จิระxจิระ
ตอน 2 อุบัติรักวันคริสต์มาส
โต๊ะกินข้าวไม้สีแดง กลมๆ แผ่นใหญ่เบิ้ง นั่งคู่กันสองคน ผมกับบุคคลนิรนาม
เจ๊เปิดตู้เย็นปึงปังเทนั่นหยิบนี่โครมครามพร้อมเทศนาบลาๆ
“มันสมควรไหม บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วเรื่องโหลดรูปโป๊เนี่ย ยังดีที่แค่ควัน เกิดเป็นสะเก็ดติดไฟบ้านไหม้ขึ้นมาจะทำยังไงหา โจ๊ก”
“...” รูปโป๊คดีเก่า อันนี้คดีใหม่การ์ตูนแอนิเมะตามคำสั่งไอ้ตองต่างหากเล่า
“จะจบ ม.6 อยู่ไม่กี่วันยังทำตัวเป็นเด็กๆ ไม่รู้จักโต ด่าก็แล้ว ตีก็แล้ว ไม่เป็นผู้เป็นคนอย่างนี้ตัดหางปล่อยวัดเลยดีกว่า ให้หลวงตาเลี้ยงจะได้รู้ภาษาซะบ้าง”
ขอคัดค้าน ที่ไหนก็ได้ที่มิใช่รั้วขอบขัณฑสีมา จิระกลัวผี
“จ๊าก! มึงจะฆ่ากูรึไงไอ้เชี่ย!” ตบส่งเข้ามาได้กำลังถ่ายเอ็มวีเพลินๆ นิ้วก้อยลึกถึงโพรงประสาทส่วนกลาง กะจะสร้างประติมากรรมเป็นก้อนป้ายใต้โต๊ะเสียหน่อย
“แล้วเล่นอะไร หูน่ะฟังอยู่ใช่ไหม” เจ๊ครับ
“...โจ๊กขอโทษ...อือ” เสียงอ่อยๆ ก้มหน้าม่อยน้ำตาเล็ด ลูกผู้ชายเสียน้ำตาเพราะนิ้วทิ่มรูจมูกตัวเอง เค็มจริงไม่ได้โม้
ท่านผู้หญิงส่ายหน้าถอนหายใจปลงสังเวช คงเห็นผมจ๋องๆ ตามระเบียบจึงยอมรามือ
“เฮ้อ...ดีที่เจฟฟรี่ขึ้นไปเจอก่อน ขาเดี้ยงอย่างนั้นเขายังลำบากขึ้นไปดูให้ แล้วเราล่ะ” ไชโยรอดคดี เหมือนมึงจะถูกเหมาโดนด่าด้วยนะ แต่นั่นแหละ รู้แล้วว่าเสาไฟฟ้าหัวแดงมีนามกรว่า ‘เจฟฟรี่’
จะตามดีลีทชื่อนี้ให้สุดหล้าฟ้าเขียว ฮึ่ม!!!
.....
...
“แขกคอแห้งแล้วเจ๊” หลานชายเจ้าของบ้านช่วยเตือน
“น้ำให้แขกครับ” เสียงทุ้มนุ่มข้างตัวชวนหมั่นไส้
“ต๊ายตายคุณแซม ลืมเลย!” เจ๊ถลาพร้อมถาดของว่างออกไปหน้าห้องแถว น้าจอมกับผู้ชายท่าทางมีสกุลรุนชาติกำลังโม้กันอยู่อย่างถูกคอ
“ชิ...” หันไปค้อนขวับ ถูกด่าหูแฉะเพราะมึงคนเดียว
ไอ้ฝรั่งซากุระหงิ
ไอ้เลวสามช่า
ไอ้ปลาไหลยัดไส้สาหร่าย
ไอ้ๆๆๆ
“ขึ้นไปคุยกันข้างบน” มันว่า
“เออได้ แน่จริงตามมา” ผมลุกตึงตังนำหน้า เจอบันไดเน้นๆ ขาเดี้ยงใส่เฝือกใช้ไม้ค้ำอย่างมึงแล้วจะหนาว
เอ๊ะโอ๋ พลันนึกขึ้นได้ว่าตูบ้าตามคำสั่งพาอริขึ้นห้องข้าพเจ้าเองได้เยี่ยงไร อนาจปนเมาหมัดหัวสมอง
....
.....
ห้องนอนชั้น 3 จริงๆ คือชั้น 4 ถ้านับชั้นลอยด้วย
“...” ฝรั่งเงียบ วางกระเป๋านักกีฬาใบใหญ่ๆ ลงพลางกวาดตาสำรวจโดยรอบ
“...” ผมยืนกลางห้องหันกลับไปจ้องผู้มาเยือนเต็มๆ ตาเช่นกัน
ก็คนธรรมดา ลูกครึ่งค่อนไปทางฝรั่ง หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่มากกว่าผม สูงเป็นเปรต ขาซ้ายท่อนล่างใส่เฝือก ใช้ไม้ค้ำยันรักแร้ท่าทีไม่ยี่หระ ออกจะดูดีเกินคนป่วยธรรมดาทั่วไปเสียด้วยซ้ำ มองผ่านนึกว่านายแบบกำลังถ่ายพอร์ตเทรตธีมพิสดารอยู่
เท่ตายล่ะมึง
“ห้องนี้เหรอ แล้วให้นอนไหน เตียงนี้?”
“หาเองซิ แต่เอ๊ะ! ไฉนมึงต้องมานอนห้องกู แล้วกระเป๋านั่นเอามาทำไม หรือคิดจะขโมยของ?” เพิ่งสะดุดใจ
“หน้าอย่างนี้จะขโมยของ บ้าหรือเปล่า”
“ใครจะไปรู้ ท่าทางมีเงินจริงๆ รึเปล่าหรอก ใครจะไปรู้ว่าอาจจะนิสัยแย่ยิ่งกว่าหมาขี้เรื้อนหน้าบ้านกูก็ได้”
“บ้าเอ๊ย กูขึ้นมาทำไมวะเนี่ย” มันหัวเสีย
“ใครใช้ โคตรพ่อโคตรแม่มึงเหรอ!” ผมขึ้นเสียง
“ผมมีธุระกับห้องแถวข้างๆ ต่างหากเล่า”
“แต่กูไม่มีธุระด้วยโว้ย!”
“...” มันกระชับไม้ค้ำพลางยืดอกสูงได้อีก มองหน้าหาฟาเธอร์เหรอ
เกลียดท่าล้วงกระเป๋าฉิบหาย ถึงจะเหลือแค่มือขวาข้างเดียวก็เถอะ (ค้ำไม้แขนซ้าย) แล้วที่คุยกันเมื่อครู่คืออะไร มาทำไม อยากเคลียร์คดีเก่า อยากแดกกูงั้นสิ
“กูแฟร์พอ!” ผมอดรนทนไม่ไหว
“ไม่ชอบหมาเห่าแบบนี้ ถามกูก่อนดีกว่าไหมว่ากูมาทำเหี้ยอะไร!” เย้ย ตะโกนกลับตาลุกวาวน่ากลัวสัด
“ไม่สน! มึงฉะกะกูเลยดีกว่า ที่ผ่านมาแค่ขี้ๆ กูไม่ถือ วัดกันเลยให้จบๆ ไป...แม่งหาเรื่องข้างนอกไม่พอ ยังตามวอแวถึงนี่ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ได้-จัด-ให้!” รื้อแขนเสื้อนักเรียนโชว์เถื่อน
เด็กวัดจะวัดกับเด็กนานาชาติก็วันนี้ล่ะวะ
ทุกทีร้องด่าพ่อล้อแม่ได้แค่นั้น พวกรวยนั่งรถยนต์ส่วนตัวผ่านหน้าบ้านทุกวัน อ้อ เคยผลักอกมัน 5-6 ครั้งไม่แน่ใจ (ในรอบหลายๆ ปี) สาเหตุแรกเริ่มเกิดจากอันใดมิทราบ ไม่สนใจแต่ลูกกะตามองมาเจอกันทีไรว้อนท์ให้อยากถีบประตูรถทุกที
กูไม่ชอบขี้หน้าไอ้เลวนี่
“ไม่อยากมีเรื่อง”
“แต่กูอยาก!” ผมตะโกนใส่หน้า ผลักอกพร้อม
(ตึง!)
ตูดชนโต๊ะอ่านหนังสือยังเงียบไม่ร้องสักแอะหากดวงตาปีศาจวาวโรจน์ ซวยแล้วโจ๊ก เห็นมือขวากำหมัดแน่นทั้งที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงทำผมปากเก่งบ่นต่อ
“หมาชัดๆ เก่งแต่ลอบกัด ตีนเดี้ยงแค่นี้ทำเก่งจะวัดกะกู ถึงชนะไปก็ไม่น่าภูมิใจหรอกเว้ย รังแกคนป่วย รู้ถึงไหนไอ้โจ๊กคงดังถึงนั่นนะว่าไหม” ระรานเต็มที่ เตะหมา แย่งขนมเด็ก เก่งกับคนแก่ เพิ่มอีกข้อ ต่อยคนป่วย
“ปากเก่งฉิบ!”/ (โครม)
“ไอ้เชรี่ย! โคมไฟกู!” ปัดทิ้งเป็นหนังกิ้งก่าคาวบอยไปได้ 199 บาทก็มีราคานะเว้ย
“หุบปากแล้วฟัง!”
“ไม่! มึงต่างหาก ออก-ไป-จาก-ห้อง-กู!”
(โครมคราม!)
(ตูมตาม!)
(เปรี้ยงปร้าง!)
(เพล้ง!)
“อย่าอยู่เลยมึง!” ผมกระหน่ำปาสาวน้อยตกน้ำ
“เฮ้ย หยุด!” ยกกระดานดาร์ซด้วยมือเดียวบังเป็นโล่
อะไรอยู่ใกล้มือโจ๊กขว้างไฟแลบ หนังสือการ์ตูน ซีดีญี่ปุ่น แมกาซีน เพลย์บอยสารพัดจัดให้
(>0<) เช้ดเข้ จิระมิใช่คนเยี่ยงนั้น
(ปึงๆๆ) / “เอะอะอะไรกัน!” น้าจอมพังประตูเข้ามาหย่าศึก
“...แฮกๆ”
“...ฟู่ๆ” สองคนชะงักหันไปมอง
(ตุบ...!) โจ๊กปล่อยนาฬิกาปลุกหล่นจากมือเบาๆ แต่เสือกพัง ทุกอย่างหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ ตรงตี...เอ๊ย เท้ากูเลยพ่อ
“ลงไปคุยกันข้างล่าง ทั้งคู่!”
...
...
โต๊ะกินข้าวหลังบ้านติดใกล้บันไดห้องแถว...
“นี่เงินค่ามัดจำที่เราบอกจะเช่าห้องข้างๆ พอดีป้าเจ้าของแกขายทั้งสองคูหาให้น้าเมื่อบ่ายวันนี้เอง เลยฝากมาคืน” เจ๊ยื่นซองเงินให้คนนั่งเก้าอี้ไม้ตัวติดกับผม
“ครับ” ร่างสูงไม่ขยับเขยื้อน รับคำเฉยๆ
“อ้าว ผมนึกว่าเจฟฟรี่จะกลับไปกับนายน้อยแล้วซะอีก เห็นรถเพิ่งผ่านไป” คุณแขกภูมิฐานยังเสนอหน้าอยู่ตามเดิม
“คุณแซมรู้จักเด็กคนนี้ด้วยเหรอคะ?” เจ๊หันไปถามชายวัยกลางคนที่ว่า
“ครับ เจฟฟรี่เป็นเพื่อนของนายน้อย ลูกชายเจ้านายบริษัทที่ผมทำงานด้วย ทำไมมาอยู่ที่นี่ อ้อ หรือเพิ่งซ้อมเสร็จ ได้ข่าวช่วงนี้ทั้งทีมเก็บตัวจะคัดทุนบาสจะไป NBA อยู่ใช่ไหม”
“เอ๊ะ...!”
“เอ๋...!”
“โอ๊ะโอ๋...!” เจ๊ น้าจอม ผม
“คุณแซมครับ...” ฝรั่งหัวแดงตั้งท่าจะกล่าววาจา
“ซ้อมหนักซิท่า นายใหญ่บอกลูกชายตื่นแต่ไก่โห่มาซ้อมอยู่หลายวัน ทั้งที่อาทิตย์หน้าจะสอบไฟนอลอยู่แล้ว ท่าทางสนุกใหญ่ เห็นชวนเพื่อนไปนอนที่บ้านใหญ่ด้วยกันยกทีมเหรอ เหมือนเข้าค่ายเลยนะ เอ่อ...มีอะไรกันหรือครับ” ท้ายประโยคคุณแซมได้สติหันมามองเราเลิ่กลั่ก
“นั่นมันอาทิตย์ก่อน ตอนนี้ผมแค่อยากหาที่เงียบๆ อ่านหนังสือสอบ ไม่อยากอยู่บ้าน แต่หาเรื่องบังคับตัวเองให้เดินเองบ้างก็เท่านั้น”
“อ้าวเฮ้ย ขาเป็นอะไรครับนี่ ทำไมใส่เฝือก?” คุณแซมเพิ่งเห็นคนพิการเหวี่ยงขาซ้ายออกจากใต้โต๊ะ
“เอ็นฉีก สะบ้าหลุด เป็นปีกว่าจะเชื่อมติด อาจเป๋ แต่ตอนนี้ชีวิตผม...เป๋” นัยน์ตาสีเทาเสมองผนัง
“...” ทุกคนตาปริบๆ โจ๊กดิ่งบันจี้จั๊มพ์ลงทะเลวูบ
“เอ่อ...” คุณแซมเจื่อนสนิท
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้มันเป๋อยู่ที่นี่ล่ะ ใกล้โรงเรียน” น้าจอมพูดเบรกบรรยากาศ โอ้ว้าว เฮียตูจะเท่ไปไหน
“เข้าใจแล้ว เงินนี่เจ๊เอาเอง ห้องอยู่ชั้นบนด้วยจะได้ฝึกเดินขึ้นเดินลง ใช่ไหมเฮีย” คุณนายดึงซองเงินกลับไปอย่างไว
“อืม...” น้าจอมพยักหน้า
“ดีเลยครับ ผมเห็นด้วย” คุณแซมเปลี่ยนข้าง ตบบ่าให้กำลังใจคนไม่สมประกอบดังปุๆ ไม่หยุด เจ็บแทนดีไหมนั่น
“ผมคุยกับเหยี่ยวเอง คุณแซมไม่ต้องนะครับ” มันคุยเหมือนสั่งงานผู้ใหญ่กลายๆ เลยแฮะ
“โอเคได้ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เจอกันที่ธนาคารนะครับคุณจอม วันนี้ผมนัดภรรยากับลูกสาวทานข้าวพอดี สวัสดีครับ” ชายวัยประมาณรุ่นพี่น้าจอมไม่กี่ปีโบกมือบ๊ายบายชนิดไหว้ลาแทบไม่ทัน
“ก็ดีนะเฮียว่าไหม จู่ๆ คุณแซมก็เดินเข้ามาขอร่วมทุนให้เรากู้โดยไม่คิดดอก แถมได้เงินค่าเช่าแบบส้มหล่นบานตะไทด้วย ดีจริงๆ” เจ๊โบกซองเงินรำพัดสบายใจ
“นี่ค่าเสียหายข้างบน ผม...หงุดหงิดไปหน่อย”
“ไม่ต้องหรอก” เจ๊ไม่รับแบงค์พันที่ยื่นมาเพิ่ม
“ค่าข้าวก็ได้ ผมไม่กินข้าวเย็น ตอนเช้าตื่นสายไม่ต้องก็ได้ครับ จะไปกินที่โรงเรียนเอง”
“งั้นยิ่งรับไม่ได้ใหญ่ แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว”
“ไหนดู เท่าไหร่กันเชียว ซื้อคอมใหม่ให้กูเลยมึง โคมไฟด้วย ซีดีมิยาบิกับเพลย์บอยมาลีรีน มอนโรเล่มลิมิเต็ดด้วยอย่าลืม นาฬิกาปลุกอีก” โจ๊ก
โอ้โห เป็นฟ่อน กะจะอยู่กี่ปีกันจ๊ะ
“ไอ้โจ๊ก!”
“โจ๊ก!”
“โอ๊ยเจ๊! เจ็บนะ!” ถูกคนในบ้านประชาทัณฑ์
“วินตรงปากซอยเท่าไหร่ครับ รับส่งประจำน่าจะดี ผมใช้ไม้ค้ำ”
“ไม่ต้อง ใส่มาเลยใบนั้นน่ะ จะให้ไอ้นี่ไปส่งเอง มอเตอร์ไซค์เรามีเต็มอู่จะเสียเงินทำไมอีก จริงไหมเฮีย” เจ๊โหดฟันธง
“ตื่นแต่เช้าด้วยล่ะ” น้าจอมลุก
“หา! ไม่เอาดิ!” โจ๊กพลิกล็อกถูกหวยไม่ทันตั้งตัว แอบเห็นเสาไฟฟ้ายักคิ้วกวนตีนยิกๆ
“ตามนั้น ไปยกกับข้าวมา รีบกิน รีบขึ้นไปอ่านหนังสือสอบ แล้วก็รีบนอนซะ เป็นเด็กเป็นเล็กหัดเถียงผู้ใหญ่เดี๋ยวเถอะ”
โลกนี้เลดี้เป็นใหญ่...จบเห่ชัดๆ
************* ซี ยู ทูมอร์โร่