ซีรีย์ เล่ห์/ร้อย/รัก By Pita : รักวุ่นๆกรุ่นกาแฟ :กลกามเทพ จบ P13 24/2/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีย์ เล่ห์/ร้อย/รัก By Pita : รักวุ่นๆกรุ่นกาแฟ :กลกามเทพ จบ P13 24/2/58  (อ่าน 99177 ครั้ง)

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
นึกว่า แทนโปรดกำลังจะดราม่า ประมาณว่าโดนลากไปข่มขืนตามสไตล์ซีรีย์นี้ ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh:

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
นึกว่า แทนโปรดกำลังจะดราม่า ประมาณว่าโดนลากไปข่มขืนตามสไตล์ซีรีย์นี้ ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh:

ใจจริงก็อยากอยู่ นะคะแต่กลัวมันจะยาวววววววววววววว ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สวัสดีปีใหม่ค่าาา

เรื่องเริ่มคลีคลายแล้วสิเนอะ ดีจัง

ออฟไลน์ momoku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
พี่แทนนนนนนนนนนนนนนนนน  น้องละลายค่ะ  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กว่าจะรู้ใจตัวเองนะแทน!!

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13


ตอน 25

ผมนั่งมองปฎิทินก่อนจะถอนหายใจ เวลานั้นมันใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสินะ แม้จะเจ็บที่เลือกทางนี้แต่มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเราสามคน ผม เขา และอาอิท ทุกคนควรทิ้งอดีตและเริ่มต้นใหม่เสียที แต่สิ่งเดียวที่ยังค้างคาในใจของผมคือ ผมยังไม่เคยบอกความจริงกับอาอิท ความจริงที่ตัวผมเองเก็บมันไว้ในใจมาตลอดสี่ปี ผมกลัว กลัวว่าแววตาอ่อนโยนคู่นั้นจะเปลี่ยนไปถ้าอารู้ว่าหลานคนนี้เคยทำเรื่องเลวร้าย แบบนั้น อาคงเจ็บปวดมาก


ก๊อกๆๆ 

“ไม้ นี่อาเองนะ เข้าไปได้หรือเปล่า”

“ได้ครับ ประตูไม่ได้ล็อค”

“ทำอะไรอยู่หืม” น้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมๆกับมือนั้นลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา ผมทำได้เพียงมองรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นนั้นด้วยความละอาย ผมทำมันไปได้ยังไง ผมทำแบบนั้นกับคนที่รักผมสุดหัวใจคนนี้ได้ยังไง

“เปล่าครับ ผมแค่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”

“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า บอกอาได้ไหม” อาอิทถามก่อนจะนั่งลงข้างๆผม

“ผม” ผมได้แต่มองอาด้วยความรู้สึกผิด ถ้อยคำมากมายเหมือนจุกอยู่ที่คอ ผมไม่กล้าพูด ผมไม่กล้าแม้แต่จะสบตาอาตรงๆด้วย
ซ้ำ

“ไม้ รู้ไหม ว่าสำหรับอาแล้ว ไม้เหมือนลูกชายของอา คนเป็นพ่อเป็นแม่ น่ะ ไม่ว่าลูกจะทำอะไรผิดก็โกรธไม่ลงหรอก อาพร้อมจะให้อภัยเราเสมอ ไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะร้ายแรงแค่ไหน”

“อา ผม ผม ขอโทษ ขอโทษนะครับ ผมขอโทษ” ผมได้แต่เอ่ยขอโทษซ้ำไปซ้ำมาก่อนจะโผเข้ากอดอาแน่น มือคู่นั้นยังคงลูบหลังผมอย่างปลอบโยนไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี รอยยิ้มและสัมผัสที่อบอุ่นนั้น มันก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย

“ไม้ไม่อยากพูดถึงมันก็ไม่เป็นไร แต่อาอยากให้รู้ไว้ ว่าอาให้อภัยไม้เสมอ ให้อภัยในทุกๆเรื่องที่เกิดขึ้น”

“อารู้” ผมครางแผ่ว  ร่างโปร่งนั้นพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ผมปล่อยน้ำตาให้ไหลอย่างไม่อายพลางกอดอีกฝ่ายบ้าง

“ผมขอโทษ ขอโทษครับ ขอโทษที่ทำให้อาผิดหวัง ขอโทษที่หลานคนนี้ทำให้ อาต้องร้องไห้”

“คนเราจะไม่มีวันเดินหน้าได้ถ้าไม่ยอมปล่อยอดีต อย่าคิดถึงมันอีกเลยถ้ามันทำให้เจ็บปวด อาอยากได้ไอ้หลานชายตัวแสบคน
เดิมกลับมากกว่ากว่านะ”

“ขอบคุณครับ ”

“ไอ้เด็กขี้แยเอ้ย ไม่เจอกันไม่กี่ปีไอ้แสบของอาขี้แยขึ้นเยอะเลย ไม่เอาโตแล้ว จะมาร้องไห้กอดอาแบบตอนเด็กๆไม่ได้แล้วนะ”
อาอิทบอกติดตลก ผมยิ้มทั้งน้ำตา ผมมีความสุข มีความสุขจริงๆที่ อ้อมกอดนี้ยังเหมือนเดิม ในชีวิตของผมมีคนไม่มากที่เข้าใจ หนึ่งในนั้นคือคนๆนี้ คนที่เป็นเหมือนพ่อคนที่สองของผม



“แล้วเราน่ะตัดสินใจดีแล้วเหรอเรื่องเรียนต่อ” หลังจากที่ปลอบจนผมเลิกงอแง อาก็ตั้งคำถามใหม่ทันที

“ครับ มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว”

“ไม้ ถ้าต้นกับไม้ รักกันอาไม่ว่าหรอกนะ อาบอกแล้วไง ว่าตอนนี้อาไม่ได้คิดอะไรแล้ว ต้องขอบคุณต้นด้วยซ้ำที่ทำให้อาเจอกร ”

“ไม่หรอกครับ เราไม่ได้รักกัน” เพราะมีแต่ผมที่รักพี่ต้นข้างเดียว ประโยคสุดท้ายผมได้แต่เก็บมันเอาไว้ในใจ พอแล้ว หมดเวลาคร่ำครวญแล้ว ต่อไปนี้ ผมต้องเดินหน้าต่อไปแม้ว่าหัวใจจะเจ็บปวดก็ตาม

“ไม้ฟังอานะ อารู้จักต้นดี เขาจะไม่มีทางยุ่งกับไม้เด็ดขาดถ้าเขาไม่ได้คิดอะไรด้วย อาไม่อยากเห็นไม้เป็นแบบนี้ ทำไมสองคนไม่ลองคุยกันดูล่ะ บางทีอาจจะใจตรงกันก็ได้นะ”

“ไม่หรอกครับ คนที่พี่ต้นรักมาตลอดคืออา ไม่ใช่ผม ผมเป็นได้เงาของอาเท่านั้น”

“ไม้” อาอิทครางแผ่ว

“ต่อให้ในโลกนี้ไม่มีใครรักไม้ แต่จำไว้นะ ว่า ทั้งอา ทั้งคุณปู่ และทุกคนที่บ้านนี้รักไม้เสมอ”

“ครับอา ผมก็รักอากับคุณปู่ ครับ”

แม้วว่าความรักของผมจะไม่สมหวัง แต่ผมก็ดีใจ ที่วันนี้ยังมีครอบครัว ยังมีอาอิท ยังมีคุณปู่ ยังมีทุกคนที่คอยเป็นห่วงผมอยู่เสมอ เท่านี้ชีวิตของผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว



……..อิทธิพล…..

ผมมองร้านกาแฟเล็กๆที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นก่อนจะยกยิ้ม ในที่สุดต้นก็ทำสำเร็จแล้วสินะ ต้นมีความฝันที่จะมีร้านเล็กๆเป็นของตัวเองมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แต่เพราะ เขามาคบกับผม ความตั้งใจนั้นจึงถูกพับเก็บลงไป เขาทำทุกอย่างเพื่อให้คุณพ่อยอมรับ ยอมทิ้งความฝันของตัวเองเพื่อมุ่งมั่นเป็นผู้บริหารของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จนบริษัทเติบโตอย่างสวยงาม แต่ผมเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าต้นขายหุ้นทั้งหมดไปหลังจากที่เราเลิกกัน แม้เมื่อก่อนจะผมจะเคยเจ็บ และเสียใจกับการกระทำของต้นและไม้แต่นั่นมันก็กลายเป็นอดีตไปแล้ว บางครั้งโชคชะตาอาจนำพามาให้เราพบกันแต่ไม่ได้กำหนดว่าเราเป็นคู่กัน เพราะหัวใจมันบังคับกันไม่ได้ ตลอดเวลาที่คบกัน ต้นต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่ชอบ ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ เพื่อต่อสู้กับคำติฉินนินทาว่าเกาะผมกิน เขาคงลำบากไม่น้อยในช่วงเวลานั้น  ตอนนี้ผมก็ยังคงรักเขาอยู่ แต่มันเป็นความรัก และความหวังดีอย่างเพื่อนคนหนึ่งมีให้กัน ผมอยากเห็นเขามีความสุขกับคนที่เขารักจริงๆ ไม่ใช่จมอยู่กับอดีตที่ผ่านมา

“แกลลอรี่ สวัสดีครับ” เสียงทุ้มของเจ้าของร้านกล่าวทักทายทั้งๆที่ยังง่วนอยู่กับการชงกาแฟ ผมอมยิ้ม ก่อนจะมองร่างสูงในชุดผ้ากันเปื้อนที่ดูเข้ากับบุคลิกของเขามากกว่า สูทที่ผมเคยเห็นจนชินตา

“ไม่เคยคิดเลยนะว่า ร้านของต้นจะสวยขนาดนี้”  ผมบอกก่อนที่เจ้าของร้านจะเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยความตกใจ

“อิท”

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ หรือไม่อยากให้อิทมา”

“เปล่าต้นแค่แปลกใจ อิทมีธุระอะไรหรือเปล่า” เขาถาม

“จริงๆก็มี แต่ดูเหมือนต้นจะยุ่งอยู่ ถ้าอย่างนั้น อิทขอเป็นพนักงานสักวันจะอนุญาตไหม” ร่างสูงพยักหน้าอย่างงงๆเมื่อผมฉวยเอาแก้วกาแฟในมือมาถือเอง

“โต๊ะไหน เดี๋ยวอิทไปเอง”

วันทั้งวันผมกลายเป็นพนักงานร้านแกลลอรี่อย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าจะมีสายตาของความสงสัยจากอีกสองคนในร้านคอยมองมาเป็นระยะ แต่ยอมรับเลยจริงๆว่า ผมไม่เคยเห็นต้นในมุมนี้มาก่อน เขาดูอบอุ่น อ่อนโยน และดูมีความสุขทุกครั้งที่ได้ชงกาแฟ บางทีการที่เราเลิกกัน อาจจะเป็นเรื่องดีสำหรับเราสองคนจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นป่านนี้ผมก็คงยังเห็นต้นนั่งเครียดกับเอกสารกองเป็นภูเขาอยู่บนโต๊ะทำงานเหมือนเดิม

“เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย” ผมบ่นเบาๆ ก่อนจะช่วย น้องเล็ก กับน้องเมฆ จัดเก้าอี้ให้เข้าที่ การทำงานวันนี้ทำให้ผมได้เพื่อนรุ่นน้องมาเพิ่มตั้งสองคน น้องเล็กกับน้องเมฆเป็นคนคุยสนุกอยู่ด้วยแล้วสบายใจดี มิน่าล่ะ หลานชายผมถึงไม่ยอมไปไหน

“อิท ขอบคุณนะที่มาช่วย” เจ้าร้านบอกหลังจากที่พนักงานคนอื่นกลับไปหมดแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอก คนกันเองทั้งนั้น ”

“แล้วที่อิทมาวันนี้มีธุระอะไรเหรอ”

“อิทแค่อยากมาดู”

“มาดู” เขาเลิกคิ้วถาม

“อืม อิทแค่อยากรู้ว่าทำไม เจ้าไม้ถึงผูกพันกับที่นี่นัก เวลาพูดถึงร้านนี้ทีไรไม้ดูมีความสุขมาก แต่ตอนนี้อิทได้คำตอบแล้วล่ะ ที่นี่
อยู่แล้วสบายใจจริงๆด้วย”

“ไม่หรอก ที่นี่ทำให้ไม้ต้องเจ็บต่างหาก” ต้นว่าเสียงเบา

“สองคนนี้นี่ยังไงกันนะ ชอบโทษตัวเองจริง” ผมส่ายหน้าระอา

“ต้น อิทถามอะไรสักอย่างได้ไหม”

“ได้สิ”

“ตอนนี้ ต้นยังรักอิทอยู่หรือเปล่า”

“ต้น..” เขาอึกอัก ผมอมยิ้มก่อนจะจับมือหนาไปวางทาบไว้ที่หน้าอกข้างซ้าย

“ถามใจตัวองดีๆนะต้น เรื่องของเรามันผ่านมานานแล้ว สิ่งที่ต้นรู้สึกอยู่ตอนนี้ มันคือความรักหรือว่าต้นแค่รู้สึกติดค้างอิทเท่านั้น ถามหัวใจตัวเองดีๆ ตอนนี้มันกำลังสะท้อนภาพใครอยู่”

“อิทรู้เรื่องเมื่อ 4 ปีก่อนแล้วเหรอ”

“ใช่ แต่อิทเลิกโกรธต้นไปนานแล้ว”

“ แต่ตอนนี้อิทโคตรอยากต่อยต้นเลยว่ะ”

“ทำไม”

“เพราะต้นทำให้หลานชายอิทร้องไห้นะสิ เพราะฉะนั้น ต้นต้องรับผิดชอบด้วยนะ”



ตอนที่ 26

ติณภพ

การมาของอิททำให้ผมทำอะไรไม่ถูก ผมไม่รู้ไม่รู้ว่าตัวเองต้องวางตัวแบบไหนหรือต้องพูดอะไร คิดโน่นคิดนี่สารพัดแต่ เรื่องมันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เหตุการณ์วันนี้มันเป็นอย่างเรียบง่าย เราสองคนช่วยกันทำงานโดยที่ไม่รู้สึกแปลกในใจ มันเป็นความรู้สึกที่ธรรมดาเหลือเกินธรรมดาจนผมเองยังแปลกใจ  ผมถูกอิทถามถึงความรู้สึกในตอนนี้ แต่ผมกลับตอบไม่ได้ ผมลังเล หากเป็นก่อนหน้านี้ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่ายังรัก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ผมไม่ได้ใจเต้นแรงกับรอยยิ้มของเขา ผมไม่ได้หึงหวงเวลาที่แฟนใหม่ของอิทโทรมาหา ความรู้สึกในใจมันมีแค่ความหวังดี คือความปรารถนาดีจากใจจริง เป็นความรู้สึกอย่างคนรู้จัก อย่างเพื่อนที่ดีคนหนึ่งควรจะมี  แม้เรื่องราวในอดีตจะทำให้ผมไม่กล้ามองหน้าเขา แต่เมื่อได้รับการอภัยทุกสิ่งในใจก็เหมือนละลายหายไป มันโล่งอย่างที่ไม่เลยเป็นมาก่อนตลอดหลายปี

“ตอนนี้อิทโคตรอยากต่อยต้นเลยว่ะ” เขาว่าพลางมองผมตาขวางหลังจากที่เราคุยกันสักพัก

“ทำไม”

“เพราะต้นทำให้หลานชายอิทร้องไห้นะสิ เพราะฉะนั้น ต้นต้องรับผิดชอบด้วยนะ”

“หลานชาย ไม้นะเหรอ”

" จะใครซะอีกล่ะ ต้นรู้ไหมว่าไม้แย่มากเลย” อิทบอกเสียงเบา

“รู้สิ” ผมตอบ แต่เพราะรู้ผมถึงต้องปล่อยเขาไป

“อิทถามจริงๆนะ ต้นรักไม้บ้างหรือเปล่า”

“รักหรือไม่รัก มันก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ เมื่อเส้นทางชีวิตไม่ได้ขีดให้เรา เดินด้วยกัน เราทุกคนเจ็บปวดกับเรื่องนี้มานานเกินไปแล้วถึงเวลาที่ต้องหยุดและทบทวนทุกอย่างไม่ใช่เหรอ”

“ต้นเปลี่ยนไปนะ”

“อะไรที่ทำให้อิทคิดแบบนั้น”

“เพราะตอนที่เราคบกัน ต้นดูพยายามมากกว่านี้ แต่ดูตอนนี้สิ ต้นพูดเหมือนคนสิ้นหวัง”

“ต้นไม่ได้สิ้นหวัง เพียงแต่ต้นไม่อยากให้ไม้จ้องเจ็บปวดอีกแล้ว อิทก็รู้ ว่าเราสองคนละอายใจกับเรื่องนั้นแค่ไหน ต่อให้ตอนนี้อิทยกโทษให้แล้วก็เถอะ แต่เราสองคนก็ยังรู้สึกผิดกับมันอยู่ดี”

“ไม่เสียใจจริงๆเหรอที่ทำแบบนี้ ถ้าวันหนึ่งไม้ไปรักคนอื่นต้นจะทนได้เหรอ อิทอยากให้ต้นคิดดูอีกที ไม้กำลัจะไปเรียนต่อแล้วนะ ถ้าต้นไม่รีบตัดสินใจบางทีอะไรๆมันอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว อิทมาบอกแค่นี้ ที่เหลือต้นลองถามหัวใจตัวเองดูก็แล้วกัน” อิททิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากร้านไปปล่อยให้ผมจมอยู่กับความคิดของตัวเอง รักเหรอ ผมมีค่าพอที่จะรักใครด้วยเหรอ คนเห็นแก่ตัวอย่างผมสมควรที่จะได้รับความรักอย่างนั้นหรือ มันไม่สมควรเลยสักนิด แต่หัวใจของผม กลับเจ็บปวดเหลือเกิน มันไม่ทุรนทุรายเหมือนตอนที่เลิกกกับอิท แต่มันเจ็บร้าวจนไม่มีแม้แต่แรงจะหายใจ ผู้คนมักถามผมเสมอว่า ผมคิดยังไงกับไม้ บอกตามตรงว่าเมื่อก่อน ผมเคยหวั่นไหวกับแววตาคู่นั้น หวั่นไหวจนทำในสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย จนถึงเมื่อปีก่อนที่เราได้พบกันอีกครั้ง แววตาคู่นั้นก็ยังคงตรึงผมไว้กับที่ได้เสมอ เมื่อเมฆหมอกของความรู้สึกผิดต่ออิทจางหายไป ผมถึงได้รู้ ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา หัวใจของผมค่อยๆเปิดรับไอ้เด็กเกรียนคนนั้นเข้ามาทีละนิด โดยที่ไม่รู้ตัว กลับไม่เหลือที่ว่างไว้ให้ใครอีก แม้แต่กับคนที่ผมคิดว่ารักมากที่สุดอย่างอิท  ผมรักไม้ คำตอบนั้นมันชัดเจนอยู่แล้ว แต่กว่าคำถามนี้จะได้รับคำตอบทุกอย่างมันก็สายเกินไปแล้ว 



“เหอะ ยังอยู่จริงๆด้วยสินะ” เสียงทุ้มต่ำที่ระยะนี้ผมได้ยินจนชินหูเอ่ยขึ้นก่อนที่เด็กหนุ่มในเครื่องแบบนักเรียนช่างกลจะเดินเข้า
มาในร้าน

“มีอะไร”

“ก็ไม่มีอะไรหรอก พอดีว่าพี่ป๋องเนี่ยเป็นคนดีมากถึงมากที่สุด ก็เลยอยากจะมาสงเคราะห์คนบางคนน่ะ” ไอ้เด็กอวดดียืนกอดอกด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ ก่อนจะมองหน้าผมด้วยท่าทางหาเรื่อง

“รู้แล้วใช่ไหมว่า อีกสองวันไอ้ไม้จะไปเรียนต่อ”

“อืม”

“รู้แล้วทำไมยังเฉยอีก เหอะ นี่ไอ้คุณเจ้าของร้าน จะบอกอะไรให้นะ ความรักน่ะไม่ได้ต้องการคนท่ามาก แต่ต้องการคนจริงใจ รัก
ก็แค่บอกไปว่ารักจะมาคิดมากให้มันวุ่นวายซับซ้อนทำไม” 

“นายไม่เข้าใจหรอก”

“ทำไมจะไม่เข้าใจ แค่อายุมากกว่าก็ใช่ว่าจะคิดได้ลึกซึ้งกว่านะ ถามจริงๆเถอะ เป็นผู้ชายป่ะ ถ้าเป็นถ้ารับอยากแมนๆไปเลยว่า
รัก”

“ฉันไม่จำเป็นต้องให้เด็กอย่างนายมาสอน”

“ก็ไม่ได้อยากสอนหรอก ถ้าคนที่รักคุณไม่ใช่คนที่ผมรัก ผมไม่อยากเห็นมันร้องไห้อีก รู้ไหมว่าน้ำตาของมันมีค่าแค่ไหน ถ้ามันรักผมได้สักเสี้ยวหนึ่งที่มันรักคุณผมสาบานเลยว่าจะไม่มีวันทำให้มันเสียใจ” ไอ้เด็กนั้นบอกผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พูดจบหรือยัง”

“ยัง..แค่จะบอกว่า ตอนนี้ไม้อยู่ที่บ้านของพี่ที่ชื่อเล็กเขาจัดปาร์ตี้อำลากันที่นั้น ถ้าจะไปก็ไป” เด็กนั่นทิ้งทายก่อนจะเดินออกจากร้านไปอีกคน

ผมทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ พลางมองไปรอบๆร้านอย่างเคยชิน  ทำไมแทบทุกที่ในร้านถึงได้มีความทรงจำของผมกัยไม้มากมายขนาดนี้นะ


กริ๊งๆ

เสียงกริ่งหน้าร้านทำให้ผมตื่นจากภวังค์ก่อนที่จะพ่นลมหายใจอย่างหัวเสีย นี่ใครมาอีกล่ะเนี่ยใจคอจะไม่ให้ผมคิดอะไรเงียบๆคนเดียวเลยหรือไง

“เอ่อ ทีนี่มีคนชื่อต้นไหมครับ” ผู้ชายที่ท่าทางดูเหมือนพนักงานส่งของเอ่ยถาม

“ผมเองครับ มีอะไรหรือเปล่า”

“มีคนส่งนี่มาให้ครับ ” เขาบอกก่อนจะยื่นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากให้ ผมรับมาอย่างงงๆก่อนจะเริ่มแกะ

“นี่มัน..” ผมมองเจ้าของที่อยู่ในกล่องไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพราะในกล่องเป็นเค้กก้อนหนึ่ง มันอาจจะเป็นเค้กธรรมดาทั่วไป ถ้ามันไม่ได้ วาดเป็นรูปการ์ตูนของผมพร้อมกับข้อความที่เขียนว่า แก่ขึ้นอีกปีแล้วนะลุง

“ไม้” ผมครางแผ่ว เค้กแบบนี้มีแค่ไอ้เด็กเกรียนของผมนั้นที่ทำได้ จำได้ว่าตอนมันทำครั้งแรกผมด่ามันตั้งหลายวัน แต่มันก็ดันทุรังทำจนได้แถมยอดขายก็ดีจนไม่น่าเชื่ออีกต่างหาก  ผมอมยิ้มกับคำอวยพรที่ออกจะแปลกๆแต่กลับเป็นตัวไม้มากที่สุด จำได้ด้วยสินะ ไม้จำวันเกิดของผมได้ 

“ทำไมถึงยังทำดีกับพี่อยู่อีก ทำแบบนี้พี่จะตัดใจจากไม้ได้ยังไง” ผมพึมพำเบาๆ  ก่อนจะวิ่งไปคว้ากุญแจรถทันที  ไม่มีเวลาแล้ว ผมต้องไป ผมต้องไปเจอเขาให้ได้

………………………………………………………………………………..

“ไม้เป็นอะไร ไม่สนุกเหรอ” เจ้าของบ้านร่างโปร่งเอ่ยถาม ก่อนจะนั่งลงข้างๆผมพร้อมกับเด็กชายตัวน้อย

“ใช่ครับ พี่ไม้อย่าขมวดคิ้วสิ พี่ยะขิ่นบอกว่าคนที่ขมวดคิ้วบ่อยๆจะมีตีนกา เดี๋ยวจะไม่หล่อนะครับ นี่เห็นไหมพีพีไม่ขมวดคิ้วพีพีเลยหล่อ” เด็กน้อยว่า ผมอมยิ้มกับความน่ารักของเจ้าหนูตรงหน้าที่กลายเป็นขวัญใจของทุกคนที่นี้ เพราะความน่ารักปนแสบแบบเด็กๆทำให้ผมอดที่จะหอมแก้มยุ้ยนั่นไม่ได้

“โห น้องชายพี่ไม้หล่อมากเลยครับ ดูสิไม่มีตีนกาเลย ฮ่าๆ”

“อ่อย พี่ไม้อย่าหอมแก้มพีพีสิ คุณป๋าบอกว่า นอกจากการคุณป๋ากับพ่อเล็กแล้วห้ามใครหอมแก้มพีพีเด็ดขาด” เด็กน้อยว่า

“อย่าไปถือสาแกเลยนะไม้ พีพีอยู่กับไอ้คุณป๋ากับพี่เลี้ยงมากไปน่ะ เลยทั้งซนทั้งแสบทั้งเกรียน จนพี่ปวดหัวไปหมดแล้ว ”

“ไม่หรอกครับ น้องพีพีน่ารักดี”

“กว่าจะยิ้มได้นะไม้ ทั้งแต่มาเราเอาแต่นั่งนิ่ง พี่ไม่สบายใจเลย วันนี้เรามาสนุกกันนะต้องสนุกให้เต็มที่สิ”

“ขอบคุณครับพี่เล็ก”

“เฮ้ย ไอ้ไม้ ขอคุยด้วยหน่อยสิ” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ลูกพี่ของผมจะเดินเข้ามา

“ลูกพี่มีอะไรเหรอครับ”

“คิดดีแล้วใช่ไหม ถึงทำแบบนี้”

ผมพยักหน้า พลางผมถอนหายใจทำไมใครๆถึงมักถามคำถามนี้กับผมจังนะ

“ไม่เจ็บแน่นะ” อีกคนถามย้ำ

“เจ็บครับ แต่ถ้ามันจบผมก็ควรต้องทำ” ผมตอบไปตามความจริง

“ไอ้ไม้ตัวอย่างก็มีให้เห็นตั้งหลายคน ทำไมแกยังยืนยันจะไปอยู่อีกดูอย่างไอ้เล็กสิกว่าจะดีกับสามีได้นี่ ตีกันไม่รู้กี่รอบ”

“มึงก็ไม่ดูตัวเองเลยนะคุณเมฆากว่าจะลงเอยกับพี่ใหญ่ร้องไห้ไปกี่โอ่ง” พี่เล็กว่าบ้าง คู่นี้ไม่เคยยอมกันเลยจริงๆ

“เห็นไหม ว่ามันไม่มีอะไรดีเลยถ้าไม่เปิดใจคุยกัน มันไม่จบหรอกนะไม้ถ้าไม่คุยกันให้รู้เรื่องถ้าแกยืนยันจะไปก็ไปคุยกับเขาให้
เข้าใจซะอะไรที่มันค้างคาก็เคลียร์กันให้จบ แบบนั้นต่างหากมันถึงเรียกว่าจบจริงๆ แต่ที่แกยังหนีไปหาไปเรื่อยๆแบบนี้ พี่ก็คิดนะ
ว่าจริงๆแกไม่อยากให้มันจบ พี่พูดถูกไหม” พี่เมฆถามเสียงเข้ม

“ผม..”

“เด็กน้อยเอ้ย” ลูกพี่หัวเราะรั่วก่อนจะตบไหล่ผมเบาๆ

“ถ้าไม่อยากจบแบบเจ็บๆ ก็ไปหาเขาซะสิ ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง มันก็คงไม่เลวร้ายไปมากกว่านี้หรอกจริงไหม” ผมเงียบพยายามที่จะคิดตามในสิ่งที่ลูกพี่บอก มันก็จริงอย่างที่เขาพูดต่อให้เรื่องทุกอย่างมันจะจบลงยังไง ตัวผมก็ไม่สามารถเจ็บไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว แล้วผมต้องกลัวอะไร? ไปคุยกันให้มันจบไปเลยจริงๆไม่ดีกว่าเหรอ



“ไอ้เมฆ ไม้ เกิดเรื่องแล้ว!!” จู่ๆพี่เล็กที่พาพีพีไปนอนก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา

“มีอะไรวะ”

“พี่โอ๋ โทรมาบอกว่า พี่ต้นรถชน!”



..................................................TBc...................................

 :katai3:  ตนหน้าจบแน่ๆ ค่ะ ไม่ได้โม้  อิอิ
วันนี้ไม่เวิ่นมาก ไว้ไประบายตอนจบทีเดียวเลย ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ตอนหน้าจบ พี่ป๋องของช้านยังไม่มีคู่เลย  :katai1:
พอพี่ต้นรถชน ไม้ก็ได้มาร้องร้องไห้อีก สงสารไม้บ้างเถอะ  :mew6:
คนที่สมควรจะร้องไห้น้ำตาไหลพรากๆมันควรจะเป็นอิพี่ต้นสิ  :angry2:

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอน 27

“พี่โอ๋ โทรมาบอกว่า พี่ต้นรถชน!”

“พี่เล็กว่ายังไงนะครับ” ผมหันไปถามเจ้าของบ้านเสียงสั่น ไม่ใช่ ผมคงได้ยินผิดไปมันต้องไม่ใช่อย่างที่ผมคิดสิ

“พี่ชายพี่ที่เป็นตำรวจโทรมาบอกว่า พี่ต้นรถชนตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล a” พี่เล็กบอกเสียงสั่น  วินาทีที่ได้ยินเหมืนหัวใจมันหล่นวูบ ผมไม่มีแม้แต่แรงที่จะทรงตัว ความเป็นห่วงทำให้ผมกระวนกระวายจนแทบจะทะไรไม่ถูกผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองควรจะนั่ง ยืน
หรือว่าทำอะไร มันสับสนไปหมด 

“เฮ้ย ไม้อย่าเพิ่งร้องสิ พี่ต้นไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” พี่เมฆว่า ผมมองหน้าลูกพี่อย่างทำอะไรไม่ถูกผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆว่าต้องเริ่ม
ทำอะไรก่อน ถึพี่ต้นจะทำให้ผมเสียใจมาตลอด แต่พอคิดว่า ร่างสูงนั้นจะเป็นอะไรไปหัวใจผมกลับทนไม่ได้ ถึงการจากเป็นมันจะ
เจ็บปวด แต่มันก็ดีกว่าการที่ใครอีกคนอาจจะจากไปตลอดกาล

“อ่ะ”  ระหวว่างที่ผมไม้แต่ยืนร้องไห้ หมวกกันน๊อคก็ถูกยื่นมาให้จากคู่อริตัวสูง 

“อะไร”

“ใส่ซะ แล้วก็ขึ้นมา อยากไปใจจะขาดแล้วไม่ใช่เหรอไอ้โรงพยาบาลเนี่ย”

“ไอ้ป๋อง”

“ไม่ต้องมาทำหน้าซาบซึ้งใจ บอกแล้วว่าไม่ชิน จะไปก็ขึ้นมาเร็วๆ อย่าท่ามาก” มันว่าเสียงห้วน ผมได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะกระโดดขึ้นซ้อนท้ายบิ๊กไบค์ของมันทีนที  แม้ว่าความเร็วของรถจะเพิ่มมากแค่ไหนแต่มันกลับช้ากว่าหัวใจของผมอยู่ดี

พี่อย่าเป็นอะไรนะ อย่าจากผมไปเด็ดขาด

“มึงนี่รัก เขามากจริงๆเลยนะ พอเห็นแบบนี้แล้ว กูถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่เคยมีหวังเลย” 

“ขอโทษนะ”

“ขอโทษทำไม หัวใจมันบังคับกันได้ที่ไหนล่ะ รักก็คือรัก ไม่รักก็คือไม่รัก กูเข้าใจ แค่ขอให้มึงรู้ไว้อย่าง ว่ามึงจะมีกูอยู่เป็นเพื่อนเสมอ ” มันว่าพร้อมๆกับที่รถจอดบริเวณโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง

“ไปเถอะ ไปทำตามอย่างที่ใจมึงถึงการ”

“ขอบคุณนะรับ ….. พี่ป๋อง”  ผมยิ้มให้มันก่อนจะวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลทันที   

ผมพยายามมองหาร่างสูงที่คุ้นเคยแต่กลับพบเพียงความวุ่นวายบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน  ทำไมถึงได้หายากแบบนี้นะ ยิ่งหายิ่งร้อนใจ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ผมยิ่งกลัว ผมกลัว กลัวว่าอีกคนจะไม่กลับมา กลัวไปหมดทุกอย่าง ทั้งๆที่พยายามจะตัดใจแล้วแท้ๆ แต่ทำผมต้องยังห่วงเขามากขนาดนี้ แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกน้ำตาของผมก็ไม่สามารถหยุดไหลได้เลย หัวใจคนเรามันช่างแปลกเหลือเกิน ทั้งๆที่เจ็บปวด ทั้งๆที่ทรมาน แต่กลับยังรัก ไม่เปลี่ยนแปลง

“ไม้” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น ก่อนที่มือของใครบางคนจะวางลงบนไหล่ผม

“มาทำอะไรที่นี้” เขาถาม

“ผมมา…..พี่ต้น!!” ผมตะโกนลั่นพลางมองคนตรงหน้าผ่านสายตาที่พร่าเลือน เขาจริงๆใช่ไหม เขายังอยู่ใช่ไหม เขาไม่ได้จากผมไปไหนใช่ไหม

“พี่ต้น พี่ต้นจริงๆใช่ไหม” ผมถามทั้งน้ำตาก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูง

“โอ้ย!!!” เจ้าของร้านตัวสูงร้องลั่น จนผมสะดุ้งก่อนจะถอยออกมาดูคนตรงหน้าชัดๆ ตามตัวพี่ต้นมีผ้าก๊อชติดอยู่ทั่วแม้ไม้ถึงหับร้ายแรงอะไรแต่ก็คงซ้ำในอยู่พอควร

“ขอโทษครับ ผมไม่คิดว่าพี่จะเจ็บ”

“ไม่หรอก พี่แค่ไม่ทันตั้งตัว ” เขาบอก ก่อนที่เราสองคนจะปล่อยให้ความเงียบเข้ามาแทรก ผมไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร เพราะความเป็นห่วงทำให้ผมไม่ทันได้เตรียมตัวว่า ถ้าผมพบเขาอีกครั้ง ผมต้องพูดอะไร

“เอ่อ พี่ เอ่อ พี่เป็นอะไรมากไหม พี่เล็กบอกว่าพี่รถชน”  ผมลองถามเพื่อทำลายความเงียบ

“แค่มีแผลนิดหน่อยครับ คุณหมอบอกว่าไม่มีอะไรน่าห่วง” 

“แต่ที่น่าห่วงมันคือนี่ต่างหาก” เขาบอกก่อนจะยกกล่องที่ผมเพิ่งสังเกตว่าเขาถืออยู่ตลอดขึ้นมา  ผมมองกล่งคุ้นตาสลับกับคนตัว
สูงพลางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

“เค้กวันเกิดที่ไม้ทำให้พี่ มันเละหมดแล้ว พี่ขอโทษนะ แต่พี่พยายามประคองแล้วแต่มัน..”

“ช่างเถอะครับ ผมดีใจนะที่พี่ไม่ได้เป็นอะไร” ผมบอกก่อนที่ความเงียบจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมเริ่มทำอะไรไม่ถูก ช่องว่างระหว่างเรามันมีมากเกินไป แม้จะมีคำพูดมากมายแต่กลับไม่รู้จะต้องพูดออกไปยังไง

“ไม้” จู่ๆคนที่เอาแต่เป็นฝ่ายตอบกลับพุดขึ้นก่อน

“ครับ”

“ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” เขาถาม ผมพยักหน้าก่อนจะเดินนำเขาไปที่สวนของโรงพยาบาล มันคงดีกว่าเราจะยืนคุยกันหน้าห้องฉุกเฉินที่แสนวุ่นวาย


“พี่มีอะไรครับ”

“ไม้ ถึงมันจะดูสายไปที่จะพูดคำนี้แต่พี่อยากบอกไม้นะ ว่าพี่ขอโทษ ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา พี่รู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวมาก พี่…”

“ช่างเถอะครับ ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว อาอิทบอกผมว่าคนเราจะเดินหน้าไม่ได้ถ้าไม่คิดที่จะปล่อยวางอดีต ” ผมบอกก่อนจะยิ้มให้เขาเท่านี้ก็ดีแล้ว แค่เท่านี้ก็พอแล้ว ผมไม่เคยหวังอะไรไปมากกว่า สักวันหนึ่ง พี่ต้นจะมองผมอย่างที่ผมเป็นไม่ใช่มอผมเป็นตัวแทนของใคร

“ขอบคุณที่ไม้ ยังให้อภัยพี่ ขอบคุณที่ยังเกลียดพี่” 

“ผมไม่เคยเกลียดพี่” ผมบอกไหนๆก็ตั้งใจไว้แล้วว่าวันนี้จะคุยกันให้รู้เรื่อง ถ้าอย่างนั้น ก็คุยตรงนี้ให้เข้าใจกันไปเลยดีกว่า

“ที่ผ่านมา ผมอาจจะทำผิดแต่ผมไม่ปฎิเสธหรอกว่าผมมีความสุข ผมรักพี่ แต่ผมรู้ว่าพี่รักอาอิทมาก ผมไม่เคยหวังให้พี่มารักผมตอบสำหรับผมการได้อยู่ใกล้ๆพี่ก็ทำให้ผมมีความสุขแล้ว” ผมบอก บอกในสิ่งที่เก็บไว้มานานบอกความรู้สึกที่อยู่ลึกที่สุดในหัวใจ มันน่าแปลกที่พอได้พูดแล้ว กลับรู้สึกว่าโล่งใจอย่างประหลาด

“ไม้”

“ครับ”

“พี่รักไม้นะ” จู่ๆคนตรงหน้าก็พูดมันออกมาโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว

“พี่..”

“มันอาจจะดูไม่น่าเชื่อ มันอาจจะดูเลื่อนลอยไปหน่อย แต่ทุกคำที่พูด พี่พูดมันออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ไม้ไม่จำเป็นต้องเชื่อเพราะพี่ไม่มีอะไรมาพิสูจน์ นอกจากเวลา พี่อยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ทุกคำที่พี่พุดมันออกมาจากหัวใจ”


ติณภพ

ผมยืนมองนกเหล็กที่กำลังจะบินขึ้นฟ้า วันนี้ไม้ต้องไปเรียนต่อ ผมถูกทั้งอิททั้งเจ้าเด็กช่างกล ลากให้มาส่งไม้แต่เช้า เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน เพราะทุกอย่างผมพูดไปตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนแล้ว  แม้ว่าทุกคนจะแปลกใจที่ ไม้ยังยืนยันจะไปเรียนต่อแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ซึ่งผมเองก็พอใจที่มันเป็นแบบนั้น ที่เหลือต่อจากนี้แค่เพียงปล่อยให้เวลา เป็นเครื่องพิสูจน์ ความจริงใจทั้งหมดที่ผมมี  ผมมักจะอมยิ้มทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อ 2 วันก่อน ผมรีบไปหาไม้จนรถชนแต่โชคดีที่ผมและคู่กรณีแค่ฟกช้ำ ไม่ได้เจ็บหนัก แต่นั่นกลับเป็นโอกาสดีที่ทำให้เราได้คุยกัน คุณไม่มีทางรู้เลยว่า วินาทีที่ผมเห็นไม้หน้าห้องฉุกเฉินนั้นผมดีใจแค่ไหน เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ไม้ไม่ได้เกลียดผม อย่างที่ผมกลัว

“พี่รักไม้นะ” คำสารภาพที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยของผมทำให้ไม้อึ้งไปชั่วครู่ ผมแอบยิ้มกับปฎิกิริยาน่ารักนั่นนิดหน่อยเพราะน้อยครั้งมากที่ใครจะทำให้ไอ้แสบอึ้งได้

“พี่..”

“มันอาจจะดูไม่น่าเชื่อ มันอาจจะดูเลื่อนลอยไปหน่อย แต่ทุกคำที่พูด พี่พูดมันออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ไม้ไม่จำเป็นต้องเชื่อเพราะพี่ไม่มีอะไรมาพิสูจน์ นอกจากเวลา พี่อยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ทุกคำที่พี่พูดมันออกมาจากหัวใจ” ผมบอกเพราะนั่นมันคือความรู้สึกจริงๆจากหัวใจของผม ผมไม่ขอให้เชื่อแค่เพียงขอโอกาส

“ผม..”

“พี่ไม่ได้บังคับให้ไม้ตอบตอนนี้ กลับไปคิดให้ดี  ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น พี่รู้ว่าการเป็นเชฟขนมเป็นความฝันของไม้ พี่รอได้ ไม้รอพี่มานานแล้ว ต่อไปนี้ให้พี่เป็นฝ่ายรอบ้าง ”

นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่เราคุยกัน ผมไม่บังคับให้ไม้ตอบ เพราะผมไม่อยากผูกมัดน้องอีกต่อไป เรื่องของเรามันเริ่มต้นจากความผิดบาป เราควรมีเวลาได้ทบทวนหัวใจตัวเองกันสักครั้ง หากว่าการห่างครั้งนี้จะทำให้ไม้รู้ว่าสุดท้ายแล้วคนที่เขารักไม่ใช่ผม ผมก็ไม่เป็นไร  แต่สำหรับผมแล้ว ถ้าไม่ใช่เชฟคนนี้ ร้านผมก็จะไม่ขายเค้กอีกต่อไป  เพราะทุกพื้นที่ใน แกลอรี่  คือความทรงจำทั้งหมดของเรา




3 ปีผ่านไป 

ครืนๆๆ

เสียงฟ้าร้องคำรามพร้อมกับเมฆสีดำมะมึนที่ก่อตัวบนอากาศทำให้ผมเผลอมองออกไปนอกหน้าต่าง ตอนนี้หน้าฝนวนมาอีกปีแล้วสินะ   ไม่รู้ว่าที่โน้นจะตกด้วยหรือเปล่า คนๆนั้นจะชอบยืนมองฝนเหมือนเดิมหรือเปล่า

“ฝนตกแบบนี้ก็แย่เลยสิพี่” เสียงของใครบางคนเอ่ยบอกก่อนจะเดินเข้ามาหาผม

“ทำไม”

“ก็ฝนตกแบบนี้ใครจะมากินกาแฟกันล่ะครับ ผมคนนึงล่ะที่จะไม่ออกจากบ้านเด็ดขาด” อีกคนบ่นอุบ

“มันก็ไม่แน่หรอก บางทีมันอาจจะมีใครบางคนที่ชอบเวลาฝนตกก็ได้” ผมบอกพลางยืนมองสายฝนที่ไหลลงตาผนังกระจกของร้าน

“พี่หมายถึงใครเหรอ”

“ไม่รู้สักเรื่องได้ไหมวะ” ผมแหวลั่น เฮ้อ นึกว่านอกจากใครคนนั้นแล้ว ผมจะไม่เจอเด็กกวนประสาทแบบนี้อีกแต่จนแล้วจนรอดก็รับไอ้เด็กนี่เข้ามาทำงานจนได้

“โถ่ พี่ต้น ผมก็แค่อยากรู้ว่าแต่คนๆนั้นอ่ะ คือคนเดียวกับที่พวกพี่เล็กพี่เมฆพูดถึงบ่อยๆป่ะ” เจ้าเด็กกวนประสาทยังซักไซ้ต่อ ป่วยการที่จะต่อล้อต่อเถียงด้วย ขืนพูดด้วยมากๆไมเกรนถามหาเปล่าๆ

“งานที่ให้ทำน้อยไปเหรอครับ(ไอ้)คุณเจ้า”

“โถ่พี่ ก็เห็นๆกันอยู่เนี่ยว่าฝนตก ใครจะเข้าร้านกันล่ะ ยืนให้ยุงกัดจนจะเป็นไข้เลือดออกอยู่แล้ว”  ไอ้เจ้า บ่นอุบก่อนจะไปถูพื้นต่อ ผมได้แต่ส่ายหน้ากับความกวนประสาทของลูกน้อง ไม่รู้ว่าเวรกรรมอะไรของผมจ้างมากี่คนๆก็เจอแต่เด็กกวนประสาทแบบนี้ตลอด 

3 ปีแล้วสินะที่ไม่ได้เจอกัน ไม้สบายดีหรือเปล่า ผมทำได้แค่เอ่ยถามในใจ 3 ปีที่ร้านนี้ไร้เสียงกวนๆและหน้าตาที่กวนบาทาตลอดเวลาของไอ้เด็กช่างทำขนมนั่น 3 ปี ที่ผมได้แต่เฝ้ารอ…..รอ วันที่ใครอีกคนจะกลับมา  ทุกที่ของ “แกลอรี่” ยังคงเต็มไปด้วยความทรงจำของเรา

พี่คิดถึงไม้มากนะ….ไม้คิดถึงพี่หรือเปล่า 


กรุ๊งกริ๊งๆๆๆ

เสียงกระดิ่งหน้าร้านดึงผมออกจากภวังค์ ก่อนที่ใครบางคนจะเดินเข้ามาในร้านด้วยสภาพที่เปียกไปทั้งตัวดูก็รู้ว่าคงวิ่งฝ่าฝนมา เสื้อแจ็คเกตที่คลุมอยู่ทำให้ผมเห็นหน้าคนมาใหม่ไม่ชัดเจนนัก แต่ทำไม ท่าทางแบบนี้มันคุ้นเหลือเกิน

“แกลอรี่ สวัสดีครับ” ไอ้เจ้าทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าอย่างกระตือรือร้น เพราะนี่เป็นลูกค้ารายแรกของช่วงบ่ายหลังจากที่ฝนดันตกแบบไม่ลืมหูลืมตาเมื่อชั่วโมงก่อน

“สวัสดีครับ ผมขอโกโก้ ร้อนที่นึงนะ” คนมาใหม่บอก ก่อนที่ไอ้เจ้าจะพาไปนั่งที่โต๊ะ

“พี่ต้น โกโก้ร้อนแก้วนึงคร้าบ”

“อืม ไปทำงานต่อเถอะ พี่ดูแลต่อเอง” ผมบอกก่อนจะหันไปชงเครื่องดื่มทันที



“ฝนตกหนักแบบนี้ทำไม ยังออกมากินโกโก้อีกล่ะครับ”  ผมถามพลางวางแก้วโกโก้ร้อนลงบนโต๊ะ เขาไม่ตอบแต่กลับยกแก้วขึ้นดื่มแทน

“ตากฝนแบบนี้เดี๋ยวจะเป็นหวัดนะครับ” ผมยังคงถามต่อแม้ว่าจะไม่ได้คำตอบอะไรกลับมา

 “ผมมาก็เพราะผมอยากมา เหตุผลเท่านี้พอฟังขึ้นไหมครับ แล้วร้านนี้ไม่ได้ขายเค้กแล้วเหรอ” ในที่สุดอีกคนก็ตอบออกมา

“ไม่มีแล้วครับ คนทำเค้กเขาไม่อยู่แล้ว ที่นี่ไม่ได้ขายเค้กมา 3 ปีแล้วล่ะครับ”

“แย่จังนะครับ ผมไม่ได้มาที่นี่ตั้งนานดูไม่เปลี่ยนไปเลยนะครับเนี่ย” เขาบอกก่อนจะมองไปรอบๆร้าน

“ครับที่นี่ไม่เคยเปลี่ยน และ ไม่มีมีวันเปลี่ยน ทั้งตัวร้าน…….และ หัวใจของพี่”

“พี่คิดถึงไม้มากรู้ไหม”   

ผมบอกก่อนจะคว้าคนที่นั่งตรงหน้ามากอดแน่น วินาทีที่ร่างโปร่งอยู่ในอ้อมแขนผมถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป  ผมไม่รู้ว่าตัวเองดีใจแค่ไหน เมื่อทันทีที่เห็นหน้าอีกฝ่าย นานแค่ไหนที่ผมไม่กอดเขาเอาไว้แบบนี้

“ผมก็คิดถึงพี่ครับ” เสียงนั้นบอกก่อนที่ไม้จะซุกเข้าที่อกผม

“ผมคิดถึงพี่มากรู้ไหม พี่ใจร้ายมากที่ไม่ยอมให้ผมเห็นหน้าไม่ได้ยินแม้แต่เสียง พี่รู้หรือเปล่าแค่โปสการ์ดเดือนละใบมันไม่ทำให้
ผมเลิกคิดถึงพี่หรอกนะ พี่ใจร้าย” เด็กน้อยกวนประสาทของผมบอกก่อนจะปล่อยโฮแข่งกับเสียงฝนด้านนอก ถูกที่ผมใจร้าย ไม่อนุญาตให้น้องโทรหาหรือใช้โซเชี่ยลใดใดทั้งนั้น แต่ให้ใช้วิธีการเขียนโปสการ์ดส่งมาเดือนละครั้งแทน สาเหตุไม่ใช่เพราะผมไม่คิดถึง ไม่อยากเจอ แต่เพราะคิดถึงมาก เลยเจอไม่ได้ การที่ยิ่งได้ยินเสียงได้เห็นหน้า ยิ่งทำให้เราสองคนทรมานกับความห่างไกล ผมอยากให้น้องตั้งใจเรียน เพราะนั่นคือความฝันของน้อง เพราะตัวผมรอไม้ได้เสมอ ไม่ว่ามันจะนานแค่ไหนก็ตาม

“ครับพี่มันคนใจร้าย ใจร้ายมากเลยด้วย” ผมบอกพลางลูบผมที่ชื้นเพราะน้ำฝนนั้นอย่างแผ่วเบา อยากจะใช้ทุกสัมผัสถ่ายทอด
ออกไปว่าผมคิดถึงเขามากเหลือเกิน

“ใช่ใจร้าย แต่ทำไมทุกวันผมต้อง คิดถึงคนใจร้ายอย่างพี่ด้วย” น้ำเสียงตัดพ้อปนสะอื้นบอก ก่อนที่ผมจะประคองแก้มใสของอีกฝ่ายด้วยมือทั้งสองข้าง

“พี่ก็คิดถึงไม้มากนะรู้ไหม พี่คิดถึงไม้จริงๆ” ผมบอกพลางกดจูบลงบนกลีบปากบาง

คิดถึง โหยหา ห่วงใย และ รัก….

ทุกสัมผัสนั้นผมอยากจะส่งมันผ่านจูบนี้  อยากจะให้คนๆนี้รู้เหลือเกินว่าเขาสำคัญกับผมมากแค่ไหน ถึงมันจะไม่ใช่จูบที่ลึกซึ้งอะไรแต่มันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกของเราสองคน จูบ ที่แสดงว่าผมรักคนใน อ้อมกอดนี้มากมายเหลือเกิน


“พี่รักไม้นะ” คำบอกรักที่ผมทำได้เพียงเขียนลงกระดาษตอนนี้ผมได้พูดมันอีกครั้งแล้วสินะ

“ผมก็รักพี่ครับ” น้องบอกก่อนจะโผเข้ากอดผมแน่น
 
ความห่าง…ไม่เคยทำให้ ความรักของเรา จืดจางลง
ตรงกันข้าม ความห่าง กลับทำให้เราสองคนรู้ว่า อีกฝ่าย มีความสำคัญ มากแค่ไหน

…………………………………………………………………………………


“คิดอะไรอยู่ครับ” เสียงหนึ่งเอ่ยถามก่อนที่คุณเชฟคนเก่งจะมองผมด้วยท่าทางสงสัย

“เปล่าครับ พี่แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย แล้วนี่ทำขนมเสร็จแล้วเหรอ หืม” ผมยิ้มก่อนจะเช็ดแป้งที่ติดอยู่บนแก้มนั้นออกให้ เจ้าเด็กแสบที่วันนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมานิดหน่อยพยักหน้ารับ

“เหลือแค่อบเอง อยู่ในครัวอึดอัดเลยออยากอกมาเดินเล่นข้างนอกบ้าง หรือว่าพี่ต้นมีอะไรปิดบังถึงไม่อยากให้ออกมา” เขาว่าก่อนจะจ้องผมอย่างจับผิด

“คิดมากนะเรา ตั้งแต่เรียนจบกลับมานี่ ขี้หึงขึ้นเยอะนะ” ผมล้อก่นจะได้ค้อนวงใหญ่จากคุณเชฟ

“โอ๋ๆ เดี๋ยวนี้ไอ้แสบนกจจากจะขี้หึง แล้วยังขี้งอนด้วยนะ อารมณ์แปรปวรแบบนี้ ท้องหรือเปล่าให้พี่โทรจองคิวหมอเลยไหม”

“หยึย พี่ต้น ไม่คุยดัวยแล้ว ไปดูเค้กดีกว่า” ไม้บอกก่อนจะเดินกลับเข้าครัวไป  ผมยกยิ้มก่อนจะกวักมือเรียกลูกลิงอีกตัวของร้าน

“ฟู่ เกือบไปแล้วไหมล่ะพี่ ถ้าผมไม่บังเอิญตาดีนี่ ความลับแตกนะครับ”

“พี่ต้องขอบคุณแกอย่างสุดซึ้งเลยครับเจ้า ถ้าสำเร็จ เตรียมรับรางวัลอย่างสาสมเลย ไอ้น้อง”

“อย่างสาสมนี่เขาไม่ใช้กับรางวัลนะเว้ยพี่ จะไปก็ไปเลย เดี๋ยวเจ้าคนนี้ ดูหน้าร้านให้ แต่อย่าทำอะไรลูกพี่ผมนะ ลูกค้าเต็มร้านแบบนี้เขาจะเข้าใจว่าร้านเรามีพลังงานบางอย่าง ”

“ไอ้เด็กแก่แดด” ผมพลักหัวไอ้ลูกลิง ก่อนจะแย่งของในมือมันมาถือไว้เอง ก็นะ นานๆทีก็อยากจะสวีทกับแฟนบ้าง


หมับ

“อะไรของพี่เนี่ย” ไม้ดูจะแปลกใจนิดหน่อยที่ผมเข้ามาวุ่นวายในนี้ ปกติก็ไม่ค่อยมาหรอกครับ แต่พอดีวันนี้มันพิเศษ

“เปล่าครับ แค่จะบอกวว่า พี่รักไม้นะ” ผมกระซิบ

“หืม อารมณ์ไหนครับ”

“แค่อยากบอก อยากบกให้ไม้รู้ว่าพี่รักไม้ทุกวัน ”

“ครับ ผมก็รักพี่นะ” เขายิ้มตอบก่อนที่ผมจะกดจูบลงบนปากบางอย่างอดใจไม่ไหว มันไม่ใช่จูบแบบลึกซึ้งอะไรแต่มันกลับทำให้หัวใจผมเต้นแรงได้ทุกครั้ง

“พี่รักไม้นะ”

“แต่งงานกันไหม”  ผมบอกก่นจะสวมแหวนลงบนนิ้วนางของอีกคน

“พี่ต้น”

“ว่ายังไง แต่งงานกับพี่นะครับ พี่อาจจะไม่ใช่คนดี อาจจะเคยทำให้ร้องไห้แต่พี่สัญญาว่าจากนี้ไป น้ำตาของไม้จะไม่ไหลเพราะพี่อีกแล้ว” ไม้ไม่ได้ตอบเป็นคำพูดแต่พยักหน้าเบาๆก่อนจะกอดผมแน่น

“ผมรักพี่นะ รักมาตลอด และจะรักตลอดไป”


…………………………….END………………………………….


 :hao5: จ จบ จบแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววว อยากจะตะโกนให้ลั่นโลก
ในที่สุด พิตก็ทำได้ แม้วว่าจะ ลุ่มๆดอนๆ ดุไม่ค่อย สมประกอบ แต่ ซีรีย์ชุดนี่ก็เดินทางมาถึง
ตอนสุดท้ายแล้ว  :hao5:  #ปริ่มแปป

2 ปีกว่าๆ กับ ซีรีย์ สุดนนี้ มีหลายอารมร์เหลือเกิน ทั้ง สุข ทุกข์ เศร้า ร้องไห้ เครียด มันมีทุกรูปแบบ
เป็นนิยายที่คนเขียน แทบจะกระโดดชักโครกฆ่าตัวตายทุกครั้งที่จะพิมพ์ 

ขอบคุณทุกคนที่ไม่ทิ้งกันไปไหน ขอบคุณทุกคนที่เดินมาถึงวันนี้ด้วยกัน

สุดท้าย คือ รักทุกคนมากๆ จากนี้ไปคงจะเก็บตัวเตรียม นิยาย ชุดใหม่ สักพัก นะคะ
แล้วเจอกันไม่นานเกินรอ นะตะเอง


ปล ิพี่ป๋อง ลงแน่ ค่ะ ลงต่อกันนี่แหล่ะ ไม่ต้องเปิดใหม่หรอกเนาะ เปลือง พื้นที่ คนอื่นเขา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ดีใจกับไม้ด้วยยยย

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
แฮปปี้เอนดิ้งแย้ว
ถึงคราวพี่ป๋องแล้วววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ต้นกว่าจะรู้ใจตัวเอง

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ปรบมือค่าาาาาาาา เย๊จบแล้ว ฮิ๊ววววผ่านพ้นความหน่วงไปได้ซักที ยินดีจริงๆคะ

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ในที่สุดก็สมหวังกันทุกคน

จะรอตอนของ พี่ป๋อง นะ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ลูกแมวหลงทาง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆเรื่องนี้นะคะ จะรออ่านซีรี่ย์ต่อไปด้วย o13

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
รอพี่ป๋องจร้าาาาา

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จบซะแล้ว ขอบคุณนะคะสนุกมากๆเลย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เย้ๆๆๆๆ ขมมาทั้งเรื่อง ตอนจบหวานเชียวว

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ถึงจะจบแล้ว ฉันก็ยังไม่ชอบต้นอยู่ดี เฮ้อ..แต่เพราะน้องไม้รักหรอกนะ เลยให้อภัย

ออฟไลน์ ปลายฝัน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จบแล้วเย้ๆๆๆ จะรอเรื่องใหม่นะค่ะ เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
จบแล้วในที่สุดน้องไม้ก็สมหวัง รอตอนของป๋องต่อนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ samsung009

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13


กลกามเทพ..

ผมมองเจ้านกยักษ์บินขึ้นบนฟ้าก่อนจะยกยิ้มขมขื่น แม้จะผ่านมาเกือบปี แต่ก็ยังตัดใจไม่ได้ สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาคือ ความเจ็บปวด แต่ผมไม่เคยเสียใจที่ได้รักเขา มันอาจจะดูน้ำเน่าไปสักหน่อยแต่สำหรับผม ไม้เป็น ความรักครั้งแรก ไม่ใช่ผมไม่เคยมีแฟน แต่ไม่เคยมีใครทำให้ผมรักได้มากขนาดนี้ต่างหาก รักจนยอมแม้กระทั่งปล่อยเขาไปกับคนที่เขารัก พระรองชะมัดทั้งๆที่หน้าตาอย่างผมควรจะเป็นพระเอกแท้ๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เข้าใจ ไม่รักก็คือไม่รัก ต่อให้พยายามแค่ไหน ถ้าอีกคนไม่มีใจสุดท้ายมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี

Rrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นก่อน ผมเหลือบมองชื่อที่โทรเข้ามาเป็นรุ่นน้องคนสนิท เลยต้องจำใจกดรับทั้งๆที่ตอนนี้อารมณ์กำลังได้แล้ว
แท้ๆ ถ้ามีกล้องนี่ คงนึกว่าตัวเองเป็นพระเอก เอวี แอร้ย เอ็มวีเพลงอกหักเลยล่ะ

“สวัสดีครับ”

“สัด! มึงเป็นใครทำไมมารับโทรศัพท์พี่กู!!” ปลายสายตะโกนเสียงดังมากจนผมถึงกับต้องยกออกห่างหูไปสุดแขนแต่ก็ยังได้ยิน
ชัดอยู่ดี

“ไอ้แจ็ค กูเอง มึงจะตะโกนทำไม”

“พี่ป๋อง แมร่ง ตกใจหมด ร้อยวันพันปี ไม่เห็นเคยสุภาพพอรับแบบนั้นก็ตกใจสิ” ครับ ดูมันนะ เคารพผมกันเหลือเกิน ภาพพจน์ แสนเท่ของพี่ป๋องช่างกล s จริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นหรอกนะครับ ไอ้พวกบ้าลูกน้องผมมันไม่มีใครเต็มสักคน

“แล้วมึงโทรมามีอะไร ถ้าไม่สำคัญกูกระทืบมึงแน่”

“ใจเย็นสิพี่ วันนี้วันเกิดไอ้ยักษ์ มันเลี้ยงเหล้าไปป่ะ งานนี้สุรานารี มีไม่อั้น เสี่ยยักษ์ บอกว่าสำหรับพี่ป๋องที่เคารพจัดให้สามเลยสนป่ะๆ”


แหม พูดแล้วก็เปรี้ยวปาก เอาวะ ไหนๆก็อกหักแล้ว ฉลองซักหน่อยก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร ผมตัดสินใจตอบตกลงรุ่นน้องไปก่อน
จะกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดสักหน่อย งานนี้ไม่เมาไม่กลับ





เสียงเพลงกระหึ่มในผับหรูกับแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเส้นเลือดทำให้อารมณ์ของผมดีขึ้นนิดหน่อย บวกกับร่างนุ่มนิ่มที่กำลังคลอเคลียจนแทบจะรวมร่างกับผมอยู่ตอนนี้ก็ทำให้อารมณ์ดิบของผู้ชายอายุยี่สิบต้นๆอย่างผมกระชุ่มกระชวยได้ไม่น้อย ผมรักไม้ก็จริง แต่ผมก็เลวพอที่จะนอนกับใครก็ได้ที่เขาเต็มใจเสนอมา

“ไงดี เด็ดอย่างที่บอกไหม” ไอ้แจ็คกระซิบถามพลางยักคิ้วล้อเลียน

“ก็ดี แต่ยังไม่โดนเท่าไหร่”  ผมพูดตามจริงเธอคนนี้ก็สวยนะครับ แต่มันยังไม่ใช่

“พี่แมร่งเรื่องมาก”

“ไอ้เชี่ยแจ็ค ถึงกูจะเจ้าชู้ แต่ไม่ได้มั่วนะเว้ย ถ้าไม่ถูกใจจริงๆ กูก็ไม่เสียเวลา” แต่ระหว่างที่ผมกำลังทำร้ายร่างกายไอ้แจ็ค อยู่ สายตากลับไปสะดุดที่ใบหน้าหวานของใครคนหนึ่งเข้า

“เพลิน” 

“ป๋องนิ  ไม่ได้เจอกันตั้งนาน สบายดีเหรอ”  เธอเดินเข้ามาทักพลางยกยิ้มหวาน รอยยิ้มที่ครั้งหนึ่งผมเคยชอบมันมาก เพลินเป็นแฟนเก่าของผมเอง เราเคยคบกันเมื่อปีก่อนแต่ก็ต้องเลิกกันไปเพราะเธอรับไม่ค่อยได้ที่ผมมีเรื่องชกต่อยทุกวัน เพลินเป็นแฟนที่ผมถูกใจใจที่สุดไม่เรื่องมาก ไม่งี่เง่า แถมยังเร่าร้อน แต่ก็นั่นแหล่ะ เรื่องของความรักไม่ใช่แค่ถูกใจ แล้วจะไปกันรอด

“ก็เรื่อยๆแล้วเพลินล่ะ เป็นยังไงบ้าง”

“ก็เรื่อยๆ ตามประสาคนโสด” เธอบอกก่อยจะทิ้งตัวลงบนตักผมพร้อมกับกระซิบเสียงกระเส่า

“สนใจไปรำลึกความหลังกันหน่อยไหม”

“หึ”

ผมยกยิ้มก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากเย้ายวนนั่น





ผมออกมายืนนอกระเบียงของโรงแรมหรูพลางจุดบุรี่ขึ้นสูบ ก่อนจะมองร่างเปล่าเปลือยที่เพิ่งรำลึกความหลังกันมาหลายรอบ ยอมรับว่าเพลินยังเร่าร้อนไม่เปลี่ยน แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันก็เท่านั้น  จู่ๆก็เกิดรู้สึกเบื่อชีวิตที่เป็นอยู่เหลือเกิน  เมื่อไหร่ที่ผมจะได้เจอคนที่เป็นของผม คนเดียว จริงๆ สักที

“ออกมายืนทำอะไรตรงนี้” เสียงหวานถามก่อนที่มือเรียวจะยกขึ้นลูบไล้กล้ามเนื้อหน้าอกผมอย่างยั่วยวน

“เพลินยังไม่เหนื่อยเหรอ”

“แล้วป๋องเหนื่อยหรือไง”

ผมไม่ได้ตอบแต่กดจูบลงบนริมฝีปากนั้นอีกครั้ง ก่อนจะรำลึกความหลังจนถึงเช้า…







“เป็นไงบ้างพี่ เมื่อคืนรำลึกความหลังกันไปกี่ยกล่ะ” ไอ้แจ็คเจ้าเก่าถามแทบจะทันทีที่ผมเดินเข้าโรงเรียน

“ก็ ถึงเช้าว่ะ”

“พี่แมร่งเจ๋ง ขนาดนั้นยังมาเรียนได้อีก ข้าน้อยขอคารวะ ท่านอาจารย์โปรดรับไว้เป็นศิษย์ด้วย”

“ปัญญาอ่อนแล้ว มึงน่ะ” ผมส่ายหน้ากับความบ้าบอของรุ่นน้องก่อนจะเดินเข้าเรียนตามปกติ แต่ ผมกลับไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องคืนนั้นจะกลายเป็นต้นเหตุของทุกอย่าง…



2 เดือนผ่านไป

กริ้งๆๆๆๆ

เสียงกริ่งดังขึ้นหน้าบ้านในเช้าตรู่ของวันเสาร์ ดูปาก ปฎิภาณ นะครับ วันเสาร์ นี่มันวันหยุดไง วันหยุดผมก็อยากจะนอนตื่นสายๆไง แล้วใครมันไม่กลัวตายมากดกริ่งผมตอนนี้วะ ถ้าไม่สำคัญนะแมร่งจะกระทืบให้ม้ามแตกเลยคอยดู

“ป๋อง ในที่สุดก็เปิดสักที” ทันทีที่ผมกระชากประตูเปิด ร่างบอบบางก็กระโดดเข้ามาทันที

“เดี๋ยวก่อนเพลิน มีอะไรทำไมมาแต่เช้าแบบนี้ แล้วนี่ไปโดนอะไรมา” ผมถามพลางมองเพลินที่มีรอยมือบนหน้าแถมเสื้อผ้ายัง
ขาด เหมือนโดนรุมโทรมตบ

“เพลินขอเข้าไปคุยในบ้านได้ไหม”

“อืม”


“ทีนี้บอกได้หรือยังว่ามาหาป๋องทำไม” ผมถามเสียงเข้ม เพราะอารมณ์หงุดหงิดที่ถูกปลุกตอนเช้า

“ป๋อง ต้องช่วยเพลินนะ ป๋องอย่าทิ้งเพลินนะ” ร่างบอบบางบอกพลางสะอื้นก่อนจะโถมตัวมากอดผมไว้แน่น

“มีอะไร ถ้าเพลินไม่พูดป๋องก็จะไม่รับปากหรอกนะ”

“ป๋องคือว่า เพลิน เพลิน………………..ท้อง”

“ท้อง!! แมร่ง!!” ผมสบถก่อนจะจ้องหน้าเพลินนิ่ง เฮ้ยๆ นี่ไม่ใช่นิยายน้ำเน่านะที่จะมีอะไรกันคืนเดียวแล้วท้องเนี่ย พี่ป๋องยืดอกพกถุงตลอดนะเว้ย

“ป๋อง”

“บอกมาว่าพ่อมันเป็นใคร แล้วเพลินไม่ต้อบอกนะว่าเด็กนี่เป็นลูกป๋องเพราะมันเป็นไปไม่ได้” ผมไม่ได้ไร้เดียงสาที่จะทำใครท้องหรอกนะ  ถ้าจะท้องมันควรท้องตั้งแต่ตอนที่คบกันโน้น ไม่ใช่ตอนนี้  แล้วที่สำคัญผมไม่ได้โง่ที่จะยอมรับลูกใครก็ไม่รู้ได้หน้าตาเฉยเหมือนพระรองนะเว้ยจะต้องให้บอกกี่รอบว่าพี่ป๋องเป็นพระเอก

“เพลินบอกไม่ได้จริงๆ เขาเป็นคนน่ากลัวมาก ถ้าเขารู้ว่าเพลินท้อง เขาต้องฆ่าเพลินแน่ๆ ป๋องต้องช่วยเพลินนะ” เธออ้อนวอน แต่นี่มันใช่เรื่องของผมเหรอ ทำก็ทำกันสองคนมีความสุขกันสองคนแล้วพอเดือดร้อนจะให้คนที่สามอย่างผมรับผิดชอบเนี่ยนะ ยัยนี่เอาอะไรคิด

“ป๋องช่วยไม่ได้หรอกนะเพลิน” ผมบอกปัด

“ขอร้องล่ะ นะป๋องนะ เพลินยังเรียนอยู่เลย ถ้าเกิดท้องไม่มีพ่อขึ้นมาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน อย่างน้อยขอให้เด็กคนนี้มีพ่อเถอะนะ”

“ป๋องไม่ใช่ควายนะ ที่จะให้ใครเอาเขามาสวมแล้วรับเลี้ยงลูกคนอื่นน่ะ ออกไปก่อนที่ป๋องจะหมดความอดทน”  ผมบอกเสียงเข้มก่อนจะชี้ไปที่ประตู นี่พี่ป๋องมีมารยาทสุดๆแล้วนะ ถ้าไม่เห็นว่าท้องอยู่คงจับโยนออกไปแล้ว

“ป๋องอย่าทำแบบนี้นะ อย่าทำแบบนี้ อย่าทิ้งเพลินไว้คนเดียว ฮื่อๆๆ” เธอบอกทั้งน้ำตา ผมบอกแล้วว่าไม่ใช่คนดี เพราะฉะนั้นน้ำตาของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับผม เลยแค่ปรายตามอก่อนจะเดินขึ้นไปนอนต่อ




“กรี๊ด แกไอ้เด็กเวร!! แกเกิดมาทำไมห่ะ เกิดมาทำไม เกิดมาก็ทำให้ฉันต้องต้องอยู่ในสภาพนี้  ไอ้มารหัวขน!!!” เสียงกรีดร้องของเพลินดังลั่นบ้านจนผมนอนไม่ได้ต้องลงมาดู เผื่อจะช่วยเรียกรถโรงพยาบาลบ้ามาให้ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเพลินกำลังทุบท้องตัวเองพลางกรี๊ดลั่น

“ออกไปนะ ออกไปจากตัวฉัน ฉันไม่อยากได้แก ออกไป!”

“เพลิน หยุดนะ ทำบ้าอะไร!!” ผมตวาดลั่น บ้าเอ้ย ทำไมผมหน้าตาหล่ออย่างเดียวไม่ได้ ใจมันเสือกหล่อด้วย เห็นเพลินเป็นแบบนี้แล้วสงสาร ไม่ได้สงสารเพลิน แต่สงสารไอ้ตัวเล็กที่เกิดมามีแม่ แม่เป็นบ้า มีพ่อ พ่อที่ไร้ความรับผิดชอบ เหอะ รู้จักแต่สนุกไม่รู้จักป้องกัน แมร่งอย่าให้พี่ป๋องเจอนะ จะเตะขาดสองท่อนเลย

“ไม่ เพลินไม่หยุด เพลินจะฆ่ามัน”

เพี้ย!!!

“เลิกบ้าได้หรือยัง!!” ผมตะคอก อยากจะตบอีกสักทีนะถ้าไม่เห็นว่าเป็นผู้หญิง

“ป๋องตบเพลิน”

“เออ เห็นว่ากูกอดมึงหรือไงวะ เลิกบ้าสักที ไอ้เด็กที่มึงด่าอยู่เนี่ยเขาเป็นลูกมึงนะ แมร่งเอ้ย สักแต่ทำเสือกไม่มีความรับผิดชอบทั้งคู่ เดี๋ยวกูแมร่งเตะขาดสองท่อนเลยนิ แล้วไม่ต้องมาทำหน้าดีใจว่ากูจะยอมช่วย ที่กูจะช่วยมีแค่ไอ้เด็กนี่ ส่วนผู้หญิงใจแตกอย่างเธอถ้าคลอดแล้วจะไปไหนก็ไป”  ผมบอกอย่างหงุดหงิดก่อนจะโทรหาตัวช่วย





รอไม่นานจักรยานสภาพไม่น่าขี่ได้ก็จอดเทียบที่หน้าบ้าน พร้อมกับไอ้แจ็ควิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา

“พี่ มีอะไรเนี่ยทำไมต้องให้มาด่วนขาดนี้” มันถามหน้าตื่น ผมมองรุ่นน้องคนสนิทพลางกลั้นขำเออ สงสัยแมร่งจะรีบมาก รองเท้า
ยังใส่ผิดคู่เลย  ที่เรียกไอ้แจ็คไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะบ้านมันห่างจากบ้านผมแค่ซอยเดียว ดังนั้นมันจึงเป็นคนที่สมควรมาที่สุด

“มึงเอายัยนั่นไปอยู่ด้วยสิ” ผมบอกพลางชี้ไปที่เพลิน

“เฮ้ย พี่จะบ้าเหรอ นั่นมันเด็กพี่นิ หรือเบื่อแล้วเลยจะยกให้ ผมไม่เอานะพี่ก็รู้ว่าผมเป็นเกย์” มันบอกหน้าตาย และจริงๆมันเป็นอีกเหตุผลที่งานนี้มีแต่ไอ้แจ็คที่ทำได้ เพราะ ไอ้นี่ ให้ตายมันก็ไม่เอาผู้หญิง มันบอกไม่เร้าใจ ที่สำคัญมันมีผัวแล้ว พอๆเรื่องนี้ข้ามไป

“ไอ้เวร ฟังกูให้จบก่อนมึงจะตายไหม” ผมบอกอย่างอารมณ์เสียก่อนที่ไอ้แจ็คจะพยักหน้ารับ

“เพลินท้อง”

“พี่ป๋อง พี่แมร่งทำผู้หญิงท้องเหรอวะ!!”

“ไอ้ห่าถ้ามึงตะโกนขนาดนี้ทำไม กลัวชาวบ้านไม่ได้ยินเหรอ”

“มึงฟังอย่างเดียวนะ กรุณาอย่าพูดแทรก เด็กในท้องนี่ลูกกูถึงกูจะไม่ได้ทำให้มันเกิดมาก็เถอะ แต่เพลินจะไม่ใช่ทั้งเมียและแม่ของลูกกู มึงมีหน้าที่ดูแลจนกว่าลูกกูจะคลอดเสร็จแล้วก็จัดการเอาผู้หญิงคนนี้ออกไปจากชีวิตพวกกู ทำได้ใช่ไหม” ผมบอกเป็นคำพูดที่จริงจังที่สุดตั้งแต่ที่ผมคุยกับไอ้เจ้ามา

“ครับนาย” มันรับก่อนจะลากเพลินออกไป เฮ้อ ได้เวลานอนต่อซะที





ผมเดินวนไปวนมาจนรองส้นรองเท้าแทบจะสึก โดยมีไอ้แจ็คนั่งหาวอยู่ข้างๆ

“นี่พี่ จะกังวลอะไรเนี่ย แค่ยัยบ้านั่นจะคลอดผมนี่ดีใจแทบตายทนเห็นหน้ามาเจ็ดเดือนแล้วเบื่อจะแย่ ผู้หญิงอะไรหน้าก็สวยแต่นิสัยแย่ชะมัด” ไอ้แจ็คบ่น ซึ่งก็อาจจะจริงของมันแต่ต่อหน้าผมเพลินชอบทำตัวให้น่าสงสารเพื่อเรียกร้องความสนใจแต่ขอโทษ
นอกจากน้องตังแล้ว ปมไม่สนใครทั้งนั้น จะว่าไปมันก็แปลกผมไม่ใช่คนดีที่จะรู้สึกรักเด็กง่ายๆแต่กับเด็กคนนี้ผมกลับรู้สึกเอ็นดูอย่างประหลาดมันเริ่มจากความสงสาร ที่มีพ่อแม่ไม่ได้เรื่องจนกลายเป็นความผูกพันไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมนับวันรอให้เขาออกมา เห่อขนาดตั้งชื่อให้เขาแล้วนะครับ ชื่อเล่นน้องกะตัง ชื่อจริง ด.ช. กวินภัทร

“แล้วพี่จะบอกนายใหญ่กับนายหญิงไหม” 

“เหอะ แกคิดว่า คนอย่างนายใหญ่จะไม่รู้หรือไง” ผมแค่นเสียง

“ก็จริงนะ แต่ทำไมมันถึงได้เงียบนักก็ไม่รู้”

“ไอ้แจ็ค เขาว่าก่อนพายุใหญ่จะมาทะเลมันจะสงบแบบนี้แหล่ะ” ผมบอกก่อนจะถอนหายใจ เอาเถอะอะไรจะเกิดมันต้องเกิดแต่ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรลูกผมเด็ดขาด

“แล้วเรื่องที่ให้จัดการน่ะไปถึงไหนแล้ว”

“เรียบร้อยแล้วครับ น้องตังจะเป็นลูกของพี่โดยสมบรูณ์ โดยที่ยัยนั่นไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น”

“ดี” ปกติก็ไม่ค่อยอยากจะใช้หรอกนะ ไอ้อำนาจที่มีอยู่น่ะแต่กับเพลินต้องทำให้เด็ดขาด เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว
ผ่านไปครู่ใหญ่คุณพยาบาลก็เข็นรถเข็นเด็กออกมา พร้อมกับยิ้มให้ผม

“น้องแข็งแรงมากเลยนะคะ น้ำหนักแรกคลอด 3600 กรัมค่ะ”

“ขอบคุณนะครับ คุณพยาบาล” ผมยิ้มตอบก่อนจะมองเจ้าตัวเล็กของผมไปจนลับตาจากที่รักมากอยู่แล้วพอยิ่งเห็นเขากลับยิ่งบรรยายความรู้สึกไม่ถูก มันทั้งดีใจ ตื่นเต้น ตื้อตันไปหมด ถึงเวลาที่ผมต้องคิดถึงอนาคตของใครอีกคนมากกว่าตัวเองแล้วสินะ



“แง้ๆๆๆ” เสียงร้องไห้จ้าของน้องตังทำเอาผมกับไอ้แจ็คหัวหมุน ถึงน้องตังจะเป็นเด็กร่าเริงแต่ก็เลี้ยงยากเอาการโดยเฉพาะเวลาง่วง ที่ใครก็ทำให้หลับไม่ได้นอกจากผม เลยกลายเป็นว่าความคิดจะจ้างพี่เลี้ยงมีอันตกไป จริงๆผมเอก็ไม่ไว้ใจให้ใครมาเลี้ยงเจ้าตัวเล็กนี่เหมือน กลัวจะเป็นอย่างในข่าว แต่ภาพที่ผู้ชายใส่เสื้อช๊อปโรงเรียนช่าชื่อดังอย่างผมอุ้มเด็กทารกนี่ดูจะไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเวลาที่ออกไปข้างนอกกับลูก ผมเลยต้องถอดช๊อปทุกครั้ง น้องตังคือมนุษย์คนที่สองนะที่ทำให้ผมถอดมันได้ เก่งจริงๆเลยตัวแค่นี้

“พี่ เมื่อไหร่น้องจะหลับผมง่วงจะตายอยู่แล้ว” ไอ้แจ็คว่าพร้อมกับหาวติดกันสามครั้งเป็นการยืนยัน

“ง่วงก็ไปนอนไป เดี๋ยวกูดูเอง”

“แหม พี่เชื่อไหมว่าถ้าไอ้พวกนั้นมันเห็นพี่สภาพนี้นะรับรองว่า พวกมันหัวเราะกันท้องแข็งแน่ พี่รู้ตัวไหมว่าตัวเองเหมือนแม่น้องตังมากกว่าพ่อซะอีก ฮ่าๆ”

“มึงน่ะหุบปากไปเลยก่อนจะได้หลับยาวแบบไม่ต้องตื่น”  ผมว่าพลางยกเท้าเตะมันไปหนึ่งยก

“คร้าบๆ ไปแล้วคร้าบ ฝันเปียกนะพี่ บายๆ”  ผมได้แต่ส่ายหัวกับความสัปดนปนจัญไร ของไอ้รุ่นน้องตัวดีอย่างปลงๆ ไม่รู้ว่า ไอ้พล ชอบมันเข้าไปได้ยังไง ถึกอย่างกะควายป่า ปากหมาก็เท่านั้น  มันหาความบอบบางน่าทะนุถนอมไม่เจอเลยจริงๆ



“อื้อ แง้ๆๆ” เสียงร้องไห้ของลูกทำให้ผมตื่นจากภวังค์ ก่อนจะกล่อมเจ้าลูกหมูตัวน้อยของผมเข้านอน

“หมูน้อยนอนได้แล้วนะครับ พ่อง่วงมาก พรุ่งนี้พ่อต้องไปสอบนะ พ่อจะได้จบเร็วๆพอเรียนจบจะทำงานหาเงินเลี้ยงหนูนะลูก” ผมบอกกับเจ้าลูกหมู แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมบอกแต่รอยยิ้มเล็กๆขอน้องตังกลับทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นเยอะ



........................................TBC.................................

เรื่องสั้นนะจ๊ะ กี่ตอนยังไม่รู้แต่ไม่เกิน ห้า จร้า  :katai2-1:


ออฟไลน์ teamkoyza

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
กริ๊ดด เฮียป๋องนี่เป็นคนดีจริงๆเชียว

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
รอตอนต่อไปค้า  อยากรู้ว่าสุดท้ายป๋องจะเป็นพ่อหรือเป็นแม่ 555555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ใครจะมาเป็นแม่ เอ๊ะ รึพ่อ ให้น้องตังล่ะเนี่ย ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: ซีรีย์ เล่ห์/ร้อย/รัก By Pita : รั
«ตอบ #356 เมื่อ15-02-2015 17:04:04 »

มาอีกทีพี่ป๋องมีลูกซะแล้ว!?

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เพ่ป๋องเห็นทีงานนี้มีแววจะได้เป็นแม่น้องตัง (น้องชื่อกะตังเหรอคะ แปลว่าอะไรอ่ะ)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
เพ่ป๋องเห็นทีงานนี้มีแววจะได้เป็นแม่น้องตัง (น้องชื่อกะตังเหรอคะ แปลว่าอะไรอ่ะ)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

หาได้มีความหมายไม่ ค่ะ เพราะแม่ เอ่อ พ่อ ชื่อ เล่นเต็มๆ ว่า กระป๋อง ฮ่าๆๆๆ
นางมั่วล้วนๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด