รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ  (อ่าน 345296 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #660 เมื่อ05-11-2014 00:43:36 »

เจ้าชายร้ายกาจจ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #661 เมื่อ06-11-2014 12:23:44 »

ไม่ต้องคิดหรอก โดนกินแน่ๆ ไม่ต้องห่วง  :hao6:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #662 เมื่อ06-11-2014 18:04:40 »

องค์ชายอดทนมากกกก ยกนิ้วให้เลย
แบบว่ายอมรับความเป็นตัวตนของคนปากแข็ง
แล้วตัวเองก็ประยุกต์หาวิธีหลอกล่อเอง
แหม่ คนแก่มีดีที่ความเก๋าเกมซินะ 555

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 28 (1 พ.ย. 57) หน้า 22
«ตอบ #663 เมื่อ08-11-2014 10:20:41 »

พึ่งมาอ่านเรื่องนี้ ชอบเจ้าชายมากๆเรย
ดูสู้ใคนปากแข็งสุดๆ 555555
ส่วนฟีเรียส น่าจะเปิดเผยอีกนิดน้าาาา กลัวใจเจ้าชายจะนอยด์ซะก่อน หุหุหุ -.,-

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #664 เมื่อ22-11-2014 19:46:07 »

บทที่ ๒๙


หลังจากตื่นขึ้นมาเพราะกระหายน้ำ และลงมาดื่มน้ำในครัวเมื่อคืนนี้ เฟย์ก็กลับไปนอนไม่หลับอีกเลยตลอดคืน ถึงจะไม่ได้เปิดไฟ แต่หญิงสาวก็คิดว่าตัวเองตาไม่ฝาดที่เห็นเจ้าชายหกแห่งไม่ซีนทรง ‘จูบ’ พี่ชายของนาง

คงไม่ใช่ยื่นพระพักตร์เข้าไปกระซิบอะไรแน่ๆ

รุ่งเช้า น้องสาวของฟีเรียสก็เอาแต่จับสังเกตพฤติกรรมของหนึ่งเจ้าชายกับหนึ่งองครักษ์อยู่เกือบตลอดเวลา จุดประสงค์อยู่ที่การพยายามสรุปให้ได้ว่านางเพียงแต่คิดมากและเข้าใจผิดไปเอง ผลก็คือถ้าไม่คิดมากก็ไม่ต้องกังวล แต่ถ้าคิด ก็จะเห็นสิ่งผิดปกติเต็มไปหมด

หลังจากเสร็จงานในสวน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เข้าไปในครัวหมายจะช่วยพี่ชายทำอาหาร ก็พบว่าเขามีผู้ช่วยกิตติมศักดิ์อยู่แล้ว เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวลให้นางอย่างหล่อเหลาเหมือนเคย

“หิวแล้วหรือ” เป็นคำทักทายของคนที่กำลังทรงล้างผัก

“...หม่อมฉันจะมาช่วยพี่ฟีเรียสทำอาหารเพคะ”

“ปิ้งขนมปังที” คนกำลังชิมอะไรสักอย่างอยู่หน้าเตาร้องสั่ง “เปิดแยมขวดใหม่ด้วย”

ฟีเรียสเป็นคนกลบเกลื่อนความรู้สึกและความผิดไม่เก่ง การสั่งงานอย่างเป็นธรรมชาติแบบนี้ทำให้เฟย์ใจชื้นขึ้นมาหน่อย คิดว่านางคงจะคิดมากไปเอง แต่ว่า

“ฝ่าบาท ล้างนานไปแล้วพระเจ้าค่ะ ทรงเอาขึ้นได้แล้ว”

ปกติองครักษ์เขาสั่งเจ้าชายกันได้ด้วยหรือ

“โอ๊ะ”

“กระหม่อมว่าเดี๋ยวต้องได้ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์ใหม่แน่” กราบทูลแล้วก็หยิบผ้าสะอาดถวาย ก่อนจะเดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนผืนหนึ่งมาถวายด้วย

“ข้าใส่ไม่เป็น”

พ่อครัวประจำบ้านมีการทำหน้าเหมือนระอา คลี่ผ้ากันเปื้อนออกและทำท่าจะสวมถวาย ทว่าเมื่อหันมาเห็นน้องสาวมองอยู่ด้วยสีหน้าสงสัย จึงเพียงแต่บอกวิธีใส่เท่านั้นแล้วกลับไปยืนหน้าเตาต่ออย่างมีพิรุธ

“เจ้าชายทรงเป็นแขก มาช่วยอย่างนี้จะดีหรือเพคะ”

“ไม่เป็นไร ข้าอยากช่วย อย่าคิดว่าข้าเป็นแขกเลย คิดเสียว่าเป็นพี่ชายอีกคนหนึ่งของเจ้าเถอะ”

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เฟย์ก็คงจะปลาบปลื้มในพระเมตตาไปแล้ว ทว่าตอนนี้กลับทำให้ยิ่งรู้สึกระแวง...เจ้าชายหกเคยรับสั่งอะไรทำนองนี้กับนางมาก่อนรึเปล่านะ

“แล้วคนอื่นๆ ล่ะเพคะ อย่างพี่โรดีอัส” นางเห็นแล้วว่าคนที่เหลือนั่งคุยกันอยู่ในห้องโถง ที่ทูลถามก็แค่อยากจะรู้คำตอบของเจ้าชายหนุ่ม

“พวกนั้นก็คงอยากจะเข้ามาช่วย แต่ฟีเรียสบอกว่าคนมากเกะกะ”

รับสั่งตอบแล้วก็มีการปรายสายพระเนตรไปทางพ่อครัวตัวจริงเพื่อดูปฏิกิริยา และฝ่ายนั้นก็หันกลับมามองราวกับจะรู้จังหวะ เจ้าชายรามิเรสทรงพระสรวลเบาๆ เมื่อเห็นองครักษ์หนุ่มนิ่วหน้า รับสั่งเพิ่มเติมว่า

“กับข้า เขาก็ไม่อยากให้เข้ามาเกะกะเหมือนกัน แต่ข้าเป็นเจ้านายเขา เขาเลยขัดขืนไม่ได้”

ขัดก็พอมั้ง ไม่ต้องถึงกับขัดขืน เดี๋ยวความหมายมันจะแปลกไป

เฟย์พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ แต่ไม่หายสงสัย ไม่แปลกใช่ไหม ที่พอพี่ชายเรียกนางไปชิมรสชาติอาหารแล้วเจ้าชายรามิเรสจะทรงขอ ‘ชิม’ ด้วย ไม่แปลกใชไหม ที่เมื่อนางพูดถึงแอนจิเทีย ว่าทำอาหารเก่งเหมือนกัน เจ้าชายหนุ่มจะรับสั่งยิ้มๆ ว่า

“ในครัวมีคนทำอาหารเก่งแค่คนเดียวก็พอ เก่งสองคนอาจจะทะเลาะกันก็ได้”

ไม่แปลกสินะ ที่เมื่อพี่ชายของนาง ‘ไล่’ ให้เจ้านายของตนออกไปตัดดอกไม้ พระองค์จะเสด็จออกไปแต่โดยดี ซ้ำยังกลับเข้ามารับสั่งถามพระพักตร์เฉยว่าให้ช่วยเช็ดโต๊ะด้วยไหม






เฟย์ไม่กล้าปรึกษาเรื่องที่สงสัยเต็มหัวใจกับใคร ไม่ว่าจะเป็นมารดาหรือคนรัก นางไม่อยากทำให้คนอื่นพลอยกังวลไปด้วย...หากยังไม่แน่ใจเสียก่อน

เมื่อใกล้เวลาที่เจ้าชายหกจะเสด็จกลับเต็มที หญิงสาวก็ตัดสินใจเลือกที่จะหาโอกาสทูลถามเจ้าชายหนุ่ม ขณะที่อีกฝ่ายทรงช่วยนางใส่ปุ๋ยต้นไม้ตอนเช้า ส่วนฟีเรียสที่ห่อผลไม้เสร็จแล้วกำลังเดินรดน้ำตามอยู่ไกลๆ

“เจ้าชายทรงมีคนรักแล้วหรือยังเพคะ”

คุณเรจินที่กำลังช่วยใส่ปุ๋ยอยู่เหมือนกันถึงกับหันมามอง เฟย์คิดว่าเจ้าชายหกอาจจะรับสั่งให้องครักษ์ประจำพระองค์ไปที่อื่นก่อน แต่ก็ไม่

“มีแล้ว”

คนทูลถามใจเต้นแรงขึ้นนิดหนึ่ง

“เป็น...พระคู่หมั้นหรือเพคะ” เมื่ออีกฝ่ายมีสีพระพักตร์สงสัย หญิงสาวก็อธิบาย “พี่ฟีเรียสเคยบอกเพคะ ว่าเจ้าชายมีพระคู่หมั้นแล้ว” ตอนที่บอกให้นางเลิกเขียนจดหมายถึงพระองค์ได้แล้ว เพราะพระคู่หมั้นอาจจะไม่พอใจ

“ข้าถอนหมั้นกับนางแล้ว”

เฟย์รู้จักกาลเทศะดีพอที่จะไม่ทูลถามเหตุผล กระนั้นเจ้าชายหนุ่มซึ่งไม่ได้ทรงคิดเป็นอื่นกับหญิงสาว นอกจากเห็นว่าเป็นเหมือนคนหนึ่งในครอบครัวก็รับสั่งบอกง่ายๆ

“เป็นความผิดของข้าเอง ที่มีคนอื่น”

“ใครหรือเพคะ” คำถามนั้นออกจากปากไปเร็วกว่าที่ตั้งใจ เมื่อเห็นสีพระพักตร์ประหลาดพระทัย หญิงสาวก็รีบเสริม “หม่อมฉันก็ถามไปอย่างนั้นเองเพคะ หม่อมฉันคงจะไม่รู้จัก”

เจ้าชายหนุ่มไม่ได้รับสั่งตอบ สักพักหนึ่ง หญิงสาววัยแรกรุ่นก็ทูลถามอีกอย่างระงับความอยากรู้เอาไว้ไม่ไหว

“คนรักของเจ้าชายคงจะเป็นผู้หญิงที่สวยมากนะเพคะ เพราะว่าเจ้าชายทรงพระหล่อมาก”

คราวนี้แม้แต่เรจินเองก็ถึงกับยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เสียดายที่เฟย์ไม่ทันได้เห็น เห็นแต่รอยแย้มพระสรวลนิดๆ ของเจ้าชายรามิเรส

“ข้าชอบ ข้าก็ว่า...สวย แต่ไม่เคยชมให้ได้ยิน เพราะว่าเขาขี้อาย”

“เขา...หรือเพคะ”

คนทูลถามจับผิดเต็มที่ ส่วนคนถูกจับผิดก็เพียงแต่แย้มพระสรวลนิ่มๆ แต่ไม่ตรัสตอบว่าอะไร และเนื่องจากสรรพนาม ‘เขา’ สามารถใช้ได้กับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย หญิงสาวจึงไม่สามารถสรุปอะไรได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ พี่ชายของนางไม่ใช่คนขี้อาย

“นางคงเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากๆ เลยนะเพคะ”

“เชื่อเถอะ ว่าข้าเองก็โชคดีไม่ต่างกัน”

เฟย์ชะงัก ความคิดแรกที่วาบขึ้นมาก็คือ ถ้าคนที่เจ้าชายหกกำลังรับสั่งถึงคือพี่ชายของนางจริงๆ นางก็คงจะดีใจแทนเขาเหลือเกิน แม้ว่า...จริงๆ แล้วจะอยากได้พี่สะใภ้มากกว่าพี่เขยก็ตาม

“คราวหน้าถ้าเสด็จมาอีก ทรงพา ‘นาง’ มาให้หม่อมฉันรู้จักด้วยได้ไหมเพคะ”

“อืม ถ้า ‘นาง’ ยอม”






ขณะที่เฟย์พยายามสืบเอาจากทางเจ้าชายเจ้ากรมสรรพาวุธ หญิงสาวไม่รู้เลยว่ามารดาของนางก็สอบถามจากลูกชายของตนเหมือนกัน

ปกติเฟย์จะนวดหลังนวดไหล่ให้มารดาก่อนนอนอยู่บ่อยๆ    ทว่าคืนนี้ฟีเรียสเป็นคนทำ สองแม่ลูกคุยเรื่องสัพเพเหระกันบ้างระหว่างการนวด มีเรื่องเกี่ยวกับแขกกิตติมศักดิ์ของบ้านบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องผิวเผินทั่วไป หลังจากผ่านไปนานนับชั่วโมง และฟีเรียสดูแลให้มารดาดื่มยาก่อนนอนเรียบร้อยแล้ว เรเซียก็รั้งให้ลูกชายอยู่คุยกับนางก่อน และเพราะคุยเรื่องทั่วๆ ไปมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีอารัมภบทอีก

“อยู่ที่เมืองหลวง รู้สึกถูกตาต้องใจผู้หญิงคนไหนบ้างรึเปล่าลูก”

ในความประหลาดใจเล็กๆ มีความระมัดระวังตัวตีคู่กันขึ้นมา

“ไม่มีหรอกครับ ข้าเพิ่งได้รับตำแหน่ง ตั้งใจว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรื่องผู้หญิงยังไม่คิด” และคงจะไม่คิดไปตลอดชีวิต ส่วนเรื่องผู้ชาย ก็เคยไม่อยากจะคิด...แต่ก็หยุดคิดไม่ได้ ปัจจุบันนี้ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นครอบครองพื้นที่ความคิดของเขาไปกี่ส่วนแล้ว

“วอลเซนส์มาเกริ่นๆ กับแม่ว่าอยากจะแต่งงานกับเฟย์ปีหน้า น้องจะแต่งงานแล้ว แต่ลูกยังไม่มีแม้แต่ผู้หญิงที่ชอบ แม่สงสัย ก็เลยถามดู”

ฟีเรียสยิ้มอ่อนๆ ไม่มีความหมายอะไร นอกจากเพื่อจะได้ไม่ต้องตอบคำถาม

“ฟีเรียส”

“ครับ”

“...ไม่มีจริงๆ หรือจ๊ะ”

ถามแบบนี้ สีหน้าแบบนี้ สายตาแบบนี้ มารดาคงจะรู้สึกระแคะระคายไรบ้างแล้ว แม้จะรู้สึกเครียดขึ้นมา แต่เมื่อนึกถึงคนที่เขาพาไปพบพ่อที่วิหารเล็กๆ ด้วยกันเมื่อวันก่อน ความทรมานก็บรรเทาลงบ้าง

องครักษ์หนุ่มมองหน้ามารดาอย่างชั่งใจ

“ที่จริง...ก็มีครับ”

เรเซียเป็นฝ่ายชะงักไปบ้าง “นางเป็นลูกเต้าเหล่าใครกัน”

“...ขอยังไม่บอกได้ไหมครับ”

“ทำไมถึงบอกตอนนี้ไม่ได้ล่ะจ๊ะ”

ฟีเรียสนิ่งเงียบไปหลายอึดใจ

“ฟีเรียส แม่...ไม่ว่าหรอกจ้ะ ไม่ว่าลูกจะรักชอบใคร” อยากจะทำใจให้ได้อย่างนั้นอยู่เหมือนกัน แต่นางก็รู้ดีว่าเรื่องทุกเรื่องย่อมมีข้อยกเว้น แม้ว่าจะพยายามทำใจให้กว้างเท่าไรก็อาจจะไม่พอ “เรามีกันอยู่แค่สามคนแม่ลูก แม่อยากจะสบายใจว่าลูก...ชอบผู้หญิงที่ดี เป็นคนที่ทำให้ลูกมีความสุขได้”

แล้วถ้าเขาเป็น ‘ผู้ชายที่ดี’ แทนล่ะ

“...”

“มีแล้วก็ยังไม่ต้องรีบแต่งก็ได้จ้ะ ผู้ชายแต่งงานช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร แม่อาจจะได้อุ้มหลานยายก่อน แต่ยังไงก็อยากจะอุ้มหลานย่า”

“...”

“เป็นองครักษ์คงจะได้ตามเสด็จไปที่ไหนๆ บ่อยๆ ลูกเจอนางตอนที่ตามเสด็จไปรึเปล่า หรือว่าเป็นน้องสาวของเพื่อน”

องครักษ์หนุ่มทรมานใจมากขึ้นทุกที

“หรือว่า ลูกชอบคนที่ไม่ควรจะชอบ”

ชายหนุ่มชั่งใจ ก่อนพยักหน้าช้าๆ เรเซียใจหาย

“เป็นคนที่อยู่สูงมากครับ” เคยคิดว่าเกินเอื้อม แต่เมื่อตัดสินใจยื่นมือออกไป ก็เอื้อมถึงได้ด้วยความพยายามเพียงครั้งเดียว “ที่ข้ายังไม่อยากบอก ก็เพราะอาจจะมีอุปสรรคอยู่อีก ข้ากับ...เขา อาจจะเดินไปด้วยกันได้ไม่ไกล ข้าเลยไม่อยากให้แม่กังวลใจไปด้วย”

ช้าไปแล้ว นางกังวลใจไปมากแล้ว

“ข้าบอกได้เท่านี้ เอาไว้ข้าพร้อมมากกว่านี้ ข้าจะบอกท่านทุกอย่าง ดึกแล้ว นอนเถอะครับ”

องครักษ์หนุ่มลุกขึ้นยืนแล้ว ทว่า

“ฟีเรียส” มารดาคงไม่อาจนอนหลับหากได้รู้เพียงครึ่งๆ กลางๆ

“แม่อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก ข้ายังไม่พร้อมจะบอกจริงๆ แต่สัญญาว่าจะบอกแน่ๆ ครับ ถึงตอนนั้น ถ้าท่านไม่ชอบคนที่ข้าชอบ ข้าก็จะ...ปล่อยมือจากคนคนนั้นครับ” พูดไม่ได้หรอกว่าจะตัดใจ เพราะคงจะยากยิ่งกว่าให้กลับใจไปชอบผู้หญิงเสียอีก “รักแม่นะครับ”

คนที่น้อยครั้งจะพูดว่ารักโน้มตัวลงกดจูบบนแก้มมารดา ก่อนผละมา

“ฟีเรียส”

สาวเท้ายาวๆ มาจนถึงประตูแล้ว แต่ก็ต้องหันกลับไป

“แม่ถามอีกอย่างเดียวลูก” ทั้งแม่และลูกล้วนแต่กลั้นหายใจ คนเป็นแม่ถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงคาดหวังสุดใจ “คนที่ลูกชอบ...เป็นผู้หญิงใช่ไหม”

เมื่อเห็นสีหน้าของลูกชาย เรเซียก็อยากให้เวลาย้อนกลับไป และนางไม่ได้ถามคำถามนั้น

“...เป็นผู้หญิงสิครับ แม่ถามแปลก”

ฟีเรียสยิ้ม... เหมือนคนกำลังจะร้องไห้




ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #665 เมื่อ22-11-2014 19:47:24 »

“ไม่สบายเปล่าวะฟีเรียส” โรดีอัสเอ่ยทักทันทีที่เห็นหน้าเพื่อน

คนถูกถามส่ายหน้า เผลอสบตาหัวหน้าของตนที่นั่งเช็ดผมอยู่บนเก้าอี้ข้างหน้าต่างแวบหนึ่งแล้วพลันรู้สึกเหมือนถูกอ่านความรู้สึกจึงได้เดินเข้าห้องน้ำไป หลังจากปรับอารมณ์เรียบร้อยแล้วและเดินออกมา ก็พบว่าเพื่อนสนิทยังคงรอคอยที่จะถาม

“มีปัญหาอะไรบอกข้าได้นะเว้ย” อยากจะถามต่ออีกประโยคว่าทะเลาะกับเจ้าชายหกมารึเปล่าก็เกรงใจองครักษ์ประจำพระองค์คนสนิทที่นั่งอยู่ข้างหน้าต่าง

“ไม่มีอะไร” คนตอบยิ้มนิดหนึ่ง แต่ดูฝืนๆ หลังจากทนมองสบตากับเพื่อนสนิทได้อึดใจใหญ่ๆ ก็ทนไม่ไหว “ข้าจะลงไปเดินเล่นข้างล่าง ไปด้วยกันไหม” ก็แค่ถามเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัยไปมากกว่านี้

“ไป...”

“ไปอาบน้ำแล้วกลับมาเล่าเรื่องกิจการค้าข้าวที่บ้านเจ้าต่อสิ”

ไม่แน่ใจว่าเป็นข้อเสนอหรือคำสั่งกันแน่ แต่มันก็เย้ายวนใจไม่น้อย ตระกูลของโรดีอัสค้าเกลือ เพิ่งจะหันมาเอาดีทางการค้าข้าวเพิ่มเมื่อเร็วๆ นี้ และจากการนอนร่วมห้องกันมาหลายวัน องครักษ์หนุ่มผิวเข้มร่างใหญ่ก็ได้รู้ว่าเจ้าชายรามิเรสทรง ‘ค้าขาย’ สินค้าหลายชนิด แต่ละอย่างทำกำไรให้แบบ ‘รวยไม่รู้เรื่อง’ ทั้งนั้น และเรจินก็เป็นหนึ่งใน ‘ฝ่ายบัญชี’ ของเจ้าชายหนุ่ม

อย่างไรก็ดี เขาไม่ใช่คนที่จะเห็นเรื่องเงินทองสำคัญกว่าความทุกข์ของเพื่อน

“เจ้าไปเถอะ ข้าขี้เกียจ”

เพียงแต่ เรื่องง่ายๆ ที่ว่าบางทีคนเราก็ต้องการเวลาที่จะอยู่คนเดียว เขาก็เข้าใจอยู่เหมือนกัน






ฟีเรียสตั้งใจจะลงไปข้างล่างจริงๆ ดังนั้นจึงบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมจึงลงเอยด้วยการมายืนอยู่ที่หน้าห้องบรรทมของเจ้าชายหกแห่งไมซีน

หลังจากชั่งใจอยู่นานมาก องครักษ์หนุ่มก็ตัดสินใจหมุนตัวกลับ

ทันใดนั้นเอง ประตูก็เปิดออก

“อ้าว มายืนทำไมตรงนี้” นับเป็นความเลวร้ายประการหนึ่งที่ห้องของคุณชายบ้านเสนาบดีกลาโหมอยู่ติดกับห้องของเจ้าชายหนุ่ม
“จะมาเข้าเฝ้าเจ้าชายหรือ”

 คนถูกถามยืนเงียบ อยากบอกว่าไม่ใช่ แต่ก็ไม่ใช่คนชอบโกหก

“คงยังไม่บรรทม น่าจะเคาะประตูได้ แต่ถึงบรรทมแล้วก็คงไม่กริ้วถ้ารู้ว่าเป็นเจ้า”

“ไม่เป็นไรครับ ข้าไม่ได้มีเรื่องสำคัญ”

คุณชายหนุ่มมองคนรักของเจ้าชายหกอย่างพิจารณา “แต่หน้าเจ้าดูไม่ค่อยดีเท่าไร ไม่กล้าเคาะหรือ มา ข้าเคาะให้”

ไม่รอให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสปฏิเสธ คน ‘หวังดี’ ก็เคาะประตูห้องข้างๆ ให้เสร็จสรรพ

“ฝ่าบาท ขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ ฟีเรียสขอเข้าเฝ้าพระเจ้าค่ะ”

ความรู้สึกขององครักษ์หนุ่มตอนนี้ ถึงไม่ใช่ตกใจก็นับว่าใกล้เคียง แต่เขาแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เจ้าชายรามิเรสทรงเปิดประตูออกมาเร็วมาก และเมื่อทอดพระเนตรเห็นหน้าเขา สีพระพักตร์ห่วงใยก็ทำเอาอารมณ์ที่อุตส่าห์สู้เก็บกักไว้แทบจะทะลัก

“กระหม่อมเปิดประตูออกมา เห็นเขายืนอยู่หน้าห้อง ไม่กล้าเคาะทูลเรียก จึงถือวิสาสะเคาะให้พระเจ้าค่ะ พระอาญามิพ้นเกล้าฯ”

“ไม่เป็นไร ข้ายังไม่นอน” ตรัสบอกพระสหายแล้วจึงรับสั่งกับคนรัก “เข้ามาสิ”







“นั่งตรงไหนก็ได้”

ฟีเรียสรอให้เจ้าของห้องประทับบนเก้าอี้ตัวหนึ่งก่อน จึงได้นั่งลงฝั่งตรงข้าม

“อยากบอกอะไรกับข้าไหม”

องครักษ์หนุ่มมองพระพักตร์ แล้วก็คิดว่าเขาเข้ามาทำอะไรในนี้กันแน่ เหมือนเด็กที่ถูกแม่ดุ แล้วก็วิ่งโร่มาฟ้อง...ใครดี...พี่ชาย...อาจจะคล้ายๆ อย่างนั้น

ฟีเรียสยืนขึ้น ค้อมกายลงอย่างต่ำ กราบทูลเสียงเรียบ

“ไม่มีพระเจ้าค่ะ ขอประทานอภัยที่เข้ามารบกวนฝ่าบาทพระเจ้าค่ะ แต่คุณชายมิทรอสเข้าใจผิด กระหม่อมไม่ได้จะเคาะประตู”

เจ้าชายหนุ่มไม่ได้รับสั่งอะไร เพียงทอดพระเนตรมองมานิ่งๆ คนเป็นองครักษ์ยืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะค้อมศีรษะลงอีก แล้วหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง

ฉับพลันนั้น เขาถูกคว้าแขนจากด้านหลัง เมื่อหันกลับมา ก็ถูกดึงตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเจ้าของห้องอย่างรวดเร็ว

“ข้าเป็นคนรักของเจ้ารึเปล่า”

คำถามไม่หนัก ไม่เบา แต่เมื่อกดทับลงมา ก็ทำให้ความอดทนทั้งหมดที่มีพังทลาย ฟีเรียสน้ำตาไหล แต่เขาพยายามลืมตาเอาไว้กว้างๆ พยายามเก็บกักส่วนที่เหลือเอาไว้ ไม่ให้มันไหลออกมามากกว่านี้ แต่กลับสะอื้นเสียแรง แบบนี้ อีกฝ่ายต้องรู้แน่

“เจ้าร้องได้” พระสุรเสียงเปี่ยมกระแสบางอย่างที่คนอยู่ในภาวะจิตใจอ่อนแอจะไม่สามารถทานทนได้ “ข้าไม่เก็บไปล้อเจ้าแน่”

มือที่กำลังจะผลักอีกฝ่ายออกกลายเป็นยึดฉลองพระองค์เอาไว้และกอดแนบแน่นราวกับจะขอที่พึ่ง ฟีเรียสยอม หลับตาลง ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้และสะอื้นเหมือนเด็กๆ

เจ้าชายหกทรงลูบไหล่ลูบหลังที่แข็งและกว้างพอๆ กับของพระองค์อย่างปลอบประโลม ทว่าไม่ได้รับสั่งอะไรเลย ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งอีกฝ่ายร้องไห้จนพอใจ ปล่อยให้เขาผละออกจากอ้อมกอด และเช็ดน้ำตาออกจากหน้าด้วยตัวเอง

ตอนนี้องครักษ์ปากแข็งของพระองค์ตาแดง จมูกแดงราวกับกระต่าย ผิดแต่ผิวไม่ขาวก็เท่านั้น สายตาที่มองมามีแววกระดาก อับอาย

“กระหม่อมขอประทานอ...”

ริมฝีปากของฟีเรียสถูกแนบจูบก่อนที่เขาจะทันได้กราบทูลจนจบประโยค และไม่ใช่จูบเพียงแค่ผิวเผิน  แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ถึงกับสอดลิ้นเข้ามาก็ตาม องครักษ์หนุ่มชะงักในเบื้องแรก ก่อนจะเผยอริมฝีปากออก ปล่อยให้อีกฝ่ายทรงรุกราน และขยับปากตอบสนองในเวลาต่อมา เป็นการตอบรับอย่างเต็มใจและเต็มที่เป็นครั้งแรก เขาไม่รู้ตัวเลย ว่าทำให้เจ้าชายหกแห่งไมซีนพระทัยเต้นแรง อิ่มใจ และรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาอีกมากแค่ไหน

เมื่อต่างฝ่ายต่างถอนริมฝีปากออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง เจ้าชายรามิเรสยังทรงประคองสองแก้มขององครักษ์ประจำพระองค์เอาไว้

“ถ้าพูดว่าขอโทษ ข้าจะลงโทษเจ้า”

ฟีเรียสกะพริบตา แล้วก็หน้าแดง จะลงพระอาญาแบบไหนไม่รู้ แต่สายพระเนตรมีเลศนัย ชวนให้คิดว่าคงไม่ใช่วิธีการที่ดีนัก






ไม่ว่าจะเป็นเพราะได้เสียน้ำตาหรือว่าเสียจูบ แต่อารมณ์ของฟีเรียสก็สงบลงมากแล้ว เขายังคงยืนกรานว่าไม่อยากจะเล่า และเจ้าชายรามิเรสก็ทรงตามใจ แต่ไม่ทรงยอมให้เขากลับไปที่ห้องของตัวเอง

“นอนที่นี่แหละ ใกล้เช้าแล้วค่อยกลับ”

ฟีเรียสคิดว่า เป็นตายยังไงเขาก็ไม่ยอมนอนห้องเดียวกับเจ้าชายหกแน่ แต่เมื่อคิดถึงว่าถ้ากลับไปตอนนี้ โรดีอัสต้องซักถามแน่ เขาก็ทูลว่าจะขออยู่ที่นี่อีกสักครู่แล้วจะกลับ

“นอนพักที่เตียงก่อนก็ได้ ข้าจะลงไปข้างล่างสักเดี๋ยว”

องครักษ์หนุ่มมีสีหน้าสงสัย แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้รับสั่งบอกว่าจะไปไหน เขาก็ไม่ได้ทูลถาม

ฟีเรียสไม่คิดจะใช้เตียง แต่เมื่อรอแล้วรอเล่า เจ้าของห้องก็ยังไม่กลับมาเสียที เขาก็ตัดสินใจว่าจะเอนหลังลงบนเตียงสักครู่ เตียงนอนกว้างพอที่ผู้ชายสองคนสามารถนอนกางแขนกางขาได้ไม่ชนกัน กว้างขนาดนี้ทุกห้อง และนี่ก็คือ... อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขามีหนี้สินล้นพ้นตัว

แปลกดีที่ตอนนี้เรื่องหนี้สินไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเคร่งเครียดทุกครั้งที่นึกถึงอีกแล้ว ตรงข้าม คิดแล้วก็ออกจะระอาปนขำๆ เสียด้วยซ้ำ มันไม่เกี่ยวกับว่าเพราะเขากับเจ้าชายรามิเรสเป็นคนรักกัน แต่มันอาจเป็นเพราะ...ตอนนี้เขารู้สึกดีๆ ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าชายพระองค์นั้น

ฟีเรียสนอนขวางเตียง ใช้แขนข้างหนึ่งรองศีรษะต่างหมอน นอนมองเพดานไปเรื่อยๆ ตั้งใจว่าถ้าได้ยินเสียงเปิดประตูเมื่อไรจะรีบลุกขึ้นทันที







   “ข้าอยากได้นมอุ่นๆ สักแก้ว”

โรดีอัสเป็นคนเปิดประตู แต่คนได้รับคำสั่งคือเรจิน ซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่เจ้าชายหกแห่งไมซีนมาเคาะประตูห้องแล้วตรัสสั่งเช่นนี้

“กระหม่อมจะไปนำมาถวายเองพระเจ้าค่ะ”

โรดีอัสทูลอาสา เพราะคิดว่าเขาเป็น ‘ผู้น้อย’ ที่สุด และเขาก็เป็นเพื่อนกับฟีเรียส เข้าออกครัวบ้านเพื่อนได้สะดวกใจอยู่แล้ว ทว่า

“ข้าลงไปดูในครัวแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มี”

เรจินประหลาดใจอีกระลอก ไม่คิดว่าเจ้านายจะทรงเปลี่ยนรสนิยมจากเหล้ามาเป็นนมได้เร็วขนาดนี้ อย่างไรก็ดี เขามีหน้าที่จัดการทุกอย่างให้เป็นไปตามพระทัยอยู่แล้ว

“กระหม่อมจะนำไปถวายที่ห้องบรรทมพระเจ้าค่ะ”

“ไม่เป็นไร ข้าจะลงไปพร้อมเจ้า”

เพราะนมแก้วเดียว ผู้ชายสามคนจึงมาอยู่ด้วยกันในครัว โรดีอัสเป็นคนยืนยันว่าไม่มีจริงๆ

“หาอะไรกันอยู่หรือเพคะ”

เฟย์เข้ามาในครัวเป็นคนถัดมา เมื่อรู้ว่าเจ้าชายหนุ่มมีพระประสงค์จะได้นมจึงทูลอาสา

“เดี๋ยวหม่อมฉันไปขอจากบ้านพี่วอลเซนส์มาถวายเพคะ” นอกจากม้าแล้ว ชายหนุ่มยังเริ่มเลี้ยงวัวด้วย ตอนนี้มีอยู่สี่ตัว

นี่ก็ดึกแล้ว เจ้าชายรามิเรสจึงโปรดให้นางไม่ต้องไป เรจินเป็นคนจัดการสั่งให้องครักษ์ที่อยู่เวรนอกบ้านคืนนี้ไปขอมาจากฟาร์มม้าของวอลเซนส์

ว่าที่น้องเขยของฟีเรียสไม่มีนมอยู่ติดบ้านเลย ทว่าเมื่อรู้ว่าเป็นพระประสงค์ของเจ้าชายหก จึงออกไปรีดนมสดๆ มาให้ทันที

เมื่อองครักษ์นำนมหนึ่งเหยือกมาส่งให้เรจินแล้ว เฟย์ก็เป็นคนนำไปต้มเพื่อให้ได้นมอุ่นๆ

“ขอบใจ”

เจ้าชายรามิเรสทรงรับนมหนึ่งแก้วพร้อมจานรองจากหญิงสาวแล้วก็จะเสด็จขึ้นห้อง

“ไม่ทรงดื่มที่นี่เลยหรือเพคะ”

“ยังร้อนอยู่ ดื่มตอนอุ่นๆ บนห้องดีกว่า”







เจ้าชายหกทรงวางแก้วนมไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะค่อยๆ ประทับลงบนเตียง ระวังไม่ให้รบกวนคนนอนก่ายหน้าผาก พระองค์คงจะไปนานจริงๆ อีกฝ่ายถึงได้หลับ อยากจะจัดท่าทางให้นอนสบายกว่านี้อยู่เหมือนกัน แต่ถ้าทำ ก็คงจะรู้สึกตัวตื่นแล้วหนีกลับห้องแน่ จึงเพียงแต่ทรงหาผ้ามาห่มประทานให้ และดับไฟดวงกลางเพื่อไม่ให้แสงแยงตาคนหลับ เปิดไว้เพียงโคมไฟหัวเตียงข้างหนึ่งเท่านั้น ส่วนพระองค์เอง...ก็ประทับทอดพระเนตรคนหลับอยู่อย่างนั้น

ดึกแล้ว แต่ไม่ทรงรู้สึกง่วงเลยสักนิด

พิศดวงหน้าคมคายตลอดจนรูปร่างแข็งแรงสมชายของอีกฝ่ายแล้ว ก็พลันคิดขึ้นมาว่า คงจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงหลายคน เป็นธรรมดาที่ผู้เป็นมารดาจะคาดหวัง

แต่ถึงไม่มีพระองค์ ฟีเรียสก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงอยู่แล้ว

ไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้ชายที่ชอบแต่ผู้ชายเอาเสียเลยจริงๆ

ทว่าเมื่อคิดถึงพระองค์เอง ก็ถึงกับกระตุกแย้มพระสรวลออกมานิดหนึ่งอย่างขำๆ รับสั่งเบาๆ

“ข้าก็คงจะ...ได้แค่เจ้าคนเดียว”

รักครั้งแรกของพระองค์...เป็นผู้ชายที่อ่อนกว่าแปดปี

พระมารดาเคยรับสั่งว่า รักครั้งแรก มักจะไม่สมหวัง นางเองก็รักกับผู้ชายคนอื่นมาก่อน แต่ครองคู่กันไม่ได้ เพราะพระบิดาของพระองค์ทรง ‘หมายตา’ นางเอาไว้ และผู้หญิงที่ถูกองค์ราชาหมายตาย่อมไม่มีใครกล้าแย่ง

...อยู่ด้วยกันนานเข้าก็เกิดความรักขึ้นมาเอง...

พระมารดาเคยรับสั่งว่าอย่างนั้น พระองค์จึงโล่งพระทัยที่อย่างน้อย ‘แม่’ ก็มีความสุข ส่วนเหตุผลที่ตัดสินพระทัยออกบวชเป็นชีก็คือ

...ยังรักอยู่ แต่ไม่มีความสุขที่จะอยู่ด้วยกันอีกแล้ว...

ถึงจะไม่ถ่องแท้นัก แต่ก็คิดว่าเข้าพระทัยความรู้สึกของพระมารดา ผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นเมียคนเดียวของสามี ‘เจ้าพ่อ’ เคยรับสั่งทัดทานอยู่สองครั้ง แล้วก็ยอมอนุญาต

ปล่อย...เพราะรัก หรือปล่อย...เพราะไม่รักแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกัน

แต่พระองค์เอง สำหรับผู้ชายที่นอนอยู่ตรงหน้านี่แล้ว ถ้าเขาไม่เป็นฝ่ายปล่อยมือจากพระองค์เอง พระองค์ก็จะไม่ทรงยอมปล่อยเขาก่อนแน่ ถึงจะเป็นรักแรก แต่ก็ไม่อยากจะผิดหวัง

คิดว่าถ้าเป็นคนนี้ จะสามารถอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตได้จริงๆ

ฟีเรียสจะคิดยังไงบ้าง เครียดเรื่องแม่ขนาดนี้...ยังมีเรื่องน้องสาว

ในสายพระเนตร มองว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก ทั้งเรเซียและเฟย์ดูจะรักฟีเรียสมาก ไม่ว่าเรื่องราวจะดำเนินไปยังไง สุดท้ายแล้วก็คงไม่เห็นแก่อะไรอื่นมากไปกว่าความสุขของเจ้าตัว

อยู่ที่ว่าเขาจะมั่นคงมากพอรึเปล่า

ที่เคยสารภาพว่าชอบ...ชอบนั้นมากขนาดไหนกันนะ

บอกว่าพระองค์ทรงเป็นคนแรกที่เขาชอบอย่างจริงจัง แต่...ไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของเขา ก่อนที่จะเกิดเรื่องผิดพลาดในคืนนั้นขึ้น...ฟีเรียสเคยมีคนอื่นมาก่อนแล้ว

ไม่ได้รังเกียจอะไรเลย ก็แค่หึง

ต้องทำยังไงถึงจะขจัดความหึงหวงนี้ออกไปได้ ต้องใช้วิธีไหน ถึงจะมัดใจไว้ได้หนาแน่น เวลาที่รู้จักกันมานั้นไม่นานเลย ยังไม่ถึงปีเสียด้วยซ้ำ

แต่ใยรักในห้องบรรทมของพระองค์...บานเต็มต้นเสียแล้ว

เจ้าชายหกแห่งไม่ซีนทรงวางพระหัตถ์คร่อมตัวคนรัก แล้วโน้มพระองค์ลง ขบเม้มกลีบปากของคนนอนหลับไม่รู้เรื่องเบาๆ

องครักษ์หนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นทันที แถมฟาดมือมาโดนพระนลาฎของพระองค์อีกด้วย

“ขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ!”

“ไม่เป็นไร” แค่เฉี่ยวๆ แต่ก็มือหนักไม่ใช่เล่น

ฟีเรียสขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มร่นจากอกลงสู่ตัก ไม่ต้องถามก็รู้ว่าใครห่มให้ กระแสความรู้สึกอุ่นๆ อวลอึงอยู่ในอก

“กระหม่อมหลับไปนานหรือพระเจ้าค่ะ”

“ไม่นาน” รับสั่งตอบแล้วก็ทรงชี้ไปที่หัวเตียง “ตื่นแล้วก็ดื่มนมเสียสิ ข้าลงไปเอามาให้”

“กระหม่อม...”

“ไม่ใช่เด็กก็ดื่มได้”

อย่ามาดักคอแบบรู้ทันกันบ่อยๆ จะได้ไหม

“กระหม่อมแค่จะทูลว่า เป็นพระกรุณาพระเจ้าค่ะ”

ไถลไปข้างๆ คูๆ ได้แบบไม่กลัวเจ็บสีข้าง แต่ก็เอาเถอะ เห็นว่าน่ารักดีจึงไม่รับสั่งแย้งว่าอะไร

“คงจะเย็นไปหน่อย ข้าอุ่นไม่เป็น” นานขนาดนี้ น่าจะเย็นชืดไปแล้ว

“แค่เสด็จลงไปเอาจากข้างล่างมาให้ ก็เป็นพระกรุณามากแล้วพระเจ้าค่ะ” ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าชายควรทำให้องครักษ์เลย แต่ถ้าคิดถึงฐานะคนรัก ก็...ไม่ต้องรู้สึกเกรงใจมากไปก็ได้ องครักษ์หนุ่มดื่มจนหมดแล้วจึงวางแก้วลงที่เดิม

“อร่อยไหม”

“...พระเจ้าค่ะ” ก็รสชาติเหมือนนมสดทั่วไป

“ขอชิม”

จะชิมก็ไม่ชิมก่อน เขาดื่มไปหมดแล้วจะทรงชิม...

จะแก้ตัวว่าเจ้าชายหกทรงจู่โจมเร็วมาก เขาตั้งตัวไม่ทัน ก็รู้สึกละอายแก่ใจเกินไป จึงได้แต่ยอมรับโดยดีว่าเขาเองก็ให้ความร่วมมือ ยอมให้อีกฝ่ายทรงกวาดเอารสชาติหอมๆ มันๆ ติดจะหวานนิดๆ ที่หลงเหลืออยู่ในปากเขาไปแต่โดยดี เสียงชิมนมดังจ๊วบจ๊าบเบาๆ ในความเงียบ ส่วนเสียงหัวใจเต้นแรงอยู่ในอกเหมือนจะดังยิ่งกว่านั้น ฟีเรียสยอมยื่นลิ้นให้เจ้าชายหนุ่มทรงดูดอย่างว่าง่าย ดูดกลับเอาบ้างเหมือนกันราวกับจะแย่งนมคืน แต่โดยรวมแล้วก็อย่างที่เคยได้ยินมา คือให้รู้จักแบ่งปัน

กินกันสองคนย่อมอร่อยกว่ากินคนเดียว

อย่างไรก็ดี ขณะที่กำลังคิดว่าท่าจะ ‘เมานม’ อยู่เป็นแน่ องครักษ์หนุ่มก็ยังพอนึกได้รางๆ ว่าได้รับการอบรมสั่งสอนมาว่า
นอนกินไม่ดี

ตอนนี้หลังติดเตียงแล้ว แต่เจ้าชายหกก็ยังทรงกินสลับกับป้อนอย่างติดพัน เขาจะกราบทูลตอนไหนได้บ้าง

“อืม...”

เสียงครางประหลาดๆ ในคอเริ่มหลุดออกมา เจ้าชายรามิเรสทรงถอนพระโอษฐ์ออก เปิดโอกาสให้คนเบื้องล่างได้หายใจ ส่วนพระองค์เองยังไม่ทรงพัก แต่ขบๆ ดึงๆ อยู่แถวริมฝีปากขององครักษ์หนุ่มอยู่อีกสักพัก ก่อนสายตาสองคู่จะสบกันอยู่ชั่วอึดใจ
เขินนิดๆ...แต่ก็รู้สึกว่าเป็นธรรมชาติ

ทว่ากลับลงท้ายด้วยการที่คนอยู่บนทรงจูบปากคนรักเบาๆ ครั้งหนึ่งเป็นการส่งท้าย แล้วผละออกมา

ฟีเรียสขยับตัวจะลุกขึ้น ทว่าเจ้าชายหนุ่มรับสั่งเสียก่อน

“นอนคุยกันเถอะ”

แล้วพระองค์ก็ทรงเอนองค์ลงข้างๆ

องครักษ์หนุ่มพยายามปัดความรู้สึกวูบโหวงในอกทิ้งไป อีกฝ่ายไม่ได้ชอบผู้ชายเหมือนเขา จะหมดอารมณ์กลางคันก็ไม่แปลก แค่จูบก็ดีถมไปแล้ว ถึงเขาจะอารมณ์ขึ้นมาเยอะแล้วก็เถอะ

“กลับไป ถ้ามีเวลา เราไปกินอาหารที่ร้านพรีเชียสกันดีไหม คิดถึงแม่หนูนั่น” คิดเรื่องไกลๆ เข้าไว้ ให้ออกห่างจากเรื่องบนเตียง ไม่อย่างนั้นคงได้ทำให้ฟีเรียสเครียดเพิ่มขึ้นอีกแน่

ยิ่งเครียดเรื่องแม่อยู่ แค่ยอมอยู่ในห้องกับพระองค์แบบนี้ก็เหนือความคาดหมายแล้ว ถ้าทำตามพระทัยพระองค์เองมากกว่านี้ ฟีเรียสคงเครียดตาย

ถึงจะอิจฉาผู้ชายที่ได้เป็น ‘คนแรก’ ของอีกฝ่าย แต่ก็อยากจะให้ ‘ครั้งแรก’ ของพระองค์กับเขาดำเนินไปด้วยดี เป็นความทรงจำที่ดีอีกอย่างหนึ่งระหว่างกัน...ทดแทนความทรงจำอันเลวร้ายในคืนนั้น คืนที่พระองค์ทรงจำไม่ค่อยได้

“...พระเจ้าค่ะ”

“เจ้าว่าผู้หญิงคนนั้นจะเลิกชอบเจ้าแล้วรึยัง ข้าให้ค่าจ้างแม่หนูนั่นเพิ่ม แล้วให้ช่วยบอกว่าเจ้าเป็นผู้ชายไม่ดี ไม่คู่ควรกับนาง ดีรึเปล่า” คนตรัสถามทรงเอียงพระพักตร์มามอง

ฟีเรียสมองพระพักตร์ยิ้มๆ ของอีกฝ่าย แล้วก็พยายามตัดความกังวลทิ้งไป เขายิ้มบางๆ ตอบ

“ฝ่าบาททรงหึงกระหม่อมหรือพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายรามิเรสทรงพระสรวลเบาๆ

“ไม่หึง...ก็คงจะแปลก”

ฟีเรียสยิ้มไม่ออกแล้ว เขาจะจำไว้ ว่านี่เป็นคำถามฆ่าตัวตาย สิ่งที่เพิ่งตระหนักเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างก็คือ เขากำลังปล่อยตัวตามสบายกับ ‘เจ้าชาย’ และพระองค์ก็ทรงทำตัวตามสบายกับเขามากกว่าที่ผ่านๆ มา

นอนอยู่ข้างกัน หน้าอยู่ใกล้กัน

และอารมณ์ที่เขาพยายามจะกดเอาไว้ก็กำลังจะลุกขึ้นมาอีกรอบ ทว่าก่อนที่เขาจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง อีกฝ่ายก็ทรงชูฝ่าพระหัตถ์ข้างขวาขึ้นมาเสียก่อน ฟีเรียสมองพระพักตร์อย่างสงสัย เจ้าชายหนุ่มไม่รับสั่งอะไร เพียงแค่ชูเอาไว้อย่างนั้น

ผ่านไปสักพัก องครักษ์หนุ่มก็ค่อยๆ ยกมือซ้ายของตัวเองไปทาบ

เจ้าชายรามิเรสทรงจับมือของเขาเอาไว้ แล้วดึงลงมาบนเตียง

ฟีเรียสหันไปมองพระพักตร์ ทว่าอีกฝ่ายทรงหันกลับไปมองเพดานดังเดิมแล้ว มองจากด้านข้าง ยังเห็นมุมพระโอษฐ์ยกขึ้นนิดๆ
องครักษ์หนุ่มหันกลับไปมองเพดานบ้าง เขาหลับตาลง พลางนึกก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ

เขานิสัยไม่ดี เขาเป็นผู้ชายที่แย่มาก เจ้าชายหกคงไม่ได้ทรงคิดอะไรเลย นอกจากอยากจะให้กำลังใจเขา แต่เขากลับยิ่ง...อยาก มากขึ้นเรื่อยๆ มือข้างที่ว่างก็ชักจะไม่ค่อยอยู่สุข ขยับจะเลื่อนไปกลางลำตัวอยู่เรื่อย

ฟีเรียสคิด คิด คิด พยายามหาเรื่องหดหู่มาดับไฟอารมณ์ของตัวเอง

“แม่ถามกระหม่อมพระเจ้าค่ะ ว่ากระหม่อมมีคนรักหรือยัง”

เจ้าชายหกทรงหันไปมองหน้าคนพูด แต่องครักษ์หนุ่มไม่ได้หันมามองตอบ แถมยังช่างเว้นวรรคนานได้ถูกจังหวะเสียอีก ทำให้พระองค์ต้องทรง ‘ลุ้น’ อยู่นาน

“กระหม่อมตอบไปว่า มีแล้วพระเจ้าค่ะ” คนฟังโล่งพระทัยได้ไม่นานก็ต้องชะงักอีก “นางถามอีกว่าคนรักของกระหม่อมเป็นผู้หญิงใช่ไหม...กระหม่อมตอบว่าใช่”

ทอดพระเนตรสีหน้าด้านข้างของคนพูดอยู่ครู่ เจ้าชายหนุ่มก็ทรงหันกลับไปทอดพระเนตรเพดานดังเดิม

“กระหม่อมขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ แต่กระหม่อมไม่พร้อมจะเห็นแม่เสียใจ นางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ นางพูดถึงความหวัง ว่าอยากจะให้กระหม่อมแต่งงานกับผู้หญิง อยากเห็นกระหม่อมมีลูก กระหม่อมรู้ว่าทำผิดต่อฝ่าบาท แต่กระหม่อมยังไม่กล้าบอกแม่ ถึงแม้ว่านางพูดเหมือนจะรู้ว่ากระหม่อมกับฝ่าบาท...เป็นมากกว่าเจ้านายกับผู้ใต้บังคับบัญชา” ฟีเรียสเว้นวรรค “กระหม่อมไม่อยากเลือก แต่กระหม่อมก็รู้ว่าจะต้องเลือก กระหม่อมเคยคิดว่า แค่ทำตัวให้เป็นปกติ ไม่ให้แม่สงสัยก็พอ แล้วก็อยู่ไปอย่างนี้เรื่อยๆ จนอายุสามสิบสี่สิบก็ไม่ต้องแต่งงาน” องครักษ์หนุ่มหยุดไปนิดหนึ่ง แล้วก็สรุป “แต่กระหม่อมไม่อยากปิดบังนางพระเจ้าค่ะ นางเป็นแม่ เป็นคนในครอบครัว” 

เจ้าชายรามิเรสทรงกระชับพระหัตถ์ บีบมือของคนอารมณ์พลุ่งพล่านเอาไว้

“ไม่เป็นไร” พระสุรเสียงทุ้มเบา ปลอบประโลม “ถ้าถึงเวลาที่ต้องเลือก เจ้าจะเลือกแม่ของเจ้าก็ได้ ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องเสียใจ และไม่ต้องรู้สึกผิด” เลือกคนที่เขารักมากที่สุดเถิด ส่วนวิธีการที่จะทำให้ได้เขามาอีกครั้ง ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระองค์เอง
ฟีเรียสหลับตาลง ปล่อยให้น้ำตารินลงมาเงียบๆ

เจ้าชายหกบรรทมตะแคง ใช้พระหัตถ์อีกข้างหนึ่งปาดน้ำตาออกให้

องครักษ์หนุ่มลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว จับข้อพระหัตถ์ไว้ แล้วพลิกตัวขึ้นทาบทับอีกฝ่าย เขามองพระพักตร์ของคนที่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างแต่โดยดีอยู่ชั่วอึดใจ แล้วก้มลงใช้ปากครอบครองพระโอษฐ์ บดเบียดและดูดดึงเอาอย่างตะกรุมตะกราม ขบ กัด เกี่ยวกระหวัดเรียวลิ้นเข้ากับพระชิวหา

จูบครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างเต็มอารมณ์

กว่าจะถอนริมฝีปากออกมา ลมหายใจก็ร้อนผ่าวและถี่กระชั้น

มือของเขาอยู่บนพระวรกายของพระองค์ ส่วนพระหัตถ์ของพระองค์ ก็อยู่ตรงหลังและเอวของเขา

ส่วนกลางลำตัว แข็งขันขึ้นมาเบียดกันจนรู้สึกได้

เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงไล้พระองคุลีลงบนริมฝีปากขององครักษ์ประจำพระองค์เบาๆ

“ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการ เพียงแต่ไม่อยากให้เจ้าเสียใจหลังจากมันผ่านไปแล้ว อยากให้ครั้งแรกของเราเป็นเวลาที่เจ้าสบายใจกว่านี้”

“...”

“ตกลงไหม”

ฟีเรียสพยักหน้า







ไม่มีความกังวลสงสัยตกค้างอยู่ในหัวใจของเขาอีกแล้ว

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #666 เมื่อ22-11-2014 20:46:30 »

เชื่อว่าแม่และน้องสาวต้องเข้าใจและรักฟีเรียสมาก ยังไงก็คงยอมให้ฟีเรียสมีความสุข ยังไงก็แค่อยากให้ฟีเรียสลองทำให้แม่เชื่อมั่นก่อน

อ่านตอนนี้แล้วเขินหนัก ฉากหวานๆปนเรทที่หายาก :-[

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #667 เมื่อ22-11-2014 21:05:42 »

 :-[....ไร้ซึ่คำบรรยาย รู้แต่ว่ามันช่างเป็นบรรยากาศที่มุ้งมิ้งปนเศร้านิดหน่อย แต่ก็พอเข้าใจนะว่าสมัยก่อนเรื่องพวกนี้มันมีแต่ไม่ค่อยมีคนเปิดเผยกัน

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #668 เมื่อ22-11-2014 21:10:11 »

โอ๊ยๆๆ เขินแทน

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #669 เมื่อ22-11-2014 21:15:23 »

หวานแบบอึมครึมแท้ๆเลย รอการแสดงความรัต่อกันอย่างลึกซึ้งของทั้งสอง  :o8:

ปกติไม่ได้หื่นนะ  :hao3:(จริงๆ) แต่สองคนนี้ผ่านเส้นทางอันยาวไกลกว่าจะเข้าใจกัน แหม่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
« ตอบ #669 เมื่อ: 22-11-2014 21:15:23 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






สวยโฉดผู้เลอโฉม

  • บุคคลทั่วไป
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #670 เมื่อ22-11-2014 21:33:27 »

ละมุนจังงงงง รักเจ้าชายยย
ขอให้สมหวังกันด้วยดีเถอะนะ
ไม่อยากให้ใครต้องเสียใจแล้ว

ออฟไลน์ Buppha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • https://m.facebook.com/buppha.manisaeng?refid=13
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #671 เมื่อ22-11-2014 21:39:23 »

 :-[  เขิน ละลายแป๊ปปปปปป  :L1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #672 เมื่อ22-11-2014 21:53:43 »

กว่าจะผ่านแต่ละวันแต่ละคืนช่างทรมานเหลือเกิน จะหวานก็หวานไม่สุด ปนขมอยู่อย่างนี้ถึงเมื่อไร

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #673 เมื่อ22-11-2014 22:13:05 »

หวานอมขมจริงๆ อึมครึมเบาๆ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #674 เมื่อ22-11-2014 22:43:07 »

เป็นคู่ที่ละเมียดมากกกกกกกกกก
ให้เวลาค่อยๆ ทำให้ทุกอย่างชัดเจน รักอ่ะเนอะ แต่คู่นี้ทำให้รู้สึกว่าอะไรที่ก่อร่างฐานมั่นคงนี่มันกิ๊วก๊าวมาก -///-
อ่านแล้วแบบอยากจิกหมอนให้ขาดเวลาหวานใส่กัน

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #675 เมื่อ22-11-2014 23:01:46 »

อุปสรรคมีไว้พิสูจน์รักแท้จริงๆ
ถึงจะมีความทุกข์ แต่ก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆนะ
สู้ต่อไปค่ะ แฟนคลับเป็นกำลังใจให้ :กอด1:

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #676 เมื่อ22-11-2014 23:34:24 »

มันอิ่มมากทั้งที่ควรจะดราม่า สองคนนี้ควรคู่แก่การใช้คำว่าคนรักจริง ๆ คืออยู่ข้างกัน มีอุปสรรคก็เป็นกำลังใจให้กันผ่านไปด้วยกัน โฮ้ยยยย คือไม่ต้องเยอะแต่มัน แอร๊ยยย ฟินนนนนนน  :heaven   
ให้เวลาเรเซียทำใจ เพราะองค์ชายหกถึงจะยอมแต่ไม่ปล่อยมือแน่ เห็นดูฉลาดนี่ฉลาดกว่าที่คิดอีกนะคะ น้ำนิ่งไหลลึกมากองค์ชาย

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #677 เมื่อ22-11-2014 23:42:41 »

เจ้าชายคือน่ารักชอบตรงบอกว่าเลือกแม่ก็เลือกเถิด เดี๋ยวจะหาวิธีให้ได้กลับมาเอง ถถถถถ มิมีย่อท้อค่ะเจ้าชายฉัน น่ารักมาก
ฟีเรียสเครียดไปหมด คือปกติก็เป็นคนเครียดง่าย ยิ่งเรื่องคนในครอบครัวแบบนี้เรื่องใหญ่เลย
ว่าแล้วคนอื่นต้องรู้ ก็เจ้าชายทรงพระเปิดเผยมากกกก 555

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #678 เมื่อ22-11-2014 23:47:41 »

อยากอ่านอีกก ค้างงงที่สุดดด

ปล.รวมเรื่องสั้นลมไปแล้วเหรอ แงงง อยากอ่านขอโทษ..ที่รัก

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #679 เมื่อ23-11-2014 00:08:59 »

อย่ามาม่าจิ ไม่เอาๆเพคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
« ตอบ #679 เมื่อ: 23-11-2014 00:08:59 »





ออฟไลน์ loyal_mook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #680 เมื่อ23-11-2014 00:21:03 »

ทั้งที่ควรจะดราม่า แต่มันเขิน มันอบอุ่น มันละมุน อรั้ยยยย  :-[

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #681 เมื่อ23-11-2014 02:53:11 »

เค้าเป็นผู้ชายที่ดีมากเลยนะ ฟีเรียส ขืนเจ้าจะเลือกแม่ แต่ข้าก็เสียดายผู้ชายดีๆแบบเจ้าชายไปอยู่ดี หวังว่าแม่และน้องจะรับได้ จะได้รักกันสักที ความรักแบบหวานปนขมสินะ

ออฟไลน์ Pine_apple

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #682 เมื่อ23-11-2014 06:58:20 »

อึมครึมกันจริ๊งงง  :m31:
ถ้าเราเป็นแม่จะบอกลูกว่า "จะรักใครก็ได้ ตราบใดที่ใครคนนั้นคือคนที่เจ้ารัก"

 :ruready เลี่ยนตัวเองแป๊บนะคะ  :a5:

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #683 เมื่อ23-11-2014 09:09:08 »

อยากให้ 'รักแรก' ครั้งนี้เป็นรักที่สมหวัง จริงจัง

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #684 เมื่อ23-11-2014 13:40:58 »

จะเป็นยังไงต่อค้า :ling1:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #685 เมื่อ23-11-2014 13:42:31 »

ชอบเจ้าชายมากกกกกกกกกกกก  ถ้าฟีเรียสจะเลือกแม่ก็เลือกไป
แต่เจ้าชายจะหาทางมาเอาฟีเรียสกลับไปในที่สุด ... มันต้องยังงี้สิ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #686 เมื่อ23-11-2014 15:28:07 »

ฟีเรียสมั่นคงหน่อย... เจ้าชายเป็นแบคที่ดีนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #687 เมื่อ23-11-2014 16:59:24 »

อุต๊ะ มาต่อแล้ว ดีใจจัง เราเลยได้อ่านรวดเดียว
พักนีัทำงานหนักขาด วิต่มินวาย ขอบคุณมากคะ สำหรับเรื่องนีั

ออฟไลน์ tay028643904

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #688 เมื่อ23-11-2014 18:49:54 »

อ๊ากกกกกกกก >     <'
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 29 (22 พ.ย. 57) หน้า 23
«ตอบ #689 เมื่อ23-11-2014 19:59:08 »

ไม่ข้องใจ ไม่คาใจซักนิดเลยค่ะ
ยิ่งยากยิ่งต้องพยายามนะจ้ะทั้งคู่ สู้ๆ!!
 :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด