ตอนที่ 34ชนนน “แม่ง! ไอ้โชคร้ายมันจะมาทำไมวะ มึงดูๆ มันมองสุดหล่อกูไม่ละสายตาเลย เชี่ยเอ๊ย!”
เกมในสนามไม่ต้องดูกันแล้ว ผมสะกิดไอ้เพื่อนเลิฟที่นั่งข้างๆให้ดูไอ้โชคร้ายที่นั่งอีกฝั่งของสนาม แต่ดูท่าการกระทำของผมจะไม่ได้รับความสนใจจากไอ้ธันว์และไอ้นลินสักเท่าไหร่ แถมจะเป็นการกวนใจพวกมันในการดูการแข่งขันอีกแน่ะ
“นน มึงสนใจเกมในสนามก่อนมั้ย ดูสุดหล่อของมึงนู่น...เฮ้ย! ปล่อยมันแย่งบอลไปได้ไง” ฟังไอ้ธันว์มันพูดกับเพื่อนที่กำลังทุกข์ใจอย่างผมซะก่อนเถอะ ‘มันน่านัก เหอะ!’
ไอ้ธันว์ยังไม่เท่าไหร่มาฟังไอ้หญิงซ่าประจำกลุ่มผมสิ นี่ยังไม่รวมพฤติกรรมการพูดไม่มองหน้าเพื่อนอย่างผม และอาการฮึดฮัดปัดมือผมออกอย่างรำคาญด้วยนะเนี่ย
“หึ! นนมึงก็นั่งนิ่งๆหน่อย หยุกหยิกๆอยู่นั่น กูเสียสมาธิหมด ไอ้โชคนั่นมันก็แค่มอง แฟนมึงไม่สึกไม่หรอหรอกน่า...เฮ้ยๆ เยส! นำแล้วโว้ย มึงดูๆ แฟนมึงโคตรเท่ ขโมยลูกไอ้เบอร์สองคืนมาได้ วิ่งปรู๊ดเดียวยัดใส่ห่วงเลยว่ะ เจ๋งโคตร เฮๆๆ พี่เบสเอาอีกๆ” ‘นั่นปะไรไม่มีสนใจกู แต่ชื่นชมเมียกูซะออกนอกหน้า ชิ!’
ไอ้เรื่องดีใจผมก็ดีใจอยู่หรอกที่สุดหล่อเมียรักทำคะแนนให้ทีมขึ้นนำน่ะ แต่อาการดีใจออกนอกหน้าตะโกนเรียกชื่อเมียผมของไอ้โชคร้ายที่ผมเห็นนี่ดิ ทำเอาผมอยากจะเข้าไปเอานิ้วจิ้มตา และหาอะไรยัดปากแม่งให้รู้แล้วรู้รอด ไหนไอ้แปงมันว่าจะจัดการไอ้โชคร้ายให้ไงวะ แล้วทำไมมันถึงโผล่มาเชียร์เมียผมในรอบชิงของวันนี้ได้ แถมมาในวันที่สถานการณ์ระหว่างผมกับสุดหล่อไม่ปกติด้วยนี่สิ
แม้เมื่อคืนเหมือนสถานการณ์ระหว่างเราดูเหมือนจะดีขึ้น เบสยอมพูดด้วยและให้ผมนอนค้างที่บ้าน แต่ก็เป็นการนอนห้องเดียวกันที่ผมหนาวกายและใจมากที่สุดคืนหนึ่ง จะอะไรเล่า!? ถ้าไม่ใช่เพราะเมียรักให้ผมนอนบนพื้นข้างเตียง ผมเองจึงได้แต่แอบมองหน้าเมียตอนหลับ อยากจะขึ้นไปลักกอดก็ไม่กล้า ด้วยกลัวเรื่องจะเลวร้ายไปกว่าเดิม ซ้ำร้ายเช้ามาเมียแค่มองหน้าไม่มียิ้มแย้มให้ชื่นใจสักนิด แถมถามไปหลายคำดันตอบมาคำเดียวซะอีก เล่นเอาผมห่อเหี่ยวหน้าม่อย
จนกระทั่งเราถึงสนามแข่งนี่แหละ สุดหล่อถึงเริ่มคุยกับผมบ้าง แต่ก็เป็นไปเพราะความจำใจ ด้วยพวกไอ้แปงและบรรดาเหล่าทโมนที่แสนร่าเริง ชวนคุยบ้างแซวบ้างนั่นเอง แต่แค่นั้นผมก็ดีใจมากแล้วเหอะ ซึ่งผมก็ได้ยิ้มเต็มหน้า เมื่อผมเข้าไปอวยพรสุดหล่อเมียรักช่วงก่อนลงแข่ง แล้วสุดหล่อเอ่ยขอบคุณพร้อมยกยิ้มน้อยๆคืนกลับมา เรียกได้ว่าไอ้นนแทบละลายกับความหล่ออยู่ตรงนั้นเลยล่ะ แต่นี่อะไรไอ้โชคร้ายโผล่มาให้ได้อารมณ์เสีย
“แปงเป็นอะไร ทำไมไม่ค่อยมีสมาธิเลย เรื่องเกมน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ขืนยังเป็นแบบนี้จะเจ็บตัวเอานะ ตั้งใจหน่อยครับ” ผมเหล่หางตามองไอ้แปง ขณะที่มือยื่นขวดน้ำบริการให้เมียรูปหล่อที่แม้จะเหงื่อซก แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความหล่อเหลาลงแม้แต่น้อย
“ครับ ผมจะพยายาม” ไอ้แปงรับคำเบสด้วยสีหน้าเครียดจัด มีแอบเหลือบสายตาอาฆาตไปยังอีกฝั่งสแตนด์
อาการแบบนี้ชัดเลย ผมกับมันมีต้นเหตุแห่งความหงุดหงิดเป็นคนๆเดียวกันคือ ‘ไอ้โชค’ ผมจึงกระแซะไอ้แปงก่อนสะกิดแขนมัน พลางมองสุดหล่อไปด้วย ดีที่ตอนนี้เบสกำลังให้คำแนะนำลูกทีมคนอื่น จนไม่ได้สนใจอาการลับๆล่อๆของผม
“ไหนมึงว่าจะจัดการมันไงวะ แล้วไงมาโผล่ที่นี่ได้” ไอ้แปงหน้าบูดยิ่งกว่าเดิม ก่อนกระดกน้ำอักๆไปหลายอึก จนผมกลัวแม่งจะสำลักน้ำแล้วพุ่งใส่หน้าชะมัด และมีหันไปมองไอ้โชคร้ายด้วยสายตาอาฆาต
ไอ้ฝ่ายที่โดนมองก็เหมือนจะรับรู้ถึงรังสีอาฆาตจากไอ้แปง เพราะไอ้โชคดันเบือนหน้ากลับมาทางนี้ และมีสะดุ้งเมื่อเห็นว่าไอ้แปงมองอยู่ ก่อนมันจะหน้าซีดและทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ชวนเพื่อนที่มาด้วยคุยแทนซะงั้น พอผมหันมามองไอ้แปงอีกครั้ง พบว่าหน้าขาวๆของมันเวลาแสยะยิ้มเหี้ยมๆก็น่ากลัวใช่เล่น จึงไม่นึกแปลกใจเลยว่าทำไมไอ้โชคถึงดูลนลานซะขนาดนั้น
“คนมันดื้อน่ะพี่ เจอไปขนาดนั้นยังไม่เข็ด แสดงว่าอยากโดนอีก หึ!” คุณกำลังคันคะเยออยากรู้เหมือนผมมั้ย ไอ้คำว่า ‘โดน’ น่ะมันคือโดนอะไร แต่ผมยังไม่ทันได้ซักไซ้ไอ้แปงต่อ กัปตันทีมรูปหล่อก็เรียกมันซะก่อน แถมสุดหล่อยังตวัดสายตาไม่ไว้ใจมาอุดปากผมได้ชะงัดอีกแน่ะ
เกมครึ่งหลังดำเนินไปอย่างน่าตื่นเต้น ทั้งไอ้นลินไอ้ธันว์ลุกขึ้นตะโกนเชียร์สุดตัว ไม่ต่างจากกองเชียร์ของโรงเรียนเรา รวมทั้งไอ้จิ้งจกถูกประตูหนีบนั่นด้วย และหัวใจของคนเกือบทั้งสนามก็แทบหยุดเต้น เมื่อไอ้แปงโดนกระแทกจนล้มไม่เป็นท่า ในช่วงที่เทคตัวขึ้นชู้ตใต้แป้น สำคัญเป็นแต้มที่จะทำให้ทีมเราทิ้งห่างทีมคู่แข่งในช่วงสองนาทีสุดท้าย ก่อนคนครึ่งสนามจะโห่ไล่ไอ้คนทำฟาล์ว
ส่วนไอ้แปงลงไปนอนตัวงอกลางสนาม ทำให้เกมต้องหยุดไปชั่วขณะ ก่อนโค้ชและบรรดานักกีฬาฝ่ายเราจะปรี่ไปดูอาการมัน และหิ้วปีกพาไอ้แปงที่มีสีหน้าเจ็บปวดมาดูอาการข้างสนาม ผมจึงต้องลุกมาช่วยเป็นแพทย์สนามชั่วคราว
“เป็นไงมั่งวะมึง”
“แม่ง! เล่นทีเผลอ ซี้ด จุกว่ะพี่ หายใจยังเจ็บ อูยยย” น้ำเสียงและสีหน้าไอ้แปงบอกว่าไม่สำออย แถมหลักฐานจ้ำแดงขนาดใหญ่ที่หน้าท้องก็ยืนยันได้ดี มันคงโดนศอกฝ่ายตรงข้ามมาอย่างแน่นอน
“แปงพักก่อน ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพี่จัดการต่อเอง ทีมเราต้องชนะ!” ประโยคดังกล่าวถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ที่มาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นก่อเกิดความรู้สึกสบายใจ ทำให้คนที่ได้ยินไม่เฉพาะไอ้แปงกับผมเท่านั้นนะ รู้สึกไว้วางใจและเชื่อมั่นขึ้นมาได้อย่างประหลาด
จนดูเหมือนว่ารอบกายเบสตอนนี้ มีออร่าสีทองทอประกายปกคลุมไปทั่วร่าง ไม่ต่างจากเทวดาแห่งชัยชนะกำลังยืนอำนวยพรให้แก่นักกีฬาทีมบาสสักนิด
“ครับ! เราต้องชนะ ผมฝากด้วยครับพี่” ไอ้แปงถึงกับลืมเจ็บ ลุกตะแคงตัวฉีกยิ้มและยื่นมือมาจับมือกับสุดหล่อของผม ก่อนเบสจะรับคำและวิ่งกลับเข้าสนาม เมื่อกรรมการเรียกตัวให้เริ่มแข่งต่อ โดยมีตัวสำรองของทีมลงไปเล่นแทนไอ้แปง
สุดหล่อของผมก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยเก็บสองแต้มรวดจากการชู้ตลูกโทษที่ฝ่ายตรงข้ามทำฟาล์วไว้ ก่อนจะมีเสียงตะโกนเสียงกรีดร้องดีใจลั่นสนาม ด้วยสองคะแนนที่เพิ่งได้มา ไม่ต่างจากที่ทีมโรงเรียนเราสามารถคว้าถ้วยชัยมาไว้ในมือสักนิด เพราะอีกสองนาทีจะหมดเวลา อีกทีมคงไม่สามารถทำคะแนนตีตื้นได้ทันหรอก แต่ดูเหมือนว่าสุดหล่อของผมก็ไม่ประมาท เบสตะโกนสั่งลูกทีมเสียงเข้มให้รีบกลับมาตั้งรับในแดนตัวเอง ด้วยทีมตรงข้ามก็ไม่หมดแรงฮึด หวังเล่นเกมเร็วเก็บแต้มเพิ่ม ไม่ให้เสียศักดิ์ศรีของคู่ชิงในวันนี้ ซึ่งสุดท้ายทีมตรงข้ามก็ไม่สามารถฝ่าการตั้งรับของทีมเราเพื่อเก็บคะแนนเพิ่มได้
วันนี้ผมจึงได้เห็นรอยยิ้มกระจ่างบนใบหน้าหล่อเหลาที่ผมแสนรักอีกครั้ง ทำให้ผมรู้ว่าผมคงตกหลุมรักทั้งรอยยิ้มและเจ้าของรอยยิ้มนี้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นนั่นแหละ จะต่างจากปีที่แล้วก็ตรงที่ ผมไม่ต้องคอยชื่นชมรอยยิ้มน่ามองนี้อยู่เพียงขอบสนาม แต่ผมสามารถชื่นชมอย่างใกล้ชิดติดตัวติดปากเลยทีเดียว
ทันทีที่กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา ผมก็พุ่งเข้าหาสุดหล่อเมียรักที่กำลังระบายยิ้มเต็มหน้าทันที ก่อนจะอุ้มเจ้าตัวขึ้นเพื่อแสดงความยินดี ด้วยความดีใจอย่างอดใจไม่อยู่ และอาศัยช่วงชุลมุนที่เหล่าลูกทีมเข้ามาห้อมล้อมเราไว้นั้น ฟัดแก้มจุ๊บปากเมียรักไปทีสองที ซึ่งสุดหล่อเองก็เหมือนจะมัวแต่ดีใจ จนไม่ทันรู้ตัวว่าโดนผมค้ากำไรด้วย แถมยังมีมากอดคอพร้อมส่งยิ้มมาเป็นของกำนัลให้ผมอีก เล่นเอาผมตาพร่าหายใจติดขัดไปเลย แต่ผมก็ต้องตัดใจคลายกอดปล่อยให้เบสได้ใช้เวลากับเหล่าลูกทีม โดยผันตัวเองเป็นผู้สังเกตการณ์มายืนยิ้มกริ่มอยู่ข้างสนาม และมีสองเพื่อนซี้ที่ลงจากสแตนด์มายืนขนาบข้าง ด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าไม่ต่างกัน
“กูเห็นนะ ร้ายนะมึง ฮึๆ” ผมทำอะไรไม่เคยรอดพ้นสายตาไอ้เพื่อนคนนี้สักที แล้วฟังไอ้นลินมันหัวเราะสิครับ กวนได้อีก และไม่ใช่แค่เสียงที่กวนนะ ใบหน้าหญิงซ่าก็กวนไม่แพ้กัน
“กูก็เห็น และ...นั่น แฟนคลับพวกมึงก็เห็น นน! ฮ่าๆ” ผมมองตามปลายนิ้วไอ้ธันว์ไปอีกฝั่งของสนาม และต้องสะดุ้งกับแสงแฟลชเสียงกรี๊ดลั่น
“เฮ้ย! ซวยล่ะกู ลืมไปได้ไงวะ” ผมล่ะไม่อยากจะคิดว่าคืนนี้รูปที่ผมแอบค้ากำไรจากสุดหล่อไปเมื่อครู่ จะว่อนไปทั่วเว็บแฟนเพจมากขนาดไหน เท่าที่ดูจากจำนวนมือถือและกล้องที่ปล่อยแฟลชวูบวาบนั่นก็ไม่ใช่น้อย ซึ่งนั่นหมายความว่าผมมีสิทธิ์จะโดนสุดหล่อโกรธมากตามไปด้วย
ผมได้แต่ยืนกุมขมับท่ามกลางความดีใจในชัยชนะของทุกคน และความสะใจของสองเพื่อนสนิท แต่แล้วกลับมีสิ่งมีชีวิตสองสิ่งที่แสนแปลกแยก เพราะจากหางตาผมเห็นว่าไอ้แปงนั่งพักเจ็บอยู่ข้างสนาม โดยมีบุรุษพยาบาลหน้าโคตรคุ้น คอยส่งผ้าส่งน้ำให้ด้วยท่าทางเจี๋ยมเจี้ยม
เมื่อสังเกตดีๆผมถึงได้รู้ว่า ไอ้แปงแม่งก็แค่แกล้งเก๊กดุวางมาดเข้มใส่ไอ้โชคเท่านั้น เพราะมันคอยชำเลืองไอ้โชคยามเผลอ และมีอมยิ้มเหมือนถูกใจยามเห็นไอ้โชคทำท่าหงอใส่มัน ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าไอ้แปงถูกใจไอ้โชคเข้าแล้ว ส่วนไอ้โชคร้ายที่ยอมให้ไอ้แปงข่มขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นคนยอมคนโดยสันดาน ซึ่งคนสมัยนี้หาได้ยากแล้ว ก็คงต้องติดใจหรือนึกถูกใจไอ้แปงอยู่เหมือนกันนั่นแหละ คิดได้แบบนี้ผมถึงกลับโล่งอก
“นนยิ้มอะไร พี่เบสเดินมาโน่นแล้ว” ไอ้ธันว์ยื่นหน้ามาพร้อมโบกมือผ่านหน้าผม ก่อนจะสะกิดและชี้ชวนให้มองสุดหล่อเมียรักที่กำลังระบายยิ้มเต็มหน้า เดินมาท่ามกลางเหล่าทโมนที่มีสีหน้าระรื่นอิ่มใจไปกับชัยชนะ
“เหนื่อยมั้ยครับ นนซับเหงื่อให้เนอะ แหะๆ” จะไม่ให้ผมหัวเราะเสียงแห้งได้ไงกัน
สุดหล่อกลับมาโหมดมาคุอีกแล้วครับ ตาที่มองผมงี้คมกริบทำเอาหดมือแทบไม่ทัน เอ๋!? หรือว่าผมจะถูกจับได้ว่าแอบค้ากำไรกับเมียไว้แล้วกันแน่ ท่าทางของผมตอนนี้คงตลกมาก เพราะสองเพื่อนซี้มันหันไปหัวเราะไม่มีเสียงใส่กัน พอผมถลึงตาใส่กลับไม่สลด แต่พอสุดหล่อหันไปเท่านั้นแหละครับ สงบเสงี่ยมส่งยิ้มหวานแสดงความยินดีให้เมียผมในทันที น่าหมั่นไส้มาก โดยเฉพาะไอ้ธันว์ที่แย่งความสนใจของเบสไปจากผมจนหมด และเหมือนสุดหล่อจะนึกขึ้นได้ว่าลืมไอ้รุ่นน้องคนสนิทไปเสียแล้ว เบสเหลียวมองรอบตัวเลิ่กลั่กก่อนหันมาทางผมด้วยสีหน้าตื่นๆ
“แปงไปไหนแล้วนน” ผมก็ได้แต่ส่ายหัว เพราะล่าสุดเห็นมันอยู่กับไอ้โชค
“ผมเห็นคนที่เคยแข่งกับทีมเราหิ้วปีกไอ้แปงออกไป สงสัยไปห้องพยาบาลน่ะพี่” ไอ้เด็กตัวสำรองที่ยืนใกล้ๆกลุ่มเราตะโกนบอกมา
ฟังแล้วก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ซึ่งสุดหล่อก็คงคิดไม่ต่างจากผม เพราะเมื่ออาจารย์โค้ชเรียกรวมตัวเพื่อรับถ้วยรางวัล จึงได้วิ่งตามนักกีฬาในทีมคนอื่นๆไป
“ไอ้แปงกับไอ้นักกีฬาคนนั้น มันต้องมีอะไรแน่ๆ เซ้นท์กูมันบอก” เซ้นท์ผู้หญิงนี่น่ากลัวเนอะ แล้วยิ่งเป็นเซ้นท์ของไอ้ผู้หญิงซ่าอย่างไอ้นลินแล้วด้วย
“แปง!? นักกีฬาคนนั้น!? คนไหนอ่ะมึง” ไอ้นี่ก็ตามใครไม่เคยทัน ซื่อจนเซ่อ แต่ก็ดีแล้วครับเหลือใสๆอย่างไอ้ธันว์ไว้ในกลุ่มเราสักคนก็ดี น่าเอ็นดูดีไม่หยอก
ไอ้นลินเองคงคิดไม่ต่างจากผม ด้วยยกมือขยี้หัวไอ้ธันว์จนฟูฟ่องกลายเป็นดูไม่ได้ซะงั้น ไอ้ธันว์นอกจากไม่ได้คำตอบที่ต้องการ กลับต้องมาทำหน้าบูดให้ไอ้นลินล้อเลียนอยู่อย่างนั้น
ส่วนผมเลิกสนใจมันทั้งคู่ตั้งแต่ได้ยินประกาศ เพื่อมอบรางวัลให้แก่นักกีฬาแล้ว ผมกลายเป็นติ่งสุดหล่อรีบวิ่งไปอยู่หน้าสุด เพื่อเก็บภาพเมียรักขณะรับถ้วยรับเหรียญ จนน้องๆเอฟซียังต้องหลบให้ แต่ก็มีแซวขำๆบ้างว่านี่ถ้าไม่ใช่ผมแล้วมาแทรกมาเบียดแบบนี้นะ มันผู้นั้นคงได้โดนรุมกินโต๊ะไปแล้ว ได้ฟังผมถึงกลับสะดุ้งก่อนจะรีบบรรจงปั้นยิ้มหล่อๆไปเป็นของกำนัล เล่นเอาสาวๆกรี๊ดกันถล่ม จนกลายเป็นจุดสนใจมากกว่าคนที่รับถ้วยไปซะได้
จนกระทั่งพิธีการต่างๆรวมทั้งมหกรรมถ่ายรูปผ่านไป สุดหล่อที่อารมณ์ดีเต็มพิกัดก็เริ่มคุยกับผมบ้างแล้ว ทำเอาผมยิ้มไม่หุบ จนไอ้สองตัวที่รู้ความเป็นไปของเราถึงกลับแซวไม่หยุดเช่นกัน ก่อนผมจะอาสากลับไปที่รถ เพื่อเอาบรรดาเสื้อคลุมและรองเท้าแตะมาให้สุดหล่อเปลี่ยน เพราะดูท่าแล้วสุดหล่อคงยังไม่ได้กลับบ้านง่ายๆ ทั้งเพื่อนทั้งลูกทีมใครๆก็อยากคุยกับแฟนผมกันทั้งนั้น ไอ้ครั้นจะปล่อยให้เมียโชว์หัวไหล่ขาวๆและต้องทนเมื่อยก็ไม่ใช่ผม ก่อนไปผมจึงหันไปฝากฝังเมียรักไว้กับไอ้สองเพื่อนซี้
แต่แล้วพอผมได้ของที่ต้องการและกลับมายังสนามบาส กลับไม่พบเมียรักและเพื่อนสนิท พอถามเด็กทีมบาสแถวนั้น จึงได้ความว่าสามคนนั้นพากันไปห้องพยาบาลเพื่อดูอาการไอ้แปง ผมจึงต้องหอบหิ้วของที่ไปเอามาตามไปถึงห้องพยาบาลที่อยู่อีกฝั่งของสนาม แต่เพื่อเมีย ไอ้นนทำได้อยู่แล้ว
“เฮ้ยยยย!!!” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวขาเข้าไปในห้องพยาบาลเลยครับ แต่เสียงร้องตกใจของคนไม่ต่ำกว่าสามคนดังลอดออกมา ทำให้ผมต้องเร่งซอยเท้า เพื่อจะได้เข้าไปถึงต้นตอของเสียงให้เร็วขึ้น
ภาพที่ปรากฏต่อหน้าผมตอนนี้ ทำเอาผมตะลึงค้างตัวแข็งไปสามวิ ก่อนจะได้สติและโยนของในมือทิ้งอย่างไม่ใยดี พร้อมวิ่งเข้าหาสองร่างบนพื้นที่ปากประกบปากกันอยู่ ผมออกแรงกระชากไอ้โชคที่ทับอยู่บนตัวเบสออก ก่อนจะหันมาพยุงเมียรักขึ้นจากพื้น
‘แม่งเอ๊ย! ล่อซะเมียกูปากแตกเลย’ ผมลูบริมฝีปากที่ปริแตกของเบสแผ่วเบา นาทีนี้บอกคำเดียวว่าโคตรโมโหไอ้โชคที่ทำให้เบสอยู่ในสภาพนี้ ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้ที่มันมาจูบเมียผมนั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจผมไม่สน เพราะถึงยังไงมันก็ได้จูบจากเมียผมไปแล้ว ขอเอาคืนแม่งหน่อยเถอะ ผมพุ่งตัวเข้าใส่ไอ้โชคที่กำลังยืนเอ๋อทำหน้ามึนไม่ต่างจากอีกสามคนที่เหลือ แต่ในสายตาผมหน้าแม่งโคตรกวนตีน
“มึง!!...[ผัวะ!]...อย่าให้กูเห็นอีกว่ามึงเข้าใกล้เมียกู!” อารมณ์นี้ห้ามปากไม่ทันแล้วครับ แต่คงไม่มีใครสนคำพูดผมสักเท่าไหร่
ทันทีที่ไอ้โชคโดนผมอัดหมัดเข้าหน้า จนลงไปนอนบนพื้นนั้น ทั้งไอ้นลินไอ้ธันว์หรือแม้แต่ไอ้แปงที่ร้องเสียงหลง หลังจากเห็นพฤติกรรมของผมก็เข้าไปกลุ้มรุมไอ้โชคที่มีเลือดทะลักออกจากปากและจมูก ส่วนสุดหล่อเมียรักก็ทำทีจะเข้าไปดูอาการไอ้โชคอยู่เหมือนกัน แต่ผมใช้แรงยึดข้อมือเบสไว้ไม่ยอมให้ไป
“นน! ทำเกินกว่าเหตุไปแล้ว มันแค่อุบัติเหตุ!” แม้จะได้ยินสุดหล่อพูดก็ตาม สิ่งที่ผมทำคือยืนคอแข็งประสานสายตากับไอ้โชคที่มองมา พร้อมกัดฟันข่มอารมณ์ไม่ให้เข้าไปซ้ำแม่ง เป็นใครๆก็โกรธวะ ที่เห็นชายอื่นจูบเมียตัวเองต่อหน้าต่อตา
“จริงพี่ ไอ้โชคมันสะดุดเลยล้มไปชนพี่เบส” ไอ้แปงเงยหน้ามาอธิบายเสียงระรัว เหมือนกลัวว่าผมจะเข้าไปซ้ำไอ้โชคที่อยู่ในอ้อมกอดมันบนพื้น ยามผมหันไปมองไอ้เพื่อนสนิทสองคน มันทั้งคู่ก็พยักหน้าสนับสนุนคำพูดไอ้แปง
“งั้นก็ถือว่าเป็นคราวซวยของมึงแล้วกัน” ผมหรี่ตามองไปที่ไอ้โชคอย่างเยาะหยัน เพราะไม่ว่าจูบนั้นจะเกิดด้วยเหตุผลอะไร มันสมควรโดนหมัดผมแล้วล่ะ แต่ผมก็ประเมินไอ้จิ้งจกโดนประตูทับนี่ผิดไป
“อันธพาลแบบนี้ไม่คู่ควรกับเบสสักนิด” ปากดีนักอย่าอยู่เลยมึง
“มึง!!!” ผมเกือบจะถึงตัวแม่งอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเบสกอดเอวรั้งผมไว้ทั้งตัว
“นน! ไม่เอา นน!...โอ๊ย!” เสียงร้องสุดท้ายของเบส ทำเอาผมหยุดทุกการกระทำ และผมต้องตกใจเมื่อเห็นเมียรักปากเจ่อ พร้อมมีเลือดซึมจากแผลที่ปริแตกก่อนหน้า เบสคงโดนข้อศอกผมเข้า เมื่อครู่มัวแต่โมโหจนหน้ามืด ลืมระวังว่าเมียรักจะเจ็บตัวเพราะตัวเองไปเลย
“เบสเจ็บมั้ย นนขอโทษ ให้นนดูหน่อยนะครับ” ผมรู้เลยว่าตัวเองใจสั่นและพาลให้มือที่แตะแก้มสุดหล่อนั้นสั่นไปด้วย ‘ใครทำให้เบสเจ็บตัว ผมยังเจ็บใจได้ไม่เท่าที่ตัวเองเป็นคนทำเลย ให้ตายสิ’
ระหว่างที่ผมใช้ผ้าเช็ดหน้าที่ไอ้นลินยื่นให้ซับเลือดมุมปากให้เบสอยู่นั้น ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ยามมองสบตาสุดหล่อก็ให้สะดุ้งทุกครั้ง จะเพราะอะไรถ้าไม่ใช่ เพราะดวงตาคู่สวยนั้นเปล่งประกายเรืองรองจนน่ากลัว เผลอกลืนน้ำลายไปหลายอึก ไอ้อาการอวดเก่งเมื่อครู่ก็ปลิวหายแบบไม่เห็นฝุ่น
“พี่เบส เฮียนน ผมต้องขอโทษแทนไอ้โชคด้วย” เสียงไอ้แปงที่ดังขึ้นเรียกความสนใจของผมกับเบสและไอ้สองเพื่อนซี้ให้หันไปมอง
พวกเราจึงได้เห็นว่าไอ้แปงมันลุกขึ้นยืนข้างเตียงและก้มหัวให้เราอยู่ ก่อนมันจะเซแต่ยังดีที่ไอ้โชคเลือดแม่งประคองไว้ได้ทัน ซึ่งหน้าไอ้โชคตอนนี้แม่งโคตรทุเรศลูกตา เพราะกึ่งปากกึ่งจมูกเริ่มบวมช้ำเลือดช้ำหนองแล้ว
“เรื่องจูบ มันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ และที่มันปากดีพูดไป เพราะความอวดดีไม่รู้เวลาเท่านั้น ผมขอโทษแทนมันด้วยพี่” ในเมื่อไอ้แปงยอมก้มหัวขอโทษแทนไอ้โชค ผมมีรึจะดื้อดึงอยู่ได้ ส่วนสุดหล่อไม่ต้องพูดถึง เพราะยอมยกโทษให้ตั้งแต่ประโยคแรกของไอ้แปงแล้ว
“แปง มึงจะขอโทษมันทำไม ดูหน้ากูซะก่อนแม่ง!” แน่ะ ไอ้โชคไอ้หน้าจิ้งจกมันยังไม่หมดฤทธิ์ มีง้องแง้งทำหน้าบูดใส่ไอ้แปง พร้อมชี้มาที่หน้าตัวเองเหมือนฟ้องกลายๆ
ไอ้ผมที่เตรียมเอ่ยปากยกโทษให้ เกือบจะปรี่ไปสอยมันอีกสักดอกแล้วเชียว ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงตวาดที่ดังขึ้น
“โชค! มึงหยุดสร้างปัญหาสักทีเถอะ ถ้ามึงไม่หยุด กูจับจูบแม่งตรงนี้!” เสียงไอ้แปงเล่นเอาทั้งห้องเงียบกริบ ไม่ต้องแปลไม่ต้องหาความหมายซ่อนเร้นใดๆทั้งสิ้น เพราะเพื่อนกันคงไม่มีใครใช้วิธีจูบเป็นการปิดปากหรอก
ไอ้คนโดนขู่แม่งหน้าเขียวสลับแดงจ้องไอ้แปงตาค้างไปเลย ส่วนคนอื่นๆก็ไม่ปกตินัก ไอ้ธันว์งี้แก้มแดงหูแดงตาโตจ้องไอ้แปงกับไอ้โชคสลับไปมา ไอ้นลินก็เหมือนเจอเรื่องถูกใจตามันงี้แพรวพราวกอดอกแสยะยิ้ม น่ากลัวชะมัด สุดหล่อเองก็มีอาการทำหน้าไม่ถูก มองเมินไปทางอื่นที่ไม่ใช่สองคนนั่น ทั้งๆที่แก้มใสขึ้นสีน้อยๆอย่างน่ามอง จะมีก็แต่ผมและไอ้แปงนี่แหละที่ทำตัวปกติที่สุด
“เอาเถอะ ครั้งนี้ถือว่าแล้วกันไป แต่ขออย่าให้มีอีกเป็นพอ อ้อ! แปง...กูต้องขอโทษมึงด้วยที่ทำแฟนมึงหน้าเละขนาดนั้น” ผมเป็นลูกผู้ชายพอในเมื่อมีส่วนผิด จึงยอมเอ่ยขอโทษไม่มีอิดออด แต่ดูเหมือนจะสร้างความไม่พอใจให้แฟนไอ้แปงเข้าแล้ว
“ฟะ แฟน ใครเป็นแฟนมัน” ไอ้โชคละล่ำละลักพร้อมชี้นิ้วใส่หน้าไอ้แปงไปด้วย มีมองผมตาโตอย่างตื่นตระหนกเข้าไปอีก
ไอ้นี่นิไม่ยอมรับความจริงเอาซะเลย ผมล่ะไม่อยากคิดว่าไอ้คนปากแข็งแบบนี้จะเจออะไรบ้าง
“ยังไม่รู้ตัวอีกนะมึง งั้นก็รู้ซะว่ามึงน่ะแฟนกู โชค...[จุ๊บ!]” ไม่ต้องบอกเพราะมันฟ้องด้วยภาพไปแล้ว
ผมรีบยกมือปิดตาเด็กน้อยของมาเฟียใหญ่ทันที ขืนให้ไอ้ธันว์ได้รู้ได้เห็นมากไป มันจะแก่แดดไปซะก่อน แค่นี้ไอ้ธันว์ก็ยืนอ้าปากค้างหน้าแทบระเบิดไปแล้ว และขืนมาเฟียใหญ่รู้เรื่องเข้าว่าผมมีส่วนรู้เห็น ให้มันเรียนรู้นอกห้องเรียนจะมาเอาเรื่องผมได้
ส่วนไอ้นลินที่แกร่งกล้าเกินหญิงไปไกลแล้ว ผมก็ปล่อยมันเก็บภาพประทับใจต่อไป แต่หน้ามันตอนนี้ผมเห็นแล้วโคตรสยอง อย่าไปยุ่งด้วยเป็นดีที่สุด และสำหรับสุดหล่อข้างตัวผมนั้น แม้จะนิ่งแต่แก้มงี้แดงแจ๋น่ารักน่าฟัดสุดใจ แถมมีชำเลืองมองมาที่ผมเป็นระยะ ไม่กล้าส่งสายตาเอาเรื่องอย่างเคย
ไอ้สองตัวต้นเหตุของความผิดปกติของคนในห้องตอนนี้ พวกมันได้สร้างโลกส่วนตัวกันอยู่สองคนไปแล้ว ในสายตาผมทั้งคู่ก็เหมาะสมกันดี คนหนึ่งรั่วเกรียนไม่รู้ลิมิตของตัวเอง มีอีกคนที่ดูเป็นผู้เป็นคนมาคอยควบคุมดูแลพฤติกรรม ให้อยู่ในร่องในรอยบ้างก็ดูลงตัวดีไม่น้อย ที่สำคัญผมจะได้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครมาให้ความสนใจในตัวเมียรักของผมอีก
..........................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะอ๊ะ เอ๊ะ โอ๊ะ!!! โชคแปง!?
ไม่ต้องมีใครบอกก็ฟ้องด้วยภาพเนอะ
ส่วนเรื่องยุ่งๆก็ดูท่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี (มั้งนะ รึไง
)
แต่คงต้องมาตามดูในตอนหน้าว่าชนนนจะงัดกลเม็ดอะไรมาง้อเมียหน้าหล่อ
เจอกันวันอาทิตย์นะคะ
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
ปล.ขอบคุณ day9day นะที่มาตาม เช้านี้มัวแต่วุ่นไปหน่อยค่ะ