ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า (ส่งท้าย : ถ้าเรายังคิดถึงกัน) 28-12-2558 หน้า 22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า (ส่งท้าย : ถ้าเรายังคิดถึงกัน) 28-12-2558 หน้า 22  (อ่าน 331604 ครั้ง)

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
ตอนที่ 20  คำตอบ






อาทิตย์ทัศน์แวะมาที่คอนโดของตฤณกรในตอนบ่ายของวันหนึ่งเพื่อทำความสะอาดห้องก่อนที่เจ้าของห้องจะกลับมาในวันถัดไป เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนถูกพับแขนขึ้นอย่างลวก ๆ จากนั้นพ่อบ้านจำเป็นก็ลงมือปัดกวาดเช็ดถูห้องจนสะอาดเอี่ยม เสียงเครื่องดูดฝุ่นที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องสงบลงในตอนบ่ายคล้อย อาทิตย์ทัศน์นั่งลงที่ข้างเตียงก่อนจะหยิบหนังสือการ์ตูนแมวสีน้ำเงินที่วางกองอยุ่ขึ้นมาดูก่อนจะพึมพำกับตัวเอง


“อ่านการ์ตูนด้วยเหรอ” เขายิ้มพร้อมกับหอบหนังสือการ์ตูนตั้งใหญ่ไปวางเรียงที่ชั้นหนังสือก่อนจะเดินไปที่โต๊ะทำงานของตฤณกร


จากมุมนี้ซึ่งเป็นผนังกระจกขนาดใหญ่สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลพาดผ่านระหว่างบ้านเรือนได้อย่างถนัดตา เรือสินค้าลำใหญ่ยังคงจอดนิ่งทอดสมออยู่ริมลำน้ำ แม้จะเป็นเวลาเพียงสิบแปดนาฬิกาเศษ แต่ท้องฟ้ายามเย็นกลางเดือนธันวาคมกลับเป็นสีเทาขมุกขมัว อาทิตย์ทัศน์ค่อย ๆ นั่งลงที่พื้นทอดสายตามองดูความเป็นไปของสิ่งรอบตัวก่อนจะหยิบกล้องดิจิตัลตัวโปรดออกมาจากกระเป๋า ไม่นานเสียงชัตเตอร์ก็ดังขึ้นเป็นระยะเมื่อดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำจนกระทั่งลับหายไปหลังยอดตึก ชายหนุ่มวางกล้องดิจิตัลลงก่อนจะเอนตัวลงนอนบนหมอนใบใหญ่ นิ้วเรียวกดดูภาพที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อสักครู่ก่อนจะเลื่อนดูภาพเก่า ๆ ที่ยังไม่ได้ลบออกจากเมมโมรี่การ์ด ตาคมจ้องมองภาพของชายหนุ่มที่กำลังนั่งใช้พู่กันเขียนตัวอักษรลงบนแผ่นป้ายขนาดใหญ่ สายตามุ่งมั่นคู่นั้นของคนในภาพทำให้เกิดรอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจ้าของกล้องก่อนที่ความอ่อนเพลียจะทำให้เขาผลอยหลับไปในที่สุด








ประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้ง....



ชายหนุ่มเจ้าของห้องที่เปิดประตูเข้ามารู้สึกแปลกใจไม่น้อยเมื่อพบว่าไฟในห้องเปิดอยู่และมีรองเท้าของใครคนหนึ่งวางอยู่ที่หน้าประตู เขาลากกระเป๋าลากใบใหญ่มาวางไว้ข้างโซฟาก่อนจะกวาดสายตามองหาคนที่อยากพบหน้าเหลือเกิน ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มน้อย ๆ เมื่อพบร่างของใครบางคนกำลังนอนหลับใหลในขณะที่แสงสุดท้ายของวันกำลังจะหมดลงทุกขณะ ตฤณกรเดินไปนั่งลงใกล้ ๆ คนที่กำลังนอนหลับอย่างสบายใจก่อนจะค่อย ๆ หยิบกล้องดิจิตัลที่วางอยู่ใกล้ตัวขึ้นมาดู ภาพที่ถูกเปิดค้างเอาไว้นั้นไม่ใช่ภาพของใครที่ไหน มันคือภาพของตัวเขาเองเมื่อครั้งที่ไปช่วยงานอาทิตย์ทัศน์ที่มหาวิทยาลัย ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะค่อย ๆ เอนตัวลงนอนข้าง ๆ  มือหนาเอื้อมเขี่ยปอยผมดำสนิทอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้คนที่กำลังนอนหลับต้องตกใจตื่น ในขณะที่ตาคมค่อย ๆ มองสำรวจตั้งแต่คิ้วหนาและเปลือกตาที่ปิดสนิทซึ่งปกคลุมไปด้วยแผงขนตาก่อนจะลากไล้ไปตามพวงแก้มนวลใสกระทั่งมาหยุดที่ริมฝีปากบางสีส้มชวนสัมผัส ตฤณกรไม่เคยได้เห็นหน้าของคนตรงหน้าชัด ๆ ขนาดนี้ นั่นคงเป็นเพราะอาทิตย์ทัศน์คอยแต่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันเสมอ หรืออาจะเป็นเขาเองที่มักจะยืนมองใบหน้านี้จากที่ไกล ๆ ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะค่อย ๆ จรดปลายนิ้วลงบนริมฝีปากของคนที่กำลังนอนหลับ



ริมฝีปาก...



ที่นานเหลือเกิน...



กว่าจะเผยรอยยิ้มให้เขาได้เห็นสักครั้ง...










อาทิตย์ทัศน์ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง เขาพบว่าดวงอาทิตย์ได้เคลื่อนลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่เมืองทั้งเมืองก็ยังคงสว่างไสวด้วยแสงไฟจากตึกรามบ้านช่อง ถนนสายต่าง ๆ พราวไปด้วยไฟหลากสีสันซึ่งเตือนให้หลายคนรู้ว่าเทศกาลแห่งความสุขที่ทุกคนรอคอยกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า นาฬิกาข้อมือบอกเวลาเกือบเกือบหนึ่งทุ่ม ชายหนุ่มค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นก่อนจะมองไปยังคนที่นอนหลับอยู่ใกล้ ๆ ด้วยความรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ได้พบกับเขาเร็วกว่าที่คิด อาทิตย์ทัศน์ขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะค่อย ๆ ประคองศีรษะของเขาขึ้นพร้อมกับสอดหมอนลงใต้ศีรษะของตฤณกรจากนั้นเขาจึงลุกขึ้นก่อนจะเดินหายไปในโซนทำครัว...


 







กลิ่นหอมของข้าวสวยที่เพิ่งหุงสุกใหม่ ๆ กับเสียงน้ำไหลทำให้คนที่กำลังนอนหลับต้องลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง แม้ความนุ่มของหมอนทำให้รู้สึกไม่อยากจะลุกไปไหนเลยด้วยซ้ำแต่ความคิดถึงคงมีพลังมากกว่าถึงทำให้คนที่กำลังอ่อนเพลียจากการเดินทางค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้น...





“คิดถึงผมเหรอ” เสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้คนที่กำลังยืนล้างมืออยู่ที่อ่างล้างจานต้องชะงัก เขาหันกลับไปมองคนตัวสูงที่เดินยิ้มเข้ามาพร้อมกับชูกล้องติจิตัลขึ้น อาทิตย์ทัศน์ไม่ได้โต้ตอบใด ๆ เขาหันกลับไปเอื้อมหยิบจานกระเบื้องในตู้เหนืออ่างล้างจานลงมาวาง ในขณะที่ตฤณกรเองก็วางกล้องดิจิตัลลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง ชายหนุ่มยิ้มเมื่อพบว่าบนโต๊ะอาหารมีจานกับข้าว 2-3 อย่างที่เขาชอบวางอยู่


“คุณหิวหรือยัง” อาทิตย์ทัศน์กล่าวก่อนจะเอื้อมหยิบแก้วน้ำกับช้อนและส้อม


“ยังครับ” คนตัวสูงตอบก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ๆ  “ยังเหนื่อยอยู่เลย”


“ถ้าอย่างนั้นก็ไปนอนต่อแล้วค่อยตื่นมาทาน” อาทิตย์ทัศน์กล่าวทั้งที่ยังคงหันหลังให้


“ผมขอนอนตรงนี้ได้ไหม” ตฤณกรกล่าวก่อนจะพาดคางบนบ่าของคนที่ตัวเล็กกว่าก่อนจะหลับตาลงช้า ๆ สูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่โหยหามาแสนนานในขณะที่คนตัวเล็กกว่าเองก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น


“ไหนว่าจะกลับพรุ่งนี้” อาทิตย์ทัศน์เอ่ยขึ้น


“ผมขอเลื่อนไฟลท์กลับ มีเรื่องต้องรีบมาทำ” คนตัวสูงกว่ากล่าวทั้งที่ยังคงหลับตา


“งานด่วนเหรอ”


ตฤณกรส่ายหน้า เขาลืมตาขึ้นก่อนจะยิ้มและขยับออกห่างคนตรงหน้าเล็กน้อย “สำคัญกว่านั้น”


อาทิตย์ทัศน์พยักหน้าก่อนจะยกจานที่เตรียมเอาไว้หันกลับมา “ผมเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว คุณจะนอนต่อแล้วตื่นมาทานหรือจะทานตอนนี้ก็ตามใจ”



“ผมยังไม่ทำอะไรทั้งนั้น” ตฤณกรกล่าวก่อนจะรั้งจานในมือของคนตัวเล็กกว่ามาไว้ในมือแล้วจัดการวางมันลงที่ข้างอ่างล้างจาน


“ตามใจ อยากจะทำอะไรก็ทำ” อาทิตย์ทัศน์ตอบห้วน ๆ ทำท่าจากเดินเลี่ยงมาอีกทาง แต่คนตัวสูงกว่ายังคงยืนขวางเอาไว้


“ถ้าอย่างนั้น ผม...” ตฤณกรกล่าวอย่างตัดสินใจ “ผมขอกอดคุณได้ไหม”


คำพูดแสนสุภาพนั้นทำเอาคนถูกขอรู้สึกวูบไหวไม่น้อย อาทิตย์ทัศน์เงยหน้าขึ้นสบตาคนตัวสูงกว่า สายตาคู่นั้นปราศจากเล่ห์กลใด ๆ แต่มันคือสายตาแห่งการวิงวอน


ปากหยักขยับอีกครั้งเมื่อเห็นคนตรงหน้านิ่งเงียบไป “ได้ไหมครับ”


อาทิตย์ทัศน์เม้มปากอย่างตัดสินใจก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ และเพียงพริบตาเดียวเขาก็รู้สึกได้ถึงไออุ่น ๆ จากอกแกร่งของเจ้าของสายตาวิงวอนเมื่อสักครู่





“เป็นอะไรหรือเปล่า” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังกอดเขาอยู่นั้นนิ่งเงียบไป


ตฤณกรกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นก่อนจะกล่าวเบา ๆ แต่กลับดังก้องในความรู้สึกของคนฟังซ้ำไปซ้ำมา “ผมคิดถึงคุณจัง”









“คิดถึงที่สุดเลย”






เสียงนั้นสั่นเครือฟังแล้วน่าใจหาย อาทิตย์ทัศน์ค่อย ๆ ยกมือขึ้นกอดเขาตอบพร้อมกับลูบแผ่นหลังกว้างเบา ๆ












“ขี้แยจัง” คนตัวเล็กกว่าพูดกลั้วหัวเราะ

 
ตฤณกรรีบยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาก่อนจะค่อย ๆ ขยับตัวออก เขาใช้มือทั้งสองข้างจับที่เอวของคนตัวเล็กกว่าเอาไว้ “เปล่าเสียหน่อย”


“โกหกไม่เก่งเลยคุณน่ะ” อาทิตย์ทัศน์กล่าวเมื่อมองเห็นตาแดง ๆ ของคนตรงหน้า


“ผมนี่แย่จัง” ตฤณกรพูดกลั้วหัวเราะ “ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าจะตั้งเงื่อนไขบ้า ๆ นั่นเพื่อจะทำให้คนปากแข็งยอมพูดว่าคิดถึงแท้ ๆ แต่สุดท้ายตัวผมกลับต้องเป็นฝ่ายคิดถึงคุณเสียเอง”



“สมน้ำหน้า” คนตัวเล็กกว่ากล่าว



“แล้วคุณล่ะ คิดถึงผมบ้างหรือเปล่า” ตฤณกรกล่าว แรงรั้งเบา ๆ ที่เอวทำให้อาทิตย์ทัศน์ต้องยกมือทั้งสองข้างดันแผงอกของคนตัวสูงกว่าเอาไว้ก่อนจะเบนสายตาหนีตาคมคู่นั้นของเขา


“ว่ายังไงครับ”


เสียงทุ้มนุ่มที่ข้างหูทำเอาคนฟังร้อนวูบไปทั้งใบหน้า


“มีใครก็ไม่รู้บอกให้ผมรีบกลับมาเร็ว ๆ ผมก็อุตส่าห์เลื่อนไฟลท์กลับ คุณจะไม่พูดให้ผมฟังหน่อยเหรอ”







“ว่ายังไงครับ” ตฤณกรกล่าวพร้อมกับกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น


“ปล่อยผมก่อน” คนตัวเล็กกว่ากล่าวพร้อมกับพยายามดันอกกว้างให้ออกห่างแต่ก็ไม่เป็นผล


“ถ้าคุณไม่พูดผมก็จะกอดคุณไปแบบนี้แหละ”


“คุณนี่มัน...” อาทิตย์ทัศน์ขมวดคิ้วเขิน ๆ


“ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างนี้ไหม” คนตัวสูงกว่าทำหน้าเจ้าเล่ห์ “พยักหน้าก็ได้”


“ยังไง”


“ผมจะถาม ส่วนคุณก็แค่พยักหน้า” ตฤณกรยิ้ม “ตกลงไหม”



“อืม” อาทิตย์ทัศน์พยักหน้าส่ง ๆ


“คุณคิดถึงผมใช่ไหม”


คนตัวเล็กกว่าเงยหน้าขึ้นสบตาเจ้าของคำถามก่อนจะหลุบตาลงหนีดวงตาที่จ้องมองมาอย่างรอคำตอบ อาทิตย์ทัศน์พยักหน้าช้า ๆ แทนคำตอบในขณะที่ตฤณกรยิ้มอย่างพอใจ





“คุณคิดถึงผมมาก ๆ เลยใช่ไหม”


คนตัวเล็กกว่ายังคงพยักหน้าอยู่อย่างนั้น





“มาก ๆ ๆๆๆ”


อาทิตย์ทัศน์พยักหน้าเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่อาจนับได้ “ปล่อยได้หรือยัง”





“ยังไม่หมดคำถามเลย”


หน้าแดงระเรื่อหันขวับมาสบตาคนตรงหน้าอย่างขัดใจ “อะไรกัน ยังไม่หมดอีกเหรอ”


“ยังครับ” คนตัวสูงหัวเราะเบา ๆ


“มีอะไรจะถามอีก” อาทิตย์ทัศน์กล่าวก่อนจะขยับตัวหลุดจากพันธนาการอันแสนอบอุ่นของเขา





“จ้า” ตฤณกรกล่าวพร้อมกับคว้าข้อมือคนตัวเล็กกว่าเอาไว้ ร่างหนาสาวเท้าเข้าไปหาในขณะที่อาทิตย์ทัศน์เองพยายามถอยหนีจนกระทั่งแผ่นหลังสัมผัสกับกำแพง


“คุณจะไม่พูดให้ผมฟังจริง ๆ น่ะเหรอ” ตฤณกรกระซิบที่ข้างหูของคนที่พยายามเบือนหน้าหนี


“ผมตอบคุณไปหมดแล้วไง”


“แต่ผมอยากฟังนี่นา” คนตัวสูงกล่าวก่อนจะยกมือยันกำแพงเอาไว้ “ผมควรจะทำยังไงกับคนปากแข็งดีนะ” ริมฝีปากหยักยกยิ้มน้อย ๆ ในขณะที่มือข้างหนึ่งค่อย ๆ คลายออกจากข้อมือเล็กก่อนจะเลื่อนขึ้นไปจับที่ปลายคางของตัวเล็กกว่าให้หันมาสบตากัน ก่อนจะจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวย


“แบบนี้ดีไหม” ตฤณกรยิ้มก่อนจะค่อย ๆ โน้มศีรษะจรดริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากบางของคนที่ค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ


เพียงไม่ถึงเสี้ยววินาทีอาทิตย์ทัศน์รู้สึกได้ถึงความอุ่นที่สัมผัสลงบนริมฝีปากของตัวเอง หัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ  แม้อากาศภายในห้องจะเย็นเพียงใดแต่ทั่วทั้งใบหน้ากลับร้อนผ่าวเพียงเพราะรสสัมผัสแรกของใครคนหนึ่งที่หวานหอมเสียจนยากจะควบคุมสติของตัวเองได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้หลุดลอยไปถึงไหน 


ใช่..มันคือ ‘จูบแรก’ กับ ‘ผู้ชายคนแรก’ ที่เขาไม่รู้จะให้นิยามความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนในขณะนี้ว่าอย่างไร รู้เพียงว่าคนตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าขณะนี้คือคนที่เขาคิดถึงเหลือเกิน มือเรียวจับบ่าทั้งสองข้างของคนตัวสูงกว่าไว้แน่นเพื่อประคองตัวเองไม่ให้ทรุดลงไปกองกับพื้นก่อนจะพยายามผละออกจากสัมผัสอันอบอุ่น


ตฤณกรค่อย ๆ ถอนริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่งเมื่อรู้สึกว่าคนตัวเล็กกว่ากำลังพยายามละจากรสสัมผัสอันหวานหอมนี้ ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างพอใจเมื่อเห็นพวงแก้มแดงระเรื่อของคนที่กำลังยืนหอบเพราะขาดอากาศหายใจ ปลายจมูกโด่งค่อย ๆ ลากผ่านพวงแก้มใสก่อนจะกระซิบที่ข้างหู “ทีนี้จะพูดให้ผมฟังได้หรือยังครับ” พูดจบมือหนาก็เลื่อนลงมาประคองที่เอวของคนตรงหน้า



“ผมคิดถึงคุณนะ” เขายังคงย้ำในสิ่งที่กำลังรู้สึกอยู่ขณะนี้อีกครั้ง “แล้วคุณล่ะ คิดถึงผมบ้างหรือเปล่า”






“ว่ายังไงครับ” คนตัวสูงกว่ายิ้ม “ปากก็ไม่แข็งเสียหน่อย ทำไมพูดยากจัง ยิ้มก็ยาก” ตาคมมองไปที่ริมฝีปากสีส้มชวนลิ้มลองนั่นอีกครั้ง


“หรือว่าต้องทำแบบนี้” พูดจบตฤณกรก็ฝังปลายจมูกโด่งลงกับแก้มเนียนทันที


“ตัง”


“พอแล้ว”


อาทิตย์ทัศน์ท้วงเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคงไม่ยอมหยุดง่าย ๆ


แม้จะมีเสียงทักท้วงแต่ปลายจมูกโด่งก็ยังคงเลื่อนมาฝังลงที่แก้มอีกข้างอย่างไม่กลัวว่าจะช้ำ



“ผมชอบจังเวลาที่คุณเรียกชื่อผม” ตฤณกรกระซิบ “ทีนี้พูดให้ผมฟังได้หรือยัง” คนตัวสูงเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งคู่สบตากันอีกครั้ง


“พูดก็ได้” อาทิตย์ทัศน์เงยหน้าขึ้นสบตาคนตัวสูง มือเรียวกระชับแน่นที่บ่าหนาพร้อมกับเขย่งปลายเท้า ริมฝีปากบางค่อย ๆ เคลื่อนผ่านแก้มของคนตัวสูงกว่าไปหยุดที่ข้างหูก่อนจะกระซิบเบา ๆ








“ผม...ก็คิดถึงคุณ”





ตฤณกรยิ้มกว้างพร้อมกับออกแรงรั้งเอวของคนตัวเล็กกว่าเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะฝังปลายจมูกลงที่แก้มแดงระเรื่ออีกครั้ง


“ชื่นใจจัง”


อาทิตย์ทัศน์จับที่แก้มของตัวเองพร้อมกับขมวดคิ้วและพึมพำเบา ๆ “ไม่เห็นขอก่อนเลย”



ปากหยักคลี่ยิ้มอีกครั้งก่อนจะกล่าว “ก็รู้ว่าต้องให้อยู่แล้วจะขอทำไมล่ะครับ”


“บ้า” อาทิตย์ทัศน์กล่าวพร้อมกับกำหมัดและทุบลงที่แผงออกกว้างเบา ๆ ก่อนที่ทั้งสองคนจะสบตาและยิ้มให้กัน...







หลายวันต่อมา...




อาทิตย์ทัศน์ยืนมองรถไฟฟ้าที่กำลังเคลื่อนออกจากสถานีพร้อมกับนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน แต่ทุกภาพกลับยังคงชัดเจนอยู่ในความรู้สึก เสียงที่ฟังดูอบอุ่นและรสสัมผัสหวานหอมยังคงตราตรึง ปลายนิ้วเรียวค่อย ๆ แตะที่ริมฝีปากของตัวเองก่อนที่รอยยิ้มเล็ก ๆ จะปรากฏขึ้นบนใบหน้า



“ขอโทษครับที่ต้องให้รอ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ความคิดหยุดลง อาทิตย์ทัศน์ค่อย ๆ หันมาสบตาคนตัวสูงที่กำลังยืนยิ้มให้


“ไม่เป็นไร” คนตัวเล็กกว่าตอบ “ไหนบอกว่าวันนี้เลิกงานดึกไง”


ตฤณกรพยักหน้า “ผมบอกบอสว่าต้องออกมาทำธุระสำคัญ ทำได้แต่วันนี้วันเดียว”


อาทิตย์ทัศน์ส่ายหน้า “คุณมันเจ้าเล่ห์”


“อะไรกันคุณ ผมมาทำธุระสำคัญจริง ๆ นะครับ”


“ธุระอะไรของคุณ” อาทิตย์ทัศน์กล่าว


“ก็วันนี้วันเกิดคุณ ผมไปทานข้าวด้วยไม่ได้ ก็เลยจะเอาของขวัญมาให้”


“เรื่องแค่นี้เอง วันหลังก็ได้”


ตฤณกรส่ายหน้า “ไม่ได้ ๆ”


“งั้น....” อาทิตย์ทัศน์แบมือ “เอามา แล้วรีบกลับไปทำงาน”


“ไม่รู้ว่าคุณจะถือไหวไหม”


อาทิตย์ทัศน์หมวดคิ้วเพราะไม่เห็นคนตรงหน้าจะหอบหิ้วอะไรใหญ่โตจนกระทั่งถือไม่ไหวมาด้วย


“เพราะสิ่งที่ผมจะให้...ก็คือทั้งตัวแล้วก็หัวใจของผม อยู่ที่คุณแล้วละว่าจะรับมันเอาไว้หรือเปล่า” คนตัวสูงยิ้ม “สุขสันต์วันเกิดนะคุณ เรามาเป็นแฟนกันนะ”


คนตัวเล็กกว่ายังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น


ตฤณกรหันไปมองรถไฟฟ้าที่กำลังเคลื่อนเข้าใกล้สถานีก่อนจะกล่าว “คุณมีเวลาสิบเอ็ดสถานีในการคิด ไปกันเถอะรถมาแล้วเดี๋ยวผมไปส่ง” พูดจบมือหนาก็คว้าข้อมือของคนตรงหน้าก่อนจะออกแรงรั้งเบา ๆ ให้เดินตามกันไป









อาทิตย์ทัศน์ละสายตาจากทิวทัศน์นอกหน้าต่างก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงกว่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาไม่ได้พูดอะไรอีกเลยตั้งแต่ก้าวเข้ามาในรถไฟฟ้า ยิ่งเข้าเมืองเท่าไรจำนวนผู้โดยสารก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น แม้รถไฟฟ้าจะเคลื่อนที่ด้วยอัตราความเร็วเท่า ๆ กับทุกวัน แม้จะมีการเปลี่ยนขบวนรถ แต่ในความรู้สึกอาทิตย์ทัศน์นั้นเวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน สัมผัสอุ่น ๆ ที่หลังมือของกันและกันทำให้รู้ว่าตลอดเส้นทางยังต่างคนต่างมีกันและกันยืนอยู่ข้าง ๆ แม้จะไม่ได้พูดอะไรกันเลยก็ตาม...



อาทิตย์ทัศน์เงี่ยหูฟังเสียงขานชื่อสถานีพร้อมกับนับถอยหลังในใจ...




‘เรามาเป็นแฟนกันนะ’




อีกแปดสถานี...



‘เรามาเป็นแฟนกันนะ’




อีกห้าสถานี...



‘เรามาเป็นแฟนกันนะ’




อีกสี่สถานี...



‘เรามาเป็นแฟนกันนะ’




อีกสามสถานี...



‘เรามาเป็นแฟนกันนะ’




อีกสถานีเดียว...




ในที่สุดประตูรถไฟฟ้าก็เปิดออกที่สถานีวงเวียนใหญ่ ตฤณกรและอาทิตย์ทัศน์ต่างก็ก้าวออกมาจากขบวนรถก่อนจะเดินไปหยุดยืนที่ปลายสถานีเหมือนทุกครั้ง




“ทำไมครั้งแรกที่เราพบกันในร้านเค้ก คุณถึงไม่บอกว่าคุณเคยเจอผมมาก่อน” อาทิตย์ทัศน์เอ่ยขึ้น


“ผมอยากให้คุณจำผมได้เอง”


“แล้วถ้าผมจำไม่ได้ล่ะ”


“จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงความรู้สึกของผมก็เหมือนเดิมอยู่ดี” ตฤณกรยิ้ม


เสียงเตือนปิดประตูรถไฟฟ้าที่เพิ่งเข้ามาจอดเทียบชานชลาดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่ต้องละสายตาจากกันและกันครู่หนึ่ง


“แล้วถ้าวันนี้ผมปฏิเสธ คุณจะทำยังไง” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยขึ้น


“พรุ่งนี้ผมก็จะมาที่นี่แล้วก็ถามคุณอีก ถามไปแบบนี้ทุกวันจนกว่าคุณจะใจอ่อน” ตฤณกรยิ้ม


“ดี ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมจะเปลี่ยนไปนั่งรถเมล์แทน” อาทิตย์ทัศน์กล่าวยิ้ม ๆ


“จ้าน่ะ” คนตัวสูงกว่าขมวดคิ้ว รู้สึกอยากจะประท้วงคนตรงหน้าเหลือเกิน


อาทิตย์ทัศน์มองคนที่ทำหน้าเหมือนเด็กโดนขัดใจก่อนจะยิ้ม “ไหนบอกว่าจะไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่งอแงไง เป็นแฟนผมน่ะห้ามดื้อ ห้ามซน ห้ามงอแงนะ” พูดจบเขาก็หันหน้ามองดูดวงอาทิตย์สีส้มที่กำลังเคลื่อนต่ำลงทุกขณะ



ประโยคสั้น ๆ ของคนตรงหน้าทำเอาหัวใจของตฤณกรพองโตขึ้นอีกครั้ง เขาสบตาคนตัวเล็กว่าก่อนจะยิ้มกว้างแทบอยากจะกระโดดกอดให้แน่น ๆ แต่แค่เพียงสัมผัสอุ่น ๆ ที่หลังมือเวลาที่ได้ยืนข้าง ๆ กันแบบนี้ก็มีค่ามากที่สุดแล้ว



“ขอบคุณนะ สำหรับของขวัญวันเกิด”


“คุณชอบไหม” คนตัวสูงกว่าถาม


อาทิตย์ทัศน์พยักหน้ายิ้ม ๆ ลักยิ้มเล็ก ๆ ที่ข้างแก้มทำเอาคนมองอดที่จะยิ้มตามไม่ได้...




วันนี้การรอคอยที่จะพบใครคนหนึ่งอีกครั้งได้สิ้นสุดลงแล้ว จากนี้ไปมันคือการเริ่มต้นของคนสองคนที่จะจับมือเดินไปด้วยกัน แม้ไม่รู้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อเหลือเกินว่าความรักจะทำให้แต่ละวันผ่านไปอย่างดีที่สุด...





.......จบ......





ขอบคุณคุณคนอ่านทุก ๆ คน สำหรับการติดตามค่ะ



แล้วจะมาลงตอนพิเศษให้อีก 1 ตอนนะคะ


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-01-2014 13:40:48 โดย ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า »

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ไม่อยากให้จบเลย มันน่ารักอบอุ่นมาก
นี่ก็อ่านไปเขินไปยิ้มไปนะเนี่ย รอตอนพิเศษครับ :กอด1:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
สำเร็จซักทีนะตัง  :กอด1:


ขอบคุณครับ แล้วจะรอตอนพิเศษครับ


ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ขอบคุณมากค่า

อ่านแล้วยิ้มไม่หุบ มันอบอุ่นมากอ่ะ

รอตอนพิเศษค่า

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ดีใจด้วยนะตัง จ้ายอมเป็นแฟนแล้ว
รู้สึกอบอุ่นจริงๆ อ่านไปยิ้มไป

ขอบคุณคนแต่งนะที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่าน

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียว หวานตั้งแต่ต้นจนจบ
รักเรื่องนี้จัง ขอบคุณคนเขียนมากค่ะที่ทำให้มีความสุข

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๗ จ้า

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
จบแล้วนะคะสำหรับเรื่อง "ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า" ต้องขอบคุณคุณคนอ่านทุกคนมาก ๆ สำหรับการติดตาม
แล้วก็ขอบคุณมาก ๆ สำหรับคอมเม้นท์ค่ะ ประทับใจทุกคนมาก ๆ เลย
 
สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขมาก ๆ ค่ะ
เหลืออีก 1 ตอนซึ่งเป็นตอนพิเศษนะคะ ขอติดไว้ก่อน
ยังไงก็ทักทาย ตามทวงกันได้ที่เพจนะคะ


หวังว่าคงจะมีโอกาสพบกันอีกในเรื่องถัดไปค่ะ (ถ้าไม่หมดมุขเสียก่อน ^^)



ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ



babaaa

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปยิ้มไป งื้อออออ
อบอุ่นมากก ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น่ารักมากเลยเรื่องนี้
เราพลาดไปได้ยังไง
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกอุ่นข้างในจริงๆ <3

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
โหยยยยยยยย น่ารักมากกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ppgf

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: :o8: :o8:ยกให้เป็นนิยายโรแมนติกแห่งปีเลยค่ะ

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
 :jul1: :mew3:  ฟินฝุดๆๆ  บอกเลย อ๊ายยยยยยย

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
หวานละในละไม น่ารักฟิลกู๊ดด ชอบบบบ

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
ฮืออออ อ่านรวดเดียวเลย ชอบจนอยากจะร้องไห้เลยค่ะเรื่องนี้ มันอบอุ่น นุ่มละมุน และกลมกล่อมมาก  ฟีลกู๊ดสุด ๆ
รอตอนพิเศษนะคะ  สวัสดีปีใหม่ค่าา ^____^


ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้

หวังว่าจะมีเรื่องต่อๆไปตามมา

+ 1 + เป็ดจ้า

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
เป็นนิยายที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกดีมากๆน่ารักอบอุ่น
ถึงจะใช้เวลานานมากกว่าที่จะได้เจอและรักกัน
ชอบตังกับจ้ามาก :mew1:

ออฟไลน์ lonesomeness

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ในที่สุดก็เป็นแฟนกันซักที เฮ้อ ตามลุ้นอยู่ตั้งนาน
จ้าใจแข็งมากกกกกก ตังก็มีความอดทนสูงสุด
ฉากขอเป็นแฟนนี่น่ารักจังเลยค่ะ
เอาไว้จะขอยืมมุกไปใช้กับผู้ชายที่ชอบบ้างนะคะ 5555

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ขอตอนพิเศษค่ะ กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :-[

อ่านแล้วหวานมากกก มดจะขึ้นจอคอมแล้ววว

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
อบอุ่นละมุนที่สุดตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้ายเลยค่ะ
ชอบตังตรงที่เป็นผู้ชายสุภาพ แล้วจ้าเนี่ยก็ไม่ตุ้งติ้งออกจะแมนด้วยซ้ำ55555555555555

ยินดีด้วยนะทั้งคู่ ตังก็อดทนอ่ะ จ้าก็ใขแข๊งแข็ง
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ^^

ออฟไลน์ tartar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
รู้สึกละมุนละไม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
รอตอนพิเศษอะอ่านรวดเดียวจบ
น่ารักมากเลย โลกกลม พรหมลิขิตมากๆ
ชอบจ้า

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกก :-[

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
เข้ามาอ่านรอบเดียวจบ ชอบเรื่องนี้มากเลย ค่อยๆเป็นค่อย ๆไป แต่ใส่ใจกันน่ารักมาก o13

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณจ้า  สนุกมาก  ละเมียดละไมมาก  อ่านแล้วอยากได้ผู้ชายแบบตังซะเหลือเกินยังมีเหลืออีกไหมเนี่ย 
เฮ้อ  เสียดายอ่ะ  งือ  จบซะแล้ว  แต่ขยันมาลงเรื่องมากนะ  ขอบคุณมากจ้า :กอด1:

ตอนพิเศษมาลงให้อ่านหลายๆ ตอนนะให้สมกับการรอคอยของนายตังกว่าจะเป็นแฟนกับจ้า  ผู้ชายปากแข็งมากกกกกก
ขอตอนพิเศษหลายๆ ตอนนะ  pleas   :3123:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อบอุ่นมากมาย ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
เพิ่งมาตามอ่าน  ตอนแรกไม่กดเข้ามาเพราะกลัวมันจะเศร้านะคะ
แต่พออ่านแล้วแบบ มันดรแมนตืกมากเลยอ่า อยากให้เรื่องยาวๆกว่านี้ด้วย
ชอบที่จีบกันอะ มันเป็นพรมลิขิตจริงๆเนอะ ^^
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ นะคะ

ออฟไลน์ eye-lifestyle

  • พรุ่งนี้ไม่เคยมีจริง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
ตอนพิเศษ : หลักกิโลเมตรที่ 1 (ก้อนหินจำศีล)




“ยินดีต้อนรับกลับสู่ประเทศไทยค่ะพี่ตัง” หญิงสาวในชุดเสื้อไหมพรมถักสีสันสดใสเอ่ยทักทายขณะเปิดประตูรั้วให้ชายหนุ่ม ตฤณกรยิ้มก่อนจะเดินตามเธอเข้าไปในบ้าน คนตัวสงยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนที่กำลังนั่งปอกผลไม้ใส่กล่องพลาสติกอยู่ที่โซฟาก่อนจะนั่งลง


“หายหน้าไปนานเลยนะจ๊ะ” อรนุชกล่าว


“ครับ” ตฤณกรตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะวางถุงของฝากลงบนโต๊ะ “นี่ของฝากครับ ผมคิดว่าคุณป้าน่าจะชอบ”


“อะไรเหรอจ๊ะ” หญิงวัยกลางคนกล่าวก่อนจะวางมีดลง และเอื้อมหยิบถุงกระดาษลายสวยมาดูโดยมีสาวน้อยบ้านตรงข้ามนั่งชะเง้อมองอยู่ข้าง ๆ อย่างสนใจ


“หนังสือสอนทำขนมญี่ปุ่นน่ะครับ เขาแปลเป็นภาษาอังกฤษ”


“แหม...ช่างรู้ใจน้านุชนะคะพี่ตัง” จอมขวัญกล่าวยิ้ม ๆ “ดูสิ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว”


“หนูขวัญก็... แซวน้าได้” อรนุชกล่าวขณะเปิดดูภาพในหนังสือเล่มหนา


“ขอบใจนะจ๊ะตัง”


“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะหันไปหาสาวน้อยที่กำลังเอื้อมหยิบผลไม้ในกล่อง


“ของขวัญก็มีนะ” ตฤณกรกล่าวก่อนจะส่งถุงอีกใบให้


“อะไรเหรอคะ” หญิงสาวกล่าวพร้อมกับรับมันมา


“ลองเปิดดูสิ พี่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกใจหรือเปล่า ตอนไปซื้อก็อาศัยถามเพื่อนผู้หญิงที่เป็นคนญี่ปุ่นเอา”


“โอ้โห เครื่องสำอางนี่คะ ยี่ห้อที่มีคนรีวิวทั้งนั้นเลย” จอมขวัญกล่าวตาวาวก่อนจะหยิบเครื่องสำอางหลายชิ้นออกมาวางเรียงบนโต๊ะ


“ถูกใจไหม”


“ถูกใจมากเลยค่ะพี่ตัง”


ตฤณกรพยักหน้าก่อนจะมองหาใครอีกคน “จ้าไม่อยู่เหรอครับคุณป้า”


อรนุชและจอมขวัญมองหน้ากันยิ้ม ๆ


“อยู่ค่ะพี่ตัง แต่อยู่บนห้องโน่น”


ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะก้มลงมองนาฬิกาข้อมือซึ่งบอกเวลาเกือบสิบโมงเช้า



“ยังไม่ตื่นอีกเหรอ”


อรนุชยิ้มก่อนจะวางหนังสือในมือลง “ตื่นตั้งนานแล้วจ้ะ”


“หรือว่าไม่สบายครับ”


“เปล่าหรอกค่ะ แต่ว่าหน้าหนาวแบบนี้น่ะ มันเป็นฤดูจำศีลของพี่จ้าเขา” จอมขวัญหัวเราะ


“ฤดูจำศีล?”


“ใช่ค่ะ หน้าหนาวพี่จ้าจะกระฉับกระเฉงน้อยลงสิบเปอร์เซ็นต์”


“มีอย่างนี้ด้วย” ตฤณกรยิ้ม


“รายนั้นเขาขี้หนาวน่ะลูก ชวนไปไหนหน้าหนาวแบบนี้ก็ไม่ไปหรอก”


“ใช่ค่ะ นี่ขวัญก็เลยจะชวนน้านุชออกไปซื้อของกับแม่ กำลังรอน้านุชเตรียมเสบียงให้พี่จ้าอยู่”


“ผมว่าจะมาชวนออกไปข้างนอกด้วยกันเสียหน่อย สงสัยคงไม่ได้ไปแล้ว” ตฤณกรยิ้ม


“ลองขึ้นไปชวนสิจ๊ะ เผื่อจะยอมไป” อรนุชกล่าวก่อนจะหันไปหาจอมขวัญ “น้าวานขวัญเอาผลไม้ไปแช่ตู้เย็นหน่อยนะลูก เดี๋ยวน้าไปหยิบกระเป๋าสตางต์ก่อนแล้วเราไปกัน”


“ค่ะ น้านุช” หญิงสาวกล่าว


“ไม่ขึ้นไปเหรอคะพี่ตัง น้านุชอุตส่าห์อนุญาตแล้ว ห้องพี่จ้าอยู่ใกล้ ๆ กับบันไดค่ะ” เธอยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะเดินถือกล่องใส่ผลไม้หายเข้าไปในครัว




อรนุชหายขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านครู่หนึ่งก่อนจะกลับลงมาอีกครั้ง


“อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันนะตัง เดี๋ยวป้าจะกลับมาทำกับข้าวให้ทาน”


“ครับคุณป้า”


พักใหญ่ ๆ เสียงปิดประตูรั้วก็ดังขึ้นก่อนที่รถเก๋งของจอมขวัญจะถูกขับออกไป ตฤณกรเดินไปนั่งลงที่ระเบียงดูปลาคราฟสีสวยที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในสระน้ำเล็ก ๆ ไม่รู้ว่าอากาศเย็นขนาดนี้พวกมันจะรู้สึกหนาวกันบ้างไหมที่ต้องแช่อยู่ในน้ำแบบนี้ เมื่อไม่มีทีท่าว่าคนที่อยากเห็นหน้าจะลงมา เขาจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้านก่อนจะค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องที่อยู่ใกล้กับบันไดมากที่สุด


ภายในห้องถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย ตามฝาผนังมีภาพถ่ายที่เข้ากรอบอย่างดีซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพของท้องฟ้า ป่าเขาและสถานที่ต่าง ๆ ประดับอยู่เต็มไปหมด ทั้งม่านหน้าต่าง ผ้าปูที่นอนและผ้าห่มล้วนแต่เป็นสีขาวสะอาดตา ตฤณกรค่อย ๆ นั่งลงบนเตียงนอน ก่อนจะวางมือบนผ้าห่มผืนหนาที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจของคนที่กำลังนอนคลุมโปง



“เลิกจำศีลได้แล้วครับคุณก้อนหิน”


“อย่ามายุ่งกับผม” เสียงอู้อี้ที่ดังมาจากใต้ผ้าห่มเรียกรอยยิ้มจากคนที่กำลังนั่งมองอยู่ได้ไม่น้อย


“อะไรกันคุณ อากาศดี ๆ แบบนี้มัวมานอนคลุมโปงอยู่ได้ยังไงกัน ออกไปข้างนอกกันดีกว่า”


อาทิตย์ทัศน์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะค่อย ๆ โผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม


“แบบนี้บ้านคุณเรียกอากาศดี แต่ที่บ้านผมเรียกอากาศหนาวนะ” พูดจบเขาก็ทำท่าจะมุดลงใต้ผ้าห่มอีกครั้ง


ตฤณกรรีบดึงผ้าห่มเอาไว้ก่อนจะกล่าว “ไม่เอาแล้ว ผมไม่ให้นอนแล้ว ลุกขึ้นมาคุยกันก่อน”


“ผมไม่อยากคุย ปล่อยเลย” คนตัวเล็กกว่าพยายามออกแรงยื้อยุดฉุดกระชาก


“ไม่ปล่อย” ตฤณกรหัวเราะ “ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย” พูดจบเขาก็ดึงแขนทั้งสองข้างของคนที่กำลังขืนตัวเตรียมจะมุดลงไปในผ้าห่มขึ้นมา


“อะไรของคุณเนี่ย” อาทิตย์ทัศน์กล่าวอย่างหงุดหงิด


“อากาศแค่นี้บ่นว่าหนาวแล้วคุณไปอยู่ต่างประเทศได้ยังไงตั้งหลายปี”


“มันไม่เหมือนกัน คุณเข้าใจคำว่าสถานการณ์บังคับไหม ที่อังกฤษมันก็หนาวจนผมแทบไม่อยากจะทำอะไรเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำเพราะสถานการณ์มันบังคับ แต่คุณดูสิ ที่นี่เมืองไทยนะ มันไม่ควรจะหนาวอะไรขนาดนี้” อาทิตย์ทัศน์กล่าวก่อนจะพยายามสะบัดมือออก


“จ้า ไม่เอาแล้ว ผมไม่ให้นอนแล้ว”


“อย่ามายุ่งกับผม” คนตัวเล็กกว่ากล่าวเมื่อหลุดออกจากการเกาะกุมของเขาในที่สุด อาทิตย์ทัศน์คว้าผ้าห่มนอนคลุมโปงอีกครั้ง



“เฮ้อ...เด็กคนนี้” ตฤณกรส่ายหน้า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภาพที่เขาถ่ายจึงมีแต่ภาพของท้องฟ้า ภาพกลางแจ้งหรือสถานที่ที่แวดล้อมด้วยสภาพอากาศที่ดูอบอุ่น ที่แท้ก็เพราะเป็นคนขี้หนาวนี่เอง


“ผมไม่ใช่เด็ก” เสียงอู้อี้ดังมาจากใต้ผ้าห่ม


“แต่คุณกำลังทำตัวเป็นเด็ก ๆ” ตฤณกรหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ


“บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่เด็ก” อาทิตย์ทัศน์กล่าวก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง


“งั้นก็ลุกขึ้นแล้วลงไปข้างล่างกัน” ตฤณกรกล่าวก่อนจะรั้งข้อมือของคนตรงหน้าขึ้น “เร็วสิครับ”


อาทิตย์ทัศน์ถอยหายใจก่อนจะลุกขึ้นเดินตามคนตัวสูงกว่าออกไปจากห้องอย่างจำใจ




“คุณทานอะไรมาหรือยัง” คนตัวเล็กกว่าถามขึ้นก่อนจะนั่งกอดเข่าลงที่โซฟา


“ผมทานมาแล้ว ว่าจะชวนไปข้างนอกด้วยกันเสียหน่อย”


“ไปไหน”


คนตัวสูงกว่ายิ้มก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ “ก็...ไปไหนก็ได้ที่คนเป็นแฟนกันเขาไปกัน”


“เพ้อเจ้อ” อาทิตย์ทัศนพึมพำ


“แล้วชอบหรือเปล่าล่ะ” ริมฝีปากหยักยกยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะแกล้งขยับเบียดเข้ามาใกล้ ๆ


“ไม่ชอบ” ชายหนุ่มที่นั่งกอดเข่าอยู่ข้าง ๆ ตอบห้วน ๆ


“ไม่ชอบจริง ๆ น่ะเหรอ” ตฤณกรเสียงอ่อย


คนตัวเล็กกว่าเหลือบมองคนที่ทำหน้าจ๋อยอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะพูดเพียงสั้น ๆ แต่ก็ทำให้หัวใจคนฟังพองโตขึ้นอีกครั้ง


“ไม่จริง”


ตฤณกรยิ้มหวานพร้อมกับวางแขนลงบนบ่าของคนข้าง ๆ ก่อนจะใช้หลังนิ้วถูที่แก้มเนียนเบา ๆ อย่างหยอกล้อ “ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่ได้ใจร้าย”


“ฉวยโอกาสตลอด” อาทิตย์ทัศน์กล่าวก่อนจะลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในครัว ทิ้งให้คนถูกต่อว่านั่งยิ้มอยู่อย่างนั้น







“คุณเล่นกีต้าร์เป็นด้วยเหรอ”


เสียงนั้นดังมาจากข้างนอกในขณะที่อาทิตย์ทัศน์กำลังยืนชงโกโก้ร้อนอยู่ที่โต๊ะอาหาร เขายกแก้วสองใบเดินออกไปก่อนจะวางมันลงโต๊ะหน้าทีวี จากนั้นชายหนุ่มจึงหันไปตอบคำถามของคนที่ยืนเกากีต้าร์ไม่เป็นทำนองอยู่ใกล้ ๆ กับชั้นวางหนังสือ


“เป็นสิ” อาทิตย์ทัศน์ตอบก่อนจะหยิบหนังสือเล่มหนึ่งที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาเปิดดู


“จริงเหรอ” ตฤณกรยิ้มขณะเดินถือกีต้าร์มานั่งลงข้าง ๆ กัน


“ผมจะโกหกคุณทำไม”


“คุณหัดเองเหรอ”


“อืม” อาทิตย์ทัศน์ตอบทั้งที่สายตายังคงกวาดมองตัวหนังสือ หูยังคงได้ยินเสียงเกากีต้าร์ทำนองแปร่ง ๆ เป็นระยะ ๆ ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะกล่าว“คุณเลิกเกากีต้าร์เสียงแปร่ง ๆ เสียทีได้ไหม ผมรำคาญ”


“ก็ผมเล่นไม่เป็นนี่คุณ ถ้าอย่างนั้น...” คนตัวสูงกว่ากล่าวพร้อมกับดึงหนังสือออกจากมือคนข้าง ๆ “คุณเล่นให้ผมฟังหน่อยนะ”


อาทิตย์ทัศน์ส่ายหน้าก่อนจะรับกีต้าร์ตัวเก่าที่ซื้อตั้งแต่สมัยมัธยมต้นมาตั้งสาย นานแล้วที่ไม่ได้หยิบมันออกมาเล่น ถ้าแม่ไม่รื้อทำความสะอาดห้องเก็บของมันก็คงนอนจมกองฝุ่นอยู่อย่างนั้น     


“ว่าแต่คุณเถอะทำไมถึงหัดเล่นกีต้าร์ล่ะครับ” คนตัวสูงกว่าถามก่อนจะวางคางลงบนบ่าของคนข้าง ๆ


“จีบสาว” อาทิตย์ทัศน์ตอบเรียบ ๆ ในขณะที่ตฤณกรก็เอียงคอมองคนที่แก้มชนกับปลายจมูกของเขาอย่างแปลกใจ


“จีบสาวด้วยอ่ะ แฟนใครเนี่ย” น้ำเสียงล้อเลียนปนน้อยใจนั้นทำเอาอาทิตย์ทัศน์รู้สึกเขินไม่น้อย


“พูดมากจริง นอนฟังเงียบ ๆ ไปเลย” คนตัวเล็กกว่ากล่าวแก้เขิน


ตฤณกรยิ้มก่อนจะนอนเหยียดลงบนโซฟาพร้อมกับเปิดหนังสือในมือขึ้นอ่าน ไม่นานเสียงเพลงเบา ๆ จากปลายนิ้วที่สัมผัสกับสายโลหะก็ดังขึ้น...









...เพียงลำพังแค่ลมไหวเอน

ใจมันก็ลอยไปอย่างนั้น

แค่ต้นไม้ แค่รถไฟ แค่ถนน แค่พู่กัน

ก็แค่นั้น แต่มันเห็นเธออยู่ตรงนั้น

แค่นั่งมองดูผนัง ก็ยังนึกถึงรอยยิ้มเธอ

เดินเข้ามาทักทายสบตาฉัน....

ก็ไม่รู้เพราะอะไร ไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็แค่นั้น...









ในที่สุดเสียงโน้ตตัวสุดท้ายลอยหายไปกับสายลมแห่งฤดูหนาว อาทิตย์ทัศน์ค่อย ๆ วางกีต้าร์ลงก่อนจะหันไปมองคนที่นอนอยู่ด้านหลัง มือเรียวค่อย ๆ หยิบหนังสือที่วางอยู่บนอกกว้างของคนที่กำลังนอนหลับขึ้นมาก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นเขาจึงขยับเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนจะค่อย  ๆ  โน้มตัวลงดึงแว่นสายตาของตฤณกรออกวางทับลงบนหนังสือ



ตาคู่สวยไล่มองตั้งแต่หน้าผากไล่มาตามสันจมูกโด่งแสนซุกซนจนกระทั่งมาหยุดที่ริมฝีปากหยักได้รูปที่เคยทำให้เขาแทบควบคุมสติไม่อยู่ยามเมื่อได้รับรสสัมผัสนุ่มนวลหวานหอมนั้น มือเรียวค่อย ๆ ไล้ไปตามเรือนผมดำสนิทก่อนจะเลื่อนมายังปลายคิ้วหนา   



“มองแบบนี้ผมเขินนะคุณ” คนที่กำลังหลับตาพริ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับคว้าข้อมือของอาทิตย์ทัศน์เอาไว้




“นี่คุณไม่ได้หลับหรอกเหรอ”



ตฤณกรค่อย ๆ ลืมตาขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง “คุณนั่นแหละที่ทำผมตื่น เพราะฉะนั้นต้องรับผิดชอบ” พูดจบเขาก็ฝังปลายจมูกโด่งลงบนแก้มเนียนก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเพื่อกอบโกยกลิ่นหอมที่คุ้นเคยนั้นแล้วจึงรีบผละออก



“เฮ้ย” อาทิตย์ทัศน์เบิกตากว้างเพราะไม่ทันตั้งตัว เขายกมือขึ้นลูบแก้มของตัวเองก่อนจะหันไปคาดโทษคนที่นั่งยิ้มหวานอยู่ใกล้ ๆ ...









...



“จ้า ของที่ลูกจะทิ้งน่ะ ลูกแยกไว้แล้วใช่ไหม” เสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้น



“ครับแม่ จ้าใส่ไว้ในลังกระดาษแล้ว” อาทิตย์ทัศน์กล่าวขณะกำลังยืนล้างจานอยู่ที่อ่างล้างจาน



“รูปนี่ก็ทิ้งด้วยเหรอลูก” อรนุชกล่าวก่อนจะหยิบกรอบรูปซึ่งเป็นภาพของเด็กผู้ชายสองคนขึ้นมาดู ในขณะที่ตฤณกรซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนักก็มองมันอย่างสนใจ



ชายหนุ่มที่กำลังหมุนก๊อกเปิดน้ำชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ทิ้งครับแม่ จ้าไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม”



ตฤณกรมองดูกรอบรูปที่ถูกวางลงในลังกระดาษก่อนจะเดินเข้าไปในครัว คนตัวสูงกว่าสอดแขนทั้งสองข้างเข้าที่ข้างเอวพร้อมกับโอบรัดคนตัวเล็กกว่าจากด้านหลัง



“เฮ้ย กอดทำไม” อาทิตย์ทัศน์ร้องขึ้นเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองสาวน้อยที่หยุดปอกผลไม้แต่กลับนั่งทำตาแป๋วอยู่ที่โต๊ะอาหาร



ตฤณกรมองตามสายตาของคนในอ้อมกอด เมื่อเห็นว่าภายในครัวไม่ได้มีแค่เขาสองคนก็ตกใจไม่น้อย เขายิ้มเก้อ ๆ ก่อนจะค่อย ๆ คลายวงแขนออก “วันนี้กอดทั้งวันเลยลืมตัว” ชายหนุ่มกล่าวเขิน ๆ



“กอดต่อก็ได้นะคะ ขวัญไม่หวงพี่ชายหรอก” จอมขวัญยิ้ม



“น้องสาวคุณไม่ว่าอะไร งั้นผมกอดต่อนะ” ตฤณกรหันไปพูดกับอาทิตย์ทัศน์



“เดี๋ยวเถอะทั้งคู่เลย เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย” คนหน้าตูมกล่าวก่อนจะเดินหนีออกไปข้างนอก



“ลืมตัวแบบนี้แฟนคลับหัวใจจะวายนะคะพี่ตัง” สาวน้อยหัวเราะในขณะที่คนโดนแซวได้แต่เกาศีรษะแก้เก้อ







...



 
“ปีใหม่นี้ตังกลับบ้านหรือเปล่าลูก” อรนุชถามขึ้นณะที่ทุกคนกำลังนั่งดูทีวีกันอยู่



“เปล่าครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ



“เป็นพวกหลงแสงสีละสิ” อาทิตย์ทัศน์เอ่ยขึ้น



“ไม่ใช่อย่างนั้นเสียหน่อยคุณ” ตฤณกรขมวดคิ้ว “ถ้าจะหลงผมก็หลง คะ ...” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ คนตัวเล็กกว่าก็ล็อคคอเขาเอาไว้พร้อมกับใช้มือเรียวปิดปากคนที่คิดอะไรอยู่ในใจก็พูดออกมาเสียหมดไว้แน่น



“หยุดเลย” อาทิตย์ทัศน์ปราม



“หลงอะไรยังฟังไม่รู้เรื่องเลย พี่จ้าปิดปากพี่ตังทำไมคะ หลงอะไรเหรอคะพี่ตัง” สาวน้อยที่นั่งเคี้ยวผลไม้ตุ้ย ๆ ถามด้วยความสงสัย



อาทิตย์ทัศน์ขมวดคิ้วส่งสัญญาณไม่ให้คนในวงแขนพูดมากก่อนจะค่อย ๆ คลายมือออกช้า ๆ



“หลง......” คนตัวสูงขมวดคิ้วพร้อมกับพยายามนึกหาทางออกของสถานการณ์นี้ “หลงทางน่ะครับ” ตฤณกรกล่าวก่อนจะหัวเราะแหะ ๆ


“อ๋อ” จอมขวัญพยักหน้า “ขวัญคิดว่าหลงรักคนแถวนี้เสียอีก” พูดจบเธอก็หัวเราะชอบใจในขณะที่อรนุชก็นั่งมองเธออย่างเอ็นดู



อาทิตย์ทัศน์เดินไปนั่งลงที่โต๊ะทำงานก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุคขึ้น แม้สายตาจะจดจ้องอยู่ที่หน้าจอ แต่หูก็ยังคงได้ยินเสียงพูดคุยกันของคนที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ที่โซฟาได้อย่างชัดเจน



“แล้วคุณลุงคุณป้าที่เชียงใหม่ล่ะจ๊ะ” 



“ท่านก็มีลูกหลานของท่านเยอะแยะเต็มไปหมดแล้วละครับ”



“พูดยังกับตัวเองไม่ใช่ลูกไม่ใช่หลานอย่างนั้นแหละ” คนที่นั่งห่างออกไปจากวงสนทนาแทรกขึ้น



ตฤณกรหันไปมองเจ้าของประโยคเมื่อสักครู่เล็กน้อยก่อนจะหันมากล่าวกับหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาใกล้ ๆ “อืม..จะว่าอย่างนั้นก็ใช่ครับ หลังจากพ่อกับแม่ของผมเสีย ผมก็ถูกส่งไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์เพราะผมไม่มีญาติที่ไหนเลย คุณลุงคุณป้าที่เลี้ยงดูผมก็คือคุณลุงคุณป้าเจ้าของสถานสงเคราะห์นั่นแหละครับ”



“ถ้าปีใหม่ตังไม่ได้ไปไหนก็แวะมาทานข้าวที่บ้านป้าได้นะลูก”



“ครับคุณป้า” ชายหนุ่มยิ้มกว้างก่อนจะหันไปยักคิ้วให้คนที่กำลังมองมาที่เขาอย่างหมั่นไส้



อาทิตย์ทัศน์เหลือบมองคนที่กำลังเล่าเรื่องของตัวเองด้วยรอยยิ้มเป็นระยะ ๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองไปเรื่อย ๆ พักใหญ่ ๆ น้องสาวบ้านตรงข้ามขอตัวกลับ แม่ของเขาจึงขึ้นไปสวดมนต์บนห้องพระ ตฤณกรเดินไปหยุดยืนที่ลังกระดาษใบใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยของที่เจ้าของบ้านกำลังจะ ‘ทิ้ง’ ก่อนจะก้มลงหยิบกรอบรูปซึ่งมีรูปของหนุ่มน้อยสองคนในชุดนักเรียนที่ยืนอยู่คู่กันขึ้นมาดู



“คุณเสียใจไหมที่เลือกผม” คนตัวสูงกล่าวก่อนจะสัมผัสปลายนิ้วลงบนภาพของหนุ่มน้อยเจ้าของลักยิ้มเล็ก ๆ ที่ข้างแก้ม



“ทำไมคุณถึงถามผมแบบนี้” อาทิตย์ทัศน์ที่ยังคงจ้องมองไปที่คอมพิวเตอร์โน้ตบุคถามอย่างแปลกใจ



“ผมก็แค่คนธรรมดา ๆ ไม่เหมือนเขา...”




อาทิตย์ทัศน์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้น เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของตฤณกร
 


“เพิ่งรู้ว่าคุณเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง” คนตัวเล็กกว่ากล่าวก่อนจะเอื้อมมือหยิบกรอบรูปจากมือชายหนุ่มจากนั้นจึงวางมันไว้ในลังกระดาษเหมือนเดิม



“แล้วคุณล่ะ มั่นใจในตัวผมหรือเปล่า” ตฤณกรไม่พูดเปล่า มือหนารั้งเอวของคนตรงหน้าเข้ามาใกล้ ๆ “ถ้าผมมีพรวิเศษหนึ่งข้อ ให้คุณขออะไรก็ได้ คุณอยากจะขอให้คนที่อยู่ตรงหน้าคุณตอนนี้เป็นเขาไหม”



อาทิตย์ทัศน์เงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงหน้าก่อนจะกล่าวเพียงสั้น ๆ “ผมจะขอให้คุณไม่มีพรวิเศษ”



ตฤณกรยิ้มก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนมือขึ้นมาบีบเบา ๆ ที่ปลายจมูกโด่งรั้นของคนตรงหน้า “รักผมแล้วละสิ”



“เพ้อเจ้อ” อาทิตย์ทัศน์กล่าวพร้อมกับปัดมือเขาออก



คนตัวสูงกว่ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะกระซิบเบา ๆ “เพ้อ..จ้า ต่างหาก”








อาทิตย์ทัศน์เดินมาส่งตฤณกรที่หน้าบ้านท่ามกลางอากาศหนาวเย็นของคืนเดือนมืด คนที่เดินนำหน้าค่อย ๆ เอื้อมมือลากประตูเหล็กให้เปิดออก



“จ้า” คนตัวสูงกว่าที่เดินมาซ้อนทับด้านหลังเอ่ยขึ้นพร้อมกับรั้งมือของเขาเอาไว้



“หืม” อาทิตย์ทัศน์ขานรับเบา ๆ ขณะมองมือทั้งสองข้างของตัวเองที่กำลังถูกเกาะกุมด้วยมืออุ่น ๆ ของคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง




ตฤณกรค่อย ๆ ดึงมือเล็ก ๆ ของคนตรงหน้าออกจากประตูเหล็กก่อนจะค่อย ๆ วางคางบนบ่าและกอดคนตัวเล็กกว่าเอาไว้แน่น



“ขอบคุณนะครับที่คุณให้โอกาสคนธรรมดา ๆ อย่างผม”



“ถึงผมไม่ให้โอกาส ยังไงคุณก็ต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองอยู่ดี เพราะคุณมันเป็นพวกชอบฉวยโอกาสเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ไง” อาทิตย์ทัศน์กล่าวก่อนจะพยายามขยับออกจากอ้อมกอดของเขา



“ถ้าคุณไม่ชอบให้ผมทำแบบนี้ก็แค่บอกมาคำเดียว”



อาทิตย์ทัศน์ยิ้มที่มุมปาก “แล้วคุณก็จะไม่ทำอีกเลย?”




“เปล่า ผมแค่จะถามคุณว่าตั้งแต่รู้จักกันมาคุณเคยห้ามผมได้ด้วยเหรอ” ตฤณกรกล่าวก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ พร้อมกับกดปลายจมูกที่ข้างแก้มของคนในอ้อมกอด



“ไอ้บ้าเอ๊ย” คนตัวเล็กกว่าได้แต่พึมพำกับตัวเองเบา ๆ







....




ตอนพิเศษตามคำเรียกร้องนะคะ ตอนแรกว่าจะเขียนให้จบภายใน 1  ตอน

แต่ว่ามันดันยืดเยื้อ เขียนไม่ถึงพล็อตที่คิดเอาไว้ก่อนหน้านี้เสียที

ก็เลยออกมาเป็นหลักกิโลเมตรที่ 1 เหมือนกับการเริ่มต้นเดินทางไปด้วยกันของจ้าและตัง

ยังไงก็ขอบคุณมาก ๆ สำหรับคอมเม้นท์นะคะ


ปล.เพลงที่จ้าใช้เล่นกีต้าร์เป็นเพลงที่ชื่อว่า "แค่นั้น" ของ split นะคะ

ปล. 2 จริงอย่างที่คุณ quiicheh ว่าเลยค่ะ เราอยากเขียนให้จ้าแมน ๆ ในความรู้สึกของคนอ่าน

ก็เลยอาจจะดูเขาเป็นคนห้วน ๆ นิ่ง ๆ ไปหน่อย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-01-2014 22:35:45 โดย ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า »

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ไม่ต้องจบหรอกจ้า ขอตอนพิเศษของพิเศษไปเรื่อยๆเลย เรื่องนี้น่ารักมากเลย อิอิ

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
ชอบบบบบบบ น่ารักอ่าาาาาาา ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด