ซีรีย์ เล่ห์/ร้อย/รัก By Pita : รักวุ่นๆกรุ่นกาแฟ :กลกามเทพ จบ P13 24/2/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีย์ เล่ห์/ร้อย/รัก By Pita : รักวุ่นๆกรุ่นกาแฟ :กลกามเทพ จบ P13 24/2/58  (อ่าน 98963 ครั้ง)

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:แล้วจะรออออออออจ้าาาาาาาาาา :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
คุณพิตสู้ๆนะ เป็นกำลังใจให้จ้าาาา
ไม่ต้องรีบ เรารอได้เสมอ
ไปค้นหาแรงบันดาลใจก่อนเนอะ ^^

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอน 19

“เฮ้ย ไอ้ไม้ มึงวิ่งหนีอะไรวะ!!” เสียงของรุ่นพี่ช่างกลคู่อริร้องถาม ก่อนที่มือหนาจะคว้าต้นแขนของผมไว้แน่น  ใช่ ผมหนี แม้ว่ามันจะเป็นวิธีโง่ๆ ของคนขี้ขลาด ก็ตามที ผมทำไม่ได้ ผมจะกล้าเผชิญหน้ากับ อาอิท ได้ยังไง ผมทำไม่ได้จริงๆ

“เป็นอะไร มีอะไรจะบอกกูไหม” เสียงนั้นถามอย่างอ่อนโยน ผมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ต่อให้พูดไป มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ เมื่อ เรื่องราวทุกอย่างมันมาไกลจนผมไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

“เอาเถอะ ไม่พูดก็ไม่เป็นไร กลับไหมกูจะไปส่ง หรือมึงอยากไปไหน บอกกูได้เลยนะ” 

“พากูกลับที ได้ไหม” ผมบอกก่อนที่คนตรงหน้าจะถอนหายใจ เสียงดัง

“ได้สิ ไปเถอะเดี๋ยวกูไปส่ง”

ระหว่างทางผมปล่อยให้ความคิดของตัวเองล่องลอยไปไกลแสนไกล ไปจนถึงจุดเริ่มต้น ของเรื่องราวทั้งหมดในวันนี้

4 ปีก่อน

“กลับมาแล้วเหรอไม้” เสียงหนึ่งเอ่ยทัก ผมยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเป็นใคร ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอด

“คิดถึง อาจังเลย” ผมอ้อน ก่อนที่คนตรงหน้าจะหัวเราะน้อยๆ

“อ้อนขนาดนี้ จะเอาอะไร” น้ำเสียงอ่อนโยนนั่นบอก ผมส่ายหน้าเบาๆก่อนจะกอดอีกคนแน่นกว่าเดิม

“ไม่เอาแค่อา กลับบ้านบ่อยๆก็พอแล้ว”

“ปากหวานแบบนี้ สาวๆคงติดกันเกรียวสินะ ไปเร็วอาซื้อเค้กมาฝากด้วย ของชอบเราไม่ใช่เหรอ” เขาบอกก่อนจะพาผมเข้าไปในครัว ถึงผมจะเรียกเขาว่าอา แต่  อาอิท  ก็อายุห่างจากผมแค่ 10 ปีเท่านั้นเพราะอาเป็นลูกคนเล็กจากลูก 5 คนของคุณปู่ ส่วนพ่อผมเป็นลูกชายคนรอง อายุของพ่อผมกับอาเลยค่อนข้างห่างกัน ผมมาอยู่ที่บ้านคุณปู่ตั้งแต่ 8 ขวบเพราะพ่อแม่ผมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ คุณปู่เป็น นักการเมืองที่ค่อนข้างมีอิทธิพลในจังหวัดหนึ่งทางภาคกลาง อาอิท เป็นทั้ง พ่อ อา  พี่ชายและเพื่อนเล่นของผม เราสนิทกันมาก อาจจะมากกว่า ทุกคนในบ้านเสียด้วยซ้ำ แต่ตั้งแต่ อาอิทเรียนมหาลัยก็ย้ายไปอยู่คอนโดในกรุงเทพ  นานๆถึงจะกลับบ้านที  แม้ว่าตอนนี้จะเรียนจบแล้วแต่อาก็เลือกที่จะทำงาน ในกรุงเทพ

“เอ๋า เค้กช็อกโกแลต ของโปรดเรา อาซื้อมาฝากจากร้านดังเลยนะ” อาอิทว่า เพราะเราสนิทกันมาก เรื่องที่ผมอยากเปิดขนมอาก็รับรู้มาตลอด แม้ว่าคุณปู่จะไม่เห็นด้วยนักแต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร ท่านคงจะสงสารผมที่ไม่มีพ่อแม่อย่างคนอื่นเขา แต่ผมไม่รู้สึกขาดนะครับเพราะสำหรับผมแค่มีอาอิทก็พอแล้ว

“รักอาที่สุด รู้ใจตลอดเลย คืนนี้ นอนด้วยนะ”

“จะได้ยังไง อายุ 15 แล้วนะไม่ใช่เด็กๆ จะนอนกับอาได้ยังไง”

“ทำไมจะนอนไม่ได้ ก็ไม้คิดถึงอา นิ นะให้ไม้นอนด้วยนะ” ผมอ้อน มือเรียวยกขึ้นลูบหัวผมเบาๆก่อนจะพยักหน้า

“ขอบคุณครับ มากินเค้กกันดีกว่า”  ผมยิ้มร่าก่อนจะตักของโปรดเข้าปาก

“กินดีๆ สิ เลอะหมดแล้ว” คนอายุมากกว่าแหวลั่น

“ก็มันอร่อย”

“ค่อยๆกินก็ได้ ไม่มีใครเขาแย่งกินหรอกครับ คุณ ศตายุ”  อาอิทบ่น แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร อาน่ะเขารักผมที่สุดอยู่แล้ว ไม่มีทางโกรธผมจริงๆหรอก ครับ

Rrrrrrrrrrrrrr

“แหน่ ใครโทรมาน่ะ” ผมแซวเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ยิ้มกว้างทันทีที่โทรศัพท์ดัง

“กินเค้กไปเลย เดี๋ยวอามา”

“ชิ พอแฟนโทรมาล่ะทิ้งหลานเลยนะ ใช่ซี้ ทุกวันนี้เขามีแฟนแล้วจะมาสนใจหลานทำไม”

“ไม่ต้องมาล้ออา เลยนะไอ้เด็กแสบ กินเค้กไปเดี๋ยวอามา” อาอิทบอกก่อนจะเดินออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอก 

ผมวางช้อนลงเมื่อ รู้สึกว่าเค้กชิ้นนี้มันฝืดคอชอบกล ถ้าเดาไม่ผิดคนที่โทรมาคงเป็น พี่ต้น แฟนอาอิท อย่างที่บอกว่าผมกับอาสนิทมาก ผมรู้ทุกเรื่องของเขาเหมือนที่เขารู้ทุกเรื่องของผม และผมรู้ว่า อาตัวเอง เป็นอะไร จริงๆต้องบอกว่าทุกคนในบ้านรู้ว่าทายาทคนเล็กของ พิรีจันทร์ ไม่ได้ชอบผู้หญิง แรกๆคุณปู่ก็รับไม่ได้หรอกครับที่ทายาทนักการเมืองชื่อดังจะชอบผู้ชายแต่อาอิทพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ผิด ทุกวันนี้แม้ว่าคุณปู่จะไม่ได้สนับสนุนแต่ก็ไม่ได้ห้ามขอแค่อยู่ในกรอบที่วางไว้เท่านั้น คือ ต้องไม่มีเรื่องเสื่อมเสียมาถึงครอบครัว

ผมเจอพี่ต้นครั้งแรกตอนอายุ 10 ขวบ โลกของผมในตอนนั้นมันดูน่ากลัวจนไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน เสียงกรีดร้องของแม่ เสียงพูดของผู้คน เสียงของความอลหม่านดังอยู่ในหัวผมตลอดเวลา ผมกลายเป็นเด็กเก็บตัวจนแทบจะปิดกั้นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ผมซึมเศร้าจนแทบไม่ยอมพูดกับใครเลยนอกจาก อาอิท แต่รอยยิ้มอบอุ่น และน้ำเสียงที่อ่อนโยนของพี่ต้น ฉุดผมให้ออกจากโลกที่โหดร้าย  เป็นคนเดียวที่อดทน แม้ว่าผมจะไม่ยอมพูดด้วย เขามักจะมีรอยยิ้มอบอุ่นมอบให้เสมอ นานวันเข้ามันกลับกลายเป็นความเคยชิน ผมมักจะตามเขาไปทุกที่ เพราะช่วงปีแรกที่คบกัน อาอิทจะพาพี่ต้นมาที่บ้านบ่อยมาก แต่หลังจากนั้นก็แทบไม่ได้มาอีกเลย แม้จะไม่ได้พบกันแต่อาอิท มักจะเล่าเรื่องของพี่ต้นให้ผมฟังเสมอ   ในตอนแรกผมคิดว่า มันคล้ายการชื่นชมศิลปินดารา หรือการชอบนักกีฬาสักคนที่เราเห็นเขาเป็นแรงบันดาลใจ แต่ยิ่งโต ผมก็ยิ่งรู้ ว่ามันไม่ใช่   ผมไม่ได้ชอบ พี่ต้น แบบนั้น แต่มันเป็น ความชอบที่ลึกซึ้งกว่า ผมอิจฉาทุกครั้งที่พี่ต้นโทรหาอา รู้สึกไม่ชอบใจที่เขาเอาใจใส่อาเสมอ และโกรธที่ตัวเองทำได้เพียงยืนหลบอยู่หลังประตูทุกครั้งที่เขามา ผมรักอามาก ผมอยากให้อามีความสุข แต่ในขณะเดียวกันผมก็เกลียดรอยยิ้มที่เกิดจากเขาคนนั้น  บางครั้งชั่ววูบหนึ่งในจิตใจอยากให้อาอิทหายไปซะ หากว่าพี่ต้นเจอผมก่อนเขาอาจจะชอบผม
ผมได้แต่กำมือแน่นเพื่อหลบซ่อนความสับสนในจิตใจ ผมเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ เกลียดตัวเองที่กำลังอิจฉาคนที่รักผมมากที่สุด เกลียดตัวเองที่ปล่อยให้จิตใจถลำลึกจนไม่สามารถถอนตัวได้ ผมได้แต่ถามตัวเองเสมอว่า ทำไม ทำไมคนที่ผมชอบต้องเป็นคนเดียวกับคนที่อารัก

“ไม้!! ทำอะไรน่ะ” เสียงหนึ่งร้องขึ้นก่อนที่ร่างโปร่งของอาจะถลาเข้ามาหาผมก่อนที่มือเรียวจะคลายมือผมออก

“เป็นอะไร ทำไมกำมือแน่นขนาดนี้ ” เขาถามด้วยความเป็นห่วง มืออบอุ่นคู่นั้นยังคงลูบเบาๆ เพื่อปลอบใจ

“เปล่าครับ ผมแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลยเผลอกำมือแน่นไปหน่อย”

“อย่าทำอย่างนี้อีกรู้ไหม อาเป็นห่วงแทบแย่ ” น้ำเสียงอบอุ่นนั้นบอก แววตาที่สะท้อนความเป็นห่วงนั้นทำให้ผมยิ่งละอาย หาก
วันหนึ่ง อารู้ว่าหลานคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ อายังจะห่วงผมอยู่ไหม มือคู่นี้จะยังลูบหัวผมอยู่หรือเปล่า

“ไม่เป็นอะไรหรอกน่า ”

“ไม่เป็นอะไรได้ยังไง เราก็รู้ว่าตัวเอง..” ร่างโปร่งกลืนคำพูดเหล่านั้นลงไปก่อนจะกุมมือผมไว้แน่น

“เป็นบ้า..”

“ใครใช้ให้พูดแบบนั้น ถ้าเป็นตอนแด็กๆอาตีจริงๆนะ ” เขาว่าเสียงขุ่น ตั้งแต่วันที่พ่อกับแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ต่อ
หน้าต่อตา ผมก็มักมีอาการนอนไม่หลับและฝันร้ายหรือบางทีก็เหม่อบ่อยๆ จนต้องพบจิตแพทย์ หมอบอกว่ามันเป็นอาการ      ช๊อกและเครียดจากเรื่องราวร้ายๆ พวกนั้น ทุกคนในบ้านเลยเป็นห่วงผมมาก โดยเฉพาะคนที่อยู่ตรงหน้าผมคนนี้

“เรื่องมันนานมาแล้วนะครับ ไม้ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว” ผมบอกก่อนจะยิ้มให้ ยิ่งเห็นอาเป็นห่วงผมยิ่งละอายใจ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ความรู้สึกพวกนี้มันหายไป

“ไม้เป็นหลานอานะ อาเป็นห่วงเราเสมอรู้ไหมเจ้าเด็กแสบ”

“คร้าบๆ คุณอาสุดที่รัก”  ผมยิ้มเพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวดในใจ ป่วยการที่ผมจะคิด แบบนั้น กับพี่ต้นเพราะมันเป็นไปไม่ได้

“อืม ไม้ อีกสอง สาม วัน ต้นจะมาที่บ้านเรานะ”

เคว้ง!!

ช้อนในมือหล่นกระทบจานเซรามิค เนื้อดี ผมชะงักกับคำพูดไม่กี่คำของคนตรงหน้า

พี่ต้นจะมาที่นี่

แม้จะพยายามไม่คิด แต่ก็ต้องยอมรับว่า ในส่วนลึกของจิตใจผมยากเจอหน้าเขา ยากเห็นรอยยิ้มอบอุ่น ของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้มาเพื่อผมก็ตาม

“ไม้เป็นอะไร ทำไมนิ่งไปล่ะ ไม่ดีใจเหรอที่จะเจอพี่ต้นแล้ว ไม่ได้เจอกันนานแล้วนิ” คุณอายังหนุ่มของผมยังพูดเสียงใส

“ก็ดีครับ” ผมตอบก่อนจะเสมองจานเค้กที่อยู่ตรงหน้า

จะบอกได้ยังไงว่าผมดีใจมาก จะบอกได้ไหมว่าผมอยากให้พี่ต้นมาหามากแค่ไหน 


ผมองผู้ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆอาอิทด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้จะดีใจที่เขาอยู่ตรงหน้าแต่ผมก็ทำได้แค่ทักทายเท่านั้น เพื่อซ่อนความรู้สึกมากมายที่อยู่ในจิตใจตอนนี้ไม่ให้มันแสดออกมา

“ไม่ได้เจอกันนาน โตเป็นหนุ่มจนพี่เกือบจำไม่ได้เลยนะเนี่ย” เขาเอ่ยทักก่อนที่มือหนาจะวางลงบนหัวของผม สัมผัสอ่อนโยนนั้น
ทำให้หัวใจผมเต้นแรง จนผมกลัวว่าจะมีใครสังเกตเห็น

“ครับ” ผมตอบก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไป  ผมต้องทำยังไง ผมต้องทำแบบไหน  ผมควรจะเดินหน้าต่อไป หรือควรจะหยุดมันเอา
ไว้ดี


มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบหาความยุ่งยากใส่ตัว ใครสักคนเคยบอกผมไว้ และผมก็คิดว่าที่เขาพูดมันไม่ผิดเลยสักนิด

วันเวลาผ่านไปอย่างที่มันควรจะเป็นทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดี อาอิทกับพี่ต้น ยังรักกัน คุณปู่เองก็อนุญาตให้ผมเรียน มัธยมปลายในกรุงเทพ และที่ที่ผมจะอยู่ได้ก็คือ คอนโดอาอิท และเรื่องราวต่อจากนั้น ทำให้ผมไม่สามารถสู้หน้าอาอิทได้เลยตลอด4 ปี ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่เพราะ มนุษย์ก็คือมนุษย์ แม้ว่าเราจะมีหลักยึดทางสังคมมากมายแต่สุดท้าย เราก็ไม่สามารถต้านทานความต้องการในจิตใจได้ ผมมีอะไรกับแฟนของอาตัวเอง.. ฟังดูเหมือนละครน้ำเน่าหลังข่าว แต่ทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริง  แม้ว่ามันจะเกิดจากความไม่ตั้งใจของเขาก็ตาม ผมไม่รู้ว่าพี่ต้นจำมันได้ไหม เพราะผมเลือกที่จะหนีออกมา ผมไม่สามารถสู้หน้าอาอิทได้อีกแล้ว ผมเลวเกินกว่าจะได้รับความรักจากอา แต่ผมกลับไม่สามารถห้ามหัวใจของตัวเองได้เลย เมื่อวันหนึ่งผมเลือกที่เดินกลับเข้าไปในวังวนของความเจ็บปวดนั้นอีกครั้ง ผมต้องกล่าวโทษอะไร เวรกรรมหรือ ความโง่ของตัวผมเอง



“ถึงแล้ว” เสียงนั้นบอกทำให้ผมหลุดจากความคิดตัวเองก่อนที่บิ๊กไบท์คันใหญ่จะจอดที่หน้าบ้านที่ผมไม่คุ้นเลย

“ที่นี่ที่ไหน” ผมถาม พลางมองบ้านหลังนั้นด้วยความแปลกใจ

“บ้านกูเอง” ไอ้ป๋องบอก

“พากูมานี่ทำไม ไหนบอกจะไปส่ง”

“เหอะ ไอ้น้อง พี่ป๋องคนนี้ไม่ใช่จะต่อยเก่งอย่างเดียว กูดูออกนะว่ามึงไม่อยากกลับไปที่หอหรอก จริงไหม ถึงกูจะไม่รู้ว่าวันนี้มึง
เป็นอะไร แต่กูก็อยากดูแลมึงบ้างเหมือนกัน”

“ขอบคุณ” ผมบอก แม้ว่ามันจะเบามากแต่ไอ้คู่อริตัวสูงก็ยิ้มรับก่อนจะบอกว่าไม่เป็นไร

“ไม้ มึงน่ะเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าน้ำตานะ แล้วพี่ป๋องก็ไม่ชอบเห็นน้ำตามึงเลยว่ะ”

“ระหว่างยอมรับกับหนีไปเรื่อยๆ มึงจะเลือกอะไรวะ” ผมถามคนตรงหน้า

“เฮ้อ ถ้าเป็นกู กูเลือกรับความจริง ถึงมันจะเจ็บแต่มันจะหายดีในสักวัน เหมือนเวลาที่มึงเป็นแผลถ้ามึงใส่ยามันอาจจะแสบไป
บ้างแต่ไม่กี่วันมันก็จะหาย เหมือนอย่างพี่ป๋องที่เลือกยอมรับความจริงอยู่ตอนนี้ไง เจ็บชิบหาย แต่ก็ไม่เห็นตายนี่หว่า จริงไหม”
คนตรงหน้ายิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนที่ผมจะยิ้มตอบ หากคนเราสามารถเลือกรักคนที่รักเราได้ก็คงดี



.......................................TBC.......................................
 :mew2: ไม่รู้ว่า สนุกไหม แต่ว่า เท่านี้ คือดีที่สุดที่ สมองน้อยๆ ของพิตจะคิดได้แล้ว T^T

ขอโทษจริงๆค่ะที่หายไปนาน แต่จะพยายามกลับมา ต่อให้จบนะคะ

อีก แค่ไม่เกิน 10 ตอนเองเนาะ สู้ๆ (นางให้กำลังใจตัวเองฮ่าๆ)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
มาแล้วๆๆๆๆ
อ่านไปกลัวดราม่านะ พูดเลย 5555

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :z3: รู้สึกถึงดราม่าเต็มขั้น นี่เป็นเหตุผลที่อิทเลิกกับต้นรึเปล่า

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13


ตอน 20  :mew1:


ติณภพ


ผมไขกุญแจเข้ามาในห้องที่คุ้นเคย แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ไฟในห้องยังไม่เปิดแปลว่าไม้ยังไม่ได้กลับเข้าห้อง ตั้งแต่เช้า ไปไหนของเขานะ  ผมได้แต่ถามตัวเองในใจ ก่อนจะตัดสินโทรหาเจ้าของห้อง

(ครับพี่ต้น) เสียงปลายสายในตอบกลับมา

“ไม้อยู่ไหน พี่มาหาที่หอแต่ไม่เจอเลย”  ผมถามในสิ่งที่สงสัย

(พี่ต้นอยู่ที่หอเหรอครับ  ตอนนี้ผมอยู่ข้างนอกกับเพื่อน พี่กินอะไรหรือยัง หิวหรือเปล่าเดี๋ยวผมซื้อเข้าไปให้ไหม)

“ยังเลย แต่เดี๋ยวพี่ออกไปหาอะไรกินแถวนี้ก็ได้ อย่ากลับดึกนะพี่เป็นห่วง”

(ครับ)

ผมวางสายก่อนจะนั่งปลายเตียงของไม้  มองไปรอบๆห้องที่ว่างเปล่า  พลางคิดถึงคำพูดของไอ้เด็กคนที่ไม้บอกว่าเป็นเพื่อนคนนั้น

“ผมไม่รู้ว่า คุณรักไม้บ้างหรือเปล่า แต่ขอบอกเขาไว้ตรงนี้เลยว่า ผมรักไม้มาก และผมจะแย่งเขามาให้ได้”

ผมพรูลมหายใจอย่างเหนื่อยล้า  ก่อนจะมองรูปเจ้าของห้องบนหัวเตียง ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่า ว่าไม้ทุกข์ขนาดไหน ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าทุกครั้งที่ผมมาค้างด้วยไม้แอบร้องไห้ ใช่ว่าผมจะจำไม่ได้ว่าไม้เป็นใคร  ผมไม่ใช่คนความจำเลื่อมหรือได้รับความกระทบกระเทือนจนจำหน้าหลานชายของแฟนตัวเองไม่ได้ ผมจำเขาได้ตั้งแต่วันแรกที่เขามาสมัครงานแล้วด้วยซ้ำ จำได้แม้กระทั่งว่าเมื่อ 4 ปีมันเกิดอะไรขึ้น

แต่ผมเลือกที่จะเห็นแก่ตัว

ผมมันเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ ผมไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่ใครต่อใครคิดผมเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา เป็นเพียงคนธรรมดาบนโลกใบนี้ที่แพ้พ่ายกับความต้องการ อาจจะความมึนเมา อาจจะเพราะความเหงา อาจจะเพราะอารมณ์ชั่ววูบที่ทำให้เรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวดของเราทั้งสามคน เกิดขึ้น

ช่วงนั้นอิทต้องปช่วยพ่อลงพื้นที่หาเสียง เลยทำให้ต้องกลับไปอยู่บ้านชั่วคราวประจวบเหมาะกับที่ไม้เข้ามาเรียนมัธยมปลายในกรุงเทพ ทำให้เราสองคนต้องอยู่ห้องเดียวกันโดยปริยาย ผมผ่านโลกมาไม่น้อย ใช่ว่าผมจะมองไม่ออกว่าหลานชายของแฟน คิดกับผมแบบไหน แต่เพราะผมรักอิทมาก มากจนไม่อยากทำให้เขาเสียใจเลยเลือกที่จะมองข้ามความรู้สึกนั้นไป แต่แล้ว เหตุการณ์มันกลับยิ่งแย่ เมื่อวันนั้นเป็นวันเกิดของเพื่อนผม ผมเมา อาจจะไม่มากจนไม่มีสติ แต่มันมากพอที่จะทำให้ความยับยั้งชั่งใจหมดไป ผมเป็นผู้ชาย ผมมีเหงา ผมมีความต้องการ  เราสองคนปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามสัญชาตญาณ ปล่อยให้อารมณ์และความต้องการอยู่เหนือเหตุผล ผมมีอะไรกับหลานของแฟนตัวเอง หลังจากวันนั้น ผมก็ไม่เจอไม้อีกเลย อิทร้องไห้จนแทบขาดใจเมื่อรู้ว่าหลานชายคนเดียวหนีออกจากบ้าน อิทรักไม้มาก รักเหมือนลูกแท้ๆ และน้ำตาของคนรักทำให้ผมเจ็บเจียนตาย ผมมันเลว แม้ว่าอิทจะไม่รู้เรื่องคืนนั้น แต่คนเลวๆอย่างผม สมควรแล้วหรือ ที่จะได้รับความรักจากเขา ผมถามตัวเองทุกวัน ถ้าไม่มีผม ชีวิตของอิทกับไม้ คงมีความสุขมากกว่านี้ ผมไม่คู่ควรกับความรักของใคร ผมตัดสินใจบอกเลิกกับอิท ด้วยเหตุผล ว่าเขาดีเกินไป แม้จะฟังดูงี่เง่าและไร้เหตุผล แต่นั้นคือเหตุผลจริงๆ ผมยังรักเขา รักมาก แต่ผมละอายใจเหลือเกิน หลังจากเลิกกัน ผมยอมรับว่าไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่พักใหญ่ จนเวลาผ่านไปเกือบปีถึงเริ่มที่จะกิจการร้านกาแฟเล็กๆของตัวเอง  ผมต้องการจะหนีจากอดีต แม้จะรู้ว่ามันเป็นวิธีที่แสนขี้ขลาด แต่เหมือนพระเจ้าเล่นตลก เมื่อวันหนึ่ง ไม้เดินเข้ามาในชีวิตผม เขาคงคิดว่าผมจำเขาไม่ได้ ซึ่งมันก็เป็นผลดีกับเราสองคนที่จะลบเลือนอดีตและรอยแผลในใจพวกนั้น แล้วใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน  แต่โชคชะตากลับทำให้เราสองคนก้าวเข้าไปในวังวนของความเจ็บปวด และผมเลือกที่จะเห็นแก่ตัวอีกครั้ง  ผมรู้ว่ามันไม่ยุติธรรมกับไม้เลย ผมเป็นฝ่ายที่ตักตวงอยู่ฝ่ายเดียว ผมรู้ว่าเขารักผม แต่ผมกลับลืม อิทไม่ได้ ที่บอกวว่าเล็กเหมือนอิทจริงๆแล้วผมโกหก ผมยอมรับว่า ถูกใจเล็กและคิดจะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน แต่พอผมรู้ความจริงเรื่อง คุณวัต เรื่องพีพี ผมเพียงแค่รู้สึกวูบไหวไม่ได้เจ็บปวดเจียนตายจนทนไม่ได้เหมือนตอนที่ต้องเลิกกับอิท เพราะ คนที่เหมือนอิท คือไม้ต่างหาก ไม้เหมือนอิทมากโดยเฉพาะแววตาคู่นั้น  ผมเห็นเขาเป็นตัวแทนของอิทมาตลอด และไม้ก็ยอมเจ็บปวดมาตลอดโยที่ไม่แม้แต่เรียกร้องอะไร  ผมกำลังทำผิดอยู่ใช่ไหม ผมกำลังทำลายชีวิตของไม้อีกครั้งใช่หรือเปล่า ผมรู้สึกผิดมาตลอดแต่ทำไมผมถึงยังไม่ยอมปล่อยเขา ทำไมผมยังรั้งเขาเอาไว้  ทำไมกัน …..




ผมเหลือบมองนาฬิกาก่อนจะพบว่าตัวเองนั่งเหม่อมานานโข ตอนนี้ใกล้จะสี่ทุ่มแล้วแต่ไม้ก็ยังไม่กลับมาสักที  ผมตัดสินใจโทรหาเขาอีกครั้งแต่ปรากฎว่าเขาไม่รับ ตั้งแต่รู้จักกันมาไม้ไม่เคยที่จะไม่รับสายผมสักครั้ง เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า  ด้วยควาร้อนใจผมรีบค้นหารสมุดพกที่เล่มเล็กของเขาเผื่อว่าไม้จะจดเบอร์เพื่อนสนิทหรือคนรู้จักเอาไว้บ้าง ผมกดเบอร์ที่ไม้เขียนว่า ไอ้แทน ทันที เพราะจำได้ว่าแทนไทเป็นเพื่อนสนิทของไม้ตั้งแต่เข้าเรียน ปวช

(สวัสดีครับ) เสียงในสายตอบกลับ ผมขมวดคิ้วแน่นเพราะเท่าที่จำได้แทนไทไม่น่าจะเสียงดูเด็กขนาดนี้

“ใช่เบอร์ แทนไท หรือเปล่าครับ”

( ใช่ มีธุระอะไรกับพี่แทนหรือเปล่า) เสียงนั้นดูกระด้างขึ้นไม่รู้วว่าผมคิดไปเองไหมนะครับ

“ขอคุยกับแทนไทได้ไหม” ผมบอกอย่างร้อนใจ

(ไม่ได้ ต้องบอกมาก่อนว่ามีเรื่องอะไร!)

“บอกแทนไทว่าเป็นเรื่องของไม้ก็พอ ” ผมบอกอย่างระงับอารมณ์ ไอ้เด็กนี่จะอะไรนักหนา

(ไอ้โปรดใครโทรมาเอามานี่ดิ) เสียงหนึ่งแว่วเข้ามาในสายก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงประหลาดคงเพราะกำลังแย่งโทรศัพท์กันอยู่

(ฮัลโหล ใครครับ แทนไทกำลังพูด)

“ผมเป็นเจ้าของร้านที่ไม้ทำงานอยู่จำได้ไหม”

(อ้อ แล้วมีอะไร) เสียงเขาตอบกลับมาห้วนๆ คนบ้านนี้ยังไงกันนะ

“ผมจะถามว่า ไม้อยู่ที่นั้นหรือเปล่า ผมโทรไปไม่รับถ้าอยู่แถวนั้น ขอคุยด้วยหน่อย”

(ไอ้ไม้จะมาอยู่กับผมได้ยังไง ตอนนี้ผมอยู่บ้าน แยกกันตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว)

“อืม งั้นเหรอ งั้นไม่รบกวนนะครับ”

(เดี๋ยว! มีเรื่องอะไรหรือเปล่า) ปลายสายถามเสียงเข้ม 

“ไม่มีอะไรหรอก แค่เห็นว่าดึกแล้วแต่ไม้ยังไม่กลับบ้าน โทรไปก็ไม่รับเลยเป็นห่วงคุณไม่รู้ก็ไม่เป็นไร” ผมบอกก่อนจะกดวางสาย
ไป ยิ่งร้อนใจกว่าเดิมเมื่อเพื่อนสนิทที่สุดของไม้ยังไม่รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ไหน  ไม้ไม่เคยเป็นแบบนี้ถ้าจะกลับดึกต้องโทรหาผมตลอดแต่นี่ไม่ใช่ ผมพยายามโทรถามทุกเบอร์ที่ไม้จดเอาไว้แต่ก็ไม่ได้ความอะไรไม่มีใครรู้ว่าไม้อยู่ที่ไหน  ผมไม่รู้วว่าตัวเองเป็นอะไรรู้แค่ว่าตอนนี้ผมกังวลมาก ห่วงไปสารพัดว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรไป

ก๊อกๆๆๆ

เสียงเคาะประตูทำให้ผมตื่นจากภวังค์ หรือว่าไม้จะกลับมาแล้ว แต่น่าแปลก ไม้ก็มีกุญแจน่าจะไขเข้ามาเลย หรือวว่าลืมกุญแจ
เอาไว้ในห้อง

“ไม้กลับมาแล้วเหรอ พี่ปะ……..”

“อิท !!”  ผมพูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าใครอยู่ตรงหน้า พยายามเพ่งมองเผื่อว่ามันจะเป็นแค่ภาพลวงตาแต่ไม่ใช่คนตรงหน้าผมคืออิท
แน่นอน แม้จะไม่ได้พบกันนานและครั้งสุดท้ายที่พบกันมันจะจบไม่สวยเอาซะเลย แต่ว่าผมไม่ทางลืมคนที่ตัวเองรัก เด็ดขาด

…………………………………………………………………………………..

“ทำไมไม่รับล่ะ เห็นโทรมาตั้งหลายสาย ดึกป่านนี้แล้วเขาคงเป็นห่วงมึง” เจ้าของบ้านตัวสูงบอกเมื่อเห็นว่าโทรศัพท์ของผมมีสายเข้ามาสักพักแล้ว

“ไม่ดีกว่า กูยังไม่อยากคุยกับเขาตอนนี้”

“เฮ้อ ตามใจเถอะ เอาที่สบายใจเลยครับ เรื่องนี้ป๋องจะไม่ยุ่ง”

“กวนตีนนะมึงน่ะ” ผมแหวลั่น

“แต่ก็ทำให้มึงหัวเราะไม้ไม่ใช่หรือไง พี่ป๋องบอกแล้วไงว่ากูไม่ชอบน้ำตามึงเลย อยากเห็นมึงยิ้มมากกว่า”

Rrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นสายจากเพื่อนรักของผม

(มึงอยู่ไหน!!) เสียงปลายสายถามอย่างร้อนรน ผมได้ยินเสียงมันหอบหายใจเหมือนไปวิ่งมาสักกิโล

“กูอยู่บ้านเพื่อน มึงไปทำอะไรมาเนี่ย ” ผมเลือกที่จะโกหกเพื่อในห้มันสบายใจ ไอ้แทนคงเต้นเป็นเจ้าเข้าแน่ถ้ารู้ว่า เพื่อนที่ผม
พูดถึงเป็นหัวหน้าช่างกลคู่อริ

(เพื่อน เพื่อนที่ไหนกูรู้จักหรือเปล่า)

“มึงไม่รู้จักหรอกเพื่อนสมัยมอต้นน่ะ แล้วนี่มึงโทรมาหากูทำไมวะ”

(กูเป็นห่วง เห็นไอ้พี่ต้นของมึงบอกวว่ามึงยังไม่กลับหอ แถมไม่รับโทรศัพท์ด้วยกูกลัวจะเกิดเรื่อง มึงอยู่ไหนให้กูไปรับไหม)

“ไม่ต้องหรอกกูกลับเองได้ แต่คงอีกสักพัก พอดีคุยกับเพื่อนเพลินน่ะ”

(อืม ถ้ากลับถึงหอแล้วไลน์มาบอกหน่อยก็ดี……………..ไม้ กูเป็นห่วงมึงมากนะ)

“อืม รู้แล้ว ขอบใจมากนะเว้ย” ผมบอกก่อนจะกดวางสายไป

“มึงนี่เสน่ห์ต่อเพศเดียวกันแรงไม่เบานะ เห็นทีพี่ป๋องคงต้องทำงงานหนักซะแล้ว” คนตรงหน้าบอกทีเล่นทีจริง ผมไมด้แต่ส่ายหน้ากับความขี้เล่นที่ไม่ค่อยรู้จักเวลาของคู่อริตัวสูง แต่อย่างน้อยการมีใครสักคนคอยอยู่เป็นเพื่อนในเวลาแบบนี้มันก็ดีเหมือนกัน


.....................................TBC................................

 :hao5:  เอาล่ะ เรารู้วว่มีคนเกลียดอิพี่ต้น เพิ่มขึ้นน่ๆ

 :mew3:

ขอบคุณสำหรบกำลังใจ ค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
เลวทั้งแฟนทั้งหลาน น่าสงสารอิทมากอ่ะ บอกตามตรงเราไม่เห็นใจทั้งต้นทั้งไม้
ถ้าตอนจบพวกมันสองคนได้รักกันอย่างมีความสุขนี่คงเป็นตอนจบที่เศร้าและเลวร้ายที่สุดสำหรับเราเลยล่ะ
เลวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เกลียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ lovenara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พี่ต้นเห็นแก่ตัวมากกกก    แต่ยังไม่สรุปดีกว่าบางทีคนแต่งอาจจะหลอกเราเหมือนเรื่องก่อนๆก็ได้ จริงไหม  บางที คนที่ร้ายอาจเป็นคนที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ ยังงัยก็สู้ๆนะค่ะ pita อิๆๆๆ :mew1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
มาแปะไว้ก่อนค่ะ
เดี๋ยวตามอ่านนะ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ไม่รู้จะเห็นใจใครดีเลย.. :z3:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
น่าสงสารอิทในตอนนั้นเพราะอิต้นมันเห็นแก่ตัวมากตอนนี้เป็นไงละกรรมตามสนองเลยสุดท้ายต้องมาเจ็บปวดเพราะความเห็นแก่ตัวล้วนๆสมน้ำหน้า

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ไม่เกลียด แต่แค่ขยะแขยง ดูไร้ค่า น่าจะเป็นคนที่ถูกลืม แล้วปล่อยให้ตายทั้งเป็นจริงๆ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มาซะดราม่าเลย...เศร้า!

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
โอ้ว น้ำเน่าเข้มข้นมาก กลิ่นกระจาย

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอน 21 แทนโปรด

“ไปไหนมา” เสียงของคุณนายแม่ถาม ก่อนที่จะมองผมด้วยแววตาที่เจือไปด้วยความโกรธ

“ไปหาเพื่อนมาครับ”

“เหอะ ถ้าเป็นเพื่อนจริงๆคงไม่รีบร้อนขนาดนั้นหรอกมั้งคุณลูกชาย”  ผมว่าวันนี้คุณนายดูแปลกๆนะครับ ปกติเคยสนใจที่ไหนแต่วันนี้นอกจากจะมองผมตาขวางแล้วยังประชดอีก

“เพื่อนจริงๆครับ ไอ้ไม้ไงแม่ พอดีมันยังไม่กลับหอผมเห็นว่าดึกแล้วเลยเป็นห่วง”

“แทนไท แม่ไม่ได้สอนให้ลูกเป็นคนแบบนี้นะ จะทำอะไรคิดถึงใจน้องบ้าง” ผมได้แต่เลิกคิ้วด้วยความงง แม่กำลังพูดถึงเรื่อง
อะไรครับใครรู้ช่วยบอกผมที

“แม่ แม่พูดเรื่องอะไรเนี่ย ผมงงไปหมดแล้ว”

“เชอะ ฉันไม่คุยกับแกแล้ว เสียเวลา!” แล้วแม่ก็เดินขึ้นห้องไป ปล่อยผมไว้กับความงงมากมายมหาศาล ครับ ผมไม่เข้าใจ
คุณนายแกจริงๆ ให้ตายเถอะ

 
“ไอ้โปรด นอนยังวะ” ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะถามส่วนเกินที่มักจะมาสิงห้องบ่อยๆ แต่คราวนี้กลับว่างเปล่า ผมแปลกใจนิดหน่อยเพราะปกติไอ้โปรดจะไม่หนีไปดื้อๆถ้ามันจะนอนบ้านผม  แต่ก็ดีวันนี้ผมจะได้นอนคนเดียวซะที  ผมอาบน้ำออกมานั่งเล่นเกมเหมือนทุกวัน แต่ทำไมวันนี้รู้สึกแปลกๆ มันเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง นี่มึงเป็นอะไรไปวะไอ้แทน ผมได้แต่สถบในใจอย่างหัวเสีย ก่อนจะเหลือบเห็นน้องเน่าของไอ้เด็กข้างบ้านนอนอยู่บนเตียง

“ไหนบอกไม่มีแล้วนอนไม่หลับไงวะ เหอะ ที่นี้ล่ะทิ้งเชียว” ผมบ่นก่อนจะตัดสินใจทิ้งตังลงบนที่นอน พลางคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสองชั่วโมงก่อน

หลังจากที่วางสายจากเจ้าของร้านของเพื่อนสนิทแล้วใจผมก็เกิดกังวลขึ้นมาบ้างเพราะปกติไอ้ไม้ไม่ใช่คนที่จะไปไหนมาไหนโดยที่ไม่บอกใคร แถมยังไม่ยอมรับโทรศัพท์ด้วยนี่แปลกมาก

“พี่แทนจะไปไหน” เสียงของไอ้เด็กข้างบ้านถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมเตรียมจะออกไปข้างนอก

“ไม่ต้องมากวนน่า ไม่ใช่เรื่องของเด็ก มึงไปนอนโน่นไป”

“ใช่สิ โปรดมันก็แค่เด็กข้างบ้าน จะไปสำคัญเท่าเพื่อนรักของพี่อย่างพี่ไม้ได้ยังไง!” ไอ้โปรดขึ้นเสียง

“อย่าดึงไม้มาเกี่ยว ถ้ามึงจะงี่เง่าก็กลับไปนอนบ้านเลยไป” ผมเริ่มเสียงดังบ้างเพราะตอนนี้ทั้งร้อนใจเรื่องไอ้ไม้แถมไอ้น้องข้าง
บ้านนี่ยังมากวนโมโหอีก

“พี่แทนไล่โปรดเหรอ”

“เออ!!”  ผมบอกแค่นั้นก่อนจะออกจากบ้านไปพร้อมๆกับ นินจาลูกรัก ผมตามหาไอ้ไม้อยู่นานมาก ทั้งที่โรงเรียน ที่สวนสาธารณะที่มันไปชอบไปหรือแม้แต่ถิ่นของคู่อริอย่างช่างกลs แต่ก็ไม่มีวี่แววของมันเลยสักที ทำให้ผมยิ่งหัวเสีย แม้ว่าผมจะพยายามตัดใจ แต่ผมก็เป็นห่วงมันมาก กังวลไปสารพัดว่ามันจะมีอันตรายหรือเปล่า ถึงรู้ว่าไอ้ไม้ไม่ใช่คนอ่อนแออะไร เรื่องต่อยตีมันก็สูสีกับผม แต่เพราะเป็นมันผมถึงได้ห่วงขนาดนี้


ผมตัดสินใจโทรหามันหลังจากที่พยายามตามหาอยู่นาน ก็ได้คำตอบว่ามันอยู่บ้านเพื่อนแม้จะแปลกใจเพราะไอ้ไม้ที่แทบไม่พูดเรื่องอดีตของตัวเองเลยจะมีเพื่อนสมัยมอต้นมาหา แต่แค่รู้ว่ามันปลอดภัยก็ดีแล้ว
“นี่กลับไปจริงๆเหรอเนี่ย” ผมพูดกับตัวเองเบาๆหลังจากที่เพิ่งจำได้ว่าตัวเองไล่มันกลับบ้านแต่ปกติมันเคยฟังซะที่ไหนล่ะ เห็นเกาะผมเป็นลูกลิงขนาดนั้นไล่ยังไงก็ไม่ไป แต่บทจะไปมันก็ไปง่ายๆซะอย่างนั้น







“คุณนายครับ วันนี้มีอะไรกินบ้างเอ่ย” ผมถามคุณนายแม่ที่กำลังทานข้าวเช้าอยู่ แต่กลับได้เพียงค้อนวงโต นี่ผมทำอะไรให้คุณนายไม่พอใจกันครับ

“แม่เป็นอะไรครับ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ”

“ไม่มีอะไร จะกินก็รีบกินแล้วก็รีบไปเรียนได้แล้ว!”

มาเต็มอารมณ์ล้วนๆ คุณนายของผมเป็นอะไรใครรู้ช่วยสงเคราะห์ผมทีเถอะครับ

“แม่ทำไมวันนี้ ตั้งโต๊ะแค่สามที่ล่ะครับ”  ผมเลิกคิ้วถามอย่างแปลกใจเพราะปกติแล้ว บ้านผมต้องมีลูกรักแม่มานั่งกินข้าวด้วยแทบทุกวันยกเว้นวันหยุดเพราะมันจะตื่นสาย แต่วันนี้ยังไม่เห็นเลยแหะ

“หึ ทำกับน้องขนาดนั้นน้องคงมาหรอก”

“แม่ถามจริงๆนะ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม่โกรธเรื่องอะไรครับ”

“เมื่อคืนทำเรื่องอะไรไว้ล่ะ”

ผมงงหนักกว่าเดิม พลางส่ายหน้าอย่างจำใจเพราะผมไม่รู้จริงๆ

“เมื่อคืนแกไล่น้องกลับบ้านใช่ไหม? ”

“เอ่อ..” ผมอึกอักเพราะจริงๆก็ไล่ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ

“มันน่าตีจริงๆลูกคนนี้ น้องยังเด็ก แกยังไปตะคอกจนน้องร้องไห้วิ่งกลับบ้านแบบนี้จะไม่ให้แม่โกรธได้ยังไง ฉันเลี้ยงของฉันมาตีสักแปะฉันยังไม่เคย” ครับสรุปว่าใครเป็นลูกแม่กันเนี่ย

“โถ่ แม่ ก็แค่ทะเลาะกันนิดหน่อย เองแล้วผมก็ไม่ได้ตั้งใจด้วย ก็ตอนนั้นคนมันโมโห”

“ไม่รู้ล่ะ แม่ไม่สนว่าแกจะใช้วิธีไหน แต่แกต้องให้น้องยกโทษให้แกให้ได้เข้าใจไหม แทนไท” คุณนายสั่งเสียงเข้ม

“ครับๆ” ผมรับคำแบบ แม้ในใจจะค้านอยู่มากก็ตามว่าผมไม่ผิด 



ผมจอดรถหน้าบ้านไอ้โปรดก่อนจะมองหาไอ้เด็กข้างบ้านตัวแสบไปด้วย สักพักคุณน้าแม่มันกลับเดินออกมาบอกว่ามันให้เพื่อนมารับไปแล้ว  เพื่อน ใคร? หรือเป็นไอ้เด็กแว่นนั่น? ผมสูดหายใจเข้าเพื่อนระงับความไม่พอใจที่แล่นริ้วอยู่ในอก ทำไมผมต้องไม่
พอใจ ก็แค่เพื่อนมารับไปโรงเรียน

“เว้ย! ไอ้แทนมึงเป็นอะไรวะ” ผมสบถก่อนจะกระชากเกียร์ออกรถทันที และต้องถามตัวเองอีกครั้งว่าผมมาที่โรงเรียนไอ้โปรดทำไม

“เหอะ สงสัยจะเป็นเพราะชิน” ผมบอกกับตัวเองเบาๆก่อนจะขับรถมุ่งตรงไปที่โรงเรียนตัวเอง แม้ว่าวันนี้ผมจะรู้สึกว่าไอ้ไม้มันดูซึมๆแต่ตัวผมเองกลับไม่มีกระจิตกระใจจะทักหรือถามมันมากนัก จิตใจส่วนใหญ่ของผมดูเหมือนจะไปอยู่ที่ไอ้เด็กข้างบ้านตัวเล็กนั่นซะหมด




“แทนมึงเป็นอะไรหรือเปล่า กูเห็นมึงอารมณ์เสียมาตั้งแต่เช้า” ไอ้เพื่อนที่มันคงทนสงสัยต่อไปไม่ได้เอ่ยถาม

“เปล่า กูมีเรื่องนิดหน่อยไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”

“กูกับมึงเป็นเพื่อนกันมา 3 ปีนะเว้ยไม่ใช่ 3 วันคนอย่างมึงน่ะไม่ใช่คนใส่ใจเรื่องเล็กน้อยหรอก ถ้าเรื่องไหนทำให้มึงอารมร์เสียได้
ขนาดนี้กูว่ามันใหญ่พอสมควรนะ จริงไหม”

“นี่มึงกำลังด่ากูอยู่ปะวะ ทำไมกูเหมือนถูกด่ายังไงไม่รู้”

“ใครจะไปกล้าด่า พี่แทน รองหัวหน้าเทคนิค m ล่ะครับ แหม กระผมก็พูดไปตามที่เห็นล่ะครับ”

“กวนตีนแล้วมึง” ผมด่าพลางตบหน้าผากมันไม่แรงนัก

“แทน มึงทะเลาะกับน้องโปรดหรือเปล่า”

“มึงรู้ได้ยังไง?” ผมเลิกคิ้วถาม เพราะเท่าที่จำได้ผมไม่เคยบอกมันสักคำว่าผมทะเลาะกับไอ้โปรด

“กูเดา” แหม มันควรไปสมัครเกมโชว์ หรือไม่ก็เปิดตำหนักใบ้หวยนะครับ ถ้าจะเดาแม่นขนาดนี้

“กูจะบอกอะไรมึงสักอย่างนะไอ้แทนเพื่อนรัก รัก ชอบ ผูกพัน มันใกล้กันมาก มากจนบางครั้งเราก็แยกไม่ออกว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร มึงลองถามใจตัวเองดีๆอีกทีนะ ว่า สรุปแล้ว คนที่มึงรู้สึกรัก จริงๆนะเป็นใคร” มันบอกก่อนจะเดินแยกไปเข้าเรียนทิ้งให้ผมขมวดคิ้วกับความสงสัยต่อไป





ตกเย็นผมกลับต้องมานั่งแปลกใจตัวเองอีกครั้งที่จนแล้วจนรอดก็มาอยู่ที่หน้าโรงเรียนมัธยมที่แสนคุ้นเคยนี่อีกครั้ง ให้ตายเถอะ นายแทนไท กำลังเป็นอะไร!! ผมหัวเสียอยู่พักใหญ่ก่อนที่ไอ้เด็กข้างบ้านตัวแสบจะเดินยิ้มร่าออกมาพร้อมกับไอ้เด็กแว่น

“โปรดกลับบ้านได้แล้ว” ผมเดินเข้าไปหาเด็กมัธยมสองคนด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ เผลอๆคงมีคนเกือบจะกดโทรแจ้งตำรวจด้วยซ้ำว่ามีเด็กช่างกลมาหาเรื่อง

“ไม่กลับ!! โปรดจะให้ธันวาไปส่ง” ไอ้โปรดว่า พลางกอดอกฉับ

“เฮ้ย ไอ้แว่น คราวก่อนกูเตือนมึงว่าไง จำไม่เหรอ ว่าอย่ามายุ่งกับน้องกูอีก ” ผมหันไปเล่นงานไอ้เด็กแว่นบ้างมันที่กลัวจนตัวสั่น
อยู่แล้วยิ่งสั่นหนักเข้าไปอีก

“พี่แทนจะทำอะไรเพื่อนโปรด!!”

“เหอะ” ผมแค่นเสียงในลำคอก่อนจะลากไอ้ตัวแสบขึ้นรถทันที



“เงียบ เงียบตลอดโกรธกูเรื่องอะไรก็พูดมาสิ ทำไงต้องเงียบด้วย!!” ผมเริ่มเสียงดังเมื่อเห็นว่าไอ้ตัวแสบเอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมพูดจา

“แล้วพี่แทนจะสนใจทำไม โปรดก็แค่เด็กข้างบ้าน ต่างคนต่างอยู่สิ โปรดก็ไม่ไปวุ่นวายกับพี่แล้ว พี่จะเอาอะไรอีก!!” ร่างเล็ก
ตะโกนลั่น ก่อนที่ตากลมโตนั้นจะเต็มไปด้วยน้ำตา ผมถอนหายใจก่อนจะจอดรถ ข้างทางขืนขับไปทะเลาะกันไปอาจจะไม่ถึงบ้านทั้งคู่

“โปรด อย่าร้อง”

“พี่แทนสนใจด้วยเหรอ”

“อ้าว ไอ้นี่มึงเป็นน้องกูนะ กูจะไม่สนมึงได้ยังไง”

“อืมได้ โปรดไม่โกรธพี่แทนแล้ว กลับบ้านได้หรือยัง หิวข้าว” มันบอกพลางเช็ดน้ำตาออก แม้วว่าผมจะแปลกใจที่มันหายโกรธง่ายเหลือเกิน แต่ก็ทำได้แค่พยักหน้าแล้วตรงกลับบ้าน



นายแทนไท กำลังจะเป็นบ้า ….

เพราะดูเหมือนว่าตลอดอาทิตย์นี้ทั้งเพื่อนสนิทและไอ้เด็กข้างบ้านจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยทั้งคู่ แต่ไอ้ไม้ดีหน่อยที่มันยังรับโทรศัพท์ตอบไลน์บ้าง แต่อีกคนสิอยู่บ้านใกล้กันแท้ๆแต่กลับไม่เห็นแม่แต่เงา นี่ผมจะเข้านายคุณนายไม่ติดแล้วนะครับ แต่มันแปลกกว่านั้นที่ผมกระวนกระวายจนไม่เป็นอันทำอะไร รอบๆตัวมันเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ตอนที่มันอยู่ก็รำคาญมันจะตายชักแต่พอมันไม่อยู่ขึ้นมาจริงๆ กลับรู้สึก คิดถึง อย่างบอกไม่ถูก


“กูจะบอกอะไรมึงสักอย่างนะไอ้แทนเพื่อนรัก รัก ชอบ ผูกพัน มันใกล้กันมาก มากจนบางครั้งเราก็แยกไม่ออกว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร มึงลองถามใจตัวเองดีๆอีกทีนะ ว่า สรุปแล้ว คนที่มึงรู้สึกรัก จริงๆนะเป็นใคร”


คำพูดของเพื่อนรักดังซ้ำไปซ้ำมาในหัว มันทำให้ผมเริ่มทบทวนอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ตัวผมอาจมองข้ามมันไป…




,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,TBC,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,


 :katai4: ช่วงนี้นางขยัน ถ้า ขยีนแบบนี้ คาดวว่า ไม่เกินสิ้นปี น่าจะจบ เอิ๊กๆๆๆ

 :mew1:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
แทนเพิ่งจะเริ่มเกทหรอว่าตัวเองนะรักน้องแล้วแต่ตัวเวไปทำไม่ดีกะน้องไว้ทีนี้ละคงต้องง้อนานเลยละเพราะน้องมีที่ไปแล้ว :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ของบางอย่างเห็นค่าเมื่อหายไป ไงล่ะแทน!!

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อ่านแล้วอยากด่าอิพี่ต้น ทำตัวเองแล้วจะเรียกร้องอะไร บอกเลิกแล้วดันโหยหา หาคนอื่นมาแทน คร่ำครวญเหมือนตัวเองโดนทิ้ง
ส่วนไม้รู้ว่าทำแล้วไม่ดี ยังจะทำ

สงสารอิทมากกกกกกกกกกกกก ทั้งแฟนมีชู้ ทั้งโดนทิ้งโดยไม่รู้อะไรเลย
แถมแฟร์ๆว่าต้นมันบอกเรื่องนี้ อิทก็คงไม่ทรมานใจ
แต่ต้นมันไม่บอกเพราะกลัวอิทเกลียดมันแบบไม่อยากเห็นหน้าอีกเลยนะสิ
คงแอบหวังลึกๆว่าจะได้กลับไปคบอิท

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
คือแบบ อะไรกันน๊า
ทั้งคู่หลัก คู่รอง เห้อออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
บางทีความรักนี่ทำให้คนดูโง่ไปเลยก้ได้ เป็นบ้าไปเลยก็มีเนาะ ก็ความรักนี่น๊า

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอน 22

ติณภพ

“อิท !!”  ผมพูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าใครอยู่ตรงหน้า พยายามเพ่งมองเผื่อว่ามันจะเป็นแค่ภาพลวงตาแต่ไม่ใช่คนตรงหน้าผมคืออิท
แน่นอน แม้จะไม่ได้พบกันนานและครั้งสุดท้ายที่พบกันมันจะจบไม่สวยเอาซะเลย แต่ว่าผมไม่ทางลืมคนที่ตัวเองรัก เด็ดขาด

“ต้น!” อิทเองก็คงตกใจไม่แพ้กันที่เห็นผมอยู่ที่นี้ เขามองผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม 

“ต้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นี่มันห้อง ไม้ไม่ใช่เหรอ”

“คือ..” ผมไม่รู้จะพูดยังไง ไม่รู้ว่าต้องทำแบบไหน ผมควรจะจัดการกับปัญหาตอนนี้ยังไงดี

“ต้นขอโทษ” ผมบอกเสียงเบา ในเวลานี้ผมไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำนี้ แม้ว่ามันจะไม่สามารถลบล้างความเสียใจของคนตรง
หน้าได้เลยก็ตาม

“ขอโทษทำไม ถ้าขอโทษเรื่องที่ทิ้งกันไป อิททำใจได้แล้ว” เขาว่า

“เรื่องนั้นต้นรู้ แต่ที่ต้องขอโทษคือเรื่องของไม้”

“ไม้? ทำไมต้องขอโทษ อิทงง ไปหมดแล้ว ต้นกำลังเล่นอะไรอยู่ กันแน่?” อิทตะคอกเสียงดัง 

“คือ..”

“พี่ต้นเขาขอโทษเรื่องที่ ไม่ได้บอกไงว่าผมทำงานที่ร้านพี่เขา” เสียงของบุคคลที่สามดังขึ้นพร้อมๆกับที่เจ้าของห้องตัวจริงเดินเข้ามา พร้อมกับใครอีกคน

“หมายความว่ายังไง” อิทเลิกคิ้วถาม



“ตอนนี้ผมทำงานที่ร้านกาแฟของพี่ต้น พี่เขาคงรู้สึกผิดที่ไม่ยอมบอกอาว่าเจอผมแล้ว” ไม้บอกเสียงเรียบ ผมมองเขาด้วยความ
ไม่เข้าใจ หรือไม้รู้ว่าผมจำเขาได้?

“เหรอ ถ้าเป็นเรื่องนั้น ช่างมันเถอะ อาไม่ถือสา แต่ที่อามาวันนี้ ไม้รู้ใช่ไหมว่าอามาทำไม”

“รู้ครับ” ไม้พยักหน้า

“งั้นไปเก็บของ กลับบ้านคุณปู่ บ่นคิดถึงหลานชายคนโปรดจะแย่แล้ว”

“กลับบ้าน”  ผมถามเสียงแผ่วพลางมอคนตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ

“ใช่ กลับบ้าน อิทขอบคุณมากที่ช่วยดูแล หลานชายอิท แต่วันนี้ถือว่าไม้ลาออกอย่างเป็นทางการนะ เพราะคุณพ่อต้องการให้
หลานชายกลับไปเรียนที่บ้านมากกว่า” เป็นอิทที่ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“เดี๋ยวสิ ได้ไงล่ะ พี่ป๋องเพิ่งจะเริ่มจีบมันเองนะ ถ้ามันกลับก็แห้วดิ”ไอ้เด็ก คนนั้นโวยวายลั่น

“ทำอย่างกับกูจะตาย งั้นแหล่ะ กูแค่กลับบ้าน เดี๋ยวว่างๆจะมาเล่นด้วย ยังไงมึงก็เป็นเพื่อนกู” ไม้ว่าก่อนจะยิ้มให้ร่างสูงใน เสื้อช้อป

“เหอะ ” ไอ้เด็กช่างแค่นเสียงก่อนจะมองหน้าผมแล้วหยุดคำถามที่ทำให้ผมต้องอึ้งออกมา

“แล้วคุณน่ะ ไม่คิดจะรั้งมันไว้หน่อยหรือไง”

นั่นสิ… ผมควรรั้งไม้เอาไว้ไหม ถ้ารั้งไว้ผมคงเห็นแก่ตัวมาก เพราะเมื่อเทียบกับการอยู่กับผม ถ้าปล่อยให้เรื่องทุกอย่างมันจบลงแบบนี้อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็ได้ และนั่นทำให้ผมเลือกที่จะเงียบ



ผมมองตามรถคันหรูที่ขับออกไปผ่านทางหน้าต่าง ผมทำถูกแล้วใช่หรือเปล่า ผมควรให้ผ่านไปแบบนี้จริงๆเหรอ

พลั่ก!

มือข้างหนึ่งเหวี่ยงผมกระแทกกับตู้เสื้อผ้าเสียงดังก่อนที่กำปั้นของเขากระซัดใส่ผมไม่ยั้ง

“โถ่เว้ย!! ทำไมมึงไม่รู้จักทำอะไรบ้างห่ะ แมร่งขัดใจชิบหายใจคอจะปล่อยให้เมียไปง่ายๆแบบนั้นน่ะเหรอห่ะ” ไอ้เด็กเมื่อวานซืน
นั่นถามผมเสียงดังพลางกระชากคอเสื้อผมอย่างแรง 

“บางทีการปล่อยเขาเป็นอาจจะเป็น ทางออกที่ดีที่สุดก็ได้” ผมบอกในที่สุด

“มึงมันรักแต่ตัวเอง มึงไม่กล้าจะบอกด้วยซ้ำว่าไม้เป็นเมียเหมือนกัน โถ่เว้ย ทำไมไม้ต้องรักมึงด้วยวะ!! ” เขาสบถ พลางเสยผมอย่างระงับอารมณ์ 

“ถ้าผมเล่านิทานให้คุณฟัง คุณจะฟังไหม”

“นี่มันเวลาอะไร มึงยังจะเล่านิทานอีกเหรอ”

“หึ” ผมแค่นเสียงก่อนจะเริ่มต้นเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อนให้เขาฟังผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องเล่า แต่เพราะตอนนี้ผมกำลังสับสน และคิดไม่ออกว่าต้องทำอะไร 

พลั่ก!!

หมัดหนักกระแทกเข้าที่มุมของผมทันทีที่เล่าจบ 

“มึงมันเหี้ย!! คิดได้ยังไงมีอะไรกับหลานของแฟนตัวเอง”

“นั่นสิ” ผมยิ้มขมขื่นพลางเช็ดเลือกที่มุมปากอย่างลวกๆ 

“แล้วจะเอาไงต่อ” เขาถามผม เป็นครั้งแรกที่เด็กนั้นพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่มีวี่แววของความเกรี้ยวกราด

“ไม่รู้” ผมตอบ ผมไม่รู้จริงๆว่า ต้องทำแบบไหน ไม่รู้จริงๆว่าผมต้องเริ่มทำอะไร ไม่รู้เลยจริงๆ

“เหอะ ไอ้ไม้ชอบคนโง่ๆ แบบนี้ไปได้ไงวะ จะบอกอะไรให้นะคุณเจ้าของร้าน อันดับแรกเลยนะ ลองถามหัวใจตัวเองดูสิ ว่า รัก
ใคร ถ้ายังรัก แฟนเก่าอยู่ก็ปล่อยไม้ไปซะ แต่ถ้า ผลมันตรงกันข้าม ก็ลุยไปเลย”  เขาบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป



…………………………………………………………………………………………………….


“เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” อาอิทถามพลางเอามืออังที่หน้าผากเหมือนจะวัดไข้

“เปล่าครับ ผมสบายดีแค่ตกใจนิดหน่อยที่คนมารับกลายเป็นอา”

“เหอะ จะว่าไปมันน่าน้อยใจชะมัด รู้ไหมว่าอาตามหาเรามานานแค่ไหน ถึงปู่จะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงก็เถอะ แต่อาก็อดห่วงไม่
ได้อยู่ดี ที่ไหนได้กลับอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก มันน่านัก เจ้าเด็กตัวแสบ” อาอิทบอกด้วยเสียงอ่อนโยนก่อนจะเขกหัวผมเบาๆ เป็นการลงโทษ ท่าทีที่ยังเหมือนเดิมของอาทำให้ผมน้ำตารื้น  ผมกลัว กลัวว่าถ้าอารู้ความจริงแล้วอาจะผิดหวัง กลัวเหลือเกินว่าสายตาอ่อนโยนคู่นั้นจะหายไป

“ผมขอโทษครับ” ผมบอกก่อนจะโผเข้ากอดคุณอาสุดที่รัก ผมไม่ได้ขอโทษเรื่องหนีออกจากบ้านแต่ผมกำลังขอโทษอาจากทุก
เรื่องราวที่ผ่านมา

“วันนี้เป็นวันอะไรก็ไม่รู้เนาะกร อิทโดนคนนั้นคนนี้ ขอโทษ มาทั้งวันเลย” อาอิทบอกกับผู้ชายที่กำลังขับรถอยู่ด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนจะกอดตอบผม



ผมนั่งรถมาสักมาสามชั่วโมงรถยนต์ของแฟนอาอิท ที่เขาให้ผมเรียกว่า “อากร”  ก็จอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ในตัวเมืองของจังหวัดทางภาคกลางจังหวัดหนึ่ง บ้านพิรีจันทร์  บ้านที่ผมไม่กลับมา เกือบ 4 ปี

“ไปเร็วไอ้แสบป่านนี้คุณปู่รอแย่แล้ว” อาอิทว่าพลางจูงมือผมเข้าบ้าน

“พ่อครับ ดูสิใครมา” อาอิทบอกกับเจ้าของบ้านที่นั่งนั่งอยู่บนโซฟา สีหน้าไม่ยินดียินร้ายของคุณปู่ทำให้ผมเริ่มกลัว

“อิท พากรไปพักผ่อน ส่วนเจ้าไม้ตามปู่ไปที่ห้องทำงาน” คุณปู่บอกเสียงเรียบก่อนจะเดินนำผมไปที่ห้องทำงานแม้ว่าจะล่วงเลย
วัยหกสิบมาแล้วแต่ท่าทางของคุณปู่ยังสง่างามและน่าเกรงขามจนหลายคนอดกลัวไม่ได้


“นี่ 4 ปีแล้วเหรอที่แกออกจากบ้านไป เวลานี่มันเดินเร็วเสียจริง ถ้าอาแกไม่ตามกลับบ้าน วันที่เจอหน้าแกคงเป็นวันที่ฉันตาย”

“คุณปู่” ผมครางแผ่ว

“ไม้ แกอาจจะไม่ใช่หลานชายคนเดียวของฉัน แต่แกคือหลานที่ฉันห่วงมากที่สุดแกรู้ใช่ไหม”

“ครับ”

“เฮ้อ ไอ้เรื่องรักๆใคร่ๆ ของเด็กๆบอกตรงๆว่าคนแก่อย่างฉันไม่อยากเข้าไปยุ่ง แต่แกก็เห็นแล้ว พิสูจน์แล้วว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่แกจะดึงดัน ไม้ถึงเวลาที่แกต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้แล้วนะ” คุณปู่บอกเสียงเรียบแต่แววตาปรานีนั้นทอดมมองผมอยู่

“ครับ” ผมตอบรับก่อนจะโผเข้ากอดคุณปู่พลางซบหน้าลงบนตักท่าน คุณปู่เป็นคนเดียวในบ้านที่รู้เรื่องราวเมื่อ 4 ปีก่อนเป็นอย่างดี ในตอนที่ผมหนีออกจากบ้านครั้งนั้น ผมไปไม่รอด ผมในตอนนั้นเป็นแค่เด็กอายุ 16 แทบจะเรียกได้ว่าไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวสักครั้ง แค่ไม่กี่ชั่วโมงผมก็ถูกตามตัวเจอ 

“ทำไมต้องหนีออกจากบ้าน รู้ไหมว่าอาแกเขาเป็นห่วงขนาดไหน” เสียงของบุรุษที่มีอำนาจสูงสุดในบ้านเอ่ยถาม

“ผม..” ผมไม่กล้าบอก ผมไม่กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป

“ไมต้องพูดหรอก ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อนพวกแกตั้งเท่าไหร่ แถมฉันยังเลี้ยงแกมากับมือ ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าแกเป็นยังไง”

“ผมขอโทษ ผมมันเลว ผมมันชั่ว ผมทำให้อาร้องไห้ ทำให้ปู่ผิดหวัง ผมขอโทษ” ผมในตอนนั้นร้องไห้งอแง แต่มือเหี่ยวย่นนั้น
กลับลูบหัวผมอย่างเบามือ

“ไม้ ฉันห่วงแกมากรู้ไหม แต่เรื่องพวกนี้ แกต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง เรียนรู้ที่ก้าวผ่านมันไปให้ได้”

“ผมขอเวลาได้ไหมครับ ผมรักเขา รักมาก ผมขอใช้เวลาอยู่กับเขาอีกสักนิด ผมสัญญาว่าเมื่อไหร่ที่ผมพร้อมผมจะยุติเรื่องราวทุกอย่างด้วยตัวผมเอง”

นั่นเป็นคำสัญญาที่ปมให้ไว้กับปู่ ผมเลือกที่จะออกมาใช้ชีวิตข้างนอกเลือกที่เป็นนายไม้เด็กต่างจังหวัดครอบครัวปานกลางแทนการเป็น คุณศตายุ หลานชายของนักการเมือง แม้วว่าผมจะอยู่คนเดียวแต่คนของปู่มักจะคอยช่วยเสมอ ปู่ไม่ห้ามที่ผมเลือกเรียนโรงเรียนช่างแทนสถาบันสอนทำอาหาร แม้จะโดนบ่นบ้างเวลาผมไปมีเรื่องกับคู่อริ แต่ทั้งหมดนั่นทำให้ผมคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้น แต่เปล่าเลย เมื่อถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาผมกลับพ่ายแพ้ให้กับหัวใจตัวเอง แทนที่ตะทำให้เรื่องมันจบกลับทำให้เรื่องมันบานปลายจนปู่ต้องบอกให้กลับบ้าน แต่ผม ก็ยังดื้อดึง   ผมยังคงรักเขา แล้วเขาล่ะ รักผมบ้างไหม ในขณะที่ผมแทบไม่มีแรงเดินที่ต้องจากมาเขากลับไม่พูดอะไรสักคำ มีแค่ไอ้คู่อริที่โวยวายอยู่คนเดียว หรือว่ามันถึงเวลาแล้วที่ทุกอย่างควรจะจบลงจริงๆ เสียที


......................................TBC.....................................


 :katai5:  บ้านนี้เลี้ยงลูกหลาน แบบ บุพเฟ่ ฮ่าๆๆ


ปอลิง สอบถามสักกะติ๊ด  พิตกำลังคิดไม่ตกเรื่อง พี่สมป๋อง เลยจะเปิดโหวต

ถ้าอยากให้ลง ในเว็บ กด 1 ไม่ต้องลง กด 2  :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-12-2014 23:06:12 โดย pita »

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:ไม่รู้จะพูดไงดีกะเรื่องของไม้
กด 1 รัวๆๆๆๆๆๆๆๆสำหรับผลโหวต

ออฟไลน์ NIMME

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
อ่านเรื่องนี้จนรู้สึกอิ่มมาม่าจนท้องจะแตก 555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมไม้!?

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เอ๊ะ !!! เห้อออออออ !!!
เพลียแทนจริงๆ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
กด 1 รัวๆ
อิพี่ป๋องของช้านต้องมีคู่

ออฟไลน์ ลูกแมวหลงทาง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กด1 ให้พี่สมป๊องง :katai4:

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอนที่ 23

ติณภพ

ผมลืมตาขึ้นมองรอบตัวผมยังคงอยู่ที่เดิม อยู่ในห้องของไม้ นอนมองเพดานสีหม่น โต๊ะตัวเก่า ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากเหลือเกิน ผมได้แต่ถอนใจออกมาเบาๆ และเลือกที่เดินออกมาจากห้องนั้น ทิ้งความทรงจำและเรื่องราวมากมายไว้หลังประตูบานเก่า มันจบแล้ว เพื่อไม่ให้เราสามคนต้องเจ็บปวด ทางออกที่ดีที่สุดคือการกลับไปอยู่กับตัวเอง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น บางครั้งหากว่าได้อยู่คนเดียวสักพัก คำตอบที่ผมไม่เคยรู้อาจจะได้รู้ในสักวัน


 “พี่ต้น เป็นยังไงบ้างครับ” เสียงของคนมาใหม่เอ่ยทัก ผมยกยิ้มให้เขาอย่างเคยก่อนจะตอบ

“พี่ก็คงสบายดีมั้งครับ ว่าแต่เล็กเถอะ ไปเที่ยวมาสนุกไหม”

“ผมคงไม่เท่าไหร่แต่สองคนนั้นสนุกกันใหญ่เลยล่ะครับ ” เล็กบอกพลางชี้ไปที่รถคันหรูที่จอดอยู่นอกร้าน

“ผมซื้อของมาฝากด้วยนะครับ แล้วนี่ไอ้ตัวแสบของผมไปไหนล่ะครับ ทำไมไม่เห็นออกมาเกรียนเหมือนทุกทีเลย” ผมยอมรับว่าชะงักไปทันทีที่เล็กถาม แต่เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องปิดบังผมเลยเลือกที่จะบอกไป

“ไม้ลาออกแล้วล่ะ”

“ ทำไมล่ะครับ นี่ผมไปแค่เดือนเดียวทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะครับ”

“ทั้งหมดมันเป็นความผิดของพี่เอง พี่ไม่รู้ว่าเล็กรู้เรื่องพี่กับไม้มากน้อยแค่ไหน แต่มันคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วล่ะสำหรับเราสองคน”



“แล้วพี่คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกต้องแล้วเหรอ” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่เพื่อนสนิทของเล็กและพ่วงตำแหน่งลูกพี่ของไอ้ตัวแสบจะเดินเข้ามาในร้าน

“มันคือทางออกที่ดีสุด”

“เหอะ อยากจะขำ ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่นะผมจะต่อยจริงๆนะเว้ย ที่ผ่านมาที่ผมไม่ยุ่งเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ตอนนี้
เห็นทีจะต้องทำอะไรสักอย่าง” เมฆบอกพลางทำหน้าราวกับกำลังใช้ความคิด

“เดี๋ยวสิ นี่กำลังพูดเรื่องอะไรกัน” เล็กเลิกคิ้วถาม

“เล็กเพื่อนรัก อย่ามาแอ๊บกูรู้ว่ามึงรู้ครับเพื่อน ”

“เอ๋า ไอ้นี่กูอาจจะสงสัยบ้างแต่จะให้ฟันธงไปเลยมันก็ไม่ใช่ กูก็ต้องถามสิ” ผมส่ายหน้าพลางมองเพื่อนรักสองคนที่เถียงกันเป็นเด็กๆ

“พอเถอะ พี่รู้ว่าทุกคนกังวล แต่เรื่องนี้พี่คงทำได้แค่นี้ มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้วล่ะ เขาก็กลับไปอยู่ในโลกของเขา พี่ก็แค่กลับมาอยู่ในโลกของพี่ ก็เท่านั้น”

“ก็ดี ถ้าพี่คิดแบบนั้น เพราะน้องผมจะไม่ต้องทนอยู่กับความเสียใจอีก ” เมฆบอก

“พี่ต้นผมถามพี่จริงๆนะพี่เคยคิดรักไอ้ไม้บ้างหรือเปล่า เคยมีสักครั้งไหมที่พี่รู้สึกว่ารักมัน” ลูกพี่ของไอ้แสบตั้งคำถาม ที่ทำให้ผมทำได้แค่เงียบ เพราะผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆว่าตัวเองคิดกับไม้แบบไหน

“ไอ้เมฆมึงถามอะไรวะ มันเป็นเรื่องของเขาสองคนไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย”

“แต่ไม้เป็นน้องกู และกูไม่ต้องการเห็นมันเสียใจอีกแล้ว ผมขอบอกพี่ไว้ตรงนี้เลยนะว่าผมจะไม่ยอมให้พี่ทำมันร้องไห้อีกเด็ดขาด” เมฆยังคงบอกเสียงเข้ม

“เมฆพอได้แล้ว ไหนบอกจะมาช่วยงานไม่ใช่เหรอ ทำไมมายืนขู่เจ้าของร้านล่ะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเรียบนิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เอ่ยขึ้น
เบาๆ ก่อนที่ลูกค้ากิตติมศักดิ์จะดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีครับคุณต้น ไม่เจอกันตั้งนานสบายดีนะครับ”

“ครับ คุณใหญ่ล่ะครับสบายดีไหม”

“ก็ถ้าไม่นับเรื่องสาวๆของเมฆทุกอย่างก็โอเคครับ” เขาบอกติดตลก

“ลงมาทำไมเนี่ย ไหนบอกจะเข้าบริษัทไง ไปสิเดี๋ยวก็ขาดทุนหรอก” คนโดนว่าเมื่อครู่บอก

“มึงงอนได้น่าถีบมากไอ้เมฆ ตั้งแต่มีสามีเป็นตัวเป็นตนดูแรดขึ้นเยอะนะ” เล็กว่าก่อนจะหัวเราะร่วน  เมฆหน้างอพลางโวยวายใส่
เพื่อนยกใหญ่จนผมอดยิ้มตามไม่ได้  รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เล็กลากลับบ้านเพราะวันนี้แค่แวะเอาของฝากมาให้ ส่วนเมฆที่ตั้งใจว่าจะมาช่วยงานก็ถูกคุณใหญ่ลากไปตั้งแต่โวยวายใส่เพื่อนแล้ว เสียงหัวเราะเบาๆกับท่าทางหยอกล้อเหมือนเด็กๆของเพื่อนสนิททำให้ผมคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่แกลอรี่ เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ หวนนึกถึงใครบางคนที่มักจะทำให้ร้านเราไม่เคยเหงา  นึกถึงท่าทางกวนๆที่ชอบแหย่ชอบแกล้งให้ผมหลุดมาดเสมอ  แม้วว่าวันนี้ร้านเราจะยังอยู่ที่เดิม แต่ทำไมทุกอย่างมันถึงได้ดูไม่เหมือนเดิมเลย…



อิทธิพล

“คิดอะไรอยู่” คนข้างกายเอ่ยถามก่อนที่มือหนาจะโอบไหล่ผมไว้หลวมๆ

“เปล่า ไม่มีอะไร”

“ถึงกรจะไม่ได้จบจิตวิทยามาแต่ก็ดูออกนะว่าอิทไม่สบายใจ เป็นอะไรทำไมไม่พูดล่ะเก็บไว้คนเดียวเดี๋ยวอกแตกตายจะทำยังไง”
เขาว่าผมได้แต่ถอนหายใจก่อนจะมองไปที่หลานชายของตัวเอง

“กังวลเรื่องไม้เหรอ” ท่านด๊อกเตอร์ของผมถามขึ้น

“อืม ไม่รู้สิตั้งแต่กลับมา ไอ้แสบดูแปลกๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา แถมยังซึมลงจนสังเกตได้ อิทเป็นห่วงหลานไม้ไม่เคยเป็นแบบนี้ สี่
ปีที่อยู่ข้างนอกไม่รู้ว่าเจออะไรมาบ้าง” ผมบอก ผมไม่สบายใจเลยที่เห็นไอ้แสบของผมกลายเป็นคนพูดน้อยแบบนี้ ถึงเมื่อก่อน
จะเคยคิดเหนื่อยใจกับความแสบของเจ้าหลานตัวดีอยู่บ่อยๆแต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นซึมแบบนี้มันก็ไม่ไหวนะครับ

“อิทเรื่องบางเรื่อง เราเข้าไปยุ่งไม่ได้หรอกนะ ต้องให้เจ้าตัวเขาคิด และตัดสินใจเอง เราเป็นได้แค่คนที่คอยดูอยู่ห่างๆเท่านั้น”

“แต่อิทเป็นห่วงไม้ กรก็รู้ว่าไม้ไม่ค่อย..” ปกติ ผมกลืนคำนั้นลงคออย่างยากเย็น ภาพของเด็กชายตัวน้อยที่ร้องไห้อย่างหวาด
กลัวยังอยู่ในความทรงจำ เด็กคนหนึ่งที่ต้องเห็นคนที่รักจากไปต่อหน้าต่อตาคงเจ็บปวดทรมานมาก ตั้งแต่วันนั้นผมก็บอกกับตัวเองว่าจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด แม้ว่ามันจะไม่สามารถทดแทนความสูญเสียครั้งนั้นได้ แต่อย่างน้อยแค่สักวันหนึ่งที่ผมจะได้เห็นรอยยิ้มของหลานอีกครั้ง ก็พอแล้ว

“ไม่เอาน่าอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ทุกปัญหามันมีทางออกเสมอ ไม่ต้องกังวลหรอกเข้าใจไหม” เขาว่าก่อนที่จะดึงผมเข้าไปกอด
แน่น  แม้ผมจะเชื่อกรแต่ในใจก็ยังอดกังวลไม่ได้ ผมไม่อยากเห็นไม้เป็นแบบนี้เลย


ก๊อกๆๆๆ

“เข้ามาสิ” เสียงเจ้าของห้องบอกอนุญาตแทบจะทันทีที่ผมเคาะประตูราวกับว่ารู้ล่วงหน้าว่าผมจะต้องมา

“เฮ้อ เมื่อกลางวันคนหลาน ตอนนี้คนอา ลูกหลานฉันแต่ละคนปัญหามันเยอะกันจริงๆ”

“พ่อครับ ผมมีเรื่องจะถาม”

“จะถามพ่อเรื่องอะไรล่ะ” พ่อถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ผมรู้ดีว่าพ่อใจดีแค่ไหน  เพียงแต่ท่านไม่ชอบแสดงออกทางสีหน้าเท่านั้น

“ผมอยากรู้เรื่องเมื่อ 4 ปีก่อนครับ”

“ทำไมถึงคิดว่าพ่อรู้”

“เพราะผมเป็นลูกพ่อมั้งครับ” ผมตอบ เพราะผมเป็นลูกพ่อผมถึงรู้ว่าภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยนั้นพ่อห่วงใยลูกหลานทุกคนเสมอและด้วยอิทธิพลของพ่อไม่มีทางที่จะปล่อยให้หลานตัวเองออกไปใช้ชีวิตข้างนอกโดยที่ไม่รู้อะไรเลย

“อิท เรื่องบางเรื่องเราไม่รู้จะดีที่สุด แกเข้าใจพ่อใช่ไหม ไม่ใช่พ่ออยากปิดบังแต่บางเรื่องถ้าไม่รู้จะมีความสุขกว่า”

“ถ้าเป็นเรื่องของต้นกับเจ้าไม้ ผมคิดว่าตัวเองพอจะเดาอะไรออกนะครับ เพียงแต่ที่เข้ามาถามพ่อเพราะยังไม่แน่ใจเท่านั้น แต่
พอได้ยินแบบนี้ แปลว่าผมคิดถูกสินะครับ”

“แกโกรธหลานหรือเปล่า”

“ถ้าจะบอกว่าไม่โกรธเลย ก็คงโกหก ผมไม่ใช่นักบวชที่จะปล่อยวางทุกอย่างได้ ผมยอมรับว่าตัวผมเองก็ผิดหวังไม่น้อยกับเรื่องนั้น แต่เพราะไม้เป็นหลาน และเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วผมไม่อยากเก็บมาใส่ใจ” ใช่ครับ ผมรู้ ผมไม่ได้โง่ที่จะมองไม่ออกว่าไม้คิดอะไรอยู่ ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดที่จะเดาเรื่องไม่ออก เพียงแต่ผมเลือกที่จะไม่พูดมันเท่านั้นเอง ยอมรับว่าตอนแรกผมเสียใจมาก แต่มันก็เท่านั้น เรื่องมันผ่านไปแล้วไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดถึงอีก สิ่งสำคัญตอนนี้คือตามหารอยยิ้มของหลานชายสุดที่รักของผมกลับมา

“ถ้าเจ้าไม้ได้ยินคงดีใจ”

“สักวันผมจะเป็นคนบอกเองครับ แต่คงต้องรอให้เรื่องยุ่งๆพวกนี้มันเรียบร้อยก่อน”

“แล้วแกจะทำยังไงต่อไปล่ะ”

“ความสุขของหลานผมอยู่ที่ไหน ผมก็คงต้องไปที่นั่นล่ะครับ”

.......................TBC....................

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอนที่ 24 แทนโปรด

“สวัสดีครับคุณน้า ไอ้โปรดอยู่หรือเปล่าครับ” ผมเอ่ยถามคุณน้าก่อนที่เจ้าข้างบ้านจะยิ้มรับพลางชี้ไปบนห้องนอน

“อยู่บนห้องจ๊ะ ช่วงนี้ทะเลาะกับน้องหรือเปล่าทำไมไอ้ตัวแสบของน้าถึงไม่ยอมไปบ้านโน้นเลย”

“ก็นิดหน่อยครับ” ผมตอบไปตามความจริงแม้จะไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกันอยู่ก็เถอะ

“แทน น้าถามจริงๆนะ แทนคิดกับน้องแบบไหน” คุณน้าถามเสียงเรียบ

“ผม ………. ไม่รู้ครับ” ผมถามเสียงเบา ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงตอบไปอย่างมั่นใจว่า คิดกับมันแค่น้อง แต่วันนี้มันแปลกไป ผมไม่แน่ใจอีกแล้วว่าตัวเองคิดกับมันแบบไหน รู้แค่ว่าไม่ชอบ ไม่ชอบเลยที่ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง ไม่มีมันเข้ามากวนประสาทอยู่ใกล้ๆ

“เฮ้อ เรื่องของเด็กๆน้าไม่อยากยุ่งนะแทน แต่น้าก็ไม่อยากเห็นโปรดเป็นแบบนี้  น้าว่า..”

“แม่!” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ไอ้เด็กแสบจะวิ่งตึงตังลงมาจากชั้นสอง

“เสียงดังอะไร น้องโปรด แม่กำลังคุยกับพี่แทนอยู่”

“แม่ โปรดขอคุยกับพี่แทนเองได้ไหม นะแม่นะ นะครับ” ไอ้โปรดหันไปอ้อนแม่ คุณน้าพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเดินเข้าครัวไป ตอนนี้เหลือแค่ผมกับไอ้ตัวแสบนี่สองคนแล้ว

“ไปคุยกันที่อื่นเถอะ” มันบอกเสียงเรียบก่อนจะเดินนำผมไปสวนหน้าบ้าน

“พี่แทนมานี่ทำไม” ดูคำถามมันสิครับ เมื่อก่อนดีใจจะเป็นจะตายถ้าผมมาบ้านแล้วดูตอนนี้สิ

“ทำไมกูจะมาไม่ได้”

“พี่แทน ถ้าจะมากวนกลับไปเถอะ โปรดไม่มีอะไรจะคุย” ผมขมวดคิ้วแน่น ไม่พอใจท่าทางที่ดูห่างเหินของมัน แล้วไหนจะทำ
หน้าราวกับว่าเบื่อผมเต็มทนนั่นอีก

“กูไม่กลับจนกว่ามึงจะบอกกูมาว่าเป็นอะไรไป รู้ไหมว่าแม่แทบจะกินหัวกูอยู่แล้วเนี่ย” ผมบ่น

“ถ้าพี่แทนมาเพราะกลัวคุณป้าโกรธ เดี๋ยวโปรดไปบอกคุณป้าให้ก็ได้ แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูดโปรดจะได้เข้าบ้าน” มันบอกเสียงเรียบ ผมกำมือแน่นกว่าเดิม ถ้าเป็นไปได้อยากจะกระชากมันมาถามจริงๆว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นมา

“โปรดมึงเป็นอะไรไป”

“ไม่ได้เป็น”

“กูไม่ได้ตาบอดนะไอ้โปรด ถึงจะไม่เห็นว่ามึงเปลี่ยนไป มึงเป็นอะไรหรือยังโกรธเรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อนอยู่” ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ

“เปล่า โปรดก็แค่ทำสิ่งที่ควรทำ อยู่ในที่ที่ควรอยู่เท่านั้นเอง”

“กูไม่เข้าใจ”

“โปรดเป็นแค่เด็กข้างบ้านพี่นะ มันคงไม่ดีถ้าโปรดจะตามติดพี่ขนาดนั้น ก็แค่ทำตัวเป็นน้องข้างบ้านอย่างที่ควรเป็น”

“อ้อ มึงเพิ่งรู้เหรอว่าตัวเองควรอยู่ตรงไหน!” ผมกำลังโกรธ โกรธท่าทางที่ดูห่างเหิน โกรธสีหน้าเรียบเฉย โกรธแววตาที่ไม่มีแวว
ขี้เล่นเหมือนอย่างเคย และสุดท้ายคือโกรธตัวเอง โกรธที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไม่พอใจมากขนาดนี้ มันถูกแล้วไม่ใช่เหรอ ที่เป็น
แบบนี้

“ที่ผ่านมา ผมขอโทษแล้วกันครับ ต่อไปนี้ ผมจะเป็นน้องข้างบ้านที่ดีของคุณแล้วกัน” มันบอกก่อนจะหันหลังเดินเข้าบ้านไป

“เดี๋ยว!! เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องกูไม่อนุญาตให้มึงเข้าบ้าน!” ผมแหวลั่นก่อนจะลากอีกคนกลับไปที่บ้านตัวเอง


ปัง!!

“อะไรของพี่เนี่ย!!” ไอ้โปรดแหวลั่นทันทีที่ผมปิดประตูห้องลง

“มึงนั่นแหล่ะที่เป็นอะไร จู่ๆก็มาคุณมาผม มึงเป็นบ้าเหรอไอ้โปรด!!”

“พี่แทนนั่นแหล่ะที่บ้า จะทรมานกันไปถึงไหน โปรดก็คน เจ็บเป็นเหมือนกันนะเว้ย!!” มันตะคอกกลับ พร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย

“พี่แทนก็รู้ รู้มาตลอดไม่ใช่เหรอว่าโปรดชอบพี่แทน แต่พี่แทนก็ชอบพี่ไม้ พี่แทนห่วงพี่ไม้ พี่แทนไม่เคยห่วงโปรดเลย อะไรๆก็พี่
ไม้ โปรดเหนื่อยแล้ว โปรดไม่อยากรักพี่แทนแล้ว!!” ไอ้เด็กข้างบ้านบอกผมทั้งน้ำตา

“โปรดอย่าร้องสิ” ผมกำลังทำอะไรไม่ถูก ใช่ผมรู้ รู้ว่าความรู้สึกของไอ้โปรดคงไม่ใช่พี่ชายกับน้องข้างบ้าน แต่เพราะผมเชื่อมา
ตลอดว่าตัวเองชอบไอ้ไม้ ผมเลยเลือกที่จะมองข้ามความรู้สึกของมันไป แต่แปลก พอได้ยินคำว่ามันจะเลิกรัก  ในใจผมกลับไม่ยอมรับ ไม่อยากได้ยินคำนั้น ผมไม่อยากปล่อยมันไป

“โปรด กูขอโทษ”

“ขอโทษทำไม”

“ไม่รู้สิ กูเองก็ไม่รู้ แต่กูไม่อยากเห็นน้ำตามึงเลย อย่าร้องนะ”

“พี่แทนจะสนใจทำไม ทำไมไม่ไปตามเฝ้าพี่ไม้ล่ะ ไปสิไปเลย!”

“โปรดอย่างี่เง่า!”

“เออ โปรดมันงี่เง่า แล้วก็โง่มากด้วย โง่ที่ชอบพี่มาตั้งนาน โง่มากด้วยทั้งๆที่รู้ว่าพี่ชอบพี่ไม้  โปรดขอล่ะพี่แทนถ้าไม่ได้คิดเหมือนกันก็ปล่อยโปรดไปเถอะ”

“ไม่!!” ผมตอบเสียงเข้ม ใครจะบอกว่าผมเห็นแก่ตัวก็ช่างแต่ผมปล่อยมันไปไม่ได้จริงๆ แค่ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วัน ผมยังนอนแทบไม่หลับถ้าไม่ได้เจอกันเลยผมจะเป็นยังไง

“พี่แทนใจร้าย”

“ใช่ กูใจร้าย ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองคิดกับมึงแบบไหน แต่กูก็ยังไม่อยากปล่อยมึงไป กูขอโทษ แต่กูไม่รู้จริงๆว่าตอนนนี้กูชอบมึงบ้างหรือเปล่า กูรู้แค่เวลาไม่ได้ยินเสียงแหลมๆของมึงแล้วกูเหงามาก เวลาไม่มีมึงนอนดิ้นอยู่ข้างๆ เตียงกูกว้างชิบหายเลย รอกูหน่อยได้ไหม ได้โปรดรออีกหน่อยให้กูแน่ใจตัวเองก่อนได้ไหม”

“ขอโทษนะ แต่โปรดรอพี่แทนไม่ได้แล้ว ”


“ทำไม”



“โปรดตกลงเป็นแฟนกับธันวาแล้ว” ประโยคนั้นทำให้ทุกอย่างรอบตัวผมหยุดชะงัก ผมนั่งลงที่เตียงช้าๆก่อนจะมองแผ่นหลังบาง
เดินออกจากห้องไป ผมได้แต่ยิ้มให้ตัวเองอย่างขมขื่น  ผมเหลือบมองกระจกที่ปลายเตียงก่อนจะแสยะยิ้ม ผมกำลังร้องไห้ ผม นายแทนไท รองหัวหน้าเทคนิค m กำลังร้องไห้ แถมยังร้องเพราะไอ้เด็กข้างบ้านที่ผมรำคาญนักรำคาญหนามีแฟน มันน่าขำเกินไปแล้ว น่าขำเกินไปแล้วจริงๆ สิ่งที่ไม่เคยแน่ใจมันได้คำตอบแล้ว ไม่ต้องรอเวลา ไม่ต้องหาคำตอบ อีกแล้ว


“โปรด กูคงรักมึงเข้าแล้วว่ะ”



….คนโปรด….

“โปรดทำไมไม่กินเลยล่ะ” คนตรงหน้าถามผมก่อนจะเลื่อนถ้วยไอศกรีมมาให้

“เรา..”

“เฮ้อ จะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหน ทำไมโปรดไม่บอกความจริงกับพี่เขาเป็นล่ะว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” ธันวาบอก ใช่ครับ จริงๆ
แล้วผมกับธันวาเราเป็นเพื่อนกันเท่านั้น ธันวาเองก็มีแฟนอยู่แล้วด้วย แต่ผมโกรธไอ้พี่แทนนิ  คนอะไรใจร้ายชะมัดมาบอกให้รอทั้งๆที่ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ารู้สึกกับผมยังไง ผมก็เจ็บเป็นนะเว้ย

“ช่างสิ คนแบบนั้นน่ะเราไม่สนใจแล้ว”

“แน่ใจ ถ้าโปรดไม่สนใจพี่แทนจะทำหน้ามุ่ยแบบนี้ทำไม เราอยากได้ คนโปรดที่ร่าเริงคนเดิมมากกว่านะ” ธันวาว่า

“แต่เรากลัวนิ พี่แทนไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง เราอยู่แบบนั้นไม่ได้หรอกนะ ถ้าวันหนึ่งพี่แทนเกิดคิดได้วว่าไม่ได้ชอบเรา แล้วความ
รู้สึกของเราล่ะใครจะรับผิดชอบ เรารักพี่แทนก็จริงแต่เราก็ยังรักตัวเองนะ ถ้าเขาไม่รักเราก็ไม่รั้งหรอก”

“ให้มันจริงเถอะ แล้วนี่จะกลับบ้านยังไงให้เราไปส่ง หรือรอใครมารับ”

“เขาไม่มาหรอก”  ผมบอกเสียงเศร้า ถึงผมจะพูดแบบนั้นแต่ใจจริงมันก็มีคิดนิดนึงนะครับว่าไอ้พี่แทนมันจะหันมาชอบผมบ้าง

“โปรดเอ้ย นี่ตกลงว่าใครกันแน่ที่จะทนไม่ไหว” ธันวาหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะขยี้หัวผมอย่างมันมือ



“เอามือออกจาก คนของกู ได้หรือยัง” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นก่อนที่ไอ้ธันวาเพื่อนรักจะสะดุ้งก่อนจะค่อยๆเอามือออกจากหัวผมอย่าง
เกร็งๆ

“มาทำไม” ผมถามทั้งๆที่ไม่หันไปมอง ไม่ใช่อะไรหรอกครับ กลัว ไม่ได้กลัวพี่แทน แต่กลัวใจตัวเอง ไอ้ใจบ้านี่ก็ขยันเต้นจังวะ
เบาๆก็ได้มั้ง

“มารับกลับบ้าน”

“จะกลับกับธันวา ธันวาเราไปกันเถอะ” ผมบอกก่อนจะฉุดมือเพื่อนรักให้ลุกขึ้นตาม

“โปรด อย่าให้กูโมโหนะ ส่วนมึงไอ้หน้าจืดบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามายุ่งกับคนของกู” ไอ้บ้าพี่แทน พูดไรวะ นี่เขินนะพูดเลย ถึงผม
จะโกรธมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเขินไม่เป็นนิครับ

“พี่แทนบอกกี่ครั้งแล้วว่า ธันวาเป็นแฟนโปรด ตัวเองเป็นแค่พี่ชายข้างบ้านไม่ใช่หรือไง!”

“โปรดพูดแรงไปไหม” ไอ้คนข้างๆกระซิบ เหอะ แรงตรงไหน เมื่อก่อนไอ้พี่แทนด่าผมเยอะกว่านี้อีกเหอะ

“ยังไงวันนี้มึงก็ต้องกลับกับกู” ไอ้คนตัวโตบอกก่อนจะกระชากผมออกมานอกร้าน แล้วลากไปที่รถทันที ยอมรับนะครับว่าใจผม
เต้นแรง แรงมากจนตัวเองยังตกใจ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพี่แทนทำไปทำไม ถ้าตราบใดที่ยังไม่แน่ใจอะไรผมจะไม่ใจอ่อนหรอกนะครับ


“นี่ปล่อยก่อนได้ไหม” ผมโวยวายลั่น พอมาถึงบ้านคนตัวโตก็ลากผมขึ้นห้องทันที อะไรของเขาเนี่ย

ปัง!!

นี่มันเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมเมื่ออาทิตย์ที่แล้วชัดๆ 

“มึงต้องรับผิดชอบ” จู่ๆเจ้าของห้องก็พูดขึ้น

“รับผิดชอบอะไร ”

“ก็รับผิดชอบกูไง กู แทนไท รองหัวหน้าเทคนิค m นะเว้ย มึงทำกูน้ำตาไหลมึงต้องรับผิดชอบด้วย”

ไม่เห็นจะเข้าใจเลย ไอ้พี่แทนมันต้องการจะบอกอะไรผมกันแน่

“ยังไง ไม่เห็นจะเข้าใจเลย”

“ไปเลิกกับไอ้นั่นซะ” เผด็จการมาก ไอ้พี่บ้านี่

“ไม่เลิก พี่แทนเป็นบ้าอะไรเนี่ย มีเหตุผลอะไรที่โปรดต้องเลิกกับธันวาด้วย”

“มีสิ เหตุผลเพราะ กูรักมึงไง แล้วกูก็ไม่ยอมให้มึงไปรักใครนอกจากกูด้วย!!!”  ผมกำลังอึ้ง พลางมองคนตรงหน้าด้วยความไม่มั่นใจ จะเชื่อได้ไหม จะเชื่อได้หรือเปล่าว่าครั้งนี้เขาพูดมันออกมาจากใจจริง

“โปรด กูรักมึงจริงๆนะ กูอาจจะโง่มากที่เพิ่งจะรู้ แต่กูยอมไม่ได้กูยอมให้มึงไปรักคนอื่นไม่ได้หรอก แค่คิดว่าจะมีใครมาอยู่ข้างมึงแทนกู กูก็ทนไม่ได้แล้ว ให้โอกาสกูได้ไหม กลับมารักพี่แทนเหมือเดิมได้ไหมครับ” คนตัวโตบอก แต่สิ่งที่ทำให้ผมอึ้งกว่าเดิมคือคนตรงหน้าร้องไห้ บ้าน่า พี่แทนเนี่ยนะร้องไห้  ร้องไห้เพราะเรื่องของผมเหรอ

“พี่แทน” ผมครางแผ่ว ก่อนจะกอดอีกคนแน่น ไอ้หัวใจบ้านี่มันอ่อนตั้งแต่ประโยคแรกแล้วด้วยซ้ำ

“โปรดบอกพี่สิว่าโปรดเลือกพี่”

“ไอ้พี่บ้า เอ้ย เกิดมา 15 ปี โปรดเคยรักคนอื่นนอกจากพี่ด้วยเหรอ ทำไมต้องให้พูดอีก”

“พี่แค่อยากฟัง”

“เหอะ…โปรดรักพี่แทนนะ รักมาก รักพี่แทนคนเดียว”

“อืม พี่ก็รักโปรดนะ”

ผมยิ้มกว้างก่อนจะซุกหน้าลงกับแผ่นอกของพี่แทน บอกเลยว่าเขินมาก ปกติคนๆนี้ ถ้าไม่ด่าก็จะแกล้งผมตลอด เจอพี่แทนโหมดหวานนี่ไปไม่เป็นเลย โถ แล้วแบบนี้ ผมจะไปไหน.

...............................................................

 :mc4: สวัสดีปีใหม่ค่ะ เย้ๆ วันหยุดยาวววววววววววววว
มีใครไปเที่ยวไหนบ้างไหมเอ่ย ส่วนพิต นอนปั่นนิยายอยู่ที่บ้าน ฮ่าๆๆ
ใกล้จะจบแล้วล่ะค่ะสำหรับน้องไม้ คิดวว่า คงไม่เกิน สามตอน
ส่วนเรื่องพี่ป๋อง อดใจรอกันอีกนิด นะคร่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด