รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ  (อ่าน 345280 ครั้ง)

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อ่านตอนนี้แล้วมีความสุขมากเลยค่ะ หลังจากมีปัญหากันนานนนนนน ก็ได้หวานให้ชุ่มใจสักที^^ :mew1:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
พอรักกันแค่นั้นล่ะฟินเลยค่า
เจ้าชายหกแห่งไมซีน แหม่ ท่านช่างร้าย ช่างน่ารัก ช่างขยันหยอด คือฟีเรียสนี่แพ้ราบค่ะ ทรงพระเปิดเผยมากด้วยค่ะเจ้าชาย 555
อยากมาก็ต้องได้มาค่ะ บ้านว่าที่แม่ยาย ไม่ค่อยเก็บอาการเท่าไรนะคะ ทรงพระหยอดเรี่ยราดมาก เอาแต่ใจมากด้วยแต่ก็น่ารักมากๆ
น่ารักแทบจะทุกตอนที่คุยกันเลยค่า คืออ่อนใจแทนฟีเรียสจะทำให้รักไปถึงไหน ตอนท้ายแบบฮา ที่ถามว่าต้องไปฝึกทำอาหารทำขนมไหม
โอ๊ย เจ้าชายนี่ 555

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ fongbeer37

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฟินเลยอ่ะ น่ารักกกกกก มาต่ออีกน้าาาาา ^^

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ถ้าเป็นฟีเรียสนี่แก้มแตกไปละ
หยอดตลอดเวลา.....
แต่แม่ต้องเข้าใจฟีเรียสสส
อย่าเครียดดดด

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
แกล้งตลอดนะองค์ชาย

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หลงรักรามิเรสอีกแล้ว
งึดดดดดดด
ฟีเรียสคิดเยอะจริงๆจังๆ แต่ก็นะ ไม่เป็นฟีเรียสก็ไม่รู้หรอก

อีกไม่กี่ตอนแล้วสินะคะ สู้ๆค่ะ สนุกมากๆ

ออฟไลน์ kaew203

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ตามอ่านทันแล้วค่ะ เย่ๆ
ใช้เวลาอ่านน้อยมากเลยค่ะเรื่องนี้ ปกติเป็นคนอ่านหนังสือช้า :really2:
เรื่องนี้สนุกดีค่ะ เป็นรักเรื่อยๆจริงๆด้วย 5555
ชอบความคิดในใจของฟีเรียสตอนเจ้าชายจีบ อย่างฮาเลย
ไม่รู้ทำไมตอนอ่านแอบลุ้นให้โรดีอัสคู่กับคุณชายมิทรอส
เห็นว่าพี่ชุนยังค้างอยู่เลยอยากแอบเสนอให้คุณชายมิทรอสมาปราบโรดีอีสดีมั้ยคะ
เผื่อโรดิอัสจะเข้าใจ"อะไรๆ"มากขึ้น  :-[

สู้ๆค่ะ ขอหายค้างไว้ๆนะคะ(เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย =D)

เป็นกำลังใจให้ค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #637 เมื่อ01-11-2014 16:52:31 »

บทที่ ๒๘


“ดึกแล้ว ยังไม่นอนอีกหรือครับ ท่านน้า”

   เจ้าชายเจ้ากรมสรรพาวุธรับสั่งทัก เมื่อเสด็จลงมาถึงห้องโถงแล้วพบว่ามารดาของฟีเรียสกำลังนั่งเอนหลังถักไหมพรมอยู่ตามลำพัง

“เจ้าชาย ต้องการอะไรหรือเปล่าเพคะ”

“แค่ออกมาหาน้ำดื่มครับ”

“อย่างนั้นทรงรอตรงนี้ก่อนนะเพคะ หม่อมฉันจะไปรินมาให้”

หญิงวัยกลางคนรีบวางอุปกรณ์งานฝีมือลงและกุลีกุจอเข้าไปในครัว เจ้าชายรามิเรสประทับบนเก้าอี้เดี่ยวด้านขวามือของเก้าอี้ยาวที่มารดาของฟีเรียสนั่งอยู่เมื่อครู่

“ขอบคุณครับ”

เรเซียรินน้ำจากเหยือกถวายอีกเมื่อเจ้าชายหนุ่มทรงดื่มจนเกือบหมดแล้ว

“พอแล้วครับ ขอบคุณครับ” รับสั่งบอกเมื่ออีกฝ่ายจะรินถวายอีกเป็นแก้วที่สาม

“ทำต่อเถอะครับ ข้ามานั่งด้วย ท่านจะเสียสมาธิรึเปล่า”

“ไม่หรอกเพคะ ถักเสื้อแค่นี้หม่อมฉันหลับตาทำก็ยังได้”

“ถักให้เฟย์หรือครับ” ดูจากสีและขนาดตัว

“เพคะ นางชอบใส่เสื้อที่หม่อมฉันถักให้เป็นพิเศษ”

“ฟีเรียสล่ะครับ”

คนถูกถามชะงักไปนิดหนึ่ง มองพระพักตร์แล้วไม่เห็นความผิดปกติอะไรจึงยิ้มแล้วทูลตอบ “รายนั้นหม่อมฉันถักให้เขาก็ใส่เพคะ ส่วนใหญ่ใส่ตอนหน้าหนาว แต่หลังๆ นี่ชอบเป็นห่วงเกินเหตุ บอกว่าห่วงสุขภาพ ไม่อยากให้เหนื่อย แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย ก็จะรู้สึกเบื่อนะเพคะ”

“เขารักท่านมาก”

“...ทำไมถึงทรงทราบล่ะเพคะ” ทูลถามอย่างชวนคุย คิดว่าคำตอบก็คงไม่พ้นว่าเป็นธรรมดาที่ลูกชายย่อมจะห่วงแม่ ดังนั้นจึงถึงกับชะงักไปเมื่อได้ยินคำตอบ

“ข้าเคยถามเขาว่า ถ้าต้องเลือกระหว่างคนรักกับแม่ เขาจะเลือกใคร เขาตอบได้ทันทีว่าเลือกแม่”

สองฝ่ายมองตากันอยู่ในความเงียบชั่วอึดใจ

“ฟีเรียสมีคนรักแล้วหรือเพคะ”

เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวลละมุน “ข้าแค่สมมติเหตุการณ์ให้เขาเลือก เรื่องมีหรือไม่มี ท่านน้าคงต้องถามเขาเอง”

เรเซียผ่อนลมหายใจออกเบาๆ

“เฟย์ดูจะอยากได้ลูกสาวร้านขายขนมปังมาเป็นพี่สะใภ้” เจ้าชายหนุ่มทรงเกริ่น ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากไปกว่านั้น ทว่ามารดาของฟีเรียสก็พูดออกมาเอง

“นางชื่อแอนจิเทียเพคะ เป็นเด็กที่ดีมาก ถ้าฟีเรียสรักชอบนาง หม่อมฉันก็ดีใจ”

“ถ้าเขาชอบคนอื่น และเป็นคนที่ท่านไม่ชอบล่ะครับ”

เรเซียรู้สึกว่า นายเหนือหัวของลูกชายดูจะเอาใจใส่เรื่องของลูกชายนางมากเหลือเกิน...เกินกว่าฐานะเจ้าชายกับองครักษ์ หัวข้อที่น่าจะนำมาคุยน่าจะเป็นเรื่องความประพฤติของฟีเรียสในฐานะองครักษ์ ไม่ใช่...เรื่องความรัก

อาจจะเป็นลางสังหรณ์ของคนเป็นแม่ก็ได้ ที่ทำให้นางเลือกตอบอย่างระมัดระวัง

“หม่อมฉันคงจะต้องดูก่อนเพคะ ว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหน มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาชอบนาง แต่หม่อมฉันไม่ชอบ”

ไม่ง่าย...คิดว่าจะตอบว่า ไม่ว่าลูกชายจะชอบใคร นางก็จะชอบด้วยเสียอีก

เจ้าชายหกไม่ได้ทรงรุกมากกว่านี้ ตัดสินพระทัยถอยออกมาก่อน เพราะหากนางสงสัยแล้วไปถามเอากับฟีเรียส พระองค์อาจจะทรงถูกองครักษ์ใหม่ที่ได้มาแสนยากเย็นคนนั้นเคืองเอาอีก

“ท่านน้านั่งถักจนดึกอย่างนี้ทุกคืนเลยหรือครับ”

“เป็นบางคืนที่นอนไม่หลับจริงๆ เพคะ เจ้าชายอย่าทรงบอกฟีเรียสกับเฟย์นะเพคะ ทั้งสองคนอยากจะให้หม่อมฉันนอนพักผ่อนทั้งวัน แต่คนแก่ยิ่งแก่ก็ยิ่งนอนไม่ค่อยหลับนะเพคะ”

“อย่างนั้นเห็นทีข้าก็คงจะแก่แล้วเหมือนกัน”

เรเซียอุทานออกมาคำหนึ่ง “เจ้าชายไม่ทรงแก่เลยเพคะ ทรงพูดอะไรอย่างนั้น”

เจ้าชายหนุ่มแย้มพระสรวล “แก่กว่าฟีเรียสแปดปีครับ”

หัวใจของคนฟังเต้นผิดจังหวะอีกแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทรงเปรียบเทียบกับลูกชายของนาง รับสั่งเฉยๆ หรือว่ามีพระประสงค์จะบอกอะไรเป็นนัยๆ หญิงวัยกลางคนตัดสินใจยิ้มกลบเกลื่อนความไม่สบายใจแล้วเบี่ยงไปเป็นประเด็นอื่น

“เขาเพิ่งจะอายุยี่สิบ แต่ก็มีหนี้สินมากมายแล้ว ถ้าหม่อมฉันสุขภาพดีกว่านี้ก็คงไม่ทำให้ลูกต้องลำบาก”

“ข้าคิดว่าฟีเรียสและเฟย์คงไม่คิดว่าท่านทำให้พวกเขาลำบาก กตัญญูต่อพ่อแม่เป็นหน้าที่ของลูก และพวกเขาก็คงทำด้วยความเต็มใจ”

เรเซียยิ้มรับ บทสนทนากลายเป็นเรื่องในอดีต สมัยที่สามีของนางยังมีชีวิตอยู่ และเรื่องราวตอนที่นางต้องเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง หลังจากสามีเสียไปเมื่อเกือบสี่ปีก่อน

“เขาอยากให้ลูกชายเป็นองครักษ์เพคะ ฟีเรียสรักพ่อมาก เขาขยัน ตั้งใจเล่าเรียนมาตลอด ถ้าพ่อของเขาอยู่จนถึงวันนี้ ก็คงจะดีใจมาก”

คนฟังมีรอยแย้มพระสรวลจางๆ ประดับพระโอษฐ์ ทว่าแววพระเนตรวูบไหว

“ที่ไม่คิดไม่ฝันก็คงเรื่องติดหนี้เจ้านายตัวเองเพคะ แต่หม่อมฉันก็คิดว่าเราโชคดีมากที่เจ้าชายมีเมตตา ให้ยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ย แถวหมู่บ้านนี้ อย่างถูกๆ ก็ดอกเบี้ยร้อยละสองแล้วเพคะ”

“ข้าเต็มใจให้” รับสั่งสั้นไม่บ่งเจตนา ว่าแค่ตัดคำว่า ‘ยืม’ ออกหรือจงใจเปลี่ยนความหมาย “หวังว่าท่านจะไม่เครียดเรื่องหาเงินมาคืนมากอย่างฟีเรียส”

หญิงวัยกลางคนยิ้มอ่อนๆ สีหน้าสีตามีวี่แววชั่งใจ ก่อนทูลถามอย่างระมัดระวัง

“เจ้าชายทรงช่วยเหลือองครักษ์ทุกคนที่เดือดร้อนหรือเปล่าเพคะ”

สายพระเนตรของคนถูกถามฉายแววรู้เท่าทันความหมาย ทว่าพระองค์ทรงซ่อนเอาไว้ใต้สีพระพักตร์อ่อนโยนและพระสุรเสียงนุ่มนวล

“ต้องพิจารณาว่าเดือดร้อนเรื่องอะไร ดูสาเหตุ และดูความประพฤติก่อนครับ” แย้มพระสรวลมากขึ้นนิดหนึ่งก่อนตรัสเสริม “ฟีเรียสมีความประพฤติดี”

“แต่ตอนนั้น...เขายังเป็นแค่นักเรียนองครักษ์นะเพคะ”

ผู้หญิงคนนี้...ความคิดฉับไวทีเดียว จะว่าไปก็เหมือนลูกชาย รายนั้นก็ขี้ระแวง ช่างสงสัย ไม่ไว้ใจพระองค์ง่ายๆ 

“ข้ารู้จักเขามาก่อน” ดูจากสีหน้าแล้ว คาดว่าฟีเรียสไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้มารดาฟัง ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องทรงระวังว่าเรื่องที่เล่าจะไม่ตรงกัน “ตอนที่ผู้อำนวยการโรงเรียนจัดงานเลี้ยงแล้วเกณฑ์นักเรียนองครักษ์ไปช่วย ข้าเมามาก เลยได้เขาช่วยพยุงขึ้นไปนอนบนห้อง หลังจากนั้นข้าก็ไปที่โรงเรียนบ้าง เห็นว่าเขาตั้งใจดี ฝีมือใช้ได้ แล้วยังขยันทำงานพิเศษ ก็เลยนึกชื่นชม”

เรเซียพยักหน้า รู้สึกโล่งใจเมื่อได้รู้ที่มาของ ‘ความเมตตา’ นางไม่เคยถามลูกชายอย่างจริงจังเลยสักครั้ง ว่ารู้จักกับเจ้าชายหกได้อย่างไร และ ‘ความดีความชอบ’ ที่เคยทำนั้นคืออะไร ได้แต่คล้อยตามความคิดของลูกสาว ว่าฟีเรียสคงฝีมือดีมากจนถูกเจ้าชายหนุ่มทรงหมายตาเอาไว้ให้เป็นองครักษ์

“เจ้าชายทรงทราบหรือเพคะ ว่าเขาทำงานพิเศษ”

“ครับ คนจ้างเขาเป็นเพื่อนของข้า พอรู้ว่าเขากำลังเดือดร้อน ข้าเลยออกปากให้ยืม” แย้มพระสรวลนิดหนึ่งจึงเสริม “จะเรียกว่าบังคับให้รับก็ได้”

มารดาของฟีเรียสไม่แปลกใจ เพราะรู้จักลูกชายของตนดี อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดว่าโอกาสที่จะได้ทูลถามตามลำพังคงจะมีไม่บ่อย และเจ้าชายหนุ่มก็ดูพระทัยดีมาก นางจึงกลั้นใจถามอีกประโยคหนึ่ง หากคำตอบที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจ นางก็คงจะไม่ต้องกังวลใจแปลกๆ อีก

“เจ้าชายคงจะทรงช่วยเหลือคนมามาก ฟีเรียสไม่ใช่...เอ่อ...คนที่...ทรงช่วยเหลือเป็นพิเศษ...ใช่ไหมเพคะ”

คนถูกถามประหลาดพระทัย ไม่คาดคิดว่ามารดาของคนรักจะกล้าถามคำถามนี้ ดวงพระเนตรคมฉาบประกายชื่นชมและมีแววตัดสินพระทัยอยู่ในที

“ครับ เขาเป็นคนพิ...”

คำตอบชะงักอยู่เพียงนั้น เพราะคนที่กำลังถูกพูดถึงเดินลงบันไดมาพอดี ฟีเรียสมองหน้ามารดาและเจ้าชายหนุ่มแล้วก็รู้สึกสังหรณ์ใจชอบกล

“ทำอะไรกันอยู่หรือครับ”

“แม่นอนไม่หลับ ก็เลยออกมาถักเสื้อ ส่วนเจ้าชายท่านลงมาทรงดื่มน้ำ แล้วก็เลยทรงนั่งคุยเป็นเพื่อนแม่นี่แหละจ้ะ ลูกล่ะ ลงมาทำอะไร”

“นอนไม่หลับเหมือนกันครับ ว่าจะลงมาหานะ...น้ำดื่ม”

รอยแย้มพระสรวลแบบรู้ทันนั่นมันอะไร

“น้ำนี่ก็มี เจ้าไปเอาแก้วมาเพิ่มสิ”

ฟีเรียสเดินเข้าครัวไปหยิบแก้วมาเพิ่มตามรับสั่ง หลังจากดื่มน้ำเสร็จก็ได้โอกาสทูลถาม

“ฝ่าบาทรับสั่งเรื่องอะไรอยู่หรือพระเจ้าค่ะ”

“เรื่องเจ้า”

ทอดพระเนตรเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายแล้วก็ทั้งนึกระอาและนึกเอ็นดูระคนกัน รับสั่งแค่นี้ก็ต้องระแวง ไม่ไว้ใจกันบ้างเลย ซึ่งก็...ถูกแล้วที่ไม่ไว้ใจ

“เรื่องของกระหม่อม...เรื่องไหนพระเจ้าค่ะ”

“ก็เรื่องทั่วๆ ไป”

องครักษ์หนุ่มมองพระพักตร์ เผลอขมวดคิ้วนิ่วหน้านิดหนึ่ง แล้วก็หันไปมองมารดาอย่างกังวล เรเซียยิ้มให้ลูกชาย

“เจ้าชายทรงชมลูกหลายอย่าง ไปทำอะไรไม่ดีไว้แล้วกลัวเจ้าชายจะทรงพูดให้แม่ฟังหรือเปล่าจ๊ะ”

“ไม่มีครับ” ตอบหนักแน่น แต่ใจเต้นผิดจังหวะ

“ไม่มีแล้วทำไมทำหน้าเครียดอย่างนั้นล่ะจ๊ะ” ผู้เป็นมารดาถามยิ้มๆ

“ข้าเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของแม่ ดึกแล้ว แม่น่าจะพักผ่อน ถักเสื้อเอาไว้ถักต่อพรุ่งนี้ก็ได้ครับ ให้ข้าพาไปนอนดีกว่า”

เรเซียขยับปากจะปฏิเสธ

“ข้าไปส่งครับ”

แขกพิเศษทรงออกโอษฐ์อย่างนี้แล้ว นางจึงต้องยอมตามคำลูกชาย เมื่อเข้าไปในห้องแล้วก็อดจะพิจารณาผู้ชายสองคนที่ยืนส่งอยู่หน้าประตูไม่ได้ ส่วนสูงก็พอๆ กัน รูปร่างหน้าตาก็สมชายชาตรีด้วยกันทั้งคู่ ดูไม่มีอะไรที่ควรจะกังวลได้เลย

แต่คำตอบที่เจ้าชายหกตรัสตอบไว้ค้างๆ นั้นคืออะไร นางคงคาดเดาไปทั้งคืน

“ไปเดินเล่นข้างนอกกันไหม” ตรัสถามหลังจากเดินห่างออกมาจากหน้าห้องของมารดาฟีเรียสพอสมควร

“พระเจ้าค่ะ”

คำตอบรับเร็วทันใจ ทำเอามุมพระโอษฐ์กระตุกนิดหนึ่งเมื่อคิดว่าทรงทราบเหตุผลที่คนรักอยากจะไป ‘เดินเล่น’ กับพระองค์โดยไม่กลัวมารดาสงสัย






ดึกดื่นอย่างนี้เงียบเชียบจนวังเวง แสงจันทร์ไม่มีสาดส่องให้เห็นทาง ทว่ายังมีแสงดาวพร่างพราวระยับเต็มท้องฟ้า เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรดวงดาวเดียรดาษ ขณะคนเดินตามเสด็จไม่มีอารมณ์สุนทรีย์เท่า

“ฝ่าบาท”

“ไปนั่งที่ศาลากัน หรือจะนั่งชิงช้า” ชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่กว้างพอจะนั่งได้สองสามคน

“ศาลาพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวลในความมืด คนแบบนี้เดาคำตอบไม่ยากเลยจริงๆ

ศาลาหลังกะทัดรัดมีด้านหนึ่งเป็นบันไดทางขึ้น อีกสามด้านเป็นที่นั่งทำจากไม้แผ่นหนา ยาวและกว้างมากสามารถนั่งหรือนอนแทนเตียงได้สบายๆ และเพราะเจ้าชายหนุ่มทำท่าจะเสด็จไปประทับบนที่นั่งด้านหนึ่ง ฟีเรียสจึงเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม ใครจะคิดว่าเจ้าชายหกกลับเสด็จมาประทับฝั่งเดียวกับเขา ข้างๆ เขา

“ฝ่าบาท”

“อะไร”

“...” ยังจะมาตรัสถามอีก ฟีเรียสขมวดคิ้วนิดหนึ่ง แล้วก็ลุกขึ้น ยังไม่ทันเดินไปอีกฝั่ง ข้อมือก็ถูกยึดเอาไว้ ไม่แรง แต่เขาไม่กล้าดึงออก

“นั่งฝั่งเดียวกันจะเป็นไร”

“มัน...แปลกพระเจ้าค่ะ”

“ไม่มีใครเห็นหรอก ถึงเห็น ก็ไม่ได้แปลกมาก”

องครักษ์หนุ่มลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจนั่งลงที่เดิม...ที่จริงคือห่างออกมาจากเดิมนิดหน่อย นั่งเงียบๆ กันอยู่ได้สักพัก เห็นว่าคนที่เอาแต่ทอดพระเนตรมองดาวอยู่ไม่เลิกคงไม่รับสั่งอะไรก่อนแน่ เขาจึงทูลเรียก

“ฝ่าบาท”

เจ้าชายหนุ่มทรงหันมามอง

“รับสั่งเรื่องอะไรกับแม่ของกระหม่อมหรือพระเจ้าค่ะ”

“อยากให้บอกทั้งหมดหรือ”

“...พระเจ้าค่ะ”

“รับปากว่ารู้แล้วจะไม่โกรธได้ไหม”

รับสั่งแบบนี้แปลว่าอะไร เขาจะคิดหนักก็ไม่แปลกใช่ไหม ระหว่างที่กำลังลังเลใจ มือข้างซ้ายที่วางไว้บนที่นั่งก็ถูกกุมทับ อารามตกใจทำให้กระตุกมือหนี เมื่อหันไปมองแล้วเห็นสีพระพักตร์ ก็พลันใจเสียวูบขึ้นมา

“ฝ่าบาท...”

เขาไม่ได้อยากจะทำตัวเหมือนสาวน้อยรักนวลสงวนตัวที่ไม่เคยต้องมือชาย แต่เพราะเครียดมากเกินไป มัวแต่ระแวงว่าจะถูกจับได้ถึงได้มีปฏิกิริยาแบบนี้

“กระหม่อม...” แม้แต่จะขอโทษก็ยังพูดไม่ออก แต่คนใจดีก็ยังเป็นคนใจดีอยู่เสมอ

“ไม่เป็นไร”

อีกฝ่ายทรงดึงพระหัตถ์กลับไปแล้ว ทั้งยังแย้มพระสรวลประทานให้นิดๆ เป็นเชิงสนับสนุนรับสั่ง

“กระหม่อม...รับปากว่าจะไม่โกรธพระเจ้าค่ะ”

ไม่ได้พูดเพราะอยากจะแก้ตัวที่ทำกิริยาไม่ดี ไม่ใช่ว่าอยากจะเอาใจ เพียงแต่เขาอยากจะเชื่อใจพระองค์บ้าง อยากจะค่อยๆ ลดความหวาดระแวงของตัวเองลงทีละน้อย อยากจะเชื่อมั่น ว่าไม่ว่าเจ้าชายหกจะทรงทำอะไร ก็จะทรงคิดถึงความรู้สึกของเขา ไม่เอาแต่พระทัยจนเกินไป

เจ้าชายรามิเรสตรัสเล่าให้ฟังว่ารับสั่งเรื่องอะไรกับมารดาของเขาบ้าง และเมื่อฟังจบก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ควรค่าให้พระองค์ทรงกลัวว่าเขาจะโกรธเลย อาจจะมีเรื่องที่ทำให้เขาหวั่นใจอยู่บ้าง แต่ก็มีความรู้สึกอื่นมากกว่า คือโล่งใจที่เขาลงมาทันเวลาพอดี และดีใจอยู่ลึกๆ...ที่พระองค์พร้อมจะบอกแม่ของเขา...ว่าเขาเป็นคนพิเศษ

“ถ้าพรุ่งนี้นางถามอีก ข้าบอกได้ไหม ว่ารู้สึกพิเศษกับเจ้า”

“...”

“...”

“...”

“...แค่เอ็นดูเป็นพิเศษ ได้ไหม”

“...พระเจ้าค่ะ”

เอ็นดู เอ็นดูหรือ จะมาเอ็นดูอะไรเขากันเล่า เขาไม่ใช่เด็กน้อยน่ารักเสียหน่อยจะได้ทรงรู้สึกเอ็นดู องครักษ์หน้ากร้านผิวเข้ม เนื้อตัวแข็งกระด้างอย่างเขามีอะไรน่าเอ็นดูตรงไหน ทำไมรับสั่งหลอกเด็กแบบนี้ต้องทำให้เขาอายด้วย ที่ทูลตอบนั่นก็ไม่ใช่ว่าชอบใจ เพียงแต่จะยึกยักมากความไปก็กลัวจะบั่นทอนความมุ่งมั่นตั้งใจของอีกฝ่าย

“แม่เจ้าบอกว่า เจ้าอยากเป็นองครักษ์เพราะพ่อ”

โชคดีที่หัวข้อสนทนาเปลี่ยนไปเสียที

“พระเจ้าค่ะ” เพราะดีใจที่ได้เปลี่ยนเรื่อง ฟีเรียสจึงพูดยาวเป็นพิเศษ “เมื่อก่อนมีคนในหมู่บ้านคนหนึ่งได้เป็นองครักษ์หลวง คนทั้งบ้านภูมิใจกันมาก คุยอวดคนอื่นได้ไม่รู้จบ เขากลับบ้านมาทีไรคนก็จะคอยมองอย่างชื่นชม พ่อของกระหม่อมก็ด้วย ท่านอยากจะเป็นองครักษ์หลวงพระเจ้าค่ะ แต่ต้องช่วยปู่ทำสวน พอพ่อมีลูก ก็พูดกับกระหม่อมตั้งแต่เด็กว่าถ้าได้เป็นองครักษ์ก็จะเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล”   

“ข้าคิดว่ามันเป็นความต้องการของเจ้าเอง”

“กระหม่อมอยากทำให้พ่อดีใจพระเจ้าค่ะ แล้วก็คิดเหมือนกับพ่อ ว่าเป็นงานที่มีเกียรติ ได้ปกป้องเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่”

“พอได้เป็นจริงๆ แล้ว ความคิดของเจ้าเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม”

“ฝ่าบาททรงหมายความว่ายังไงพระเจ้าค่ะ”

“หน้าที่ขององครักษ์คือปกป้องกษัตริย์และราชวงศ์ เมื่อก่อนอาจจะได้ทำหน้าที่นั้นจริงๆ แต่ตอนนี้บ้านเมืองสงบสุขดี เจ้าคงไม่ต้องไปต่อสู้กับใคร หน้าที่ที่แท้จริงขององครักษ์ก็เหมือนจะเป็นเพียงเครื่องประดับเกียรติยศ รู้สึกเสียใจไหม”

“ไม่เสียใจพระเจ้าค่ะ ถึงพ่อของกระหม่อมจะเสียไปแล้ว แต่กระหม่อมก็ได้ทำให้แม่กับน้องภาคภูมิใจ”

“ตัวเจ้าเองล่ะ”

“กระหม่อมก็...มีความสุขดีพระเจ้าค่ะ”

ต่างฝ่ายต่างเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ฟีเรียสจะทูลเรียก

“ฝ่าบาท”

เจ้าชายหนุ่มทรงรอฟัง

“กระหม่อมขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

“เรื่องอะไร”

“ที่ทรงทำให้กระหม่อมได้เรียนต่อจนจบ และ...ยอมให้กระหม่อมได้เป็นองครักษ์ของฝ่าบาท”

“นั่นเป็นความสามารถของเจ้าเอง ส่วนข้า...ก็แค่ทำตามใจตัวเอง”

ก็เป็นรับสั่งตอบแบบธรรมดา ไม่น่าจะมีตรงไหนที่ทำให้คนฟังรู้สึกว่าอิ่มเอิบหวามไหวได้เลย บางที...ปัญหาอาจอยู่ที่พระสุรเสียงทอดอ่อน อบอุ่น ที่ทำให้เขาแก้มสั่น

ความเอาแต่ใจของพระองค์ช่างเป็นสิ่งที่ทำให้เขาทั้งชัง...และรัก

สิ่งหนึ่งที่ดีที่สุดที่เขาได้รับจากการเป็นนักเรียนองครักษ์ คือมันทำให้เขาได้พบกับพระองค์ แต่เขาคงจะไม่กราบทูล ไม่มีวันกราบทูลออกไปได้แน่ๆ

“ฟีเรียส”

“พระเจ้าค่ะ”

“ข้าอยากพบพ่อของเจ้า”

อย่างนั้นคงต้องตายเสียก่อน ถึงจะได้ขึ้นสวรรค์...หลังจากคิดขำๆ ดังนั้นแล้ว องครักษ์หนุ่มก็ทูลตอบทั้งที่หน้ายังไม่จางยิ้ม

“ท่านอยู่ที่สุสานหลังวิหารเล็กๆ ในหมู่บ้านพระเจ้าค่ะ พรุ่งนี้กระหม่อมจะนำเสด็จไป”

“ไม่ถามหรือว่าข้าอยากจะพบเขาทำไม”

ถ้าอยากจะรับสั่งบอกก็รับสั่งออกมาเถอะ ไม่ต้องเล่นเกมยี่สิบคำถามกับเขาก็ได้

“จะเสด็จไปพบพ่อทำไมหรือพระเจ้าค่ะ” ไอ้อารมณ์อยากจะเอาใจคนนี่มันมาจากไหนมากมายกันนะ

“ไปขอลูกชาย”

ผิด...เป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์ทีเดียวที่ทูลถาม นี่เรียกว่าอะไร เปิดช่องให้โจมตีเอง พอถูกจู่โจมด้วยสิ่งที่อาจจะทำให้ถึงตายได้ก็ไม่อาจจะโทษใครได้ใช่ไหม นอกจากตัวเองคนเดียว

“ถึงจะยังบอกแม่เจ้าไม่ได้ บอกพ่อเจ้าเอาไว้ก่อนก็ยังดี เจ้าคงไม่ว่าอะไร”

ไม่ว่าหรอก เขาจะว่าอะไรได้ แค่อ้าปากยังไม่อยากจะทำ เพราะกลัวจะถูกหยอก ว่าจะยิ้มก็ยิ้มเถอะ จะมัวกลั้นเอาไว้ทำไมให้เมื่อยแก้ม

“หรือว่าก็ยังไม่อยากให้บอกเหมือนกัน”

“ฝ่าบาท”

เขาก็ไม่ได้อยากจะเป็นคนอย่างนี้ เพียงแต่นิสัยที่เป็นมานานมันยากจะถ่ายถอน เปลี่ยนแปลงไม่ได้ภายในวันสองวัน ก็อยากจะจมอยู่ในโลกสีชมพูที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นมาห่อหุ้มอยู่หรอก เขาเคลิ้ม แต่มันก็ไม่นาน ไม่อยากจะขัดให้เสียพระอารมณ์ แต่เขาก็อดไม่ได้จริงๆ

“ตัดสินพระทัยดีแล้วหรือพระเจ้าค่ะ” อีกฝ่ายทรงทำพระสุรเสียงคล้ายๆ ‘หือ’ ในพระศอ “เราเพิ่งจะเป็น...” คำง่ายๆ นี่บางทีมันก็พูดยากจริงๆ “คนรัก...กันไม่นาน ฝ่าบาทจะทรงขอแล้วหรือพระเจ้าค่ะ บางที วันหนึ่งข้างหน้าอาจมีเหตุให้เปลี่ยนพระทัย”

พูดเองก็อึดอัดขึ้นมาในอกเอง สิ่งที่ไม่ได้พูดก็คือ หรือเพราะทรงคิดว่าเขาเป็นผู้ชาย ไม่จำเป็นต้องคิดให้ถี่ถ้วนเหมือนตอนจะขอผู้หญิง หากวันหน้าจะเปลี่ยนใจก็ไม่ต้องยุ่งยาก ไม่มีทั้งปัญหาทางสังคมและปัญหาเรื่องลูก

เจ้าชายรามิเรสทรงยื่นพระหัตถ์ออกไป แต่แล้วก็ดึงกลับมาดังเดิม นิสัยคิดมาก ขี้ระแวงนี่คงจะอยู่ไปอีกนาน พระองค์ไม่ค่อยโปรดเท่าไร แต่ไม่รู้ทำไม ตอนนี้ถึงได้รู้สึกว่าแบบนี้ก็น่าเอ็นดูดีเหมือนกัน

“วันข้างหน้าข้าไม่รู้ แต่วันนี้ข้ามั่นใจ ข้าชอบเจ้า และไม่ได้ชอบแบบปุบปับ ก่อนหน้านี้ข้าใช้เวลานานพอแล้ว คิดว่าไม่แปลก ที่คนรักกันชอบกันจะคิดถึงอนาคตร่วมกัน และอยากจะให้ครอบครัวของคนรักยอมรับ” หยุดไปครู่หนึ่งจึงขยายรอยแย้มพระสรวลแล้วรับสั่ง “ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ข้าจะบอกเขา ว่าได้เจ้ามาแล้วจะไม่ทิ้งขว้าง ไม่ทำให้เสียใจ”

คนฟังไม่ได้อายแล้ว แม้จะรู้สึกว่านั่นเป็นคำพูดน่าอายที่เขาไม่มีวันจะพูดได้ก็ตาม อากาศก็ไม่ร้อน แต่หัวตาของเขากำลังร้อนผ่าว เจ้าชายหกแห่งไมซีนนี่ถ้าทรงตกงาน ก็เปลี่ยนอาชีพเป็นคนขายฝันน่าจะดี เพราะขนาดคนที่ไม่หลงใหลไปกับความเพ้อฝันได้ง่ายๆ ยังอยากจะทุ่มสุดตัวเพื่อซื้อฝันที่พระองค์ทรงขายให้

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปนาน แถมยังหันหน้าไปทางอื่นอีก เจ้าชายรามิเรสจึงตรัสเรียก

“ฟีเรียส”

“...ขอบพระทัย” เว้นไปชั่วอึดใจ ก็กราบทูลคำเดิมอีก “ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

คนฟังจะทรงหัวเราะก็ไม่ได้ ร้องไห้ก็ไม่ออก พระองค์รับสั่งตั้งมาก คนคิดมากกลับตอบรับมาเพียงแค่นี้

เอาเถอะ บางทีอาจจะกำลังเขิน จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อชอบคนแบบนี้เข้าไปแล้วก็มีแต่ต้องทำใจ

เจ้าชายหนุ่มทรงผินพระพักตร์ไปอีกทางหนึ่ง สายพระเนตรทอดไกลออกไปบนฟ้ากว้าง นั่งมองดาวเงียบๆ กันตามลำพังแบบนี้ก็ดี สายลมยามดึกเย็นบาดผิว ถ้าเป็นมิทรอสก็คงจะดอดไปหาสาวกอดแก้หนาว ถ้าพระองค์ทรงได้ ‘สาวๆ’ มาเป็นคนรัก เวลาอย่างนี้อาจกอดนางไว้ในอ้อมแขน ให้นางออดอ้อนเอาใจ แต่ในเมื่อได้ผู้ชายตัวโตเท่าๆ กันแถมยังปากแข็งเป็นหินคนหนึ่งมานั่งข้างกัน โดยไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นไปได้ พระองค์ก็...สุขใจมากอย่างคาดไม่ถึงเหมือนกัน แต่ยังมีสิ่งที่คาดไม่ถึงยิ่งไปกว่านั้นเสียอีก

เจ้าชายรามิเรสทรงหันไปทางคนนั่งข้าง เมื่อรู้สึกว่าพระหัตถ์ที่วางอยู่บนที่นั่งถูกมืออีกข้างหนึ่งวางทับแล้วสอดนิ้วเข้ามาใต้อุ้งพระหัตถ์ เป็นมือที่หยาบกระด้างทีเดียว ทว่าเจ้าของมือกลับยังหันหน้าไปทางอื่น แสร้งเงยหน้าขึ้นมองดาวอยู่เหมือนเดิม

“เจ้า...”

“อย่ารับสั่ง” เว้นไปชั่วอึดใจจึงทูลย้ำเสียงเบากว่าเดิม “อย่ารับสั่งนะพระเจ้าค่ะ”

ขอกันเสียงหวิวแบบนี้ พระองค์จะพระทัยร้ายได้ยังไง ไม่พูดก็ไม่พูด เจ้าชายหกแห่งไมซีนแย้มพระสรวลขำๆ อย่างสุขใจ เมื่อเจ้าของมือข้างบนเหมือนจะสะดุ้งนิดๆ ตอนที่พระองค์ทรงกุมมือตอบกลับหลวมๆ

คนปากแข็งนี่...ขี้อายแล้วน่ารักเป็นบ้า




ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #638 เมื่อ01-11-2014 16:56:53 »


“ง่วงหรือยัง”

เจ้าชายหกตรัสถามเมื่อเลยครึ่งคืนมาหลายชั่วโมงแล้ว และฟีเรียสก็ตอบรับว่าง่วง ทั้งที่เขายังตาสว่างอยู่เลย นั่งจับมือกันอยู่ตลอด แถมอีกฝ่ายยังไม่ยอมให้จับนิ่งๆ แต่มีบีบมือเขาบ้าง ลูบนิ้วเขาเล่นบ้างแบบนี้ใครจะไปง่วงลง

“งั้นก็ไปนอนกันเถอะ”

รับสั่งถึงเรื่องนอน องครักษ์หนุ่มก็เพิ่งนึกถึงคนร่วมห้องขึ้นมาได้ คุณเรจินยังไม่เท่าไร แต่ถ้าโรดีอัสรู้ว่าเขาออกมานั่งเล่นข้างนอกกับเจ้าชายหกจนดึกดื่นค่อนคืน คงจะแซวอะไรให้เขาได้อายกันบ้าง พออยู่กับคุณชายมิทรอสหลายวันเข้าหน่อยก็ติดนิสัยกันมาได้ง่ายเหลือเกิน

“ฟีเรียส”

เจ้าของชื่อหันไปมองพระพักตร์ เขาไม่ได้เดินเสมอกับพระองค์ แต่เดินเยื้องมาทางด้านหลังเล็กน้อยถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะรับสั่งให้เขาเดินข้างๆ ก็ตาม ฟีเรียสไม่อยากทำอย่างนั้น เพราะกลัวว่าถ้าเผลอทำในที่ที่ไม่เหมาะสมขึ้นมาเมื่อไรจะกลายเป็นปัญหา ถึงแม้ว่าคนทั้งพระตำหนักจะรู้กันหมดแล้วก็เถอะ

“ใยรักของเจ้าออกดอกตั้งแต่เมื่อไร”

ฟีเรียสหยุดเดินนิดหนึ่ง ก่อนจะเดินต่อเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว

นึกว่าจะไม่ตรัสถามเสียแล้ว ไม่คิดว่าจะตรัสถามเอาตอนนี้ด้วย เพราะเดินผ่านมาแล้ว 

“เฟย์บอกว่าประมาณสิบวันก่อนพระเจ้าค่ะ” กลับมาบ้านคราวที่แล้วเขายังไม่เห็น เพิ่งคราวนี้เองที่สังเกตเห็นตั้งแต่มาถึงหน้าบ้าน แอบมองเจ้าชายหกก็ไม่เห็นว่าพระองค์จะใส่พระทัย ทำเอาเขารู้สึกน้อยใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“งั้นเราก็ได้เห็นมันพร้อมกันสินะ”

“กระหม่อมคิดว่าฝ่าบาทไม่ได้ทรงสังเกต”

“ดอกสวยขนาดนั้น ข้าต้องเห็นอยู่แล้ว”

 เป็นดอกไม้ที่สวยมากจริงๆ กลีบดอกเป็นสีฟ้าของท้องฟ้าในวันที่แดดจ้าและไม่มีเมฆ มีทั้งหมดหกกลีบ แต่ละกลีบมีขนาดเท่าฝ่ามือเด็กแรกเกิด รูปร่างคล้ายหัวใจหกดวงที่เอาด้านปลายมาชนกัน แต่ละกลีบมีลักษณะคล้ายทำจากเส้นใยเล็กๆ สานเป็นตาข่ายพองๆ ขั้วดอกเป็นกระเปาะสีขาว ออกดอกเป็นช่อตามกิ่ง ขณะที่ใบสีเขียวสดรูปหัวใจกระจุกอยู่ตามปลายกิ่ง

“หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์บอกว่ายังไงเจ้าจำได้ไหม”

“...จำได้พระเจ้าค่ะ” เขาไม่ได้เป็นคนขี้ลืม

...ว่ากันว่ามันจะออกดอกเวลาที่คนปลูกมีความรัก... 

“เจ้าว่าจริงรึเปล่า”

“...คงจริงพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายหนุ่มหันไปมองหน้าคนพูด และฟีเรียสก็มองตอบนิ่งๆ ทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ราวกับว่าไม่ได้เพิ่งพูดอะไรที่มีความหมายแฝงออกไป แต่พอเห็นรอยแย้มพระสรวลกับสายพระเนตรแบบรู้เท่าทันนั่นแล้วก็ต้องเบือนหน้ากลับ และเป็นฝ่ายเดินนำเสด็จลิ่วๆ ไปแทน

เจ้าชายรามิเรสเสด็จตามอย่างพระอารมณ์ดี

เห็นทีว่าจะต้องหาวิธีทำให้คนไม่ยอมบอกรักตรงๆ แต่ไม่ปฏิเสธที่จะบอกอ้อมๆ ยอมบอกพระองค์อีกสักหลายๆ วิธีเสียแล้ว




“ไปนอนห้องข้าไหม” เมื่อเดินมาถึงตรงหัวบันไดซึ่งมีทางแยกซ้ายขวาเพื่อกลับสู่ห้องนอน เจ้าชายหนุ่มก็ตรัสถาม ครั้นอีกฝ่ายทำท่าจะว่าอะไรพระองค์สักประโยคสองประโยค พระองค์ก็รับสั่งบอกเหตุผล “เผื่อเสียงเปิดประตูจะทำให้สองคนนั้นตื่น”

“กระหม่อมจะเปิดเบาๆ พระเจ้าค่ะ”

เป็นอันว่าเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จ เจ้าชายหกทรงนิ่งคิดนิดหนึ่ง

“ใยรักของข้าก็ออกดอกแล้วเหมือนกัน”

ฟีเรียสใจเต้น ...หากสองต้นออกดอกพร้อมกันจะเป็นนิมิตหมายอันดี...

“เจ้าอยากเห็นไหม”

องครักษ์หนุ่มพยักหน้า เขาอยากจะรู้ตั้งนานแล้วว่ามันเป็นยังไงบ้าง แต่รอแล้วรอเล่าอีกฝ่ายก็ไม่รับสั่ง ตัวเขาเองก็ทิฐิมากจึงไม่ได้ทูลถาม

“กลับไปแล้วจะพาไปดู ไปไหม”

ฟีเรียสพยักหน้าอีก ตั้งแต่ไปอยู่พระตำหนักเจ้าชายหก เขาก็มองหาอยู่เรื่อยว่าอีกฝ่ายเอาไปปลูกไว้ตรงไหน แต่ก็ไม่เคยเห็น ที่แท้ก็เอาไปปลูกที่อื่นนี่เอง

“ทรงปลูกไว้ที่ไหนพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายหนุ่มแย้มพระสรวลอ่อนหวาน “ในห้องนอนข้าเอง” ทอดพระเนตรเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตกตะลึงแล้วก็ทรงขำ แต่ไม่ยอมให้มีโอกาสกลับคำ “รับปากแล้วนะว่าจะไปดู”

“กระหม่อมไม่...”

“เอาล่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว แยกย้ายกันไปนอนดีกว่า” เว้นวรรคแล้วก็กระตุกมุมพระโอษฐ์ “ขอจูบราตรีสวัสดิ์ทีหนึ่งได้ไหม”

“ไม่...”

เพิ่งจะพูดได้คำเดียว อีกฝ่ายก็เข้าประชิดตัว แตะพระโอษฐ์ลงบนปากที่กำลังเผยออยู่ของเขาเบาๆ ทีหนึ่งแล้วถอนออก ไม่เร็วมากนัก และไม่นานจนเกินไป แต่เขายังตั้งตัวไม่ทัน

“ให้ข้าไปส่งที่ห้องรึเปล่า”

“ไม่ต้องพระเจ้าค่ะ”

ฟีเรียสทูลตอบเร็วปรื๋อ แล้วก็นึกเจ็บใจตัวเองที่ก่อนหน้านี้พูดไม่เร็วเท่าตอนนี้ เจ้าชายรามิเรสไม่ได้ทรงคะยั้นคะยอ เพียงแต่แย้มพระสรวล...สวยเสียจนเขาตาพร่า

“อืม ฝันดี เจอกันพรุ่งนี้” ซึ่งก็คืออีกไม่กี่ชั่วโมงนี่ล่ะ

เจ้าของวรองค์สูงโปร่งเสด็จแยกไปทางห้องของพระองค์แล้ว ทิ้งให้คนถูกปล้นจูบยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

เมื่อกี้นี้คืออะไร เขาถูกหลอกมาตลอดใช่ไหม ที่แท้แล้วเจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงหื่นกามใช่รึเปล่า เป็นหมาป่าที่ห่มหนังแกะเอาไว้อย่างแนบเนียนสินะ ส่วนเขาก็คือ




...ลูกแกะ?








***********************************************


ตอบเรื่องมิทรอสกับโรดีอัสนิดนึง... เอิ่ม...ต้องขอตัดความหวังเสียแต่ตอนนี้นะคะ ว่า...ไม่ได้คู่กันค่ะ โรดีอัสเขาชอบผู้หญิงน่ะค่ะ

แล้วก็...ว่าจะพูดตั้งแต่ตอนที่แล้ว แต่ว่าลืม

ขอบคุณทุกท่านที่เสนอชื่อรามิเรสและเวลาในเซ็งเป็ดอวอร์ดนะคะ

แบบว่า ปลาบปลื้มมมมมมมมม กอดคนละทีค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #639 เมื่อ01-11-2014 18:34:14 »

55 ฟีเรียสเพิ่งรู้เหรอ คนอ่านรู้กันนานมากกกกแล้ว  :hao3:
จริงๆก็แอบจิ้น คุณชายมิทรอสกับโรดีอัสเบาๆนะ แต่ถ้าคนเขียนออกตัวไว้แบบนี้จะได้ตัดใจ 
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
« ตอบ #639 เมื่อ: 01-11-2014 18:34:14 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #640 เมื่อ01-11-2014 18:51:12 »

ตอนต้นของนิยายสงสารฟีเรียส  แต่ตอนนี้สงสารเจ้าชาย
ฟีเรียสปากแข้งได้ใจจริง ๆ เชียว

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #641 เมื่อ01-11-2014 19:38:11 »

น้ำตาลขึ้น  :o8:
เจ้าชายออกจะโรแมนติก ไม่หื่นสักหน่อย ถ้าหื่นคงจับปล้ำไปหลายรอบแล้ว
ฟีเรียสนี่ไม่โรแมนติกเอาเสียเลย o16

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #642 เมื่อ01-11-2014 20:07:29 »

เจ้าชายน่ะร้ายจะไป หลงรักเขามากนะฟีเรียส ไม่ทันสังเกตซะแล้ว สงสัยถูกภาพเจ้าชายอันเจิดจ้าบังตา 55

ออฟไลน์ Pine_apple

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #643 เมื่อ01-11-2014 21:23:23 »

 :-[ อรั๊ย เขินไปแย้ว

ลูกแกะพันธุ์หมาป่ากินเนื้ออย่างกับลูกแกะสายพันธุ์กระต่ายอย่างฟีเรียส ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครจะถูกกิน  :hao6:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #644 เมื่อ01-11-2014 21:23:53 »

ฟีเรียสซื่อแบบใสๆมาก ไม่เคยทันรามิเรสเลย 55"

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #645 เมื่อ01-11-2014 21:45:29 »

ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าเจ้าชายฉลาดอะ เป็นคนสุภาพและมีปัญญามาก โฮ๊ยย ได้เจ้าชายเป็นลูกเขยนี่เป็นวาสนาจริง ๆ นะท่านแม่
ชอบวิธีบอกรักกันจัง ละมุนเชียว ต้องด้วยวิธีนี้สิฟิเรียสไม่ปฏิเสธหรอก  :-[
สงสารอยู่อย่างเดียว เพิ่งรู้ตัวเหรอว่าตัวเองเป็นลูกแกะ 5555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #646 เมื่อ01-11-2014 22:19:29 »

กว่าจะหวานได้ขนาดนี้ต้องรอนานมาก

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #647 เมื่อ01-11-2014 22:55:10 »

โอ๊ยยยยยยยยยยยยย ตอนนี้สนุกกกกและละมุยมากๆเลยยยย เจ้าชายทรงเป็นหมาป่าอย่างที่ฟีเรียสคิดน่ะถูกแล้วว

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #648 เมื่อ02-11-2014 00:36:10 »

หวานๆ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #649 เมื่อ02-11-2014 02:25:28 »

 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
« ตอบ #649 เมื่อ: 02-11-2014 02:25:28 »





ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #650 เมื่อ02-11-2014 12:12:08 »

หมาป่า เอ๊ย รามิเรสนี่ต้อนแกะเก่งจัง  :กอด1:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #651 เมื่อ02-11-2014 16:51:38 »

รักจิตใที่ดีงามและความใจดีของเจ้าชายมาก เจ้าเล่ห์ก็มาก พูดมาทีเคลิ้มไปหมดแถมตกหลุมไม่รู้ตัว ฟีเรียสคือดูเหมือนเด็ก
ที่ยังไงก็ตามท่านไม่ทันอ่ะ ซึ่งก็เป็นความน่ารักอีกแบบหนึ่ง เจ้าชายหกสนุกมากในการแกล้งแฟนให้เขินอยู่เรื่อย
อ่านไปก็ฟินไปค่ะ น่ารักมากกกกก

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #652 เมื่อ02-11-2014 18:07:40 »

รอหมาป่าขย้ำลูกแกะนะคะ..ว้าย

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #653 เมื่อ02-11-2014 22:38:18 »


รักนะแต่ไม่แสดงออก ใช่มั้ยฟีเรียส  :laugh:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #654 เมื่อ03-11-2014 21:27:18 »

โอ๊ยย.ย.ย..ย.ย  มดขึ้นหน้าจอแล้วคร่า.า.า.า..า.า.า :-[

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #655 เมื่อ03-11-2014 22:25:00 »

ขอกันดีดีไม่เคยให้
คนปากแข็งใจแข็งอย่างฟีเรียสตัองเจอขโมยจูบแบบนี้แหละ.  ^^

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #656 เมื่อ04-11-2014 13:46:43 »

โดนตัดความหวังอย่างจัง
วาดฝันให้โรดิอัสเสียทีมิทรอสเต้มที
โฮกกกกกกกกก
อยากเลี้ยงแกะะะะะะะ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #657 เมื่อ04-11-2014 14:37:01 »

อ่านแล้วเขิน อยากเป็นคนพิเศษบ้าง 

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #658 เมื่อ04-11-2014 14:55:46 »

เจ้าชายนี่หยอดเก่งมากกกก

ฟีเรียส หวงตัวจริงๆ ได้ข่าวว่าเสร็จเค้าแล้วนะ :laugh:

ออฟไลน์ kaew203

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #659 เมื่อ04-11-2014 18:22:30 »

ง่ะะ เสียดายโรดีอัสกับมิทรอสจังค่ะะ
พี่ชุนไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ(*_*) 55555
ชอบเจ้าชายรามิเรสจังง ตะล่อมเก่งจริงๆ

รอเจ้าชายมาต้อนแกะค่ะ มาต่อไวๆนะคะะ><

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด