- 3 - “เหนือหัว..พระมเหสีทรงเสด็จ!!!” เสียงมหาดเล็กขานเสียงดังไปทั่วท้องพระโรงสำหรับจัดพิธีอภิเษกสมรส
บรรดาขุนนางอำมาตย์ตลอดจนราชนิกุลเชื้อพระวงศ์ ทูตานุทูตที่มาร่วมงานกันคับคั่งต่างยืนตรงค้อมศีรษะ
ถวายความเคารพเจ้าภาพอย่างเป็นทางการ..พร้อมเพรียงแลดูสวยงาม
“ไม่ต้องมากพิธีเชิญทุกท่านนั่งลงเถิด เราในฐานะกษัตริย์ไตรคานขอต้อนรับจากใจ
ที่ทุกท่านให้เกียรติมาร่วมพิธีอภิเษกสมรมของวายุภักษ์โอรสของเราในครั้งนี้
หลายท่านเดินทางรอนแรมมาไกล หากการต้อนรับของเราขาดตกบกพร่องประการใด เราขออภัยไว้ด้วย
อย่าได้ถือโทษอันใด เนื่องจากนครเราห่างไกลการจัดพิธีนานหลายสิบปี พวกเราต่างรับรู้เป็นเพราะสาเหตุใดจึงเป็นเยี่ยงนั้น
เรื่องราวได้ผ่านพ้นไปแล้ว นับจากนี้คงมิมีเรื่องราวใดสามารถทำให้พวกเราฝันร้ายได้อีกต่อไป
หลังจากนี้หากพวกท่านประสงค์จักขอความช่วยเหลือด้านแหล่งน้ำ หรือสิ่งอื่นใดที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงแล้ว
เรายินดีจักให้วายุภักษ์รับบัญชา ให้ความช่วยเหลือไม่บ่ายเบี่ยงแน่นอน”
“ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ขอพระมเหสีทรงพระเจริญ องค์ชายวายุภักษ์พระชายาทรงพระเจริญ!”
เสียงตะโกนแซ่ซ้องสรรเสริญพระบารมีดังสนั่นไปทั่วท้องพระโรง ประสานเสียงพสกนิกรไพร่ฟ้า
ที่อยู่ด้านนอกท้องพระโรงตรงลานกว้าง ต่างถวายพระพรจนผู้ที่มาร่วมงานจิตใจเบิกบาน
รู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับเสียงปีพาทย์เครื่องสาย ที่บรรเลงให้จังหวะในการจุดคบไฟสว่างวาบไปทั่วอาณาบริเวณ
ขับไล่ความมืดในยามราตรี กลายเป็นเวทีสรวงสวรค์ไปเสียแล้ว
ช่างเป็นภาพวิจิตรงดงามตระการตายิ่งใหญ่สมเป็นนครแห่งอารยธรรม ที่สืบทอดกันมายาวนาน
“ได้เพลาแล้วเพคะ เชิญพระชายาเสด็จยังท้องพระโรง” นางกำนัลชั้นสูงเป็นผู้กล่าวเชิญผักตบ
ฉลององค์อาภรณ์งามดุจเทวบุตร แม้แต่พวกนางกำนัลและเหล่าองครักษ์ยังต้องยอมรับ
ผักตบงามสง่าประหนึ่งเทวดาเผยโฉมยังแดนมนุษย์ ต่างค้อมศีรษะยอบกายถวายพระพร
แล้วตามขบวนเสด็จเป็นทิวแถวงดงามอย่างสมพระเกียรติ
มาผสมรวมขบวนเชิญเสด็จ ขององค์ชายวายุภักษ์ยังหน้าประตูทางเข้าท้องพระโรงพิธี
ก่อนองค์ชายจะเป็นผู้ย่างพระบาทเข้ามาประจันกับผักตบ ที่ยืนนิ่งทอดสายตาตะลึงลาน
ไปกับความหล่อเหลาจนเขาใจสั่นกระตุกไปไม่รู้กี่รอบ องค์ชายวายุภักษ์ฉลองพระองค์สีแดงเพลิง
สวมมงกุฎบนพระเศียรบ่งบอกพระยศ ราชกุมารองค์รัชทายาทแห่งไตรคาน
ยังมีเครื่องประดับอัญมณีล้ำค่า รัดเกล้าท่อนพระกร เผยพระอุระเปลือยช่วงบนเล็กน้อย
อวดแผงมัดกล้ามงดงามแข็งแกร่ง ยิ่งฉลองผ้าคลุมยุพราชสีเหลืองทอง
ขับพักตร์คมคายหล่อเหลาให้สง่างามจนผู้คนถูกมนต์สะกดไปเสียแล้ว
พระทัยขององค์ชายวายุภักษ์กลับทรงปลาบปลื้มปิติยิ่งนัก สายพระเนตรคมหวานทอดอ่อน
จดจ้องไปยังวรองค์พระชายาไม่วางตา ผักตบเพลานี้งดงามพิสุทธิ์
หมดจดไร้มลทินแลสูงส่งเสียยิ่งกว่ามนุษย์เดินดินทั่วไป ผิวพรรณขาวผุดผ่องใบหน้าหล่อไร้ที่ติ
ปานรูปวาดในจินตนาการ ของเหล่าทวยเทพยดาไปเสียแล้ว
“เจ้างดงามนัก หามีบุรุษใดในแดนดิน จักรูปงามเช่นเจ้าไม่มีแล้ว”
พระองค์กลับดำรัสถ้อยวาจาหวานปานน้ำผึ้ง ต่อพระชายาอย่างอดพระทัยชื่นชมไว้ไม่ได้
ในเมื่อสิ่งที่ทรงตรัสมิได้เกินจริงแต่อย่างใด
ผักตบยังตะลึงความสง่างามพระสวามี ถึงกับหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ
ส่งผ่านความรู้สึกไปยังวงแหวนมรกตที่สวมนิ้วนางข้างซ้าย เปล่งประกายเขียวนวลเจิดจ้าขึ้นมาในทันที
“หึหึ! ขอบใจเจ้ามาก ที่ทำให้เรามีความสุขในวันนี้ และตลอดไป”
พระองค์ยังไม่หยุดรับสั่ง ทำให้หัวใจของพระชายาสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ค่อยยื่นพระหัตถ์กอบกุมนิ้วเรียวขาวเหมือนสีผิวเจ้าของ จับจูงตีคู่เคียงข้างวรองค์เข้าสู่ท้องพระโรง
ท่ามกลางการลุกขึ้นยืนสำรวมต้อนรับคู่อภิเษก ตามด้วยเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ จากเหล่าพสกนิกรไม่ขาดสาย
คลอเคล้าด้วยเสียงบรรเลงดนตรี ช่วยสร้างบรรยากาศในพิธีให้ดูมีมนต์ขลังดึงดูด สะกดสายตาและหัวใจใครต่อใคร
ที่ได้มีโอกาสมาชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ให้รู้สึกปลื้มปริ่มมีความสุขตามไปด้วย
องค์หญิงศศิธรทรงประทับอยู่ใกล้พระปิตุลาผู้เป็นพระบิดา ยังอดชื่นชมในความสง่างามอดีตพระคู่หมั้น
ทรงมิอาจปฏิเสธได้เช่นกัน สำหรับคู่อภิเษกซึ่งดำเนินเคียงเข้ามานั้น กลับรูปงามประหนึ่งเทวะแดนสรวงแล้ว
ผักตบในวันนี้ สง่าราศีบารมีเปล่งรัศมีเรืองรองให้ผู้คนได้ประจักษ์ รัศมีที่ฉายประกายเหล่านี้
ยากจักเกิดขึ้นในบุคคลธรรมดาสามัญหามีได้แม้แต่บรรดาเชื้อพระวงศ์ หรือกระทั่งองค์กษัตริย์ก็จักมีไม่
แต่ผักตบกลับแลสูงส่งงามพิสุทธิ์ ชนิดที่ไม่สามารถละสายตาได้เลย
จึงกลายเป็นคู่อภิเษกที่ได้รับการขนามพระนาม กล่าวขานไปทั่วแผ่นดินอย่างไม่ต้องสงสัย
ในเมื่อปฏิกิริยาอาการของผู้ที่ได้เข้าร่วมในพิธี ต่างเหมือนถูกตรึงต้องมนต์สะกดไปแล้ว
จิตใจดั่งได้สัมผัสบรรยากาศดินแดนสรวงสวรรค์ มีเทวะหนุ่มรูปงามสองพระองค์
ประทับอยู่เบื้องหน้าของพวกเขาแล้วตอนนี้ ก่อนจะถูกดึงสติด้วยเสียงของผู้ขานกำหนดการณ์
“เริ่มพิธีอภิเษก ณ บัดนี้” เสียงขานจางลง ผู้บำเพ็ญศีลบริสุทธิ์พร้อมด้วยขบวนโหรหลวง
ต่างสวมอาภรณ์สีเหลืองนวล ก้าวมายืนขนาบด้านข้างทั้งสองพระองค์ พร้อมกับรินสุราทิพย์
สำหรับให้สัตย์ปฏิญาณของคู่อภิเษกจักพึงมีต่อกัน ทรงกระทำต่อหน้าราชบัลลังก์
โดยมีองค์เหนือหัว พระมเหสี พร้อมเหล่าราชนิกุล และบรรดาแขกเหรื่อร่วมเป็นสักขีพยาน
องค์ชายรับสุราในถ้วยหยกสีขาวชูให้ผู้คนเห็น เปล่งพระดำรัสด้วยสุรเสียงเน้นหนักห้าวหาญ
สะกดทุกซุ่มเสียงให้เงียบสนิทรอฟังพระดำรัสของพระองค์ประการเดียว
แม้แต่เสียงขยับร่างกายหรือกระทั่งลมหายใจก็แทบไม่ได้ยิน ทุกอย่างเงียบสนิทลงทันทีอย่างไม่ต้องนัดหมาย..
“ข้า..วายุภักษ์รัชทายาทแห่งไตรคาน ขอให้สัตย์ปฏิญาณต่อเทพไท้เทวา พระวิญญาณบูรพาจารย์
รวมทั้งบรมกษัตริย์ไตรคานทุกพระองค์ ตลอดจนบรรดาผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้
ช่วยเป็นสักขีพยานในสัตย์ปฏิญาณของข้า รับรู้เถิดว่าข้าอภิเษกสมรสกับบุรุษผู้มีนามผักตบ
พระโอรสเลือดเนื้อเชื้อไขของอดีตกษัตริย์แห่งเวฬุวรรณนคร แต่งตั้งเป็นชายาคู่บารมีและราชบัลลังก์ไตรคาน
ครองราชสมบัติ ดูแลไพร่ฟ้าให้ผาสุกร่มเย็นร่วมกันตลอดกาล
..‘ข้าจักดูแลเจ้า..ด้วยหัวใจทั้งดวงของข้า’...”
กระแสรับสั่งสัตย์ปฏิญาณประโยคปิดท้าย ทรงทอดพระเนตรหวานเชื่อมยังผู้ที่พระองค์เจตนามอบให้เป็นพิเศษ
ยังผลให้คนที่ยืนประจันพระพักตร์ ถึงกับหน้าแดงก่ำเสียยิ่งกว่าสุรารสเลิศในถ้วยหยกสีขาวไปแล้ว
จากนั้นองค์ชายค่อยยกสุราขึ้นดื่มรวดเดียวหมดถ้วย เพื่อให้คำสาบานต่อสัตย์ที่พระองค์ปฏิญาณไว้
โดยไม่ละสายพระเนตรจากใบหน้าหล่อเหลาของพระชายาแม้แต่น้อย
เป็นผักตบบ้าง ต้องให้สัตย์ปฏิญาณตามธรรมเนียมประเพณี เขายื่นมือหยิบถ้วยหยกจากถาดทองของโหรหลวง
แล้วยกชูสูงแบบเดียวกับที่องค์ชายทรงกระทำ รอปฏิกิริยาผู้คนเงียบเสียงจนไม่ได้ยินอะไรแล้ว
ส่งยิ้มหล่ออย่างที่น้อยครั้งจะทำ สะกดตรึงทุกผู้คนไปกับรอยยิ้มพิฆาตบาดจิต
แม้แต่พี่สาวฝาแฝดผู้ไม่นิยมชมชอบในบุรุษเพศ ยังจ้องเนตรเบิกค้างไปกับรอยยิ้มงดงามหล่อเหลาของพระอนุชา
พระองค์ทรงประทับอยู่ข้างแม่เล็ก ที่ยืนมองลูกกับพระสวามี ด้วยหัวอกคนเป็นแม่ซึ่งมีความสุขเปี่ยมล้นหัวใจ
ในมือกดถ่ายวีดีโอไปด้วย ใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้อดังที่เธอไปหาจนเจอ
“ผมชื่อผักตบ ขอให้สัตย์ปฏิญาณต่อเทพไท้เทวา พระวิญญาณบูรพาจารย์ บรมกษัตริย์ไตรคานทุกพระองค์
เชื้อพระวงศ์ราชนิกุล รวมทั้งบรรดาท่านผู้มีเกียรติที่มาร่วมพิธี ช่วยเป็นสักขีพยานต่อคำสัตย์ปฏิญาณของกระผมครั้งนี้
โปรดจงรับรู้ไว้ว่า ผมจักเทิดทูนเคารพพระสวามีชั่วชีวิต จักร่วมทุกข์ร่วมสุข ดูแลไพร่ฟ้าราษฏรจนกว่าชีวิตจะหาไม่
‘จักเป็นชายา ดูแลพระทัยองค์ชาย..ด้วยหัวใจของผมเช่นกัน’..”
เสียงโห่ร้องแสดงความดีใจดังรับ จังหวะปี่พาทย์บรรเลงขึ้นทันที ผักตบยกถ้วยหยกกระดกสุราสีแดงคล้ายไวน์
แต่มีรสฝาดหวานลงสู่ลำคอตามอย่างพระสวามีทรงกระทำไปก่อนหน้า
จากนั้นทั้งสองพระองค์เสด็จไปใกล้พระที่นั่งเหนือหัว พระมเหสีที่หน้าบัลลังก์ พากันคุกเข่าค้อมเศียร
รอให้สองพระองค์พรมวารีทิพย์เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกับรับพระราชทานพร
ก่อนแม่เล็กจะทำหน้าที่ผูกข้อไม้ข้อมือให้ปิดท้าย เป็นอันเสร็จพิธีอภิเษกอย่างเป็นทางการ
เข้าสู่บรรยากาศเฉลิมฉลอง ไม่มีพิธีรีตองครื้นเครงอย่างเดียว บรรดาพสกนิกรภายนอกต่างร่ำสุรา
ทานอาหารผลไม้ซึ่งวังหลวงจัดเตรียมไว้ให้เหลือคณานับ พวกเขาได้โอกาสชื่นชมพระบารมีเหนือหัว
ทรงเสด็จนำพระโอรสและชายาในพระองค์ พร้อมด้วยเชื้อพระวงศ์รวมแม่เล็ก องค์หญิงศศิธร
โบกไม้โบกมือให้พวกเขายังปะรำพิธีตั้งแท่นสูง ให้สามารถมองเห็นกันทั่วถึง
ก่อนดำเนินกลับสู่ท้องพระโรงเลี้ยงต้อนรับแขกเหรื่อในครั้งนี้
“จากนี้ไปจักเป็นเพลา ดื่มฉลองสุราหมื่นพิรุณตามธรรมเนียมประเพณี
ข้าในฐานะกษัตริย์..จักนำพวกท่านยกถ้วยสุราเฉลิมฉลอง”
เหนือหัวทรงตรัสให้ได้ยินทั่วท้องพระโรง หลังเสด็จกลับมาประทับเป็นที่เรียบร้อยดังเดิม
“ขอประทานอภัยพะยะค่ะเสด็จพ่อ” องค์ชายวายุภักษ์รีบท้วงติง เมื่อพระบิดาทรงรับสั่งเสร็จสิ้น
“เจ้ามีอันใดเช่นนั้นหรือ..วายุภักษ์” พระองค์ดำรัสถาม
“ทรงยกเลิกสุราหมื่นพิรุณ ในการดื่มฉลองครั้งนี้เสียเถิดพะยะค่ะ”
องค์ชายให้เหตุผลที่ทรงดำรัสแทรกขัดพระองค์ ยังความแปลกพระทัยให้พระบิดาไม่น้อยทีเดียว
ด้วยสุราหมื่นพิรุณเป็นประเพณีปฏิบัติ ใช้ดื่มฉลองในงานมงคลแทนสุราอื่นใด โดยเฉพาะพิธีอภิเษกสมรส..
“เหตุใดให้ยกเลิก เจ้าย่อมรู้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติพึงต้องกระทำ”
พระโอรสไม่ตอบคำ ทรงผินพักตร์มายังผักตบ ให้สัญญาณด้วยเนตรคมท่ามกลางความสงสัยใคร่รู้ของบรรดาแขกเหรื่อ
ผักตบเหมือนรอจังหวะอยู่ก่อน เขาก้าวเท้าเข้าไปยืนหน้าพระที่นั่งองค์เหนือหัว
ผู้เปลี่ยนฐานะเป็นพ่อสามีหมาดๆ ค่อยเปิดคลิปวีดีโอมือถือ แล้วยื่นไปให้เหนือหัวอนิละทรงทอดพระเนตร
หลังพระองค์ทอดพระเนตร ถึงกับพระพักตร์ซีดเผือดตกพระทัยอยู่ไม่น้อย
ไม่ต่างกับพระมเหสีที่ได้ทอดพระเนตรไปพร้อมกัน ก่อนสบเนตรกับผักตบ ซึ่งกระซิบพระองค์เบาๆ
“ทรงรับสั่งเปลี่ยนสุรา ไม่ให้งานหมดความสนุกไปเสียก่อนครับ ส่วนเรื่องนี้เราค่อยสะสางกันภายใน
ยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รอให้งานผ่านไปก่อนเถอะครับ เสด็จพ่อ..เสด็จแม่”
เป็นครั้งแรกที่ผักตบเรียกขานพระองค์เยี่ยงนี้ องค์เหนือหัวพยักพระพักตร์เข้าใจสิ่งที่ผักตบบอก
ค่อยมีรับสั่งให้ได้ยินไปทั่วท้องพระโรง ด้วยการกลบเกลื่อนพระอาการไม่ให้พิรุธ สมเป็นกษัตริย์ผู้ครองนครแล้ว
“เราจักเปลี่ยนหมื่นพิรุณ เป็นอมตะวารีสุราพิเศษที่โอรสเราใช้เทพมหาธาตุแห่งสายวารีกระทำขึ้น
เพื่อให้พวกท่านได้ลิ้มลองแทน ถือเสียว่าเป็นการแสดงความขอบคุณ จากโอรสและชายาเขาแล้ว”
องค์เหนือหัวทรงไหวพริบพระปัญญาเป็นเลิศ ทรงแก้ไขสถานการณ์ได้น่าชื่นชมยิ่งนัก
“องค์ชายทรงพระเจริญ พระชายาทรงพระเจริญ” เสียงสรรเสริญต่อองค์ชายวายุภักษ์กับผักตบ
ดังรับกระแสพระดำรัสโดยไม่มีข้อกังขาสงสัยอันใดอีก เมื่อองค์เหนือหัวทรงชี้แจง การเปลี่ยนแปลงสุราเฉลิมฉลอง
พวกเขากลับภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาส ลิ้มรสสุราซึ่งใช้พลังของเทพมหาธาตุเรียกวารีทิพย์มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ซึ่งองค์เหนือหัวหาได้ยกอ้างเกินจริงแต่อย่างใด น้ำที่ใช้หมักสุราเป็นสายวารีจากเทพมหาธาตุ
องค์ชายวายุภักษ์ทรงกระทำขึ้น หลังสามารถเรียกใช้เทพมหาธาตุวารีด้วยองค์เอง
เพียงส่วนประกอบที่เหลือคือสมุนไพรพิเศษ ร่วมมือกับมหาโหราผู้เฒ่าปรุงแต่งให้เป็นสุรามีไม่มากนัก
แต่หากจักใช้รับรองแขกเหรื่อภายในท้องพระโรงนี้ ก็ยังคงเพียงพออยู่บ้าง
ส่วนประเด็นที่กลายเป็นปัญหาเปลี่ยนสุรากะทันหัน ไม่สามารถแพร่งพรายให้เกิดความโกลาหล
ในเมื่อทรงทอดพระเนตรจากคลิปวีดีโอ รับทราบในพระทัยว่า ‘สุราหมื่นพิรุณมียาพิษ’
รอให้ผ่านพ้นพิธีอภิเษกค่ำคืนนี้ไปเสียก่อน จากนั้นค่อยสะสางจับคนร้าย ซึ่งทรงหนักพระทัยยิ่งนัก
เพื่อสืบสาวราวเรื่องหาต้นตอสำคัญกันต่อไป เรื่องนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว..
มาอัพตามนัดแล้วนะคะ เจอกันอีกทีวันอาทิตย์ค่ะ
ขอบคุณสำหรับแฟนนิยายที่โอนจองเรื่องนี้ไว้ในอ้อมกอด
สำหรับจำนวน 50 ท่านแรกที่จะได้ของขวัญแทนการขอบคุณ
เหลืออีก 10 ท่านนะคะ ใครต้องการอยู่ในเงื่อนไขสามารถโอนได้อยู่ค่ะ
ส่วนท่านที่โอนนอกเหนือจากนี้ ไม่ต้องเสียใจนะคะ ยังไงก็ได้น้องตบพร้อมมัดกล้ามงามๆ
ไปนอนอ่านคลายร้อนในเดือนเมษายน สงกรานต์ที่จะมาเยือนนี้แน่นอนค่ะ
ฝากอิมเมจปกเล่ม 2 ระหว่าง องครักษ์หนุ่มกลกะลา VS องค์ชายธรณิน 'มังกรปฐพี'
คาดเดาเอาเองนะคะ ว่าใครเป็นใคร ตามจินตนาการของคนอ่าน 
