...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.  (อ่าน 408124 ครั้ง)

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
รอดูคนที่จะมาบริโภคคนแก่555

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
เป็ยเด็กร้ายกาจจริงๆ :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :beat:

หมั่นไส้ แล้วสุดท้ายจะรู้ว่าใครที่เลือกบริโภคใคร ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม

แต่สุดท้ายมันผิดที่คุณแม่นั่นแหละ จะโทษเด็กมันก็ไม่ได้  ปากบอกทำทุกอย่างเพื่อลูกสุดท้ายทำตามใจความต้องการตัวเองทุกอย่างสมแล้วที่ผัวทิ้ง บอกเลยย!!!

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29

บ้านหลังเล็กของซีและทราย

บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง

เมื่อแสงสุดท้ายแห่งอาทิตย์ผ่านพ้นไป เปลี่ยนเป็นดวงจันทร์สุกใสเข้ามาแทน ที่บ้านหลังเล็กของสองพี่น้อง แกลเลอรี่ไม้สีขาวขนาดกะทัดรัด กลิ่นหอมอ่อนๆของลั่นทมดอกใหญ่ที่สูงตระหง่านอยู่หน้าบ้านโชยเข้ามาถึงด้านใน ทำให้บรรยากาศช่วงกลางคืนแบบนี้ดูอิ่มเอมและอบอุ่น

“นั่งยิ้มอะไร หืมม” ภูวดลเอ่ยถามน้องชายตัวเล็ก  หลังทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อยวารินเดินไปเปิดเพลงเบาๆแล้วมานั่งดูภูวดลลงสีรูป เขาเล่นเกมส์ทางโทรศัพท์ไปด้วยดูพี่ชายทำงานไปด้วย

“พี่ซีชอบเพลงนี้ไหม”

“ครับ?”

ภูวดลเงยหน้าขึ้นจากงาน  ‘ทรายกับทะเล’ เพลงที่ทรายมักเปิดให้เขาฟังทุกครั้งที่เจ้าตัวมานั่งมองเขาทำงาน วารินจะนั่งจ้องเขาแล้วก็ยิ้มให้แบบนี้ทุกครั้งตั้งแต่เด็ก

“ทรายชอบเพลงนี้  ‘ทรายกับทะเล’ ก็เหมือน  ‘ทรายกับพี่ซี’ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเราสองคนจะยังอยู่ด้วยกันเสมอ พี่ซีเคยบอกทรายไว้ทรายจำได้นะครับ”

ภูวดลยิ้มบาง เขาวางพู่กันในมือลงแล้วเดินเข้ามาหาวารินใกล้ๆมือหนาลูบลงที่ศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน วารินกอดเอวพี่ชายไว้แล้วซุกใบหน้าลงที่พุงอุ่นๆของภูวดล น้องชายตัวเล็กพึมพำเพลงโปรดในลำคอเบา ๆ

“...คือผืนทรายที่โอบทะเลไว้จะวันใดมั่นคงเหมือนดังที่เป็น อยู่เคียงข้างเธอใจไม่ไหวเอนและยังคงชัดเจนอย่างนั้น หาดทรายยังสวยรายล้อมทะเลด้วยรักคงไว้ด้วยใจแน่นหนักไม่หวั่นยามพายุผ่าน จะมีเพียงฉันและเธอตราบนานเท่านานมีรักมีใจผสาน ดั่งทรายอยู่คู่ทะเล.....”

“ปล่อยพี่ได้รึยังคนดี สีแห้งหมดแล้วครับเดี๋ยวไม่เสร็จนะ” เขาจำต้องละออกจากน้องชายขี้อ้อนมองเห็นวารินยู่หน้าเป็นลูกหมาอยู่ที่เดิมก็อ่อนใจ “จะกวนพี่รึไงวันนี้มีอะไรไม่สบายใจใช่ไหม อยากเล่าให้พี่ซีฟังรึเปล่า”

“เปล่าสักหน่อย ทรายขึ้นไปดูข่าวข้างบนดีกว่า เดี๋ยวพี่ซีจ๋าเสร็จแล้วตามมานะทรายรอนอนพร้อมกัน”

ตอนแรกวารินกะว่าจะเล่าเรื่องธาราธารให้ภูวดลฟังแต่ก็เปลี่ยนใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาโดนแกล้งหลายอย่างไม่อยากให้ภูวดลเป็นห่วง ภูวดลนั่งทำงานของตนเองไปได้พักหนึ่งเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขามองหาที่มาของเสียงจึงเห็นว่าวารินลืมวางไว้ที่โซฟา ชายหนุ่มยกขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกชื่อไว้ เขาถือขึ้นไปส่งให้น้องชายที่กำลังนอนดูทีวีอยู่ในห้องอย่างสบายอารมณ์

วารินรับโทรศัพท์ไปพักหนึ่งก็ขมวดคิ้วแน่น จากนั้นก็เปลี่ยนมานั่งกุมขมับเมื่อวางสายลงภูวดลจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“คุณธารน่ะครับบอกให้ทรายออกไปหาตอนนี้”

“ตอนนี้!  ธาราธารลูกชายคุณภัครจิราน่ะเหรอ” ภูวดลเหลือบมองนาฬิกาที่โต๊ะ จวนจะหกทุ่มแล้ว

“ครับ เห็นบอกว่าอยู่ที่ร้าน ฟิฟตี้วิลล่า ให้ทรายไปจ่ายเงินให้น่ะ” วารินเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ตู้มาเปลี่ยนอย่างอารมณ์เสีย

“พี่ซีทำงานเสร็จแล้วเหรอครับ หรือว่ายังต้องทำต่ออีก” เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จวารินหยิบกระเป๋าสตางค์โทรศัพท์กับกุญแจรถ

“เดี๋ยวพี่พาไปดีกว่านั่นมันผับไม่ใช่เหรอ  รอพี่เอาพู่กันไปแช่แป็บนึง”

ภูวดลเดินนำลงไปด้านล่างเขารีบจัดการกับอุปกรณ์เครื่องมือระบายสี จากนั้นจึงเดินออกไปนั่งตำแหน่งคนขับเนื่องจากวารินถอยรถออกมารออยู่ที่หน้าบ้านแล้ว เขามีรถญี่ปุ่นเล็กๆอยู่คันหนึ่งเอาไว้ให้วารินใช้ขับไปทำงาน

“ขอโทษนะครับทำให้พี่ซีเดือดร้อนไปด้วย”

ภูวดลยกมือขึ้นลูบหัววารินอย่างปลอบใจเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดเอามากๆ  ใช้เวลาไม่นานนักสองพี่น้องก็มายืนอยู่ที่หน้าผับชื่อดังแถวทองหล่อแหล่งรวมตัวของคนรวยวัยทีน เหล่าเซเลปชั้นนำไม่มีใครไม่รู้จัก  'ฟิฟตี้วิลล่า' วารินกดโทรออกหาธาราธารทันที

“พี่ซีรอที่รถนะถ้ามีอะไรโทรมา”

เมื่อภูวดลขอแยกตัวออกมาอย่างรู้หน้าที่ วารินก็ยื่นบัตรให้พนักงานที่ด้านหน้าเมื่อรู้ว่าธาราธารนั่งอยู่ที่โซนเทอเรส ตอนแรกพนักงานจะไม่ให้เข้าแต่เมื่ออ้างชื่อเด็กในความดูแลทุกอย่างก็เดินหน้าอย่างง่ายดาย

“ช้านะ! รู้สึกผมจะโทรหาพี่เป็นชั่วโมงแล้ว”

ธาราธารนั่งไขว่ห้างสบายๆในมือขวาช้อนแก้วไวน์ขึ้นละเลียดจิบขณะที่มือซ้ายสวมกอดเอวหญิงสาวคนหนึ่งไว้ เธอซุกไซ้ริมฝีปากสีสดอยู่แถวซอกคอเขาอย่างลืมอาย วารินนั่งลงข้างๆ

“ใครอ่ะคะธาร กี้รู้จักได้ไหม”

“พี่ชายผม กี้อยากรู้จักเหรอครับ”  เขาก้มลงจ้องหน้าหญิงสาวใกล้ๆ กระชับเอวคอดไว้แน่นหอมแก้มเนียนนั้นไปหนึ่งทีก่อนจะปล่อยให้เธอเติมไวน์ใส่ให้เขาอย่างรู้งาน กี้รินอีกแก้วส่งให้วาริน

“พี่ชายแน่เหรอหน้าตาไม่เห็นเหมือนกันเลย ธารออกจะหล่อทำไมมีพี่ชายหน้าตาแบบนี้อ่ะ จืดจัง!”  กี้แกล้งกระเซ้าหากแต่วารินกลับคิดเป็นจริงเป็นจัง  แน่นอนเขาไม่ใช่คนหล่อหากเทียบกับธาราธาร แต่ใครๆหลายคนต่างก็ชมว่าเขาเป็นคนที่ดูดีผิวพรรณสะอาดหมดจด  วารินถึงกับส่ายหัวเบาๆนึกไปว่าเด็กสมัยนี้ช่างใจกล้ากันจริง ๆ จะพูดจะจาอะไรไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่กันบ้างเล้ย

“เตี้ยแบบนี้เรียกว่าหล่อได้ก็แปลกล่ะ”

ธาราธารพึมพำในลำคอแต่วารินก็ยังอุตสาห์ได้ยิน เขาไม่อยากจะสนใจคำพูดแดกดันของเด็กหนุ่มอีกแล้ว นึกอึดอัดและเกรงใจภูวดลที่รออยู่ด้านนอก วารินกวาดตามองเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ไวน์ยี่ห้อแพงกับเบียร์นอกยี่ห้อดังรวมถึงกับแกล้มอีกสองสามอย่าง

ธาราธารนี่ตัวล้างตัวผลาญจริง ๆ

“ธารจะกลับเลยไหม จะตีหนึ่งแล้วนะ” วารินถามขึ้น ไวน์แก้วแล้วแก้วเล่าที่เด็กสาวบรรจงรินแล้วส่งให้ธาราธาร วารินเห็นท่าจะไม่ได้กลับง่ายๆแน่เขาจึงตั้งใจจะลุกออกไปบอกภูวดลแต่ถูกธาราธารดึงแขนไว้

“ทำไมไม่กิน จะไปไหน” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาถาม

“เรียกเก็บตังค์เลยได้ไหมพี่ง่วงนอนแล้ว”

ธาราธารชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนหันไปบอกบางอย่างกับเด็กสาว เขาล้วงกระเป๋าควักใบพันมานับให้จำนวนหนึ่งหลังจากนั้นเด็กที่ชื่อกี้ก็หันมาส่งยิ้มหวานให้วาริน วารินจึงยิ้มตอบไปหน่อยหนึ่งแล้วเธอก็เดินออกไปจากโต๊ะ

“สนใจเหรอ  เขาชื่อกี้ทำพาร์ทไทม์ที่นี่ นัมเบอร์วันด้วยนะ เด็กผมเองถ้าสนใจจะแบ่งให้ก็ได้”

ธาราธารพูดแล้วยกแก้วขึ้นดื่มอย่างไม่คิดอะไรในขณะที่วารินแก้มแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้ว วารินเป็นผู้ชายเรียบร้อย ตัวและนิสัยเขาเด็กกว่าอายุจริงมากมายแม้เขาจะเข้าวัย 30 แล้วแต่ก็ยังไม่เคยคบใครจริงจังเลยสักคนและเพราะอย่างนั้นเมื่อพูดเรื่องเซ็กส์เขาจึงรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา พอดีกับมีพนักงานเอาใบเสร็จเข้ามาให้ วารินมองจำนวนเงินแล้วยื่นบัตรจ่ายออกไป

สองหมื่นหก....ธาราธารเป็นเด็กที่น่ากลัวจริง ๆ

“จะอายอะไร้ผู้ชายด้วยกัน” เด็กหนุ่มพึมพำ

พนักงานเดินกลับมาเอาสลิปให้วารินเซ็นธาราธารวางทิปไว้ให้1 ใบแล้วลุกขึ้นเดินนำออกไป น้องพนักงานรีบโค้งต่ำให้เกือบเก้าสิบองศา แน่นอนอยู่แล้วได้ทิปแบงค์สีเทาขนาดนั้นเป็นใครๆก็โค้ง

“มันไม่เยอะไปหน่อยเหรอ ใช้เงินให้มันเพลาลงบ้างเหอะ” เมื่อออกมาถึงด้านนอกวารินจึงเอ่ยปาก ธาราธารชะงักกึกดวงตาคมกริบหันกลับมามองเขาเขม็ง

“พี่เป็นใคร?!  เป็นแม่ผมเหรอ” เขาใช้น้ำเสียงเย็นเยียบ วารินฟังแล้วถึงกับหน้าชา “รู้จักกันได้แค่วันเดียวอย่าทำมาเป็นสั่งสอน แล้วนี่มายังไง?”

ได้รู้จักธาราธารมาตั้งแต่เช้าจนถึงป่านนี้วารินถึงได้ตระหนักว่าเด็กนี่เป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้ นึกจะพูดดีเรียกพี่ก็ดีใจหาย แต่ถ้าพูดจาไม่สบอารมณ์เข้าหน่อยเขาจะอารมณ์เสียแล้วเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างทันที วารินข้องใจว่าธาราธารถูกเลี้ยงดูมาแบบไหนกันแน่

“..ทราย..” เสียงทุ้มนุ่มของภูวดลเรียกขึ้นใกล้ๆแต่กลับดึงความสนใจจากวารินได้ทั้งหมด

“ขอโทษครับพี่ซีช้าไปหน่อย ธารนี่พี่ชายพี่ ชื่อพี่ซี พี่ซีครับนี่คุณธาราธาร” วารินแนะนำสองคนให้รู้จักกัน ธาราธารไม่กล่าวทักออกไปเขาใช้สายตาดูแคลนมองภูวดลตั้งแต่หัวจรดเท้า ภูวดลเองเมื่อเห็นแบบนั้นจึงไม่ใส่ใจคนตรงหน้าอีกเขาเดินเข้าไปโอบเอววารินไว้ “กลับได้รึยังครับ ดึกแล้ว”

“งั้น....

“แต่พี่ต้องไปส่งผมก่อน” ธาราธารพูดแทรกขึ้นห้วนๆขณะที่วารินกำลังจะเอ่ยปากบอกลา

“หืม? แล้วธารมายังไง”

“ขับรถมา แต่ตอนนี้ขับกลับไม่ไหวแล้ว เมา!” น้ำเสียงที่พูดไม่ได้แสดงความเมาเลยสักนิดเดียว วารินได้แต่ถอนใจอย่างระอา

“เป็นพี่เลี้ยงผมไม่ใช่รึไง ทำก็ทำให้ถึงที่สุดสิ ออกมาจ่ายเงินให้แล้วก็ต้องพากลับไปส่งให้ถึง เตียง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวผมหนีไปเที่ยวต่อจะยุ่งยากพี่ทรายอีกนะครับ หึหึ”  เขาแกล้งกระซิบกระซาบถ้อยคำใส่วาริน พลางทำสีหน้ายียวนใส่ภูวดลที่กำลังส่งสายตาเป็นห่วงคนน้องอย่างชัดเจน เห็นแล้วยิ่งรู้สึกข้องใจ

...พี่ชายมองน้องชายด้วยสายตาแบบนี้??...

“พี่ซีครับเดี๋ยวผมไปส่งคุณธารก่อนแล้วจะตามกลับไปนะครับ” วารินตกลงใจว่าจะไปส่งธารธาราเขาจึงเดินเข้าไปบอกพี่ชายใกล้ๆ ภูวดลยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก่อนบอกกลับน้องชายว่าเดี๋ยวเขาจะรอเปิดบ้านให้ ให้วารินขับรถดีๆไปส่งเสร็จแล้วให้รีบกลับ  วารินรับคำ

“แวะซื้อกาแฟก่อนนะ หิว” พอรถเคลื่อนออกมาได้ธาราธารก็พูดขึ้น

“กินของที่ไหนล่ะ บอกทางแล้วกัน”

ธาราธารบอกทางวนไปเวียนมาวารินขับตามให้วุ่นวายไปหมด ในที่สุดรถก็มาจอดตีไฟที่หน้าร้านกาแฟร้านหนึ่ง  “ลงไปซื้อให้สิ ผมเอา ชามะนาวเชคนะ ” วารินหันกลับมามองในทันที ไหนว่าจะกินกาแฟแล้วให้ลงไปซื้อชามะนาวเนี่ยนะ

“ลงไปดิ เดี๋ยววนรถมารับ มันจอดไม่ได้เนี่ย เห็นไหม” เขายัดแบงค์ร้อยใสกระเป๋าเสื้อให้วารินหนึ่งใบและบอกไม่ให้วารินเอากระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์ลงไปเพราะกลัวจะเกะกะถือของไม่สะดวก

ในที่สุดคนตัวเล็กก็เดินลงไปซื้อ  ธาราธารเปลี่ยนมาเป็นคนขับแล้วเขาก็ขับหายออกไป วารินกลับมายืนรออยู่เกือบสามสิบนาที เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วดูอีก ตีสองแล้ว อย่าบอกนะว่าเขาโดนเจ้าเด็กนั่นกลั่นแกล้งอีก มันจะเป็นไปได้อย่างไรขับรถไปวนไม่น่าจะกินเวลาเกินสิบห้านาทีด้วยซ้ำ ช่วงดึกดื่นแบบนี้รถลาก็ไม่ค่อยมีถนนโล่ง วารินยืนรอจนเหนื่อยเขาหย่อนตัวลงนั่งข้างฟุตบาตวางแก้วชามะนาวลงข้าง ๆ ไม่สนใจจะละลายหรือไม่ โทรศัพท์กระเป๋าสตางค์อยู่บนรถทั้งหมด ถ้าโดนทิ้งขึ้นมาจริง ๆ คงต้องเรียกแท็กซี่กลับ แต่แท็กซี่ดึกดื่นป่านนี้อันตรายมาก

เขาเริ่มนึกถึงภูวดล ป่านนี้พี่คงชะเง้อคอยอยู่ที่หน้าบ้าน รอบ ๆ ตัวเงียบขึ้นไปทุกทีไฟสีส้มจากยอดตึกสูงค่อยดับลงดวงแล้วดวงเล่า คนเริ่มน้อยลงไปเรื่อย ๆที่สำคัญเขาไม่รู้ทางเลยว่าจุดนี้มันคือส่วนไหนของกรุงเทพกัน  เพราะว่าขับมาตามที่ธาราธารบอกวนซ้ายเวียนขวามั่วไปหมด ดูนาฬิกาอีกทีจวนจะตีสามแล้ว วารินเริ่มคอตกก้มหน้าซุกหัวเข่า

ธาราธารคงเกลียดเขามากถึงได้แกล้งเขาขนาดนี้ เขาไปทำอะไรให้กัน ดวงตากลมรื้นไปด้วยน้ำ วารินเกือบจะร้องไห้อยู่แล้วถ้าไม่มีรถคันคุ้นเคยมาจอดลงต่อหน้าเขาเสียก่อน คนขับคุยโทรศัพท์ค้างอยู่หน้าตายิ้มแย้มอารมณ์ดี ธาราธารที่ยังแนบโทรศัพท์มือถือไว้กับหูเปิดรถเดินลงมาเปลี่ยนเป็นตำแหน่งเป็นคนนั่ง วารินรีบเดินขึ้นไปนั่งแทนที่ตำแหน่งคนขับ

คนตัวเล็กขับไปโดยไม่พูดไม่จาอะไรเลย ขณะที่อีกฝ่ายก็ชี้บอกทางเป็นระยะ พอเข้าเขตที่เขาเริ่มคุ้น เด็กหนุ่มข้างๆก็วางโทรศัพท์ลง

...ใช่ เขาเพิ่งคุยกับปลายสายจบ... 

“ธารไปไหนมา พี่รอเรานานเลยนะ” วารินเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน ธาราธารยกชามะนาวขึ้นมาดูดแล้วทำหน้าแปลกๆ มันคงจืดหมดแล้ววารินแอบสมน้ำหน้าในใจ

“คุยโทรศัพท์ไง ลืมไปว่าต้องกลับมารับ เผลอขับเกือบจะถึงบ้านแน่ะ”  เขาตอบเรียบ ๆ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาไม่ได้ทำอะไรผิดที่ปล่อยให้อีกฝ่ายรออยู่เกือบสองชั่วโมง วารินแทบอยากจะหันไปด่า เขาเม้มปากแน่นอย่างอดทน

“กลัวถูกทิ้งหรือไง ตาแดงเชียวนะ ร้องไห้เหรอไหนดูดิ๊” 

เขาพูดยิ้มๆแกล้งเอามือมาเชยคางเล็กให้หันมาหา  วารินรีบผลักมือเขาออกห่างแล้วดุว่าอย่าเล่นอะไรแบบนี้อีก ดึกๆมันเปลี่ยวจะว่าเขากลัวก็ได้

“รู้แล้วน่าโทษที” ธาราธารงึมงำๆในลำคอเบา ๆ แต่วารินก็ยังแอบได้ยิน 

“นี่! คนนั้นน่ะ พี่ชายพี่แน่เหรอ”  พอรถเปลี่ยนมาขึ้นทางด่วนจู่ๆ ธาราธารก็ถามขึ้นวารินหันมามองเขาแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปตั้งใจขับต่อ วารินเพิ่งเคยขับบีเอ็มสปอร์ตเป็นครั้งแรกเพราะฉะนั้นจึงตั้งใจขับมากอีกทั้งกลางคืนรถก็วิ่งกันเร็วกว่าปกติ ธาราธารเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดหลังคา วารินตกใจทำหน้าเหรอหรา ลมโกรกผมปลิวยุ่งไปหมด

 “หึหึ ทำหน้าอะไรตลก แค่เปิดหลังคารับลมหน่อย ตกใจอะไรนักหนาคิดว่าหลังคารถปลิวรึไง” เขายกแขนท้าวขอบประตูไว้ เสยผมเล่นแข่งกับแรงลม

“จะเปิดทำไมลมแรง แสบตาด้วย” ที่สำคัญอายคนมากแต่วารินไม่กล้าพูด

“ผมพี่ทิ่มตาน่ะสิ ไว้ยาวทำไมเป็นผู้ชายแท้ๆ”  เขาขยับเข้ามาใกล้ คว้ารวบผมด้านหน้าของวารินเสยขึ้นค้างไว้แล้วเปิดเอายางรัดผมที่ช่องเก็บของออกมามัดรวบครึ่งหัวให้วารินแบบลวกๆ

วารินหันมองเขาแบบงงๆลดระดับความเร็วลงนิดหน่อย   

“เห็นแล้วรำคาญลูกตาชะมัด ยาวจนทิ่มคอแล้วไปตัดซะด้วยล่ะ”

คนตัวเล็กแอบอมยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มเริ่มแดงระเรื่อขึ้นมา เขารู้ธาราธารตั้งใจทำให้ จริงๆก็เป็นเด็กที่อ่อนโยนเหมือนกันเพียงแต่พูดและแสดงออกไม่เป็นเท่านั้นเอง รถยังคงเคลื่อนตัวเหยียบเงาของเสาไฟฟ้าที่ทอดยาวไปเรื่อยๆต้นแล้วต้นเล่า จะว่าไปวารินไม่เคยออกมาขับรถเล่นในช่วงเวลาดึกดื่นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ

“ว่าไง..ยังไม่ตอบผมเลยนะ คนนั้นน่ะพี่ชายจริงเหรอ”

“ใช่ดิ พี่ชายพี่ใจดีนะวาดรูปสวยด้วย”

“หน้าตาไม่เห็นเหมือนกัน”

“ไม่เหมือนหรอกพี่ซีน่ะหล่อ ส่วนพี่...ก็อย่างที่เห็นอ่ะ”

“ผมว่าพี่หน้าเหมือน ‘ลูกหมา’ ว่ะตัวก็เล็ก ตลก!”

“เราน่ะสิหมาธาร ล้อผู้ใหญ่มันบาปนะ”

“นี่ พี่อายุเท่าไหร่อะ เอาตรงๆ”

“เลขสามแล้ว” วารินตอบไปตามความจริงไม่คิดอะไร

“จริงป่ะเนี่ย โหแก่ว่ะผมนึกว่าเพิ่งจบมาซะอีก”

“คิดหน่อยเหอะน้องธาร  คุณภัครเธอคงยอมให้เด็กเพิ่งจบมาดูแลลูกเธอหรอกนะ” วารินเริ่มคิดไปถึงวันเก่าๆธาราธารคงจำเขาไม่ได้แล้วจริง ๆ

“หึ พอพูดดีด้วยแล้วต่อปากต่อคำเชียวนะ ระวังตัวไว้เหอะ”

วารินหันมองอีกคนที่นั่งบ่นพึมพำพร้อมอมยิ้มมุมปากนิดๆ เขาปล่อยให้เด็กหนุ่มนั่งเงียบๆต่อไปจนสุดทาง

“พรุ่งนี้ผมจะไปดูคอนโดนะ แล้วก็จะเข้าไปติดต่อเรื่องหอพักที่มหาวิทยาลัยด้วย พี่คงต้องไปกับผม”  เมื่อรถจอดลงที่หน้าบ้านธาราธารจึงบอกกับวารินเรื่องงานที่จะต้องทำในวันพรุ่งนี้

“สายๆพี่ไปรอผมที่โรงแรมเลยเดี๋ยวจะแวะเข้าไปรับ” วารินลงจากรถเขายื่นกุญแจคืนให้ธาราธาร

“แล้วพี่จะกลับยังไง แท็กซี่?”

“ครับใช่ เดี๋ยวเดินออกไปแป็บเดียว” ดีที่บ้านของธาราธารอยู่ติดถนนใหญ่เดินแค่ไม่กี่เมตรก็เรียกแท็กซี่ได้แล้ว

“ตีสามเนี่ยนะ”

“ไปล่ะพรุ่งนี้เจอกัน” ในขณะที่เดินวารินกลับคิดในใจว่าระยะทางจากหน้ารั้วไปที่ถนนใหญ่ยังใกล้กว่าระยะทางจากตัวบ้านถึงหน้ารั้วเสียอีก 

ธาราธารยืนมองแผ่นหลังเล็กที่เดินเลี้ยวออกไปจากรั้วบ้านของเขา คิ้วเข้มขมวดมุ่นเขาเดินเข้าบ้านทั้งที่จิตใจฟุ้งซ่านมาก ทั้งที่รู้ว่าวารินเป็นผู้ชายเหมือนกับเขาแต่ทำไมต้องเป็นห่วง คิดสารพัดจนเวลาล่วงไปเกือบชั่วโมงหลังอาบน้ำเสร็จเขาเดินออกมาที่ริมระเบียงกว้างมองไปทางถนนใหญ่หวังจะดูให้เห็นว่าวารินหารถกลับไปได้รึยังแท็กซี่จะปลอดภัยไหมป่านนี้จะถึงบ้านเรียบร้อยหรือเปล่า ทำไมเขาถึงประมาทไม่เดินออกไปส่งแล้วถ่ายทะเบียนรถไว้นะ

“โถ่เว้ย! ผู้ชายเหมือนกันกูจะห่วงทำไมนักหนาวะเนี่ย”  เขาสะบัดหัวไล่ความคิดถอดชุดคลุมอาบน้ำออกแล้วขึ้นเตียงในสภาพเปลือย

....เขาไม่เคยสวมเสื้อผ้านอน....เรื่องปกติ.....

ดวงตาคมกริบข่มลงในความมืด ทั้งที่ในหัวยังมีภาพของวารินเต็มไปหมด

.
.

“พี่ซีนอนเถอะครับ ดึกมากแล้วทรายขอโทษนะ”

วารินเดินเข้าไปหาภูวดลที่กำลังล้างพู่กันแปรงทาสีที่เขาแช่ไว้  หลังจากเดินออกมาจากบ้านธาราธาร วารินตั้งใจจะเรียกแท็กซี่ แต่รถญี่ปุ่นเก่าๆคันเล็กที่คุ้นเคยกลับมาจอดเทียบลงตรงหน้าเขา ภูวดลเห็นว่าช้าผิดปกติจึงขับตามออกมาดู เขารู้จักบ้านภัครจิราอยู่ก่อนแล้ววารินเคยบอกไว้เพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านพวกเขา

 “เสร็จแล้วครับ ป่ะทรายเปิดแอร์ไว้รึยัง”

เมื่อภูวดลเรียงอุปกรณ์ระบายสีผึ่งไว้เรียบร้อยเขาจึงเดินนำวารินขึ้นไปชั้นบน แกลลอรี่เล็กๆที่เป็นทั้งบ้านและเป็นทั้งร้านของเขา กับน้องชายบุญธรรมที่เขารักมากกว่าใครๆทั้งหมด สองมือหนาบรรจงห่มผ้ากระชับอกให้วารินอย่างเบามือเขาทำให้น้องแบบนี้ทุกวันตั้งแต่เด็ก

“วันนี้พี่ซีนอนกับทรายนะ ไม่ต้องไปนอนห้องนั้นหรอก นะครับ”

วารินคว้าเอามือของพี่ชายมากุมไว้ภูวดลยีหัวเล็กอย่างเอ็นดูเขาส่งยิ้มบางให้เจ้าตัวยุ่งก่อนสอดตัวเข้าไปนอนข้างกันแล้วโอบกอดเอววารินเอาไว้หลวมๆ

บางทีเขาก็คิด

คิดเกินกว่าที่พี่ชายคนหนึ่งควรจะคิด

อยากจูบอยากทำทุกอย่างอยากครอบครองคนในอ้อมกอดนี้ไว้แค่คนเดียว

เขาไม่เคยถามวารินว่ารู้สึกแบบเดียวกันกับเขารึเปล่า

 “ทราย” ภูวดลกระซิบเรียก

“ครับ”วารินลืมตาขึ้นตอบรับ

“พี่ซีจูบได้ไหม”

วารินอมยิ้มเอียงแก้มใสส่งให้พี่ชาย

ภูวดลอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่ใช่จูบแบบที่เขาเคยทำในทุกๆครั้ง

ชายหนุ่มบรรจงจูบลงเบาๆบนแก้มขาวเนียนนั่น

วารินมีกลิ่นนมติดตัวเสมอ อาจเป็นเพราะเขาจะให้น้องชายดื่มนมก่อนนอนเป็นประจำ วารินจึงชอบดื่มนมมากดังนั้นเวลาที่เขาจูบลงที่แก้มขาวเนียนนั่น กลิ่นหอมของนมจะแตะปลายจมูกเขาจนเขาแทบคลั่ง เผลอซุกไซ้ลงที่ซอกคอหอมอย่างช่วยไม่ได้

“คิคิคิ พี่ซีแกล้งทรายอีกแล้วหอมทีไรเป็นแบบนี้ทุกที ทรายจั๊กจี๋” วารินหดคออย่างจั๊กจี้ขนลุกซู่ไปหมด

“จั๊กจี๋แล้วชอบไหม หืม” เขายังไม่ยอมปล่อยคนตัวเล็กในอ้อมกอด ปลายจมูกโด่งยังซึมซับเอากลิ่นหอมนมจากซอกคอขาวนุ่มไม่ยอมห่าง

“ไม่ชอบ ทรายเสียว” วารินตอบหน้าแดงแป๊ด

“ไม่ชอบไม่ได้เพราะพี่ซีจ๋าชอบ พี่ซีจ๋าจะจูบแก้มทรายแบบนี้ทุกวัน”สายตาเจ้าเล่ห์ของภูวดลทำให้วารินยิ่งเขินอายเข้าไปอีก

“ใครอนุญาต”

“น้องชายอนุญาต”

“พี่ซีเจ้าเล่ห์ น้องชายที่ไหนจะให้พี่ชายทำแบบนี้”

“เจ้าเล่ห์แล้วรักไหม รักพี่ซีไหม”  ภูวดลขยับตัวลงมานอนกอดวารินให้ดีๆ ขณะที่คนตัวเล็กเองก็ตะแคงหน้าเข้าหาแล้วโอบเอวหนา
นั่นไว้แน่น

“รักครับ ทรายรักพี่ซี”

“พี่ซีก็รักทรายนะครับทรายนอนนะ” ภูวดลลูบศีรษะเล็กเบาๆก่อนลุกไปปิดไฟและเดินเข้าห้องน้ำไป

วารินนอนฟังเสียงครางเรียกชื่อตัวเองที่ดังมาจากห้องอาบน้ำ เขารู้ดีว่าภูวดลคิดกับเขาแบบไหน แต่วารินกลับยังไม่แน่ใจความรู้สึกของตัวเอง เขารู้ว่าเขารักภูวดลมากที่สุดเท่าที่น้องชายคนหนึ่งจะรักพี่ชายได้ เขาไม่เคยมีแฟนไม่เคยคบกับใคร เขารู้สึกเฉยๆกับผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับผู้ชายด้วยกัน

มีเพียงภูวดลเท่านั้นที่วารินรู้สึกผูกพันด้วย แต่จะถึงขั้นรักแบบคนรักได้รึเปล่านั้นเขายังตอบตัวเองไม่ได้เลยจริง ๆ
เขาเคยแอบคิดเล่นๆว่าถ้าหากภูวดล ‘ขอ’  เขาจะ ‘ให้’  ได้รึเปล่า

คำตอบก็คือ  ‘ไม่’

เขาให้ได้มากสุดเท่านี้จริง ๆ

.

.

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เฮ้อ...ทนมากไปหรือเปล่าทราย?
นายใช่คนหรือเปล่านะ?

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
พี่ซีน้องทราย :mew1:

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
จะผิดใหม่ถ้าอยากจะบอกว่า...
เปลี่ยนพระเอกเหอะ!
ไอ้น้องธารก็จงไปสุขสมกับคุณนางกี้เถอะค่ะ ปล่อยให้พี่น้องอยู่ด้วยกันนั่นแหละดีแล้ว

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
น่าติดตามมาก รออา่านต่อค่ะ

ออฟไลน์ Serioz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
น้องธารไม่เป็นห่วงพี่ทรายเลยอ่า  :ling1: งือออ เอาพี่ซีเป็นพระเอกแทนหมั่นไส้-0-

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
อย่าแกล้งทรายมากนักสิ

ออฟไลน์ tsundere

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
น่านนนนนน พี่ซีกับทรายความสัมพันธ์พวกเธอ
มีซัมติงเกินพี่น้องจริงๆ ด้วย  :ruready

iceland

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อออออออ  สงสารทั้งสองคนเลย

ทราบอย่าไปตกหลุมรักนายธารก่อนนะ  เดียวเจ็บ

นี่แร่ะน๊าา คนดีมักไม่ถูกเลือก  :mew6:

ออฟไลน์ หยกกลม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ง่ะ เราคิดว่าทรายร้ายกาจอ่ะ

ทั้งๆที่รู้ว่าซีคิดด้วยยังไง  ไม่รักแต่ไม่ยอมปล่อยมือ ทำแบบให้ความหวังแบบนี้น่าสงสารซีนะ
แล้วซีเองก็ไม่กล้าเดินหน้าต่อ

แบบนี้ก็ค้างคากันไปเรื่อยๆ 


วันไหนทรายรักคนอื่นขึ้นมา ซีก็โดนทิ้งสิ??
เหมือนกั๊กๆ กันเอาไว้

ถึงจะไม่ได้ทำร้ายกัน  แต่เจ็บนานเลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :z6: อิเด็กเปรตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต
อยากให้เปลี่ยนทั้งพระเอกและชื่อเรื่องเลย
ขอตอนที่พระเอกมันต้องมาทรมานเพราะความรักเหอะ ให้มากอดขาร้องไห้ขอความรัก

ทรายนี่ก็แปลกๆนะ ถ้ารู้ตัวว่าให้ไม่ได้ ก็น่าจะห้ามๆความรู้สึกพี่ไว้บ้าง
ทรายรักแบบ bromance แต่พี่ซีมันเกินเลยไปแล้วไง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ PapermintReal

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-13
ชอบพี่ซี  :sad4: เปลี่ยนพระเอกเถอะ พลีสสสสสสสสสสส  :heaven

หรือไม่ก็ทำเป็นตอนพิเศษ ทะเลกับทรายยยย ก็ได้คือเค้ารักซีมากกกว่า ธารรรร  :ling2:

ถวายเมนท์เป็นกำลังใจครับ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เหอๆๆๆ เด็กน้อยน่ารัก ไหงโตมาน่าตบแบบนี้  :mew5:

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29

บทที่4  เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง

“ทำไมต้องเป็นที่นี่!”

วารินเงยหน้ามองตึกสูงที่อยู่ตรงหน้า คอนโดหรูไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่ธาราธารจะต้องเข้าเรียน

“ที่นี่ใกล้สุดไง”

“แต่ที่นี่มันเป็นของ...”

“ตระกูลเมียใหม่ของคุณพ่อ คู่แข่งคุณแม่ของผม”

วารินกำลังจะพูดว่าที่นี่เป็นบริษัทคู่แข่งของโรงแรมเรา ถ้าคุณภัคจิรารู้เข้าเธออาจไม่พอใจเอาได้  แต่ธาราธารชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน ที่สำคัญไม่ไกลจากที่นี่ก็เป็นหมู่บ้านในเครือของ ‘โชติการุณ’ วารินไม่เข้าใจว่าธาราธารทำไมไม่พักอยู่ที่นั่น  ทำไมต้องมาซื้อคอนโดให้สิ้นเปลือง

“พี่นำเข้าไปสิ” วารินหน้าเหวอเมื่อธาราธารดันหลังให้เดินนำเข้าไป เขาเคยออกงานกับคุณภัครจิรามาไม่ใช่น้อย ถ้าหากมีคนรู้จักอยู่ที่นี่ด้วยแล้วรู้ว่าเขาเป็นคนที่พาลูกชายคุณภัครมาดูห้องที่นี่มีหวังคุณภัครจิราด่าเขาเละแน่

“ธะ..ธาร พี่ว่า”

“สวัสดีครับ ไม่ทราบมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”  แค่เห็นว่าเป็นรถยุโรปยี่ห้อดังป้ายทะเบียนหรู จอดลงที่ด้านหน้าฝ่ายต้อนรับของอาคารชุดก็รีบกุลีกุจอออกมายืนรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว

“เรามาดูห้องชุด อยากได้ชั้นบนสุดห้องริม”  ธาราธารบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

หลังจากนั้นฝ่ายดูแลก็พาทั้งเขาและวารินขึ้นไปชมห้องจริงบรรยากาศจำลองตามที่ขอ ธาราธารตกลงใจทันทีวารินจัดการนัดแนะล็อควันพูดคุยกับมัณฑนากร ก่อนจะลงไปทำสัญญาวางเงินมัดจำล่วงหน้าพร้อมนัดวันเซ็นสัญญาจ่ายเงินจริง

“ขอบพระคุณมากนะครับ คุณโชคดีมาก ที่จริงแล้วชั้นบนมีแค่สองห้องเท่านั้นห้องข้าง ๆ นี้เป็นของคุณ ชนาธิป ลูกชายคนเดียวของคุณท่าน คิดว่าน่าจะรุ่นเดียวกับคุณนี่ล่ะครับเห็นว่าเพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ท่านเลยยกให้เป็นของขวัญถ้ามีโอกาสผมจะแนะนำให้คุณรู้จักไว้นะครับ”

ฝ่ายขายของคอนโดแสดงความขอบคุณอย่างนอบน้อม เขาร่ายยาวไปจนถึงเรื่องลูกชายเจ้าของคอนโดมิเนียมซึ่งวารินได้แต่พยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ในขณะที่ธาราธารเหมือนคนไม่ได้ฟัง ใบหน้าคมนิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

“ทำไมจะตกแต่งใหม่ล่ะ ที่เขาทำไว้ก็สวยมากอยู่แล้วนี่โทนสีน้ำตาลพี่ชอบนะ”  วารินเอ่ยถามขึ้นขณะสองคนเดินตีคู่กันไปที่รถ ธาราธารเป็นคนแปลกเขาจะเฉยเมยกับคนแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จัก  เลเวลการเข้าสังคมของเขาต่ำมากจนน่าตกใจ นิสัยถามคำตอบคำ ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของเขาแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวไม่ใส่ใจจะแก้ไข

“ผมอยากได้ฝ่ายออกแบบที่ทำงานกับโรงแรมเรามากกว่า ที่นี่ตกแต่งไม่ค่อยสวย ที่สำคัญผมไม่ชอบสีน้ำตาล มันเป็นสีที่คนแก่ๆชอบ”

เด็กหนุ่มสตาร์ทรถแล้วหันมายิ้มเยาะเขาหัวเราะเบา ๆให้วาริน เมื่อตั้งใจเน้นคำว่า คนแก่ๆ ให้อีกฝ่ายช้ำใจเล่น บางครั้งธาราธารเองก็รู้สึกแปลกดีที่ได้หยอกเย้าวารินให้หน้างอได้

...เขารู้สึกมีความสุข...

“แต่พี่ว่ามันแพงไปนะ ที่ใกล้ๆกันก็มีถูกกว่านี้ด้วย”

“ที่นี่แหละเป็นส่วนตัวดีเดี๋ยวผมคุยกับคุณแม่เอง  พี่หิวหรือยัง?”

“อ๋อ...อือๆ”

วารินพยามทำความเข้าใจกับนิสัยประหลาดของธาราธาร เขาเข้าใจแล้วว่า เวลาที่ธาราธารอยู่กับเขาแค่สองคนจะหาเรื่องแซะเขาไม่หยุดเดี๋ยวเรียกพี่เดี๋ยวไม่ยอมเรียกบ้างล่ะนึกจะโมโหฉุนเฉียวก็อย่างกับพายุแล้วจู่ๆนึกจะดีก็ดีใจหาย

คงเป็นนิสัยแบบเด็กๆที่ใช้เรียกร้องความสนใจจากเขานั่นเอง

“กินในนี้เหรอ”

วารินถามขึ้นเมื่อธาราธารเลี้ยวรถเข้ามาในเขตมหาวิทยาลัย สักพักรถจอดลงที่ย่านร้านค้าหลังมอ เด็กนักศึกษาในชุดไปรเวทขับขี่ทั้งจักรยานทั้งมอเตอร์ไซด์กันประปรายไม่มีใครไม่สนใจรถสปอร์ตสีขาวมันวับที่ขับเลี้ยวเข้ามาจอดลงที่หน้าร้าน

“อ้าวเฮ้ยว่าไงหมาธารเอ้ย หมอธาร ลมอะไรหอบมึงมาวะเนี่ย รถเจ๋งว่ะ เข้ามาๆ”

ชายวัยรุ่นรูปร่างสูงใหญ่พอๆกับธาราธารเดินออกมาทัก เขากอดคอเด็กหนุ่มแล้วพาเดินเข้าไปในร้านทันที วารินรีบเดินตามเข้าไปขาเขาสั้นมากเมื่อเทียบกับสองคนด้านหน้า

“ นี่ไอ้วิทย์ไอ้บอยไอ้หมู เพื่อนกู EG เหมือนกันหมด ส่วนนี่หมอธารรุ่นน้องพวกเราที่ติด SI ปีนี้ พวกมึงจำมันได้ป่ะ อ้าวแล้วมึงพาใครมาด้วยวะ หวัดดีครับหวัดดี”

วารินรับไหว้แทบไม่ทันธาราธารแนะนำเขาในฐานะผู้ปกครองทำให้วารินนึกขัดใจนิดๆ  เมื่อพวกเด็กๆทักทายกันเสร็จเรียบร้อยเด็กหนุ่มก็เดินแยกออกมานั่งกับวาริน

“หิวว่ะพี่แจ๊บ” ธาราธารพูดนิ่ง ๆเด็กรุ่นพี่โรงเรียนเก่าเดียวกันรีบยื่นเมนูให้ทันที

“ทำมาเหอะกินได้หมด” เขาไม่คิดเปิดดูเมนูด้วยซ้ำ

“นิสัยเดิมๆเลยนะมึงคลำแล้วไม่มีหางกินหมด อุ๊บ! โทษว่ะลืมไปว่ามากับผู้ปกครอง ขอโทษด้วยนะครับคุณพี่”

เด็กเจ้าของร้านทำหน้าตาทะเล้นจากนั้นรีบเดินไปจัดการเรื่องอาหารการกินทันที

“ไม่ไปนั่งคุยกับเพื่อนล่ะเขามองเราอยู่นะ” วารินคีบน้ำแข้งใส่แก้วให้อีกฝ่าย

“ทำเป็นด้วยเหรอ” ธาราธารถามขึ้น

“ทำอะไร”วารินชะงักมือ ธาราธารมองไปที่แก้วน้ำแล้วมองหน้าวารินด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “ต่อไปถ้าผมไปกินเหล้าพี่ไปนั่งชงให้นะ”

“ไม่มีทางอ่ะ” เขาโพล่งออกมาแบบไม่ต้องคิดมีแต่จะต้องทำให้เลิกน่ะสิ เรื่องอะไรจะไปนั่งชงให้

“ไม่มีทางไม่ไปใช่ไหม เพราะยังไง 'ลุง' ก็ต้องไปจ่ายเงินให้ผมอยู่ดีน่ะแหละหึหึ”

วารินอยากจะเอื้อมมือไปตบหัวหล่อๆเท่ๆนั่นสักฉาด ชอบแซะเขาเรื่องอายุดีนักคราวนี้ถึงขนาดเรียก ลุง ไม่แก่บ้างให้มันรู้ไป

.

“ทำไมไม่พักอยู่หอล่ะ จองห้องไว้แล้วทำไมยังจะต้องไปซื้อคอนโดให้เสียเงินเสียทองอีก” วารินถามขึ้นเมื่อธาราธารไขกุญแจห้องพักเปิดเข้าไป

หอนี้เป็นหอใน สำหรับเด็กปีหนึ่งเท่านั้นห้องที่ธาราธารจองไว้เป็นห้องสำหรับสองคน เขายังไม่รู้ว่าจะได้รูมเมทเป็นใคร ธาราธารไม่ได้สนใจจุดนั้นเพราะเขาเองไม่ได้คิดจะเข้ามาพักจริงอยู่แล้ว

“ห้องดีเหมือนกันนะดูสิด้านล่างมีสนามบาสด้วยมองจากตรงนี้ก็เห็นสนามเทนนิส” วารินยิ้มกว้างเดินเข้ามาจากริมระเบียง เขาเดินไปเปิดโน่นดูนี่ท่าทางตื่นเต้นยิ่งกว่าเจ้าของห้องเสียอีก

“ตื่นเต้นทำไมไม่ได้อยู่สักหน่อย ก็แค่มาดูให้รู้ว่าได้ห้องไหนเท่านั้นเอง”

“ไม่แน่หรอกต่อไปธารเรียนปีสูงขึ้นต้องเข้าเวรดึกๆดื่นๆหอนี่แหละสะดวกสุดจะขับรถไปกลับคอนโดตลอดเหนื่อยแย่เลยนะ”

“บ้ารึเปล่า ปีสองก็ย้ายแล้วใครจะเรียนที่นี่ไปตลอดล่ะ พี่เห็นตึกโรงพยาบาลอยู่แถวนี้รึไง”  ธาราธารส่ายหัวอย่างเซ็ง รู้สึกผิดหวังที่วารินไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย แม้กระทั่งข้อมูลของที่เรียน

'เมื่อก้าวขึ้นท่า..เจ้ากับข้าพี่น้องกัน' พี่เคยได้ยินรึเปล่า”

“หึ..ไม่เคยอ่ะ” วารินส่ายหน้า

“อือ งั้นก็โง่อยู่แบบนี้แหละ”

เด็กหนุ่มพึมพำประชด วารินหน้าจ๋อย ตรงๆเลยก็คือเขายังไม่ได้หาข้อมูลอะไรของธาราธารทั้งนั้น ทุกอย่างดูฉุกละหุกไปหมดสมแล้วที่โดนเด็กด่าว่าโง่  เขาตั้งใจว่าจะต้องไปศึกษาข้อมูลให้มากกว่านี้  วารินนั่งลงที่เตียงเปล่าฝั่งตรงข้ามตากลมกวาดมองห้องพักโล่ง ๆ ที่ยังไม่มีอุปกรณ์เครื่องใช้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

“ห้องพักที่นี่สะอาดดีนะ ไม่เปลี่ยนใจมาอยู่แน่เหรอ”

“อยู่ไม่ได้หรอกที่นี่เขาไม่ให้พาคนนอกเข้ามานอนด้วย”

วารินพยักหน้ารับเบาๆที่แท้ธาราธารกะพาแฟนมาอยู่ด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็พอจะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงต้องการจะมีห้องส่วนตัวที่อื่น วารินจึงถือโอกาสชวนคุยอีก

“มีแฟนแล้วดิ  เด็กที่ชื่อกี้เมื่อคืนน่ะเหรอ”

“พี่คิดอะไรเนี่ย  กี้เขาจะมาเป็นแฟนผมได้ยังไงเล่า ไปเหอะ”

ธาราธารลุกพรวดวารินเองก็เดินตามออกมาเช่นกัน แดดร่มลมตกจวนจะบ่ายสามโมง เด็กหนุ่มพาวารินไปเลือกซื้อของใช้ต่างๆเพื่อเอาไปใส่ไว้ที่หอพักถึงแม้ไม่ได้เข้าอยู่จริงแต่อาจจะมีบางครั้งบางคราวที่จำเป็นจริงๆก็คงจะต้องค้างดังนั้นเขาจึงเลือกเครื่องนอนที่มีคุณภาพดีสักหน่อย

“เฮ้อเหนื่อยชะมัด”  เสียงเล็กๆบ่นอุบ หลังจากเดินชื้อของแบบมาราธอน ตอนนี้มือเล็กๆ หิ้วของเต็มสองมือขณะที่อีกคนเดินตัวปลิวล้วงกระเป๋านำขึ้นหอไป

“พี่นี่ขาสั้นจริง ๆ เดินก็ช้า แก่แล้วเหนื่อยไวอ่อ”  ธาราธารหยุดแล้วหันหลังกลับมามอง วารินไม่มีแม้แต่มือจะจับราวบันได  “เอามา
นี่มา เดี๋ยวถือเองดีกว่า ดูซิขาสั้นจนถุงลากบันไดขาดหมดแล้ว”

ธาราธารก้าวพรวดทีเดียวสองขั้นลงมารับถุงไปถือไว้เองทั้งหมด วารินเต็มใจส่งให้อย่างไม่คิดอิดออดเขานวดมือไปมาเพราะเจ็บ “จิ๊ ก็ใครจะตัวใหญ่อย่างเราล่ะ” คนตัวเล็กจิ๊ปากบ่นพึมพำพอเด็กหนุ่มหันกลับมาถลึงตามอง เขาก็แกล้งหันเหไปทางอื่น

“อ้าวพี่ได้อยู่ด้วยกันจริงๆเหรอเนี่ย”  เสียงสดใสทักขึ้นทันทีที่วารินเดินตามอีกคนเข้าไปในห้อง หนุ่มน้อยสวมแว่นที่เคยทักวารินในวันรายงานตัวกำลังจัดข้าวของเรียงเข้าตู้ คงเพิ่งมาถึงหอวันนี้เหมือนกัน

“ไม่ใช่พี่หรอกครับน้องพี่ต่างหาก”

“เออครับนั่นแหละๆ”

วารินเริ่มรื้อข้าวของออกมาแล้วจัดเรียงไว้บนโต๊ะข้างเตียง ขณะที่เจ้าของตัวจริงนั่งมองเฉยๆอยู่ที่ปลายเตียง

“เราชื่อฟ่างนายชื่ออะไร” เด็กนั่นหันมาถามธาราธารหน้าซื่อ

“ธาร” เขาตอบไปห้วนๆเด็กฟ่างหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย

“น้องพี่เขาไม่ค่อยพูดน่ะ แต่เขาใจดีนะฟ่างคุยกับพี่แทนก็ได้พี่ชื่อทราย ทนๆเอาหน่อยก็แล้วกันนะฟ่างนะ”

วารินเห็นฟ่างหน้าถอดสีเขารีบแก้ตัวให้ธาราธารขณะที่มือหยิบชุดผ้าปูที่นอนใหม่เอี่ยมเนื้อดีออกมาปูเตียงไว้ให้ เด็กหนุ่มจึงขยับลุกขึ้นเพื่อให้วารินทำงานได้สะดวก ธาราธารเป็นเด็กที่ตัวสูงใหญ่เขาคงอึดอัดอยู่บ้างถ้าต้องอยู่ห้องเล็กๆเตียงแคบ ๆ แบบนี้
วารินแอบคิดว่าคอนโดอาจจะเหมาะกับธาราธารมากกว่าจริงๆ

“เรามาจากระยองแล้วนายล่ะธาร” ฟ่างยังไม่เข็ดยังจะคุยกับธาราธารต่อ แต่จนใจที่อีกฝ่ายไม่พูดตอบ คนตัวสูงใหญ่เดินลิ่วๆออกจากห้องไปแทน

“ธารเขาอยู่กรุงเทพนี่แหละ อย่าไปถือเลยนะเขาออกจะแปลกสักหน่อยแต่เขาก็เป็นเด็กดี อ้อแล้วก็..เขาจะไม่ค่อยได้อยู่ที่ห้องหรอกนะถ้าฟ่างไม่เห็นเขากลับมานอนก็ไม่ต้องตามหา เพราะธารเขามีที่พักหลายที่มีห้องอยู่ที่คอนโดใกล้ๆแถวนี้ด้วย” วารินถือโอกาสอธิบาย

“ครับ พี่ทรายใจดีจังนะครับ พูดจาเข้าใจง่ายเหมือนพี่ชายผมเลยวันนี้ตอนผมจะออกมาจากบ้านพี่ร้องไห้ใหญ่ผมเห็นแล้วก็ใจหายเราไม่เคยห่างกันไกลด้วย”

วารินหันมอง พอปูที่นอนเสร็จเขาจึงเดินเข้าไปกอดฟ่างไว้หลวมๆให้กำลังใจเพราะเห็นอีกฝ่ายตาแดงๆคงจะร้องไห้คิดถึงบ้านพอมาอยู่หอแทนที่จะได้อยู่กับเพื่อนแต่ดันโชคร้ายได้มาอยู่ห้องคู่กับคนที่จะไม่เข้ามาอยู่จริงอย่างธาราธารเสียอีก

“ทำอะไรกันน่ะ!”

จู่ๆธาราธารเปิดประตูพรวดเข้ามาไฟจากหน้าจอโทรศัพท์ในมือยังไม่ดับ วารินรู้ได้ทันทีที่แท้เขาเดินออกไปคุยโทรศัพท์นึกว่าไม่ชอบใจเด็กฟ่างนี่ซะอีกอยู่ดีๆมาเดินหายออกไปอย่างนั้น

“กลับได้แล้ว!” เขาเดินเข้ามากระชากแขนวารินให้ตามออกมา ไม่สนใจว่ารูมเมทอย่างฟ่างจะคิดเห็นอย่างไร..ไม่สำคัญเลยสำหรับเขา  เป็นวารินเองซะอีกที่รีบโบกไม้โบกมือลาเด็กนั่นแทบไม่ทัน

“เดี๋ยวๆช้าๆหน่อยพี่เดินตามเราไม่ทันนะธาร” วารินซอยเท้าลงบันไดอย่างเร็วเพื่อตามคนที่ดึงลงมาให้ทัน เขาเกือบก้าวพลาดตั้งหลายครั้งแต่ธาราธารไม่ได้สนใจเลย

“ไปกอดมันทำไมรู้จักมันเหรอ!”  ธาราธารเหวี่ยงแขนวารินแล้วดันคนตัวเล็กขึ้นรถ ก้มลงถามคร่อมประตูไว้จนมิด ไม่รู้ว่ารถเตี้ยมากหรือเด็กหนุ่มสูงมากเกินไปกันแน่

“พี่เป็นคนของผม คุณแม่ยกพี่ให้ผมแล้วคนที่พี่มีสิทธิ์จะกอดได้คือผมคนเดียวเท่านั้น จำเอาไว้ด้วยนะ!” ท่าทางของเขาขึงขังอย่างที่วารินไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

นี่สินะที่เขาเรียกอาการของเด็กหวงของ วารินไม่เคยคิดว่าจะต้องมาดูแลเด็กก้าวร้าวเอาแต่ใจแบบนี้  แต่ก็เอาเถอะอย่างไรเสียจะต้องค่อยๆสอนไป ธาราธารจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้

วันนี้ธาราธารขับรถเร็วจี๋อีกแล้ว ขณะที่คนนั่งก็ยังยึดสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่นเหมือนเดิม ดวงตากลมหลับปี๋ด้วยความกลัวจนกระทั่งรถจอดติดไฟแดง “อีกไม่กี่วันมหา’ลัยก็เปิดแล้ว คิดว่าเขาจะตกแต่งห้องทันไหม”เด็กหนุ่มคนขับถามขึ้นหน้านิ่ง

“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะคุยให้ ธารอยากได้ห้องเป็นแบบไหนล่ะหรือจะเข้ามาคุยเองที่โรงแรมพี่นัดให้ใหม่ดีไหม”

“ไม่ต้องหรอกพี่คุยเหอะแบบไหนก็ได้ขอให้เป็นโทนสีขาวแค่นั้นพอ”

“แล้ว...ไม่ลองถามแฟนธารดูล่ะ คนที่จะพามาอยู่ด้วยกันน่ะ”

ธารธาราหันมามองหน้าวารินทันทีที่ถามจบ “เคยบอกเหรอว่าจะพาใครมาอยู่”

..วารินหน้าชา..

“นิสัยผู้หญิงชะมัดคิดเองเออเองคาดเดาเองไปทั้งนั้น”

“อย่ามาว่าพี่นะ  ใครจะไปรู้ล่ะคนอุตส่าห์หวังดีเห็นบอกว่าอยู่หอในพาคนนอกมานอนด้วยไม่ได้ พี่ก็คิดว่าที่จะไปอยู่คอนโดเพราะเราจะพาแฟนไปอยู่ด้วยน่ะสิ”

เด็กหนุ่มส่ายหัวขี้เกียจต่อคำ  เขานั่งเงียบไปเสียดื้อๆแต่แล้วจู่ๆเมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้เขาจึงพูดขึ้น  “ที่จริงก็มีคนที่คิดๆไว้อยู่เหมือนกันล่ะนะ” เขากัดริมฝีปากแล้วยิ้มเยาะจนไหล่ไหว แน่นอนว่าเขากำลังคิดบางอย่างอยู่ในใจ

นั่นไงล่ะวารินอยากจะตบเข่าสักฉาด เขาคิดผิดซะที่ไหนมีก็บอกว่ามีเถ้อจะอายทำไม

“ก็นั่นไงถึงได้ให้ถามเผื่อเขาอยากได้อะไรพิเศษๆตกแต่งห้องจะได้ทำทีเดียวไปเลย”

“งั้น...ห้องนอนเล็กใช้โทนสีน้ำตาลก็แล้วกัน”

“ให้เขาอยู่ห้องเล็กจะดีเหรอธาร”   วารินรู้สึกแย่นิดหน่อยถ้าเป็นเขาคิดจะพาแฟนมาอยู่ด้วยเขาจะให้เธอใช้ห้องใหญ่อย่างแน่นอน ผู้หญิงของแต่งตัวเยอะแยะ

แต่เพราะธาราธารเป็นเจ้าของห้องเขาจึงไม่อยากจะพูดมาก

“จะเอาแบบนั้นเหรอ?” ธาราธารหยุดคิดนิดหนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นเฉพาะส่วนของห้องนอนให้ใช้สีน้ำตาลนอกนั้นให้ใช้สีขาวทั้งหมดก็แล้วกัน”

“แบบนี้ล่ะถูกแล้วเราเป็นผู้ชายต้องให้เกียรติเขาหน่อย ว่าแต่แฟนธารนี่ชอบสีน้ำตาลเหรอ” วารินยังเซ้าซี้ถาม ธาราธารก็ปล่อยให้เขาพูดไป “แล้วยังมีหน้ามาล้อพี่ว่าชอบสีคนแก่นะ หรือว่าแฟนตัวเองก็แก่ใช่ไหมล่ะ อายุมากกว่าแค่ไหนอ่ะบอกหน่อยสิ  ปีหรือสองปี”

ธาราธารหันขวับ! วารินที่กำลังชะเง้อหน้าเข้าถามถึงกับสะดุ้งตกใจ “อุ้ย!”

“พี่ทราย! ผมบอกพี่ตอนไหนว่าผมจะพาแฟนมาอยู่ด้วย” เขาเริ่มเหลืออดเพราะวารินเริ่มพูดเกินความจำเป็น

“อ้าวก็คนที่จะพามาอยู่ด้วยกันไม่เรียกแฟนให้เรียกอะไรอ่ะ รักเขามากอ่ะดิตามใจขนาดนี้”

“เขา-ไม่-ใช่-แฟน-ผม!”  ธาราธารเน้นคำ พอดีกับที่รถจอดลงที่หน้าประตูทางเข้าโรงแรม

“เอาเหอะๆไม่ต้องอายหรอก พี่ไม่บอกคุณภัครหรอกเข้าใจๆวัยรุ่นก็แบบนี้ทั้งนั้น”   อยู่ก่อนแต่งสมัยนี้เรื่องธรรมดา ยิ่งเด็กหน้าตาดีฐานะดีแบบธาราธารมีเป็นตัวเป็นตนนี่แปลกดีจริงๆ

ธาราธารได้แต่ส่ายหัวอย่างระอา  เขาปล่อยอีกคนลงแล้วออกรถไปทันที วารินยืนมองตามหลังท้ายรถบีเอ็มที่ขับโค้งลงเนินไป เขาตัดสินใจเดินเข้าไปขอนมสดร้อนที่ฟร้อนกิน ก่อนเดินลงไปเอารถที่ด้านล่าง  โทรหาภูวดลว่าต้องการอะไรพิเศษรึเปล่าเพราะจะได้แวะซุปเปอร์ซื้อไปให้เสร็จทีเดียว

ไม่นานนักรถก็จอดลงที่หน้ารั้วไม้เล็กๆของแกลเลอรี่ขนาดกะทัดรัด กลิ่นดอกลีลาวดีต้นใหญ่ที่ภูวดลปลูกติดริมรั้วนั้นส่งกลิ่นหอมอบอวลมาก มือเล็กหอบหิ้วถุงพลาสติกพะรุงพะรัง

“พี่ซีมาช่วยขนของเร็ว ทราย....”

วารินชะงักกึก..

.
**********************************
กราบสวัสดีงามๆขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะ..เราเป็นแค่มือสมัครเล่น ผิดพลาดยังไงให้อภัยกันด้วยนะเจ้าคะ :write-a-letter:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
หวงหล่ะๆๆๆๆๆ


ค้างๆๆๆๆ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ทำไมอะไรอ่ะ ค้างงงงงง :katai1: :katai1:



 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ tsundere

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
เรื่อยๆ ธารนะธาร อยากจะรู้จริงความสัมพันธ์มันจพเริ่มที่จุดไหน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ชะงักกึก (ด้วยคน)

ออฟไลน์ Serioz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
น้องธารเด็กขี้หวง

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ธาร นี่ อารมณ์แบบเลือดจะไปลมจะมาเลยเนอะ   :เฮ้อ:

แล้วพี่ทราย ชะงัก อะไร  :katai1:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ค้างมาก พี่ทรายเห็นใครอ่ะ แววว่าจะโดนเด็กธารบังคับให้มานอนด้วยแน่ ๆ

ออฟไลน์ pasallatel

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อะไรอะ..........เกิดอะไรขึ้น
ทิ้งท้ายได้..... :z3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด