ตอนที่ 31ชนนน “มันพูดกับเบสขนาดนั้นเลยเหรอวะ...แม่งเอ้ย!” เพิ่งรู้เหมือนกันว่าอาการโกรธจนเลือดขึ้นหน้าน่ะเป็นยังไง จนผมล่ะอยากเอาเลือดหัวไอ้คนที่เป็นต้นเหตุแห่งความโกรธนี้ออกชะมัด
“เฮ้ย! ใจเย็นพี่นน...ผมว่าก็น่าเห็นใจบิวเหมือนกันนะพี่ แอบรักคนมีเจ้าของ แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากป่วนให้เค้าแตกกัน” ไอ้หนุ่ยรั้งผมไว้พร้อมถ้อยคำกึ่งเห็นใจกึ่งเตือนสติ
ผมเหลือบมองหน้าดำๆของมันนิด และได้แต่ถอนใจก่อนมันจะปล่อยแขนผมเป็นอิสระ แต่มีบ่นกระปอดประแปดใส่ผมอีกแน่ะ ว่าผมน่ะใจร้อนเกินแค่ได้ยินว่าแฟนโดนกิ๊กต่อว่าแค่เนี้ย ฟังแล้วผมล่ะอยากถีบยอดหน้าแม่งสักที พูดมาได้ว่าผมมีกิ๊ก ไอ้เด็กบิวก็แค่คนที่ตกหลุมเสน่ห์ผมเท่านั้น ผมไม่ได้อะไรๆด้วยสักหน่อย แต่เห็นว่ามันเพิ่งเล่าเหตุการณ์คาใจที่ผมอยากรู้ให้ฟังหรอกนะ ผมจึงทำแค่เฉดหัวมันเบาๆไปที แต่ไอ้หนุ่ยก็เกือบหงายหลังเพราะไม่ทันตั้งตัว
พอผมได้ทบทวนเหตุการณ์ที่ไอ้หนุ่ยเล่ามา ผมไม่นึกแปลกใจเลยว่าทำไมเย็นนั้นเบสถึงตั้งท่าโกรธผมขนาดนั้น เพราะถ้อยคำที่ไอ้เด็กนั่นต่อว่าสุดหล่อของผมช่างร้ายกาจ ไหนจะมีการทับถมดูถูกและท้าทายอีกสารพัด แค่ผมได้ยินยังแทบทนไม่ได้ ไม่อยากจะคิดว่าสุดหล่อจะเจ็บใจขนาดไหน เจ็บใจตัวเองชะมัดที่ปล่อยให้ไอ้เด็กนั่น มาทำร้ายความรู้สึกของคนที่ตัวเองรักได้
“แล้วมึงจะเอาไงวะ” ผมเหลือบมองไอ้ภาสที่กำลังนั่งเลียไอติม นี่ถ้าไม่มีไอติมยัดปาก มันคงจิกกัดผมไปแล้วไม่ได้ถามแค่นี้หรอก แต่ไอติมก็ยังไม่สามารถอุดต่อมเสือกของมันได้อยู่ดี
“ฟัน!”
“หา! มึงจะฟันไอ้เด็กนั่น” ทำไมไอ้ภาสต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นวะ
“ฟัน! พี่เอาจริงดิ แล้วไม่กลัวพี่เบสรู้เหรอ” ไอ้หนุ่ยมันคิดไปถึงไหนวะนั่น
“พวกมึงจะบ้าเหรอ! ที่ว่าฟันคือฟันทิ้งโว้ย ถ้าแค่ตัดกูกลัวเหลือใย เลือกฟันทิ้งแม่งดีกว่า”
“อีโธ่ นึกว่าแน่!...[ผัวะ!]...โอ๊ย! ไอติมกู”
นอกจากผมจะเสยเหม่งไอ้ภาสเน้นๆไปทีด้วยความหมั่นไส้ ยังชี้นิ้วใส่หน้าแม่งไม่ให้พูดมากด้วย แต่มันยังมีหน้ามาค้อนใส่ผม ด้วยเสียดายไอติมที่ร่วงพื้น และดูเหมือนทั้งไอ้ภาสกับไอ้หนุ่ยจะไม่ค่อยเกรงบารมีรองกัปตันอย่างผมเท่าไหร่ เพราะดันหันไปกระซิบกระซาบทำทีนินทาให้ผมได้ยินด้วย ‘มันน่านัก’
ผมจะปล่อยไอ้สองตัวนี่ไปก่อน แต่ขณะที่กำลังใช้สมองอันชาญฉลาดคิดหาวิธี ‘ฟันทิ้ง’ อยู่นั้น ไอ้พี่แหนมก็ตะโกนมาจากอีกฝั่งของสนามรักบี้ เร่งให้ผมและไอ้สองตัวนั่นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งจากปลายสายตา ผมก็เห็นไอ้เด็กบิวยืนเปิดยิ้มสว่างส่งตรงมาทางนี้ด้วย
นอกจากผมจะไม่ยิ้มตอบแม่งแล้ว ใจจริงอยากเข้าไปเขย่าตัวและตบเหม่ง พร้อมตะคอกใส่หน้ามันให้เลิกยุ่งกับผมสักทีด้วยซ้ำ แต่ผมก็กลัวใจไอ้เด็กนั่นมากกว่า ว่าจะสร้างปัญหาให้ผมและสุดหล่อเข้าไปใหญ่ เพราะขนาดผมเปิดอกคุยกันมัน และมันเองก็ขอเป็นเพียงน้องผมแล้วแท้ๆ แต่ยังไม่วายแอบสร้างความแตกแยกให้ผมกับสุดหล่อจนได้
“ไปๆ บิวไปอยู่ตรงโน้น ตรงนี้แดดมันแรง เกิดเป็นลมเป็นแล้งไปจะลำบาก” เสียงไอ้พี่แหนมลอยมาเข้าหู ขณะที่ผมเดินผ่าน จากน้ำเสียงและความหมายที่แสดงถึงความห่วงใยในตัวไอ้เด็กบิวของมันแล้ว
ผมว่าผมหาวิธีดีๆที่จะแยกไอ้เด็กบิวออกจากผมได้แล้ว ซึ่งวิธีนี้น่าจะฟันบัวให้ไม่เหลือใย แถมน่าจะสร้างสายใยใหม่ๆกับคนใหม่ๆได้ด้วยแฮะ แม้จะดูเป็นไปได้ยากที่จะทำให้คนสองคนมารักกัน แต่ถ้าทำได้ก็จะไม่มีใครโดนทิ้งให้อยู่ลำพัง
“ทุกคนพรุ่งนี้ทำให้เต็มที่ เพื่อชัยชนะและเกียรติภูมิทีมรักบี้โรงเรียนเรา...เฮๆๆๆ” ไอ้พี่แหนมปลุกเร้ากำลังใจให้ลูกทีมก่อนแข่งในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคำพูดเป็นการเป็นงานพร้อมน้ำเสียงหนักแน่นของมัน พาให้เราเหล่าลูกทีมฮึกเหิมโห่ร้องรับกับเสียงตะโกนปิดท้ายของมันดังกึกก้อง
ผมเชื่อว่าไม่เพียงแต่ผมเท่านั้นที่จะแข่งเพื่อชัยชนะ แต่กับทุกคนในทีมคงตั้งเป้าหมายไม่ต่างกัน ที่สำคัญพวกเราอยากทำเพื่อไอ้พี่แหนมกัปตันของทีมเรา ก่อนมันจะสละตำแหน่งด้วย ตามธรรมเนียมชมรมกีฬาของโรงเรียนเรานั้น จะให้นักเรียนชั้นมอห้าเท่านั้นที่จะรับตำแหน่งกัปตันทีมหรือหัวหน้าชมรม ซึ่งสามารถครองตำแหน่งเพียงแค่ปีเดียว พอขึ้นมอหกก็ต้องสละตำแหน่งให้รุ่นน้อง และงดกิจกรรมกีฬาเพื่อเตรียมตัวสอบ ดังนั้นจะเห็นว่ามอห้าจะเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโรงเรียน และแน่นอนว่าปีหน้าไอ้นนคนนี้นี่แหละ ที่จะครองตำแหน่งกัปตันทีมรักบี้ต่อจากไอ้พี่แหนม
“อ่ะ..นู่น ฝากมาให้” ผมยื่นขวดเกลือแร่ให้ไอ้พี่แหนมเสร็จ ก็เปิดตูดหนีมาทันที ซึ่งคนรับขวดเองทำหน้าเอ๋อๆ และมองไปยังทิศทางที่ผมพยักพเยิดอย่างงงๆ
คุณอย่าแปลกใจไปว่าผมกำลังทำอะไร ถ้าไม่ใช่เริ่มแผนการชักใยรักให้คู่จิ้นคู่ใหม่ ไม่แน่ไอ้เด็กบิวอาจจะชอบหนุ่มปากร้ายแต่จิตใจงดงาม ชอบดูแลใครต่อใครไปทั่วอย่างไอ้พี่แหนมก็ได้ ส่วนไอ้พี่แหนมที่ไม่มีใครก็อาจจะชอบความน่ารักมุ้งมิ้งของเด็กบิวมันก็ได้เช่นกัน เพราะถ้าตัดเรื่องความเอาแต่ใจอยากได้อะไรต้องได้ของเด็กนั่นไป ผมว่ามันก็ดูน่ารักน่าทะนุถนอมเหมาะกับชายร่างยักษ์อย่างไอ้พี่แหนมไม่น้อยล่ะน้า ซึ่งผมก็หวังว่าคิวปิดหล่อๆอย่างผมคงจะแผลงศรได้ถูกคู่นะครับ
ผมไม่รอดูผลของศรรักที่ปล่อยไป แต่เลือกที่จะเร่งฝีเท้ากลับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า รีบอาบน้ำประแป้งเพื่อไปเจอสุดหล่อ ที่ซ้อมบาสอยู่ที่สนามบาสอีกฝั่งของโรงเรียน แต่ก่อนออกจากห้อง ผมดันสวนกับเด็กบิวที่หิ้วกระติกน้ำตัวเอียงเดินเข้ามา อดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วย ก่อนจะรีบขอตัวโดยบอกว่ารีบไปแฟนรออยู่
เด็กบิวถึงกลับหุบยิ้มจ้องผมอย่างเศร้าๆ แต่เมื่อผมเห็นไอ้พี่แหนมที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จจากทางหางตา จึงตะโกนบอกมันให้มาช่วยเด็กบิวยกของ เพราะยังมีกระติกน้ำและตะกร้าใส่ลูกรักบี้อีกหลายชิ้นอยู่นอกห้อง ก่อนผมจะแปลงร่างเป็นนินจาวิ่งฉิวจากมา
“...ที่เตือนไปนี่ไม่เชื่อกันเลยใช่มั้ย หา!!...รึว่าอยาก ‘โดน’ เหมือนครั้งที่แล้วอีก ไม่จำใช่มั้ย...อย่าเงียบ!” โห่เว้ย! ไม่น่าเชื่อไอ้แปงจะดุขนาดนี้ ปกติเห็นง้องแง้งติ๊งต๊องเดินตามตูดสุดหล่อของผมต้อยๆแท้ๆ วันนี้เป็นอะไรของมัน สงสัยไอ้คนปลายสายจะทำมันโมโหจริงๆแฮะ
ผมเดินไปสะกิดแขนสุดหล่อ ท่ามกลางสายตาเด็กทีมบาสคนอื่นๆ ที่มองไปยังต้นเสียงโวยวายอย่างไอ้แปง แต่ละคนหน้าแม่งโคตรตลก หน้าตางี้เหมือนกินของแสลงเข้าไป มีเพียงสุดหล่อของผมเท่านั้นที่ทำหน้าเคร่งคิ้วขมวดจนเป็นปม จ้องไอ้แปงด้วยแววตาหนักใจ
“เกินไรขึ้นอ่ะ ไอ้แปงคุยกับใคร มันกินยาลืมเขย่าขวดเหรอครับ...แหะๆ” วุ้ย! แซวแค่นี้ทำไมสุดหล่อต้องตวัดสายตามองไอ้นนตาเขียวขนาดนั้น
ผมจึงเสหัวเราะกลบเกลื่อนและเกาท้ายทอยแก้เก้อไปซะ แต่พอได้ยินประโยคคำถามแสดงความห่วงใยจากเมียรัก อย่างคำถามที่ว่าซ้อมเป็นยังไงเหนื่อยมั้ย ไอ้นนนี่หัวใจฟูคับอกและยิ้มปากแทบฉีกถึงรูหู ก่อนจะรีบตอบเมียรักด้วยการส่ายหน้าหัวแทบหลุด จนได้เห็นประกายตาขบขันจากตาคู่เรียว ทำเอาผมอยากจะกดจมูกเข้าที่แก้มใสๆของสุดหล่อแสนน่ารักสักฟอด แต่แล้วความรื่นเริงบันเทิงใจที่ผมนึกว่ามีแค่สองเราต้องถูกทำลายลง เมื่อโทรศัพท์เครื่องคุ้นตาถูกยื่นมาขวางทางสายตา จนเหมือนแทบจะเสยเข้าปลายคางผม
“คืนพี่...ผมขอโทษด้วยที่มันโทรมากวน ต่อไปผมสัญญาว่าจะไม่มีแบบนี้อีก...งั้นผมขอตัวกลับเลยนะพี่ หวัดดีพี่เบส เฮียหวัดดี ผมไปก่อนนะ...ไอ้โชคคืนนี้มึงเจอกูแน่!” ไอ้แปงยังมีแก่ใจยกมือไหว้ลาผมสองคน ก่อนจะพาใบหน้ามู่ทู่หมุนตัวจากไป
แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายของมันที่ลอยมาเข้าหูผมนี่สิ ผมได้คำตอบของคำถามที่ถามสุดหล่อก่อนหน้าเลยล่ะ
“ไอ้โชคมันโทรมาเหรอ” แน่ะ! ถามแล้วไม่ตอบ
สุดหล่อแค่ปรายตามองผม ก่อนยกขวดน้ำไปจ่อริมฝีปากแดงฉ่ำ และกระดกน้ำลงคอพาให้ลูกกระเดือกเคลื่อนเป็นลอนคลื่น บวกผิวขาวอมชมพูที่วาวไปด้วยหยาดเหงื่อหลังซ้อม ทั้งที่แก้มใสๆ ลำคอขาวๆ ลงมาไหปลาร้าที่เห็นวับๆแวมๆ ไอ้ผมรึก็ได้แต่มองตาปรอย ลืมๆสิ่งที่อยากรู้ไปเหมือนกัน และผมก็ต้องเสกระแอมไล่อาการคอแห้ง เมื่อตาคู่สวยเหลือบมามองกัน ก่อนเบสจะแสยะยิ้มส่งให้ผมพร้อมแววตารู้เท่าทัน
“อะแฮ่ม!...ตกลงไอ้โชคมันโทรมาทำไม!” เมื่อครู่ดันเผลอปล่อยไก่ไปเป็นเล้า ผมขอเข้มกับเมียหน่อยครับ แต่เมียรักนี่สิกลับไม่เกรงกันสักนิด
นอกจากเบสจะไม่ตอบคำถามแล้ว ยังมีหันไปสั่งลูกทีมให้แยกย้ายกลับบ้านอีกแน่ะ งั้นเปลี่ยนแผน
“มาครับ นนช่วยเอง เบสถือแค่เป้ก็พอ...ตกลงมันโทรมาไมอ่ะครับ” หลังจากผมรวบกระเป๋านักเรียนของสุดหล่อมาไว้กับตัว และเดินขนาบข้างเบสในชุดนักบาสที่มีแจ็คเก็ตคลุมทับแล้ว ผมก็กระแซะถามถึงสิ่งที่คาใจอีกครั้ง
ครั้งนี้นอกจากเบสจะทำหน้าระรื่นแล้ว น้ำเสียงก็ร่าเริงเป็นที่สุดเหอะ ได้ผลครับ เพราะสุดหล่อถึงกลับกระตุกยิ้ม
“ฮึๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าโทรมาทำไม”
“อ้าววว!?” ฝนตั้งเค้าเลยครับ ผมนี่เอ๋อเหรอไปแล้ว ‘สงสัยมึงจะโดนเมียกวนตีนเข้าใส่ว่ะไอ้นน’
“ยังไม่ทันคุยอะไรรู้เรื่อง แปงมันก็แย่งไปคุยซะก่อน หลังจากนั้นก็ตามที่นนได้ยินนั่นแหละ” ไอ้แปงสมควรได้รับรางวัลจากผมนะเนี่ย แบบนี้ผมค่อยสบายใจหน่อย ว่าจะไม่มีไอ้หน้าจิ้งจกโชคร้ายนั่นมาแทะเล็มเมียผม
ผมว่าไอ้แปงคงไม่ได้กันท่าแบบธรรมดาซะด้วย เพราะเท่าที่ได้ยินมันทั้งคู่น่าจะมีลับลมคมในกันอยู่ เลิกคิดเรื่องคนอื่นดีกว่าครับ ผมขอใช้เวลาที่มีค่ากับเมียรูปหล่อดีกว่า
“แวะซื้อของมั้ยครับ” หน้าที่สามีที่ดี นอกจากต้องคอยใส่ใจเมียจากเรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่ และคอยตามใจให้เมียอารมณ์ดีตลอดเวลาแล้ว เราต้องคอยเอาใจใส่รายละเอียดในชีวิตประจำวันของเค้าด้วย
ปกติเวลาหลังเลิกเรียน ถ้าวันไหนเราต้องไปนอนค้างบ้านแม่ยายของผม ลูกชายเจ้าของบ้านเค้ามักจะแวะซื้อพวกของสด หรือแม้แต่ซื้อของใช้เล็กๆน้อยๆไปตุนไว้ให้คุณแม่ยายของผมเสมอ และเย็นนั้นๆลูกเขยอย่างผมก็จะได้กินมื้อเย็นที่แสนอร่อย จากฝีมือแม่ยายหรือไม่ก็เมียรัก หรือถ้าวันไหนคุณอาวิสุทธิ์ว่างมาทานด้วย มื้อนั้นก็จะดูครื้นเครงมากขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะคุณอามักจะหยิบยกเหตุการณ์รอบตัว หรือแม้แต่ข่าวคราวต่างๆมาเล่าอย่างออกรส กลายเป็นครอบครัวเล็กๆที่แสนอบอุ่น มีพ่อแม่ลูกชายและลูกเขยทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา
“ไม่ครับ ของที่ซื้อเมื่อวานยังพอมีอยู่ วันนี้กลับเลยดีกว่า อืม...ว่าแต่ นนยังอยากกินสปาเก็ตตี้อยู่มั้ย ถ้าอยากก็แวะ วันนี้จะได้ทำให้กิน” อย่าว่าแต่ผมเลยที่คอยเอาใจใส่เรื่องเล็กๆน้อยๆของคนรัก เมียสุดหล่อของผมก็ทำในสิ่งเดียวกัน
ฉะนั้นถ้าไม่รักไม่ชอบกันจริง คงไม่มีใครจะมานั่งใส่ใจกันอยู่แบบนี้หรอกเนอะ ‘ไอ้นนล่ะปลื้มปริ่ม ครึๆ’
“แวะแค่เซเว่นก็พอเนอะ เดี๋ยวนนลงไปซื้อแป๊บเดียว เบสนั่งรอบนรถนี่แหละ” ผมยิ้มหน้าชื่นปากกว้างส่งให้สุดหล่อ ก่อนมองหาที่จอดรถใกล้เซเว่นหน้าปากซอยบ้านสุดหล่อ
“รู้เหรอว่าต้องใช้เส้นแบบไหน” เส้นสปาเก็ตตี้นี่มันมีให้เลือกมากมาย จนสุดหล่อต้องถามคำถามนี้กับผมเลยเหรอ หน้าหมามึนของผมคงตอบคำถามเมียรักได้เป็นอย่างดี ว่าสามีอย่างผมคงไม่มีปัญญาเลือกเส้นมาถูกใจได้หรอก
“งั้นลงไปด้วยกัน นึกขึ้นได้ว่าซอสมะเขือเทศจะหมดด้วย ซื้อเข้าไปให้พร้อมเลยแล้วกัน” เมียว่าไงสามีแสนดีอย่างผมก็ว่าตามนั้นอยู่แล้ว
ดังนั้นผมจึงได้ใช้เวลากับเมียรักนักบาสในเซเว่น ไปกับจับจ่ายซื้อของเล็กๆน้อยๆ กระหนุงกระหนิงกันสองต่อสอง และผมก็เพิ่งรู้ว่าไอ้เส้นสปาเก็ตตี้นี่มันมีทั้งเล็กทั้งใหญ่ให้เลือกด้วย แถมสุดหล่อยังเลือกไอ้ท่อนใหญ่กลับไป บ่งบอกว่าเมียรักชอบของใหญ่...รึเปล่า ครึๆ
ระหว่างที่ผมคิดพิเรนทร์ๆอยู่คนเดียวก็ต้องสะดุ้ง เมื่ออยู่ๆเบสเบือนหน้ากลับมา ก่อนจะหรี่ตาลงมองมายังผม เหมือนจะรู้ว่าผมคิดไม่ดีกับเจ้าตัวเค้าอยู่ ผมจึงรีบทำทีช่วยเบสถือตะกร้า พร้อมรั้งข้อศอกไปที่ตู้ไอศกรีม ก่อนจะชี้ชวนให้สุดหล่อช่วยเลือกรสไอศกรีมให้ มีเมียฉลาดเป็นกรด สามีอย่างผมคงต้องลื่นไหลไม่ให้จับได้เข้าไว้ล่ะน้า
“พี่เบส!?...เอ่อ มาซื้อของเหรอคะ” นึกว่าใคร ที่แท้ก็น้องไฝกกหูนี่เอง
อย่าแปลกใจไปที่เราเจอเธอที่นี่ เพราะบ้านเธออยู่แถวนี้ ละแวกเดียวกับบ้านสุดหล่อนี่แหละครับ แต่คราวนี้แม่นางมาแนวแปลก มาซะเอ๋อเหรอทำหน้าไม่ถูกเชียว และผมก็ได้เข้าใจว่าทำไมน้องฝ้ายถึงมีอาการดังกล่าว ในเมื่อข้างกายเธอมีหนุ่มร่างเพรียว นักวิ่งลมกรดประจำโรงเรียนอยู่ด้วย
“ครับ ฝ้ายก็มาซื้อของเหมือนกันใช่มั้ย...เป็นไงโจ้ไม่ได้คุยกันเลยช่วงนี้ ได้ข่าวว่านายลงกวดวิชาที่สถาบันนั้นได้ด้วยนี่ เราเองลงไม่ทันเลย ยังไงเราฝากนายดูให้บ้างนะ ถ้าที่นั่นเปิดอีกรอบช่วยบอกเราด้วย ฝากฝ้ายมาบอกก็ได้”
ผมอมยิ้มให้กับบทสนทนาที่แสนไหลลื่นของสุดหล่อเมียรัก และผมยิ่งนึกรักนึกชื่นชมในตัวเบสมากยิ่งขึ้น ด้วยคงไม่มีใครที่จะเหมาะกับคำว่าสุภาพบุรุษไปมากกว่าเบสอีกแล้วล่ะ นอกจากไม่รื้อฟื้นเรื่องพฤติกรรมที่ผ่านมาของน้องฝ้ายให้ทั้งคู่อึดอัดใจแล้ว ยังสามารถสร้างสัมพันธภาพใหม่ๆที่ดีให้เกิดขึ้นได้อีกด้วย
“งั้นเราไปล่ะนะ ไปนะนน แล้วเจอกัน” ผมพยักหน้าส่งเสียงอือออตอบรับไอ้โจ้ที่หันมาลากัน
“ฝ้ายไปนะคะพี่เบส...หึ! บายค่ะพี่นน” แม่เสือสาวยังไม่หมดฤทธิ์แฮะ มีทำเสียงขึ้นจมูกส่งค้อนก่อนบอกลาผมอีกแน่ะ
แต่วันนี้ไอ้นนไม่คิดถือสา กับแค่โดนหมั่นไส้นิดๆหน่อยๆนั่น เพราะรู้แน่ชัดแล้วว่าแม่เสือสาวก็แค่อิจฉาผม ที่ได้ครอบครองสุดหล่อยอดดวงใจแต่เพียงผู้เดียว
คล้อยหลังคนทั้งคู่เบสก็หันมาระบายยิ้มบางเบาให้ผม ก่อนผมจะอาสาจ่ายเงินให้เอง โดยรีบยื่นกระเป๋าตังให้เมียรักไปทั้งใบ ด้วยรู้ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวเบสนั้นไม่มีเงินติดตัวมาสักบาท สุดหล่อมีขัดใจนิดหน่อยแต่ก็ยอมรับไป
จนกระทั่งเรากลับมาถึงบ้าน บ้านเงียบแต่ไม่ต้องแปลกใจ เพราะตอนนี้แม่อรแม่ยายผมท่านกำลังปั่นต้นฉบับครับ ท่านจึงเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง
หลังจากที่เราช่วยกันขนของลงจากรถแล้ว ผมก็อาสาเตรียมของไว้สำหรับมื้อเย็น เพื่อให้สุดหล่อได้แสดงฝีมือ โดยให้สุดหล่อขึ้นไปเคลียร์ตัวเองด้วยการอาบน้ำข้างบนก่อน ส่วนผมเงอะงะหาของหาอุปกรณ์ในครัวไปลำพัง ไม่นานสุดหล่อก็เดินหน้าใสตัวหอมฟุ้งเข้ามาในครัว
“ฟอดดดด...แฟนใครน้า หอมจัง ครึๆ” จัดไปครับฟอดใหญ่ๆ ชื่นใจไอ้นนเป็นที่สุด
คุณเชื่อมั้ยว่าขณะที่ผมกำลังหัวเราะอารมณ์ดี ผมก็ต้องหน้าหงายเพราะโดนกระตุกผมอย่างแรง เล่นเอาแสบหนังหัวแปลบๆเลยล่ะ แต่กับการที่เมียล้อเล่นด้วย ผมจึงไม่คิดเอามาเป็นอารมณ์
สิ่งที่ผมทำคือรีบเข้าไปยืนซ้อนหลังเมียรูปหล่อ ที่กำลังผูกผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหวว ก่อนผมจะอาสาลงมือผูกเชือกที่หลังเอวให้เอง สุดหล่อก็แสนดีตามใจสามียิ่งนัก ยอมยืนนิ่งๆให้ผมจัดการให้ แต่ผมไม่ยอมยืนเฉยๆหรอก มือทำงานไป ตาก็สำรวจใบหน้าด้านข้างของเมียรักไปด้วย แต่ยิ่งมองยิ่งหลง ทั้งคิ้วจมูกแก้มปากลงตัวสุดๆ
‘ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!! เอาวะ ไอ้นนขอเสี่ยงชื่นใจเมียรักสักหน่อยเหอะ’ คิดได้ดังนั้น ผมหมุนเอวเบสกลับมาเผชิญหน้าด้วยทันที และไม่มีลังเลที่จะยื่นหน้าขโมยจูบจากปากแดงๆคู่นั้น อาศัยจังหวะที่สุดหล่อไม่ทันตั้งตัว สอดลิ้นผ่านกลีบปากนุ่ม ก่อนจะควานไปทั่วโพรงปากหวานหอม และดูดกลืนลมหายใจของเมียรักจนหนำใจ เล่นเอาสุดหล่อเข่าอ่อน มีพยุงตัวด้วยการคล้องแขนเข้ากับคอผม และพิงสะโพกไปกับเคาน์เตอร์ครัวด้านหลัง
จะว่าไปวันนี้สุดหล่อเคลิ้มไปกับจูบของเราง่ายจัง สงสัยช่วงนี้เราจะห่างจากเรื่องอย่างว่ามานาน รึคืนนี้ผมจะจัดให้สุดหล่อสักยกดี
“อืมมม...แฮ่กๆ” หลังจากผมปล่อยริมฝีปากหวานๆให้เป็นอิสระ สุดหล่อก็หอบตัวโยน ตัวอ่อนปล่อยให้ผมหาเศษหาเลยไปกับลำคอขาวๆกรุ่นกลิ่นเนื้อหนุ่ม และบีบๆคลายๆหยอกเย้ากับเนื้อแน่นๆของสะโพกใต้ฝ่ามือ บวกเข้ากับลมหายใจอุ่นที่เป่ารดต้นคอ ทำให้ผมอดใจไม่ไหวด้วยความมันเขี้ยว ผมจึงเผลอกัดต้นแขนแน่นๆไปที พร้อมบีบเนื้อก้นแน่นๆทั้งคู่เต็มแรง
“โอ๊ย!!...ทำอะไรไม่เข้าเรื่องนะครับ ชนนน!!”
“เฮือก!...อ่า คือ...เอื๊อก!” ‘สะดุ้งสุดตัวเลยเว้ยเฮ้ยกู แค่เมียรักเรียกชื่อตัวเองเต็มยศด้วยเสียงแข็งๆแค่เนี้ย’ ผมถึงกลับกลืนน้ำลายเสียงดัง และเผลอถอยหลังหนีสายตาวาวๆของสุดหล่อแก้มแดงปากฉ่ำ ไม่เป็นกระบวนท่าเลยทีเดียว
ถึงคราแกะน้อยกลายร่างเป็นแม่เสือดาวทั้งที ผมที่เป็นเพียงหมาป่าเจ้าเล่ห์ตัวเล็กๆจะไม่นึกเกรงก็กระไรอยู่ ขอตั้งหลักรอรับการลงทัณฑ์ขอเมียรักก่อนก็แล้วกัน แต่ถ้าคืนนี้หากแม่เสือดาวได้กลายร่างเป็นแกะน้อยขนปุกปุยเมื่อไหร่ คุณเตรียมตัวดูหมาป่าจับลูกแกะกินได้เลย ครึๆ
แต่ตอนนี้แม่เสือดาวขนสีชมพูได้กางกรงเล็บ เดินหน้าเข้าหาหมาป่าตัวน้อยๆที่แสนน่าสงสารอย่างผมแล้ว
“อ่ะ...[ผัวะ!]...อูยยยยย!” มาเต็มๆหลังหัวผมเลยครับ จนเห็นดาววิ้งๆลอยวนไปมาเชียว งื้ออออ
........................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะชนนนริอาจเป็นคิวปิดซะแล้ว ไม่รู้จะเป็นการชักใยสานสัมพันธ์ให้คนอื่น
หรือจะเป็นการชักใยให้พัวพันรัดคอตัวเองกันแน่น้า
เป้าหมายดี กระบวนการพอหยวน แต่ผลงานจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตาม
ส่วนตอนหน้า...ครึๆ <<< ขอหัวเราะแบบไอ้ดำตูดหมึกหน่อย มันกวนดี
คงเดาไม่ยากเนอะว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็นะ...ทิ้งท้ายให้ชวนจิ้นขนาดนั้น
วันพุธรอเสียเลือดได้เลย!!
แม่ะ! ไม่อยากสปอยด์แบบนี้ แต่มันอดไม่ได้อ่ะ
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ