@@โดย Luk {สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ} @@ 1/3/57 # P.64...END++++
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@โดย Luk {สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ} @@ 1/3/57 # P.64...END++++  (อ่าน 623345 ครั้ง)

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เดาไว้ไม่มีผิด พระปิจตุฉาและปิตุลาเฒ่าคือคนของตระกูลมหาธาตุชั่วนั่นจริงๆ

แต่ไม่คิดว่าจะเลวถึงขนาดเพาะตะขาบแก้วไว้ในการหญิงธารเพื่อดูดเอามหาธาตุ

คิดไปหญิงธารก็น่าสงสารไม่น้อย

ตอนท้ายกำลังหวานๆเลยแต่จะไปต่อกันตอนหน้าสินะ

อยากให้หญิงธารไปตำหนักหญิงอ้ายแล้วรุกคืบจีบหญิงอ้ายจริงๆ

แต่ตอนหน้าที่ว่าจะเครียดๆนี่ไม่รู้เรื่องอะไรนะ ขออย่าได้เป็นผักตบและวายุเลย

เอ๊ะ....หรือว่าหญิงธารจะทรุดเพราะพลังมหาธาตุกำลังถดถอย

อันนี้ต้องรอดู



ปล.คาดว่าเหตุที่ไม่มีใครเริ่มสงสัยในตัวหญิงธารเป็นเพราะว่าห่วงงานอื่นมากกว่าแน่ๆเลย

ก็ได้แต่ภาวนาว่าจะมีใครสะกิดใจแต่เริ่มแรกอยู่ก่อนแล้วนะ :ling3:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
องค์ชายวายุภักษ์เฉยชากับคนอื่น แต่หวานกับน้องตบชนิดมดสำลักน้ำตาลเลยเชียว :o8:
ปิตุลาว่าน่ากลัวแล้ว ปิตุจฉาน่ากลัวกว่า รออ่านปูมหลังของคนๆนี้ด้วย
องค์ชายธรจะพิสูจน์ใจตัวเองสามคืน ดูซิ จะทนได้เปล่าน๊า ถึงเวลานั้นกลกะลาคงน้อยใจงอนไปเท่าไหร่แล้วไม่รู้
องค์หญิงธารจะเจอหญิงอ้ายแล้ว จะจีบกันท่าไหนน้อ หุๆๆ^^

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
 :o8: เขินแทนผักตบเลยอ่ะ หวานกันน่าดูเลย

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :o8: :o8: :o8:

มุ้งมิ้งสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
 :serius2: รู้สึกเหมือนทะเลสงบ ก่อนพายุจะมายังไงไม่รู้

อีกเดี๋ยวต้องมีเหตุวุ่นวายแน่ ให้หญิงธารไปควบคุมชลประธารเนี่ย

ขอให้แม่เล็กทำให้เจ้าหญิงใจอ่อนด้วยเถิ้ดด รอตอนต่อไปค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ waterlily

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
หลังจากตอนนี้แล้ว ตอนต่อไปคงเหมือนฤดูมรสุมในทะเลแน่นอนเลย :katai1: :hao3:

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
องค์หญิงชลธาร จะได้ฟิตเจอริ่งกับองค์หญิงศศิธร มั้ย แบบ มโนล่วงหน้าเอาเองว่า แค่2คู่ ยังวุ่นวายไม่พอ

มโนไปเรื่อยๆก็ว่า ผู้หญิงสองคนนี้ เป็นตัวแปรไม่น้อย

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ความรักจะทำให้หญิงธารกลับใจมั้ยน้อ~
อยากให้ผักตบตั้งครรภ์เร็วๆ

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
อ๊ะ  ตอนนี้แอบหวานเบาๆตอนท้าย   เจ้าชายนี่น้า  นอกจากมึนแล้วยังทำเนียนอีก  บอกรักผักตบไม่อายคนอ่านเลยน้า  :-[

แต่กว่าจะมีฉากหวานก็แอบสงสาร  กลกะลา  กับองค์หญิงธารอ่ะ  กลกะลานี่ถูกเจ้าชายธรนินจัดหนักไม่เว้นเลยอ่ะ  ถึงจะเป็นการเริ่มรักกันแบบยังไม่รู้ตัว(ซักที) แต่ก็สงสารกลกะลานะที่ต้องจากไตรคานกับเจ้าชายวายุภักษ์ไปอยู่ต่างเมือง

ส่วนเจ้าหญิงธาร  ตอนก่อนหน้านี้เราขอโทษนะที่แอบไม่ชอบเธอ  พอเรารู้ว่าเธอถูกใช้  เราก็ให้อภัยแล้วล่ะ  แต่ถ้ายังไงตอนหน้าหญิงธารก็อย่าทำอะไรรุนแรงนะ  เค้ายังอยากอ่านตอนหวานๆของเจ้าชายกับผักตบก่อน  แล้วถ้าไปเจอหญิงอ้ายก็รีบๆรักกันไปเถอะค่ะ  อย่ามารวมหัวแก้แค้นผักตบเลย(แอบจับคู่ซะงั้น)   

สุดท้าย...  รออ่านวันศุกร์นะคะ  รักคนแต่งค่าาาา :L2: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poisongodx

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
องค์ชายน่ารักอ๊า มีอ้อนพระชายาด้วยอ่ะ
ยังต้องเจอปัญหาอีกเยอะแน่ๆ...อย่าไปเวฬุวรรณนะผักตบ

ออฟไลน์ roseouioui

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :-[ ลุ้นคู่เจ้าหญิงธารกะหญิงอ้าย หุๆๆ
จะเป็นไงน๊าาาา
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 :katai2-1:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ธารอ้ายแล้วสินะเนี่ย ธรณินกลกะลาจะเป็นยังไงบ้างนะ ถ้ากลกะลาถูกพ่อแม่ธรณินทำร้าย ธรณินจะทำยังไงนะนั่น ผักตบอย่าดื้อมากสิ วายุภักดิ์เป็นห่วงนะ

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :hao5: รอลุ้นเจ้าคร๊าพี่ลักษ์จ๋า
องค์หญิงน้ำรู้ตัวไวๆเต๊อะ ว่าโดนหลอกใช้อ่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยยยยย เขินนน มากกก ฉิงๆ
เจ้าชายบอกรักแล้ววววว

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
เขินแทนผักตบอ่ะ
องค์ชายหวานไปนะ ><

ออฟไลน์ £.Ma|e¥

  • ชั้นคือผู้หญิงโรคจิต!! โฮะๆๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
กรี๊ดดดดดดด น่ารัก !

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
อ๊าย  หลังจากปล่อยให้เรื่องนี้ลอยนวลผ่านตาไปนานสองนานก็ถึงเวลาจิ้มอ่านซักที
สนุกมากคะ  อ่านเพลินตั้งแต่ 4 ทุ่ม-ตี 2 แทบลืมไปว่าต้องไปตรวจร่างกายตอนเช้า
ชอบนู๋ผักตบมากน่ารักสุดๆ
แอบเสียดายที่ไม่ได้ลงเรื่องลูกในเล้าด้วย เฮ้อ
ตอนนี้กำลังลุ้นเลยว่า  หญิงธารจะรู้ตัวตอนไหนว่าโดนหลอก
กลัวแต่ว่าผักตบจะช้ำจนต้องหนีกลับเมื่องกรุงซะก่อนนะสิ

ปล.ตอนแรกเรื่องตอนเกิดของผักตบนะคะ  เท่าที่รู้มาถ้าคลอดเด็กแฝดตามธรรมชาติ มักจะไม่ตัดสายสะดือก่อนที่แฝดคนที่สองจะคลอดออกมาเพราะหากตัดสายสะดือก่อนเด็กคนที่สองอาจมีปัญหาได้  และหากปล่อยไว้ในท้องนานเกินไปก็มักจะมีปัญหาเหมือนกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Hummer

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-12
ฟินนนน...นาเล่!!!

รอลุ้นตามติดกระชิดขอบต่อไป :ling1: :katai5: :katai2-1:

gngane

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ||toxic-love||

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากได้ๆๆๆ แต่ไม่มีตัง ผ่อนจ่ายได้ไหมครับ 5555

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
รอๆตอนต่ออยู่น๊าาา  :impress3:

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ
Part 18...เพทุบายสร้างสายสัมพันธ์





“เรารักเจ้า..ผักตบ เจ้าคือชายาของเรา”
หลังพระองค์ทรงเปิดเผยความรู้สึกในพระทัย จงใจใช้สุรเสียงทุ้มนุ่มซึ่งมิเคยมอบให้ผู้ใดมาก่อน
สายพระเนตรมั่นคงยืนยันสัจจะวาจา ให้ผู้ที่ได้ชื่อว่ากุมดวงหทัยของพระองค์ไว้ในอุ้งมือ
ได้ตระหนักถึงความจริงใจที่มี ผักตบยืนจ้องวงพักตร์พระองค์นิ่ง
ใบหน้าขาวสุกปลั่งขับเลือดฝาดแดงระเรื่อสะท้อนแสงคบไฟสลัวลาง
ดูมีเสน่ห์ลึกลับจนพระองค์มิสามารถสะกดกลั้นความต้องการบางอย่าง ที่ผุดขึ้นในพระทัยขณะนี้

พักตร์คมคายค่อยโน้มเข้าใกล้ ผักตบไม่เบี่ยงร่างหลบ ยังยืนนิ่งใช้สายตาสุกสกาวคมวาวจ้องลึกดวงเนตรฉ่ำหวาน
ซึ่งขยับเข้าชิดจนปลายพระนาสิกคลอเคลียปัดโดนปลายจมูกเขาเข้าแล้ว

“อืม..อืออ!!” เสียงครางทุ้มในพระศอ เมื่อโอษฐ์หยักได้รูปงามแนบจุมพิตหวานละมุนบนกลีบปากสีสดละเมียดละไม
ชิวหานุ่มร้อนซอกซอนกระทบฟันขาว หยอกเอินให้เปิดริมฝีปากตอบรับการรุกล้ำ 
ผักตบค่อยพริ้มปิดเปลือกตาลง เผยอปากรับจุมพิตอ่อนโยนเจือรสชาติหวานหวามจนรู้สึกได้อย่างเด่นชัด
เขาตวัดลิ้นเกี่ยวพันผู้บุกรุกซึ่งกำลังกวาดต้อนดุนชิวหาเข้าร้อยรัด อย่างต้องการผูกสัมพันธ์กับเขาไปด้วย

จูบดื่มด่ำกลางสวนในค่ำคืนที่หมู่ดาวส่องแสงริบหรี่ แต่งแต้มผืนฟ้าสีดำกว้างใหญ่ด้วยประกายเล็กจ้อยอยู่ไกลโพ้น
กลับสร้างบรรยากาศรอบกายสองหนุ่มให้ดูอบอุ่น เต็มไปด้วยความสุขแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ
พระหัตถ์แกร่งประคองท้ายทอย ซึ่งมีเส้นผมนุ่มให้ดัชนีสอดรั้ง สร้างความแนบชิดสนิทแน่น
แบ่งปันความรู้สึกส่งผ่านไปกับจุมพิตละมุน โดยไม่เร่งเร้าจาบจ้วงโจนทะยานสู่อำนาจของตัณหาราคะ

กระทั่งทรงถอนพระโอษฐ์ถอยห่าง ดวงเนตรฉ่ำเยิ้มจ้องริมฝีปากมันวาวหลังถูกบดจูบยาวนานพอสมควร
ทั้งคู่ไม่มีใครเอ่ยวาจาแต่อย่างใด สบสายตากันนิ่งนาน  เพียงเท่านั้นก็ถ่ายทอดความรู้สึกที่ซ่อนเร้นภายในใจ
เปิดเผยให้อีกฝ่ายรับรู้จนหมด อย่างไม่ปิดบังอำพรางอีกต่อไป แม้จะไม่เอ่ยด้วยวาจา
แต่ดวงตาคมหวานของผักตบก็บอกทุกอย่างแทนคำพูดได้

“ดึกแล้ว..เราจักไม่รบกวนเพลาพักผ่อนเจ้าอีก ให้เราส่งเจ้าก่อน เราค่อยกลับออกไป”
องค์ยุพราชหนุ่มตรัสในเวลาต่อมา พระหัตถ์ใหญ่เกลี่ยปอยผมที่ตกระใบหน้าขาวได้อ่อนโยนเป็นที่สุด
ผักตบไม่ได้ทักท้วง เขาเพียงพยักหน้ารับทราบพระประสงค์ ก่อนเป็นฝ่ายก้าวเท้าเดินนำออกจากสวน
โดยข้างกายองค์ชายวายุภักษ์ทรงดำเนินตีคู่คลอเคลียอยู่ไม่ห่าง ใบหน้าผักตบรวมทั้งใบหูแดงก่ำอย่างเขินจัด
มุมปากสีสดกลับจุดยิ้มเล็กๆ เต็มไปด้วยความสุขที่เขาเองก็เพิ่งเกิดความรู้สึกแบบนี้ เฉพาะกับคนๆ นี้..

“เข้ามาก่อนสิครับ” ผักตบเอ่ยชวน หลังองค์ชายทรงหยุดนิ่งอยู่แค่หน้าประตูห้อง
ทำให้เขาแปลกใจที่อีกฝ่ายไม่ก้าวตามเข้ามา

“มิสมควรกระมัง เรากับเจ้าจักอยู่ร่วมกันยามราตรี ต้องรอให้ผ่านพิธีอภิเษกเสียก่อน”
พระองค์ทรงดำรัสเหตุผลที่ทรงหยุดเพียงแค่หน้าประตู สายพระเนตรถ่ายทอดให้ผักตบ
บ่งบอกถึงความรู้สึกถวิลหาจนคนมองรับรู้ได้ดีกว่าคำพูดเสียอีก

ผักตบขมวดคิ้วมุ่น ต้องการยืนยันความตั้งใจให้องค์ชายซึ่งเป็นเจ้าของตำหนักและห้องนี้ย่างบาทเข้ามา
กระนั้นพระองค์กลับส่ายพักตร์ปฏิเสธท่าเดียว สร้างความหงุดหงิดคันหัวใจยิบให้เขาทันที ถึงกับบ่นในใจ
‘เป็นบ้าอะไร ได้เสียกันขนาดนี้ดันห่วงนั่นนี่ ทำเหมือนเราเป็นผู้หญิงไปได้’
คิดถึงตรงนี้เขาไม่รีรอเป็นฝ่ายก้าวเข้าหาวรองค์สูงใหญ่ ก่อนถือวิสาสะคว้าข้อพระกรลากเข้าห้อง
เหมือนฉุดลูกสาวชาวบ้านซะงั้น ไม่ทันที่องค์ยุพราชหนุ่มจะได้ทักท้วง ก็ฉกจูบประกบปากตามติดหยุดคำพูดเอาไว้

“อุ๊บ..อืมมม!!” บทจูบเร่าร้อนดูดดื่ม ผักตบเป็นฝ่ายจู่โจมในระยะประชิดได้เริ่มขึ้น ถึงแม้วรองค์จะสูงใหญ่แข็งแกร่ง
แต่ผักตบก็ใช่จะตัวเล็ก นับว่าเขารูปร่างสูงใหญ่ไม่น้อย เพียงแต่เล็กกว่าคนตรงหน้าก็เท่านั้น
แผ่นหลังกว้างองค์ยุพราชหนุ่มแนบไปกับบานประตู ซึ่งผักตบยันปิดในขณะปฏิบัติภารกิจปล้นจูบว่าที่พระสวามี
ผู้รักษาขนบธรรมเนียมได้อย่างเคร่งครัด แต่ตอนนี้คงไม่มีผลเสียแล้ว เมื่อเจอความชำนาญระดับเชี่ยวชาญของผักตบชักนำ
ซึ่งพระองค์โหยหาการสัมผัสแนบชิดเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว ย่อมทะลักทลายเขื่อนแตกเกินจะควบคุมไว้ได้
หากทรงรู้ผักตบก่นบ่นอยู่ในใจว่าอย่างไร คงมีอึ้งต่อความคิดพระชายาเป็นแน่แท้
‘ไม่รู้เสียแล้ว อดีตผมทำสาวคลั่งทำหนุ่มครวญ คุณจะมาทำตัวเป็นพระเอกให้เกียรติผมเหมือนผู้หญิงทำไม
ถ้าไม่กล้าผมเริ่มเองก็ได้ครับ’
นั่นคือความคิดของผักตบ ที่ทำให้เขาเกิดอาการห่าม
บ้าบิ่นบุกเข้าประชิดพระวรกายแล้วดึงรั้งบดจูบดุเดือดอย่างตอนนี้

กลายเป็นปลุกเร้าพระอารมณ์กำหนัดของยุพราชหนุ่ม ให้โจนทะยานจนไม่สามารถสะกดข่มเอาไว้ได้อีก
พระองค์ไม่ใช่ก้อนศิลาที่จักไม่รู้สึกร่วม เมื่อคนรักเป็นฝ่ายเริ่ม มีหรือบุรุษเยี่ยงพระองค์จักสะกดกลั้นไว้ได้
เพียงเสียหลักเล็กน้อยขณะถูกจู่โจมกะทันหัน หลังตั้งหลักได้แล้ว กลับเป็นพระองค์เองที่ไล่ต้อนบดคลึงริมฝีปากนุ่ม
ด้วยโอษฐ์อิ่มของพระองค์อย่างโหยหาคำนึงถึงเป็นที่สุด ต่างฝ่ายต่างต้องการกันและกัน
อย่างที่ไม่เคยรู้สึกต้องการใครเท่านี้มาก่อน

หลังจากคืนที่มีอะไรกันแล้ว ผ่านมาเป็นอาทิตย์ถือว่าพระองค์สะกดกลั้นความต้องการ
อยากร่วมสังวาสกับผักตบด้วยความทรมานไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อผักตบเป็นผู้ชิงลงมือเสียเอง
ความอดทนอดกลั้นที่มีอยู่พังครืนลงไปทันที แปรเปลี่ยนเป็นพายุอารมณ์โหมกระหน่ำ
พัดพาสองร่างซึ่งกำยำสมบูรณ์ ทั้งยังสวยงามดุจเทวะแดนสรวงให้โรมรันพันตู
เบียดคลึงเล้าโลมกันและกันอยู่บนเตียงใหญ่ โดยไม่เหลืออาภรณ์ติดกายเลยสักชิ้น
ความร้อนแรงแปรเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลผ่อนปรน เมื่อถึงนาทีสำคัญที่องค์ชายวายุภักษ์
จักนำส่วนเชื่อมต่อของพระองค์เข้าสู่ภายในร่างผักตบ กลับทรงอ่อนโยนได้อย่างน่าทึ่ง

พระองค์ทรงรู้หากกระทำการรุนแรงไม่ระมัดระวัง ผู้ที่จักบาดเจ็บทรมานถึงขั้นหลั่งโลหิต
ย่อมเป็นพระชายาของพระองค์แล้ว ด้วยเหตุผลที่ทรงเข้าพระทัยดี กลับค่อยเป็นค่อยไปทะนุถนอม
เหมือนผักตบคือหยกมีค่า หนักมือมากเกินจักปริแตกเอาได้

ความเอาใจใส่ที่ทรงดูแล สร้างความประทับใจให้ผักตบเกิดความชื่นชมองค์ชายวายุภักษ์
หากเป็นตัวเขาคงไม่สามารถยับยั้งชั่งใจในภาวะเข้าด้ายเข้าเข็ม ให้ละมุนละม่อมได้เท่าพระองค์เป็นแน่
นั่นเพราะผักตบไม่รู้ว่า ส่วนลึกพระทัยยุพราชหนุ่ม ทรงนึกถึงเขาเป็นอันดับแรก ทรงห่วงใยผักตบมาก่อนเสมอ
เมื่อรู้ผักตบต้องแบกรับแท่งลึงค์ที่ไม่ธรรมดาของพระองค์เข้าสู่ร่างกาย ผ่านช่องทางคับแน่น ย่อมทุกข์ทรมานไม่น้อย
จึงอดทนไม่พระทัยร้อนบุ่มบ่ามให้ได้มา กลายเป็นบทรักซึ่งสวยงามเผื่อแผ่ ต่างฝ่ายต่างห่วงใยความรู้สึกของกันและกันแทน

บทรักที่ผักตบสัมผัสด้วยใจ การร่วมรักที่แท้จริง ประสบการณ์ที่เขาสั่งสมมา
ล้วนเป็นความช่ำชองเพื่อบริการเซ็กส์ให้คู่นอนได้พบความสุข แต่ไม่เคยที่เขาจะรู้สึกเต็มอิ่มท่วมท้น
อย่างที่กำลังได้รับอยู่ขณะนี้ ทั้งที่บทบาทของเขาเป็นฝ่ายรับ กลับไม่รู้สึกด้อยค่าเสียศักดิ์ศรีเลยด้วยซ้ำ

ในทางกลับกันผักตบต้องการให้องค์ชายวายุภักษ์ รู้สึกประทับใจต่อการร่วมรักกับเขา
สำคัญพระองค์จะลืมไม่ได้เด็ดขาด ว่าเขาคือคนที่ช่วยให้พระองค์มีความสุข ด้วยความรู้สึกแบบนี้
ทำให้ความร่วมมือและการตอบสนองของผักตบ กลายเป็นความสวยงามสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

ผู้ที่ได้รับไปเต็มๆ ย่อมเป็นองค์ชายวายุภักษ์ ต่อให้ผักตบไม่แสดงฝีไม้ลายมือ องค์ชายก็คงไปไหนไม่รอด
สิ่งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาสองคนผูกพันกันลึกซึ้ง จนกลายเป็นสายสัมพันธ์ลึกล้ำที่ยากจะตัดขาด
แต่ความเหนียวแน่นซึ่งร้อยรัดดุจเกลียวเชือกไร้สภาพ คือหัวใจสองดวงที่เกี่ยวก้อยรวมเป็นหนึ่งต่างหาก
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด มากกว่าความสุขซึ่งถ่ายโอนผ่านร่างกายตอนนี้เสียอีก

ไม่ว่าสิ่งไหนสำคัญเช่นไร โดยรวมแล้วทุกสิ่งประกอบเข้าด้วยกัน คือความสมบูรณ์แบบ
ทำให้บทรักของพวกเขาถึงฝั่งฝันครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าผู้เริ่มต้นคือผักตบ
แต่หลังจากนั้นผู้ผลักดันต่อเนื่องกลับเป็นองค์ชายวายุภักษ์รัชทายาทไตรคาน
ทรงวางขนบธรรมเนียมไว้หลังบานประตูแทน
>
>
>
“องค์หญิงชลธารเสด็จเพคะ!” เสียงนางกำนัลประจำตำหนักขององค์หญิงศศิธรขานให้ได้ยินทั่วบริเวณ
ในเวลาต่อมาวรองค์งดงามของสตรีเจ้าของพระนาม ก็มาปรากฏยังโถงพระตำหนัก

“ข้ามาทำหน้าที่ฟื้นฟูบ่อน้ำ พวกเจ้าผู้ใดสามารถทูลเชิญเจ้าของตำหนักมาพบข้าได้”
พระสุรเสียงดุจระฆังแก้วกังวานหวาน ข้าราชบริพาร ซึ่งล้วนเป็นนางกำนัลไม่มีบุรุษต่างรับฟัง
พวกนางชื่นชมพระศิริโฉมและซุ่มเสียงที่ไพเราะจับจิต แต่กลับไม่มีใครขันอาสาทูลเชิญองค์หญิงเจ้านายของตนเลยสักคน

นับตั้งแต่พระองค์ถูกถอนหมั้น องค์หญิงทรงเก็บตัวอยู่แต่ภายในห้องบรรทม
เสวยเล็กน้อย..พระอาการสดใสน่ารักเช่นเคยไม่มีให้เห็นอีก  เหล่าผู้รับใช้ย่อมรู้ดีถึงมูลเหตุ
ทรงต้องการประทับลำพัง กำชับมิให้ผู้ใดรบกวนหากไม่ได้รับพระบัญชาอนุญาต
แม้นจะมีสาส์นจากองค์ชายวายุภักษ์ แจ้งล่วงหน้าทรงมอบหมายให้องค์หญิงชลธาร
ผู้ถือครองเทพมหาธาตุมาช่วยฟื้นฟูบ่อน้ำสำหรับสรง รวมถึงบ่อน้ำในสวนของพระตำหนัก
กระนั้นองค์หญิงก็เพียงแค่รับสาส์น โดยมิได้รับสั่งอันใดให้พวกนางกระทำ จึงได้แต่ต้อนรับกันตามหน้าที่
ทั้งที่รู้ดีว่าเป็นการไร้พระมารยาทยิ่ง หากเจ้าของตำหนักมิทรงเสด็จต้อนรับด้วยพระองค์เอง
อีกฝ่ายมีศักดิ์ฐานะเป็นถึงขัตติยนารีของนครยิ่งใหญ่เช่นกัน

“ใยไม่มีใครตอบคำ หรือนายของพวกเจ้ามีอันใด นางป่วยหรือเยี่ยงไร จึงไม่สามารถออกมาพบข้าได้”
องค์หญิงชลธารแฝงอำนาจไปกับพระสุรเสียง ให้ข้ารับใช้รับรู้ในพระบารมี

ยังผลให้ปฏิกิริยาของพวกนางอกสั่นขวัญแขวนกันแล้ว น้อยคนที่จะไม่ล่วงรู้กิตติศัพท์ด้านความโหดร้าย
ขององค์หญิงผู้ชาญศึกพระองค์นี้ ทั้งยังทรงมีฤทธานุภาพพลังเทพมหาธาตุ พอรับสั่งเช่นนี้จึงมีบุคคลใจกล้า
ย่อมปริปากเอ่ยวาจา ด้วยท่าทางสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด

“ขอประทานอภัยเพคะ องค์หญิงพวกข้าน้อยมิทรงอนุญาตให้ผู้ใดรบกวน หากพระองค์ประสงค์จักกระทำภารกิจ
ข้าน้อยยินดีนำพาไปยังบ่อน้ำทั้งสองแห่งเพคะ” นางถือเป็นพี่ใหญ่ของพวกที่เหลือ ซึ่งพากันก้มหน้างุด
ไม่กล้าสบดวงเนตรดุ แม้นวงพักตร์เฉิดฉายสวยงามบาดตาก็เถอะ
ถึงแม้องค์หญิงศศิธร..จักทรงได้ชื่อเป็นหญิงงามของไตรคาน
เมื่อเทียบกับสตรีที่ประทับอยู่ที่นี่ กลับด้อยกว่าไม่น้อย ถ้าเปรียบองค์หญิงศศิธรเป็นไก่ฟ้า
องค์หญิงชลธารคงไม่ต่างกับหงส์ขาว ความงามพิสุทธิ์กินขาดกันพอสมควรเลยทีเดียว
โดยเฉพาะหงษ์ขาวผู้นี้มีพระบารมีบางอย่าง สามารถให้ผู้คนยำเกรงได้เพียงแค่ทรงขมวดพระโขนง

“เช่นนั้นข้าเปลี่ยนใจแล้ว เจ้าบอกว่าองค์หญิงของเจ้ามิอนุญาตให้ผู้ใดรบกวน
 เจ้าจงนำข้าไปยังห้องประทับเดี๋ยวนี้ ข้าจำต้องปฏิสันถารกับเจ้าของตำหนัก
ขอบใจในความหวังดีของเจ้า ที่จักนำพาข้าไปกระทำภารกิจด้วยตัวเอง
แต่ควรรู้ไว้ด้วยว่า ผู้ที่จักให้การต้อนรับข้าย่อมเป็นนายของพวกเจ้าเท่านั้น
เช่นนี้มารยาทธรรมเนียมปฏิบัติของไตรคาน ใยมิถูกติฉินนินทาไปทั่วแว่นแคว้นหรือ
ข้าเป็นผู้ใดพวกเจ้าย่อมรู้จัก คงมิต้องแนะนำตัวกระมัง หรือมีผู้ใดจักคัดค้านข้าบ้าง”
คราวนี้พระสุรเสียงสำหรับบงการเหล่าทหาร ถูกหยิบขึ้นมาใช้อีกครั้ง
บ่งบอกถึงพลังอำนาจและพระบารมีที่ไม่ธรรมดา  เหล่านางกำนัลถึงกับออกอาการหลังเกร็งไหล่สั่น
ด้วยเกรงพระบารมีเป็นทิวแถว ไม่ต้องให้พระองค์ข่มขู่..พวกนางก็ทั้งชื่นชมและเกรงกลัวหัวหด

“ท่านสมควรตำหนิข้า ใยทำให้นางกำนัลขวัญหนีดีฝ่อเยี่ยงนั้น” เสียงหวานติดกระด้างดังขัดขึ้น
พร้อมวรองค์แน่งน้อยเจ้าของพระตำหนักเผยโฉมตามติด พระนางอยู่ในชุดสีม่วงอ่อนขับพักตร์งามให้ซีดเซียวแลดูเศร้าโศก
ไม่สดใสเพิ่มขึ้นไปอีก กระนั้นความงามยังคงเด่นชัด ย่อมแตกต่างอิสตรีทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย

“คิกคิก! ต้องขออภัยเจ้าด้วยน้องหญิง ที่ข้าทำให้บริวารของเจ้าตกใจแล้ว
ข้าติดนิสัยคลุกคลีเหล่าทหารในกองทัพ ซุ่มเสียงแข็งกระด้างไม่หวานหยดดังเช่นเจ้า
หากกระทำการอันใดไม่ถูกใจเจ้าแล้ว โปรดอภัยให้ข้าเถิด ทั้งนี้เป็นเพราะข้าห่วงใยสุขภาพเจ้าดอก
พอทราบว่าเจ้าไม่อนุญาตให้ใครรบกวน ทั้งที่ข้ามาถึงตำหนักกลับไม่พบเจ้าออกมาต้อนรับ
พานรีบร้อนตีความไปเองว่าเจ้าอาจป่วยอยู่ ข้าจึงอยากไปดูอาการด้วยตนเอง แม้นข้าไม่ใช่หมอหลวง
กระนั้นยังพอวินิจฉัยอาการป่วยได้บ้าง เป็นปกติของผู้มีเทพมหาธาตุจักสามารถกระทำกัน
เจ้าเองคงรู้อยู่กระมัง องค์ชายวายุภักษ์ย่อมสามารถในเรื่องนี้”
พระดำรัสพรั่งพรูจากโอษฐ์อิ่มรูปกระจับ สุรเสียงที่แฝงอำนาจกลับมาหวานดุจระฆังแก้ว
พักตร์งามพิลาศเฉิดฉันเปล่งประกายแย้มสรวลงดงามทั้งดวงเนตรและฝีพระโอษฐ์
ผ่อนคลายโทสะคุกรุ่นขององค์หญิงศศิธรลงไปอักโข หลังอีกฝ่ายยินยอมรับผิด
แลอ่อนข้อให้พระองค์อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ความจริงหากนับตามธรรมเนียม
พระองค์เป็นผู้เสียมารยาทที่ไม่ออกมาต้อนรับตั้งแต่แรก เพียงนึกว่าสายสัมพันธ์ของสตรีผู้นี้
เป็นพระพี่นางของผู้ที่แย่งพระคู่หมั้นของพระองค์ ก็พลอยชิงชังอย่างไร้เหตุผลไปแล้วเช่นกัน
กระทั่งได้ยินสุรเสียงวางอำนาจในตำหนัก จึงทนเก็บโทสะไว้ไม่ได้ ยอมเผยองค์ออกมาพบ
แอบตั้งพระทัยจักตีรวนขับไล่อีกฝ่าย จักไม่แยแสสนใจด้วยซ้ำ ว่าบ่อน้ำที่พระองค์ใคร่มีไว้ใช้สรง จักเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร

“เอาเถอะ..เมื่อท่านกล่าวเยี่ยงนี้ ข้าหาได้ถือโทษท่าน ข้าเองก็ไร้มารยาทที่มิได้ออกมาต้อนรับ
เป็นเพราะข้าป่วยอย่างที่ท่านเข้าใจไม่ผิด คงมิต้องรบกวนให้ท่านตรวจอาการ
เรื่องนี้เป็นธุระหมอหลวงดูแลข้าแล้ว ว่าแต่ท่านมีธุระอันใดมาเยือนข้าถึงนี่”
พระองค์ยอมอ่อนลงเช่นกัน เมื่ออีกฝ่ายส่งสายพระเนตรไมตรีไม่เสแสร้ง
กระนั้นยังทรงเนียนไม่รู้จุดประสงค์ของผู้มาเยือน ทั้งที่รับสาส์นแจ้งล่วงหน้าแล้ว
สร้างความฉงนแปลกใจให้เหล่านางกำนัลไม่น้อย แต่ไม่มีใครแสดงอาการให้กระคายเคืองพระทัย
พานคิดกันเอาเองว่า องค์หญิงอาจทรงลืมถึงภารกิจของผู้มาเยือน ด้วยพระสติไม่สนใจรอบข้างกระมัง

“อ้า! เช่นนั้นคงเกิดการผิดพลาด หรือเจ้ามิได้รับสาส์นแจ้งจากองค์ชายวายุภักษ์
ข้าอาสาฟื้นฟูแหล่งน้ำในตำหนักของเจ้า จึงได้มาเยือน” องค์หญิงชลธารแย้มโอษฐ์อย่างงดงาม
สายพระเนตรที่ทอดสำรวจวรองค์ ซึ่งยืนประทับห่างไม่กี่ก้าว อย่างพึงพอในพระทัยยิ่งนัก
องค์หญิงต่างแดนกลับหาตำหนิ ในรูปโฉมของสตรีตรงหน้ามิได้ นับว่าเป็นหญิงงามซึ่งพระองค์พานพบเลยก็ว่าได้
สมคำร่ำลือที่เคยได้ยินได้ฟังมา หากสตรีในแผ่นดินทะเลทรายงดงามแข็งแกร่ง ย่อมเปรียบได้คือพระองค์แล้ว
สตรีผู้บอบบางน่าทะนุถนอม..คงไม่พ้นสตรีผู้นี้แล้วเช่นกัน เหตุอันใดวายุภักษ์ถึงหมางเมินยอมถอนหมั้น
ถ้าแม้นว่าน้องชายฝาแฝดของพระองค์เป็นเหตุ ก็ให้น่าคิดอยู่ไม่น้อย

ถึงแม้พระองค์จะทรงไม่ปฏิเสธ ผักตบเป็นบุรุษที่มีผิวขาวดุจหยก หล่อเหลาปานเทพสวรรค์ปั้นแต่ง
กระนั้นก็ยังคงเป็นบุรุษหาใช่อิสตรีที่ดูบอบบางเยี่ยงนี้ไม่ นอกเสียจากวายุภักษ์ชมชอบบุรุษ
เช่นเดียวที่พระองค์ชมชอบอิสตรีกระมัง หากเป็นเรื่องนี้ก็ยากจักตำหนิผู้ใด รสนิยมส่วนตัวย่อมฝืนหัวใจผู้ใดมิได้..

ต่อด้านล่าง


ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  2  -




“ขอประทานอภัย ข้าได้รับสาส์นแต่มิได้อยู่ในภาวะสนใจอันใด 
จึงมิล่วงรู้สาเหตุ หากท่านไม่ยุ่งยากแล้ว รบกวนบอกมาเถิด” องค์หญิงศศิธรรู้สึกแปลกๆ
กับสายพระเนตรงดงาม แถมรอยแย้มสรวลจริงใจขององค์หญิงต่างแดนผู้นี้ 
พระองค์ไม่อยากคิดอันใด แม้นสายพระเนตรและพระสรวลที่มอบให้จักเป็นมิตร
คลับคล้ายทอดผ่านความรู้สึกเสน่หามาให้ด้วยเช่นกัน พานให้รู้สึกแปลกพระทัยอย่างอธิบายไม่ถูก

“ข้ามาเพื่อจักทำหน้าที่ฟื้นฟูบ่อน้ำในตำหนัก เจ้ามีปัญหาอันใดหรือไม่ หากไม่ลำบากเจ้ามากนัก
รบกวนนำพาข้าไปยังบ่อน้ำได้หรือไม่น้องหญิง” องค์หญิงชลธารรับ สั่งชี้แจงจุดประสงค์ในทันที

“ข้าเข้าใจแล้ว เยี่ยงนั้นท่านพึงกระทำเถิด แต่ข้าคงมิสามารถรับเกียรตินำพาท่านไปยังบ่อน้ำดอก
การนี้คงต้องให้ลำพึงผู้รับใช้ใกล้ชิดของข้าเป็นผู้ต้อนรับท่านเสียแล้ว”
องค์หญิงศศิธรปฏิเสธอย่างไม่ให้น่าเกลียด โดยไม่ขัดประสงค์ของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่รับคำเชิญด้วยเช่นกัน

“โอ้! ข้าคงคาดหวังมากไปกระมัง คิดว่าเจ้าจักเป็นผู้นำพาข้าไปด้วยตนเอง นอกจากการนี้แล้ว
ข้ายังมีหนทางแก้ไขปัญหาที่ทำเจ้าทุกข์ใจ ใคร่ปรึกษาเป็นการส่วนตัว หากเจ้าไม่สนใจย่อมไม่เป็นไร
เช่นนั้นให้ผู้รับใช้เจ้านำพาข้าไปเสียเถิด” องค์หญิงชลธารอ่อยเหยื่อให้ปลากินเบ็ด
นับว่าได้ผลทีเดียว ดวงเนตรงามไหววูบ..ก่อนจะเปลี่ยนพระทัยในทันที

“ท่านกล่าวเยี่ยงนี้แล้ว เห็นทีข้าคงต้องรักษามารยาท เชิญท่านตามมาเถิด..ส่วนพวกเจ้ามิต้องตามมาหรอก
ห้ามมิให้ผู้ใดย่างกรายเข้ามาในบริเวณบ่อน้ำของเราเป็นอันขาด” องค์หญิงศศิธรใช้พระสุรเสียงหวานละมุนเป็นครั้งแรก
ค่อยรับสั่งกำชับนางกำนัลส่วนพระองค์ตามหลัง

แล้วหันวรกายนำเสด็จองค์หญิงชลธาร ให้ย่างพระบาทตามเข้าสู่เขตของบ่อน้ำในตำหนัก
องค์หญิงต่างแดนกลับแย้มสรวล โดยเจ้าของตำหนักที่ดำเนินนำ หาได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นี้ไม่
ในพระทัยกลับรุ่มร้อน ใคร่รู้เรื่องที่อีกฝ่ายยกอ้าง จักปรึกษาปัญหาซึ่งพระองค์ทุกข์ตรมขณะนี้...

“เบื้องหน้าท่านคือบ่อน้ำตำหนัก ไม่มีน้ำมาหลายปีแล้ว เป็นเพียงบ่อว่างเปล่า
ยังดีที่ข้าสามารถอาบน้ำได้ กระนั้นก็ต้องให้นางกำนัลไปตักยังตำหนักพระมเหสีมาให้
หากท่านสามารถฟื้นฟูให้บ่อกลับมามีน้ำดังเก่า คงสะดวกแก่ข้ามากทีเดียว”
องค์หญิงศศิธรวางพระพักตร์เฉยชา ทรงเก็บความต้องการในเรื่องที่อีกฝ่าย
นำมาสร้างความสนพระทัยไว้อย่างมิดชิด พระองค์รับสั่งเพียงเรื่องที่เกี่ยวกับภารกิจ
ที่องค์หญิงต่างแดนทรงอาสาจักนำความสมบูรณ์..ฟื้นฟูบ่อน้ำในตำหนักมาดำรัสเท่านั้น
สร้างความขบขันพระทัยให้องค์หญิงชลธารไม่น้อย ที่ได้เห็นการวางองค์เชิดหยิ่ง
ทรงเนียนไม่กล่าวถึงเรื่องที่พระองค์นำมาเป็นสิ่งดึงดูด
ถือว่าองค์หญิงผู้นี้ทำให้พระองค์หรรษาพระอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง  จนนึกแผนการทดสอบบางอย่าง
ด้วยความแยบยลนัก ประหนึ่งพระองค์เป็นราชสีห์กำลังหลอกล่อกวางสาวผู้งดงาม เนื้อหวานโอชาตรงหน้าแล้ว

“ก่อนที่ข้าจักเรียกเทพมหาธาตุวารี ฟื้นฟูบ่อน้ำให้เจ้าไว้ใช้ ข้ามีเรื่องขอความร่วมมือเจ้าแล้ว
เรื่องนี้สำคัญยิ่งต้องเป็นความลับ เจ้ารับปากข้าได้หรือไม่” องค์หญิงผู้ผ่านประสบการณ์ช่ำชองมามากกว่า
ทรงเริ่มเดินแผนการที่หมายมั่นในพระทัย

“เรื่องอันใดกัน ใยข้าต้องให้ความร่วมมือกับท่าน ทำเยี่ยงนี้แล้วข้าจักได้ประโยชน์อันใดตอบแทน
เมื่อไม่มีรายละเอียดข้ามิสามารถรับคำ” องค์หญิงศศิธรกลับดำรัสอย่างชาญฉลาด
หาได้แสดงถึงความอ่อนเดียงสาอันใด แต่ในสายพระเนตรของผู้ล่า
กลับสร้างความขบขันให้พระองค์ชมความบันเทิงไม่หยุดหย่อน
แค่อีกฝ่ายตรัสถามเหมือนออกตัว แสดงให้เห็นว่าตะครุบเหยื่อ..ที่พระองค์ทรงดักล่อเข้าไปเต็มๆ

“ใยกล่าวเยี่ยงนี้เล่า หากเจ้าไม่ได้ประโยชน์มีหรือข้าจักยื่นเงื่อนไข ข้ากำชับว่าเป็นความลับย่อมสำคัญยิ่ง
เจ้าไม่สามารถแพร่งพรายให้ผู้ใดรู้โดยเด็ดขาด แม้แต่พระปิตุลาพระบิดาของเจ้าก็มิอาจให้ล่วงรู้”
องค์หญิงชลธารยังคงเดินแผนการอย่างต่อเนื่อง

“ท่านลองบอกมาฟังดู หากข้าเห็นว่ามีประโยชน์ ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะแพร่งพรายผู้ใด
รวมถึงเสด็จพ่อของข้าก็ด้วย ถ้าหากเรื่องราวมีความจำเป็นต้องปิดบัง ข้าย่อมเข้าใจในข้อนี้”
พระองค์กลับไม่อาจทนรอเนื้อหาสาระต่อไปได้ ทรงเป็นฝ่ายเร่งเร้าขึ้นเสียเอง

“ข้ารู้ว่าเจ้าเสียใจต่อการถูกถอนหมั้น จากองค์ชายวายุภักษ์ใช่หรือไม่ ข้าเองไม่ได้รู้สึกดีใจในเรื่องนี้”
องค์หญิงชลธารเริ่มเปิดปม

“เหตุอันใดท่านไม่ดีใจกับงานอภิเษกของอนุชาท่านเล่า เป็นเรื่องที่ข้าหาน้ำหนักให้เชื่อได้ยากยิ่ง
ท่านกำลังหลอกลวงข้ากระมัง” องค์หญิงศศิธรตรัสท้วงติง โดยไม่ปิดบังพระอาการแม้แต่น้อย

“นั่นเป็นเพราะเจ้าไม่มีน้องชาย จึงไม่รู้หัวอกผู้เป็นพี่จักยินดีได้เยี่ยงไรกัน
หากน้องชายผู้เป็นทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ อภิเษกเป็นชายาของผู้อื่น
แม้นน้องชายข้าอภิเษกตบแต่งชายาข้าจักไม่รู้สึกกระไร เจ้าคงไม่ลืมกระมังว่า
น้องชายของข้ากำลังจักเป็นชายาองค์ชายวายุภักษ์ ว่าที่อดีตพระคู่หมั้นของเจ้า
ถ้าหากพวกเขารักใคร่กัน ข้ามิไร้ทายาทสืบราชบัลลังก์
แก้แค้นกอบกู้แผ่นดินให้เสด็จพ่อเสด็จแม่ผู้ล่วงลับเสียเล่า
เพราะเหตุนี้ข้าจึงต้องการขัดขวางความรักของพวกเขา
ย่อมมีวิธีไม่ยากเย็นอันใดหากเจ้ารับปากร่วมมือกับข้า เรื่องนี้เจ้าจักได้พระคู่หมั้นของเจ้าคืน
ส่วนข้าจักได้นำน้องชายกลับเวฬุวรรณนคร เพื่อวางแผนทวงคืนราชบัลลังก์ต่อไป”
องค์หญิงศศิธรพอรับฟัง ถึงกลับเข้าใจถึงสาเหตุที่อีกฝ่ายชักชวนพระองค์ให้ร่วมมือด้วย
โดยกำชับให้เก็บเป็นความลับมิให้ผู้ใดล่วงรู้ เรื่องนี้คือการทำให้องค์ชายวายุภักษ์กับผักตบแตกคอกันนั่นเอง
ถือเป็นความผิดร้ายแรงมากทีเดียว หากมีผู้ใดล่วงรู้เข้า

“ท่านจักให้ข้าทำเยี่ยงไร” ความต้องการทวงคืนพระคู่หมั้น ย่อมมีมากกว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ไม่มีมนุษย์คนไหนไม่เห็นแก่ตัว องค์หญิงก็เช่นกัน เมื่อมีช่องทางเป็นไปได้ พระองค์ไม่รีรอหรือลังเลที่จะกระทำ

“ข้าจักร่ายมนตรามหาเสน่ห์บนร่างเจ้า หากองค์ชายวายุภักษ์ได้สัมผัส
พระองค์จักหลงใหลในตัวเจ้า สลัดพระทัยจากน้องชายข้าขึ้นมาทันที เพียงแค่นี้เจ้าก็จักได้พระคู่หมั้นของเจ้าคืน
ส่วนข้าก็จักนำผักตบกลับเวฬุวรรณ เจ้าไม่ต้องกังวลว่าจักมีเสี้ยนหนามทิ่มแทงใจอีกต่อไป
น้องชายข้าไม่ได้พำนักที่นี่ พระคู่หมั้นเจ้าย่อมเป็นของเจ้าไปตลอดกาล”
แผนการที่ฟังแล้ว สร้างความหวังให้องค์หญิงผู้ซึ่งจนหนทางทวงคืนพระคู่หมั้นไปแล้ว
ได้พบทางออกอีกครั้ง พระองค์ย่อมยินยอมร่วมมือด้วยแน่นอน

“เช่นนั้นข้าร่วมมือกับท่าน แล้วท่านจักร่ายมนตรามหาเสน่ห์ให้ข้าได้เมื่อไหร่
แผนการจักเริ่มได้ตอนไหน ก่อนหรือหลังงานพิธีอภิเษกสมรส
ข้าต้องการให้ขัดขวางพิธีอภิเษกสมรสจักทันการหรือไม่” องค์หญิงศศิธรกลับพระทัยร้อนไปแล้ว
หลังปักพระทัยเชื่อมั่นว่าองค์หญิงชลธารสามารถช่วยเหลือพระองค์
ให้ดำเนินแผนการทวงองค์ชายวายุภักษ์คืนได้สำเร็จ

“เรื่องระยะเพลาข้าไม่สามารถรับปากเจ้า ขึ้นอยู่กับเจ้าสามารถใกล้ชิดองค์ชายวายุภักษ์ได้หรือไม่
ก่อนที่เจ้าจักกระทำเยี่ยงนี้ต้องผ่านการเข้าพิธีลงมนตรามหาเสน่ห์ของข้า 7 ราตรี
ซึ่งพอดีกำหนดงานอภิเษก คงไม่ทันการขัดขวางแน่ ปัญหาคือกฎมณเฑียรบาล
ช่วงนี้องค์ชายวายุภักษ์..จักต้องไม่ปฏิสันถารยุ่งเกี่ยวกับอิสตรีเป็นการส่วนพระองค์
ข้าว่านี่คือปัญหาที่เจ้าคงมิสามารถเข้าใกล้พระองค์ได้ คงต้องรอผ่านพิธีอภิเษกเสียแล้ว
 แต่เจ้าไม่ต้องกังวลอันใด ต่อให้พวกเขาเข้าพิธีอภิเษก สุดท้ายก็ต้องสลัดรักต่อกัน
รอพระราชโองการของเหนือหัวอนิละ แต่งตั้งให้เจ้าเป็นพระชายาแทนน้องชายของข้า..ก็ไม่เสียหายกระไร”
การหว่านล้อมขององค์หญิงชลธารมีความน่าเชื่อถือ..แม้แต่องค์หญิงศศิธรยังไม่สามารถโต้แย้งได้

นับจากมีกำหนดวันงานอภิเษกขึ้น องค์ชายวายุภักษ์ก็มิให้อิสตรีใกล้ชิดเป็นการส่วนพระองค์
 โดยเฉพาะการเข้าเฝ้าส่วนพระองค์ยิ่งไม่สามารถกระทำเป็นอันขาด แม้แต่นางกำนัลรับใช้ก็เช่นกัน
 เปลี่ยนเป็นมหาดเล็กซึ่งเป็นบุรุษทั้งหมด บัณเฑาะก์เองยังถูกสั่งห้าม พระองค์ทรงไม่แผ้วพานย่างใกล้อิสตรี
นอกจากพบพานโดยมีผู้อื่นร่วมปฏิสันถารพร้อมหน้า

ถือเป็นขนบธรรมเนียมปฏิบัติของไตรคาน ซึ่งสืบทอดมายาวนานเพื่อรักษาเกียรติพระชายา
ว่าจักทรงไม่นอกพระทัยนอกวรกายต่อผู้ที่จักร่วมเป็นคู่ชีวิต ของว่าที่กษัตริย์องค์ต่อไป เรื่องนี้ผู้คนย่อมทราบเช่นกัน

“เมื่อเป็นเยี่ยงนี้..ข้าจักรอให้ผ่านงานอภิเษกเสียก่อน
ระหว่างนี้ข้าต้องให้ท่านลงมนตรามหาเสน่ห์แก่ร่างกายข้า แล้วต้องกระทำเยี่ยงไรหรือ”
องค์หญิงตรัสถาม เมื่อรู้ถึงข้อกำหนดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
หากรั้นไปขอเข้าเฝ้าองค์ชายวายุภักษ์ก่อนพิธีอภิเษก ก็คงไม่มีโอกาสที่จะอยู่กันตามลำพังดังที่ตั้งใจไว้
เมื่อไม่มีทางเลือกต้องรอเวลาตามที่องค์หญิงชลธารทรงชี้แนะ

“เจ้าเขินอายหรือไม่ หากต้องเปลื้องอาภรณ์ไม่เหลือสักชิ้น ให้ข้าลงมนตรามหาเสน่ห์ต่อร่างกายเจ้า
การลงมนตราจักต้องกระทำส่วนตัวระหว่างข้ากับเจ้าเท่านั้น
ข้ามิใช่บุรุษล้วนมิมีสิ่งใดที่เจ้าต้องเสียเกียรติหรือเสื่อมเสีย
ถ้าเจ้ายินยอม ราตรีนี้ข้าจักลักลอบมาพบเจ้าที่ห้องบรรทม
แต่เจ้าต้องมิให้มีนางกำนัลหรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ใกล้บริเวณ
เช่นนั้นข้าจักลักลอบเข้ามาพบเจ้าลำบาก อย่าลืมต้องเก็บเป็นความลับ
ห้ามมิให้ผู้ใดล่วงรู้ถึงความผิดปกตินี้เป็นอันขาด”
องค์หญิงชลธารย้ำถึงเงื่อนไขและวิธีปฏิบัติต่อองค์หญิงศศิธร นางไม่เสียเวลาคิดสักนิด
เรื่องอายย่อมมีบ้าง แต่พระธิดาที่ได้รับการปรนนิบัติจากเหล่านางกำนัลตั้งแต่เล็ก
ย่อมเคยเปลื้องอาภรณ์..โดยฝีมือนางเหล่านั้น มีอันใดให้อับอายอีกเล่า
ในเมื่อผู้ที่จักยลโฉมพระวรกายคือองค์หญิงผู้งดงามไม่ยิ่งหย่อน
แน่นอนพระวรกายเองก็คงงดงามไร้ที่ติไม่ต่างกัน เยี่ยงนี้มีอันใดที่จักเสียหายได้

“ตกลงข้าจักกระทำตามที่ท่านกล่าว ราตรีนี้ท่านจงมาหาข้าเถิด”
องค์หญิงเจ้าของตำหนัก..ทรงตกปากรับคำเสร็จสรรพ

“ดีมาก! เจ้าเด็ดขาดเยี่ยงนี้ถือว่าข้ามองคนไม่ผิด มาเถิดข้าจักฟื้นฟูบ่อน้ำให้เจ้าไว้อาบให้ชื่นใจ..สายวารีจงฟังข้า
จงบังเกิดสายธารให้ข้า ณ บัดนี้” ผายพระหัตถ์..พร้อมพระบัญชาเรียกใช้เทพมหาธาตุวารี

ฉับพลันมวลคลื่นของสายน้ำ ก็หมุนเป็นเกลียวขึ้นมาเบื้องหน้า สร้างความมหัศจรรย์ให้องค์หญิงศศิธร
ต่อพลังอำนาจที่บังเกิดเป็นยิ่งนัก ก่อนเกลียวคลื่นน้ำขนาดใหญ่
จะพุ่งลงภายในบ่อที่มีขนาดเท่ากับครึ่งสระน้ำมาตรฐานทั่วไป
ลักษณะเป็นวงกลมไม่แตกต่างพระตำหนักวาโยทิพย์ กลายเป็นน้ำใส จนสามารถมองเห็นพื้นข้างใต้ได้
 
องค์หญิงผู้ถือครองเทพมหาธาตุ แย้มสรวลกับท่าทีตื่นตระหนกขององค์หญิงศศิธร
ที่ได้พบเห็นพลังอำนาจของพระองค์ แต่มีบางอย่างที่พระองค์รู้สึกพระวรกายแปลกไป
หลังเรียกใช้พลังเทพมหาธาตุรู้สึกวิงเวียนพระเศียรไปครู่ใหญ่

“น้ำเย็นมาก ข้าจักแหวกว่ายได้เยี่ยงไร นอกจากตักไปต้มเช่นเคย
น่าเสียดายนัก..ฤดูนี้ตกค่ำอากาศหนาวเย็นยิ่ง” องค์หญิงศศิธรแม้จะยินดีปรีดาที่มีน้ำในบ่อของตำหนัก
แต่ก็ไม่อาจดีใจได้หมด เมื่อทรงยอบวรกายจุ่มพระหัตถ์สัมผัสอุณหภูมิของน้ำรู้สึกเย็นมาก
พานรู้ว่าพระองค์ไม่สามารถลงแหวกว่ายสรงสนาน..ในสระน้ำดังที่ต้องการได้

“เช่นนั้นข้าจักทำให้น้ำอุ่น หลังจากนี้ข้าจักทำให้น้ำในบ่อเจ้าอุ่นต่อเนื่องถึง 7 ทิวา
เพื่อให้เจ้าชำระร่างกายสะอาดหมดจด ข้าจักสามารถลงมนตราให้ขลังยิ่งขึ้น” องค์หญิงชลธารทรงรับสั่ง

“ท่านสามารถกระทำให้น้ำในบ่ออุ่นได้หรือ”
องค์หญิงเจ้าของตำหนัก ทรงรู้สึกแปลกพระทัยกับพระดำรัสที่ได้รับฟังยิ่งนัก

“ข้าย่อมสามารถ..มหาธาตุอัคคีจงฟังข้า จงแผดเผาสายวารีในบ่อน้ำให้อุ่นขึ้น ณ บัดนี้”
พระองค์ผายพระหัตถ์ เปล่งบัญชาเรียกใช้เทพมหาธาตุอัคคีขึ้นมาทันที หลังดำรัสยืนยันกับผู้ที่ตั้งคำถาม

พลันบังเกิดเปลวไฟมหึมา แผ่คลื่นความร้อนจนองค์หญิงศศิธรถึงกับเซถอยไปหลายก้าว
ก่อนจะไม่รับรู้ถึงคลื่นความร้อนจากลูกไฟก้อนโตที่กำลังหมุนวนอยู่เหนือผิวน้ำ
หารู้ไม่ว่าองค์หญิงชลธารพอรำลึกได้ว่าพระองค์ทรงหลงลืมสร้างเกราะมหาธาตุ
คุ้มกันวรกายให้ผู้ที่ประทับด้วย ก็ทรงรีบสร้างเกราะมหาธาตุขึ้นมาทันที

องค์หญิงศศิธรไม่รู้สึกถึงคลื่นความร้อนแล้ว น้ำในสระเริ่มมีควันสีขาวลอยกรุ่น
จนรับรู้ได้อุณหภูมิของน้ำเพิ่มสูง จากน้ำเย็นจัดเปลี่ยนเป็นน้ำอุ่นไปแล้วเรียบร้อย
แต่ผู้ที่สามารถทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ กลับสีพระพักตร์ซีดเซียวแลดูน่าเป็นห่วง
ไรพระเกศากลับชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อผุดซึมแล้ว แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่า
มีพระโลหิตไหลย้อยออกจากพระนาสิก โดยที่เจ้าของพระวรกายไม่รู้องค์เลยด้วยซ้ำ

“ท่าน..ใยมีโลหิตไหลออกนาสิกท่านเล่า”
องค์หญิงศศิธรถึงกับเบิกพระเนตรด้วยความตกพระทัย เมื่อผินพักตร์ไปเห็นเข้าพอดี

“อ๊ะ! โลหิตข้าไหลเช่นนั้นหรือ” ไม่ตรัสเปล่า ทรงใช้พระดัชนีป้ายดูพร้อมกับหยาดโลหิตสีแดง
ติดมากับดัชนีเป็นหลักฐาน ยังความประหลาดพระทัยให้องค์หญิงชลธาร
หลังทรงเรียกใช้เทพมหาธาตุต่อเนื่อง พระองค์ทรงรูสึกวิงเวียนเหมือนพระลมจับ
แต่ก็ยังฝืนทนไว้ได้ไม่หนักหนา จู่ๆ พระโลหิตไหลออกนาสิกย่อมไม่รู้สาเหตุแล้ว

“ข้าว่าท่านฝืนเรียกใช้พลังเทพมหาธาตุ ถึงได้เกิดอาการเยี่ยงนี้
ท่านไปพักยังห้องบรรทมของข้าก่อน รอให้อาการดีขึ้นค่อยกลับตำหนัก”
องค์หญิงศศิธรเป็นฝ่ายเข้าไปประคองพระวรกายองค์หญิงชลธาร โดยไม่ห่วงความสวยพระองค์เองแม้แต่น้อย
น้ำพระทัยที่ทรงแสดงออก สร้างความประทับใจให้กับองค์หญิงต่างแดน
สำคัญกลิ่นพระวรกายที่ได้สูดดมใกล้ กลับทำให้พระองค์รู้สึกดี
เป็นกลิ่นหอมของมวลบุปผาที่จำแนกไม่ได้ รู้เพียงแค่หอมละมุนมอมเมาพระองค์ให้คล้องพระกรโอบกอด
เนียนทำเป็นอ่อนแรงให้อีกฝ่ายประคองพากลับยังห้องบรรทม..ภายในพระทัยกลับฟูฟ่องคับแน่นพระอุระ
ดวงหทัยเต้นกระหน่ำ อย่างที่ไม่เคยบังเกิดมาก่อน..รู้แต่เพียงว่าพระองค์ใคร่ใกล้ชิดสนิทแนบแบบนี้ไปอีกนานๆ...?




มาอัพตามนัดค่ะ  เจอกันอีกทีวันจันทร์นะคะ พร้อมกับแจ้งเปิดโอนจองนิยายเรื่องนี้ค่ะ
ในเล้าฯ จะอัพจบเหลืออีกไม่เกิน 7 ตอนนะคะ ส่วนเนื้อหาเล่ม 3 กับตอนพิเศษ
จะอยู่ในหนังสือค่ะ  คงจบก่อนสิ้นเดือนนี้ค่ะสำหรับ 7 ตอนที่เหลือนะคะ

ปล.ใครที่เชียร์คู่หญิงธารกับหญิงอ้าย ได้สมใจกันแน่ค่ะ แต่จะจบสวยหรือไม่คอยติดตามกันต่อไป
 :mew1: :z3: :ling1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2014 10:27:21 โดย luxilove »

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :katai5: อ่านแล้วสงสารเจ้าหญิงทั้งคู่เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2014 10:22:34 โดย วัวพันปี »

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
สองผัวเมียนั่นร้ายมาก ชลธารจะรู้ไหมว่าถูกหลอกใช้

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
บวกเป็ดให้ค่ะ เนื่องจากคุณluxมาต่อเร็ว

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ชลธารรู้ตัวสักทีสิว่าถูกหลอกใช้
จะได้ไม่ต้องไปยุ่งกับผักตบและองค์ชาย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด