าเมื่อคืนเขากับร่างสูงจะเดินข้ามผ่านเส้นแบ่งนั้นมาแล้วก็ตาม

“ไม่ใช่ครับ พี่ลืมไปแล้วเหรอว่า พุรักษาบาดแผลได้”อีกคน บอกเสียงเบา เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากธราดลได้มากโข ใบหน้าขาวนวลขึ้นสีจางๆน่ารักจนอดใจที่จะกดจมูกหาเศษหาเลยไม่ได้  ปกติเขาก็ไม่ค่อยทำอย่างนี้กับใครหรอก เห็นทีคงต้องโทษที่อีกฝ่ายน่ารักเกินไป

“แล้วถ้าอย่างนั้น เป็นอะไรครับ”

“พุกลัว” เงือกหนุ่มบอก

“กลัวว่า พี่ดลจะรังเกียจ กลัวว่าพี่จะทิ้งพุไว้คนเดียว ในเมื่อพุ ไม่ใช่มนุษย์”

“พุ ฟังพี่นะ ไม่ว่าพุจะเป็นใคร มาจากไหน หรือจะเป็นอะไร พี่ก็ไม่มีทิ้งพุเด็ดขาด เป็นพี่ซะอีกที่ต้องกลัว โกรธพี่ไหม เกลียดพี่หรือเปล่าที่พี่ทำแบบนั้นกับพุ ทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกตัวเอง”

“ไม่ครับ พุไม่ได้โกรธ” ร่างบางส่ายหัวเป็นพัลวันเพราะกลัวว่าอีกคนจะคิดมาก  ธราดลยิ้มขำ ชลัมพุของเขาน่ารักเสมอ แถมยังซื่อจนน่าเป็นห่วง แล้วแบบนี้จะปล่อยไปได้ยังไงกัน

“ชลัมพุ พี่ไม่ใช่คนดีอะไร พี่เป็นแค่คนเห็นแก่ตัวที่อยากผูกมัดพุให้อยู่กับพี่ตลอดไป แต่พี่ก็ยังรักน้ำอยู่ น้ำคือรักแรกในชีวิตพี่คงลืมเธอไม่ได้ พุรับได้ไหมถ้าหัวใจของพี่ไม่ได้เป็นของพุคนเดียว”

“พุรักพี่ดลครับ”

“พี่ก็รักพุนะ ขอโทษ ที่รักพุคนเดียวไม่ได้”

“ไม่เป็นไรครับ แค่รู้ว่าพี่รักพุบ้างก็พอแล้ว”

ร่างสูงสวมกอดเงือกหนุ่มไว้แน่น ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปเขาจะมีร่างในอ้อมกอดนี้อยู่เคียงข้าง ต่อให้วันข้างหน้าจะต้องพบเจอกับอะไร เขาจะไม่มีวันปล่อยให้คนที่รักจากไปอีกเด็ดขาด

“พี่รักพุนะ”

“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่รักพุ”


ก๊อกๆๆๆ

“คุณพ่อ คุณแม่ขา ทำไมวันนี้ตื่นสายจังเลยคะ” เด็กหญิงตัวน้อยตะโกนอยู่หน้าห้องเพราะวันนี้ดูเหมือนว่าคนในห้องจะตื่นสายเป็นพิเศษ

“พี่ดลปล่อยก่อนครับ เดี๋ยวลูกเห็น” ร่างบางบอกพลางแกะมือของร่างสูงอย่างทุลักทุเล เพราะดูเหมือนอีกคนจะไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่

“ถ้าเห็นจะดีใจตบมือใหญ่นะสิ พุก็รู้ว่าน้องอันดาชอบให้เรากอดกัน”

“พอเลยๆ พุจะไปเปิดประตูให้ลูก”

“ก็ได้ครับ แต่คุณแม่มาเร็วๆนะ คุณพ่อคิดถึง”

ฟอด    เจ้าของบ้านตัวโตบอกก่อนจะปล่อยอีกคนเป็นอิสระ แต่ก็ยังไม่วายกดจมูกลงบนแก้มใสเป็นเชิงแกล้ง



“คุณแม่ไม่สบายเหรอคะ ทำไมหน้าแดง” เด็กน้อยที่ยืนอยู่หน้าประตูเอ่ยถาม ก่อนจะวิ่งเข้ามาในห้อง

“คุณพ่อขา คุณแม่ต้องไม่สบายแน่ๆเลย หน้าแดงด้วย คุณพ่อพาคุณแม่ไปหาลุงหมอนะคะ” เด็กหญิงบอกก่อนจะชี้ไปที่คุณแม่ที่ยืนหน้าแดงอยู่ที่หน้าประตู

“พุ ไม่สบายเหรอ ไหนมาวัดไข้สิ” ร่างสูงว่า ก่อนจะเดินเข้ามาหา แล้วทาบหน้าผากเข้ากับหน้าผากของร่างบาง

“อ้าว ตัวก็ไม่ร้อนนิทำไมหน้าแดงกว่าเดิมล่ะครับ หืม”

“พี่ดล อย่ามาล้อกันสิ”

“คุณพ่อขา ตกลงว่าคุณแม่ต้องไปหาลุงหมอไหมคะ”

“ไม่ต้องหรอกครับลูก คุณแม่ไม่ได้เป็นอะไร แค่เขิน ฮ่าๆๆ โอ้ย พุ อย่าตีสิ มันเจ็บ” ร่างสูงหัวเราะลั่น แม้ว่าจะถูกมือบางเข้าที่ต้นแขนหลายครั้ง

“อ้อ คุณแม่เขิน อิอิ” เจ้าหญิงตัวน้อยที่เจ้าเล่ห์ไม่แพ้พ่อ ได้ทีเลยล้อใหญ่ จนคนถูกล้อ ได้แต่ยืนหน้าแดงเพราะทำอะไรไม่ได้

“ไม่แกล้งแล้ว พุไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะได้ลงไปทานข้าวกัน วันนี้จะพาไปเที่ยวน้ำตกท้ายเกาะ ไปไหมครับ”

“พี่ดลพาพุไปจริงๆ นะครับ” ดวงตาสีน้ำทะเลพราวระยับ เพราะตั้งแต่มาอยู่เขายังไม่เคยไปเที่ยวน้ำตกท้ายเกาะเลย

“พี่เคยโกหกพุหรือไง ไปเร็วๆเลยคุณแม่เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณลูก จะลงไปรอข้างล่างนะครับ”

ฟอด  บอกก่อนจะอุ้มลูกสาวออกจากห้องแต่ก็ยังไม่วาย ทำให้อีกคนเขินส่งท้ายอีกจนได้

“พี่ดล ไปเลยออกไปเลยทั้งพ่อทั้งลูกเลย”




น้ำตกท้ายเกาะ

ชลัมพุมองดูสองพ่อลูกที่เล่นน้ำอย่างสนุก พลางยกยิ้มกว้าง ตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่ก็เพิ่งจะได้เห็น อีกคนร่าเริงเป็นเด็กก็วันนี้

“คุณแม่ ไม่เล่นกบน้องอันดาเหรอคะ สนุกน๊า” เด็กหญิงตัวน้อยบอก

“นั่นสิ พุ ไม่ลงมาเล่นล่ะ ที่นี้ไม่มีคนอื่นหรอก พุเองก็ไม่ได้ลงน้ำมานานแล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่าเงือกลงน้ำจืดไม่ได้”

“ไม่ครับ พุลงได้ แต่ว่า..”  ร่างบางลำบากใจเมื่อ ถ้าลงเล่นน้ำร่างจริงก็ต้องปรากฏ เขากลัวว่าจะทำให้ธราดลตกใจแม้ว่าร่างสูงนั้น
จะเคยเห็นมาแล้วก็ตาม

“ลงมาเถอะ พี่บอกพุแล้วไม่ใช่เหรอต่อให้พุจะเป็นอะไร พี่ก็รักพุ”

“ครับ”

ร่างบางยิ้มรับก่อนจะกระโดดลงน้ำอย่างคล่องแคล่วขาเรียวเปลี่ยนเป็นหางทันทีที่สัมผัสน้ำ ร่างสูงได้แต่มองอย่างตื่นตะลึงแม้ว่าจะเคยเห็นมาแล้วแต่นั่นก็เป็นช่วงกลางคืน แต่พอได้เห็นอีกคนในร่างเงือกชัดๆแล้ว กลับอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้

“ว้าว คุณแม่เป็นเจ้าหญิงเงือกน้อย ดีจังเลย คุณแม่เป็นบ่อยๆนะคะ น้องอันดาชอบ เวลาที่คุณแม่เป็นเงือก คุณแม่สวย” เด็กหญิง
หัวเราะร่วน

“แต่คุณพ่อว่า ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนคุณแม่ ของน้องอันดาก็สวยทั้งนั้น จริงไหมครับ” เสียงทุ้มบอกก่อนจะสวมกอดร่างบางจากข้างหลัง

“ใช่ค่ะ คุณแม่สวยที่สุดเลย”



วันเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ พอรู้ตัวอีกทีชลัมพุก็อยู่ในฐานะมนุษย์ได้สามเดือนแล้ว ร่างบางเหม่อมองทะเลเบื้องหน้า  แสงจันทร์ที่สาดส่องสะท้อนเงาระยิบระยับ นั้นช่างสวยงามเหลือเกิน แม้จะรู้ว่าในโลกบนบกไม่ใช่ที่ของตัวเอง แต่เขาก็ไม่อาจห้ามหัวใจได้เลย แม้จะคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัวมากแค่ไหน เขาก็กลับไปไม่ได้ เพราะเขารู้ดีว่าหากกลับลงไปเขาจะไม่มีวันได้เห็นหน้าคนที่ตัวเองรักอีกต่อไป   เสียงเพลงทำนองหวานดังแว่วมากับสายลมชลัมพุ กระตุกวาบก่อนจะรีบวิ่งออกจากบ้านเพื่อตามเสียงนั้นไป

“อาโป” เสียงใสเอ่ยเรียกแม้ไม่เห็นตัวเขาก็รู้ดีว่าคนที่ร้องเพลงนี้เป็นใคร

“เจ้ามาแล้ว หรือ ในที่สุดเจ้าก็ยอมมาพบพี่เสียที” เสียงนั้นเอ่ยตอบก่อนที่ร่างหนึ่งจะโผล่ขึ้นมาจาก

 “พี่มาที่นี้ มีอะไรหรือเปล่า”

“ชลัมพุ เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจดีว่า พี่มาทำไม เจ้าอยู่บนบกนานเกินไปแล้ว ร่างกายของเราไม่ได้แข็งแรงพอที่จะอยู่บนนั้น กลับบ้านกับ
พี่เถอะ”  อาโป บอกอย่างอ่อนโยน

“เรากลับไปไม่ได้ กลับไปไม่ได้แล้วจริงๆ” เงือกหนุ่มมองพี่ชายด้วยความรู้สึกผิดแต่เขามาไกลเกินกว่าจะกลับไปแล้ว

“คิดให้ดี ก่อนจะทำอะไร มนุษย์พวกนั้น เจ้าเล่ห์ หลอกลวง ไม่มีความจริงใจ เจ้าลืมสิ่งที่พวกมันเคยทำแล้วหรือ เจ้าลืมคำสั่งสอนของบรรพบุรุษหรือ หากท่านพ่อรู้เข้า ท่านคงเสียใจมาก”

“อาโป เราขอโทษ แต่เรากลับไปไม่ได้จริงๆ เรารักพี่ดล รักน้องอันดา พวกเขาคือหัวใจของเรา ถ้าไม่มีพี่ดลกับน้องอันดา ชีวิตเรา
จะมีความหมายอะไร ”

“เราเตือนเจ้าด้วยความหวังดี ชลัมพุเอ๋ย เวลาของเจ้าเหลืออยู่ไม่มากแล้ว จงคิดให้ดี ชีวิตของเจ้ามีค่ากับพวกเราชาวเงือกมากแค่ไหนตัวเจ้ารู้ดี อย่าเอามาทิ้งไว้ที่นี่เลย อีกไม่กี่วัน ท่านพ่อจะกลับมาจากมหาสมุทรทางตะวันออกแล้ว เราไม่รู้ว่าจะปิดท่านไปได้อีกนานแค่ไหน ” 

“อาโป” ร่างบางมองพี่ชายทั้งน้ำตา เขารู้ดีว่าตัวเองทำผิดมากแค่ไหน เขารู้ดีว่าวันข้างหน้ามีความเจ็บปวดมากมายรอเขาอยู่ แต่เขาก็รัก ร่างสูงเกินกว่าจะตัดใจได้

เขามันคนเห็นแก่ตัว

“พุ พุอยู่ไหนครับ พุ!!” เสียงทุ้มที่ตะโกนเรียกทำให้สองพี่น้องสะดุ้ง ก่อนที่คนเป็นพี่ จะบอกกับน้องเป็นคำสุดท้าย ก่อนที่ร่างนั้นจะดำน้ำหายไป

“คิดให้ดี แต่ไม่ว่าเจ้าจะตัดสินใจอย่างไร เจ้าก็ยังคงเป็นน้องรักของพี่เสมอ ชลัมพุ”

“อยู่นี่เอง พี่เป็นห่วงมากรู้ไหม” ร่างสูงกอดอีกคนไว้แน่น วินาทีที่ไม่เห็นร่างบางนอนอยู่เคียงข้างเขายอมรับว่ากลัวเหลือเกิน กลัวว่า อีกคนจะทิ้งเขาไป

“พุ นอนไม่หลับน่ะครับ เลยออกมาเดินเล่น”

“คิดถึงบ้านเหรอ” เสียงทุ้มถามอย่างอ่อนโยน พลางกระชับอ้อมกอดแน่น

“ครับ พุคิดถึงบ้าน” บอกพลางสะอื้น

“พี่ขอโทษนะพุ ขอโทษที่รั้งเราให้อยู่ที่นี้ ขอโทษที่พี่เห็นแก่ตัว” 

สองร่างตะกองกอดท่ามกลางแสงจันทร์ เสียงคลื่นกระทบฝั่งดัง ซ่าๆ แต่ไม่อาจกลบเสียงสะอื้นของทั้งสองคนได้เลย


...............................TBC.............................


เรื่องนี้ ตอนหน้า จบค่ะ  :a5:

ฮ่าๆๆๆ  :hao7:

ไม่สปอย หรอก เด๋วรู้

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
จบแฮปปี้ไหมหนออออ  :hao4:

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
 :mew6:
ขอแบบ happy ending นะ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
จะจบแล้วเหรอ  :a5: เร็วจัง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จะตัดสินใจยังไงล่ะทั้งสองคน?

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
จะจบแล้วหรอ ไม่เศร้าหรอก ใช่มั้ยยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด