ตอนที่ 27ภูธิป “มันจะไม่มีอะไรได้ไง เบสเล่าให้นนฟังเถอะนะ ว่าไอ้เด็กนั่นมันพูดอะไรกับเบส”
“เรื่องมันจบไปแล้ว ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ”
“เบสอ่ะ แบบนี้ก็ไม่ได้เรียกว่าเคลียร์กันสิ”
ในที่สุดผมก็ต้องเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเรียนในมือ เพื่อจ้องตาคนช่างเซ้าซี้ ที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงข้างตัวผม นนทำหน้ามุ่ยมองผมอย่างเอาแต่ใจ แถมแววตานั้นก็แสนดื้อดึง แสดงออกชัดว่ายังไงก็ไม่ยอม และอยากให้ผมทำตามสิ่งที่เจ้าตัวต้องการ
ตั้งแต่เรากลับมาถึงบ้านของผม นนพยายามเค้นเอาคำตอบเรื่องที่เด็กบิวมาคุยกับผมที่ห้องแต่งตัวในช่วงเย็นที่ผ่านมา แต่ผมก็บอกเจ้าตัวไปแล้วว่ามันไม่มีอะไรมาก และผมไม่ติดใจแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมจะให้ผมพูดอยู่นั่น ว่าเด็กบิวคุยอะไรกับผมกันแน่
การที่ผมไม่เล่าให้นนฟังไม่ใช่ว่าผมไม่ได้ไม่พอใจในตัวเด็กบิวนะครับ เพราะออกจะไม่พอใจมากๆด้วยซ้ำ แต่มันน่าอายน้อยที่ไหนกัน ที่เราต้องมานั่งเล่าต่อหน้าคนกลางว่าผมโดนรุ่นน้องต่อว่า หาว่าผมนั้นฉวยโอกาสเอานนไปครอบครอง ทั้งๆที่ตัวผมเองก็ไม่ได้รักชอบนนจริงๆ ถามหน่อยถ้าผมไม่รักไม่ชอบไอ้ดำตูดหมึกหน้าบึ้งคนนี้จริงๆ ผมจะมานั่งอยู่ตรงนี้มั้ย
ในสายตาเด็กบิวและคนอื่นอีกหลายคน คงมองว่าผมไม่รักนนสักเท่าไหร่ หรืออาจจะรักแต่ก็รักไม่เท่ากับที่นนรักผม เพราะคนภายนอกจะเห็นว่านนนั้นคอยตามดูแลเอาใจใส่ผมอยู่ฝ่ายเดียว และคิดไปว่าการที่ผมต้องมาเป็นแฟนนน ผมอาจจะจำใจหรือทนการรบเร้าไม่ไหว จึงเกิดคำถามว่าทำไมผมถึงไม่ปล่อยนนไป ให้นนได้เจอคนที่รักมันมากกว่าที่ผมรัก ซึ่งก็เป็นข้อสงสัยเดียวกันกับที่เด็กบิวตั้งคำถามกับผม
ตอนที่ได้ยินคำถามนี้ผมถึงกับอึ้ง พยายามคิดว่าผมเฉยชากับนนมาก ถึงขนาดให้คนอื่นตีความไปทางนั้นได้เชียวหรือ และผมต้องตกใจมากกว่าเดิม เมื่อเด็กบิวสารภาพกับผมทั้งน้ำตาว่าหลงรักนนมาร่วมปี แถมยังอ้อนวอนผมให้ปล่อยนนเป็นอิสระ เพื่อที่เด็กนั่นจะได้มีโอกาสทำให้นนสนใจบ้าง
ตอนนั้นผมถึงกับพูดอะไรไม่ออกและสงสารเด็กบิวอยู่ไม่น้อย ซึ่งผมก็ต้องหดหู่กว่าเดิมเมื่อได้ยินต่อหน้าว่าเด็กนั่นเกลียดผม ซ้ำร้ายกว่านั้น ผมยังถูกยัดเยียดบทตัวร้ายให้อย่างไม่ตั้งตัว จากคนที่ร้องไห้อย่างกับจะขาดใจต่อหน้าผม ผู้ที่พยายามสวมบทนายเอกที่โดนรังแก ทำให้ดูเหมือนว่าผมกำลังต่อว่าเด็กที่ไม่มีทางสู้ และก็ช่างเหมาะเหม็งด้วยพระเอกช่างเข้ามาได้ถูกจังหวะ แถมไอ้ตัวพระเอกเองดันมีท่าทีเห็นใจนายเอกที่แสนอ่อนแออีกด้วย
คุณพอจะเห็นภาพแล้วใช่มั้ย ว่าการที่ผมไม่พอใจมันเกิดขึ้นจากคนของตัวเอง มากกว่าคนภายนอกที่พยายามเข้ามาแทรกแซงเราทั้งคู่ ดังนั้นในความคิดของผม มันไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องรื้อฟื้นถ้อยคำไม่เข้าหูเหล่านั้นให้นนรับรู้ เพราะในสายตาผมเด็กบิวนั่นก็น่าสงสารพออยู่แล้ว ขืนคนที่เจ้าตัวรักนักหนารู้เรื่องและเข้าไปต่อว่าเข้าอีก หัวใจดวงน้อยๆนั่นคงบอบช้ำมากกว่านี้ และเจ้าของมันอาจทำอะไรๆที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้
แต่ขืนผมไม่ปริปากอะไรออกไปสักอย่าง คืนนี้ผมคงไม่ได้พักผ่อนเป็นแน่ ผมรู้หรอกว่าไอ้ดำตูดหมึกคนนี้มันดื้อเกินกว่าใครๆที่ผมเคยเจอมา เพราะไหนๆทั้งคำพูดและการกระทำของนน ก็ทำให้ผมมั่นใจแล้วว่า มันจริงจังกับผมมากกว่าใครหน้าไหน ที่สำคัญเมื่อเย็นที่ผ่านมานนทำให้ผมรู้ว่า ผมเสียเวลาเสียอารมณ์ไปอย่างเปล่าประโยชน์ ที่ไปโกรธเจ้าตัวเพราะคิดว่ามันเห็นคนอื่นสำคัญไปกว่าตัวเอง!
“เบสครับ บอกนนเถอะนะ ว่าไอ้เด็กนั่นมาพูดอะไรกับเบส นนจะได้ไปจัดการซะทีเดียว” นั่นไง ทำไมผมถึงซื้อหวยไม่เคยถูกเลยน้า ไม่ผิดไปจากที่ผมคิดไว้สักนิด
ผมถอนใจเบาๆก่อนปิดหนังสือในมือและวางมันไว้บนตัก พร้อมจ้องหน้านนอย่างจริงจัง
“นน ฟังนะ...ไม่ว่าบิวจะมาพูดอะไรกับเบส ตอนนี้มันไม่มีความหมายแล้ว เพราะเบสไม่ติดใจกับเหตุการณ์เมื่อเย็นแล้วจริงๆ แต่ถ้านนคิดจะไปจัดการใครก็ตามอย่างที่พูดน่ะ เบสอยากให้นนจัดการกับตัวเอง...เพราะที่เบสไม่พอใจ มันมาจากนน” จากหน้าบูดๆกลายเป็นไก่ตาแตก
นนจ้องมาที่ผมเหมือนเด็กปัญญาอ่อน เห็นแล้วก็ให้อารมณ์ดี ผมจึงยกมือไปยีหัวเกรียนๆเล่น ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่หืออือ แม้จะเริ่มหน้าบูดแต่กลับยอมให้ผมได้ทำตามใจ และจ้องรอเอาคำตอบจากผม
“ฮึๆ คราวหน้าคราวหลังอย่าทำให้เบสรู้สึกว่านนเห็นคนอื่นสำคัญกว่าเบสอีกล่ะ เพราะหากมีครั้งต่อไป เบสจะไม่เงียบแบบนั้นอีกแล้ว แต่จะ...หึๆ” ไอ้ดำตูดหมึกที่กำลังยิ้มร่าเกินพอดีอย่างน่าหมั่นไส้อยู่นั้น ค่อยๆหุบยิ้มลงก่อนจะจ้องผมด้วยสายตาระแวดระวัง มีเอนตัวหนีฝ่ามือผมที่อยู่บนหัวด้วย แต่ไม่ทันล่ะเพราะผมคว้าปอยผมสั้นๆติดมือไว้ได้ทัน
“อะ โอยยย...เบสครับ นนไม่เคยเห็นคนอื่นดีกว่าเบสเลยนะ ตอนนั้นนนไม่ทันได้คิดอะไรด้วยซ้ำ เบสอ่ะ~ โอ๊ย!” ผมกระตุกเส้นผมในมือไม่เบานัก ก่อนตีหน้าขรึมจ้องหน้าจอมทะเล้นหน้าเป็น
“ถ้างั้นต่อไปต้องคิดให้มากๆเข้าไว้ ก่อนจะทำอะไรนะครับ เพราะเบสก็ไม่รับประกันเหมือนกัน ว่าถ้ามีเหตุการณ์ซ้ำกับวันนี้อีก เราจะได้มานั่งเคลียร์กันแบบนี้มั้ย เพราะเบสไม่รู้จะต้องทนไปเพื่ออะไร” สิ้นคำผมเท่านั้น ไอ้ตัวดีที่โดนผมกระตุกเส้นผมเมื่อครู่ หน้าซีดขึ้นมาทันตา
ใจจริงแล้ว ผมก็แค่ขู่ด้วยอยากเขียนเสือให้วัวกลัวก็เท่านั้น เพราะหากเกิดเหตุการณ์ใดๆขึ้นอีก ผมคงเลือกที่จะคุยกับนนก่อนอยู่ดี ผมที่กำลังจ้องตานนอยู่นั้นก็ต้องกลั้นขำแทบแย่ เมื่อนนพยายามฉีกยิ้มอ้อนๆสไตล์มันให้ผม ทั้งๆที่หน้าซีดเป็นไก่ต้มน้ำปลา แถมด้วยการคว้ามือผมมากุมไว้และเขย่าไปด้วย
“เบสอย่าคิดแบบนั้นสิ พูดเหมือนจะทิ้งนนเลย ต่อไปนนสัญญานะ นนจะคิดถึงแฟนนนให้มากๆ มากกว่าตอนนี้อีกหลายๆเท่า แต่นนก็กลัวว่าจะทำให้เบสคิดมากแบบที่นนไม่รู้ตัวอ่ะ ตะ..แต่ขอแค่เบสบอกให้นนรู้เท่านั้น นนก็พร้อมจะขอโทษและปรับปรุงตัวเพื่อเบส...นนขอโทษนะครับ”
ไอ้ดำตูดหมึกก็เป็นซะแบบนี้ อ้อนได้อ้อนดี แล้วผมจะไม่ใจอ่อนยังไงไหว เราสบตากันนิ่งๆ และผมต้องใจเต้นเมื่อแววตาจริงจังคู่ตรงหน้า ค่อยๆทวีความอ่อนหวานขึ้นเรื่อยๆ ก่อนริมฝีปากหนาจะค่อยๆระบายยิ้มอ่อนโยนให้ผมยิ่งใจสั่น เท่านั้นยังไม่พอไอ้คนเจ้าเล่ห์มันยกมือผมขึ้น และประทับริมฝีปากลงบนหลังมือผมเนิ่นนาน เห็นแววลางๆแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ก็ดูแววตาออดอ้อนปนหลงใหลคู่นี้สิครับ
“เบส คืนนี้นนขอ...ได้มั้ย” ว่าแล้วเชียว มีหน้ามาถามกันโต้งๆอีกนะคนเรา
“ถ้าไม่ให้ล่ะ” ดูสิว่าไอ้ดำตูดหมึกจอมหื่นจะตอบว่าอย่างไร แต่ก่อนที่มันจะตอบ หน้างี้สลดหูหางตกหมดแล้ว
“ง่า...นนจะว่าไรได้อ่ะ แต่เบสครับ ไม่ต้องถึงขั้นสุดท้ายก็ได้ นะ...ถือว่าเป็นรางวัลแห่งชัยชนะของวันนี้”
ผมล่ะอยากจะย้อนนัก คราวที่ผ่านๆมามันก็อ้างว่าให้รางวัลผมที่คว้าชัยชนะมาได้บ้างล่ะ และไม่ต้องเดาว่าหากผมหรือมันแพ้ มันก็คงจะอ้างว่าเป็นการปลอบใจอยู่ดี ดูแล้วไม่ว่าจะทางไหนผมก็คงต้องเสียเปรียบอยู่วันยังค่ำล่ะนะ
‘บิวเกลียดพี่เบส!...พี่เบสคงไม่ได้รักพี่นนได้เท่ากับบิวหรอก บิวไม่เห็นว่าพี่เบสจะใส่ใจพี่นนสักนิด ก็มีแต่พี่นนนั่นแหละที่คอยดูแล...เลิกกับพี่นนเถอะ...ถ้าบิวได้เป็นแฟนพี่นนนะ บิวจะรักและตามใจพี่นนให้มากๆ จนลืมพี่เบสไปเลยคอยดูสิ!’
อยู่ๆถ้อยคำต่อว่ามากมายของเด็กบิวก็ลอยมาในหัวผม มันทั้งน่าเจ็บใจและน่าคิดไปพร้อมๆกัน ผมเจ็บใจที่ว่าความรักที่ผมมีให้นนนั้น โดนดูถูกจากเด็กที่หลงรักไอ้ตัวดีตรงหน้า และน่าคิดที่ว่าผมควรต้องปรับปรุงตัวเองเรื่องการแสดงออกมากกว่าที่เป็นอยู่มั้ย
หากวันหนึ่งที่เราต้องเลิกกัน ผมไม่อยากให้มาจากสาเหตุที่ว่าเพราะผมรักนนน้อยเกินไปหรือเฉยชาเกินไป ถ้าต้องเลิกกันจริงๆก็อยากให้มาจากเราหมดรักกันแล้วมากกว่า คิดมาถึงตรงนี้คุณคงเดาได้ไม่ยากแล้วใช่มั้ย ว่าผมจะตัดสินใจอย่างไร
ผมยกมือลูบแก้มนนเบาๆ และบรรจงถอดแว่นที่สวมเฉพาะตอนอ่านหนังสือออกอย่างช้าๆ ก่อนค่อยๆเงยหน้าจ้องตานนที่กำลังมองผมอย่างคาดหวัง หลังจากนั้นผมก็ตั้งใจระบายยิ้มอ่อนหวานใส่ตาไอ้ตัวแสบ นนถึงกลับอ้าปากหวอมองผมตาค้าง ก่อนจะกลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกไหลเป็นคลื่น มีเพ้อเรียกผมว่า ‘สุดหล่อของไอ้นน’ แถมท้ายด้วยเสียงแผ่วหวิว ส่วนดวงตาคมที่จดจ้องไม่กระพริบก็ระยิบระยับสมใจ
ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าก่อเกิดความหมั่นไส้เล็กๆในใจขึ้นมา แต่ผิวแก้มกลับเห่อร้อนอย่างไม่น่าให้อภัย ผมจึงแกล้งดึงแก้มไอ้ดำตูดหมึกแรงๆ เผื่อว่าอาการทำตัวไม่ถูกที่มีจะลดลงบ้าง การกระทำของผมส่งผลให้เจ้าของแก้มช้ำๆร้องโอดโอย
“โอ๊ยยย!...เบสแกล้งนนทำ มะ...ไม~” อย่าแปลกใจไปครับ ว่าทำไมไอ้ดำตูดหมึกถึงเปลี่ยนจากเสียงโวยวาย เป็นเสียงเบาหวิวท้ายประโยคอย่างเคลิ้มๆไปได้
ถ้าไม่ใช่เพราะผมยื่นหน้าไปจูบข้างแก้มช้ำๆข้างนั้น ก่อนเบี่ยงหน้ากลับมาตรงๆ เพื่อแตะหน้าผากไว้กับหน้าผากของอีกฝ่าย ขณะนี้เรียกว่าเราใกล้กัน ชนิดที่ใช้ลมหายใจร่วมกันเลยทีเดียว
“แบบนี้ยังเรียกว่าแกล้งอีกมั้ยครับ...นน~” ผมล่ะอยากขำกับตาลอยๆและอาการส่ายหน้าช้าๆ ที่ใช้ตอบคำถามผมของนน
ผมจึงจงใจยกยิ้มอ่อนๆใส่แววตาคลั่งไคล้คู่ตรงหน้า และพูดในสิ่งที่คิดออกไป อย่างน้อยผมก็ขอชดเชยในส่วนที่ผมทำให้นนมันไม่สบายใจในวันนี้ละกัน
“วันนี้ขอโทษนะครับ ที่ไม่ยอมคุยดีๆแต่แรก...‘ครั้งนี้’ ถือว่าแทนคำขอโทษ และขอบคุณที่ยังแคร์กัน” พูดจบผมก็ยื่นริมฝีปากที่ยังยกยิ้มของตัวเอง เข้าแตะริมฝีปากหนาที่เผยอน้อยๆรออยู่แล้วทันที
นนไม่มีเสียเวลาฉกลิ้นเข้าปากผมและทำท่าจะตวัดดูดกลืน แต่ผมรู้ทันจึงหลบหลีกพร้อมกระตุกเส้นผมเบาๆเป็นการเตือน ด้วยรู้ว่าขืนปล่อยให้มันกลืนกินล่ะก็ ผมคงต้องเคลิ้มไปจนสุดทางเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา ซึ่งนนเองก็มีตัดพ้อเรียกชื่อผมเบาๆ และพยายามยื่นหน้าเข้ามาจูบผมให้วุ่นวาย
“ชู่ว์ๆๆๆ...ใจเย็นหน่อย” สิ่งที่ผมทำ ไม่ยั่วก็คงเหมือนยั่วในสายตาไอ้ดำตูดหมึกล่ะมั้งครับ เพราะทันทีที่ผมเอานิ้วลงจากริมฝีปาก ผมก็โดนกระโจนเข้าใส่จนหงายหลังลงกับเตียง
ภาพร่างเหนือตัวผมตอนนี้ พาให้ผมจินตนาการไปว่า นนมีหูแหลมๆงอกออกมายาวกว่าปกติ ดวงตาคมที่แสนขี้เล่นกลับวิบวับเจ้าเล่ห์ ส่วนริมฝีปากหนานุ่มก็เหมือนจะยื่นยาวออกมา ยิ่งตอนนี้ที่นนกำลังแสยะยิ้ม ก็เหมือนว่ามันจะกว้างกว่าปกติ จนโชว์เขี้ยวคู่ขาววาววับชิดมุมปาก แถมด้วยอาการเลียริมฝีปากอย่างกับมีอาหารอันโอชะอยู่ตรงหน้าด้วยแล้ว ในสายตาผม นนจึงไม่ต่างจากหมาป่าผู้หิวกระหายที่เตรียมขย้ำลูกแกะ และลูกแกะที่ว่าคงไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากผมคนนี้
ก่อนที่ผมจะโดนขย้ำจนแม้แต่กระดูกก็ไม่เหลือนั้น ผมจึงยื่นมือไปแตะท่อนแขนที่กักร่างผมไว้ ก่อนจะลูบเบาๆ ซึ่งได้ผลเพราะนนมีชะงัก และชำเลืองมองตามหลังมือผมที่ค่อยๆไต่ขึ้นไปยังต้นแขน จนกระทั่งผมคล้องมือไว้กับต้นคอได้สำเร็จ นนเองก็ก้มหน้าจ้องผมอีกครั้ง ซึ่งดวงตาคู่ตรงหน้ากลับร้อนแรงขึ้นทวีคูณ แถมผมยังรู้สึกถึงกระแสความร้อนขนาดใหญ่ที่ทิ่มแทงแถวหน้าท้องอีกด้วย
ผมจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว จึงตัดสินใจรั้งต้นคอหนาเข้าหาตัว และพลิกตัวขึ้นคร่อมเจ้าของร่างแกร่งที่กำลังเผลอตัว และล็อกแขนมันไว้เหนือหัว
“โอ๊ะ!...เบสทำอะไรครับ!?” จากหมาป่าเจ้าเล่ห์กลายเป็นหมาน้อยหน้าตื่นไปแล้วครับ เพราะทันทีที่ผมล็อกนนไว้กับเตียงได้ ผมก็ทำกิริยาไม่ต่างจากที่มันทำกับผมเมื่อครู่
อ่านจากแววตาตื่นๆนี่ผมก็รู้แล้วว่า นนกำลังคิดอะไรอยู่ และดูท่าจะคิดไปไกลมากแล้วด้วย แต่ก็ดีเพราะผมก็ตั้งใจไว้แบบนั้นอยู่แล้ว
“เบสว่านนรู้นะ ว่าเบสจะทำอะไร...ไม่ได้เหรอ ไหนว่า ‘รัก’ ไงครับ” ผมจ้องตาตื่นๆคู่ตรงหน้าอย่างแน่วแน่ เพื่อย้ำในสิ่งที่พูด
ส่วนนนก็จ้องผมอย่างหวาดๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นไม่แน่ใจ สุดท้ายแววตาจากดวงตาคู่คมก็ค่อยๆฉายประกายอ่อนหวานขึ้นอย่างช้าๆ จนผมเองยังอดตะลึงกับใบหน้าคมคร้ามที่ดูละมุนตาขึ้นมาอย่างขณะนี้ไม่ได้ และหัวใจในอกก็เต้นดั่งกลองเพล เมื่อริมฝีปากที่เคยปิดสนิท ค่อยๆเผยรอยยิ้มอบอุ่นชวนมอง พร้อมคำรักที่แสนนุ่มหูจะถูกเอ่ยออกมาให้หัวอกผมอุ่นวาบ
“ได้สิครับ เพราะนนรักเบส...ตะ แต่จะดีเหรอ เบาหน่อยนะครับ” จากซึ้งๆผมนี่หลุดหัวเราะเลยล่ะครับ ทั้งขำทั้งหมั่นไส้
ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยขอแบบที่นนขอนะ แต่หาได้น้อยครั้งมากที่ไอ้ดำตูดหมึกจะทำตามคำขอของผม เพราะส่วนใหญ่ตอนนั้นล่ะหน้ามืดหูอื้อไปซะหมด
ระหว่างที่นนส่งยิ้มแหยๆมองมายังผมที่กลั้นขำไม่อยู่นั้น ผมก็ฉุดแขนไอ้ตัวดีให้ลุกขึ้น โดยมีผมนั่งคร่อมตักมันอยู่ ก่อนจะดึงเสื้อยืดของมันออกทางหัวอย่างรวดเร็ว และประกบจูบแบบที่นนไม่ทันตั้งตัว คราวนี้ผมกลายเป็นผู้นำมอบจูบหวานๆให้ไอ้ตัวแสบได้เคลิบเคลิ้ม ร่างกายโอนอ่อนครางผะแผ่วตลอดเวลา แต่สุดท้ายนนก็มาช่วงชิงจังหวะที่ผมผ่อนลมหายใจ กลับมาเป็นฝ่ายตักตวงความหวานไปจากผม
ผมมารู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อฝ่ามือหนาสอดเข้ามาลูบไล้เนื้อตัว จนถึงยอดอกทั้งสองข้าง พาให้ขนทั่วร่างแข็งกันลุกพรึบพรับ ผมจึงผละจูบและเริ่มลงมือลูบร่างแกร่ง ที่ไม่ว่าจะลูบไล้ไปทางไหนก็เจอกับกล้ามเนื้อแน่นๆ แต่ไอ้ตัวดีก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆให้ผมลูบหรอก เพราะนนใช้จมูกสูดกลิ่นกายผมไปทั่ว ไล่ตั้งแต่ขมับมายังข้างแก้มลงไปยังสันกราม มีขบเม้มให้พอขนลุกที่ไหปลาร้า ก่อนจะซุนจมูกมาที่ซอกคอแรงๆ เหมือนว่าเจ้าตัวจะมันเขี้ยวผมไม่น้อย จนผมต้องเตือนมันไม่ให้ทิ้งรอยไว้ ช่วงนี้ช่วงแข่งผมต้องใส่เสื้อกล้ามตลอด ขืนมีรอยคงไม่ต่างจากเป็นการประจานตัวเอง
“อย่า!...ห้ามทำรอย” ใบหน้านนที่เชิดหงายจากฝีมือผมที่จิกทึ้งเส้นผมนั้น แม้จะออดอ่อยอย่างยอมจำนน แต่แววตากับระรื่นชื่นสุข แถมด้วยการยกสะโพกให้ส่วนกลางลำตัวมันมาเสียดสีกับสะโพกผมอีก
“อ่ะ อ๊า~ ซี้ดดดด เบส~” คงไม่แปลกใจใช่มั้ยครับกับเสียงครางและเสียงสูดปากที่ดังขึ้น ก็ใครจะทนไหวกับความหื่นของคนหน้าเป็นได้กันล่ะ
ผมเลยล้วงมือลงไปคว้าไอ้แสบเล็กหัวแข็ง และบีบไม่แรงนักจนพ่อมันส่งเสียงอย่างที่ได้ยินไป ก่อนผมจะยื่นหน้าไปกัดลำคอหนาที่มีเส้นเลือดปูดโปน แต่ก็ไม่ได้แรงอะไรครับ เอาแค่พอหายหมั่นไส้เท่านั้น แต่เหมือนกับไม่มีประโยชน์อะไร เพราะไอ้แสบเล็กในมือดันขยายขนาดขึ้นอย่างน่าตกใจ แถมตัวพ่อเองก็ยิ่งเชิดหน้าครางเสียงหลง มือไม้ก็ป่วนเปี้ยนไปตามเนื้อตัวผมให้วุ่นวาย
ผมจึงแถมกัดเข้าที่ปลายคางบึกบึนที่อยู่ระดับสายตาพอดีไปอีกสักที ก่อนจะลงมือชักพาไอ้แสบเล็ก และถอดกางเกงขาสั้นบริเวณหน้าขาแกร่งออก พร้อมประกบจูบกลั้นเสียงแหบห้าวไปด้วย
“เบส สุดหล่อ~ อ่าๆๆ” เสียงครางกระเส่าดังขึ้นทันทีที่ผมแหย่ลิ้นลงบนส่วนหัวไอ้แสบเล็ก ก่อนผมจะช้อนตาขึ้นแอบมองเจ้าของเสียงนั่น
ผมก็ต้องแสยะยิ้มถูกใจ เมื่อใบหน้าคมเข้มนั้นเชิดหงายลำคอปูดโปน จากอารมณ์เสน่หาที่ผมเป็นคนปลุกปั้น ก่อนผมจะตัดสินใจกลืนกินแสบเล็กในอุ้งมือ และคงไม่ต้องบอกว่าตัวพ่อโคตรแสบจะมีอาการอย่างไร ไม่ว่านนจะร้องดังแค่ไหนผมไม่เคยว่า แต่ไอ้อาการเสยสะโพกส่งไอ้แสบเล็กเข้าปากผมแทบทะลุคอนี่สิ มันทำเอาผมสำลักน้ำตาคลอเลยทีเดียว แถมยังต้องมานั่งไอหน้าแดง ให้ไอ้ดำตูดหมึกขอโทษผมเสียงอ่อยๆ แต่เหมือนมันจะไม่สำนึกยังไงไม่รู้ครับ เพราะนนดันเริ่มใช้ลิ้นเลียร่างกายผมไปทั่ว
ไปไงมาไงไม่รู้ ผมถึงได้มานอนหงายโดยมีนนขึ้นคร่อมส่งไอ้แสบเล็กตัวมันวาวจ่อปากอยู่แบบนี้ ไม่เท่านั้นตัวพ่อโคตรแสบมันยังไม่ยอมเสียเวลาเอาเปรียบผม เพราะนนเริ่มปรนเปรอเบสน้อยด้วยปาก ให้ผมได้เป็นฝ่ายร้องครางบ้าง ซึ่งผมถึงกลับทนไม่ไหวต้องตอบโต้คืนอย่างเท่าเทียม
ในที่สุดเราต่างก็ปลดปล่อยคาปากกันและกัน ก่อนนนจะเปลี่ยนท่าเข้ามากอดมาคลอเคลียกับแก้มกับคอ พร้อมมือที่ลูบขึ้นลงแผ่นหลังชื้นเหงื่อของผม ผมที่กำลังเพลินกับลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดซอกคอ และจังหวะลูบผะแผ่วอ่อนโยนที่แผ่นหลัง ก็มีอันสะดุ้งเมื่อนนน้อยเริ่มตื่นอีกครั้ง จนทิ่มแทงที่หน้าท้อง
“แหะๆ เดี๋ยวนนไปเอาออกเอง” ยังมีหน้ามาหัวเราะนะไอ้หื่น!
“เดี๋ยว! มันเพิ่งเริ่ม” นนงงเป็นไก่ตาแตก ผมจึงอาศัยจังหวะนั้น ผลักมันนอนหงายและอ้าขาล่ำๆออก ก่อนแทรกตัวเข้าไป
“เบส...” ถึงกลับเรียกผมเสียงอ่อยเชียว แต่ดีที่ไม่มีขัดขืน ผมจึงแกล้งบดหน้าท้องเข้าหาไอ้แสบเล็กเล่น ตัวพ่อมันถึงกลับจ้องผมหวั่นๆ แต่ดันกัดปากกลั้นเสียงครางไว้อย่างน่าขัน
“ถึงเวลาที่เบสรักนนบ้างแล้ว...ไอ้ดำตูดหมึก ฮึๆ” ผมประทับจูบดูดลิ้นนิ่มๆทันที และเริ่มเล้าโลมร่างแกร่งอีกครั้ง
ผมคงไม่ต้องบอกว่าไอ้หื่นตัวพ่อเครื่องมันจะติดเร็วแค่ไหน เรียกได้ว่าแค่ผมลูบนิดๆหน่อยๆก็แข็งคามือ นอนหลับตาพริ้มครางหวิวไม่มีขัดขืน พร้อมที่จะให้ผมรุกทุกเมื่อ จนผมเริ่มเอ็นดูไอ้ดำตูดหมึกขึ้นมา กับความยินยอมพร้อมใจ ซึ่งใจจริงผมนั้นก็อย่างที่บอกไปแต่แรก ว่าผมแค่ลองใจคนที่พร่ำบอกว่ารักผมนักหนาดูเท่านั้นเอง แต่เมื่อเห็นแล้วว่านนเองก็พร้อมยอมให้ผมได้ทุกอย่างเช่นนี้ ผมจะต้องไปอิดออดหรือเกี่ยงงอนทำไมว่าใครจะเป็นฝ่ายไหน ในเมื่อเราต่างก็เป็นฝ่ายมอบความสุขให้กันและกันได้ไม่ต่างกันอยู่แล้ว
“บะ เบส ทำไม...” ผมไม่คิดจะตอบ เมื่อความสนใจทั้งหมดอยู่ที่การพยายามพาไอ้แสบเล็กผ่านความคับแน่นของตัวเอง แต่การทำด้วยตัวเองมันช่างยากเย็นนัก หากเทียบกับทุกครั้งที่ผ่านๆมา เล่นเอาผมน้ำตาไหลอย่างไม่รู้ตัว
“ขอบคุณครับสุดหล่อ นนก็รักเบสมากเหมือนกัน” นนกระซิบคำรักข้างหูผม พร้อมจูบซับน้ำตาที่ไหลมาตามข้างแก้ม พาลให้หัวอกอุ่นวาบ แต่ผมไม่ได้บอกรักนนสักหน่อย ทำไมถึงพูดอะไรแบบนั้นออกมากันล่ะ
“นนรู้ว่าเบสรักนน ไม่งั้นเบสไม่ทำให้นนขนาดนี้หรอก...รักเบสนะ รักมากด้วย” สิ้นคำรักอ่อนหวานพร้อมแววตาอ่อนโยนที่สื่อออกมานั้น ผมก็โดนเจ้าของคำรักผ่อนร่างลงกับเตียง ก่อนนนจะปรนเปรอผมด้วยปากและมืออย่างเชื่องช้า พาให้อารมณ์รักก่อตัวและโหมกระพือขึ้นในที่สุด
อะไรที่เคยว่ายากว่าลำบาก ผมกลับผ่านช่วงเวลานั้นมาแบบไหลลื่น เพียงเพราะการเอาใจใส่ทุกรายละเอียดของคนที่รักกัน สุดท้ายผมกับนนก็เดินทางถึงปลายทางแห่งรักในเวลาไล่เลี่ยกัน และก่อนสติผมจะดับลง ผมได้สัมผัสถึงความอุ่นชื้นบริเวณข้างขมับ พร้อมได้ยินเสียงกระซิบถ้อยคำแสดงความเป็นเจ้าของด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“สุดหล่อของไอ้นน รักมากเลยรู้มั้ย” เพียงแค่นี้ผมก็หลับใหลไปพร้อมรอยยิ้มแล้วครับ
‘รักนะ...ไอ้ดำตูดหมึก!’
......................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะเอ่อ “เคลียร์” กันแบบนี้เลยหราๆๆๆ แต่ก็น่าจะถูกใจใครหลายๆคนเนอะ
โดยเฉพาะนนน่าจะถูกใจกว่าใคร

แต่ดูท่าคงมีคนเกลียดเด็กบิวเพิ่มขึ้น ริจะเป็นนายเอกแต่การกระทำมันช่างสวนทาง
และคงต้องตามต่อว่าเด็กบิวจะหยุดมั้ย หรือจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ชักสงสารไอ้ดำตูดหมึก
ของหน้าหยกขี้แยซะจริงๆ

(แน่ใจหราว่าสงสาร)
ส่วนตอนหน้าในวันพุธ ขอเตือนอาจมีใครสำลักในความหวานของทั้งคู่ก็ได้นะ
แต่เชื่อเถอะได้ยิ้มจนแก้มแตกกันไปข้าง
ปล.เก๊าถนัดมาแนวหวานน้า ดราม่าเอาพอขลุกขลิกแล้วกันเนอะ
ปล.2 คู่จริงช่วงนี้กำลังดราม่าซดน้ำตากันอยู่ ลุ้นจนเหนื่อย
ขอเติมความหวานจากนิยายตัวเอง

+1และบวกเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
