▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓ ตอนที่ 14
โรงอาหารในตอนเที่ยงวันมีคนเข้ามาใช้บริการพลุกพล่านเป็นปกติ วิทยาลัยอาชีวะเอกชนขนาดกลางที่หรรษาเรียนอยู่แห่งนี้ ที่ที่มีนักเรียนรวมตัวกันอยู่มากที่สุดเห็นจะไม่พ้นศูนย์รวมแห่งความอิ่มหนำอย่างโรงอาหารนี่แหละ ห้องเรียนบางห้องร้างอย่างกับป่าช้า อาคารเรียนบางอาคารแทบจะต้อนรับพระธุดงค์ได้เลยทีเดียว หากใครที่ไม่ต้องการความเงียบสงัดหรือวังเวงก็ต้องตบเท้าเข้ามาพบกับความอึกทึกของที่นี่กันทั้งนั้น
หรรษาวางชามก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดียวผูกขาดของที่นี่ไว้บนโต๊ะอย่างไม่รีบร้อน เขาค่อยๆสาวเส้นหมี่สีขาวเข้าปากพร้อมควันฉุย
แม้จะเป็นผู้สืบทอดวิทยาลัยแห่งนี้ด้วยว่าเป็นลูกชายของเจ้าของวิทยาลัยแต่หรรษาก็ได้รับการปฏิบัติตัวจากเพื่อนร่วมวิทยาลัยไม่ต่างกัน เขาอาจจะดีกว่าคนอื่นตรงที่หรรษามีพาวเวอร์มากพอสำหรับจัดการกับกลุ่มต่างๆ หรือเรียกอีกอย่างว่าหัวโจกของวิทยาลัยก็คงไม่ผิดอะไรมากนัก แต่หรรษาก็เป็นคนอย่างนี้ ชอบอยู่เงียบๆ ไม่ชอบสายบู๊สักเท่าไหร่ แต่ถ้าจำเป็นใครๆก็รู้ว่าหรรษาไม่แพ้ใคร ที่สำคัญคนอย่างหรรษามีเสน่ห์ล้นเหลือกับทุกๆเพศ ยังไม่เป็นที่ปรากฎว่าหรรษาดอดไปจีบใครก่อน ที่รู้ๆหรรษามีคนเข้าหาไม่เคยขาด ส่วนใหญ่เพื่อนร่วมวิทยาลัยจะเรียกคนเหล่านั้นว่าคู่ขา เขาไม่เคยปิดบังความเป็นตัวเองกับใคร ทุกคนรู้กันเองว่าหรรษาได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ขอแค่เต็มใจกันทั้งสองฝ่ายเท่านั้น
แต่หลังๆมานี้ไม่ค่อยปรากฎว่าหรรษาควงใครเป็นพิเศษ หรือมีคนมากหน้าหลายตาวนมาให้หรรษาควงจนอัพเดทกันไม่ทันอย่างแต่ก่อน นับตั้งแต่วันที่เมตตาบุกเข้ามาหาเขาถึงในวิทยาลัย
“หรร บ่ายนี้มึงมีเรียนป่าววะ”
‘เมืองแมน’ เพื่อนคนหนึ่งของหรรษาถามขึ้นมาหลังจากวางจานข้าวตรงข้ามกัน
“มีตัวนึง ถามทำไมวะ”
“ป่าว เย็นนี้มีพ่นกำแพงแข่งกันที่คอนโดร้างแถวเมืองทองอะ”
“แล้วไง”
หรรษามองหน้าคนพูด เขาพอจะรู้อยู่แล้วว่าเมืองแมนเกริ่นแบบนี้ต้องการอะไร แต่หรรษาเบื่อเรื่องพวกนี้เต็มทีแล้ว แข่งกันพ่นกราฟฟิคตามกำแพงร้างมันมีทั้งความสร้างสรรค์และการรุกรานที่ส่วนบุคคลไปพร้อมๆกัน แต่ไอ้ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือมีการแข่งขันทีไรต้องมีเรื่องตีกันให้ตายไปข้างนึงทุกที
“อยากให้มึงไปช่วยดูเด็กๆมันหน่อย พวกแม่งใจร้อน”
เมืองแมนว่า หรรษาเองก็เห็นด้วยว่าเด็กสมัยนี้ใจร้อนรวมถึงตัวเขาเอง บางครั้งเรื่องมันไม่ได้เกิดจากแค่การเขม่นเหม็นขี้หน้ากันหรอก แต่แรงยุ แรงเชียร์และแรงเสี้ยมเป็นพลังขับเคลื่อนทุกความรุนแรงให้เกิดขึ้นเสมอ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหรรษาไม่ชอบการเสี้ยมหรือการยุแยง เพราะมันไม่มีผลดีอะไรเลย
“กูไม่ว่างว่ะแมน”
นัดไอ้หัวถั่วไว้ ตอนบอกว่าจะไปรับมันยิ้มอย่างกับคนบ้าเจอเหรียญห้าสิบตังค์ มันดีใจถึงขนาดตบรางวัลด้วยการขอเขาหอมแก้ม เกิดไปดูแลไอ้พวกนี้พ่นกำแพง เมตตาจะต้องทำหน้าเป็นหมาเหงาแล้วฟ้องแม่มันอีกแน่ๆ
ไม่รู้ไอ้อารมณ์อยากแกล้งให้มันเจ็บปวดจากการจับเขาให้รับผิดชอบที่ไปเปิดซิงมันหายไปไหนหมด
“มึงเรียนตัวเดียวเองนะเว้ยหรรษา บ่ายโมงกว่าๆบ่ายสองมึงก็ว่างแล้วนี่”
“กูมีนัดแล้ว”
“นัดใครไว้วะ พาเขาไปด้วยไม่ได้เหรอ” เมืองแมนตื้อ
“แมน มึงเองก็รู้ทางหนีทีไล่ดีไม่น้อยไปกว่ากูหรอก จัดการกันเองมั่ง ถ้าดูแลกันเองมันยากนัก พวกมึงก็อย่าหาเรื่องมันก็ไม่มีเรื่องแล้ว ยุแยงหรืออารมณ์ขึ้นให้มันน้อยๆลงหน่อย วางเฉยให้เยอะ แล้วมึงจะรู้ว่าไม่เหนื่อยเป็นยังไง”
“กูก็รู้เว้ยเรื่องนั้น แต่มึงเข้าใจปะว่าไปแถวเมืองทองนี่มันรายล้อมไปด้วยหลายสถาบันเลยนะเว้ย เราไม่หาเรื่องใครมึงจะแน่ใจได้ไงวะว่าเขาไม่มาหาเรื่องเรา แล้วยิ่งจะเลวร้ายตรงที่มีสาวๆมากันเยอะนี่แหละ”
“แค่มองหน้ากันก็ตีกันจะตายห่าแล้ว ยังมีหญิงเข้ามาเกี่ยวอีกเหรอวะ”
“เออดิ เออหรรษามึงรู้ปะว่าผัวอีแอนเมียเก่ามึงอะ กลับไปเรียนใหม่อีกแล้วนะเว้ย เห็นว่าจะมาเปิดตัวที่นี่ด้วย”
หรรษาขมวดคิ้ว แฟนใหม่ของแอนเจ้าชู้หาตัวจับยาก แต่หมอนั่นก็หล่อและเท่เป็นที่สนใจของพวกผู้หญิงที่ต้องการมีหน้ามีตาทั้งหลายแถมมันยังปากหวานใจดีและมีเงินจ่ายมัดใจสาวๆอีก หรรษาไม่อยากจะมองคนในแง่ร้ายมากนัก แต่เขาก็มั่นใจว่าแฟนของแอนคนนี้ต้องการทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแข่งขันกับเขา แม้กระทั่งทำให้แอนรักและได้แอนไป ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้ใช้ชีวิตเหลวไหลน้อยกว่าหรรษาสักเท่าไหร่เลย อย่างน้อยหรรษาก็ไม่มีคุณสมบัติฟันเมียคนอื่นอย่างที่ไอ้เพทายมันทำแต่แอนกลับรักและบูชามัน ซะงั้น!!
“ระยำเอ๊ย”
หรรษาหลุดปากออกมาแต่คนที่สะดุ้งจนเกือบจะลุกขึ้นยืนคือเมืองแมน
“มึงด่ากูทำไมวะหรร” มันตกใจหน้าเหรอหรา
“โทษทีว่ะแมน กูด่าไอ้เหี้ยนั่นไม่ใช่มึงหรอก”
“อ๋อ มึงยังแค้นมันอยู่เหรอวะ”
“เปล่า กูไม่ได้สนใจแม่งเลยด้วยซ้ำ แต่มันชอบทำให้แอนวิ่งแจ้นมาให้กูช่วยอยู่เรื่อย กูรู้นะว่ามันตั้งใจ ไม่งั้นถ้ามันรู้ว่าแอนอยู่กับผู้ชายคนอื่นมันจะอยู่เฉยเหรอวะ เมียไปหาผัวเก่า เป็นกู กูไม่ทนหรอกแมน แต่ไอ้เพทายมันตั้งใจ มันใช้แอนเป็นเครื่องมือ มึงว่ามันระยำมั้ยล่ะ”
“มากเลย แต่มันทำแบบนั้นไปทำไมวะ ไหนมึงว่าแอนรักมัน”
“เพราะแอนรักมันไง มันถึงได้ใจทำร้ายแอนให้วิ่งมาหากูบ่อยๆ แอนก็อยากให้ผัวหึง แต่แทนที่ผัวแอนจะมาจัดการกูนะกลายเป็นพ่อแอนมาแทนซะงั้น กูเซ็งมากเลยแม่ง”
หรรษาระบายออกมาอย่างอัดอั้น เมืองแมนเป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนที่เขาพูดเรื่องส่วนตัวด้วยได้ เพราะเหล่าเด็กช่างทั้งหลายเท่าที่หรรษาสัมผัสมามักจะไม่เอาเรื่องที่เพื่อนปรับทุกข์ด้วยไปพูดต่อ มันเป็นจรรยาบรรณของพวกเราเลยก็ว่าได้
“แอนนี่ก็ขยันหาศัตรูนะ ตอนมึงคบกับปอ แอนก็มาระราน ดีนะที่ปอไม่ยอม ไม่งั้นนะมึงกูคงสงสารปอแย่”
“เออ ไม่รู้อะไรกันนักหนากูเลยขยาดอะ ไม่หาละเมีย”
“จริงเหรอวะ แต่หลังๆมานี่มึงหายหัวบ่อยนะหรรษา เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นมึงในร้านเหล้าเลย มึงไม่บอกใครไว้ด้วยว่าไปไหน แม่งเพื่อนเป็นห่วงนะเว้ย กลัวออกนอกเส้นทางแล้วมีเรื่อง มึงยิ่งเนื้อหอมๆอยู่”
“เนื้อหอมล่อตีนชาวบ้านกูไม่ได้ภูมิใจเลยนะแมน”
“แล้วตกลงเรื่องไปพ่นกำแพงเอาไงวะหรรษา กูคนเดียวดูไม่ทั่วถึงนะเว้ย”
“เดี่ยวกูตามไปละกัน มึงดูๆไปก่อน งานเพิ่งเริ่มคงยังไม่มีเรื่องหรอกมั้ง บอกให้พวกมันเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บไว้ในล็อคเกอร์ก่อนไปล่ะ อย่ามีใครเปรี้ยวพกเข็มขัดพกอะไรไปนะ”
“มึงตามมากูก็เบาใจ ว่าแต่ไปไหนวะ”
“ไปรับเมียที่มหาลัยแถวๆในเมืองหน่อยอะ”
“เมีย”
เม็ดข้าวจากปากเมืองแมนเฉียดหน้าหรรษาไปนิดเดียว กลิ่นเครื่องเทศในแพนงหมูที่มันสั่งมาฉุนกึกมาก เขาโบกมือไล่กลิ่นไม่พึงประสงค์ไปมาแรงๆ เมืองแมนรีบกลืนข้าวที่ยังเหลือในปากแล้วตามด้วยน้ำล้างปากก่อนจะเหลือกตามองหรรษาเหมือนไม่เชื่อ
“ไหนมึงบอกขยาดหาเมียวะหรรษา แล้วนี่มึงกำลังจะไปรับเมีย กูงงนะเนี่ยมึง”
“คนนี้กูไม่ได้หา ได้มาเองโดยบังเอิญอะ”
“ใครพลาดท่าใครวะ”
“ไม่ใช่เรื่องที่มึงจะต้องรู้”
“สวยมั้ย”
“ไม่สวย”
“โหย เสียชื่อหรรษาหมดเลย ได้เมียไม่สวย ยังไม่เคยมีในประวัติกาลบรรดาเมียมึงเลยนะเว้ย”
“แต่ก็หล่อประมาณนึงนะ”
“ห๊าาาาาาาา”
“แมน มึงตกใจแต่เบาเสียงหน่อยได้มั้ยวะ เดี๋ยวพวกจะหาว่ากูจะไปมีเรื่องมารวมตัวกันเต็มโรงอาหารให้พ่อลงมาด่ากูหรอกมึงเนี่ย”
“เออๆ โทษทีๆ กูตกใจอะ แฟนคนนี้เป็นผู้ชายอีกแล้วเหรอวะ ตอนปอก็เป็นผู้ชาย นี่ในบรรดาแฟนมึงที่มึงเปิดตัวเป็นเรื่องเป็นราวมีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงอีกนะเว้ย”
“ใครบอกว่าผู้ชายมากกว่า”
“ก็คนใหม่นี่เป็นผู้ชาย ปอก็ชาย มีแอนคนเดียวที่เป็นชะนี แอนนี่เป็นชะนีมีใบเพ็ดดีกรีเลยนะเว้ย ร้องหาผัวชัดมาก”
“ทะลึ่งแล้วแมน ถึงแอนจะเป็นยังไงแต่เขาก็เคยเป็นเมียกู ให้เกียรติเค้าด้วย”
“เออๆ โทษทีว่ะ กูไม่ชอบนี่หว่า”
“ไม่ชอบก็เก็บไว้ ไม่ต้องเปิดเผยมากหรอก”
“แล้วตลงเท่ากันยังไงวะหรรษา”
“ก็ตอนนี้ปอเป็นผู้หญิงแล้ว กูเพิ่งไปค้างห้องปอมา”
“ห๊ะ นี่มึงยังหวนกลับไปส่งปิ่นโตและแซ่บกันอยู่เหรอวะ ไหนว่าปอมีคนมาชอบเยอะไง”
“ไปค้างไม่ได้ไปเอากันสักหน่อย แฟนใหม่กูไปด้วย”
“อยากเห็นเด็กใหม่มึงว่ะ”
“เดี๋ยวก็ต้องได้เห็นเข้าสักวันนั่นแหละ”
“วันนี้จะได้เห็นมั้ยวะ”
“ไม่รู้ ดูก่อน ถ้าอันตรายากนักก็ไม่ชวนไป”
“เอ๋า เมียมึงผู้ชายไม่ใช่เหรอวะ กลัวอะไรกับอันตราย ไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย”
“เค้าไม่ใช่เด็กสายอาชีพเค้าไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้หรอก”
“คนนี้มึงดูห่วงเค้านะหรรษา”
“มึงก็รู้ว่ากูให้เกียรติและห่วงแฟนทุกคนนั่นแหละ”
“ขนาดนี้มึงยังมีแยกทางเลยอะ ห่า มึงมันยังเลวไม่สุดเว้ยหรรษา เลยคบใครได้ไม่นาน สมัยนี้เค้าชอบคนเลวๆกัน”
“แล้วแต่วาสนาแล้วกัน ของงี้บังคับกันไม่ได้ว่ะ”
หรรษาก้มหน้าก้มตาจัดการก๋วยเตี๋ยวที่ยังไม่ค่อยจะพร่องสักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะเมืองแมนมาชวนเขาคุยจนเส้นมันอืดเพิ่มปริมาณเข้าไปอีก คราวนี้หรรษาโซ้ยของตรงหน้าจนเหมือนไม่หายใจ
เกิดเป็นหรรษานี่ไม่สบายเลยนะ
ไหนจะต้องเป็นผู้นำเวลาเค้าตีกันให้ได้
ไหนจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีด้านการเรียนเพื่อให้สมศักดิ์ศรีที่เขาเป็นลูกผู้อำนวยการของที่นี่
หรรษาแบกทั้งความหวังของพ่อและความหวังของเพื่อนทั้งวิทยาลัยเลยทีเดียว
เสียงแตกตื่นของคนในโรงอาหารทำให้หรรษากับเมืองแมนหันไปมองตามสัญชาตญาณ เด็กปวช.ปีสุดท้ายวิ่งมาทางพวกเขาหน้าตาตื่น หรรษารู้งานวางตะเกียบไว้ที่ปากชามก๋วยเตี๋ยว กรอกน้ำเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว ใช้หลังแขนปาดรอยน้ำไหลล้นขอบปากทิ้งแล้วยืนรอคนที่ฝ่าฝูงเพื่อนร่วมวิทยาลัยมาหาเขาอย่างทุลักทุเล
“มีไรน้อง”
“เด็กปวชปีหนึ่งแผนกช่างปั้นอะพี่ โดนรุมตีอยู่หลังวิทยาลัย”
รุ่นน้องรายงานเพียงแค่นั้นหรรษาก็รีบวิ่งไปตามคำบอกเล่า เพื่อนคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่ว่าจะสาขาหรือแผนกไหนที่ได้ยินข่าวก็กรูตามเขามาเหมือนเป็นธรรมเนียมกันอยู่แล้ว
หรรษาร่วมกับเพื่อนๆสั่งสอนฝั่งตรงข้ามที่กล้าเข้ามาหยามกันถึงวิทยาลัยแค่พอหอมปากหอมคอและส่งสัญญาณให้ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปเมื่อช่วยรุ่นน้องปีหนึ่งออกมาได้ ทั้งๆที่เขาสามารถชี้ตายให้คนกลุ่มนั้นเลยก็ได้แต่หรรษาไม่ทำ เขาเบื่อเต็มทีแล้ว รอแค่ว่าเมื่อไหร่คนเหล่านี้จะเลิกยึดติดกับธรรมเนียมตีกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเหล่านี้สักที
“เอาน้องมันไปห้องพยาบาลด่วนเลย ท่าไม่ดีให้อาจารย์เรียกรถพยาบาลนะเว้ย”
“ผมไหวพี่ แค่ไม่คิดว่าพวกมันจะกล้าเพราะผมจะเข้าวิทยาลัยอยู่แล้ว”
รุ่นน้องปีหนึ่งที่รอดพ้นจากเหล่ามัจจุราชพวกนั้นพูดขึ้นมาทั้งๆที่เลือดยังกลบปาก
“แล้วทำไมพวกมันถึงตามมาได้ล่ะวะ”
“มันมาส่งหญิงแถวนี้พี่ เห็นผมเดินอยู่คนเดียวกรูมาซัดผมไม่ยั้ง เอาไม่ทันเลยพี่”
“แม่งปัญญาอ่อนขึ้นทุกทีแล้ว สงสัยขู่ไว้ก่อนอะดิ มันเข้ามาในเขตพวกเรานี่” เมืองแมนว่า
“จัดการกันต่อนะ กูไปเรียนก่อน แมนเจอกันที่งานเลยละกันนะ”
หรรษาปัดเนื้อปัดตัวแล้วลาเพื่อนก่อนจะเดินไปเรียนวิชาสุดท้ายของวัน รุ่นน้องคนนั้นยกมือไหว้ขอบคุณที่หรรษาตามไปช่วยไว้ทัน จริงๆไอ้พวกนั้นมันก็แค่ฮึกเหิมบ้าพลังอยากโชว์แสนยานุภาพว่าตัวเองเจ๋งในถิ่นคนอื่น ไม่คิดว่าความเดือดร้อนที่มันก่อขึ้นจะทำร้ายหรือทำลายใคร เพราะถ้าเป็นอริที่แค้นกันมาด้วยเรื่องก่อนหน้านี้ รุ่นน้องของเขาคงโดนปลิดชีวิตด้วยกระสุนแค่นัดเดียวเท่านั้น
หรรษาไม่อยากให้เมตมาคลุกคลีกับที่มหาลัยเขามากก็เพราะอย่างนี้ อันตรายมีรอบด้านต่อให้เราอยู่กับที่ก็ตาม เมตตายังด้อยประสบการณ์นัก มันควรจะอยู่แต่ในที่ของมันนั่นแหละดีแล้ว
มีต่อค่ะ>>>>