พิมพ์หน้านี้ - ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: coffeeQbread ที่ 03-03-2014 13:20:14

หัวข้อ: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 03-03-2014 13:20:14
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

 :write-a-letter:
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

Warning :  *Erotic drama*

               ‘มือสมัครเล่น’ ลองแต่งแนวนี้ดู ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยคราบ

                ตัวละครไม่ใส เนื้อเรื่องก็ไม่ใส ฉากอีโรติคก็เยอะ และพระเอกใจร้ายมาก
                 
******************************************************************************************
               

...พี่เลี้ยง....
THE DAY’ I was your man

Author : CoffeeQbreaD

https://www.youtube.com/v/HXZJ4LGZDyE


“ได้โปรดอย่ากลัวที่จะรัก  ช่องว่างสิบสองปีผมถมยังไงก็ไม่มีทางตามพี่ได้ทันหรอก
ขอเพียงแต่พี่เดินรอผมบ้างก็พอแล้ว ผมจะไม่บังคับจะให้อิสระ
แต่ขออย่างเดียว ขอให้พี่ ‘ซื่อสัตย์’ กับผม พี่รู้ไหมคนประเภทไหนที่ผมเกลียดที่สุด”

………………………………………………….

สารบัญ :write-a-letter:
บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2638167#msg2638167)
บทที่ 1 ทรายกับทะเล (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2638916#msg2638916)
บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2639916#msg2639916)
บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2640766#msg2640766)
บทที่ 4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2641519#msg2641519)
บทที่ 5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2642408#msg2642408)
บทที่ 6 เอาแต่ใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2645859;topicseen#msg2645859)
บทที่ 7 Someone In My Mind (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2645860;topicseen#msg2645860)
บทที่ 8 You Give Me Something (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2646593#msg2646593)
บทที่ 9 Mad (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2647502;topicseen#msg2647502)
บทที่ 10 My Feeling(ทราย) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2648507;topicseen#msg2648507)
บทที่ 11 My Feeling(ธาร) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2650247#msg2650247)
บทที่ 12 Love (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2651268#msg2651268)
บทที่ 13 destiny (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2652565#msg2652565)
บทที่ 14 I'm sorry (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2653647#msg2653647)
บทที่ 15 Reality go on ...... (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2654718#msg2654718)
บทที่ 16 Both love and hate (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2656444#msg2656444)
บทที่ 17 Punishment (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2657757#msg2657757)
บทที่ 18 Again and again (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2658537#msg2658537)
บทที่ 19 Way Back Into Love  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2660434#msg2660434)
บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2661347#msg2661347)
บทที่ 21 Unbreak My Heart(100%) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2662129;topicseen#msg2662129)
บทที่ 22 Father and Son (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2664078#msg2664078)
บทที่ 23 Heart, my one weakness (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2664954#msg2664954)
บทที่ 24 I'm Still Loving You (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2668141#msg2668141)
บทที่ 25 The Last Regret (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2669072;topicseen#msg2669072)
บทที่ 26 Love is .....(??) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2670744;topicseen#msg2670744)
บทที่ 27 Try to use yr heart look (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2673247#top)
 ตอนพิเศษ Unseen Special No drama  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2674123#msg2674123)
บทที่ 28 F.ing Crave! (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2677549#msg2677549)
บทที่ 29 At Your Side (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2680288#msg2680288)
บทที่ 30  I'm your (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2682537#msg2682537)
บทที่ 31 True love (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2688761#msg2688761)  **** จบภาค อิโรติก ****
บทที่ 32 อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2695818#msg2695818)
บทที่ 33 The End. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41204.msg2709128;topicseen#msg2709128)

UNSEEN(No drama) :write-a-letter:
UNSEEN-0 (ทัตซี) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014_04_03_archive.html)
UNSEEN-1 (ธารทราย) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014_04_05_archive.html)
UNSEEN-2 (ธารทราย) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014/04/the-day-i-was-your-manyaoi-drama-unseen_6.html)
UNSEEN-3 (ธารทราย) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014/04/the-day-i-was-your-manyaoi-drama-unseen_7.html)
UNSEEN-4 (ธารทราย) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014/04/the-day-i-was-your-manyaoi-drama-unseen_9.html)
UNSEEN-5 (ทัตซี) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014/04/the-day-i-was-your-manyaoi-drama-unseen_2942.html)
UNSEEN-Special (ธารทราย) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014_04_12_archive.html)
UNSEEN-6@ต่อเนื่องบทที่28(ธารทราย) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014/04/the-day-i-was-your-manyaoi-drama_16.html)
UNSEEN-7(ทัตซี) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014/04/the-day-i-was-your-manyaoi-drama-unseen.html)
UNSEEN-8 (ธารทราย) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014_04_22_archive.html)
UNSEEN-9 (ทัตซี) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014/04/the-day-i-was-your-manyaoi-drama-unseen_27.html)
UNSEEN-10 (ธารทราย) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014/04/the-day-i-was-your-manyaoi-drama-unseen_29.html)
UNSEEN-11 (ทัตซี) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014/05/the-day-i-was-your-manyaoi-drama-unseen.html)
UNSEEN-12 (ธารทราย-ในวันที่เขาเมากลับมา) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014_05_06_archive.html)
UNSEEN-13 (ธารทราย-ในหนึ่งวันของคุณหมอธาราธาร) (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/2014/05/the-day-i-was-your-manyaoi-drama-unseen_15.html)
UNSEEN-14 (ธารทราย-วันของอาป๊าและน้องขิง) (http://onlyone-minnie.blogspot.com/2014/06/the-day-i-was-your-manyaoi-drama-unseen.html)



หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [03/03/57] บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 03-03-2014 13:27:37
บทนำ


“พี่ครับพี่จ๋าคนสวยมาดูตรงนี้ให้น้องธารเดี๋ยวหนึ่งสิครับ น้องธารเล่นไม่ชนะเลยสักที พี่จ๋ามาสอนน้องธารหน่อย”เด็กชายตัวเล็กกระโดดลงจากเก้าอี้นวมตัวสูงแล้วเดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่เข้ามากระตุกชายเสื้อเขาเบา ๆ วารินวางถาดอาหารลงแล้วแย้มยิ้มให้กับเด็กชายอย่างเอ็นดู

 “น้องธารไม่อยากเล่นแล้วน้องธารโกรธเกมส์แล้ว พี่จ๋ามาช่วยน้องธารเล่นเร็ว ๆ มาดูๆเนี่ยๆๆรถคันเนี๊ยะมันขี้โกงวิ่งเร็วกว่าน้องธารตลอดเลย” เด็กน้อยเบะปาก มือเล็กจับฝ่ามือใหญ่แล้วลากเข้าไปดูที่หน้าจอด้วยกัน นิ้วเล็กๆจิ้มๆให้วารินได้เห็น วารินยิ้มบางยีผมนิ่มนั้นอย่างเอ็นดู เขาไปลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งลงข้าง ๆ แล้วหมุนหน้าจอเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าหาตัว

“ฮึบ! มานั่งบนตักพี่ดีกว่า ตรงนั้นเก้าอี้คุณแม่พี่จ๋านั่งไม่ได้ เดี๋ยวพี่จ๋าพาเล่นครั้งนี้น้องธารต้องชนะแน่นอนอยู่แล้วครับ” วารินอุ้มเด็กน้อยขึ้นนั่งตัก

“อูยหนักเหมือนกันนะเนี่ย อายุเท่าไหร่แล้วล่ะเรา ตัวจิ๋วแบบเนี๊ยะโตขึ้นจะมีสาวๆมองเร้อ” เขาแกล้งทำเสียงล้อเลียนเอาคางตั้งที่ศีรษะเล็กของเด็กน้อย

ธาราธารชูนิ้วเลข 8 แล้วบอกเขาไม่สนใจสาว ๆ เพราะพวกผู้หญิงชอบมาแย่งขนมเขาแล้วก็ชอบมาหยิกแก้มเขาวารินได้แต่นั่งหัวเราะความไร้เดียงสาของเด็กชาย

“เลี้ยวเลยๆๆเอ้าเอียงๆเอียงตัวด้วย บรื้นนนนแซงไปได้แล้วเห็นไหม” เด็กซนหัวเราะคิกคักในอ้อมอกของวาริน แผ่นหลังเล็กๆถูกเขากอดไว้จนจมมิด ปลายจมูกโด่งก้มลงไปหอมศีรษะทุยเล็กนั่นแล้วพูดหยอกล้ออย่างเอ็นดู “แหวะผมเหม็นอ่ะ ไม่ได้สระกี่วันแล้วเนี่ย” เขาแกล้งย่นจมูกทำเสียงฟึดฟัด

“อย่ามาว่าน้องธารนะ น้องธารสระทุกวันเหอะ คุณแม่ยังชอบมาดมเลย พี่จ๋าโกหกน้องธารไม่เชื่อหรอกจิ๊!น้องธารโกรธแล้วด้วย!” หนุ่มน้อยทำแก้มป่องแกล้งทำเป็นงอนแต่ก็เอียงหน้าซบหาอกอุ่น ๆ ของเขา วารินป้อนขนมไปด้วยพาเล่นเกมส์ไปด้วย พอกินอิ่มหนังตาก็หย่อนงัวเงียไปสักพักดันหลับขึ้นมาจริง ๆ เขาจึงอุ้มให้มานอนบนโซฟาดี ๆ แล้วใช้เสื้อนอกของตนเองคลุมทับให้

“อ้าวตาธารหลับไปแล้วหรือวาริน”ภัครจิราเดินมานั่งลงที่โต๊ะทำงาน ศศิธรถือแฟ้มเอกสารตามเข้ามา วารินรีบเดินเข้ามาหยิบถาดอาหารออกทันที

“ขอบใจนะเป็นธุระดูแลให้ฉัน ต่อไปจะไม่ลำบากแล้วล่ะ อาทิตย์หน้าฉันสะส่งเขาไปเรียนที่....แล้ว  เป็นโรงเรียนประจำ มีถึงระดับมัธยมปลายเลยแบบนี้เขาจะได้ไม่ต้องมานั่งรอฉันทำงานดึกๆดื่น ๆ ไปอยู่ที่นั่นจะได้มีเพื่อนวัยเดียวกันคุยกันรู้เรื่องกว่าพวกเราเป็นไหน ๆ ใช่ไหมศศิธร”เธอหันไปถามความเห็นของศศิธรเลขาส่วนตัว ฝ่ายนั้นได้แต่ยิ้มหวานกลับมาให้ตามประสาคนยิ้มง่าย

“วารินเธอเรียนปีสามแล้วใช่ไหม  จบเมื่อไหร่มาทำงานกับฉันนะ ฉันชอบนิสัยเธอจะได้มาช่วยศศิธรเขา  งานของฉันกำลังไปได้สวยฉันอยากได้คนดีๆมีความสามารถมาช่วยงานฉันอีกแรง”

“ขอบพระคุณครับคุณภัครจิรา” วารินพนมมือไหว้อย่างรู้คุณ

.

.

สิบปีต่อมา

“ผมไม่เอานะครับคุณแม่”ร่างสูงใหญ่ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้หรูหรา คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างขุ่นมัว

“ธาร เดี๋ยวลูก!”

ภัครจิรา โชติการุณ เซเลปเจ้าของโรงแรมหรูริมน้ำเจ้าพระยาส่งเสียงเรียกลูกชายไว้อย่างร้อนรน ธาราธารก้าวฉับๆออกจากห้องไปอย่างหัวเสีย หลังจากฟังผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแม่บอกเขาว่าจะหาพี่เลี้ยงมาให้

...หาคนมาควบคุมเขาล่ะสิไม่ว่า...

“ผมโตจนจะเข้ามหาวิทยาลัยอยู่แล้วคุณแม่คิดอะไรอยู่ครับ” เธอตามมาดึงแขนลูกชายคนเดียวไว้อย่างเหนื่อยใจ

“แม่หวังดีนะธาร ลูกจะได้มีคนช่วยจัดการธุระต่าง ๆ ให้ เพื่ออนา......”

“เพื่ออนาคตของผมใช่ไหมล่ะครับ”

เขาแทรกขึ้นทันทีเหมือนรู้อยู่แล้วว่าเธอจะพูดอะไรต่อ   ธาราธารหันมามองภัครจิราอย่างตัดพ้อเมื่อต้องฟังคำว่า ‘เพื่ออนาคตของตัวเขาเอง’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ  เขาถูกส่งไปเข้าโรงเรียนประจำตั้งแต่ยังเด็ก เสาร์อาทิตย์เฝ้าเกาะรั้วสูงๆนั่นรอคอยคุณแม่แวะมาหาเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ จะมีก็แต่แม่บ้านไม่ก็คนรถของคุณแม่เท่านั้นที่แวะเวียนเข้ามาดู

..คอยจนเขาเลิกคอย..

ธาราธารเริ่มทำตัวเป็นเด็กเกเรเรียกร้องความสนใจ เพราะทางโรงเรียนจะเรียกคุณแม่เข้ามาคุยและเขาจะมีโอกาสได้เห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ได้บ้าง

ส่วนพ่ออย่าได้พูดถึง เขาไม่เคยมีความทรงจำเรื่องผู้ชายคนนั้นเลย ถึงแม้คุณแม่จะเคยบอกเขาว่าใครคือพ่อที่แท้จริง แต่เขาจะใส่ใจไปทำไมในเมื่อผู้ชายคนนั้นแต่งงานใหม่และมีลูกที่อายุพอๆกับเขาอยู่ทั้งคน

มัธยมปลายธาราธารสอบเข้าคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนแพทย์แห่งแรกติด ดังที่เขาตั้งใจ แต่ภัครจิราไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เธออยากให้ลูกชายคนเดียวของเธอเรียนต่อด้านบริหารไม่ก็การจัดการเรื่องการเงินมากกว่า แต่ธาราธารไม่ได้ชอบทางนั้น เขาดึงดันที่จะเข้าเรียนตามที่ตัวเองสอบได้

วันนี้ภัครจิราถึงกับเลื่อนประชุมเพื่อตั้งใจจะคุยกับเขาเรื่องนี้ ทว่าในแววตาที่เหนื่อยล้านั้นธาราธารกลับมองเห็นมันสั่นระริกอยู่ตลอด

“อยากทำอะไรก็ตามใจ แต่บอกไว้ก่อนถ้าคนที่จะเข้ามาดูแลผมเป็นเหมือนที่ผ่านมาล่ะก็ ผมไล่ตะเพิดเหมือนหมูเหมือนหมาแน่”

จริงอยู่ที่เขาเป็นเด็กปากร้ายแข็งกระด้าง แต่ภัครจิรารู้ว่าจริงๆแล้วลูกชายเธอเป็นคนจิตใจดีมาก ตอนเด็กๆถ้าเขาเห็นสุนัขจรจัดหรือสัตว์พเนจรแถวบ้านบาดเจ็บเขาจะไปลากเข้ามาแล้วทำแผลให้กับมัน ตัวแล้วตัวเล่าไม่สนใจคำบ่นของเธอแม้แต่น้อย

แต่นั่นก็เป็นเรื่องสมัยเด็ก คนเราเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน

เธอไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้ลูกชายเธอเป็นคนแบบไหน

เธออยากได้ช่วงเวลาที่หายไปนั้นกลับคืนมา

แต่เธอกลัว...เพราะธาราธารท่าทางจะไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ

มันเหมือนมีกำแพงบางๆมากันระหว่างเธอกับลูก

.

.
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [03/03/57] บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: janji ที่ 03-03-2014 13:43:00
เรื่องนี้น่าสนใจ รอนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [03/03/57] บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: DZiik ที่ 03-03-2014 15:16:35
มารอ  :m11:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [03/03/57] บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-03-2014 16:05:56
ติดตามเรื่องใหม่จ้า
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [03/03/57] บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 03-03-2014 17:31:06
คุณแม่ทำตัวเอง
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [03/03/57] บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 03-03-2014 21:39:24
 :hao7: วารินคือนายเอกสินะ

เรื่องนี้กินเด็ก ฮุฮุ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [03/03/57] บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 03-03-2014 22:05:28
สนุกค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [03/03/57] บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 03-03-2014 22:19:55
มารอชมพี่เลี้ยงคนใหม่
งานนี้น้องธารมีหวังกร่างไม่ออกแน่ลูก
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [03/03/57] บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: Minerva ที่ 03-03-2014 23:24:33
มาจองที่ รอเนื้อเรื่อง
เรื่องนี้ต้องเป็นวัวอ่อนกินหญ้าแก่แน่ๆเลย >///<
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [03/03/57] บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 04-03-2014 01:19:11
ใครจะกินใคร ใครจะบนใครจะล่าง อร๊ายยย รอคะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/03/57] บทที่1 ทรายกับทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 04-03-2014 10:38:51
บทที่1

“ก็อย่างที่บอกเธอไปนั่นแหละนะวาริน  ถือว่าช่วยฉันหน่อยก็แล้วกัน”   ภัคจิรา ถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน แผ่นหลังบางในชุดสูทผ้าไหมสีครีมเอนพิงพนักเก้าอี้ประจำตำแหน่ง แว่นสายตาถูกถอดวางไว้บนโต๊ะทำงานอย่างเบามือ

เธอเลื่อนเช็คเงินสดที่กรอกตัวเลขไว้เรียบร้อยแล้วส่งให้วาริน  “อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ถือว่าฉันจ้างเธอเพิ่มเป็นพิเศษก็แล้วกัน นี่เป็นเงินงวดแรกนอกเหนือจากงานประจำ คิดซะว่าเป็นค่าตอบแทนดูแลเจ้าธารให้ฉัน”

วารินถึงกับเบิกตาโตตัวเลขจำนวนเงินไม่ใช่น้อย ๆ เขานึกเอะใจว่าแค่ดูแลเด็กโตจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอยู่รอมร่อทำไมถึงได้ให้ค่าจ้างที่สูงนัก“ธารเป็นเด็กที่ใช้เงินเก่งมาก ฉันจะให้บัตรสำรองเธอไปอีก1ใบเอาไว้เบิกใช้ได้ตามความจำเป็นบางครั้งบางคราวอาจจะต้องตามเคลียเรื่องราวต่าง ๆ ให้กับเขาเธอจะได้ไม่ลำบาก”

“แล้วงานของผมทางนี้ล่ะครับ”

“ตอนนี้ให้โฟกัสไปที่ลูกชายของฉันก่อน เรื่องงานฉันจะให้ศศิธรเข้ามาช่วยอีกแรง”

“คุณภัคจิราครับ ผม...”

“วาริน  เธอเองก็ทำงานเป็นเลขาฉันมานานพูดง่าย ๆก็เหมือนน้องชายฉันคนหนึ่ง เธอรู้มาตลอดนี่ว่าฉันทำงานหนักแค่ไหนที่ฉันทำทุกสิ่งทุกอย่างก็เพื่อเจ้าธารลูกชายคนเดียวของฉันทั้งนั้น”

ความจริงแล้วภัครจิราอยากจะให้ลูกชายของเธอเรียนทางด้านบริหารแต่จนใจที่เขาดันเลือกสอบเข้าแพทย์ตามที่ใจรักแล้วเจาะจงเลือกสอบมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับประเทศแบบนั้น ครั้นจะบังคับให้สละสิทธิ์แล้วออกมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนเธอก็จนใจที่จะทำได้

“พรุ่งนี้เขาต้องไปรายงานตัวและจัดการเรื่องหอพัก  เธอคงรู้มาบ้างว่าลูกชายฉันอยู่โรงเรียนประจำมาโดยตลอดแล้วก็มีเรื่องมีราวจากทางโรงเรียนส่งมาตลอดด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านั้นฉันจ้างพี่เลี้ยงให้เขาคนหนึ่งคอยดูแลเป็นธุระแทนฉัน แต่ก็ไม่รอดเจ้าธารไม่รับใครหน้าไหนทั้งนั้น บอกตรงๆฉันมันบ้างานจนลืมวิธีเลี้ยงดูลูกไปนานหลายปีแล้ว ที่ต้องคอยจ้างคนอื่นอยู่ตลอดเพราะฉันไม่มั่นใจในตัวเอง เธอจะต่อว่าฉันยังไงฉันก็เถียงไม่ออกแล้วล่ะตอนนี้”

วารินครุ่นคิด เมื่อเห็นเจ้านายตัวเองระบายเรื่องส่วนตัวออกมา ทั้งที่ทำงานกับคุณภัคจิรามานานแต่ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอจะพรั่งพลูเรื่องลูกชายออกมาแบบนี้ อยากช่วยก็อยากช่วยแต่ก็ได้ยินข่าวมาเหมือนกันว่าลูกชายคนเดียวของเจ้านายร้ายกาจมาก

“รู้ไหมวาริน ทั้งๆที่เขากลับมาอยู่บ้านแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นแต่กลับสร้างปัญหามากมายให้ฉันตามเก็บตามแก้ไม่หยุดหย่อน ไหนจะเรื่องผู้หญิง เรื่องเงิน เรื่องเที่ยว ฉันเองก็สุดจะทนแล้วเหมือนกันอยากจะหาคนมาดัดนิสัยก็พอจะมองเห็นเธอนี่แหละ ตาธารเขาเป็นลูกชายคนเดียวของฉันนะถึงแม้จะเป็นลูกที่พอเกิดมาปุ๊บสามีก็ทิ้งฉันไปทันที หึ เห็นหน้าเขาทุกครั้งฉันก็คอยคิดถึงแต่สามีเก่าจะกอดเขาแต่ละทีหัวใจก็เจ็บจี๊ดขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีดีอยู่อย่างคือเขาเป็นเด็กที่เรียนดีมากมีความรับผิดชอบ ถ้ามองข้ามอารมณ์ขึ้นๆลงๆของเขาได้จะถือว่าเขาเป็นเด็กดีคนหนึ่งเลย  ตกลงแล้วนะ นาวารินช่วยฉันอบรมดูแลเขาหน่อย”

“แล้ว...ผมจะต้องทำอะไรบ้างครับ”

ภัครจิราอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้องานให้วารินได้ฟัง เธออยากให้เขาเป็นเหมือนเลขาส่วนตัวให้กับลูกชายของเธอ วารินนึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่เขาเข้ามาฝึกงานที่บริษัทนี้ ในห้องทำงานใหญ่ของภัครจิราเด็กผู้ชายตัวเล็กหน้าตาหล่อเหลามาดคุณชายนั่งเล่นเกมส์รถแข่งทำเสียงเอฟเฟคตลกๆ วารินนำอาหารและของว่างเข้าไปเสิร์ฟให้ เด็กตัวเล็กหันมายิ้มให้เขาและเดินเข้ามาจูงมือเขาไปนั่งเล่นเกมส์ด้วยกัน มือเล็กๆจับเขาไว้ไม่ยอมปล่อยเมื่อเห็นว่าเขาเล่นเก่งกว่า ดวงตาใสมองอ้อนเขาให้สอนวิธีเล่นให้ชนะ วารินนึกไปถึงเรื่องเมื่อประมาณสิบปีที่แล้วก็อดระบายยิ้มออกมาไม่ได้

ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้เขาจะได้มาดูแลเด็กคนนี้ในฐานะพี่เลี้ยง ป่านนี้คนตัวเล็กนั่นจะโตขึ้นขนาดไหน จะทำหน้าอ้อนเขาแบบแต่ก่อนอีกหรือเปล่า

วารินเข้าฝึกงานที่โรงแรมแห่งนี้ตั้งแต่สมัยเรียนพอจบเขาก็ได้ทำงานที่นี่ต่อเลยทันที เริ่มจากงานผู้ช่วยของศศิธรหรือพี่อ้อเลขาอีกคนของภัครจิรา จากนั้นจึงขยับตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขาเต็มตัวเมื่อ 5 ปีที่แล้วเมื่อตระกูล โชติการุณ ผุดโรงแรมและรีสอร์ทในเครือขึ้นอีก 2 แห่ง แต่ไม่ว่างานจะหนักแค่ไหนวารินไม่เคยเห็นคุณภัคจิราแสดงอาการเหนื่อยใจขนาดนี้มาก่อน

“รับปากฉันว่าฉันจะไว้ใจเธอได้วาริน  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะต้องคอยประคับประคองให้เขาเดินไปในทางที่ถูกต้องเสมอ” ภัครจิราฝากฝัง

“ครับผมรับปากจะดูแลคุณธารให้ดีที่สุด”

.


“จ๊ะเอ๋พี่ซี ทรายกลับมาแล้วครับ ทำอะไรอยู่อ่ะ”

แกลเลอรี่เล็กๆริมถนนสายการค้า เป็นเสมือนบ้านของสองพี่น้องต่างบิดามารดาที่อาศัยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก วารินเข้าไปกอดแผ่นหลังกว้างของภูวดล จิตรกรหนุ่มมาดอบอุ่นที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายบุญธรรม ทั้งที่อายุห่างกันแค่ปีเดียวแต่ภูวดลกลับทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินตัว นั่นเพราะตั้งแต่เสียพ่อแม่ไปภูวดลก็รับผิดชอบดูแลวารินมาโดยตลอด

“ล้างพู่กันอยู่ครับ ทรายหิวหรือยังกินข้าวกันเลยไหมพี่ทำเตรียมไว้แล้วนะ”

“หิวอ่ะดิ มาทรายช่วย” ว่าแล้วมือเล็กขาวสะอาดก็คว้าแย่งเอาแปรงเอาพู่กันมาล้างแทนแต่ถูกอีกฝ่ายขวางไว้

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวมือทรายจะเปื้อนสีนะพี่ล้างเองไวกว่าหิวเหมือนกันเนี่ยรอทรายจนไส้กิ่วไปหมดแล้ว ไส้พี่ซีบิดเป็นเกลียวมันฝรั่งแล้ว” ภูวดลแกล้งหันมาเย้า

“พอดีวันนี้คุยธุระกับเจ้านายนิดหน่อยเลยเลิกช้า เห็นคุณภัครท่านบอกว่าจะให้ทรายช่วยดูแลลูกชายของท่านน่ะครับ”

“พี่เลี้ยงเด็กน่ะหรือ?”

“ไม่เด็กแล้วครับ พรุ่งนี้ทรายต้องพาน้องเขาไปมอบตัวที่มหาวิทยาลัย”

“โหโตแล้วนี่ ทำไมต้องให้คนไปดูแลอีกล่ะ”

“เพราะคุณภัครท่านไม่ค่อยว่าง แล้วก็คงอยากได้คนมาดูแลน้องแบบใกล้ชิดมั้งนะ” ทรายล้างมือแล้วเดินไปเปิดฝาชีดูอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ

“หืมม หอมน่ากิน” ชายหนุ่มคดข้าวรอพี่ชาย   ส่วนภูวดลพอล้างเสร็จเขาก็เอาอุปกรณ์ระบายสีไปผึ่งลมไว้ที่หลังบ้านแล้วเดินเข้าไปนั่งกินข้าวร่วมกับวาริน

“แบบนี้ก็เหมือนย้ายจากเลขาแม่ไปเป็นเลขาลูกสินะ  ทรายน้อยของพี่ซีจะไหวไหมเนี่ย” ภูวดลพูดติดตลกพร้อมกับตักผัดเต้าหู้ของโปรดน้องชายใส่จานให้อีกฝ่ายก่อนจะลงมือทานอาหารในจานตนเอง

“ไหวไม่ไหวก็ต้องไหวล่ะ พี่ซีดูนี่” ทรายล้วงเช็คเงินสดออกมาอวดภูวดลอย่างตื่นเต้น

“โอ้โหทำไมเขาให้มาเยอะแบบนี้ล่ะ ลูกเขาเลี้ยงยากรึเปล่าเนี่ยทรายพี่ซีว่าแอบน่ากลัวเหมือนกันนะ”

“พี่ซีก็พูดไป แต่ทรายดีใจนะที่ได้งานนี้เพราะเราจะมีรายได้เพิ่มทรายจะเก็บเงินไว้ให้เยอะๆแล้วจะได้ไปไถ่บ้านนี้คืนมาให้เป็นของพี่ซีเหมือนเดิม”

วารินนึกย้อนไปถึงอดีต เมื่อ14 ปีที่แล้วภูวดลสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปในอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลังจากนั้นพี่ชายของเขาก็รับหน้าที่ดูแลน้องชายบุญธรรมอย่างเขาเพียงคนเดียวมาโดยตลอด ภูวดลต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อทำงานหาเงิน เขารับจ้างวาดรูปส่งเสียวารินให้ได้เรียนสูงๆทั้งยังต้องแบ่งเงินรายได้ส่วนหนึ่งมาจ่ายค่าเช่าบ้าน ทั้งที่เป็นบ้านของตนเองแท้ๆแต่เพราะพ่อของเขานำมันไปจำนองไว้กับเจ้าหนี้เงินกู้ เมื่อขาดส่งเรื่องจึงแดงขึ้นมา 

ญาติพี่น้องทางฝ่ายพ่อและแม่ต่างไม่ยอมรับพวกเขาสองพี่น้องเพราะพ่อกับแม่ของภูวดลถือเป็นลูกพี่ลูกน้องกันทั้งสองฝ่ายจึงรังเกียจและถูกตัดขาด ท่านสองคนตั้งใจมีภูวดลเพียงแค่คนเดียวส่วนวารินเป็นบุตรบุญธรรมที่ท่านนำมาเลี้ยงดูเพื่อเป็นเพื่อนเล่นกับภูวดล

“ทรายไม่อยากเห็นพี่ซีอดหลับอดนอนไปรับรูปมาวาดอีกแล้ว ทรายจะทำงานเก็บเงินให้ได้เยอะๆพี่ซีจ๋าของทรายจะได้ไม่ต้องลำบากอีก”  วารินนึกถึงภาพอดีตที่เคยลำบากเขาไปนั่งดูพี่ชายรับจ้างวาดรูปตามถนนคนเดินหรือตามตลาดโต้รุ่งจนดึกดื่นแล้วน้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมา

ภูวดลได้แต่ลูบหัวน้องชายอย่างปลอบใจ

“ใครว่าพี่ลำบากครับ พี่ซีทำแล้วมีความสุขต่างหาก ตอนนี้เรามีร้านเล็กๆของเราเองแล้วไง พี่ได้วาดรูปรอทรายอยู่ที่บ้านทุกวัน นี่แหละความสุขของพี่ซี เงินทองอะไรไม่สำคัญสำหรับพี่มากไปกว่าทรายหรอกนะครับ”

ทันทีที่วารินได้เข้าทำงาน เงินเดือนๆแรกเขายกให้ภูวดลทั้งหมดแต่ภูวดลปฏิเสธเขาจึงรวบรวมเงินจำนวนหนึ่งแล้วต่อเติมร้านเล็กๆขึ้นที่ระเบียงหน้าบ้านดีไซด์ให้เป็นไม้ทั้งหมดเพื่อให้ภูวดลมีแกลเลอรี่เป็นของตัวเอง

ถึงแม้มันจะเล็กกะทัดรัด แต่มันก็เป็นร้านที่น่าภาคภูมิใจและน่ารักมากมีเถาวัลย์เลื้อยอยู่รอบรั้วและตัวเรือนด้านหน้ามีต้นลีลาวดีสีขาวต้นใหญ่ที่เขากับพี่ปลูกไว้ร่วมกันตั้งแต่เด็ก  มันเหมือนบ้านสวนเล็กๆกลางเมืองใหญ่

“จ้า จ้า พี่ซีคนดีของทราย”

“แล้วทรายเคยเจอน้องเขารึยังครับ”

“เคยเจอตั้งแต่น้องเขายังตัวเท่าเนี๊ยะ” วารินทำไม้ทำมือประกอบว่าตัวเล็กมากแล้วก็เตี้ยมาก ตอนนั้นธาราธารน่าจะอายุสัก 8 ปีได้  “แต่ว่าตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เจออีกเลย รู้สึกว่าคุณภัครจะส่งเข้าโรงเรียนประจำน่ะครับ ตอนนี้คง 17-18 แล้วมั้ง”

“อ้อ เด็กที่อยู่โรงเรียนประจำมาตลอดสินะ” ภูวดลพึมพำ

“ครับใช่” วารินพยักหน้ารับเบาๆ

“ทนๆเอาหน่อยนะเรา หึหึ เจ้าเตี้ยอายุ 30 จะไปดูแลเด็กอายุ 18 เนี่ยนะ หึหึหึ” ภูวดลแกล้งทำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่

“พี่ซีหัวเราะอะไรอ่ะ หัวเราะเยาะทรายเหรอ หาว่าทรายแก่ละซิตัวเองก็เหมือนกันแหละอายุมากกว่าเขาแค่ปีเดียวอย่ามาทำเป็นหัวเราะคนอื่นนะ”ทรายพูดหน้ายู่

“เปล่าคราบ เปล่าๆ หึหึหึไม่ได้หัวเราะเลย เปล่า หึหึหึ”

“เปล่าอะไรหัวเราะอยู่ชัดๆทรายยังไม่แก่นะแล้วก็ไม่เตี้ยด้วยอย่ามาว่าทรายเตี้ยทรายแค่สูงน้อยกว่าพี่ซีหน่อยเดียวเองแล้วน้องเขาอาจจะเตี้ยกว่าทรายอีกก็ได้ใครจะรู้ล่ะ จิ๊” ภูวดลโดนทรายฟาดไปหนึ่งทีเสร็จแล้วทรายก็ทำปากจู๋

“คราบหน่อยเดียว ลูกตาเลยไหล่พี่ซีมาหน่อยเดียวจริงๆ”  ทรายทุบลงที่หลังภูวดลอีกหนึ่งทีจนอีกฝ่ายเกือบสำลักข้าว

“โอเคๆไม่พูดแล้วไม่งอนนะพี่ซีหยอกเล่น ว่าแต่ ถ้าทรายพาน้องเขาไปมอบตัวคนอื่นจะมองว่าทรายเป็นคุณพ่อยังหนุ่มของน้องเขารึเปล่าเนี่ย หึหึหึ” ภูวดลยังกระเซ้าไม่จบ เขานั่งนั่งหัวเราะจนไหล่สั่นเมื่อมโนภาพถึงวันพรุ่งนี้

“บ้า! พี่ซีอย่ามาพูดแบบนี้นะทรายจะไปเป็นรุ่นพ่อน้องเขาได้ยังไงถึงจะแค่เกือบก็เหอะ ใครจะรู้น้องเขาโตขึ้นอาจจะหน้าแก่ ตัวอ้วน  ผิวคล้ำ ตาตีบ แตกต่างจากทรายทุกอย่างเลยก็ได้เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครอุตริคิดไปได้ว่าทรายเป็นพ่อน้องเขาหรอกน่า อย่างมากก็แค่ พี่ น้า อา อะไรแบบนั้น”

“ครับๆๆพี่ก็พี่ อย่างนี้ก็ทรายไม่ต้องเข้าไปที่โรงแรมแล้วอ่ะดิ”

“ก็คงเข้าบ้างไม่เข้าบ้างแหละแล้วแต่  เรื่องดูแลลูกเขาคงต้องมาก่อนคุณภัคเธอว่างั้นน่ะ ช่วงนี้ทรายอิสระฮี่ๆดีใจจัง พี่ซีทรายขึ้นไปอาบน้ำแล้วนะพี่ซีล้างจานเสร็จตามขึ้นมาล่ะ”

“เดี๋ยวก่อนดิ พี่ซีล้างจานให้ทั้งที่วันนี้เวรทรายนะครับต้องให้รางวัลพี่ซีสิ” ภูวดลคว้าแขนทรายเอาไว้พร้อมยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มทรายเบาๆ

“หือ ไม่โกนหนวดอีกละ ทรายเจ็บนะเนี่ย” วารินเอามือลูบแก้มไปมาแกล้งทำงอน

“อะไรเพิ่งโกนเมื่อวานเองทำไมขึ้นไวงั้นล่ะ” ภูวดลแอบบ่นงึมงำในลำคอเบา ๆ

“เดี๋ยวทรายเปิดแอร์รอ พี่ซีรีบตามขึ้นมานะ”

“ครับๆจะตามขึ้นไปเดี๋ยวนี้ล่ะขอโทรศัพท์บอกเรื่องรูปกับลูกค้าก่อนนะ”

.

.

“หืมม..อะไรกันแค่นี้เมา?” สาวสวยหุ่นดีน่าฟัดน้ำเสียงเต็มไปด้วยจริตจกร้านหย่อนตัวนั่งลงข้างเขากอดเอวเขาไว้

“เมาที่ไหน เคยเมา?” เด็กหนุ่มถามเรียบๆสีหน้าเย็นชาเหมือนเคยไม่เปลี่ยน มือขาวสะอาดยกแก้วสีอำพันขึ้นจิบ

“ช้าไหม ขอโทษนะกี้ติดแขกโต๊ะนั้นอยู่กว่าจะเลี่ยงออกมาได้...คิดถึงธารจัง”เธอซบใบหน้าสวยซึ้งเข้าที่อกฟิตเปรี๊ยะของเขากำปั้นเล็กแกล้งทุบเขาเบา ๆ เชิงหยอกล้อ

“ธารมาบ่อยนะช่วงนี้ คิดถึงกี้เหมือนกันใช่ม๊าา”  เขามองเธออย่างชั่งใจครู่หนึ่ง ก่อนยื่นริมฝีปากสวยเข้ามาจูบแก้มเธอเบา ๆ แทนคำตอบ

เธอรู้และเข้าใจนิสัยเขาดี เขาเป็นคนเย็นชาไม่เคยมีคำพูดคำจาหวานแหวว วางตัวเว้นระยะห่างกับทุกคนเสมอแม้แต่กับเธอก็ไม่เว้น แต่เธอก็ชอบเขาที่เป็นแบบนี้ เขาคือลูกค้าเพียงคนเดียวที่เธอให้สิทธิ์พิเศษไม่ว่าจะเรียกตอนไหนเมื่อไหร่เธอกลับยอมทิ้งทุกคนเพื่อมาเทคแคร์เขา หญิงสาวชงเหล้าให้เขาแก้วแล้วแก้วเล่าอย่างรู้งาน “วันนี้ไปค้างกับกี้เหมือนเดิมอีกนะ กี้แคนเซิ่ลคนอื่นไปหมดแล้ว ตอนนี้มีธารคนเดียวเลย”

“เพราะผมเงินดีที่สุดใช่ไหม” เขาหรี่ตาที่เริ่มเยิ้มน้อยๆเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์มองเธอขณะยกแก้วขึ้นจิบ มุมปากยกยิ้มร้ายกาจส่งให้หญิงสาว แกล้งพูดความจริงต้อนให้จนมุม

“ใช่ที่ไหน คิดถึงธารเรื่องนั้นต่างหาก......” เธอโน้มคอเขาลงมากระซิบใกล้ ๆ เป่าลมหายใจร้อนผ่าวใส่ที่ริมหู ธาราธารเหยียดยิ้มออกมาทันทีที่เธอบอกให้รู้เป็นนัยๆว่าเรื่องอะไร หญิงสาวหัวเราะคิกคักแกล้งผลักอกเขาออกห่างทว่ากลับเกี่ยวรัดอย่างหยอกเย้า

“ไปกันเถอะ จะได้หายคิดถึงผมไง” เขาลุกขึ้นส่งมือไปส่งให้เธอจับ

“คนบ้า น่าไม่อายที่สุด” เธอแกล้งทำเป็นเอียงอายแต่อยากได้ในตัวเขาใจจะขาด

ริมฝีปากร้อนๆไล่จูบเม้มไปทั่วอกอวบอิ่มที่ชูช่อโดดเด่นแก่สายตาของเขา ธาราธารส่งปลายลิ้นเข้าปรนเปรอยอดทรวงสีหวานสวยที่แข็งเป็นไตตอบรับทุกสัมผัสของเขาในทันที หญิงสาวบิดตัวเพื่อลดทอนความเสียวซ่าน หากแต่มันไม่ได้ช่วยลดทอนความรู้สึกของเธอลงเลยสักนิด ตรงกันข้ามยิ่งเธอบิดกายนิ้วร้อนร้ายกาจกลับยิ่งรุกล้ำเข้าหาเสียจนเสียงหวานต้องครางแผ่วยามที่ปุ่มเกสรสีสดถูกคลึงเคล้าด้วยปลายนิ้วก่อนจะค่อยๆแทรกลึกเข้าไปในกายของเธอ

นิ้วร้ายขยับเข้าออกไปมาราวกับกำลังหยอกเย้า ก่อนที่เขาจะยันตัวขึ้นเผยให้เธอเห็นเนื้อแท้ทุกส่วนสัดได้ชัดถนัดตา
เขาหยิบถุงยางอนามัยขึ้นมาฉีกหญิงสาวรู้งานรีบลุกขึ้นมาจัดการสวมครอบมันลงด้วยริมฝีปากที่ชำนาญของเธอ เขาผลักเธอให้นอนราบลงไป ส่งนิ้วร้ายกาจเข้าครอบครองอีกครั้งก่อนที่มันจะถูกแทนที่ด้วยแก่นกายร้อนๆ เขาเข้าครอบครองเธออย่างรวดเร็วจนหญิงสาวเกร็งไปทั้งตัว เสียงหวานครางกระเส่าไม่เป็นภาษาเมื่อเขาเริ่มเคลื่อนจังหวะเข้าออก ความเจ็บปวดที่ได้รับมาตลอดทุกครั้งที่นอนกับเขามันทำให้เธอทั้งหวาดกลัวและแสนคิดถึง อาวุธคู่กายของเด็กหนุ่มขยับขยายและผงาดล้ำอยู่ในความอ่อนนุ่มที่คับแน่นของเธอ

“กี้...อย่าเกร็ง”

กายร้อนแทบจะขยับไม่ได้เพราะช่องทางที่คับแน่นนั้นบีบรัดเขาจนเกินไป เขาก้มลงจูบซับหยาดน้ำตาที่ไหลซึมออกมาจากหางตาดวงน้อยพร้อมกระซิบบอกเบา ๆ  แล้วค่อยเคลื่อนกายเร่งจังหวะไปพร้อมๆกับเรียวนิ้วที่หยอกเย้ายอดอกสีชมพูเข้มจนหญิงสาวครางไม่เป็นศัพท์ ความเจ็บร้าวถูกแทนที่ด้วยความเสียวซ่านใบหน้าสวยเหยเกด้วยความสุขสม วงแขนเรียวโอบกอดร่างกายเขาไว้ราวกับกลัวว่าความอิ่มเอมที่ได้รับจะมลายหายไป แม้เธอจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่กับขนาดที่ใหญ่มากของเขาทำเอาเธอเจ็บร้าวเสียวสะท้านไปทั่วกุหลาบงามกลางกาย

“หึ” ริมฝีปากแสยะยิ้มร้ายเมื่อเห็นร่างกายเธอบิดเร่า ๆ เขาพลิกร่างบอบบางขึ้นนั่งทับและตัวเขาลงนอนแทน ทั้งที่ยังแนบชิด มือหนาประคองสะโพกกลมกลึงขึ้นลงขณะร่างกายประสานสุด ลึกล้ำยิ่งกว่าเดิม

“อื้อ...” กี้ครางไม่ได้ศัพท์ เธอหลับตาพริ้มลิ้มรสความเสียวซ่าน ดั่งลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศโคลงเคลงขณะที่มือร้อนร้ายเค้นคลึงทรวงอกอวบอิ่มของเธอไม่หยุดหย่อน สะโพกสอบเข้าหากันรัวเร็วและกระชั้นถี่จนมองไม่ทัน เสียงครางของเธอดังลั่นไปทั่วห้องพัก

เด็กหนุ่มรั้งตัวเธอลงมากอดไว้แนบอกแล้วสวนสะโพกขึ้นเต็มแรงอยู่หลายต่อหลายครั้งจนเธอร้องเรียกชื่อเขาเสียงหลง ความสุขสมแล่นพล่านตั้งแต่ปลายเท้าแผ่ไปจนถึงขั้วหัวใจ ไม่ผิดหวังสักครั้งที่ร่วมรักกับเขาคนนี้เธอสุขสมจนแทบสำลัก อิ่มเอมจนไม่มีอะไรมาเปรียบ บทรักของเขาทั้งร้อนแรงและเนิ่นนาน ร่างสองร่างเกร็งกระตุกหนักหน่วง ความซาบซ่านและวาบหวามแตกกระจายเป็นสายธารอุ่นร้อนเข้าใส่กัน

เขาประคองตัวเธอลงถอนกายออกลุกขึ้นปลดถุงยางอนามัยทิ้งแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป เธอนอนมองเขาด้วยสายตาแสนเสน่หา แม้ว่าเขาจะเย็นชาแต่กลับแสนดีและเร่าร้อนเสมอเมื่ออยู่บนเตียง เธอต้องหักห้ามใจแค่ไหนเพื่อไม่ให้หลงไปในรูปกายของเขาคนนี้

เมื่อเด็กหนุ่มเดินกลับออกมา เขาล้วงธนบัตรสีเทาวางไว้ให้เธอจำนวนหนึ่ง

“ต่อเลยไหม” เธอแกล้งถามเสียงหวานฉ่ำรู้ทั้งรู้ว่าเขากำลังจะไป แปลกใจเล็กน้อยเพราะทุกครั้งที่เขามาไม่เคยต่ำกว่าสองรอบเลยสักครั้ง

“ไว้วันหลัง พรุ่งนี้มีธุระแต่เช้า” เขาโน้มตัวแตะจุมพิตที่ริมฝีปากสวย  “ไปนะ” 

เธออยากรั้งเขาไว้ใจจะขาดหากไม่ใช่เพราะเธอรู้ว่าคนอย่างเขาไม่ชอบให้ใครตามติด ใครคนไหนที่เกาะแกะและทำท่าต้องการในร่างกายของเขา เขาจะเขี่ยทิ้งไปอย่างไม่ใยดี

เสียงประตูปิดลงแล้ว ริมฝีปากสีสวยขยับยิ้มเธอซุกตัวลงในผ้าห่มผืนหนาที่เขาบรรจงห่มให้เมื่อสักครู่พลางคิดพอใจแค่ความสัมพันธ์เพียงข้ามคืนที่เขาคนนี้มอบให้

อาชีพอย่างเธอ...โชคดีแค่ไหนแล้วที่เขาเลือก

.
.  :t4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/03/57] บทที่1 ทรายกับทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 04-03-2014 11:28:46
 :L2:
นิยายเรื่องนี้น่ารักมากกก
น่าสนุกน่าติดตาม
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
+1+เป็ดค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/03/57] บทที่1 ทรายกับทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 04-03-2014 13:03:14

เฮ้อ---ก็เห็นใจคุณแม่น่ะนะ
แต่จะหาเงินไปทำไมมากมายเอาแค่พอมีกินมีใช้ก็ได้
นี่เล่นไม่เคยไปเยี่ยมลูกเลย---มันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ

แล้วประโยคที่ว่า---ช่วยดูแลให้เขาเดินไปในทางที่ถูกต้อง
คุณแม่จะรับได้มั้ยนะถ้า...---ขนาดเรื่องเรียนยังจะบังคับลูกเลย

ชอบเรื่องนี้นะ---ขนาดแค่ตอนแรกยังชอบเลย
เป็นกำลังใจให้คนแต่งๆจนจบเลยนะ

+ 1 + เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/03/57] บทที่1 ทรายกับทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: Minerva ที่ 04-03-2014 13:36:42
วารินน่ารักดีจัง ใสซื่อดี
ชอบๆ จะรอติดตามนะคะ ~~
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/03/57] บทที่1 ทรายกับทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: Serioz ที่ 04-03-2014 20:01:02
น่ารักดีมาติดตามค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/03/57] บทที่1 ทรายกับทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 04-03-2014 22:34:36
ธารมันคงจะร้ายกับวาริณแน่ๆเลย  :hao5:
มีแนวโน้มเป็น SM ก่อนที่จะหวาน
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/03/57] บทที่1 ทรายกับทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 04-03-2014 22:52:33
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 05-03-2014 12:06:23

บทที่2

เมื่อแสงแดดยามเช้าสาดซัดผนังด้านหนึ่งของโรงแรมสูงตระหง่านริมน่านน้ำเจ้าพระยา วารินที่กำลังก้มหาของบางอย่างที่ใต้โต๊ะทำงานขยับตัวจากเก้าอี้เลื่อนนิดหน่อยเมื่อจู่ ๆ ได้ยินเสียงเรียก ใบหน้าเล็กแหงนเงยมองเจ้าของเสียงที่ยื่นของบางอย่างส่งให้

“นี่จ๊ะเอกสารของคุณธาราธาร” ศศิธรเลขาอีกคนของภัครจิราเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเขาทำหน้าตาสงสัย วารินรับซองเอกสารมาเปิดดู ภายในนั้นมีใบสำคัญต่าง ๆทั้งต้นฉบับและสำเนาครบถ้วนที่สำคัญมีรูปถ่ายแบบเต็มตัวแนบติดมาด้วย

“โอ้โห น้องเขาเป็นนายแบบหรือเปล่าครับเนี่ยพี่อ้อ คุณธาราธารอายุ 18 จริงๆหรือครับ”   วารินพิจารณาดูรูปแล้วอุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กอายุ 18 จะสูงใหญ่ตัวโตดูดีได้ขนาดนี้ที่สำคัญหน้าตานั้นหมดจดถอดแบบคุณภัคจิรามาไม่มีผิด

...โตขึ้นมากจริง ๆ....

“ตัวจริงหล่อกว่านี้อีกนะ  เมื่อวานพี่เข้าไปที่บ้านคุณภัครมาเจอน้องเขากำลังจะออกจากบ้านพอดี” ศศิธรแกล้งกระซิบกระซาบ แล้วแกล้งเตือนวารินให้ระวังไว้หน่อยเพราะท่าทางเจ้านายคนใหม่ของเขาจะร้ายกาจมากด่ากราดคนงานในบ้านงี้ตัวสั่นกันหมด

“ขนาดนั้นเลยหรือครับ?” วารินตาโตพึมพำไม่เต็มเสียงสีหน้าวิตกลงอย่างเห็นได้ชัดจน จนศศิธรนึกตลกที่หลอกคนบางคนได้สำเร็จ เธอจึงบอกวารินไปว่าพูดเล่น

“หูยพี่อ้อ ทรายก็ตกใจหมดนึกว่าน้องเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ”

“ใช่ที่ไหนกันล่ะเรานี่ล่ะก็ พี่ไม่รู้หรอกว่าน้องเขาเป็นคนยังไงเพราะไม่เคยพูดคุยด้วยสักครั้งไว้เดี๋ยวทรายลองดูเอาเองก็แล้วกัน รีบๆลงไปเถอะแปดโมงกว่าแล้ว” ศศิธรตบบ่าให้กำลังใจวาริน ดวงตากลมมองดูรูปถ่ายที่อยู่ในมืออีกครั้งแล้วพึมพำออกมาเบา ๆ 

“ไม่อยากจะเชื่อเลย เด็กสมัยนี้โตไวกันจริงๆ”

หลังคุยธุระเสร็จวารินเดินลงมาที่ชั้นล่างส่งยิ้มทักทายเพื่อนๆพนักงานที่เจอแถวฟร้อนด้านหน้า เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเพื่อกะเวลาว่าพอจะเหลือให้ได้นั่งทานนมสดปั่นที่ร้านเบเกอรี่ของโรงแรมได้บ้างไหมก่อนจะถึงเวลาที่ธาราธารจะต้องมาพบกับเขาเพื่อพาเขาไปทำหน้าที่ผู้ปกครองจำเป็นในวันรายงานตัวเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย

เมื่อวารินเดินออกมาแถวหน้าประตูพนักงานต้อนรับโค้งให้เขาอย่างมีมารยาท เขาเดินต๊อกต๋อยไปตามทางเดินเล็กๆริมผนังกระจกของโรงแรมเพื่อลัดเลาะไปเข้าประตูด้านข้างของร้านเบเกอรี่

เอี๊ยดดดดด!!!!

เสียงเบรกดังลั่นลากยาวกับพื้นถนน บีเอ็มดับเบิ้ลยูสีขาวเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุด เบรกตัวลงอย่างแรง เลยหน้าวารินไปหน่อยเดียวเท่านั้น คนขับขยับใบหน้ามองดูที่กระจกฝั่งคนนั่งอีกครั้งก่อนจะถอยหลังกลับมาแล้วจอดลงต่อหน้าต่อตาเขา  วารินยกมือทาบอกเบิกตากว้างอย่างตกใจ เขาถึงกับภาวนาถึงพ่อแก้วแม่แก้วกันเลย  นึกว่าจะได้ยินเสียงตูมซะแล้ว

“ขึ้นมา!”

เสียงตะคอกดังมาจากคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ชายหนุ่มหน้าตาดีมากเจ้าของรถคันงามหันมาจ้องหน้าเขาครู่หนึ่ง ในมือข้างที่พาดไว้กับเบาะคนนั่ง เรียวนิ้วคีบรูปถ่ายใบหนึ่งไว้ชูให้เขาดู  เมื่อวารินเพ่งมองถึงได้รู้ว่าเป็นรูปถ่ายของตัวเขาเอง  จึงนึกขึ้นได้จ้องมองใบหน้าเจ้าของรถอีกครั้ง แม้จะอยู่ภายใต้แว่นกันแดดสีเข้มแต่เขาก็จำได้แล้วว่าผู้ชายคนนี้คือลูกชายคนเดียวของคุณภัคจิรา 

ธาราธารนั่นเอง

“หูหนวก!?”    

เสียงทุ้มตะคอกใส่อีกครั้งพร้อมยัดรูปใบนั้นใส่ลิ้นชักหน้ารถ แต่วารินก็ยังยืนนิ่งอยู่  จริงๆแล้วเขาขยับขาไม่ออกไม่ใช่ว่าจะเล่นตัวอะไร กว่าคนตัวเล็กจะพยายามก้าวขาขึ้นรถไปได้เจ้าของรถก็ตบลงที่พวงมาลัยอย่างเสียอารมณ์พร้อมกดแตรลั่นยาวจนใครหลายคนแถวนั้นหันมามองเป็นตาเดียว วารินหลับตาปี๋หลังจากขึ้นรถมาได้แผ่นหลังยังไม่ทันติดเบาะด้วยซ้ำธาราธารก็กระชากรถขับออกไปอย่างเร็ว ตัวเขาได้แต่นั่งกัดปากหลับตาแน่นตลอดทางมือเล็กขาวสะอาดยึดสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น ยิ่งตอนรถเข้าโค้งเลี้ยวออกถนนใหญ่วารินเกร็งยิ่งกว่าเกร็ง 

“ชื่ออะไร?!”

ธาราธารกดปิดหลังคาแล้วถามขึ้นห้วนๆขณะที่สับเลนเปลี่ยนขึ้นทางด่วนความเร็วรถไม่ได้ลดลงสักนิด วารินลอบมองเข็มไมล์ที่หน้ารถ 160 พระเจ้า!

“ถามว่าชื่ออะไร!  หูหนวกจริงๆใช่ไหมเนี่ย ตาย ๆ มีพี่เลี้ยงเป็นคนหูหนวก”

“ผะ...ผมวาริน  ชื่อวารินแล้วก็ไม่ได้หูหนวก” วารินตอบพาซื่อธารธาราจึงตวัดตามามอง “งี่เง่า!”

“นี่! ผมน่ะ...เป็นพะ...พี่...”  วารินพูดไม่ออกอยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาน่ะอายุมากกว่าเยอะเพราะฉะนั้นกรุณาให้เกียรติกันบ้างแต่ตอนนี้ขากรรไกรมันค้างพูดไม่ได้ รถโฉบซ้ายโฉบขวาเหมือนกำลังวิ่งอยู่บนสนามแข่ง

“เรียกวา  เรียกริน หรือเรียกวาริน จะเอาแบบไหน?”  เขาหันมามองหน้าวารินแวบหนึ่งจึงสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายแสดงสีหน้าหวาดกลัวความเร็วอย่างเห็นได้ชัดเด็กหนุ่มได้ทีกระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากก่อนเหยียบคันเร่งแรงขึ้นไปอีก

“ซ...ทราย เรียกพี่ว่า พี่ทราย ก็ได้ครับ”  วารินตอบเสียงสั่นรู้สึกว่าทำไมรถมันเร็วขึ้นอีกแล้ว ใจเขาเต้นโครมครามดังมาก ไม่กล้าแม้แต่จะเอามือออกจากสายเข็มขัดนิรภัยที่ตอนนี้เขายึดมันไว้แน่นมากจนสายยับย่นไปหมด

“เหอะ”

เด็กหนุ่มแค่นเสียงขึ้นจมูกไม่คิดจะใส่ใจลดความเร็วลง  ไม่นานหลังจากนั้นรถหรูก็มาจอดเทียบไม่ไกลจากตึกคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำแถวนครปฐม ธาราธารสบถอย่างหัวเสียอีกครั้งเมื่อต้องวนรถถึงสองรอบกว่าจะหาที่จอดได้

วันนี้คนเยอะมาก

“รายงานตัวที่นี่?” วารินถามขึ้น ถ้าเขาจำไม่ผิดคุณภัครจิราบอกว่าธาราธารติดหมอแล้วทำไมถึงพาเขามาที่คณะนี้นะ

“อือ ไม่เข้าไปนะขี้เกียจต่อแถว โน่น โต๊ะโน้นเดินไปเลย”  เด็กหนุ่มโบ้ยหน้าให้วารินไปต่อแถวตรงคณะของตน วารินเพิ่งสังเกตว่าวันนี้ธาราธารใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลายเต็มยศ กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินยิ่งขับให้ผิวใสๆของเจ้าตัวดูโดดเด่นขึ้นไปอีก

“ทำไมหรือว่าอายไม่กล้าเข้าไปต่อ  เป็นพี่เลี้ยงผมไม่ใช่หรือไงต้องทำให้ได้ทุกอย่างดิ”  เขาบอกยียวน ยกมุมปากตวัดสายตาเย้ย จนวารินนึกอึดอัด เพราะถ้าเข้าใจไม่ผิดธาราธารจำเป็นต้องไปต่อคิวรายงานตัวเข้าเรียนด้วยตนเองไม่ใช่ให้คนดูแลอย่างเขาไปรายงานตัวแทน

 “คุณธารฟังนะครับ พี่จะเข้าไปต่อคิวให้เราก่อนแต่พอถึงคิว คุณธารต้องมารายงานตัวเอง ที่นี่มหาวิทยาลัยรัฐบาลนะไม่ใช่เอกชน”  ที่เราจะทำอะไรตามใจได้ วารินอยากจะพูดแบบนั้นเหลือเกิน

“ไม่ได้โง่!”  เขาเน้นเสียงด้วยดวงตาคมกริบ แล้วเฉไฉใบหน้าไปทางอื่น ก่อนเลี่ยงไปยืนพิงราวระเบียงแถวๆนั้นไว้

วารินถอนหายใจเฮือกใหญ่ นี่ขนาดวันแรกเจอกันยังไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำธาราธารยังออกฤทธิ์ขนาดนี้ เขาเดินไปต่อคิวเด็กๆนักศึกษาใหม่ที่กำลังเข้าแถวอยู่ก่อนหน้าต่างก็หันมายิ้มให้ วารินก้มมองดูการแต่งตัวของตนเองวันนี้เขาใส่สแลคสีดำกับเชิ๊ตสีอ่อนอายุอานามก็ปาเข้าไป 30 แล้ว ยังจะต้องมาต่อคิวรายงานตัวเข้าเรียนพร้อม ๆ กับเด็กมัธยมปลายคิดแล้วได้แต่สมเพศตัวเองยิ่งนัก

“นายๆ”   แรงกระตุกเสื้อจากด้านหลังทำให้วารินหันไปมอง

“นายจองหอไว้รึยัง”  เด็กหนุ่มสวมแว่นสายตาจ้องหน้าวารินอย่างเป็นมิตร

“...อ๋อ  ยัง” วารินตอบไปแบบงงๆ

“ซิ่วมาปะเนี่ยทำไมใส่ชุดแบบนี้มาอ่ะ” อีกฝ่ายยังถามต่อ

วารินอึกๆอักๆ จริงอยู่ที่ว่าหน้าเขาดูเด็กแต่มันก็ไม่น่าจะเด็กขนาดให้เข้าใจผิดกันได้ขนาดนี้  เขาเหลือบไปมองธาราธารก็พบว่าอีกฝ่ายหายตัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าคงจะเดินไปมาอยู่แถวๆนี้เดี๋ยวคงกลับมาทันเหลืออีกแค่สองคิวยิ่งใกล้เขายิ่งหวั่นใจหวังว่าธาราธารจะไม่สร้างปัญหาอะไรให้เขา

“ว่าไง ถามไม่ตอบนะนายน่ะ  แก่กว่าเราไม่กี่ปีถือซะว่ารุ่นเดียวกันก็แล้วกันเนอะ อย่าให้ต้องเรียกพี่เลย เรารู้สึกถูกชะตากับนายนะ จองหอพักห้องเดียวกันเลยดีไหม”

“โทษทีคิดอะไรเพลินไปหน่อย  หอไหนล่ะกว้างดีรึเปล่า”

วารินลอบพิจารณาอีกฝ่ายด้วยความรวดเร็ว ถ้าหากจะให้ธาราธารอยู่หอร่วมกับเจ้าเด็กคนนี้ก็เข้าท่าดี ยังไงเด็กปีหนึ่งต้องโดนบังคับให้พักหอในอยู่แล้ว แต่จะเป็นห้องคู่ห้องเดี่ยวหรือห้องสามคน ก็คงต้องถามรายละเอียดดูอีกที เสียงทวนชื่อของธาราธารดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าสงสัยของเด็กนักศึกษาปีสูงที่รับทำเรื่องรายงานตัวของรุ่นน้อง เมื่อเอกสารติดรูปในมือมองยังไงก็ไม่ใช่คนๆเดียวกับที่ต่อคิวยืนอยู่ตอนนี้

วารินรีบกวาดตาหาธาราธารอย่างร้อนรน

“เจ้าตัวอยู่ที่ไหนคะ”

“เอ่อน้องเขาไปเข้าห้องน้ำครับผมทำแทนเลยได้ไหม”เมื่อไม่เห็นวารินจำต้องแก้ตัวไปก่อน

“ขอโทษด้วยนะคะต้องให้เจ้ามาด้วยตัวเองค่ะ ถ้าไงรบกวนไปต่อคิวใหม่อีกครั้งนะคะ เชิญคนต่อไปเลยค่ะ”

“อ้าวพี่ แล้วก็ไม่บอกว่ามาต่อคิวแทนน้อง ผมขอโทษนะพี่ผมเข้าใจผิดไป”

วารินยิ้มรับจำใจเดินกลับไปตั้งหลักต่อแถวใหม่ ถึงแถวจะยาวเป็นหางว่าวแต่ยังไงก็ต้องรอคิวใหม่อยู่ดี เขาคิดในใจว่าถ้าธาราธารเดินกลับมาคราวนี้จะต้องลากให้มายืนอยู่ด้วยกันให้ได้เลย

.
.

เสียงเพลงเบาๆจากบีเอ็มคันหรูที่จอดเทียบอยู่ริมฟุตบาท ธาราธารเปิดแอร์เย็นฉ่ำเอนเบาะนอนคุยโทรศัพท์อย่างสบายอารมณ์ เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเมื่อเห็นว่าจวนเจียนจะถึงเวลานัดก็สลับสายโทรเรียกเด็กสาวที่นัดแนะกันไว้ เด็กหนุ่มคุยไปยิ้มไปเมื่อนัดหมายสถานที่เรียบร้อยก็ออกรถโดยไม่สนใจวารินที่กำลังต่อคิวแทนเขาเลยแม้แต่น้อย

เขาต้องรู้แน่นอนอยู่แล้วว่าเวลารายงานตัวจะหมดลงตอน 4 โมงเย็นเพราะฉะนั้นเอาไว้ใกล้ถึงเวลาเขาจะเข้าไปรายงานตัวด้วยตนเอง แต่ที่ปล่อยให้วารินรอคิวทำแทนก็แค่แกล้งเพื่อความสะใจเท่านั้น

ธาราธารคว้าเอาเอวหญิงสาวอกสะบึมพาเดินเข้าไปที่ห้องอาหารของโรงแรมหรูแถวนั้นทันที ยังพอมีเวลาเหลือเล็กน้อยทานข้าวเสร็จแวะเดินห้างใกล้ๆ แล้วค่อยกลับไปหาพี่เลี้ยงคนใหม่ของเขาที่ยืนรอคิวแทนเขาตั้งแต่เช้า

..แค่นี้ก็สะใจเขาเป็นบ้า..

เมื่อวานจู่ๆคุณแม่ก็มาบอกกับเขาว่าจะหาคนมาดูแลเป็นธุระจัดการทุกๆอย่างให้กับเขาควบคุมเขา ทั้งที่มันเป็นหน้าที่ของคนเป็นแม่ที่ต้องทำแต่แม่ก็ปฏิเสธที่จะทำแล้วใช้ให้ใครก็ไม่รู้มาดูแลเขาซึ่งเป็นถึงลูกแทน

น่าโมโห!  เพราะงั้นจะแกล้งให้ถึงที่สุดเอาให้ทนไม่ได้แล้ววิ่งแจ้นไปลาออกเลยคอยดู!

.

.

“นายธาราธาร  โชติการุณ”

วารินถึงกับยกแขนขึ้นเช็ดเหงื่อเมื่อเด็กสาวเอ่ยชื่อธารธาราออกมาแล้วมองหน้าเขา

“อ้าวพี่คะน้องเขายังไม่มาอีกเหรอหนูเห็นพี่ต่อคิวหลายรอบแล้วนะคะ  เราปิดรายงานตัว 4 โมงเย็นนะคะพี่ถ้ามาไม่ทันจะถือว่าสละสิทธิ์นะ”

วารินยิ้มแห้งหยาดเหงื่อเต็มหน้าเต็มตัวไปหมด เขาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงจู่ๆธาราธารก็หายตัวไปตั้งแต่เช้า พอตอนเที่ยงเขาออกไปตามหารถก็ไม่ได้จอดอยู่ที่เดิมแล้วจะไปไหนน่าจะโทรมาบอกเขาก่อนสักคำไม่ใช่จู่ๆมาหายไปตั้งแต่เช้าถึงเย็นแบบนี้

“น้องครับพี่ขอร้องล่ะนะให้พี่รายงานตัวแทนน้องพี่ได้ไหมพอดีพี่ติดต่อเขาไม่ได้ คิดว่าเขาคงติดธุระจำเป็นจริงๆเมื่อเช้าเรายังเข้ามาด้วยกันอยู่เลยครับ”

“หนูก็อยากช่วยนะคะพี่แต่หนูผิดกฎให้พี่ไม่ได้จริง ๆ อ้อ อาจารย์เข้ามาเก็บรายชื่อแล้วค่ะพี่ลองเข้าไปคุยกับท่านดูก็ได้”
วารินสุดปัญญาจะคิดได้แล้วขณะได้ฟังทางเลือกสุดท้ายเขารีบคว้าซองเอกสารเดินเข้าไปหาอาจารย์ท่านที่เด็กสาวบอกทันที แต่เมื่อท่านเดินเลี้ยวออกมาวารินก็พบว่าหน้าเขาชาไปเกือบทั้งซีก

ธาราธารเดินยิ้มแย้มตีคู่มากับอาจารย์ท่านนั้นในมือของท่านถือซองเอกสารที่ดูยังไงๆมันก็คือซองประวัติของนักเรียนที่มามอบตัวชัดๆ

เอกสารของธาราธาร

“เอาไว้บอกคุณแม่ท่านด้วยแล้วกันว่างๆอาหมอจะแวะเข้าไปเยี่ยมนะ”  อาจารย์ท่านนั้นกล่าวกับธาราธารแล้วถือโอกาสบีบไหล่เด็กหนุ่มเบา ๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปที่โต๊ะธาราธารเองก็โค้งคำนับให้อย่างสุภาพ

“หึ”

เด็กหนุ่มกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งสายตาเย้ยใส่วารินจากนั้นเขาจึงเดินนำไปที่รถ ขณะที่อีกคนได้แต่เดินตามอย่างเอือมระอา “เดี๋ยวก่อนคุณธาร พี่มีเรื่องต้องคุยกับเรานะ”  คนตัวเล็กหยุดยืนเมื่อถึงรถ หันมาจ้องหน้าธาราธารอย่างจริงจัง แต่อีกฝ่ายหาได้ใส่ใจไม่ เขาก้าวขึ้นรถสตาร์ทเครื่องทำให้วารินต้องรีบกระโดดขึ้นตามเกือบจะไม่ทัน

รถสปอร์ตคันหรูกลับมาทะยานโฉบเฉี่ยวด้วยความเร็วบนท้องถนนอีกครั้ง วารินนั่งหลับตาปี๋เหมือนเคย ธุระที่กะว่าจะคุยเลยยังไม่ได้พูด ธาราธารหันมามองพอรู้ว่าอีกฝ่ายกลัวเขาก็ยิ่งแกล้ง วารินเองก็รู้ทั้งรู้ว่าโดนแกล้งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งภาวนาให้ถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย

ในที่สุดวารินค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองทางเมื่อเริ่มรู้สึกว่ารถวิ่งช้าลง “นี่ไม่ใช่ทางกลับโรงแรมนี่ คุณธารจะไปไหนครับ”

“เที่ยว” เขาตอบห้วนๆ

“เที่ยว?  เที่ยวที่ไหนไปส่งพี่ที่โรงแรมก่อนดีไหมแล้วคุณธารจะไปที่ไหนก็ไปเลยสิครับ” วารินไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะพาเขาไปด้วยทำไมกัน

ธาราธารตวัดสายตามองอย่างเกรี้ยวกราดทันทีที่วารินพูดจบ เขาตีไฟเลี้ยวจอดลงข้างทาง “คิดว่าอยากพาไปนักรึไงฮึ” มือแกร่งกำพวงมาลัยแน่นแล้วกัดฟันพูดใส่

เมื่อตอนเที่ยงหลังจากทานข้าวเสร็จเขาพาสาวสวยไปเดินช็อปปิ้งต่อพอจะจ่ายเงินซื้อกระเป๋าใบละแค่ไม่กี่หมื่นให้เธอปรากฏว่าบัตรโดนบล็อกยอดเงินไว้ เขารู้สึกเสียหน้าอย่างที่สุดทั้งที่แต่ก่อนคุณแม่ไม่เคยจำกัดวงเงินเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว พอโทรไปโวยวายท่านก็กลับให้คำตอบมาว่าจากนี้ไปจนกระทั่งเรียนจบจะให้วารินเข้ามาดูแลเรื่องการเงินของเขาเพราะฉะนั้นต่อไปหากจะใช้เงินเกิน 2 หมื่นบาทต่อวันจะต้องให้วารินเป็นคนเซ็นบัตรให้ทุกครั้ง จะใช้เท่าไหร่ท่านไม่ว่าแต่ต้องใช้ผ่านบัตรของวาริน

ธาราธารยิ่งคิดยิ่งแค้นพี่เลี้ยงหน้าจืด  เขาเบือนหน้าหนีด้วยความเซ็งสุดขีด วารินเองก็เหลือจะอดมาทั้งวันแล้วเช่นกัน 

“ผมไม่รู้หรอกนะว่าทำไมคุณถึงไม่พอใจผมนัก แต่ขอให้รู้ไว้ว่าผมเองก็ทำตามหน้าที่ ถ้าหากคุณภัครท่านไม่สั่งให้ต้องมาดูแลคุณ ผมก็คงไม่......”

“พอแล้ว!”

เขาตะคอกแทรกขึ้นอย่างฉุนเฉียว “รู้อยู่แล้วล่ะว่าที่มาทำโน่นทำนี่ให้ก็เพราะเป็นคำสั่งของคุณแม่ เป็นหน้าที่! ผมมันไม่เคยสำคัญกับใครทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องมาย้ำกันนักหรอก!”

หน้าที่ๆๆๆ เขาเกลียดคำนี้ เพราะคำว่า ‘หน้าที่’ จึงพรากความรักของแม่ไปจากเขา คนที่เข้ามาดูแลเขาคนก่อนก็เอาแต่ ‘ทำหน้าที่’ ไม่เคยมีความจริงใจให้กับเขาเลยแม้แต่น้อย ดวงตาคมกริบหันไปมองจ้องอีกคนอย่างผิดหวังระคนตัดพ้อ   

และวารินเองก็เห็นรอยสั่นไหวในตาดวงนั้นอย่างชัดเจน “ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ไม่ใช่ว่าธารไม่สำคัญ”  วารินเสียงอ่อนหน้าเสีย นึกละอายใจที่พูดจาห่างเหินออกไปทำให้เด็กหนุ่มเกิดน้อยใจขึ้นมา  ถึงแม้ผู้ชายตรงหน้าจะดูรูปร่างสูงใหญ่เกินกว่าวัย แต่อย่างไรเสียก็เด็กกว่าเขาตั้งสิบสองปี วุฒิภาวะทางอารมณ์ย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว

เขาได้แต่สัญญากับตนเองว่าจะต้องควบคุมตัวเองให้ดีกว่านี้

“หึ ทำเป็นพูดดี หน้าไหนๆก็เหมือนกันหมด ”  ธาราธารแค่นเสียง

...ทุกคนที่เข้ามาใกล้ชิดเขาก็เพราะทำตามหน้าที่หวังเงินทองกันทั้งนั้น จะคนไหนหน้าไหนมันก็ไม่ต่างกันทั้งนั้น...

“ธารครับพี่ไม่รู้นะว่าเราเคยเจอใครแบบไหนหรือเคยเจออะไรแย่ๆมาก่อน พี่อยากให้ธารลองเปิดใจให้พี่สักหน่อย วันนี้เราอาจจะเริ่มต้นรู้จักกันด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีนัก แต่พี่ขอโอกาสจากธารให้พี่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ให้พี่ได้รู้จักกับธารในฐานะของพี่ชายคนหนึ่งจะได้ไหมครับ”

วารินตั้งสติพูดกล่อมอย่างใจเย็น เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องคุยเรื่องขอบเขตของการดูแลให้เรียบร้อย ได้รู้จักกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงวารินก็รู้แล้วว่าธารธาราเป็นเด็กที่ดูแลยากแค่ไหน

“พี่จะไม่พูดว่าต้องทำตามหน้าที่หรืออะไรอีกแล้ว ต่อจากนี้ระหว่างเราขอให้เป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ จากนี้ไปพี่จะเรียกเราว่า ‘ธาร’ แล้วถ้าธารยอมรับให้พี่เข้าไปดูแลธารได้ก็ให้เรียกพี่ว่า ‘พี่ทราย’

เขาลอบสังเกตท่าที  เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มจู่ๆก็นิ่งไป คงกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ เขาจึงชิงสรุปความ “พี่ขอคำตอบจากธารวันนี้เลยนะครับ” วารินกำชับ

อย่างน้อยถ้าหากธาราธารไม่ยอมรับ เขาจะไม่ทู่ซี้แล้วอธิบายให้คุณภัครจิราฟังอย่างเข้าใจ ธาราธารดูท่าทางไม่ชอบใจเขานักเห็นได้จากการที่เขาโดนกลั่นแกล้งวันนี้ก็พอจะรู้เพราะฉะนั้นเขาจึงอยากให้ธาราธารตัดสินใจด้วยตนเอง ต่อไปหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นธาราธารจะยอมรับได้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของตัวเขาเอง

รถหรูเคลื่อนตัวออกสู่ท้องถนนอีกครั้ง คราวนี้เขาขับระดับปกติธรรมดา อาจจะเร็วกว่าคนอื่นอยู่สักหน่อยแต่ก็ไม่ได้ด่วนจี๋โฉบเฉี่ยวแบบเมื่อเช้าหรือเมื่อสักครู่อีกแล้ว  “แน่ใจแล้วใช่ไหมที่จะขอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมน่ะ”  เมื่อรถจอดลงที่ช่องจอดรถส่วนตัวใต้โรงแรมธาราธารปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันเข้ามาถามวารินใกล้ๆ

“อือ” วารินพยักหน้ารับ ตากลมโตใสแจ๋วจ้องหน้าคนถามไม่กระพริบเพื่อยืนยันว่าเขาพูดจริงทำจริงได้แน่นอน

ธาราธารเป็นเด็กที่น่าสงสารขาดความอบอุ่นจึงเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีผิดๆ กลายเป็นเด็กแข็งกระด้าง ดังนั้นวารินจึงตั้งใจจะดูแลเด็กคนนี้ให้ดี  ส่วนหนึ่งก็เพื่อตอบแทนบุญของภัครจิรา และเพื่อเงินรายได้ที่จะเพิ่มขึ้น แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นเขารู้สึกสงสารเด็กคนนี้มากกว่า อย่างน้อยคิดซะว่ามีน้องเพิ่มขึ้นมา

“แล้วรู้รึเปล่าว่าผมน่ะ ได้ทั้งหญิงทั้งชายนะ พี่ไม่กลัวเหรอ”  ธาราธารหันมาหรี่ตามองลากเสียงยิ้ม ๆ วารินอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาไม่คิดมาก่อนว่าเด็กหนุ่มจะพูดเรื่องแบบนี้กับเขา ‘ไบเซ็กชวล’ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับวารินเพื่อนฝูงเขามีแบบนี้เยอะแยะ ธาราธารอาจจะกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องจะรังเกียจและไม่ยอมรับ

“พี่ไม่เคยรังเกียจเลยนะ เพื่อนๆพี่มีเยอะแยะ สมัยนี้เขาเปิดกว้าง....”

“ผมไม่ได้ถามว่าพี่รังเกียจไหม  แต่ผมถามว่าพี่ไม่กลัวผมเหรอ” เขาแทรกขึ้น ย้ำด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ

“ไม่กลัวว่าผมจะจับพี่ทำเมียรึไง หืมม”  มือแกร่งแกล้งเชยเอาคางมนสวยของวารินให้เงยหน้าสบตาเขาอย่างเบามือ ดวงหน้าหล่อเหลาคมเข้มลอยอยู่ต่อหน้าต่อตาห่างเพียงไม่ถึงคืบ หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ แต่ทันทีที่ตั้งสติได้รีบวารินปัดมือนั้นออกอย่างรวดเร็วแต่ทว่าก็ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายคว้าจับไว้ได้ก่อนอยู่ดี

วารินมองมือใหญ่ที่กำรอบข้อมือเขาอยู่ตอนนี้ ทำไมกันนะ? มือเล็กๆที่เคยจับมือเขาไว้แต่ก่อนนั้น บัดนี้มันถึงได้ใหญ่ขนาดนี้ ใหญ่กว่ามือเขามาก และแรงบีบมหาศาลนั่นอีกมันทำให้เขานิ่วหน้าขึ้นมาเล็กน้อย

“ตัวเล็กๆ ผิวดีๆแบบนี้  อื้อหือออ”

เจ้าของมือใหญ่กระตุกยิ้มร้ายในขณะที่วารินถดตัวจนหลังชิดประตู เขาพยายามปลดเข็มขัดนิรภัยออกแต่โดนมือแข็งแรงของธาราธารจับล็อคค้างไว้  ใบหน้าคมสันโน้มเข้ามาใกล้ชิดจนวารินตัวแข็งรีบหลับตาปี๋

“ทำหน้าอะไรแบบนั้น..คิดว่าผมจะทำอะไรหรือยังไง”

วารินเบิกตาขึ้นทันที  ใบหน้าเล็กขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด เขายอมรับว่าเผลอคิดเข้าข้างตัวเองว่าต้องโดนธาราธารจูบลงมาแน่ๆ แต่เมื่ออีกฝ่ายพูดดักทางอย่างรู้ทันวารินจึงอับอายมาก

...นี่เขาโดนแกล้งอีกแล้วสินะ...

“พ..พี่จะลงแล้ว ถอยออกไป”

คนตัวเล็กเสียงดังกลบเกลื่อน ใช้สองมือผลักอกของธาราธารออก  รู้สึกเสียเปรียบและสู้ไม่ได้เลยไปทุกอย่าง ธาราธารเป็นเด็กที่ตัวสูงใหญ่มือของเขาจึงดูเล็กมากเมื่อเทียบกับแผงอกกว้างและแข็งแกร่งนั่น

“จูบไม่ลงหรอกนะ ไม่เคยคิดจะบริโภคคนแก่สักที!”

เด็กหนุ่มเน้นย้ำคำว่า ‘แก่’ ลงไปแบบชัดๆเน้นๆพร้อมกับรอยยิ้มร้ายกาจที่ดูเหมือนหยั่งเชิงกัน วารินกลืนน้ำลายดังเอื๊อก กัดริมฝีปากแน่น นี่เขาโดนปั่นหัวเข้าจนได้  เมื่อสบโอกาสดีเขาชิงปลดเข็มขัดนิรภัยออกทันที

‘ไม่น่ารักเหมือนตอนเป็นเด็กสักนิด’ วารินบ่นพึมพำในใจอยู่คนเดียว

ธาราธารละตัวกลับไปพิงเบาะของตัวเอง วารินรีบก้าวลงจากรถแต่ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้คุยกับเขาเรื่องหอพักจึงลองก้มลงไปถามดู

“จองไว้แล้วแต่ไม่เข้าไปอยู่หรอกนะ” เขาก้าวลงจากรถ กดสวิทล็อคแล้วเดินนำไปที่ลิฟต์ วารินรีบตามไป

“แต่ปี1 เขาบังคับไม่ใช่เหรอธารไม่ลอง....”

“..พี่ทราย..”

จู่ๆเขาก็หยุดเดินแล้วหันมาเรียกชื่อวารินเป็นครั้งแรก  น้ำเสียงทุ้มๆที่เอ่ยเรียก ‘พี่ทราย’  ฟังแล้วรื่นหูมาก แต่ที่ดีใจยิ่งกว่านั้นมันแสดงให้เห็นว่าธาราธารยอมรับเขาแล้ว

วารินจึงเผลอระบายยิ้มบางๆออกมา

“เดี๋ยวพรุ่งนี้แวะมารับ ว่าไปหาคอนโดแถวนั้นอยู่”

วารินก้าวตามเข้าไปในลิฟต์พักเดียวก็แล่นมาถึงชั้นที่เขาทำงานอยู่  เด็กหนุ่มชะลอจังหวะเดินนิดหนึ่งเพื่อให้วารินเดินนำเข้าไปก่อน เมื่อถึงโต๊ะทำงานของเขาแล้ว ธาราธารจึงหันหลังเดินกลับออกไปไม่ได้แวะเข้าไปในห้องภัครจิราเลยแม้แต่น้อย

วารินได้แต่หันมองอย่างงงๆ

..เด็กร้ายกาจแบบนั้นจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะตั้งใจเดินขึ้นมาส่งเขาถึงโต๊ะทำงาน..


หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 05-03-2014 13:54:29
เด็กน้อย...โตขึ้นละเฟี้ยวเลย

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 05-03-2014 14:17:38
ก่อนอื่นขอบอกว่า ไอ้เด็กเปรต!!!
ไม่บริโภคนคนแก่อย่างนั้นเหรอ จะคอยดูว่าจะได้สักกี่น้ำ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 05-03-2014 14:27:45
ตอนเด็กน่ารักน่าเอ็นดู
พอโตขึ้นหน้าตาก็ดีหรอก
แต่นิสัยนี่ ขอโทษนะสุนัขไม่รับประทาน
อยากจะรู้เหมือนกันว่า...
วารินจะปราบให้อยู่หมัดยังไงกับ...
เด็กเหลือขอแบบนี้
+1+เป็ดจร้า คนเขียน
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 05-03-2014 15:14:37

แม่ก็เกินไปหน่อยเนาะ---ไม่มีเวลาให้ลูกบ้างเลย
กลายเป็นคนอื่นต้องมารับเคราะห์แทน
สงสารทุกคนในเรื่องจริงๆ

+ 1 + เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 05-03-2014 15:27:19
ติดตามนะคะ กินเด็กเป็นอมตะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 05-03-2014 16:36:25
ทรายจะปราบน้องยังไงเน้อ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: Serioz ที่ 05-03-2014 17:31:44
ไม่นิยมกินของแก่จะรอดูนะหึหึหึ :laugh:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: janji ที่ 05-03-2014 20:24:53
อยากอ่านอีก บวกเป็ดให้แล้ววววว :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-03-2014 20:42:09
เด็กเก็บกดแสนร้ายกาจ

งานหนักนะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 05-03-2014 21:11:17
ร้ายการจปากเสีย วันไหนจำพี่ชายคนนี้ได้ขึ้นมาเมื่อไหร่จะรู้สึก
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 05-03-2014 22:25:33
 :z6: จะรอดูวันที่ไอ้เด็กนี่กลืนน้ำลายตัวเอง
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: Fellina ที่ 06-03-2014 00:12:01
รอดูคนที่จะมาบริโภคคนแก่555
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 06-03-2014 04:44:02
เป็ยเด็กร้ายกาจจริงๆ :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 06-03-2014 06:20:02
 :beat:

หมั่นไส้ แล้วสุดท้ายจะรู้ว่าใครที่เลือกบริโภคใคร ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม

แต่สุดท้ายมันผิดที่คุณแม่นั่นแหละ จะโทษเด็กมันก็ไม่ได้  ปากบอกทำทุกอย่างเพื่อลูกสุดท้ายทำตามใจความต้องการตัวเองทุกอย่างสมแล้วที่ผัวทิ้ง บอกเลยย!!!
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 06-03-2014 12:38:31

http://www.youtube.com/v/TmKp43QoMyc
บ้านหลังเล็กของซีและทราย

บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง

เมื่อแสงสุดท้ายแห่งอาทิตย์ผ่านพ้นไป เปลี่ยนเป็นดวงจันทร์สุกใสเข้ามาแทน ที่บ้านหลังเล็กของสองพี่น้อง แกลเลอรี่ไม้สีขาวขนาดกะทัดรัด กลิ่นหอมอ่อนๆของลั่นทมดอกใหญ่ที่สูงตระหง่านอยู่หน้าบ้านโชยเข้ามาถึงด้านใน ทำให้บรรยากาศช่วงกลางคืนแบบนี้ดูอิ่มเอมและอบอุ่น

“นั่งยิ้มอะไร หืมม” ภูวดลเอ่ยถามน้องชายตัวเล็ก  หลังทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อยวารินเดินไปเปิดเพลงเบาๆแล้วมานั่งดูภูวดลลงสีรูป เขาเล่นเกมส์ทางโทรศัพท์ไปด้วยดูพี่ชายทำงานไปด้วย

“พี่ซีชอบเพลงนี้ไหม”

“ครับ?”

ภูวดลเงยหน้าขึ้นจากงาน  ‘ทรายกับทะเล’ เพลงที่ทรายมักเปิดให้เขาฟังทุกครั้งที่เจ้าตัวมานั่งมองเขาทำงาน วารินจะนั่งจ้องเขาแล้วก็ยิ้มให้แบบนี้ทุกครั้งตั้งแต่เด็ก

“ทรายชอบเพลงนี้  ‘ทรายกับทะเล’ ก็เหมือน  ‘ทรายกับพี่ซี’ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเราสองคนจะยังอยู่ด้วยกันเสมอ พี่ซีเคยบอกทรายไว้ทรายจำได้นะครับ”

ภูวดลยิ้มบาง เขาวางพู่กันในมือลงแล้วเดินเข้ามาหาวารินใกล้ๆมือหนาลูบลงที่ศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน วารินกอดเอวพี่ชายไว้แล้วซุกใบหน้าลงที่พุงอุ่นๆของภูวดล น้องชายตัวเล็กพึมพำเพลงโปรดในลำคอเบา ๆ

“...คือผืนทรายที่โอบทะเลไว้จะวันใดมั่นคงเหมือนดังที่เป็น อยู่เคียงข้างเธอใจไม่ไหวเอนและยังคงชัดเจนอย่างนั้น หาดทรายยังสวยรายล้อมทะเลด้วยรักคงไว้ด้วยใจแน่นหนักไม่หวั่นยามพายุผ่าน จะมีเพียงฉันและเธอตราบนานเท่านานมีรักมีใจผสาน ดั่งทรายอยู่คู่ทะเล.....”

“ปล่อยพี่ได้รึยังคนดี สีแห้งหมดแล้วครับเดี๋ยวไม่เสร็จนะ” เขาจำต้องละออกจากน้องชายขี้อ้อนมองเห็นวารินยู่หน้าเป็นลูกหมาอยู่ที่เดิมก็อ่อนใจ “จะกวนพี่รึไงวันนี้มีอะไรไม่สบายใจใช่ไหม อยากเล่าให้พี่ซีฟังรึเปล่า”

“เปล่าสักหน่อย ทรายขึ้นไปดูข่าวข้างบนดีกว่า เดี๋ยวพี่ซีจ๋าเสร็จแล้วตามมานะทรายรอนอนพร้อมกัน”

ตอนแรกวารินกะว่าจะเล่าเรื่องธาราธารให้ภูวดลฟังแต่ก็เปลี่ยนใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาโดนแกล้งหลายอย่างไม่อยากให้ภูวดลเป็นห่วง ภูวดลนั่งทำงานของตนเองไปได้พักหนึ่งเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขามองหาที่มาของเสียงจึงเห็นว่าวารินลืมวางไว้ที่โซฟา ชายหนุ่มยกขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกชื่อไว้ เขาถือขึ้นไปส่งให้น้องชายที่กำลังนอนดูทีวีอยู่ในห้องอย่างสบายอารมณ์

วารินรับโทรศัพท์ไปพักหนึ่งก็ขมวดคิ้วแน่น จากนั้นก็เปลี่ยนมานั่งกุมขมับเมื่อวางสายลงภูวดลจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“คุณธารน่ะครับบอกให้ทรายออกไปหาตอนนี้”

“ตอนนี้!  ธาราธารลูกชายคุณภัครจิราน่ะเหรอ” ภูวดลเหลือบมองนาฬิกาที่โต๊ะ จวนจะหกทุ่มแล้ว

“ครับ เห็นบอกว่าอยู่ที่ร้าน ฟิฟตี้วิลล่า ให้ทรายไปจ่ายเงินให้น่ะ” วารินเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ตู้มาเปลี่ยนอย่างอารมณ์เสีย

“พี่ซีทำงานเสร็จแล้วเหรอครับ หรือว่ายังต้องทำต่ออีก” เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จวารินหยิบกระเป๋าสตางค์โทรศัพท์กับกุญแจรถ

“เดี๋ยวพี่พาไปดีกว่านั่นมันผับไม่ใช่เหรอ  รอพี่เอาพู่กันไปแช่แป็บนึง”

ภูวดลเดินนำลงไปด้านล่างเขารีบจัดการกับอุปกรณ์เครื่องมือระบายสี จากนั้นจึงเดินออกไปนั่งตำแหน่งคนขับเนื่องจากวารินถอยรถออกมารออยู่ที่หน้าบ้านแล้ว เขามีรถญี่ปุ่นเล็กๆอยู่คันหนึ่งเอาไว้ให้วารินใช้ขับไปทำงาน

“ขอโทษนะครับทำให้พี่ซีเดือดร้อนไปด้วย”

ภูวดลยกมือขึ้นลูบหัววารินอย่างปลอบใจเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดเอามากๆ  ใช้เวลาไม่นานนักสองพี่น้องก็มายืนอยู่ที่หน้าผับชื่อดังแถวทองหล่อแหล่งรวมตัวของคนรวยวัยทีน เหล่าเซเลปชั้นนำไม่มีใครไม่รู้จัก  'ฟิฟตี้วิลล่า' วารินกดโทรออกหาธาราธารทันที

“พี่ซีรอที่รถนะถ้ามีอะไรโทรมา”

เมื่อภูวดลขอแยกตัวออกมาอย่างรู้หน้าที่ วารินก็ยื่นบัตรให้พนักงานที่ด้านหน้าเมื่อรู้ว่าธาราธารนั่งอยู่ที่โซนเทอเรส ตอนแรกพนักงานจะไม่ให้เข้าแต่เมื่ออ้างชื่อเด็กในความดูแลทุกอย่างก็เดินหน้าอย่างง่ายดาย

“ช้านะ! รู้สึกผมจะโทรหาพี่เป็นชั่วโมงแล้ว”

ธาราธารนั่งไขว่ห้างสบายๆในมือขวาช้อนแก้วไวน์ขึ้นละเลียดจิบขณะที่มือซ้ายสวมกอดเอวหญิงสาวคนหนึ่งไว้ เธอซุกไซ้ริมฝีปากสีสดอยู่แถวซอกคอเขาอย่างลืมอาย วารินนั่งลงข้างๆ

“ใครอ่ะคะธาร กี้รู้จักได้ไหม”

“พี่ชายผม กี้อยากรู้จักเหรอครับ”  เขาก้มลงจ้องหน้าหญิงสาวใกล้ๆ กระชับเอวคอดไว้แน่นหอมแก้มเนียนนั้นไปหนึ่งทีก่อนจะปล่อยให้เธอเติมไวน์ใส่ให้เขาอย่างรู้งาน กี้รินอีกแก้วส่งให้วาริน

“พี่ชายแน่เหรอหน้าตาไม่เห็นเหมือนกันเลย ธารออกจะหล่อทำไมมีพี่ชายหน้าตาแบบนี้อ่ะ จืดจัง!”  กี้แกล้งกระเซ้าหากแต่วารินกลับคิดเป็นจริงเป็นจัง  แน่นอนเขาไม่ใช่คนหล่อหากเทียบกับธาราธาร แต่ใครๆหลายคนต่างก็ชมว่าเขาเป็นคนที่ดูดีผิวพรรณสะอาดหมดจด  วารินถึงกับส่ายหัวเบาๆนึกไปว่าเด็กสมัยนี้ช่างใจกล้ากันจริง ๆ จะพูดจะจาอะไรไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่กันบ้างเล้ย

“เตี้ยแบบนี้เรียกว่าหล่อได้ก็แปลกล่ะ”

ธาราธารพึมพำในลำคอแต่วารินก็ยังอุตสาห์ได้ยิน เขาไม่อยากจะสนใจคำพูดแดกดันของเด็กหนุ่มอีกแล้ว นึกอึดอัดและเกรงใจภูวดลที่รออยู่ด้านนอก วารินกวาดตามองเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ไวน์ยี่ห้อแพงกับเบียร์นอกยี่ห้อดังรวมถึงกับแกล้มอีกสองสามอย่าง

ธาราธารนี่ตัวล้างตัวผลาญจริง ๆ

“ธารจะกลับเลยไหม จะตีหนึ่งแล้วนะ” วารินถามขึ้น ไวน์แก้วแล้วแก้วเล่าที่เด็กสาวบรรจงรินแล้วส่งให้ธาราธาร วารินเห็นท่าจะไม่ได้กลับง่ายๆแน่เขาจึงตั้งใจจะลุกออกไปบอกภูวดลแต่ถูกธาราธารดึงแขนไว้

“ทำไมไม่กิน จะไปไหน” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาถาม

“เรียกเก็บตังค์เลยได้ไหมพี่ง่วงนอนแล้ว”

ธาราธารชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนหันไปบอกบางอย่างกับเด็กสาว เขาล้วงกระเป๋าควักใบพันมานับให้จำนวนหนึ่งหลังจากนั้นเด็กที่ชื่อกี้ก็หันมาส่งยิ้มหวานให้วาริน วารินจึงยิ้มตอบไปหน่อยหนึ่งแล้วเธอก็เดินออกไปจากโต๊ะ

“สนใจเหรอ  เขาชื่อกี้ทำพาร์ทไทม์ที่นี่ นัมเบอร์วันด้วยนะ เด็กผมเองถ้าสนใจจะแบ่งให้ก็ได้”

ธาราธารพูดแล้วยกแก้วขึ้นดื่มอย่างไม่คิดอะไรในขณะที่วารินแก้มแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้ว วารินเป็นผู้ชายเรียบร้อย ตัวและนิสัยเขาเด็กกว่าอายุจริงมากมายแม้เขาจะเข้าวัย 30 แล้วแต่ก็ยังไม่เคยคบใครจริงจังเลยสักคนและเพราะอย่างนั้นเมื่อพูดเรื่องเซ็กส์เขาจึงรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา พอดีกับมีพนักงานเอาใบเสร็จเข้ามาให้ วารินมองจำนวนเงินแล้วยื่นบัตรจ่ายออกไป

สองหมื่นหก....ธาราธารเป็นเด็กที่น่ากลัวจริง ๆ

“จะอายอะไร้ผู้ชายด้วยกัน” เด็กหนุ่มพึมพำ

พนักงานเดินกลับมาเอาสลิปให้วารินเซ็นธาราธารวางทิปไว้ให้1 ใบแล้วลุกขึ้นเดินนำออกไป น้องพนักงานรีบโค้งต่ำให้เกือบเก้าสิบองศา แน่นอนอยู่แล้วได้ทิปแบงค์สีเทาขนาดนั้นเป็นใครๆก็โค้ง

“มันไม่เยอะไปหน่อยเหรอ ใช้เงินให้มันเพลาลงบ้างเหอะ” เมื่อออกมาถึงด้านนอกวารินจึงเอ่ยปาก ธาราธารชะงักกึกดวงตาคมกริบหันกลับมามองเขาเขม็ง

“พี่เป็นใคร?!  เป็นแม่ผมเหรอ” เขาใช้น้ำเสียงเย็นเยียบ วารินฟังแล้วถึงกับหน้าชา “รู้จักกันได้แค่วันเดียวอย่าทำมาเป็นสั่งสอน แล้วนี่มายังไง?”

ได้รู้จักธาราธารมาตั้งแต่เช้าจนถึงป่านนี้วารินถึงได้ตระหนักว่าเด็กนี่เป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้ นึกจะพูดดีเรียกพี่ก็ดีใจหาย แต่ถ้าพูดจาไม่สบอารมณ์เข้าหน่อยเขาจะอารมณ์เสียแล้วเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างทันที วารินข้องใจว่าธาราธารถูกเลี้ยงดูมาแบบไหนกันแน่

“..ทราย..” เสียงทุ้มนุ่มของภูวดลเรียกขึ้นใกล้ๆแต่กลับดึงความสนใจจากวารินได้ทั้งหมด

“ขอโทษครับพี่ซีช้าไปหน่อย ธารนี่พี่ชายพี่ ชื่อพี่ซี พี่ซีครับนี่คุณธาราธาร” วารินแนะนำสองคนให้รู้จักกัน ธาราธารไม่กล่าวทักออกไปเขาใช้สายตาดูแคลนมองภูวดลตั้งแต่หัวจรดเท้า ภูวดลเองเมื่อเห็นแบบนั้นจึงไม่ใส่ใจคนตรงหน้าอีกเขาเดินเข้าไปโอบเอววารินไว้ “กลับได้รึยังครับ ดึกแล้ว”

“งั้น....

“แต่พี่ต้องไปส่งผมก่อน” ธาราธารพูดแทรกขึ้นห้วนๆขณะที่วารินกำลังจะเอ่ยปากบอกลา

“หืม? แล้วธารมายังไง”

“ขับรถมา แต่ตอนนี้ขับกลับไม่ไหวแล้ว เมา!” น้ำเสียงที่พูดไม่ได้แสดงความเมาเลยสักนิดเดียว วารินได้แต่ถอนใจอย่างระอา

“เป็นพี่เลี้ยงผมไม่ใช่รึไง ทำก็ทำให้ถึงที่สุดสิ ออกมาจ่ายเงินให้แล้วก็ต้องพากลับไปส่งให้ถึง เตียง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวผมหนีไปเที่ยวต่อจะยุ่งยากพี่ทรายอีกนะครับ หึหึ”  เขาแกล้งกระซิบกระซาบถ้อยคำใส่วาริน พลางทำสีหน้ายียวนใส่ภูวดลที่กำลังส่งสายตาเป็นห่วงคนน้องอย่างชัดเจน เห็นแล้วยิ่งรู้สึกข้องใจ

...พี่ชายมองน้องชายด้วยสายตาแบบนี้??...

“พี่ซีครับเดี๋ยวผมไปส่งคุณธารก่อนแล้วจะตามกลับไปนะครับ” วารินตกลงใจว่าจะไปส่งธารธาราเขาจึงเดินเข้าไปบอกพี่ชายใกล้ๆ ภูวดลยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก่อนบอกกลับน้องชายว่าเดี๋ยวเขาจะรอเปิดบ้านให้ ให้วารินขับรถดีๆไปส่งเสร็จแล้วให้รีบกลับ  วารินรับคำ

“แวะซื้อกาแฟก่อนนะ หิว” พอรถเคลื่อนออกมาได้ธาราธารก็พูดขึ้น

“กินของที่ไหนล่ะ บอกทางแล้วกัน”

ธาราธารบอกทางวนไปเวียนมาวารินขับตามให้วุ่นวายไปหมด ในที่สุดรถก็มาจอดตีไฟที่หน้าร้านกาแฟร้านหนึ่ง  “ลงไปซื้อให้สิ ผมเอา ชามะนาวเชคนะ ” วารินหันกลับมามองในทันที ไหนว่าจะกินกาแฟแล้วให้ลงไปซื้อชามะนาวเนี่ยนะ

“ลงไปดิ เดี๋ยววนรถมารับ มันจอดไม่ได้เนี่ย เห็นไหม” เขายัดแบงค์ร้อยใสกระเป๋าเสื้อให้วารินหนึ่งใบและบอกไม่ให้วารินเอากระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์ลงไปเพราะกลัวจะเกะกะถือของไม่สะดวก

ในที่สุดคนตัวเล็กก็เดินลงไปซื้อ  ธาราธารเปลี่ยนมาเป็นคนขับแล้วเขาก็ขับหายออกไป วารินกลับมายืนรออยู่เกือบสามสิบนาที เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วดูอีก ตีสองแล้ว อย่าบอกนะว่าเขาโดนเจ้าเด็กนั่นกลั่นแกล้งอีก มันจะเป็นไปได้อย่างไรขับรถไปวนไม่น่าจะกินเวลาเกินสิบห้านาทีด้วยซ้ำ ช่วงดึกดื่นแบบนี้รถลาก็ไม่ค่อยมีถนนโล่ง วารินยืนรอจนเหนื่อยเขาหย่อนตัวลงนั่งข้างฟุตบาตวางแก้วชามะนาวลงข้าง ๆ ไม่สนใจจะละลายหรือไม่ โทรศัพท์กระเป๋าสตางค์อยู่บนรถทั้งหมด ถ้าโดนทิ้งขึ้นมาจริง ๆ คงต้องเรียกแท็กซี่กลับ แต่แท็กซี่ดึกดื่นป่านนี้อันตรายมาก

เขาเริ่มนึกถึงภูวดล ป่านนี้พี่คงชะเง้อคอยอยู่ที่หน้าบ้าน รอบ ๆ ตัวเงียบขึ้นไปทุกทีไฟสีส้มจากยอดตึกสูงค่อยดับลงดวงแล้วดวงเล่า คนเริ่มน้อยลงไปเรื่อย ๆที่สำคัญเขาไม่รู้ทางเลยว่าจุดนี้มันคือส่วนไหนของกรุงเทพกัน  เพราะว่าขับมาตามที่ธาราธารบอกวนซ้ายเวียนขวามั่วไปหมด ดูนาฬิกาอีกทีจวนจะตีสามแล้ว วารินเริ่มคอตกก้มหน้าซุกหัวเข่า

ธาราธารคงเกลียดเขามากถึงได้แกล้งเขาขนาดนี้ เขาไปทำอะไรให้กัน ดวงตากลมรื้นไปด้วยน้ำ วารินเกือบจะร้องไห้อยู่แล้วถ้าไม่มีรถคันคุ้นเคยมาจอดลงต่อหน้าเขาเสียก่อน คนขับคุยโทรศัพท์ค้างอยู่หน้าตายิ้มแย้มอารมณ์ดี ธาราธารที่ยังแนบโทรศัพท์มือถือไว้กับหูเปิดรถเดินลงมาเปลี่ยนเป็นตำแหน่งเป็นคนนั่ง วารินรีบเดินขึ้นไปนั่งแทนที่ตำแหน่งคนขับ

คนตัวเล็กขับไปโดยไม่พูดไม่จาอะไรเลย ขณะที่อีกฝ่ายก็ชี้บอกทางเป็นระยะ พอเข้าเขตที่เขาเริ่มคุ้น เด็กหนุ่มข้างๆก็วางโทรศัพท์ลง

...ใช่ เขาเพิ่งคุยกับปลายสายจบ... 

“ธารไปไหนมา พี่รอเรานานเลยนะ” วารินเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน ธาราธารยกชามะนาวขึ้นมาดูดแล้วทำหน้าแปลกๆ มันคงจืดหมดแล้ววารินแอบสมน้ำหน้าในใจ

“คุยโทรศัพท์ไง ลืมไปว่าต้องกลับมารับ เผลอขับเกือบจะถึงบ้านแน่ะ”  เขาตอบเรียบ ๆ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาไม่ได้ทำอะไรผิดที่ปล่อยให้อีกฝ่ายรออยู่เกือบสองชั่วโมง วารินแทบอยากจะหันไปด่า เขาเม้มปากแน่นอย่างอดทน

“กลัวถูกทิ้งหรือไง ตาแดงเชียวนะ ร้องไห้เหรอไหนดูดิ๊” 

เขาพูดยิ้มๆแกล้งเอามือมาเชยคางเล็กให้หันมาหา  วารินรีบผลักมือเขาออกห่างแล้วดุว่าอย่าเล่นอะไรแบบนี้อีก ดึกๆมันเปลี่ยวจะว่าเขากลัวก็ได้

“รู้แล้วน่าโทษที” ธาราธารงึมงำๆในลำคอเบา ๆ แต่วารินก็ยังแอบได้ยิน 

“นี่! คนนั้นน่ะ พี่ชายพี่แน่เหรอ”  พอรถเปลี่ยนมาขึ้นทางด่วนจู่ๆ ธาราธารก็ถามขึ้นวารินหันมามองเขาแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปตั้งใจขับต่อ วารินเพิ่งเคยขับบีเอ็มสปอร์ตเป็นครั้งแรกเพราะฉะนั้นจึงตั้งใจขับมากอีกทั้งกลางคืนรถก็วิ่งกันเร็วกว่าปกติ ธาราธารเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดหลังคา วารินตกใจทำหน้าเหรอหรา ลมโกรกผมปลิวยุ่งไปหมด

 “หึหึ ทำหน้าอะไรตลก แค่เปิดหลังคารับลมหน่อย ตกใจอะไรนักหนาคิดว่าหลังคารถปลิวรึไง” เขายกแขนท้าวขอบประตูไว้ เสยผมเล่นแข่งกับแรงลม

“จะเปิดทำไมลมแรง แสบตาด้วย” ที่สำคัญอายคนมากแต่วารินไม่กล้าพูด

“ผมพี่ทิ่มตาน่ะสิ ไว้ยาวทำไมเป็นผู้ชายแท้ๆ”  เขาขยับเข้ามาใกล้ คว้ารวบผมด้านหน้าของวารินเสยขึ้นค้างไว้แล้วเปิดเอายางรัดผมที่ช่องเก็บของออกมามัดรวบครึ่งหัวให้วารินแบบลวกๆ

วารินหันมองเขาแบบงงๆลดระดับความเร็วลงนิดหน่อย   

“เห็นแล้วรำคาญลูกตาชะมัด ยาวจนทิ่มคอแล้วไปตัดซะด้วยล่ะ”

คนตัวเล็กแอบอมยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มเริ่มแดงระเรื่อขึ้นมา เขารู้ธาราธารตั้งใจทำให้ จริงๆก็เป็นเด็กที่อ่อนโยนเหมือนกันเพียงแต่พูดและแสดงออกไม่เป็นเท่านั้นเอง รถยังคงเคลื่อนตัวเหยียบเงาของเสาไฟฟ้าที่ทอดยาวไปเรื่อยๆต้นแล้วต้นเล่า จะว่าไปวารินไม่เคยออกมาขับรถเล่นในช่วงเวลาดึกดื่นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ

“ว่าไง..ยังไม่ตอบผมเลยนะ คนนั้นน่ะพี่ชายจริงเหรอ”

“ใช่ดิ พี่ชายพี่ใจดีนะวาดรูปสวยด้วย”

“หน้าตาไม่เห็นเหมือนกัน”

“ไม่เหมือนหรอกพี่ซีน่ะหล่อ ส่วนพี่...ก็อย่างที่เห็นอ่ะ”

“ผมว่าพี่หน้าเหมือน ‘ลูกหมา’ ว่ะตัวก็เล็ก ตลก!”

“เราน่ะสิหมาธาร ล้อผู้ใหญ่มันบาปนะ”

“นี่ พี่อายุเท่าไหร่อะ เอาตรงๆ”

“เลขสามแล้ว” วารินตอบไปตามความจริงไม่คิดอะไร

“จริงป่ะเนี่ย โหแก่ว่ะผมนึกว่าเพิ่งจบมาซะอีก”

“คิดหน่อยเหอะน้องธาร  คุณภัครเธอคงยอมให้เด็กเพิ่งจบมาดูแลลูกเธอหรอกนะ” วารินเริ่มคิดไปถึงวันเก่าๆธาราธารคงจำเขาไม่ได้แล้วจริง ๆ

“หึ พอพูดดีด้วยแล้วต่อปากต่อคำเชียวนะ ระวังตัวไว้เหอะ”

วารินหันมองอีกคนที่นั่งบ่นพึมพำพร้อมอมยิ้มมุมปากนิดๆ เขาปล่อยให้เด็กหนุ่มนั่งเงียบๆต่อไปจนสุดทาง

“พรุ่งนี้ผมจะไปดูคอนโดนะ แล้วก็จะเข้าไปติดต่อเรื่องหอพักที่มหาวิทยาลัยด้วย พี่คงต้องไปกับผม”  เมื่อรถจอดลงที่หน้าบ้านธาราธารจึงบอกกับวารินเรื่องงานที่จะต้องทำในวันพรุ่งนี้

“สายๆพี่ไปรอผมที่โรงแรมเลยเดี๋ยวจะแวะเข้าไปรับ” วารินลงจากรถเขายื่นกุญแจคืนให้ธาราธาร

“แล้วพี่จะกลับยังไง แท็กซี่?”

“ครับใช่ เดี๋ยวเดินออกไปแป็บเดียว” ดีที่บ้านของธาราธารอยู่ติดถนนใหญ่เดินแค่ไม่กี่เมตรก็เรียกแท็กซี่ได้แล้ว

“ตีสามเนี่ยนะ”

“ไปล่ะพรุ่งนี้เจอกัน” ในขณะที่เดินวารินกลับคิดในใจว่าระยะทางจากหน้ารั้วไปที่ถนนใหญ่ยังใกล้กว่าระยะทางจากตัวบ้านถึงหน้ารั้วเสียอีก 

ธาราธารยืนมองแผ่นหลังเล็กที่เดินเลี้ยวออกไปจากรั้วบ้านของเขา คิ้วเข้มขมวดมุ่นเขาเดินเข้าบ้านทั้งที่จิตใจฟุ้งซ่านมาก ทั้งที่รู้ว่าวารินเป็นผู้ชายเหมือนกับเขาแต่ทำไมต้องเป็นห่วง คิดสารพัดจนเวลาล่วงไปเกือบชั่วโมงหลังอาบน้ำเสร็จเขาเดินออกมาที่ริมระเบียงกว้างมองไปทางถนนใหญ่หวังจะดูให้เห็นว่าวารินหารถกลับไปได้รึยังแท็กซี่จะปลอดภัยไหมป่านนี้จะถึงบ้านเรียบร้อยหรือเปล่า ทำไมเขาถึงประมาทไม่เดินออกไปส่งแล้วถ่ายทะเบียนรถไว้นะ

“โถ่เว้ย! ผู้ชายเหมือนกันกูจะห่วงทำไมนักหนาวะเนี่ย”  เขาสะบัดหัวไล่ความคิดถอดชุดคลุมอาบน้ำออกแล้วขึ้นเตียงในสภาพเปลือย

....เขาไม่เคยสวมเสื้อผ้านอน....เรื่องปกติ.....

ดวงตาคมกริบข่มลงในความมืด ทั้งที่ในหัวยังมีภาพของวารินเต็มไปหมด

.
.

“พี่ซีนอนเถอะครับ ดึกมากแล้วทรายขอโทษนะ”

วารินเดินเข้าไปหาภูวดลที่กำลังล้างพู่กันแปรงทาสีที่เขาแช่ไว้  หลังจากเดินออกมาจากบ้านธาราธาร วารินตั้งใจจะเรียกแท็กซี่ แต่รถญี่ปุ่นเก่าๆคันเล็กที่คุ้นเคยกลับมาจอดเทียบลงตรงหน้าเขา ภูวดลเห็นว่าช้าผิดปกติจึงขับตามออกมาดู เขารู้จักบ้านภัครจิราอยู่ก่อนแล้ววารินเคยบอกไว้เพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านพวกเขา

 “เสร็จแล้วครับ ป่ะทรายเปิดแอร์ไว้รึยัง”

เมื่อภูวดลเรียงอุปกรณ์ระบายสีผึ่งไว้เรียบร้อยเขาจึงเดินนำวารินขึ้นไปชั้นบน แกลลอรี่เล็กๆที่เป็นทั้งบ้านและเป็นทั้งร้านของเขา กับน้องชายบุญธรรมที่เขารักมากกว่าใครๆทั้งหมด สองมือหนาบรรจงห่มผ้ากระชับอกให้วารินอย่างเบามือเขาทำให้น้องแบบนี้ทุกวันตั้งแต่เด็ก

“วันนี้พี่ซีนอนกับทรายนะ ไม่ต้องไปนอนห้องนั้นหรอก นะครับ”

วารินคว้าเอามือของพี่ชายมากุมไว้ภูวดลยีหัวเล็กอย่างเอ็นดูเขาส่งยิ้มบางให้เจ้าตัวยุ่งก่อนสอดตัวเข้าไปนอนข้างกันแล้วโอบกอดเอววารินเอาไว้หลวมๆ

บางทีเขาก็คิด

คิดเกินกว่าที่พี่ชายคนหนึ่งควรจะคิด

อยากจูบอยากทำทุกอย่างอยากครอบครองคนในอ้อมกอดนี้ไว้แค่คนเดียว

เขาไม่เคยถามวารินว่ารู้สึกแบบเดียวกันกับเขารึเปล่า

 “ทราย” ภูวดลกระซิบเรียก

“ครับ”วารินลืมตาขึ้นตอบรับ

“พี่ซีจูบได้ไหม”

วารินอมยิ้มเอียงแก้มใสส่งให้พี่ชาย

ภูวดลอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่ใช่จูบแบบที่เขาเคยทำในทุกๆครั้ง

ชายหนุ่มบรรจงจูบลงเบาๆบนแก้มขาวเนียนนั่น

วารินมีกลิ่นนมติดตัวเสมอ อาจเป็นเพราะเขาจะให้น้องชายดื่มนมก่อนนอนเป็นประจำ วารินจึงชอบดื่มนมมากดังนั้นเวลาที่เขาจูบลงที่แก้มขาวเนียนนั่น กลิ่นหอมของนมจะแตะปลายจมูกเขาจนเขาแทบคลั่ง เผลอซุกไซ้ลงที่ซอกคอหอมอย่างช่วยไม่ได้

“คิคิคิ พี่ซีแกล้งทรายอีกแล้วหอมทีไรเป็นแบบนี้ทุกที ทรายจั๊กจี๋” วารินหดคออย่างจั๊กจี้ขนลุกซู่ไปหมด

“จั๊กจี๋แล้วชอบไหม หืม” เขายังไม่ยอมปล่อยคนตัวเล็กในอ้อมกอด ปลายจมูกโด่งยังซึมซับเอากลิ่นหอมนมจากซอกคอขาวนุ่มไม่ยอมห่าง

“ไม่ชอบ ทรายเสียว” วารินตอบหน้าแดงแป๊ด

“ไม่ชอบไม่ได้เพราะพี่ซีจ๋าชอบ พี่ซีจ๋าจะจูบแก้มทรายแบบนี้ทุกวัน”สายตาเจ้าเล่ห์ของภูวดลทำให้วารินยิ่งเขินอายเข้าไปอีก

“ใครอนุญาต”

“น้องชายอนุญาต”

“พี่ซีเจ้าเล่ห์ น้องชายที่ไหนจะให้พี่ชายทำแบบนี้”

“เจ้าเล่ห์แล้วรักไหม รักพี่ซีไหม”  ภูวดลขยับตัวลงมานอนกอดวารินให้ดีๆ ขณะที่คนตัวเล็กเองก็ตะแคงหน้าเข้าหาแล้วโอบเอวหนา
นั่นไว้แน่น

“รักครับ ทรายรักพี่ซี”

“พี่ซีก็รักทรายนะครับทรายนอนนะ” ภูวดลลูบศีรษะเล็กเบาๆก่อนลุกไปปิดไฟและเดินเข้าห้องน้ำไป

วารินนอนฟังเสียงครางเรียกชื่อตัวเองที่ดังมาจากห้องอาบน้ำ เขารู้ดีว่าภูวดลคิดกับเขาแบบไหน แต่วารินกลับยังไม่แน่ใจความรู้สึกของตัวเอง เขารู้ว่าเขารักภูวดลมากที่สุดเท่าที่น้องชายคนหนึ่งจะรักพี่ชายได้ เขาไม่เคยมีแฟนไม่เคยคบกับใคร เขารู้สึกเฉยๆกับผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับผู้ชายด้วยกัน

มีเพียงภูวดลเท่านั้นที่วารินรู้สึกผูกพันด้วย แต่จะถึงขั้นรักแบบคนรักได้รึเปล่านั้นเขายังตอบตัวเองไม่ได้เลยจริง ๆ
เขาเคยแอบคิดเล่นๆว่าถ้าหากภูวดล ‘ขอ’  เขาจะ ‘ให้’  ได้รึเปล่า

คำตอบก็คือ  ‘ไม่’

เขาให้ได้มากสุดเท่านี้จริง ๆ

.

.
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 06-03-2014 13:04:29
เฮ้อ...ทนมากไปหรือเปล่าทราย?
นายใช่คนหรือเปล่านะ?
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 06-03-2014 13:09:36
พี่ซีน้องทราย :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 06-03-2014 13:19:39
จะผิดใหม่ถ้าอยากจะบอกว่า...
เปลี่ยนพระเอกเหอะ!
ไอ้น้องธารก็จงไปสุขสมกับคุณนางกี้เถอะค่ะ ปล่อยให้พี่น้องอยู่ด้วยกันนั่นแหละดีแล้ว
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 06-03-2014 13:45:07
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 06-03-2014 13:58:33
น่าติดตามมาก รออา่านต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: Serioz ที่ 06-03-2014 14:41:59
น้องธารไม่เป็นห่วงพี่ทรายเลยอ่า  :ling1: งือออ เอาพี่ซีเป็นพระเอกแทนหมั่นไส้-0-
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 06-03-2014 15:23:57
อย่าแกล้งทรายมากนักสิ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 06-03-2014 15:39:39
น่านนนนนน พี่ซีกับทรายความสัมพันธ์พวกเธอ
มีซัมติงเกินพี่น้องจริงๆ ด้วย  :ruready
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: iceland ที่ 06-03-2014 15:47:42
เฮ้อออออออ  สงสารทั้งสองคนเลย

ทราบอย่าไปตกหลุมรักนายธารก่อนนะ  เดียวเจ็บ

นี่แร่ะน๊าา คนดีมักไม่ถูกเลือก  :mew6:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: หยกกลม ที่ 06-03-2014 21:25:31
 :L1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 06-03-2014 22:15:40
ง่ะ เราคิดว่าทรายร้ายกาจอ่ะ

ทั้งๆที่รู้ว่าซีคิดด้วยยังไง  ไม่รักแต่ไม่ยอมปล่อยมือ ทำแบบให้ความหวังแบบนี้น่าสงสารซีนะ
แล้วซีเองก็ไม่กล้าเดินหน้าต่อ

แบบนี้ก็ค้างคากันไปเรื่อยๆ 


วันไหนทรายรักคนอื่นขึ้นมา ซีก็โดนทิ้งสิ??
เหมือนกั๊กๆ กันเอาไว้

ถึงจะไม่ได้ทำร้ายกัน  แต่เจ็บนานเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 06-03-2014 23:02:51
 :z6: อิเด็กเปรตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต
อยากให้เปลี่ยนทั้งพระเอกและชื่อเรื่องเลย
ขอตอนที่พระเอกมันต้องมาทรมานเพราะความรักเหอะ ให้มากอดขาร้องไห้ขอความรัก

ทรายนี่ก็แปลกๆนะ ถ้ารู้ตัวว่าให้ไม่ได้ ก็น่าจะห้ามๆความรู้สึกพี่ไว้บ้าง
ทรายรักแบบ bromance แต่พี่ซีมันเกินเลยไปแล้วไง
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-03-2014 00:30:45
 :z6:สักที
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 07-03-2014 09:01:20
ชอบพี่ซี  :sad4: เปลี่ยนพระเอกเถอะ พลีสสสสสสสสสสส  :heaven

หรือไม่ก็ทำเป็นตอนพิเศษ ทะเลกับทรายยยย ก็ได้คือเค้ารักซีมากกกว่า ธารรรร  :ling2:

ถวายเมนท์เป็นกำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [06/03/57] บทที่ 3 ความรู้สึกแรก..ห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-03-2014 10:20:48
เหอๆๆๆ เด็กน้อยน่ารัก ไหงโตมาน่าตบแบบนี้  :mew5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57]บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 07-03-2014 13:50:15

บทที่4  เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง

“ทำไมต้องเป็นที่นี่!”

วารินเงยหน้ามองตึกสูงที่อยู่ตรงหน้า คอนโดหรูไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่ธาราธารจะต้องเข้าเรียน

“ที่นี่ใกล้สุดไง”

“แต่ที่นี่มันเป็นของ...”

“ตระกูลเมียใหม่ของคุณพ่อ คู่แข่งคุณแม่ของผม”

วารินกำลังจะพูดว่าที่นี่เป็นบริษัทคู่แข่งของโรงแรมเรา ถ้าคุณภัคจิรารู้เข้าเธออาจไม่พอใจเอาได้  แต่ธาราธารชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน ที่สำคัญไม่ไกลจากที่นี่ก็เป็นหมู่บ้านในเครือของ ‘โชติการุณ’ วารินไม่เข้าใจว่าธาราธารทำไมไม่พักอยู่ที่นั่น  ทำไมต้องมาซื้อคอนโดให้สิ้นเปลือง

“พี่นำเข้าไปสิ” วารินหน้าเหวอเมื่อธาราธารดันหลังให้เดินนำเข้าไป เขาเคยออกงานกับคุณภัครจิรามาไม่ใช่น้อย ถ้าหากมีคนรู้จักอยู่ที่นี่ด้วยแล้วรู้ว่าเขาเป็นคนที่พาลูกชายคุณภัครมาดูห้องที่นี่มีหวังคุณภัครจิราด่าเขาเละแน่

“ธะ..ธาร พี่ว่า”

“สวัสดีครับ ไม่ทราบมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”  แค่เห็นว่าเป็นรถยุโรปยี่ห้อดังป้ายทะเบียนหรู จอดลงที่ด้านหน้าฝ่ายต้อนรับของอาคารชุดก็รีบกุลีกุจอออกมายืนรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว

“เรามาดูห้องชุด อยากได้ชั้นบนสุดห้องริม”  ธาราธารบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

หลังจากนั้นฝ่ายดูแลก็พาทั้งเขาและวารินขึ้นไปชมห้องจริงบรรยากาศจำลองตามที่ขอ ธาราธารตกลงใจทันทีวารินจัดการนัดแนะล็อควันพูดคุยกับมัณฑนากร ก่อนจะลงไปทำสัญญาวางเงินมัดจำล่วงหน้าพร้อมนัดวันเซ็นสัญญาจ่ายเงินจริง

“ขอบพระคุณมากนะครับ คุณโชคดีมาก ที่จริงแล้วชั้นบนมีแค่สองห้องเท่านั้นห้องข้าง ๆ นี้เป็นของคุณ ชนาธิป ลูกชายคนเดียวของคุณท่าน คิดว่าน่าจะรุ่นเดียวกับคุณนี่ล่ะครับเห็นว่าเพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ท่านเลยยกให้เป็นของขวัญถ้ามีโอกาสผมจะแนะนำให้คุณรู้จักไว้นะครับ”

ฝ่ายขายของคอนโดแสดงความขอบคุณอย่างนอบน้อม เขาร่ายยาวไปจนถึงเรื่องลูกชายเจ้าของคอนโดมิเนียมซึ่งวารินได้แต่พยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ในขณะที่ธาราธารเหมือนคนไม่ได้ฟัง ใบหน้าคมนิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

“ทำไมจะตกแต่งใหม่ล่ะ ที่เขาทำไว้ก็สวยมากอยู่แล้วนี่โทนสีน้ำตาลพี่ชอบนะ”  วารินเอ่ยถามขึ้นขณะสองคนเดินตีคู่กันไปที่รถ ธาราธารเป็นคนแปลกเขาจะเฉยเมยกับคนแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จัก  เลเวลการเข้าสังคมของเขาต่ำมากจนน่าตกใจ นิสัยถามคำตอบคำ ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของเขาแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวไม่ใส่ใจจะแก้ไข

“ผมอยากได้ฝ่ายออกแบบที่ทำงานกับโรงแรมเรามากกว่า ที่นี่ตกแต่งไม่ค่อยสวย ที่สำคัญผมไม่ชอบสีน้ำตาล มันเป็นสีที่คนแก่ๆชอบ”

เด็กหนุ่มสตาร์ทรถแล้วหันมายิ้มเยาะเขาหัวเราะเบา ๆให้วาริน เมื่อตั้งใจเน้นคำว่า คนแก่ๆ ให้อีกฝ่ายช้ำใจเล่น บางครั้งธาราธารเองก็รู้สึกแปลกดีที่ได้หยอกเย้าวารินให้หน้างอได้

...เขารู้สึกมีความสุข...

“แต่พี่ว่ามันแพงไปนะ ที่ใกล้ๆกันก็มีถูกกว่านี้ด้วย”

“ที่นี่แหละเป็นส่วนตัวดีเดี๋ยวผมคุยกับคุณแม่เอง  พี่หิวหรือยัง?”

“อ๋อ...อือๆ”

วารินพยามทำความเข้าใจกับนิสัยประหลาดของธาราธาร เขาเข้าใจแล้วว่า เวลาที่ธาราธารอยู่กับเขาแค่สองคนจะหาเรื่องแซะเขาไม่หยุดเดี๋ยวเรียกพี่เดี๋ยวไม่ยอมเรียกบ้างล่ะนึกจะโมโหฉุนเฉียวก็อย่างกับพายุแล้วจู่ๆนึกจะดีก็ดีใจหาย

คงเป็นนิสัยแบบเด็กๆที่ใช้เรียกร้องความสนใจจากเขานั่นเอง

“กินในนี้เหรอ”

วารินถามขึ้นเมื่อธาราธารเลี้ยวรถเข้ามาในเขตมหาวิทยาลัย สักพักรถจอดลงที่ย่านร้านค้าหลังมอ เด็กนักศึกษาในชุดไปรเวทขับขี่ทั้งจักรยานทั้งมอเตอร์ไซด์กันประปรายไม่มีใครไม่สนใจรถสปอร์ตสีขาวมันวับที่ขับเลี้ยวเข้ามาจอดลงที่หน้าร้าน

“อ้าวเฮ้ยว่าไงหมาธารเอ้ย หมอธาร ลมอะไรหอบมึงมาวะเนี่ย รถเจ๋งว่ะ เข้ามาๆ”

ชายวัยรุ่นรูปร่างสูงใหญ่พอๆกับธาราธารเดินออกมาทัก เขากอดคอเด็กหนุ่มแล้วพาเดินเข้าไปในร้านทันที วารินรีบเดินตามเข้าไปขาเขาสั้นมากเมื่อเทียบกับสองคนด้านหน้า

“ นี่ไอ้วิทย์ไอ้บอยไอ้หมู เพื่อนกู EG เหมือนกันหมด ส่วนนี่หมอธารรุ่นน้องพวกเราที่ติด SI ปีนี้ พวกมึงจำมันได้ป่ะ อ้าวแล้วมึงพาใครมาด้วยวะ หวัดดีครับหวัดดี”

วารินรับไหว้แทบไม่ทันธาราธารแนะนำเขาในฐานะผู้ปกครองทำให้วารินนึกขัดใจนิดๆ  เมื่อพวกเด็กๆทักทายกันเสร็จเรียบร้อยเด็กหนุ่มก็เดินแยกออกมานั่งกับวาริน

“หิวว่ะพี่แจ๊บ” ธาราธารพูดนิ่ง ๆเด็กรุ่นพี่โรงเรียนเก่าเดียวกันรีบยื่นเมนูให้ทันที

“ทำมาเหอะกินได้หมด” เขาไม่คิดเปิดดูเมนูด้วยซ้ำ

“นิสัยเดิมๆเลยนะมึงคลำแล้วไม่มีหางกินหมด อุ๊บ! โทษว่ะลืมไปว่ามากับผู้ปกครอง ขอโทษด้วยนะครับคุณพี่”

เด็กเจ้าของร้านทำหน้าตาทะเล้นจากนั้นรีบเดินไปจัดการเรื่องอาหารการกินทันที

“ไม่ไปนั่งคุยกับเพื่อนล่ะเขามองเราอยู่นะ” วารินคีบน้ำแข้งใส่แก้วให้อีกฝ่าย

“ทำเป็นด้วยเหรอ” ธาราธารถามขึ้น

“ทำอะไร”วารินชะงักมือ ธาราธารมองไปที่แก้วน้ำแล้วมองหน้าวารินด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “ต่อไปถ้าผมไปกินเหล้าพี่ไปนั่งชงให้นะ”

“ไม่มีทางอ่ะ” เขาโพล่งออกมาแบบไม่ต้องคิดมีแต่จะต้องทำให้เลิกน่ะสิ เรื่องอะไรจะไปนั่งชงให้

“ไม่มีทางไม่ไปใช่ไหม เพราะยังไง 'ลุง' ก็ต้องไปจ่ายเงินให้ผมอยู่ดีน่ะแหละหึหึ”

วารินอยากจะเอื้อมมือไปตบหัวหล่อๆเท่ๆนั่นสักฉาด ชอบแซะเขาเรื่องอายุดีนักคราวนี้ถึงขนาดเรียก ลุง ไม่แก่บ้างให้มันรู้ไป

.

“ทำไมไม่พักอยู่หอล่ะ จองห้องไว้แล้วทำไมยังจะต้องไปซื้อคอนโดให้เสียเงินเสียทองอีก” วารินถามขึ้นเมื่อธาราธารไขกุญแจห้องพักเปิดเข้าไป

หอนี้เป็นหอใน สำหรับเด็กปีหนึ่งเท่านั้นห้องที่ธาราธารจองไว้เป็นห้องสำหรับสองคน เขายังไม่รู้ว่าจะได้รูมเมทเป็นใคร ธาราธารไม่ได้สนใจจุดนั้นเพราะเขาเองไม่ได้คิดจะเข้ามาพักจริงอยู่แล้ว

“ห้องดีเหมือนกันนะดูสิด้านล่างมีสนามบาสด้วยมองจากตรงนี้ก็เห็นสนามเทนนิส” วารินยิ้มกว้างเดินเข้ามาจากริมระเบียง เขาเดินไปเปิดโน่นดูนี่ท่าทางตื่นเต้นยิ่งกว่าเจ้าของห้องเสียอีก

“ตื่นเต้นทำไมไม่ได้อยู่สักหน่อย ก็แค่มาดูให้รู้ว่าได้ห้องไหนเท่านั้นเอง”

“ไม่แน่หรอกต่อไปธารเรียนปีสูงขึ้นต้องเข้าเวรดึกๆดื่นๆหอนี่แหละสะดวกสุดจะขับรถไปกลับคอนโดตลอดเหนื่อยแย่เลยนะ”

“บ้ารึเปล่า ปีสองก็ย้ายแล้วใครจะเรียนที่นี่ไปตลอดล่ะ พี่เห็นตึกโรงพยาบาลอยู่แถวนี้รึไง”  ธาราธารส่ายหัวอย่างเซ็ง รู้สึกผิดหวังที่วารินไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย แม้กระทั่งข้อมูลของที่เรียน

'เมื่อก้าวขึ้นท่า..เจ้ากับข้าพี่น้องกัน' พี่เคยได้ยินรึเปล่า”

“หึ..ไม่เคยอ่ะ” วารินส่ายหน้า

“อือ งั้นก็โง่อยู่แบบนี้แหละ”

เด็กหนุ่มพึมพำประชด วารินหน้าจ๋อย ตรงๆเลยก็คือเขายังไม่ได้หาข้อมูลอะไรของธาราธารทั้งนั้น ทุกอย่างดูฉุกละหุกไปหมดสมแล้วที่โดนเด็กด่าว่าโง่  เขาตั้งใจว่าจะต้องไปศึกษาข้อมูลให้มากกว่านี้  วารินนั่งลงที่เตียงเปล่าฝั่งตรงข้ามตากลมกวาดมองห้องพักโล่ง ๆ ที่ยังไม่มีอุปกรณ์เครื่องใช้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

“ห้องพักที่นี่สะอาดดีนะ ไม่เปลี่ยนใจมาอยู่แน่เหรอ”

“อยู่ไม่ได้หรอกที่นี่เขาไม่ให้พาคนนอกเข้ามานอนด้วย”

วารินพยักหน้ารับเบาๆที่แท้ธาราธารกะพาแฟนมาอยู่ด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็พอจะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงต้องการจะมีห้องส่วนตัวที่อื่น วารินจึงถือโอกาสชวนคุยอีก

“มีแฟนแล้วดิ  เด็กที่ชื่อกี้เมื่อคืนน่ะเหรอ”

“พี่คิดอะไรเนี่ย  กี้เขาจะมาเป็นแฟนผมได้ยังไงเล่า ไปเหอะ”

ธาราธารลุกพรวดวารินเองก็เดินตามออกมาเช่นกัน แดดร่มลมตกจวนจะบ่ายสามโมง เด็กหนุ่มพาวารินไปเลือกซื้อของใช้ต่างๆเพื่อเอาไปใส่ไว้ที่หอพักถึงแม้ไม่ได้เข้าอยู่จริงแต่อาจจะมีบางครั้งบางคราวที่จำเป็นจริงๆก็คงจะต้องค้างดังนั้นเขาจึงเลือกเครื่องนอนที่มีคุณภาพดีสักหน่อย

“เฮ้อเหนื่อยชะมัด”  เสียงเล็กๆบ่นอุบ หลังจากเดินชื้อของแบบมาราธอน ตอนนี้มือเล็กๆ หิ้วของเต็มสองมือขณะที่อีกคนเดินตัวปลิวล้วงกระเป๋านำขึ้นหอไป

“พี่นี่ขาสั้นจริง ๆ เดินก็ช้า แก่แล้วเหนื่อยไวอ่อ”  ธาราธารหยุดแล้วหันหลังกลับมามอง วารินไม่มีแม้แต่มือจะจับราวบันได  “เอามา
นี่มา เดี๋ยวถือเองดีกว่า ดูซิขาสั้นจนถุงลากบันไดขาดหมดแล้ว”

ธาราธารก้าวพรวดทีเดียวสองขั้นลงมารับถุงไปถือไว้เองทั้งหมด วารินเต็มใจส่งให้อย่างไม่คิดอิดออดเขานวดมือไปมาเพราะเจ็บ “จิ๊ ก็ใครจะตัวใหญ่อย่างเราล่ะ” คนตัวเล็กจิ๊ปากบ่นพึมพำพอเด็กหนุ่มหันกลับมาถลึงตามอง เขาก็แกล้งหันเหไปทางอื่น

“อ้าวพี่ได้อยู่ด้วยกันจริงๆเหรอเนี่ย”  เสียงสดใสทักขึ้นทันทีที่วารินเดินตามอีกคนเข้าไปในห้อง หนุ่มน้อยสวมแว่นที่เคยทักวารินในวันรายงานตัวกำลังจัดข้าวของเรียงเข้าตู้ คงเพิ่งมาถึงหอวันนี้เหมือนกัน

“ไม่ใช่พี่หรอกครับน้องพี่ต่างหาก”

“เออครับนั่นแหละๆ”

วารินเริ่มรื้อข้าวของออกมาแล้วจัดเรียงไว้บนโต๊ะข้างเตียง ขณะที่เจ้าของตัวจริงนั่งมองเฉยๆอยู่ที่ปลายเตียง

“เราชื่อฟ่างนายชื่ออะไร” เด็กนั่นหันมาถามธาราธารหน้าซื่อ

“ธาร” เขาตอบไปห้วนๆเด็กฟ่างหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย

“น้องพี่เขาไม่ค่อยพูดน่ะ แต่เขาใจดีนะฟ่างคุยกับพี่แทนก็ได้พี่ชื่อทราย ทนๆเอาหน่อยก็แล้วกันนะฟ่างนะ”

วารินเห็นฟ่างหน้าถอดสีเขารีบแก้ตัวให้ธาราธารขณะที่มือหยิบชุดผ้าปูที่นอนใหม่เอี่ยมเนื้อดีออกมาปูเตียงไว้ให้ เด็กหนุ่มจึงขยับลุกขึ้นเพื่อให้วารินทำงานได้สะดวก ธาราธารเป็นเด็กที่ตัวสูงใหญ่เขาคงอึดอัดอยู่บ้างถ้าต้องอยู่ห้องเล็กๆเตียงแคบ ๆ แบบนี้
วารินแอบคิดว่าคอนโดอาจจะเหมาะกับธาราธารมากกว่าจริงๆ

“เรามาจากระยองแล้วนายล่ะธาร” ฟ่างยังไม่เข็ดยังจะคุยกับธาราธารต่อ แต่จนใจที่อีกฝ่ายไม่พูดตอบ คนตัวสูงใหญ่เดินลิ่วๆออกจากห้องไปแทน

“ธารเขาอยู่กรุงเทพนี่แหละ อย่าไปถือเลยนะเขาออกจะแปลกสักหน่อยแต่เขาก็เป็นเด็กดี อ้อแล้วก็..เขาจะไม่ค่อยได้อยู่ที่ห้องหรอกนะถ้าฟ่างไม่เห็นเขากลับมานอนก็ไม่ต้องตามหา เพราะธารเขามีที่พักหลายที่มีห้องอยู่ที่คอนโดใกล้ๆแถวนี้ด้วย” วารินถือโอกาสอธิบาย

“ครับ พี่ทรายใจดีจังนะครับ พูดจาเข้าใจง่ายเหมือนพี่ชายผมเลยวันนี้ตอนผมจะออกมาจากบ้านพี่ร้องไห้ใหญ่ผมเห็นแล้วก็ใจหายเราไม่เคยห่างกันไกลด้วย”

วารินหันมอง พอปูที่นอนเสร็จเขาจึงเดินเข้าไปกอดฟ่างไว้หลวมๆให้กำลังใจเพราะเห็นอีกฝ่ายตาแดงๆคงจะร้องไห้คิดถึงบ้านพอมาอยู่หอแทนที่จะได้อยู่กับเพื่อนแต่ดันโชคร้ายได้มาอยู่ห้องคู่กับคนที่จะไม่เข้ามาอยู่จริงอย่างธาราธารเสียอีก

“ทำอะไรกันน่ะ!”

จู่ๆธาราธารเปิดประตูพรวดเข้ามาไฟจากหน้าจอโทรศัพท์ในมือยังไม่ดับ วารินรู้ได้ทันทีที่แท้เขาเดินออกไปคุยโทรศัพท์นึกว่าไม่ชอบใจเด็กฟ่างนี่ซะอีกอยู่ดีๆมาเดินหายออกไปอย่างนั้น

“กลับได้แล้ว!” เขาเดินเข้ามากระชากแขนวารินให้ตามออกมา ไม่สนใจว่ารูมเมทอย่างฟ่างจะคิดเห็นอย่างไร..ไม่สำคัญเลยสำหรับเขา  เป็นวารินเองซะอีกที่รีบโบกไม้โบกมือลาเด็กนั่นแทบไม่ทัน

“เดี๋ยวๆช้าๆหน่อยพี่เดินตามเราไม่ทันนะธาร” วารินซอยเท้าลงบันไดอย่างเร็วเพื่อตามคนที่ดึงลงมาให้ทัน เขาเกือบก้าวพลาดตั้งหลายครั้งแต่ธาราธารไม่ได้สนใจเลย

“ไปกอดมันทำไมรู้จักมันเหรอ!”  ธาราธารเหวี่ยงแขนวารินแล้วดันคนตัวเล็กขึ้นรถ ก้มลงถามคร่อมประตูไว้จนมิด ไม่รู้ว่ารถเตี้ยมากหรือเด็กหนุ่มสูงมากเกินไปกันแน่

“พี่เป็นคนของผม คุณแม่ยกพี่ให้ผมแล้วคนที่พี่มีสิทธิ์จะกอดได้คือผมคนเดียวเท่านั้น จำเอาไว้ด้วยนะ!” ท่าทางของเขาขึงขังอย่างที่วารินไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

นี่สินะที่เขาเรียกอาการของเด็กหวงของ วารินไม่เคยคิดว่าจะต้องมาดูแลเด็กก้าวร้าวเอาแต่ใจแบบนี้  แต่ก็เอาเถอะอย่างไรเสียจะต้องค่อยๆสอนไป ธาราธารจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้

วันนี้ธาราธารขับรถเร็วจี๋อีกแล้ว ขณะที่คนนั่งก็ยังยึดสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่นเหมือนเดิม ดวงตากลมหลับปี๋ด้วยความกลัวจนกระทั่งรถจอดติดไฟแดง “อีกไม่กี่วันมหา’ลัยก็เปิดแล้ว คิดว่าเขาจะตกแต่งห้องทันไหม”เด็กหนุ่มคนขับถามขึ้นหน้านิ่ง

“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะคุยให้ ธารอยากได้ห้องเป็นแบบไหนล่ะหรือจะเข้ามาคุยเองที่โรงแรมพี่นัดให้ใหม่ดีไหม”

“ไม่ต้องหรอกพี่คุยเหอะแบบไหนก็ได้ขอให้เป็นโทนสีขาวแค่นั้นพอ”

“แล้ว...ไม่ลองถามแฟนธารดูล่ะ คนที่จะพามาอยู่ด้วยกันน่ะ”

ธารธาราหันมามองหน้าวารินทันทีที่ถามจบ “เคยบอกเหรอว่าจะพาใครมาอยู่”

..วารินหน้าชา..

“นิสัยผู้หญิงชะมัดคิดเองเออเองคาดเดาเองไปทั้งนั้น”

“อย่ามาว่าพี่นะ  ใครจะไปรู้ล่ะคนอุตส่าห์หวังดีเห็นบอกว่าอยู่หอในพาคนนอกมานอนด้วยไม่ได้ พี่ก็คิดว่าที่จะไปอยู่คอนโดเพราะเราจะพาแฟนไปอยู่ด้วยน่ะสิ”

เด็กหนุ่มส่ายหัวขี้เกียจต่อคำ  เขานั่งเงียบไปเสียดื้อๆแต่แล้วจู่ๆเมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้เขาจึงพูดขึ้น  “ที่จริงก็มีคนที่คิดๆไว้อยู่เหมือนกันล่ะนะ” เขากัดริมฝีปากแล้วยิ้มเยาะจนไหล่ไหว แน่นอนว่าเขากำลังคิดบางอย่างอยู่ในใจ

นั่นไงล่ะวารินอยากจะตบเข่าสักฉาด เขาคิดผิดซะที่ไหนมีก็บอกว่ามีเถ้อจะอายทำไม

“ก็นั่นไงถึงได้ให้ถามเผื่อเขาอยากได้อะไรพิเศษๆตกแต่งห้องจะได้ทำทีเดียวไปเลย”

“งั้น...ห้องนอนเล็กใช้โทนสีน้ำตาลก็แล้วกัน”

“ให้เขาอยู่ห้องเล็กจะดีเหรอธาร”   วารินรู้สึกแย่นิดหน่อยถ้าเป็นเขาคิดจะพาแฟนมาอยู่ด้วยเขาจะให้เธอใช้ห้องใหญ่อย่างแน่นอน ผู้หญิงของแต่งตัวเยอะแยะ

แต่เพราะธาราธารเป็นเจ้าของห้องเขาจึงไม่อยากจะพูดมาก

“จะเอาแบบนั้นเหรอ?” ธาราธารหยุดคิดนิดหนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นเฉพาะส่วนของห้องนอนให้ใช้สีน้ำตาลนอกนั้นให้ใช้สีขาวทั้งหมดก็แล้วกัน”

“แบบนี้ล่ะถูกแล้วเราเป็นผู้ชายต้องให้เกียรติเขาหน่อย ว่าแต่แฟนธารนี่ชอบสีน้ำตาลเหรอ” วารินยังเซ้าซี้ถาม ธาราธารก็ปล่อยให้เขาพูดไป “แล้วยังมีหน้ามาล้อพี่ว่าชอบสีคนแก่นะ หรือว่าแฟนตัวเองก็แก่ใช่ไหมล่ะ อายุมากกว่าแค่ไหนอ่ะบอกหน่อยสิ  ปีหรือสองปี”

ธาราธารหันขวับ! วารินที่กำลังชะเง้อหน้าเข้าถามถึงกับสะดุ้งตกใจ “อุ้ย!”

“พี่ทราย! ผมบอกพี่ตอนไหนว่าผมจะพาแฟนมาอยู่ด้วย” เขาเริ่มเหลืออดเพราะวารินเริ่มพูดเกินความจำเป็น

“อ้าวก็คนที่จะพามาอยู่ด้วยกันไม่เรียกแฟนให้เรียกอะไรอ่ะ รักเขามากอ่ะดิตามใจขนาดนี้”

“เขา-ไม่-ใช่-แฟน-ผม!”  ธาราธารเน้นคำ พอดีกับที่รถจอดลงที่หน้าประตูทางเข้าโรงแรม

“เอาเหอะๆไม่ต้องอายหรอก พี่ไม่บอกคุณภัครหรอกเข้าใจๆวัยรุ่นก็แบบนี้ทั้งนั้น”   อยู่ก่อนแต่งสมัยนี้เรื่องธรรมดา ยิ่งเด็กหน้าตาดีฐานะดีแบบธาราธารมีเป็นตัวเป็นตนนี่แปลกดีจริงๆ

ธาราธารได้แต่ส่ายหัวอย่างระอา  เขาปล่อยอีกคนลงแล้วออกรถไปทันที วารินยืนมองตามหลังท้ายรถบีเอ็มที่ขับโค้งลงเนินไป เขาตัดสินใจเดินเข้าไปขอนมสดร้อนที่ฟร้อนกิน ก่อนเดินลงไปเอารถที่ด้านล่าง  โทรหาภูวดลว่าต้องการอะไรพิเศษรึเปล่าเพราะจะได้แวะซุปเปอร์ซื้อไปให้เสร็จทีเดียว

ไม่นานนักรถก็จอดลงที่หน้ารั้วไม้เล็กๆของแกลเลอรี่ขนาดกะทัดรัด กลิ่นดอกลีลาวดีต้นใหญ่ที่ภูวดลปลูกติดริมรั้วนั้นส่งกลิ่นหอมอบอวลมาก มือเล็กหอบหิ้วถุงพลาสติกพะรุงพะรัง

“พี่ซีมาช่วยขนของเร็ว ทราย....”

วารินชะงักกึก..

.
**********************************
กราบสวัสดีงามๆขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะ..เราเป็นแค่มือสมัครเล่น ผิดพลาดยังไงให้อภัยกันด้วยนะเจ้าคะ :write-a-letter:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 07-03-2014 14:01:14
หวงหล่ะๆๆๆๆๆ


ค้างๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 07-03-2014 14:26:45
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 07-03-2014 14:52:21
ทำไมอะไรอ่ะ ค้างงงงงง :katai1: :katai1:



 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็ก
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 07-03-2014 14:57:46
เรื่อยๆ ธารนะธาร อยากจะรู้จริงความสัมพันธ์มันจพเริ่มที่จุดไหน
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-03-2014 15:04:37
ชะงักกึก (ด้วยคน)
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: Serioz ที่ 07-03-2014 15:17:51
น้องธารเด็กขี้หวง
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 07-03-2014 15:21:37
 :mew2: :mew2: :mew2: ชะงักด้วยคน
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-03-2014 15:54:34
ธาร นี่ อารมณ์แบบเลือดจะไปลมจะมาเลยเนอะ   :เฮ้อ:

แล้วพี่ทราย ชะงัก อะไร  :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 07-03-2014 16:24:35
ค้างมาก พี่ทรายเห็นใครอ่ะ แววว่าจะโดนเด็กธารบังคับให้มานอนด้วยแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: pasallatel ที่ 07-03-2014 16:24:51
อะไรอะ..........เกิดอะไรขึ้น
ทิ้งท้ายได้..... :z3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 07-03-2014 17:04:28
 :z6: ไม่ว่ายังไงตอนนี้มันก็คือเด็กเปรตตตตตตตตตตตตตตต

ถ้ามันไม่ทำตัวให้ดีขึ้น ก็ไม่เชียร์เด็ดขาด
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 07-03-2014 19:26:49
เด็กเอาแต่ใจ น่าสนใจ น่าติดตามมากค่ะ
อยากอ่านตอนต่อไปจัง ^^
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: janek_alo ที่ 07-03-2014 21:07:11
เด็กเรียกร้องความสนใจ
น่าร้ากอ่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 07-03-2014 23:49:21
อะไรๆๆๆๆ มนเกิดอาร้ายยยยยยย :katai1:

เนื้อหาแนวนี้กลัวอย่างเดียวกลัวทรายเสียใจอ้ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 08-03-2014 00:31:43
เมื่อไหร่จะมีคนกระโดดถีบปากธารให้ซักทีหมั่นไส้มันมาก
น่าจะเจอของจริงซักครั้งสองครั้ง แบบปากสุนัขเลยโดนคนหมั่นไส้
ประเคนเท้าฟาดปากอะไรงี้ ของซักฉากเถอะจะไม่สงสารเลย
แต่ใจจริงอยากให้ทรายตบปากมันหน่อยเด็กเชี่...ยอะไรนิสัยโคตรแย่อ่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: หยกกลม ที่ 08-03-2014 05:28:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[07/03/57] บทที่4 เริ่มต้น..กับเด็กขี้หวง
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 08-03-2014 05:45:46
ทำไมอ่านแล้ว เราไม่สงสารทรายหล่ะ

แบบสมน้ำหน้าอ่ะ คือ ทรายยอมให้เด็กมันถอนหงอก ดูถูกความเ็นคนเองด้วยแหละ ยอมมากไปในบางเรื่อง คือ ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอปล่อยผ่าน ซะงั้น

คนแบบนี้เค้าเรียกอดทน หรือ อย่างที่ไอ้เด็กนรกมันว่า โง่ กันแน่




หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57]บทที่5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 08-03-2014 13:54:47
บทที่ 5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ

“พี่ซีมาช่วยขนของเร็ว ทราย....”

วารินวิ่งเข้าไปที่หน้าร้านแหกปากตะโกนเรียกภูวดลแต่ต้องชะงักกึกกลางครันเมื่อเห็นว่าภูวดลกำลังจดจ่ออยู่กับการวาดรูปที่มีแบบเป็นคนจริง ๆ นอนโพสท่าอยู่บนโซฟาตัวเก่งของเขา

เด็กหนุ่มคนนั้นถอดเสื้อพาดไว้ที่พนักวางแขนของโซฟา แล้วทำท่านอนอ่านหนังสืออย่างสบายๆ ขณะที่วารินเดินเข้ามาถึงด้านหลังแต่ภูวดลยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำจนเด็กนั่นยิ้มกว้างชี้มือบอกนั่นแหละพี่ชายเขาจึงได้หันมามอง

“วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ครับ ไว้วันหลังผมจะแวะมาใหม่แล้วเราค่อยมาต่อกัน”

เด็กหนุ่มตัวเล็กผิวขาวหยิบเสื้อเชิ้ตขึ้นมาสวม เขาเดินเข้ามาหาภูวดลเพื่อดูผลงานที่ยังวาดค้างอยู่แล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ ภูวดลกำลังจะลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าคนข้าง ๆ ติดรังดุมผิดเม็ด ด้วยความเคยชินในการดูแลวาริน จึงติดกระดุมให้เองใหม่ทั้งหมด

วารินที่ยืนมองอยู่นานรู้สึกวาบโหวงขึ้นในอก เขาไม่เคยเห็นภูวดลทำแบบนี้กับใครมาก่อนนอกจากตัวเขาเอง ภูวดลไม่เคยติดกระดุมเสื้อให้ใครนอกจากเขา ไม่เคยรับวาดภาพนิ่งแบบนี้ ที่สำคัญเด็กนี่ถอดเสื้ออีกด้วย แม้จะเคยมีคนมาติดต่อหลายครั้งแต่ภูวดลก็ปฏิเสธมาโดยตลอด โดยให้เหตุผลว่าเขาอึดอัดเวลาที่ต้องอยู่กับคนแปลกหน้าเงียบๆสองต่อสองเป็นเวลานานๆ

...แล้วทำไม...

“ทราย..ทราย!  เหม่ออะไรครับ” ภูวดลโบกมือไปมาแถวใบหน้าน้องชายแล้วยิ้มตลกๆ “ไหนดูซิซื้ออะไรมากินบ้าง พี่ซีหุงแต่ข้าวไว้แต่ยังไม่ได้ทำกับข้าวเลยนะ”

ชายหนุ่มเดินมารื้อถุงออกดู

“ใครเหรอครับพี่ซีเด็กคนเมื่อกี้”  วารินถามเสียงแห้งเขาเดินไปลากโซฟากลับมาไว้ที่ตำแหน่งเดิม โซฟาที่เขาใช้นั่งมองดูภูวดลวาดภาพลงสีทุกๆคืน

“ลูกค้าน่ะ” ภูวดลตอบสั้นๆแล้วยกของเข้าไปไว้ในครัว

วารินรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน คงเป็นเพราะวันนี้เขาสู้รบปรบมือกับธาราธารมาทั้งวันอาจจะทำให้อารมณ์เสียง่าย เห็นอะไรขัดใจไปเสียหมด

พี่ชายเขาแค่ทำงานวาดรูปให้ลูกค้าแต่เขาดันมาคิดมากคิดมายน้อยใจในเรื่องไม่เป็นเรื่อง

ภายนอกวารินดูเหมือนเป็นคนใจเย็นพูดง่ายทำตัวสบายๆ แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนคิดมากขี้วิตกและหุนหันพลันแล่นพอสมควร

การที่ภูวดลปล่อยให้เด็กคนนั้นเข้ามาเกินขอบเขตของลูกค้าทั้งหมดที่เคยมีมา

...ทำไมไม่อธิบาย...

วารินต้องการแค่คำอธิบาย เขาอยากรู้เรื่องราวของเด็กนั่นให้มากกว่านี้

ไม่ใช่แค่คำอธิบายสั้น ๆ ว่า ‘ลูกค้า’

 “ทรายมากินข้าวเร็วเข้าพี่ซีอุ่นเรียบร้อยแล้วครับ”

เสียงทุ้มเรียกออกมาจากในครัว ปลุกวารินออกจากความคิดทั้งหมด เขาสูดลมหายใจสลัดความคิดฟุ้งซ่าน อย่าว่าแต่ธาราธารตัวเขาเองก็หวงพี่ชายน่าดูเหมือนกัน

“ช่วงนี้เราได้วันหยุดยาวบ้างรึเปล่า” ภูวดลถามขึ้นขณะที่ตักอาหารใส่จานให้น้องชาย  “ทำไมครับพี่ซีอยากไปไหนเหรอ”
วารินอมยิ้มจะว่าไปเขาไม่ได้ไปเที่ยวกับภูวดลนานมากแล้วไม่รู้คราวนี้นึกยังไงถึงชวน สองคนถกเถียงกันอยู่นานไม่ลงตัวเพราะภูวดลอยากไปปีนภูที่เชียงใหม่ขณะที่วารินอยากลงใต้เที่ยวทะเล

“ทริปนี้พี่เป็นเจ้ามือเอง” ภูวดลพูดยักคิ้วขณะที่วารินทำตาโตส่อแววตื่นเต้นเต็มพิกัด “อะไรกันไปรวยมาจากไหนเนี่ย มีอะไรปิดบังทรายรึเปล่า”

“เรื่องอะไรจะบอก ทรายทำงานพิเศษได้พี่ซีก็หาแบบพิเศษๆได้บ้างสิ”

วารินใจหายวาบไม่รู้ทำไมเมื่อฟังคำพี่ชายบอก เขานึกไปถึงเด็กคนเมื่อกี้ทันที หรืองานพิเศษที่ภูวดลพูดจะหมายถึงรับจ้างวาดภาพนิ่งให้เด็กนั่น

แต่แบบนั้นมันได้เงินเยอะขนาดนั้นเลย?

“วันนี้ทรายขึ้นนอนก่อนพี่นะครับ พี่ซีขอแก้งานหน่อย อย่างอแงนะ”

ภูวดลยืนล้างจานที่หน้าซิ้งค์ วารินวางแก้วนมที่เพิ่งดื่มเสร็จลงแล้วเข้ามาสวมกอดเอวเขาอยู่ที่ด้านหลัง มือเล็กๆสอดเข้ามาก่อกวนอยู่ในอ่างไม่ให้ทำงานได้ถนัด

“ไม่เอาทรายจะรอ” วารินอ้อนพี่ชาย คางมนเกยลงที่ไหล่หนาขณะมือเล็กยังก่อกวนอยู่ไม่ยอมหยุด ความรู้สึกกลัวถูกแย่งความรักของพี่ไปยังเปี่ยมล้นอยู่ในใจ เพราะทรายเป็นเด็กกำพร้าเขาจึงยึดติดกับภูวดลมากกว่าใครคนอื่น

“พี่จะล้างเสร็จไหมเนี่ย หืมม”

เขาหันมาจูบลงที่ปลายจมูกรั้นเบาๆ กลิ่นนมที่ติดอยู่ริมฝีปากเล็กช่างดึงดูดให้ภูวดลโน้มเข้าหายิ่งนัก ภูวดลจูบซับรอบริมฝีปากตักตวงเอาความหอมหวานของกลิ่นนมจากปากนิ่มของวารินจนพอใจ พอละออกมาก็เห็นอีกฝ่ายหน้าแดงแป๊ด เขาจึงแกล้งยีศีรษะเล็กนั่นแล้วไล่วารินขึ้นบ้านไป


-หนึ่งอาทิตย์ถัดมาหลังจากนั้น-

“นี่มันอะไรกัน!”  ภัครจิราโยนเอกสารแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของคอนโดหรูย่านศาลายา ใส่หน้าวาริน

“คอนโดมีเป็นร้อยๆพันๆแห่ง ทำไมต้องเป็นของที่นี่ด้วยฮึ! ทำไม!!” เธอยังขึ้นเสียงต่อ วารินหน้าหงอเหลือสองนิ้ว

“นี่ถ้าไม่ให้คนของเราไปตกแต่งฉันคงหน้าโง่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยใช่ไหม คิดท้าทายฉันเอาเงินฉันไปให้มันตั้งไม่รู้กี่ล้าน มันถูกต้องแน่แล้วเหรอวาริน?”

“ผะ...ผม....” วารินถึงกับอ้ำอึ้งไป

-ก๊อก ก๊อก-

“คุณแม่ครับ”  ธาราธารเดินเข้ามานั่งลงต่อหน้าคุณแม่ของเขา ปรายสายตามองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะและวารินที่ยืนตัวลีบอยู่ข้าง ๆ ก็พอจะเดาได้ว่าเขาถูกเรียกตัวมาด่วนเพราะอะไร

“ผมบอกคุณแม่ไปแล้วนะ วันนั้นก็ไม่เห็นจะว่าอะไรนี่” เขาดูอารมณ์เสียนิดหน่อย เพิ่งกลับมาจากปราณบุรีเพราะธุระเรื่องที่ดินแทนคุณแม่ของเขา ยังนอนได้ไม่ทันถึง 3 ชั่วโมงด้วยซ้ำก็มีโทรศัพท์เรียกให้เข้ามาที่โรงแรม

“แต่ธารไม่ได้บอกแม่ว่าจะซื้อของๆมันนี่ลูก  ธารจะซื้อเท่าไหร่กี่ห้องแม่ไม่เคยว่าแต่ทำไมต้องเป็นที่นี่ด้วยทำแบบนี้มันหักหน้าแม่ชัดๆเลยนะ”

“ผมตัดสินใจไปแล้ว ขอโทษด้วยนะครับถ้าคุณแม่ไม่ชอบ”

“แม่ไม่ให้ธารไปอยู่ที่นั่นนะ”

เพราะธาราธารพูดตัดบทภัครจิราจึงรีบแทรกขึ้นเธอจ้องหน้าลูกชายจริงจัง ธาราธารเองก็มองกลับไปนิ่ง ๆ

“ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เจ้าของโครงการนั้นหรอกครับคุณแม่สบายใจได้”

“ของๆเมียก็เหมือนของๆมันนั่นแหละ วันดีคืนดีเกิดมันเข้ามาดูแลแล้วรู้ว่าลูกอยู่ที่นั่นธารก็จะไปอยู่กับมันแล้วทิ้งแม่ใช่ไหม”

ภัครจิราเริ่มตะคอกเสียงใส่ เธอกำมือแน่นเมื่อพูดถึง ‘ทัตพล’ อดีตสามีที่ทิ้งเธอไปตั้งแต่ธาราธารเกิดได้แค่ปีเดียวเท่านั้น ทัตพลแต่งงานใหม่กับวิลาสินีลูกสาวเจ้าสัวตระกูลค้าขายตระกูลหนึ่ง และเหลือเชื่อที่เขามีลูกกับวิลาสินีทันทีที่เลิกกันกับภัครจิรา  เพราะอย่างนั้นลูกชายของวิลาสินี จึงอายุไล่ๆกันกับธาราธาร ภัครจิราสุดแสนจะแค้นใจนั่นแสดงให้เห็นว่าสามีเธอมีชู้ทั้งที่ยังอยู่กับเธอ 

“คุณแม่ครับ ผมไม่มีทางทำอย่างนั้น เชื่อใจผมได้ไหม” ธาราธารลุกขึ้นเดินเข้าไปหาภัครจิราใกล้ ๆ มือแข็งแกร่งคว้าเอามือที่มีริ้วรอยขึ้นมากอบกุม

“แต่แม่กลัว กลัวว่าจะต้องเสียธารไปอีกคนแม่ไม่เหลือใครแล้ว แม่ไม่ให้ธารไปอยู่ที่นั่นนะลูกนะ แม่ขอร้อง”

ภัครจิราพูดเสียงสั่นเครือ ขณะที่ธารธาราถอนใจยาวด้วยความเหนื่อยหน่าย

“ผมขอโทษนะครับ ครั้งนี้ผมทำให้คุณแม่ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว..อ้อ เรื่องที่ดินที่ปราณบุรีผมสนใจนะถ้าคุณแม่จะซื้อก็ซื้อเก็บไว้ได้เลย”

เด็กหนุ่มหันมองวารินแวบหนึ่งแล้วก้าวเดินไปที่ประตูทันที “แต่ถ้าลูกตัดสินใจอย่างนั้นลูกจะต้องพาวารินไปอยู่ด้วย!”

เสียงเด็ดขาดของภัครจิราดังขึ้นไล่หลังเขาเพียงไม่กี่ก้าว ธาราธารหยุดเท้าลงทันที ขณะที่วารินอึ้งจนขากรรไกรค้างเติ่ง

“อะไรนะครับ!?” เด็กหนุ่มหันกลับมาถามทันที สองแม่ลูกยืนเผชิญหน้ากันอยู่ภายใต้บรรยากาศแสนกดดันจนวารินไม่กล้าเอ่ยแทรก

“ลูกต้องพาวารินไปอยู่ด้วย แม่จะไม่ยอมปล่อยลูกไว้ที่นั่นคนเดียวแน่ๆ”

ภัครจิราคิดสรตะอย่างถี่ถ้วนการให้ธาราธารพาวารินไปอยู่ด้วยถือเป็นการปกป้องลูกชายของเธอจากคนในตระกูลนั้นเป็นอย่างดี วารินจะคอยปกป้องดูแลที่สำคัญจะรายงานเรื่องราวทุกๆอย่างของธาราธารให้เธอรู้อย่างไม่มีอะไรปิดบัง

วารินเป็นคนซื่อเป็นเด็กที่ทำงานอยู่กับเธอมานานซื่อสัตย์ภักดี ครั้งหนึ่งที่เธอเคยมีบุญคุณไถ่บ้านหลังเล็กๆของสองพี่น้องเมื่อเจ้าของที่คิดจะเข้ามายึด เศษเงินเพียงเล็กน้อยของภัครจิราซื้อใจวารินกับพี่ชายไว้ได้มหาศาล  ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ได้ลูกน้องที่สุดแสนจะภักดีไว้ข้างกาย  ไม่ว่าจะมีบริษัทไหนๆเข้ามาทาบทามวารินไม่เคยคิดเปลี่ยนใจยังคงก้มหน้าก้มตารับใช้อยู่ข้างกายภัครจิราเสมอ  ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย เป็นที่รักใคร่ของทุกคนในที่ทำงาน

เด็กแบบนี้แหละที่ควรจะดูแลเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกชายของเธอที่สุด

“จะทำอะไรก็ตามใจ”

ธาราธารพูดนิ่งๆแล้วเดินหายออกไปทันที วารินมองแผ่นหลังกว้างเดินออกจากประตูไป เขาหันมาหาภัครจิราด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยการร้องขอให้เห็นใจ

“ไม่จำเป็นต้องไปอยู่ทุกวันก็ได้ ฉันรู้ครอบครัวเธอมีกันแค่สองคนมันออกจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยถ้าฉันจะเอาเวลาทั้งหมดของเธอมาไว้กับลูกชายฉันแค่คนเดียว แต่ฉันอยากให้เธอเห็นใจฉันและช่วยสงสารธารเขาด้วย ฉันจะให้เงินเธอเพิ่มนะวาริน”

ภัครจิราพูดแล้วหยิบเช็คจากลิ้นชักขึ้นมากำลังจะลงตัวเลขแต่วารินรีบเข้าไปขวางไว้ก่อน “ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินครับคุณภัครไม่เกี่ยวกับเงิน คุณภัครมีบุญคุณกับผมและพี่  ผม...”

“ฉันตั้งใจจะให้ก็คือให้  เธอเป็นเด็กมีหน้าที่แค่รับไว้ก็พอ ถ้าหากเกรงใจคิดตอบแทนฉันล่ะก็ ดูแลลูกชายฉันให้ดีๆเป็นการตอบแทนก็แล้วกัน”

ภัครจิรายัดเช็คเงินสดใส่มือให้วารินก่อนที่จะลุกขึ้นหยิบผ้าคลุมไหล่แล้วก้าวออกจากห้องไป

วารินที่น่าสงสารยังคงยืนนิ่งก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองอย่างถอดใจ

.....6 ปี..ทนแค่หกปีจนกว่าธาราธารจะเรียนจบ จนถึงตอนนั้นอะไรๆหลายอย่างคงจะดีขึ้น...

.
.

ในที่สุดวันปฐมนิเทศของธาราธารก็มาถึง  วารินระหกระเหินตื่นแต่เช้าขับรถเก่าๆคันเดิมออกไปที่โรงแรมทั้งที่ยังไม่ตื่นเต็มตาเสียด้วยซ้ำก่อนออกมาภูวดลยังยืนหัวเราะท่าทางตลกๆของน้องชายในความพยายามไขกุญแจรถเข้ารูทั้งที่ยังหลับตา

ธาราธารโทรบอกให้วารินมารอเขาที่หน้าโรงแรมตั้งแต่ตีห้า แต่กว่าเจ้าตัวจะโผล่หัวมาได้ โน่นปาเข้าไปเกือบ 6โมงเช้า คนตัวเล็กยืนหาวหวอดๆตบยุงแข่งกับยามเป็นร้อยรอบ

“อ้าวทำไมใส่ชุดนี้อ่ะ” ทันทีที่ขึ้นรถวารินถามขึ้นอย่างงงๆ ธาราธารใส่เสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนกับยีนส์รัดรูปตามสไตล์ของเจ้าตัว

“เดี๋ยวไปเปลี่ยนก่อนแล้วค่อยเข้ามหา’ลัย”

วารินพยักหน้ารับ เขาหลับตาลงเพราะความง่วง คิดไปเองว่าเมื่อคืนเด็กนี่คงจะค้างที่บ้าน เพราะชุดนักศึกษาทั้งหมดวารินจัดเตรียมไว้ให้ที่คอนโดเท่านั้นคงเพราะอย่างนั้นถึงได้มาทั้งชุดแบบนี้ “ดีแล้วล่ะ ถ้าว่างก็ไปนอนค้างกับท่านบ้างคุณแม่จะได้ไม่เหงา พี่ว่าธารไปค้างทุกเสาร์เลยก็ยังได้นะ”

“ผมบอกเหรอว่าไปค้างที่บ้านมา?!”

วารินลืมตาขึ้นทันทีที่เด็กหนุ่มขัดคอขึ้น  “เลิกสักที่เหอะไอ้นิสัยคิดเองเออเองแบบนี้น่ะ”

“แล้วใครจะไปรู้ล่ะ”วารินสวนขึ้นบ้าง

“ไม่รู้ก็อย่าเดามั่ว”

“พี่ก็แค่ชวนคุย เห็นมันเช้ามืดกลัวธารง่วงนอนนี่”

ธาราธารไม่อยากจะโต้เถียงต่อเขาจึงเลือกที่จะเงียบปล่อยให้อีกคนยู่ปากบ่นโน่นนี่ไปเรื่อย ขณะที่วารินปรายสายตาดูคนข้าง ๆ ท่าทางวันนี้ธาราธารอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เขาได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองว่าไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย

เด็กหนุ่มไม่ได้ขับรถเร็วเหมือนทุกวัน แต่ก็ไม่ได้ช้ามากมายอะไร พอรถจอดลงที่ช่องจอดรถส่วนตัวของคอนโดทั้งสองคนก็ตรงขึ้นห้องทันที

“ทำอะไรให้กินหน่อยเดี๋ยวออกมา”

วารินขมวดคิ้วมุ่นเดินตรงเข้าไปที่ครัว ตั้งแต่ขึ้นรถมาอีกฝ่ายยังไม่ยอมเรียกเขาว่าพี่สักคำพูดอะไรไปก็ไม่ถูกหู เขาได้ยินเสียงสายน้ำจากฝักบัวดังมาจากห้องนอนแสดงว่าอีกฝ่ายกำลังอาบน้ำอยู่วารินเปิดตู้เย็นสำรวจข้าวของซึ่งเขารู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีอะไรเลยนอกจากเครื่องดื่มเพราะสองวันที่แล้วเขาเป็นคนจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนี้ด้วยตัวเอง

ธาราธารชอบหายไปตอนกลางคืน คุณภัครเองก็บอกว่าลูกชายไม่ค่อยชอบกลับมานอนบ้าน แต่ธาราธารมีห้องพักอยู่หลายที่วารินจึงคิดว่าเด็กหนุ่มอาจไปนอนอยู่ที่ใดที่หนึ่งก็เป็นได้

“ไง อาหารเสร็จรึยัง”

ธาราธารเดินออกมาในชุดนักศึกษาเรียบร้อย กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆลอยมาเตะจมูกวารินทันทีที่เขาแทรกตัวเข้ามานั่งลงใกล้ๆ วันนี้เป็นครั้งแรกที่วารินสังเกตธาราธารแบบชัดๆ เด็กคนนี้เป็นคนที่รูปร่างดีมาก ตัวสูงใหญ่ไหล่กว้าง รูปหล่อและมีผิวพรรณขาวสะอาด วารินถึงขนาดคิดไปว่า ‘คุณพ่อ’  ของธาราธารคงจะเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาและดูดีเอามากๆเลย

“ไหนล่ะ อาหาร” ธาราธารถามซ้ำ

“หึ..ไม่มีอ่ะ  มันไม่มีอะไรจะให้ทำได้เลย กินนี่ไปก่อนนะ” วารินตอบหน้าจ๋อย ยื่นครัวซองสำเร็จรูปชิ้นเล็กๆที่ซื้อติดกระเป๋าไว้ส่งให้

“งั้นชงกาแฟมา  กาแฟดำน้ำตาลก้อนเดียวนะ” ธาราธารถอนใจรับขนมมาแต่ก็ไม่ได้โวยวาย

“ร้อนนะ ระวังด้วย” ดีที่วารินเสียบกระติกน้ำร้อนไว้แล้วเขาจึงชงให้ธาราธารกับตัวเองคนละแก้ว

“กินอะไรน่ะ อะไรสีขาวๆ” ธาราธารเหลือบมองที่แก้วของวาริน

“นมไง”

ทันทีที่วารินพูดจบธาราธารแทบสำลัก เขากลั้นหัวเราะจนไหล่ไหว  ส่วนวารินได้แต่นั่งกัดปาก

“อย่าหัวเราะนะคนเราชอบไม่เหมือนกัน”

“เปล่าๆโทษทีๆ”

เด็กหนุ่มโบกไม้โบกมือ รู้สึกตลกผู้ใหญ่ตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงหน้า วันนี้วารินใส่เสื้อสีชมพูอ่อนๆเหมือนกับผิวของเขา แต่เวลาที่ธาราธารแกล้งทำให้เขาโกรธแก้มป่องๆนั่นจะเปลี่ยนเป็นสีแดงแป๊ดทันที ปากเล็กๆจะยู่ออกมาบ่นนั่นบ่นนี่  อีกทั้งปลายจมูกรั้นนั่นมันช่างเข้ากับดวงตากลมใสแจ๋วเหมือนดวงตาของเด็กๆ

“แปลกนะเรานึกไงโทรหาพี่ตั้งแต่ตีสี่ ตื่นเช้าเป็นเหมือนกันเหรอ” วารินชวนคุย

“ตื่นอะไร ยังไม่ได้นอนต่างหาก” เขาตอบเรียบๆ

“อ้าวทำไมไม่นอนอ่ะ ไปค้างที่ไหนมาเนี่ย” เป็นเพราะธาราธารบอกว่าไม่ได้มาจากที่บ้านเพราะอย่างนั้นวารินจึงลองถามดูกลัวว่าเขาจะไปทำอะไรไม่ดี

“ค้างกับผู้ชายไง”

ค้างกับผู้ชาย!!  วารินตาโตนึกทวนคำในใจ แล้วคิดขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายเคยบอกเขาแล้วเป็นนัยน์ๆว่าตัวเองเป็นไบเซ็กชวล เขาจึงได้แต่พยักหน้ารับเบาๆ

แต่ก็เผลอพลั้งปาก

“ความจริงผู้หญิงสวยๆมีเยอะแยะไป ธารไม่ลอง.....”

“เกลียดผู้หญิง” เขายกกาแฟขึ้นจิบแล้วพูดแทรกขึ้น “แต่ความจริงก็ได้หมดล่ะนะ ช่วงนี้ชอบผู้ชายมากกว่าไม่รู้ทำไม”

“ธารครับ ธารยังเด็ก ถ้าไงต่อไป.....”

“พี่นี่ยุ่งเรื่องของผมจริงๆนะ ทำไม? อยากรู้อยากเห็นขนาดนั้นเหรอ ผมต้องอัดเป็นคลิปไว้ให้ดูป่ะเนี่ย หึหึ”

“พี่ก็แค่หวังดี”

“ไม่ต้องห่วงไปหรอก ผมไม่ใช่คนได้หลังแล้วจะลืมข้างหน้า ยังไงซะคนที่ผมจะเลือกมาเป็นแม่ของลูกผมก็ต้องเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว” เด็กหนุ่มจิบกาแฟไปด้วยจ้องหน้าวารินไปด้วยอย่างหยั่งเชิง นานจนอีกฝ่ายต้องหลบสายตา

“มองอะไร ข้องใจอะไรพี่ ถามได้นะ” วารินจำต้องลุกขึ้นแล้วหยิบแก้วทั้งของเขาและของธาราธารไปล้างที่อ่าง

“ทำไมพี่ถึงคิดว่าผมมองพี่” เขาเดินเข้าไปหาวารินใกล้ ๆ กอดอกใช้สะโพกพิงขอบอ่างไว้

“อ้าว..ก็เห็นว่าเรามองน่ะสิถึงได้ถาม”

“ถ้าผมบอกไม่ได้มองพี่จะเชื่อไหม” วารินหันมองเขาทันที เจ้าของคำพูดกระตุกยิ้มร้ายใส่นิดๆ

“ไม่เชื่อ! ก็มองกันอยู่ชัดๆ มีอะไรข้องใจว่ามา”

ธาราธารนิ่งไปครู่หนึ่งเขาหรี่ตาเจ้าเล่ห์ก่อนก้าวเข้ามาประชิดโน้มตัวลงกระซิบเสียงแตกพร่า  “มองคนแก่!” เขาเน้นคำแล้วยิ้มเย้ยจนไหล่ไหว

“คำก็แก่สองคำก็แก่ เดี๋ยวพอธารเรียนจนถึงปีหกนะธารจะแก่กว่าพี่อีกคอยดู” วารินเหลืออดรีบย้อน ธาราธารเรียนหมอเคยได้ยินมาว่าบางคนแค่ปีสี่หัวก็เริ่มหงอกแล้ว สาธุของให้เด็กนี่เป็นอย่างนั้นด้วยเถ้อวารินแอบบ่นเบาๆ

“มันจะจริงเร้อ หึหึหึ ผมกินผักแล้วก็ออกกำลังกายตอนกลางคืน ฝึกหายใจทุกวี่ทุกวันรูปร่างถึงได้ดีแบบนี้ไง ไม่เหมือนคนบางคนนี่ แค่ขึ้นบันไดก็หอบแฮ่กๆแล้ว ถ้าโดนคนตัวใหญ่ๆแบบผมขึ้นทับคงได้เป็นลมกันพอดี หึหึหึ”

เขาแกล้งตีคิ้วใส่ คำพูดคำจายียวนกวนประสาท ไม่รู้ทำไมเขาถึงชอบแกล้งกระเซ้าวารินนัก ทั้งที่ก็รู้ว่าจะต้องโดนฝ่ามือเล็กๆนั่นฟาดลงมาจนต้นแขนแดงเถือก แต่เขาก็รู้สึกชอบใจทุกครั้งที่ได้แหย่อีกคน “โอ๊ยย..พอๆ..เจ็บๆ..” เขาลูบต้นแขนด้วยความรู้สึกเจ็บที่โดนฟาดแรงขนาดนั้นตั้งหลายที

“จัดการห้องให้ด้วยล่ะ เดี๋ยวกลับมาเย็นๆ”

ก่อนขับรถออกไปมหาวิทยาลัยธาราธารบอกเขาไว้แค่นั้น เหลือเพียงวารินคนโง่ที่เพิ่งจะรู้ตัวตอนนี้ว่าที่ธาราธารแวะไปรับเขามาด้วยก็เพื่อจะมาทำอาหารและทำความสะอาดห้องพัก  เขาจัดการดูแลเรื่องห้องหับจนเรียบร้อยโทรเรียกแม่บ้านให้ขึ้นมารับเสื้อไปซัก แล้วลงไปซื้ออาหารสำเร็จรูปแช่แข็งและน้ำดื่มมาเรียงเข้าตู้ไว้ให้ก่อนจะนั่งแท็กซี่ยาวกลับโรงแรม

.
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-03-2014 14:40:28
เมื่อไรถึงจะอ่านเจอความน่ารักของไอ้เด็กธารคนนี้ซะทีนะ อ่านมาก็หลายตอนแล้ว เด็กเปรตจริงๆๆ  :o
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 08-03-2014 15:07:13
เด็กร้ายๆนี่มันน่าจับมาฟัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
555555555 บ้าไปแล้วตู ^^
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] บทที่5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Serioz ที่ 08-03-2014 15:29:18
วารินเองก็ดูมีใจให้กับพี่ซีอ่ะ จิ้นแปบ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] บทที่5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 08-03-2014 15:35:48
ธารที่เลือกคอนโดนี้เพราะวางแผนไว้แบบนี้ใช่มั้ย  o18
ตกลงนี่ชื่อ ธาราธาร หรือ ธารธารา กันแน่คะ
พาทนี้ความรู้สึกต่อวาริาติดลบค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] บทที่5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 08-03-2014 15:45:53
เด็กขี้แกล้งๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] บทที่5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 08-03-2014 18:41:11
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกไม่ดีกับความคิดของทรายเลยค่ะ เขาดูลังเลกับความรู้สึกที่มีต่อพี่ซี อ่านแล้วหน่วงแปลกๆ แต่ยังไงก็ติดตามตอนไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] บทที่5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: หยกกลม ที่ 08-03-2014 20:39:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] บทที่5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 08-03-2014 21:18:18
ทรายเธอก็ไม่ดีนะ ความไม่ชัดเจน เท่ากับทำร้ายคนที่รักทรายมากที่สุด
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] บทที่5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 08-03-2014 21:49:03
 :katai1: เจอตอนนี้เข้าไปเริ่ม รู้สึกว่าเรื่องนี้ตัวละครสีเทาๆทุกตัว
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] บทที่5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 08-03-2014 22:49:00
อ่านไปอ่านมาเริ่มรำคาญทรายล่ะ
จะยอมอะไรนักหนา ไม่รู้จักสั่งสอนไอเด็กเปตรนั่นซักที
ก็สมควรปล่อยให้มันด่าให้มันแดกดันอยู่นั่นแหละ
คืออย่างน้อยน่าจะใช้ความเป็นผู้ใหญ่อบรมสั่งสอนมันบ้าง
นี่อะไรทนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แกโง่ซื่อบื้อขนาดนั้นก็สมควรให้เด็กมันถอนหงอกเหอะ
เซ็งกับตัวละครในเรื่องแต่ละตัวไม่สมประกอบซักคน :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[08/03/57] บทที่5 เด็กยียวน..กวนหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-03-2014 23:48:38
แต่ละคนเนอะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[10/03/57] *แจ้งข่าว*
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 10-03-2014 15:42:27
*ขอโทษนะคะที่ไม่มีเวลามาอัพให้เลย*

สำหรับท่านที่อยากอ่านต่อเนื่อง  เราอัพไว้ที่บล็อก  เข้าไปอ่านได้เลยนะคะ

http://www.onlyone-minnie.blogspot.com (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com)

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[10/03/57] *แจ้งข่าว*
เริ่มหัวข้อโดย: acorntan ที่ 10-03-2014 17:32:52
ชอบมากคะ สู้ๆ นะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[10/03/57] *แจ้งข่าว*
เริ่มหัวข้อโดย: Pakarang ที่ 10-03-2014 21:07:45
ช่วยอัพในเล้าด้วยน้าา เค้าเล่นในมือถือเปิดบล็อกแล้วมันค้างง่า TT
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 12-03-2014 14:49:04
บทที่ 6

ในที่สุดพิธีถวายสัตย์ต่อหน้าพระบิดาก็เสร็จสิ้น

ธาราธารเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองซ้ำยังก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ พลังเสียงแห่งการปฏิญาณตนของนักศึกษากว่าสามพันคนทำให้เขารับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นและความมั่นคงของเพื่อนจากหลากหลายคณะภายใต้มหาวิทยาลัยเดียวกัน

กว่าพิธีจะเสร็จก็ค่ำมืดแต่งานแบบนี้ถือว่ามีครั้งเดียวในช่วงชีวิต แม้ว่าคณะของเขาปีสองจะต้องมีการย้ายไปเรียนอีกที่หนึ่งและจะมีการรับการอบรมจากพี่คณะที่แท้จริงอีกครั้งเพื่อรับรุ่นน้องข้ามฟากเข้าไปเรียนที่คณะแพทย์ฯ แต่เขาก็เต็มใจที่จะมาร่วมงานของที่นี่ด้วย   ช่วงเช้าตอนถูกจับแยกกลุ่มแยกเขาได้รู้จักเพื่อนๆต่างคณะที่น่าสนใจหลายคน ดังนั้นก่อนแยกย้ายกันกลับคนที่เขารู้จักจึงมีมาโบกมือล่ำลากันมากมาย

“น้องๆ น้องคะ น้องธารSI”

เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งเรียกเขาไว้ขณะที่ธาราธารกำลังจะเดินกลับไปที่รถ เธอเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสโมสรนักศึกษา ถ้าเขาจำไม่ผิดเพราะเห็นเธออยู่ร่วมในพิธีตลอดตั้งแต่เช้าถึงค่ำ

ไม่ใช่รุ่นพี่คณะเขาแน่เพราะคณะเขารุ่นพี่มาแค่ไม่กี่คนเท่านั้น น้อยยิ่งกว่าน้อย เขาจำหน้าได้หมดทุกคนแล้ว

“น้องธารอย่าเพิ่งกลับนะคะ ต้องไปรวมตัวกันที่ฝั่งโน้นก่อน” เพื่อนอีกคนที่วิ่งมาด้วยกันพูดขึ้นเธอหอบหนักเพราะอ้วนมาก

“เห็นพี่ต้านายกสโมฯบอกไว้ว่าจะให้น้องธารเป็นตัวแทนถือพานพุ่มให้พี่เขาที่งานศิริฯหน่อย แต่เห็นว่าพวกพี่คณะเล็งเราเอาไว้จะให้ถือของSI  ธารต้องไปคุยให้พี่นะครับนะ” พี่คนแรกพูดจาหว่านล้อมแล้วดึงแขนธาราธารให้เดินไปกับตน

เมื่อธาราธารเดินไปถึงกลุ่มพวกรุ่นพี่จากหลายคณะก็พาน้องใหม่ที่ตนเลือกให้มายืนรวมอยู่ด้วยเช่นกัน ต่างฝ่ายตกลงกันได้เรียบร้อยมีแต่ของธาราธารเท่านั้นที่ยังไม่ลงตัวเหตุเพราะรุ่นพี่รุมแย่งตัวเขาให้ไปทำทุกหน้าที่ที่จะเป็นหน้าเป็นตาของฝ่ายตน

“ผมไม่ทำเลยได้ไหม” ธาราธารแทรกขึ้นกลางวง ทำให้รุ่นพี่ที่ถกเถียงกันอยู่เงียบกริบ

“ไม่ทำไม่ได้ค่ะคุณน้องเราน่ะเป็นหน้าเป็นตาของคณะ เพราะงั้นอย่าได้ไปสนใจพวกสโมฯ น้องธารต้องทำให้คณะเรานะ พี่จองตัวไว้เลย ประกวดดาวเดือน ประกวดเฟรชชี่บอย  เต้นลีด ถือพานพุ่ม ถือป้าย  งานบายเนียร์ งานเฮลไนท์ละครเวที พี่จองเราไว้เลย!”  พี่คนที่พูดเป็นผู้ชายแต่ทำไมน้ำเสียงเป็นแบบนั้นธาราธารรู้สึกแปลกใจจึงเผลอมองหน้านานไปหน่อย  ส่วนรายละเอียดเรื่องที่พูด เขาไม่ได้ฟัง!

“ตายๆๆอย่ามองพี่แบบนั้นสิครับ พี่จะนิพพานแล้ว รู้ตัวไหมว่าเราน่ะหน้าตาดีม๊ากกกหลงมาที่นี่ได้ไงลูก”

“เบลพอเหอะมึงเดี๋ยวน้องเขากลัวก็หนีไปพอดีเลยจะไม่ได้อะไรสักอย่าง ตกลงน้องธารทำให้คณะเรานะคะ บอกปฏิเสธพวกสโมฯไปเลยค่ะน้อง”

ธาราธารถอนใจรู้สึกรำคาญขึ้นมาอย่างมาก ขณะกำลังจะพูดบางอย่างกับพวกรุ่นพี่สโมสรนักศึกษาเด็กสาวที่วิ่งไปเรียกเขาตั้งแต่ครั้งแรกก็ชิงพูดขึ้น

“ไม่เอาก็ได้วะ  งั้นฉันขอน้องคนนี้ละกัน” เธอหันไปดึงแขนนักศึกษาชายอีกคนให้ก้าวเข้ามายืนข้าง ๆ ธาราธาร “น้องชนาธิปSCCH โว๊ย ถึงไม่หล่อไม่เท่เท่าน้องธารแต่หน้าตาน่ารักกว่าเยอะแกดูน้องเขาใส่เหล็กดัดฟันสีชมพูพาสเทลน่ารักป่ะ”

ธาราธารจำได้ทันที เพื่อนคนนี้เขาเจอตอนแยกกลุ่มเมื่อเช้าชนาธิปเป็นคนผิวขาวตัวเล็ก และมีรอยยิ้มที่สดใส ธาราธารเห็นแล้วพลอยนึกไปถึงวาริน ป่านนี้จะกลับไปหรือยัง หรือว่ายังรอเขาอยู่ที่ห้อง แต่ก่อนออกมาเขากำชับไว้แล้วว่าจะกลับมาหา วารินคงต้องอยู่รอจนกว่าจะเจอเขาแน่

“เจอกันอีกแล้วนะ”  ชนาธิปพูดทักขึ้นส่งรอยยิ้มสดใสไปให้ ธาราธารจะไม่ใส่ใจเลยหากไม่ได้เห็นแววตาชื่นชมนั่นอีกครั้ง เมื่อเช้าชนาธิปเอาแต่นั่งมองเขาจนโดนรุ่นพี่แซว พวกเขาสองคนเลยโดนแกล้งให้จับคู่กันเสียอาน

“งั้นเอาเป็นว่าตามนี้นะคะ น้องธารจะทำกิจกรรมทุกอย่างให้กับคณะเรา ส่วนของสโมฯก็ให้น้องชนาธิปรับไป ส่วนคณะ......”รุ่นพี่ชายใจหญิงสรุปความยาวเหยียดด้วยน้ำเสียงที่ใส่จริตจกร้านเต็มที่

“ผมบอกเมื่อไหร่ว่าผมจะทำ”  สุดท้ายเขาก็ออกฤทธิ์จนได้  เพราะปล่อยให้อีกฝ่ายพล่ามไปคนเดียวนานมากแล้ว รุ่นพี่เบลถึงกับอ้าปากค้าง “หาคนอื่นเถอะ ผมไม่มีเวลา ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัว”

“ไม่ได้ๆๆน้องธาร เดี๋ยวสิครับ รอพี่ก่อน เดี๋ยวๆ”

เมื่อธารธาราเดินออกมาเด็กรุ่นพี่นั่นก็เดินตามมาพูดจาหว่านล้อมตะล่อมร่ายยาวจนถึงรถ ชนาธิปเองก็เดินมาทางเดียวกัน ธาราธารกดสวิทเปิดประตู “โอ้โหคุณน้องทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้จะให้พี่ปล่อยไปง่ายๆได้ยังไง  พี่ก็ต้องเอาตัวเรามาทำงานให้คณะจนได้นั่นแหละ คอยดูฝีมือหมอเบลเถอะ”

“นี่พี่เป็นหมอจริงป่ะเนี่ย อย่าทำให้ผมผิดหวังนักเลย”  ธาราธารไม่ใส่ใจเขาพูดใส่หน้ารุ่นพี่โดยไม่แคร์เลยสักนิดก่อนที่จะขับรถออกไปจากมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงชนาธิปกับเด็กรุ่นพี่นั่นยืนอยู่ด้วนกัน เบลขยี้เท้าอย่างไม่ได้ดั่งใจ ชนาธิปได้แต่หัวเราะเบา ๆ กับท่าทางตลกนั่นก่อนที่เขาเองจะรถขับออกไปในเส้นทางเดียวกันกับธาราธาร

.
.

“แล้วนี่กลับมาเมื่อไหร่ครับ” ภูวดลรับถุงของฝากถุงใหญ่จากขวัญข้าวเพื่อนสมัยเด็กที่นำมาฝากให้เกือบทุกครั้งที่เธอบินต่างประเทศ

“เพิ่งมาถึงก็รีบเอามาให้ซีเลย ขวัญรู้ว่าซีชอบขนมร้านนี้ ซีทานเยอะๆนะน้องทรายก็ด้วย นี่ๆมีเกมส์รุ่นใหม่พี่ซื้อมาฝากทรายไม่รู้ว่าจะเข้ากับเครื่องที่พี่ซื้อมาให้เราครั้งที่แล้วได้รึเปล่า”

“ขอบคุณมากนะครับพี่ขวัญ” วารินเสียงอ่อนรู้สึกเกรงใจเธอเต็มที่

ขวัญข้าวเป็นคนจีนลูกอาเจ็กข้างบ้านวัยเดียวกันกับภูวดล เธอทำงานเป็นนางฟ้าของสายการบินแห่งหนึ่ง และแอบรักภูวดลมาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งภูวดลและวารินเองก็รู้ เธอเป็นผู้หญิงที่ดีไม่เคยมีข่าวเสียหายเรื่องผู้ชาย อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยแต่ยังเฝ้ารอภูวดลแค่คนเดียวอย่างมีความหวัง

“ขวัญกินข้าวมาหรือยัง” ภูวดลถาม

“ยังเลยว่าจะมาหาอะไรกินที่นี่อ่ะ พอจะมีอาหารเหลือบ้างไหมเนี่ย” เธอเดินลูบท้องเข้าไปในครัว

“เดี๋ยวซีทอดไข่ให้กินดีไหม” เขากับทรายเพิ่งทานข้าวเย็นกันเสร็จ กำลังเก็บล้างเธอก็มาได้จังหวะ “จริงเหรอ กินสิกิน ให้ขวัญช่วยอะไรบ้าง”  วารินที่กำลังล้างจานมองดูภูวดลกับขวัญข้าวช่วยกันทอดไข่ทำอาหาร ดีที่ในหม้อยังมีข้าวสวยเหลืออยู่ขวัญข้าวจึงยังพอมีวาสนาได้ทานอาหารฝีมือภูวดล

“นึกยังไงวันนี้เรียกพี่ขวัญทานข้าวที่บ้านเราครับเนี่ย”

วารินถามขึ้นหลังจากอาบน้ำเสร็จ ปกติภูวดลไม่แม้แต่จะเคยชวนขวัญข้าวอยู่ต่อจนค่ำมืดแบบนี้  วารินยืนเช็ดผมอยู่ข้างๆ ภูวดลวางหนังสือในมือแล้วดึงแขนคนตัวเล็กให้นั่งลงบนตัก เขาเช็ดผมให้วารินอย่างที่เคยทำด้วยความเคยชิน

“เพราะเขาดีกับเราทั้งคู่ไงครับ ถ้าเขารักแค่พี่ซีคนเดียวแล้วไม่รักทราย พี่ซีไม่มีวันสนใจเขาหรอกนะ”
“พี่ซีชอบพี่ขวัญไหม” วารินหันหน้ามาถาม

“ทราย?” ภูวดลชะงักมือนิดหนึ่ง

“ถ้าเป็นพี่ขวัญทรายก็เต็มใจนะ พี่ขวัญรักพี่ซีมานานมากแล้ว แล้วก็ดีกับเราสองคนมากๆ ถ้าหากพี่ซีจะเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ทรายว่าเป็นพี่ขวัญก็ดีนะครับ เพราะว่าเขาเป็นคนดี”

“เด็กโง่! คนเราเลือกกันที่ความรักต่างหาก ไม่ได้เลือกกันที่ความดีหรอกนะรู้ไหมครับ เข้านอนได้แล้ว” ภูวดลจิ้มหน้าผากเนียนไปทีแล้วดันตัววารินให้นอนลงห่มผ้าให้ ตัวเขาลุกขึ้นไปปิดไฟแล้วลงมาสอดตัวนอนในผ้าห่มผืนเดียวกัน ภูวดลตะแคงตัวไปกอดเอวน้องชายไว้หลวม ๆ

“เมื่อกลางวันอาเจ๊กพ่อของขวัญแวะมาบอกพี่ ว่าแกกับเมียจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดกับลูกชายคนโต แกเลยจะขายบ้าน แต่กลัวว่าขวัญจะไม่ยอมเพราะเห็นว่าขวัญติดที่นี่มากอยู่มาตั้งแต่เด็ก แกเลยอยากจะให้พี่แบ่งห้องให้ลูกแกเช่า แล้วขวัญบินบ่อยไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ทรายคิดยังไงจะให้พี่เขามาอยู่ด้วยดีไหมครับ”

“ตามใจพี่ซีสิครับ ทรายยังไงก็ได้บอกแล้วถ้าเป็นพี่ขวัญทรายไม่ว่า” ภูวดลจ้องมองดวงตากลมนั่นอย่างลืมตัว ฝ่ามือใหญ่เฝ้าลูบไล้เรือนผมหอมอย่างทะนุถนอม

เขากดปลายจมูกโด่งลงที่แก้มขาวนวลจูบซับลงมาจนถึงซอกคอหอม สูดดมกลิ่นแป้งเด็กที่อีกฝ่ายชอบใช้เป็นประจำก่อนนอน ทั้งกลิ่นนมเจือจางที่ริมฝีปากนั่นอีก

ภูวดลแทบคลั่ง...เขาต้องหักห้ามใจทุกครั้งที่เผลอใกล้ชิดกับวารินแบบนี้

Rrrrrrrrr   Rrrrrrrrrrrrrr

วารินสะดุ้งจนตัวโยน  เสียงโทรศัพท์ปลุกสติสัมปชัญญะของภูวดลได้ทันก่อนที่เขาจะเผลอไผลมากไปกว่านี้ วารินคงไม่รู้ ปลายลิ้นของเขากำลังขยับเข้าไปใกล้เพียงนิด

....อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น....

“ธารครับใจเย็นๆ นี่มันดึกมากแล้วนะพี่จะออกไปหาเราได้ยังไง”

“จะมาหรือไม่มาแค่นั้นจบ” น้ำเสียงเด็ดขาดเอาแต่ใจดังลอดออกมาจากปลายสาย

“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เข้าไปแต่เช้าเลย ธาร.....” วารินยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ได้ยินเสียงดังตึงตังจากปลายสายตามมาด้วยเสียงโครมครามคล้ายข้าวของถูกทำลายสักพักมีเสียงคล้ายกระจกแตกดังตามมา

“ธาร! เกิดอะไรขึ้นน่ะ” วารินอุทานขึ้นอย่างดังแต่ก็ไม่มีเสียงธาราธารตอบกลับมา เขายังคงได้ยินเสียงดังโครมครามอยู่ไม่ขาด

“โอเคๆพี่จะเข้าไปเดี๋ยวนี้ รอหน่อยละกันมันไม่ใช่ใกล้ๆ”

“มาคนเดียวไม่ต้องติดพี่ชายมาด้วยล่ะเดี๋ยวจะพาลกินข้าวไม่ลง” โทรศัพท์ถูกตัดสายไปแล้ว วารินลุกไปหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ขณะที่ภูวดลนั่งหน้านิ่วเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

“คืนนี้อาจจะต้องค้างที่นั่นพี่ซีไม่ต้องรอทรายนะ”

“มันไม่เกินไปหน่อยเหรอทราย ต้องดูแลเขาขนาดนั้นเลย? พี่ว่ามันไม่ใช่แล้วนะ”

ภูวดลยืนมองจนรถเลี้ยวหายออกไป

“สวัสดีครับพี่ภูวดล” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ภูวดลที่กำลังจะก้าวเข้ารั้วบ้านต้องหยุดชะงัก

“ขอโทษด้วยวันนี้มาดึกเลย แต่เวลาช่วงอื่นผมไม่ว่างจริงๆ เรามาต่อกันตอนนี้เลยได้ไหมครับ พี่พอจะวาดให้ผมต่อได้หรือเปล่า”

‘ชนาธิป’ เด็กที่ภูวดลรับวาดภาพนิ่งให้ เขามาในชุดนักศึกษาแต่เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะเรียบร้อย

“นี่มายังไง มันดึกแล้วนะพ่อแม่เราจะไม่ห่วงเหรอครับ” จะให้วาดตอนไหนภูวดลก็วาดได้ แต่ติดตรงที่ภาพแบบนี้มันต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงแล้ว นี่มันก็สามทุ่มกว่าแล้วด้วย

“พี่คงไม่ใจร้ายไล่ผมกลับหรอกนะครับ” ชนาธิปยิ้มกว้างโชว์เหล็กดัดฟันสีสดใส ภูวดลจึงเชิญเขาเข้ามาด้านใน “เอ๊ะวันนั้นผมพาดเสื้อไว้ตรงไหนนะ” เด็กหนุ่มจัดการถอดเสื้อออกแล้วพาดไว้ที่พนักของโซฟาตามคอนเซปเดิมของรูป

“ไม่เป็นไรครับพี่วาดส่วนนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เหลือแต่วาดส่วนของบอดี้”

ชนาธิปนอนลงที่โซฟาทำท่าทางให้เหมือนเดิมมากที่สุด อกบางเปลือยเปล่าประดับด้วยสร้อยเงินเส้นจิ๋วภูวดลเดินเข้ามาใกล้แล้วจับสร้อยเส้นเล็กที่สวมอยู่ให้ได้ตำแหน่งที่สวยงามพอดีตัว  “จะให้พี่วาดสร้อยเส้นนี้ด้วยรึเปล่าครับ” เด็กหนุ่มสะดุ้งรีบคว้าจับข้อมือของภูวดลทันที  “ข..ขอโทษครับผมตกใจ”

ภูวดลสังเกตเห็นแผ่นอกเล็กกระเพื่อมขึ้นลง เด็กหนุ่มคงจะตกใจจริงๆเขาจึงส่งยิ้มอบอุ่นจริงใจให้ไปก่อนจะเดินกลับไปนั่งประจำตำแหน่งของตน “จะหลับเลยก็ได้นะเดี๋ยวเสร็จแล้วจะเรียก”

ถึงภูวดลจะพูดอย่างนั้นแต่ชนาธิปกลับนอนจ้องเขาตาแป๋ว ภูวดลเผลอนึกไปถึงดวงตากลมของวารินแล้วระบายยิ้มบางออกมา ก่อนจะสะบัดศีรษะไล่ฟุ้งซ่านตั้งสติให้จดจ่อกับงานตรงหน้า

.
.

“ช้ามาก นึกว่าต้องรอถึงเที่ยงคืนซะก่อนถึงจะได้กินข้าวเย็น ช่างเป็นพี่เลี้ยงที่ดูแลดีมากๆเลย”   พอวารินมาถึงธาราธารก็ประชดประชันเขาทันที ดวงตากลมโตกวาดมองข้าวของรอบห้อง

แต่ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพเดิม เรียบร้อย ปกติ วารินตรงรี่เข้าไปเปิดประตูห้องนอนทั้งสองห้องออกดู แต่ทุกอย่างก็ยังปกติ  นิ้วเล็กๆบดเบียดเข้าหากันอย่างโกรธจัด  “ธาร เมื่อกี้เสียงอะไรในโทรศัพท์” วารินเสียงสั่นเม้มปากรอฟังคำตอบ

“เสียง?” ธาราธารแสร้งทำหน้างง ก่อนกดโทรศัพท์แล้วโยนลงให้วารินฟัง “เสียงนี้นะเหรอ?”

เด็กยียวนกวนประสาท ช่วยไม่ได้ที่เจ้านี่เป็นเด็กมีปัญหา! พ่อทิ้ง! แม่ก็บ้างานจนไม่มีเวลาให้!  วารินพยายามปลอบใจตัวเองด้วยเหตุผลเหล่านั้นเพื่อข่มความโกรธที่พวยพุ่งเหมือนน้ำเดือดภายในตัวเขา

อุตส่าห์รีบขับรถมากลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไร

ที่แท้...โดนหลอก...โดนเด็กหลอก

วารินข่มใจลงพยายามนับหนึ่งให้ถึงสิบ

“พี่อยู่สีลมนะ ธารคิดว่ามันใช้เวลานานเท่าไหร่กันล่ะกว่าจะมาถึงศาลายาเนี่ย”  ด้วยความสัตย์วารินเหยียบจนมิดจริงๆ เพราะเสียงโครมครามนั่นทำให้เขานึกกลัวว่าทางนี้จะเป็นอะไรหรือไม่นั่นเอง

“ทำอะไรให้กินดิ หิว” คนสั่งนั่งดูหนังสบายใจ อย่างกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรทั้งนั้น

วารินสูดลมหายใจ เดินไปที่ตู้เย็นหยิบอาหารสำเร็จแช่แข็งที่เขาซี้อมาไว้เมื่อกลางวันเตรียมยัดเข้าไมโครเวฟ

“กินไม่เป็นนะ อาหารแบบนั้น” วารินชะงักทันที

“งั้นมาม่า กินได้ไหม” ลูกคนรวยเอาแต่ใจ! เด็กมีปัญหา!

“เดี๋ยวขับรถให้ ซุปเปอร์ใกล้ๆมีไปซื้อของเข้ามาทำให้กินหน่อย”

“นี่ห้าทุ่มแล้วนะธาร ถ้าจะทำอย่างนั้นกินข้างนอกเลยเหอะ”

ในที่สุดเด็กตัวโตกับผู้ใหญ่ตัวเล็กก็มานั่งอยู่ตรงข้ามกันในร้านข้าวต้มสไตล์ล้านนา “ทีหลังรู้จักหากินเองนะ จะมาหวังพึ่งคนอื่นตลอดไปได้ไง”

“อืม”

“แล้วเราทำอะไรอยู่จนป่านนี้ถึงยังไม่กินข้าว”

“เลิกดึก”

“พูดกับผู้ใหญ่ให้มันมีหางเสียงสิธาร ลงท้ายว่า‘ครับ’ แล้วก็เรียกพี่ว่า  ‘พี่ทราย’  แบบนี้จะน่ารักกว่านะ”

วารินได้ทีสอนมันเสียเลย ธาราธารคาบช้อนเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที “ไม่สนอ่ะ ไม่ได้อยากน่ารักนี่”

“แต่มันควรจะพูดไม่ใช่เหรอ”

“พี่อยากให้ผมเรียกแบบนั้น?”

“ก็ธารเป็นเด็กพูดแบบนั้นกับพี่ พี่ก็ต้องชอบมากกว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าธารรู้สึกว่ามันฝืนพี่จะไม่บังคับเราอีก..ยังไงก็ได้” วารินคีบสาหร่ายเส้นวางลงในชามข้าวของธาราธารแล้วส่งยิ้มกว้างให้แบบไม่จริงใจสุดๆ  เด็กหนุ่มนั่งก้มหน้าก้มตากินข้าวจนหมดถ้วยหลังจากนั้นเขาสองคนจึงเดินออกมาที่หน้าร้าน ลมยามดึกพัดโชยกลิ่นหอมอ่อนๆของต้นโมกกระจายฟุ้งไปทั่วทางเดิน

“ธารดูนี่สิ ปลาคาร์ฟเยอะเลย สวยจัง” วารินพูดอย่างตื่นเต้นดึงแขนธาราธารให้นั่งลงดูด้วยกัน

“มันจะหิวไหมนะ” มือเล็กๆดีดลงที่ผิวน้ำ

“พี่อย่าสิ เดี๋ยวน้ำเขาสกปรกมือพี่ยังไม่ได้ล้างเลยนะ”

วารินฟาดป๊าบลงที่ต้นแขนฟิตเปรี๊ยะนั่น ธาราธารหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนฉุดมือวารินให้ลุกขึ้นพร้อมกัน

“ที่มหา’ลัยผมมีนะ สระใหญ่กว่านี้เยอะเดี๋ยววันหลังพาเข้าไปดู”

เขาสองคนเดินตรงไปที่ลานจอดรถ พอถึงรถธาราธารจึงกดสวิทปลดล๊อคแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเองเดินจับมือวารินไว้นานแล้ว  เขารีบชักมือกลับทันทีขณะที่วารินนั้นเดินเงียบมาตลอดทางแต่หน้าแดงแป๊ดไปถึงใบหู

“กลับเลยละกัน ดึกมากแล้ว”

.
.

“ธาร นี่เราไม่มีเสื้อยืดใส่นอนไว้ที่นี่เลยหรือไง”

วารินกำลังรื้อตู้เสื้อผ้า ความจริงแล้วก็เป็นเขาอีกนั่นแหละที่เป็นคนจัดเตรียมข้าวของทุกอย่างไว้ให้ เขาใส่ไว้แต่ชุดนักศึกษา คิดว่าธาราธารคงจะเอาชุดเล่นต่างๆมาจากที่บ้านเอง

“ไม่มีอ่ะ” ธาราธารเพิ่งอาบน้ำเสร็จเขาเดินนุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วเช็ดหัวออกมา

“อ้าวแล้วจะใส่อะไรนอน”

“ไม่ใส่อ่ะ ไม่เคยใส่”

วารินหันกลับมาหาปากอ้าเพราะตกใจในคำตอบนั่น ธาราธารดึงเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งออกมาจากไม้แขวนเสื้อแล้วส่งให้วาริน “เอาตัวนี้ไปใส่ก่อน บ็อคเซอร์ตัวใหม่อยู่ในลิ้นชัก หยิบตามสบายเลย”  เขาว่าจบก็กระโดดขึ้นเตียงซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา
วารินใช้เวลาล้างเนื้อล้างตัวไม่นาน “พี่จะไปไหนน่ะ” เสียงคนที่นอนอยู่บนเตียงดังขึ้น วารินในเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกับบ๊อคเซอร์สั้นๆชะงักอยู่ที่หน้าประตู

“ไปนอนห้องโน้นไง ปิดไฟเลยไหมเดี๋ยวพี่ปิดให้เลย”

“นอนไม่ได้หรอกผมขนหนังสือไปไว้ที่ห้องนั้นยังไม่ได้จัดเลย”

 “อ้าว..”

“ถอดเสื้อผ้าแล้วขึ้นมานอนด้วยกันนี่แหละ”

“ถ...ถะ..ถอดทำไม”

“จะถอดหรือจะใส่ก็ตามใจ รีบขึ้นมานอนได้แล้วผมง่วง พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก”

ธาราธารว่าแล้วก็หลับตานิ่ง วารินปิดไฟแล้วเดินเข้าดูใกล้ๆเขาเอื้อมมือไปหยิบหมอนอีกใบกะว่าจะเอาออกไปนอนที่โซฟาด้านนอก แต่แล้วจู่ๆธาราธารก็ดึงแขนเขาไว้แล้วกระชากตัวเขาลงบนที่นอนอีกฝั่ง

“นอน!” ร่างที่ใหญ่กว่าเอื้อมมาคว้ากอดเขาไว้ไม่ให้ลุกหนีไปไหนวารินยิ่งดิ้น “เฮ้ย..ร้อนปล่อย” เขาไม่เคยถูกใครกอดรัดนอกจากภูวดลร่างกายจึงรู้สึกต่อต้านมากๆ แต่เมื่ออีกคนจงใจรัดแน่นไม่ยอมให้หลุดวารินที่ดิ้นจนเหนื่อยจึงเริ่มนิ่ง  เด็กหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสนุก ตอนแรกเขากะจะแกล้งวารินเล่นแต่ดันเผลอหลับไปจริง ๆ

“ทำไมตัวสั่น”ธาราธารรู้สึกตัวลืมตาในความมืด

“พี่ร้อน” วารินขยับตัวออกแต่อีกฝ่ายยังไม่ยอมคลายอ้อมกอดออกแม้แต่น้อย

“น้ำก็ไม่อาบเสื้อผ้าก็ไม่ถอด สมควรแล้ว”

เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมทแอร์ขึ้นมาปรับ วารินรีบขยับตัวลุกขึ้นตาม ธาราธารเดินโทงๆไปห้องน้ำวารินรีบหลับตาลงแล้วนอนดีๆเอาหมอนข้างที่มีแค่ใบเดียวมากั้นกลางไว้

เตียงยวบลงอีกครั้งวารินแอบลืมตาดูเห็นเขากลับมานอนลงข้างๆอย่างเรียบร้อยธาราธารหลับไปแล้ว ไม่นานนักวารินก็ผล็อยหลับไปเช่นกัน

.

“ฮ...อื้ออ”

พี่ซี? ทำอะไรน่ะครับ อย่านะทรายจักจี๋ พี่ซีจ๋าชอบแกล้งทรายแบบนี้ตลอดเลย  “คิคิ^” วารินอมยิ้มหันตัวหนีพร้อมปัดป่ายมือใหญ่ออกอย่างเอียงอาย ลำคอขาวตะแคงรับรอยจูบที่กำลังซุกไซ้ซอกซอน

ทำไมรู้สึกหนักหน่วงรุนแรงกว่าทุกครั้ง  เสียงจ๊วบจ๊าบสวบสาบแถวลำคอดังมาไม่ขาด สักพักลิ้นหนาก็เริ่มชอนไชเข้ามาแหย่ลงที่หูเล็กนั่นจนวารินขนลุกซู่ไปหมด เขาแอ่นอกขึ้นอย่างลืมตัว ลิ้นร้อนได้ใจลากเลื่อนเข้ามาถึงริมฝีปากสวยก่อนหยอกเย้าแล้วแทรกตัวลงไปรับความหอมหวานของรสจูบยามเช้า

“อืออ...” วารินครางทั้งที่ยังหลับตาพริ้มยกมือขึ้นโอบรอบลำคอหนาอย่างลืมตัว

แต่..ภูวดลไม่เคยจูบเขาแบบนี้! 

ปลายลิ้นร้อนไล่ต้อนลิ้นเล็กๆด้วยความชำนาญ วารินเคยคิดว่าเขาจะต่อต้านหากภูวดลทำกับเขาแบบนี้ แต่ตอนนี้มันกลับไม่ใช่เลยเขารู้สึกดีมาก ไม่อยากจะให้หยุดลงเลยด้วยซ้ำ

“อ๊ะ..” วารินสะดุ้งเมื่อมือแกร่งสอดเข้าไปบดบี้ยอดอกเล็กที่แข็งเป็นไตชูชันอยู่ใต้ร่มผ้าพร้อมๆกับที่อีกมือพยายามดึงกางเกงเขาลงแต่ก็ยังทำไม่ได้ วารินเริ่มปัดป่าย

ร่างสูงใหญ่ที่คร่อมอยู่ด้านบนจูบลงที่ปลายจมูกรั้นก่อนที่จะลงไปนั่งแทรกตัวอยู่ที่หว่างขาขาว วารินขยี้ตามองคนที่กำลังพยายามปลดดึงกางเกงเขาออกให้ชัดๆ

“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก”

ตึง!!!

เสียงคนตกเตียงเพราะโดนวารินถีบเข้าที่ยอดอด  ธาราธารร้องโอดโอยอยู่บนพื้นวารินรีบลุกขึ้นนั่งแล้วถดตัวจนติดพนักหัวเตียง

“โอ๊ยยย อะไรกันวะเนี่ย!” เด็กหนุ่มสบถ ขยี้หัวอย่างเสียอารมณ์

วารินที่ตั้งสติได้ก่อนรีบลุกจากที่นอนเดินไปเปิดสวิทไฟ เมื่อเห็นชัดๆว่าเป็นธาราธารที่นั่งตัวเปลือยเปล่าอยู่บนพื้นโดยที่มีเจ้าธารน้อยชูคอค้างอยู่วารินก็เขวี้ยงผ้าเช็ดตัวลงไปให้ก่อนเดินออกจาห้องไปอย่างหัวเสีย ธาราธารเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เขาไม่ได้คิดสักนิดเลยว่าคนที่เขากำลัง....เอ้อ..นั่นแหละจะกลายเป็นวารินไปได้

“มีอะไรกินบ้างอ่ะ”

ในที่สุดเด็กหนุ่มเดินออกมาในชุดนักศึกษา แสร้งถามเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น วารินที่ใบหน้ายังแดงระเรื่อไม่หายก้มหน้าก้มตาจัดวางจานอาหารลงบนโต๊ะหลีกเลี่ยงไม่สบตากับอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

ธาราธารนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เขาหยิบกาแฟขึ้นดื่มขณะสังเกตว่าอีกคนดื่มนมสีขาวเหมือนเดิมอีกแล้วไม่รู้ทำไมจู่ๆเขาถึงได้คิดไปว่า...มิน่าล่ะตัวพี่ถึงหอมกลิ่นนมอยู่ตลอด เขาไล่มองใบหน้าคนตัวเล็กโดยละเอียดตั้งแต่ไรผมเล็กๆนั่น แก้มเนียน ริมฝีปาก ปลายจมูก ซอกคอหอม ผิวพรรณที่ลื่นเนียนละเอียดคงเป็นเพราะดื่มนมทุกวันรึเปล่านะ..

“เดี๋ยวพี่จะกลับเลย ธารมีอะไรค่อยโทรไปละกันแต่วันนี้พี่ไม่เข้ามาแล้วนะ” วารินลุกขึ้นเอาแก้วตัวเองไปล้าง ธาราธารกัดแซนวิชไปแค่คำเดียวก็วางลง เขามองรูปร่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกับบ็อคเซอร์ตัวเล็กแล้วต้องกลืนน้ำลายเอื๊อก

“ไปส่งผมที่มหาลัยแล้วเอารถไปสิ เดี๋ยวตอนเย็นพี่ค่อยมารับผมก็ได้”

“ไม่เอาหรอกแบบนั้นก็ต้องขับไปขับมาพี่เหนื่อย” วารินเดินเข้ามาหยิบจานกับแก้วของธาราธารไปล้างด้วย

“แต่รถพี่มันเก่าแล้ว ขับไปมาไกลๆแบบนี้มันอันตรายนะ หรือจะซื้อใหม่เดี๋ยวพาไปซื้อวันนี้เลยดีกว่า”

“หาเงินเองให้ได้ก่อนเหอะ ยังขอเงินคุณแม่ใช้แบบนี้มีหน้าจะมาซื้อโน่นซื้อนี่ให้คนอื่นอีกหรือ”

“พี่ทราย พี่โกรธผมใช่ไหม?” เขาเดินเข้ามาซ้อนด้านหลังยกสองมือจับไหล่เล็กไว้  มือที่กำลังล้างจานหยุดชะงักทันที

“ถ้าเป็นเรื่องเมื่อเช้า ขอโทษนะ ผมละเมอมันมืดผมไม่ทันมองจริงๆ”

กลิ่นนมลอยขึ้นมาแตะจมูก  ธาราธารมองเส้นผมที่เคลียระบ่าอยู่ที่ต้นคอขาวเนียนแล้วดันรู้สึกกลางลำตัวร้อนวูบวาบขึ้นมาอีก เขารีบถอยห่างออกมาอย่างรวดเร็ว

“ด...เดี๋ยวผมต้องไปเรียนแล้ว คืนนี้จะไปนอนที่อื่นพี่ไม่ต้องแวะมาล่ะ”

วารินมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินออกจากห้องไป เขาทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟานุ่มก่อนใบหน้าเล็กๆจะก้มนิ่งรู้สึกละอายใจระคนผิดหวังที่ตนเองดันพลั้งเผลอ..ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขารู้สึกดีมากจริงๆ ธาราธารคือจูบแรกของเขาสัมผัสที่ลึกซึ้งจากปลายลิ้นนั่น ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่กลับดึงเอาความปรารถนาทั้งหมดของเขาออกมาได้

วารินถอนใจซบใบหน้าลงกับฝ่ามือเล็ก นี่เขาเป็นอะไรไปกันแน่ดันไปหวั่นไหวกับเจ้าเด็กบ้า ๆ แบบนั้น

.

.
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 7
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 12-03-2014 14:49:33
“พี่ซีคราบทรายกลับมาแล้ว”

วารินเดินผ่านมู่ลี่ที่แขวนอยู่หน้าร้านเข้ามาด้านใน สายตาสะดุดกึกอยู่ที่ร่างบอบบางที่นอนห่มผ้าอยู่บนโซฟาตัวเก่งของเขา ไหล่เนียนโผล่พ้นขอบผ้าออกมาให้พอได้มองเห็นว่าภายใต้ผ้าห่มผืนบางนั่น คือร่างกายที่เปลือยเปล่า

“มาเช้าจังนะ กับข้าวเสร็จพอดีเลย”

“ทราย?”

“ขอโทษครับพี่ซี ทรายคงมาเช้าเกินไปจริงๆ ด..เดี๋ยวทรายออกไปก่อนแล้วจะแวะเข้ามาใหม่นะครับ”  วารินหมุนตัวกลับทันทีเขาก้าวเดินออกไปไม่รีรออะไรแล้ว  “เดี๋ยวก่อนทราย จะไปไหนครับ” ภูวดลรีบตามออกมาดึงแขนเล็กไว้ “จะไปไหนเพิ่งกลับมาถึงไม่ใช่เหรอ”

วารินยืนนิ่งไม่ยอมหันกลับมามองหน้าพี่ชาย เขาเองบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ภูวดลไม่เคยพาใครมานอนค้างที่บ้านแม้แต่กับเพื่อนฝูงเขาที่วารินรู้จักก็ยังไม่เคยมีใครได้มาค้างที่บ้านนี้สักคน

 “พี่ซีครับ”

เสียงเรียกดังขึ้นจากด้านหลังทั้งภูวดลและวารินต่างหันกลับไปมอง วารินจำเด็กคนนี้ได้ทันทีเพราะเมื่อตะกี้ยังมองหน้าไม่ชัด เด็กคนที่ภูวดลรับวาดภาพนิ่งให้ คนนั้น!

“ขอโทษนะครับเผลอหลับจนเช้าเลย ไหนพี่ซีว่าเสร็จแล้วจะปลุกธิปไง...สวัสดีครับพี่” ชนาธิปพูดกับภูวดลแล้วหันมายกมือไหว้วาริน

....สนิทสนมถึงขั้นเรียก ‘พี่ซี’ .....

วารินรั้งแขนตัวเองออกจากภูวดล แล้วรับไหว้ชนาธิป

“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่เมื่อคืนมารบกวนเสียดึกดื่น ผมขอตัวเลยแล้วกันไปนะครับพี่ซี ไปนะครับพี่” ชนาธิปโบกไม้โบกมือแล้วเดินออกไป

“อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนไหม”ภูวดลเรียกถาม แต่อีกฝ่ายเพียงหันมายิ้มให้แล้วขึ้นรถจากไป  สองพี่น้องเดินเข้าบ้านวารินวางกระเป๋าสะพายลงแล้วลากโซฟาของเขากลับมาไว้ที่เดิมอีกครั้ง

“วันนี้ทรายจะเข้าไปที่โรงแรมหรือเปล่า” ภูวดลถามขึ้นเขาวางแก้วนมสดร้อนให้วาริน

“ครับ” วารินตอบเรียบ ๆ ยกนมขึ้นดื่มไม่ต่อบทสนทนา จนภูวดลนึกแปลกใจ

“หวงโซฟาหรือไง เดี๋ยวพี่ซีซื้อตัวใหม่ไว้ให้ลูกค้านั่งดีกว่า ตัวนี้น้องชายหวงนั่งไม่ได้เนอะ” เขาทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ แกล้งจี้เอวกระเซ้าเพราะเห็นอีกฝ่ายท่าทางอารมณ์ไม่ดี

“บ้า พี่ซี! ทรายจะไปหวงโซฟาทำไม” วารินหน้างอผลักเขาไปหนึ่งที แต่ก็เผลอหลุดยิ้มออกมาจนได้เพราะภูวดลเล่นพูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ภูวดลจึงดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดแล้วโยกเบา ๆ “เมื่อคืนนี้พอทรายออกไป ชนาธิปเขาก็รออยู่ที่หน้าบ้าน เห็นบอกวันอื่นไม่ว่างพี่ซีก็เลยต้องวาดให้ ทรายอย่าโกรธพี่ซีนะครับ”

“ไม่ใช่แบบนั้นครับ ทรายแค่รู้สึกแปลกใจ ทั้งที่พี่ซีไม่เคยให้ใครมาค้างที่บ้านเรา และพี่ซีก็ไม่เคยวาดภาพลักษณะนี้ให้กับใครเลย แต่ทำไมพี่ซีถึงได้รับวาดให้เด็กคนนั้น” วารินตัดสินใจถามออกไปตรง ๆ

“เมื่อคืนมันเป็นเรื่องสุดวิสัยจริง ๆ จะให้เขากลับตีสองตีสามมันก็อันตราย พี่ซีเลยปล่อยให้เขานอนต่อ ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงต้องเป็นชนาธิป ความจริงแล้วไม่มีอะไรเลยครับทราย แค่พี่ซีตัดสินใจว่าจะรับวาดให้เขามันก็เท่านั้น ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นเลย”

ภูวดลอธิบายยาวเหยียด ลูบหัววารินเบา ๆ เพื่อปลอบใจไม่ให้คนตัวเล็กกังวล วารินเป็นคนช่างพูดถ้าหากจู่ๆเงียบไปแสดงว่าต้องมีบางอย่างอยู่ในใจแน่นอน เขาจึงเลือกที่จะบอกเล่าเหตุผลและเรื่องราวทุกอย่างให้อีกคนได้รู้ วารินพยักหน้ารับเบา ๆ อย่างเข้าใจพอดื่มนมจนหมดเขาก็ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตรงไปทำงานที่โรงแรมเลยทันที



บทที่7

“อ๊าา ธารๆ ฮ..อื้มม” เด็กหนุ่มใต้ร่างครางเสียงกระเส่า

“ธ...ธารเป็นอะไรอ่ะ วันนี้ท่าทางแปลก...นะ” สองมือบรรจงลูบไล้แนวสันกรามของใบหน้าคมเข้มของคนที่กำลังเคลื่อนกายเข้าออกอยู่บนร่างกายของเขา

ทุกครั้งที่ธาราธารทำเหมือนจะจูบแต่พอก้มลงมาแล้วกลับละออกไปเสียดื้อๆ ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

“อ๊าา....ธารจูบเต้หน่อย จูบหน่อย..จูบ....”  เมื่อใกล้จะถึงปลายทางเตเต้ร้องขอ โน้มคอแกร่งลงมาใกล้ๆ ขณะที่ธาราธารกระแทกตัวถี่ยิบแต่ยังไม่ยอมก้มลงมอบจูบให้แก่คนด้านล่าง

“อ..อ๊าา..อ๊าาา.ธาร”

เมื่อส่งอีกฝ่ายจนถึงสวรรค์ ธาราธารกระแทกกายเข้าออกอีกไม่กี่ครั้งก็ตามเตเต้ไปติดๆ เขาละตัวออกทันทีลุกขึ้นปลดถุงยางอนามัยทิ้งถังขยะจากนั้นก้มลงหยิบเสื้อผ้าที่กองเรี่ยราดอยู่ตามพื้นขึ้นมาใส่ สายตาคมกริบมองดูคู่ขาตนเองนอนหอบอยู่ที่เตียง

“กลับแล้วนะ เดี๋ยวจะล๊อคห้องให้นอนไปเลยก็ได้”

เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาวางใบพันไว้ให้จำนวนหนึ่งก่อนหยิบโทรศัพท์ยัดใส่กระเป๋ากางเกงขณะสายตากำลังมองหากุญแจรถ

“เดี๋ยวสิธาร เป็นอะไรน่ะ มานอนสิพรุ่งนี้ค่อยกลับนะ เหมือนทุกทีไง”  เต้ลุกขึ้นมาดึงแขนธาราธารไว้ เขาทั้งเหนื่อยทั้งงัวเงียแต่ก็สงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่

“เกิดอะไรขึ้นหรือไงเล่าให้เต้ฟังได้นะ วันนี้ธารแปลกไปจริงด้วย ”

“เปล่าหรอก” ธาราธารก้มลงหยิบพวงกุญแจที่ตกอยู่

“ไม่เชื่อ ธารไม่เคยเป็นแบบนี้ หรือว่าไปรักใครเข้าแล้วรู้สึกผิด ที่มานอนกับเต้แบบนี้”
ธาราธารหันขวับมองหน้าคนพูดทันที “ไร้สาระ! จะเอาไหมเงินถ้าพูดมากจะเก็บคืนนะ”

“เอาดิ! ไม่ถามแล้วก็ได้ คนอุตสาห์หวังดี” เสียงบ่นงึมงำไล่หลังของคนที่รีบคว้าใบพันปึกนั้นไว้กับตัว

“จะไม่มาสักพักนะ”  เขาพูดอย่างเย็นชาแล้วเดินออกไปทันที  เสียงเขวี้ยงอะไรสักอย่างหลังบานประตูนั่น แต่ธาราธารก็ไม่ได้ใส่ใจ
เด็กหนุ่มสตาร์ทรถแล้วถอนใจ ห้าทุ่มแล้วแต่เขายังอยู่ในชุดนักศึกษา เมื่อข่มตาลงนึกย้อนกลับไปขณะกำลังทำกิจกรรมร่วมรักกับคู่ขาเมื่อครู่ มีอย่างที่ไหนพอแทรกลิ้นจูบลงไปจิตใจดันนึกไปถึงช่วงเวลาที่จูบกับวารินเมื่อเช้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขารีบถอนจูบออกมาแทบจะไม่ทัน พอตั้งสติใหม่คิดจะลองดูอีกครั้งความรู้สึกต่อต้านของร่างกายดันออกฤทธิ์พาลจะหมดอารมณ์ไปเสียดื้อๆ ทำเอาเขาต้องหลับหูหลับตาซอยถี่ยิบให้เสร็จไวๆอารงอารมณ์หายหมด

พอกลับมาถึงห้องเขาจัดการถอดเสื้อผ้าออกเกลี้ยงคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมานุ่งแล้วหยิบโทรศัพท์มากดหาวารินทันที

“ครับธาร”เสียงใสดังขึ้นที่ปลายสาย

“พี่ใช้วีดีโอคอลดิ๊”

“ห๊ะ? อะไรทำไมอ่ะ” ถึงจะถามไปแบบนั้นวารินก็ยอมจิ้มโหมดวีดีโอคอลคุยกับเขาอยู่ดี

“ทำไมยังอยู่ที่โรงแรม” ธาราธารคิ้วขมวด วารินยิ่งตกใจเมื่อเห็นเขานั่งโชว์หน้าท้องตึงเปรี๊ยะอยู่ในจอโทรศัพท์มือถือ

“ทำงานดิ มีอะไร”

“หิวข้าว” เขาตอบไปเรียบ ๆ พร้อมปรับมุมกล้องใหม่ คราวนี้ให้เห็นแค่ใบหน้ากับหน้าอกของเขาเท่านั้น

“อ้าวทำไมยังไม่กินอ่ะ ไปทำให้ไม่ได้นะวันนี้ทำงาน ธารมีธุระอะไรรึเปล่า”

วารินชักสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมาคุยโทรศัพท์กับเขาเดี๋ยวโชว์ซิกแพ็ค เดี๋ยวโชว์ไหล่ เดี๋ยวโชว์หน้าอกฟิตๆนั่น 

“ไม่มีหรอกแค่นี้นะ อ้อ..ค่อยเจอกันวันศุกร์เลยช่วงนี้ผมเรียนตลอดพี่ไม่ต้องแวะมาก็ได้”

“ครับผม ช่วงนี้งานที่โรงแรมก็ยุ่งมีจัดเลี้ยงรับรองตลอดเลยพี่เองก็ไม่ค่อยจะว่าง ธารดูแลตัวเองไปก่อนนะครับ”  วารินส่งยิ้มแป้นแล๊นหน้าอย่างใหญ่ลงไปที่หน้าจอ ทำเอาธาราธารกลั้นขำอยู่คนเดียว พอวางสายเสร็จเขาก็เดินผิวปากอารมณ์ดีเข้าห้องน้ำไป
สายน้ำเย็นฉ่ำภายใต้ฝักบัวลาดรดลงบนศีรษะได้รูป  เขายันแขนข้างหนึ่งไว้กับผนังแล้วเริ่มคิดวนเวียนไปมา

เขาโทรหาวารินทำไม?

เขาบอกให้อีกฝ่ายใช้วีดีโอคอลทำไม?

เขาจัดมุมกล้องแบบนั้นทำไม?

แล้วเขาอารมณ์ดีเรื่องอะไร? แค่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายอย่างนั้นหรือ?

“อ่าา....พี่ทราย...”

แทบไม่อยากเชื่อกับเสียงครวญครางของตนเองขณะที่มือขวารูดรั้งแก่นกายเร่าร้อนด้วยความรวดเร็วประหนึ่งไม่ได้เอาออกมาเป็นอาทิตย์ทั้งที่เพิ่งทำไปไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งเลอะเปรอะผนังมากมายเสียจนเขาตกใจ พอๆกับอารมณ์ที่พีคสุดขีดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เมื่อนึกไปถึงช่วงเวลาที่ได้จูบไซ้ชอนไชซอกคอหอมหวานของวารินเมื่อเช้า 

“อาา..” ธาราธารแทบคลั่งสะโพกสอบเกร็งจัดขณะมือยังสาวแท่งร้อนเข้าออกไม่ยอมหยุด ดวงตาคมหลับตาพริ้มแล้วจินตนาการถึงใบหน้าเล็กนั่น รอยยิ้ม  เสียงหัวเราะ เรียวลิ้นนุ่มนิ่มที่หลบหลีกเขาไปมาอยู่ในโพรงปากอุ่นร้อนนั่น ริมฝีปากเล็กๆที่อ้าค้างเวลาที่เขาทำให้ตกใจ และเรียวปากนั่นกำลังเผยอรอรับการปลดปล่อยของเขาอยู่  เขาหลับตาแน่นแอ่นสะโพกเด้งเข้าเด้งออกขณะที่มือยังขยับสาวไม่ยอมหยุดเดี๋ยวช้าเดี๋ยวเร็วดึงเวลาเพื่อให้ร่างกายรับความสุขสมเต็มที่

“พี่ทรายยย....อืมม...อ่าา...”

เสียงทุ้มต่ำครางยาวเรียกชื่ออีกคนไม่ขาดปาก เขากระตุกสองสามทีก่อนทรุดตัวนั่งลงที่ขอบอ่าง ใบหน้าคมซบลงที่ฝ่ามืออย่างสิ้นเรี่ยวแรง

เขาจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้

เขาจะต้องจัดการความรู้สึกตัวเองให้จบก่อนที่วารินจะมาอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้

.
.

“นี่! ไม่คิดจะทักกันจริงอ่ะ”

แรงสะกิดเรียกจากด้านหลังทำให้ธาราธารหันกลับไปดู

“นั่งด้วยคนสิ” ชนาธิปเดินอ้อมลงมาอีกขั้นเพื่อจะมานั่งฟังบรรยายข้างกันกับธาราธาร

“ธาร นายเก่งรึเปล่า” ตากลมโตกวาดมองสมุดหนังสือที่อยู่บนโต๊ะของอีกฝ่ายอย่างประเมิน

“ไม่รู้สิ” ธาราธารตอบนิ่งๆ

“เราชอบนายนะเป็นตัวของตัวเองดี ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำอันไหนที่ไม่อยากทำก็กล้าที่จะปฏิเสธออกมาตรงๆ”

ชนาธิปส่งยิ้มกว้างขณะกำลังจะพูดต่ออาจารย์ประจำวิชาก็เดินเข้ามาพอดี พอถึงช่วงพักเบรกชนาธิปยังหาเรื่องคุยกับอีกฝ่ายไม่หยุดจนธาราธารทนไม่ไหวเขาขอให้ฟ่างเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ และเป็นรูมเมทในหอพักหลอกๆของเขาเข้ามาสลับนั่งแทน

“โหเบื่อเราขนาดนั้น?” ชนาธิปเบะปากแอบบ่น

“ธารมันเป็นคนเข้าใจยากน่ะ นายไม่ต้องไปสนใจมันหรอก”ฟ่างปลอบ

“งั้นเราคุยกับนายแทนก็ได้ เราชื่อธิป ชนาธิป SCCH นะนายอ่ะ”

“เราข้าวฟ่าง เรียกแค่ฟ่างก็ได้  SI เหมือนธาร เราคุยได้แต่ตอนนี้นะพอเริ่มเรียนแล้วเราไม่คุย”

“ครับๆทราบแล้วคราบคุณฟ่าง”

ชนาธิปคุยกับข้าวฟ่างแต่สายตายังคงแอบมองธาราธารเป็นระยะ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจเขายิ่งรู้สึกท้าทายขึ้น  หลังเรียนเสร็จชนาธิปรีบวิ่งตามธาราธารมาที่รถ

“นี่ธารเดี๋ยวก่อนสิ ขายาวจริง ๆ เราเดินตามไม่ทันนะเนี่ย แฮ่กๆๆ” เขาทั้งพูดทั้งหอบหายใจซ้ำร้ายหนังสือสมุดที่อยู่ในนั่นอีก

“ธารมีเรียนต่ออีกรึเปล่า”

“มีอีกทีตอนเย็น หมดธุระแล้วใช่ไหม หลีก!”ธาราธารทำท่าจะก้าวขึ้นรถแต่ชนาธิปรีบเข้ามาดึงแขนไว้

“พาเราไปด้วยสิ ธารจะไปไหนน่ะ”

ธาราธารใช้สายตามองดูชนาธิปอย่างพิจารณา คนๆนี้นั่งมองเขามาตั้งแต่วันปฐมนิเทศแม้กระทั่งตอนนั่งเรียนตากลมๆคู่นั้นยังเอาแต่จ้องมองเขาไม่ห่าง สายตาที่มองมาทำท่าทางอย่างกับรู้จักคุ้นเคยกันมานานอย่างไรอย่างนั้น

“ทำไม?”

เมื่ออีกฝ่ายถามขึ้นทั้งสั้นทั้งห้วน ชนาธิปรีบหลบสายตาคมนั่นทันที

“อ....อะไรเหรอ”

“ทำไมนายต้องมาตามติดฉัน เรารู้จักกัน?”

“ธารทำไมพูดแบบนี้ก็เราเป็นเพื่อนกันแล้วไงไม่รู้ล่ะวันนี้ธารไปไหนธิปไปด้วย”

ชนาธิปไม่พูดเปล่าเขาเปิดประตูรถสปอร์ตคันเล็กของธาราธารแล้วขึ้นไปนั่งรอทันที ธาราธารได้แต่ส่ายหัวก่อนก้าวขึ้นรถปิดประตูอย่างดังแล้วขับตรงออกไป

รถเลี้ยวเข้ามาจอดลงหน้าร้านอาหารในซอยเล็กด้านหลังมหาวิทยาลัย หอในของนักศึกษามากมายตั้งอยู่ในซอยแห่งนี้ ธาราธารเดินเข้าไปนั่งลงที่โต๊ะประจำทันที

“ว่าไงครับคุณหมอธาร วันนี้เปลี่ยนเด็กอีกแล้วดิ่”  แจ๊บEG เด็กหนุ่มเจ้าของร้านยังคงคอนเซปปากดีเหมือนเดิม เขายื่นเมนูให้กับชนาธิปที่เพิ่งนั่งลงข้างๆธาราธาร

“แหมๆวันก่อนเล่นวัยผู้ปกครอง วันนี้กลับมาควงรุ่นเดียวกันแล้วโว๊ย เจ๋งว่ะสมแล้วที่เป็นรุ่นน้องกู” แจ๊บลากเสียงกระซิบกระซาบแต่สายตาจดจ้องอยู่ที่คนตรงข้ามธาราธาร และเสียงพูดเขาดังมากจนชนาธิปยังเหล่มอง

“พูดมาก  พี่เหอะไม่ไปเรียนรึไงมากี่ทีก็เห็นอยู่เฝ้าร้านนะ หรือว่าลาออกแล้ว”

“ปากหมาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน กูไม่ได้ลาออกเว้ยแต่อาทิตย์แรก โดด! ตกลงมึงกินอะไร? แล้วเนี่ยๆเขากินไรอ่ะสั่งให้เขาดิมึงไอ้ธาร” แจ๊บชี้ๆไปที่ชนาธิป

“อะไรก็ได้เอามาเหอะ”

“เออไอ้อะไรก็ได้ของมึงเนี่ยมันยากยิ่งกว่ารายชื่ออาหารทั้งหมดในเมนูกูอีกนะ แล้วของน้องล่ะครับรับเป็นอะไรดี” แจ๊บแจกยิ้มการ
ค้าให้ชนาธิปเต็มที่

“เอาเหมือนของธารก็ได้ครับ”

“แหมๆหวานกันจังนะ ระวังไว้หน่อยล่ะไอ้ธารมันเจ้าชู้วันก่อนนะมันยังควง....”

“พี่แจ๊บไปได้แล้วผมหิว”

ธาราธารดักคอขึ้น เขาขยับเน็กไทด์คลายออกเล็กน้อย ชนาธิปเองก็พลอยทำตามไปด้วย เขาเองก็ร้อนเหมือนกันรู้สึกแอร์ร้านนี้ไม่เย็นเลยสักนิด

“นี่วันก่อนพาใครมาอ่ะ แฟนเหรอ” ชนาธิปชะโงกหน้าเข้ามาถามใกล้ ๆ ธาราธารเหลือบมองคนพูดนิดหน่อยแล้วหันหน้าไปทางอื่น
ไม่ตอบ

“อยากเห็นจังเลยน้า สวยป่ะ”

เขามองดูท่าทางลอยหน้าลอยตาของชนาธิปแล้วดันนึกไปถึงวาริน ดวงตากลมโตใสแจ๋วเหมือนเด็กๆ ปากเล็กๆขยับเอื้อนเอ่ยเดี๋ยวยู่เดี๋ยวเม้มแน่น ใบหน้าหลากหลายอารมณ์เวลาที่ต่อบทสนทนากับเขา

....ตลก....

“สวยอ่ะดิ ยิ้มใหญ่เชียวนะ” พอถูกแซวมาแบบนี้ธาราธารหุบยิ้มแทบไม่ทัน เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเผลอยิ้มออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่

...นี่มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว...

“นายมีเรียนอีกตอนไหน” หลังทานอาหารกันเสร็จธาราธารถามขึ้น

“พร้อมธารนั่นแหละ แล็บเคมีตอนเย็น ทำไมเหรอจะชวนไปไหนรึไง”

“เปล่า  ฉันจะไปส่งนายตอนนี้เลย”

“ไม่เอาๆ ธิปบอกแล้วไงวันนี้ธารไปไหนธิปไปด้วย” ชนาธิปรีบวิ่งขึ้นไปนั่งบนรถใส่เข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยเมื่อเห็นว่าธาราธารจะทิ้งตนไว้

ธาราธารเดินเข้าไปลาเด็กหนุ่มเจ้าของร้านเขาก็เดินมานั่งในตำแหน่งคนขับทันที

“จะกลับไปนอน แน่ใจเหรอว่าจะไปด้วย”

“เอาดิ ธิปเองก็ง่วงเหมือนกันไปนอนที่ไหนกันดี ห้องธารเหรอ หรือจะไปห้องธิป”

เขาตีไฟเลี้ยวแล้วจอดลงข้างทางหันมามองชนาธิปอย่างจริงจัง “นายพูดแบบนี้รู้ไหมฉันตีความหมายว่าอะไร”

“อ...อะไร” ชนาธิปทำหน้างง

“ช่างเถอะ เดี๋ยวจะไปส่งนายก่อนละกัน”

ธาราธารถอนใจเฮือกใหญ่ เขายังไม่อยากมีสัมพันธ์พิเศษกับคนแปลกๆที่จู่ๆก็มาตามติดเขา ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียวซ้ำยังต้องเรียนด้วยกันไปอีกเป็นปี ชายหนุ่มเลี้ยวรถกลับเข้าเขตอาคารเรียน

“ธารไม่เอานะก็บอกแล้วไงวันนี้ธารไปไหนเราจะไปด้วย ธารให้ธิปไปด้วยนะๆๆ ธิปยอมตามใจธารทุกอย่างเลย” คราวนี้ชนาธิปไม่พูดเปล่าแล้วเขาโน้มตัวเข้ามาซบต้นแขนธาราธารไว้แน่นตามประสาเด็กขี้อ้อน

“ก็ได้ๆธิปสารภาพแล้วธิปแค่อยากให้ธารสอน ธิปอยากเป็นให้ได้อย่างธารกล้าคิดกล้าทำกล้าที่จะปฏิเสธเวลาที่ชอบหรือไม่ชอบอะไร ธิปชื่นชมธารมาตั้งแต่วันที่เราเจอกันวันแรกแล้ว คิดว่าถ้าอยู่ใกล้ๆธารแล้วธิปอาจได้นิสัยแบบนี้มาไว้บ้างอยากจะกล้าที่จะปฏิเสธ....ใครต่อใครบ้าง”

ชนาธิปพูดเสียงอ่อนและเริ่มขาดหายในตอนท้าย  เขาอ่านสายตาที่อีกฝ่ายก้มมองลงดูเขาอย่างคลางใจออกเพราอย่างนั้นเขาจึงจำ
ใจสารภาพออกไป เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เขาชื่นชม

“ธารเป็นไอดอลของธิปเลยนะ ธิปน่ะ......”

“ลงไป”  รถจอดลงที่หน้าตึกเดิมธาราธารพูดเสียงเย็นชา และด้วยสีหน้านิ่งๆของเขาทำเอาชนาธิปกลืนน้ำลายอึกใหญ่ไม่กล้าต่อบทสนทนาอีก แต่ร่างเล็กกว่าก็ดื้อดึงจะนั่งอยู่บนรถต่ออยู่ดี

“ถ้านายยังพูดไม่รู้เรื่อง อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนนะ”

เขาทิ้งเวลาให้อีกฝ่ายนานถึงสิบนาทีชนาธิปก็ยังไม่ยอมก้าวลงไป ธาราธารกระชากเกียร์แล้วขับออกถนนใหญ่อย่างรวดเร็วอีกครั้ง

.....ในเมื่อพูดดีๆไม่ชอบ......

“จะอาบน้ำก่อนไหม” ทันทีที่ไขประตูห้องพักเข้ามาธาราธารก็พูดขึ้น ชนาธิปถึงกับยืนอ้าปากค้าง

“ท....ทำไมไม่ไปที่ห้องธารล่ะนี่มันโรงแรมไม่ใช่รึไง” หนำซ้ำยังเป็นโรงแรมจิ้งหรีดเล็กๆข้างทาง ชนาธิปมองดูธาราธารที่เริ่มดึงเนคไทออกแล้วปลดกระดุมเสื้อตัวเองลงทีละเม็ด ทีละเม็ด

“ล...แล้วทำไมต้องอาบน้ำ” เขาเริ่มหน้าเสียหันซ้ายหันขวามองกระจกแผ่นใหญ่บนฝ้าเพดานและผนัง

“งั้นก็ไม่ต้องอาบทำเลยแล้วกัน”

ธาราธารนั่งลงที่ปลายเตียงดึงแขนชนาธิปกระชากเข้าหาตัวแล้วกดลงที่เตียงใหญ่ “ไม่จูบนะ”เสียงทุ้มเรียบสนิท ชนาธิปตาตั้งเมื่อธาราธารเริ่มฝังปลายจมูกโด่งลงที่ซอกคอเขา มือขาวสะอาดสาละวนอยู่กับกระดุมเสื้อของคนตัวเล็กอย่างชำนาญ
“ธาร!” เด็กหนุ่มเสียงสั่นคว้าจับข้อมืออีกฝ่ายไว้แน่น ชนาธิปจ้องมองคนที่คร่อมอยู่บนร่างเขาอย่างไม่เข้าใจ

“จะทำอะไร? ธิปเป็นผู้ชาย ธารเองก็...”

“รู้อะไรไหม?  คนบางคนแค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นประเภทไหน ยกตัวอย่างเช่น ‘นาย’ หลงรักฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยสิท่า”
 เขาลากเสียงยิ้มๆที่ริมหูเล็กนั่น ตั้งใจส่งเสียงดูถูกเต็มที่ ขณะที่ตาก็หรี่มองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน

......คนอย่างนายมันดูง่ายชะมัด ชื่นชมฉันเสียขนาดนี้คงอยากนอนกับฉันจนตัวสั่นล่ะสิ.....

“ไหนบอกว่าอยากอยู่ใกล้ๆฉันไง ถ้าทำแบบนี้จะได้อยู่แนบชิดติดกันเลยนะ หรือว่าไม่อยากอยู่ใกล้ฉันแล้ว”

“ต...แต่เราเป็นเพื่อนกัน ธารเป็นเพื่อนธิป เรา....”

“เซ็กส์เฟรนไง จะเอาหรือไม่เอา นายเลือกเองเถอะ” ธาราธารเท้าแขนดันตัวให้สูงขึ้น

เซ็กส์เฟรน? ชนาธิปทวนคำในใจ 

ธาราธารพูดไม่ผิดเขาหลงรักชายหนุ่มตั้งแต่วันปฐมนิเทศนั่นแล้ว เพียงแต่เขาแค่ปลอบใจตัวเองว่าทุกอย่างที่เขาคิดเป็นเพียงแค่ความชื่นชม ปลาบปลื้มรูปกายภายนอกของอีกฝ่าย ถึงแม้ว่าจะรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ เวลาที่มองเห็นใบหน้าคมคายเฉยเมยกับทุกสิ่งรอบตัวไม่ใยดีกับสิ่งที่คนอื่นๆหยิบยื่นให้ราวกับว่าไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าสิ่งที่เจ้าตัวต้องการจริงๆเท่านั้น ชนาธิปรู้สึกว่าธาราธารเป็นคนที่มีเสน่ห์เอามากๆ

“ธาร....”  เขาเรียกอีกฝ่ายด้วยเสียงที่เบาหวิว ยกสองมือคล้องคอคนที่คร่อมทับตัวเขาเอาไว้

.....เขาตัดสินใจแล้ว....

ชนาธิปอยากจะเข้าใกล้คนๆนี้มากขึ้นไปอีก   เขาคิดว่าถ้าตนเองได้เป็นส่วนหนึ่งของธาราธารแล้วล่ะก็ ธาราธารจะเปิดใจให้เขาได้เข้าไปใกล้ตัวตนที่แท้จริงยิ่งขึ้นบ้างไหม

“ธาร...” เสียงเบาหวิวเรียกขึ้นอีกครั้ง ชนาธิปหลับตาลง เผยอปากคิดรอรับจูบด้วยความเต็มใจ

“นายนี่มันใจง่ายจริงๆนะ”

หัวใจดวงเล็กหล่นวูบ จู่ๆธาราธารผละออกจากตัวเขา แล้วก้มลงไปฉวยเอาเนคไทหยิบเอาพวงกุญแจที่อยู่บนโต๊ะเดินออกจากห้องไปเสียดื้อๆ

ชนาธิปรีบวิ่งตามออกมายังติดกระดุมเสื้อไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ ธาราธารนั่งรออยู่บนรถก่อนแล้ว

“ท...ทำไม ทำไมถึงไม่ทำล่ะ” ถึงเขาจะอายแต่ก็อยากรู้

“ยังไม่คิดจะเอาเพื่อนตัวเองทำเมียหรอก”

ธาราธารตอบเรียบๆ เขาเลี้ยวรถเข้าเขตมหาวิทยาลัยอีกครั้งแล้วส่งชนาธิปลงในจุดที่อีกฝ่ายชี้บอก

.

Tbc.
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6-7
เริ่มหัวข้อโดย: Serioz ที่ 12-03-2014 15:38:19
อ๊ากกกธารอย่าเอาเพื่อนะเว้ย
เมียนายคือวาริน วารินนนนนน :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6-7
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 12-03-2014 18:02:41
ชนาธิปนี่ลูกคนละแม่กับธารปะ
ขวัญข้าวต้อวขอโทษเธอจริง
แต่เชียร์ซีกับธิปน่ะ
ธารกดเลยเถอะถ้าจะขนาดนี้ :katai4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6-7
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 12-03-2014 18:06:12
อืม... ธาร นายแรงได้ใจจริง ๆ .. แต่ก็มีสติเยี่ยมมาก ..  o13
ปล่อยนายธิปไว้งั้นแหละ 555
โทรหาพี่ทราย แล้วชวนไปหาอะไรอร่อย ๆ กินดีกว่านะ ..
คิดถึงพี่เค้าใช่มั้ยล่ะ .. พี่ทรายน่าร๊ากกกก น่าแกล้งที่สุด!! ..  :hao3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6-7
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 12-03-2014 18:54:20
นี่นายธาร ช่วยสงวนเนื้อตัวเก็บไว้ให้ พี่ทรายเขาบ้างไรบ้างเถอะนะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6-7
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 12-03-2014 19:52:46

ธารนายทำดีมาก....

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6-7
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 12-03-2014 19:59:59
นึกว่าจะทำจริงๆซะอีก  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6-7
เริ่มหัวข้อโดย: หยกกลม ที่ 12-03-2014 21:16:31
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6-7
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 13-03-2014 00:24:53
มีแววรักสี่เส้านะเนี่ย  :katai1:

นี่ธารไม่รู้เหรอว่านั่นน่ะน้องคนละแม่
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6-7
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 13-03-2014 05:38:51
ตัดสินใจไม่ทำอะไรชนาธิปอย่างนี้ จะถือว่านายไม่ได้เลวร้ายมากนะธาราธาร
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[12/03/57] บทที่ 6-7
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-03-2014 12:20:06
เก็บตัวเก็บใจไว้ให้พี่ทรายแล้วล่ะสิ :z1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 13-03-2014 14:16:48
บทที่ 8

ตกดึกของวันนั้นธาราธารแวะไปที่  'แยงซีเกียง'  ร้านประจำ เขาพากี้เด็กสาวพาร์ทไทม์ที่คุ้นเคยกัน กลับไปค้างที่โรงแรมด้วย

“ฮ..อ๊าา ธาร..ซี๊ดส์...”

กี้ซู้ดปากด้วยความเสียวสุดยอดหลังธาราธารส่งเธอถึงสวรรค์ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ บทรักที่ต่อเนื่องและยาวนานของเขาทำให้เธอติดใจเขาเป็นพิเศษไม่ว่าเรียกหาเมื่อไหร่กี้สละเวลาให้อย่างไม่มีบ่น ร่างกายแข็งแกร่งพลิกแพลงบทรักท่าแล้วท่าเล่าโดยที่กี้ยอมเป็นผู้ตามให้อย่างว่าง่าย จะให้ขึ้น ให้นั่ง ให้ตั้งเข่า ให้ขย่ม เธอบริการดีไม่มีตก กี้เป็นผู้หญิงที่ทำเรื่องอย่างว่าได้ถึงอกถึงใจมากถ้าเทียบกับผู้หญิงคนอื่นที่ธาราธารเคยเจอมา ดังนั้นหากจะใช้บริการผู้หญิงเมื่อไหร่เขาจะเรียกกี้ทุกครั้ง

ธาราธารถอนกายออกอย่างระมัดระวัง เขาปลดถุงยางอนามัยที่อัดแน่นไปด้วยน้ำสีขาวขุ่นทิ้งลงถังขยะเหมือนเช่นทุกครั้ง ไม่ว่าจะหลับนอนกับใครชายหรือหญิง เขาไม่เคยบริการใครด้วยความสดเลยสักครั้ง

เพราะเขาไม่ได้รัก...เขาจึงไม่แคร์...และเย็นชากับทุกคนเสมอ

“ธารเป็นอะไร”

กี้เดินลงมาที่หน้าเตียงเธอเกาะแขนธาราธารไว้อย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าจู่ ๆ ชายหนุ่มคนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ต้องสองรอบเป็นอย่างต่ำดันมาหยุดกิจกรรมบนเตียงทุกอย่างแล้วมานั่งกุมขมับอยู่ข้างเตียงแทน

“เปล่าหรอก..ว่าจะกลับแล้วน่ะกี้ไปอาบน้ำสิ”ธาราธารถอนใจหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวม

“ธารเป็นอะไรบอกกี้ได้นะ เรารู้จักกันมานานแล้วถึงกี้จะเป็นอย่างนี้แต่กี้เก็บความลับเก่งนะ ธารรู้จักกี้ดีนี่” ความจริงแล้วกี้อายุมากกว่าธาราธารถึงสองปีเธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง แต่เธอมักทำตัวกลมกลืนกับลูกค้าเพราะฉะนั้นหลายคนจึงมักคิดว่าเธอกับคนที่เธอเดทด้วยอายุเท่าๆกันเสมอ

“มีอะไรปรึกษาได้ กี้ไปอาบน้ำออกมาธารค่อยๆเล่าให้ฟังนะเดี๋ยวกี้ช่วยรับฟังไว้เอง”

เธอยกมือลูบหลังธาราธารอย่างปลอบประโลม ถึงแม้บทรักวันนี้จะเร่าร้อนแต่เธอก็ไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มมีเรื่องบางอย่างในใจ ขณะธาราธารบรรเลงบทรักโถมเข้าใส่เธอนั้นจิตใจเขาไม่ได้อยู่กับเธอเลยด้วยซ้ำ ธาราธารไม่มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนทุกๆครั้ง ไม่มีคำพูดหยอกเย้าให้เธอได้อับอายจนหน้าแดงตัวแดงเหมือนแต่ก่อน นี่ยังไม่รวมถึงวันนี้ตลอดมาเขาไม่ยอมจูบปากเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว

เมื่อรถมาจอดส่งเธอที่หน้าร้าน กี้ยกมือไล้แก้มเขาอย่างเอ็นดู ธาราธารเอียงหน้ามาแล้วคว้าจับมือเรียวสวยที่แต้มแต่งด้วยสีทาเล็บสีสดนั้นไว้

“กี้ว่าผิดไหม ถ้าผมจะชอบคนที่เขาอายุมากกว่าผมเยอะๆ”

“หืมม ชอบรุ่นพี่?  เยอะกว่ากี่ปีล่ะ สองปี สามปี ห้าปี กี้ว่าไม่มีปัญหาหรอกนะ ขอแเค่เขายังโสดก็พอแล้ว”

“สิบสองปี” ธาราธารตอบเสียงเรียบ

“สิบสองปีเชียวเหรอ!?  งั้นก็รุ่น...” กี้ทวนคำกำลังจะหลุดปาก

“รุ่นน้องแม่ไง น้า อา อะไรเทือกนั้นน่ะ” เขาเอนหลังพิงที่พนักยกสองมือเสยผมถอนใจออกมาเฮือกใหญ่

“ธาร กี้ว่าธารคิดดูดีๆดีกว่า บางทีมันอาจไม่ใช่รักชอบหรอก ธารอาจจะแค่ชื่นชมเห็นว่าเขาดูดีแค่นั้นก็ได้ คิดว่าเขาเหมือนคุณแม่อะไรแบบนี้ไหม มันจะเป็นไปได้ไงธารเป็นเด็กหนุ่มอายุเพิ่งจะสิบแปดเองนะแถมรูปร่างหน้าตาเงินทองมีครบหมดทุกอย่าง อย่าตัดอนาคตตัวเองแบบนั้นสิ”


....แอบชอบคนแก่ อยากจะคบกับคนแก่....


ธาราธารเหยียดยิ้มให้กับตัวเองอย่างสมเพช เขาเองยังไม่อยากจะเชื่อเลย สองวันมานี่เขาลองนอนกับทั้งชายทั้งหญิงคนที่เขาคิดว่าดีที่สุดเด็ดที่สุด แต่ก็ไม่ทำให้เขาสมใจอยากเลยสักครั้งทั้งที่แต่ก่อนระดับเต้กับกี้นี่จัดว่าเด็ดสุดแล้ว พอลองจินตนาการถึงวารินเขาแทบสำลักความสุข ไม่ว่าจะนอนกับใครทำไมเขาคิดถึงแต่ใบหน้าและร่ายกายของวารินตลอด อารมณ์ที่กำลังสุขสมราวกับทำนบกำลังจะแตกทว่ากลับต้องพังครืนลงทันทีที่เหลือบไปมองใบหน้าของคนที่ร้องครวญครางใต้ร่างกายเขาแต่ไม่ใช่ใบหน้าของคนที่เขาอยากจะเห็น

....เขาอยากเห็นสีหน้าตอน ‘ถึง’ ของวาริน...

....อยากเห็นผิวกายเนียนละเอียดแดงเป็นสีเพลิงเวลาที่เขาปรนเปรอความสุขสมให้จนหยาดล้น...

...อยากเห็นสะโพกมนบิดเร่าๆแอ่นกายโยกไหวไปมาตามบทรักที่เขาส่งให้เล่นในแต่ละท่า.....

...ที่สำคัญ ‘เสียงนั่น’ เขาอยากได้ยินเสียงครางกระเส่าเรียกชื่อเขาของคนๆนี้.........................................พี่ทราย.

แค่คนๆนี้เท่านั้น

.
.

“สวัสดีครับอาม่า”ชนาธิปยกมือไหว้อาม่าแม่ของวิลาสินีคุณแม่ของเขา วันนี้อาม่าจะมาเยี่ยมที่บ้านเขาจึงต้องกลับมาพักที่บ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“อาชนาธิปลื้อมานั่งข้างอั๊วเร็วเข้า อั๊วคิดถึงลื้อมากๆเลยคิดถึงที่สุดดูนี่ๆอั๊วมีอะไรมาฝากลื้อด้วยนะลื้อต้องชอบแหงๆเลย”

อาม่าล้วงกุญแจรถยุโรปคันใหม่ส่งชนาธิปเมื่อเช้าเธอไปโชว์รูมรถชี้ๆแล้วรูดจ่ายแค่นั้นรถสีดำใหม่เอี่ยมก็คร้านจะมาจอดลงที่บ้านของหลานชายเธอได้อย่าง่ายๆ

“ขอบคุณมากครับอาม่า” ชนาธิปยกมือไหว้ขอบคุณทั้งที่เขาไม่อยากได้สักนิดแต่ก็จำใจต้องรับไว้ ของฝากจากอาม่าไม่รับไม่ได้ แม่เขาเคยบอกไว้ว่าอย่างนั้น

“สำหรับหลานสุดที่รักอย่างลื้อแค่นี้มันน้อยตายชัก  แล้วนี่สามีลื้ออาทัตพลไปไหนซะล่ะ”เธอถามหาพ่อของชนาธิป

“คุณทัตเขายุ่งน่ะค่ะคุณแม่ งานเขาเยอะ” วิลาสินีตอบคุณแม่ของเธอท่าทางอึดอัด

“อาทัตพลอีก็เหลือเกินชอบหายไปวันที่อั๊วมาเยี่ยมพวกลื้อๆอยู่เป็นประจำ นี่ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะหลบหน้าอั๊วหรอกนะ”ทัตพลขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเขยที่ไม่ค่อยถูกกับแม่ยายนัก แต่เขาก็เป็นคนมีความรับผิดชอบและทำงานดีมาก

“ทำตัวยุ่งตลอดจนไม่มีเวลาให้ลูกเมียแบบนี้ไม่ค่อยดีน่าลื้อนี่ล่ะก็อบรมสามีดีๆซี่สามีเราๆต้องเลี้ยงให้เชื่องสมบัติพัสฐานก็ของเราทั้งนั้นแค่ให้เขาเป็นคนบริหารก็พอ ส่วนเรื่องเงินลื้อยังเป็นคนเก็บเหมือนเดิมใช่ไหม”

วิลาสินีพยักหน้าเบาๆเรื่องในครอบครัวบางครั้งเธอก็พูดไม่ออก หลังเดินออกไปส่งคุณแม่เธอขึ้นรถออกไปเธอก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมา

“คุณแม่!” ชนาธิปรีบเข้ามาประคองพาเธอไปนอนที่โซฟาใหญ่ เด็กรับใช้รีบหายาดมยาหม่องมาประเคนให้

“ช่วงนี้คุณแม่ไม่ค่อยได้นอนเหรอครับ” ชนาธิปสังเกตรอยคล้ำใต้ตาของหญิงสาวว่าค่อนข้างมากกว่าปกติ

“ธิป พ่อเขายังไม่กลับเลยลูก” วิลาสินีเสียงอ่อนมองหน้าลูกชายเหมือนคนหมดอาลัย

“คุณพ่อไม่กลับบ้านมากี่วันแล้วครับ คุณแม่คอยคุณพ่อมาตลอดเลยเหรอ แล้วคุณพ่อรู้ไหมครับ”

เขาถามอย่างเป็นห่วง วิลาสินีมักจะเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เขายังเด็ก ทัตพลพ่อของเขาเป็นผู้ชายที่บ้างานถ้าได้ทำงานแล้วแม้กระทั่งลูกเมียก็ลืมหมด ครั้งหนึ่งคุณแม่เขาไปประชุมที่ต่างประเทศคุณพ่อทำงานจนลืมไปรับเขากลับจากโรงเรียนจนกระทั่งคุณครูพาเขาไปส่งให้ที่บ้านอาม่า อาม่าด่าว่าพ่อของเขาอย่างรุนแรงและไม่เคยญาติดีกันอีกเลยตั้งแต่นั้น

“คุณแม่อย่าคิดมากนะครับเดี๋ยวธิปโทรคุยกับคุณพ่อให้

“จริงนะลูก ถ้าธิปเป็นคนโทรคุณพ่อเขาต้องรีบกลับมาแน่”วิลาสินียิ้มกว้างอย่างมีความหวัง ชนาธิปโทรหาพ่อของเขาแค่เพียงชั่วโมงเศษท่านก็กลับมาถึงบ้านทันที

“พ่อครับมาแล้วเหรอ”

“กลับมาเมื่อไหร่เรา” ทัตพลถามนิ่งๆ

“เมื่อเย็นครับคุณย่าท่านมาหา”ทัตพลพยักหน้ารับรู้เบาๆ เขาถอดเสื้อนอกออกวิลาสินีรีบมารับไปส่งให้เด็กรับใช้เอาไปเก็บ

“ไหนลูกว่าคุณไม่สบาย หายแล้วรึไง” เขานั่งลงดื่มน้ำเย็นเฉียบจากแก้ว

“คุณแม่รอคุณพ่ออยู่น่ะครับ สงสัยอยากให้คุณพ่อเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนมั้ง”

ชนาธิปพูดล้อเลียนเขาแอบมองหน้าวิลาสินีที่แดงก่ำแล้วยิ้มออกมา คุณแม่เขาจะมีความสุขทุกครั้งที่คุณพ่ออยู่บ้าน เขาดูออกว่าคุณแม่รักคุณพ่อมากมายเหลือเกินเสียแต่คุณพ่อเขาเป็นคนเย็นชามากเกินไป

“ไม่ใช่เด็กแล้วนะคุณ”

ถึงเขาจะพูดแบบนั้นแต่ก็ฉวยข้อมือขาวผ่องของวิลาสินีพาขึ้นข้างบนไปด้วยกัน ชนาธิปมองภาพนั้นอย่างยิ้มแย้ม

“คุณพ่อคุณแม่ครับงั้นวันนี้ธิปกลับไปนอนห้องนะพรุ่งนี้ขี้เกียจขับรถแต่เช้า  ไกล”

เขาบอกพ่อกับแม่ไว้ก่อนขับรถคันใหม่ที่เพิ่งได้มากลับคอนโดส่วนตัวที่คุณแม่ให้เป็นของขวัญเนื่องในโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้

.
.

เสียงโทรศัพท์แผดลั่นอยู่หัวเตียง ธาราธารขมวดคิ้วอย่างเสียอารมณ์คนกำลังนอน เขาตะปบมือสะเปะสะปะควานหาต้นเสียงด้วยความงัวเงีย  มันเสียงเงียบไปสักพักกลับแผดลั่นขึ้นอีก เขามุดหน้าลงใต้หมอนปล่อยให้มันดังๆหยุดๆจนสุดที่จะทน

“วะ!”

เขาสบถ เอื้อมมือไปคว้าเครื่องรับโทรศัพท์แล้วเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ไยดี ตั้งใจจะนอนต่อให้หลับแต่ในเมื่อรู้สึกตัวแล้วก็ยากที่จะนอนต่อได้อีก ร่างเปลือยงดงามสมชายลุกขึ้นยืนอวดส่วนสูงร้อยแปดสิบกว่าๆ ธาราธารอายุเพิ่งจะสิบแปดเท่านั้นแต่ร่างกายเขาสูงใหญ่ผิวพรรณสวยงามแตกต่างจากเพื่อนวัยเดียวกันตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะสวมใส่เสื้อผ้าดีไซด์แบบไหนไหล่กว้างๆของเขาช่างรับกับทุกชุดที่สวมใส่เสมอ เช่นเดียวกับทุกครั้งที่เขาออกเที่ยวนามบัตรมากมายจากบรรดาแมวของวงการแฟชั่นมักส่งตรงถึงมือเขาไม่เคยขาด

และแน่นอนว่าเขาปฏิเสธทุกคนไม่มีเว้นเช่นกัน บรรดาเซเลปนักท่องราตรีทั้งหลายต่างให้สมญานามเขาว่า ธารน้ำแข็ง เหตุเพราะเขามักทำตัวเย็นชาเสมอ หน้าตาที่นิ่งราวกับรูปปั้นและนิสัยไม่ใส่ใจใครของเขาทำให้เพื่อนวัยเดียวกันมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อยยิ่งเขาอยู่โรงเรียนประจำมาโดยตลอดเพื่อนสนิทจริง ๆ จึงมีแค่รูมเมทเก่าเพียงคนเดียวแต่ตอนนี้ดันหนีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเสียแล้ว

ธาราธารมักจะคบกับใครก็ได้ที่ไม่ใส่ใจในตัวเขา ไม่ต้องมาชื่นชม ปลาบปลื้ม เพราะเขาเบื่อสีหน้าและแววตาของคนที่มักตัดสินตัวตนเขาแค่จากรูปลักษณ์ภายนอก

เขายกสองมือเสยผมยุ่งเหยิงให้เข้ารูป คว้าเอาผ้าเช็ดตัวมาพันท่อนล่างไว้ก่อนจะเดินไปรูดม่านหน้าต่างเปิดให้แสงแดดยามเช้าพาดผ่านเข้ามาในห้องบ้าง

หลังแต่งตัวเรียบร้อยเขาสำรวจตัวเองในกระจกบานใหญ่อีกครั้ง มือเรียวขาวสะอาดสมกับที่เป็นนักเรียนแพทย์ ขยับเนคไทนิดหน่อยก่อนเดินออกมาด้านนอกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเครื่อง ชงกาแฟ เปิดหาขนมปังที่วารินซื้อทิ้งไว้ให้ซึ่งถ้าเขาดูไม่ผิดมันน่าจะหมดอายุลงวันนี้ ธาราธารหยิบขนมปังก้อนสุดท้ายออกมากัดกินพร้อมซดกาแฟร้อนอย่างใจเย็น เช้านี้เขามีเรียนแปดโมงครึ่งเหลือเวลาอีกถมเถเพราะงั้นเขาจะค่อยๆกินอย่างไม่รีบร้อนอะไร

เสียงข้อความติ๊งตั๊งดังมาไม่ขาดทั้งไลน์วอทแอปแชตออนทั้งอะไรต่อมิอะไร แต่เขาไม่คิดจะเปิดดู มิสคอลยี่สิบกว่าสายคงเป็นหนึ่งในบรรดาคู่ขาใช้แล้วทิ้งของเขาที่มักจะได้เบอร์ของเขามาจากใครคนอื่นอีกเป็นทอดๆยิ่งกว่าแชร์ลูกโซ่ ธาราธารเริ่มนึกไปถึงเสียงโทรศัพท์เมื่อเช้า

มีแค่วารินเท่านั้นที่รู้เบอร์โทรของห้องนี้  เขารีบกดสายมิสคอลย้อนดูทันที  วารินโทรหาเขาตั้งแต่เช้า ปลายนิ้วจึงแตะลงกดโทรกลับ

“ธาร! เรานี่นะพี่รอตั้งนานนึกว่าจะต้องรอถึงแปดโมงซะแล้ว โทรหาตั้งแต่เช้าทำไมไม่รู้จักเปิดเครื่องห๊า รู้ไหมคนหิ้วของพะรุงพะรังหนักนะนิ้วแดงไปหมดแล้วเนี่ย คนดูแลที่นี่ก็เหลือเกินจะปลอดภัยไปไหนมิทราบ บอกไม่ยอมให้เข้าท่าเดียว ต้องให้เจ้าของห้องมายืนยันแล้วไงล่ะพี่โทรหาเราได้ซะที่ไหน แล้วนี่กินอะไรรึยังมีเรียนเช้าใช่ไหม เฮ้ยลืมไปพูดอยู่ตั้งนานลงมารับพี่ข้างล่างเดี๋ยวนี้เลย นั่งรออยู่สนามหญ้านะเร็วเข้าพี่ร้อน ธารฟังพี่อยู่รึเปล่า ธาร ธาร!”

ธาราธารยืดโทรศัพท์ออกห่างหูตั้งแต่สองประโยคแรกแล้ว เขาเปิดลำโพงไว้แล้วกดโหมดอัดเสียงเดินเอาแก้วกาแฟไปเก็บหยิบคีย์การ์ดก่อนเดินออกจากห้องไป“ครับๆพี่ทรายผมกำลังลงไป”

“วันนี้ฝนตกแหง” วารินพูดขึ้นลอยๆธาราธารเงยหน้ามองฟ้าทันที เขาทำหน้างงๆแดดก็เปรี้ยงจะมีฝนตกลงมาได้ยังไง สายตาคมเลื่อนไปมองดูถุงข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือเล็กของอีกคน

....ความจริงก็อยากจะช่วยอยู่หรอกนะ แต่มันจะดูตลกรึเปล่าถ้าเขายื่นมือออกไปรับถุงพวกนั้นมาถือไว้เอง....

“ซื้ออะไรมาเยอะแยะ”  ในที่สุดเขาก็ยื่นมืออกไปคว้าถุงพวกนั้นขณะเดินมารอที่หน้าลิฟต์ วารินจึงเป็นคนกดเรียกชั้นแทนเขามองธาราธารอย่างคาดเดาการกระทำของอีกคนไม่ได้  ทำไมจู่ๆวันนี้ดีเป็นพิเศษ

“ฝนคงจะตกแน่ๆแล้วธาร” วารินเองยังไม่อยากจะเชื่อสายตา เมื่อเห็นธาราธารยังทำท่างงอยู่อีกวารินจึงอธิบายเพิ่ม

“ก็วันนี้ธารเรียกพี่ว่า ‘พี่ทราย’  จิตใจพี่เบิกบานมากเลยแถมยังช่วยพี่ถือของอีกนี่มันอะไรกันห่างกันแค่ไม่กี่วันน้องธารของพี่เปลี่ยนไปขนาดนั้น? เป็นเด็กดีจริงน้า”

เป็นให้ได้ตลอดทีเถ้อ วารินส่งยิ้มกว้างขวาง ธาราธารรีบหันหนีทันที ตอนนี้เขาไม่ใช่คนเดิมอีกแล้วเขาถึงขนาดอัดเสียงอีกฝ่ายเพื่อไว้ฟังเวลาวารินไม่ได้อยู่กับเขา แค่คิดว่าตัวเองทำลงไปเขาก็ไม่อยากจะเชื่อ นี่ขนาดเป็นเสียงบ่นเขายังดีใจที่ได้อัดไว้ ธาราธารส่ายหัวอย่างระอาใจตัวเอง

เขาจะยังยอมรับไม่ได้หรอก วารินแก่กว่าเขาตั้งสิบสองปีเชียวรุ่นน้องแม่เขาเห็นๆ เขาจะแน่ใจได้ยังไงว่ามันจะใช่ความรักรึเปล่า มันอาจจะแค่เป็นความชื่นชมอยากรู้อยากลองของแปลกๆเท่านั้น

“ยังสะอาดดีเหมือนเดิมแฮะ” เมื่อขึ้นมาถึงห้องวารินกวาดตากลมๆสำรวจทันทีขณะที่ธาราธารหิ้วถุงข้าวของเข้าไปวางไว้ในครัว เขามองคนดูคนตัวเล็กเดินเข้ามารวบกองหนังสือให้เป็นระเบียบแล้วคิดไปว่าวารินคงจะลืมเหตุการณ์เช้าวันนั้นไปแล้วแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นคงจะไม่คุยจ้อกับเขาแบบนี้

“ผมไปเรียนแล้วนะ วันนี้มีกิจกรรมสักสามทุ่มไม่รู้จะเสร็จไหมทำข้าวไว้รอด้วยล่ะ”

“อ๊ะเดี๋ยวๆ” วารินตะโกนรั้งไว้ขณะธาราธารคว้ากระเป๋าสะพายส่วนตัวแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถ เด็กหนุ่มหันกลับมามอง

“เอานี่ไปกินสิ อร่อยนะ” วารินวิ่งหน้าตั้งมาที่เขามือเล็กยื่นคิมบับห่อกระดาษฟรอยสีเงิน ขนาดเท่าไส้กรอกยักษ์ส่งให้ ธาราธารถอยหลังหน่อยนึง

“ข้างในเขาหั่นให้แล้ว” วารินหัวเราะคิกเมื่อเห็นธาราธารตกใจกับสิ่งที่เขายื่นส่งให้

“ผมไม่กินอาหารจำพวกข้าวตอนเช้า” ธาราธารตอบนิ่ง ๆ น้ำเสียงของเขาเย็นชาพอๆกับสีหน้าที่แสดงออก

วารินหุบยิ้มแทบจะทันที วันนี้เขาอุตสาห์ตั้งใจตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อไปต่อคิวซื้อไอ้เจ้าคิมบับแสนอร่อยซึ่งเป็นของโปรดมากๆของภูวดลแล้วเผื่อมาให้ธาราธารด้วยแต่กลับโดนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

“อร่อยนะ ร้านนี้น่ะพี่ชายพี่ชอบกินมากๆเลย ธารลองดูสิอาจจะชอบก็ได้”

“อ้อ ของที่ซื้อตามตลาด?”

“ถึงจะตลาดแต่ก็อร่อยนะ ที่สำคัญสะอาดแล้วก็ไม่แพงด้วยรสชาติเกาหลีแท้ๆเลย”

“ไว้พี่ทำเองเมื่อไหร่ผมจะกินให้ก็แล้วกัน”

วารินยิ่งหงอยหนักขึ้นไปอีก เขาทำอาหารยากๆเป็นที่ไหนอยู่บ้านมีแต่ภูวดลทั้งนั้นทำให้ทาน ทำของง่ายๆกับซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเป็นนี่ก็ดีเท่าไหร่แล้ว เขายักไหล่อย่างช่วยไม่ได้

ขณะธาราธารกำลังจะหันหลังเดินออกไปวารินนึกบางอย่างขึ้นได้   “วันนี้พี่จะเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้วก็จะกลับตอนค่ำๆนะ เราค่อยเจอกันอีกทีวันจันทร์”

“พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีแล้วต่อไปพี่ต้องมาค้างที่นี่ทุกสุดสัปดาห์ดูแลเรื่องห้องให้ผม ส่วนวันธรรมดาผมเรียนค่อนข้างหนักพี่ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ วันนี้วันศุกร์  ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ทำตัวให้ชินไว้ซะ”

แม้ว่าเขาไม่ใช่คนพูดมากแต่คราวนี้ร่ายออกมาเป็นชุดจนวารินยังอ้าปากค้าง

“ศุกร์เสาร์ นะๆ”  วารินหน้ายู่ต่อรอง ธาราธารรีบหันหนีทันทีเขายังไม่อยากแพ้ใจตัวเองให้กับคนแก่ตอนนี้

“ผมพูดคำไหนคำนั้น รายละเอียดไว้ค่อยคุยกัน”

ในที่สุดวารินก็ต่อเถียงอะไรไม่ได้อีกเพราะเจ้าของห้องอย่างธาราธารออกไปแล้ว เขาคงต้องกินคิมบับคนเดียวถึงสองอัน ซึ่งเขาคิดว่าคงจะกินไม่หมดแน่จึงแช่ใส่ตู้เย็นไว้อุ่นให้ธาราธารกินตอนดึกกวาดตามองรอบๆตัวเดินสำรวจแล้วเรียบเรียงความคิดว่าจะทำอะไรก่อนหลัง

ธาราธารเป็นเด็กที่สะอาดและเจ้าระเบียบห้องหับสะอาดเรียบร้อย จานชามไม่มีตกค้าง เสื้อผ้าที่ใส่แล้วยังสะอาดหมดจดแถมยังคงกลิ่นหอมอ่อนๆทั้งกลิ่นน้ำหอมผู้ชายผู้หญิงปนมั่วกันไปหมดตามรสนิยมส่วนตัวของเขา วารินแอบคิดไปว่าสี่ห้าวันมานี้ธาราธารไปนอนกับทั้งผู้หญิงผู้ชายเลยรึไงเพราะกลิ่นน้ำหอมที่ติดมากับเสื้อผ้าไม่ใช่กลิ่นส่วนตัวของเจ้าตัวเลย ถุงเท้าชุดชั้นในที่ใช้แล้วยังแยกเป็นสัดส่วนอยู่ในห้องแต่งตัวที่เขาให้นักออกแบบแยกโซนไว้ให้ต่างหาก สมแล้วกับอาชีพหมอในอนาคต เนี๊ยบจริงๆ

 “อะไรเนี่ย!” แต่ที่ทำให้วารินอยากจะขอถอนคำพูดทุกอย่างคืนให้เกลี้ยงก็ปรากฏแก่สายตาเขาแล้ว

ที่ห้องนอนเล็ก ธาราธารปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องหนังสือซึ่งตอนนี้เลอะเทอะไปด้วยหนังสือหนังหามากมายทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ วารินก้าวเท้าเข้าไปด้านใน แทบจะเขย่งหลบกับกองหนังสือมากมายที่ไม่รู้ว่าถ้าเป็นเขาจะอ่านกี่ปีกี่ชาติถึงจะหมด นี่ขนาดเรียนแค่ปีหนึ่งถ้าอัพเลเวลขึ้นไปอีกจะขนาดไหนแค่นี้เขาก็ไม่อยากจะคิด มือเล็กท้อนหนังสือรวบไว้เป็นกอง ๆ พอให้โต๊ะสะอาด วารินมองเห็นแว่นสายตาวางอยู่ข้างโถปากกาจึงลองหยิบขึ้นมาส่องดู

“สายตาสั้นด้วยเหรอเนี่ย”

ถึงจะไม่เคยเห็นตอนที่ธาราธารสวมใส่เจ้าเลนส์ใสๆนี่แต่เขาก็มั่นใจว่าเจ้าเด็กคนนี้คงดูดีไม่น้อยในมาดหนุ่มแว่น วารินนึกไปก็ขำไปเมื่อจินตนาการถึงท่าทางเก็กๆแบบนั้นของธาราธาร เขาจัดห้องไปเรื่อยๆจนเผลอหลับไปตอนไหนเจ้าตัวเองยังไม่รู้

“พี่ พี่ทราย  พี่ทราย!”

วารินค่อยลืมตาตื่นมองคนที่ก้มหน้าลงมาปลุกเขา เสียงตื่นๆทำหน้าตาตกใจอย่างเห็นได้ชัดขณะตบแก้มวารินไปมาเบาๆทำเหมือนเรียกสติ “อ้าวธารกลับมาแล้วเหรอ” เขาก้มดูสภาพตัวเองแล้วยิ่งกว่าอนาถคือตัวเขานอนกอดไม้ขนไก่ไว้แน่น ยังผูกผ้ากันเปื้อนไว้กับตัวที่สำคัญเขาหลับอยู่บนพื้นพรหมหน้าครัวเลย

“ธารกลับมาตอนไหน โทษทีนะพี่เผลอหลับนานไปหน่อย” วารินลุกขึ้นยืนแก้ตัวไปแบบอายๆ

“เผลอหลับงั้นเหรอ?” ธาราธารทวนคำวารินได้แต่ก้มหน้าตอบเออๆไป  “มาทำงานห้องคนอื่นแต่เผลอหลับ ข้าวปลาก็ยังไม่ทำอะไรไว้ให้สักอย่าง แก้ตัวว่าเผลอหลับแบบนี้จะให้ผมลงโทษพี่ยังไงดีนะ หืม”

ร่างสูงใหญ่เดินหน้าเข้าหาขณะวารินถอยหลังไปเรื่อย เขาจนใจหาคำแก้ตัวจริง ๆร่างเล็กสะดุดกึกเพราะแผ่นหลังถอยร่นจนชิดผนังห้อง ธาราธารที่ดูเหมือนเพิ่งกลับมาในมือข้างหนึ่งยังไม่วางกระเป๋าลงด้วยซ้ำคงคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาเพราะเขายังไม่ได้เปิดไฟแล้วดันนอนกองอยู่บนพื้นนั่นอีก ธาราธารเอื้อมมือข้างหนึ่งของเขาดันผนังไว้เขาเบียดตัวเข้าจนชิดร่างของวาริน

“ธ...ธารเดี๋ยวทอดไข่ให้นะ ขอหุงข้าวก่อน หลีกหน่อยสิ”

วารินปัดมือธาราธารออกแต่โดนรวบจับเอาไว้แทนเขาทิ้งกระเป๋าสะพายลงที่พื้นแล้วดันตัววารินให้ชิดติดผนังกักไว้ในอ้อมกอด “ทำโทษ”

ธาราธารพูดอย่างเอาแต่ใจ วารินอ้าปากหว๋อ ทำโทษอะไร?? เขาสั่นเป็นลูกนกเมื่อใบหน้าคมคายนั่นโน้มต่ำลงมาสายตาจดจ้องอยู่ริมฝีปากของเขาอย่างชัดเจน แต่ธาราธารยังค้างอยู่แบบนั้น

“คิดว่าผมจะทำอะไร เคยบอกไปแล้วนี่ว่าไม่ชอบคนแก่ ใครจะไปจูบลงกันเล่า!” เขาลากเสียงแล้วยิ้มนิดๆ พอละตัวขึ้น วารินก็ผลักหน้าอกเขาออกอย่างแรงจนธาราธารเซถอยหลังไปสองก้าว

วารินเดินหน้าบึ้งเข้าครัว ถึงเขาจะโกรธที่ธาราธารแกล้งแต่หน้าที่ก็คือหน้าที่เขาหยิบหม้อข้าวใบเล็กขึ้นมาตวงข้าวสารใส่ตั้งน้ำแล้วจัดการหาเครื่องปรุงสำหรับไข่เจียวทรงเครื่องอาทิ แครอท เห็ด ข้าวโพด ฟักทองมะเขือเทศ ถั่วฝักยาว แล้วแช่ทุกอย่างลงในน้ำสะอาดสามสี่รอบ

“ถ้าจะทำตามหน้าที่ล่ะก็ ไม่ต้องนะเดี๋ยวออกไปหากินข้างนอกเอาก็ได้”  ธาราธารที่ยืนมองหน้าเล็กๆบูดบึ้งอยู่นานทนไม่ไหวต้องเดินเข้ามาพูดใส่อย่างเสียอารมณ์

“พี่บอกเราเหรอว่าพี่ทำตามหน้าที่”  วารินเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที ความจริงเขาก็ทำตามหน้าที่จริงนั่นล่ะแต่อีกอย่างคือเขาเองก็หิวมากเช่นกัน

“พี่ทำให้ตัวเองกินต่างหาก หิวก็หิวจัดห้องเตรียมโน่นนี่ให้ตั้งแต่เช้าเที่ยงก็กินแค่คิมบับที่เหลือเมื่อเช้าอันเดียวตอนนี้หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวอยู่แล้ว จะบอกอะไรดีๆให้นะทำเป็นแค่ไข่ทอดอย่างเดียวนี่ล่ะถ้าไม่พอใจไปกินข้างนอกได้เลย เชิญ!”

ถูกใจที่สุด! ไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าไล่เขาแบบนี้  ธาราธารกระตุกยิ้มมุมปาก คนแบบนี้สิที่เขาต้องการแตกต่างจากพี่เลี้ยงที่ผ่านมาของเขาโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องมาเอาใจ ทำตัวกับเขาให้เหมือนคนธรรมดาก็พอ

“พี่นี่แก่แล้วจริง ๆ นะ บ่นยาวตั้งแต่เช้าถึงเย็น ไม่เมื่อยปาก??”

วารินไม่ทันได้ด่าต่ออีกฝ่ายก็ชิงเดินเข้าห้องไป ไม่นานนักเขาก็กลับออกมาในชุดเสื้อยืดคอวีสีเทาเรียบๆกับกางเกงนอนขายาวผ้าเนื้อดี วารินถอดผ้ากันเปื้อนออกแขวนแล้วล้างมือให้สะอาดเรียบร้อยนั่งลงเตรียมทานข้าวด้วยกัน

“อาหารหนึ่งอย่าง ข้าวเปล่าสองจาน”

ธาราธารนั่งจ้องอาหารตรงหน้าอย่างปลงแต่ก็รู้สึกดี  จู่ๆวารินวิ่งไปเปิดห้องหนังสือแล้วหยิบอะไรบางอย่างออกมาส่งให้เขา ธาราธารมองหน้าวารินงงๆขณะยื่นมือออกไปรับ

“ใส่แว่นสิ แล้วจะเห็นว่าไข่เจียวทรงเครื่องของพี่มันน่ากินมากขนาดไหน ธารจะได้เห็นชัดๆไง”

ช่วยไม่ได้ที่ไม่ใช่แค่ตัวเขาเองที่แปลก ตอนนี้ธาราธารเริ่มคิดแล้วว่าวารินเองก็แปลกไม่แพ้กันคิดจะให้เขาใส่แว่นกินข้าวมีอย่างที่ไหน แต่เขาก็กางขาแว่นออกแล้วสวมมันไว้ วารินแอบเหล่มองอย่างกล้าๆกลัวๆ เนื่องจากช่วงบ่ายเขาลองจินตนาการถึงหนุ่มน้อยในมาดเด็กเนิร์ดดูแล้วมันตลกเพราะอย่างนั้นเขาเลยกลัวจะหลุดหัวเราะออกมา

“มองเลยก็ได้ ไม่ต้องแอบหรอก” ธาราธารเริ่มตักไข่ในจานมาชิม

“ปะ..เปล่านะ เราเข้าใจพี่ผิดแล้ว” วารินยัดข้าวคำโตเข้าปาก

“แล้วหน้าแดงทำไม ไข่เจียวไม่ได้ใส่พริกซะหน่อย”

วารินเถียงไม่ออกตอนนี้หน้าเขาร้อนมากจริง ๆ พอมองธาราธารในมาดหนุ่มแว่นแบบนี้แล้วพาลนึกไปถึงเรื่องเช้าวันนั้น เขากับเด็กนี่จูบกัน จูบกันอย่างดูดดื่ม แม้จะด้วยความเข้าใจผิดของทั้งสองฝ่ายแต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเองรู้สึกดีมากๆ

“ผมอ่านหนังสือดึก ถ้าง่วงก็นอนไปก่อนเลยไม่ต้องรอ”

เด็กหนุ่มรวบช้อน เดินไปล้างมือเปิดตู้เย็นหยิบน้ำหนึ่งขวดแล้วเดินเข้าห้องเล็กทันที วารินทานต่อครู่หนึ่งก็ลุกขึ้นเก็บล้าง
.

.
Tbc.
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 13-03-2014 16:15:15
:mc4:  อิอิ ได้อ่านคนแรก.......  :L2:

** แอบปลื้ม... กันและกัน ..... เบาเบา  :-[

 :L2: เป็นกำลังใจให้นักเขียนค่ะ :)
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 13-03-2014 16:39:17
 :z1: :hao6: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 13-03-2014 17:37:13
 :-[ บรรยากาศแบบนี้คืออัลไลลลล
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 13-03-2014 17:40:10
พี่ทราย ให้ ธาร มาตกหลุมรักแบบหัวปักหัวปรำก่อนนะ อย่าไปเริ่มรักเด็กมันก่อนล่ะ  :mew5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 13-03-2014 18:14:11
อ้ายย เขิล รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 13-03-2014 18:26:26
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 13-03-2014 19:17:04
เรื่องน่ารักดี บอกหน้าที่ลงแต่ละตอนด้วยจะยิ่งเวิร์คแน่นอนเลยค่ะ
++
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: Serioz ที่ 13-03-2014 20:31:48
ตอนนี้แอบน่ารัก  o18
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 13-03-2014 23:47:40
เนื้อเรื่องน่ารักดี o13
ธิปกับธารเป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน แต่คนละแม่
ดีนะที่ธารไม่ได้มีอะไรกับธิป
เชียร์ธิปให้พี่ซีละกัน
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 14-03-2014 00:44:38
 :o8: แอบฟินเบาๆ

รออิธารรุกจีบ (จะมีวันนั้นมั้ยเนี่ย)
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 14-03-2014 01:07:52
มีแต่ยัยกี้ตลอดเลย :katai1: เราจะมองข้ามเตเต้ไป

เมื่อไหร่จะมีแบบนั้นกับทรายบ้างข๊าาาาา หื่นตลอดดดดดด
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: Ipatza ที่ 14-03-2014 01:09:58
ธิปนี้หน้าไม่อาบเลยอะอ่านๆมา
อย่าบอกนะว่าคุ่กับพี่ ภูว -*-
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 14-03-2014 13:58:40
อร๊ายยย~ ตามอ่านทันแล้วค่าาา
เริ่มจะน่ารักมุ้งมิ้งแล้วน๊าาา กิ๊วๆๆๆๆ
ธารชอบพี่ทรายก็ต้องยอมรับตัวเองนะจ๊ะ อิอิ >.<
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[13/03/57] บทที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: kamenashi ที่ 14-03-2014 14:01:54
เอ่อ..ธารกับุธิปเป็นพี่น้องกันหรือเปล่าคะ...ชอบพี่ทรายค่ะน่ารักดี
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 14-03-2014 14:39:01
บทที่9


“ธาร เข้าไปนอนดีๆเถอะ”

วารินกำลังปลุกคนที่อ่านหนังสือจนดึกดื่น ให้กลับเข้าไปนอนในห้องดี ๆ เขารู้สึกตัวขึ้นมาตอนตีสี่ พบว่าที่นอนส่วนหนึ่งยังว่างเปล่าวารินจึงเดินออกมาดูปรากฏว่าธาราธารหลับคากองหนังสือไปแล้ว

มือเล็กกดปิดสวิทโคมไฟ ปิดหนังสือที่กองระเกะระกะให้เข้าที่แล้วถอดแว่นสายตาที่ค้างอยู่ที่สันจมูกโด่งนั้นออกอย่างเบามือ

“เข้าไปนอนในห้องนะครับ  ลุกเร็ว”

ธาราธารบิดขี้เกียจนิดหน่อยแต่ก็ยอมเดินไปอย่างว่าง่าย วารินปิดไฟแล้วตามกลับมาที่ห้องนอน เขากระโดดขึ้นเตียงประจำที่ห่มผ้าเรียบร้อยเหลือไว้แค่ลูกกะตาเล็กๆโผล่ออกมา  ธาราธารเดินกลับออกมาจากห้องน้ำถอดเสื้อถอดกางเกงแล้วสอดตัวลงในผ้าห่มผืนเดียวกัน  วารินรีบหลับตาปี๋สองมือกำขอบผ้าห่มไว้แน่น ขณะแอบคิดในใจว่าพรุ่งนี้จะต้องหาเวลาออกไปซื้อผ้าห่มมาเพิ่มอีกผืนให้ได้

“พี่ทราย” เสียงทุ้มดังขึ้นท่ามกลางความมืด วารินกำลังจะหลับ

“พี่ชอบกินนมมากเหรอ” วารินหันกลับมามอง ธาราธารจ้องเขาตาแป๋ว

“อือครับ ก็กินทุกวันอ่ะ ธารถามทำไม”


......หอมกลิ่นนม......


“กอดหน่อยสิ”

วารินไม่ทันได้พูดอะไร อ้อมแขนใหญ่ก็ดึงตัวเขาเข้ามากักไว้ในอ้อมกอด วารินทั้งตกใจทั้งอายแทบจะบ้า..กอดน่ะเขาไม่ว่าหรอกเพราะภูวดลกอดเขาทุกคืนอยู่แล้ว แต่เจ้าเด็กนี่เล่นตัวเปล่าเปลือยนอนล่อนจ้อนแบบนี้มันไม่เข้าท่าเอาเลยจริง ๆ

“คิดถึงคุณแม่”

เสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นที่ซอกหูทำเอาวารินขนลุกซู่ก็จริง แต่เขาฟังน้ำเสียงนั่นแล้วกลับคิดไปว่าธาราธารช่างเป็นเด็กที่น่าสงสาร คงจะเหงาและอ้างว้างมากเพราะอยู่ลำพังมาโดยตลอด


....เด็กเอ้ยเด็กน้อย....


เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาจึงจับมือธาราธารดึงให้กอดตัวเองแน่นขึ้นอีก

“ม...แม่เม่ออะไรเล่า กอดพี่ต้องบอกคิดถึงพ่อสิ เจ้าเด็กต๊องนี่”  แกล้งพูดติดตลกหันไปดีดหน้าผากหนุ่มน้อยเบาๆหนึ่งที ธาราธารยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นเป็นเท่าตัว

“เห้ย..อย่าแน่นนักดิ พี่ร้อน” วารินขยับตัวออกนิดหน่อยพอให้ได้หายใจได้ยินอีกฝ่ายบนอะไรงึมงำๆที่ด้านหลัง  “ก็บอกให้ถอดเสื้อผ้านอนไม่เชื่อ มันก็ร้อนน่ะสิ”

แน่ล่ะว่าประโยคชวนหาเรื่องแบบนั้นเขาไม่กล้าเถียงต่อจึงได้แต่เงียบปากไว้ดีที่สุดพยายามนอนให้นิ่งเพราะไม่อย่างนั้นผิวกายจะเสียดสีกับเนื้อหนังของธาราธารมากเกินความจำเป็น ในที่สุดเขาจำใจต้องให้อีกฝ่ายกอดไว้จนหลับกันไปทั้งอย่างนั้น

กลางดึกคืนนั้นเขาฝันว่าภูวดลจูบลงที่หลังคอเขาเหมือนทุกทีที่เคยทำ วารินจึงเผลอยิ้มมออกมาอย่างมีความสุข

.

ทั้งสองคนใช้เวลาด้วยกันแบบนั้นอยู่เป็นปีๆ วารินยังคงเทียวมาดูแลห้อง ทำอาหารให้ธาราธารอยู่เสมอทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ธาราธารเองนับวันยิ่งเรียนหนักขึ้นเป็นเท่าตัวทั้งงานกิจกรรมที่เขายอมทำบ้างไม่ทำบ้าง กลับห้องค่ำๆมืดๆทั้งมีเรียนมีสอบอยู่โดยตลอด ออกเดทกับผู้หญิงบ้างผู้ชายบ้างตามประสาหนุ่มรูปหล่อแถมรวยเป็นออปชั่นเสริมแต่ไม่เคยลึกซึ้งผูกพันกับใคร ๆ เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ข่าวเรื่องที่ว่าเขาควงได้ทั้งชายทั้งหญิงแพร่สะพัดไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย

' ธาร SI  ว่าที่พี่หมอสุดหล่อที่คนทุกเพศทุกวัยใฝ่ฝัน ’   พอถึงเวลาที่รุ่นน้องต่างคณะจะได้รู้จักตัวตนของเขา  ทุกอย่างก็สายเกินไป ปีสองธาราธารต้องย้ายจากศาลายาเข้ามาเรียนที่คณะแพทย์.....ของโรงพยาบาล


‘เมื่อก้าวขึ้นท่า...เจ้ากับข้าพี่น้องกัน’


เมื่อผ่านกิจกรรมอบรมข้ามฟากซึ่งเป็นกิจกรรมเฉพาะของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ก็เริ่มเข้าสู่ระบบการเรียนการสอนแบบจัดเต็มธาราธารเรียนหนักเหมือนเช่นเคย แต่ปีสองก็ดูเหมือนจะว่างมากกว่าปีหนึ่งอยู่บ้าง   พี่รหัสสาวสวยที่มีดีกรีเป็นถึงดาว SI ปีที่แล้ว ตั้งแต่ถูกเธอจับมือรับขึ้นท่าทำสัญญาใจคราวนั้น บรรดารุ่นพี่รวมถึงเพื่อนๆปีเดียวกันต่างจับคู่ให้พวกเขากันยกใหญ่ หนุ่มก็หล่อสาวก็สวยทั้งธาราธารยังดูเหมือนว่าชอบควงคนอายุมากกว่าอยู่แล้วนั่นอีก


‘เหมาะสม’  ไม่มีคำจัดกัดความใดๆจะดีได้เท่านี้อีกแล้ว


“ธาร ไม่ลองคิดเรื่องย้ายห้องดูล่ะ เราไม่ได้เรียนอยู่ศาลายาแล้วนะมันไกลไม่ใช่เหรอธารเทียวไปเทียวมาตลอดแบบนี้ เรียนก็หนักมีสอบแทบทุกวันตอนกลางคืนยังต้องอ่านหนังสือดึกๆดื่นๆอีก ขับรถตอนเช้าพี่กลัวธารน็อค”

ธาราธารเปลี่ยนรถตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่คณะแพทย์ฯ เขาถอย SLK สีขาวออกมาใช้ทันทีที่วารินดันเผลอบ่นว่าคันเก่าที่นั่งมันเล็กไป แต่กลับโดนเขาแซะกลับว่าวารินต่างหากที่อ้วนขึ้นและเพราะอย่างนั้นจึงโดนอีกฝ่ายฟาดต้นแขนฟิตเปรี๊ยะที่เก่าที่เดิมจนระบบไปหมด

“ที่นี่แหละดีแล้ว”

เขาตอบเรียบๆ ไม่ใช่ว่าเทียวจนเคยชินพอเริ่มติดที่นี่แล้วจึงไม่อยากย้ายไปที่อื่นอีก แต่เขารู้สึกผูกพันกับที่นี่มาก  ห้องที่เขากับวารินใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาตั้งปีกว่า ถึงแม้บางครั้งจะรู้สึกเห็นใจวารินไม่น้อยเพราะอีกฝ่ายอยู่ถึงสีลมจะเทียวมาหาเขาแต่ละทีต้องเสียเวลาขับรถเป็นชั่วโมงๆ และยังต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อให้ทันเวลาในวันที่เขามีเรียนเช้า

“ไว้ผมจะลองคิดดู”

จากคนที่ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของใคร เขาไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งวารินจะเข้ามามีอิทธิพลต่อความรู้สึกเขามากมายเพียงนี้

รถจอดลงด้านหน้าล็อบบี้ของโรงแรมแห่งหนึ่งริมน้ำเจ้าพระยา แต่ไม่ใช่โรงแรมที่บ้านเขาเป็นเจ้าของ “เสร็จแล้วผมจะรออยู่ที่เลาจ์ พี่มาเมื่อไหร่เข้าไปหาผมที่นั่น รู้จักใช่ไหมชั้นล่าง”

วารินพยักหน้ารับ พอสั่งความเสร็จเขาก็เดินหายเข้าไปด้านใน  วารินเดินอ้อมไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับแทนที่แล้วขับรถเลี้ยวออกไป

วันนี้ธาราธารถูกพี่รหัสทั้งสายนัดมาเลี้ยงต้อนรับเป็นพิเศษ หลังจากเลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนผ่านไปได้เทอมกว่าๆ ก็อย่างว่าทั้งคุณหมอ ทั้งว่าที่คุณหมอแต่ละคนจะหาเวลาว่างให้ตรงกันได้นั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคย  เลี้ยงกินกันก็ออกจะบ่อยแต่ที่นัดแบบครบทีมนี่คือครั้งแรก

“น้องธารทางนี้ นั่งนี่ๆข้างๆบัวนี่เลย”  ทันทีที่เดินเข้าไป เสียงเล็กๆจากหมอดา เดนท์1 ตัวแถมตัวจ่ายของวันนี้ดังขึ้นเบาๆเธอกวักมือเรียกธาราธารให้เข้ามานั่งข้าง ๆ บัวชมพูปี3 หลานรหัสสายตรงของเธอ ธาราธารค้อมศีรษะพยักหน้าให้หญิงสาวนิดหน่อยก่อนนั่งลงไปข้างๆ

ธาราธารกับบัวชมพูคือคู่เหมาะสมฟ้าประทานที่บรรดานักศึกษาแพทย์ทั้งมหาวิทยาลัยพูดถึงกัน ดีกรีดาวคณะสองปีที่แล้วกับเดือนหนีตำแหน่งปีก่อนยังคงเป็นที่กล่าวขวัญจนถึงทุกวันนี้ วันที่บัวชมพูแวะไปหาธาราธารเพื่อเฉลยสายรหัสตั้งแต่เขายังอยู่ที่ศาลายา หนุ่มหล่อสาวสวยดีกรีนักศึกษาแพทย์แถมยังมีฐานะดีๆเป็นออพชั่นเสริมแค่นี้ก็หรูหราเกินพอ ยังไม่รวมที่ต่างฝ่ายนั้นสอบแต่ละทีคะแนนดีไม่มีตกหล่น

ห้องอาหารไทยบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกภายในโรงแรมมีระดับ ดวงตาเรียวสวยของบัวชมพูมองเรือลำใหญ่ประดับไฟที่ทอดตัวไปบนแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างระยิบระยับ เธออมยิ้มบางๆแล้วก้มลงดมกลิ่นหอมหวนของดอกกุหลาบสีแดงที่วางประดับอยู่บนโต๊ะอย่างเอียงอาย

“น้องบัวอายใครเนี่ย พี่ว่าวันนี้ท่าทางแปลกๆนะ แล้วดูแต่งตัวเข้าซิ จะสวยมากไปแล้วเห็นใจพวกพี่บ้างเถอะ เอ้าทานกันเถอะทานเยอะๆนะหมอดาบอกวันนี้เลี้ยงเต็มที่เลย”

เสียงจากหมอเล็ก นศพ. ปี4 พี่รหัสสายตรงของบัวชมพู เธอแค่มองท่าทางของรุ่นน้องก็รู้แล้วว่าบัวชมพูชื่นชอบธาราธารมากแค่ไหน จะว่าโชคดีได้รึเปล่าก็ไม่รู้สายรหัสของธาราธารทั้งสายเป็นหญิงล้วนมีเขาที่เป็นชายอยู่คนเดียว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงนั่งอยู่ท่ามกลางหญิงสาวที่สวมใส่แว่นสายตาถึงสี่คนส่วนบัวชมพูเธอเคยบอกเขาแล้วว่าเธอไปทำเลสิคมาเพราะฉะนั้นจึงมีแค่เขาและเธอที่อวดใบหน้างามๆได้โดยปราศจากกรอบแว่น

“ธารพาบัวไปห้องน้ำทีสิบัวไม่รู้ทาง”

บัวชมพูไม่เคยเรียกธาราธารว่าน้องและไม่เคยแทนตัวเองว่าพี่ เช่นกันเขาเองก็ไม่เคยเรียกเธอว่าพี่ แค่เพียงมองดูก็รู้แล้วว่าฝ่ายหญิงต้องการอะไรแค่ไหนกับเขา และบัวชมพูก็เป็นเหมือนกับคนอื่น ๆ เธอชื่นชอบเขา อยากให้เขากลายเป็นผู้ชายของเธอ วันนี้เธอใส่ชุดเดรสผ้าชีฟองสั้นๆฟูๆสีชมพูอ่อนอวดเรียวขาสวยเด่นด้วยรองเท้าที่พันสายยาวขึ้นมาจนถึงครึ่งน่องผมยาวดัดเป็นลอนคล้ายตุ๊กตาบาร์บี้ ปัดคิ้วเขียนปากอ่อนๆทำให้เธอดูโดดเด่นราวกับคุณหนูหลุดมาจากในละครยิ่งนัก

“ธารเข้าไหม รอบัวตรงนี้นะ”

เขาพยักหน้าเบาๆ ฟังเสียงนิ่มๆของเธอแล้วทำไมไปนึกถึงอีกคนขึ้นมาได้ก็ไม่รู้ วารินบอกเขาก่อนไปว่าตัวเองจะแวะไปช็อปปิ้งกระเป๋าและเสื้อผ้ารอ ให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงทานกับรุ่นพี่ให้สนุก แต่เขาย่อมรู้ดีว่าคนอย่างวารินไม่มีทางฟุ่มเฟือยกับสิ่งของเหล่านั้นเด็ดขาดที่พูดก็เพื่อให้เขาสบายใจก็เท่านั้น

“เราออกไปเดินเล่นตรงโน้นกันดีไหมธาร” เธอชี้ไปที่ระเบียงด้านนอกที่ยื่นออกไปริมน้ำ แต่เขาส่งยิ้มให้เบาๆแล้วโอบเอวเธอพาเดินกลับเข้ามาในห้องเหมือนเดิม พวกรุ่นพี่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มกันใหญ่ “ทานเสร็จค่อยว่ากันนะ”

บัวชมพูก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ธาราธารยื่นมือไปหยิบดอกกุหลาบสีแดงสดบนโต๊ะที่เสียบอยู่ข้างๆออกมาแล้วยื่นส่งให้ กระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจเมื่อได้ยินเสียงคนรอบข้างกรี๊ดกันเบา ๆ พวกรุ่นพี่ดูเขินอายยิ่งกว่าเขาที่เป็นคนให้เสียอีก ส่วนบัวชมพูไม่ต้องพูดถึงเธอนั่งก้มหน้าก้มตาบิดม้วนก้านดอกกุหลาบที่เพิ่งได้ไปอย่างเขินอาย

หลังจากแยกย้ายกันแล้วบัวชมพูยังไม่ยอมกลับ เขาจึงชวนไปนั่งต่อกันที่เลาจน์  กดโทรออกหาวารินแต่ไม่มีใครรับสาย ธาราธารสั่งคอกเทลอ่อนๆให้ทั้งตัวเขาและบัวชมพู ทั้งสองคนนั่งฟังเพลงฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ หญิงสาวซบศีรษะเล็กลงมาที่ไหล่กว้าง เขากลัวว่าเธอจะตกจึงประคองเอวคอดนั่นไว้

“ปกติวันเสาร์แบบนี้ธารทำอะไรเหรอ”  บัวชมพูเอียงคอถามขึ้นอย่างมีจริต ธาราธารยิ้มพราวทันทีกับท่าทางให้ท่าแบบนั้นของเธอ ถ้าไม่บอกว่าเธอเป็นถึงนักศึกษาแพทย์เขาไม่มีทางเดาออกแน่นอน

“นอน ไม่ก็เที่ยว บัวล่ะ” เขาตอบสั้นๆแต่ไม่ลืมจะสานบทสนทนาต่อ

“บัวก็...ช็อปปิ้งบ้างดูหนังบ้างเรื่อยเปื่อยแหละ แล้ว...ห้องธารอยู่ไหนเหรอ ไกลไหม..อยากเห็นจัง”

ความจริงถ้าเป็นเมื่อก่อนวันแบบนี้เขาคงคว้าเธอกลับไปด้วยแน่นอน แต่ว่า..ตั้งแต่วารินมาค้างด้วยทุกวันหยุดสุดสัปดาห์เขาเองไม่ค่อยได้ออกเที่ยวแบบแต่ก่อนอีกแล้ว อารมณ์กับทั้งชายทั้งหญิงคนอื่นดันหายหมด แค่เขาได้กอดวารินไว้แล้วหลับไปด้วยกันจนถึงเช้าเขาก็รู้สึกอิ่มเอมและเพียงพอมากแล้ว

ธาราธารละตัวออกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับหลังจากรู้สึกว่ามันสั่นเรียก

“ธารครับพี่ฝากกุญแจรถไว้ที่ล็อบบี้นะ ถ้าจะกลับตอนไหนแวะไปเอาด้วยพี่ไม่ได้ไปรับเรานะครับ”

“เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งวาง” เด็กหนุ่มหน้าเครียดขึ้นทันที เขาลุกขึ้นเดินออกไปหาที่คุยด้านนอก บัวชมพูได้แต่มองตามอย่างสงสัย

“พี่อยู่ที่ไหน”เขาถามเสียงแข็งจดจ่ออยู่กับคำตอบเต็มที่

“อยู่บนแท็กซี่กำลังจะกลับบ้าน”

“แล้วจะมาตอนไหนทำไมไม่เอารถไป”

“ธารครับวันนี้พี่ไปค้างด้วยไม่ได้นะเดี๋ยวพรุ่ง......”

“เหตุผลล่ะ” วารินพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ตนเองต้องการจะสื่อแต่ธาราธารชิงแทรกขึ้นเสียก่อน

“ห๊ะ?”

“บอกเหตุผลมา”

เหตุผลงั้นหรือ?  วารินทวนคำในใจ สะดุดกึก พูดไม่ออก เหตุผลส่วนตัวเขาจำเป็นไหมที่ต้องอธิบายให้เด็กอย่างธาราธารฟัง

“วันนี้วันอะไร”

อีกฝ่ายยังใช้เสียงมั่นคงหนักแน่นลากถามอย่างกดดัน  แต่เมื่อวารินเงียบไปหาเหตุผลมาให้เขาไม่ได้ ธาราธารจึงเดือดปุดขึ้นมาอีก

“ผมถามว่าวันนี้วันอะไร!” เขาเริ่มเสียงดัง ตะคอกใส่หลังจากที่ไม่เคยแสดงกิริยาเช่นนี้กับวารินนานแล้ว

“ส...เสาร์”

“ใช่! วันเสาร์ ผมเคยบอกไว้แล้วนะ วันไหนบ้างที่พี่ต้องให้กับผม แค่คำว่า ‘หน้าที่’ ของพี่น่ะทำให้มันดีด้วย!” ธาราธารตั้งใจเน้นคำว่า ‘หน้าที่’ ให้วารินได้ยินชัดๆ เพราะอีกฝ่ายรู้ว่าเขาเกลียดคำๆนี้มากแค่ไหน

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะธารเรื่องของธารไม่เกี่ยวกับหน้าที่  ต...แต่คือก็เกี่ยว ต..แต่...ธารคือว่าพี่จำเป็นจริงๆนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่....”

“ไม่มีพรุ่งนี้!” เขาตะคอกขึ้น ขณะที่วารินพูดผิดพูดถูกตกใจมากไม่คิดว่าธาราธารจะโมโหมากมายขนาดนี้

“ถ้าวันนี้พี่ไม่กลับมานอนข้างๆผมพี่ก็ไม่ต้องกลับมาอีก ผมให้เวลาพี่ถึงเที่ยงคืนเท่านั้น”  ในเมื่อหาเหตุผลมาตอบไม่ได้ แสดงว่ามันต้องมีอะไร

“ธาร! เดี๋ยวอย่าเพิ่งวางนะ ธารครับนะๆขอนะวันเดียว”

วารินรั้งไว้กลัวอีกฝ่ายตัดสายทิ้ง เขาทำเสียงอ่อนติดจะอ้อนนิดๆ ธาราธารส่ายหัวทันทีเขาสามารถจินตนาการได้เลยว่าตอนนี้เจ้าตัวคงทำหน้าหมาหงอยอยู่แน่ๆ ธาราธารนิ่งไปครู่หนึ่งแค่คิดเขาก็แพ้น้ำเสียงและท่าทางแบบนั้นของวารินแล้ว

“ถ้าอยากจะค้างที่นั่นวันนี้ บอกเหตุผลของพี่มา”

“ธารคือพี่...พี่ขอนะ แค่วันเดียวเดี๋ยวพรุ่งนี้......”วารินยังคงบ่ายเบี่ยงไม่ยอมพูดเหตุผลที่แท้จริงออกมา

“ตกลงจะบอกไหมเหตุผล?”

สุดท้ายเขาก็เหลืออดแต่ก็ยังอยากจะให้โอกาส ไม่จำเป็นต้องอดทนกับคนที่ไม่พยายามจะบอกแม้แต่เหตุผลอะไรเลยให้กับเขา

“ขอโทษนะธารพี่จะไปหาเราแต่เช้าพรุ่งนี้แทน”

เป็นครั้งแรกที่ธาราธารกดวางสายใส่หน้า เขายังคงเดือดไม่จบแนวสันกรามได้รูปถูกเขาข่มไว้แน่นขณะกำโทรศัพท์เดินเขาไปนั่งลงข้างร่างกายนุ่มนิ่มของบัวชมพู ธาราธารสั่งแชมเปญมาดื่มอีกสามสี่แก้วก่อนกอดเอวอีกฝ่ายแล้วพากลับห้องไปด้วยกัน
.
.

“หวัดดีครับพี่ขวัญพี่ซีล่ะครับ”

วารินเพิ่งเดินเข้าบ้านก็เห็นขวัญข้าวอยู่ในชุดเข้าครัวผูกผ้ากันเปื้อนเต็มยศ ดูด้านหลังแบบนี้ขวัญข้าวเหมือนคุณแม่ของเขาตอนเป็นสาวมาก

“ซีขึ้นไปเอาของข้างบนจ๊ะ ทรายหิวไหมกินอะไรมารึยังเดี๋ยวพี่ทำให้นะ”

ขวัญข้าวล้างจานเสร็จใบสุดท้ายพอดีเธอรินน้ำมาส่งให้วาริน วารินรับไปแบบงงๆ มันเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแขกแล้วขวัญข้าวเป็นเจ้าของบ้านอย่างไรอย่างนั้น

“ขอโทษนะทรายพี่รบกวนมากไปจริง ๆ แต่พี่กลับมาถึงไม่รู้เลยว่าอาป๊าย้ายออกไปแล้วพอโทรหาแกก็บอกให้มาหาพี่ซีกับทรายก่อนวันหลังค่อยว่ากัน”

เมื่อปีที่แล้วอาเจ๊กข้างบ้านพ่อของขวัญข้าวมาบอกภูวดลเรื่องที่จะขายบ้านแล้วย้ายออกไปอยู่กับลูกชายคนโตที่ต่างจังหวัด แกหมายมั่นว่าจะให้ภูวดลแบ่งห้องให้ขวัญข้าวเช่าอยู่เพราะเห็นขวัญข้าวติดภูวดลกับทรายมาตั้งแต่เด็ก ตลอดสัปดาห์ที่แล้วขวัญข้าวบินยาวสิบกว่าวันดังนั้นวันนี้พอกลับมาบ้านเธอจึงกลายเป็นบ้านคนอื่นไปเสียแล้ว

“พี่ขออยู่ค้างที่นี่สักวันสองวันนะ ไว้หาห้องดีๆได้แล้วค่อยว่ากัน”

“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ขวัญ พี่ขวัญทำตัวตามสบายไม่ต้องเกรงใจผมกับพี่ซีนะ”

วารินขอตัวขึ้นไปดูภูวดลข้างบนจึงเห็นว่าเขากำลังจัดที่นอนให้ขวัญข้าวที่ห้องนอนเล็กของเขา ภูวดลเวลาจดจ่อกับงานอะไรสักอย่างเขามักจะไม่ทันสังเกตว่ามีใครคอยจับจ้องเขาอยู่ ซึ่งวารินชอบมองตอนเขาเผลอมากๆมันทำให้รู้สึกว่าภูวดลมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก


....เสน่ห์แบบผู้ใหญ่....


“พี่ซีจ๋า”

วารินสวมกอดเข้าที่เอวพี่ชายเขาเขย่งนิดหน่อยเพื่อให้ระดับคางเกยไหล่หลังภูวดลได้พอดี ภูวดลตกใจแต่พอรู้ว่าเป็นทราย มือใหญ่ก็เอื้อมมายีผมนิ่มๆทันที


.....พี่ซีอบอุ่นเสมอ....


“ขอบคุณนะครับที่วันนี้ยอมกลับมานอนเป็นเพื่อน ทั้งที่ทรายมีงานต้องทำแท้ๆพี่ซีนี่ใช้ไม่ได้เลยเนอะ”

เป็นเขาเองที่โทรเรียกทรายให้กลับมานอนเป็นเพื่อนเพราะกลัวว่าขวัญข้าวจะโดนครหาเรื่องอยู่ลำพังกับเขาแค่สองคน เรื่องจริงก็คือเขากลัวขวัญข้าวบุกเข้าหาตอนกลางดึกมากกว่า

“มันจำเป็นนี่ครับพี่ซีอย่าคิดมากนะ ทรายบอกธารไว้แล้วน้องเขาคง.....เข้าใจ”

วารินเสียงอ่อนในตอนท้ายเขารู้ดีว่าคราวนี้ธาราธารโกรธมาก โกรธที่เขาไม่ยอมบอกเหตุผลไม่ใช่ว่าโกรธที่เขาไม่ยอมอยู่ค้างด้วย แต่เขาจะบอกได้อย่างไร บอกว่าพี่เขากลัวผู้หญิงจับงั้นหรือ? ไม่อยากนอนกับผู้หญิงสองต่อสองงั้นหรือ? มันดูเหมือนภูวดลไม่ได้เรื่อง เขาไม่อยากให้ใครมาหัวเราะพี่ชายเขาแบบนั้น

ในที่สุดภูวดลบอกขวัญข้าวให้พักที่ห้องเขาไปก่อน เธอท่าทางดีใจมากแต่พอรู้ว่าเขาจะไปนอนห้องเดียวกับวารินเพราะไม่อยากให้เธอเสียหาย ขวัญข้าวก็ยอมเข้าใจ

ภูวดลรู้ดีว่าอีกฝ่ายหัวสมัยใหม่ แค่เพียงเขาจะมีใจอยู่บ้างคงได้เธอมาเป็นภรรยาโดยไม่ต้องเสียเงินทองแห่ขันหมากแต่สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องแบบนั้นคนที่เขารักดันเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายตัวเอง ถึงแม้จะเป็นน้องชายต่างสายเลือด แต่ก็อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่แบเบาะอีกทั้งทั้งเขาและทรายยังเป็นผู้ชายกันทั้งคู่ และเพราะอย่างนั้นเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้เขาจะไม่มีทางให้วารินมาแปดเปื้อนโดนครหาจากสังคมเพราะเขาเป็นอันขาด

ถึงจะรักมากแค่ไหน...ก็ต้องรักให้เงียบที่สุดเท่านั้น

“พี่ซีคิดอะไรคิ้วขมวดเป็นโบว์แล้ว”

ท่ามกลางความมืดวารินนอนกอดเอวภูวดลไว้ นิ้วเล็กไล้ไปที่หว่างคิ้วเขาเบาๆ ภูวดลยังคงเงียบเขาใช้สายตาอบอุ่นมองดูดวงหน้าของคนที่เขาคิดว่ารักมากที่สุดในชีวิต


“นอนเถอะครับ ราตรีสวัสดิ์นะพี่ซี”


“ฝันดีครับทราย”


...เด็กดีของพี่...
.

.
Tbc.

* เรื่องนี้ไม่ใสนะคะ* เกือบ ๆจะถึงจุดสำคัญของเรื่องแล้ว...ขอบคุณทุกท่านที่ยังตามอ่านกันอยู่จะพยายามลงให้ทุกวันนะ*  :write-a-letter:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 14-03-2014 14:58:30
เห็นว่าอัพตอนใหม่แล้ว เลยรีบวิ่งเข้ามาอ่านค่ะ >.<

พี่ทรายทำธารโกรธแล้วน๊าา หาข้อแก้ตัวดี ๆ ล่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: iceland ที่ 14-03-2014 15:31:40
ไม่ชอบเลยผู้ชายแบบธาร

เห้อออออออ  สงสารทรายยยย

กลับไปโดนไล่แน่นๆๆเลย

มาต่อไวๆๆๆน๊าาาาาาาาาาาา

 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 14-03-2014 17:33:02
นี่ก็รอไม่ให้มันใสอยู่นะคะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 14-03-2014 18:02:28
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 14-03-2014 18:06:49
มาแล้วๆๆๆๆๆๆๆเย้ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: P.PIM ที่ 14-03-2014 21:36:27
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 ต้อวทะเลาะกันอีกแน่ๆเลย
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: Serioz ที่ 14-03-2014 22:06:36
แอบมุ้งมิ้งนะพี่ซีกับพี่ทราย โอ้ยยชอบพี่ซีมากกว่าธารอ่ะ 55555555555
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 14-03-2014 22:27:04
 :a5: ไม่น่าเชื่อว่าธารจะไม่ทำอะไรทรายเป็นปีๆ
นึกว่าอย่างธารไม่ได้ก็ต้องเอาให้ได้
ส่วนความสัมพันธ์สองคนนี้ผ่านไปสองปียังไม่เปลี่ยนไปเลยซักนิด
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: TheWolf ที่ 14-03-2014 22:33:13
หนุก ๆ มาต่อไวๆนะ
 :ling1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 14-03-2014 22:42:01
บางทีก็รำคาญนิสัยแบบทรายนะ ไม่รู้ว่าจะอมอะไรไว้พูด ๆ ไปก็จบ นิสัยมันหงุงหงิงผู้หญิงนะนี่ถ้าอารมณืแปรปรวนด้วยนี่ใช่เลย
ส่วนธารนี่คุณชายเอาแต่ใจจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[14/03/57] บทที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-03-2014 22:48:44
ความรู้สึกของธารที่มีต่อทรายมันดูบริสุทธิ์ดีน้าาา :o8:
วัดจากการอยู่ด้วยกันเป็นปีๆแต่ไม่มีอะไรในกอไผ่ :laugh:
แต่ตอนที่ทรายอยู่กับพี่ซีก็น่ารักดีอ่า เชียร์ใครดีน้อ :impress2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 15-03-2014 17:06:10
บทที่10



“ฮ..อื้ออ ธาร”

บัวชมพูครางฮือผวามือขึ้นขยุ้มเรือนผมสีเข้ม สองขาเรียวกระหวัดขึ้นเกี่ยวรอบสะโพกแกร่งขณะอีกฝ่ายเคลื่อนกายเข้าออกอย่างดุดัน เสียงพับๆๆของผิวเนื้อที่กระทบกันถี่ๆยิ่งเป็นดั่งยากระตุ้นชั้นดีให้ฝ่ายหญิงแทบคลั่ง

“อื้ออ...”

เขาซุกไซ้ริมฝีปากลงขบเม้มหน้าอกอวบนูน หญิงสาวแสนจะอิ่มเอมเธอแทบสำลักความสุขตาย จมอยู่กับตัณหาราคะที่เขาพาเธอดำดิ่งลงไปจนลึก ชายหนุ่มผละตัวออกจับเธอพลิกคว่ำดึงสะโพกขาวเนียนให้ลอยเด่น สอดแก่นกายร้อนๆกระแทกกระทั้นลงไป บัวชมพูถึงกับครางลั่นห้องขณะที่ธาราธารหลับตาพริ้มซอยถี่ยิบ 


...ใช่ เขารุนแรง บทรักของเขามักจะร้อนแรงดุดันเสมอ แต่คราวนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งที่เขาเคยเป็น...


....บัวชมพูดันมาอยู่ในวันที่เขาเพียงแค่ต้องการระบายอารมณ์หนักกว่านั้นใส่ใครสักคน เลวระยำคือเขาเอง...


'รับได้ใช่ไหม บัวก็รู้นี่ว่าผมยังไม่คิดจะหยุดอยู่ที่ใคร'


'บัวรักธาร'


'ไม่จูบนะ'


“ฮ..อ๊าา” เขาถอนร่างออกจนหมดแล้วกระแทกกายเข้ามาใหม่ คร่าพรหมจรรย์หญิงทิ้งอย่างไม่ไยดี “ฮ..อื้ออ..”บัวชมพูก้มหน้าจิกหมอนแน่น


...เจ็บ แต่แสนจะสุข เพราะรักจึงยอมขอแค่ร่างกายของเขาเท่านั้น....


ธาราธารดึงสองแขนเธอรวบมาไว้ด้านหลังจับยึดไว้แน่นขณะซอยเข้าออกถี่ยิบบัวชมพูนิ่วหน้าเหยเกครวญครางไม่ได้ศัพท์ เขาไม่มีความคิดก้มลงไปจูบซับแผ่นหลังเลยด้วยซ้ำ ธาราธารแสดงออกห่างเหินยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องดึงเวลาให้นานไปกว่านี้ ทั้งที่สะโพกกลมสวยออกอย่างนั้นผิวกายขาวเนียนละเอียดรูปร่างหน้าตาหมดจดไม่แพ้ใคร แต่เขากลับไม่มีอารมณ์จะสานต่อสัมพันธ์ให้นานยิ่งกว่าที่เป็นอยู่


“อึกก...ฮื้ออ...ธารๆๆ..อ๊าา”


บัวชมพูรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกพลันดับวูบเสียงเรียกชื่อชายที่เธอรักสั่นเครือไม่เป็นภาษา ธาราธารถอนกายออกมาเขาปลดถุงยางอนามัยทิ้งแล้วรูดรั้งแท่งร้อนถี่ๆอยู่ไม่กี่ครั้งปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นลงที่สะโพกกลมกลึงของอีกฝ่าย ชายหนุ่มลุกออกไปแล้วบัวชมพูฟุบลงอย่างหมดแรงมองดูเขาแน่นิ่ง


....เขาเย็นชา ไม่ใส่ใจเลยจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยอมรับว่าตัวเองคงถอนตัวยากเสียแล้ว...


“ไปอาบน้ำสิ”


เขาเดินกลับมาใช้กระดาษทิชชู่เช็ดคราบสีขาวที่เขาปลดปล่อยลงบนตัวเธอ บัวชมพูยิ้มกว้างความหวังกลับมาอีกครั้ง เธอนั่งคุกเข่าลงที่หว่างขาเขาสองมือโอบอุ้มลูกชายเขาไว้รูดรั้งแท่งร้อนขึ้นลงอยากจะกระตุ้นเขาบ้าง ดวงหน้าสวยเงยสบตาคมๆของเขาที่อ่านไม่เคยออกเลยว่ารู้สึกอย่างไรกับเธอบ้างรึเปล่า ธาราธารมองเธอนิ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงกระชากเธอขึ้นมาจูบแล้วลูบผมเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม


....แต่ตอนนี้ความรู้สึกเขามันไม่ใช่ จิตใจเขาวนเวียนคิดถึงใครคนอื่น...


ธาราธารหลับตาแน่นเท้าสองมือเอนลงด้านหลังปล่อยเธอทำตามใจตัวเอง เขาเย็นชาขนาดนี้เธอไม่สังเกตบ้างหรืออย่างไร


ลิ้นเล็กๆกระหวัดเลียรอบหัวสีชมพูนิ่ม ก่อนที่ปากเล็กจะอ้ากว้างพยายามครอบลงไปจนเกือบมิด คงเป็นครั้งแรกของเธอเพราะทุกอย่างดูทุลักทุเลพอสมควร เขากวาดสายตามองดูคราบพรหมจรรย์บนผ้าปูที่นอนสีน้ำตาล ร่างเล็กก้มหน้าก้มตาดูดดุนแก่นกายร้อนเข้าออกอยู่อย่างนั้นขณะเธอปีนป่ายขึ้นมาจะนั่งบนตักเขาธาราธารยันตัวเธอไว้เอื้อมมือไปหยิบถุงยางอนามัยที่วางทิ้งไว้บนเตียงมาฉีกซองออกแล้วครอบลงบนลูกชายตัวเองจนมิดอีกครั้ง บัวชมพูนั่งหันหน้าเขาหายกสองมือยึดบ่ากว้างแล้วบดเบียดสะโพกลงไปทีละนิดจนจมมิดแท่ง


“อึ๊กก....ธาร...อ๊าา” เธอเริ่มเคลื่อนกายเข้าออกอย่างที่เคยเห็นในหนัง สองมือจิกบ่าแกร่งจนเกร็งแน่น เธอเจ็บและเสียวจนแทบจะบ้าอยากให้เขาโอบรัดตัวเธอไว้ในอ้อมกอด เธออยากทำให้เขาติดใจเธอ อยากให้เขาหยุดที่เธอเป็นคนสุดท้าย เธอจึงลองทำอย่างที่เคยเห็นในหนังเอวีหวังจะใช้เซ็กส์มัดใจอีกฝ่ายไว้


เธอทำอยู่นานจนธาราธารรู้สึกสงสาร เขาประคองเอวเธอไว้ละตัวออกจับเธอนอนตะแคงแล้วซ้อนตัวเข้าทางด้านหลังยกขาเธอลอยค้างไว้กระเด้งลูกชายเขาเข้าออกถี่ๆกะเอาให้เสร็จไวๆเพราะเขาไม่มีอารมณ์แล้ว จนท้ายที่สุดเขาชักกายร้อนผ่าวออก ปลดถุงยางอนามัยทิ้งบัวชมพูรีบลุกขึ้นครอบปากลงที่ลูกชายเขาทันที ธาราธารรีดน้ำสีขาวขุ่นผ่านลำคอเธอเข้าไปจนเกลี้ยง บัวชมพูตวัดลิ้นสีแดงเลียรอบริมฝีปากสวย เธอช้อนตาขึ้นมาขอรับจูบจากเขาหวังว่าเขาคงให้เป็นรางวัล


“ผมบอกไปแล้วนี่”


เขาพูดเย็นชาอย่างเคยผละตัวลุกขึ้น บัวชมพูนั่งหลับตาแน่นสองมือเล็กยึดผ้าปูที่นอนอย่างรู้สึกโกรธอายและเสียหน้า เฝ้านึกถึงแต่ประโยคๆนั้น   



'ไม่จูบนะ'



....ผู้ชายใจร้าย แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ยังรัก...


.

.


เสียงข่าวหกโมงเช้าจากสถานีวิทยุดังอยู่เป็นระยะตัดกับสปอร์ตโฆษณา วารินเลื่อนมือไปกดหาสถานีอื่นหวังจะมีเพลงเพราะๆฟังอารมณ์ดีๆตอนเช้าอากาศดีแบบนี้ เขาหลุดหัวเราะยกมือเล็กป้องปากขณะดีเจยิงสปอร์ตตัวใหม่ที่เว้าเป็นภาษาเหนืออีสานกับใต้ปนกันให้คนฟังพอได้ขำ


รถจอดลงที่ซุปเปอร์เล็กๆก่อนจะถึงคอนโดที่หมาย วารินแวะเข้าไปซื้อหาขนมปัง ไส้กรอก และแฮม แบบที่อีกฝ่ายชอบทานเป็นประจำติดมือไปด้วย สายตาเหลือบไปเห็นลูกอมช็อกโกแลตยี่ห้อโปรดเขาเลยหยิบมาใส่ตะกร้าไว้อันหนึ่งกะว่าจะเอาไปฝากธาราธารไถ่โทษเรื่องเมื่อคืน

วารินแอบอมยิ้มอยู่คนเดียว เด็กน้อยขี้งอนป่านนี้คงนอนหลับอุตุอยู่ในห้องแน่ ๆ


“อรุณสวัสดิ์ครับ”


ร่างเล็กๆยิ้มทักทายคุณลุงคนดูแลคอนโดอย่างที่เคยทำทุกครั้ง และทุกครั้งก็จะโดนแซวกลับว่าเขาหอบข้าวของพะรุงพะรังแบบนี้จะไปทำอาหารเลี้ยงใครที่ไหน วารินกดลิฟต์ที่หมายเลขเดิมอย่างเคย ครู่เดียวเขาก็เดินมาถึงหน้าห้อง มือเล็กล้วงเอาคีย์การ์ดออกมาทาบเสียงติ๊ดดังขึ้นเขาเปิดประตูเข้าไปด้านใน


ห้องยังคงมืดมากวารินเดินเอาของไปวางที่ครัว รูดม่านหน้าต่างเปิดรับแสงแดดยามเช้า ฮัมเพลงเรื่อยเปื่อยอย่างสบายอารมณ์ วารินเปิดเข้าไปดูในห้องเล็กหนังสือหนังหายังกองซ้อนกันอยู่ที่เดิมไม่ถูกรื้อแสดงว่าเมื่อคืนธาราธารคงไม่ได้เข้ามาใช้ห้องนี้เลยวารินกดปิดไฟแล้วงับประตูลงเบา ๆ เมื่อเดินไปจนถึงหน้าห้องนอนใหญ่ความเย็นจากแอร์ลอดออกมาทางช่องประตูด้านล่างวารินจึงชะงักมือที่กำลังจะหมุนเปิดเข้าไป คิดว่าธาราธารคงกำลังหลับอยู่ เมื่อคืนหลังจากวางสายกันแล้วเขาก็ไม่รู้อีกว่าธาราธารกลับมาถึงห้องกี่โมง และเพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์เขาจึงไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายมากเกินไป


‘ลองแอบดูสักหน่อยก็แล้วกัน’ วารินคิดในใจ มือเล็กหมุนลูกปิดประตูทันทีห้องมืดมากสัมผัสจากอุณหภูมิเย็นเฉียบ เมื่อมองเห็นคนนอนคว่ำหน้านิ่งอยู่บนที่นอนภายใต้ผ้าห่มผืนโตวารินเผลอยิ้มออกมา ธาราธารนอนผิดฝั่งแล้ว นั่นมันที่นอนเขาต่างหาก วารินยู่หน้าขณะกำลังจะปิดประตูไว้อย่างเดิมมีเสียงคนเปิดประตูห้องน้ำด้านในดังผั๊วะออกมา


ธาราธารเดินอวดรูปร่างสูงใหญ่ภายใต้ผ้าขนหนูสีขาวหยดน้ำเกาะพราวแผงอกแกร่งฟิตเปรี๊ยะ วารินเบิกตาค้างในเมื่อธาราธารยืนอยู่ที่นั่นแล้วใครกันนอนอยู่บนเตียง วารินแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเผลอก้าวเข้าไปยืนในห้องนั้นตอนไหน ดวงตาสวยกวาดมองในความมืดราวกับกำลังสำรวจหาอะไรบางอย่าง แผ่นหลังขาวนวลเนียนโผล่พ้นชายผ้าห่มออกมา เสื้อผ้าชุดชั้นในถุงน่องที่ฉีกขาดตกกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น กระเป๋าถือ รองเท้าส้นสูง ตะแคงล้มระเนระนาดคนละทิศละทาง ดวงตากลมทอแววผิดหวังถึงที่สุดวารินแทบไม่รู้สึกตัวถ้าหากร่างสีขาวเปลือยที่นอนอยู่บนเตียงไม่ลุกขึ้นมานั่งมองหน้าเขาอย่างตื่นๆ ร่างเล็กหลบสายตาคู่นั้นและหลีกเลี่ยงที่จะสบมันกับใครบางคนที่ยืนจ้องเขาอยู่ก่อนนั้นแล้ว



....ไม่มีอะไรดีไปกว่าการถอยหลังจากไปแบบเงียบๆ....



เขายังมี ‘หน้าที่ๆต้องทำ’ วันนี้วันอาทิตย์เขาจะต้องทำอาหารไว้ให้ธาราธารหลังจากนั้นจัดห้องหนังสือนิดหน่อยเก็บเสื้อผ้าเตรียมให้แม่บ้านมารับไปซัก มีเสื้อช้อปและเสื้อกาวด์ต้องส่งซักรีดสองตัว มีนัดต้องไปรับเสื้อสูทและโคทลงพื้นที่ในเย็นวันนี้อีกหนึ่งตัว วารินวางไส้กรอกลงในหม้อต้มน้ำทั้งที่มันยังไม่เดือดเลยด้วยซ้ำ หลังจากนั้นเขานำออกมาจัดใส่จาน ธาราธารไม่ชอบทานของทอดเพราะฉะนั้นแม้แต่แฮมยังต้องต้มสุกเช่นกัน เขาจัดขนมปังหนึ่งชิ้นแฮมสองชิ้นไส้กรอกสี่ชิ้นแล้วยังแถมด้วยออพชั่นเสริมไข่ลวกสี่ฟองสำหรับวันนี้โดยเฉพาะ ท่าทางเมื่อคืนคงหนักหนาเอาการอยู่



...ติ๊ง....



มันไม่ใช่หยดน้ำจากดวงตาเขาหรอก คนอย่างเขาจะร้องไห้เพราะเด็กแบบนั้นทำไม ธาราธารอยู่ในวัยกำลังเติบโตอยากรู้อยากลอง ไม่ผิดสักนิดที่พาผู้หญิงมานอนด้วย เขาเป็นแค่คนดูแลจัดการธุระแทนคุณแม่ของธาราธารเท่านั้นไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว



...ติ๊ง......



น่ารำคาญจริงๆ หยดน้ำจากที่ไหนกันนะ ริมฝีปากเล็กสั่นนิดๆเขาเม้มมันแน่นก้มหน้าก้มตาเรียงอาหารบนจานครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่แน่ใจว่าจะต้องเตรียมเผื่ออีกที่ด้วยไหม ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแค่นี้เขาจะตัดสินใจไม่ได้มือเล็กกำขอบจานแน่นยังคิดไม่ได้ว่าควรทำอะไรต่อไปยังไง ดูเหมือนว่าความคิดเขาค่อนข้างสับสน


“เดี๋ยวผมกลับมา พี่อย่าเพิ่งออกไปนะ”


เขาเดินมาบอกวารินไว้แค่นั้นก่อนเดินตามหลังเด็กสาวออกไป วารินครอบฝาชีลงบนโต๊ะอาหาร ล้างเครื่องครัวที่ใช้แล้วจนเสร็จเรียบร้อย โทรหาแม่บ้านเพื่อให้ขึ้นมาทำความสะอาดเตียงและรับเสื้อผ้าไปซักเร็วกว่าปกติ จากนั้นลงไปเอาเสื้อสูทที่มีนัดรับในวันนี้ขึ้นมาแขวนใส่ตู้ไว้ให้จนเรียบร้อย อดไม่ได้ที่จะมองไปยังเตียงกว้างที่ยังยับยู่ยี่กลิ่นคาวราคียังเต็มปรี่อยู่ในจิตใจ วารินเดินอ้อมไปหยิบไอพอดที่ลืมวางไว้บนโต๊ะหัวเตียงเมื่อวันก่อน กวาดสายตามองรอบห้องอีกครั้งก่อนงับประตูลงแล้วออกจากห้องนั้นไป


“น้องทรายคะโทรศัพท์สั่นตั้งแต่มาแล้วนะไม่รับหน่อยเหรอ”


ในเมื่อวันนี้ไม่มีอะไรต้องทำอยู่แล้ว ถึงนึกอยากจะกลับไปนอนเล่นอยู่ที่บ้านแต่ภูวดลก็ไม่อยู่เพราะพาขวัญข้าวไปทำธุระเรื่องหาห้องพัก วารินจึงขับรถวนอยู่ที่โรงแรมถึงสองรอบแล้วตัดสินใจเข้าไปช่วยงานอยู่ด้านหลังห้องรับรองใหญ่ที่วันนี้ดูเหมือนช่วงเย็นจะมีงานการ์ล่าดินเนอร์


วารินปล่อยโทรศัพท์ให้สั่นตลอดเวลา ยังไม่พร้อมจะเจอธาราธารในตอนนี้ไม่แน่ใจว่าตัวเองโมโหเรื่องอะไร โกรธธาราธารเรื่องอะไร ไม่พอใจใคร ที่สำคัญไอ้หยดน้ำตาบ้าๆนั่นมันไหลลงมาทำไม


วารินยกมือขยุ้มหน้าอก ปวดร้าวหัวใจเพียงแค่นึกสิ่งที่ตัวเองมองเห็นเมื่อตอนเช้าร่างกายเปลือยเปล่าของผู้หญิงคนนั้นบนเตียงของเขา  ไม่กล้ายอมรับความจริงเรื่องนั้น เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีความรู้สึกเจ็บปวดแบบนั้นกับธาราธาร ฝ่ายนั้นยังเด็กเกินไปและที่สำคัญฐานะและหน้าที่ของเขาที่มีต่อเด็กนั่น  เขาไม่มีวันหักหลังผู้มีพระคุณอย่างภัครจิราแน่


“ผมไปนะครับ” วารินบอกลาเพื่อนร่วมงาน


“ขอบใจมากนะจ๊ะทรายเหนื่อยหน่อยนะ/ขอบคุณมากครับคุณวาริน/อุตสาห์แวะมาช่วยพี่เกรงใจจริงๆ” และอีกหลายๆถ้อยคำที่มอบให้กับวารินก่อนเขาจะขอปลีกตัวกลับ



...สี่ทุ่ม..


รถญี่ปุ่นคันเล็กเบรกตัวลงที่หน้ารั้วไม้เตี้ยๆสีขาวอย่างเดิม วารินทอดสายตามองดูแสงไฟในบ้านยังคงเปิดสว่างจ้าอยู่ เขาดับไฟหน้ารถลงพิงศีรษะเล็กไว้กับพนักพิงด้านหลัง หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ความจริงวันนี้วารินไม่จำเป็นต้องเข้าไปช่วยงานที่โรงแรมเลยเขาเพียงแค่ต้องการอยู่ในที่ๆมีคนเยอะๆชวนคุย  เขาไม่อยากอยู่คนเดียวไม่อยากจมอยู่กับความคิดไร้ค่าที่มักเตลิดตะเลยไปไกล


วารินถอนใจ หยิบโทรศัพท์ออกมากดดูที่หน้าจอ 150 สายไม่ได้รับจากคนๆเดียว เขายัดมือถือลงในกระเป๋าตามเดิม  ทันทีที่เปิดรถก้าวลงไปกลิ่นหอมของดอกลั่นทมต้นใหญ่โชยมากระทบปลายจมูก วันนี้เขาคงต้องเปิดรั้วเองปกติถ้าภูวดลได้ยินเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้านจะรีบวิ่งมาเปิดให้วาริน แต่วันนี้วารินจอดเยื้องออกไปอีกนิดเพราะอย่างนั้นภูวดลอาจจะไม่ได้ยิน


“...พี่ทราย...”


วารินสะดุ้งจนตัวโยน จู่ๆเสียงใครสักคนเรียกขึ้นในความมืด ธาราธารลุกจากพื้นซีเมนต์ ใช้ฝีเท้าหนักแน่นก้าวเข้ามาหา


“กลับห้องกันนะ ผมมารับ”  เขาบอกเสียงนิ่ง


วารินมองหน้าธาราธารแน่นิ่ง แต่แววตาสวยกลับแฝงไปด้วยความเศร้าสร้อย  เขาสองคนต่างมองดูกันเงียบๆ  เมื่อสายลมยามดึกพัดผ่านหอบเอาความหอมของดอกลั่นทมแตะโชยปลายจมูก เด็กหนุ่มค่อยยกมือเกลี่ยเส้นผมที่ปลิวระใบหน้าขาวแล้วเหน็บทัดเข้าที่หลังหูเล็กให้อย่างเบามือ ผมสลวยยังคงปลิวระฝ่ามือใหญ่อย่างดื้อดึง เขาเอื้อมไปเด็ดดอกลีลาวดีที่โน้มช่อลงมาหนึ่งดอก บรรจงทัดลงข้างเรือนผมของคนตัวเล็กอย่างตั้งใจ 


“ทำไมถึงโกรธ” เขาถามเสียงเรียบ


“ป...เปล่า  พี่ไม่ได้โกรธเรานะ” วารินก้มหน้างุด แก้ตัวตะกุกตะกัก   


....นั่นสิ เขาโกรธทำไม เขาไม่พอใจเรื่องอะไร...มีสิทธิ์?....


สายตาคมกล้ามองจ้องลงมาอย่างคนรู้ทัน  “ถ้าพี่ไม่ชอบ ผมจะไม่ทำอย่างนั้นอีก”   เขาพูดอย่างหนักแน่นแล้วยกมือขึ้นแตะพวงแก้มที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อของวารินเบาๆ คงจะเขินอายเรื่องที่เขาเอาลั่นทมทัดให้แบบนั้น วารินผมยาวสลวยระลำคอเมื่อแซมเข้ากับดอกไม้สวยแล้วน่าดูไม่เบา  เขาชอบมองวารินทำหน้าเหมือน ‘ลูกหมา’ นี่ถ้าไม่ติดว่าตัวเองอายุน้อยกว่าเขาคงจะเผลอเรียก ‘หมาเอ๊ย’ ออกไปแล้ว 


“กลับกันนะ  ผมหิวแล้ว”


“ธาร พี่...”


เป็นเพราะไม่อยากกลับไปนอนค้างที่ห้องนั้นอีกแล้ว ภาพเด็กสาวนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงที่เขาเคยนอนเป็นประจำ พอคิดได้เท่านั้นหัวใจก็เจ็บจี๊ดขึ้นมา


“ไม่ใช่ว่าพี่ชอบหรือไม่ชอบแล้วจะเกี่ยวกับว่าธารจะทำหรือไม่ทำอะไร พี่ไม่อยากให้เราคิดแบบนั้น ตั้งแต่วันนี้ไปพี่จะไม่ไปค้างที่ห้องนั้นอีก ธารโตแล้วอาจจะอยากพาแฟนมานอนค้างด้วยกัน พี่ไม่อยาก.....”


“ไม่มีหรอก..จะไม่มีอีกแล้ว”


ธาราธารแทรกขึ้นกลางครัน จับไหล่เล็กหันเข้าหาอย่างเบามือ  “เขาไม่ใช่แฟนผมและผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”  แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าวารินไม่ชอบใจ เขาไม่อยากเห็นใบหน้าที่ตึงเครียดแบบนี้ของคนตัวเล็กอีกแล้ว


“พี่ทรายฟังนะ.. ผมจะไม่ทำอย่างนั้นอีก  ผมรู้แล้วว่าพี่ไม่ชอบ ไว้สุดสัปดาห์นี้เราไปหาห้องใหม่กัน พี่อยากได้ที่ไหนลองคิดเอาไว้ เอาให้ใกล้ที่ผมเรียนหน่อยก็ดีต่อไปปีสูงขึ้นผมคงต้องเทียวเข้าเวรดึกๆตลอด ไม่อยากใช้หอพักแพทย์ในโรงพยาบาล แล้วก็ไม่อยากเปลี่ยนห้องใหม่อีกแล้ว”


ธาราธารไม่ใช่คนพูดมากเขากล่าวย้ำร่ายยาวมาขนาดนี้วารินก็แปลกใจมากพอ ดวงตาที่จ้องมองอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความมั่นคงไม่สั่นไหว เขาพูดเหมือนกำลังให้คำสัญญากับคนที่สำคัญ 


“ธาร พี่ไม่.....”  กลับกลายเป็นวารินเองที่ละล้าละลัง อาจจะด้วยวัยที่แตกต่างมากเกินไป วารินไม่สามารถยอมรับใจตัวเองได้


“พี่ทราย...ผมไม่เคยผิดสัญญา ให้โอกาสผมนะครับ”  เขาแนบนิ้วชี้เข้าที่เรียวปากสวยของวาริน เอ่ยสัญญาที่กลั่นออกมาจากหัวใจ


ธาราธารไม่ได้เอ่ยปากขอโทษ เพราะเรื่องราวเกี่ยวพันกับความรู้สึกที่ยังไม่สามารถพูดให้ชัดเจนลงไปได้ เขาไม่ได้ขอให้วารินยกโทษให้ หากแต่เขาเพียงแค่ขอโอกาสเมื่อได้รับรู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรสำคัญแค่ไหนสำหรับหัวใจของเขา  เด็กหนุ่มได้ให้สัญญาเป็นคำมั่น หากวารินลองคิดดูสักนิดก็จะเข้าใจคำพูดเหล่านั้นของเขาได้


แม้ว่ากลางดึกคืนนั้นวารินจะยุ่งวุ่นวายอยู่กับการเก็บห้องนอนที่ขวัญข้าวมาใช้นอนค้างเมื่อคืนวาน แต่ในใจกลับคิดวนเวียนถึงแต่คำพูดของธาราธารอยู่ตลอด



....เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คำสัญญาจะเชื่อถือได้แค่ไหนกัน....



“นอนไม่หลับ?” ภูวดลที่นอนกอดวารินอยู่ถามขึ้น


“คิดมากเรื่องอะไรครับ เรื่องเด็กนั่นเหรอ” เมื่อสักครู่ภูวดลออกมาเห็นตอนที่ธาราธารกำลังจะกลับพอดี วารินพลิกตัวนอนหงายจ้องมองเพดานมืดๆ


“พี่ซี  ธารเขาพาผู้หญิงมานอนที่ห้อง ที่ห้องเขาน่ะครับ”


“งั้นเหรอ  ก็คงธรรมดาล่ะมั้งเพราะวัยน้องเขาก็คงจะมีคนที่คบๆด้วยอยู่แล้ว แล้วทรายคิดมากเรื่องอะไรครับ”


“ป...เปล่า ทรายแค่คิดว่ามันเร็วไปน้องยังเด็ก เขายังเรียนอยู่เลย” วารินทำหน้างงๆหลังจากพูดไปแล้วเพราะภูวดลเอาแต่หัวเราะหึหึหึในลำคอ


“พี่ซีหัวเราะอะไรทรายจริงจังนะก็น้องเขายังเด็กเกินไป ทีพี่ซีทรายยังไม่เคยเห็นพาใครมานอนค้างแบบนั้นเลย”


วารินพูดแล้วก็นึกถึงเด็กคนนั้นขึ้นมา ชนาธิปเด็กคนที่เมื่อปีที่แล้วมาให้ภูวดลวาดรูปให้แล้วเผลอหลับไปจนต้องค้างคืนที่นี่ แต่นั่นมันก็คนละกรณีกับของธาราธาร


“ไม่เด็กแล้ว ธารน่ะเขาโตมากกว่าทรายอีกนะ  เรานั่นแหละเด็กทำตัวเหมือนคุณพ่อหวงลูกชายเลยแฮะ พอลูกพาแฟนสาวเข้าบ้านคุณพ่อก็อาละวาดเลยสิท่า” ภูวดลเคาะหน้าผากนูนเล่นเบาๆ วารินได้แต่เบ้ปากหดตัวหนีแล้วมุดหน้าซุกลงที่หน้าอกอุ่นนั่นอย่างเคย


“ทรายเปล่า ทรายแค่ลองคิดดูทำไมพี่ซีถึงไม่เคยทำแล้วทำไมธารถึงต้องทำ”


“ทรายครับ อย่าเอาการกระทำของคนๆหนึ่งเป็นตัวตัดสินว่าอีกคนทำดีหรือไม่ดียังไง เพราะคนเราย่อมมีเหตุผลที่แตกต่างกัน พี่กับธารเป็นคนละคน ทรายอย่าเหมารวมไปแบบนั้น พี่ซีสอนเพราะหวังดีนะครับ”


“พี่ซีขี้โกงเข้าข้างคนอื่น” วารินเบ้ปากทำแก้มป่อง เขากะจะหันหนีแต่ไม่ทันที่ภูวดลชิงขึ้นทาบทับเสียแล้ว มือเล็กทุบรัวลงที่อกใหญ่ทันที “อื้ออ หนัก”


“ทำโทษก่อนมาว่าพี่ซีเข้าข้างคนอื่นได้ยังไง หืม เรานั่นแหละเด็กทำหน้าแบบนั้นทำไม หวงเขารึไง ไม่ชอบใจที่น้องเขาพาคนอื่นมานอนด้วยล่ะสิ”


ภูวดลจับล็อคใบหน้าเล็กไม่ให้หันหนี เขาแกล้งลากเสียงยิ้มๆพูดใส่วาริน


“เปล่านะไม่ใช่ ทรายไม่ได้หวงแล้วทรายก็ไม่เด็กแล้ว ทรายโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว”


ภูวดลแกล้งปีบปากเล็กจนจู๋ เสียงของวารินจึงอู้อี้ไม่ได้ศัพท์  “เป็นผู้ใหญ่แล้วจริงอ่ะ”


“อื้อ” วารินพยักหน้ารับ ภูวดลจ้องมองลงไปที่ดวงตาสีอ่อน ความรู้สึกวาบโหวงเกิดขึ้นในอก แววตาของวารินเปลี่ยนไปเมื่อพูดถึงเด็กในความดูแลคนนั้น


เขาค่อยบรรจงจูบลงที่ขมับเล็กเบา ๆ ทั้งมือก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีกราวกับว่ากลัวจะสูญเสียของสำคัญไปให้ใครคนอื่น “พี่ซีรักทรายนะครับ”


“ครับ ทรายก็รักพี่ซี”


ช่างเป็นคำว่า ‘รัก’ ที่ต่างความหมายกันมากมายจริง ๆ


ในอ้อมกอดใหญ่ วารินหลับตาลงแล้วหากแต่จิตใจดันนึกถึงแต่ใครบางคน  แววตาในคำสัญญานั่น ‘ผมจะไม่ทำอย่างนั้นอีก ผมรู้แล้วว่าพี่ไม่ชอบ’  วารินข่มเปลือกตาแน่น


ภูวดลรักเขา....เขารู้  พี่ดีกับเขาทุกอย่างดูแลเขามาตลอด ความแตกต่างอะไรก็ไม่มีเขากับพี่เข้ากันได้ทุกเรื่องคุยกันเข้าใจ


ผิดกับเด็กอย่างธาราธาร จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะไปหลงชอบเด็กแบบนั้นเขาคงหลงเข้าใจผิดไปเอง เด็กนั่น พูดจาก็ไม่ได้เรื่อง เอาแต่ใจ ใช้เงินเก่ง งานบ้านทำไม่เป็นสักอย่าง แค่เรื่องฐานะระหว่างเขากับธาราธารก็ถือว่าผิดมหันต์แล้ว พี่เลี้ยงกับเด็กที่ต้องดูแล ความเป็นไปได้เท่ากับศูนย์ 


ยังไม่รวมถึงช่องว่างระหว่างวัย  ‘สิบสองปี’ ช่างเป็นตัวเลขที่งดงามถ้าหากว่าเราสามารถรอใครสักคนหนึ่งได้นานขนาดนั้น แต่ช่างเป็นตัวเลขที่น่าสมเพศถ้าหากว่าเราจะแอบรักใครสักคนที่เด็กกว่าเราถึงสิบสองปี วารินเผลอคิดไปได้อย่างไรว่าในแววตามั่นคงกับสัญญานั่นธาราธารเองก็มีใจให้กับคนอย่างเขา



...ต้องไม่ใช่ความรัก เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด....



....วารินกำชับตัวเองในใจ....



Tbc.
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 15-03-2014 17:28:27
อยากให้ทรายชัดเจนกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่ซีมากกว่านี้นะคะ เพราะเวลาอ่านแล้วมันทำให้รู้สึกติดลบกับตัวของทราย ในเมื่อทรายไม่ได้รักในตัวจองพี่ซี ก็ไม่ควรที่จะให้พี่ซีกอดหรือจูบหรือทำอะไรที่มากไปกว่าการกระทำที่พี่ชายกับน้องชายควรจะทำกัน จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 15-03-2014 17:39:41
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 15-03-2014 19:25:59
 :katai4: อยากเป็นนักเลงคีย์บอร์ดค่ะ
กับทรายนะ ไม่ใช่ธาร แต่คงทำไรมากไม่ได้
เพราะฮีคือนายเอก  :katai1:
ไม่ทรายค่ะเลยไม่เข้าใจความรู้สึกทราย
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 15-03-2014 19:30:58
เฮ้อ ธารกับทราย คู่นี้รับรองได้ว่า คบกันไม่ราบรื่นแน่ ถ้ากิดได้คบกันอะนะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 15-03-2014 20:46:08
ไปเร็วมากกกกกกกกกกกกกกกก.....ไม่อ่านแค่วันเดียวผ่านไปปีนึงละ
ทำไมรู้สึกว่าจะมีมาม่าก็ไม่รู้อ่ะขอให้คิดไปเองเหอะ ค.สัมพันธ์มันไม่เคลียร์อ่ะ
ธารก็ไม่ทำให้อีกฝ่ายเชื่อใจได้ ก่อนสัญญาก็น่าจะเคลียร์คนเก่าๆให้หมด
คือทรายดูเด็กมากกกกกอ่ะในความคิดเรา ซื่อๆ ไหนจะเรื่องแม่ธารอีก
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 15-03-2014 21:13:49
อึนมาก

แต่ชอบนะ ทุกตัวละครเหมือนมนุษย์ดี เป็นสีเทา
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 15-03-2014 22:53:47
พี่ทรายไม่ชัดเจนกับพี่ซีซะที
ส่วนธารนี่ได้กับพี่รหัสคืนเดียวแล้วทรายมาเห็นถึงกับสำนึกได้เลยเหรอ
นี่คือการสารภาพรักกลายๆเลยนะเนี่ย

รู้สึกว่าอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของคู่นี้คงไม่ใช่อายุ แต่เป็นการจัดการกับความรู้สึก

ชนาธิปหายไปเลยนะเนี่ย จะย้ายที่อยู่แล้วนะ
เห็นบอกว่าห้องอยู่ชั้นเดียวกับธารแต่ไม่เจอกันเลยเหรอ คลาดกันได้เป็นปี
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 15-03-2014 23:09:04
อึมครึมด้านนิสัยมันทุกตัวละครเลย
ทรายง่ายกับซีเกินไปป่าว รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังปล่อย
ซีก็ตามใจตัวเองไปมั้ย รู้ทั้งรู้ก็ยังทำ
ธารนี่ยังไง จะเอายังไงเดี๋ยวก็เหมือยยอมรับวามรู้สึกตัวเองเดี๋ยวก็ไม่ยอมรับ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 16-03-2014 00:18:20
คราวนี้ได้เห็นตำตาเลยนะพี่ทราย
จะเชื่อที่ธารพูดได้มากแค่ไหน เดี๋ยวก็รู้

>.<
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 16-03-2014 01:01:37
คิดว่าทรายควรจัดการกับความรู้สึกตัวเองกับพี่ซีให้ชัดเจนกว่านี้

สนุกมาก เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 16-03-2014 06:36:33
บางครั้ง ก็อดคิดไม่ได้ว่าความผูกพันที่ทรายมีให้ พี่ซี บางทีก็โคตรเห็นแก่ตัว

รู้ว่ารักมากกว่านี้ไม่ได้ ก็แอบหยอดแอบให้ความหวัง แอบหวงพี่ซีอยู่เรื่อย

แล้วก็หวั่นไหวแถมเอาแต่คิดมากเรื่องธารอีก ทรายเป็นนายเอกที่น่ารักนะ

แต่บางที ทรายก็เห็นแก่ตัวโคตรๆอ่ะ เข้าใจอยู่ว่าชีวิตนี้ มีแค่พี่ซีกับทราย

แต่แบบ พี่ซีแกก็มีความรู้สึกป่ะวะ? แกก็รักฝังลึกของแกอยู่นั่นแหละ แอบสงสาร
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 17-03-2014 15:28:41
บทที่11



“อร่อยไหมลูก ธารทานเยอะๆนะครับ”


ธาราธารเพียงแค่พยักหน้ารับเบา ๆ เมื่อเธอตักผัดเปรี้ยวหวานกุ้งใส่จานลูกชาย ดูเหมือนวันนี้ภัครจิราอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ธาราธารมาค้างที่บ้านสองสามวันแล้ว ช่วงหลังมาเธอให้วารินดูแลธาราธารตลอดและตัวธาราธารเองก็เรียนหนัก เพราะฉะนั้นนานๆทีเขาสองแม่ลูกจึงจะมีเวลาทานอาหารร่วมกันบ้าง


“วารินเป็นยังไงบ้าง เขาดูแลลูกดีรึเปล่า”


“...ครับ ก็ดี”


ธาราธารเงยหน้ามองภัครจิรานิ่ง เขาหยุดคิดนิดหนึ่งและตอบเรียบๆในแบบของเขา แต่ภัครจิราพอดูรู้ว่าธาราธารถูกใจวารินแค่ไหนเพราะไม่อย่างนั้นคงรีบมาบอกให้เธอเปลี่ยนคนใหม่นานแล้ว  เธอแอบมองลูกชายด้วยแววตายิ้มๆ ธารธารรูปร่างเปลี่ยนไปนิดหน่อยดูสูงขึ้นและตัวใหญ่ขึ้นกลายเป็นหนุ่มเต็มตัว พักหลังมานี้เขาไม่มีปัญหามาให้เธอตามสะสางตามแก้ไขอีกแล้ว เรื่องใช้เงินก็ลดลงซื้อแต่ละครั้งก็จะเป็นชิ้นใหญ่ๆไปเลยไม่หว่านเงินทิ้งพร่ำเพรื่ออย่างแต่ก่อนอีก  เธอแอบถามวารินอยู่เหมือนกันแต่อีกฝ่ายบอกไม่มีเรื่องอะไรต้องเป็นห่วงดังนั้นเธอจึงปล่อยวารินจัดการต่อไป


“แม่เองก็รู้สึกว่าเขาทำงานนี้ได้ดี ต่อไปจะค่อยๆให้เขาสอนเรื่องงานโรงแรมให้กับลูก ไม่ต้องรีบร้อนค่อยเรียนรู้ไปทีละนิดธารว่าดีไหมครับ” เธอตะล่อมลูกชาย ธาราธารคอยปฏิเสธเรื่องงานบริหารมาตลอดมุ่งมั่นอยากจะเป็นหมออย่างเดียว เธอเคยพูดจนอ่อนใจมาแล้ว


“แบบนั้นก็ได้ครับ พี่ทรายเขาก็อธิบายอะไรๆเข้าใจง่ายดี”


ภัครจิรายิ้มกว้างหลังฟังคำตอบ  เธอตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่ให้วารินเข้ามาดูแลลูกชายคนเดียวของเธอ เธอคิดว่าคงต้องตบรางวัลหนักๆให้เลขาคนโปรดของเธอสักหน่อยแล้ว อาจจะเป็นบ้านพร้อมที่ดินที่วารินและพี่ชายอาศัยอยู่ด้วยกันซึ่งตอนนั้นเธอไปช่วยไถ่ซื้อคืนมาไว้ให้ปัจจุบันกลายเป็นกรรมสิทธิ์ในชื่อของธาราธาร


“แม่อยากจะให้รางวัลวารินเขา ถ้าลูกไม่ว่าอะไรบ้านของวารินตรงนั้น ที่ดินเล็กๆนั่นน่ะลูก แถวสีลมที่แม่โอนให้ธารเมื่อสองปีที่แล้ว แม่ว่าจะยกคืนให้วาริน ตอบแทนที่เขาช่วยดูแลธาร ลูกจะว่าอะไรไหม”


ภัครจิรามองหน้าลูกชายอย่างคาดหวังคำตอบ


“ไม่ว่าหรอกครับ ให้เขาคืนไปเถอะ ผมเองก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากตรงนั้นอยู่แล้วคุณแม่อยากทำอะไรก็ตามใจเลย”


ธาราธารดูเปลี่ยนไปจริงๆทั้งนิสัยใจคอคำพูดคำจา เขาโตขึ้นเองหรือวารินสอนเขาดีกันแน่ ภัครจิราเชื่อว่าวารินคงมีอิทธิพลกับความคิดของเด็กคนนี้มากๆ


ภัครจิราไตร่ตรองในใจเงียบๆ พยักหน้ารับรู้และคิดไว้ว่าวันไหนว่าง ๆ จะจัดการเรื่องที่ดินคืนให้วารินกับพี่ชาย

.
.

“ทำไมวันนี้ถึงแวะมารับกันได้ล่ะเนี่ย”


วารินก้าวขึ้นรถแล้วหันไปถามปกติวันธรรมดาแบบนี้ธาราธารไม่มีวันแวะมาหาเขาเด็ดขาดหมกตัวอยู่แต่ที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น ธาราธารรอให้วารินกดสายเข็มขัดให้เรียบร้อยแล้วจึงออกรถ


“วันนี้สอบเสร็จเร็วน่ะ ไปดูห้องกันเถอะ พี่ดูๆไว้ที่ไหนบ้างรึเปล่า”


ธาราธารขับรถเลี้ยวออกจากโรงแรม ช่วงบ่ายถนนโล่งสบาย เบนซ์สองประตูสีขาวแล่นฉิวดังใจนึก วารินเริ่มชินกับสไตล์การขับรถของธาราธารแล้ว เขานั่งมาเกือบสองปีไม่ว่าจะเร็วแค่ไหนแต่ธาราธารรอบคอบเสมอและไม่เคยผิดพลาด น่าแปลกที่เขาเป็นคนขับรถเร็วมากแต่เวลารถติดกลับใจเย็นมากเช่นกัน วารินไม่เคยได้ยินธาราธารบ่นหรือด่ารถคันอื่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว


“ที่นี่เหรอ” วารินเงยหน้าดูตัวตึกและโดยรอบ เป็นตึกสามหลังหันหน้าเข้าหากันตรงกลางมีสระว่ายน้ำ


“ดีไหม สวยนะเป็นส่วนตัว ถึงจะแพงไปนิดแต่ผมไม่สนใจเรื่องนั้น” เขาตอบอย่างคนรวย วารินแอบเบ้ปากและบ่นพึมพำอยู่คนเดียว


“พี่ชอบไหม”


ธาราธารถามสั้น ๆ หลังจากเดินดูภายในห้อง แน่นอนว่าเขาเลือกห้องที่มีพื้นที่ใช้งานมากสุดไม่ได้ถามเรื่องราคาเลยสักนิด คล้ายๆกับห้องเดิมแต่กว้างกว่านิดหน่อย แต่งโทนสีขาวตัดสีน้ำตาลดูหรูหรากว่าที่เดิมหลายเท่าตัว แค่ห้องนอนก็ปาเข้าไปสามห้อง


“มัน...กว้างไปไหมธาร” วารินอึกอักถาม


“ถ้างั้นไม่เอา! ไปดูที่อื่นกัน”


ธาราธารแทรกขึ้นอย่างไม่แคร์ วารินรีบกระตุกชายเสื้อเขาเบา ๆ กลัวเสียมารยาทเพราะเห็นว่าพนักงานที่พาชมเริ่มหน้าเสียแล้ว วารินจึงดึงธาราธารออกมาไกลอีกหน่อย


“ใจเย็นๆสิ ค่อยๆพูด แล้วธารชอบรึเปล่าล่ะ ถ้าชอบ...”


“แล้วพี่ล่ะ ถ้าพี่ไม่ชอบผมไม่เอานะ พี่ตัดสินใจเถอะ”


“แต่ธารเป็นคนอยู่ ถ้าธารชอบก็ซื้อเลยพี่จะไปตัดสินใจแทนเราได้ยังไง” วารินโต้กลับอย่างโมโหแต่ยังคงเสียงเบาไว้


“โอเค! พี่ตอบผมคำเดียวผมจะตัดสินใจเอง พี่ชอบที่นี่ไหม?”


ธาราธารเน้นคำถามที่ท้ายประโยคชัดๆ ช้าๆ วารินถอนใจอย่างยอมแพ้จริง ๆ “ชอบดิ”


“ก็แค่นั้น”


ธาราธารกำลังคุยกับพนักงานขายเรื่องตกแต่งภายในใหม่ ขณะที่วารินแอบเดินสำรวจไปทั่วห้องอีกครั้ง  ธาราธารคิดจะเปลี่ยนให้ห้องนอนหนึ่งในสามให้กลายเป็นห้องแต่งตัวเพราะธาราธารเสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าเครื่องประดับ เยอะมากและเขาชอบที่จะจัดแยกอะไรๆให้เป็นระเบียบ และที่ห้องนอนเล็กเขาให้ดัดแปลงเป็นห้องหนังสือ


“ทำไมไม่ให้คนของเรามาทำเรื่องตกแต่งให้ล่ะ ใช้คนของเขาจะไว้ใจได้เหรอ มันจะสวยถูกใจไหม”


เมื่อเขาสองคนเดินลงมาจากตึกวารินก็ถามขึ้น เจ้าหน้าที่ด้านล่างโค้งให้พวกเขาอย่างสวยงามคงต้องรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาตกลงซื้อเลยทันทีไม่ใช่แค่มาขอดูก่อนเหมือนคนอื่น ๆ


“ไม่เป็นไรหรอก บริษัทนี้เขาชื่อเสียงดีไว้ใจได้ อ้อ ห้องนอนใหญ่ผมให้เขาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทั้งหมดนะพี่ชอบใช่ไหม” ธาราธารพูดนิ่งๆเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่วารินหันมองเขาตาขวาง


“ช...ชอบ แล้วทำไม”  วารินตะกุกตะกักธาราธารหันมามองเขาอย่างฉงน “ไม่เห็นเกี่ยวเลย พี่ไม่ได้ไปอยู่ด้วยสักหน่อย ”


...ใช่แล้ว จะแต่งสีอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเขาสักนิด...


เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอออกมาเบา ๆอย่างคนรู้ทัน วารินได้แต่นั่งค้อนปะหลับปะเหลือก ตั้งใจไว้ว่าจะไม่มีทางไปนอนค้างด้วยแน่ ๆ แค่ไปเช้าเย็นกลับก็มากพออยู่แล้ว เขาอาจจะต้องพูดเรื่องนี้กับธาราธารอีกครั้ง


“ไม่เข้าไปแน่นะ”


เมื่อรถจอดลงที่หน้าบ้าน วารินเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าสะพายที่หลังเบาะ ธาราธารฉวยโอกาสเอาปลายจมูกเข้ามาเฉียดแก้มใสของวารินอย่างจงใจ วารินหน้าแดงแจ๋ “หอมนม” แน่นอนว่าต้นแขนแน่นๆนั้นถูกฟาดไปหนักๆหนึ่งที “บ้า! พูดอะไรน่ะ”  แต่เหมือนเขายิ่งสนุกธาราธารยิ้มยิ่งแกล้งยื่นหน้าเข้าหาอีก วารินผลักเขาออกจนกระเด็นไปชนกระจกรถ


“แรงเยอะนะ เดี๋ยวเหอะๆ”


 เขาทำหน้าคาดโทษ วารินจึงฟาดเขาไปอีกหน คราวนี้มั่นใจได้เลยว่าต้นแขนเขาคงแดงเถือกเป็นทางแน่


“เลิกเล่นได้แล้ว ชอบเล่นอะไรแปลกๆนี่มันกลางถนนนะเกิดคนเห็นเขาจะคิดยังไง”


วารินทำเสียงง่องแง่งแกล้งค้อนได้ยินแต่อีกฝ่ายบ่นพึมพำ ‘ใครจะเห็นก็ช่างเขาสิ’  ธาราธารตามไปส่งวารินถึงหน้าประตูรั้ว เขาก้มลงดึงไม้คัดกลอนของรั้วไม้ออก แล้วเอื้อมมือไปจับมือเล็กของวารินมาบีบไว้แน่น


“ไม่ไปไหนอีกแล้ว วันนี้จะกลับไปค้างที่บ้าน”


สายตาเขามั่นคงเหมือนกับน้ำเสียงของเขา วารินจ้องหน้าเขานิ่งเริ่มทำหน้าไม่ถูก “พี่ไม่ได้ถามเราสักหน่อย”


“ผมก็แค่อยากบอก กลัวคนบางคนคิดมาก”


เขาลากเสียงยิ้ม ๆ นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นริมถนนหน้าบ้านของเจ้าตัว เขาคงดึงคนตัวเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแล้วเพราะตอนนี้หน้าตาวารินมัน ‘ลูกหมา’ มากหน้าแดงลามไปถึงหูถึงคอ


ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น ทำให้เขาได้รู้หัวใจตัวเอง


ธาราธารไม่คิดแคร์อะไรอีกแล้ว จะเป็นเรื่องอายุ ความเหมาะสม ขอแค่วารินสบายใจและยอมอยู่ด้วยกันกับเขาไปตลอด


เวลาจะช่วยไขความกังวลทุกอย่างให้ค่อยเดินผ่านไป

และเขากับวารินจะผ่านมันไปด้วยกัน เขามั่นใจว่าวารินก็คิดแบบเดียวกับเขา


“พี่รักผมไหม” จู่ๆเขาถามขึ้น วารินเบิกตากว้างปากเล็กอุทานเรียกชื่อเขาแต่เสียงกลับไม่หลุดออกมา


“ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้ดีแค่ไหน ผมไม่เคยคบใครจริงจัง แต่ผมคิดว่าอยากหยุดอยู่ที่พี่เป็นคนสุดท้าย  ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอให้พี่รู้ไว้ว่าคนที่ผมรักคือพี่คนเดียว”


มันอาจจะเร็วไปสำหรับเด็กอายุยี่สิบอย่างเขา ดูเหมือนว่าเป็นคำสัญญาเลื่อนลอยไม่นานก็คงเปลี่ยนใจ ธาราธารยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากเล็กเมื่อเห็นว่าวารินกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา


“ตอนนี้ยังไม่ต้องเชื่อหรอก แต่ให้พี่คอยดูผมไปเรื่อยๆ เราดูกันไปจนแก่เลยดีไหมครับ”


วารินจ้องหน้าเขานิ่งไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกเด็กสารภาพรักต่อหน้าต่อตาตอนอายุสามสิบสองแบบนี้ ธาราธารเลื่อนมือมาประคองแก้มนุ่มไว้อย่างเบามือ ปากเล็กๆค่อยคลี่ยิ้มออกอย่างลืมตัว เขาโน้มใบหน้าคมลงจุมพิตที่หน้าผากเนียนเบา ๆ โดยมีเงาของต้นลั่นทมใหญ่ทาบทับบดบังไว้ วารินหลับตาลงแน่น ถ้าหากเขาตอบรับธาราธาร จากนี้ไปไม่รู้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคอีกมากมายแค่ไหน ตัวเขาจะพร้อมไหมที่จะก้าวเข้าไปในดงหนามเหล่านั้น

.
.

“พี่ซี! ทรายกลับมา...ล...แล้ว..ครับ”


วารินตกใจไม่คิดว่าจะมีลูกค้าสองคนของภูวดลนั่งอยู่ในบ้าน เขาค่อยค้อมตัวผ่านเข้ามาวางกระเป๋าที่โซฟาด้านใน ก่อนเข้ามาเขาเห็นรถคันใหญ่ที่หน้าบ้านแต่ไม่ทันได้ฉุกใจคิดถึงได้ทะเล่อทะล่าเข้ามาแบบนี้


“ทรายมานี่ครับ มารู้จักลูกค้าสำคัญของพี่ก่อน” ปกติภูวดลไม่เคยแนะนำลูกค้าให้เขารู้จักอย่างเป็นทางการแบบนี้ วารินมองครั้งเดียวก็จำได้แล้วหนึ่งในนั้นคือ ชนาธิป เด็กที่เมื่อปีที่แล้วมาให้ภูวดลวาดภาพนิ่งให้ คราวนี้มากับใครสักคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ดูโดดเด่นจนวารินต้องเหลียวหลังกลับไปดู


“นี่คุณทัตพล คุณพ่อของชนาธิป ทรายจำชนาธิปได้ใช่ไหมที่น้องเขามาให้พี่ซีวาดรูปให้เมื่อปีที่แล้วไง”

วารินยกมือขึ้นไหว้ทัตพลอย่างสุภาพแล้วรับไหว้ชนาธิปไปในตัว ทัตพลยกมือขึ้นรับพร้อมส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้แล้วกลับไปสนใจผลงานภาพวาดหลากหลายบนโต๊ะนั่นต่อ  วารินหย่อนตัวนั่งลงใกล้ๆกับภูวดล ลอบสำรวจทัตพลดี ๆอีกครั้งเพราะเขามีความรู้สึกว่าทัตพลเหมือนใครสักคนที่เขาเคยรู้จัก


ทัตพลเป็นผู้ใหญ่ที่หล่อและดูดีมากๆ วารินไม่กล้าคาดเดาอายุ  เขาไม่มีผมหงอกเลยสักเส้น รูปร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างสวยงามจนเสื้อเชิ้ตที่เขาสวมอยู่กระดุมเม็ดบนคงหลุดออกจากรังดุมโดยไม่ตั้งใจเผยให้เห็นหน้าอกฟิตๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นแสดงว่าเขาดูแลตัวเองดีมาตลอด มือไม้เรียวยาวขาวสะอาดเขาสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายคงเป็นของคุณแม่ของชนาธิป


วารินมองส่วนที่โดดเด่นที่สุดในร่างกายเขานั่นก็คือผิว ทัตพลเป็นผู้ชายที่มีผิวสวยมาก ใบหน้าของเขาไม่มีร่องรอยของสิวเลยสักเม็ด เนียนละเอียดจนไม่น่าเชื่อ เขาไม่ขาวจนเกินไปแต่ก็ไม่ใช่ผิวสีแทน คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน วารินก้มมองตัวเองแล้วยังอาย ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถึงพ่อของเด็กมหาวิทยาลัยคนหนึ่งกลับมาผิวพรรณเนียนสวยและบุคลิกภาพดูดีได้ขนาดนี้


.....เขาดูเหมือนใครสักคน....


วารินพยายามนึกแต่จะอย่างไรก็นึกไม่ออก จนกระทั่งทัตพลเปิดบทสนทนากับภูวดลอีกครั้ง วารินถึงนึกได้ในทันที ‘ธาราธาร’ ผู้ชายคนนี้เหมือนธาราธารมากๆ ขอย้ำว่ามากที่สุด ถ้าเปลี่ยนจากชนาธิปมาเป็นธาราธารที่นั่งข้างเขาไม่ต้องบอกก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นพ่อลูกไม่ก็พี่น้องกัน


ส่วนชนาธิป เขาคงจะเหมือนคุณแม่ของเขา เพราะไม่มีส่วนใดเลยที่เขาดูเหมือนทัตพล วารินเผลอคิดเรื่อยเปื่อย


“วันนี้ขอบคุณมาก มารบกวนซะนาน”


เสียงนุ่มลึกแบบผู้ใหญ่ดึงความสนใจจากวารินไปได้ทั้งหมดทั้งที่กำลังจมอยู่กับความคิด ภูวดลยกมือไหว้วารินเองก็ยกตามด้วยอีกรอบ ขณะชนาธิปเดินไปที่รถแต่ทัตพลกลับยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม


“โทษทีนะซี ผมขอคุยกับน้องชายคุณสักครู่ได้ไหม”


วารินหันมองภูวดลทันทีจากนั้นหันกลับไปมองทัตพลอีกครั้ง ภูวดลเหมือนจะรู้ว่าทัตพลมีธุระบางอย่างอยากจะคุยกับวารินเขาแตะไหล่น้องชายแล้วพยักหน้าให้เบา ๆก่อนเดินกลับเข้าไปในบ้าน


“เธอชื่อ ‘ทราย’ สินะ เมื่อสักครู่นี้ธาราธารมาส่งเธอใช่ไหม?” เขาถามออกมาตรง ๆ

วารินมองเขาด้วยความแปลกใจ ทำไมทัตพลถึงรู้ว่าธาราธารมาส่งเขา  ทัตพลรู้จักธาราธารด้วย?


“ค...ครับ คุณรู้จักธารด้วยเหรอ” วารินตอบตะกุกตะกักแล้วถามต่อ


“จะไม่รู้จักได้ยังไง ธาราธารเขาเป็นลูกชายฉันนี่”


วารินเบิกตาค้างยกมือทาบอกอย่างไม่รู้ตัว จมลงในความคิดส่วนตัวอีกครั้งไม่อยากเชื่อเลยทัตพลคือพ่อของธาราธารจริงหรือ? ถ้าบอกว่าไม่เชื่อคงไม่ได้เพราะหน้าตาท่าทางก็ฟ้องอยู่แล้ว ถึงแม้ภัครจิราจะเคยเอ่ยถึงแต่กลับไม่เคยมีข่าวหลุดออกมาให้รู้สักครั้งว่าหน้าตาเป็นอย่างไร วารินมองสบตาทัตพลอย่างกล้าๆกลัวๆ เขาส่งยิ้มอบอุ่นมาให้


“ฉันยืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เธอสองคนยังไม่ลงมาจากรถเลยด้วยซ้ำ”


เพราะทัตพลออกมาคุยโทรศัพท์ทำให้เขาเห็นทุกอย่างอย่างที่ไม่ควรจะเห็น วารินตกใจหนักยิ่งกว่าเดิม ทัตพลคงจะอยากบอกว่าเขาเห็นที่ธาราธารทำกับวารินทุกอย่างแน่ๆ


“ตรงๆเลยนะทราย เธอเป็นอะไรกับลูกชายของฉัน”

ทัตพลล้วงสองมือเข้าในกระเป๋ากางเกง  วารินอยากจะถามจริง ๆ ว่าเขาอายุเท่าไหร่กันแน่ บุคลิกท่าทางของเขามัน

ช่าง....

ลมพัดมาเบา ๆ ...กลิ่นลั่นทมหอมฟุ้งไปทั่ว เส้นผมสีน้ำตาลเข้มปลิวระใบหน้าเล็กน่ารัก สายตาของเขาจ้องมองที่วารินอย่างต้องการคำตอบ


“พี่เลี้ยงครับ ผมเป็นแค่คนดูแลไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น”


“คนดูแล” เขาทวนคำ คิ้วคมเลิกขึ้นนิดหน่อย


“ใช่ครับ คุณภัครเธอให้ผมคอยดูแลเป็นธุระจัดการทุกเรื่องทุกอย่างให้กับน้อง เพราะเธอทำงานหลายที่ไม่ค่อยมีเวลาน่ะครับ”


“อย่างนั้นหรอกเหรอ” เขาใช้สายตาประเมินคำพูดของวาริน ทำเอาวารินทำหน้าไม่ถูก


“ธารเข้าชอบเล่นอะไรแปลกๆ ที่คุณเห็นวันนี้ก็ไม่มีอะไรนะครับ เราแค่เล่นกันเท่านั้น”


“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ นั่นเป็นเรื่องส่วนตัวเขาอยู่แล้ว” ทัตพลเดินเข้าหาวารินใกล้ๆยื่นนามบัตรส่งให้คนตัวเล็ก


“ทั้งธารและภัครไม่เคยรู้ว่าฉันติดตามดูธารเขามาตลอด  เธอเก็บความลับได้ใช่ไหมทราย ฉันไว้ใจเธอได้ใช่ไหม”
วารินก้มมองนามบัตรในมือ มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ทัตพลดันมาเป็นลูกค้าสำคัญของภูวดล เขาคนนี้เป็นถึงสามีของภัครจิราและเป็นถึงคุณพ่อของธาราธาร เขาย้ำมาแบบนี้แสดงว่าต้องการให้เรื่องนี้เป็นความลับต่อไป


วารินพยักหน้ารับเบาๆ “ครับ”


“สองทุ่มวันศุกร์ รบกวนมาเจอฉันที่ห้องอาหาร........ของโรงแรม......ฉันจะรอเธออยู่ที่นั่น ถือว่าฉันขอร้องก็ได้ ฉันมีเรื่องมากมายอยากจะถามเธอเกี่ยวกับธาราธารลูกชายของฉัน เธอคงไม่ใจร้ายกับฉันสินะ”

.
.

“คิดเรื่องอะไรครับทราย เหม่อเชียว”


วารินนอนดูโทรทัศน์เล่นไปเรื่อย แต่เหมือนจิตใจวารินไม่ได้อยู่ที่หน้าจอ


“พี่ซีครับ คุณทัตพลกับน้องชนาธิปเขามาทำอะไรอ่ะ”


“เขามาติดต่อขอซื้อภาพ ชนาธิปเข้าติดใจฝีมือพี่ซีเลยพาคุณพ่อเขามาดูเห็นว่าจะซื้อไปให้ของขวัญเพื่อนที่เพิ่งเปิดพิพิธภัณฑ์ภาพวาดที่แพร่”


“แล้วได้ไหมครับ เขาเลือกได้สักรูปไหม”


“สี่รูป” ภูวดลเน้นคำชูนิ้วเลขสี่ขึ้นอย่างภูมิใจ “สองแสนสี่  แค่นี่ถือว่าเยอะมากสำหรับนักวาดภาพโนเนมอย่างพี่ซี”

วารินรีบลุกขึ้นยิ้มกว้างดีใจไปกับพี่ชาย เขาเดินเข้าไปแกล้งชกท้องภูวดลเบา ๆ ส่ายหน้าไม่ให้ภูวดลพูดจาดูถูกตัวเองแบบนั้นอีก ถึงภูวดลไม่ใช่ศิลปินมีอันดับแต่ผลงานของเขาวารินมองอย่างไรก็งดงามกว่าของคนอื่นเสมอ

.
.

“บังเอิญจังนะ มาอ่านหนังสือเหรอ”

ธาราธารเงยหน้าขึ้นมองคนพูด ชนาธิปวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ

“มาทำไม  ศาลายาก็มีหอสมุดไม่ใช่เหรอ”

ธาราธารพูดเย็นชาอย่างเคยเขาก้มลงไปสนใจหนังสือตรงหน้าต่อ

“มาหาหนังสือที่ๆนั่นไม่มีดิ เผื่อที่นี่จะมีบ้าง นี่นายใส่แว่นด้วย?”

ธาราธารหันมามองเขานิดหนึ่งแล้วก้มลงไปสนใจหนังสือต่อ ชนาธิปเดินหายไปสักครู่ แล้วจึงกลับมาพร้อมหนังสือในมือสองสามเล่มเขาหย่อนก้นนั่งลงข้างธาราธาร อีกฝ่ายเขยิบถอยออกอย่างจงใจ

“จะสอบเหรอ ขยันจัง”

“สอบอยู่ตลอดนั่นแหละ ถามทำไม”

“เปล่า ก็แค่ชวนคุย  นี่!ได้ยินข่าวว่าปีสองเรียนกับศพ จริงป่ะ นายไม่กลัวเหรอ”

ชนาธิปทำเสียงกระซิบกระซาบ ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะตอบเขาห้วนแค่ไหน

“อือใช่ แล้วไอ้ที่สอบอยู่ตลอดเนี่ยก็ข้อมูลที่มาจากท่านอาจารย์ใหญ่เนี่ยแหละ ผ่าวิเคราะห์ละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย ลึกลงไปถึงไขกระดูกด้วยนะ นายคิดว่าฉันจะกลัวไหมล่ะ อยู่ด้วยกันทุกวันทุกสัปดาห์ไม่มีอะไรทำก็พูดคุยกับท่าน ก้มหน้าก้มตาลงไปจับต้องท่านทุกสัดส่วนทั้งในทั้งนอกทั้งปาดทั้งตัดทั้งดึงทั้งต่อ สำรวจยิ่งกว่าเรือนร่างสวยๆงามๆของสาวๆซะอีก  ชินแล้ว!”

ธาราธารไม่ใช่คนพูดมาก แต่พอพูดถึงเรื่องนี้เขาเครียดมากจนแทบจะบ้าจึงระบายออกมาเสียยาว โดยเฉพาะแลปกรอส ยิ่งเรียนยิ่งเมามัน(คล้ายเขาจะบ้าเข้าไปทุกที คาดว่าพอขึ้นปีสามไอ้ที่เรียนเรื่องไม่ปกติทั้งหลายมันจะทำให้เขาผิดปกติไปจริง ๆ )

เขาว่าแล้วปิดหนังสือลงอย่างหงุดหงิด เมื่อโดนชนาธิปกวนถามโน่นนี่ต่อไปไม่หยุด  พอเดินออกมาจากหอสมุดชนาธิปรีบตาม

“นี่ธารไปกินข้าวด้วยกันเถอะ นะๆ”ชนาธิปดึงแขนธาราธารไว้

“นี่ถามจริง นายนี่มันตามติดทุกคนแบบนี้ตลอดรีเปล่าเนี่ยฮึ หรือว่าเป็นกับฉันคนเดียว”

เขายกมือขึ้นเสยผมอย่างเซ็งๆชนาธิปไม่ปล่อยเขาง่าย ๆ

“ธิปก็แค่อยากทานข้าวกับธาร นะได้ไหม”

ธาราธารถอนใจหน่อยหนึ่งแต่ก็ยอมพาอีกคนไปกินด้วย หลังจากทานข้าวกันเสร็จธาราธารพาชนาธิปมาส่งที่เดิมเพราะรถของเขาจอดไว้แถวนี้

“ดีใจจังได้มาทานข้าวกับธารด้วย ไม่เจอกันเกือบปีแน่ะตั้งแต่ธารย้ายมาอยู่ที่นี่ ธิปขอมาหาธารอีกได้ไหม”

“ไม่ได้”

ธาราธารตอบทันทีเขาทำท่ารำคาญอีกฝ่ายเต็มที่ ชนาธิปยังไม่ยอมลงจากรถ

“ไม่รู้ล่ะธิปมีเบอร์ธารแล้ว ต่อไปถ้าธิปมาหา ธารต้องพาธิปทานข้าวนะ”

“ไม่ต้องมาหา!  ลงไปได้แล้ว ฉันไม่ได้ว่างเหมือนนาย”

เขาไล่ดื้อๆ ชนาธิปจำใจก้าวลงจากรถแต่ยังไม่ยอมปิดประตู ร่างเล็กก้มลงมามองหน้าธาราธารเหมือนมีอะไรอยากจะพูด ธาราธารเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

“อะไร”ธาราธารถามเสียงนิ่ง

“ธาร ที่เขาลือกันจริงไหม? ที่ว่าธารได้ทั้งชายทั้งหญิงน่ะ”

“จริง!” ธาราธารตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ ชนาธิปเองก็ดูเหมือนจะรู้อยู่แล้วดูเขาไม่ค่อยแปลกใจ

“แล้วธารมีแฟนรึยัง”

“มีแล้ว”

“ผู้ชายหรือผู้หญิง”

“ผู้ชายแล้วก็รักแฟนมากด้วย ถามจบแล้วก็ปิดประตูให้ซะที”

ชนาธิปยืนมองท้ายรถสีขาวที่ขับห่างออกไป ไม่รู้ทำไมเขารู้สึกว่าธาราธารมีเสน่ห์มากมายเหลือเกิน หน้าตาท่าทางคล้ายกับคุณพ่อเขามากจนเขาอดคิดไปไม่ได้ว่าตอนคุณพ่อเขาเป็นหนุ่มคงจะรูปหล่อและก็เย็นชาแบบนี้แน่ ๆ  เขาเผลออมยิ้มออกมาแล้วกดโทรศัพท์มือถือส่งข้อความหาคนที่เพิ่งไล่เขาลงจากรถ

‘ขอบคุณนะสำหรับอาหาร วันหลังธิปเลี้ยงนะ’


อย่างธาราธารหรือจะเคยเปิดอ่านข้อความไร้สาระพวกนี้ แม้กระทั่งสายเรียกเข้าถ้าเป็นเบอร์ที่เขาไม่รู้จักจริง ๆ ก็อย่าหวังว่าเขาจะรับเสียให้ยาก

Tbc. 
:katai1: อย่าเกลียดพี่ทรายเลยนะคะ คือคาแรคเตอร์สองพี่น้องนี้มันแปลกๆแบบนี้อยู่แล้ว แล้วก็..ตัวละครที่เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องมาแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 17-03-2014 15:40:34
ธิปจ้ะ. เยอะบทเธอเยอะไปแระ. -_-

อย่าให้ทรายกับธารผิดใจกันนะ TT
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-03-2014 15:51:03
คุณพ่อทัตพลนี่ให้ความรู้สึกแปลกๆนะคะ จะทำอะไรทรายอ๊ะป่าวอ่ะ เป็นห่วงจัง :mew2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 17-03-2014 17:05:34
พี่ทรายน่ารักขนาดนั้น ใครจะกล้าเกลียดได้ละคะ .. ^^
จะคอยดูว่า นายธาร จะทำตัวดี มั่นคง ให้พี่ทรายไว้ใจและรักได้รึเปล่า!!!
รู้สึกดีจัง ที่นายธารจะเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ เพื่อพี่ทราย
ห้องนั้นมันเลอะเทอะหมดแล้ว เหอะ ๆ ๆ
นายธารน่ารักเนอะ มีบอกด้วยว่า จะกลับไปนอนบ้านไม่ได้ไปไหน ..  พี่ทรายคง  :o8:
อยากให้ย้ายไปอยู่คอนโดใหม่เร็ว ๆ จัง  ..  :mew3:

 
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 17-03-2014 18:45:45
 :really2: เรื่องชักจะวุ่น
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 17-03-2014 18:52:25
อย่าให้เข้าใจผิดกันนะ

ไม่ชอบธิปเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 17-03-2014 19:02:14
คุณพ่อคิดจะทำอะไรต่อไป ติดตามค่าาา^^
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 17-03-2014 19:03:46
ธิปแรดอ่ะ นี่ไม่รู้ตัวเลยหล่ะสิว่าธารคือพี่ชายตัวเอง
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-03-2014 19:38:07
หวังว่า ธิปคงไม่หลงรักธาร นะ อย่าเป็นแบบนั้นเลย

แล้วพ่อก้าวเข้ามา จะเป็นไงต่อเนี้ย ดูมันจะยุ่งๆแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 17-03-2014 22:14:10
แม่ธารกับทรายไม่ใช่ว่าจะผิดใจกันนะ พ่อธารมาคุยกับทรายแบบนี้
แล้วก็เข้าใจว่าธารเป็นหนุ่มฮ็อตแต่ขอร้องเหอะสงสารทราย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 17-03-2014 22:21:05
ธารน่ารักขึ้นเยอะเลย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 17-03-2014 22:48:45
พ่อของธาร กำลังคิดจะทำอะไรนะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 17-03-2014 22:49:22
 :m16: คลุมเครือกันดีจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 18-03-2014 00:09:17
อ่านตอนนี้มาชอบธารมากเลยนะ ลบภาพเด็กเปรตเมื่อปีที่แล้วไปหมดสิ้น

พ่อของธารจะมาทำอะไรน่ะ มาทำให้ทรายเขวใช่ไหม

ธิปนี่ก็ เสนอตัวเกินไปนะ คนเขาไม่เล่นด้วยยังจะยุ่งอีก

พี่ทรายสงสัยจะได้โลเลอีกรอบนะเนี่ย อยากให้พี่ทรายเชื่อในความรักของธาร
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 18-03-2014 09:27:56
กลิ่นดราม่าลอยมาไกลๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 18-03-2014 11:15:59
ธิปนี่ incest ปะ  ทำไมนางจะเอาทั้งพ่อทั้งลูกคะ
แต่ถ้าธิปไม่ใช่ลูกทัตพลนี่มีเฮนะ น่าคิดดี
ไม่เหมือนกันสักอย่าง ถ้าเป็นพ่อลูกกันน่าจะมีเค้าสักอย่าง
เช่นปากไรงี้ ดูท่าเชื้อทัตพลจะแรงเห็นธารถอดแบบมา
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[17/03/57] บทที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 18-03-2014 13:15:28
พ่อ ธาร คือจุดเปลี่ยนสินะคะ เอิ่ม คุณพ่อจะมาไม้ไหนกันแน่เนี่ย

มานัดลูกสะใภ้ไปกินข้าว ถ้าลูกชายรู้เข้า ทรายจะซวยมั๊ยเนี่ย

จากที่ รัก จะกลายเป็นแค้นรึปล่าวน้อ

ไม่เกลียดทรายหรอกค่ะ เธอคือนายเอก แต่แอบหงุดหงิดนิดหน่อย

ชอบที่ธารบอกมากเลยอ่ะตอนนี้ มีแฟนเป็นผู้ชาย แล้วก็รักแฟนมากด้วย

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 18-03-2014 15:26:29

บทที่12



“รีสอร์ทเหรอครับ?”


“ใช่ รีสอร์ทที่พังงา แค่รีสอร์ทเล็กๆ แต่ฉันอยากให้เธอช่วยไปดูให้ที ฉันไม่รู้ว่าจะต้องตกแต่งแบบไหนถึงจะถูกใจธารเขามากที่สุด แต่ถ้าเป็นเธอคงจะรู้ใช่ไหมว่าเขาชอบสไตล์ไหนยังไง ฉันรู้ว่าเขาไว้ใจเธอมากและพวกเธอเองก็ดูสนิทกันมากด้วย”


ทัตพลวางส้อมลงแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ เขาสร้างรีสอร์ทเล็กๆไว้ที่หนึ่งเพื่อเป็นของขวัญให้ธาราธาร ถึงเขาไม่ได้เลี้ยงดูแต่ก็ติดตามข่าวคราวของลูกชายมาโดยตลอด รู้ว่าภัครจิราคอยประคับประคองไม่ให้ลูกเดินก้าวเขวไปในทางที่ผิด แม้จะเคยเอนจนเกือบหลงทางมาบ้างแต่เมื่อวารินเข้ามาช่วยอีกแรงธาราธารก็ดูเหมือนจะโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น


ดวงตาคมทอดมองลงไปที่วิวด้านล่าง ห้องอาหารอิตาเลี่ยนของที่นี่ให้บรรยากาศโรแมนติกมาก วิวกลางคืนริมน้ำเจ้าพระยาแบบนี้มากมายไปด้วยเรือประดับไฟที่ล่องลอยอยู่กลางลำน้ำ


ทัตพลไล่สายตามองดวงหน้าของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา วารินเองก็กำลังสนใจสีสันของลำน้ำตอนกลางคืน ดวงตากลมๆ นั่นทำไมถึงได้ออกแววใสซื่อได้ขนาดนั้นดูเหมือนตื่นเต้นเพิ่งเคยได้เห็นแบบนี้เป็นครั้งแรก ผมสีอ่อนยาวเคลียอยู่แถวต้นคอ หน้าตาก็แค่ธรรมดาแต่ทำไมถึงดูมีเสน่ห์แปลกๆเวลาได้คุยกัน ท่าทางเหมือนกับ ‘ลูกหมา’ ทำหน้าตาซื่อบื้อไปเรื่อย ทัตพลอดที่จะหัวเราะในลำคอเบาๆไม่ได้


“....พล คุณทัตพลครับ” วารินเรียกถึงสองรอบทัตพลเพิ่งจะได้ยิน เขาดูตกใจเล็กน้อย


“มีอะไรรึเปล่าครับ” วารินทำหน้าแปลกใจ ทัตพลจ้องเขานานมากแล้ว


“ป...เปล่า ฉันกำลังจะบอกว่าเพื่อนฉันที่เปิดพิพิธภัณฑ์ที่แพร่ เขาชอบภาพที่ฉันส่งไปให้มากเลย รู้สึกว่าจะติดต่อพี่ชายเธอให้วาดเพิ่มให้ด้วย ซีเขาคงดีใจนะต่อไปคงมีลูกค้าติดต่อไปเยอะแน่ ๆ ”


ทัตพลแก้ตัวอึกอักพร้อมพูดชี้ทางให้วารินได้คิด ว่าเขาเองก็มีบุญคุณกับภูวดลอยู่มาก เขาอยากขอร้องให้วารินช่วยไปดูเรื่องการตกแต่งรีสอร์ทที่เขาคิดจะมอบเป็นของขวัญให้กับธาราธารเท่านั้น เขารู้ว่าวารินก็คงลำบากใจไม่น้อย


วารินเม้มปากก้มหน้านิ่ง


“แล้วเราจะไปกันวันไหนครับ”


ทันทีที่วารินถามขึ้นทัตพลทอดสายตาออกอย่างยินดี ริมฝีปากได้รูปคลี่รอยยิ้มอบอุ่นออกมา พอใจกับคำตอบที่ได้รับมาก ในเมื่อวารินยอมตกลงแล้วนั่นเท่ากับธาราธารจะยอมรับของจากเขาแน่นอน


“วันศุกร์หน้าเป็นไง เราค้างที่นั่นสักสองคืนคงจะคุยกันจนเสร็จได้ ฉันจะนัดกับบริษัทออกแบบไว้ให้ เรื่องนี้ขอให้เป็นความลับระหว่างเราสองคนนะ หวังว่าเธอคงจะเข้าใจฉัน”


หลังทานอาหารกันเสร็จเมื่อเห็นว่าวารินดูตื่นเต้นกับท้องน้ำเจ้าพระยาตอนกลางคืนเป็นอย่างมาก ทัตพลจึงถือโอกาสชวนคนตัวเล็กออกมาเดินชมวิวเจ้าพระยาสดๆที่ระเบียงริมน้ำข้าง ๆเลาจน์เปิดของโรงแรมเพื่อเป็นการขอบคุณที่วารินอุตสาห์ตอบตกลง


ลมตอนดึกพัดผ่านเส้นผมสีอ่อนของวารินพริ้วไสว ไหล่บางห่อลงด้วยความรู้สึกหนาวเย็นแต่ก็ยังไม่อยากหันหลังกลับเพราะนานๆทีถึงจะมีโอกาสได้มาชมวิวสวยๆแบบนี้ ถึงโรงแรมของภัครจิราจะอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาเช่นกันแต่วารินไม่ค่อยได้เข้างานช่วงดึกเพราะฉะนั้นภาพทิวทัศน์สวยๆแบบนี้ดูกี่ครั้งก็ดูจะตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ


“เอ่อ ขอบคุณครับ” วารินหันมากล่าวขอบคุณเมื่อทัตพลใช้เสื้อนอกของเขาคลุมลงที่ไหล่บางให้เพราะเห็นวารินเริ่มจามฟึดฟัด


“จะกลับเลยไหม อากาศเย็นนะเดี๋ยวได้เป็นหวัดกันพอดี”

เขาก้าวเข้ามายืนข้าง ๆ สายตาทอดมองออกไปที่ดวงไฟสีส้มจุดเล็กๆคงเป็นโรงแรมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เรือโดยสารประดับไฟสวยงามล่องผ่านเอื่อยๆ เส้นผมสีอ่อนยังคงปลิวระใบหน้าขาวนั้นอย่างเคย วารินเหน็บเท่าไหร่ก็ยังยุ่งเขาเลยช่วยเกลี่ยเส้นผมสวยให้อีกแรง


ในเมื่อสู้แรงลมไม่ไหวร่างที่เล็กกว่าเลยต้องขอยอมแพ้ปล่อยให้ลมโกรกผมเผ้ายุ่งเหยิง ทัตพลมองเห็นหน้าตาตลกๆแบบนั้นจึงเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ วารินเองก็หัวเราะร่าด้วยอีกคน เขาสองคนมองหน้ากันแล้วพ่นหัวเราะออกมาดัง ๆ วารินแกล้งตะโกนคำทะเล้นๆ โยนใส่ลำน้ำทัตพลอุดปากเขาแทบไม่ทันเมื่อเห็นพนักงานเดินพาแขกอีกคู่ลงมาส่งเพื่อชมวิว


“วันนี้ขอบคุณนะครับ” วารินยกมือไหว้เขาก่อนส่งเสื้อนอกคืนให้


“วันศุกร์เราเจอกันที่สนามบิน ฉันจะโทรนัดเธออีกที” เขารับเสื้อคืนจากวารินแล้วพาดมันลงที่แขนของตัวเอง เลิกคิ้วนิดๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายน่าจะมีอะไรบางอย่างที่อยากพูด


“มีอะไรเหรอ หรือว่าเธอมีเรื่องอะไรที่ไม่สะดวก”


“ป...เปล่าครับ ผมแค่สงสัยไม่ทราบว่าจะถามคุณได้รึเปล่า” ใบหน้าเล็กอึกอักก้มต่ำเล็กน้อย


“ถามมาสิ ฉันอนุญาต”


ทำไมวารินถึงได้รู้สึกว่าเสียงของเขามันนุ่มทุ้มกรีดลงไปในจิตใจได้ขนาดนั้น ไม่ใช่คำพูดหวานๆ ไม่ใช่คำพูดของผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยอำนาจ แต่น้ำเสียงของเขาชวนให้เคลิบเคลิ้มรัญจวนใจเสียจริง


“ค..คุณทัตพลอายุเท่าไหร่เหรอครับ คือว่าตอนนี้ธารเขาก็จะยี่สิบแล้ว แต่ดูเหมือนคุณอายุไม่น่าเยอะขนาดที่จะ...เอ่อ..จะเป็น...เอ่อ..”


วารินพูดออกไปแล้วก็รู้สึกกระดากใจ เขาถามแบบนั้นออกไปได้อย่างไร เห็นกันอยู่ชัดๆว่าหน้าตาทัตพลเหมือนธาราธารอย่างกับถอดแบบมาขนาดนั้น แล้วเขายังจะสงสัยอะไรอีก


“สามสิบเก้าแล้ว” ทัตพลตอบยิ้ม ๆ “ไม่หนุ่มแล้วนะ” เขายังย้ำลงมาอีกวารินรีบเงยหน้ามองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาอายุสามสิบเก้า แต่ดูไม่ต่างกับคนอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดเลยด้วยซ้ำ


“คนเราดูกันแค่ภายนอกไม่ได้จริง ๆ ใช่ไหม อย่างเธอก็เป็นตัวอย่างที่ดีเหมือนกันนี่” คราวนี้เขาพูดแล้วยิ้มกว้างล้อเลียนวาริน อีกฝ่ายได้แต่หัวเราะแฮ่ๆแก้เขิน

.
.

กลางสัปดาห์ธาราธารย้ายเข้ามาอยู่ที่คอนโดใหม่แถวๆพรานนก

วารินเข้าไปช่วยเขาจัดการข้าวของอยู่สองวัน กว่าจะเสร็จได้เล่นเอาต้องปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว


“เหนื่อยไหม”


ธาราธารยื่นน้ำอัดลมแบบกระป๋องมาแตะที่พวงแก้มสีแดงระเรื่อแล้วหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ หยาดเหงื่อไหลเป็นทางทั้งเขาและวาริน มือใหญ่ยื่นผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาซับแก้มสีแดงซ่าน


“เหนื่อยจนแก้มแดงไปหมดแล้ว พี่รู้ป่าวผมมองเห็นเส้นเลือดที่แก้มพี่แล้วนึกถึงอะไร”


“อะไรอ่ะ” วารินวางกระป๋องน้ำลง เอนหลังพิงที่พนักโซฟาเขาแทบอยากเลื้อยตัวนอนลงถ้าไม่ติดว่าธาราธารนั่งอยู่ข้าง ๆ


“วิธีต่อไง  นอนลงมาดีๆสิเดี๋ยวได้ปวดคอหรอก” เขาเอาหมอนมาวางบนตักแล้วจับตัววารินให้นอนลงดี ๆ


“อะไรคือวิธีต่อ?”


“วิธีต่อเส้นเลือดไง ช่วงนี้ผมมองอะไรก็เห็นเป็นเรื่องทางกายภาพไปหมดอ่ะ ผมว่าพอผมเรียนจบผมไม่กล้าหลับนอนกับใครแน่เลย ช่วงนี้ชักเริ่มแหยงๆแล้วด้วย”


เมื่อเห็นว่าวารินทำหน้างง เขาจึงได้อธิบายต่อ


“ก็อย่างแค่ตอนนี้เวลาผมมองคน ผมก็จะเห็นเป็นร่างโปร่งแสงทะลุไปถึงตับไตไส้พุงแบบหลับตาคลำได้เลยว่าอะไรวางอยู่ตำแหน่งไหนบ้าง เพราะงั้นเวลาจะลูบจะไล้ใครแต่ละทีแค่หลับตาลงจิตใจมันก็พลอยนึกไปถึงอ่ะดิ ลูบหน้าอกก็คิดว่ากำลังจับปอด ขยำนมก็คิดว่ากำลังนวดหัวใจ ลูบพุงขาว ๆ แต่ดันนึกไปว่ากำลังสำรวจลำไส้เล็ก จะจับของดีแต่ดันนึกไปถึงส่วนประกอบของระบบสืบพันธุ์ ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้นแค่นั่งมองหน้ายังคิดไปถึงรูปกะโหลกแล้วก็ระบบประสาทที่ยากโคตรๆ พี่ว่าคนที่เรียนแบบผมนี่มันน่าสมเพศไหม”


พอพูดถึงเรื่องเรียนเขาก็ร่ายยาวอย่างที่ไม่เคยเป็นทำหน้าตาเซ็งจัดเป็นของแถม


“เออ ถ้างั้นคนเป็นหมอเขาคงไม่มีเมียมีลูกกันหรอก ถ้าคิดแบบเราทุกคนน่ะนะ” วารินอดขำไม่ได้ เขาเอื้อมมือขึ้นไปตบหน้าผากคนตัวใหญ่เบา ๆ


“ไม่เคยคิดว่าจะมีลูกเลยนะเอาจริง ๆ  ส่วนเมียก็...มันต้องมีอยู่แล้วล่ะผมเป็นผู้ชายนะพี่”


วารินเจ็บจี๊ดขึ้นทันที  แกล้งหลับตาลงแล้วไม่ต่อบทสนทนาอีก ธาราธารเอื้อมมือมาเกลี่ยไรผมสีอ่อนเล่นเบา ๆ


“พี่รู้อะไรไหม ผมมีความสุขมากเลยนะแค่ผมมีพี่อยู่ข้างๆผมไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว เราสองคนอยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆไม่ต้องมีลูกก็คงไม่เป็นไรหรอกเนาะ”


“ธาร!” วารินอุทานลุกพรวดขึ้นมาจ้องหน้าธาราธารอย่างตื่น ๆ ไม่คิดว่าเขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา


“ผมพูดจริงแล้วก็ทำได้จริงนะ” เขาเอื้อมไปโอบบ่าเล็กมากอดไว้แต่วารินใช้แขนกันไว้ก่อน จ้องหน้าแล้วพูดจริงจังกับเขา


“ธาร พี่อายุมากกว่าเราตั้งสิบสองปีนะ ธารจะคิดจะพูดอะไรไตร่ตรองดูให้ดี ๆ ก่อน พี่ไม่อยากให้ธารต้องมาเสียใจภายหลัง จริงอยู่ตอนนี้พี่อายุสามสิบสองแต่ตอนที่ธารอายุสามสิบสองเท่าพี่ พี่ก็คงอายุสี่สิบสี่ แล้วธารจะรับได้ไหมที่ต้องเดินไปไหนมาไหนกับคนแก่ ๆ อย่างพี่ รอบตัวธารจะมีเด็กรุ่นใหม่ๆอายุน้อยที่ต้องพบเจอด้วยตลอด ถึงตอนนั้นเรายังจะพูดอย่างนั้นกับพี่ได้อยู่เหรอ”


ธาราธารดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดเต็มอ้อมแขน แล้วโยกตัวไปมาเบา ๆ  “พี่ทราย ผมน่ะรักคนที่จิตใจนะ พี่เข้าใจใช่ไหมที่ผมอธิบายเรื่องเรียนให้ฟังเมื่อตะกี้ เพราะผมอยากให้พี่รู้ว่าสังขารคนมันไม่เที่ยงหรอกพี่ สิ่งสำคัญมันอยู่ในนี้ต่างหาก” เขาจิ้มที่หน้าอกตัวเองอย่างภูมิใจ


“ได้โปรดอย่ากลัวที่จะรัก  ช่องว่างสิบสองปีผมถมยังไงก็ไม่มีทางตามพี่ได้ทันหรอก ขอเพียงแต่พี่เดินรอผมบ้างก็พอแล้ว ผมจะไม่บังคับจะให้อิสระแต่ขออย่างเดียวขอให้พี่   ‘ซื่อสัตย์’   กับผม พี่รู้ไหมคนประเภทไหนที่ผมเกลียดที่สุด”


เขาพูดแล้วหันมามองวารินเหมือนกับจะบอกเป็นนัยน์ให้รู้ว่าอย่าได้เป็นคนประเภทนี้เชียวนะเพราะเขาจะไม่มีทางอภัยให้ได้เลย


“คนไม่ซื่อสัตย์ไง คนที่ทรยศหักหลังความรักที่เราให้ไปจนแหลกไม่มีชิ้นดี”


ธาราธารทอดสายตาเศร้าสร้อย เขานึกถึงคุณแม่ของเขา ภัครจิราเป็นคนที่น่าสงสารตั้งแต่เขาจำความได้เธอก็เอาแต่ทำงานมาโดยตลอดจะเรียกว่าบ้างานเลยก็ว่าได้ เมื่อก่อนเขาก็นึกว่าภัครจิราเป็นคนแปลกชอบทำงานมากกว่าคนทั่วไปเท่านั้น จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่พอเขาโตขึ้นภัครจิราจึงเล่าเรื่องของสามีเธอหรือก็คือคุณพ่อของเขาให้เขาฟัง


ทัตพลเป็นรุ่นน้องเธอสองปี เธอคลอดลูกตั้งแต่เขายังเรียนอยู่ปีสามเลยด้วยซ้ำจดทะเบียนกันได้ไม่ถึงปี ทัตพลขอเลิกกับเธอแล้วไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขา ผู้หญิงคนนั้นคลอดลูกหลังจากที่ธาราธารเกิดแค่ไม่กี่เดือน นั่นแสดงว่าทัตพลนอกใจภัครจิราตั้งแต่ยังอยู่ด้วยกัน เขาขยี้ความรักของเธอทิ้งอย่างไม่มีชิ้นดี ทรยศ หักหลัง เล่นชู้ แม่เขาเสียใจอยู่พักหนึ่ง ทว่าก็กลับมาตั้งตัวได้อีกครั้งเธอจึงมุมานะทำแต่งานไม่เคยมองใครอีกเลย 


“พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้ว  ธารไม่คิดจะถามพี่หน่อยเหรอว่าคิดยังไงกับเรา พี่อาจไม่ได้คิดเหมือนที่ธารคิดกับพี่ก็ได้นี่” วารินท้วง


“โอ๊ยยยย  ไม่ต้องถามแล้วผมรู้ตั้งนานแล้ว พี่ชอบผมอ่ะไม่งั้นจะหึงจนหน้ามืดแบบนั้นทำไม”   ธาราธารทั้งยิ้มทั้งหัวเราะขำสุดๆไม่รู้วารินคิดได้อย่างไรว่าเขาจะดูไม่ออกว่าตัวเองชอบเขาแค่ไหน วารินหันรีหันขวางแก้มใสขึ้นสีแดงแป๊ดฟาดต้นแขนฟิตๆของธาราธารไปหลายทีจนอีกฝ่ายต้องคว้าจับไว้เป็นพัลวัน


เขาอาศัยจังหวะได้เปรียบกดข้อมือเล็กลงบนโซฟานุ่มแล้วตัวเขาขึ้นคร่อมไว้ด้านบนทันที วารินรีบหลบสายตาอย่างเขินอาย


“ดิ้นต่อสิ” เขามองลงมาที่แก้มขึ้นสีนั่นแล้วลากเสียงยิ้ม ๆ


“ถ้าทำได้น่ะนะ”  อย่าว่าแต่ดิ้นเลยแม้แต่ขยับสักนิดก็ยังยาก เพราะอย่างนั้นวารินจึงเริ่มเตะขาปัดป่ายไปทั่วแต่ก็โดนคนตัวใหญ่กว่ากดทาบลงมาทั้งตัว คราวนี้แม้แต่หายใจให้ถนัดก็ยังลำบาก


“หนักไหม?”


“ห๊ะ” วารินทวนคำในใจ จู่ๆธาราธารถามอะไรขึ้นมาก็เห็นอยู่แล้วว่าขนาดลำตัวต่างกันเห็น ๆ เขาจะไม่หนักได้อย่างไร


“เวลามีอะไรกันถ้าผมขึ้นทับ พี่จะไหวไหมผมตัวหนักนะ แล้วกับคนที่ผมชอบ ผมทับไม่ออมแรงด้วยบอกไว้ก่อน”


เขาพูดอย่างไม่อายปากเลยสักนิด ไม่สนใจว่าวารินจะหน้าขึ้นสีแดงแค่ไหน พอธาราธารปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระวารินก็ทั้งผลักทั้งทุบเขาเป็นพัลวัน


“บ้า! บ้าที่สุดพูดออกมาได้ยังไง ปล่อยนะออกไปเดี๋ยวนี้เลย พี่.....”

ริมฝีปากนุ่มถูกเขาก้มลงมาปิดไว้อย่างรวดเร็ว คนอย่างธาราธารไม่ปล่อยจังหวะดีๆแบบนี้ให้หลุดหายไปต่อหน้าต่อตาแน่ เขาส่งปลายลิ้นร้อน ๆ เข้าไปตวัดต้อนเรียวลิ้นนุ่มนิ่มที่ดูเหมือนจะถอยหนีอยู่ตลอดแต่ไม่ว่าจะหลบหลีกไปทางไหนก็โดนลิ้นร้อนต้อนเกี่ยวไว้ได้ทุกมุม วารินหลับตาลงแน่นไม่รู้เมื่อไหร่ที่เผลอยกมือเกาะบ่าเขาไว้ ริมฝีปากเล็กดูดดุนปลายลิ้นเขาไว้อย่างลองดี นึกไปถึงช่วงเวลาที่เคยจูบกับเขาครั้งแรก วารินลองทำอย่างที่เขาเคยทำให้


“อืออ..” เสียงหวานครางในลำคอเมื่อเขายิ่งเร่งเร้าอารมณ์


กว่าวารินจะสำนึกว่าผิดไปแล้วไม่น่าลองดีกับคนอย่างเขาเลยปากเล็กก็โดนดูดจนเจ่อแดง ธาราธารละริมฝีปากออกมา ทั้งสองคนจ้องตากันนิ่ง


“เก่งเหมือนกันนี่” เขาพูดแดกดันยิ้ม ๆ วารินกัดริมฝีปากไว้แน่น


“ภูมิใจไหม ผมไม่ค่อยให้ใครจูบหรอกนะ”

เขาเอื้อมมือเข้ากระชากผมวารินเบา ๆ ให้หน้าเล็กแหงนขึ้นรับรสจูบของเขาได้ถนัดถนี่ คราวนี้เขาไม่ยั้งอารมณ์ไว้อีกแล้วมือแกร่งสอดไล้เข้าในสะโพกนวลแล้วบีบแรง ๆ วารินสะดุ้งเฮือกถดตัวหนี เขาไม่ปล่อยร่างเล็กต่อต้านนานนักคนตัวใหญ่ขึ้นทาบทับทันที สองมือล็อคใบหน้าสวยให้หันสบ ดวงตากลมจ้องเขาอย่างขลาดกลัว


“ชู่ว์อย่ากลัวครับ”

เขาตะล่อม วารินหน้ายู่ส่ายไปมาเบา ๆ อย่างไม่เชื่อในคำพูดเขา  เพราะยังไม่รู้รสนิยมเรื่องเซ็กส์ของเขาวารินจึงกลัว  ธาราธารแปลกไปพออยู่บนเตียงจะดูเร่าร้อนและรุนแรงคำพูดคำจากระทั่งน้ำเสียงและรอยยิ้มแบบร้าย ๆนั่น 


“อ..อื้ออ” เขาฉกจูบลงไปอีกครั้ง คราวนี้เล่นบีบปากวารินไว้ด้วย มือเล็กทั้งทุบทั้งตีแต่เขายิ่งยิ้มร้ายเหมือนกำลังสนุก


วารินที่ตัวแข็งทื่อต่อต้านเขาได้ไม่นานก็หมดแรงบัดนี้อ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟอยู่ในอ้อมอกอุ่น ๆ ของเขาธาราธารอ้อยอิ่งอยู่ที่ริมฝีปากสวยเนิ่นนาน  เขาจูบซ้ำๆย้ำจนปากเล็กเรียวเจ่อแดงไปหมด พอยกตัวขึ้นมองหน้าวารินดี ๆ เขาก็หัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างอดไม่ได้ วารินทำหน้าลูกหมาอีกแล้ว เขาแพ้ใบหน้าแบนนั้นของอีกฝ่ายมากจริง ๆ


“พี่ทำหน้าแบบนั้นอยากได้อะไรอ่ะ” เขาถาม


วารินเลิกคิ้วนิดๆอย่างสงสัย แต่นั่นทำให้เขายิ่งแทบคลั่ง ดวงตากลม ๆ ของวารินใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนเด็กๆอย่างไรอย่างนั้น


“รักนะ ผมรักพี่”

เขาแตะจูบลงมาเบาๆที่ริมฝีปากเล็กอีกครั้งคราวนี้ทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยน วารินยังตกใจกับคำที่ได้ยินไม่หายจึงเผลอจ้องเขานิ่งลืมกระพริบตา รอยรื้นที่เกิดขึ้นในดวงตาทำให้เขาต้องยกนิ้วขึ้นมาเกลี่ยออกให้


“รักธารเหมือนกัน” วารินยกมือขึ้นลูบหน้าเขา


ทั้งสองคนแลกเปลี่ยนจุมพิตวาบหวามกันอีกครั้ง  คราวนี้วารินยอมปล่อยให้เขาทำอย่างเอาแต่ใจ จูบของธาราธารทั้งนุ่มนวลและดุดันจนหัวใจวารินซาบซ่านไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด เขาไม่ได้ร้องขอวารินมากไปกว่านี้ ธาราธารบรรจงกอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนโน้มลงไปจุมพิตหน้าผากเนียนสวย แสงแดดลอดพาดผ่านม่านหน้าต่างสีขาวบางเบาคนตัวเล็กซุกเข้าในอกอุ่นแล้วเผลอหลับไปทั้งๆอย่างนั้น
 

.
.


เสียงรถจอดลงที่หน้าบ้าน วิลาสินีอยากจะดีใจเมื่อเห็นว่าเป็นรถของสามีแต่เธอก็ฝืนยิ้มไม่ลง วันนี้ทัตพลกลับเร็วกว่าปกติ เธอถอนใจสอดรูปถ่ายลงในซองเอกสารแล้ววางมันไว้บนโต๊ะ กำลังจะเปิดประตูลงไปต้อนรับเขาแต่ทว่าทัตพลกลับเดินขึ้นมาถึงห้องแล้ว


“ทำอะไรอยู่ เห็นเด็กบอกว่าคุณไม่ค่อยสบาย” ทัตพลเดินเข้ามาเขาถอดเสื้อนอกแล้วแขวนเอาไว้


“ทานอะไรรึยัง”เขาถาม เดินเข้ามาหาวิลาสินีใกล้ ๆ หญิงสาวพยักหน้าเบา ๆ แล้วหันหน้าไปทางอื่น เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อเชิ้ตที่แขวนไว้ออกมาสองตัวกางเกงอีกหนึ่ง


“คุณจะไปไหน” วิลาสินีลุกพรวดจากเก้าอี้ทันที


“ค้างที่คอนโด” เขาตอบเรียบๆ ทำท่าจะเดินออกไปวิลาสินีปราดเข้าไปกระชากแขนเขา


“จะไปนอนค้างกับมันรึไง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ” เธอแหวใส่อย่างดัง ทัตพลถึงกับงง “วิ คุณพูดถึงใคร”


วิลาสินีฟาดซองสีน้ำตาลใส่หน้าเขาอย่างแรง รูปถ่ายหลายสิบใบหล่นกระจายอยู่ทั่วพื้น ทัตพลก้มลงไปหยิบทันที


“ทุเรศที่สุด เดี๋ยวนี้เอาไม่เลือกแล้วนะ ผู้ชายยังไม่เว้นคุณไม่อายลูกบ้างรึไงคะทัต!”


เธอเหยียดริมฝีปากอย่างขื่นขม แววตาตัดพ้อสามีรื้นไปด้วยคราบน้ำตา สองมือเล็กกำแน่น ทัตพลมองรูปถ่ายที่อยู่ในมือด้วยความงุนงง มันเป็นรูปของเขากับวารินวันที่ไปทานข้าวด้วยกันที่โรงแรมริมน้ำนั่น ทำไมวิลาสินีถึงมีรูปพวกนี้ได้


“คุณไม่เคยรักฉันเลยฉันไม่ว่า แต่คุณทำแบบนี้กับฉันมันเกินไปนะทัต ฉันทำอะไรผิดมากนักรึไงคุณถึงต้องทรยศความรักของฉันแบบนี้ ยี่สิบปีที่เราอยู่ด้วยกันมามันไม่ได้ทำให้คุณรักฉันขึ้นมาบ้างเลยหรือ สันดานคุณนี่มันต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดกินไม่เลือกแล้ว นั่นน่ะมันเด็กผู้ชายนะ ถึงจะดูดีแค่ไหนมันก็คือผู้ชาย ผู้ชายร่าน ๆ ที่ยอมมาเป็นเมียน้อยผัวคนอื่น สันดานมันกับคุณก็คงต่ำพอๆกันนั่นแหละ คอยดูนะฉันไม่ปล่อยให้มัน...”


“หยุดนะวิ! ไปกันใหญ่แล้วพูดอะไรให้เกียรติคนอื่นเขาบ้าง”   เขาท้วงขึ้นอย่างหัวเสียเมื่อเห็นวิลาสินีลากเอาวารินเข้ามาก่นด่าอย่างไม่มีชิ้นดีทั้งที่ไม่รู้ความจริงอะไรสักอย่าง


“ให้เกียรติอย่างนั้นเหรอ ให้เกียรติทำไมคนอย่างมันมีเกียรติด้วยรึไง พวกวิปริตผิดเพศร่านอยากเอาผัวคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ไอ้คนของเราก็โง้โง่ไม่รู้ไปหลงมัน....” วิลาสินียังคงพูดต่อไม่ยอมจบแต่ทัตพลขัดขึ้นมาเสียก่อน


“ผมบอกให้หยุด!” เขาตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด กระชากแขนเธอบีบแน่น  “เงียบแล้วก็ฟัง! ผมกับเขาไม่มีเรื่องอะไรอย่างที่คุณคิด อย่าเอาความคิดต่ำๆของคุณมาโยนให้คนอื่น เขาเป็นคนรู้จักของผม แล้วที่สำคัญถ้าคุณลองแตะต้องเขาแม้แต่ปลายเล็บผมไม่ไว้หน้าคุณแน่”


ทัตพลจ้องหน้าหญิงสาวอย่างเอาจริง วิสาสินียิ่งเดือดดาลเธออยากจะกรีดร้องใจจะขาดแต่ยังคุมสติไว้ได้


“ปกป้องมันสินะ จะไปไหน! ฉันไม่ให้คุณไปเรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง” วิลาสินีปราดเข้ากระชากเขาอีกรอบ คราวนี้เสื้อผ้าหล่นลงมาจากมือเขากองลงที่พื้นทั้งไม้แขวน


“คุณจะไปหามันใช่ไหมจะไปค้างกับมันใช่ไหม ทำไม! มันถึงใจนักรึไง ทำให้คุณทุกท่ายอมตามใจคุณทุกอย่างหลงมันจนเป็นถึงขนาดนี้เลยรึไงห๊า!!”


เธอตะคอกเขาจนสุดเสียงไม่สนแล้วจะมีเด็กรับใช้ในบ้านได้ยินหรือไม่ เดินหน้าเข้าหาผลักหน้าอกเข้าอย่างแรง ทัตพลรวบจับข้อมือเธอไว้


“ทำไมคุณไม่ฟังผมวิ ผมบอกแล้วว่าผมกับเขาไม่ได้มีอะไร เชื่อใจผมสิ”  วิลาสินีเอาแต่ส่ายหน้าอย่างเดียวน้ำตาเธอไหลลงมาเป็นทาง


“คุณไม่เคยเป็นแบบนี้ ถึงคุณไม่เคยรักฉันแต่คุณก็ไม่เคยมีคนอื่น เด็กคนนั้นมีอะไรดี คุณถึงหลงมันซะหัวปักหัวปำแบบนี้ คุณไม่รักตาธิปแล้วเหรอธิปเป็นลูกคุณนะ สงสารเขาบ้างถ้าเขารู้เขาจะคิดยังไงพ่อไปมีเมียน้อยเป็นผู้ชาย...”


เธอพูดจาตัดพ้อกระแทกแดกดันจนทัตพลทนไม่ไหวลากเธอมาโยนโครมลงบนเตียง


“นอนซะ! คุณเพ้อเจ้อมากเกินไปแล้ว”  เขาก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกวิลาสินีกระชากตกไปเมื่อตะกี้กำลังจะสาวเท้าออกไปนอกห้องเสียงของหญิงสาวก็แหวขึ้น


“ถ้าฉันรู้ว่าคุณยังติดต่อกับมันอีกฉันไม่ไว้มันแน่ ฉันรู้นะว่ามันเป็นเลขาของยัยภัครจิราเมียเก่าคุณ! คิดดูก็แล้วกันถ้าทางนั้นรู้ว่าเลขาตัวเองมาเล่นชู้กับผัวเก่า  หึหึ มันคงได้ลอยหน้าทำงานต่อหรอกนะ หึหึหึ”


เพี๊ยะ!!


ทัตพลสะบัดฝ่ามือตบลงไปที่แก้มของวิลาสินีอย่างเหลืออด เขาขบกรามแน่นยื่นมือเข้าไปบีบคางเธอไว้ “ก็ลองคุณแตะต้องเขาดูสิ ผมจะทำให้คุณรู้เลยว่านรกมันมีอยู่จริงโดยที่ไม่ต้องรอตายก่อนแล้วค่อยไปตกลงไปหรอก”


วิลาสิยิ่งช็อคเมื่อเขาผลักเธอออกห่างอย่างรังเกียจ จริงอยู่รูปถ่ายเขากับวารินดูใกล้ชิดสนิทสนมกันบ้างไม่แปลกหากเธอจะเข้าใจผิดพลาดไป แต่ในเมื่อเขาอธิบายเธอก็ควรจะฟังและไม่ควรจะก่นด่าคนที่ไม่รู้เรื่องให้เสียหายมากมายขนาดนี้


“คุณน่ะสิต้องตกนรก เล่นชู้ทั้งที่มีเมียอยู่แล้วทั้งคน ใครกันแน่ที่ต้องตกนรก คนใจร้ายคุณมันใจร้าย” เธอยังตะโกนลั่นน้ำตาไหลลงอาบสองแก้ม ยื้อแขนทัตพลไว้ไม่ยอมปล่อยมืออีกข้างทั้งทุบทั้งตีเข้าไม่หยุด


“วิ!” ทัตพลนิ่วหน้าด้วยความเจ็บพยายามดึงมือเธอออกแต่เธอยึดเสื้อเขาไว้แน่น


“อยากจะเลิกกันจริง ๆ ใช่ไหม ถ้าคุณยังไม่ปล่อยแล้วก็พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ ผมว่าเราจบกันไปเลยก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องตกนรกเพราะเล่นชู้ไง ดีไหมฮึ!”


ในที่สุดเขาก็เหลืออดผลักเธอหงายหลังลงไปกองที่เตียง วิลาสินีได้แต่นั่งอึ้ง เขาคว้าเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องไป


“อ้อ! ไม่ต้องให้ใครคอยตามผมอีกนะ เพราะถ้าผมคิดจะทำจริง ๆ ผมไม่แคร์อยู่แล้วว่าคุณจะเห็นหรือไม่เห็นอะไร”


เขาพูดทิ้งท้ายไว้แค่ก่อนนั้น ก้าวออกไปจากห้องปิดประตูดังปัง วิลาสินีร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนที่นอน ไม่เคยคิดฝันว่าเขาจะทำอย่างนี้กับเธอได้


ทัตพลเป็นคนใจดี สุภาพและอบอุ่น เขาเป็นรุ่นพี่เธอหนึ่งปีและเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของพี่ชายเธอ วิลาสินีหลงรักเขามาตั้งแต่เธอยังเรียนอยู่มอต้นในขณะที่เขาไปแอบรักรุ่นพี่ที่อายุมากกว่าเขาถึงสองปีเธอคนนั้นชื่อ ภัครจิรา


ทัตพลคอยมาปรึกษาพี่ชายเธออยู่ตลอด เขามองเธอเป็นแค่น้องสาวขณะที่เธอไม่เคยมองเขาในฐานะพี่ชายเลยสักครั้ง สำหรับเธอเขาช่างเหมือนเทพบุตรเธออยากได้ตัวเขาไว้อยากครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างของเขา  แต่วิลาสินีต้องปิดบังความรักความต้องการของตัวเองเพื่อรักษามิตรภาพระหว่างเขากับเธอ


จนกระทั่งเขาสอบเรียนต่อเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับรุ่นพี่ที่เขาหลงรักได้ พวกเขาตกลงใจคบกันขณะที่เธอเองก็สอบตามเขาเข้ามาอีกที เธอเฝ้ามองเขาเทียวรับเทียวส่งภัครจิราอยู่ตลอดพวกเขาสองคนรักกันมากเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก


วิลาสินีเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อภัครจิราแฟนสาวของทัตพลเรียนจบออกไปก่อนเธอรู้ข่าวมาว่าบ้านของภัครจิราทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมและที่ดิน ซึ่งคล้ายคลึงกับธุรกิจที่บ้านของเธอซึ่งก็คืออาคารชุด(คอนโด)และหมู่บ้าน เมื่อวิลาสินีรู้ข่าวว่าทัตพลขอหมั้นภัครจิราเธอเสียใจแทบบ้าออกเที่ยวไม่เว้นแต่ละวัน นอนกับผู้ชายมากหน้าหลายตา พี่ชายจะเตือนอย่างไรเธอไม่เคยฟัง


ทันทีที่ทัตพลรู้ว่าภัครจิราตั้งท้องเขาขอเธอแต่งงานทันที  ติดที่ทัตพลยังติดเรียนอยู่เขาสองคนจึงไปจดทะเบียนสมรสกันไว้ก่อน ไม่กี่เดือนหลังจากนั้นก็คลอดลูกชายออกมาพี่เธอไปเยี่ยมแล้วมาเล่าให้เธอฟังว่าลูกชายเขาน่ารักน่าชังแค่ไหน วิลาสินีได้แต่นั่งอิจฉาขณะที่เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่าตนเองตั้งท้องกับใครก็ไม่รู้ได้ห้าเดือนกว่า ๆแล้วเธอตัดสินใจเล่าให้พี่ชายเธอฟัง และขู่จะฆ่าตัวตายพร้อมลูกหากว่าพี่เธอไม่ช่วยบีบบังคับให้ทัตพลมารับเป็นพ่อเด็กให้ได้


เธอรู้พี่ชายเธอมีบุญคุณกับครอบครัวทัตพลมากครั้งหนึ่งเคยเอาชีวิตเข้าแลกช่วยหลานสาวของเขาที่เกือบจะโดนรถชน พี่ชายเธอรักษาตัวอยู่เป็นปีต้องทำกายภาพบำบัดในขณะที่เด็กสาวคนนั้นอยู่รอดปลอดภัยไม่เป็นอะไรเลย พี่ชายเธอเลยเรียนช้ากว่าคนอื่นและกลายเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับทัตพล จะด้วยวาสนาหรืออะไรก็แล้วแต่ทัตพลตกลงใจทิ้งทุกอย่างแล้วย้ายมาอยู่กับเธอ เขารับว่าลูกในท้องเธอคือลูกชายของเขา ทางบ้านเธอตำหนิและไม่ชอบลูกเขย พอเห็นว่าเขาเป็นคนดีขยันทำงานจึงไม่ได้ว่าอะไรอีก วิลาสินีเรียนไม่จบเธอต้องออกจากมหาวิทยาลัยกลางครันเพราะตั้งท้อง ตั้งแต่นั้นมาทัตพลกับเธอก็ใช้ชีวิตร่วมกันมาตลอด


“ฉันรู้ตั้งแต่วันนั้น...คุณไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว คุณเย็นชา ไม่ร่าเริง มีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ คุณไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว...ฮือๆ...พี่ทัตวิรักพี่...”


เธอสะอึกสะอื้นคร่ำครวญอยู่คนเดียวกับหยาดหยดน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นทาง ยี่สิบปีตลอดมาเขาไม่เคยทำให้เธอเสียใจเลย ถึงเขาไม่รักเธอแต่เขารักชนาธิปมาก เขาจะพูดอย่างภูมิใจทุกครั้งที่มีคนถามและพูดถึงชนาธิป เธอคิดว่าสามารถใช้ชนาธิปเหนี่ยวรั้งเขาไว้ได้


...แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว....


วิลาสินีตาวาวโรจน์หยิบรูปถ่ายวารินขึ้นมาฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โทรกำชับคนสนิทของเธอให้ติดตามดูทัตพลแบบใกล้ชิด
.
.

Tbc.  :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: narrybo ที่ 18-03-2014 17:33:55
ทรายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รีบไปบอกคุณ ภัคร ด่วนเลย ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่ๆๆ งานนี้ แวว มาม่า มารำไร
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 18-03-2014 18:05:30
ตอนนี้มาแบบสองอารมณ์เลย

ตอนธารน่ารักหวานมากกกกกกกกกกกกกกกก  :-[

ส่วนคู่พ่อ อ้าว กรรมเวร สรุปว่า ธัตไม่ได้นอกใจเมียแต่ด้วยบุญคุณเลยต้องไปแต่งกับคนอื่น  :เฮ้อ:
แถมเรื่องแบบนี้ก็เคลียร์ไม่ได้อีก อิวินี่ก็อ้อร้อไป เขายอมแต่งด้วยก็บุญแล้วนะ
ทำตัวไม่น่าให้ความรักใครจะไปรัก คู่พ่อนี่ก็ดราม่าหนักเหมือนกันนะ
หวังว่าตอนจบ พ่อกับแม่ของธารจะกลับมารักกันนะ

ชนาธิปไม่ใช่พ่อเดียวกับธาร เวรกรรมสุดๆต้องมีช็อตที่ทำให้ทรายเข้าใจผิดแน่นอน
ธิปนี่มันโคตรเสนอตัว ตอนนี้ไม่อยากให้พี่ซีมารักธิปเลยให้ตายสิ
แต่เบื้องหลังธิปกับพี่ซีเหมือนมีอะไรๆอยู่

เพื่อเป็นการแฮปปี้เอนดิ้ง แนะนำ ธารคู่ทราย ธัตคู่พี่ซี ฮ่าฮ่าฮ่า (อยากเห็นคู่คุณลุงมั่งง่ะ)
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-03-2014 19:42:22
กลัวคดีพลิกที่สุดอ่ะตอนนี้ :ling3:
พ่อลูกนี่ก็ชอบอะไรเหมือนกันเลยนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 18-03-2014 20:38:34
เกิดเรื่องแล้วไหมหล่ะๆๆ

ธารดูแลทรายดีๆนะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-03-2014 20:41:30
ปัญหาวุ่นวายกำลังจะมา กลัวใจธารจริงๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 18-03-2014 21:14:04
มาม่าแน่เลยยย สงสารวารินน
ชอบธารจัง ผมหนักมั้ยยยย :z2:
กรี๊ดดดด เปนกำลังใจให้นะ มาต่อไวไว
รออ่านอยู่ อิอิ :hao6:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 18-03-2014 21:48:47
ยังไม่ทันหวานที่คอนโดใหม่เลย ==''
เมฆหมอกก็ปกคลุมซะแล้ว... 
พี่ทราย..  จะเจออะไรบ้างเนี่ย!! แต่ละคน หึหึ
ถ้าพี่ทรายไปกับเค้านะ  นายธารอาละวาดคอนโดพังแน่ .. :ling3:

ส่งกำลังใจให้นักเขียนครับ  :L2:  :L2:  ขยันมาก ๆ   o13

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 19-03-2014 02:32:15
เอิ่มม  แจ๊คพอตแตก งี้แหละเนอะความรักมันไม่เข้าใครออกใคร
แต่เจ๊วิชีจะร้ายต่ออีกหรอคะ ยี่สิบกว่าปีที่ร้ายมายังไม่พอหรอคะ
ถ้าเราเป็นภัครนะเราคงทำใจยกโทษให้ไม่ได้หรอกสำหรับทัตพล
สี่ห้าปีพอว่านะแต่นี่ยี่สิบปีที่ไม่บอกอะไรเลย ทิ้งไปเฉย ๆ แล้วภัครนี่ท้องด้วยนะไม่ใช่ไม่ท้อง
ทำเป็นดูอยู่ห่าง ๆ แต่คนที่ไมรู้อะไรเลยก็ยังคงไม่รู้อะไรเลย นี่ถ้าสองคนนั้นใช้ชีวิตปกติ
ไม่เกิดเหตุการณ์ระแวงทรายโดนหมายหัวเป็นชู้ของเจ๊วิต่อไป ภัครก็คงไม่รู้อะไรเลยไปจนตายค่ะ
(ยังความมันต้องแตกใช่มั้ยคะคนเขียน//ถือมีดขู่) แต่บังเอิญไม่ใช่ภัครจิรานี่สิ แหม่ :z10:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 19-03-2014 05:40:16
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 19-03-2014 08:58:27
โหยยย~ ตอนนี้แซ่บมากกกก
สุดยอดเลยค่ะ!!
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: Serioz ที่ 19-03-2014 09:34:28
วารินต้องแย่แน่ๅ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 19-03-2014 11:20:00

พี่ทรายยยยย จะเป็นไรมั๊ยเนี่ยยยยยยยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 19-03-2014 16:24:44
ตัวละครสำคัญคือใยคุณวิสินะ เอิ่มมมม พูดไม่ออก ทรายเกี่ยวไรด้วยยะ ทำไมไม่สืบให้ดีๆ

โมโหหึงจริงๆนะ คู่ธารรกะทรายนี่ เหมือนคลืนใต้น้ำชอบกล หวังว่า

พ่อธารกะทรายจะไม่มีอะไรให้เข้าใจผิดกันได้หรอกนะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 19-03-2014 20:57:06
https://www.youtube.com/v/HXZJ4LGZDyE
บทที่13


“ตรวจดีแล้วใช่ไหม ไม่ลืมอะไรแน่นะ”
 

“หูยไปค้างแค่สองคืนเอง ทรายไม่ใช้เด็กแล้วนะครับ พี่ซีย้ำเป็นสิบรอบแล้ว” วารินนั่งกอดเสื้อนอกที่พาดเอาไว้ที่แขน ภูวดลขับรถมาส่งเขาที่สนามบิน
 

“แล้วบอกน้องเขารึยังว่าสุดสัปดาห์นี้เราไม่ได้ไปค้างด้วย ไม่ใช่ว่าจะมาอาละวาดกับพี่ซีที่บ้านนะ เด็กแบบนั้นพี่ซีจ๋ารับมือไม่ไหวแน่”
 

ภูวดลพูดถึงธาราธารเมื่อเห็นว่าพักหลังจะติดวารินมากไปหน่อย  แต่เขายังไม่รู้ว่าทั้งสองคนสารภาพรักกันแล้ว
 

“บอกแล้วดิ  ขืนไม่บอกมีหวังตามไปลากทรายกลับจากพังงาตั้งแต่วันแรกแหง”
 

วารินพูดไปก็ทำหน้าแหยง ๆ นึกถึงตอนที่บอกกับธาราธารว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ใต้สักสองสามวันซักไซ้จนเขาแทบหลุดพูดเรื่องของทัตพล ธาราธารฉลาดเป็นกรดถ้าวารินโกหกเขาจะจับได้ทันทีเพราะอย่างนั้นวารินจึงคอยเลี่ยงเขาอยู่ตลอด และราวกับโชคช่วยเพราะฝ่ายนั้นดันมีกิจกรรมของคณะที่ต้องทำในวันเสาร์อาทิตย์นี้
 

“แล้วเจอกันครับ วันอาทิตย์ถึงแล้วเดี๋ยวทรายโทรหา”มือเล็กคว้ากระเป๋าเดินทางขนาดย่อมลากลงจากรถ ไหล่อีกข้างสะพายกระเป๋าส่วนตัว เขานัดเจอทัตพลที่ห้องรับรองของสายการบิน
 

“ทานอะไรไหม” ทัตพลที่นั่งรออยู่แล้วถามขึ้นอย่างสุภาพ วารินนั่งลงตรงข้ามกับเขา
 

“ขอบคุณมากครับผมเรียบร้อยมาแล้ว เราเข้าไปกันเลยดีไหมครับจวนถึงเวลาแล้ว”
 

ทัตพลในเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับสแลคดำเข้ารูปผ้าเนื้อดี กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆลอยมาแตะจมูกทำให้คนตัวเล็กอย่างวารินต้องเงยหน้าขึ้นมอง รูปร่างเขาดูจากด้านหลังเหมือนธาราธารไม่มีผิดเพี้ยน วารินที่เดินตามถึงกับก้มหน้ามองดูตัวเองอย่างรันทด ทำไมฟ้าช่างปั้นแต่งคนมาลำอียงขนาดนี้ ไหล่กว้าง ๆ ของเขาดูรับกันไปหมดกับรูปร่างที่สูงใหญ่สวยงาม  ผิวพรรณก็ดี โอ๊ยยวารินถึงกับเครียดอยากจะดูดีรูปหล่อเหมือนกับเขาบ้าง
 

ทัตพลบินชั้นหนึ่งอย่างเคย วารินเลยพลอยสบายไปด้วยปกติแล้วได้บินบ่อยซะที่ไหน ตั้งแต่มาดูแลธาราธารก็ห่าง ๆ เรื่องการเดินทางไปไหนมาไหนไกลๆกับภัครจิราไปเลย
 

เขาสองคนลงเครื่องที่สนามบินภูเก็ต  มีรถของโรงแรมขับมารับ เขาให้วารินขึ้นรถก่อนจากนั้นตัวเขาก็มุดตามเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ
 

“เหนื่อยหน่อยนะเดี๋ยวเราต้องขึ้นเขากันอีกนิด จะนอนก่อนก็ได้เดี๋ยวฉันปลุก”
 

เขาดึงเอาสายกระเป๋าสะพายที่ตกจากไหล่ขึ้นพาดคืนให้ วารินส่งยิ้มบางแล้วเอนศีรษะอย่างเอาแรง ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่คนตัวเล็กเผลอหลับไป รู้ตัวอีกทีวารินก็นั่งซบไหล่กว้างของทัตพลแถมยังมีน้ำลายไหลย้อยลงมาอีก
 

“ข..ขอโทษครับ ผมเผลอหลับไป”
 

วารินพูดตะกุกตะกัก รีบเช็ดน้ำลายออกจากไหล่เขาแทบไม่ทันมืออีกข้างก็ยกเช็ดที่มุมปากของตัวเอง ทัตพลนั่งกอดอก กลั้นขำตั้งแต่หัวเล็กๆเริ่มตกมาพาดที่บ่าเขาแล้ว กระทั่งในที่สุดก็เปียกเยิ้ม เพราะไม่เคยมีใครปล่อยเอ๋อใส่เขาได้ขนาดนี้
 

เขาเหล่ตามามองคนข้างๆที่ตอนนี้คงอายจัดทำท่าหันไปชมวิวมืดๆตามข้างทาง แก้มกลมขึ้นสีแดงเถือก วารินเป็นคนที่มีต้นคอสวยมากดูด้านข้างแบบนี้คล้ายกับผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาธรรมดาแต่ผิวพรรณเนียนละเอียดราวสีของน้ำนม จะว่าไปเขาได้กลิ่นหอมของ ‘นม’ เมื่อตอนที่วารินนอนหลับพิงไหล่ของเขา
 

“ที่นี่เหรอครับ” เมื่อก้าวลงจากรถวารินถึงกับอ้าปากตกตะลึง
 

...ไหนเขาบอกว่ารีสอร์ทเล็กๆไง ทำไมมันใหญ่โตขนาดนี้...
 

“เหนื่อยไหม ที่พักของเราต้องเดินขึ้นเขาหน่อยนะ ฉันอยากให้เธอได้ชมวิวสวย ๆ เพราะงั้นเลยตั้งใจเปิดห้องที่วิวดีที่สุดของที่นี่ให้”
 

เขาพูดกับวารินอย่างสุภาพหลังพยักหน้าให้พนักงานที่มารับเอากระเป๋าและเสื้อนอกของเขาไปเก็บ เขาพาวารินเดินชมวิวยามค่ำคืนไปตามทางเดินแบบขั้นบันได ขึ้นไปสู่บ้านพักที่ไต่ระดับอยู่ริมเชิงเขาติดกับท้องทะเลกว้าง วารินเดินเกาะราวบันไดอย่างระมัดระวัง


ท้องทะเลสีดำยามค่ำคืนกับไฟดวงเล็กๆสีส้มมากมายคงมาจากร้านอาหารที่ล็อบบี้ด้านหน้า มีเรือประมงหาปลาลอยลำอยู่กลางทะเลมืดๆเห็นเป็นจุดไฟสีส้ม ๆ กระพริบวิบวับแต่ไกล
 

....ทะเลยามค่ำคืนทั้งงดงามและน่ากลัวมากจริงๆ....
 

“ฉันพักที่ออฟฟิศด้านหน้า เดี๋ยวอาบน้ำอาบท่าแล้วลงมาทานข้าวกัน” เมื่อไขกุญแจเข้าไปในห้องเขาก็พูดขึ้น
 

“ด...เดี๋ยวครับ” วารินรีบดึงเสื้อเขาไว้เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะเดินออกไป ใบหน้าเล็กดูตื่นกลัวแปลกๆ
 

“แล้ว ท..ทำไมผมถึงต้องนอนที่นี่คนเดียว”
 

สวยน่ะสวยมากก็จริง แต่ห้องมันใหญ่โตโอ่โถงเอามากๆแล้วยังอยู่ริมเชิงเขา อีกทั้งรอบด้านเป็นกระจกใส มองไปรอบ ๆ เห็นแต่ท้องทะเลมืดๆดูน่ากลัวยังไงชอบกล
 

“อ้าวแล้วเธอหวังจะนอนกับใคร อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันมานอนเป็นเพื่อน” เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ   
 

“ก..ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรคุณเป็นคุณพ่อของธารแล้วเราก็เป็น ค..คือผู้ชายทั้งคู่ ผมว่านอนด้วยกันไม่น่ามีปัญหาหรอกครับเตียงออกจะกว้างใหญ่” วารินพูดกล้า ๆ กลัว ๆ หวังให้เขาอยู่เป็นเพื่อนเต็มที่
 

“จะเอาแบบนั้นเหรอ” เขาเลิกคิ้วนิดๆทำท่าคิดอยู่สักครู่ เห็นสายตาคาดหวังจากคนตัวเล็กเต็มที่
 

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันให้เด็กเอาเตียงมาเสริมให้ก็แล้วกัน โทษทีนะมัวแต่อยากให้เธอชมวิวสวยๆแต่ดันลืมคิดไปว่าเธอมาคนเดียวอาจจะกลัวก็ได้  ถ้าอย่างนั้นก็อาบน้ำอาบท่า เสร็จแล้วลงไปเจอฉันที่ออฟฟิศด้านหน้าเสื้อผ้าของใช้ฉันอยู่ที่นั่น”
 

ทัตพลปล่อยให้วารินได้มีเวลาส่วนตัว ร่างเล็กๆเดินสำรวจไปรอบห้อง อ่างอาบน้ำที่วางอยู่ในห้องน้ำบานเลื่อนกระจกใส เตะตาวารินมากกว่าอย่างอื่นวารินเดินเข้าไปดูความทันสมัยใกล้ ๆ  ก่อนจะเลื่อนบานประตูกระจกออกไปยืนที่ระเบียงด้านนอก ลมทะเลพัดโกรกจนร่างเล็กต้องรีบแจ้นเข้ามาด้านในแทบไม่ทัน
 

“หนาวเหมือนกันนะเนี่ย ดันลืมเอาเสื้อกันหนาวมา”  วารินพึมพำกับตัวเองพร้อมสูดน้ำมูกที่เริ่มไหลออกมา เขาแพ้อากาศง่ายถ้าเจอเย็นเข้าหน่อยจะจามฟึดฟัดเลยทีเดียว
 

เขาเลือกชุดที่ใส่สบาย ๆ ลงไปรอทัตพลอยู่แถวล็อบบี้ แต่เมื่อยังไม่เห็นอีกฝ่ายจึงลงไปเดินเล่นที่หน้าหาด กดโทรศัพท์รายงานตัวกับภูวดลจนฝ่ายนั้นแซวกลับมาว่าถ้าชมว่าสวยมากนักให้อยู่ถาวรไปเลย เขาได้แต่ทำหน้าทำเสียงกระเง้ากระงอดหาว่าภูวดลไม่รักเขาแล้วจนภูวดลต้องโอ๋เอ๋กันอยู่หลายรอบกว่าน้องชายตัวดีจะกลับมาส่งเสียงสดใสเจื้อยแจ้วได้อีก
 

อันที่จริงเขาแค่แกล้งพี่ชายเล่น
 

“หิวรึยังไปทานข้าวกันเถอะ”
 

มือเล็กกำลังจะกดโทรออกหาธาราธาร แต่เสียงทุ้มๆของทัตพลดันเรียกขึ้นเสียก่อน วารินรีบเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง ร่างสูงใหญ่เดินนำอีกฝ่ายไปที่ร้านอาหารแบบเปิดโล่ง มีชานไม้ยื่นออกไปที่ริมหาด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีแต่คนต่างชาติทั้งนั้น เขาพาวารินมาหยุดลงที่โต๊ะด้านนอกสุดมองเห็นวิวทะเลชัดสุดและไม่มีอะไรมาบดบังสายตา ดูเหมือนโต๊ะนี้ถูกเซ็ทไว้เรียบร้อยนานแล้ว เก้าอี้นวมสองตัวถูกจัดหันเข้าหากัน ที่โต๊ะตรงกลางมีดอกกุหลาบสีแดงกับเทียนไขที่ถูกจุดวางไว้
 

.....นี่มันโต๊ะดินเนอร์ชัดๆ....
 

จู่ ๆ วารินกลับเห็นใบหน้าเขาเป็นธาราธารขึ้นมา ใบหน้าเล็กรีบก้มต่ำเก็บกิริยาอย่างเขินอาย
 

“เป็นอะไร หนาวเหรอแก้มแดงเชียว”
 

เขาทักขึ้นขณะที่รับแก้วเครื่องดื่มจากพนักงานบรรจงวางไว้ให้ขึ้นมาจิบ ไวน์แดงชั้นดีนอนตะแคงอยู่ในถังน้ำแข็งเล็กๆวารินหันไปมองแล้วนึกไปถึงธาราธารอีกครั้ง
 

...พ่อลูกรสนิยมเหมือนกันไม่มีผิด กินแต่ของแพงๆ...
 

“ชนแก้วหน่อยนะ ขอบคุณที่เธอยอมเป็นธุระเรื่องธาราธารให้ ขอบคุณที่ยอมมาที่นี่ตามที่ฉันขอ แล้วก็ขอบคุณสำหรับความจริงใจที่เธอมอบให้ลูกชายของฉัน”
 

วารินยกแก้วของตนขึ้นมาตามมารยาท เขาเอียงแก้วเข้ามาแตะ ไวน์สีแดงกลิ้งตัวไปมาอยู่ในแก้ว  เขาคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน ดวงตาคมทอดมองดวงหน้าของคนตัวเล็กอย่างนึกขอบคุณขณะที่ยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ วารินเองก็ทำเหมือนอย่างเขา
 

“คุณทัตพลเป็นเจ้าของที่นี่เหรอครับ”
 

เป็นความจริงที่ไม่น่าถามอออกไปเลย เพราะตั้งแต่รถเลี้ยวเข้ามาจอด วารินแค่เห็นป้ายชื่อก็รู้อยู่แล้ว
 

“เรียกฉันว่า ‘ทัต’ เฉยๆก็ได้ไม่ต้องเต็มยศขนาดนั้นหรอกเรารู้จักกันมาขนาดนี้แล้ว”  เขายิ้มอย่างใจดีให้ แล้วยังตักอาหารใส่ในจานให้อีกด้วย
 

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เรียกผมว่า ‘ทราย’ ก็ได้ครับ เหมือนที่..เอ่อ..เหมือนธารเขาเรียก”
 

วารินส่งยิ้มกว้างอย่างจริงใจหลังพูดจบ  เป็นรอยยิ้มที่เขาดูแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างประหลาด ไม่สงสัยเลยว่าทำไมธาราธารลูกชายของเขาจึงยอมเปิดใจให้คนๆนี้
 

ทัตพลชวนวารินคุยเรื่องธาราธารอย่างออกรส เป็นอีกครั้งที่วารินรู้สึกว่าลมทะเลที่พัดโกรกมันช่างหนาวเย็นเสียจริง เขาไม่ได้สวมเสื้อนอกลงมา เพียงแต่ใส่เสื้อซ้อนสองชั้นเท่านั้น ไหล่เล็กห่อลงขณะที่วารินใช้สองมือลูบแขนไปมาแล้วกอดหน้าอกไว้
 

“หนาวเหรอ” เขาถาม
 

“ครับ นิดหน่อยไม่เป็นไรคุณพูดต่อเถอะครับ”
 

วารินตอบยิ้ม ๆหรี่ตาสู้แรงลมทะเลยามค่ำคืน กำลังคุยติดพันเรื่องชีวิตนักศึกษาของธาราธารให้เขาฟังอย่างออกรส แต่วารินดันจามออกมาเสียก่อน
 

“เข้าห้องดีกว่าไหมฉันว่าทรายหน้าแดง ๆ นะกลัวจะเป็นหวัด เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปดูรีสอร์ทที่จะให้ทรายช่วยเรื่องตกแต่งคงจะต้องเหนื่อยมากหน่อยพักเอาแรงไว้ก่อนดีกว่า”
 

เขาลุกขึ้นแล้วพาวารินเดินออกจากที่นั่น เสื้อเชิ้ตที่เขาสวมทับเสื้อยืดอีกตัวไว้ ถูกถอดออกมาคลุมให้วารินอย่างเบามือ ใบหน้าเล็กเงยขึ้นไปมองดูเขาอย่างแปลกใจ
 

“เสื้อใหม่นะ ฉันเพิ่งใส่เมื่อกี้นี้เอง”
 

เขาทำหน้าเก้อเขินเหมือนกลัววารินจะต่อว่า แต่เพราะเห็นว่าต้องเดินขึ้นบันไดริมเขาอีกกว่าจะถึงที่พัก  เลยกลัวอีกฝ่ายจะหนาวเพราะโดนลมโกรก
 

“ไม่ใช่ครับ ผมแค่เกรงใจคุณ”
 

วารินได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจาง ๆ จากเสื้อของเขา ถึงจะไม่ใช่กลิ่นเดียวกับของธาราธารแต่ก็คล้ายกันมาก เป็นกลิ่นที่มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล ให้ความรู้สึกเคลิบเคลิ้มชวนโหยหา แม้จะสูดดมเท่าไหร่กลับไม่รู้สึกอิ่มเอมอะไรแบบนั้น
 

“ภัครเขาเป็นยังไงบ้าง ยังทำงานหนักอยู่เหมือนเดิมใช่ไหม”
 

ขณะกำลังจะก้าวขึ้นบันไดที่เชิงเขา ทัตพลก็ถามขึ้น วารินหยุดขาลงทันที นี่เป็นครั้งแรงที่เขาเอ่ยถึงเจ้านายของวาริน ซึ่งก็คือภรรยาเก่าของเขา
 

“ครับ คุณภัครทำงานหนักมากเธอไม่เคยปล่อยให้ตัวเองว่าง เป็นผู้หญิงที่อยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้เลยล่ะครับ”
 

เมื่อพูดถึงผู้มีพระคุณอย่างภัครจิราสายตาวารินทอดออกด้วยความภาคภูมิใจ ภัครจิราเป็นผู้หญิงที่เก่งมากในสายตาของวาริน ทัตพลค่อยก้าวขึ้นบันไดต่อวารินเองก็เดินตามทั้งสองคนต่างนิ่งเงียบกันไป
 

วารินไม่มีสิทธิ์ที่จะไปพูดเรื่องของเจ้านายต่อหน้าเขาเพราะทัตพลเองก็แต่งงานใหม่ไปนานมากแล้ว มีลูกจนโตพอๆกับลูกของภัครจิรา  ถึงอยากจะรู้ว่าทำไมเขาจึงทิ้งภัครจิราได้ลง แต่คงไม่มีหน้าจะถามออกไป
 

...ถึงอยากรู้ให้ตายก็ถามออกไปไม่ได้...
 

“ทรายนอนเตียงใหญ่เลยนะ เดี๋ยวฉันใช้เตียงเล็กเอง”
 

เมื่อเข้ามาในห้องอีกครั้งเตียงเสริมก็ถูกจัดวางไว้ข้างเตียงใหญ่แล้วเรียบร้อย
 

“จะเอาอะไรไหม เดี๋ยวฉันจะโทรลงไปที่ฟร้อนหน่อย”
 

เขาถาม เมื่อวารินเดินออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้าเล็กพยักหงึกๆ บอกตัวเองอยากทานนมร้อนขอเป็นแก้วใหญ่ ๆ ทัตพลเลิกคิ้วอย่างสงสัยแต่เขาก็สั่งมาให้วารินอยู่ดี
 

ไม่นานหลังจากนั้นพนักงานก็นำนมร้อนเหยือกใหญ่ขึ้นมาส่งให้ถึงเตียง พร้อมกับกระเป๋าเอกสารที่ทัตพลคงลืมวางเอาไว้ เขาหยิบเอกสารออกมาทำโน่นทำนี่อยู่บนโต๊ะทำงานขณะที่วารินยิ้มแก้มแทบปริ เดินไปเอาแก้วมารินนมจากเหยือกแล้วออกไปนั่งกินนมชมบรรยากาศอยู่ที่หน้าระเบียง มือเล็กกดโทรออกหาธาราธารทันที
 

“พี่ยังจำผมได้ด้วยเหรอ?”
 

พอรับสายปุ๊บธาราธารก็เริ่มแดกดันใส่ น้ำเสียงแกล้งงอนกันชัดๆ วารินต้องง้ออยู่นานกว่าอีกฝ่ายจะยอมพูดดีด้วย
 

“แล้วนี่ไปกันกี่คนอ่ะ เอาจริงๆเรียกมาคุยสักคนสองคนดิ๊”  เขาว่ากันว่าคนหนุ่มมักเซ้นดี วารินคิดว่า ท่าจะจริง
 

“ก็..หลายคนแหละ ตอนนี้นอนกันหมดแล้ว แล้วเราล่ะทำอะไรอยู่อยู่ไหนเนี่ย ห้องรึเปล่า?”
 

วารินอึกอักพาอีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างรวดเร็ว
 

“ครับใช่ อ่านหนังสืออยู่ที่ห้องนี่แหละ ผมว่าพี่แปลกๆว่ะ” ท้ายประโยคธาราธารทำน้ำเสียงสงสัยเต็มที่
 

“คิดมากน่าเด็กน้อย  พี่ทรายคิดถึงนะครับ”  วารินแกล้งหยอดคำหวาน
 

“แน่ะๆๆชัวร์เลย แบบนี้ชัวร์เลย พี่เคยพูดแบบนี้ที่ไหนกัน ไหนเปิดวีดีโอคอลดิ๊ ส่องเพื่อนๆพี่ให้ผมดู”
 

วารินแทบสำลักนมในแก้ว ธาราธารจะฉลาดไปไหนครับ  คนตัวเล็กจามออกมาเพราะความหนาวแต่ก็ยังอยากนั่งชมวิวต่อ
 

“เป็นหวัดรึเปล่า ทำไมจาม” เสียงที่ปลายสายแสดงความเป็นห่วง กังวล
 

“เปล่า แค่แพ้อากาศนิดหน่อย”
 

วารินส่งเสียงอู้อี้ตอบออกไป ทัตพลเลื่อนบานประตูออกมาพร้อมกับผ้านวมผืนใหญ่ในมือ เขาคลุมมันลงที่ไหล่เล็กอย่างระมัดระวัง วารินที่นั่งกอดเข่าอยู่รีบรับเอาไว้อย่างรู้สึกขอบคุณและเกรงใจ
 

“เพื่อนเขานอนหมดแล้วทำไมพี่ยังไม่นอนอ่ะ ดึกแล้วนะรีบไปพักเถอะพรุ่งนี้เดี๋ยวไม่มีแรงเที่ยวต่อนะ” ธาราธารยังชวนเขาคุยต่อทั้งที่ไล่ให้ไปนอนแล้วแท้ ๆ พวกเขาคุยกันสักพักก็วาง วารินเดินหอบผ้านวมเข้ามาวางไว้คืนให้ทัตพล
 

“ขอบคุณนะครับ ตะกี้คุยกับธารเห็นบอกว่าพรุ่งนี้มีคุยกับรุ่นพี่เรื่องละครเวที ธารเขาได้แสดงเป็นพระเอกด้วยนะครับ”
 

วารินอยากเล่าเรื่องธาราธารให้ทัตพลฟังเพราะคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะดีใจ ซึ่งก็ใช่จริง ๆทัตพลยิ้มบางๆออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
 

“เขาทำได้แน่อยู่แล้ว เพราะว่าเขาเป็นลูกชายฉันนี่ ต้องทั้งเก่งทั้งหล่อเหมือนพ่ออยู่แล้ว”
 

คราวนี้วารินสำลักนมในแก้วออกมาจริง ๆ คนตัวเล็กไอค่อกๆแค่กๆตบหน้าอกตัวเองไม่ยอมหยุด เดือดร้อนทัตพลต้องละจากกองเอกสารเดินเข้ามาลูบหลังให้เบา ๆ 
 

“เอ้ากินแบบไหนกันล่ะเนี่ย เลอะเทอะหมดแล้ว”
 

เขาหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้ “เข้าไปล้างหน้าไป” ไล่วารินให้เข้าไปล้างหน้าล้างตา อีกฝ่ายจึงถือโอกาสแปรงฟันให้เสร็จเรียบร้อยเลย
 

วารินซับหน้าแล้วพาดผ้าไว้กำลังจะเดินมานอนลงที่เตียง แต่นึกบางอย่างได้เขาก็ลุกไปควานหาสายชาร์ตในกระเป๋ามาชาร์ตแบตโทรศัพท์ไว้ใกล้ตัว
 

“อ้าวทราย มานอนที่ฉันทำไมล่ะเนี่ย ไปนอนเตียงใหญ่สิ” ทัตพลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นวารินล้มตัวลงนอนที่เตียงเสริม
 

“ไม่ได้หรอกครับคุณทัตนอนเตียงใหญ่เถอะ แค่นี้ผมก็เกรงใจคุณจะแย่แล้วอย่าให้ต้องลำบากใจมากไปกว่านี้เลยนะครับ”
 

“เอาแบบนั้นเหรอ งั้นก็ได้ฉันปิดไฟแล้วนะ ทรายเปิดไฟหัวเตียงไว้สิ”
 

เขาเดินเข้ามาล้มตัวลงนอน ถึงจะพูดว่าเตียงใหญ่กับเตียงเสริมแต่มันก็ต่อติดกันอยู่ดี ทัตพลเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายหลับตาลงแล้ว
 

เสียงคลื่นซัดกระทบชายฝั่งดังให้ได้ยินตลอดทั้งคืน ทัตพลยังคงนอนลืมตาในความมืด เขาหวนคิดถึงครั้งแรกที่ได้เจอกับภัครจิรา เธอเป็นรุ่นพี่เขาสองปี ทัตพลแอบรักเธอมาตลอดจนกระทั่งในที่สุดได้แต่งงานกัน แต่เพราะโชคชะตาในตอนนั้นเขาตัดสินใจทิ้งทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณรุ่นพี่ที่สนิทกันคนหนึ่ง ถึงแม้เขาไม่ได้รักวิลาสินีแต่เขาก็ไม่ปฏิเสธที่จะมีอะไรกับเธอ ทัตพลหลับตาลงอย่างสมเพศตัวเอง ยี่สิบปีแล้วที่เขาเดินผิดพลาดมาตลอด จะมาอยากได้คืนอะไรกันตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์จะเรียกตัวเองว่าพ่อเลยด้วยซ้ำ
 

ร่างสูงเลื่อนบานประตูออกมายืนรับลมอยู่ที่ระเบียงด้านนอก สายตาคมทอดมองลงไปที่ท้องทะเลเวิ้งว้างสีดำสนิท มีแสงไฟจุดเล็กๆอยู่สามสี่จุดคาดว่าคงเป็นเรือประมงออกไปตกหมึกยามค่ำคืน เขาเลื่อนสายตาไปที่ริมฝั่ง บาร์หน้าหาดปิดเงียบหมดแล้ว ทัตพลหลับตาลง ปล่อยตัวเองให้ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
 

เมื่อรู้สึกตัวอีกที มือเล็กของใครบางคนกลับเอาผ้าห่มมาคลุมลงให้เขาเสียแล้ว แต่เพราะเขาตัวสูงกว่ามากทุกอย่างเลยดูขลุกขลักไปหมดไม่โรแมนติกเหมือนที่ใครหลายคนคิด ทัตพลยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนเขาลูบศีรษะเล็ก
 

“ขอบใจนะ”
 

“คุณทัตนอนไม่หลับเหรอครับ ถ้ามีอะไรอยากจะระบาย คือว่าผม..คือ..รับฟัง...”
 

วารินอยากจะบอกเขาว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจสามารถเล่าให้ฟังได้ ไม่อยากให้ทัตพลคิดมากเพราะทัตพลเป็นคุณพ่อของธาราธารและเป็นคนที่ภัครจิราเจ้านายของเขาเคยรัก วารินจึงให้ความสำคัญกับเขา
 

“เปล่าหรอกทราย ฉันไม่เป็นอะไรแค่ออกมารับลมหน่อยเท่านั้น จะเข้าไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
 

แล้วเขาก็พาวารินเข้ามาด้านใน เมื่อร่างเล็กล้มตัวลงนอนเขาเข้ามาดึงผ้าห่มคลุมให้อย่างเบามือ
 
 

....เพราะวารินดูแลลูกชายคนเดียวของเขา และเพราะวารินอยู่ใกล้ชิดกับภัครจิรา ผู้หญิงที่เขารัก...
 

.

.

 
“เลวที่สุด!  ชั่ว!  เลว!  สันดานร่าน!!”
 

วิลาสินีฟาดโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงสบถคำหยาบไม่ได้ศัพท์ หลังคนสนิทของเธอโทรมารายงานว่าทัตพลพาวารินไปค้างด้วยกันที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่พังงา ส่งรูปที่สองคนดินเนอร์กันใต้แสงเทียนริมชายหาดมาให้เธอดู
 

วิลาสินีเอาใบหน้ากดลงบนหมอนแล้วกรีดร้องออกมาดัง ๆ  สองวันที่แล้วเธอมีปากเสียงกับเขา แล้วเขาก็หายไปเลยตั้งแต่วันนั้น วิลาสินีไม่ได้โทรไปเช่นกันเขาเองก็ไม่ได้โทรมา
 

...ถึงขนาดกล้าดีพามันไปฮันนีมูนใต้แสงเทียนแสงจันทร์บรรยากาศชั่วช้าแบบนั้น คิดจะลองดีกับฉันล่ะสินะ...
 

หญิงสาวแสยะยิ้มที่มุมปากเมื่อเธอเริ่มคิดแผนการชั่ว ๆ ออก เธอต้องการกำจัดวาริน ต้องการกำจัดทุกคนที่เข้าใกล้ทัตพล
 

...ถึงเขาไม่รักเธอแต่เธอจะไม่ยอมให้เขาไปรักใคร!...
 

...เธออยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา...
 

....และเธอจะไม่มีวันเสียเขาให้กับใคร...
 

วิลาสินีกดโทรศัพท์ออกหาคนสนิทของเธอที่ตามทัตพลไปถึงพังงา บอกแผนการที่เธอคิดไว้ทั้งหมด กำชับให้คนปลายสายทำงานให้เรียบร้อย งานนี้จะผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด เธอฟาดรางวัลลงไปเป็นตัวเลขถึงหกหลักฝ่ายนั้นยิ้มร่า แล้วรับปากจะทำงานให้สำเร็จลุล่วง ขอแค่ให้คนสองคนไหลไปตามแผน  ถึงตอนนั้นวิลาสินีจะกลายเป็นผู้ชนะอย่างสมบูรณ์แบบ วารินไม่มีวันลอยหน้าอยู่ในสังคมได้อีกแน่ ๆ หญิงสาวเหยียดยิ้มร้าย มือเรียวค่อยวางโทรศัพท์มือถือลงบนเตียง
 

...ยังไงซะคุณก็ต้องคลานกลับมาหาฉันอยู่ดีนั่นแหละค่ะที่รัก...
 

...ถึงคุณจะมีใครอื่นอีกเป็นสิบเป็นร้อย แต่ฉันคนนี้จะจัดการไล่ต้อนพวกมันไปให้หมด...
 

...หมูหมากาไก่ เปรตแร้งเก้งกวางที่จะมาอ่อยเหยื่อล่อหลอกเอาคุณไป พวกมันจะต้องเจอกับคนอย่างฉันเสียก่อน..
 

...แล้วคุณจะเห็นว่าคนอย่างฉันนี่แหละ ที่คู่ควรกับคุณ...คุณทัต!
 
.
.
Tbc.
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: kondee_tysut ที่ 19-03-2014 21:11:15
โหยยลุ้นอ่ะ กลัวแทนเล้ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: narrybo ที่ 19-03-2014 21:24:38
นาง ร้าย โดยแท้ๆๆๆ ไม่มีคำใด เปรียบ นาง ได้เลย เครียด แล้ว ถ้าคุณ ภัคร รุ้ ทรายจะทำไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: Serioz ที่ 19-03-2014 21:40:20
อินางร้ายน่าตบมาก  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 19-03-2014 21:55:27
ร้ายๆๆๆๆๆ

ธารอย่าเข้าใจทรายผิดนะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 19-03-2014 22:05:05
งานนี้ทรายไม่มีที่ยืนแน่
แถมจะโดนธารเกลียดอีกต่างหาก
กำๆๆๆๆๆ

  :ling1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 19-03-2014 22:14:29
คุณพ่อคะ ... คนนั้นนะ แฟนของคุณลูกชายนะคะ .. (ไม่มีอะไร  แค่บอกเฉย ๆ)  :hao3:
พี่ทราย... รีบคุยธุระให้เสร็จ ๆ รีบกลับไปหาธารเหอะนะ .. อันตรายรอบตัว    :ling3:
ผู้หญิงคนนี้ .. น่ากลัวมาก.......   :fire:   :ling3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 19-03-2014 22:24:12
 :hao7: อร๊ายยยยยยย
ตอนนี้แอบจิ้น คุณทัตกับพี่ทรายเสียแล้ว
แลดูอบอุ่นมากเลยอ่ะ "คุณพ่อxคุณลุง"

อิวิจะก่อเรื่องอีกแล้วล่ะสิ สงสัยจะเอาเรื่องพี่ทรายมาประจาณรึเปล่า
ยังงี้สงสัยพี่ทรายจะได้ดราม่ากับธาร
ถ้าธารไม่เชื่อกลับมาหาคุณทัตนะพี่ทราย
เอามาให้เราจิ้นต่อ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 19-03-2014 22:46:35
นี่เรียกว่าคู่ควรแล้วสินะคะ ก็ไม่รู้สินะ
ผู้หญิงคนนี้ทำไมตูเกลียดมันได้ขนาดนี้ฟะ :z6:

ธารนี่เป็นพระเอกใช่ไหม ทำไมพักนี้บทมันน้อยจัง :hao5:
แล้วนี่ทรายจะเข้าศึกชิงสวาททัตพลที่มันไม่จบไม่สิ้นอีกรายสินะ สินะ สินะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 19-03-2014 23:04:38
สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร เหอะสมน้ำหน้า
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 19-03-2014 23:20:55
น่าเป็นห่วงทรายแล้วสิ กลัวธารจะเกลียดไปอีก ให้คุณทัตเจอตัวไอ้คนติดตามแล้วซ้อนแผนกลับอีกที
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 20-03-2014 02:26:52
ตามอ่านทันแล้วววววว สนุกมากๆๆๆ ค่ะ ตอนล่าสุดนี่อยากเข้าไปกระชากหัวอินังวิแล้วตบๆๆๆๆๆ ฮึ้ยยยย อย่ามาทำอะไรพี่ทรายนะ

กลัวทุกคนจะเข้าใจพี่ทรายผิดจัง สงสารพี่ทรายล่วงหน้าได้เลยสินะคะ TT

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: Minerva ที่ 20-03-2014 04:32:11
ไม่รักก็ไม่ยอมให้ไปรักใคร สันดานน่าตบมากค่ะ!
ไม่รู้ว่าถ้าคุณภัครจิรารู้ว่า ธารบอกรักกับพี่ทรายแล้วจะเป็นไงน๊า
คิดว่าน่าจะเป็นคำตอบแบบผู้ใหญ่ที่ดีแน่ๆ เชื่อว่างั้น!
แต่ไม่แน่ใจกับคุณพี่ซี จะอกแตกตายหรือเปล่า (สงสาร)

แต่ยังไงก็เชียร์น้องธารกับพี่ทรายค่ะ!!♥

จะติดตามตอนต่อไปนะคะ!
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: daboo ที่ 20-03-2014 08:46:18
ยัยขี้อิจฉาร้ายกาจมาก
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 20-03-2014 09:58:21
ทำไม เราอ่านพาร์ท พ่อธารกะทรายแล้ว มันเหมือนอ่าน "ของต้องห้ามที่หอมหวน"  :hao4:

เหมือนจะมีแรงดึงดูดบางอย่างที่สองคนนี้ ถูกดูดเข้าหากันเลย

แล้ว ทรายก็เผลอใจด้วยบางที ไอที่คิดว่าเหมือนธารแล้วเขินอ่ะ

ก็แค่เหมือน ของจริงมันไม่ใช่ ถ้ายังเผลอบ่อยๆ ก็ชู้ ของจริงเลยแหละ  :เฮ้อ:

ธารจะกลายเป็นบุคคลผู้น่าสงสารที่สุดเลย ถ้าถึงตอนนั้น ส่วนใยคุณวิ

เธอยังคงเป็นผู้เห็นแก่ตัวที่มืดมนที่สุด   :z6:  :beat: เธอไม่น่าสงสัยตัวเองเลยนะ ทำไมพ่อธารไม่รัก

ส่องกระจก อย่าเอาแต่มองว่าสวยมั๊ยอย่างเดียวสิ ส่องดูอย่างอื่นด้วย ดูว่าตัวเองทำอะไรไว้บ้าง :angry2:

พ่อธารนี่คือ ไม่รู้เลยหรอว่า อธิปไม่ใช่ลูกแท้ๆ หรือว่ารู้แล้วว่าไม่ใช่ลูก แต่อยากตอบแทนบุญคุณ

ถ้ารู้ว่าไม่ใช่ลูก อยากตอบแทนบุญคุณ แล้วถามหน่อย ลูกตัวเองนี่ ไม่นึกถึงมั่งเลยหรอ? กับแม่ธารอีก

เสียสละชีวิตตัวเองก็พอเข้าใจ แต่นี่ ทำร้ายคนที่ตัวเองรักด้วย? ลืมคิดรึไง? รึมันมีเหตุผลที่ซับซ้อนกว่านี้ รึยังไง?

ปล. สุดท้ายนี้ ที่เราเม้นต์ยาวได้ประมาณนี้ เพราะอิน ขอโทษด้วยนะคะ สนุกอ่ะเรื่องนี้ เดายากดี ชอบอ่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 20-03-2014 14:43:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[19/03/57] บทที่ 13 destiny
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 20-03-2014 19:30:17
เกลียดอิวิ
พี่ทรายยยรีบกลับเหอะ กลัวธารเข้าใจผิดอ่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 20-03-2014 21:17:16
(กดฟังเพลงเข้ากับบรรยากาศ)
https://www.youtube.com/v/HXZJ4LGZDyE

บทที่14
 


“สีขาว?”
 

“ใช่ครับสีขาว ธารเขาชอบทุกอย่างที่เป็นสีขาวครับ  เขาเคยบอกว่าสีขาวเป็นสีที่เป็นตัวแทนของความ ‘บริสุทธิ์’ ไม่สกปรกถ้าเปื้อนนิดเดียวเราก็จะรู้ได้ทันที แล้วเขาเป็นคนที่รักษาของดีมากเพราะอย่างนั้นของใช้ของเขาจึงดูใหม่อยู่ตลอดเลยครับ”
 

วารินแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าพักหลังมาธาราธารชอบแต่งห้องโทนขาวตัดกับน้ำตาลน่าจะเป็นเพราะตัวเขาเคยบอกไว้ว่าชอบ
 

“แต่ถ้าขาวล้วนไปหมดมันจะไม่สวยนะทราย แบบนี้เป็นไงขาวน้ำตาล ไม่ก็ขาวตัดดำ”
 

ทัตพลแตะมือที่หน้าจอแทปเลตเลื่อน ๆ ให้วารินลองเลือกดู ตัวอย่างชุดเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินโทนขาวเป็นเมนหลัก มีพนักงานจากบริษัทออกแบบอีกสองคนนั่งลงรายละเอียดแปลนช่วยกันที่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์
 

หลังจากคุยรายละเอียดหลักๆกันแล้ว วารินลองดูเลเอาท์คร่าวๆ แล้วบอกในจุดที่ควรปรับเปลี่ยน ใช้เวลาไม่นานภาพโพสเปคทีฟก็ขึ้นรูปหมุนไปมาอยู่ที่หน้าจอใหญ่ วารินอดคิดไม่ได้ว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทันสมัยเสียจริง ปรับเปลี่ยนทุกอย่างได้อย่างใจนึกไม่ต้องมานั่งขึ้นรูปโมเดลแบบสมัยก่อนเมื่อตอนเรียน โปรแกรมสำเร็จรูปต่างๆช่วยได้เยอะ
 

“หิวไหม ข้าวเที่ยงกินนิดเดียวเอง ทานนี่ก่อนสิ”
 

พนักงานของบริษัทตกแต่งลุกออกไปแล้ว ทัตพลเลื่อนจานผลไม้สดที่เพิ่งเอาเข้ามาเสิร์ฟส่งให้วาริน
 

“จะเอาเป็นนมหรือน้ำผลไม้คั้นดี”
 

เขายังถามต่ออีกอย่างเอาใจ วารินลูบท้องแล้วยิ้มอย่างดีใจเพราะหิวนานแล้ว คุยเรื่องงานมาตั้งแต่เช้า พอเที่ยงทานพอได้นิดหน่อยก็ต้องลุยรายละเอียดกันต่ออีก กระทั่งตอนนี้เวลาล่วงเลยไปบ่ายแก่ ๆ แล้ว
 

“เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะพาเธอขับเรือชมวิวดีไหม ตอบแทนที่อุตส่าห์อดทนเพื่อฉันและธาราธารมากขนาดนี้”
 

เขายิ้มอย่างอบอุ่น แล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่สบายใจ
 

“ขอบคุณครับ ได้ยินว่าเกาะแถวนี้สวยมากถ้าคุณทัตจะกรุณาก็เยี่ยมเลย”
 

วารินยิ้มร่า ในดวงตาฉายแววความสุข ทัตพลบอกให้คนตัวเล็กขึ้นไปเอาเสื้อคลุมที่ห้องก่อน เดี๋ยวจะพาไปดูรีสอร์ทเล็กๆที่เขาสร้างไว้ให้ธาราธารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก
 

เมื่อวารินกลับมาถึงทัตพลก็รออยู่ที่รถกอล์ฟไฟฟ้าสีเขียวอ่อนคันเล็ก  “ทรายจะขับไหม เดี๋ยวฉันบอกทางให้” เขาถามเมื่อวารินกระโดดขึ้นไปนั่ง
 

“ไม่ดีกว่าครับ เอ๊ะหรือว่าคุณเหนื่อยถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผม....”
 

“เปล่า ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น” เขารีบโบกมือปฏิเสธไปมา “ฉันแค่อยากให้ทรายได้ลองอะไรใหม่ๆดู ยังไม่เคยขับรถแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
 

“ไม่เคยหรอกครับ แต่เมื่อวานตอนขึ้นมาทางมันค่อนข้างอันตราย..” วารินทำหน้าแหยๆ แค่ตอนนี้เขาขับเลี้ยวออกมาจากรีสอร์ทคน ก็เริ่มเอียงซ้ายเอียงขวาแล้ว ทางมันค่อนข้างวิบากจริง ๆ
 

ใช้เวลาไม่นานรถก็มาจอดลงที่รีสอร์ทเล็กๆแทบจะเรียกว่าติดกับที่เดิมเลยด้วยซ้ำเพียงแต่เขาพาวารินขับอ้อมมาด้านหลัง กว่าจะทะลุมาจอดถึงหน้าหาดวารินต้องยึดราวรถไว้จนมือชาไปหมด
 

“ฉันกำลังให้คนปรับพื้นที่ทำถนนใหม่ แล้วก็ตกแต่งภูมิทัศน์ใหม่ทั้งหมดลงต้นลีลาวดีไว้เยอะเลยนะ”
 

วารินยกมือกันแสงแดดที่ส่องใบหน้า พร้อมกวาดตามองไปรอบๆเห็นบ้านพักส่วนหนึ่งที่ก่อสร้างจวนจะเสร็จเรียบร้อยอยู่ห้าหกหลัง อีกส่วนหนึ่งที่หน้าหาด กำลังขึ้นโครงก่อสร้างประมาณสี่ห้าหลัง เป็นบ้านทรงไทยเล็กๆยกพื้น ส่วนด้านในเป็นตึกสองชั้นโมเดิร์นเล่นระดับสวยงามมาก
 

“รูปแบบของการตกแต่งภายในจะเป็นไปอย่างที่เธอออกแบบให้ทั้งหมดนะ เธอคิดว่าธารเขาจะชอบรึเปล่า”
 

ทัตพลเดินนำชมทุกส่วนของรีสอร์ท วารินตื่นตาตื่นใจไม่มีวี่แววความเหน็ดเหนื่อยให้เห็น
 

“กลับกันดีกว่า ที่นี่ไม่มีอะไรให้กินหรอก”  เขาแอบแขวะยิ้มๆ เมื่อได้ยินเสียงท้องของคนตัวเล็กร้องประท้วงโครกคราก วารินได้แต่ลูบต้นคอตัวเองแล้วยิ้มแฮ่ ๆ แก้เขิน
 

...ขายขี้หน้าจริง ๆ เลย...
 

พอกลับมาถึงที่พัก ทัตพลสั่งให้เด็กเตรียมอาหารใส่ปิ่นโตให้ วารินเลิกคิ้วสงสัยเมื่อเอื้อมมือไปรับเถาปิ่นโตและตะกร้าขวดน้ำจากน้องพนักงานที่ยื่นมาให้
 

“เดี๋ยวไปกินกันบนเรือ หรือว่าอยากไปปิคนิคที่เกาะ ทรายหิ้วท้องรอไหวไหม”
 

เขาเดินไปหยิบกุญแจเรือที่เคาน์เตอร์แล้วเดินนำวารินไปที่สะพานไม้เล็กๆซึ่งทอดตัวออกไปยาวเหยียด เพื่อขึ้นเรือเร็วขนาดสองที่นั่งสีฟ้าขาวที่จอดเทียบรออยู่ก่อนหน้าแล้ว
 

มือใหญ่ยื่นมาให้จับ เมื่อเห็นคนตัวเล็กเก้ ๆ กัง ๆขณะจะก้าวลงเรือ  ทัตพลขับเรือเองวารินเดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ เขา เสียงเรือยนต์ดังขึ้นพร้อม ๆ กับแสงแดดที่ค่อยหุบตัวลง บรรยากาศยามเย็นมาพร้อมกับกลิ่นไอท้องทะเลสีเขียวมรกต ดวงตากลมฉายแววตื่นเต้นเต็มที่ วารินกวาดเก็บเอาความสวยงามของทิวทัศน์รอบ ๆ ตัวใส่ไว้ในหัวใจดวงน้อย
 

“ลืมไปเลยใช่ไหมว่าตัวเองหิวข้าว”
 

เขาหันมาพูดยิ้ม ๆ วารินเองก็ยิ้มกว้างกลับไป รู้สึกขอบคุณเขามากที่พามาเที่ยวในที่สวยงามแบบนี้ มือเล็กคว้าเอาโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปสวย ๆทั้งซ้ายทั้งขวา
 

“มีเกาะสวยๆอยู่ที่หนึ่ง เดี๋ยวฉันจะพาไปดู”
 

เขาพูดพร้อมหักหัวเรือไปอีกทาง เรือเร็วยังคงมุ่งหน้าต่อไปเรื่อย ๆไม่นานนักวารินมองเห็นเกาะเล็กๆ อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
 

“ตรงโน้นเหรอครับ” ใบหน้าเล็กเชิดขึ้นเพื่อให้เห็นวิวได้ชัด
 

“ใช่ เดี๋ยวจะพาขับวนดูรอบๆ ก่อน หาดสวยมากเลยนะไม่ค่อยมีคนรู้จักหรอก”
 

เขาพาวารินวนรอบเกาะช้า ๆ กินบรรยากาศยามเย็น สักพักเสียงท้องคนตัวเล็กร้องประท้วงขึ้นอีก เขาหันมาหัวเราะเบา ๆ วารินยิ้มจนตาหยีแล้วหันไปคว้าเถาปิ่นโตมาเปิด
 

มีข้าวแค่ชั้นเดียว แล้วก็มีช้อนสั้นแค่หนึ่งคัน ส่วนกับข้าวสมบูรณ์แบบมาก วารินรีบหันมองเขาทันที แต่อีกฝ่ายดูเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
 

“อ้าว ทำไมไม่กินล่ะทราย” เขาหันมาถามเมื่อเห็นวารินนิ่งไป
 

“ค...คือคุณทัตจะทานด้วยรึเปล่าครับ”
 

วารินอยากจะตบปากตัวเองจริง ๆ ถามออกไปได้อย่างไร รู้ทั้งรู้ว่าทัตพลเองก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเหมือนกัน เขาหันมามองด้วยแววตาฉงนแต่ก็คลี่รอยยิ้มออกมาเมื่อมองเห็นสิ่งที่อยู่บนตักของวาริน
 

“ไม่เป็นไรทรายทานเถอะ เดี๋ยวกลับไปฉันค่อยกินก็ได้”
 

“ม..ไม่ได้หรอกครับ ถ้าคุณไม่รังเกียจเราทานด้วยกันเลยก็ได้”
 

วารินพูดแล้วก็ยื่นกับข้าวไปด้านหน้าเขา ทัตพลหันมองอย่างง ๆ เห็นว่าวารินตักกับข้าวราดให้เรียบร้อยเหลือแต่ตักขึ้นมาทานเท่านั้น
 

“ไม่เป็นไร ทรายกินเถอะ” เขายังยิ้มให้อย่างเคย แต่วารินกลับขมวดคิ้วจนเป็นปม “คุณรังเกียจจริง ๆ สินะครับ”
 

“ไม่ใช่นะทราย คือ...”
 

“ผมยังไม่ได้กินหรอก ให้คุณกินอิ่มก่อนก็ได้เดี๋ยวผมทานทีหลัง”
 

น้ำเสียงของวารินแสดงความผิดหวังนิด ๆ ทัตพลรีบชี้แจงทันที “เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว ฉันตักไม่ได้ต่างหากเพราะขับเรืออยู่ไงล่ะ ไม่ได้รังเกียจทรายเลยนะ”
 

มือเล็กตักข้าวพอดีคำยื่นไปจ่อที่ริมฝีปากเขา ทัตพลหันมองอย่างชั่งใจแต่เมื่อเห็นรอยยิ้มกว้างบริสุทธิ์ไร้เดียงสานั่นเขาก็อ้าปากรับอย่างยินดี
 

วารินป้อนเขาบ้างทานเองบ้างสลับกันไป จนอาหารพร่องปิ่นโต “ทรายจะถ่ายรูปไหม เดี๋ยวฉันถ่ายให้ได้นะ”
 

“ขอบคุณครับ”
 

วารินยื่นโทรศัพท์มือถือให้อย่างไม่เกรงใจ โพสท่าทางประหลาดๆใส่กล้อง ภูวดลชอบบอกว่าวารินไม่เหมือนใครเวลาถ่ายรูปชอบทำท่าทางที่ตัวเองขี้เหล่ไม่เคยแอคท่าสวยๆเลยสักครั้ง ไม่รู้ทัตพลจะคิดเหมือนกับพี่ชายเขารึเปล่า
 

“อ่ะนี่ ถ่ายให้ฉันบ้าง” เขายื่นโทรศัพท์ของตัวเองส่งให้วาริน “ถ่ายรูปพวกเราสองคนนะเป็นที่ระลึกเธออุตสาห์มาเที่ยวทั้งที” วารินเอียงศีรษะไปใกล้ไหล่ของเขาแล้วชูสองนิ้วหันหลังมือในแนวนอนพร้อมยิงฟันเพิ่มความทุเรศทุรัง ทัตพลถึงกับหัวเราะร่าในความบ้าบิ่นของวาริน มือเล็กจิ้มปุ่มบันทึกภาพทันที และอีกสองสามช็อตแล้วแต่คนตัวเล็กจะสรรหาท่าทางประหลาด ๆ มาทำกับเขา
 

....เขารู้สึกมีความสุข....ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ไม่ได้มีความสุขแบบนี้.....
 

“ไปไหนกันต่อดีครับ หรือว่าจะกลับกันเลย” เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนทุ่มกว่า ทัตพลตัดสินใจพาวารินมุ่งหน้ากลับที่พัก ขับเรือตอนกลางคืนคงไม่ดีแน่ ๆ
 

“วันนี้จะเปิดแชมเปญฉลองนะ ดื่มกันที่ไหนดี” เขาถามขึ้น พร้อมส่งตะกร้าใส่ขวดน้ำและเถาปิ่นโตให้คนงานเอาไปเก็บ โยนกุญแจเรือส่งให้เด็กอีกคนและบอกให้เติมน้ำมันไว้ด้วยเพราะเขาใช้จนเกือบจะหมดแล้ว
 

“เนื่องในโอกาสอะไรเหรอครับ” วารินถามซื่อ ๆ เดินตามหลังเขาไปตามสะพานเล็กมาลงที่หน้าหาด ทรายสีขาวต้องกับแสงไฟสีส้มจากร้านอาหารของรีสอร์ทสะท้อนเป็นสีทองระยิบระยับยามค่ำคืน
 

“ขอบคุณทุกๆอย่างที่ทรายทำให้ ทั้งให้ลูกชายฉันแล้วก็ตัวฉันเองด้วย เธอเป็นเด็กดีนะทราย” วารินเผลอยิ้มกว้างทันทีที่ถูกชม ยกมือเกาศีรษะเล็กแก้เขิน
 

“เดี๋ยวฉันอาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วจะขึ้นไป เราดื่มกันที่ระเบียงหน้าห้องเลยก็ได้วันนี้ลมไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ ขอเคลียร์งานต่ออีกหน่อยนิดนะ ระหว่างนั้นทรายพักผ่อนรอไปก่อน”
 

เขาให้เกียรติวารินมากแม้จะพักห้องเดียวกันแต่กลับลงมาอาบน้ำแต่งตัวที่ออฟฟิศทุกครั้ง เขาเดินมาส่งวารินถึงเชิงบันไดแล้วขอตัวแยกไปอีกทาง วารินรีบเดินขึ้นห้องพร้อมถ่ายรูปทิวทัศน์ข้างทางต่ออีกหน่อยไหน ๆ วันนี้ก็กลายเป็นช่างภาพจำเป็นไปแล้ว
 

เสียงโทรศัพท์ดังขณะวารินนอนแช่ในอ่างอาบน้ำ ลุกออกมาควานหาแทบไม่ทัน
 

“กวนทำไมเนี่ย อาบน้ำอยู่” วารินแหวใส่ปลายสาย ธาราธารถึงกับผงะ เขายิ้มร้ายโทรได้จังหวะดีจริงๆ
 

“พี่โป๊รึเปล่า อยู่กับใครน่ะ”เขาแกล้งทำเสียงขู่
 

“โป๊ดิ่ แต่ตอนนี้อยู่คนเดียว” วารินยกผ้าเช็ดตัวขึ้นเช็ดผม เขาว่าจะเดินออกไปคุยที่ริมระเบียงทว่ากลับมองเห็นโต๊ะดินเนอร์ถูกเซ็ทไว้ที่มุมด้านหน้าของระเบียงกว้าง แก้วแชมเปญสองใบถูกวางไว้ข้างกันพร้อมแก้วดอกไม้สดและแก้วเทียนไขที่ยังไม่ถูกจุด
 

“แล้วไป ถ้าอยู่กับคนอื่นผมไม่ยอมนะเนี่ย” ปลายสายยังแกล้งเย้าวารินไม่หยุด ธาราธารถามวารินว่าวันนี้ไปไหนมาบ้างเขาจึงตอบไปว่านั่งเรือเล่นชมเกาะโน่นเกาะนี่
 

“แล้วได้ถ่ายรูปไว้ไหมล่ะ”
 

“ถ่ายสิเยอะด้วย ใช้กล้องมือถือนั่นแหละง่ายดี” วารินหัวเราะคิกคัก เขามาเที่ยวแต่ดันไม่พกกล้องถ่ายรูปมากลับใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายแทน
 

“ส่งรูปมาให้ดูดิ๊ อยากเห็นไปกับใครบ้างเพื่อนๆพี่อ่ะผมยังไม่เคยเห็นเลยสักคนนะ” เสียงพลิกหน้าหนังสือทำให้วารินรู้ว่าธาราธารคงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เป็นแน่ เขาเรียนหมอเพราะอย่างนั้นต้องทุ่มเทมากกว่าอย่างอื่นเป็นเท่าตัว
 

วารินชะงักนิดหนึ่ง วางผ้าเช็ดผมลงเดินไปหยิบเสื้อและกางเกงจากในตู้แล้วค่อยสวมลง  “จะดูอะไร้ มีแต่คนแก่ๆทั้งนั้น เดี๋ยวกลับไปค่อยดูนะ”
 

“พี่ทราย  ผมว่าพี่แปลกวะครับ”
 

เสียงปิดหนังสือดังตุ๊บ วารินรู้ว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ธาราธารเรียกเขาว่า ‘พี่ทราย’ แปลว่าเริ่มมีอะไรข้องใจเขาแล้ว เสียงเคาะประตูดังขึ้นวารินรีบไปส่องดูเมื่อเห็นเป็นเสื้อฟอร์มพนักงานมาพร้อมกับอุปกรณ์จัดแต่งโต๊ะอาหารก็เปิดประตูให้
 

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับแล้ว แล้วจะให้ธารดูนะครับ พี่ขอคัดรูปสวยๆก่อน” วารินหาทางเลี่ยง แต่ทางนั้นยังคงแกล้งเง้างอนต่อรอง วารินจึงจำใจส่งรูปเดี่ยวที่ถ่ายบนเรือใบให้ดูรูปหนึ่ง ธาราธารจึงค่อยพอใจกลับมาคุยร่าเริงได้อย่างเก่า
 

“พี่ต้องวางแล้วนะเดี๋ยวจะกินข้าวแล้ว ไว้เจอกันนะครับ...พี่รักธารนะ” วารินตั้งใจพูดอย่างนั้นจริง ๆ ธาราธารส่งเสียงเย้เฮดมาตามสายจนวารินอดจินตนาการท่าทางกระโดดดีใจของเด็กเจ้าปัญหาไม่ได้
 

“...ผมก็รักพี่...”
 
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 20-03-2014 21:17:36
https://www.youtube.com/v/HXZJ4LGZDyE


“...ผมก็รักพี่...”
 

ทันทีที่ได้ยินคำนั้นปากเล็กๆยิ้มกว้างออกอย่างไม่รู้ตัว วารินกดวางสายแล้วเดินไปส่องที่ระเบียงอีกหน พนักงานกลับออกไปแล้วโต๊ะถูกจัดให้พร้อมสำหรับดื่มฉลอง เทียนในแก้วถูกจุดไว้เรียบร้อย ที่โต๊ะเล็กข้าง ๆ มีขวดแชมเปญนอนตะแคงอยู่ในตะกร้าหวายเล็ก ๆ ทัตพลเดินมายืนซ้อนอยู่ที่แผ่นหลังเขาจับไหล่คนตัวเล็กให้เดินออกไปนั่งที่เก้าอี้นวมริมระเบียงที่ถูกเตรียมไว้แล้วตัวเขาก็นั่งลงข้าง ๆหยิบขวดแชมเปญขึ้นมาแล้วส่งให้กับวาริน
 

“ทรายเปิดนะ ลองดู”
 

เขาเลิกคิ้วเหมือนท้าทายอยากให้วารินลองทำ มือเล็กรับเอาขวดแชมเปญอ้วน ๆ มาถือไว้ วารินยืนขึ้นค่อยแกะฟอยล์ที่ห่อปากขวดออก ขณะที่มือกำลังจะคลายลวดล็อคจุกออก ทัตพลก็จับห้ามไว้ทันที
 

“เดี๋ยวก่อนๆ หันปากขวดออกไปทางโน้นสิอย่าหันมาใส่ฉันนะ” เขารีบโบกไม้โบกมือร้องห้ามเมื่อเห็นวารินเปิดผิดวิธี  “อย่างนั้นแหละ แล้วก็ค่อย ๆ คลายเกลียวลวดออก อีกมือก็จับจุกก๊อกไว้ให้มั่น” เขามองท่าทางกล้า ๆ กลัวๆของอีกคนแล้วนึกขัน วารินได้แต่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือ
 

เขาลุกขึ้นเข้ามายืนซ้อนแผ่นหลังเล็ก มือซ้ายเข้ากอบกุมฝ่ามือเล็กประคองจุกก๊อกไว้แน่นส่วนมือขวากุมมือเล็กไว้ให้ค่อย ๆ ขยับบิดหมุนขวด  “อย่าตกใจนะเดี๋ยวจะได้ยินเสียงจุกระเบิด” เขายิ้มอย่างอ่อนโยนขณะที่พาวารินเปิดขวดแชมเปญเป็นครั้งแรกในชีวิต พอเสียงจุกระเบิดดังโป๊ะ พรายฟองมากมายก็ไหลออกมาพร้อม ๆ กับกลิ่นหอมเฉพาะของแชมเปญทำเอาวารินถึงกับน้ำลายสอเลยทีเดียว
 

เขาจับตรงก้านแก้วแล้วส่งไวน์ชั้นเลิศให้กับวาริน ทั้งสองคนนั่งจิบกันไปเรื่อยๆพร้อมกับเพลงเบา ๆ ที่เคล้าบรรยากาศดังลอดมาจากบาร์ด้านล่าง “กินหอยนางรมสิ เข้ากับแชมเปญมากเลยนะหรือว่าคาร์เวียชอบอันไหน” เขาแนะนำอย่างชำนาญพร้อมทำท่าจะตักให้ แต่วารินรีบห้ามบอกตัวเองทานไม่เป็น วารินดื่มไปได้แค่สองแก้วก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวเสียแล้ว
 

“งั้นเอาสเตอร์เบอรี่สดไหม เดี๋ยวฉันสั่งให้เขาเอาขึ้นมาให้”
 

วารินรีบพยักหน้าหงึก ๆ พร้อมบอกให้เขาสั่งนมสดร้อนขึ้นมาให้อีกหนึ่งเหยือก คราวนี้ทัตพลไม่แปลกใจแล้ว เขาคิดว่าวารินคงต้องดื่มนมร้อนก่อนนอนเป็นประจำ เขากดโทรสั่งไม่นานพนักงานก็เอาของขึ้นมาส่งให้ วารินรีบรินนมใส่แก้วแล้วไปนั่งกินใกล้ ๆ กับเขา ทัตพลหันมามองดูแล้วหัวเราะในลำคอเบา ๆ วารินได้แต่เลิกคิ้วถามว่าเขาหัวเราะอะไร
 

“ขอโทษนะฉันไม่รู้นี่ว่าเธอไม่ชอบแชมเปญ รู้อย่างนี้เราสั่งนมสดขึ้นมาดื่มฉลองกันดีกว่าใช่ไหม” ปากเขาบอกว่าขอโทษแต่วารินกลับมีความรู้สึกว่าเขาเหน็บวารินเล่นมากกว่า หน้าตาท่าทางเขายิ้มร้ายๆเหมือนธาราธารไม่มีผิด วารินหมั่นเขี้ยวจึงแกล้งเทนมสดจากเหยือกลงไปที่แก้วแชมเปญของเขา ทัตพลตกใจจนหน้าหรา เขาไม่คิดว่าวารินจะกล้าเล่นอะไรแผลง ๆ แบบนี้ ปกติแก้วแชมเปญนั้นสำคัญมากจะไม่ใส่รวมกับของอย่างอื่นเพราะกลัวจะเสียรสชาติแท้ ๆ ของไวน์ชั้นเลิศ
 

“ดื่มฉลองด้วยนมก็เป็นความคิดที่ดีนะครับ” วารินยิ้มหวานเพราะเมานิด ๆ ยกแก้วแชมเปญของตนเองซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยนมตะแคงไปชนกับแก้วของเขาที่เต็มไปด้วยนมเช่นกัน
 

ทัตพลทำอะไรไม่ถูกเขาจึงได้แต่ยิ้มและส่ายหัวอย่างยอมแพ้แล้วยอมดื่มนมลงไป วารินเติมแล้วเติมอีกจนจะหมดเหยือกขณะที่ทัตพลแค่แก้วเดียวก็ขอบายกลับไปจิบไวน์รสเริดของเขาต่อ วารินทอดสายตาออกไปที่ท้องทะเลดำมืดขณะที่มือก็หยิบสตอเบอรี่ขึ้นมากินอย่างสบายอกสบายใจ
 

เสียงเพลงฝรั่งช้าๆจากบาร์หน้าหาดดังลอดขึ้นมาจนถึงข้างบน วารินฮัมเพลงในลำคอเบา ๆ ในใจพลันนึกถึงเรื่องของธาราธารขึ้นมา มันแน่นอนแล้วที่ว่าเขาตกหลุมรักเจ้าเด็กบ้านั่น กลับไปคงต้องคุยเรื่องนี้กับภูวดลดู เขาเองหากว่าจะมีความรักหรือคนรักจริง ๆ ก็ไม่คิดจะปิดปัง แม้ว่าเขาจะรู้ว่าภูวดลจะต้องเสียใจแต่ไม่อยากยื้อยุดกันอยู่แบบนี้ สู้บอกๆไปให้เรียบร้อย เขาได้แต่หวังว่าพี่ชายเขาจะเข้าใจ
 

จู่ ๆ ร่างเล็กลุกพรวดแล้ววิ่งหายเข้าไปด้านใน ทัตพลที่กำลังเพลิดเพลินกับการดื่มถึงกับเหลียวหลังไปมอง ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดดังโครม วารินหายไปนานก็ยังไม่ออกมาเขาเห็นท่าไม่ดีจึงลุกขึ้นไปตาม
 

“ทราย เป็นอะไรรึเปล่า” เขาลองเคาะเรียกดู ได้ยินเสียงน้ำฝักบัวไหลซ่าอยู่ด้านใน
 

“ทราย มีอะไร” เขาเรียกอีกทีเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ตอบอะไรกลับมา ทัตพลเริ่มร้อนใจแนบหูเข้ากับบานประตูใสแต่ผ้าม่านดันปิดไว้หมด
 

ได้ยินเสียงร้องไห้ดังร่วมกับเสียงน้ำ “ทราย! เป็นอะไรน่ะ!?” คราวนี้เขาเคาะรัวเลย ได้ยินเหมือนเสียงพูดแต่เบามากจนใจหาย ทัตพลเริ่มหน้าเสียร้อนใจสุดๆ
 

“ทราย!ถ้าไม่ตอบฉันจะเปิดเข้าไปนะ!” แต่เขาไม่ได้รอให้วารินตอบ เขาเลื่อนบานประตูเข้าไปทันที
 

...ภาพที่เห็นทำเขาแทบช็อค...
 

วารินนอนขดตัวอยู่ใต้สายน้ำฝักบัวที่เย็นจัด หน้าแดงตัวแดง ร่างเล็กๆร้องไห้ปานจะขาดใจ

“อย่าเข้ามา อย่าเข้ามาใกล้ผม”  เสียงเล็กสั่นสะอึกสะอื้น ทัตพลรีบเข้าไปหมุนก๊อกเพื่อปิดน้ำ “อย่าปิดนะ เปิดไว้แบบนั้น ออกไป ออกไปให้พ้นจากตัวผมปล่อยผมไว้คนเดียว”  วารินเสียงแผ่ว เขาร้องห้าม ทัตพลก้มลงไปดูใกล้ๆ
 

“อย่าแตะ! อย่าแตะตัวผมนะออกไปได้แล้ว” วารินทั้งร้องไห้ทั้งปัดป่ายมือไปมาเมื่อเขายื่นมาสัมผัส ทัตพลรู้สึกถึงไอร้อนมากมายที่แผ่ออกมาจากร่างกายของคนตัวเล็ก เขารีบสอดมือเข้าประครอง และทันทีที่เขาอุ้มวารินขึ้นมือเล็กๆก็ยึดเสื้อเขาจนแน่นซุกหน้าลงไปที่หน้าอก ตัวสั่นเทาแล้วก็ครางเสียงสั่น พูดอะไรบางอย่างซึ่งเขาฟังไม่ได้ศัพท์
 
 
จู่ ๆ ทัตพลที่กำลังอุ้มวารินออกมาด้านนอกต้องหยุดชะงัก เขายืนนิ่งไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้อีก สองแขนแกร่งเริ่มสั่นขณะรู้สึกถึงความร้อนจากแก่นกายตัวเองที่พวยพุ่งขึ้นแทบระเบิด เขาขบสันกรามแน่นจนนูน รีบปล่อยวารินลงบนพื้น ตัวเขาวิ่งพรวดเข้าห้องน้ำแล้วก้มศีรษะลงที่อ่าง ใช้น้ำเย็น ๆ จากก๊อกหวิดราดให้ทั่วใบหน้าทันที
 

....เกิดอะไรขึ้น?....ทำไมเป็นแบบนี้?....
 

...เขาสองคนเป็นอะไร??...
 

ทัตพลเกาะผนังเดินออกมาด้านนอกด้วยขาที่สั่นเทา ปวดหนึบแถวแก่นกลางลำตัว ขณะที่วารินยังนอนขดคู้อยู่ที่นั่นตัวสั่นเทาไม่ต่างไปจากเขา ร่างเล็ก ๆ งอตัวร้องครางอย่างเจ็บปวด
 

...เขารู้ว่าวารินต้องการอะไร
 

...และเขารู้ว่าตัวเขาตอนนี้ต้องการอะไร...
 

เป็นใครกันที่ทำแบบนี้กับพวกเขา.....ยาปลุกเซ็กส์?....
 

ทัตพลเริ่มหอบหายใจถี่ มองดูวารินที่ทั้งทุบทั้งตีตัวเองอย่างน่าสงสาร เสียงร้องไห้ยังกรีดลึกเข้ามาในโสตประสาทของเขา วารินเริ่มทุรนทุรายหนักแล้ว อีกไม่นานตัวเขาจะเริ่มคุมตัวเองไม่ได้เช่นกัน
 

เขาลากขาที่ร้อนผ่าวของเขาผ่านร่างของวารินอย่างเชื่องช้า เขาต้องออกไป จะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ แต่ทว่ามือเล็กกลับคว้าเอาขาเขาไว้ เงยหน้าร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าสงสาร
 

....วารินไร้สติไปแล้ว....
 

แค่ผิวกายสองคนแตะกันราวกับไฟในคบเพลิงที่ถูกจุด เขารวบเอาตัวบอบบางเข้ามากอดแล้วกดจูบหนักๆลงไปที่ริมฝีปากเล็กอย่างหื่นกระหายทั้งดูดดุนกวาดต้อน กลิ่นนมที่มาจากโพรงปากอุ่นร้อนยิ่งเร้าอารมณ์เขาจนกระเจิง วารินตอบโต้เขาทันทีอย่างไม่รอช้าราวกับโหยหามานาน กลิ่นและรสชาติของแชมเปญถูกลิ้นเล็กกวาดต้อนจากปากเขาทั้งหมด ทั้งสองคนโรมรันใส่กันแบบไม่มียั้ง เขาดึงเสื้อวารินออกอย่างไม่ทันใจขณะที่อีกมือกระชากกางเกงเปียกน้ำทั้งถีบทั้งถองให้ออกไปกองอยู่ที่พื้น วารินเองก็ไม่น้อยไปกว่ากัน มือเล็กดึงเสื้อผ้าเขาออกอย่างร้อนรนทั้งบนและร่าง ร่างกายเปลือยเปล่าสองร่างกอดฟัดกันและกันจนแทบจะหลอมเป็นร่างเดียว
 

“ฮ...ฮ้าา”
 

วารินหอบหายใจหนักและถี่ สองมือจิกผมเขาแน่นเมื่อทัตพลเริ่มละเลงลิ้นขบลงที่เม็ดสีสวยที่ชูชันท้าทายเขาอยู่ ร่างบอบบางแอ่นรับ เขาลากจูบขึ้นไปที่ซอกคอขาวกระชากผมนิ่มให้คอแหงนขึ้นรับการโลมเลียจากเขาได้ถนัด เขาทั้งขบทั้งกัดอย่างคนอดอยากมานาน
 

“อ..อ๊ะ”
 

เสียงเล็กร้องครางอย่างสุขสม ใบหน้าน่ารักหลับพริ้ม สองมือเลื่อนมาโอบไหล่กว้างขอแลกจูบจากเขาอย่างร้อนรน  เขาลากวารินขึ้นมาต่อที่เตียงโรมรันพันตูยิ่งกว่าพายุ  ทัตพลพลิกร่างเล็กขึ้นมาทาบทับอยู่บนเรือนร่างของเขา เคลื่อนกายโยกช่วงกลางลำตัวที่ร้อนรุ่มเสียดสีบดเบียดกับร่างเล็กที่อยู่ด้านบนอย่างหื่นกระหาย
 

“อาา..” ทั้งเขาทั้งวารินครางฮือ คนตัวเล็กถูกพลิกลงไปอยู่ด้านล่างอีกครั้งตัวเขาขึ้นทาบทับ ริมฝีปากลากไล้ไปจนทั่วตั้งแต่ผมหอมริมหูเปลือกตาจมูกแก้มคิ้วคางจบลงที่ริมฝีปากสวย ไม่มีส่วนไหนเล็ดลอดจากปากและลิ้นของเขาได้ ซอกคอขาวหัวไหล่เนินอกต่ำลงมาถึงหน้าท้องแบนราบทัตพลทั้งดูดทั้งเลียเอาจนแดงเป็นทางคล้ายคนตายอดตายอยาก วารินครางลั่นเกร็งจนขนลุกเกรียวไปทั้งตัว  ถึงแม้ทัตพลจะไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อนแต่ด้วยสัญชาตญาณและความต้องการส่วนลึกที่โดนปลุกออกมาด้วยยาปลุกเซ็กส์ทำให้เขาหน้ามืดตามัวครอบริมฝีปากลงที่แท่งสีสวยตั้งชันของวารินได้อย่างไม่รังเกียจ
 

“อ๊าา..” วารินที่ไร้สติหลับตาพริ้มจิกผมเขาแน่นแสนจะสุขสม กระเด้งสะโพกเข้าออกจากปากเขาจนหลั่งน้ำสีขาวขุ่นออกมาเลอะเต็มหน้าท้อง ทัตพลขบกรามอย่างอดทนเขารุ่มร้อนราวร่างกายจะระเบิด ใช้นิ้วปาดน้ำรักลากยาวลงมาถึงส่วนอ่อนไหวที่สุด วารินสะดุ้งเฮือกเมื่อเขาเริ่มแหย่นิ้วนำเข้าไปก่อน “ฮ..ฮึก..อ๊ะ” เสียงเล็กๆครางเครือจิกมือลงที่แผ่นหลังเขาเป็นทาง เขาก้มลงมาจูบปลอบประโลมตามสัญชาตญาณ ทัตพลเริ่มใส่เข้าไปอีกนิ้ว วารินกอดเขาแน่นจนสั่นเมื่อเขาเริ่มกดนิ้วเข้าๆออกๆและนวดวนรอบ ๆ วารินร้องลั่นด้วยความเสียว
 

“อ๊ะ..อ๊าา” ใบหน้าเล็กส่ายไปมาอย่างร้อนรนเหมือนไม่ทันใจอะไรสักอย่าง ทัตพลไม่รอช้าเลื่อนตัวลงที่หว่างขาขาว เขาแทรกกายร้อนอย่างรวดเร็ว ร่างสูงใหญ่โน้มลงมาทาบทับและปิดริมฝีปากวารินไว้ด้วยจูบ
 

“ฮ..ฮึก.อ๊าา” วารินสะท้านเฮือกเขาสอดกายเข้ามาแล้วแม้จะทุลักทุเลยังเข้ามาไม่หมด ความเจ็บปวดทำให้วารินเริ่มได้สติ ร่างเล็กเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่ากำลังโดนทำอะไร วารินร้องไห้โฮต่อต้านเขาสองมือทั้งผลักทั้งทุบแผ่นหลังของคนที่ทาบทับตัวเองอยู่
 

“ฮืออ..ไม่เอา ออกไป” วารินเสียงสั่นพร่าน้ำตาไหลพรากลงเป็นทาง แม้ว่ามือจะกอดเขาไว้แน่นแต่ก็ทุบตีเขาอยู่ตลอดเช่นกัน ทัตพลนิ่วหน้าเพราะยังเข้าไปไม่ได้ทั้งหมด
 

“นิดเดียวนะ นิดเดียว” เขาปลอบ ลูบผมหอมเบา ๆหัวใจดวงน้อยร้องไห้อย่างขมขื่น วารินทั้งต้องการเขาทั้งต่อต้านเขาไม่รู้จะทำอย่างไร เขาก้มลงมาจูบซับริมฝีปากปลอบประโลม จูบจนวารินครางแล้วถือโอกาสดันกายของเขาเข้าไปจนจมมิด วารินร้องลั่นสั่นสะท้านไปทั้งตัว เขาแช่ไว้สักพักแล้วถอนออกไปทั้งหมด สอดใส่กลับมาใหม่อีกครั้งและอีกครั้ง ทุกครั้งวารินต้องร้องลั่นไม่สนใจใครจะได้ยินหรือไม่อย่างไร
 

 เขาเข้ามาครอบครอง เคลื่อนกายทาบทับอยู่ข้างบน ท่อนแขนแข็งแรงเกี่ยวสองขาขาวไว้ มือเล็กสอดรับโอบหัวไหล่เขาไว้แน่น ใบหน้าหวานเหยเกด้วยความเสียวซ่านสติเริ่มหายไปอีกครั้งมีแต่เสียงกระเส่าและความต้องการของคนสองคนร่ำร้องใส่กัน ทัตพลมอบบทรักที่เร่าร้อนและเนิ่นนาน เขาพลิกตัววารินให้ขึ้นไปอยู่ด้านบน ตัวเขาลุกขึ้นนั่งแล้วโอบคนตัวเล็กให้นั่งแลกจูบกันอย่างเมามัน เขาทำกับวารินทุกอย่างเหมือนทำกับผู้หญิงคนหนึ่ง ขณะที่สองร่างนั่งกอดโยกสอดรับกันไป
 

“ฮ..อื้มม..ฮ้าา..”วารินครางเสียงกระเส่าตามท่าทางที่ยากขึ้น เย้าอารมณ์เขามากมายเหลือเกิน เขาขยำขยี้สะโพกสวยด้วยสองมือแล้วผลักเข้าออกเป็นจังหวะ ส่วนเชื่อมต่อที่กำลังส่งรับกันนั้นสอดรับกันอย่างรู้งาน ทัตพลเลื่อนตัวประคองร่างเล็กค่อยลุกขึ้นยืนที่หน้าเตียง วารินใช้สองขาเกี่ยวสะโพกเขาไว้แน่นสองแขนกอดรอบคอ เขากระเด้งสะโพกเพื่อส่งแท่งร้อนๆของเขาให้เคลื่อนตัวเข้าออกแบบหนักๆวารินร้องลั่นมือที่เกาะบ่าเขาสั่นสะท้าน ใบหน้าสวยแหงนเชิด ริมฝีปากปากซู้ดครางเสียงดังลั่น “ฮ...อ๊าา..ซี๊ดส์” ทัตพลจูบปิดปากลิ้นร้อน ๆ ไล้เลียอย่างคนหิวกระหาย
 

....เขาทั้งคู่ไร้สติไปนานแล้ว...
 

เมื่อวางร่างบอบบางลงบนเตียงอีกครั้งเขาพลิกตัววารินให้นอนคว่ำยกสะโพกสวยให้ลอยเด่นแทรกแก่นกายร้อนเข้าใส่อย่างไม่รอช้า วารินกัดหมอนจนปากสั่นขณะที่สองมือจิกผ้าปูที่นอนจนเหมือนจะฉีกขาด เขากระแทกกายเข้าออกพร้อมเงยหน้าหลับตาพริ้มรับรสสุขสมเต็มที่ วารินทั้งคราง ทั้งร้อง ทั้งขอ มือเล็กตบตีลงไปที่เตียงอย่างคนที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเมื่อเขาเร่งจังหวะกระแทกถี่ยิบ
 

“อืออ..อ่าา” เสียงเขาครางอย่างสุขสมโน้มตัวลงไปกอด จับแท่งร้อนของวารินชักเข้าชักออกจนจนคนตัวเล็กครางลั่นไม่ต่างกัน
 

“อื้ออ..อ๊าา...” วารินปลดปล่อยออกมาอีกครั้งทัตพลปล่อยให้น้ำสีขาวเลอะมือและผ้าปูที่นอนอย่างไม่ใส่ใจ
 

“ซี๊ดส์..อ่าาา..” เขาครางเสียงพร่าต่ำเมื่อจวนจะถึงสวรรค์ ร่างใหญ่เคลื่อนตัวเข้าทาบทับให้คนด้านล่างนอนราบลงกับที่นอนนุ่ม เขาโยกต่ออีกไม่กี่ครั้งก็กระตุกปลดปล่อยเข้าใส่อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
 

ทั้งสองคนหอบหายใจอย่างหนักและถี่ขณะที่น้ำตายังไหลลงมาไม่หยุด ทว่าร่างกายเริ่มก่อตัวใหม่อีกแล้ว วารินสะอื้นอย่างเจ็บใจ อยากจะลุกหนีจากตรงนี้อยากจะหายไปแต่เรียวแรงที่เคยมีกลับหายไปหมด ท่อนกลางของตัวเริ่มร้อนแบบแปลกๆ เขายังไม่ถอนกายเขาออกไปและวารินเองก็รู้สึกได้ว่าเขาเองก็เริ่มตื่นตัวอีกครั้งเช่นกันมันทั้งร้อนและสั่น  วารินสะอึกสะอื้น
 

เขาสองคนทำผิดอย่างที่เรียกว่าผิดมหันต์ ทั้งที่รู้ว่าไม่ควรทำแต่กลับก้าวเดินออกจากมันไม่ได้ ทำไม! กำปั้นเล็กทุบลงบนที่นอนซ้ำๆกัดริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด ทัตพลรีบพลิกตัววารินให้หันกลับมาสบตา น้ำใส ๆ จากตาดวงน้อยไหลอาบสองแก้ม ไหล่บางสะท้านไหว “ฮ..ฮึกก..” เขายกมือขึ้นเช็ดออกให้อย่างอ่อนโยน ตัวเขาเริ่มสั่นจนวารินกลัว เขาโน้มใบหน้าเข้ามาอีกแล้ว วารินหลับตาบวมช้ำลงแน่นน้ำใสๆไหลอาบลงมา เปิดปากยอมรับจูบของเขาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ สองมือยกขึ้นจับบ่ากว้างขณะที่เขาเกี่ยวแขนล็อคเรียวขาสวยและสอดแทรกกายเข้ามาอีกหน บทรักที่เร่าร้อนกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง...และอีกครั้ง

.

.
Tbc.
[*บอกกันแล้วนะเรื่องนี้ไม่ใส...และพระเอกใจร้ายมาก*]
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: TheWolf ที่ 20-03-2014 21:39:38
 :serius2: อ่านแล้วลุ้นอ่ะ มาต่อไวๆนะจ๊ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 20-03-2014 21:55:38
ยังคงช็อค...

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 20-03-2014 22:02:27
อิเจ๊นั่นทำใช่มั้ยยยยยย :katai4:
สงสารธาร  :ling2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 20-03-2014 22:14:31
ทำไมเป็นแบบนี้ ....
ถ้าตอนหลังธารจะร้ายกับวารินเราจะไม่โกรธเลย จริงๆนะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 20-03-2014 22:32:45
รู้สึกสงสารธารยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: kamenashi ที่ 20-03-2014 22:36:25
อ่านแล้วเสียใจค่ะ ทำไมเป็นงี้ล่ะ..งงค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 20-03-2014 22:39:11
กรี๊ดดดดด ไรวะ เค้าชอบคุณพ่อนะแต่ไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้ ยัยป้านั่นคงต้องโดนไรหนักแน่
จริงๆถามว่าผิดมั้ยมันก็ผิดแต่คนที่โดนการควบคุมอารมณ์มันก็คงยาก รอรับมาม่าละกัน  :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 20-03-2014 22:47:09
แหม่ ก็ไม่คิดว่ามันจะใสหรอกค่ะ ขอจัดการอารมณ์แป๊บนึงเกิดเมนท์ไรแรง ๆ
เดี๋ยวคนเขียนรับไม่ได้ ฮา พยายามจะไม่คิดแล้วนะกับความสัมพันธ์ของอิทัตกับอิทรายเนี่ย
แต่สุดท้ายมันก็ลงเอยแบบนี้ อยากบอกว่าสะใจทรายมากค่ะ (โดนคนเขียนถีบ  :z6:)
แล้วทำมาเป็นบอกว่าไร้เดียงสานะ(เขาไร้เดียงสาจริงเฟ้ย) o22
หลอกธารว่ามาเที่ยวกับเพื่อนถ้าเรื่องแดงมา จะให้ธารเจอรูปหรือคลิปหรือรอยที่ตัวดีคะ อุอุ
หลักฐานมันฟ้องเจ๊วิไม่ปล่อยให้ลอยนวล (มันต้องมีสักอย่างสินะ//อินี่ก็จะเอาให้ได้)
บรรลัยเลยค่ะทราย นี่ตูอคติกับคุณวารินมากไปปะวะ ไม่นะคะ ไม่เลยยยยยยย(เชื่อเถอะ)
อันนี้จริงจังมากถามจริง ๆ เลย ตกลงใครมันพระเอกคะ ธารใช่ไหม หรือเป็นอิทัต  :z3:
แหม่ก็คนเขียนบอกว่าเรื่องนี้พระเอกมันร้าย เราก็ว่าอิทัตมันร้ายลึกนะ
ดูเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือ แต่ความรู้สึก…ตูว่ามันไม่ใช่อะ(หรือเราอคติไปเอง)
เอาใจช่วยให้ธารร้ายเยอะ ๆ นะ เจ็บ ๆ แสบ ๆ นาน ๆ กระอักเลือดตายไปเลยก็ได้
นี่ถ้าเปลี่ยนตัวนายเอกที่แสดงหลักก็ไม่ว่าอะไรเลยนะคะ (ไม่ค่อยจะแสดงตัวเลยเนอะ)

นี่พยายามใส่ความฮานะเดี๋ยวคนเขียนเครียด  :katai5:

ปล.เอิ่ม ถ้าเกิดใครอ่านแล้วรับไม่ได้กับความเห็นเรากรุณาข้าม ๆ ลืม ๆ ไปนะคะ มันเป็นด้านมืดส่วนตัวค่ะ จริง ๆ เอิ๊ก ๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 20-03-2014 22:50:55
เอ่อ ฝันใช่ม่ะ...สงสารทรายกับธารนะถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 20-03-2014 22:51:32
เขารับไม่ได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 20-03-2014 22:53:38
ไม่ใช่อิฉันคนเดียวใช่ไหม ที่คิดว่านางเอกไม่จำเป็นต้องเก็บซิงไว้ให้พระเอก รู้สึกดุเดือดและหน่วงฝุดๆ แบบนี้แหละดราม่าของแท้ ชอบเคอะ! มาต่อไวๆน้า
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: asmar ที่ 20-03-2014 22:56:13
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 20-03-2014 23:09:28
ธารจะร้ายกับทรายแน่ๆๆ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 20-03-2014 23:36:50
 :hao7: อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ฝันเป็นจริง คุณทัต-พี่ทราย
ทำทั้งฟินและหื่นในตอนเดียว

เราจะโดนคนอื่นรุมตบมั้ยเนี่ย ที่ชอบตอนนี้มาก ฮ่าฮ่าฮ่า (ถ้าไม่ได้โดนยาจะโคตรชอบ)

เดี๋ยวอิธารก็จะร้ายแล้วสินะ
ขอให้คุณทัตมาจีบพี่ทรายแทนเหอะ เล่นอายุใกล้กันดีกว่านะทราย
อีกอย่างอยู่กะคุณทัตบรรยากาศฟินกว่าเยอะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 20-03-2014 23:46:52
แผนของอีนังคุณวิปะ แต่สงสารทราย แบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  :katai1: :katai1: :katai1:

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
 
**เพิ่ม**

หวังว่าในห้องนั้นจะไม่มีกล้อง (ถ้าเป็นแผนอิคุณวิ)  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 21-03-2014 00:02:49
ในความรู้สึก..ทราย น่าจะเป็นตัวร้ายมากกว่า..เพราะทรายเป็นพวกไม้เลื้อย..อีตาทัตถึงจะเป็นพ่อธารใช่ว่าต้องทำตัวสนิทสนมด้วย
อย่างเช่น เชิญคุณทัตนอนห้องเดียวกัน กับพี่ชายนั่นก้อด้วย..มองผ่านๆเหมือนใสซื่อ แต่การกระทำส่อให้เห็นว่าเป็นพวกแรดเงียบ!!ที่โดนยาอย่างนั้นก้อสมควร รู้ทั้งรู้ว่าธารไม่ชอบคนโกหก ไม่ซื่อสัตย์ก้อยังเอาตัวเข้าเสี่ยง อีกอย่างใช่ว่าธารจะปลื้มอยากได้ของจากพ่อที่ทิ้งครอบครัวไป ธารเป็นหยิ่งจองหองจะตาย..ไม่น่าทำตำแหน่งเลขาของผู้บริหารได้ เพราะทรายดูโง่ ไม่วิเคราะห์สถานการณ์  :katai3:

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: Minerva ที่ 21-03-2014 06:45:15
....หรือว่าอีนีนั่น....
สงสารธารจัง อุตส่าห์รักถึงขนาดนั้น ถ้ารู้จะขนาดใหนนะ

"พระเอกเรื่องนี้ใจร้าย" หมายถึงใครนะ~
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: Khan_htt ที่ 21-03-2014 09:10:38
อ่านแล้วสงสารธาร ทำไมทรายทำแบบนี้ คือห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยเหรอ
คุณ วิอะไรนั่นก็ร้ายจริงๆ #อินจัด  :ling1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 21-03-2014 09:21:44
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 21-03-2014 09:51:20
พลิกล็อกตอนแรกไม่นึกว่าอีพ่อจะได้กินตับก่อนลูก สงสัยวางยาในนมแหงเลย น่ากลัวว่าจะได้มีคลิปหลุดแหงๆ 
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: satanic ที่ 21-03-2014 12:12:38
:เฮ้อ: เอิ่มเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยที่ออกมาจากการเป็นนักอ่านเงา   
คือ  รับไม่ได้เท่าไหร่ถ้าจะบอกว่าพ่อกับลูกใช้เมียร่วมกันไม่ว่าเหตุนั้นจะเกิดขึ้นจากอะไรก็ตามแต่ 
ทรายก็นะถ้าธารจะร้ายมันก็สมควรแล้ว 
ทรายเป็นนายเอกที่นิสัยแบบว่าถ้าเป็นในชีวิตจริงคนแบบนี้แหละที่เราไม่อยากรู้จักสนิทสมด้วย
ดูแรดเงียบอยู่ใกล้ใครก็ชอบเขาไปหมดเป็นคนที่ไม่สมควรจะได้รักแท้จากใครเลย 
แถมยังโง่ไม่สมกับคนที่อายุขึ้นเลข 3 แล้วควรจะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้นะ 
สงสัยเห็นหน้าพ่อแล้วเคลิ้มว่าเป็นคนลูก 
อีกอย่างก็รู้อยู่ว่าธารเกลียดคนโกหกแต่ก็ยังทำ  ต่อไปพูดอะไรไปธารก็คงจะเชื่อยากแล้วหละทำตัวเองแท้ๆ
โกหกยังไงก็คือโกหก  เหตุผลอะไรก็อ้างไม่ขึ้น

คนแต่ง  แต่งได้อินมาก
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: narrybo ที่ 21-03-2014 12:22:34
คำเดียว สมควรๆ
ทำอะไรไม่คิดเลย อายุ เลข 3 แล้วไม่น้อยเลย ๆ
ต่อ ไป จะมองหน้า ธาร ติดไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 21-03-2014 16:39:46
ธาร จะร้ายกาจ ก็ไม่ผิด เพราะ แฟนมีเซ็กซ์กันพ่อ ... เป็นใครก็ทำใจไม่ได้ ถึงจะเป็นผู้ชายไม่ท้อง แล้วไม่เสียหายเหรอ
เพราะเป็นการหักหลังโคตรเจ็บปวด สงสารธาร มาก  ๆๆ พ่อและแฟนหักหลัง รองคิดดูน่ะ ถ้าดีกันแล้วนั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกัน
สถานะ คนสามคน :ธาร นั่งกับ เมีย และพ่อ ,พ่อ นั่งกับ เมียและลูก , ทราย นั่งกับ ผัวและผัว :hao3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 21-03-2014 21:05:56

คือไรอ่ะ???

โอ๊ยยยพี่ทรายยย...สงสารธาร :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 21-03-2014 21:17:29
เข้ามารอ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: lightseeker ที่ 21-03-2014 21:44:37
ขอ  :z6: คุณทัตแรงๆหนึ่งที
ในด้านความรู้สึก เราสปอยนายเอกเกือบทุกเรื่องนะ
แต่พี่ทรายทำให้เราเสียใจ  :เฮ้อ:
มารอดูดาร์คไซด์ของน้องธาร
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 21-03-2014 22:12:08
 :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 14 I'm sorry
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 21-03-2014 22:18:57
 :mew2:

สงสารธารนะถ้าธารรู้เรื่องนี้... แต่ก็สงสารทรายเหมือนกัน บอกรักกันไม่ทันข้ามวัน เรื่องก็เกิด...ทั้งที่ไม่ตั้งใจให้เกิด

เเต่ใครจะห้ามได้ เมื่อเกิดขึ้นมาเเล้วมันก็มีเเต่เสียกับเสีย ที่สำคัญมันไปเกิดเรื่องกับพ่อของธารด้วยนี่สิ... ธารคงไม่มี

ทางเข้าใจทรายเเน่ คงพอทนฟังเหตุผลถ้าเรื่องนี้เกิดกับคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อตัวเองซึ่งเเม่ปลูกฝังมาว่าร้ายเสียเหลือเกิน

ในใจคิดว่าทรายน่าสงสารมากๆ เหมือนเป็นเเพะไปเลยนะ โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ไหนจะแม่ของธาร ตัวธารเอง เมียใหม่

ของพ่อธาร แล้วยังไม่รวมพี่ชายผู้เเสนดี(?)อีก ธารจะทำยังไงกับทราย ถ้าร้ายก็ร้ายให้สุดแล้วก็รักให้สุดด้วยได้มั้ย...

จะได้สงสารทรายน้อยลงหน่อยนึง ยังไงธารก็นะ ไม่ใช่ว่าตัวเองไม่เคยผ่านอะไรๆมาและทรายเองก็ไม่ได้ตั้งใจด้วย :katai3:

ธารคงไม่ใจร้ายเน๊อะๆๆๆ ธารเกลียดการหักหลัง แบบนี้เท่ากับว่าทรายหักหลังไปแล้วสินะ...สงสารใครดี?
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 15 Reality go on .....
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 21-03-2014 22:53:49
https://www.youtube.com/v/HXZJ4LGZDyE

บทที่15
 


คุณเคยไหม..เคยคิดจะทำอะไรเพื่อใครบางคนต่อไป ทั้งที่รู้ว่าเขาจะไม่มีวันยอมรับในตัวคุณอีกแล้ว คุณก็ยังจะทำ
 

คุณเคยไหม..เคยเฝ้ามองใครสักคน ทั้งรักทั้งห่วง เฝ้ามองแต่เขาเท่านั้นตลอดมา...แต่นับจากนี้เขาคงหลีกหนีจากคุณ...แม้เพียงแต่มองเงาของเขา..คุณยังต้องหวาดกลัว
 

และคุณเคยไหม..ทั้งที่คุณยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่กลับรู้สึกเดียวดายลงไปทุกที ทุกนาทีที่ก้าวเดินคุณเหงาขึ้นเรื่อยๆ
 

..คุณเจ็บปวด..
 

..ผิดหวัง..
 

ได้แต่โทษตัวเอง...ทุกอย่างมาจากการกระทำของคุณทั้งสิ้น
 

ร่างสูงใหญ่ทอดสายตามองท้องฟ้าที่ปราศจากเมฆสีน้ำเงินสดใส ดวงอาทิตย์กำลังคล้อยต่ำลงต้องกับผิวท้องทะเลกว้าง เกิดแสงสีแดงย้อมฉาบกระทบผิวน้ำเปล่งประกายราวกับทะเลสีเลือด
 

ทะเล....ทั้งสวยและน่ากลัว
 

...ลึกล้ำสุดหยั่ง ดั่งใจคน...
 

เขาเลื่อนประตูเดินกลับเข้ามาที่เตียงกว้าง อังมือเข้าที่หน้าผากของคนตัวเล็กตรวจดูความร้อนของผิวกาย วารินยังคงหลับยาวไม่รู้สึกตัว เขาเลื่อนวันเดินทางออกไปอีกวันในเมื่อวารินป่วยอยู่อย่างนี้คงจะยังกลับไปไม่ได้ มือใหญ่เลื่อนไปกระชับผ้าห่ม ร่องรอยแห่งราคียังปรากฏอยู่บนผิวกายบอบบาง
 

“ต้องขอโทษสักเท่าไหร่..ถึงจะสาสมกับความผิดของฉัน”  เขาพึมพำ แววตาฉายความเจ็บปวด
 

วารินบอบบางเหมือนดั่งแก้ว เขาไม่รู้เลยว่าถ้าหากคนตรงหน้าตื่นขึ้นมาแล้วเขาจะทำอย่างไร
 

...ขอโทษ...ปลอบใจ...เอ่ยคำพูดที่แสนไร้ค่า..
 

อะไรบ้างที่เขาควรจะทำเพื่อเป็นการไถ่โทษให้กับคนๆนี้ ทัตพลเลื่อนหลังมือขึ้นไล้ที่โครงหน้าสวย ร่างเล็กขมวดคิ้วแล้วเอียงตัวไปอีกทางทั้งที่ยังหลับ
 

เขาเองพอดูรู้ว่า วารินคือคนพิเศษแน่นอนสำหรับลูกชายของเขา
 

ถ้าธาราธารรู้ความสัมพันธ์ของเขาสองคน คงจะเกลียดเขาและปฏิเสธการมีตัวตนทั้งหมดของเขา
 

น้ำตาหยดหนึ่งตกลงกลางหัวใจของผู้ชายที่ไม่เคยร้องไห้เลยสักครั้ง เขากำลังเดินลงไปสู่หุบเหวแห่งความกลัว ก้าวขาลงไปทั้งที่รู้ว่าทางข้างหน้าลึกสุดหยั่งถึง
 

ก้มซบใบหน้าลงที่ฝ่ามืออย่างหมดสิ้นความหวัง เขาจะมีหน้าไปบอกธาราธารได้อย่างไรว่าเขาคนนี่คือ ‘คุณพ่อ’ คนที่เฝ้าเตรียมของขวัญล้ำค่าเพื่อลูกสุดที่รักที่แม้แต่เลี้ยงดูยังไม่เคย
 

เขาจะมีหน้าไปบอกลูกชายของเขาได้อย่างไร....ในเมื่อเขานอนกับคนที่ลูกเขารักไปแบบนี้
 

หัวใจที่เคยแข็งแกร่งกำลังร่ำไห้อย่างแสนสาหัส..เขาทั้งเจ็บปวด ทั้งสมเพศตัวเอง เขามันเลวจนไร้คำบรรยายจริงๆ
 

ขณะที่มือเล็กแตะลงบนบ่ากว้าง ฉับพลันความอบอุ่นแผ่ซ่านจากสัมผัส ดั่งน้ำค้างที่มาปลอบประโลมแสงแดดอบอุ่นในยามเช้า ทัตพลหันไปมองใบหน้าที่มีแต่ร่องรอยของความชอกช้ำ ทั้งที่ตัวเองก็เจ็บปวดไม่ต่างไปจากเขาแต่วารินก็ยังคงปลอบใจเขาดวงตาช้ำๆมองเขาอย่างให้กำลังใจโดยไม่ได้ดูสภาพของตัวเองเลย วารินเป็นเด็กดีมากจริง ๆ เห็นแบบนี้ยิ่งตอกย้ำความเลวของตัวเขาเข้าไปใหญ่ ทัตพลหันมากอดร่างเล็กไว้แนบอก
 

“ขอโทษ ฉัน...” เสียงเขาพร่าสั่น และหายไปทั้งที่ยังพูดไม่จบ
 

“ผมเองก็ผิดครับ  ผม..” วารินกลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากลำบาก พูดไม่ออกเช่นเดียวกันกับเขา  เขาใช้มือเข้ามาจับที่หน้าผากเล็ก “ทรายตัวร้อนฉันเลยเลื่อนเที่ยวบินเป็นวันพรุ่งนี้” เขาพูดเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าต่างคนต่างก็ไปกันไม่เป็นพูดกันไม่ออก  วารินพยักหน้าน้อย ๆ แล้วถอยออกมาจากหน้าอกกว้างของเขาแม้ร่างกายจะปวดร้าวไปหมดแต่คนตัวเล็กก็ยังพยายามที่จะลุก
 

“จะเข้าห้องน้ำเหรอ เดี๋ยวฉัน..”
 

“ไม่เป็นไรครับ ทำตัวเหมือนเดิมเถอะผมไม่เป็นไร”  เมื่อเขาลุกขึ้นทำท่าจะเข้ามาช่วย วารินกลับปฏิเสธขึ้นอย่างเร็ว เขาจึงได้แต่ยืนมองอยู่อย่างนั้น
 

“ฉันให้คนตรวจดูให้แล้ว ในเหยือกนมน่าจะมียาผสมอยู่แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร” ในใจเขาเห็นแต่ภาพและคำพูดขมขู่ของวิลาสินีฉายชัด แต่ยังไม่มีหลักฐานอะไรและไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรเขาจึงยังสรุปความอะไรไม่ได้
 

“ช่างมันเถอะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็จะกลับกันแล้วผมไม่มีอะไรต้องเสียมากไปกว่านี้แล้วล่ะ” วารินเดินมานอนลงอีกครั้ง เขาต้องการพักผ่อนเพื่อเผชิญหน้ากับอะไรหลาย ๆ อย่างที่จะเกิดขึ้นตามมาในวันพรุ่งนี้ ร่างเล็กหลับตาลงแน่นพยายามบอกตัวเองว่าต้องนอนให้หลับ จะได้มีแรงคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป
 

“ถ้าอย่างนั้นก็นอนเถอะนะ ฉันจะโทรไปบอกซีเขาให้จะได้ไม่ต้องห่วงรอมารับ”
 

“ขอบคุณครับ”วารินตอบสั้น ๆ แล้วเงียบไป ทัตพลเดินไปปรับแอร์เพิ่มความเย็นนิดหน่อยก่อนปล่อยคนตัวเล็กนอนหลับพักผ่อน
 

.
.
 

“หึ! มันไปนอนด้วยกันมาจริง ๆ ทุเรศที่สุดหน้าด้าน ร่าน!”
 

วิลาสินีเหยียดริมฝีปากสบถ ในมือกำรูปถ่ายหลายใบแล้วฟาดลงบนโต๊ะ “พวกชั่วสันดานต่ำ! สารเลว!”  เธอทุบมือลงบนโต๊ะทำงานอย่างสุดที่จะทน
 

“แกทำดีมากรุ่ง เหลืออีกแค่นิดเดียวเท่านั้นฉันจะตบรางวัลให้แกอย่างงามเลย” เธอเหยียดยิ้มร้ายดวงตาฉายแววอิจฉาริษยาอาฆาตมุ่งร้ายปนกันไปหมด
 

“ผมก็อปภาพพวกนี้มาจากวีดีโอนั่นแหละครับ เด็ดๆเลยใช่ไหมเห็นหน้าอย่างชัดเล่นล่อกันทุกมุมแบบนี้เข้าทางผมสิครับ” รุ่งรีบประจบต่อเมื่อพูดถึงเรื่องเงินรางวัล ขณะที่วิลาสินีเหยียดยิ้มอย่างขมขื่น เธอนึกอิจฉาวารินที่ทัตพลเอาอกเอาใจปรนเปรอให้ ซึ่งแม้แต่กับเธอเขายังไม่เคยทำ
 

รุ่งไม่ได้บอกว่าตนเองแอบใส่ยาเพื่อให้งานเสร็จสมบูรณ์ไม่ผิดพลาดและตัดต่อภาพวีดีโอแล้วเรียบร้อยเพราะอย่างนั้นภาพที่สองคนทุรนทุรายต่อต้านวิลาสินีจะไม่มีวันได้เห็นเด็ดขาด
 

“คุณจะดูภาพในวีดีโอไหมครับ ผมอัดใส่แผ่นไว้ให้สองชุด รับรองไม่มีก๊อปปี้อีกเด็ดขาดคุณไว้ใจผมได้เลย”
 

“แกฝันเหรอ! ฉันจะดูไปทำไมเล่า แค่นี้ก็เสนียดจัญไรจะแย่อยู่แล้ว” เธอเบะปากทำหน้ารังเกียจขยะแขยง เลื่อนตัวเข้าไปใกล้รุ่งแล้วกระซิบเสียงเบา
 

“เอาล่ะงานสุดท้าย แกฟังคำสั่งฉันให้ดี.....”
 

วิลาสินีกระซิบกระซาบย้ำความเรื่องชั่ว ๆ แม้ว่าจะเป็นห้องทำงานส่วนตัวของเธอแต่เธอไม่ไว้ใจใครคนอื่น รุ่งทำงานกับเธอมานานเป็นได้ทั้งเทพบุตรและซาตาน เป็นลูกชายคนขับรถที่เธอไว้ใจและมักใช้ให้คอยสืบเรื่องของทัตพลเสมอ
 

ริมฝีปากสีแดงสดแสยะเหยียดอย่างผู้กำชัยชนะ  ใครหน้าไหนที่มันจะมาพรากหัวใจของเธอไป..รับรองมันไม่ได้อยู่ดีมีสุขแน่
 

เสียงโทรศัพท์มือถือเธอแผดลั่นเมื่อกดรับแล้วโบกมือบอกให้รุ่งออกไปจัดการเรื่องให้เรียบร้อย
 

“ว่าไงลูกธิป”  เธอเปลี่ยนกิริยา  ส่งเสียงหวานให้กับคนปลายสาย ชนาธิปลูกชายเธอโทรเข้ามา
 

“คุณแม่ครับ คุณพ่อโทรมาบอกธิปว่าจะกลับจากใต้วันพรุ่งนี้ วันนี้ขึ้นมาไม่ได้รู้สึกว่าจะติดพายุกลัวคุณแม่จะรอน่ะครับธิปเลยโทรมาบอก”
 

ชนาธิปไม่ได้รู้เรื่องที่เธอแหวใส่สามีเมื่อสองสามวันก่อน ทัตพลเลือกโทรหาชนาธิปเพื่อส่งข่าว วิลาสินียิ่งปวดร้าวในอกเมื่อคิดไปว่าทั้งทัตพลและวารินคงจะติดใจกันมากถึงขนาดเลื่อนวันกลับเพื่ออยู่กกกันต่อ ชนาธิปเมื่อเห็นวิลาสินีเงียบไปนานจึงเรียกขึ้นแล้วถามดูว่าเธอเป็นอะไรรึเปล่า
 

“ป..เปล่าหรอก แม่เพลียๆน่ะ ธิปไม่กลับมาทานข้าวที่บ้านล่ะลูก” เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกและสามีเธอจะเป็นคุณแม่ที่แสนดีบอบบางอยู่เสมอ
 

“ช่วงนี้สอบบ่อยครับ ไว้ธิปว่าง ๆ จะแวะไปหานะ คุณแม่อย่าคิดมากนะครับคุณพ่อไปทำงานเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”
 

...ไปทำงานเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว...
 

หึ! วิลาสินีกัดริมฝีปากอย่างคับแค้น ทำงาน?  เด็กหนุ่มวางสายจบไปแล้วแต่ความรู้สึกของเธอไม่มีวันจบ  เธอจะให้ชนาธิปรู้เรื่องนี้ไม่ได้ คนที่ต้องเดือดร้อนคือทางนั้นต่างหาก  ภัครจิรา ธาราธาร ได้โอกาสกำจัดมันซะทีเดียว อดทนมาตั้งยี่สิบกว่าปี
 

ผิดที่คุณเองนะทัต...เพราะทั้งที่ตัวคุณอยู่กับฉันแต่ใจคุณไม่เคยลืมมันเลย..ตลอดมา...

.

.

.

“ช่วงนี้มาค้างกับแม่บ่อยนะเรา มีอะไรรึเปล่า”  ภัครจิราถามลูกชายยิ้ม ๆ พักหลังมานี้ธาราธารมาค้างที่บ้านบ่อยมาก ขนาดที่ว่าเธอเริ่มผิดสังเกต
 

“เปล่านี่ครับก็ธรรมดานะ คุณแม่ไม่ชอบเหรอผมมาค้างด้วยแบบนี้” เขาอ้อนอย่างที่ไม่เคยทำมานานมากแล้ว ตั้งแต่เธอจับเขาไปอยู่โรงเรียนประจำนั่น
 

เธอหรี่ตามองอย่างคนรู้ทัน “อยากได้อะไรล่ะเรา รถก็เพิ่งเปลี่ยนนี่นา คอนโดใหม่ก็เพิ่งซื้อ ไหนบอกแม่ซิธารจะเอาอะไรครับ เอ๊ะหรือว่ามีสะใภ้มาให้แม่ดูแล้วใช่ไหมเนี่ย” เธอแกล้งกระเซ้า แต่ธาราธารดันหน้าแดงขึ้นมาจริง ๆ ภัครจิราได้แต่นั่งยิ้มเธอรู้ลูกเธอเสน่ห์แรงมีสาว ๆ แวะเวียนมาตลอดแต่เธอไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษเพราะจะรอให้ธาราธารแนะนำอย่างเป็นทางการ คนไหนตัวจริงคนนั้นธาราธารคงต้องพามาเปิดตัวที่บ้านแน่
 

“ผมเปล่า ไม่ชอบหรอก ผู้หญิงสมัยนี้ดูยาก อันตราย” ภัครจิราได้แต่หัวเราะเบา ๆ เขาบอกว่าไม่ชอบเพราะผู้หญิงอันตรายแต่กลับมีผู้หญิงมาติดพันเต็มไปหมดตั้งแต่ไหนแต่ไร
 

“ลูกจะรักใครแม่ก็ไม่ว่าหรอกนะ ขอให้เขาเป็นคนดีซื่อสัตย์กับลูกก็พอแล้ว คนเราถ้ารักกันและซื่อสัตย์ต่อกันไม่ว่าอุปสรรคมากมายแค่ไหนเราก็จะผ่านมันไปด้วยกันได้”
 

เธอถือโอกาสสอนลูกชายไปในตัว ในดวงตาทอประกายหม่นเมื่อนึกไปถึงวันเก่า ๆ ทัตพลพ่อของธาราธารและเป็นผู้ชายที่เธอรัก เขาทอดทิ้งเธอและลูกเพื่อไปอยู่กินกับผู้หญิงอีกคน ในตอนนั้นเธอเจ็บปวดแสนสาหัสจากการถูกหักหลัง ถูกทรยศ ขยี้ความรักของเธอจนแหลกไม่มีชิ้นดี ยิ่งมารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคลอดลูกออกมาหลังจากนั้นแค่ไม่กี่เดือน ยิ่งตอกย้ำว่าทัตพลนอกใจเธอแอบไปมีความสัมพันธ์หลบซ่อนไม่รู้นานเท่าไหร่ที่เธอมันโง่ โดนเขาสวมเขาให้
 

“แน่อยู่แล้วล่ะครับคุณแม่ ผมต้องเลือกคนดี 'ซื่อสัตย์' และต้องมีแค่ผมคนเดียวอยู่แล้ว”
 

เขาปิดหนังสือเล่มใหญ่ที่วางอยู่บนตัก หลับตาแล้วเอนตัวพิงพนักโซฟานึกถึงใบหน้าของวาริน ริมฝีปากประดับรอยยิ้มน้อย ๆ ปกติเขากับวารินจะเจอกันเฉพาะสุดสัปดาห์เท่านั้นแต่เมื่อเย็นภูวดลโทรมาบอกว่าวารินเลื่อนบินเป็นวันพรุ่งนี้เพราะพายุกระหน่ำใต้ เพราะอย่างนั้นวันนี้เขาจึงค้างที่บ้านต่ออีกวัน
 

...คิดถึง อยากเจอ...
 

รู้สึกว่าไม่เพียงพอเอาเสียเลยที่ต้องอยู่ด้วยกันแค่สัปดาห์ละสองวันแบบนี้ เขาตัดสินใจว่าจะลองคุยเรื่องนี้กับวารินดู
 

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะลูกแม่  คิดถึงใครอยู่ครับสาวคนไหนที่โชคดีกันน้า”
 

ภัครจิราละสายตาออกจากวารสารการกุศล เมื่อเห็นว่าลูกชายเธอหลับตาพริ้มท่าทางสุขใจเป็นพิเศษ เธอเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย
 

“แล้วเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้างครับ ธารไหวนะลูก”
 

“ไหวสิครับ ผมอยากเป็นหมอคุณแม่ก็รู้” เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ เธอกอดเอวเธอไว้อย่างที่ไม่เคยทำ
 

 “ต่อไปถ้าคุณแม่แก่ผมก็จะดูแล  รักษาให้อย่างดีเลย ผมรักคุณแม่นะครับ”
 

ภัครจิราซึ้งใจจนน้ำตารื้นขึ้น ลูกชายเธอเป็นเด็กดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยกอดเธอ นานแค่ไหนแล้วเขาไม่เคยเอ่ยคำว่ารักให้เธอฟัง
 

         ‘น้องธารรักคุณแม่’
 

เธอลูบศีรษะลูกชายอย่างอ่อนโยนนึกถึงเด็กตัวเล็กๆที่เธอเคยจูงมือบัดนี้กลับเติบโตสูงใหญ่กว่าเธอมากมายให้สัญญาว่าจะเป็นคนดูแลยามที่เธอแก่ชรา  เขาใช้นิ้วโป้งเช็ดหยาดน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจออกจากดวงตาสวยของเธอเบา ๆ
 

“แม่ก็รักธารนะครับ เป็นเด็กดีนะลูกนะ”
 

มือใหญ่และเย็นบีบฝ่ามือเล็กแทนคำสัญญาทุกอย่าง เขาไม่ใช่คนพูดมาก คำพูดแต่ละครั้งจึงจริงใจและแน่นอนเสมอ ถ้าเขาพูดว่า ‘รัก’ นั่นก็คือเขารักจริง ๆ และผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาจะรักจนสุดหัวใจก็คือภัครจิราคุณแม่ของเขา
 

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เด็กรับใช้ในบ้านนำซองเอกสารสีน้ำตาลเข้ามาวางไว้ให้ ภัครจิราจึงถามว่าส่งมาจากใคร
 

“มีคนเอามาฝากไว้ให้กับยามที่อยู่หน้าประตูบอกต้องให้คุณภัครเปิดดูให้ได้ค่ะ” เธอหยิบซองขึ้นมาแล้วพยักหน้า สาวใช้ออกไปแล้วธาราธารจึงเดินเข้ามาดู
 

“จากใครหรือครับคุณแม่”
 

“ไม่รู้สิลูก ไม่มีเขียนไว้ด้วยแม่ไม่ได้สั่งซื้ออะไรเลยนะ” เขาหยิบกรรไกรบนโต๊ะทำงานมาเปิดซองออกดู
.
.
.
.
.
.
 
...คุณรู้ไหมว่า....ความรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกพังครืนลงต่อหน้าต่อตามันเป็นอย่างไร
 

...คุณรู้ไหมว่าความรู้สึกที่เหมือนโดนผลักให้ตกหน้าผาสูงชันหลายหมื่นหลายพันฟุต มันเป็นอย่างไร...
 

...เจ็บปวด..
 

เจียนตาย!!!!!!
 
เขาขบกรามแน่นจนริมฝีปากสั่น มือใหญ่ที่จับรูปถ่ายหลายใบนั้นกำจิกจนภัครจิราต้องเดินเข้ามาดึงไปดูด้วยความสงสัย เธอเบิกตากว้างแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้เห็น
 

ธาราธารไม่รอช้า เดินไปวางแผ่นซีดีลงที่เครื่องเล่น สายตาหรี่ลงอย่างคับแค้นและคาดหวัง ขณะที่สองมือชื้นเปียกไปหมด
 

...มันต้องไม่จริง! ต้องมีอะไรผิดพลาด! นี่มันเรื่องเข้าใจผิด...
 

...ไม่ใช่! ไม่มีวันเป็นจริง!!!!!
 

..วารินไม่มีวันทำอย่างนั้นกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของเขา..
 

ขณะที่จมอยู่ในห้วงความคิด สายตาก็ต้องเบิกกว้างตื่นตะลึงกับสองร่างที่เคลื่อนไหวเร่าร้อนอยู่ในจอ  และทันทีที่ใบหน้าวารินฉายชัด เสียงกรีดร้องปลุกให้เขาได้สติในทันที ภัครจิราล้มฮวบกองลงที่พื้น
 

“คุณแม่!” เขาถลาเข้าไปช้อนตัวเธอขึ้น ภัครจิราหมดสติแขนตกลงข้างลำตัว ธาราธารอุ้มเธออย่างร้อนใจ
 

ความเร็วของรถสปอร์ตวันนี้ดูเหมือนจะช้าจนน่าใจหาย
 

“อาหมอครับคุณแม่ของผมท่าน..” เขาถามอย่างร้อนใจ เมื่อประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกมา ภัครจิรายังนอน หมดสติอยู่ในนั้น
 

“หมอเสียใจด้วยนะธาร คุณภัครเส้นเลือดในสมองแตก อาจต้องทรมานกับการเป็นอัมพาต ถึงแม้จะมีลมหายใจแต่ก็จะไร้ความรู้สึก  เธอจะไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้  อาจจะ..พูดไม่ได้  ซึ่งอาหมอให้สัญญาไม่ได้ว่าอนาคตจะหายดีหรือต้องรอ...ไปเรื่อย ๆ”
 

ยิ่งกว่าโลกทั้งโลกพังครืนลงต่อหน้าต่อตา...ยิ่งกว่าโดนผลักลงหุบเหวลึกทมิฬ...
 

เขาเซถอยหลังอย่างคนหมดอาลัยสองขาแทบล้มทั้งยืน คนรถที่มาด้วยกันรีบถลาเข้ามาช่วยพยุง 

 
“มีเลือดซึมออกมาที่ก้านสมองด้วยซึ่งอันตรายมาก อาหมอจะต้องให้ดูอาการใกล้ชิดอยู่ที่นี่ไปก่อน ธารกลับไปพักก่อนก็ได้เดี๋ยวอาจัดการเรื่องต่อให้เอง”
 

ร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งลงนานแล้วสายตาไม่โฟกัสที่สิ่งใด ทุกคำพูดของคุณหมอตอกย้ำถึงอาการของภัครจิรา เขาไม่ได้ตอบโต้เอ่ยถามกลับไปเพียงแค่นั่งฟัง ฟัง และฟังเท่านั้น น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบลงข้างแก้ม เดินเข้าไปถึงข้างเตียงคุณแม่คุกเข่าลงรวบมือเธอมาจับไว้แน่น
 

....คุณแม่ครับ...
 

...ขอร้อง อย่าทิ้งกัน...
 

..ผมมีคุณแม่คนเดียว..
 

“..คุณแม่..” เขาสะอื้น ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร ซุกใบหน้าลงที่ตักเธอ

.

.

.
     

      ‘แม่ครับอย่าทิ้งน้องธาร’
 

เสียงเล็กๆจากที่ไกลแสนไกล...ภัครจิรายังนอนสงบนิ่งอยู่ที่เตียง
 

...น้ำหนึ่งหยดที่หางตาสวยไหลริน...
 

“คุณธารครับกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ วันนี้คุณต้องไปสอบแต่เช้า ป้าวันมาถึงแล้วคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวผมเองก็จะแวะกลับมาดูคุณภัครเธอด้วย ”
 

ทินกรคนขับรถของภัครจิราค่อยประคองหลังคนตัวสูงใหญ่ให้เดินออกไปขึ้นรถ ตลอดทางธาราธารนิ่งเงียบไม่พูดจาอะไรเลย นอกจากบอกให้เขาแวะไปเอาของที่บ้านก่อนแล้วค่อยให้ไปส่งที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด
 

รถจอดลงที่หน้าบ้านหลังใหญ่ธาราธารเดินอย่างหมดอาลัยเข้าไปหยิบหนังสือในห้องทำงาน เมื่อเหลือบไปเห็นซองสีน้ำตาลที่มีรูปถ่ายตกอยู่มากมายบนพรหม เขาก้มลงไปเก็บขึ้นมาดูอย่างช้า ๆ สายตาเต็มไปด้วยความขมขื่น วันที่บนรูปลงไว้เป็นเมื่อคืนนี้ช่วงเวลาหลังจากที่วารินโทรคุยกับเขา
 

...พี่รักธารนะครับ..
 

หึ!  เขากลืนน้ำตาที่ตกในลงไปอย่างยากเย็น หยิบรีโมทซีดีกดปุ่มเล่นแผ่นที่ยังคงค้างอยู่ในเครื่อง
 

..อยากดูชัดๆอีกที...
 

...อาจจะไม่ใช่ ทั้งหมดอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด..
 

...พี่ทราย พี่ทำกับผมและแม่แบบนั้นได้ยังไง..
 

..หัวใจพี่อยู่ที่ไหนกัน..

.

.

.
 
คอนโดแถวพรานนก ยังตั้งโดดเด่นอยู่บนถนนสายเดิม คนอยู่อาศัยยังเป็นคนเดิม
 

...แต่หัวใจที่ร้าวรานมันเปลี่ยนไปแล้ว..
 

ธาราธารกวาดตามองข้าวของรอบห้อง ห้องที่ตกแต่งด้วยสีขาวตัดสีน้ำตาล
 

..สีน้ำตาลที่วารินชอบ..
 

เขาหลับตาแน่นขบกรามจนปากสั่น ตรงเข้ากระชากม่านหน้าต่างจนหลุดลุ่ยเมื่อนึกถึงภาพคนที่เขารักร่อนสะโพกอยู่บนตัวผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของเขา 
 

“ระยำเอ๊ย!”  เขาคำราม
 

 เดินตรงเข้าไปในห้อง ห้องที่เขาตกแต่งไว้คอยคนบางคนยังไม่เคยแม้แต่มานอนด้วยกันสักครั้ง
 

      ……. ‘ผมรู้พี่ชอบสีน้ำตาล ผมให้เขาตกแต่งห้องนอนเป็นสีน้ำตาลล้วนเลยนะ ชอบไหม’……..
 

“โง่เอ๊ย!! ไม่มีใครโง่เท่ามึงอีกแล้ว!”  เขาก่นด่าตัวเองแล้วทุบลงที่หน้าอกแรง ๆ ตอกย้ำถึงความโง่เง่า


ใครเขาจะมาคว้าเอาเด็กอย่างมึง!
 

แล้วทำไม!..ทำไม!!..ทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนั้น!!!
 

“เหี้ย!!”  มือใหญ่คว้าเอาหมอนหนุนสีน้ำตาลฟาดออกไปอย่างแรง
 

...ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาคนนั้นคือพ่อของผม พี่ก็ยังจะทำ...
 
.

.
 

“ขอบคุณมากนะครับคุณทัต”
 

วารินยกมือไหว้เขา ทัตพลเอื้อมมือไปบีบที่ไหล่เล็กแววตาทอดแววแห่งความเสียใจมิคลาย
 

“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณที่เธอยอมเป็นธุระให้แล้วก็ต้อง...ขอโทษ” เสียงเขาแผ่วเบาตอนท้ายประโยคหลบสายตาเล็กๆที่มีแต่ร่องรอยแห่งความชอกช้ำ
 

“ผมบอกแล้วยังไงครับว่าเราผิดด้วยกันทั้งคู่ อย่าห่วงเลยครับผมไม่เป็นอะไรและรู้ตัวว่าควรวางตัวไว้แค่ไหนอย่างไร เรื่องที่ผ่านมาคุณอย่าไปจดจำมันเลยนะครับ ผมเองก็จะพยายาม..ลืมมันให้ได้”
 

คนตัวเล็กก้มหน้าต่ำจนคางแทบจะชิดอก น้ำเสียงแผ่วเบาในตอนท้ายทำเอาทัตพลใจกระตุกวูบ เขาไม่อยากเห็นน้ำตาของคน ๆนี้อีกแล้ว มือใหญ่ยื่นเข้าไปลูบศีรษะเล็กอย่างปลอบโยน
 

...อยากดึงเข้ามากอด แต่คงไม่มีสิทธิ์...
 

“มีอะไรโทรหาฉันนะ แล้วฉันจะแวะมา”
 

“ครับ”
 

วารินวางกระเป๋าลงที่โซฟาแล้วทิ้งตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง เขาว่าอยู่บ้านตัวเองสบายใจที่สุดคงจะจริง ร่างเล็กปิดปากหาวแล้วเอนตัวลงนอนยกแขนเรียวพาดปิดดวงตาไว้อย่างเหนื่อยล้า
 

...เหนื่อยเหลือเกิน อยากพัก...
 

“ทราย! มาถึงเมื่อไหร่ครับ” ภูวดลร้องทักขึ้น ร่างสูงเดินออกมาจากด้านใน มือถือกระป๋องใส่พู่กันกับถาดสี
 

“พี่ซี...ทรายเหนื่อยจังครับ” พูดทั้งที่ยังนอนปิดตาอยู่แบบนั้น  ภูวดลเดินเข้ามาเท้าสะเอวชะโงกหน้าดูคนตัวเล็กใกล้ๆ แล้วค่อยลากกระเป๋าเดินทางของอีกคนขึ้นไปเก็บให้ พอลงมาก็ไปรินนมเย็น ๆ จากในกล่องใส่แก้วมาให้วาริน
 

“เหนื่อยมากเหรอหน้าซีดไปหมดแล้วเรา  เอ้อ! ลืมไปเลย เมื่อเช้าคุณอ้อโทรมาถามหาทรายพี่เลยบอกยังไม่กลับเห็นบอกมีเรื่องด่วนถ้ามาถึงแล้วให้โทรหาเธอทันที”
 

“งั้นเหรอครับ” วารินดื่มนมอึกๆจนหมดแก้ว ขอบปากเลอะคราบนมเหมือนเด็กๆภูวดลใช้นิ้วปาดออกให้อย่างไม่รังเกียจ วารินซุกหน้าลงที่อกอุ่น ๆ ของพี่ชาย
 

...ไม่มีใครจะอบอุ่นและปลอดภัยเท่ากับคนๆนี้อีกแล้ว..
 

“ทรายรักพี่ซี พี่ซีเป็นพี่ชายคนดีที่หนึ่งของทรายเลย”
 

วารินโผกอดเขาเต็มอ้อมแขน ภูวดลลูบแผ่นหลังเล็กแล้วตบลงเบา ๆ เป็นดั่งสัญญาว่าเราสองคนจะมีกันและกันตลอดไป แม้ว่าคำว่า ‘พี่ชายคนดีที่หนึ่ง’ จะเสียดใจเขาแค่ไหนก็ตาม ขอแค่ให้วารินรักเขาจะอยู่ในฐานะไหนก็ได้ทั้งนั้น
 

“พี่ซีก็รักทรายครับ” รักมากที่สุดแล้ว
 
.
Tbc.

*แอร๊ก!! คนอ่านอินจัดเลย รออ่านดาร์กโหมดของธารแล้วกัน..ฮีร้ายมากขอบอก*
*วันนี้มาเที่ยวระยองค่ะขับรถทั้งวัน ช่วงเย็นลมแรงมากแต่ฝนไม่ตกนะ เข้าโรงแรมมาก็ลงให้ทันที พรุ่งนี้ถ้าหากกลับมาจากเที่ยวดึก ขอผลัดไปก่อนนะ*  :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: TheWolf ที่ 21-03-2014 23:15:22
 :ling1: พรุ่งนี้จะรอนะ ลุ้นมากๆๆๆ แต่ไม่อยากให้แม่ธารเป็นอัมพาตเลยอ่ะ สงสารธาร :m15:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[20/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 21-03-2014 23:15:42
 :z6: อ้าว อินักสืบ สรุปเป็นฝีมือแกเรอะ ขออภัยทานอิวิที่ด่ามันไว้เยอะ

ธารรู้เรื่องแล้ว แบบ Full HD ด้วยอ่ะ  :hao5: คุณแม่ก็เส้นเลือดในสมองแตก
ทุกๆอย่างประดังเข้ามา สมแล้วที่บอกว่าพระเอกร้าย
พระเอกมันร้ายแบบมีเหตุจูงใจสุดๆ ถึงจะเป็นการเข้าใจผิด? แต่เรื่องนี้ยังไงก็ยากที่จะให้อภัย
ภาพมันติดตาไปแล้ว น่าจั่วหัวว่า Drama จริงๆ เริ่มรู้สึกว่าจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าจะ SM ด้วยรึเปล่าเนี่ย
เอาจริงสงสารธารมากเลยนะ เปลี่ยนตัวเองตั้งเยอะเพื่อพี่ทรายแต่ต้องมาเจอแบบนี้
พี่ทรายก็นะ.... เราว่าถึงพี่ทรายจะบอกไปตรงๆก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะพี่ทรายแลดูเป็นคนโลเลอยู่แล้ว
แถมแด๊ดแด๊ไปทั่ว หรือที่เพื่อนๆเรียกกันว่า แรดเงียบอ่ะแหละ
รึเพราะนิสัยนี้ของพี่ทราย เลยต้องส่งธารเวอร์ชัน S มาปราบ

เราไม่กลัวธารจะร้าย แต่เรากลัวธารจะไปเสเพลมากกว่า
ตอนนี้ความรักของธารก็พังทลายไปหมดแล้วนะ
เอาจริงๆ เดาไม่ถูกเลยว่าจะสามารถจบแฮปปี้ได้แบบไหน หรือว่าไม่มีแฮปปี้

ถ้าธารไม่เอาพี่ทราย ขอเปลี่ยนเป็น คุณทัต-พี่ทรายนะ
คู่นี้ชอบมาก ดาเมจรุนแรงกระจุยกระจาย หึหึ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 21-03-2014 23:25:09
จัดเต็มเลยค่ะ ตั้งตารับความรุนแรงของธารอยู่  รู้สึกเนื้อเรื่องกระชับดี ไม่ค้าง  แต่อยากอ่านต่อเพราะมันลุ้นนนน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 21-03-2014 23:34:28
กำลังจะไปเล่นเกม เห็นเรื่องนี้อัพ อ่านก่อนละกัน
คืออารมณ์ยังไม่จบกับตอนที่แล้ว แต่ตอนนี้ภัครจิรา…เออะ เลวร้ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ ดีนะที่ยังไม่แตกตาย
ไม่ปลื้มคุณทัตพลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วผู้ชายที่ทิ้งคนที่รักและอีกชีวิตอย่างเฉยเมยเพื่อบุญคุณ? 
เอาจริงสองคนนี้มันก็สมกันดีนะ(ทัตทราย)  เหมือนแอปเปิลแดงผลไม้ต้องห้ามความปราถนาทีน่าแตะต้อง
ดูเป็นสิ่งที่น่าท้าทายน่าหลงใหลแต่ไม่บริสุทธิ์ใจ (เลวทั้งคู่) ถ้าจบลงที่ทัตทรายนี่บอกเลยไม่ตกใจหรอกค่ะ
แต่จะผิดหวังมาก เสียดายและเฟลมาก (ชื่อเรื่องมันก็บอกนี่เนาะ”พี่เลี้ยง” ไม่รู้ว่าได้เมียเป็นพี่เลี้ยงลูกหรือ
ลูกได้เมียเป็นพี่เลี้ยงจริง ๆ) ธารทะนุถนอมมาเป็นปี ๆ แต่โดนพ่อแท้ ๆ คาบไปแดก ถ้าทรายลึกซึ้งกับซีมาก่อน
จะไม่จี๊ดเท่านี้เลยนะ อารมณ์กูมาก่อนแต่โดนพ่อที่มาทีหลังซิว กับเรื่องอื่นใช้ของร่วมกับสายเลือดแนวนี้
ไม่มายเท่าไหร่เลยแต่กับวารินความรู้สึกโคตรติดลบเลย ย้ำกันอีกครั้งไม่ใช่ทรายเลยไม่เข้าใจทราย
แต่จากมุมมองเราทรายดูเป็นคนโลเล ไม่เด็ดขาด หวั่นไหวง่าย โตจนจะเป็นพ่อคนได้อยู่แล้วแต่ความคิดและวุฒิภาวะต่ำ
จะว่าเพราะประสบการณ์ก็ไม่น่าใช่ ประสบการณ์รอบข้างไม่เจอบ้างเลยหรืออย่างภัครจิรานั่นก็ได้ เพื่อนเพิ่นอะไรก็มี
หรือไม่มีใครคบ(ไม่เห็นมีเพื่อนสักคนเห็นแต่หลอกธารว่ามาเที่ยวกับเพื่อนแต่ที่สุดก็มากับชู้(?)) ธิปดูดีขึ้นเยอะในสายตาเรา
ถ้าเทียบกับทราย ธิปจะออกตรง ๆ คิดยังไงพูด-ทำอย่างงั้น ดูทรายคิดนานหน่อย พูดตรง ๆ (บางที) แต่กระทำมันตรงกันข้าม
กับที่พูดเลยค่ะจะรอดูพัฒนาการเด็กอายุเลขสามละกันนะ  :เฮ้อ:

ปักธงให้ธารเป็นพระเอกนะ ฝังใจจริง ๆ  สมมติธารจบกับธิป (กี้ บัวชมพู) แล้ววารินจบกับภูวดลอันนี้รับได้ค่ะ
แต่เกิดยังไงก็ตามวารินจบกับทัตพล ช่วยบอกล่วงหน้าด้วยนะคะไม่ตกใจก็จริงแต่ทำใจรับไม่ได้เลย

ฝากบอกทัตด้วยนะว่าอุตส่าห์ลงทุนทิ้งลูกทิ้งเมียเพื่อแทนคุณทำมายี่สิบปีแล้วอย่ามาทรยศบุญคุณคนด้วยวารินเพียงคนเดียวล่ะ!!!

ไม่อยากจะหลุดมากเดี๋ยวคนเขียนเครียด แต่ก็ไม่ไหวกับทรายจริง ๆ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 21-03-2014 23:36:08
 :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:

เรื่องมันเกิดเพราะความเห็นแก่เงินของคนๆเดียวสินะ ตราบาปที่ไม่ได้ตั้งใจก่อ  :เฮ้อ:

สงสารทรายนะ ถึงอายุจะสามสิบแต่คนเป็นน้องที่โดนพี่ประคบประหงมมาขนาดนี้ไม่แปลกที่จะติดพี่ หวงพี่

กับทัตพลที่ไปเพราะความบริสุทธิ์ใจแล้วสองคนก็บริสุทธิ์ใจต่อกัน แต่เพราะความอาฆาตและเห็นแก่เงิน กับสร้างตราบาปให้ทั้งสองคนทั้งที่ไม่ใช่ความผิดเลยด้วยซ้ำ เขาสองคนแค่อยากให้คนที่พวกเขาทั้งสองคนรักมากที่สุด แต่กลายเป็นว่าทำให้คนที่เขาทั้งสองคนรักทรมานที่สุด...

เรื่องมันเลวร้ายมากตรงที่ธารรักทรายมาก คุณภัทรเอ็นดูและไว้ใจทรายมาก ทรายเลยกลายเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด ที่อยู่ดีๆก็ต้องเหมือนกลายเป็นคนที่ทรยศ ... ซึ่งทรายผิดอะไร

เราไม่แปลกใจถ้าต่อจากนี้ธารจะเลวจะร้ายกับทรายยัง เพราะความจริงที่เรารู้  ธารไม่รู้ ถึงรู้มันก็ไม่ง่ายที่จะต้องทำใจ ใช้เมียคนเดียวกันกับพ่อ? ถึงจะบอกว่ารักยอมได้ทุกอย่าง แต่สาบานสิ เวลาเห็นหน้าพ่อหรือคนรัก จะไม่แครงใจ

มาถึงตรงนี้ ให้ธารไปคู่กับชนาธิปคงจะไม่บาปไปกว่าการที่จะพ่อกับลูกมีเมียคนเดียวกันมั้ง
แต่แอบคิดว่าในอนาคตตอนธารรู้ว่าชนาธิปเป็นลูกคนใหม่ของทัตพล อาจจะมีการแก้แค้นเกิดขึ้นมั้ง มันคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้แล้วแหละ

ยอมรับว่าอึดอัดมากตั้งแต่ตอนที่แล้ว ความรู้สึกทั้งหมดคือ สงสารทราย ทรายผิดอะไร  :เฮ้อ:
เราจะไม่สงสารทรายเลยแต่จะสมน้ำหน้าด้วยซ้ำ ถ้าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความตั้งใจของทรายหรือของทัตพลสักคน แต่นะ โดยยานี่นา ถึงมันไม่ใช่ข้อแก้ตัว แต่สติสัมปะชัญญะ ภายใต้ฤทธิ์ยาปลุก?  เราไม่สงสารและไม่เกลียดธารถ้าจะร้ายกับทราย คือเป็นเราก็คงจะร้าย  แต่ทั้งนนี้ก็ไม่ได้ยินดีหรอกถ้าจะให้ทรายคู่กัยทัตพล ปล่อยทรายไปเถอะ ไม่ต้องมีคู่ บาปกรรมที่ไม่ได้ก่อแต่กลายเป็นคนต้องรับผลกรรมทั้งหมด ถ้าพลอตทั้งหมดคือทรายกับธารเป็นคู่พระ เราว่าให้เรื่องนี้จบไม่แฮปปี้เลยดีกว่า เพราะนี้เรายังไม่เห็นว่ามันจะมีทางไหนแฮปปี้ได้เลย ยังยืนยังว่าสงสารทราย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 21-03-2014 23:37:59
จะเป็นยังไงต่อไปเนี่ยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 21-03-2014 23:44:22
อินักสืบคือเป็นบ้าเหรอ ทำอะไรลงไปปป ไอ้ด้อนน :m31: เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะแกเลยนะนิ เลววว
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: iceland ที่ 21-03-2014 23:48:39
คืออะไรยังไง  เรื่องนี้ดร่าม่าทั้งเรื่องหรอ  จะไม่มีคนสมหวัง ?

คนที่คิดว่าเป็นนายเอก ก็คงไม่ใช่ล่ะมั้ง

เฮ้ออออออ  ช่วงนี้ได้กินแต่มาม่า


ลีดสิไห้


 :o12: :o12:


หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: lightseeker ที่ 21-03-2014 23:59:49
คุณทัตพลนี่ทำเหมือนรักพี่ทรายไปแล้วเลยนะ มีพูดว่าอยากดึงเข้ามากอดด้วยนะ
อย่างกับเด็กหนุ่มเพิ่งมีความรักครั้งแรก เธอจ๋า มีเมียมาตั้งสองคนแล้วเรามองเธอเป็นผู้ชายอบอุ่นไม่ออกละล่ะ
นี่ไม่ได้อะไรกับคุณพ่อพระเอกหรอก  :z4:
รู้สึกอินมาก อยากเอามือข่วนหน้าตัวเองเหมือนแบบนี้  :katai1: เลย
สงสารทรายเหมือนกัน แต่สงสารธารมากกว่า
น้องมีการเปิดดูวีดีโออีกครั้งเพราะกลัวเข้าใจผิด คิดว่าไม่ใช่พี่ทรายหรอก โอย ช้ำใจแทน :z3:
ถ้าในตอนสุดท้ายทรายไม่ได้คู่กับธารก็ไม่เป็นไร แต่อย่าคู่กับคุณทัตเลย เราคงเสียใจมาก T T
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 22-03-2014 00:21:34
 :mew1: มาต่อรวดเร็วว่องไว สายฟ้าเเล้บมากๆ
อัดอั้นมากกกกก... ธารกำลังคลั่งได้ที่ พอดีกับที่ทรายกลับมาถึงเเล้ว จะเป็นยังไงต่อไป... เฮ้อออ สงสารทรายจับใจ
ธารทั้งโกรธ ทั้งเเค้นเลยนะ อย่างว่ารักมากก็เเค้นมาก... คงไม่ฟังคำอธิบายหรอก
เอาจริงๆ ทรายเองก็กลัวที่จะรักธารเพราะเป็นลูกผู้มีพระคุณ ซึ่งคุณภัทรเธอสร้างบุญคุณเอาไว้ ...แต่พอผ่านจุดนั้นมาได้
กล้าพูดออกมาเเล้วว่า "รัก" ก็ดันมีอุปสรรคเพราะคนโลภหนึ่งคนใจหยาบอีกหนึ่งซะงั้น ทรายไปทำวิบากอะไรไว้นะ แบบ
อยู่มาได้สามสิบปี ดันมีรักตอนเข้าเลขสาม อุปสรรคบานเบอะ... คุณทัตกับทรายตอนนี้สภาพกลืนไม่เข้า คายไม่ออก...
อธิบายไปให้ปากฉีกมีหรือใครจะเชื่อว่าบริสุทธิ์ใจ ไร้เจตนา ยิ่งคนกำลังโกรธอย่างธาร แถมคุณภัทรเธอยังมาเห็นภาพจน
อาการย่ำเเย่ ธารไม่ปล่อยให้ทรายลอยนวลเเน่...
ตอนนี้สงสารทรายสุดตับ (คาดว่าตอนหน้าคงยิ่งกว่านี้)... คุณทัตในสายตาธารนี่คิดว่ายังพอทน เพราะอาจจะไม่เคยรู้ไม่รู้
มาก่อนว่านี่แฟนลูก แต่ทรายนี่หมดสิทธิ์เลย พูดอะไรไปคงฟังไม่ขึ้น... ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่สร้างไม่ยาก เเต่ก็นานถ้าเทียบ
กับเวลาที่ลงมือทำลาย... น่าสงสารที่ทรายไม่มีเจตนาทำลายความเชื่อใจและความรักครั้งนี้เลยนี่สิ :z3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 22-03-2014 01:06:21
ธารแค้นมากแน่ หมดเวลาทรายอธิบาย :sad11: :sad11: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 22-03-2014 02:48:05
เห็นด้วยกับคุณ     IIIA
อ่านไปอ่านมา อยากให้ทรายคู่กับทัตนะ
แล้วธารก็มาลงที่ธิป วิจะได้รู้ถึงความเจ็บปวด
ทั้งสามีแล้วลูก
ทรายไม่ได้ผิดอะไรเลย ทำไมถึงทำกับเขาได้
ธารจะโกรธก็ไม่แปลก ต่อให้ทรายอธิบายจนปากจะฉีกก็
เหมือนกับเป็นการแก้ตัว ที่ทำไปเกิดจากยา เพราะอ่านมา
ทัตก็สุภาพบุรุษ ลุ้นต่อไป
อินมากกกกกกก บอกเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: Minerva ที่ 22-03-2014 08:13:30
......พูดไม่ออกเลย ตอนนี้..หน่วงจริง...
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 22-03-2014 09:10:36
 :mew2: :mew2:  :mew2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: CelestialBeing ที่ 22-03-2014 09:18:14
โอวตอนนี้ทำdmg 99999 เลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 22-03-2014 15:36:45

สงสารพี่ทราย ธารจัดการเยอะแน่ๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 22-03-2014 19:48:24
โอย นี่มันเรื่องบ้าไรกันฟะเนี่ย

อภิมหาดราม่าจริง ๆ  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 22-03-2014 20:05:15
 :katai1: :katai1: มาม่าลังนึงต้มในชามเดียว  ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเป็นมะเร็งตายยยแน่
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 22-03-2014 23:35:45
กรี๊ดดดดดดดดดดดด จะเป็นลมค่ะ อ่านทันตอนที่มันดราม่าพอดิบพอดี

โอ๊ย ทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ สงสารทุกคนเลยอะตอนนี้

ต่อไปนี้ทรายต้องกลายเป็นเหยื่อของการแก้แค้น

ธารก็ทั้งแค้นทั้งรัก  แม่ก็ต้องเข้าโรงบาลกลายเป็นอัมพาต  ธารจะต้องร้ายกาจมากแน่ๆ

แล้วจะเรียนหมอจบได้มั้ยเนี่ย  หรือต้องยุติการเรียนหมอ เพื่อเข้าไปบริหารโรงแรม

ทรายต้องโดนทรมานแบบจำเลยรักแน่ๆๆๆ 

อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ  เรื่องนี้ลุ้นมากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 22-03-2014 23:42:10
กรีดร้องงงงงงงงงงง
สงสารทรายไม่ไหวแล้ว บีบใจมากก อ่านรวดเดียวจบ
ธารรร สงสารทรายเถอะนะ ชวยรักษาแผลใจให้ทรายเถอะนะะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 23-03-2014 03:54:31
แอร้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...............ไรวะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 23-03-2014 14:02:21
ขอเม้นท์อีกนิด
อย่าเปลี่ยนคู่อะไรเลยนะ  ถ้าจะจบแฮปปี้ก็ขอให้ธารได้คู่กับพี่ทรายเหมือนเดิม
เพราะถึงยังไงเค้าก็รักกันมาก่อน  ส่วนเรื่องของคุณทัตมันเป็นแค่ความผิดพลาด
ที่ทรายเองก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นมา แต่มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ถ้าธารจะโกรธและร้ายกับพี่ทราย เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ท้ายที่สุดก็อยากให้ธารลืมๆมันไป
ให้อภัยพี่ทรายสักครั้ง และกลับมาเริ่มต้นกันใหม่นะะะ 

รับไม่ได้จริงๆนะ ถ้าพี่ทรายไม่ได้คู่กับธาร  ส่วนธิปก็คู่กับพี่ซีไปสิ  คุณทัตเป็นส่วนเกิน ไร้คู่ไปละกัน

อิอิ  ตามนี้นะคะ  :mew6:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 23-03-2014 14:50:54
โฮวววววววว
ดรามาอะไรอย่างเน้
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[21/03/57] บทที่ 15 Reality go on ....
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 23-03-2014 18:59:45
เข้ามารอ วันนี้จะมามั๊ยคราบ อยากอ่านต่อมากๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 23-03-2014 19:26:07
https://www.youtube.com/v/HXZJ4LGZDyE

บทที่ 16



“พี่อ้อสวัสดีครับ มันเกิดอะไรขึ้นกันครับ คุณภัครทำไมถึง..”


“ทราย!”


ศศิธรอุทานเบา ๆ เมื่อวารินเปิดประตูเข้ามา เธอมาเฝ้าไข้ภัครจิราตั้งแต่เมื่อเที่ยง คนตัวเล็กเดินเข้าไปถึงหน้าเตียง เจ้านายเธอยังนอนหลับตาไม่ได้สติ


“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นป้าวันแกบอกว่าเมื่อวาน จู่ ๆได้ยินเสียงคุณภัครกรีดร้อง จากนั้นน้องธารก็อุ้มเธอออกมาจากห้อง เธอหมดสติตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้ว นี่พี่ให้แกลงไปพักเดี๋ยวคงจะขึ้นมาแล้วล่ะ ทรายมาก็ดีเลยเดี๋ยวพี่ขอกลับไปเคลียงานหน่อย หนีออกมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว”


วันนาแม่บ้านเดินกลับเข้ามา ศศิธรจึงคว้าเอากระเป๋าขึ้นสะพายโบกมือให้วารินบอกแล้วค่อยเจอกัน วารินนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงมองดูใบหน้าที่เหลืองซีดของภัครจิรากับกระปุกน้ำเกลือที่สอดสายไว้ที่หลังมือ เขาลุกขึ้นเดินไปที่ริมหน้าต่างแง้มผ้าม่านดูด้านนอกเห็นแสงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงแล้ว รถราเริ่มติดเป็นแนวยาวตลอดทั้งสาย ท้องฟ้าที่กรุงเทพดูไม่ทั่วถึงเลยจริง ๆ มีอะไรต่อมิอะไรบดบังเต็มไปหมดไม่เหมือนสถานที่ๆเขาเพิ่งจากมาเลยสักนิดถึงแม้จะมีความทรงจำที่เลวร้ายแต่วารินก็ยังจดจำความงดงามของทัศนียภาพของท้องทะเลกว้างใหญ่ได้เสมอ


“คุณธาร กลับมาแล้วเหรอคะ”


ทันทีที่ได้ยินเสียงป้าวัน วารินรีบหันกลับมองทันที ธาราธารยืนชะงักนิ่งอยู่ที่ประตู ในแววตาจดจ้องมาที่ร่างเล็กริมหน้าต่าง


“ใครอนุญาตให้เข้ามาในนี้ได้ ” เขาเน้นคำด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบพร้อมก้าวเข้าหา ในแววตามีแต่ความแข็งกร้าวดุดัน โบกมือไล่วันนาให้ออกไปก่อน 


ธาราธารยังสวมชุดนักศึกษาคงเพิ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัย วารินมองเขาอย่างไม่เข้าใจ


“ธาร เกิดอะไรขึ้น  ทำไมคุณภัคร..”


“อย่ามาตีหน้าทำตอแหล! ออกไปให้พ้น!!” เขาชี้นิ้วไล่ ตวาดขึ้นอย่างที่ไม่เคยทำ วารินก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว


“อีตัวร่าน ๆ โสโครก อย่ามาเหยียบห้องแม่ผมให้เป็นเสนียด ออกไป!! ไป!!!”


วารินแทบทรุด ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรทำไมพูดกับเขาแบบนั้น  ธาราธารล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายคว้าซองสีน้ำตาลฟาดใส่หน้าร่างเล็กอย่างไม่แคร์จะเจ็บหรือไม่ รูปถ่ายตกกระจายเกลื่อนพื้น


“ดูเสียให้เต็มตา คุณแม่เป็นแบบนี้เพราะใคร! ต้องกลายเป็นอัมพาตเพราะเส้นเลือดในสมองแตก มันเพราะใครกัน!!” 


เขาตวาดลั่น วารินก้มลงหยิบรูปขึ้นมาดู หน้าชาวาบไปหมด ใบหน้าเล็กส่ายอย่างไม่อยากเชื่อ เขาเป็นคนทำให้ภัครจิราเป็นแบบนี้ ตัวเขางั้นหรือ?  มองไปที่ร่างสีขาวที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่รับรู้เรื่องราว วารินถอยเซ มือยันลงที่เตียง


“อย่ามาแตะต้องแม่ผม!!”  เขาตรงเข้ากระชากร่างเล็กเหวี่ยงออกไปอีกด้าน


“โสโครก!  หึ  ผมโคตร!ขยะแขยงพี่เลยว่ะ ดีใจไหม? ได้นอนกับผัวคนอื่น ดีใจไหมห๊า!! เขาเป็นพ่อผมนะ! เป็นพ่อของผม!! ถึงเขาจะไม่ได้เลี้ยงดูผมมาแต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นพ่อ!!!”


เขาเดินหน้าเข้าหา ผลักไหล่เล็กจนกระเด็น วารินกำรูปจนมือสั่น ใบหน้าเล็กชาวาบเข้าไปถึงขั้วหัวใจกัดกินลึกถึงไขกระดูกเมื่อได้เห็นแววตาเย็นชานั้นทอแววรังเกียจกันอย่างชัดเจน


...พูดไม่ออก เพราะมันเป็นตัวเขาจริงๆ...


“อ้อ! มีเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยนะ ถ้าอยากจะดูก็เอาไปได้เลย!!”  เขาฟาดแผ่นซีดีใส่แบบเน้น ๆ จนวารินเบือนหน้าหลบแทบไม่ทัน ดวงตาสวยมีหยดน้ำไหลริน


“ไม่ต้องมาร้อง! อย่ามาทำสำออยในนี้ เก็บเอาของเสนียดจัญไรแล้วออกไปได้แล้ว ไป! ไปเลย!! ออกไป!!!” เขาตวาดลั่นชี้นิ้วไล่เหมือนหมูเหมือนหมา วารินทรุดฮวบลงที่พื้นร้องไห้โฮ มือใหญ่เข้ามากระชากคอเสื้อที่ด้านหลังแล้วลากร่างเล็กๆไปเหวี่ยงไว้ที่หน้าประตู


ชี้หน้าอย่างรังเกียจ


“อย่ามาให้ผมหน้าอีก จำเอาไว้ ถ้ายังอยากอยู่สุขสบายเชิญใช้ชีวิตร่าน ๆ ของพี่ต่อไป ไปให้พ้น!”


เขาปิดประตูใส่หน้าดังปัง!  วารินไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะลุกขึ้นยืน นั่งร้องไห้อย่างหมดอาย สองมือซบใบหน้าสวยที่มีแต่ความชอกช้ำ น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้ม เฝ้านึกถึงแววตาของคนที่ตนเองรัก


...แววตาที่ไม่มีเหลือแล้วซึ่งความอาลัย ห่วงใยเหมือนวันเก่าๆ...


...เขามันโสโครกดั่งที่ว่าจริงๆ...


..ต้องทำอย่างไรจึงจะล้างออกหมด รอยราคีที่ฝังอยู่กับตัวกับหัวใจ ต้องล้างอย่างไรล้างเท่าไหร่...


ไหล่เล็กสั่นสะท้าน ค่อยปาดน้ำตาแล้วหยัดกายลุกขึ้น


.
.


“ทราย เป็นอะไรรึเปล่า”


ภูวดลเคาะเรียกน้องชายที่หน้าประตู ตั้งแต่กลับมาจากไปเยี่ยมภัครจิรา วารินก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง เขาถามอะไรก็ไม่ตอบบอกไม่ให้กวน ภูวดลรอจนดึกดื่นเห็นว่าวารินยังไม่ยอมลงมากินข้าวจึงขึ้นมาเรียกดูอีกที


วารินเปิดประตูออกมาก้มหน้าก้มตาเดินผ่านไปที่ห้องน้ำ ภูวดลพอจะเห็นร่องรอยของคราบน้ำตาจึงเดินตามไปดู น้องชายตัวน้อยโผเข้ากอดเอวพี่ชายสุดที่รักเต็มอ้อมแขน ปล่อยโฮออกมาอย่างกับเด็กๆภูวดลได้แต่ลูบหลังปลอบใจ เขาคิดไปว่าวารินคงเสียใจเรื่องของภัครจิรา


“อย่าคิดมากเลยนะ เดี๋ยวทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น”


ภูวดลปล่อยให้คนตัวเล็กร้องไห้จนหลับไปทั้งอย่างนั้น เขาบรรจงห่มผ้าผืนหนาให้สอดตัวลงนอนข้าง ๆ โอบกอดเอาไว้อย่างเคย


เช้าวันต่อมาวารินเข้าไปที่โรงแรม พิมพ์จดหมายลาออกแล้วแอบวางไว้ที่โต๊ะของศศิธร เก็บของใช้ส่วนตัวที่มีอยู่นิดหน่อยแล้วขับรถตรงไปที่โรงพยาบาล ตั้งใจจะไปกราบลาภัครจิราเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีหน้าจะอยู่ช่วยงานได้อีกต่อไปแล้ว ความผิดของเขามันมากเสียจนเกินอภัย

.

.


“ขอบคุณมากครับคุณลุง ผมคงต้องรบกวนมากจริง ๆ” ธาราธารยกมือไหว้ภาสกรพี่ชายของภัครจิราหลังจากเกิดเรื่อง เขาที่บริหารงานโรงแรมอยู่ที่ญี่ปุ่นรีบบินกลับมาดูน้องสาวตัวเองทันที และบอกให้ธาราธารไม่ต้องห่วงเรื่องงานที่โรงแรมเขาจะช่วยดูแลให้อีกแรงจนกว่าทางนี้จะจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ให้ลงตัว

“อย่าคิดมากนะ ดูแลตัวเองด้วย แล้วก็ดูแลคุณแม่ให้ดี ๆ สักวันปาฏิหาริย์อาจมีจริง ลุงจะคอยเอาใจช่วย” เขาบีบไหล่คนหนุ่มอย่างให้กำลังใจก่อนขอตัวกลับไป ธาราธารรีบตรงไปพบอาหมอที่ดูแลคุณแม่เขาทันที


“พรุ่งนี้คงพาคุณแม่กลับบ้านได้แล้วนะ อย่างที่อาหมอบอกนั่นแหละ หาคนมาช่วยดูแลจะดีกว่า ภัครเขาจะช่วยตัวเองไม่ได้เลยพูดง่าย ๆ คือทำอะไรไม่ได้ต้องนอนอยู่บนเตียงอย่างเดียว อาอยากให้ธารหาใครสักคนมาคอยดูแล ธารเข้าใจใช่ไหม คนเป็นอัมพาตน่ะ ให้สัญญาไม่ได้ว่าจะหายดีได้รึเปล่าแต่ถ้าเราหมั่นช่วยดูแลกายภาพอย่างสม่ำเสมอชวนคุยอย่าทำให้เขาคิดมาก มันก็อาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นก็ได้”


ธาราธารมองสบดวงตาที่แสนอ่อนโยนหลังแว่นสายตาใสแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาตั้งใจว่าจะจ้างพยาบาลมาช่วยดูแลแต่ติดอยู่ที่พยาบาลจะต้องไปและกลับ เขาอยากได้แบบอยู่ประจำค้างคืนกับคุณแม่ของเขาเลยมากกว่า


“ไม่จำเป็นต้องเป็นพยาบาลก็ได้ แค่เป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนดูแลคุณแม่ของเราอย่างไม่รังเกียจ อาว่าเท่านั้นก็พอแล้ว”


เขายกมือไหว้อาหมอที่สนิทกับคุณแม่ของเขาแล้วเดินออกมา พรุ่งนี้เขาจะพาภัครจิรากลับบ้าน ช่วงแรกคงต้องวานให้ป้าวันแม่บ้านเป็นธุระดูแลคุณแม่ของเขาไปก่อนจนกว่าจะหาคนดีๆไว้ใจได้มาทำแทน ขายาวๆก้าวไปตามทางเดินขาวสะอาดของโรงพยาบาลชั้นนำ


...สิ่งที่เขาห่วงที่สุดคือเรื่องงานที่โรงแรมของคุณแม่ คุณลุงก็ต้องดูแลที่ญี่ปุ่นเป็นหลัก คงถึงเวลาที่ต้องศึกษางานด้านนี้แล้ว...


.

.


มือเล็กเปิดประตูห้องพักพิเศษเข้าไปด้านใน ที่เตียงคนไข้ยังมีร่างของคนที่เขาเคารพรักและภักดีเสมอนอนนิ่งอยู่บนนั้น วารินค่อยเดินเข้าไปที่เตียงช้า ๆ กวาดตามองร่างที่ไม่ขยับไหวติงดวงหน้าที่มีแต่ความซีดเซียว เข่าเล็กทรุดลงที่ข้างเตียงพนมมือก้มกราบลงไปที่ปลายเท้าของผู้หญิงที่มีบุญคุณกับเขามากที่สุด


ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกตอนเขาเริ่มมาฝึกงานกระทั่งได้มาทำงานด้วย สิบสองปีที่อยู่ด้วยกันมาภัครจิราคือคนที่เขานับถือและเคารพรักมากที่สุด บุญคุณของเธอให้ทดแทนเท่าไหร่ก็คงไม่มีวันหมด แต่คนที่แสนเลวก็คือตัวเขาเอง ไม่มีหน้าจะแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นเพราะตัวเขาทำมันลงไปจริง ๆ


“ผมขอโทษครับคุณภัคร ขอโทษทุกๆอย่าง” เสียงเขาสั่นเครือพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลอาบลงสองแก้ม


ภัครจิรานอนลืมตานิ่ง หยาดน้ำใสไหลลงที่หางตา  มือเล็กของวารินอยากจะเอื้อมไปสัมผัสมือนิ่มนั่นเป็นครั้งสุดท้ายแต่ก็กลัวว่าเธอจะรังเกียจ ได้แต่ถดตัวถอยหลังออกมา ร่างเล็กค่อยลุกขึ้นช้า ๆ ปาดรอยน้ำตาแล้วหันหลังกลับไป


“เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าไม่ให้มาที่นี่อีก” วารินตกใจผงะเมื่อพบว่ามีใครยืนอยู่ด้านหลัง ธาราธารก้าวเข้ามาเรื่อย ๆ ขณะที่อีกคนก้าวถอยหลังอย่างหวาดกลัว


“อย่ามาแตะแม่ผม!” เขาตวาดลั่นเมื่อขาของวารินชนกับเตียง มือเล็กแค่!จับลงที่เบาะเท่านั้น วารินรีบถอยออกไปอีกด้านทันที ร่างสูงใหญ่ปราดเข้ามากระชากแขนแล้วเหวี่ยงออกไปจนร่างเล็กชนโครมเข้ากับผนัง


“พูดไม่ฟังจริงนะ ท้าทายแบบนี้คงอยากลองดีกับผมใช่ไหม เข้ามานี่!” เขาลากคนตัวเล็กดันเข้าไปในห้องน้ำปิดประตูแล้วกดตัวบอบบางกักไว้ในอ้อมแขน


“คนร่าน ๆ แบบพี่ถ้าจะโดนทั้งพ่อทั้งลูกตอกที่เดียวกันเนี่ยมันคงจะถึงใจใช่ไหม ในใจคงจะยิ้มร่าเลยล่ะสิ ถ้างั้นมาลองดูกันหน่อยไหม ไม่อยากรู้เหรอ? พ่อกับลูกใครมันจะตอกได้ถึงใจกว่ากัน” สิ้นคำมือใหญ่ตรงเข้าบีบคางมนจนสุดแรงกดจูบดุนดันลิ้นจาบจ้วงเข้าไปกวาดต้อนดูดดึงเอาให้หนัก


“อื้ออ..” วารินทั้งผลักทั้งทุบ แต่ร่างกายที่ต่างกันมากเกินไปทำให้คนตัวใหญ่ไม่ขยับเลยสักนิด กลิ่นเลือดฝาดพร่าแปร่งอยู่ในโพรงปากนุ่มวารินเจ็บจนน้ำตาไหลพราก เขาทั้งดูดทั้งกัด มือที่บีบคางก็ออกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่อีกมือเข้ากระชากผมนิ่มให้ใบหน้าหวานแหงนหงาย ลิ้นหยาบคายลากไล้ลงมาที่ลำคอขาว วารินหลับตาอย่างรังเกียจเขาขบดูดจนผิวขาวห้อเลือดขึ้นรอย มือเล็กจิกลงที่บ่ากว้างอย่างเจ็บปวด


“ปล่อยนะ! พอแล้ว”  เสียงเล็กสะอื้นไห้ ร้องขอเขาอย่างเหลือทน เขายิ่งจิกผมแน่นแล้วรั้งลงเป็นเท่าตัว


“เจ็บ! ธารพี่เจ็บ!!” วารินร้องลั่น เขายังกระชากผมไม่ปล่อย ละใบหน้าออกมาจ้องตาดวงเล็ก วารินกัดริมฝีปากจนสั่นขณะที่แววตาแข็งกร้าวของอีกคนหรี่ลงอย่างคับแค้นในดวงตามีทั้งแววตัดพ้อและชิงชังปนกันไปหมด เขาขบกรามจนขึ้นนูนเพื่อข่มอารมณ์ประทุของตนเอง


“บ้านที่อยู่น่ะ ช่วยย้ายออกไปด้วยนะรู้ใช่ไหมว่ามันเป็นชื่อใคร อย่าให้ต้องเผาไล่” เขาเน้นทีละคำจนวารินใจหาย หยดน้ำตาไหลรินโดยไม่ต้องกระพริบด้วยซ้ำ


“ม...หมายความว่ายังไง บ้านไหนกัน บ้านของพี่เหรอ”


“อย่ามาแกล้งโง่!” เขาตวาด


“ไสหัวออกไปก่อนที่ผมจะเผาไล่แล้วมันจะไม่เหลืออะไรอีกเลย กลับไปได้แล้ว! ไม่ต้องมาเจอะเจอกันอีก  เราขาดกันแค่นี้!!”


ร่างสูงใหญ่ปล่อยคนตัวเล็กทิ้งแล้วหันหน้าหนีทันที สิ้นคำว่า ‘เราขาดกันแค่นี้’  น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากดวงตาคมกล้านั่น เขากัดริมฝีปากแน่นจนสั่น คว้าลูกบิดประตูจะเปิดออกมาด้านนอกแต่มือเล็กคว้าแขนเสื้อเชิ้ตเขาเอาไว้แน่น


“ไม่นะ อย่าไล่กัน บ้านนั่นเป็นของพี่ซีอย่าไล่เรา ขอร้อง”


วารินร่ำไห้เสียงสั่น แทบจะทรุดลงคุกเข่าต่อหน้าเขา บ้านหลังเล็กที่เขากับพี่อยู่กันมาตั้งแต่เด็กแต่ภัครจิราช่วยไปไถ่คืนมาให้หลังจากที่พ่อของภูวดลเสีย


“หึ! บ้านของพี่ซีอย่างนั้นหรือ” เขาเหยียดริมฝีปากแกล้งทวนคำพูดวารินแล้วเข้าไปกระชากแขนดันจนแผ่นหลังบางชิดติดผนัง


“บ้านนั้นมันเป็นชื่อของผมต่างหาก! ผมมีสิทธิ์ที่จะให้ใครอยู่หรือไปก็ได้ จะเผาทิ้งเสียวันนี้ก็ยังได้เลย!” วารินทรุดลงกับพื้นทันที ส่ายหน้าอย่างยอมรับไม่ได้


“ขอร้องธาร พี่ขอร้อง จะให้ทำอะไรพี่ยอมทุกอย่างขออย่างเดียวอย่าไล่กัน อย่าไล่เรา อย่าไล่พี่ซี พี่ซีไม่รู้เรื่อง” ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาส่งเสียงสะอื้นร้องขอเขาอยู่แทบเท้า  ธาราธารถอยออกอย่างรังเกียจ หัวใจแหลกลาญไปกับภาพของคนตัวเล็กตรงหน้า


“กลับไปบอกพี่ชายพี่ แล้วเก็บเสื้อผ้ามาอยู่ที่บ้านกับผม คนร่าน ๆ อย่างพี่มันต้องมาอยู่กับคนอย่างผม พี่ต้องมารับใช้คุณแม่ผมไถ่โทษให้ตัวเอง ถ้าแม่ผมไม่หายพี่เองอย่าหวังว่าจะได้ออกไปเสวยสุขกับไอ้หน้าไหนทั้งนั้น!” เขาก้มลงไปบีบแขนเล็กจนขึ้นรอยแดง โน้มใบหน้าเข้าใกล้พูดตอกย้ำถึงความร่านของอีกคน วารินนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ


“แลกกับบ้านหลังนั้น เข้ามาอยู่กับผมในฐานะ ‘คนรับใช้’  เป็นที่รองมือรองตีนผมทุกอย่าง ทำได้ไหมล่ะ”  เขาเน้นเสียงทุกคำทั้งประโยค วารินกัดปากจนห้อเลือดมือน้อยกำแน่นจนสั่น เขายื่นมือเข้ามาเชยคางมนขึ้นแล้วบีบแน่น ตาดวงน้อยสั่นไหวด้วยความกลัว


“พอถึงตอนกลางคืนก็กลายเป็นอีตัวให้ผมระบายอารมณ์ หึ! ถึงจะน่ารังเกียจไปหน่อยเกรดเดียวกันกับกะหรี่ตามซ่องแต่ก็ไม่ต้องเสียเงินเสียทองซื้อ แบบนี้ดีไหมชอบไม่ใช่เหรอนอนอ้าขาให้คนเขาตอก!น่ะ”


วารินเบิกตากว้างถดตัวถอยหลัง มือเล็กผลักเขาออกด้วยความหวาดกลัว เขากระชากคอเสื้อคนตัวเล็กขึ้นแล้วลากออกไปด้านนอกเหวี่ยงโครมลงบนโซฟา


“ออกไปได้แล้ว! อย่ามาให้เห็นหน้าอีก” เขาเปิดประตูออกจนสุด ใช้สายตาไล่อีกคนทางอ้อม


...สายตาที่มีแต่ความเย็นชา ไม่หลงเหลือแล้วร่องรอยของคนเคยรักกัน...


.

.


“ทำไมต้องทำอย่างนั้น ทรายไม่จำเป็นต้อง...”


“ให้ทรายไปเถอะครับ อย่างน้อยให้ทรายได้ตอบแทนบุญคุณที่คุณภัครท่านมีกับเราสองพี่น้อง”


วารินก้มหน้าหลบสายตา พับเสื้อผ้าลงในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ไม่กล้าที่จะมองดูหน้าพี่ชายตัวเองด้วยซ้ำ ทุกอย่างเป็นเพราะเขา เพราะตัวเขาคนเดียวภูวดลไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย เขาจะต้องปกป้องบ้านหลังนี้ไว้ให้ได้แม้ต้องแลกกับอะไรก็ตาม เพื่อพี่ซีพี่ชายที่เขารักมากที่สุด


...แม้แต่ชีวิตเขาก็ให้ได้...


“ทราย มันจำเป็นขนาดที่ทรายต้อง...” ภูวดลหมดความอดทนเขานั่งลงข้าง ๆ แล้วจับไหล่บางให้หันเขาหาตัว น้องชายเขากำลังร้องไห้ ดวงตาแดงช้ำจนบวมเป่ง


“พี่ซีอยู่คนเดียวอย่าลืมทานข้าวให้ตรงเวลานะครับ อย่าวาดรูปดึกจนเลยเวลานอน ตื่นนอนตอนเช้าพี่ซีอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าหนึ่งแก้วเสมอ ซักผ้าเสร็จแล้วต้องเอาออกตากนะ ล้างจานคนเดียวได้ใช่ไหม ดูโทรทัศน์ตอนกลางคืนต้องปิดให้เรียบร้อย รีโมทเอาไว้เป็นที่ เวลานอนต้องห่มผ้าหนา ๆ อย่าเปิดแอร์แรงนะเดี๋ยวจะไม่สบาย พี่ซีกอดหมอนข้างแทนทรายไปนะ หมอนข้างอันใหญ่ของทรายๆยกให้พี่ซีเลย ห้ามซักนะครับเพราะมันจะมีกลิ่นของทรายเสมอพี่ซีจะได้..ฮึกก..ไม่ลืมน้องชายคนนี้”


แก้มแดงช้ำมีน้ำตาไหลพรากลงเป็นทาง ภูวดลดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่น เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมวารินต้องทำขนาดนั้น


...ทำไมต้องไป...


“ทรายจะแวะมาหาบ่อย ๆ ทราย...ทรายรักพี่ซีนะครับ”


วารินสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น เขารู้ภูวดลคงเหงามากถ้าเขาไม่อยู่ เขากับพี่ไม่เคยแยกจากกันนาน ๆ ภูวดลมีเขาอยู่ข้าง ๆ เสมอ เช่นกัน เขาเองก็มีภูวดลเป็นดั่งที่พักพิงอยู่เคียงข้างกันมาตลอด


...ดั่งทรายกับทะเล ไม่มีวันแยกจาก...


ปากเล็กๆพึมพำเพลงโปรดของเขาและพี่ชาย


“...คือผืนทรายที่โอบทะเลไว้จะวันใดมั่นคงเหมือนดังที่เป็น อยู่เคียงข้างเธอใจไม่ไหวเอนและยังคงชัดเจนอย่างนั้น หาดทรายยังสวยรายล้อมทะเลด้วยรักคงไว้ด้วยใจแน่นหนักไม่หวั่นยามพายุผ่าน จะมีเพียงฉันและเธอตราบนานเท่านานมีรักมีใจผสาน ดั่งทรายอยู่คู่ทะเล.....”


ภูวดลหัวใจหล่นวูบ วารินสะอื้นหนักจนร้องต่อไปไม่ได้เขาได้แต่กอดร่างเล็กๆที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร


“ทราย..ให้สัญญาครับว่าทรายจะกลับมา..จะกลับมาอยู่กับพี่ซี....................................................ทรายรักพี่ซีที่สุดในชีวิต”


น้ำตาไหลรินจากดวงตาแข็งแกร่งหัวใจเขายิ่งกว่าถูกฉีกแยก ประคองสองแก้มนิ่มด้วยสองมือ จ้องลึกลงในดวงตา กดจูบลงที่มุมปากสวยแช่อยู่อย่างนั้นไม่ขยับไปไหนดั่งแทนคำสัญญาว่าชีวิตนี้เขาจะมีแค่วารินคนเดียว


“พี่ซีก็รักทรายที่สุดในชีวิตเหมือนกันครับ”

.

.

Tbc.  :katai1: :katai1:
ปอลิง. ไม่มีเปลี่ยนพล็อตเน๊ะ เพราะเราแต่งนำไปไกลแล้ว *ตอนนี้คนเขียนอยู่ที่พัทยาค่ะ รถติดมากเพราะมีคอนฯ ลงให้ก่อนออกไปแจ๊ดแจ๋ อิอิ*

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: janek_alo ที่ 23-03-2014 19:33:16
เอิ่บ  ดราม่ามาแล้ว  ละครช่องหลากสี
เห้ยไม่ใช้
แต่เอาจริงๆนะ
หมั่นไส้ทรายว่ะ
เอิ่บ  ความเห็นส่วนตัวเพียวๆเลย   :mew5: :mew5: :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-03-2014 19:38:41
ไม่รู้ ยังไม่ได้อ่านทั้งหมด เจ้ามาอ่านคอมเมนท์ของคนอื่นก่อน
แต่มันอยู่ติดกันอ้ะ อ่านิดนึงตอนท้าย น้ำตาไหล ทำใจก่อนนะ
ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่เห็น อะไรทั้งนั้น ฮืออออออ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 23-03-2014 19:47:40
โอ้ จบที่บทพี่ซีบอกรักทรายเมือนเดิมเป๊ะ  นี่สินะ ธารธาราเวอร์ชันใหม่  ดุเดือดเลือดพล่านจริง  ทรายไปอยู่ดูแลภัคจิรา คงไม่วายโดนทำร้ายเลือดตกยางออก กว่าจะเข้าใจกัน นางเอกอิฉันไม่ช้ำในตายก่อนรึ :katai1: :serius2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 23-03-2014 20:04:17
เรื่องนี้ชอบพระเอกสุดดด
แต่เศร้าอะ ตอนสุดท้ายที่ทรายเป็นห่วงซี
อยากอ่านตอนต่อแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 23-03-2014 20:20:05
กรี๊ดดดดดด มาอัพต่อแล้ว
โหย อ่านเท่าไรก็ไม่พอ ยังอยากอ่านต่ออีก จะอ่านอีกๆๆๆๆๆๆ

สงสารพี่ทรายมากเหลือเกิน จะแก้ตัวอะไรก็ไม่ขึ้น ต้องยอมรับบทลงโทษจากธารอย่างเดียว

กะไว้แล้วว่าธารจะต้องเอาพี่ทรายไปทรมานที่บ้าน แต่ก็ดีนะ ถือว่าได้ไถ่โทษที่ทำไว้กับคุณภัทร

แต่พอตกกลางคืนต้องกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ให้ธารนี่สิ ต้องรับบทหนักแน่ๆ หวังว่าฉากนี้คงมี NC ให้อ่าน  :hao6:

หลังจากนี้ก็มีแต่ดราม่าตลอดทั้งเรื่องแล้วใช่ม้าาา แต่เราชอบนะ ดราม่าหนักๆแบบนี้แหละดี ทดสอบความแข็งแกร่งของหัวใจ

อยากรู้จังว่าไม่เปลี่ยนพลอตนี่เป็นไปในทางไหน โอเคเลยค่ะ จะทางไหนก็แล้วแต่คนแต่ง

เราชอบเรื่องนี้มากๆๆๆ  ขอให้แต่งยาวๆ และแต่งจนจบนะคะ 

รอตอนต่อไปนะคะ  :o12:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 23-03-2014 20:25:07
ร้องไห้ตอนทรายกอดพี่ซีแล้วร้องเพลงอ่ะ ฮืออออออออออออออ

จะเป็นยังไงต่อไปเนี่ยยยยย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 23-03-2014 20:30:50
 :mew6: สงสารทรายจนน้ำตาเล็ด... ทรายโทษตัวเองสุดๆ แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทรายไม่ใช่คนในรูป ปฏิเสธไม่ได้
ว่าทรายไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้แม่ของธารนอนเป็นผัก และปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะเหตุการณ์นี้ทำลายความเชื่อใจของธาร
ที่เป็นคนมีปมเรื่องการทรยศหักหลังอยู่เเล้วให้หนักกว่าเดิม... ทรายจะทนได้เเค่ไหน สงสารทรายกับพี่ซีจริงๆ คือมีกัน
เเค่สองคนพี่น้อง เพราะรู้ว่าในชีวิตไม่มีใครสำคัญเท่าครอบครัวถึงรักกันมากเป็นพิเศษ(แม้จะเเอบเกินเลยบ้าง)...
คุณทัตจะมีบทบาทบ้างมั้ย แบบยื่นมือเข้ามาช่วยอะไรประมาณนี้ แต่ก็นะ ถ้าช่วยอาจทำให้สถานการณ์เเย่ลงก็เป็นได้
ธารเจ็บปวดมากที่คนรักไปจู้ฮุ๊กกรูกับพ่อของตัวเอง มันเป็นแผลสาหัสทางจิตใจทีเดียว ทั้งความรักความเชื่อใจและ
ความจริงจังใส่ใจมันพังครืนลงมา ...แต่ทรายก็สาหัสไม่ต่างกัน ความรู้สึกของการรักใครสักคนเเต่ไม่สามารถรักษาเขา
เอาไว้ได้ :hao5: มันคงเเย่น่าดู โดยเฉพาะเป็นความรักที่มีอุปสรรคต้องทำใจยอมรับสิ่งที่จะเกิดตามมาแบบนี้ด้วย ยิ่ง
ต้องใช้เวลาทำใจ พอทำใจยอมรับได้ว่ารัก ก็รักษาไว้ไม่ได้ แถมตัวเองยังจะกลายเป็นชนวนทำลายครอบครัวหนึ่งเดียว
ของตัวเองด้วย ทรายก็น่าสงสารมากๆเหมือนกัน บอกไม่ได้เลยว่าจะสงสารใครมากกว่ากัน เเต่ต่อจากนี้คงมีหลั่งน้ำตา
ให้ทรายเเล้ว เพราะธารมาบทโหดตั้งเเต่เริ่มอย่างนี้ โอย... จำเลยรักก็จำเลยรักเถอะ :katai1:
ถ้าพี่ซีรู้เรื่องคงยอมละทิ้งบ้านเพื่อรักษาน้องชายที่เขารักเเหละนะ... ทรายกับซีจะได้อยู่ดูแล เคียงข้างกันเหมือนเพลง
ทรายอยู่คู่ทะเลมั้ย? ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับทราย พี่ซีก็คงเสียใจเเละโทษตัวเองที่ดูแลน้องไม่ได้ พอๆ กับทรายที่ไม่ยอมให้
ธารพรากบ้านเเสนรักไป...  :katai4: ทรมานจุงเบยยยยย  :ling1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 23-03-2014 20:32:15
ว่าจะไม่เข้ามาอ่าน กลัวทำใจไม่ได้ เพราะในที่แนะนำเห็นบอกว่าดราม่า  :monkeysad:
ดูชื่อเรื่องก็ไม่เห็นจะดราม่าตรงไหน แต่พอได้อ่าน  :o12: ดราม่าจริงๆ มันเป็นอะไรที่คาดไม่ถึง ว่าจะดราม่าแบบนี้  บอกตามตรงว่าสงสารทั้ง ธาร และ ทราย มาก ที่ต้องเป็นแบบนี้เพราะความริษยาของความรักที่ไม่ได้รับของคนที่ก่อเรื่องขึ้น :hao5:

เข้าใจนะว่ามันเกิดจากความไม่ตั้งใจของพ่อธารกับทราย แต่มันก็พูดยากเพราะพูดไปไม่มีใครเชื่ออยู่แล้ว ยิ่งแม่ธารเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เรื่องมันหนักหนาสาหัสเข้าไปอีก :เฮ้อ: ถ้าธารจะเปลี่ยนไปก็ไม่แปลกเพราะสาเหตุมันสมควร ธารทั้งรักและทั้งเกลียด มันเสียความรู้สึก ความเชื่อใจ ความซื่อสัตย์ ถูกทรยศหักหลังโดยคนที่ตัวเองรักทั้งคู่ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่ถ้าใครเป็นธารก็คงไม่มีเวลาจะมาทบทวนสืบสวนหรอก สงสารธารมากๆ ไม่ใช่ไม่สงสารทรายนะ สงสารที่ต้องมารับกรรมในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แต่คงต้องทนรับต่อไป  :monkeysad:

แต่บางครั้งก็หมั่นไส้ทรายนะ อายุก็ไม่ใช่น้อย แต่วางตัวไม่สมอายุเท่าไหร่เลย เหมือนวัยรุ่นแรกรัก เห็นใครก็รู้สึกหวั่นไหวชอบไปซะหมด ขนาดพ่อของธาร ทรายยังเหมือนมีทีท่าจะชอบเลย เขินอาย  เอาไปเปรียบกับธารด้วย ในบางอารมณ์

พ่อธารก็ดูอ่อนไหวชมัด สำนึกผิดแต่จิตใจท่าทางเหมือนจะหวั่นไหวไปกับทรายเช่นกัน เห็นด้วยกับเม้นท์ที่บอกว่า ถ้าจะเลิกกับเมียที่เป็นลูกของผู้มีพระคุณ แล้วมาอยู่กับทราย คือ แย่มากๆ ทีแต่ก่อนไม่เห็นจะทำอะไรเพื่อธารกับแม่เลย


แต่ก็อยากให้ทั้งคู่ได้คู่กันนะ ทรายกับธาร ถ้าคู่กับพ่อธาร บอกตามตรงรับไม่ได้เหมือนกันค่ะ มันแบบสงสาร ธารกับแม่นะ  ถ้าจะเป็นอย่างนั้น  mew6: แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เคารพสิทธ์คนเขียนค่ะ แต่ก็อย่าเลยนะ ให้ทรายได้คู่กับธารเถอะ เอ๊ะ อีนี่ยังไง เคารพแต่มีขอร้องปะปน :z2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 23-03-2014 20:49:32
อ่านบทที่ 14 แบบข้าม ๆ  :a5:   :a5:
สงสารนายธารจับใจ ... T^T
?????????? .... คนอ่านช็อค! ตายไปละ   :z3:   :z3:   :z3:
:katai5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 23-03-2014 21:00:18
เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ อิตอนท้ายนี่คงไม่จบซีทรายนะ (นี่ก็คิดไปเนอะ  :z6:)
ถึงจะเสียดทรายไว้มากแต่ใจจริงก็เชียร์ให้ธารใหอภัยทรายนะ ความผิดครั้งแรกเอ๊งงงงง
(แต่ความผิดติดตัวมาก มีคนสอนเรามาว่า"บาปยังไงก็คือบาป แม้จะไม่ได้เจตนา"
ที่มากสุดก็คงเรื่องภัคร เพราะถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ทรายภัครคงไม่ล้มทั้งยืนแบบนี้)
เมื่อตอนแล้ว ๆ ก็จิกไว้เยอะแต่ตอนนี้ก็ลืม ๆ ละ (นี่ก็ลืมง่ายจริงเชียว)
แต่บางทีนางก็ชอบอ่อยคนเขาไปทั่วแบบไม่รู้ตัวนะ อย่างชวนอิทัตนอนห้องเดียวกัน
(ถึงจะบอกว่าผู้ชายด้วยกันแต่ทรายเป็นเกย์นี่?) ป้อนข้าวตอนขับเรือบ้าง
อันนี้มากไปสำหรับคนรู้จักจริง ๆ นะ ก็นั่นแหละเนาะ ความไม่คิดอะไรทำให้เกิดเรื่องไม่คาดคิด

แต่ทรายนี่แบบว่าชีวิตนางรันทดจริงไรจริงกำลังจะได้บ้านคืน ล่าสุดเกือบโดนเฉดหัว


สำหรับธาร โอ้ววววว ขอโหมดดาร์กเยอะ ๆ ฮา ชอบ ๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 23-03-2014 21:02:34
 :katai5:ร้องไห้เลยอ่ะ ตอนที่ทรายกับพี่ซี
ตามใจคนแต่งเลยคีะิอ่านหมดแหละ
แต่บางทีมันก็อินไปหน่อย  :z3:
ธารใจหนึ่งก็รักอีกใจหนึ่งก็เกลียดใช่ไหม
ขนาดธารโกรธยังเรียกทราย พี่ แล้วแทนตัวเองว่าผม
ธารมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมั้ง
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 23-03-2014 23:06:46
กักขังฉันเถิด กักขังไป :ling3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 23-03-2014 23:35:07
เราอยู่ข้างธารนะ แต่ทำไมอยู่ดีๆก็มีความรู้สึกว่า น้องธารมันปากจัดจัง  :a5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 23-03-2014 23:54:07
 :z2: ธารเวอร์ชันใหม่แซ่บถึงใจมากได้อารมณ์สุดๆ
ณ ขณะนี้จะว่าสงสารพี่ทรายมั้ยคงแค่นิดหน่อย
อาจเป็นเพราะเราหมั่นไส้ในความแรดเงียบของทรายอยู่แล้วมั้ง
แต่ธารนี่มันกะจะแก้แค้นจริงจัง แต่เราสงสัยว่า ถ้าเกลียดขนาดนี้ จะมาเก็บเป็นคนใช้กับนางบำเรอทำไมละคู๊ณณณ
แสดงว่าตอนนี้ทั้งรัก ทั้งเกลียด สินะ ที่จริงก็อยากได้ทรายอยู่เหมือนกันล่ะสิ
ถ้าเกลียดจริงๆเราว่าอย่างธาร คงมีจ้างเอาไปรุมโทรมอ่ะ

พี่ทรายก็เน้อ จูบกับพี่ซีอยู่นั่นแหละ สรุปนายเอกคนนี้ ทำตัวโลเลไม่เลิก

ฉนั้นตอนนี้ ก็ยังเชียร์ "ทัตทราย" ต่อไป
เรื่องนี้จะจบให้ใครคู่ใครก็ได้ ไม่แคร์แล้วจุดๆนี้ แต่ชื่อเรื่องยังไง ก็คงเป็น ธารทราย
แอบหวังว่าสักวันจะเปลี่ยนเป็น "พี่เลี้ยง(ของลูกผม)" นะ ฮ่าฮ่าฮ่า

แค่เอาอิสองแม่ลูก วิ ธิป กับไอ้นักสืบไปเก็บ
ไม่ให้มารกตอนจบก็โอเคล่ะ ไม่ปลื้ม  :m31:

ปอลิง : ช่วงนี้แซ่บถึงใจจริงๆ เป็นมาม่าที่ไม่ได้หน่วงน้ำเน่า แต่มันแซ่บจริงๆคุณเอ๋ย  :hao6:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 24-03-2014 03:29:33
 :m8: ฮึ่ยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 24-03-2014 10:48:31
กำลังพีคๆๆ

น้องธารเบา ๆ กะพี่ทรายหน่อยนะ

 :hao5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 24-03-2014 12:22:14
ธารถึงจะร้ายแต่ก็ยังรักทรายอยู่นะ ขอให้แม่ของธารฟื้นเร็วๆๆๆ :sad11: :sad11: :sad11:



(http://เวปมีไวรัส/images/2014/03/24/4daa9b9c9fa511e3bd251258f3959ba08PW35w.jpg)
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 24-03-2014 13:26:18
กรี๊ดดดดดดด ชอบธารโหมดนี้ที่สุด
ดราม่าตบจูบ ปลื้มปริ่ม :ling1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[23/03/57] บทที่ 16 Both love and hate
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-03-2014 15:39:34
เป็นเรื่องที่บีบหัวใจคนอ่านเหลือเกิน
เป็นดราม่าครอบครัวที่ดึงคนอื่นไปชดใช้กรรมด้วย
นี่ถ้าทรายยอมรับรักซีก็จบละ ปล่อยให้สองครอบครัวนั้นตบตีกันเองเหอะ
แต่วิบากกรรมของทรายยังไม่หมด ต้องไปซดน้ำตาให้พระเอกโขกสับต่อไป ปวดตับ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 24-03-2014 21:54:15
https://www.youtube.com/v/90cb-04mflY
(บ้านของธาร)

บทที่17



คฤหาสน์ ‘โชติการุณ’ ตั้งตระหง่านสวยเด่นอยู่ต้นซอยบนถนนสายหลัก วารินมองทางเดินเข้าบ้านที่ยาวเป็นกิโล มาทีไรก็ไม่ชินสักที


“ขอบคุณครับพี่ซีเดี๋ยวทรายเดินเข้าไปเอง” เขาก้มลงบอกพี่ชายที่ขับรถมาส่งถึงหน้าบ้าน


“โทรมานะ พี่ซีรอคุยกับทรายทุกวันนะครับ”


ใบหน้าเล็กพยักรับโบกมือให้พี่ชาย ภูวดลมองหน้าวารินอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วขับรถออกไป


......มาช่วยดูแลคุณภัครจิรานายใหญ่ของที่นี่  หวังว่าคงจะให้การต้อนรับน้องเขาดีพอสมควร.....


วารินถือกระเป๋าเดินทางใบเล็กเข้ามาตามทางเดินที่ทอดยาวพลางกวาดตามองโดยรอบ ลานน้ำพุที่อยู่ฝั่งซ้ายมือยังสวยงามเสมอไม่ว่าเมื่อไหร่ สวนสวยที่ภัครจิรามักเข้มงวดกับคนสวนถูกจัดแต่งกิ่งลำต้นตะโกให้งอเป็นพุ่มขึ้นรูปปลูกบนเนินหญ้าสวยเล่นระดับ และตัวบ้านใหญ่โอ่โถงที่ไม่ว่ากี่ปีผ่านไปยังคงดูใหม่อยู่เสมอ

 
มีส่วนที่ต่อเติมขึ้นมาเมื่อสามปีที่แล้วคือโรงจอดรถที่ขยายให้ใหญ่ขึ้น ภัครจิราเคยบอกเธอว่าธาราธารชอบซื้อรถ เพื่อเอาใจลูกชายของเธอ จึงได้ต่อเติมในส่วนนี้เพื่อให้จอดได้มากขึ้น วารินหยุดลงที่ต้นปาล์มขนาดไม่ใหญ่มากนักซึ่งปลูกเรียงรายอยู่ริมทางเดิน กล้วยไม้สีน้ำเงินสดเลื้อยเป็นช่ออวบอ้วนย้อยทอดช่อลงอย่างสวยงาม เขาอดไม่ได้ที่จะเอามือไปลูบไล้  แปลงดอกกุหลาบสีโอโรสปลูกเคียงคู่กับดอกสีชมพูและสีเหลืองสดใส ทอดยาวตลอดทางฝั่งขวา


ภัครจิราไม่ชอบสีสันที่จัดจ้านเธอชอบดอกไม้ที่ดูอ่อนหวานเหมือนสีเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่เสมอ กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยมาให้ได้ชื่นใจ


“เฮ้ยย!”


ร่างเล็กกระโดดโหยงหลบแทบไม่ทันเมื่อจู่ ๆรถสปอตสีขาวเปิดประทุนคันคุ้นเคย ขับมาเฉี่ยวถากแล้วเบรกลงข้าง ๆ อย่าแรงจนคิดว่าน่าจะมีควันลอยขึ้นมาจากล้อ กระเป๋าสะพายหลุดร่วงออกจากไหล่เล็ก วารินยกมือทาบอบอย่างตกใจ ค่อย ๆ ก้มลงหยิบสายกระเป๋าขึ้นมาถือไว้ให้มั่น


“หึ! มาจริง ๆ ด้วย ใจกล้าดีมาก”


ริมฝีปากแสยะยิ้มร้ายจากคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ธาราธารกดบีบแตรดังลั่นด้วยความสะใจ วารินยิ่งตระหนกจนใบหน้าขาวซีด รีบถอยหนีเมื่อเขากระทืบคันเร่งเหยียบเข้าไปจอดในโรงจอดรถ ร่างสูงใหญ่ยืนเท้าสะเอวมองอยู่ไม่ไกลนักแต่สีหน้าอย่างกับคนจะกินเลือดกินเนื้อ  วารินพรูลมหายใจแล้วค่อยเดินตามเข้าไปอย่างจำใจ


“รู้ใช่ไหมว่าต้องเข้ามาอยู่ในฐานะอะไร” เขานั่งไขว่ห้างอย่างกับราชา กางสองแขนกับพนักของโซฟาหรู ทอดสายตาเหยียดหยามมองวารินตั้งแต่หัวจรดเท้า


...ในแววตามีแต่คำว่าดูถูกทอประกายอยู่เต็มไปหมด..


“พี่จะมาอยู่ดูแลคุณภัคร ส่วนเรื่องอื่น...”


“มีสิทธิ์จะมาต่อรองด้วยเหรอ?”


เสียงทุ้มลากถามอย่างคนที่เหนือกว่าคิ้วเข้มเลิกขึ้น วารินวางกระเป๋าลงข้างตัวยืนเผชิญหน้าอยู่ต่อหน้าเขา เขายังไม่เชิญให้นั่งก็ไม่รู้จะนั่งตรงไหนได้


“ดาว!” เขาตะโกนเรียกใครบางคน เด็กรับใช้อายุน่าจะประมาณยี่สิบต้น ๆ เดินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ


“พาพี่เขาไปดูห้องซิ ห้องว่าง ๆ ข้างๆห้องพวกเธอไง ‘ ห้องคนรับใช้ ’  น่ะ อ้อ! แล้วก็ต่อไปคนๆนี้จะเข้ามาทำงานบ้านที่นี่ทุกอย่างแทนป้าวัน เพราะฉันจะให้ป้าวันเลื่อนตำแหน่งไปดูแลคุณแม่  เพราะฉะนั้นอาหารการกินงานบ้าน ‘ทุกอย่าง’ ต้องเป็นหน้าที่ของ ‘พี่’ นะครับ”


เขาเหยียดยิ้ม เดินเข้ามาชะโงกหน้าใกล้คนตัวเล็กตั้งใจเน้นคำพูดว่า ‘ทุกอย่าง’ และคำว่า ‘พี่’ ใส่หน้ากันอย่างแรง


...พูดจาไพเราะ ทำเหมือนให้เกียรติแต่กลับเหยียบกันให้จมอยู่ในที..


“ต..แต่พี่ตั้งใจจะมาดูแลคุณภัคร”


“ฝันอยู่รึไง??” เขาสวนขึ้นทันที  กระซิบเสียงลอดไรฟันสวยลงใกล้ๆ  “คิดว่าผมจะปล่อยให้คนที่เคยร่านอยู่บนร่างกายพ่อของผมไปดูแลเทคแคร์คุณแม่ของผม บ้าไปรึเปล่า  อย่าเอาแต่สมองร่านๆคิดสิ ใช้สมองดี ๆ ที่มีอยู่น้อยนิดคิดอะไรให้ออกเสียบ้าง”


วารินแสนเจ็บแสบกับคำเหน็บแนมจนสุดร้ายกาจ มือเล็กกำแน่นอย่างคับแค้นเถียงไม่ออกเพราะเขาทำมันลงไปจริง ๆ  และเลวจริงอย่างว่า


..สมควรแล้ว ที่จะโดนขนาดนี้..


“แต่ว่านะ.. ถ้าพี่ทำตัวดีว่าง่ายๆ ผมอาจจะเลื่อนให้ไปดูแลคุณแม่ก็ได้ เพราะฉะนั้นอดทนรอไปก่อนก็แล้วกัน” เขาเหยียดรอยยิ้มเยาะเหี้ยมเกรียม ทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นแล้วเดินขึ้นบันไดเวียนที่ปูด้วยพรหมสีแดงยาวเหยียดไปหยุดลงระหว่างทาง


“วันนี้ตั้งโต๊ะที่ชั้นบน ฉันจะกินในห้องกับคุณแม่”


เขาหันมาบอกกับดาวเสียงเรียบ ไม่มองมาทางวารินอีก ร่างเล็กทรุดนั่งลงที่พื้นคว้ากระเป๋ามากอดไว้บนตักอย่างจำต้องอดทน


...ต้องอดทน เฝ้าย้ำกับตัวเอง เพื่อตอบแทนบุญคุณภัครจิรา และเพื่อบ้านหลังน้อยของเขากับพี่...


“พี่นอนห้องนี้นะ ติดกับห้องดาวเองแหละถัดไปเป็นห้องของป้าวันพี่เตแล้วก็ห้องใหญ่เป็นของลุงทินกรไม่ค่อยมาค้างหรอกส่วนใหญ่แกกลับไปนอนกับเมียแกที่บ้าน มีอะไรก็เรียกได้ แคบไปหน่อยแต่ก็ยังดีที่มีห้องส่วนตัวน่ะ ฟูกกับผ้าห่มเอาของป้าวันแกมาใช้ก่อนก็แล้วกันช่วงนี้แกขึ้นไปนอนเฝ้าคุณภัครอยู่บนตึก เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปตลาดแต่เช้าจะพาไปซื้อ ห้องน้ำอยู่ข้าง ๆ ใช้ด้วยกันนะ”


ดาววิ่งออกไปนอกห้องพักเดียวก็กลับมาในมือมีพัดลมขนาดไม่ใหญ่นักติดมือมาด้วย “เอ้านี่พัดลมใช้ของป้าวันไปก็แล้วกัน ถ้ามีอะไรที่อยากได้ก็คิดๆไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้ซื้อกลับมาทีเดียว พี่ชื่ออะไรอ่ะ มาจากที่ไหน เป็นคนเหนือเหรอผิวเนี่ยข๊าวขาวสีเหมือนน้ำนมเลย”


ดาวนั่งลงที่เตียงจิ้มนิ้วลงที่แขนวารินอย่างอายๆ พร้อมสอบถามอย่างสงสัย วารินได้แต่ยิ้มบางส่งให้ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาดูสภาพห้องแล้วไม่ต่างอะไรจากห้องเก็บของเลยแม้แต่นิด มันทั้งแคบทั้งไม่มีอะไรเลยนอกจากเตียงเล็กๆหลังหนึ่งกับโต๊ะเครื่องแป้งราคาถูกที่วางอยู่ข้างกัน ที่ปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้าพลาสติกเก่า ๆ ที่เหมือนโดนใช้งานมาก่อน แน่นอนห้องนี้คงเป็นของคนงานคนก่อน ๆ และตอนนี้มันก็กลับกลายมาเป็นห้องของเขา


...ห้องหลังบ้าน เรือนคนใช้...


“ขอบใจนะดาว พี่ชื่อทราย เรียก ‘พี่ทราย’ นะ”

.
.

เมื่อเวลาเช้ามาถึงวารินโดนปลุกจากเตียงนอนตั้งแต่ตีสี่ ดาวชวนให้เธอไปตลาดด้วยกัน


ทินกรคนขับรถของภัครจิราเดินเอากุญแจรถมาส่งให้วาริน “คุณธารบอกไว้ว่าต่อไปให้คุณทรายใช้รถคันนี้เวลาไปซื้อของที่ตลาดครับ”


เขาดูเหมือนคนที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอแต่งตัวเรียบร้อยขัดถูรถสีขาวของธาราธารจนมันวับขึ้นเงา วารินมองรถกระบะตอนเดียวเก่าๆที่ตนเองจะต้องใช้นับจากนี้ ดูเหมือนจะเป็นรถบรรทุกดินบรรทุกต้นไม้เพื่อใช้ทำสวนเสียมากกว่า


“ขอบคุณครับ”


วารินรับกุญแจรถมาแล้วขึ้นไปนั่งที่เบาะคนขับ ดาวรีบเปิดประตูตามเข้าไปนั่งลงข้าง ๆคนตัวเล็กต้องควานหาเบาะรองหลังกันให้ควัก เมื่อขาเขาเหยียบคลัชไม่ถึงเบาะก็เลื่อนไม่ได้ เดือดร้อนดาวต้องวิ่งเข้าไปเอาหมอนอิงมาให้ใช้แทนไปก่อน


“พี่ทราย ทำไมลุงทินกรเขาเรียกพี่ว่า ‘คุณทราย’ ล่ะเหมือนพวกพี่รู้จักกันมาก่อนเลย เอ๊ะจะว่าไปดาวเคยเห็นพี่มาก่อนรึเปล่านะ อืม ไม่น่าเป็นไปได้คงไม่ใช่หรอก ดาวเนี่ยคิดมากจริง ๆ เลย”


ดาวนั่งบ่นไปยิ้มไปทำท่านึกโน่นนึกนี่ไปตลอดทางส่วนวารินฟังอย่างเดียวจนกระทั่งถึงตลาด เพราะรถเป็นเกียร์กระปุกเขาจึงปวดเมื่อยขาไปหมด คิดไว้ว่าจะไม่ใช้รถคันนี้ในช่วงไพร์มไทม์อย่างเด็ดขาด


“เดี๋ยวพี่หิ้วถุงใหญ่ให้ ดาวถือถุงเล็กเถอะ” วารินสอดมือเข้าไปช่วยเมื่อเห็นดาวถือข้าวของพะรุงพะรังสารพัดไหนจะกับข้าวไหนจะผ้าห่มและฟูกของเขาอีก


“หูย ดูตัวเองหน่อยเหอะพี่ ดาวอ่ะผู้หญิงก็จริงแต่ก็ตัวใหญ่บึกบึน ร้อยเจ็ดสิบสองนะครับนะ มือดาวยังใหญ่กว่ามือพี่อีกเดี๋ยวดาวถือเองดีกว่าพี่หิ้วผักเบาๆไปเหอะ”


พอกลับมาถึงบ้านดาวรีบวิ่งแจ้นเข้าไปหุงข้าวขณะที่วารินเอาของใช้ส่วนตัวเข้าไปเก็บที่ห้องแล้วออกมาเตรียมอาหารเช้าอยู่ในครัว มือเล็กยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูหกโมงเช้าแล้ว วารินไม่รู้ว่าปกติธาราธารออกจากบ้านที่นี่กี่โมงถ้าหากมีเรียนในช่วงเช้า


“ทำอาหารง่าย ๆ นะพี่ทรายคุณธารไม่ค่อยทานอะไรหรอกตอนเช้าน่ะ จะหนักเอาตอนเย็นโน่นแหละ ส่วนของคุณภัครเราแค่ต้มข้าวไว้เดี๋ยวป้าวันแกจะลงมาจัดการต่อเอง” เมื่อคนข้าง ๆ เริ่มกระตือรือร้นหยิบโน่นทำนี่ วารินเองก็จัดการในส่วนของตัวเองด้วยเช่นกัน ไม่นานนักอาหารก็ถูกจัดวางบนโต๊ะเรียบร้อย คนตัวเล็กเดินเอาแก้วกาแฟไปวางไว้ให้เป็นอย่างสุดท้ายขณะที่ธาราธารเดินลงมานั่งลงพอดี


เขากวาดสายตามองอาหารที่อยู่บนโต๊ะช้า ๆ  นั่งเงียบไม่พูดไม่จา และยังไม่ยอมแตะต้องใดๆบนโต๊ะทั้งสิ้น


“ดาว วันนี้ใครทำอาหาร” เสียงทุ้มแฝงด้วยพลังเอ่ยขึ้น ดาวถึงกับสะดุ้งโหยง


“พี่ทำเองแหละ” วารินชิงตอบเพราะเห็นดาวหน้าซีดลงกับน้ำเสียงคาดคั้นแบบนั้นของคนถาม  “แซนวิชที่ธารชอบกินไงแล้วก็แฮมกับไข่ลวกแล้วนี่....” 


ยังพูดไม่ทันจบ ร่างสูงใหญ่ที่หัวโต๊ะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ด ในมือถือจานอาหารของตัวเองเดินตรงไปที่มุมห้องเหยียบถังขยะให้ฝาเปิดอ้าออกแล้วเทอาหารทั้งจานทิ้งลงไปอย่างไม่ใยดี วารินถึงกับหน้าหดเหลือสองนิ้ว


“คิดว่าผมจะกระเดือกลงไหม?  มือโสโครกที่เคยปรนเปรอให้ใครต่อใครแล้วมาทำอาหารให้ผมกินน่ะ ใครมันจะไปกินลงกั๊น หืม” เขาจ้องใบหน้าเล็กนิ่ง ๆ ส่งเสียงลอดไรฟัน คำพูดคำจาเย็นเฉียบ ยัดจานลงในมือเล็ก วารินตาค้างรับเอาไว้เกือบไม่ทัน ใบหน้าเล็กร้อนผ่าวริมฝีปากเม้มแน่นด้วยความโกรธที่เขาชอบพูดจาเหน็บแนมดูถูกกัน


“ก็แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ? จะต้องทำอะไรบ้าง? จะให้พี่ทำอะไรบ้างที่นี่!”


วารินถามขึ้นอย่างเหลืออด มือเล็กกำแน่นจนสั่น ไม่เข้าใจคนตรงหน้าเลยสักนิด รู้ว่าเกลียดกันมากแต่ทำอะไรให้ก็ไม่ถูกใจแบบนี้เขาเองก็ทำตัวไม่ถูก


“อย่ามาทำอวดเก่งในบ้านผมนะ!” เขากระชากข้อมือเล็กแล้วบีบอย่างแรง วารินถึงกับหน้าเสียด้วยความเจ็บ


“บอกแล้วไงหน้าที่ของพี่มันคืออะไร ถ้างานตอนกลางวันมันทำแล้วไม่มีอะไรดีก็ทำงานตอนกลางคืนให้มันดี คนร่านๆแบบพี่มันก็ถนัดแต่เรื่องร่อนสะโพกอยู่บนเตียงแค่นั้นแหละ”


เพี๊ยะ!!


ฝ่ามือเล็กสะบัดใส่ใบหน้าเขาอย่างแรง วารินเหลืออดน้ำตาไหลลงเป็นทาง เจ็บปวดที่สุดกับคำพูดหยาบคายของเขาคนนี้


“กล้ามากนะ! จะเก่งมากไปแล้ว!!” เขาตะคอก กระชากร่างเล็กแล้วลากจนตัวปลิวหวือไปโยนโครมลงที่หน้าพื้นห้องครัว วารินเซถลาลงที่พื้นมือปัดป่ายเอาโถแจกันร่วงลงมาด้วย เศษกระเบื้องเกลื่อนพื้นมือเล็กที่ยันลงเพื่อประคองตัวมีเลือดไหลออกมาเป็นทาง ธาราธารเห็นแบบนั้นถึงกับใจหล่นวูบ รีบถลาเข้าไปดู กระชากแขนเรียวเล็กให้ห่างออกจากเศษแก้ว


“อย่ามายุ่ง! พอใจไหม! ดีใจไหมที่เห็นพี่เจ็บแบบนี้ ธารสะใจแล้วใช่ไหม!!”


...ไหนว่าเกลียดชังกันนัก ทำไมต้องมาทำเหมือนเป็นห่วง..


วารินไม่สนใจแผลที่มือและแขน ตะโกนประชดออกไปอย่างสุดจะทนตาดวงน้อยมีแต่น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ธาราธารบดกรามจ้องใบหน้าเล็กนิ่งงัน ปล่อยวารินลงกับพื้นอย่างไม่สนใจก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไป


เมื่อเสียงล้อรถบดพื้นถนนออกจากบ้านไปแล้ว ดาวรีบวิ่งเข้ามาดูวาริน


“พี่ทราย เลือดออกเต็มเลย”


“พี่ไม่เป็นไร ช่างเถอะ” วารินเช็ดน้ำตาแล้วค่อยยันกายลุกขึ้น วันนาเองก็ลงมาดูหน้าตาตื่น


“คุณทรายเป็นอะไรไหมคะ ป้าตกใจได้ยินเหมือนเสียงอะไรแตกตกใจหมดเลย ดาวเอ็งรีบไปเอาไม้กวาดมากวาดเร็วเข้า โอ๊ยรีบไปทำแผลให้คุณทรายก่อน”


วันนาสั่งลนลาน ให้ดาวรีบเข้ามาเก็บกวาดทำความสะอาดและทำแผลให้วาริน ส่วนตัวเองขอตัวขึ้นไปดูแลภัครจิราอยู่ชั้นบนต่อ วารินยอมนั่งเงียบ ๆ ให้ดาวติดเช็ดแผลให้


“ดีนะแผลไม่ใหญ่ แต่เยอะอ่ะโดดบาดตั้งหลายที่แน่ะ พี่ทรายเจ็บมากไหม” ดาวค่อยแต้มสำลีที่ชุบยาลงบนแผล เป็นที่สุดท้าย วารินยกสองแขนขึ้นตรวจดู


“ไม่เจ็บหรอก ขอบใจนะ”


“ทำไมคุณธารโหดกับพี่จัง ปกติไม่เป็นแบบนี้นะพี่ คุณธารน่ะเทพบุตรของดาวเลยถึงจะเย็นชาไปหน่อย แต่ดาวไม่เคยเห็นคุณธารแบบนี้มาก่อนเลย พี่ไปทำอะไรไว้อ่ะคุณธารเธอถึงท่าทางทั้งโกรธทั้งเกลียดพี่แบบนั้น”


ดาวถามออกมาซื่อๆวารินได้แต่มองหน้าแล้วส่งยิ้มแห้งกลับไป นั่นสิ.. สิ่งที่เขาทำไว้มันเกินกว่าจะให้อภัยได้จริง ๆไม่ผิดหรอกที่ธาราธารจะโกรธจะเกลียดกันแบบนี้ วารินคิดแล้วก็ต้องกัดริมฝีปากห้ามน้ำตาไว้อีก นึกสมเพศตัวเองที่ไม่มีอะไรดี ๆ หลงเหลือจะให้อีกฝ่ายมองกันได้เลย


ตลอดทั้งวันวารินช่วยดาวทำงานบ้านเท่าที่จะทำได้ แต่เพราะถูกห้ามไม่ให้ขึ้นไปที่ชั้นสองเพราะอย่างนั้นช่วงบ่ายแก่ๆวารินจึงออกไปช่วยเตโชคนสวนของที่นี่รดน้ำต้นไม้


“คุณทรายอย่าไปยืนตรงนั้นเลยครับมันร้อนเดี๋ยวจะไม่สบายนะ” เตโชบอกอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นวารินไม่ใส่ใจตัวเองยืนรดน้ำแปลงดอกกุหลาบกลางแดด


“อะไรกันล่ะนายเต มีแดดซะที่ไหนนี่มันห้าโมงเย็นแล้วนะ” วารินบอกอย่างอารมณ์ดี กลิ่นหอมของดอกไม้ทำคนตัวเล็กชื่นใจได้เสมอ เขาคิดถึงภูวดลขึ้นมาทันทีคิดว่าพี่ชายสุดที่รักคงจะเป็นคนรดน้ำต้นไม้แทนเขาที่ทำอยู่บ่อย ๆ ไม่รู้ป่านนี้ภูวดลจะทำอะไรอยู่


“ผมดีใจนะครับ เคยเห็นคุณทรายมาที่นี่บ่อย ๆ ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้” เตโชเป็นลูกชายของทินกรอายุพอๆกับวารินน่าจะน้อยกว่าแค่ไม่กี่ปี


“เรียกพี่ทรายเถอะอย่าเรียกคุณทรายเลย ผมก็มาอยู่ที่นี่ในฐานะ...เอ่อ...” วารินเองก็พูดไม่ออก เตโชรีบเงยหน้าจากการพรวนดินแล้วเดินเข้ามาใกล้ร่างเล็ก “ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไรคุณก็ยังคงเป็น ‘คุณทราย’ เหมือนเดิมนั่นแหละครับ คุณภัครท่านเอ็นดูคุณมากผมยังจำได้  พ่อเคยบอกว่าคุณภัครท่านชมคุณบ่อยมากและยังบอกว่าถ้าหากมีลูกสาวท่านคงจะยกให้กับคุณไปแล้ว”


วารินรีบหันหน้าหลบรอยน้ำตาที่รื้นขึ้นทันที คนทรยศไร้ยางอายอย่างเขายังมีหน้ามานั่งลอยหน้าอยู่ในบ้านของผู้มีพระคุณได้อีกอย่างนั้นหรือ แต่ทว่าเขาจำเป็นต้องมาจริง ๆ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วบ้านหลังน้อยที่เขากับพี่อยู่คงถูกธาราธารยึดคืนไม่ก็เผาทิ้งแน่ๆ


“เดี๋ยวผมทำเองดีกว่าคุณทรายพักเถอะครับ” เตโชแย่งเอาสายยางฉีดน้ำที่วารินถืออยู่มาทำเองและดันหลังให้คนตัวเล็กเดินเข้าบ้านไป


รถสีขาวคันเดิมเปิดหลังคาโฉบเข้ามาด้วยความเร็ว  อีกครั้งที่วารินกระโดดหลบแทบไม่ทัน ต่างไปที่คราวนี้มีเตโชช่วยพยุงไม่ให้ร่างเล็กๆล้มลงไป ธาราธารก้าวขาลงมาแล้วหันกลับมาจ้องสองคนที่ยืนอยู่ข้างกัน ก่อนที่เขาจะเดินหายเข้าไปด้านใน


“ดาว วันนี้ตั้งโต๊ะให้ฉันบนห้องฉันจะอ่านหนังสือห้ามรบกวนเด็ดขาด”


น้ำเสียงทุ้มสั่งความอย่างหัวเสีย นับดาวรับคำ   เมื่อวารินเดินเข้ามาร่างสูงใหญ่ก็เดินขึ้นไปถึงชั้นสองแล้ว ธาราธารใบหน้างอง้ำคิ้วขมวดมุ่นเหมือนคนไม่พอใจอะไรสักอย่าง วารินกลับคิดไปว่าเขาอาจมีเรื่องเรียนที่ต้องคิดมาก ไหนยังจะเรื่องงานที่โรงแรมที่ธาราธารยังไม่ได้เข้าไปดูเลยสักครั้ง


“พี่ทราย ใครมาน่ะพี่” ดาวเดินลงมาจากชั้นบนในมือถือถาดจานที่เจ้านายทานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชะโงกหน้าออกไปดูเห็นหน้าบ้านมีรถคันใหญ่จอดอยู่ วารินที่กำลังล้างจานอยู่ในชุดกันเปื้อนจึงเดินออกมาดูบ้าง


“...คุณทัตพล...”


วารินพึมพำแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาเขาถอดผ้ากันเปื้อนออก ทินกรคนขับรถของภัครจิราพาเขาเดินเข้ามาถึงในตัวบ้าน



Tbc.
 :katai1: ป๋อล๋อ*เคยบอกไว้แล้วนะว่าเรื่องนี้อีโรติกนิดๆ จากนี้ไปฉากแบบนั้นคงเยอะ อย่าว่ากันนะจะพยายามไม่บรรยายให้หื่นมากเน๊ะ*
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 24-03-2014 22:12:14
รักพี่ซี ชอบน้องธาร เชียร์พ่อทัต
โอ้ย เลือกไม่ถูกเลย พี่ทรายสู้ๆๆ :z2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWolf ที่ 24-03-2014 22:15:41
 :ling1: ลุ้นอ่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 24-03-2014 22:23:18
อ๊ากก น้องธารทำไมโหดร้ายกับพี่ทรายอย่างนี้ล่ะคะ โหย สยองแทนเลยเนี่ย
แค่มาอยู่วันเดียว ก็ได้เลือด ได้เจ็บตัวกันบ้างแล้ว  วันต่อไปก็คงหนักขึ้นเรื่อยๆ
คำด่าแต่ละคำที่หลุดมาจากปาก ฟังแล้วสะดุ้งสะเทือนกันทีเดียว
ทั้งรักทั้งแค้นก็เป็นแบบนี้แหละ จะแก้แค้นก็ทำได้ไม่สมใจอยาก เพราะยังมีเยื่อใยบางๆที่ยังตัดไม่ขาด
แล้วอีคุณทัต จะมาให้เสียอารมณ์ทำไมละเนี่ย คืออย่ามาสร้างปัญหาเพิ่มได้ปะ แค่นี้พี่ทรายก็รับไม่ไหวแล้วนะ

ส่วนเรื่องฉากนั้น ที่จะมีมาเรื่อยๆและบ่อยๆ เอาเป็นว่าเรายินดีอ่านค่ะ เพราะมันก็สอดคล้องกับพลอตเรื่อง อิอิ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 24-03-2014 23:06:24
มาแล้วการเริ่มต้นของการลงโทษ ขั้นแรก ยังไม่สะใจค่ะ ฮ่าๆๆๆ (อีบ้าเขาเห็นใจนายเอกกัน อีนี่กลับชอบใจซะงั้น) :katai2-1:

คือไม่ใช่ไม่เห็นใจหรือว่าสงสาร แต่มันยังไม่ให้อารมณ์สงสาร ยังรู้สึกว่า ทรายดูไม่ค่อยสำนึกเท่าไหร่ เอาอารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้งน้อยอกน้อยใจที่ถูกกระทำ พูดใส่อย่างที่คิดว่าตัวเองเจ็บมากแล้ว แต่ไม่นึกว่า ธารเจ็บปวดแค่ไหน ต้องเจออะไรบ้าง พอคิดได้ก็คือตัวเองหายเจ็บก่อน อันนี้พูดถึงในกรณีที่ธารไม่รู้ความจริงนะ  ทรายคิดถึงแต่ทำเพื่อพี่ซีเพื่อบ้านของพี่ชายที่ตัวเองรักมากกว่าที่จะทำเพื่อคุณภัครและธาร เข้าใจว่าพี่ซีเป็นคนเดียวที่อยู่กับทรายมาตลอด แต่ ณ จุดนี้ ทรายต้องคิดถึงสองคนนี้ให้มากด้วย เช่นกัน บางครั้งดูเหมือนทรายไม่รักธารเลย แค่เริ่มต้นก็มองว่าธารร้ายแล้ว สงสารธารทำเองเจ็บเอง นี่แค่เริ่มยังรู้สึกจะขาดใจที่เห็นทรายเจ็บเพราะตัวเอง แล้วจากนี้ล่ะ ธารจะเจ็บแค่ไหนถ้าทำร้ายทรายมากกว่านี้   :mew6:  แต่ธารก็ยังใช้คำพูดแทนตัวเองว่าผม เรียกทรายว่าพี่ อยู่เหมือนเดิม ไม่ขึ้นมึงขึ้นกู หรือว่า ยังไม่ถึงเวลาวะ :laugh:

มีความรู้สึกว่า ธาร ต้องโดนต่อว่าแน่ที่ทำรุนแรงกับทรายเกินไป และพอรู้ความจริง ธารก็คงสำนึกและเป็นฝ่ายขอโทษแน่นอน :เฮ้อ: และก็จะมีแต่คนเห็นใจทราย แม้กระทั่งพ่อของธาร ที่ต้องโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุ ต้องให้ความช่วยเหลือ ปลอบใจ หวั่นไหว ไหนจะพี่ซีอีก นี่ตูคิดเยอะไปเปล่าเนี่ย เรื่องยังไม่จบเลย :z3: ดันคิดไปโน่นแล้ว

พ่อธารคงรู้เรื่องแล้วเลยเข้ามา เพื่อเยี่ยมเยียนคนรักที่ล้มเจ็บไปเพราะตน และคงพยายามอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ธารฟัง แต่ธารคงไม่ฟังและมีปากเสียงไล่พ่อตัวเองแน่ ๆ กลายเป็นเหตุให้ทรายเจ็บตัวเจ็บใจมากกว่าเดิมจากฝีมือธาร :katai1:

มีสิ่งหนึ่งที่ค้างคาใจ ถ้าสมมุติธารกับแม่ยังไม่ทราบเรื่อง ทรายกับพ่อธารคิดจะบอกความจริงไหม หรือปิดเงียบเอาไว้ เหมือนกลับมาดูปกติมาก ไม่มีทีท่าตกใจหรือหวาดระแวงอะไรเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม คนทำผิดยังไงมันต้องมีอาการบ้าง อย่างมองคนที่ตัวเองรักด้วยความรู้สึกผิด อะไรประมาณนี้ ถามเฉยๆนะคะ อย่าคิดมาก มันอิน นั่นเพราะคุณเขียนได้ดีมาก o13

ปล. ยังยืนคำเดิม ขอให้ธารได้คู่กับทราย ได้ให้โอกาสซึ่งกันและกัน ถึงจะเคารพสิทธิ์คนเขียน แต่ขอร้องปนด้วย :hao5:
ส่วนฉากอย่างว่าจัดมาเถอะค่ะ เรารออยู่ :hao6: ขอแค่เป็นธารกับทรายก็พอนะ อย่าให้ใครมาแจมอีกเลย แต่ถ้าเป็นคู่อื่นด้วยก็ดีค่ะ :haun4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 24-03-2014 23:18:33
อิทัตคัมแบ็ค  :katai1: ตูเกลียดมานนนนนนนนนนน(fc ทัต: :z6:) <<พักนี้ใช้อีโมนี้บ่อยไปนะ
แอร๊ยส์ ทำไมธารด่าแต่ละคำไม่รู้สึกเจ็บแทนเลยวะเนี่ย แต่ละคำช่างเหน็บจริง ๆ นะ
ท่านธาราธารขา จงร้ายยยยิ่ง ๆ ขึ้น ขึ้นไป ๆ แค่นี้มันยังไม่เพียงพอออออออออออ
อยากบอกว่าชอบฉาก nc คนเขียนนะแต่ถ้าเป็นธารทรายฟินที่สุด หื่น ๆ ก็ได้ ไม่ว่ากานนนนนน  :hao7:

บวกเป็ดคนเขียนและคหบนรู้สึกประมาณนี้แต่เขียนมาไม่ถูกหรอก ฮาาา ได้แต่จิกทราย ก๊ากกกกกก

ลืมบอกตอนที่แล้วไม่เปลี่ยนพล็อตน่ะดีแล้วค่ะ สนุกกว่าเป็นพล็อตตามใจคนอ่านนะเราว่า
เวลาอ่านแล้วมันขัดใจนี่อินดี นั่นก็ไม่ได้ดั่งใจ นี่ก็ไม่ได้ดั่งใจ ก็ได้แต่จิกตัวละครไป มันส์ดีนะ ฮ่า
(นี่ก็ไม่ได้โรคจิตอะไรเล้ยยยย จริง ๆ) ถ้าเปลี่ยนพล็อตตามใจคนอ่านแล้วจะรู้สึกหมดสนุกเลย 
เหมือนอะไร ๆ มันก็ง่ายสำหรับเราแล้วเราจะเกิดอาการเบื่อทันทีทันใด แต่ถ้าจบทัตทรายนี่ก็เฟลเช่นกัน <<สรุปมึงจะเอาไงแน่
ก็มันจะโคตรไม่ยุติธรรมกับธารเลย แล้วแม่ธารก็คงต้องงตายเท่านั้นแหละ
จะได้ไม่ต้องรับรู้อะไรเลยยยย//หนูเปล่าแช่งนะคุณภัครนะ)

ปล. คนเขียนขา กรุณาอย่าพิมพ์ชื่อ"ธาราธาร" เพี้ยนเป็น"สมภาร"นะเคอะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: CelestialBeing ที่ 24-03-2014 23:22:10
เปงนายเอกต้องสู้ชีวิต :sad4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: Pakarang ที่ 24-03-2014 23:25:09
น่าสงสารที่สุดก็คงเป็นพี่ทราย ทั้งๆที่ทำทุกอย่างไปดูโรงแรม แอบไปกับคุณทัตก็เพื่อธาร แต่เพราะความเข้าใจผิดของอีชะนีวิจริงๆเลยคุณทัตก็ไม่พูดอะไรให้มันเคลียร์ๆ เรื่องราวถึงได้ลุกลาม และคนที่รับเคราะห์กรรมก็คือพี่ทราย
sad sad sad

สาธุอีธารทรมานทรายจนตายแล้วมารู้ความจริงทีหลัง แม่จะหัวเราะให้ฟันหัก 55555อินไปหน่อยยย


ปล.เป็นกำลังใจให้ผู้แต่ง สู้ๆ มาต่อทุกวันแบบนี้น้าาาาา :)
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 24-03-2014 23:49:04
อยากรู้ว่าธารจะรู้ความจริงได้ยังไง
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 25-03-2014 00:02:36
ถึงสงสารธารแต่ก็สงสารทรายนะคะ อย่างน้อยถ้าหันหน้ามาคุยกันดีๆแล้วไม่เชื่อก็พอว่าไป คนนึงเงียบอีกคนเลือดขึ้นหน้าเรื่องจะจบยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 25-03-2014 00:04:25
คุณทัตมาทำไม??  :m16:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 25-03-2014 00:20:10
 :hao7: อร๊ายยยยยยยยยยยยยยย คุณทัตมาแล้ว
คุณทัตมาช่วยพี่ทรายจากธารแล้วววววว

ในเมื่อมันแซ่บเวอร์ขนาดนี้แล้ว ขอหนักๆอีกจ่ะ เรื่องนี้ Drama SM ยังอาย
มาม่าต้มยำกุ้งยังต้องหลบ แซ่บดั่งตำบักหุ่งใส่พริกสิบสามเม็ดก็มิปาน  :m31:

ธารมันร้ายได้มากกว่านี้อีกนะ อันนี้มันเพิ่งร้ายเลยหลุดๆห่วงกับหึงออกมาด้วย
เอาให้ร้ายแบบทั้งรักทั้งเกลียด เอาแบบพี่ทรายน้ำเน่าแบบดาวพระศุกร์ก็ไม่เห็นใจ
อยากให้เรื่องนี้ความรู้สึกกับคาแรคเตอร์ของตัวละครออกมาให้เต็มที่ไม่มียั้ง
ไม่ค่อยอยากได้แบบนายเอกตกบันไดสลบ พระเอกพาไปโรงพยาบาล ตื่นขึ้นมาคืนดีกัน <=== ถ้าพล็อตนี้มันเน่าสนิท

บ่องตง ไม่รู้สึกปวดใจตามดราม่าหลายๆเรื่องเลยซักนิด ฮ่าฮ่าฮ่า  :hao7:
แต่ก็ไม่ได้สมน้ำหน้านะคู๊ณณณณณณ ก็บอกแล้วว่าตอนนี้สัมผัสได้แต่ว่า "แซ่บเวอร์"

ขอย้ำอีกครั้ง เรื่องนี้เราไม่สนใจแล้วว่าจะจบแบบไหน happy หรือ sad หรือ normal ก็ไม่สนแล้ว
สนแต่รสชาติที่คนเขียนนำมาเสนอจริงๆ นี่ถ้าทรายมันดันแรดแสดงออกนะ จะนึกว่า "ดอกส้มสีทองภาค2"
ตอนนี้สงครามยังไม่จบ ความแซ่บยังไม่หมดลิ้น
ฉันจึงขอเชียร์ "ทัตทราย" ต่อไป (แต่จะจบยังไงก็ได้นะ ไม่แคร์)
ความจริงชื่อเรื่องมันคือ "แฟนผมเป็น..พี่เลี้ยง.." ต่างหากล่ะ วะฮ่าฮ่าฮ่า

แต่ที่สุดของความแซ่บคือ การที่ได้ลุ้นว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ยิ่งถ้าเราจิ้นให้เป็น ธารทราย นั่นแหละคือปัญหา ตับแตก คือ มันสองคนจะคืนดีได้ยังไง
ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาที่คำว่ารักแก้ไขได้อย่างแน่นอน เพราะ มันมีเรื่องต่างๆมาปะปนมาก รวมไปถึงศีลธรรม
และที่สำคัญ ตัวเอก'ไม่ใช่'คนศัทธาในความรัก

ปอลิง: ยังขอย้ำ อย่าให้ อิวิ กับ ธิป มาเกะกะฉากจบเด็ดขาด
อิสองตัวนี้จะทำให้ความแซ่บหายไป กลายเป็นน้ำเน่าไปซะ

แอบอยากเห็นฉากคืนดี แต่ฉันอยากเห็น"ทัตทราย" มากกว่า คนอื่นว่าผิดศิลธรรม
แต่ฉันก็ไม่เห็นว่าจะหนักกว่าเรื่องอื่นตรงไหน ฮุฮุฮุ  :hao3:
คู่รัก(ที่คนอื่นมองว่า)ต้องห้าม ช่างหวานกรอบยิ่งนัก แค่สองคนนี้อยู่ด้วยกันแป๊ปเดียว
ฟินกระจายกว่าอิเด็กธารเป็นสิบตอนเลยจ้า
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: whipcream ที่ 25-03-2014 03:46:28
อิอิ แอบจิ้นคุณทัตกะหนูทรายน้ำนม
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-03-2014 06:24:12
หวังว่าเวลาจะช่วยเยียวยาทุกคนนะ :hao5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 25-03-2014 07:32:34
โอ๊ยยยยยนี่แค่เริ่มยังแซบได้ขนาดนี้ :katai1:
อยากอ่านต่ออีกเยอะๆๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 25-03-2014 08:50:31
ฉากแบบนั้นอ่ะ ไม่ต้องลดความหื่นก็ได้ คนในเล้าชอบบบบ :haun4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 25-03-2014 09:16:41
ธารมันจะสะอึกมั้ยถ้ารู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของทราย
ไม่เอาป่วยเป็นโรคหรือความจำเสื่อมนะ ฮืออออออออออออออออออออออ
:hao5: :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 25-03-2014 09:32:47
หลงเข้ามาอ่านแล้ว แบบปวดตับสุดๆ โอย!!!!!!  :z3:
ทึ้งหมอนจิกผ้าปู เรื่องมันจะเป็นยังไงต่อไปละนี่ :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: Viper_Wa ที่ 25-03-2014 11:13:04
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

อยากกระโดดถีบไอ่ตัวต้นเรื่องที่ทำให้นายเอกเราต้องเจออะไรแบบนี้จริง :angry2:

แล้วทรายจะรอดพ้นเงื้อมืมัจจุราช ? อย่างธารได้มั้ยเนี่ย ดูท่าจะ SM ชัวร์  :hao6:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 25-03-2014 13:01:22
 :a5: คุณทัตโผล่มาเเล้ว... จะได้ช่วยทรายมั้ย หรือว่า...อะไรๆ มันจะเเย่ลงไปอีก!!! ทรายเปิดมาก็เลือดตกกันเลยทีเดียว

ธารต้อนรับได้สมเกียรติสมศักดิ์ศรีเหลือเกิน ทรายน่าสงสารมากมาย ไม่ไหวๆ น้ำตาจะเล็ด... :hao5: ธารยังรักทรายอยู่มาก

เกือบจะเผยความใจดีออกมาเเล้วถ้าทรายไม่ระเบิดออกมาซะก่อน ถ้าธารรู้จะเสียใจมั้ยนะที่เรื่องทั้งหมดแม้ทรายจะผิดที่มี

อะไรกับคุณทัตจริง เเต่ทรายที่ธารเกลียดก็ไม่เคยอยากให้เรื่องเเบบนั้นเกิดขึ้น ทรายอาจรู้สึกดีกับคุณทัต แต่นั่นก็เพราะเขา

คือผู้ชายที่รักธาร พ่อของผู้ชายที่ทรายรัก :z10:  ทรายชอบคุณทัตในฐานะพ่อที่เเอบดูแอบเป็นห่วงลูกชาย จะมีเขินอายบ้าง

ก็ไม่น่าเเปลกใจในเมื่ออยู่กับคุณทัตมันชวนให้นึกถึงธาร ดูเหมือนทรายจะเคยชินกับการดูแลคนอื่นด้วย แต่มาตอนนี้ธารคง

ไม่ยอมรับฟังอะไรคุณทัตด้วยเหมือนกันเพราะคนที่ได้ชื่อว่าพ่อนอนกับคนที่ลูกชายรักไปซะเเล้ว ตกที่นั่งลำบากทั้งทรายทั้ง

คุณทัตนั่นเเหละ สถานการณ์เลวร้ายสุดๆ แถมตอนนี้ทรายเปราะบางมากๆ ทั้งจากตัวเองที่ทับถมตัวเองลงไปให้จมดิน แล้วก็

จากการกระทำของธารอีก ไม่รู้ว่าจะทนได้นานมากเเค่ไหนกว่าธารจะยอมให้อภัย ธารจ้า ทำแบบนี้ไปก็ใช่ว่าใจธารจะเป็นสุข

ไม่ใช่เหรอ... ธารคงรักมากไม่อยากปล่อยมือ แต่อีกใจก็รับไม่ได้กับสิ่งที่ทรายทำทั้งกับตัวเองและกับเเม่  :z3: ธารจะร้ายได้

อีกแค่ไหนนะอยากจะรู้ ในเมื่อทำร้ายทรายไปใจธารเองก็เจ็บเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: nutjisub ที่ 25-03-2014 13:24:41
ตามมาจากนิยายแนะนำนะค่ะ  ทันตอนดราม่าพอดีเลย ไม่รู้จะเชียร์ใคร เชียร์คนพ่อก็แล้วกันเนอะ
ซี อ่อนแอเกินไปไม่มีความกล้าหาญ  กลัวโน้นนี่นั่น ฉะนั้นจงแต่งงานไปกับคนอื่นเถอะ
ธาร ยังเด็กเกินไปเป็นเด็กมีปัญหาใช้แต่อารมณ์ไม่มีเหตุผล ไม่สืบสวนสอบสวนอะไรทั้งนั้นก็แก้แค้นเสียแล้ว
เชียร์อีตาคนพ่อก็แล้วกันโตแล้วมีเมียมา 2 คน แล้ว ลูก 2 คนแล้ว ถ้ายังคิดไม่ได้ และปกป้องคนที่ตัวเองรักไม่ได้ก็แล้วแต่นะ
ปล.ในชีวิตจริงคนอย่างทรายคงไม่มีอยู่หรอกมั้ง มองใสๆ ๆๆ เกินไป อายุก็ 32 กว่า ๆ แล้ว มองให้ความหวังทุกคนไปเสียหมด ตัดสินใจไม่เด็ดขาดเลย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 25-03-2014 13:32:21
เหยยย~ คุณทัตมา

 :katai5:

ไม่ใช่คุณทัตเดินไปบอกธาร "พ่อจะมารับเมียพ่อไปอยู่ด้วยกัน" ว่าแล้วก็โอบไหล่ทราย


ธารเงิบแน่ อิ___อิ #ช่างมโน
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[24/03/57] บทที่ 17 ทัณฑ์ร้าย(เริ่มต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 25-03-2014 19:56:45
 :katai1: ทำไมคุณทัตต้องมาตอนนี้เนี่ยยยย  ธารจะไม่โมโหหราาา
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 25-03-2014 20:58:30
https://www.youtube.com/v/tSFP2uBDTsQ

บทที่18
 



“คุณทรายครับนี่คุณทัตพลเจ้าของโครงการ.......มาขอเยี่ยมคุณภัครครับ”
 

ทินกรคงไม่รู้มาก่อนว่า ทัตพลคืออดีตสามีของภัครจิรา และที่สำคัญคงไม่รู้ด้วยว่าเพราะความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของเขากับคนๆนี้ถึงได้ทำให้ภัครจิราป่วยอยู่แบบนี้
 

“ฉันได้ยินมาจากซีว่าภัครป่วยแล้วทรายก็มาช่วยดูแลอยู่ที่นี่” เขาพูดออกมาเมื่อวารินเดินเข้าหา ใบหน้าเล็กรีบมองไปที่ชั้นสองอย่างร้อนรนเพราะกลัวว่าธาราธารจะลงมาเห็นและคงอาละวาดบ้านแตกแน่
 

“ครับ คุณภัครเธอป่วยจริง ๆ แต่ผมคงบอกรายละเอียดอะไรมากไม่ได้ วันนี้ขอร้องให้คุณกลับไปก่อนได้ไหมครับ ผม..”
 

“ทำไมล่ะทราย ฉันแค่อยากมาเยี่ยมภัครเขาแค่นั้นเองนะ” ทัตพลส่งสายตาถามอย่างไม่เข้าใจ
 

“ผ...ผม..บอกอะไรคุณไม่ได้ผม..ผมเองก็...”
 

“ก็บอกเขาไปสิ ว่าที่คุณแม่ต้องป่วยเป็นอัมพาตอยู่แบบนี้ เป็นเพราะใคร!” เสียงทุ้มดังกังวานมาจากราวบันได ธาราธารยืนมองลงมาด้วยสายตาเกรี้ยวกราดอยู่ที่นั่น
 

“เพราะเห็นภาพทุเรศๆสกปรกโสโครกของพวกคุณสองคนร่อนกันอยู่บนเตียงไงล่ะ แค่รูปถ่ายมันยังไม่หนำใจถึงขนาดไร้ท์เป็นภาพเคลื่อนไหวมาให้ด้วยแบบนี้ สุดแสนจะโสโครกเลยจริงๆ”
 

เขาก้าวลงมาเรื่อย ๆ วารินรีบเอาตัวบังทัตพลไว้ทันที น่าเสียดายที่คนข้างหน้าตัวเล็กมากทัตพลจึงมองเห็นลูกชายได้เต็มๆสองตาเป็นครั้งแรก ในขณะที่ธาราธารเองก็เพิ่งเคยเห็นคุณพ่อตัวเองแบบตัวจริง ๆ ชัดๆ เลยก็วันนี้
 



...ช่างเป็นการพบกันครั้งแรกที่ไม่น่าจดจำอย่างที่สุด...
 



“..ธาร..ลูกพ่อ..” ทัตพลพึมพำแผ่วเบา หัวใจเจ็บปวดรวดร้าวไปหมด วารินได้แต่หันมองอย่างเวทนา
 

“ใครเป็นลูกคุณไม่ทราบ” เขาก้าวเดินลงมา พูดจาอย่างเย็นชา แฝงรอยยิ้มเย้ยหยันเยี่ยงซาตานร้าย  “ลูกคุณก็ต้องอยู่ที่บ้านคุณสิ มาผิดบ้านแบบนี้ระวังเมียจับได้ว่ามีชู้นะ  อ้อ! แล้วก็ไอ้คนที่เป็นชู้ด้วยน่ะ  ผู้ชายซะด้วยงามหน้าจริง ๆ เลยใช่ไหมมม คุณทัตพล”
 

ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้กระชากแขนเล็กของวารินให้เข้ามาชนกับตัวเขาแล้วจิกลงบนผมรั้งจนใบหน้าเล็กแหงนหงาย   “นี่ไงล่ะชู้ของคุณ คนใช้บ้านผมเองไง ต่ำจริง ๆ นะเอาใครไม่เอามาเอาคนรับใช้บ้านเมียเก่า โคตรทุเรศเลยว่ะ”
 

ธาราธารเน้นถ้อยคำเสียดสีทุกคำพูด วารินเจ็บจนน้ำตาเล็ดยกสองมือจับรั้งมือเขาไว้ไม่ให้กระชากแรงไปกว่านี้ ใบหน้าคมแดงจัดแววตาคุกรุ่น มีแต่ความโกรธเกรี้ยวดุดัน ขณะที่ทัตพลก้าวเซถอยหลังจนขาชนเข้ากับโซฟาอย่างหมดแรง  แค่คำพูดทั้งหมดที่ธาราธารพูดมาก็อธิบายเรื่องราวทุกอย่างครอบคลุม  คนที่เป็นเหยื่อที่น่าสงสารที่สุดของเรื่องราวก็คือภัครจิรากับวาริน  เขาจ้องมองใบหน้าเล็กๆที่เชิดขึ้นอย่างเจ็บปวดเมื่อโดนจิกผมอยู่แบบนั้นแล้วหัวใจกระตูกวูบ
 

“ธารปล่อยทรายเดี๋ยวนี้ ทรายไม่รู้เรื่องถ้าคิดจะโทษให้โทษ...(พ่อ)...โทษฉันคนนี้แทน”  เขาอยากจะใช้คำว่าพ่อแต่รู้ว่าคงไม่มีสิทธิ์จึงได้แต่เปลี่ยนคำพูดในที่สุด
 

“ไม่ต้องแย่งกันรับผิดหรอก เพราะมันก็ผิดด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว น่าสมเพชจริงๆนะ คนอย่างคุณ” ธาราธารเหยียดริมฝีปากเย้ย ผลักวารินกระเด็นไปหาทัตพลอย่างแรง เขารับเอาไว้เกือบไม่ทัน
 

“ไปสิ! ถ้าอยากจะไปก็เชิญออกไปตอนนี้ได้เลย ไสหัวออกไปจากที่นี่ได้แล้ว ทั้งคู่เลยไป!!”
 

เขาตวาดลั่นชี้นิ้วไล่อย่างไม่ให้เกียรติ กรามแกร่งบดเบียดจนสั่นมองใบหน้าเล็กของวารินแล้วยิ่งเจ็บใจ ภาพในวีดีโอเคลื่อนไหวเป็นช็อตๆ อยู่ในหัวของเขา  คว้าจับของใกล้มือขึ้นมาฟาดลงอย่างระบายอารมณ์ วารินรีบลากทัตพลออกมาด้านนอก
 

“คุณทัตกลับไปก่อนนะครับผมขอร้อง....ช่วยกลับไปก่อน ไว้เรื่องดีขึ้นเมื่อไหร่ผมจะโทรบอก ถ้าอยากรู้ข่าวคุณภัครโทรมาถามผมได้แต่ขอร้องอย่าเพิ่งมาช่วงนี้เลย” วารินพูดร้อนรนทั้งผลักทั้งดึงให้เขาลงไปที่รถ
 

“ทรายคงลำบากมากใช่ไหม....ลำบากเพราะฉัน”  เขายกมือลูบศีรษะเล็กๆ ปวดร้าวไปถึงขั้วหัวใจกับหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้า


“ผมไม่เป็นไรครับ ผมทนได้คุณไปเถอะนะครับ ผมต้องรีบเข้าไปด้านในแล้ว” มือเล็กดันทัตพลเข้าไปนั่งในรถปิดประตูให้แล้วรีบเดินเข้าไปในบ้าน ข้าวของตกเกลื่อนกลาดอยู่ที่พื้น ธาราธารยืนเท้าสะเอวจ้องเขม็งดวงตามีเปลวไฟลุกโชน
 

“ร่ำลากันจนพอใจไหม ทำไมไม่ตามไปอยู่ด้วยกันเลยล่ะฮึ!” เขาเดินหน้าเข้าหา กระชากแขนเล็กขึ้นมาบีบจนสุดแรงส่งเสียงลอดไรฟันอย่างคั่งแค้น วารินเจ็บจนนิ่วหน้า
 

“คิดถึงคืนวันเก่าๆกับเขาแล้วเสียดายรึไงทำหน้าแบบนั้น มานี่!”
 

“ธาร!”
 

วารินร้องอย่างดังเมื่อธาราธารฉุดกระชากลากไปที่บันได ข้อขาเล็กสะดุดลงที่บันไดขั้นแรกตัวหล่นฮวบลงไปกองอยู่ที่พื้นขณะที่เขายังจับท่อนแขนแน่นไม่ยอมปล่อยแล้วลากถูลู่ถูกังขึ้นไปจนถึงชั้นบน วารินปวดร้าวไปทั้งตัว
 

“ธารพี่เจ็บ! ใจเย็นๆ”
 

ธาราธารเปิดประตูห้องตัวเองแล้วเหวี่ยงโครมร่างเล็กเข้าไปด้านในไม่สนใจวารินจะเจ็บหรือไม่ เขาตอนนี้หน้ามืดตาบอดถูกความโกรธแค้นเข้าครอบงำไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเล็กๆของวารินอีกต่อไปแล้ว
 

“ร่าน! อยู่ที่ไหนเที่ยวแบให้เขาไปทั่ว ให้ท่าคนนี่เก่งนักนะปรนเปรอแบบไหนล่ะเขาถึงได้ติดใจตามมาหาถึงที่นี่ ร้อยวันพันปีไม่เคยมาเหยียบพอพี่มาอยู่แค่วันเดียวรีบแจ้นมาหา  อ้อหรือว่านัดกันเอาไว้ ร้ายไม่เบานี่ พ่อผมก็จะเอา แม้กระทั่งคนสวนบ้านผมก็ไม่เว้นแบบนี้ไม่เรียกว่าร่านธรรมดาแล้วเขาเรียกว่าร่านมาก!  สำส่อน!!”
 

มือแกร่งเข้าบีบคางเล็กแน่นวารินหน้าเบ้เพราะเจ็บปวดสุดทานทน ธาราธารกำลังควบคุมตัวเองไม่ได้
 

“ธาร! พี่เจ็บ ปล่อย!” 
 

มือเล็กทุบตีเขาหวังเรียกสติแต่ธาราธารกลับไม่สะทกสะเทือนอะไรเลย เขาลุกขึ้นลากวารินขึ้นมาแล้วเหวี่ยงร่างทั้งร่างโครมลงที่เตียง  เขาปลดกระดุมเสื้อลงแล้วเดินหน้าเข้าหาด้วยแววตาที่ลุกโชน วารินถดตัวหนีทันทีมือแข็งแกร่งตรงเข้ากระชากข้อเท้าเล็กเหวี่ยงลงที่กลางเตียง ร่างกายสูงใหญ่ขึ้นคร่อมจนมิดวารินทั้งผลักทั้งถีบในขณะที่เขารวบสองมือเล็กกดลงที่เหนือหัวใช้ท่อนขาแข็งแรงของเขากดทับลงมาที่หน้าขาเล็กจนวารินน้ำตาไหลพรากด้วยความกลัว
 

“ธาร..อย่าา..”
 

เสียงร้องไห้หน้าสงสารส่งไปไม่ถึงจิตใจที่ดำมืด ธาราธารจดจ้องใบหน้าเล็กนั่นเหมือนอยากให้มอดไหม้เป็นผุยผง วารินส่ายหน้าทั้งน้ำตาให้กับคนที่หัวใจเย็นชาไร้ความรู้สึกไปแล้ว
 

“คนต่ำๆแบบพี่มันก็ต้องโดนทำเรื่องต่ำๆแบบนี้ ก็สมควรแล้ว ไม่อยากรู้รึไงว่าพ่อกับลูกใครมันจะถึงใจกว่ากัน ผมจะสงเคราะห์ให้สักครั้ง แล้วก็ไม่ต้องคิดเข้าข้างตัวเองนะว่าผมจะจริงจังจริงใจอะไรด้วยเพราะคนอย่างพี่มันก็เป็นได้แค่ไอ้ตัวอีตัวแก้ขัดเมื่อผมอยากมันก็เท่านั้น ไม่มีค่าอะไรเลยสักนิด!”
 

น้ำตาทะลักทะลายออกจากตาดวงน้อย วารินเจ็บปวดยิ่งกว่าโดนตอกหมุดลงกลางหัวใจ คำพูดของเขามีแต่จะประหัตประหารให้ตายลงทีละน้อย  ธาราธารแสยะรอยยิ้มร้ายออกแรงกดร่างเล็กให้จมลงที่เตียงกว้าง มือแกร่งตรงเข้ากระชากเสื้อยืดตัวเล็กขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี
 

“ธาร! อย่า...ได้โปรด!” วารินเบิกตากว้างตกใจสุดขีดเมื่อเขากระชากเศษเสื้อที่เหลืออยู่ออกทั้งหมดแล้วเหวี่ยงปลิวหวือออกไปที่ปลายเตียง หน้าอกเปลือยสีผิวน้ำนมเหมือนผิวเด็กๆลอยเด่นอยู่ต่อหน้าเขา
 

“หึ  มิน่าล่ะถึงได้ติดใจกันนัก เดี๋ยวคอยดูเอาเองแล้วกัน ว่าพ่อกับลูกใครมันจะอึดแล้วก็ทานทนกว่ากัน” สิ้นคำพูดเสียดสีดูแคลนใบหน้าคมซุกลงที่ซอกคอขาวเนียนทันที เขาไม่ได้ปราณีวารินแม้แต่น้อยทั้งกัดทั้งดูดขบเม้มจนวารินสะดุ้ง มือเล็กทั้งผลักทั้งตีทั้งทุบ วารินดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากร่างกายสูงใหญ่ที่กดทับอยู่  เขาขบกัดจนขึ้นรอย ลามลงมาที่ยอดชูชันสีสวยแล้วครอบริมฝีปากดูดดึง
 

“ธาร! เจ็บอย่า อ๊ะ...” วารินสะดุ้งขนลุกเกรียวไปทั้งตัว เขาครอบครองอยู่เนิ่นนานกว่าจะย้ายไปอีกฝั่งขณะที่คนตัวเล็กนอนสะอึกสะอื้นอย่างหมดอาลัย
 

“บอกว่าอย่าแต่ร่างกายพี่มันไม่ใช่อย่างนั้นนี่นะ”
 

เขาละใบหน้าออกมามองด้วยสายตาโลมเลียปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความเย้ายวนบนเรือนกายนี้มิอาจมีสิ่งใดที่ทำให้เขาสนใจได้อีก   มือหนาเลื่อนลงไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของวารินร่างเล็กถดตัวถอยหนีทันที
 

“อย่านะ! พอแล้ว ธารพอได้แล้ว!” เสียงเล็กๆสั่นเครือส่งสายตาอ้อนวอน ธาราธารมองดูร่างสีขาวนวนเนียนเบื้องล่างกวาดตาไปทุกสัดส่วนเขาเริ่มปลดตะขอกางเกงวารินออก
 

“ธาร! ไม่เอา!” วารินสะดุ้งตาเบิกกว้างร้องขอเขาเสียงสั่น มือเล็กที่เพิ่งถูกเขาปล่อยให้เป็นอิสระทั้งทุบทั้งตีคนตัวโตที่คร่อมอยู่ด้านบน
 

“อย่าทำ!  พอแล้วไม่เอานะ!” วารินร้องเสียงหลงเขากระชากกางเกงลงไปกองอยู่แทบเท้าแล้วถีบให้หลุดลุ่ยลงไปที่ปลายเตียง ลากร่างเล็กเปลือยเปล่าเหวี่ยงให้นอนขวางกลางเตียงสีขาวนุ่ม วารินจุกจนตัวงอ เสื้อเชิ้ตนักศึกษาของเขาลงไปกองอยู่ที่พื้น เขาปลดหัวเข็มขัดแล้วเดินหน้าเข้าหา
 

ขณะเขาถอดกางเกงออกวารินเห็นหนทางรอดสุดท้ายลุกวิ่งลงจากเตียงเกือบจะถึงประตูอยู่แล้วแต่มือใหญ่เอื้อมมากระชากร่างเล็กปลิวหวือเข้าซบกลางหน้าอกกว้างของเขา วารินดิ้นจนสุดแรงทั้งทุบทั้งตีจนธาราธารสุดจะทนอุ้มคนตัวเล็กขึ้นแล้วเหวี่ยงโครมลงที่เตียงอีกครั้ง เขาไม่รอช้าร่างกายกำยำเปลือยเปล่าตรงเข้าหา  วารินตาเบิกกว้างตกตะลึงเมื่อได้เห็น ‘เนื้อแท้’  ทุกสัดส่วนของเขาเต็มสองตา
 

“ชอบใช่ไหม รูปร่างแบบนี้ไงที่ใครๆก็อยากได้กัน เห็นแล้วคงจะอยากโดนตอกแรง ๆ ล่ะสิท่า” เขาพูดจบไม่รอช้าขึ้นทาบทับลำตัวเล็กทันที วารินถูกรวบไว้ทั้งสองมือ
 

“อื้ออ...” เขาฉกจูบบดบี้กลีบปากบางด้วยความเร็วแรงและดุดันจนวารินร้องไม่ออก ลิ้นร้อนที่ดุนดันเข้ามายิ่งกว่าคนหิวโหยหื่นกระหายหยาบคายและจาบจ้วง เขาเลื่อนมือมาบีบคางเล็กให้อ้ารับทุกสัมผัสวารินรีบทุบตีเขาทันที
 

“ไม่!..ฮึกก..อื้ออ ออกไป!” เสียงเล็กๆอู้อี้ ทั้งทุบทั้งตี จิกข่วนสารพัดแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร วารินน้ำตาไหลนองเจ็บระบบในปากไปหมด ใบหน้าเล็กเชิดหาอากาศหายใจอย่างยากเย็นแก้มนวนเนียนมีแต่รอยน้ำตา
 

เมื่อเขาละใบหน้าออกมาสายตาสบประสานนิ่งงันเขายิ้มราวกับผู้มีชัย กระซิบติดริมฝีบางเฉียบ “ถึงใจไหม กับคนร่านๆแบบพี่”  ยิ้มของเขาคือรอยยิ้มที่เหี้ยมเกรียมยิ่งกว่าซาตานร้าย วารินน้ำตาไหลพรากๆกัดกรามเล็กไว้แน่นไม่มีทางยอมเปิดให้เขาเข้ามาได้อีกแน่
 

“อย่าคิดว่าจะต่อต้านผมได้ คนอย่างผมถ้าได้เกลียดแล้วเกลียดจนวันตาย!” เขาจับคางเล็กเชิดขึ้นแล้วบีบแน่นจนสุดแรงวารินครางอย่างเจ็บปวดใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน
 

“จะร้องทำไมกัน! จะต่อต้านทำไม! ทีกับพ่อผมเห็นดิ้นพราดๆเข้าหาเหมือนตายอดตายอยากมาจากไหน ผมเองก็ไม่ได้ไร้ประสบการณ์นักหรอกนะ พอจะตอบสนองให้พี่แบบหนักๆได้อยู่ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” เขายังตอกย้ำด้วยรอยยิ้มที่กระตุกเอาใจดวงน้อยให้หล่นฮวบไปทั้งดวง ยิ้มที่เหี้ยมโหดเหมือนจะฆ่ากันลงบนแท่นประหารนี้ให้จงได้
 

“ดีใจซะนะที่คนอย่างผมอุตส่าห์ลดตัวยอมเกลือกกลั้วกับพี่ขนาดนี้” เขาเหวี่ยงหมอนใบโตปลิวหวือออกไปให้พ้นขอบเขตของเตียง กระชากผมนิ่มจนใบหน้าขาวให้แหงนเงยพร้อมฝังใบหน้าคมคายซุกไซ้ลงไปกวาดเอาความหอมหวานของซอกคอขาวเนียน วารินร้องไห้อย่างหมดอาย เจ็บสุดแสนน้ำตาไหลแล้วไหลอีกไม่เหลือสภาพของคน ปล่อยให้ร่างใหญ่โตทำตามแต่ใจโดยหมดแรงจะต่อต้านสิ่งใดแล้ว ธาราธารลากไล้ริมฝีปากขึ้นไปครอบครองใบหน้าขาวเนียนเขาจูบลงทุกที่ทุกส่วน ตีตราเป็นเจ้าของทุกตารางนิ้วบนร่างกายที่เขาทั้งหลงใหลและชิงชัง วารินนอนน้ำตาไหลพราก
 

ร่างเล็กบิดแอ่นเมื่อเขาลากลิ้นร้อนละเลงดูดดึงอยู่ในส่วนชูชัน มือใหญ่ขยำกำบดบี้เม็ดสีสวยอีกข้าง “อ๊าา....” เสียงหวานครางกระเส่าไม่รู้ตัว วารินเผลอโอบรอบคอเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาขึ้นมาจูบลงที่ริมฝีปากสวยอีกครั้งและอ้อยอิ่งอยู่เนิ่นนาน บดเบียดร่างกายส่วนล่างเข้ากับหน้าขาขาวเนียน มือแกร่งลากไล้โคนขาขาวไล่ไปจนถึงสะโพกสวยวารินบิดกายอย่างเสียวสะท้านขนลุกซู่ไปทั้งตัว “อาา” ธาราธารปวดหนึบแทบอยากระเบิดออกมาเสียตอนนี้ แค่เห็นคนที่อยู่ในอ้อมกอดบิดกายเร่าร้องมันเรียกความเสน่หารัญจวนจากใจเขาได้ทั้งหมด เขาใช้สองขาแยกขาเรียวให้แยกอ้าออก เลื่อนตัวลงไปครอบครองลงที่ส่วนที่ชูชันท้าทายสายตาเขาอยู่
 

“อ๊าา..ฮ..อื้มม” วารินครางฮือส่ายหัวอย่างสุดเสียวเมื่อเขาเริ่มไล้ลิ้นเข้าที่หัวสีชมพูนิ่ม เขาไม่เคยปรนเปรอให้ใครหน้าไหนทั้งนั้นแต่กับวารินเขาห้ามใจตัวเองไม่ได้จริง ๆ แค่ได้มองใบหน้าเล็กส่ายไปมาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วร้องครวญครางในลำคอมันทำให้เขาย่ามใจ
 

เขาลากไล้เลียรูดรั้งด้วยริมฝีปากจนธารรักร้อนแตกออกเป็นสายวารินเสียงกระเส่าจิกหัวเขาจนสั่น ปลายเท้าเล็กจิกแน่น เขาไม่รอช้าปาดน้ำสีขาวลากลงมาที่ช่องทางสีสวยปราการด่านสุดท้าย กดนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะใบหน้าหวานเหยเกทั้งสุขสมและเจ็บปวดเมื่อเขาเพิ่มนิ้วเป็นสองและสามวารินร้องลั่นประท้วง จนเขาต้องขึ้นมาจูบปิดริมฝีปากสั่นระริกนั่น
 

“ฮ..อื้ออ.ธาร..”ธาราธารย้ำเข้าออกอยู่อย่างนั้นเมื่อถูกจุดกระสันวารินเกร็งและร้องลั่นขึ้นมาอีกสองแขนเรียวกอดคอเขาไว้จนแน่น  เขาจ้องมองใบหน้าเหยเกด้วยความสุขสมโน้มตัวลงมากระซิบชิดริมหู “เอาที่ใหญ่กว่านี้ไหม อยากได้ไหม หืมม” วารินส่ายหน้าทั้งร้องปฏิเสธทั้งอยากได้ปนมั่วกันไปหมด
 

“อ๊าา..ธารอย่าแกล้งได้โปรด” เสียงหวานครางกระเส่าสั่นพร่าจนเขาแทบระเบิดออกมาเขาขบกรามอย่างอดทน
 

“อยากได้ต้องทำยังไง ไหนลองบอกผมซิ” ปลายนิ้วร้ายยังคงหยอกล้ออยู่ไม่หยุดวารินตัวสั่นสะท้านใบหน้าเล็กๆส่ายไปมาอย่างเอาแต่ใจ
 

“ธารอย่าแกล้งกัน พอแล้วออกไป!” แม้ปากจะบอกให้ออกไปแต่ร่างกายกลับต่อต้านอยากรับเขาเข้ามาปานจะขาดใจ วารินร้องไห้หนักไม่เข้าใจหัวใจตนเอง ธาราธารเห็นเขาเป็นแค่ของไร้ค่าหวังจะทำให้เจ็บปวด ตีค่าเขาเป็นแค่คนร่านๆไร้ค่าเป็นที่ระบายอารมณ์แต่เขากลับรักคนๆนี้เข้าแล้ว หัวใจดวงน้อยสะอึกสะอื้นเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อหน้า
 

เขาถอนนิ้วออกไปใช้ขาแกร่งแยกสองขาเล็กให้อ้ากว้างแทรกฝังตัวตนของเขาเข้าไป ขยับเข้าทีละนิด วารินกรีดร้องดังลั่นกอดเขาจนแน่น “อ๊าา..ธารไม่เอา! ออกไป! อื้ออ..” ธาราธารก้มลงมาจูบปิดปากเมื่อเห็นว่าเสียงเล็กเริ่มครางกระเส่าอย่างลืมอาย เขาค่อยดันเข้ามา ดันเข้ามา ขณะที่วารินส่ายหน้าหนีจากปากของเขาแล้วร้องเพื่อระบายความเจ็บปวด ธาราธารใหญ่ จนเกินไป วารินเจ็บจนน้ำตาพรากลงสองแก้มมือเล็กจิกลงที่นอนหนานุ่มอย่างสุดเหลือของความเจ็บ เขาจับสองมือมากอดคอเขาไว้ขณะเผลอยกมือลูบหัวเล็กๆนั่นริมฝีปากฉกวูบลงอีกครั้งแต่คราวนี้กลับอ่อนโยนไม่ป่าเถื่อนเหมือนครั้งแรก   เขาดันเข้ามาได้จนจมมิดแท่งขณะที่คนตัวเล็กกรีดร้องเสียงลั่น ร่างกายเหมือนถูกจับฉีกแยกธาราธารจับใบหน้าเล็กล็อกแล้วจูบซ้ำๆนับครั้งไม่ถ้วน
 

“อย่าเกร็ง” เสียงทุ้มแหบสั่นพร่า เขาแทบจะระเบิดเมื่อถูกบีบรัดจากช่องทางคับแคบ ร่างกายใหญ่เริ่มเคลื่อนไหวช้า ๆ เขาตัดสินใจถอนออกทั้งหมดแล้วค่อยใส่กลับมาใหม่วารินหายใจโล่งได้ไม่ถึงสองวินาทีด้วยซ้ำก็กลับมากรีดร้องลั่นอีก
 

“อ๊าา...ธาร..” ไม่มีอะไรจะต้องอายอีกแล้วเสียงหวานครางกระเส่าเนื้อตัวสั่นเทิ้มร้าวระบมไปทั่วทั้งกาย ธาราธารเริ่มเปลี่ยนจังหวะให้เร็วขึ้นอีกนิดโน้มตัวลงกอดคนข้างล่างไว้แน่น เขาไม่รู้ทำไมคราวนี้ตัวเองไม่ใช้ถุงยางอนามัยทั้งที่ทุกทีไม่เคยขาด รู้แต่เพียงว่าเขาอยากสัมผัสทุกส่วนของคน ๆ นี้เขาอยากครอบครองอยากฝากรอยรักไว้ทุกสัดส่วนบนร่างกายนี้
 

“ฮ..อื้อ..อ๊าา ธาร” วารินครางกระเส่า  เขายันตัวขึ้นเกี่ยวท่อนขาขาวข้างหนึ่งขึ้นมาพาดไว้บนบ่าแล้วจัดการกระแทกกายลงไปวารินร้องลั่นปัดป่ายมั่วไปหมด มือเล็กจิกลงบนที่นอนกว้างธาราธารจ้องมองใบหน้าหวานส่ายไปมาอย่างสุดที่จะทนเขาซู้ดปากข่มอารมณ์อย่างหนัก
 

“ซี๊ดส์ อ่าา..” รู้สึกว่าร่างกายไม่ไหวแล้วจะแตกเสียให้ได้ เขารีบถอนกายออกแล้วพลิกจับคนตัวเล็กคว่ำหน้าลงที่เตียงรั้งสะโพกขาวเนียนให้ลอยเด่นต่อหน้าต่อตาสอดแทรกแก่นกายร้อนดั่งเปลวเพลิงกระแทกกระทั้นลงไป วารินที่คุกเข่าอยู่ซบหน้าลงบนที่นอนอย่างแสนเจ็บปวดและเสียวกระสันจนสุดจะกลั้น แท่งร้อนที่กลางลำตัวตั้งชูชันมีน้ำเยิ้มๆไหลออกมา มือแกร่งเข้าจิกผมที่ยาวเคลียไหล่ให้ใบหน้าแหงนเงยแล้วโน้มตัวเข้าหาเชยคางเล็กขึ้นมาจูบปิดเสียงร้อง เขาทั้งดูดและกัดอ้อยอิ่งอยู่เนิ่นนานกว่าจะยอมละออกมา ยกขาขาวข้างหนึ่งขึ้นตั้งชั้น สะโพกสอบเคลื่อนไหวเข้าออกอย่างชำนาญวารินใบหน้าเหยเก เสียงเนื้อหนังกระทบกันให้ลั่น ร่างเล็กร้องครางไม่เป็นภาษาเมื่อธาราธารหลับตาพริ้มเร่งจังหวะซอยให้ถี่ยิบเข้าไปอีกและความอดทนไม่เหลือรอดอีกต่อไปธารน้ำรักแตกออกมาเป็นรอบที่สองโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ได้แตะต้องรูดรั้งเลยด้วยซ้ำ
 

ธาราธารไม่สนใจผ้าปูเตียงจะเปื้อนหรือไม่ เขาจับวารินพลิกกลับนอนลงที่เตียงกว้างร่างเล็กๆหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนไม่ต่างกับเขาที่อกแน่นฟิตกระเพื่อมขึ้นลงด้วยจังหวะการหายใจที่กระชั้นถี่ กายร้อนสอดแทรกลงอีกครั้งแล้วประคองคนตัวเล็กขึ้นมาในท่านั่ง จับสองแขนเรียวคล้องคอเขาไว้ขณะที่สองมือของเขาประคองสะโพกกลมกลึงให้รับจังหวะการเคลื่อนกายเข้าออกของเขา เสียงพั่บๆๆๆดังรัวไปทั้งห้อง วารินครางฮือซบใบหน้าเล็กลงที่อกกว้าง เสียงเนื้อหนังกระทบกันทำให้เขาแทบเป็นบ้าความรัญจวนของเสียงครางอย่างสุขสม ธาราธารจูบปิดปากคนตัวเล็กอย่างแสนจะสุขเขาไม่เคยปรนเปรอให้ใครมากขนาดนี้มาก่อนวารินเป็นคนแรกและจะเป็นคนสุดท้าย
 

เคยมีคนบอกว่าบทรักของเขาทั้งดุดันรุนแรงและแสนจะอึด เป็นครั้งแรกรู้สึกสงสารคนตรงหน้าขนาดนี้ ทั้งรักทั้งแค้นจนอยากจะกดกอดให้ตกตายไปด้วยกันคิดได้อย่างนั้นเขายิ่งบดเบียดสะโพกแรงเข้า  เตียงแข็งแรงสั่นสะเทือน น้ำเสียงหวามไหวร้องครางอย่างสุขสม เขากะจะเอาให้เสร็จท่านี้แต่วารินเหนื่อยจนตัวทรุดนอนหงายลงไปเขาจึงโน้มตัวลงไปกอดเกี่ยวสองขาเรียวไว้ด้วยท่อนแขนแกร่งกระหน่ำสะโพกซอยลงไปจนใบหน้าเล็กบิดเบี้ยวส่ายไปมาด้วยความรัญจวนใจ เขามิอาจอดทนต่อการบีบรัดอีกต่อไปแล้วเงยหน้าครางในลำคออย่างสุขสม
 

“อ่าาา...อืมม” ธารารักสีขาวขุ่นร้อนฉีดพรั่งพรูเข้าใส่ร่างที่นอนกระตุกบิดเร่า ๆ อยู่เบื้องล่าง
 

“อ๊าาส์...” วารินเสร็จพร้อมเขาอีกครั้งและเป็นครั้งแรกที่เขาก้มลงมาตระครองจูบอย่างรักใคร่หลงลืมความคับแค้นที่สุมอยู่ในอกไปจนหมด ธาราธารจูบฝังรอยรักลงไปที่เรือนผมหอมจูบซ้ำย้ำๆลงมาจนถึงริมฝีปากสวย เขารักคน ๆ นี้หมดทั้งหัวใจไม่มีใครคนไหนที่จะมาพรากคนๆนี้ไปจากเขาได้อีกแล้ว วารินเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ เขาจะไม่ยอมยกให้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น ร่างสูงใหญ่ทรุดตัวลงนอนข้าง ๆ หายใจหอบถี่มองดูคนตัวเล็กที่นอนหายใจรวยรินไม่ได้ต่างกันเลย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 25-03-2014 20:58:51
ใครว่าเขาไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่เขาทำ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลร้าวลึกยิ่งกว่าสิ่งไหน ภาพที่คนตัวเล็กข้างกายก่ายกอดอยู่กับพ่อของเขาแวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง ซ้ำร้ายภาพของภัครจิราที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงยังเข้ามาย้ำถึงสถานะของเขากับคนข้าง ๆ ร่างสูงใหญ่ลุกพรวดมองใบหน้าเล็กด้วยแววตาเกลียดชัง คว้าเสื้อที่โดนเขาฉีกจนขาดวิ่นปาลงใส่ใบหน้าสวย วารินปรือตามองอย่างเหนื่อยอ่อน
 

“ลุกขึ้น!” เขาว่าเสียงดัง ตรงเข้ากระชากข้อมือเล็กที่บัดนี้ขึ้นรอยเป็นสีแดงช้ำ
 

“อย่ามาทำเป็นสำออยลงไปนอนในที่ของพี่ได้แล้ว ห้องคนใช้โน่น!  แค่ผมยอมลดตัวลงไปนอนด้วยนี่ก็มากเกินพอแล้วอย่าคิดฝันไปไกลนะ คนอย่างพี่มันก็เป็นได้แค่ไอ้ตัวอีตัวบำเรอกามให้ผมแค่นั้นแหละไม่มีวันได้เป็นตัวจริง  คนที่ลอบเป็นชู้กับผัวคนอื่นคิดว่าจะมีใครเขารักจริงรึยังไง ลุกขึ้น! ออกไปได้แล้ว! ไป!!”
 

วารินน้ำตาไหลพรากลงสองแก้มอย่างร้าวรานประคองกายเปลือยเปล่าลุกขึ้นอย่างน่าเวทนา น้ำสีขาวขุ่นผสมกับสีแดงช้ำของเลือดไหลลงที่โคนขาขาวหยวก มือเล็กๆกอบกุมเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นยิ่งกว่าผ้าขี้ริ้วไว้ในอ้อมอก ก้มลงหยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่อย่างขมขื่น ธาราธารมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่แหลกสลายไม่มีชิ้นดีเขาเหมือนโดนมีดกรีดเฉือนลงที่กลางใจ ส่วนลึกในหัวใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดจ้องมองคนตัวเล็กเงียบ ๆ  วารินเองก็เงียบไม่พูดจาอะไรเลยมีแต่น้ำแต่น้ำตาเท่านั้นที่ไหลลงมาเหมือนไม่มีวันจะหยุด เขาก้าวเข้ามาหวังประคองร่างเล็กที่สั่นเทิ้มนั่น ทว่าก็ต้องหยุดชะงักไว้กลางทาง
 
 

...อย่าไปหลงเชื่อ การกระทำไร้เดียงสาแบบนั้นความจริงร่านแค่ไหนในวีดีโอก็ฟ้องอยู่...
 

 
ร่างเล็กทรุดฮวบกองลงที่พื้น เขาปราดเข้าประคองอย่างลืมตัว วารินผลักไสเขาทั้งที่จมมิดอยู่ในอ้อมกอดร่ำไห้ปานจะขาดใจ  ร่างกายเล็กๆสั่นเทิ้มอย่างน่าสงสาร ธาราธารข่มกรามแน่นบดกรอดจนเป็นสันนูนเพื่อห้ามหยาดหยดน้ำตาที่กำลังจะร่วงตกลงมา
 

“ออกไป ออกไปให้พ้น! คนเลว! อย่ามาแตะต้องกัน ธารไม่มีสิทธิ์! จะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว ออกไป! อย่ามาแตะต้องกัน!” ร่างเล็กทุบตีเขาด้วยกำปั้นที่แสนจะอ่อนแรงกับหัวใจที่สุดแสนชอกช้ำ ร้องไห้จนไม่รู้ว่าจะหยุดลงได้อย่างไร
 

“ไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นเหรอ ต้องให้บอกไหมว่าผมตีตราตัวพี่ไว้ทุกตารางนิ้วแค่ไหนแล้ว” เขาบีบเข้าที่คางเล็กอีกครั้ง หัวใจถูกกระตุกวูบด้วยคำว่า ‘ไม่มีสิทธิ์’ ถ้าตัวเขาไม่มีสิทธิ์แล้วใครหน้าไหนกันที่จะมีสิทธิ์
 

“อย่าคิดมาลองดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทุกคืนให้ขึ้นมารอผมที่นี่ ทำให้ผมพอใจเสร็จแล้วก็ไสหัวกลับไปนอนที่เรือนคนใช้เหมือนเดิม คนร่าน ๆ มันต้องโดนแบบนี้แหละถูกต้องแล้ว มานี่!”
 

เขาลุกขึ้นทันทีลากคนตัวเล็กไปโยนไว้ในอ่าง เปิดน้ำทั้งเย็นทั้งร้อนใส่อย่างไม่แคร์ วารินดิ้นพราดๆ เขาก้าวเข้ามานั่งลงข้าง ๆ กอดรัดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนแน่น มือหนาปลดตะขอกางเกงคนตัวเล็กลงอีกครั้งวารินเบิกตาตื่นตะลึงดิ้นจนสุดแรงเท่าที่ร่างกายจะทำได้ขณะที่ธาราธารกระชากกางเกงทิ้งออกไปอย่างไม่ใยดีจับวารินหันหน้าเข้าหาตัวแล้วลุกล้ำเข้ามาที่ช่องทางด้านหลังด้วยมือ วารินเจ็บร้าวจนร่างกายสั่นเทิ้มไปหมดเขากดศีรษะคนตัวเล็กลงที่บ่าขณะที่อีกมือกวาดต้อนเอาคราบคาวโลกีย์ที่เขาเป็นคนฉีดพ่นลงไปออกจากช่องทางรักใบหน้าเล็กแดงซ่านร้อนฉ่าก้มหน้าแน่นอยู่ที่บ่ากว้าง
 

เขากระชากผมนิ่มให้ใบหน้าแหงนเชิดแล้วบดจูบลงไปอีกครั้งร่างเล็กถูกจับให้นอนอยู่บนร่างกายของเขา สองคนแลกจูบกันอยู่เนิ่นนาน เขาลืมตัวครางเสียงต่ำออกมาด้วยความรัญจวนขณะที่ท่อนแขนเรียวยกขึ้นกอดรอบคอเขาไว้อย่างไม่รู้ตัวเช่นกัน ธาราธารหลับตาพริ้มสอดมือเข้าตามกลุ่มผมของคนตรงหน้าขณะที่สะโพกเริ่มบดเบียดกันอีกครั้ง น้ำในอ่างกระเพื่อมเป็นสาย แต่ทว่าทุกอย่างกลับมาสู่ความจริงอีกครั้งเมื่อเขาเลือกที่จะนึกไปถึงภาพงี่เง่าในวีดีโอนั้นอีก เขาเลื่อนตัวลงใต้น้ำแล้วกดหัววารินลากลงมากับเขาขณะที่ริมฝีปากยังจูบแน่นไม่ยอมปล่อย วารินตาเหลือกเมื่อถูกดึงลงก้นบ่อ ร่างเล็กดิ้นจนสุดแรงขณะที่เขากอดรัดไว้ไม่ให้โผล่หน้าขึ้นมาพ้นน้ำได้ วารินเหมือนคนจะขาดใจมือไม้ปัดป่ายขาเล็กเตะถีบแต่ด้วยขนาดตัวที่ต่างกันเกินไปธาราธารยังจูบปิดปากเขาแน่นอยู่แบบนั้นนานจนกระทั่งเหมือนร่างเล็กๆจะหยุดนิ่งทุกๆอย่างธาราธารจึงกระชากเขาสองคนโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำรับอากาศเบื้อบนอีกครั้งวารินอ้าปากหอบเอาอากาศทั้งหมดที่จะคว้าได้เข้าสู่ปอดอย่างรวดเร็วหายใจถี่และรัวด้วยความหวาดกลัวน้ำตาไหลนองลงมาอีกครั้ง
 

“คนใจร้าย ฮึกก..ใจร้าย..” เสียงสะอื้นดังออกมาอย่างเจ็บช้ำ ความกลัวและความเสียใจไหลอาบลงมาด้วยความร้าวระทม
 

“จำเอาไว้นะ ตัวพี่เป็นของผม เป็นของผมเท่านั้น! ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์อีกแล้ว!” ฉับพลันที่พูดจบ เขาพลิกคนตัวเล็กให้หันหน้าไปอีกฝั่งวารินคว้าจับขอบอ่างไว้แทบไม่ทัน เขาบดเบียดแทรกกายร้อนลงมาที่ด้านหลัง ร่างเล็กกรีดร้องดังลั่นขณะที่น้ำกระเพื่อมถี่ ธาราธารกดสะโพกเล็กจนแนบแน่นแล้วสวนเข้าออกเป็นจังหวะ เสียงผิวเนื้อกระทบกันอยู่ในผิวน้ำดังลั่นสะท้านไปทั้งห้อง วารินครางฮือเมื่อเขาโน้มตัวลงจูบซับที่แผ่นหลังทุกที่ทุกตารางนิ้วบนร่างกายไม่มีส่วนไหนเล็ดลอดจากมือ ปากและลิ้นของเขาที่ทำงานสัมพันธ์กันดีไม่มีที่ติ วารินครางออกมาอย่างสุขสมปนขมขื่นขณะแก่นกายเริ่มกระตุกด้วยความเร่าร้อนอีกหน มือใหญ่เอื้อมจากด้านหลังเข้ารูดรั้งขยับสะโพกสอบแนบเป็นจังหวะเดียวกัน
 

“ซี้ส..อ่าา...” เขาซู้ดปากดังลั่นสุขสมจนแทบสำลัก ขณะวารินปล่อยธารรักข้นคลั่กจากการถูกรีดแล้วรีดอีก ออกมาอีกรอบทรุดฮวบลงที่ขอบอ่างเหลือแต่อีกคนเท่านั้นที่ตอนนี้ดูเหมือนจะหมดความอดทนแล้วเช่นกันธาราธารชักกายร้อนออกมาอย่างร้อนรน มันแข็งและร้อนราวไฟลวกมือหนาจิกผมอีกคนให้หันใบหน้ามาแล้วรีดเร้นเอาลาวาขาวขุ่นร้อนพุ่งเป็นสายเข้าใส่ที่ใบหน้าขาวเนียน “อ่าา....”
 

“เป็นไง? มีตรงไหนอีกไหมที่บ่งบอกว่าผมไม่มีสิทธิ์ในตัวพี่” เขากระซิบถามชิดริมใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำรักคาวโลกีย์ วารินน้ำตาไหลพรากลงสองแก้ม ร้าวรานไปทั้งร่างกายและหัวใจ เขากระชากสายฝักบัวลงมาแล้วกดราดรดลงศีรษะเล็กชะล้างคราบโลกีย์กดแชมพูเพื่อชโลมเส้นผมให้อีกคน วารินนั่งก้มหน้านิ่งแขนเรียวเล็กกอดตัวเองอย่างหนาวสั่น เขาลุกขึ้นแล้วดึงเอาคนตัวเล็กลุกขึ้นมายืนข้างกัน ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ถูกโยนคลุมให้ขณะที่เขายืนมองด้วยสายตาเย็นชา วารินค่อยเดินออกมาด้านนอกสั่นเทาอย่างกับลูกนกเพราะแอร์หนาวมาก ร่างสูงใหญ่เดินไปกระชากเสื้อเชิ้ตที่แขวนอยู่ในตู้โยนใส่คนตัวเล็กอีกครั้ง
 

“ใส่ซะ  เดี๋ยวลงไปข้างล่างมันจะอุจาดลูกตาคนอื่นเขา” เขาพูดด้วยสีหน้าที่เลือดเย็น ขณะวารินสำลักความเสียใจออกมาอีกหน ความทรมานล้นปรี่แล่นเข้ามาจุกในอก เขาไม่ได้เห็นค่าเลยสักนิด น้ำตามากมายไหลออกมาอีกครั้ง
 

“ดาว! ขึ้นมานี่ซิ”  ร่างสูงใหญ่เปิดประตูห้องออกไปแล้วตะโกนเรียกอย่างดัง เขาเรียกซ้ำอีกครั้งพักเดียวดาวก็มายืนอยู่ที่หน้าประตู
 

“พากลับลงไปที่ห้อง แล้วเธอก็ขึ้นมาเก็บเตียงฉันจัดการปูผ้าผืนใหม่ให้เรียบร้อย” เขาสั่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเป็นเรื่องปกติขณะที่วารินทั้งเจ็บทั้งอายจนอยากจะหายไปให้พ้น ๆ ดาวรีบปราดเข้ามาประคองร่างเล็กที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่ที่เตียง ค่อยพยุงลงไป
 

“พี่ทรายนอนนะเดี๋ยวดาวขึ้นไปจัดการที่นอนให้คุณธารแป็บเดียว” ดาวห่มผ้าให้คนตัวเล็กมองดูด้วยความสงสารแล้วจึงปิดประตูลงให้ วารินน้ำตาทะลักทันทีที่ภายในห้องมืดสนิท เจ็บร้าวไปทั้งกายปวดลึกไปทั้งใจ หัวใจของธาราธารทำด้วยอะไรกันทำไมถึงโหดร้ายกับเขาเช่นนี้ นึกถึงคืนวันเก่าๆที่เขาพร่ำบอกคำว่ารัก
 



        “รักนะ ผมรักพี่”
 



        “รักธารเหมือนกัน”
 
 


.........ไม่มีอีกแล้วคืนวันเช่นนั้น.......ไม่รักกันแล้วหรืออย่างไร..........
 


Tbc.

*วอนนิ่งไว้แล้วนะว่าเรื่องนี้อีโรติกนิดๆและพระเอกใจร้ายมาก*
*พยายามจะบรรยายไม่ให้หื่นที่สุดแล้ว(เราเลยคลุมขาวไว้ ระบายอ่านเอานะ)กลัวจะน่าเกลียด.. แต่ว่ามันเป็นพล็อตอ่ะ* :katai5:
*ชอบจังเลยกับคอมเมนท์ของทุกคนโดยเฉพาะอันที่ยาว ๆ อ่านไปก็ยิ้มไปมีความรู้สึกว่าคนอ่านอินจังเลยนะ ขอบคุณที่ตามอ่านกันอยู่และขอบคุณที่ตรวจคำผิดให้คราบผม*

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Viper_Wa ที่ 25-03-2014 21:11:26
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ขอทิชชู่ซักสองกล่องซิ.... :serius2:

ไม่ได้เอาเช็ดน้ำตา เอาเช็ดเลือดกำเดา  :pighaun: :m25: :hao6:

ฉาก NC โดนใจ แต่สงสารพี่ทรายว่ะ  :sad4: ธารไม่น่ารักเลยนะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 25-03-2014 21:42:54
โฮวววววววววววววววววพี่ทรายโดนหนักเลย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 25-03-2014 21:48:24
อ๊าคคคคคคคค ชอบบบบบบบบบ อยากเป็นทรายจัง :hao6: บ่งบอกว่าซาดิส

เออ ตอนนี้ค่อยรู้สึกสงสารทรายขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ ที่ต้องถูกกระทำด้วยคำพูดเสียดแทงใจและกายที่โดนแทงจนเสียดปนเสียวไม่แพ้กัน  :oo1: ยังจะมีอารมณ์เหน็บนายเอกอีกตู บอกให้รู้ว่า ฉันเข้าข้างฝ่ายรุกทุกคน :laugh:

เข้าเรื่องดีกว่า สงสารทั้งหมดเลยตอนนี้ ธารก็อัดอั้นแน่นอกไปหมด ด้วยทั้งรักทั้งแค้น ทั้งสับสน ทั้งเสียใจ กับสิ่งที่ตัวเองทำกับคนที่ตัวเองรัก เห็นไหมค่ะ ใครว่าธารร้าย ธารไม่มีเหตุผล เขารักทรายมาก มากถึงมากที่สุด มากซะจนมองข้ามความแค้นไปชั่วครู่ แต่ต้องให้เวลาธารบ้าง ใครจะทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้เร็วนัก  ทรายอดทนหน่อยนะ อีกไม่นานหรอก ธารจะรู้ความจริงและพยายามกลับมาเป็นเหมือนเดิม เราเชื่อว่าทรายต้องเข้าใจการกระทำของธาร ทรายสัมผัสได้ว่ามันยังแฝงไปด้วยความรัก ทรายก็เหมือนธารที่ยังสับสน ปรับตัวปรับอารมณ์รับธารโหมดนี้ไม่ได้ ทุกอย่างคงต้องใช้เวลา แต่หวังว่าระหว่างนี้จะไม่มีใครมาแทรกแซง หรือ ทรายเริ่มโลเลหรอกนะ คือเรารู้ไงว่าธารมันรักทราย ขนาดยอมทำให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งถุงยางมันยังไม่ใส่เลย คิดดูเถอะ มันรักแค่ไหน :m20: อย่าเพิ่งหมดรักธารมันเลยนะ ทรายก็รู้นี่ว่า ธารมันเป็นแบบนี้เพราะอะไร ให้เวลามันหน่อย  :katai2-1:

ส่วนคุณทัต คงช็อคไม่น้อยเมื่อรู้ว่าคุณภัครเป็นหนักขนาดนี้ ไหนจะความรู้สึกลูกอีก เหยื่อไม่ใช่แค่วารินกับภัครหรอก ธาร ก็เช่นกัน และอาจจะลามไปถึงธิปอีกก็ได้ ใครจะรู้ คุณทัตต้องรับมือกับลูกชายให้ดี รับด้วยความรัก และ แม่ธิปก็เช่นกันควรจะสั่งสอนให้รู้บ้างได้แล้ว เท่าที่อ่าน แม่ธิปก็ยังไม่รู้นะว่าคำสั่งตัวเองจะเลยเถิดไปแล้ว ถ้ารู้คงช็อคเช่นกัน แต่ก็อยากให้เห็นจังเลย จะได้นอนอัมพาตกินไปอีกคน ส่วน ไอ้นักสืบเห้ ขอ :z6: อีกหลายๆที ทำป่วนไปหมด

แต่สุดท้าย ที่ผิดจริงๆ คือ ทรายนะ

ถ้าวันนั้น





เป็นฝ่ายกดทัตพลซะ เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ :ling1: เห็นด้วยไหมค่ะ :jul3:

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 25-03-2014 21:57:46
ฮืออออ. จิตใจธารทำด้วยอะไร!! สงสารทรายอ้ะ
เปลี่ยนพระเอกมั้ยยยย  :katai4:
ธารอย่าโหดนักเดด ใจเย็นหน่อย
เมื่อไหร่จะรู้ความจริงซะที
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 25-03-2014 22:30:11
คุณทัตช่างหางานเข้างานงอกให้ทรายซะจริง
ด้วยฤทธิ์หึงหน้ามืดของธาร พี่ทรายโดนจัดหนักจัดเต็มเลยอะ
ก็ฟินอยู่นะ (อยากโดนแทนพี่ทราย ฮิฮิ) แต่อีกใจนึงก็สงสารพี่เค้า
แทบจะลุกไม่ไหวอะ น้องธารหื่นโหดเหลือเกิ๊นนน
ฉาก NC นี่่บรรยายได้ดีนะคะ เหมาะสมกับความร้ายกาจของน้องธาร
แอบไม่ชอบใจพี่ทรายนึดนึง ทำไมต้องออกตัวปกป้องคุณทัตด้วยอะ เอ๊ะ หรือเราคิดมากไปเอง
ไม่รู้สิ ยิ่งพี่ทรายทำดีกับคุณทัต ก็ยิ่งทำให้คุณทัตหวั่นไหวในตัวพี่ทรายนะ
ดีไม่ดี เดี๋ยวจะมีศึกพ่อลูกชิงเมียกันเกิดขึ้นละ
ส่วนน้องธาร ถึงจะโหด แต่แว้บๆนึง ก็แสดงออกมาให้รู้ว่ายังรักพี่ทรายอยู่เหมือนเดิม
เพียงแต่ไอ้ภาพหลอนนั่นแหละ ที่คอยบ่อนทำลายจิตใจ  เลยไม่สามารถให้อภัยพี่ทรายได้ลง
ต้องพ่นคำร้ายๆออกมาตลอด 

ยังไงก็รอตอนหน้านะคะ ชอบจริงๆอะเรื่องนี้ ปล.น้องธารกับพี่ทรายต้องคู่กันเท่านั้นนะคะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 25-03-2014 22:38:42
 o18 หึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึ  o18

เรื่องนี้ไม่ใสจริงๆ ไม่ดาร์กแบบดราม่าด้วย มันแซ่บ มันนัว ลำขนาดจริงเลยคุณ

ขอสารภาพ  :hao5: :hao5:
ตอนนี้เราอ่านแล้วโคตรรรรรรรสงสารธาร (#โดนคนอ่านคนอื่น  :beat:)
ตอนนี้สภาพจิตใจธารโคตรย่ำแย่อ่ะ เป็นเด็กน้อยหลงทางไปเลย
เอาตามจริงตอนนี้น่าสงสารกว่าพี่ทรายเยอะ แม่ป่วย
คนรักหักหลัง(แบบกึ่งตั้งใจ: หนีไปกับทัตไม่บอก+โดนยา)
คุณพ่อแย่งเมียที่รักมาก ที่สำคัญคุณพ่อเปิดซิงเมียถึงในเรื่องจะไม่บอกแต่ด้วยนิสัยอิเด็กธารเรื่องนี้ทำให้จิตตกแน่นอน
โลกของธารมันล่มสลายจริงๆ แต่ตัวเองก็ยังรักทรายอยู่ก็เลยเก็บทรายไว้ข้างตัว
ที่มีอะไรด้วยก็คืออยากครอบครองอยากให้ทรายรู้ว่ารัก(เหรอ?) คนที่จิตตกเรื่องความรักมันคิดยังงี้จริงๆนะ
เห็นป่ะว่าธารมันไม่ได้ทำร้ายทรายแบบคนที่แค้นสุดๆ
ถ้าเกลียดกันมากจริงๆขนาดนี้ เขาไม่ข่มขืนเองให้เสียเครดิตหรอก
เอาคนอื่นมารุมโทรมสะใจกว่าเยอะ แต่นี่ธารมันยังรักทรายไง เลยทำแค่นี้
เอาจริงๆบทข่มขืนอันนี้ไม่แรงเลยในความคิดของเรานะ
เป็นแค่"บทรัก"ของคนที่ไม่เข้าใจกันแค่นั้น แค่กึ่งๆเมียหนีไปมีกิ๊ก ไม่ได้สมกับสิ่งที่ทรายทำ
ซึ่งความผิดที่ทรายทำถึงจะเกิดจากยาแต่ผลลัพธ์มันให้อภัยไม่ได้จริงๆ => ถ้าพล๊อตน้ำเน่า รู้ความจริงแล้วก็คงคืนดี
เพราะฉนั้น พูดตรงๆ สงสารธารมากกกกกกกกกกก


อิอิ ตอนนี้ คุณทัตก็มาทำให้รู้สึกดีอีกครั้ง  :hao3:
ฉันบอกแล้วว่าคู่"ทัตทราย" มันโคตรเหมาะเลย โผล่มาแป๊ปเดียว รัศมีความเป็นห่วงเป็นใย ความปกป้อง
ให้ความรู้สึกเมะใหญ่ปกป้องเคะน้อยจากตัวร้าย? ทำเอาฟินระเบิดระเบ้อ

อ้างถึง
.........ไม่มีอีกแล้วคืนวันเช่นนั้น.......ไม่รักกันแล้วหรืออย่างไร..........
:z6: อ๊ายยยยยย พี่ทรายพูดคำนี้ออกมาได้เยี่ยงไร (อยากทั้ง  :z6:  :beat: เตือนสติมัน)
ทั้งอ่านและดูจาก พฤติกรรมของอิเด็กธาร
ยังไงก็รู้ว่ามันยังรัก มันอยากครอบครองแกจะตาย
มีแต่แกอ่ะไปอ่อยมัน ถึงจะไม่รู้ตัวก็เหอะ
'มันนะทั้งรักทั้งปกป้องแกจนคนอ่านในเล้าอิจฉา แทบจะเอาแกไปจิกตบหัวล้างน้ำแล้วขึ้นนั่งเป็นนางเอกแทนแก'


ถึงเรื่องนี้ทรายจะไม่ได้ผิดเต็มประตู แต่ด้วยนิสัยอ่อย?
ทำให้ต้องโดนธารร้ายใส่ในอนาคตอยู่แล้ว อย่างน้อยก็พี่ซีล่ะ
เล่นจูจุ๊บกันทุกวัน ถ้าพี่ซีกับทรายกินกันเองจะไม่แปลกใจเลย
พี่ทรายนี่หลอกให้คนอ่านคิดว่าใสมาหลายตอนแล้วคิดว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมได้
พอมาอยู่กับคุณทัต นี่นิสัยออกชัดเจนเลยจ้า
ว่าแกอ่ะชอบอ่อย แต่จิตใจหลอกตัวเองว่าใสๆไม่มีอะไร เป็นคนดีจิตใจงาม
ลองคิดดูแค่อยู่กับคุณทัตแป๊ปเดียวแกก็รู้สึกดีขนาดนั้นแล้ว

**************************************
อีกอย่างเราพึ่งมาวิเคราะห์ดู :katai1:
"จริงๆแล้ว ทรายรักธารจริงเหรอ"
เราอ่านจนถึงตอนนี้ เราคิดว่าทรายไม่ได้รักธารนะ อาจจะแค่ชอบ
ทรายไม่กล้าลงมาจับความรักด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้งฐานะ อายุ เพศ ความเหมาะสม

แต่ธารมันแสดงออกชัดเจน(พ่อเพลย์บอยยอมตามใจ ทำดีด้วยแบบที่มันไม่เคยทำ บอกรัก)
+ทรายไม่มีใคร+นิสัยอ่อยๆ?+รู้สึกดี => แล้วทรายมันจะกล้าปฏิเสธแบบตัดบัวไม่เหลือใยเรอะ

เลยไม่สามารถเชื่อได้ว่า ทรายรักธาร
มันเป็นแค่ความรู้สึกดีๆ+ตกบ่อทอง เลยมโนไปว่ารัก
แถมพอบอกว่ารักธาร ธารมันก็ดีใจ๊ดีใจเหมือนเด็กน้อย พี่ทรายก็อมยิ้มสิ ที่ธารมันชอบมันหลง
ถ้ารักใครชอบใครจริงๆ ทำตัวอ้อร้อมันดีแล้วเหรอ (กับพี่ซีนี่มันรู้ตัวนะ ฉนั้นว่าได้ ฮ่าฮ่าฮ่า)

*************************

ดังนั้นเมื่อทรายไม่ได้รักธาร แต่อบอุ่นกับคุณทัต
จึงขอสถาปนาคู่รักจากมุมมืด "ทัตทราย"
ซึ่งฉันจะเชียร์สุดใจขาดดิ้นแม้จะแพ้ก็ตาม หึหึหึหึหึ

ปอลิง: ฉันไม่ได้เกลียดทรายแต่วิจารณ์ตาามเนื้อผ้า
ฉันไม่ชอบอิเด็กเปรตตั้งแต่ตอนแรกๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้ชอบมากนัก แต่ฉันสงสารมันที่พยายามทำนู่นนี่ แต่เหมือนทำดีไม่ขึ้น

คนที่ฉันชอบจริงๆคือ "คุณทัต" อร๊ายยยยยยยย  :hao7:
ไม่ได้อยากให้ทรายได้คุณทัตหรอกกลัวปัญหาตามมาเยอะ
แต่เวลาอยู่ด้วยกันมันดันฟินไง แถมเราว่าคุณทัตจะดูแลทรายได้ดีกว่าอิเด็กธารนะ
คงช่วยเซฟนิสัยอ่อย(ไม่รู้ตัวได้ด้วย) ก็เลยอลุ่มอล่วยได้

คนที่ไม่ชอบคือ อิวิ และอิเด็กชนาธิป ไปไกลๆฉากจบไป ส่งไปอยู่โซมาเลียก็ได้ เวลามันออกมาในเรื่องแล้วรำคาญ

 :hao6: :hao6: สุดท้าย ขอขอบคุณคนเขียน เรื่องของคุณแซ่บเวอร์ๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 25-03-2014 22:41:59
จะร้องไห้ สงสารทรายมาก ไม่ริดจะอธิบายความจริงบ้างเลยเหรอคะ เฮ้อ แต่พูดไปก็ลดความผิดได้ไม่หมดอยู่ดี
สงสารธารด้วย ทั้งรัก ทั้งเกลียด หวงมากด้วย เจอไม่มีสิทธิ์คำเดียวนี่ขึ้นเลย รักเขาแต่ทำร้ายเขา
วันหนึ่งเขาไม่อยู่ด้วยไม่ขาดใจตายรึธารเอ๊ย คนเดียวที่พอจะอธิบายเรื่องนี้ได้คือคุณพ่อ แต่ธารจะฟังไหมก็ไม่
ซาดิสต์แท้ๆ แต่ชอบ สงสัยคนอ่านจะสาย S 5555

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 25-03-2014 22:55:42
 :o12: สงสารทั้งคู่ ผลพวงจากการกระทำของคนๆนคงที่เห็นแต่ตัว
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-03-2014 23:23:41
ยิ่งกว่าจำเลยรัก
ปวดหัว ปวดตับ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 25-03-2014 23:32:58
ธาร แล้วเธอจะเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำในวันนี้ คนเราเมื่อถึงจุดๆนึง ความอดทนที่มีมันก้อจะหมดไป ยิ่งกับทรายแล้วเราเชื่อว่าทรายจะจำทุกอย่างที่ธารทำได้หมด กัวใจทรายจิงๆเลยอ่ะ ว่าจะทนได้แค่ไหน
แต่ก้ออยากให้ทั้งคนเข้าใจกันในเร็ววัน อย่าได้มีชะนีเข้ามาเอี่ยว เพี้ยงงงงงง 55555



คนเขียนแต่งได้ดีมากค่ะ กินใจ โดนทุกอารมณ์ แค่กดไลท์ยังไม่พอ 555
ปล.ชอบNCมากค่ะ ชอบมากกกกกกกกกก(แอบหื่น) อิอิ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 26-03-2014 00:09:00
นุ้งธารสติลความปากจัดมิเสื่อมคลาย แต่ละประโยคที่นางพูดออกมานะ อื้อหือ เฉือดคนฟังเป็นชิ้นๆได้เลย แต่ไงก็ตามเราอยู่ข้างน้องนะ ซัพพอร์ตเสมอ ร้ายไงก็รักค่ะ  :-[
เพิ่งเห็นประโยชน์ของการมาของคุณทัต ทำดีๆ 555555
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 26-03-2014 00:13:43
แอร๊ยยยยยยย อ่านในโทรศัพท์ไม่ออกกับตัวสีต่าง ต้องจรลีเปิดโน้ตบุ๊คทำไมอ่านไปยิ้มไปว้า ธารไม่เห็นจะร้ายตรงไหนเลย
มีผงมีเผลอตั้งหลายช็อต การกระทำตรงข้ามกับคำพูดสุด ๆ ถึงตรงนี้หมั่นไส้ทรายอีกแล้ว บอกใสทุกตอน
แต่ตั้งแต่อ่านมานางก็เอาแต่อ่อยแล้วนางก็อ่อยอีกแล้ววววววววววววววว จะสงสารคุณทัตแล้วนะประจันกับลูกครั้งแรก
แต่พอเห็นอาลัยอาวรณ์กันเหลือเกินแล้วอารมณ์มันขึ้น ทำไมไม่ตามไปอยู่ด้วยกันเลยล่ะฮึ! (ยืมคำธาร)
คุณทรายนี่บอกสำนึกนะแต่จิตใต้สำนึกยังมีอาการต่อต้าน ตรากระกำต่อไปค่ะ อย่ามาแก้ตัวว่าไม่ผิด
เหตุที่แม่ธารเป็นแบบนี้เพราะเป็นทรายที่รักดั่งลูกอีกคน หาว่าธารร้าย ธารเลว จริง ๆ มันก็สมควรให้ร้ายให้เลวมั้ยคะ?
คิดว่าธารไม่รักถ้าธารไม่รักจริง ๆ เจ๊คงจะไม่มีอารมณ์หวามกับธารขนาดนั้นหรอกเจ๊ หรือที่แท้เจ๊จะโดนซาดิสม์เจ๊ก็ชอบเคอะ?


เห็นคนเชียร์ให้ทรายเอาคืน แต่ด้วยความเห็นของแม่ยกธารคนนี้

"นางยังจะมีหน้ามาเอาคืนอีกหราาาาาา" โอเค ทรายโดนยาไม่ได้ตั้งใจ(?)<<มึงวงเล็บเพื่อออออออออออออออ?
แต่คิดนานละว่าถ้าทรายไม่ชวนคุณทัตนอนห้องเดียวกัน เรื่องมันจะยังเป็นแบบนี้อยู่มั้ย?
หรือยังไงอิทัตก็ต้องวิ่งแจ้นมาเคาะประตูแล้วก็จบลงอิหรอบนี้อยู่แล้ว? ก็ได้ข๊าเรื่องนี้ทรายไม่รู้ทรายไม่ได้ตั้งใจทรายไม่เผียด
งั้นที่ธารไม่รู้ธารตั้งใจ(ร้าย)ธารก็ไม่ผิดเช่นกันนนนนนนน แฟร์ ๆ


สงสารธารมากเคยแต่ประสบการณ์โชกโชนเรื่องอย่างว่า เพิ่งเคยเจอดราม่าปัญหาชีวิตกับตัวอย่างแท้จริง
จะทำอะไรก็สับสน จะแสดงความรักก็ต่อต้านกับจิตสำนึก แม่ก็ค้ำคอร์อยู่ คลิปก็หลอนทุกช็อต
นี่ก็เพิ่งจะโตเป็นผู้เป็นคนได้ไม่กี่ปี แต่เรื่องแต่ละอย่างเกินสาหัสสากรรจ์

นี่ตูก็เข้าข่ายเกลียดตัวกินไข่นะ ปากจิก ๆ คุณวารินแต่ก็ยังอวยธาราธารวารินอยู่ดีเนาะ

จะบอกคนเขียนนานแล้วสมเพช เขาใช้ชอช้างนะคะ สมเพศอันนี้มันดูสมเพศสมวัยมากกว่าเวทนาเนาะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 26-03-2014 00:14:45
เชียร์คุณทัตแล้ว
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 26-03-2014 00:18:48
เราคิดว่าทรายเป็นคนเห็นแก่ตัว อาจจะเป็นเพราะเป็นเด็กกำพร้าเลยโหยหาความรัก  อยากให้ตัวเองเป็นจุดเด่นจุดสนใจศูนย์รวมความรักจากทุกคน แบบที่ทำกับพี่ซีไง ไม่ได้รักแต่ไม่ปล่อยไป อยากครอบครองไว้คนเดียว กับธารนั้นก็จับจุดได้ถูกว่าธารชอบคนแบบไหน ใช้ความใกล้ชิดเป็นหลุมพรางล่อให้ธารรัก ส่วนกับคุณฑัตนั้นมีเมียอยู่แล้วแถมเป็นสามีเก่าคุณภัทรผู้มีพระคุณเลยใช้เหตุผลที่ว่าอยากให้คืนดีกับธารมาเป็นข้ออ้างแทน
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 26-03-2014 01:11:56
 :z3: ตอนนี้ธารกู่ไม่กลับเเล้วล่ะ เหมือนว่าภาพในวีดิโอจะทำพิษมากๆ สงสารคุณทัตอยู่เล็กน้อย ตอนนี้สงสารธารเเบบ
ปานกลาง เอาเเค่ปานกลางพอลดระดับความสงสารลงเพราะธารยังพอมีที่ระบาย ตอนนี้สงสารทรายที่สุด... :hao5:
เพราะต้องรองรับอารมณ์ธารที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ก็นะ...ผลจากเหตุการณ์อันไม่น่าจดจำของทรายกับคุณทัต ธารหน้ามืด
ตามัวไปแล้วให้เอาช้างมาฉุดก็คงไม่อยู่ ตอนนี้ต่อให้ทรายทรุดไปตรงหน้า อารมณ์ธารก็น่าจะยังก่ำกึ่งระหว่างคิดจะช่วย
คนที่รักกับเเค่สงเคราะห์ศัตรูเลย :z10: ความรู้สึกที่มีต่อทรายมันอิหลักอิเหลื่อ ม่รู้จะวางไว้ตรงไหนดีระหว่างรักกับเกลียด
เหมือนเกลียดจะมีมากอยู่ อาจเป็นเพราะเเผลที่สดใหม่ เลยเสียใจและโกรธแค้นมาก ไหนจะคุณทัตตัวละครพระเอกวีดิโอ
คนสำคัญมาปรากฎตัวเเบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีก :ling1: สงสารทรายที่ร้องไห้เหมือนจะขาดใจ การถูกคนที่รักด่าว่าก็เสียใจ
เเล้วนะ ประกอบที่คิดซ้ำเติมตัวเองเรื่อยๆ ว่ามีความผิดอยู่ไม่น้อยนั่นอีก แต่การที่ถูกธารดูถูกตัวตนที่ไม่ได้เป็นเเบบนั้นนี่สิ
เหมือนถูกตัดสินโดยคนที่ไม่เคยรู้จักให้ความรู้สึกเหมือนที่ผ่านมาทรายเป็นคนที่ไม่มีอะไรดีเลย เสียใจเสียน้ำตาแล้วก็เสีย
ตัวซ้ำซากแบบไม่เต็มใจอีก...
ธารตอนหน้ามืดนี่น่ากลัวจริงๆ จะรักจะร้ายไม่สามารถรู้ได้เลย แม้เเต่เจ้าตัวเองก็ควบคุมมันไม่ได้ โกรธเเทนทรายนิดหน่อย
ที่ธารเรียกดาวมาทั้งๆที่สภาพทรายไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผ่านอะไรมา... มันเหมือนการประจานให้อับอาย ประเด็นคือดาวรู้ด้วยว่า
ธารเกลียดทรายตั้งเเต่เหตุการณ์เมื่อกลางวันเเล้ว :katai1: ศักดิ์ศรีของทรายถูกทำลายซ้ำเเล้วซ้ำเล่าเพราะการกระทำเเละ
คำพูดของธารตลอดเวลา ธารใช้งานทรายหนักขนาดเรียกให้มาทุกคืนต่อจากนี้ ระวังทรายจะพังสักวันนึง ถึงตอนนั้นคงได้
เห็นเด็กหนุ่มนั่งในมุมมืดกอดเข่าร้องไห้แน่ๆ ทรายก็อึดนะ เป็นคนอื่นคงมีเเกล้งตายหรือไม่ก็สลบหลับพับยาวตั้งเเต่ยกเเรก
กว่าธารจะให้อภัยทราย น้ำตานายเอกเราคงหมดไปเป็นปี๊บ :mew5: ไม่ไหวอ่ะสงสารทรายยยย... อยากให้ธารรู้ความจริง
ไวไวก่อนที่ทรายจะช้ำใจ(ใน)ตายไปก่อน รุนเเรงตลอด นี่หนังพิศาลใช่มั้ย? ธารโหดกว่านายหัวจำเลยรักอีกนะเนี่ย
มองมุมกลับว่าถ้าทรายไม่คิดโทษตัวเองว่าผิดตลอดเวลา เรื่องจะเป็นยังไง บอกความจริงกับธารไปเรื่องจะเปลี่ยนมั้ย?...
ดูๆเเล้วก็คงไม่เปลี่ยนเน๊อะเพราะธารคงมองว่าทรายก็เเค่คนกลับกลอก ปลิ้นปล้อน เเถไปเรื่อยเพื่อให้ตัวเองรอด :mew6:
สรุปยังไงเรื่องนี้ก็ต้องจำเลยรักจำเลยเเค้นอยู่ดี ทรายอดทนไว้นะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 26-03-2014 07:00:50
เหมือนนั่งดูจำเลยรัก
กว่าจะเข้าใจ คิดว่าร่างของทรายคงได้พังก่อนแน่ เย่ๆ  :เฮ้อ:

เชื่อว่าหลังธารรู้ความจริง ทรายอาจหนีไปแบบสุดจะทนแล้ว แล้วไปเจอคุณทัตพลเข้า
คุณทัตพลเห็นสภาพทรายเลยเอาไปอยู่ด้วยพักรักษาร่างกายและจิตใจ ธารตามมาเจอทรายอยู่กับทัตพล
เกิดดราม่าขึ้นอีกรอบ เย่ๆ มโนไปไกล ขอจงข้ามประโยคพวกนี้ไป  :katai5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 26-03-2014 09:00:58
ธารลูกกกก พี่ทรายช้ำหมดแร้วววว

 :o8:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 26-03-2014 09:52:06
 :impress2: ชอบจังเลย ยาวโดนใจ แถมยังถึงใจอีก :hao6:

แอบไม่เข้าใจว่าทำไมทรายไม่บอกไปว่า โดนวางยาเว้ย หรือเพราะคิดว่าจะดูเหมือนเป็นกาารแก้ตัวแล้วก็ชดใช้ที่ทำให้คุณภัครที่มีพระคุณต้องป่วยเพราะตัวเองเลยอยากที่จะชดใช้  :ling1:
ชอบธารจังทำตัวสมชื่อดี เวลาอ่อนโยนก็เหมือนน้ำที่ไหลเอื่อยไหลไปเรื่อยๆ แต่เวลาโกรธก็เหมือนน้ำที่ไหลแรงและเฉี่ยวกรากทำเอาทรายพัดไปพัดมาปั่นป่วน

โอเคครับยังไงก็ขอติดตามต่อไป บวกเป็ดครับ +1  o13
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 26-03-2014 11:37:10
สงสัยอ่ะ หลังจากที่ทราย กลับมาจากที่เจอเหตุการณ์ฉึกๆ กะพ่อธาร

ทรายไม่เคยพูดบอกกับธารเลยซักครั้ง ว่า ที่ภาพพวกนั้นมันปรากฎอ่ะ โดนยาปลุกเซ็กซ์

เอาแต่ยอมรับผิด โทษตัวเอง แต่ ทำไมไม่ลองพูดก่อนวะ ว่าไม่ได้คิดจะนอกใจ มันเหตุสุดวิสัย

จริงๆมึงก็ผิดแหละทราย กึ่งหนึ่ง แต่ถ้าเป็นธารโคตรทำใจลำบาก ทำไมวะ ทำไมต้องเป็นคนที่มันรัก

น่าสงสาร นังคุณวิ(ปลาศ) สุดท้ายหวังว่ามันจะได้รับผลกรรมที่สาสม จะว่าไปการที่ทรายมาอยู่กับธารก็ดีนะ

นังคุณวิปลาศคงไม่มีปัญญา ทำเฮ้ กว่าที่เป็นอยู่ได้อีก ส่วนพ่อธาร ในเทื่อรู้ตัวการแล้ว เดาได้แล้วนี่?

ควรจะจัดการกับเมียชั่วช้าและเห็นแก่ตัวได้แล้วนะ (อินมาก อินสุดๆ)

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 26-03-2014 13:00:56
มันสงสารทรายไม่ลง เสือกทำตัวอ่อนแอเอง
โง่เอง ที่ไม่ยอมพูดความจริงและพิสูจน์ตัวเอง
คือเป็นนายเอกที่โง่มากๆอ่ะ จะไปโทษใครก็ไม่ได้
เพราะมันผิดที่ตัวเองเป็นคนยอมๆๆๆ ถ้าไม่คิดจะลุกขึ้นสู้
ก็เจ็บอยู่อย่างนี้แหละอย่ามาแหกปากอ้อนวอนให้สงสารเลย
ถามจริงเกิดมา30กว่าปีประสบการณ์ชีวิตไม่สอนให้แข็งแกร่ง
ขึ้นเลยรึยังไง ทั้งๆที่ตัวเองก็เจอเรื่องเลวร้ายมาแล้วตั้งเยอะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 26-03-2014 13:02:56
อ่านทีเดียว 18 ตอนรวดเลย แบบว่ามันหยุดไม่อยู่

อ่านถึงตอนล่าสุดกลับจบแบบเศร้าๆ จังเลย

ตัวละครในเรื่องต่างมีเหตุผลของตัวเอง

สงสาร และเห็นใจทุกตัวละครในเรื่อง

โดยเฉพาะทรายต้องเจ็บแบบนี้ไปอีกกี่ตอน (อยากให้เข้มแข็ง และกล้ามากกว่านี้)

แบบว่าอ่านแล้วปวดหนึบอยู่ในหัวใจ

ว่างๆ เมื่อไร มักคิดถึงเรื่องราวในเรื่องนี้อยู่ตลอดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปเช่นไร

คนเขียนสุดยอดมาก ที่เขียนนิยายให้ผู้อ่านได้มีอารมณ์ร่วมได้มากขนาดนี้

เข้ามารอตอนต่อไป อยากให้มาลงทุกวันเลย 555
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: nutjisub ที่ 26-03-2014 14:34:13
เชียร์คุณทัตสุดใจ น่าจะหมดยุคพระเอกเลวเสียที ทำผิดข่มขืนนายเอก นายเอกหนีไป แล้วพระเอกสำนึกผิดนิดหน่อยตอนใกล้ๆ จบ พล๊อตเรื่องแบบนี้มันมองล้นตลาดแล้ว
คุณทัต ไปเคลียร์กับวิเลยนะ เลวร้ายมาก บุญคุณที่ทดแทนมานานมันไม่ใช่เหตุผลที่ต้องทนต่อไปนะค่ะ
สู้เพื่อครอบครัวหน่อย ทั้งภรรยาเก่า -ภรรยาใหม่และลูก เชียร์คุณทัต  :L2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: P.PIM ที่ 26-03-2014 15:10:03
ทำไมไม่ลองบอกก่อนละทราย
แต่เชื่อเหอะ ธารคงไม่ฟัง แต่อย่างน้อยขอให้บอกซักครั้ง
อย่าปล่อยให้นานไป ไม่งั้นมันจะแย่กว่าเดิมมาก
เพราะถ้าธารมารู้ทีหลังคงเจ็บมากก ทั้งรุ้สึกผิด ทั้งไม่เข้าใจว่าทำไมไม่บอกกันแต่แรก
 :hao5: :hao5:
ปล.ขออ่านพาร์ทของคุณภัครหน่อยยยย  :sad4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 26-03-2014 18:55:50
โอ๊ยพี่ทร้ายยยยยยย อิชชี่สุดๆธารรักมากมายจริง ๆ ถึงปากจะด่าว่าสารพัดแต่ขัดกับจิตใจตลอด เลยแสดงออกมาแบบก้าวร้าวขนาดนี้  นี่แค่เพิ่งเริ่มเข้าไปอยู่นะ เราเข้าใจว่าเรื่องต้องค่อย ๆ ดำเนินไปใช่ว่าจะรู้ความจริงดีกันสรุปจบแค่นั้นแฮปปี้ โนโน แบบนั้นไม่เมคเซ้นต์เราชอบอ่านเรื่องยาว ๆ ค่อย ๆ ดำเนินไปแบบนี้แหละดี จะได้เสพรสชาดที่คนเขียนนำเสนอให้เต็มอิ่ม

คิดว่าคนเขียนคงกำหนดให้คาแรคเตอร์ทรายเป็นนายเอกที่อ่อนๆโง่ๆซื่อๆและใจดีกับทุกคนใช่ไหม บทของทรายเลยต้องออกมาในแนวนี้ จะให้แข็งแกร่งด่าพระเอกปาวๆฉลาดรอบจัดทันไปทุกสถานการณ์มันก็ไม่ใช่คาแรคเตอร์เขานี่เนาะ(พยายามเข้าใจสุดขีด :ling1:) เรื่องนี้นายเอกต้องซื่อและอ่อยเก่งส่วนพระเอกต้องร้าย อืมๆเข้าใจๆ

แอบไปเห็นในบล็อกบอกไว้ว่า *แฮปปี้* แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว    ชอบเรื่องนี้มากๆๆ นะคะ จะรออ่านเรื่อยๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 26-03-2014 23:32:12
อยากให้ถึงวันที่ธารรู้ความจริง เชียร์ธารนะ
ถึงจะชอบทัตพลมากกกกกกกกก ก็เถอะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 27-03-2014 10:32:34
อยากอ่านต่อแล้ว คิดถึงงงงง ถ้าว่างแล้วรีบมานะ :ling1:

และก็ขอพูดเรื่องการจับคู่นิดนุงนะ (แต่เขียนยาวมาก อิอิ) อ่านที่เม้นท์ๆกันแล้วสนุกดี  o18

ธารกับทราย ถ้าได้กลับมาเป็นคู่กัน (ขอให้เป็นนะ แหะแหะ) สิ่งแรกเลย ธารจะต้องพยายามลืมเรื่องที่ผ่านมาแล้วให้ได้ ต้องมีความเชื่อมั่น ไว้ใจ หนักแน่น ในตัวเองและทรายให้มากขึ้น โดยที่ทรายต้องช่วยด้วย ไม่ใช่ให้ธารคิดเองเออเองไปคนเดียว  เพราะคิดว่ายังไงธารก็อดคิดไม่ได้ถึงเรื่องที่ผ่านมา ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ยิ่งเห็นหน้ากันก็ต้องมีหลุดคิดบ้าง  โดยเฉพาะ ทรายที่มีนิสัยทำร้ายคนรอบข้างที่ตัวเองรักและรักตัวเองด้วยความดีความน่ารักแบบไม่รู้ตัวเหมือนให้ความหวังไปทั่ว ไม่ใช่แค่กับพ่อธารเท่านั้น แม้แต่กับพี่ซีเอง ธารก็ต้องคิดลึกจนเกิดความหึงหวง ตามมาแน่นอน กับการแสดงออกของสองพี่น้องที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ในกรณีที่ธารรู้ แต่ถึงไม่รู้ก็ต้องสังเกตได้อยู่ดี ด้วยความที่ธารเป็นคนหวงคนรักของตัวเองอยู่แล้ว ย่อมไม่อยากให้คนที่ตัวเองรักไปสนิทนัวเนียกับคนอื่น มากกว่าตัวเอง  เกิดธารพูดออกไป กลายเป็นว่าเหมือนไปห้ามทรายไม่ให้ใกล้ชิดกับพี่ตัวเองที่รักมากที่สุดในชีวิต เพราะมีแต่พี่ที่ดูแลเลี้ยงดูทรายมาตลอด ทรายก็จะต้องมีแต่ความทุกข์ที่คนรักไม่เข้าใจตัวเอง แต่ถ้าทรายคิดให้ลึกซึ้งถึงขอบเขตการแสดงออกระหว่างพี่น้องได้ ก็จะไม่มีปัญหา รวมถึงซีด้วยที่ต้องเลิกกอดทรายแบบเกินเลยได้แล้วไม่ใช่แค่ดีทั้งสองฝ่าย แต่จะดีกับซีด้วย ถ้าวันหนึ่งเกิดซีมีคนรักขึ้นมา เชื่อเถอะว่าคนๆนั้นก็ต้องคิดเหมือนธาร และเสียใจเช่นกัน
เราเชื่อว่าธารรักทรายจริงๆ แม้กระทั่งพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองหลายอย่างให้ดีขึ้น เพื่อที่ให้ทรายยอมรับ ให้ทรายสบายใจ เหมือนกับที่เชื่อว่าทรายก็รักธารเช่นกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่พูดคำว่า รัก ออกไป มันให้ความรู้สึกต่างจากที่พูดกับซี  แต่ถ้าไม่ใช่ นี่คือความเจ็บปวดที่สุดกับคำพูดมักง่ายที่พูดไม่ตรงกับที่ใจคิด  ไม่เคลียร์ว่ารักแบบไหน เพราะธารชัดเจนแล้ว แถมทรายก็ย้ำแล้วนะว่าให้คิดดูก่อน แต่ธารก็ยืนยันคำเดิม และพร้อมจะพิสูจน์ตัวเองด้วย ถ้าไม่เกิดเรื่องซะก่อนนะ เราคิดว่างั้น  ชอบคำพูดของธารมาก (คนเขียน: ต้องชอบฉันสิ เพราะฉันแต่งให้มันพูดเอง  เขา: ชอบก็ได้ อิอิ) o18

ได้โปรดอย่ากลัวที่จะรัก  ช่องว่างสิบสองปีผมถมยังไงก็ไม่มีทางตามพี่ได้ทันหรอก
ขอเพียงแต่พี่เดินรอผมบ้างก็พอแล้ว ผมจะไม่บังคับจะให้อิสระ
:-[

มันฟังดูจริงใจ มากกว่าจะพูดเพราะหลง (ถ้าเป็นความจริงนะ ถ้าไม่ใช่ แหลสุดๆ) แต่ฟังอีกทีก็เศร้า เหมือนธารจะยอมปล่อยมือจากทราย ถ้าเกิดทรายไม่ต้องการจะอยู่ด้วย อุ้ย นี่ฉันเข้าข้างธารมากไปใช่ไหม FC ทรายคู่กับคนอื่นอย่าหมั่นไส้อิฉันเลยนะคะ เพราะฉันชอบธาร ใครไม่รักเขารักเอง  :กอด1:

 และเตรียมสงสารธารล่วงหน้าเลยถ้ารู้ความจริง เขาจะต้องเจ็บช้ำกว่าใครทั้งหมด เหมือนว่า สุดท้ายคนที่ผิดคือฉันเอง :monkeysad:

เพราะไม่มีใครพูดใครบอกกูเลย คิดว่ากูไม่ฟังแน่ๆ คิดถูกแล้วล่ะ :laugh: แต่มีความพยายามที่จะบอกหน่อยสิโว้ย :angry2:
 
ส่วนทรายอย่างที่บอกเป็นคนที่อ่อนไหวมากจนมองว่าโลเล ให้ความรู้สึกน่าสงสารและน่าหมั่นไส้ในคราวเดียวกัน ไร้เดียงสาซะจนไม่คิดว่าคนอายุขนาดนี้จะเป็นไปได้ ถึงจะถูกเลี้ยงดูมาแบบประคบประหงมแต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นผู้ชายก็น่าจะเข้มแข็งและรู้อะไรในแบบผู้ชายบ้างนะ ยอมรับที่ทรายเป็นคนดี มองโลกในแง่ดี นิสัยจิตใจดี เสียแต่ไม่ชัดเจนในการกระทำเท่าไหร่ อยากให้ทรายปรับตัวเองในเรื่องนี้ คือแยกแยะให้ได้ว่าควรจะรักและแสดงออกกับใครในรูปแบบไหน อย่างไร เข้าใจไหม :serius2:
 
ซี ก็เหมือนกัน ถ้าพยายามจะรักทรายแบบน้องก็ต้องคิดให้ได้รวมถึงการกระทำด้วย มันเหมือนคนปากอย่างใจอย่าง ห้ามความรู้สึกไม่ได้เอาซะเลย คนแบบนี้ก็ทำให้คนรักเสียใจไม่รู้ตัวได้เช่นกัน ถ้าทรายจะคู่กับซี ก็เหมาะนะ ด้วยความผูกพันและลักษณะนิสัยไปด้วยกันได้ ซียอมรับทรายในแบบที่เป็นได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซีก็ยังจะรักแน่นอน ตัดกันไม่ขาดหรอกกับความผูกพันของทั้งคู่  มันมากกว่าใครๆที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่สนับสนุน เอาไว้เป็นตัวเลือกที่สอง :katai2-1:

ส่วนทรายกับคุณทัตพล มองว่ามันไม่ได้เกิดจากความรัก ความผูกพันความสนิทสนมแทบจะไม่มีเลย มันเกิดจากความผิดพลาด แล้วกลายมาเป็นเห็นอกเห็นใจกัน ไม่ใช่ว่าคุณทัตไม่ดี แต่ถ้าคู่กันรับไม่ได้ตรงที่ ครั้งหนึ่งทิ้งเมียทิ้งลูกที่ปากบอกว่ารักนักรักหนาไปทำหน้าที่ตอบแทนบุญคุณหลายปี แล้วอยู่ๆเกิดมาหวั่นไหวอยากจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป ทำให้ทรายลำบากเจ็บปวดเพราะตัวเองเป็นต้นเหตุ มันไม่ควร มันเสียความรู้สึกมากกว่าเหตุการณ์ที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดซะอีก เพราะถ้าเป็นจริงนี่คือความตั้งใจที่ผิดมาก สู้เอาเวลาไปพิสูจน์ตัวเองให้เมียกับลูกเห็นว่า รักทั้งคู่มากแค่ไหนจะดีกว่า และจัดการปัญหาที่คาราซังสักที เพื่อให้เกิดผลดีทุกฝ่าย รวมถึงธิปด้วยที่ดูแล้วน่าสงสารไม่แพ้ใคร ถึงจะมีแม่ที่รัก และพ่อที่ไม่รู้ว่าใช่พ่อแท้ๆหรือเปล่า  ถ้าไม่ใช่ก็น่าสงสารธิปเช่นกัน แต่ดูแล้วคุณทัตก็รักธิปไม่น้อย ทุกอย่างมันเริ่มจากคุณทัตก็ต้องจบที่คุณทัตเป็นคนแก้ไขให้ดีซะ ไม่ได้โทษว่าคุณทัตเป็นต้นเหตุหรือเป็นคนไม่ดีนะ แต่ถ้าเราเป็นคุณทัต ในฐานะพ่อ เราขอเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนดีกว่า หรือไม่ก็ไปบวชซะ คิดง่ายไปไหมตู  :laugh: ทัตพลกับทรายที่จริงภาวะความเป็นผู้ใหญ่สูงนะถ้าพูดถึงวัยวุฒิ ควรจะคิดอะไรให้รอบครอบและลึกซึ้งมากกว่านี้ อย่าหวั่นไหวกับอารมณ์ที่ถูกปลุกไม่ได้ตั้งใจให้เกิดตามปาก ครั้งเดียวมันให้อภัยกันได้ แต่หลังจากนั้นถ้าใจล้วนๆ มันเหมือนกลืนน้ำลายตัวเองทั้งคู่ เราเป็นธารกับภัครจิรารับไม่ไหวแน่นอนถึงจะรู้ความจริงแล้วก็เถอะ และกว่าจะรับได้คงใช้เวลานานมากๆ  รู้ว่าทั้งทรายและทัตพลเป็นคนดี มีเจตนาดี ไม่ได้มีความผิดอะไรสักนิดกับเรื่องที่เกิด ก็เหมือนกับธารและแม่ ทำผิดอะไรที่ต้องมาเจอเรื่องนี้เช่นกัน คือยังไม่ได้เกิดหรอก แต่ตูอินเลยคิดเอาไว้ก่อน  :jul3:

แต่ที่สำคัญที่สุด มันขึ้นอยู่กับว่า ถ้าธารกับทรายรักกันด้วยใจจริง ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าทั้งสองคิดได้ว่าที่ผ่านมาไม่ใช่ความรักก็จบ บังคับใจกันไม่ได้  ทีนี้จะไปคู่กับใครก็สุดแท้แต่วาสนาเถอะค่ะ   :m15: กระซิบ: ที่จริงมันสุดแท้แต่ใจของคนเขียน หุหุ  :hao3:

ส่วนเรื่องพล็อต คนเขียนเต็มที่เลยนะคะ วางไว้ยังไงก็ตามนั้น ทำในสิ่งที่คิดไว้ดีกว่ามันจะได้ลื่นไหลไม่ซีเรียส คนอ่านก็เม้นท์ไปตามใจชอบของตัวเองเท่านั้น เพราะคุณเขียนให้เราอินจนเม้นท์ได้ขนาดนี้ เก่งมากเลยค่ะ สู้ๆนะคะ o13 :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 27-03-2014 18:30:08
เว๋ยคุณทัตออกแป็บเดียวเอง
เชียร์ธารนะ แต่ชอบคุณทัตง่ะ เขาผิดป่ะเนี่ย :hao5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 27-03-2014 19:14:11
อยากอ่านต่อแล้ว วันนี้จะมามั้ย  :m15:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 27-03-2014 19:37:53
ลงแดง ลงเขียว ลงฟ้า ลงสีรุ้ง เมื่อไหร่จะอัพพพพพพพพพพ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[25/03/57] บทที่ 18 ตอกย้ำกับคำว่าร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: kuro ที่ 27-03-2014 20:11:05
หวังว่าธาราธารคงไม่ต้องร้องเพลงผิดที่ฉันเองนะคะ
เพราะแกผิดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เชื่อไปได้
การจะรักใครสักคนแบบที่เจ้าสัวในเรื่องสามีตีตราพูดเนื่ยว่าไงนะ
"ถ้าไม่เลว ให้เห็นกับตา ไม่ชั่วให้ได้ยินกับหู ก้ต้องเชื่อในความดีของคนของเราไว้ก่อน"
แต่นายมันไม่มีเลยความเชื่อใจหรือไรทั้งนั้น
นายเห็นกับตาหรือไง
แค่คลิปก็เชื่อเหรอ?
สุดๆกับธาราธาร
แต่เพราะนายเป็นพระเอก(หรือเปล่า)แต่เราอยากให้นายเป็น เราเลยอยากให้นายได้คู่กับวารินจริงๆ และคงไม่ต้องร้องเพลงผิดที่ฉันเองนะคะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 27-03-2014 21:08:43
https://www.youtube.com/v/N3QcDy8NfM4#t=151


บทที่19 Way Back Into Love
 


ร่างกายสูงใหญ่ในชุดสูทสากลเต็มยศก้าวขึ้นไปนั่งที่เบาะรถสีดำคันใหญ่เรียบหรู ทินกรที่เคยขับรถให้ภัครจิราเสมอ บัดนี้เปลี่ยนมาขับให้ลูกชายคนเดียวของบ้านอย่างธาราธาร สุดสัปดาห์นี้เขาต้องเข้าประชุมบอร์ดบริหาร ทินกรมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มผ่านกระจกมองหลัง วันนี้เจ้านายของเขาหวีผมปัดเรียบขึ้นไป ไม่ปล่อยตกลงมาเหมือนทุกวันคงเพื่อให้เข้ากับชุดที่สวมใส่  ทว่าสีหน้าอิดโรยเหมือนคนนอนไม่พอนั้นยังไม่อาจทำลายความรูปหล่อดูดีของเจ้านายเขาลงได้ 

 
‘คุณธาราธารดูดีมากจริงๆ’ 
 

ทินกรไม่เคยอ่านสีหน้าของธาราธารออกเลยตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่รู้ว่าคิดอะไรชอบหรือไม่ชอบ เขามักเย็นชาไม่ค่อยพูด แต่จะมีอยู่ช่วงหนึ่งตอนที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีแรกๆเขายิ้มบ่อยขึ้นกลับมาบ้านทีไรมักทำตัวน่ารักกับภัครจิราเสมอ จนเธอเอ่ยชมอยู่บ่อย ๆ ภัครจิราเคยบอกว่าเป็นเพราะวารินเลขาของเธอที่เธอให้ช่วยมาดูแลธาราธารให้
 

ทว่าตอนนี้วารินเข้ามาอยู่ด้วยกัน แต่ธาราธารกลับมีทีท่าห่างเหิน เขาไม่ยิ้มอีกเลยนับตั้งแต่ภัครจิราป่วยและดูเป็นคนเย็นชาขึ้นมากกว่าเดิม ทินกรเองก็ยังแปลกใจกับท่าทีของทั้งสองคน
 

“ที่จริงแล้วคุณทรายรู้เรื่องงานโรงแรมดีมากเลยนะครับ คุณธารไม่ลองให้คุณทรายเข้ามาช่วยดูแลตรงนี้ไปก่อน คุณเองก็เรียนหนักไม่ได้พักผ่อนเลยแบบนี้ร่างกายจะแย่เอานะครับ” 
 

ทินกรชวนเจ้านายคุยทำลายความเงียบ โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องความบาดหมางระหว่างเจ้านายของตนกับวารินเลย
 

“พอเถอะทินกร พูดเรื่องนี้กับผมเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วล่ะ” ธาราธารพรูลมหายใจแล้วเอนศีรษะเข้ากับพนักพิงหลับตาเพื่อผ่อนคลาย
 

“เรื่องจริงนี่ครับอย่างวันนี้ถ้าพาคุณทรายมาด้วยล่ะก็ คุณคงไม่ประหม่าและดูกดดันแบบนี้หรอก” ทินกรตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางให้ไกลขึ้นอีกนิดเมื่อดูเวลาแล้วว่ายังพอมีเหลือเฟือ เขาอยากให้ธาราธารดูผ่อนคลายลงหน่อย
 

“หึ  นี่ผมดูออกง่ายขนาดนั้นเลย?” เขาว่ายิ้ม ๆ ทั้งที่ยังหลับตา
 

อันที่จริงแล้ววันนี้ธาราธารประหม่ามากจริง ๆ เขาต้องเข้าร่วมประชุมบอร์ดบริหารชุดใหญ่แทนภัครจิรา ซึ่งมีแต่ระดับผู้อาวุโสแทบทั้งนั้นแต่คุณแม่ของเขากลับเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่  เรื่องของวารินทำไมเขาจะไม่เคยคิดแต่ในเมื่อเห็นแม่ของเขานอนแน่นิ่งอยู่แบบนั้นแล้วกลับคิดไปว่าที่เธอต้องกลายเป็นแบบนั้นก็เพราะใครกัน  เขาจึงทำใจให้ดีกับคนแบบวารินไม่ได้จริง ๆ เจ้าตัวเองก็คงรู้ เพราะเขารู้มาว่าวารินยื่นใบลาออกตั้งแต่มีเรื่องมีราวกันคราวนั้น
 

“เอาเถอะไว้ผมจะค่อยคิดก็แล้วกัน”
 

โรงแรมหรูริมน่านน้ำเจ้าพระยังคงตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่เช่นเดิม ร่างสูงใหญ่หล่อเหลาดูภูมิฐานแต่แฝงไปด้วยความอ่อนเยาว์ก้าวเข้ามานั่งที่หัวโต๊ะ ศศิธรเลขาเก่าของภัครจิราเริ่มเดินวางเอกสารเพิ่มเติมในบางส่วน ธาราธารกวาดสายตาดูบรรดาผู้ถือหุ้นทั้งหมดแล้วก้มลงอ่านเอกสารเพิ่มเติมคร่าว ๆ
 

การประชุมดำเนินไปเรื่อยๆ จบจบลง ยังไม่มีความเห็นอะไรเพิ่มเติมจากเขา เขายอมรับอย่างไม่อายเลยว่าไม่มีความรู้เรื่องงานโรงแรมเลยจริง ๆ การที่ต้องมารับหน้าที่ต่อจากคุณแม่แบบนี้มันทำให้เขาหนักใจเป็นอย่างมาก แต่เขาจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้งานทางด้านนี้ให้เร็วที่สุด
 

ธาราธารนึกถึงใบหน้าวารินขึ้นมาทันที จริงอย่างที่ทินกรว่าถ้าหากเขาได้วารินเข้ามาช่วย มันจะทำให้เขาไม่กดดันและการตัดสินใจอะไรๆจะรอบคอบมากขึ้น
 

“น้องธาร”
 

 เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เขาต้องหยุดก้าวเดินและหันกลับไปมอง ศศิธรเลขาที่หอบแฟ้มเอกสารอยู่เต็มอ้อมอกถอยร่นออกไปให้หญิงสาวอีกคนเดินแทรกเข้ามาได้
 

“น้องธารจำป้าได้ใช่ไหมลูก ป้าเข็มไง  ป้ากับคุณภัครเป็นหุ้นส่วนกันหลายที่ เรารู้จักกันมาตั้งแต่ภัครเขายังสาว ๆ โน่นเลยนะ”
 

เขามองผู้หญิงที่มีวัยใกล้เคียงกับคุณแม่ของเขาและนึกได้ในทันที หนึ่งในผู้ร่วมประชุมเมื่อสักครู่ ธาราธารจึงเชิญเธอเข้าไปนั่งคุยในห้อง
 

“ป้าเสียใจด้วยนะเรื่องคุณภัคร สักวันเธอจะต้องหายดีได้แน่ ธารต้องเข้มแข็งดูแลคุณแม่ดีๆนะลูกนะ”
 

“ขอบคุณครับคุณป้า”
 

“ป้าเข็มเพิ่งรู้ว่าน้องธารเรียนหมอ แล้วยังเรียนอยู่ที่เดียวกับลูกสาวของป้าอีก ไม่รู้ว่ารู้จักกันรึเปล่าลูกสาวป้าชื่อ ‘บัวชมพู’ แต่บัวเป็นรุ่นพี่น้องธารนะ ตอนนี้พี่เขาเรียนปีสามแล้วล่ะ”
 

“...อ้อ รู้จักครับ”
 

ธาราธารพยักหน้ารับ ในใจคิดไปถึงว่าเขารู้จักและสนิทสนมดีถึงขั้นตัวติดกันมาแล้วด้วย ‘บัวชมพู’ พี่รหัสของเขาเอง
 

“แบบนี้ดีมากๆเลยลูก สนิทสนมกันไว้เยอะๆ เดี๋ยวเรื่องงานป้าเข็มช่วยดูให้เอง ธารไม่ต้องเป็นห่วงนะลูกนะ ผลประโยชน์ไม่มีหายไปไหนแน่นอน ส่วนเรื่องเรียนมีอะไรก็ถามบัวเขาได้รายนั้นใจดียิ้มง่ายที่สำคัญเรียบร้อยเหมือนคุณภัครเลยนะลูก”
 

หญิงสาวดูกระตือรือร้น ยิ้มร่าให้เขาราวกับถูกรางวัลที่หนึ่งพันสองร้อยล้าน ธาราธารได้แต่หัวเราะหึหึในใจ ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าเธอคิดจับคู่เขากับลูกสาวสุดที่รักของเธอ
 

“งั้นก็ฝากด้วยแล้วกันนะครับคุณป้า”
 

เขาตอบเรียบๆทว่ายังคงความนอบน้อมกับผู้ใหญ่ งานบริหารเป็นงานที่เขาไม่ถนัดเลยจริง ๆ แฟ้มเอกสารมากมายถูกศศิธรนำมากองไว้ให้ที่โต๊ะ  แค่เปิดอ่านคร่าว ๆ ก็ทำเอาเขาถึงกับมึนตึ๊บ ไม่เข้าใจง่ายเหมือนเรื่องราวทางกายภาพที่กำลังเรียนอยู่เลยสักนิด อย่างว่าคนเราถนัดและชอบไม่เหมือนกันจริง ๆ
 

ร่างสูงใหญ่ลุกจากเก้าอี้ตัวโต กวาดตามองภายในห้องที่ก่อนหน้านั้นไม่นานคุณแม่เขายังเป็นเจ้าของบัดนี้กลายเป็นเขาที่ต้องเข้ามานั่งแทนทุกสุดสัปดาห์ เขากดโทรออกหาทินกรแล้วบอกให้เอารถมารอที่ด้านหน้า ธาราธารตรงกลับบ้านโดยไม่ได้แวะที่ไหนอีก
 

.
 
.

 
อีกด้านหนึ่งของกรุงเทพมหานคร
 

“คุณจะไปไหนคะทัต?!”
 

วิลาสินีที่เพิ่งกลับเข้ามาในบ้านถามขึ้น  ทัตพลลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตกำลังจะออกจากบ้าน
 

“คอนโด” เขาตอบอย่างเฉยชาตั้งท่าจะก้าวออกไปอย่างเดียว
 

“ไม่ให้ไป!” 
 

เธอตวาดลั่น ปรี่เข้าไปดึงแขนเสื้อเชิ้ตเขาทันที  “ทำไมคะทัต คุณติดใจอะไรมันนักหนารึไงทำไมคุณทำแบบนี้กับวิ  ทำแบบนี้ได้ยังไง!!” เธอตวาดลั่น ใบหน้าสวยเริ่มมีน้ำตารื้นขึ้นมา ทัตพลค่อยหันกลับไปมองด้วยสีหน้าเย็นชา เอ่ยคำพูดที่ทำเอาเธอร้าวไปทั้งใจ
 

 “วิ...เราแยกกันอยู่เถอะนะ”
 

“กรี๊ดดดดดดดด ไม่ให้ไป! คุณทัตคุณจะทำแบบนี้กับวิไม่ได้ คนใจร้าย วิไม่ยอม ๆ คุณจะไปอยู่กับมันใช่ไหม คิดจะทิ้งวิแล้วจริง ๆ คนใจร้ายๆ วิไม่ยอม!” วิลาสินีกรีดร้องดังลั่น เธอทุบตีเขาจนทัตพลต้องยกแขนขึ้นกันไว้ 
 

“วิ ใจเย็นๆ........วิ!” ทัตพลตะคอกเรียกดังลั่น เขากระชากแขนเล็กแล้วผลักออกอย่างแรง “คุณจะโวยวายไปทำไมคุณทำตัวเองทุกอย่างนะวิ อย่านึกว่าผมไม่รู้!” เขาพูดขึ้นอย่างเหลืออด
 

“วิทำอะไร! คุณไปกับมันมาจริงๆพามันไปกกไปกอดไกลถึงพังงา นี่ถ้าวิไม่ให้คนคอยตามดูวิก็คงยังโง่อยู่แบบนี้ใช่ไหม!” เธอยังตวาดลั่นขึ้นเสียงใส่เขาอย่างไม่เกรงใครจะได้ยิน
 

“ใช่!  ผมกอดกับเขาจริง แต่นั่นมันเป็นเพราะคุณสั่งให้ใครบางคนทำให้ผมต้องกอดกับเขาใช่ไหม คุณทำเพื่ออะไร แอบใส่ยาเพื่อให้ผมกับเขามีอะไรกันเพื่อที่คุณจะได้ส่งรูปงี่เง่านั่นไปทำลายภัครกับลูกชายของผมอย่างนั้นหรือ คุณนี่มันที่สุดของความเลวจริง ๆ”  ทัตพลเหลืออดพรั่งพลูคำพูดที่ไม่เคยคิดจะพูดออกมา วิลาสินีพอรู้เรื่องยา สีหน้าเจื่อนลงทันที นึกไปถึง ‘รุ่ง’ คนที่เธอจ้างวานให้ตามติดทัตพลไม่นึกว่ารุ่งจะเห็นแก่เงินได้ขนาดนั้น

 
“ผมไม่พูดไม่ใช่ว่าผมไม่รู้หรือไม่รู้สึกอะไร  ผมเพียงแค่สงสารชนาธิป ถ้าหากว่าพ่อกับแม่ต้องมาเลิกกันตอนเขาโตขนาดนี้ ทั้งที่ใจจริงแล้วผมอยากจะหย่ากับคุณใจจะขาดก็เถอะ”
 

เขาคว้าเอากระเป๋ามาลากต่อ วิลาสินีถลาเข้ามาดึงไว้ทันทีแรงลากทำให้ตัวเธอครูดไปกับพื้นหินอ่อนมันวับ
 

“พี่ทัต วิไม่ให้พี่ทัตไปนะ วิรักพี่ทัตรักมากที่สุดรักมานานแค่ไหนพี่ทัตเองก็รู้ วิรักพี่คนเดียว วิอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่ อย่าไปวิไม่ให้ไป!” เธอร่ำไห้อย่าลืมอายน้ำตานองอาบลงสองแก้มบวมช้ำ ทัตพลยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน เมื่อไหร่ที่วิลาสินีอ้อนเขาจะเรียกเขาว่าพี่แต่ไหนแต่ไร ดวงตาคมกล้าจดจ้องที่ใบหน้าสวยที่บัดนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
 

“คนที่ทำให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ก็คือวิเองนะ พี่เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าให้วิเชื่อใจพี่ในเมื่อพี่เลือกมาอยู่กับวิแล้วทำไมถึงไม่เชื่อใจกัน ทำตัวร้ายๆแบบที่ใครก็ให้อภัยไม่ได้แบบนี้วิคิดว่าพี่จะสามารถอยู่กับวิได้อีกอย่างนั้นหรือ”
 

เขาแกะมือเล็กที่ดึงหูกระเป๋าเขาออกอย่างไร้เยื่อไยวิลาสินีจึงลุกขึ้นคว้าจับท่อนแขนเขาไว้ “แยกกันอยู่เถอะนะ ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยเสียใจเลยที่ได้เลี้ยงดูชนาธิป  ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ลูกของพี่ก็ตาม  วิก็รู้นี่ว่าคนที่พี่รักมาตลอดน่ะคือใคร ให้พี่ได้ชดใช้ให้กับเขาบ้างเถอะ”
 

“แต่นังนั่นมันนอนเป็นอัมพาตไปแล้ว พี่ทัตจะไปอยู่กับมันได้ยังไงคนมักมากแบบพี่ไม่มีทางที่จะอยู่ได้โดยไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก พี่ต้องอยู่กับวิสิ วิรักพี่นะพี่ทัต อยู่กับวิ  พี่ทัตต้องอยู่กับวิ ฮือๆๆ” เธอร้องไห้อย่างหมดอายเมื่อเขาพูดถึงคนที่เขารักอย่างหมดหัวใจใส่หน้าเธอ
 

“ที่ผ่านมาวิได้จากพี่ไปเยอะแล้ว จากนี้ไปให้พี่ได้ชดเชยให้กับเขาบ้างเถอะนะ....ปล่อยพี่ไปเถอะ”
 

เขากระชากตัวออกจากการเกาะกุมของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก้าวเดินอย่างมั่นคงออกจากบ้านที่เคยอยู่ร่วมกันมาถึงยี่สิบปีอย่างไม่ใยดี วิลาสินีทรุดฮวบลงกับพื้นร้องไห้เหมือนดั่งจะขาดใจ  เครื่องสำอางค์ชั้นดีสีจัดจ้านที่เธอชอบใช้อยู่เสมอเลอะเปรอะเต็มใบหน้าสวย
 

“พี่ทัต อย่าไป วิขอโทษ ฮือๆๆๆ วิรักพี่ ฮือๆๆวิขอโทษ วิผิดไปแล้ว จะให้วิทำยังไงก็ได้ วิผิดไปแล้ว วิขอโทษ... ”
 

เธอพึมพำอยู่คนเดียวโดยที่เขาไม่มีวันจะหันกลับมามองอีกต่อไปแล้ว นี่หรือคือผู้กำชัยชนะของจริง เธอคิดทบทวนถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ได้ทำมาตลอดยี่สิบปีที่อยู่กับเขา ร่างเล็กๆร้องไห้โฮอย่างหมดแรง เวลายี่สิบปีไม่สามารถซื้อจิตใจเขาได้เลย เธอแย่งชิงเขามาได้ ดำเนินชีวิตร่วมกันมา แล้วยังไง? สุดท้ายเธอก็ได้แต่ร่างกายของเขาอยู่ดี  ส่วนตัวตนและจิตใจของเขาต่อให้เธอบังคับขู่เข็ญปรารถนาเช่นไร เธอก็ไม่มีวันนั้น วันที่จะได้มันมาจากเขา
 

หัวใจของเขา...ไม่ใช่ของเธอ...ตั้งแต่ไหนแต่ไร
 

บางครั้ง...การอยู่ใกล้ชิดกันโดยที่เขาไม่เคยรักเลย มันแสนเจ็บปวดยิ่งกว่า การตัดใจให้ขาดเสียตั้งแต่แรก...
 

.

.
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 27-03-2014 21:16:20
https://www.youtube.com/v/N3QcDy8NfM4#t=151


-ก๊อก ก๊อก-


เสียงเคาะประตูดังขึ้นวารินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จหันไปมองที่ต้นเสียง มือเล็กกำลังจับหวีขึ้นมาจะหวีผม หลังเวลาอาหารค่ำวารินช่วยดาวล้างจานเก็บเช็ดห้องครัวหลังจากนั้นถึงได้แยกย้ายกันพักผ่อน


“พี่ทราย คุณธารเรียกแน่ะพี่ บอกว่าให้เอากาแฟขึ้นไปให้”


คนตัวเล็กหน้าซีดลงทันที ก้าวถอยหลังจนขาชนกับขอบเตียง ห้องแคบ ๆ ไม่มีที่ให้ถอยได้มากนัก นับดาวเองก็หน้าเจื่อนลง เธอรู้ทั้งรู้ว่าวันนั้นวารินโดนธาราธารทำอะไรบ้างแต่จะให้พูดออกไปคงไม่ได้เพราะขนาดตัววารินเองยังไม่ยอมพูด เธอเองก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย


“อ..อือ เดี๋ยวพี่ไป ดาวไปนอนเถอะ”


วารินทรุดนั่งลงที่เตียงอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี เดินไปกดล็อคประตูให้แน่นหนาปิดบานเกร็ดลง ปิดม่านหน้าต่างให้มิดชิด ปิดไฟแล้วซุกตัวลงนอนใต้ผ้าห่มผืนบาง หยิบโทรศัพท์ที่สอดไว้ใต้หมอนมากดโทรออกหาภูวดลเหมือนทุกๆวันที่เคยทำ


“ว่าไงเรา” เสียงนุ่มทุ้มที่แสนอบอุ่นแผ่ซ่านจากปลายสายดั่งน้ำทิพย์มาชโลมจิตใจร้าวรานของวารินให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง ร่างเล็กๆยิ้มกว้างแค่ได้ยินเสียงพี่ชายที่รักที่สุด


“พี่ซีทำอะไรอยู่ครับ กินข้าวรึยัง ดูทีวีอยู่รึเปล่า วาดรูปเสร็จแล้วเหรอ ล้างพู่กันรึยัง หรือว่ากำลังจะขึ้นนอน” เสียงเล็กรัวถามจนปลายสายส่งเสียงหัวเราะเบาๆออกมา


“ใจเย็นๆครับทรายค่อย ๆ ถาม พี่ซีไม่รีบวางไปไหนหรอก”


“ก็ทรายคิดถึงพี่ซีนี่ อยากรู้ทุกอย่างเลยพี่ซีตอบมาเร็วๆเข้าสิ” วารินทำแก้มพองลมแกล้งงอนหัวซุกลงในผ้าห่มส่งเสียงอู้อี้ เดือดร้อนภูวดลต้องเข้าโอ๋อีก แม้จะแค่โทรคุยกันแต่บางคืนวารินถึงขนาดหลับคาสายโทรศัพท์ไปเลยก็มี หลังจากเล่าเรื่องชีวิตประจำวันให้ฟังทั้งหมดแล้ว เขาก็ถามกลับคนตัวเล็กบ้าง


“วันนี้ทรายไปจ่ายตลาดกับดาวตอนสาย ๆได้แผ่นเกมส์มาด้วยเดี๋ยวไว้ทรายกลับไปจะเอาไปให้พี่ซีนะครับ แล้วก็วันพรุ่งนี้ทรายกะว่าจะชวนดาวไปดูต้นไม้ที่สวนฯหน่อย ไม่รู้ว่าดาวจะยอมไปกับทรายรึเปล่าเห็นร่ำๆว่าอยากจะดูหนังมากกว่า”


“อะไรกันทรายน้อยของพี่ซีกลายไปเป็นพ่อบ้านเต็มตัวแล้วเหรอเนี่ย ไหนว่าจะไปดูแลคุณภัครจิราไง นี่มันมีแต่โปรแกรมหนีเที่ยวนี่นา” ภูวดลแกล้งเย้า แต่วารินดันเจื่อนลงจริง ๆ เพราะความจริงแล้วเขาไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปดูแลภัครจิราแม้แต่น้อย


“ก็....ดูอยู่ครับ” วารินเสียงอ่อนพูดไม่เต็มปาก


“ไงเราง่วงแล้วสิ เสียงเบาเชียว”


วารินหลับตาลงแน่นถ้าเขามีภูวดลอยู่ข้าง ๆ ป่านนี้มือใหญ่คู่นั้นคงจะเข้าลูบศีรษะเล็กเพื่อปลอบประโลมแล้ว น้ำใสๆจากหางตาไหลตกลงโดยที่คนตัวเล็กไม่สามารถกลั้นไว้ได้ วารินยกมือปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมาโดยไม่ให้คนที่อยู่ปลายสายได้ยิน หัวใจของเขามันเต็มไปด้วยความชอกช้ำและเจ็บปวด มีเพียงภูวดลเท่านั้นที่เป็นหลักพักพิงให้ได้


ไม่รู้เผลอหลับไปนานแค่ไหนวารินสะดุ้งเฮือกอีกทีเหมือนได้ยินคนไขกุญแจห้องตัวเอง ร่างเล็กลุกพรวดขึ้นจากเตียงแต่โดนมือใหญ่ของใครบางคนปิดปางบางเฉียบไว้แน่น วารินทั้งดิ้นทั้งทุบ


“อื้ออ..” ตาเล็กๆเบิกโพลงเมื่อเห็นได้ชัดๆเต็มตาว่าเป็นใครที่บุกรุกเข้ามากลางดึกแบบนี้  ร่างสูงใหญ่ขึ้นทาบทับเตียงเล็กๆส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังลั่น


“พยศนักนะ เรียกแล้วทำเล่นตัว คิดว่ายังไงเสียคนอย่างผมก็ต้องตามลงมาใช่ไหม” ธาราธารกระชากสองมือเล็กกางออกแล้วกดจนจมมิดลงที่เตียง


“ร้องสิ ร้องดัง ๆ ใครต่อใครเขาจะได้รู้ว่าผมลงมาเอาพี่ถึงที่นี่ไง”


“ธารปล่อย!” ร่างเล็กดิ้นพราดอยู่ภายใต้อ้อมกอดใหญ่ของเขา


“ปล่อยพี่! ไม่เอา..อื้ออ” เขาฉกจูบลงมาวารินเม้มริมฝีปากไว้แน่น ลิ้นร้ายดุนดันเข้ามาจนปากเล็กต้องอ้าออกเพื่อกวาดต้อนเอาลมหายใจ เรียวลิ้นบุกทะลวงเข้าจู่โจมอย่างหยาบคายและป่าเถื่อน เขาดูดดึงเกี่ยวกระหวัดกวาดต้อนเอาความหอมหวานในโพรงปากเย้ายวนจนแดงเจ่อ ปลายลิ้นเล็กๆโดนดูดกลึงจนคนที่ไม่ประสาอ่อนระทวยลงในอ้อมแขน น้ำจากตาดวงน้อยทะลักลงสองแก้มขาว  เขาหยุดแล้วขยับตัวขึ้นดูทันที


“ทำไมต้องขัดขืนด้วย ทำไมทีกับพ่อผม พี่ถึงร่านเข้าหาขนาดนั้นแล้วทำไมกับผมพี่ถึงต้องขัดขืนอยู่ตลอดด้วยฮึ!”


เขาละตัวออกแล้วลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสีย  เมื่อคิดไปถึงภาพในวีดีโอนั่นแล้วเจ็บใจอย่างถึงที่สุด วารินร่านเข้าหาพ่อของเขาเหมือนคนโหยหาในเซ็กส์ แต่เรื่องจริงที่เขาได้รับรู้ก็คือวารินจะต่อต้านเขาอยู่ตลอดเวลาที่มีอะไรกัน  ความโกรธแค้นน้อยใจและหึงหวงแล่นพ่านจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงขั้วหัวจิตหัวใจ มือแกร่งเข้ากระชากคอเสื้อคนตัวเล็กที่กำลังจะวิ่งหนีออกนอกห้องเหวี่ยงโครมเข้าไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ของล้มระเนระนาด


“ธาร!” เสียงเล็กอุทานอย่างหวาดกลัวเมื่อเขาเดินหน้าเข้าหาแล้วกระชากคอเสื้อรั้งขึ้นมา


“อย่าคิดว่าผมจะหลงกล แสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ไร้เดียงสาทั้งที่ความเป็นจริงคืออะไรก็เห็นกันอยู่ ร่าน!” เขามองวารินด้วยแววตาที่มีแต่ความโกรธเกรี้ยวชิงชัง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจับขั้วหัวใจแล้วตะโกนใส่หน้า ร่างเล็กเจ็บจนพูดไม่ออกส่ายหน้าร้องขออย่างคนไม่มีหนทางไป


“ธาร..ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น ฟังพี่ก่อน”


มือเล็กๆสองมือขึ้นมาเกาะกุมมือใหญ่ที่ดึงรั้งคอเสื้อตัวเองอยู่ เขาดันตัววารินจนแผ่นหลังบางติดกระจกเงาแล้วกระชากเสื้อนอนออกอย่างแรงเม็ดกระดุมปลิวว่อนตกไปทั่วห้อง สาบเสื้อนอนแยกออกจากกันหลุดลุ่ย เผยให้เห็นผิวขาวยั่วยวน ขณะที่มือหนึ่งบีบรอบลำคอเล็กอีกมือกลับบุกเข้าหาอย่างหยาบคายบดขยี้ลงที่เม็ดสีสวยวารินร้องลั่นคว้าจับมือเขาไว้แน่น


“ธารอย่า! ไม่  อย่าทำนะ!”


เสียงเล็กๆร้องสั่นพร่า ดวงตาสั่นระริกจ้องเขาอย่างขอความเห็นใจ แต่ทว่าเขาไม่ละสายตาโกรธเกรี้ยวออกจากใบหน้าเล็กเลย ดวงตาคมเข้มจดจ้องราวกับจะจองจำให้อีกคนเจ็บปวดไปกับความทรมานที่เขาเป็นคนมอบให้ 


“จำไว้นะ จดจำผมไว้ให้ดี ผมคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่จะทำกับพี่แบบนี้ได้! คนอื่นหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์อีกแล้ว! ไม่มีสิทธิ์!”


น้ำเสียงเย็นเฉียบตะโกนลั่นย้ำอย่างไม่แคร์ ความโกรธความหึงหวงแล่นพล่านจนไม่ฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น เขาเลื่อนมือมาบีบเข้าที่ปลายคางเล็กอย่างแรงจนวารินหน้าเบ้ เจ็บปวดจนแสนสาหัสกับทั้งคำพูดดูถูกดูแคลน เขาฉกจูบลงมาอีกหนปลายลิ้นหยาบคายสอดแทรกอย่างดื้อรั้น


“อื้ออ..” วารินน้ำตาไหลเป็นทางทั้งทุบทั้งตี ข้อขาเล็กทั้งถีบทั้งเตะแต่ร่างกายเขาดั่งหินผาที่ผลักไสและทุบตีเท่าไหร่ก็ไม่สะทกสะเทือน ปากเล็กๆบวมเจ่ออย่างเจ็บปวด รสเลือดฝาดพร่าแปร่งอยู่เต็มปาก


“อย่ามาทำเป็นดีดดิ้น! ทีกับผมทำเป็นรังเกียจ กับพ่อผมล่ะก็ ยิ้มร่าเข้าใส่เชียวนะ”


“ไม่ใช่! ธารอย่าทำฟังก่อน!”


เสื้อตัวเล็กถูกเขากระชากขาดวิ่นไม่ต่างไปจากผ้าขี้ริ้วพูดอย่างไรเขาก็ไม่ฟังแล้ว  วารินถดตัวจนสุดทางโต๊ะเครื่องแป้งราคาถูกไม่อาจต้านทานแรงกระแทกจากเขาได้ เขาคว้าท่อนแขนเปลือยเปล่ากระชากแล้วเหวี่ยงร่างทั้งร่างโครมลงบนเตียงแคบวารินจุกจนตัวงอเพราะกระเด็นไปติดผนังปูน ร่างสูงใหญ่ขึ้นคร่อมทับทันที เขาไม่รอช้ากระชากกางเกงนอนขายาวของคนตัวเล็กลงมาแล้วเหวี่ยงปลิวไปออกอย่างไม่แคร์ ขาแข็งแรงกดทับหน้าขาเล็กจนวารินหน้าเบ้ด้วยความเจ็บปวด เขาโน้มตัวลงทาบทับกระชากผมหอมแล้วรั้งลงจนใบหน้าหวานแหงนเงย  ซุกไซ้ใบหน้าคมสูดดมความหวานหอมที่ลำคอขาวขบเม้มจนขึ้นรอยสีกุหลาบไปทั่วทุกตารางนิ้วแค่ได้กลิ่นนมส่วนตัวของวารินทำเอาเขาแทบคลั่ง ริมฝีปากร้ายกาจลากผ่านตีตราไปถ้วนทั่วทุกตารางนิ้ว วารินทุบตีจิกแผ่นหลังเขาแน่น


“ธาร พี่เจ็บ!”


เสียงเล็กๆที่น่าเวทนาส่งไปอย่างไรก็ไม่มีวันถึง  เรือนร่างที่เขาหลงใหลนอนเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาแบบนี้ให้ตายก็หยุดลงไม่ได้แล้ว มือหนาเค้นคลึงที่สะโพกกลมกลึงของคนตัวเล็กขณะที่อีกมือบดขยี้อยู่ที่ยอดอกสีสวย


วารินครางฮือ “ฮ..ฮ้าา.ธาร..อย่าพอแล้ว..” เสียงเล็กเรียกชื่อเขาจนสั่น ลิ้นร้อน ๆ ลากไล้ลงมาจับจองครอบครองอยู่ที่ยอดอก ดูดดึงราวกับมันจะหลุดติดออกมากับริมฝีปากของเขา วารินเสียวสะท้านจนต้องแอ่นอกรับ


เขายิ่งเห็นคนตัวเล็กทรมานบิดกายเร่าร้อนแบบนั้นมันยิ่งเร้าให้เขาได้ใจ  ยิ่งต่อต้านเขาแค่ไหนมันเหมือนยิ่งจุดประกายไฟเติมเชื้อเข้าไปให้โหมฮือ เขาเปลี่ยนเป้าหมายเข้าครอบครองเม็ดสีสวยอีกข้างดูดและดึงอย่างเอาแต่ใจไม่มีความปราณีกันแม้แต่น้อย  วารินข่วนหลังเขาลากยาวจนขึ้นรอย “ฮ..อ๊าา” เขากระตุกยิ้มร้าย ทว่าเป็นรอยยิ้มของซาตานที่สุดแสนร้ายกาจ


“ถอดเสื้อให้ผม” เขาสั่ง โดยที่ทั้งริมฝีปากและสองมือยังทำงานประสานกันได้ยอดเยี่ยมไม่ยอมหยุด  “ถอดให้เร่าร้อนเหมือนที่พี่ถอดให้คุณพ่อผมนะ”  เขาละริมฝีปากขึ้นมากระซิบเสียงเย็นเฉียบชิดริมหูเล็ก วารินเหมือนถูกใบมีดคมกริบกรีดลงกลางหัวใจ ใบหน้าเล็กส่ายอย่างยอมรับไม่ได้น้ำตาไหลนองจนไม่รู้จะทำอย่างไรได้แล้ว


“ธาร..ไม่ใช่แบบนั้น พี่กับคุณทัต...”


“ไม่ต้องมาแก้ตัว! อย่ามาเรียกชื่อเขาในขณะที่ผมนอนกอดพี่อยู่แบบนี้!” เขาตวาดลั่นในดวงตาเหมือนมีไฟลุกโชนแค่ได้ยินวารินเอ่ยชื่อทัตพลเท่านั้น  ความริษยาแล่นพล่าน


“ทำเดี๋ยวนี้! ถอดเสื้อให้ผม!” เขากระชากมือเล็กขึ้นมากุมไว้ที่กระดุมเสื้อของเขา วารินสะดุ้งเฮือกมองใบหน้าโกรธเกรี้ยวของเขาแล้วนึกกลัวจนจับใจ


“ผมนับถึงสาม ถ้าไม่ถอดผมจะลากพี่ออกไปเอาอยู่ที่หน้าห้องให้ได้งามหน้าในความร่านกันไปเลย  ทำ!” เขาเน้นคำแล้วตะคอกใส่  วารินกลัวจนตัวสั่นได้แต่หลับตาปี๋กลั้นใจยื่นมือเล็กที่สั่นสะท้านปลดเปลื้องกระดุมเสื้อของเขาลง เขาละตัวออกนิดหน่อยเพื่อให้วารินถอดออกได้สะดวก “กางเกงด้วย” น้ำเสียงเย็นเยียบมองใบหน้าเล็กไม่ให้หลุดรอดไปสักวินาที


วารินค่อยเลื่อนมือลงมาสัมผัสที่ขอบกางเกงนอนของเขา เพียงแค่นั้นธาราธารก็ต้องข่มกลั้นอารมณ์ที่ลุกโชนในตัวไว้ให้ลึกที่สุด แค่มือเล็กๆของวารินแตะสัมผัสเข้าที่ผิวกายของเขาราวกับตัวเขาจะระเบิดความร้อนทะลักออกมา วารินดึงขอบกางเกงเขาลงได้แค่นิดเดียวก็ต้องหยุดและร้องไห้โฮออกมา


“ธาร..ขอร้อง พอเถอะ” เสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้น เขาคว้าจับท่อนแขนเล็กแล้วบีบแน่นอย่างขัดในอารมณ์ “ทำไม  กับผมนี่ทำไมได้? ทีกับพ่อผมนี่ถอดให้เองกับมือเลยนะ ร่านเอ๊ย!”


ในแววตาที่ลุกโชนดั่งเปลวเพลิงกำลังแผดเผาวารินลงไปทีละน้อยด้วยคำพูดถากถางและหยาบคาบเหยียบให้จมดินของเขา  ในเมื่ออีกคนทำไม่ได้เขาจึงจัดการสะบัดมันออกไปอย่างรวดเร็วด้วยตัวเอง ในที่สุดร่างเปล่าเปลือยสองร่างกำลังทาบทับกันอยู่ เขาจูบโลมเลียสัมผัสผิวสีน้ำนมถ้วนทั่วอย่างหื่นกระหาย  เรียวนิ้วร้ายกาจลากไล้จากโคนขาขาวผ่องยาวขึ้นมาตามร่องสีสวยขณะที่ริมฝีปากปรนเปรอกวาดต้อนเอาความหอมหวานในโพรงปากอุ่นร้อน เขาทั้งดูดดันตวัดเกี่ยวเรียวลิ้นเล็ก ๆ ที่เฝ้าหลบหลีกเขาอยู่ตลอดเวลา ริมฝีปากกดจูบลงมาที่ยอดอกชูชัน เม็ดทับทิมสีสวยถูกเขาบดขยี้ดูดดึงครั้งแล้วครั้งเล่า ปลายลิ้นลากต่ำลงมาที่หน้าท้องขาวเนียนเขาตวัดเรียวลิ้นรุกไล่ร่างกายที่แอ่นครางเสียงกระเส่า มือเล็กทั้งสองสอดลงบนกลุ่มผมนุ่มของเขาแล้วออกแรงจิกทึ้งในยามที่เขาตวัดเลียที่หัวหัวสีชมพูนุ่มนิ่ม วารินครางฮืออย่างลืมอายแอ่นสะโพกร่อนขึ้นรับสัมผัสเขาอย่างลืมตัว “ฮ..ฮ้าา..” ริมฝีปากหนารูดรั้งเข้าออกขณะที่ดวงตาคมกล้าเฝ้าจดจ้องใบหน้าหวานที่บิดเบี้ยวเหยเกเพราะความเสียวซ่าน


สีหน้าที่เขาเคยอยากจะเห็นยิ่งกว่าสิ่งใด วารินกรีดร้องตัวเกร็งสั่นปลดปล่อยลาวารักอุ่นร้อนแตกคาริมฝีปากของเขา ธาราธารตั้งใจไม่เอาออกไปทั้งที่รู้ว่าอีกคนกำลังจะปลดปล่อยเขาตั้งใจดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างของคนๆนี้  ลิ้นร้อนๆลากไล้ลงมายาวจนถึงกลีบร่องทางด้านหลังขณะที่สองมือจับโคนขาขาวผ่องแยกกว้างออก วารินอายจนหน้าร้อนฉ่า รีบคว้าหมอนขึ้นมาปิดบังใบหน้า เขาเอื้อมมือขึ้นมากระชากแล้วเหวี่ยงปลิวหายไปทันที ลิ้นร้อน ๆ แหย่ลงไปที่รูสีสวยวารินครางระส่ำไม่เป็นภาษา


“อ๊าา..ซี้ดส์..” ตัวเกร็งจิกผ้าปูที่นอนแน่นจนแทบจะติดมากับมือเล็กเมื่อเขาเร่งจังหวะที่ปลายลิ้นฉกเข้าออกอยู่อย่างนั้น ร่างกายบอบบางยกสะโพกบิดเร่าๆร้องครวญครางด้วยความรัญจวนใจจนถึงที่สุด ดวงตาคมจดจ้องใบหน้าบิดเบี้ยวของวารินแล้วกดลึกเข้าไปในหัวใจ แม้จะเกลียดจะแค้นแต่แค่คนนี้คนเดียวเท่านั้นที่เขาจะทำแบบนี้ด้วย แค่คนๆนี้เท่านั้น!


เขาอ้อยอิ่งอยู่ตรงนั้นจนพอใจแล้วจึงละตัวขึ้นมากดจูบลงที่ริมฝีปากบางขบกัดอย่างเอาแต่ใจ ขณะที่นิ้วร้ายกาจเริ่มสอดแทรกเข้าไปที่ช่องทางรักสีชมพูสด เขาจับสองแขนเล็กยกขึ้นโอบรอบคอเขาเอาไว้ วารินหลับตาพริ้มกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเขาเปลี่ยนจากปลายนิ้วเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นเยอะ เขากำลังจะเข้าไป เข้าไปทีละนิดๆจนคนตัวเล็กร้องลั่นเมื่อเขาอดรนทนไม่ไหวเพราะช่องทางที่คับแคบบีบรัดเขามากเกินไปเขาจึงดันกายเข้ามาทีเดียวมิดด้าม


วารินกรีดร้องลั่นอย่างลืมอายเมื่อร่างกายเหมือนถูกจับแยก ร่างสูงใหญ่ละตัวออกมาตระหง่านอยู่ที่กึ่งกลางลำตัวคนตัวเล็ก จับสองขาขาวแยกกว้างหลับตาแน่นซู้ดปากอย่างเสียวกระสันเมื่อต้องห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอปลดปล่อยออกมาก่อนเวลาอันควร ดวงตาคมกล้าจับอยู่ที่สีหน้าเหยเกของวารินขณะที่เขาค่อย ๆเคลื่อนตัวเข้าออกอย่างช้า ๆ  เขาถอดออกเกือบหมดแล้วใส่เข้ามาอย่างแรงจนวารินสะท้านวาบ ทำแบบนั้นอยู่สามสี่ครั้งจนเริ่มเข้าจังหวะ


บทรักของเขายังคงร้อนแรงโหมเรือนร่างบอบบางสะท้านสะเทือน เตียงราคาถูกส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดลั่นไปทั่วทั้งห้องเล็ก วารินกัดริมฝีปากกลั้นเสียงร้องมือเล็กยกขึ้นมาปิดปากเล็กๆไว้ เขาโน้มตัวลงมาเอาท่อนขาเรียวเกาะเกี่ยวสะโพกเขาไว้ จับสองมือวารินแยกออกแล้วกดลงกับเตียง


ส่งเสียงกระซิบเย็นเฉียบเข้าใส่  “ร้องสิ ความร่านของพี่ ปลดปล่อยมันออกมา”


วารินตาเบิกกว้างสติกลับมาทันทีหลังจากหลงใหลในรสกามจากเขาอยู่นาน  ธาราธารตอกย้ำจิตใจที่บอบช้ำด้วยคำพูดกับการกระทำที่แสนโหดร้าย ร่างเล็กปล่อยโฮออกมาอย่างหมดอาย ขณะที่เขาโหมจังหวะกระแทกกระทั้นลงไปอีก วารินเริ่มกลับมาต่อต้านอีกครั้งทั้งดิ้นทั้งถดถอยออกจากร่างกายของเขา


“หยุดนะ! ออกไป! ออกไป!” เสียงเล็กๆร้องประท้วงลั่น หัวใจปวดร้าวเจียนตายกับความเป็นจริงตรงหน้า



...เขาแค่อยากทำลาย เขาไม่ได้มีความรักให้กันเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว...



“ออกไปนะ!”  กำปั้นเล็กๆทุบตีเขาทั้งผลักไสทั้งดันออกขณะที่เขาคว้าจับท่อนแขนเล็กรวบไว้ที่เหนือหัวแล้วฉกจูบลงไปปิดริมฝีปากไว้ ดุนดันสอดลิ้นจาบจ้วงเข้ามาใหม่ ธาราธารครางลั่นเมื่อเขาสุดจะทนกลั้นได้อีกต่อไป กระหน่ำสะโพกใส่ไม่มียั้ง


“อาา...” เขาถอนกายพรวดออกมาก่อนที่จะทานทนอีกไม่ได้ ล้มตัวลงนอนหงายแล้วจับคนตัวเล็กคว่ำลงบนร่างกายของเขา วารินดิ้นเท่าที่เรียวแรงจะมีแต่โดนขาแข็งแรงเกี่ยวรัดเอาไว้ แก่นกายร้อนผ่าวถูกจับยัดลงไปแล้วกดสะโพกกลมกลึงให้กลืนเอาแท่งร้อน ๆ ของเขาจมมิดหายเข้าไปจนสุด


“อ๊าา...” เสียงหวานร้องครวญครางไม่เป็นภาษาเมื่อเขากระหน่ำสะโพกสวนขึ้นไม่มียั้ง วารินที่ยังนอนนิ่งซบแผงอกกว้างกัดปากแน่นจิกทึ้งเนื้อหนังของเขาปัดป่ายมั่วไปหมด ทั้งเจ็บทั้งกระสันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เสียงเล็กๆครางลั่นห้องไม่มีอะไรจะต้องอายอีกแล้ว ธาราธารกัดฟันกรอดเมื่อความอดทนเขาถึงที่สุดเขากอดคนตัวเล็กไว้แนบอกแล้วลุกขึ้นนั่งผลักตัววารินให้นอนหงายลง กายใหญ่ขึ้นทาบทับทั้งที่ยังเชื่อมติดกันอยู่ ขาเรียวถูกเขาใช้สองแขนเกี่ยวไว้แน่นวารินสอดมือเข้าเกาะสองบ่ากว้างส่ายหน้าครางลั่นไม่เป็นภาษาเมื่อเขากระหน่ำซอยไม่มียั้งไม่มีกั๊ก เสียงเนื้อหนังกระทบกันดังพับๆๆๆลั่นห้อง เตียงแคบ ๆ โยกไหวไปตามจังหวะส่งเสียงเอี๊ยดๆดังลั่น


ธาราธารไม่รั้งรออะไรอีกแล้วเมื่อมองเห็นแก่นกายชูชันของอีกคนตั้งชันมีน้ำไหลเยิ้มออกมาน้อย ๆ เขาควงสะโพกเพื่อหาจุดเสียวกระสัน วารินร้องจ้าเมื่อโดนสัมผัสเขากระหน่ำลงมาที่จุดนั้นจนร่างเล็กกระตุกเกร็งจิกบ่าเขาลากเป็นรอย


“ไม่...ไม่ไหวแล้ว”เสียงหวานดังแผ่ว ส่ายหน้าไปมาด้วยความรัญจวนก่อนที่สายน้ำร้อน ๆ จะพวยพุ่งออกมาอีกครั้งดั่งลาวาร้อนรัก


“อ๊าา..ธาร..ธาร” ธาราธารบดกรามจนนูนเขาข่มอารมณ์ไม่ได้อีกต่อไปเมื่อได้ยินเสียงที่ตนปรารถนาพร่ำเรียกชื่อของเขาเมื่ออยู่ในห้วงแห่งความรัญจวนจนถึงที่สุดช่องทางคับแคบกระตุกบีบรัดจนเขาเองทานทนไม่ได้อีกต่อไปปลดปล่อยธารรักร้อนแรงพุ่งเข้าใส่เรือนร่างที่เขาปรารถนาครอบครอง


“อ่าา.....พี่ทราย..อาา” เขาคำรามลั่น ยามความหวานล้ำไหลทะลักราวกับน้ำป่าที่สาดซัดโอบอุ้มเอาความสุขสมทั้งหมดทั้งมวลลอยล่อง


ร่างสูงใหญ่ซบตัวลงนอนบนที่นอนแคบ ๆ เอียงหน้ามองคนตัวเล็กที่นอนหอบหายใจขึ้นลงด้วยความเหนื่อยอ่อนเช่นกันกับเขา มือใหญ่จะเอื้อมไปดึงร่างบอบบางเข้ามาสวมกอดแต่จำต้องหยุดแค่กลางทาง เมื่อเสียงหอบหายใจถี่ๆกับใบหน้าที่แสนจะยั่วยวนในวีดีโอนั่นลอยเข้ามาในห้วงความคิดเขาอีกครั้ง วารินต่อต้านเขาทุกครั้งในขณะที่ไขว่คว้าหาทัตพลพ่อของเขาราวกับคนหิวโหยรักกันหวานซึ้ง แววตาเขาแข็งกร้าวขึ้นทันที เขาลุกพรวดขึ้นจากเตียงคว้าเอาเสื้อและกางเกงขึ้นมาสวม โน้มตัวลงบีบปลายคางมนแน่นจนวารินดิ้นพราดขึ้นมาอีกเพราะความเจ็บ


“ถึงใจไหม กับคนร่านๆแบบพี่!”


ผ้าห่มผืนเล็กที่หล่นอยู่บนพื้นห้องถูกเขาคว้าขึ้นมาแล้วปาเข้าใส่ร่างเล็กอย่างแรง ก่อนเสียงประตูห้องจะปิดลงดังปัง!


วารินประคองเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นนั่งในความมืด เสียงสะอื้นแห่งความเจ็บช้ำดังสะท้อนอยู่ภายในใจเพียงลำพัง ปวดรวดร้าวไปทั้งร่างกายและจิตใจ ร่างเล็กๆค่อยก้มไปหยิบกางเกงขึ้นมาสวม ส่วนเสื้อนั้นถูกฉีกขาดจนไม่เหลือชิ้นดี เมื่อขาเล็กลุกขึ้นยืนสายน้ำร้อน ๆ ก็ไหลทะลักออกมาจากช่องทางรักจนรู้สึกเหนียวเหนอะ เดินขาสั่นไปควานหาเสื้อยืดขึ้นมาสวมใส่แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวออกไปที่หน้าห้อง


หลังบานประตูห้องน้ำเล็กๆคับแคบสายน้ำจากฝักบัวสาดรดลงมา  วารินค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรง หวังใช้บานประตูเป็นที่พักพิงหัวใจที่เหนื่อยล้า เมื่อมันโดนทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตาคู่สวยแดงก่ำ เสียงสะอื้นโรยแรงเหลือเกินแต่กลับเต็มไปด้วยความชอกช้ำนักหนา ใบหน้าเล็กซบลงกับสองเข่าที่ตั้งชันขึ้น


ถ้าเพียงแต่บอกออกไป....


ทว่าความผิดของเขาก็ไม่มีวันลบล้างออกไปได้หมดอยู่ดี ตราบาปที่ติดลึกฝังแน่น จะต้องล้างเท่าไหร่ ล้างอย่างไร แม้ว่าอยากให้สายน้ำชโลมลูบความเจ็บปวดให้ทุเลา ชะล้างทั้งเนื้อทั้งตัวให้สะอาดไร้ราคีย์ อยากจะล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกฝังติดตรึงอยู่ในร่างกายนี้ มือเล็กทั้งขัดทั้งถูกลิ่นกายของใครต่อใครโดยไม่กลัวผิวขาวบางจะชอกช้ำเลยสักนิด


...กับร่างกายที่มีราคีแบบนี้  คงจะรังเกียจกันมาก ถึงได้เอ่ยคำพูดมากมายบ่งบอกให้รู้ว่าเรือนกายของเขานั้นแสนไร้ค่าเสียเหลือเกิน...



...หัวใจที่กลัดหนอง...แสนร้าวราน....



              “พี่รักผมไหม”


              “รักนะ ผมรักพี่”


              “ตอนนี้ยังไม่ต้องเชื่อหรอก แต่ให้พี่คอยดูผมไปเรื่อยๆ เราดูกันไปจนแก่เลยดีไหมครับ”





“...รัก...พี่รักธาร...ขอโทษ...พี่ขอโทษ...”



... เสียงเล็กๆสั่นเครือ พึมพำร่ำไห้ผ่านสายน้ำเย็นเฉียบ สำลักความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เขารู้ทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำมากมายแค่ไหน.....




...จะมีหนทางใดไหมที่เรา...จะกลับไปรักกันได้ดังเก่าอีกครั้ง...


 


Tbc.
*โอ๊ยยยพี่ทรายยยยยย  บทนะบท! บทมันเป็นอย่างนั้นนน  :katai1: ไม่ได้ดั่งใจเลยฮึ่ยยย* (แต่ถ้าพูดไปแล้วธารมันจะฟังไหม??)
*คนอ่านอินจัดเลย  อ่านแต่ละเมนท์แล้วอมยิ้ม....ทำไมคนอ่านฉันน่ารักขนาดเน้...ชอบนะชอบมากๆเลยไอ้ยาวๆอ่ะ..ขอบคุณคราบ*   
*ช่วงสี่ห้าตอนนี้จะมีเอ็นซีปนเยอะหน่อย ธารมันกำลังคลั่ง อย่าเพิ่งเบื่อกันเน๊ะ*

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 27-03-2014 21:22:18
สมน้ำหน้าอินังวิน่าโง่ โง่ที่หลอกตัวเองมาตลอด
โง่ที่ทำเรื่องเลวๆต่ำช้าไม่รู้จักหยุด โง่ทั้งๆที่รู้ว่า
ที่เรื่องทั้งหมดก็แกเองนั่นแหละเป็นคนก่อขึ้นมา
อยู่ดีไม่ว่าดี เค้าอุตส่าห์ทนอยู่ด้วยมาตั้ง20ปี
ยังหาเรื่องใส่ตัว แต่โดนแค่นี้มันยังน้อยไป น้อยไปจริงๆ   :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 27-03-2014 21:56:19
สงสารทราย และธาร หากทรายบอกไปว่าโดนวางยาธารจะเชื่อป่าว หรือที่ทรายไม่อยากบอกกลัวว่าธารจะเกลียดพ่อ ว่าเป็นคนทำ โอ๊ย!!! ทั้งรักทั้งแค้นจะปรับความเข้าใจกันได้ป่าวนะ  :mew2: :mew2: :mew2:
(http://เวปมีไวรัส/images/2014/03/27/a88520a0a49111e3b79312eb07b1b39389E2ni.jpg)
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: lightseeker ที่ 27-03-2014 21:58:38
ถ้าพี่ทรายลองฟังดูดีๆจะสัมผัสได้ถึงความน้อยใจ ความอิจฉา ความรักในประโยคประชดประชันของน้องธารมันนะ
น้องมันรักมากน่ะแหละถึงทำแบบนี้

คุณทัตหมดบทรึยังอ่ะ เราว่ามันน่าจะดีนะที่หลังจากตอนนี้คุณทัตจะปลีกตัวและหายไปเงียบๆและไม่กลับมาอีก  :เฮ้อ:
พอน้องธารมันหายคลั่งแล้ว ไม่มีอะไรมากระตุ้นให้ลมหึงตีขึ้นหน้าอีก อะไรๆคงจะดีขึ้นกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 27-03-2014 22:06:33
เริ่มจะสงสารพี่ทรายขึ้นมานิดตอนที่ได้ยินคำรักธารออกมาในตอนสุดท้าย  :o12: ไม่ๆ เราจะยังไม่ใจอ่อน เราสติลซัพพอร์ตน้องธารอยู่
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 27-03-2014 22:09:43
ถ้าป้าวิรู้ตัวแล้วก็ควรแก้ปัญหาได้แล้วนะ คุณพ่อก็ด้วย แล้วถึงทรายจะอยากบอกแค่ไหน
มันก็เป็นไปไม่ได้หรอกหลักฐานมันคาตาขนาดนั้น ขออย่าพึ่งมีใครมาแทรกแซงก็พอ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 27-03-2014 22:27:04
รอเรื่องนี้ทุกวัน เพราะชอบคนเขียน มีวินัย แล้วก็สม่ำเสมอดีค่ะ สำนวนการเขียนก็เป็นแบบที่ชอบ  อยากรู้มากเลยว่าบทบาทของพี่ซีจะเป็นยังไง  จะเข้ามาช่วยทรายรึเปล่า สองตอนที่แล้วไม่ได้เม้นท์ จบที่ฉากน้องทรายโดนกระทำชำเราแล้วนึกถึงประโยคบอกรักของตัวเองกับธาร ลุ้นให้ทรายพูด  เฮ้อ แต่สุดท้ายธารก็ยังไม่รู้อะไรอยู่ดี  มันขัดใจตรงนี่ล่ะ
ด้านทัตพลก็เริ่มขยับแล้ว  เราก็ไม่อยากคาดเดาว่าทัตพลจะทำอะไรต่อไป  จุดหักเหใหญ่ของเรื่องนี้คงจะเป็นตอนที่ทรายมีอะไรกับคุณทัตพลนี่ล่ะ  ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง  กำลังตั้งตารอเหตุการ์ณที่ทำให้เรื่องราวดำเนินต่อไปอีก  เป็นกำลังใจให้นักเขียน :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 27-03-2014 22:33:50
บาดเจ็บกันทุกคน ฮือๆๆๆ

พี่ทรายกับน้องธารต้องทนให้ไหวนะคะ

 :mew2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 27-03-2014 22:41:46
 :o12: ไม่ไหวๆ ทรายหัวใจกลัดหนอง แต่คนอ่าน... หัวหนองเเตกแล้วค่าาาาาาาา!!!
สงสารมากอ่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้ทุกวันทุกคืนทรายจะทรุดเอานะ ทั้งกายทั้งใจมันถูกบั่นทอน ไม่มีความฝัน ไม่มีอนาคต ไม่มีเเม้เเต่
ความฝันลมๆแล้งๆ เลยด้วยซ้ำ ธารก็นะเมื่อความโกรธ อิจฉา ริษยา(พ่อตัวเอง)เข้าครอบงำ ทรายทำอะไรก็เป็นเพียงการท้าทาย
อำนาจไปซะหมด ตอนนี้ที่ธารทำเป็นทั้งการเเสดงความรัก ความเเค้น และเหมือนจะเอาชนะพ่อตัวเองด้วย  :เฮ้อ: สักวันธารนั่น
เเหละที่จะต้องเสียใจ ทรายโทษตัวเองอีกเเล้ว ยังดีที่คราวนี้ได้ลองพยายามที่จะบอกแม้จะไม่สำเร็จ แต่การที่ทรายต้องมานั่งโทษ
ตัวเองทุกครั้งที่เกิดเรื่องเเบบนี้กับตัว ไม่ใช่เเค่จะทับถมตัวเองนะ เเต่มันเป็นการบั่นทอนพลังชีวิตตัวเองลงด้วย คนเราเจ็บเพราะ
ศัตรูก็เเค่เปลี่ยนความเจ็บเป็นความเเค้น แต่การเจ็บเพราะคนที่รักถ้าไม่เเค้นเเสนสาหัสอย่างธารก็คงอ่อนเเอลงอย่างทราย แต่เดิม
ทรายค่อนข้างเข้มเเข็งเลย แม้รูปร่างจะไม่ใช่ เเต่ใจทรายก็เเข็งเเรง มาตอนนี้ไม่เหลือเค้าเลยนะ ทั้งทรายทั้งธารมีใจรูปร่างบิดเบี้ยวไปหมดเเล้ว... :hao5: จะหาทางออกยังไงล่ะทราย คุณทัตตัดช่องเอาตัวออกห่างจากคุณศรีภรรยาไปแล้ว(พ้นรึเปล่าก็ไม่รู้) ส่วน
ธารก็ระบายอารมณ์รักอารมณ์แค้นกับทรายไปตามเรื่อง แล้วทางออกของทรายล่ะ จะออกทางไหนดีลงที่ใคร หรือจะลงที่ตัวเองอีก

ยัยคุณป้ากำลังนำพาลูกสาวมาถวายตัวเเล้ว ธารจะรับไว้พิจารณารึเปล่า? ถ้ารับไว้ที่ธารเคยพูดว่าให้เวลาพิสูจน์ ทรายคงได้ประจักษ์แหละนะ... คงเจ็บยาวอ่ะงานนี้ แต่ถ้าไม่รับก็คงดี แต่อย่างนั้นธารคงอดหาคนมาควงเหยียบหัวใจทรายอีกครั้งเหมือนก่อน
จะบอกรักกัน... โอ้ยยยยยย!!! บีบคั้นอารมณ์ เดาไม่ถูจริงๆกับอารมณ์ธารต่อจากนี้ ยังไงก็เบาๆมือกับทรายหน่อยนะ ก่อนจะไม่มีที่ให้ระบายอารมณ์เเค้นอีกต่อไป :z3: ทรายของป้าาาาาาาา :mew6:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 27-03-2014 22:45:44
เฮ้ออออออ สงสารพี่ทรายอ่ะ ถ้าบอกความจริงกับธาร แล้วธารจะฟังไหม ในเมื่อตอนนี้ในใจธารมีแต่โกรธ
เฮ้ออออออ ขอให้เข้าใจกันเร็วด้วยเถอะนะ ไม่อยากอ่านไป เช็ดน้ำตาไป เพราะสงสารพี่ทราย
เฮ้ออออออออออ

ปล.เราชอบ NC ของคนแต่งนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 27-03-2014 22:50:27
 :katai1: ไอ้เราก็นึกว่ามาม่ามันจะแซ่บขึ้นเรื่อยๆ
ที่ไหนได้อยู่ๆก็เอาน้ำมาเจือจางซะงั้น รึว่าเป็นการพักระหว่างเตรียมเครื่องต้มแซ่บชุดใหม่

ตอนนี้อ่านแล้วหมายธารมันร้ายน้อยกว่าเดิมอ่ะ แต่ก็ยังสงสารธารอยู่เหมือนกลับไม่ได้ไปไม่ถึง
คือธารมันอยากจะดีกับทรายแต่ความผิดที่ทรายทำยังไงก็ให้อภัยไม่ได้
ทำไมหลายๆคนถึงคิดว่าพอบอกความจริงแล้วมันจะจบ ธารจะเป็นพระเอกแสนดี เข้าใจและให้อภัยง่ายๆ
แต่เราไม่รู้สึกยังงั้นเลยนะ เราว่าถึงจะโดนวางยาแต่ไอ้ที่มีอะไรมันคือเรื่องจริง
ถึงไม่มีอะไร แต่ไอ้ที่มุ้งมิ้งกับคุณทัตทั้งๆที่ทรายรักกับธารอันนี้ก็ผิดมากแล้วนะ
เราว่ามันเป็นความผิดที่มีเหตุผลแต่ยากที่จะให้อภัยแถมคุณภัครดันนอนแดดิ้นบนเตียงทำอะไรไม่ได้

 :z6: อิบัวกับอิแม่บัวนี่จะมาเป็นก้างตัวใหม่ป่ะเนี่ย ระริกระรี้ทั้งแม่และลูก
สงสัยจริงๆ """"""ทำไมผู้ในเรื่องไม่มีคนไหนแลดูนิสัยดีเลย""""""" ขนาดคุณภัครเราว่าชียังเป็นผู้หญิงมาดคุณนายที่ทุกอย่างต้องเป๊ะในความคิดของตัวเองและไม่ยอมคนอื่น ชีมั่นว่างั้น
ในอนาคตธารอาจจะเอาตัวไปผูกติดกับสองคนนี้ก็ได้ ซึ่งจะก่อเกิดมาม่ารสต้มยำกุ้งมาให้เราชิมกัน
ถ้าอิดอกบัวเป็นคนดีไม่อ้อร้อ ฉันก็อยากจะเชียร์ให้ธารไปคบกับมันซะแล้วจบนอร์มอลไปหนึ่งคู่
ส่วนทรายก็ส่งมาให้คุณทัตของฉัน(หึหึหึหึหึหึหึหึ อันนี้แหละจุดประสงค์ พอดีอยากฟินนนนนนนน)

 :a5: ส่วนอิวิ บอกตรงๆตอนนี้พลิกล็อกมาก อยู่ๆก็คิดได้และสำนึกผิด แล้วดันมาใจอ่อนเพราะอินักสืบทำเกินเหตุ
มันแลดูไม่ค่อยสมกับนิสัยอิวิเลย อย่างชีน่าจะต้องครอบครองตัวคุณทัตให้ได้ (อยากจะไปจอกหัวตบแย่งคุณทัตจากมันมาจริงๆ)
และชีก็ไม่น่ามีความคิดที่จะเชื่อสามีในขณะที่ยังโกรธขนาดนั้น แต่บทก็ให้คุณทัตของเราหนีออกมาง่ายๆ
ยังกะตอนจบละคร = =!

บทเอ็นซีนี่นับวันยิ่งดูเบาบาง มันแลดูไม่แรงสมกับที่แค้นเลยนั่นแสดงให้เห็นได้ชัดว่า ธารรักทราย
ซึ่งอิทรายมันแอ๊บโง่เป็นนางเอกในดาวพระศุกร์ ว่าเขาคงไม่รักเราแล้ว  :z3: อยากจะจับหัวมันโขกสิบเจ็ดครั้ง

แต่ตอนนี้ทำให้ฉันชอบเด็กเปรตมากขึ้นจนอยากดูแล
ตอนนี้จึงขอสถาปนาตัวเองเป็น เจ้าของสองพ่อลูก'ทัตธาร' ตัวจริง ฮ่าฮ่าฮ่า
ตอนนี้เริ่มกรี๊ดกร๊าดกับสองพ่อลูก อยากได้ๆๆๆๆๆๆ  :hao7: :hao7: :hao7:

อยากเห็นโดจินสองพ่อลูกจัง มันต้องฟินจนแผ่นดินถล่มฟ้าทลายแน่นอน ฟันเฟิร์ม  :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 27-03-2014 22:51:54
หน่วง หนัก แต่ชอบมากค่ะ ชอบพระเอกแนวหวงหน้ามืดแบบนี้แหละ แต่ใจคนนะธารไม่ใช่หิน
เจอเรื่องเจ็บเรื่องเสียใจทุกวันจะทนไหวเหรอ สงสารทรายมาก แค่อ้าปากจะพูดเขาก็ไม่ฟังแล้ว
ให้พี่ทรายไปช่วยงานสิ ต้องดีแน่ๆ  ตอนทรายคุยโทรศัพท์ร้องไห้จนหลับน่าสงสารมาก
ถ้าไม่เป็นคนดีนี่คงหนีหายไปแล้ว จะมาชดใช้ไปเพื่ออะไร คิดดูดีๆ นะธาร

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 27-03-2014 22:56:58
ไม่เบื่อเลยค่ะ เอ็นซีเหมาะสมกับบทอยู่ เฮ้ออออออ

ธารเอ๊ย ทรายเอ๊ยยย สงสารพวกเธอ ติดตาม เราจะติดตามยันจบเลย

โคตรลุ้นอ่ะ  :เฮ้อ: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 27-03-2014 22:57:33
ใครเป็นไงไม่รู้แต่หนูชอบพ่อทัต 
ตอนนั้นพ่อทัตแกคงไม่มีทางเลือกหรอก
ทั้งอายุ ถานะ  ไม่มีใครอยากเลือกทำลายหัวใจตัวเองหรอก
ไม่ได้เป็นพระเอกก็ไม่เป็นไร :จุ๊บๆ:
พี่ทรายก็รักธารด้วยแหละ ไม่งั้นไม่ยอมอย่างงี้หรอก
สู้ต่อไปนะทาเคชิ<ทราย> :angellaugh2:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 27-03-2014 23:12:42
กรี๊ดดดดด อิวิ อิเลวว อิชั่ววว แกทำอย่างนี้ได้ยังไง
แกมันไม่ใช่คนนน สงสารพี่ทรายอ้ะ เอาเราไปแทนได้มั้ย ?
เมื่อไหร่ธารจะรู้ความจริงอ้ะ ไม่ไหวๆๆ แม้จะชอบฉาก
โซเดมาคอมกัน แต่ก็สงสารอ้ะ ฮือออออออ
มาต่อไวไวนะ แม้เราจะไม่ชอบมาม่า แต่เราก็จะอ่าน


หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: enjoy_13 ที่ 27-03-2014 23:21:42
สงสารพี่ทราย ทำไมธารถึงไม่ฟังพี่ทรายบ้าง   :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 27-03-2014 23:31:26
สมน้ำหน้านังคุณวิ สะใจจริงจริ๊งง ถือว่าเป็นการชดใช้กรรมในขั้นแรก
แย่งชิงเค้ามา ท้ายที่สุดตัวเองก็ไม่ได้ครอบครอง ไม่รู้จะคิดแผนการชั่วร้ายอะไรอีก
สำหรับธาร เห็นใจกับภาระงานที่ต้องแบกรับเอาไว้ คิดว่าเดี๋ยวอยู่ๆไปก็คงต้องให้พี่ทรายเข้ามาช่วย
เพราะธารก็ไม่ได้ถนัดงานบริหาร เท่ากับพี่ทรายที่ทำงานด้านนี้มานาน และพี่ทรายก็ถือว่าไว้ใจได้มากที่สุด
ถ้าเทียบกับคนอื่น ที่คอยแต่จะหวังผลประโยชน์

ฉากบนเตียงที่พี่ทรายต้องเป็นที่รองรับอารมณ์เกรี้ยดกราดของธาร ถึงจะหนักหน่วงสาหัสสากรรจ์
แต่บางเสี้ยวก็แฝงไปด้วยความหวานปนขมนิดๆ พี่ทรายก็พยายามจะพูดจะอธิบาย แต่ก็ติดตรงที่ธารหึงหวงหน้ามืด
ไม่คิดฟังอะไรเลย นี่ถ้าธารได้รับรู้ความจริงไปบ้าง ธารก็คงไม่โหดร้ายกับพี่ทรายเท่าที่เป็นอยู่
ช่วงนี้พี่ทรายเสียน้ำตาตลอดเลย เฮ้อ....สงสารและเห็นใจนะ เอาใจช่วยละกัน ขอให้ผ่านพ้นช่วงเวลาร้ายๆไปเร็วๆ

ปล.คิดถึงน้องธิปนะ เมื่อไรจะมีบทบ้างคะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 27-03-2014 23:46:00
ถ้าทรายพูดความจริงทั้งหมดไป ธารก็คงไม่รับฟัง และก็คงไม่เชื่ออยู่ดี

ทำให้ทรายทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจให้มากที่สุด

แล้วสักวันเมื่อความจริงเปิดเผย คงที่เจ็บจวนตาย ก็น่าจะรู้ว่าเป็นใคร

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 28-03-2014 01:10:01
สงสารพี่ทราย :o12: :o12:
 :angry2: ธารใจร้ายยยยยย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 28-03-2014 02:09:45
สงสารพี่ทราย น้องธารไม่ยอมฟังอะไรเลย

อยากขอร้องคนแต่งว่า ไม่ต้องทำสีขาวได้มั้ยคะ บางทีเวลาอ่านจากมือถือหรือไอแพด มันอ่านยากมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 28-03-2014 02:21:30
ไม่รักธารแล้ว เชียร์คุณทัต เหอะ!
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 28-03-2014 03:04:08
โอย มาม่าาาาาาาา คนเขียนช่างโหดร้ายนักต้มมาม่าให้กินติดๆกันแบบนี้ผมร่วงกันหมดพอดี อ้ากกกกกค้างเว้ยยย ขออภัยหากหยาบคาย ตอนนี้คนอ่านดิ้นทุรนทุรายมาก ฮืออออ :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 28-03-2014 08:39:34
 o13 อย่างแรกยกนิ้วให้กับเรื่องนี้ทีทำเอาตรูแทบกระอักเลือดกับการรอหัวข้อกระทู้เปลี่ยนเป็น อัพ!  :m15:

จะขอพูดถึงธาร (ไม่พูดถึงนายเอกนะ เหอๆ  o18 ) ธารเป็นตัวละครพระเอกที่ตัวพี่เองหาไม่ค่อยจะได้จากเรื่องอื่น(หรือตรูไม่เคยสนในว่ะ)เวลาอยู่ในโหมดคลั่ง (แล้ว?) แต่ยังอ่อนโยนมากๆ (ในความคิดผมคนเดียว) เพราะแม้จะพูดจาดูถูกถากถางหรือแม้กระทั้งตอนร่วมรัก(?) ก็ยังมีความรู้สึกอื่นๆแทรกด้วย เช่น น้อยใจ หึงหวง และรัก  :mew1: นั้นทำให้พี่สมัครเป็นแม่ยกของลูกธารนะลูก :L1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 28-03-2014 10:25:29
นึกว่าจะไม่มาซะแล้วววว มาซะเลือดกลบจมูกไปหมดเบย :haun4: :pighaun: จะเม้นตั้งแต่เมื่อคืน แต่รำคาญคนนอนข้างๆ สอดหน้ามาตลอด ซะตูเม้นไม่ออกเลย :ling2:

เปิดมาช่วงแรก ก็สงสารเด็กน้อยธารซะแล้ว  โดดเดี่ยว อ้างว้าง ประหม่าไปหมดกับเด็กที่เพิ่งพ้นวัยมัธยมได้ไม่นาน ถึงจะประสบการณ์อื่นเชี่ยว แต่พอต้องมารับบทผู้บริหารแทนแม่ที่นอนป่วย ก็อดไม่ได้ที่จะกลัว เพราะไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญสักนิด ไม่รู้ว่าต้องเจออะไรบ้าง หุ้นส่วนมีแต่คนมีอายุมีประสบการณ์ทั้งนั้น ไม่รู้ว่าจริงใจแค่ไหน เล่ห์เหลี่ยมจะมายังไง จะรับมือแบบไหน จะรักษาสิ่งที่แม่สร้างมาได้หรือเปล่า ถึงจะมีลุงแต่ลุงก็ต้องดูแลกิจการที่ต่างประเทศอีก มันคงอื้ออึงสุมหัวไปหมด ทั้งเรื่องงาน เรื่องแม่  โดยเฉพาะ เรื่องพ่อ เรื่องคนรัก ที่ตัวเองคิดอย่างเจ็บแค้นว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ไหนจะคลิปภาพที่ตามหลอกหลอนแทบทุกเวลาที่ตัวเองนอนกับทราย มันเกินจะรับไหวสำหรับคนอายุเท่าธารมากนะในความคิดเรา :เฮ้อ:

 อีกอย่างตัวเองก็ตั้งใจเรียนหมอด้วย ต้องมาหยุดความฝันของตัวเองไปทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับธารในตอนนี้มันทะลายลงไปหมดแล้ว มันสาหัสมากนะสำหรับเด็กวัยนี้ ถึงตัวจะโต บุคลิกให้ความเป็นผู้ใหญ่ แต่ด้วยวัยและจิตใจเขาก็ยังเป็นเด็กหนุ่มอยู่นั่นเอง  ยังต้องการความรักความดูแลเอาใจใส่จากแม่ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวของเขาในตอนนี้ ถ้าไม่มีแม่ ธารคงทำอะไรที่เลวร้ายกว่านี้แน่นอน เขาจะต้องกลายเป็นคนเลวทำร้ายคนรักทั้งที่รักมากก็เกลียดมากในเวลาเดียวกัน เป็นคนอกตัญญูต่อพ่อโดยไม่ได้ตั้งใจ สำหรับเรื่องงานถ้ามีทรายช่วยก็คงดีอยู่แล้ว แต่อารมณ์ของธารในตอนนี้ไม่มีทางเอาทรายมาช่วยงานแน่ อยากจะเก็บไว้ใกล้ตัวมากกว่า เพื่อระบายความเจ็บแค้น ทั้งที่ตัวเองเจ็บไม่น้อยกับการกระทำต่อคนที่ตัวเองรัก จะเห็นได้ว่า ธารอ่อนไหวแค่ไหนเมื่อเห็นทรายเจ็บปวดเพราะการกระทำของตัวเอง ต้องกดความรักให้ลึกเอาความร้ายออกมา แต่ความรู้สึกรักมันมากกว่าเห็นๆ ทรายไม่เห็นหรอก ฉันเห็น ฉันเลยเข้าใจ ฉันเลยสงสารธารที่รักทรายมาก รักซะจนไม่เหลือให้ใครแล้ว ต่อให้เอาใครมาประชดกกกอดให้ทรายเห็น ให้ทรายเจ็บช้ำเหมือนที่ตัวเองเจ็บ แต่ธารคือคนที่เจ็บที่สุด :monkeysad:

สำหรับความจริงที่ทรายคิดจะพูด ธารย่อมไม่เชื่อแน่นอน เป็นใครใครก็ไม่เชื่อ มันไม่ใช่แค่ใครมาพูดให้ฟัง ถ้าเป็นอย่างนั้น ธารก็ถือว่าไม่มีเหตุผล ไม่เชื่อในตัวคนรัก หลับหูหลับตา แต่ในกรณีนี้มาทั้งภาพทั้งเสียงแถมเคลื่อนไหว เป็นใครๆ ก็ตะลึงและไม่เชื่อทั้งนั้นแหละว่าเกิดจากความไม่ตั้งใจ ย้อนกลับไปอ่านตอนที่ธารดูคลิปอีกครั้ง ดูด้วยใจที่เชื่อว่า ไม่ใช่ทรายกับพ่อ ดูให้เจ็บไปถึงหัวใจว่ายังไงก็ไม่ใช่ แต่สุดท้ายมันคือความจริงที่ใช่ทั้งสองคน แต่ไม่ใช่ความจริงที่ทำกันเพราะทรยศธาร เห็นไหมใครว่า ธารไม่เชื่อใจทราย ไม่รักไม่ฟังทราย แต่มันยากไงที่จะให้เข้าใจได้เลย ถ้าเข้าใจง่ายก็จบไวดิ ก็ไม่อ่านฉากจึ๊กๆกันอีก  นี่แหละสำคัญ อ๊ะ เขียนอะไรออกไป :z1:

มาถึง นายเอกบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าเข้าแต่ พระเอก ที่จริงก็เข้าข้างจริงๆนั่นแหละ :laugh: ไม่ใช่ว่าเกลียดนายเอกนะ เพียงแต่นายเอกแบบทรายมันขัดใจนิดนุง มันเป็นนายเอกที่ใสซื่อ แต่ท่าทางมันไม่ใช่ไงมันขัดกับสิ่งที่แสดงออก เลยหมั่นไส้นาง :hao3:

ทรายในตอนนี้ ก็เจ็บช้ำไม่น้อยกว่าธาร เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ ที่ถูกคนรักกระทำย่ำยี ยิ่งต่อต้านก็ยิ่งทำให้ธารเข้าใจผิดคิดว่ามีใจให้พ่อตัวเองอีก ทำอะไรในตอนนี้ผิดไปหมด ซึ่งก็ไม่แปลกมันต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะด้วยความไม่รู้และถึงรู้ก็ต้องโดนอยู่ดี เพราะมันยังไม่มีอะไรมาทำให้เชื่อได้ว่าเป็นความจริงที่ไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้ให้ทำยังไงธารมันก็หน้ามืดไม่ฟังหรอก เพราะความแค้นมันครอบงำทั้งที่มันทั้งรักทั้งหลงทรายยังกับอะไร ดูที่แสดงอารมณ์สิ อิจฉา หึงหวง อยากให้ทรายรักตัวเองมากกว่าพ่อ มากกว่าทุกๆเรื่อง ในความคิดธารมันนะ แต่ทรายเสียเปรียบตรงที่ไม่รู้นี่แหละ เลยคิดไปว่าธารหมดรักตัวเอง เริ่มหมดหวัง ท้อแท้ อาการแย่ จิตตก กับคนที่ตัวเองรัก เลยต่อต้านในบางครั้ง แต่เวลาอารมณ์เคลิ้มทั้งคู่ก็เข้ากันได้ดี ต่อไปถ้าได้กลับมาอยู่ด้วยกัน (หรือเปล่า) คู่นี้จะต้องเป็นบทรักที่อีโรติค วาบหวามน่าอิจฉาแน่นอน :oo1: ขนาดนี้ยังอิจฉานางเลยที่ได้กินเด็กหนุ่มทั้ง(ตัว)ยาว ทั้ง(ตัว)ใหญ่ แถมหลงหัวปักหัวปำ ทนต่อไปอีกนิด(เหรอ) ทรายเกชิ เธอจะได้สามีเด็กที่หล่อรวยและรักเธอมากกลับมาแน่นอน ถ้าได้คู่กันนะ อิจซี่แต่ก็อยากให้คู่กันอยู่ดี ยิ่งตอนนี้ทรายรู้แล้วว่าตัวเองรักธารเช่นกัน นางคิดได้บ้างแล้วว่าต้องทำยังไงถึงจะสร้างความเชื่อใจให้กันและกันอีกครั้งได้ แต่มันก็คงจะไม่ง่ายต้องฝ่าฟันและดันกันต่อไป เป็นกำลังใจให้ต่อไป :mew1:

คุณทัตขอปรบมือให้ในตอนนี้ที่แก้ปัญหาได้เปราะหนึ่ง :katai2-1: ถึงจะไม่ได้รุนแรงลงไม้ลงมือกับผู้หญิงใจร้ายที่ทำร้ายลูกเมียที่ตัวเองรัก แต่ก็ถือว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว เป็นลูกผู้ชายมาก อยากให้ทัตได้เข้าไปดูแลภัครนะ แต่คงยากเพราะอีคุณลูกต้องคิดว่าจะมาเคลมเมียกูแน่ พาให้ทรายโดน(จัด)หนักถูกใจเราเข้าไปอีก  :hao6:

 เอาไว้ให้ธารมันเย็นลงหน่อยดีกว่าค่อยเข้าไป แต่คิดว่าคุณทัตคงรู้แล้วล่ะว่าต้องทำยังไง ถ้ารักภัครรักลูกต้องอดทนได้ (หวังว่าคงไม่มีอะไรแอบแฝงนะคะคุณพ่อ o18 ขอร้อง ส่วนวิ จะว่าน่าสงสารก็น่าสงสารนะ รักซะจนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา แต่เวรกรรมก็ตามทัน ของที่ขโมยเขามาสักวันมันก็ต้องคืนเขาไป ยิ่งทำเรื่องเลวร้ายลงไปอีก คงยากแล้วที่จะให้เขากลับมา ลูกก็ไม่ใช่ลูกเขาด้วย แต่ยังดีที่เขารักและเลี้ยงเหมือนลูกตัวเอง ถ้าวิมีสติสักนิดจับจุดได้ถูกสักหน่อย คงไม่เป็นแบบนี้แน่ แต่ไม่รู้นางจะสำนึกได้จริงหรือเปล่า :เฮ้อ: กลัวว่านางจะแค้นและเป่าหูธิปให้แก้แค้นไปด้วยนี่สิ เรื่องคงเลวร้ายลงไปอีกแน่ เป็นอีกคนที่ต้องมารับกรรมกับสิ่งที่แม่ทำลงไป โยนไปให้พี่ซีปลอบใจดีไหม หรือว่า ให้คุณทัตเอาไปเลี้ยงต่อ ไหนๆก็เลี้ยงมาแต่เล็ก ถ้าเป็นแบบนี้ วิจุกอกตายแน่ ก็สะใจดีนะ o18

สุดท้าย ฉากที่ชอบและอิจชี่ทรายที่สุดที่สุด มันช่างได้อารมณ์ฝุดฝุด คุณเขียนฉากนี้ดีนะ หล่อลื่น เอ้ย ไหลลื่นดีมาก อ่านแล้วจิ้นตามได้เลยอ่ะ ดูสิ ใครว่าน้องธารฉันร้าย ขนาดโมโห ขนาดจึ๊กๆ มันยังให้ความเคารพทรายเลย เรียกแทนตัวเอง ผม ตลอด พอจุดพีค มันก็ยังเรียก พี่ทราย ช่างเป็นเด็กที่มีมารยาทดีจริงๆเลย :man1:   

ไม่ต้องเกรงใจค่ะ จัดมาอีกฉากเรียกเลือด ชอบ ชอบ เพิ่ม SM เข้าไปด้วยก็ได้ ไม่ได้แกล้งนายเอกนะ แต่อยากให้สมจริงสมจังกับการแก้แค้น แต่เป็น SM แบบวาบหวิวดีดดิ้นกันให้ตายไปเลย รวมตูด้วยเอาให้จมกองเลือดไปเลย :jul1:

ไอ้สีขาวๆ ไม่ต้องทำก็ได้ เราก็แบบทรายแหละ ใส แต่ แสดงออกว่าชอบ เปิดเต็มๆไปเลยจ้า :haun4:

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 28-03-2014 11:26:15
น้องธารอย่าโหดนักนะ เด๋วพี่ทรายจะรับไม่ไหว  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 28-03-2014 13:18:41
you need to talk!
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 28-03-2014 15:02:30
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :o12: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: Min61 ที่ 28-03-2014 15:21:57
พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรกเลย รวดเดียวจบ สนุกกกก
สมัครสมาชิกเพื่อมาคอมเม้นท์เลยทีเดียว  :mew1:

สงสารธารนะ สงสารมาก แต่ก็โกรธทรายไม่ลงเหมือนกัน 
คนเขียนทรมานคนอ่านมากค่ะ  :o12:

แล้วก็รู้สึกว่าเพลงนี้ตรงกับธารมากเลย https://www.youtube.com/watch?v=XJ2bjStuwyY (https://www.youtube.com/watch?v=XJ2bjStuwyY)
ตอนอ่านๆอยู่ แวบเข้ามาในหัว ใช่ตัวธารเกือบหมด โถ่ววว น้องธารผู้น่าสงสาร
(แต่เจ๊เชียร์คุณทัตน่ะนะ  :laugh:)
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 28-03-2014 20:02:55
เรื่องนี้อ่านแล้วสะใจสุดๆเต็มอิ่ม ติดมากกกกกกกกกกกกกกก มีทุกรสชาดโดยเฉพาะมาม่าต้มยำกุ้งสุดแซบ

รออ่านต่อทุกวันครับผม
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: haruko ที่ 28-03-2014 20:20:41
ทรายปากหนัก ทำไมไม่ดันทุรังบอกไป
 ธารก็เอาแต่หน้ามืด คุณทัตรีบเข้ามาช่วยทรายเลย สงสารทรายจะแย่
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57]บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 28-03-2014 22:04:26
https://www.youtube.com/v/N3QcDy8NfM4#t=151


บทที่ 20  Unbreak My Heart(50%)
 
 


“ระวังจะตกเอานะพี่ทราย”
 

นับดาวยืนมองวารินด้วยสายตาเป็นห่วง เช้านี้เธอเห็นเขาหน้าตาซีดๆแถมตัวก็ยังรุม ๆ รู้ทั้งรู้ว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคนที่นอนห้องข้าง ๆ แต่นับดาวก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดมาก
 

“ไม่เป็นไรหรอก อะไรที่พี่ช่วยได้ก็อยากจะช่วยแค่ปัดฝุ่นเอง” ช่วงนี้มีคนเข้าออกที่บ้านนี้บ่อยมากส่วนใหญ่เป็นคนรู้จักของภัครจิราที่มาเยี่ยมเยียนเธอ  เขาและนับดาวจึงต้องดูแลบ้านช่องให้สะอาดเรียบร้อย
 

“ถ้ามันแค่ปัดฝุ่นธรรมดาดาวก็ไม่ห่วงหรอก แต่นี่แชนดาเลียร์นะพี่ แล้วพี่ก็ยังปีนบันไดเสียสูงอย่าตกลงมาก็แล้วกัน” ดาวแหงนหน้ามองมือเล็กๆที่จับไม้ขนไก่ปัดตามหยดคริสตัลที่ย้อยระย้าอยู่ที่โคมไฟขนาดยักษ์
 

“คราบผม จะตกลงไปได้ยังไง  พี่เป็นผู้ชายจะให้ผู้หญิงอย่างดาวปีนขึ้นมาเช็ดได้ยังไงกันล่ะ” วารินหันมายิ้มให้กับนับดาวแล้วส่งสายตาดุๆบอกไม่ต้องห่วง
 

“ดาวว่าดาวไปเรียกพี่เตมาขึ้นเช็ดให้ดีกว่าปกติไม่พี่เตก็ดาวนี่แหละที่เป็นคนทำ” นับดาวยังไม่ยอม
 

“บอกแล้วไงว่าทำได้ๆ เชื่อใจกันดิ” วารินหันมองหน้าคนยืนหน้ามุ่ยอยู่ด้านล่าง เขารู้ว่านับดาวเป็นห่วงแต่ใจก็อยากจะแกล้งอีกคนเล่น


“โอ๊ะๆๆๆๆ”


วารินแกล้งทำตัวเอนไปเอนมาเหมือนกับว่าทรงตัวไว้ไม่อยู่ นับดาวหน้าซีดลงทันทีรีบวิ่งเข้ามาเกาะฐานบันไดมิเนียมที่วารินใช้ปีนให้แน่นหนา พอเห็นอีกฝ่ายหัวเราะร่านับดาวถึงรู้ว่าตนเองโดนแกล้ง วารินเบะปากยักไหล่ทำไม่รู้ไม่ชี้ นับดาวจึงได้แต่แกล้งชี้นิ้วบอกให้ระวังตัวไว้ให้ดีเดี๋ยวจะแกล้งกลับให้ยิ้มไม่ออกเลย วารินจึงบอกเธอไปว่าจ้างให้ก็ไม่กลัวหรอก
 

สองคนเล่นกันไปคุยไปและวารินก็ดื้อดึงเช็ดโคมไฟจนเสร็จจากนั้นเขาจึงปีนลงมาเช็ดเปียโนหลังใหญ่ต่อ อดไม่ได้ที่จะพรมนิ้วลงไปทั้งที่เล่นไม่เป็นเลยสักนิดแต่ก็อยากจะทดลองกดเพราะชอบเสียงดังติ๊งตั๊งของเปียโนมาก เมื่อตอนเด็กวารินเคยไปแอบดูเพื่อนที่โรงเรียนเล่นที่ห้องเปียโน แต่ตัวเขาที่ไม่ได้จ่ายเงินเพิ่มจึงไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปนั่งเรียนในห้องนั้นด้วยได้แต่เกาะขอบหน้าต่างดูเท่านั้น
 

“คุณธารเล่นเพราะกว่านี้อีก”
 

นับดาวพูดขึ้นเงยหน้าจากเช็ดพรมบนพื้นทำท่านึกถึงวันเก่าๆสมัยเธอยังเด็กตามวันนามาทำงานที่บ้านนี้แอบเห็นคุณหนูของบ้านนั่งเล่นเปียโนให้คุณแม่ของเขาฟังอยู่บ่อย ๆ แต่พักหลังมานี่ธาราธารกลับไม่เคยแตะต้องเปียโนหลังนี้อีกเลย
 

“หูยก็คนหนึ่งเล่นเป็น อีกคนไม่เคยเล่นเลยนี่ นี่แน่ะๆไม่เพราะใช่ไหมๆๆๆ” วารินเบะปากแกล้งพรมนิ้วแบบมั่วๆยั่วนับดาว
 

“อ้าวก็ดาวเห็นพี่ทรายเล่นตั้งท่าเสียแบบนั้นดาวก็คิดว่าพี่เล่นเป็นน่ะสิ” วารินหันมายิ้มแหยๆใส่นับดาวหน้ายู่แกล้งงอน
 

“ดาว..วันนี้ดาวขึ้นไปดูคุณภัครบ้างรึยัง” วารินเปลี่ยนเรื่อง ชวนนับดาวคุยถึงอาการของภัครจิราดู
 

“ไปแล้วพี่ทราย เมื่อเช้าคุณธารก็ทานข้าวในห้องกับคุณภัครท่านนะ คุณธารรักคุณภัครมากเลยนะพี่ทรายบางครั้งดาวเห็นคุณธารนั่งอ่านหนังสือแล้วยังจับมือท่านไว้ตลอดเลย”
 

นับดาวพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ นึกถึงภาพน่ารักๆที่เกิดขึ้นระหว่างภัครจิรากับธาราธาร สายใยของแม่กับลูกแววตาห่วงใยที่ธาราธารมีให้กับภัครจิราเธอเห็นได้ชัดเจนขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง
 

“แต่ดาวสงสัย  ทำไมคุณธารไม่ยอมให้พี่ทรายขึ้นไปดูคุณภัครท่านเลย คุณทรายมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อดูแลท่านไม่ใช่หรือ” ดาวถามอย่างซื่อๆในความสงสัยของตัวเอง
 

“พี่เองก็ไม่รู้ต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ แต่พี่จะอดทน อดทนให้ถึงที่สุด”
 

วารินส่งยิ้มบางกลับไปให้ นับดาวที่ไม่รู้เรื่องระหว่างเขากับทัตพลและภัครจิราไม่ผิดที่จะถามไถ่ออกมาแบบนั้น


“พี่ทราย” ดาวคลานเข่าเข้ามาหาวารินใกล้ ๆเพราะตอนนี้คนตัวเล็กย้ายก้นลงมานั่งอยู่ที่พื้นข้างโต๊ะเปียโนแล้ว


“ดาวสงสารพี่นะ”ดาวทำท่ากระซิบกระซาบวารินได้แต่เลิกคิ้วถามว่าเรื่องอะไร
 

“ก็เรื่องเมื่อคืนน่ะ” ทันทีที่ดาวพูดจบวารินตาเบิกกว้างทันทีมือเล็กยกขึ้นปิดปากตัวเองอย่างตกใจ
 

“ดาวได้ยินด้วย?!”
 

“หูยพี่ทราย ดาวไม่ได้หูตึงนะเสียงดังโครมครามแบบนั้น คุณธารก็แปลกๆอย่างไรไม่รู้เหมือนกับไม่ชอบหน้าพี่ทรายอย่างแรงแต่บางทีดาวกลับรู้สึกว่าคุณธารชอบพี่มากๆเลย”
 

“ดาว!” วารินรีบเอามืออุดปากนับดาวแทบไมทันที่พูดโพล่งเรื่องไร้สาระออกมา คนตัวเล็กหันซ้ายหันขวากลัวจะมีใครมาได้ยิน

 
 
...เมื่อก่อนรักชอบกันน่ะใช่ แต่เดี่ยวนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว...

 
 
“อุ้ยพี่ทราย มีใครมาไม่รู้เดี๋ยวดาวออกไปดูก่อน”
 

พูดจบก็วิ่งแจ้นออกไปที่บันไดหินอ่อนหน้าบ้านทันที วารินชะเง้อคอมองเห็นรถคันใหญ่แล่นเข้ามาจอดเทียบอยู่ด้านหน้า มีผู้หญิงท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งและหญิงสาววัยรุ่นก้าวลงมาจากเบาะหลัง วารินรีบยืนขึ้นทันทีเพราะจำได้ว่าเธอคือหนึ่งในบรรดาหุ้นส่วนที่ภัครจิราร่วมทุนในโครงการต่าง ๆ
 

“สวัสดีครับคุณป้า” ธาราธารที่เดินลงมาจากด้านบนกล่าวทักทายกับแขกที่มาเยี่ยมเยียนถึงบ้านน่าจะเป็นศศิธรเลขาเก่าของภัครจิราที่โทรมาแจ้งเขาไว้แล้ว  เขาหันมองวารินครู่หนึ่งแล้วไม่ได้สนใจอีก วารินรีบหลบเข้าไปเตรียมน้ำท่าอยู่ในครัว
 

“จ้าไหว้พระเถอะลูก ป้าพาน้องบัวมาเยี่ยมคุณภัครน่ะจ๊ะ”
 

“ทั้งสองท่านเชิญด้านบนเลยครับ คุณภัครท่านอยู่ที่ห้องพักผ่อน” ทินกรที่รู้งานเชิญเข็มอัปศรและบัวชมพูขึ้นไปที่ด้านบน ธาราธารเองก็ตามขึ้นไปด้วย ใช้เวลาไม่นานนักทั้งสามคนก็กลับลงมา
 

“เห็นว่าเราสองคนรู้จักกันแล้วถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวป้าฝากลูกบัวไว้กับน้องธารเลยแล้วกันนะลูก พอดีป้ามีธุระต่อไว้ค่อยให้น้องธารไปส่งบัวที่บ้านก็แล้วกันนะจ๊ะ บัวคุยกับธารเขาไปก่อนนะลูกนะ ดูแลคุณแม่ให้ดีนะธารป้าไปล่ะ” เธอพยักหน้าแล้วยิ้มให้ บีบมือลูกสาวเหมือนให้กำลังใจก่อนลุกขึ้นเดินไปหาทินกรที่ยืนรอส่งขึ้นรถอยู่ก่อนแล้ว
 

ในขณะที่บัวชมพูยืนทำหน้าเอียงอายลอบแอบมองธาราธารอยู่เป็นระยะ
 

“ไปคุยด้านในดีกว่านะครับ”
 

ร่างสูงใหญ่ก้าวนำ ยื่นมือไปหาเธอบัวชมพูยิ้มกว้างมือส่งเล็กนุ่มนิ่มไปคว้าจับมือใหญ่และเย็นของธาราธารไว้แน่น ทั้งสองคนเปลี่ยนที่คุยมาเป็นที่ห้องนั่งเล่นเล็ก
 

“บัวคิดถึงธารนะ เจอกันที่ตึกก็ไม่ค่อยได้คุยกันเลย ธารเงียบไปจนบัวคิดว่าธารโกรธเกลียดบัวแล้ว”บัวชมพูหมายถึงตึกเรียนในเขตของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่พวกเขาเรียนกันอยู่
 

“จะเกลียดได้ยังไงกันล่ะ บัวน่ารักขนาดนี้”
 

นับดาวเอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟให้พอดี ธาราธารจึงบอกให้จัดผลไม้เข้ามาให้บัวชมพูด้วยและกำชับว่าให้วารินเป็นคนเอาเข้ามาให้
 

“ธารน่ะปากหวานแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
 

บัวชมพูหน้าแดงแป๊ดเธอก้มหน้ามือจิกหมอนอิงอย่างเอียงอายแกล้งทุบแขนธาราธารเบา ๆ
 

“ก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ เป็นแบบนี้ตั้งนานแล้วนี่”
 

เขาตอบเรียบๆบัวชมพูยิ่งบิดม้วนไปกันใหญ่ ธาราธารคว้ามือเธอมาจับแล้วกระตุกแขนเบา ๆ “มานี่มา มานั่งนี่”
 

เขามองลงที่ตักของตัวเองหญิงสาวที่เขินจนตัวแดงแต่ก็ยอมลุกขึ้นมา ก้นกลมกลึงวางลงบนหน้าขาแข็งแรงของเขาได้พอดีธาราธารโอบเอวเธอไว้กันไม่ให้ตก ขณะที่วารินเดินเอาจานผมไม้เข้ามาวางให้
 

“ตัวหอมจัง น่ากินน่าทะนุถนอม” เขาแกล้งทำปากงับลงที่ท่อนแขนขาว บัวชมพูร้องอ๊ะแล้วแกล้งผลักเขาเบา ๆธาราธารยิ้มให้อย่างใจดี
 

“อย่าดื้อสิไม่ชอบคนดื้อ” เขาว่าเสียงพร่าต่ำคำพูดคำจาแอบเหน็บใครบางคน บัวชมพูเขินอายจนไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ที่ไหนเขาจึงจับมือเธอขึ้นมาจูบ
 

“คิดถึงคืนนั้นจัง บัวน่ารักจริง ๆ” บัวชมพูแกล้งตะลุมกำปั้นเล็กใส่แขนเขาแก้เขิน “บ้า ธาร บ้าๆ”
 

วารินไม่รู้เลยว่าตัวเองก้าวออกมาจากห้องนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ บทสนทนาหวานชื่นทั้งหลายแหล่ดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในห้วงสามัญสำนึก เขาจำผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว คนที่ธาราธารพาไปนอนด้วยอยู่ที่คอนโดคืนนั้น ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขากล้าพามานอนค้างที่ห้อง มือเล็กๆถูแก้วที่อยู่ในอ่างซ้ำไปซ้ำมาจนดาวเข้ามาสะกิดเรียกตั้งหลายครั้งกว่าวารินจะได้ยิน
 

“อ...เออ พี่คิดอะไรเพลินไปหน่อย มีอะไรล่ะ”
 

“พี่ว่าคนสวยๆนั้นน่ะแฟนคุณธารหรือเปล่า” ดาวกระซิบกระซาบ วันนี้เธอนินทาเจ้านายหลายครั้งแล้ว วารินเองก็ทำหน้าไม่ถูก
 

“ม..ไม่รู้สิ” วารินอึกอักตอบ
 

“ดาวว่าแม่เธอตั้งใจพามาหาคุณธารมากกว่ามาเยี่ยมคุณภัครจิราเสียอีก มีอย่างที่ไหนแม่ขอตัวกลับไปแล้วปล่อยลูกไว้กับผู้ชายสองต่อสอง น่าเกลียด”
 

“ชู่ว  อย่าพูดเสียงดังสิดาว มันไม่ดีนะ” วารินรีบเอามือจุ๊ปากบอกดาวให้ระวังหน่อยเวลาจะพูดอะไร แต่ดาวไม่ได้สนใจคำปรามเลยสักนิด
 

“โน่นพี่ดูสิ นั่งคลอเคลียกันไม่ห่างเลยอ่ะ  จิ๊! คุณธารเธอจะชอบเร้อก็คุณธารน่ะชอบผู้ชา......ย” ดาวพูดอย่างลืมตัวจนท้ายประโยคต้องมองมาที่วารินอย่างรู้สึกผิดแล้วยกมือขอโทษขอโพยจนท่วมหัว วารินร้องห้ามแทบไม่ทัน
 

“พี่ดูสินั่นน่ะ” ดาวพยักเพยิดไปทางห้องรับรองอีกครั้งวารินได้แต่มองตามสายตานั้นไป ภาพสองคนใกล้ชิดกันทำเอาเขาร้าวไปทั้งใจ
 

“บัวคิดถึงธาร.....คิดถึง”
 

เธอเน้นย้ำเสียงหวาน ย้ำคำว่าคิดถึงเพื่อให้ธาราธารเข้าใจได้ว่า ‘คิดถึง’ ในความหมายแบบไหน ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้โง่ เข้าใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มือเล็กกุมฝ่ามือใหญ่ไว้แล้วเอาขึ้นมาแนบที่แก้มแดงซ่านของตัวเอง
 

“คิดถึงที่สุด”
 

กระซิบเสียงหวานแผ่วตราตรึง แล้วค่อยเลื่อนฝ่ามือใหญ่ของเขาลงมาเกาะกุมที่เนินอกอิ่มของตนเอง ธาราธารมองหน้าเธอเรียบ ๆ แต่แววตาทอประกายแปลกใจเล็กน้อย ท่อนแขนเรียวยกขึ้นไปคล้องคอเขาไว้แล้วรั้งลงมาหาอย่างนิ่มนวล
 

“บัวรักธาร”
 

เสียงกระซิบชวนฝันพร้อมกับใบหน้าเย้ายวนที่ลอยอยู่เบื้องล่าง ธาราธารมองเธอด้วยแววตาที่เธอมิอาจเข้าใจความหมายได้  ขณะดวงตาคู่สวยของเธอกลับเย้ายวนเชื้อเชิญเขาอย่างเปิดเผย
 

เขาโน้มกายเข้ามาใกล้ตามสัญชาตญาณและแรงดึงของคนใต้ร่าง เมื่อริมฝีปากมาบรรจบกันเป็นบัวชมพูที่อดรนทนไม่ไหว เธอเป็นฝ่ายรุกล้ำเขาเองด้วยจุมพิตอันดุเดือดหิวโหยแต่ก็นิ่มนวลราวกับต้องการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทั้งหมดทุกส่วนของเขา เธอยังจำได้ดีเสมอครั้งแรกที่เธอมอบพรหมจรรย์ให้กับเขา เขาไม่ยอมจูบเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียวไม่ว่าเธอจะพยายามเพียงใดสิ่งที่ได้กลับมาจากเขาช่างไร้ค่ามีแต่ความเย็นชาเท่านั้นที่หยิบยื่นกลับมาให้
 

แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ธาราธารจูบตอบเธอพูดกับเธอด้วยถ้อยคำหวานซึ้งรื่นหูไม่เย็นชาอีกต่อไปแล้ว ใบหน้าหวานหยดย้อยยกยิ้มอยู่ในใจอย่างลิงโลดและเธอยิ่งดีใจหนักขึ้นเป็นเท่าทวีคูณเมื่อเขาลากลิ้นลงไปแตะชิมที่ต้นคอขาวผ่องของเธอ นิ้วเรียวยาวสอดไล้ลงที่เรือนผมนุ่มสวยของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดตามจุดกระสันของซอกคอขาวเนียน
 

เพล้ง!!!!
 

เสียงของบางอย่างตกแตกกระจายเรียกสติทั้งเธอและเขาให้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง ธาราธารจ้องมองไปยังใบหน้าเล็กๆของคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าทางเข้าห้องในตอนนี้ที่ขาเต็มไปด้วยเศษแก้วและรอยน้ำหกเป็นทาง ดวงตาคู่สวยเบิกค้างก่อนจะฉายแววเจ็บช้ำร้าวรานออกมาให้เห็น คนตัวเล็กถอยร่นโดยไม่สนใจว่าจะเหยียบเศษแก้วที่ตกเกลื่อนอยู่หรือไม่
 

หลังประตูห้องนอนที่ทั้งเล็กและแคบวารินค่อยทรุดตัวนั่งลงชันเข่าขึ้นมาแล้วก้มหน้าซบลงไป ตาดวงเล็กชอกช้ำน้ำตาไหลพรากลงมาเป็นทาง ถ้อยคำที่เขาพูดคุยกันหวานซึ้งเสียจนมันเฝ้าวนเวียนตอกย้ำอยู่ในหัวใจดวงน้อยราวกับจะเหยียบย่ำให้แหลกสลายไปคามือ สัมผัสอ่อนโยนที่ธาราธารมอบให้ผู้หญิงคนนั้นมันช่างต่างกับสัมผัสที่แสนโหดร้ายมอบให้กับตัวเขาราวกับฟ้าและเหว ภาพที่เขาประทับริมฝีปากลงที่ซอกคอขาวเนียนไล้เลียอย่างอ่อนโยนถูกนำมาฉายซ้ำอีกรอบราวกับจะตอกย้ำความเป็นจริงให้วารินได้เห็นว่าคนที่เจ้าตัวเขามอบหัวใจและร่างกายให้จริง ๆ แล้วคือใคร เสียงสะอื้นดังลอดออกมาแทนที่ความเงียบงันในยามบ่าย หัวใจดวงน้อยร่ำไห้อย่างร้าวรานสุดระทม
 

.

.
 

“คุณทรายจะไปไหนครับ” เตโชวิ่งเข้ามาถามเมื่อเห็นวารินหิ้วกระเป๋าส่วนตัวสะพายออกมาหน้าบ้าน
 

“พี่ทรายจะกลับบ้าน พี่เตถามทำไมจะไปส่งให้เหรอ” เป็นนับดาวที่ชิงตอบแทนวาริน
 

“แล้วจะกลับมาวันไหนครับ เดี๋ยวผมไปส่งดีกว่านะแดดร้อนกว่าจะเดินไปถึงหน้าปากซอย”
 

“ค้างแค่คืนเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับมาแล้วถ้านายเตจะไปส่งให้จริง ๆ ก็ขอบใจเลยขี้เกียจเดินพอดี” วารินยิ้มบางรับข้อเสนอ แสงแดดยามบ่ายแบบนี้ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยง เตโชจึงวิ่งไปที่โรงจอดรถเพื่อหยิบกุญแจแล้วถอยรถกระบะคันสมบุกสมบันที่วารินใช้ขับไปตลาดเสมอออกมาจอดรอ
 

“ไปนะดาว ถ้าธารเขาถามก็ค่อยบอกแต่ถ้าเขาไม่ถามก็ไม่ต้องพูดอะไรหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็กลับแล้วค่อยหาเวลาไปดูต้นไม้ด้วยกันนะ”
 

นับดาวรับคำวารินจึงเดินไปขึ้นรถที่มีเตโชสตาร์ทรออยู่ก่อนแล้ว ใช้เวลาไม่นานนักรถก็มาจอดลงที่หน้าบ้านหลังเล็กที่ด้านหน้ามีระเบียงไม้ต่อเติมออกมาเป็นแกลอรี่ขนาดกะทัดรัดวารินก้าวลงมาจากรถสูดดมกลิ่นหอมของดอกลั่นทมที่ยังชูช่ออวดกลีบดอกสีขาวอมเหลือดอกใหญ่สวยงาม
 

“นายเตแน่ใจนะว่าไม่เข้าไปดื่มน้ำก่อน” เตโชส่งกระเป๋าสะพายให้วาริน  เป็นเขาที่ชิงคว้ากระเป๋าใบนี้ลงมาก่อนตอนที่วารินจะลงจากรถ
 

“ไม่หรอกครับส่งแค่นี้ดีกว่า พรุ่งนี้คุณทรายจะกลับตอนไหนหรือครับถ้าไม่มีรถโทรมาที่บ้านก็ได้เดี๋ยวผม.....”
 

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ชายฉันก็ไปส่งเอง นายเตไม่ต้องเป็นห่วง ขอบใจมากรีบกลับเถอะ”
 

วารินตบลงที่บ่าแกร่งเพื่อขอบคุณ เตโชยิ้มกว้างวารินจึงแซวเขาว่าไม่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้ของเตโชเลยทำเอาคนตัวใหญ่หน้าแดงแจ๋รีบก้าวขึ้นรถแล้วขับบรื้นออกไป
 

“..ทราย...”
 

วารินที่ก้มลงปิดกลอนประตูรั้วไม้ต้องหันขวับกลับไปมองตามเสียงเรียกที่แสนอบอุ่นและคุ้นเคย  ภูวดลยืนรอรับเขาอยู่ด้วยใบหน้าและรอยยิ้มเดิมที่พักพิงได้เสมอไม่ว่าเมื่อไหร่  ร่างเล็กๆยืนนิ่งก้าวขาไม่ออกสบสายตากับพี่ชายอยู่ครู่หนึ่งน้ำตาก็ไหลทะลักออกมาเป็นทางภูวดลรีบเดินเข้ามากอดคนตัวเล็กไว้เต็มอ้อมแขน ไหล่เล็กไหวสะท้านเมื่อซบลงบนบ่ากว้าง บ่านี้ที่ปลอบใจเขาเสมอ บ่านี้ที่รอคอยเขาเสมอ และบ่านี้ที่รักเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ
 

“ร้องไห้ทำไมครับ หืม” เขาลูบหัวคนตัวเล็กแล้วจูบลงอย่างรักใคร่ไม่ว่าเมื่อไหร่วารินก็น่ารักน่าทะนุถนอมอยู่เสมอ
 

“ไปอยู่บ้านโน้นแค่อาทิตย์เดียวถึงขนาดกลายเป็นเด็กขี้แยแล้วนะเนี่ย”
 

เขาแกล้งกระเซ้าขณะโอบตัวอีกคนเข้าบ้าน วารินทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาอย่างแรงนอนก่ายขาสะเปะสะปะอย่างไม่อายใคร บ้านคือวิมานของเราจริง ๆ จะทำอะไรก็ย่อมได้
 

“คุณภัครท่านเป็นอย่างไรบ้างละ” ภูวดลยื่นแก้วนมเย็น ๆ ส่งให้
 

“ก็...ดีขึ้นนิดหน่อยครับแต่ก็ยังพูดไม่ได้อยู่เหมือนเดิม ป้าวันแกก็ช่วยเรื่องกายภาพได้เยอะอยู่เหมือนกัน” วารินสะดุดนิดหน่อยกับคำถามแต่ก็ตอบไปตามที่ได้ยินนับดาวเล่าให้ฟัง ภูวดลเบียดตัวลงนั่งด้านหลังวารินแล้วโอบคนตัวเล็กไว้ในอ้อมกอดใหญ่เขากดปลายคางลงที่ไหล่บางสูดดมกลิ่นหอมที่ไม่ได้รับมานานจนวารินต้องย่นคอด้วยความจั๊กจี๋เขาแกล้งจี้เอวจนวารินต้องล้มตัวนอนลงบันตักของเขาภูวดลรีบตามลงไปกอด ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดอยู่แถวต้นคอขาวนวลเนียน
 

“พี่ซีทรายจักจี้อย่าเล่นสิครับ” คนตัวเล็กหัวเราะจนตาหยี หดตัวหนีกันให้วุ่นแต่โดนมือแข็งแรงโอบรัดไว้ไม่ยอมให้หลุดรอด “นิดเดียวนะขอพี่ซีหอมตรงนี้ก่อนคิดถึงจัง” ภูวดลกดปลายจมูกโด่งลงที่ต้นคอขาวเนียนนั้นอีกครั้ง แต่ทว่าจู่ๆเขากลับชะงักสายตาจดจ้องอยู่ที่รอยสีแดงแถวเนินไหล่เล็กนั่น
 

“ทราย รอยอะไรอยู่ที่ไหล่ครับ” ทันทีที่ได้ยินคำถามวารินเด้งตัวลุกพรวดขึ้นทันที ถึงแม้วันนี้เขาเลือกใส่เสื้อเชิ้ตปิดต้นคอแต่เมื่อสักครู่ภูวดลคงจะมองลงไปเห็น วารินแกล้งทำเป็นส่องดูอีกทีแล้วแก้ตัวขลุกขลัก
 

“อ๋อเนี่ย ยุงครับ บ้านคุณภัครมีสระน้ำทั้งหน้าบ้านหลังบ้านยุงเลยเยอะมาก เวลาทรายออกมานั่งคุยกับดาวตอนกลางคืนนะกัดทะลุทะลวงเลย ขาเนี่ยแดงไปหมดเลยนะพี่ซี”
 

“ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวได้เป็นไข้เลือดออกกันพอดี ดึกดื่นก็เข้านอนสิครับจะมานั่งคุยอะไรกันนักหนา” ภูวดลเริ่มเปลี่ยนมาบ่นคนตัวเล็กแต่สีหน้าดูผ่อนคลายจากเมื่อสักครู่เยอะมาก วารินแอบถอนหายใจพรืดใหญ่กลัวภูวดลจะจับได้ว่าโกหกถ้าภูวดลดื้อรั้นจะขอดูจริง ๆ เขาคงหมดทางแก้ตัวแน่ๆ เพราะรอยสีแดงนั่นมันมีเกลื่อนแทบจะเต็มตัวเลยก็ว่าได้
 

สองพี่น้องทานข้าวเย็นร่วมกันอย่างอารมณ์ดี วารินช่วยพี่ชายทำอาหารง่าย ๆ ขณะที่ภูวดลยอมทิ้งงานที่รับมาไว้ทำวันหลังเพื่อจะพาวารินขึ้นไปนอนเล่นด้านบน รอยยิ้มเล็กๆประดับบนใบหน้าอบอุ่นจนวารินต้องหันมาแซว มือเล็กโอบเอวพี่ชายไว้ไม่ยอมห่างออดอ้อนเหมือนลูกหมาตัวเล็ก ๆ ภูวดลจำเป็นต้องละมือจากงานล้างจานเช็ดกับผ้ากันเปื้อนจนแห้งแล้วลูบศีรษะเล็กเพื่อเชยชม
 

“เก่งครับ วันนี้เก่งมากช่วยพี่ซีได้ตั้งหลายอย่าง เดี๋ยวทรายขึ้นไปอาบน้ำรอเลยนะ พี่ซีตรวจบ้านเดี๋ยวเดียวแล้วจะตามขึ้นไป”
 

วารินยิ้มกว้างวันนี้เขาจะไม่เหงาแล้ว จะได้นอนกอดเอวอุ่น ๆ ของพี่ชายที่เขารักร่างเล็กๆทั้งกระโดดทั้งเต้นขึ้นบันไดไปอย่างร่าเริงภูวดลได้แต่หัวเราะในลำคอเบาๆแล้วส่ายหน้าทั้งรอยยิ้มอย่างมีความสุข
 

.

.
 

“บ้าฉิบ!”
 

เสียงทุ้มคำรามขึ้นอย่างหัวเสียทันทีที่นับดาวบอกเขาว่าวารินกลับบ้านพรุ่งนี้จึงจะกลับมา ธาราธารไม่ได้โกรธที่วารินกลับไป แต่โกรธมากๆที่ไปโดยไม่ยอมบอกเขาสักคำ   หลังจากพาบัวชมพูออกไปทานข้าว ซื้อของ เขาแวะไปส่งเธอที่บ้านขัดไม่ได้เมื่อโดนเข็มอัปสรคุณแม่ของเธอรั้งให้อยู่เพื่อทานข้าวเย็นด้วยกันกว่าจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว ธาราธารหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความหงุดหงิดเห็นอะไรก็พาลไปเสียทุกอย่างเขาจึงเรียกนับดาวให้เอากาแฟเข้ามาให้
 

“พี่ทรายเขาออกไปยังไง พี่ชายเขามารับหรือว่าออกไปเอง” เขาถามขึ้นห้วน ๆ ขณะที่นับดาววางแก้วกาแฟลง
 

“พี่เตไปส่งค่ะ ไปส่งที่บ้านเพราะกลัวว่าคุณทรายจะร้อน”
 

นับดาวช่างเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์ตอบออกไปตามความจริงโดยหวังจะให้ธาราธารรู้สึกดีๆ แต่เปล่าเลยทุกอย่างกลับตาลปัดกันไปหมดทันทีที่ได้ยินว่าเตโชขับรถไปส่งให้ถึงบ้านอารมณ์เขาก็พุ่งปรี๊ดขึ้นทันที ร่างสูงใหญ่จ้ำพรวดออกจากบ้านโดยไม่รีรออะไรแล้ว เสียงล้อครูดกับพื้นถนนหน้าบ้านลากอย่างดังนับดาวถึงได้เพิ่งรู้ตัวว่าตนเองพูดเรื่องไม่สมควรออกไป รีบล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดออกโทรหาวารินทันที แต่ซวยซ้ำซวยซ้อนวารินดันไม่ได้เปิดเครื่องเลยตั้งแต่บ่าย
 
 

ปี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
 

“พี่ซี เสียงใครบีบแตรครับ ดังลั่นเลย”
 

ในห้องที่มืดมิดวารินกำลังนอนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้อยู่กับภูวดลได้ยินเสียงกดแตรลั่นยาวดังมาจากหน้าบ้านก็ตกใจหันกลับไปถามพี่ชาย  ภูวดลลุกขึ้นไปเลิกม่านดูเห็นรถเบนซ์สีขาวเปิดประทุนคันเดิมของธาราธารก็หันกลับมามองที่วารินด้วยแววตาเหงา ๆ วารินรีบลุกขึ้นไปหาแล้วส่องดูทันที
 

ร่างสูงใหญ่ยืนพิงอยู่ที่ประตูรถเปิดประทุนคันเดิมมองขึ้นมาที่หน้าต่างชั้นบนแล้วกดแตรเรียกอย่างเอาแต่ใจอีกเป็นรอบที่สาม ภูวดลถอนใจได้แต่ส่ายหน้าเปิดไฟแล้วรีบเดินลงไปด้านล่าง  ทว่าวารินกลับรู้สึกแย่เสียยิ่งกว่า รู้ชะตากรรมแล้วว่าวันนี้คงจะไม่ได้นอนค้างที่นี่แน่
 

Tbc.

*พรุ่งนี้ต่อเต็ม 100% ตอนนี้ยาวเหยียดเลยขออนุญาตตัด*
*เขียนไปเขียนมาคนที่ทนอ่านดราม่าได้จริง ๆ เท่านั้นที่ยังอยู่กันมาได้จนถึงตอนนี้ :L2: คนเขียนใจร้ายทรมานคนอ่านมากใช่ไหม อย่าทิ้งเค้านะ :o12:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 28-03-2014 22:26:42
อุ๊ย สงสารป้าวิจัง(เปลี่ยนสรรพนามเขาไปเรื่อย)<<จากใจจริงนะไม่ได้ประชด

ป้าวิตอนแรกคิดว่าป้าจะฉลาดนะแต่ตอนนี้กระจ่างแล้วว่าป้าไร้สมอง(โ_)นี่เอง
ที่ท้องตอนนั้นนี่ก็นึกว่าฉลาดทำให้เขาทิ้งลูกทิ้งเมียได้(รึเปล่า) ที่แท้บังเอิญพี่ป้าแกมีบุญคุณ
โถ่ววววว ได้ตัวมาก็ไม่สุข ตามระแวงเขาได้ตั้งนานนม สุดท้ายเขาก็ทิ้ง  :hao7: เอ้ย ผิดอีโม  :hao5:
((แต่ท่าทางตูนี่ไม่ได้บ่งบอกความจริงใจเลยยย สรุปเวททนาแล้วกันป้าทำตัวเอง))

ธิปนี่ท่าจะเสียศูนย์นะ พ่อที่อยู่ดี ๆ ก็ไม่มีทีท่าอะไรอยู่ดี ๆ ห่างกับแม่เนี่ย
(ไม่ใช่ตอนต่อไปอิธิปมันดันได้ยินอิทัตพูดขึ้นมาหรอกนะ โอ้วววววว น้องธิป)

ทำไมตูเป็นคนอ่านอารมณ์รวนเรจังฟะ สงสารเขาไปทั่ว อิคนที่ควรสงสารนี่ยุเขาจัง ฮ่าาา

อิทัตถ้ามันเป็นพระเอกแล้วเจ้ภัครเป็นนางเอกก็คงจะประมาณช่วงต้นเรื่องมึงทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี
กลาง ๆ ก็พัฒนาความสัมพันธ์กันปายยย (เอ๊ะ ในเรื่องนี้ไม่มีช่วงกลางสินะ) พอช่วงหลัง
เจ้ภัครโดนหนัก อิทัตเริ่มจะทนไม่ไหวกับป้าวิ เลยสะบัดป้าจรลีกลับมาทำตามหัวจวย เอ้ย หัวใจ
แล้วเราที่เป็นคนอ่านก็คงประมาณ

"แสรดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เมิงจะกลับมาอะไรตอนนี้วะค้าาาาาาาาาาาาา"
แฮปปี้เอ็นด์
.
.
.
.
.
.
 :z6:

ไม่รู้เดาตอนต่อไปไม่ได้ ว่าอิทัตจะทำให้เรื่องใกล้เหวหรือใกล้ดิน(?)<<ดินคือสถานที่ ๆ เหมาะแกการเริ่มต้นใหม่ไง

ตรวงคำผิดช่วยค่าาา
พรั่งพลู<<พรั่งพรู
เยื่อไย<<เยื่อใย(อันนี้จริง ๆ ก็สับสนกับไยนะ แต่คงประมาณคล้าย ๆ สำนวนตัดบัวอย่าให้เหลือใยเลยคิดน่าจะไม้ม้วน)
ตามแต่พิจจารณาคนเขียนละกัน (ช่วยได้มากเลยเมิงงงงง)
...
กำลังเมนท์ตอน 19 ตอน 20 โผล่  :katai2-1:
ธารทำแบบนี้แม่ยกไม่ปลื้มนะคะ อย่าเอาความรักมาล้อเล่นกับใครเซ่  :hao5:
ต่อไปถ้าสลัดอิแม่ลูกหุ้นส่วนไม่ได้ แม่จะซ้ำนะ มันน่าหยิกจริง ๆ เอ้อ(ด่าธารกับด่าทรายนี่สองมาตรฐานจริง ๆ ตู ฮ่า)

แต่ระวังไว้นะธารเสียงแก้วที่หล่นแตกอาจเป็นเสียงจากหัวใจที่ร่วงแหลกสลาย :o12:

หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 28-03-2014 22:39:58
ซีใกล้จะรู้เรื่องทรายแล้ว ตอนเห็นรอย  จึงทรายจะบอกปัด แต่ก็คงสงสัยไม่มากก็น้อยอ่ะ  ยิ่งธารมาอย่างนี้  คงได้ปะทะอารมณ์กันจนความแตกแน่ 
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 28-03-2014 22:41:17
ยังทนความดราม่าได้อยู่ ชอบบบบบบบบ
หมั่นไส้ ยัยบัวชมพูนี่จัง บรึ๋ยยย
พี่ทราย สู้สู้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 28-03-2014 22:50:02
 :katai4: :katai4: :katai4: :sad4: :sad4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 28-03-2014 22:52:49
ตามทันซักที เกลียดพระเอก ไม่ชอบเลยที่พอมีเรื่องกับนายเอกไม่ฟังอะไรเเล้วเอาชะนีมากก :beat:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: piing fuen ที่ 28-03-2014 22:54:09
มันอึดอัดมากเลยค่ะ หน่วงสุดๆๆไปเลย ขอให้ตอนรู้ควมจริงแล้วทรายเอาคืนหนักๆๆนะค่ะ ไม่ก็ไม่กลับไปรักกับธารได้เลยยิ่งดี
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 28-03-2014 22:56:22
น้องธารใจร้าย ตั้งใจทำให้เค้าเสียใจ พี่ทรายก็มีสิทธิ์ขอพักกายพักใจไปอยู่ในที่ๆ ตัวเองมีความสุขบ้างสิ
ชะนีสมัยนี้แรงจริงๆ มายั่วผู้ชายถึงบ้าน ชริส์!! สงสารทราย ขอสุขแค่คืนเดียวก็ไม่ได้ คนใจร้ายมาตามกลับซะแล้ว
ขี้หวงโคตรๆๆๆ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 28-03-2014 22:58:40
เรื่องอื่นยังพอรับได้ แต่เรื่องพาผู้หญิงมาเย้ยนี่รับไม่ได้จริงๆ สงสารพี่ทรายมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 28-03-2014 23:07:37
เค๊าไม่ทิ้งตัวหรอก เค๊าสัญญา เค๊าชอบเรื่องหน่วงๆแบบนี้ คิดอีกที ถ้าทั้งธารทั้งทราย

ผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้นี่ พวกเค๊าคงต้องรักกันมากจริงๆ ถึงจะผ่านอะไรหลายๆอย่างมาได้

ซึ่งเราก็ยังรอคอยอยากเห็นความรักแบบนั้นอยู่ เราจะอ่านต่อไป รักคนเขียนนะจ๊ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 28-03-2014 23:31:16
เริ่มจะทนไม่ไหวจริงๆแล้วนะ คนนึงก็โง่อีกคนก็ซื่อบื้อ ธารจะแต่งงานก็เรื่องของมึงเหอะ
ถ้าโง่นักก็ทำตัวเลวๆไปแต่ถ้าวันใดวันนึงรู้ค.จริงล่ะก็ฆ่าตัวตายไปซะนะ
แล้วก็ไม่เข้าใจว่าตาคุณพ่อนี่หายหัวไปไหนทั้งๆที่รู้เหตุผลแท้ๆ น่ารำคาญทั้งพ่อทั้งลูก
ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่จะเลิกอ่านละนะ รอจนกว่าจะกลับมารักกันใหม่แล้วค่อยอ่าน
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 29-03-2014 00:04:11
กีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส  :m31:
คือตอนนี้ ทำให้อิเด็กธารที่ฉันอุตส่าห์เชียร์ บอกว่ามันน่าสงสาร ขอเราพับคำนั้นโยนทิ้งไปเลย
ทำเอาเราหน้าแตกมากกกกกก อิเด็กเปรตตตตตตตตตตตตตตตต  :fire: :fire:

 :z6: :z6: :z6: ขอโดดถีบมันเท่าอายุเหอะ คือตอนแรกเข้าใจว่าเคว้งแต่คุณมึงก็ยังรักทราย
ไอ้เราก็เลยสงสารยังเชียร์มัน (ถึงฉันจะเชียร์คุณทัตมากกว่า)
ตอนนี้เสือกทำตัวเหี้ยกว่าเดิม ถึงจะไม่สุดก็เหอะ
คือตอนนี้ คุณมึงเริ่มมีแนวโน้มจะเสเพลแล้วไง แถมยังใช้อิดอกบัวเป็นเครื่องมือ
ระวังเหอะกลัวอิดอกเข็มกับอิดอกบัวจะจับแกเคลมจริงๆ แลดูแกเล่นเกมกับเขาไม่ทัน
ทางด้านธุรกิจก็ยังไปไม่รอด แกคงได้โดนกดดันทางใดทางหนึ่ง

ฉันละกลัวพล็อตมันจะกลับมาน้ำเน่า อุตส่าห์กำลังแซ่บ
ถ้าอิดอกไม้ทั้งสองนี่เข้ามาแบบละครนี่นะ  :beat: :beat: ขอตบล้างน้ำเถอะ
ไหนจะอิธิปที่เดาว่าอิเด็กเปรตอาจควงไว้แกล้งทราย

คือแกล้งทราย ฉันไม่ว่า แต่แกเอาคนอื่นมายุ่งให้มันมีมือมืดหลายๆมือเนี่ยไม่ไหว
เพราะมันก็ร้ายแรงนะ คือแกมารู้ความจริงตอนหลังแกก็จะเสียใจกว่าเดิม ถึงทรายจะผิดก็เหอะ
แล้วคราวนี้ถ้าทรายมันได้ยินแกบอกว่า รักทรายเสมอ ล่ะก็ โคตรไม่น่าเชื่อ
ถ้าร้ายกับคนรักโดยการนอกใจอันนี้ ไม่ไหวจริงๆ ยิ่งถ้าบอกว่ารักมากด้วย
ตอนนี้เริ่มอยากให้มีพาร์ทที่ทรายเอาคืนขึ้นมาตงิดๆ ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะให้ทรายเอาคืนเลยนะเนี่ย

อิเด็กเปรตให้ฉันเชียร์แกดีๆไม่ได้เรอะ

คุณทัตมาเร๊วววววววววววววววววววววววววววววว  :hao7: พ่อพระเอกของฉัน
(ขอวอนคนเขียนอย่าหักหน้าอีก หน้าแตกฝุดๆ ออกตัวซะแรง  :hao5:)

ปอลิง: เม้นนี้คำหยาบอาจจะเยอะ ถ้ารับไม่ได้อย่าอ่าน (อ้าว อ่านไปแล้วนี่หว่า ฮ่าฮ่าฮ่า)
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 29-03-2014 00:10:33
ตอนนี้ธารแม่มน่าหมั่นไส้
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: Pieare ที่ 29-03-2014 00:51:14
หน่วงอ่ะไรท์ พระเอกร้ายไปแล้ว ร้ายแบบมี ทราย คนเดียวไม่เท่าไร แต่มีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวด้วย สุดจะทนอ่ะ T^T
อ่านตั้งแต่แรก ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี ถ้า ไม่มี คุณ ทัต เข้ามาเกี่ยว ?
ถ้าจะโทษจริงๆ ก็คงจะเป็น รุ่ง ที่เห็นแก่เงินเกินไป

 พระเอก  ก็โง่ ซื่อบื่อ รู้นะเป็นใครๆก็เจ็บที่เห็นพ่อตัวเองมีอะไรกับคนรัก
แต่ฟัง คำอธิบายหน่อยไม่ได้หรือไง ถ้าไม่เชื่อ ก็ปล่อยเขาไปจะรั้งไว้ให้ตัวเองเจ็บเพื่ออะไร
ทำร้ายเข้าไปเถอะ รักก็ยังจะทำ ถ้าทราย หนีไป ไม่ต้องตามหานะ จมอยู่กับภาพๆนั้นไปจนตายเลยเหอะ

 นายเอก (หรือป่าว)  ก็อ่อนแอชิบ จะยอมอะไรหนักหน่า เป็นตัวร้ายมั้งก็ได้ ไม่มีใครเขาว่าหรอกนะ
ยอมไปซะหมดทุกอย่าง อยากให้ลองแก้ปัญหาดูมั้ง

 ทัต  รู้นะว่าถ้าโผล่มาอีกก็จะมีแต่ปัญหา แต่ทำไมไม่ลองหาวิธีแก้ปัญหาล่ะ
ปล่อยให้ ทราย รับเคราะอยู่ได้ มีความเป็นคนอยู่หรือป่าว

ธารเหมาะกับประโยคนี้อ่ะ 

"คนรักกัน สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือคำว่า อภัย เพราะไม่มีใครหรอกที่จะไม่ทำผิด ถ้าเราไม่หัดให้อภัยอีกฝ่าย
ชีวิตเราก็จะอยู่กับความทุกความเคียดแค้น แล้วเมื่อไรเราจะรักอย่างมีความสุขละ
ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร ขอให้ให้อภัยให้กัน"

Cr.ประโยคนี้เอามาจาก รักข้ามรั้ว ไอ่ตัวแสบ

อินจัด อย่าว่าเค้าน๊าาา  ไงก็มาต่อไวๆๆๆเด้ออ

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 29-03-2014 01:34:34
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ถ้าธารจะประชดด้วยวิธีนี้ ฆ่ากันเลยดีกว่า อ๊ายยยยยยย ไม่ชอบชะนี  :ling1: :ling1:

แล้วธารจะเสียใจ จะเชียร์ให้พี่ทรายรักคนอื่น
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 29-03-2014 01:49:28
ทำร้ายจิตใจพี่ทรายเหลือเกิน กับการเอาชะนีมาเย้ยต่อหน้า กะให้พี่ทรายกระอักเลือดตายไปหรือไง
เดี๋ยวพอถูกลากตัวกลับบ้าน ก็จะโดนบทลงโทษอย่างหนักอีก
ถ้าพี่ซีรู้ความจริงว่าน้องชายที่ตัวเองทั้งรักทั้งทะนุถนอม โดนทารุณกรรมแบบนี้  พี่ซีคงไม่ยอมแน่ๆ
 
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: karmdodcom ที่ 29-03-2014 02:48:13
ยังอ่านอยู่ค่าาาา แต่ไม่ค่อยได้เม้นท์ เพราะปกติอ่านในโทรศัพท์น่ะค่ะ แหะๆ
\\แค่วันนี้อดใจไม่ไหวจริงๆ ถึงกับอ่านแล้วมาเปิคอมอีกรอบ ฮ่ะๆ
คือครึ่งตอนล่าสุดนี่คือแบบว่า.... :katai1: (อารมณ์นี้ล่ะค่ะ...รู้สึกรักอีโมนี้ขึ้นมาทันทีเลย)
มาเม้นท์รวบกันหน่อยดีกว่า
คือโอเค เราเข้าใจว่าธารแค้น..แน่นอนว่าควรแค้น เพราะจากรูปการณ์ ชัดแบบ full HD ขนาดนั้น แถมแม่ตัวเองยังมาเป็นแบบนั้น ภาระต้องเพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน แถมคนที่ตัวเองรักยังทำท่าเหมือนจะไปชอบคุณพ่อตัวเองอีก
(อ่า..อันนี้ เราคิดว่าคงเป็นาแรกเตอร์ของพี่ทรายรึเปล่า? หรือเราเข้าใจไปเอง...นายเอกเรื่องนี้เป็นคนอ่อนโยนและใส่ใจกับคนอื่น...เราชอบนะคะ แต่บางทีเราก็รู้สึกว่า พี่ทราย..ออกจากใส่ใจเกินไปหน่อย)
พี่ทราย เราสงสารนะจากตอนล่าๆสุด โดนยาไม่พอ คุณทัตอุบปากเงียบไม่บอกความจริงกับธารไม่พอ คนที่ตัวเองรักยังจะมาทำแบบนี้ใส่อีก ... เกือบถึงขั้นนั้นกันต่อหน้าต่อตา...แถมน้องธารยังไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น
...เข้าใจนะคะ ว่าเรื่องแบบนี้มันยอมรับยาก...บางที เวลาที่พี่ทรายสมควรพูดคือต้องรอให้ธารเย็นลงก่อน...แต่พี่ทรายจะอดทนรอวันที่ธารเย็นลงได้รึเปล่านี่ก็อีกเรื่อง (เรารู้สึกสังหรณ์ใจกับคนแต่งน่าดู ตั้งแต่คุณทัตกะพี่ทรายละ  :hao5:)
(ยังไม่นับเรื่องครั้งแรกของตัวเองอ่ะนะ..คือ..เราคิดว่า ครั้งแรกของตัวเอง ไม่ว่าใครก็อยากเก็บให้คนทีตัวเองรักใช่ไหมล่ะ? โดยเฉพาะคาแรกเตอร์พี่ทราย..เราคิดแบบนี้อ่ะนะคะ ถ้าผิดก็ต้องขอโทษด้วย)
ส่วนคุณวิ กับใครนะ? ที่เป็นนักสืบน่ะ (ไม่เห็นความสำคัญเท่าตัวเอก ย่อมไร้ค่าในสายตาเรา  :hao7: ฮ่าๆ ล้อเล่นค่ะ)
เลวนะคะชะนี (ขอคำนี้ค่ะ ฮาา)   :fire:
พูดอะไรไม่ออกจริงๆค่ะ คนหนึ่งก็รักหน้ามืดตามัว ไม่มีสติ ส่วนอีกคนก็เห็นแก่เงิน..สังวรณืกันบ้างไหมคะว่าสิ่งที่ตัวเองทำส่งผลกระทบกันขนาดไหน
(อยากให้กรรมมตามทันจริงๆค่ะ...แต่ที่กลัวคือ..กรรมอาจไปตกกับลูกที่..เราคิดว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องนี้...แต่ความจริงแค่คุณทัตไม่ใช่พ่อตัวเอง กับแม่ตัวทำร้ายคนรอบข้างขนาดนี้..ถ้าเขายังมีสำนึกอยู่ ก็น่าสงสารค่ะ)
ทั้งท่รู้นะคะคุณวิว่าที่ตัวเองให้คนไปสืบ ถึงกับวางยาเพื่อให้ข้อมูลที่เมคขึ้นมา(ไปแก้แค้นเพื่อความสะใจ) แต่ก็...ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจเท่าไหร่อ่ะนะ
ส่วนคุณทัต...คนนี้น่าหมั่นไส้มากค่ะ บอกตามตรงว่าไม่ชอบเลย...ทั้งที่พูดออกไปก็ได้ หลักฐานก็มีอยู่ในมือ (เพราะบางที พี่ทรายพูดไป ธารอาจไม่เชื่อเพราะไม่มีหลักฐาน)...จนบางที เราก็ขัดใจ จนบั่บ..เฮ้ย! ถ้ามันไม่ยอมฟังนัก ปากระดาษที่เปนหลักฐานใส่หน้าธารเลยก็ดีนะ!
แต่พอดีคุณทัตยังไม่ได้ทำไง...ก็เลยหมั่นไส้ค่ะ รู้แต่ไม่พูด ทำได้แต่ไม่ทำ (ขอ  :z6: สักที)
ส่วนคนที่ชอบที่สุดในเรื่องคงเป็นพี่ซีค่ะ...ปลื้มกรี๊ดกร๊าดมาก :z2: แอบไม่อยากให้คุณกับลูกของคุณวิ เพราะเรารู้สึกว่าพี่ซีจะประมาณ 'เธอดีเกินไปปปปป' ประมาณนี้..
(ถ้าไม่ติดว่าอิมเมจเป็นรุก เราก็อยากเชียร์ให้หารุกให้พี่ซีเหมือนกัน ฮ่าๆ เมะเถื่อนๆน่าจะเข้ากับพี่ซีนะ ว่าไหมคะ? (อินี่เชียร์เต็มที))

สุดท้าย เราอยากให้พี่ทรายกล้าๆพูดหน่อย ตะโกนออกไปเลยก็ได้ ให้ธารัรบฟังคำพูดพีเขาบ้าง ก่อนที่พี่ทรายจะทนรอวันที่ธารใจเย็นลงไม่ไหว...คราวนี้จะเรียกกลับคืนมายากนะคะน้องธาร ดีไม่ดี...วันที่ธารพร้อมจะฟัง พี่ทรายเขาอาจอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถพูดได้แล้วก็ได้ (ระวังนายจะต้องเฝ้าผู้ป่วยพร้อมกันสองคนนะคะธาร)..แล้วจะเสียใจ
สำหรับเรา สองคนนี้รักกันไหม? เรายังคิดว่ารักกันอยู่นะคะ...แต่เราก็คิดเองเหมือนกัน ว่า...น้องธารรักตัวเองมากกว่า
ไม่ยอมฟังพี่ทราย ทำร้ายกันขนาดนี้ แต่ก็ยังหวงไม่ให้ห่างตัว...น้องธารกลัวสิ่งที่พี่ทรายจะพูดออกมาหรอคะ ว่าพี่ทรายไม่ได้รักน้องธารแล้ว?? หรือว่ากลัวอะไร...ถ้ายังไม่ได้เผชิญหน้า กลัวว่าตัวเองต้องเจ็บ เลยทำให้พี่ทรายเจ็บแทนโดยไม่ยอมฟังสิ่งที่พี่ทรายอยากจะบอก...เราคิดว่าน้องธารยังรักตัวเองมากกว่าอยู่ค่ะ
บางที...ถามหน่อยอาจจะดีกว่าจริงๆค่ะน้องธาร ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
(กลัวใจคนเขียนมากๆณเวลานี้)

สิ่งแม่ลูกชื่อยาวเราจะไม่พูดถึงนะคะ สองคนนี้เป็นชะนีที่ไม่มีค่าสำหรับเราค่ะ ฮ่าๆ เราจะถือว่านางเป็นแค่ตัวประกอบ (ที่อาจมีความสำคัญในอนาคต) แล้วก็ธารหันไปทำแบบนี้กับชะนีไม่ดีนะคะ คนมองเขาฝังใจค่ะ ความรู้สึกเรียกคืนกันยาก
แอบขัดใจธารตรงนี้ล่ะค่ะ บอกว่ารักพี่ทราย แต่ไปแบบนี้กับชะนีหรือคะธาร?? ไม่ดี๊ไม่ดี ตัวเองทำพี่ทรายไม่มีสิทธิว่า ทำไมพี่ทรายทำตัวเองถึงกับต้องกักขังหน่วงเหนี่ยวล่ะเฮ้ย?? ไม่ยุติธรรมไปหน่อยรึเปล่า? จะบอกว่าถึงทำไป คนอื่นรู้เรื่องที่ตัวเองไป--กับชะนีไปก็ไม่มีผลกระทบหรอคะ?...อย่าลืมสิคะ พี่ทรายยังมีพี่ซีอีกคน..เฮ้ออ พูดถึงตรงนี้แล้วก็สงสารพี่ซี  :hao5:
(ประเด็นอยู่ตรงประโยคสุดท้ายค่ะ ฮ่าๆ)

ปล. กำลังรอว่า..เมื่อไหร่จะแฮปปี้สักทีค่ะ เข้าใจดีค่ะ ว่ามันเป็นไปตามเนื้อเรื่อง ฮ่ะๆ สู้ๆนะคะคนเขียน
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 29-03-2014 03:16:26
#ปักป้ายไฟคุณทัตสามพันป้าย
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 29-03-2014 06:30:48
 o18 ขอเหอะนะธาร ไอวิธีเอาผู้หญิงมาเย้ยหน้าคนที่ตัวเองรักเนี่ย เลิกเหอะ กลับมาข่มขืนทรายเหมือนเดิมดีกว่า  :haun4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-03-2014 06:42:28
ก็ทนกันไป ทรมานกันไป :hao5:
พูดความจริงออกมา อย่างน้อยธารไม่ได้โกรธน้อยลงแต่ก็คงไม่เพิ่มขึ้นหรอก ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ทราย ทำไมไม่ปกป้องตัวเองบ้าง ไปปกป้องทำไมทัตพลน่ะ
อิตาลุงนี่ก็เห็นแก่ตัวมากอ่ะ เกลียดแล้ว :katai1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 29-03-2014 08:57:20
อา เปิดฉากมาก็เสียเหงื่อเลย ไม่ใช่อะไร ทรายทำงานบ้าน :pigha2:

อีกฉาก ก็เสียน้ำ น้ำตากับภาพที่เห็นคนรักกอดจูบลูบคลำชะนี โดยที่ธารทำไปเพราะประชด (แต่ทรายไม่รู้อยู่ดี) อยากให้ทรายได้เจ็บช้ำบ้าง และทรายก็เจ็บจริงๆ แต่ก็ยังพยายามอดทนต่อไปเพื่อที่จะได้มีโอกาสเข้าไปดูแลคุณภัครผู้มีพระคุณ และน่าจะเพราะได้ใกล้ชิดกับคนรักด้วย อยากจะปรับความเข้าใจ อยากจะรักกันเหมือนเดิมตามที่ปากตัวเองพูดเอาไว้ ยอมรับว่าเห็นใจทราย เป็นใครใครก็เจ็บช้ำเจ็บปวด เหมือนกับธารเจ็บปวดเช่นกัน  ฉันก็ยังลากธารมาเข้าข้างด้วยอยู่ดี ก็ฮีไม่รู้นิว่าความจริงเป็นยังไง ถึงรู้ปุบปับจะให้รับได้ก็ยาก ต้องใช้เวลา ทนเถอะทราย แล้วจะได้รับสิ่งที่ฉันเม้นท์บอกในตอนที่แล้ว ไปอ่านซะ เชื่อฉัน  o13  และนับจากนี้ทรายคงต้องเห็นอีกหลายฉาก เพราะดูแล้วธารต้องใช้บัวชมพูช่วยในการแก้แค้นแน่ ซึ่งฉันไม่เห็นด้วยเลย เปลี่ยนเป็นไปลากธิปหรือซี ดีกว่าไหม สูสีหน่อย :z1:
 
มันคงไม่มีอะไรจะให้คนที่ทั้งรักทั้งเกลียด เจ็บได้เท่าเอาคนอื่นมาร่วมวงอีกแล้ว แต่ยังไงธารก็แคร์ทรายมาก มากถึงมากที่สุดด้วย รักมากก็เกลียดมาก ด้วยสาเหตุอะไรก็รู้ๆกันอยู่ ย้ำทุกครั้งว่ายังไงธารม้ายยยผิด :impress2: แต่ถ้าต่อไปมันรู้แล้ว โดยที่ทรายกับทัตพยายามอธิบาย มีหลักฐาน  มาแสดงฝุดฝุด แล้วมันยังงี่เง่า ไม่ไหวจะเคลียร์ ก็ช่างมันเถอะ แต่อย่าทำร้ายมากนะ :hao5: ฉันก็ยังเข้าข้างอีธารอยู่ดี เพราะฮียังเด็ก อายุสิบแปดเองจะให้ฮีมีเหตุผลหรือประคองอารมณ์ได้เท่าผู้ใหญ่ก็คงเป็นไปไม่ได้ ต่อให้ผู้ใหญ่ก็เถอะเจอแบบนี้เข้าไปก็จุกเช่นกัน ธารต้องใช้เวลามากในการที่จะยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ทรายกับทัตต้องช่วยทำให้ธารเข้าใจให้ได้ด้วยเช่นกัน :hao3:


อีก 50 ที่เหลือเชื่อได้เลยว่าทรายต้องร้องไห้ ต่อต้าน ขัดขืน พูดตัดพ้อ ธารแน่ ถ้าได้ยินธารเอาไปเปรียบกับชะนีบัว และก็โดนพูดจาดูถูกและจัดหนักตามเคย  เราว่าถ้าธารเจอกับซีและมีการปะทะคารม ธารจะต้องพูดกำกวมให้ซีคิดแน่ เหมือนกับที่ธารถ้าเห็นการแสดงออกของสองพี่น้องก็ต้องคิดเช่นกัน และจะต้องหึงหวงทรายจนเอาไปลงเพิ่มเป็นอีกคดีแน่นอน ทำใจเถอะนะ  :เฮ้อ:

ตอนทีทรายพูดกับตัวเองว่าเมื่อไหร่จะได้ดูแลภัครสักที คงจะยาก เข้าใจทรายนะว่ามีเจตนาดี อยากไถ่โทษทั้งที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจแต่ก็อยากทำให้ผู้มีพระคุณ แต่เราคิดว่าที่ธารไม่ให้ดูแล เหตุผลลึกๆเพราะห่วงจิตใจแม่ ถ้าเห็นหน้าทรายกอปรกับคลิปภาพ แม่อาจจะทรุดหนักได้ ภัครพูดไมได้นอนนิ่งมองอย่างเดียวคงจะอึดอัดใจไม่น้อยถ้าเห็นหน้าทราย และยิ่งทรายไม่บอกสาเหตุเพราะคิดว่าพูดไปก็เหมือนรื้อฟื้น หรือ พูดไปก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี   เลยทำให้แย่กันไปหมด แต่ถ้าเป็นทัตพลฮีพูดแน่นอน เอางี้คุณทัตมาขโมยคุณภัครไปไกลๆเลย เขียนจดหมายบอกไว้พอ ดีไหม คิดง่ายอีกแล้วตู :laugh:

ซีก็จริงๆเลย ไม่ห้ามความรู้สึกสักนิด กอดเกินพี่เกินน้องอยู่นั่นแหละ รู้ว่ารักทรายแต่ในเมื่อบอกว่าทรายเป็นน้องก็ต้องรักในแบบพี่น้องสิ ถ้าไม่ใช่ก็สารภาพออกไปเลยว่ารักแบบไหน (พูดไปก็จบไวอ่ะดิ คริคริ)  ต้องให้ธารมาปราบซะให้เข็ด o18

ไม่รู้สิ เราว่า ธารเหมาะกับทรายมากที่สุดนะ ด้วยเพราะธารมีนิสัยหวงของรัก ธารจะต้องจำกัดสิทธิ์ทรายกับซีแน่นอน แต่ขอให้ใช้วิธีนุ่มนวลก็แล้วกัน ทั้งซีและทัต ถ้าคู่กับทรายเรามองว่า ตามใจแน่นอน รู้แต่ไม่กล้าพูดกลัวทรายเสียใจ แต่ธารฮีเอาแน่ ถ้าใครคิดเกินเลยกับเมียตัวเอง โดนแน่นอน  เออ ลืมเลยซีเห็นรอยแล้วด้วยแต่ดูยังไม่แน่ใจ ถ้ารู้นะ เชื่อเลยว่าซีต้องยอมเสียสละบ้านเอาทรายกลับมาแน่ แต่ทรายไม่ยอมแน่นอน ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากให้พี่ชายต้องลำบากกับตัวไปมากกว่านี้ แค่เลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนก็มากพอแล้ว  :monkeysad:

ส่วนคุณทัต ก็อย่าเพิ่งเข้ามาเลยในตอนนี้ จะอ้างอะไรคงไม่ได้หรอก ธารกำลังโกรธอย่างแรง ไตร่ตรองก่อนจะมาให้ดีก่อน เราเชื่อว่า ทัตรักภัครกับลูกจริง และให้ดีควรเคลียร์กับวิ และ ธิป ให้เข้าใจอย่างเด็ดขาดด้วย ธิปก็เป็นอีกคนที่น่าห่วง ยังยืนคำเดิม ทัตเลี้ยง(ต้อย)ต่อไป กับ ซีเอาไปปลอบ เลือกเอา o18

แต่ยังไงก็ไม่อยากให้ธารเป็นพระเอกแบบ หลายเรื่องที่อ่านมา ประชดประชัน เหน็บแนม แกม งี่เง่า กูเอาอย่างเดียว พอเถอะ อยากให้ธารมีความคิด แก้แค้นก็จริง แต่ขอให้อยู่ในขอบเขตความฉลาดหน่อย เพราะธารมีความต่างจากพระเอกงี่เง่าพวกนั้นหลายอย่างอยู่แล้ว ดูจากคำพูดที่ใช้กับทรายก็ยังแฝงด้วยความรักเสมอ ไม่อยากให้ทำตัวน้ำเน่า ฉะนั้นฉีกกฎพระเอกพวกนั้นให้หมดไปเลย จะกลายเป็นพระเอกที่ไม่มีใครเกลียดหรือด่าว่าโง่แน่นอน o13

สำหรับตอนนี้ จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย  คนที่ประทับใจฉันมาก ฝุดฝุด ฉันเทใจให้เลย


สำหรับ


ดาว ชะนีสาวแห่งปี ที่มีความช่างสังเกตเป็นเลิศ   :katai2-1: ดาวเป็นสาวใช้ที่ต้องบอกว่า แทบจะไม่มีความใกล้ชิดกับเจ้านายในฐานะอื่นเลย ถ้าเอาไปเปรียบกับทรายนี่คนล่ะชั้นมาก ไม่ได้ดูถูกดาวนะ หมายถึงระดับความสัมพันธ์ ดาวกลับมองออก ว่าธารชอบทราย มีใจให้ และยังมองทะลุปรุโปร่งถึงความคิดยายแม่ของชะนีบัว ว่ามาบ้านด้วยสาเหตุอยากจะเอาลูกสาวมายัดเหยียดถวายให้เจ้านายของตน (ทั้งที่โดนกินไปแล้ว อิอิ) รู้จักมารยาทยิ่งกว่าคนเป็นผู้ดีซะอีกว่า สิ่งที่ทำมันน่าเกลียด ไม่รู้จักกาลเทศะ เอาคนป่วยมาอ้างเพื่อให้ลูกสาวตัวเองได้อยู่กับผู้ชาย และยัง รู้อีกด้วยว่าเจ้านายตัวเองไม่จริงใจด้วยแน่ แต่ทำม้ายทำไม ทรายกับมองไม่เห็น อ้อ ลืมไปทรายปล่อยให้ความเจ็บช้ำเจ็บปวดบังตาเหมือนธารที่ใช้ความแค้นบดบังความรัก อ่ะเคร ให้อภัย :katai5: วอนดาวช่วยชี้แนะนางหน่อยนะ ประทับใจมาก ยิ่งตอนดาวพูดถึงธารกับแม่ มันฟังดูซึ้งใจ ประทับใจ เจ้านายของตัว อย่างซื่อสัตย์ และเรามั่นใจว่าถ้าดาวรู้ความจริงเรื่องทรายกับทัต ดาวจะต้องวิเคราะห์ได้ อาจจะมีโกรธเคืองบ้างในตอนแรกๆ (หวังว่างั้นนะ)  :hao7:

จบได้ค้างคามาก แต่ดีใจที่รู้ว่าจะมาต่อไม่นาน จะรอ ธาร   :oo1:   ทรายนะ  รอ รอ รอ อยากอ่ะ บ่งบอกเลยฉัน  :haun4:

โอเค เอาไป 50% ก่อน เดี๋ยวอีก 50% หลังจะมาเม้นท์ต่อนะ  :bye2:








หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 29-03-2014 09:08:05
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 29-03-2014 12:14:19
โกรธธารแล้วเว้ย!

สงสารพี่ทราย  :o12:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[28/03/57] บทที่ 20 Unbreak My Heart(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 29-03-2014 18:34:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 29-03-2014 21:07:27
https://www.youtube.com/v/N3QcDy8NfM4#t=151


บทที่ 21  Unbreak My Heart 100%
 
 


“พี่ทรายอยู่ไหน”
 

ทันทีที่ภูวดลเดินมาถึงหน้ารั้วไม้ ธาราธารก็ส่งเสียงถามขึ้นห้วนๆ เขาไม่เคยยกมือไหว้ภูวดลเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกฝ่ายมองเขาครู่หนึ่ง ชั่งใจอยู่เป็นนานว่าจะก้มลงเปิดบ้านให้ดีหรือไม่วารินก็ก้าวออกมายืนอยู่ข้าง ๆ แล้ว คนตัวเล็กมองหน้าแขกที่มาใหม่แล้วต้องรีบเบือนหันไปทางอื่นกลัวจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว เหตุการณ์เมื่อเช้ายังตอกย้ำในหัวใจดวงน้อยให้ปวดร้าวดั่งโดนมีดกรีดเฉือน
 

“วันนี้พี่จะค้างที่นี่  ธารมีอะไรรึเปล่า”
 

วารินพูดเสียงเบาโดยไม่ได้มองหน้าเขาเลย  หลังจากภูวดลเปิดรั้วไม้ออก เขาเดินก้าวเข้ามาด้านในมองภูวดลอยู่พักหนึ่งจากนั้นเบนเป้าหมายมาที่คนตัวเล็กแทน
 

“ไม่มีธุระอะไรหรอกครับพี่ทราย  ผมแค่แวะเอาของมาให้พี่เท่านั้นเอง รบกวนตามออกมาเอาที่รถด้วย”
 

เขาพูดนิ่ม ๆ พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ทว่าสายตานั้นเหมือนขู่บังคับให้วารินต้องหันมาสบ แล้วจำใจต้องเดินตามเขาออกไป พอพ้นสายตาภูวดลเท่านั้นร่างสูงใหญ่ก็ก้มลงกระซิบเข้าที่ริมหูเล็กด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบแต่กัดกินลงไปถึงก้นลึกของหัวใจ
 

“นอนที่นี่เป็นคืนสุดท้ายเสียก็ดี เพราะพรุ่งนี้ผมจะเผาไล่ที่อยู่แล้ว เชิญระลึกความหลังเมื่อครั้งยังเด็กกันเสียให้พอ”
 

วารินเบิกตากว้างทันทีที่เขาพูดจบ แต่เขายังไม่หยุดอยู่แค่นั้นเสียงเย็นๆนั่นยังพูดต่อด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยราวรูปปั้นที่ไร้ความรู้สึก
 

“อ้อ เดี๋ยวก่อนกลับจะได้บอกพี่ชายพี่เสียเลยว่าเนื้อตัวของพี่มันหวานล้ำแค่ไหนโดนผมกอดเสียจนร้องครางลั่นไม่เป็นภาษาขนาดนั้น  ไอ้คืนแรกของเราน่ะมีเป็นวีดีโอด้วยนะ จะเอามาให้พี่ชายพี่ดูด้วยดีไหม หืมม!”
 

รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากซาตานปิศาจ วารินเซถอยหลังอย่างหมดเรี่ยวแรงมือเล็กเกาะประตูรถแน่นเพื่อช่วยพยุงตัว
 

“ถ้ายังอยากให้ความลับยังคงเป็นความลับต่อไปและถ้ายังอยากให้พี่ชายได้อยู่บ้านเล็กๆหลังนี้อยู่ล่ะก็ไปหยิบกระเป๋าออกมา ผมจะรออยู่ที่นี่”
 

เขาเปิดรถเข้าไปนั่งอย่างผู้มีชัย เท้าแขนลงกับขอบประตู รถเปิดประทุนสีขาวสวยงามทว่าใจคนกลับดำทมิฬยิ่งกว่าปีศาจร้าย วารินน้ำตาตกในก้าวขาเข้าไปในบ้านอีกครั้งภูวดลรีบประคองจับคนตัวเล็กไว้
 

“ทราย!” ใบหน้าคมขมวดคิ้วแน่นเมื่อรู้สึกแย่สุดขีดกับเจ้านายของน้องชายอย่างธาราธาร วารินรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พรูลมหายใจตั้งสติกลับมาใหม่
 

“เดี๋ยววันนี้ทรายต้องกลับไปก่อน วันหลังทรายจะมาหาอีกนะครับวันนี้มันจำเป็นจริง ๆ พี่ซีทรายขอโทษนะ” วารินกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลตกลงมารีบขึ้นไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินลงมายกมือไหว้ภูวดล พี่ชายตรงเข้าสวมกอดเขาทันทีมือใหญ่ลูบศีรษะเล็ก
 

“ถ้ามันลำบากนักก็กลับมาอยู่บ้านเราสิ  ทรายคนเดียวพี่เลี้ยงได้ทำไมถึงต้องอดทนขนาดนั้นด้วย” วารินแสนจะเจ็บช้ำเขารู้ว่าภูวดลเป็นห่วงแทบขาดใจแต่ไม่สามารถทำอะไรได้  เป็นตัวเขาเองที่ยินยอมอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายต่าง ๆ แบบนี้
 

“ธารเขาเป็นเด็กมีปัญหาน่ะครับ ทรายไม่เป็นไรหรอกพี่ซีขึ้นนอนเถอะนะ เดี๋ยวทรายล็อคบ้านให้เอง”  ร่างเล็กๆไม่หันกลับไปมองภูวดลอีก กลัวว่าจะห้ามน้ำตาที่เกือบจะตกลงมาไม่ไหว  เปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถคันงามไป ไฟท้ายรถตีเลี้ยวออกจากซอย พี่ชายคนดีที่ยืนอยู่ริมรั้วถอนหายใจอย่างอดทน เขาได้แต่ภาวนาให้น้องชายของเขาทำงานอยู่ที่นั่นอย่างปลอดภัยและสบายใจ
 

ช่วงเวลาที่ดึกสงัดรถสปอร์ตคันเดิมกลับมาโฉบเฉี่ยวไปตามท้องถนนอย่างกับพายุ วารินยึดสายเข็มขัดไว้แน่นเช่นเคย เข็มวัดระดับความเร็วที่เร่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เสี้ยวหน้าของคนขับนิ่งขรึมราวกับสัตว์ร้าย ดวงตาคู่สวยทอประกายสั่นระริกอย่างเห็นได้ชัด
 

“ธาร! มันเร็วไปแล้วนะ” วารินรู้แล้วว่าธาราธารขับออกนอกเส้นทาง นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้าน เขากำลังพาออกไปนอกเมือง
 

“ธารจอดเดี๋ยวนี้!” วารินตะโกนสั่งเสียงเขียวเมื่อเห็นว่าเขาไม่คิดจะยกเท้าแตะเบรกเลยด้วยซ้ำ  ยังคงเหยียบคันเร่งจนจมมิด ใจดวงน้อยไหวสะท้านด้วยความกลัว
 

“พี่บอกให้จอดไง! จอดเดี๋ยวนี้นะ!!” เสียงเล็กตะโกนออกมาดังลั่นทั้งน้ำตา
 

เอี๊ยดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
 

เขาเบรกลงอย่างแรงถ้าเป็นตอนกลางวันคงจะเห็นฝุ่นตลบล้อ วารินกระเด็นไปชนคอนโซนรถดีที่ยังมีสายเข็มขัดรัดไว้จึงไม่เจ็บมากนัก  ทว่าไม่ทันได้ตั้งตัวธาราธารเอื้อมมือเข้ากระชากท่อนแขนบางแล้วบีบอย่างไม่ปราณีปราศัย วารินเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
 

“รู้ตัวไหมว่าทำผิดเรื่องอะไร” แววตาของเขาโกรธเกรี้ยวและดุดัน วารินจ้องหน้าเขานิ่ง ไม่เข้าใจแค่กลับบ้านทำไมเขาจึงต้องโกรธเคืองกันขนาดนั้น
 

“พี่ก็แค่กลับบ้าน มันผิดด้วยหรือไง” เสียงเล็กๆสั่นเครืออีกทั้งแววตาที่ไหวระริกเพราะความหวาดกลัวคนตรงหน้า มือเล็กๆของวารินพยายามแกะมือใหญ่ของเขาออกจากท่อนแขนของตัวเอง
 

“กลับบ้านไม่ได้ผิดเลย ที่ผิดก็คือกลับโดยไม่ได้บอกผมสักคำและที่สำคัญใครกันที่มันมาส่งพี่ถึงที่บ้านนั่น” เขาเน้นทุกถ้อยคำ โน้มใบหน้าโกรธเกรี้ยวเข้าใกล้แล้วออกแรงบีบขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว
 

“ผมเห็นหลายทีแล้วนะ ชอบมันมากเหรอแบบไอ้เตโชคนสวนน่ะ ถูกใจพี่มากใช่ไหม!” ธาราธารตะโกนลั่นแววตาเกรี้ยวกราด บีบสองมือเล็กให้แน่นขึ้นอีกแล้วผลักวารินจนติดประตู
 

“อยากกลับบ้านมาหาพี่ชายหรือว่าอยากออกมาขับรถเล่นกับมันกันแน่ เก่งไม่เบานะเจอกันไม่กี่วันถึงขนาดกล้าให้เขามาส่งถึงหน้าบ้าน ออกมากันตั้งแต่กี่โมงล่ะแวะที่ไหนกันบ้างโดนมันกอดเข้าแล้วใช่ไหมถึงได้มีสีหน้าร่าเริงขนาดนั้น” 


นี่ถ้ามือไม่ได้ถูกจับตรึงไว้แบบนี้วารินคงได้สะบัดใส่ใบหน้าเขาไปแล้ว น้ำนัยน์ตาไหลพรากกับคำพูดเหยียดหยามที่เขาประณามหัวใจดวงน้อย  ทำไมเขาถึงได้ร้ายกาจนักจิตใจทำด้วยอะไรกัน วารินมองมือคู่นั้นที่เขาเคยจับจูงเล่นเมื่อครั้งยังเล็ก มือที่ไร้เดียงสานั่นบัดนี้มันกลายเป็นมือที่ใหญ่มากและร้อนมากราวกับเปลวเพลิงที่คอยบีบคั้นเขาให้เจ็บปวดทุกข์ทรมานจนแสนสาหัส
 

“ใช่! พี่มันร่านอยากโดนเขากอดเลยชวนเขาออกมาข้างนอกเพราะทำในบ้านมันไม่สะดวกไง สะใจแล้วใช่ไหม! พอใจธารแล้วรึยัง!! พอใจไหม!!!...ฮึกก...ฮือๆๆ”
 

เสียงเล็กๆตะโกนลั่น น้ำตาไหลนองหน้าดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธที่เขาพูดจาทำร้ายกัน ในเมื่อเขาอยากให้เลวก็จะเลวให้ถึงที่สุดเลวให้สมใจเขา แต่วารินหารู้ไม่ว่าคำพูดประชดประชันเมื่อตะกี้เป็นดั่งเชื้อเพลิงชั้นดีที่ราดรดลงบนกองไฟ
 

ธาราธารบดกรามจนเป็นสันนูนเปิดประตูเดินลงมาจากที่นั่งฝั่งคนขับทันที เขากระชากประตูฝั่งวารินออกเอื้อมมือไปกดสายเข็มขัดนิรภัยแล้วกระชากท่อนแขนเล็กลากทั้งตัวออกมาโยนโครมลงบนพื้นถนนข้างทาง สีหน้าที่มีแต่ความดุดันเกรี้ยวกราดวารินกลัวจนต้องถดตัวถอยไปกับพื้น
 

เขาก้มลงมาลากแขนเล็กนั่นขึ้นมาบีบอีกหน
 

“รู้อะไรไหม” เขาว่าเสียงเย็นเหมือนคนอดกลั้นจนถึงที่สุด
 

“ห้องเก็บเครื่องมือทำสวนก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเหมือนกัน แต่ก่อนหน้านั้นให้สำนึกเสียด้วยว่าตัวเองทำอะไรผิดไป อยากบอกให้จอดนักใช่ไหมถ้าอย่างนั้นก็อยู่มันตรงนี้แหละ หาทางกลับเอาเองก็แล้วกัน หรือจะโทรเรียกไอ้เตโชมันมารับก็ได้นะผมอนุญาต”
 

เขาดันตัววารินจนเซล้มไปอีกรอบแล้วกระชากรถขับออกไปเลยไม่สนใจคนตัวเล็กที่บัดนี้นั่งอยู่ริมข้างทางมืดๆ ในตัวไม่มีอะไรเลยนอกจากชุดนอนที่สวมใส่ ดวงตากลมสั่นระริกกวาดมองรอบตัวด้วยความหวาดกลัวจับหัวใจ
 

น้ำตาทะลักทะลายออกมาอีกรอบขณะที่กลิ่นฝนเริ่มลอยขึ้นมาติดปลายจมูกไม่นานนักเสียงฟ้าร้องครืน ๆ ที่ดังห่างออกไปไม่ใกล้ไม่ไกลพักเดียวก็เทกระหน่ำลงมากระทบผิวหน้าขาวที่บัดนี้แดงช้ำจากรอยน้ำตา วารินยกสองมือขึ้นกอดตัวเองแล้วเดินเข้าหาร่มไม้ข้างทางเพื่อพักพิง เสียงสะอื้นดังกลั้วไปกับเสียงคำรามของท้องฟ้าราวกับว่าฝนฟ้าทอดอาลัยให้กับรอยน้ำตาของคนตัวเล็ก  วารินทรุดกายนั่งลงด้วยความหนาวสะท้าน ร่างกายเล็กๆสั่นเป็นลูกนก พยายามมองหาแท็กซี่ที่จะขับผ่านไปมา แต่จะมีรถคันไหนกันจะมาจอดรับคนแปลกหน้าที่ยืนตากฝนอยู่เพียงลำพัง
 

เรียวนิ้วแข็งแรงกดปิดหลังคารถหรูเมื่อเม็ดฝนทยอยร่วงหล่นใส่ใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้ฉายแววกังวลจนถึงที่สุด เขาตีรถกลับทันทีความรู้สึกผิดเข้าถาโถมในจิตใจจนปวดหนึบ ไฟหน้ารถตีกระพริบถี่ตรงบริเวณที่จอดทิ้งคนตัวเล็กไว้เมื่อสักครู่ เพ่งสายตาคมกริบผ่านกระจกด้านหน้าที่บัดนี้มีก้านที่ปัดน้ำฝนปัดซ้ายปัดขวาทั้งเร็วและรัว รถคลานตัวไปเรื่อยๆขณะที่จิตใจเขาร้อนรุ่มดั่งใครเอาไฟมาจุดเผา
 

“อยู่ที่ไหนกันนะ  ดื้อด้าน! แทนที่จะนั่งอยู่กับที่”
 

ได้แต่บ่นคนเดียวอยู่อย่างนั้นสองมือกำพวงมาลัยแน่น แต่เมื่อสองตาเพ่งจ้องเห็นร่างเล็ก ๆ นั่งคุดคู้อยู่ที่พื้นใต้ต้นไม้เล็กๆใช้สองมือกอดตัวเองอย่างน่าเวทนาเนื้อตัวสั่นเทิ้มเขารีบเปิดประตูรถตรงออกไปหาวารินทันทีไม่ใส่ใจต่อเม็ดฝนที่กำลังเทลงมาเลยสักนิดเสียงสายฟ้ายังดังครืนครานอยู่ไม่หยุดวารินยกสองมือปิดหู
 

“ขึ้นรถ!” เขากระชากเสียงใส่ดึงแขนคนตัวเล็กให้ลุกขึ้น สายตายังคงความโกรธ ขึงขังดุดัน
 

“ไม่ไป!  อยากไปไหนก็ไปเลยอยากทิ้งกันก็ไปเลยไม่ต้องมาสนใจ กลับมารับกันทำไม! กลับมาอีกทำไม!!”
 

เมื่อวารินเห็นว่าเป็นใครที่มายืนอยู่ตรงหน้าความรู้สึกโกรธที่ถูกทอดทิ้งก็พังครืนลงทันที คำพูดคำจาประชดประชันถูกเค้นออกจากสมองน้อย ๆ สุดที่จะคิดออกมาได้ น้ำตาหรือสายฝนที่ร่วงกรูลงมาทั้งสองแก้ม แม้แต่ตัวเองก็ยังแยกไม่ออก  ธาราธารได้ยินแบบนั้นยิ่งโกรธหนักเข้าไปใหญ่เขาเกลียดเวลาที่เห็นคนตัวเล็กพูดประชดกัน แต่เขาไม่ได้ดูตัวเองเลยว่าทำอะไรลงไปขนาดไหนบ้าง
 

“เลิกอวดดีแล้วสำนึกสักทีกับความผิดที่ทำลงไป  ขึ้นรถ!”
 

เขาตะคอกดังลั่นลากแขนคนตัวเล็กที่ยังไม่ยอมลุก ถูลู่ถูกังครูดไปกับพื้นถนนวารินสะอึกสะอื้นไห้แข่งกับเสียงคำรามของท้องฟ้า
 

“ไม่ไป! ปล่อยให้ตายอยู่ตรงนี้เลยไม่ต้องมาสนใจกัน ออกไป อย่ามาแตะต้องกัน ไม่ไป! ไม่ไป!”
 

วารินดิ้นพราดๆเมื่อเขาแบกร่างเล็กพาดใส่บ่าแล้วจับยัดโครมเข้าไปในรถ เปิดคอนโซนหน้าด้วยความรวดเร็วคว้าเอาเนคไทเส้นเรียวขึ้นมามัดสองมือของวารินไว้แล้วผูกเข้ากับก้านพนักพิงที่เบาะ วารินหัวใจหล่นวูบเมื่อเห็นเขากล้าทำกับตัวเองขนาดนี้
 

“เก่งนักนะพูดจาประชดประชันกันแบบนี้เก่งเกินไปจริงๆ!”
 

มือใหญ่เอื้อมไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวสะอาดขึ้นมาเช็ดใบหน้าเปียกโชกของคนตัวเล็กอย่างไม่เบามือขณะที่วารินพยายามหันหน้าหนีแต่เขาก็ยังยึดศีรษะเล็กไว้แน่น พอเสร็จก็ฟาดผ้าลงกับเบาะแล้วปิดประตูดังโครม ในตาจ้องมองคนที่เขาจับมัดเอาไว้อย่างหัวเสีย เขาไม่เข้าใจทำไมวารินต้องต่อต้านเขาตลอดเวลา ทำไมถึงตั้งใจประชดประชันกันขนาดนี้ในเมื่อเขากลับมารับแล้วจะยอมขึ้นรถไปกับเขาดีๆบ้างไม่ได้เลยเชียวหรือ
 

.....ฟ้าฝนยังคงเทลงมาอย่างไม่คิดจะหยุด ขณะที่คนหนึ่งนั่งร้องไห้น้ำตาไหลพรากอยู่ในรถอีกคนกลับยืนตะโกนอย่างบ้าคลั่งใส่สายฝนแล้วเตะโครมๆเข้าที่ล้อหลังของรถอย่างเอาแต่ใจ....
 

วารินน้ำหูน้ำตาไหลจิตใจปวดร้าวจนเกินที่จะรับได้ ศีรษะเล็กซบพิงลงกับข้อมือตัวเองที่ถูกมัดอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร
 
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 29-03-2014 21:07:52
https://www.youtube.com/v/N3QcDy8NfM4#t=151




“ลงมา!”

กว่าจะกลับมาถึงบ้านฝนก็เริ่มห่างเม็ดไปแล้ว ธาราธารแกะข้อมือวารินออกแล้วจับลากลงมา เตโชที่ยังไม่นอนรีบวิ่งเข้ามาดู
 

“ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของเจ้านาย” เขาตะคอกใส่หน้าคนที่เดินเข้ามาอย่างไม่แคร์ เตโชหน้าเสียขณะที่เขาลากแขนวารินตรงไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์ทำสวนซึ่งติดกับโรงจอดรถ เตโชได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นสายตาแสดงความห่วงใยอีกคนอย่างชัดเจน
 

“เดี๋ยวจะทำให้มันได้รู้ไปเลยว่า ‘เรา’ สองคนเป็นอะไรกัน”
 

เขาพูดเสียงเย็นเฉียบชิดติดริมหู ตั้งใจเน้นคำว่า ‘เรา’ จากนั้นจึงผลักวารินเข้าไปด้านในร่างเล็กๆกระแทกเข้ากับโต๊ะกลางห้องจนของที่วางอยู่ล้มระเนระนาด เขาก้าวเข้าหา กระดุมเสื้อเชิ้ตเปียกโชกถูกปลดลง ขณะที่วารินถอยกรูจนหลังติดฝา หาหนทางเล็กๆหวังจะเล็ดลอดจากซาตานร้ายอย่างเขาให้ได้
 

“อย่าธาร! ไม่เอาอย่าทำนะ” เขากระชากแขนเล็กจนตัวปลิวกระเด็นมาชิดแผ่นอกกว้างของเขาแล้วกอดรัดเอาไว้ วารินตัวสั่นงกๆด้วยความกลัวและความหนาวชุดนอนสีขาวที่เปียกโชกซับให้เห็นเนื้อในขาวผ่อง
 

“จะถอดเองดี ๆหรือจะให้ผมฉีกออกให้เหมือนทุกครั้ง หืมม” เขากระซิบใส่เสียงเย็นวารินผลักอกเขาออกด้วยความกลัวแต่เขากลับไม่ไหวติงเลยแม้แต่น้อยกลับดันคนตัวเล็กให้นอนหงายราบลงไปบนโต๊ะใหญ่กลางห้อง
 

“ธารไม่! อย่า! อย่าทำพี่ขอร้อง   ที่นี่ไม่ได้ ไม่ใช่ที่นี่ขอร้องล่ะ ได้โปรด….ธาร....ได้โปรด”
 

วารินร้องขอสะอื้นไห้เสียงสั่นในขณะที่ตัวเขาโน้มขึ้นทาบทับขาที่ลอยไม่ติดพื้นเตะปัดป่ายจนเขาต้องออกแรงกระชากคนตัวเล็กจับพลิกคว่ำหน้าลงไปแทนให้วารินอยู่ในท่ากึ่งยืนกึ่งหมอบอยู่ที่โต๊ะในขณะที่เขาโน้มตัวกดทับลงมา ใบหน้าด้านข้างของคนใต้ร่างบี้ติดผิวโต๊ะ เขากระชากคอเสื้อด้านหลังของวารินขึ้นทำเอาอีกฝ่ายไอโขลกเพราะโดนกระดุมเสื้อรั้งจากคอหอย มือใหญ่เอื้อมไปฉีกทิ้งอย่างไม่ใส่ใจเมื่อต้นคอขาวผ่องลอยอวดท้าเขาอยู่ต่อหน้าต่อตา เม็ดกระดุมร่วงกรู เสื้อแสงแยกขาดออกจากกัน
 


“อย่ามาแตะนะ!”
 


วารินแผดเสียงดังลั่นขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังจะกดจูบลงไปที่ต้นคอขาวเนียน
 


“ธารจูบคนอื่นแล้วอย่ามาแตะต้องกัน”
 


เสียงเล็กๆสั่นพร่าน้ำตาไหลอาบทั้งที่แก้มถูกกดแนบ ธาราธารชะงักทันทีภาพวันเก่าฉายชัดเข้ามาในหัวใจเขาอีกครั้ง
 
 

                ‘ผมจะไม่ทำอย่างนั้นอีก ผมรู้แล้วว่าพี่ไม่ชอบ’
 
 

นั่นคือคำสัญญาที่เขาเคยให้กับวาริน แต่วันนี้เขากลับจูบกับผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าต่อตา ที่สำคัญเขา ‘ตั้งใจ’ ทำเพราะรู้ว่าวารินจะต้องเห็น มือใหญ่ยื่นเข้าหมายจะสอดเข้ากอดคนตัวเล็กอย่างปลอบประโลมและเอ่ยปากขอโทษ  คำพูดของวารินเมื่อสักครู่ดังสะท้อนอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้งจนเขาเผลอละตัวขึ้น
 
 

             “ธารจูบคนอื่นแล้วอย่ามาแตะต้องกัน”
 
 

ใบหน้าคมขมวดคิ้วแน่นมือที่กดหลังวารินอยู่ค่อยคลายออกอย่างไม่รู้ตัว ได้โอกาสคนตัวเล็กวิ่งพรวดหลุดออกมาที่ด้านนอก วารินรีบวิ่งตะบึงตัดผ่านเข้าไปในตัวบ้าน เตโชที่ยืนนิ่งอยู่แถวประตูมองดูด้วยความเวทนา อยากเข้าไปช่วยใจจะขาดแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์จะทำอย่างนั้นได้ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าคืนก่อนนั้นเกิดอะไรขึ้นที่ห้องข้าง ๆ  เสียงวารินดังสะท้อนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในห้วงความคิด ได้แต่กำมือแน่นเพราะสงสารคนตัวเล็กจับใจ
 

เสื้อนอนที่เปียกชุ่มถูกดึงจนขาดวิ่น สาบเสื้อเปิดแยกออกจากกันวารินไม่สนใจสิ่งใดแล้วตั้งหน้าตั้งตาวิ่งตรงไปที่ห้องหลังบ้าน
 

แต่ทว่า
 

ก็ไม่เร็วเท่ากับช่วงขาที่ยาวกว่ามากของใครคนนั้น มือใหญ่ของซาตานร้ายเข้ากระชากเขาเอาไว้ก่อนที่คนตัวเล็กจะวิ่งหนีพ้นไปได้หัวใจดวงเล็กๆหล่นวูบ ธาราธารกอดรัดเอาไว้แน่นวารินทั้งดิ้นทั้งทุบแถกลงไปกับพื้นด้วยแรงทั้งหมดที่มีไม่ยอมเดินตามเขาไปเด็ดขาด ธาราธารหมดความอดทนแบกร่างทั้งร่างที่ดิ้นพราดๆใส่บ่าแล้วเดินขึ้นไปบนห้องโยนโครมลงที่เตียงใหญ่หลังเดิม
 

วารินรีบถดตัวลงจากที่นอนหนานุ่มนั้นทันที ตัวเขาที่ยืนตระหง่านอยู่ปลายเตียงกระชากเสื้อตัวเองออกอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นกล้ามเนื้อสวย สร้อยสีเงินสั้นๆเส้นเล็กที่แขวนจี้รูปกุญแจซอลกระเพื่อมไปตามเนินอกแข็งแกร่ง วารินรู้ว่าเขาโกรธมากแต่จะให้ยอมกันง่าย ๆ มันก็คงไม่ใช่ ร่างเล็กก้าวถอยหลังอย่างคนหาหนทางจะหนีอีกครั้ง พอตัดสินใจวิ่งด้วยแรงเฮือกสุดท้ายคนตัวเล็กก็ปลิวหวือตามแรงกระชากที่ท่อนแขน
 

ธาราธารจับตัวเขาโยนลงไปที่อ่างอาบน้ำเปิดน้ำใส่อย่างแรงแล้วหยิบฝักบัวลงมาราดรดศีรษะเล็กที่ผมเรียบลู่เพราะเปียกสายฝน วารินนั่งตัวสั่นชันเข่ากอดตัวเองไว้แน่น เขากดแชมพูออกมาชโลมเส้นผมให้ก่อนจะล้างออกอีกครั้งจนสะอาดแล้วค่อยถอดเสื้อนอนของอีกคนออกวารินต่อต้านเขาเล็กน้อยแต่พอคิดว่าสู้ไม่ได้แน่แล้วก็ปล่อยให้เขาทำไปอย่างที่ต้องการ ไม่นานนักร่างเล็กๆก็นั่งเปลือยเปล่าแช่อยู่ในอ่างน้ำอุ่น ๆ เขาปลดเข็มขัดออกแล้วถอดกางเกงยีนส์ลง  ขายาวก้าวเข้ามานั่งซ้อนลงด้านหลัง กอดรัดวารินเอาไว้แน่นแล้วเอนตัวนอนแช่ลงที่อ่าง วารินดิ้นพราดเมื่อนึกถึงเรื่องครั้งก่อนที่เขาพาตัวเองจมลงใต้อ่าง ร่างเล็กดิ้นพล่านเพราะความกลัวเข้ามาเกาะกุม
 

“ชู่ว ไม่ทำหรอกไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำแบบนั้นแล้ว” เขากระซิบเข้าที่หลังหูวารินน้ำตาไหลออกมาอีกรอบ ไม่รู้จะเชื่อคำพูดเขาได้แค่ไหนแต่จะให้ต่อต้านก็สุดเรี่ยวแรงที่จะทำได้จึงยอมให้เขากกกอดอยู่อย่างนั้น พักเดียวเขาก็พาร่างเล็กๆออกมานั่งที่เตียงพร้อมกับโยนผ้าขนหนูผืนใหญ่ส่งให้ ชุดนอนตัวโคร่งถูกเขาปลดออกจากไม้แขวนแล้วโยนใส่มือ
 

“ใส่ซะ แล้วกลับลงไปได้แล้ว ผมไม่มีรสนิยมบริโภคของเหลือเดนจากพวกคนสวนหรอกนะ” เขากระแทกเสียงประชดประชัน จากที่วารินเริ่มนิ่งเมื่อเห็นว่าเขาใส่ใจอาบน้ำสระผมให้กลับเจ็บปวดหัวใจดั่งถูกทิ่มแทง น้ำตาแห่งความรวดร้าวทะลักออกมาจากตาดวงน้อย ทำไมถึงดูถูกดูแคลนกันได้ขนาดนี้
 

“ในสายตาของธาร พี่มันร่านขนาดนั้นเลยเหรอ”
 

เสียงคนถามบางเบาราวกับคนไร้เรี่ยวแรง วารินก้มหน้านิ่งกลั้นสะอื้นให้ถึงที่สุด แต่เขายังคงเงียบ ยืนหันหลังให้อย่างที่วารินไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ ในที่สุดเขาหันหลังกลับมาเหยียดยิ้มแสนขมขื่นใส่ เดินเข้ามาหาใกล้ ๆ แล้วบีบคางคนตัวเล็กไว้แน่นสองมือของวารินรีบคว้าตะครุบที่ฝ่ามือใหญ่ของเขาทันที
 

“ร่านไม่ร่านพี่ก็ร่อนสะโพกอยู่บนตัวของพ่อผมนั่นแหละ จำไม่ได้รึไงว่าทำอะไรลงไปบ้าง หรือว่าเพลิดเพลินกับรสสวาทจนลืมไปหมดแล้ว แย่หน่อยนะเพราะคนอย่างพี่คงไม่มีวันได้ไปร่านร่อนแบบนั้นอยู่บนตัวใครได้อีกแล้ว มีแต่ผมเท่านั้นที่พี่จะทำแบบนี้ด้วยได้ จำเอาไว้ให้ดี!” เขาตะคอกดังลั่นผลักวารินหงายหลังลงที่เตียงแล้วตามขึ้นไปกดไหล่เล็กจนจมมิด
 

“ธารอย่า!”
 

วารินร้องดังลั่น เสียงเล็กสั่นเครือน้ำในตารื้นขึ้นคลอหน่วยเมื่อความเจ็บปวดที่หัวไหล่แล่นพล่าน ธาราธารตัวใหญ่เมื่อเขาขึ้นทาบทับวารินจุกจนแทบหายใจไม่ออกดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่เล็ดลอดจากร่างกายคนด้านบนได้เลย  เขาเปลี่ยนมาคว้าจับสองมือเล็กกางตรึงลงกับที่นอน
 

“ที่ดีดดิ้นแบบนี้เนี่ย  เป็นเพราะว่าอยากมากใช่ไหมฮึ!  ร่านมากอยากมากอย่างนั้นใช่ไหม!!” เขาเอ่ยน้ำเสียงเสียดแทงโดยไม่คิดเลยว่าหัวใจดวงน้อยจะชอกช้ำเจ็บปวดแสนสาหัสเพียงใด
 

“ไม่ใช่! ไม่ใช่แบบนั้น พี่กับคุณทัตไม่ได้เต็มใจ ธารเข้าใจผิดแล้ว” ในที่สุดวารินก็โพล่งขึ้นมา
 

“โฮ่  นี่ขนาดไม่เต็มใจนะ แล้วถ้าเต็มใจมันจะร้อนแรงกันขนาดไหนกัน อย่าพูดให้ขำหน่อยเลย จะแก้ตัวอะไรก็เอาให้มันฟังขึ้นกว่านี้บ้าง เห็นผมโง่เป็นเด็กสามขวบหรือไง” วารินน้ำตาไหลลงมาเป็นทาง สะอึกสะอื้นสำลักกับความเจ็บปวดที่เขาสรรหามามอบให้ไม่เว้นแต่ละคำพูดคำจา
 

“ไม่ใช่แบบนั้นธาร  เราสองคนโดนวางยา พี่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไปบ้าง พอตื่นขึ้นมา.....”
 

“พี่ทราย” เสียงเย็นเฉียบแทรกขึ้นทันทีก่อนวารินจะพูดจบ   
 

“อย่าหลอกผมอีกเลย....พี่บอกผมว่าพี่ไปเที่ยวกับเพื่อนๆของพี่ใช่ไหม  มันผิดตั้งแต่แรกที่พี่โกหกผมแล้วล่ะ  ไหนลองบอกผมมาซิ มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปอยู่ในที่แบบนั้นกับเขาสองต่อสอง มีความจำเป็นอะไรถึงขนาดต้องโกหกผมว่าเพื่อนๆพี่นอนหลับหมดแล้ว ทั้งที่ความเป็นจริงพี่ไปกับเขาแค่สองคนเท่านั้นใช่ไหม?”
 

แววตาและน้ำเสียงที่แสนเศร้าอัดแน่นไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ เขากดข้อมือคนตัวเล็กให้จมลึกยิ่งขึ้นไปอีก  คิดได้แต่ว่าโดนคนที่ตัวเองรักหลอกลวง
 

“วันนั้นผมโทรหาพี่ พี่บอกว่าพี่อยู่คนเดียว  ผมขอให้พี่ส่งรูปพี่กับเพื่อนๆมาให้ดู  แต่พี่กลับปฏิเสธบ่ายเบี่ยงบอกว่าขอคัดรูปก่อน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ไม่มีหรอกไอ้รูปกับเพื่อนฝูงอะไรนั่น เพราะคนที่พี่ไปด้วยจริง ๆ ก็คือเขาคนนั้นคนเดียว! พวกพี่ไปเที่ยวกันสองคนไปเอากันไกลถึงพังงานั่น มีแต่ผมคนนี้ที่โง่ยิ่งกว่าโง่ คิดไปว่าพี่คงเที่ยวอยู่กับเพื่อนๆ”
 

ดวงตาแข็งแกร่งสั่นระริกเมื่อพูดถึงเรื่องเก่าที่ร้าวใจ น้ำตาหยดหนึ่งไหลตกลงมา หยดลงบนผิวแก้มสวยของคนใต้ร่าง วารินสุดปวดร้าวเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรักร้องไห้ออกมาแบบนั้น
 


สาเหตุ...เป็นเพราะเขาคนเดียว
 


“...ธาร...ขอโทษ..พี่ขอโทษ...”

 
เสียงเล็กร่ำไห้พึมพำ รู้ทั้งรู้ความผิดตัวเองเกินที่อีกฝ่ายจะให้อภัย คนที่เคยหลอกลวงมาแล้วครั้งหนึ่งอย่างเขาต่อให้พูดความจริงอีกสักกี่ครั้งก็ยังยากที่จะทำใจให้เชื่อ วารินไม่สามารถบอกเรื่องรีสอร์ตที่ทัตพลสร้างไว้ให้กับเขาได้จริง ๆ ไม่ว่าอย่างไรจึงได้แต่เอ่ยคำว่าขอโทษ
 

“อย่ามาหลอกผมเลยเรื่องยาน่ะ ใครกันที่มันจะทำแบบนั้น ทำไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าพวกพี่สองคนไม่เต็มใจในวีดีโอมันต้องมีอะไรส่อให้เห็นบ้าง แต่นี่ไม่มีเลย พี่กับพ่อผมกระโจนหากันอย่างกับคนอดอยากมานาน พี่คิดว่าผมนั่งดูมันกี่รอบกันล่ะ ผมพยายามที่จะดูกี่รอบกัน! ผมเจ็บปวดแค่ไหน!  แล้วถ้าพี่บอกว่าแบบนั้นคือพี่ไม่ได้เต็มใจล่ะก็ ทำให้ผมดูหน่อยสิว่าแบบไหนถึงจะเรียกว่าเต็มใจของพี่”
 

เขาเหยียดยิ้มขมขื่นให้กับตัวเองที่คิดว่าถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีก ภาพในวีดีโอที่ฟ้องอยู่แบบนั้นจะดูกี่ทีกี่ครั้งมันก็คือวารินกับพ่อของเขาอยู่วันยังค่ำ
 

“ทำตัวดีๆซะแล้วผมจะอ่อนโยนให้ อย่าหลอกผมอีก...อย่าดื้อกับผม”
 

สิ้นคำพูดของเขาริมฝีปากหยักสวยได้รูปกดจูบลงมาที่เรียวปากเล็กทันที สัมผัสอันลึกซึ้งที่เรียวปากมาพร้อมความต้องการในส่วนลึก วารินเฝ้านึกถึงคำพูดที่เขาพูดกับบัวชมพูเมื่อเช้า
 

                 “อย่าดื้อสิไม่ชอบคนดื้อ”
 

เขาพูดกับคนที่เขาทะนุถนอมแบบนั้นในขณะที่พูดกับวารินแต่ละคำยิ่งกว่ามีดกรีดเฉือนลงในเนื้อหนัง น้ำตาของคนตัวเล็กทะลักออกมาเป็นทาง จนเขาต้องละริมฝีปากออกจากโพรงปากนุ่มนิ่ม
 

“ทำไมต้องร้องไห้  ทำไมถึงต้องต่อต้าน! ทำไมต้องเป็นกับผมด้วย! ทำไม!! ทำไมพี่ต้องนอกใจผมไปนอนกับพ่อผมแบบนั้น ทำไม!!!!”
 

เขาตะโกนดังลั่นยิ่งกว่าทุกครั้งที่เคยทำ ลุกขึ้นยืนแล้วเตะโครมๆเข้าที่เตียงอย่างเกรี้ยวกราด ความอดทนทุกอย่างที่มีไม่เหลืออีกแล้ว เมื่อวารินพูดเรื่องโดนวางยาแล้วเขาดันคิดไปว่าโดนหลอกอีกครั้ง  คนตัวเล็กลุกลี้ลุกลนลุกขึ้นด้วยความกลัวถอยร่นลงไปยืนอยู่ที่เตียงอีกฝั่ง เขาหันหน้าเดินเข้าหาแล้วกระชากแขนเล็กให้ตามออกไปด้านนอก ลากลงบันไดพรมสีแดงโดยไม่สนใจว่าอีกคนจะล้มลุกคลุกคลานแค่ไหน วารินร้องไห้โฮอย่างหมดอาย ทั้งป้าวันทั้งดาวทั้งเตโชต่างออกมายืนดูห่าง ๆ ด้วยความตกใจ
 

“ใครก็ตามห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เด็ดขาด  ถ้าผมรู้ว่าใครสอดมือเข้ามาผมจะไล่ออกให้หมดเลย!”
 

ยิ่งกว่าความโกรธเกรี้ยว ยิ่งกว่าลมกรรโชกรุนแรงโหมท้องฟ้าจนจะพังครืนลงต่อหน้า ร่างสูงใหญ่ลากวารินไปโยนกองไว้ที่พื้นบันไดหินอ่อนหน้าบ้าน ถอดเสื้อชุดนอนแขนยาวบาง ๆ ของตัวเองออกอย่างรีบร้อน  วารินยิ่งกว่ากลัวถดตัวถอยร่นไปกับพื้นอย่างน่าเวทนา เขาก้มลงไปกระชากแขนคนตัวเล็กขึ้นมาแล้วเหวี่ยงไปจนติดกับเสาหินอ่อนสูงใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าบ้านวารินเซถลาเพราะความลื่นของพื้นจากสายฝนที่ยังเทลงมาไม่หยุด  เขาใช้เสื้อมัดสองแขนเล็กผูกไว้ที่ด้านหลังแล้วอ้อมไปมัดรอบเสาต้นหนึ่งไว้จนแน่น จับวารินหันหน้าสู้สายฝนที่ยังเทมาไม่หยุดถึงแม้จะไม่รุนแรงเหมือนช่วงแรกแต่ก็สาดซัดเข้ามาจนใบหน้าเล็กต้องหันหลบ
 

เตโชที่ยืนมองอยู่ห่างไปไม่ไกลกำลังจะก้าวเข้ามาช่วยแต่ป้าวันกับนับดาวคว้าตัวเขาเอาไว้ได้ก่อน
 

“อย่านะเต / พี่เตอย่า!” เสียงวันกับนับดาวเรียกขึ้นพร้อมกัน เตโชหันมองวันนาทันที
 

“อย่ายุ่งเรื่องของพวกท่าน คุณธารกับคุณทรายไม่เหมือนพวกเรา”
 

ในดวงหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของป้าวันนาฉายแววเจ็บปวดออกมาให้เห็นแต่ในประกายตานั่นเธอยังมีความเชื่อมั่นในใจลึกๆว่าคนที่ธาราธารรักจริง ๆ นั้นคือใคร ตั้งแต่วันที่วารินก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้โดยที่ธาราธารไม่ยอมให้ขึ้นไปดูภัครจิราเลยแม้แต่ครั้งเดียว เธอก็รู้แล้วว่าคงจะมีเรื่องบาดหมางที่เกี่ยวข้องกับวารินอยู่และตัววารินอาจจะมีส่วนที่ทำให้ภัครจิราต้องตกอยู่ในสภาพนี้แต่วันนาเลือกที่จะเงียบเพราะเชื่อว่าสักวันนายน้อยของบ้านอย่างธาราธารจะแก้ปัญหาและผ่านพ้นมันไปได้ วารินไม่ใช่คนไม่ดีเธอดูแวบเดียวก็มองออกเหลือแต่ความดำมืดในใจของธาราธารเท่านั้นที่ต้องรอให้เขาปีนออกมาเห็นความสว่างภายนอกด้วยตัวของเขาเอง
 

“แยกย้ายกันไปนอนได้แล้วไม่มีเรื่องอะไรทำรึยังไงถึงได้คอยมายุ่งเรื่องของเจ้านาย จำเอาไว้ให้ดีระหว่างผมกับพี่ทรายห้ามใครก็ตามสอดแทรกเข้ามา ถ้าหากผมรู้ว่าใครสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของผมเชิญออกจากบ้านผมไปได้เลย”
 

เขาพูดเสียงเย็นเยียบแล้วทิ้งกายนั่งลงที่โซฟารับแขกหรูหราที่หน้าบ้านขณะที่ทั้งวันนาเตโชและนับดาวต่างจำใจต้องแยกย้ายกันเข้าห้องของตน เตโชหันกลับมามองวารินอีกครั้ง ที่เสาต้นใหญ่นั่นเสียงฟ้าร้องดังคำรามฟาดลงมาเป็นระยะวารินคงกำลังร้องไห้ทั้งสายฝนที่สาดซัดเข้ามาใส่ร่างเล็กๆขณะที่คนใจร้ายอย่างธาราธารกลับนั่งอิงกายอยู่ที่เบาะหนานุ่มมองดูคนที่ถูกผูกติดอยู่กับเสาด้วยแววตาที่เขาอ่านไม่ออกเลยสักนิด
 

...เย็นชา..
 

..โหดร้าย..
 

ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ร่างกายเล็กๆเหนื่อยจนแทบขาดใจสองขาแทบจะประคองตัวไว้ไม่ไหวถ้าไม่ติดว่าถูกมัดไว้กับเสาป่านนี้คงจะร่วงกองลงที่พื้นไปแล้ว สายฝนยังสาดซัดมากระทบใบหน้าขาวไม่หยุดน้ำตาอาบไหลแล้วไหลอีกร้องไห้จนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ดวงตาเล็กๆสั่นไหวระริกมีแต่ความหวาดกลัวที่ทอประกายเมื่อทอดมองไปที่ความมืดมิดกับเสียงคำรามลั่นของท้องฟ้า
 

ดวงตาคมกริบจดจ้องบุคคลที่ถูกผูกติดไว้กับเสาไม่ยอมให้หลุดรอดไปได้แม้สักวินาที ความรวดร้าวในหัวใจดำมืดร่ำร้องประท้วงจนใจเจ็บปวดไปหมดหลายครั้งที่เขาจะก้าวออกไปพาคนตัวเล็กกลับเข้ามาแต่ก็ต้องหยุดไว้เพียงแค่นั้นเมื่อนึกถึงสภาพของแม่ตัวเองที่นอนแน่นิ่งอยู่แบบนั้น
 

‘มันเป็นเพราะใครกัน ใครกันที่ทำให้เป็นแบบนี้โทษความร่านของตัวเองไปเถอะ’ เขาสบถลั่นอยู่ในหัวใจนิ้วเรียวหนาบดเบียดเข้าหากันอยู่ที่ขอบประตูก่อนที่เจ้าของมือจะทุบมันลงบนผนังอย่างโกรธเกรี้ยวเพราะคำว่า ‘กบฏ’ ในหัวใจของเขามันร่ำร้องประท้วงเสียงดังลั่น เขาคว้าร่มที่เสียบอยู่ในตะกร้ามากางออกแล้วเดินไปดูใครอีกคนที่ถูกพันธนาการอยู่กลางสายฝน
 

ช่างเป็นภาพที่ดูแล้วเห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง
 

“สำนึกแล้วรึยัง” เขาถามเสียงเครียดขึง จดจ้องใบหน้าคนตัวเล็กสะกดแววตาที่เต็มไปด้วยความเวทนาต่อคนตรงหน้าให้มันลึกลงไปถึงที่สุดในหัวใจของตนเอง
 

...เขาจะใจอ่อนไม่ได้..เรื่องของเขากับวารินไม่มีทางที่จะเป็นความจริงได้อีกแล้ว..
 

...จะให้เขาทำดีกับคนที่ทำให้แม่เขาอยู่ในสภาพนั้นได้อย่างไร..
 

..จะให้เขาทำใจได้อย่างไรว่าคนที่เขารักคือคนที่เคยร่วมรักอยู่กับพ่อของเขาอย่างออกรส..
 

ทั้งที่แค้นแสนจะแค้นหมื่นแสนล้านแค้น...แต่ก็ทั้งรักแสนจะรักหนึ่งร้อยหนึ่งพันรัก
 
 

...มันก็เท่านั้น...
 
 

สุดแสนจะสมเพชหัวใจของตนเองยิ่งนักมันดื้อรั้นไม่ยอมฟังอะไรเลย
 
 

เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเขาก็โอบอุ้มร่างเล็กบอบบางเข้ามาวางไว้ด้านในเรียบร้อยแล้ว วารินแทบจะประคองสติตัวเองไม่ได้ดวงตาปรือหรี่ลงจนเกือบจะสุด เขารีบคว้าผ้าที่อยู่ใกล้ตัวเข้ามาเช็ดใบหน้าเล็กนั่น เกลี่ยปอยผมเปียกลู่ที่ละตามใบหน้าขาวออกอย่างร้อนรนเพราะสัมผัสได้ถึงความร้อนจากผิวกาย ค่อยปลดกระดุมถอดเสื้อที่เปียกโชกไปด้วยน้ำฝนออกอย่างระมัดระวัง
 

“...อย่า...”
 

เสียงเล็กๆแหบพร่าร้องขออย่างไร้เรี่ยวแรง มือเล็กยกขึ้นมาตะครุบมือของเขาไว้  ทั้งที่ไร้สติก็ยังหวาดกลัวเขาถึงเพียงนี้  ธาราธารตัดสินใจช้อนร่างวารินขึ้นไปที่ชั้นบน วางไว้บนเตียงกว้างใช้น้ำอุ่นๆ เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ผิวเนื้อนวลขึ้นรอยแดงและเขียวช้ำหลายแห่ง ปลายนิ้วหนาสัมผัสลงที่รอยแดงช้ำนั่นราวกับกลัวว่าอีกคนจะเจ็บทั้งที่ตอนทำเขากลับไม่มีปราณีใดๆเลย
 
 

            “ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น พี่กับคุณทัตไม่ได้เต็มใจ ธารเข้าใจผิดแล้ว”
 


            “ไม่ใช่แบบนั้นธาร  เราสองคนโดนวางยา พี่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไปบ้าง”



            “...ธาร...ขอโทษ..พี่ขอโทษ...”
 

 

เขาหลับตาลงแน่นยกสองมือกุมขมับ เท้าศอกทั้งสองข้างลงกับเข่า เฝ้าคิดซ้ำๆ ถึงคำพูดที่วารินบอก เสียงนาฬิกาที่หัวเตียงตีเป็นเพลงบอกเวลาตีสามปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ สอดตัวลงในผ้าห่มหนานุ่มแล้วคว้าเอาตัววารินเข้ามากอดรัดไว้จนแน่น ประทับจูบลงไปที่ขมับเล็กอย่างอ่อนโยนในแบบที่เขาไม่เคยทำนานมากแล้ว หัวใจของเขาเจ็บปวดจนเจียนจะขาดใจจากการกระทำของตัวเอง เฝ้าจูบซ้ำๆอยู่ที่ไรผมหอมนั่นราวกับกลัวว่าคนในอ้อมกอดจะแตกสลายหายไป วารินที่ไม่รู้สึกตัวเพราะพิษไข้ถึงกับเผลออมยิ้มออกมา
 

ในห้วงความฝันวารินฝันว่าภูวดลเข้ามาช่วยเขาออกมาจากแท่นประหารนั่นและเช็ดตัวให้ก่อนจะนอนกอดให้ความอบอุ่นแผ่ซ่านออกมาจากแผงอกกว้างปลอบประโลมหัวใจและร่างกายที่บอบช้ำ

.
.


Tbc.

*แอร๊กกก!!  หมดพลังกับบทนี้ไปเยอะมาก* ยาวมากไปไหม ทุกตัวละครคนเขียนไม่ทิ้งนะเดี๋ยวค่อยทยอยมีบทมาเรื่อยๆ*
*รบกวนถามคราบ ที่นี่ถ้าเอ็นซีไม่คลุมขาวจะโดนอะไรรึเปล่า :hao5: หรือเราต้องลดบทบรรยายลงมาอีก จะได้ไม่ต้องทำคลุม*

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: kuro ที่ 29-03-2014 21:41:41
ไม่ต้องคลุมก็ได้จ่ะ
ธารนายร้ายจุงเบย
ฟังชาวบ้านเขา(ทราย)ไม่ได้หรือไง
ไม่ใช่หลับหูหลับตา
รอนายรู้ความจริง
อยากรู้ว่านายจะปากเก่งเหมือนตอนนี้หรือเปล่า
ด่าอะไรเค้าไปจำไว้ด้วยล่ะ
จะได้เจ็บมากๆๆ

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 29-03-2014 21:56:19
ทรายก็น่าสงสาร ธารก็น่าสงสาร ทั้งรักทั้งเจ็บปวด เพราะธารฝังใจกับพ่อที่ทิ้งแม่เขาไปมันเลยทำให้ไม่มั่นใจกับทราย
คุณทัตต้องจัดการบางอย่างให้ชัดเจนนะ ช่วยให้ลูกที่ที่คุณรักและคนรักปรับความเข้าใจกันหน่อย ตามไอ้ตัวตัดต่อมาจัดการซะ
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 29-03-2014 22:01:52
บอกตามตรงเลย ตอนนี้เป็นอะไรที่เม้นท์แทบไม่ออก  :ling2:

ช่วงแรกก่อน สงสารทรายที่ถูกทำแบบนั้น คิดแล้วว่า ธารต้องเอาเรื่องบ้านมาขู่ เพื่อให้ทรายกลับไปกับตัว คือ ธารมันหึงหวงทรายอย่างที่บอก มันโกรธที่ทรายไปกับเตโช ตอนนี้ในหัวมันคิดอย่างเดียวว่าใครเข้าใกล้ทรายถือว่าทรายชอบไปหมด แต่นั่นก็เพราะที่ธารประสบมันยังใหม่เลยหวาดระแวงแคลงใจไปหมด สงสารทรายตอนที่ถูกทิ้ง แต่แอบคิดเดี๋ยวมันก็กลับมา ฮีก็มาจริงๆด้วย เพราะเรารู้ว่าธารมันทิ้งทรายไม่ได้หรอก มันรักและเป็นห่วงจะตาย  :hao5:

ทรายก็น้อยใจเป็นทุนเดิมเรื่องที่เห็นอยู่แล้ว ก็เลยต่อต้านประชดประชันกลับ เลยพาให้ฮีอารมณ์เสีย แต่ก็ยังมีกระจิตกระใจเช็ดหน้าเช็ดตัวให้ด้วยความเป็นห่วง พอกลับมาบ้านเห็นเตโช โมโหหนักเข้าไปอีก แต่สุดท้ายก็ตัดใจไม่ทำ ทรายก็กลัวเลยหนี แต่ก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว เลยโดนฮีลากขึ้นห้อง ไอ้เราก็นึกว่ามันคงกลัวทรายเจ็บหลังและคัน เลยเปลี่ยนเป็นที่เตียงซะอีก :laugh: ยังหื่นอีกตู :haun4: แต่ด้วยความเป็นห่วง พาไปอาบน้ำสระหัวให้อีก โอย ธารเอ้ย น่าสงสารจะร้ายก็ร้ายไม่ลง  :ling1:

ในที่สุดทรายก็เปิดปากพูดออกมา ถึงเรารู้อยู่แล้วว่า ธารไม่เชื่อหรอก แต่ก็ยังดีกว่าเก็บเอาไว้  ชอบธารนะขนาดโกรธ โมโห มันก็ยังเรียกพี่ทราย ไม่เคยเรียกหยาบ และโคตรสงสารธารเลย ตอนที่พูดรื้อฟื้นถามทรายตั้งแต่เริ่มต้น ว่าโกหกทำไม ธารจับผิดได้ตั้งหลายอย่าง แต่ก็ยังโกหก เราเข้าใจว่าทรายโกหกเพราะอะไร แต่ธารมันไม่รู้ เราเลยสงสาร เห็นใจที่มันอัดอั้นเจ็บปวด ยิ่งตอนพูดเรื่องคลิปถึงกับน้ำตาลูกผู้ชายร่วง คิดดูเถอะว่าธารเจ็บปวดแค่ไหน ทรายก็พูดไม่ออก เพราะมันเป็นความจริง และตัวเองก็พูดออกไปไม่ได้ แอบหมั่นไส้ตรงที่รักษาสัญญากับทัตนี่แหละ ขนาดนี้แล้ว บอกไปเถอะ มันไม่เชื่อก็บอกไป อย่างน้อยธารมันต้องหวั่นไหวบ้าง และอาจกลับไปคิดอีกครั้ง ถึงจะเชื่อยากแต่เพราะรักมากเหลือเกินสักวันมันต้องเชื่อ เราจะรอนะ :mew6: ยิ่งทรายละเมอไม่รู้ตัวแบบนี้ ทำเอาธารใจอ่อนไปอีกเยอะ ทั้งที่ใจมันก็อ่อนอยู่แล้ว ถ้ามันเกลียดจริงๆนะ ทรายไม่ได้อยู่ในสภาพนี้หรอก ถ้าเป็นพระเอกงี่เง่าเรื่องอื่นนะ ทรายเอ้ย น่วมตายห่าไปแล้ว :3125:

บางครั้งก็รู้สึกว่า ทรายรักและปกป้องทัตเกินไปนะ ถ้าเป็นซีเราไม่แปลกใจหรอก เหมือนธารรักทรายมากกว่าที่ทรายรักซะอีก ธารให้ร้ายยังไงฮีก็ยังแฝงไปด้วยความรักความอ่อนโยน คิดดูเถอะขนาดไม่พูด ธารยังรู้เลยว่าทรายกลัวว่าตัวเองจะถูกดึงให้จมน้ำในอ่างอย่างคราวก่อน ทรายบอกว่ารักธารแต่กลับมีแต่ความกลัว มีแต่ต่อต้าน มีแต่ต่อว่า เข้าใจว่าทรายน้อยใจ เจ็บปวด แต่เรากลับเห็นว่าธารเจ็บมากกว่าอีก  :katai1:

ดีแล้วที่ให้ธารมีบุคลิกแบบนี้ มันดูดีไม่งี่เง่า ถ้าจะร้ายขอให้ร้ายแบบสมเหตุสมผล มันจะดูเป็นพระเอกที่ร้ายแบบมีเอกลักษณ์ในตัว ไม่ซ้ำซากเหมือนพระเอกงี่เง่าในละครหรือนิยายน้ำเน่าทั่วไป :katai2-1:

แต่แหม กำลังอินกับฉากเคลิ้มของทั้งคู่ที่ทรายละเมอพูดกับธาร ธารก็อึ้งนึกคิด เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าโอบกอด ทำเอาทรายยิ้ม แต่แม่ขอ :beat: สั่งสอนหน่อยเถอะ ดันไปนึกซี ขัดใจวุ้ย :katai1: คราวหน้าจัดหนักไปเลยธาร ฉันหมั่นไส้ o18

และขอชมเพิ่มอีกคน นอกจากดาว คือ ป้าวัน ที่ฉลาดกว่านายเอกอีกแล้ว มองออกว่าธารรักใคร มองได้ถึงจิตใจเลย :katai2-1:
 
อุ้ยตายเพลินเลยฉัน นี่ขนาดเม้นท์ไม่ออกนะ ยังได้ขนาดนี้ เก่งจริงเบย ฮ่าๆๆๆ ชมตัวเองแม่งเลย  :katai3:
ปล. ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่คลุมอ่ะ มันเป็นบทรักที่อีโรติค ไม่ได้หยาบคายเกินไปนัก บางเรื่องยิ่งกว่านี้อีก แต่ถ้าไม่สบายใจจะคลุมตามเดิมก็ได้จ้า เป็นกำลังใจให้นะ และจะเป็นต่อไป ถ้าเอาธารคู่ทราย :impress2: ขอร้องนะไม่ได้ข่มขู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: piing fuen ที่ 29-03-2014 22:09:44
น้ำตาไหลไม่หยุดเลยอะ สงสารอะ สงสารพี่ทรายมากเลย เป็นเรา เราคงไม่สามารถรักธารได้อีกแล้ว ต่อให้รักมากแค่ไหนก็เถอะ ถ้าวันนึงธารรู้ความจริงขึ้นมา แล้วคิดได้ ถ้าเราเป็นพี่ทราย เราก็ไม่สามารถที่จะรักธารต่อได้จริงๆ มันคงจะมีคำพูดกับการกระทำที่โดนทำร้านวิ่งอยู่ในหัวเต็มไปหมด แค่นึกถึงก็แทบจะคลุ้มคลั่ง ไม่สามารถอยู่ร่วมได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-03-2014 22:19:25
เป็นคนไข้ก็ไม่กล้ารักษากับหมอธารแล้วล่ะ ทำกับพี่ทรายเหมือนไม่ใช่คนงั้นแหละ เกินไปป่ะ :m16:
ย้ายหนีเหอะ ต้องง้อขนาดนั้นเลยเหรอ สงวารตัวเองบ้างเหอะ ทางนี้สงสารจะแย่แล้วอ่ะ :mew6:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Milkmilkzer ที่ 29-03-2014 22:26:34
ธารนะธาร อยากอ่านต่อแล้วค้าาา  :ling1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 29-03-2014 22:28:51
อ่าว เอ็นซีหนูไปหนายยยยยยยย  :jul3:
กำลังจะเข้าเอสเอ็มมีอันต้องเลิกทุกฉากจริงเชียว(แสดงความหื่นเต็มที่)
ไม่ต้องลด(เพิ่มอีกก็ได้ไม่ว่ากัน)ไม่ต้องคลุมได้เลยจ้ะ อิสระเป็นของเรา ฮาาาาาาาา

หนูไม่มีอะไรจะจิกทั้งสองคนแล้วค่ะ หนูจิกไปหมดแล้ว แล้วมันก็เข้าลูปเดิมอีกรอบ

อันนี้ก็จริง ๆ แหละเนอะ จะให้เชื่อได้ยังง้าย ก็เจ้เล่นโกหกว่ามากับเพื่อน
แม่นางก็ความจริงยังไม่ทันจะพูดประชดมาก่อนเลยจ้าาาา (ไหนบอกไม่มีอะไรจะจิก)

แล้วอิรีสอร์ทนี่ถึงรู้ความจริงเป็นหนูก็ไม่อยู่แล้วนะคะ ที่ ๆ คนรักโดนคาบหนูรับไม่ได้  :jul3:
(แต่เมิงไม่ใช่ธารนะเฟ้ยยย)

แต่ละตอนนี่จริง ๆ เลยนะธาร ว่าง ๆ พาพี่ทรายไปซื้อชุดใหม่ด้วยนะลูก เห็นฉีกกันจริง
จนแม่กลัวว่าพี่ทรายจะไม่มีเสื้อใส่แล้วนะจ๊ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 29-03-2014 22:54:25
อุบ๊ะ ธารมันจะฟังมั้ยเนี้ย
ออกแนวจำเลยรักเลยยยย โหดขิงๆ พระเอกของเรา
อย่าใจร้ายนักเลย สงสารทรายย เดี๋ยวจะตายซะก่อน
ฮืออออออ เอาใจช่วยทรายนะ  :ling3:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 29-03-2014 22:57:47
ไม่คลุมขาวได้ค่ะ

สงสารพี่ทราย T T
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 29-03-2014 22:58:23
ธารทั้งรักทั้งแค้น ทรายโดนหนักเลยตอนนี้ รอพีซีปกป้องน้องนะ มันอึดอัด ที่พี่ซีทำอะไรไม่ได้เลย  อีกอย่างทรายก็บอกความจริงแล้ว ขึ้นอยู่กับความคิด แยกผิด ถูก ของธารเอง   แต่รู้สึกตอนนี้ธารโหดเหี้ยมมาก มันเหมือนพวกโรคจิตอ่ะ ทำเขาเจ็บแล้วก็ดูแลเขา  ส่วนทรายต้องเข้มแข็ง เหมือนอย่างวันนี้  ไฟท์ติ้ง!!!! :3123:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 29-03-2014 23:26:27
 :o211: :o211: อ่านตอนนี้แล้วแทบจะเขวี้ยงไอแพดทิ้ง อ่านไม่จบซักครั้งต้องวน3รอบถึงจะจบแต่ละตอนสงสารทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 29-03-2014 23:27:23
นี่พระเอกหรือซาตาน ใจร้ายมาก ถ้ามันทรมานที่จะเห็นทรายนักก็ปล่อยเขาไปเถอะธาร
คนอ่านสงสารทรายมาก ความผิดรายค่อยๆ ลด แทรกมาด้วยความผิดของธารแล้วนะ
กลัวจะตายหรือพิการไปซะก่อน ต้องเป็นงั้นเหรอ ถึงจะยอมอภัยให้ #ดราม่าค่ะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 29-03-2014 23:49:59
ตอนนี้ได้อารมณ์มาก
สงสารวารินขึ้นมาเลย
ธารเองก็คงเจ็บปวดไม่แพ้กันนั่นแหละ
แต่โกรธอะที่ธารจูบบัว โกรธมากก
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 30-03-2014 00:03:25
 :hao5: ในที่สุดน้ำตาก็ไหลออกมา... ธารมาปลอบโยนตอนที่ทรายไม่รู้สึกตัวเเล้วแบบนี้จะเรียกว่าปิดทองหลังพระได้รึเปล่า
ในเมื่อการกระทำก่อนหน้านี้มันคือการทำลาย เหมือนตบหัวเเล้วลูบหลัง หากเป็นคนเจ็บเเล้วจำคงไม่ยอมให้อภัย เเต่บังเอิญ
นี่เป็นทราย ไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาจะว่ายังไงในเมื่อรักธารเเต่ก๋กลัวเหลือเกินในตอนนี้... ทรายเจ็บหนักมากๆนะ ทั้งกายทั้งใจยังมีลม
หายใจอยู่นี่ก็ไม่ต่างกับตายทั้งเป็นเเล้ว ธารทำร้ายทรายชนิดเหยียบย่ำให้จมดิน ตอนนี้ใจทรายคงกลัวธารมากเรื่องเสียใจมันเ
กิดมานานเเล้ว แต่ความช้ำใจตอนนี้ถ้าเต็มสิบก็ให้ร้อย สัญญาของธารตอนนี้ก็กลายเป็นลมปากไม่ต่างกันกับที่ธารเข้าใจว่า
ทรายหักหลัง จะต่างกันนิดหน่อยที่ทรายรักษาร่างกายของตัวเองไว้ไม่ได้เพราะความผิดพลาด แต่กรณีธารมันคือความตั้งใจ
ธารกำลังผูกมัดตัวเองด้วยเงื่อนตาย ทั้งเรื่องบัวชมพูที่ไม่รู้จะเเก้ยังไงต่อไป ใจผู้หญิงน่ากลัวนะโดยเฉพาะเรื่องความหึงหวง
แล้วไหนจะเรื่องสิ่งที่ทำลงไปกับทราย ต่อให้ทรายรักมากเเค่ไหนเเต่เจอขนาดนี้ก็นะ เเม้จะรู้ว่าตัวเองก็มีส่วนผิดแต่บทลงโทษ
โหดร้ายทางกายว่าสร้างความหวาดกลัวเเล้ว ทางใจยิ่งหนักกว่าที่ธารทำเป็นการตอกย้ำให้ทรายรู้รสบทลงโทษของการทรยศ
ความรักของธาร (ซึ่งธารเชื่อว่าทรายทรยศ) แต่นอกจากจะจดจำบทลงโทษเเล้วมันเป็นการตอกหมุดความผิดบาปของทรายที่
ทรายทับถมตัวเองอยู่ตลอดเวลาร่วมกับการตอกย้ำให้ทรายระลึกว่าตัวเองไม่มีค่าอะไรเลย แม้แต่ในสายตาคนเคยรัก... สงสาร
ทรายจับใจ!!!  :mew6: ตอนนี้ทรายเหมือนคนไม่มีที่ยืน ไม่มีทางออก ประตูทุกบานถูกปิดตายด้วยน้ำมือคนเคยรักเเละยังรัก
 :katai1: ธารทำเหมือนทรายเป็นภาชนะรองรับอารมณ์ทุกรูปแบบ แต่ตอนนี้ทรายคงไม่รับรู้อารมณ์รักของธารได้มากเท่าที่ควร
ถ้ารู้สึกมันก็ผสมด้วยความผิดบาปและความหวาดกลัวไปแล้ว การเป็นคนรักกันต้องเรียนรู้คำว่าให้อภัย เเต่ถึงอย่างนั้น เเม้อีกฝ่าย
จะให้อภัยได้แต่ความรู้สึกที่เสียไปก็เรียกกลับมาได้ยากทั้งทรายทั้งธารตอนนี้ต่างก็มีบาดแผล เเต่ถ้าความจริงกระจ่างเมื่อไหร่
เวลานั้นบาดแผลของใครจะใหญ่กว่ากัน ระหว่างธารที่ต้องจมกับความรู้สึกผิดที่ไม่เชื่อใจคนที่รัก ทำลายคนที่ตัวเองสัญญาจะรัก
จะดูแลด้วยมือของตัวเอง หรือทรายที่จมกับความรู้สึกผิดเรื่องเดิมๆต่อไป แล้วไหนจะความหวาดกลัวที่ฝังรากอยู่ในตัวอีกล่ะ :เฮ้อ:
ปวดใจเเทนทั้งคู่ เเต่ยอมรับว่าสงสารทรายมากกว่า สามสิบปีที่ผ่านมาทรายคงใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขและใสซื่อมากพอเเล้ว
ฟ้าเลยส่งเเบบทดสอบเรียนรู้พื้นฐานชีวิตอันหนักหน่วงมาทดสอบ  :ling1: คนทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง แต่ก็หวังว่ากรรมของ
ทรายคงผ่านพ้นไป ธารรีบตาสว่างนะ :katai5: ก่อนที่จะเสียทรายไป
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 30-03-2014 00:12:51
 :o12: เสียน้ำตาให้กับพี่ทราย
ซีนที่โดนทิ้งไว้ข้างถนนกับถูกมัดติดกับเสาหน้าบ้านตอนที่ฝนเทกระหน่ำ แบบทนไม่ไหวแล้วนะเออ น้องธารใจร้ายเกินไปแล้ว
พอพี่ทรายพูดความจริงว่าโดนวางยา ธารก็ไม่เชื่อ พูดตามความจริงมันก็เชื่อยากนั่นแหละ เพราะหลักฐาน(เท็จ) มันประจานตัวพี่ทรายอยู่  ไม่ชอบใจธารตรงให้ร้ายพี่ทรายว่าร่านอยู่กับคนสวนเตโช สงสัยอาการหึงหน้ามืดกำเริบนั่นแหละ
อ่านจบแล้วหน่วงๆในอก โอ๊ย ดราม่าเกิ๊น
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 30-03-2014 00:36:05
 :hao5: สงสารทั้งสองคนเลย
แล้วก็ไม่ค่อยชอบทั้งคู่ที่ทำตัวแบบนี้
ประชดกันไปมา จนหาความจริงมาพูดใส่กันยังไงก็ฟังไม่ขึ้น

*********************
อิธารก็พยายามหาทางให้ทรายเจ็บปวดจัง ว่างนะคุณ เรียนหมอแต่ดันมีเวลาว่างมาแกล้งเยอะเหลือเกิน
พอจบดราม่า ฉันว่าแกได้เรียนซ้ำชั้นแน่ กรรมตามสนองเห็นๆ
อิธารก็สับสนในตัวเองเดี๋ยวแสดงออกว่ารัก เดี๋ยวเกลียด ด้านรักนี่เริ่มบ่อยขึ้นแสดงว่ากำลังจะให้อภัย? แต่คงอีกนาน
จากที่มันแซ่บมากๆ ตอนนี้เริ่มคิดว่า ต้องมีคนใดคนหนึ่งเกือบตายมันถึงจะคืนดีกัน  :katai1:

ทรายก็ประชดใส่ทราย ทรายก็ยุขึ้น บอกความจริงมันก็ไม่เชื่อ

===เราพูดตามความจริงนะ ถ้าคนอ่านเป็นธารอ่ะ จะเชื่อทรายเหรอ เราว่าไม่อ่ะ คือของเห็นทนโท่ ถึงบอกความจริง
ถึงบอกว่ารักมากๆต้องให้อภัยได้ เราว่าใครเจอแบบธารก็ไม่เชื่อทรายหรอก คนรักมีอะไรกับพ่อ แม่เส้นเลือดในสมองแตก
ไม่มีใครมาชื่อคนที่ทำลายความไว้ใจหรอก (ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เหอะ)
ฉนั้นด้วยเบสออนอิธาร ความรักคงไม่ช่วยแก้ปัญหา (ในกรณีนี้ คนอื่นก็ด้วยแหละ)  :mew5:
มันต้องมีเหตุการณ์หลักที่ทำให้ธารเชื่อขึ้นมาโดยไม่ใช่จากการที่ทรายหรือทัตบอกความจริง

ประโยคนี้ทำให้เรา............
อ้างถึง
ในห้วงความฝันวารินฝันว่าภูวดลเข้ามาช่วยเขาออกมาจากแท่นประหารนั่นและเช็ดตัวให้ก่อนจะนอนกอดให้ความอบอุ่นแผ่ซ่านออกมาจากแผงอกกว้างปลอบประโลมหัวใจและร่างกายที่บอบช้ำ

อยาก  :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: ทรายสิบแปดล้านตลบ คืออยากจะเข้าใจว่าทรายมันคิดว่าธารไม่มีทางดีกับมัน
แต่ไอ้ท่าทางมีสุขชวนฟินกว่าธารนั่นมันอัลไล ทรายหลายรอบแล้วนะที่เป็นแบบนี้
ทำให้เราคิดว่า ทราย""""ไม่เคย""""รักธาร    มันเป็นแค่ความรู้สึกดีๆ  :katai1:
ถ้าคนเรารักคนที่เรารักจริง จะไม่มาอ้อร้อกับคนอื่นหรอก หลายตอนแล้วนะตัวเธอว์

เอาจริงๆเรื่องนี้ฝ่าย เคะ ไม่ถูกใจซักคน ยกเว้นอิพี่ซี นับวันฉันว่าพี่แกน่าจะเคะ  :mew5:
ส่วนเมะยังยกให้ ทัตธาร เลวจริงแต่มันมีเหตุให้เลว ไม่ใช่อวยพวกมันจัดนะ อยากโดดถีบยอดหน้าธารสักทีสองทีเหมือนกัน
ส่วนคุณทัต ฉันจะล่ามเก็บไว้ในห้องส่วนตัว  :haun5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 30-03-2014 02:07:21
ทำไมธารโง่อย่างนี้ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก
ที่เรื่องอื่นล่ะฉลาดนัก เฮ้ออออออ พี่ทรายบอกความจริงแล้วก้อไม่เชื่อ


จะนั่งเฝ้าดูต่อไปว่าถ้าความจริงเปิดเผยเมื่อไร รอดูวันที่พี่ทรายหมดความอดทนกับสิ่งที่ธารทำ
วันนั้นแระ!!!! จะหัวเราะดังๆให้กับความโง่ของธาร
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: phu_phudit ที่ 30-03-2014 02:11:14
ชอบเรื่องนี้จัง ขอบคุณคนเขียนเรื่องนี้ ที่ขยันมาอัฟให้อ่านตลอด รักคนเขียนนะคับ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Min61 ที่ 30-03-2014 02:12:08
เอ่อ ฝันถึงซีอีกแล้วหรอ... ไม่ใช่ว่าตอนจบหักมุมพระเอกคือพี่ซีหรอกนะ  :katai1:

ธารนี่ยิ่งรู้จัก ก็ยิ่งตรงกับเพลงของป๋าเนม space bound ชัดดดดดดด
ยิ่งท่อนสุดท้าย i'm so lost without you หึหึ นี่มันนังธารนี่ โอ๊ยยยย ทรมานมากค่ะคุณผู้เขียนน  :ling1:
สงสารน้อง เหมือนเด็กกำลังหลงทาง มองไปทางไหนก็มืดบอด หาที่พึ่งก็ไม่มี คนที่รักที่เหลืออยู่ก็พี่ทราย
แต่ก็มาทำกันแบบนี้แถมเป็นต้นเหตุของเรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้น เลยยิ่งหลงทางกันไปไกลเลย เอากลับลำบากล่ะทีนี้

พูดถึงทราย ว่าจะไม่แล้วเชียว แต่บางทีอิชั้นคิดว่านางหลายใจนะคะเนี่ย แอบหมั่นไส้นิดๆค่ะ ถ้าไม่บอกอายุในเรื่อง
อิชั้นจะคิดว่านางอายุ 20 ต้นๆ ถึงกลางๆ นะ ไม่ใช่สามสิบกว่าๆ เซ็งค่ะ (ไม่ใช่อะไร ทั้งคุณทัต ทั้งน้องธาร ทั้งเตโช ทั้งพี่ซี นางเหมาคนเดียวหมดดดด  :ling1: )
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Ipatza ที่ 30-03-2014 04:36:47
อ่านถึงหน้า 8
ไม่ไหวละดร่าม่าไปไหน
ทำไมอมพะนำอะไรกันอยู่
เห่อ
เรื่องบางเรื่องหันมาพูดกันดีกว่าไหม
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 30-03-2014 08:24:41
เอาจริงๆ อ่านมาถึงตอนนี้เริ่มเข้าใจทรายกับพี่ซีแล้ว บางครั้ง คำว่าครอบครัวมันก็ทำให้เรา

"อบอุ่นใจ" เสมอ แต่ ถึงยังไงความรักก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป เรารอมาตลอดให้ทรายบอกความจริงกับธาร

รู้สึกดีใจที่อย่างน้อยมันก็ยอมพูดแล้ว ให้ธารได้ยิน อย่างน้อยถ้ามันไม่เชื่อ ทรายก็ได้บอกความจริงไปแล้ว

สักวันที่ไม่ไกลนี้เราเชื่อว่า คนอย่างใยวิปลาศต้องทำไรให้มันชัดเจนอีกแน่นอน

ส่วนความจริงเรื่องวันนั้นมันคงจะเปิดเผยพร้อมกันเอง

ปล. ไม่ต้องคลุมขาวจะขอบคุณมากๆเลยค่ะ อ่านลำบาก

เราว่าคุณบรรยายมาดีมากแล้ว อ่านแล้วอินมาก

ไม่เชื่อคุณดูจากคอมเมนต์อื่นๆได้ แต่งดีมากค่ะ

แต่งแบบนี้ต่อไปนะคะ เราชอบ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 30-03-2014 10:11:24
 :a5: อึ้ง ค้าง เงิบ กรี๊ดดดดดดดดด nc หายไปหนายยยยยย  :haun4 ////ผิดเรื่องแล้วโว้ย ไอหื่น  :z6:

ไม่ต้องคลุมคร้าบ เขียนออกมาให้เต็มที่ ไม่ต้องเครียดครับ

เอ้า รอต่อปายยยยยยยย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 30-03-2014 10:54:58
ความจริงที่ต้องการหลักฐานยืนยัน เฮ้อออออ รอวันนั้น
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: minibusez ที่ 30-03-2014 12:03:29
ธารทำร้ายพี่ทรายมากเข้า ตัวเองก็เจ็บมากขึ้น  :เฮ้อ:

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 30-03-2014 12:51:11
ทรายจะหนีก็หนีไม่ได้ เพราะบ้านที่พี่ซีอยู่เป็นชื่อของธาร เห้ออออออออออ จะอธิบายให้ธารฟังคือต้องมีหลักฐานอย่างเดียวอ่ะ ธารถึงจะเชื่อ 


อยากถามคนเขียนว่าอีกกี่ตอนธารถึงจะรู้ความจริง สงสารพี่ทรายยยยยยยย ฮืออออออ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 30-03-2014 13:32:40
คีย์แมนที่จะช่วยได้มีเพียงวิลาสินีกับไอ้ลูกน้องจอมชั่วเท่านั้น รีบโผล่มาซะทีเถอะ
เราอยากให้คลี่คลายซะที ไม่ได้อยากให้จบเรื่องไวนะ แต่จะกระอักมาม่าตายอยู่แล้ว  :katai1:

อ้อ สำหรับบัวชมพูเรามีคำหนึ่งจะมอบให้ "ดีออกกกกกกกกกกกกก"  :z6:

นักเขียนเก่งมากๆ เลยค่ะ เขียนได้ดีมาก เราโคดอิน อ่านแล้วเศร้าตลอด ปกติเราไม่โปรดดราม่านะ ไม่ค่อยอ่าน หรืออ่านตอนจบไปเลย แต่เรื่องนี้ห้ามใจไม่ไหวจริงๆ อัพแล้วต้องอ่าน ก็เลยต้องอึมครึมไปด้วยกันจนถึงบัดนี้ ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็ไหนๆ อ่ะ ขออย่างเดียว ธารทราย Happy Ending นะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 30-03-2014 19:07:06
สงสารพี่ทรายมาก อินมากกกกกค่ะ
เกลียดธารแล้วววใจร้ายยยยย :o12:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 30-03-2014 19:21:12
เป็นกำลังใจให้คนเขียน เป็นกำลังใจให้พี่ทราย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: frenzy19 ที่ 30-03-2014 20:13:26
สงสารทรายยยย

ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ อ่านแล้ว อินตาม

ชอบมากที่สุดคือ อัพบ่อย เป็นอย่างนี้เรื่อยๆนะคะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 30-03-2014 21:48:42
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 31-03-2014 14:54:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: MayMaMee ที่ 31-03-2014 15:48:40
สนุกมาก ชอบมาก
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Viper_Wa ที่ 31-03-2014 16:29:00
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

บีบคั้นอารมณ์สุดๆอ่า ลุ้นๆเมื่อไหร่ความจริงจะเปิดเผย อยากให้พี่ทรายแก้แค้นจุง  :hao5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Mingogo ที่ 31-03-2014 19:47:06
จากที่อ่านมา รู้สึกไม่ค่อยชอบทรายเลยตั้งแต่ทรายมีอะไรกับทัต แล้วที่ธารร้ายกับทรายและเรารู้สึกทรายไม่ค่อยน่าสงสารทรายเลย          สำหรับเราแบบสมน้ำหน้า   555555รู้สึกไม่ใช้แนวตัวเองชอบอ่านเลย คหสตอย่าว่าเค้านะะะะ   :mew5: :hao5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 31-03-2014 20:23:54
อยากอ่านต่อแล้วค่าาาาาาาาา

วันนี้จะมาต่อไหม... :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 31-03-2014 20:43:47
พี่ทรายย ฮือๆๆๆ
ทำกับพี่ทรายแบบนี้ ธารเองก็เจ็บนะ T^T
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[29/03/57] Unbreak My Heart 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 31-03-2014 21:49:10
วันนี้ไม่มาหรอออออคะ TT
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 31-03-2014 22:12:51
https://www.youtube.com/v/HXZJ4LGZDyE


บทที่22
 
 

“ไง...ธาร”

ทันทีที่เห็นเขา ชนาธิปก็ทักขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง  ธาราธารอึ้งไปหลายวินาทีส่ายหัวปิดหนังสือแล้วทำท่าจะลุกเดินออกไป ชนาธิปรีบเข้ามาคว้าเขาไว้เสียก่อน
 
“เดี๋ยวสิ ธิปหาตั้งนานนะกว่าจะเจอธารแล้วยังจะหนีกันแบบนี้อีกเหรอ?”
 
“มีอะไร” 

เขาถามขึ้นห้วนๆขณะเลื่อนเก้าอี้เข้าชิด กระชับสายกระเป๋าสะพายสีดำแนบบ่า  พลางคิดในใจว่าวันนี้คงจะไม่ได้อ่านหนังสือแล้วอุตส่าห์หาเวลาว่างจากแลปเข้าห้องสมุดทั้งที
 
“ก็เปล่า แค่ตั้งใจมาหา ขับรถมาตั้งไกลพูดให้กำลังใจกันหน่อยดิ ธิปแค่อยากมาคุยด้วย คิดถึงธารนะ”
 
เด็กหนุ่มตัวเล็กยังไม่ยอมปล่อยมือจากเขาซ้ำยังออกแรงโยกไปมาจนแขนเสื้อเชิ้ตนักศึกษายับยู่ยี่ ธาราธารชักสีหน้ารำคาญถึงที่สุดเขาเบี่ยงตัวชักแขนหลบแล้วรีบก้าวออกมา ชนาธิปยังวิ่งตามมาอีก
 
“ศาลายาห้องสมุดก็ใหญ่โตดี จะมาที่นี่ทำไมกัน” เขาบ่นพึมพำอย่างรำคาญ แต่ชนาธิปหาได้สนใจไม่
 
“ธาร! ธารเป็นอะไรทำไมหน้าตาดูเครียดๆ ร้อนเหรอ หรือว่ามีเรื่องไม่สบายใจ”
 
ถึงแม้ว่าเขาจะสวมแว่นสายตาแต่ชนาธิปกลับสังเกตได้ถึงความเครียดขึงจากหัวคิ้วนั่น แล้วยังสีหน้าแววตาที่แสดงออกมาอีก
 
“มีอะไรรึเปล่า ธารเล่าให้ธิปฟังได้นะ”
 
ขณะที่เขาก้าวเดินไปเรื่อย ๆ อีกฝ่ายที่เดินตามกลับพูดจ้อไม่หยุด ธาราธารชะงักเท้าครู่หนึ่งแล้วหันกลับมามองคนที่เดินตามเขาต้อย ๆ
 
“เหนื่อยไหม?”
 
จู่ๆ เขาถามขึ้น  ชนาธิปเลิกคิ้วอย่างแปลกใจไม่รู้ถึงความหมายของเขา  “เหนื่อยไหมที่คอยตามฉันอยู่แบบนี้ นายต้องการอะไร?”
 
“ป...เปล่า ไม่ได้ต้องการอะไรสักหน่อยเคยบอกไปแล้วนี่ว่าธิปแค่ปลื้มธาร ธารเป็นไอดอลของธิป ธิปก็ไม่รู้เหมือนกันมันเกิดขึ้นเองการที่เราจะชอบใครสักคนมันเลือกไม่ได้หรอกว่าจะให้ชอบคนนั้นได้คนนี้ไม่ได้ ถ้าชอบไปแล้วก็คือชอบนั่นแหละ”
 
“แต่นายไม่ได้ชอบเฉย ๆ นี่นายเล่นตามฉันแบบนี้มันแย่นะ” เขาหันมาพูดอย่างหัวเสียถอดแว่นสายตาพับใส่กระเป๋าเสื้อ
 
“ฉันจะกลับไปนอนห้ามตามมาเด็ดขาดไม่อย่างนั้นจะหาว่าฉันไม่เตือนไม่ได้!” แต่มีหรือที่คนดื้อรั้นอย่างชนาธิปจะฟัง ทันทีที่เขาก้าวขึ้นที่นั่งฝั่งคนขับอีกฝ่ายก็เปิดไปนั่งเบาะข้าง ๆ ทันทียักไหล่แสร้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
 
“ฉันเตือนนายแล้วนะ มีอะไรเกิดขึ้นโทษตัวเองก็แล้วกัน”
 
ทันที่ที่พูดจบรถสปอร์ตคันเดิมกลับมาโฉบเฉี่ยวบนท้องถนน แต่ทว่าใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีรถหรูก็เลี้ยวเข้ามาจอดลงที่ลานจอดรถส่วนตัวของคอนโดหรูใกล้ที่เรียน
 
“สวยจังเลย ไม่รู้เลยนะว่าธารพักอยู่ที่นี่” ชนาธิปเปิดรถเดินตามเขาลงไป ธาราธารสูงมากเดินจ้ำพรวดๆทีเดียวก็ไปถึงหน้าลิฟต์ไม่สนใจคนที่เดินตามหลังแม้แต่น้อย
 
“เพิ่งย้ายมารึเปล่าเมื่อก่อนธารไม่น่าจะอยู่แถวนี้นะมันไกลจากศาลายานี่” ชนาธิปลองถามขึ้นเพราะเห็นว่าที่นี่ไกลจากศาลายามากธาราธารไม่น่าจะอยู่ที่นี่มาตั้งแต่แรก ดวงตาคมกริบหันมองคนตัวเล็กครู่หนึ่งก่อนทาบคีย์การ์ดแล้วผลักบานประตูเข้าไป
 
“ไม่กลัวรึไง ” เสียงทุ้มถามขึ้น เขาโยนกระเป๋าสะพายโครมลงที่โซฟา ถอดเนคไท ปลดกระดุมที่ปลายแขนเสื้อและปลดกระดุมที่ตัวเสื้อลง

“ไม่กลัวฉันปล้ำนายเหรอ”
 
“ไม่กลัวหรอกธารไม่รังแกธิปอยู่แล้ว” 

ชนาธิปตอบพลางยืนอึ้งอยู่สองสามวินาทีกวาดสายตาดูข้าวของรอบห้อง ผ้าม่านสีน้ำตาลถูกดึงทึ้งขาดร่วงระเนระนาดหมอนอิงสีเดียวกับม่านกระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง
 
“รกไปหน่อยโทษที”
 
เขาก้มลงเก็บหมอนสามสี่ใบขึ้นมาเรียงไว้ที่โซฟาสีน้ำตาลนุ่มเหมือนเดิมก่อนเดินไปหยิบกระป๋องเบียร์โยนส่งให้อีกคน ชนาธิปชักสีหน้าแปลกใจทันที
 
“ธารไม่ค่อยได้อยู่ที่ห้องเหรอ”   เพราะเบียร์กระป๋องไม่มีความเย็นเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่เจ้าของห้องเพิ่งคว้ามันออกมาจากตู้เย็นแท้ ๆ แสดงว่าห้องนี้ไม่ได้ถูกใช้งานนานแล้ว
 
“ไม่เคยมาอยู่เลยต่างหาก”
 
เขาตอบกลับมาเรียบๆแล้วตรงเข้าห้องทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดก้าวขึ้นเตียงสอดตัวลงใต้ผ้าห่ม ชนาธิปเห็นว่าเขาหายไปนานจึงลุกขึ้นมาเคาะห้องดู ทว่าไม่มีเสียงตอบรับกลับมาคนตัวเล็กจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปดู พบว่าคนที่เพิ่งคุยกันอยู่เมื่อสักครู่นอนคว่ำหน้าหลับตาอยู่บนเตียงผ้าห่มนวมสีขาวสนิทคลุมอยู่แค่ช่วงเอวเผยให้เห็นแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่า 
 
ร่างเล็กค่อยก้าวเดินเข้าไปใกล้ เสียงลมหายใจที่พรูสม่ำเสมอบอกให้รู้ได้ว่าเขานั้นหลับไปแล้วจริง ๆ เด็กหนุ่มหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ กวาดตามองไปทั่วทั้งร่าง หลังมือเล็กยกขึ้นไล้โครงหน้าได้รูปของเขาเบา ๆ อย่างชื่นชม
 
ธาราธารเหมือนใครสักคนหนึ่งที่เขารู้จัก ทั้งหน้าตา ผิวพรรณและรูปร่าง ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นเสมอทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ชิด  ชนาธิปถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเว้นระยะห่างไม่เคยให้ได้ชิดใกล้ไปมากกว่านี้แต่ชนาธิปก็ไม่ท้อใจ

 
“นายเหมือนใครกันนะ เราเคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไหม??”
 

ริมฝีปากเล็กเฝ้าพึมพำขณะที่มือยังไล้โครงหน้าเขาไม่ห่าง  แต่แล้วชนาธิปต้องเบิกตากว้างเมื่อนึกถึงคนๆนั้นได้
 

คุณพ่อของเขาเอง! 
 

‘ทัตพล’ ทำไมเขาถึงเพิ่งนึกออกกันนะ เขามองจ้องใบหน้าหล่อเหลานั่นดี ๆ อีกครั้ง พิจารณาทุกๆจุดอย่างละเอียด ทั้งโครงหน้า คิ้ว ดวงตา จมูก ริมฝีปาก รวมทั้งรูปร่างและส่วนสูงที่แม้จะอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา

 
..ธาราธารเหมือนทัตพลมากจริง ๆ นี่ถ้าบอกว่าเป็นพี่น้องหรือพ่อลูกเขายังต้องเชื่อ..

 
“มองพอรึยัง?”
 
จู่ๆเสียงทุ้มพูดขึ้น ทำเอาเขาที่กำลังจ้องอยู่ใจหายวาบ รีบถอยกรูออกมาแทบไม่ทันใบหน้าเล็กขึ้นสีแดงระเรื่อหลบสายตาเขาทันที 
 
“นี่ถ้าขายเป็นนาที ฉันคงรวยไปแล้ว”
 
ดวงตาคมกริบจ้องมองมาที่เขาทั้งที่ยังนอนคว่ำหน้าอยู่แบบนั้น  เขาแขวะต่อทำให้ชนาธิปที่หน้าแดงอยู่แล้วยิ่งแดงแป๊ดเข้าไปใหญ่
 
“ออกไปให้พ้น ฉันจะนอน”
 
ธาราธารบอกเรียบ ๆ แต่น้ำเสียงเป็นคำสั่ง แล้วยกศีรษะหันไปอีกด้านหลับตาลงทันที ชนาธิปนั่งมองแผ่นหลังกว้างของเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจทิ้งตัวนอนลงข้างเขา ขยับไปเบียดเขาไว้เนื่องจากแอร์มันหนาวมาก ร่างสูงใหญ่ขยับออกนิดหน่อยอย่างหัวเสีย
 
“ธาร  คนที่ธารรักน่ะ....เอ่อ  แฟนของธารเขาเป็นคนแบบไหนเหรอ” 

ชนาธิปกระซิบถามเสียงเบามากแต่เขาก็ยังได้ยิน ในห้องที่ปิดไฟจนมืดมีแต่ความเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศเท่านั้น ธาราธารรู้สึกได้ว่าวงแขนเล็กที่พาดเกี่ยวเอวเขาไว้ นั้นสั่นนิดๆเหมือนกำลังรอให้เขาตอบอย่างใจจดจ่อ
 
“คงจะน่ารักมากเลยใช่ไหม?”
 
“คนธรรมดา หน้าตาก็งั้น ๆ”
 
“แล้วทำไมธารถึงชอบเขาล่ะ เขาดีกว่าคนอื่น ๆ ตรงไหน”
 
“เขาไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่น ๆ เลย”
 
เขาทั้งไม่ซื่อสัตย์ ทั้งหักหลัง โกหก  บดขยี้ความรักที่ให้ไปอย่างไม่เห็นค่ามันด้วยซ้ำ แต่ทำไมถึงยังรักอยู่??  แม้แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ  แววตาคมที่ทอดออกมาแฝงไปด้วยความเจ็บปวด ซึ่งชนาธิปไม่มีวันจะได้เห็น
 
“น่าอิจฉาจังนะ ธิปอยากเห็นจัง คนนั้นของธาร”
 
“ไม่ต้องไปอิจฉาเขาหรอก นายโชคดีแล้วที่ไม่ได้เป็นคนนั้นของฉัน”
 
“โชคดีตรงไหนกัน ถ้าหาก..ถ้าหากว่าใจของธารพอจะเหลือพื้นที่ว่างแม้แต่ซอกเล็กๆ ให้ธิปได้เข้าไปอยู่ในนั้นบ้างจะได้ไหม นั่นสิถึงจะเรียกว่าโชคดี”
 
“ทำไม? นายถามแบบนี้ทำไม” ในที่สุดเขาหันหน้ามา เอ่ยถามเสียงเข้มเพราะทนคนข้าง ๆ ไม่ไหวแล้วจริง ๆ 
 
“นายนี่มันยั่วฉันจริง ๆ นะ อยากได้ฉันมากนักหรือไงฮึ” เขาเท้าแขนขึ้นกับที่นอนจ้องมองใบหน้าคนตัวเล็กใกล้ ๆ ร่างกายเปลือยเปล่าสัมผัสเข้ากับร่างกายของอีกคน ชนาธิปถึงกับขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
 
“...เซ็กส์เฟรน...ธารเคยบอกธิปไม่ใช่เหรอ” ชนาธิปยกสองมือขึ้นคล้องคอเขาโน้มคอเขาลงมาแต่ธาราธารยังฝืนไว้จ้องมองในตาคนตัวเล็กนิ่งอย่างที่ชนาธิปไม่มีวันเข้าใจสายตาเขาได้เลย
 
“เป็นผู้ชาย อย่าง่ายให้มันมากนัก นายรู้ไหมคนที่ฉันรักเขาไม่เคยเต็มใจนอนกับฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทุกครั้งที่มีอะไรกันมีแต่ฉันเท่านั้นที่เหมือนคลั่งจนแทบจะบ้า ถ้านายอยากจะมีค่าในสายตาคนอื่นก็หัดเล่นตัวไว้ท่าเสียบ้าง ฉันจะถือว่าที่นายพูดเมื่อตะกี้ฉันไม่ได้ยิน นอนซะฉันง่วงแล้ว”
 
เขาว่าจบคว้าเอาหมอนข้างมากั้นระหว่างกลางไว้แล้วหันหน้าหนีไปอีกทางหลับตาลงแน่น ชนาธิปถูกต่อว่าจนหน้าชาไปหมดนอนนิ่งงันอยู่อย่างนั้น พวกเขาสองคนอยู่ท่ามกลางความเงียบจนสักพักหลับกันไปทั้งคู่จริง ๆ
 
 
.
.
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 31-03-2014 22:13:08
 
https://www.youtube.com/v/HXZJ4LGZDyE


“สวัสดีครับคุณทัตพล ทำไมวันนี้ถึงแวะมาได้ล่ะครับ” ภูวดลยกมือขึ้นไหว้ เมื่อเห็นทัตพลเดินเข้ามาภายในร้าน
 
“ฉันว่างน่ะ ถูกไล่ออกจากบริษัทแล้ว”
 
เขาพูดยิ้ม ๆ ท่าทางทีเล่นทีจริงจนภูวดลต้องเผลอมองอย่างแปลกใจ ทัตพลเดินดูภาพวาดที่เขาสนใจช้า ๆ ขณะที่ฝ่ายเจ้าของบ้านเข้าไปจัดเตรียมน้ำท่าและผลไม้ออกมาให้
 
“ภาพนี้สวยนะ มาครั้งที่แล้วฉันยังไม่เห็นเลย”
 
ภาพหมู่เกาะของท้องทะเลแห่งหนึ่ง ทัตพลมองแวบเดียวก็สงสัยว่าน่าจะเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เขาเคยพาวารินขับเรือไปชมเล่น
 
“ครับ เพิ่งวาดเสร็จสองวันที่แล้วเลยลองเอาใส่กรอบขึ้นโชว์  เป็นภาพที่ทรายส่งรูปมาให้เห็นบอกว่าชอบรูปนี้ผมเลยลองวาดดูครับ”
 
ภูวดลกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ในแววตาแฝงความภาคภูมิใจเต็มเปี่ยมเมื่อเอ่ยถึงน้องชายคนเดียวของเขา ทัตพลพยักหน้ารับเบา ๆ เขาคาดเดาไม่ผิดจริง ๆ
 
“เธอคงจะรักทรายมากสินะซี  เขาเป็นยังไงบ้างไปดูแลเจ้านายอยู่ที่โน่น กลับมาบ้างรึเปล่า”
 
ทัตพลเดินมานั่งลงที่โต๊ะกระจกเล็กสำหรับรับรองแขก ภูวดลที่เพิ่งวางจานผลไม้ลงถึงกับหันมองมองคนถามทันที  พลางคิดว่าทัตพลรู้ได้อย่างไรเรื่องที่วารินไปดูอยู่ดูแลภัครจิราที่บ้าน
 
“ครับก็เขาเป็นน้องชายคนเดียวของผม  แล้ว..ทรายเพิ่งกลับมาเมื่อวานแต่ก็กลับไปเมื่อวานอีกเหมือนกันครับ”  ชายหนุ่มตอบได้ไม่เต็มเสียงนัก เขาคงไม่เล่าเรื่องที่ธาราธารมาตามวารินดึกดื่นถึงที่นี่แน่ ๆ
 
“เขาต้องลำบากเพราะฉัน” ทัตพลพึมพำในลำคอเบา ๆ รู้สึกผิดทั้งต่อทั้งสองคนพี่น้อง  แต่ภูวดลได้ยินไม่ค่อยชัดจึงจับใจความไม่ได้ว่าทัตพลพูดถึงเรื่องอะไร
 
“คุณทัตพลมีเรื่องอะไรไม่สบายใจเล่าให้ผมฟังได้นะครับ” ภูวดลนั่งลงข้าง ๆ  เมื่อเห็นอีกคนมีสีหน้าลำบากใจภูวดลก็แค่อยากจะปลอบ เขาไม่เคยรู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างวารินกับทัตพล และเขาไม่เคยรู้ด้วยว่าทัตพลเป็นพ่อแท้ ๆ ของธาราธาร
 
“นี่ฉันดูออกง่ายขนาดนั้นเลยสินะ” เขาหันมายิ้มบางทว่าแฝงไปด้วยความอบอุ่นส่งให้
 
“เรียกฉันว่า ‘พี่ทัต’  สิ เธอเป็นรุ่นน้องฉันไม่ใช่หรือซี”
 
“ผ...ผมไม่กล้าหรอกครับคุณทัตพลเป็นถึงคุณพ่อของชนาธิปแล้วยัง....”
 
“จะเกรงใจอะไรล่ะ ไหนบอกฉันมีเรื่องอะไรไม่สบายใจให้เล่าให้เธอฟังได้ แต่เธอเรียกฉันเสียห่างเหินแบบนี้ ฉันยังจะกล้าเล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรให้เธอฟังได้หรือ”
 
ภูวดลอึกอักไม่รู้จะต่อบทสนทนาไปในทางไหน เมื่อทัตพลเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนั้นของอีกฝ่ายก็อดจะขำพรืดออกมาไม่ได้ ทำเอาเขานึกไปถึงหน้าตาตลกๆของวาริน และคิดไปว่าพี่น้องสองคนนี้ช่างเหมือนกันจริง ๆ เวลาทำสีหน้าลำบากใจหน้าจะมู่ทู่แปลกๆ
 
“เอาล่ะๆ ถ้าไม่อยากเรียก ‘พี่ทัต’ ก็เรียกฉัน ‘คุณทัต’ เหมือนที่ทรายเขาเรียกได้ไหม อย่าเรียกชื่อเต็มเลยมันดูห่างเหินยังไงไม่รู้น่ะ”
 
ภูวดลค่อยโล่งอกส่งยิ้มให้เขา ทัตพลชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นดูเวลาและเอ่ยปากขออยู่ทานขาวเย็นที่นี่ด้วย ภูวดลถึงกับแสดงสีหน้าแปลกใจ
 
“บอกแล้วไงฉันถูกไล่ออกจากที่ทำงานแล้ว แม้แต่บ้านก็ไม่มีให้กลับ ขอฝากท้องกับเธอสักมื้อเถอะนะ ฉันทานอะไรก็ได้ไม่เรื่องมากหรอก”
 
ภูวดลงงไปนิดหน่อยพูดไม่ออกแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร แต่แล้วจู่ ๆ เขาพูดสิ่งไม่คาดฝันขึ้นอีกภูวดลถึงกับอึ้งไป
 
“ถ้าฉันจะขอค้างที่นี่สักคืนจะได้รึเปล่า”
 
“ ถ้ากลับตอนนี้ฉันก็มีแต่ต้องอยู่คนเดียว มันเหงาน่ะ เธอก็รู้ใช่ไหมเวลาคนเหงามันก็คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย ฉันรบกวนเธอมากไปใช่ไหม...ฉัน....”
 
ดวงตาคมกริบของเขาเหม่อมองไปอย่างไม่มีจุดหมายขณะพูดถึงเรื่องความเหงา ภูวดลนึกสงสารเขาขึ้นมาเพราะตัวเองก็รู้ดีว่าความเหงามันกัดกินใจใจแค่ไหนและคิดว่าเขาคงจะมีเรื่องไม่สบายใจมากมายจริง ๆ
 
“ไม่รบกวนหรอกครับ คุณทัตค้างที่นี่สักคืน มีอะไรไม่สบายใจถ้าอยากระบายค่อยๆเล่าให้ผมฟังได้ ผมอาจไม่ใช่นักแก้ปัญหาที่เก่งนัก ขนาดเรื่องตัวเองยังเอาไม่รอดแต่ผมก็เป็นนักฟังที่ดีนะครับ”
 
“ขอบใจนะซีเธอกับทรายเป็นเด็กดีมากจริงๆ”
 
ครั้งหนึ่งวารินเองก็เคยพูดประโยคทำนองเดียวกันนี้กับเขา ทัตพลได้แต่คิดเรื่องราวในใจถ้าหากไม่เกิดเรื่องคืนนั้นระหว่างเขากับวาริน วารินคงจะกลายเป็นน้องชายคนสำคัญของเขาไปแล้วเพราะเขารู้สึกถูกชะตามากแต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจะมีหน้าให้เขาไปใกล้ชิดสนิทสนมกับวารินมันยิ่งจะดูไม่เข้าท่า ซ้ำร้ายธาราธารลูกชายของเขาท่าทางจะคิดกับวารินมากกว่าคำว่าพี่แล้วแน่ ๆ   เพราะอย่างนั้นรึเปล่าที่เขาอยากมาที่นี่อยากใกล้ชิดภูวดลเพราะมันเหมือนกับว่าเขาได้ทำอะไรไถ่โทษให้กับวารินบ้าง เพราะว่าเขาเองที่ทำให้วารินต้องระหกระเหินไปอยู่ที่บ้านหลังนั้นแล้วปล่อยให้ภูวดลต้องเหงาอยู่ที่นี่คนเดียว
 
“ทานข้าวเถอะครับ มีแค่แกงจืดไข่เจียวกับผัดเห็ดโคนญี่ปุ่นไม่รู้ว่าคุณจะทานได้รึเปล่า” ภูวดลตักข้าวสวยร้อนๆแล้ววางลงที่โต๊ะ ทัตพลมองอาหารแล้วก็ยิ้มกว้างออกมาทันที ผัดเห็ดโคนญี่ปุ่นเป็นอาหารที่เขาโปรดปรานมากช่างบังเอิญจริง ๆ ที่ภูวดลทำให้ทานในวันนี้
 
“ทานล่ะนะไม่ต้องเกรงใจใช่ไหม” เขาเงยหน้าขึ้นมาถามคนตรงข้ามยิ้ม ๆ ภูวดลพยักหน้าหงึกๆส่งไป ทั้งสองคนต่างนั่งทานข้าวกันเงียบๆ
 
“ซีกับทรายนี่ไม่เหมือนกันเลยนะ ถึงจะนิสัยคล้ายกันแต่หน้าตาออกไปคนละแนวเลย ตั้งแต่เด็กเลยนี่” ทัตพลมองเห็นกรอบรูปที่ใสภาพครอบครัวตั้งอยู่ที่ชั้นใกล้ ๆ จึงพูดขึ้นอย่างไม่คิดอะไร ภูวดลให้ความรู้สึกเหมือนทั้งคุณพ่อและคุณแม่ในขณะที่วารินดูเป็นเด็กที่แตกต่างออกไปคล้ายเด็กญี่ปุ่นมาก
 
“โทษทีนะ ฉันคงพูดเรื่องไม่เข้าท่าออกไป ทานกันต่อดีกว่า” เมื่อภูวดลหน้าเจื่อนลง ทัตพลที่สังเกตเห็นได้จึงรีบขอโทษขอโพยเพราะดูท่าว่าตัวเขาพูดเรื่องไม่สมควรออกมาเสียแล้ว
 
“เปล่าครับ ไม่มีเรื่องอะไรต้องปิดบังหรอกครับ ความจริงแล้วผมกับทรายไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆหรอก เราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กถึงทรายจะไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของคุณพ่อกับคุณแม่แต่ท่านสองคนก็รักทรายไม่ต่างไปจากผมเลย เรามีกันแค่สองคนพี่น้องทรายคือคนสำคัญที่สุดของผมครับ
 
ทัตพลพยักหน้ารับเบา ๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายแสดงความจริงใจเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟังอย่างไม่ปิดบัง เขาเองก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องปิดอีก
 
“ความจริงฉันกับภรรยา เรามีปัญหากันไม่ใช่น้อยเลย ฉันตัดสินใจจะหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้นแล้วเดินออกมา ความผิดบางอย่างมันก็เกินจะให้อภัยกันได้ คนรอบข้างเดือดร้อนกันไปหมด ต้นเหตุมาจากฉันทั้งนั้น”
 
ภูวดลเงยหน้ามองเขาทันที ทัตพลรวบช้อนเข้าด้วยกันแล้วพูดต่อ
 
“ถ้าเป็นเธอจะรู้สึกยังไง??..... ยี่สิบปีที่แล้วมีผู้ชายคนหนึ่งต้องทอดทิ้งลูกเมียที่ตัวเองรักออกมาใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงอีกคน  เฝ้าเลี้ยงดูเด็กที่ไม่ใช่สายเลือดแท้ๆมาโดยตลอด  จะป้อนขนมจะอุ้มเขาแต่ละทีก็คิดถึงแต่ลูกตัวเองที่ไม่มีแม้แต่สิทธิที่จะได้บอกว่าตัวเองคือคุณพ่อ”
 
น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจพล่างพรูออกมา ดวงตาคมแฝงไว้ด้วยความเศร้าภูวดลพอได้ฟังเรื่องของเขาแล้วพลันสงสารขึ้นมาจับใจ เขาคงมีเหตุผลสำคัญจริงๆ ไม่เช่นนั้นใครกันจะทิ้งคนที่ตนเองรักได้ลงคอทั้งภรรยาทั้งลูก  เรื่องราวของเขามันหนักหนาขนาดนี้?
 
“ฉันจมอยู่กับความรู้สึกนี้มาตลอด....ทุกข์...”
 
ยี่สิบปี...คงจะทดแทนกันหมดแล้วสำหรับบุญคุณที่ติดค้างกันไว้  ถึงเวลาที่เขาจะเดินออกมาจากกรงนั้นได้เสียที เขามองหน้าภูวดลนิ่งไม่รู้ทำไมถึงได้พรั่งพลูเรื่องราวเหล่านี้ออกมาให้กับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานฟังอย่างหมดเปลือกแบบนี้
 
“ฉันพูดอย่างไม่อายเลยว่า คนที่ทำให้ภัครจิราเจ้านายของทรายต้องนอนป่วยอยู่แบบนี้ก็คือภรรยาของฉัน เพราะความเข้าใจผิด หึงหวงหน้ามืด ทำอะไรเลวร้ายโดยไม่ไตร่ตรองเรื่องราวให้ดี กลับทำให้หลายคนต้องจมอยู่ในห้วงทุกข์”
 
ใบหน้าคนฟังแปะไปด้วยเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด แต่ภูวดลไม่ได้เอ่ยปากถามออกมาสักคำ เขาช่างเป็นผู้ฟังที่ดีมาก ในเมื่ออีกฝ่ายอยากระบายเขาก็ปล่อยให้ระบายออกมาได้เต็มที่ แต่มันติดอยู่ที่ว่า...ทำไมทัตพลคนนี้จึงเกี่ยวข้องกับภัครจิราเจ้านายของวารินได้
 
“ใช่แล้ว เรื่องจริงก็คือชนาธิปไม่ใช่ลูกของฉันหรอก ลูกชายคนเดียวของฉันก็คือธาราธาร เด็กคนที่วารินน้องชายของเธอดูแลอยู่”
 
!!!!!!!
 
ภูวดลเบิกตาขึ้นทันที ความรู้สึกคือตกใจคาดไม่ถึง ถ้าทัตพลเป็นคุณพ่อของธาราธาร อย่างนั้นก็เท่ากับว่าเขาเป็นสามีเก่าของภัครจิราคนที่วารินเคยพูดถึงมาตลอด ผู้ชายคนที่ทอดทิ้งครอบครัว เพื่อไปแต่งงานอยู่กินกับลูกคนใหม่และผู้หญิงอีกคน
 
“คนที่เลวแสนเลวก็คือฉัน ฉันคนนี้”
 
มือเรียวยาวเลื่อนเข้าไปเกาะกุมที่หลังมือของทัตพลไว้อย่างปลอบใจ ภูวดลไม่รู้ว่าทำไมร่างกายเขาทำไปเองโดยอัตโนมัติ เขารู้แต่ว่าไม่อยากเห็นคนตรงหน้าโทษตัวเองและจมอยู่ในความเศร้านานเกินไป เขาไม่รู้เรื่องราวลึกๆแต่เท่าที่อีกฝ่ายเล่ามา ยี่สิบปีมันนานเกินไปจริง ๆ ที่คนๆหนึ่งจะจมอยู่กับความทุกข์ทรมานขนาดนั้น

.

.
 

“นายนี่มันตัวเรื่องมากจริง ๆ ทำไมถึงต้องเป็นที่นี่ด้วยนะ”
 
ธาราธารถอนใจเฮือกใหญ่ เขากำลังหัวเสียอย่างที่สุด หลังจากตื่นขึ้นมาชนาธิปดันนอนขดตัวอยู่ข้าง ๆ พอรู้สึกตัวได้แทนที่จะรีบกลับไป ดันรบเร้าให้เขาพามาทำธุระกว่าเขาจะรู้ว่าธุระเรื่องอะไรรถก็มาจอดลงที่หน้าบ้านหลังคุ้นเคยซึ่งเขาเพิ่งมาล่าสุดก็เมื่อคืนนี้เอง
 
แกลลอรี่หลังเล็กที่มีลั่นทมต้นใหญ่เป็นเอกลักษณ์.... บ้านของวารินและภูวดล
 
“ก็พี่ซีเขาวาดรูปสวยนี่ ธิปชอบสะสมภาพวาดเลยใช้บริการเขาอยู่บ่อย ๆ ธารลงไปด้วยกันไหม” ชนาธิปไม่รู้เรื่องที่ว่าธาราธารรู้จักทั้งภูวดลทั้งวาริน
 
“อ้าวรถคุณพ่อนี่นา” คนตัวเล็กเอ่ยเมื่อเปิดประตูลงไป ธาราธารยังนั่งเฉยมีหรือที่เขาจะลงแค่พามานี่ก็เหนือความคาดหมายแล้ว แต่ทว่าชนาธิปเดินมาเคาะกระจกเรียก
 
“ธาร คุณพ่อธิปท่านมาที่นี่ด้วย ธารลงไปไหว้ท่านหน่อยนะ” ชนาธิปทำสีหน้าขอร้องธาราธารจึงตัดสินใจเดินตามเข้าไปด้วยอย่างจำใจ
 
“ธาร!”

ทัตพลอุทานขึ้นทันทีที่เห็นผู้ที่ก้าวเข้ามา เขากำลังช่วยภูวดลเลื่อนกระถางต้นไม้อยู่ที่หน้าบ้าน หลังทานอาหารเย็นกันเสร็จทัตพลอาสารดน้ำต้นไม้พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายกระถางนิดหน่อยเพื่อตอบแทนน้ำใจของภูวดล เนื้อตัวเหนียวเหนอะมอมแมมไปหมด
 
ธาราธารชะงักเท้าสีหน้าเขาเครียดขึงอย่างเห็นได้ชัดแต่ชนาธิปที่ไม่ได้รู้เรื่องเพราะเดินนำอยู่ด้านหน้าตรงดิ่งเข้าหาทัตพลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
 
“คุณพ่อมาทำอะไรที่นี่ครับ” สิ้นคำพูดของชนาธิปเท่านั้นธาราธารที่เดินตามมาด้านหลังถึงกับหยุดชะงักจ้องหน้าเขานิ่ง และในที่สุดเขาเหยียดริมฝีปากอย่างขมขื่น
 
“..หึ..”
 

...คุณพ่ออย่างนั้นหรือ...คนที่มีสิทธิ์จะเรียก ‘คุณพ่อ’ ได้เต็มปากสินะ...
 

เขาหมุนตัวกลับแล้วรีบสาวเท้าออกทันที ทัตพลผลุนผลันหลีกจากชนาธิปเดินตามมาขวางเขาไว้
 
“เดี๋ยวธาร คุยกับ พ่....กับฉันก่อนได้ไหม”  อยากจะเอ่ยคำว่าพ่อแต่รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายจะอย่างไรคงไม่ยอมรับเขาจึงเปลี่ยนเป็นคำอื่นแทน
 
“หลีกไปผมไม่มีอะไรจะต้องคุยกับคุณ” เขาพูดห้วน ๆ โดยไม่หยุดก้าวเดิน ทัตพลที่ตัวสูงใหญ่พอๆกับเขาจึงเดินเข้าขวางหน้าแบบไม่ให้หนีไปไหนได้อีก
 
“ต้องการอะไร? อยากได้อะไรจากผมอีก สิ่งที่คุณพรากไปมันยังไม่พออีกหรือยังไง”
 
 แววตาของเขาจ้องมองคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่ออย่างตัดพ้อจนถึงที่สุด ผู้ชายที่ไม่เคยเลี้ยงดู ผู้ชายที่นอกใจแม่เขา ทอดทิ้งแม่เขาไปอยู่กับผู้หญิงอีกคน และสุดท้ายยังมาพรากคุณแม่ของเขาให้ตายทั้งเป็น โดยการเป็นชู้กับคนที่คุณแม่เขาไว้ใจที่สุด และคนๆนั้นยังเป็นคนที่เขาเคยเอ่ยคำว่ารักให้อย่างสุดหัวใจอีกด้วย
 

...มีอะไรที่จะชอกช้ำไปมากกว่านี้อีกไหม..
 

“คุณพ่อ!” เสียงใสจากชนาธิปดังขึ้นจึงดึงให้เขาตื่นจากห้วงความคิดทั้งหมด
 
“คุณพ่อกับธารรู้จักกันด้วยหรือครับ”
 
ภูวดลเองก็เดินตามออกมาด้วยเขามองทัตพลด้วยสายตาเป็นห่วงเพราะดูท่าทางธาราธารหัวเสียอยู่มาก ทัตพลหันไปมองชนาธิป ก่อนจะบอกเขาว่าขอคุยธุระเป็นการส่วนตัวกับธาราธาร ภูวดลจึงพาชนาธิปเลี่ยงเข้าไปด้านใน ปล่อยให้สองคนคุยกัน
 
“ผมไม่มีอะไรต้องคุย”
 
“คนเราจะหนีกันไปตลอดไม่ได้หรอกนะธาร สักวันหนึ่งเรา.....”
 
“อย่ามาเรียกชื่อผม! คุณมีสิทธิ์?”  เขาสวนขึ้นทันที กัดฟันถามอย่างเครียดขึง
 
“ฉันเป็นคนตั้งชื่อนี้ด้วยตัวเอง แบบนี้มีสิทธิ์มากพอรึยัง” ทัตพลมองหน้าลูกชายที่ตอนนี้ดูเหมือนกำลังอดกลั้นจนถึงที่สุด สองมือนั้นกำแน่นกรามได้รูปถูกบดจนนูนเป็นสันไม่ยอมหันหน้ามามองเขาอีก
 
พอได้เห็นกันใกล้ขนาดนี้เขาถึงได้รู้ว่าธาราธารตัวสูงพอๆกับเขากระทั่งรูปร่างผิวพรรณและหน้าตา เหมือนกันมากจนน่าประหลาด
 
... ‘ภัคร’  คุณเลี้ยงดูลูกของเราได้เติบโตขนาดนี้เชียวหรือ...
 
“พ่ออยากคุยกับลูกเรื่องของแม่และวาริน”
 
“หยุดนะ! คุณไม่มีสิทธิ์เรียกผมว่า ‘ลูก’ และยิ่งไม่มีสิทธิ์แทนตัวเองว่า ‘พ่อ’ ไม่อายตัวเองก็อายผมบ้างเถอะ”
 
ธาราธารตวาดขึ้นเสียงดัง กัดฟันกรอดเมื่อได้ยินเขาเอ่ยชื่อทั้งภัครจิราทั้งวาริน ภาพในวีดีโอนั่นประดังประเดเข้ามาอีก ทัตพลที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเดินหน้าเข้าหาความเป็นจริงเอ่ยเรียกธาราธารว่าลูกครั้งแรกและแทนตัวเองว่าพ่อเป็นครั้งแรกหลังจากที่ต้องแยกจากกันเกือบยี่สิบปี
 
“แล้วลูกจะหนีความจริงไปได้อย่างไร ในเมื่อลูกคือลูกของพ่อ ความจริงก็คือเราเป็นพ่อลูกกัน!”
 
“ผมบอกให้หยุด! หุบปากของคุณเดี๋ยวนี้!” เขาเดินเข้าผลักไหล่ทัตพลอย่างขึงขัง
 
“จำเอาไว้นะ ความผิดที่คุณทำไม่ว่าจะลบล้างมันอย่างไรผมก็ไม่มีทางจะยกโทษให้คุณได้หรอก คนอย่างคุณมันมักมากเสียจนคว้าเอาแม้กระทั่ง.....” เขากลืนคำพูดที่เหลือลงคออย่างขมขื่น คำพูดที่อยากจะพูดต่อแต่ไม่ได้พูดไปก็คือ
 

...แม้กระทั่งคนรักของลูกตัวเอง..

 
ใบหน้าคมแหงนเงยมองท้องฟ้าที่ดำมืดเพื่อกลั้นหยาดหยดน้ำตาไม่ให้ไหลย้อนกลับออกมาจากจิตใจ
 
 
“ธาร  พ่อรู้ว่าลูกเสียใจ แต่ลูกกำลังเข้าใจผิด เรื่องราวมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเต็มใจ ระหว่างพ่อกับทราย....”
 
“เงียบนะ! อย่าพูดอีกอย่าพูดชื่อนี้ให้ผมได้ยิน ห้ามคุณเอ่ยชื่อนี้ออกมาเด็ดขาด ผมไม่มีอะไรต้องฟังอีกแล้ว” เขารีบเดินหนีทันทีขณะที่ทัตพลรีบคว้าจับ ใช้สายตาจับใบหน้าของเขาไว้
 
“แต่ลูกต้องฟัง! ลูกจะเข้าใจพ่อกับทรายผิดๆแบบนั้นไม่ได้”
 
“เข้าใจผิดอะไร?! มีอะไรไม่ถูกต้องบ้างล่ะ คุณกับเขานอนด้วยกันมาจริง ๆ หรือคุณจะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรเขาเลย ไหนบอกผมมาสิ ดีใจมากไหมที่ได้นอนกับ...”
 
“เงียบนะธาร! ซีเขาไม่รู้เรื่องอย่าเสียงดังจนทำให้ทรายต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้”
 
เป็นครั้งแรกที่ทัตพลตะคอกเสียงใส่เขา ธาราธารหยุดนิ่งทันที รอยยิ้มขมขื่นปรากฏออกมาจากริมฝีปากเขาอีกครั้งเมื่อทัตพลปกป้องวารินจนออกหน้า
 
“ห่วงกันมากหรือไง? กลัวเขาเจ็บปวดมากหรือ? ผมจะบอกอะไรให้นะ ผมคนนี้แหละที่จะทำให้คนที่คุณห่วงนักห่วงหนาต้องเจ็บเป็นร้อยเท่าพันเท่าเลยคุณคอย......”
 
“พ่อกับทรายเราโดนวางยา ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเลย ลูกต้องฟัง!” ทัตพลโพล่งขึ้นก่อนที่เขาพูดจบ
 
“พ่อรู้ว่ามันอาจจะเชื่อยาก แต่พ่อพาทรายเขาไปทำธุระที่พังงา เราค้างที่นั่นกันสองคืนแล้วคืนที่สองมันก็เกิดเรื่องขึ้นมา นี่คือเรื่องจริง ๆ ที่เกิดขึ้นธารจะเชื่อหรือไม่พ่อคงไปห้ามความคิดลูกไม่ได้แต่ขอให้ลูกรู้ไว้ว่าพ่อกับทรายเราไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกันแบบนั้น”
 
“ธุระอะไรของพวกคุณกัน ถึงต้องถ่อไปกันไกลถึงพังงา แล้วใครหน้าไหนที่มันเป็นคนวางยาพวกคุณแบบนั้น” เขาถามเสียงเครียดจริงจังกว่าครั้งไหน ๆ 
 
“เรื่องนั้นพ่อคงบอกให้เรารู้ไม่ได้จริง ๆ แต่พ่อสัญญานะ เมื่อทุกอย่างลงตัวและถึงเวลาของมัน พ่อจะบอกเรื่องราวทุกๆอย่างให้ลูกได้ฟังเป็นคนแรกเลยธาร”
 
เป็นคำถามที่ทัตพลไม่สามารถให้รายละเอียดได้จริง ๆ แต่เขาสัญญากับตัวเองเอาไว้แล้วเมื่อเวลาที่รอคอยมาถึงเขาจะสารภาพและบอกเล่าเรื่องราวทุกๆอย่างให้กับลูกชายคนเดียวของเขาได้ฟัง ไม่ว่าเขาจะได้รับการให้อภัยหรือไม่ก็ตาม
 
“พ่อรู้ว่าลูกคงทำใจให้อภัยพ่อกับทรายไม่ได้ แม่ก็ต้องมาล้มป่วยลงแบบนั้น แต่ทรายไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย เขาเป็นแค่เหยื่อที่โดนลากเข้ามา อย่าโกรธทราย อย่าแค้นเขา พ่อเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น คนผิดจะต้องได้รับผลกรรมที่เขาได้ทำเอาไว้แน่ สำหรับเรื่องภัครถ้าหากธารไม่ว่าอะไรพ่ออยากจะขอเข้าไปดู.....”
 
“ไม่จำเป็น! ไม่ต้องมายุ่ง คุณออกไปจากชีวิตพวกผมตั้งยี่สิบปีแล้วจำเป็นอะไรถึงอยากจะกลับเข้ามาตอนนี้ ถามตัวเองให้ดีที่หลงเหลืออยู่กับคุณแม่ของผมยังเรียกว่าเป็นความรักได้อยู่ไหม หรือคุณแค่รู้สึกผิดแค่อยากจะมาชดเชยให้ แม่ผมๆดูแลได้ ไม่รบกวนคุณหรอก”
 
“....ธาร....”
 
 
ท้องถนนที่ทอดยาว แสงจากเสาไฟสีส้มเรียงรายทอดยาวโค้งไปตลอดทั้งแนว คืนนั้นเขาขับรถกลับบ้านทั้งที่ยังอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัว คำพูดของทัตพลยังกึกก้องสะท้อนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในห้วงความคิด
 


“ธารกำลังเข้าใจผิดนะ เรื่องราวมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเต็มใจ  ระหว่างพ่อกับทราย....”

“พ่อกับทรายเราโดนวางยา”

“พ่อรู้ว่ามันอาจจะเชื่อยาก แต่พ่อพาทรายเขาไปทำธุระที่พังงา เราค้างที่นั่นกันสองคืนแล้วคืนที่สองมันก็เกิดเรื่องขึ้นมา นี่คือเรื่องจริง ๆ ที่เกิดขึ้นธารจะเชื่อหรือไม่พ่อคงไปห้ามความคิดลูกไม่ได้แต่ขอให้ลูกรู้ไว้ว่าพ่อกับทรายเราไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกันแบบนั้น”



เขาสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปอีกครั้งตั้งสติกับถนนหนทางข้างหน้า เบนซ์สีขาวคันเดิมจอดรออยู่ไม่นานประตูรั้วแบบอัตโนมัติก็เปิดกว้างรอให้รถหรูขับเคลื่อนเข้าไปจอดตัวลงที่ด้านใน


Tbc.
*เรื่องค่อยดำเนินไป อ่านให้สนุกนะ..อย่าไปคิดอะไรมากมันเป็นแค่นิยาย อ่านแล้วก็แล้วกันไป ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ดีๆๆๆๆที่ให้กำลังใจกันมาตลอดเน๊ะ* :hao5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 31-03-2014 22:31:03
ธารฟังบ้างนะลูก ทรายเยินหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 31-03-2014 22:35:39
ชนาธิปแรดมากค่ะ เสนอตัวสุด ๆ แบบไม่มีอายทีเดียว
หวังว่าตอนต่อ ๆ ไป ธารจะใจดีกับทรายขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 31-03-2014 22:45:02
โอ้ว กะเวลาคุณนักเขียนถูกเผง
 ขอให้ธารคิดได้ทีเถ๊อะ จะได้ลดความรุนแรงกับทรายลง ก่อนหน้านี่ก็อย่าให้ใคร ไปจุดฉนวนความหึงหวงของธารเด็ดขาด ส่วนธิปกับซีก็รู้เรื่องแล้ว จะทำยังไงต่อไป  เราว่าในอนาคตชนาธิปต้องทำอะไรสักอย่างให้ธารกับทรายผิดใจกันแน่  เพราะธิปดูไม่ปล่อยธารเลย ยิ่งถ้ารู้ว่าไม่ใช่พี่น้องแท้ๆด้วยล่ะก็นะ ไม่อยากจะคิด :serius2:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 31-03-2014 22:50:51
ถ้าเราเป็นคงเกลียดทัตพลมากๆเลยนะ
เป็นพ่อเราแต่ไปเลี้ยงลูกคนอื่น เหอะ บ้าสิ้นดี
แม้จะเอาเหตุผลอะไรมาอ้างมันก็ฟังไม่ขึ้นว่ะ 
เราชักอยากให้ธารรู้ว่าใครวางยาและไปแก้แค้น
โดยเฉพาะยัยวิ เพราะมีคนเดียวที่จะเอาคืนได้สะใจ
หวังรออีตาทัตพล หรือทราย นี่ชาติหน้าตอนบ่ายๆเถอะ:katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 31-03-2014 23:14:18
โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ไหว้ละคะแค่นี้หัวใจจะวายตายอยู่แล้ววววว  :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 31-03-2014 23:43:01
คำเดียวกับตอนนี้. "สั้น"  :hao5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 31-03-2014 23:51:34
ธารต้องสืบแล้วล่ะ ความจิงกะลังจะเปิดเผย ฮ่าๆๆๆ

แต่ก่อนที่ความจิงจะมา ก้อสงสารพี่ทรายต่อไป ไม่รู้จะเจ็บกับน้องธารอีกนานแค่ไหน  :mew4: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 31-03-2014 23:52:18
สมน้ำหน้าทัตพล เกลียดอิชนาธิปจัง แรดจริงๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 01-04-2014 01:02:51
 :z6: อิธิปนี่มันแรดจริงอะไรจริง ขอให้ในเรื่องนี้มันไม่มีคู่
ดีนะที่ธารไม่ได้มีอะไรกับธิป หรือมีฉากที่ธิปมันร่านจนหลักหลับอะไรยังงี้
ไม่งั้นเราว่าจะเป็นประเด็นใหญ่ไปอีกนาน

ตอนนี้ธารก็รู้ความจริงเกือบหมดแล้ว แต่ด้วยนิสัยกับสิ่งที่อิเด็กธารเจอยังไงก็ยากเกินให้อภัย
เข้าใจธารนะ ฉนั้นเชิญไปแซ่บบบบบบบกับทรายต่อได้เลย ฮ่าฮ่าฮ่า
แต่ต่อไปแกต้องรับกรรมนะถ้าทรายมันทนไม่ไหว
ความจริงเราอยากอ่านตอนที่เราสามารถเห็นได้ว่าทรายรักธารจัง เอาจริงๆอยากเชียร์ธาร
สงสารทั้งธารและทราย แต่เราก็เชียร์ทรายไม่ไหวอ่ะ อ่านมาเป็นสิบตอน เรายังไม่คิดว่าทรายรักธารจริงๆนะ
เห็นเอาแต่ตัดพ้อกับโลเล อาจจะชอบแต่ไม่ใช่รักหรอก

ส่วนคุณ"ทัต" คุณทัตจะทำเราฟินถึงไหน  :hao7:
พอมาอยู่กับพี่ซีก็น่าให้คู่ดีเนอะ 'ทัตซี' ดีกว่า 'ทัตทราย' อีก ไม่ต้องแย่งคู่ตัวเอกด้วย
คือคุณทัตเหมือนมีความสามารถสร้างบรรยากาศฟินได้ง่ายกว่าอิเด็กธารเยอะ
พี่ซีก็น่าโดนกดอยู่นะ สรุปคุณทัตเคลมทั้งพี่และน้อง ฮ่าฮ่าฮ่า  :z2:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 01-04-2014 01:08:48
 :hao7: คุณทัตพูดออกไปแล้ว เเม้จะลงรายละเอียดไม่ได้ เเต่ดีอย่างที่คำพูดของเค้าธารก็ยังรับฟังแม้จะไม่เต็มใจ ก็นะ... ยังไง
ก็พ่อว่าเเต่ธารจะคิดได้บ้างมั้ย คนที่ไม่ได้พูดคุยไม่ได้เจอหน้ากันคงไม่มีเวลามานัดเเนะหรอกว่าจะโกหกว่ายังไงกันดี... จริงมั้ย?
ธารพยายามเข้าใจหน่อยนะ... ไม่งั้นต่อจากนี้บัญหามันคงยาวเเละใหญ่มาก จนในที่สุดอาจจะเเก้ไขอะไรไม่ได้อีกเลย

ชนาธิปเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจอยู่นะ ถ้ามองเเบบรอบนอก...ตามที่คนเราควรทำเเละเรื่องของจิตสำนึก รู้ทั้งรู้ว่าธารมีคนรักเเล้ว เป็นคนที่ธารรักมาก แต่ก็ยังเสนอตัวมาสนองกามกันเเบบนี้ ไม่มีศักดิ์ศรี ถ้าการรักใครสักคนทำให้เราเสียสละได้ทุกอย่างเป็นได้
ทุกอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ แต่อย่าลืมว่านั้นคือกรณีที่หลงรัก ไม่ใช่ลุ่มหลงมัวเมา อยากครอบครอง ถึงจะบอกว่าเซ็กซ์เฟรนด์ก็ได้
แต่ถ้าได้ครอบครองสักครั้ง คนที่ลุ่มหลงใคร่อยากจนหน้ามืดเกือบลืมความอายไปแล้วจะทนได้เหรอที่จะไม่ได้ครอบครองเเละเห็น
เขากลับไปเสวยสุขกับคนที่เขารัก  :katai5: ชนาธิปจะทำได้เหรอ ในเมื่อไม่มีความละอายอยู่ในตัว
ถ้ามองอีกมุมก็น่าสงสารชนาธิปเหมือนกัน เหมือนชื่นชอบชื่นชม อย่างเป็นเหมือนคนคนนี้ สุดท้ายก็ก้าวล้ำเส้นที่ควรจะเป็นขึ้นมา
ชนาธิปให้ความรู้สึกเหมือนคนที่เเสวงหาอะไรสักอย่างอยู่ แลดูเป็นคนหลักลอย โอนอ่อนไปตามอารมณ์ อาจจะเป็นเพราะครอบครัว
ที่เหมือนจะดี เเต่ไม่ดี พ่อที่ไม่กลับบ้านกับเเม่ที่วิตกจริตเพราะกลัวจะสูญเสียผู้ชายที่รักไปตลอดเวลา ทำให้ชนาธิปเหมือนเป็นชิ้น
ส่วนหนึ่งของเเม่ผู้เเสวงหาความรักด้วยวิธีการผิดๆอยู่เสมอ :hao4: จะว่ามันเป็นการซึมซับพฤติกรรมและความรู้สึกจากบุคคลที่มี
อิทธิพลต่อตัวเองได้รึเปล่า?... แต่ยังไงก็อยากให้คิดได้นะว่าการทำเเบบนี้ ไม่ทำให้ตัวเองมีความสุขหรอก ถ้าชนาธิปได้ธารไปสัก
วันหนึ่งชนาธิปก็จะกลายเป็นภาพซ้อนของเเม่ตัวเองนั่นเเหละ... เป็นเเค่คนไล่ล่าความรักอย่างไม่สิ้นสุด เพราะรู้อยู่เเก่ใจว่าความรัก
นั้นไม่ได้มีไว้เพื่อตัวเอง
 :m16: ธารยอมให้ชนาธิปเข้าไปนอนด้วย (ชนาธิปด้านมากในตอนนี้ ลุกล้ำ เสนอตัว ฯลฯ) ถึงจะไม่มีอะไรกัน เเต่ยอมรับว่ารู้สึก
ไม่ดี ไม่พอใจมากๆ เพราะธารก็รู้จุดประสงค์ของชนาธิป (ก็นะอ่อยซะขนาดนั้น :hao3:) ถ้ามันเกิดเหตุพลาดพลั้ง ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่
กำลังเสียใจอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ในเมื่อธารเองก็พร้อมทำลายสัญญาทุกอย่างที่เคยให้ไว้กับทรายเพื่อให้ทรายเสียใจอยู่เเล้วด้วย...
การที่ธารให้คนอื่นมานอนข้างกายขนาดนี้ก็เท่ากับเปิดรับคนคนนั้นเข้ามาในชีวิตเเล้วล่ะ ถึงคำพูดจะไร้เยื่อใยแต่การกระทำที่ไม่เด็ดขาดมันก็ให้ความหวังไปด้วยในขณะเดียวกัน ธารสร้างปัญหาให้ตัวเองซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เเละทุกครั้งเป็นปัญหาเดิมๆ คือการให้คนอื่น
เข้ามาในชีวิต ครั้งนึงทรายเคยเสียใจเพราะธารเอาผู้หญิงมานอน ครั้งนี้ต่างออกไปที่ไม่ได้มีอะไร เเต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าสุดท้าย
ความสัมพันธ์แปลกประหลาดนี้จะหลุดลงอย่างสวยงามด้วยมิตรภาพของเพื่อนเเบบบริสุทธิ์ใจใสปิ๊งหรอก...
 :o12: สงสารทรายถ้าต้องรับรู้หรือว่าเกิดเรื่องอะไรต่อจากนี้ เพราะเรื่องชนาธิปหรือเรื่องของบัวเข้ามาอีก ใจคนเราเป็นเลือดเนื้อ
จะทนเจ็บทนร้าวได้มากเเค่ไหน... กลัวจะถึงวันที่ความอดทนสิ้นสุดลงน่ะสิ ทรายยืนยันว่ารักธารเเละเชื่อว่าธารก็เคยรักตัวเอง แต่
การกระทำของธารกำลังจะลดทอนความเชื่อนั้นลงนะ ถ้าทรายรู้มันอาจจะพังลงได้ง่ายๆเหมือนปราสาททรายน่ะ เราก่อมันขึ้นมาให้สวยงามต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เเต่เมื่อคลื่นซัดมาระลอกเดียวปราสาททรายมันก็จะหายไปเหลือเเต่ร่อยรอยว่าครั้งหนึ่งเคที่กองทราย
อยู่ตรงนี้เท่านั้นเอง... อยากให้ธารมีสติปฏิเสธชนาธิปได้อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆจัง :z10:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: Milkmilkzer ที่ 01-04-2014 01:23:51
ขอให้ธารเชื่อพ่อ  :hao6: :ling1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 01-04-2014 01:55:53
เดี๋ยวนะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตอนนี้ในหัวมันไม่ค่อยจะประมวลผลเท่าไหร่
มันสัมผัสได้แค่ "ทำไมเรด้าตูข้ามันดักรังสีเอ็กซ์วาย(?)อิทัตกับอิซีวะคะ" โอ้ววววว
ขอโทษนะคุณภัครเป็นผักต่อไปก็ได้ :mew4: (เลวมาก :z6://ไม่มีอะไรค่ะด่าตัวเอง)

ตอนนี้ขอสวนกระแสละกันรู้สึกสงสารธิปจัง มันรู้สึกประมาณธิปจะเป็นเด็กขาดความอบอุ่นแบบไม่รู้ตัว
คือไงดีหน้ากากครอบครัวก็ดูรักกันดีนะ แต่เหมือนคนเราเนาะ มันก็ต้องมีสัมผัสได้กันบ้างแหละ
ที่ธิปชอบธารเพราะให้ความรู้สสึกเหมือนพ่อ ถึงตรงนี้เราก็สงสัยว่าที่ทัตมันเลี้ยงม้นอุ้มเนี่ยแล้วมันนึกถึงธาร
มันได้ให้ความรักกับธิปจริง ๆ หรือเปล่า แล้วถ้าเกิดได้ยินทัตกับธารคุยกันนี่ฮีจะช็อกขนาดไหน
(หวังว่าคงไม่ได้ยิน ซีมันคงรู้สถานการณ์เนาะ)

น้องธารจัดพี่ทรายต่อไปค่ะ จนกว่าเราจะได้หลักฐาน ก๊ากกก(ไม่ค่อยจะบ่งบอกควาามหื่นเลยยยยยย)
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 01-04-2014 07:29:25
เอิ่ม...คุณทัตกับพี่ซี....กรี๊ดดดดดด :hao5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 01-04-2014 09:13:08
เปิดมานึกว่าจะเจอฉาก ธารดูแลทรายแบบถึงพริกถึงขิง (มันดูแลแบบไหนวะ)  :haun4: ม่ายช่าย ดูแลแบบอ่อนโยนนุ่มนวลแล้วทำให้คิดได้ว่า ทั้งคู่ยังมีเยื่อใยต่อกันอยู่ ซึ่งธารมีให้เห็นชัดอยู่แล้ว :-[  แต่กลายเป็นม้ามืดชนาธิปซะได้ ที่ตามติดไปนอนแนบข้าง :katai1: ดูเหมือนธารจะหงุดหงิดแต่ก็ไม่ได้รังเกียจอย่างจริงจังเท่าไหร่ เชื่อว่าธารไม่ได้คิดอะไร  ขอให้ไม่คิดตลอดนะ  แต่ก็กลัวใจฮีเหมือนกัน เกิดประชดอยากจะตอบสนองให้ แต่ยังดีที่ยั้งเอาไว้ได้ ในตอนนี้นะ ต่อไปไม่รู้ ขอให้อย่าเลย ไม่อยากให้มันพัวพันยุ่งเหยิงไปมากกว่านี้ อ่ะ แต่ก็ต้องแล้วแต่บทบาทที่คนเขียนกำหนดไว้ล่ะนะ :mew6:  ไม่ได้เกลียดธิปนะในตอนนี้ ดูเหมือนเด็กน้อยขี้เหงา เหมือนเด็กเห่อไอดอลที่ตัวเองชอบ พอมีโอกาสก็อยากจะใกล้ชิด และคงเพราะธิปเห็นธารมีบุคลิกดึงดูดคล้ายพ่อที่ตนรักและอาจจะยึดเป็นไอดอลมาตลอด เลยทำให้มองธารแบบนั้นจากคำพูดที่เอ่ยออกไปคล้ายรำพึงรำพัน เกิดภาพซ้อนทับกัน เลยทำให้ธิปหลงไหลธารยิ่งขึ้น เรามองว่าน่าสงสารนะ ถ้าธิปได้รู้ความจริงอีกคนว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวตัวเองในตอนนี้ และกลัวแม่ของธิปนอกจากจะไม่สำนึกกับยัดเหยียดความผิดตัวเองไปให้คนอื่นเพื่อไม่ให้ลูกมองตัวเองไม่ดีล่ะก็เชื่อว่าธิปจะเจ็บช้ำไม่น้อยเช่นกัน :เฮ้อ:

เท่าที่เห็น ธิปดูจะขาดความอบอุ่นเหมือนธารไม่น้อย ถึงจะมีพ่อไม่แท้แต่ธิปยังไม่รู้และแม่ที่ให้ความรัก แต่แม่ก็มักจะระแวงพ่อให้เห็นเป็นประจำ และธิปก็จะคอยประสานให้ตลอด และธิปดูจะรักและติดทัตพลไม่น้อย คงเพราะทัตพลเป็นคนอ่อนโยน ดูแลธิปและคงนึกถึงลูกตัวเองก็เลยเกลียดธิปไม่ลง เลยทุ่มเทความรักความเอ็นดูให้ธิปแทน ในขณะที่ทัตพลก็ปวดใจไปด้วยที่ไม่ได้เอาความรักความห่วงใยตรงนี้ไปมอบให้ลูกแท้ๆ :hao5:

สำหรับทัตพล ตอนนี้ถือว่าตัดสินใจได้เด็ดขาดดีในการเผชิญหน้ากับธาร ถึงจะรู้ว่ายังไงคงทำให้ธารเชื่อไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่พูดอะไรออกมา อย่างน้อยก็ทำให้ธารหวั่นไหวสับสนด้วยคำพูดและสาเหตุตรงกันกับที่ทรายบอก ถึงฮีจะยังไม่เชื่อเต็มร้อย และทำใจให้เชื่อยาก และยากที่จะให้อภัย เพราะหลักฐานมีแค่คำพูด ส่วนคนกระทำ ทัตพลรู้แต่ก็ยากที่จะพูดออกไปได้ ด้วยหลายสาเหตุ ไหนจะอารมณ์ของธารที่ถ้ารู้และเชื่อว่าจริง อาจจะไปเอาเรื่องได้ ไหนจะจิตใจของชนาธิปที่ต้องมารับรู้ว่าตนไม่ใช่พ่อแท้ๆและแม่ยังทำเรื่องเลวร้ายลงไปอีก คงจะรับไม่ไหวในคราวเดียว เหมือนกับธาร ทัตพลจึงพยายามประคับประคองจิตใจลูกทั้งสองคนให้ดีที่สุด  แต่คุณพ่อก็เผลอตวาดซะคุณลูกคิดลึกไปอีก o18  เข้าใจนะว่าทัตพลไม่อยากให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้ เพราะซียังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ลึกๆธารน้อยใจมากกว่าที่พ่อบอกว่ารักตัวเองแต่นอกหน้าปกป้องคนอื่นแถมยังเป็นคนที่ตัวรัก กลัวธารกลับไปจะไปลงกับทรายเหมือนกัน สงสาร :sad11: แต่ก็อยากดูบทลงโทษอ่ะ :oo1: :laugh:

 เราชอบธารนะที่พยายามระงับสติอารมณ์และถามอย่างจริงจังออกไปนั่นก็ถือว่าฮีเริ่มจะรับฟังแม้จะน้อยนิด ถึงจะยังไม่ได้รับคำตอบที่เคลียร์ชัดแต่ก็ทำให้หวั่นไหวได้ ถ้ายังยืนตรงกันและสร้างความเชื่อใจให้ฮีได้ เชื่อว่าถึงไม่มีหลักฐาน ธารก็พร้อมจะเชื่อแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่า ทัตพลกับทรายจะทำได้แค่ไหน และหัวใจของธารจะเปิดรับและให้อภัยได้หรือไม่ แต่ถ้าทั้งคู่พยามสุดๆแล้ว ธารยังไม่ฟังก็คงต้องปล่อยฮีไป  เราจะถือว่าธารเริ่มยึดติดกับสิ่งที่เรียกว่าครั้งแรกของคนรักมากเกินไป มากกว่าจะมองที่การกระทำ แต่หวั่นใจกับความอ่อนไหวของทรายเหลือเกิน ทัตพลก็เหมือนกันด้วยความอ่อนโยน เป็นสุภาพบุรุษ ก็ชวนให้มองว่าใกล้ใครเหมือนมีใจให้ไปหมด ดูจากที่แสดงออกกับซีสิ น่าคิดนะ o18

ตอนที่ธารถามทัตพลเหมือนกันเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีให้แม่ของตน ประมาณว่าคิดให้ดี ว่าอยากจะมาดูแลเพราะรักตามปากที่พูดหรือว่าแค่สำนึกผิดอยากชดเชย มันค่อนข้างชัดเจน ธารคงไม่อยากให้แม่ต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ถ้าพ่อจะขอมาดูแลเพื่อชดเชยมากกว่าจะดูแลด้วยความรัก เพราะยี่สิบปี ทัตพลไม่เคยมาแสดงตัวเลย ได้แต่แอบตามแอบดูห่างๆ ซึ่งมันก็น่าคิดในความคิดของธาร เราเห็นด้วยนะ :hao3: เพราะความรักความผูกพันแทบจะไม่มีเลยสำหรับธารที่มีต่อพ่อ คงต้องใช้เวลาพิสูจน์ต่อไป  :katai2-1:

อีกอย่างอดสงสารไม่ได้ที่ธารแสดงความอกตัญญูโดยไม่ตั้งใจออกไป   :monkeysad:
โดยการผลักผู้เป็นพ่อ รวมถึงคำพูด เชื่อว่าความจริงกระจ่างเมื่อไหร่ เด็กน้อยของฉันต้องเจ็บปวดกับการกระทำของตัวเองแน่ๆ  :sad4: แอบขัดใจนิดนุงตอนที่ทัตพลบอกให้รอคนผิดได้รับกรรม เข้าใจฮีนะ แต่คนทำมันจะสำนึกได้เมื่อไหร่กันล่ะ (ตอนจบไง คนเขียนบอก หุหุ) กว่าจะถึงตอนนั้น หลายคนต้องเจ็บปวดกันไม่ใช่น้อย :เฮ้อ:

แต่ ณ จุดนี้ แอบมีมุมมุ้งมิ้งระหว่างทัตพลกับซีนะ ดูจะเข้าอกเข้าใจกันได้ดีเหลือเกิน  ฟินดี แต่ถ้าจะคู่กันก็ขอให้สมเหตุสมผลหน่อยเถอะ สงสารคุณภัครที่นอนป่วยอยู่ ผู้หญิงคนนี้ได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจมาตลอด ขอให้มอบความยุติธรรมให้เธอบ้างกับการอดทนของเธอที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลูกมาตลอด และลึกๆก็คงจะยังรักทัตพลไม่เปลี่ยนเช่นกัน ไม่งั้นชีคงมีสามีใหม่ไปแล้ว :impress3:

ปล. เป็นกำลังใจให้คนเขียนต่อไป ส่วนตัวเราสนุกและลุ้นกับเนื้อเรื่องนะ ต้องยอมรับว่าคุณเขียนได้ดี o13 เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครแต่ละตัวมาก เลยทำให้เกิดความเห็นในหลายๆมุมมองของแต่ละคนอ่านเช่นกัน อยากจะบอกว่า เขียนตามใจตัวเองเถอะค่ะ ไม่ต้องปรับเปลี่ยนตามใจใครหรอก เราจะติดตามต่อไป ไม่ว่าเรื่องนี้จะจบยังไงก็แล้วแต่ สู้ๆนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 01-04-2014 12:41:27
ได้พูดไปแล้วก็ดีนะคุณพ่อทัต รอแต่ธารจะคิดได้เท่านั้น
แต่ขอคุณคนเขียนไว้อย่างได้ไหมคะ ว่าอย่าให้ธารเอาธิปมาแก้แค้นคุณพ่อตัวเองเลย ดูจะสลัดหลุดยากนะคนเนี้ย ได้แม่มาเต็มๆอ่ะ  :ling3:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: babynevercry ที่ 01-04-2014 14:25:26
สงสารธิป อยากให้ธิปคู่กับพี่ซี

โหมดดาร์ค ลึกๆ ในหัว อยากให้ธารเอาธิปมาแก้แค้นทัตพล แล้วให้ธิปน่าสงสาร ช้ำชอกเหมือนทราย

อิอิ ชอบมากๆแบบนั้น ดราม่าสุดๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 01-04-2014 16:15:19
คุณทัต~ รีบอธิบายรายละเอียดให้ธารฟังเร็ว ๆ นะคะ >.<
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 01-04-2014 18:27:32
ถึงเวลานี้แล้วพ่อก็บอกธารไปเห้ออออ ไหว้ค่ะไหว้ เก็บไว้บอกตอนทรายบอบช้ำไปถึงไหนๆๆ แล้วหรือไง
คือเป็นห่วงทรายอ่ะ ตกเป็นเหยื่อของอะไรก็ไม่รู้
ธิปดูชอบธารจริงจัง แต่ธารก็ดีนะ ไม่ทำอะไร ดูแบบไม่เอาแต่ได้ฟันดะ
พอกลับบ้านเดี๋ยวก็โมโหทรายอีก เฮ้อ สงสารจริงไรจริง แค่หายใจก็ยังผิดเลย

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 01-04-2014 18:48:07
ชนาธิป นางจะแรงเหมือนแม่นางเหรออออ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 01-04-2014 20:56:38
เอ๊ะๆๆ คุณทัตกับพี่ซีคงไม่มีอะไรในกอไผ่ใช่มั้ย คือไม่เอาวายนะคู่นี้ อยากให้พี่ซีได้คู่กับน้องธิปจอมแรด

เกือบหัวใจวายตายแทนพี่ซี นี่ถ้าพี่ซีเกิดได้ยินที่สองพ่อลูกทะเลาะกันเรื่องของทราย โอ๊ย ไม่อยากจะคิด

พี่ซีต้องหัวใจสลายเป็นแน่แท้  แต่ว่าในสักวันพี่ซีก็ต้องรู้อยู่ดีนั่นแหละ เอาว่าขอเวลาให้พี่ซีทำใจก่อนละกัน

คุณทัตนี่ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่ขึ้นสักอย่าง ก็เข้าใจธารนะ พ่อแท้ๆทิ้งไปตั้งแต่เด็ก แล้วจะมาเรียกร้องอะไรตอนนี้

มันก็สายไปแล้ว ทั้งที่คุณทัตก็มีเหตุผลความจำเป็น แต่พออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งแก้ตัว

รอตอนต่อไปค่ะ เผลอๆคุณน้องธาร โมโหแล้วไปจัดหนักพี่ทรายอีก  :hao6:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [31/03/57] Father and Son
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 01-04-2014 22:03:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57]Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 01-04-2014 22:43:28
https://www.youtube.com/v/HXZJ4LGZDyE


บทที่23
 
 

ท้องถนนที่ทอดยาว แสงจากเสาไฟสีส้มเรียงรายทอดยาวโค้งไปตลอดทั้งแนว คืนนั้นเขาขับรถกลับบ้านทั้งที่ยังอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัว คำพูดของทัตพลยังกึกก้องสะท้อนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในห้วงความคิด
 
 
 
     “ธารกำลังเข้าใจผิดนะ เรื่องราวมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเต็มใจ  ระหว่างพ่อกับทราย....”

     “พ่อกับทรายเราโดนวางยา”
 
     “พ่อรู้ว่ามันอาจจะเชื่อยาก แต่พ่อพาทรายเขาไปทำธุระที่พังงา เราค้างที่นั่นกันสองคืนแล้วคืนที่สองมันก็เกิดเรื่องขึ้นมา นี่คือเรื่องจริง ๆ ที่เกิดขึ้นธารจะเชื่อหรือไม่พ่อคงไปห้ามความคิดลูกไม่ได้แต่ขอให้ลูกรู้ไว้ว่าพ่อกับทรายเราไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกันแบบนั้น”
 
 
 
เขาสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปอีกครั้งตั้งสติกับถนนหนทางข้างหน้า เบนซ์สีขาวคันเดิมจอดรออยู่ไม่นานประตูรั้วแบบอัตโนมัติก็เปิดกว้างรอให้รถหรูขับเคลื่อนเข้าไปจอดตัวลงที่ด้านใน
 

“วันนี้ไม่กลับหรือทินกร” เขาเอ่ยถามคนที่วิ่งมารับกุญแจรถ ปกติพอค่ำหน่อยทินกรจะกลับไปค้างที่บ้านกับภรรยา เช้ามืดวันใหม่จึงจะมาทำงานแต่เช้า น้อยครั้งนักที่จะเห็นเขาอยู่ค้างคืนที่นี่
 

“วันนี้เมียผมเขาไปเที่ยวกาญจนบุรีกับพวกเพื่อนๆน่ะครับ กลับไปก็ไม่รู้จะคุยกับใครอยู่ดีเลยอยู่นอนมันเสียที่นี่เลยดีกว่าเผื่อตอนเช้าคุณธารมีอะไรเรียกใช้”  ทินกรตอบตรงไปตรงมาธาราธารจึงพยักหน้าให้เบา ๆ จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปด้านใน
 

“ดาว อีกสักครึ่งชั่วโมงให้พี่ทรายเอากาแฟขึ้นไปให้ฉันที่ห้องหนังสือด้วยนะ” เมื่อร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในบ้านเขาเรียกนับดาวมาสั่งความ
 

“เอ่อ..พี่ทรายนอนแล้วค่ะ เดี๋ยวดาวเอาขึ้นไปให้แทนนะคะของคุณธารกาแฟดำใส่น้ำตาลก้อนเดียว”
ชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู  เวลาเพิ่งจะสามทุ่มกว่า ๆ วารินไม่น่าจะนอนเร็วได้ปกติเห็นชอบนั่งคุยเล่นกับนับดาวจนดึกดื่น
 

“พี่ทรายไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ ตัวรุม ๆ ตั้งแต่เช้าดาวไล่ไปพักก็ไม่เชื่อ นี่ก็เพิ่งจะเข้าไปนอนเอง ดาวเลยไม่อยากรบกวน เดี๋ยวดาวชงกาแฟให้คุณธารเองนะคะคุณธารขึ้นไปรอข้างบนเถอะค่ะเดี๋ยวพี่เตตรวจรอบบ้านเสร็จก็คงจะมาปิดบ้านแล้ว”
 

นับดาวเห็นธาราธารชักสีหน้าสงสัยจึงไขความข้องใจของเขาทั้งหมด ชายหนุ่มชั่งใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อแล้วเขาก็เดินเลี่ยงขึ้นบ้านไป  ทุกวันหลังกลับจากเรียนหากไม่ดึกมากเขาจะเข้าไปทักทายคุณแม่เสมอและวันนี้เขาก็ยังทำเหมือนเดิมเช่นทุกวัน
 

“คุณแม่หลับไปแล้วหรือครับป้าวัน”
 

“หลับตั้งแต่สองทุ่มแล้วค่ะ คุณธารเพิ่งกลับมาถึงหรือคะทานอะไรมาหรือยัง”ปกติเธอเป็นคนจัดเตรียมเรื่องอาหารการกิน แต่หลังจากต้องมาดูแลภัครจิราก็กลายเป็นนับดาวที่เข้ามาเตรียมเรื่องอาหารแทน
 

“เรียบร้อยมาแล้วครับ ป้าวันนอนเถอะนะดูแลคุณแม่มาทั้งวันคงจะเหนื่อย” เขาเดินเข้าไปจับมือภัครจิราเบา ๆ กระชับผ้าห่มให้
 

“ผมกลับมาแล้วนะครับคุณแม่ พักผ่อนให้สบายนะครับ” เขาพูดกับเธอเบา ๆ  ก่อนเดินไปปิดไฟดวงใหญ่แล้วเปิดเป็นไฟหรี่สีส้มอ่อนๆให้แทน
 
 

สายน้ำเย็น ๆ จากฝักบัวช่วยชะล้างสิ่งสกปรกจากร่างกายได้ก็จริงแต่ทว่ากลับไม่สามารถสลัดความคิดที่ฝังติดอยู่ในจิตใจคนเราได้เลย เรือนกายสูงใหญ่ยันมือข้างหนึ่งกับผนังกระเบื้องปล่อยให้สายน้ำเย็น ๆ ราดรดตั้งแต่ศีรษะไหลผ่านร่างกายแข็งแรงกำยำผ่านลงมาจนถึงปลายเท้า
 

เขาสะบัดศีรษะไล่ความเบียกชื้นจากสายน้ำ ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่เปียกจนแห้งหมาดเมื่อทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยจึงเข้าไปที่ห้องหนังสือ กาแฟดำร้อน ๆ จากนับดาวส่งกลิ่นหอมโชยมาจากโต๊ะทำงาน เขาใช้เวลากับหนังสือตรงหน้าไปได้แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น จิตใจดันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคิดถึงเรื่องของวารินขึ้นมาอีก
 
 

       “พี่ทรายไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ ตัวรุม ๆ ตั้งแต่เช้าดาวไล่ไปพักก็ไม่เชื่อ นี่ก็เพิ่งจะเข้าไปนอนเอง ดาวเลยไม่อยากรบกวน”
 
 

ไม่รู้อะไรดลใจ..ตอนนี้เขาดันมายืนอยู่ที่หน้าประตูเล็กๆที่เขาเคยเรียกมันว่าห้องคนใช้  มือใหญ่ไขกุญแจเปิดเข้าไปอย่างเบามือและถือวิสาสะ ถึงไฟในห้องจะถูกปิดลงแล้วแต่เขาก็ยังสามารถเห็นคนที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียง ธาราธารเดินเข้าไปใกล้ ๆ จ้องมองดวงหน้าที่อ่อนระโหยนั่น วารินดูผอมลงกว่าเดิมนิดหน่อยใบหน้าที่เคยมีแต่แววสดใสร่าเริงอยู่เสมอกลับกลายเป็นใบหน้าที่คล้ายกับคนจมอยู่ในความทุกข์ เขาเลื่อนมือไปขยับผ้าห่มให้ขึ้นมาชิดหน้าอกของคนตัวเล็กเผลอโน้มตัวลงไปหวังเพื่อจะแตะริมฝีปากที่แก้มนิ่มนั่นแต่เขาต้องหยุดชะงักอยู่แค่นั้น ทั้งที่ห่างเพียงไม่ถึงนิ้วด้วยซ้ำ ใบหน้าและดวงตาที่มองคนตัวเล็กด้วยความอบอุ่นนั้นแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้นทันทีที่นึกไปถึงภาพบาดหัวใจในวีดีโอนั่น เขาค่อยยันตัวขึ้นขณะริมฝีปากเหยียดยิ้มอย่างขมขื่น แววตาที่มองลงไปมีแต่แววตัดพ้อเต็มไปหมด
 
 

“พ่อกับทรายเราโดนวางยา”
 

“ธารกำลังเข้าใจผิดนะ เรื่องราวมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเต็มใจ  ระหว่างพ่อกับทราย....”
 


คำพูดของทัตพลเหมือนแผ่นที่ถูกรีเพลซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ในหัวสมองของเขา
 

ถึงแม้คนทั้งคู่จะถูกวางยาจริง แต่มันก็เปลี่ยนความเป็นจริงไปไม่ได้ ในเมื่อทั้งคุณพ่อของเขาและวารินมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยกันไปแล้ว และที่สำคัญที่สุดคือคุณแม่ของเขา ภัครจิราต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้เพราะคนทั้งคู่นั่น
 

ร่างสูงใหญ่หมุนตัวเดินกลับออกไปทันที นิ้วมือเรียวยาวบดเบียดเข้าหากัน สันกรามได้รูปถูกบดจนนูน นึกโมโหตัวเองที่เดินลงมาทำไมถึงห้องหลังบ้านแบบนี้
 

...จำเป็นอะไรที่เขาต้องดีกับวาริน...
 

...จำเป็นอะไรที่ต้องเป็นห่วง..
 

...ก็แค่ที่ระบาย เวลาเขา ‘อยาก’ ก็แค่นั้น!....
 
 

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาธาราธารใช้เวลาหมดไปกับการเรียนตั้งแต่เช้าจรดเย็นแทบทุกวัน บางวันมีสอบกลางคืนและมีเรียนต่อในเช้าวันถัดมา ทำให้เขาไม่สะดวกในการเทียวไปเทียวมาระหว่างที่บ้านและโรงพยาบาลเขาจึงเลือกที่จะค้างที่คอนโดมากกว่า
 

“สวัสดีค่ะคุณธาร เย็นนี้ก็โทรมาถามอาการคุณผู้หญิงอีกหรือคะ” นับดาวรับโทรศัพท์แล้วแกล้งพูดดักคอ เพราะพักหลังธาราธารไม่ค่อยได้กลับบ้านจะใช้วิธีการโทรมาสอบถามอาการแม่ของเขาทุกๆวันทั้งเช้าทั้งเย็น
 

“รู้แล้วก็รีบรายงานมาเร็วเข้า”
 

นับดาวจึงพูดบอกเขาไปตามสภาพที่เห็นตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นโดยละเอียดเมื่อไม่มีอะไรที่น่าห่วงก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องวางสาย แต่ฉุกใจนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ก็เลย...
 

“พี่ทรายเขาอยู่แถวนั้นหรือเปล่า”
 

“อยู่ค่ะคุณธารจะคุยด้วยหรือคะเดี๋ยวดาวไปเรียก....
 

“ไม่ต้องๆ” เขารีบร้องปรามเมื่อได้ยินว่านับดาวทำเสียงตะกุกตะกักเหมือนกำลังจะแฮ้งกิ้งคอล
 

“อ้าวพี่ทรายเดินมาพอดีเลย คุณธารจะคุยด้วยไหมคะดาวจะเรียกให้” นับดาวกวักมือเรียกวารินให้เดินเข้ามาใกล้ คนตัวเล็กจึงเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยว่าใครกันที่อยู่ปลายสาย เด็กสาวจึงทำปากบุ้ยใบ้บอกว่าคุณธาร วารินหน้าเจื่อนลงทันที
 

“ไม่ต้อง ฉันไม่อยากคุยกับเขา เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะกลับไปคงจะดึกไม่ต้องรอก็ได้”
 

เขาพูดไว้แค่นั้นแล้ววางสายตัดไปเลย ทว่าความรู้สึกของคนที่ได้ยินประโยคสุดท้ายพอดีกลับวาบโหวงขึ้นในหัวใจอย่างไรบอกไม่ถูก คนตัวเล็กยกมือขึ้นทาบอกสูดลมหายใจก่อนนับดาวจะเอื้อมมือมาเกาะบ่าเล็กนั้นไว้แกล้งทำท่าตลกๆให้วารินได้หัวเราะแล้วชวนไปรดน้ำต้นไม้ด้วยกัน
 

ช่วงบ่ายวันถัดมาที่ตึกเรียนของโรงพยาบาลที่ธาราธารเรียนอยู่เขาเดินสวนบัวชมพูตรงทางเดินพอดี
 

“ธาร”
 

เธอร้องเรียกขึ้นอย่างยินดี บอกเพื่อนที่เดินมาด้วยกันให้ไปก่อน “ไม่ได้เจอเลย โทรไปก็ไม่รับสาย ธารโกรธบัวเรื่องอะไรหรือเปล่า” เธอดึงแขนเสื้อเขาให้เดินมาในจุดที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก
 

“เปล่านี่ครับ”
 

“แต่ธารไม่เคยรับสายบัวเลย ไม่เคยโทรหา แล้วก็..ถึงแม้เราจะเจอกันโดยบังเอิญธารก็ไม่เคยทักบัวก่อน” เธอก้มหน้าเพราะตาเริ่มแดง ๆ ระบายทุกอย่างออกมาด้วยความน้อยใจ


“ธารน่ะไม่คิดถึงกันแล้ว”
 

“ไม่เอาน่าบัว เราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะบัวบอกเองใช่ไหมว่าเต็มใจและจะไม่มานั่งเสียใจทีหลัง ผมเคยบอกไปแล้วว่าผมยังไม่คิดจะหยุดที่ใครทั้งนั้น วันนั้นบัวก็บอกว่าเข้าใจนี่”
 

“แต่บัวคิดถึงธาร ‘คิดถึง’ ”เธอย้ำคำว่าคิดถึงให้เขารู้ว่าเธอหมายถึงอะไร


“บัวรักธารนะ เรามาคบกันได้ไหม บัวไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้แล้ว บัวอยากคบกับธารให้เป็นเรื่องเป็นราว อยากยืดอกบอกใคร ๆ ว่าเราเป็นของกันและกันแล้ว” เสียงเธอสั่นเหมือนคนจะร้องไห้ ธาราธารกวาดตามองเธอแบบเต็ม ๆ ตัว เธอใส่เสื้อกาวด์แบบสั้นถือแฟ้มอยู่ในมือ คงเพิ่งผ่านการทำแลปมาเหมือนกัน
 

“เย็นนี้บัวว่างไหม? กินข้าวกับผมนะ”
 

เขาพูดสั้น ๆ แค่นั้นแต่บัวชมพูยิ้มแก้มแทบปริ เธอเกาะแขนเขาอย่างยินดีความรู้สึกตื้นตันเอ่อล้นเต็มไปหมดเหมือนรอคอยมานาน ขณะที่ฝ่ายคนชวนยังตีสีหน้านิ่งเฉยไม่เปลี่ยน
 

...หากเธอรู้ว่าเขากำลังจะสลัดเธอทิ้งเธอจะร้องไห้หนักขนาดไหนกันนะ...
 

“ทำไมธารเลือกที่นี่”


พอมาถึงห้องอาหารบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกภายในโรงแรมหรูมีระดับบัวชมพูก็ยิ้มหน้าบาน “แสดงว่าธารจำได้ใช่ไหมคืนที่เราสองคน....” เธอพูดอย่างเอียงอายหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อที่นี่คือห้องอาหารที่เขากับบัวชมพูเคยมาทานข้าวด้วยกันพร้อม ๆ พี่รหัสทั้งสาย
 

“เปล่า เพราะที่นี่ใกล้บ้านบัวที่สุด”
 

เพราะเมื่อเขาขอเลิกเธออาจทำใจไม่ได้ เสียใจมากเขาจะได้พาเธอไปส่งในที่ใกล้ๆที่สุดและปลอดภัยนั่นก็คือบ้านของเธอเอง
 

“ใครบอกวันนี้บัวจะค้างที่บ้าน”
 

เธอเอียงหน้าเขินอายซบใบหน้าเข้ากับต้นแขนเขา “บัวจะไปค้างห้องธารต่างหาก”  ริมฝีปากสีสดซุกไซ้จนแขนเสื้อเชิ้ตติดสีของลิปสติก ยิ่งเธอได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่เขาชอบใช้เธอยิ่งต้องการเขาแทบคลั่ง เธอกัดแขนเขาเล่นเบา ๆ
 

“ทานหอยเชลล์ราดซอสเปรี้ยวหวานละกันนะ ไม่อ้วนดี”
 

เมื่อพนักงานเดินมารับออร์เดอร์เขาจึงสั่งให้เธอเสร็จสรรพ  อาหารชั้นเลิศถูกเสิร์ฟพร้อมกับไวน์ขาวชั้นดีมีพนักงานเข้ามารินให้ทั้งเธอและเขา เธอหยิบก้านแก้วไวน์ขึ้นมาระดับสายตาแล้วแกว่งไปมาเบา ๆ เหมือนกำลังให้ท่าเขาอย่างไรอย่างนั้น ธาราธารจึงยกแก้วของตนเองขึ้นเอียงแตะกันพอเป็นมารยาท ทั้งสองคนทานอาหารกันจนเสร็จเรียบร้อย ธาราธารจึงชวนเธอลงไปที่โซนเอาท์ดอร์ของโรงแรมสถานที่ซึ่งเป็นระเบียงสวยยื่นลงไปที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาหญิงชายหลายคู่กำลังเก็บเกี่ยวบรรยากาศแสนโรแมนติก ฝั่งตรงข้ามมองเห็นเจดีย์ประดับไฟสีส้มระยิบระยับสวยงามมาก ก่อนที่ใบหน้าหวานแต้มรอยยิ้มสวยซึ้งจะหันมามองเขาด้วยแววตาที่หวานฉ่ำ
 

“ขอบคุณมากนะธาร วันนี้บัวมีความสุขมากๆเลย บัวรักธารที่สุด” เธอโผเข้าไปซบเอวเขาไว้แบบไม่อายสายตาใคร ถึงแม้คนจะไม่เยอะแต่พนักงานที่ยืนตามจุดต่าง ๆ ก็มี เขาดึงตัวเธอออกนิดหน่อยใช้สายตาบอกให้เธอรู้ว่ามีใครหลายคนมองอยู่ มันไม่ดีกับตัวเธอเอง
 

“ช่างสิก็บัวมีความสุขนี่ เรากลับกันเลยไหมไปห้องธารนะ พรุ่งนี้วันเสาร์บัวไม่มีเรียนธารเองก็ไม่มี บัวเช็คมาเรียบร้อยแล้ว”
 

ธาราธารพลูลมหายใจก่อนจับไหล่บางให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาตรง ๆ 
 

“บัวครับ...ฟังผมให้ดีๆนะ  ผมจะไม่ทำอย่างนั้นกับบัวอีกแล้ว” ดวงตาคมกริบจ้องเข้าไปในแววตาเธอเพื่อบอกให้รู้ว่าสิ่งที่เขากำลังพูดนั้นคือเรื่องจริงๆไม่ใช่พูดเล่น
 

ดวงตาสวยไหวระริกคล้ายคนกำลังหวาดกลัว
 

“บัวเก็บสิ่งที่บัวควรถนอม รักษาไว้ให้กับผู้ชายดี ๆ ที่เขารักบัวและบัวก็รักเขาจากใจจริงจะดีกว่านะครับ  คนอย่างผมไม่มีค่าพอสำหรับความรักของบัวหรอก ลืมผมซะนะ”
 

“...ธาร....”
 

เธอจ้องเขานิ่ง พึมพำเสียงอ่อนก้าวถอยหลังไม่รู้ตัว มีหยาดหยดน้ำตาที่ไหลตกลงมาบนผิวแก้มสวย เขายกมือขึ้นปาดมันให้เธออย่างเบามือ
 

“อย่ามาเสียเวลากับคนอย่างผมเลย คนเลว ๆ คนที่ไม่มีคุณค่าพอจะหยุดลงที่ใครสักคนได้”
 
 


‘ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้ดีแค่ไหน ผมไม่เคยคบใครจริงจังแต่ผมอยากหยุดอยู่ที่พี่เป็นคนสุดท้าย  ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอให้พี่รู้ไว้ว่าคนที่ผมรักคือพี่คนเดียว’
 
 

นานมาแล้วที่เขาเคยพูดประโยคนี้กับคนๆหนึ่ง แต่มันจะมีความหมายอะไรในเมื่อ คนๆนั้นขยี้ความรักและความตั้งใจของเขาแหลกเละไม่มีชิ้นดี
 

“ทำไม!..ทำไมถึงเป็นบัวไม่ได้ ทำไมธารถึงหยุดที่บัวไม่ได้ ทำไมถึงเป็นบัวไม่ได้”
 

“ไม่ใช่แค่กับบัวหรอก กับทุกคนต่างหาก”
 

“ไม่จริง! ธารมีคนที่ธารคิดจะหยุดด้วยอยู่แล้วบัวดูก็รู้ เพียงแต่บัวไม่รู้ว่าใครคือคน ๆ นั้น ธารคงไม่รู้ตัวเวลาที่ธารพูดในแววตาของธารส่งผ่านไปถึงใครสักคน...คนที่โชคดีคนนั้น”


น้ำตาเธอไหลรินลงมาป็นทางเมื่อพูดถึงใครคนนั้นของเขา คนที่เธอคิดว่าโชคดี
 

...หากแต่ นั่นไม่ใช่ความโชคดีเลยสักนิด...
 

“ผมขอโทษ..ทุกอย่าง..ขอให้บัวโชคดีนะครับ”
 
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 01-04-2014 22:43:53
https://www.youtube.com/v/HXZJ4LGZDyE


เมื่อสายลมยามดึกพัดโกรก พาเอาลมหายใจที่เจือไปด้วยความผิดหวังพัดหาย ถึงแม้ว่าเธอจะรักเขามากมายแค่ไหนแต่ในเมื่อเขาตั้งใจปฏิเสธกันถึงขนาดนี้เธอเองก็มีคำว่าศักดิ์ศรีหลงเหลืออยู่ในตัว
 

“ธารยังเป็นน้องรหัสบัวเหมือนเดิม และธารคือ..คนแรก..บัวไม่มีวันลืม”
 

เธอพูดแล้วส่งยิ้มบางให้เขาก่อนจะเดินหันหลังเข้าบ้านไป  เขาใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึงหน้าคฤหาสน์หลังงามที่เขาไม่ได้กลับมาเกือบๆสองสัปดาห์ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นร่างคุ้นตาของใครบางคนก้มๆเงยๆอยู่แถวพุ่มไม้ประดับข้างโขดหินริมสระน้ำหน้าบ้าน
 
 
“ทำอะไรอยู่น่ะ”


เสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหลังทำเอาวารินถึงกับสะดุ้งโหยง เพราะมัวแต่สนใจกับสัตว์ตัวเล็กๆที่ติดอยู่ที่กิ่งไม้จนไม่ทันได้ยินว่ามีเสียงรถขับเข้ามาจอดด้านใน
 

“ธาร...นกมัน...”
 

สองมือเล็กของวารินโอบอุ้มลูกนกตัวน้อยไว้ในอุ้งมือ เขาชูมันให้เด็กหนุ่มดูแล้วทำสีหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ ธาราธารเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กอย่างเร็ว ใจเขาวูบโหวงไปหมดแค่เห็นวารินทำสีหน้าแบบนั้น เหมือนกับว่าเขาจะลืมเลือนความโกรธแค้นที่มีกับคนตัวเล็กทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่ง
 

“มันคงตกลงมา แต่ยังไม่ตายหรอก หาที่นอนอุ่น ๆ มาไว้ให้มันกันไม่ให้มดแดงมาไต่เดี๋ยวพรุ่งนี้รับรองมันบินปร๋อแน่”
 

วารินรีบวางมันลงที่รังเล็กๆของมันทันที ร่างเล็กวิ่งเข้าไปในบ้านดึงสำลีมาจากตู้ยาแล้วหยิบผ้าผืนเล็กๆชุบน้ำมาโอบรอบรังของมันไว้อย่างเบามือ ธาราธารมองคนที่วิ่งไปวิ่งมาตกแต่งรังนอนให้กับนกด้วยสายตาที่เขาเองก็อธิบายไม่ถูก
 

...ทั้งๆที่รักแต่มันก็แสนจะแค้น..ทั้ง ๆ ที่แค้นแต่มันก็สุดแสนจะรัก...
 

“ดาว! ทำไมยังไม่นอน? มันดึกแล้วไม่ใช่หรือไง”
 

เขาเฉไฉหัวใจตัวเองตั้งคำถามกับนับดาวที่เดินออกมาพอดี เด็กสาวถึงกับสะดุ้ง ปกติธาราธารเคยถามเรื่องแบบนี้กับเธอที่ไหน นับดาวจึงมองไปที่วารินเพราะคิดว่าคนที่เจ้านายของเธอต้องการจะถามคงจะเป็นวารินมากกว่า
 

“เอ่อ..ดาวกับพี่ทรายรอเปิดบ้านให้คุณธารน่ะค่ะ” นับดาวจำเป็นต้องตอบเพราะเห็นวารินยังเงียบ
 

“จำเป็นอะไร นายเตก็อยู่ แยกย้ายกันไปนอนได้แล้วนี่มันจวนจะห้าทุ่มอยู่แล้วยังมาชมนกชมไม้กันอยู่ได้” เขากระแทกเสียงใส่  ใบหน้าคมเข้มแหงนเงยมองท้องฟ้ามืด คืนนี้น้ำค้างค่อนข้างแรงเขาไม่อยากให้คนแถว ๆ นี้ต้องมาเจ็บป่วยตัวร้อนเพราะตากน้ำค้าง เดี๋ยวจะเป็นภาระให้นับดาวต้องดูแลไปอีกคน
 

“เดี๋ยวก่อน!”
 

พอเดินกันเข้ามาที่ด้านใน นับดาวกับวารินกำลังจะเดินไปที่ห้องด้านหลัง ธาราธารจึงเรียกขึ้นเขาฉุดแขนเล็กรั้งไม่ให้เดินต่อ
 

“เดี๋ยวเอากาแฟขึ้นไปให้ผมที่ห้องหนังสือด้วย แล้วรออยู่ที่นั่น มีธุระจะคุย”
 

วารินพยักหน้ารับคำหลังชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่สามารถปฏิเสธคน ๆ นี้ได้อยู่แล้วถึงไม่เอาขึ้นไปให้ ธาราธารก็ต้องลงมาหาเรื่องเขาที่ห้องอยู่ดี 
 

ไม่นานนักกาแฟร้อนหอมละมุนก็ถูกเสิร์ฟลงที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยกองเอกสารสำคัญต่าง ๆ เด็กหนุ่มขยับแว่นสายตาเล็กน้อยละสายตาจากเอกสารในมือ ไม่รู้เป็นเพราะเขาอาบน้ำเร็วหรือวารินชงกาแฟช้ากันแน่
 

“นั่งสิ  นั่นปากกา นี่แฟ้มงานของโรงแรมทั้งหมดตั้งแต่วันที่คุณแม่ไม่สบาย อ่านแล้วบรีฟออกมาให้ผมฟัง”
 

เขาเลื่อนแฟ้มกองใหญ่ส่งไปให้วาริน คนตัวเล็กมองหน้าเขาอย่างแปลกใจไม่เข้าใจทำไมจู่ ๆ วันนี้เรียกมาทำงานช่วย วารินจำใจนั่งลงไปอย่างช่วยไม่ได้


เขาสองคนนั่งทำงานกันไปเงียบ ๆ นานเป็นชั่วโมงโดยไม่มีใครพูดอะไร ดวงตาคมกริบมองคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านแล้วจด อ่านแล้วจด จะว่าไปเรื่องราวที่เขาได้ฟังมาจากทัตพลพ่อของเขาก็มีส่วนทำให้เขาอ่อนลงกับวารินมาพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นวันนี้ที่เรียกให้มาอ่านรายงานกองโตของทางโรงแรมช่วยจริง ๆ ก็เพราะอยากแกล้ง แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่ได้เห็นหน้าวารินมาสองอาทิตย์แล้วแม้แต่เสียงก็ยังไม่ได้ยิน
 

...จะทำอย่างไรได้ในเมื่อหัวใจมันไม่เชื่อฟังเขาเลยจริง ๆ ....
 
 
มือเล็กยกขึ้นปิดปากเมื่อหาวหวอดๆออกมาถึงสองสามรอบขณะที่อีกคนยังนั่งนิ่งไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด
 

“เดี๋ยวพี่จะสรุปเรื่องงบการเงินคร่าว ๆ ให้ธารฟังก่อน ส่วนงานในแผนกอื่น ๆพี่เขียนสรุปไว้ให้ในนี้แล้วไว้ธารค่อยๆอ่านไปก็แล้วกันนะ”
 

แล้ววารินก็ค่อยๆบรีฟเรื่องราวของฝ่ายบัญชีการเงินให้ธาราธารฟัง คำว่าคร่าว ๆ ของเขานั้นละเอียดมากพอตัว
 

“ธารอย่าดูเพียงแค่การรวบรวมตัวเลขทางการเงินอย่างเดียว แต่ธารต้องทำความเข้าใจและตีความให้ได้ว่าตัวเลขแบบไหนที่เป็นตัวชี้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นตรงไหน เราจะได้สามารถเข้าไปจัดการแก้ไขได้ทัน”
 

ธาราธารมองนาฬิกาโบราณเรือนเล็กที่ตั้งอยู่ไม่ไกล เขาปิดแฟ้มลงแล้วถอดแว่นสายตาวางไว้
 

“วันนี้แค่นี้เถอะ เดี๋ยวผมจะอ่านหนังสือเรียนต่อสักหน่อย พี่ทรายลงไปเลยก็ได้พรุ่งนี้ค่อยมาทำในส่วนที่เหลือต่อ”
 

นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องที่ธาราธารเรียกเขาว่า ‘พี่ทราย’ ด้วยน้ำเสียงคงที่ไม่มีประชดประชัน วารินน้ำตารื้นขึ้นมาทันที  ไม่ได้หวังจะกลับไปดีกันเหมือนเดิมขอแค่อีกฝ่ายอภัยให้กับเขา  เผื่อว่าจะมีโอกาสให้เขาได้เข้าไปดูแลภัครจิราชดเชยความผิดที่ได้ทำบ้างเท่านั้น
 

“เดี๋ยว!”
 

ขณะที่วารินกำลังจะเปิดบานประตู ท่อนแขนแข็งแรงเอื้อมมาดึงแขนเล็กของเขาไว้ วารินเซถลาตามแรงดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดใหญ่ เขาสอดมือเข้ามาที่ด้านหลังจุมพิตลงที่ต้นคอขาวนั่นเบา ๆ ปลายจมูกโด่งสูดเอากลิ่นหอมเฉพาะตัวของวารินไว้ในลมหายใจทั้งหมดโดยใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น วารินรีบหันกลับมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยรอยสั่นไหว
 

...เขากลัว กลัวความโหดร้ายป่าเถื่อนที่ธาราธารทำกับเขา....
 

...ทว่าอีกใจ..กลับโหยหาอ้อมกอดจากซาตานร้ายนั่น...
 

วารินไม่เข้าใจว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมธาราธารถึงได้แสดงด้านอ่อนโยนกับเขานัก
 

“รีบลงไปสิ”
 

เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น หันหลังแล้วเดินกลับมานั่งลงที่โต๊ะ ดวงตาคมจดจ้องใบหน้าเล็กของวารินไม่ยอมให้หลุดลอดไปไหน
 

....สายตาทั้งคู่สบกัน...นานเป็นนาที...
 

ในที่สุดเป็นเขาเองที่ทนไม่ไหวลุกเดินไปกระชากคนตัวเล็กเข้ามากดจูบลงที่ริมฝีปากสวย สองมือของเขาประคองศีรษะวารินไว้แน่นทั้งเดินทั้งจูบดันตัวอีกคนให้ถอยหลังร่นไปที่โต๊ะหนังสือ จุมพิตที่ดูดดื่มหวานล้ำไม่เหมือนทุกครั้งที่เขาเคยทำ วารินถึงกับกำชายเสื้อเขาไว้แน่น เขาดูดดุนปลายลิ้นเล็กๆดูดแล้วดูดอีกราวกับว่ามันเป็นของเล่นชิ้นเลิศที่เนิ่นนานใช่ว่าใครจะได้ลิ้มลอง เขาสัมผัสจนพอใจจู่ ๆ ผลักคนตัวเล็กออกห่าง  วารินที่หน้าแดงซ่านเงยมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
 

“ชอบไหม? เวลาที่ผมทำดีด้วย”
 

“..ธาร...” เสียงเล็กพึมพำเรียกอย่างคนไม่เข้าใจในคำถามของเขา
 

“ผมให้พี่เลือก จะทำให้ผมพอใจ หรือจะให้ผมทำจนพอใจ”
 

เขาเอ่ยขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ วารินที่หน้าขึ้นสีอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ไม่รู้อะไรดลใจวันนี้ธาราธารแปลกไปมากจริง ๆ
 

“ต...แต่เมื่อกี้ธารจูบไปแล้ว”
 

“ผมจะนับถึงสาม ถ้าพี่ยังไม่ยอมทำอะไรสักอย่างผมจะถือว่าพี่เลือกอย่างหลัง หนึ่ง....   สอง....  สะ”
 

ยังไม่ทันได้เอ่ยถึงสาม วารินเดินเข้าไปเกาะบ่าเขาเขย่งปลายเท้าแล้วจูบลงที่แก้มเขาเบา ๆ ทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว
 

“แค่นี้พอใจรึยัง”
 

พอหอมเสร็จคนตัวเล็กถอยร่นมายืนชิดผนังห้อง มองดูคนตรงหน้าอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ มือใหญ่ยื่นออกไปกวักเรียกให้เดินเข้ามาหาเขาใกล้ ๆ แต่วารินยังไม่ยอมขยับ จนเขาต้องเดินออกมาจากโต๊ะที่พิงอยู่ดึงแขนวารินให้เข้ามาใกล้  ตัวเขานั่งลงที่เก้าอี้
 

“คิดว่าผมจะพอใจไหม ทำแค่นั้น??” เขาเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา
 

“ต่อไปนี้ ถ้าไม่อยากให้ผมรุนแรงด้วย พี่ต้องเป็นคนทำให้ผมพอใจด้วยตัวของพี่เอง” เขาว่าจบกระชากแขนเล็กให้ล้มลงในอ้อมกอดของเขา ริมฝีปากฉกเข้าจูบที่เรียวปากสวยทันที
 

“ปีนขึ้นมา”
 

เขาว่าทั้งที่ยังดูดดุนปลายลิ้นอีกคนอยู่ไม่หยุด วารินขืนตัวไว้แต่ไหนเลยจะสู้แรงเขาได้ เสื้อนอนบาง ๆ ที่สวมอยู่ถูกเขาปลดกระดุมออกไปตอนไหนแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำเขาเลื่อนริมฝีปากลงมาครอบครองเข้าที่ยอดอกสีสวย ลิ้นร้อนๆไล้เลียไปจนถ้วนทั่วเปียกชื้นไปหมดวารินที่ยืนอยู่แทบทรงกายไว้ไม่ได้ทั้งทรมานทั้งวาบหวาม
 

“อื้ออ...” 
 

มือเล็กโอบกอดศีรษะเขาไว้บิดตัวด้วยความเสียวซ่าน  เมื่อรู้สึกตัวอีกทีกางเกงนอนขายาวก็ถูกเขาปลดร่นลงจนถึงปลายเท้า วงแขนแกร่งโอบเอาเอวบอบบางแล้วดึงตัวอีกคนขึ้นมาอยู่บนตักของเขา กางเกงนอนของเขาถูกเลื่อนออกนิดหน่อยพอให้แก่นกายที่ชูชันของได้โผล่พ้นออกมา
 

“ธาร! อย่า...ไม่เอาพอเถอะ” วารินผลักหน้าอกเขาไว้ ความทรงจำเลวร้ายผุดขึ้นมา วารินทั้งกลัวเขาทั้งอยากให้เขาสัมผัส
 
 
“ผมหยุดไม่ได้แล้วล่ะ เสียใจด้วย”
 

เขาเลื่อนริมฝีปากร้อนขึ้นมาครอบครองที่เรียวปากนุ่มนิ่มอีกครั้งก่อนจะบดเรียวปากหนักหน่วงเร่าร้อนและอ่อนหวาน วารินที่นั่งคร่อมตักเขาอยู่ถูกเขาโอบรัดไว้แนบอกจนแน่น เขาเอื้อมมือเปิดลิ้นชักหยิบเจลเย็นสีใสขึ้นมาป้ายที่ช่องทางด้านหลังของร่างที่เขาโอบอุ้มไว้ เรียวนิ้วร้ายสอดเข้าออกที่ช่องทางรักจนอีกคนต้องบิดแอ่นร่างกายเพราะความรัญจวนเมื่อเขากดเข้าที่ปุ่มกระสันแต่ละทีคนตัวเล็กถึงกับครางฮือลงที่ข้างหู เขาค่อยขยับสอดกายร้อนขึ้นใส่สะโพกกลมกลึงขณะที่คนด้านบนพยายามกดสะโพกตัวเองลงด้วยอีกแรง
 

“อ๊าา..” ในที่สุดความลึกล้ำที่แนบสนิทยิ่งเติมไฟปรารถนาให้แผดเผารุนแรงขึ้น ธาราธารกระแทกสะโพกสวนขึ้นจากช้าเปลี่ยเป็นรัวเร็วไม่มียั้ง
 

“ฮื้ออ...” วารินครางดังลั่นสะโพกบางสวนเข้าหาอย่างร้อนแรงเช่นกันนั่นทำเอาอีกฝ่ายถึงกับเผลอยิ้มออกมาอย่างพอใจ
 

“เก่งมาก” เสียงทุ้มเอ่ยชม ตวัดวงแขนแกร่งกระชับแนบชิดจนสองร่างไม่เหลือช่องว่างระหว่างกัน วารินครางกระเส่าด้วยความรัญจวน
 

“เรียกชื่อผม” เสียงทุ้มแหบพร่าร้องสั่ง
 

“อื้ออ..ไม่ ธาร..พอแล้ว ไม่ไหว” เสียงหวานครางแผ่ว ส่ายหน้าร้องขอทั้งที่ยังโอบรอบคอเขาไว้ ยิ่งเพิ่มความกระสันให้เขาเป็นเท่าตัว
 

“เรียกใหม่ เรียกชื่อผม” เขาสั่งย้ำ
 

“..ธาร..” วารินครางกระเส่า
 

เขายิ้มน้อย ๆ ขณะที่อารมณ์ปรารถนาทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วฉุดคร่าสติสัมปชัญญะและความกระดากอายทั้งหมดให้เลือนหายไป ในยามนี้มีแต่ความปรารถนาแรงกล้าที่สองคนมีต่อกันเท่านั้น
 

“..พี่..ทราย..”
 

เสียงทุ้มพร่าต่ำคำรามหนักเมื่อร่างกายช่วงล่างของอีกคนบีบรัดจนทำเอาเขาแทบระเบิด ริมฝีปากร้อนเข้าดูดกลืนยอดอกที่ชูชันไล้เลียส่วนที่แข็งเป็นไตรอรับสัมผัสเสน่หาจากเขา สะโพกทั้งสองสอบเข้าหากันกระชั้นถี่และเร่าร้อน เขาละมือข้างหนึ่งออกมารูดรั้งแก่นกายของอีกคนทั้งรัวและเร็ว   กระทั่งช่องทางแสนคับแคบบีบรัดหนักหน่วงรุนแรงเขากระแทกกระทั้นกายตอบรับอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย วารินครางฮือลั่นห้องก่อนสองร่างจะกระตุกปล่อยธารรักสีขาวเร่าร้อนเข้าใส่กันและกันทุกหยาดหยด
 

“เก่งนี่ ทำให้ผมพอใจอย่างนี้ให้ได้ตลอดล่ะ” เขาพูดทั้งที่ยังหอบหนักขณะที่อีกคนแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงซบอกเขาไว้แน่น
 

ทว่าพอผ่านไปได้สักครู่เขาจึงเอ่ยถ้อยคำบางอย่างขึ้น  “ลืมเสียให้หมด ใครหน้าไหนที่พี่เคยผ่านมา จดจำแค่ผมคนนี้คนเดียว”
 

สิ้นคำพูดนั้นวารินละใบหน้าออกจากบ่าแกร่งจ้องมองเขาทันที แววตาเขาเฉยชาราวกับคนไร้ความรู้สึก แตกต่างจากธาราธารคนเมื่อกี้ราวฟ้ากับเหว เขาดันคนตัวเล็กออกเพื่อให้ถอนกายออกได้สะดวก วารินขาล้าและสั่นแทบจะยืนไม่อยู่ขณะที่เขาไม่ได้สนใจ ยื่นแค่กระดาษชำระส่งให้
 

“เช็ดซะ แล้วลงไปอาบน้ำข้างล่าง ดึกมากแล้ว ผมจะพักผ่อน”
 

ถ้อยคำเย็นชาพร่างพลูอออกมาจากริมฝีปากได้รูปของเขา   วารินก้มลงหยิบกางเกงขึ้นมาสวม มือเล็กทยอยติดกระดุม ขณะที่น้ำตารินตกในหัวใจนั้นร้าวรานยิ่งกว่าสิ่งไหนๆ มองแผ่นหลังกว้างที่แสนเย็นชายืนนิ่งอยู่แบบนั้น
 

จะไปหวังอะไรกับอ้อมกอดปลอบประโลม เขาตีค่าราคาแค่ที่ระบายในยาม ‘อยาก’ ก็แค่นั้น
 

เขามันโง่เข้าใจผิดคิดไปเองว่าอีกคนดีด้วยเพราะว่ารัก เพราะว่าต้องการกันจริง ๆ  นอนทอดกายให้คนตรงหน้าอย่างไร้ยางอายที่สุด และสุดท้ายก็โดนเขาดูถูกกลับมาเหมือนเดิม
 

....เหมือนทุกๆครั้ง....



ขณะที่ร่างสูงใหญ่หันหลังให้อีกคน มองทอดออกไปที่ระเบียงด้านนอก รอยวูบไหวในดวงตาที่วารินไม่มีวันจะมองเห็น ทั้งที่รู้สึกเวทนาคนตัวเล็กแทบขาดใจ รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันแสนจะโหดร้าย ทั้งคำพูดทั้งการกระทำ แต่จะให้ทำดีด้วยด้วยความรู้สึกแสนบริสุทธิ์แบบเก่ามันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว เมื่อความทรงจำมากมายไหลทะลักกลับมาตอกย้ำให้เขาได้เจ็บปวดยิ่งขึ้นไปอีก


Heart, my one weakness
Pretend to be strong but I actually can’t bear it
I need both love and someone to understand
I have to keep them with myself  it’s just only
I don’t want anyone to know that deep down inside how much I love you with all my heart

(Cr.ที่ไหนสักแห่ง ลืม)



Tbc.
*เชื่อแล้วว่าธารชอบกินกาแฟ ฮิฮิ  ขอหยุดสักสองสามวันนะ จัดหน้าแต่ละครั้งหมดพลังยิ่งกว่าแต่งนิยายอีก แอร๊กกก!!* :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 01-04-2014 22:54:37
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :serius2:
จู่ตอนนี้พลิกล๊อคเฉยเลย ดราม่าเริ่มจางหาย
ทำม้ายยยยยยยยยยยยยย มันไม่แซ่บดังเดิม
รึว่าเราเริ่มติดซาดิสไปแล้ว  :hao7: กั๊กๆๆๆๆๆๆๆ

สิ่งที่ทำให้เราตะลึงกับเด็กเปรต  o18

ธารเริ่มเชื่อคุณทัต ทำให้อารมณ์เบาไปมาก (สมเป็นคุณทัตของเค้า  :กอด1:)

ธารตัดดอกบัวไม่เหลือใย และดอกบัวก็ไม่ดิ้นรน
แต่ฉันกำลังคิดว่าดอกเข็มมันไม่หยุดหรอก
สมบัตินะแก เป็นคนอ่านจะหยุดมั้ย ฮ่าฮ่าอ่า

ธารเริ่มกลับมาแสดงความรักที่มีต่อวารินอีกครั้งแอบเปิดเผยแนวซึนเดเระ
แต่ :z6: เด็กเปรต ดันมาตกม้าตายตรงสายตาเย็นชา
ถึงไม่ให้อภัยก็น่าจะทำดีๆ แล้วเริ่มคุยกันได้แล้วนะ
เพราะเหมือนใจเด็กเปรตมันให้อภัยไปเยอะแล้วอ่ะ
อิเด็กนี่ลูกผีลูกคนดีจริง ถ้ามันเป็นหมอ ฉันคงไม่กล้ารักษากับมัน

อิพี่ทรายก็ไม่เชื่อเลยเรอะว่าธารมันจะรักแกอยู่ เอาจริงๆเราแทบจะทนไม่ไหว
อยากจะไปจิก ดัก :beat: ถามว่ารักธารจริงๆมั้ย ถ้าไม่ได้รักจริงๆก็เอามาให้ฉันซะ ฮ่าฮ่าฮ่า   :hao7:
แทบไม่สงสัยเลยว่าทำไมธารถึงได้โมโหทรายง่ายๆ
อาจจะคิดว่าทรายไม่ได้รักจริงๆล่ะมั้ง
ขนาดคนอ่านอยู่ในโหมด god view สายตาพระเจ้า
รู้เห็นทุกเหตุการณ์ดุจเทพเทวามาเอง ยังไม่สัมผัสความรักที่ทรายมีต่อธารเลย
สัมผัสได้แต่ความรักที่ธารมีต่อทราย

 :เฮ้อ: เอาจริงๆธารเป็นคนที่น่าสงสารนะ แต่บางครั้งและหลายๆครั้งมันก็เป็นเด็กเปรต  :z6:  :fire:
สู้คุณทัตของชั้นไม่ได้

หวังว่าตอนหน้าไม่ใช่มีพลิกอีกรอบนะ แบบธิปมมอยาธารอะไรงี้ เราคงโคตรโมโห
เพราะไม่ค่อยชอบ กวางน้อยอ้อร้ออย่างธิป

ปอลิง:
ขอคุณทัตเยอะๆนะ  :mew1: (ตอนนี้แอบอยากให้คุณทัตเคลมพี่ซี เหอะ  :hao6:)
ตอนนี้เม้นได้แค่นี้อ่ะ โดนเมษาหน้าโง่หลอกมาทั้งวัน เพลีย  :mew6:

รอคนเขียนนะจ๊ะ

ปอลิงปอลิ๊ง: พาคุณทัต กับ ธาร มาเล่นน้ำสงกรานต์ให้ดูหน่อยสิ  :hao7:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 01-04-2014 22:57:13
:katai2-1: มาแล้วๆ

อ้าวทำไมแค่นี้อ่ะ ทุกทีเมนต์ยาวเหยียดเลยนี่นา  วันนี้ขอแบบเด็ดๆเลยนะ :katai1: 
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 01-04-2014 23:03:07
รู้ทั้งรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร ก็ยังทำชั่วกับทรายอีก เลวบัดซบจริงๆ ธาร (ใช้คำหยาบคาย เพราะอินไปหน่อย)

กลัวว่าเรื่องนี้จบแบบเศร้าๆ แต่ก็ดี อย่าให้สมหวัง เพราะมันไม่ควรสมหวัง พระเอกชั่ว ไร้เหตุผล แต่นายเอกดีเกินไป
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 01-04-2014 23:12:33
 :katai1: คั้นอารมณ์จริ๊งงง
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 01-04-2014 23:16:12
ยังหน่วงไม่เลิก เฮ้อ สงสารพี่ทรายจริง ๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: piing fuen ที่ 01-04-2014 23:26:48
ไม่รู้ทำไมถึงอยากให้นิยายเรื่องนี้จบแบบไม่สมหวัง เพราะมีความรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้แล้วในความรู้สึกระหว่างทั้งสองคน
คำว่ารัก ไม่ช่วยอะไร เห้อ อย่าจบแบบแฮปปี้เลย ต่อให้ธารรู้ความจริง แม่ธารรู้ความจริงแล้วหาย ก็ขออย่าจบแบบแฮปปี้เลย จะมาสำนึกผิดอะไรก็ตาม ถ้าจบแฮปปี้มันดูจะไม่สมเหตผล
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 01-04-2014 23:30:04
 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:

ถึงธารจะไม่โหดอย่างที่แล้วมา แต่ธารก้อยังทำใจยอมรับพี่ทรายแบบจิงๆไม่ได้อยู่ดีแระ
ก้อนะ ถ้าธารเห็นคนที่ตัวเองรักมีอะไรกะคนอื่นแบบนี้ ถึงจะเป็นวีดีโอก้อเหอะ
ร้อยทั้งร้อยก้อไม่มีใครทำใจได้หรอก เห็นใจธารเหมือนกันนะ
แต่มันก้ออยู่ว่าธารจะมองข้ามมันไป รึธารจะเก็บมันไว้อย่างนั้น ในเมื่อมันย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 01-04-2014 23:32:38
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ถึงธารจะรู้ความจริงแล้วว่าทั้งสองโดนวงายา ถึงจะมีหลักฐานมายืนยันขนาดไหนธารก็ไม่สามารถให้อภัยพี่ทรายได้ ต้องให้ทรายตายเลยไหม ถึงจะให้อภัยกัน
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 01-04-2014 23:35:56
จะเกลียดธารคนอ่านก็เกลียดไม่ลง เพราะธารไม่เคยนอกใจอีกเลยนับจากสัญญาครั้งนั้น
บอกเลยบัวไปแล้ว ก็ดี นางดูหลงธารมาก ให้ท่าสุดๆ
ชอบตอนสองคนทำงานด้วยกัน ชอบเวลาพี่ทรายเป็นที่พึ่งพิงของน้องได้ ทรายเองก็คงดีใจ
สุดท้ายธารก็ทนไม่ไหว เหมือนแม่เหล็กดูดกันเลย แต่ก็นะ คำพูดแรงๆก็ไม่เคยขาด เฮ้อ เพลียใจ

ขอบคุณค่ะ อย่าหายนานค่ะ รอทุกวันเลย พลีสสส
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 01-04-2014 23:36:52
รอบนี้น้องธารจัดเบาให้พี่ทราย ฮิฮิ
คือเรื่องนี้คาดหวังว่าจะต้องจบแบบแฮปปี้
เชื่อเถอะว่าธารอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่ทราย
รักพี่ทรายขนาดนั้น ยิ่งบวกความแค้นเข้าไปอีก
ถึงธารจะร้ายกับพี่ทรายมากขนาดไหน
แต่ท้ายที่สุด เราคิดว่าธารก็คงยอมรับฟังเหตุผลทุกอย่าง
และก็ให้อภัยพี่ทรายได้อย่างไม่มีข้อกังขา
แล้วก็กลับมารักกันได้ดั่งเดิม (หวังมากไปปะเนี่ย)
คือสองคนเค้าเคมีเข้ากันแล้วนะ (อย่างอื่นก็เข้ากั๊นเข้ากัน  :hao6:)
แม้อายุจะห่างกันเยอะมาก แต่ด้วยบุคลิกของพี่ทรายอายุก็เป็นเพียงตัวเลขจริงๆ
ก็ยังยืนยันคำเดิมถ้าพี่ทรายกับธารไม่ได้คู่กัน เราก็คง ประมาณนี้อะ  :m15: :monkeysad: :sad11: :sad4: :o12:


หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 02-04-2014 00:23:25
**คำเตือนเมนท์นี้มีคำหยาบกรุณาทำใจ**
"ขอบคุณมากนะธาร วันนี้บัวมีความสุขมาก ๆ เลย" หวึยยยยย ผิดซีนค่ะเจ๊ผิดซีน
นี่มันนิยายวายค่ะ อยากให้ผู้ชายโรแมนติกด้วยเชิญที่อื่นค่ะ  :z2: go way
มั่นใจนะว่าหล่อนโดนธารเจาะไข่เนี่ย ถ้าคนเขียนไม่กล่าวจะคิดว่าโชกโชนแล้วนะยะ
อ่อยซะจน อาชีพอย่างเจ๊กี้ยังต้องอายค้าแม่คุณ ช่วงที่ก้าวถอยหลังนี่น่าจะมีคลองนะ
ชีจะได้ถอยจนตกคลองไปเลยยยยยยยยยย ตัดใจแล้วตัดใจไปเลยนะเจ๊
อย่ามาโดนแม่ยุ แล้วเจ๊คิดจะทำอะไรอีกนะ หมั่นน่านักค้าขุ่นพี่

ธารพระเอกจังเลยยยยยยยยยยยยยย  :-[ (นี่ก็ไม่ค่อยจะอวยเลย)
ธารนะธารไม่สังเกตเลยวิดีโอทรายมันไม่เคยเรียกชื่ออิทัตเลยนะ(หรือเรียกวะ)
แต่มันเรียกชื่อธารโดยไม่ต้องบังคับก็มีนี่ ไม่ได้สงสารทรายนะ
แต่สงสารธารโดนคนอ่านด่าตลอดเลยยยยยยยย  :hao7:
ยังไงแม่ก็อยู่ข้างธารนะลูกกกก แต่ถ้าไม่มีใครเอาธารเลยเราเลื่อนเป็นอย่างอื่นกันดีฝ่า  :hao6:

เรื่องนี้ถ้าไม่จบแอปปี้ก็ขอให้ทรายเป็นจำเลยรักของธารต่อไปค่ะ มันอยู่ไม่ด้ายยยยยย เรื่องแม่เอย อะไรเอย
ทั้งรักทั้งแค้นต้องชดใช้ตลอดชีวิต เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกก (แต่แฮปปี้สำหรับตูข้ามากมาย)


แก้คำผิดช่วยค่า
“หลับตั้งแต่สองทุ่มแล้วค่ะ คุณธารเพิ่งกลับมาถึงหรือคะทานอะไรมาหรือยัง”
ดนใจ<<ดลใจ
ขมขื่น<<ข่มขืน  :z6: เอ้ยอันนี้ไม่ใช่มันเป็นความคิดด้านมืดในจิตใจ  :mew4:
มารยาท<<มารยา  :z6: ล้อเล่นค่ะ แต่อยากพิมพ์คำนี้จริง ๆ  :fire:
หาไม่เจอ Ctrl+F (นี่เขาก็น่าจะรู้แล้วแม่คุณ)
------------
มาแก้หลับใหล หนูผิดเองเพิ่งเจอกลอนเสียงลือเสียงเล่าอ้างเมื่อกี้
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: Milkmilkzer ที่ 02-04-2014 00:38:40
อิอิ อนุญาตให้หยุดค่ะ แต่ตอนหน้าขอยาวๆตอบแทน  :hao6:  ขอให้ธารกับทรายคืนดีกันไวๆ :ling3: :mew2: :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: Phut ที่ 02-04-2014 00:47:21
 :katai1: :katai1: :katai1:
ทรายหนีเถอะลูก ดีกว่าอยู่ให้เขาทรมาน เจ็บทั้งกายและใจ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: frenzy19 ที่ 02-04-2014 08:15:34
หน่วงงง  สงสาร พี่ทรายยย :mew6: :mew6:

ขอบคุณมากๆนะคะเเต่งสนุกมาก รออ่านทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-04-2014 08:52:59
ไม่รู้จะจบแบบไหนเลย  :katai1:
 ตอนนี้เหมือนธาร ทรายแล้วก็เราคิดว่าไม่มีทางจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ อีกแล้ว
บอกให้ลืมยังไงมันก็ลืมไม่ได้ และไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง ธารปิดใจที่จะเชื่อไปแล้วแหละ :hao5:
เอาใจช่วยแล้วกันนะ :L2:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 02-04-2014 09:15:17
มาเร็วทันใจเจง ๆ สำหรับเรื่องนี้ ปรบมือให้คนเขียนมือขยัน ที่มาต่อให้บ่อยๆ  :katai2-1:

เปิดฉากมา เจอนังชะนีบัวก่อนเลย :m16: แต่ฉันเห็นใจเธอนิดนุงในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่ฉันไม่ชะนีเหมือนเธอแค่นั้นเอง  :laugh: เข้าใจบัวนะที่รักธารจนมอบครั้งแรก (ใช่ป่ะ) ให้ธารไป ปรนเปรอทุกอย่างหวังมัดใจธาร แต่ทำใจเถอะธารมันชอบฉัน เอ้ย ข้างหลังมากกว่าอ่ะ  o18 และขอชมเด็กน้อยทางด้านอารมณ์แต่ไม่น้อยส่วนอื่น ที่ทำได้ดีมาก ในเรื่องการเอ่ยปากขอเลิกกับบัวเพื่อที่จะได้ไม่ต้องยุ่งยากมากไปกว่านี้  แต่ลึกๆคือธารรักทรายมากเกินกว่าที่จะทำกับคนอื่นได้อีก ขอชื่นชม :-[ เป็นอย่างนี้ไปให้ตลอดนะถ้ายังรักพี่ทรายและได้คู่กัน  แต่ถ้าเด็กดีของฉันจะไม่ได้คู่กับทรายไม่ว่าจะสาเหตุอะไร แกทำตามใจตัวเองเถอะ ปล่อยเขาไป  เดี๋ยวฉันเป็นพี่เลี้ยงให้เอง โอเคป่ะ ฉันก็เหมือนทรายแหละ ถึงสูงวัยแต่ใจรักเด็กๆ  :pigha2:

ไม่ต้องมาเหล่และอ้าปากปฏิเสธฉันเลย ธาร แกก็ชอบของสูงวัยเหมือนกันนั่นแหละ  :angry2: เหมือนพ่อจริงๆ จำได้ว่า ภัคร อายุมากกว่าทัตพล สองปี มั้ง ถ้าจำไม่ผิดนะ :hao4:

ธารในเมื่อตัดแล้วก็ตัดให้ขาดนะ อย่าให้เหลือเยื่อใย คุยได้ แต่อย่ามากเกิน เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าอีกฝ่ายฮึดสู้กลับมายื้อแย่งเอาไปอีก โดยเฉพาะคุณหญิงแม่ของหล่อนที่ดูแล้วจะยอมหรือเปล่าเห๊อะ ทั้งหล่อ ทั้งรวย ต้องไม่ยอมรามือแน่ๆ  :angry2: ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันส่งนายเอกใหม่ไปจัดการ   จะใครไปไม่ได้ คุณนับดาว ของฉันนี่เอง :impress2: ที่ฉลาดฝุดฝุด ดูสิ ธารยังเป็นห่วงเลย นอนดึก จนนับดาวแปลกใจ ตูนอนดึกทุกวันไม่เคยถาม :ruready ที่จริงมันถามอีกคนที่ยังหมกมุ่นคิดว่าเขาไม่รักแกแล้ว อยู่นั่นแหละ เปิดตาเปิดใจเหมือนเปิดผ้าหน่อยสิ คุณพี่ทราย เปลี่ยนตัวเองไปเลย อย่างธารมันด่ามันว่านะ จับมันจูบปากเลย เดี๋ยวก็เงียบเลิกด่าไปเองแหละ มันปล้ำก็ปล้ำตอบเอาให้มันหลงไปเลย  นี่ตูเอาความอยากตัวเองไปแนะนำทรายเลยนะเนี่ย :laugh:

ธารอ่อนลงเยอะเลย เห็นไหมเด็กดีของฉัน เริ่มจะหวั่นไหว เริ่มจะมีความคิดบ้างแล้ว ถึงจะยังตะขิดตะขวงอยู่บ้างเถอะ จะให้ทำใจยอมรับง่ายๆได้ยังไง เข้าใจฮีหน่อยเถอะ ไม่ได้ตั้งใจก็จริง แต่ความจริงมันก็คือ พ่อกับคนรัก อยู่ดี ต้องให้เวลาธารบ้าง อย่างที่บอก จะให้ธารกลับไปรู้สึกเหมือนเดิมคงเป็นไปได้ยาก อะไรที่มันเสียไปแล้วโดยเฉพาะความรู้สึก มันยากเหลือเกินที่จะให้เหมือนเดิม นอกจากเวลาเท่านั้นที่จะช่วยได้ ทรายถ้ารักธารจริง ต้องช่วยด้วย เพราะในความรู้สึกเราคิดว่ามีแต่ธารที่แสดงออกว่ารักทรายมาก ความรู้สึกของทรายที่มีต่อธารแทบจะดูไม่ออกเลยว่ารักแบบคนรัก มันเหมือนเอ็นดูและรักแบบน้องมากกว่า อยากให้ทรายเคลียร์ชัดตรงจุดนี้ ที่จริงบอกคนเขียนนั่นแหละ อิอิ

มีมุมอ่อนโยน มุ้งมิ้งนิดหนึ่ง ตอนที่ ธาร ให้ พี่ทราย ช่วยดูงานให้  ดูเป็นความรู้สึกจริงๆที่ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งให้ปวดใจตัวเองเลย ธารมันรักทรายจริงๆนะ เรียกพี่ แทนตัวเอง ผม ตลอด ต่างจากพระเอกงี่เง่าทั่วไป ที่เปลี่ยนสรรพนามทันทีเมื่อมันโกรธ ถึงมันจะยังงี่เง่าเรื่องคลิปที่หลอกหลอนอยู่ แต่ฮีก็เริ่มระงับได้บ้างแล้ว ถึงจะยากแต่ฮีก็พยายาม o13  มีอาลัยอาวรณ์ทางสายตา มีความต้องการของกันและกันให้รู้ มีความอ่อนโยนในบทรัก มีการออดอ้อนขอให้เรียกชื่อตัวเอง สงสารธารนะ  :hao5: ที่มันเป็นฝ่ายขอจากทรายทุกอย่าง และมันก็เป็นฝ่ายให้ทุกอย่างเช่นกัน ถ้าไม่เกิดเรื่องซะก่อน ทรายคงเป็นคนรักที่น่าอิจฉาที่มีคนรักที่รักตัวเองมากขนาดนี้ มากจนยอมมองข้ามความไม่เหมาะสมทุกอย่างได้ มากที่จะกล้าเผชิญกับความจริงในวันข้างหน้า เราเชื่อว่าธารทำได้แน่นอน และก็เชื่อว่าถ้าทุกอย่างดีขึ้น ธารก็จะทำได้เช่นกัน (ถ้ามันจบด้วยการที่ทั้งคู่ได้รักและอยู่ด้วยกันนะ)  :man1:

แต่ที่รับไม่ได้อย่างแรง คือ ฮือออออออออออ :o12:

ทำม้ายยยยยยยยยยยยยยย ทำมายยยยยยยยยยยยยยย :serius2:

ฉากลงโทษทราย มันเจือจางลงไปล่ะ ฉันไม่ยอมมมมมมมมมมมมม ฉันต้องการมากกว่านี้   :ling1:

ถ้าไม่คลุมขาว แล้วอารมณ์หดแค่นี้ กลับไปคลุมตามเดิมก็ได้   ล้อเล่น แต่ขอจริงนะ  :o8:

แต่ตอนนี้มันให้อารมณ์ไปอีกแบบ อ่อนโยน นุ่มนวล มีกระเซ้าหยอก แต่แหม่ :mew5: เด็กดีของฉันก็ยังอดปากแข็งเหมือนส่วนอื่น ตาค่ะ เพราะธารดื่มกาแฟมากจนแข็ง :jul3:  พูดอะไรตรงข้ามกับหัวใจทุกที ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เข้าใจฮอร์โมนฮีเถอะ ฮีกำลังปรับตัวปรับใจให้ยอมรับอยู่ พี่ทรายก็ทน (ให้) เอา :oo1:  นะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว นี่สงสารนะเลยเป็นกำลังใจให้ เหอเหอ :hao3:

ปล. ลาได้ตามสบายเลยค่ะ  แต่กลับมาไวไวนะ เขาคิดถึง :กอด1:






















หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 02-04-2014 12:49:00
จิตใจคนแต่งทำด้วยอะไรรรร
ไม่มาสองสามวันหรืออ ข้ามิอาจทำใจได้
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 02-04-2014 13:04:14
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: Pieare ที่ 02-04-2014 14:41:13
เรื่องนี้อ่านไปอ่านมา เหมือนจะจบแบบไม่แฮปปี้ยังไงไม่รู้ ขึ้นชื่อว่าดร่าม่าอ่ะนะ

ถ้าจบแบบไม่สมหวัง ต่างคนต่างเจ็บ หรือ ใครคนหนึ่งตาย ? จะเป็นแบบนั้นมั้ย คงเจ็บปวดสำหรับคนอ่านมากก

ที่เป็นแบบนี้ เพราะภาพเหล่านั้น กับ ทิฐิ ทั้งนั้น

มันยากนะที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านั้น แต่ถ้าเป็นอยู่แบบนี้ก็ไม่มีวันมีความสุขหรอก

ถ้าวันหนึ่งธารคิดได้ วันนั้นอาจเป็นวันที่สายไปแล้วก็ได้นะ

เฉยชา ประชดประชัน ทำร้ายเข้าไป

ก็คงต้องให้ทรายตายก่อน ธารถึงจะคิดได้

ทรายก็ยอมเข้าไปเหอะ เจ็บแต่ก็ยอม

 :mew4:

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 02-04-2014 15:02:57
ธารเหมือนจะดีขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 02-04-2014 16:31:34
ทรายจุกเลย... ธารอ่อนโยนเเป๊บเดียวก็หันหลังซ่อนความอ่อนโยนเเล้วก็โยนความเย็นชาใส่ อย่างนี้ทรายก็ต้องเสียใจต่อปเรื่อยๆ

อ่ะสิ  :เฮ้อ: แบบนี้เหมือนตบหัวเเล้วลูบหลังเลย(สำหรับทรายอ่ะนะ) ธารอ่ะสงสารทรายก็อ่อนโยนทั้งการกระทำเเละคำพูดด้วย

หน่อยก็ไม่ได้ ดีด้วยไม่ทันไรก็ทำวิมานเเก้วเเตกยับอีกเเล้ว... หมดคำพูดแล้วจริงๆ ถ้าอยู่ใกล้ๆจะลากธารมาตีหัวเเล้วจับผูกมือโยง

ไว้กับขื่อ เฆี่ยนให้หลังลายด้วยหวายเเช่เยี่ยวเลย (เริ่มวิตถารเเระ) 555 ทรายน่าสงสารเหลือเกิน แต่เอาจริงๆตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมา

นิดนึงที่ธารปฏิเสธบัวชมพูไปได้เเล้วเเละเธอก็ยังพยายามเข้าใจ :heaven หวังว่าธารจะใจเเข็งเเบบนี้กับชนาธิปด้วยนะ :katai1:

รู้สึกรักทรายเเละให้อภัยทรายมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความน่าสงสารเเละเห็นใจที่ทรายรักธารมากๆนี่เเหละ แต่ธารไม่รู้เหมือนที่เรารู้

นี่นะ  :hao5: รีบๆรู้เเละยอมรับนะธารจะได้มีความสุขกันซะที
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 02-04-2014 16:58:49
ทั้ง ๆ ที่ธารยังรักพี่ทรายอยู่ถึงขนาดนี้~

--------------------------

ขอบคุณนะคะคุณคนเขียน
ติดตามเสมอ^^
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: CelestialBeing ที่ 02-04-2014 17:06:30
ธารเริ่มซอฟลงหน่อยแล้ว :katai2-1:

นายเอกเราช้ำมาหลายตอนและถนอมๆหน่อย o13 o13
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: kslave ที่ 02-04-2014 17:29:20
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย มันหน่วงมากค่ะ
สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทรายกับคุณทัตมันทำใจให้ยอมรับได้ยากก็จริง
แต่ก็อยากให้ธารลดทิฐิลงบ้าง ดูก็รู้ว่าทั้งธารและทรายก็มีใจให้กัน
ยิ่งตอนล่าสุดธารอ่อนโยนกับทรายขึ้นมากนะ
อยากให้สุดท้ายทุกคนมีความสุข แล้วลืมเรื่องร้ายๆไปค่ะ

เอาเข้าจริงๆบอกเลยตอนแรกโกรธทรายมากที่ยอมปล่อยตัวขนาดนั้น ความอยากมันบังตาขนาดั้นเลยเหรอ ถึงแม้จะโดนยาก็เถอะ
อินมากค่ะตอนนั้น แต่ตอนนี้ก็เอาใจช่วยทั้งธารทั้งทรายค่ะ

จะติดตามตอนต่อไปค่าาา

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: whipcream ที่ 02-04-2014 17:47:49
สนุก ลุ้นทุกตอน สงสารทั้งธารและทราย แต่แอบเชียร์ธารมากกว่าใคร
เมื่อแน่ใจว่ารักทราย ก็รู้จักตัดสัมพันธ์ยุ่งเหยิงกับคนอื่น
ถาโถมความงี่เง่า ประชดประชัน หื่น เหี้ย ลงที่ทรายเต็มที่
เอาเลย คนอ่านรับด้ายยยยยยยยยยยยย
พี่ทรายก็ทนด้ายยยยยยยยยย อิอิ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 02-04-2014 20:00:40
น่าเห็นใจทุกคน ยกเว้นวิลาสินีกับชนาธิป
โดยเฉพาะชนาธิป ท่าทางเชื้อแม่จะแรงด้วย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: P.PIM ที่ 02-04-2014 20:08:59
รับรู้เลยว่ธารรักทรายมากกกกกก :katai2-1:
 
แต่ไม่ค่อยรู้สึกถึงความรักที่ทรายมีให้เท่าไรเลยแหะ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
รู้สึกทรายไม่ค่อยทำความเข้าใจธารสักเท่าไรเลย  คนมันรัก

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 02-04-2014 23:27:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: haruko ที่ 02-04-2014 23:55:04
ธารรักก็ให้อภัยทรายเถอะนะ ฟังคำอธิบายของคนอื่นบ้าง
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: GoodNice ที่ 02-04-2014 23:58:05
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[1/04/57] Heart, my one weakness
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 03-04-2014 12:06:47
ตัดยัยชะนีบัวแล้ว แจ่มมาก!
อ่อนโยนกับพี่ทรายขึนนิดแล้ว แต่ปากยังแข็งอยู่นะคนเรา :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 03-04-2014 21:43:05
สำหรับใครที่อยากอ่านตอนพิเศษ ทัตซี เราลงไว้ที่บล็อกนะ ตามไปอ่านกันได้

http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/ (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/)

*อย่าไปคิดอะไรมากนะ* สุดท้ายแล้วสองคนนี้จะกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากๆ ใครอยากจิ้น ๆ ได้แต่ไม่มีเอ็นซีคู่นี้ รับรอง

ใครไม่ชอบอ่านตอนพิเศษ รออ่านตอนธรรมดาที่นี่อีกประมาณสองวันนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 03-04-2014 21:57:29
เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดด นี่เล่นทัตซีจริง ๆ หรอคะ
ชอบนะ (อินี่ :z6:) แต่รู้สึกอ่านแล้วไม่โล่งใจ เพร่ะคุณภัครเธอค้ำคอร์  :hao5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 03-04-2014 22:22:06
จะบ้าหราาาาาา อย่าให้คุณพ่อได้คู่เป็นผช.เลยยนะคะ คงรู้สึกแปลกๆ

คู่ลูกอ่ะจะเป็นไรก็เป็นไปเถอะ ส่วนอีตาธารเรื่องของมุงละเหอ๊ะ

ทำกับเค้าไว้มาก ถ้าเค้าจะเกลียดก็คงต้องทำใจแล้วนะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 03-04-2014 22:34:02
ตามไปอ่านและน่าติดตามแต่สั้นอ่ะคะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: CelestialBeing ที่ 03-04-2014 22:34:18
พ่อธารกำลังจะเป็นอมตะ :-[
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 04-04-2014 01:08:37
สำหรับใครที่อยากอ่านตอนพิเศษ ทัตซี เราลงไว้ที่บล็อกนะ ตามไปอ่านกันได้

http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/ (http://www.onlyone-minnie.blogspot.com/)

*อย่าไปคิดอะไรมากนะ* สุดท้ายแล้วสองคนนี้จะกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากๆ ใครอยากจิ้น ๆ ได้แต่ไม่มีเอ็นซีคู่นี้ รับรอง

ใครไม่ชอบอ่านตอนพิเศษ รออ่านตอนธรรมดาที่นี่อีกประมาณสองวันนะ :katai1:


อั๊ยยะ ทัตซี ฟินนาเล่สุดๆ (ได้ข่าวว่ามีคุณทัตอยู่ไหน ฉันฟินถึงนั่น หึหึหึหึ)  :hao7:
ทำไมมันมุ้งมิ้งยังก็คู่ชีวิตกันอย่างนี้ล่ะ ฟินนนนนนนนนนนนนน อร๊ายยยยยย
ถ้าคนเขียนไม่ห้ามเอ็นซี เราจะจิ้นว่าอนาคตมีซัมติงแน่นอน
คุณทัตให้ฟีลเด็กกว่าพี่ซีเลยอ่ะ
บรรยากาศแบบนี้มันนนนน.................

นี่มัน "ธารทราย" ใน"อนาคต"ชัดๆ
อร๊ายยยยยยยยยยย
คู่ผู้ใหญ่เขาไปถึงชีวิตคู่แล้วนะเออ จะมาบ่อยๆด้วย
เราว่าย้ายไปอยู่เลยก็ดีนะ อิอิ

สรุปว่าธิปก็ไม่ได้กินพี่ซี ดีใจจริงๆ 'คุณลุงกินกันเอง' ฟินกว่าเยอะเลยนะ โฮะโฮะโฮะ  :laugh:

แอบเซ็ง  :serius2: คนเขียนเบรกความคิด
ความจริงไม่มีเอ็นซีไม่เป็นไรหรอก แค่ขอฉากฟิน + ถ้าเป็นแฟนกันนี่เลิศสุดๆ

คู่หลักกลับมากต้องแซ่บนะ ขอแรงๆ (อินี่แอบซาดิส  :hao6:)
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Min61 ที่ 04-04-2014 02:40:50
เหนือทรายยังมีธิปนะคะ น่าหมั่นไส้เนี่ยยยย  :katai1:
ฮึ่มมมม อดีตจะซ้ำรอยกับสมัยคุณพ่อรึเปล่า

ว่าแต่ ทัตซี จริงดิ เอาจริงๆ อยากให้คุณทัตกับมาดูแลคุณภัครนะ
กลับมารักกันไม่ได้ เป็นเพื่อนที่ดีก็ยังดี แต่ให้คู่ผู้ชายนี่... ม่ายยยยยยยย :o12:
ถึงนี่จะเป็นนิยาย yaoi ก็เถอะนะ สงสารแม่ธาร
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 04-04-2014 09:34:55
ชอบหมดแหละค่ะ จะธรรมดาหรือว่าพิเศษก็  :katai2-1:

ขอให้มี  :oo1: :jul1: เถ๊อะ  ชอบบบบบบบบบ บ่งบอกมากว่า ตูหื่นนนนนนนนนนน :haun4:

แต่แหม่ กระชากวัยกันน่าดูคู่นี้ บรรยากาศ มุ้งมิ้ง ฟิน จิ้น  อยู่ด้วยกัน พี่ซีเคะชัดๆ ส่วนคุณทัตนี่ เวอชั่นธารอายุสิบแปดเลย ไม่ต้องสงสัยว่าพ่อลูกกันจริงไหม เป๊ะเว่อร์ :hao6:

เสียดายไหมไม่มี NC คู่นี้ อืม ถ้าทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ก็ไม่เป็นไร ไม่เสียดาย ก็ได้ :mew2:

แต่ถ้า ทั้งคู่มีใจให้แล้วคู่กันไม่มี NC เราไม่นอน เราไม่ยอม :ling1:

แต่อย่างที่เคยออกความเห็นส่วนตัว ถ้าคุณทัตจะคู่ซี หรือ คู่กับใคร  แต่ไม่ให้ทรายนะ มีกั๊กๆ o18  ขอให้สมเหตุสมผลในการคู่กันหน่อย เพราะเราสงสารคุณภัครที่เจ็บช้ำ และเชื่อว่าคุณภัครยังรักทัตอยู่ ไม่งั้นคงมีสามีใหม่ไปแล้วล่ะ :hao5:

แต่ทำให้เรามองเห็นอนาคต ธาร X ทราย  ขอให้เป็นอย่างนั้นนะ :heaven

แต่ไม่วางใจจนกว่าคนเขียนจะยืนยัน นั่งยัน ว่า เออ มันคู่กัน อย่างที่ขอนั่นแหละ :angry2:

ปล. อีกสองวัน ก็วันนี้แล้วสิ ใช่ป่ะ :jul3:   นานอ่ะ อยากแล้ว  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 04-04-2014 14:35:42
ขอบคุณคราบสำหรับตอนพิเศษ
รออ่านตอนธรรมดาต่อครับป๋ม :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 04-04-2014 16:59:23
อ่านแล้วก็ชวนจิ้นจริง ๆ นั่นแหละ
อรั๊งๆๆๆ >/////<
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-04-2014 17:09:32
ทั้งรักทั้งแค้นใช่ไหมธาร
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 04-04-2014 20:41:58
ทัตซี คู่นี้มีแต่ของอร่อย 555 ไม่ใช่และ น่ารักอ่ะคู่นี้

ชอบนะคะ เป็นมากกว่าเพื่อนที่ดีที่สุดก็ได้นะคะ ชอบมากมาย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[3/04/57] แจ้งตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 05-04-2014 11:43:22
 :pig4: :ling1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 05-04-2014 20:34:27
http://www.youtube.com/v/2UO5SuUurSE


บทที่24  I’m Still Loving You



เสียงนาฬิกาปลุกที่วารินตั้งไว้เป็นประจำดังขึ้น คนตัวเล็กลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวทั้งที่ยังหลับตา เขาจัดการธุระส่วนตัวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเรียบร้อย นึกแปลกใจว่าทำไมวันนี้นับดาวดูเงียบผิดปกติ ไฟในห้องก็ยังไม่เปิดทั้งที่ปกติแล้วเด็กสาวจะอาบน้ำเสร็จก่อนเขาแท้ ๆ


วารินลองเคาะประตูห้องเบา ๆ ชั่งใจรออยู่ครู่หนึ่ง นับดาวก็เดินโซซัดโซเซเปิดออกมาแล้วบอกเขาว่าวันนี้คงลุกไม่ไหวจริง ๆ


“ไม่เป็นไรถ้าอย่างนั้นดาวนอนต่อเถอะนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารเดี๋ยวพี่จัดการเอง”


“รบกวนด้วยนะพี่ทราย ดาวไม่ไหวจริง ๆพี่”


วารินรับคำ เดินออกมาที่โรงจอดรถ หยิบกุญแจพร้อมชะเง้อคอดูรอบ ๆ บริเวณว่าทินกรมาจากที่บ้านแล้วหรือยังเพราะปกติเขาจะต้องมาล้างรถเช็ดรถแต่เช้าตรู่ทุกวัน


“คุณทรายจะไปตลาดหรือครับ”


เสียงเตโชร้องทัก เขากำลังลากสายยางเข้าไปเติมน้ำที่สระหน้าบ้าน วารินพยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มไปให้ เตโชจึงเดินเข้ามาหา


“ตื่นแต่เช้าเลยนะนายเต”


“ครับ  ดาวไปไหนล่ะครับ เช้านี้ยังไม่เห็นเลย” เขายกนาฬิกาข้อมือแบบที่นักกีฬาชอบใส่ขึ้นดู ปกติตีห้า นับดาวต้องตื่นมาดูแลบ้านช่องแล้วแต่วันนี้ยังไม่เห็น


“ดาวไม่สบายน่ะ นอนซมเลยฉันเลยบอกให้พัก”


เตโชยื่นมือไปขอกุญแจรถ วารินเลิกคิ้วสงสัยนิดหน่อยแต่ก็ยอมส่งให้พอดีกับที่ทินกรขับมอเตอร์ไซด์เข้ามาทำงานพอดี เตโชจึงอาสา บอกพ่อของเขาว่าเดี๋ยวจะพาวารินไปตลาดเพราะนับดาวไม่สบาย 


“นายเตจะพาฉันไปเหรอ?”


“ครับ เดี๋ยวผมขับรถให้เอง เช้ามืดแบบนี้อันตราย มิจฉาชีพเยอะ”


ใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึงตลาดสดใกล้บ้าน  วารินซื้อทั้งอาหารสดและผักสดเขาพยายามนึกว่าเคยเห็นนับดาวซื้ออะไรที่ตรงไหนบ้าง ในขณะที่เตโชก็ช่วยถือของให้ทุกอย่างจนสองมือพะรุงพะรังไปด้วยของสดของแห้ง


“ไม่เป็นไรนายเต เดี๋ยวอันนี้ฉันถือเอง” วารินรีบแย่งถุงผักมาคืนเมื่อเตโชทำท่าจะรับไปถือให้อีก ทั้งที่สองมือนั้นก็เต็มจนไม่มีที่ว่างอยู่แล้ว


“ไม่เป็นไรครับ ผมถือไหว” เขาปฏิเสธยื้อถุงไว้


“เอามาเถอะน่า ฉันถือช่วย”


“ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับ มือคุณทรายเล็กนิดเดียวเดี๋ยวเจ็บนะ แต่ล่ะอย่างมีแต่หนักๆทั้งนั้น”


“นายเตเห็นฉันเป็นคนอ่อนแอขนาดนั้นเลยเหรอ  ฉันเองก็เป็นผู้ชายนะถึงตัวจะเล็กกว่าแต่ฉันก็ยังสูงกว่าผู้หญิงหลายๆคน อย่าทำเหมือนฉันเป็นภาระให้นายเตแบบนั้นเลย”


“ขอโทษครับคุณทราย ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”


เตโชหน้าเสียรีบแก้ตัวแทบไม่ทันเขาเพียงแต่คิดว่าวารินบอบบางน่าทะนุถนอมเลยไม่อยากต้องให้หิ้วของหนักๆเพราะกลัวมือนิ่ม ๆ นั่นจะเจ็บ


“ถ้าอย่างนั้นก็เอามาให้ฉันช่วยถือด้วย” วารินยื่นมือไปรับเอาถุงมาถือช่วยส่วนหนึ่ง คราวนี้เตโชไม่กล้าขัดแล้วจำใจส่งให้คนตัวเล็ก


วารินแวะซื้อผักกะหล่ำปลีและเห็ดหอมเป็นอย่างสุดท้าย เตโชเลยแซวเขาว่าวันนี้สงสัยจะได้ทานตุ๋นกระดูกหมูกะหล่ำปลีใส่เห็ดหอมเหมือนเมื่อสองวันที่แล้วอีก คนตัวเล็กจึงยิ้มกว้างออกมาอย่างอาย ๆ เพราะว่าเตโชทายถูกจริง ๆ เขาทำอาหารไม่เป็น อาศัยดูนับดาวทำเล็กๆน้อย ๆ วันนี้คงต้องลงมือด้วยตนเองวารินก็อดจะกังวลไม่ได้


“ไม่ต้องกลัวหรอกครับเดี๋ยวผมจะเข้าไปช่วยอีกแรง” เตโชอาสา ส่งยิ้มอ่อนโยน


“นายเตทำอาหารเป็นด้วยเหรอ” วารินหันไปถามเขาทันที แอบดีใจที่จะมีคนมาทำกับข้าวช่วย


“ครับ ก็พอได้ ตอนเด็กๆ เคยเห็นแม่ทำบ่อย ๆ เลยแอบจำๆมาบ้างเหมือนกัน”


“โถ่เอ้ย นึกว่าเคยทำเป็นเรื่องเป็นราว” วารินแกล้งปรายตาพร้อมเบ้ปากผิดหวังใส่เขา


“แฮ่ ๆ เคยที่ไหนกันล่ะคุณทรายก็” เขาตอบหน้าจ๋อยเลี่ยงมองไปอีกทางแก้เก้อที่โดนวารินจับไต๋ได้ คนตัวเล็กเลยบิดแขนเขาไปเบา ๆ เพราะหมั่นเขี้ยวที่พูดจาเสียดีแต่ดันยังไม่เคยลงมือทำจริงเลยสักครั้ง


หลังกลับจากตลาดวารินจัดการหุงข้าว ต้มข้าวต้มขาวไว้ให้ภัครจิรา ล้างผักให้สะอาดหมดจด กรีดแต่ละใบๆออกมาแช่เกลือล้างพิษไว้ครู่หนึ่ง อาหารของภัครจิราต้องสะอาดและประณีตกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว เมื่อแน่ใจว่าไม่มีสารตกค้างเขาจึงค่อยหั่นแล้วเอาทุกอย่างลงหม้อตุ๋นพร้อม ๆ กับกระดูกหมูอ่อนที่ถูกตุ๋นไว้ก่อนหน้า เมื่ออาหารเสร็จทุกอย่างจะต้องนิ่มเคี้ยวง่ายจะทำให้ภัครจิราทานได้สะดวก


ส่วนอาหารของธาราธารนั้นง่ายกว่ามากเพราะเขาจะไม่ทานคาร์โบไฮเดรตในมื้อเช้า วารินจึงเน้นไปที่คอร์สอาหารฝรั่งง่ายๆ





“วันนี้ใครทำอาหาร?!”


ทันทีที่ร่างสูงใหญ่นั่งลงที่หัวโต๊ะ เสียงทุ้มแต่ห้วนมากก็ถามขึ้น สายตาคมกริบกวาดมองไปที่อาหารบนโต๊ะอย่างพิจารณา


“พี่ทำเองแหละ  ดาวเขาไม่สบายพี่เลยบอกให้พัก”


วารินเริ่มใจเสียเมื่อเห็นใบหน้าคมเข้มนั่นขมวดคิ้วแน่นและเงียบไปพักหนึ่ง ยังจดจำเหตุการณ์ที่มาอยู่บ้านนี้วันแรกได้ดี ธาราธารเทอาหารที่เขาทำลงถังขยะอย่างไม่แคร์เลย


“เป็นอะไรมากหรือเปล่า ดาวน่ะ” เขาถามขึ้นหลังจากที่นิ่งไปครู่หนึ่งแต่แล้วก็ลงมือทาน


“ตัวร้อนนิดหน่อยเห็นบอกว่าปวดหัว พี่เลยให้กินยาแล้วนอนพัก ถ้าธารมีธุระอะไรก็เรียกพี่ได้เดี๋ยวทำแทนดาวให้”


เขาพยักหน้ารับ วารินแอบยิ้มในใจที่เขายอมทานอาหารที่ตนเองทำ เริ่มมองเห็นความหวังว่าต่อไปอาจจะยอมให้เข้าไปช่วยดูแลภัครจิราได้และวารินก็จะค่อย ๆ ลองคุยเรื่องซื้อคืนบ้านเล็กๆของพวกเขาดู  ธาราธารใช้เวลาทานไม่ถึงสิบห้านาทีด้วยซ้ำเขายกแก้วน้ำมะนาวขึ้นดื่มแล้วนึกบางอย่างขึ้นได้


“ที่หลังขึ้นมาเรียกสิ ไปตลาดคนเดียวแต่เช้ามืดมันอันตรายนะ”


“อ๋อไม่เป็นไร เมื่อเช้านายเตพาพี่ไป ธารไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”


วารินตอบไปตามตรง เผลอยิ้มกว้างเพราะดีใจกับคำพูดของเด็กหนุ่ม แต่เขาไม่ได้สังเกตท่าทีอีกคนเลยสักนิด ธาราธารหน้าเครียดขึงขึ้นทันทีที่ได้ยินว่าวารินไปจ่ายตลาดพร้อมกับเตโช มือที่ถือแก้วน้ำมะนาวอยู่ยกค้างอยู่กลางอากาศก่อนจะกระแทกก้นแก้วลงกับโต๊ะจนเกิดเสียงดังสนั่น! วารินสะดุ้งโหยง ร่างสูงใหญ่ลุกพรวดพราดหุนหันออกจากห้องไปทันที


“เป็นอะไรของเขานะ?” คนตัวเล็กพึมพำ


ช่วงสายของวันนั้นธาราธารอยู่ที่ห้องหนังสือ วารินเดินเอาของว่างเข้ามาให้ตามเวลา เขาจึงเรียกให้ช่วยทำสรุปรายงานของโรงแรมที่ยังค้างอยู่ต่อ


“พี่ขอใช้เครื่องได้ไหม” วารินถามขึ้น มีโน๊ตบุ๊คอีกเครื่องที่ธาราธารไม่ได้เปิดใช้งานวางอยู่


“ไม่ได้! ให้ใช้ปากกาเขียนเอาเท่านั้น ผมไม่ชอบอ่านสรุปจากหน้าจอ แต่ชอบอ่านจากโน้ตย่อมากกว่า”


เขาพูดจบแกล้งสนใจงานบนโต๊ะของตัวเองต่อไป อันที่จริงแล้วจะอ่านจากที่ไหนเขาก็อ่านได้ทั้งนั้นแต่เมื่อเช้าวารินดันทำให้เขาโกรธเรื่องของเตโชเพราะอย่างนั้นเขาจึงแกล้งอีกฝ่ายเพื่อความสะใจล้วน ๆ


แฟ้มกองโตสูงจนท่วมหัวถูกผลักออกมาอยู่ต่อหน้าคนตัวเล็ก วารินเงยหน้าหาเขาทันที


“กองนี้ทำเสร็จแล้วนี่  ก็เมื่อคืน..”


“นั่นมันอ่านไม่รู้เรื่อง! ช่วยเขียนให้เข้าใจง่ายกว่านั้น เอาแบบสั้น ๆ แต่ได้ใจความไม่ใช่น้ำท่วมทุ่งแบบนี้”


ใบหน้าเล็กงอง้ำเข้าทันที วารินมั่นใจว่าตัวเองสรุปได้ชัดเจนแล้วก็สั้นได้ใจความที่สุดแล้ว แต่เป็นอีกฝ่ายต้องการกลั่นแกล้งเขาต่างหาก


วารินก้มหน้าก้มตาเขียนไป แฟ้มแล้วแฟ้มเล่าขณะที่อีกคนก็แอบมองผ่านแว่นใสมาเป็นระยะๆ พอถึงเวลาเที่ยงจึงลงไปเตรียมอาหารขึ้นมาให้


“ทำไมไม่เอาขึ้นมากินด้วยกัน” เขาถาม


“ธารกินเถอะ เดี๋ยวพี่จะลงไปดูนับดาวหน่อย ไม่รู้ป่านนี้เป็นยังไงบ้าง”


ที่ห้องของนับดาว วารินตักข้าวต้มเข้ามาให้ถึงเตียง เด็กสาวรีบลุกขึ้นบอกเกรงใจแล้วเกรงใจอีก วารินจึงบอกไม่เป็นไรให้นอนพักเยอะๆ แล้วเขาก็ขึ้นไปนั่งทำงานต่อโดยที่ธาราธารเองก็ยังไม่ได้ลุกออกจากห้องไปที่ไหนเลย   รายงานเล่มแล้วเล่มเล่าถูกเขาเขียนสรุปแล้ววางแยกไว้อย่างเป็นระเบียบ วารินหยุดมือครู่หนึ่งแอบมองไปที่คนตรงหน้า เห็นเด็กหนุ่มกำลังจดจ่ออยู่กับงาน ดวงหน้าใต้แว่นสายตาใสนั่นทำให้เขาหวนนึกไปถึงวันเก่า ๆ อีกครั้ง


ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน.....




“พี่ครับพี่จ๋าคนสวยมาดูตรงนี้ให้น้องธารเดี๋ยวหนึ่งสิครับ น้องธารเล่นไม่ชนะเลยสักที พี่จ๋ามาสอนน้องธารหน่อย”



“อย่ามาว่าน้องธารนะ น้องธารสระทุกวันเหอะ คุณแม่ยังชอบมาดมเลย พี่จ๋าโกหกน้องธารไม่เชื่อหรอกจิ๊!น้องธารโกรธแล้วด้วย!”



“ไม่ไปไหนอีกแล้ว วันนี้จะกลับไปค้างที่บ้าน”

“พี่ไม่ได้ถามเราสักหน่อย”

“ผมก็แค่อยากบอก กลัวคนบางคนคิดมาก”



“ได้โปรดอย่ากลัวที่จะรัก  ช่องว่างสิบสองปีผมถมยังไงก็ไม่มีทางตามพี่ได้ทันหรอก ขอเพียงแต่พี่เดินรอผมบ้างก็พอแล้ว ผมจะไม่บังคับจะให้อิสระแต่ขออย่างเดียวขอให้พี่ ‘ซื่อสัตย์’ กับผม พี่รู้ไหมคนประเภทไหนที่ผมเกลียดที่สุด”



“รักนะ ผมรักพี่”

“รักธารเหมือนกัน”



“แลกกับบ้านหลังนั้น เข้ามาอยู่กับผมในฐานะ ‘คนรับใช้’  เป็นที่รองมือรองตีนผมทุกอย่าง ทำได้ไหมล่ะ  พอถึงตอนกลางคืนก็กลายเป็นอีตัวให้ผมระบายอารมณ์ หึ! ถึงจะน่ารังเกียจไปหน่อยเกรดเดียวกันกับกะหรี่ตามซ่องแต่ก็ไม่ต้องเสียเงินเสียทองซื้อ แบบนี้ดีไหม ชอบไม่ใช่เหรอนอนอ้าขาให้คนเขาเอาน่ะ”
 


“อย่ามาทำอวดเก่งในบ้านผมนะ! บอกแล้วไงหน้าที่ของพี่มันคืออะไร ถ้างานตอนกลางวันมันทำแล้วไม่มีอะไรดีก็ทำงานตอนกลางคืนให้มันดี คนร่านๆแบบพี่มันก็ถนัดแต่เรื่องร่อนสะโพกอยู่บนเตียงแค่นั้นแหละ”



 “คนต่ำๆแบบพี่มันก็ต้องโดนทำเรื่องต่ำๆแบบนี้ ก็สมควรแล้ว ไม่อยากรู้รึไงว่าพ่อกับลูกใครมันจะถึงใจกว่ากัน ผมจะสงเคราะห์ให้สักครั้ง แล้วก็ไม่ต้องคิดเข้าข้างตัวเองนะว่าผมจะจริงจังจริงใจอะไรด้วยเพราะคนอย่างพี่มันก็เป็นได้แค่ไอ้ตัวอีตัวแก้ขัดเมื่อผมอยากมันก็เท่านั้น ไม่มีค่าอะไรเลยสักนิด!”



“อย่าคิดมาลองดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกคืนให้ขึ้นมารอผมที่นี่ ทำให้ผมพอใจเสร็จแล้วก็ไสหัวกลับไปนอนที่เรือนคนใช้เหมือนเดิม คนร่าน ๆ มันต้องโดนแบบนี้แหละถูกต้องแล้ว”



“ขึ้นรถ!”

“ไม่ไป!  อยากไปไหนก็ไปเลยอยากทิ้งกันก็ไปเลยไม่ต้องมาสนใจ กลับมารับกันทำไม! กลับมาอีกทำไม!!”

“เลิกอวดดีแล้วสำนึกสักทีกับความผิดที่ทำลงไป  ขึ้นรถ!”

“ไม่ไป! ปล่อยให้ตายอยู่ตรงนี้เลยไม่ต้องมาสนใจกัน ออกไป อย่ามาแตะต้องกัน ไม่ไป! ไม่ไป!”




“ร่านไม่ร่านพี่ก็ร่อนสะโพกอยู่บนตัวของพ่อผมนั่นแหละ จำไม่ได้รึไงว่าทำอะไรลงไปบ้างหรือว่าเพลิดเพลินกับรสสวาทจนลืมไปหมดแล้ว แย่หน่อยนะเพราะคนอย่างพี่คงไม่มีวันได้ไปร่านร่อนแบบนั้นอยู่บนตัวใครได้อีกแล้ว มีแต่ผมเท่านั้นที่พี่จะทำแบบนี้ด้วยได้ จำเอาไว้ให้ดี!”




น้ำตาหยดหนึ่งไหลตกลงมาที่แก้มเนียนใส วารินก้มหน้าจนชิดอกรีบยกมือขึ้นเช็ด  กลัวว่าเขาจะสังเกตเห็น


ความผิดที่เขาไม่ได้ตั้งใจก่อ กับความรู้สึก ‘รัก’  ที่คงจะพังทลายลงไปแล้วของคนตรงหน้า


ทั้ง ๆ ที่แสนร้ายกาจ ป่าเถื่อน ทำเรื่องเลวร้ายกับเขามากมายสารพัด แต่ทำไมเขาถึงเกลียดผู้ชายคนนี้ไม่ลงกันนะ



....คำว่ารัก ช่างน่ากลัวเหลือเกิน....





ช่วงบ่ายแก่ ๆ มีแขกมาเยี่ยมภัครจิรา ธาราธารจึงต้องลงมาต้อนรับและพาบรรดาผู้อาวุโสทั้งหลายขึ้นไปเยี่ยมเยียนคุณแม่ของเขาอยู่ที่ห้องกระจกโค้งซึ่งเป็นห้องพักผ่อนชั้นบน วารินจึงถือโอกาสออกไปยืดเส้นยืดสายที่สวนหน้าบ้าน


“ทำอะไรอยู่น่ะนายเต”


เพราะเห็นเตโชกำลังตัดแต่งกิ่งดอกกุหลาบอยู่จึงได้เดินเข้าไปดู คิดว่าจะเข้าไปขอสักสองสามดอกเพื่อปักแจกันที่โต๊ะหนังสือ อาจทำให้เจ้าของห้องคลายเครียดจากงานได้บ้าง


“ขอฉันสักสองสามดอกสิ ได้ไหม?”


เตโชตัดเอาก้านที่แข็งแรงและดอกโตสวยงามส่งให้


“โอ๊ะ!” คนตัวเล็กอุทานขึ้นเพราะเผลอกำรอบลำต้น หนามจึงปักมือเข้าเต็ม ๆ เตโชรีบขอโทษขอโพยเขาลืมไปว่าต้องเหลาหนามออกให้เรียบร้อยก่อนเพราะตัวเขาใส่ถุงมือหนังสำหรับทำสวนเอาไว้จึงเผลอประมาทไป


“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง” วารินรีบดึงมือกลับ แต่เตโชชิงบอกว่าเดี๋ยวจะเข้าไปเอายาแดงมาใส่ให้


“ไม่เป็นไรหายแล้วนี่ไง”


วารินยกนิ้วขึ้นดูดเลือดตัวเองเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่ากังวลเกินเหตุ แล้วโชว์ให้เตโชดูอีกครั้งว่าเลือดหายไปหมดแล้วจริง ๆ เตโชก็ยังรั้งมือเล็กลงมาดูอีกให้แน่ใจ


รถยนต์แขกเหรื่อที่มาเยี่ยมเจ้าของบ้านทยอยขับกลับ  ที่หน้าบ้านธาราธารยืนเท้าสะเอวมองมาที่เขาสองคนด้วยหน้าตาที่ถมึงทึงมาก วารินจึงรีบบอกขอบใจเตโชเรื่องดอกไม้จากนั้นรีบตามเขาเข้าไปด้านในทันที


Tbc.
*วันนี้เราลงตอนพิเศษ(Unseen1 ธารทราย) ตามไปอ่านที่บล็อกนะ*  :hao4: *พบกันอีกวันพรุ่งนี้ ซียูทูมอ*
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 05-04-2014 21:08:43
ทรายนี้นะตลอดอะ :mew2: :mew2: :mew2: ธารจะทำไรต่อไป :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 05-04-2014 21:10:01
 :katai1: ชั้นเข้าใจแล้วทำไมอิเด็กธารถึงหึงทรายเวลาอยู่กับเต
ขนาดคนอ่านอยู่ในโหมด god view ยังจะแทบเข้าใจผิด
ถ้าสมมติธารไม่ใช่พระเอกแล้วนี่เป็นตอนแรกๆอ่ะนะ เราคงจะเชียร์เตให้พาทรายหนีมาจากธารซะด้วยซ้ำ
อยากจะเข้าใจพี่ทรายแต่แกมันอ้อร้อไม่รู้ตัวชัดๆ ยิ่งอยู่กับคนขี้หึงแบบธาร
เราไม่แปลกใจเลยที่มันจะมีการลงโทษแรงๆบ้างอะไรบ้าง แนะนำให้เปลี่ยนเป็นแนว SM เหอๆ  :hao6:

ตอนนี้เรารู้สึกว่ามันจะอึมครึมฟ้ากระจ่างขึ้นมานิดนึง พูดๆง่ายๆรสมาม่าเริ่มจาง
และไม่รู้ว่าคนเขียนจะเติมผงมาม่าต้มยำกุ้งน้ำข้นลงไปอีกหรือเปล่า เพื่อเติมความแซ่บ
ในตอนที่ทรายรำลึกความหลังที่มีต่อธาร เราสัมผัสได้ถึงความผูกพันธ์ ความทรงจำ และเริ่มสัมผัสได้ถึงความรักนิดๆ
ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมทรายไม่ค่อยแสดงออกความรู้สึกรักที่มีต่อธาร ขนาดคนอ่านอยู่โหมด god view ยังแทบจะไม่รู้
(จะเทพไปแล้วนะแก) แต่เวลาอิพี่ทรายดราม่าน้อยใจ ความรู้สึกแม่งจัดเต็ม!!!!
จนในที่สุด เราก็ตระหนักได้ว่าอิพี่ทรายมันไม่รู้ว่าตัวเองเป็น "มาโซ" กร๊ากกกกกกก  :laugh:
ถ้าความน้อยเนื้อต่ำใจของมาโซมาพร้อมกับคำว่ารักล่ะก็ เราคงคิดได้ว่า อิพี่ทรายชอบธารมากกกกกกก
แต่อยากให้ธารลงโทษบ่อยๆ

จากตอนพิเศษ ทัตซี ที่เรามโนเป็น ธารทรายในอนาคต
เราเริ่มคิดแล้วล่ะว่ามันเป็นฉากบังหน้า
เพราะลูกคุณทัตมีนิสัยเบื้องหลังเป็น S ส่วนทรายเป็น M
ฉนั้นคู่นี้มีฉากลับเป็นด้านมืดจ๊ะ ส่วนทัตซีเป็นด้านใสๆ
ต่อไปคงมี Unseen เป็น NC version SM แบบจัดเต็มเป็นแน่แท้ ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 05-04-2014 21:24:12
เฮ้อออออ เมื่อไรที่ทรายจะมีความสุขสักทีนะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 05-04-2014 21:25:07
เมื่อไหร่คะเมื่อไหร่..........ความจริงจะเปิดเผยซะที

ช่วงนี้เริ่มเอื่อยๆ ธารยิ่งโตยิ่งเด็กนะเนี่ย หวงของเหลือเกิน

ขนาดเกลียดยังหวงได้ขนาดนี้ ถ้ากลับมารักนี่??
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 05-04-2014 21:25:42
ธารขี้หึงอย่างแรง
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 05-04-2014 21:39:30
รู้ความจริงซักทีเถอะ พลีสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 05-04-2014 22:04:08
คงต้องรอเวลาอย่างเดียว อย่างน้อยธารมันก็ดีขึ้นนะ หรือเปล่า พูดจาทิ่มแทงน้อยลงนะ
แต่ไม่รู้พอหึงเตโช จะบ้าเลือดขึ้นอีกหรือเปล่า ทรายก็นะ โลกสวยจัง รู้ทั้งรู้ว่าธารมันขี้หวง ยังไม่ระวังตัว   :katai1:

รู้สึกสงสารทรายมาก ตอนนึกถึงวันเก่าๆ เรารู้สึกได้ว่าทรายรักธาร ทรายเองก็เสียใจมาก ที่วันเวลาดีๆ จะไม่ย้อนกลับมาอีกแล้ว   :mew6:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 05-04-2014 22:49:45
อยากให้ทรายมีความสุขเช่นกัน ถึงจะไม่มีนายธารในชีวิต
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 05-04-2014 23:04:32
โอ๊ย ไม่อยากให้พี่ทรายเข้าใกล้เตโชเลยอะ เพราะธารขี้หึงขี้หวงอย่างมากถึงมากที่สุด
เป็นห่วง เพราะเดี๋ยวพี่ทรายจะเจ็บตัวอีก แต่พี่ทรายก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย หรืออยากรนหาเรื่องใส่ตัวก็ไม่รู้
และก็อยากให้น้องธารอ่อนโยนกับพี่ทรายเขาบ้าง พี่ทรายช่วยงานโรงแรมอยู่นะจ๊ะ
ถ้าจะลากกันขึ้นเตียงก็ถนอมๆพี่ทรายหน่อยละกัน เค้าตัวเล็กบอบบางซะขนาดนั้น
 :hao6: :hao6:

ปล.ตอนพิเศษในบล็อก โอ๊ย ชอบมาก มันอบอุ่นแบบบรรยายไม่ถูก น้องธารในโหมดผู้ชายแสนดีนี่หายากจริงๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 05-04-2014 23:48:26
สั้นน้อ ธารยอมกินข้าว ถือว่าดีขึ้น แล้วไปหึงอะไรนายเตนัก ที่จริงก็หึงทุกคนแหละ
สงสารทรายตอนนึกถึงคำพูดธารแล้วร้องไห้ แรงๆ ทั้งนั้น เฮ้อ
พรุ่งนี้เจอกันค่ะ รออ่านต่อ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 06-04-2014 06:54:30
ธารจะทำอะไรพี่ทรายป่ะเนี่ย ยิ่งขี้หึงอยู่ด้วย :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: kamenashi ที่ 06-04-2014 09:58:30
:ling1: :ling3:อยากให้รักกันเหมือนเดิม..ขี้หึงน่ะดีแล้วค่ะชอบ.. :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 06-04-2014 17:12:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 06-04-2014 18:05:05
ตอนนี้มาสั้นๆ  จนอยากอ่านอีกง่ะ :ling1: แต่ก็กระชับความรู้สึกหลายอารมณ์จุงเบย เป็นตอนที่ธารไม่ค่อยร้ายเท่าไหร่ ขัดใจจุงเบย o18 อยากเห็นทรายโดนลงโทษอ่ะ :oo1:

ตายสงสาร นับดาว ของฉันเหลือเกินไม่สบาย :monkeysad: นางเอกจริงๆเลย ยอมเสียสะลยเพื่อ เปิดโอกาสให้เขาได้อยู่ด้วยกันเพื่อซึมซับความรู้สึกวันเก่าๆให้หวนคืนมา :-[
 
นับดาว : เอ้อ เจ๊เค๊อะ หนูไม่บายจริงๆค่ะ  :mew5:
คนเม้นท์: ไม่เป็นไร เจ๊อวยหนู เจ๊ชอบหนู :impress2:

แต่แหม ตอนนี้อยากจะว่าทรายก็ว่าไม่ได้ เพราะนางไม่ได้ตั้งใจจะอ่อยสักนิด แต่ออร่ากับคนอายุน้อยนางเปล่งประกายออกมาจน เตโช ติดกับดักอีกคน ทำให้เด็กน้อยเกิดอารมณ์หึงหวงจนแกล้งขั้นเบาะๆ ถือเป็นการเตือน แต่คุณพี่ทรายนางก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่า ตูผิดอะไรวะ :ruready ขอบอกให้ทรายทราบว่า ระยะนี้ทรายทำอะไรก็หมดผิดแหละจ๊ะ ถ้าใครเข้าใกล้หรือเข้าใกล้ใคร ธารมันมองว่าพี่ทรายของผมผิดหมดเยย :katai5:  แต่ถือว่าธารมันปรับอารมณ์ได้เสถียรมากขึ้น มีเหตุมีผล แยกเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ได้ดีในระดับหนึ่ง เห็นใจนะไหนจะเรื่องเรียนหมอที่ต้องเรียนหนักมาก ไหนจะเรื่องบริหารที่เครียดไม่แพ้กัน  :เฮ้อ: แต่มันก็ยังหึงแบบน่าร๊อกอ่ะ  :man1: แต่คราวหน้าไม่รู้ว่าฮีจะออกฤทธิ์มากกว่านี้ไหม สงสารคนที่ไม่รู้ตัวจริงๆเลย แต่ฉันชอบ พอมันหึงมันหวง มันเหน็บ มันก็จะนาบ อา อา :haun4:

แต่ทรายก็ได้เห็นมุมนี้ของธารแล้ว คงจะรู้สึกรักไม่น้อยเหมือนกันและล่ะ แต่เราอยากให้ทรายรักและพิสูจน์ตัวเองกับทรายมากกว่านี้ ทำให้ธารเห็นว่าทรายมองธารเป็นธารไม่ว่าจะ กอดธาร นอนกับธาร หรือ ทำอะไรก็แล้วแต่ ทำให้รู้ว่าทรายรักธารที่เป็นธาร ไม่เคยมองใครนอกจากธาร หากรักจริงๆ :กอด1:  แต่ถ้าไม่ใช่ความรู้สึกนี้ก็ค่อยหาวิธีบอกก็แล้วกัน แต่หวังว่าทรายคงไม่เป็นกระสอบทรายไปก่อนหรอกนะ ยังไงฉันก็เห็นใจนาง ถึงจะรักธารมากกว่าก็เถอะ :laugh:

แต่ตอนนี้ทรายก็พยามทำดีที่สุดแล้ว ขอปรบมือเป็นกำลังใจให้  :katai2-1:เพื่อจะให้ธารมองเห็นเป็นพี่ทรายคนเดิมของตัวเองอีกครั้ง ทำอาหารให้คุณภัครด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด ถึงจะทำไม่ค่อยเป็น แต่ก็ยังทำเพื่อหวังจะได้ดูแล  ช่วยงานธารอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ถึงจะโดนแกล้งนิดนุง แต่ก็เพราะฮีรักฮีห่วง คิดดูเถอะขนาดโกรธเคือง ก็ยังห่วงเห็นพี่ทรายไปตลาด บอกให้มาเรียกตนจะไปให้ ทรายคิดสักนิดจะเห็นว่าธารร๊ากกกกทรายมากกกกกก แต่นางก็ไม่รู้อีก ตอบประสาซื่อตรงไม่ได้ตั้งใจ ว่ามีคนใจดีพาไป  :ruready อีเด็กน้อยตูโกรธพาลกินอะไรไม่ลงเลย คุณพี่ทรายก็ผิดอีก คงอยากกรีดร้องประมาณว่า มันคืออัลลลลไลลลลล :katai1:

ส่วนตอนพิเศษในบล็อก อูยยยย หวานนนนนนนมากกกกก :o8: สำหรับคนที่ยังโกรธเคืองคนรักอยู่ แต่ก็ดูแลห่วงใยพิเศษใส่ใจ ดีนะมันไม่ใส่ไข่ให้  โทษฐานดื้อ  :hao6: บอกอีกทีอิจชี่นางจริงๆเลยที่มีคนรักมากได้ขนาดนี้  ถ้าไม่มีการหักมุมนะ เขาขอเต๊อะ จะให้ทรายโดนลงโทษอีกกี่บทก็ได้ เขายอม ขอแค่ให้ทั้งคู่ได้กลับมาคู่กัน  :กอด1:

 ทราย: บนไม่ถามตูสักนิดว่าอยากโดนไหม  :angry2:

คนเม้นท์: ถ้าไม่ฉันเอาเองนะ อย่ามาทวงนะยะ :katai3:

ทราย : โอเค ฉันจัดการเอง  :oo1:

ติดตามกันต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้เสมอง ถึงจะมาไม่สม่ำ แต่มาเม้นท์ให้แน่ค่ะ สู้สู้ นะ :bye2:


 
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 06-04-2014 19:26:21
ตามอ่านทันและอ่าน2วันรวดค่ะ
บอกได้เลยว่าบางทีก็น้ำตาซึม แบบสงสารทรายตัวเองไม่ได้ผิดอะไรด้วยเลย
ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องทุกอย่างเลยแต่ก็ต้องมาซวยอย่างงี้?
ยุติธรรมหรอ? ไม่โอเคเลยง่ายๆคืออีพระเอกก็ไม่มีเหตุผล เข้าใจนะว่ามันคงเสียใจรู้สึกแย่ เฟล แค้น
แต่ถ้าฟังเหตุผลสักนิดก็จะรู้อ่ะว่าถ้ารักจริงก็ต้องอภัยให้ได้ ส่วนเรื่องที่แม่ป่วยก็คงเป็นเพราะตกใจและไม่พร้อมหลายๆอย่าง
แต่ที่ธารทำงี้แม่งแบบบบแม่งไม่โอเคอ่ะ คือถ้าพ่อพูดขนาดนั้นแล้วยังจะจงเกลียดจงชังนะ
ก็อย่าเห็นหน้ากันไปเลยดีกว่า สงสารทรายที่เหมือนต้องทำมาแบกรับความผิดทุกอย่างทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นแค่หมากในเกมส์ที่เกมส์จบไปแล้วอะ
แล้วเราอินไปปะบอกเลยว่าอินมากแล้วก็ช็อคมากตอนที่อ่านแล้วเจอคุณทัตฟีชเทอริ่งกับทราย

ปล.ธิปแรดแบบอื้ม เกินบรรยาย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [5/04/57] I'm Still Loving You
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 06-04-2014 21:03:41
เราคิดว่า สุดท้ายพอธารรู้ความจริง ทรายก็หนีธารไปแล้ว แล้วธารก็จะตามง้อเหมือนนิยายดราม่าเรื่องอื่นๆ รู้สึกเลยว่าทำไมทรายไม่ใสใส ดูแรดเงียบ เกลียดไอ้ทันกับคุณวิ(ใช่มั้ย?) อธิบายไปแค่นั้นใครมันจะเชื่อ? ทำไมไม่หาหลักฐาน เราว่าคนเขียน เขียนได้อยู่แล้ว ถ้าเราเป็นธารต่อให้ทำยังไงก็ไม่สนิทใจกับไอ้ทัตอ่ะ ตอนนี้เริ่มรู้สึกเบื่อๆเฉื่อยๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ตอนแรกก็จะอินแล้วนะพออ่านไปซักพักมันน่าเบื่ออ่ะ ปิดเรื่องให้จบๆไปเถอะ



อ๊ายยยยยยยยย :ling1: ตูไม่แปลกใจเลยทำไมติดลบ ดูเม้นท์สิ  :z6:

อยากจะเข้าใจนะว่าสิทธิส่วนบุคคลในการเม้นท์ แต่จะติจะอะไรก็ติให้ก่อประโยชน์หน่อยสิ ไม่ใช่ติให้จมไม่ให้ผุด เราต้องเคารพสิทธิคนเขียนด้วย ถ้าไม่ชอบตรงไหนก็แนะนำให้เขาปรับปรุงนำจะดีกว่า ไม่ใช่ไล่ให้จบ เรื่องยังไม่เคลียร์เลย  :z3:
แต่ถ้าคุณไม่อยากอ่านหรือไม่ชอบก็จากไปเงียบๆจะดีกว่าเม้นท์ขนาดนี้ ถึงไม่ได้ใช้คำหยาบแต่รูปประโยคมันก็บั่นทอนกำลังใจคนเขียนได้นะ หรือไม่ก็ใจเย็นอีกนิดรอดูไปก่อน แต่ถ้าทนไม่ไหวก็ไปเถอะ :katai5:

แต่ต้องปรบมือให้คนเขียนนะ ว่าแล้วปรบเลย  :katai2-1: เขียนให้อินจนเข้าขั้นขัดใจอย่างรุนแรงจนอยากให้หาหลักฐานเสมือนเกิดขึ้นในชีวิตจริงได้  o13   หาได้ เชื่อไว ก็จบเร็วอ่ะดิ ชิมิ :laugh:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 06-04-2014 22:16:54

http://www.youtube.com/v/RR2OyT4mXa0


บทที่ 25  The Last Regret
 



-ก๊อก ก๊อก-
 

มือเล็กหมุนลูกบิดประตูผลักเข้าไปด้านใน มองเห็นที่โต๊ะหนังสือยังว่างเปล่า นึกแปลกใจเพราะเขาเห็นธาราธารเดินขึ้นมาแล้วชัดๆ วารินค่อยเอาดอกกุหลาบที่ถือขึ้นมาด้วยปักลงที่แก้วปากกา  ใบหน้าน่ารักแต้มรอยยิ้มบางเมื่อเห็นความสดใสของดอกไม้ที่ช่วยลดความตึงเครียดจากกองงานบนโต๊ะได้เป็นอย่างดี
 

“โอ๊ย!!”


เสียงเล็กร้องอุทาน จู่ ๆ แขนบางถูกกระชากไม่ปราณีปราศัยจนตัวเขาลอยหวือเข้าไปกระแทกอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของใครบางคนที่ยืนรออยู่หลังบานประตู
 

“ชอบนักหรือไงดอกไม้น่ะ” 


ธาราธารถามเสียงเครียด สองมือหนาผลักไหล่เล็กแล้วดันจนแผ่นหลังบางชิดผนัง  “โดยเฉพาะดอกที่ไอ้เตโชมันตัดให้ด้วยใช่ไหม ฮึ! ชอบนักใช่ไหม!!”
 

เขาตะคอกแล้วลากวารินออกไปที่ริมระเบียงไม้นอกชาน ดวงตาคมกริบกวาดมองที่สนามหญ้าด้านล่างอย่างรวดเร็ว
 

“ธาร! พี่เจ็บ”
 

วารินที่ถูกรั้งแขนจนเจ็บปวดไปหมดพยายามแกะแขนเล็กๆออกจากมือของเขา พลางนึกสงสัยว่าเขากำลังกวาดตามองหาอะไร แต่แล้วเขาก็หันกลับมา ดวงตาคมกริบจ้องใบหน้าคนตัวเล็กอย่างเครียดขึง
 

“แค่ผมไม่ปรนเปรอให้สองอาทิตย์  ถึงกับอยู่ไม่สุขต้องไปใช้บริการไอ้เตโชเลยใช่ไหม”
 

เขากวาดตามองร่างเล็กๆด้วยสายตาที่เหมือนกับว่ารังเกียจกัน วารินถึงกับหน้าชากับถ้อยคำที่เขาพูดออกมาทั้งหมด เหมือนคนโดนตบซีกหน้าเข้าอย่างแรง หยดน้ำตาที่ไม่อยากจะให้ไหล พาลรื้นเอ่อขึ้นมาจนคลอหน่วย 
 

วารินรั้งแขนตัวเองออกอย่างแรงแต่ไหนเลยจะสู้แรงของอีกฝ่ายได้ ยิ่งดันยิ่งผลักเขายิ่งรัดให้แน่นยิ่งขึ้นไปอีก
 

“ทำไม! ทีกับผมกอดแค่นี้ต้องทำทีเป็นต่อต้าน ไม่ใช่ว่าพออยู่กับมันสองต่อสองรีบร่านไปซบอกมันหรอกเหรอ”
 

“ธาร! หยุดนะ! เลิกดูถูกกันได้แล้วไม่พอใจเรื่องอะไรจู่ ๆ เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ไร้เหตุผลที่สุดเลย!”
 

วารินเหลืออดต่อว่าเขาไปอย่างไม่เกรงกลัวอะไรแล้ว  แต่ทว่าเขาเองก็ตอกกลับมาอย่างทันควันเช่นกัน
 

“ก็พี่มันร่าน!”
 

เพี๊ยะ!!
 

เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังสนั่นไปทั้งระเบียงทันทีที่เขาพูดจบ
 

“พี่ทราย!”
 

เขาสะบัดหน้ากลับมา ขบกรามจนแน่นส่งเสียงลอดไรฟันสวย ใช้ลิ้นดุนดันกระพุ้งแก้มรับรสเลือดฝาดที่สาดซ่านอยู่ในปาก เนื่องจากแรงตบนั่นไม่เบาเลย
 

“อย่ามาหยาบคายกับพี่นะ! ธารไม่มีเหตุผลพี่ไปทำอะไรให้กัน!”
 

วารินเสียงสั่นเลือดขึ้นหน้าต่อว่าเขากลับไปอย่างไม่เกรงกลัว คนตัวเล็กรีบถอยหลังออกมาให้ห่าง นึกเกลียดคำว่า ‘ร่าน’ เกลียดเวลาธาราธารด่าเขาด้วยถ้อยคำๆนี้  ทุกทีที่เห็นเขาเงียบไม่โต้ตอบนั่นคือเรื่องของทัตพลเพราะว่าเขาผิดจริง ๆ แต่ครั้งยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยจู่ ๆ ไม่รู้ทำไมอีกฝ่ายจึงขึ้นเป็นหมาบ้าแบบนี้
 

“เก่งนักนะ เก่งเกินไปจริง ๆ รู้อะไรไหม...กับคนแบบพี่น่ะ จะเอากลางแจ้งให้คนสวนมันดูเป็นบุญตาบ้างก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเหมือนกัน”
 

มือหนารีบเข้ามาคว้าแขนเล็กไว้ก่อนที่วารินจะวิ่งหนีได้ทัน เขากอดรัดแล้วเข้าบีบคางเล็กๆจนเจ็บปวดไปหมด วารินดิ้นจนสุดแรงขณะเขาตัดสินใจรัดแล้วช้อนตัวทั้งตัวลอยขึ้น
 

“ธาร!!”
 

วารินร้องดังลั่น เมื่อเขาทำท่าว่าจะโยนร่างทั้งร่างออกนอกระเบียง  ท่อนแขนเรียวกอดคอเขาไว้แน่นจนสั่น
 

“เก่งนักก็หลุดออกไปให้ได้สิ ไหนลองหนีผมให้ดูหน่อยซิ หืมม”
 

คนในอ้อมแขนเงียบกริบทันทีมีแต่เสียงสะอึกสะอื้น จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อร่างกายของเขาถูกช้อนแล้วยื่นออกมานอกราวระเบียงแบบนั้น หากอีกฝ่ายปล่อยเขาเมื่อไหร่รับรองเขาตกไม่เหลือรอดแน่นอน
 

“มองลงไปซิ  ไอ้เตโชมันนั่งทำสวนอยู่ตรงนั้นไง ตะโกนเรียกมันสิ ร้องขอให้มันมาช่วยดีไหม สองอาทิตย์ที่ผมไม่ได้กลับมานี่จัดกับมันไปกี่รอบแล้วล่ะ ห๊ะ! ไหนลองบอกออกมาตรง ๆ สิ สารภาพออกมาให้หมดด้วยนะ!”
 

“ธาร..ฮึกก..ไม่ใช่”
 

วารินยิ่งได้ยินถ้อยคำดูถูกแบบนั้นยิ่งร้องไห้หนักส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัล ทั้งกลัวตกทั้งรังเกียจและชิงชังในถ้อยคำของเขาแต่ยังต้องกอดคอเขาไว้แน่น
 

“จะทำอีกไหม เข็ดแล้วหรือยัง” เขาก้มลงมองหน้าคนตัวเล็กที่เขาช้อนอยู่ในอ้อมกอด ใบหน้าเล็กนั่นเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
 

“อย่าให้ผมเห็นว่าพี่อยู่กับมันสองต่อสองอีก แม้แต่ไปตลาดด้วยกันผมก็ไม่อนุญาต จำเอาไว้ด้วย!”
 

 เขาว่าจบแล้วปล่อยวารินลง กระชากแขนเล็กให้กลับเข้ามาด้านใน โดยที่ประตูระเบียงยังคงเปิดอ้ากว้าง ผ้าม่านสีครีมปลิวไสว
 

“ธาร!”
 

วารินอุทานลั่นเมื่อเขาผลักร่างเล็กให้นอนราบลงที่โต๊ะ มือใหญ่กวาดกองแฟ้มเอกสารร่วงกรูลงบนพื้นพรม
 

“เงียบซะ!”
 

จูบหนักหน่วงก้มลงมาปิดทุกถ้อยคำพูดที่อีกคนกำลังจะเอ่ยต้าน สองมือใหญ่กดข้อมือเล็กคร่อมลงบนโต๊ะ
 

“อื้ออ..”
 

เรียวลิ้นหนาชอนไชแทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็ก ๆที่หลบหลีเขาไปมาอย่างชำนิชำนาญ  วารินจะไปสู้อะไรเขาได้แค่จูบยังหนีจากเขาไม่ได้เลยนับประสาอะไร
 

กลิ่นนมจากซอกคอหอมลอยขึ้นมาแตะจมูกทำให้เขาอดใจไว้ไม่ไหวซุกไซ้ปลายจมูกคมฝังลึกลงที่ซอกคอขาวเนียนราวสัตว์ร้ายที่เข้าขย้ำเหยื่ออย่างไม่ปราณี  ร่างกายเล็กอ่อนปวกเปียกจากที่ต่อต้านในตอนแรกพลันเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบและความรัญจวนของเรียวลิ้น ธาราธารกระหวัดปลายลิ้นแตะชิมไปจนทั่วลำคอขาวที่บัดนี้ตะแคงขึ้นรับรอยจูบจากเขา
 

“อืมม..”
 

เขาดูดแล้วขบเบา ๆ ตีตราความเป็นเจ้าของบนเนื้อนวลอ่อนนุ่ม ทุกตารางนิ้วที่ซอกคอหอมเขาไม่ปล่อยให้มีส่วนไหนเล็ดลอดจากปลายลิ้นไปได้
 

จุมพิตแสนดุดันที่บัดนี้เปลี่ยนเป็นสุดแสนหวาน ยังคงถูกปรนเปรอให้อย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่าย ๆ วารินสะท้านน้อยๆเมื่อเขาสอดมือเข้าไปในเสื้อตัวเล็กแล้วสะกิดยอดอกชูชันที่เริ่มแข็งเป็นไตรอรับสัมผัสจากเขา  เขาเลื่อนริมฝีปากลงมาก่อนใช้มันปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดๆอย่างชำนาญ  วารินหอบหายใจหนักเมื่อเขาเปลี่ยนจากมือที่เค้นคลึงยอดอกเป็นเรียวลิ้นที่มาเกี่ยวดูด ทั้งเม้มทั้งดึง เกิดเสียงจ๊วบจ๊าบดังลั่นห้องหนังสือ
 

“อ๊ะ..”
 

ร่างเล็กบิดแอ่นลดทอนความรัญจวน กลั้นเสียงครางไม่ไหวอีกต่อไปเมื่อเขาดูดดึงยอดทรวงขึ้นมาแบบนั้น  วารินกำลังทำให้เขาคลั่งด้วยเรือนร่างที่ทั้งหอมหวานและเย้ายวน กลิ่นหอมแบบธรรมชาติชนิดที่เขาไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน ไม่ว่าจะกกกอดร่างนี้เมื่อใดเป็นอันต้องตกลงไปในวังวนเสน่หาได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
 

มือใหญ่สอดลงขยำขยี้อยู่ที่สะโพกมนก่อนดึงกางเกงกระชากลงที่ปลายเท้าโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าร่วงกรูลงที่โต๊ะ ร่างเล็กขืนตัวเล็กน้อยแต่ก็แอ่นกายรับเรียวลิ้นจากเขาเมื่อปลายลิ้นสากลากเลื่อนลงไปสาละวนอยู่ที่รูสะดือกลางลำตัว
 

วารินสั่นสะท้านท่อนขาเรียวหุบเข้าหากันกักกันสายตาเจ้าเล่ห์ที่กวาดมองเรือนร่างขาวนวลเนียนด้วยอารมณ์แสนรัญจวน เขาใช้ร่างกายดันท่อนขาขาวให้แยกออกจากกันมีเพียงชั้นในสีขาวตัวจิ๋วเท่านั้นที่ปิดบังส่วนสำคัญไว้ในตอนนี้
 

“อื้ออ..ไม่เอาธาร..พอแล้ว”
 

เสียงเล็กร้องห้ามทั้งที่ร่างกายส่วนนั้นกำลังดีดตัวล้ำออกมานอกปราการจิ๋ว ธาราธารยกยิ้มร้ายที่ริมฝีปากอย่างพอใจ และแล้วอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายของส่วนล่างก็ถูกดึงกระชากทิ้งอย่างไม่ใยดี
 

“อ๊าา...”
 

เสียงเล็กครางสะอื้นเมื่อปลายลิ้นหนาแตะชิมที่หัวสีชมพูนุ่มนิ่ม เขาลงลิ้นรัวที่จุดกระสันก่อนครอบริมฝีปากลงแล้วรูดรั้งเป็นจังหวะ วารินครางเครืออย่างสุขสม
 


ครืดดด...ครืดดดดดด...
 


เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอย่างไม่รู้เวล่ำเวลา ธาราธารชะงักนิดหน่อยนึกหน่ายในใจแต่เขายังคงก้มหน้าก้มตาลงลิ้นดูดเลียหัวสีชมพูไม่ยอมหยุด
 

“รับโทรศัพท์สิ”
 

เขาเงยหน้าขึ้นมานิดหน่อย เพื่อสั่งอีกคนให้รับเครื่องที่รบกวนความสุขเมื่อมันยังคงดังต่อเนื่อง วารินได้แต่ส่ายหน้าไปมาไม่อาจทำตามที่เขาบอกได้   เด็กหนุ่มทำเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างคนไม่ได้ดั่งใจ ก่อนคว้าเอาโทรศัพท์ที่กองอยู่ข้าง ๆ มากดปุ่มเปิดลำโพงแล้วโยนวางไว้ที่หน้าอกคนตัวเล็ก
 

“ทราย ฮัลโหลทราย ได้ยินฉันไหม”
 

เสียงที่ดังลอดจากปลายสายทำให้วารินตาค้าง คนตัวเล็กกัดริมฝีปากกลั้นเสียงเต็มที่เมื่อคนที่ก้มหน้าอยู่กลางลำตัวเขาเหมือนยิ่งแกล้งดูดรั้งจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบน่าอาย  วารินจะคว้าโทรศัพท์มากดปิดแต่ธาราธารที่สายตาจับจ้องใบหน้าคนตัวเล็กอยู่รีบปัดมือนั้นออกขณะที่ริมฝีปากเขายังเฝ้าปรนเปรออยู่ไม่หยุด  วารินจึงจิกมือแน่นเข้าที่กลุ่มผมนุ่มเมื่อเขายิ่งก้มหน้าก้มตาบี้ลิ้นเข้าที่ส่วนอ่อนไหวต่อเนื่อง เรือนร่างบอบบางเสียวสะท้านท้องน้อยจนต้องแอ่นตัวรับกลั้นเสียงร้องเต็มที่
 

“ทราย นี่ฉันทัตพลนะ ทรายได้ยินฉันรึเปล่า”
 

เพียงแค่ได้ยินชื่อทัตพลดังลอดออกมาธาราธารชะงักกึกทันที เขาเงยหน้ามองวารินเหมือนโกรธเกรี้ยวมาเป็นแรมปี
 

“ตอบเขาไปสิ”
 

“ครับ คุณทัต อ๊ะ...”
 

เขาเป็นคนสั่งให้ตอบเองแท้ ๆ แต่พอวารินตอบไปเท่านั้นเขาก็แยกขาเรียวขาวให้กว้างขึ้นอีก มือหนาผลักสะโพกสวยให้สูงขึ้นขณะเขาคุกเข่าอยู่ที่พื้น ลากลิ้นลงมาดูดดุนที่พวงด้านล่าง วารินกัดปากกลั้นเสียงจนเลือดห้อ สั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อลิ้นหนาลากลงมาฉกเข้าออกที่รูอ่อนนุ่มปราการสุดท้ายทางด้านหลัง
 

“ตอนนี้ฉันอยู่กับซี  เห็นเขาบอกว่าทรายไม่ค่อยสบายหายแล้วหรือยัง”
 

เสียงปลายสายส่งถามด้วยความเป็นห่วง แต่ลิ้นที่ฉกเข้าออกยังสร้างความกระสันให้กับร่างกายของคนตัวเล็กจนผิวกายแดงเห่อเป็นสีเพลิง วารินบิดแอ่นกายอย่างรัญจวนไม่รู้จะส่งเสียงตอบปลายสายไปได้อย่างไรเพราะดูเหมือนว่าธาราธารยิ่งได้ยินทัตพลพูดออกมาแบบนั้นเขายิ่งแกล้งเร่งความเร็วให้เพิ่มขึ้น
 

“ทราย! เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมไม่พูดกับฉันล่ะ”
 

“ตอบไปสิ แล้วอย่าคิดจะกดวางนะ ผมลงโทษพี่หนักแน่”
 

เขาเงยหน้าขึ้นมากระซิบใส่ด้วยเสียงที่แหบพร่าก่อนจะก้มลงไปดูดเลียต่อ คราวนี้ไม่ใช่แค่เรียวลิ้นที่ตวัดมือหนายังเอื้อมขึ้นมารูดรั้งแก่นกายสีสวยด้วยความรวดเร็ว วารินเสียวจนต้องผลักหัวทุยๆของเขาออกแต่อีกใจกลับไม่อยากให้เขาหยุดลง
 

“อะไรนะทราย ฉันได้ยินไม่ถนัด สัญญาณไม่ดีหรือไงนะ”  ทัตพลช่างไม่รู้เรื่องราว พร่ำบ่นออกมาจนธาราธารได้แต่แสยะยิ้มในใจ
 

ร่างกายบอบบางอัดแน่นไปด้วยความปรารถนา วารินเสียวกระสันตั้งแต่ท้องน้อยร้อนไปทั่วทั้งตัวเหมือนไฟที่พร้อมจะระเบิด จะให้เขาเปล่งเสียงไปได้อย่างไรแค่นี้เขายังต้องยกมือขึ้นมาปิดกั้นเสียงร้องไว้  ธาราธารช่างทรมานเขาจนถึงขีดสุดจริง ๆ
 

“ห..หายแล้ว..ค..ครับ”
 

“ไม่เป็นไรแน่นะ อยากให้ไปรับหรือเปล่าเห็นซีบอกว่าทรายไม่ค่อยได้กลับบ้านโดนลูกชายฉันรังแกมากไหม”
 

“ป...เปล่าครับ ผ..ผมไม่เป็นอะไร”
 

วารินเค้นเสียงตอบกลับไปซ้ำยังต้องกลั้นเสียงคราง ธาราธารลงลิ้นกับช่องทางนุ่มนิ่มขณะที่มือก็ปรนเปรอให้อย่างเร็วไม่มีตก ยิ่งเขาได้ยินคำถามของทัตพล เขายิ่งจงใจแกล้ง รู้สึกพอใจที่ได้ทรมานคนตัวเล็กเล่น แต่แค่นี้มันยังน้อยไปเมื่อเขาเห็นวารินยกมือขึ้นปิดปากกั้นเสียงครางเขายิ่งแกล้งดูดดุนช่องทางสีสดจนเกิดเสียงน่าละอายวารินสะท้านตัวเกร็ง
 

“เสียงไม่ค่อยดีนะทราย หายาทานด้วยล่ะ อ้อ..ซีเขาฝากมาบอกว่าถ้าจะกลับวันไหนให้โทรมาบอกก่อนเขาจะได้ทำของที่ทรายชอบเตรียมไว้ให้ อย่างวันนี้ไม่รู้นึกยังไงทำกุ้งเปรี้ยวหวานให้ฉันทานจนพุงกางไปหมดแล้วเนี่ย ถ้ามาทุกวันมีหวังหุ่นฉันพังแน่ แล้วทรายไม่ต้องกลัวว่าซีเขาจะเหงานะ ฉันจะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาให้เอง”
 

คนฟังไม่อาจแยกแยะประสาทได้อีกต่อไป ไม่รับรู้แล้วว่าทัตพลพูดเรื่องอะไรมาบ้าง ถึงอยากจะตอบรับแต่กลัวว่าเสียงมีพิรุธจะหลุดรอดออกไปให้ได้อาย เมื่อธาราธารไม่ปล่อยให้วารินได้ทำอย่างนั้น เขายังคงแกล้งกันด้วยการบุกรุกด้วยลิ้นไม่พอ วารินแทบคลั่งเมื่อเขาเปลี่ยนมาครอบครองลงที่แท่งร้อนอีกครั้ง พร้อมรูดรั้งริมฝีปากขึ้นลงอย่างชำนาญในขณะที่เรียวนิ้วร้ายเริ่มสอดแทรกเข้ามาที่โพรงคับแคบด้านหลัง วารินถึงกับผงกหัวขึ้นดูภาพน่าอายนั่น ร่างเล็กหอบหายใจสะท้านทนดูไม่ได้กับภาพตรงหน้า เขาทิ้งศีรษะลงตามเดิม กลั้นใจเปล่งเสียงกับโทรศัพท์อีกครั้งก่อนที่สติจะกระเจิงไปมากกว่านี้
 

“คุณทัต..อ๊ะ..ครับ..ผมไม่เป็นอะไร..ฝ..ฝากบอกพี่ซีด้วย..แค่นี้ก่อนนะครับ..ผมต้องเตรียม ท...ทำอาหารแล้ว”
 

“ลูกชายฉันมันแย่จริง ๆ เลยนะ ทนหน่อยนะทรายถ้าหากเธอมีเหตุผลจำเป็นที่ต้องอยู่ที่นั่นต่อ แต่ถ้าหากว่าถึงที่สุดแล้วจริง ๆ ให้โทรมาหาฉัน ฉันจะไปรับเธอออกมาเอง”
 

ไม่รู้ทัตพลนึกอย่างไรถึงได้โทรหาวารินวันนี้ ตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยโทรมาแต่ดันโทรมาตอนที่เขาจะโดนธาราธารกลั่นแกล้งได้พอดีแบบนี้ พอธารธารได้ยินว่าทัตพลอาสามารับวารินออกจากที่นี่ เขายิ่งเพิ่มแรงดูดดุนที่จุดเสียวกระสันส่วนปลายยอดจนวารินสะดุ้งเฮือก นิ้วร้ายสอดเพิ่มเป็นสองกดหาจุดกระสันแล้วเร่งจังหวะสวนเข้าออกให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
 

“ค..ครับ..ผ..ผม..แค่นี้ก่อน...อ๊าาธาร!”
 

โชคคงยังดีที่ถ้อยคำสุดท้ายอีกฝ่ายยังไม่ได้ยิน เพราะธาราธารเอื้อมมือขึ้นมากดปิดบทสนทนาที่แสนทุลักทุเล เขาฟาดโทรศัพท์เหวี่ยงไปอีกทางอย่างเสียอารมณ์
 

“ธาร..พอแล้ว อย่าทำ...พี่ไม่ไหว”

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 06-04-2014 22:17:12
http://www.youtube.com/v/RR2OyT4mXa0


“ธาร..พอแล้ว อย่าทำ...พี่ไม่ไหว”
 

เสียงหวานครางกระเส่า มีหรือที่คนอย่างเขาจะฟังคำร้องขอ เขากลับเพิ่มความเร็วของนิ้วมือจากสองให้เป็นสาม ขณะที่อีกมือเฝ้ารูดรั้งแก่นกายร้อนของคนตัวเล็กจนวารินแอ่นสะท้านเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดพรายขึ้นทั่วร่างกาย เสียงครางที่กลั้นไม่ได้อีกต่อไปดังระงมไปทั่วทั้งห้อง
 

“ฮ..อื้ออ..ธาร..” วารินไม่ได้ดั่งใจไม่ทันใจไม่ถึงใจทุกอย่างปนเปกันมั่วไปหมดส่งเสียงรัญจวนน่าอาย
 

“บอกสิว่าพี่ไม่ต้องการ แล้วผมจะหยุด”
 

เขาเลื่อนตัวขึ้นมาถามขณะที่ปลายนิ้วเฝ้ากดย้ำๆอยู่ในจุดที่วารินแทบคลั่ง  เสียงเล็กครางลั่นศีรษะส่ายรับใจหนึ่งอยากให้เขาหยุดแต่อีกใจอยากได้สิ่งที่มันยิ่งใหญ่กว่านิ้วมากมายเหลือเกิน
 

“ธาร..อย่าแกล้ง..อื้ออ..”
 

“ต้องการผมไหม? อยากได้ผมหรือเปล่า??”
 

ในยามนี้ยังต้องคิดอะไรให้มากมายอีก เมื่อสติสตังถูกความปรารถนาทั้งหมดเข้าครอบงำ ร่างกายมิอาจทานทนต่อการปรนแปรอที่กลับหยุดชะงักลงดื้อๆ
 

“..ต้องการ..ธารช่วยที..พี่ต้องการธาร..”
 

วารินครางกระซิบเสียงแผ่วน้ำเสียงขาดห้วงดวงตาพร่าปรือมองคนที่ยืนอยู่ที่หว่างขาตนเองอย่างรวดร้าว ใจที่ทั้งต้องการทั้งอยากผลักไส ร่างสูงใหญ่ค่อยเคลื่อนกายโน้มต่ำลงมากระซิบเสียงเย็นเยียบพร้อมรอยยิ้มร้าย ๆ ที่ริมฝีปากสวย
 

“พี่เลือกเองนะ พี่ทราย”
 

บัดนี้ร่างกายบอบบางเหมือนถูกจับแยกออกเป็นสองส่วน วารินกรีดร้องดังลั่นเมื่อเขาค่อยสอดแทรกกายร้อนเข้ามาครอบครองทีละนิด ทีละนิด เขาอ่อนโยนไม่เหมือนทุกครั้งที่เคยทำ ความรู้สึกเหมือนถูกเติมเต็มก่อนที่สะโพกมนสวยจะถูกรั้งขึ้นไปเพื่อให้ส่วนสอดประสานกระชับแนบชิด
 

“ธาร..”
 

วารินครางเรียกเสียงแผ่ว รัญจวนใจสุดๆเมื่อเขาค่อยเริ่มเคลื่อนกายเข้าออก
 

“ครับพี่ทราย ผมอยู่ที่นี่แล้ว...อืมม..”
 

เสียงคำรามต่ำในลำคอหนาดังออกมาอย่างสุขสม เมื่อช่องทางคับแน่นบีบรัดเขาจนเคลื่อนกายแสนลำบาก การมีอยู่ของเขาในร่างกายเล็กทำให้วารินเปี่ยมสุข ครั้งนี้เขาไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เขาทำเหมือนกับว่าเขารักทะนุถนอมและต้องการ คำพูดอ่อนโยนที่เขาไม่เคยมอบให้มาก่อน บทเพลงรักอันแสนอ่อนหวานที่เขาเฝ้าปรนเปรอให้ ทำให้วารินสติกระเจิดกระเจิงไปไกลเกินกว่าจะรับรู้สิ่งใด วารินหลงระเริงลืมตัว เมื่อคิดว่าเราเป็นส่วนเติมเต็มของกันและกัน เขาคงยอมให้อภัยทุกอย่างและเปิดพื้นที่ในหัวใจให้ได้เข้าไปครอบครองอีกครั้ง
 

“ธาร...พี่รักธาร..”
 

ปุยเมฆสีขาวโพลนบนท้องฟ้า ตัดกับแสงสีเหลืองทองแห่งดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้างาม  วารินสุขสมจนล้นเอ่อ ไขว่คว้าความปรารถนามาครอบครองจนสมใจ เสียงลมหายใจหอบถี่ หยาดเหงื่อผุดพรายไปทั่วทั้งใบหน้าขาว  ระเบียงสวยเปิดโล่งลมโกรกพัดเอากลิ่นหอม ๆ ของกุหลาบหลากสีลอยขึ้นมาคละคลุ้งถึงในห้อง ปลายนิ้วหนาปาดเช็ดเม็ดเหงื่อออกให้ทั้งที่ยังเขยื้อนกายเข้าออกอย่างถี่ยิบ ดวงตาสีเข้มที่มองลงมาที่เรือนร่างใต้ร่างกายของเขาทอประกายอัดแน่นไปด้วยความต้องการที่ล้นเอ่อ
 

“อยากได้อะไร..บอกผมสิ”
 

“ธาร..ได้โปรด..ธาร..” เสียงเล็กครางเครือ
 

จุมพิตดูดดื่มลึกซึ้งถูกบรรจงมอบให้กับคนที่เงยหน้าร้องขอ ท่อนแขนเรียวยกขึ้นโอบรัดอย่างต้องการที่พึ่งพิง  ร่างร่างบิดแอ่นเสียวซ่านเหมือนร่างกายแทบระเบิดออกมา
 

“..พี่รักธาร..”
 

เสียงจากหัวใจถูกเปล่งออกมาอีกครั้งเหมือนดั่งต้องการให้อีกคนพูดตอบกลับมาเช่นกัน
 

แต่ทว่ากลับไม่มีเสียงใด ๆ หลุดลอดออกมาจากร่างกายหนา
 

.....ผมก็รักพี่.....
 

คำพุดที่ไม่มีวันหลุดออกมาจากปากของเขาให้ได้ยิน  เขาตอกย้ำถาโถมเข้าใส่ขณะที่วารินแอ่นกายขึ้นรับ ธาราธารกระหน่ำตอกลงมาดั่งพายุที่จู่ ๆ ก็สาดซัดกระแทกกระทั้น วารินร้องเสียงหลง ขาเรียวที่ถูกเขาจับพาดไว้เกี่ยวเกาะสะโพกสอบรัดแน่น เขารุกรานใส่ไม่มียั้งเหมือนคนกำลังไล่ล่า จับคนตัวเล็กลุกขึ้นแล้วอุ้มไว้ขณะส่วนนั้นยังสอดประสานวารินกอดคอเขาไว้แน่น ร่างสูงใหญ่เดินออกมาที่ประตูหน้าระเบียง
 

“อย่าธาร! ไม่เอาตรงนี้” 
 

วารินส่ายหัวปฏิเสธพัลวัน ซุกศีรษะเล็กเข้าที่ไหล่เขาแน่นเพราะรู้สึกอายและไม่อยากจะให้มีใครเห็น แต่ธาราธารหรือจะยอมหากเขาต้องการ สองมือหนาประคองสะโพกกลมกลึงขึ้นลงจนเสียงดังพับๆๆ วารินร้องลั่นเมื่อเขาโหมร่างกายสวนขึ้นแบบไม่มียั้ง
 

“อ๊าา...ธาร! ไปข้างในได้โปรด”
 

“ทำไมล่ะครับหืมม  ไอ้เตโชมันจะได้เห็นๆกันไปเลยไม่ดีหรือยังไง...อ่าา..”
 

เขาวางร่างคนตัวเล็กลงที่พื้นด้วยความรวดเร็วรั้งสะโพกสวยขึ้นชันแล้วคร่อมกายกระแทกกระทั้นลงไปเมื่อรู้สึกว่าตนเองแทบจะทานทนต่อความอัดอั้นอีกไม่ไหว วารินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่เขาพูดก่อนหน้านั้นหมายถึงอะไร ความปรารถนาสีดำมืดช่างน่ากลัวนัก เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอดังลั่นไปทั้งห้อง ไม่นานนักธารรักสีขาวขุ่นของคนตัวเล็กก็แตกออก เสียงครางสุขสมของวารินดังสะท้านสะเทือนเมื่อได้รับการปลดปล่อย ขณะที่อีกฝ่ายไม่ยอมโดนทิ้งนานเขากระแทกกายรัวถี่อีกไม่กี่ครั้งความอุ่นร้อนก็ฉีดพล่านเข้าใส่ร่างเล็กจนหมดสิ้น ร่างกายที่เหนื่อยหอบของเขาคร่อมแผ่นหลังเล็กของวารินก่อนถูกเขาดันราบนอนลงไปด้วยกันไม่สนแล้วว่าเป็นพื้นพรมหรืออะไร
 

“อ่าา...พี่ทราย แบบนี้ถึงใจพี่ไหม ดีกว่าของไอ้เตโชมันรึเปล่า”
 

เขาคำรามเสียงต่ำชิดที่ใบหูเล็กขณะที่ดวงตายังเต็มไปด้วยความปรารถนา ส่วนกลางลำตัวยังแช่อยู่ในร่างกายอีกคนไม่ยอมถอนออก วารินเบิกตากว้างสติเริ่มกลับมาอีกครั้งฉุกคิดกับสิ่งที่เขาพร่ำถาม
 

“ธ..ธาร! ทำไมพูดแบบนั้น พี่ไม่..”
 

“ไม่เคยกับมันแค่รอบเดียวใช่ไหม? ไม่เป็นไรเดี๋ยวคืนนี้ผมจะสนองความร่านให้พี่อีก จะเอาให้ลืมบทรักของใครต่อใครที่พี่เคยผ่านมาให้หมดเลยดีไหม หืมม”
 

วารินหันหน้าไปดูคนที่นอนซ้อนตัวเองไว้ ธาราธารส่งยิ้มให้ แต่ทว่าแววตากลับนิ่งลึกจนยากที่จะคาดเดาได้  รอยยิ้มร้ายที่เหมือนรอยยิ้มของปีศาจปรากฏขึ้น
 

“ธารหมายความว่ายังไง??” วารินน้ำตาหล่นร่วงลงทันที ความรู้สึกเหมือนถูกเขาดึงขึ้นถึงสวรรค์แต่พลันถูกถีบตกลงมาด้วยเงื้อมือของมัจจุราช
 

“ก็หมายความว่าบทรักของผมมันสนองความร่านของพี่ได้พอไหม? ถึงใจไหมไงล่ะ”
 

เขาว่าแล้วค่อยถอนกายออกอย่างระมัดระวัง น้ำรักสีขาวยังไหลตามออกมาแต่ธาราธารไม่ได้สนใจ วารินน้ำตาไหลพรากกับคำพูดแสนดูถูกดูแคลนของเขาคนนี้
 

“ไม่ต้องมาจับ!” เสียงเล็กตะโกนลั่น วารินยันตัวลุกขึ้นหลีกหนีมือที่กำลังจะช่วยดึงตัวเขาขึ้นมา ดวงตามีหยาดน้ำเอ่อคลอ
 

“ถ้าคิดแบบนี้ก็ไม่ต้องมายุ่งกัน!”
 

เขารีบคว้าแขนเรียวไว้แล้วจับไหล่ทั้งสองข้างบีบแน่นด้วยสีหน้าที่ดุดัน
 

“โกรธทำไม! ที่ผมทำไปเมื่อกี้ก็แค่อยากรู้ว่าระหว่างผมกับไอ้คนสวนนั่นใครมันจะลีลาถึงใจพี่มากกว่ามันก็เท่านั้น และมันก็ช่วยไม่ได้นะถ้าหากพี่จะตีความสารพัดไปเอง พี่คิดว่าคนอย่างผมจะยอมยกโทษกับความร่านของพี่ได้ง่ายขนาดนั้นเลย? เคยบอกแล้วไงคนอย่างพี่มันไม่มีคุณค่าอะไรสักนิดก็แค่ที่ระบายเวลาที่ผมอยากมันก็เท่านั้น! ไม่มีวันสูงค่าขึ้นมาได้อย่างคนอื่นเขาหรอกนะ จำใส่ใจเอาไว้!”
 

คำพูดยาวเหยียดกระแทกลงกลางหัวใจวารินเข้าเต็ม ๆ หัวใจดวงน้อยร่ำไห้พร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นอย่างรวดร้าว เขาเหยียบย่ำลงที่กลางใจแล้วยังขยี้ต่อด้วยปลายเท้าจนใจร้าวรานและชอกช้ำ
 

 “ทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้..ฮึกก..ทำไมถึงทำร้ายกันได้มากมายขนาดนี้..ฮึกก..”   ไหนเคยบอกว่ารักกัน ไหนเคยบอกว่าจะไม่ทำให้เสียใจ ทำไมถึงใจร้ายทำกันได้ลง
 

“เลิกทำตัวร่านๆซะสิ  แล้วผมอาจจะพิจารณายกโทษให้บ้างก็ได้”
 

ไหล่เล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระทันทีที่เขาพูดจบ หัวใจที่เต้นพลันอ่อนลง ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงอีกต่อไปเมื่อถูกเขาประณามหยามเกียรติจนสิ้นซากไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรี
 

“พี่ไม่ได้มีอะไรกับนายเตเลยทำไมธารไม่เชื่อ! แล้วกับพ่อของธารพี่เองก็ไม่ได้ตั้งใจ เราสองคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ  ทำไมต้องมาโทษกัน!  ไม่คิดบ้างรึไงว่าพี่เองก็เสียใจเป็น ทำไม!! ทำไมไม่ถามพี่บ้างว่าพี่สมัครใจที่จะเป็นแบบนี้บ้างรึเปล่า..ฮือๆ.. ทำไมเอาแต่โทษพี่ ทำไมต้องมาว่ากันร่าน! ทำไมๆๆ!!!!!!!!!”
 

ดวงตาที่แดงก่ำช้ำไปด้วยรอยน้ำตาวารินร้องตะโกนดังลั่นอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป กำปั้นเล็กๆทุบตีที่แผงอกกว้างอย่างต้องการที่ระบาย  ขณะที่ธาราธารนิ่งงันเขายืนเงียบเฉยอย่างเย็นชา
 

“ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้าง..ฮ.อึกก..”
 

เสียงเล็กสะอื้นไห้อย่างโหยหา ไม่มีเหลืออีกแล้วความแข็งแกร่ง เมื่อวารินยอมทอดกายให้เขาได้ทำตามแต่ใจแต่ทว่ากลับถูกเหยียบย่ำและหยามเหยียดกันเสียขนาดนี้
 

“ได้โปรดอย่าทำแบบนี้กับพี่ธาร...พี่รักธารนะ รักธาร! ได้ยินไหมว่าพี่รักธาร ฮือๆๆ” 
 

เขาค่อย ๆ ดันไหล่บางออกห่างจากตัวอย่างเชื่องช้า แววตาที่แสนบอบช้ำสบกับแววตาที่มีแต่ความนิ่งงันเย็นเฉียบ ท่าทีเย็นชาของเขาไม่เปลี่ยนไปเลยแม้ว่าวารินจะแสดงความเจ็บปวดให้เห็นมากมายเพียงไหน
 


...สายตาที่ทอดมองลงมามีแต่ความเลือดเย็น...
 


“ผมไม่ได้รักพี่อีกแล้ว...ที่มีก็แค่ความใคร่ อยากจะทำให้เจ็บปวดเพื่อให้หายแค้นก็เท่านั้น คนอย่างพี่อยากจะไปทำอะไรกับใครต่อใครอีกผมก็ไม่ว่าหรอก แต่อย่ามาเอากับคนใกล้ตัวผม อย่าให้ผมเห็นว่าทำตัวสนิทสนมกับคนในบ้านผมเหมือนเมื่อตอนกลางวันอีกก็พอ”
 


....ดั่งประกาศิตจากฟ้าผ่าลงมาตรงหน้า กรีดซ้ำลงบนหัวใจที่ย่อยยับ บาดแผลที่ถูกแทงจนลึกร้าวกลับโดนบดขยี้จนไม่เหลือแล้วซึ่งความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้แก่กัน ความอ่อนโยนพลันเลือนหายไปเมื่อเขาผลักไสร่างเล็กให้ถอยออกจากทาง คำพูดที่แสนเจ็บปวดยังดังสะท้อนซ้ำไปซ้ำมาไม่เหือดหายไปจากใจ.....
 


ดวงตาทอดมองแผ่นหลังกว้างด้วยความรวดร้าว ฝ่ามือเล็กกำแน่นจนสั่นสะท้าน
 

เขาคว้าเอากางเกงที่กองอยู่บนพื้นโยนส่งใส่คนตัวเล็กก่อนที่ตัวเขาจะเดินเข้าห้องนอนที่มีประตูเชื่อมติดกับห้องหนังสือนี้
 

วารินทิ้งตัวลงที่โซฟาน้ำตาไหลพรากลงมาเป็นสาย เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นถูกปล่อยออกมาด้วยความคับแค้นอัดอั้น มือเล็กหยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่ ติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยก่อนคว้าเอาโทรศัพท์มือถือที่หล่นกองอยู่บนพื้นขึ้นมาถือไว้กับตัว ถอนหายใจเฮือกใหญ่ปาดรอยน้ำตาทิ้งให้หมดทุกหยดหยาด ตัดสินใจเดินไปยังประตูเชื่อมและเปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ธาราธารที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำสวมใส่กางเกงตัวใหม่เรียบร้อยกำลังจะหยิบเสื้อที่แขวนไว้ที่ราวในตู้
 

“ขายบ้านหลังนั้นให้พี่ได้ไหม? ธารจะขายเท่าไหร่ พี่จะขอซื้อคืน”
 

วารินพูดนิ่ง ๆ จริงจัง เพราะไม่อยากจะทนอยู่ในสภาพแบบนี้อีกต่อไปแล้ว หากไม่ใช่บ้านที่ภูวดลรัก บ้านที่เขาสองพี่น้องอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านของพ่อกับแม่ วารินไม่มีทางยอมเขามากมายขนาดนี้แน่นอน
 

คนฟังกระตุกเสื้อเชิ้ตออกจากไม้แขวน สะบัดไปด้านหลังแล้วสวมมันลงอย่างชำนาญเดินหน้าเข้าหาคนตัวเล็กขณะที่มุมปากยกยิ้มร้ายกาจ วารินก้าวถอยหลังไม่รู้ตัว
 

“เอาสิ อยากซื้อคืนใช่ไหม ผมขายไม่แพงหรอกพื้นที่เล็กๆแบบนั้น สัก...สองร้อยล้านก็คงจะพอ หึหึ จะจ่ายวันไหนล่ะ วันนี้เลยไหมหรือเป็นพรุ่งนี้ดี”
 

“ธาร!”
 

วารินเม้มปากแน่น นิ้วเล็กๆบดเบียดด้วยความแค้นแสนแค้น เขาไม่รักแต่ไม่ยอมปล่อยไป อยากทำร้ายกันไม่จบสิ้น เงินสองร้อนล้านวารินไม่มีปัญญาจะหามาให้เขาได้อยู่แล้ว เขาเองก็รู้ทั้งรู้
 

“ว่าไง? ยังจะอยากซื้อคืนอยู่อีกรึเปล่า ถ้าไม่มีก็ทนอยู่ที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน ทำ ‘หน้าที่’ ของพี่ให้ดี ๆ วันหนึ่งผมอาจเห็นใจยอมขายให้ในราคาร้อยสองร้อยบาทก็ได้”
 

รอยยิ้มของปีศาจยังประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา น้ำตาคนตัวเล็กไหลพรากลงที่สองแก้มเนียนอย่างรั้งไว้ไม่ไหว
 

“ทำไม! ทำไมต้องรั้งกันไว้ ในเมื่อไม่ได้รักกันแล้วธารจะมารั้งพี่ไว้ทำไม ทำไมต้องเอาบ้านหลังนั้นเข้ามาต่อรอง!”
 

“เพราะผมอยากให้พี่เจ็บปวดไง ความผิดของพี่มันไม่ใช่จะยกโทษกันได้ง่ายๆหรอกนะนึกถึงสภาพที่ต้องมาเป็นผมบ้างสิ แม่ต้องกลายมาเป็นแบบนี้ขณะที่คนรักของตัวเองไปนอนกกอยู่กับพ่อ พี่คิดว่าผมต้องเจ็บมากมายแค่ไหนกัน!”
 
 
“แล้วพี่ล่ะ!  พี่ตั้งใจงั้นเหรอ!! พี่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้หรือไง!!  อย่างน้อยถ้าหากมันเกินที่จะยกโทษให้จริง ๆ ก็ต่างคนต่างอยู่เถอะนะอย่าเหนี่ยวรั้งกันไว้อีกเลยแยกกันไปเลยดีกว่า!!”  วารินสวนขึ้นทันที
 

“จะออกไปก็ได้นี่ ผมไม่เคยห้ามนะ”  เขาเท้าแขนเข้ากับขอบประตู จ้องมองลึกเข้าไปในตาดวงเล็กเหมือนอยากให้จดจำสิ่งที่เขากำลังจะพูด
 

“ผมเองก็ไม่ได้อยากให้พี่เข้ามาอยู่ ๆแล้ว ก็แค่ลองพูดดูเล่น ๆ ไม่คิดว่าจะเข้ามาจริง ๆ เห็นวันแรกผมยังตกใจเลยนะไม่คิดว่าพี่จะร่านเข้ามาหาผมได้ขนาด......”
 

เพี๊ยะ!!
 

เสียงฝ่ามือกระทบผิวหน้าดังกึกก้องไปทั่วห้องเป็นครั้งที่สองของวัน ธาราธารกัดฟันแน่นเขายังไม่หันหน้ากลับมา
 

“หยุดดูถูกกันเสียที ถ้าไม่รักก็ไม่ต้องมาพูดจาทิ่มแทงกันแบบนี้ ใจร้ายเกินไปแล้วจริง ๆ คนไม่มีหัวใจ!! ใจร้ายที่สุด!!”
 

วารินฟิวส์ขาดตะโกนใส่หน้าเขาราวกับเสียสติ ผลักตัวเขาอย่างแรง ความเจ็บปวดที่ถาโถมใส่ทั้งร่างกายและคำพูดจากเขาเกินกว่าที่คนตัวเล็กจะรับได้ ร่างเล็กหันกลับอย่างเร็วแต่ต้องหยุดชะงักลงด้วยคำพูดของอีกคน
 

“เกลียดผมมากไหม?”
 

....เกลียดผมให้มากๆ ไม่ต้องมารักผม เกลียดผมยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี เราสองคนไม่อยู่ในฐานะที่จะรักกันได้อีกแล้ว....
 

ทันที่ที่เขาถามออกมาวารินเหมือนทำนบน้ำตาแตกพราก ยกสองมือเล็กขึ้นปิดใบหน้าสวยสะอึกสะอื้นไห้อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร
 

...เพราะว่ารักมากจึงได้เจ็บปวดหัวใจอยู่แบบนี้ ถ้าหากว่าเกลียดกันจริง ๆ คงไม่มีทางทนอยู่ในดูถูกแบบนี้หรอก...
 

“เย็นนี้ผมมีนัด จะออกไปข้างนอกไม่ต้องทำอาหารเผื่อ”
 

....เขาทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปทิ้งให้อีกคนยืนร้องไห้อยู่เพียงลำพัง....
 

....หากแต่ใครเลยจะรู้ หัวใจของเขารวดร้าวยิ่งกว่าถูกคมมีดกรีดเฉือนยิ่งนัก  เกลียดงั้นหรือ? ไม่รักแล้วงั้นหรือ?  ทุกอย่างกลับตรงข้ามกันทั้งนั้น.....



Tbc.



จากใจนักเขียน: Clear Mode

*พล็อตเรื่องของเราไม่เคยเปลี่ยนเลยนะเพราะเราเขียนนำไปไกลแล้ว  หลังจากนี้เรื่องราวคงจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ขอบคุณทุกคนที่ผ่านช่วงดราม่าหนักมาด้วยกัน เราเองก็ดูอยู่นะว่าจะเหลือนักอ่านกี่ท่านที่ทนผ่านช่วงนั้นมาได้ ยอมรับว่ามันหน่วงจริงไรจริง  ซึ่งโหมดแบบนั้นจากนี้จะเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ(??)(แต่เจ้าธารยังคงความหื่นไม่เปลี่ยน) เพราะวันนี้เราเขียนให้ความรู้สึกของทรายมันเทออกมาทั้งหมดแล้วจริง ๆ ถึงจุดที่ธารจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้างแล้ว

*และที่สำคัญคาแรคเตอร์ของพี่ทรายกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะมีตัวละครสำคัญกำลังจะมีบทบาทหนักเข้ามา ฮีต้องสู้ค่ะ   ถ้าใครคิดว่าสุดท้ายนายเอกหนี พระเอกตามหา>>ไม่ใช่แบบนั้นนะบอกเลย! นายเอกฉันจะทิ้งคุณภัครได้ยังไง??  แล้วที่สำคัญพี่ทรายไม่ได้ใสซื่อดูอ่อนเหมือนที่หลายคนคิดหรอกนะไม่อย่างนั้นจะเป็นเลขาเบอร์สองของคุณภัครได้เหรอ? ที่ทนทุกวันนี้มันมีเหตุผลหรอก( เอิ่มขอโทษค่ะ อินจัด) 

***ใครเอียนมาม่าก็ไปอ่านพิเศษหวานนิดๆหน่อย ๆ กันที่บล็อกได้ วันนี้เราลง Unseen-2 (ธารทราย)เอาไว้***

*ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันเสมอทั้งที่นี่และที่บล็อก ยอดดูที่บล็อกจากหลายประเทศสูงมากๆเราปลื้มสุดๆเลย ขอบคุณนะคราบบ ขอบคุณจากใจจริง*

*สำหรับใครที่อยากจะให้ปิดเรื่อง>>ไม่ปิดค่ะเราดื้อด้าน!!    พี่ทรายฉันยังไม่ได้ -ร้าย- จะปิดเรื่องได้ไง?? :katai1: ส่วนคอมเมนต์ห่วยๆ (แต่รกกระทู้อ่ะทำไงจะเอามันออกไปได้)  นี่เราใสๆนะ ไม่ได้ร้ายกาจอะไรเล้ยยยย *

*เราเคยบอกแล้วนะเราแค่มือสมัครเล่นเพราะงั้นข้อผิดพลาดแน่นอนว่าต้องมี  เพียงหวังว่าทุกท่านจะมองผ่านและอภัยให้กันไม่มีพล็อตใดพล็อตหนึ่งที่จะถูกใจทุกคนพร้อม ๆ กันได้เพราะงั้นถ้าชอบเรื่องของเราอยู่บ้างก็มาอ่านกันนะ ไม่ต้องเมนต์ก็ได้เราไม่เคยร้องขอเมนต์อะไรเลยค่ะ ถ้ากรุณาก็ลงให้แค่นั้นจบ หากไม่อยากลงก็อ่านแล้วกดออกไปแค่นั้น เราเฉย ๆ อยู่แล้ว ขอบคุณสำหรับนักอ่านดี ๆ และกำลังใจกดบวกและเป็ดบวก*


Thanks a lot.    :pig4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 06-04-2014 22:37:08
ทรายฉันยังไม่ได้ -ร้าย- จะปิดเรื่องได้ไง??

พอเจอประโยคนี้จากคนแต่ง กรี๊ดดดดดดดดดดดดด! ลั่นเลยล่ะ
แสดงว่าทรายจะเอาคืนใช่มั๊ย เราก็นึกว่าจะแนวนายเอกยอมให้กดขี่ฝ่ายเดียวซะอีก
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ว่าแต่อีกกี่ตอนถึงจะถึงอ่ะครับจะได้ตั้งตารอถูก อิๆๆ)
ถ้าเป็นยังงี้ค่อยคุ้มกับที่เรานั่งซดมาม่าจนท้องอืดหน่อย
มันจะแซ่บก็ตรงนี้ล่ะ แต่ก็นะ ทรายก็ทรหดอดทนเกิ๊น
เป็นเราระเบิดตั้งนานล่ะ จะรอดูว่าคนที่เราสบประมาทว่าติ๋มๆ ไม่สู้คน
ดูอ่อนแอจนน่ารำคาญ พอนางสุดจะทนแล้วจะระเบิดความร้ายออกมาได้แค่ไหน
อ่านแรกๆยอมรับเลยว่าไม่ชอบนิสัยธารที่ปากสุนัขมั่กๆทั้งยังชอบแกล้งทราย(แกล้งหนักเกิ๊น)
ซึ่งเหตุผลมันไม่พอที่จะไปทำกับทรายขนาดนั้น แม้จะเข้าใจว่ามีปมก็เถอะ แต่ทรายเกี่ยวไรด้วย???
แต่พอจุดพีคของเรื่องที่ทรายมีอะไรกับพ่อธารและได้รู้ปมต่างๆตามมาเราก็เริ่มเข้าใจนะ
(แม้จะแอบหมั่นไส้เวลาที่ธารชอบแดกดันทราย และไม่ฟังเหตุผลแม้มันจะฟังไม่ขึ้นก็ตามอ่ะนะ อิๆๆ)
แต่ถ้าเราเป็นธารเราจะไปแค้นพ่อตัวเองมากกว่านะคือเราว่าทัตเป็นพ่อที่ขี้ขลาด ไม่คิดจะทำอะไรให้มันดีขึ้นเลยเหรอ
เป็นหัวหน้าครอบครัวที่แย่ๆๆๆๆตั้งแต่ตอนที่ทิ้งภัครกับลูกไปแต่งงานกับอียัยวินั่นแล้ว แม้จะมาอ้างเหตุผลอะไรมันก็ฟังไม่ขึ้น
คือพออ่านๆไปในความรู้สึกเรามันเลยอึนๆมึนๆไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าใครดีคือแต่ละตัวละครก็มีเหตุผลของตัวเอง
(มีแต่อีตาทัตพลนี่แหละที่เราไม่ชอบที่สุด แม้จะดูเป็นคนดีนิ่งๆก็เถอะ แต่ทุกการกระทำที่ผ่านมาชั้นเกลียดแกไปแล้วอย่างไม่น่าให้อภัย) เพราะฉะนั้นถ้าทรายจะร้ายเราอยากให้ร้ายกับพวกตัวอิจฉาหรือคนที่วางแผนทั้งหมดมากกว่ามาร้ายกับธารนะ คือถ้าจะไฟท์กับธารนี่เราแค่อยากให้สู้บ้างไม่ใช่ยอมอย่างเดียว แต่ไม่ใช่วางแผนเอาคืนอะไรแบบนี้เพราะแค่นี้เราว่าธารก็น่าสงสารมากพอแล้วนะ

ปล.เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคราฟ แวะมาอัพเรื่อย รอติดตามถึงบทสรุปของตัวละครทุกตัว สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: Minerva ที่ 06-04-2014 22:42:38
เราว่าเรื่องนี้ดีนะ เรื่องที่ทำให้คนอ่านอิน
และคล้อยตามไปได้นี่ ถือว่าสุดยอดแล้ว สมกับที่เป็นนิยาย
ยิ่งมีพล๊อตเรื่องอยู่แล้ว ทำให้มันไม่จบล่มปากอ่าวแบบน่าปาหมอน
อย่างเรื่องด้นสดอื่นๆ

แอบเห็นแว็บๆ ....พี่ทราย....จะร้ายรึค่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!
ตายแล้ว รอมาตั้งนาน หมั่นใส้มนุษย์พระเอกมานานแล้ว!!
บอกตามตรงอยากเห็นพี่ชาย เชิด! ใส่มากค่ะ (ฮา)
เขียนต่อไปนะคะ สู้ๆ จะติดตามต่อคะ ^^

(นั่งขำเม้นข้างบน เชื่อว่าต้องมีมนุษย์หลายคนเห็นพ้องกันแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ)
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 06-04-2014 22:43:58
Unseen2 ที่ลงไว้ มันยังไม่จบตอนใช่มั้ยคะ
เรารู้นะว่ายังไม่จบ มันยังไม่จบ ใช่ม้ายยยยยยยยย..
ยังกินกล้วยไม่อิ่ม จะจบได้ไงคะ คะ คะ........
 :ling1:
รอดูทรายร้าย... แหมก็ว่าแล้ว อายุตั้ง32ถ้าเรียบๆติ๋มๆ
คงไม่รอดมาขนาดนี้หรอก ทรายเลยดูเป็นคนสองหน้าเลย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 06-04-2014 22:56:47
นุ้งธารรรรร พูดแต่ละคำนี่ เจ็บแสบบบจริงๆ
อ่านจบตอนแล้ว แต่คนอ่านยังไม่จบ นอนคิดต่ออีก
ิอินจัด สงสารทราย ร้าย ซะบ้างก็ดี 5555
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 06-04-2014 22:58:06
รอบทที่ทรายร้ายอยู่นะ :hao5: :hao5: :hao5: 
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 06-04-2014 22:59:27
รอติดตามนะคะ อยากเห็นทรายร้ายเหมือนกัน
เอาให้ธารกระอักเลย พูดจาทำร้ายสุดๆทำไมไม่เข้าใจทรายบ้าง
นี่ทรายก็ลงให้สุดๆละนะ รอจุดเปลี่ยนจ้าา สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 06-04-2014 23:12:08
อยากเห็นทรายโหมดร้ายยยยยยยยย ><
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 06-04-2014 23:14:20
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ไอ้ธาร ชั้นเบื่อแกรมาก แกมันบ้าจริงๆๆๆ
ตรบซ้าย ตรบขวา ตรบรัวๆๆๆๆๆๆ   :z6:

ชั้นรู้นะว่าแกเสียใจมาก แกน่าเห็นใจ บลาๆๆๆ เป็นชั้นอาจบ้าไปแล้ว  :katai1:
แต่แกก็ต้องช่วยตัวเองทำใจบ้างป่ะวะ แกก็จมลงไปอยู่นั่นแหละ เป็นไง สะใจมั๊ยล่ะ ทำร้ายเขา
พอเขาไม่ไหว เค้าเจ็บ แกก็เจ็บ เป็นไงไอ้น้อง แกแม่มอ่อนหัดว่ะ

สูดหายใจลึก เข้าโหมดปกติ ขอโทษนักเขียนด้วยนะ วันนี้เราอินกว่าเดิม 2 เท่าครึ่ง
แต่ขอยืนยันอีกทีว่าคุณเขียนได้เจ๋งมาก น๊านนานที เราจะปรี๊ดได้ถึงขนาดนี้
นับจากนี้เราจะรอวันที่ทรายร้ายนะ ไอ้เด็กน้อยธาร แกตายแน่ หึ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 06-04-2014 23:19:04
ิอ่านตอนนี้จบอินกว่าเดิมอีกค่าาาา U _ U
ทั้งไม่รัก ทั้งเกลียดถ้าเราเป็นทรายนี่ใจสลายอะขอหลบไปพักใจ
ยังไม่คิดแก้แค้นค่ะแบบว่าเจ็บหนักอยู่55555555555555555
รอดูนางแสดงบทบาทร้ายนะ เอาให้แฟร์ๆแล้วจบแฮปปี้เอนดิ้งก็ได้ค่ะ อิอิ
แล้วคุณวิเป็นไงบ้างอะ ได้รับผลกรรมรึยังแค่โดนทิ้งมันยังไม่พอนะคะ
ขอให้คุณภัครหายไวไวแล้วมาฟังความจริงนะมันเป็นสิ่งไม่ตายอยู่ละ

ปล. คือไม่อยากจะจิ้นทัตซีเลยค่ะ แต่บาปไปครึ่งท่ิอนแล้ว
55555555555555555555555555555555555555555555
ปล. หน่วงแทนทุกตัวละคร อยากเข้าไปตบกระโหลกธารให้ตาสว่าง
สรุปจะหึง?จะแค้น?หรือจะอย่างไงสงสัยดูจำเลยรักมากไปแน่ๆ :m16:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: kwangun ที่ 06-04-2014 23:19:22
สนุกมากเลยค่าา หน่วงสุดๆ ทั้งรักทั้งแค้น จะจบเศร้าไหมเนี่ย แอบกลัว :'(
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: lightseeker ที่ 06-04-2014 23:22:25
บัวมาชัวร์งานนี้  :z6:
พี่ทรายต้องร้ายแล้วล่t ไม่งั้นคงสู้ไม่ไหวแน่

เรากลัวว่าตอนสุดท้ายธารจะเป็นบ้าไปนะ ต้องทั้งเก็บกดความรู้สึก แสดงแต่ส่วนร้ายๆ ไปๆมาๆจะเป็นประสาทมั้ยเนี่ย =_=
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 06-04-2014 23:24:08
ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้น้องคนแต่งนะคะ สำหรับคอมเม้นท์ที่อ่านแล้วทำให้เราเสียใจ หรือเฟล หรือคิดมาก อะไรก็แล้วแต่
ผ่านๆมันไปละกันค่ะ ถือซะว่าไม่เคยได้อ่านคอมเม้นท์แบบนี้ อิอิ

เข้าเรื่องดีกว่า ด้วยพิษรักแรงหึงน้องธารจึงจัดหนักให้พี่ทรายอีกแล้ว (พี่ทรายโดนบ่อยแบบนี้ โทรมแย่แน่ๆ )
โอ๊ย แล้วอีตาคุณทัตนี่เสือกโทรเข้ามาตอนเค้ากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันอีก ช่างโทรมาถูกเวลาซะจริง
แล้วเป็นไง พี่ทรายก็รับเละไปสิ โดนทรมานอีกจนได้ กรรมเวรอะไรของพี่ทรายก็ไม่รู้

ตอนหลังๆพี่ทรายจะร้ายจริงๆใช่ปะ ก็อยากเห็นเหมือนกันพี่ทรายร้ายแล้วจะออกมาเป็นยังไง เพราะที่ผ่านมาก็ไร้เดียงสาตลอด
ก็ดีนะ จะได้มาเอาคืนน้องธารบ้าง โดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวมาตลอด ถึงคราวที่พี่ทรายจะสู้คนแล้ว ยังไงก็จะเอาใจช่วยพี่ทราย
เมื่อวันนั้นมาถึง มันต้องสนุกมากแน่ๆ รอติดตามอย่างใจจอใจจ่อค่ะ

ส่วนบล็อกตอน 2 ค่อยอ่านพรุ่งนี้ละกัน อิอิ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 06-04-2014 23:24:34
เมนท์ห่วย ๆ  :m20:.... กร๊ากกกกกกกก จรืงว่ะ
เข้าเรื้อง ... ตอนนี้นับถอยหลังรอความจริงเปิดเผย รอดูพี่ทรายร้าย หวังว่าคงจะแซ่บ
นอกเรื่อง .... อยากให้คนแต่งเอาเรื่อง ..เพื่อนแบบนี้...กับ swat-d มาลงเล้าด้วยจัง สนุกค่ะ ชอบ

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 06-04-2014 23:30:40
ตอนแรกกะด่าพระเอกให้ฉ่ำปอดเลย แต่พอเจอคนเขียนทอล์คตอนท้ายเรื่องมีกำลังใจแฮะ
ทำไมทรายต้องทนล่ะ ทนมาพอกับเหตุผลพวกนั้นแล้ว ต่อไปก็ลุกมาสู้มาเชือดเฉือนกันบ้างเถอะ
ให้มันรู้สิว่าระดับพี่ทรายจะสู้น้องธารที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือไม่ได้
ธารก็แค่มนุษย์ขี้แค้นและขี้หึง อยากให้หึงแต่ทำอะไรไม่ได้บ้าง อยากสะใจ
ป.ล. รักพระเอกนะคะ แต่รักมันจะดำเนินต่อไปได้ไง ถ้าธารไม่ฟังอะไรบ้างแบบนี้ หากพรุ่งนี้ต้องตายจากกัน
ถึงจะมานั่งเสียใจหรือธาร

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 06-04-2014 23:45:22
ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่กินมาม่า
ฮือออออ รอให้พี่ทรายร้ายอยู่นะ
จัดการธารให้เจ็บไปเลยยยย เชียร์เต็มที่
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: Phut ที่ 07-04-2014 00:02:15
ขยี้อารมณ์สะใจจัง(คนอ่านโรคจิต)  :z10: :z10:
ภาษาสำนวนไม่เหมือนมือสมัครเล่นเลย อ่านละพริ้วสะเทือนอารมณ์ ชอบๆ :mew1:
เชียร์ทรายหนีแต่ในเมื่อทรายไม่หนีก็รอดูทรายโหมดฮึด
อยากรู้ธารจะทำยังไง :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: monaligo ที่ 07-04-2014 00:14:12
ในที่สุดก็อ่านจนทันตอนล่าสุด
พี่ทรายอาจจะผิดที่โกหกนะ
แต่ที่ธารทำมันมากไปนี๊สสสสสสสสสนึง
อยากเห็นพี่ทรายโหมดดาร์คบ้างไรบ้าง
แอบคิดเหมือนนะว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ทราย
อิน้องธารมันจะเป็นยังไงมันจะคิดได้สักนิดไหมนะ
แต่อ่านแล้วอินง่ะอินจริงๆ
(แอบเป็นพี่ทรายfcอ่ะ...ไม่รูสิแบบว่าเข้าสงสารอ่ะสงสารมากเลย)
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: haruko ที่ 07-04-2014 00:24:41
รอดูพี่ทรายร้ายยย ธารต้องโดนซะบ้าง
เล่นแค้นฝังหุ่น ยัดเยียดความร่านให้พี่ทราย
ต้องโดนซะมั่งนะธาร หึหึ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 07-04-2014 00:39:32
อยากเห็นทรายร้ายยยยยย

เอาตรงๆ ไม่อยากให้กลับไปรักธารอีก เซ็ง มันทำเกินไปอ่ะ
ทั้งเรื่องพูดจาด่าทอดูถูก ทำร้ายร่างกาย เเล้วนังชะนีนั้นอีก
เเหม่ ด่าว่าทรายมักมากอย่างนั้นอย่างนี้ เเกทำตัวดีนักอิพระเอกธาร
ไม่อยากให้ทรายกลับไปรักกับคนเเบบนี้ เปลี่ยนพระเอกไปเล้ยยยยย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 07-04-2014 00:58:50
ในที่สุดพี่ทรายแกก็จะเอาจริงสินะ!! เหม็นขี้หน้าคุณพระเอกมานานละ :z6: ขอหนักๆเลยนะพี่ทราย  :hao7: :hao7:

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 07-04-2014 02:26:22
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อ่านตอนที่แล้วค้าง ๆ คนเขียนก็ต่อตอนต่อไปละ
(มัวแต่ไปอบรมอาหารเสริมอ่านไม่จบตอนสักที T^T)
ล่าสุดเขาเป็นไรกันคะ มาไม่ทันเหตุการณ์ (บ่งบอกนิสัยไก่ชอบอยู่หลังเสือเต็มที่) โอเค ริวจะไม่ยุ่ง  :hao7:
ว่าแต่คนเขียนกับ คุณ onlymin เป็นไรกันคะเห็นบล็อกเดียวกัน //ก้าวก่ายเขาจังตู

ฉากเด็ดตอนนี้ที่เราชอบมากเลยคือตอนอิทัตโทรมาาาาาาาาาาาาา  :hao6:
เราว่าไงดีล่ะ ดีต่อธารนะเหมือนธารจะได้เอาคืนพ่อเรื่องนี้อะ แบบเรียกความมั่นใจ
ให้ความรู้สึกว่า "ถึงพ่อจะเคยได้แต่ตอนนี้นี่คือของผม อย่ามายุ่งอีก" (เหมือนหมามันสร้างอาณาเขตอะ//เปรียบเทียบซะนะ)
แต่ติดตรงที่ว่าอิทัตไม่รู้เน่เซ่ อิทรายก็กลั้นเสียง อิธารก็ชิงวางสาย ม้ายด้ายดั่งใจ่ค้าาาา(เสียงเริ่มเพี้ยนคีย์) :katai1:

“พี่ไม่ได้มีอะไรกับนายเตเลยทำไมธารไม่เชื่อ!”

ไม่นะทรายตอนที่แล้ว ๆ (เท่าไหร่วะ) นางบอกว่ายอมรับไม่ใช่รึ ที่ธารตราหน้า(ใช้คำนี้นี่ถูกแล้วสินะ ฮา)ว่ามีไรกับเต
โทษธารไม่ได้(ว่ะ)ค่ะ นั่นก็ประชด นี่ก็บื้อ(ทำไมมึงไม่ใช้โง่วะ//บ่งบอกความลำเอียงจ้ะ)เชื่อคำประชด :katai3:

*และที่สำคัญคาแรคเตอร์ของพี่ทรายกำลังจะเปลี่ยนไป ถ้าใครคิดว่าสุดท้ายนายเอกหนี พระเอกตามหา>>ไม่ใช่แบบนั้นนะบอกเลย! นายเอกฉันจะทิ้งคุณภัครได้ยังไง?? 


ดีใจค่ะที่บอกทรายไม่หนีทำให้ชอบทรายขึ้นอีก 1%(?) ไม่ใช่ว่ามันน้ำเน่าหรอกนะ
(เรื่องอื่นที่น้ำเน่ากว่านี้ก็อ่านหมด แนวนี้ก็รู้ว่าน้ำเน่าก็คงยังอ่านเป็นกิจวัตร ฮา)
แต่ทรายไม่ควรทิ้งคุณภัครจริง ๆ ค่ะ ถ้าหนีธารนี่เราว่าอกตัญญูต่อคุณภัครมากนะ

ให้ความรู้สึกที่มึงเข้ามานี่ตั้งใจมาดูแลคุณภัครนะ แล้วที่หนีไป มึงจะมาเพื่อออออ?(ว้ายหยาบคายรับไม่ได้  :z6://ด่าตัวเองนะอย่าร้อนตัวนะคุณ ๆ )

พี่ทรายฉันยังไม่ได้ -ร้าย- จะปิดเรื่องได้ไง??
อะไรนะธารหนูจะไม่ได้ S และ M(?) แล้วหรือค้าาาาาาาาาาาาาาา
จำเลยรักหนูจะหายไปแล้วหรือค้าาาาาาาาาาาา โอ้ววววว น้อออออออออออออออออออ
ต่ออีกสักยกสองยก หลาย ๆ ยกเถอะคนเขียนกำลังหื่นเอ้ยกำลังมันได้ใจเลย อุแหม่ :ruready
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 07-04-2014 02:33:25
 :m1: ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณคนเขียนที่ฉีกผงยำยำรสต้มโคล้งใส่ลงไปให้มาม่ามันแซ่บขึ้น
จากสองสามตอน สถานการณ์แลดูเบาบางจนนึกว่าจะเป็นปกติได้เร็ววัน
ซึ่งยังไม่สะใจเราเท่าไหร่เพราะ อิเด็กธารมันเหมือนให้อภัยง่ายไป
(เราคิดตามเด็กธารนะ เรื่องอย่างงี้อภัยยาก ถึงไม่ตั้งใจ แต่ทรายก็นอนกับคุณทัตและเป็นต้นเหตุให้คุณภัครป่วย)
มันต้องยากกว่านี้สิ อีกอย่างให้อภัยง่ายๆเราก็จะยังไม่เห็นความรักของทรายที่มันกำลังออกมาให้เราเห็น

 o18 ฉันขอฟันเฟิร์ม ว่า อิเด็กธารเป็น S ชัวร์ สิบแปดล้านเก้าแสนเปอร์เซนต์
ตอนนี้ S ได้ถูกใจมากถึงจะไม่มีโซ่ แส้ กุญแจมือ ไม่มีตบจูบ
แต่ฉากเอ็นซีอันนี้มัน อร๊างงงงงงงงงง ขอเลือดด้วย (ทำไมฉันแลดูโรคจิตจัง)
มีทั้งถูกกินกล้วยขณะคุยกับคุณทัต แอบโชว์เล็กๆ
(อิเด็กธารมันจะโชว์เตแต่ความจริง ชั้นว่ามันอยากโชว์พาวตามประสา ผช วัยกลัดมันมากกว่า
สังเกตจากตอนที่ ทรายเข้าบ้านตอนแรกๆ ทรายก็โชว์พลังดุจกระทิง ทำเอาทรายร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด?
จนคนในบ้านได้ยินกันหมด ดังนั้นอิเด็กธารต้องจิตไม่มากก็น้อย แต่เป็นจิตที่มาพร้อมหื่น)

 :impress2: อิเด็กธารยังคงแสดงความรักผ่านพลังหื่น ให้ตายเถอะ ช่างเป็นความคิดอันน่ารักของเด็กจริงๆ
ฉันว่า ไอ้ช่องว่างสิบสองปี มันจะโดนความหื่นของอิธารกั้นหมดแล้วล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า (ขนาดตอนพิเศษ เดินซื้อของแกยังหื่น)

พี่ทรายนี่ M แน่ๆ ฉันเล็งเห็นปากมันบอกไม่ชอบแต่พอธารทรมานด้วยเอ็นซี เธอก็ว๊อนซะน่าเอ็นดูเหลือเกิน

ไอ้คุยกันไม่รู้เรื่อง ธารไม่ฟังพี่ธาร คนอ่านคนอื่นรำคาญ แต่ชั้นชอบมากกกกกกกก **********
มันแสดงได้ถึงนิสัยอิเด็กธารได้เป็นอย่างดี ถ้าอิธารเชื่อในบัดดล ฉันคงคิดว่ามันไปแอบกินยาคุณภัครจนสมองพลิก

การที่ธารพยายามดึงเรื่องต่างมาโยงเข้าด้วยกันเพื่อทำร้ายทราย อาจดูไม่ดี
แต่เรากลับมองว่าอิเด็กธารพยายามทำทุกทางให้พี่ทรายได้อยู่กับมัน

และตอนนี้ฉันก็ยังหงุดหงิดกับพี่ทราย  :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat: :beat:
พี่ทรายโว้ย ธารรักแกจะตายห่าแล้ว แกสร้างเรื่องขนาดนี้
(ถึงแกจะไม่ได้ผิด 100% แต่ยังไงก็ผิด เรื่องแบบนี้ยอมไม่ได้จริงๆนะ ลองสมมติตัวเองเจอเหตุการณ์แบบนี้ ขนาดเรารู้เรื่องหมดยังให้อภัยไม่ได้เลยอ่ะ เป็นเราอาจจะเกลียดทรายจนอยากจะ..... ไปแล้วด้วยซ้ำ [เซ็นเซอร์ให้คิดเอาเอง อิอิ])
ถ้าคนเขาไม่รักเขาไม่ให้เข้าใกล้หรอก คงเชือดแกทิ้ง เอาไปรุมโทรม ทำให้ไม่มีที่ยืนในสังคมไปแล้ว
นี่เราว่าธารมันแสดงออกหลายเรื่องแล้วนะ ทั้งรัก(ส่วนมากเจอในบทเอ็นซี) ทั้งหึง ทั้งห่วง อยากอยู่ใกล้ ไม่ให้ไปไหน
ทำไมยังไม่รู้เรื่อง พี่ทรายแก่กว่าธาร แต่ด้านหัวใจนี่ไม่ไหวจริงๆ แล้วที่สำคัญขี้น้อยใจมากกกกกกก
คนอ่านในนี้หลายคน(เหรอ?) พร้อมที่จะไปแย่งธารทันทีที่แกไม่เอา ฮ่าฮ่าฮ่า  :hao7:


ปอลิง:
:m10: ตอน unseen 2 นี่ให้ความรู้สึกว่าธารมันหื่นแสดงออกมากเลยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า
สังเกตมานานแล้ว ว่า NC ช่วงหลังธารมันชอบกินกล้วย #ฉันไม่ได้ทะลึ่งนะ

หวังว่าคุณทัตของฉันของไม่ S เหมือนอิเด็กธารนะ  :กอด1:

ได้ข่าวว่า ทรายจะร้าย ===> ขอแซ่บๆนะ ประมาณว่าเป็นราชินีอะไรงี้ ฮ่าฮ่าฮ่า

#ดึกแล้วฉันชอบเพ้อ ฮ่าฮ่าฮ่า  :hao7:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 07-04-2014 03:24:38
 :sad2: :sad2: รอโหมดดาร์กไซด์ของทรายค่ะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 07-04-2014 04:48:44
ถ้าไม่หนีก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด อย่าให้เขารังแกเราอยู่ข้างเดียว
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 07-04-2014 05:47:37
มันก็ยากจะอธิบายนะ อารมณ์แบบทั้งรักทั้งแค้น
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-04-2014 06:39:53
ลุ้นเลยว่าพี่ทรายจะร้ายเมื่อไหร่...แต่จากที่ธารทำกับพี่ พี่ควรจะร้ายตั้งนานแล้วนะคะ :katai1:
คนอะไรใจร้ายสุดๆ ทำกันเกินไปนะ :ling1:
สุดท้ายจะกลับมารักกันไหม จะรออ่านค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 07-04-2014 09:09:15
อ๊ายยยยยยยย เม้นท์เมื่อคืนปุ๊บ ดูหนังแป๊บ สักพักหลับปุั๊บ เลยไม่ได้อ่านตอนใหม่เบย :ling1:  แต่ไม่ใช่เรื่องหญ่ายยยยยยยยอ่านเช้าก็ได้  :impress2: ช่างเป็นตอนที่ชอบเหลือเกินกับการลงโทษของธาร นึกไว้เหมือนกันว่า อีนี่ต้องกลับมารอบนห้องแน่ และพี่ทรายก็อุตส่าห์หวังดีไปตัดดอกไม้มาปักแจกันให้เพื่ออีเด็กน้อยมันจะได้สดชื่น และมันก็สดชื่นเจงๆ แต่ไม่ใช่เพราะดอกไม้ แต่เป็นดอกที่มันมอบให้พี่ทรายนั่นแหละ :laugh: พาเราฟินไปด้วย  สงสัยธารคงเอาหลักการพี่โน้ตมาใช้ ‘ความรักไม่ใช่เรื่องบนเตียง ไปที่ระเบียงบ้างก็ได้’ ฮีเลยจัดซะ  :jul1: แต่ยังไม่พอ ด้วยอำนาจความหื่นแห่งตัวข้าขอดลใจให้ธารหื่นขึ้น หื่นขึ้น ไปอีก :haun4:
 
และก็ตอนนี้ทรายทำได้ดีแล้ว มีการพูดความในใจ มีการแสดงออกทางด้านอารมณ์ร่วมหลายๆอย่าง ธารไม่ใจอ่อนยวบหวั่นไหวก็ให้มันรู้ไป ซึ่งมันดีกว่าที่จะไม่ทำเลย รู้ว่าทำแล้วฮียังอดปากแข็งปนปากเสียไม่ได้ แต่ก็เข้าใจฮีหน่อยเถอะ ทำอย่างนี้ทุกวันเหมือนน้ำหยดลงหิน หินมันก็กร่อนไปเอง เพราะฉะนั้นพี่ทรายต้องให้ธารมันเอาน้ำหยอดบ่อยๆ จะได้เข้าใจกันได้ไวขึ้น :jul3:   เม้นท์ยังไงตูก็เม้นท์ให้นายเอกเสียเปรียบทุกที ทำไงได้นางอายุมากกว่าต้องเสียสละ อุต๊ะ ยังเข้าข้างไม่เลิก :hao3:

แต่มันก็ดีกว่าไม่พูด ไม่ทำอะไรเลย ต่อให้พูดว่าไม่ได้ตั้งใจ ยังไงธารก็ยังไม่ปักใจเชื่อหรอก ไม่ใช่ว่าธารไม่เชื่อใจทรายนะ ด้วยระยะเวลาของการคบกันมันเพิ่งเริ่มต้นไปไม่เท่าไหร่ แล้วมาเกิดเรื่องขึ้นซะก่อน กอปรกับหลักฐานมันมัดแน่น ซึ่งมันทำให้ธารเชื่อยากอยู่แล้ว ถึงทรายจะเห็นและได้เลี้ยงดูธารมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็เป็นชั่วเวลาแค่ไม่นานเท่านั้น ขอให้ทรายอดทนจนถึงที่สุด พิสูจน์ตัวเองให้พ้นข้อครหาให้ได้ พิสูจน์ว่ารักธารเหมือนกัน พิสูจน์ว่าไม่เคยเนรคุณคุณภัคร อย่าเอาแต่โทษว่าตัวเองผิดจริง ซึ่งมันไม่ใช่ ในเมื่อทรายบอกมันคือความไม่ตั้งใจ ก็อย่าคิดแบบนั้นมันจะบั่นทอนตัวเอง และพยายามมองถึงสิ่งที่ธารแสดงออก ถึงมันจะปนไปด้วยความโกรธเคืองไปบ้าง แต่มันก็ยังห่วงใยทรายเสมอ มีมุมอ่อนโยน อ่อนไหว ให้เห็นบ่อยๆ :man1:

 ทรายที่วุฒิภาวะทางวัยมากกว่า ควรจะประคับประคองให้ผ่านไปด้วยกันให้ได้ แต่ถ้าวันหนึ่งความจริงเปิดเผย มีหลักฐานแสดงแน่ชัดให้เห็นแล้วว่า ทรายกับทัตพล ไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ไม่ได้นอกใจธาร ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ธารคิด เราเชื่อว่าธารต้องเป็นฝ่ายเสียใจไม่แพ้กันที่ทำกับคนรักและคนที่ชื่อว่าเป็นพ่อแบบนั้น เราเชื่อว่าธารยังไม่ยอมรับในคราแรกหรอก มันต้องใช้เวลาในการทำใจ ในการที่จะเลิกเห็นภาพเหล่านั้นอยู่ในหัว ซึ่งมันยากอยู่นะที่จะยอมรับให้ได้ ถ้าทรายเป็นของคนอื่นมาตั้งแต่แรกและบอกกับธารว่าเคยมาแล้ว เราว่าธารรับได้นะ เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่คนเราจะมีแฟนและมีอะไรกันมาก่อน โดยเฉพาะผู้ชาย แต่นี่เป็นพ่อตัวเองกับคนรักไงมันเลยตะขิดตะขวงใจ ไหนจะฝังใจเรื่องพ่อที่ทิ้งแม่ทิ้งตัวเอง ไหนจะแม่ต้องมาเจ็บป่วยเพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ อย่างที่ได้โต้เถียงกับทรายไป ซึ่งก็ถือว่าทั้งคู่ได้เปิดปากเปิดใจให้กันบ้างแล้ว รอแต่ว่าจะยอมรับได้เมื่อไหร่ ถ้าเป็นเรื่องจริงคงใช้เวลานานพอสมควร รักคือการให้อภัย เชื่อว่าสักวันจะเกิดกับทั้งสองคน :กอด1:  แต่ถ้าธารยังพยายามไม่เข้าใจก็ต้องแล้วแต่จะตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไปกันล่ะทาง  แต่ยังไงฉันก็เห็นใจเด็กน้อยของฉันอยู่ดี ทั้งสองคนไม่ได้ตั้งใจ ผิดกับธารที่ตั้งใจทำ แต่ก็ทำด้วยหัวใจที่ปวดร้าว เจ็บปวดเกินเยียวยา ทำเท่าไหร่ก็เจ็บมากกว่าเท่านั้น เพราะเป็นฝ่ายที่รักทรายมากกว่า :monkeysad:

ส่วนคุณทัตพลขอหน่อยเถอะค่ะ  :beat:  Fc คุณทัตอย่าเคืองกันนะ ขอวิจารณ์การกระทำตอนนี้หน่อยเถอะค่ะ :call: เมเดย์ เมเดย์ เฉพาะตอนนี้เท่านั้น ตามเนื้อหา

เราไม่โกรธทัตพลที่โทรเข้ามาขัดจังหวะ เพราะฮีไม่รู้หรอกว่าใครจะทำอะไรตอนไหน ฮีโทรเข้ามาคงเพราะซีฟ้อง เอ้ย พูดรำพึงรำพันด้วยความเหงาหงอยให้ฟัง ว่าทรายไม่ได้กลับบ้านและดูเหมือนจะไม่สบายทั้งกายและใจ ซึ่งทัตพลรู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะอะไร เลยอยากจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นโดยการโทรหาทราย เพื่อให้ซีสบายใจ และเพื่อบอกข่าวพี่ชายให้ทรายทราบด้วย ขอบอกหมั่นไส้มากกกกกกกกกกก :m16: ที่เห็นใจสองพี่น้องมากจนออกนอกหน้า มากจนละเลยความเห็นใจลูกชายที่ตัวเองได้ตำหนิออกไป ทั้งที่รู้ว่าธารเป็นแบบนี้เพราะใคร ในเมื่อทัตพลบอกไม่ได้ตั้งใจ ธารก็ไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน มันเข้าใจผิดอยู่ มันก็ต้องคิดเองเออเองอยู่แล้ว ยิ่งคนรักกับพ่อพูดยืนยันปากเปล่าอย่างเดียว เป็นใครใครก็เชื่อใจยาก เข้าใจนะว่าต้องรอเวลา และไม่อยากให้มีผลกระทบต่อฝ่ายไหน แต่เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วคุณต้องจัดการให้มันเด็ดขาด อย่าลืมว่าธารยังเด็ก ต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายมากที่สุดในชีวิตจะให้ฮีทำยังไง เราสงสารธารมาก ตอนที่ทัตพลตำหนิลูก และที่เคืองสุดๆ   :fire:  คือ ฮีเล่าเรื่องของตัวเองกับซี อย่างมีความสุข เพื่อให้ทรายไม่เป็นกังวล ห่วงสองพี่น้องจะเสียใจ ห่วงว่าลูกจะทำร้าย แต่ไม่คิดจะห่วงเมียที่นอนเป็นอัมพาตหน่อยเหรอ :m31: ไม่เห็นถามถึงสักนิดว่าเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม สักนิดแค่เอ่ยชื่อภัคร ไม่มีเลยสักนิดแทบจะไม่นึกถึงด้วยซ้ำ ส่วนธารก็ถามแต่ถามไปในทางที่อคติกับลูกมากกว่าห่วงใย ถามแต่ว่าธารทำร้ายทรายมากไหม ลูกฉันไม่เอาไหน แล้วมันเกิดเพราะใครล่ะ  แทนที่ก่อนจะตำหนิธารน่าจะถามถึงลูกสักหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง เขาดีขึ้นบ้างไหม  และค่อยพูดถึงการกระทำก็ได้ คิดดูธารจะเสียใจและเสียความรู้สึกแค่ไหน ปกติมันก็น้อยใจพ่อมันอยู่แล้ว เราเสียความรู้สึกกับทัตพลตรงจุดนี้มาก ดูฮีลัลล้าเหมือนไม่ได้มีเรื่องทุกข์ใจสักนิด พยายามจะเข้าใจว่าฮีอยากจะผ่อนคลายและหาทางออกกับเรื่องนี้ แต่มันคิดไมได้เพราะการกระทำที่ฮีแสดงออก เรามานึกถึงตอนจิ้นกับซีในบล็อกเพิ่งมาคิดได้ว่า เกิดเรื่องขนาดนี้ ฮียังมีอารมณ์ลัลล้าทำตัวเหมือนหนุ่มน้อยอยู่อีกเหรอ ไม่เหมือนคนเป็นพ่อสักนิด ทั้งที่ปากพูดว่ารักภัครกับลูกมากกว่าสิ่งใด แต่ตอนนี้มันไม่ได้ให้อารมณ์แบบนั้นเลย  ขอริบคำชมคืนหน่อยนะ คุณทัตพล เดี๋ยวจะคืนให้ถ้าคุณแสดงให้เห็นว่าทำดีในตอนต่อไป o18

และที่คนเขียนบอกว่า ทรายจะร้ายและโต้ตอบ เราก็เห็นด้วยนะที่ทรายจะทำ แต่ขอให้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผล ไม่ใช่เอาคืนธารด้วยความแค้นที่ถูกกระทำ นั่นแสดงให้เห็นว่า ทรายไม่รักธารสักนิด และไม่คิดถึงคุณภัครด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้น เพราะเราเห็นว่า เจ็บทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกกระทำ ทรายเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำและตัดสินว่าผิดอย่างไม่ยุติธรรม แต่นั่นทรายต้องพิสจูน์ตัวเองให้ถึงที่สุดเท่าที่จะพยายามทำได้ ส่วนธารถูกกระทำทางจิตใจสาหัสไม่แพ้กัน โดยเฉพาะมันไม่ได้เกิดขึ้นกับความรักของเขาเท่านั้น แต่มันเกิดกับคนที่เขารักมากที่สุดด้วย คือ แม่ ที่ต้องมารับไปด้วยอย่างทรมานทั้งกายและใจ ความไม่ตั้งใจไม่ใช่ว่าอภัยไม่ได้ แต่ต้องทำให้เห็นว่าต้องทำยังไงถึงจะเกิดคำนี้ได้ สุดท้ายถ้าความจริงเปิดเผย ฉันเตรียมตัวสงสารธารจะดีกว่า ที่ต้องเป็นฝ่ายโดนต่อว่ามากที่สุดอยู่แล้ว :hao5: ไม่เป็นไรนะ โอ๋ โอ๋ ใครไม่รักไม่เอา เขาเอาเอง  เพราะเขารู้ว่าธารไม่ได้ตั้งใจ และรักทรายมาก :กอด1:

ส่วนตอนพิเศษในบล็อค Unseen ชอบบบบบบบบบบ :heaven แต่ไม่ชอบที่ทำไมไม่โชว์ฉาก Uncut :ling1: เขาจะดูเขาจะดู อยากเห็นธารกินกล้วยอ่ะ หวังว่าคงมีต่อใช่ป่ะ เขาขอเต๊อะ :mew6: แหม อีเด็กนี่มันคิดได้ยังไงเอาเรื่องกล้วยไปโยงกับเรื่อง :oo1: สุดยอดจริงๆ อย่างว่าแหละนะ เด็กมักจะจินตนาการสูงกว่าผู้ใหญ่  :laugh: แต่คงต้องปรับความเข้าใจกันใหม่ว่า กล้วยที่ธารกินมันเป็นกล้วยเล็บมือนาง หุหุ ส่วนกล้วยหอมน่ะพี่ทรายต้องเป็นฝ่ายกินเผลอๆมีกล้วยไข่แถมให้อีกสองใบนะจ๊ะ :pigha2:

  เป็นไงพี่ทรายอยากไปบอกมันว่า กินวันนี้ก็ได้ เดี๋ยวจะกินด้วย มันอุตส่าห์จะรออีกสองวันดันไปเร่งมันซะได้ หุหุ  :haun4:  นอกจากเป็นประสบการณ์ของผู้ชายวัยสามสิบสองแล้ว มันยังทำให้พี่รู้ว่า o18

'ความรักไม่มีวันหมด ทำบนรถก็ได้'  :jul3:  แต่ตูว่าทรายคงคิดว่า แน่ใจว่ารักอย่างเดียว ตูดูยังไงมันก็แนบความเสียวปนมาด้วย อา อา  :pighaun:


ปล. เป็นกำลังใจให้คนเขียน เขียนต่อไป เรารออ่านและเม้นท์อยู่ ดีแล้วที่ไม่คิดให้คอมเม้นท์แย่มาทำลายกำลังใจในการเขียน ถือซะว่าเป็นพลังให้เราทำต่อไป สู้สู้  o13
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 07-04-2014 09:43:43
สู้ๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 07-04-2014 09:58:20
เหนื่อยแทนพี่ทรายจิงๆ น้องธารปากไม่ตรงกับใจเลย  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
อย่ามาร้องไห้ให้พี่ทรายยกโทษให้ทีหลังนะ เค้าจะหัวเราะให้เลยยยย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 07-04-2014 10:05:41
ไม่เสียแรงที่เราติดนิยายคุณ เราว่านิยายคุณมันมีอะไรดีนะเราชอบ  :z2:

ไม่ว่ายังไงเราก็จะตามอ่านต่อไป เราโคตรชอบคุณเลยอ่ะ สุดๆ  :katai2-1:

เจ๋งมาก คุณเป็นคนที่มีจุดยืนจริงๆ  o13

ทรายมาถึงจุดสุดจะทนแล้วใช่ป่ะคะ? งี้เด๋วก็มัน จะรอดูนะคะ
 
 :กอด1: :กอด1: :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 07-04-2014 12:10:23
 :katai4: :sad4: :sad4: :sad4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 07-04-2014 15:46:59
ถ้าจะเลวมันก็ต้องเลวให้สุดนะทราย โดนขนาดนี้แล้วปล่อยมันออกมาให้หมด
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: suisui ที่ 07-04-2014 16:20:17
 :katai1: อ๊ากกกก อ่านรวดเดียวแล้วสลบเหมือด หน่วงมากถึงมากที่สุดเลยค่ะ
 :angry2: ไม่ต้องไปทำดงทำดีด้วยแล้ว!! อย่างเจ้าธารต้องจัดหนัก ให้กระอักเลือดช้ำในเลย!! พี่ทราย Fight!!
อย่าได้ไปยอมนะคะ เราจะทนอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องให้รู้ซะบ้างว่า นายเอกน่ะ เป็นใหญ่เสมอนะ!! (อุ๊ย เหมือนจะไม่ใช่เหรอ? 555)
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 07-04-2014 17:24:15
โอ๊ยยย~ เรื่องนี้มันแซ่บบบ!~~
ตามอ่านสองตอนย้อนหลังค่ะ
เดี๋ยวตามไปอ่านใน blog ต่อ
ขอบคุณมาก ๆ นะคะ^^
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 07-04-2014 19:18:04
ชอบเรื่องนี้มากกกกก อ่านแล้วเหมือนเสพติด
แซบทุกตัวละคร คาแรคเตอร์พลิกตลอด
เราว่ามันแหวกแนวดี
ครบรส!!  เหมือนอ่านนิยายหลายเรื่องในเรื่องเดี่ยว  :katai2-1::katai2-1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [6/04/57] The Last Regret
เริ่มหัวข้อโดย: buble_b ที่ 07-04-2014 19:55:08
ซุ่มอ่านมาทั้งวันอ่านทันแล้วข้าวปลายังไม่ได้กินน้ำยังไม่ได้อาบโคตรของความอิน :katai4:
เห็นคนเขียนบ่นเรื่องเม้นท์..อย่าไปสนใจสู้ๆ..เอาใจช่วยโคตรติดตาม..ถึงขั้นเผยตัวมาเม้นอะ
ส่วนตัวรักพี่ทรายมาก...รักตั้งแต่เปิดเรื่องเลย..พอถึงฉากที่กระบี่หน้าชาเลยอะโคตรใจร้าย
ฟ้าแม่งกลั่นแกล้งพี่ทรายกรุมากT^T(หรือคนเขียนหวะ?) :katai1:
ไม่ไหวบีบหัวใจทุกตอน..ถึงพี่ทรายจะร้ายก้ยังรัก...โคตรของความทนเลยนายเองกรุ
อ่านมาหลายเรื่องแต่รู้สึกว่าพี่ทรายเนี้ยน่าสงสารมาก..น่าถนอมที่สุด..แต่อิธารน้ำแข็งมันก้เหี้ยมมาก
อารมณ์ทางเพศสูงมากนะธาร..แต่อารมณ์ผู้อ่านสูงกว่าฮาๆๆ...
ก่อนหน้านี้ต้นเรื่องอ่านไปเขินไปน่ารักมุ้งมิ้ง
พอตอนนี้มาม่ามันเจ้มจ้นม๊วกแต่พอมาม่าบุ๊ปความฟินก้ตามมาปั๊บ
ปรับอารมณ์ตามแทบไม่ทันมันทั้งลุ้นทั้งเสียวทั้งระทึก..ครบรสอะ
ไม่สะดุดเลยลื่นมากภาษาดีพิมพ์ผิดก้น้อย..รักเลย..รอนะจ๊ะ^^
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 07-04-2014 22:15:57

แวะมาบอก>> วันนี้ลง Unseen-3 ไม่สั้นไม่ยาว ไว้ให้อ่านกันที่บล็อกนะ (สำหรับคนที่คิดถึงก็อ่านแก้ขัดกันไปก่อน)

ส่วนตอนธรรมดาที่นี่ อีกวันสองวันนะ ทวนอยู่

ขอบคุณทุกกำลังใจคราบป๋ม :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 07-04-2014 22:32:32
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: Milkmilkzer ที่ 07-04-2014 22:40:48
ใน unseen ธารน่ารักจัง  :hao6:  รีบๆต่อบทธรรมดาน้าค้า อยากอ่านนนแย้วว ขอให้ธารกับทรายดีกันไวๆ :mew3: :ling1: :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 07-04-2014 22:50:55
ในบล็อคหวานเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 07-04-2014 23:12:44
กรี๊ด ทำไมเราหาอันซีนสองไม่เจออะ หรือเราโง่เอง เจอแต่อันซีนสามซึ่งอ่านจบไปแล้ว แงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 08-04-2014 00:38:06
 :hao7: :hao7: อร๊ายยยยยยยยย
Unseen นี่ชอบทำให้ฉันคิดว่ามันคนละเรื่องอยู่เรื่อย
บรรยากาศต่างราวกับยอดเขากับห้วงน้ำลึก

มุ้งมิ้งสุดๆ  :katai2-1:
แต่ที่ทำให้ฉันพอตระหนักได้ว่าเรื่องเดียวกันคือ ความหื่นและทะลึ่งของอิเด็กธาร  :haun4:
ความจิตนิดๆของมัน และสุดท้ายกาแฟยามดึกที่มันชอบกิน  :hao6:

ฉันละสงสัยแกชอบกินกาแฟจริงๆหรือจะกินคนเสิร์ฟกันแน่ ฮ่าฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 08-04-2014 09:13:50
อ๊ายยยยยยยยยย เขิ๊นนนนนนนน เขินนนนน กับความน่ารักของทั้งคู่  :impress2: ที่ตูหวังว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคต :call:

ถ้าไม่รู้ว่ามันกำลังโกรธเคือง แก้แคน ลงทัณฑ์ กันอยู่ จะนึกว่าเป็นตอนที่ปรับความเข้าใจกันแล้ว มันทั้งกุ๊กกิ๊ก กุร้มกริ่ม เจ้าเล่ห์ ทะลึ่งหื่นๆ จากธาร หึงนิดๆ จากทราย เริ่มเสียดายล่ะสิ  o18 เห็นไหมฉันบอกแล้วว่าอีเด็กนี่มันรักเธอจะตาย ฉันล่ะอดอิจชี่ไม่ได้ ทั้งรักทั้งหลง จ้องกินเธออยู่คนเดียว ไม่มีตาไว้มองใครเลย ไม่เอาล่ะก็ เสร็จ  :z1: ฉันคนหนึ่งแหละนึกถึงฮีทีไร เสร็จทุกที เอิ๊กๆๆๆ  :haun4:

 :เฮ้อ: จะกี่ครั้ง กี่ครั้ง ก็ขอบอกว่า ธารมันรักทรายมากจริงๆ เลยนะ รักจนสงสารมากเมื่อนึกไปถึงเนื้อหาตอนหลัก ที่ธารมักจะเจ็บปวดกับการกระทำทั้งรักทั้งเกลียดของตัวเอง การแสดงออกถึงความรักความห่วงใยที่มีให้ทรายเสมอ รักมากก็เจ็บมาก นี่ ขนาดเจ็บช้ำเคืองโกรธ ฮียังมีโหมดอารมณ์หวานซึ้ง อบอุ่น ปกป้อง ดูแล รักใคร่ โดยเฉพาะรักและใคร่ นี่มันเยอะหน่อย :hao6:
 
แต่ในตอน Unseen นี้ทรายก็แสดงให้เห็นว่ารักธารเช่นกัน จนถึงขนาดเอ่ยปากเรื่องไว้ผมยาวเพื่ออะไร :-[ เพราะอีเด็กนี่มันหึงหวง คิดแต่ว่าจะไว้ไปอวดใคร ถ้าไม่พูดมันก็ขู่ว่าจะจัดหนัก ทั้งที่ปกติมันก็จัดหนักให้ทุกดอกทุกท่า จนจะกระอักเลือด แต่ฉันก็สูดเข้าไปเอาไว้ไหลใหม่ :pighaun:   ว่าแต่ธาร S ทรายก็ M เหมือนกันนะเนี่ย ไม่บอกไม่รู้เลยว่าไว้ผมเอาใจเพื่อให้อีเด็กนี่ไว้จิก ไว้ทึ้งเวลา อะจึ๊ก อะจึ๊ก กัน  ฉันเข้าใจถูกชิมิ ไม่ใช่แค่ไว้ลูบอย่างเดียว :laugh:
 
ตอกย้ำว่าธารมันรักทรายม๊ากกกมากกกก ห่วงใยสุขภาพทรายขนาดไหน พาออกกำลังกายให้ฟิตแอนด์เฟริม์ เพื่อจะได้ อึด และ ทน เวลา   :oo1:  กัน บอกให้รู้ว่ามันไม่อยากเอาเปรียบทราย ไม่อยากให้ทรายเหนื่อยเร็ว ไม่อยากให้ทรายเสร็จน้อยกว่ามัน อยากจะให้เท่าๆกัน  ฉันล่ะชอบความคิดแกจริงๆเลย ธาร  รวมไปถึงอาหารการกินที่มันบอกให้กินเยอะๆ ด้วย โดยเฉพาะกล้วย ให้กินบ่อยๆ  ส่วนมันขอเครื่องดื่มเพิ่มความแข็งอย่างเดียว คือ กาแฟ ใส่น้ำตาลทรายด้วยถึงจะกลมกล่อม   จะกินอะไรนักหนา แค่นั้นก็แข็งแล้วพ่อคุณ  อะไรนะ o22  อ๋อ เสริมความแข็งให้ตาจะได้ไม่หลับระหว่างทำ โอเค ฉันเข้าใจแกแล้ว ฉันจะคิดให้ได้อย่างนั้น :katai2-1:

แต่ที่ขัดใจที่สุดดดดดดดดดดดด  ฉาก Uncut ไปไหนนนนนนนนนนน  :ling1: ตั้งแต่กินกล้วยแล้วนะ นี่จนมันจะกินกาแฟ แล้วมาค้างเติ่งอีก จัดให้หน่อยเด่ะเขาขอร้อง อ๊ะ อ๊ะ  :hao5:

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: Viper_Wa ที่ 08-04-2014 17:06:04
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

อ่านไปน้ำตาซึมไปเลยอ่า สงสารทราย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 08-04-2014 17:30:03
 :เฮ้อ: ธารทำร้ายทรายเท่าไหร่ตัวเองก็ทรมานมากขึ้นเท่านั้นเลยนะ เเต่ครั้งนี้รุนเเรงมากกกกกก... เเรงหึงกับเเรงรักแรงเเค้นของ
ธารกำลังทำลายทุกอย่าง ทรายระเบิดลงแต่คิดว่ายังไม่ค่อยรุนเเรงอาจเป็นเพราะใจสลายเกินจะต่อว่าอะไรธาร :katai1: ธารโหด
ร้ายตัวเองหันหลังให้เเต่ใจร้องไห้อยู่ก็โหดร้ายกับตัวเองเหมือนกัน ให้อภัยไม่ได้ แต่ก็ไม่ยอมปล่อยไป รู้เรื่องเเล้วเเต่ก็ยังปักใจว่า
ทรายเป็นคนหลายใจอยู่ดี ธารฝัหัวไปแล้วหรือไงว่าทรายเป็นเเบบนั้น พาทรายไประเบียบกะจะโชว์นายเตขนาดนั้น สงสารทรายขึ้น
เป็นร้อยเท่าพันเท่า ความเจ็บช้ำของคนมันทบทวีทุกวันๆ วันนึงมันย่อมมีจุดเเตกหักเอาได้นะ สงสารทรายที่มีความหวังทุกครั้งที่
ธารเข้ามาทำดีด้วย แต่สุดท้ายก็ลงล็อกเดิมคือ ต้องมานั่งเสียใจกับถ้อยคำหยามเหยียด ตราหน้าว่าชั่วว่าร่านอย่างที่ทรายถามธาร
ความไม่ตั้งใจ ความผิดพลาด ใครจะอยากให้เกิด ถ้าเกิดเพราะเจตนาคงไม่เจ็บใจเท่าการกระทำที่ถูกยัดเยียดให้เป็นไป... ทรายจะ
ได้เอาคืนธารบ้างใช่มั้ยคะ? o18 ธารโกรธเเค้นทรายมากเกินไปประมาณจะอยู่ก็ไม่มีที่ให้ยืน จะออกไปตามทางตัวเองธารก็ไม่ยอม
ทรายคงไม่รู้ว่าควรอยู่ตรงไหนดี ถ้าทรายได้มีโอกาสเอาคืนธารบ้างก็คงจะดีไม่น้อย ให้ธารได้รู้สึกตัวบ้างว่าถึงรักให้ตาย เเต่คนเรา
มีเลือดเนื้อ ร้องไห้เป็นเเละเจ็บได้เหมือนกัน ไม่ใช่เเต่ธารที่เสียใจโกรธได้อยู่คนเดียว...

unseen! เลอค่ามาก เหมือนฉากในฝันที่รอคอย เเอบตกใจตอนที่ธารบอกว่าให้เอากาฟขึ้นไปให้ข้างบนห้องด้วย อันซีนนี่ทรายยัง
อยู่ห้องข้างล่างอีกเหรอคะหรือว่าหมายถึงก่อนขึ้นห้องตามมาช่วยหยิบกาแฟติดมือมาให้หน่อย... ยังไงๆๆๆ ธาร!!! ทรายน่ารัก
ละมุนเสมอๆ จะทำอะไรนึกถึงธารไว้ก่อน อยู่ใกล้ๆจะขโมยกลับบ้านซะ :-[
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-04-2014 17:43:41
Unseen นี่มันช่างเหมือนเป็นน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจมากฮ่ะ  :mew4:
หวังว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วๆนะฮะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [7/04/57] แวะมาแจ้ง Unseen-3
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 08-04-2014 20:44:25
ชอบทั้งunseen และตอนธรรมดา(drama)
รออ่านตลอดคราบ :katai4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is .......(??)
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 08-04-2014 22:15:38
http://www.youtube.com/v/RR2OyT4mXa0


บทที่ 26 What is Love??



กลิ่นแอลกอฮอล์ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด เมื่อเขาตัดสินใจที่จะพึ่งมัน  ถึงแม้มันจะช่วยให้หาทางออกไม่ได้แต่ก็ทำให้เขาหลงลืมความเป็นจริงไปได้ชั่วขณะ
 

ร่างสูงใหญ่นั่งอยู่ริมเคาน์เตอร์บาร์สั่งเครื่องดื่มแก้วแล้วแก้วเล่ากระดกเข้าปากอย่างไม่สนใจสายตาของใครต่อใครที่จ้องมองมาสักนิด ชายหนุ่มหน้าตารูปร่างดูดีขนาดนี้ มานั่งซัดเหล้าอยู่คนเดียวซ้ำยังแสดงสีหน้าเหมือนคนเพิ่งถูกทิ้งมาสดๆร้อน ๆ


เขาส่ายหน้าปฏิเสธเด็กสาวที่เข้ามาเสนอตัวคนแล้วคนเล่า มือเรียวขาวสะอาดยกแก้วสีอัมพันขึ้นกรอก สายตาที่ทอดออกไปอย่างไร้จุดมุ่งหมาย จิตใจวนเวียนเฝ้าคิดซ้ำ ๆ อยู่กับคำพูดบ้า ๆ ที่เขาพูดมันออกไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา


“ผมไม่ได้รักพี่อีกแล้ว...ที่มีก็แค่ความใคร่ อยากจะทำให้เจ็บปวดเพื่อให้หายแค้นก็เท่านั้น คนอย่างพี่อยากจะไปทำอะไรกับใครต่อใครอีกผมก็ไม่ว่าหรอก แต่อย่ามาเอากับคนใกล้ตัวผม อย่าให้ผมเห็นว่าทำตัวสนิทสนมกับคนในบ้านผมเหมือนเมื่อตอนกลางวันอีกก็พอ”


ดวงตาที่หรี่ลงด้วยความคับแค้นคิ้วคมขมวดจนแน่น อยากจะเข้าใจและยอมรับให้ได้กับเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่ว่าจะด้วยคำบอกเล่าของทัตพลพ่อของเขาและจากปากของวารินเอง


“พ่อกับทรายเราโดนวางยา ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเลย ลูกต้องฟัง!”


“แต่ลูกต้องฟัง! ลูกจะเข้าใจพ่อกับทรายผิดๆแบบนั้นไม่ได้”


“พ่อรู้ว่ามันอาจจะเชื่อยาก แต่พ่อพาทรายเขาไปทำธุระที่พังงา เราค้างที่นั่นกันสองคืนแล้วคืนที่สองมันก็เกิดเรื่องขึ้นมา นี่คือเรื่องจริง ๆ ที่เกิดขึ้นธารจะเชื่อหรือไม่พ่อคงไปห้ามความคิดลูกไม่ได้แต่ขอให้ลูกรู้ไว้ว่าพ่อกับทรายเราไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกันแบบนั้น”


“พี่ไม่ได้มีอะไรกับนายเตเลยทำไมธารไม่เชื่อ! แล้วกับพ่อของธารพี่เองก็ไม่ได้ตั้งใจ เราสองคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ  ทำไมต้องมาโทษกัน!  ไม่คิดบ้างหรือไงว่าพี่เองก็เสียใจเป็น ทำไม!! ทำไมไม่ถามพี่บ้างว่าพี่สมัครใจที่จะเป็นแบบนี้บ้างรึเปล่า..ฮือๆ.. ทำไมเอาแต่โทษพี่ ทำไมต้องมาว่ากันร่าน! ทำไมๆๆ!!!!!!!!!”


“ได้โปรดอย่าทำแบบนี้กับพี่ธาร...พี่รักธารนะ รักธาร! ได้ยินไหมว่าพี่รักธาร ฮือๆๆ” 





หยาดน้ำเอ่อขึ้นในดวงตาคมเฝ้าคิดซ้ำๆ ถึงคำพูดของคนทั้งคู่  ถ้าหากเป็นอย่างที่พ่อของเขากับวารินบอกจริง  คนที่เลวแสนเลวก็คือเขาเอง ทำร้ายคนที่ตัวเองรักจนเจ็บปวดเจียนตายขนาดนั้น เขาพร้อมไหมที่จะอภัยให้กับคนที่เขารักและเมื่อถึงตอนนั้น คน ๆ นั้นจะยังรักเขาอยู่เหมือนเดิมอีกไหม 


เขากดยิ้มต่ำได้แต่สมเพชตัวเองที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้ จะกลับก็กลับไม่ได้จะก้าวเดินต่อไปก็ไม่รู้จะยืนอยู่ตรงจุดไหน เมื่อแก้วเหล้าถูกเลื่อนส่งมาอีกเขาจึงส่งมันลงคออย่างไม่ลังเล


.

.


ขณะที่อีกฝากฝั่งของเมือง ชนาธิปค่อยเลื่อนผ้าห่มผืนหนาห่มลงที่หน้าอกของวิลาสินีแม่ของเขาอย่างเบามือเมื่อรู้ข่าวว่าเธอไม่สบาย เขารีบบึ่งรถจากศาลายากลับมาดูทันที วิสาสินีตรอมใจผ่ายผอมลงไปมาก ดวงหน้าที่เคยสวยงามแต่งแต้มสีสันจากเครื่องสำอางราคาแพงอยู่เสมอ บัดนี้หมองคล้ำไร้วี่แววของเครื่องประทินโฉมใดๆทั้งสิ้น


“ธิปโกรธแม่ไหมลูก  โกรธไหม? ที่แม่เป็นคนแบบนี้ แม่ขอโทษที่ทำให้เรื่องราวมันแย่”


น้ำตาเธอไหลรินพรั่งพรูบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ครั้งก่อนเก่าให้ลูกชายคนเดียวของเธอฟังจนหมดเปลือก ไม่เหลือแล้วซึ่งความหวังใดๆ เมื่อคนที่เธอรักหนีหาย เธออยู่ไม่ได้เลยจริง ๆ ถ้าหากไม่มีเขา ‘ทัตพล’ คือคนที่เธอรักจนสุดหัวใจ แม้แต่ชีวิตเธอ เธอยังยกให้เขาได้  ครั้งนี้เขาลงโทษเธอหนักหนาสาหัสจริง ๆ


ตอนนี้สภาพของเธอไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้วทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่


“ไม่โกรธหรอกครับ ถึงธิปจะไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของคุณพ่อแต่ธิปรู้ว่าคุณพ่อท่านรักธิปมาก ที่สำคัญธิปมีคุณแม่อยู่ทั้งคน  คุณแม่นอนนะครับ เรื่องของคุณพ่อไม่ต้องคิดมากเดี๋ยวธิปจะคุยกับท่านให้เอง คุณพ่อคงจะโกรธบางอย่างคงไม่ได้ตั้งใจพูดออกมาแบบนั้น  คุณแม่ทำใจให้สบายพักผ่อนนะ” 


เขาปลอบใจเธอทั้งที่ตนเองแสนจะเจ็บช้ำเมื่อได้รับรู้ว่าคนที่เรียกว่าคุณพ่อมาตลอดยี่สิบปี กลายไปเป็นคุณพ่อของคนอื่นแทนเสียแล้ว


“แต่แม่ทำผิด ผิดมาก พ่อเขาคงไม่ให้อภัยแม่อีกแล้ว”


รถยุโรปสีดำแล่นฉิวไปตามท้องถนนโล่งยามดึก ชนาธิปขับรถมาเรื่อยโดยไม่มีจุดมุ่งหมาย จิตใจยุ่งเหยิงสับสนไปหมด เรื่องยุ่ง ๆ ของครอบครัวทำให้อารมณ์เด็กหนุ่มขุ่นมัวมากมายเหลือเกิน
 

จะให้เขาทำใจได้อย่างไรในเมื่อมารู้เอาป่านนี้ว่าพ่อที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กไม่ใช่พ่อที่แท้จริง แม้แต่แม่เขาก็ยังบอกไม่ได้ว่าใครกันคือพ่อของเขา



“ลูกชายคนเดียวของคุณทัตก็คือ ‘ธาราธาร โชติการุณ’ ตระกูลที่ทำธุรกิจโรงแรมคู่แข่งของบ้านเรา”


“เป็นเพราะแม่  เลยทำให้ ‘ภัครจิรา’ แม่ของเด็กนั่นต้องนอนป่วยเป็นอัมพาต เพราะความอิจฉาหน้ามืดทำอะไรไปโดยไม่ยั้งคิดของแม่”


“กระทั่งเดี๋ยวนี้คุณพ่อเขาก็ไม่ได้รักแม่”


“คุณทัตเขายอมเดินออกมาจากชีวิตของสองแม่ลูกนั่น มาอยู่กับเราโดยไม่เคยถามแม่สักคำว่าเด็กในท้องเป็นลูกของใคร คุณพ่อเขารักธิปมากนะลูก ถึงแม้ว่าธิปจะไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของเขาแต่เขาก็อบรมเลี้ยงดูธิปมาอย่างดี”


“ธิปอย่าเกลียดคุณพ่อนะลูกนะ คนที่ผิดคือแม่เอง ยกโทษให้แม่ด้วย”





ธาร?



ธารเป็นลูกชายของคุณพ่อ...  ความจริงอันแสนเจ็บปวดที่ว่าคุณแม่ของเขาทำให้แม่ของธาราธารต้องล้มป่วยแบบนั้น ถ้าธาราธารรู้ว่าเรื่องราวทุกอย่างว่าเกิดจากคุณแม่ของเขาธารคงจะเกลียดเขามาก
 

ชนาธิปตัดสินใจหักรถเลี้ยวเข้าชั้นใต้ดินของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง  เลาจน์ของที่นี่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่บ่อยนักที่เขาจะแวะมาในที่แบบนี้ หากว่าเมามากก็สามารถเปิดห้องพักที่ชั้นบนได้เลย


เขาเลือกที่จะเดินเข้ามานั่งที่เคาน์เตอร์บาร์สำหรับคนที่มาดื่มกินเพียงลำพัง วันนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษแต่นั่นไม่ได้ทำให้ความเป็นส่วนตัวที่มีลดลงแต่อย่างใด ขณะกำลังหาที่นั่งเหมาะๆเขาก็เหลือบไปเห็นคนที่ไม่คาดคิดเลยว่าจะเจอกันอยู่ที่นี่ได้



มันบังเอิญเกินไปรึเปล่า? ผู้ชายที่แม้จะมองเพียงแค่ด้านหลังก็ยังดูดีได้



“ธาร?!”


เขาลองเรียกดู  อีกคนหันหน้ามามองอย่างเลื่อนลอย ใบหน้าหล่อเหลาดูมืดมนอย่างน่าประหลาด คล้ายคนที่กำลังมีเรื่องให้ต้องคิดต้องตัดสินใจมากมายเหลือเกิน


“บังเอิญจังนะธาร” ชนาธิปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวติดกันทันที


“ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอธารที่นี่ ดูไม่เหมาะกับนายเลยนี่” เขายังว่าต่อ


ธาราธารหันมามองหน้าเขาอีกครั้ง ชนาธิปรู้ได้ทันทีว่าเขาคงจะมานั่งอยู่ที่นี่นานแล้วเพราะดูจากใบหน้าที่ซับสีเข้มของแอลกอฮอล์แบบนั้น ส่วนสาเหตุอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายต้องมาในที่แบบนี้นั้นเขาไม่รู้เลยจริง ๆ พักหลังดูเหมือนธาราธารแปลกไป  จากที่เย็นชาอยู่แล้ว กลับกลายเป็นหนักขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว ส่วนหนึ่งคงจะเป็นเพราะเรื่องแม่ของเขา


“ทำไม? อย่างฉันต้องเหมาะกับที่แบบไหนเหรอ”


เขาหันมาถาม ขณะรับเครื่องดื่มสีสวยจากบาร์เทนเดอร์มาเทอึกๆลงอีกแก้ว ชนาธิปเองก็รับแก้วของตนเองขึ้นมาจิบเบา ๆ


“ไม่รู้สิ  ธิปเคยเห็นแต่ธารใส่ชุดนักศึกษาสวมแว่นตาอยู่ที่มหาลัยนี่นา  ว่าที่คุณหมอมาอยู่ในที่แบบนี้มันไม่ค่อยคุ้นยังไงไม่รู้”


ดวงตาสวยเลื่อนลงมองกระดุมเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายที่ปลดลงมาจนเกือบถึงหน้าท้องสวยโชว์มัดกล้ามเนื้อฟิตสมชาย ขณะที่ธาราธารจ้องหน้าคนตัวเล็กนานแล้ว เขากำลังนึกไปถึงทัตพลพ่อของเขา  เรื่องราวต่างๆประดังประเดเข้ามาเป็นช็อตๆ


รวมถึงที่ว่าคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาตอนนี้คือลูกชายอีกคนของทัตพล นั่นก็แปลว่าชนาธิปเป็นน้องชายของเขา


“แล้วนาย? เหมาะกับที่นี่มากงั้นสิ” เขายกอีกแก้วขึ้นดื่มเสียงเริ่มเปลี่ยน หันหน้ามองชนาธิปตาเยิ้มเพราะฤทธิ์เหล้า


“พอดีมีเรื่องต้องคิดน่ะ ขับรถมาเรื่อย ๆ นึกอยากแวะก็แวะเลย พรหมลิขิตแน่ ๆ ได้มาเจอธารแบบนี้”


พรหมลิขิต ?


โชคชะตา ?


“..พรหมลิขิต? หึ...” เขาพึมพำ


ธาราธารรู้แค่ว่าชนาธิปเป็นลูกของทัตพลแต่เขายังไม่รู้ว่าชนาธิปไม่ใช่ลูกที่แท้จริง....เขามองหน้าคนข้าง ๆ แล้วนึกเรื่อยไปถึงคุณแม่ของชนาธิป  ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นแต่ข่าวลือซุบซิบที่มีออกมาให้ได้ยินในตอนนี้ก็คือ เธอระหองระแหงและมีปัญหากับสามีอาจถึงขนาดบ้านแตก


หรือว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ว่าทัตพลเลิกกับคุณแม่ของชนาธิปแล้ว


เสียงเพลงเคล้าบรรยายกาศยามดึก มีบาร์เทนดี้สาวอีกคนเข้ามาช่วยชงเหล้า ยิ่งดึกลูกค้าโชนนี้ก็เริ่มบางตา เธอเลื่อนส่งเครื่องดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าให้พวกเขาสองคน ชนาธิปที่ค่อยๆดื่มไปเรื่อยจับสายตาไว้กับคนข้าง ๆ ที่บัดนี้คอพับคออ่อนคล้ายกับจะฟุบลงไปที่เคาน์เตอร์แล้ว


“ธาร เมามากแล้วนะพอเถอะ” เขาเขย่าเรียกคนที่ฟุบลงไปเรียบร้อย ได้ยินอีกฝ่ายคำรามฮื่อๆในลำคอเหมือนพูดว่ายังไม่เมาแต่สภาพนั้นดูไม่ได้แล้ว


“ธารขับรถกลับไหวไหม เราค้างที่นี่ก็แล้วกันนะ” 


ชนาธิปเรียกเช็คบิลแล้วให้พนักงานมาช่วยพยุงธาราธารขึ้นไปส่ง  เขาเปิดห้องค้างกันหนึ่งคืน


“เมาที่ไหน...ไม่ได้เมาสักหน่อย”


ร่างสูงใหญ่พูดจาอู้อี้ถูกทิ้งลงที่เตียงกว้าง  ห้องหรูหราภายในโรงแรมดังถูกใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราว ชนาธิปส่งทิปแบงค์สีเทาให้กับพนักงานที่พาธาราธารขึ้นมาส่งจนถึงที่ เขาคุกเข่าลงที่ปลายเตียงถอดรองเท้าถุงเท้าให้อีกฝ่ายอย่างไม่รังเกียจ ธาราธารที่นอนคว่ำหน้าเมาไม่รู้เรื่องพูดพึมพำอะไรบางอย่างในลำคอ คนตัวเล็กเข้าไปจัดเตรียมผ้าชุบน้ำแล้วเดินมานั่งลงพยายามพลิกตัวเขาให้นอนหงาย ปลดกระดุมถอดเชิ้ตรัดรูปสีดำสนิทออกแล้วเช็ดหน้าเช็ดตา รวมถึงเช็ดตัวให้เขาอย่างเบามือ


สร้อยคอสีเงินเส้นเล็กรูปกุญแจซอลสะดุดตาเขาตั้งแต่ที่นั่งอยู่ในบาร์นั่นแล้วชนาธิปจับขึ้นมาดูให้ชัด แต่โดนมือใหญ่ปัดออกอย่างรำคาญ


“ฮื่ออ อย่ามายุ่งกับฉัน!”


เขาพึมพำอย่างเอาแต่ใจแต่ก็ยังหลับตาต่อ ชนาธิปนิ่ง จ้องมองดวงหน้าอีกฝ่ายอย่างหลงใหล ธาราธารเหมือนทัตพลมากจริง ๆ เขาไม่แปลกใจเลยที่ได้รู้ว่าคนๆนี้คือลูกชายตัวจริง  ร่างเล็กเดินเข้าไปเปลี่ยนผ้าชุบน้ำอีกครั้ง


“จะทำอะไร!” ธาราธารเบิกตา ตะปบมือที่กำลังเข้าปลดหัวเข็มขัดเขาไว้ทันที 


“ธิปจะถอดกางเกงให้ ธารจะได้นอนสบายๆไง”


“ไม่ต้อง!”


เขาพูดห้วนๆ อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ตัว แค่ให้อีกฝ่ายถอดเสื้อให้ก็มากเกินพอแล้ว ชนาธิปไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเห็นร่างกายของเขาด้วยซ้ำ ร่างสูงใหญ่ประคองตัวลุกขึ้นนั่ง ชนาธิปรีบเข้าพยุง


“อย่ามาใกล้ ไปให้พ้น!” ยิ่งรู้ว่าคน ๆ นี้เป็นลูกของทัตพลเขายิ่งรังเกียจ


“ธารจะไปไหน?” เสียงเล็กร้องถาม


“จะกลับ”เขาตอบอย่างคนเมาที่ดื้อดึง ไม่รู้ตัวเองสักนิดว่าแม้แต่เดินก็ยังเซ


“จะกลับได้ยังไง ธารเดินยังไม่ตรงแบบนี้จะขับรถไหวรึเปล่าก็ไม่รู้  ธิปไม่ให้ธารกลับหรอกนะ”


“หลีกไป!”


เขาผลักคนตัวเล็กที่วิ่งเข้าขวางที่หน้าประตูอย่างไม่ใยดีพยายามจะเดินออกไปให้ได้  ชนาธิปรีบถลาเข้ามาจับเมื่อร่างสูงใหญ่ทรุดฮวบลงที่พื้น


“ธาร!  บอกแล้วว่าเมามากไม่เชื่อ”  ชนาธิปเขย่าเรียกแต่คนในอ้อมแขนดับหลับไปเสียแล้ว เมื่อตะกี้ยังแผลงฤทธิ์อยู่เลย


ในที่สุดเขาพยายามลากคนตัวใหญ่ขึ้นมานอนบนที่นอนกว้างอีกครั้ง  ดวงหน้าหล่อเหลาคมคายอย่างที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องราว  มือเล็กค่อยเลื่อนมาปลดหัวเข็มขัดของคนที่นอนอยู่ออก เส้นขนรำไรที่มัดกล้ามหน้าท้องสวยงามมันช่างดึงดูดสายตาของเขายิ่งนัก ชนาธิปรู้ตัวเองนานแล้วว่าเขานั้นชอบธาราธารมากหากแต่อีกฝ่ายไม่เคยคิดมีใจให้เขาแม้แต่น้อย


การได้มาพบเจอกันในวันนี้อาจเป็นโชคชะตาก็ได้ เขาลุกขึ้นดึงยีนส์สีเข้มของอีกคนลง เหลือไว้แต่บ็อกเซอร์สีขาวตัวเดียวเท่านั้น ชนาธิปใช้ผ้าเช็ดไปทุกสัดส่วนเพื่อให้คนเมารู้สึกสบายตัวมากที่สุด เสร็จเรียบร้อยจึงห่มผ้าให้  ตัวเขาเองก็ล้มลงนอนข้างกัน มือเล็กเอื้อมไปกวดเอวหนาไว้ซุกหน้าลงที่บ่ากว้าง


แต่ทว่าเรื่องที่ไม่คาดฝันที่สุดก็เกิดขึ้น ธาราธารพลิกตัวมาเอื้อมวงแขนกว้างรวบเอาตัวเขาเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน  ชนาธิปตัวสั่นทั้งดีใจทั้งหวาดกลัว เงยหน้าขึ้นไปมองเห็นคนกอดตัวเองไว้ยังหลับตานิ่งสนิท  เขารออยู่สักครู่ใบหน้าเล็กจึงเลื่อนขึ้นไปกดริมฝีปากจูบลงที่ปลายคางของธารเบา ๆ

           


“พี่ทราย...ผมขอโทษ...รักมาตลอด ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่รัก...ขอโทษที่พูดแบบนั้น..”



พี่ทราย ?



ชนาธิปนิ่งงันตาเบิกกว้าง  วงแขนใหญ่ยิ่งรัดตัวเขาแน่นขึ้นอีกพร้อมกับเสียงพึมพำในลำคอแผ่วเบา พร่ำกล่าวแต่คำขอโทษกับบุคคลที่สาม มือเล็กค่อยยกขึ้นลูบหน้าเขาเบาๆ  ธาราธารคงจะกำลังนึกว่ากำลังกอดใครอีกคนที่เขาพร่ำเพ้อถึงอยู่ในอ้อมอก อ้อมกอดที่ทั้งอบอุ่นและอ่อนหวาน น่าอิจฉาคน ๆ นั้นเสียเหลือเกินเมื่อนึกไปว่าที่เขาต้องมาใช้เหล้าระบายความรู้สึกตัวเองในวันนี้คงมาจากมีเรื่องมีราวกับคนที่เขารัก



พี่ทราย ?



กลิ่นน้ำหออ่อนๆจากเขาลอยมาแตะปลายจมูกอีกครั้ง ชนาธิปเลื่อนปลายจมูกกดลงที่ซอกคอสวยงามของเขา สูดดมอยู่อย่างนั้น  สติสัมปชัญญะที่ถูกดูดหายไปส่วนหนึ่งจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เขาเผลอไผลหลงลืมความอายทั้งหมดทั้งมวล


“..ธาร..”


ร่างเล็กละตัวออกมาเท้าแขนลงบนที่นอนนุ่ม จ้องมองลงที่ดวงหน้าแล้วเรียกชื่อเขาแผ่วเบา ขณะที่อีกมือยังเฝ้าลูบไล้ใบหน้าเขาไม่ห่าง กายที่โน้มลงไปแตะจูบเข้าที่เรียวปากได้รูปนั่นอย่างอดใจไว้ไม่ไหว  ธาราธารเปิดปากตอบรับทันทีตามสัญชาตญาณ มือใหญ่คว้าจับเข้าที่ไหล่เล็กบดจูบหนักหน่วงที่ริมฝีปากนิ่มจนอีกฝ่ายครางต่ำในลำคอด้วยความรัญจวนในรสจูบของเขา 


ชนาธิปเพิ่งรู้ตัวในวันนี้เองว่าคนที่เขาต้องการมาเติมเต็มในส่วนที่หายไปก็คือคนที่นอนอยู่คนนี้ ‘ธาราธาร’  ใบหน้าเล็กหลับตาพริ้มตอบรับรสจูบจากเขาอย่างไม่ให้น้อยหน้ากัน วงแขนกว้างเอื้อมมากกกอดร่างบอบบางแล้วพลิกตัวอีกคนให้นอนลงแทนอย่างรวดเร็ว แก่นกลางลำตัวเริ่มร้อนผ่าว รสเหล้าจากปลายลิ้นของทั้งคู่เกาะเกี่ยวดุนดันกันและกันจนชนาธิปเผลอครางแล้วครางอีก


“อืมม...ธาร...” เสียงเล็กอ่อนหวานครางเบาหวิว  ขณะที่เขากลับเรียกหาใครอีกคนด้วยเสียงที่รัญจวนใจไม่แพ้กัน


“..พี่ทราย..”


เขาละริมฝีปากออกมองลงมาที่คนใต้ร่างขณะที่มือสอดเข้าลูบไล้เรือนผมนิ่มนั้นไม่หยุด ดวงตาสั่นไหวแดงฉ่ำด้วยฤทธิ์ของเหล้า เขาเพ่งแล้วเพ่งอีกกระพริบตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ภาพวารินซ้อนทับกับภาพของชนาธิปสลับไปมา เขาสะบัดศีรษะอีกครั้งเพ่งมองให้ชัดๆ
 

ร่างสูงใหญ่ลุกพรวดละออกจากคนตัวเล็กที่เขาคร่อมทับอยู่ราวกับโดนของร้อน


“ขอโทษ!”


เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด สีหน้าของเขาดูเครียดขึงกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่อยู่มาก ชนาธิปที่นอนนิ่งงันด้วยความรู้สึกแสนเสียดาย ลุกขึ้นมากอดเอวเขาไว้ซุกไซ้ใบหน้าเข้าที่แผ่นหลังกว้าง


“ทำไม? ทำไมถึงไม่ทำต่อล่ะธาร”


ชนาธิปถามเสียงสั่น หลายครั้งแล้วที่เขาเสียโอกาสแบบนี้ไป ถึงแม้ครั้งนี้จะรู้ทั้งรู้ว่าที่ธาราธารกอดเขาเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนอื่น แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็อยากจะได้อ้อมกอดนั่น
 

“อย่ามายุ่งกับฉัน! ออกไปให้พ้น ฉันจะกลับ” ธาราธารดึงเขาออกห่างอย่างรังเกียจ พยายามพยุงตัวลุกขึ้น ชนาธิปที่ยังไม่ยอมรีบคว้าเขาเอาไว้


“ไม่เอา! ธิปไม่ให้ธารกลับธารเมาขนาดนี้ขับรถไม่ไหวแน่อยู่แล้ว ค้างที่นี่เถอะนะ”


เขาปัดมือเล็กที่เอื้อมเข้ามากอดออกไปให้พ้นตัว แต่พอลุกเท่านั้นก็เซมึนไปหมดต้องทรุดนั่งลงอีก ชนาธิป รีบกระโดดเข้าหาทันทีมือปัดเอาที่สร้อยคอเส้นเล็กที่มีจี้รูปกุญแจซอลนั่นร่วงตกลงมา แต่ธาราธารไม่ได้สนใจ


“ ทำไมถึงเป็นธิปไม่ได้! ทำไมธิปไม่เข้าใจ! ทั้งที่ธิปไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้เลย ขอแค่ให้ธารกอดธิปแค่นั้น ธารไม่ต้องรับผิดชอบ ธิปจะอยู่ในส่วนของธิปเงียบ ๆ ไม่ไปรบกวนคนของธารเด็ดขาด”


เขาปัดคนตัวเล็กออกแต่อีกฝ่ายก็ยังเกาะเขาไว้แน่น


“นายนี่มัน!.....” เขาส่งเสียงลอดไรฟันหันมาจ้องมองคนตัวเล็กอย่างหมดความอดทน


“อยากรู้จริง ๆ ใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นฟังให้ดี เพราะว่านายเป็นน้องชายของฉันและเพราะว่าฉันมีคนที่ฉันรักอยู่แล้ว”


ในที่สุดเขาก็โพล่งออกมาซ้ำยังตอกย้ำว่าตนเองนั้นมีคนที่รักมากอยู่แล้ว


แต่ชนาธิปมีหรือจะยอม


“ไม่ใช่! ธารไม่ใช่พี่ชายธิป ธิปไม่ใช่ลูกจริง ๆ ของคุณพ่อ” เสียงเล็กตะโกนลั่น ธาราธารตื่นตะลึง


“คุณแม่เล่าให้ธิปฟังหมดแล้ว ธิปไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของคุณพ่อ ลูกชายคนเดียวของท่านก็คือธาร คราวนี้เข้าใจหรือยัง! ธารกอดธิปได้แล้วใช่ไหม!?”


“นายเป็นบ้าไปแล้วหรือไง ทำไมถึงทำอะไรแบบนี้นะ” เขาแกะมือไม้เล็กๆที่เกาะเขาออก แต่อีกคนก็ยังไม่ยอมขณะที่อาการเมาแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง ความจริงหลาย ๆ อย่างทำให้เขาตาสว่าง


“ธิปรักธาร คุณพ่อทิ้งคุณแม่ไปแล้ว ธารอย่าทิ้งธิปไปอีกคนนะ แค่นอนกอดเฉยๆก็ได้ ไม่ต้องทำอะไร แค่ธารกอดธิปไว้แค่นั้น”


ชนาธิปเสียงสั่นเขาอยากได้แค่ความอบอุ่นจากใครสักคนเข้ามาเติมเต็ม ในดวงตาเล็กๆสั่นไหวมีหยดน้ำตาไหลตกลงมา เมื่อเอ่ยถึงครอบครัวที่แตกระแหง  ธาราธารมองเขาด้วยแววตาที่อ่อนลง วงแขนเล็กสวมกอดเขาไว้แน่น ไหล่บางสั่นเทิ้มคงกำลังร้องไห้ เขาเข้าใจดีความรู้สึกโดดเดี่ยวพ่อไปทางแม่ไปทางมันเป็นเช่นไร เฝ้าโหยหาเพียงแค่อ้อมกอดอบอุ่นจากคนที่ตนเองรักเท่านั้น


มือใหญ่ยกขึ้นลูบศีรษะเล็กอย่างปลอบประโลม ไม่มีความรู้สึกอื่นใดแอบแฝง เขาแค่รู้สึกเห็นใจคนที่เจอเหตุการณ์ในชีวิตไม่ต่างกันก็เท่านั้น


“นอนเถอะ”


เสียงทุ้มเอ่ยเบา ๆ ทั้งสองคนเอนตัวนอนลงที่เตียงกว้างโดยที่ชนาธิปยังกอดเขาไว้ไม่ยอมปล่อยราวกับว่ากลัวเขาจะหนีหายไป ธาราธารหลับตานิ่งปล่อยให้วงแขนเล็กกอดเขาอยู่อย่างนั้น ห้องทั้งห้องมีแต่ความเงียบงัน ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศสาดซัดลงมาที่ร่างเล็ก ๆ ชนาธิปขยับเข้าใกล้เขามากยิ่งขึ้น


“ธาร” จู่ ๆ เสียงเล็กเรียกขึ้น ธาราธารที่กำลังจะหลับลืมตาขึ้นในความมืด


“สร้อยเส้นนี้ ธิปขอได้ไหม”


มือเล็กที่กำสายสร้อยไว้ตั้งแต่มันร่วงหล่นลงมายกชูให้เขาดู ท่ามกลางความมืดมิดจี้สีเงินรูปกุญแจซอลแกว่งไกวไปมาสะท้อนเป็นเงาบางเบา


“ธิปจะเก็บไว้เป็นตัวแทนของธาร จะสวมไว้ตลอดเลย เหมือนกับว่าธารอยู่ใกล้ธิปทุกๆวัน”


ธาราธารทั้งง่วงทั้งรำคาญไม่ได้ใส่ใจคำพร่ำเพ้อไร้สาระของอีกคนที่นอนอยู่ข้างกัน


“อยากได้ก็เอาไปสิ” เขาตอบส่ง ๆ ไปอย่างไม่ใส่ใจหลับตาลงแล้วนอนหลับไปทั้งอย่างนั้น




...ก็แค่สร้อยเส้นละไม่กี่ตังค์ ที่บังเอิญใส่ติดตัวมาตั้งแต่มอปลายก็เท่านั้น...


.


.



“พี่ทราย!!  พี่ทรายตื่นเร็วพี่!”


เสียงเรียกร้อนรนกับเสียงเคาะรัวที่ประตูจากนับดาวดังขึ้นกลางดึกวารินรีบเด้งตัวลุกขึ้นทันที


“คุณภัครเป็นอะไรไม่รู้ ตัวเกร็งไปหมดแม่ลงมาบอกเมื่อกี้ พี่เตไปถอยรถมารอที่หน้าบ้านแล้วพี่  พี่ทรายไปกับพี่เตนะ”


วารินหายงัวเงียทันทีตกใจสุดขีด รีบวิ่งเข้าไปคว้าเอากระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์ แล้ววิ่งตามนับดาวไปที่หน้าตึก เห็นเตโชกำลังอุ้มภัครจิราลงบันไดมา วันนาแม่ของดาวรีบไปเปิดรถรอทันที


“ทำไมเป็นรถคันนี้!  คุณธารล่ะ? แล้วลุงทินกรไม่อยู่เหรอ?”


วารินรัวถาม เข่าแทบทรุดเมื่อเห็นรถที่เตโชเคลื่อนมาจอดรอไว้เป็นรถกระบะเก่าๆที่ใช้บรรทุกดินทำสวนหรือก็คือรถที่วารินใช้ขับไปซื้อกับข้าวเท่านั้น


“คุณธารยังไม่กลับเลยพี่  ส่วนลุงทินกรวันนี้แกกลับไปค้างที่บ้าน ดันติดกุญแจรถใหญ่กลับไปด้วยนี่สิ”


“มีกุญแจสำรองไหม? เอารถคันใหญ่ไปดีกว่าเดี๋ยวฉันขับเองคุณภัครท่านจะได้นั่งสบาย ๆ ”


“ไม่ทันแล้วครับ คันนี้แหละเดี๋ยวผมขับเองคุณทรายขึ้นไปนั่งเลยเดี๋ยวผมจะวางคุณภัครไว้บนตัก รถตอนเดียวแบบนี้ต้องรบกวนคุณทรายอุ้มคุณภัครเธอนะครับ”


วารินพยักหน้ารับทันที รีบก้าวขึ้นไปนั่ง เตโชค่อยเลื่อนส่งภัครจิราไว้บนตักของเขาอย่างเบามือ มือเล็กรับเอาตัวเธอมาโอบอุ้มไว้บนตักเล็ก พยายามทำทุกอย่างให้เบามือที่สุดถึงแม้วารินจะตัวเล็กแต่จะอย่างไรก็สูงกว่าภัครจิราอยู่ดี


“ฝากคุณภัครด้วยนะคะคุณทราย เดี๋ยวป้าจะรีบเตรียมอาหารเช้าไปให้คุณท่านแต่เช้าเลยค่ะ” วันนาร้องบอก


“โทรหาคุณธาร ติดต่อให้ได้นะดาว” วารินสั่งความไว้แค่นั้น ก่อนที่รถกระบะคันเก่าจะแล่นออกไปจากคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยความรวดเร็ว


ใช้เวลาไม่นานนักรถก็มาจอดลงที่หน้าทางเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ภัครจิราถูกเข็ญเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว วารินรีบก้าวตามขณะเตโชเลื่อนรถลงไปจอด ครู่เดียวก็เดินตามขึ้นมาสมทบ


“คุณหมอว่าอย่างไรบ้างครับ” เขาหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ สังเกตเห็นว่าวารินสองกำมือแน่นจนแดงไปหมด คิ้วเล็กๆขมวดมุ่นอย่างเคร่งเครียด


“ยังไม่มีใครออกมาเลย หวังว่าท่านคงไม่เป็นอะไรมาก”


วารินเฝ้าภาวนามาตลอดทาง อย่าให้ภัครจิราเป็นอะไรไปมากกว่านี้ แค่เขาโอบกอดเธอไว้ตอนที่นั่งมาบนรถก็มีความรู้สึกว่าเธอผ่ายผอมลงมาก ความผิดที่เขาเป็นคนก่อถึงแม้จะมาจากความไม่ตั้งใจ แต่เหตุใดคนที่ต้องมารับกรรมถึงต้องเป็นผู้หญิงคนนี้ด้วย วารินกัดริมฝีปากแน่นโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมา


Tbc.


* เดี๋ยวคืนนี้จะลง Unseen-4 ไว้ให้นะ ถ้าสนใจตามไปอ่านกันได้….แต่ถ้ากลัวซีนอารมณ์จะมั่วกับเนื้อเรื่องหลักก็บายกันไปก่อน  ค่อยรออ่านรวบเดียวเลยก็ได้นะ เราแค่อยากให้เห็นว่าอันซีนเขาก็มีหวานกันอยู่บ้าง ใครล่ะจะด่ากันได้ทุกวี่ทุกวันทั้งที่ จุดจุดจุดกันก็ออกจะบ่อยเนอะ* :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 08-04-2014 22:34:34
อ่านตอนนี้แล้ว อยากให้พี่ทรายกับธารกับทัตพล ต่างคนต่างอยู่ไปเลย เริ่มหงุดหงิดละ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 08-04-2014 22:40:49
จะว่าไปคนที่ร้ายที่สุดน่าจะเป็นธิป(มั้ง)ในอนาคต เดาเอาน่ะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 08-04-2014 22:41:11
คนที่เข้ามามีบทบาทสำคัญทำให้ทรายฮึดสู้ มันต้องเป็นชนาธิปแน่นอน แล้วในอนาคตฮีต้องร้ายเพราะรักแน่ :hao7:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 08-04-2014 22:44:40
อีธิปนางคงคันมาก ชอบทรายนางเข้มแข็งนะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 08-04-2014 23:04:13
น้องธิปมีบทกับเค้าสักที โผล่มาก็กลายเป็นนางร้ายจอมยั่วไปซะงั้น
โชคดีที่ธารไปเผลอตัวเผลอใจไปกับน้องธิป ไม่งั้นเรื่องยุ่งกว่านี้แน่ๆ
แต่เราเอะใจตอนที่น้องธิปของสร้อยของธารไป มันจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีเพราะสร้อยเส้นนี้เป็นแน่แท้ (เดามั่วไปก่อน)
แล้วคุณภัทรจะเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย แอบเป็นห่วงเหมือนกัน และสงสารพี่ทรายนะ
รออ่านอันซีน 4 อยู่นะค้าบบบบ  :mew1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 08-04-2014 23:05:32
ลุ้นจะแย่ กลัวธิปธารได้ใจ ขอบคุณธาามากที่ใจแข็ง ข้อดีเขาล่ะ
คุณภัครอย่าเป็นอะไรเลยนะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 08-04-2014 23:48:21
สร้อยเส้นนั้นต้องมีความหมายแน่ๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 08-04-2014 23:49:35
 :katai1: ชนาธิปนี่เเม่ชื่อสายน้ำผึ้งรึเปล่าคะ???... ทำไมไม่มียางอายเลยในเมื่อเขาไม่รัก เขาพูดแล้วว่าไม่เอา ยังไปเที่ยวยัดเยียด

ตัวเองให้คนอื่นเค้าอีก ความอายเป็นสิ่งที่ทุกคนมี น่าจะหยิบมาใช้ในเวลาเเบบนี้นะ... ธารก็นะเกือบไปแล้ว เกือบจะผูกปมให้มัน

เเน่นขึ้นอีกเเล้ว... หรอืจริงๆอาจจะผูกไปแล้ว สร้อยกุญเเจซอลนั่นต้องเป็นไฮท์ไลท์อะไรสักอย่างเเน่เลย อย่างน้อยทรายก็รู้เเหละ

ว่านี่คือของที่ติดตัวธาร ถ้าได้เห็นมีหรือทรายจะจำไม่ได้ แล้วถ้าเห็นของเเบบนี้ไปคล้องอยู่บนคอของคนอื่นก็ต้องคิดเเหละว่าธาร

เป็นคนให้ ชนาธิปทำตัวแย่ลงเรื่อยๆ ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชเวทนาดี... ไล่ล่าความรักที่ไม่ใช่ของตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ เข้าใจว่า

เป็นเพราะขาด แต่ก็น่าจะสำนึกว่าตัวเองก็มีความรักจากเเม่ พ่อก็รักเเม้จะไม่ใช่ลูกเเท้ๆ แต่ทำไมชนาธิปถึงยังวิ่งไล่ไขว้คว้าความรัก

จากเพศเดียวกันอย่างไม่รู้จบขนาดนี้

คุณภัคจะเป็นยังไงบ้าง ถ้าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวไม่ใช่ว่าธารพาลมาลงกับทรายอีกนะ ยิ่งเอะอะอะไรก็ทรายผิดทั้งนั้น  :z3: รับไม่ได้ที่

ธารเผลอไปจูบชนาธิปเข้านี่เเหละ (อคติกับชนาธิปไปแล้ว :hao3: ก็นะการกระทำนางงงง) คุณทัตจะโผล่มาอีกมั้ย? คุณภัคอาการ

เเย่ลงแต่ไม่เเน่อีกไม่นานอาจจะปรากฏว่าดีขึ้นก็ได้
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 08-04-2014 23:58:02
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 09-04-2014 00:09:02
ช่วงนี้มาม่าเต็มปากเต็มมาก T^T เค้าอยากกินเค้ก!!!
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 09-04-2014 00:50:22
โอยยยยย โอยยยย น้องธิปครับกลับบ้านเก่าไปเถอะครับ
ทรายจัดการมันเลย ทั้งคู่ๆๆๆ
เกือบไปแล้วธาร เมิงงงงงงง
เจ๊ภัทรจะไหวมั้ยเนี้ย ลูกไม่มาดูเลย เมาหัวทิ่มอยู่นั่น
ทรายสู้นะเฮ้ย ถ้าไม่ไหวไปหาคุณทัตซะ (ชื่อนี้ป่าวว้า)
อินเจงๆๆ ยังกับเป็นทรายเอง ถ้าตบได้ตบแล้วอ่ะจริงๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 09-04-2014 01:38:29
 :katai1: แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไม่ไหวกับอิธิปพยศนี่แล้ว  :z6: :z6: :z6:  :beat: :beat: :beat:
เอาจริงๆเคยแอบสงสารนิดๆว่าเป็นคนที่ถูกทอดทิ้ง
แต่ดูมันทำตัวสิ เสนอตัวทุกอย่างจนอิดอกบัวคู่ในตอนที่แล้วๆมาอายแทบจะโดดแม่น้ำบางปะกงตายไปเลยทีเดียว
ยังแอบดีนิดนึงที่ไม่ลักหลับธารหรือมอมเหล้าหนักๆ แต่ชั้นว่ามันอาจจะไม่ฉลาดพอก็ได้นะ กร๊ากกกกกกกก  :laugh:
ขอให้แห้วต่อไปนะจ๊ธิป เสนอตัวขนาดนี้ เราว่าแรดไม่รู้ตัวแบบพี่ทรายดีกว่าเยอะ

อ่านส่วนของธิปมาตั้งแต่แรก เสนอตัวอยากเป็นของธารตลอด
เชื่อตายแหละว่าจะไม่เกาะแกะธาร ไม่มีทาง มันก็แค่คำพูดสวยหรู อย่างแกกินธารที แกตามยิ่งกว่านางร้ายช่องสามแน่นอน

เรารู้สึกว่าธิปโรคจิตนะ ไม่รู้รู้สึกคนเดียวรึปล่าว ชอบธารเพราะเหมือนคุณธัตมาก
แปลว่าอินี่มันชอบพ่อตัวเองน่ะสิ ทีกับพ่อมามีศีลธรรม กับพี่ดันไม่สน
ทั้งๆพ่อและพี่ก็คนละสายเลือดกับแก จะข้ออ้างคนละสายเลือด มันฟังไม่ขึ้นอ่ะ  :fire:
แต่แกว๊อนท์อยากรวมร่างกับเขาเหลือเกินเป็นอะไรมากมั้ย  :beat: :beat:
จากที่อ่านๆมาถึงธารจะเป็นพี่ชายแท้ๆ อิธิปมันก็ไม่ถอยหรอก เชื่อสิ!
เสนอขนาดนี้ แม่มันรู้มั่งมั้ยเนี่ยว่ามันทำตัวแบบนี้

ในขณะที่อิเด็กธารนอนกอดอิธิป คุณภัครก็เข้าโรงพยาบาลไปแล้ว เจริญแหละพ่อคุณ  :fire:
แกทำตัวยังงี้ ก็ไม่ควรมีหน้าไปว่าทราย ห้ามทรายไม่ให้ดูแลคุณภัครแล้วนะ
ในขณะที่ลูกไปกก?กับลูกศัตรู ใครเล่าที่ดูแลแม่
จะอ้างว่าสุดวิสัย อันนี้ฟังไม่ขึ้นอ่ะ เพราะปกติอิเด็กธารมันนอนบ้างตลอดไง
แต่ดันไปตามใจอิธิปซะงั้น แล้วถึงจะไม่มีอะไรกับอิธิป อิธิปก็ต้องใช้ข้ออ้างอื่นในการเข้าหา
ที่สำคัญ มันใช้ความน่าสงสารเป็นอาวุธ ******* ในการปฏิบัติภารกิจต่อไป

เราขอเชียร์ให้พี่ทรายด่ากลับ ร้ายกลับใส่ธารไวๆ ให้มันสำนึกว่าไม่ควรสงสารใครพร่ำเพรื่อ
พี่ทรายคงคิดในใจนะว่า "ทีกูร้องไห้น้ำตาแทบเป็นเลือดดันไม่สงสาร ทีอิธิปร้องแหมะๆเสือกสงสารซะงั้น สรุปมึงรักใคร"

แหมน่าจะมีคลิปธารนอนฟัดธิปเนอะจะได้มาม่าแซ่บๆเท่าๆกัน

ปอลิง : Unseen นี่อิเด็กธารกินกาแฟอีกแล้วนะ แถมชอบครีมข้นๆด้วย หื่นเสมอต้นเสมอปลายดีจริง  :katai3:
ดีนะไม่มีกล้วยด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า

ปอลิงปอลิ๊ง : ทำไม เม้นนี้ ฉันแลดูอารมณ์รุนแรง  :mew5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 09-04-2014 03:46:00
เดี๋ยวทรายจะต้องเห็นสร้อยบนคอธิปแล้วต้องมีไรเกิดขึ้นแน่
ร้ายเลยนะร้ายเลยแบบเอาธารคืนมา ทั้งๆที่ธารไม่ได้ทำไร55555
แต่ต้องเข้าใจผิดกันอีกชัวร์
แล้วคุณภัครจะเป็นไรมากมั้ยเดี๋ยวธารผีเข้าทำร้ายพี่ทรายอีก
มันส์ค่ะบอกเลย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 09-04-2014 07:32:06
อิเด็กผีชนาธิป แกนี่มันเป็นลูกไม่ใต้ต้นของนางวิลาสินีจริงๆ เลยนะ
ดูซิมันจะสำแดงเดชอะไร แต่ชั้นว่าฝีมือแบบก็อปปี้มาจากหนังน้ำเน่าอย่างแก ไม่เท่าไหร่หรอกย่ะ ดรวก  :angry2:

ทราย อย่ายอมแพ้มันนะ อย่าให้ไอ้เด็กที่เกิดช้ากว่าเราเป็นรอบ มาฉกชิงของรักเราไปได้นะ ชั้นเอาใจช่วยเธออยู่   :laugh:

แต๊งค์ นักเขียนนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 09-04-2014 07:48:43
เครียดอ่ะ ไม่ชอบธิป ธารกลับมาสักทีเหอะเดี๋ยวก็เป็นเรื่อง
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 09-04-2014 08:44:09
อิธิปนี่นิสัยถอดแม่มาเต็มเลยนะ แม่เลวยังไงลูกก็เลวอย่างนั้น เชื่อว่าสร้อยเส้นนั้นต้องทำให้พี่ทรายเข้าใจอะไรผิดแน่เลย สู้ๆ นะพี่ทรายยยยยย

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 09-04-2014 09:35:47
สมกับชื่อตอน  รักคืออะไร ถามง่ายแต่ตอบยาก เพราะนิยามและการแสดงออกของความรักแต่ละคนไม่เหมือนกัน :impress3:

ธารตอนนี้กำลังคิดหนักและสับสนอย่างมาก กับเรื่องที่เกิดขึ้น ชั่งน้ำหนักความเชื่อว่าควรจะเชื่อได้ไหม ทั้งจากทรายและพ่อ พยายามทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาหลายครั้งหลายหน แต่ก็ยังอับจนว่าจะทำยังไง ในใจเกิดความขัดแย้งกันไปหมด ใจหนึ่งอยากจะลืมและเริ่มต้นใหม่ให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อีกใจมันก็ฝังกับภาพของคนรักกับพ่อมีความสัมพันธ์กัน และสำนึกส่วนดีของธารที่คิดคือ ถ้าทุกอย่างเป็นความจริง คนที่เสียใจที่สุดก็คือตัวเองที่ทำแบบนั้นกับคนรักและคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ แต่เชื่อว่าถ้าวันนั้นมาถึง ธารก็ลูกผู้ชายคนหนึ่งที่พร้อมจะยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปแน่นอน  แต่สิ่งที่ธารกลัวมากกว่าคือ การที่คนรักจะให้อภัยและรักเขาเหมือนเดิมหรือเปล่า :m15: ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าธารรักทรายมาก สงสารธารมากนะ ให้ยังไงธารก็คือเด็กวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่ง ที่ถูกปัญหารุมเร้าอย่างหนักหนาสาหัส มาแบบไม่ทันตั้งตัว ถึงตั้งตัวก็เกินจะรับมืออยู่ดีกับเด็กวัยนี้  ที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ ซึ่งในชีวิตจริงก็มีให้เห็นกันอยู่  :เฮ้อ:

แหมแต่ขอติอีเด็กดีของฉันหน่อย รวย เครียด กินเหล้า เข้าคอนเซ็ปเลย ทำมายแกไม่กินกาแฟวะ จะได้สมองปลอดโปร่ง และถ้าจะให้โล่ง กินพร้อมทรายไปเลย หื่นนนนน หื่นนนนนน เสียงตูเอง :haun4: แต่ก็ขอชื่นชมที่ธารยังมีสติไม่เผลอใจปล่อยตัวไปกับชนาธิปที่มีปัญหาแน่นอกเหมือนกัน ยังมีสามัญสำนึกคิดว่า ธิปเป็นพี่น้องต่างแม่ และในห้วงที่อ่อนแออ่อนไหวก็ยังนึกถึงทรายตลอด  และแม้กระทั่งธิปบอกความจริงว่าตัวเองไม่ใช่พี่น้องและลูกแท้ๆของทัตพล ธารก็ยังเด็ดขาดไม่เอาธิป  พูดประเลาะ  เล้าโลม ยอมแทบจะทุกอย่าง ฮีก็ไม่ยอมเอา นายแน่มาก ขอให้เป็นอย่างนี้ไปตลอดนะ เด็กดี o13

ส่วนธิปในตอนนี้จะขอพูดถึงในแง่ของความเห็นใจก่อน ตรงที่รู้ความจริงก็คงจะช็อคพอสมควร เพราะรักทัตพลที่เลี้ยงดู เอาใจใส่ ประดุจลูกแท้ๆ มาตลอด ความผูกพันฉันท์พ่อลูกมันฝังในจิตใจมานาน ธิปรักทัตพลในฐานะพ่อมากนะ ส่วนยายวิ ฉันโอเคกับหล่อนขึ้นมานิดหนึ่งที่ไม่เสี้ยมสอนลูกไปในทางที่ผิด พูดความจริงให้ลูกฟัง :katai2-1: วิก็เป็นอีกคนที่รักไม่เป็น รู้แต่รักแบบครอบครองโดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น และนิสัยนี้ก็ตกมาถึงธิปด้วย ซึ่งน่ากลัวมาก เพราะธิปรู้แล้วว่าตัวเองไม่ใช่พี่น้องกับธาร ทีนี้ความรู้สึกที่ธิปมีต่อธารมาตลอดจะเริ่มรุนแรง จนเกิดความริษยาคนที่ธารรัก และคงทำทุกวิถีทางให้ได้มาในทางที่ผิดแน่นอน คาดว่าธิปคงเป็นตัวแปรหลักในตอนต่อๆไปจนกว่าจะจบ คงเป็นคนที่ทรายจะต้องรับมืออย่างหนัก และแสดงร่างที่แท้จริงออกมาก็ได้ และหวังว่าทรายคงร้ายกลับอย่างมีเหตุผล รับมืออย่างนายเอกที่ฉลาด เราเชื่อว่าทรายทำได้แน่นอน เพราะคนเขียนบอกแล้ว อิอิ o18 ส่วนเรื่องสร้อย เดาว่า ต้องมีส่วนให้เกิดปัญหากับธารแน่ เพราะมันใส่ติดตัวตลอด แต่เจือกให้ธิปไปไม่รู้ตัวนี่แหละ ไม่รู้ว่าเป็นสร้อยที่ทรายซื้อให้หรือเปล่าหนอ แต่มันดันจำไม่ได้ไง  :ruready

อีกด้าน คุณภัครก็เกิดมาอาการกำเริบในตอนที่ลูกชายไม่อยู่อีก น่าสงสารมาก ดีนะที่ยังมีทราย ป้าวันนา ดาว เตโช อยู่ที่บ้าน ไม่อย่างนั้นคงเลวร้ายไปกว่านี้ ต้องบอกว่าทรายทำได้ดีมาก ทำด้วยความรักและภักดีต่อภัครไม่เคยเปลี่ยน ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน ซึ่งอาจจะส่งผลดีกับทรายก็ได้  ถ้าอีเด็กธารมันไม่งี่เง่าหึงหวงเธอโดยไม่ดูสาถานการณ์นะ อีธารแกต้องไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ เพราะฉันอวยและเข้าข้างแกมาตลอด แกต้องนึกถึงแม่ก่อนนะโว้ย :m16: แต่แอบคิดว่าพอธารรู้ต้องบึ่งมาแน่นอน พร้อมพ่วงอีเด็กธิปมาด้วยหรือเปล่า กลัวจะเป็นอย่างนั้นจุงเบย อีกอย่างที่ฉันกังวล ฉันล่ะกลัวคุณทรายของฉันโทรหาทัตพลจริงๆเลย คือ ทรายทำด้วยความหวังดีไง แต่อีเด็กน้อยฉันนี่สิ จะตีความไปอีกอย่าง ต้องไม่ทำอย่างนั้นนะทราย แกด้วยธาร ถ้าเกิดพ่อแกมา แกต้องไม่หึงหวงและคิดอคติ แกพึงสำนึกห่วงแม่ที่ป่วย และควรซาบซึ้งพี่ทราย ที่พาแม่มาโรงพยาบาล อย่าเจือกด่าเขาล่ะ เรทติ้งแกฮวบแน่ ฉันขอเตือน   :angry2:

เครียดพอควรกับอาหารจานหลัก หนีไปหาของหวานกินดีกว่า อีเด็กนี่ทำฉันฟินอีกแล้ว :heaven ฉันว่าแกอย่าเป็นหมอเลยว่ะ ช่างจิตนาการอย่างนี้ เกิดไปเห็นอวัยวะคนไข้ทั้งภายในภายนอก โดยเฉพาะตับกับตูด นะแกเอ้ย ลำบากทรายตูแน่นอน มันต้องเกิดอาการอยากกิน ตับ ตับ ตับ แน่ ถ้ามันคิดได้ก็สวดยอดมนุษย์แล้ว แต่ที่รู้ตูคิดเองนี่หว่า :jul3:   ดูดู๊ กระทั่งขนมมันก็ยังโยงไปได้ ทรายก็แทนที่จะกินไม่ลง กลับสมยอมฟินตามมันซะนี่ เป็นไง สุดท้ายโดนกินพร้อมกาแฟเบย  :oo1:



หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 09-04-2014 13:26:58
ธิป~ ไม่เอาลูกกก
ธารเป็นของพี่ทรายเค้า
อย่าเอานิสัยแม่มาใช้ อิ____อิ

เดี๋ยวตามไปอ่าน unseen
ขอบคุณนะคะ^^
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 09-04-2014 15:17:43
ขอบคุณคนเขียนค่ะ ที่ไม่ทำให้เรารู้สึกแย่โดยให้ธารหน้ามืดมีอะไรกับธิปจริงๆ :z3:
แค่นี้ก็ตาบวมช้ำตามพี่ทรายไปแล้ว สู้ๆนะทราย :กอด1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 09-04-2014 15:18:36
อ่านจนตาไม่กะพริบ ลุ้นตลอดตอนเลยใจก็อยากเลื่อนให้สุด อีกใจก็ยั้งไว้ อ่าน ๆ ไป สะดุดกึก tbc  :katai1:
ธารฉันเกือบแล้ว ๆ เกือบมีชนักติดหลัง ตอนที่สำคัญ"สร้อย"คงเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญของเรื่องต่อไป

สงสารสองแม่ลูกอีกแล้ว (มึงก็สงสารเขาไปทั่วเนาะ) เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกลึก ๆ นะ
ก็เนาะแต่ยังไงไม่เจอกับตัวก็คงไม่รู้สึกจริง ๆ หรอก  แต่ก็เลือกที่จะกระทำได้
ซึ่งอิสองคนนี้คงไม่มีใครสอน ฮา (บางทีก็แรงไป) :jul3:

โฮววววววว เจ็บ เจ็บแทนธาร ฮา ทรายทำอะไรก็ผิดหมดสำหรับธาร
(แต่อิเด็กธารก็มานั่งคร่ำครวญลับหลังว่าทำถูกแล้วยุติธรรมแล้วในความคิดมัน)
แต่ธารนี่สิทำอะไรคนอ่านก็ด่าตลอด ๆ แถมซ้ำอีก กร๊ากกกก
ยังไงฉันก็อวยเด็กธารนะเคอะ เอาใจช่วยให้ธารรู้ว่าแม่อาการทรุดเร็ว ๆ นะ   :hao7:
เดี๋ยวตามไปอ่านอันซีนก่อน
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 09-04-2014 15:59:59
คือ ..แบบดราม่ากระชากวิญญาณมากอ่ะ อ่านไปน้ำตาไหลไป :sad4: :sad4: :sad4:

เอาใจช่วยน้องธารน่ะ ลองให้โอกาสพี่ทรายบ้างน่ะธาร.. :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 09-04-2014 20:59:04
โอ๊ยนังชนาธิปขา อันเชิญคุณออกจากชีวิตธารด่วนๆ :z3:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: Theznux ที่ 09-04-2014 22:12:05
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมากค่ะ แอบสงสารทรายน่ะ โดนพระเอกรังแกตลอด
ทั้งๆที่เป็นคนดี ชอบบททรายมาก เป็นคนมีความอดทนต่ออะไรหลายๆอย่าง
ติดตามค่ะ ชอบมากกกกกกก
 :mew1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 10-04-2014 12:46:42
  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: Min61 ที่ 10-04-2014 18:30:47
น้องธิปปปปปปป แรดนะคะ  :เฮ้อ:
ไม่ไหวๆ มันขนาดนั้นเลยหรอคะ ขนาดยอมแอบอยู่ในซอกหลืบไม่ให้ใครรู้เพื่อแลกกับได้ธารเลยหรอ  :katai1:
กลับไปกอดแม่ดีกว่ามั้ยคะน้องธิปปปปปป ไปดูแลสภาพจิดใจแม่ ดีกว่าสันหาเรื่องแบบนี้ แถมผู้ชายเขาไม่รักอีก
รู้แก่ใจอยู่แท้ๆ ถ้าได้ธารจริงๆจะมีความสุขหรอคะ ถามจริง ในเมื่อเขาไม่เคยแม้แต่ชายตามอง
อยากรู้มันจะมีความสุขมากแค่ไหน ถึงต้องยอมแลกถึงขนาดที่แบบ..ภาษาบ้านๆที่เข้าใจก็ เมียน้อย ช้ะ ?
อืมมมม...นั่นแหละ หรือเพราะหน้าตาเหมือนคนที่(คิดมาตลอดว่า)เป็นพ่อ ถึงอยากได้มากขนาดนี้
โอ๊ย กลุ้มค่ะ ถ้ารู้จักชนาธิปจริงๆ อิชั้นจะโบกหัวให้ ใครบอกให้ทำตัวแบบนี้
แม่เธอก็คราวนึงแล้วนะ ไม่อยากให้ลูกต้องเป็นแบบแม่อีกนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 10-04-2014 22:02:34
เข้ามารอ  :o12:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 10-04-2014 23:12:17
เข้ามารอเหมือนกัน

รอทั้งที่นี่ และทั้งที่บล็อกก็รอนะ (ในบล็อกตอนนี้อ่านอีกเรื่องหนึ่งรอ ซึ้งมากเลยค่ะ ชอบมากๆเรื่อง My Friends)
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [8/04/57] Love is ....(??)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 11-04-2014 13:51:00
^^
หัวข้อ: Re:(drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[11/04/57]Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 11-04-2014 21:29:52

http://www.youtube.com/v/vSA96V_gnCQ


บทที่27  Try to use your heart looking to me, don’t just use yr eyes




เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น วารินสะดุ้งตื่นจากห้วงความคิดทั้งหมด เป็นสายเข้าจากนับดาวโทรเข้ามารายงานว่ายังติดต่อธาราธารไม่ได้  วารินจึงบอกกลับไปว่าไม่เป็นไรให้นับดาวพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีแรงตื่นมาทำอาหารช่วยป้าวันเอามาให้คุณภัครท่านแต่เช้า  ก่อนจะกดวางสายลงไป


“คุณหมออกมาแล้วครับ” เตโชลุกขึ้นเรียกวารินให้เดินเข้าไปด้วยกัน คุณหมอเจ้าของไข้ที่ดูแลภัครจิราอยู่


“ไม่เป็นอะไรมากหรอกนะ เกิดภาวะช็อคแทรกซ้อนนิดหน่อยไม่มีอะไรมากแล้ว เดี๋ยวพวกคุณตามพยาบาลขึ้นไปเลยก็ได้ นอนค้างที่นี่สักคืนแล้วกันผมขอดูอาการต่ออีกหน่อยถ้าพรุ่งนี้ไม่มีปัญหาเย็นๆก็กลับได้แล้ว”


ทั้งวารินและเตโชยกมือไหว้อย่างสำนึกในบุญคุณ มองดูบุรุษพยาบาลเข็ญเตียงที่มีเจ้านายของพวกเขาทั้งคู่ออกมา สีหน้าเธอดีขึ้นมาก พวงแก้มเริ่มมีสีแดงระเรื่องแต้มแต่ง วารินค่อยหายใจโล่งไปเปราะหนึ่ง


“เดี๋ยวผมเอารถลงไปจอดดี ๆ แล้วจะตามคุณทรายขึ้นไปนะครับ” เตโชเอ่ยขึ้นก่อนเขาจะเดินแยกออกไป


พอขึ้นมาถึงบนห้อง วารินรีบเข้าไปล้างมือ ออกมากระชับผ้าห่มคลุมลงที่หน้าอกให้ภัครจิราอย่างเบามือ ขณะที่เธอนอนจ้องหน้าเขานิ่ง ภัครจิราพูดไม่ได้แม้แต่ร่างกายก็ไม่ขยับ เพราะฉะนั้นความรู้สึกทุกอย่างจะแสดงออกมาทางแววตาเท่านั้น


...ไม่ใช่ว่าวารินไม่สังเกต...


ตลอดทางที่นั่งรถมาเป็นวารินที่คอยหลบเลี่ยงที่จะสบสายตากับเธออยู่ตลอด ความรู้สึกผิดตีตื้นอยู่เต็มอก แต่ทว่าก็อยากช่วยอยากดูแลอยากทำทุกอย่างให้เท่าที่เขาจะสามารถทำได้  ทั้งที่กลัวว่าเธอจะรังเกียจดังนั้นเขาจึงคอยหลีกเลี่ยงที่จะสบสายตากับเธออยู่ตลอด


ฉับพลันคนตัวเล็กตัดสินใจมองดูหน้าเธอแวบหนึ่ง น้ำตาหยดหนึ่งไหลตกลงมาที่หางตาสวย...ภัครจิรากำลังร้องไห้...วารินคุกเข่าลงทันที


“คุณภัครครับ”  เขาว่าเสียงสั่นก้มหน้านิ่ง สองมือกำจิกเนื้อตัวเองจนสั่น 


“ผมรู้ถึงพูดไปก็เหมือนกับแก้ตัว แต่ผมอยากให้คุณรู้นะครับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นผมกับคุณทัตไม่ได้ตั้งใจ  เราสองคนโดนวางยาโดยใครบางคนที่คุณทัตเองก็บอกออกมาไม่ได้ ผมไม่รู้เหตุผลของเขาแต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว ทั้งเลวร้ายและยอมรับได้ยากแต่ผม..อยากจะขอให้คุณให้อภัย ถ้าตอนนั้นสติสัมปชัญญะยังครบถ้วน ไม่มีวัน ที่ผมจะทำเรื่องราวแบบนั้นแน่นอนครับ!  ผมเองก็เสียใจ ยกโทษให้ผมด้วยเถอะนะครับ”


วารินหลั่งน้ำตากล่าวขอโทษเธอ ความผิดครั้งนี้ใหญ่หลวงมากนักจริง ๆ หากเขาเป็นเธอไม่แน่ว่าจะสามารถยกโทษให้ได้หรือไม่


ค่อยๆเงยหน้าขึ้น เขากล้าที่จะมองดูภัครจิราเต็มตาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอล้มป่วย บัดนี้แววตาที่เคยแข็งกร้าวทุกครั้งที่เขาคอยแอบมองเธอตลอดมา  ค่อยเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาบ้างแล้ว ถึงจะไม่เหมือนเดิมเหมือนอย่างเคย แต่ก็ไม่เย็นชาไร้ความรู้สึกเหมือนที่ผ่านมา


“คุณทรายนอนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะดูคุณภัครต่อให้เอง”


เตโชเข้ามาแตะลงที่บ่าเล็ก วารินที่คุกเข่าอยู่ถึงกับสะดุ้งรีบเช็ดรอยน้ำตา ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตอนไหน รีบลุกขึ้นเทน้ำเปล่าใส่แก้วเสียบหลอดใส่ขณะที่เตโชเข้าไปขยับปรับเตียงให้สูงขึ้นอีกนิดเพื่อให้เธอดื่มน้ำได้สะดวก เมื่อยื่นแก้วไปชิดที่ริมฝีปากสวย ภัครจิราชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดยอมเปิดปากรับหลอดเล็กๆ ดูดน้ำสะอาดผ่านลำคอเข้าไป


“ไม่เป็นไรหรอกนายเตพักเถอะ เดี๋ยวฉันจะนอนตรงนี้นี่แหละ วารินว่าแล้วหมุนเตียงลงปรับตำแหน่งให้เหาะสมเพื่อให้คนป่วยนอนได้สะดวกสบายขึ้น ขณะที่เตโชเลี่ยงมานั่งลงที่โซฟาตัวยาว เวลาผ่านไปได้สักครู่เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูตอนนี้ตีสี่ครึ่งแล้ว แผ่นหลังเล็ก ๆ ฟุบหลับอยู่ที่ข้างเตียง ไฟในห้องถูกหรี่เป็นสีส้ม  เตโชเดินไปแตะลงที่หลังเรียกวารินเบา ๆ คนตัวเล็กงัวเงียแล้วเดินตามเขาออกมากึ่งนั่งกึ่งนอนลงที่โซฟา เตโชเองก็เอนตัวอยู่ข้างกัน พักเดียวทั้งคู่ก็หลับไป








ตุ่บบบบ!!!!!!




“จะนอนพิงกันต่ออีกนานไหม!”


น้ำเสียงฉุนเฉียวมาพร้อมกับเสียงฟาดหมอนลงใส่ที่ตักของทั้งคู่ ทั้งวารินทั้งเตโชสะดุ้งขึ้นพร้อมกัน ไม่รู้เมื่อคืนนั่งกันอิท่าไหนตอนเช้าหัวเลยเอนพิงกันอยู่แบบนั้น ช่างแสลงใจสำหรับผู้มาใหม่อย่างที่สุด เขาถึงกับจับหมอนเขวี้ยงใส่ทันที


วารินรีบยืนขึ้นขณะที่เตโชเดินเลี่ยงออกไปแถวหน้าประตูสบทบกับทินกรพ่อของเขา นับดาวและวันนา ที่เพิ่งเดินเข้ามาเช่นกัน


“เต  นายพานับดาวกลับไปก่อนก็ได้ไม่ใครอยู่เฝ้าบ้านเดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง” 


นับดาวสะดุ้งเฮือกทั้งที่เพิ่งมาถึงก็ถูกไล่ให้กลับเสียแล้ว  เธอรีบเดินเข้ามาดูภัครจิรา แล้วเลี่ยงออกไปหาเตโชทันที ท่าทางนายน้อยของบ้านอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก หากดื้อดึงจะขออยู่ต่อรังแต่จะหาเรื่องใส่ตัวเธอจึงได้แต่เงียบไว้


“ถ้าอย่างนั้นพี่กลับพร้อมดาวเลยก็แล้ว.....”


“ไม่ต้องไป!  เดี๋ยวกลับพร้อมผม”


เขาว่าขึ้นเสียงแข็ง แทรกขึ้นทันทีที่วารินกำลังจะลุกขึ้น  ใบหน้าเล็กมองเขากล้า ๆ กลัว ๆ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรเพราะปกติแล้วเขาจะไม่อนุญาตให้วารินเข้ามาใกล้ภัครจิราได้แม้แต่นิดเดียว แต่ครั้งนี้วารินถึงกับมานอนเฝ้าอาจทำให้เขาดูโกรธเอามากๆแบบนี้  เขาเดินเข้าไปหาภัครจิราที่เตียง วารินจำต้องนั่งลงที่เดิม โบกมือให้ดาวกับเตโชที่กำลังจะกลับไปก่อน


เขาบีบมือคุณแม่เขาเบา ๆ แล้วพูดเสียงอ่อน “คุณแม่ครับ ผมมาแล้วนะ” ภัครจิราขยับตัวลืมตาตื่น รอยยิ้มน้อย ๆ ถูกจุดขึ้นทันทีที่เห็นใบหน้าของลูกชายคนเดียวของตน


“ขอโทษนะครับที่เมื่อคืนไม่ได้อยู่.....”


ขณะที่เด็กหนุ่มคุยกับคุณแม่ของเขาไปเรื่อยๆ วารินเพิ่งจะสังเกตเห็นใครบางคนที่เดินตามหลังเขาเข้ามา เด็กหนุ่มคนนั้นยืนรออยู่ใกล้ประตู


ชนาธิป ?


เด็กที่พี่ซีรับวาดรูปให้คนนั้น


“สวัสดีครับ” เป็นชนาธิปที่ทักขึ้นก่อนเขายกมือไหว้วาริน รู้สึกคุ้นหน้าวารินมาก นึกอยู่พักเดียวเขาก็จำวารินได้  แต่กระนั้นก็ยังจำไม่ได้ว่าน้องชายของภูวดลคนนี้ชื่ออะไร
 

“นั่งก่อนสิ”


วารินรับไหว้ขยับออกนิดหน่อยเพื่อให้เขานั่งลงข้างกันได้ ชนาธิปจึงถามไถ่ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นทำไมภัครจิราถึงต้องมาที่โรงพยาบาลกลางดึก อีกฝ่ายจึงบอกเล่าไปเท่าที่จะบอกให้ฟังได้  ครู่หนึ่งคุณหมอเจ้าของไข้เข้ามาตรวจอาการ


“วันนี้จะกลับตอนเย็นเลยก็ได้เดี๋ยวอาหมอทำเรื่องไว้ให้ ดูแลคุณภัครให้ดีนะธารมีอะไรโทรด่วนหาอาได้ยินดีรับใช้เสมอ” คุณหมอกำชับกับลูกชายของเธอก่อนขอตัวออกไป


“คุณธารกลับไปทานข้าวทานปลาก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าดูแลทางนี้ให้เอง” วันนาเสนออกมา ธาราธารจึงพยักหน้ารับเขามองไปที่วาริน


“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะแวะไปส่งเพื่อนก่อน ช่วงเย็นจะแวะเข้ามารับคุณแม่นะครับ”


เขาก้มลงบอกคุณแม่ของเขา  ชนาธิปรีบเดินเข้าไปที่เตียงยกมือไหว้ภัครจิราด้วยใจที่แสนหดหู่ เขารู้ทั้งรู้ว่าคนที่ทำให้เธอต้องนอนป่วยอยู่แบบนี้คือวิลาสินีคุณแม่ของเขาเอง แต่จะให้พูดออกมาก็คงไม่ได้


ธาราธารพาชนาธิปเดินออกไปแล้ว แต่วารินยังคงนั่งเฉยอยู่เขาเลยเดินเข้ามาพยักหน้าเรียกอีกหน


“ธารไปส่งเพื่อนเถอะ เดี๋ยวพี่กลับ....”


“อย่าเรื่องมาก ลุกขึ้นแล้วตามมา”


เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินออกไป  วารินจำใจคว้ากระเป๋าแล้วลุกตามบอกป้าวันว่าไม่รู้ตอนเย็นจะได้มารับไหม แต่จะลองขอให้ธาราธารพามาด้วยจะได้มาช่วยวันนาถือของเธอจึงลูบหลังเขาเบา ๆ ขอบคุณในความมีน้ำใจ วารินเข้าไปที่เตียงยกมือไหว้ภัครจิราบอกว่าจะกลับแล้ว  เดี๋ยวช่วงเย็นธารจะมารับเธอกลับบ้าน ภัครจิรามองเขานิ่ง ๆ


“กว่าจะออกมาได้นะ ไม่อยากนั่งหรือไงเบนซ์สปอร์ตสี่ที่นั่งแบบนี้ หรือชอบนั่งรถกระบะเก่า ๆ มากกว่า” พอขึ้นรถมาได้เขาก็แขวะทันที


“ธารทำไมไปว่าพี่เขาแบบนั้น”


ชนาธิปที่นั่งหน้าคู่กับเขาเอามือแตะที่หน้าขาเขาไว้ส่งเสียงปราม และหันมามองวารินที่ทำทีเหมือนไม่สนใจ จากนั้นมองดูหน้าคนขับอีกครั้ง



“ไปไงมาไงถึงมาด้วยกันได้  ทำไมไม่ให้ดาวพาคุณแม่มาหรือว่าอยากจะออกมากับไอ้เต  เลยเสนอตัวงั้นสิ”


“ธาร! หยุดนะ พูดอะไรน่ะ”


วารินหน้าเครียดรีบปรามเขาไว้เพราะชนาธิปก็นั่งอยู่ด้วยทำไมเขาถึงกล้าพูดออกมาไม่คิดแบบนั้น


“เมื่อคืนพวกเราตกใจกันมาก ธารเองก็ไม่อยู่ไม่ใช่หรือไง ไม่มีใครเขาคิดเรื่องอะไรแบบนั้นกันหรอก”


“ไม่ทันคิดเรื่องแบบนั้นแต่พี่ก็เลือกที่จะออกมากับไอ้เตมัน”


“ธาร!”


“ว่าไงครับ! พี่ทราย!”


เขาเน้นเสียงใส่ชัดถ้อยชัดคำ คำพูดของเขายิ่งกว่าด่ากันตรง ๆ  วารินหัวเสียยิ่งกว่าเดิม เขาเป็นบ้าอะไรนับวันพูดไม่รู้เรื่อง แค่เรื่องออกมากับเตโชแค่นี้ก็ทำเขาของขึ้นเป็นหมาบ้ากัดไม่เลือกแบบนี้


วารินกัดริมฝีปากเลือกที่จะเงียบ คนขับอย่างเขาจึงทำเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างขัดใจเมื่ออีกคนไม่ส่งเสียงอะไรโต้ตอบกลับมา    ชนาธิปที่นั่งฟังสองคนพูดใส่กันแบบนั้นเริ่มฉุกใจคิดถึง ความสัมพันธ์ของทั้งสองคน   ธาราธารกับวาริน



ธาร...กับ...พี่ทราย




พี่ทราย ?!!!!




             “พี่ทราย...ผมขอโทษ...รักมาตลอด ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่รัก...ขอโทษ..”




ชนาธิปปะติดปะต่อเรื่องได้ทันที แต่ก็อดที่จะตกใจไม่ได้เมื่อรู้ว่าคนที่ธาราธารรักมาตลอดคือวาริน เขารีบเอ่ย


“พี่ทรายอย่าว่าธารเลยนะครับ เมื่อคืนเราทั้งคู่ดื่มหนักไปหน่อยเลยเปิดห้องค้างคืนกันเสียเลย กว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าแล้ว”


ทันทีที่พูดจบ วารินมองธาราธารทันที คำว่าเปิดห้องค้างด้วยกันมันมีความหมายอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้นอีกหรือเปล่า?  วารินกวาดตามองที่คนตัวเล็กกว่าเขาที่นั่งอยู่เบาะหน้า  ชนาธิปหันมาส่งรอยยิ้มไร้เดียงสาให้ พร้อมเอื้อมลำตัวมาคว้าเอากระเป๋าสะพาย   สร้อยเส้นเล็กรูปกุญแจซอลโผล่พ้นคอเสื้อออกมาให้วารินได้เห็นชัดๆเต็มสองตา



วารินเบิกตาขึ้นทันที!



....สร้อยเส้นที่ธาราธารสวมใส่ไว้ที่คอเป็นประจำ บัดนี้เปลี่ยนไปอยู่ที่ลำคอเล็กสวยงามของใครอีกคนที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่ข้างเขา   ใบหน้าเล็กชาวาบ ขอบตาร้อนผ่าว    เมื่อวานเขายังเห็นมันอยู่บนลำคอที่เปล่าเปลือยที่คร่อมทับร่างกายของเขาอยู่  แต่บัดนี้....บัดนี้เปลี่ยนไปอยู่กับใครอีกคนแล้ว...



“ไปนะครับพี่ทราย  ขอบใจนะธาร แล้วเจอกัน เดี๋ยวธิปโทรหา” ชนาธิปบอกลาวาริน แล้วโบกมือให้คนขับพร้อมส่งรอยยิ้มกว้าง เขาก้าวลงไปพร้อมหันหลังกลับมามองเมื่อรถแล่นออกไปจนลับตา ดวงตากลมหรี่ลงด้วยความริษยา  เฝ้าคิดวนเวียนซ้ำ ๆ


ทำไมต้องเป็นคน ๆ นี้ที่ธารรัก?  ทำไมต้องเป็นผู้ชายที่อายุมากกว่าธารเยอะขนาดนั้น?  ตัวเขาที่น่ารักกว่า ดูดีกว่า เด็กกว่า พร้อมกว่าแทบจะทุกอย่าง ธารกลับไม่เคยหันมามอง....ไม่เคยอยู่ในสายตาเลยสักครั้ง


พี่ทราย?  คน ๆ นี้คือคนที่ธาราธารรักมาตลอดอย่างนั้นหรือ??


.



“มานั่งนี่สิ หรืออยากให้ผมเป็นคนขับรถให้”


เมื่อรถขับออกมาได้สักครู่เห็นวารินยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมเขาจึงว่าใส่  วารินจึงย้ายมานั่งที่เบาะหน้าแทน ตัดสินใจหันไปมองที่ลำคอเขาแบบชัด ๆ พลางคิดไปว่านั่นอาจไม่ใช่สร้อยเส้นเดียวกันก็ได้ ของเด็กวัยรุ่นเหมือนกันเยอะแยะไป  แต่ทว่าวารินจ้องเท่าไหร่กลับไม่เห็นสร้อยเส้นนั้นสวมอยู่ที่ตำแหน่งเดิมของมันแล้ว



....มันหายไปจากคอเขา ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งคู่...


ขณะความคิดวนเวียนซ้ำๆ รอยขบสีแดงจางๆ ก็ปรากฏให้เห็นแว๊บๆอยู่แถวเนินหน้าอกกว้าง เพราะเขาติดกระดุมไม่ครบทุกเม็ด วารินพุ่งเข้าชาร์ตกระชากคอเสื้อเขาดูทันที ธาราธารเบรกรถเกือบไม่ทัน


แววตาผิดหวังถึงที่สุดจ้องหน้าเขานิ่ง ขณะที่ธาราธารกำลังตกใจมากที่จู่ ๆ วารินเป็นอะไรไปมากระชากเสื้อกันแบบนี้  เขารีบตีไฟเข้าข้างทาง


“มีอะไร?!” เขาถามหน้าตื่น   วารินนั่งเงียบสีหน้าเรียบเฉย  เลี่ยงมองไปที่กระจกด้านข้างเพราะกลัวว่าเขาจะเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความปวดร้าว   จิตใจชอกช้ำสุดจะเปรียบน้ำ ตารื้นขึ้นมาคลอหน่วย กัดฟันอดทนให้ถึงที่สุด


ชนาธิป?


เด็กคนนั้นเป็นลูกชายของทัตพล ถ้าธาราธารนอนกับเด็กนั่นจริง? ก็เท่ากับว่าธารหลับนอนกับน้องชายตัวเอง!!! วารินที่ไม่รู้ว่าชนาธิปไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของทัตพลถึงกับหน้าซีดตกใจสุดขีดรีบโพล่งถามขึ้น


“ธาร! ธารรู้ใช่ไหมว่าชนาธิปเป็นลูกชายของคุณทัต”  ทันทีที่วารินเอ่ยชื่อทัตพล เขาเหมือนถูกสะกิดแผลในหัวใจทันที 


“ทำไม!? พูดถึงเขาทำไม!”


“คุณทัตเป็นพ่อของชนาธิป แล้วธาร.. ค...คือเขาเป็นน้องธารนะ  ชนาธิปน่ะเขาเป็นน้องชายของธาร” วารินพูดไม่ออกเฉไฉไปอีกทาง ถ้าหากว่าธาราธารทำลงไปแล้วจริง คงจะต้องทนรับความผิดบาปไปไม่ได้แน่


“เขาไม่ใช่น้องชายผมหรอก ชนาธิปไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของผู้ชายคนนั้น เมื่อคืนเขาบอกผมเอง”


วารินหันมองเขาทันที อีกฝ่ายก็จ้องกลับมาไม่ลดละเช่นกัน เขาต่างฝ่ายต่างไม่รู้ความคิดของกันและกัน  ธาราธารไม่ชอบให้วารินเอ่ยถึงทัตพล  ใครหน้าไหนจะพูดถึงคน ๆ นี้เขาก็ไม่แสลงใจเท่ากับที่วารินพูดสักครั้ง ขณะที่วารินกลับคิดไปว่าทั้งคู่คงรู้ว่าไม่ใช่พี่น้องกันจริง ๆ หากมีอะไรกันไปคงไม่แปลก  รถหรูเคลื่อนตัวออกไปอีกครั้ง


“....เข้าใจแล้ว....”  เสียงเล็กเอ่ยเบา เอนแผ่นหลังพิงเบาะอย่างหมดแรง  เขารีบหันมาดู


“เป็นอะไร!”


“.....เปล่า”





“เดี๋ยวอีกสักครึ่งชั่วโมง เอากาแฟขึ้นไปให้ผมด้วยนะ เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอน ง่วงมากเลย”


เมื่อรถจอดลงที่หน้าบ้านเขาบอกวารินไว้ก่อนลง กรามเล็กข่มแน่น คำว่าไม่ค่อยได้นอนของเขา ทำร้ายหัวใจกันได้ดีจริง ๆ


“พี่ทราย” เขาเรียก รั้งแขนเล็กไว้ยังไม่ให้ก้าวลงไป เพราะสีหน้าวารินไม่ค่อยดี


“เป็นอะไร ไหนหันมามองหน้าผมซิ”


วารินยังเฉยเขาเลยดึงแขนเล็กให้แรงขึ้นอีกเพื่อให้หันมาหาเขาดี ๆ ทว่าอีกฝ่ายก็ยังเลี่ยงที่จะสบตา  ทำสีหน้าเหมือนคนไม่พอใจอะไรบางอย่าง ความรู้สึกหึงหวงที่ยังเกาะกุมอยู่ในจิตใจเลยพาลพูดเรื่องไม่เข้าท่าขึ้นมาอีก


“หรือไม่พอใจที่ไม่ได้กลับมากับไอ้เต มากับผมแบบนี้ลำบากใจมาก ต้องนั่งรถไปกับมันใช่ไหมถึงจะยิ้มแย้มได้”


วารินหันขวับมองใบหน้าเขา และที่รวดเร็วยิ่งกว่าทั้งหมดคือมือเล็กคว้ากระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาฟาดใส่หน้าเขาอย่างหมดความอดทน แล้วก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็ว  ธาราธารตกใจสุดขีดไม่คิดว่าวารินจะกล้าทำกับเขาถึงขนาดนี้  รีบตามเข้าไปในบ้านกระชากแขนเล็กไว้


“ผมถามว่าเป็นอะไร!” เขาตะคอกใส่


“หลีกไป! พี่จะไปหลังบ้าน ปล่อย!”


“ทำไม! พอมาถึงก็จะรีบเข้าหลังบ้านเชียวนะ คิดถึงมันขนาดนั้น? ห่างกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงนี่ไม่ได้เลยใช่ไหม!”


“ธาร!”


ปากเขายังคงทำร้ายกันไม่เลิก วารินโมโหหนักสะบัดแขนออกอย่างแรง แรงกว่าทุกครั้งที่เคยทำเพราะความโกรธที่เขาพูดจาไม่น่าฟังแบบนี้ ทีตัวเองไปนอนค้างคืนกับใครต่อใครทำไมไม่คิดจะว่าตัวเองบ้าง  เขาออกไปกลางดึกกับเตโชก็เพราะพาภัครจิราเข้าโรงพยาบาลทำไมต้องมาพูดใส่กัน


แขนเล็กหลุดจากพันธนาการของเขาได้ วารินรีบจ้ำอ้าวเข้าหลังบ้านทันที


“พี่ทราย!” เขาเรียกเสียงดังขณะเดินตามมาด้วยความโมโห แขนเล็กถูกเขาคว้าจับเอาไว้ได้  “คุยกันให้รู้เรื่อง!”


“ไม่คุย! นายมันบ้าไปแล้วธาร พี่กับนายเตไม่ได้เป็นแบบที่ธารคิดอะไรทั้งนั้น!” วารินบอกเป็นครั้งสุดท้ายแล้วบิดแขนออกจากมือของเขาได้อีกครั้ง สายตาสบประสานกันครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจก้าวตัดออกไปที่หน้าห้องรับรอง


เขาจะคิดอย่างไรก็เชิญ  วารินไม่สนใจอะไรอีกแล้ว


“ไม่ให้ไป!”


มือใหญ่ตรงเข้ากระชากท่อนแขนบางอีกครั้งอย่างโกรธเกรี้ยว จนวารินที่กำลังจะเลี้ยวเข้าห้องหลังบ้านเซถลาลงที่พื้น แขนบาดเข้ากับหินประดับที่วางไว้แถวนั้นยาวเป็นทาง วารินล้มลงนั่งในทันที  ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปลามทั้งแขน แผลถูกบาดเป็นรอยยาวเกือบคืบมีเลือดไหลทะลักออกมา มือเล็กอีกข้างบีบลงที่ข้อมือข้างที่เจ็บด้วยความทรมาน


ธาราธารยืนตะลึงตาค้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หัวใจเขาเหมือนร่วงหล่นลงไปกองอยู่ที่พื้น ความเจ็บปวดของคนที่ล้มลงบนพื้นโอบรัดให้เขาเจ็บปวดตามไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว เขาตั้งสติได้รีบเข้าประคองสอดมือเข้าช้อนร่างของอีกคนพาอุ้มเข้าไปที่ด้านในอย่างรวดเร็ว เขาพาวารินเข้าไปล้างแผลในห้องน้ำจากนั้นพาออกมานั่งลงที่โซฟา สายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงฉายชัดออกมา เขารีบออกไปคว้าเอากล่องปฐมพยาบาลเข้ามาด้วยตัวเอง


“ยื่นแขนมา” เขาบอกหน้าเครียด


“ไม่ต้อง! พี่ทำเองได้” วารินปัดมือเขาออก พูดอย่างแข็งขืน


แต่เขาหรือจะฟังจับแขนวารินให้ยื่นออกมา ค่อยแต้มแอลกอฮอลล์ล้างแผลแตะลงไป แขนเล็กสั่นขึ้นนิดๆ


มองสบนัยน์ตาดุเข้มของเขาเหมือนความเจ็บช้ำจะตีตื้นขึ้นมา หัวใจเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เขาเคยรู้สึกรู้สากับการกระทำของตนเองบ้างหรือเปล่า? สะใจมากไหมที่เห็นเขาต้องเจ็บแบบนี้ หรือว่ากลัวว่าเขาจะตายไปเสียก่อนจึงได้ลงทุนเอายาล้างแผลมาทำให้กัน  ความอ่อนโยนจอมปลอม อยากรู้นักว่าหัวใจของเขาทำด้วยอะไร??


ธาราธารเปลี่ยนเป็นทิงเจอร์ไอโอดีนชุบสำลีแต้มลงที่แผล วารินกระตุกแขนนิดๆ ด้วยความแสบปากแผลที่ลากยาวเจ็บปวดขึ้นเป็นระยะ


“ธารไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก แผลแค่นี้พี่จัดการเองก็ได้”


น้ำเสียงเล็กสั่นเครือปนน้อยใจเมื่อความอ่อนโยนของเขากำลังเข้าทำร้ายกันอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่เกิดขึ้นมันมาจากน้ำมือของเขาล้วน ๆ


“ทำไม! หรืออยากให้ไอ้เตมันมาทำให้”


ปากของเขามันช่างทำร้ายจิตใจกันได้ไม่เลือกเวลาจริง ๆ เขาจะเคยรู้สึกบ้างไหมว่าสิ่งที่เขาพูดออกมามันทำให้อีกฝ่ายรวดร้าวแค่ไหน


“เมื่อไหร่ธารจะมองพี่ในแง่ดีบ้าง เมื่อไหร่จะเลิกเข้าใจพี่แบบนั้นเสียที”


วารินเงยหน้ามองเขาแล้วพูดจริงจัง มือที่ทำแผลชะงักลงทันที ใบหน้าคมแหงนเงยขึ้นสบดวงตากลมโตที่บัดนี้มีน้ำรื้นเอ่อขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด


เขาทาบผ้าปิดแผลแล้วปิดเทปพาดลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย วารินหลับตาลงแน่นก่อนจะข่มอารมณ์ความเสียใจไว้ภายใน  เมื่อมองที่ดวงหน้าเขาอย่างจริงจังอีกครั้ง จึงเอื้อนเอ่ยประโยคที่อยากจะใช้มันเพื่อให้เขารับรู้ว่าตอนนี้ในหัวใจดวงเล็กคิดกับเขาเช่นไร เมื่อความอดทนที่ทำมาทั้งหมดมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาได้เลย
 


“ ธาร...พี่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันดีขึ้นกว่านี้   โปรดมองพี่ด้วยหัวใจสักครั้งจะได้ไหม?


น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด กับใบหน้าที่เต็มไปด้วยการร้องขอ ดวงตาที่ไหวระริกคู่หนึ่งกำลังจ้องมองที่เขา วารินหยิบยื่นสิ่งเหล่านั้นส่งให้เขาอย่างช้าๆ เขากำกล่องปฐมพยาบาลไว้จนแน่น คิ้วเข้มขมวดมุ่น เขากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก


มองด้วยหัวใจอย่างนั้นหรือ?


ใช่! ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมาเขามองวารินด้วย ‘อคติ’ มาตลอด แต่แท้จริงแล้วความจริงลึกๆในใจเขาย่อมรู้ดีว่าวารินเป็นเช่นไร แล้วทำไมเขายังทำสิ่งโหดร้ายกับคนตรงหน้าได้อีก ทั้งคำพูด ทั้งการกระทำของเขา หรือทั้งหมดเป็นเพียงเพราะเขาไม่อยากจะยอมรับความเป็นจริงว่า แท้จริงแล้วเขาอภัยให้กับความผิดของวารินได้อย่างง่าย ๆ



“แค่สักครั้ง ได้โปรดใช้หัวใจมองมาที่พี่ แล้วธารจะได้เห็นถึงความเป็นจริง อย่าใช้แค่ดวงตาตัดสินกัน ให้ใช้ใจลองมองดู  ขอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจของพี่จะได้ไหม ได้โปรด....”



เสียงเล็กสั่นเครือ  มีแต่ความเงียบงันเท่านั้นที่เป็นคำตอบ ริมฝีปากของเขายังนิ่งสนิทขณะที่เขากำลังพยายามที่จะหลบหลีกสายตาของอีกคน ร่างสูงลุกขึ้นยืนช้า ๆ หันหลังให้อย่างเยือกเย็น วารินเงยหน้ามองแผ่นหลังกว้างที่กำลังก้าวเดินออกไปด้วยจิตใจที่ร้าวรานเกินจะเปรียบ



....ขอแค่โอกาส....



.....สักครั้ง.....



....ขอแค่โอกาส หยิบยื่นมันให้แก่กัน แค่นั้นไม่ได้เชียวหรือ....




“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดี๋ยวเราออกไปรับคุณแม่ด้วยกัน”




จู่ ๆ เขาพูดขึ้น วารินพอได้ยินอย่างนั้นถึงกับตกตะลึงเงยหน้ามองเขาทันที



เขาใช้คำว่า ‘เรา’ ?



เขาจะอนุญาตให้ไปรับภัครจิราได้หรือ?



“ถ้าพี่อยากจะไถ่โทษกับคุณแม่ผมจริง ก็แสดงให้ผมเห็น ต่อไปช่วยป้าวันดูแลท่าน”



ความผิดของวารินถ้าเฉพาะเรื่องของทัตพลพ่อของเขา  คงจะยกโทษให้ได้ไม่ยากเย็นอะไรเพราะทั้งคู่ก็ยืนยันถึงความไม่ตั้งใจ แล้วเขาก็พอจะดูรู้สองคนนี้ไม่น่ามีอะไรที่มาเกี่ยวพันกันได้  แต่ทว่าความผิดที่ทั้งสองคนก่อกลับส่งผลร้ายกับแม่ของเขาโดยตรงทำให้พอมองดูที่ภัครจิราทีไรใจของเขาเหมือนโดนตอกย้ำอยู่เสมอว่าที่เธอต้องกลายมาอยู่ในสภาพนี้ นั่นเพราะใคร?? 



แต่วันนี้วารินกลับต้องลำบากพาภัครจิราไปโรงพยาบาลดึกๆดื่น ๆ ดูแลเฝ้าไข้ ขณะที่เขาซึ่งเป็นถึงลูกกลับไปนั่งกินเหล้าทำตัวเหลวไหลอยู่นอกบ้านพอกลับมา แทนที่จะกล่าวขอบคุณสักคำเขาดันไปพูดจาประชดประชันบ้า ๆ ใส่ แล้วยังทำเรื่องจนวารินต้องได้เลือดมาแบบนั้น   



ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาจนจุก หัวใจรวดร้าวเจ็บปวดอย่างที่สุด


เขาตัดสินใจจะมองคน ๆ นี้ใหม่อีกสักครั้ง


ใช้ใจมองกันอย่างนั้นหรือ??


อย่างน้อยคำว่า ‘ให้โอกาส’ อาจนำมาซึ่งสิ่งดีๆหลายอย่างมากมายในชีวิต


สำหรับวารินแล้วนี่เป็นเสมือนคำอนุญาตที่ยิ่งใหญ่จากเขา  หลงลืมเรื่องชนาธิปไปในบัดดล รอยยิ้มกว้างประดับขึ้นบนใบหน้าหวานพยักหน้าขอบคุณเนื่องเพราะตื้นตันเกินจะเอ่ย ไม่มีเกี่ยงงอนใดๆอีกแล้ว ในเมื่อเขาอนุญาตให้เข้าไปดูแลภัครจิราได้แบบนี้นั่นแสดงว่าความโกรธเกลียดที่เขามีต่อกันคงจะลดทอนลงไม่มากก็น้อย


“แต่ผมจะดูทีท่าของคุณแม่ด้วย ถ้าหากท่านต่อต้านไม่ยอมรับ พี่ก็ต้องทำใจเอาไว้ด้วย”


ใบหน้าเล็กพยักรับอีกครั้งอย่างเข้าใจ  วารินมองแผ่นหลังกว้างที่เลี้ยวหายออกไปด้วยความรู้สึกชื้นใจขึ้นมาบ้างอย่างบอกไม่ถูก สิ่งที่เขาพูดมานั้นมันตีความได้ว่าเขาจะลองมองกันใหม่อีกสักครั้ง เขาจะหยิบยื่นโอกาสให้กันแล้วนับจากนี้   ขณะที่คนที่ก้าวเดินออกมานอกห้องกลับครุ่นคิดอย่างหนัก



ชั่งใจระหว่าง  ‘มองกันด้วยใจ’  กับ  ‘มองกันด้วยอคติ’




วาริน...คนที่เป็นความรักครั้งแรกของเขา...และเป็นคนๆ เดียว ที่เขาเคยเอ่ยปากจะยอมให้เป็นรักครั้งสุดท้ายเช่นกัน....




Tbc.
*กดเข้าไปอ่าน Unseen-5 ต่อเลยนะ มันเป็นเรื่องต่อเนื่องกับตอนนี้*
*ฮิฮิ  คืนนี้คนเขียนไปเที่ยวแล้วนะ ไปด้วยกันไหม??  ถ้าว่างจะลงอันซีนสั้น ๆ ให้ เพราะมันลงในโทรศัพท์ได้  ส่วนเรื่องหลักเจอกันอีกทีโน่นเลยนะหลังวันหยุดยาว ถ้าคิดถึงกันไปอ่านเรื่องอื่น ๆ ในบล็อกเค้ารอได้นะคราบ   อนึ่ง.. มันก็เน่าเหมือนเรื่องนี้แหละ*
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 11-04-2014 21:57:33
ธารขี้หึงจริงนะ

เห็นแววดีกันแล้ว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 11-04-2014 22:23:14
ดีใจก่อนมาแล้วววววววว :mc4:

และก็ แหม่ เป็นตอนที่ขัดใจฉันมากที่สุดกับพฤติกรรมอีเด็กธาร :ling1: ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมอย่าทำให้ฉันผิดหวัง อย่าหึงหน้ามืดตามัว ทำไมแกไม่ฟังที่ฉันบอก :angry2: แทนที่จะนึกห่วงแม่ก่อน กลับมาอารมณ์เสียกับเรื่องที่ไม่สมควรคิด แย่มากเลย ฉันขอตำหนิอย่างจริงจัง  :beat: ไม่พอขอ :z6:  อีกสักที เป็นการลงโทษขั้นแรกก่อน ไม่พอแกยังเอาอีเด็กธิปมาด้วยอีก แหม่ ขัดฉันหลายอย่างเหลือเกิน ไม่พอยังพูดจากระทบกระเทียบเหน็บทรายให้เจ็บอีกทั้งที่เขาเป็นคนช่วยพาแม่แกมา รพ. แต่แกกลับคิดอกุศลด้วยความหึงหวงหน้ามืดเข้าครอบคลุม  :katai1: ข่วนหน้าให้หน้าแหกไปเลย ไม่พอยังไม่เลิก กลับเข้าบ้านยังคิดไปโน่นอีก ทั้งที่ทรายมันหึงแกเหมือนกัน พูดจากำกวมเข้าไปอีก พอกันไอ้นิสัยพูดเองคิดเอง แต่เอาเป็นว่าเจ๊า เพราะทรายแม่งก็ไม่รู้อีก ว่าอีเด็กนี่มันหึงและก็คิดเองเออเองเช่นกัน แต่ฉันก็ยังโกรธกับแกอยูดี :m16:อ้อลดให้อีกก็ได้ ที่แกยังอ่อนโยนและเจ็บปวดที่ทำทรายเจ็บ อุ้มมาทำแผลให้ ตอนนี้ฉันเข้าข้างทราย สงสารทราย ยิ่งที่ทรายขอร้องให้มองกันด้วยใจ มันแทงใจมากกับคนที่ผิดโดยไม่ตั้งใจ แต่กลับขอโอกาสเหมือนตัวเองผิดจริงๆ  :hao5: ฉันคิดอยู่นะว่าแกจะตอบอะไรที่มันขัดใจฉันอีกไหม ถ้าขัดล่ะก็ ฉันจะไม่อวยและรั้งทรายให้แกเอาไว้ :oo1: อีกแล้ว ปล่อยให้ทรายได้กับใครก็ไปเถอะ ดีนะที่คำตอบเป็นที่พอใจ เพราะฉันรู้ยังไงแกก็รักทรายมากที่สุด และที่บอกจะรักเป็นคนสุดท้ายขอให้ทำให้ได้ด้วย ไม่งั้นมี :z6: อีกหลายๆรอบ แต่ถ้าแกจะมีคนอื่นก็ขอให้สมเหตุสมผลก็แล้วกัน :m31: นี่ฉันบอกธารหรือบอกคนเขียนวะ :laugh:

ส่วนธิป ตอนที่แล้วฉันเห็นใจแกอยู่ แต่ตอนนี้แกรู้ความจริงและแสดงออกแล้วว่าอิจฉา อยากจะได้ธาร ถึงกับพูดสไตล์แรดเงียบให้ทรายปรี๊ดได้ นับว่าฉลาดมาก ต่อไปคงจะร้ายกว่านี้ ดูแล้วจะร้ายกว่าแม่แน่ๆ ฉะนั้นขอให้ทรายจัดให้เต็มที่ มีเท่าไหร่ใส่ให้หมด อย่าไปยอม ตบเป็นตบ  :beat:  เพราะมันเริ่มเผยตัวตนแล้ว ธิปเหมือนแม่ตรงแค่รักไม่เป็น อยากจะครอบครองอย่างเดียว แต่เก็บความรู้สึกได้ดีกว่าวิ

ส่วนตอนอันซีน ขอเม้นท์ตรงๆเลยนะคะ ไม่ชอบการกระทำของทัตพลเลย ดูไม่มีความเป็นผู้ชายที่รักครอบครัวเหมือนในตอนแรกเลยสักนิด บอกว่ารักภัครแต่กลับถอดใจง่ายๆ ไม่มีความพยายามที่จะทำอะไรให้มันดีขึ้นเลย เหตุผลฟังไม่ขึ้นมาก กลัวลูกชายโกรธ นั่งโทษแต่ตัวเองว่าไม่สมควรไปเข้าใกล้ เอาเวลาตรงนี้ไปพิสูจน์ความรักที่มีให้ภัครกับธารยังดีกว่า คุยเรื่องภัครอยู่ดีๆ เหมือนจะเครียด แต่กลับให้อารมณ์ไม่ห่วงไม่รักภัครเลยสักนิด ถึงภัครจะปลอดภัยแล้วก็เถอะ  กลับเปลี่ยนไปสนใจซีแทนซะงั้น ความกล้าหาญ ความเป็นลูกผู้ชายหายไปไหนหมด แค่นี้ถึงกลับไม่กล้าไปคนเดียว ต้องเอาซีไปด้วย เสียความรู้สึกมากกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อและสามีถึงจะเป็นอดีตก็เถอะแต่ในเมื่อเมียที่บอกรักกำลังเจ็บป่วยจะเป็นจะตาย กลับมีอารมณ์มุ้งมิ้ง ออดอ้อนกับซี เข้าใจว่าอาจจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แต่ไม่เห็นทัตพลพยายามจะทำอะไรเพื่อเมียกับลูกสักนิด คือยังไม่ไปในตอนนี้ก็ไม่ได้ว่า แต่ตอนที่กลับมาจากไปทำธุระและชวนซีไปด้วยพอซีบอกไม่ว่าง แทนที่ทัตพลจะนึกถึงภัครก่อน กลับจะรอซีให้ไปพร้อม พูดว่าว่างจะไปรับไปส่ง มันจี๊ดใจมากเลย ว่างไปเอาใจใส่คนอื่น แต่ไม่หาโอกาสไปแก้ในสิ่งที่ตัวทำเอาไว้ :เฮ้อ: พยายามจะคิดว่ามันเป็นอันซีนตอนหวาน แต่เรากับฟินไม่ออก รู้สึกมันไม่ควร ไม่ได้แอนตี้ถ้าทั้งคู่จะเป็นอะไรกันในอนาคต แต่ในตอนนี้อยากให้แยกแยะสักนิด ขอโทษนะคะที่ต้องเม้นท์แบบนี้ คนเขียนเขียนดีแล้ว แต่เราอินกับความเป็นจริงเกินไปนิด ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าจะเม้นท์ไม่ถูกใจ :call:

สรุปตอนนี้ ทั้งลูกทั้งพ่อติดลบมากๆๆๆๆๆ กรุณาแก้ตัวด้วยทั้งสองคนเลย :angry2:   เป็นกำลังใจและติดตามต่อไปค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 11-04-2014 22:39:31
มีใครว่างมั้ยคะ ไปดักตบอิธิปกันเถอะค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระของพี่ทราย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 11-04-2014 22:47:36
พออ่านปุ๊ป

อิเด็กธาร  :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: ทำไมแกทำแบบนี้
ที่ผ่านๆมาฉันเข้าใจเหตุผลที่แก เล่น SM กับทรายนะ เพราะ ทรายมันทำร้ายหัวใจแกและคุณภัคร
แล้วทรายยังสัมผัสความรักของแกไม่ได้อีก แถมอี๋อ๋อกับนายเตจนนนอกหน้า
ฉันก็เลยสงสารแก แล้วอยากจะจิกหัวพี่ทรายให้มาดูสิ่งที่แกทำให้ดีๆ จะได้เข้าใจแกบ้าง
แต่ตอนนี้แกผิดเต็มประตู ทำไมไปทำร้ายพี่ทรายละเฟ้ย  :m31:
ที่ผ่านมาแกคิดอะไรฉันเข้าใจพฤติกรรมแกตลอด แต่ตอนนี้ที่แกร้ายใส่พี่ทรายเพราะหึงเหรอ
แทนที่แกจะคิดว่าพี่ทรายกับคนอื่นๆช่วยแม่แกไว้ตอนที่แกไปอยู่กับธิปพยศ
แกน่าจะสำนึกให้เยอะๆ นะ
กว่าจะได้สติก็ต้องเห็นเลือดก่อน เจริญแหละแก สงสัยถ้าอยากให้แกดีกับพี่ทรายเร็วๆ
ฉันคงต้องได้เห็นพี่ทรายเข้าโรงพยาบาลใช่มั้ยเนี่ย  :mew5:
ไม่เอานะ ฉันอยากได้แบบแซ่บๆ ไม่อยากได้ดราม่าปกตินะ  :serius2:
ยังดีที่ตอนหลังเริ่มให้โอกาศพี่ทรายบ้าง ขอให้พี่ทรายใช้ความรักที่คนอ่านเริ่มเห็นพิสูจน์นะ
แต่ที่ฉันหงุดหงิดที่สุดคือ แกฉลาดทุกเรื่อง แต่พี่ทรายไม่พอใจเรื่องอะไรทำไมไม่รู้เรื่อง  :fire:
คว้าคอไปดู แกไม่รู้เรอะว่าเรื่องสร้อย อีกอย่างอิธิปพยศมันก็สร้างความเข้าใจผิดโดยตั้งใจทิ้งไว้อีก
ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกไม่รู้ อย่ามาตีมึน นิสัยแกมันไม่ใช่เลยนะ
ถ้าความหึงมันบังตาก็รีบๆนึกให้ได้เร็วๆ แล้วเขี่ยอิธิปพยศโดยไว ไม่ให้มาเกะกะตอนจบ



อิธิปพยศ  :z6: :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
แฮ่นขนาดหนัก อ้อร้อสุดๆ ไม่ได้ตัวก็สร้างความเข้าใจผิดแบบหน้าไม่อายจริงๆ ช่างกล้านัก
อยากให้แม่มันมาเห็นนะว่าลูกเป็นยังไง ให้พี่ทัตมาเห็นด้วย
ไม่อยากให้อิธิปมีคู่เด็ดขาด  :m31:



ปอลิง :
พออ่าน Unseen

กีซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ  :hao7: :hao7: :hao7:
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อร๊ายยยยยยยยยยยยย
ฟินนาเล่เป็นที่สุด ขนาดเรื่องเกิดในเวลาเดียวกันนะเนี่ย
ฝั่งหนึ่งก็แซ่บซะ อีกฝั่งก็ฟินสุดยอด (ถึงจะไม่ฟินกับบางคน แต่กับฉันฟินที่สุด)
ยิ้มแก้มปริ กลิ้งไปมาบนที่นอน น่ารักโฮก ขอให้คู่ ทัตซี มาบ่อยๆนะ
ไม่ต้องเอ็นซี แต่ดาเมจกระจุยกระจายจริงๆ
ชั้นเข้าใจพี่ทัต ใครจะว่าพี่ทัตไม่ดูแลคุณภัครก็ช่าง เข้าใจว่าอยู่ห่างกัน 20 ปี ไม่ได้สานต่อความรัก
เป็นความรักที่แค่อยากให้กลับมาคุยกันได้ อยากเห็นอีกฝ่ายมีความสุข
ไม่ใช่ความรักรุนแรงสมัยหนุ่มสาวและคนที่เป็นสามีภรรยามา 20 ปี
ความรู้สึกนี้มันต่างกันมาก ฉนั้นพี่ทัตจึงไม่จำเป็นต้องห่วงคุณภัครเกินเหตุ
ความรู้สึกของพี่ทัตง่ายมากเลย อารมณ์ประมาณแฟนเก่าที่เคยรักมา 20 ปีป่วย
เป็นใครจะดุ่มๆเข้าไปหาไหม อีกอย่างอิเด็กธารก็ไม่รับเป็นพ่ออีก
เข้าไปคุณภัครจะรู้สึกแย่ปล่าวๆ ยกเว้นชีจะเป็น S สะใจที่อดีตสามีโดนลูกด่าอ่ะนะ
ใครเคยมีแฟนเก่าที่ยังรักอยู่ อยากไปเยี่ยมเวลาป่วยแต่เยี่ยมไม่ได้น่าจะเข้าใจพี่ทัตดีนะ
แต่ตอนนี้ฟินไม่ไหวแล้ววววววววว
ไล่กอดพี่ทัตกับพี่ซี  :กอด1: อร๊ายยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 11-04-2014 22:49:14
 :o8: เหมือนจะดีขึ้น...มั้งนะ... ถ้าไม่มีชนาธิปคงดีกว่านี้ กล้ามากที่ยิ้มไร้เดียงสา พูดเรื่องเมื่อคืนให้ทรายฟังหน้าตาเฉย คำพูดที่ไม่
ชัดเจนมันทำให้คนฟังคิดได้หลายทางนะไม่รู้หรือไง... ชนาธิปเดินตามรอยเท้าเเม่ตัวเองเหมือนลูกปูอยู่เล็กน้อย (ในอนาคตถ้าคิด
ไม่ได้อีกก็คงจะเหมือนร่างก็อปปี้กันมาอ่ะนะ) เริ่มเดินบนเส้นทางสายริษยาตาไฟลุกอีกคนเเล้วสิเนี่ย รู้ทั้งรู้ว่าความผิดทั้งหมดเกิด
จากเเม่ตัวเอง การเก็บงำไม่บอกธารก็พอเข้าใจว่าใครๆ ก็อยากปกป้องเเม่ตัวเอง แต่ไอ้การรู้เรื่องเเบบนั้นเเล้วก็น่าจะสงสารทราย
หน่อยนะที่ต้องมากลายเป็นเหยื่อ กลับมานั่งริษยาเพราะทรายเป็นคนที่ธารรัก ไม่รู้จะว่ายังไง เหม็นเบื่อคนประเภทนี้ เขาไม่ใช่ของๆ
เราก็น่าจะตัดใจเป็นเพื่อนเป็นพี่ไปก็ได้ ทำไมยังพยายามเเย่งชิง... มันบาปนะ ดูเเม่ตัวเองเป็นตัวอย่างก็น่าจะรู้นะหนูชนา!!! :katai1:
ไม่ชอบที่นางไปดูถูกทรายเลย เอาตัวเองไปเปรียบเทียบเเล้วยกตนว่าดีกว่า น่ารักกว่า ...ประเด็นคือ น่ารักกว่าเเล้วไง ในเมื่อทราย
คือคนที่ธารรัก เค้ารักทราย ไม่ใช่รักคนหน้าตาน่ารักแต่ทำตัวไม่มีค่า... ชนาธิปน่าจะคิดบ้างนะเจอทรายที่บ้านเขามาก็ทีนึงเเล้ว น่า
จะรู้ว่าสิ่งที่ธารรักในตัวคนๆนี้ คงไม่ใช่เเค่หน้าตา อายุ หรือฐานะ ถ้าไม่มีดีใครเขาจะเลือกรัก :m16:
ไม่อยากให้ชนาธิปเป็นตัวร้ายไปมากกว่านี้เลย เพราะนางน่าจะมีศักดิ์ศรีในตัวเองเหลือบ้าง ละอายในสิ่งที่เเม่ของตัวเองทำและสิ่งที่
ตัวเองคิดจะลงมือทำสักนิดคงจะดูน่าสงสารอยู่มาก (แต่เดิมชีวิตครอบครัวก็น่าสงสารอยู่เป็นทุน)

ธารให้โอกาสทรายหวังว่ามันจะทำให้อะไรๆ ดีขึ้นนะ กลัวก็เเต่จะมีมารมาผจญให้ทรายเสียใจ ธารเหมือนจะเริ่มคิดได้บ้างเเล้ว แต่
ปัญหาใหญ่ของธารยังอยู่ที่การปล่อยให้ชนาธิปมาป้วนเปี้ยนอยู่ในชีวิต กับปัญหาปากร้ายด้วยเเรงหึงนี่เเหละ ถ้าให้โอกาสเเต่ปาก
ยังทำลายและสองมือยังไม่ผลักตัวมารออกไปจากชีวิต สักวันคนที่จะออกไปจากชีวิตธารอาจเป็นทรายก็ได้ คนเราหากได้กำลังใจ
เล็กๆน้อยๆ มันก็เหมือนได้น้ำทิพย์มาชโลมใจช่วยต่อชีวิต แต่อย่าลืมนะธารถ้าน้ำที่คิดว่าเป็นน้ำทิพย์บริสุทธิ์มันกลับกลายเป็นมีกรด
มาปนเปื้อน จากที่จะมีชีวิตมันจะพาลกัดกินชีวิตเอาได้ ตอนนี้สถานะของทรายดูไม่มั่นคงเลยเเม้ธารจะยังรักทราย เเต่พื้นที่ส่วนหนึ่ง
ในชีวิตของธารมันเริ่มถูกเเทรกเเซงด้วยชนาธิปเข้ามาเเล้ว เข้ามาเเละไม่มีทีท่าว่าจะยอมเเพ้หรืออยากออกไป แนวโน้มว่าทรายจะ
รู้สึกว่าตัวเองถูกลดค่าลงมันก็มีสูงขึ้น ธารไม่รักชนาธิปแต่ก็ไม่ปฏิเสธการก้าวเท้าเข้ามาของชนาธิปอย่างเต็มที่ ก็เหมือนเปิดโอกาส
ให้ทรายเจ็บช้ำเพิ่มขึ้นด้วยมือตัวเองนั่นเเหละ ยิ่งจุดประสงค์ของชนาธิปก็ออกจะชัดเจนว่าอยากเป็นคนที่ธารรักมากเเค่ไหน

คุณภัคสมกับเป็นผู้ใหญ่ที่อุปถัมภ์ค้ำชูทรายมา อย่างน้อยๆก็ฟังเเละอ่อนลง เรื่องมันมีที่มาที่ไปเเละทรายเองคุณเธอก็รู้จักดีว่าไม่มีทางทำเเบบนั้นได้ ดีใจที่อย่างน้อยคุณภัคก็มองทรายดีขึ้น (ไม่เหมือนลูกชายอ่ะนะ...แซะธารให้คันเล่น) ทรายมีคนรักมากมาย คน
ที่มองข้ามความดีความน่ารักของทรายคงมีเเค่แม่นางชนาธิปกับธารเท่านั้นแหละ :hao5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 11-04-2014 23:00:15
คุณคนเขียนไม่ทำตามสัญญาเลยนะคะ ไหนบอกว่าทรายจะมาแนวดาร์คบ้าง สุดท้ายก็ยังอ่อนแอเหมือนเดิม

แล้วน้องชนาธิปนี่ก็ไม่เลิกเลยจริงๆนะคะแม่กับลูกเหมือนกันไม่มีผิด ทรายห้ามยอมแล้วนะ ทำให้ตัวเองมีค่าบ้าง

ไม่ใช่เครื่องมือหรือเครื่องระบายให้ธาร  :z6:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 11-04-2014 23:08:05
อืมมมม ธิปอย่ามาสร้างคว่มร้าวฉานนะ
แอบดีใจที่ธารยอมฟังทรายบ้าง
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 11-04-2014 23:09:16
เกลียดอิธิป
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 11-04-2014 23:25:32
ธารเป็นพระเอกที่ไม่มีเหตุผล อารมณ์แปรปรวนมากๆ สงสารทรายถ้าต้องอยู่กับธารนิสัยแบบนี้ตลอดไป

เข้ามารออ่านทุกวัน อ่านไปอารมณ์ขึ้นทุกตอนเลย โมโหไอธารมัน
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 11-04-2014 23:29:11
ไม่ปลื้มธิปเอามากๆ สร้างความร้าวฉานคืองานของเธอใช่ไหม วิณญาณนางร้ายเริ่มทำงานแล้วสินะ
แล้วพี่ทรายจะเอาอะไรเข้าสู้ เด็กธิปนี่ร้ายกาจใช่ย่อย (ร้ายตามแม่ของนาง) ส่วนทางฝั่งธาร ก็ใจดีกับพี่ทรายขึ้นมาจิ๊ดนึง
คิดว่าเดี๋ยวก็คงต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคุณทัตไม่โผล่มาอ่ะนะ แต่ก็ห้ามไม่ได้หรอก คุณทัตต้องมาเยี่ยมคุณภัทรอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 11-04-2014 23:51:08
ชนาธิปชักจะไม่น่ารักแล้วนะ
พี่ทรายเก่งมากค่ะ พูดสิ่งที่คิดออกไปได้ ธารรักมาก แค่พยายามใจแข็ง
ดูไปดูมาพระเอกฉันคล้ายเขมชาติ @อย่าลืมฉันมาก ๆ ทั้งรักทั้งแค้น หึงมันตะบี้ตะบัน
แต่คนอ่านก็ช้อบชอบ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 12-04-2014 00:39:11
ชนาธิป นางแรดและร้ายมากกกกกกก หึย อยากจะ .... ชุดใหญ่สักหน่อยเหอะ ชิ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: kapooklook ที่ 12-04-2014 01:05:28
ธารช่างเป็นผู้ชายปากหมาที่นิสัยกวนตีน
แต่แอบน่ารักแม้ว่าจะไม่ได้เห็นนานแล้วก็เหอะ
สัญญาณมาดีว่าช่วงนี้ดราม่ากำลังจะผ่านพ้นไปช่ายไหม
 รออย่างใจจดจ่อ
คนเขียนเขียนดีฝุดๆ มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: Milkmilkzer ที่ 12-04-2014 01:25:17
ธารอย่สใจแข็งนักน้าา นังธิปนี่ก็....ฟหกด่าสว :ling1: :z6:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: Min61 ที่ 12-04-2014 01:53:37
นั่นไง น้องธิป พึ่งด่าไปตอนที่แล้วเองนะ ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาเล้ยยย
พวกตื้อไม่เลิก น่ารำคาญ แถมร้ายเงียบอีก น่ากลัว

ส่วนธาร เหอะๆ หึหึ พระเอกเป็น bipolar รึเปล่าคะนี่  :ling2:
แต่ก็คงไม่ เพราะเห็นแต่ตอนมันร้ายสุดๆ ยังไม่เคยเห็นตอนมันดีสุดๆซักที(ถ้าไม่นับตอนแรกๆน่ะนา)
แต่เหมือนกันที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แล้วแต่จะขึ้นมากขึ้นน้อย เอาแน่เอานอนไม่ได้
แต่จะอยู่ในโหมดอารมณ์ไม่ดีตลอดเวลา เหอเหอ
เป็นตู...เครียดตายก่อนเรียนจบพอดี  :ling2: แถมเรียนหมออีก เครียดซ้ำซ้อนเลยทีนี้  :ling2: :ling2:

โอเค (ต่อ)...
น้องธารนี่น่าสงสารนะ ถึงจะหึงไม่เข้าท่าก็เหอะ
แต่เด็กมันก็รักของมันอ่ะนะ ถ้าทรายรู้ตัวหน่อยก็จะรู้ว่ามันยังรักอยู่เพราะความขี้หึงแสดงออกเวอร์ๆของน้องเนี่ยแหละ
หึงมันหมดอ่ะ ที่เป็นผู้ชายรอบๆตัวทราย 55 ตลกดี น่ารักดี แต่ถ้าเป็นเราคงไม่สนุกด้วยหรอกขี้หึงขนาดนี้
แต่ในฐานะคนอ่าน คือเดี๊ยนชอบมากฮร้าาา คิคิ

ว่าแต่...หลังหยุดยาวเลยหรอคะ ไม่นะะะะะะะะ  :z3: :z3: :ling1: :ling1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 12-04-2014 13:13:07
ถ้าทรายจะร้ายนี้เลวเลยน่ะ
ตัวเองทำผิดแท้ๆ ได้รับโทษยังไม่สาสมเลยมั้ง
แม่เค้าเป็นอัมพาตแท้ๆ
ถ้ากล้าจะร้ายกลับนี่แย่มากๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-04-2014 13:32:07
เป็นนายร้ายเต็มตัวแล้วสินะธิป กะเอารางวัลนายร้ายแห่งปีเลยด้วยป่ะเนี่ย จะเตรียมโหวตให้นะ :katai1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [11/04/57] Try to use yr heart look
เริ่มหัวข้อโดย: Theznux ที่ 12-04-2014 14:12:40
เป็นตัวร้ายจนได้นะชนาธิป ต้องสู้นะพี่ทราย จะมาแพ้เด็กไม่ได้เด็ดขาดดด แย๊กกก!
ธารนี่หน้าหมั่นไส้มากกก ทำอะไรขัดใจคนอ่านแบบสุดๆ เซ็งนางเหลือเกินนน

สนุกทุกตอนค่ะ เป็นกำลังใจให้พี่ทรายเข้มแข็งไวๆ แล้วฝากเอาคืนธารให้สาสมนะคะ
 :hao7: :hao7: :hao7:


หัวข้อ: Re:(drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57]Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 12-04-2014 22:43:52


Unseen Special  ธารทราย – เวอร์ชั่นคุมคาแรคเตอร์ไม่อยู่   (พิเศษให้วันสงกรานต์)
 
 


“ไม่ให้ไป”
 

เขาว่าแล้วปิดตำราแพทย์เล่มโตที่วางอยู่บนตัก  มือขาวสะอาดถอดแว่นสายตาใสวางลงที่โต๊ะรับแขก ไขว่ห้างมองหน้าคนพูดนิ่ง ๆ
 

“แป็ปเดียวก็กลับแล้ว พี่ไม่ได้เจอเพื่อน ๆ ตั้งนาน ช่วงนี้หยุดยาวพวกเราเลยนัดเจอกันครบทีม จะขาดพี่ไปได้ยังไงล่ะโดนต่อว่าเละแน่” วารินที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขายู่หน้า
 

“โดนเพื่อนพี่ต่อว่ากับโดนผมต่อว่า ไม่อยากโดนอันไหน” เขาจ้องหน้า เหมือนจะคั้นเอาคำตอบเสียให้ได้
       
             

                    ‘ไม่อยากโดนเพื่อต่อว่าสิวะ!  ไอ้เด็กคนนี้นี่ ชักจะเหลืออดแล้ว!’ วารินคิดในใจ 
 


“ไม่เอาน่าธาร พี่รู้ธารเป็นเด็กมีเหตุผล ครั้งนี้กว่าพวกพี่จะรวมตัวกันได้นัดกันมาเป็นเดือนๆเชียวนะ”
 

ธาราธารชั่งใจครู่หนึ่ง เพราะวารินชมว่าเขาเป็นเด็กมีเหตุผล ครั้นจะเอาแต่ใจเกินไปนักเดี๋ยวอีกฝ่ายจะพาลถอนคำชมออกไป
 

“แล้วจะกลับกี่โมง” เขายกข้อมือดูเวลา ตอนนี้ ทุ่มกว่าแล้ว
 

“ไม่เกินตีสองหรอก”
 

“ตีสอง!?” เขาทวนคำเสียงดังจ้องวารินอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
 

“ก็แหมธาร  ผู้ชายอ่ะ เจอกันก็มีเรื่องโน้นเรื่องนี้ต้องคุยกันดิ ไหนจะต้องดื่มกินกันอีก แล้วก็...”
 

“แล้วก็จะไปต่อเรื่องผู้หญิง งั้นใช่ไหม”
 

“ใช่ที่ไหนเล่า! เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว”
 

“แล้วไปทำไร ทำไมต้องนานขนาดนั้น แค่นั่งคุยกันชั่วโมงเดียวก็น่าจะเสร็จ”
 

“หูยน้องธารครับ  ใครมันจะไปสังสรรค์กับเพื่อนแค่ชั่วโมงเดียวกันเล่า เหล้ายังลงคอได้ไม่ถึงครึ่งขวดเลย”
 

“อะไรนะ! นี่จะกินเหล้าด้วยเหรอ??” หลังเขาไม่ติดเบาะแล้ว จ้องหน้าวารินหาเรื่องสุด ๆ
 

“เปล่าๆ พูดเล่นๆ  แค่เปรียบเทียบน่ะ เปรียบเทียบ”
 

วารินถึงกับปาดเหงื่อ เกือบพูดเรื่องจริงที่ยังไม่เคยมีใครรู้มาก่อนของเขาก็คือ หากไปดื่มกับเพื่อนที่ถูกใจและคุยกันถูกคอ เขาจะดื่มได้เต็มที่มาก ดื่มเฉพาะเหล้าเพียว ๆ ด้วย ส่วนสปายวายอะไรนั่นอย่าไปพูดถึงเด็ดขาด กลุ่มพวกเขาไม่มีใครแตะกันสักคน มันแพงรสชาติก็งั้น ๆ สู้กระดกน้ำขม ๆ ดีกว่ากันเยอะ  ไอ้พวกเพื่อน ๆ แต่ละคนก็นะ.......แฮะๆ เด็กวิดคอมฯ ก็งี้แหละ
 

“จะเชื่อได้ไหมเนี่ย” เขาหรี่ตามองคนตรงหน้า ยกแว่นสายตาขึ้นมาสวมอีกครั้ง “มานี่ดิ๊  นั่งใกล้ ๆ ผมนี่”
 

“ทำไม” วารินลุกมานั่งข้างเขา
 

“หกทุ่ม” เขาต่อรอง หันมองกันใกล้ ๆ เหมือนกำลังสำรวจอะไรบางอย่าง
 

“โหยยธาร สามทุ่มเหอะงั้นน่ะ” วารินว่าประชด
 

“ตกลงสามทุ่ม”
 

“ไม่ใช่ๆ ๆ ตีหนึ่งๆ โอเคตามนั้นแหละ” วารินยอมถอยลงมาให้เขาหนึ่งชั่วโมง ว่าเสร็จแล้วก็จะลุกเลยแต่เขาดึงเอาแขนเล็กไว้
 

“แล้วคืนนี้ใครจะชงกาแฟขึ้นมาให้ผม”  ช่วงนี้วารินต้องชงกาแฟขึ้นมาให้เขาเกือบทุกคืนที่เขาค้างที่บ้าน
 

“ให้ดาวชงขึ้นมาให้ก่อนก็ได้นี่ ”
 

“มันเหมือนกันที่ไหน! กาแฟที่พี่ชงกับกาแฟที่ดาวชง” 
 

อย่ามาทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย
 

“งั้นเดี๋ยวพี่ชงไว้ให้ก่อนออกไป ดึกๆค่อยให้ดาวเอาขึ้นมาให้ธารแบบนั้นดีกว่าไหม”  วารินทำซึนไม่รู้ว่าเขาหมายความถึงอะไร
 

เขายกนาฬิกาดูอีกที คิ้วเข้มขมวดครุ่นคิด “งั้นเอาขึ้นไปให้ตอนนี้ ผมจะกินกาแฟก่อนพี่ออกไปงานเลี้ยงรุ่น”
 

“เอาแบบนั้นก็ได้ ธารขึ้นไปรอเลย พี่ชงเสร็จแล้วเดี๋ยวเอาขึ้นไปให้”
 



กาแฟหอมกรุ่นถูกบรรจงวางลงบนโต๊ะ วารินสวมเสื้อยืดคอปาดสีดำ กางเกงยีนส์สีอ่อนขาดรุ่งริ่งที่ขาทั้งสองข้างตั้งแต่หัวเข่าไล่ขึ้นมาจนถึงขาอ่อน ธาราธารวางหนังสือลงบนโต๊ะทันที เขาไล่สายตามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
 

“แต่งตัวอะไรแบบนั้น ไปเปลี่ยนใหม่ ไม่งั้นไม่ต้องไป” วารินก้มมองตัวเอง
 

“แบบนี้ก็ดีแล้วนี่ ธารอย่าบอกว่าจะให้พี่ใส่สแลคกับเสื้อยืดคอปกเหมือนเหมือนทุกวันนะ”
 

“แบบนั้นมันก็เรียบร้อยดีไม่ใช่หรือไง นี่อะไรวัยรุ่นเหรอเรา อายุเท่าไหร่แล้วครับพี่ทราย” เขาว่าประชด
 

“อย่ามาพูดเรื่องอายุนะ!”


วารินแหวใส่เสียงดังจนธารเงิบไปเลย จะว่าเขาเรื่องอะไรไม่แสลงใจเท่าเรื่องอายุเลยสักครั้ง  หนอยยย เห็นยอมเข้าหน่อยกดเอา ๆ
 

“ห้ามพูดเรื่องตัวเลข ดูกันที่หน้าตาสิ!”
 

อายุเขาสามสิบสองแต่หน้าเขาแค่ยี่สิบสี่เท่านั้นแหละ วารินมั่นใจ!
 

“ท..โทษที  ผมไม่ได้ตั้งใจว่าสักหน่อย แต่ไม่อยากให้พี่แต่งแบบนี้อ่ะ แล้วนี่ดูซิ  รวบผมแบบนั้นทำไม? รวบครึ่ง ๆ กลาง ๆ มันดูเซอร์ๆไปนะผมว่า ใช้ดินสอไม้เสียบไว้อีกคืออะไรกันเนี่ย!”
 

ธาราธารเริ่มหน้าเสียเมื่อเห็นวารินชักสีหน้าจริงจังตอนเขาแกล้งว่าเรื่องอายุ แล้วทรงผมมัดรวบไม่หมดแบบนี้มันดูเซ็กซี่เอามากๆ
 

“ช่างพี่เหอะน่า เมื่อก่อนพี่ก็แต่งแบบเนี๊ยะ”   เด็กวิดคอมฯ จะอะไรนักหนากับเสื้อผ้า  พอมาทำงานเป็นเลขามันเลยต้องดูผู้ดีเรียบร้อยน่าเชื่อถือไง เลยกลายเป็นผู้ชายบูติคไปซะงั้น
 

เขามองดูวารินอีกครั้ง ถอนหายใจอย่างขัดใจไม่ได้ เรียกให้เดินเข้ามาใกล้ ๆ ตัวเขาเปิดลิ้นชักโต๊ะหยิบกุญแจรถส่วนตัวส่งให้
 

“เอารถผมไปใช้ ถ้าเมามากขับกลับไม่ไหวให้โทรมานะ อย่าขับกลับเองเด็ดขาดเข้าใจใช่ไหม”
 
 
อย่าคิดว่าวารินจะปฏิเสธ มีรถสบาย ๆขับแบบนี้ใครจะไม่อยากได้กัน คนตัวเล็กเดินเข้าไปใกล้เขาทันที ขณะจะเอื้อมมือไปรับกุญแจ ธาราธารยักไว้หน่อยหนึ่งยังไม่ยอมส่งให้ในทันที   วารินจึงเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย
 

“อะไร?”
 

“เข้ามาใกล้ ๆสิ เดี๋ยวบอก” เขาใช้สายตาดึงดูดวารินให้เอียงใบหน้าเข้าหา
 

“จูบขอบคุณผมหรือยัง”
 

เขาว่าจบ ไม่รอให้อีกคนแสดงปฏิกิริยาอะไรทั้งสิ้น รวบเอาใบหน้าเล็กด้วยสองมือแล้วกดจูบสอดปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่มนิ่มทันที วารินที่กำลังตกใจเกือบจะต่อต้านผลักเขาออกไปแล้วแต่ก็ยังยั้งสติไว้ได้ เพราะรู้ว่ากับธาราธารยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ  ยิ่งอยากทำ เพราะงั้นคราวนี้เขาเลยปล่อย อยากจูบยาวแค่ไหนก็ปล่อยให้จูบได้เลยตามสบาย เสร็จแล้วจะได้ปล่อย ๆ ให้เขาออกไปพบปะเพื่อนฝูงเขาเสียที
 

แต่เห็นทีคราวนี้วารินจะประเมินเขาผิดพลาดมากไปหน่อย จูบของธาราธารไม่เพียงแต่มาราธอน แต่ยังสร้างความรู้สึกหลากหลายทางอารมณ์ให้กับเขาอีกด้วย
 

มือใหญ่ค่อยรั้งคนตัวเล็กให้ชิดเข้ามาเรื่อย ๆ ขณะที่ริมฝีปากยังทำหน้าที่ของมันไม่ขาดช่วง ร่างกายวารินถูกกอดรัดจนเสียสมดุลและเอนล้มลงบนตักของเขา เสียงเขาครางต่ำอย่างคนพออกพอใจ วารินไม่ชอบที่จะได้ยินเสียงต่ำลึกโทนนี้ของเขาเลย โดยเฉพาะเวลาที่ใบหน้าเขาสองคนอยู่แนบชิดกันแบบนี้ เพราะมันทำให้วารินสติกระเจิดกระเจิงอยู่ทุกครั้ง
 

“ธาร..... ธารพอแล้ว”  มือเล็กดันใบหน้าเขาออก หอบหายใจถี่ พยายามจะลุกออกจากเขา  “พอแล้วเดี๋ยวสาย พี่นัดเพื่อนไว้สามทุ่ม”
 

“ยี่สิบนาที คราวนี้จะเร่งให้” จู่ ๆ เขาว่าแล้วจับวารินลุกออก ตัวเขาเองก็ลุกขึ้นปลดกระดุมเสื้อตัวเองลง
 

“เฮ้ย! ไม่เอานะธาร”
 

วารินไม่อาจรับรู้ได้ว่าเขารวดเร็วแค่ไหนเพราะว่าตอนนี้ร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่านเปลือยโชว์หุ่นอยู่ต่อหน้ากันแล้วเรียบร้อย
 

“พี่ถอดสิ เร็วหน่อยจะได้ไม่เสียเวลาหรือจะให้ผมถอดให้ดี เอาแบบนั้นก็ได้ มานี่มา”
 

เขาไม่พูดเปล่า เดินเข้าหาทันที วารินถอยกรูแทบไม่ทัน แผ่นหลังบางชิดผนังแล้ว
 

“ชู่วว์  ไม่ดื้อนะ ถ้าไม่อยากเสียเวลาว่าง่าย ๆ ยี่สิบนาทีเสร็จผมสัญญา”
 

“...ธาร...”
 

“....ร้อน....ผม ‘ร้อน’ ใช่ไหม จับดูสิ”
 

เขาจับมือเล็กเข้าแนบชิด ส่วนตัวเขาค่อยโน้มริมฝีปากอุ่นร้อนปะพรมจุมพิตไปทั่วซอกคอขาว วารินตัวอ่อนแทบจะละลายพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไปเมื่อ ริมฝีปากร้ายลากไล้ขึ้นมามอบสัมผัสร้อนรุ่มเข้าที่ริมฝีปากสวย
 
 


.....ยี่สิบห้านาทีหลังจากนั้น เขาเลทไปนิดหน่อยเนื่องจากยีนส์ที่วารินใส่เป็นเดฟรัดรูปเอามากๆ  กว่าจะถอดกันได้แทบลากเลือด...
 
 
 
“บอกว่าสายแล้ว ๆก็ไม่เชื่อ ธารนี่จริง ๆ เลยจะตามมาทำไมกัน จอดตรงนี้แหละ จอดตรงนี้”
 

วารินชี้ ๆ ว่าตัวเองจะลงตรงไหน ที่ผับดังเขากำลังจะก้าวลงจากเบนซ์สปอตสีขาวสวย  ผู้คนที่นั่งอยู่โซนด้านนอกต่างมองกันเป็นตาเดียว
 

“อะไรอีกอ่ะ” เมื่อโดนรั้งแขนไว้จึงหันกลับไปถาม
 

“รวบผมใหม่ซะ หลุดลุ่ยหมดแล้ว”
 

“ก็เพราะใครกันล่ะ” วารินค่อยใช้มือรวบ ๆ เก็บผมไว้ใหม่ แต่มันก็ยังตกระลงมาแถวลำคออยู่ดี มือเล็กเสียบดินสอไม้ไว้ กะจะให้มันดูเท่ ๆ
 

“แล้วไม่ชอบหรือไง  เห็นร้องเสียงดังเชียว”
 

เขาว่าแล้วยิ้ม วารินมองเขาตาเขียวต่อยแขนเขาไปทีแบบแรง ๆ ธาราธารร้องโอ๊ยขึ้นดังลั่น
 

“หมัดหนักเหมือนกันนะเนี่ย”
 

เอ๊า แน่นอน! ที่เห็นว่ายอมๆอยู่ทุกครั้งนี่ก็เพราะว่าตัวเองผิดหรอกนะ ถ้าไม่ผิดฝันเหรอจะได้มาลากมาดึงกันแบบนั้น กูก็มีมือมีตีนเฟ้ย!
 

“โน่นไง พวกเพื่อน ๆ พี่นั่งกันอยู่โต๊ะนั้นไงริมสะพานน่ะ กลุ่มใหญ่ ๆ ผู้ชายล้วนธารเห็นไหม” วารินชี้ ๆ ให้เขาดูธาราธารเพ่งตามองตาม
 

“กลุ่มที่เซอร์ๆนั่นน่ะเหรอ ที่มีคนหัวฟู ๆ ด้วย”
 

“ใช่ ๆ นั่นแหละ อย่าไปว่าให้มันได้ยินนะ นั่นน่ะไอ้เฮี๊ยก มันเป็นตัวโจ๊กของคณะเชียว”
 

“นี่ถามจริงพี่เรียนจบอะไรมาอ่ะ?” เขาเริ่มสงสัย กลุ่มที่วารินชี้ให้ดู มันแปลก ๆ กันทั้งกลุ่ม
 

“วิดคอมทำไม?”
 

“วิทยาศาสตร์คอมฯ??”
 

“เปล่า….วิศวคอมฯ ลาดกระบัง(วะ)ครับคุณน้องธาร”
 

!!!!!!!
 


ธาราธารกลืนน้ำลายอึ่กใหญ่ ..............ไม่อยากจะเชื่อ!!!
 

“ไปนะ พวกมันมาครบกันแล้วมั้ง” วารินคว้าสายกระเป๋าสีดำคาดใส่ไหล่
 

“ตีหนึ่ง เดี๋ยวผมมารับ”
 

“ครับธาร  เจอกัน”
 

แค่ท่าทางการเดินก็ยังเปลี่ยนไป ดูลุคเซอร์ๆยังไงไม่รู้  เขามองคนที่กำลังก้าวเดินเข้าไปโบกไม้โบกมือให้กับเพื่อน ๆ ทั้งฝูง พอเข้าไปถึงเท่านั้น ปากเล็ก ๆ โดนยัดบุหรี่ลงทันที วารินจับสูบแล้วพ่นควันใส่หน้าไอ้คนหัวฟูที่น่าจะชื่อเฮี๊ยกอย่างทะเล้น  อีกฝ่ายถึงกับคว้าคอเล็กเอามาโบกหัวเข้าอย่างแรงหนึ่งทีแล้วคว้ากันนั่งลงแถว ๆ หัวโต๊ะ  ธาราธารส่ายหน้าอย่างระอาใจ
 


นี่คือตัวจริงๆ ของวารินใช่ไหม?????
 


*************************************************************

Unseen >>> Tbc.


**นี่คืออันซีน  Unseenที่คุณไม่เคยเห็นจริงๆ** :katai1:


หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 12-04-2014 23:01:15
โคตรแมนเลยครับพี่ หวังว่าพี่ทรายจะแมนอย่างนี้แล้วฮึดขึ้นมาสู้จริงๆจังๆซะทีนะ
ทรายมีหลายอารมณ์สนเรานึกอิมเมจตัวละครไม่ออกเลยอ่ะ
บางทีก็โง่ บางทีก็ซื่อบื้อ บางทีก็น่ารัก บางทีก็เท่ห์ เล่นเราซะงงเลย

ปล.คุณคนแต่งคะมีตอนพิเศษมันก็ดีตรงที่มันไม่เครียดจนเกินไป
แต่บางทีเรื่องมันกำลังจะพีคอยู่แล้วแต่โดนตอนพิเศษมาคั่นซะงั้น
มันเหมือนกับนางเอกโดนตบแล้วกำลังจะขึ้นมาสวนแต่ตัดโฆษณานะค้าาาา
เราว่ามีพอเป็นกะสัยให้หายคิดถึงหรือหายเครียดดีกว่า
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 12-04-2014 23:03:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
อุตส่าห์มาต่อให้ พี่ทรายเปลี่ยนไปนะ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 12-04-2014 23:10:20
ปล.คุณคนแต่งคะมีตอนพิเศษมันก็ดีตรงที่มันไม่เครียดจนเกินไป
แต่บางทีเรื่องมันกำลังจะพีคอยู่แล้วแต่โดนตอนพิเศษมาคั่นซะงั้น
มันเหมือนกับนางเอกโดนตบแล้วกำลังจะขึ้นมาสวนแต่ตัดโฆษณานะค้าาาา
เราว่ามีพอเป็นกะสัยให้หายคิดถึงหรือหายเครียดดีกว่า

เราชอบเมนต์นี้ ขอบคุณนะ...อิอิ  :z4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 12-04-2014 23:28:41
 :a5: เห้ย นึกว่าพี่ทรายน่าจะจบบัญชีบริหารอะไรยังงี้อ่ะ
จบจากวิศวะคอมก็ยังดีกว่าจบเครื่องกลนะ ไม่งั้นช็อคกว่านี้อีก
พี่ทรายนี่ตอนอยู่นู่นเซอร์เรอะ
เพื่อนของเพื่อนเราเรียนวิศวะคอมที่ มอ นู้นเหมือนกัน สภาพคุณหนูคุณชายเชียว
ต่างจากภาคอื่นลิบลับ กร๊ากกกกกกกกก

ว่าแต่กาแฟอิเด็กธารมาทุกตอนเลยนะช่วงนี้ ทั้งตอนหลักและอันซีน
ติดกาแฟรึคนเสิร์ฟกันแน่  :hao6:

ข้อเรียนรู้วันนี้ "กินกาแฟแล้มมันคึกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"  :hao7:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-04-2014 23:45:42
เอิ่ม....นี่คือตัวตนที่แท้จริงของพี่ทรายเหรอนี่ อ๊ากกกก
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 12-04-2014 23:50:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 12-04-2014 23:54:19
ชอบจัง น้องธารคนน่ารักและขี้หวงคนนี้ รอวันนั้นนะคะที่มันจะกลับมา
ธารที่แบบยอมพี่ทรายบ้าง แบบรักและเกรงใจ ส่วนทราย เกรงใจกว่าจ้า 555
พี่ทรายเซฺกซี่โฮกๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 13-04-2014 00:27:51
โอ๊ยยยยพี่ทร้ายยยยย ชอบมากกกกกค่ะ บอกเลย
เราชอบลุคนี้ของนางมากกกกกก
ไม่แปลกใจแล้วทำไมธารชอบนาง เพราะตัวตนพี่ทรายเป็นแบบนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 13-04-2014 01:03:31
อ้ากกกกกกกกกก หลงรักพี่ทรายลุคนี้ โอ้ยยยยย เอาใจไปเลยยย กรี๊ด พี่ทรายยย ><

เหมือนตอนนี้สลับอายุกันเลยอ่ะ ธารเด็กกว่าแต่ขี้บ่นเหมือนคนแก่ ส่วนพี่ทรายแก่กว่ากลับดื้อซะงั้น 555555555
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 13-04-2014 02:20:41
 :a5: :a5: ห้ะ!!! วิดวะคอม คือพี่ทรายช่วงแรกๆ คือไม่ใช่มากเลยอ่ะ
555555555555555555  :laugh:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-04-2014 08:02:16
เขาเรียกรู้จักกาลเทศะมากกว่าหรือเปล่า :laugh:
แบบเราเองอยู่ที่ทำงานผู้ใหญ่เค้าก็ว่าเรียบร้อย ดูไร้เดียงสา กินเหล้าเข้าสังคมไม่ค่อยเป็นต้องฝึก :z1:
แต่อยู่กับเพื่อนนี่...อย่างเถื่อนอ่ะ :jul3:
พี่ทรายก็น่าจะคล้ายๆกันนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: kai_kaka ที่ 13-04-2014 09:36:39
ช o13อบตอนนี้สุดๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 13-04-2014 09:37:28
 o22

 :a5:

ถ้าบอกว่าทรายมีคู่แฝด ตูจะเชื่อมากกว่านะเนี่ย :ruready  โอว ทราย ง่ะ  :impress2:
แต่สมกับเป็นทรายอันซีน ดีดี เปลี่ยนบ้าง o13 เอาให้ธารมันอึ้งไปเลยกับลุคนี้ แต่หวังว่าพี่ทรายคงไม่แมนจัดจนจับอีเด็กธารกดหรอกนะ  :laugh:
 แต่ยังไงไงพี่ทรายตูก็ไม่รอดโดนจนได้ ยี่สิบกว่านาที คาดว่าได้กัน 5 นาที ที่เหลือถอดกางเกง :jul3:

ธารถ้าเป็นเด็กก็เรียกไม่หย่านม แต่นี่มันไม่หย่ากาแฟ แต่สำคัญที่มันอยากแหย่คนชงกาแฟมากกว่า :hao6:

เม้นไม่ถนัดเลยในมือถือ :mew5:  อวยพรดีกว่าขอให้คนเขียนและทุกคนมีความสุขสดชื่น ไม่เจ็บไข้ เดินทางไปกลับปลอดภัยกันนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: monaligo ที่ 13-04-2014 11:33:08
อุต๊ะ!!!!!! :a5: เด็กวิศวะเว้ยเฮ้ย....เฟี้ยวอ่าาาาาพี่ทราย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: Theznux ที่ 13-04-2014 13:24:19

ผิดคาดมากอะะ จบวิศวะด้วย อย่างเจ๋งงง ! พี่ทรายควรใช้ความเหี้ยมในการ
เป็นเด็กเกียร์มาใช้ให้เป็นประโยชน์บ้าง 555555+

สู้ต่อไปนะพี่ทรายยยย ><

 :impress3: :impress3: :impress3:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 13-04-2014 13:54:02
ทรายยยยยยยยยยยยยยยย เกือบสามสิบตอนที่แล้วมา(รวมอันซีนนี่สามสิบกว่าสินะ)
ไม่รู้คนเขียนหลอกหรือทรายนางหลอกกันแน่  :ruready
แต่ปรอทความชอบนางพุ่งปรี๊ด 100% เลยเถอะ ชอบเวอร์นี้นางนะ
มันไม่เหลือคราบชอบอ่อยแต่อย่างใด เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่รู้สึกดีมาตั้งแต่คุกเข่าสารภาพให้เจ้ภัครละ
(ตอนแรกนึกว่าเจ้แกจะไม่โกรธมากนะ แค่ตกใจเส้นเลือดแตกเฉยไงแต่นี่มีสายตาเย็นชาด้วยวุ้ย)

นี่ก็อ่านรวดมาสองสามตอน(รวมอันซีน) อิเด็กธิปตอนที่แล้วตูเห็นใจหยก ๆ
นี่เมิงสาไถหรอกเรอะ แผนสูงจริง ๆ มีโชว์ซงโชว์สร้อย พูดนัย ๆ แหมมมมม้
แต่ธารนะตอนพายัยบัวขึ้นห้องดันรู้ว่าทรายคิดอะไร แต่นี่แม่งดันมองไม่ออก
ความหึงนางบังตาขนาดหนักเหรอค้าาาาา ส่องกระจกบ้างนะ
เผื่อเห็นรอยแล้วเอะใจ(แต่คงไม่เอะใจแล้วละมั้ง)  :katai4:
(ทรายลอกคราบแล้วฉะกับนางธิปเถอะ ชักไม่ไหวกับอิเด็กกะโปกนั่นละ)


ทัตซี ทำไมตูดูชอบคู่นี้จังฟ้าาาาาา  :heaven (เมิงทรยศเจ้ภัครเรอะ :angry2:)
อ่านแล้วให้ความรู้สึกว่าความสัมพันธ์ครอบครัวธารคงจะเป็นพ่อเป็นเพื่อนกันได้
แต่ถ้ายังไงให้ครอบครัวกลับมาอย่างพ่อแม่ลูกคงไม่ได้ เป็นแบบนี้ดีกว่า อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ
ไปมาหาสู่บ้างอะไรบ้าง 20 ปีที่ห่างกันก็คงจะรู้แล้วล่ะว่าต่อให้ทำยังไงก็คงกลับมาไม่เหมือนเดิม
แก่แล้วกินเด็ก(?)ดีกว่า (หาทางเข้าพล็อตทัตซีสินะเมิง) มุ้งมิ้งดีจริงคู่นี้ (เมิงแปรพักตร์เรอะ)
 :katai5:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 13-04-2014 14:26:31
 :impress2: กรี๊ดดดดดดด พี่ทรายกระทาชายนายวิศวะคอม... ลุ๊คนี้ทำปลื้มมมมฝุดๆ ทรายจากน่ารัก เรียบร้อย น่าสงสาร กลาย

เป็นหนุ่มน้อยขี้เล่น ร่าเริง จอมทะเล้นซะเเล้ว ธารชอบมั้ยลุ๊คนี่ร่างจริง ใสใส แอบทะเล้นเเบบนี้ อิอิ... ชอบมากเลยอันซีนครั้งนี้

 :heaven เรียกว่าตอนปลดปล่อยตัวตนของทรายได้มั้ยเนี่ย 555 ธารรู้ไว้นะที่ทรายยอมเพราะรัก เพราะรู้สึกผิด ถ้าทรายไม่รักไม่คิด

สำนึกจริงๆธารอาจมีตายด้วยดินสอปักผมก็เป็นได้ 555 เหมือนจะเป็นตอนชดเชยความดราม่าของทรายได้ดี เอ๊ะ!!! หรือที่จริงคือ

คนเขียนเอามาปลอบขวัญคนอ่านก่อนจะมีพายุ หุหุ...  :hao6: ยังไงก็เถอะ อยากเห็นทรายเวอร์ชั่นนี้ในเนื้อเรื่องหลัก คนเขียนจะ

มีให้ไหมหนอ 555 ถ้าพี่ทรายเวอร์ชั่นติสเเตกแบบนี้โผล่มาคงมีคนกลับตัวกลับใจกันอีกเยอะเลย ทั้งเเมนเซ็กซี่สดใสครบเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 13-04-2014 14:29:26
กรี๊ดดดดดเลยยย พี่ทรายๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 13-04-2014 15:22:57
อ่านตอนพิเศษ ค่อยเบาสมองขึ้นมาหน่อย
ไม่คิดเหมือนกันว่าพี่ทรายเค้าเคยมีลุคแบบนี้
ซึ่งมันก็ดูไม่ใช่พี่ทรายตัวจริง ก็แบบหลุดคาแรคเตอร์ไปจริงๆนั่นแหละ
ขนาดธารยังอึ้งกับภาพลักษณ์ที่ไม่เคยเห็นของพี่ทราย  เราก็อึ้งตามธารไปติดๆ
แต่ถ้าจะมองไปอีกมุมนึง ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ในมุมเซอร์ๆติสๆของพี่ทราย

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 13-04-2014 16:20:34
^^
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 13-04-2014 16:32:14
พี่ทรายเท่จ๊าดดดดดดดดดดดด!!!  :heaven :heaven :heaven กรี๊ดดดดดด
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 13-04-2014 18:10:26
โง้ยยยยย ชอบทรายลุคซ์นี้จังเลยอ่ะ แบบบหายเครียดดี 55555
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 13-04-2014 21:41:04
 :hao6:  :hao6: เวอร์ชั่นอันซีนล่าสุดของทราย ชั้นปลื้มมาก ชอบคนที่เหมือนเรียบร้อย แต่แสบอยู่บ้างอ่ะ มีเสน่ห์ดี ชั้นรู้สึกว่าอยากได้เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ชั้นไม่ให้แกได้ไหมไอ้เด็กน้อยธาร

หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: Riko ที่ 14-04-2014 16:05:40
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  :katai1:
ชอบอะไรที่มันบีบหัวใจหนักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :katai4:

ชอบดราม่าหนักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :hao6:
ขอหนักๆแบบนี้อีกกกกกกกกกกก o13

ปล. ว่าแล้วไง อินังธิปนี่มันแรงไม่ใช่เล่น เกลียดมาตั้งแต่แรกละ
ตั้งแต่มาอ้าขาพะวาปีก ถอดเสื้อโชว์นมให้พี่ซีดู
นึกว่าเจ๋งนักรึไงห๊าา
สมแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน ชอบแย่งผัวชาวบ้าน ระรานเขาไปทั่ว
อย่าให้ได้ด่านะ  :angry2:

ทรายน่าสงสารรรรรร  :sad4:
อ่อนแอซะขนาดนี้ ก็ยังโดนรังแกจนได้ โอ๊ยยยยยยยยย
ก็ยังยอมให้กดขี่เนอะ เพราะรักใช่มั้ย ฮืออออ  :z3:
เป็นเค้านะ โดนชั้นสองตายไปแล้วอ่ะ รับไม่ได้กับความรุนแรงของธาร ฮืออ อิบ้าธาร  :o12:
ถ้าแกจะทารุณทรายขนาดนี้นะ ฆ่ากันเหอะ อย่าทำแบบนี้  :เฮ้อ:

ปล.  :m15: ขอให้รักกันเร็วๆ กลับมาเป็นน้องธารคนเดิมของพี่ทราย แล้วก็เอาอินังธิปไปเผา นังตุ๊ด  :m31:
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 14-04-2014 23:03:16
คิดถึงพี่ทรายกับธารแล้ว  :o12:

มาต่อให้อีกนะคะ...รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 15-04-2014 01:37:36
แม้เจ้าไปอยู่ไหนมา เรื่องนี้มันส์มาก ตอนแรกหน่วงมากที่ทรายเสียตัว
แต่ยุคนี้แล้ว ขนาดธารยังผ่านมาหลาย พระเอกนี้น่าตบมากไม่ฟังอะไรเลย
อยากเห็นด้านร้ายๆของทราย ฮีจะเผยตัวตนที่แท้จริงยัง
หัวข้อ: Re: (drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [12/04/57] Unseen Special No drama
เริ่มหัวข้อโดย: tsundere ที่ 15-04-2014 12:37:01
เข้ามารอ สงกรานต์เข้าสาดน้ำกัน หนูไม่มีที่เล่น  :o12:
มากดดันคนเขียนให้ต่อเร็ว
(อุ๊ย เปล่า ๆ ไม่ได้กดดัน)  :hao7:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 16-04-2014 23:32:58

http://www.youtube.com/v/FAcbZo-5rCI


ตอนที่ 28  craving




“คุณแม่พักผ่อนนะครับ ถึงบ้านเราแล้ว”
 

มือใหญ่ประคองร่างเล็กบอบบางวางลงที่เตียง ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้เธอจนชิดหน้าอกแล้วจับมือเธอมาบีบไว้เบา ๆ  หลังจากเขาและวารินไปรับภัครจิรากลับมาจากโรงพยาบาลเขาเป็นคนอุ้มเธอขึ้นห้องด้วยตัวเอง
 

“คุณแม่ครับ ต่อไปผมจะให้พี่ทรายพาคุณแม่ออกไปดูดอกไม้ที่สวนหน้าบ้านเราดีไหมครับ ดอกไม้ที่คุณแม่ชอบ  แต่ก่อนหน้านั้นคุณแม่ต้องทานเยอะๆแล้วต้องพยายามนิดหนึ่งเพื่อที่จะนั่งบนรถเข็นให้ได้ อาจจะยากในช่วงแรกแต่ผมปรึกษาคุณหมอท่านแล้ว ถ้าพยายามสักหน่อยคุณแม่จะนั่งได้นะครับ”
 

เขาจูบลงไปที่หน้าผากเธอเบา ๆ บีบมือให้กำลังใจ ส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่มี ว่าอยากให้เธอลองให้โอกาสคนข้าง ๆ เขาคนนี้อีกสักครั้ง
 

“คุณแม่จะได้ไม่เหงาไม่ต้องอยู่ในห้องที่คับแคบแบบนี้ตลอดทั้งวัน พี่ทรายเขาจะพาคุณแม่นั่งรถเข็นดูนั่นดูนี่รอบ ๆ บ้านเราได้ ปลาคราฟที่คุณแม่ชอบตัวโตขึ้นแล้วนะ  ดอกไม้ที่คุณแม่รักก็บานสะพรั่งเต็มสวนเลย ถ้าคุณแม่อยากไปดูต้องพยายามนะครับ ทำให้ได้   ไหนคุณแม่ลองบอกผมนะว่าจะยอมให้พี่ทรายเขาพาไปดูดอกไม้ได้หรือเปล่า กระพริบตาหนึ่งครั้งนะครับถ้าหากตกลง แต่ถ้าหากคุณแม่ไม่อยากจะให้โอกาสเขาอีกแล้วก็ให้มองไปทางอื่น ผมตามใจคุณแม่จะไม่บังคับเลย”
 

เขารู้ภัครจิราชอบเดินดูปลาดูดอกไม้รอบบ้าน ถ้าหากวารินอยากจะเข้ามาช่วยดูแลเพื่อไถ่โทษให้ตัวเองจริง คงต้องเริ่มต้นจากเรื่องง่าย ๆ แบบนี้ไปก่อน ขณะที่ยืนลุ้นอยู่ด้านหลังวารินภาวนาอย่างคาดหวัง เพราะภัครจิราพูดไม่ได้ธาราธารจึงบอกให้เธอใช้นัยน์ตาแทนคำตอบ
 

เธอจ้องมาที่วารินอยู่นานเหมือนกำลังชั่งใจ  ขณะที่คนถูกจ้องเฝ้าภาวนาไม่ให้เธอเบือนสายตาไปทางอื่น  ในที่สุดภัครจิรากระพริบตาให้หนึ่งที  วารินเม้มปากกลั้นน้ำตาด้วยความซาบซึ้งใจ จิตใจของภัครจิราช่างดีงามนักกระทั่งตัวเองต้องมานอนป่วยเพราะเขาแต่ก็ยังจะยอมให้โอกาสเขาได้ วารินซึ้งใจจนน้ำตารื้นเอ่อขึ้นมา ป้าวันนาถึงกับเดินมากอดเอวเขาไว้เบา ๆอย่างให้กำลังใจเพราะรู้ว่าวารินรอโอกาสนี้มานานแค่ไหน
 

“คุณทรายขึ้นมาช่วยป้าบ่อยๆนะคะ งานครัวให้ดาวมันทำไปคุณทรายมาดูแลคุณภัครดีกว่าค่ะ”
 

“ขอบคุณครับป้าวัน” วารินกล่าวขอบคุณวันนาด้วยความตื้นตันใจ
 
 

วันเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วในที่สุดช่วงสอบปลายภาคมาถึง ธาราธารเลือกที่จะค้างคืนที่คอนโดส่วนตัวของเขาตลอดเกือบสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่วารินเริ่มเข้าไปช่วยดูแลภัครจิราเพิ่มขึ้น เขาถึงขนาดไปเรียนเพิ่มเติมเรื่องการดูแลกายภาพบำบัดผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตเพื่อที่จะได้มาดูแลเธอได้ถูกวิธี
 

“คุณภัครดูนี่สิครับ ดอกกุหลาบสีฟ้า นายเตเขาไปหาซื้อมาปลูกเพิ่มไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ออกดอกแล้วสวยมากเลยนะครับ ส่วนนี่พุ่มมะลิซ้อนที่คุณธารสั่งให้ลงไว้ ออกดอกแล้วครับ หอมมากเลยเดี๋ยวผมจะตัดดอกใหญ่ ๆ ไปวางไว้ที่หัวเตียงนะครับตอนคุณภัครนอนจะได้หอม ๆ ”
 

วันนี้เขาก็ทำอย่างที่เคยทำในทุกๆวัน  เข็นรถพาภัครจิราออกมาชมสวนดอกไม้ที่หน้าบ้าน ที่บัดนี้ธาราธารสั่งให้เตโชเนรมิตเป็นสวนกุหลาบทั้งหมด เพราะภัครจิราแม่ของเขาชอบกลิ่นหอมของมันมาก สวนที่คฤหาสน์หลังงามบัดนี้จึงกลายเป็นเรือนกุหลาบหลากสีไปแล้วโดยปริยาย มือเล็กตัดช่อดอกมะลิวางไว้ที่ตักของภัครจิรา วารินคุกเข่าลงข้าง ๆ จับรถเข็นไว้แล้วมองหน้าเธอ
 

“เดี๋ยววันนี้ธารเขาสอบเสร็จแล้วล่ะครับ คงจะกลับมาถึงช่วงเย็น ๆ คุณภัครต้องทานข้าวเยอะๆ  ธารเขาจะได้ดีใจ แล้วก็ลองพยายามขยับขาอย่างที่ผมพาทำในตอนเช้า”
 

เขาค่อยพาภัครจิราชมรอบ ๆ ตัวบ้านอย่างใจเย็นอีกรอบ เห็นเธอมองไปที่สระปลาวารินจึงเข็นวีลแชร์มาจอดอยู่ที่ริมสระหน้าบ้าน หยิบอาหารปลาที่วางอยู่ใกล้ ๆ มาโปรยให้ขณะที่ข้าง ๆ กันเตโชเองก็ยืนรดน้ำต้นไม้ดูพวกเขาสองคนด้วยรอยยิ้ม ภัครจิราบัดนี้ดูสีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิดกับตอนที่เธอป่วยใหม่ ๆ อยู่มากเตโชรู้สึกขอบคุณวารินมากจริง ๆ ที่เข้ามาดูแลทุกๆอย่างภายในบ้าน   
 

ใบหน้าเล็กแหงนมองท้องฟ้าที่เริ่มจะมืด เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูจวนจะหกโมงแล้วจึงพาภัครจิรากลับเข้ามาด้านในครู่เดียวเสียงรถยนต์ก็จอดลงที่หน้าบ้าน ธาราธารเดินเข้ามาแล้ว เตโชที่กำลังจะอุ้มภัครจิราขึ้นชั้นบนจึงต้องหลีกทางให้ลูกชายของเธอเป็นคนช้อนตัวคุณแม่เขาขึ้นไปแทน
 

“ผมสอบเสร็จแล้วครับคุณแม่ ปิดเรียนเรียบร้อย  พรุ่งนี้จะเริ่มเข้าไปดูงานที่โรงแรมของเรา  คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมไม่ทิ้งงานที่โรงแรมแน่นอน”
 

เขากล่าวกับเธออย่างอ่อนโยน ขณะที่นับดาวและวันนานำอาหารขึ้นมาจัดเสิร์ฟให้คนทั้งคู่ถึงบนห้อง วารินเอาจานเล็กๆใส่ดอกมะลิซ้อนแล้วนำไปวางไว้ที่หัวเตียง ธาราธารมองหน้าวารินครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย วารินจึงเดินเลี่ยงออกมาเงียบๆ จวนจะหนึ่งทุ่มแล้ว เขาแวะเข้าไปทานอาหารในครัวไม่นานนับดาวกับเตโชและวันนาก็เข้ามาสมทบ
 

“ลุงทินกรล่ะนายเต ไม่มาทานด้วยกันหรือ” วารินถามขึ้น
 

“พ่อแกกลับบ้านไปแล้วครับ เห็นว่าไม่น่ามีอะไรแล้วเลยบอกไว้ว่าวันนี้จะค้างที่บ้าน”
 

“พี่ทรายทานเยอะ ๆ นะจ๊ะ วันนี้ดาวทำผัดเปรี้ยวหวานกุ้งไว้ให้พี่ทรายด้วย” นับดาวแทรกขึ้นขณะวารินทานจวนจะหมดจานอยู่แล้ว
 

“มาบอกอะไรเอาตอนที่คุณทรายทานเสร็จแล้วกันเล่า ดาวนี่” เตโชขัดคอนับดาวขึ้นมาเลยถูกบิดแขนไปเบา ๆ  ที วารินมองสองคนหยอกล้อกันแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี
 

“พี่เตอ่ะ ก็คุณทรายทานนิดเดียวจริงนี่”
 

“พี่อิ่มแล้วล่ะดาว ขอบใจนะ ถ้าเหลือก็เก็บไว้ให้พี่พรุ่งนี้อีกก็ได้ครับ”
 

“โอ๊ย เดี๋ยวดาวผัดให้ใหม่เลย พรุ่งนี้พี่ทรายอยากทานอะไรเป็นพิเศษบอกดาวนะเราจะได้ซื้อมาจากตลาดเช้าทีเดียว” วารินพยักหน้ายิ้มรับแล้วขอตัวแยกกลับไปที่ห้องก่อน นับดาวจึงบอกกับเตโชและวันนาว่า วารินน่าสงสารมาก ตั้งแต่ธาราธารกลับมาก็ยังไม่ยอมพูดด้วยสักคำ
 

หลังทานข้าวกันเสร็จ เขาเข้ามาที่ห้องโทรหาภูวดลตามเวลาเหมือนทุกๆวันที่เคยทำ แต่น่าแปลกที่วันนี้เป็นใครบางคนรับสายเขาอีกครั้ง
 

“ไงทราย โทรหาซีทุกวันเลยนะ เขาเดินไปปิดรั้วหน้าบ้านน่ะเดี๋ยวเข้ามาแล้วล่ะ คุยกับฉันไปก่อนแล้วกัน”
 

“เอ๊ะ  ท...ทำไมคุณทัตถึงอยู่ที่นั่นอีกล่ะครับ”
 

ช่วงนี้ทัตพลโทรหาเขาบ่อยถามไถ่อาการของภัครจิรา ตั้งแต่เธอออกจากโรงพยาบาล พอคุยกันทีไรก็จะได้รู้ว่าทางนั้นคุยอยู่ที่บ้านเขาแทบทุกครั้ง วารินค่อนข้างแปลกใจว่าพี่ชายเขากับทัตพลไปสนิทชิดเชื้อกันตั้งแต่เมื่อไหร่
 

“มากินข้าวน่ะสิ  พี่ชายทรายทำฉันติดใจเรื่องฝีมือทำอาหารจนต้องมาฝากท้องแทบทุกมื้อเลยล่ะ หุ่นจะเสียก็คราวนี้แหละ เห็นทีต้องชวนซีไปว่ายน้ำด้วยกันดีกว่า”
 

“แทบทุกมื้อ?” วารินทวนคำเสียงดัง
 

“อ่าใช่ ขอบคุณฉันซะสิ เธอไม่อยู่ซีเขาก็ไม่เหงาเพราะมีฉันมาให้เขาด่าอยู่ทุกวี่ทุกวันเนี่ยแหละ” เขาว่าแล้วหัวเราะเบา ๆ ทำทีเล่นทีจริง ครู่เดียวก็เหมือนมีเสียงบางอย่างขลุกๆขลักๆไม่นานนัก เสียงภูวดลก็กรอกลงมาตามสาย
 

“ว่าไงครับทราย พี่ซีไปปิดรั้วอยู่นะ รอนานไหม วันนี้เหมือนฝนทำท่าจะตกอีกแล้ว แย่จริง ๆ เลย”
 

“อะไรกันครับพี่ซี ฝนตกสิดีอากาศดีออก นอนหลับสบาย”
 

“แล้วเรากินข้าวยังเนี่ย มาคุยกับพี่ซีแบบนี้อย่าบอกนะว่ายังไม่ทานอะไรเหมือนเมื่อวาน”
 

“ทานแล้วครับ เสร็จแล้วก็มาโทรนี่แหละ”
 

เขาสองคนคุยกันตามประสาพี่น้องอยู่พักใหญ่ ภูวดลจึงถามอาการของภัครจิรา
 

“คุณภัครดีขึ้นมากนะครับทรายว่า อย่างน้อย ๆ หน้าตาเธอก็ดูสดใสขึ้นไม่หม่นหมองเหมือนช่วงแรก”
 

ภูวดลจึงบอกวารินว่าวันอาทิตย์ตอนเช้า เขากับทัตพลจะเข้ามาเยี่ยมภัครจิรา วารินพอได้ยินก็ค่อนข้างตกใจ
 

“คุณทัตพลก็จะมาหรือครับ!?”
 

“ใช่ครับ  พี่ซีจ๋าจะพาไป หวังว่าเจ้านายทรายคงไม่ใจร้ายไล่เขากลับอีกหรอกนะ อย่างน้อย ๆ เขาก็เป็นพ่อลูกกันนี่ เขาจะแวะไปเยี่ยมภรรยาเก่าเขาก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมั้ง”
 

วารินหน้าเจื่อนลง เพราะภูวดลไม่เคยรู้เรื่องความสัมพันธ์ข้ามคืนที่เกิดโดยไม่ตั้งใจระหว่างเขากับทัตพลแล้วส่งผลกระทบกับภัครจิราโดยตรงจึงได้พูดมาแบบนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าหากธาราธารเจอพ่อของเขาจะวีนแตกเหมือนคราวที่แล้วอีกไหม
 

“ไว้วันอาทิตย์เจอกันนะครับทราย ไปอาบน้ำได้แล้วนะเรา เดี๋ยวดึกมากจะเป็นหวัดอีกยิ่งแพ้อากาศอยู่ด้วย”
 

ภูวดลทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นวารินก็ยู่หน้าตอกกลับเขาไปว่ารู้ได้อย่างไรว่าเขายังไม่ได้อาบน้ำ ไม่รู้สองพี่น้องคุยเรื่องอะไรกันนานเป็นชั่วโมงๆ วารินดูเวลาอีกทีปาเข้าไปจวนจะสี่ทุ่มแล้วเขาคว้าเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกไปที่ห้องอาบน้ำ
 

สายน้ำเย็นฉ่ำพุ่งเป็นสายออกมาจากฝักบัว กระทบใบหน้าขาวที่ดูอ่อนกว่าวัยมาก วารินหลับตาพริ้มขนตาเปียกชุ่มทาบทับไปกับแก้มเนียนใส ริมฝีปากสีระเรื่อเผยอออกนิด ๆ เขาพยายามที่จะผ่อนคลายหลังจากเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน ต้องยอมรับว่างานดูแลคนป่วยนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่อย่างไรเสียก็ต้องอดทน ความเหน็ดเหนื่อยของเขาเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับความลำบากที่เกิดขึ้นกับภัครจิรา มือเล็กลูบไล้บนใบหน้า ปล่อยสายน้ำเย็น ๆ ไหลชโลมร่างกาย แม้ว่าจะไม่สามารถชะล้างความคิดที่หนักอึ้งออกไปได้ แต่อย่างน้อยในแต่ละวันก่อนนอนมันทำให้หัวใจเขาสดชื่นและเย็นฉ่ำ
 

เขาปิดก๊อกหยิบผ้าเช็ดตัวสีขาวมาพันร่างกายส่วนล่างไว้อย่างลวก ๆ เปิดประตูเดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องนอน  แต่วารินกลับต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วพบกับความมืด เขามั่นใจก่อนออกไปอาบน้ำเขาเปิดไฟทิ้งไว้แน่ ๆ  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้......
 

ขณะกำลังจะถอยเพื่อเปิดประตูตามสัญชาตญาณว่าอาจมีใครอีกคนอยู่ภายในห้อง ทว่าเพียงก้าวเดียวก็ถูกกระชากเข้าสู่อ้อมแขนที่รัดแน่น ฝ่ามือใหญ่แข็งแรงตะปบเข้าที่ริมฝีปากและสกัดกั้นไม่ให้เสียงร้องดังออกมา วารินดิ้นสุดตัวกระทืบเท้าลงไปบนเท้าของใครคนนั้นที่กอดเขาเอาไว้และใช้จังหวะนั้นกัดเข้าที่ข้อมือของเขา
 

“เฮ้ย! ปล่อยนะ!”
 

วงแขนกว้างยิ่งรัดเขาแน่นยิ่งขึ้น ใครคนนั้นคำรามอย่างไม่พอใจอยู่ในลำคอ เสียงที่คุ้นมากทำเอาวารินถึงกับนิ่งกึก ความรู้สึกร้อนและสะท้านเกิดขึ้นเมื่อเขาโน้มใบหน้าลงมาและเป่าลมหายใจอุ่นร้อนเข้าที่ริมหู
 

วารินได้กลิ่นเขาทันที...กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ที่คุ้นเคย
 

“ธาร!?”
 

“แล้วคิดว่าผมเป็นใครกันล่ะ”
 

เสียงของเขาทุ้ม นุ่มและกังวานเช่นเคย เขากอดวารินอยู่ที่ด้านหลัง ริมฝีปากร้อนประทับจูบลงมาที่ต้นคอไปจนถึงลาดไหล่เนียน วารินร้อนวาบขึ้นทันที มือหนาเลื่อนลงไปที่ปมผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่หวังจะกระตุกออกหากแต่วารินคว้าจับมือของเขาไว้ได้ทัน
 

....ยังจำได้ดีเรื่องสร้อยเส้นนั้น....
 

เกือบสามสัปดาห์ที่ผ่านมาวารินคิดถึงมันเสมอ หากว่าเขามีคนของเขาแล้วจริง ก็อย่าได้มายุ่งเกี่ยวกันอีก วารินจะอยู่ทำหน้าที่ดูแลภัครจิรา ช่วยเหลือเรื่องงานของเขาเท่านั้น แต่เรื่องอย่างว่าจะไม่ยอมให้ทำอีกต่อไปแล้ว
 

ริมฝีปากของเขายังพรมจูบไปทั่วไหล่ขาว
 

“ธาร พอเถอะ” วารินเบี่ยงตัวจะหันมาหา แต่เขายังกอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย คนตัวเล็กเลยยังหันมาไม่ได้
 

“ไม่ต่อต้านจะได้ไหม สามอาทิตย์ที่ผ่านมาผมเหมือนตายทั้งเป็นเลยนะ ขอรางวัลจากพี่เลี้ยงบ้างสิ”
 

มือที่ไม่อยู่สุขของเขาลากไล้ผ่านหน้าท้องราบเรียบก่อนจะเลื่อนขึ้นมากอบกุมเข้าที่ทรวงอกชูชัน วารินกัดริมฝีปากแน่นเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องน่าอาย ยื้อกายออกจากเขา
 

“พี่กำลังทำให้ผมไม่พอใจนะ” เขากระซิบ
 

ความปรารถนาที่มากับน้ำเสียงกระพือขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากพยายามระงับมันมาตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่าน ตั้งแต่เขามีวารินไม่มีใครที่จะทำให้เขา ‘คิดถึง’ ได้อีกแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายหน้าไหนทั้งสิ้น  ทั้งรัก ทั้งโกรธ ทั้งต้องการ เขาเองก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของเขาได้เช่นกัน
 

“แต่ธารมีคนของธารอยู่แล้ว อย่าทำกับพี่แบบนี้จะได้ไหม”
 

“ผมมีใคร?!” เขาหยุดชะงัก ริมฝีปากร้อนผละออกจากซอกคอขาวเนียนทันที   
 

“ไหนลองบอกซิ ผมมีใคร?”
 

“ก...ก็เด็กคนนั้น ชนาธิป” วารินพูดเสียงเบา ก้มหน้าเบี่ยงตัวออกจากเขา แม้ภายในห้องจะมืดมากแต่วารินก็สามารถเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าคว้าเอาเสื้อชุดนอนออกมาได้
 

“ทำไมถึงคิดว่าชนาธิปเป็นคนของผม” เขาถามเสียงเครียด เดินตามเข้าไปใกล้ ๆ แย่งชุดนอนมาถือไว้เอง
 

“พี่ทราย?”
 

“ถ้าหากธารตัดสินใจจะคบกับเขาแล้ว พี่อยากให้เราหยุดความสัมพันธ์แบบนี้ไว้  ได้โปรดอย่าทำแบบนี้กับพี่อีก ถ้าเขารู้เขาคงไม่ชอบใจแน่”
 

ดวงตาคมจ้องคนตัวเล็กนิ่ง บรรยายกาศภายในห้องเงียบสงัดและเย็นยะเยือก เขาไม่พูดและวารินก็เลือกที่จะเงียบ
 

“คิดว่าผมนอนกับเขาแล้ว?”
 

“ธาร....เราสองคน....แบบนี้มันไม่ดีหรอก ไม่ว่าจะเป็นสถานะของเราทั้งคู่  อายุของพี่กับธาร ฐานะ แล้วยังความผิดที่พี่ทำนั่นอีก ทุก ๆ อย่างไม่มีอะไรเหมาะสมเลย   ธารเลือกคนของธารมันก็ไม่ผิด  พี่จะไม่โกรธไม่ว่าธารเลย แต่ช่วยหยุดทำแบบนี้กับพี่   อย่าทำอีก.....จะได้ไหม?”
 

“นี่พี่ทำผมโมโหได้ตลอดจริงนะ”
 

เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่และว่าขึ้นอย่างหงุดหงิด  วารินคิดเรื่องบ้าอะไรกัน สามอาทิตย์ที่ผ่านมาเขารับรู้มาตลอดเรื่องที่อีกฝ่ายพยายามดูแลคุณแม่ของเขามากมายขนาดไหนทั้งไปเรียนเพิ่มเติมเรื่องกายภาพทั้งป้อนข้าวเช็ดตัว ทำให้เธอทุกอย่างโดยไม่รังเกียจ เขาจึงเลือกที่จะทำใจให้ลืมอยากจะให้โอกาสกับคนๆนี้เพื่อชดเชยความผิดที่ทำไว้ แล้ววันนี้มันคืออะไร? มาพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมาอีกจนได้
 

“พอเถอะธาร เรื่องของเรา ให้มันจบลง.....”
 

“พี่ไม่มีสิทธิ์พูดคำนี้ตั้งแต่พี่กลายเป็นคนของผมแล้ว!” เขาแทรกขึ้นอย่างฉุนเฉียว ไม่รอให้วารินพูดถ้อยคำระคายหูออกมา
 

“ฟังดี ๆ แล้วไม่ต้องคิดมากอีก  ตั้งแต่ผมกอดพี่ผมไม่เคยมีอะไรกับใครคนอื่นอีกเลย  วันนั้นผมกับชนาธิปเมากันมากเลยต้องเปิดห้องค้างคืนด้วยกันแค่นั้น  พอไหมสำหรับคำอธิบาย” เขาพูดเน้น ๆ
 

“แต่ธารให้สร้อยเด็กคนนั้นไป”
 

.....สร้อยคอของธาร สร้อยที่ธารใส่ติดคอไว้เป็นประจำ...
 
 
“สร้อยมันหลุด แล้วเขาก็เลยขอไป  ผมไม่เห็นว่ามันจะสำคัญตรงไหน สร้อยแบบนั้นผมจะซื้อตอนไหนก็ได้หรือพี่อยากจะได้ผมซื้อให้เอาไหม”
 

วารินเบือนหน้าหนีทันที หันหลังให้อย่างน้อยใจในคำพูดของเขา มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ขอคำอธิบายให้มันกระจ่างชัดกว่านี้ได้ไหม ไม่ใช่ว่าอยากได้สร้อยเส้นนั้นเพียงแค่อยากรู้ว่า ทำไมธารถึงให้เด็กนั่นไป  เด็กนั่นสำคัญกับธารมากถึงขนาดไหน  มือเล็กคว้าเอาเสื้อนอนตัวเองคืนมาแล้วสวมใส่มันอย่างรวดเร็ว
หัวข้อ: Re:(Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 16-04-2014 23:33:15
http://www.youtube.com/v/FAcbZo-5rCI



“ธารออกไปเถอะ พี่จะนอนแล้ว ถ้า ‘อยาก’ นักก็ขับรถไปหาเขาสิ มีคนของตัวเองอยู่แล้วจะมายุ่งกับพี่ทำไม!”
 

ในที่สุดคำพูดทั้งหมดที่อยากพูดก็พรูออกมาจากปากจนเกลี้ยง แขนเล็กถูกเขากระชากเข้าหาทันที วารินทำเขาโมโหอีกแล้ว
 

“ปล่อยนะ!”
 

“ยั่วโมโหผมนี่ งานถนัดของพี่เลยใช่ไหมฮึ!”
 

“พี่บอกให้ปล่อย!”
 

“เสียใจด้วย ไม่ทันแล้ว”
 

เขาประกบเรียวปากร้อนผ่าวลงมาหนักหน่วง “อื้ออ...” วารินร้องประท้วงดิ้นจนเขาต้องกอดรัดเอาไว้ ลิ้นร้ายกาจบุกทะลวงเข้าไปเกี่ยวเกาะ สัมผัสที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกทั้งหมดของเขาทำเอาวารินเคลิ้มไปกับรสจูบที่เขากำลังปรนเปรอให้ ฝ่ามือร้ายเข้ากระตุกปลดปมผ้าเช็ดตัวผืนหนาร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น สองมือขึ้นกอบกุมทรวงอกแล้วบดบี้ส่วนชูชันอยู่อย่างนั้น ขณะที่ริมฝีปากร้ายยังตักตวงเอาความหวานหอมของโพรงปากหวานปานน้ำผึ้งไม่ยอมหยุด วารินครางประท้วงในลำคอ
 

“อื้ออ...ธาร”
 

“ทำผมโกรธแบบนี้ รู้ไหมว่าจะต้องโดนโทษหนักขนาดไหน”  เขาว่าแล้วรั้งแขนเรียวให้หันหน้ามาทางเขาก่อนที่จะกดวารินลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว  ดวงตาคมกวาดมองเรือนร่างของคนใต้ร่างกายตนอย่างพอใจ
 

“ไม่เอา! อย่าทำนะ”  วารินดิ้น ผลักเขาออกแต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายไปเสียแล้ว
 

“ช้าไปแล้วพี่ทราย”
 

เขาว่าแล้วยืดตัวขึ้นถอดเสื้อยืดที่สวมออกทางศีรษะอย่างรวดเร็ว สองมือกดข้อมือเล็กจมลงที่เตียงอีกหน
 

“ชอบให้ผมใช้กำลังด้วยใช่ไหม  ถึงหาเรื่องมายั่วกันเนี่ย”
 

“ไม่ใช่! ปล่อยนะ!  ธารกอดคนอื่นแล้วอย่ามาทำแบบนี้กับพี่  ไม่เอา! ออกไปให้พ้น!” วารินเริ่มตะคอกเสียงดัง
 

“ปากเล็ก ๆ นี่ประชดประชันกันเก่งจริงนะ หืมม” 
 

เขาว่าแล้วไล้เรียวนิ้วไปตามริมฝีปากสวยก่อนจะสอดเข้าไปอย่างหยอกล้อ วารินอยากกัดลงไปใจจะขาด แต่เพราะว่าเป็นธาราธารที่เขารัก เพราะอย่างนั้นจึงได้แต่นอนนิ่งมองหน้าเขา นิ้วร้ายเริ้มชักเข้าออกอย่างแก่นเซี้ยว วารินถึงกับหน้าแดงปลั่ง  เขาอมยิ้มแล้วโน้มใบหน้าเข้าหา
 

“ทำให้ผมบ้างนะ” เสียงกระซิบสั่นพร่า เริ่มปวดปร่าไปทั้งร่าง สิ่งเดียวที่เขาต้องการในตอนนี้คือ ‘ครอบครอง’ คนๆนี้เท่านั้น
 

วารินส่ายหน้าทันที  “พี่  อื้ออ...ไม่เป็น” เสียงเล็กอู้อี้เขายังไม่ยอมเอานิ้วลามกนั้นออกจากโพรงปากอุ่นง่าย ๆ น้ำลายไหลเยิ้มออกมาตามมุมปากสวยเป็นสายยาว เขายกยิ้มน้อย ๆ กับคำตอบที่ดูเหมือนไร้เดียงสานั่น ก้มลงจูบตวัดลิ้นเลียลงที่มุมปากคนใต้ร่าง
 

“ไม่เป็นไร ทำตามที่ผมสอน เดี๋ยวผมจะทำให้ดูเดี๋ยวนี้เลย”
 

เขาเริ่มไล้ฝ่ามือไปตามส่วนเว้าโค้งราวกับกำลังสำรวจประติมากรรมชั้นเยี่ยม สัดส่วนบนเรือนกายที่เรียบลื่นและบอบบางลงตัวเร้าใจเขายิ่งนัก หน้าอกชูชันสีชมพูทั้งนุ่มและหอมหวาน สัมผัสมาแล้วกี่ครั้งๆก็ยังติดใจไม่รู้ลืม หน้าท้องแบนราบที่น่าซุกไซ้แบบนั้น กลิ่นนมอ่อนๆที่กระจายไปทั่วทุกอณูของผิวกาย
 

เขาทอดสายตาลงไปที่แท่งสีชมพูชูชันโดดเด่นอยู่กลางลำตัว กายหนาสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างครามครัน เมื่อเขาไล้ฝ่ามือลงไปบดบี้ที่ส่วนหัว น้ำเยิ้มๆ ไหลรินออกมาริมฝีปากเขาโน้มลงมาใกล้ชิดริมฝีปากเล็ก
 

“จูบผมสิ”
 

เขาสั่งเสียงพร่าต่ำ สายตาอัดแน่นไปด้วยความปรารถนาแรงกล้า ขณะที่มือยังบดบี้รูดรั้ง และลากไล้ วารินสะท้านจนกายสั่นเกร็ง เขายอดเยี่ยมเรื่องบนเตียงไม่เคยเปลี่ยน คราวนี้ถึงขนาดจะทำให้เขารุกให้ได้ 
 


....นิ้วมือของเขา...ริมฝีปากของเขา...คล้ายมีอะไรบางอย่างในตัวแทบระเบิดออกมาเพียงความอบอุ่นนั้น แนบกาย....
 



มือเล็กยกขึ้นคล้องคอเขาอย่างลืมตัวโน้มดึงให้ต่ำลงมาก่อนจะเอียงคอเล็กน้อยเพื่อแตะริมฝีปากเข้าหาเรียวปากหนานุ่มของเขา
 


วารินพยายามจูบเร้าเขาเหมือนอย่างที่เขามักทำให้เสมอ ลิ้นเล็ก ๆ รุกล้ำไปในโพรงปากอุ่นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แต่กลับทำให้เขาครางกระหึ่ม ธาราธารสอดมือลงไปที่แผ่นหลังบางรั้งให้แอ่นขึ้นมาเพื่อแนบชิด ก่อนจะเป็นฝ่ายบดเรียวปากลงไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าการจูบที่แท้จริงมันต้องเป็นเช่นไร วารินกลับต้องเป็นฝ่ายครางเสียงแผ่วเสียเอง
 

เขาลากลิ้นจูบลงที่ลำคอขาวเนียน ตีตราทุกตารางนิ้ว เนื้อผิวเนียนนุ่มที่มีเขาเป็นเจ้าของถือครองสิทธิ์  ลิ้นร้ายลากไล้มาสะกิดที่ยอดชูชันสีชมพูสวยงาม  วารินแอ่นอกรับสัมผัสจากเขาขณะที่มืออีกข้างเข้าบดบี้เร่งเร้า คนตัวเล็กยิ่งกว่าเสียวสะท้านเมื่อเขาเปลี่ยนเป้าหมายให้ต่ำลงมาจนถึงหน้าท้องขาวเนียนซุกไซ้ใบหน้าฝังลงที่แอ่งกลางลำตัว ก่อนจะแตะลิ้นร้อน ๆ ลงที่แก่นกายคนตัวเล็ก วารินหอบผวาเมื่อเขาแกล้งดูดดุนแรง ๆเข้าที่ส่วนหัว แล้วรูดรั้งขึ้นลง ก่อนจะครอบริมฝีปากร้ายแสนร้อนลุ่มลงที่ส่วนนั้น เสียงเล็กครางกระเส่าเมื่อเขาเร่งเร้าจังหวะช้าเร็ว
 

“อื้ออ...ธาร”
 

ธาราธารชอบที่จะได้ยินวารินเรียกชื่อเขาในเวลาแบบนี้ที่สุด มือเล็กสอดแล้วจิกลงบนเรือนผมดำขลับของเขา สะโพกสวยแอ่นสวนเข้ากับริมฝีปากร้อนด้วยใจที่รัญจวนอย่างที่สุด
 

“ธาร..อ๊าา..” น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาเป็นสาย ลิ้นร้ายรอรับของร้อน ๆ แล้วลากยาวเข้าแตะที่ส่วนอ่อนไหวปราการทางด้านหลังทันที วารินครางฮือสะดุ้งสุดตัว ใบหน้าเล็กแหงนเงย สูดปากจนลืมอายยามเมื่อเขาตวัดเรียวลิ้นไปรอบ ๆ แล้วฉกเข้าออกอยู่อย่างนั้น
 

“ธาร..ไม่ไหว พอแล้ว” เสียงเล็กกระเส่าปานจะขาดใจ เขาเลื่อนริมฝีปากจูบขึ้นมาเรื่อยจนถึงกลางลำตัว ราวนม แล้วขบลงที่หัวไหล่ปิดท้าย ส่งเสียงกระซิบพร่าสั่นที่ริมหูเล็ก เป่าลมหายใจร้อนผ่าวเข้าใส่
 

“ชอบไหม หืมม อยากได้หรือยัง”
 

“ธารอย่าแกล้งกัน”
 

“ทำให้ผม”
 

เขาว่าจบยืดตัวขึ้นแล้วเลื่อนขยับลำตัวขึ้นมาคร่อมลงที่ใบหน้าเล็ก จับแท่งร้อน ๆ ของเขาที่ผงาดล้ำเต็มที่จ่อลงที่ริมฝีปากสวย วารินหน้าซับสีแดงปลั่งเต็มไปด้วยความกระดากอาย
 

เรียวปากเล็กค่อยเปิดออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะส่งลิ้นเล็กแต่ร้อนแรงไม่แพ้กันออกมาแตะชิมตวัดเลียเข้าที่ส่วนนั้นแล้วครอบครองลงไปอย่างยากลำบากเพราะเนื้อแท้ที่อัดแน่นไปด้วยไฟปรารถนาของธารนั้นใหญ่เกินไปจริง ๆ ปากเล็กดูดดุนได้แค่ส่วนหัว สองมือประคองแท่งร้อนของเขาไว้อย่างทะนุถนอม ลิ้นร้อนนุ่มนิ่มพยายามทำในแบบที่เขาทำให้  ธาราธารที่คุกเข่าคร่อมใบหน้าเล็กอยู่ด้านบนถึงกับต้องยืดตัวขึ้นยกมือยันฝาผนังเงยหน้าสูดปากระบายความเจ็บร้าวแทบอยากระเบิดมันเสียตอนนี้  เสียงเขาคำรามต่ำดังลั่น พยายามสะกดกั้นไฟแห่งความปรารถนาที่ประทุจนแทบทะลักอย่างบ้าคลั่ง ปวดหนึบไปทั้งร่าง
 

เขาจะไม่ยอมให้ทุกอย่างในคืนนี้จบเร็วเกินไป วารินกำลัง ‘ทำ’ ให้เขา นั่นคือภาพที่เขาต้องการที่จะเห็นมาโดยตลอด เขาก้มหน้ามองใบหน้าเล็กที่กำลังจดจ่ออยู่กับลูกชายคนเก่งของเขา ดวงตาคมเต็มไปด้วยไฟราคะ  สอดมือหนาลงที่เรือนผมนุ่มสลวย กดหัววารินให้เสพแก่นกายของเขาลึกยิ่งขึ้นไปอีก
 

“พี่ทราย  อืมม”  เขาครางต่ำ เมื่อวารินไม่ยอมครอบครองเขาลงทั้งหมดจนมิดแท่ง ปากเล็ก ๆ พยายามแล้วพยายามอีก อย่างมากก็ลงไปได้แค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เท่านั้น
 

“พอ  พอแล้ว ผมไม่ไหว”
 

เขาว่าแล้วถอนกายออกจากริมฝีปากสวย จูบเร่าร้อนถูกบรรจงมอบเป็นรางวัลกับคนใต้ร่าง มือหนาปัดป่ายไปทั่วลำตัวขาวอย่างหื่นกระหาย วารินทำเขาแทบคลั่ง คืนนี้เร่าร้อนว่าทุกครั้งเสียเหลือเกิน
 

“พร้อมนะ” เขาว่า
 

“ธาร หยุดตอนนี้ได้ไหม”
 

“ผมไม่มีทางหยุดได้หรอก”
 
ให้ตายก็หยุดลงไม่ได้แล้ว เขาแทบจะคลั่งตายกับการควบคุมกายร้อนไม่ให้มันระเบิดก่อนเวลาอันควร นิ้วร้ายลากไล้ตั้งแต่โคนขาขาวไล่ขึ้นมาจนถึงสะโพกด้านในก่อนจะขยับสอดแทรกเข้าไปที่โพรงนุ่มหยุ่นร้อนที่ตอดรัดแม้กระทั่งเรียวนิ้วของเขา ร่างกายที่แสนวิเศษณ์นอนทอดให้เขาได้เชยชมอยู่ต่อหน้าแบบนี้ไม่มีอะไรจะมาหยุดเขาลงได้อีกต่อไปแล้ว
 

“อื้ออ..ธาร เร็วอีก”
 

เสียงเล็กครางบอกความต้องการของตัวเองนั่นทำเอาเขาถึงกับอมยิ้ม วารินไม่เคยพูดความรู้สึกออกมาแบบนี้สักครั้งเวลาร่วมรัก แสดงว่าคราวนี้เขาเหนือชั้นมากจริง ๆ เขาเร่งจังหวะที่ปลายนิ้วกดลงที่จุดกระสัน และเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสามขณะที่อีกฝ่ายร้องระงมแทบคลั่ง ทั้งจิกทั้งทึ้งผ้าปูที่นอนจนยับย่นไปหมด ใบหน้าหวานส่ายไปมาเหยเกด้วยความเสียวซ่านและรัญจวนแทบขาดใจ น้ำหวานมากมายไหลเยิ้มออกมาจากส่วนหัวที่ชูชันทั้งของเขาและของคนตรงหน้า
 

เพราะสัมผัสปลุกเร้าที่ช่ำชองจนร่างเล็กถึงกับอ่อนระทวย ทำได้เพียงส่งเสียงร้องเพื่อลดทอนความทรมานที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เขาจ้องมองเรือนร่างที่บิดแอ่นเพราะความเสียวซ่านด้วยความอิ่มเอมใจ ก่อนจะพลิกคนตัวเล็กขึ้นทาบทับส่วนตัวเขานอนลงไปแทนที่ แก่นกายร้อนผ่าวถูกจับยัดแล้วกดสะโพกเล็กค่อยครอบลงจนจมมิด
 

“อ๊าาา...ธาร”
 

ไม่มีเสียงใดจะหวานฉ่ำเท่าเสียงเรียกชื่อเขาเมื่อครู่อีกแล้ว เขาตั้งเข่าสองข้างขึ้นแล้วเด้งสะโพกสวนใส่ทันที วารินยันหน้าอกเขาไว้พยายามประครองกายรับสัมผัสหวามไหวจากเขา ธาราธารคำรามหนักในลำคอความปวดหนึบรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว เขาสูดปากครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อระบาย ทว่าอีกฝ่ายก็ยังกดสะโพกขึ้นลงสู้จนแทบขาดใจไม่ต่างกัน มือหนาขยับเข้ามาเฟ้นลงที่ก้นงามงอน ขณะที่มืออีกข้างเข้าสะกิดหยอกล้อที่หน้าอกเนียนผิวขาวนวลย้อมเป็นสีชมพูระเรื่อ ถูกประทับด้วยรอยจูบเมื่อเขารั้งแผ่นหลังบอบบางเข้ามากกกอด วารินซบลงที่อกเขาอย่างหมดแรง สะโพกแกร่งยังสวนขึ้นลงไม่ยอมหยุด สอบเข้าหากันเสียงดังพับ ๆๆดังและแรงจนเตียงเล็กสั่นสะเทือน
 

“ฮ.อ๊าา..ธาร ไม่ไหว”  วารินจวนจะระเบิดออกมาอีกหน แท่งสีสวยร้อนผ่าวจนเจ็บร้าวไปหมด ละลำตัวขึ้น แล้วยกสะโพกตอบรับให้เร็วขึ้นไปอีก
 

“ธารเร็วอีก”  ธาราธารจัดให้ไม่รอช้า เลื่อนมือเข้ารูดรั้งเพื่อเร้าความรัญจวนให้อีกทาง เสียงเนื้อกระทบกันถี่รัวจนมองแทบไม่ทันสอบเข้าใส่เสียงดังลั่นห้อง วารินอย่างสุดที่จะเสียวรู้สึกราวกับว่าโลกทั้งโลกไร้ซึ่งแรงดึงดูดและตัวเขาที่เบาหวิวลอยละล่องอยู่บนท้องฟ้ากว้าง จุดอ่อนไหวถูกโจมตีพร้อมกันสองจุดอย่างหนัก เขาหอบหายใจถี่ ขณะที่ธาราธารทนแทบไม่ไหวต้องฝืนตัวขึ้นมาจูบเข้าที่ริมฝีปากสวยทั้งที่ส่วนนั้นยังสอบเข้าออกไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
 

สองร่างเปลือยเปล่ากอดก่ายกันแนบชิด เชื่อมโยงลึกถึงตัวตนของกันและกัน แขนเรียวโอบรอบกายกำยำแน่นกระชับความเร่าร้อนที่สอดแทรกเข้าภายใน
 

“พี่ทราย อืมม เก่ง...เก่งมาก เร็วอีกนิด”
 

วารินถูกเขาโหมเข้าใส่อย่างไม่ปราณี แรงบีบรัดของช่องทางนุ่มนิ่มและแรงเสียดสีจากการสอดประสานที่ล้ำลึกซึมซาบลงไปถึงทรวงเพิ่มความร้อนระอุให้แก่ร่างทั้งสองจนยากจะหยุดยั้ง โพรงอ่อนนุ่มโอบรัดความร้อนผ่าวที่แข็งขึงของเขาไว้ได้อย่างพอดีราวกับว่าพระเจ้าสร้างสรรค์ให้สองคนเกิดมาเพื่อกันอย่างไรอย่างนั้น อาวุธแกร่งขยับเข้าออกเป็นจังหวะ สะโพกบางขยับตอบรับ ช่องทางนุ่มนิ่มบีบรัดกายแกร่งที่ผงาดล้ำอยู่ภายในหนักขึ้นไปอีกยามที่อารมณ์ของวารินพุ่งสูงกระฉูดจนธาราธารต้องคำรามเสียงลั่นออกมาเพื่อลดทอนความทรมานแสนหวานนี้ลง
 

“อ่าา....พี่ทราย...อื่มม..” เขาถอนกายออกทันทีเมื่อความอดทนที่อั้นไว้จวนทะลัก จับวารินนอนคว่ำรั้งสะโพกเล็กขึ้นมาก่อนจะสอดแทรกแก่นร้อนฝังลึกลงไป
 

“ฮ..อ๊าา....” ปากเล็กกัดลงบนหมอนลดทอนความเสียวซ่านเมื่อเขาค่อยเคลื่อนกายแนบชิดสองมือหนาขยำขยี้เข้าที่แก้มก้นสวยก่อนอีกมือจะละออกไปรวบเอาเรือนผมนิ่มมาจับดึงไว้สอดแทรกเล่นอยู่อย่างนั้น เขาเปลี่ยนให้ตัวเองนั่งลงแล้วจับวารินขึ้นนั่งบนตัวเขาหันหน้าออกไปทางปลายเท้า  ทั้งๆที่ส่วนนั้นยังแนบชิดเชื่อมต่อ เสียงครางสั่นลั่นไปทั้งห้องเมื่อเขารั้งแผ่นหลังบางเข้ามากอดไว้วารินที่นั่งยอง ๆ ตัวตรงจำต้องเอนหลังพิงเข้าที่บ่ากว้าง มือเขาโอบเข้าที่เอวเล็ก สะโพกสอบขึ้นลงโหมใส่กันกระแทกกระทั้นร้อนแรง  แท่งร้อน ๆ ถูกจับยัดแล้วยัดอีกยามที่มันเคลื่อนหลุด วันนี้เขาเล่นท่ายากวารินคงจะเหนื่อยมากแน่เพราะกะจังหวะลึกตื้นไม่ค่อยถูก มือของเขาเอื้อมไปคว้าเอาแก่นกายร้อนของคนที่นั่งทับเขาอยู่รูดรั้ง
 

“ธาร...ธาร..” เสียงหวาน ๆ ที่ครางเรียกหาเขาแผ่วเบาพาให้หัวใจที่กำลังเต้นรัวถี่กระชั้นตามจังหวะการกระแทกกระทั้นเชื่อมประสานอุ่นซ่านอย่างประหลาด
 

วงแขนกว้างขยับเข้าโอบที่หน้าอกคนด้านหน้า ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวทรมานยามที่เขาเร่งเร้าจังหวะขึ้น เขาลุกขึ้นนั่งแล้วจับร่างเล็กนั่งหันหน้าเข้าหา  กดสะโพกเล็กให้กลืนกินตัวเขาจนจมมิด เขาโอบร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนเคลื่อนไหวอย่างชำนิชำนาญนัก วารินซบลงที่บ่ากว้างอย่างหมดแรง  ปากเล็กๆโดนเขาจับเข้ามาดูดลงอีกหนคราวนี้เป็นจูบมาราธอนอีกครั้งเพราะเขาทั้งดูดปากทั้งขยับกายเร็ว
 

เขาจิกรั้งที่ผมนุ่มสลวยอย่างรัญจวนถึงขีดสุดเมื่อสะโพกสอบเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงสูดปากลดทอนความเสียวซ่านขณะที่ทั้งดูดทั้งดึงปากเล็กๆอย่างหื่นกระหายไปด้วย
 

วารินส่งเสียงสั่นพร่าแสดงความสุขสมหลุดออกมาเป็นห้วง ๆ 
 

จะมีเวลาไหนที่เขาจะรู้สึกแบบนี้ได้อีก....ถ้าไม่ใช่ในอ้อมแขนนี้


หยาดน้ำใสซึมจากหางตาคู่สวยร่วงกระทบท่อนแขนแกร่งเมื่อถูกความรัญจวนไล่ต้อนจนทนไม่ไหว ร่างกายปั่นป่วนแทบขาดใจ เผยความต้องการได้โดยไร้ความละอาย จะมีก็ต่อหน้าคน ๆ นี้เท่านั้น
 

เขาผลักวารินให้นอนลงที่ปลายเตียงอย่างหมดความอดทน ขึ้นคร่อมสวนสะโพกขึ้นลงทั้งแรงและเร็วต่อเนื่องยาวนาน 


“ฮ้าา..ธาร..อ๊าา”  เสียงร้องสุดข่มกลั้นดังสะท้อน ธาราธารกระแทกกายจนสุดราวกับจะบดเบียดเรือนร่างบอบบางจนแหลกสลาย กายเล็กกระตุก แอ่นสะโพกเพรียวรับการสอดใส่อย่างลืมอาย  เสียงเล็กร้องเรียกชื่อเขาดังลั่นไม่สนใจใครจะได้ยินหรือไม่อีกแล้ว ศีรษะส่ายไปมาอย่างหมดความอดทน
 

“ธาร...ธาร...อ๊าา!” ของเหลวอุ่นร้อนทะลักทะลาย หยาดหยดไหลไปตามเรียวขาเป็นหลักฐานของความสุขสม
 

“อ่าา...พี่ทราย....” เขาคำรามลั่นดังกว่าทุกครั้ง  วารินจิกเล็บลงบนแผ่นหลังเปลือยเปล่า   ช่างเป็นความทรมานอันอ่อนหวานเหลือเกิน ร่างบอบบางสั่นระริก จุดเชื่อมต่อร้อนลุ่มดุจเปลวเพลิง หลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์
 

ดวงตาสีอ่อนพร่ามัวไปด้วยหยดน้ำ มือใหญ่เข้าประคองพวงแก้มสีชมพูระเรื่อ กดจูบลงที่ริมฝีปากอย่างลุ่มหลง ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าหยอกเย้าโพรงปากอุ่นร้อนรสชาติแสนหวานปานน้ำผึ้ง
 

“รู้สึกดี....รึเปล่า?”
 

“จะทำอีกหรือ?” วารินหายใจหอบถี่ สองมือที่เกาะบ่าเขาไว้ตกลงข้างลำตัวอย่างหมดแรง เขายังไม่ยอมถอนกายออก
 

“ได้ไหม?  พี่ไหวรึเปล่า”
 

“พอแล้วนะ พอก่อน”
 

“พี่ทราย   ผมระ.....”
 

เหมือนกับเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ในที่สุดไม่ยอมพูดออกมา เอาแต่จ้องวารินนิ่งอยู่อย่างนั้น เสียงเล็กจึงเอ่ย
 

“พี่เหนื่อย พอก่อนเถอะนะ” ร่างเล็กพยายามเคลื่อนกายออก เขายอมคลายอ้อมแขนที่กอดไว้แต่โดยดี คนตัวเล็กจึงลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกไปที่ด้านนอก ธาราธารขยับกายนอนลงอีกครั้ง ดวงตาคมทอดมองไปที่เพดานมืด
 

เฝ้านึกซ้ำ ๆ ถึงสิ่งที่เกือบจะหลุดออกมาจากปากเขาเมื่อตะกี้
 
 
 
..........ผมรักพี่..........
 
 
 
หากว่าพูดออกไปอีกสักครั้ง จะเป็นอย่างไรต่อไป....ระหว่างพวกเขาสองคน.....
 


ไม่นานนักวารินก็กลับเข้ามา ชุดนอนสีขาวคอปกถูกสวมใส่เรียบร้อย
 

“ธาร ขึ้นไปนอนที่ห้องดี ๆ เถอะ” เขาเขย่าเรียกเมื่อเห็นว่าธาราธารนั้นหลับไปแล้ว ทว่าแขนเล็กจู่ ๆ ถูกคว้าจับแล้วดึงลงไปหาหากแต่วารินยังยั้งไว้ได้เลยถูกเขาที่นอนเปลือยอยู่บนเตียงจ้องมองอย่างคนที่แววตาเต็มไปด้วยสิ่งที่อยากบอกกล่าวมากมาย
 

“ขึ้นไปนอนดี ๆ ดึกแล้ว นี่มันห้องคนใช้นะ ธารจะมานอนที่นี่ไม่ได้” เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ขณะที่สองสายตาสบประสาน
 

“พรุ่งนี้ผมจะเริ่มเข้าไปทำงานที่โรงแรม พี่ไปกับผมนะ”
 

“ไปในฐานะอะไร?  พี่ลาออกจากที่นั่นแล้ว ตอนนี้ก็มาเป็นคนใช้อยู่ที่บ้านธารนี่ไง”
 

เขาลุกขึ้นนั่งแล้วรั้งวารินให้นั่งลงบนตักของเขา
 

“ไม่ประชดกันสักวันจะได้ไหม” ริมฝีปากร้ายประทับจูบลงบนต้นคอขาว วารินเอียงตัวหลบ ปลายจมูกโด่งยังซอกซอนหาความหอมหวานไม่ห่าง
 

“เลขา  ผมจะคืนตำแหน่งเลขาให้พี่ จากวันนี้ไปพี่ต้องไปทำงานพร้อมผมทุกวัน ดูแลทุกๆเรื่อง”
 

“ไม่!  พี่จะดูแลคุณภัคร ท่านต้องมีคนคอยกายภาพให้ทุกวันพี่ไปเรียนมาแล้ว ธารไปเถอะ”
 

“อย่าดื้อได้ไหม ผมรู้พี่สอนป้าวันเขาไว้แล้ว วันไหนที่ผมไม่ได้เข้าไปที่โรงแรมพี่จะอยู่บ้านก็ได้ผมไม่ได้ว่าเลยนี่”
 

“ไม่ได้หรอกธาร พี่อ้อก็อยู่ ธารให้พี่อ้อจัดการเรื่องตารางงานให้ธารเถอะนะ”
 

“นี่ดื้อกับผมอีกแล้วนะ ไม่เข็ดใช่ไหมบทลงโทษเมื่อกี้ยังเหนื่อยไม่พอใช่ไหม”
 

“ธาร! อย่าทำแบบนี้นะ” เขากดวารินลงที่เตียงอีกหนขึ้นคร่อมไว้เหมือนเมื่อคราวเริ่มต้นไม่มีผิด  เสียงเล็กจึงร้องลั่น
 

“งั้นก็รับปากผมมา ว่าจะยอมเป็นเลขาให้ผม ดูแลผม ช่วยงานผม ถ้าคิดจะเป็นพี่เลี้ยงต้องเป็นให้ได้ตลอด ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน แม้แต่เรื่องบนเตียงก็ด้วย!” เขาจ้องลงที่ตากลมที่ตอนนี้หลบเลี่ยงสายตาของเขาอยู่  เหมือนวารินกำลังคิดตรึกตรองอะไรบางอย่าง
 

“รู้ไหม คุณอ้อเขาให้หมายกำหนดการงานของสัปดาห์นี้มาแล้ว  วันพรุ่งนี้มีงานการ์ล่าดินเนอร์ หนึ่งในรายชื่อนั้นมีชนาธิปร่วมด้วยนะ ถ้าพี่ไม่รับปากคนที่จะต้องไปกับผมก็จะกลายเป็นคุณอ้อ แล้วจะมาว่าผมไม่ได้ ถ้าหากคืนพรุ่งนี้ผมจะไม่กลับมาค้างที่บ้านเรา”
 

“ธาร!” วารินจ้องหน้าเขานิ่ง เขาตั้งใจว่ายั่วกันชัด ๆ
 

“รับปากผมสิ”
 

สองสายตาสบประสาน ขณะที่แววตาของวารินอัดแน่นไปด้วยความน้อยใจที่เขาพูดจาข่มขู่แบบนั้น แต่ทว่าดวงตาคมที่จ้องลงมาของเขากลับเต็มไปด้วยแววขอร้องอ้อนวอน หวังจะให้วารินรับปากเขาให้ได้
 

“ไหนลองบอกผมซิ รับปากแล้วใช่ไหม” เขาโน้มลงมาอีกครั้งกระซิบลงใกล้ ๆ  วารินเอียงตัวหนีแต่ถูกรั้งไว้อยู่ดี เมื่อเขาทำท่าขู่เหมือนจะจูบลงมาอีกหน
 

“ธารจะจ่ายเท่าไหร่” วารินโพล่งขึ้น เขาชะงักทันที
 

“ถ้าอยากให้พี่เป็นเลขาให้ ธารต้องว่าจ้างพี่ใหม่ แล้วบอกมาให้ชัดเจนด้วยว่าจะจ่ายเท่าไหร่ พี่จะไม่ยอมทำงานให้ฟรี ๆ หรอกนะ”
 

“อยากได้เท่าไหร่ล่ะ” แววตาเขาซุกซนมองลงมาที่คนใต้ร่างอย่างคนรู้ทัน วารินไม่ใช่คนเห็นแก่เงินเขารู้ดี แต่พูดออกมาแบบนี้คงมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงแน่
 

“ธารลองเสนอมาสิ”
 

“แบล็คการ์ดฟรีไซน์ที่ให้ไว้นี่ยังไม่พออีกเหรอ? ไม่ต้องห่วงหรอกฝ่ายการเงินเขาจัดการให้พี่แน่นอนอยู่แล้ว”
 

“ไม่เอา!  พี่ไม่ต้องการเงินเดือนแบบนั้น”
 

“แล้วจะเอาแบบไหน” เขาพลิกตัวนอนลงข้าง ๆ กอดเอวเล็กไว้แนบชิด ลองตั้งใจฟังสิ่งที่วารินจะพูด
 

“เงินเดือนของพี่ต้องมาจากเงินเดือนของธาร ถ้าธารอยากให้พี่เป็นเลขาให้จริงธารต้องเข้าทำงานที่นั่นทุกวัน จริงจังและรับผิดชอบ  รับเงินเดือนในฐานะผู้บริหารคนหนึ่งเหมือนกับคุณภัครจิรา ไม่เกี่ยวกับเงินปันผลหรือรายได้ทางอื่นของบริษัท  ธารรับปากพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทิ้งงานโรงแรม แล้วพี่จะรับปากช่วยงานธารให้ถึงที่สุด”
 

นี่คือหน้าที่สำคัญที่ภัครจิราเคยฝากฝังกับเขาไว้ บัดนี้ธาราธารกำลังจะก้าวเข้าไปทำงานโรงแรมเต็มตัวแล้ว แม้จะเป็นแค่ช่วงปิดเทอมสั้น ๆ แต่ทว่าวารินก็อยากให้เขาได้เรียนรู้งานจริงจังเพื่ออนาคต  ในฐานะพี่เลี้ยงเขาจะต้องสอนทุกอย่างให้กับเด็กคนนี้
 

“ต้องให้ผมลาออกจากมหาวิทยาลัยด้วยเลยไหม หืมม” เขาแกล้งกระเซ้า
 

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก ธารรักที่จะเป็นหมอก็ทำให้เต็มที่ของธารไปเถอะ  ขอแค่ช่วงปิดเทอมธารตั้งใจเรียนรู้งานโรงแรมจริงๆจังๆก็พอ อย่าลืมว่าโรงแรมและหมู่บ้านที่ธารต้องดูแลอยู่มีหลายที่ไม่ใช่แค่เท่าที่ธารรู้หรอกนะ ยิ่งคุณภัครต้องมาป่วยแบบนี้หุ้นส่วนแต่ละคนมีแต่เขี้ยวลากดินทั้งนั้น ถ้าหากธารยังดูอ่อนแบบนี้ รับรองได้ว่าแค่ไม่กี่ปีหุ้นที่มีอยู่ในครอบครองต้องถูกกว้านซื้อไปจนหมดแน่ ถ้าธารมั่นใจว่าจะลงไปดูแลจริงจัง พี่จะเป็นกำลังคอยซัพพอร์ตให้ธารเอง”
 

วารินพลิกตัวหันมามองที่ในดวงตาเขา หวังบอกให้เขารู้ว่าเรื่องที่พูดนั้นจริงจังแค่ไหน ธาราธารจูบลงที่ปลายจมูกรั้นเบา ๆ
 

“ได้สิ  ผมรับปาก ยกให้หมดเลยทั้งเงินเดือนเงินปันผล แบบนั้นดีไหม”
 

เขาว่าแล้วกอดเอาคนตัวเล็กเข้ามาซุกลงที่บ่ากว้างจนจมมิด
 

“พี่จะทำหน้าที่ของพี่ให้ดีที่สุด หน้าที่ของ ‘พี่เลี้ยง’
 

เสียงเล็กพึมพำ เฝ้าคิดถึงถ้อยคำเมื่อนานมาแล้วที่ภัครจิราฝากฝังเด็กคนนี้ไว้กับเขา
 


        “รับปากฉันว่าฉันจะไว้ใจเธอได้วาริน  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะต้องคอยประคับประคองให้เขาเดินไปในทางที่ถูกต้องเสมอ”

        “ครับผมรับปากจะดูแลคุณธารให้ดีที่สุด”

 


“จนกว่าจะถึงวันนั้น...วันที่ธารเข้มแข็งพอและสามารถที่จะก้าวเดินไปบนเส้นทางธุรกิจได้ด้วยตัวเอง พี่เลี้ยงคนนี้ คงจะหมดหน้าที่ทุกอย่าง รวมไปถึงหน้าที่บนเตียงแบบนี้ด้วย”
 
 
เสียงพึมพำของวารินเบามากธาราธารที่กอดเอาไว้จึงได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง จับใจความไม่ได้เลยว่าวารินพูดเรื่องอะไรอยู่
 

“ไม่พูดเรื่องงานแล้ว คืนนี้นอนที่นี่แล้วกันนะ”
 

ผ้าห่มผืนบางถูกเขาดึงขึ้นมาห่มกระชับให้ เสียงฝนตกโปรยปรายดังแว่วมาจากด้านนอก 
 

“หายเหนื่อยหรือยัง ต่ออีกยกได้ไหม” เขาว่าแล้วอมยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะวารินเบิกตาขึ้นด้วยความตกใจแล้วเงยหน้ามองดูเขา ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น
 

แต่ทว่าเขาหลับตาลงแล้ว คนตัวเล็กเลยขยับซุกเข้าไปอีกนิด อดที่อมยิ้มออกมาหน่อย ๆ ไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องลากมกที่เขาสองคนเพิ่งผ่านพ้นมันมาด้วยกัน
 
 
Tbc.

*สวัสดีปีใหม่ไทยนะ สุขภาพแข็งแรงกันทุกคน* จัดเสิร์ฟอีโรติคซีนยาวเหยียดให้  แฮ่ๆ(แน่นอนว่ามีเหตุผล :katai5:) นิยายเรื่องนี้จะมีซีนพวกนี้เยอะเราเลยเปลี่ยนหัวเรื่องให้เป็น Erotic drama คนที่ไม่ชอบจะได้ไม่หลงเข้ามาอ่าน แต่จะพยายามระวังไม่ให้น่าเกลียดมากนัก  ตอนเขียนอึน ๆ ไงไม่รู้ถ้ามีผิดพลาดก็มองข้าม ๆ ไปเน๊ะ

*อันซีน สั้น ๆ  หลังจากสองคนนี้ตื่น ตามไปอ่านกันได้ที่เดิม*

*สำหรับใครที่รอดูพี่ทรายร้าย เกือบแล้วคราบ นี่ก็แพลม ๆ ออกมาหน่อยแล้วนะ พี่ทรายร้ายแบบมาดนายเอก ร้ายลึก ๆ ส่วนจะร้ายกับใคร? เอิ่ม....รออ่าน*

ปอลอ(ลับ)  Isdeer ทิ้งที่อยู่ไว้หลังไมค์หน่อยดิ  มันเยอะมากจริง ๆ เอาไปแบ่ง ๆ กันอ่านเร็วเข้า!!
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: Milkmilkzer ที่ 16-04-2014 23:46:04
รู้สึกว่าบรรยากาศดีขึ้น :hao6:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 17-04-2014 00:14:47
อยากให้ถึงตอนที่พี่ภูรู้ความจริง
คู่ของภูกับพ่อจะเปนยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: phu_phudit ที่ 17-04-2014 00:29:00
สวัสดีปีใหม่ไทยคุณ coffeeQbread คนแต่งนิยายเรื่องนี้ด้วยน๊า ขอให้มีความสุขกับทุกวันนะคับ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 17-04-2014 00:29:53
พี่ทรายคิดจะไป เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: zalapao14 ที่ 17-04-2014 00:49:28
ชอบนิยายเรื่องนี้มากกกก

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 17-04-2014 01:13:42
แหม......ธารก็เริ่มใจอ่อนลงไปเยอะแล้วนะ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 17-04-2014 01:30:36
อยากว่าพี่ทรายจะร้ายกับใคร
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 17-04-2014 01:55:16
ตอนนี้+Unseen รวมกันถือเป็นตอนที่ยาวมากและหลายอารมณ์สุดๆ
ในขณะที่เราง่วงๆอยู่นี่ ปรับอารมณ์แทบไม่ทัน

ครึ่งแรก :m11: ดีใจนะที่สถานการณ์ต่างๆดีขึ้น
คุณภัครให้โอกาสพี่ทราย พึ่งรู้ว่าเธอก็ให้โอกาสคนเหมือนกัน จิตใจเธองามกว่าที่คิดไว้?
(ขอโทษคุณภัครที่แอบว่าในใจ  :call:)

พอทรายโทรหา ซีแล้วพี่ทัตรับแล้ว บอกว่ากินข้าวด้วยกันทุกมื้อ
แทบจะกรีดร้องลั่นบ้าน ฉันล่ะฟินกับคู่นี้จริงๆ โมเม้นต์เล็กๆก็ฟินได้
ในใจอยากให้สุดท้ายพี่ทัตคบกับซี แต่คิดว่ามีหลายๆคนรับไม่ได้ แต่ฉันรับได้อ่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh3:
ส่วนไอ้เรื่องให้พี่ทัตมาคบคุณภัคร อันนี่ยากส์ ห่างกันนานเกิ๊น
ถ้าแค่อารมณ์เพื่อนๆกัน แฟนเก่าอันนี่โอเคอยู่นะ
ไม่จำเป็นต้องกลับมาเป็นสามีภรรยาก็ช่วยดูแลลูกได้นี่นา #แอบไซโคคนเขียน อิอิ //โดนตบ  :beat:

พอเข้าฉากกลางคืน แทบช็อค  :m25: อุต๊ะ  NC เกือบครึ่งตอน แถมรอบนี้รู้สึกว่าคนเขียนอธิบายละเอียดดีจุง  :m10:
รู้สึก NC มันพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นแจ่มชัดเหมือนนั่งดูติดเตียง #รึเราทะลึ่ง ไม่ม้างงงงง

ทั้งๆที่ธารมันฉลาดทำไมไม่รู้ว่าพี่ทรายเคืองเรื่องสร้อยมาก ถึงขนาดออกปาก
ขอแนะนำให้ไปเคลียร์ด่วนนนนน  :angry2: แล้วตอนไปงานเลี้ยงก็เคลียร์อิธิปออกไปได้แล้ว มันเกะกะเรื่อง
ทิ้งไว้เดี๋ยวมันก็มาสร้างเรื่องให้พวกแกอีกหรอก

เรื่องทำงานก็ถือว่าธารมันเจ้าเล่ห์ใช้ข้อผูกมัดพี่ทราย แต่พี่ทรายชั่วโมงบินในธุรกิจสูงกว่า เปลี่ยนโอกาสมาสอนซะเลย
เลิศมากคุณพี่ทราย

อ้างถึง
“พี่จะทำหน้าที่ของพี่ให้ดีที่สุด หน้าที่ของ ‘พี่เลี้ยง’ ”

“จนกว่าจะถึงวันนั้น...วันที่ธารเข้มแข็งพอและสามารถที่จะก้าวเดินไปบนเส้นทางธุรกิจได้ด้วยตัวเอง พี่เลี้ยงคนนี้ คงจะหมดหน้าที่ทุกอย่าง รวมไปถึงหน้าที่บนเตียงแบบนี้ด้วย”

กีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส  :hao5:  :hao5: :hao5:
นี่มันประโยคนำพาดราม่าชัดๆ บ่งบอกว่าสุดท้ายพี่ทรายก็จะหายไปเงียบๆ
ซึ่งวันนั้นก็คงจะมาถึง แล้วพวกเราก็จะได้กินมาม่าอันโอชาอีกรอบ
แต่คราวนี้เราจะได้เห็นอิเด็กธารทุรนทุราย ซึ่งเราว่าหลายๆคนในนี้สะใจอ่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh5:
ด้วยภาพพจน์คนที่เคยเชียร์เด็กธารมาก่อนจะบอกว่า "น่าสงสารจุงเบย"
แต่ในใจแอบสมน้ำหน้าเล็กๆ ถ้าแกไม่ทำตัวงี่เง่าในสองสามตอนก่อน ฉันก็จะสงสารแกเต็มๆอยู่นะ

ส่วน Unseen อยู่ก็เปลี่ยนบรรยากาศเป็นฟรุ้งฟริ้งนี่มันเกิดอะไรขึ้น
พออิเด็กธารยอมรับตัวเองได้ก็เอางี้เลยเรอะ รีบๆบอกพี่ทรายเหอะก่อนมาม่าจะบังเกิด

ปอลิง: คอลเล็กชั่นหัวกะโหลก ==> พี่ทรายเป็นญาติกับพี่เคนยะ จากอีกเรื่องป่ะเนี่ย  o22
งั้นเราเชี่ยนะว่า พี่ทรายไม่ใช่เล่นๆ ธารเอ๋ยเมียแกโหดกว่าที่แกคิดไว้นัก
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 17-04-2014 02:17:12
^^
^^
^^
^^
^^
^^^^^^

อ่านตอนที่ทรายพูดเเล้วนึกถึง  หนังเรื่อง Nanny McPhee "When you need me but do not want me, then I must stay. When you want me but no longer need me, then I have to go." ให้ฟีลประมาณนี้เลย 555

อยากให้ถึงตอนนั้นเร็ว ทราย+คนเขียนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-04-2014 07:39:41
ทรายไม่น่าจะร้ายกับธารแล้วล่ะมั้ง เร่าร้อนซะขนาดนี้ :jul1:
บรรยากาศค่อยๆดีขึ้น ดีใจกับทรายด้วยนะ มันจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ทรายอย่าคิดเองเออเองเน้อ :katai1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 17-04-2014 09:06:30
มาด้วยตอนต้อนรับหลังสงกรานต์นิดๆ ด้วยตอนที่หวานไม่ขมอย่างที่ผ่านมาหลายๆตอน  :impress2:

เปิดฉากด้วยความรักความอบอุ่นระหว่างแม่กับลูก ที่สื่อให้เห็นว่ารักกันมากแค่ไหน เพราะธารมีแม่คนเดียวมาทั้งชีวิต  และต่อไปก็จะมีแค่แม่คนเดียวเช่นกันที่คอยอยู่เคียงข้างเขาเวลาที่มีทุกข์ ไม่ว่าธารจะเป็นยังไง แม่ นี่แหละคือคนที่ยืนอยู่เคียงข้างเขาไปจนตายจากกัน มันเป็นความผูกพัน ความรัก ที่บริสุทธิ์ที่สุดแล้ว :กอด1:  เพราะในวันข้างหน้าธารจะต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่ทำลงไปกับคนที่ตัวเองรักรวมถึงพ่อด้วย เมื่อได้รู้ความจริง ความจริงที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงหัวใจของธาร ให้ยังไง๊ยังไงฉันก็สงสารเด็กน้อยของฉันอยู่ดี ในเมื่อสองคนไม่ได้ตั้งใจ ธารก็ไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน วันนั้นธารก็คงจะมีแต่แม่คนเดียวที่เป็นกำลังใจให้เขาแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป บวกกับความรักความจริงใจที่ธารมีให้ทรายมาเสมอ หวังว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นนะ :3123:

ตอนนี้ยังถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับทรายด้วย เมื่อธารพูดกับแม่ ขอความเห็นที่ไม่ได้บังคับว่าจะให้ทรายได้ดูแลแม่เป็นการชดเชยความผิดที่ถึงแม้ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิด แม่จะให้พี่ทรายไหม ระหว่างที่รอคำตอบ ตูก็อดลุ้นประดุจเป็นทรายที่ยืนเกร็งจนเยี่ยวเหนียวว่าจะได้ไหม และ คำตอบของคุณภัครก็ทำทรายเยี่ยวคล่องต่อไป เมื่อรู้ว่า ทรายได้ไปต่อ  :jul3:

ต้องบอกว่าภัครเป็นคนที่มีเหตุผลอยู่แล้ว ถึงจะโกรธเคืองแต่ด้วยความที่อยู่กับทรายมานาน ต้องรู้ตื้นลึกหนาบางของทรายบ้าง ว่าแท้จริงทรายเป็นคนดี ซื่อสัตย์ ต่อตนมากแค่ไหน ทรายไม่เคยทำให้คุณภัครผิดหวังไม่ว่าจะเรื่องงานเรื่องส่วนตัว พอเกิดความผิดพลาดตอนแรกคงไม่มีใครมานั่งคิดไตร่ตรองที่จะรับได้จึงเคืองเป็นธรรมดา ต่อมาเมื่อมีสติถึงจะร่างกายจะไม่อำนวย แต่ภัครก็ย่อมจะคิดได้ว่าแท้จริงแล้ว ทรายเป็นคนยังไง o13

ผู้หญิงคนนี้เป็นคนน่าสงสารมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะมีฐานะมั่นคงไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่เธอก็เจ็บปวดกับคนรักที่กระทำต่อเธอมาตลอดถึงจะไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอก็เจ็บปวดเหลือเกิน เราเชื่อว่าภัครยังรักทัตพลอยู่เสมอไม่เคยเปลี่ยน ภัครให้อภัยทัตพลอยู่แล้ว แต่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม คงเป็นไปไม่ได้ แต่อาจจะคงสถานะความเป็นพ่อแม่ถ้าธารยอมรับ และคิดว่าต่อไปธารยอมรับอยู่แล้ว สำหรับภัครกับทัตพลคงเป็นแค่คนเคยรักกันในอดีต แต่ปัจจุบันทั้งคู่อาจจะเป็นเพื่อนคู่คิดที่ปรึกษาในเรื่องลูกเรื่องงานกันได้ และถ้าเป็นอย่างนี้ o18 คุณทัตพลจะไสตูดไปฟินไปจิ้นกับซีหรือกับใครก็เชิญเถอะจ้า เพราะได้เคลียร์กันแล้ว ยังไงฉันก็สาววายสนับสนุนให้ ผช ได้กันอยู่ดี :hao3: อีกเรื่องซียังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ ถ้ารู้จะเป็นยังไงนะ คิดว่าตอนแรกต้องโกรธแน่ๆ แต่พอทบทวนซีให้อภัยทัตพลอยู่แล้วล่ะ และก็เห็นใจซึ่งกันและกันแต่จะฟันกันไหมก็แล้วแต่  นี่ตูมโนล่วงหน้าไปแล้ว :katai3: ก็ขอให้การไปเยี่ยมครั้งนี้เป็นไปด้วยดีแล้วกันนะ

ไม่ได้เกลียดทัตพล ออกจะชอบบุคลิกฮีนะ เป็นหนุ่มใหญ่เจ้าเสน่ห์ ทำให้ฉันนึกไปถึง ก้อง สหรัฐ ฉันจิ้นก้องเลยนะกับลุคทัตพล ในความคิดตัวเองมันเหมาะมาก  :heaven ส่วนซียังนึกไม่ออก เอาไว้ก่อน ทัตพลเป็นคนดีอยู่แล้ว แต่ขอให้ชัดเจนในการกระทำให้มากขึ้นอีกสักนิดเถอะ แค่นั้นเองที่ติดลบฮีนิดหน่อย หรือฉันต้องโทษคนเขียนที่เขียนให้ฉันคิดแบบนี้ :laugh:  อ๊าคคคคคคคคค :z6:  โดนคนเขียนกระโดดถีบ โทษฐานตูเขียนแต่เมิงอินจัดคิดไปเอง :beat:   


ส่วนทรายเมื่อได้โอกาส ต้องปรบมือให้นางที่ทุ่มเททำทุกอย่างด้วยความรักนับถือที่มีต่อภัครอย่างมาก :katai2-1: ดูแลเอาใจใส่ไม่ได้ขาด ไม่พอต้องยกให้เป็นซุปเปอร์ทรายไปเลย ดูแลแม่ไม่พอ และยังไม่หนักเท่าไหร่ แต่มาดูแลลูกเนี่ยสิ ทรายบอกตูเหนื่อยกว่าหลายเท่า ถึงจะได้เสียวและหลายท่าเป็นการตอบแทน ตูก็เหนื่อยอยู่ดี เพราะอีเด็กนี่มันอึด มันหื่นมากมาย เพลาบ้างเน้อธาร พี่ทรายจะหัวใจวายไปซะก่อน  แต่ตูช๊อบชอบเวลาเขาอะจึ๊กๆๆๆๆกัน มัน(ส์)ดีอ่ะ ได้อารมณ์ ฉากรักต้องบอกว่าคนเขียนบรรยายได้อีโรติคมากกว่าหยาบโลนนะ มันฟินมาก  :heaven   

 :m25: :pighaun: :haun4: :jul1: เอาไปทุกอีโมเลยกับฉากนี้ที่มีขึ้นในทุกตอนๆๆ

แต่ถ้าอยากให้ฟินไปอย่างนี้นานๆ อีเด็กธาร แกอย่าให้ทรายมันกระเดือกของแกไปหมดลำเลย พี่ทรายแกจะติดคอตายห่าซะก่อน :angry2: แค่แทะเล็มและอมได้ครึ่งส่วนของแกก็ดีแค่ไหนแล้ว  อีกอย่างแกจะใช้แรงงานทรายไปถึงไหน ดูแลแม่ ดูแลแก ยังต้องไปทำงานอีก แหม่ กะไม่ให้ห่างเลยนะ ถ้าคิดในแง่ดี ซึ่งก็ดีจริงแหละ :man1:  ดูมันขู่พี่ทรายมันสิน่ารักซะไม่มีเอาเรื่อง อีนังธิปมาอ้าง พี่ทรายแกไม่คว้าไว้ โดนอีนังเด็กนั่นแย่งแน่ ถึงธารจะไม่เอาแต่ก็อย่าวางใจ เกิดใช้วิธีเดียวกับที่ขุ่นแม่ของนางใช้ล่ะก็เสร็จพอดี จัดเต็ม จัดหนัก ไปเลย เปลี่ยนแล้วก็เปลี่ยนทุกอย่าง  ดูสิมันรักหล่อนแค่ไหน บอกความจริงทุกอย่างว่าไม่ได้ฟันนังธิป ถึงแกจะยังไม่เชื่อก็เถอะ การกระทำของธารทุกอย่างมันแสดงออกชัดเจนมากนะ มันร้ายยังไงก็อ่อนโยนกับทรายเสมอ อีเด็กนี่มันซื่อสัตย์กับตัวเองมาก คนอื่นธารไม่ จะเอาแต่ทรายอย่างเดียว ไม่แบ่งเสียวให้เคยเลย :oo1:

 พี่ทรายมองด้วยใจบ้างนะ เหมือนที่ตัวเองบอกให้ธารมองทรายด้วยใจ ธารมันทำแล้ว พี่ทรายก็ต้องทำบ้าง  ตอนที่พี่ทรายถามว่าจะจ้างเท่าไหร่ ฉันยังคิดว่าอีเด็กนี่จะตีความหมายไปในทางลบซะอีก แต่ที่ไหนได้ไม่อยากจะกรี๊ด แกทำดีมากกกกกกกกก o13 คิดบวก บอกให้รู้ว่าอีเด็กนี่เขารักและรู้นิสัยคนที่มันรักขนาดไหน :man1:   ทำต่อไปอย่างี่เง่าให้เรทติ้งแกตกอีกนะ :m16: 

ส่วนพี่ทรายดีแล้วที่เปลี่ยนตัวเองไม่ว่าจะเพื่อใครก็ดี อย่าคิดเยอะ เชื่อในตัวธารบ้าง ไม่ต้องกังวลว่าหมดหน้าที่พี่เลี้ยงแล้วจะไม่มีหน้าที่อื่น

มันรออยู่แล้ว


หน้าที่นั้นคือ

.
.
.
.
.


เมียที่ให้อีเด็กนี่เลี้ยงต่อไปทั้งชีวิตไง  :-[


เอาเปล่า เอาเปล่า ไม่เอาเขาเอานะ  :hao6:

ส่วนอันซีน  ตุอยากเป็นนับดาว จุงเบย ได้ฟินได้จิ้น ได้ยิน แต่ทำแกล้งไม่ได้ยินอะเปล่า กลัวครั้งต่อไปจะอด ชิมิ  :z1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 17-04-2014 09:51:41
 :haun4: เลือดหมดตัวแล้วววว หนูทรายก็อึดนะ ขนาดธารบอกเล่นท่ายาก ทรายยังลุกไปตลาดได้เลย :hao6: :oo1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 17-04-2014 10:23:43
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:


เล่นซะ ขาดเลือดเลย

ธารเริ่มใจอ่อนแระนะ พี่ทรายสู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 17-04-2014 12:23:27
 :jul1:  :pighaun: ...........>>>  :z3: :z3:

ธาร!!!! Why are you being so f.ing crave?!!!!

พี่ทรายสู้นะ เหนื่อยดูแลทั้งแม่ทั้งลูก อิอิ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 17-04-2014 12:47:28
รักนิยายเรื่องนี้ รักคนแต่ง รักทุกคนที่มีบท เว้น อิธิป กะ แม่มัน
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 17-04-2014 16:28:31
ย้อนอ่านหลายตอนเลยค่าา ขอบคุณนะคะ^^

น้องธิปนี่ยังไม่ยอมหยุดอีกแฮะ จะเอาธารให้ได้เลยใช่มั๊ย~ฮึ!!
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 17-04-2014 17:03:59
กรี๊ดดดดดดดดดดดเปลี่ยนใจแล้วขอตอนคุณพ่อกับพี่ซีเยอะๆเลย
ถึงแม้มันจะขัดๆหน่อยก็ตามเพราะเราว่าตอนจบคงไม่ได้คู่กันจริงๆหรอกใช่มั้ย
ส่วนคู่ทรายตอนนี้เรารู้สึกอิ่มๆและ แต่คงต้องรอทรายมาร้ายบ้าง
คืนนี้จะมาใช่มั้ยค้าาาา  :katai2-1:  :impress2:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-04-2014 17:32:35
นับว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่ตอนหน้าที่คุณพ่อกับพี่ซีจะมาเยี่ยมคุณแม่นี่สิ
หวังว่าผีห่าซาตานคงจะไม่เข้าสิงธารอีกนะ หวั่นใจเหลือเกินว่าความซวยจะมาเยือนทรายอีก
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: daboo ที่ 17-04-2014 20:29:57
ทิ้งท้ายไว้ได้เจ๋งมาก

"หายเหนื่อยหรือยัง  ขอต่ออีกยกได้ไหม"
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 17-04-2014 20:57:14
พี่ทราย เริ่ม ร้ายแล้ว.. กรี๊ดดดด :a5: :a5: :a5: :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 18-04-2014 00:34:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 18-04-2014 00:40:03
ชอบตอนนี้แฮะ ชอบธารที่เปิดหูเปิดตาบ้างว่าทรายทำอะไรบ้าง ชอบทรายที่ทุ่มเทกับการดูแลคุณภัครมาก
ชอบทรายตอนพูดเรื่องชนาธิป จัดมาเลย ว่าคิดไรอยู่ ชอบธารที่แบบแพ้พี่ทรายอีกแล้ว เกือบหลุดคำว่ารักออกมา
ชอบที่ธารจะให้พี่ทรายไปช่วย เหมาะสุดละคนนี้ ชอบที่ทรายอยากให้น้องตั้งใจจริง
และประโยคนั้นที่ธารไม่ได้ยิน จัดว่าเด็ดค่ะ ถ้าพี่ทรายใจแข็งทำได้จริง คนที่จะเป็นจะตายก็คือธาร
โอ๊ย นายเอกฉันเคะนางพญามากๆ ปลื้มอ่ะ
เลิฟซีน เฮือกกกก เลือดกำเดากระจายค่ะ #คิดหื่นตลอดแหละคนอ่าน

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 18-04-2014 02:51:02
เพิ่งได้เข้ามาติดตามครับ  สนุกมาก มาม่าได้ใจสุดๆ อ่านแต่ละตอนแล้วสงสารทรายกับธารสุดๆ  ขอตอนหวานๆให้คู่นี้บ้างนะครับผม ปล. ขอคู่คุณพ่อกับพี่ซีด้วยนะ  #  ส่วนตัวอิจฉาอย่างธิป อย่าเอามันออกมาอีกเลย เดี๋ยวเกรงว่าเราจะอินจัดทะลุจอเข้าไปมีเรื่องกับตัวละครตัวนี้เข้า 55555 นางมาแรงแบบเงียบๆ แลดูน่ากลัวมาก
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: Riko ที่ 18-04-2014 04:06:15
แปะ เดี๋ยวมาอีดิทค่ะ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: Viper_Wa ที่ 18-04-2014 11:16:35
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ฟินจุงเบยตอนนี้อ่า
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: Vovovo ที่ 18-04-2014 13:00:33
ชอบมาก มารอน้าาา :)
คือถึงมันจะดราม่าบีบหัวใจ
อ่านไปน้ำตาไหลไม่รู้ตัวเลย 555
แต่ชอบตรงที่มันแบบทำให้มองเห็นความจริงว่า
คนเรามันมีพลาดพลั้งกันได้
และที่เหลือคือคนอื่นจะให้อภัยเราในสิ่งที่เราไม่ได้ตั้งใจได้ไหม
ชอบที่ธารยังมีสำนึกผิดชอบที่เถียงอยู่ในใจ
และยังนึกถึงเหตุผลต่างๆเสมอ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: kamenashi ที่ 18-04-2014 15:26:02
อ่านเรื่องนี้ครั้งแรก อยากเป็นพี่ทราย ปลื้มธารมาก
แต่วันนี้ไม่แล้วล่ะ เราอยากเป็นุธาร ไม่เคยเห็นนายเอกคนไหน น่าฟัดเท่าพี่ทรายเลย.. :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 18-04-2014 16:37:04
แอร๊ยยยยย
คือชอบ NC ตอนนี้มาก บรรยายได้เห็นภาพทุกอนูรูขุมขน
พี่ทรายคือน่ารักมาก แบบยั่วอย่างไม่รู้ตัว  น่าฟัดมากๆๆๆๆๆๆๆ
ธารก็ไว้ใจพี่ทรายมากขึ้นกว่าเดิม กำแพงความเกลียดชังที่เคยสร้างเอาไว้ ก็ค่อยๆพังทลายลงไป
เพราะความดีของพี่ทราย ชอบมาก มันฟินอย่างถึงที่สุด
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: ▲TEACHCHY▼ ที่ 19-04-2014 11:37:57
ตามอ่านทันแล้ว เรื่องนี้สุดยอดจริงๆ
พี่ทรายน่ารักอะ ย่งอ่านอันซีน ยิ่งหลง :hao7:
 
เราไม่ค่อยได้อ่านคอมเม้นต์คนอื่นเลยไม่รู้ว่ามีมาม่าอะไร
แต่ดีใจที่คนเขียนไม่ลบเรื่องนี้นะ  สู้ๆค่ะ^^
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [16/04/57] Craving
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 19-04-2014 21:34:04
วันนี้จะมาม๊ายยยยย
โอ๊ยยยยอยากอ่าน :katai4:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 19-04-2014 22:56:36


บทที่ 29  I’ll aways support your side


 
ตึกสูงระฟ้ารูปทรงแปลกตาโดดเด่นแสดงส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกชัดเจน โรงแรมใหญ่หรูหราใจกลางเมือง เป็นวิวในชีวิตประจำวันที่คุ้นตา
 

ที่ห้องประธานกรรมการชั้นบนสุด
 

“ธารจะต้องอ่านรายงานสรุปการประชุมบอร์ดของต้นเดือนที่แล้วให้เสร็จภายในครึ่งชั่วโมง แล้วพี่จะช่วยแปลเอกสารพวกนี้ให้เป็นภาษาอังกฤษก่อนที่เราจะเข้าประชุมบ่ายพร้อมกัน ส่วนรายงานข้อมูลของฝ่ายต่าง ๆ ในเดือนนี้พี่จะทำมาให้ธารใหม่ทั้งหมด อาจจะต้องดูมันก่อนกลับบ้าน อ้อ อีกอย่าง คืนนี้มีกำหนดการไปงานเลี้ยงการกุศลเพราะฉะนั้นพี่จะเลื่อนนัดที่จะต้องคุยกับฝ่ายพัฒนาของบริษัทออกแบบออกไปก่อน แล้วอย่าลืมว่าประชุมบอร์ดจะเริ่มตอนบ่ายสองโมงเพราะฉะนั้นงานทุกอย่างของธารจะต้องเสร็จเรียบร้อยก่อนบ่ายโมงครึ่ง”
 

ดวงตาคมกริบจ้องมองคนข้าง ๆ ที่กำลังก้มๆเงยๆชี้แจงโน่นนี่อย่างละเอียด วารินช่วยวางคิวงานและสานเรื่องที่เขาจำเป็นจะต้องทำทุกอย่างในแต่ละวันโดยไม่ลืมที่จะเผื่อไปถึงอนาคต พอบอกเสร็จแล้วก็ทำท่าจะเดินออกไป เขาจึงผลักกองแฟ้มเอกสารที่อยู่ด้านหน้าให้กับคนตัวเล็ก
 

“กองเอกสารพวกนี้ผมอ่านเสร็จหมดแล้ว พี่เอามันไปสแกนส่งให้กับฝ่ายบุคคลของโรงแรมที่เชียงใหม่ด้วยก็แล้วกัน”
 

วารินเงยหน้ามองเขาทันที เอกสารพวกนี้เขาเพิ่งเอาเข้ามาให้เจ้านายคนใหม่อ่านไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ ทำไมถึงไมถึงได้อ่านเร็วนัก
 

“ผมไม่มีปัญหานะ ถ้าจะต้องคุยงานกับฝ่ายพัฒนาฯก่อนเข้าร่วมงานการกุศลในตอนเย็น งานกินเลี้ยงแบบนั้นเข้าสายหน่อยคงไม่น่าเกลียดอะไรมั้ง  คิวสัมภาษณ์ผมก็เริ่มช่วงดึกอยู่แล้ว ถ้าหากพี่แพลนงานให้ผมได้ แล้วอย่าลืมเตือนคุณอ้อเรื่องจดหมายส่งออกในช่วงบ่าย  ใช่สิ...บริษัทวีพลัสขอนัดพรีเซนต์งานกับทางเราผมจะเข้าดูเองนะพี่อย่าลืมแทรกคิวงานให้ผมด้วย อ้อ...แล้วช่วยลงไปเอาเอกสารที่หลังรถให้ผมทีผมลืมมันไว้เมื่อเช้า   ที่สำคัญโรงแรมของคุณลุงที่ญี่ปุ่นแฟ็กซ์มาขอข้อมูลของฝ่ายออแกไนซ์ตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วเห็นว่ามีโปรเจ็คใหญ่จะต้องดิวกัน  พี่มีอีเมล์ของเลขาคุณลุงผมแล้วใช่ไหม อย่าลืมตอบไปให้เรียบร้อย”
 

วารินยืนอึ้งอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ก้มลงหอบแฟ้มเอกสาร มองคนที่กำลังมุ่งมั่นต่องานแล้วอดที่จะอมยิ้มออกมาหน่อย ๆ ไม่ได้ ธาราธารเก่งมากจริง ๆ เขาสองคนเข้างานพร้อมกันในช่วงเช้า ศศิธรหอบเอาแฟ้มเอกสารทั้งหมดมากองไว้ให้ ธาราธารศึกษาแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็แจกแจงงานได้รอบคอบขนาดนี้ ถือว่าก้าวแรกของเขาทำได้ดีเอามาก ๆ
 

“ครับบอส”
 

ทันทีที่วารินพูดจบ เขาเงยหน้าขึ้นมองทันที คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างสงสัยทำไมวารินเรียกเขาแบบนั้น
 

“ต่อไปเวลาอยู่ที่ทำงานพี่จะเรียกธารว่า ‘บอส’ เพราะธารเป็นเจ้านายของพี่ แล้วขอความกรุณาให้ธารเรียกพี่ว่า ‘คุณทราย’ ด้วยนะครับ”
 

“ไม่! พี่อยากเรียกผมแบบไหนก็ตามใจ แต่ผมจะเรียกพี่แค่คำว่า ‘พี่ทราย’ เท่านั้น ไม่มีคำอื่นแทนได้อีก”
 

เขาส่ายหน้านิดๆ แววตาท้าทายวารินสุดขีดบอกให้รู้ว่า 'ไม่' ของเขาก็คือ 'ไม่' จริง ๆ  ว่าแล้วก็ก้มลงไปสนใจงานของเขาต่อ วารินไม่อยากต่อความให้ยืดยาวจึงหอบเอาแฟ้มบางกองที่อยู่บนโต๊ะแล้วเดินออกมา
 

ห้องทำงานประธารกรรมการใหญ่บัดนี้เปลี่ยนเจ้าของกลายมาเป็นลูกชายคนเดียวของคุณท่านคนก่อน วารินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานขนาดกลางหน้าห้อง เครื่องใช้อุปกรณ์สำนักงานครบครัน นี่คือโต๊ะตัวเก่าของเขา เมื่อเช้าที่มาถึงอดที่จะแปลกใจไม่ได้ โต๊ะของเขายังคงวางอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายออกไปแต่อย่างใดรวมถึงข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่าง  เมื่อสอบถามจากศศิธรเลขาอีกคนที่โต๊ะหันหน้าเข้าหากันจึงได้ความมาว่า ธาราธารสั่งไว้ตั้งแต่คราวก่อนว่าไม่ให้ย้ายโต๊ะตัวนี้ออกไป
 

“ทราย ไปทานข้าวเถอะ เที่ยงกว่าแล้วนะ เดี๋ยวบ่ายทรายต้องเข้าประชุมกับบอสอีก  ประชุมบอร์ดแบบนั้นมือใหม่อย่างคุณธาร คงต้องลากยาวเป็นครึ่งๆวันแน่ หาอะไรรองท้องไว้ก่อนดีกว่า งานค้างเดี๋ยวพี่จัดการต่อให้เอง”
 

ศศิธรเดินเข้ามาบอกเขาด้วยความหวังดี หากแต่วารินกลับไม่คิดแบบนั้น เขาพอจะดูออกว่าบอสคนใหม่ของเขาไม่ธรรมดาเลย ประชุมบอร์ดช่วงบ่ายอาจจะเลิกเร็วกว่าปกติด้วยซ้ำ
 

“ขอบคุณครับพี่อ้อ”
 

วารินเดินเข้าไปพบธาราธารที่ห้อง ชุดอาหารถูกจัดเสิร์ฟไว้แล้วเรียบร้อย แต่เจ้านายหนุ่มรูปหล่อยังไม่ยอมขยับจากกองงานมาแตะต้องมัน
 

“บอสครับเดี๋ยวบ่ายโมงครึ่งต้องเทสบรีฟเรื่องงานประชุมกันแล้ว ทานข้าวเที่ยงให้เรียบร้อยด้วยนะครับ”
 

“ทำไมอาหารมีแค่ชุดเดียว?” เขาเงยหน้าขึ้นถาม
 

“สำหรับบอสคนเดียว  ส่วนผมต้องลงไปทานข้างล่างห้องอาหารของพนักงาน บอสทานเสร็จแล้วก็ปล่อยไว้ตรงนี้แหละครับเดี๋ยวแม่บ้านเขาจะมาจัดการเอง ผมขอตัวก่อน”
 
 
“สั่งขึ้นมาทานด้วยกัน! นับตั้งแต่วันนี้ไปพี่ต้องทานข้าวเที่ยงที่นี่กับผมทุกวัน ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ไม่งั้นก็ไม่ต้องกินมันทั้งคู่นี่แหละ”
 

เขาว่าอย่างจริงจังแล้วจ้องหน้าจับสายตาอยู่ที่วารินไม่ยอมให้ขยับไปไหน เลขาจำเป็นได้แต่ส่ายศีรษะอย่างระอาใจในความเอาแต่ใจของเจ้านายตน ในที่สุดก็ต้องจำใจยกหูโทรศัพท์กดโทรออกสั่งไปที่แผนกอาหารให้ส่งขึ้นมาให้อีกหนึ่งชุด เขาสองคนทานอาหารด้วยกันครู่เดียววารินก็บังคบให้เจ้านายของเขาต้องดูเนื้อหาที่จะเข้าประชุมต่ออีกยก
 

“พี่ทรายมานี่ซิ เดินมาดูรายงานเล่มนี้ให้ผมที อ่านไม่ค่อยเข้าใจเลย”
 

“ไม่เข้าใจที่ตรงไหน”
 

วารินเดินเข้าไปใกล้ แต่ดูเหมือนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะกระตุกขึ้นที่มุมปาก  เขารวบเอาเอวบางนั้นไว้ทันที จูบเบา ๆ ลงที่หน้าท้องเนียนผ่านเชิ้ตสีอ่อนตัวบาง วารินตกใจมากรีบผลักเขาออก แต่แรงคนตัวเล็กจะไปสู้เขาได้อย่างไร
 

“ทำอะไรน่ะธาร! อย่าทำแบบนี้ที่นี่นะ”
 

“หมั่นไส้  เห็นพี่พูดจาห่างเหินแบบนี้แล้วมันอดไม่ได้นี่ ‘บอสอย่างนั้นบอสอย่างนี้  ผมอย่างนั้นผมอย่างนี้’  นี่ถ้าไปเป็นเลขาให้คนอื่นคงจะพูดจาออดอ้อนแบบนี้เหมือนกันสินะ”
 

“ธาร!  พูดอะไรน่ะ”
 

“ไม่รู้ล่ะ ไม่ชอบนี่เวลาได้ยินพี่แทนตัวเองว่า ‘ผม’ แล้วมันขัดหูยังไงไม่รู้ไว้ อยู่ต่อหน้าคนอื่นค่อยพูดแบบนั้นเถอะ เวลาอยู่ด้วยกันเราพูดกันธรรมดาจะได้ไหม” เขาว่าแล้วจับวารินนั่งลงที่ตัก มือซุกซนทำท่าจะสอดไล้เข้าไปตามสาบเสื้อเชิ้ต
 

“ธารไม่ได้นะ! ห้ามทำอะไรแบบนี้ที่นี่ เกิดมีใครมาเห็นเข้าจะทำยังไง” วารินยื้อสุดตัวพยายามดันเขาออก ปัดมือที่อยู่ไม่สุขให้พ้นไปจากตัว แต่จะมีทางทำได้แน่หรือ
 

“ช่างสิใครจะมาเห็นกัน? ก่อนเข้าห้องผม ต้องเคาะประตูก่อนทั้งนั้น แล้วถึงจะเห็นจริง ๆ ผมก็ไม่สนใจหรอก”
 

“ธารอย่าพูดแบบนี้อีกนะ ทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ธารเป็นถึงท่านประธาน เป็นผู้บริหาร ถ้าใครรู้เข้าจะเป็นยังไง”
 

“นิดเดียว ไม่นานหรอก ขอเติมพลังหน่อยเดียวเอง”
 

“ไม่เอา! ธารบ้าไปแล้วเมื่อคืนก็เพิ่งทำจะอะไรกันนักหนา พี่จะออกไปเตรียมงานให้แล้ว จวนจะได้เวลาเข้าประชุมแล้วนะ อย่าทำเป็นเล่น”
 

ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ฟังคำคนตัวเล็กเลยมือที่กอดเอวไว้รัดแน่นขึ้น เขาเอื้อมอีกมือกดเข้าที่ปุ่มล็อกประตูอัตโนมัตที่ติดตั้งอยู่บนโต๊ะแล้วจับบ่าเล็กหันเข้าหาตัวทันที
 

“ธาร! อย่านะไม่เอาอย่าทำ” วารินร้องห้ามกลัวใจเขาจริง ๆ  เขาตัดสินใจลุกขึ้นดึงแขนคนตัวเล็กแล้วพาไปเหวี่ยงลงที่โซฟาไม่แรงนัก วารินหน้าซีดเผือด เขาปลดหัวเข็มขัดแล้วเดินหน้าเข้าหา
 

“ธาร!” วารินร้องเสียงหลงถดตัวถอยไปกับโซฟานุ่ม เมื่อเขาโน้มตัวกดลงมา ปลายจมูกโด่งซุกไซ้ลงที่ซอกคอหอม วารินเบี่ยงหลบไปทางไหนเขาก็เปลี่ยนมาซุกไซ้ลงอีกฝั่งเหมือนเดิม เมื่อเห็นว่าหมดหนทางรอดแน่ๆวารินจึงจำต้องเอ่ยขึ้น
 

“ถ้าธารยังไม่เชื่อฟังพี่อยู่แบบนี้ ประชุมบ่ายนี้ธารก็เข้ากับพี่อ้อเถอะ!”
 

สิ้นเสียงเล็ก ๆ เขาหยุดชะงักทันที ดวงตาคมมองสบสายตาที่เข้มแข็งแต่เด็ดเดี่ยวของคนตัวเล็ก ที่บัดนี้ไม่มีวี่แววของความหวาดกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย
 

“ทำสิ! อยากทำอะไรทำเลย!  ทำให้ถึงที่สุด ทำเสร็จแล้วพี่จะได้กลับเลย”
 

วารินจ้องหน้าเขาจริงจัง อยากสื่อให้รู้ว่าที่พูดนั้นเขาทำจริงแน่ไม่ใช่แค่ขู่
 

“ถ้าคิดว่าต้องการกันแค่เรื่องแบบนี้ เชิญ! อยากทำอะไรทำเลย!”
 

ร่างสูงใหญ่มองหน้าเขานิ่ง ก่อนตัดสินใจลุกออกจากตัวเขาทันที วารินรีบลุกขึ้นนั่งจัดเสื้อให้เข้าที่ ขณะที่ธาราธารยกสองมือเสยผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป ออกมาอีกทีเขาก็คว้าเอาเสื้อนอกที่พาดไว้ขึ้นมาสวมเหน็บปากกาลงที่กระเป๋าเสื้อหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วก้าวนำออกไป วารินที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วโกยเอาแฟ้มเอกสารที่ตระเตรียมไว้แล้วตามเขาออกไปทันที
 

“ไม่ยอมให้ผมทำที่นี่  งั้นคืนนี้พี่ก็เตรียมตัวโดนจัดหนักแน่ ต่อไปไม่ต้องนอนแล้วห้องนั้น ขึ้นมานอนข้างบนกับผม”


หลังจากเงียบมาตั้งแต่ตอนนั้น เขาก็ว่าเสียงเข้มลอดไรฟันน้ำเสียงหัวเสียสุดขีด  ก่อนก้าวออกจากลิฟต์ตรงเข้าห้องประชุมขนาดกลางที่ผู้ร่วมประชุมจากหลายฝ่ายต่างทยอยมารอกันพร้อมแล้ว
 

.
 

แล้วการคาดการณ์ของวารินก็แม่นยำเสียยิ่งกว่าจับวาง เมื่อการประชุมบอร์ดใหญ่ที่เคยใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามสี่ชั่วโมงถูกประธานบริหารคนใหม่ย่นระยะเวลาให้เหลือเพียงแค่สองชั่วโมงเศษเท่านั้น  ธาราธารแสดงความสารถให้ได้เห็นจริง ๆ ไม่เสียแรงที่บรีฟกันมาตั้งแต่เช้า เขาต้องการให้เป็นแบบนี้อยู่แล้วเพื่อเป็นการขู่ให้กรรมการและหุ้นส่วนคนอื่น ๆ เห็นถึงความสามารถของลูกชายคนเดียวของภัครจิรา ที่ตอนนี้มีเขายืนอยู่เคียงข้างที่โต๊ะประจำตำแหน่ง
 

“คุณธาราธารยอดเยี่ยมเหมือนคุณภัครไม่มีผิดเลยค่ะ ดิฉันดีใจที่ได้ร่วมงานกัน การประชุมครั้งหน้าฝ่ายวางแผนโครงการอย่างพวกเราคงต้องเตรียมเรื่องที่จะนำเสนอให้พร้อมกว่านี้เสียแล้ว”
 

คุณริสาหนึ่งในกรรมการฝ่ายแผนงานกล่าวชมเชย เธออายุน้อยกว่าภัครจิรานิดหน่อยทำงานร่วมกันมานาน ตั้งแต่ภัครจิราป่วยงานของฝ่ายต่าง ๆ ดูอ่อนขึ้นเยอะมากธาราธารเคยเข้าร่วมประชุมบอร์ดแล้วหนึ่งครั้งก็จริงแต่เธอยังไม่เห็นวี่แววอะไรจากเขา ไม่น่าเชื่อว่าการกลับมาใหม่ครั้งนี้ของประธานหนุ่มคนนี้จะสามารถจับความรู้สึกใครต่อใครได้อยู่หมัด
 

“ดีใจแทนภัครเขาจริง ๆ มีลูกชายที่เก่งขนาดนี้ได้ข่าวว่าเรียนหมอด้วย จะไหวหรืองานบริหารหนักเหมือนกันนะ”
 

คุณวิรัชฝ่ายจัดซื้อเข้ามาเอ่ยชมเชยด้วยอีกคน ธาราธารยิ้มให้น้อย ๆ ขณะที่วารินยืนเคียงข้างอยู่ไม่ห่าง
 

“อย่างว่าล่ะนะยังหนุ่มยังแน่น หนักขนาดไหนก็ต้องทนไหวแน่นอนอยู่แล้วล่ะ  สู้ๆนะเรา” วิรัชว่าแล้วบีบลงที่ไหล่เขาเบา ๆ หนึ่งทีอย่างให้กำลังใจก่อนจะขอตัวแยกออกไป
 

“เก่งมากนะคะคุณธาร ป้าภูมิใจแทนคุณภัครเธอมากจริง ๆ” คราวนี้ถึงคิวของเข็มอัปสร ถ้ายังจำกันได้เธอคือคุณแม่คนเก่งของบัวชมพู ธาราธารจึงนอบน้อมกับเธอมากกว่าทุกคน
 

“ป้าถามหนูบัวอยู่บ่อย ๆ เห็นว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกับคุณธารน่าเสียดายนะ  แต่เรื่องแบบนี้บังคับกันยากไม่ได้คบกันแต่ก็เป็นเพื่อน ๆ กันไว้นะลูกนะต่อไปมีอะไรช่วยเหลือกันได้”
 

“ขอบคุณมากครับคุณป้า” ธาราธารค่อยโล่งอกไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ง่าย ๆแบบนี้
 

วารินยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู  จวนจะห้าโมงเย็นแล้ว งานสังคมจะจัดขึ้นที่โรงแรมใหญ่หมายเลขหนึ่งซึ่งที่นั่นภัครจิราถือหุ้นอยู่ถึงสิบเปอร์เซนต์เมื่อปีที่ผ่านมานี่เอง วันนี้อาจมีการเปิดตัวลูกชายทนายความคนสำคัญที่ดูแลผลประโยชน์ให้กับตระกูลของเจ้านายของเขา และธาราธารคงจะต้องถูกจับตามองจากสื่อมากแน่ 
 

“เดี๋ยวเราจะออกไปทานข้าวกันเลย  จากนั้นค่อยแวะไปเปลี่ยนชุด ผมนัดที่ห้องเสื้อไว้ให้แล้ว” วารินว่าแล้วก้าวเดินตามเข้ามาที่ลิฟต์ส่วนตัวเพื่อขึ้นห้องประธานโดยเฉพาะ
 

“ทำไมต้องยุ่งยากด้วย เสื้อผ้าผมก็มีตั้งเยอะ”
 

“เพราะเจ้าของห้องเสื้อเขาติดต่อขอเป็นสปอนเซอร์เอาไว้ แล้วพี่อ้อก็ตอบตกลงไว้ก่อนแล้วเพราะอย่างนั้นธารจึงต้องใส่เสื้อผ้าของที่ร้านเขาน่ะ”
 

“ชุดใหม่หรือเปล่า ผมไม่ใส่ของเช่านะ แล้วผมก็ไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องตัวด้วย ถ้าจะให้ผมแต่งตัวที่นั่นพี่จะต้องเข้ามาแต่งให้ผมเอง”
 

“ใหม่ทั้งชุดครับ เขาขอขนาดไปตัดเตรียมไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพี่อ้อโทรมาถามพี่เอง”
 

“ถ้าอย่างนั้นใส่แล้วก็ซื้อเอาไว้เลยก็แล้วกัน ผมใช้แล้วไม่ชอบมาให้ใครใช้ต่อ”
 

ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง ร่างเล็กก็ถูกท่อนแขนกำยำรั้งเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว พร้อมจรดปลายจมูกโด่งลงบนแก้มเนียนนุ่มอย่างโหยหา
 

“เหมือนพี่นี่ไง เป็นของผมแล้วอย่าคิดไปมีใครคนอื่นอีกเด็ดขาด!”
 

“ธารอย่า”
 

วารินร้องห้ามพลางเอียงคอหลบ แต่ไม่เคยพ้น แก้มเนียนถูกเขาหอมแล้วหอมอีกไม่พอปลายจมูกโด่ง ๆ นั่นยังซอกแซกเข้าที่ซอกคอหอมสูดดมเหมือนคนตายอดตายอยาก แล้วดันตัววารินจนติดเข้ากับผนังลิฟต์
 

“นี่อดทนที่สุดแล้วนะ พี่ต้องให้รางวัลผมสิ ผมทำได้ดีไม่ใช่หรือ”  เขาบอกอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมผุดยิ้มขึ้นที่มุมปาก
 

วารินมองบนเพดานทันทีกลัวกล้องวงจรปิดจะเห็นพวกเขาสองคนกอดจูบกันอยู่แบบนี้
 

“ไม่มีหรอก ลิฟต์ส่วนตัวผมให้เขารื้อกล้องออกหมดแล้ว”
 

“เมื่อไหร่กัน! ทำไมธารทำแบบนั้น”  วารินไม่อยากจะเชื่อเขาให้คนมาทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่
 

“ตั้งแต่มารอบที่แล้ว ให้ทินกรจัดการให้ ไม่ต้องถามนะว่าทำไมแค่นี้ก็น่าจะรู้คำตอบแล้วนี่” เขาว่าเรียบ ๆ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาช่างร้ายกาจมากจริง ๆ กระทั่งลิฟต์ก็ยังวางแผนไว้แล้วแบบนี้วารินจะหนีเขาให้รอดได้ยังไงกัน
 

“ทำในนี้ก็ตื่นเต้นดีนะ ยังไม่เคยซะด้วย ลองไหม?” เขาเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์วารินรีบผลักเขาออกทันทีพอดีกับที่ลิฟต์ส่วนตัวแล่นขึ้นมาจอดถึงห้อง วารินจึงรีบก้าวเดินออกไป ยืนอยู่ให้ห่างเขามากที่สุด
 

“ธารต้องระวังคุณวิรัชเอาไว้ให้มากนะ ฝ่ายจัดซื้อค่อนข้างอันตราย จำเป็นจะต้องตรวจเช็คอย่างรัดกุม คนบางคนเห็นเขาพูดจาดีกับเราแต่ลับหลังการกระทำของเขาจะเป็นอย่างไรนั้น เราไม่อาจคาดเดาได้เลย เรื่องผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร พี่อยากจะกำชับให้ธารจับตาดูคน ๆ นี้ไว้ให้ดีอย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาด”
 

มือเล็กวางแฟ้มเอกสารลงแล้วเตือนเขาไว้อีกทาง ภัครจิราเคยเปรยเรื่องผู้ชายคนนี้ให้เขาฟังบ่อยครั้ง
 

“รู้น่า ขอพักหน่อยสิ เหนื่อยมาตั้งหลายชั่วโมงเดี๋ยวก็ต้องไปงานอีก ขอรางวัลผมนะ”  สมกับที่เขาเป็นเด็กหนุ่มวัยกำหนัด  เขาเดินหน้าเข้าอ้อน วารินรีบถอยหนีแต่มีหรือจะหนีพ้นมือเขาได้แขนเล็กโดนดึงเข้ามากอดไว้เสียแน่น
 

“ทำไมถึงทำแบบนี้กับพี่อยู่เรื่อยเลยนะธาร”
 

“อยากรู้ไหมว่าเพราะอะไร? หืมม ทำไมผมถึงทำ?”
 

วารินนิ่งทันที ใจหนึ่งก็อยากจะรู้คำตอบของเขาแอบคาดหวังว่าอาจจะเปลี่ยนไป.... แต่อีกใจก็กลัว กลัวที่จะได้ยินถ้อยคำเดิม ๆ อีกครั้ง
 


‘ที่ระบายอารมณ์เวลาผมอยาก’    เขาเคยพูดไว้แบบนั้น
 


  “....ไม่ต้องรู้หรอก ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น”

 

....อยากจะเอ่ยคำว่ารักอีกสักครั้ง...แต่มันอาจเร็วเกินไปนิด......

 

เขานิ่งไปครู่ก่อนเอ่ยถ้อยคำเสียดใจออกมาแล้วรั้งเอวบางให้นั่งลงที่ตักเขา “ผมไม่อยากไปงานเลี้ยงน่าเบื่อนั่นเลย คืนนี้ไม่ไปได้ไหม” มือที่ทำงานรวดเร็วเสมอกับเรื่องแบบนั้นของเขาดึงชายเสื้อวารินออกนอกกางเกงแล้วสอดขึ้นลูบไล้ทันที มือเล็กรีบตะครุบมือเขาไว้เฉียดฉิวอย่างที่สุดเกือบจะโจมตีจุดระทวยของเขาได้อยู่แล้ว
 

“อย่าทำนิสัยเด็กแบบนี้อีกนะธาร ตารางงานมาเรียบร้อยแล้วด้วย ไหนสัญญากันแล้วไง” ถึงแม้ว่าจะผิดหวังที่เขาตอบแบบนั้นออกมาแต่วารินก็ไม่อยากจะสานต่อให้มากเรื่อง เพียงแค่ไม่อยากให้เขาเห็นตนเป็นที่ระบายอารมณ์เท่านั้น
 

เมื่อวารินลุกขึ้นมาจากหน้าตักเขาได้  ธาราธารดึงมือนุ่มนิ่มไว้ เงยหน้าเหมือนอยากจะถามว่า   ทำไม?
 

“ไม่ใช่ที่นี่”


วารินเดินเลี่ยงออกมาแล้วยัดชายเสื้อเข้าในตามเดิม กดเรียกศศิธรแล้วบอกเดี๋ยวจะออกไปเอาแฟ้มงานที่วานให้เธอทำเตรียมไว้ให้
 

“ธารว่าจะอ่านรายงานสรุปข้อมูลแต่ละแผนกก่อนกลับใช่ไหม พี่อ้อทำไว้ให้แล้วนะ เดี๋ยวต้องรีบหน่อยเพราะต้องแวะไปเปลี่ยนชุดอีก ถ้าช้าจะเข้างานเลี้ยงสาย  เราไปถึงที่นั่นราว ๆ สองทุ่มน่าจะกำลังดี”
 

บอสคนใหม่จำใจมานั่งอ่านสรุปของแผนกต่าง ๆ ต่ออีกครั้ง ส่วนเอกสารที่ต้องเซ็นอนุมัติเขาบอกให้วารินหอบกลับไปเคลียร์ที่บ้านด้วย กว่าจะได้ออกมาจากโรงแรมก็ปาเข้าไปเกือบ ๆ ทุ่ม
 

“ทานข้าวบนรถก็แล้วกันนะ เดี๋ยวพี่แวะซื้อแซนวิชให้ทานรองท้องไปก่อน ลุงทินกรครับช่วยแวะจอดซุปเปอร์ให้ผมด้วยนะ”

เขาบอกทินกรคนขับรถที่บัดนี้เปลี่ยนมาขับให้ธาราธารอย่างเต็มตัว ไม่นานนักรถก็จอดลงที่หน้าซุปเปอร์เล็ก ๆ วารินลงไปซื้อขนมปังและขนมที่ทานง่าย ๆ พอกลับขึ้นมาบนรถเจ้านายของเขาก็หลับไปเรียบร้อยแล้ว
 

“คงจะเหนื่อยน่ะครับคุณทรายปล่อยให้พักสักหน่อยเถอะครับ อย่าเคี่ยวกับคุณธารนักเลย”


ทินกรเห็นวารินทำท่าจะปลุกจึงปรามอย่างยิ้ม ๆ  วารินมองดวงหน้าของคนที่กำลังเท้าแขนกับขอบประตูแล้วหลับใหลไม่รู้เรื่องแล้วก็นึกสงสาร ต้องมาลำบากลำบนอย่างนี้เพราะใครกันถ้าไม่ใช่เพราะเหตุการณ์แย่ ๆ ในคืนวันนั้น ทุกๆอย่างคงไม่เป็นแบบนี้ ธารคงจะเป็นนักศึกษาธรรมดาที่ตั้งใจเรียนเพียงแค่สิ่งที่ตนเองรัก ไม่ต้องมาฝืนทนทำงานที่ตัวเองไม่ได้สนใจจะทำ ไม่ต้องทนออกงานสังคมที่แสนน่าเบื่อแต่ละคนสวมหน้ากากเข้าหากัน หาความจริงใจแทบไม่ได้
 

“ให้ผมแวะที่ห้องเสื้อเลยใช่ไหมครับ”
 

ทินกรถามขึ้นวารินพยักหน้ารับ รถก็ชะลอจอดลงที่หน้าห้องเสื้อชื่อดัง ธาราธารตื่นได้จังหวะพอดี  “โทษทีผมหลับไปนานไหม”
 

“ลงไปเปลี่ยนชุดนะธาร เดี๋ยวค่อยขึ้นมาทานขนมปังรองท้อง วันนี้อดทนหน่อยแล้วกัน”
 

รูปร่างสูงใหญ่สมส่วนในชุดทักสิโด้เต็มยศยืนหน้าตาไม่สบอารมณ์ให้พนักงานและเจ้าของร้านจัดแต่งเสื้อผ้าหน้าผมจนเรียบร้อย ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คุณชายแห่งราชวงศ์อะไรสักอย่างก็ถูกเนรมิตขึ้นอย่างงดงาม
 

“คุณน้องทรายขาาาา  บอสคนใหม่นี่รูปร่างหน้าตาจัดได้ว่าเพอร์เฟคมากกกก ไม่รู้ว่ารอดจากพวกแมวมองถ้ำมองมาได้ยังไง  ถ้าพี่แน็ตตี้จะขอเป็นสปอนเซอร์ให้ทุกๆงานที่คุณธาราธารไปออกคุณน้องทรายจะว่ายังไงบ้างคะ  ช่วยสนับสนุนให้ห้องเสื้อพี่บ้างสิ ทุกวันนี้หนุ่มหล่อไฮโซกำลังมาแรงแข่งกันดังเลย”
 

พี่แนตตี้ สาวประเภทสองที่แปลงทุกอย่างมาแล้วเรียบร้อยเจ้าของห้องเสื้อชื่อดังชั้นนำของเมืองไทย เอ่ยปากกับวาริน เธอเดินเข้าไปแตะลงที่หน้าอกกว้างอย่างถือวิสาสะเป็นครั้งที่สองหลังจากครั้งแรกตอนสวมเสื้อให้เธอลูบหน้าอกเขาเข้าอย่างเต็มมือเพราะหมั่นเขี้ยวในความฟิตของมัดกล้ามเนื้อที่สวยงามกำลังดี
 

“คุณธาราธารคงจะออกกำลังกายบ่อยนะคะ อกแน่นเปรี๊ยะแบบเนี้ยะ วิดพื้นบ่อยเหรอ คิคิ”
 

เธอว่ายิ้ม ๆ เหมือนตั้งใจให้ท่าเขาเต็มที่ คำว่าวิดพื้นของเธอคงหมายถึงเรื่องอย่างว่า  ธาราธารรีบปัดมือเธอออกอย่างรังเกียจแล้วเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ วารินแทน  เลขาหนุ่มรีบแก้ตัวให้แทบไม่ทัน
 

“ขอโทษนะครับพี่แน็ต บอสเขาไม่ชินกับคนแปลกหน้าน่ะครับ”
 

“ไม่เป็นไรจ๊ะ แบดๆแบบนี้พี่ชอบนักแหล่ะ หุหุ” เธอคว้าแขนวารินไว้แล้วบอกเบา ๆทำท่าทางเหมือนอยากให้รู้กันแค่สองคน กระซิบกระซาบทีเล่นทีจริง  “แล้วบอสน้องทรายคนเนี๊ยะ มีคนรู้ใจรึยังคะ คนแถวนี้พอจะมีสิทธิ์กันบ้างไหมเอ่ย”
 

“เสร็จแล้วหรือยัง!”


ขณะวารินกำลังทำหน้าไม่ถูกไม่รู้จะตอบคำถามเธอยังไง  จู่ ๆ เสียงทุ้มกระแทกกระทั้นจากธาราธารก็ดังขึ้น เขาเดินตามเข้ามายืนอยู่ข้าง ๆอีกครั้ง  สายตามองมือที่เกาะเกี่ยวแขนเล็กไว้อย่างไม่พอใจ วารินรีบชักแขนตัวเองออกมาทันที
 

“ไปกันได้แล้ว” เขาว่าเสียงเครียดแล้วเดินนำออกไป ยังไม่เท่านั้นยังลากแขนอีกข้างของวารินติดมือไปด้วย
 

วารินรีบบอกลาแนตตี้เจ้าของร้าน เห็นเธอเป็นแบบนั้นแต่เธอก็แค่ชอบพูดเล่น กินเด็กเป็นงานอดิเรกไม่มีอะไรแอบแฝงแค่อยากให้ลูกค้าตลกๆ      แต่ธาราธารไม่ได้ตลกไปกับเธอด้วย พอมาถึงรถเท่านั้น เขาเหวี่ยงคนตัวเล็กเข้าไปอย่างแรงจนทินกรถึงกับต้องหันดู วารินถึงกับเม้มปากรอฟังคำวีนแตกจากเขาแต่ผิดคาดพอขึ้นรถมาเขากลับเงียบ  เงียบไม่พูดจาอะไรอีกเลยไม่หันมองวารินและที่สำคัญหน้าตาหล่อเหลานั่นขึงขังเหมือนโกรธใครมาเป็นชาติ
 

“ทานนี่รองท้องก่อนนะ กว่างานจะเลิกคงจะดึกเดี๋ยวเราค่อยทานกันอีกที” วารินยื่นขนมปังส่งให้ เขาหันมองมาหน่อยเดียวแล้วเมินหน้าออกไปมองข้างทาง  วารินรู้ว่าทำเขาโกรธเข้าแล้ว คงไม่พอใจที่ให้คนมาแตะต้องเนื้อตัว โดยเฉพาะกับคนที่เขาไม่ได้รู้จักและไม่เต็มใจแบบนั้น
 

“พี่รู้ว่าธารไม่ชอบใจ แต่เดี๋ยวถึงงานแล้วฝืนยิ้มหน่อยก็แล้วกัน วันนี้มีนักข่าวมาทำข่าวด้วย คิวสัมภาษณ์ก็มีจากหนังสือหลายเล่มเลย  คงจะต้องมีการถ่ายรูปเยอะหน่อย พี่ขอร้องธารให้ความร่วมมือด้วยนะครับ”
 

“........” ไม่มีคำตอบอะไรส่งมาเขายังเลือกที่จะเงียบ ไม่แม้แต่จะหันมามองเสียด้วยซ้ำ วารินพูดอะไรด้วยก็ไม่ตอบ แม้แต่รอยยิ้มร้าย ๆ ที่เขาเคยทำเสมอก็ไม่มีให้มา


จนในที่สุดเขาก็ยอมเอ่ยปากออกมา แต่นั่นทำเอาวารินถึงกับขำพรืด


"พี่ไม่หวงผมหรือไง ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้มาลูบ ๆ คลำๆผมอยู่ได้ ผมไม่ชอบคนแบบนี้เลย เหมือนจะกระโจนจับผมยังไงไม่รู้ ผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวจริง ๆ "


"ธาร พี่แน๊ตตี้เขาไม่ใช่ผู้หญิงหรอกนะ นี่ธารดูไม่ออกจริงเหรอ?"


"รู้  แต่จะให้เรียกไงล่ะ เรียกเป็นผู้หญิงน่ะถูกแล้ว"


วารินหันมองบอสของเขายิ้ม ๆ ยื่นขนมปังในมือส่งให้อีกครั้ง คราวนี้เขารับไปกัดกินอย่างไม่อิดออด จนสักพักรถหรูเคลื่อนมาจอดลงที่หน้าล็อบบี้ทางเข้า ทั้งเขาและวารินเดินตามกันลงมา ดรอแมนเปิดประตูแล้วโค้งต่ำให้เขาสองคนอย่างสุภาพที่สุด  ชายหนุ่มรูปหล่อเรือนร่างสูงใหญ่ในชุดทักสิโด้เต็มยศกับเลขาหนุ่มรูปหล่อดูดีไม่แพ้กันเดินตีคู่กันเข้ามาที่ลิฟต์ก่อนพนักงานด้านในจะบริการกดขึ้นไปจอดลงที่ชั้นจัดงานเลี้ยงหรูหราของเหล่าบรรดาเซเลปดัง
 

 
เพียงแค่ประตูลิฟต์เปิดออกเท่านั้น
 
 

“ธาร!”
 


เสียงสดใสจากคนที่เดินผ่านมาด้านหน้าพอดีเรียกเข้าอย่างดัง ทั้งนายทั้งเลขาหันมองเป็นตาเดียว
 


ชนาธิป!
 


Tbc.

นี่เราเขียนมาเกือบสามสิบตอนแล้วเหรอเนี่ย ลืมสังเกต  กรรม T.T  มิน่าทำไมชักเริ่มหมดไฟ กำลังนั่งเขียนเอ็นซีตอนต่อไปมันฟิลลิ่งไม่มาเลย T.T T.T น้องธารฉันจะลีลาตกก็คราวนี้ล่ะ:katai1:

วันนี้มี Unseen-7(ทัตซี) เผื่ออยากอ่าน ตามไปที่เดิมนะจ๊ะ

หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 19-04-2014 23:12:03
 :z13: :z13: :z13:

ธารเป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบกว่าเดิมมาก ไม่อยากเชื่องานที่โรงแรมน่าปวดหัวขนาดนั้น ก็สามารถจัดสรรได้อย่างลงตัว
ดูเป็นมืออาชีพมากๆ คงเพราะมีพี่ธารคอยเป็นพี่เลี้ยงเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ ธารจึงได้มีแรงต่อสู้กับงานหนักได้ขนาดนี้
ภูมิใจแทนคุณภัทรจริงๆ อยากให้คุณภัทรหายป่วยเร็วๆ แล้วจะได้รู้ว่าลูกชายที่ไม่เคยเอาไหน บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นคนละคนแล้ว
ส่วนความหื่นนี่ไม่ลดลงเลยนะ สงสารพี่ทรายบ้างเหอะ ให้พี่ทรายได้พักบ้าง เข้าใจว่าอยู่ในวัยฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน
แต่ก็นะ เห็นมั้ยละ เดี๋ยวนี้พี่ทรายยอมอ่อนข้อซะที่ไหน มีขึ้นเสียง มีขู่ มีเหวี่ยงใส่ด้วยแหะ หรือว่าพี่ทรายจะเริ่มร้ายแล้ว อิอิ

น้องธิปตัวร้ายของเรื่องโผล่มาป่วนอีกแล้วนะ มันน่านักเชียว รอดูน้องธิปจะมาทำเรื่องอะไรอีก
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 19-04-2014 23:19:08
ชนาธิป มาแค่ชื่อก็ทำเราเบะปากได้ละ รู้สึกรำคาญนางมาก จะเป็นตัวสร้างความร้าวฉานทั้งแม่ทั้งลูกเลยใช่มั้ย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 19-04-2014 23:26:07
หวังว่าธารคงไม่โง่ปล่อยเรื่องชนาธิปให้บานปลายหรอกนะ ส่วนตอนนี้มันก็โอเคอยู่แล้ว
แต่คุณพ่อควรสะสางปัญหาได้แล้วนะ ไม่ใช่วิ่งหนีแล้วให้ทรายรับอยู่คนเดียว
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: kapooklook ที่ 19-04-2014 23:28:49
นุ้งธารมุ้งมิ้งง่า น่าร๊ากมากกกกกก
ชอบอ่าติดหวานแต่มาขมตรงตาชนาธิปเนี่ยมาไมหรา
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: janek_alo ที่ 19-04-2014 23:54:43
ลุ้นๆๆๆ  อยากเห็นพี่ทรายร้าย
ว่าแต่
ธารน่าสงสาร  อ้อนแล้วอ้อนอีกก็แป้ว
555 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 19-04-2014 23:55:48
อี๋ นังธิป สะตอออออออออ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-04-2014 00:34:53
เบื่อชนาธิปจริงๆ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 20-04-2014 00:35:14
 :o8:  อร๊ายยยย...น่ารักอ่ะ มุ้งมิ้งดีจัง
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 20-04-2014 00:35:48
โอ๊ย เกลียดนังธิป รีบสะแหลนมาเรียกเลยคงรออยู่สินะ แค่ได้ยินเสียงก็หงุดหงิดรำคาญแล้วเว้ย
ขำน้องธารโมโหที่พี่ทรายไม่หวงเอาซะเลย แล้วก็คิดหื่นกับพี่ทรายตะร๊อด ถึงขนาดถอดกล้อง เหอๆๆ
ทั้งรักทั้งหลงทั้งหวงสุดใจเลยนะ เยอะ พระเอกน่ะ แต่ก็น่ารักจัง เหมือนเอาพี่ทรายมาล่อให้ทำงานไงไม่รุ
แต่ฮีมีแรงบันดาลใจเยอะ บวกกับเป็นคนเก่งอยู่แล้ว ไปรุ่งเลย ชอบทรายตอนทำงานจัง ดูมีคุณค่าสมตัวหน่อย
คุณพระเอกเอาไปเก็บไว้ซะนาน

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 20-04-2014 00:36:48
ธิป นี่ยังไง  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 20-04-2014 02:05:32
เกลียดอิธิป มันมาแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 20-04-2014 02:07:10
 :mew1: ตอนนี้มายาวสะใจจริงๆ

ไม่น่าเชื่อว่าอิเด็กธารมันจะเทพขนาดนี้  o22
คือบริหาร กับ แพทย์ มันต่างกันมากเลยนะ ทั้งทักษะและเทคนิคเข้าสังคม หมอกับนักธุรกิจมันต่างกันมากจริงๆ
นี่หรือคือความเทพของธาร พี่ทรายเจอยังอึ้งเลย

อ่า่นตอนนี้แล้วแทบไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าที่ผ่านมามีดราม่า
คือเป็นตอนพักอารมณ์อย่างเหลือเชื่อ ช่วงแรกๆแลดูจริงจังดี ให้บรรยากาศเคร่งขรึม
ตอนธารสั่งงานถ้าเราเป็นเลขาเจอยังงี้คงอึ้งเหมือนกัน

 :jul1: อ๊ายยยยยยยยยยยย อิธารอิเนียน แต๊ะอั๋งตลอด พอเข้าใจตัวเอง ทำใจยอมรับได้แล้วเอาใหญ่เลยนะ
ลวนลามกันเข้าไป สบายใจอยู่คนเดียวแต่พี่ทรายไม่รู้ว่าแกให้อภัยขนาดไหนแล้ว
พี่ทรายยังเก็บไปคิดเล็กคิดน้อยอยู่เลยนะนั่น มีดราม่ากระตุกเล็กๆได้ใจจริงๆ
แต่ไอ้เรื่องพี่ทรายกับธาร เราว่าสักพักน่าจะมีคนสังเกตเห็นนะ มันแสดงออกชัดเหมือนกัน
เลขาอะไรกินข้าวกับนายบนห้อง ให้ถอดกล้องจากลิฟท์ส่วนตัว หวงพี่ทราย คอยลวนลามอีกต่างหาก


แอบคิดว่าฝ่ายจัดซื้อนี่จะแอบตลบหลังในอนาคตป่าวเนี่ย แลดูมีบทพอสมควรนะ
ส่วนดอกเข็ม ฉันขอโทษฉันมองเธอผิดไป

ธารมันแสดงตัวคล้ายๆว่าอยู่กับทรายอย่างนี้เรื่อยๆก็ไม่เป็นไร เหมือนมันคิดว่าปัญหาจบแล้ว
แต่สำหรับทรายมันเป็นการเพิ่มความเครียดกว่าเดิมอีกมั้ง ทั้งเรื่องงานและหัวใจ
คือยังไม่เรียบร้อยซักเรื่อง ว่าจะเป็นยังไงต่อ แต่เรื่องงานก็พอวางใจได้ แต่ก็ต้องดูนานๆอ่ะนะ ธุรกิจมันดูแป๊ปเดียวไม่ได้หรอก

ก่อนจบตอนดันมีชื่อ ธิป มาซะงั้น รู้สึกรำคาญมันแฮะ คราวนี้มาจะมาแหลหรือดราม่าอะไรใส่อีกล่ะ  :angry2:

ปอลิง : แอร๊ยยยยยยยยย  :m3: ช่างเป็น unseen ที่เลอค่ามาก
ทัตซีมาทีไรฟินกระจายนำกน้าคู่หลักสิบแปดหลุม ไอ้บรรยากาศที่เลยคำว่ามุ้งมิ้งไปแล้วนี่คืออะไร
จะบอกว่าเพื่อนไม่เชื่อเด็ดขาด อย่างน้อยต้องมากกว่าเพื่อนแน่นอน
พูดจายังกะสามีภรรยาที่อยู่กินมาตั้งนาน คู่นี้ไม่ต้องเอ็นซีก็ฟินกะจายแล้ว
สุดท้ายขอให้ได้คบกันเถอะ  :m5:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: janji ที่ 20-04-2014 02:36:11
หลงรักเรื่องนี้มากมาย  :mew1: :mew1: :mew1: :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 20-04-2014 06:34:01
หวานกำลังดี แต่เสียงสุดท้ายทำเอาหลอนเลย  :katai1:
มาทำไมเนี่ยธิป กลับบ้านไปกินนมนอนเลยไป :angry2:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 20-04-2014 08:12:47
^^
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 20-04-2014 09:32:35
นิยายเรื่องนี้สนุกมากครับ น่าติดตาม คนเขียนอย่าเพิ่งหมดไฟนะ คนอ่านรอคอยตอนใหม่อยู่ทุกวัน
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: buakaly ที่ 20-04-2014 10:32:38
 :katai2-1:


อ่า .......แบบว่า

คุณหนมปังกาแฟ ขอรับ
กระผมอยากอ่าน coz you ต่อ นะขอรับ
ช่วยลงต่อได้มั๊ยขอรับ
............
นะขอรับ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 20-04-2014 10:52:28
อร๊าย ตอนนี้มันน่ารักนะนัก ในมุมของคนทำงาน ธารนี่มันไม่เด็กน้อยนะ ทำงานเก่งนะเรา ไม่ธรรมดาทุกเรื่องจริงๆ

แต่สำหรับเรื่องอื่น เด็กน้อยว่ะ อ้อนตลอดเว คลุกวงในหม่ำเหมอ แกนี่มันติดพี่เลี้ยงจริงๆ ว่ะ ไหนตอนแรกๆ บอกว่าโตแล้ว ไม่เอาพี่เลี้ยงไงหา  :z1:

ชนาธิป เบื่อ ช่างเป็นคนที่น่าเบื่อจริงๆ แบบเหมือนเห็นหมามุ่ยอ่ะ ประมาณนั้น  :m16:

นักเขียนเก่งจริงๆ ดึงความรู้สึกเราได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: love AJ ที่ 20-04-2014 16:45:26
 o13 o13

น้องธารเก่งมากธิปนี่ขัดอารมณ์จริงๆ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 20-04-2014 20:17:16
ต้องบอกว่าตอนนี้ก็เป็นตอนที่หวานและฟินมากกกกกกขึ้นนนนนนนน :heaven

อีเด็กน้อยเริ่มไปทำงานแล้ว มาดผู้บริหารให้มากเลยอ่ะ นึกภาพออกเลยว่าใสสูทแล้วดูเป็นยังไง มันต้องแน่นเปรี้ยะ ฟิตแน่น รัดเป็นมัดๆแน่เลย ตูอยากเป็นทรายจังเบย  :haun4:

ต้องชมว่าธารปรับตัวได้เร็วดีมาก รู้จักเรียนรู้ได้ดี สนใจศึกษา ทักษะการพูดจาการวางตัว ทำเอาปลื้มมมมมม o13 ต้องยกความดีความชอบให้แม่ที่สอนอบรมมาอย่างดีถึงคุณลูกจะเอาแต่ใจแต่เพราะความรักก็ทำให้ธารทำเพื่อแม่ได้ :กอด1:  และอีกหนึ่งความรักและกำลังใจที่ไม่ชมไม่ได้ พี่ทรายยยยยย ของมันนั่นแหละ o13 ที่ทำตามสัญญาที่รับปากภัครไว้ว่าจะช่วยดูแลธารเป็นอย่างดี  ย้อนไปอ่านแล้วเพิ่งรู้สึกว่ามันเหมือนเป็นคำพูดที่เป็นลางว่าวันหนึ่งอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับตน แล้วธารจะไม่มีใครช่วยเหลือ  :เฮ้อ: ต้องบอกว่า ภัครไว้ใจทรายมาก ทรายไม่ทำให้คุณภัครผิดหวังจริงๆ เชื่อว่าวันหนึ่งถ้าภัครหายดีและรู้ถึงความสัมพันธ์ของธารกับทราย คิดว่า ภัครคงรับได้ไม่ยาก แต่อาจจะมีอุปสรรคนิดหนึ่งก็ได้ ตามประสาคนเป็นแม่ที่ต้องเลือกสิ่งที่ลูกมีความสุขก่อน ภัครอาจจะต้องพิสูจน์เชิงขัดขวางเพื่อทดสอบทั้งสองคนว่ารักกันจริงหรือแค่หลงทางไป เรามั่นใจในตัวธารนะ แต่กับทราย กลัวจะคิดเยอจังเลย ไม่ใช่ว่าทรายไม่รักธาร ก็เพราะรักเลยไม่อยากเป็นคนทำให้ธารและภัครเกิดปัญหาตามประสานิสัยทรายที่ต้องคิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง เพราะฉะนั้นธาร นอกจากงานราช งานหลวง รวมถึงงานบ้านที่แกทำกับพี่ทรายเป็นประจำด้วยความเชื่อมั่นว่า ตูหื่น เสียว เอาพี่ทรายแค่คนเดียวเท่านั้น แกต้องทำให้ทรายเชื่อมั่นในความรักที่มีให้อย่างแท้จริงด้วย ไม่ใช่แค่เพราะเป็นที่ระบายเหมือนที่ปากพูดออกไปไม่ตรงกับใจ พูดและทำซะ ว่ารักทรายมากจนไม่มีจะไปเหลือให้ใครแล้ว อย่าทำให้ทรายและฉันผิดหวัง ตูขอเอี่ยวด้วย จะได้เจี๊ยวทั้งวง  :jul3:

งานดี วางตัวดี ดีหมด รวมถึงไอ้เรื่อง  :pighaun: แกก็มากขึ้นตามลำดับ ห้องทำงานก็ไม่เว้น :haun4: อีเด็กนี่บอกขอลังใจหน่อย แรกๆกอดจูบลูบคลำขยำขยี้ สักพักอีเด็กนี่เริ่มขอออกกำลังแทนแล้ว  :oo1:  ไม่ได้กลัวอะไรเล๊ยยย อย่างนี้สิลูกผู้ชายตัวจริง ในลิฟท์เมิงก็ไม่เว้น สั่งคนถอดกล้องแม่งเลย แสดงว่ามันเป็นเด็กที่จริงจัง มุ่งมั่นสู่จุดหมายมั๊กมากๆ หายากนะคนแบบนี้ พูดจริงทำจริง พร้อมแสดงความรักได้ทุกสถานที่โดยไม่แคร์ใคร แค่มีพี่ทรายกับตัวมันเองทำได้หมด ทราย แกคว้าไว้เถอะ ฉันคอนเฟริม์ o18
  ถ้าไม่คิดว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นก่อนหน้า นับเป็นคู่รักที่น่าอิจฉามากกกกกกกก :hao5: ทั้งคู่รักกัน ปรึกษาหารือช่วยเหลือซึ่งกันและกันทุกเรื่อง ธารทำได้ดีมากจนทรายชื่นชมและแว่บหนึ่งก็อดสงสารธารที่ต้องมาแบกรับหน้าที่ใหญ่เกินวัย แค่เรื่องเรียนก็หนักพอแล้ว ทำให้ทรายโทษตัวเองอีก แต่ทั้งคู่ก็ดึงอารมณ์กลับมาได้ไว ชอบเวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันแบบเป็นตัวของตัวเอง ชอบธารที่อ้อนพี่ทราย งอนพี่ทรายที่ไม่หวงตัวเองให้คนอื่นมาจับตัว แหม่ๆ ทำตูอิจฉาที่เมิงรักนวลสงวนตัวให้เมียเกินไปแล้ว :serius2:  แต่ก็อดจะสงสารไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งทรายเดินจากไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ธารคงเจ็บปวดน่าดู ทรายก็เช่นกัน ก่อนถึงวันนั้น จัดเต็มฉากหวานและฉากหื่นนนนเต็มที่เลยนะ คนเขียน จะตุนเอาไว้รอมาม่าที่จะคืบคลานเข้ามาอีก :z1:

กำลังฟินอยู่ดี ๆ อีธิปเมิงมาทำไม อยากโดนพี่ทรายจัดมากชิมิ๊ ทะเร่อทะร่าวิ่งมาไม่ได้ดู ตูเป็นทรายจะเอาตีนยันให้ :z6: ถ้าเขามาใกล้ในอาณาเขตที่ทำไว้ อย่าได้ถอยจัดไปเลยพี่ทราย ธารด้วย จะยั่วจะอะไรก็ให้พอดีหน่อย อย่าให้มากนัก เอาแบบพี่ทรายออกอาการนิดๆแล้วกลับไปคิดทบต้นออกดอกที่บ้านหลายๆดอก :hao6: ส่วน อีธิปให้มันคันหน่อยๆ เพราะไม่มีใครเกาไข่ให้ก็พอนะ ถ้ามันค่อยขยับเราก็ขย้ำจัดเต็มทีเดียวเลย  o18 
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: taengoo ที่ 20-04-2014 21:28:34
วันนี้อัพมั้ยคะ
อัพเถอะนะๆๆ เค้ารออยู่ ><
อยากอ่านแล้วววว~
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 20-04-2014 23:07:28
 :เฮ้อ: เค้ากำลังหวานเเหววกันเเล้วเชียว ชนาธิปนี่เเสรนมาเเต่ไกลเชียว... ตะโกนซะอย่างกับหลงป่า! ให้ตายเถอะ

หวังว่าคราวนี้จะไม่เป็นอย่างคราวที่แล้ว ขอให้ได้เห็นด้านดีดีของเธอบ้างเถอะชนาธิป อย่าพยายามทำตัวตกต่ำเลย

ได้โปรด :z3: ทรายช่างน่ารักที่หัวเราะธาร แหมๆ... ก็คนมันน้อยใจ อยากให้หึงให้หวง เป็นธรรมดาของคนมีคนรัก

ธารหื่นนะ :z1: เผลอเป็นจับ กอด ลูบไล้ อยู่เรื่อย... ไม่เกรงใจสถานที่ไม่ว่า เพราะยังไงก็เป็นห้องทำงานส่วนตัวของ

ธาร แต่น่าจะพูดอะไรหวานหูหน่อยนะ ลวนลามแต่ไม่บอกรักบอกชอบหรือพูดอวยเลย ทรายน้อยใจนะนั่น คนปกติถ้า

เจอแบบนี้บ่อยๆยังต้องสงสัยเลยว่าเรามีความสำคัญต่อเขาอย่างไร แล้วกับทรายที่ธารเคยพูดร้ายๆในทางนี้อยู่ด้วยจะ

ไม่คิดมากได้อย่างไร... เข้าใจกันเเละกันเยอะๆหน่อยนะ อิอิ จะได้มีอะไรหวานๆ เปรี้ยวๆ โผล่มาให้กระชุ่มกระชวย

 :call: ขอให้ชนาธิปหยุดตัวเองเพื่อหยุดวงจรอุบาทว์ด้วยเถิด... ไม่ไหวอ่ะถ้าเป็นคนเเบบเเม่ของเขาจริงๆ แย่นะ แย่มากๆ

เป็นคนดีไม่ได้ เเต่ก็อย่าร้ายให้มันมาก อย่าทำตัวริษยาเป็นตัวบ่อนทำลายชีวิตคนอื่นเขา นรกมันอยู่ในใจตัวเองนะ ดูเเม่

ตัวเองเป็นตัวอย่างก็ท่าจะดี
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 21-04-2014 00:28:20
มันได้หลากหลายอารมณ์มากๆ อะ ยิ่งอ่านยิ่งชอบ แม้จะมีบางช่วงที่ขัดใจ แต่ก็ยังชอบบบบบ ^^
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 21-04-2014 01:21:58
พี่ทรายเก่งอ่ะ  ธารก็เก่งนะดูเหมือนจะออกแววเก่งกว่าอยู่แล้ว เพราะต่อไปต้องเป็นบอสเต็มตัวนี่เนาะ
โอ๊ยยยนังชนาธิป แค่ได้ยินเสียงเรียกธารก็แบบ :katai1:
รักคนแต่งมากมายอ่ะ รักเรื่องนี้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: ♥인사다소♥ ที่ 21-04-2014 04:23:44
ความสัมพันธ์ของทั้งสองกำลังไปได้ดีเลย อย่ามีเรื่องอะไรอีกเลยเน้อออ :m5:
บอส  :oo1: เลขา  :m3: อร๊างงง ฟินเด้อออ
ชอบเรื่องนี้มาก มาต่อเร็วๆนะจ๊าาาา :L2: เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 21-04-2014 16:46:32
ดีจัง สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
แต่กลัวใจพี่ทราย กลัวว่าเมื่อทุกอย่างไปได้ดี จะแอบคิดไปเองว่า หน้าที่ของพี่เลี้ยงสิ้นสุดลงแล้ว
น้องธารสู้ๆนะ เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องใช้เวลา ดีใจนะที่น้องธารให้โอกาสคนที่เรารัก ก่อนที่มันจะสายเกินไป

ปล. คิดถึงคุณพ่อและพี่ซี
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: Theznux ที่ 21-04-2014 17:33:21
อนุญาตให้พี่ทรายโหดกับชนาธิปหนักๆเลยนะ
55555 ฉันหมั่นไส้นางจัง ..

หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [19/04/57] At Your Side
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 21-04-2014 20:14:02
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 21-04-2014 23:37:34

บทที่ 30  I’m Your
 


เมื่อรถหรูคันใหญ่มาจอดลงที่หน้าล็อบบี้ทางเข้า ทั้งเขาและวารินเดินตามกันลงมา ดรอแมนเปิดประตูแล้วโค้งต่ำให้เขาสองคนอย่างสุภาพ ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อเรือนร่างสูงใหญ่ในชุดสูททักสิโด้เต็มยศกับเลขาหนุ่มที่ดูดีไม่แพ้กันเดินตีคู่กันเข้ามาที่ลิฟต์แก้วสวยก่อนพนักงานภายในจะกดนำขึ้นไปจอดลงที่ชั้นจัดงานเลี้ยงหรูหราของเหล่าบรรดาเซเลปดังชั้นนำของเมืองไทย
 

เพียงแค่ประตูลิฟต์เปิดออกเท่านั้น

 
“ธาร!”
 

เสียงสดใสจากคนที่ช่างบังเอิญเดินผ่านมาพอดีเรียกเข้าอย่างดัง ทั้งนายทั้งเลขาหันมองเป็นตาเดียว
 

ชนาธิป!
 

“ว่าแล้วธิปต้องเจอธารที่นี่ เห็นรายชื่อตั้งแต่คุณเลขาเขาจัดส่งมาแล้ว”
 

ไหล่เล็กเบียดเข้าชิดเดินตีคู่กับธาราธารอย่างถือวิสาสะ ชนาธิปตวัดหางตามองวารินแวบหนึ่ง แต่ไม่มีการทักทายใดๆ  ขณะที่เลขาสาวของอีกฝ่ายเดินเข้ามาค้อมหัวลงให้วารินอย่างสุภาพ เขาสองคนเดินตามหลังประธานหนุ่มใหม่ไฟแรง 2 ขั้ว ทายาทกลุ่มเงินทุนใหญ่ชื่อดังในวงการธุรกิจ
 

เมื่อเข้ามาถึงด้านในเป็นหน้าที่ของเลขา ที่ต้องแนะนำเจ้านายของตนเองให้ทักทายบรรดาชนชั้นหรูหรา
 

“เดี๋ยวผมจะแนะนำคนสำคัญท่านหนึ่งให้บอสรู้จักไว้นะครับ ว่ากันว่าท่านจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อโปรโมทลูกชายที่เพิ่งจะกลับจากนอกโดยเฉพาะ” วารินเร่งฝีเท้าเดินตีคู่ขึ้นมากระตุกแขนเสื้อนอกของเจ้านายตนแล้วเขย่งกระซิบดึงธาราธารให้เดินไปกับตัวเอง
 

“ขอโทษนะครับคุณชนาธิป ผมต้องขอตัวบอส ‘ของผม’ สักครู่”
 

วารินตั้งใจเน้นคำว่า ‘ของผม’ ลงไปแบบชัด ๆ ปรายสายตา ยกยิ้มมุมปากนิด ๆ  ชนาธิปมองหน้าวารินนิ่งสายตาแฝงไว้ด้วยความนัยมากมาย ค่อยปล่อยมือที่เกาะแขนธาราธารออกช้า ๆ
 

“เชิญครับ  ผมเองก็มีคิวต้องไปแนะนำตัวกับท่านอื่น ๆ เหมือนกับธารเขาเหมือนกัน ก็เราตำแหน่งสูงพอๆกันนี่เนอะธาร” ว่าจบแล้วก็เดินแยกไปอีกทาง
 

ขณะที่วารินเดินนำบอสหนุ่มไปหาชายสูงวัยดูภูมิฐานมากท่านหนึ่ง  ที่ข้าง ๆ กันมีชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างสูงใหญ่ ดูเหมือนจะสูงเท่า ๆ กับธาราธารยืนทักทายแขกเหรื่ออยู่อย่างสุภาพ
 

“บอสครับ นี่ทนายศักดิ์ดา เจ้าของบริษัทที่ดูแลผลประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจ CR ของเราครับ ท่านเป็นประธานการจัดงานครั้งนี้”
 

“สวัสดีครับ ผมธาราธาร จาก CR กรุ๊ป ครับ”
 

“ไหว้พระเถอะลูกไหว้พระ  ตั้งแต่ไปเยี่ยมคุณภัครคราวนั้นยังไม่มีโอกาสได้ไปอีกเลย ผมเป็นเกียรติมาเลยนะที่คุณธารยอมมาร่วมงานครั้งนี้ รู้จักกันไว้ นี่ ‘ปวีย์’  ลูกชายของผมเอง ต่อไปพี่วีเขาจะเข้ามาดูแลกลุ่มธุรกิจของคุณธารแทนลุงแล้วนะ ไว้ใจเขาได้เมื่อก่อนก็เป็นอัยการเหมือนกับลุงนี่แหละ กว่าจะบังคับให้ลาออกมาช่วยงานที่บริษัทได้ ต้องขอร้องกันอยู่นานเลย” 
 

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณธาราธาร” ปวีย์ส่งยิ้ม ยื่นมือมาขอเชคแฮนด์ ธาราธารจึงยื่นออกไปจับอย่างสุภาพเช่นกัน
 

“เช่นกันครับคุณปวีย์” เขาตอบไปตามมารยาท ส่งยิ้มการค้าออกไป
 

“เรียกผมพี่วีก็ได้นะครับ น้องธาร”


ทันทีที่คำว่า ‘น้องธาร’ หลุดออกมาจากปาก ธาราธารตวัดสายตาขึ้นมองเขาทันที แต่ปวีย์ยังทำเฉยคล้ายมองไม่เห็นกิริยานั้นของอีกคน
 

“ดีๆ คนหนุ่ม ๆ สนิทสนมกันไว้ดีแล้ว ต่อไปคงต้องติดต่องานกันบ่อย  เด็กหนุ่มยังไงก็คุยกันเข้าใจง่ายกว่าคนแก่ ๆ เยอะ”
 

ชายสูงวัยว่าแล้วเดินยิ้มเลี่ยงออกไป ปล่อยให้เด็กหนุ่มสองคนคุยกัน วารินเองก็ถอยห่างออกมาหน่อยเพื่อให้เจ้านายของเขาได้คุยเป็นการส่วนตัว ปวีย์ค่อนข้างมีความสำคัญ เขาจะเข้าดูแลผลประโยชน์ให้กับบริษัทในสายธุรกิจที่หลากหลาย หากธาราธารรู้จักมักคุ้นไว้บ้างคงจะดีกว่า
 

“คุณธารนี่ตัวสูงนะครับ สูงกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก ผมคิดว่าตัวเองสูงมากๆแล้วคุณธารนี่เกือบ ๆ จะเท่ากับผมเลยนะ” ปวีย์ใช้ประโยคง่าย ๆ เริ่มต้นบทสนทนา เขาทำท่าคล้ายรู้จักธาราธารมาก่อน
 

“เคยเห็นตามแมกกาซีนในแวดวงน่ะครับ  ว่าที่คุณหมอหนุ่มทายาทคนเดียวของ CR กรุ๊ป หน้าตารูปร่างงดงามหมดจด คุณดังมากเลยนี่”
 

“ผมเป็นผู้ชายครับ ถ้าจะชมกรุณาใช้คำให้ถูกต้องด้วย ‘งดงามหมดจด’ นั่นคุณเก็บไว้ใช้กับผู้หญิงน่าจะดีกว่า”
 

“ขอโทษทีครับ แต่ผมกลับมีความรู้สึกตามที่พูดจริง ๆ  ถ้าทำคุณไม่พอใจต้องขอโทษด้วยจริง ๆ”
 

เขายิ้มให้อย่างแพรวพราว  ขณะที่ธาราธารมองเขาอย่างครุ่นคิดในใจ รู้สึกไม่ถูกชะตาเอาเสียเลย สายตาที่เหมือนพวกเสือกำลังล่าเหยื่อแบบนั้นไม่รู้มาทำอาชีพทนายความได้อย่างไร
 

“คุณเป็นทนายความ?”
 

“ใช่ครับ เมื่อก่อนผมเป็นอัยการ ตอนนี้ลาออกมาช่วยงานที่บริษัทเต็มตัวแล้ว คุณธารไม่ต้องห่วงนะกลุ่ม CRของคุณ ผมดูแลผลประโยชน์ให้เต็มที่อยู่แล้ว ฝากตัวด้วยนะครับ”
 

ธาราธารไม่ชอบสายตาเจ้าเล่ห์และคำพูดแปลกๆแบบนั้น  พอคุยกันต่ออีกสักพักจึงเลี่ยงออกมาหาวาริน  เลขาคนเก่งจึงเริ่มทยอยแนะนำบอสคนใหม่ให้คนสำคัญทางธุรกิจแต่ละท่านได้รู้จักไว้อย่างคร่าว ๆ ธาราธารทำหน้าที่ได้ดีมากทีเดียว เขาดูนอบน้อมไปพร้อม ๆ กับความน่าเชื่อถือของท่าทีที่มีอยู่ภายในตัวยิ่งเขาเรียนหมอจึงยิ่งเป็นที่กล่าวถึง  นักข่าวจากหนังสือพิมพ์และนิตยสารชั้นนำต่างทยอยเข้ามาขอสัมภาษณ์ ขณะที่ชนาธิปเองก็ไม่แตกต่าง
 

มีการถ่ายรูปร่วมกันระหว่างบรรดานักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง ซึ่งธาราธาร  ชนาธิป และปวีย์ ดูโดดเด่นมากกว่าคนอื่น ๆอย่างเห็นได้ชัด  พวกเขาจึงถูกขอถ่ายรูปกันมากหน่อย รวมถึงบทสัมภาษณ์ที่จ่อคิวรอกันหลายสำนัก  จนวารินที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ อดที่จะปลื้มใจแทนภัครจิราเจ้านายเก่าของเขาไม่ได้
 

ทั้งสื่อสปอตทั้งแฟลตที่สะท้อนออกมา ต่างโฟกัสเข้าที่เจ้านายของเขาทั้งนั้น
 
 

....โตขึ้นอีกก้าวแล้วสินะ....โตขึ้นมากจริงๆ.....
 
 


“ทราย” วารินสะดุ้งนิดหน่อยเพราะมัวแต่โฟกัสไปที่เจ้านายของตนเอง เมื่อจู่ ๆ มีคนพูดขึ้นใกล้ ๆเขาจึงดูตกใจเล็กน้อย
 

“โทษที  ฟางทำทรายตกใจเหรอ”
 

“ฟาง?”
 

“ใช่ค่ะ  ทรายจำฟางไม่ได้จริงๆ หรือเนี่ย มิน่าแหละตอนเจอกันที่หน้าลิฟต์ทรายเฉยเชียว ไม่ยิ้มให้ฟางเลย”
 

วารินพิจารณาคนข้างๆเขาอีกหนอย่างอึ้ง ๆ  นี่เขาความจำสั้นขนาดลืมหน้าผู้หญิงที่เขาเคยชอบตั้งแต่สมัยเรียนไปได้ยังไงกันนะ ผู้หญิงคนเดียวที่ทำเอาเขาต้องถ่อไปขอเบอร์เธอถึงหน้าคณะ
 

“ขอโทษครับฟาง ผมไม่ทันได้มองจริง ๆ”
 

“ทรายเป็นเลขาอยู่ที่ CR เหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
 

“ครับใช่  เป็นตั้งแต่จบมาเลย  แล้วฟางอ่ะ เป็นไงมาไงถึงได้ทำงานเป็นเลขาคุณชนาธิปได้”
 

“ทำไมล่ะแปลกเหรอ ฟางจบครุศาสตร์อิ้ง ฟางมาเป็นเลขาไม่เห็นแปลก ว่าแต่ทรายเหอะจบวิศวคอมไหงมาเป็นเลขาได้ล่ะเนี่ย”
 

เธอว่าแล้วยิ้มกว้างส่งให้ท่าทางคุยจ้อดีใจสุดขีดเมื่อได้เจอคนเคยรู้จักกัน  วารินถึงกับหน้าขึ้นสีเมื่อโดนแซวกลับแบบนั้น อดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงเรื่องราวเมื่อนานมาแล้วตอนเขาพยายามเข้าใกล้เธอ เคยเดทกันด้วยหนึ่งครั้งแต่ก้เหมือนไม่ได้เดทเพราะเธอปฏิเสธเขาทันทีแถมทำท่าทีรู้ทันจนเขาอายมากต้องเป็นฝ่ายล่าถอยออกไปเหตุเพราะเธอดักเขาได้ทุกทาง
 

“คิคิ อายแล้วหน้านี่แดงไปหมด  ทรายไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ นะ”
 

วารินอมยิ้มอายจนหน้าซับสีแดงระเรื่อจริงอย่างเธอว่า ทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ได้มาเจอคนที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอ สิบสองสิบสามปีที่ไม่ได้เจอกันเลย ฟางยังคงสวยน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
 

“แล้วฟางแต่งงานยังอ่ะ” ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาถามเธอออกไปแบบนั้น
 

“ยังเลย...รอทรายนี่ไง”
 

“เฮ้ย!”
 

“ล้อเล่นนนนน” เธอแก้ตัวแทบไม่ทันเมื่อวารินอุทานเฮ้ยออกมาอย่างดัง
 

“อย่าไปพูดเรื่องแต่งงานเล้ย  ฟางคิดว่าจะไม่แต่งหรอกฟางอยากทำงานมากกว่า มีแฟนก็เหมือนมีห่วงผูกคอน่ารำคาญออก”
 

ฟางข้าวเปลี่ยนไปมากจริง ๆ เมื่อก่อนเธอฮอตมากควงผู้ชายไม่เคยซ้ำหน้า ไม่เคยได้ว่างจากคำว่า ‘มีแฟนแล้วค่ะ’ พอมาถึงตอนนี้เธอกลับบอกเขาว่าจะไม่แต่งงานซะงั้น
 

“ดูโน่นสิ เจ้านายของพวกเราโดนสื่อโฟกัสซะขนาดนั้น คุณธิปเจ้านายของฟางยังยิ้มอยู่เลยนะ แต่ดูคุณธาราธารเจ้านายทรายสิ มองมาทางนี้เป็นรอบที่สิบแล้วมั้ง  หน้าหล่อๆนี่เริ่มไปแล้วนะทราย  ไม่เข้าไปดูบอสทรายหน่อยเหรอ”
 

วารินหันมองธาราธารทันที่ที่ฟางข้าวพูด ธาราธารหน้าหงิกแล้วจริง ๆ มองมาทางเขาตาเขียวเลย วารินรีบเดินเข้าไปหาทันที ธาราธารตวัดสายตามองถามเสียงเข้ม
 

“ใคร? ผู้หญิงคนนั้น”
 

“เพื่อนเก่าน่ะ  บังเอิญมากเลย เขาเป็นเลขาของคุณชนาธิป จวนจะเสร็จแล้วล่ะธารอดทนอีกหน่อยนะ” วารินพูดเสียงเบา ส่งสายตาให้กำลังใจเขาเพราะคิดว่าที่เจ้านายตนเองหน้าบูดเป็นเพราะรำคาญกับการต้องโดนถาม โดนถ่ายรูปแบบไร้กำหนดแบบนี้
 

“อยู่แถวนี้ ข้าง ๆ ผม” เขาว่าแล้วเริ่มต้นให้สัมภาษณ์นิตยสารอีกเล่มต่อ หลังจากช่วงพักเบรก หน้าตายังบูดบึ้งไม่เปลี่ยน
 

“ธารยิ้มหน่อยสิ ทำหน้าดี ๆ นะ” วารินกระซิบลงอีกครั้งแล้วเลี่ยงออกมายืนอยู่ไม่ไกลนัก ชนาธิปที่หมดคิวสัมภาษณ์ก่อนจึงเดินเข้ามาหาใกล้ ๆ
 

“เพิ่งรู้นะครับว่าพี่รู้จักกับคุณฟางข้าวด้วย เห็นคุยกันสนิทสนม”
 

“เพื่อนเก่าน่ะครับ ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยโน่นแหละ”
 

“ดูเหมาะสมกันดีนะครับ คุณฟางเองก็ยังโสด เดี๋ยวผมติดต่อให้พี่ทรายเลยดีไหมนะ” เขาว่าแล้วยิ้มให้อย่างใสซื่อ
 

“เราเป็นเพื่อนกันน่ะครับ”
 

“แหม ไม่เห็นต้องอายเลยครับ"
 

ชนาธิปทำหน้าไร้เดียงสาสุด ๆ พูดคุยกับวารินสักพักก็เดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ ธาราธารที่กำลังถูกชักภาพถ่ายรูปในอิริยาบทต่าง ๆ อยู่
 

เสียงสื่อเซ็งแซ่เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาสองคนเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน ชนาธิปจึงชิงตอบ  “ผมกับธารค่อนข้างสนิทกัน เรารู้จักกันตั้งแต่วันปฐมนิเทศเลยล่ะครับ”
 

“ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่เราจะได้เห็นกลุ่มเงินทุนใหญ่สองกลุ่มร่วมจับมือกันในอนาคตคงมีความเป็นไปได้สูงน่ะสิคะ” นักข่าวสาวยังสัมภาษณ์ต่อ
 

“แน่นอนครับ ในอนาคตผมกับธารจะยังคงรักษามิตรภาพดีๆอย่างนี้ไว้แน่นอน” ชนาธิปตอบรับขณะที่ธาราธารยังนั่งเฉย  ปวีย์ที่เพิ่งจบจากบทสัมภาษณ์หนังสือเล่มดัง เดินเข้ามาใกล้หย่อนก้นนั่งลงข้าง ๆ   เขาสามคนถ่ายรูปร่วมกันอีกไม่กี่ช็อต พวกสื่อก็หมดคิวสัมภาษณ์ลงพอดี
 

“เหนื่อยหน่อยนะครับธาร เหนื่อยหน่อยนะธิป” ปวีย์พูดขึ้นอย่างเป็นกันเอง
 

“ไม่เป็นไรพี่วี ผมเต็มใจ” ชนาธิปยิ้มกว้างเบียดตัวเข้าหาธาราธารอย่างไม่สนใจใครจะมอง  ธาราธารขยับออกนิดหน่อยอย่างรำคาญ ตัวเขาจึงเบียดเข้าหาปวีย์อย่างช่วยไม่ได้  ปวีย์ตัวสูงใหญ่พอกันกับเขาเพราะอย่างนั้นตอนนี้โซฟาที่ทั้งสามคนนั่งจึงดูแคบลงไปถนัดตา ธาราธารนึกรำคาญจึงลุกขึ้นขอตัว บอกจะไปเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมาได้เขาหันหาวารินทันที กะจะให้เดินออกไปพร้อมกัน แต่ดันเห็นเลขาตัวเองยืนคุยอยู่กับเลขาสาวของชนาธิปเสียนี่  ธาราธารหัวเสียขึ้นมาอีกแล้ว
 

“เดี๋ยวพี่วีไปเป็นเพื่อนก็ได้ครับ ห้องน้ำอยู่ตรงนี้เอง  ปล่อยคุณเลขาบ้างเถอะนะ”
 

เสียงปวีย์ดังขึ้นด้านหลัง ธาราธารหันมองแต่ไม่สนใจ เขาเดินเลี่ยงออกไปทันที ปวีย์รีบเดินตาม ขณะที่ชนาธิปเองเดินเข้าไปหาวารินอีกครั้งอย่างตั้งใจ
 

“คุณฟาง ผมอยากได้ขนมเค้กที่ขายอยู่ชั้นล่างไปฝากคนที่บ้านสักหน่อย รบกวนคุณลงไปซื้อให้ผมด้วยนะ”
 

ฟางข้าวรับคำแล้วเดินแยกออกไปโบกมือให้วาริน  ขณะที่วารินกวาดตามองหาบอสตัวเองแต่ไม่เจอ
 

“ปล่อยธารเขาบ้างเถอะครับ บางทีอาจกำลังคุยธุระอยู่ก็ได้ เขาไม่หายไปไหนหรอก รายนี้ถ้าไม่สนิทจริง ๆ อย่าหวังว่าเขาจะคุยด้วยนาน ขี้เบื่อง่ายจะตาย”
 

ชนาธิปพยายามจะสื่อให้รู้ว่าเขาสนิทและรู้จักนิสัยธาราธารดี แต่วารินไม่อยากต่อบทสนทนาอีก จึงบอกขอตัว
 

“พี่ทรายครับ”  ชนาธิปเรียกขึ้นวารินที่กำลังจะเดินไปอยู่แล้วจึงหันกลับมามอง คนตัวเล็กกว่าเดินเข้าหาใกล้ ๆ  ตั้งใจพูดถ้อยคำบางอย่างให้เขาได้ฟัง
 

“คืนนั้น...ที่เราค้างด้วยกัน ธารเขาเมามากจริง ๆ พี่ทรายอย่าตำหนิเขาเลยนะครับ ตอนเช้าพอที่บ้านโทรมาว่าคุณแม่เข้าโรงพยาบาลเขาร้อนใจมาก จนธิปไม่อยากปล่อยให้เขาขับรถมาคนเดียว เห็นว่าเหนื่อยมาทั้งคืนเลยต้องนั่งรถมาเป็นเพื่อน กลัวเขาจะง่วงแล้วเผลอหลับน่ะครับ”
 

“อ้อ...เหรอครับ ผมก็ไม่ได้ตำหนิอะไรเขานะ”
 

“ขอบคุณนะครับที่พี่ทรายเข้าใจพวกเรา พูดแล้วก็รู้สึกอายแต่ธารเขาเร่าร้อนมากเลยนะครับ เวลาที่เขาเมาแบบนั้น”
 

ชนาธิปอมยิ้มก้มหน้าที่ขึ้นสีลงนิด ๆ เม้มปากอย่างเอียงอายเมื่อพูดถึงทีท่าที่เร่าร้อนแบบนั้นของอีกคน
 

“ธิปรู้ว่าพี่ทรายคงจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างผมกับเขา พี่ทรายเป็นเลขาคนสนิทของธาร เขาคงจะเล่าทุกเรื่องให้พี่ฟังใช่ไหมครับ”
 

วารินเริ่มแสดงสีหน้าอึดอัดไม่เข้าใจชนาธิปจะมาพูดเรื่องแบบนี้ให้เขาฟังทำไม  ขณะกำลังจะเอ่ยปากขอตัวอีกครั้ง  เป็นชนาธิปที่พูดแทรกขึ้นอีก
 

“ธิปไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าธารเป็นผู้ชายที่ใจดีแล้วก็จูบเก่งมาก เห็นเขาเย็นชาแบบนั้นแต่เวลาจูบนี่ ธิประทวยไปกับอ้อมกอดของเขาเลยนะครับ  ขนาดสร้อยที่ใส่ติดคอตัวเองมาตลอดยังยอมยกให้ธิปง่าย ๆ  ธิปต้องขอบคุณพี่ทรายจริง ๆ นะครับที่ช่วยดูแลธารได้ดีขนาดนี้ อ้อมกอดของเขาอุ่นมากๆ  พอดีวันนั้นธิปมีเรื่องไม่สบายใจ ธารใจดีกับธิปมาก เราสองคนนอนกอดกันตลอดทั้งคืนเลย”
 

วารินไม่อยากจะเชื่อว่าชนาธิปจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมา
 

“อุ้ย ขอโทษนะครับ ปกติธิปไม่ใช่คนที่จะมาพูดจาอะไรแบบนี้นะ แต่เห็นว่าธารติดพี่ทรายมาก เขาเคยบอกว่าพี่ทรายเป็นพี่ชายของเขา คงจะรักพี่เหมือนพี่ชายแท้ ๆ น่ะครับ ลูกคนเดียวก็แบบนี้แหละโหยหาอยากได้พี่ชาย  ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่ช่วยดูแลธาร”
 

“จะขอบคุณทำไมครับ หน้าที่ดูแลคุณธารเป็นหน้าที่ของพี่โดยถูกต้องอยู่แล้วคุณแม่เขาถึงขนาด-มอบ- ให้ผมเป็นคนดูแล ความจริงกรณีอย่างคุณชนาธิปนี่เกิดบ่อยนะครับ ผมโดนเด็กในสต๊อกของเขาร้องเรียนมาบ่อยเลย  เดี๋ยวผู้หญิงคนโน้น เดี๋ยวผู้ชายคนนี้ ธารเขาเสน่ห์แรงน่ะครับ ใคร ๆ ก็อยากใกล้ชิดเขาทั้งนั้น”
 

“รวมทั้งพี่ด้วยใช่ไหมครับ” ชนาธิปสวน
 

“สำหรับผมคงไม่ต้องพยายามหรอกครับ เพราะธารเขามักจะเข้าหาก่อนทุกครั้งอยู่แล้ว  คุณก็บอกเองนี่ว่าธารเขา ‘ติด’ ผมมาก คุณชนาธิปเข้าใจได้ถูกต้องแล้วล่ะครับ  เด็กคนนี้แปลก เลือก ‘ติด’ แต่ของดี ๆ ซะด้วย ของที่เป็นแค่ทางผ่านแวะชิมนิดชิมหน่อยเขาก็เบื่อแล้วล่ะครับ คุณก็บอกเองนะว่าเขาเป็นคนเบื่อง่ายนี่   ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว”
 

วารินว่าแล้วเดินแยกออกมาทันทีปล่อยให้ชนาธิปคำรามเสียงต่ำอยู่ในลำคออย่างอัดอั้น เขาไม่ได้หันไปดูหรอกนะว่าเจ้านายของฟางข้าวเพื่อนเก่าของเขาขยี้เท้าไม่ได้ดั่งใจด้วยรึเปล่า แต่ไหน ๆ ก็ได้ตอกกลับไปแล้วต้องเอาให้เจ็บกันไปเลย
 

.
 


“ห้องน้ำอยู่นี่ครับ น้องธารจะเดินไปถึงไหนน่ะ” ปวีย์ดึงแขนเสื้อธาราธารไว้เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินเลยออกไป 
 

“เลิกเรียกผมแบบนั้น  ผมไปเป็นน้องคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วนี่ทำไมต้องพามาไกลขนาดนี้ห้องน้ำแถวนั้นไม่มีหรือยังไง”
 

“แถวนั้นคนเยอะพลุกพล่านไม่ติดระเบียงนี่ครับ ตรงนี้วิวสวยเป็นส่วนตัว จบงานแล้วเราแวะนั่งฟังเพลงที่เลาจน์ที่นี่ก็ดีนะ เขาเปิดเพลงเพราะนะครับ”
 

ธาราธารส่ายหน้าอย่างรำคาญเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำทำธุระครู่เดียวก็เดินออกมา ปวีย์ยังคงยืนรออยู่ที่เดิม
 

“จะทำอะไร!” เขาถามเสียงเครียดเมื่อโดนปวีย์ดักทางไม่ให้ออกจากห้องน้ำได้
 

“ต่อไปพี่คงต้องติดต่องานกับน้องธารบ่อย นี่เบอร์โทรศัพท์พี่นะครับ” เขาว่าแล้วก้าวเข้าหาทันที ธาราธารจึงต้องถอยอัตโนมัติ
 

“ขอเบอร์ส่วนตัวของน้องธารจะได้ไหม” ขาธาราธารชนขอบเคาน์เตอร์พอดี ขณะที่อีกฝ่ายยังก้าวเข้ามาไม่ยอมหยุด ธาราธารมองหน้าเขานิ่งเอนตัวหนี  วิธีการรุกเข้ามาแบบนี้มันเหมือนกับฝ่ายชายทำกับฝ่ายหญิงไม่มีผิด เจ้าทนายคนนี้เป็นเกย์งั้นหรือ?
 

“เป็นเหรอ?” ธาราธารถามสั้น ๆ มองตาสื่อความนัยน์ถึงเรื่องที่ถาม ขณะที่มือยกขึ้นดันหน้าอกเขาไว้ เมื่อเขายังเดินหน้าเข้าหาไม่หยุด
 

“เราสองคนก็เหมือนกันนี่” ปวีย์ตอบกลับมา นัยน์ตาคมกริบหรี่บอกเป็นนัยน์ๆ ‘ได้ทั้งหญิงทั้งชายเหมือนกัน’
 

“ผมไม่มีรสนิยมแบบคุณ ถอยไป” ธาราธารผลักทีเดียวเขากระเด็นออกไปทันที
 

“แล้วมีรสนิยมแบบไหน อย่าบอกว่าแบบเลขาหน้าจืดนั่นนะ”
 

“เงียบ! ถ้าไม่อยากเจ็บตัวถอยไปให้ห่าง คุณไม่มีสิทธิ์พูดดูถูกใครทั้งนั้น”
 

“นี่ขนาดโมโหก็ยังสวยเลยนะ”
 

ผั๊วะ!!!!
 

“ไอ้เหี้ย  กูเป็นผู้ชายเรียกสวยอยู่ได้ มึงรู้ไหมว่ากูรำคาญ”
 

ธาราธารขึ้นสุดขีดสบถคำหยาบไม่สนใจใครหน้าไหนแล้ว ซัดปากปวีย์เข้าอย่างแรง  เนื่องจากมือที่เริ่มอยู่ไม่สุขของอีกฝ่ายเริ่มลามปามมาแถวๆสาบเสื้อสูทของเขา   ปวีย์เซลงที่พื้นทันที หมัดธาราธารไม่เบาเลย เขาสองคนตัวสูงใหญ่พอ ๆ กัน ปวีย์ที่ล้มลงไปเงยหน้ามองธาราธารแล้วยิ้มยั่ว
 

“สวยแล้วยังดุอีกด้วย น่าสนใจจริงๆ” เขายกมือลูบคางเดาะลิ้นดุนดันกระพุ้งแก้มรับรสเลือดฝาด
 

“หลีกไป!” ธารก้าวเท้าข้ามท่อนขายาวแข็งแรงที่ขวางทางไว้แล้วเลี้ยวหายออกไปอย่างหัวเสีย  ปวีย์ลุกขึ้นมองตามตาวาว ในมือกำไอโฟนสีดำของใครบางคนบีบไว้แน่น


.
.

 
“คุยกับใคร  เสร็จหรือยัง กลับได้แล้วใช่ไหม”  เขาเดินมาถึงตรงที่วารินยืนคุยโทรศัพท์อยู่พอดี ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
 

“ธารไปไหนมา พี่หาเราตั้งนาน  นี่ก็โทรหาอยู่”
 

ธาราธารรีบจับดูที่กระเป๋าเสื้อสูท โทรศัพท์เขาไม่อยู่กับตัวแล้ว นึกไปถึงเรื่องเมื่อสักครู่  คิดว่าเจ้าทนายโรคจิตนั่นคงหยิบไปตอนเขาเผลอแน่
 

“กลับเถอะ”
 

เขาว่าตัดบท แล้วเขากับวารินก็เดินตามกันออกมา แขกเหรื่อบางตาลงมาก วารินพาบอสของตัวเองไปบอกลาคนสำคัญบางท่านก่อนจะขอตัวกลับ
 

“แล้วเจอกันอีกนะครับ คุณธาร!” ปวีย์ว่ายิ้ม ๆ แล้วยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้ ธาราธารคว้าเอาไว้อย่างแรง พร้อมดึงแขนวารินให้เดินออกไปด้วยกันทันที
 

“ธารใจเย็น ๆ ช้า ๆก็ได้ หิวอะไรไหม กินเค้กรึเปล่า” วารินที่ไม่ได้รู้เรื่องราวระหว่างปวีย์กับธาราธารถามขึ้น
 

“ไม่อ่ะ  รีบกลับเถอะ ผมง่วงแล้ว” เขาว่าพร้อมก้าวเดินออกไป ขณะที่ทินกรขับรถเข้ามาจอดเทียบรออยู่แล้วอย่างรู้งาน ไม่นานนักรถหรูคันใหญ่ก็มาหยุดลงที่หน้าคฤหาสน์หลังงาม วารินก้าวตามหลังเขาลงมา
 

“เดี๋ยวขึ้นมานอนกับผมนะ ขี้เกียจลงไปนอนข้างล่าง ร้อน”
 

เขาว่าแล้วเดินเข้าบ้าน ขณะที่มือขยับถอดโบว์ของทักสิโด้ที่สวมอยู่ออก ปลดกระดุมที่รัดแน่นไปทุกส่วนสัดออกเพื่อความสบาย
 

“ไม่เอาหรอก ธารนอนไปเถอะ พี่เหนื่อยแล้วอยากพักผ่อนเหมือนกัน”
 

“พี่ทราย” ทันทีที่วารินพูดจบแล้วทำท่าจะเดินแยกไปหลังบ้าน เขาเรียกไว้ทันที เสื้อนอกถูกโยนโครมลงบนโซฟาอย่างไม่สนใจ
 

“จะให้ผมลงไปนอนด้วยงั้นใช่ไหม” เขาเดินหน้าเข้าหา ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ข้อมือ
 

“ม..ไม่ใช่แบบนั้น คือพี่เหนื่อยอยากจะอาบน้ำพักผ่อนเหมือนกัน”
 

“พี่ก็ทำให้เสร็จแล้วขึ้นมานอนพักข้างบน แค่นั้นเอง มันไม่พักผ่อนตรงไหน หรืออยากให้ผมลากขึ้นไปเหมือนเมื่อก่อนอีก”
 

“ธาร!”
 

“ครึ่งชั่วโมง อาบน้ำให้เสร็จแล้วเอากาแฟขึ้นมาให้ผมด้วย” เขาว่าแล้วเดินขึ้นบันไดไป ท่าทางไม่ค่อยสบอารมณ์นัก แต่วารินไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร


หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 21-04-2014 23:37:53


สามสิบนาทีหลังจากนั้น วารินในชุดนอนขายาวสีขาวผ้านิ่มเนื้อดี กำลังยืนชงกาแฟดำอยู่ที่ห้องครัว  นึกเกลียดคำว่า ‘กาแฟ’ ของคนสั่งจริง ๆ เอาขึ้นไปให้ทีไรไม่เคยได้กลับลงมา ต้องป้อนกันถึงปากเสียทุกครั้ง
 

เผลอแอบคิดว่าวันนี้อาจไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ธาราธารทำงานมาทั้งวันคงจะเหนื่อยและหมดพลังไปแล้ว เผลอๆอาจจะนอนหลับไปแล้วด้วยซ้ำ
 

“กำลังนึกว่าพรุ่งนี้จะให้ช่างมาติดแอร์ที่ห้องเล็กหลังบ้านอยู่พอดี”
 

กาแฟร้อนหอม ๆถูกบรรจงวางลงบนโต๊ะ เขานั่งรออยู่ที่ห้องหนังสือ วารินมองดูหนังสือที่เขากำลังอ่าน ตำราแพทย์เล่มโตเนื้อหาทางกายภาพวิทยา นึกสงสารเขาขึ้นมาจับใจกลับมายังต้องมานั่งอ่านหนังสือเรียนอีก
 

“ถ้าบอกให้ขึ้นมานอนข้างบนพี่คงไม่ยอม งั้นตึกเล็กติดแอร์มันเสียทุกห้องเลยก็แล้วกัน”
 

“ธารนอนเถอะนะ ดึกมากแล้ววันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน พรุ่งนี้ค่อยอ่านต่อดีไหมหนังสือน่ะ”
 

“พี่ทราย” วารินว่าแล้วจะเดินกลับออกไปแต่เขาเรียกเอาไว้ก่อน
 

“ผมลืมมือถือไว้ใต้หมอน เดินเข้าไปเอาให้หน่อยสิ”
 

ห้องหนังสืออยู่ติดกันกับห้องนอนของเขา เพียงแค่เปิดบานประตูเชื่อมออกก็สามารถเดินเข้าออกระหว่างสองห้องนี้ได้เลย วารินหันมองเขานิดหน่อยก็จำใจเดินไปที่ประตูเชื่อมเปิดมันออก แสงไฟหรี่สีส้มที่หัวเตียงถูกจุดไว้รออยู่แล้วกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ระรวยรินทั่วห้อง  ขณะวารินก้มลงหยิบหยิบโทรศัพท์ที่ใต้หมอนใบนุ่มออกมา ไม่ทันจะได้เดินพ้นจากขอบเตียงด้วยซ้ำ มือใหญ่เข้าผลักร่างเล็กกดลงบนที่นอนหนานุ่มของเขาด้วยความรวดเร็ว
 

“ธาร!”
 

“บอกไว้แล้วนี่ วันนี้จะลงโทษหนัก เพราะพี่ไม่ยอมให้ผมทำที่นั่น ความผิดพี่ไม่ใช่เหรอ”
 

“ไม่เอาธาร พี่เหนื่อยง่วงนอน”
 

“อย่ามาโกหก เหนื่อยอะไรกันเห็นคุยกับใครสีหน้าร่าเริงขนาดนั้น? อย่าคิดว่าผมไม่เห็นนะ  ท่าทางสนิทสนมกันมากเลยนี่”
 

เขาว่าแล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ กอดเอววารินไว้แน่น ไม่ยอมให้อีกคนลุกได้
 

“บอกผมหน่อยสิ พี่คุยกับใครเหรอ? ผู้หญิงคนนั้น” เขาแกล้งกัดไหล่เล็กเบา ๆ ผ่านเสื้อนอนบาง ๆ ที่วารินสวมใส่
 

“เพื่อนเก่าน่ะ ไม่เจอกันเป็นสิบปีแล้ว”
 

“แล้วไป อย่าให้รู้นะว่าเป็นแฟนเก่า”
 

วารินกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่คิดจะบอกออกไปหรอกว่าเคยชอบฟางข้าวถึงขนาดถ่อไปขอเบอร์มาแล้ว นี่ขนาดแค่คุย เขายังถามซอกแซกขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าเคยชอบผู้หญิงคนนี้ รับรองคืนนี้โดนจัดจนถึงเช้าแน่
 

“นอนนี่แหละนะ นอนด้วยกัน ง่วงแล้ว”
 

เขาพูดว่าง่วงแล้วแต่ปลายจมูกโด่งแสนซนของเขาเริ่มฝังลงซุกไซ้กับซอกคอหอมกลิ่นนม ขณะที่ฝ่ามืออุ่นเริ่มล้วงผ่านชายเสื้อเข้าไปลูบไล้เอวบางอย่างนุ่มนวล
 

ที่จริงแล้ววารินควรจะสะท้านกับรสสัมผัสของเขามากกว่านี้ แต่เพราะคำพูดแบบนั้นของชนาธิปที่ยังวนเวียนอยู่ในหัว จึงทำให้ความรู้สึกดี ๆ ที่ควรจะมีหดหายไปหมด ร่างกายเริ่มต่อต้านเขาขึ้นมา
 

“ธาร”
 

วารินเรียกแล้วลุกขึ้น มือเล็กยันร่างเขาไว้ ธาราธารชะงักแล้วเงยหน้ามองทันที
 

“เข้าห้องน้ำเดี๋ยวนะ” ว่าแล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไป
 

ในห้องน้ำที่มีแท่นดินปั้นเล็ก ๆ จุดเทียนหอมกลิ่นลาเวนเดอร์กลิ่นรวยรินกระจายไปถึงด้านนอก    วารินมองเงาสะท้อนของตนเองในกระจกบานใหญ่เหนืออ่างล้างหน้า ในสมองยังเต็มไปด้วยคำบอกเล่าของชนาธิป ยิ่งธาราธารมาทำแบบนี้ด้วยก็ยิ่งคิดมาก
 

“พี่ทราย”
 

เสียงทุ้มดังขึ้นที่หน้าประตูห้องน้ำที่วารินไม่ได้ปิดเอาไว้  เรียกให้วารินต้องหันขวับไป
 

“เป็นอะไรรึเปล่า? สีหน้าพี่ไม่ค่อยดีนะ” เขายืนเท้าแขนกับกรอบประตูมองคนที่ยืนอยู่ด้านใน เขาช่างสังเกตมากจริง ๆ
 

“เปล่า ไม่มีอะไร” วารินค่อยแทรกกายเดินผ่านออกมา
 

“ธาร พี่ลงไปนอนข้างล่างได้ไหม คือว่า....”   ยังว่าไม่ทันจบแขนเล็กก็ถูกเขากระชากแล้วดึงไปเหวี่ยงลงบนเตียงทันที ร่างกายสูงใหญ่ขึ้นทาบทับอย่างไม่รอช้า
 

“เป็นอะไร”
 

วารินเลี่ยงไม่อยากมองเขา “เปล่า ใจเย็น ๆ ธาร”
 

“ถ้าเปล่าจริง ๆ ก็ต้องนอนที่นี่”
 

“อย่าธาร ไม่เอา”  วารินปัดมือเขาออกทันทีที่เขาทำท่าจะแกะกระดุมเสื้อของวารินออก
 

“ทำไม?” คราวนี้เขาหน้าเครียดขึ้นมาแล้วจริง ๆ “หรือว่าอยากจะให้ผมใช้กำลังเหมือนเมื่อก่อนอีก”
 

“พี่...ไม่มีอารมณ์น่ะ”
 

“ไม่เป็นไรนะ เชื่อมือผมเถอะ เดี๋ยวจะทำให้ร้องดัง ๆ เลยดีไหม”
 

พอวารินตอบออกมาแบบนั้นเขาดูผ่อนคลายขึ้นนิดหน่อยกระตุกยิ้มนิดๆ มือไม้เริ่มสอดเข้าลูบไล้เรือนกายนุ่มนิ่ม ส่งเสียงกระซิบลงที่ริมหูเล็ก “ไม่ใช้มือแกะแล้วก็ได้  เดี๋ยวใช้ปากค่อย ๆ แกะดีกว่านะ”
 

วารินจนใจที่จะขัดขืน หลับตาลงปล่อยให้เขาใช้ริมฝีปากค่อย ๆ ปลดเปลื้องกระดุมออกที่ละเม็ด ทีละเม็ด ในที่สุดอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายก็หลุดออกมาจากร่าง เขายืดตัวขึ้นถอดเสื้อที่สวมใส่ออกทางศีรษะ นัยน์ตาคมกริบกวาดมองร่างเปลือยเปล่างดงามอย่างชื่นชมหลงใหล ในขณะที่วารินยังคงพริ้มตาแน่น
 

หัวใจทำไมต้องเฝ้านึกถึงแต่คำพูดบ้า ๆ แบบนั้นของชนาธิปด้วยก็ไม่รู้
 

“พี่ทราย” ธาราธารพึมพำด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่าขณะสอดมือเข้าที่แผ่นหลังเนียนแล้วรั้งร่างเล็กขึ้นมาแล้วจูบลงที่ซอกคอขาวเนียนไล่ขบเม้มไปจนถึงริมฝีปากสวย เขาตักตวงความหอมหวานของกลีบปากนุ่มและเรียวลิ้นเล็กอย่างอ่อนหวานระคนเร่าร้อน
 

จูบของเขาทำให้วารินอ่อนระทวยเหมือนทุกครั้งก็จริงแต่จิตใจกลับไม่อาจมีความสุขไปกับรสสัมผัสที่เขามอบให้เลยเมื่อนึกไปถึงว่าเขาเพิ่งจะมอบจูบที่เร่าร้อนแบบนี้ให้กับใครอีกคน
 

จู่ ๆ ดวงหน้าสวยน่ารักก็พลิกหลบจุมพิตดื่มด่ำของเขา ธาราธารชะงักทันทีจ้องมองกิริยานั้นอย่างงงงัน โดยเฉพาะเมื่อวารินพลิกตัวนอนตะแคงดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดบังร่างกายส่วนล่างแล้วหันหลังให้เขา
 

“พี่ทราย?” เสียงทุ้มครางเรียก หากแต่วารินไม่ยอมตอบ ธาราธารชั่งใจครุ่นคิดก่อนจะก้มลงแตะริมฝีปากกับลาดไหล่เนียน ค่อย ๆ ไล้ไปตามเรียวแขนสวย
 

“ธาร” เสียงเล็กเรียกสั่นพร่า ในยามที่เขาลากไล้ริมฝีปากลงไปจนถึงเอวบางเนียนนุ่ม
 

“กับชนาธิปธารก็ทำแบบนี้ด้วยเหมือนกันใช่ไหม?  จูบที่เร่าร้อนแบบนี้ ธารชอบจูบคนที่ธารนอนด้วยทั้งเนื้อทั้งตัวทุกคนนี่นะ”
 

ธาราธารละตัวขึ้นทันที ขยับขึ้นมาดึงไหล่บางให้พลิกกลับมาหาเผชิญหน้ากับเขาไม่เบาเลย จ้องหน้าวารินนิ่ง
 

“คุยอะไรกับชนาธิปมาใช่ไหม” เขาถามเสียงเข้ม
 

“เมื่อกี้ที่งานเลี้ยงก่อนผมจะเดินเลี่ยงไปห้องน้ำเห็นชนาธิปเดินเข้าไปหาพี่ คุยเรื่องอะไรกัน เขาพูดอะไรให้ฟังใช่ไหม”
 

วารินหันไปอีกทางไม่อยากตอบเขา ปัดมือเขาออก
 

“พี่หึง?”
 

“ไม่ได้หึง”วารินสวนขึ้นทันที
 

“อย่ามาโกหก ไม่หึงแล้วจะงอนผมแบบนี้ทำไม”
 

“พี่ไม่ได้งอนนะ ธารนั่นแหละ มีคนของตัวเองอยู่แล้วจะมายุ่ง.....”
 

“ปากพี่นี่ยั่วผมได้ดีเยี่ยมจริง ๆ เลยนะ ตลอดอ่ะ ว่าจะไม่ทำอะไรรุนแรงแล้วแต่ก็โดนยั่วเข้าจนได้” วารินพูดไม่ทันจบเขากดไหล่เล็กลงที่เตียงทันที  กระชากผ้าห่มออกไปให้พ้นร่างกายคนใต้ร่างอย่างนึกรำคาญ
 

“ฟังนะ ฟังดี ๆ วันนั้นผมจูบกับเขาจริง ผมเมามากเห็นหน้าเขาเป็นหน้าพี่ตั้งหลายหน แต่เราไม่มีอะไรกัน แค่จูบ”
 

“แต่ธารกอดเขา นอนกอดเขาไว้ทั้งคืน”
 

“ใช่ ผมกอดเขาจริง ผมผิด โอเคจบนะ”
 

“ธารขี้โกง”
 

“อย่าพูดเรื่องคนอื่นเลยได้ไหม เลิกคิดเลิกพูดเรื่องเครียดๆ ผมอยากให้พี่รู้ไว้นะ ผมไม่เคยมีใครอื่นอีกนับตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจบอกรักพี่แล้ว”
 

วารินเบิกตามองเขาทันที ธาราธารไม่เคยเอ่ยคำๆนี้กับเขานานแล้วนับตั้งแต่เกิดเรื่องจนเขาคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้ฟังมันจากปากของเขาคนนี้อีกแล้ว
 

“เชื่อใจผม”
 


.....เชื่อมั่นในความรักของผม.....
 


“...ธาร...”
 

“วินาทีนี้ผมเป็นของพี่แล้ว อย่านึกถึงคนอื่น อย่าคิดถึงคำพูดใคร  ผมคนนี้เป็นของพี่คนเดียวเท่านั้น...พี่ทราย”
 

วารินสะท้านน้อย ๆ ทันทีที่สิ้นคำพูดนั้น  ริมฝีปากร้อนงับเม้มลงบนจุดชีพจรบนลำคอขาว สัมผัสที่สร้างความรู้สึกเสียวซ่านบาดอารมณ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ร่างเล็กเปลือยเปล่าบิดสะท้านขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง พร้อมๆกับเสียงครางผะแผ่วในลำคอถูกระบายออกมาอย่างซาบซ่านในอารมณ์
 

เขาละริมฝีปากร้อนออกจากซอกคอหอมกรุ่น ไล่พรมจุมพิตไปทั่วทั้งร่างและมาหยุดลงที่ยอดอกชูชัน ตั้งใจเก็บเกี่ยวความหอมหวานให้สาสมกับที่รอคอยมาตลอดทั้งวัน ริมฝีปากร้อนและเรียวลิ้นนุ่มดูดดึงอย่างเร่าร้อนกระหายหิว ร่างเล็กแอ่นสะท้านราวกับจับไข้ เสียงหวานครางเครือต่อเนื่องกับความไม่รู้จักอิ่มของเขา
 

วารินหน้าแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์เสน่หา มองเห็นแล้วว่าเขากำลังค่อยเคลื่อนตัวต่ำลง จนกระทั่งเรียวขาสวยถูกมือแข็งแรงดันให้แยกห่างออกจากกัน หน้านวลยิ่งซับสีหนักยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นนัยน์ตาคมกริบจับจ้องนิ่งอยู่ที่ปราการทางด้านหลังขณะที่แท่งสวยชูชันชุ่มเยิ้มไปด้วยหยาดหยดน้ำค้างใส
 

“ยะ..อย่ามองนะธาร”
 

อายจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดีแล้ว เมื่อได้เห็นสายตาทอดนิ่งของเขาเฝ้ามองสิ่งหวงแหนของตนอย่างหลงใหล
 

“อายทำไม ผมเห็นไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว เพิ่งจะมาอายเอาป่านนี้?”
 

เขาว่ายิ้มๆ ขณะมือผลักสองขาเรียวที่พยายามจะหุบเข้าหากันให้แยกกว้างออกยิ่งกว่าเดิมเพื่อให้เขาได้เห็นอย่างเต็มสายตา เอื้อมตัวมาเปิดลิ้นชักที่หัวเตียงหยิบอะไรบางอย่างออกมา
 

วารินหลับตาลงแน่น ไม่อยากมองแล้วว่าเขากำลังจะทำอะไรอีกบ้างจนกระทั่งรับรู้ถึงสัมผัสเย็นจากปลายนิ้วแข็งแรงที่กรีดไล้ตรงรอยแยก นวดวนอยู่รอบ ๆ ก่อนจะค่อยแทรกสอดปลายนิ้วร้อนเข้ามาผ่านผนังนุ่มนิ่ม ขณะเดียวกันมีบางอย่างนุ่มชื้นแตะสัมผัสเข้าที่ส่วนชูชันและครอบลงจนจบมิดขณะที่นิ้วร้ายเริ่มขยับเข้าออก  เขาโจมตีจุดอ่อนไหวพร้อมกันอย่างไม่ปราณีส่งผลให้ร่างบอบบางแอ่นเกร็งสะท้านไปกับความเสียวปลาบรุนแรง ยิ่งเขาใช้ริมฝีปากร้อนดูดดึงที่ส่วนหัวจนเกิดเป็นเสียงน่าอาย วารินยิ่งสะท้านครางเสียงออกมาอย่างเต็มที่กับรสสัมผัสแสนรัญจวน
 

เขาถอนริมฝีปากออกจากส่วนนั้นเมื่อเห็นว่าวารินเริ่มจะไม่ไหว ยังไม่อยากให้ไปถึงเส้นของฟ้าก่อนอยู่ฝ่ายเดียว ปลายลิ้นร้อนกวาดไล้ไปทั่วทุกตารางนิ้วของซอกนุ่มหยุ่น น้ำค้างใสยังคงไหลปริ่มออกมาอย่างน่าตีเป็นที่สุด
 

“กลั้นไว้ก่อน รอไปพร้อมผม” เขาเงยหน้าขึ้นมากระซิบสายตาเต็มไปด้วยไฟเสน่หา วารินส่ายหน้าอย่างทนไม่ไหว เขาบอกให้กลั้นเอาไว้ก่อนหากแต่ไม่ยอมละเรียวนิ้วร้ายกาจที่สอดแทรกเข้า ๆ ออกๆอยู่ที่ส่วนอ่อนไหวนั้น
 

“ผมไม่อยากให้พี่เจ็บมาก อดทนนิดนึงนะ”
 

“อ้ะ...” นิ้วที่สองที่สอดแทรกตามเข้ามาสร้างความคับตื้อเพิ่มขึ้นอีก วารินเกร็งร่างเมื่อเขาเริ่มขยับปลายนิ้วอีกครั้ง ขณะที่ริมฝีปากตรงเข้ารูดรั้งทั้งดูดทั้งเล็มเร่งเร้าไปทั้งสองอย่างควบคู่กัน วารินเสียวซ่านแทบขาดใจ
 

“ธ...ธาร พี่ไม่ไหว”
 

เสียงครางเร่าร้อนท่อนขาเรียวรัดไหล่เขาไว้แน่น เมื่อรู้สึกถึงเกลียวคลื่นที่พัดวนรุนแรง สัญญาณที่บ่งบอกว่าจุดสุดยอดแห่งความปรารถนากำลังจะมาเยือน
 

“ชู่ว์อย่าเพิ่งไป รอผมก่อน”
 

เขาเลื่อนกายขึ้นมากระซิบจับวารินพลิกคว่ำเปลี่ยนท่วงท่า ดวงตากลมลืมขึ้นอย่างงุนงง ภาพสะท้อนดวงหน้าแดงก่ำของตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่หน้าตูเสื้อผ้าทำเอาวารินถึงกับอึ้งไป เขาเปลี่ยนมาทำที่มุมนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
 

“ธาร....ธาร...”
 

เสียงเล็กพึมพำเรียกชื่อเขา สายตาจับภาพสะท้อนของร่างสูงใหญ่ในกระจกกำลังรั้งสะโพกมนของตัวเองยกสูงขึ้น กว่าที่วารินจะได้ตั้งตัว บางสิ่งที่ร้อนแรงและอลังการกว่านิ้วมือมากมาย ก็สอดแทรกเข้ามาภายในกายอย่างดุดัน วารินผวาเฮือกมือเล็กกำจิกผ้าปูที่นอนแน่นพร้อมส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด “อื้ออ..”
 

“พี่ทราย” เขาโน้มใบหน้าลงมากระซิบ “เจ็บนิดเดียวนะ ผมไม่ไหวแล้ว ร่างกายพี่ทำผมแทบคลั่ง ทนนิดนึงนะครับคนดี”
 

“ธ...ธาร...”
 

วารินข่มความเจ็บปวด ตอบเขาด้วยน้ำเสียงขาดห้วงเป็นระยะตามแรงที่เริ่มขยับ แรงบีบรัดจากช่องทางคับแคบที่ถูกล่วงล้ำเข้าไปบีบรัดเขาแน่นเหลือเกิน อีกทั้งเจ้าของร่างนุ่มนิ่มยังเกร็งตัวกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา มือหนานวดคลึงบั้นท้ายอวบอิ่มเพื่อให้อีกคนผ่อนคลาย จนกระทั่งเมื่อเขารู้สึกได้ว่าอาการเกร็งของอีกฝ่ายลดลงแล้ว จึงกระชับจับเอวบางไว้มั่นก่อนจะกระแทกร่างเข้าหาถี่ ๆ เพื่อนำพาตัวเองไปจนสุดทาง
 

“ธาร!” วารินร้องลั่นเรียกชื่อเขา ใบหน้าเล็กฟุบลงไปกับที่นอนนุ่ม “ธาร..อื้ออ...อื้อ..”
 
 

“ทำแบบนี้ ทำแบบนี้แล้วจะไม่เจ็บ” ธาราธารหยุดขยับสะโพก แต่ยังไม่ยอมถอนร่างออกไป ดึงแขนเล็กจับบังคับให้สอดผ่านเข้าใต้ร่างเจ้าตัว มือใหญ่เข้าประคองมือเล็กให้รูดรั้งแก่นกายเร่าร้อน
 

“ขยับนะ แล้วจะไม่เจ็บ ทำไปพร้อม ๆ กับผม”
 

เสียงครางเสียวซ่านจากคนตัวเล็กที่เขาจับบังคับให้ทำกับตัวเอง ดังลั่นขึ้นเป็นเท่าตัว ความรู้สึกเจ็บปวดจุกแน่นถูกแทนที่ด้วยความกระสันเสียวไปตามหน้าท้องลามลงไปจนถึงปลายขา เขายังจับมือเล็กเข้ารูดรั้งอยู่ไม่ห่างขณะที่สะโพกแกร่งเริ่มขยับไปพร้อม ๆ กัน
 

“พี่ทราย..” เสียงสั่นพร่าดังจากด้านหลัง “เงยหน้าขึ้นหน่อย ผมอยากเห็นหน้าพี่”
 

วารินเงยหน้าขึ้นตามที่เขาบอก ดวงตาสวยแดงก่ำด้วยฤทธิ์พิศวาส
 

“มองไปที่กระจก มองผมให้เต็ม ๆ ตา” 
 

เขาบอกวารินเช่นนั้น แต่เป็นตัวเขาต่างหากที่กำลังจับสายตาคมดั่งเหยี่ยวอยู่ที่ร่างกายเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่ออยู่กับตัวเขา วารินหน้าร้อนผ่าว ยิ่งเห็นก็ยิ่งอายรีบเบือนสายตาหลบไปทางอื่น
 

“อายเหรอ?  ไม่ต้องอายหรอก ดูซิเราสองคนทำอะไรกันอยู่”
 

เขาโถมร่างกายใส่ เอ่ยเสียงปนหอบ ภาพสะท้อนที่กระจกแสดงถึงบทรักเร่าร้อน มือใหญ่จับเอวขอดกระชากรั้งให้ขยับรับแรงกระแทกถี่เร็วตามอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูงขึ้น วารินครางออกมาอย่างลืมแล้วซึ่งความอาย มือเล็กขยับรูดรั้งส่วนเร่าร้อนของตัวเองทั้งแรงทั้งเร็ว จนใกล้จะถึงจุดแตกดับ
 

“ธาร...อื้อ..ธาร..” เสียงเล็กครางอ้อนวอน เขาโอบท่อนแขนรั้งตัวบอบบางให้ยืดตัวขึ้นจูบลงไปที่ต้นคอหอม กระซิบชิดลงที่ริมหูเสียงกระเส่า
 

“ไปพร้อมกัน...อ่าา”
 

นัยน์ตาคู่สวยฉ่ำปรือ มองสบดวงตาคมที่สะท้อนอยู่ในเงาของกะจก เห็นเขากัดฟันข่มกรามแน่น ดวงหน้าคมเข้มบิดเบี้ยวด้วยความทรมานระคนกระสันรุนแรงไม่ต่างไปจากตัวเอง สะโพกแข็งแกร่งถูกเร่งจังหวะจนถึงขีดสุด เสียงครางต่ำดังลั่นห้อง กลีบนุ่มนิ่มตอดรัดร้อนผ่าวด้วยแรงเสียดสีของความแข็งแกร่งกำยำ
 

เขาปัดมือเล็กของวารินที่ขยับของตัวเองออกแล้วเข้าปรนแปรอให้ด้วยฝ่ามือองเขา  จังหวะที่เขามอบให้ทั้งสองจุดร้อนทำเอาวารินครางฮือขึ้นมาอีกหน  ร่างกายเล็กมิอาจทานทนต่อรสพิศวาสของเขาได้อีกต่อไปแล้ว เสียงกรีดร้องแห่งความสุขสันต์ดังระงมเมื่อเขาสวนกายกระแทกเข้าหาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่หัวใจดวงเล็กจะโค้งสูงแตะเส้นขอบฟ้า ธารรักร้อนแรงพวยพุ่งออกมาเลอะเต็มมือของเขา 
 

ธาราธารเองก็ไม่ต่าง เขาปล่อยเสียงครางลั่นยาว ขณะที่ความเร่าร้อนภายในกายฉีดพล่านพุ่งเข้าสู่ความอ่อนนุ่มที่บีบรัดความแข็งแกร่งของเขาอยู่ ร่างกายเบาโหวงราวกับว่ากำลังจะหลุดลอยไป กายหนาขยับทาบทับลงไปที่แผ่นหลังเนียนนุ่มที่ฟุบคว่ำลงไปกับที่นอนอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง อ้อมแขนแกร่งตวัดกอดรัดร่างกายบอบบางนั้นไว้ราวกับว่าเป็นของรักของหวงที่มีแค่ชิ้นเดียวในโลกหล้า ริมฝีปากร้อนพรมจูบที่ไหล่ขาวเนียน เขาชอบขบไหล่เล็กเล่นมากจริง ๆ
 

“นี่คือบทลงโทษ” เขากระซิบ
 

“ลงโทษ?”วารินทวนคำพยายามจะหันมามอง
 

“ลงโทษคนที่ชอบยั่วให้ผมโมโห  ยั่วให้ผมโกรธ  ลงโทษคนขี้หึงแล้วยังปากแข็งว่าตัวเองไม่ได้หึง”
 

จมูกซุกซนของเขาซอกแซกแถว ๆ ต้นคอเล็ก วารินย่นคอหนีอีกฝ่ายก็ยังตามมาไม่ยอมปล่อยให้ห่าง
 

“ไม่คิดอะไรมากแล้วใช่ไหม  เรื่องชนาธิปผมยืนยันได้ผมไม่มีอะไรกับเขาแน่นอน เชื่อใจผมต่อไปขึ้นมานอนกับผมที่นี่นะ ได้ใช่ไหมครับ”
 

“ธาร” พอได้ยินเขาพูดแบบนั้น วารินรีบลุกขึ้น ยื้อกายออกจากวงแขนของเขา ธาราธารมองตามอย่างไม่เข้าใจ
 

“เมื่อไหร่ก็ตามที่ธารต้องการพี่ ๆจะขึ้นมาหา แต่ถ้าหากจะให้พี่ขึ้นมานอนที่นี่กับธารพี่คงทำอย่างนั้นไม่ได้ พี่อยากให้ธารตระหนักถึงสถานะของเราทั้งคู่ด้วย”
 

“คืออะไร??”
 

“ธารเคยบอกไว้เองว่าพี่อยู่ที่นี่ในฐานะคนรับใช้ เป็นแค่ที่ระบายอารมณ์เวลาที่ธารอยากและต้องการ คำพูดของธารพี่....”
 

....พี่ไม่เคยจะลืมลงได้เลย....
 

“พี่ทราย...” 
 

ดวงตาคมกริบแดงก่ำเมื่อได้ฟังถ้อยคำที่เขาเคยพูดทำลายหัวใจคนที่เขารักไปแบบนั้น แววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้าเล็ก
 

เขารู้...ในตอนนั้น เขาเคยพูดสิ่งเลวร้ายมากมายกับคน ๆ นี้
 

เขารู้...เขาทำเรื่องไม่ดีและรุนแรงมากมายใส่ เพียงเพื่อให้ตัวเองได้ระบายความโกรธแค้น
 

คำพูดเลวร้ายรุนแรงถูกระบายออกมาเพื่อความสะใจเท่านั้น
 

ทว่าตอนนี้ ถ้อยคำที่วารินพูดออกมานั้นเต็มไปด้วยแววตัดพ้อ....น้อยใจ
 

“ธาร  สถานะของเรา....”
 

“ไม่เอา ไม่พูดแล้ว” เขาปรามไม่ให้พูดต่อ รั้งแขนเล็กให้ร่างบอบบางลงมานอนแนบชิดกันอีกครั้ง  “ลืมมันไปให้หมดได้ไหม สิ่งไม่ดีที่ผ่านเข้ามาระหว่างเรา พี่จะลืมมันไปได้รึเปล่า”
 

“ธาร!”
 

“ถ้าพี่สัญญาว่าจะลืมมันได้ เรื่องราวไม่ดีของพี่ผมเองก็จะทำใจให้ลืมมันไปเหมือนกัน ผมจะพยายาม...พี่ทราย”
 

วารินหันไปมองหน้าเขาชัด ๆ สบในตาคมคู่นั้นนิ่ง เห็นชัดถึงประกายหนักแน่นและจริงใจ ปะปนไปกับความรู้สึกผิดอยู่เต็มอก  มือแกร่งเชยคางมนขึ้นมาจูบแผ่วเบา
 

“...ผมเป็นของพี่....” กระซิบลงที่ริมหูเล็ก จ้องหน้าวารินนิ่ง
 


...โปรดเชื่อใน ‘รัก’ ของผม....
 


ตากลมโตยังจับอยู่ที่ดวงหน้าหล่อเหลาของเขาไม่ยอมขยับไปไหน ในดวงตาคมของเขานั้นเหมือนกำลังร้องขอให้วารินทำอะไรสักอย่างกับคำพูดจากหัวใจที่เขาเพิ่งกลั่นมันออกมา
 


ในที่สุดมือเล็กค่อยเอื้อมไปกอดเอวเขาไว้ เอ่ยถ้อยคำที่ทำให้หัวใจดวงโตได้กลับมาสดใสขึ้นอีกครั้ง
 


“พี่ก็เป็นของธาร”
 


วงแขนใหญ่รวบเอาร่างเล็กเข้าแนบชิดกอดเอาไว้ทั้งตัวอย่างรักใคร่ เฝ้าจูบลงที่เรือนผมหอมซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่รู้จะกล่าวคำขอบคุณกับใครเมื่อวารินเอ่ยคำๆนี้ออกมา
 

สักวันหนึ่ง......
 

เขาจะเอ่ยคำว่า ‘รัก’ มอบให้กับคนในอ้อมกอดด้วยใจที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง
 

วันเวลาจะช่วยให้เขาลืมเลือนเรื่องไม่ดีที่ผ่านเข้ามาได้...และเมื่อถึงตอนนั้น
 

คนในอ้อมกอดนี้จะได้คำว่า ‘รัก’ จากเขาอย่างเต็มหัวใจ และไม่มีอะไรเคลือบแฝงอีก เขาอยากจะรอจนถึงวันนั้นแล้วเขาจะเอ่ยมันออกมา
 

ขณะที่วารินหลับตาลงแน่น รับรู้ถึงความอุ่นซ่านที่กระจายอยู่ทุกอณูเนื้อ...อ้อมกอดจากเขา...ถ้อยคำที่มีความหมายมากมายจากเขา
 


.....ขอบคุณนะธาร ขอบคุณที่ยังรักพี่อยู่ ทั้งที่พี่ทำเรื่องราวใหญ่โตขนาดนั้น ธารก็ยังคิดที่จะให้อภัย.....
 


.....พี่เองก็เป็นของธาร....
 


.....เป็นตั้งแต่วันแรกที่ตกลงรับปากจะดูแลธารแล้ว....
 


.....เป็นพี่เลี้ยง......ไม่ใช่คนรัก....
 


Tbc.

*ทำไมตอนนี้มันยาวงี้ล่ะ อ่านอาทิตย์นึงนะ*
*ในที่สุดพระเอกก็ออกได้สักที  อ๊ะ! ล้อเล่นนนน น้องธารฉันจะถูกจับกดเหรอนี่!! :hao7:
*ตกลงว่าธารได้กินไหม กาแฟ!
*เขียนบทอีโรติกแล้วมันเพลิดเพลินจริง ๆ ยาวไปเรื่อยเลย อิอิ ถ้ารู้สึกว่ามันหยาบคายทักท้วงได้ทันทีเลยนะเดี๋ยวเราแก้ไขให้*
*ตอนนี้ไฟในตัวกำลังมอด.......T.T*


หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: monaligo ที่ 21-04-2014 23:59:39
โอ๋ๆๆๆ คุณผู้แต่งอย่าท้อเลยน๊าาาาเค้าเป็นกำลังใจให้นะ :mew1:
ชนาธิปนี่ยังเบบี๋นะจ๊ะอย่าคิดเทียบรุ่นกับคุณพี่วาริน
ส่วนคุณปวีร์นี่น่ากลัวนะรุกขนาดนี้น้องธารก็ยอมๆหน่อยเถอะให้พี่แกเต๊าะบ้างไรบ้าง5555555 :hao7:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: love AJ ที่ 22-04-2014 00:06:20
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 22-04-2014 00:10:31
น้องธารจะโดนรุก ขำอ่ะ ตาวีย์อะไรนั่นก็นะ... แกจะกล้ามชนกล้ามเรอะ อย่ามายุ่งกับพระเอกชั้น
น้องธารขี้หึง พี่ทรายก็ขี้หึง แต่ธิปนี่แบบด้านเนอะ พูดออะไร หมดคุณค่าเลยอ่ะ ผู้ชายเขาไม่ไรด้วยเล้ย อยากจับนางหมกถังขยะค่ะ
พี่ทรายสติลอยากเป็นแค่พี่เลี้ยง เฮ้อ น้องธารเจ็บ ใข่ว่าพี่ทรายไม่เจ็บกับเรื่องที่ผ่านมา เธอเจ็บแล้วจำด้วยคนนี้

ขอบคุณค่ะ อาทิตย์นึงเลยเหรอคะ นานไป๊ จะรอนะคะ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 22-04-2014 00:20:40
ไฟกำลังมอด -> ต้องเติมเชื้อเพลิงแบบไหน เดี๋ยวจัดให้

น่าจับพี่ทรายมาตีก้นจริงๆ น้องธารพยายามลืมเรื่องร้ายๆแล้วกลับมารักกันเหมือนเดิม
พี่ทรายก็หวังน้อยเสียจริงอยากเป็นแค่พี่เลี้ยง ถ้าธารรู้คงต้องมีลงโทษกันถึงเช้าแน่

น้องธารระวังตัวหน่อยก็ดีนะ เดี๋ยวนี้กรรมติดจรวจ กดพี่ทรายมาเยอะ ระวังจะโดนกดเสียเอง

ยังคิดถึงคุณพ่อและพี่ซีเสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 22-04-2014 00:32:33
ตายๆน้องวาริน มีคู่แข่งที่เหนือกว่านังทิปมาละ ปวีย์สินะ แอบเมมเบอร์ธารไว้ละสิตัวเองเค้ารู้นะตัวว :hao7: :hao7:  ระวังเจอวารินโหมดฮาร์ทคอร์ละอยากเห็น :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 22-04-2014 00:36:08
โอ้ยยยย อ่านประโยคสุดท้ายของพี่ทรายแล้วรู้สึกสงสารธารขึ้นมาเลยอ่ะ ฮือออออออ

คนเขียนสู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: enjoy0189 ที่ 22-04-2014 00:50:40
ปวีย์นี้น่ากลัวสุดๆๆ :katai1:

ทรายเป็นของธาร ธารเป็นของทราย อ๊ายยยย เขินนนน :katai2-1: :-[
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 22-04-2014 00:56:46
 :jul1: ฉากอินเลิฟนี่มันชวนเพ้อจริงๆ... ยอมรับว่าเรทจริงเเต่อบอุ่นมากกกกก ละมุนเเละร้อนเเรงในขณะเดียวกัน ถ้ามี
องค์ประกอบเป็นคำว่ารักเพิ่มมาอีกนิด ชีวิตของคนคู่นี้คงจะสมบูรณ์แบบที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ดีใจกับทรายจริงๆที่ธาร
เอ่ยปากว่าเขาเป็นของทรายเหมือนที่ทรายเป็นของธารตลอดมา... ตอนนี้ก็แค่รอยลคำว่ารักของธารซึ่งอาจต้องใช้เวลา
หวังว่ามันจะมาในไม่ช้า ก่อนที่จะมีอะไรมาแทรกแซงให้เข้าใจผิด (แต่ถ้ามาพูดยุแต่กลายเป็นทำให้คนเขารักกันมากกว่า
เดิมแบบชนาธิปตอนนี้ก็ดีนะ 555... หัวเราะเเบบสะใจมากกกก) ธารน่ารักมากที่ขอให้ทรายเชื่อใจ บอกตรงๆไม่เลือกที่จะ
โกหก ยอมรับว่าจูบจริงเเต่ไม่มีซัมติงในมุ้งนอกมุ้ง ยอดเยี่ยม  o13 จากที่เคยมองว่าธารช่างโหด (ปนน่าสงสาร) เจอตอน
นี้เข้าไป ธารเหมาะกับทรายมาก ความรักของทั้งคู่คู่ควรกันเเล้วเเหละ

 :katai1: ชนาธิปในตอนนี้ขอให้คำที่รุนเเรงนิดนึง ร่าน มากกกกกกกก... พูดมาได้ไม่อายปาก ถ้าเป็นเรื่องจริง ธารไปฟัด
มาด้วยจริงก็จะไม่ว่าเลย นี่ถนัดนะสร้างความร้าวฉานให้คนที่เขารักกัน ตัวว่าอยู่สูงเเต่จิตใจต่ำอยู่ก้นนรกภูมิ จิตสำนึกหน้าตา
เป็นยังไงสะกดไม่เป็น พูดมาได้ว่าอยากมีพี่ชาย แต่ไอ้ที่บรรยายนี่เเถวบ้านเรียกว่า ฉากซั่ม ตกต่ำจริงๆ ครอบครัวมีปัญหาขาด
ความรักใช่ข้ออ้างมั้ย ไม่มีปัญญาสร้างความรักที่สวยงามด้วยตนเองเลยทำตัวน่ารังเกียจเป็นมลภาวะโลกอยู่นั่นเเหละ ทำใจ
รักชนาธิปได้ยากจริงๆ ช่างเป็นตัวละครที่ยากจะเยียวยา ใจกล้า หน้าด่าน ร่านไม่เเคร์ใคร  :เฮ้อ: คนเขาจะว่าเอาได้นะว่าติด
สันดรมารดาชอบเเย่งมาน่ะ... เสนอตัวเเล้วเสียใจทำไมไม่สำเหนียก ความอายม้วนเก็บไว้กรุไหน จะได้ไปช่วยเอาออกมาปะ
หน้าให้มันมียางบ้าง... รักทรายมากขึ้นเป็นร้อยเป็นพันเท่า เพราะถ้าเทียบกับชนาธิปเเล้ว จิตใจทรายดูดีกว่ามากรูปร่างไม่
บิดเบี้ยวพิกลพิการอย่างใจชนาธิป... ตกลงชนาธิปเป็นสายน้ำผึ้งใช่มั้ย (ยังยืนยันว่าอยากให้ชนาธิปกลับใจนะ เพราะโดย
พื้นฐานแล้วก็เป็นคนน่าสงสารอยู่หรอกไหนจะเเม่ ไหนจะเรื่องพ่อ แล้วยังการเเสวงหาความรักเเบบผิดๆ อีก)

มีตัวร้ายเพิ่มขึ้นเเล้ว เเถมเเรงมากด้วย เปิดตัวมาก็จะจับธารกลืนลงท้องเเบบไม่เคี้ยวซะเเล้ว ช่างตะกละตะกลามเสียจริงๆ...
 o22 ปวีย์ต้องเป็นคนที่มั่นในหนังหน้าตัวเองมากเลยถึงกล้าไปว่าคนอื่นเขาว่า จืด (อันที่จริงชนาธิปก็เป็นนะเเบบนี้ ปากมีไว้
พูดร้ายๆเสมอ... ปากน่าจับไปดูดส้วมเสียจริง) จะจืดยังไงทรายก็เป็นคนที่ธารรักเเหละ สวยน่ารักในสายตาคนที่เรารักก็พอ
เอาความจริงมีคนชอบทรายเยอะเเยะ น่ารักออก ...ปวีย์ทำตัวน่ารังเกียจตั้งเเต่เเรกพบเลยนะเนี่ย ไม่อยากใช้คำว่ารุกหนักเพราะ
อันนี้ดูไร้ขอบเขตเกินไปชนิดที่ว่าอย่าเผลอไม่ว่าคุณจะหันหน้าหรือหันหลังอยู่ก็ตาม... เป็นคนเหลือเชื่ออีกคน เเต่ในตอนนี้ไม่มี
ความรู้สึกว่าน่าสงสารหลงเหลืออยู่เลยเเบบชนาธิป (รายนี้ความสงสารเริ่มลดลงเรื่อยๆเเล้ว) เป็นสิ่งมีชีวิตที่สุดกู่จริงๆ :katai4:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: Min61 ที่ 22-04-2014 01:10:34
เอ่อ... ปวีย์น่ากลัว นี่ถ้าเป็นเรื่องใหม่นี่เชียร์ให้เป็นพระเอกละ
แต่เรื่องนี้ ไม่ได้นะ ธารเธอต้องเป็นตัวพระนะ อย่าเผลอไปเป็นนางเชียว  :katai1:

ส่วนชนาธิป ไม่มีคำจะพูด หมดแล้วคำด่า ปล่อยไป สุดท้ายเธอก็ไม่ได้อยู่ดีแหละย่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 22-04-2014 01:13:11
เค้ารักกัน ให้อภัยกันแล้ว
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 22-04-2014 01:19:24
 :a5: อุต๊ะ มีมหาเสะกำเนิดขึ้นมาแล้ว คิดยังไงนะขุ่นพี่ปวีร์ มองยังไงว่าธารมันสวย
อย่างธารที่ถอดแบบมาจากพี่ทัตต้องหล่อโฮกสิขุ่นพี่
แสดงว่าขุ่นพี่วีนี่ต้องชอบกดคนแมนๆแน่เลย

ชนาธิปนี่ไม่ไหวนะ ทำตัวแรดเกินทน  :z6: ดีที่ทรายเอาคืนบ้างอะไรบ้าง
ใจจริงน่าจะอัดคลิปเสียงส่งให้แม่มันไม่ก็แบล็คเมล์นะ
มันจะได้อาย ถึงไม่อายถ้าคนในธุรกิจรู้ว่าธิปเป็นคนแบบนี้คงไม่รอดแน่
เพราะคงมีคนจ้องจะ'เอา' ได้ผัวสมใจแน่แกเอ๋ย

 :jul1: ว๊ายยยยยยยยยยย กินกาแฟกินอีกแล้ว
อีสองคนนี้กินกาแฟทีไร เลือดฉันไหล ความดันฉันขึ้นทุกที  :haun4:
เอ็นซีพวกเธอนี่ยาวมากนะ บรรยายละเอียดเหมือนนั่งดูระยะประชิดเลย หุหุ
 
:pighaun: อร๊ายยยยย เจอช็อตภาพในกระจกของเด็กธารไปนี่ทำเอา.....
ทำให้รู้ว่าอิเด็กธารมันจิต หื่น ทะลึ่ง ลามก (แต่ฉันก็ชอบพระเอกแบบนี้น่ารักดี   :laugh5:)

พวกเธอกำลังจะคืนดีแล้วเริ่มกันใหม่ได้แล้วเย้ ดีใจมากๆ
ถ้าไม่มีความคิดพี่ทรายที่ลากมาดราม่าก็จบอ่ะนะ ขาดดราม่าไม่ได้ซักตอนเลยให้ตายสิ นึกว่าตอนนี้จะไม่มีแล้วแท้
ถ้าธารบอกคำว่า 'รัก' อาจจะดีขึ้นล่ะมั้งนะ
หึหึหึหึ ไม่หรอกรอบนี้พี่ทรายต้องเอาคืน  :z4:
จัดการนะพี่ทราย ในเมื่อแอบ SM มาแล้วเราต้องเปลี่ยนขั้วมากุมบังเหียนอิเด็กธารมันบ้าง
ให้มันรู้ว่าเคะน้อยๆคนนี้ก็เป็นราชินีได้  o18

ปอลิง: เอาอิธิปไปเก็บที เกะกะจริงๆ ไม่งั้นก็ส่งมันไปหาขุ่นพี่วีให้พี่แก SM จนอิธิปร่านให้พอ
// ความจริงฉันเป็นคนใสๆนะพวกเธอ แค่วิจารณ์ไปตามเนื้อผ้า  :m13:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 22-04-2014 02:36:17
เม้นอีกรอบกลับมาอ่านแล้วมันแวบขึ้นมาในหัว รึตอบจบคนแต่งจะหักมุมธารกลายเป็นนางเอกไปละเนี่ย กร๊ากๆๆๆๆๆ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 22-04-2014 03:10:57
เงิบไปเลยสิน่ะ ชนาธิป! จะบอกอะไรให้น่ะ.กระดูกมันคนละเบอร์กันน่ะจ๊ะ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: ♥인사다소♥ ที่ 22-04-2014 04:27:42
ตอนนี้โผล่มาอีกหนึ่ง.. :katai1:
ธารต้องหล่อ แมน แฮนซั่มมมสิมันถึงจะถูกก!!
ธิปก็ไม่หยุดอีกนะ คิดจะเปิดศึกกับพี่ทรายรึ?

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะ
ขอบคุณคนแต่งจ้ะ :pig4:
+1 เป็นกำลังใจให้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 22-04-2014 05:55:05
^^
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 22-04-2014 09:21:52
เสียดายกาแฟ ไม่รู้ได้กินหรือเปล่า
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 22-04-2014 10:03:19
เข้าใจกันดีขึ้นในระดับนึง แต่มันยังมีอะไรๆ อยู่ในใจ อธิบายไม่ถูก เหอะๆๆ

แต่ยังไงก้ออยากให้ทั้งสองคนเข้าใจกันจิงๆสักที รักกันจิง ไม่มีกั๊ก ฮ่าๆๆๆ

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ปล.ชอบ NC  :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 22-04-2014 15:52:31
โอ๊ยยยย เลิฟซีนตอนนี้ละมุนมากกกก อิฉาพี่ทรายสุดๆ
ไอ้เจ้าปวีย์นี่ยังไง :katai1:

คนเขียน เขียนบทอีโรติกได้ดีมากๆเลยนะ
ชอบสำนวนมาก ไม่หยาบโลน มันพอดีสละสลวยมาก
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-04-2014 17:02:33
มาถึงขนาดนี้แล้ว พี่ทรายเลิกคิดว่าตัวเองเป็นแค่พี่เลี้ยงเถอะค่ะ :katai1:
อยากให้หวานกันนานๆ แต่เรื่องเด็กธิปยังเคลียร์ไม่ทันหมด มีเรื่องคุณพี่วีเข้ามาอีกเหรอคะ :ling3:
แต่ธารสวย? พี่วีนี่เป็นคนที่มองต่างมุมกับคนอื่นจังเลยนะคะ :laugh:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 22-04-2014 17:28:22
ยาวจุใจ ^^

เอาตาปวีย์ออกไป หรือไม่ก็ให้ปวีย์ไปหาคนใหม่เอาข้าง

ไม่งั้นก็จับชนาธิปคู่กับปวีย์ไปเลย
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 22-04-2014 17:58:36
โอ้ยยยยยย เซ็ง  :katai1:  :katai1:  :katai1: ปัญหาเก่ายังไม่ทันเคลียร์เลยนี่จะมาใหม่อีกละหรอ
ช่วยเคลียเป็นเรื่องๆซักทีเถอะ ทั้งคุณน้องชนาธิป ทั้งรสาปวีย์
พอทรายทำอะไรนิดหน่อยละพาลเอาๆ ทีตังเองมีบ้างกลับนิ่งเฉย
ถ้าธารจะโง่และทรายยังซื่ออยู่อย่างนี้นะปัญหาได้มีทุกวันแน่
ทรายช่วยสู้คนอีกสักนิดเถอะให้รู้บ้างว่าใครเป็นของใคร
ไม่งั้นก็จากมาเลย เบื่อกับความสัพันธ์ที่คลุมเครือและความไม่แน่นอน
อย่ายอมจนตัวเองต้องแพ้ ถึงม้ว่าเค้าเป็นของเราก็เถอะ เป็นคนดีไม่ได้หมายความว่าต้องยอม
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 22-04-2014 18:52:02
มาแล้ว มาแล้ว มาทำให้ฟินไปอีกตอน :heaven

โดยเฉพาะ


 :a5:

ไม่อยากจะเชื่อ

 o22

จะมีคนเล็งเห็นตูดงอนงามของอีเด็กน้อยฉันซะแล้ว  :oo1:   เป็นอะไรที่ อืม :mew5: ถามจริง สเป็ค หรือ มึงหน้ามืดวะ คิดจะเอาซุงฮีโร่งัดซุงฮีโร่ด้วยกัน แต่มันก็ฟินดีนะ ถ้าอีเด็กนี่จะมีผัว บ่งบอกให้รู้ว่า อีเด็กน้อยนี่เสน่ห์มันแรงเหลือร้าย ทั้งหญิง ทั้งเคะ รวมถึง เมะ รุมให้เอาและรุมจะเอามันหมดเบยแต่ก็ทำให้ตื่นเต้นมีลุ้นในการรักษาประตูไม่ให้ใครมาแย่งชิงเข้มข้นขึ้นไปอีก ติดตาม ติดตาม :katai2-1:

สะใจอีธิปมาก ตอนนี้ ความร้ายมึงชิดเล็บตีนไปเลยเจอพี่ทรายตอกเล็กๆแต่จุก และอีกไม่นานคุณปวีร์ม้ามืดจะโผล่มาอีก ขำกับคำพูดโง่ๆเหมือนสติปัญญา แสดงกิริยาไม่ควรค่าแก่การให้เอาใส่ทราย แอ๊บใสเสนอหน้ามาพูดความสนิทแนบแน่น จูบ กอดทั้งคืน แล้วเป็นไง เมิง หงายเงิบตีนชี้ฟ้าในมโนกูไปเลย :z6: เจอพี่ทรายพูดแบบกระโดดถีบใส่หน้าเข้าให้ พี่ทรายไม่ใช่แค่อาบน้ำร้อนมาก่อน แต่เขาทั้งอาบทั้งนาบทุกๆน้ำกับเด็กเขามาก่อนเมิงอีก สะใจว่ะ ทรายสุดยอดมาก จัดไปอีก เอาให้มันคันไข่เกาจนถลอกปลอกเปิกไปเลย :laugh:

แต่ก็หนักใจแทนธารกับทรายซะแล้ว เจอศึกหนักไม่ธรรมดาบุกเข้าประชิดประตูหลัง มาเหนือความคาดหมายมาก แต่อย่างนี้สิดี ท้าทายความสามารถพี่ทรายเหลือเกินว่าจะปกป้องผัวเด็กไม่ให้ตกเป็นเมียคนอื่นได้หรือเปล่า ไอ้ไปเป็นผัวคนอื่นนี่เอ้าท์ไปเลย  ส่วนอีเด็กธารจะปกป้องพรหมจรรย์หลังให้รอดพ้นได้หรือไม่ จะหวั่นไหวเผยตัวตนส่วนลึกว่านี่คือตัวตนของธารที่อยากเป็นรับบ้างไรบ้างก็ได้  :-[ นี่แค่เริ่มแรกฮีก็รุกอย่างแรง แฝงความ SM ซะด้วย ขนาดโดนด่าโดนต่อยจนหงายท้อง ยังมอบเรทติ้งความนิยมชมชอบให้เด็กน้อยฉันขึ้นไปอีก แกมาแรงมาก ถ้าพี่ทรายรู้เข้าจะเป็นยังไงนะ จะตกใจ หรือ หัวเราะ ถ้าหัวเราะคิดให้ดีนะพี่ทราย น้องธารแทงไม่ยับเลยนะ ขอบอก  o18


เอาไปทุกอีโมตามเดิม สำหรับฉากแบบนี้ นี่ขนาดคนเขียนบอกไฟเริ่มมอดยังทำเอาฉันรุ่มร้อน ถ้าไฟติดโชกโชนตูไหม้แน่ๆ เป็นฉากรักที่หล่อลื่นดีมากๆ มันให้ความรู้สึกอีโรติคมากกว่าหยาบโลน ย้ำเลยค่ะว่า จริงๆ ไม่ต้องปรับแค่หาท่ามาเปลี่ยนบ่อยๆก็พอค่ะ :z1:

มันกะไม่หลับไม่นอนเลยหรือไงวะ กลับมาขอกาแฟอีกแล้ว ทำเอาพี่ทรายบอกตูไม่อยากได้ยินคำนี้เลย มันขอกาแฟทีไร กูเสียวเหนื่อยๆทุกที กำลังฟินกับบทรัก บทให้อภัยกันและกัน บทซาบซึ้ง แต่มาตอนท้าย มันคืออัลไลลลลลลลล :ling1: พี่ทราย เยอะตามอายุอีกแล้ว :เฮ้อ:  นี่แหละสิ่งที่กลัวคือใจของพี่ทรายนี่แหละ ที่ดูจะแข็งในเรื่องไม่ควรแข็ง ไม่เข้าใจ ตอนแรกที่เคืองกันอยู่ทรายก็ต้องการให้อภัย ต้องการความรักกลับมา พอธารให้เหมือนไม่อยากจะรับเอาไว้ เอาแต่โทษตัวเองและคิดจะตีจากอีกแล้ว ทั้งที่ธารแสดงความรู้สึกออกมาทั้งคำพูดและการกระทำว่ารักทรายมากแค่ไหน บทรักก็แสดงให้รู้แล้วว่าไม่มีความแค้นหรือภาพซ้อนมาเกี่ยว มีแต่กระซิบเรียกแต่ พี่ทราย บอกว่าตัวเองเป็นของพี่ทราย เปิดปากว่าไม่เคยมีไม่เคยเอาใครอีกเลยตั้งแต่บอกรักทราย แม้แต่พยายามลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นขอให้เริ่มกันใหม่ ทำเอาเราสงสารธารที่รักทรายมาก รักจนไม่เหลือให้แม้แต่ตัวเอง ถ้าธารรู้ว่าทรายคิดจะกดตัวเองเป็นแค่พี่เลี้ยงคงเสียใจและไม่ยอมแน่ๆอาจจะร้ายขึ้นมาอีกก็ได้เพราะรักมากแค่ทรายจดจำคำพูดและการกระทำร้ายๆของธารมาพูดย้อนใส่ เห็นได้เลยว่าธารเจ็บปวดกับการกระทำของตัวเองแค่ไหน ถ้าธารไม่รู้สึกธารจะขอความรักทรายกลับคืนมาทำไม  ธารยอมให้อภัย ยอมลดทิฐิ ยอมแทบจะทุกอย่างกับทราย แต่ทรายกับคิดเล็กคิดน้อยกับธาร มันเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ตัวเองทำกับธารและภัคร ถึงจะไม่ตั้งใจก็เถอะ เราว่าทรายก็รักธาร อยากจะอยู่ด้วย แต่ก็ติดที่ทรายเอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องไม่สมควรจะได้รับสิ่งนี้ ไม่คู่ควร ธารควรจะได้คนที่ดีกว่าตนตามนิสัยที่ดีของตัวเอง แต่อยากให้ทรายมองใจธารสักนิดว่าอีเด็กน้อยนี่มันรักเธอมากขนาดไหน และถ้าทรายไปจริงๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด สุดท้ายอีเด็กน้อยของฉันเป็นคนที่เจ็บปวดที่สุดอยู่ดี เขาจะรอปลอบใจตัวนะ   เอ หรือว่าฉันจะเชียร์ให้มันไปเอาผัวดีวะ ทีนี้ พี่ทรายจะมาร้องไห้กระซิกๆ เพราะไม่ใช่แค่เสียแท่งทองผัว ประตูทองของผัวต้องเป็นของคนอื่นอีก คิดดีๆนะพี่ทราย เหอเหอ :haun4:



หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 22-04-2014 19:10:45
เกิดอะไรขึ้นบนโลกใบนี้ พี่ปวีย์จะจีบน้องธาร
ไม่น้าาาาาาาาาาาา  แค่นึกภาพก็ชวนสยอง  :katai1:
ดูน้องธารอารมณ์เสียไม่ใช่น้อยนะ มันเหมือนมาดูถูกข่มเหงความเป็นชาย ฮ่าๆๆๆๆ
แล้วยังจะน้องธิปยัยตัวร้ายนี่อีก พี่ทรายเจอศึกหลายทางจริงๆ
แต่ครั้งนี้ชอบพี่ทรายอะ ไม่ยอมให้นางร้ายข่มเหง เหมือนละครน้ำเน่าทั่วไป
พี่ทรายของเราก็ฝีมือกล้า ปากเก่งไม่เบาเชียว ท่าทางคงจะรับมือน้องธิปอยู่
ส่วนประโยคสุดท้ายเนี่ย ชวนก่อดราม่านะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 22-04-2014 22:50:40
 :L2: :L2: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: Vovovo ที่ 23-04-2014 00:01:45
คุ้มค่าที่รอเลยค่ะ
ถึงจะแอบสงสารธาร
แต่ก็เชียร์ให้พี่ทรายร้ายอ่ะ
5555555
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: buakaly ที่ 23-04-2014 00:16:01
 :hao6:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: zalapao14 ที่ 23-04-2014 00:22:34
น้องธาร เธอรู้มั้ยว่าชั้นมายืนรอเธอทุกวันเลยนะ

รอ ร๊อ รอ......................

 :z10: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 23-04-2014 01:51:55
เข้ามาติดเรื่องนี้แล้วอ่า อ่านแล้วหน่วงไปไหนคะ
น้องธิป เราเตือนคุณด้วยความหวังดี อย่าคิดที่จะทำลายคนอื่น
เพื่อเอาคนของคนอื่นมาเป็นของตัวเองเลย
ไม่เห็นตัวอย่างคุณแม่ของตัวเองเหรอคะ ว่าผลที่ได้มันเป็นยังไง
น้องธาร ไม่สงสัยเรื่องพ่อกะพี่ทรายอีกหน่อยคะ จ้างนักสืบ เอาให้กระจ่างไปเลย
ส่วนพี่วีย์ แหมชอบแบบกล้ามๆใช่ไหมตัวเธอ รบกวนหาคู่ที่ไม่ใช่น้องธารให้ด่วนค่ะ
ติดตามต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: Viper_Wa ที่ 24-04-2014 11:35:50
ชอบจังเลย "ผมเปนของพี่""พี่ก็เปนของธาร" ฟินเรย 555 :hao5:

ถ้าตัวละครที่มาใหม่เปนพระเองเรื่องใหม่จะเชียร์เลย รุกน่าดู :hao6:

แต่อย่าบังอาจมาเสยท้ายธารเลยนะ :angry2: แกมันแค่ตัวสร้างสีสันเฟ้ย :angry2:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: iamy ที่ 24-04-2014 12:03:23
เม้นต์ตอน1
ตกใจเบาๆกับตอนแรก U.U ปกติเคยอ่านแต่อีโรติก ชช เจอ อีโรติก ชญ ไปไม่เป็นเลยผม @@"
แต่สนุกดีนะครับ ชอบพาร์ท พี่ซีจ๋ากับน้องทราย น่ารักอบอุ่นดี เป็นพี่น้องที่รักกันมาก
เหมือนลางผมจะบอกว่าตอนต่อๆไปพี่น้องสองคนนี้ต้องโดนแทรกแซงแน่ๆ Y^Y
ไม่ชอบพระเอกเลยอ่ะ ตอนแรกอ่านบทนำคิดว่าเป็นเด็กผู้ชายร้ายๆขาดความอบอุ่นธรรมดา
แต่นี่ถึงขนาดเย็นชา ไร้หัวใจ มั่วหญิง โอยยยยย ผมรับไม่ได้ สงสารน้องทรายจัง U-U
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: iamy ที่ 25-04-2014 12:34:57
เม้นต์ตอน2
จะเกลียดนายธารลงมั๊ยเนี่ย ><? เดินมาส่งพี่ทรายด้วย
นึกถึงเรื่อง ติวรักสุดใจนายเกเร ของ Bboyseries เลยครับ
เป็นนิยายเรื่องแรกในเล้าเลยที่ผมอ่าน ไม่ได้อ่านแนวนี้มานานมาก
เรื่องนั้นว่าพระเอกร้ายแล้วนะ นายธารนี่ไม่แพ้เลย (เอ๊ะ! หรือต้องดูกันยาวๆ ^^)
นายธารเป็นไบหรอ OO? เรื่องจริงหรือแค่แกล้งพี่ทราย?
เอาใจช่วยพี่ทรายครับ รับมือกันนายธารคงเหนื่อยน่าดู ^^"
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 25-04-2014 22:12:13
คนเขียนบอกให้รออาทิตย์นึง นี่เพิ่งผ่านไปส่ามสี่วัน ทำไมเรารู้สึกมันน้านนาน
อยากอ่านค่อแล้วค่าาาาา
คิดถึงพี่ทราย คิดถึงธาร คิดถึงคนแต่ง  :o12:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: Fellina ที่ 26-04-2014 00:41:33
ปวีย์!!!???

55555 ธารเอ้ยยยยธาร ระวังหลังไว้ให้ดีเถอะ 555
เมะชนเมะ น่าสนๆ ถ้าไม่ติดว่ามีพี่ทรายเป็นนายเอก
จะยุให้ปวีย์กดธารเสียหน่อยนะเนี่ย อิอิ

อย่าเป็นตัวร้ายมากละกัน
อ่านๆแล้วก็ดูไม่เลวอยู่ ถ้าไม่ติดว่ารุกหนักไปนิด แต่ดูค่อนข้างสุภาพนะ ไม่รู้สิ
เอาเป็นว่าถ้าไม่ร้ายถึงพี่ทราย จะยอมเอ็นดูให้ละกัน 5555
อดแอบจิ้นไม่ได้แฮะ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: iamy ที่ 26-04-2014 13:01:49
เม้นต์ตอน3
ธารห่วงพี่ทรายแล้ว U.U รู้สึกไวเหมือนกันนะเนี่ย มีโมเมนต์น่ารักๆบนรถด้วยนะครับ ^^
อยากเห็นอิมเมจ ธารทราย จังเลยที่นักแต่งตั้งไว้จะตรงกับนักอ่านรึเปล่า
อิมเมจบ้าน พี่ซีจ๋ากับทราย สวยดีนะครับ ดูอบอุ่นน่าอยู่ดี เป็นทั้งร้านแล้วก็บ้านในหลังเดียวกันเลย
อ่านๆไปรู้สึกว่าธารไม่ใช่เด็กที่ร้ายกาจอะไรเลยนะครับ เหมือนอารมณ์ประมาณเป็นเด็กที่มี
พื้นฐานจิตใจดี แค่ขาดความอบอุ่น ต้องการความรักความสนใจจากแม่ เลยแสดงออกโดยการ
แข็งกระด้างอาจเพื่อประชดชีวิตเรียกร้องความสนใจหรือปกป้องตัวเองจากอะไรซักอย่างก็ตาม
แต่ทำให้นักอ่านรู้สึกได้ว่าธารไม่ใช่แค่ตัวละครในนิยายมีหลายมิติน่าค้นหาอยากรู้จักจริงๆ
(แต่ชอบมุมอ่อนโยนของธารนะ น่ารักดี มุมแข็งกระด้างไม่ไหวทำร้ายกันเกิน)

-ว่าแต่ดื่มนมก่อนนอนทุกคืนแล้วกลิ่นนมติดแก้มขนาดนั้นเลยหรอ?
 ผมเคยได้ยินแต่เพื่อนบอกว่า ทาแป้งกลิ่มเดิมๆทุกวันจนกลิ่นติดตัว เดินมาไม่เห็นหน้าได้กลิ่นก็จำได้แล้ว (ขนาดนั้นเลย)
 ผมก็ใช้เกลือสปากลิ่นนมขัดตัวทุกวัน อย่างนี้กลิ่นนมจะติดตัวผมด้วยมั๊ยเนี่ย >< (แอบนอกเรื่อง ฮ่าๆๆ)
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: Riko ที่ 27-04-2014 01:36:48
คือ ถ้าจะตอบก็ละอายใจค่ะ
เห็นเม้นท์แต่ละคนแล้วนี่แบบ..... :a5: ยาวมากก ชาบูๆ :call:
ไอ้เราก็อ่านทุกครั้ง แต่ขอประทานอภัยที่อ่านแล้วไม่เม้นท์นะคะ
เพราะว่าเอาโน้ตบุ๊คเข้าศูนย์
เลยนั่งอ่านจากโทรศัพท์
พอจะกดพิมพ์ มันก็เด้งๆๆ โทรศัพท์ราคาถูกน่ะค่ะอย่าสนใจ  :o8:

ในที่สุดก็เข้าใจกันสักที
นังธิปก็ยังแรด แควดแซงทางโค้งเหมือนเดิม
แรงแต่ปาก ยุแต่ให้คนอื่นเขาแยก
เสียใจค่ะ คุณหล่อนได้แค่จูบ แต่ไม่ได้ตัวน้องธารค่ะ เสียใจด้วยนะคะคุณน้อง  :mew2:

สงสารทรายเหมือนเดิม
สถานะก็ยังไม่แน่นอน
ถึงธารจะบอกว่าให้ลืมมันไป
ใครมันจะไปลืม
น้องทรายของพี่โดนข่มขืนมาตั้งแต่ช่วงต้นๆเรื่อง
นี้ก็เลยเถิดมาหลายตอน
ทำร้ายจิตใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงเป็นบ้าไปแล้ว
แต่นี่เป็นน้องทรายของเจ้ เข้มแข็งแบบนี้ รักตายเลย
อยากให้น้องทรายมีความสุข
หวังว่าธารจะไม่ผีเข้าอีกนะ

แล้วก็ช่วยกรุณาเอานังธิปออกจากชีวิตน้องธารด้วยค่ะ
ถ้าจะลักกินกัน ก็ไปไกลๆ ไม่ต้องมารายงานข่าวค่ะ

#นาทีนี้ติ่งน้องทรายค่ะ o18 #เป็นแอนตี้แฟนนังธิป  :katai4:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [21/04/57] I'm your
เริ่มหัวข้อโดย: taengoo ที่ 27-04-2014 21:03:14
วันนี้อัพมั้ยคะ
เราเข้ามารอทุกวันเลยนะ
>< โอมมมม จงลงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 27-04-2014 23:49:32



บทที่ 31


 
“เดี๋ยว” อ้อมแขนแกร่งคว้ากอดเอวคนตัวเล็กไว้

“มาบอกผมตอนนี้รู้ไหมว่าพี่จะโดนหนักแค่ไหน”

ไฟสีส้มสลัวถูกหรี่ไว้ตั้งแต่เมื่อคืน บทรักเร่าร้อนเพิ่งผ่านพ้นไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น วารินรู้สึกตัวอีกทีตีห้ากว่าจึงรีบจะลุกจากที่นอน แต่ธาราธารไม่ยอมปล่อย ยังรั้งแขนเขาไว้ ต้นเหตุเพราะเขาเพิ่งจะบอกออกไปว่าวันนี้ทัตพลกับภูวดลจะมาเยี่ยมภัครจิราที่นี่ เจ้าเด็กนี่เลยถือโอกาสงอแงกับเขา

“แล้วเขาจะมากันกี่โมง?”

“เก้าโมงมั้งราว ๆ นี้  เดี๋ยวพี่ต้องไปตลาด วันนี้ธารจะเข้าไปที่โรงแรมรึเปล่า”

“ขึ้นมานี่มา” เขาดึงแขนเล็กให้วารินล้มเอนลงที่เขาแล้วจับเอาทั้งตัวขึ้นทาบทับร่างเขาไว้ วารินรีบลุกขึ้นมือเล็กยันหน้าอกแกร่ง ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าวารินนั่งอยู่บนตัวเขา

“ไม่เข้าไปหรอก เมื่อวานพี่หอบเอางานมาให้ผมหมดแล้วนี่ ที่เหลือค่อยไปเคลียร์วันจันทร์ละกัน”

“ธารอย่าเล่นสิ เดี๋ยวดาวรอ พี่ต้องไปตลาดนะ” เพราะมือของเขาซุกซนมากจริง ๆ

“ไม่ต้องไปแล้ว เมื่อคืนผมบอกเจ้าเตไว้แล้ว ต่อไปให้พาดาวไปตลาดเหมือนเดิม เดี๋ยวจะให้แม่บ้านที่โรงแรมอีกสักคนมาช่วยดาวเรื่องงานบ้านแบบไปเช้าเย็นกลับก็แล้วกัน ส่วนพี่แค่ดูแลผมกับคุณแม่แค่นี้ก็ ‘หนัก’ พอแล้ว”
เขาว่าแล้วยิ้ม ไม่รู้วารินคิดไปเองหรือเปล่าดูเหมือนเขาจะเน้นคำว่า หนัก มากเหลือเกิน

“ถ้างั้นก็ปล่อย พี่จะได้ไปอาบน้ำ”

“คิดว่าผมจะปล่อยไหม หืม” สายตาแพรวพราวที่จ้องมองขึ้นมาทำเอาวารินต้องรีบหลบ สองมือขยำแก้มก้นงอนงามที่คร่อมอยู่บนตัวเขา วารินสะดุ้งตกใจ เขาจึงหัวเราะออกมาเบา ๆ

“รอบเดียว” เขาว่าอ้อน ๆ

“ไม่เอาธาร” วารินดิ้นพยายามจะลงจากตัวเขา หน้าแต้มสีแดงระเรื่อตั้งแต่เขาจับให้นั่งอยู่บนตัวเขาตั้งแต่แรกแล้ว

“อย่าดื้อนะ รู้ไหมเช้า ๆ แบบนี้ร่างกายผมคึกแค่ไหน พี่ผิดเองที่ขึ้นมานั่งยั่วผมแบบนี้น่ะ”

เขาพูดจบไม่รอช้าพลิกร่างเล็กลงมานอนแทนที่ตัวเขาขึ้นคร่อมทับไว้ทันที ดวงตาสองคู่สบประสานกันนิ่งงันดั่งต้องมนต์สะกดนิ้วมือใหญ่สอดประสานฝ่ามือเล็กแล้วออกแรงกดเบา ๆ  ใบหน้าน่ารักลอยเด่นอยู่แค่ปลายจมูกโด่งของเขาเท่านั้น แก้มเนียนร้อนผ่าวเพราะสายตาที่จ้องลงมานั้นมิอาจปิดบังความปรารถนาไว้ได้เลย ทั้งที่เพิ่งผ่านศึกร้อนแรงมาแค่ไม่กี่ชั่วโมงแท้ ๆ ทำไมร่างกายเขามันถึงได้เร่าร้อนขนาดนี้กัน

ธาราธารคลี่รอยยิ้มร้ายในแบบที่เขาชอบทำเสมอ ละฝ่ามือหนึ่งข้างเข้าลากไล้ไปตามแผ่นหลังโค้งละมุนผ่านชุดนอนผ้านิ่มเนื้อบางชุดเดิม จนวารินสะท้านไปทั่วทั้งเรือนกาย
 

....แค่สายตาของเขา กับฝ่ามือร้อน ๆ ของเขา....

 
วารินเบนหลบสายตาหวานฉ่ำ แต่ก็ถูกนิ้วแกร่งเชยคางมนให้เงยสบกับดวงตาของเขาอีกครั้ง มันช่างงดงามและน่าหลงใหลนักวารินหน้าซับสีแดงเข้มขึ้นไปอีก น่าแปลกใจมากที่ดวงตาของเขามันช่างเต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนเสียจริง
เขาฝังปลายจมูกโด่งลงมาราวกับกลัวว่าแก้มนิ่มจะบอบช้ำ อยากจะทะนุถนอมร่างกายนี้ให้มากที่สุด เขารู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ทั้งที่แต่ก่อนเขาจะฟาดฟันคู่นอนเพื่อให้ทุกอย่างจบสิ้น สนองความปรารถนาของเขาให้เสร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่กับวารินไม่เคยเป็นแบบนั้นสักครั้ง เขาอยากใช้เวลากับคน ๆ นี้ให้นานที่สุด กกกอดกันไว้ พูดคุย คลอเคลีย ดูดดื่ม เล้าโลมโดยเฉพาะเมื่อนึกถึงคำพูดที่วารินพูดกับเขาเมื่อคืนมันช่างบาดใจเขาเสียเหลือเกิน


        ‘ที่ระบายเวลาผมอยาก’


เขาพูดกับคน ๆ นี้ไปแบบนั้นได้อย่างไรกัน เวลาที่คนเราโกรธแค้นทำได้ทุกอย่างจนน่ากลัวจริง ๆ เมื่อเราก้าวข้ามจุดนั้นมาแล้วและหันกลับไปมองคนเรามักเสียใจกับการกระทำที่เลวร้าย
ยังดีที่วารินไม่เคยถือโทษโกรธเขาเลยสักครั้ง ไม่เช่นนั้นเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อย่างไรในตอนนี้ถ้าไม่มีคน ๆ นี้อยู่ในอ้อมแขน

.

.

.

 
“พี่ซี คุณทัต สวัสดีครับ”

วารินเชิญให้ทั้งสองคนเข้ามานั่งที่ห้องรับรองเล็ก โดยที่ธาราธารนั่งคอยอยู่ก่อนแล้ว เขาไม่แม้แต่จะหันไปทักทายทัตพล วารินนั่งลงใกล้ภูวดลมือใหญ่ยกขึ้นยีผมคนตัวเล็กอย่างรักใคร่

“กินข้าวยังเรา” ภูวดลถามเบา ๆ

“กินแล้วครับ พี่ซีล่ะกินมาหรือยัง” วารินเอื้อมมือมาโอบเอวพี่ชาย

“กินมาแล้ว อ้วนขึ้นนะเราดูซิเอวมีแต่พุงเนี่ย”  เขาว่าแล้วจี้เอววารินไปที น้องชายตัวเล็กหัวเราะเอิ้กอ๊าก “ทรายหล่อออก ใครว่าทรายอ้วน”  วารินยู่ปากทำเสียงเล็กเสียงน้อย  ได้ยินธาราธารกระแอมไอขัดจังหวะสองพี่น้องดังขึ้นมา

“ธาร พ่อกับซีมาเยี่ยมภัคร เราขอขึ้นไปข้างบนได้ไหม” ทัตพลที่นั่งมองลูกชายตัวเองนานแล้ว ในที่สุดก็พูดขึ้น

“คุณแม่กำลังทำกายภาพอยู่ อีกสักสิบนาทีก็ถึงเวลาลงมาชมสวนแล้ว ถ้าหากคุณอยากจะเยี่ยมก็ต้องรอสักหน่อย”
เขาพูดเสียงเรียบ วารินมองไปที่หน้าเขา วันนี้เหนือความคาดหมายมากธาราธารไม่โวยวายกับทัตพล เขายอมพูดด้วย ถึงในน้ำเสียงจะห้วนอยู่มากแต่นี่คือดีที่สุดแล้วสำหรับตอนนี้

“พี่ทราย มานั่งนี่ข้างๆผม” สายตาเขายังจับอยู่ที่มือเล็กที่กอดเอวภูวดลไว้

“แต่ว่า..”

สายตาคมตวัดมอง วารินรีบหันหาภูวดลตาละห้อยเขาอยากกอดพี่ชายต่ออีกนิดช่วงนี้ไม่ได้แวะกลับบ้านเลยทั้งที่ก็อยู่ไม่ไกลกันมากมาย ภูวดลลูบแผ่นหลังเล็กเบาๆหากแต่สายตาจับอยู่ที่คนตรงข้าม เริ่มเอะใจความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่

“ช่างเถอะไม่เป็นไร นั่งอยู่ตรงนั้นก็ได้ เดี๋ยวผมจะไปพาคุณแม่ลงมา” เขาว่าจบแล้วรีบลุก เดินหายขึ้นไปชั้นบน พักเดียวเขาก็อุ้มภัครจิราลงมา ประคองเธอนั่งลงบนรถเข็นวารินรีบเข้าไปช่วย  ทัตพลยืนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แม้แต่น้ำในลำคอยังแห้งผากเหมือนมีอะไรบางอย่างจุกอยู่ในนั้น

“คุณแม่ครับ  คุณ....คุณทัตพลกับพี่ชายของพี่ทรายเขามาเยี่ยมคุณแม่ เราจะไม่พูดถึงเรื่องราวเก่า ๆ อีก ถ้าหากสิ่งเหล่านั้นมันจะทำให้เราไม่สบายใจ ทิฐิทุกอย่างผมขอให้วางมันไว้ก่อนนะครับ เราลองเปิดใจกันดู เผื่ออะไรหลาย ๆ อย่างจะดีขึ้น” เขาบีบมือเธอเบา ๆส่งแววตาให้กำลังใจปนขอร้องอยู่ในที  จากนั้นจึงลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาทัตพลที่ยืนนิ่งมองภัครจิราอยู่นานแล้ว

“นี่คือผลจากการกระทำของคุณ ไม่จำเป็นต้องมาขอโทษผม เพียงเพราะคุณอาจรู้สึกว่าคุณผิดและโทษตัวเอง แต่ทำแบบนั้นแล้วจะมีอะไรที่ดีขึ้น ถ้าหากคุณอยากจะไถ่โทษจริง ลองเข้าไปคุยกับคุณแม่ดู  ท่านต้องออกไปสูดอากาศตอนเช้าทุก ๆ วัน คุณลองพาท่านไปชมดอกกุหลาบที่สวนดูสิ” 

เขาว่าโดยที่ไม่ได้มองหน้าคุณพ่อของเขาเลยแม้แต่น้อย  คว้าเอาแขนวารินออกจากรถเข็ญแล้วพาเดินแยกออกมา  เป็นทัตพลที่ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเธอใกล้ ๆ

มือใหญ่จับลงที่แฮนด์วีลแชร์ เข็นแล้วพาเธอออกไปที่สวนด้านนอก แปลงดอกกุหลาบหลากสีส่งกลิ่นหอมยาวตลอดริมทางเดิน  แม้ตัวเธอจะเบามากแต่ความรู้สึกของคนเข็นช่างหนักอึ้งเสียเหลือเกิน

เขาเอื้อมมือไปเด็ดเอากุหลาบสีเหลืองอ่อนดอกหนึ่งยื่นส่งให้เธอ แต่เธอจะสามารถยื่นมือมารับได้อย่างไร หัวใจของเขาหล่นวูบเมื่อนึกถึงความเป็นจริงที่เกิดอยู่ต่อหน้าใบหน้าคมสลดลงอย่างเห็นได้ชัด  เข่าแกร่งทรุดลงที่พื้นมองหน้าเธอนิ่ง วางดอกกุหลาบใส่ฝ่ามือขาวนุ่มของเธอ

เมื่อความจริงที่แสนเจ็บปวดกำลังแสดงให้เห็นอยู่ต่อหน้า มือหนาสั่นน้อย ๆ ในยามที่กุมมือเธอให้รับก้านกุหลาบนั้นไว้ ขอบตาเขาร้อนผ่าวก่อนจะข่มมันและพยายามกล้ำกลืนมันลงไป
 

....ใครกันที่บอกไว้ว่า ผู้ชายไม่มีน้ำตา…..
 

วารินที่ยืนอยู่ไม่ไกลขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาไม่รู้ตัว  ธาราธารจ้องมองภาพพ่อกับแม่ของเขาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเช่นกัน ใช่..เขาเกลียดผู้ชายคนนี้ คนที่ทำให้แม่ของเขาต้องมาตกอยู่ในสภาพน่าเวทนาแบบนี้ แต่ในอีกความรู้สึกกลับใจชื้นขึ้นมาหน่อย ๆ ที่ภัครจิราไม่ต่อต้านยอมให้โอกาสทัตพล

ถึงแม้ทุกอย่างจะสายเกินไปสำหรับคำว่าเริ่มต้นใหม่ แต่มิตรภาพดี ๆ ที่มีให้แก่กัน น่าจะสร้างมันขึ้นมาได้อีกครั้ง


...อย่างน้อย คน ๆ นี้ก็เป็นคุณพ่อของเขา...


“ภัคร” น้ำเสียงทุ้มต่ำสั่นไหว เขาที่ก้มหน้าปิดบังรอยน้ำตายกหลังมือขึ้นเช็ดความอ่อนแอทิ้งไป เมื่อมองสบที่ดวงหน้าของเธอ เขาจึงเห็นว่าสายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่กุหลาบสีเหลืองในมือแน่นิ่ง

“ผมรู้.......คำขอโทษของผม คงจะมีค่าน้อยเกินไปมาก แต่ผม....ก็ยังอยากจะพูดมัน.....กับคุณ”

เขาบีบมือเธอเบา ๆ ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ ๆ แตะจูบลงไปที่มุมปากสวยแผ่วเบา แล้วเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้เธอต้องหลั่งน้ำตา
 

“ขอโทษครับ  ผมขอโทษ ไม่ต้องยกโทษให้ผมนะคนดี ไม่ต้อง...ฮึกก...ยกโทษให้ผม”
 

ปลายนิ้วแกร่งปาดคราบน้ำตาบนใบหน้าสวยออกอย่างเบามือ ทั้งที่ตัวเองก็ยังร้องไห้อยู่ไม่หยุด ทัตพลสุดที่จะข่มกลั้นเขาก้มหน้าชิดอกร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนไหล่สั่น

“พี่ทัต” ภูวดลเดินเข้ามาหา ลูบลงที่หลังเขาเบา ๆ ให้กำลังใจ “พาคุณภัครไปดูปลาไหมครับ ทางโน้นร่มรื่นมากเลย เราเข็นรถไปจอดไว้ตรงนั้นดีกว่านะ

ทัตพลพยักหน้าเบา ๆ ค่อยลุกขึ้นพารถเข็นค่อยเคลื่อนไปทางสระปลาสวยงามที่หน้าบ้าน บริเวณนั้นเตโชกำลังยืนรถน้ำต้นไม้อยู่ไม่ไกลนัก

ธาราธารเห็นบรรยากาศดีขึ้นเขาจึงพาวารินเข้ามารอที่ด้านใน ไม่นานนักทั้งสามคนก็ตามเข้ามา

“ขอพ่ออุ้มแม่เขาขึ้นไปข้างบนเองจะได้ไหมธาร” เขาเดินเข้ามาใกล้แล้วถาม ธาราธารมองหน้าเขาชั่งใจครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าให้เบา ๆ ทัตพลค่อยช้อนตัวเธอขึ้นไป ประคองนอนลงบนเตียงกว้าง ข้าง ๆ กันมีป้าวันนาคอยดูแลอยู่แล้ว

“พักผ่อนนะ  แล้วผมจะมาหาอีกเรื่อย ๆ”

เขามองดวงหน้าเล็กของเธอ กระชับผ้าห่มๆให้จนชิดอกก่อนจะเดินออกมาที่ด้านนอก น้ำตาไหลลงมาอีกครั้งอย่างสุดจะข่มกลั้นไว้จริง ๆ เขาหยุดตรงทางที่จะลงบันไดยืนเกาะราวร้องไห้อย่างไม่อายใครหน้าไหนทั้งสิ้น เป็นภูวดลอีกแล้วที่ขึ้นมาแตะลงที่ไหล่เพื่อปลอบใจ

“ซีฉัน.....” เขาพูดไม่ออก ความผิดทุกอย่างเกิดเพราะเขาทั้งนั้น เขาทำให้ผู้หญิงที่เขาเคยรักต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้

“อย่าโทษตัวเองเลยครับ” ภูวดลปลอบใจ ทัตพลมองหน้าเขาช้า ๆ ภูวดลยังไม่เคยรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับวารินที่ทำให้ภัครจิราต้องนอนป่วยอยู่แบบนี้ คงกำลังคิดว่าเขาเสียใจเรื่องที่ทิ้งเธอไปไม่ดูแลมาตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา
 
 
“อาทิตย์หน้าพี่ซีว่าจะไปเชียงใหม่กับคุณทัตนะทรายอยากได้อะไรไหม”

ภูวดลบอกกับวาริน เมื่อทั้งเขาและทัตพลเดินออกมาเอารถ คงถึงเวลาที่จะต้องกลับ ธาราธารเองก็เดินตามมาด้านหลัง

“ไม่มีหรอกครับทรายไม่อยากได้อะไรหรอก พี่ซีไปทำไม ไปเที่ยวเหรอ?”

“คุณทัตเขาชวนไปดูพิพิธภัณฑ์ภาพวาดของเพื่อนเขาน่ะ พี่ซีสนใจเลยอยากจะแวะไปดู

“พี่ซีเที่ยวให้สนุกนะครับ คุณทัตพลครับผมฝากพี่ชายด้วยนะ”

วารินหันไปด้านหลัง ทัตพลกับธาราธารเดินคู่กันมา สองคนเหมือนกันมากจริง ๆ ทั้งส่วนสูง ขนาดตัว รวมไปถึงหน้าตา

“ไม่ต้องห่วงหรอกทราย ซีมากกว่าที่ต้องดูแลฉัน” เขาว่าแล้วยิ้ม เดินเกือบจะถึงรถกันอยู่แล้ว รถเบนซ์สีดำคันใหญ่ของใครบางคนขับปาดเข้ามาจอดลงใกล้ ๆ

“คุณพ่อ แวะมาที่นี่เหรอครับ”  ชนาธิปเปิดประตูลงมาร้องทักทัตพล แต่ตัวเขาเดินเข้าไปหาธาราธารทันที

“ธาร ธิปมาเยี่ยมคุณแม่ของธาร วันนี้ธิปว่างทั้งวันไม่มีอะไรทำ เลยแวะมาเล่นกับธารน่ะ”

มือเล็กเข้าไปเกาะแขนธาราธารไว้ทันที ทัตพล ภูวดล และวาริน มองการกิริยานั้นของชนาธิปเป็นตาเดียว

“คุณพ่อมานานหรือยังครับ เอ๊ะหรือว่ากำลังจะกลับกันแล้ว  ตายล่ะธิปน่าจะมาให้เช้ากว่านี้สักหน่อยคิดถึงคุณพ่อจังไม่แวะไปที่บ้านเลยนะครับ”

ทัตพลมองหน้าชนาธิปนิ่งอ่านไม่ออกจริง ๆ ว่ากิริยาแบบนั้นของชนาธิปจริงใจหรือไม่อย่างไร  เขาเดินไปบอกภูวดลว่าขอเวลาสักครู่อย่าเพิ่งกลับ แล้วเดินกลับเข้าไปหาชนาธิป

“ธิป เดินไปทางนี้กับพ่อเดี๋ยวหนึ่งได้ไหม”

ชนาธิปจำใจต้องปล่อยแขนธาราธารออกแล้วเดินตามทัตพลไปที่มุมหนึ่งของสวน

“ตรง ๆ เลยนะ ลูกเป็นเพื่อนธารเขาใช่ไหม”

“ใช่ครับ”

“คิดอะไรมากกว่าเพื่อนหรือเปล่า?”

“คุณพ่อ!”

“พ่อไม่ได้หูหนวกตาบอดนะธิป  ลูกคงจะรู้เรื่องภายในครอบครัวของเรามาจากแม่เขาแล้ว พ่ออยากให้ลูกดูแม่เขาไว้เป็นตัวอย่าง ผลของการกระทำที่เลวร้าย สุดท้ายแล้วก็ไม่เหลืออะไรอีกเลย ลูกยังเด็กกลับตัวตอนนี้ถือว่ายังไม่มีอะไรสายเกินไป ถ้าลูกไม่หลับหูหลับตาจนมองไม่เห็น น่าจะรู้ความสัมพันธ์ระหว่างธารกับทราย  จะทำอะไรคิดดูให้ดีด้วย”
เขาเดินเข้าไปบีบลงที่ไหล่เล็กเบา ๆ

“พ่อหวังดีกับลูกเสมอ อะไรที่ไม่ใช่ของ ๆ เรา ไม่ว่าเราจะไขว่คว้ามันไว้แค่ไหน สุดท้ายมันก็ต้องหนีหายจากเราไปอยู่ดี  ดูพ่อกับแม่เป็นตัวอย่าง”

เขาเตือนสติลูกชายไว้แค่นั้น ก่อนจะก้าวเข้ามาหาภูวดลแล้วบอกลาทั้งธาราธารทั้งวาริน รถคันใหญ่ของทัตพลเคลื่อนตัวออกไปแล้ว

“มาทำไม? มีธุระอะไร” ชนาธิปเดินตรงเข้ามาหาธาราธารอีกครั้ง หลังจากหยุดนิ่งครุ่นคิดถึงคำพูดเหล่านั้นของทัตพล

“บอกแล้วไงว่าจะมาเยี่ยมคุณแม่ธาร นี่ใจคอจะไม่ชวนธิปเข้าบ้านจริงๆเหรอเนี่ย” มือเล็กยกขึ้นมาเกาะแขนเจ้าของบ้านอีกครั้ง แต่คราวนี้ธาราธารบิดแขนออกอย่างรำคาญแล้วเดินลิ่ว ๆ นำเข้าบ้านไป
 
“ดาว เดี๋ยวเอาน้ำกับอาหารว่างออกไปให้คุณชนาธิปด้วยแล้วกันนะ”  วารินเดินแยกมาที่ครัวล้างไม้ล้างมือแล้วบอกกับนับดาว

“แล้วพี่ทรายจะไปไหนน่ะพี่ ไม่ออกไปนั่งคุยกับเขาเหรอ”

นับดาวที่เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าวารินนั้นเป็นถึงเลขาของภัครจิรา แล้วตอนนี้ก็กลายมาเป็นเลขาของธาราธาร เธอแปลกใจเมื่อเห็นวารินเหมือนกับจะแยกตัวออกไปที่หลังบ้าน

“พี่เข้าไปเอากระเป๋าตังค์แป็บ วันนี้นัดกับนายเตไว้ว่าจะไปสวนฯด้วยกัน อยากได้ดอกไม้มาปลูกเพิ่มอีกหน่อยน่ะ”

“มิน่าล่ะ ดาวเห็นพี่เตอารมณ์ดีตื่นมาพรวนดินเตรียมแปลงไว้รอตั้งแต่เช้าแล้ว ที่แท้นัดกับพี่ทรายไว้นี่เอง”
วารินเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์แล้วเดินออกมาที่ห้องรับแขกเล็กหน้าบ้าน ธาราธารเพิ่งจะพาชนาธิปลงมาจากเยี่ยมคุณแม่ของเขาเห็นเข้าพอดี

“พี่ทราย เดี๋ยวผมจะออกไปดูที่แถว ๆ.........พี่ไปกับผม”

“จะรบกวนพี่ทรายเขาทำไมล่ะธาร วันหยุดแบบนี้ให้คุณเลขาเขาพักบ้างเถอะ ใช้งานหนักมากๆระวังจะเหนื่อยเกินไปนะ” ชนาธิปส่งยิ้มแพรวพราวมาให้วาริน

“ธารไปเถอะ พี่มีธุระพอดี เดี๋ยวตอนเย็นค่อยเจอกัน”

“จะไปไหน?”

“ไปซื้อต้นไม้ ธารไปเรื่องงานเถอะนะ ลองทำอะไรดูเองบ้าง ถ้าไม่เข้าใจอะไรแบบไหนเดี๋ยวตอนเย็นเรามาคุยกัน”

วารินพูดเหมือนไม่สนใจ ธาราธารรีบปราดเข้าประชิดตัวทันที พูดเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน

“จะเอาแบบนั้น?  จะปล่อยให้ผมไปกับเขาก็ได้งั้นใช่ไหม? พี่แน่ใจนะว่าจะเอาแบบนั้นจริง ๆ”

“ธาร!”

“ไม่หวงผมเลยจริง ๆสินะ”

แววตาคมกริบฉายแววผิดหวัง เขาและวารินมองหน้ากันนิ่งต่างคนต่างไม่ยอมลง ในที่สุดเขาเดินเข้าไปเรียกชนาธิปให้ตามเขาออกไป

.

.


“ซี เดี๋ยวเราแวะท็อปฯหน่อยดีไหม พี่อยากกินข้าวผัดเห็ดหอมน่ะ ซีทำให้ทานนะครับ”

รถจอดลงที่ลานจอด เขาสองคนเข้าไปหาซื้อหาของสดของแห้งกันไม่กี่อย่างแป๊ปเดียวก็กลับออกมา ภูวดลแวะซื้อช็อคโกแลตเย็นสองแก้วที่ด้านหน้าก่อนจะเดินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ คนขับ

“ขอบคุณครับ” ทัตพลรับมาหนึ่งแก้ว

“ได้ยินทรายเขาบอกว่าคุณภัครดีขึ้นมาก ผมเห็นเธอวันนี้ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นหน่อยเหมือนกันนะครับ เริ่มนั่งได้แล้วแบบนี้ไม่แน่ว่าปาฏิหาริย์อาจจะมีจริง ๆ ก็ได้”

“พี่ภาวนาให้มีจริงทุกวันเลยล่ะซี ยิ่งได้มาเห็นเต็มสองตาแบบนี้แล้ว.....” ทัตพลพูดไม่ออก ความรู้สึกทั้งหมดคือ เขารู้สึกผิดมากจริง ๆ

“ถ้าคุณภัครเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง พี่ทัตคิดว่าจะกลับไปดูแลเธอรึเปล่าครับ”

“เรื่องของพี่กับภัครมันจบไปตั้งยี่สิบปีแล้วซี ถ้าถามว่าจะมีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหม คำตอบจริง ๆ ก็คือไม่หรอก ระหว่างเรามันไปไกลเกินกว่าคำว่าเลิกราไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามพี่ก็หวังจะเห็นเขากลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง ภัครเขาโชคดีที่มีลูกที่ดี แล้วธารเอง ก็โชคดีที่มีทรายคอยอยู่เคียงข้าง”

ภูวดลหันขวับมาที่คนขับทันทีที่ทัตพลพูดจบ ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถามมากมายกับถ้อยคำที่ทัตพลเพิ่งจะเอ่ยออกมา

“อย่าบอกว่าซีดูไม่ออกนะ ว่าความสัมพันธ์ของสองคนนั้นไม่ธรรมดา”

“คุณกำลังจะพูดอะไรครับ” รถแล่นมาถึงหน้าบ้านพอดี ทัตพลชะลอรถลง

“พูดในสิ่งที่ซีก็กำลังคิดไง ไม่เอาน่าซีเราสองคนหัวสมัยใหม่กันทั้งคู่อยู่แล้วนี่ ความรักจะไปแบ่งเพศกันได้ยังไง เราใช้ใจวัดความรู้สึกกันไม่ใช่เหรอ”

ภูวดลมองคนพูดอย่างชั่งใจ ก่อนก้าวลงไปเปิดประตูรั้วให้ ทัตพลเลื่อนรถเข้ามาจอดไว้ด้านในเปิดท้ายรถหยิบถุงกับข้าวแล้วเขาสองคนก็เดินเข้าบ้านไปด้วยกัน  วันนี้วันอาทิตย์ที่แกลเลอรี่หยุด

“ซี” เสียงทุ้มเรียกขึ้นจากด้านหลัง ภูวดลหันมองก่อนวางข้าวของที่ซื้อมาลงที่โต๊ะในครัว

“พี่มีเรื่องจะสารภาพกับซี”

เขาไม่อยากปิดบังภูวดลอีกแล้ว คนเราควรคบกันด้วยความจริงใจ ไม่ว่าจะคบในฐานะอะไรก็ตาม

“เรื่องอะไรครับ” ภูวดลถามอย่างไม่ใส่ใจนัก เขากำลังคิดเรื่องที่ทัตพลพูดเรื่องธาราธารกับวารินไว้ก่อนหน้า
 
“ซียังจำได้ใช่ไหม วันนั้นที่พี่พาทรายเค้าไปทำธุระที่พังงาแล้วเราเลทออกไปอีกวัน”

ภูวดลพยักหน้าเบา ๆ หันมองคนพูดที่ยืนทิ้งระยะกับเขาพอสมควร สีหน้าแสดงความจริงจัง

“ความจริงมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้นที่นั่น ทำให้เราต้องเลื่อนวันเดินทางกลับ”

“ครับ”   แล้วยังไง

“พี่กับทราย เราโดนวางยา ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่เกิดขึ้นรู้ไปถึงหูของภัครจิราและธาราธาร นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ภัครต้องตกอยู่ในสภาพแบบนั้น”

.

.

.

รถจอดลงบริเวณตึกห้องแถวไม้ห่างจากใจกลางตัวเมืองไม่มากนัก ธาราธารก้าวลงไปยืนอยู่ข้างรถทอดสายตามองไปรอบ ๆ  แถวนี้เขาไม่เคยมาเลยด้วยซ้ำไม่น่าจะมีพื้นที่แบบนี้ในเขตกรุงเทพอีกแล้ว  จะว่าไปมีส่วนคล้ายห้องแถวโบราชแถว ๆ เยาวราชมากอยู่  มีคุณยายแก่ ๆนั่งแคะขนมครกขายอยู่ถัดออกไปสามสี่ห้อง เด็กๆกลุ่มเล็กวิ่งไล่จับเสียงดังเจื้อยแจ้ว

“ธารว่าที่ตรงนี้สวยไหม” ชนาธิปเดินเข้ามาใกล้แล้วถามขึ้น

“ก็ดีนะ”

“ธิปว่าจะเวนคืนทั้งหมดแล้วสร้างเป็นห้างสรรพสินค้า ที่แถวนี้ถ้าหากมีห้างใหญ่ครบวงจรมาลง จะต้องสร้างรายได้มหาศาลแน่ ๆ”

“แล้วคนพวกนั้น นายคิดจะทำยังไงกับพวกเขา” เขาพยักเพยิดหน้าไปทางชาวบ้านที่กำลังดำเนินกิจวัตรประจำวัน

“ก็แค่ให้เงินทดแทนบ้างเล็ก ๆ น้อยแล้วก็ให้ออกไปซะ ยังไงที่ดินตรงนี้ธิปก็มีสิทธิ์เต็มที่อยู่แล้ว ส่วนเขาจะไปอยู่ที่ไหนต่ออันนี้ก็แล้วแต่ ธิปไม่สนใจหรอก เขาได้เงินไปแล้วนี่จะไปอยู่ที่ไหนก็ไปเถอะ”

ธาราธารหันมองคนพูดทันที

“ธิปไม่ได้ใจดำนะธาร แต่คนเรามันต้องก้าวไปข้างหน้าสิ เราเป็นประเทศที่เจริญไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เขตเมืองหลวงยังจะมามีชุมชนเก่า ๆ แบบนี้อยู่ให้ได้อายคนต่างชาติเขาทำไมกัน สู้สร้างคอมเพล็กสวย ๆ หาเงินเข้าจากพวกนักท่องเที่ยวหรือพวกนักลงทุนดีกว่า”

จิตใจของชนาธิปช่างแตกต่างจากวารินมากจริง ๆ ธาราธารคิดได้ทันทีเลยว่าถ้าเป็นวาริน คงจะอยากให้คงสภาพชุมชนแบบนี้ไว้ในเขตเมือง มากกว่านำเสนอสิ่งปลูกสร้างหรูหราแบบที่ชนาธิปกำลังว่ามาแน่

“ถ้าธารชอบและก็เห็นด้วย ธิปจะเร่งดำเนินการให้พวกชาวบ้านเขาออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเลย”

“เกี่ยวอะไรกับฉัน นี่มันธุรกิจของบ้านนาย ฉันก็แค่สนใจคิดว่าจะมีที่ดินสวย ๆ แล้วไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครก็เลยตามมาดูด้วยก็เท่านั้น”

“สร้างความเดือดร้อนที่ไหน  พูดอย่างกับธิปจะไม่จ่ายเงินทดแทนให้เขาอย่างงั้นแหละ   ธิปอยากชวนธารมาร่วมหุ้นโครงการกันนะ  ถ้าธาร....”

“ไม่ต้องพูดแล้ว” เขาสวนขึ้นทันที   “เพราะฉันไม่คิดที่จะร่วมหุ้นร่วมโครงการอะไรกับนายทั้งนั้น” เขาว่าจบเปิดขึ้นไปนั่งบนรถ สตาร์ทเครื่องรอ ความจริงไม่ได้อยากจะออกมากับชนาธิปเลยสักนิด แต่ติดตรงวารินไม่ทักท้วงเอาไว้  เขาเลยประชดออกมามันเสียเลย

เกลียดตัวเองที่นิสัยเสียแบบนี้จริง ๆ

“ไม่เอาน่าอย่าอารมณ์เสียสิ  ไม่ชอบก็ไม่ชอบ เดี๋ยวถ้ามีโครงการดี ๆ ธิปจะลองมาบอกธารดูบางทีเราอาจมีโอกาสได้ร่วมมือกันทำอะไรบ้างก็ได้”ชนาธิปยังพล่ามต่อขณะที่เขานั้นเฉยไปนานแล้ว ตั้งหน้าตั้งตาขับรถ

“เราแวะทานข้าวกันก่อนกลับนะ ธิปอยากทานอาหารอิตาเลี่ยนน่ะ” เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบโต้อะไร ชนาธิปเริ่มอ้อนเขาทันที ใบหน้าเล็กซุกเข้ากับแขนเขาแล้วเอื้อมกอดที่ไหล่กว้างนั่น

“ทำอะไรของนาย! ฉันขับรถอยู่นะ”เขาว่าอย่างรำคาญเบี่ยงตัวออกเท่าที่จะทำได้แต่อีกฝ่ายยังตื้อไม่เลิก ถึงขนาดจับแขนเขาขึ้นมาแล้วงับเล่นลงไปไม่เบาเลย

“นี่! มันเจ็บนะ นายทำบ้าอะไรเนี่ย!” เขาบิดแขนออกแล้วผลักอีกคนจนเซไปชนประตู

“อย่าเล่น! รถเยอะเห็นบ้างไหมเนี่ย”

ชนาธิปตื้อจนเขาต้องพามาทานข้าว ปิดท้ายด้วยไอศกรีมอิตาเลี่ยนถ้วยใหญ่ ชนาธิปตัวเล็กแต่ทานจุมากกว่าวารินเสียอีก เขานั่งมองอย่างเซ็งกว่าจะได้กลับถึงบ้านก็เกือบจะค่ำ

“ขอบคุณมากนะธาร วันนี้ธิปมีความสุขมากเลย อาหารอร่อยมากเดี๋ยววันหลังธิปแวะมาหาอีก”

เมื่อรถจอดลงที่หน้าบ้านชนาธิปรีบลงแล้วเดินอ้อมมาหา

“รีบกลับไปได้แล้วไป ฉันรำคาญนายจะแย่ ทางที่ดีอย่าได้มาอีกจะขอบคุณมากเลย”

“ธารอ่ะใจร้าย  พอมาถึงบ้านแล้วไล่เชียวนะ กลับแล้วก็ได้ บาย”

เขาว่าแล้วจับรถขับออกไป ธาราธารเดินเข้ามาด้านในเห็นดาวเก็บถาดอาหารของภัครจิราผ่านลงมาจากด้านบนพอดี

“พี่ทรายล่ะดาว”

หัวข้อ: Re:(Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 27-04-2014 23:49:51

“พี่ทรายล่ะดาว”

“พี่ทรายออกไปสวนฯกับพี่เตยังไม่กลับกันเลยค่ะ”

“ออกไปกันตั้งแต่กี่โมง”

“หลังจากคุณธารออกไปน่ะค่ะ”

ไม่รอให้นับดาวพูดจบ เขาล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาทันที เรียกอยู่สามสี่ครั้งปลายสายก็กดรับ

“จะกลับมากินไหม ข้าวที่บ้าน หรือว่าจะไปดินเนอร์กับไอ้เตมันพรุ่งนี้ถึงจะกลับได้”

“ธาร! พูดอะไรให้มันดีนะ”

“ก็แล้วยังไงล่ะ เดินซื้อต้นไม้กันถึงซอยไหนไม่ทราบ ตั้งแต่บ่ายจนมืดค่ำแบบนี้ต้นไม้ยังไม่ได้ลงที่แปลงสักต้น นี่รึเปล่าที่ไล่ให้ผมออกไปกับชนาธิปเพื่อที่พี่จะได้ออกไปกับเตมันสองคนใช่ไหม”


-ติ๊ด-


วารินกดวางสายใส่ทันที ธาราธารถึงกับเขวี้ยงโทรศัพท์ลงบนโซฟาแล้วทิ้งตัวนั่งลงไปอย่างแรง หัวเสียอย่างที่สุด รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ชอบให้ไปไหนมาไหนกับเตโชวารินก็ยังคงทำ

“คุณธารให้ตั้งโต๊ะเลยไหมคะ” นับดาวช่างไม่รู้เวล่ำเวลา เดินเข้ามาถาม

“ไม่ต้อง! ฉันกินมาแล้ว กินกับแฟน!ฉันเอง”

ปากที่ช่างประชดประชันของเขาพูดออกไปแบบนั้น แต่นับดาวดันคิดไปว่าเขาพูดเป็นจริงเป็นจัง เธอจึงมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ  คุณชนาธิปเป็นแฟนคุณธาร?? แล้วพี่ทราย??
 



อีกฝากหนึ่งของเมือง

 “คุณธารโทรมาตามเหรอครับ” เสียงเตโชถามขึ้นข้าง ๆ เรียกสติวารินกลับมาอีกครั้ง หลังกดวางสายไปเขากำลังคิดเรื่องของธาราธารกับชนาธิป

“จวนจะเสร็จรึยังล่ะนายเต ซ่อมมาตั้งแต่บ่ายแล้วนะ”

“คุณทรายเรียกแท็กซี่กลับก่อนไหมครับ เดี๋ยวผมเฝ้ารถเอง เสร็จเมื่อไหร่ผมค่อยกลับ”

“ไม่เอาหรอก มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิ ฉันไม่ทิ้งนายเตแน่นอน หิวไหม ออกไปนั่งกินอะไรแถวๆนี้กัน”

“ครับ”  ที่อู่นี้รถค่อนข้างเยอะเขาสองคนต้องรอนานหน่อย  เตโชเดินเข้าไปบอกพนักงานว่าเดี๋ยวจะกลับมาเอารถ ไปหาอะไรรองท้องแถวนี้ก่อน ช่างฟิตที่มนุษยสัมพันธ์ดีจึงแนะนำร้านเพิงข้าง ๆ ให้ทั้งสองคน บอกอร่อยแล้วก็สะอาด
 

.

.
 

“โอ๊ยยย โอ๊ยย โอ๊ย เจ็บๆ ซีเบา ๆ หน่อยสิ”

ทัตพลร้องโวยวายดังลั่นอย่างกับเด็ก ๆ เมื่อภูวดลแตะสำลีลงที่มุมปากเขียวอื๋อของเขา มีเลือดซิบ ๆ ออกที่มุมปากด้วย ภูวดลหมัดหนักมากจริง ๆ

“สมน้ำหน้าคุณจริง ๆ นี่ครับ โดนแค่นี้มันยังน้อยไป”

“โถ่ซีแล้วพี่ตั้งใจเหรอ ถ้าเลือกได้ใครมันจะอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นกันเล่า ซีมือหนักจริง ๆ ”

“ไม่ได้หนักแค่มือนะครับ บอกเลย”

“กลัวแล้วครับ ไม่ทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว ไม่ไปกับใครในที่แบบนั้นสองคนอีกแล้ว ไปกับซีได้คนเดียว”

“คุณน่ะก็พูดเล่นไปเรื่อย  คุณทำให้น้องชายผมเสียหายนะ ผมนึกสงสัยตั้งแต่กลับมาจากพังงานแล้ว ทรายดูแปลกไป ยิ่งพอคุณภัครเธอมาป่วยผมยิ่งแปลกใจที่อยู่ ๆ ทรายมาบอกผมว่าจะไปอยู่ดูแลเธออยู่ที่นั่นทั้งที่เป็นแค่เจ้านายกับเลขา   ทรายคงจะรู้สึกผิดแล้วก็โทษตัวเองอยู่ตลอด”

“ในขณะที่พี่กลับหนีจากจุดนั้น พี่มันขี้ขลาดมากใช่ไหม”

“ผมไม่รู้ครับ  คุณเองก็คงจะมีเหตุผลของคุณอยู่  ว่าแต่  ไอ้คนที่ทำเรื่องขึ้นมาคุณไม่คิดที่จะลงโทษเขาหน่อยเพรอครับ”

“เท่าที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ก็ถือว่ากำลังรับโทษทัณฑ์ของเขาอยู่แล้วล่ะซี  ส่วนพี่ก็สมควรแล้วที่สุดท้ายจะไม่เหลือใครเลย กระทั่งลูกก็ยังไม่ยอมเรียกว่าพ่อสักคำ น่าสมเพชเนอะ”

“หึ สมน้ำหน้าคุณจริง ๆ ครับ” เขาทาบพลาสเตอร์ยากดหนัก ๆ ปิดลงที่แผล

“โอ๊ยยย  เจ็บๆ จริงๆ นะ เบาหน่อย”

“วันนี้คุณไม่ต้องกินข้าวนะ ผมไม่อยากจะทำอะไรให้คนอย่างคุณทานทั้งนั้นแหละ”

“เดี๋ยวพี่ทำเองก็ได้  วันนี้จะทำให้ทุกอย่างเลย พี่ไม่เหลือใครแล้วจริง ๆ อย่าไล่กันเลยนะครับ”

.

.

“พี่ทราย มาแล้วเหรอจ๊ะเห็นพี่เตโทรมาบอกว่ารถเสีย กินข้าวกันมาหรือยัง” นับดาวพอเห็นรถเข้าจอดปุ๊ปก็รีบวิ่งออกมาดูทันที

“กินกันแล้ว  คุณธารกลับมาแล้วเหรอ หาอะไรให้กินรึยัง” วารินมองเห็นรถธาราธารจอดนิ่งอยู่ใกล้ ๆ จึงถามขึ้น

“คุณธารบอกกินมาแล้ว ดาวไม่ชอบเลยพี่ทรายดาวไม่ชอบไอ้คุณชนาธิปนั่น มาหาคุณธารถึงที่บ้านแล้วยังพาออกข้างนอกกว่าจะกลับมากันอีก พอดาวถามนะว่าคุณธารทานข้าวเลยไหมดาวจะได้ตั้งโต๊ะ  รู้ไหมคุณธารเธอตอบดาวว่าไง ‘ไม่ต้อง!  ฉันกินมาแล้ว กินกับแฟน!ฉันเอง’  ทำไม้ทำไม คุณธารถึงไปชอบคนแบบนั้นได้ก็ไม่รู้ ถึงขนาดเอ่ยปากว่าเป็นแฟนทั้งที่ไม่เคยเรียกพี่ทรายของดาวว่าแฟนเลยสักครั้ง  พี่ทรายน่ารักกว่าตั้งเยอะเลย  ดาวน่ะ......”

“ดาว!” เตโชร้องปราม

“พอได้แล้ว พูดมากอะไรน่ะไม่เข้าท่าเลย เอาของเข้าบ้านเร็ว” แค่นี้เขาก็สังเกตเห็นแล้วว่าสีหน้าวารินสลดลงแค่ไหนตอนที่นับดาวทำเสียงล้อเลียนคำพูดของธาราธาร นับดาวช่างปากไม่มีหูรูดจริง ๆ

ทั้งวารินเตโชและนับดาวเดินตามกันเข้ามาในบ้าน วารินยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูสองทุ่มเศษ  รู้สึกวันนี้เสียเวลามากจริง ๆ กับการนั่งไร้ค่าอยู่ที่อู่ซ่อมรถ

“ไอ้เต!” เสียงทุ้มเรียกเตโชขึ้นทั้งดังทั้งห้วน ทั้งสามคนหยุดชะงักทันที ธาราธารนั่งไขว่ห้างหน้าตาเครียดขึงอยู่ที่เก้าอี้ชุดยาว

“ครับ” เตโชตอบรับ ร่างสูงใหญ่พอๆกับคนที่ถูกเรียกลุกขึ้นแล้วเดินหน้าเข้าหา

“มึงกินข้าวมาหรือยัง?”

“ทานเรียบร้อยแล้วครับ”

“แล้วมึงไปกินที่ไหน ร้านซ่อมรถมีข้าวให้มึงกินฟรี ๆ ด้วยเหรอ?”

“ธาร!” วารินเรียกขึ้นทันที รู้สึกบรรยากาศระหว่างคนถามและคนถูกถามชักแปลกๆแล้ว

“ผมทานที่ข้าง ๆ อู่น่ะครับ”

“อย่างนั้นหรือ  แล้วต้องให้กูถามไหม ว่ามึงนั่งกินคนเดียวหรือนั่งกินกับใคร” เตโชมองไปที่วารินทันที เขาเริ่มรู้แล้วว่าธาราธารเป็นอะไร

“พี่กับนายเต.....”

“ผมไม่ได้ถามพี่!” เขาตะคอก สายตาเครียดขึงยังจับอยู่ที่เตโชไม่ให้หลุดไปไหนได้

“ไหนมึงลองตอบกูมาซิ มื้อเย็นวันนี้มึงกินข้าวกับใคร!”

“กับคุณทรายครับ”

“แล้วทั้งวันของวันนี้ มึงใช้เวลาอยู่กับใคร”

“กับคุณทรายครับ”

“แล้วมึงคิดว่าถ้าคืนนี้กูไม่กลับมาค้างที่บ้าน มึงจะใช้เวลาที่เหลือตอนกลางคืนทั้งหมด อยู่กับใคร!”
 

เพี๊ยะ!!!
 

เสียงสะบัดฝ่ามือใส่ใบหน้าคมเข้มดังกังวานไปทั่วทั้งห้อง ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นบรรยากาศรอบตัวเงียบกริบ วารินที่เดินเข้าไปหาเขาแล้วฟาดฝ่ามือลงที่แก้มบดเบียดนิ้วจนแดงช้ำ กรามเล็กข่มแน่นกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลตกลงมา ธาราธารยังไม่หันใบหน้ากลับมา ดุนดันลิ้นรับรสเลือดฝาดจากภายใน จนในที่สุดเขาค่อย ๆ หันกลับมาจดจ้องลงที่ใบหน้าเล็ก

“ก็แล้วธารจะกลับมาทำไมกันล่ะ ถ้ารู้ว่าจะกลับมาแล้วทำลายความสุขสมหวังของพี่กับนายเตขนาดนั้น ธารจะกลับมาทำไม ทำไมไม่ค้างคืนกับคนที่ธารเรียกเขาว่าแฟนได้เต็มปากเต็มคำคนนั้นไปเลย กลับมาขัดขวางคืนวันอันแสนสุขของพี่กับนายเตทำไม!”

วารินเดือดสุดทั้งเรื่องจริงเรื่องโกหกว่าประชดออกไปไม่มีกั๊ก

“พี่ทราย!” เขาเองก็ขึ้นแล้วเหมือนกัน ทั้งเตโชทั้งนับดาวที่อยู่ตรงนั้นต่างรีบถอย

“เรียกทำไม! พี่ชื่อทรายอยู่แล้วไม่เคยเปลี่ยนเลย  จะบอกอะไรดี ๆ ให้นะ ที่ยอมมาตลอดเพราะพี่ทำผิดจริงถึงจะเกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจแต่ก็ถือว่าพี่ผิดเพราะผลของมันร้ายแรงมาก แต่ถ้าเป็นเรื่องที่พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยเหมือนอย่างวันนี้ธารอย่าคิดว่าจะมารังแกพี่ได้”

เขาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กแล้วบีบจนแขนเล็ก ๆ สั่นเทิ้ม วารินจ้องหน้าเขานิ่งแต่ไม่มีเสียงร้องให้ได้ยินสักแอะ ดวงตาที่จ้องมองเขานั้นก็ไม่มีแววหวาดกลัวเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว  ในที่สุดเป็นคนทำที่ทนไม่ไหวกระชากแขนแล้วดึงอีกคนขึ้นไปข้างบนด้วยกันเปิดประตูห้องโยนโครมร่างเล็ก ๆ ลงบนเตียง

“ขี้ขลาด!” วารินตะโกนลั่น “พอไม่ได้ดั่งใจก็จะทำร้ายกันแต่แบบเดิม ๆ อยากได้นักใช่ไหม! อยากได้แค่เรื่องแบบนี้ใช่ไหม! อยากได้แค่ร่างกายกันใช่ไหม!”

“พี่เป็นของผม” เขาปลดกระดุมลงเดินหน้าเข้าหาด้วยแววตาที่ลุกโชน

อย่าคิดว่าครั้งนี้วารินจะกลัว ร่างเล็กลุกขึ้นยืนประจันหน้าเขาแล้วกระชากเสื้อตัวเองออกทันทีเหมือนกัน ผิวขาวนวลโผล่พ้นสาบเสื้อที่ขาดลุ่ย กระดุมสองสามเม็ดบาดผิวอ่อนปลิวว่อนลงที่พื้น

“ถ้าอยากได้กันแค่เรื่องแบบนี้ก็เข้ามาเอาพี่เลย  จะนอนให้เอาดี ๆ แต่ขออะไรอย่างนะ เอาเสร็จแล้วปล่อยพี่ออกไป  นับจากวันนี้เราสองคนจะเกี่ยวข้องกันแค่เรื่องร่างกายเท่านั้น! ธารจะไม่มีวันได้อย่างอื่นจากพี่อีกแล้ว  อยากได้ก็เข้ามาเลย! เอาไปให้หมด ไม่มีส่วนไหนของพี่ที่จะรอดจากมือธารได้อยู่แล้ว มีแต่หัวใจพี่เท่านั้นที่พี่จะไม่มีวันยกให้ธาร ไม่มีวัน!”

น้ำตาไหลตกลงมาทั้งที่กลั้นไว้แล้วแท้ ๆ ร่างเล็กล้มลงนอนทอดกายรออยู่บนเตียง  ขณะที่อีกคนกลับหยุดชะงักอยู่ตรงนั้นกระดุมเสื้อถูกปลดออกได้แค่สี่เม็ดเท่านั้นคำพูดวารินกระแทกกลางใจเขาอย่างจัง ใบหน้าที่นอนร้องไห้ทอดกายรอเขาอยู่ที่เตียงกว้างแค่เอื้อมมือไปก็ถึงแล้ว แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าความรู้สึกของวารินตอนนี้ช่างห่างไกลเกินจะไขว้คว้ามาได้เหลือเกิน

“ทำไมไม่ทำล่ะ ทำไมไม่เดินเข้ามา”

เสียงเบาหวิวจากบนเตียงเอ่ยขึ้น หากแต่เขายังคงยืนเฉยอยู่อย่างนั้น

“ทำอย่างที่ธารตั้งใจสิ ทำลายพี่ ทำให้พี่เสียใจ ตอกย้ำคำว่าร้ายของธารให้พี่ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดตอบสนองความโกรธของตัวเอง  ทำสิ!ทำไมถึงไม่ทำ!! ยืนเฉยอยู่ทำไม!!!”

วารินลุกขึ้นนั่งแล้วกระชากเสื้อตัวเองจะถอดออกจากร่างอย่างไม่มีอีกแล้วคำว่าสติ  เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นขูดผิวขาวจนแดงช้ำแต่วารินก็ยังไม่ยอมหยุด ทั้งสะอึกสะอื้น ทั้งพยายามกระชากออกด้วยมือเล็ก ๆ แบบนั้น  น้ำตาไหลอาบลงมาไม่ยอมหยุดเขาพูดจาทำร้ายหัวใจกันมากมายเหลือเกิน  สุดท้ายคนที่ทนไม่ได้เมื่อเห็นการกระทำที่ทำร้ายตัวเองแบบนั้นก็ถลาเข้ามากอดคนตัวเล็กไว้หมดทั้งตัว

“พอแล้ว  พอแล้วพี่ทราย  พอแล้วไม่ทำนะ ไม่ทำร้ายตัวเองแบบนี้ ผมขอโทษ ผมผิด ผมมันหึงจนหน้ามืดไปหมด ไม่ทำแล้ว จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ขอโทษครับ ขอโทษนะคนดี พอแล้วไม่ดึงนะ”

เขาเอ่ยร้อนรนพรั่งพรูคำพูดจากใจจนหมดสิ้นเมื่อเห็นวารินทำกับร่างกายตัวเองแบบนั้น มือใหญ่ของเขาเข้ากันไม่ให้วารินฉีกกระชากเสื้อตัวเองได้อีก  จากนั้นจึงกอดร่างเล็กไว้แน่นจนตัวเขาสั่น

“พอแล้วครับ อย่าทำแบบนี้อีก ผิวถลอกหมดแล้วเดี๋ยวต้องทายานะ”

เขากอดวารินไว้แนบอก ใบหน้าเล็กที่เปื้อนคราบน้ำตาซุกเข้าที่แผงอกแกร่งราวลูกแมวน้อย
 
แต่ใครเลยจะรู้ว่า  มีบางคนแอบอมยิ้มร้ายเมื่อจับจุดเขาได้ถูกทาง  นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนอย่างธาราธาร ถ้าเขาจะร้ายใส่เรา เราต้องร้ายใส่ตัวเองก่อนแล้วเขาจะสงบลงได้
 
 
มือแข็งแกร่งจะค่อยเลื่อนประคองไหล่เล็กออกมาเพื่อให้เขาได้มองหน้าวารินได้ชัดขึ้น ตากลมสวยเผลอสบประสานสายตากับนัยน์ตาหวานฉ่ำที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นจะค่อย ๆ โน้มลงมาใกล้ชิดพร้อมกับประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มแสนหวาน มันเริ่มต้นจากความอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงแต่ยังคงความหวานล้ำอยู่ในที

....เขาจูบเก่งเหลือเกิน....

 ความโกรธเคืองทั้งหมดพลันสูญสลายหายไปสิ้นแค่ได้ลิ้มรสจุมพิตจากเขาเท่านั้น  วารินสะท้านไปทั้งร่างจูบตอบไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้น ปลายลิ้นนุ่มนิ่มเกี่ยวกระหวัดพัวพันกับปลายลิ้นเร่าร้อนของเขาจนแทบหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน  เขายกสองมือประคองใบหน้าเล็กให้รับรสจูบของเขาให้เนิ่นนานสมกับที่ทำให้เขาคิดถึงมาทั้งวัน วารินส่งเสียงครางในลำคอเบา ๆ ด้วยความหวามหวานซ่านทรวง ขณะที่เขาค่อยบรรจงถอนจูบช้า ๆ แล้วใช้ปลายนิ้วไล้โครงหน้าสวยของอีกคน

.....พี่ทราย.....

ดวงตาสองคู่ยังไม่ยอมละออกจากกัน เขาอยากใช้มันเผยความในใจบางอย่างให้กับอีกคนได้รู้ ยากนักที่จะเอ่ยคำนั้นออกมาได้อีกครั้ง หากแต่ความรู้สึกนั้นนำพาหัวใจเขาก้าวไปหลายขุมแล้ว

“พี่ถามอะไรธารอย่างหนึ่งได้ไหม” เป็นวารินที่เอ่ยขึ้น 

“ทำไมธารต้องทำแบบนี้กับพี่อยู่ตลอด  ตอบได้ไหมว่าทำไมถึงต้องทำ”

“...........”

เขาจ้องนัยน์ตากลมแน่นิ่ง สื่อความรู้สึกทุกๆอย่างในหัวใจลงไป

น่าเสียดายเคยมีคนบอกไว้ว่า ‘หากไม่พูดไป คงไม่มีใครรู้ได้’     แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเงียบ

มันยังเร็วไปไหม ที่จะเอ่ยคำๆนั้นอีกสักครั้ง....เขาเฝ้าถามตัวเองมาตลอด

ลืมได้แล้วแน่หรือ...ทั้งภาพและความรู้สึกที่เลวร้ายเหล่านั้น เมื่อเราสองคนจะต้องผ่านมันไปด้วยกันจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

เขาอยากจะใช้เวลานานกว่านี้อีกสักหน่อย...เพื่อเคลียร์ความรู้สึกทุกอย่างของตัวเองให้เต็มร้อย

ก่อนที่จะเอ่ยคำๆนั้นออกมา....อีกสักครั้ง.......คำว่า ‘รัก’
 

“ธาร......ธารจะพิสูจน์ตัวเองได้ไหม”
 
นี่คือการตัดสินใจครั้งสำคัญของวาริน ถ้าหากเขาทั้งคู่อยากจะก้าวข้ามวันคืนที่เลวร้ายไปด้วยกันให้ได้ จำเป็นต้องก้าวข้ามสิ่งสำคัญสิ่งนี้ไปให้ได้เช่นกัน
 

     ‘กิเลส  การรอคอย และการให้อภัย’
 

“นับจากวันนี้เป็นต้นไป เราจะไม่มีอะไรกันอีกจนกว่าธารจะบอกได้ว่า......พี่เป็นอะไรกันแน่สำหรับธาร?”

เขามองที่วารินทันที สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


“พี่รู้พี่ทำผิดมากมายจนยากที่จะให้อภัยและคงจะทำให้ธารแคลงใจในความรู้สึกอยู่ตลอด แต่ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาพี่ไม่เจ็บปวด พี่ไม่เคยตอบโต้ไม่เคยแก้ตัว ในวันที่ธารโมโหใส่ความโกรธแค้นถาโถมลงมาที่พี่  เมื่อรู้เรื่องราวความผิดพลาดระหว่างพี่กับคุณทัตพล เพราะความผิดที่พี่ทำ ถึงแม้จะทำไปโดยไม่ตั้งใจแต่ผลของมันกระทบถึงใครหลายคนมากมายโดยเฉพาะคุณแม่ของธาร..........แต่ธารอาจจะลืมอะไรไปอย่าง แล้วความรู้สึกของพี่ล่ะ? ความรู้สึกของคนที่ต้องกอดกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก  ความรู้สึกของคนที่ต้องโดนคนที่ตัวเองรักข่มขืน  ความรู้สึกของคนที่ต้องถูกคนที่ตัวเองรักปล่อยทิ้งไว้กลางทางมืด ๆ ในคืนที่ฝนตก ทั้งเหน็บหนาว โดดเดี่ยว ธารอาจกำลังคิดว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ธารลืมเรื่องเลวร้ายวันนั้นได้ แล้วเราจะกลับมาเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง แต่ธารจะไม่ถามพี่สักคำหน่อยเหรอ ว่าพี่ลืมเหตุการณ์เลวร้ายต่าง ๆ ที่ธารทำกับพี่ได้บ้างหรือยัง”


“พี่ทราย!” เขาเงยหน้าขึ้นมองวารินทันทีหลังจากก้มหน้าครุ่นคิดอยู่นาน เสียงเรียกชื่อสั่นสะท้านจนวารินนึกกลัวว่าเขาจะร้องไห้ออกมา

“พี่เข้าใจดีถึงความรู้สึกของธาร มันยากแค่ไหนที่จะลืม  พี่รู้ดี พี่เข้าใจ”

วารินยกสองมือประคองใบหน้าเขาไว้ สบสายตาแสดงความจริงจังและจริงในถ้อยคำที่เอ่ย

“นั่นคือความรู้สึกทั้งหมดของพี่   พี่อยากให้ธารคิดและตรึกตรองให้ดี  ตอบตัวเองให้ได้ว่าจริง ๆ แล้ว สำหรับธาร.....พี่เป็นอะไร?” 


สำคัญแค่ไหน...สำคัญพอที่ธารจะอภัยให้พี่ได้หรือเปล่า....
 

ธาราธารนิ่งเงียบไปคล้ายครุ่นคิดหนักหน่วง เบนสายตาออกไปที่บานหน้าต่างกระจกใส
 
.....มันแน่นอนอยู่แล้ว ว่าเขารักวาริน.....
 
....มันแน่นอนอยู่แล้ว วารินเป็นมากกว่า ‘พี่เลี้ยง’.....
 

ดวงจันทราที่ส่องอร่ามอยู่บนท้องฟ้าถูกประดับประดาด้วยแสงสีขาวระยิบระยับนับล้านดวง ม่านหน้าต่างสีขาวบางเบาพริ้วไสว
 
ใครกันที่เคยบอกไว้....ลูกผู้ชายไม่มีน้ำตา
 
ไม่จริงแม้แต่นิดเดียว
 

เขาดึงวารินเข้ามากอดไว้แนบอกช้า ๆ  ดวงตาคู่สวยมีน้ำตาเอ่อคลอ นึกถึงคืนวันเก่าก่อน รอยยิ้มที่เคยมีให้เขาเสมอเริ่มจางหายไปตั้งแต่เขาเริ่มใส่ทิฐิความโกรธแค้นลงที่คน ๆ นี้ เขารู้ดีว่าวารินคงจะเสียใจต่อการกระทำในอดีตอันเลวร้ายของเขา นอกจากจะไม่มีอะไรน่าจดจำแล้วยังฝังลึกไปด้วยบาดแผล แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาไม่สามารถดึงอดีตกลับมาไขใหม่ได้แล้ว

“ผมรู้ว่าอดีตแก้ไขไม่ได้” ริมฝีปากนุ่มจูบลงที่กลุ่มผมหอม   วารินกำลังตั้งใจฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด

“ผมอยากขอโอกาสจากพี่อีกสักครั้ง  แค่ครั้งเดียวเท่านั้น”

เขาดึงวารินออกจากอ้อมอก เพื่อเผชิญหน้ากับเขาตรง ๆ อีกครั้งดวงตาสีเข้มร้อนผ่าวจดจ้องลึกเข้ามาในดวงตากลมโตของอีกคน นัยน์ตาคู่สวยสั่นไหวต่อคำร้องขอของคนตรงหน้า จริงอยู่ที่วารินไม่เคยแสดงออกว่าเขาโกรธแค้นธาราธารที่ปฏิบัติต่อเขาเช่นนั้นเลย หากแต่บาดแผลในใจก็ยากที่จะลบเลือนออกไปได้เช่นกัน

“ขอให้ผมได้ใช้มันเพื่อดูแลพี่ นับจากนี้”

สีหน้าและน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความวิงวอน ไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไปเมื่อน้ำตาแห่งความบีบคั้นไหลกลั่นออกมา เขาเริ่มเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของตนเอง เขาทำให้คนที่ตัวเองรักเจ็บช้ำมากมายขนาดไหน ใบหน้าของเขาพร่าเลือนไปด้วยหยาดหยดแห่งความเจ็บปวดรวดร้าวกับสิ่งที่เขากระทำ 

 เพราะวารินไม่เคยพูดเขาจึงไม่เคยรู้.....เขามันโง่ที่ไม่ฉุกใจคิดสักนิด!

ไม่แปลกใจเลย ถ้าหากวารินจะไม่ยอมยกโทษให้เขาคนนี้อีกต่อไปแล้ว ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล นี่คงเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขาจะร้องไห้อย่างหมดอายได้แบบนี้ มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาออกให้เขาอย่างเบามือ เขารู้แล้วรักคืออะไร เขารู้แล้ว ‘การให้อภัย’  สำคัญที่สุดสำหรับเรื่องราวความรักของเขาทั้งสองคน


“.....ผมรักพี่.....”


ในที่สุดเขาก็เอ่ยคำ ๆ นี้ขึ้นมาอีกครั้ง

หากแต่คราวนี้ช่างเจ็บปวดนัก เพราะวารินส่ายหน้าปฏิเสธ เขาที่มองเห็นอย่างนั้นถึงกับใจหล่นวูบ

“ยังหรอกธาร  ธารต้องพิสูจน์ตัวเองกับพี่ก่อน”

 เขาหวนนึกถึงคำพูดเมื่อสักครู่นี้ทันที



                 “นับจากวันนี้เป็นต้นไป เราจะไม่มีอะไรกันอีก จนกว่าธารจะบอกได้ว่า.......พี่เป็นอะไรกันแน่สำหรับธาร?”



“ลองก้าวข้ามมันไปด้วยกัน ลองดูว่าถ้าระหว่างเราไม่มีเรื่องแบบนั้นมาข้องเกี่ยว ธารยังจะรักพี่ได้เหมือนที่ธารพูดออกมาวันนี้หรือเปล่า พี่เองก็อยากจะเคลียร์ความรู้สึกตัวเอง อยากจะอยู่ด้วยกันโดยไม่รู้สึกต่างฝ่ายต่างกินแหนงแคลงใจกันอีก”




“ธารจะทำให้พี่ได้ไหมครับ......เด็กดี”

 



ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา วันคืนที่ล่วงเลย  จากคืนล่วงเป็นวัน จากวันล่วงเลยเป็นเดือน และเวลาหลายเดือนล่วงเลยเป็นปี   ทุก ๆ เช้าวารินจะตื่นมาในอ้อมกอดใหญ่ของเขา ความอบอุ่นอ่อนหวานแผ่ซ่านผ่านผิวกายหอม เขาทำตามที่สัญญาได้อย่างที่รับปากไว้จริง ๆไม่เคยเกินเลยแม้สักครั้ง  สัมผัสที่มอบให้แก่กันเป็นเพียงไออุ่นของผิวกายจากอ้อมกอดของเขาเท่านั้น
 
 

Tbc.

*ยังมีคนรออ่านอยู่ไหมT.T หายไปนานขอโทษนะ*
*น้องธารผู้เร่าร้อนเสมอเมื่ออยู่บนเตียง  โดนพี่ทรายเอาคืนหนักเลยเนอะให้ *งด* เนี่ยฆ่ากันให้ตายเลยไหม  :laugh:
* วันนี้มี Unseen-9(ทัตซี) เรื่องราวต่อจากบทนี้ ถ้าสนใจตามไปอ่านกันได้นะ  อ้อก่อนหน้านั้นเราลง Unseen8(ธารทราย)ตอนคุมะเจ้าปัญหาเอาไว้ ใครยังไม่ได้อ่านลองไปหาดู
*ช่วงนี้ตัน ๆ น่ะเขียนไม่ค่อยออก บทนี้ฝืด ๆเนาะ พยายามหาแรงบันดาลใจอยู่ เราไม่ได้ไปไหนเลย แค่อยู่บ้านเย็นไปว่ายน้ำ ชีวิตมีแค่นั้น ช้าหน่อยต้องเข้าใจเค้านะ*
:hao5:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 28-04-2014 00:13:59
ตำแหน่งตัวร้ายหน้าด้านประจำปีนี้ ได้แก่ ชนาธิปปปปปปปปปป
ไร้คู่แข่งเลยย่ะ ดวกกกก ขอโทษค่ะ อินจัดไปหน่อย
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: janek_alo ที่ 28-04-2014 00:21:47
ทรายร้ายอ่ะ   ธารว่าโหดนี้กลายเป็นแมวเลย 
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 28-04-2014 00:33:34
พี่ทรายจัดว่าเด็ด ก็จริงของทรายนะ ที่ทำมาตลอดคิดว่าทรายจะลืมได้เหรอ ผ่าง!!! เลยน้องธาร
แต่น้องธารทำได้ เห็นไหมพระเอกเรา เริ่ดที่สุดน่ะ เพื่อคนที่รัก รักแรกและรักเดียวของน้องธาร
เคะนางพญาค่ะ ตำแหน่งนี้ที่พี่ทรายคู่ควร น้องธารนี่หึงทีไรพังได้ทุกอย่างนะ
ทัตซีนี่ก็จะฟินไปกันใหญ่ โดนต่อก็สมควรเนอะคุณทัตเนอะ

ขอบคุณค่ะ รออยู่เสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: monaligo ที่ 28-04-2014 00:34:41
ตอนแรกๆชอบธิปนะ หลังๆนางเริ่มนิสัยแย่ จนตอนนี้นิสัยนางถึงขั้นเลวร้ายแล้วหล่ะ
ดีแล้วที่ธารไม่ได้รู้สึกอะไรกับนางเลย
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 28-04-2014 00:44:06
ใครก็ได้เอานังทิปออกไปที!!!!!!!!!!!!! ดรวกค่ะ!! กรี๊ดด!แหมเขาไล่ขนาดนั้นแล้วยังจะด้านอีกนะยะ แม่ไปไม่ปลื้ม!

ปล.ขอโทษครับอินจัดไปหน่อย= = จิ๊!อยากตบนังทิป :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 28-04-2014 01:32:21
พี่ทรายยยยย แจ่มมากกก เลิฟพี่ทรายเลย ><
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 28-04-2014 01:44:51
 :hao5: ดีนะที่คุณภัครให้อภัยพี่ทัตอ่ะ ฉากนี้มันทำเอาแอบหน่วงนิดๆ
แต่ทำเราเสียใจตรงที่บรรยากาศเหมือนพี่ทัตอาจจะคืนดีกับคุณภัครอ่ะ
คือเหมือนว่าไม่เคยลืมรักครั้งเก่าและคุณภัครยังสำคัญกับตัวเองเสมอ
ยังดีนะที่ช่วงหลังบอกว่า คงไม่กลับมาเป็นอย่างนั้นอีกแล้ว ตอนนี้คือเป็นห่วง อารมณ์ก็คือคนสำคัญล่ะมั้ง

 :m31: อิธิป นี่กลายเป็นตัวร้ายที่น่าหมั่นไส้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :fire:
คือนางไม่รู้เหรอว่าทำตัวยังงี้น่าเกลียดมากๆเลยอ่ะ
ตาม ผช ถึงบ้านแถมยังแรดไปหาเขาโดยแทบไม่สนใจคนอื่นทำต้นเป็นเจ้าของอีกต่างหาก
ทำตัวรุ่มร่าม วุ้ยสารพัด ขนาดพี่ทัตเตือนก็ไม่ฟัง มันอยากกกกกกกก ขนาดนั้นเลยเหรอ
เป็นตัวร้ายที่อ่านเจอแล้วหงุดหงิดอ่ะ มันเหมือนมีตัวอะไรไม่รู้มาให้รำคาญใจตลอดเวลา
อิเรื่องที่เธอจะสร้างห้างอันนี้ฉันไม่ได้ว่าเพราะมันเป็นสิทธิ์ของเธอ
แต่เธอควรจะเห็นใจมากกว่านี้และการบริหารงานมันต้องซื้อใจชาวบ้านด้วย
ไม่ใช่แค่ให้เงินเล็กๆน้อยๆ คือเรารู้สึกเหมือนอิเนี่ยไม่ได้มีความคิดแบบผู้บริหารเลย
พูดอะไรแม่งกะจะจับคู่ตัวเองกับธารอย่างเดียว แรด!!!!!
แถมยังบังคับเขาไปกินข้าวอีกนะ
 :fire: แต่ก็น่าหมั่นไส้อิเด็กธารอีกคนทำไมมันตามใจอิธิแเยอะจังวะ แกบอกแกรำคาญแต่ก็ยังคอยขับรับให้มันพามันไปกินข้าว
ทีพี่ทรายแกไม่พอใจแกทิ้งเลย คือพอจะเข้าใจว่าประชดแต่มันแลดูขัดๆอ่ะ
ถ้าจะบอกแกเล่นชู้ฉันก็เชื่อนะเนี่ย ว่าแกจะเอาอิธิปมาทำให้พี่ทรายน้อยใจ

ทำไมธารชอบประชดจัง คือตอนนี้แกเริ่มเยอะไปล่ะ คืออารมณ์ผู้หญิงเริ่มมา
มิน่าล่ะถึงมีคนจะกดแก มีอะไรอย่าประชดเห็นมั้ย เกิดเรื่องเลย
ที่สำคัญไม่น่าเชื่อนี่คนที่เรียนหมอเหรอ อารมณ์ร้อนขนาดนี้ ถ้าโมโหแล้วเหวี่ยงตอนผ่าตัดคนไข้
ไม่ลากไส้คนไข้ออกมาเป็นยวงๆเหรอเนี่ย จากตอนที่แล้วไอ้เราก็นึกว่า มันเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ
แลดูใจเย็นมากขึ้น ฟังเหตุฟังผล แต่นี่อะไรยังกะย้อนกลับไปช่วงดราม่าตอนแรกๆ เจริญแหละพ่อคู๊ณ

พี่ทรายก็แลต้องใช้ตาต่อตาฟันต่อฟัน ประชดกลับแม่งเลย แอบร้ายนะเธอ  o18

ตอนจะจบก็เหมือนจะดีที่ทั้งสองคนจะเริ่มใหม่อีกครั้ง
แต่ไม่ให้มีอะไรนี่ไม่อยากเชื่อว่าเด็กธารมันจะทำได้ ก็มันเล่นเสพติดซะทุกวัน วันละหลายรอบ
ลงแดงตาย ฮ่าฮ่าฮ่า

***************************
สมน้ำหน้าอิเด็กธาร อดกินกาแฟเป็นปี  :m14:
***************************

แต่ไม่น่าเชื่อนะว่าอยู่ๆ อิธิปที่น่ารังเกลียดจะหายไปเป็นปีเหมือนกัน ตัวแรดมันไม่น่าจะถอยง่ายๆ

Unseen 8 : เหมือนอิเด็กธารพยายามประกาศตัวต่อสาธารณะชนมากขึ้นนะ ตอนเลือกลูกสาวในร้าน
ถ้าเป็นคนในร้านคงฟินโฮกอ่ะ

Unseen 9 :  :jul1: ว๊ายยยยยยยยยยย พี่ทัตทำไมคุณพี่เนียนได้ขนาดนี้
พี่ซีตามไม่ทันเลยนะเนี่ย เนียนแอร์เสีย เนียนร้อนถอดเสื้อ ที่ฉีดสเปรย์น้ำแร่มานี่คือหวังแบบนี้แต่แรกรึเปล่าเนี่ย
ได้นอนกอดเฉยเลย พี่นี่กะเคลมพี่ซีจริงๆสินะ บอกตรงๆว่าฟินจนอยากจะไปนั่งดูอยู่ข้างเตียง

ปอลิง: ทัตซีใกล้แล้วสินะ  :heaven #เตรียมขึ้นสวรรค์
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 28-04-2014 02:45:49
รำคาญทราย
จริงๆธารน่าจะได้กะคนอื่นที่ดีกว่าทรายอีก
ตัวเองทำผิด โทษที่รับมันเพียงพอแล้วเหรอ ผลที่ได้คืออะไร ภัคอาการดีขึ้นยัง ก็ยัง
แล้วยังมาตั้งแง่กะธารอีก ตัวเองผิดแท้ๆ
ชอบคู่ซีทัต
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 28-04-2014 03:49:08
เอาจริงๆ พี่ทรายก็เจ้าเล่ห์เหมือนกันนะ 5555
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 28-04-2014 03:56:42
ถ้าใครได้ธารเป็นเเฟนนี้ถือว่าซวยอ่ะในชีวิตจริง คือหึงพอเข้าใจนะ
เเต่พูดไม่คิดกับชอบทำอะไรประชดประชนนี้ไม่ไหวจริงๆ ถึงจะไม่อะไรกับนังธิปก็เถอะ

เรื่องนี้สนุกมากกกกก เเต่ไม่มีตัวละครตัวไหนที่ได้ดั่งใจเราเล้ยยย 555
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 28-04-2014 07:49:30
ตามอ่านเรื่องนี้จนทัน  ข้ามวันข้ามคืนทีเดียว

บอกตรงๆ  คนเขียนซาดิสมาก  เขียนออกมาดรามม่า  น้ำเน่ามาก

ตัวละครที่น่ารำคาญที่สุดคือนายเอกของเรานั้นเอง  ทำตัวนางเอกละครหลังข่าวมา

ตัวร้ายก็เยอะพอสมควร  อ่านละขัดใจจริง

แต่โดยรวมสนุก  แต่เหมาะกับเป็นนิยายอ่านรวดเดียวจบเพราะจะไม่ค้างคา  ไม่ขัดใจ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 28-04-2014 08:02:13
ธารน่ะร้ายได้ไม่เท่าทรายหรอกนะ :laugh:
แต่มีความสุขมากเลยใช่ไหมล่ะ คนอ่านก็มีความสุข  :o8:
เวลาผ่านไปเป็นปีๆเลยเหรอคะ นังธิปไม่ก่อกวนอะไรอีกใช่ไหม  :katai1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 28-04-2014 09:48:16
คนเขียนกลับมาแล้ววววววว :mc4:

สำหรับตอนนี้ บอกตามตรง :mew5:

ไม่ชอบการกระทำของทรายเลย นางเยอะมากกกกกกกกกกกก :angry2: นางเจ็บช้ำ นางจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่ธารทำกับตัวเอง นางมือถือสากปากถือศีลมากเลย บอกให้ธารใช้ใจมองอย่าใช้แต่ตาตัดสินการกระทำ แล้วพอ ธารรับฟังและทำตามลด ละ เลิก ทิฐิ ทุกอย่าง แม้แต่ให้อภัยกับสิ่งที่ตัวเองบอกตลอดไม่ได้ตั้งใจ ธารเจ็บปวดแค่ไหนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแม่ แล้วธารล่ะตั้งใจเหรอกับสิ่งที่ทำลงไปเพราะความเข้าใจผิดที่มีหลักฐานเต็มๆตา เป็นใครใครก็เข้าใจผิด ธารเจ็บช้ำแค่ไหนที่ตัวเองทำแบบนั้นกับทรายกับคนที่ตัวเองรัก กับคนที่ตัวเองยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทราย ขนาดแม่ธารยังไม่รับฟังเท่าทรายเลย แล้วนี่อะไร ทรายตอบแทนธารด้วยความคิดเล็กคิดน้อยของตัวเอง อยากฟังคำว่า รัก มากจนพูดทำร้ายจิตใจธารอย่างร้ายกาจมาก ทำตัวเองเพียงเพราะอยากเอาสั่งสอนเอาคืนธาร เราว่าทรายผิดนะ ผิดที่ปล่อยธารไปกับธิป ทั้งที่ธารไม่ได้เต็มใจไปด้วยสักนิดเดียว อุตส่าห์หาข้ออ้างหลีกเลี่ยงหวังว่าพี่ทรายที่รักของตูคงช่วยแน่ๆ แต่มันก็ผิดหวัง :ling1: ทั้งๆที่พูดและแสดงออกตรงๆว่า ไม่ได้ชอบธิป ไม่ได้รักและคิดจะมีอะไรด้วยสักนิด :serius2: ทำไมทรายมองไม่เห็นวะถึงการกระทำของธารที่ปฏิบัติต่อตัวเอง จำแม่งแต่เรื่องไม่ดี  :m16: ว่าแต่ธารประชดประชัน พอไม่ได้ดังใจและมาลงที่ตัวเอง มันทำก็เพราะความหึงหวง มันรัก พูดกับมันดีๆมันก็รู้ ถ้าตัวเองจะเลิกอ่อยคนอื่นโดยไม่ตั้งใจสักที ตัวเองก็ทำเหมือนกันโดยการออกไปกับเตทั้งที่รู้ว่า ธารจะต้องอารมณ์เสีย เหมือนทำไมทรายไม่ช่วยตัวเอง กลับออกไปกับเต  ไม่โทษเตหรอกนะ เตไม่เกี่ยว พอธารโทรไปก็ตัดสาย ไม่พูดกับมันไปล่ะว่ารถเสีย ก่อนหน้านั้นไม่ส่งข้อความหรือโทรบอกในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าธารเป็นคนแบบนี้ ถ้าตัวเองตกลงไปกับธารมันก็จบแล้ว สงสารธารมาก มากจนน้ำตาซึมเลยตอนที่ถูกทรายเอาคืน :hao5: ใครจะว่าเราลำเอียงยังไงก็ช่างเถอะ เรารู้สึกอย่างนี้จริงๆ ดูธารสิ สะกดอารมณ์เรื่องพ่อ ยอมลด ยอมพูดจา ยอมให้เคลียร์กับแม่ ยอมที่จะเปิดใจทุกอย่าง ผิดหวังกับทรายมาก ถึงตอนท้ายจะหวานชื่นแต่ก็สงสารธารอยู่ดี ธารพิสจูน์ตัวเองหลายอย่างมาก แล้วทรายล่ะพิสูจน์อะไรให้ธารได้รับรู้บ้างว่าตัวเองรักธารเช่นกัน ถ้าคิดแค่ว่าที่ยอมเพราะตัวเองผิด ยอมให้กดขี่ข่มเหง ซึ่งก็สมควรแล้ว เหมือนกับที่ธารที่ทำลงไปก็เจ็บปวดไม่น้อย ทรายก็รู้ เข้าใจว่าทรายมีความรู้สึกเจ็บไม่ต่างจากธาร  แต่ธารมันก็สำนึกคิดได้ ยอมเอ่ยปากบอกรัก ขอโอกาส ขอความรัก เริ่มกันใหม่ ฉันสงสารธารมากเลยที่ทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ แต่วารินเธอกลับใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาคืน ล่อหลอก ชอบนะนายเอกฉลาด แต่ ฉลาดกับคนที่รักตัวเองมากแบบทำร้ายจิตใจก็เกินไป ตัวเองลืมไม่ได้แล้วคิดว่าธารมันลืมได้เหรอ แต่มันก็ลืมเพื่อจะเริ่มใหม่ แต่มันไม่เคยลืมสิ่งที่ตัวเองทำกับคนที่ตัวเองรักสักนิดเดียว อยากให้ธารเอาคืนทรายมากๆเลย แต่แบบเจ้าเล่ห์ ซึน ๆ ดูไร้เดียงสาประสาเด็กอายุสิบแปด เอาให้นางร้องไห้กระซิกๆซะบ้าง เมื่อจะเสียผู้ชายดีๆแบบนี้ไป สักนิดหนึ่ง  :call:

ใครจะว่าฉันลำเอียงก็ช่าง ฉันรักธาร ฉันรักผู้ชายคนนี้ ที่รักและยอมเจ็บปวดเพื่อคนที่รักมาก  รักมากก็เจ็บมาก :กอด1:



ตูเชียร์ปวีร์มากดธารดีกว่าโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :m31:


ส่วนนังธิป หนา ด้าน ทน น้ำกรดคงเอาหน้าเมิงไม่อยู่  งั้นค่อยๆเอาตีนแซะหน้าไปเรื่อยแล้วกันนะ :z6:

ส่วนทัตกับภัคร ยังไม่ค่อยซึ้งเท่าไหร่ แต่ก็โอเคที่ภัครให้อภัยทางสายตา ถึงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ แต่ได้ความสัมพันธ์ใหม่มาแทนก็ดีแล้ว หลังจากนี้จะไปจิ้นไปฟินกับพี่ซี เต็มที่ไปเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 28-04-2014 12:40:36
ทรายร้ายมาก
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 28-04-2014 14:32:03
ธารกับพี่ทราย ความสัมพันธ์ดีวันดีคืน

แล้วที่น่าสนใจคืิอ คุณทัตกับซี~~
คุณทัตลูกล่อลูกชนเยอะจริง ๆ >.<

ย้อนอ่านหลายตอนเลย ขอบคุณนะคะ^^
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 28-04-2014 16:11:43
 :hao6:      :hao6:      :hao6:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 28-04-2014 16:24:13
ต้องอย่างนี้ พี่ทราย
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 28-04-2014 20:08:08
คุณธิปของบ่าวนี่น่า...โดนตบสะจริงเลยค่าาาาา
ธารโดนเอาคืน หึหึ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 28-04-2014 20:50:24
เข้ามาติดตาม
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: josephine ที่ 28-04-2014 20:52:36
อย่างธารเนี๊ยะนะ  ทนเป็นเดือน เป็นปี  ไม่เชื่อหรอก
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 29-04-2014 00:10:01
หุ หุ พี่ทรายแจ่มเลย แบบนี้แหละถึงจะเอาธารอยู่

เกลียดอิธิปแว๊ะ อิแรด!

ฉันฟินกับ  unseenทัตซีมากมายอ่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 29-04-2014 00:13:03
พี่ทรายเริ่มเอาคืนแล้วสินะ  ร้ายในแบบฉบับของพี่ทราย 

เท่าที่ดูมา  น้องธารก็อ่อนลงไปเยอะแล้วนะ  เรื่องตราบาปของคุณทัตกับพี่ทราย  น้องธารแทบจะไม่นึกถึงอีกเลย

ยกเว้นเรื่องหึงหน้ามืดกับคนสวนนี่แหละ  แก้ยังไงก็ไม่หายสักที  ต้องให้พี่ทรายจัดการขั้นเด็ดขาด จึงจะเพลาๆลงบ้าง

ถ้าน้องธารไม่รักพี่ทรายจริง ก็คงไม่ยอมอ่อนข้อให้หรอก  แต่นี่เพราะรักพี่ทรายจนหมดหัวใจ 

จึงไม่ค่อยกล้าทำอะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจพี่ทรายอีกแล้ว

ส่วนน้องธิปของเราก็ร้ายเรียกเปลือกทุกเรียนจริงๆเลยนะ  ก่อนที่จะไม่เหลือใคร และไม่มีใครเอา ก็อยากให้ปรับตัวซะใหม่

พี่ซีรู้เรื่องเลวร้ายที่คุณทัตเคยทำไว้กับพี่ทรายแล้ว  นึกว่าจะโกรธคุณทัตมากกว่านี้ซะอีก  เพราะนั่นน้องชายเลยนะพี่ซี

น้องชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของพี่่  โดนคุณทัตจิ้มไข่แดง  มันน่าจะเจ็บแค้นมากกว่านี้หน่อยนะ  ไม่สมเป็นพี่ซีเล๊ยยย

รอตอนต่อไปค่ะ   :hao6:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: iamy ที่ 29-04-2014 11:06:44
เม้นต์ตอน 4
เห็นบอกเป็นมือสมัครเล่น พึ่งแต่งเรื่องนี้เรื่องแรกหรอครับ
ใช้ได้เลยนะครับ หนุกดี พี่ทรายทำไมน่ารักงี้อ่ะ >///< ดูสิใครอยู่ใกล้ก็ตกหลุมรัก
น้องฟ่างเจอกันอีกแล้ว สงสารหนูจัง U.U
นายธารเป็นไรอ่ะ ตั้งแต่ตอนที่แล้วเริ่มเกิดความรู้สึกในใจแล้วสินะ ยอมรับไวๆล่ะ
ถึงขนาดคิดจะพามาอยู่ด้วย แถมแต่งห้องนอนตามสีพี่ทรายชอบด้วย
ว่าแต่คนชอบสีน้ำตาลมันแก่จริงหรอ? ผมว่าก็สวยดีนะ ไม่เห็นแก่เลย >///<
-นายธิปที่ทุกคนพูดถึงกำลังจะมาแล้วใช่มั๊ย เป็นผู้ชายหรอ ผมคิดว่าเป็นผู้หญิงซะอีก(ไมคิดงั้นวะ ^^?)
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 29-04-2014 11:23:35
ฮึ้ยธารทนได้ด้วยอะ
พี่ทรายนี่เจ๋งจริง ธิปพ่อสอนขนาดนี้แล้วก็ฟังบ้างนะ
แต่สงสารคุณภัคอยากให้หายไวไว
คู่ซีทัตคือดีอะดูละมุนฮือ
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-04-2014 11:49:54
ชอบทรายในโหมดโหดๆ เจ้าเล่ห์หน่อยๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 29-04-2014 22:12:41
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: moodyfairy ที่ 29-04-2014 23:05:28
ตามอ่านจนทันแล้ววววววว :mew1:

หน่วงมาตลอดด จนตอนนี้ก็ยังหน่วงง ,, หน่วงเพราะคนอื่นทั้งนั้น :serius2:
ไม่รู้สิในความคิดเรานะคือว่าคิดจะคบกันแต่ไม่เชื่อใจกันเลยแบบนี้มันก็อยู่ยากอะค่ะ ดีกัน 3 วันอีก 4 วันหาเรื่องว่ามีกิ๊ก เง้ออออ :z3:


เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะะ รอๆๆๆๆๆๆตอนต่อไปจ๊าวว :hao7:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: Riko ที่ 03-05-2014 01:11:27
ในที่สุดก็เข้าใจกันสักที
มีแต่เรื่องน่าเศร้า
แต่ก็ยินดีด้วยเสมอ  :katai2-1:

นังธิปก็ยังแรดแควดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
บอกแล้ว เชื้อไม่ทิ้งแถว
แม่มันเป็นยังไง มันก็เป็นยังงั้น
ชอบแย่งสามีชาวบ้าน
เอาซี้!! เจอน้องธารตอกหน้าเข้าไป
ไม่กลัวแถมหน้าด้านอีก
สงสัยต้องส่งพี่ทราย เข้าไปตบมันซักที
ปากธารนี่ก็ยังร้ายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

บางทีลดความปากร้ายลงก็หล่อมากเลยนะ เป็นทั้งหมอ เป็นทั้งนักธุรกิจ
แบบว่าไม่มีใครเพอร์เฟคไปกว่านี้อีกแล้ว

ในที่สุด ฐานะก็ชัดเจน เป็นแฟนกัน แอร๊ยยยยยยยย  :-[
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 03-05-2014 21:59:17
คิดถึงนะคะ  :z3:
หัวข้อ: Re: (Erotic drama)..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [27/04/57] True love
เริ่มหัวข้อโดย: lovelyfever ที่ 04-05-2014 13:47:11
ฮึบบบบบ!!!ในที่สุดก็ตามอ่านจนทัน

เราคิดว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเอาดีๆไม่มีใครอยากให้เกิดนะ
แต่ถ้าจะพูดว่ามันเริ่มมาจากตรงไหน ถึงจะไม่ใช่ความผิดทรายมันก็มีส่วนมาจากทรายนะ
เพราะช่วงที่ทรายไปกับทัตนี่คือทรายดูซอฟมาก ดูเหมือนซื่อจนมองว่าอ่อยไม่รู้ตัวจริงๆ
ขีดเส้นใต้เน้นๆตรงที่บอกว่าให้มานอนด้วยกันเพราะกลัวเนี่ยแหละ คือออออออ เพื่ออออออออ ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นเนาะ
พอเรื่องเกิดขึ้นก็ต้องยอมก้มหน้ารับกรรมไป (แต่คุณทัตนี่แอบลอยตัวนะสบายเลยพ่อเอ๊ย)
ถ้าเราเป็นธารเราก็คงทำแบบนี้ไม่ต่างกันอ่ะ
เพราะธารรักทรายมาก จนยอมให้จนาดนี้ แล้วธารก็บอกแล้วว่าไม่ชอบการไม่ซื่อสัตย์ โกหก
ตอนแรกที่ไปลึกๆธารคงตะขิดตะขวงใจแหละ แต่เพราะความเชื่อใจก็เลยไม่คิดเยอะ
เจอแบบนี้จนแม่ตัวเองป่วยแล้วคนที่เราอุตส่าห์ถนอมทำแบบนี้เข้าไปเหมือนโดนคมแฝกแสกหน้าอ่ะ ช็อคจังงัง

ไม่สงสารทรายเพราะทรายไม่ยอมทำอะไรให้ชัดเจนจริงๆ ทรายก็รู้ว่าพี่ซีคิดอะไรกับตัวเองถึงไหน
แล้วตัวเองก็ให้พี่ซีไม่ได้ ก็ยังเหมือนกั๊กอ่ะให้พี่ซีตอดนิดๆหน่อยๆ พอมีคนอื่นมาหาพี่ซีบ้างก็หวง คือมันใช่ป้ะ
มาจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้จริงๆว่าทรายรักธารแน่จริงๆใช่มั้ยถึงจะบอกว่ารักแล้วก็เถอะ

ตอนนี้เหมือนทรายกำลังเรียกร้องจากธารอ่ะว่าแบบ "ฉันโดนเธอทำร้ายมานะ แล้วเธอจะให้ลืมสิ่งที่ฉันโดนกระทำได้อย่างไร"
แต่ทรายคงลืมไปนะว่าคนที่โดนทำร้ายก่อนน่ะคือธาร แล้วที่สำคัญตอนนี้ธารยอมลืมทุกอย่าง ธารไม่นึกถึงเรื่องที่ผ่านมา
แต่อิเรื่องที่หึงคนสวนไม่ลืมหูลืมตา ฝากทรายตบเกรียนอิธารไปทีนึงแล้วกัน กำลังจะหล่ออยู่แล้ว มาตกม้าตายอิตรงนี้

สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ เราชอบตัวละครเรื่องนี้ ไม่มีใครดีจริงๆเลยสักคน ฮาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ทุกคนต่างมีปม ทุกคนต่างโดนกระทำ ทุกๆคนเป็นสีเทา ไม่ขาว ไม่ดำ (แต่เว้นอิธิปไว้นะ นางแรดเนาะ)

หัวข้อ: Re:...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 04-05-2014 22:24:40


บทที่ 32  อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
 
 

5  ปีผ่านไป
 
 


“อาป๊าาาาาา”
 

เสียงเล็กๆของหนุ่มน้อยตัวกะเปี๊ยกอายุไม่น่าเกินสี่ห้าขวบวิ่งลิ่ว ๆ เข้ามาที่หอผู้ป่วยรวม วอร์ดนรีเวช  พยาบาลที่เห็นต่างยิ้มกันหน้าระรื่นเพราะชินเสียแล้วกับการเห็นเจ้าตัวเล็กกลับจากโรงเรียนแล้ววิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาป่ะป๊าของเขา
 

“น้องขิงค่อย ๆ วิ่งลูกระวังลื่น  ป่ะป๊าตรวจคนไข้อยู่ครับ มานั่งกับป้าพราวก่อนนะ มา ๆ อึ๊บ!   อื้อหือตัวหนูหอมจังเลยวุ้ยเพิ่งอาบน้ำปะแป้งมาเหรอเนี่ย”
 

นางพยาบาลอาวุโสประจำวอร์ดวิ่งต้อนเด็กน้อยส่งยิ้มใจดีพร้อมอุ้มเจ้าเด็กตัวเล็ก ๆ ในชุดนักเรียนเตรียมอนุบาลนั่งลงที่ตัก 
 

“แล้วนี่มากับใคร คุณป๋าอยู่ไหนเอ่ย”
 

“คุณป๋าซื้อกาแฟอยู่ฮับเดี๋ยวตามมา”
 

เด็กน้อยจอมซนมือไม้อยู่ไม่สุขคว้าเอาปากกาที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาขีด ๆเขียนๆ ป้าพราวใจดีรีบเอากระดาษขึ้นมารองให้พร้อมหอมแก้มนิ่มนั้นไปฟอดใหญ่ แต่เด็กน้อยกำลังพยายามแถกตัวลงไปจากตัก
 

“น้องขิงจะหาอาป๊ะ น้องขิงรู้ว่าอาเป๊าะอยู่ตรงโน้น”
 

เด็กซนพูดชัดบ้างไม่ชัดบ้างหลุดลงจากตักป้าพราวจนได้กำลังตั้งหน้าตั้งตาจะวิ่งไปที่เตียงคนไข้ที่มีผ้าม่านล้อมปิดไว้ เห็นแต่ขาคนเดินกันวุ่นไปมาอยู่รอบเตียง
 

“จะไปไหนครับตัวยุ่ง ไหนสัญญากันแล้วว่าถ้าพามาจะไม่กวนไง”
 

เด็กน้อยโดนรวบจับเข้าจนได้ โดยมือของใครบางคนที่เพิ่งเดินตามเข้ามา ย่อตัวนั่งลงกอดร่างอ้วนกลมนั้นไว้
 

“คุณป๋าปล่อยหนู   น้องขิงจะไปหาอาเป๊าะไปช่วยตรวจคุณคนไข้”
 

“ไหนครับ น้องขิงรู้ได้ยังไงว่าอาป๊าหนูอยู่ตรงไหน คุณป๋ามองไม่เห็นเห็นเลย”
 

คุณป๋าอมยิ้มยั่วแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น ความจริงเขารู้แล้วว่าอาป๊าน้องขิงอยู่ที่เตียงที่มีม่านรูดปิดไว้ คงมีเรื่องฉุกเฉินบางอย่างเกิดขึ้น เพราะเห็นพยาบาลวิ่งวุ่นเข้าออกอยู่ที่เตียงนั้น
 

“น้องขิงจำรองเท้าอาป๊ะได้  คุณป๋าใจร้ายไม่ให้น้องขิงเข้าไป” เด็กน้อยเบะปาก คุณป๋ารีบยีหัวเล็กแล้วหอมแก้มกลมลงไปฟอดใหญ่
 

“ดื้อแบบนี้เดี๋ยวพากลับดีกว่าเนาะ”  เขาแกล้งแหย่
 

“ไม่เอ๊า! น้องขิงไม่กลับ น้องขิงจะกลับพร้อมอาเป๊าะ” หน้าเล็ก ๆ เริ่มยุ่งส่ายไปมาจนปากกลม ๆ สั่นดิก
 

“นั่นไง ใครออกมาแล้ว ไปดูดิ๊”
 

คุณป๋าบุ้ยใบ้ให้เจ้าเด็กจ้ำม้ำดูคนที่เดินออกมาจากเตียงนั่น คุณหมอหนุ่มหล่อรูปร่างสูงใหญ่ทั้งเท่ทั้งสมาร์ตมองมาทางเด็กน้อยและคุณป๋าตัวเล็ก   เขาตรงไปเขียนอะไรต่อที่เคาน์เตอร์นิดหน่อยยังไม่เข้ามาหาทั้งสองคนในทันที แต่มีหรือที่เจ้าตัวซนจะยอม...
 

“อาเป๊าะ!”
 

เสียงเล็ก ๆ เรียกขึ้นอย่างดัง วิ่งไปกอดขาเขาไว้  เงยหน้าเบะปากเหมือนจะร้องไห้ จากนั้นมุดหัวซุกเข้าไปใต้ชุดกาวด์ จนพยาบาลสาว ๆ แถวนั้นหัวเราะชอบใจกันใหญ่
 

นี่คือลูกอ้อนท่าไม้ตายของเจ้าจินเจอร์จอมซนที่พยาบาลแถวนี้เห็นกันจนชินตา เมื่อเห็นว่าอาป๊าของเขาไม่ยอมสนใจ
 

“ชู่ว์ น้องขิงอย่าเสียงดังนะครับ เห็นไหมคุณคนไข้เขานอนพักผ่อนกันอยู่เต็มไปหมดเลย ถ้าน้องขิงเสียงดัง พวกคุณน้าคุณป้าเขาจะปวดหัวแย่เลยนะ”
 

คุณพ่อตัวสูงนั่งยอง ๆลงไปคุยกับเจ้าตัวเล็ก มือใหญ่ยกเสยผมหน้าม้าที่ปรกลงเต็มหน้าผากเล็ก ๆ ออกให้ คุณป๋าเพิ่งพาเจ้าตัวเล็กไปตัดผมทรงหัวเห็ดมาเมื่อไม่กี่วันก่อน แถมยังไว้หางเต่าด้านหลังเฟี้ยวสุด
 

จะหล่อแข่งกับอาป๊าใหญ่แล้ว
 

“คุณป๋าใจร้าย คุณป๋าบอกจะพาน้องขิงกลับ น้องขิงจะรออาป๊ะก่อน”
 

เจ้าตัวเล็กย่นจมูกใส่คุณป๋า เมื่ออยู่กับอาป๊าที่ตามใจเขาทุกอย่าง คุณป๋าตัวเล็กก็ไร้ความหมาย  คุณหมอหนุ่มหล่อส่งยิ้มกว้างให้คนที่นั่งอยู่ข้างกัน  เจ้าขิงจอมดื้อเล่นฟ้องเอาต่อหน้าต่อตาแบบนั้น ฝ่ายนั้นเองก็ย่นจมูก ชิช๊ะ กลับมาเหมือนกัน
 

“ครับ ๆ ป๊าเสร็จแล้ว เดี๋ยวกลับพร้อมน้องขิงเลยนะ” เขาหยิกแก้มกลมนั้นไปที ก่อนเดินเข้าไปถอดเสื้อกาวด์แขวนไว้แล้วหยิบกระเป๋าที่ห้องออกมา แวะสั่งความไว้กับนางพยาบาลที่เข้าเวรแล้วจึงเดินเข้าไปหาคุณป๋าของเจ้าตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังยิ้มร่าอยู่กับพยาบาลแถวหน้าเคาน์เตอร์
 

“มายลิทเทิลจินเจอร์ อิสไทม์ทูโกโฮม”
 

หนุ่มน้อยจินเจอร์ไม่ได้ฟังเสียงป่ะป๊าตัวเอง  แต่รีบวิ่งเข้าไปส่องดูที่เตียงคนไข้นั้นอีกครั้ง ทำท่าอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ จนพยาบาลสาว ๆ แถวนั้นแซวว่าป่ะป๊าไปแล้วนั่นแหละถึงได้วิ่งดุ่ม ๆ ตามหลังคุณป๋าและป่ะป๊ะเขาออกมา
 

“อาเป๊าะอุ้ม ๆ”
 

ป่ะป๊าทำท่าไม่สนใจเสียงเรียก แต่หันไปรับกาแฟเย็นจากคุณป๋ามาดูดแทน  เจ้าเด็กตัวดีที่เดินอยู่หลังขายาว ๆ ของเขาแอบมองดูทางเดินด้านหน้าเมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงลิฟต์แล้ว ปากเล็กๆก็เบะออกอีกครั้ง
 

“อาป๊ะ อุ้ม ๆ” มือเล็กกางออก ทำสีหน้าอ้อน ๆ แววตาเว้าวอนสุดขีด
 

....มันเจ้าชู้เหมือนใครกันวะ....
 

“ป๊าสอนให้หนูพูดว่าไง พูดเพราะๆซิ  ‘อาป๊าครับอุ้มน้องขิงหน่อยครับ’  แบบนี้  ” คุณป๋าแอบอมยิ้มเมื่อเห็นสองพ่อลูกต่อปากต่อคำกัน  เขาสองคนหยุดที่หน้าลิฟต์พอดี
 

“อาป๊ะ พิคมีอัพพลีส”
 

เจ้าเด็กดื้อ! ไม่ยอมพูดตามแล้วยังเลี่ยงไปพูดเป็นภาษาอังกฤษเสียอีก  อดที่จะเอ็นดูไม่ไหว พอดีกับที่ลิฟต์เปิดออก เขาช้อนเอาเจ้าตัวเล็กอุ้มขึ้นจนร่างแทบจะปลิวหวือ เสียงเล็กแผดลั่นตามประสาเด็ก เขาจูบลงที่พุงกลม ๆ หนึ่งที เด็กน้อยหัวเราะเอ๊กอ๊ากลั่นลิฟต์
 

ตอนนี้ธาราธารเป็นแพทย์เรสสิเดนท์ สูติฯ-นรีเวชวิทยา อยู่ที่โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง  ทุก ๆ เย็นวารินจะต้องไปรับ ‘น้องขิง’ เจ้าตัวยุ่งประจำบ้านซึ่งเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเตโชและนับดาวที่ยกให้เขาและวารินเป็นพ่อแม่ทูนหัว จากนั้นจึงจะพาแวะมาหาเขาที่ห้องตรวจบ้าง ไม่ก็ที่หอผู้ป่วยบ้าง แล้วจึงกลับบ้านพร้อมกันสามคนพ่อแม่ลูก
 

“เหนื่อยไหมครับ”
 

พอขึ้นรถมาได้พักเดียวเท่านั้นเจอแอร์เย็น ๆ เข้าหน่อยเด็กน้อยจอมซนก็หลับอยู่ที่เบาะหลังทันที  ตั้งแต่น้องขิงเข้าเรียนเตรียมอนุบาล วารินทำหน้าที่ไปส่งทุกเช้าก่อนเข้างานที่โรงแรม ส่วนเย็นก็ไปรับหลังเลิกงานเพราะได้สิทธิ์จากท่านประธานอย่างเขาให้เลิกก่อนเวลาได้ เสียแต่ว่าธาราธารบังคับให้เขาสองคนนั่งแท็กซี่แล้วให้พาน้องขิงมาที่โรงพยาบาลต่อจะได้กลับด้วยกันสามคน เป็นแบบนี้มาปีกว่าแล้ว
 

“ไม่เหนื่อยหรอก  ธารล่ะวันนี้คนไข้เยอะนี่เตียงเต็มจนล้นออกมาเลยนะ”
 

“ผมเหนื่อยอ่ะดูคนไข้เป็นร้อยเลยนะ อ้อนได้รึเปล่าครับ” เขาคว้าเอามือเล็กมาจับไว้แถว ๆ เกียร์เขี่ยๆอยู่สักพักก็ยกขึ้นมาจูบ
 

“อยากให้ถึงตอนกลางคืนเร็ว ๆ ไม่ได้กินกาแฟมาหลายวันแล้วนะ”  ทำหน้าทำตาออดอ้อนสุดฤทธิ์ วารินอยากจะฟาดเขาไปสักผั๊วะพอวันไหนไม่มีเวรดึกล่ะก็เป็นแบบนี้ทุกที
 

“ภาวนาไม่ให้มีสายเรียกจากโรงพยาบาลกลางดึกอีกเหอะ”


จะว่าไปอยู่สูติฯนี่ลำบากไม่น้อย บางคืนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มสายด่วนเรียกไปทำคลอดเพราะหมอไม่พอบ้างล่ะ อาการคนไข้ในความดูแลทรุดลงบ้างล่ะ แล้วคนอย่างเขาที่กำลังค้าง ๆ คาๆอยู่นี่ถึงกับเสียอารมณ์กันไปเลย ลำบากเตโชไม่ก็ทินกรต้องเป็นคนขับรถให้เขากลางดึก เพราะตอนกลางคืนธาราธารจะไม่ยอมขับรถเองเด็ดขาด เขาให้เหตุผลว่าต้องการทำสมาธิสงบจิตใจก่อนถึงโรงพยาบาล
 

ถ้าใครยังจำได้ไอ้สัญญา 5 ปีที่แล้ว ที่จะไม่ให้ทำอะไรนั่น อย่าคิดว่าเขาจะรักษามันได้นาน แค่ปีแรกผ่านไปได้นี่ถือว่าเขามีความอดทนเหนือคนธรรมดามากพอแล้ว กดวารินตั้งแต่วันแรกของปีที่สองเลยทีเดียว
 

“ไม่อายลูกรึไง เดี๋ยวน้องขิงตื่นมาได้ยินเอาหรอก” เจ้าเด็กนี่ยิ่งฉลาดเป็นกรดอยู่ด้วย เขากุมมือเล็กขึ้นมาจูบที่หลังมือเบา ๆ
 

“จะรู้ได้ไง ‘กาแฟ’ ของผมมันเป็นโค๊ดลับ ต่อให้เด็กพันไอคิวยังต้องเสียเวลาคิดเป็นวัน ๆ” เขาว่าแล้วยิ้ม วารินหน้าร้อนฉ่า
 

“กินข้าวนอกบ้านกันไหม” 
 

“ได้ที่ไหนล่ะ น้องขิงหลับแล้วปลุกลูกตอนนี้งอแงแย่ ” วารินเอื้อมมือไปห่มผ้าให้เจ้าตัวเล็กที่เบาะหลัง ตอนนี้นอนอ้าปากหวอ กางแขนกางขาสบายใจอยู่ ตั้งแต่มีเจ้าขิงธาราธารเปลี่ยนมาใช้ปาเจโร่รุ่นใหม่สีขาว เขาว่าจะได้เอาไว้ให้ลูกปีนเล่นเผื่อง่วงก็จะนอนได้สบาย ๆ รถครอบครัวลุย ๆ แบบนี้ก็ดีไปอย่าง
 

“งั้นเอาเจ้าขิงกลับไปส่งแล้วเราออกมาดินเนอร์กันสองคน”
 

“ธาร! พูดเป็นเล่น เจ้าขิงติดธารอย่างกับอะไรดี เกิดตื่นมารู้ว่าเราหนีออกมากันอีกมีหวังร้องไห้บ้านแตก”
 

ต้นปีที่แล้ว เขากับธาราธารพาขิงไปเที่ยวสวนสนุก เสร็จแล้วพากลับมาไว้ที่บ้านแล้วเขาสองคนก็ออกไปดินเนอร์กันต่อ เจ้าขิงตื่นมาร้องไห้โวยวายจนเสียงแหบตาบวมไปหมด เขาสองคนจึงตกลงกันไว้ว่าต่อไปถ้าไม่ใช่ธุระเรื่องงาน จะไปไหนจะต้องพาเจ้าเด็กดื้อนี่ติดไปด้วยทุกครั้ง
 

“ครับ งั้นเดี๋ยวผมแวะเข้าไปเอาเอกสารที่โรงแรมแปปเดียวนะ”
 

เขาว่าแล้วเลี้ยวรถวกเข้าในโรงแรม ตอนนี้ธาราธารเป็นประธานเต็มตัวแล้ว เขามีเซนต์ที่ดีเรื่องงานบริหาร  เขาจะเข้างานทุกวัน สลับกับการทำงานประจำอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐบาลรับเงินเดือนน้อย ๆ เรียนต่อด้านสูติฯนรีเวช
 

วารินเองก็สงสัยทำไมเขาถึงเลือกเรียนทางด้านนี้ ถามทีไรก็มีแต่ยิ้ม ๆ ไม่เคยตอบเป็นเรื่องเป็นราวสักที
 

เมื่อรถจอดลงที่ชั้นใต้ดิน เขาขึ้นไปเอาของพักเดียวก็ตรงดิ่งลงมา
 

“เร็วจัง”
 

“กลัวพี่รอนานน่ะ งานอื่นไว้ทำพรุ่งนี้ละกัน พรุ่งนี้ผมมีโอพีดีเช้า ช่วงบ่ายว่างเดี๋ยวจะแวะเข้าไปที่โรงแรม” เขาว่าแล้วปิดประตูรถหันไปมองเจ้าจินเจอร์นิดหน่อย
 

“งั้นพรุ่งนี้พี่ขับรถไปส่งเจ้าขิงเองก็ได้  เย็นค่อยเจอกันที่บ้าน เผื่อธารเคลียร์งานที่นี่ดึก”
 

“คิดว่าผมจะยอมไหม หืม?” เขามองวารินตาเชื่อม  เอื้อมมือไปกุมมือเล็ก
 

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปส่งตอนเช้านะครับ ส่งทั้งแม่ทั้งลูกเลยเย็นเราจะได้กลับด้วยกันอีกไง” เขาดึงวารินเข้ามาใกล้โน้มจุมพิตเข้าที่ริมฝีปากสวยแล้วอ้อยอิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมปล่อย วารินถึงกับหน้าแดงก่ำ
 

“ธารพอแล้ว เดี๋ยวลูกตื่นมาเห็น”
 

“ไม่เห็นหรอก หลับปุ๋ยอยู่นั่น”
 

เขาหันมองที่เบาะหลังอีกที เด็กน้อยยังนอนแผ่หราท่าเดิมไม่เปลี่ยน คนเอาแต่ใจจึงเอียงคอโน้มลงจูบปากนิ่มอีกครั้ง คราวนี้เป็นจูบหนักหน่วงในแบบของเขาทำเอาวารินถึงกับต้องใช้สองมือขยุ้มเสื้อเขาไว้แน่น อะไรต่อมิอะไรเลยพาลจะตั้งเอาเสียดื้อ ๆ เสียงหอบหายใจหนัก ๆ จากทั้งคู่เรียกความรู้สึกภายในให้ประทุได้ไม่ยากเย็นเลย
 

“พอแล้วธาร พอแล้ว”  เสียงเล็กอู้อี้ วารินยังถูกเขาดูดปากไม่ยอมปล่อย เขาสองคนจูบกันจนลิ้นแทบจะหลอมเป็นเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว
 

ผั๊วะ!!
 

“อาเป๊าะ! กัดปากคุณป๋าทำไม แง่ๆๆ  คุณป๋าเจ็บจนหน้าแดงไปหมดแล้วปล่อยคุณป๋าเดี๋ยวนี้นะ อาป๊ะใจร้าย ขิงจะเป็นเรเจอร์แปลงร่างมากินอาป๊ะ”
 

มือเล็กถือสมุดวาดรูปเล่มโตตะลุมฟาดไปที่หลังอาป๊าของเขา เจ้าเด็กตัวยุ่งตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เห็นธาราธารประคองสองแก้มวารินแล้วบดจูบหนักหน่วงกำลังเข้าฟีลดันคิดไปว่าวารินกำลังโดนกัดปากเสียได้ คุณหมอหนุ่มถอนหายใจอย่างอดทนจ้องหน้าไอ้ตัวเล็กนิ่ง
 

“น้องขิงครับ คุณป๋าหนูเจ็บปาก ป๊าเลยส่องดูให้ มันไม่มีไฟฉายป๊าเลยต้องส่องดูใกล้ ๆไงครับ นี่ๆทำแบบนี้ส่องๆ”  เขาว่าแก้ตัวแล้วทำท่าส่อง ๆ ขณะที่วารินก็เนียนทำท่าอ้าปาก
 

“อ้า......
 

“น้องขิงก็เจ็บปาก คุณป๋าดูให้น้องขิงด้วยนะครับ” เด็กน้อยยกมือกลมปาดน้ำตา ว่าแล้วปีนข้ามไปนั่งบนตักวารินโน้มใบหน้าเล็กเข้าไปจนชิดสุด ๆ พยายามให้ปากเข้าใกล้คุณป๋ามากที่สุด
 

“เฮ้ยๆๆๆ เจ้าเด็กซนทำอะไรน่ะ คุณป๋าไม่ได้เป็นหมอจะตรวจหนูได้ยังไง ปากหนูต้องให้อาป๊าตรวจสิ ป๊าเป็นหมอนะ” ธาราธารเห็นเด็กดื้อทำแบบนั้นรีบคว้าเอาคอเสื้อด้านหลังแล้วหิ้วลูกออกมานั่งที่ตักตัวเองแทน
 

แม้กระทั่งกับลูกเขายังคงหวงวารินไม่มีเปลี่ยน
 

“อาเป๊าะไม่ได้เป็นหมอตรวจปาก  ไม่รู้หรอกว่าหนูเจ็บตรงไหน หนูจะให้คุณป๋าดู” เจ้าตัวร้ายแถกออกจากตักธาราธารพยายามจะมาหาวารินให้ได้
 

“ไอ้ตัวอ้วนนั่งนี่เลยไม่ให้ไปนะ” ธาราธารกอดไว้ไม่ยอมให้ไป
 

“น้องขิงว่าอาป๊าไม่ได้เป็นหมอตรวจปากใช่ไหม แล้วน้องขิงรู้ได้ยังไงครับว่าอาป๊าเป็นหมอตรวจอะไร”
 

“อาป๊ะเป็นหมอตรวจก้น น้องขิงเห็นป๊ะชอบดูก้นผู้หญิง คุณป้าคนไข้ เป๊าะก็ชอบไปส่อง ๆ ดู แล้วน้องขิงก็เคยเห็นอาเป๊าะส่องดูก้นคุณป๋าตอนกลางคืนด้วย”
 

ไม่รู้คิดถูกคิดผิดที่ให้เจ้าเด็กดื้อนี่มาหาถึงวอร์ดนรีเวชแบบนี้ เตียงขาหยั่งมีเต็มไปหมด
 

“ขิง!” วารินตกใจกับคำพูดไร้เดียงสานั่นมาก หน้าเล็กร้อนฉ่าด้วยความอายขณะที่ธาราธารกลั้นหัวเราะจนไหล่ไหว
 

“ใช่ครับอาป๊าเป็นหมอตรวจก้นผู้หญิง ก้นผู้ชายตรวจแค่ของคุณป๋าหนูคนเดียวคนอื่นอาป๊าเซโน”
 

“น้องขิงหยุดได้แล้วลูกพูดอะไรออกทะเลไปเรื่อยแล้ว ธารนี่ก็อีกคนแทนที่จะปรามลูก พาพูดไปเรื่อย  กลับกันได้แล้วมัวแต่คุยป่านนี้แม่ดาวกับพ่อเต รอเราแล้วเนี่ย”
 

“คุณย่าก็รอขิงนะ” เจ้าตัวร้ายทำแก้มพองลมอยู่หลังพวงมาลัย ธาราธารกอดไว้กับตักจูบเบา ๆ ลงที่หัวเล็กอย่างเอ็นดู
 

“กลับกันเนอะ เดี๋ยวป๊าพาขับรถบรื้น ๆ กลับบ้านเราเนาะ”
 

“ขิงหิวข้าวรึยังครับลูก” วารินยกมือขยี้หัวเล็ก เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืด วันนี้รถติดยาว
 

“ครับ ขิงหิว ขิงอยากกินข้าวกับไข่อะโล้”
 

ในที่สุดก็ปีนมานอนลงที่ตักเล็กของวาริน เขาทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน ไข่อะโล้ของน้องขิงก็คือไข่พะโล้ที่ดาวมักจะทำติดบ้านไว้เสมอ ของโปรดของเจ้าจินเจอร์นั่นเอง วารินยื่นขนมปังที่ซื้อใส่กระเป๋าไว้ส่งให้รองท้อง หลังจากนั้นไม่นานนักรถหรูของคุณหมอหนุ่มรูปหล่อก็จอดลงที่หน้าคฤหาสน์หลังเดิม เจ้าขิงตัวยุ่งหลับไปอีกรอบพอถูกปลุกให้ตื่นรู้ว่าถึงบ้านแล้วลงไปได้ก็โวยวายใหญ่
 

“อาเป๊าะโกหก น้องขิงนึกออกแล้ว เมื่อคืนอาป๊ะบอกน้องขิงว่าวันนี้จะพาไปกินเค้ก ทำไมตอนนี้กลับบ้านแล้วยังไม่ได้กินสักเค้กเลย ไหนเค้กไหนน๋ม”
 

เจ้าเด็กตัวเล็กเกาะขาเงยหน้ามองอาป๊าของเขาที่ตัวสูงใหญ่มาก ๆ กำลังขยับคลายเนคไท หลังวางกระเป๋าและเอกสารต่าง ๆ ลง
 

“น้องขิงอย่ากวนคุณป๊านะ ไปกินข้าวได้แล้วครับ” นับดาวที่เดินถือตะกร้าเสื้อใช้แล้วของธาราธารลงจากรถ เรียกเจ้าตัวเล็กไม่อยากให้กวนธาราธารมากนักเพราะรู้ว่าเจ้านายของเธอทำงานหนักมากไม่ค่อยได้พักนี่ก็เข้าเวรติดกันสามวันรวด เจ้าขิงจินเจอร์ยังติดซะยิ่งกว่าตังเมซะอีก
 

“ไม่เป็นไรหรอกดาว เดี๋ยวตั้งโต๊ะเลยนะ คุณธารหิวแล้วล่ะ”
 

“ค่ะคุณทราย” นับดาวรับคำ
 

“ขิง มานี่ครับ พ่อเตป้อนข้าวเร็ว เดี๋ยวพาไปขี่ม้าโยกหน้าบ้าน ไม่กวนคุณป๋า กับอาป๊านะครับ”
 

เตโชถือถ้วยข้าวของเด็ก ออกมาวิ่งไล่ต้อนเจ้าตัวเล็ก
 

“ไม่เอา ขิงจะขึ้นไปหาคุณย่า คุณย่าค๊าบขิงกลับมาจากโรงเรียนแล้วค๊าบ” ว่าแล้วเจ้าตัวเล็กทำท่าจะวิ่งขึ้นบันได ธาราธารรีบคว้าหมับเอาไว้แล้วอุ้มพาดใส่บ่า

 
“ขึ้นไปพร้อมป๊าเลยไปเจ้าตัวยุ่ง” เขาฟาดก้นกลมเบา ๆ ไปทีแล้วแบกขึ้นบ้าน
 

“อ๊าป๊าปล่อยยยย น้องขิงโตแล้วน้องขิงอยากเล่นขึ้นบันได ป๊าปล่อยยยยย คุณป๋าช่วยหนูด้วย อาป๊าอย่าตีก้นนะ กรี๊ดดดดด”
 

วารินที่เดินตามขึ้นบันไดมาข้างหลังได้แต่ส่ายหัว เจ้าขิงจอมดื้อไม่ปราณีใครจริง ๆ ต้นเหตุเพราะติดธารมากเวลาเล่นกันธาราธารจะพาเล่นแบบโลดโผนตามใจทุกอย่าง อยากบินก็พาบิน อยากเหวี่ยงก็พาเหวี่ยง อยากหิ้วคอเสื้อขึ้นมาก็หิ้วเลย  น้องขิงค่อนข้างเอสเอ็มนิด ๆ
 

“คุณย่าค๊าบ อาเป๊าะแกล้งน้องขิง”
 

เจ้าตัวดีพอเข้ามาถึงห้องของภัครจิราก็วิ่งถลาเข้าไปซุกหัวกลม ๆ ลงที่ตักส่งเสียงออดอ้อน ภัครจิรายิ้มให้แล้วลูบหัวเล็กอย่างอ่อนโยน  ตอนนี้อาการเธอดีขึ้นมากๆถึงขนาดนั่งดูทีวีได้ หยิบจับของบางอย่างได้ เคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ได้ คงเหลือแต่การเดินกับอาการพูดที่ยังไม่สามรถทำได้อย่างเดิมเท่านั้น แต่เธอก็มีหน้าตาสดชื่น และมีความสุขกับเจ้าเด็กดื้อคนนี้มาก
 

“คุณแม่ทานข้าวแล้วเหรอครับ” ธาราธารนั่งลงข้าง ๆ เธอยิ้มบางให้เขาขณะมือก็ยังลูบหัวเจ้าตัวเล็กไม่หยุด
 

“น้องขิงอยากกินข้าวต้มใส่ตับ ยายวันไม่ยอมทำให้แม่ดาวก็ทำแต่ไข่อะโล้น้องขิงเบื่อไม่อยากกิน” วารินส่ายหัว นี่คือบนรถยังบอว่าอยากกินไข่อะโล้อยู่เลย
 

“เดี๋ยวเถอะตาขิง เมื่อคืนยายถามยังบอกอยากกินไข่พะโล้อยู่เลย วันนี้ไหงเปลี่ยนเมนูอีกแล้ว” วันนาที่นั่งอยู่ด้วยล้อเจ้าหลานตัวแสบ
 

“อ๊ะ น้องขิงหิวแล้ว ลงไปดีกว่า แบร่ ยายวันจ้างก็จับไม่ได้”
 

เด็กน๋อเด็กอยู่ดี ๆ ก็บอกหิวแล้ววิ่งพรวดพราดออกจากตักทำท่าจะเปิดออกจากห้องไปหากแต่ตัวยังเตี้ยมาก ๆ เลยบิดลูกบิดไม่ถึงเขย่งแล้วเขย่งอีกในที่สุดไปยกเบาะรองนั่งองวันนามารองทำเป็นชั้น ๆ จะต่อให้สูงขึ้น วารินรีบดึงไว้ บอกให้รอลงไปพร้อมกัน ภัครจิราส่งยิ้มกว้างให้กับทุก ๆ ก่อนที่ธาราธารจะพาวารินและขิงลงไปทานข้าวข้างล่าง
 

“วันนี้น้องขิงจะอาบน้ำกับอาเป๊าะเสร็จแล้วเราจะได้ไปอ่านหนังสือกัน”

หัวข้อ: Re:...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 04-05-2014 22:24:59
“วันนี้น้องขิงจะอาบน้ำกับอาเป๊าะเสร็จแล้วเราจะได้ไปอ่านหนังสือกัน”
 

ช่วงนี้เจ้าขิงน้อยชอบไปหมกตัวอยู่ที่ห้องหนังสือกับอาป๊าของเขา หนังสือกายวิภาคที่มีรูปร่างมนุษย์ถูกเจ้าเด็กแก่นดูไปซี้ดปากไปไม่รู้ว่ากลัวหรือว่าชอบใจกันแน่ เพราะบางทีก็แอบเห็นว่าหัวเราะชอบใจเวลาดูรูปหัวกระโหลกคน
 

ตัวเล็กลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าแล้ววิ่งหลุน ๆ ไปรอที่อ่าง วารินถือผ้าเช็ดตัววิ่งตามจนเกือบล้มดีที่มือแกร่งของใครบางคนคว้าแขนเขาไว้ได้เสียก่อน
 

“ค่อยเดินครับพี่ทราย มานี่เดี๋ยวผมจัดการเจ้าขิงเอง”
 

“แต่ธารเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่”
 

“ไม่เป็นไร เล่นกับลูกถือว่าพักผ่อน” เขาว่าแล้วยิ้ม โน้มตัวเข้ามากระซิบ “นอนกับเมียก็ถือว่าพักผ่อนเหมือนกันนะ หึหึ”
 

วารินฟาดตนแขนเปลือยเปล่าไปที เขาขโมยจูบแก้มใสแล้วรีบเลี่ยงเดินเข้าห้องอาบน้ำไปด้วยผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียว
 

“เจ้าอ้วนหันหัวมาทางนี้ ป๊าจะสระผมให้เร็วเข้า” เขากดแชมพูกลิ่นเมลอนรูปเป็ดแล้วขยี้ลงบนหัวเล็ก เจ้าขิงหัวเราะร่าเสร็จแล้วมุดๆ ดำผุดดำว่ายอยู่ในอ่าง เขาชอบพาเด็กแสบไปว่ายน้ำเพราะฉะนั้นจินเจอร์ตัวน้อยจึงไม่กลัวน้ำเลย ออกจะชอบมากเสียด้วยซ้ำ
 

“อาป๊ะ ที่โรงเรียนน่ะกอหญ้าชอบมาแกล้งน้องขิง น้องขิงไม่ชอบเลยน้องขิงไม่ชอบเล่นกับเด็กผู้หญิง” มือเล็กจับเป็ดตัวน้อยที่ลอยอยู่ในอ่างเล่นทำเป็นเรือ
 

“แล้วขิงชอบเล่นกับใครล่ะครับ” เขาตะล่อมหลอกถามกิจวัตรต่าง ๆ ที่ขิงทำที่โรงเรียน
 

“ขิงชอบเล่นกับอชิ อชิเป็นคนญี่ปุ่น แต่วันนี้น้องขิงเสียใจนิดหน่อย”
 

เจ้าอ้วนทำจมูกย่น พอธาราธารถามว่าเสียใจเรื่องอะไร เด็กดื้อก็ตอบว่าเขาไปขอดูก้นของอชิ บอกว่าจะตรวจดูให้ อชิเลยตบหน้าขิงมาทีแต่น้องขิงอดทนไม่ร้องเดี๋ยวคุณครูจะหาว่าน้องขิงอ่อนแอไม่แมน ธาราธารถึงกับหัวเราะขำ
 

“สมควรแล้ว มีอย่างที่ไหนไปขอดูก้นเพื่อน”
 

“ก็ขิงอยากเป็นคุณหมอเหมือนอาป๊ะ  อาป๊ะเท่ ตัวก็สูง หล่อก็หล่อ โตขึ้นน้องขิงก็จะสูงแล้วก็เท่เหมือนกัน”
 

“อยากเหมือนป๊าขนาดนั้นเชียว?”
 

“อยากเหมือนสิค๊าบ อยากเหมือนทุกอย่างอยากมีหนอนน้อยตัวใหญ่ ๆ แบบอาป๊ะด้วย ขิงจะดึงมันทุกวันมันจะได้ตัวใหญ่เท่าของอาป๊าไวๆ ขิงเลี้ยงมาตั้งนานมันก็ไม่ยอมโตขึ้นสักที ขิงโชว์ให้อชิดู  อชิแลบลิ้นให้บอกว่าของขิงเล็กจิ๊ดเดียวสู้ของคุณพ่ออชิก็ไม่ได้ ขิงเสียใจ”
 

ธาราธารอมยิ้มส่ายหัวรู้สึกว่าเด็กสมัยนี้เหลือเกินจริง ๆ แค่เตรียมอนุบาลก็สนใจเรื่องเพศกันแล้ว ถึงขนาดควักมาอวดกัน เขาอุ้มเจ้าตัวเล็กออกจากอ่างแล้วใช่ผ้าเช็ดตัวพันไว้จนมิดจากนั้นอุ้มไปโยนไว้ที่เตียง วารินนั่งขัดสมาสรอทาแป้งให้อยู่แล้ว
 

“ไว้โตขึ้นป๊าจะบอกวิธีเลี้ยงให้หนอนมันตัวโตๆ”
 

เขาก้มลงไปกระซิบที่ข้างหู เจ้าขิงที่กำลังนอนโรยแป้งดิ้นไปมาหัวเราะชอบใจใหญ่
 

ในใจกำลังคิดว่า....ถ้ามันใหญ่ได้จริง ๆ เดี๋ยวจะเอาไปอวดอชิดูใหม่
 

“เล่นอะไรกันพ่อลูก ไหนบอกคุณป๋าได้ไหม จะเลี้ยงอะไรกันให้ตัวโตๆ”
 

“ขิงไม่บอกหรอก หนอนของคุณป๋าเล็กจิ๊ดเดียว น้องขิงไม่สนใจคุณป๋าหรอก”
 

วารินหน้าร้อนฉ่า รีบหันหาธาราธารทันที เสียแต่พ่อตัวดีดันวิ่งหนีไปหาเสื้อผ้าที่ตู้ใส่เสียแล้ว
 

“ธารนี่ สอนอะไรลูกแต่ละอย่างนะ เดี๋ยวเถอะ!” วารินดุเสียงเขียว
 

“เกี่ยวไรกับผมอ่ะ ไอ้หมูตอนถามมากเองนี่นา”
 

“น้องขิงจะไประบายสี” พอแต่งตัวเสร็จตัวอ้วนจ้ำม่ำก็วิ่งทะลุไปที่ห้องหนังสือ ล้วงเอาของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าหนังสือแล้ววิ่งส่ายก้นดุ๊กๆเข้ามาหาวารินกับธาราธารที่เตียงอีกครั้ง
 

“คุณป๋า น้องขิงมีสีอันใหม่ สวยเลย” มือเล็กถือกล่องสีอวดให้วารินดู  เจ้าอ้วนปีนขึ้นมาบนเตียงแล้วคลานเข้าไปหาอาป๊าของเขา
 

“ขิงเอามาจากไหนครับ สีเทียนแบบนี้คุณป๋าไม่เคยซื้อให้หนูนี่”
 

“อาธิปซื้อให้ขิง”
 

วารินหันมองธาราธารทันทีที่ได้ยินน้องขิงพูดชื่อนี้  “อาชนาธิปเหรอครับขิง” ธาราธารหยิบกล่องสีเทียนขึ้นมาดู เจ้าขิงออกจะหวงยื้อ ๆ ไว้นิดหน่อย
 

“อาธิปไปหาขิงที่โรงเรียน บอกว่าซื้อมาจากญี่ปุ่นอยากให้ขิงใช้ อาธิปบอกว่าขออนุญาตอาป๊าแล้ว”
 

เจ้าขิงว่าจบยื้อกล่องสีคืนมาปีนลงจากเตียงแล้ววิ่งไปที่ห้องหนังสืออีกครั้ง กระโดดขึ้นนั่งที่โต๊ะกอไก่มือกลม ๆ กำสีเทียนแล้วระบายเล่นไปมา
 

ธาราธารนึกได้ในทันที สองสามวันที่แล้วชนาธิปโทรหาเขาบอกว่าเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นซื้อของมาฝากขิง อยากจะเอาไปให้ที่โรงเรียน เขาเห็นว่าไม่น่ามีปัญหาเลยบอกอนุญาตไป แต่ที่สำคัญก็คือเขาลืมบอกวารินเรื่องนี้ไปเลย เขายุ่งกับงานมากมายจริง ๆ


“ผมลืมบอกพี่จริง ๆ  เขาโทรมาเมื่อสองสามวันที่แล้ว ขอโทษนะครับ” เขายกมือขึ้นนวดขมับ  เผอเรอเรื่องแบบนี้ไปได้ยังไงกันนะ
 

“ไม่เป็นไรหรอกธาร อย่าคิดมากชนาธิปเขาไปต่างประเทศทีไรก็ซื้อของมาฝากเจ้าขิงบ่อย ๆ อยู่แล้ว พี่ไม่ถือหรอก”
 

“ไม่มีอะไรจริงๆนะ ผมคุยกับเขาแค่เรื่องของฝาก  เชื่อใจผม”
 

“อือ” วารินพยักหน้าให้ ไม่อยากให้เขาเป็นกังวล
 

ห้าปีที่ผ่านมา แม้ว่าชนาธิปจะคอยวนเวียนอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา แต่ก็ไม่เคยได้เข้ามาใกล้มากไปกว่านี้ วารินไม่อยากเพิ่มเรื่องยุ่งยากใจให้กับเขาอีกจึงคอยเลี่ยงที่จะคุยเรื่องของชนาธิปทุกครั้ง 
 

เพราะเชื่อใจเขา....เพราะเขาพิสูจน์ตัวเองแล้ว....นับจากวันนั้น ไม่ว่าจะมีใครกี่คนที่เข้ามาขอแค่คนของเรามั่นคงแค่นั้นก็คงเพียงพอ
 

ธาราธารทิ้งตัวแผ่หราลงบนที่นอนอย่างหมดแรง ดึงแขนวารินไว้แล้วอ้อน “เหนื่อยอ่ะ เติมพลังนิดสิ” เขาจับมือเล็กขึ้นมาจูบ
 

วารินโน้มตัวลงไปหอมแก้มเขาเบา ๆ แต่เขารั้งแผ่นหลังเล็กไว้ไม่ยอมให้ลุก “นิดนึง”
 

“ก็หอมแล้วไง”
 

“ไม่ใช่แบบนั้นสิ”
 

“แล้วแบบไหน”
 

เขาแตะปลายนิ้วลงที่ริมฝีปากสวยไล้เล่นเบา ๆ  มองตาอ้อน สื่อความนัยน์หลากหลาย แต่ก็คงไม่พ้นเรื่องพรรค์อย่างว่า วารินรีบหยิกพุงเขาทันที
 

“ไว้ลูกนอนก่อน”
 
 
แค่ชั่วโมงเดียวหลังจากนั้นเจ้าหมูน้อยก็ตาปรือคาโต๊ะ 


“อาป๊ะ แอมสลีพพี่”  เสียงเล็กอู้อี้ธาราธารลุกจากโต๊ะหนังสือเข้าไปสอดมืออุ้มกลับไปที่ห้อง ซึ่งมีนับดาวคอยดูแลให้อยู่แล้ว ตั้งแต่เขากับวารินมีน้องขิง เขาก็สั่งทำห้องสำหรับเด็กเพิ่มขึ้นมาที่ชั้นบน  นับดาวและเตโชบางครั้งก็ขึ้นมานอนกับน้องขิง แต่ขิงจะไม่ค่อยติดจะติดเขามากกว่าคนอื่น ๆ บางครั้งงอแงมากๆเจ้าขิงก็จะได้เข้าไปนอนกับเขาและวารินที่ห้อง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะนอนที่ห้องตัวเองมากกว่า
 

“พรุ่งนี้ค่ำๆ พี่กลับบ้านนะ” วารินที่นอนอยู่ในอ้อมกอดเขาพูดขึ้น
 

“ทำไม” เขาจูบเบา ๆ ลงที่ไหล่ขาวเนียน
 

“เดี๋ยวพี่ซีบ่น ช่วงนี้ติดเจ้าขิงไม่ค่อยได้กลับบ้านเลย คิดถึงพี่ซีด้วยไม่รู้อาทิตย์นี้คุณทัตมาอยู่เป็นเพื่อนรึเปล่า”
 

“มาสิ สองคนนั้นเขาอยู่ด้วยกันตลอดอยู่แล้วนี่ ไม่กรุงเทพก็พังงาอ่ะเห็นขึ้นๆลงๆด้วยกันตลอด”
 

“รู้ดี”
 

“เอ้า พ่อลูกเขาโทรคุยกันนี่”
 

หลายปีมานี่มิตรภาพระหว่างทัตพลกับธาราธารดีขึ้นมากจนน่าใจหาย ภัครจิราเองเวลาทัตพลแวะมาหาก็ไม่เมินเฉยเหมือนเก่า ฟันเฟืองที่สำคัญน่าจะมาจากน้องขิง
 

“อืม...งั้นไปนอนกันทั้งหมดนี่แหละ เราไปถึงที่นั่นค่ำหน่อยได้ไหมพรุ่งนี้วันศุกร์พอดี ผมมีโอพีดีเช้า  ช่วงบ่ายว่างจะเข้าไปเคลียร์งานที่โรงแรม มีราวด์ตอนเย็นคงเสร็จประมาณสองทุ่ม พี่รอหน่อยได้ไหมจะได้กลับพร้อมกัน เจ้าขิงจะได้แวะไปเล่นกับคุณพ่อผมด้วยเห็นโทรมาบ่นว่าคิดถึงกันจะแย่แล้ว”
 

“เอาแบบนั้นก็ได้”
 

ความจริงถ้าเป็นเมื่อก่อนวารินคงจะพูดว่า ‘ไม่เป็นไรลำบากธารเปล่า ๆ พี่ไปเองดีกว่า’ แต่ทุกวันนี้เขาสองคนเข้าใจกันดี การพูดว่าเกรงอกเกรงใจยิ่งทำให้อีกคนลำบากใจมากกว่า   มือซุกซนสำรวจไปทั่วร่างกายนุ่มนิ่ม ส่วนเว้าโค้ง แผ่นหลังเรียบเนียน สะโพกที่ตึงแน่นไปด้วยสัมผัสอบอุ่นนุ่มนวล
 

“...พี่ทราย...” เขาเริ่มครางเสียงต่ำเรียกชื่อน้ำเสียงอัดแน่นไปด้วยความปรารถนาที่พุ่งพล่าน  ไม่รู้ว่าเขาทำได้อย่างไร บัดนี้กระดุมเสื้อทุกเม็ดของวารินหลุดแยกออกจากกันเรียบร้อย กายหนาทาบทับขึ้นมา
 

“...ธาร...” วารินหน้าแดงก่ำด้วยความอายถึงเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังคงไม่ชินกับสัมผัสของเขาสักที
 

“ตัวพี่หอมเหลือเกิน”  น้ำเสียงพร่าต่ำของเขา
 

เขาโน้มตัวเข้าหาก้มต่ำซุกไซ้ใบหน้าไปตามลำคอขาวหอมกรุ่น จมูกโด่งสูดกลิ่นกายหอมดั่งน้ำนมเข้าไปจนเต็มปอด ไม่ว่ากี่ปีผ่านไปร่างกายนี้ทำให้เขาคลั่งได้มิรู้ลืม ริมฝีปากอุ่นไล่จูบเบา ๆ ไปทั่วกายหอมจนไรขนอ่อนลุกซู่ไปทั่วสรรพางค์กาย
 

“...ธาร..” ลมหายใจวารินเริ่มติดขัด ร่างบางสั่นสะท้าน เผลอสอดมือเรียวเข้าใต้กลุ่มผมสีเข้มขยุ้มเบา ๆ ด้วยความลืมตัว แต่มันกลับเร้าอารมณ์ที่อัดแน่นไปด้วยความปรารถนาของเขาให้ลุกโชนยิ่งขึ้นไปอีก จูบที่เร่าร้อนขึ้น สองร่างก่ายกอดปลดเปลื้องพันธนาการของกันและกันออกจนเท่าเทียม ร่างกายของเขาที่บัดนี้เป็นชายหนุ่มเต็มตัวอัดแน่นไปด้วยความสมบูรณ์แบบสมชาย ขณะที่ผิวเนียนนุ่มของวารินผ่านไปกี่ปีๆก็ยังนุ่มเนียนไม่มีเปลี่ยน กลิ่นหอมหวานที่ทำเอาเขากระเจิงได้ทุกครั้งที่สูดดม หากว่าไม่อยากให้ทำอย่าได้มานอนให้ได้กลิ่นเสียเลยยังจะดีกว่า
 

“ผมชอบได้ยินเสียงพี่เวลาที่เราทำแบบนี้กัน”
 

ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำไปด้วยไฟเสน่หา เขาละสายตาออกมามองคนใต้ร่างอีกครั้ง อดที่จะขบขันไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางเอียงอาย  ใช้มือเชยคางมนให้กลับมาสบสายตากับเขาอีกครั้ง บรรจงมอบจุมพิตหวานซึ้งให้อีกอย่างไม่รู้เบื่อ ริมฝีปากร้อนผ่าวพรมจูบไปทั่วซอกคอขาว เนื้อเนินอกไล่ลงมาตามหน้าท้องขาวเนียนสร้างความรู้สึกปั่นป่วนจากภายใน ทั้งทรมานทั้งสุขล้ำจนต้องเปล่งเสียงครางออกมาไม่รู้ตัว
 

เขาพลิกตัวลงแล้วจับคนตัวเล็กขึ้นคร่อมร่างกายเขาไว้ รั้งแผ่นหลังเล็กให้ก้มต่ำลงมากระซิบชิดที่ริมหู
 

“เอ็นดูผมหน่อยเถอะ”
 

อย่าคิดว่าอะไรต่อมิอะไรจะเหมือนเก่า วารินไม่รอช้าพรมจูบลงไปทั่วทุกตารางนิ้วของแผงอกกว้าง ธาราธารตัวเกร็ง สัมผัสจากริมฝีปากอุ่นนุ่มนั้นวาบหวามบอกไม่ถูก ความรู้สึกเสียวสะท้านค่อยก่อตัวขึ้นอัดแน่นเติมเต็มความต้องการ ขณะที่เขาเอื้อมมือไปบดบี้ยอดอกชูชันของอีกคนเล่นอย่างต้องการระบายความกระสัน  ริมฝีปากนุ่มค่อยเลื่อนต่ำลงไปจนถึงหน้าท้องตึงแน่นประดับด้วยมัดกล้ามสวยงามของเขา เขาก้มหน้ามองอย่างรอคอย กลั้นใจรอด้วยความคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะเลื่อนต่ำลงไปอีกหน่อย เขาหลับตาพริ้ม.....รอคอย
 

“ธาร ง่วงนอน”
 

จู่ ๆ วารินหยุดแล้วพลิกตัวลงนอนตะแคงกอดเอวเขาไว้ ขณะที่อารมณ์ของเขากำลังเร่าร้อนเต็มที่ทั้งยังกระหายสัมผัสตรงส่วนอ่อนไหวนั้นจนแทบขาดใจ
 

“แกล้งผมรึไงครับ หืม”
 

ไม่มีเสียงตอบรับ วารินหลับตานิ่ง ปล่อยให้ลูกชายเขานอนชูคออยู่แบบนั้น เขาเองก็แสนอดทน ขณะที่วารินค่อยเปิดตาดูว่าเขากำลังทำสีหน้าเช่นไร เป็นคนขี้แกล้งที่อดทนไม่ไหวหัวเราะขำออกมา ธาราธารขยับคนตัวเล็กขึ้นมานั่งคร่อมเขาไว้อีกครั้ง
 

“สนุกไหม แกล้งกันเนี่ย”
 

“เปล่าแกล้ง ง่วงจริง ๆ คิคิ”
 

“ร้ายนักนะ” วารินซบหน้าลงที่อกกว้างแล้วหลับตาพริ้ม
 

“อยากนอนบนนี้ ได้ไหม ธารหนักหรือเปล่า”
 

“จูบผมก่อน...ตรงนั้น.....แล้วเดี๋ยวให้นอนบนนี้ทั้งคืนเลย” เขาว่าแล้วบุ้ยใบ้ไปที่เจ้าลูกชายตัวดีที่ยังไม่ยอมอ่อนลงเลยแม้แต่น้อย วารินอมยิ้มแล้วส่ายหัว
 

“ง่วง ”
 

“รีบทำ รีบเสร็จดิ อยู่แบบนี้ผมไม่ให้พี่ได้นอนแน่ ๆ นะคืนนี้”
 

“ธารใจร้าย”
 

“ร้ายแล้วรักไหม ชอบไหมผู้ชายร้าย ๆ ”
 

“ไม่รัก................................................................................................ซะเมื่อไหร่ อยากทำๆเอง จะนอนแล้ว”
 

เดี๋ยวนี้วารินชอบดื้อกับเขาเรื่องแบบนี้มากจริง ๆ ไม่ใช่ว่าจะยอมกันง่าย ๆ อีกทั้งบางทีกำลังทำ ๆ อยู่ เจ้าเจนเจอร์ตัวยุ่งก็มาเคาะเรียกพวกเขาก็มี สรุปแล้วสัปดาห์หนึ่งๆได้ทำแค่สามสี่ครั้งถือว่าดีที่สุดแล้ว แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาเขาต้องเข้าเวรแทนอาจารย์หมอติดๆกันถึงสามวัน เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าวันนี้เขาจะยอม
 
.

.
 
ราตรีนี้เขาสองคนนำพาความรักความปรารถนาในกันและกันดำดิ่งสู่เบื้องลึกของคลื่นเสน่หาอันน่าลุ่มหลงกอดเกี่ยวโหมทะยานความต้องการในส่วนลึกขึ้นแตะเส้นขอบฟ้าที่ไร้ขอบเขตสูงสุดจนถึงฝั่งฝัน จับมือกันเกาะเกี่ยวนำพาความปรารถนาของหัวใจสู่กันและกัน.....ครั้งแล้วครั้งเล่า
 



Tbc.

*จริง ๆ ตอนที่แล้ว ก็ถือว่าจบภาค(อิโรติก)ไปแล้ว  ตอนนี้ถือเป็นภาคครอบครัว วัยทำงาน

*เราเอาคำว่า Erotic drama ออกไปแล้วนะ จากนี้คงไม่ดราม่ามากมายแล้วมั้ง(?) ส่วนบทอิโรติก บรรยายเยอะก็เบื่อๆ คือคู่นี้มันทำมาหมดทุกท่าแล้วเหอะว่างั้น ต่อไปคงบรรยายให้พอรู้ก็พอไม่โจ่งแจ้งละเอียดเหมือนก่อนอีกแล้ว (เหตุผลอีกอย่างคือถือว่าจบภาคอิโรติกแล้ว ภาคนี้มีน้องขิงเข้ามาเลยต้องให้เกียรติเด็กน้อยเขาหน่อยเนอะ)

*เดี๋ยวลง Unseen-11(ทัตซี) ไว้ให้ สนใจตามไปอ่านนะจ๊ะ ใครยังไม่ได้อ่าน Unseen-10 (ธารทราย) ก็ไปค้น ๆ ดูนะเราลงไว้แต่ยังไม่ได้แจ้ง
*ไว้เจอกันอีกค่ะ.......เมื่อไหร่(?) :z3:

ขอบคุณที่ตรวจคำผิดให้นะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 04-05-2014 23:09:03
กรี๊ดดดดดดดด
เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ทีแรกก็สงสัยว่าเด็กขิงนี่เป็นลูกเต้าเหล่าใคร  ที่แท้ลูกของดาวกับเตโช  ไปลงเอยได้ยังไงกันนะคู่นี้
ภาคนี้ พอมีน้องขิงเข้ามา  กลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่น  พ่อแม่ลูก อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเชียว
แล้วน้องขิงก็ยังเป็นเด็กฉลาดที่แสนซนและน่ารัก  โตขึ้นมาเจริญตามรอยพ่อธารแน่ๆ หึหึ
คือเท่าที่อ่าน ก็น่าจะมีความสุขกันตลอดไปแล้วนะ  สงสัยถ้าจะมีดราม่า มันจะเกิดขึ้นจากใครกัน
ธิปรึเปล่า?  แต่ก็เหมือนธิปจะทำตัวเป็นคนใหม่แล้วนี่  คุณภัครก็อาการดีวันดีคืน 
คุณทัตกับพี่ซี  ก็กำลังไปได้ดี  ช่างมันเหอะ  เรื่องมันยังไม่ถึงตรงนั้นนี่นา

ปล.ฉากเอ็นซี ถึงไม่อยากบรรยายเยอะเหมือนภาคแรก  แต่ก็อยากให้มีบ้างนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งไปเลยค่ะ อิอิ

มีคำผิดที่่เจอคำนึง  ตรงประโยคที่ว่า  "เรื่่องพันนั้น"  >> "เรื่องพรรค์นั้น"  ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 04-05-2014 23:38:10
น้องขิงน่ารักและฉลาดมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 04-05-2014 23:48:32
น้องขิงน่าร้ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: zalapao14 ที่ 04-05-2014 23:54:06
น้องขิงน่ารักมากกก

เอาจริงๆเราอยากให้คุณทัตคู่กับพี่ซีนะ ไม่อยากให้เป็นแค่เพื่อนอ่ะ

 :L1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-05-2014 00:47:06
หนุ่มๆ มีลูกแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 05-05-2014 01:48:45
 :a5: เปิดมาเรานึกว่ามินลงผิดเรื่อง คือฟีลมันไม่ใช่เลย ค่อยมาเข้าใจว่านี่ภาค 2 นี่เอง
เปิดภาคนี้มา ดราม่าจากภาคที่แล้วมันหายไปหมดเลยอ่ะ ยังกะไม่เคยมีมาก่อน

น้องขิงน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
น้องนี่ถือว่าเป็นเด็กที่ทำให้ทุกๆอย่างดีขึ้น
แต่น้องเรียก ปะป๋า อาป๊า บางทีก็แอบงง เหอๆ
เตโชนับดาวนี่ไปกิ๊กกันตอนไหนนะ ไม่เห็นมีวี่แววเท่าไหร่เลย
น้องขิงเจริญตามพ่อธารไม่ดีหรอกลูก อินี่มันหื่นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แถมยังมีนิสัยที่คนอ่านทั้งหลายยังอยากตบมันหน่อยๆ หวังว่าภาคสองมันจะทำตัวดีขึ้น

ยังแอบสงสัยว่าทำไมธารถึงเรียนหมอสูติฯ  o18
รึว่าพยายามหาทฤษฎี ผู้ชายก็ท้องได้ จะได้ทำลูกมาเป็นเพื่อนขิง ฮ่าอ่าฮ่า

อ้างถึง
ถ้าใครยังจำได้ไอ้สัญญา 5 ปีที่แล้ว ที่จะไม่ให้ทำอะไรนั่น อย่าคิดว่าเขาจะรักษามันได้นาน แค่ปีแรกผ่านไปได้นี่ถือว่าเขามีความอดทนเหนือคนธรรมดามากพอแล้ว กดวารินตั้งแต่วันแรกของปีที่สองเลยทีเดียว
:jul1: :jul1: อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย อิเด็กธารอิหื่น ฉันว่าแล้วว่าแกอดกาแฟได้ไม่นานหรอก
ก็กาแฟแก้วนี้อร่อยจะตาย แล้วท้ายสุดแกก็พยายามกินกาแฟให้ฉันดูจนได้  :m10:

 :m31: ส่วนธิป มาอีกภาคเราก็ยังไม่ชอบอยู่ดี เรายังคงรู้สึกว่า มันไม่น่ายอมเรื่องนี้ง่ายๆ คิดว่าคงหาทางแย่งชิงธารกลับมาอยู่
คือมันไม่มีเหตุการที่ทำให้ธิปกลับตัว ยกเว้นธิปจะโดนทนายจับกินไปแล้ว  :laugh:

โดยรวมก็คงถือว่าเป็นการเปิดภาคใหม่ที่มีความสุขมากๆ แต่ยังแอบโปรยดราม่าด้วยอิธิป และคงเส้นเอ็นซีหน่อย หุหุหุหุ


Unseen 10 :ฉันคิดเหมือนพี่ทรายเลยล่ะ ถ้าอิเด็กธารเป็นหมอศัลย์ เกิดวีนทีล้วงไส้คนไข้ทะลักแน่ๆ
และตอนนี้อิเด็กธารก็ทำตัวเหมือนเด็กจริงๆซะด้วย


Unseen 11 : อร๊างงงงงงงงงงงง ฟินนนนนนน  :m25: :m25: :m25:
พี่ทัตแผนสูงจังเลย จีบแบบเนียนๆ ใกล้ชิดเนียนๆ ขอมาอยู่แบบเนียนๆ คู่นี้ไม่ไหวแล้ว
ดาเมจความมุ้งมิ้งรุนแรง พุ่งทะลุมากกกกกกกกกก
พี่ทัตก็ยังจีบแบบเนียนๆ อยากได้พี่ซีเป็นแฟนลองรุกดูสิพี่ทัต บางทีพี่ซีก็ซื่อไปนะ
ยังแอบคิดเลยพี่ซี ไม่รู้ตัวเหรอว่าพี่ทัตชอบอยู่อ่ะ หลุดพูดมาหลายรอบเลยนะ
พี่ทัตนี่สกิลพระเอกสุดๆไปเลยยยยยยยยยยยยย  :o8:
โอ้ยไม่ไหวแล้ว ตอนพิเศษ ทัตซี นี่มันฟินสุดยอดจริงๆ เห็นสวรรค์รำไร  :heaven :heaven :heaven
ชาตินี้ฉันตายตาหลับแล้ว

ปอลิง: สรุปว่ารีสอร์ตที่พังงานี่เป็นรังรักของพี่ทัตพี่ซีไปแล้วเรอะ สงสัยธารจะต้องให้คืนเป็นของขวัญฉลองความรัก  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 05-05-2014 07:06:24
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตามไม่ทันเลย
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 05-05-2014 09:28:56
มรสุมผ่านพ้นไปแล้ว หวานกันอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 05-05-2014 10:09:17
 o22

ให้อารมณ์เหมือนจะจบแล้วเลย  :hao5:

แต่พอเห็นหัวข้อ ภาค ทำงาน โอ้ยยยยยยยยยย :mc4:  ดีใจที่มีภาคต่อ ซึ่งอ่านแล้วให้ความรู้สึก :heaven


ฉันบอกแล้ววววว ทรายยยยยยยยยยย ถ้าเธอไม่เอาอีเด็กนี่ ฉันเอาเองงงงงงงงงง ฉันล่ะอิชฉี่เธอมากเลย ได้ผัวเด็ก หล่อ รวย แสนดี รักและหลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้น :ling1:

วันเวลาผ่านไปไวมาก แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในนิยาย :laugh: ไม่ทันไรมีลูกให้เลี้ยงปั๊บแถมน่ารักเป็นศูนย์รวมใจของบ้านเลยทีเดียวไม่พอลามไปถึงคู่จิ้นทัตซี ก็หลงเช่นกัน ทำไงได้เน๊าะ พวกตะเองปล่อยน้ำอย่างเดียวแต่ไม่สามารถปั้นเป็นตัวได้  :jul3: ต้องขอบคุณชะนีแสนดีของฉัน นับดาว ที่รวบ เตโช จนออกลูกขิง เป็นโซ่ทองคล้องใจให้คุณป๊าได้รักใคร่อยู่ด้วยกัน :กอด1:

ในที่สุดธารก็ประสพความสำเร็จทั้งเรื่องรักและเรื่องงานที่รัก เป็นคุณสามีควบคุณพ่อที่แสนดีของพี่ทรายและลูกขิง มีความรักมั่นคงให้กับทรายในด้านชีวิตคู่ ไม่วอกแวกกับใคร รวมถึงธิปที่ยังมาวนเวียน แต่ก็ยังดีที่ธิปไม่ข้ามเส้น แต่ถ้าข้ามได้โดนพี่ทราย :z6:แน่ และยังเป็นคุณหมอใจอารีของคนไข้ ปลื้มมมมมม :o8: ธารทำงาน รพ.รัฐ ไม่ทำงาน รพ. เอกชน ที่ตัวเองสามารถสร้างขึ้นมาได้และมีเวลากับครอบครัวมากกว่านี้ แต่ยอมเอาความสุขส่วนตัวแลกกับความอยู่รอดปลอดภัยของคนทั่วไปมากกว่า ตามจรรยาบรรณแพทย์ที่ดี o13

ส่วนความหื่นนนนนน ขอบอก อีเด็กนี่ไม่ได้ลดลงเลย :haun4: กาแฟเคยกินยังไงมันก็กินอย่างนั้น คนชง คนเสริฟ คนเติม คนเดียวคือพี่ทรายที่ทำให้อีเด็กนี่ดื่มแล้วแข็งได้คนเดียว :jul3: ว่าแล้ว พ้นปีแรกมันเก็บจนต้อง :oo1: เข้าให้ ไม่รอด เอาน่าเล่นตัวได้เสียปั๋วดีๆให้คนอื่นนะพี่ทราย ขอบอก o18

ส่วนคู่ ทัต ซี ก็ยินดีด้วยที่ได้เป็นเพื่อนคู่ใจกัน ถึงแม้คุณทัตจะมโนไปเองก่อน แต่อีกไม่นาน ก็ดึง พี่ซี มามโน สำเร็จแน่ o18 พ่อลูกเชื้อไม่ทิ้งแถว สืบทอดความเนียนจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งรุ่นต่อไป น้องขิง ก็คงไม่ต่างกัน เจ้าชู้เนียน แหม่ ขอดูก้น น้องอชิ แต่ไม่รุ้ทำไมเซ้นส์อิฉันมันบอกว่า ในภายภาคหน้า น้องขิงจะถูกน้องอชิดูก้นก็ไม่รู้ o18

ทางด้านครอบครัว ก็ดีวันดีคืน พ่อกับแม่ ก็กลับมาเป็นเพื่อนกัน ดีแล้วที่ยังมีความผูกพันให้กันอยู่ และ ธาร ยอมรับทัตเป็นพ่อ ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็เป็นครอบครัวได้ ช่วยคิดช่วยกันทำในเรื่องอื่นๆด้วยกันได้ มันดูไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ต่อจากนี้ก็ติดตามเรื่องภาคทำงานกันต่อไป :mew1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 05-05-2014 12:15:31
เปิดภาคใหม่ได้น่ารักมาก ดีใจนะที่ธารกับทรายมีความสุขกันซะที หลังจากเจอเรื่องร้ายกันมาตั้งมาก
หลังจากนี้จะเจออะไร ก็คงผ่านไปได้ อาจมีโกรธ มีงอน งอแง หึง กันบ้าง ก็มันชีวิตคู่นี่นะ (แถมลูกอีกหนึ่ง)

สรุปทรายโชคดีที่มีธาร และธารก็โชคดีที่มีทราย

รอติดตามและขอบคุณนักเขียนมากเหมือนเดิมค่ะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 05-05-2014 17:38:59
ภาคครอบครัว จะมีมารผจญมั้ยนิ -_-
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-05-2014 18:45:28
เวลาผ่านไปเร็วมาก น้องขิงน่ารักน่ากอดสุดๆ เจ้าหมูอ้วนของอาป๊าเนี่ย ฟัดพุง :man1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: moodyfairy ที่ 05-05-2014 19:19:57
ชอบตรงไม่รู้จะบรรยายฉากอิโรติกยังไงละ เพราะสองคนนี้มันทำกันหมดแล้ว 5555555 :hao7:

เป็นกำลังใจให้จ้าาา รอๆๆๆๆ o13
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 05-05-2014 21:41:23
5 ปีผ่านไป ชนาธิปก็ยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ
น้องขิงฉลาด แสบสมชื่อ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 05-05-2014 22:18:53
น้องขิงน่ารักที่สุด โอ๊ยยยหมั่นเขี้ยว
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: Thanthip ที่ 05-05-2014 22:39:05
อย่าให้มีตัวร้ายโผล่มา หวังว่าชนาธิปจะไม่มายุ่งด้วยอีกนะ

รอ รอ อร   :ling1: :ling1: :ling1:

หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 06-05-2014 14:52:18
น้องขิงนี่แก่แดดแก่ลมนะคะ 55555+
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 06-05-2014 15:11:24
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 06-05-2014 15:20:08
พาทเก่าเราว่ามันยังจบไม่สมูทเท่าไหร่นะคะ ยังหลงกับพาทเก่าอยู่ บางคนก็มาเหมือนจะเป็นตัวหลักแต่ก็ออกมาแค่แปปเดียว
จริงๆเราอยากให้เคลียร์กันไปเลยนะ เหมือนคุณพ่อจะช่วยแต่ก็ไม่เห็นออกมาพูดเลย เราว่ามันรู้สึกขัด นายเอกโดนทรมานแต่ไม่เคลียกัน
ฝ่ายหนึ่งไม่ยอมพูดใช้ความเชื่อใจพิสูจน์ ส่วนอีกฝ่ายปิดตาไม่หาความจริงมองแต่ภายนอกใช้สมองมากกว่าหัวใจ
ส่วนน้องขิงน่ารักแต่ได้นิสัยอาป๋าไปเยอะอยู่น่าเป็นห่วง แอบอยากอ่านคู่ของคุณพ่อเป็นพิเศษ คงน่ารักน่าดู
แอบยังอยากอ่านดราม่าหรือเราเป็น SM ก็ไม่รู้ แหะๆ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 07-05-2014 21:22:43
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 08-05-2014 11:19:31
^^
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [04/05/57] อาป๊า-คุณป๋า-น้องขิง
เริ่มหัวข้อโดย: Riko ที่ 11-05-2014 17:01:02
ถ้าน้องขิงจะเจริญรอยตาม
ป้าขอให้น้องขิงเป็นเมะ 555555555555555  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 15-05-2014 21:39:34


บทที่ 33 (จบ)                                                             
 


-ที่แกลเลอรี่ซีแอนด์ซาย-


“โหพี่ทัต  จะเอาอะไรไปนักหนาครับ”


ภูวดลนั่งขัดสมาธิมองคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาพับเสื้อผ้าเขาลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่


“นี่ผมลงไปแค่สามวันเองนะครับ เสื้อผ้าเยอะแบบนี้ทำอย่างกับผมจะไปอยู่เป็นปีงั้นแหละ”


“ถ้าไปอยู่ตลอดได้ยิ่งดีเลยอ่ะ ไม่ใช่แค่ปีสองปีหรือแค่สามวันหรอกนะ”


“พูดอะไรน่ะครับ เอามานี่เลยเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นกระเป๋าใบเล็กดีกว่า ชุดนอนที่นั่นก็มีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเอาไปเพิ่มอีกหรอกครับ”


เขาว่าแล้วเดินไปลากกระเป๋าใบเล็กมาตั้งไว้ข้าง ๆ


“ใบนี้แหละใหญ่ดี ใส่ไปให้หมดเลยเสื้อผ้า ไว้ขึ้นมากรุงเทพค่อยมาซื้อใหม่เอาก็ได้นี่ อยู่ที่พังงา ที่ซื้อหายาก เสื้อผ้าซียิ่งติสๆไม่เหมือนคนอื่น”


“นี่ว่าหรือชมครับ”


“อ่ะ เรียบร้อย” ทัตพลปิดซิปแล้วกดล็อคกระเป๋าใบโตจากนั้นลากไปไว้แถว ๆ ข้างประตู


“ส่วนใบเล็กซีก็จัดพวกแอคเซสซารี่แล้วก็พวกของใช้ส่วนตัวใส่ไปซะนะ เดี๋ยวพี่ลงไปรอข้างล่างนะครับ” เขาว่าแล้วลุกขึ้นบิดจมูกคนตัวเล็กกว่าไปที


“อย่าดื้อนะครับ พี่จัดให้ดีแล้ว” เขาว่าแล้วเดินออกไปพร้อมลากกระเป๋าใบโตลงไปด้วย ภูวดลได้แต่ยืนเท้าสะเอวมองกระเป๋าเล็กอีกใบที่เขาบอกให้ทำ


จริง ๆ แล้ววันนี้ก็แค่สุดสัปดาห์ที่เขานัดกับทัตพลไว้ว่าจะไปพังงาด้วยกัน ไม่รู้ทางนั้นตื่นเต้นอะไรนักหนา ก็ไปกันมาตั้งหลายรอบแล้วแท้ ๆ แต่ครั้งนี้เห็นว่าจะไม่บิน ทัตพลจะขับรถไปเองเป็นเขาเสียอีกที่ต้องยุ่งยากเรื่องกระเป๋าเพราะทัตพลเล่นเก็บเสื้อผ้าเขาจนเกือบหมดตู้ เห็นทีคราวนี้ที่กะจะไปอยู่แค่สามวันคงต้องค้างกันเป็นเดือน ๆ เหมือนครั้งที่แล้วอีกแหง


“ครับทราย” วารินโทรเข้ามาพอดี


“พี่ไปช่วงบ่ายถึงนั้นคงค่ำพอดี” วารินถามมาว่าจะไปกันกี่โมง เดี๋ยวจะพาเจ้าขิงแวะมาหา


“เอาไงดี เห็นพี่ทัตบอกว่าจะออกประมาณบ่าย”


“ไม่เป็นไรครับ งั้นเดี๋ยวถ้าอาทิตย์ไหนว่างทรายจะชวนธารพาน้องขิงลงไปเที่ยวบางทีอาจจะพาคุณภัครแล้วก็ทุก ๆ คนไปพักผ่อนกัน  พี่ซีเที่ยวเล่นอยู่ที่นั่นให้สนุกนะครับ”


“สองสามวันก็กลับแล้ว” ภูวดลว่า


“ครั้งนี้จะได้กลับเหรอครับ ครั้งที่แล้วบอกว่าจะไปแค่คืนเดียว คุณทัตพาพี่ซีค้างเป็นเดือน ๆ ครั้งนี้บอกสามสี่วัน ไม่อยู่กันเป็นปีเหรอครับ”


ภูวดลเองก็จนใจที่จะตอบกลับ พักหลังมานี่ทัตพลเอาแต่ใจมากจริง ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็รู้ว่าที่อีกฝ่ายทำก็เพื่อเขาทั้งนั้น เห็นว่าเขาคงเหงาเทียวไปเทียวมาตลอดจนเขาเกรงใจ ทั้งที่ไม่มีธุระที่กรุงเทพแล้วแท้ ๆ แต่ก็ยังขึ้นมาหาเขาทุกอาทิตย์อยู่ทีก็สองสามวัน  ที่สำคัญตอนนี้ทัตพลเปิดแกลลอรี่เล็ก ๆ ที่รีสอร์ตไว้ให้เขาสำหรับวาดและโชว์ภาพโดยเฉพาะ
แต่อย่าคิดว่าจะฟรี แฮ่ ๆ เพราะเขาคิดเหมาจ่ายค่าฝีมือเป็นรายปี


งานนี้ไม่รู้ใครได้กำไร ใครขาดทุน


“ซีครับ เสร็จหรือยัง สายแล้วนะเดี๋ยวไปถึงนั่นจะดึกเกินไป” เสียงทัตพลตะโกนขึ้นมาจากด้านล่าง ดังขนาดวารินที่อยู่ปลายสายได้ยินเขาจึงบอกให้พี่ชายวางไป


“แล้วค่อยเจอกันครับพี่ซี เดี๋ยวจะพาเจ้าขิงไปหานะ ฝากบอกคุณทัตด้วย”


“ครับทราย แล้วเจอกัน”
 

*
 
 
ติ๊ง!


เสียงลิฟต์เปิดออกที่ชั้นสิบ ทนายความหนุ่มหล่อก้าวออกมา จุดมุ่งหมายคือโต๊ะคุณเลขาคนเก่งหน้าห้องเจ้านายของเขานั่นเอง


“สวัสดีครับคุณทราย”


“สวัสดีครับคุณปวีย์” วารินพยักหน้าเชิญเขานั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เหลือบมองนาฬิกาข้อมือครู่หนึ่งจริง ๆ วันนี้ปวีย์นัดคุยงานกับเขาช่วงเที่ยง ทำไมเพิ่งจะสิบโมงก็โผล่มาแล้ว มันเร็วผิดปกติ


“มาก่อนเวลาหน่อยหนึ่งโชคดีคุณทรายไม่ได้มีธุระที่ไหน ขอโทษจริง ๆ นะครับผมเสียมารยาทมากหรือเปล่า”


“ไม่หรอกครับ ผมเองก็ว่าง แค่เตรียมเอกสารไว้ให้บอสช่วงเย็นแค่นั้นเอง”


วันนี้วันเสาร์ปกติแล้วธาราธารจะต้องเข้าโรงแรมพร้อมวาริน แต่วันนี้เขาติดสัมนาเพราะงั้นวารินจึงต้องมาเตรียมหอบแฟ้มงานต่าง ๆ กลับไปให้เขาเคลียร์ในตอนเย็น


“เพราะธุระค่อนข้างสำคัญน่ะครับ ผมแอบหวังว่าจะได้เจอกับคุณธารเหมือนกันนะ เสียใจหน่อย ๆเลย”


เขาว่าแล้วยิ้ม วารินเองก็ส่งยิ้มกลับไปเช่นกัน เพราะธาราธารเคยเล่าเรื่องของปวีย์ที่พยายามจะจีบเขาให้ฟัง วารินยิ่งคิดยิ่งขำ ไม่รู้ปวีย์ทำเล่นหรือคิดจริงจัง แต่ช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้ ทนายหนุ่มคนนี้ทำงานอุทิศตนเพื่อธาราธารมาโดยตลอด วารินจะเห็นเขาทำหน้าตามีความสุขทุกครั้งที่ได้คุยงานกับธาราธารแม้ว่าอีกฝ่ายจะทำหน้าซังกะตายเบื่อหน่ายขนาดไหนเขาก็ยังคงยิ้ม  วารินสุดจะขำเวลาแอบมองสองคนนี้คุยกันทีไร


“นี่เป็นโครงการแฟลตในเขต.......ที่คุณธารเซ็นอนุมัติขายออกไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว คุณทรายจำได้ไหมครับ”


เขายื่นเอกสารให้วารินรับไปเปิดดู


“จำได้ครับ เป็นบริษัทในเครือ VR ที่มาขอซื้อสิทธิ์ถือครองไปนี่ มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่ามีปัญหา?”


“มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่ตึกนั้นร้องเรียนมาทางเรา ผมคิดว่าเขาคงไม่รู้ว่าเราขายตึกนั้นออกไปแล้ว เมื่อเช้ามีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งมายื่นเรื่องกับผมที่สำนักทนายความน่ะครับ”


“มีเรื่องอะไรกันครับ”


“รู้สึกว่าทางกลุ่มเงินทุน VR มีคำสั่งให้รื้อถอน โดยให้บริษัทในเครือของเขาเองเป็นคนจัดการเรื่องนี้ให้ ชาวบ้านเดือดร้อนกันมากเลยครับ เพราะที่ดินแถวนั้นทั้งหมดเราอุ้มพวกเขาไว้นานมากแล้วจนไม่มีใครที่จะคิดได้เลยว่าทางเราจะสั่งรื้อ เขาเข้าใจว่าเราเป็นคนสั่งรื้อถอนน่ะครับ”


“เอ๊ะแต่ว่าตอนที่ทำสัญญาเปลี่ยนกรรมสิทธิ์กัน ก็มีข้อตกลงว่าทางนั้นจะทำแค่เรียกเก็บค่าเช่าเท่านั้นนี่ครับจะทำการรื้อถอนไม่ได้เด็ดขาด”


“ผมพลาดเองครับ”


ปวีย์ก้มหน้าสำนึกผิด เมื่อทุกอย่างเป็นความผิดพลาดของตนเอง เขาที่เล่ห์เหลี่ยมยังไม่เท่าทันทนายของฝ่ายนั้นพลาดเรื่องเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดไป ทางนั้นใช้ช่องโหว่ของกฏหมายสำหรับการสั่งรื้อถอนตึกซึ่งเป็นเรื่องที่วารินย้ำกับเขานักหนาก่อนขาย   วารินเข้าใจได้ในทันทีก่อนหน้านี้ไม่นาน ทางกลุ่ม VR ติดต่อขอซื้อแฟลตในเขต......โดยให้ราคาสูงกว่าปกติมากวารินจึงรับพิจารณาและยื่นเรื่องให้ธาราธารเซ็นอนุมัติ โดยไม่ลืมที่จะย้ำกับทนายปวีย์ว่าให้ทางนั้นตกลงเรื่องห้ามรื้อถอนตึกหลังนั้นให้เรียบร้อยฝ่ายนั้นจะทำได้เฉพาะเรียกเก็บค่าเช่าเท่านั้น
 

แต่ปวีย์ดันทำพลาด
 

วารินกับปวีย์ออกไปดูที่ตึกแถวและแฟลตในเขต..... มีป้ายรื้อถอนและประกาศให้ชาวบ้านหาที่อยู่ใหม่ภายในหนึ่งเดือน วารินหน้าซีดลงทันทีที่มาเห็นสภาพจริง ๆ ของชาวบ้าน มีบางคนที่เห็นวารินมากับปวีย์ถึงกับมาร้องไห้คุกเข่ากอดขา บอกว่าอย่าไล่พวกเขาเลย พวกเขาอยู่ที่นี่มาเป็นสิบๆปีแล้วไม่รู้จะไปหาที่อยู่ที่ไหนที่จะเช่าได้ถูกแบบนี้อีก


“พ่อหนุ่มอย่าไล่พวกยายเลยนะ เราไม่มีที่จะไปแล้วจริง ๆ รับจ้างหาเช้ากินค่ำจะให้ไปหาที่อยู่ที่ไหนกันคะคุณหนู”


“ถอนคำสั่งได้ไหมครับคุณหนู พวกลุงลำบากมากจริง ๆ ถ้าหากไม่ได้อยู่ที่นี่พวกเราหลายร้อยครอบครัวจะต้องไปหาที่อยู่ใหม่เดินทางมาทำงานแต่ละทีก็ลำบากพวกลุงเดือดร้อนมากจริง ๆ ต่อไปสัญญาว่าจะจ่ายค่าเช่าให้ตรงเวลา อย่าไล่พวกเราเลย ขึ้นค่าเช่าอีกก็ได้แต่อย่ารื้อเลยนะ อย่าไล่เรา ลุงมีหลานอีกสามคน แบบนี้ต้องย้ายโรงเรียนอีก สงสารหลาน ๆ สงสารลุงด้วยเถอะ”


และอีกเยอะแยะมากมายที่แต่ละคนจะเข้ามาขอร้องวาริน จริง ๆ ตึกนี้ภัครจิราเป็นเจ้าของถือครองมาตั้งยี่สิบปีที่แล้ว เธอไม่เคยสนใจเรื่องค่าเช่าแค่อยากให้คนต่างจังหวัดได้มีที่อยู่ใจกลางเมืองโดยให้จ่ายค่าเช่าน้อยที่สุดก็แค่นั้น วารินพลาดเองที่ไม่รอบคอบเรื่องการทำสัญญา


“คุณทรายครับ ผมผิดเองครับ ผมผิดเองร้อยเปอร์เซนต์ถ้าหากผมรอบคอบเรื่องสัญญากับทางนั้นอีกสักนิดเขาจะไม่สามารถทำการรื้อถอนตึกหลังนั้นได้เลย”


“คุณปวีย์รู้จักคนที่ดำเนินการเรื่องตึกนี้ของทางนั้นไหมครับ ผมอยากนัดคุยกับเขา ช่วยนัดให้ผมด้วยได้ไหม”


“คุณนาวา วีรรุ่งกิตติ  เจ้าของกลุ่มเงินทุน VR ที่ตอนนี้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ที่อายุน้อยที่สุดเลยครับ”


“....นาวา....คนที่เราเจอที่งานเลี้ยงสมาคมการกุศลเมื่อปลายปีน่ะหรือครับ”


ปลายปีที่แล้ววารินกับปวีย์ไปงานเลี้ยงการกุศลด้วยกัน ‘นาวา วีรรุ่งกิตติ’ ถูกเปิดตัวในฐานะนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่เข้ามาควบตำแหน่งกลุ่มเงินทุน VR กับเครือข่ายร่วมอีกเกือบสิบแห่งทั้งที่อายุเพิ่งจะแค่ยี่สิบเก้าเท่านั้น ทำให้เขาเป็นที่จับตามองจากบรรดานักธุรกิจหน้าเก่าและใหม่มากมาย ปีที่ผ่านมานี้เขาสร้างรายรับผลประกอบการหลายพันล้านบาทให้กับกลุ่มธุรกิจของตนเอง เพราะฉะนั้นชื่อเสียงของเขาตอนนี้ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดานักธุรกิจรุ่นใหม่เลยก็ว่าได้


“คุณทรายอยากจะนัดเจอวันไหนล่ะครับเดี๋ยวผมจะติดต่อให้”


“วันอังคารเลยได้ไหมครับ ผมไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว แค่นี้ชาวบ้านก็เดือดร้อนกันมากพอแล้วครับ”


“แต่คุณนาวาไม่ใช่คนที่จะนัดเจอได้ง่าย ๆนะครับ เราอาจจะต้องรอนานเป็นเดือน นักธุรกิจระดับนั้นถ้าเขายอมเสียเวลามาคุยเรื่องที่เขาพอจะคาดเดาจากเราได้อยู่แล้ว ผมว่าเผลอๆเขาอาจไม่มีคิวให้เราเลยก็ได้”


“ช่วยผมหน่อยละกันนะครับ เอาให้เร็วที่สุดเลยนะ”

*

*


เย็นวันนั้นวารินกับหนูน้อยจินเจอร์รอธาราธารกลับมาจากประชุม เขาสามคนมีนัดกินไอศกรีมด้วยกันที่ร้านประจำแห่งหนึ่ง


“ขิงกินดี ๆ นะครับลูก เลอะหมดแล้ว” วารินใช้กระดาษทิชชู่เช็ดแถวแก้มกลมของเด็กซน รอยช๊อกโกแลตป้ายเป็นทาง


“หนูอยากกินเค้กอันนั้น แบบของอาป๊า” นิ้วกลมชี้ ๆ ไปที่เค้กในตู้ ขณะที่ในจานของตัวเองก็ยังหมดไปไม่ถึงครึ่ง ธาราธารได้ยินเจ้าขิงว่าแบบนั้นจึงเลื่อนจานของตนเองให้


“อ่ะนี่ครับ กินของป๊าก็ได้ ป๊ายังไม่ได้ตักเลยนะ”


“คิคิ ของคุณค๊าบ น้องขิงรักป่ะป๊าที่ฉุด”


เด็กน้อยทำท่าดีใจ ยิ้มจนแก้มแทบปริ ปากเล็ก ๆ เปื้อนช็อคโกแลตเข้าอีกจนได้ ธาราธารลูบหัวเล็กแล้วเอื้อมไปตักเค้กจากจานของวารินมากินแทน


“ธาร สั่งอีกไหม อันนี้ธารไม่ชอบนี่”


“ไม่เป็นไร ผมกินได้หมดอ่ะ”


จริง ๆ แล้วเมื่อก่อนเขาเป็นคนไม่กินเค้กครีมเลย แต่เพราะวารินชอบมากไปๆมา ๆ เขาเลยชอบไปด้วยเลย ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน


"อาป๊ะ มอร์พลีส" เจ้าขิงดึงแขนเสื้อเชิ้ตป่ะป๊าของเขา พร้อมจ้องหน้าธาราธารทำแววตาออดอ้อนขอเติมอีกแบบสุด ๆ ทั้งที่เขาเพิ่งให้ไปอีกชิ้นแท้ ๆ


"ขิงจะทานอีกเหรอครับ เดี๋ยวอ้วนนะกินเยอะต่อไปเดี๋ยวเรียกเบฟดีไหมหืม" วารินแกล้งแซวเจ้าตัวเล็กส่ายหน้าจนปากสั่น เพราะรู้ว่าอ้อนวารินไม่ค่อยได้ผลเขาจึงชอบอ้อนป๊ะป๊ามากกว่า


"มอร์พลีส" ปากเล็กๆยังย้ำแต่คำเดิม วารินจนใจยอมให้เดินไปเลือกมาทานได้อีกชิ้น เจ้าตัวเล็กทานแป็ปเดียวเค้กเอย พุดดิ้งเอย ช็อกโกแลตลาวาเอยหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ


“อาป๊ะอุ้มๆ”


เด็กน้อยพอกินอิ่มก็ง่วง ธาราธารจึงอุ้มไปยืนรออยู่ที่หน้าร้าน  วารินเข้าคิวรอจ่ายบิลพอเดินตามออกมา มองภาพที่คุณพ่อตัวสูงอุ้มเจ้าขิงตัวกลมซบอยู่ที่บ่าแล้วเผลออมยิ้มออกมาไม่ได้ ธาราธารดูเป็นผู้ชายอบอุ่นมากมายจริง ๆ ไม่รู้ว่าถ้าเขาได้แต่งงานมีลูกใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงที่เขารัก ชีวิตของเขาคงจะสมบูรณ์แบบมากกว่านี้แน่ ๆ


“พี่ทราย”


วารินสะดุ้ง ธารหันมาเห็นเขายืนเหม่ออยู่แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่


“เป็นอะไรครับ” เขาสองคนกับเจ้าตัวยุ่งที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ที่อกธาราธารกำลังเดินไปที่รถ


“เปล่า พี่กำลังคิดว่าถ้าธารมี.....” วารินลืมตัว กำลังจะพูดแต่ก็นึกได้ว่าไม่ควรที่จะพูดออกมา


“มีอะไร?”


“...........”


“พี่ทราย” เขาหยุดเดินแล้วคว้าเขามือคนข้าง ๆ ไว้ สบตาสื่อให้รู้ว่าอยากให้วารินพูดให้จบ


“พี่กำลังคิดว่าถ้าธารมีลูกเป็นของตัวเองจริง ๆ ได้แต่งงานกับผู้หญิงสักคนที่ธารรัก ชีวิตธารคงจะดีกว่านี้ คงจะสมบูรณ์แบบมาก ๆ เลย”


เขาเงียบไปตั้งแต่ตอนนั้น จนมาถึงรถประคองน้องขิงวางที่เบาะหลัง


“คิดจริงจังอย่างที่พูดหรือเปล่าเนี่ย” เขาคว้าเอามือวารินมาจับไว้ รถเคลื่อนตัวออกจากซอย


“หืม? ก็นะ ก็แอบๆคิดอยู่เหมือนกัน  นิดๆ”


“พี่ทราย....ผมเคยบอกไปหรือยัง?” เขาว่าแล้วหันมอง


“เรื่องอะไรเหรอ”


“ผมเคยบอกไปหรือยังว่า ‘ผมรักพี่’ ”


“...ธาร...”


“สงสัยบอกเวลาเมคเลิฟกันพี่คงไม่ค่อยได้ฟังสินะ ถ้าอย่างนั้นจะบอกใหม่ ฟังให้ดีนะครับ” เขาดึงเอามือวารินมาชิดแก้มจูบลงที่หลังมือเบา ๆ หันไปสบตาสื่อความนัยน์


“รักมากนะครับ มากที่สุด ไม่เคยคิดจะคว้าเอาใครมาแทนที่เลยแม้แต่ครั้งเดียว....แค่พี่..คนเดียวเท่านั้นจริง ๆ ”


เขาว่าแล้วเฝ้าจูบลงซ้ำๆที่หลังมือนั่น ย้ำว่ารักให้อีกฝ่ายรับรู้มากที่สุด  วารินยิ้มบางเอนศีรษะลงซบไหล่เขา ขณะที่รถแล่นไปเรื่อย
 

“ขอบคุณครับธาร ขอบคุณที่รักพี่”
 

“เราอยู่ด้วยกันมาจนขนาดนี้แล้ว คำว่าเชื่อใจกัน มั่นใจในกันและกัน และไว้ใจซึ่งกัน  ไม่ได้สร้างกันขึ้นมาง่าย ๆก็จริง แต่เมื่อเราผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมาได้ ถ้อยคำเหล่านั้นย่อมมีความหมายมากมายยิ่งกว่าเก่า พี่..คือคนสำคัญสำหรับผมนะ”


“ธาร....ธารก็เป็นคนสำคัญสำหรับพี่ เป็นมากกว่าน้อง เป็นยิ่งกว่าเพื่อน เป็นคนสำคัญ...เป็นคนที่พี่รัก”


“ผมรักพี่...อยู่กับผมตลอดไปนะ”


“พี่ก็รักธารครับ”


เขาสองคนส่งยิ้มจากใจให้กันและกันโดยมีเจ้าขิงจอมแก่นที่ตื่นตอนไหนก็ไม่รู้นอนลืมตาโตมองมาจากเบาะหลัง คุณป๋าพิงศีรษะเล็ก ๆ เข้ากับไหล่แข็งแรงของป่ะป๊า เป็นภาพที่น้องขิงเห็นแล้วยิ้มจนแก้มกลมแดงแป๊ด ในที่สุดหัวเราะคิกคักออกมา จนสองคนที่กำลังอยู่ในห้วงสวีทต้องหันหลังกลับมามอง


หัวใจที่เรียงร้อยเข้าด้วยกัน จะพาให้เขาทั้งคู่สามารถข้ามผ่านวันคืนที่มีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไปได้ หัวใจสองดวงที่แข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อผ่านวันคืนที่แสนโหดร้ายเข้ามาทดสอบ หนทางรักที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อมากมายในที่สุดทั้งสองคนก็ก้าวข้ามมันไปได้ พลังแห่งศรัทธาจะนำพาทุกอย่างให้ผ่านพ้น ขอเพียงแค่เราสองคนยังมีความรักให้แก่กันและกัน
 


The End.

*อาจจะมีสเปเชี่ยลพาร์ทและอันซีนออกมาอีก ติดตามได้ที่ห้องจบและบล็อกนะ เพราะเรื่องงานก็ยังคงเดินหน้าต่อ คุณทัตกับพี่ซีจะเจอกันที่อันซีนซะส่วนใหญ่ใครไม่เก็ตว่าไปสนิทกันตอนไหน ก็ไปหาอันซีนอ่านเอาเองนะ

*สำหรับใครที่อยากให้ทรายร้ายมาก ๆ คือร้ายกลับที่โดนพระเอกทำขนาดนั้น เราอยากอธิบายว่าเราให้ทรายร้ายกับธารมากไม่ได้จริง ๆ คือทรายเป็นคนผิดถึงจะไม่ตั้งใจแต่ต้องยอมรับว่าเป็นคนที่ทำให้แม่ของธารต้องเป็นแบบนั้น สำหรับทัตพลเรามองว่าไม่อยากให้เข้าบทกับธารและทรายมากเกินไปยิ่งเข้ามายิ่งยุ่งคือธารมันขี้หึงไม่มีใครที่จะสามารถยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ง่ายนักหรอก เพราะฉะนั้นคุณทัตก็อยู่กับพี่ซีไปเหอะนะ เวลาก็ค่อย ๆ พิสูจน์หลายสิ่งหลายอย่างในตัวของมันเอง

*ขอบคุณทุกท่านที่อ่านกันมาจนถึงตอนจบค่ะ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ทั้งยาวและสั้น เราอ่านทุกอัน ยิ้มตลอดเวลาที่เห็นว่าคนอ่านอินจัดคิดวิเคราะห์ยิ่งกว่าคนเขียนเสียอีก  เรามันแค่มือสมัครเล่นใช้เวลาว่าง ๆ แต่งนิยายเล่น ผิดพลาดอย่างไรให้อภัยกันนะ  เราเป็นคนที่แต่งนิยายแล้วกลัวตอนจบมาก คือมันจบไม่ค่อยสวยทุกเรื่องเลย คือลงไม่ค่อยนิ่ม ไม่รู้อ่ะ แต่สัญญาว่าจะปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขียนเรื่องใหม่ๆออกมา

*ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากมายจริง ๆ .....ขอบคุณพื้นที่ Thaiboyslove   ขอบคุณท่านนักอ่านที่ดี......ขอบคุณจากหัวใจเลยค่ะ

*มี Unseen-12(ธารทราย –ในวันที่เขาเมากลับมา) ลงไว้ใครยังไม่ได้อ่านก็ไปค้น ๆ ได้ที่เดิม

*ส่วนของวันนี้ อ่าน Unseen-13(ธารทราย – ในหนึ่งวันของคุณหมอธาราธาร) กันต่อโลดดดดด
บ๊าย บายยยย  :L2:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: coffeeQbread ที่ 15-05-2014 21:39:52


Unseen-13(ธารทราย)
 


-ในหนึ่งวันของเขา-
 


วันนี้เขามี OPD เช้า
 

“คุณดาริน ใจงาม เชิญเข้าห้องตรวจค่ะ”
 

เสียงพยาบาลเรียกคนไข้ที่นั่งหน้าสลอนเรียงคิวกันอยู่มากมายหลายสิบ ที่ห้องตรวจนรีเวช โดยเฉพาะวันจันทร์แบบนี้คนไข้เยอะมากเป็นเรื่องธรรมดาของโรงพยาบาลรัฐบาล


“คุณดาริน ใจงามนะครับ” คุณหมอหนุ่มหล่อเงยหน้าจากแฟ้มประวัติทวนชื่อเธออีกครั้ง


“คะ...ค่ะ”


คนไข้สาววัยเพิ่งยี่สิบสองหย่อน ๆ พยักหน้าตอบหงึก ๆ พลางนึกในใจถึงเรื่องที่ตนเองเคยได้ยินมา เขาว่ากันว่ามีคุณหมอท่านหนึ่งที่แผนกนรีเวชของโรงพยาบาลนี้รูปร่างหน้าตาหล่อเหลามากยิ่งกว่านายแบบ ไม่คิดเลยว่าวันนี้เธอจะได้มาเจอตัวเป็น ๆ แบบนี้


“วันนี้มาทำอะไรครับ”


“คุ...คุณหมอกานดานัดให้มาใส่ห่วงอนามัยค่ะ”


เพราะห่วงอนามัยไม่ได้ใส่กันเป็นทุกคนเพราะฉะนั้นคุณหมอประจำตัวของดารินจึงนัดให้เธอมาใส่วันนี้ แต่เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคุณหมอที่ใส่ให้จะกลายเป็นผู้ชายไปได้ที่สำคัญหล่อมากจนใจเธอสั่นไม่เป็นท่า


“ขึ้นเตียงเลยครับ”


“ห๊ะ?” เธออุทานหน้าแดงแป๊ด


ตายๆ คุณหมอบอกให้ขึ้นเตียง ชีวิตนี้มันคงไม่มีอะไรดีกว่าผู้ชายหน้าตาแบบนี้เชิญเธอขึ้นนอนบนเตียงอีกแล้ว เธอยืนบิดมือแน่น ทำอะไรไม่ถูก


“เชิญขึ้นเตียงเลยครับ” เขาว่าอีกครั้งแล้วเดินไปสวมถุงมือ ขณะที่ดารินมองไปที่เตียงขาหยั่งสีเขียวหลังม่านพลาสติกทึบ


ปัดโถ่! ทั้งดีใจ ทั้งน่าอายเป็นบ้า ต้องมานอนถ่างขาให้ผู้ชายหล่อ ๆ แบบนี้ดู


โอ๊ยยยย เธอจะเป็นลม


“ขึ้นไปนั่งบนเตียงสิคะ” คราวนี้เป็นเสียงพยาบาลวัยกลางคนที่เดินเข้ามาจากด้านหลังพร้อมห่อผ้าสีเขียวในมือซึ่งน่าจะเป็นเครื่องมือแพทย์ เมื่อเห็นว่าเธอยืนนิ่งไม่ขยับ เลยแหวใส่เธอเบา ๆ


คุณหมอหนุ่มมองเธออีกครั้ง ขณะริมฝีปากจะขยับเพื่อบอกให้เธอขึ้นเตียงเป็นครั้งที่สาม เธอก็ก้าวขึ้นไปนั่งอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ


“ยกสองขาพาดไว้ตรงนี้” พยาบาลเข้ามาจับขาเธอถ่างออกไว้ที่ตัวล๊อกขาหยั่งสองข้าง สภาพเธอตอนนี้เลยกลายเป็นนอนถ่างขาขณะที่คุณหมอรูปหล่อยืนอยู่ที่หว่างขาเธอพอดี 


ดารินหน้าแดงแป็ดอายที่สุดในชีวิต แน่นอนว่าเธอมีแฟนไอ้เรื่องถ่างขารอแฟนนั้นมันก็ทำกันออกบ่อย


แต่ว่า...คุณหมอคนนี้หล่อมากจนเธอเขินอายสุดๆจริง ๆ


“เลิกผ้าขึ้นเลยครับ”


ตาย ๆ บอกให้เลิกผ้าขึ้นอีก คุณหมอเป็นฆาตกรจะฆ่าเธอให้ได้จริง ๆ ใช่ไหม แค่นี้ใจก็เต้นโครมครามจนจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ยังมาบอกให้เธอเลิกผ้าโชว์ของรักของหวงอีก


“เลิกผ้าขึ้นเลยค่ะ ทำไมไม่ทำตามที่คุณหมอบอกคะ” เสียงพยาบาลแหวมาอีกครั้ง


“ค..คือ หนูอายค่ะ” เธอตอบอย่างกลัว ๆ เธอคงอายมากจริง ๆ หน้านี้แดงเถือก


“ไม่ต้องอายค่ะ”


“ต...แต่คุณหมอยืนอยู่ตรงนั้น” อยู่ตรงหว่างขาเธอพอดิบพอดียืนจัดเครื่องมืออะไรสักอย่างอยู่ แล้วบอกให้เธอเลิกผ้าขึ้นเนี่ยนะ โอ๊ย จะเป็นลม เธอคิดแล้วหลับตาปี๋


“จะให้หมอหลับตาทำไหมครับ”


เขาว่าขำ ๆ แล้วหันไปสนใจอุปกรณ์เครื่องมือต่อ พยาบาลเดินมาเลิกผ้าถุงของโรงพยาบาลที่ดารินนุ่งอยู่เลื่อนขึ้นจนถึงเอว


ตอนนี้เธออายสุด ๆ ตัดสินในยกสองมือปิดบังใบหน้าไว้แล้วค่อย ๆ แอบดูคุณหมอหนุ่มรูปหล่อนั่งลงที่หว่างขาเธอเรียบร้อย สายตาคมกล้ากำลังโฟกัสอยู่ที่ของรักของสงวนเธออีกต่างหาก


ตาย ๆ ชีวิตนี้ คงสมใจไปทุกอย่างแล้วดารินเอ้ย  เธอนึก คนอะไรทำไมถึงหล่อแบบนี้ ชีวิตนี้ขอสักครั้งแล้วลูกสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน กร๊ากกก ยังมีแก่ใจมาตลก


“โอ๊ย!” ขณะกำลังคิดเพลินๆประกอบกับแอบมองหน้าคุณหมอผ่านรูช่องแคบระหว่างนิ้วไปด้วย เธอก็ต้องร้องจ๊ากดังลั่น ตัวเกร็งไปหมดเมื่อคุณหมอทำอะไรสักอย่างกับตรงนั้นของเธอ


“นิดเดียวนะ ไม่เจ็บครับหมอแค่ถ่างช่องคลอด”


ป๊าดดดดด คนอะไรหล่อแล้วยังพูดเพราะ ความเจ็บหายเป็นปลิดทิ้ง  ทั้งสุภาพ หุ่นก็โครตดี เสียงก็โคตรเพราะ ตัวก็หอม  เมียคงจะสวยแบบฉิบหายวายวอดเลย


“โอ๊ย!” เธออุทานขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองขณะกำลังคิดเพลิน ๆ  ใจหนึ่งก็อยากให้เสร็จไว ๆ ส่วนอีกใจอยากให้คุณหมอทำไปเรื่อย ๆ นั่งมอง 'ของ' ของเธอให้นาน ๆ อิอิ


“มดลูกคว่ำนิดนึง หมอขอยกมดลูกขึ้นหน่อยนะครับ นิดเดียวนะ ทนนิดเดียว”


เสียงเครื่องมือกระทบกันดังเคร้ง ๆ แต่เธอก็ไม่กล้ามองมากนักได้แต่แอบดูใบหน้าคุณหมอที่กำลังจดจ่ออยู่ตรงหว่างขาเธอเท่านั้น


“นิดเดียวนะครับ นิดเดียวเจ็บนิดเดียวทนหน่อยนะ”


เสียงแกร๊กดังขึ้น คุณหมอเองก็ยืดตัวขึ้นอีกนิด คล้ายกับว่าจะเสร็จเรียบร้อย


“อ่าหลุดอีกแล้ว มันดื้อจริง ๆ น้า” เขาบ่นพึมพำกับเครื่องมือที่เขากำลังใช้งาน เธอได้แต่แอบมองผ่านช่องลอดของนิ้ว ยังไม่กล้าเปิดใบหน้าแบบเต็ม ๆ ยังคงอายอยู่มาก พลางนึกในใจรู้งี้เอาโทรศัพท์ทำท่ามาเล่นเกมส์ก็ดีแล้วแอบถ่ายคุณหมอไปเลย มันจะมีใครโชคดีเท่าเราวะ มีคนหล่อ ๆ มานั่งมอง ‘ของ’ เราแบบนี้


“ปากมดลูกแคบมากเลยครับ ช่องคลอดก็ตีบ ไม่ค่อยมีเพศสัมพันธ์เหรอครับ”


เหวยๆๆๆๆๆ ทำไมคุณหมอถึงได้ถามแบบนี้ นอนกับแฟนแทบทุกคืน ที่มาใส่ก็เพื่อจะได้คุมกำเนิด แต่ผิดที่แฟนไอ้ขี้เหร่นี่แหละ จิ๊! อะไร ๆ มันก็เล็ก ฮึ่ยยย


“กะ...ก็นอนบ้าง..นิดๆ”


“เจ็บนิดเดียวนะ เดี๋ยวหมอดันเข้าไปทีเดียวเลย ทนนิดนะครับ”


คุณหมอพูดอาไร้! ดันเดินอะไร พูดชวนให้คิด ปัดโถ่เว้ย!


เสียง แกร๊กก ดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้คงเรียบร้อยแล้วจริง ๆ คุณหมอกำลังถอดเครื่องมือออก เธอรู้สึกสบายส่วนนั้นทั้งหมด


“ให้ตรวจสอบอยู่เสมอโดยการสอดนิ้วเข้าไปแบบนี้นะครับ แล้วควานหาเชือกดู” เขาว่าพร้อมสาธิตสอดนิ้วเข้าไปที่ช่องคลอด เธอยิ่งอายหนักเป็นเท่าตัว


บ้าๆๆ คุณหมอทำอะไรแบบเน้!  สงสัยว่าคงต้องไปห้องตรวจหัวใจต่อแน่แล้ว


“เสร็จแล้วครับ ลงมาได้เลย” เขาว่าแล้วเดินไปล้างมือที่ด้านหลัง ขณะที่เธอค่อยเดินถ่าง ๆ ไปนั่งรออยู่ที่โต๊ะ ใบหน้ายังแดงเถือกด้วยความอาย


“หมอนัดอีกหนึ่งเดือนนะครับ วันนี้มียาแก้ปวดแล้วก็หมอสั่งเควายเอาไว้ป้ายช่องคลอดจะได้ไม่แห้งมาก” เขาว่าแล้วยื่นแฟ้มส่งให้เธอ  เธอค่อย ๆ เงยหน้ามองเขาชัด ๆ อีกครั้งด้วยหัวใจที่ทั้งเต้นรัวเร็วและแรง นี่คือผู้ชายที่หล่อที่สุดที่เธอเคยถ่างขารอ....ปัดโถ่ ต่อไปเวลานอนกับแฟน ฉันต้องคิดถึงแต่หน้าคุณหมอตอนที่ยืนอยู่หว่าขาแล้วพูดว่า ‘ไม่เจ็บนะครับ นิดเดียวนะ เดี๋ยวจะดันเข้าไปทีเดียวเลย’


โอ๊ยยยย อีดาริ้นนนน  วันนี้มึงโชคดีมากจริง ๆ
 

“คุณนารีรัตน์ เชิญเข้าห้องตรวจค่ะ”
 

วนเวียนไปอยู่แบบนี้ตลอดทั้งเช้าถ้าหากมีโอพีดี คนไข้หลายสิบหลายร้อยนั่งรอคิวตรวจหน้าสลอน บางคนมารอคิวตั้งแต่ตีสี่ตีห้า ขณะที่คุณหมออย่างเขาเข้าตรวจประมาณสามโมงกว่า ๆ ไม่ใช่ว่ามาสาย เขามาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่เช้ามืดเลยด้วยซ้ำแต่ต้องไปเช็คที่ห้องคลอดก่อน แล้วจากนั้นก็ไปดูที่หอนรีเวชซึ่งเขารับผิดชอบอยู่  ดูผู้ป่วยที่มีอาการแทรกซ้อนก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าไม่มีอะไรน่าห่วงก็จะไปต่อที่โอพีดีเร็วหน่อย


“เหนื่อยหน่อยนะคะคุณหมอ”


บ่ายนี้เขาว่าง เพราะอย่างนั้นจึงขับรถมาที่โรงแรม โทรบอกวารินไว้ว่าจะมาทานข้าวเที่ยงด้วยกัน


“อ่ะนี่ ปลาผัดเปรี้ยวหวานของโปรดธาร”


วารินตักกับข้าวให้เขาอย่างเอาใจ เพราะรู้ว่าเขาเหนื่อย รู้ว่าวันนี้เขามีตรวจแต่เช้าเพราะอย่างนั้นเขาจึงออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้า กินแค่กาแฟแก้วเดียวแล้วออกไปเลย


“แล้วเรื่องตึกว่ายังไง พี่นัดคุยกับเจ้าของใหม่เขาหรือยัง”  ขนาดเวลากินข้าวยังคุยเรื่องงาน


“พี่ให้คุณปวีย์นัดให้แล้ว ยังไมรู้ว่าทางนั้นจะให้คิวมาวันไหน พี่อยากให้เคลียร์เร็วที่สุด สงสารชาวบ้านมาก พี่ไม่รู้จริง ๆ นะว่าเขาจะรื้อถอนแบบนี้ ถ้ารู้คงไม่เสนอเรื่องให้ธารเซ็นหรอก”


“อย่าโทษตัวเองสิ เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วก็ค่อยแก้ไขกันไป คุยกับเขาดู ถ้าไม่เข้าท่ายังไงเดี๋ยวผมนัดคุยกับเขาอีกที”


“ธาร ถ้าพี่จะขอซื้อคืนจากเขาในราคาที่เราต้องขาดทุน ธารจะ...เอ่อจะว่าอะไรพี่ไหม”


“ไม่ครับ ผมให้พี่ทรายตัดสินใจเลย บอกแล้วไงเรื่องธุรกิจพี่ดูแลให้ผม ถึงผมจะหมดตัว ผมก็ยังมีเงินเดือนหมอกินนะ พอจะเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียได้อยู่” เขาว่าแล้วยิ้ม


“จ้า ๆ น้องธารคนเก่ง”


เขาสองคนหัวเราะด้วยกันเบา ๆ ธาราธารขยับมานั่งชิดกับวารินสอดมือโอบเอวนั่นไว้


“มีความสุขจังเลย ถึงเหนื่อยแค่ไหนก็ยังมีพี่อยู่ด้วยกันข้าง ๆ แบบนี้”


“เอ๊ะ เย็นธารมีตรวจอีกหรือเปล่า”


“มีครับ มีตอนบ่ายสาม มีสอนนิดหน่อย แล้วก็เย็น ๆ เห็นฟ่างมันบอกจะฝากเวรไม่รู้ว่าไงคงต้องคุยกันอีกที” เขาหมายถึงสอนพวกนักศึกษาแพทย์ ที่หอผู้ป่วย


“งั้นก็ออกไปได้แล้วสิ นี่มันบ่ายสองกว่าแล้วนะ”


ฟอดดด  เขาหอมเข้าที่แก้มขาวเนียน   “ชื่นใจ ผมไปนะเย็นไปรับเจ้าขิงแล้วพาไปหาที่เดิม โอเค้!”


เขาว่าแล้วลุก คว้าเอาเสื้อนอกที่ถอดไว้พาดใส่แขน  วารินทำมือโอเคพร้อมส่งยิ้มกว้างไปที มองดูเขาออกจากห้องจนลับตา


อุตสาห์ขับรถเป็นชั่วโมงเพื่อมาทานข้าวด้วยกัน ทำไมวารินจะไม่รู้


*


“อาป๊าน้องขิงมาแล้วค๊าบ”


เจ้าตัวเล็กวิ่งดุ๊กๆตามทางเดินเข้ามาหาอาป๊าของเขาที่หอผู้ป่วยรวมนรีเวช ที่เดิม เวลาเดิม


“น้องขิง เดี๋ยวครับอาป๊าตรจคนไข้อยู่ ขิงรอตรงนี้กับคุณป๋านะ คนเก่ง”


วารินที่เดินตามมาติด ๆ รีบคว้าแขนอ้วนกลมนั้นไว้ เมื่อเห็นว่าข้างในดูท่ายุ่ง ๆ ซึ่งเจ้าจินเจอร์ก็ยอมหยุดอย่างว่าง่าย เขาสองคนนั่งรอที่หน้าห้องสักพักป้าพราวพยาบาลที่รักและเอ็นดูเจ้าขิงมากๆก็ออกมากวักมือเรียก วารินจึงยอมปล่อยให้เจ้าอ้วนวิ่งเข้าไปด้านใน


“วันนี้ต้องอยู่ถึงสองทุ่มนะ แทนไอ้ฟ่างมันน่ะ ให้ขิงเข้าไปเขียนการบ้านในห้องก็ได้ครับ” เขาว่าแล้วรับกระเป๋านักเรียนจากวารินไปถือแทน  ชะเง้อมองไปทางเจ้าขิง ที่ตอนนี้โดนเหล่าพยาบาลสาวกักตัวไว้


“พี่เหนื่อยไหม หรือว่าจะกลับก่อนเอารถไป เดี๋ยวให้เตออกมารับผมก็ได้”   เขานำวารินเข้ามาในห้องพักแพทย์วางกระเป๋าน้องขิงไว้ ยืนพิงที่โต๊ะแล้วดึงคนตัวเล็กเข้ามาใกล้


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวรอกลับพร้อมกัน พี่ให้ขิงกินขนมปังกับนมมาแล้ว ก่อนกลับค่อยแวะทานข้าวนอกบ้านกันก็ได้ ขิงคงดีใจ อาทิตย์นี้เรายังไม่ได้ดินเนอร์นอกบ้านกันเลยนะ”


“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ ขอโทษนะผมยุ่งมากจริง ๆ ”


เขาว่าแล้วจุ๊บลงที่มุมปากเล็กเบา ๆ วารินรีบตีเขาก่อนผละตัวออกมาด้วยท่าทีอาย ๆ ขณะที่คนทำอย่างเขาไม่รู้สึกรู้สาลอยหน้าแล้วออกไปเปิดประตูกวักมือเรียกเจ้าขิงอ่อนเข้ามาทำการบ้าน


และเมื่อเวลาสองทุ่มมาถึง ไม่มีเคสฉุกเฉินให้ต้องปวดหัว เขาสามคน อาป๊า คุณป๋าและน้องขิงก็พากันร่าเริงอยู่บนท้องถนนในรถครอบครัวที่เดี๋ยวนี้เพลงที่เปิดเป็นประจำจะเป็นเพลงเด็ก ๆ เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษที่เจ้าขิงจะแหกปากร้องไม่เกรงใจใคร  จุดมุ่งหมายของทั้งสามตอนนี้ก็คือสวนอาหารเจ้าประจำไม่ไกลจากบ้านพวกเขานัก อาหารอร่อย สะอาด ที่สำคัญมีห้องสำหรับเด็ก ๆ ไว้เล่นเครื่องเล่นแปลกๆ ที่เจ้าขิงจินเจอร์ชอบมาก
 

.
 

“ขิงหลับแล้ว?”


“อื้อ”


 ทุกวันหลังกลับมาถึงบ้านเขาจะเข้าไปหาภัครจิรานั่งคุยกับเธอสักพัก อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็มานั่งเคลียร์แฟ้มงานของโรงแรมต่อ  ส่วนวารินจัดการเรื่องเจ้าขิงไป วันนี้คงไม่มีเวลาเล่นโลดโผนกันเพราะกลับมาถึงก็ดึกแล้วเจ้าขิงหลับปุ๋ยไม่เป็นท่าตั้งแต่อยู่บนรถ


“หิวกาแฟอ่ะ” เขาว่าแล้วปิดแฟ้มงานลง เอื้อมมือออกมากกระตุกชายเสื้อนอนคนตัวเล็กเบา ๆ


“กินกาฟาเหอะ นะครับ หิว ๆ ” เขาอ้อนถอดแว่นออกแล้วมุดใบหน้าหล่อ ๆ เข้าที่ท้องอุ่น ๆ ของวาริน


“เพิ่งสี่ทุ่ม”


“ตอนนี้แหละกำลังดี วันนี้อยากกินสามแก้วเลย”


“บ้า กินอะไรตั้งสามแก้ว เดี๋ยวได้ติดคาเฟอีนตายหรอก”


“ตายไรเล่า ยิ่งกินยิ่งมันส์ต่างหาก ไปเหอะไม่พูดแล้ว เร็ว!หิวแล้ว” เขาว่าแล้วลุกขึ้น ดึงมือวารินไปที่ห้อง ขณะที่อีกคนยื้อโต๊ะไว้แน่น ไม่ยอมตามเขาไปง่าย ๆ


“หรือจะเอาตรงนี้ เจ็บหลังนะบอกไว้ก่อน”


“ห้าทุ่ม”


“ตอนนี้”


“สี่ทุ่มครึ่ง” วารินต่อรองอีกครั้ง


“สี่ทุ่มครึ่งก็ได้ แต่สี่ทุ่มครึ่งทำที่บันไดนะ อยากลองยังไม่เคย”


“บ้าธาร พูดอะไรน่ะ”


“ง่า  ก็มันอยากนี่  ใจร้ายจังผมก็มีอารมณ์เป็นนะ”


“ก็เห็นมีอยู่ทุกวันแหละ กินทุกวันไม่เบื่อหรือไงนะ”


“เบื่อที่ไหนของแบบนี้ ถ้าเบื่อนะ ไม่ผมก็พี่อ่ะพิจารณาตัวเองได้เลย ไปเร็ว!”


“เฮ้ยยยย!”


คราวนี้เขาไม่รอแล้ว ว่าจบปุ๊บช้อนตัววารินขึ้นแล้วอุ้มไปวางไว้บนเตียงทันที สองคนสบตาสื่อความนัยน์ที่หลากหลาย แล้วครั้งนี้ก็เหมือนทุก ๆ ครั้ง


เขาช่างเป็นคนหนุ่มที่ร้อนแรงไม่เคยเปลี่ยนเลยจริง ๆ
 


**************************************************
Unseen >>> Tbc


หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: smile_aex ที่ 15-05-2014 21:52:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: monaligo ที่ 15-05-2014 22:27:36
อ่านจนถึงตอนจบแล้วอยากจะกินกาแฟ :-[
อ่านอันซีนแล้วเขินแทนคนไข้จริงๆ55555
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 15-05-2014 22:29:10
 :a5: ตอนจบ? อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยย
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก อะเฮือก ไม่จริงช่ายม้าย อ๊ายยยยยยยยยย  :sad4: // โดนตบ  :beat:

เรื่องสุดโปรดของฉันจบแล้วเหรอ เห็นตอนที่แล้วขึ้นภาคทำงาน ก็เลยเบาใจได้ว่ามีอีกเป็นสิบตอนแน่ๆเลย
รู้สึกยังไม่จุใจเลย ถึงจะรู้ว่าเรื่องราวของสองคนนี้จะดำเนินไปเรื่อยๆก็เหอะ
ส่วนพี่ทัตพี่ซีก็อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย ณ จุดๆนี้ ขอโลภมากหน่อยเถอะ โปรดส่งซิกแนลเล็กน้อยมาว่าเป็นแฟนกันแล้ว
อะเฮือก เม้นท์อะไรแทบไม่ออกนอกจากเสียดายที่เรื่องจบแล้ว
ยังดีที่มินบอกว่าจะมี Unseen มาให้อ่านเรื่อยๆ ไม่งั้นคงลงแดงตาย
แค่หายไปหลายวันก็รู้สึกว่าขาดเรื่องที่อินจัดไปจากชีวิตเป็นเวลานาน ฮ่าฮ่าฮ่า

เนื้อเรื่องหลักเปิดมาด้วยพี่ทัตพี่ซีทำฉันฟินนะเนี่ย เหมือนแฟนกันเลย อิอิ  :hao3:
แต่ถ้าเป็นแฟนกันจริงๆจะฟินมา พี่ทัตทำอะไรอยู่ผ่านมาห้าปี สนิทขึ้นได้แค่นี้เองเหรอ
ธารกับทรายเลี้ยงน้องขิงจนโตแล้วนะ

คุณวีย์เป็นคนดี แอบผิดขาดหน่อยๆ นึกว่ามหาเสะคนนี้ยังจ้องจะกดธารอยู่

ส่วนธิปไม่มาเกะกะตอนจบจริงๆด้วย เย้ แต่ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะปรับตัวเป็นคนดีได้จริงๆ  :mew5:

Unseen 12: หวงยังงี้ธารรักตายเลยนะพี่ทราย  :z1:

Unseen 13: วิ่งไปจองคิวหมอธารตอนตีสามด่วน ใครขวางฉันจะลุย บยั่นอยู่แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า  :hao7:

ปอลิง: ฉันต้องการหนังสืออออออออออออ  :hao7:
ปอลิ๊ง: ขอทัตซีอีก ช่วยมาสนองตัณหาฉันทีเถอะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 15-05-2014 22:30:41
ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ สนุกดี
ขอบคุณคนแต่งมากๆค่ะ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 15-05-2014 22:54:20
จะอิจฉายายดารินดีไหมเนี่ยะ บรรยายซะเห็นภาพเลย
ขอบคุณคนแต่งมากเลยค่ะ อยากให้รวมเล่มชะมัด
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 15-05-2014 23:06:48
อร้ายยยยยยยยย -/-
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 15-05-2014 23:42:27
อยากกินกาแฟ  :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-05-2014 06:05:11
จบแล้ว พร้อมกับภาพครอบครัวสุขสันต์ :กอด1:
มีความสุขมากๆนะธารกับทราย น้องขิงด้วย น่ารักจัง :o8:
ขอบคุณคนเขียนค่ะ เราจะติดตามผลงานต่อไปค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 16-05-2014 19:47:39
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
เรารักเรื่องนี้มากกกกกกก
รักพี่ทราย รักธาร รักพี่ซี รักคุณทัต รักน้องขิง
จะติดตามผลงานต่อไปค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 17-05-2014 03:03:21
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 17-05-2014 19:04:42
อยู่ๆก็จบซะงั้น  :a5:

เอาเถอะ ถึงยังไงก็แฮปปี้เอนดิ้ง 
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ  ชอบเรื่องนี้มาก อ่านแล้วฟินสุดๆ
ขอตอนพิเศษด้วยน้าาาา เอาแบบกินกาแฟเยอะๆ  :hao6:
ธารถึงจะร้ายกาจกับพี่ทรายยังไง ก็รักเดียวใจเดียว รักพี่ทรายคนเดียวไม่เปลี่ยนและตลอดไป
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 17-05-2014 19:30:07
จบแล้ว รักเศร้าๆ แต่สุดท้ายต้องสุขสมหวังใช่ไหมคะ

อยากบอกอีกที ว่าเราชอบนิยายเรื่องนี้มาก ได้หลายรสชาติ สุข เศร้า หื่น ฟิน
รอ Unseen ต่อไปนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Riko ที่ 18-05-2014 03:59:11
ถ้าเป็นแบบนี้ เชียร์ให้มีโมเม้นท์ที่ทรายถูกประธาน VR หวังงาบอ่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดด
แบบว่า รักนี้มีอุปสรรคนิดนึงได้ป่าว 555555555555555555  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 19-05-2014 12:47:03
จบไปอีกเรื่อง ขอบคุณคนแต่งมากๆ รอติดตามผลงานเรื่องต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 19-05-2014 18:27:29
อยากกินกาแฟด้วย5555
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 19-05-2014 18:47:38
 :a5:

 o22

THE END  หมายความว่า จบ จบนี่คือภาคแรกใช่ไหมค่ะ คือจะมีต่อภาคทำงานจนน้องขิงเริ่มโตและรู้ตัวว่าจะเป็นแบบป๊าหรืออาป๊าดี o18 ไม่ใช่จบแล้วจบเลยใช่ป่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่เอานะ อยากอ่านต่อ :ling1: ต่อเถอะๆ ตอนพิเศษก็ได้ กำลังฟิน :heaven


กับครอบครัวสุขสันต์ ที่ลงตัวทั้งความรักและหน้าที่การงาน แม่ก็อาการดีขึ้น ขิงก็กำลังน่ารักน่าชัง ไหนจะป๊ากับอาป๊าก็ยัง กินกาแฟกันอยู่เลย :haun4:  อยากให้กินต่ออีกอ่ะ ถ้ายังไงตอนพิเศษนะ แจ้งบอกก็ได้ถ้าลงในบล็อค แต่ให้ดีลงในนี้ต่อนะๆ :mew2:

คู่คุณพ่อกับพี่ซี ก็น่าสนใจ เพราะเคลียร์ตัวเองกันหมดแล้ว อยากให้ฟินกันต่ออีก :katai1: ยังไงก็มาต่ออีกนะ รอๆๆ :mew1:

หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: savada ที่ 19-05-2014 23:35:57
น่ารักสุด   ถ้าข้ามฉากนั้นมาอะนะ


เหอๆๆๆ  โหดร้ายก็ร้ายเกิน  หวานก็หวานซะ   ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 22-05-2014 01:11:37
ว่าอยู่ ว่าเรื่องนี้หายไปไหนน้าาาา เปิดห้องจบมา กรี๊ดดด จบแล้ว

ทรายน่ารักมากกก. หมอก็น่ารัก ^^

ของคุณคนเขียนสำหรับนิยายที่น่ารัก
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 22-05-2014 15:41:21
ว้ากกกกกกก สนุกมากเลยค่ะ อย่างแรกเลยคือชอบฉากอีโรติกมาก ถึงใจ 555555 :o8:

อ่านแรกๆรู้สึกพระเอกแก่แดดจัง 55555 ยังเด็กอยู่เลย แต่อ่านไปอ่านมาก็หลงอะ ร้ายก็รัก น่าจับตบ(จุ๊ฟ)

ส่วนนายเอกเราก็น่าสงสารซะจะร้องไห้เลยทีเดียว แอบสมน้ำหน้าธิปที่โดนวาริณจิก 5555

ขอบคุณคนเขียนมากค่าาา สนุกจริงๆ แอบจิ้นทัตกะซีด่วยอ่า 5555 :-[

หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 22-05-2014 16:22:33
ชอบอ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 22-05-2014 20:46:59
ื :เฮ้อ: หลังจากผ่านเรื่องราวร้าย ๆ มา
ในที่สุดธาารกับพี่ทรายก็ได้มีความสุขกันซะที
สมน้ำหน้าป้าวิกับนัง(?)ธิป สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร  :laugh:
น้องขิงเป็นกาวใจให้ทุกคนเลยยย  :กอด1:

 :pig4: และ+1กับเรื่องสนุก ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 23-05-2014 01:46:57
ฟินแทนดาริน 5555 :-[
รออ่านอันซีนอยู่เรื่อยๆเลยนะคะ
เอาเอ็นซีมาเสิร์ฟบ้างน้า :haun4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 23-05-2014 10:26:03
ธารนี่เป็นเด็กที่เป็นตัวอย่างของเด็กมีปัญหาแท้ๆ...ทั้งงอแงเอาแต่ใจ..เรียกร้องความสนใจสารพัด

แต่พอได้พี่เลี้ยงแบบพี่ทราย..อร๊ายยยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆนะ

แม้ในตอนแรกจะดูโหดร้ายทารุณคุณพี่เลี้ยงไปซักหน่อยแถมขี้หึงแบบสุดๆ

แต่สุดท้ายก็นะ..หลังจากเปิดใจกันทุกอย่างก็ลงเอยด้วยดีแถมมีน้องขิงมาป่วนเพิ่มอีก1คน


หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 24-05-2014 00:03:23
 o13
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Lady-Rabbit ที่ 24-05-2014 20:45:06
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ เนื้อเรื่องสนุกมาก เราชอบแบบนายเอกแก่กว่าพระเอกอยู่แล้วด้วย 555+
เรื่องฉาก NC อีโรติคก็แต่งได้ฟินสุดๆค่ะ สำหรับเราถือว่าไม่น่าเกลียดเกินไป
มันมีที่มาที่ไป

จะติดตามเรื่องอื่นๆต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 25-05-2014 21:50:32
ขอเม้นหลังอ่านตอนที่เลวร้ายรวมๆกัน เราว่าทรายทำตัวสนิทกับคุณทัตง่ายไปนะ ไม่เห็นต้องเป็นห่วงขนาดนั้น คอยห่มผ้า คอยป้อนข้าวแล้วคำพูดตอนกินข้าวอีก ดูเหมือนจะให้ท่าจริงๆ. โลเลอีก ไม่เหมือนนอายุ 30 เลย
แต่ ก็ดาร์กดี ไม่เคยเจอนายเอกแบบนี้จากเรืีองอื่นๆ

หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 25-05-2014 22:30:01
ขอบคุณสำหรับ Special part นะคะ

สนุกและน่าติดตามเหมืิอนเดิม แอบสงสารทรายอ่ะ งานงอกอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 26-05-2014 23:28:51
ตอนพิเศษมันส์มาก คือนาวาก็แรงอยู่นะ
ถ้าพี่แกมาตอนแรกๆ ก็คงได้เชียร์กันมันส์กว่านี้
ถึงพี่แกจะดูเป็นตัวร้าย แต่ดีตรงที่รักใครทุ่มสุดตัวและไม่ให้ความหวังใคร <= อันนี้ชอบมากๆเลย  :กอด1:
เรื่องอากิระ ไม่รู้สิ รู้สึกเฉยๆอ่ะ ยังไม่รู้สึกถึงโมเมนต์ที่น่าเชียร์เท่าไหร่
แอบรักมานาน แต่ในอดีตเราไม่รู้ว่าที่รักมาพยายามเพื่อความรักแค่ไหนเราก็ไม่รู้
เรื่องรักยังไงก็บังคับไม่ได้ ที่ผ่านมาแอบรักมา 20 กว่าปี แล้วเพิ่งมาบอกเพราะหึงไม่อยากให้คนที่รักไปเป็นของ ผช คนอื่น
เราคงไม่ได้สงสารอากิระเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมาตัวเองก็พอใจแค่นั้น อยู่ๆจะมาเรียกร้องอะไรตอนนี้
รักต้องพิสูจน์ให้เห็นสิ ตอนนี้ยังไม่อินคู่ นาวา-อากิระ เท่าไหร่

แนะนำจับเป็น นาวา-ปวีร์ เพื่อเปลี่ยนเป็น Drama SM ก๊ากกกกกกกกกกกกกกก
เอาแบบปวีร์ทนไม่ไหวที่นาวาเหยียดหยามเลยจับตัวไปอยู่ตามป่าเขาซะ
ฮ่าฮ่าฮ่า เพ้อไปแล้วแหละฉัน  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: monaligo ที่ 26-05-2014 23:51:57
รูสึกไม่ชอบนิสัยนาวาเลย สงสารอากิระมากเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 27-05-2014 04:14:42
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 27-05-2014 13:06:05
ธารจะขี้หึงเกินไปแล้ว แต่หวังว่าจะจัดการตัวปัญหาอย่างนาวาให้อยู่หมัดนะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: Crown ที่ 27-05-2014 15:11:01
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 28-05-2014 17:41:20
โอ๊ยยยพี่ทรายงานเข้าแล้ว
ปวีย์นี่แรงดีจริง ๆ อยากได้แล้วจะต้องเอาให้ได้หราา
พี่ทรายฉันรักน้องธารคนเดียวแค่นั้นแหละย่ะ!
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 28-05-2014 20:30:06
ช่างเป็นอันซีนและสเปพาร์ทที่  :haun4: อย่างที่ชอบ เชื่อแล้วว่า กินกาแฟทำให้แข็ง อึด ทนนานหลายชั่วโมงเหมือนที่อีเด็กน้อยธารมันชอบดื่มตั้งแต่เรียนจนเป็นคุณหมอสูติ ก็ยังดื่มไม่เลิก ทำซะพี่ทรายต้องร้องขอให้นึกสังขารบ้าง :laugh: บอกแล้วถ้าทรายไม่เอานะ มีคนรอเสียบเพียบ ทั้งปวีย์และชะนี เก้ง ตัวอื่นด้วย เป็นไงเอาแล้วไม่ผิดหวังใช่ไหมล่ะ  o18

ว่าแต่หมั่นไส้อีคุณนาวาจังเลย จะมาแข่งกับธารได้ไง ชอบกินกาแฟเหมือนมันเหรอ ขอร้อง ชื่ออาจจะใกล้เคียงกัน แต่ความมันส์นี่พี่ทรายเขารับประกันว่ายังไงก็จะชงกาแฟพร้อมเสริฟให้เด็กน้อยของเขาคนเดียว  :katai2-1:

ไม่แน่ใจว่าเป็นฝ่ายไหน แต่จะรุกหรือรับก็กลับไปหาคนที่เขารักตัวเถอะ ถ้าไม่พอเอาปวีย์ไปเสริมอีกคนเลย    :oo1:
 รอติดตามต่อจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 29-05-2014 13:50:54
สำหรับตอนพิเศษ  ไม่ไหวกับนาวาจริงๆ คนเค้ามีตัวจริงอยู่แล้ว ยังจะไปยุ่งกับเค้าอีก

หัดดูแลหัวใจคนข้างๆตัวบ้างสิ  รักคนที่เค้ารักเราดีกว่านะนาวา อากิระอุตส่าห์รักมาตั้งนาน

งานนี้ไม่รู้ธารจะจัดการขั้นเด็ดขาดอย่างไร  แต่คาดว่าต้องเด็ดจริงๆ ถึงขั้นนาวาเลิกตอแยพี่ทรายอย่างแน่นอน

ขนาดแค่เริ่ม  พี่ทรายก็เจ็บตัวเสียเลือดแล้ว  :oo1:  กว่าจะจบเรื่อง  พี่ทรายคงต้องรีแพร์ช่วงล่างใหม่หมด 555555
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 29-05-2014 17:28:12
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 30-05-2014 00:23:19
อ่านมาจนจบจึงได้พบว่า

"อืมมมม ตูก็คงซาดิสซ์เล็กๆเหมือนกันสินะ ถึงอ่านมาถึงตรงนี้ได้"
 :laugh:

ขอบคุณและรออ่านสเปตอนต่อไปค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 31-05-2014 01:41:01
อ่านจบซะที ดราม่าเข้มข้น หวานนนนซึ้งจับใจ  ขอบคุณนะค้าบบบ

ปล. ผมอยากอ่านคู่ของ 'ซีทัต' จริงๆนะ มีต่อใช่ผ่ป่าววว ใครจะรุกรับ ฮ่าๆต่อๆนะ หื่นๆ แย้วววงะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 01-06-2014 12:25:06
ชอบให้ธารหึงพี่ทรายจัง  :oo1::oo1:

นาวาแกมันเจ้าแผนการไปมั้ย  :a5:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 01-06-2014 15:07:30
นาวาร้ายกาจ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. (สเปฯพาร์ทกดที่สารบัญ)
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 02-06-2014 09:03:51
สนุกอ่ะ ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. สเป (2) กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 03-06-2014 06:31:47
ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าธารเห็นรอยที่คอพี่ทรายแล้วจะเป็นอย่างไร 
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. สเป (2) กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 03-06-2014 17:23:30
นาวามาฉวยโอกาสกับพี่ทรายทำไม :m16:
ท่าทางจะมีคนงานเข้า
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. สเป (2) กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 03-06-2014 18:21:15
หมั่นไส้ ไอ้คุณนาวา แม่ง ฉวยโอกาสกับทราย เกือบแล้วไหมล่ะ น่าจะให้ธารเข้ามาทันจังเลย จะได้  :z6: สักหลายๆที หวังว่าอยู่กินกาแฟกันมานาน อย่ามาทะเลาะกันเพราะแค่รอยดูดที่คอเลยนะ  :katai1:

ส่วนอากิระ น่าสงสารมาก ทำให้ทุกอย่างแต่ไม่เห็นค่า ถ้าวันไหนไม่มีอากิระแล้วแกคิดได้นะ ฉันขอให้แกอย่าเจออากิระไปหลายๆปีเลย แต่ไม่ต้องจนถึงแก่หง่อมนะ แค่สั่งสอนมันพอ หรือ ไม่ให้ปวีย์จีบไปซะ ดูสิมันจะคิดได้บ้างไหม และก็หวังว่าอากิระจะไม่อาการหนักนะ อยู่เอาคืนไอ้นาวาก่อน  :hao5:

 ไม่เป็นไรนะ อากิระ อากิระ จงทำดี จงทำดี  :z2:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. สเป (2) กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 05-06-2014 20:45:39
นาวา แกมันร้ายกาจบังอาจมาจุ๊บพี่ทรายของฉัน

ถ้าธารเห็นรอยนั่นจะเป็นไงล่ะที่นี้  :ling1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. สเป (2) กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 05-06-2014 23:06:26
เครียดแทนพี่ทราย บ้านแตกแน่ๆ ถ้าธารเห็นรอยกัดที่คอ

นาวาแกก็ทำเกินไป๊ คนเค้าไม่รักไม่มีใจ ยังจะไปยุ่งกับเค้าอีก

หัดให้ความสนใจ คนที่อยู่ใกล้ๆตัว บ้างเซ่  นอนโดดเดี่ยวไร้ญาติอยู่ที่โรงบาล

หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. สเป (2) กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 06-06-2014 00:23:53
 :mew5: ตอนที่อ่านไปได้ครึ่งต้อนเริ่มรู้สึกเครียด เพราะ ความรู้สึกเหมือนว่าดราม่าจัดเต็มกำลังจะมา
เหมือนจะมาแนว นาวาเอาพี่ทรายไปได้ ส่วนธารโดนทรายเข้าใจผิดว่ามีอะไรกับอากิระ
แต่ไปๆมาๆ นาวาดันไม่เลวร้ายเท่าที่คิด เลยถือว่าดีไป
น่าจะเคลียร์ง่ายๆโดนการบอกกับธาร แต่เรื่องแฟล็ตคงต้องหาทางออกต่อไป

ส่วนที่อากิระเป็นโรตหัวใจ หวังได้แต่ว่าจะไม่จบเศร้าโดยการหาหัวใจใครมาเปลี่ยน
เช่นนาวายอมเอาหัวใจตัวเองมาให้เพราะเพิ่งรู้ว่ารัก หรือหมดหวังกับพี่ทรายเลยอยากตาย (ซึ่งมันคงไม่ใช่หรอกเนอะ)
ถ้ามาแนวนี้เราบ้าตายแน่ๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. สเป (2) กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: keinoo ที่ 09-06-2014 16:16:54
อ่านช่วงแรกๆ   :o8:
อ่านมาถึงโหมดดาร์ค  :monkeysad:
และพออ่านต่อมาเรื่อยๆ  :hao6:
แอบรู้สึกว่าจบไวไปนีสนึง แหะ แหะ  แต่ว่าสนุกมากๆคร่าา แล้วก้อชอบ คุณทัตมวากกก แบบว่าเสน่ห์เหลือร้ายอ่า :-[
(ชั้นไม่สงสัยเลย ทำไมอิตาธารมันถึงนิสัยไม่ดี ก้อดูคุณพ่อเค้าเส่!!)
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคร้าา   :pig4:
ปล. อยากอ่านแบบ ทัต-ซี เต็มๆ ภาคจังเรยอ่า  >///<
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. Unseen-14 กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: Spelling_B ที่ 09-06-2014 22:37:39
unseen14 น้องขิงน่ารักมากเลย

หลงรักแล้ว เจ้าชู้แต่เด็กเหมือนธารไม่มีผิด  :ling1:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. Unseen-14 กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 11-06-2014 23:07:40
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. Unseen-14 กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: express_men ที่ 15-06-2014 00:58:54
ขอบคุณมากครับเพิ่งมีโอกาสอ่านจบ แค่ภาคหลัก ไมไ่ด้อ่านส่วนเสริมนะครับ

ชอบเนื้อหานะครับ โดยรวม มีคอนฟลิกดี ที่มาที่ไปค่อนข้างชัดเจน และขมวดปมเข้าด้วยกัน ตามหลักการกระทำ แต่แอบจะติงนิดๆ ชื่อพระเอกดูไม่ขลังเลย ดูสาวๆ หวานๆ ส่วนนายเอกก็ผู้หญิงเกินไป อ่านผ่านๆแล้วนึกว่าผู้หญิงเลย

แต่ละบทที่แบ่งไว้ขนาดเนื้อหาค่อนข้างดีนะครับ อ่านจบได้รวดเร็ว กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ

ขอบคุณมากครับ สำหรับนิยายดีๆ ที่ไม่ใส่คำศัพท์ทางการแพทย์มามากเกินไป
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. Unseen-14 กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: NeN~ ที่ 15-06-2014 02:19:23
ตามมาจากเรื่องพี่เอย์-น้องปิงค่ะ เรื่องนี้คนละอารมณ์กับอันนั้นสุดๆจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่มีคนคิดว่าคนละคนเขียนกัน ฮ่าๆๆๆ

ดรามาเจ้มจ้นมากข่า นี่อ่านรวดโต้รุ่งเลย แหะๆ

น้องธาร เปิดตัวมาเป็นเด็กก้าวร้าว ปกติไม่ชอบพระเอกนิสัยขึ้นๆลงๆแบบนี้ แต่ด้วยเหตุการณ์ในอดีต รวมทั้งคนที่เข้ามาก็เพราะชอบรูปลักษณ์ภายนอกและเงินทอง ทำให้เป็นเด็กมีปัญหา ครอบครัวแตกแยก ขาดความอบอุ่น เลยเข้าใจได้ที่ธารเลือกที่จะแสดงออกแบบนั้น เย็นชากับทุกคน เพื่อสร้างระยะห่างเอาไว้ สร้างกำแพง เพื่อที่จะได้ไม่เจ็บจากการโดนหักหลังจากคนที่รักที่ไว้ใจเหมือนในอดีตอีก แล้วพอมาเจอทราย คนที่ทำดีด้วย และมองตัวธารที่เป็นธารจริงๆ จะหลงรักทั้งที่อายุห่างกันขนาดนั้นก็ไม่แปลก

ทราย อันนี้ตอนแรกๆแอบเกลียดนางนะคะ กับซี ทั้งที่รู้ว่าซีคิดยังไง ก็ยังทำตัวให้โอกาสอยู่นั่น ทั้งที่ไม่คิดจะเป็นมากไปกว่านั้นอยู่แล้ว มันเหมือนหลอกใช้ความรักของซี เพื่อให้ตัวเองรู้สึกอบอุ่นมีที่พึ่งพาจิตใจ เป็นการเห็นแก่ตัวแบบนึง ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเน็นไม่ชอบคนแบบนี้โดยส่วนตัว เพราะสำหรับเน็น ความรู้สึกรักเป็นสิ่งที่ไม่ควรเอามาทำแบบนี้ ส่วนกับธาร อันนี้ไม่รู้เพราะอ่านเร็วไปหรือยังไง(เทอร์โบสปีดค่ะ อยากรู้ตอนต่อไปเร็วๆอยู่ตลอดเรื่องเลย ฮ่าๆๆ)แต่ยังคงไม่เข้าใจว่าทรายไปรักธารเอาอิตอนไหน เพราะอะไร คือโอเค เริ่มแรกคือทำตามหน้าที่ แล้วก็สงสาร แต่จากสงสาร พัฒนาเป็นรัก อันนี้ยังเห็นไม่ค่อยชัด รู้อีกทีก็คือรักธารมากไปแล้ว(ตั้งแต่ตอนไหน ยังไง แอร๊ TT) นอกจากเรื่องซีแล้วยังมีเรื่องคุณทัตอีก คือคุณทัตช่างเทคแคร์ มาปฏิบัติกับทรายยังกะผญ อันนี้เข้าใจได้ แต่ทรายก็แลดูแอบมีมุมสวีทกับทัตหลายตอนมากก่อนที่จะเกิดเรื่อง คือตอนอ่านโมโหนางมาก นี่มันโคตรอ่อยเลยนะยะ! ถึงจะไม่ตั้งใจก็เหอะ ควรวางตัวให้ดีกว่านี้ มีเจ้าของแล้วนะ แล้วนี่ก็พ่อเจ้าของด้วย (ชักเริ่มเข้าใจคนที่มาเมนท์ว่าอยากจับนางตรบล้างน้ำละค่ะ ตอนนั้นหมั่นมาก อยากขอซักทีแล้วแอบยึดน้องธารมาเป็นของตัวเอง ไรงี้ ฮ่าๆๆ)

ชนาธิป อิเด็กนี่ขอทีเหอะ โอเคที่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง แต่ทำตัวตามตื๊อน่ารำคาญ ใจง่าย แล้วก็หน้าด้านไปหน่อยไหม บางทีก็อยากจับมาเลาะฟันพร้อมเหล็กดัดฟันสีชมพูของนางออกให้หายหมั่นไส้นะคะน่ะ ถถถ (ชอบกี้มากกว่านางอีก กี้รู้หน้าที่ รู้จักรักษาระยะห่าง เป็นชะนีที่ได้พระเอกแล้วเน็นไม่เกลียดนางอะค่ะ ฮ่าๆๆ ส่วนบัวชมพูนี่เพ้อรัก โลกสวยไปหน่อย ขอปล่อยเบลอค่ะ ถถถ)

พี่ซี รายนี้น่าสงสารทั้งเรื่อง รักน้องเกินเลย แต่ทำอะไรไม่ได้ น้องก็อ่อยเกิ๊น ให้ทำนู่นนี่นั่นตลอด แล้วอยู่ดีๆก็ให้ใจคนอื่นไป โถพี่ซี... คนดี อ่อนโยน ทำอาหารเก่ง หัวใจเปราะบาง สงสาร TT ดีที่ตอนหลังมาเจอทัต ชอบคู่ซีทัตมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ ทัตดูนิสัยเด็กกว่าธารอีก ตรงๆ ขี้อ้อน ซื่อสัตย์ ไร้เดียงสาในหลายมุมๆ (ชอบแอบพูดไรเลี่ยนๆด้วย บ้าาาาาาา >///<) ซีก็(โดนทัตหลอกให้)ยอมให้อ้อนแบบงงๆ โอ้ยคู่นี้น่ารัก >< ขออีกเยอะๆเลยนะคะ มันฟินนนนนนนนนนนนนน อ้อ เน็นชอบพี่ซีตอนทัตสารภาพเรื่องทรายแล้วโดนซีต่อยปากด้วยค่ะ แมนโคตรๆ ถถถ

ประเด็นดรามาของเรื่องนี้ พันไว้ได้เข้มข้นมากๆค่ะ เรื่องนี้เน็นสงสารน้องธารที่สุด คือเป็นเด็กที่เติบโตมาแบบขาดความอบอุ่น และกลัวการทรยศกับถึงขั้นต้องสร้างสำแพงหนาให้กับใจตัวเองไว้ พอถึงวันที่เปิดให้ใครสักคน รักคนคนนั้นจนสุดหัวใจ พอมาเจอเหตุการณ์นั้น ความรักความจริงใจที่ยอมเปิดใจมีให้กับคนอื่นอีกครั้งมันถูกทำลายย่อยยับไปหมด สภาพจิตใจตอนรับรู้เรื่องราวเน็นมั่นใจว่าแย่ยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่รู้จักทรายอีกค่ะ มันโดนแผลเดิมซ้ำสอง เน็นยังกลัวธารจะไม่เปิดใจไปอีกตลอดชีวิตด้วยซ้ำ แล้วคุณภัคร คนคนเดียวที่ยังอยู่ข้างๆ ก็ต้องมาเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนั้นเพราะเรื่องนี้อีก ธารรักแม่มากๆ มีอยู่คนเดียว พ่อก็ไม่มี มาเจอแบบนี้ความช้ำใจและความแค้นยิ่งทวีคูณ เน็นไม่โทษธารเลยที่ทำกับทรายซะขนาดนั้น ธารต้องสู้กับความรู้สึกหลายอย่างมาก เรียนหมอก็หนักมากอยู่แล้ว ยังมาเจอคนที่รักทรยศเป็นครั้งที่สองของชีวิต แม่ป่วยหนัก กิจการโรงแรมที่ต้องแบกรับ แถมยังต้องมาจัดการกับความรู้สึกต่อทรายที่ทั้งรักมากทั้งแค้นมากอีก ไม่เครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกไปเองก็ดีเท่าไหร่แล้ว สงสารมากๆ น้ำตาไหลให้นางตลอด ส่วนทราย โดนธารทำร้ายมากมายก็จริง แต่บอกตรงๆว่าไม่ค่อยสงสารค่ะ โอเค นางไม่ได้ผิดอะไรเลยกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทำไมไม่พยายามอธิบายคะ? อึดอัดขัดใจกับตรงนี้มากๆ พูดแล้วพิกุลจะร่วงเหรอ? เอาแต่คิดไปเองว่าธารคงไม่ฟังอะไร ณ จุดนั้น...ไปคิดแทนธารทำไมคะ? สิ่งแรกที่ควรทำควรอธิบายค่ะ ธารจะฟังหรือไม่ฟังมันอีกเรื่อง ถ้าธารฟัง ไปสืบหาความจริง เรื่องก็จะดีขึ้น หรือถ้าไม่ฟังก็มีค่าเท่ากับไม่อธิบาย อธิบายไปยังพอมีทางรอดนะคะ แต่ทรายไม่ทำ ก้มหน้าก้มตารับผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ อันนี้เน็นถือว่าทำตัวเองส่วนนึงค่ะ  คือถ้าพยายามมากกว่านี้ หาทางให้ธารได้รู้เรื่องจริงจากทัต หรือถ้าธารไม่ฟัง ไม่ยอมเจอทัต ก็ให้ทัตไปลากไส้รุ่ง เอามาสารภาพให้ธารฟัง เอาวีดีโอตัวเต็มที่มีภาพตอนดิ้นรนให้ดู เอาหลักฐานการพิสูจน์ว่ามียาปลุกในนมให้ดู ก็ย่อมทำได้ค่ะ รุ่งเห็นแก่เงิน ทัตจ่ายเงินซื้อความลับอิคุณวิมาได้ ทำไมจ่ายเงินให้มาพูดเรื่องจริงให้ธารฟังจะทำไม่ได้ ถ้าทำขนาดนี้แล้วไม่เชื่อ ค่อยใช้ความอดทนพิสูจน์แบบที่ทำไป เน็นเห็นด้วยกับคนเขียนมากๆค่ะเรื่องที่ไม่ให้ทรายร้ายกลับใส่ธารเยอะๆ คือธารอะ พอรู้ความจริง จิตใจก็ประเดประดังไปด้วยความรู้สึกอีกแล้ว เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เสียใจที่ได้ทำร้ายคนที่รักลงไปทั้งๆที่ทรายไม่ผิด ไหนจะความกลัวที่ว่าทรายจะยังรักเขาเหมือนเดิมไหม จะเดินจากไปเมื่อไหร่ จิตใจธารรับอะไรหนักๆติดต่อกันมาเยอะแล้ว แล้วในสภาวะของคนที่เติบโตมาแบบนั้น การกระทำทั้งหมดของธารเน็นว่าสมเหตุสมผลค่ะ ธารไม่ได้เป็นพระเอกซาดิสม์โรคจิตนะคะ ทำรุนแรงเพราะแค้นก็จริง แต่ที่จริงก็เสียใจที่ทำไป แอบเป็นห่วง แอบดูแล ตัดพ้อทรายตลอด ยังคงรักมากๆ แต่แกล้งทำเป็นเย็นชาไปอย่างนั้นเอง น่าสงสารมาก TT ทรายที่รู้ทุกอย่าง ควรให้อภัยกับตรงนี้ค่ะ แต่ก็เข้าใจทรายว่าแม้จะเข้าใจธาร แต่โดนมาแบบนั้น ใจมันก็ต้องการเวลากันบ้าง จะขอเวลาธาร ก็เข้าใจได้ค่ะ แต่ติดนิดนึงตรงที่เรื่องคลายง่ายไปหน่อย คือสุดท้ายพี่ทรายทนไม่ไหว พิกุลร่วงเล่าความจริง(โคตรน้อย)ว่าไม่ได้ตั้งใจเลย ธารก็ยังไม่เชื่อ แล้วอยู่ดีๆทรายก็มาขอโอกาส แล้วธารก็ให้ซะงั้น เปิดใจอีกครั้งได้ง่ายไปหน่อยทั้งที่ควรจะปิดตายไปเลยด้วยซ้ำกับการโดนซ้ำแผลเก่านี้ คือช่วงเวลาจากตอนอารมณ์แค้นพีคที่สุดร้ายกาจสารพัด จนเปลี่ยนมาเป็นใจเย็นลงจนให้โอกาสทรายอีกครั้งเนี่ย ช่วง transition มันดูสั้นมาก แบบจากแค้นมากเกลียดมาก อยู่ดีๆไม่นานหายละ อะไรแบบนี้น่ะค่ะ ที่จริงไทม์ไลน์ในเรื่องอาจจะยาว จนธารเย็นลงอย่างสมเหตุสมผล แต่การบรรยายช่วงเวลานั้นมันอาจจะรวบรัด เลยดูเรื่องจบง่ายไปนิดนึง แฮ่...

   
ว่าแต่พูดถึงเรื่องทัตทราย ตกลงอิคุณวินางโดนลงโทษสาสมยังไงคะ แค่ผัวไม่กลับบ้าน แค่นี้มันยังไม่สมกับที่คุณภัครโดนเลยนะคะ นังคนนี้เห็นแก่ตัวและโรคจิตมาก อยากจับนางไปบวชชีสงบผีบ้าจริงๆ เผื่อบาปจะได้ทุเลาลงบ้าง อ้อ แล้วไอ้คุณรุ่งโดนกรรมตามสนองยังไงบ้างหรือเปล่าคะ ชั่วเวอร์ขนาดนั้น

คุณนาวา-อากิระ อย่างแรก สงสัยมากค่ะว่าอากิระเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ สองคนนี้จะได้คู่กับป่าวเนี่ย นาวาดูใจร้ายกว่าธารอีกเหอะ คือธารใจร้ายแต่ข้างในใจดี แต่นาวานี่ก็ดูครอบครัวอบอุ่น เติบโตมาอย่างดิบดี(หรือเปล่า?) ที่ใจร้ายนี่คงเป็นเอง ไม่ได้เกิดจากแผลใจ ใจร้ายกับอากิระขนาดนั้นเดี๋ยวคอยดูเหอะ ขอให้สักวันอากิระเดินจากไปจริงๆแล้วค่อยมารู้ใจตัวเอง แล้วอากิระก็ตัดใจโดยสมบูรณ์แล้ว กลับมารักไม่ได้แล้ว ให้นาวาทุรนทุรายกลับการรักข้างเดียวกลับกันบ้าง โทษฐานพยายามแย่งเมียชาวบ้าน ถึงตอนนั้นจะสมน้ำหน้าให้ ชิชะ // มาต่ออันซีนต่อไวๆนะค้าาาาาาาาาาา

สุดท้าย สงสัยมากค่ะ ว่าสุดท้ายคุณภัครกับธารรู้ความจริงเรื่องที่ทัตทิ้งไปเมื่อยี่สิบปีก่อนหรือเปล่าคะ? เพราะมันโยงมาเรื่องนมยาปลุกฯนี่ ถ้าไม่รู้ความจริงตรงนั้น เรื่องนมยาปลุกฯจะดูไร้ที่มาที่ไปไปเลย แบบคนทำจะทำทำไมแว้ ทำเพื่ออัลไล เน็นเป็นธารเน็นคงคาใจอะค่ะ ฮ่าๆๆ

ปล. แอบชอบน้องข้าวฟ่างค่ะ น่าจะมีบทมากกว่านี้หน่อย แฮ่
ปลสอง. บทบรรยายช่วงธารถอดแว่นใส่แว่น มีแว่นอยู่บนหน้าอะไรแบบนี้มันฟินมากเลยค่ะ คือนี่ก็ไม่ได้ลัทธิหนุ่มแว่นอะไรมากมาย แต่แอบกรี๊ดไอเท็มนี้เวลาพระเอกใส่ทุกทีเลยค่า อร้ายยยยยยยยย มันแบบสมาร์ทอะ คูลอะ หล่ออะ แอร๊ ><
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. Unseen-14 กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 15-06-2014 16:01:56
จบแล้ว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. Unseen-14 กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: alexflyer ที่ 16-06-2014 12:09:52
ชอบเรื่องนี้มากๆเลย ตามอ่านรวดเดียวจบเลยย  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. Unseen-14 กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 04-07-2014 22:41:12
ยาวม๊วกกกกก
เหมือนโสรยาเลย 55555555
จบแฮปปี้แจ่มสุดๆๆ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. Unseen-14 กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 09-07-2014 09:20:29
สนุกมากกก อ่านแล้วอินมากกก โครงเรื่องมันส์มากกก เก็บรายละเอียดดีมากๆด้วย พระ-นายก็เวิร์ค
ชอบดราม่าทั้งหมดของเรื่องเลยค่ะ อ่านสนุกดี ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ยันรุ่นลูก ระห่ำมาก
ชอบช่วงทั้งรักทั้งเกลียดของธารสุด มันอั้นๆดี ชอบที่หึงเพราะเตโชด้วย (ส่วนตัวเชื่อว่าเตโชหล่อ อิอิ)
แต่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ จุดจำที่สุดของเรื่องขอยกให้ตอน...โดนยาแล้วช่วยสนองneedกัน
เขียนดี๊ดีนะจุดพลิกนี้ เร้าอารมณ์ได้ถึงมาก ความดิบในตัวคนอ่านโดนกระตุ้นสูงปรี๊ด ทั้งที่กำลังตกใจกับเหตุที่เกิด
คาแรคเตอร์คุณทัตพลเริ่ดมาก จนแอบเฉไปทัตxทรายเบาๆ แต่กลายเป็นทัตซีได้ คือดีมากๆค่ะ ชอบ!
ขอเรียกร้องประการเดียวคือ อยากเห็นจุดจบของชนาธิป เกลียดนางมาก นางสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก มั่นหน้าเกิ๊น
ตัวแม่ว่าแรงแล้ว ตัวลูกแซงไปหลายขุม รู้ทั้งรู้ พ่อถึงกับออกปากเตือน แต่นางไม่ยอมจบ พยามเข้าหาธารอยู่ได้
ล่าสุดเข้าทางเด็ก! ทำมาซื้อของฝากให้หนูขิงจินเจอร์ กรี๊ดดด ทรายไม่น่าปล่อยให้ติดต่อกันนะ //ขัดใจ
จริงๆนี่แอบของขึ้นใส่ยัยชนาธิปตั้งแต่โผล่หน้าออกแขกครั้งแรกกับพี่ซีแล้ว ปีนี้ขอเสนอชื่อตัวร้ายให้เลย
ปล. ชอบตอนพิเศษนาวามากค่ะ ดูมีอนาคตด้านพระเอกพันธุ์โฉด รออ่านต่อนะคะ +1 ไปเลย ชอบมากๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. Unseen-14 กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 12-07-2014 23:37:17
โหด
มันส์
ดี

ขอบคุณนะคับ

 :haun4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End. Unseen-14 กดที่สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: Pine_apple ที่ 24-07-2014 20:49:51
อ่านยังไม่จบ... อิอิ ถึงตอนที่ 9 :katai5: ขอจิ้มก่อน

เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยนะที่ชอบพระเอกมากกว่านายเอก
นิสัยเธอ ผู้หญิงอย่างฉันยังอายค่ะ  :hao5: ไม่ชอบเคะแบบนี้สักเท่าไหร่  :-[

 :hao7: :hao7: :hao7:

อ่านความเห็นอื่นๆ เอร๊ะ ชอบธิปกันจัง แต่ทำไมเราไม่ชอบหว่า ลาขาดกับคนนิสัยแบบนี้ ดูก็รู้ว่าเนื้อแท้เป็นแบบไหน หรืออาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด??

ส่วนพ่อธาร... เอาจริงดิ่? คนนี้อ่ะนะที่ทิ้งแม่ธาร?? นิสัยเหมือนธารสุดๆเราว่ามันต้องมีเงื่อนงำ  :hao6:

อ่านต่อค่ะไว้จบแล้วจะมาจิ้มใหม่  :katai2-1:


ตอนที่ 14  :mew2: :mew2: :mew2: ยังคงช็อค เอาตามตรงนะ(ในความเห็นเรา)ปล่อยให้เขาช่วยตัวเองดีกว่าไปช่วยเขาแล้วคุงตัวไม่อยู่อ่ะนะ

ก็ว่า อ่านแล้วทำไมรู้สึกแหม่งๆ งี้นี่เอง ทั้งซี ทัต ธิป ริน บออกตรงๆว่าไม่ชอบคนพวกนี้ ที่ชอบที่สุดในเรื่องคือหนูธารอ่ะจ๊ะ
ความผิิดของตอนที่ 14 ไม่ใช่ของใคร ของรินกับทัตทั้งนั้น ถ้าหากคิดได้แต่แรกคงปล่อยให้อีกฝ่ายอยู่คนเดียว หรือถ้าโดนทั้งสองฝ่ายแทนที่จะแยกกันอยู่ ...

ขอโทษครับผมมันโลกสวย  :hao5:
บาย บี  :mew4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 11-10-2014 19:41:37
หลังจากอ่านค้างไว้นานนนนนนน มาก เพิ่งกลับมาต่อ พบว่า ต่ออารมณ์ไม่ค่อยได้เลย เสียใจสุดๆ  :mew4:
กลับมาอ่านตอนแรกงงๆ เรื่องเกี่ยวกับอะไร ลืมจริงจัง อ่านสักพัก พี่ทราย-ธาร เอ๊ะ คุ้นๆ ว่าเคยชอบเรื่องนี้มาก  :hao3:
แต่ยังนึกเนื้อเรื่องไม่ออก ก็พยายามอ่านมาจนจบ รู้สึกไม่อิน แม้จะพอจำเค้าโครงเรื่องได้บ้างแล้วก็ตาม  :katai1:
เศร้าาา เสียใจจจ จำได้แต่เคยชอบเรื่องนี้มากกกก  :ling3:
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 12-10-2014 19:37:13
แนวดราม่าที่โปรดปราน แต่เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้ว ไม่อยากให้จบสมหวัง
คนแต่งแต่งได้ดีมากนะ การบรรยาย การดำเนินเรื่อง ภาษา ชอบมาก เพียงแต่
ความรักของตัวละคร ทรายธาร มันไม่อินอีกแล้ว ตั้งแต่ พ่อธารกับทรายได้กันอ่ะ
(ครั้งแรกซะด้วย ธารถนอมทรายมากๆ) แม้จะไม่ได้ตั้งใจ แต่มัน ทำใจยากสุดๆ คือ
ถ้าได้กับคนอื่นก็ว่าทำใจยากแล้วนะ นี่กับพ่อธาร คือคนรักได้กับพ่อตัวเองอ่ะ
ให้ลืมนี่ยิ่งยาก ยิ่งให้ทับรอยพ่อตัวเองอีกยิ่งแล้วใหญ่เลย มีความรู้สึกว่า เรื่องมัน
ดาร์คเกินกว่าที่ธารควรจะทำใจกลับมารักทรายได้ ตอนอ่านนี่ ใจแอบเชียร์ยัยดอกบัว
ด้วยซ้ำ แอบหวังให้จบแบบจากกันด้วยดีต่างมีรักใหม่อะไรเถือกๆนี้มากกว่า
ไม่ใช่ไม่อยากให้โอกาสนะ เพียงแต่มันให้ความรู้สึกกลับมาเป็นรักไม่ได้อีกแล้ว
ใจลึกๆเราอาจจะยังอคติกับทรายอยู่รึเปล่านะ ทั้งๆที่ทรายก็โดนหนักหนานะ. แถมเป็นความ
ผิดที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจ ปกติเราจะสงสารนายเอกที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่ทำไมเรื่องนี้เรากลับสงสาร
แค่ฝั่งธาร คุณทัตนี่ยิ่งแล้วใหญ่รู้สึกไม่ดีไม่ปลื้มไม่ถูกโฉลกแบบไม่มีเหตุผล. (แต่ถ้ามาแพ็คคู่ทัตซีนี่ปลื้มนะ55)
ไม่ต้องพูดถึงบรรดาตัวร้าย ทั้งตัวแม่ตัวลูกเกลียดที่สุด ยิ่งอีตารุ่งอะไรนั้นนะที่เห็นแก่เงินอยากให้มันโดน
รุมโทรมแล้วถ่ายคลิปประจานไปเลย ตัวต้นเรื่องจริงๆสลัดผักเอ้ยย
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายนะ คนเขียนแต่งแนวดราม่าแบบนี้รุ่งนะ เห็นว่าเป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนมาแต่งแนวนี้
 จะรอติดตามเรื่องต่อๆไปด้วยเน้อออ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 15-10-2014 07:47:33
อ้าววว เวง กลายเปนหนังดราม่าซะงั้น อุส่าอ่านมาได้ครึ่งเรื่องแล้วน้า ตัดจบเลยละกัน 5555
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: numilddy ที่ 24-10-2014 14:43:28
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วร้องไห้บ่อยมาก
สงสารธารที่สุดในเรื่อง คือมองในมุมเราธารเป็นเด็กขาดความอบอุ่นพอมีทรายเข้ามาคอยดูแลก็รัก
แต่สุดท้ายก็ถูกทรยศที่ทรายไปมีอะไรกับพ่อตัวเองที่ทิ้งแม่ไปแถมทำให้แม่เข้าโรงพยาบาลอีกด้วย
ถึงมันจะมาจากยาปลุกเซ็กส์ก็เถอะ แต่แบบเหมือนทรายไม่พยายามบอกถึงบอกไปแล้วไม่เชื่อ
แต่อย่างที่หลาย ความเห็นบอกว่ามันสามารถตรวจได้ แต่ธารก็อารมณ์ความโกรธเสียใจบังตาแหละ
ทรายเราก็สงสารอยู่น่ะ แต่แบบตอนแรกๆ ทรายกั๊กไว้ทั้งธารทั้งซี
บอกว่าซีเป็นพี่ชายแต่ก็หึงเวลามีคนอื่นเข้าหาพี่ซี
ซีอาจเป็นอีกคนที่เราสงสารเพราะชอบทราย ทรายก็ทำเหมือนมีใจให้
สุดท้ายก็มีความสุขกับคุณทัตเนอะ อิๆ
มองแล้วเมียใหม่คุณทัตไม่เห็นได้อะไรเลย แค่เสียใจเพราะคุณทัตไม่รักกับไม่กลับบ้าน
ส่วนนังชนาธิปนี้เกลียดเลย แบบธารไม่ชอบก็ตื้อหน้าด้านอ่ะ ไล่แล้วก็ไม่ไป
ยิ่งตอนที่ขอสร้อยแล้วให้ เออเป็นเราเห็นสร้อยที่ติดตัวธารมานานอยู่บนคอธิปก็เสียใจดิ
โอ้ยยย ช่างมัน สุดท้ายเราสงสารหมด เกลียดชนาธิป :o12:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: minniez ที่ 25-10-2014 15:11:24
น่ารักอ่ะ กว่าจะแฮปปี้กันได้ ลุ้นแทบขาดใจ สนุกๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 16-11-2014 17:21:20
อ่านจบแล้วขอบคุณน้องมินนะค่ะเรื่องนี้สงสารนายเอกมากที่ติดใจคือเรื่องพ่อพระเอกกับนายเอกไม่น่าโดนยาเลยแต่ก็นั่น.อนะถ้สไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นก็ไม่มีพิศาลมาเองธารก็ใช่ย่อยมั่วไปทั่วเลยแต่ท้ายที่สุดก็แฮปปี้เอนดิ้งวู้ววว
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 21-11-2014 16:28:28
ขอบคุณคร่า ลุ้นมากอ่ะ  :katai5: ต้องบอกว่าในที่สุดก็แฮปปี้เอนดิ้ง
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Gnaap ที่ 21-03-2015 01:24:58
ชอบแนวนี้มากค่ะ 5555555
เก็บไว้เป็นนิยายในดวงใจอีกหนึ่งเรื่องเลย
ชอบคุณทัตมาก มากๆๆๆๆๆ
ไม่ได้ชอบแบบอยากให้เป็นพระเอกนะคะ
ชอบแบบอยากได้มาเป็นของตัวเองอ่ะค่ะ
5555555555 /ภูมิแพ้คนแก่
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 23-03-2015 07:52:32
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ
ช่วงที่ดราม่าหนักๆเราอ่านข้ามๆเลย ทำใจอ่านไม่ได้จริงๆอ่ะ มันหน่วงๆ มันเจ็บ สงสารทรายมาก แต่ก็เข้าใจอารมณ์ของธารนะ แต่สุดท้ายก็เข้าใจกันได้ ครอบครัวสุขสันต์กัน
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 24-03-2015 06:34:04
^^
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 27-03-2015 08:26:52
เรื่องนี้สนุก ชอบทรายมากๆ :-[
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 18-04-2015 10:05:55
เป็นนิยายที่บีบคั้นอารมณ์มากๆค่ะ ตอนแรกคือน่ารักหวานๆ ซักพักมรสุมดราม่ากับชีวิต ผมนี่สงสารพี่ทรายเลยฮะ ถถถถ คนอะไร้น่ารักคนดีอดทน ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เรื่องพ่อทัตกะพี่ซีนี่ยังไงๆ อ่านแล้วชวนจิ้นจริงๆค่า ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ ยิ้มหัวเราะร้องไห้ ครบรสจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: onoonoon ที่ 20-04-2015 19:59:41
พึ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากเลยคะ
จะติดตามต่อเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [05/03/57] บทที่ 2 เด็กร้ายกาจ
เริ่มหัวข้อโดย: noeywaan137 ที่ 28-04-2015 10:21:43
น้อยธารคนร้ายกาจ แกล้งพี่ทรายทำไม จำพี่จ๋าที่เธอชอบอ้อนในวัยเด็กไม่ได้เลยหรือ อย่ามาเสียใจทีหลังนะ
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[15/03/57] บทที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: noeywaan137 ที่ 28-04-2015 14:29:12
ส่วนตัวคือไม่โอเคกับทราย มองในมุมคนนอกมองเข้าไปเหมือนนางจะจับปลาสองมือ กับซีนางก็โหวงตอนธิปมาค้างที่บ้าน กับธารนางก็ไม่โอเคในความรู้สึกที่พาบัวมานอน  จะเอายังไงคะคุณทราย ให้มันเคลียร์ซักฝ่ายค่ะ อย่านึกว่าเป็นนายเอกแล้วไม่เคืองนะ ฮึฮึ   :serius2:

*มาให้กำลังใจคนเขียนจ้า*  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 28-04-2015 15:03:37
ทำไมมันบีบหัวใจเยี่ยงนี้เล่า ฮรือออออ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[18/03/57] บทที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: noeywaan137 ที่ 28-04-2015 15:19:25
บ้านใครต้มมาม่าคะ???

กลิ่นมาม่าเริ่มลอยมาแล้วค่ะ จะทำอะไรคิดถึงน้องธารไว้เยอะๆนะคะทราย จะไปค้างกับคุณทัตแบบนั้นยิ่งไม่เป็นเรื่องใหญ่เลยเหรอ เรื่องแบบนี้มันเข้าใจผิดได้ง่ายๆนะ  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 28-04-2015 15:33:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ..พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man[27/03/57] บทที่ 19 Way Back Into Love
เริ่มหัวข้อโดย: noeywaan137 ที่ 29-04-2015 12:33:47
จะสงสารวารินก็สงสารอยู่หรอก แต่ ณ จุดนี้ เราสงสารธารมากกว่า ยังไงก็เชียร์ธาร ไม่ว่าใครก็รับเรื่องแบบนี้ไม่ได้หรอก ยิ่งแผลมันกำลังสด มันค่อนข้างจะมองข้ามได้ยากนะ

มาให้กำลังใจคนเขียนค่าา  :katai2-1:

*ปอลอ เราอ่านไปเรื่อยๆดราม่าไปเป็นตอนๆ ไม่คาดหวังเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของเรื่องนี้  มันก็สนุกดีนาาา การอ่านแล้วไม่เดาเนื้อเรื่องเนี่ย อิอิ

#ทีมธาราธาร
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 04-05-2015 02:19:03
แปะะะ  ตามอ่านแป๊ป  :katai4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 10-05-2015 21:49:45
จบ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 28-07-2015 12:22:06
ThankS
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 30-07-2015 00:51:37
ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี มันก็สมเหตุสมผลแบบแปลกๆ พี่ทรายเป็นคนอดทนมากๆอะ เป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือมาก พออ่านถึงอันซีนตอนจบนี่แบบ คือธารหื่นมาก หื่นตลอดเว คือลืมไปปล่าว ถ้าเรานับเลขไม่ผิด พี่ทรายก็๓๘ แล้วนะนั่น ฮาาาาาาาา. คือแก่แล้วอะ ใช้งานคนแก่หักโหมแบบนั้นจะดีรึธาร?  (me//โดนพี่ทรายกระทืบ)
แต่สำหรับชนาธิปนี่ ไม่รู้ทำไม เกลียดเสมอต้นเสมอปลายเลยอะ ถึงตอนหลังจะไม่มาแทรกชีวิตครอบครัวคนอื่นแล้ว แต่หล่อนแรดมากกกกกกกกกกกกกกกก มากจนแบบ เฮ้ย นี่ไม่ใช่แค่คนขาดความอบอุ่นละ เหมือนหล่อนเกิดมาเพื่อพรากความสุขคนอื่นรึ?  คุณภัครถูกทิ้งก็เพราะหล่อนเกิดมานั่นแหละ แถมแย่งพ่อเค้ามาตั้งยี่สิบปี รู้ความจริงแล้วไม่สำนึก ยังคิดจะจับเค้าทำผัวอีก ธารก็บอกอยู่ว่ามีคนที่รักมาก ชีวิตทรายก็รันทดจะแย่ ยังจะมาแทรกอีก(อินจัด) :katai1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: yibsee2009 ที่ 02-08-2015 14:34:44
 :z2: :z2:

         แรก ๆ  อย่างโหดเลยครับ  แต่ตอนจบ  ก็แฮปปี้ดีครับ  ขอบคุณมาก ๆ ครับผม
                                                                       
                                                                                         :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: โซดาหวาน ที่ 21-08-2015 13:31:22
อ่านจบแล้วววว สมกับชื่อเรื่องจิงไรจิง "พี่เลี้ยง"  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 29-11-2015 06:03:23
ชอบจังเลยยยยยยยย เป็นเรื่องที่ตลกร้ายจริงๆนะ แบบเรารักกัน เธอและฉัน หลังจากนั้นก็โดนวางยาได้กับพ่อเฉย  :katai1:
เราอยากให้คนทำได้รับผลมากกว่านี้จัง แบบแค่ปล่อยเค้าไว้แบบนั้น เราว่ามันยังไม่สาสมเลย หรือเราจะร้ายเกินไปก็ไม่รู้ 555
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: greengarnet ที่ 15-02-2016 18:19:51
เพิ่งลองเข้ามาอ่านเรื่องนี้ครั้งแรก

เนื้อเรื่องดำเนินดีกว่า แม้ว่าตัวละครบางตัวอาจจะแค่กล่าวถึง
ดูเหมือนจะสำคัญ แต่ก็เหมือนแค่กล่าวถึงเฉยๆ

สำหรับอ่านตอนช่วงแรกๆ ที่ทั้งสองรู้หัวใจตนเองแล้วรู้สึกว่า อุทานออกมาเบาๆ คุณพระ!!
ผู้แต่งแกล้งเราได้อย่างโหดร้ายมากเลย ที่ให้ คุณทราย ไปจึ๊กกะดึ๋ยกับ คุณพ่อน้องธาร แม่งรู้สึกพลิกมากก!!

อ่านความเห็นหลายคนบอกว่า โหดร้าย สงสารน้องทราย งู้นงี้งั้น...
ส่วนตัวเราสงสารทั้งสองคนเลย
ในมุมมองที่น่าสงสารสุดคงจะเป็น คุณภัค คุณแม่ของน้องธาร พระเจ้า!! เหตุการณ์เดียวพลิกชีวิตในทันที
โดยเฉพาะน้องธาร พอมาเจอคลิปเป็นฉาก เห็นพ่อเป็นชู้กับคนที่ตัวเองรัก แม่งยิ่งกว่าโดนตบหน้า ณ จุดนั้น ถ้าธารไม่ฆ่าทรายก็บุญขนาดไหนแล้ว มันเครียดก็เครียดเนอะ...รักมากยิ่งเกลียดมาก ในความเห็นเราน้องธารยังมีจุดที่ตัดไม่ขาด ถึงเป็นคนที่อารมณ์ขึ้นง่าย ใช้หัวใจมากกว่าสมองก็ตาม มันเลยพอมีทางให้โอกาสแก่คุณทราย
ในส่วนตัวของทราย ความเห็นเราอยากจะแนะนำให้พี่ทรายไปทำบุญเถอะค่ะ คนอะไรน่าเวทนายิ่งนัก จะกลับตัวก็กลับไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึงอีก ระหว่างทางอุปสรรคเยอะ ต้องนอนกับคนที่ไม่ได้รัก หรือโดนคนที่รักข่มขืน เป็นความรู้สึกที่โครตกล้ำกลืนเลยว่ะ ผู้แต่งวางตัวตนของทรายได้ดีนะค่ะ ดูไม่ใช่นายเอกที่มีลักษณะเด็กน้อย คิดสั้น ตัวตนของทรายเหมือนทรายที่ไหลไปได้ทุกที ไม่ได้แข็งแกร่ง แต่สามารถโอบอุ้มผืนทะเลไว้ได้ ในขณะที่เม็ดทรายก็ละเอียดและดูเหมือนจะปลิวไปกับสายลมได้ทุกเหมือน เราชอบตัวตนแบบนี้นะค่ะ ยอมได้คือยอม ทั้งที่ตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องผูกมัดใคร อยากจะหนีจากอดีตไปให้ไกล แต่ก็ไม่ทำ เพื่อจะตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ เราชอบมากกก 555

ส่วนของตัวละครที่มาให้พบและผ่านเพื่อสร้างสีสันให้กับเนื้อเรื่อง ก็ถือว่าโอเคเลยค่ะ เรารู้สึกหมั่นไส้ไอ้เด็กที่มั่นหน้าเกินตัวเอง ชื่อ ธิป ยังดีที่เจ้าตัวยังฟังความเห็นของคุณพ่อจำเป็นอยู่ แต่ก็ยังมาวอแวในชีวิตของทรายกับธารอยู่บางที

สุดท้าย ชื่นชอบ บทบาทตัวละครในเรื่องมากค่ะ แตาอาจจะยังไม่ถึงขั้นพีค แต่ก็โอเคเลยค่ะ สะเทือนใจดีกับฉากทำลายล้าง คุณทัตกับพี่ทราย เอิ๊กๆๆ ตอนนี้เป็นแฟนคลับคนแต่ง อีกเรื่อง ดอกฟ้ากับหมาวัด เรารู้สึกว่า ยังไม่กล้าอ่านฉากที่ถูกพรากกัน อันนั้นแม่งสะเทือนใจนักมาก แต่ยังไม่ได้คอมเม้นเลย เดี๋ยวจะตามไปคอมเม้นนะค่ะ ขอทำใจอ่านก่อน อิอิ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 07-04-2016 18:15:20
ขอโทษ fc ทรายล่วงหน้าเลยค่ะ  แต่เรื่องนี้เราไม่สงสารทรายเลย เราว่านางเหมือนจะใช้คำว่านายเอกไร้เดียงสา แต่เรื่องราวเเละการกระทำนางไม่ว่าจะเหตุผลใดๆก็นางมันแสดงว่านางไม่ไร้เดียงสานะค๊าา นายเอกแบบนี้พี่ไม่ปลื้มบอกเลย :katai4: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-11-2016 23:57:05
ลุ้นมาก กว่าจะเข้าใจกันได้ เกือบได้เกลียดกัน
ทรายพูดถูก ที่ยอมเพราะผิดจริง แต่ไม่ใช่จะทำยังไงก็ได้ไหม

ธารน่าสงสารกับความรักของแม่ แต่ก็ไม่สายเกินไป
ธารกว่าจะรู้ตัวนะ ทั้งรักทั้งเกลียด แต่สุดท้ายเพราะรัก ถึงยอมเข้าใจสักที

ซีรักน้องมากเกินกว่าน้อง แต่ยังดีที่ยั้งใจบ้าง ทรายก็เกือบไปละนะ ดีที่ยังรู้ว่ารักจริงหรือเปล่า


คนใหม่พ่อทำเรื่องวุ่นไปหมด ทำเรื่องพัวพันไปหมด ก็ถูกแล้วที่ได้รับผลที่ตัวเองทำไว้

หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 21-12-2016 00:47:44
รำคาญคนแบบวารินมาก เป็นนายเอกที่น่ารำคาญที่สุด ไม่เคยจะสงสารนางเลย แต่แม่งต้องอ่านต่อให้จบ มันค้างคาใจ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 21-12-2016 22:07:03
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ สนุกมาก
แต่ก็หน่วงมากตอนคุณทัตกับทราย มันเจ็บจึกๆจนอ่านต่อไม่ได้เลยค่ะ ต้องสไลด์ลงมากให้มันผ่านๆไป
 :mew4:
หลังจากนั้นก็มาเศร้ากับความสัมพันธ์ของทรายกับธารอีก
โอ้โห...ร้องเลยอ่ะ
ดีที่ตอนท้ายๆมาหวานๆให้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะตอนอันซีน ชอบมากกก โนดราม่างี้
น้องขิงก็น่าร๊ากกกกกกกกก แววเมะมาแต่ไกล 5555
ปล.อยากอ่านคู่ทัตกับซีอีกจังค่ะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 14-02-2017 22:57:12
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: sakurako38 ที่ 13-12-2017 15:06:37
อ่านจบแล้วสนุกมากครับ ชอบมากกกกกกกกก ถึงมากที่สุดโดยเฉพาะบท Erotic อิอิอิ ชอบสไตล์การเขียนแบบคุณมากครับ เนื้อเรื่องดี เหมือนละครไทยดีครับ ยังเคยคิดเลยอยากให้มีนิยายแบบละครไทยแต่เป็นในรูปแบบของ วาย ๆ บ้าง ชอบมากครับ ขอบคุณมากนะครับที่แต่งนิยายสนุก ๆ ให้ได้อ่านกัน ขอบคุณจากใจครับ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 16-03-2018 00:54:11
เป็นเรื่องหน่วงที่ทำให้อยากกรีดร้องหลาย ๆ หน  :ling1:

อยากปิดไม่อยากอ่านต่อแล้วก็หลายครั้ง  :katai1:

แต่ความอยากรู้ว่ายังไงต่อมันมากกว่าก็ชนะมาได้..อ่านจบจน :heaven

สนุกแบบหน่วง ๆ เทา ๆ ..ได้ใจไปอีกเรื่องนึงเลยจ้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 30-09-2018 17:42:51
ทำไมเราพลาดเรื่องนี้ไปได้ตั้งหลายปี ไม่ได้มาตามสดๆ ขอเม้นโดยภาพรวมเลยนะคะ เจ้าธารว้อยย ตอนแรกๆนี่โมโหมากเลย ทำไมเป็นเด็กเปรตได้ขนาดนี้ ตอนเล็กๆก็น่ารักอยู่หรอก พอโตขึ้นมาเท่านั้นแหละอิเด็กผี แต่คงเพราะที่บ้านด้วยแหละ พ่อแม่เลิกรากัน พ่อไปมีครอบครัวใหม่ แม่ก็ไม่รู้เหตุผลจริงๆ ก็เลยพูดแต่เรื่องที่ไม่ดีให้ลูกฟัง เอาแต่บ้างาน ไม่ทีเวลาให้ลูก จนกลายเป็นเด็กที่เรียกร้องความสนใจ ขาดความอบอุ่น ต้องขอบคุณพี่ทรายเลยที่มาดึงธารขึ้นจากเหวได้ ถ้าคุณภัครไม่ให้พี่ทรายมาเป็นพี่เลี้ยง ตอนนี้ธารจะเป็นยังไง ช่วงพาร์ทก่อนอีโรติค คือหลอกลวงมาก คิดว่าเขาจะรักกันแบบเรียบๆ พอไปพังงากับคุณพ่อเท่านั้นแหละ เหมือนกับเริ่มต้มน้ำ ชงมาม่าเลย มันเป็นความผิดที่น่าละอายมากเลยนะที่ตัวเองไปมีอะไรกับพ่อแฟนเนี่ย ถ้าเราเป็นธารเป็นคุณภัครก็คงสติแตกเหมือนกัน คุณวิกะไอ้รุ่งเลวมาก เอาแต่ได้เห็น แก่ตัว ลูกคุณวินี่ก็ถอดแม่มาเลย ยังดีที่ธารรักพี่ทรายมากพอที่จะไม่เผลอใจไปกะอธิป บางทีก็หงุดหงิดกะทรายอะ เป็นคนดี นางเอกอะไรขนาดนี้วะเนี่ย ด่าพระเอก ไอ้บ้าเอ้ย คนเลว นางเอกสุดๆ หงุดหงิดนังธารมากอยากเปลี่ยนพระเอกเลย ตอนแรกภาวนาว่าพระเอกยังไม่ออกหรอก55555555 ขี้หึงอะไรปานนั้นวะ ตัวเองก็มั่วมาก่อนเหมือนกันนะเว้ย เห็นพี่ทรายอยู่กับใครนี่ไม่ได้เลยหัวร้อนตลอด ยังดีที่จบหมอมาได้ เจ้าขิงก็น่ารัก มีพ่อแม่สี่คนไปเลย ขอให้หนูโตมาเป็นเด็กที่ดีนะลูกนะ ขอให้หนอนโตเร็วจะได้เอาไปอวดอชิได้
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 04-10-2018 11:10:30
ลุ้นหนักมาก
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ  o13
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 12-10-2018 07:36:53
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้
สนุกมากเลยค่ะ แบบอ่านรวดเดียวจบ
เรื่องนี้คนที่น่าสงสารที่สุดคือแม่ของธารค่ะ
ไม่รู้อะไรด้วยเลยแต่กลับต้องมาเป็นแบบนี้เพราะเหตุการเดียว
ธารก็น่าสงสารที่รู้ว่าคนที่ตัวเองรักไปมีอะไรกับพ่อตัวเองแถมแม่ต้องมาป่วยหนักอีก
ส่วนทรายแค่สงสารนางเป็นช่วงๆไป ทำตัวเองอ่ะ
ส่วนอธิปนี่ไม่ไหวกับนางมากกก
แรดได้อีกกกกก 55555+
ยังไงก็ขอบคุณนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: konfaibint ที่ 13-10-2018 19:22:59
สุดยอดแห่งเนื้อเรื่อง แรงได้ใจ ขอบคุณน่ะ
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 14-10-2018 17:43:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 23-10-2018 11:21:47
สนุกมากๆค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-10-2018 21:52:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 07-09-2019 19:48:29
ย้อนกลับมาอ่าน
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 22-09-2019 13:54:37
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 15-11-2019 09:14:17
เป็นเรื่องที่ทำให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมด้วยมากๆ หลากหลายรสชาติ ขอบคุณมากๆค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 30-01-2020 20:50:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 02-02-2020 12:30:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
เริ่มหัวข้อโดย: Noonnaja ที่ 28-01-2023 06:22:51
 :hao7: