"Can I...?" (แคน ไอ...?) Special Part [06.07.15] P.19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "Can I...?" (แคน ไอ...?) Special Part [06.07.15] P.19  (อ่าน 248941 ครั้ง)

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :ling1: :ling1: :ling1:



 :haun4: :haun4: :haun4:



โอ้วววววว  เลือดพุ่งเลย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ตายอย่างสงบ
อ๊ากกกกกกกก
 :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่เข้าใจแมนศรีเล้ยยย

น้องนัทอดทนนะหนูนะ  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
 :pighaun: :haun4: :jul1: :jul1: :jul1: นอนตายจมกองเลือด  :m25: :m25:

 :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ Damon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
อุ๊ แม่ เจ้า...ตายอย่างสงบ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
ตายล่ะลูกชั้น

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ตอนนี้ไม่รุ้จะเม้นยังไงดีนอกจากกก :m25: :pighaun: :haun4: :jul1:

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1



ตอนที่ 11

ณัฐวีร์รู้สึกตัวตื่นอีกครั้งจากเสียงโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งเอาไว้.. ข้างนอกยังมีแสงสว่างรอดเข้ามาบ้าง แต่แสงนั้นเป็นสีส้มจางเต็มทีแล้ว
แผ่นหลังรับรู้ได้ถึงอกกว้างของใครอีกคน ศีรษะหนุนอยู่กับแขนล่ำ เอวได้รับการกอดกระชับจากคนเบื้องหลัง ขาถูกก่ายไว้ ส่วนหน้าก็หันเข้าหาพนักโซฟา.. แม้ร่างเปลือยเปล่าของเขาจะไม่มีอาภรณ์ใดปกคลุมแต่เพราะถูกห่อหุ้มด้วยกายเนื้อเช่นนี้เองถึงไม่รู้สึกหนาวจากอุณหภูมิเย็นเลย

เด็กหนุ่มขยับตัวอย่างเมื่อยล้า การมีสัมพันธ์อย่างหักโหมติดต่อกันหลายชั่วโมงแบบนี้ทำให้เขารู้สึกเคล็ด และอาจต้องใช้ยาคลายกล้ามเนื้อเพื่อให้ร่างกายคลายความร้าวระบมลง

“อูย..”

คนตัวเล็กร้องครางเมื่อขยับแล้วรู้สึกว่าหลังจะยอกมากกว่าส่วนอื่น เขายกมืออีกฝ่ายออกจากเอวและขยับขาหนี หวังให้การขยับลุกของตนเองทำให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมาเช่นกัน เพราะตอนนี้เขาหิวจนแสบท้องไปหมดแล้ว
แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น.. คุณชายยังนอนไม่ลุกอยู่เลย
ความรู้สึกถึงของเหลวบางอย่างที่กำลังจะไหลออกจากตัวทำให้ณัฐวีร์ไม่ได้หยุดอยู่กับท่าเดิมเนิ่นนานนัก เขารีบลุกออกจากโซฟานั้นแล้วมุ่งตรงไปสู่ห้องน้ำเพื่อจัดการกับตัวเอง การอาบน้ำจากฝักบัวเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้ แล้วไว้พรุ่งนี้ค่อยเปิดอ่างแช่น้ำอุ่นให้สมกับที่ได้มาพักในวิลล่าที่มีจากุชชี่

ความหิวทำให้เด็กหนุ่มไม่ได้อาบนานนัก เขาออกจากห้องน้ำมาพร้อมชุดคลุมที่ทำให้ร่างกายอบอุ่นพอ เมื่อมองไปเห็นว่าคุณชายมกรยังไม่ลุกจากโซฟายาว เขาก็เลยเดินขึ้นด้านบนเพื่อไปหากระเป๋าสัมภาระ และหยิบเสื้อผ้ามาแต่งตัว
แสงสุดท้ายของวันหมดไปแล้วเมื่อเขาดูแลตัวเองเรียบร้อยและเดินลงมาด้านล่าง เด็กหนุ่มมุ่งไปที่เคาท์เตอร์แล้วเปิดตู้เย็นหยิบน้ำมาดื่มก่อนจะเทอีกแก้วเพื่อเดินไปให้คนที่ยังนอนอุตุไม่ยอมลุก

“พี่แมน ตื่นได้แล้วครับ.. เย็นมากแล้วนะ นัทหิวข้าว” ณัฐวีร์เดินไปนั่งลงใกล้ๆที่อีกฝ่ายนอนอยู่..
มาถึงตรงนี้เขาถึงเพิ่งจะได้สังเกตว่าร่างสูงใหญ่นั้นคู้ตัวขดเข้าหากันเหมือนจะหนาว คิ้วของเด็กหนุ่มขมวดเข้าหากันทันที อย่าบอกนะว่าจะมาไม่สบายเอาตอนนี้ มาเที่ยวนะไม่ใช่มาพยาบาลคนป่วย.. เขาขยับใกล้เข้าไปแล้วสัมผัสลงบนตัวอีกฝ่าย กายนั้นร้อนผ่าวจนถึงขนาดที่ว่าคนจับเองยังตกใจ

“พี่แมน..พี่แมนครับ”

ณัฐวีร์วางแก้วน้ำลงพร้อมกับขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น เขาใช้สองมือพลิกไหล่กว้างให้หันมาหาแล้วจึงเห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายแดงก่ำ คิ้วเข้มขมวดมุ่น และดวงตาที่ปรือขึ้นมองมายังเขาก็แดงไปหมด

“พี่แมน ไหวไหมเนี่ย”

เด็กหนุ่มร้องถามพลางใช้หลังมือสัมผัสไปที่หน้าผาก.. เมื่อครู่ที่เขาไม่ได้รู้สึกถึงความร้อนของอีกฝ่าย คงเพราะอากาศจากภายนอกเย็นฉ่ำเกินไปแน่ๆ

“หนาว..”
เสียงแหบพร่านั่นตอบกลับมาพลางดวงตาแดงก่ำก็ปิดลง

“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งนอน ..ลุกไหวไหม ไปนอนข้างบนจะได้สบายกว่านี้”

คนตัวโตทำเสียงในคอพลางส่ายหน้าแล้วพลิกตัวหนี เดือดร้อนณัฐวีร์ทันที
การพยาบาลคนป่วยไม่ใช่ทางที่เขาถนัดนัก อย่างดีก็รู้ว่าต้องหาผ้าห่มมาให้ ปล่อยนอนแบบนี้มีหวังแข็งตายแน่..อ้อ ไม่ใช่แข็งแบบนั้นนะ.. แบบเป็นศพแข็งน่ะ
เด็กหนุ่มคิดลามกอยู่คนเดียวแล้วก็ส่ายหน้าพรืด ..สงสัยจะติดนิสัยเสียมาจากเจ้ามกรเนี่ยแหละ.. ตอนหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ยังคิดไปโน่นได้ก็ไม่ธรรมดาแล้วเนี่ย

เด็กหนุ่มลุกขึ้นไปชั้นบน ดึงเอาผ้าห่มสำรองออกมาจากตู้ แล้วโยนจากชั้นบนลงมาชั้นล่าง วิ่งไปหยิบกระเป๋าตัวเองหยิบเอาแผงยาพาราที่มักจะพกไว้เสมอเมื่อยามมาไกลบ้าน แล้วจึงหันไปเปิดกระเป๋าของมกรเอาเสื้อผ้าที่ใส่สบายออกมาหนึ่งชุด
พอวิ่งลงมาข้างล่าง เขาก็เอาผ้าห่มไปคลุมตัวมกรไว้ ลดแอร์ลง แล้วผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำเอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กชุบน้ำออกมาเพื่อจะเช็ดตัวให้ โทรสั่งข้าวต้มสำหรับคนป่วย และปลุกอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นมากินยา โดยที่เขาเองก็ไม่ลืมหยอดยาให้ตัวเองไปด้วยเช่นกัน
โชคดีที่เขามาพักในวิลล่าส่วนตัวแยกจากตึกแบบนี้ ทำให้แอร์ที่ติดตั้งไว้เป็นแอร์เครื่องไม่ใช่แอร์ท่อ จึงลดอุณหภูมิได้
ณัฐวีร์วิ่งวุ่นอยู่คนเดียว ทั้งเช็ดตัว ใส่เสื้อผ้าให้ กระทั่งต้องไปรับอาหารจากพนักงานที่นำมาเสิร์ฟ แล้วยังต้องป้อนให้กินอีก หยอดยาเรียบร้อย จนดูแลอีกฝ่ายให้หลับไปได้นั่นแหละถึงมีเวลามาจัดการอาหารของตนเองบ้าง และพอได้นั่งพักก็ปาเข้าไปเกือบได้เวลานอนอีกแล้ว..

เด็กหนุ่มนั่งมองร่างสูงที่หลับสนิทเหมือนเด็กๆ ที่หน้าผากมีแผ่นคูลฟีเวอร์ช่วยลดอุณหภูมิให้ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการโทรสั่งข้าวต้มแล้วทางโรงแรมถามว่ามีคนป่วยหรือไม่ คูลฟีเวอร์นั้นมาจากห้องพยาบาลของโรงแรมเองจึงเป็นความโชคดีของคนตัวโตที่อย่างน้อยก็มียากิน มีแผ่นลดความร้อนในร่างกายไม่ให้ฮีทมากจนอาจจะชักได้
พอได้อยู่นิ่งๆเขาถึงได้มาพิจารณาดู.. ตั้งแต่เช้า มกรใส่เสื้อกล้ามตัวเดียวบนเครื่อง แล้วก็มาเจออากาศเปลี่ยนเป็นร้อนมากที่ภายนอกอาคาร ก่อนสงกรานต์แบบนี้ ต่อให้เป็นที่ไหนของประเทศไทย อากาศก็เหยียบ 40 องศาอยู่ดี พอเข้าที่พักก็กระโจนไปเล่นน้ำ แถมพอขึ้นมาหัวเปียกๆก็มาเล่นกิจกรรมในร่มที่แอร์เย็นเจี้ยบ.. ไม่ป่วยก็คงแปลกล่ะ

ณัฐวีร์หัวเราะเบาๆอย่างรู้สึกสมน้ำหน้า เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว จะได้เลิกมาออกคำสั่งกับเขาสักช่วงหนึ่ง ละเรื่องบนเตียงเสียบ้าง เขาจะได้คลายอาการขัดยอกลงหน่อย ไม่งั้นก็แทบจะวันเว้นวันเลย
เด็กหนุ่มมองใบหน้ายามหลับของอีกฝ่ายพลางใช้นิ้วจิ้มลงไปเบาๆที่แก้ม.. หึ! หมดฤทธิ์แบบนี้ค่อยแกล้งสนุกหน่อย
ปลายนิ้วขาวดันจมูกโด่งรั้นของอีกฝ่ายขึ้น อีกมือก็ดึงมุมปากลงแล้วหัวเราะร่าเริงอยู่คนเดียวเบาๆ

“ไอ้แม้นศรีเอ้ย..สมน้ำหน้า”




+++++

ช่วงตีสองกว่าๆเกือบจะตีสาม มกรตื่นขึ้นมาด้วยอาการอยากเข้าห้องน้ำ ร่างกายหนักๆเมื่อช่วงหัวค่ำรู้สึกดีขึ้นมากแต่ก็ยังอ่อนเพลียอยู่บ้าง
ชายหนุ่มขยับตัวอยู่บนโซฟาและใช้สายตากวาดไปโดยรอบห้องที่ไม่คุ้นเคย เขานิ่งคิดอยู่ชั่วครู่จึงบอกตัวเองได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน แม้จะไม่คุ้นเคย แต่ความไม่คุ้นเคยเป็นเรื่องปกติแล้วสำหรับคนอย่างเขา
ไม่มีอะไรให้ต้องคุ้นเคยเพราะไม่มีสิ่งไหน หรือใครรอให้เขาคุ้นเคย..

“...”

ชายหนุ่มครางอยู่ในคอเล็กน้อยเมื่อขยับตัวไม่ได้สะดวกเหมือนเดิม เหมือนว่ากระดูกจะร่ำร้องไปทั้งร่างในยามที่เขาเปลี่ยนอิริยาบถ
แต่.. เมื่อก่อนเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เป็นแบบนั้น..
ไม่จำเป็นต้องมีใครมาดูแล เขาดูแลตัวเองได้..
มือตวัดผ้าห่มออกจากตัว ตามองหาทิศทางไปห้องน้ำแล้วเท้าก็ก้าวลง

“อื้อ!”

เสียงร้องเบาๆดังขึ้นเมื่อเท้าแตะลงไปเหยียบเอาร่างที่นอนอยู่ข้างใต้ มกรรีบชักขากลับขึ้นมาทันที

“เฮ้ย!..”

“จะไปไหนเนี่ย”
คนถามลุกขึ้นนั่งหน้าตายังดูงัวเงีย

คนป่วยกลับทำตาปริบๆ มองอีกฝ่ายอย่างงงงัน คำถามที่ไม่น่าจะถามก็เลยหลุดออกมา “ลงไปนอนข้างล่างทำไม”

คนพูดหาวหวอดพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้น “แล้วจะให้นัทไปนอนบนโซฟากับพี่หรือไง”

“ก็ไปนอนข้างบนสิ”

“แล้วทิ้งพี่ไว้แบบนี้อ่ะนะ.. ตื่นมานัทคงโดนพี่ไล่เตะ” เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้ว “นี่จะไปไหนล่ะ หิวน้ำหรือปวดหัวไข้ขึ้น นัทจะได้เอายาให้ถูก”

“เปล่า..” มกรส่ายหน้าพลางขยับตัว “อยากเข้าห้องน้ำ”

“งั้นก็ไป เดี๋ยวพาไป” ณัฐวีร์คว้าแขนกำยำพยุงขึ้น แต่พอยืนได้เต็มความสูงเจ้าตัวก็ดึงแขนออก

“ไม่เป็นไร..ไปเอง”
มกรเดินมุ่งหน้าไปทางห้องน้ำด้วยความเร็ว ครั้นพอจะเข้าประตูเขาก็ชะงักตัวเล็กน้อยแล้วใช้หางตาเหลือบมองร่างเล็กๆที่ทิ้งตัวลงนั่งหาวอยู่บนโซฟา

ใจนี้...เป็นอะไรนะ?
เต้นแรงขนาดนี้.. เพราะอะไร?







****

ทั้งคู่ตื่นมารับมื้อเช้ากันอีกทีตอนเกือบจะสิบโมง ไลน์อาหารใกล้ปิดแล้ว มกรมีอาการดีขึ้นมาก ได้ยาเข้าไปอีกโด๊สกับได้นอนพักอีกเล็กน้อยก็สามารถมานั่งรับลมนอกห้องได้
พวกเขามีเวลาพักที่นี่กันแค่สามวัน หมดไปแล้วหนึ่งวันกับการนอนไข้ขึ้นทำให้พอบ่ายแดดร่มลมตก มกรจึงชวนณัฐวีร์เดินออกมาจากห้องพักเพื่อมาดูสิ่งปลูกสร้างและเครื่องอำนวยความสะดวกของโรงแรมบ้าง
โรงแรมนี้มีความเป็นส่วนตัวสูงมากเพราะอยู่เลยตัวเมืองขึ้นไปเกือบห้ากิโล มีรั้วรอบขอบชิด พื้นที่เป็นสีเขียวกว้างขวางที่มีต้นไม้ครึ้มและวิวสวยงามเมื่อยามทอดตามองออกไปไกล ภาพในมือถือส่วนใหญ่จึงเป็นภาพวิวที่สีสันเขียวขจี ยิ่งแสงนวลตาสีเหลืองอ่อนเช่นนี้ยิ่งขับให้ภาพวิวที่ถ่ายไว้ดูละมุนละไมไม่บาดคม

ณัฐวีร์ก้มมองภาพถ่ายในมือถือตัวเองแล้วก็ยิ้มอย่างถูกใจ เขาอัพขึ้นเฟสบุ้คหลายภาพแล้ว และได้คำชื่นชมจากเพื่อนฝูงเยอะมากจนตอบแทบไม่ไหว

“ยิ้มอะไร..”

คนที่มายืนอยู่ข้างๆ กันตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้เป็นผู้เอ่ยถามขึ้น และโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว มือใหญ่ก็เลื่อนมาโอบเข้าที่ส่วนเอวและรั้งเอาร่างของเด็กหนุ่มให้เข้ามาใกล้

“ไหนดูสิ.. คุยอะไรกับใครถึงได้ยิ้มกว้างขนาดนี้”

“เปล่านะครับ..” เด็กหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆทำท่าทางปกติไม่เกร็งร่างจนเกินไปนักแต่ก็ไม่ได้โอนอ่อนตามแรงดึง
อีกฝ่ายดูเหมือนจะอยากรู้จริงๆถึงได้ขยับตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นจนแผ่นหลังของณัฐวีร์สัมผัสเข้ากับอกกว้าง และมือที่โอบรั้งเลื้อยมาเป็นกอดไว้

ก็ออกจะเป็นท่าทางที่ไม่เหมาะควรหรอกนะ แต่เท่าที่สอดส่ายสายตามองไปรอบๆ ณัฐวีร์ไม่เห็นมีพนักงานหรือใครอยู่ในบริเวณนี้ และเขาเองก็ไม่อยากจะขัดใจให้ตัวเองต้องมาผิดใจกับอีกฝ่ายอีก เขาจึงแค่ขมวดคิ้วนิดหน่อยอย่างไม่ชอบใจ แต่ก็ยอมเอนร่างเข้าหาอีกฝ่ายตามแรงกอดรัด

“ไหนเอามาดูสิ”

เด็กหนุ่มส่งมือถือยื่นให้แต่อีกฝ่ายไม่รับ “ไม่เอาไปล่ะครับ”

“มือไม่ว่าง.. เปิดให้ดูหน่อย”
คนฟังถึงกับขมวดคิ้วหนักขึ้นทันที แต่ด้วยความที่ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เขาเลยรีบๆเปิดอัลบั้มภาพให้อีกฝ่ายดู ปลายนิ้วขาวตวัดสไลด์รูปไปเรื่อย

“อ้ะ นี่ๆ รูปนี้..”
คนข้างหลังที่ยืนตัวติดเป็นแฝดสยามร้องพร้อมกับใช้นิ้วตัวเองมาสไลด์ภาพกลับ มันเป็นภาพสระว่ายน้ำที่เพิ่งเดินผ่านกันมาเมื่อครู่

“อันนี้ใช้แอพอะไร”

ณัฐวีร์ส่ายหน้า “ไม่แอพครับ โนฟิลเตอร์.. นัทไม่ชอบใส่แอพ”

“รูปนี้ถ้าถ่ายมุมพี่ เพิ่มแสงเข้าไปหน่อยจะสวยมากนะ ดูนี่สิ”
ว่าแล้วเจ้าตัวก็เปิดมือถือด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างน่ะรึ กอดเอวไว้ไม่ปล่อยเลย

“นี่ รูปนี้..”
ณัฐวีร์ไม่ต้องขยับไปไหนทั้งสิ้นเพราะอีกฝ่ายเอามาให้เห็นได้สะดวกขึ้นด้วยการจ่อเข้ามาตรงหน้า
ภาพนั้นเป็นภาพสระน้ำที่เขาก็ถ่ายไว้ แต่พอผ่านแอพแต่งรูปแล้วภาพดูมีเสน่ห์ขึ้น สวยมากขึ้น.. ที่สำคัญ..ภาพนั้นมีสิ่งที่แตกต่างไปจากภาพของเขามากขึ้น เพราะด้านซ้ายของรูปติดเอาร่างผอมแกรนของเด็กผู้ชายธรรมดาแบบเขาลงไปด้วย

“ดูสิ..สวยไหมล่ะ ภาพที่ผ่านแอพน่ะบางภาพจะสวยกว่าของจริงมากเลยนะ”
ว่าแล้วเจ้าตัวก็สไลด์ภาพไปเรื่อย.. ส่วนใหญ่เป็นภาพวิวที่มักจะเหมือนของเขานั่นแหละ แต่งภาพด้วยแสงสวยงามบ้าง หรือซอฟท์กว่าของเขาบ้าง.. บางรูป.. ก็มีเขาติดอยู่ในรูป..บ้าง

“เนี่ย พี่ชอบรูปนี้ที่สุดเลย..”
มกรสไลด์มาถึงภาพหนึ่งที่เป็นภาพด้านข้างของเด็กหนุ่ม ดวงตาจับจ้องมือถือตนเอง ริมฝีปากนั้นยิ้มพราย ดวงหน้าเมื่อต้องแสงยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดินดูขาวสะอ้านและนวลตา
ณัฐวีร์เห็นรูปตัวเองแล้วก็รู้สึกได้ว่ามันออกจะแปลกตาอยู่ไม่น้อย เขาจะยิ้มก็ไม่กล้า จะบึ้งก็ไม่ใช่ ทำได้แต่หัวเราะเขินๆให้กับภาพนั้น แล้วก็ต้องสะดุ้งขึ้นอีกเมื่ออีกฝ่ายโน้มใบหน้าลงมาแนบใกล้

“มานี่เรายังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลย.. มาถ่ายด้วยกันดีกว่า”

“โห.. ถ่ายกับคนหล่อๆแบบพี่นัทก็ดับหมดสิ..” เด็กหนุ่มร้องท้วงแต่มือก็เริ่มลูบผมตัวเองไปมาให้เข้าทรง

“พี่สิต้องดับ..เราหน้าขาวซะขนาดนี้”
พูดไม่พูดเปล่า มกรกดปลายจมูกลงไปบนแก้มใสนั่นจนเจ้าตัวสะดุ้ง เบิกตาโต

“เอ้า ยิ้มหน่อย พี่จะถ่ายรูปแล้ว..”
ว่าแล้วก็มีเสียงแชะของชัตเตอร์ดังขึ้นสามสี่หน ภาพที่ออกมาคงเป็นภาพที่ณัฐวีร์ไม่กล้ามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะใบหน้าที่ร้อนผ่าวของเขาคงเป็นใบหน้าที่แดงจัดแน่ๆ
พอได้รูปสมใจอีกฝ่ายก็ปล่อยตัวแล้วมายืนเช็กรูปไปหัวเราะไป ณัฐวีร์จึงได้แต่เดินหนีเสียงหัวเราะนั่นอย่างฉุนๆ






TBC.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะ ...เข้ามาเก็บศพคนอ่าน 5555+ น้องนัททำเลือดท่วมจอเลย คึคึคึ #หื่นได้อีก  :hao7:

วันนี้เอามาลงให้ยาวๆ เลยค่ะ งุ้งงิ้งกันสองคนเลยตอนนี้ #หวานๆกันนานๆนะ 555


ขอฝากเฟ๊สบุ้คของคนแต่งนิดนึงค่ะ ใครอยากเข้าไปพูดคุย ให้กำลังใจ หรือว่าจะไปอ่าน Can...I ตอนใหม่ๆ ก็ลองเข้าไปได้นะคะ

ที่นี่เลยจ้าา าาา
FB http://www.facebook.com/pages/Morse/120230658164895


เจอกันใหม่ตอนหน้า จะหวานหรือจะขม แม้นศรีจะลมเพลมพัดอีกไม๊ มาเดากัน 55555  :hao3:

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0


 :a5: :a5:

มกรไม่สบาย.....


สมน้ำหน้า....ทำไว้เยอะดีนัก  น่าจะเอาให้มันหนักๆ

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
พี่แมนตอนนี้น่ารักจริงเชียว  :)

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ตอนนี้มาแบบหวานๆ
แต่ไม่อยากจะคาดเดาตอนหน้าเลยจริงๆ เดาอารมณ์อีพี่แมนไม่ออกค่ะ  :z3:

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
วันนี้ขอเสนอคำว่า สมน้ำหน้าาาาาาาาาา หวายๆๆๆ

ป่วยๆไปเถอะ น้องนัทจะได้สบาย ไม่มีคนแกล้ง



 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
คิคิคิคิคิ :-[

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
หวานอ่ะ ไอ้แม้นเอ้ยย... จะตกหลุมรักก็คราวนี้แหละ ฮี่ๆ  :hao6:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ตอนนี้มุ้งมิ้งกันผิดหูผิดตา ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เป็นครั้งแรกจริงๆที่อ่านเรื่องนี้แล้วเห็นตอนที่หวานๆแบบนี้(สำหรับตัวเอง) แล้วก็บรรยากาศที่มันละมุนมาก(อาจเป็นเพราะพี่แกอารมณ์ไม่ขึ้้นก็ได้)

ออฟไลน์ aimjungna

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หวานกันนานๆนะคู่นี้
พี่แมนชักเริ่มจะรู้ใจตัวเองแล้วซิ *0*

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
มาจิ้มเรื่องนี้ด้วยคน

เค้าชอบหวานๆอ่ะคนแต่ง   :hao7: :hao7: :hao7:

เอาอิหนูมาเสิร์ฟไวไวนะฮ๊าาา  :กอด1: :L2:


ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ตอนที่ 12




พอพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน พวกเขาก็ให้รถของโรงแรมออกมาส่งที่ถนนนิมมานเพื่อหาอาหารเย็นทานกัน และตกลงกันว่าหลังมื้ออาหารแล้วพวกเขาก็จะยืดเส้นยืดสาย ดื่มกันสักเล็กน้อยไม่เกินสามแก้ว หรือเบียร์หนึ่งขวดค่อยเรียกรถโรงแรมมารับกลับ และทั้งหมดนั่นจะต้องไม่เกินเที่ยงคืน

ข้อตกลงนั้นเกิดขึ้นเพราะเจ้าตัวเพิ่งฟื้นไข้ การพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ควรเกินกว่านั้นเป็นอันขาด
 แสงสีที่ถนนนิมมานช่วงกลางคืนนั้น เป็นที่กล่าวขวัญกันดีว่าเหมาะสำหรับวัยรุ่นที่ชอบแหล่งท่องเที่ยวทันสมัย มีพื้นที่ให้นั่งดื่มแบบสบายๆ หรืออาจเลือกแดนซ์ได้ตามชอบ

ซึ่งสำหรับมกรแล้ว เขาก็คงไม่พลาดที่จะเข้าไปที่ร้านสุดมันแบบมังกี้คลับแน่ๆ

“เอาจริงอ่ะพี่แมน” คนถามยืนมองหน้าร้านที่มีแยกทั้งโซนนอกและโซนในด้วยใบหน้าซีดเซียว
คือแค่เสียงที่รอดออกมาข้างนอกก็รู้สึกว่ามันดังกลบหูแล้ว ถ้าเข้าไปคงไม่ต้องคุยอะไรกันยืนมองตากันอย่างเดียวยังลำบากเลย ไฟมันคงมืด เสียงมันต้องดัง แล้วจะเข้าไปทำไม

..ดื่ม? เพิ่งจะฟื้นไข้จะดื่มมากก็ไม่ดี
..เต้น? ไม่ได้แดนซ์เลิฟเวอร์ขนาดนั้นไหม

“สาวๆเยอะดี..”
คำตอบนั้นทำให้ณัฐวีร์ร้องอ๋อออกมาในใจ

... สีหญิง .. เป็นคำตอบสุดท้าย
แบบนี้ไม่ต้องยื้อหรอก ยังไงก็คงหาเรื่องเข้าไปจนได้แหละ ออกจะนึกฉิวอยู่ไม่น้อยที่ฝ่ายนั้นพูดออกมาแบบไม่เกรงใจกัน เพราะเคยทำข้อตกลงกันไว้แล้ว

แต่ก็เอาเถอะ ถ้าไม่ทำอะไรที่มันหยามน้ำหน้ากันเกินไปนัก เขาก็ไม่อยากไปยุ่งไปขัด เพราะเบื่อจะฟังเสียงบ่น เบื่อจะเถียงด้วย
ณัฐวีร์ปลงชีวิตก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปด้านใน ทันทีที่ก้าวพ้นโลกภายนอกเข้ามา แสงไฟวูบวาบกับเสียงเพลงสนั่นหวั่นไหวก็ทำให้ณัฐวีร์แทบทิ้งคนเพิ่งฟื้นไข้ออกมานั่งรอด้านนอก

เขาไม่ชินกับการมาเที่ยวสถานที่แบบนี้ ถึงจะเคยไปแถว RCA มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ชอบไปขนาดนั้น
คนตัวโตที่เดินนำไปก่อนแล้วหันมาบุ้ยใบ้ให้ไปยังโต๊ะกลมสูงบนยกพื้นที่ว่างอยู่ แล้วไม่นานเครื่องดื่มก็ลำเลียงมา

“กินได้ใช่ไหม?”

เสียงถามข้างหูทำให้ณัฐวีร์พยักหน้ารับ แก้วเหล้าถูกยื่นมาให้เขาก็รับมาดื่มแบบจิบๆ มองอีกฝ่ายเต้นไปด้วยมองทางโน้นทางนี้ไปด้วย
เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีสาวน้อยคนหนึ่งถูกเกี่ยวให้มาที่โต๊ะ เธอนั่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขานัก และมากับเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่มีสาวน้อยน่ารักเกือบค่อนโต๊ะ ชื่อเล่นเธอคือแกล

หลังจากแนะนำตัวกันไม่นาน ร่างของหญิงสาวก็มายืนเต้นอยู่ด้วยกันที่โต๊ะนั่นเอง
ความรู้สึกของณัฐวีร์น่ะหรือ.. มันก็ไม่ได้อะไรมากหรอก แค่ความเซ็งที่ค่อยๆ ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะเขาก็ไม่ได้สนุกไปกับการเต้น ไม่ได้ชอบการดื่ม และไม่ได้สนใจผู้หญิงแบบฉาบฉวย ถ้าเขาจะมีแฟนสักคน เขาอยากศึกษากันก่อนมากกว่าจะมาปิ๊งแล้วหิ้วกันไปจากสถานที่แบบนี้

มันง่ายเกินไป..
ส่วนไอ้คนที่กำลังเต้นอย่างมีความสุขมีแขนของสาวน้อยคล้องคอโอบเอวส่ายสะโพกไปมา มันก็เรื่องของเขา.. เราไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว
ณัฐวีร์เมินหน้าหนีเมื่อเห็นชายหนุ่มหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้แล้วยกแก้วขึ้นดื่มพร้อมหันไปมองทางอื่นเสียให้สิ้นเรื่อง

“เพื่อนหรือคะ?”

เสียงกระซิบถามชิดหูพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมฟุ้งนั่นทำให้ชายหนุ่มหันกลับมาสนใจหญิงสาวในอ้อมแขนเหมือนเดิม

“รุ่นน้องน่ะ เพิ่งจะมาเที่ยวเชียงใหม่ครั้งแรกเลยดูตื่นๆ”

“ให้เพื่อนแกลมาอยู่ด้วยไหมล่ะ”

มกรส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มแล้วไม่พูดอะไรต่อ เขายกแก้วขึ้นดื่มพลางหัวเราะเสียงดังอย่างนึกครึ้ม สนุกกับการทำแบบนี้ ไม่ได้จริงจังจะหิ้วใครกลับ
ไม่รู้หรอกว่าวันนี้เขาต้องการอะไร เขาก็แค่อยากมาเที่ยว มีคนมาขอชนแก้วก็โอเค มีคนมาขอเต้นด้วยก็ไม่มีปัญหา จะให้ปฏิเสธไปก็ไม่ใช่เรื่อง แต่วันนี้คงไม่ได้ชวนกันไปต่อแน่ๆ เขาเองก็รู้ว่าร่างกายเขายังไม่พร้อมจะไปลุยศึกขนาดนั้น เดี๋ยวไข้กลับจะอดเล่นน้ำสงกรานต์ยาว
ส่วนคนที่มาด้วย.. ก็สงสารมันอยู่นิดๆ ถ้าเขาพาผู้หญิงกลับไปด้วย.. แล้วมันจะนอนไหน.. เอาเป็นว่าสนุกกันที่นี่ก็พอ แค่หอมปากหอมคอเท่านั้นล่ะ

แต่ด้านณัฐวีร์เองกลับไม่คิดเช่นนั้น.. แม้จะไม่ได้ยินสิ่งที่คนทั้งคู่คุยกัน แต่เขาก็มีขีดจำกัดของตัวเองด้วย.. ถ้ามากันสองคนแล้วคนหนึ่งสนุกอยู่คนเดียว.. แล้วจะให้เขามาทำไม..ดังนั้น พอดื่มไปจนหมดแก้วเด็กหนุ่มจึงขยับตัวทำสัญญาณว่าเขาอยากไปเข้าห้องน้ำแล้วเดินเลี่ยงออกมา

แต่พอเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้วความเซ็งก็ทำให้ตัดสินใจเดินออกไปที่ด้านนอกของผับทันที
ก็ไม่ได้อะไรมาก แค่เบื่อเสียงเพลง ไม่ได้ชอบเต้น แล้วก็ไม่เห็นจะสนุกตรงไหนที่จะไปยืนขาแข็งดื่มเหล้าที่ก็ไม่ได้อร่อยมากมายนัก ขมไม่อร่อยสักนิด..การดื่มเจตนาคือเพื่อสังสรรค์เข้าสังคมกับเพื่อนฝูง แต่นี่เหมือนดื่มอยู่คนเดียว..ไม่เห็นจะน่าดื่ม.. มากันเยอะๆสนุกกว่ามาสองคนแล้วคนหนึ่งไปอยู่ในโลกส่วนตัวเสียอีก

ณัฐวีร์ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าผับนั่นแล้วก็นั่งแช่อยู่ตรงนั้นไม่ยอมลุก เขาไม่ได้สูบบุหรี่ แต่นั่งดมควันบุหรี่หน้าร้านเข้าไปเสียจนมึน พผสมเหล้าอีกแก้วนึง เลยทำให้หน้าเขาแดงและตาเยิ้มไปด้วยความง่วง..
เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่นเกม เช็กสเตตัสตัวเองไปเรื่อย ผ่านไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้จนมีใครอีกคนเดินมานั่งลงตรงเก้าอี้ใกล้ๆกันแล้วถามขึ้นว่า

“นี่.. ไปเที่ยวด้วยกันไหม? เห็นนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว”

เสียงที่ไม่คุ้นเคยนั้นทำให้เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง อีกฝ่ายเป็นชาย ร่างสูงหนาแบบคนมีเนื้อแต่ไม่ถึงกับอ้วน ใบหน้านั้นดูใจดี ยิ้มกว้างมาให้ แต่ณัฐวีร์ก็ได้แค่ส่ายหน้าตอบกลับไป

“รอเพื่อนอยู่ครับ..”

“แล้วนัดเพื่อนไว้กี่โมง” อีกฝ่ายยังเซ้าซี้

“เพื่อนอยู่ข้างในครับ เดี๋ยวก็คงออกมา”
ณัฐวีร์ไม่อยากรออยู่ตรงนี้แล้ว การมาต่างถิ่นทำให้เขาไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียว และไม่อยากมีเรื่องอีกด้วย

“งั้นขอนั่งดื่มด้วยกันตรงนี้ได้ไหม”
อีกฝ่ายยื่นแก้วมาให้.. ถ้าใครเคยไปแหล่งบันเทิงแบบนี้ก็คงพอจะรู้ว่าไม่ควรรับแก้วเหล้าจากคนแปลกหน้า ณัฐวีร์เองก็ไม่ใช่เด็กที่ไม่ประสาอะไร เขาจึงส่ายหน้าและลุกขึ้นทันที

“ผมเข้าไปตามเพื่อนดีกว่า..ขี้เกียจรอแล้ว ขอโทษนะครับผมขอตัว”
พูดจบเด็กหนุ่มก็เดินเข้าไปที่เดิม..แต่ดูเหมือนเขาเองก็คงจะเข้ามาผิดเวลา.. มกรไม่ได้อยู่ที่โต๊ะนั่น.. เขาหายไป ..หายไปไหนไม่รู้
ณัฐวีร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาทันที แต่เพราะเสียงที่ดังมากทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงจากในสายเลย เด็กหนุ่มจำต้องเดินออกไปหน้าร้านอีกครั้ง แต่ก็เลี่ยงที่จะไปตรงบริเวณที่ตนเคยนั่งอยู่

“พี่แมน..ฮัลโหล..”
ทางนั้นรับสายแล้ว แต่เสียงตามสายนั้นดังสนั่น คาดว่าจะยังอยู่ด้านในแต่เป็นบริเวณไหนก็สุดจะเดา

“พี่แมน นัทอยากกลับแล้ว จะเที่ยงคืนแล้ว”

“อือ..อือ..ไปรอหน้าร้านแล้วโทรเรียกรถโรงแรมเลย”
เสียงอู้อี้ที่ตอบกลับมาทำให้เด็กหนุ่มหงุดหงิดจนแทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง แต่ก็ข่มใจไว้กดหมายเลขของคนขับรถ ..คนขับอยู่ไม่ห่างจากร้านนักประมาณสิบนาทีก็มาถึง เด็กหนุ่มไม่รอช้ากระโดดขึ้นไปนั่งบนรถก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงต่อสายถึงมกรอีกทันที

“ถ้าพี่ไม่ออกมา..ผมจะให้เขาขับกลับแล้วนะ”

“เออๆ มาแล้วก็บอกสิ” แล้วสายก็โดนตัดไป..

คนนั่งรอในรถอย่างหงุดหงิดก็ต้องรอไปอีกเกือบสิบนาที ถึงได้เห็นร่างสูงของมกรเดินออกมาจากผับพร้อมกับสาวแกลที่นัวเนียเหมือนลูกแมวไม่ห่างไป
ทั้งสองคนยืนล่ำลากันตรงประตูรถตู้ จนกระทั่งฝ่ายชายเปิดประตูขึ้นรถนั่นแหละ ฝ่ายหญิงถึงเดินจาก
ความเงียบปกคลุมไปทั่วรถ มีแค่สายตาน่าหมั่นไส้เท่านั้นที่มักจะเหลือบมามองณัฐวีร์เป็นระยะ สายตานั้นช่างยั่วเย้าและระรื่นนักจนคนถูกมองต้องข่มใจหลับตาลงเสีย
แค่ไอ้คนที่หน้าผับนั่นก็ทำเขาหงุดหงิดพอแล้ว นี่ยังมาเจอคนที่มาด้วยกันยั่วเอาอีก..เออ.. ให้มันได้อย่างนี้สิ
รถจอดลงตรงล็อบบี้โรงแรม ก่อนจะมีรถกอล์ฟขับพาไปยังห้องพักอีกต่อหนึ่ง ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้อง ณัฐวีร์ก็เปิดฉากก่อนเลย

“คืนนี้ผมจะนอนโซฟา พี่ขึ้นไปนอนข้างบนแล้วกันนะครับ”

“หา..? ทำไมล่ะ ก็ขึ้นไปนอนข้างบนด้วยกันสิ”

“ผมไม่อยากไปกวนคนป่วยครับ” พูดจบณัฐวีร์ก็รี่ไปที่ห้องน้ำด้านล่างทันที

“เฮ้ย!.. มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
มกรปรี่เข้าไปกระชากแขน แรงจนทำให้เด็กหนุ่มหันกลับมาจ้องเขม็งเลยทีเดียว

“รู้เรื่องแล้ว ผมจะนอนข้างล่าง พี่ขึ้นไปนอนบนเตียงโน่น! ผมไม่อยากจะพูดซ้ำ แต่พี่เคยสัญญาแล้วว่าระยะสามเดือนนี้พี่จะมีแค่ผมคนเดียว ในเมื่อพี่ไม่ทำตามสัญญา ผมก็ไม่จำเป็นต้องทำตามสัญญาเหมือนกัน”

“กูไปมีใคร ไม่ได้มีใครสักหน่อย แค่กอดจูบไม่ได้ทำอะไรผู้หญิงคนนั้น”

“ไม่รู้ ผมถือว่าพี่ไม่ให้เกียรติกัน ผมก็ไม่จำเป็นต้องให้ความเคารพอะไรพี่ ปล่อยผมได้แล้ว!”

“มึงมันไม่มีสิทธิ์มาต่อรองตั้งแต่แรกแล้วว่ะ” มกรเข่นเขี้ยวก่อนจะกระชากร่างเล็กๆนั่นให้เดินตามกันมาจนถึงด้านบน

“ปล่อย! บอกแล้วไงว่าจะนอนข้างล่าง”

“เดี๋ยวกูให้มึงนอนข้างล่างสมใจมึงแน่”
แล้วร่างผอมของณัฐวีร์ก็โดนเหวี่ยงจนตัวปลิวลงไปบนเตียง ตามด้วยร่างใหญ่หนาที่ทาบทับลงมาไม่ทันได้ดิ้นหนีไปไหน

“พี่แมน!” ณัฐวีร์ตวาดลั่นพร้อมทั้งพยายามจะหาทางหนี
แขนเล็กๆที่เคยหักยังมีอาการเจ็บแปลบบ้างเมื่อใช้หนักข้อมากเกินไป ดังนั้น เด็กหนุ่มจึงใช้น้ำหนักมือดันอกกว้างไม่มากนัก

“ถ้าวันนี้พี่จะทำให้ได้ ..จากนี้ระหว่างเรามันจะเป็นแค่เรื่องทางกายเท่านั้น!!”
คนฟังชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะลั่นออกมา “ฮ่า ฮ่า ฮ่า กูว่าเมื่อก่อนเราก็ไม่เคยมีเรื่องอื่นนอกจากเรื่องทางกายนะ มึงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”

คำพูดนั้นทำให้ณัฐวีร์ถึงกับหน้าชาราวกับถูกตบลงมาด้วยกำปั้นที่ลืมแบ ดวงตาปวดร้าวค่อยๆปิดลงเมื่อสัมผัสได้ถึงมืออุ่นร้อนที่ขยำขยี้ร่างเขาเพื่อความสะใจของเจ้าตัวเท่านั้น
ไม่มีความอ่อนโยน ไม่มีความใส่ใจสนใจกัน...
ชายคนนี้ไม่ได้รู้เลยว่ามือที่เลื่อนสัมผัสไปทั่วร่างนั้น แทรกเข้าไปถึงหัวใจที่เต้นอยู่พร้อมทั้งไล่ต้อนใจดวงนั้นให้จนมุมไปเรื่อยๆ
ไม่รอให้ใจดวงนั้นมีคำถามอะไรอีก
ไม่ต้องรอให้หาคำตอบอะไรด้วย..
เพราะมันมีอยู่อย่างเดียว..รอคอยเวลาเท่านั้น ให้ทุกอย่างจบสิ้นลงเสียที






*************


ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ตอนที่ 13



“โย้ว..แมน ว้อทแซ่บ ..กูอยากกินส้มตำไก่ย่างตั้งแต่เครื่องเพิ่งขึ้นจากสุวรรณภูมิเลยมึง ช่วยสนองนี้ดกูหน่อยได้ไหมเพื่อน”
ไอ้ปังตอคุณชายผู้ไม่ค่อยได้ถูกปล่อยออกมาหาของสกปรกกินเป็นคนเอ่ยประโยคนั้น นานๆมันจะได้โอกาสหลุดรอดสายตาเจ้าคุณแม่มาเสียที เมื่อก่อน แม้แต่มาม่าปังตอยังไม่เคยกิน เจอผัดมาม่าร้านข้างมหาวิทยาลัยเข้าไป ปังตอติดใจ ยิ่งพอเจอตำปลาร้าใส่พริกสามเม็ดกับมีเนื้อปลาฉีกเล็กๆ ตรงข้างที่เรียนพิเศษ ปังตอยิ่งเตลิดกู่ไม่กลับไปกันใหญ่

“อยากกินอะไรก็รีบขึ้นรถมา เอากระเป๋าไปเก็บที่พักแล้วกูจะพาไป” มกรเป็นคนตอบพร้อมกับช่วยรับกระเป๋าเพื่อนๆโยนไว้หลังรถตู้ที่เช่ามา
ป้อดกับปังตอหัวเราะร่าก่อนจะก้าวขึ้นรถตู้หย่อนกายนั่งไปที่แถวสอง ส่วนคนปิดท้ายอย่างแชร์ก็ก้าวขึ้นนั่งหน้าต่อจากมกร และเป็นคนปิดประตูเอง

“แล้วนี่ยังไง ฟินเลยสิมาเที่ยวกันก่อนเนี่ย”

“เออๆ โซเดมาคอมกันไปสามวันสามคืน ไม่ออกจากรีสอร์ทเลยว่างั้น” ไอ้ป้อดรีบตบท้ายประโยคของปังตออย่างเริงรื่น เล่นเอาพวกแถวหน้าเงียบกริบไม่มีสัญญาณตอบรับกันไปเลย

“พวกมึงก็ไปแซวมัน ใช่เรื่องไหมเนี่ย” แชร์เอ่ยดุ “นัทสนุกไหม นั่งเงียบเลยเรา”
คนถูกชวนคุยยืดหน้าขึ้นมาจากเบาะรถหันไปยิ้มให้อีกฝ่ายแห้งๆ

“ก็สนุกดีครับ ที่รีสอร์ทสวย วิวรอบๆ ก็สวย”   

“แล้วนี่ได้ไปไหนมาบ้างหรือยังล่ะเรา”
ณัฐวีร์ส่ายหน้าทันที “แค่เข้ามานิมมานเท่านั้นครับ แล้วก็ไม่ได้ไปไหนเลย”

“โห..ไอ้แมน มึงจะไม่กกน้องเขาเยอะไปหน่อยเหรอวะ”
เสียงแซวจากด้านหลังทำให้คนข้างหน้าเงียบกันไปอีก

“อย่าไปฟังเสียงปากนกปากกามันเห่าหอนเลยนะนัท..”

“ไอ้เหี้ยแชร์ นกที่ไหนเห่าได้วะ” คนโดนด่ายังมีหน้ามาค้านพลางหัวเราะร่วน

“พวกมึงไม่ต้องไปสนใจมันนักหรอกน่า.. มากันก็ดีแล้ว กูจะได้มีเพื่อนแดกเหล้า” มกรเอ่ยตัดบทขึ้นมา เขาปรายตามองหน้าณัฐวีร์เล็กน้อย ขณะที่คนถูกมองก็เมินไปมองด้านนอกเสียเลย..เป็นการแก้เซ็งที่ดีที่สุด

ตั้งแต่เมื่อวานยันวันนี้ คนทั้งคู่แทบจะไม่ได้คุยกันเลย กิจกรรมที่มีร่วมกันมีแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้น นอกนั้นก็ต่างคนต่างอยู่ ณัฐวีร์ก็ทำอย่างที่พูดจริงๆจะทำอะไรก็ไม่หันกลับมาสนใจใครทั้งนั้น.. แต่หากถูกออกคำสั่งเขาก็จะทำตามสั่งให้ ไม่ขัดขืน ไม่โต้แย้ง เพราะถ้าขืนไปแล้วเจ็บตัว สุดท้ายก็ต้องทำตามสั่งอยู่ดี ถ้างั้นไม่ต้องขืนหรอก ทำๆให้มันเสร็จไป พอเสร็จตามคำสั่งแล้วเขาก็เดินหนีเท่านั้นเอง ไว้สั่งใหม่ค่อยทำใหม่แล้วกัน

ณัฐวีร์เล่นลูกนี้มาเกือบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว แต่มกรก็ไม่ได้สนใจ หรือใส่ใจกับท่าทีแบบนั้นนัก.. พูดง่ายๆ มกรก็แค่เห็นว่าธุระอะไรเขาจะต้องไปง้อคนอย่างไอ้นัท.. มันอยากทำอะไรก็ให้มันทำไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาสั่ง มันก็ต้องทำตามเท่านั้นเอง
มันจะเมินเขาไม่ได้.. คนอย่างเขาห้ามเมิน!
เมื่อคนสองคนเป็นเสียแบบนี้แล้ว.. ความอึมครึมจึงเกิดขึ้นแก่คนในทริปจนรู้สึกได้ เล่นเอาปังตอตีศอกป้อดแล้วพยักพเยิดไปแถวหน้า

“กูว่าท่าทางจะไม่สุขสนุกตามที่พูดว่ะเฮ้ย..”

“กูก็ว่าอย่างนั้นล่ะ..เหี้ย เราจะมากร่อยกันเปล่าวะเนี่ย”

“สงสัยมีมึงกับกูเนี่ยต้องเอนเตอร์เทนไอ้พวกรมณ์เสียกันหน่อยแล้ว”

“งั้นเดี๋ยวต้องชวนลงขวด กูว่าพอขวดลงองค์เกิดแล้วพวกมันก็จะผ่อนคลายกันไปเอง”

“จัดไป..”
สองคนข้างหลังวางแผนซื้อของกันอย่างสนุกสนาน แถมยังตะโกนบอกให้แวะเซเว่นเพื่อการณ์นั้นเสียด้วย

“นัทไม่ลงเหรอครับ..”
พอรถจอดตามสั่งทุกคนก็ลงจากรถหมด เหลือณัฐวีร์อยู่บนรถเป็นคนสุดท้าย จะมีก็แค่แชร์เท่านั้นที่หันมาถามเด็กหนุ่ม

“ไม่ล่ะครับ เชิญพวกพี่ตามสบายเถอะ”

“เอาอะไรพิเศษไหมครับ”

“ไม่ครับ..”
ณัฐวีร์ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มให้บางๆ จะให้บอกได้ยังไงว่ายาคลายกล้ามเนื้อที่พกติดตัวมาหมดแล้ว และตอนนี้ก็ระบมไปหมดทั้งตัวจนไม่อยากขยับไปไหน

มกรทำกับเขาเหมือนแกล้ง ไม่ยอมให้ได้พัก กระทั่งเมื่อเช้าก่อนจะขึ้นรถออกมารับพวกเพื่อนๆนั้น มกรก็ยังไม่วายจัดการเขาอีกจนได้
ตอนนี้น่ะ ถ้าลุกเดินณัฐวีร์ก็จะขาสั่น ปวดหลัง เจ็บสะโพก และเจ็บบริเวณช่องทางจนอยากได้เบาะนุ่มๆรองก้นเลยทีเดียว

“ไอ้แชร์ มึงจะมาได้หรือยัง”
เสียงเรียกนั้นเป็นของมกร ทำให้เจ้าของชื่อหันไปโบกมือรับ “เออๆ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ งั้นพี่ไปก่อนนะ เอาอะไรก็โทรบอกพี่ได้นะครับ มีเบอร์พี่แล้วใช่ไหม”
ณัฐวีร์พยักหน้ารับสมอ้างไปก่อน เพราะไม่อยากให้คนที่หน้าตาถมึงทึงยืนรออยู่ตรงประตูเซเว่นต้องหาเรื่องมาดุด่าเขาอีก

“แต่พี่ยังไม่มีเบอร์นัทเลย บอกพี่หน่อยได้ไหมครับ”
ยิ่งรีบก็เหมือนยิ่งช้า ณัฐวีร์ไม่อยากอิดออดอีก เด็กหนุ่มจึงเอ่ยเลขมือถือออกไป

“ขอบใจนะ เดี๋ยวพี่แอดไลน์ด้วยนะครับ”
เด็กหนุ่มพยักหน้าส่งๆได้ยินเสียงตะคอกเรียกจากมกรอีกระลอกหนึ่งก่อนประตูรถตู้จะปิดลง






*-*-*
กว่าจะมาถึงที่พักก็ปาเข้าไปเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว แม้จะไม่ได้ไกลจากสนามบินมาก แต่เพราะรถติดสะสมและมีบางส่วนเริ่มเล่นน้ำสงกรานต์กันแล้วทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาบนรถกันอยู่นาน

“แม่งเอ้ย นั่งบนรถเกือบครึ่งนึงของนั่งเครื่องกรุงเทพเชียงใหม่เลยนะเนี่ย เมื่อยตูดชิบ” แชร์เป็นคนบ่นก่อนจะหอบกระเป๋าเดินนำลงจากรถ

“ขี้บ่นว่ะ..ไปเดี๋ยวขึ้นห้องแล้วกูนวดตูดให้” ปังตอพูดพลางหัวเราะร่วนแล้วทยอยเดินลงจากรถไปด้วยกัน กระทั่งเหลือณัฐวีร์ลงรถเป็นคนสุดท้าย
เด็กหนุ่มหอบเอากระเป๋าของตัวเองลงมาด้วย แต่ความที่อาการปวดเมื่อยต้นขามีมาก ขาจึงสั่นและหมดแรงเอาดื้อๆ พอก้าวลงจากรถตู้ด้วยความสูงเกือบหัวเข่า เขาจึงแทบทรุด ยังดีที่มีแชร์ยื่นมือเข้ามาช่วย

“เฮ้ย ไหวไหมนัท?”
เสียงร้องนั่นทำให้ทุกคนหันกลับมามองแล้วจึงได้เห็นว่ากระเป๋าของณัฐวีร์ร่วงไปอยู่กับพื้น ส่วนร่างของณัฐวีร์เอนพิงอยู่กับประตูรถตู้โดยมือข้างหนึ่งมีแชร์เป็นผู้ประคองไว้

“ไหวครับพี่ ผมหน้ามืดไปนิดหน่อย” เด็กหนุ่มตอบพร้อมกับพยายามจะก้มลงเก็บกระเป๋าตัวเอง

“เฮ้ย ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ถือให้ ..เดินเองได้ใช่ไหม”
ณัฐวีร์พยักหน้ารับ ทำให้แชร์ปล่อยมือจากเขาแล้วก้มลงเก็บกระเป๋ามาถือให้ทันที
เขาไม่อยากดื้อ ไม่อยากรั้น ในเมื่อไม่ไหวก็บอกไปตามตรงว่าไม่ไหว การเป็นคนป่วยก็ควรต้องรู้จักประมาณตัวเอง ถ้ารั้นจะทำก็ต้องทำให้รอดด้วย ไม่ใช่ทำแล้วไม่รอด ตอนนี้แค่พอตัวเองเดินไปให้ได้ก็เต็มที่แล้ว

“สำออย..”
เสียงไม่ดังนักลอยมาตามลม ณัฐวีร์ก็ได้แต่ปิดการรับรู้ ไม่สนใจ อยากว่าอะไร..เรื่องของมึง
พวกเขาขึ้นมาที่ชั้นบนสุดของตึกที่เป็นที่ตั้งของเพ็นเฮ้าส์ราคาแพงซึ่งมีสองห้องนอน สองห้องน้ำ หนึ่งห้องครัวและหนึ่งห้องนั่งเล่น.. เหมาะแก่การมาสังสรรค์ของครอบครัวและเพื่อนฝูงมาก ระเบียงที่เปิดกว้างออกไปมองเห็นวิวของดอยสุเทพ แม้ว่าตึกที่พักจะถูกจำกัดความสูงไว้เพียง 8 ชั้นตามกฎหมายของตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ที่ชั้นบนสุดนี้ก็ถือว่ามีวิวสวยงามมากแล้ว ถ้ามาหน้าหนาว เวลาลมพัดมาคงจะเย็นสบายน่าดู

“มึงห้องนึง พวกกูห้องนึง” ป้อดเจ้าของห้องแบ่งให้เสร็จสรรพ ห้องใหญ่พวกมันสามคนจอง ส่วนห้องเล็กให้มกรและณัฐวีร์ใช้

“ห้องใหญ่นี่พ่อแม่กูเคยใช้ กูไม่ให้พวกมึงสองคนมาย่ำยีเด็ดขาด” มันพูดลอยหน้าลอยตาแล้ววิ่งเข้าห้องไป

“สัตว์ อย่าให้กูเห็นมึงพาผู้หญิงขึ้นมาบนห้องนะ กูจะเอาไปฟ้องแม่มึง อัดคลิปประจานแม่งให้ทั่วมอ”
แล้วก็มีเสียงตะโกนจากข้างในโต้ตอบออกมา “ห้องพ่อกู กูใช้ได้เว้ย..”
เลยมีเสียงสรรเสริญคุณชายป้อดกันให้ขรม

แต่ณัฐวีร์นั้นอ่อนล้าเต็มที เขาจึงปลีกตัวเปิดประตูเข้าห้องและพุ่งตัวเข้าหาที่นอนโดยไม่ฟังเสียงเรียกจากใครทั้งสิ้น
กระเป๋าของเขาอาจมีแชร์เป็นคนถือขึ้นมาให้ แต่เมื่อจะต้องเอาเข้ามาในห้อง ก็กลายเป็นหน้าที่ของมกรไปโดยปริยาย.. มกรปล่อยกระเป๋าทิ้งลงพื้นอย่างไม่สนใจทั้งกระเป๋าตัวเองและของอีกคน เขาใช้เท้ายันมันไปให้พ้นทางแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงมองไปรอบๆห้องที่จะพักในคืนนี้
ห้องนั้นจัดแต่งไว้อย่างสวยงาม มีของใช้ที่จำเป็นในการเข้าพัก เช่นตู้เสื้อผ้า เตียงนอน และมีห้องน้ำในตัว ก่อนหน้าที่พวกเขาจะมา คงมีใครเข้ามาทำความสะอาดและเตรียมพวกผ้าขนหนูรวมทั้งเครื่องใช้บางส่วนไว้ให้แล้ว เขาจึงไม่ได้เห็นความสกปรกของการรกร้างผู้พักอาศัยเลย
ความร้อนทำให้ชายหนุ่มควานหารีโมทแอร์และเปิดมัน ตอนแรกแอร์นั้นพ่นลมร้อนออกมาเบาๆ ชั่วครู่ความเย็นก็กำจายมากขึ้น เมื่ออากาศค่อยดีขึ้น มกรก็เริ่มมองเด็กที่หลับนิ่งไป

“เฮ้ย.. นี่..”
เขาร้องเรียกไปสองหน แต่ก็ยังเงียบ แสดงว่าหลับลึกไปแล้ว มกรจึงชะโงกหน้าไปมองคนที่นอนหันหลังให้เพื่อความแน่ใจ
ดวงตาที่หลับพริ้มนั้นดูมีความสุขดื่มด่ำกับช่วงนิทรารมย์นัก ริมฝีปากสีชมพูจัดเผยอน้อยๆปล่อยเสียงหายใจหนักออกมา.. เขาจำได้ว่าริมฝีปากนั้นนุ่มนิ่มและชุ่มชื้นแค่ไหน เวลาจูบไม่ต่างอะไรกับริมฝีปากของผู้หญิงที่เคลือบด้วยลิปสติกเลย..
มกรถอยตัวลงมานั่งมองแผ่นหลังอีกฝ่าย.. เขารู้ว่าเขาผิด.. ปกติพอทำเลวๆจะมีคนมาสนใจตลอด..เขาก็เลยติดนิสัยชอบทำเลวๆให้ใครต่อใครหันมาสนใจ.. แต่ไอ้เด็กนี่มันแปลก มันไม่ชอบให้เขาทำเลว ทำผิดสัญญา มันเคยขอว่าช่วงสามเดือนนี้อย่ามีใครนอกจากมันแล้วมันจะทำดีด้วย ตามใจทุกอย่าง ซึ่งพอเขาทำตามที่มันขอ..มันก็ทำแบบนั้นจริงๆ ไม่ขัดใจขออะไรก็ทำให้
แต่พอเขาเลวใส่มัน มันกลับต่อต้านแบบเงียบๆ ทำทุกอย่างให้ตามคำสั่งเหมือนเดิม แต่ดูก็รู้ว่าไม่ได้เต็มใจทำสักนิด เรียกให้มาก็มา ให้นอนลงก็ยอม ไม่ว่าจะเมื่อไหร่เวลาไหนไม่เคยต่อต้านสักครั้ง ..แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม..
แล้ว...ต้องให้ทำยังไงถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมล่ะ? ..
เขาทำตัวไม่ถูก.. ต้องง้อเหรอ ง้อทำไม? มันไม่ใช่คนที่เขาจำเป็นต้องสนใจ อีกเดือนกว่าๆก็แยกย้ายกันแล้ว..
มันชอบให้เขาทำดีด้วยหรือเปล่า? ทำไมล่ะ.. เมื่อก่อนพอทำดีแล้วไม่เห็นมีใครมาสนใจเลย.. ทั้งพ่อทั้งแม่ไม่เคยชื่นชมความดีของเขา พอเขาทำเลว พ่อกับแม่จะปรี่มาหาทันที เรียกผู้ปกครองปุ้บว่างกะทันหันเลย แต่พอมีกิจกรรมดีๆ พ่อแม่ไม่เคยว่าง..
แล้วทำไมมันถึงชอบให้เขาทำดีๆกับมัน?

มกรมองแผ่นหลังนั้นแล้วชะโงกไปดูหน้าอีกที ใบหน้ายามหลับดูสงบสุข
“กวนตีนนักนะมึง...” เขาบ่นพึมพำก่อนจะเอามือยื่นไปลูบหัวอีกฝ่ายแล้วผละไปที่ประตู
ครั้นเมื่อประตูปิดลง ดวงตายาวรีก็เปิดขึ้น.. กำแพงสีขาวเป็นเป้าหมายสายตา ก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูนั่นจะพึมพำตอบเช่นกัน


“มึงนั่นแหละกวนตีน..”







TBC



แฮะๆๆ ขอโทษที่หายไปนานค่ะ วันนี้เลยลงให้ 2ตอนรวดเลยค่ะ 
เรื่องชักเข้าอิหรอบเดิมแล้วมั้ง แม้นศรีนี่ก็นะ..... ต้องโดนซักวัน!!!

เจอกันอีกที 27มกราคมเลยนะคะ ขอหนีไปเที่ยวก่อน  แล้วเจอกันค่าาา :hao3:

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :katai1:
แหม  มกร.....ทำดีกับน้องเขาหน่ยจิ

 :z6: :z6: :z6:

 :beat: :beat:

รอได้จ้า....มาต่อเร็วๆ นะ
 :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โอ้ยอิพี่แม้นศรี
ตรรกะแกป่วยขั้นสุดยอดอ้ะ
เพลียแทนนัทจริงๆ

ออฟไลน์ Merupuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น้องน้ัทช้ำหมดแล้ววว
พี่แมนถนอมน้องหน่อยจิ
 :mew4:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
อยากกระโดดถีบอิพี่แมน
แต่แอบน้องนัทตอนท้ายนะ

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
มันผิดตั้งแต่ตรรกะพี่แล้วมั้งคะ
แต่น่าสงสารพี่แมนเค้าเหมือนกันนะคะ

แบบมันเริ่มตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ครอบครัวด้วย
ทำให้ตรรกะความคิดมันเป็นไปในแบบผิดๆ

เอาเหอะค่ะ คนเรามันเรียนรู้กันได้
เอาใจช่วยพี่แมน กับน้องนัทละกันค่ะ

แบบพออ่านความคิดพี่แมนแล้ว
ไอที่จะด่า ด่าไม่ออกกันเลยที่เดียว
แบบ...ความสงสารเข้ามาแทน

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ไม่สงสารแม้นศรีอ่ะ

ความสามารถในการเรียนรู้ระดับหมา 6 เดือนเลย
ไอคิวต่ำ อีคิวเตี้ยเรี่ยดิน

คิดได้แค่นั้น? เป็นหมาของพาฟลอฟเหรอ สั่นกระดิ่งแล้วน้ำลายไหล จำได้แค่นี้จริง?
มนุษย์คนไหนคิดได้แค่นี้นี่ ต้องระดับ idiot แล้วนะ (-___-"

ปิดหูปิดตาตัวเอง ลำบากที่สุดในโลก ชีวิตข้าอาภัพอับโชค
เกลียดคนประเภทนี้ชะมัด เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสิ่ง

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
อ่านแล้วต้องถอนหายใจหนักๆกันเลยทีเดียว :katai1:
เฮ่อออออ
สวีท(?)ได้นิดเดียวจริงๆคู่นี้
รออ่านตอนต่อไป
แอบอยากให้มีโมเม้นนัทเอาคืนแบบแสบๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด