กลกามเทพ ตอน จบ
“น้องตัง หม่ำๆนะ ปะป๋า ป้อน”
“ปะปา หม่ำๆ เก่งๆ” ผมมองสองคนที่พลัดกันป้อน ข้าวต้มก่อนจะลอบยิ้มตั้งแต่น้องตังป่วยดูเหมือนว่า ไอ้ติณมันจะใส่ใจเจ้าหมูของผมขึ้นเยอะ จะไปไหนทำอะไรมันจะนึกถึงลูกก่อนเสมอ ดูไปดูมามันก็มีความเป็นพ่อกับเขาเหมือนกันแหะ แต่มันมีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่ง ตั้งแต่วันที่น้องตังไม่สบาย ดูเหมือนการถูกเนื้อต้องตัวระหว่างผมกับมันจะมีมากขึ้น ไม่ใช่ผมนะที่เริ่ม ก่อนส่วนมากจะเป็นไอ้ปะป๋า ของน้องตังมากกว่า เอะอะก็มาจับมือบ้าง โอบไหล่บ้าง หนักหน่อยก็มีโอบเอว ซึ่งผมไม่เข้าใจว่า ทำไปเพื่ออะไร แต่ที่แปลกกว่าทำไมผมไม่ ต่อยหรือถีบมันกระเด็นเหมือนเมื่อก่อน ทำไมยังปล่อยให้มันทำตามใจอยู่ได้ทั้งที่ไม่จำเป็นสักนิด แต่กลับรู้สึกดี คนอย่างผมไม่เคยรู้สึกดีที่ใครสักคนมาจับมือนานแล้ว แต่วันที่ผมกำลังต้องการกำลังใจ กลับกลายเป็นว่ามือที่ให้กำลังใจเป็นของ อดีตคู่อริ ทั้งๆที่ควรสะบัดออกแต่กลับไม่ทำ เพราะความอบอุ่นและความห่วงใยทำให้หัวใจสงบลงอย่างประหลาด ทั้งๆที่กังวลสารพัดแต่แค่คำพูดเดียวกลับทำให้หัวใจสงบลงได้ มันแปลกนะว่าไหม…. แล้วมันแปลว่า อะไรกันล่ะ
………………………………………………………………………………..
“มึง เป็นอะไรไอ้พี่ป๋อง” คนตรงข้ามถาม พลางจ้องหน้าผมนิ่ง วันนี้ผมก็แวะมาที่ร้านไอ้ไม้อีกจนได้ ไม่รู้ว่ามาทำไม ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหยุดแท้ๆ แต่ไม่อยากอยู่บ้านเลย ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับใครบางคน เลยต้องหอบลูกมาหาน้าไม้สุดที่รัก
“เป็นอะไร กูปกติมาก”
“ไปบอกเด็กสามขวบมันยังไม่เชื่อเลย คนปกติที่ไหนจะมานั่งถอนหายใจเล่นแบบนี้กัน มีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็บอกกูมาสิจะ
ไช่วยแก้”
“ช่วยแก้หรือช่วยให้ยุ่ง เรื่องตัวเองน่ะเอาให้รอดก่อนไหม ดูสาวโต๊ะนั้นสิ ไม่รู้ว่ากินกาแฟยังไงตามองคนชงอยู่ได้” ผมกวนประสาท
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ทะเลาะกับเฮียมาเหรอ”
“กูกับมันก็ทะเลาะกันเป็นปกติตั้งแต่สมัยเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เหอะ ตอนนี้กับตอนเรียนมันเหมือนกันที่ไหน ตอนนั้นเป็นคู่อริ แต่ตอนนี้เป็น…” ไอ้ตัวแสบว่า พลางส่งยิ้มล้อเลียน
“ไม้มึงก็รู้ว่ากู..”
“หัวใจคนเรามันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นะไอ้พี่ป๋อง เมื่อก่อนมึงอาจจะชอบกูแต่ไม่ได้หมายความว่าวันนี้มึงจะเลิกชอบไม่ได้”
“เหอะ อย่ามาทำเป็นสอนน่า กูเป็นพี่นะเว้ย”
“เรื่องแบบนี้ ใช่ว่าคนเกิดก่อนจะรู้นิ ไอ้พี่ป๋อง ลองถามใจตัวเองดีๆ ว่าตอนนี้มันแอบหวั่นไหวให้ใครหรือเปล่า”
“เหอะ ผมแค่นเสียงก่อนจะหันไปสนใจ ลูกหมูน้อยที่กำลังกินคุกกี้ของโปรดอยู่
พอตกค่ำผมก็มีตัวแถมตามมาบ้านจนได้ แฟนไอ้ไม้นี่ก็ใจกว้างนะ รู้ทั้งรู้ว่าผมชอบไอ้ไม้ยังจะอนุญาตให้แฟนมาบ้านผมอีก แต่พอผมทำทีเป็นเตือนความจำ กลับได้ตำตอบที่แทบอยากจะยกเครื่องชงกาแฟทุ่มหัว
พี่ดูแล้ว ป๋องน่ะ รุกใครไม่ได้อีกแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ
และนั่นทำให้ไอ้ไม้มานั่ง ทำหน้าตากวนตีน (แต่น่ารัก) ในบ้านผม
“มองหาใคร”
“เฮียไปไหนตั้งแต่มายังไม่เห็นเลย” ไอ้ไม้ถาม นั่นสิ ปกติวันหยุดมันไม่ค่อยออกไหน ถ้าไม่มีงานด่วน แล้วนี่หายไปไหนกันวะ แล้วผมจะคิดให้เสียเวลาทำไมเนี่ย
“จะไปรู้มันเหรอ”
“แหน่ะ งอนเหรอวะ ที่เฮียไปไหนไม่บอก ฮ่าๆๆ”
“ไอ้เวรกูใคร กูพี่ป๋อง ช่างกล s นะครับ กูต้องแคร์มันด้วยไง”
“อ้อเหรอ” มันลากเสียงยาวได้น่าหมั่นไส้ จนแทบอยากจะถีบให้ตกเก้าอี้
แต่จนแล้วจนรอดก็ไร้เงาร่าแกร่งหนาของอดีตหัวหน้าเทคนิค m ผมมองนาฬิกาที่บ่วงเวลาล่วงเลยเข้าวันใหม่อย่างหงุดหงิด หงุดหงิดที่ป่านนี้ใครบางคนยังไม่มา แต่หงุดหงิดกว่าคือผมจะรอมันทำไม
“มึงยังไม่นอนอีกเหรอ” เสียงทุ้มที่ได้ยินมาตลอดสามเดือนเอ่ยทักผมพยักหน้าส่งๆ ก่อนจะเสมองทีวีที่กำลังฉาย ซีรี่ย์กำลังภายในที่ชอบดูไปด้วย
“อย่าบอกนะว่ามึงรอกู”
“มึงละเมอเหรอ ก็เห็นอยู่ว่ากูรอดูหนัง จะไปก็ไปไป๊ กูรำคาญดูหนังไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย”
“อ้อเหรอ” อีกคนว่าพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมได้กลิ่น เหล้าฉุกกึก ไอ้สายตาเวรนี่ยังเหลือบไปเห็นรอยจูบที่คอมันอีก ไม่รู้ว่าทำไม ถึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาซะเฉยๆ
“ออกไป อย่ามาใกล้กู!! มึงจะไปสำส่อนที่ไหนก็ไป” ผมตวาดลั่น ก่อนจะพลักอีกคนให้พ้นทางแต่เหมือนมันจะไม่สะเทือนสักนิด บ้าน่า ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมต่อยมันกระเด็นได้แท้ๆ แต่ทำไมออกแรงพลักเต็มที่มันไม่ขยับเลยวะ
“หึ หึงหรือไง” มันถามพลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์
“หลงตัวเอง กูจะหึงมึงทำไม หึงมันใช้กับคนรักกันเว้ย แต่กูเกลียดมึง!!”
“อย่า พูด ว่า เกลียด กู” มันว่าเสียงเย็น มือที่เคยวางอยู่บนโซฟาย้ายมาบีบต้นแขนผมแน่น
“กูจะพูด กูเกลียด มะ อื้อ”
มันเกิดอะไรขึ้น ไอ้ติณจูบผม… จูบเนี่ยนะ!!
ผมตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ รสจูบที่เต็มไปด้วยโทสะจนผมได้กลิ่นคาวเลือด มือแกร่งบีบกรามจนผมเผลอร้องคราง เป็นโอกาสให้คนด้านบนแทรกลิ้นเข้ามาทันที
ไม่จริง! ทำไมมันเป็นแบบนี้ ผมตาโตอีกครั้งเมื่อรสจูบที่เต็มไปด้วยความโกรธ นั้นกลับอ่อนโยนลงอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะไม่อ่อนโยน แต่มันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึก บางอย่าง เว้าวอน แต่ก็ดื้อรั้น มือหนายังคงประคองท้ายทอยผมไว้แน่น รสจูบนั้นกำลังทำให้ผมมึนงง หัวใจเต็มแรงราวกับจะหลุดออกมา และที่มากกว่านั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองจูบตอบมันไป
………………….ตติยะ………………….
คุณคงไม่รู้หรอกว่าผม ดีใจแค่ไหนที่เห็นว่าอีกคนยังคงรอ น้ำเสียงตวาดกับแววตาขุ่นเคืองไม่ได้ทำให้ผมหงุดหงิด แต่กลับทำให้ดีใจ อย่างน้อยที่สุด มันก็ยังไม่พอใจที่ผมกลับบ้านดึก แต่ คำว่าเกลียดจากปากมันนั่นต่างหากที่ผม ทนไม่ได้ แม้จะเคยทนมาหลายปี แต่ตอนนี้มันกลับทำให้ผม กลัว ผมจูบมัน เพื่อไม่ให้มันพูดอะไรที่ระคายหูไปมากกว่านี้ แม้สติจะไม่เต็มร้อยแต่นี่ไม่ใช่การฝืนใจสักนิด หลายวันที่ผ่านมา ผมเป็นฝ่ายหลบหน้า เพราะเรื่องที่โรงพยาบาลทำให้ความอดทนของผมน้อยลงทุกที ผมชอบไอ้ป๋อง ชอบมากจนอาจะกลายเป็นรัก แต่มัน รัก ใครอีกคน ผมไม่อยากเร่งรัดให้มันลืม แต่ผมก็ไม่อยากทนเห็นมันยิ้มให้คน
อยากให้ร่างกายนี้ อยากให้หัวใจนี้ เป็นของผมคนเดียว
“อื้อ” เสียงครางที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ทำให้ผมห้ามตัวเองไม่อยู่ พลางไล่ปลายลิ้นสำรวจความหวานของโพลงปาก กล้ามเนื้อตึงแน่นแบบผู้ชายทำให้ผมแทบคลั่งตาย จนแทบอยากจะจับมันกดตรงนี้
“ป๋อง ขอได้ไหม”
“อะไร” มันถาม ผมมองคนที่หอบหายใจอยู่ใต้ร่างแล้วแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ แต่ผมก็มีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ฝืนใจใคร
“อย่ามาทำไร้เดียวสา มึงรู้ว่ากูจะทำอะไร”
“ไอ้เชี่ย ฝันไปเถอะ ออกไปได้แล้วกูหนัก” มันว่าพลางพยายามผลักผมออก เหอะ แรงแค่นี้ทำให้ผมสะเทือนได้ก็แปลกแล้ว จะ
คิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่า ท่าทางเมื่อครู่ มันเองก็คิดไม่ต่างกัน
“แน่ใจเหรอ ว่าจะไม่ต่อ กูนี่พร้อมมากเลยนะ” ผมว่าพลางเกลี่ยริมฝีปากที่บวมเจ่อนั้นเล่น มันมองหน้าผมนิ่ง
“อย่ามาล้อเล่น กับกูแบบนี้ กูเองก็มีศักดิ์ศรีของกู ” ผมจ้องมันก่อนจะถอนหายใจ พลางขยับไปนั่งบนโซฟา อีกคนลุกตามแต่ก็ยังมองหน้าผมนิ่ง
“มึงรู้ได้ยังไงว่ากูล้อเล่น” ผมถามพลางมอมันกลับ
“เพราะมึง เกลียดกู” ผมอยากจะหัวเราะ มันจะมีไอ้บ้าที่ไหนจูบเพราะเกลียดบ้างล่ะ ไอ้ป๋องแมร่งดูจำเลยรักมากไปเหรอ
“มึงฟังกูนะ คนอย่างฮีเยติณไม่เคยล้อเล่น กูจริงจังกับการกระทำของตัวเองเสมอ”
“แล้วมึงจูบกูทำไม” ผมถอนหายใจ ไอ้ป๋องมันเป็นคนตรงๆ เห็นทีคงต้องบอกไปตรงๆ
“กูชอบมึง” มันอึ้ง คงจะช็อคไม่น้อยที่ผมบอกว่าชอบ แหงล่ะเมื่อก่อนตีกันเข้าโรงพยาบาลไม่เว้นวัน จู่ๆ คู่อริบอกวว่าชอบเป็นใครก็คงอึ้ง
“มึง..”
“กูกับมึง เหมือนกันอยู่อย่างนึงรู้ไหม เราสองคนตรงไปตรงมากับความรู้สึกเสมอ กูชอบ กูก็พูดว่าชอบ กูจูบก็เพาะกูอยากจูบ
เหตุผลกูก็มีเท่านี้” ผมมองมันที่กำลังกระพริบตาปริบๆ เวลามันเอ๋อๆแบบนี้ น่ารักชะมัด น่ารักจนผมอดใจไม่ไหวจูบมันไปอีกรอบจนได้
“อื้อ” อีกคนประท้วงโดยทุบหลังผมทุบๆ แต่ใครจะสนวะ ผมจูบมันจนพอใจก่อนจะปล่อยอีกคนเป็นอิสระ
“แล้วมึงล่ะ รู้สึกยังไงกับกู” ผมถามออกไป มันจ้องหน้าผมนิ่ง ก่อนจะตอบ
“กูไม่รู้”
“ถือว่าเป็นคำตอบที่น่าพอใจ กูนึกว่ามึงจะตอบว่าเกลียดกูซะอีก แต่เท่าที่ดูวันนี้มึงคงไม่เกลียดกูแล้วสินะ” ผมยิ้ม เอาเถอะ ผมว่าการที่มัน ลังเล แปลว่ามันคิดเรื่องผมอยู่เหมือนกัน และผมจะทำให้มันเลิกสับสนเอง
…………………………………………………………………………..
ผมละอยากจะบ้าตาย ตั้งแต่วันที่มันบอกว่าชอบผมเมื่อหลายวันก่อนดูเหมือนชีวิตผมจะยุ่งยากขึ้นเยอะ จากที่ต้องดูแลแค่น้องตัง ตอนนี้กลับมีไอ้บ้าตัวนึงเดินตามเกาะแข้งเกาะขาผมยิ่งกว่าลูกแมว
“ปล่อยดิ กูอึดอัด” ผมตะโกน แทยจะเอาทัพพีเขวี้ยงหัวมันอยู่แล้วเนี่ย กูจะทำกับข้าว ป่านนี้น้องตังแทะโต๊ะกินแล้วมั้งสายป่านนี้แล้วลูกผมยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย
“กูอยากกอดมึง” มันว่าเสร็จก็กอดผมซะแน่นเลย เออดีจริง ผมถอนหายใจก่อนจะปล่อยให้มันกอดไป ห้ามได้ที่ไหนล่ะ ห้ามแล้วมันจะยิ่งทำมากกว่ากอดนะสิ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เราสองคนเป็นแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อที่การแตะเนื้อต้องตัวกันดูเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อไหร่ ที่ผมรู้สึก “อบอุ่น” ที่อยู่ในอ้อมกอดไอ้ติณ
“เคลิ้มๆ ชอบให้กอดก็บอกมาเถอะน่า กูไม่ว่าหรอก เมียอยากให้ผัวนี่ธรรมดามากๆ”
“ใครเป็นเมียมึง” ผมถามเสียงเข้ม ผมกับมันยังไม่เคยได้เสียเป็นเมียผัวกัน จะมาเรียกแบบนี้ได้ยังไงวะ โอเคแหล่ะ ตอนนี้นอน
ห้องเดียวกัน เตียงเดียวกัน แต่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน เคนะ จบนะ ไม่ถามต่อนะ
“มึงไง หรือต้องให้ป๋ากูมาขอก่อน”
“ไอ้สันขวาน!! บิดามึงสิ” ผมแหวลั่น พลางเอาทัพพีไล่ตีหัวไอ้ติณรอบห้องครัวโดยมีน้องตังปรบมือเชียร์ อยู่ใกล้ๆ
“โอ๊ะ! นี่ป๋ามาขัดจังหวะ อะไรหรือเปล่านะ” เสียงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเอ่ยขึ้นก่อนที่ชายวัยกลางคนที่หน้าตาคล้ายไอ้คนที่ผมไล่ฟาดเมื่อครู่จะเดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ
“ป๋า” ไอ้ติณครางแผ่วดูเหมือนมันจะตกใจไม่น้อยที่เห็นเขา
“นี่เหรอหลานชายป๋า น่ารักจริง” เขาไม่พูดเปล่าแต่ทำท่าเหมือนจะอุ้มน้องตัง แต่ช้ากว่าคนตัวสุงข้างๆผมที่ชิงอุ้มน้องตังขึ้นมาก่อน
“ป๋าต้องการอะไร” มันถามเสียงเข้ม ผมว่า ครอบครัวนี้คงไม่รงรอยกันเท่าไหร่
“บอกไปแล้ว ว่าป๋าต้องการเด็กคนนี้”
“ไม่มีทาง คุณจะเอาลูกผมไปไหน!!” ผมตวาดลั่นต่อให้เป็นใคร มันก็เอาน้องตังไปจากผมไม่ได้
“หึ เด็กเมื่อวานซืนอย่างแกจะทำอะไรฉันได้เจ้าหนู แค่เจ้าติณหนุนหนังอย่าคิดว่าคนอย่างฉันจะกลัว” เขาบอกเสียงเย็น
“ผมไม่ยอมให้ป้าอาลูกผมไปไหนทั้งนั้น ลูกต้องอยู่กับผม” ไอ้ติณบอก
“ไหนบอกว่า ไม่ต้องการเด็กไง แกบอกป๋าเองไม่ใช่เหรอว่า จะทำอะไรก็ได้ แกไม่อยากได้มรดกแล้วหรือไง หรือติดใจหนุ่มน้อยนี่ ถ้าแกชอบเดี๋ยวป๋าหาให้อีกสักสิบคนเลยเป็นไง” ป๋าไอ้ติณยังถามเสียงเย็น ผมมองร่างสูงกว่าด้วยความไม่เข้าใจ
“นั่นมันเมื่อก่อนแต่ตอนนี้ ผมไม่คิดจะปล่อยน้องตังไปอีกแล้ว ไม่ว่าใครก็เอาลูกกับเมียผมไปไม่ได้ทั้งนั้น!!!” ไอ้ติณตวาดเสียงดัง จนผมกับน้องตังสะดุ้ง ผมไม่เคยเห็นท่าทางแบบนั้นของมันมานานแล้ว ท่าทางวางอำนาจ หยิ่งยโส ที่ผมเคยเกลียดนักเกลียดหนาแต่ทำไมวันนี้ มันกลับทำให้หัวใจผมเต็มแรง แรงบีบเบาๆที่มือช่วยสร้างความมั่นใจให้หัวใจผมรู้สึกอบอุ่น มันแปลก แปลกอีกแล้วที่ผมเลือกจะเชื่อใจมัน แปลกที่ผมรุ้สึกดีที่มีมันอยู่ข้างๆ ทุกอย่างมันจะเรียกว่า รัก ได้หรือเปล่านะ
“น่าประทับใจจริงๆ” ป๋าไอ้ติณบอกพลางปรบมือแปะๆ ผมไม่ใช่การชื่นชม แต่เป็นการเยาะเย้ย
“ดี ถ้าอย่างนั้น ลองดูสักตั้งไหม ถ้าแกไม่มีสมบัติของฉัน ไม่ได้เป็นลูกฉัน แกจะไปรอดสักกี่น้ำ” เขาบอกอย่างท้าทายก่อนจะเดินกลับออกไป
“ไม่เป็นไรแล้วนะ” เสียงทุ้มบอก ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากอย่างอ่อนโยน
“แต่มึงแน่ใจเหรอที่ มันเป็นแบบนี้”
“ทำไม เป็นห่วงเหรอจ๊ะ สบายใจได้น่ากูใคร กูเฮียติณเทคนิค m นะเว้ย ถ้าหาเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียแค่นี้ไม่ได้ ก็อายหมาแล้ว”
“ใครเมียมึง!!”
“ต้องให้ย้ำกี่รอบ ว่ามึงไงเมียกู”
มันบอกก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมได้แต่ก้มหน้างุด ไอ้หน้าบ้านี่จะร้อนทำไมวะ เสียฟร์อมหมดเลย
…………………………………………………………….
“ยังไม่นอนอีกเหรอ” เสียงทุ้มทักขึ้นก่อนที่ร่างแกร่งหนาของไอ้ติณจะเข้ามานั่งข้างๆ ตั้งแต่วันนั้นมันก็เป็นแบบนี้ตลอด ออกจากบ้าตอนค่ำกลับมาตอนเกือบสว่าง ทำให้เรามีเวลาคุยกันน้อยมาก ผมไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร มันกำลังลำบากอยู่หรือเปล่า คนที่เคยมีทุกอย่างอย่างมันจะทนแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ทำไมพักนี้ผมกลายเป็นคนคิดมากจังเลยนะ
“นอนไม่หลับ”
“ทำไมถึงนอนไม่หลับล่ะ พรุ่งนี้ต้องไปร้านแต่เช้านะ”
“ไอ้ติณมึงไม่ได้ไปทำอะไรแปลกๆหรอกใช่ไหม” ผมถามออกไปในที่สุด
“อะไรแปลกๆนี่หมายถึงอะไร”
“ก็อย่างเช่นว่า ค้ายา ขายตัว เด็กโต๊ะบอล เดินโพยหวย”
“หยุดๆ ความคิดมึงแต่ละอย่างนี่นะ พากูเข้าคุกทั้งนั้น ทำไมมึงถึงคิดว่ากู ทำแบบนั้นล่ะ หืม”
“มึงกลับบ้านดึก บางวันก็เกือบเช้า แล้วงานกลางคืนมันก็มีไม่กี่อย่างนิ”
“มึงนี่ น่ารักชะมัดเลย” มันว่าก่อนจะบดเบียดริมฝีปากลงอย่างหิวกระหาย มือหนาลูบไล้ร่างกายผมอย่างคุ้นเคย แหงล่ะ ก็ผมเสร็จมันไปแล้วนิ วันไหนเหรอ ก็วันที่พ่อมันมาไง จบนะ ไม่พูดต่อนะ ห้ามถาม
“อื้อ พอเลย ไหนบอกให้ไปนอน”
ครับๆ วันนี้เหนื่อย ไม่ทำอะไรหรอก” มันว่า
“ทำไมเหนื่อย ไปทำอะไรมาถึงเหนื่อย” ถามไปแล้วก็อยากจะตบปากตัวเอง นี่ผมทำตัวเหมือนผู้หญิงขี้หึงเลย
“ถ้าไม่บอกนี่จะไม่ยอมเลิกคิดมาสินะ เอาเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปดูที่ทำงานกูนะ วันนี้นอนดีกว่า”
วันนี้ผมตื่นแต่เช้ามาอาบน้ำแต่งตัวให้ลูกหมูที่ดูตื่นเต้นใหญ่ที่ปะป๋า จะพาไปข้างนอก
“พร้อมยัง”
“พ้อมๆ เที่ยวๆ” เจ้าลูกหมูตอบก่อนจะวิ่งไปที่รถ แทบจะทันที จนผมสองคนได้แต่ยืนหัวเราะ
“ทีนี้เหรอ ที่ที่มึงทำงาน” ผมถามพลางมองร้านอาหารกึ่งผับตรงหน้า เหมือนจะคลับคล้ายคลับคลาว่าเปิดมาได้หลายปีแล้ว ก่อน
มีน้องตังผมก็เคยมานั่งบ่อยๆ
“แล้วมึงทำตำแหน่งอะไร” มันไม่ตอบแต่กลับเดินนำผมเข้าไปในร้านแทน
“อรุณสวัสดิ์ครับนาย!!” ชายชุดดำนับสิบโค้งให้ไอ้ติณอย่างนอบน้อม ก่อนจะหันมาโค้งให้ผมบ้างแต่ทำทักทายนี่ แทบอยากจะเอาเก้าอี้ทุ่มหัว
“อรุณสวัสดิ์ครับ นายหญิง นายน้อย” ใครเป็นนายหญิงของพวกเมิงงงงงงงงงง
“ทีนี้รู้แล้วนะ ว่ากูไม่ได้ทำอย่างที่มึงว่า ร้านนี้เป็นของกูเอง กูหุ้นกับพี่ชายเปิดหลายปีแล้ว ถึงไม่มีมรดกป๋า กูก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร” มันบอกหลังจากที่พาผมมาถึงห้องทำงาน ส่วนเจ้าลูกหมู วิ่งซนอยู่ข้างล่างกับพี่ๆการ์ด ผมละกลัวว่าน้องตังจะทำร้านพัง
“สบายใจแล้วใช่ไหม”
“อืม” ผมตอบ โล่งใจขึ้นเยอะที่เห็นไอ้ติณไม่ได้ลำบากอะไร
ปัง!!
“กิจการดูรุ่งเรืองดีนิ ลูกชาย” แล้วพ่อของไอ้ติณก็เข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เหมือนเดิมเป๊ะ ก่อนที่ผมจะเหลือบมองร่างเล็กที่เดินจับมือเขาเข้ามา
“น้องตังมานี่ลูก” ผมเรียกแต่เด็กน้อยส่ายหน้า
“จะอยู่กับจุนปู่ จุนปู่มีหนมเยอะ”
“น้องตังมาหาปะป๋า เร็วๆครับ เดี๋ยวปะป๋าพาไปกินไอติม” ไอ้ติณพูดบ้างผมร้อนใจจะแย่ที่เห็นลูกอยู่กับเขา
“เมียแกนี่ขวัญอ่อนนะ เจ้าติณ แค่ป๋าเล่นกับหลานก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้”
“เอาลูกผมคืนมานะ คุณจะเอาน้องตังไปไหนไม่ได้!!” ผมตวาดลั่นจนน้องตังสะดุ้ง ร่างเล็กเบะปากเหมือนจะร้องไห้ กำลังจะวิ่งมาหาผม แต่ก็ถูกใครอีกคนช้อนตัวไปอุ้มแทน
“พ่อ” ผมครางแผ่วเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
“เฮ้อ ทำไมนิสัยยังใจร้อนเป็นไปเหมือนเดิมเลยหะ ไอ้ป๋อง พ่อบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าใช้อารมณ์ ขนาดเป็นแม่ ไม่ใช่ๆ ขนาดเป็นพ่อคนแล้วแท้ๆ” พ่อผมส่ายหย้าก่อนจะปล่อยน้องตังลง เด็กน้อยวิ่งเข้ามาหาผมทันที ก่อนที่ผมจะกอดแกไว้แน่น
“ป๋านี่มันอะไร” ไอ้ติณถามพ่อมัน
“สงสัย เราจะเล่นมากไปว่ะ ไอ้เล้ง ลูกมึงถึงมองเราตาขวางขนาดนั้น” พ่อผมหันไปพูดกับพ่อไอ้ติณ นี่ผมงงไปหมดแล้ว นะ
“แล้วผ่านไหมล่ะ” พ่อไอ้ติณพูดบ้าง
“ทีแรกก็จะไม่ให้ผ่านหรอกแต่ ว่า ก็โอเค ถ้าไม่นับเรื่องที่พ่อมันเป็นคนบ้าไอ้เด็กนี่ก็น่าสนใจดี กูยอมให้มันเป็นลูกเขยก็ได้”
“เหอะ กูก็เหมือนกัน ถึงจะไม่ใช่ผู้หญิงแต่ก็ดีแล้ว ชีวิตไอ้ติณต้องมีเมียที่เข้มแข็ง ถึงจะใจร้อนไปหน่อยก็เถอะ กูให้ผ่านก็ได้”
“พ่อนี่มันเรื่องอะไรผมงงไปหมดแล้ว” พ่อผมไม่ได้ตอบแค่หัวเราะกับพ่อไอ้ติณอย่างบ้าคลั่ง? ผมมารู้ทีหลังว่าทุกอย่างมันเป็นแผนของพ่อผมกับพ่อไอ้ติณ มันเกิดจากสัญญาที่จะให้ลูกแต่งงานกันแต่ดันเกิดมาเป็นผู้ชายทั้งคู่ เลยคิดจะยกเลิก แต่พอมารู้อีกทีว่าไอ้ติณอยู่กับผมไอ้แผนทดสอบชีวิตคู่มันเลยเกิดขึ้น ตอนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไอ้ติณกลายเป็นคนโปรดของพ่อผมไปแล้ว เพราะผมไม่ยอมรบช่วงกิจการ พ่อกับแม่เลยไม่มีเวลาไปฮันนีมูน? พอมีลูกขายมาทำต่อเลยทิ้งผมไปเที่ยวรอบโลกกันแล้ว ส่วนพ่อไอ้ติณรายนั้นติดน้องตังยิ่งกว่าอะไร หลานชายคนเดียวของตระกูลเลยนะครับเพราะเฮียคินก็มีเมียเป็น ผู้ชายไง น้องตังเลยกลายเป็นทายาทคนเดียวของทั้ง ตระกูลเหลียงและ มังกรธวัช นี่ลูกผมเป็นเศรษฐีตั้งแต่สามขวบเลยนะบ่องตรง
“ทำไมยังไม่นอน หืม” ร่างสูงที่เพิ่งกลับจากทำงานถามขึ้น ใจจริงก็ห่วงมันเหมือนกันนะ เพราะต้องบริหารงานสองตระกูลแต่ดีหน่อยที่ทาง เหลียงมีเฮียคิณ กับพี่เปรมคอยดูอยู่เลยไม่ค่อยลำบากแต่ งานทางผมนี่สิมันต้องทำคนเดียวทั้งงานบริษัททั้ง ผับ คาสิโน และอื่นๆ อีกเพียบ จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน
“เหนื่อยไหม”
“ไม่เหนื่อยหรอก แค่กลับมาบ้านเห็นมึงกับน้องตังกูก็หายเหนื่อยแล้ว แค่ได้อยู่กับมึง หนักกว่านี้ก็ทนไหว”
“กูรักมึงนะ” ไอ้ติณดูจะอึ้งมากที่ผมพูดคำนั้นออกมาเพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ปีกว่าๆ ผมไม่เคยพูดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ต่าง
จากมันที่บอกผมแทบทุกวัน
“เชี่ย กูแมร่งต้องฝันอยู่แน่ๆเลย โอ้ย!! ” มันร้องลั่นทันทีที่ผมหยิกแขน
“ทีนี่ยังฝันอยู่ไหม”
“ไม่ฝันแล้วครับ เมียเฮียนี่ดุเนาะ เอะอะตี เอะอะต่อย นี่ผัวนะไม่ใช่กระสอบทราย”
“แต่………….”
“กูก็รักมึงที่สุดในโลกเลยนะครับ เมีย”
…………………จบเหอะเนาะ………………………………
จบแล้วววววววววววววววววววววววววววววววว จบเหอะ เนาะ บ้าบอ มาก ฮ่าๆๆ
โปรเจ็คหน้ายังไม่มีกำหนดที่แน่นอน นะคะ สำหรับ กลรักมาเฟีย
เพราะ พิต ยังไม่มีเวลาปั่นเลย แต่ยังไงก็ฝากติดตามด้วยน๊า