ซีรีย์ เล่ห์/ร้อย/รัก By Pita : รักวุ่นๆกรุ่นกาแฟ :กลกามเทพ จบ P13 24/2/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีย์ เล่ห์/ร้อย/รัก By Pita : รักวุ่นๆกรุ่นกาแฟ :กลกามเทพ จบ P13 24/2/58  (อ่าน 99143 ครั้ง)

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อย่าบอกนะว่าจะมาแนว พ่อ-ลูก
พี่ป๋องโดนเด็กกิน //มโน //โดนตบ

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
พี่ป๋อง เท่อ่ะต่อไปนี้ก็เลี้ยง หนูตัง ให้เป็นเด็กที่น่ารักนะ

ส่วน อิเพลิน เอามันไปเก็บเลยค่ะ

ออฟไลน์ PlangPai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พี่ป๋อง พระเอกตลอดกาลลล

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
กลกามเทพ 2


3 ปีผ่านไป

“พี่ผมกลับก่อนนะครับ” เสียงของลูกน้องตะโกนบอก ก่อนที่ผมจะพยักหน้ารับส่งๆ เพราะตอนนี้กำลังยุ่งกับเจ้าลูกหมูที่ไม่ยอมอยู่นิ่งๆซะที ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว และเปิดร้านขายอะไหล่รถยนต์เป็นของตัวเอง ถึงกำไรมันจะไม่ได้มากมายอะไรแต่ก็เป็นสิ่งที่ผมรัก แม้ว่าเรื่องนี้จะทำให้ที่บ้านผมโกรธมาก

 น้องตังยิ่งโตยิ่งน่ารัก ตอนนี้จะสองขวบแล้ว เรื่องความซนไม่ต้องพูดถึงเด็กในร้านของผมทุกคนแทบจะวิ่งหนีเวลาที่เห็นน้องตัง  ชีวิตผมตั้งแต่มีลูกมันก็มีความหมายขึ้นมาก ผมแทบจะลืมไปแล้วว่าการตกหลุมรักใครมันเป็นยังไง เพราะทั้งหัวใจของผมยกให้เจ้าลูกหมูของผมไปแล้ว

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมกับเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ต่างประเทศ ที่ผมคุ้นเคยดี

“ว่าไง” ผมกดรับสายก่อนจะอุ้มเจ้าตัวยุ่งขึ้นแนบอก

(ไอ้พี่ป๋อง น้องตังล่ะขอคุยด้วยหน่อย) คนปลายสายบอก

“เหอะ ไอ้เราก็นึกว่าคิดถึง ที่ไหนได้อยากจะคุยกับลูกหมู”

(อะไรของพี่วะ มางอนอะไรผมจะคุยกับหลานผมเร็วๆเลย วีดีโอคอลด้วยนะ) ปลายสายสั่งไม่ได้เจอกันตั้งสามปี ยังเอาแต่ใจไม่เปลี่ยนเลยคุณช่างทำขนมมือหนึ่ง

“เออ” ผมรับคำก่อนจะกดวีดีโอคอลไปหาเขาทันที เจ้าลูกหมูดูจะดีใจที่ได้เห็นหน้า น้าไม้ ตบมือใหญ่ เห็นแบบนี้สองคนนี้สนิทกันนะครับ เพราะผมกับไม้ติดต่อกันอยู่เรื่อยๆแต่ในฐานะพี่น้องเท่านั้น ถึงผมจะยังมีความรู้สึกดีๆให้เขาอยู่ ก็นะผมรักเขามากจะให้ตัดใจเลยมันคงยาก แต่ตอนนี้มันก็ดีขึ้นมากแล้ว

(จ๊ะเอ๋ น้องตัง คิดถึงน้าไม้ไหมครับ นี่อีกไม่กี่วันน้าจะกลับเมืองไทยแล้วนะ จะกลับไปฟัดหมูน้อยให้จมเขี้ยวเลย)

“คิดถุง น้าม้าย” ลูกผมก็ช่างอ้อน ถึงจะพูดไม่ชัด แต่น้องตังก็เป็นเด็กฉลาด จนใครต่อใครหลงรักได้ไม่ยาก

(“น่ารักอ่ะ ไอ้พี่ป๋องกลับไทยแล้ว ขอไปเลี้ยงได้ป่ะ”)

“ได้สิ แต่มึงต้องเป็นแม่นะ กูเป็นพ่อ ตกลงไหม” ผมว่าทีเล่นทีจริง

(พูดอย่างนี้มาตั้งหลายปีแล้วไม่เบื่อหรือไง)

“ไม่เบื่อหรอก ถ้าเป็นมึง พี่ป๋องไม่เคยเบื่อ”

(ไอ้พี่ป๋อง) อีกฝ่ายเรียกเสียงแผ่ว ผมอมยิ้มก่อนจะส่ายหน้า

“อย่าคิดมาก พี่ป๋องแค่เป็นคนที่รักใครนานไปหน่อยเท่านั้น อีกไม่นานก็หายแล้ว พี่ป๋องแมนพอที่จะยอมรับการตัดสินใจของมึง”

(ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ)

“ไม้ พี่ป๋องยังยืนยันว่า รักมึงนะ ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนไปเป็นความรักแบบไหน แต่พี่ป๋องก็หวังดีกับมึงเสมอ กลับมาเร็วๆล่ะ จะพาลูกหมูไปหา”

(อื้อ มึงก็ดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วกลับไปจะซื้อขนมไปฝาก น้องตัง น้าไม้ไปก่อนนะ รักน้องตังนะครับ)

“ยัก น้าม้าย”  ลูกหมูบอกก่อนที่อีกคนที่อยู่อีกซีกโลกจะวางสายไป  ผมยกยิ้มก่อนจะกอดเจ้าหมูน้อยของผมแน่น



“ได้เวลานอนกลางวันแล้วนะน้องตัง ไปนอนกลางวันกันดีกว่านะครับ” ผมบอกก่อนจะพาเจ้าตัวแสบไปนอนกลางวันเพราะถ้าเลยเวลาเจ้าตัวจะงอแง คืนนี้ผมอาจะไม่ได้นอนทั้งคืน




3 เดือนต่อมา

ผมยืนรอใครบางคนในสนามบินอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อสิงวันก่อนคุณช่างทำขนมเขาโทรมาบอกว่าจะกลับมาเมืองไทยแล้ว ให้ผมมารับด้วยพอถามว่าทำไมไม่ให้แฟนมารับ ไม้กลับตอบว่าเดี๋ยวจะไปเซอร์ไพส์ที่ร้านเอง เพราะอยากเห็นคนแก่ตกใจเล่น เวรกรรมเลยตกที่ผมต้องหอบหิ้วน้องตังมารับคุณนักเรียนนอก  แต่ดูท่าวันนี้ที่สนามบินจะคนเยอะเป็นพิเศษ เจ้าลูกหมูของผมดูจะสนอกสนใจทุกอย่างที่ผ่านตาจนผมแทบจะเอาไม่อยู่  จะอุ้มนานๆก็ไม่ไหว ตัวไม่ใช่เล็กๆ เลยต้องให้ยืนแล้วผมจับมือไว้แทน แต่ระหว่างที่ผมเผลอคิดอะไรเพลินๆ เจ้าหมูตัวแสบก็สะบัดหลุดแล้ววิ่งออกไปจนได้

“น้องตัง!!” ผมตะโกนเสียงดังจนคนแถวนั้นหันมามองแต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ตาของผมมองหาร่างเล็กของลูกชายมากกว่า ตัวกลมขนาดนั้นแต่ลูกหมูวิ่งเร็วชะมัด แล้วเจ้าหมูน้อยจอมซนเล่นจนได้เรื่องจู่ๆ กะวิ่งไปชนกับรถขนกระเป๋าของใครก็ไม่รู้ จนกระเป๋าร่วงลงมา วินาทีที่กระเป๋าใบยักษ์กำลังจะหล่นทับลูกผมร้องเสียงหลง ความเป็นห่วงถาโถมจนผมลืมทุกอย่างแต่ระยะที่ผมอยู่ตอนนี้ไกลเกินไป ไม่ทันแน่… ลูกผมตัวนิดเดียวถ้าโดนกระเป๋าหนักใบใหญ่นั้นทับจะเป็นยังไง ผมกลัว แต่ก่อนที่กระเป๋าจะร่วงลงมาโดน ร่างเล็กๆของน้องตังก็ถูกผู้ชายคนหนึ่งคว้าไปกอดแน่น

“แง้ๆๆ ป้อ ฮื้ออ” เจ้าตัวเล็กร้องไห้จ้าเพราะความตกใจ ทั้งเรื่องกระเป๋าทั้งคนแปลกหน้า

“น้องตัง พ่ออยู่นี่ลูกไม่ร้องนะ ครับคนเก่ง” ผมอุ้มแกขึ้นแนบอกพลางปลอบอยู่นานกว่าแกจะยอมสงบ ดูเหมือนผู้ชายคนนั้นจะ
ห่วงน้องตังอยู่เหมือนกันเพราะเขาก็ยังไม่ยอมไปไหน

“เอ่อ ขอบคุณมากนะครับ ที่ช่วยลูกผม”

“ไม่เป็นไรครับ…..เฮ้ย!!!” เขาคนนั้นพูดยังไม่ทันจบประโยค ก็ร้องขึ้นหลังจากที่เห็นหน้าผม ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าหลังจากที่เราเห็นหน้ากัน

“ไอ้เชี่ยติณ / ไอ้สัดป๋อง” ไอ้บ้าเอ้ย ทำไมโลกมันถึงได้กลมจนหน้าเกลียดอย่างนี้นะ เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้คือ ไอ้ติณ อดีตหัวหน้าของเทนนิค m คู่อริตลอดกาลของโรงเรียนผม วันนี้คงต้องอาบน้ำให้น้องตังอย่างน้อยสองรอบ เพราะโดนพวกเทคนิค m กอด

“เฮ้ย กรุณาสุภาพด้วยกูพี่มึงนะไอ้ป๋อง”

“ไม่จำเป็น เพราะกูไม่เคยนับ แค่เกิดก่อนไม่กี่ปีอย่ามาทำกร่าง”

“เชี่ยเอ้ย ซวยจริงกู กลับไทยวันแรกก็มาเจอมึงเนี่ย” มันบ่น ผมควรจะดีใจหรือไงที่เจอมัน



“เฮ้ย ไอ้พี่ป๋องมึงทะเลาะกับใครเนี่ย” แล้วคนที่ผมไม่ได้เจอนานสามปีก็ผ่าวงล้อมของนานาชาติมุงเข้ามา

“เฮีย!!!” ไอ้ไม้ตะโกนอย่างดีใจแทบจะถลาไปกอดร่างหนาที่ยืนอยู่ข้างๆผม

“เฮียกลับมาทำไมไม่บอก แล้วนี่เฮียเปรมล่ะ”

“ไอ้เปรม อยู่ดูงานทางโน้น อีกสักพักจะตามมา มึงนั่นแหล่ะ ไปเรียนเมืองนอกมาทำไม หน้าตายังบ้านนอกเหมือนเดิมเลยวะ”
เออ พวกเอ็งสงคนคงลืมพี่ป๋องที่ยืนหล่ออยู่ตรงนี้แล้วสินะ กรุณาเห็นกูด้วยครับแหม่

“ นะม้าย อุ้มๆ” แล้วลูกหมูของผมมันก็เรียกร้องความสนใจให้พ่อมันจนได้ ดีมากลูกพ่อ ช่างรู้ใจพ่อจริงๆ

“น้องตัง ตัวจริงน่ารักกว่าในกล้องอีกไหนๆ มาให้น้าอุ้มหน่อยสิครับ” ไอ้ไม้บอกก่อนจะแย่งน้องตังไปอุ้มทันที

“ นี่พี่ป๋องช่างกล s มีลูกแล้วเหรอครับเนี่ย ไม่น่าเชื่อใครเป็น ผู้หญิงโชคร้ายคนนั้นกัน”  ไอ้คู่อริ มันบอกพลางทำหน้าประหลาดใจได้น่ากระโดดถีบมาก

“เรื่องของกู”

“พอเถอะเฮีย มาเหนื่อยๆยังจะทะเลาะกันอีก แก่ๆแล้วเลิกเหอะ ไอ้เรื่องทะเลาะกันเนี่ย”

“กูก็ไม่อยากทะเลาะหรอกถ้าพี่มึงไม่ปากหมา” ผมว่า

“อ้าว แล้วปากมึงน่ะดีนักนิ แน่จริงอย่างเก่งแต่ปาก ตัวๆไหมสัด”

“เฮีย!! แมร่งอายคนบ้างสิวะ อายุปูนนี้แล้วนะ ไม่ใช่เด็กช่างแบบเมื่อก่อน ไปๆจะกลับบ้านก็กลับไปเลย” ไอ้ไม้เอ่ยปากห้าม ก่อนจะมีมวยกลางสนามบิน

“เหอะ แล้วนี่จะกลับยังไงให้เฮียไปส่งไหม”

“ไม่อ่ะ จะไปร้านก่อน เดี๋ยวให้ไอ้พี่ป๋องมันไปส่ง”

“อืม กลับดีๆล่ะ เฮียไปก่อนนะมีธุระต้องไปทำ”



วันนี้ฝนตก…

ผมมองเม็ดฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายก่อนจะมองผ่านกระจกใสเข้าไปในร้านกาแฟ ที่ผมคุ้นเคยดี  ภาพตรงหน้าจะบอกว่าดีใจก็ดีใจจะบอกว่าเจ็บก็เจ็บ พี่ป๋องก็เป็นแบบนี้ ปากบอกว่าทำใจได้ แต่เอาเข้าจริงเวลามาเห็นเขากอดกันมันก็เจ็บอยู่ดีล่ะวะ
“ป้อ หม่ำๆ” เสียงอ้อแอ้ของเจ้าลูกหมูดังขึ้น ผมได้แต่อมยิ้ม นั่นสิ ใช่ว่าชีวิตผมจะไม่เหลือใครสักหน่อยอย่างน้อยๆ ก็มีเจ้าลูกหมูอยู่ด้วย

“หิวแล้วเหรอครับ งั้นเรากลับบ้านกันนะ กลับไปหม่ำๆกัน”

“หม่ำๆ” เด็กน้อยพูดตามอย่างน่ารัก จนผมอดไม่ได้ที่จะฟัดแก้มยุ้ยของเจ้าตัว



……………ตติยะ…………

ผมก้าวเข้าไปในบ้านที่ตัวเองไม่ได้กลับมานาน พลางส่ายหน้าด้วยความเบื่อหน่าย มันใหญ่โตก็จริงแต่กลับว่างเปล่า บ้านที่ไม่มีความรัก มันก็ไม่ต่างอะไรกับแค่สิ่งปลูกสร้าง เท่านั้น

“กลับมาแล้วไม่คิดจะทัก หรือไง” เสียงทุ้มที่ดูมีอำนาจถามขึ้น ผมพ่นลมหายใจก่อนจะเดินกลับเข้าไปนั่งในห้องรับแขก

“ป๊ามีอะไร”

“เรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ว” ป๊าผมถามในสิ่งที่สงสัย

“ก็กำลังสืบอยู่ครับ”

“แกต้องพาหลานมาให้ฉันให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม”

ป๊าก็ยังคงเป็นป๊า เขาไม่เคยต้องฟังเหตุผล ไม่เคยต้องถามถึงความลำบากผม มีหน้าที่แค่ ทำ ตามที่เขาต้องการเท่านั้น

“ครับ”

“ดี จำไว้ว่า ถ้าแกพาหลานฉันกลับมาไม่ได้ ฉันจะไม่ให้อะไรแกแม้แต่แดงเดียว”

ผมขึ้นมาบนห้องนอนก่อนจะทบทวนความผิดพลาดของตัวเองเมื่อสามปีก่อน ความผิดพลาดที่ผมทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งท้อง ผมยอมรับว่าตัวผมในตอนนั้นไม่ใช่คนดี  และยังรักสนุกเหมือนผู้ชายทั่วไป และทำไมผมจะไม่รู้ว่า เพลินปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่ออะไร ผู้หญิงแบบนั้นไม่มีทางที่จะเป็นแม่ของลูกผมเด็ดขาด เธอดูเหมือนจะโกรธมากที่ผมจะรับผิดชอบแค่ลูก แล้วจู่ๆ เพลินก็หายไป ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไร ดีซะอีกจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ แต่มันก็เป็นเรื่องจนได้เมื่อปีก่อน พ่อผมรู้และเกิดอยากจะได้หลานขึ้นมา ผมรู้ว่าพ่อหวังไว้มาก แต่ผมก็ไม่เคยจะจริงจังกับใคร พ่อถึงกับยื่นคำขาดให้ผมตามหาเพลิน แต่เบาะแสที่ได้มากลับทำให้ผมต้องประหลาดใจ เพลินอยู่ที่อเมริกา ผมให้คนสืบดูอยู่หลายเดือนก็ไม่เห็นจะมีเด็กอยู่กับเธอสักคน ที่แปลกคือ ผมรู้ว่าก่อนคลอดเธออยู่เมืองไทย แต่กลับไม่มีประวัติการรักษาหรือการคลอดในโรงพยาบาลไหนเลย มันเป็นไปไม่ได้  นอกจากว่าจะมีใครสักคนที่มีอิทธิพลมากพอจะปิดมันเอาไว้ แต่ด้วยเหตุผลอะไร นั่นคือสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ


ก๊อกๆๆ

“เข้ามา” ผมบอก ลูกน้องผมทุกคนรู้ดีว่าการที่เคาะห้องผมต้องเป็นเรื่องด่วนเท่านั้น และเรื่องด่วนในตอนนี้มีแค่เรื่องเดียว

“มีอะไรว่ามา”

“นายครับ เราได้เบาะแส ของคุณเพลินเพิ่มอีกเรื่องแต่ไม่ทราบว่า จะมีประโยชน์ไหม”

“มีอะไร”

“เรารู้มาว่า ตอนที่คุณเพลินท้อง เธอติดต่อกับอดีตแฟนของเธอครับ แต่ก็น้อยครั้งมากที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน”

“ตามสืบเรื่อง ผู้ชายคนนั้นด่วนที่สุด ฉันอยากรู้ประวัติ โดยละเอียด ให้เวลา 3 วัน ข้อมูลทั้งหมดของแฟนเก่าเพลินต้องอยู่ในมือฉัน”

“ครับนาย”

นี่คงเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกป๊า  ผมเองก็เป็นคนที่ทนรออะไรนานๆไม่ได้เหมือนกัน



………………………………………………………………………………….


ผมเดินเข้ามาในร้านขายอะไหล่รถยนต์ขนาดกลางที่ดูจะมีระดับพอสมควรแม้ร้านจะไม่ได้ใหญ่มากแต่ดูจากของที่อยู่ในร้านแล้วราคาไม่เบาเหมือนกัน  ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าต้องมาทีนี่ และอีกเรื่องที่ทำให้ผมอดที่จะแปลกใจไม่ได้คือ ไอ้ป๋องเคยเป็นแฟนกับเพลิน  แอบหงุดหงิดอยู่นิดๆที่ใช้ผู้หญิงต่อจากมัน แต่ช่างเถอะ ผมไม่ได้ที่นี่ด้วยเรื่องไร้สาระ พวกนั้น ผมมาเพื่อถามความจริงจากปากมันเท่านั้น ผมไม่ชอบการอ้อมค้อม ไม่ชอบการรอ ในเมื่อผมอยากรู้ ผมต้องได้รู้

ปึก !

โอ้ย!!! เสียงเล็กๆร้องขึ้นก่อนที่มือนั้นจะลูกก้นตัวเองพลางเบะปาก เหมือนจะร้องไห้ เด็กคนนี้ ผมจำได้ว่า เป็นลูกของไอ้ป๋อง ในประวัติที่ได้มา มันไม่เคยแต่งงานงาน ไม่เคยแม้แต่จะคบใครจริงๆจังด้วยซ้ำ  แปลก มันแปลกที่เด็กคนนี้อายุรุ่นราวคราวเดียวกับ
ลูกผม มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า

“เจ็บ” เด็กนั่นว่า น้ำตาเม็ดโตเริ่มคลอ เฮ้ยๆ ผมปลอบเด็กเป็นที่ไหนล่ะ ถ้าให้ขู่น่ะพอไหว

“เอ่อ นี่อย่าร้องดิ เป็นลูกผู้ชายเขาไม่ร้องไห้หรอกรู้ป่ะ” ผมบอกนี่ผมพยายามอ่อนโยนที่สุดแล้วนะครับ แต่มันก็ยังเหมือนผม
กำลังขู่เด็กอยู่ดี

“งื้อ  อุ้มๆ” เด็กนั่นบอกพลางยกมือเหมือนจะให้ผมอุ้ม เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ผมอุ้มร่างเล็กนั้นไว้แนบอกก่อนจะลูบหลังเบาๆ  ร่างเล็กซบลงกับอกผมพลางถูหน้าไปมาเหมือนจะอ้อน

“ดูๆไปก็น่ารักดีนี่หว่า ชื่ออะไร หืม”  ผมก้มลงถาม  รู้สึกเอ็นดูเจ้าเด็กนี่อย่างประหลาด ผมเป็นคนกระด้างไอ้เรื่องจะชอบเด็กนี่ฝันไปเลย แต่เจ้าหนูนี่ มันต่าง บอกไม่ถูกว่าทำไม

“เฮ้ย น้องตัง ปล่อยนะ มึงทำอะไรลูกกู!!” เสียงขอเจ้าของร้านตวาดลั่นก่อนจะแย่งเด็กที่มันเรียกว่า น้องตัง ไปอุ้ม

“เหอะ กูแค่อุ้ม มึงทำอย่างกับกูจะฆ่าลูกมึง”

“เพราะเป็นมึงไงกูถึงไม่ไว้ใจ แล้วทำไมมึงถึงโผล่มาที่นี้ ไม่สิ มึงรู้ได้ยังไงว่ากูอยู่ที่นี้”

“งั้นกูไม่อ้อมค้อมนะ กูอยากคุยกับมึงเรื่อง เพลิน” ผมบอกคนตรงหน้าดูตกใจเล็กน้อย แต่ก็ปรับสีหน้าเป็นปกติอย่างรวดเร็ว แต่เท่านั้นก็ยืนยันได้แล้วว่าข้อมูลที่ผมได้มามันถูก ไอ้ป๋องรู้จักเพลิน

“มีอะไร”

“มึงกับเพลินเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”

“4 ปีก่อน ตั้งแต่กูเลิกกับเพลินก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ”

“แน่ใจ เหรอ ว่าไม่เคยเจอเมื่อสามปีก่อน มีคนเจอว่าพวกมึงอยู่ด้วยกันนะ”

“แล้วยังไง กูจะเจอกับเพลินแล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง” มันว่าเสียงเข้ม

“ก็ไม่เกี่ยวอะไร ถ้าตอนนั้นเพลินไม่ได้ท้อง และเด็กคนนั้น เป็นลูกกู”

“วะ ไงนะ” คนตรงหน้าดูจะตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าเพลินท้องกับผม 

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกู เพลินกับกูเราเป็นเพื่อนกัน ก็ต้องมาเจอกันบ้าง ไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหน มึงอยากเจอลูกทำไมไม่ถามเพลินล่ะ มาถามกูทำไม”

“กูถามแน่ เพราะกูต้องรู้ให้ได้ว่า ลูกกูอยู่ที่ไหน และกับใคร” ผมบอกทิ้งท้ายพร้อมเน้นประโยคสุดท้ายมากที่สุด ไอ้ป๋องไม่พูดอะไร ผมรู้ว่ามันพยายามที่จะกลบเกลื่อนอะไรบางอย่าง  แต่ผมมันนิสัยเสีย เรื่องอะไรที่ผมต้องรู้ อะไรที่มันเป็นของผม ผมจะไม่ยอมปล่อยมันไป


…………………………………………………………………………………

ผมมองแผ่นหลังกว้างด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ข้างในกลับร้อนรนจนแทบจะทนไม่ได้ ไอ้ติณ เป็นพ่อของน้องตัง มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ  ถ้าเพลินยอมบอกผมตั้งแต่แรกว่าพ่อน้องตังเป็นใคร ผมก็ไม่ต้องกลุ้มใจอย่างนี้  ที่สำคัญ ผมรักน้องตัง เจ้าลูกหมู เป็นทุกอย่างในชีวิตของผม ผมไม่มีวันยอมให้ใครแย่งเขาไปแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นพ่อแท้ๆของน้องตังก็ตาม

“พ่อรักน้องตังนะลูก เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะครับ” ผมบอกกับเด็กน้อยตัวกลม เจ้าตัวเล็กเหมือนจะรู้ว่าผมมีเรื่องกลุ่มใจ ถึงซุกหน้ากับอกผมส่งเสียงอ้อแอ้ ลูกผมน่าเอ็นดูขนาดนี้ ผมไม่มีมันวันยกให้ใครเด็ดขาด


“ไอ้แจ็คมาเจอกูที่ร้านด้วย” ผมกรอกเสียงลงในโทรศัพท์ทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย ไม่มีเวลาแล้ว ผมต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่ไอ้ติณมันจะลงมือ

“ไอ้เชี่ยพี่ป๋อง เรียกมาดูเวลาบ้างสิวะ คนต้องทำงานนะเว้ย” มาถึงมันก็แหกปากตะโกนลั่นร้าน แต่ก็ไม่ได้มีใครสนใจมันหรอกครับ เพราะทุกคนชินแล้ว แต่ไอ้แจ็คใส่สูทนี่มันไม่เข้ากันเลยจริงๆ เห็นทีไรก็ไม่ชิน เห็นอย่างนี้ไอ้แจ็คเป็นผู้บริหารนะครับ  แฟนมันเป็นเจ้าของโชว์รูมรถหรูมากแห่งหนึ่ง

“อย่างมึงเนี่ยนะทำงาน เหอะ เข้าไปคุยกับกูข้างใน” ผมบอกก่อนจะเดินนำไอ้แจ็คเข้าไปในห้องทำงาน


“พี่เรียกผมมามีธุระ อะไรหรือเปล่า” ไอ้แจ็คถาม มันคงรู้ว่าคนอย่างผมถ้าไม่มีเรื่องอะไรจริงๆคงไม่เรียกมันมาไม่ดูเวลาแบบนี้

“วันนี้ไอ้ติณ มาหากู”

“แล้วไงวะพี่ หรือว่าเป็นคู่อริเลยมาไม่ได้”

“หัดฟังคนอื่นพูดให้จบก่อนสิวะ วันนี้มันมาหากู เพื่อบอกกูว่า มันเป็นพ่อของลูกเพลิน”

“เฮ้ย จริงดิ!!”

“ถ้ามันไม่จริงกูไม่มานั่งกลุ้มหรอก มึงก็รู้ว่าไอ้ติณเป็นใคร อีกไม่นานมันอาจจะรู้ความจริง ตระกูลเหลียงไม่ใช่กระจอกจะงัดข้อกับมันคงต้องเตรียมการชุดใหญ่”

“เหอะ มันจะแค่ไหนกัน ทำอย่างกับบ้านพี่กระจอก ถ้าไอ้นั่นมัน มาเฟียฮ่องกง พี่ก็มาเฟียไทยแหล่ะ อย่ามาทำเหมือนตัวเองเป็นชาวบ้านตาดำๆได้ป่ะ คุณปฎิภาณ มกรธวัช”  ผมพรูลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย เพราะไอ้นามสกุลบ้าๆนี่แหล่ะที่ทีให้ผมแทบไม่มี
เพื่อนเลย ใครๆก็กลัวผมทั้งนั้น ทำอย่างกับผมจะหยิบปืนขึ้นมายิ่งใครสุ่มสี่สุ่มห้า

“บอกคนของเราเตรียมตัวให้พร้อม อ้อ ติดต่อคนที่ดูแลเพลินด้วย ว่าอย่าให้เพลินไปไหนมาไหนคนเดียวเด็ดขาด ตอนนี้ไม่น่าไว้ใจ”

“ครับนาย” ไอ้แจ็คยิ้มล้อเลียนก่อนจะขอตัวกลับ ผมได้แต่องร่างเล็กที่กำลังกลับสบายก่อนจะลูบผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างเบามือ

“พ่อจะไม่ยอมให้ใครแย่งน้องตังไปเด็ดขาด ”

น้องตังเป็นของผมและจะเป็นอย่างนั้น ตลอดไป




............................................TBC.........................................

 :katai4: 

เดี๋ยวเอาอิมเมจมาให้จะได้จิ้นถูกฮ่าๆๆ




ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
เทียบกับเฮียติณ พี่ป๋องดูเด็กน้อยเลยน้า

ออฟไลน์ teamkoyza

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :serius2: เค้าจะเปิดศึกชิงน้องตังกันแระ

ออฟไลน์ PlangPai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คดีพลิกสิครับงานนี้
พี่ป๋องจะกลายเป็น "ขุ่นแม่" รึปล่าวน๊าาาา

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
น้องตังน่ารักเฟ่อออออ~

กามเทพกำลังจะทำงานแล้วสินะ

เฮียติณ♥พี่ป๋อง

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NingZa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก อยากอ่านต่อ  สวัสดีค่ะเป็นเด็กใหม่ค่ะแต่อ่านจบทั้งสามเรื่องแล้วน่ะคะ  มาต่อเร็วๆน่ะคะคนเขียนเพราะตอนนี้ใจจะขาดแล้วค่ะ ค้างสุดๆ :z3:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่ป้องต้องสอนน้องตังเรียกตัวเองใหม่แล้วหล่ะคราวนี้ คึคึ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13


กลกามเทพ 3


7 วันต่อมา

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

โทรศัพท์เครื่องเล็กแผดเสียงจ้า จนผมต้องผละจากลูกไปรับ ยิ่งเห็นว่าเป็นเบอร์ไอ้แจ็คยิ่งแปลกใจ  ปกติมันไม่เคยโทรมาเวลานี้

“พี่แย่แล้ว” เสียงปลายสายบอกอย่างร้อนรน

“อะไร”

“คนของเราโทรมา รายงานว่าเพลินหายไป”

“อะไรนะ คนทั้งคนปล่อยให้หายไปได้ยังไง บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เฝ้าดีๆน่ะ!!”

“ก็เฝ้านะ แต่เพลินบอกว่าจะออกไปกับคู่เดทคนใหม่ เหมือนที่ทำประจำ เลยไม่มีใครเอะใจ จะมารู้ตัวอีกทีก็ตอนสายๆที่เพลินไม่กลับบ้าน ตอนนี้ระดมหาจนทั่วแล้วแต่ก็ไม่เจอเลย ”

“โถ่เว้ย!! ” ผมแทบอยากจะปาโทรศัพท์ทิ้งไปไกลๆ ผมในตอนนี้จะเอาอะไรไปสู้กับไอ้ติณ มันมีอิทธิพล มีเงิน มีอำนาจ แต่ผมมีแค่นามสกุลที่ทำให้ใครต่อใครเกรงใจเท่านั้น ผมมัน มกรธวัช นอกคอก และผมเองที่ตัดสินใจก้าวออกมาจากตระกูล หันหลังให้กิจการทุกอย่างรวมทั้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดของพ่อที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ยอมรับเลยว่าอาศัยบารมีเก่าล้วนๆ  ใช่ว่าจะเป็นคนดีรังเกียจสิ่งผิดกฎหมายแต่ผมแค่ไม่ชอบในสิ่งที่พ่อทำ ผมรักเครื่องยนต์ ผมอยากเป็นนักแข่งรถ มากกว่าผู้มีอิทธิพลหรือเจ้าพ่ออะไรพวกนั้น

“น้องตัง พ่อจะทำยังไงดี”

“ง่ายนิดเดียว มึงก็คืนลูกให้กูสิ” เสียงที่ผมไม่อยากยินดังขึ้น ร่างสูงพร้อมกับลูกน้องนับสิบคน เดินเข้ามาในร้านผมด้วยท่าทางคุกคาม

“จมูกไวดีนิ สมแล้วที่เป็นหมา” ผมบอกเสียงเข้ม ก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

“หึ วันนี้กูไม่ได้มาหาเรื่อง กูแค่จะมา รับเด็ก”

“เหอะ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ”

“แต่กูว่ามันไม่ยากเลย” ไอ้ติณว่า ก่อนที่ลูกน้องของมันจะยกปืนเล็งมาที่พร้อมอย่างพร้อมเพรียง

“มึงขู่กู” ผมแหวลั่น

“คนอย่าง ตติยะ เหลียง จำเป็นต้องขู่ด้วยหรือไง ตอบกูมาว่าจะส่งเด็กนั่นมาดีๆหรือเปล่า”

“ไม่!! น้องตังเป็นลูกกู กูไม่มีวันยกให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น”

“แต่กูเป็นพ่อ”

“ถุ้ย พ่อ มึงยังกล้าเรียกตัวเองว่าพ่ออีกเหรอ ทั้งๆที่ไม่เคยคิดจะให้น้องตังเกิดมาด้วยซ้ำ”ผมด่า ชั่วโมงนี้ไม่สนใจแล้วว่าจะมีปืนจ่ออยู่อยู่ไหม ผมสนใจแค่เจ้าตัวเล็กนี่เท่านั้น

“ดี มึงตอบกูมาสิว่า ไม่ว่ายังไงก็จะเลี้ยง ลูกกูต่อไป”

“กูไม่มีวันยกเขาให้ใคร”

“มึงพูดเองนะ ถ้าอย่างนั้นมึงก็เลี้ยงไปแล้วกัน” ไอ้ติณบอกด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะ เดินออกจากร้านไป ทิ้งผมอยู่กับความไม่เข้าใจ มันมาที่นี่ทำไม แล้วมันต้องการอะไรกันแน่




……………ตติยะ………..

“มึงมันเจ้าเล่ห์” ไอ้เพื่อนสนิทหน้าตาไม่ค่อยรับแขกของผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่เราสองคนขึ้นมาบนรถ

“กูเจ้าเล่ห์ยังไง”

“ยังต้องให้กูพูดอีกหรือไง เหอะ นี่กูคบปีศาจเป็นเพื่อนชัดๆ”

“เปรม เพื่อนรัก คนอย่างกูอยากได้อะไรต้องได้ ในเมื่อมันมีโอกาสขนาดนี้ กูไม่คว้าก็โง่เต็มทนแล้ว”

“เหอะ กูชักสงสารมันแล้วสิ ไม่รู้ว่าจะรอดไปถึงวันไหน”

รอดเหรอ คนอย่างผมเคยปล่อยให้เหยื่อรอดไปด้วยหรือไง



……………………………………………………………………………….


“มึงมาที่นี้ได้ยังไง” ผมเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นร่างแกร่งหนาของไอ้คู่อริยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมกระเป๋าใบโตราวสี่ห้าใบ

“นั่งรถมาไง กูคงไม่บ้าเดินมาหรอกไกลขนาดนี้” ถ้าไม่ติดว่า น้องตังจะเห็นพฤติกรรมรุนแรงที่ไม่เหมาะกับเด็กแล้วล่ะก็วันนี้มี
วางมวยแน่

“แหน่ะ มองทำไม เปิดประตูบ้านสิ กูเมื่อยจะตายอยู่แล้วนะ” มันว่า

“มึงจะไปไหน” ผมแหวลั่นเมื่อร่างแกร่งหนาของไอ้ติณเดินอาดๆเข้าบ้านผมหน้าตาเฉย โดยที่ลูกน้องที่มาจากไหนก็ไม่รู้ของมัน
ถือกระเป๋าตามเข้าไป

“เข้าบ้านไง” มันยังคงตอบได้น่าเตะเหมือนเดิม

“กูหมายความว่ามึงจะเข้าบ้านกูทำไม”

“มึงบอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะเลี้ยงน้องตัง ”

 ผมพยักหน้ารับ

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่มึงขนของมาบ้านกู”

“กูจะมาอยู่ที่นี่” ประโยคเดียวแต่เหมือนฟ้าผ่า มันบ้าไปแล้วเหรอครับ 

“คนเป็นพ่อไม่ควรห่างลูก ในเมื่อน้องตังอยู่ที่นี้กูก็จะอยู่ด้วยเหมือนกัน”

“แต่กูเป็นเจ้าของบ้าน กูไม่ให้อยู่”

“กูจะอยู่” มันบอกแค่นั้นก่อนจะจัดการให้ลูกน้องยกของไปไว้ในบ้าน ไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ นี่ผมยังเป็นเจ้าของบ้านอยู่ไหม

“นี่มึงจะบ้าเหรอ จะมาอยู่ได้ยังไง ”

“น้องตังยังอยู่ได้ทำไงกูจะอยู่ไม่ได้” หน้าด้านมาก ผมด่ามันในใจ

“น้องตังเป็นลูกกู”

“ลูกกูเหมือนกัน อย่าให้กูต้องโมโหนะ มึงก็รู้ว่าคนอย่างกูทำได้ทุกอย่าง ทำได้แม้แต่จะพาน้องตังไปไกลจนมึงตามไม่เจอเลยล่ะ อย่านึกว่ากูไม่รู้ว่าตอนนี้มึงไม่ใช่ มกรธวัช เต็มตัว คิดให้ดีก่อนที่มึงจะปฎิเสธ” ผมเงียบพลางลองคิดทบทวนดู ที่มันพูดมาก็มีเหตุผล ผมในตอนนี้ไม่มีอะไรที่สู้มันได้เลยสักอย่าง แต่จะให้ผมกลับเข้าบ้าน ก็ทำไม่ได้

“เงียบ แปลว่ามึงตกลง ใช่ไหม งั้นน้องตังมาหา ปะป๋า ดีกว่าเนาะลูก” มันว่าก่อนจะแย่งน้องตังไปอุ้มหน้าตาเฉย ผมได้แต่ถอนใจ เอาเถอะ ผมมันแพ้ทั้งขึ้นทั้งล่องอยู่แล้วนิ จะทำอะไรก็ตามสบายเลย เอาที่สบายใจเลยจร้า


3 เดือนต่อมา

…………….ตติยะ…………

“ไอ้ตินนนนนนน บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเอาผ้ามาปนกันมันซักยากรู้ไหมห่ะ” ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังแปดล้านเดซิเบลของไอ้ป๋อง มันก็เป็นแบบนี้ทุกวันอาทิตย์ ที่ผมและมันจะหยุดพร้อมกัน  ผมส่ายหน้าอย่างไม่สนใจเท่าไหร่ก่อนจะเดินไปห้องข้างๆ เพื่อปลุกเจ้าลูกหมูน้อยของผม แต่ดูท่าทางน้องตังจะตื่นอยู่แล้ว

“ตื่นแล้วเหรอลูก”

“ปะปา” เสียงเล็กๆเรียกผมก่อนจะชูมือว่าให้อุ้ม ผมยิ้มก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มยุ้ย ลูกผมนี่มันน่ารักจริงๆ โตมาต้องหล่อเหมือนปะป๋าแน่เลย  ผมอุ้มน้องตังลงมาหาไอ้คนที่กำลังยืนทะเลาะกับเครื่องซักผ้าอยู่ ร่างสูงโปรงในชุดเสื้อยืดคอย้วยจนเห็นรอยสักที่ไหล่กับกางเกงขาสั้นลายพราง นั้นดู หล่อ มาก ในสายตาคนทั่วไป แต่สำหรับผม มันดู น่ารัก จนละสายตาไม่ได้  ถึงมันจะโวยวาย ใจร้อน ชอบพูดเสียงดัง แต่ท่าทางพวกนั้นกลับทำให้มันมีเสน่ห์มากขึ้นมากกว่า ไอ้เปรมยังบอกเลยว่าผมตาบอด จะชอบ ผู้ชายทั้งทีดันเป็น คู่อริที่แมนเกินร้อย แทนที่จะเป็น ผู้ชายตัวเล็กๆบางๆ อย่างคนอื่นเขา

“ป้อ” น้องตังเรียกเบาๆ ก่อนที่เจ้าของบ้านที่สูงน้อยกว่าผมไม่กี่เซนจะยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่เห็นทีไรใจมันก็กระตุกทุกที  อย่างว่าแหล่ะ ผมชอบมันมานาน นานจนตัวเองยังนึกไม่ออกว่าชอบมันตอนไหน แต่การที่คู่อริอย่างผมจะเดินไปบอกว่าชอบ คงจะได้หมัดมาแน่ๆ  บอกไปใครจะเชื่อ เฮียติณ ตำนานของเทคนิค M จะตกม้าตายเพราะหัวหน้าช่างกลs 

“คนเก่งตื่นแล้ว ไอ้คนอาศัยอาบน้ำให้หรือยังครับ”

“ยังเลย”

“แล้วทำไมไม่อาบห่ะ ใจคอจะไม่ช่วยอะไรกันหน่อยหรือไง กูไม่ใช่คนรับใช้มึงนะเว้ย” มันแหวลั่น อยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่ได้เห็นเป็นคนใช้ แต่เห็นเป็นเมีย

“ก็กูกลัว สบู่จะเข้าตาลูกแบบวันนั้น มึงอาบน่ะดีแล้วเดี๋ยวผ้ากูซักเอง”

“หยุดมึงหยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ ไปนั่งเฉยๆหรือไม่ก็ไปอาบน้ำ อย่าคิดแม้แต่จะซักเด็ดขาด กูไม่อยากใส่เสื้อสีขาวที่มีจุดสารพัดสีแบบวันนั้นอีก” มันว่าก่อนจะเดินไปทะเลาะกับเครื่องซักผ้าเหมือนเดิม ผมไม่รู้ว่าเวลามันอยู่กับลูกน้องมันทำตัวแบบไหน แต่ก็อด
ดีใจไม่ได้ที่เวลามันอยู่กับผมมันทำตัวแบบนี้ แม้จะรำคาญเสียงบ่น มันบ้าง แต่แบบนี้ก็เพลินดี เหมือนผมได้เห็นอีกด้านของมันได้รู้ว่าจริงๆ แล้วพี่ป๋องช่างกล s ไม่ได้ดูเท่ตลอดเวลาอย่างที่มันแสดงออก

“ป่ะ น้องตังไปอาบน้ำนะครับ” ไอ้ป๋องเดินมาอุ้มน้องตังไปก่อนจะชี้นิ้วเป็นเชิงสั่งให้ผมไปดูผ้าที่ซักไว้ เหอะ ใครกันแน่ที่เหมือนคนใช้ ที่แน่ๆผมว่าไม่ใช่มัน


……………………………………………………………………….

ผมมองคนที่ตากผ้าอย่างตั้งอกตั้งใจก่อนจะหัวเราะ บอกตรงๆว่าชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะเห็นเฮียติณ เทคนิค m ตากผ้า ตัวผมเองยังแปลกใจอยู่ไม่น้อย ที่เห็นมันทำงานบ้าน ถึงจะดูทุลักทุเลไปสักหน่อยแต่สามเดือนที่ผ่านมามันก็ถือว่าพยายามแล้ว ผมไม่รู้และไม่เคยเข้าใจว่ามันต้องการอะไร ไม่เคยรู้ว่ามันเข้ามาในบ้านผมทำไม  แต่พอเห็นว่ามันพยายามแล้วก็ไม่อยากใจร้าย ให้มันต้องห่างน้องตัง นี่ผมใจอ่อนเกินไปหรือเปล่า

“มองกูแบบนี้คิดอะไรกับกูป่ะเนี่ย” ไอ้คู่อริหน้ากวนตีน มันถาม 

“หน้าอย่างมึงมีอะไรให้กูคิด” ผมบอก มันยิ้มทะเล้นก่อนจะหันไปตากผ้าต่อ จริงๆตอนแรกก็ตกใจแทบตายเหมือนกันปกติไอ้ติณ
มันเคยยิ้มเคยหัวเราะกับเขาที่ไหน ถ้าไม่ทำหน้าดุ ก็ทำหน้าโหด เวลาตีกัน? มันก็ไม่เคยจะยั้งมือ ซัดกันเข้าโรง’บาลไม่รู้กี่รอบแต่ก็ไม่เคยเห็นมุมตลกของมันซักที ยิ่งตอนนี้มันเข้าบริหารงานของตระกูลอย่างเต็มตัวแล้วด้วย ไอ้นี่มันมาเฟียชัดๆ แต่ก็แปลกอยู่อย่าง ที่มันดันเลือกเรียนช่าง 

“หิว มีอะไรให้กินไหม” ร่างแกร่งหนาเดินมาผมที่กำลังนั่งเล่นกับน้องตังอยู่เอ่ยถามขึ้น ผมชี้มือไปที่ครัว แบบขอไปที ผมอยู่คน
เดียวมาหลายปีไอ้การที่จะทำอาหารเป็นบ้างมันก็ไม่แปลก แต่ดูเหมือนไอ้ติณ มันจะแปลกใจมากที่ผมทำกับข้าวเป็น ถึงจะเป็นแค่ไม่กี่อย่างก็เถอะ แต่ถ้าเป็นมันนะเหรอ ทอดไข้ยังเกือบทำไฟไหม้บ้านเลย   แม้ว่าตอนนี้ผมกับมันจะเถียงกันเป็นประจำแต่มันกลับมีบางอย่างที่แปลกไป บางอย่างที่ทำให้ผมไม่เข้าใจตัวเอง

“อ่ะ กินสิ” อาหารเช้าง่ายๆอย่างข้าวต้ม ถูกยื่นมาให้ แต่มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้ามันไม่ได้ทำท่าทางเหมือนจะป้อนผมแบบนี้

“อะไรของมึง”

“กูรู้มึงยังไม่ได้กินข้าวเช้าใช่ไหม กินสิ กูเอามาให้” มันว่า

“กูเดินไปหยิบเองได้ ไม่เห็นต้องเอามาให้”

“เหอะ รอให้มึงไปหยิบเองถึงเที่ยงก็ไม่ได้แดก กินเลยอาหารเช้าสำคัญ จะได้บำรุงสมอง” 

“มึงว่ากูโง่เหรอ?”

“แล้วแต่จะคิด” ดูมันเถอะ  ไม่รู้จะกวนผมไปถึงไหน 

ตกบ่าย ผมอาบน้ำแต่งตัวให้น้องตัง เพราะวันนี้กะว่าจะพาน้องตังไปหาน้าไม้ ที่โทรมาบอกว่าคิดถึงซะหน่อย จริงๆก็ตั้งแต่ไม้กลับมาก็ไม่ได้เจอกันเลย ส่วนใหญ่ไอ้คุณช่างทำขนมจะโทรมา(คุยกับน้องตัง) มากกว่า

“จะไปไหน”  เสียงที่ไม่พึงประสงค์ถามขึ้น

“กูต้องบอกมึงด้วยหรือไง” 

“ไม่บอกก็ได้ แต่กูจะไปด้วย” ผมยืนมองมันด้วยความงง อะไรของมันหนักหนานะวันนี้

“อะไรของมึงเนี่ย”

“ไปสิ มายินงงทำไม เอารถกูไปแล้วกัน” ครับ ครับท่านมาเฟีย ทำเหมือนรู้ว่าผมจะไปไหน จู่ๆก็ลากไปขึ้นรถแล้วขับออกมาเลย  บ้านไม่ต้องปิดหรอกครับ ถึงไม่เห็นตัวแต่ บอร์ดี้การ์ด มันเดินกันเต็มบ้านนั่นแหล่ะ


“มึงรู้ได้ยังไงว่ากูจะมานี่” ผมถามด้วยความสงสัย ว่ามันทำไมถึงรู้ว่าผมจะมาหาไอ้ไม้

“กูรู้แล้วกัน ลงไปได้แล้ว” ผมว่าวันนี้ไอ้ติณแมร่งแปลกๆ เป็นบ้าอะไรตั้งแต่เช้าแล้ว แต่อย่าไปสนใจมันเลย มันก็ผีเข้าผีออกแบบ
นี้แหล่ะ


ตติยะ

ผมมองไอ้ป๋องที่เดินเข้าไปในร้าน ก่อนจะตามไปอย่างไม่สบอารมณ์ ถึงจะรู้ว่าไอ้ไม้มันมีแฟนแล้วก็เถอะ แต่เท่าที่ดูไอ้ป๋องก็เหมือนยังตัดใจไม่ได้สักที ไม่ได้ๆ ผมต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่อะไรๆมันจะแย่ไปกว่านี้ แต่จนรอดจนรอดผมก็ทำได้แค่มอง ไอ้ป๋องคุยกับไอ้ไม้อย่างออกรส  พลางเหล่ตามองเจ้าของร้าน ที่ไม่ได้มีท่าทีหึงหวงอะไร นี่ก็แปลกคน แฟนคุยกับผู้ชายอื่นยังยืนชงกาแฟอยู่ได้ หงุดหงิดเว้ย!

“เฮียเป็นอะไรวะ ทำหน้าอย่างกับจะฆ่าคน” ไอ้ไม้ถาม เออ กูจะฆ่ามึงก่อนคนแรกเลยไอ้น้องเวร

“ช่างหัวมันเถอะ มันเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้วันนี้” ไอ้ป๋องเป็นฝ่ายตอบแทน ยังไม่รู้ตัวอีกว่ากูจะบ้าเพราะมึงน่ะแหล่ะ  เฮียติณที่เก่งทุก
เรื่องทำไมต้องแพ้แค่มันเรื่องเดียวด้วยนะ เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย

“ไม้พี่กลับก่อนนะ น้องตังเป็นอะไรไม่รู้เหมือนจะตัวร้อน” ไอ้ป๋องบอกลา รุ่นน้องของผม

“น้องตังไม่สบายเหรอ ผมพาไปหาหมอไหมพี่”  ไอ้ไม้ถามอย่างเป็นห่วง ลูกกูป่ะวะ กูดูแลได้ เว้ย

“ไม่ต้องให้มึงลำบากหรอก ลูกกู กูพาไปเองได้” ผมโพล่งขึ้น ก่อนจะลากไอ้ป๋องพร้อมน้องตังขึ้นรถทันที บอกเลยว่าเฮียไม่สบอารมณ์สุดๆ

“มึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย!!” มันแหวลั่น    แต่ผมไม่ได้พูดอะไร ในรถเลยตกอยู่ในความเงียบจนถึงบ้าน  มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีเลย ไม่ดีเอามากๆที่เราสองคนเป็นแบบนี้ ต่อให้สามเดือนมานี่เราจะเถียงกันตลอด แต่ก็ไม่เคยเงียบใส่กัน ผมรู้ว่าผมไม่มีเหตุผล และไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่ายชีวิตมัน แต่ผมก็ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาการมองอยู่ห่างๆทำให้ผมหักห้ามความรู้สึกได้ แต่พอได้ใกล้ชิดอะไรหลายๆอย่างมันกลับยากจะควบคุม ผมหวง ผมไม่ต้องการให้ใครเข้าใกล้มันเลยด้วยซ้ำ ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ




จนถึงตอนนี้เราสองคนก็ยังไม่ยอมคุยกัน ผมมองนาฬิกาที่เวลาล่วงเลยไปค่อนคืนแล้วแต่ก็ยังนอนไม่หลับ มันจะมากไปแล้ว ผมปล่อยให้ไอ้ป๋องมีอิทธิพลเหนือผมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมนี่ เฮียติณ เทคนิค m นะเว้ย

“แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงร้องไห้ของน้องตังดังออกมาจากห้องนอนไอ้ป๋อง ผมที่ร้อนใจอยู่แล้วเพราะเมื่อบ่ายลูกตัวร้อนเลยวิ่ง
ไปเคาะห้องแทบจะทันที

“ไอ้ป๋องเปิดประตูหน่อย” ผมตะโกนบอก รอไม่นานเจ้าของห้องก็มาเปิดประตูด้วยสีหน้าไม่ดีหนักในอ้อมกอดมีน้องตังที่ร้องไห้จนตัวแดงอยู่

“โอ๋ๆ น้องตังอย่าร้องสิลูก ไม่ร้องนะครับคนเก่ง” ไอ้ป๋องปลอบลูกเสียงอ่อนโยน ผมเอามืออังหน้าผากลูกแล้วแทบสะดุ้งแกตัวร้อนมาก แถมยังร้องไห้จนตัวแดงไปหมด

“ไปโรง’บาล เถอะ น้องตังตัวร้อนมากเลย” ผมวิ่งนำไปที่รถก่อนจะขับพาลูกไปส่งโรงพยาบาลทันที

“ไม่เป็นไรหรอกน่า น้องตังถึงมือหมอแล้วนะ ลูกไม่เป็นอะไรหรอก” ผมบอกคนที่เอาแต่เดินวนไปวนมาพลางมองดูหมอที่ตรวจเจ้าตัวเล็กแทบจะทุกวินาที แม้ว่ามันจะไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายแต่ผมก็พอจะเดาออกว่าไอป๋องมันก็ร้อนใจไม่แพ้กัน

“แต่มึงไม่เห็นเหรอ น้องตังตัวร้อนมาก กูสงสารลูก มึงรู้ไหมว่าคนเป็นพ่ออย่างกูอยากจะเจ็บแทนลูกแค่ไหน” เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันเสียงสั่น และดูท่าทางหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด ไอ้ป๋องไม่ใช่คนอ่อนแอ มันไม่ยอมให้ใครเห็นด้านนี้แน่ๆนอกจากว่ามันจะไม่ไหวแล้วจริงๆ

“ลูกต้องไม่เป็นอะไร เชื่อกูสิ” ผมบอกก่อนจะจับมือเรียวอย่างให้กำลังใจ พลางดึงมันมายืนใกล้ๆ

“หมอครับ ลูกผมเป็นยังไงบ้าง” ไอ้ป๋องถามหมอทันทีที่ตรวจเสร็จ

“แกเป็นไข้ธรรมดาครับ แต่เพราะไข้ขึ้นสูง เลยไม่สบายตัว แถมยังเด็กมากต้องเช็ดตัวบ่อยๆนะครับไข้จะได้ลด เดี๋ยวหมอจะฉีดยาให้ อีกไม่กี่วันก็หายแล้วครับ” คุณหมอบอก  ก่อนจะอมยิ้มมองผมด้วยสายตามีความหมาย ผมได้แค่ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเพราะสายตาหมอมันดูล้อเลียนยังไงชอบกล

“ปล่อยสิ จะจับอีกนานไหม” คนข้างๆบอกสียงเข้ม ก่อนจะสะบัดมือออกแล้วเดินไปรับลูกจากพยาบาล  ผมเพิ่งจะรู้ตัวว่า ตัวเองจับมือกับไอ้ป๋องตลอดเลยนิหว่า มิน่าหมอถึงมองแปลกๆ


......................................TBC...........................................

 :katai2-1: เรื่องนี้ไม่มีดราม่าค่ะ เพราะ อืดมาจากน้องไม้แล้ว ฮ่าๆๆ

เนื้อเรื่องอาจจะเร็วไปบ้าง ต้องขออำไพ เพราะตั้งใจจะให้มันสั้น (พยายามมากที่จะให้สั้น ฮ่าๆๆ)

ไปล่ะ บรั๊ย!!

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่ติณหมดท่าซะแล้ว
รอดูว่าจะจัดการพี่ป๋องยังไง ฮ่าๆ

ออฟไลน์ teamkoyza

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ฮ่าๆ จากเฮียป๋องจะเป็นเจ๊ป๋องละมั่งงานนี้

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
พี่ติณเนียนมากมาอยู่ด้วยซะเลย

ออฟไลน์ Gatjang_naka

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เรื่องพี่ป๋องน่ารัก รอต่อ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เฮียติณแอบรักพี่ป๋องมานานแล้วนี่เอง

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
น้องตังน่ารัก~ สานโซ่คล้องเฮียติณกับพี่ป๋องเร็วๆนะ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
คือว่ามันก๊าวใจมาก จนอยากจะให้คนเขียนเปิดเป็นเรื่องยาวเสียจริงๆ
ฟินมากกกกกกกก  :m3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ไม่มีมาม่าดีแล้วครับบบบบ.

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
กลกามเทพ ตอน จบ


“น้องตัง หม่ำๆนะ ปะป๋า ป้อน”

“ปะปา หม่ำๆ  เก่งๆ” ผมมองสองคนที่พลัดกันป้อน ข้าวต้มก่อนจะลอบยิ้มตั้งแต่น้องตังป่วยดูเหมือนว่า ไอ้ติณมันจะใส่ใจเจ้าหมูของผมขึ้นเยอะ จะไปไหนทำอะไรมันจะนึกถึงลูกก่อนเสมอ  ดูไปดูมามันก็มีความเป็นพ่อกับเขาเหมือนกันแหะ  แต่มันมีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่ง ตั้งแต่วันที่น้องตังไม่สบาย ดูเหมือนการถูกเนื้อต้องตัวระหว่างผมกับมันจะมีมากขึ้น ไม่ใช่ผมนะที่เริ่ม ก่อนส่วนมากจะเป็นไอ้ปะป๋า ของน้องตังมากกว่า  เอะอะก็มาจับมือบ้าง โอบไหล่บ้าง หนักหน่อยก็มีโอบเอว ซึ่งผมไม่เข้าใจว่า ทำไปเพื่ออะไร แต่ที่แปลกกว่าทำไมผมไม่ ต่อยหรือถีบมันกระเด็นเหมือนเมื่อก่อน ทำไมยังปล่อยให้มันทำตามใจอยู่ได้ทั้งที่ไม่จำเป็นสักนิด แต่กลับรู้สึกดี คนอย่างผมไม่เคยรู้สึกดีที่ใครสักคนมาจับมือนานแล้ว แต่วันที่ผมกำลังต้องการกำลังใจ กลับกลายเป็นว่ามือที่ให้กำลังใจเป็นของ อดีตคู่อริ  ทั้งๆที่ควรสะบัดออกแต่กลับไม่ทำ เพราะความอบอุ่นและความห่วงใยทำให้หัวใจสงบลงอย่างประหลาด ทั้งๆที่กังวลสารพัดแต่แค่คำพูดเดียวกลับทำให้หัวใจสงบลงได้ มันแปลกนะว่าไหม…. แล้วมันแปลว่า อะไรกันล่ะ


………………………………………………………………………………..

“มึง เป็นอะไรไอ้พี่ป๋อง” คนตรงข้ามถาม พลางจ้องหน้าผมนิ่ง วันนี้ผมก็แวะมาที่ร้านไอ้ไม้อีกจนได้ ไม่รู้ว่ามาทำไม ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหยุดแท้ๆ แต่ไม่อยากอยู่บ้านเลย ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับใครบางคน  เลยต้องหอบลูกมาหาน้าไม้สุดที่รัก

“เป็นอะไร กูปกติมาก”

“ไปบอกเด็กสามขวบมันยังไม่เชื่อเลย คนปกติที่ไหนจะมานั่งถอนหายใจเล่นแบบนี้กัน มีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็บอกกูมาสิจะ
ไช่วยแก้” 

“ช่วยแก้หรือช่วยให้ยุ่ง เรื่องตัวเองน่ะเอาให้รอดก่อนไหม ดูสาวโต๊ะนั้นสิ ไม่รู้ว่ากินกาแฟยังไงตามองคนชงอยู่ได้” ผมกวนประสาท

“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ทะเลาะกับเฮียมาเหรอ”

“กูกับมันก็ทะเลาะกันเป็นปกติตั้งแต่สมัยเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ”

“เหอะ ตอนนี้กับตอนเรียนมันเหมือนกันที่ไหน ตอนนั้นเป็นคู่อริ แต่ตอนนี้เป็น…” ไอ้ตัวแสบว่า พลางส่งยิ้มล้อเลียน 

“ไม้มึงก็รู้ว่ากู..”


“หัวใจคนเรามันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นะไอ้พี่ป๋อง เมื่อก่อนมึงอาจจะชอบกูแต่ไม่ได้หมายความว่าวันนี้มึงจะเลิกชอบไม่ได้”

“เหอะ อย่ามาทำเป็นสอนน่า กูเป็นพี่นะเว้ย”

“เรื่องแบบนี้ ใช่ว่าคนเกิดก่อนจะรู้นิ ไอ้พี่ป๋อง ลองถามใจตัวเองดีๆ ว่าตอนนี้มันแอบหวั่นไหวให้ใครหรือเปล่า”

“เหอะ ผมแค่นเสียงก่อนจะหันไปสนใจ ลูกหมูน้อยที่กำลังกินคุกกี้ของโปรดอยู่

พอตกค่ำผมก็มีตัวแถมตามมาบ้านจนได้  แฟนไอ้ไม้นี่ก็ใจกว้างนะ รู้ทั้งรู้ว่าผมชอบไอ้ไม้ยังจะอนุญาตให้แฟนมาบ้านผมอีก  แต่พอผมทำทีเป็นเตือนความจำ กลับได้ตำตอบที่แทบอยากจะยกเครื่องชงกาแฟทุ่มหัว

พี่ดูแล้ว ป๋องน่ะ รุกใครไม่ได้อีกแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ

และนั่นทำให้ไอ้ไม้มานั่ง ทำหน้าตากวนตีน (แต่น่ารัก) ในบ้านผม

“มองหาใคร”

“เฮียไปไหนตั้งแต่มายังไม่เห็นเลย” ไอ้ไม้ถาม นั่นสิ ปกติวันหยุดมันไม่ค่อยออกไหน ถ้าไม่มีงานด่วน  แล้วนี่หายไปไหนกันวะ แล้วผมจะคิดให้เสียเวลาทำไมเนี่ย

“จะไปรู้มันเหรอ”

“แหน่ะ งอนเหรอวะ ที่เฮียไปไหนไม่บอก ฮ่าๆๆ”

“ไอ้เวรกูใคร กูพี่ป๋อง ช่างกล s นะครับ กูต้องแคร์มันด้วยไง”

“อ้อเหรอ” มันลากเสียงยาวได้น่าหมั่นไส้ จนแทบอยากจะถีบให้ตกเก้าอี้





แต่จนแล้วจนรอดก็ไร้เงาร่าแกร่งหนาของอดีตหัวหน้าเทคนิค m ผมมองนาฬิกาที่บ่วงเวลาล่วงเลยเข้าวันใหม่อย่างหงุดหงิด หงุดหงิดที่ป่านนี้ใครบางคนยังไม่มา แต่หงุดหงิดกว่าคือผมจะรอมันทำไม 

“มึงยังไม่นอนอีกเหรอ” เสียงทุ้มที่ได้ยินมาตลอดสามเดือนเอ่ยทักผมพยักหน้าส่งๆ ก่อนจะเสมองทีวีที่กำลังฉาย ซีรี่ย์กำลังภายในที่ชอบดูไปด้วย

“อย่าบอกนะว่ามึงรอกู”

“มึงละเมอเหรอ ก็เห็นอยู่ว่ากูรอดูหนัง จะไปก็ไปไป๊ กูรำคาญดูหนังไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย”

“อ้อเหรอ” อีกคนว่าพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมได้กลิ่น เหล้าฉุกกึก ไอ้สายตาเวรนี่ยังเหลือบไปเห็นรอยจูบที่คอมันอีก ไม่รู้ว่าทำไม ถึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาซะเฉยๆ

“ออกไป อย่ามาใกล้กู!! มึงจะไปสำส่อนที่ไหนก็ไป”  ผมตวาดลั่น ก่อนจะพลักอีกคนให้พ้นทางแต่เหมือนมันจะไม่สะเทือนสักนิด บ้าน่า ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมต่อยมันกระเด็นได้แท้ๆ แต่ทำไมออกแรงพลักเต็มที่มันไม่ขยับเลยวะ

“หึ หึงหรือไง” มันถามพลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์

“หลงตัวเอง กูจะหึงมึงทำไม หึงมันใช้กับคนรักกันเว้ย แต่กูเกลียดมึง!!”

“อย่า พูด ว่า เกลียด กู” มันว่าเสียงเย็น  มือที่เคยวางอยู่บนโซฟาย้ายมาบีบต้นแขนผมแน่น

“กูจะพูด กูเกลียด มะ อื้อ”

มันเกิดอะไรขึ้น ไอ้ติณจูบผม… จูบเนี่ยนะ!!

ผมตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ รสจูบที่เต็มไปด้วยโทสะจนผมได้กลิ่นคาวเลือด มือแกร่งบีบกรามจนผมเผลอร้องคราง เป็นโอกาสให้คนด้านบนแทรกลิ้นเข้ามาทันที

ไม่จริง! ทำไมมันเป็นแบบนี้  ผมตาโตอีกครั้งเมื่อรสจูบที่เต็มไปด้วยความโกรธ นั้นกลับอ่อนโยนลงอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะไม่อ่อนโยน แต่มันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึก บางอย่าง  เว้าวอน แต่ก็ดื้อรั้น มือหนายังคงประคองท้ายทอยผมไว้แน่น รสจูบนั้นกำลังทำให้ผมมึนงง หัวใจเต็มแรงราวกับจะหลุดออกมา และที่มากกว่านั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองจูบตอบมันไป



………………….ตติยะ………………….

คุณคงไม่รู้หรอกว่าผม ดีใจแค่ไหนที่เห็นว่าอีกคนยังคงรอ น้ำเสียงตวาดกับแววตาขุ่นเคืองไม่ได้ทำให้ผมหงุดหงิด แต่กลับทำให้ดีใจ อย่างน้อยที่สุด มันก็ยังไม่พอใจที่ผมกลับบ้านดึก แต่ คำว่าเกลียดจากปากมันนั่นต่างหากที่ผม ทนไม่ได้ แม้จะเคยทนมาหลายปี แต่ตอนนี้มันกลับทำให้ผม กลัว  ผมจูบมัน เพื่อไม่ให้มันพูดอะไรที่ระคายหูไปมากกว่านี้ แม้สติจะไม่เต็มร้อยแต่นี่ไม่ใช่การฝืนใจสักนิด หลายวันที่ผ่านมา ผมเป็นฝ่ายหลบหน้า เพราะเรื่องที่โรงพยาบาลทำให้ความอดทนของผมน้อยลงทุกที ผมชอบไอ้ป๋อง ชอบมากจนอาจะกลายเป็นรัก แต่มัน รัก ใครอีกคน ผมไม่อยากเร่งรัดให้มันลืม แต่ผมก็ไม่อยากทนเห็นมันยิ้มให้คน
อยากให้ร่างกายนี้ อยากให้หัวใจนี้ เป็นของผมคนเดียว

“อื้อ” เสียงครางที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ทำให้ผมห้ามตัวเองไม่อยู่  พลางไล่ปลายลิ้นสำรวจความหวานของโพลงปาก กล้ามเนื้อตึงแน่นแบบผู้ชายทำให้ผมแทบคลั่งตาย จนแทบอยากจะจับมันกดตรงนี้

“ป๋อง ขอได้ไหม”

“อะไร” มันถาม ผมมองคนที่หอบหายใจอยู่ใต้ร่างแล้วแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ แต่ผมก็มีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ฝืนใจใคร

“อย่ามาทำไร้เดียวสา มึงรู้ว่ากูจะทำอะไร”

“ไอ้เชี่ย ฝันไปเถอะ ออกไปได้แล้วกูหนัก” มันว่าพลางพยายามผลักผมออก เหอะ แรงแค่นี้ทำให้ผมสะเทือนได้ก็แปลกแล้ว จะ
คิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่า ท่าทางเมื่อครู่ มันเองก็คิดไม่ต่างกัน

“แน่ใจเหรอ ว่าจะไม่ต่อ กูนี่พร้อมมากเลยนะ” ผมว่าพลางเกลี่ยริมฝีปากที่บวมเจ่อนั้นเล่น มันมองหน้าผมนิ่ง

“อย่ามาล้อเล่น กับกูแบบนี้ กูเองก็มีศักดิ์ศรีของกู ” ผมจ้องมันก่อนจะถอนหายใจ พลางขยับไปนั่งบนโซฟา อีกคนลุกตามแต่ก็ยังมองหน้าผมนิ่ง

“มึงรู้ได้ยังไงว่ากูล้อเล่น” ผมถามพลางมอมันกลับ


“เพราะมึง เกลียดกู” ผมอยากจะหัวเราะ มันจะมีไอ้บ้าที่ไหนจูบเพราะเกลียดบ้างล่ะ ไอ้ป๋องแมร่งดูจำเลยรักมากไปเหรอ

“มึงฟังกูนะ คนอย่างฮีเยติณไม่เคยล้อเล่น กูจริงจังกับการกระทำของตัวเองเสมอ”

“แล้วมึงจูบกูทำไม”  ผมถอนหายใจ ไอ้ป๋องมันเป็นคนตรงๆ เห็นทีคงต้องบอกไปตรงๆ

“กูชอบมึง” มันอึ้ง คงจะช็อคไม่น้อยที่ผมบอกว่าชอบ แหงล่ะเมื่อก่อนตีกันเข้าโรงพยาบาลไม่เว้นวัน จู่ๆ คู่อริบอกวว่าชอบเป็นใครก็คงอึ้ง


“มึง..”

“กูกับมึง เหมือนกันอยู่อย่างนึงรู้ไหม เราสองคนตรงไปตรงมากับความรู้สึกเสมอ กูชอบ กูก็พูดว่าชอบ กูจูบก็เพาะกูอยากจูบ
เหตุผลกูก็มีเท่านี้” ผมมองมันที่กำลังกระพริบตาปริบๆ  เวลามันเอ๋อๆแบบนี้ น่ารักชะมัด  น่ารักจนผมอดใจไม่ไหวจูบมันไปอีกรอบจนได้


“อื้อ” อีกคนประท้วงโดยทุบหลังผมทุบๆ แต่ใครจะสนวะ ผมจูบมันจนพอใจก่อนจะปล่อยอีกคนเป็นอิสระ

“แล้วมึงล่ะ รู้สึกยังไงกับกู” ผมถามออกไป มันจ้องหน้าผมนิ่ง ก่อนจะตอบ

“กูไม่รู้” 

“ถือว่าเป็นคำตอบที่น่าพอใจ กูนึกว่ามึงจะตอบว่าเกลียดกูซะอีก แต่เท่าที่ดูวันนี้มึงคงไม่เกลียดกูแล้วสินะ” ผมยิ้ม เอาเถอะ ผมว่าการที่มัน ลังเล แปลว่ามันคิดเรื่องผมอยู่เหมือนกัน และผมจะทำให้มันเลิกสับสนเอง


…………………………………………………………………………..

ผมละอยากจะบ้าตาย ตั้งแต่วันที่มันบอกว่าชอบผมเมื่อหลายวันก่อนดูเหมือนชีวิตผมจะยุ่งยากขึ้นเยอะ จากที่ต้องดูแลแค่น้องตัง ตอนนี้กลับมีไอ้บ้าตัวนึงเดินตามเกาะแข้งเกาะขาผมยิ่งกว่าลูกแมว

“ปล่อยดิ กูอึดอัด” ผมตะโกน แทยจะเอาทัพพีเขวี้ยงหัวมันอยู่แล้วเนี่ย กูจะทำกับข้าว ป่านนี้น้องตังแทะโต๊ะกินแล้วมั้งสายป่านนี้แล้วลูกผมยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย

“กูอยากกอดมึง” มันว่าเสร็จก็กอดผมซะแน่นเลย เออดีจริง  ผมถอนหายใจก่อนจะปล่อยให้มันกอดไป ห้ามได้ที่ไหนล่ะ ห้ามแล้วมันจะยิ่งทำมากกว่ากอดนะสิ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เราสองคนเป็นแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อที่การแตะเนื้อต้องตัวกันดูเป็นเรื่องธรรมดา

เมื่อไหร่ ที่ผมรู้สึก “อบอุ่น” ที่อยู่ในอ้อมกอดไอ้ติณ

“เคลิ้มๆ ชอบให้กอดก็บอกมาเถอะน่า กูไม่ว่าหรอก เมียอยากให้ผัวนี่ธรรมดามากๆ”

“ใครเป็นเมียมึง” ผมถามเสียงเข้ม ผมกับมันยังไม่เคยได้เสียเป็นเมียผัวกัน จะมาเรียกแบบนี้ได้ยังไงวะ โอเคแหล่ะ ตอนนี้นอน
ห้องเดียวกัน เตียงเดียวกัน แต่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน เคนะ จบนะ ไม่ถามต่อนะ

“มึงไง หรือต้องให้ป๋ากูมาขอก่อน”

“ไอ้สันขวาน!! บิดามึงสิ” ผมแหวลั่น พลางเอาทัพพีไล่ตีหัวไอ้ติณรอบห้องครัวโดยมีน้องตังปรบมือเชียร์ อยู่ใกล้ๆ



“โอ๊ะ! นี่ป๋ามาขัดจังหวะ อะไรหรือเปล่านะ” เสียงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเอ่ยขึ้นก่อนที่ชายวัยกลางคนที่หน้าตาคล้ายไอ้คนที่ผมไล่ฟาดเมื่อครู่จะเดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ

“ป๋า” ไอ้ติณครางแผ่วดูเหมือนมันจะตกใจไม่น้อยที่เห็นเขา

“นี่เหรอหลานชายป๋า น่ารักจริง” เขาไม่พูดเปล่าแต่ทำท่าเหมือนจะอุ้มน้องตัง แต่ช้ากว่าคนตัวสุงข้างๆผมที่ชิงอุ้มน้องตังขึ้นมาก่อน

“ป๋าต้องการอะไร” มันถามเสียงเข้ม ผมว่า ครอบครัวนี้คงไม่รงรอยกันเท่าไหร่

“บอกไปแล้ว ว่าป๋าต้องการเด็กคนนี้”

“ไม่มีทาง คุณจะเอาลูกผมไปไหน!!” ผมตวาดลั่นต่อให้เป็นใคร มันก็เอาน้องตังไปจากผมไม่ได้

“หึ เด็กเมื่อวานซืนอย่างแกจะทำอะไรฉันได้เจ้าหนู แค่เจ้าติณหนุนหนังอย่าคิดว่าคนอย่างฉันจะกลัว” เขาบอกเสียงเย็น

“ผมไม่ยอมให้ป้าอาลูกผมไปไหนทั้งนั้น ลูกต้องอยู่กับผม” ไอ้ติณบอก

“ไหนบอกว่า ไม่ต้องการเด็กไง แกบอกป๋าเองไม่ใช่เหรอว่า จะทำอะไรก็ได้ แกไม่อยากได้มรดกแล้วหรือไง หรือติดใจหนุ่มน้อยนี่  ถ้าแกชอบเดี๋ยวป๋าหาให้อีกสักสิบคนเลยเป็นไง” ป๋าไอ้ติณยังถามเสียงเย็น ผมมองร่างสูงกว่าด้วยความไม่เข้าใจ

“นั่นมันเมื่อก่อนแต่ตอนนี้ ผมไม่คิดจะปล่อยน้องตังไปอีกแล้ว ไม่ว่าใครก็เอาลูกกับเมียผมไปไม่ได้ทั้งนั้น!!!” ไอ้ติณตวาดเสียงดัง จนผมกับน้องตังสะดุ้ง ผมไม่เคยเห็นท่าทางแบบนั้นของมันมานานแล้ว ท่าทางวางอำนาจ หยิ่งยโส ที่ผมเคยเกลียดนักเกลียดหนาแต่ทำไมวันนี้ มันกลับทำให้หัวใจผมเต็มแรง แรงบีบเบาๆที่มือช่วยสร้างความมั่นใจให้หัวใจผมรู้สึกอบอุ่น  มันแปลก แปลกอีกแล้วที่ผมเลือกจะเชื่อใจมัน แปลกที่ผมรุ้สึกดีที่มีมันอยู่ข้างๆ ทุกอย่างมันจะเรียกว่า รัก ได้หรือเปล่านะ

“น่าประทับใจจริงๆ” ป๋าไอ้ติณบอกพลางปรบมือแปะๆ ผมไม่ใช่การชื่นชม แต่เป็นการเยาะเย้ย

“ดี ถ้าอย่างนั้น ลองดูสักตั้งไหม ถ้าแกไม่มีสมบัติของฉัน ไม่ได้เป็นลูกฉัน แกจะไปรอดสักกี่น้ำ” เขาบอกอย่างท้าทายก่อนจะเดินกลับออกไป



“ไม่เป็นไรแล้วนะ” เสียงทุ้มบอก ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากอย่างอ่อนโยน

“แต่มึงแน่ใจเหรอที่ มันเป็นแบบนี้”

“ทำไม เป็นห่วงเหรอจ๊ะ สบายใจได้น่ากูใคร กูเฮียติณเทคนิค m นะเว้ย ถ้าหาเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียแค่นี้ไม่ได้ ก็อายหมาแล้ว”

“ใครเมียมึง!!”

“ต้องให้ย้ำกี่รอบ ว่ามึงไงเมียกู”

มันบอกก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมได้แต่ก้มหน้างุด ไอ้หน้าบ้านี่จะร้อนทำไมวะ เสียฟร์อมหมดเลย



…………………………………………………………….

“ยังไม่นอนอีกเหรอ” เสียงทุ้มทักขึ้นก่อนที่ร่างแกร่งหนาของไอ้ติณจะเข้ามานั่งข้างๆ ตั้งแต่วันนั้นมันก็เป็นแบบนี้ตลอด ออกจากบ้าตอนค่ำกลับมาตอนเกือบสว่าง ทำให้เรามีเวลาคุยกันน้อยมาก ผมไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร มันกำลังลำบากอยู่หรือเปล่า คนที่เคยมีทุกอย่างอย่างมันจะทนแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน  ทำไมพักนี้ผมกลายเป็นคนคิดมากจังเลยนะ

“นอนไม่หลับ”

“ทำไมถึงนอนไม่หลับล่ะ พรุ่งนี้ต้องไปร้านแต่เช้านะ”

“ไอ้ติณมึงไม่ได้ไปทำอะไรแปลกๆหรอกใช่ไหม” ผมถามออกไปในที่สุด

“อะไรแปลกๆนี่หมายถึงอะไร”

“ก็อย่างเช่นว่า ค้ายา ขายตัว เด็กโต๊ะบอล เดินโพยหวย”

“หยุดๆ ความคิดมึงแต่ละอย่างนี่นะ พากูเข้าคุกทั้งนั้น ทำไมมึงถึงคิดว่ากู ทำแบบนั้นล่ะ หืม”

“มึงกลับบ้านดึก บางวันก็เกือบเช้า แล้วงานกลางคืนมันก็มีไม่กี่อย่างนิ”

“มึงนี่ น่ารักชะมัดเลย” มันว่าก่อนจะบดเบียดริมฝีปากลงอย่างหิวกระหาย มือหนาลูบไล้ร่างกายผมอย่างคุ้นเคย  แหงล่ะ ก็ผมเสร็จมันไปแล้วนิ วันไหนเหรอ ก็วันที่พ่อมันมาไง จบนะ ไม่พูดต่อนะ ห้ามถาม

“อื้อ พอเลย ไหนบอกให้ไปนอน”

ครับๆ วันนี้เหนื่อย ไม่ทำอะไรหรอก” มันว่า

“ทำไมเหนื่อย ไปทำอะไรมาถึงเหนื่อย” ถามไปแล้วก็อยากจะตบปากตัวเอง นี่ผมทำตัวเหมือนผู้หญิงขี้หึงเลย

“ถ้าไม่บอกนี่จะไม่ยอมเลิกคิดมาสินะ เอาเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปดูที่ทำงานกูนะ วันนี้นอนดีกว่า”



วันนี้ผมตื่นแต่เช้ามาอาบน้ำแต่งตัวให้ลูกหมูที่ดูตื่นเต้นใหญ่ที่ปะป๋า จะพาไปข้างนอก

“พร้อมยัง”

“พ้อมๆ เที่ยวๆ” เจ้าลูกหมูตอบก่อนจะวิ่งไปที่รถ แทบจะทันที จนผมสองคนได้แต่ยืนหัวเราะ




“ทีนี้เหรอ ที่ที่มึงทำงาน” ผมถามพลางมองร้านอาหารกึ่งผับตรงหน้า เหมือนจะคลับคล้ายคลับคลาว่าเปิดมาได้หลายปีแล้ว ก่อน
มีน้องตังผมก็เคยมานั่งบ่อยๆ

“แล้วมึงทำตำแหน่งอะไร” มันไม่ตอบแต่กลับเดินนำผมเข้าไปในร้านแทน

“อรุณสวัสดิ์ครับนาย!!” ชายชุดดำนับสิบโค้งให้ไอ้ติณอย่างนอบน้อม ก่อนจะหันมาโค้งให้ผมบ้างแต่ทำทักทายนี่ แทบอยากจะเอาเก้าอี้ทุ่มหัว

“อรุณสวัสดิ์ครับ นายหญิง นายน้อย”  ใครเป็นนายหญิงของพวกเมิงงงงงงงงงง


“ทีนี้รู้แล้วนะ ว่ากูไม่ได้ทำอย่างที่มึงว่า ร้านนี้เป็นของกูเอง กูหุ้นกับพี่ชายเปิดหลายปีแล้ว ถึงไม่มีมรดกป๋า กูก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร” มันบอกหลังจากที่พาผมมาถึงห้องทำงาน ส่วนเจ้าลูกหมู วิ่งซนอยู่ข้างล่างกับพี่ๆการ์ด ผมละกลัวว่าน้องตังจะทำร้านพัง


“สบายใจแล้วใช่ไหม”

“อืม” ผมตอบ โล่งใจขึ้นเยอะที่เห็นไอ้ติณไม่ได้ลำบากอะไร




ปัง!!

“กิจการดูรุ่งเรืองดีนิ ลูกชาย” แล้วพ่อของไอ้ติณก็เข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เหมือนเดิมเป๊ะ ก่อนที่ผมจะเหลือบมองร่างเล็กที่เดินจับมือเขาเข้ามา

“น้องตังมานี่ลูก” ผมเรียกแต่เด็กน้อยส่ายหน้า

“จะอยู่กับจุนปู่ จุนปู่มีหนมเยอะ”

“น้องตังมาหาปะป๋า เร็วๆครับ เดี๋ยวปะป๋าพาไปกินไอติม” ไอ้ติณพูดบ้างผมร้อนใจจะแย่ที่เห็นลูกอยู่กับเขา

“เมียแกนี่ขวัญอ่อนนะ เจ้าติณ แค่ป๋าเล่นกับหลานก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้”

“เอาลูกผมคืนมานะ คุณจะเอาน้องตังไปไหนไม่ได้!!” ผมตวาดลั่นจนน้องตังสะดุ้ง ร่างเล็กเบะปากเหมือนจะร้องไห้ กำลังจะวิ่งมาหาผม แต่ก็ถูกใครอีกคนช้อนตัวไปอุ้มแทน

“พ่อ”  ผมครางแผ่วเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร


“เฮ้อ ทำไมนิสัยยังใจร้อนเป็นไปเหมือนเดิมเลยหะ ไอ้ป๋อง พ่อบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าใช้อารมณ์ ขนาดเป็นแม่ ไม่ใช่ๆ ขนาดเป็นพ่อคนแล้วแท้ๆ” พ่อผมส่ายหย้าก่อนจะปล่อยน้องตังลง เด็กน้อยวิ่งเข้ามาหาผมทันที ก่อนที่ผมจะกอดแกไว้แน่น

“ป๋านี่มันอะไร” ไอ้ติณถามพ่อมัน

“สงสัย เราจะเล่นมากไปว่ะ ไอ้เล้ง ลูกมึงถึงมองเราตาขวางขนาดนั้น” พ่อผมหันไปพูดกับพ่อไอ้ติณ นี่ผมงงไปหมดแล้ว นะ

“แล้วผ่านไหมล่ะ” พ่อไอ้ติณพูดบ้าง

“ทีแรกก็จะไม่ให้ผ่านหรอกแต่ ว่า ก็โอเค ถ้าไม่นับเรื่องที่พ่อมันเป็นคนบ้าไอ้เด็กนี่ก็น่าสนใจดี กูยอมให้มันเป็นลูกเขยก็ได้”

“เหอะ กูก็เหมือนกัน ถึงจะไม่ใช่ผู้หญิงแต่ก็ดีแล้ว ชีวิตไอ้ติณต้องมีเมียที่เข้มแข็ง ถึงจะใจร้อนไปหน่อยก็เถอะ กูให้ผ่านก็ได้”

“พ่อนี่มันเรื่องอะไรผมงงไปหมดแล้ว” พ่อผมไม่ได้ตอบแค่หัวเราะกับพ่อไอ้ติณอย่างบ้าคลั่ง? ผมมารู้ทีหลังว่าทุกอย่างมันเป็นแผนของพ่อผมกับพ่อไอ้ติณ มันเกิดจากสัญญาที่จะให้ลูกแต่งงานกันแต่ดันเกิดมาเป็นผู้ชายทั้งคู่ เลยคิดจะยกเลิก แต่พอมารู้อีกทีว่าไอ้ติณอยู่กับผมไอ้แผนทดสอบชีวิตคู่มันเลยเกิดขึ้น  ตอนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไอ้ติณกลายเป็นคนโปรดของพ่อผมไปแล้ว เพราะผมไม่ยอมรบช่วงกิจการ พ่อกับแม่เลยไม่มีเวลาไปฮันนีมูน? พอมีลูกขายมาทำต่อเลยทิ้งผมไปเที่ยวรอบโลกกันแล้ว ส่วนพ่อไอ้ติณรายนั้นติดน้องตังยิ่งกว่าอะไร หลานชายคนเดียวของตระกูลเลยนะครับเพราะเฮียคินก็มีเมียเป็น ผู้ชายไง น้องตังเลยกลายเป็นทายาทคนเดียวของทั้ง ตระกูลเหลียงและ มังกรธวัช นี่ลูกผมเป็นเศรษฐีตั้งแต่สามขวบเลยนะบ่องตรง



“ทำไมยังไม่นอน หืม” ร่างสูงที่เพิ่งกลับจากทำงานถามขึ้น ใจจริงก็ห่วงมันเหมือนกันนะ เพราะต้องบริหารงานสองตระกูลแต่ดีหน่อยที่ทาง เหลียงมีเฮียคิณ กับพี่เปรมคอยดูอยู่เลยไม่ค่อยลำบากแต่ งานทางผมนี่สิมันต้องทำคนเดียวทั้งงานบริษัททั้ง ผับ คาสิโน และอื่นๆ อีกเพียบ จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน

“เหนื่อยไหม”

“ไม่เหนื่อยหรอก แค่กลับมาบ้านเห็นมึงกับน้องตังกูก็หายเหนื่อยแล้ว แค่ได้อยู่กับมึง หนักกว่านี้ก็ทนไหว”

“กูรักมึงนะ” ไอ้ติณดูจะอึ้งมากที่ผมพูดคำนั้นออกมาเพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ปีกว่าๆ ผมไม่เคยพูดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ต่าง
จากมันที่บอกผมแทบทุกวัน

“เชี่ย กูแมร่งต้องฝันอยู่แน่ๆเลย โอ้ย!! ” มันร้องลั่นทันทีที่ผมหยิกแขน

“ทีนี่ยังฝันอยู่ไหม”

“ไม่ฝันแล้วครับ เมียเฮียนี่ดุเนาะ เอะอะตี เอะอะต่อย นี่ผัวนะไม่ใช่กระสอบทราย”

“แต่………….”



“กูก็รักมึงที่สุดในโลกเลยนะครับ เมีย”






…………………จบเหอะเนาะ………………………………



 :katai2-1: :hao5: :hao5:

จบแล้วววววววววววววววววววววววววววววววว จบเหอะ เนาะ บ้าบอ มาก ฮ่าๆๆ

โปรเจ็คหน้ายังไม่มีกำหนดที่แน่นอน นะคะ สำหรับ กลรักมาเฟีย

เพราะ พิต ยังไม่มีเวลาปั่นเลย แต่ยังไงก็ฝากติดตามด้วยน๊า  :mew1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หวายๆๆๆ พี่ป๋อง เสร็จเฮียติณซะแล้ว ฮ่าๆ

ออฟไลน์ PlangPai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พี่ป๋องน่าร๊ากกกกก  ขอบคูณค่ะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ที่แท้ก็เป็นแผนของพวกพ่อๆนี่เอง

จบได้น่ารัก น่าหยิก~

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ตอนของป๋องกับเฮียติณนี่น่ารักดีนะ เฮียแอบชอบป๋องมานานมากอ่ะ พอได้จังหวะก็เนียนเชียวนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :pig4: ในที่สุดก็เป็นครอบครัวสุขสันต์

ออฟไลน์ teamkoyza

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อ๊าย จากเฮียป๋อง เป็น เจ๊ป๋องไปซะแล้ว เพราะมีเฮียติณ แปลสถานะให้ ฟินเลยทีนี้

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
พี่ป๋องดูน่ารักไปเลยพอมาอยู่กะเฮียติณ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
เรื่องของพี่ป๋องนี่ฟินเอามากๆเลย  :m3:
ถ้าเป็นเรื่องยาวได้นี่ เยี่ยมเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด