หมอ(โดน)ฟัน ตอนที่ 45
อิ่มแล้วคร้าบบบบบ/ค่าาาาา
เสียงทุกคนดังขึ้น หันมาบอกแม่ยิ้มแฉ่งให้ ของที่ทำมาก็หมดเกลี้ยงอิ่มแปล้กันทุกคนคงมีแรงซ้อมต่อแล้วแหละ
“จ้า อิ่มกันไม๊ อร่อยกันหรือเปล่า” แม่หันไปถามส่งยิ้มให้
อิ่มคร้าบบบบบ/ค่าาา อร่อยมากๆด้วย ขอบคุณที่ทำอาหารมาเลี้ยงคร้าบบ/ค่าาา
แล้วเสียงประสานพร้อมเพรียงก็ดังขึ้นอีกพร้อมกับยกมือไหว้ แม่ฟิกก็ยิ้มไม่หุบปลื้มอกปลื้มใจ แต่แบบ พร้อมกันเกิ๊นน เป๊ะกันทุกคำอะไรจะขนาดน้านนนนน
“เฮ้อ แล้วจะไปกี่โมงครับ” เมื่อทำไรไม่ได้ก็ต้องยอมจำนน บีบมือแม่ยิ้มให้แล้วถามเวลาเดินทาง
“สายๆแหละเพราะพ่อเราจองตั๋วไปรอบบ่ายๆกะถึงที่นั้นค่ำๆหน่อย แช่ออนเซ็นสักนิดหลับสบายๆหนึ่งคืนพอเช้าก็ลุยสวน” แม่ทำหน้านึกแล้วตอบบีบมือฟิกกลับสื่อบอกว่าไม่ต้องห่วง ผมก็บีบไหล่ฟิกอีกคน
“แบบนี้แม่ไม่เหนื่อยเหรอ” แม้จะคลายคิ้วที่ขมวดแต่สีหน้าก็บ่งบอกว่าเป็นห่วงอยู่ดี
“แช่ออนเซ็นแล้วไง หายเหนื่อย” แม่บอกให้หายห่วงอีกที
“เฮ้อ คร้าบๆ ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับอายุเยอะแล้วไม่ใช่แต่ก่อน ผมเป็นห่วง” ฟิกถอนหายๆใจปลงๆ ยกมือแม่ขึ้นแนบแก้ม
“จ้าพ่อลูกบังเกิดเกล้า” แม่บอกยิ้มๆลูบแก้มฟิกเบาๆฟิกเลยดึงแม่เข้ามากอดซุกหน้าหลับตา ผมมองดูภาพตรงหน้ายิ้มๆ นึกถึงปู่ขึ้นมา
“งั้นแม่กลับห้องพักเลยดีไม๊ครับนอนให้อิ่มพรุ่งนี้จะได้ไม่เหนื่อย” ผมเสนอขึ้น ฟิกหันหน้ามามองแล้วโอบเอวผม
“ไม่เป็นไรลูกแม่กะจะอยู่เป็นกำลังใจจนเลิกเลย เพราะได้ดูอีกทีอาจจะเป็นวันแสดงจริงเลย” แม่บอกยิ้มๆ มองผมล้อๆ แน่ซิเล่นควบสองกอดแม่ซุกหน้าแขนอีกข้างก็โอบเอวผม
“งั้นแล้วแต่ครับ ผมไปเข้าฉากต่อละ หอมหน่อยๆ” ฟิกเงยหน้าบอก มีอ้อนด้วย
“ตั้งใจนะลูก” แม่หอมซ้ายขวาพร้อมกับอวยพร
“ครับผม” ฟิกรับคำพร้อมกับหอมแม่กลับมิวายแอบฉกหอมหัวผม คนบ้า คนอยู่เยอะ อายเป็นนะ
“ยิ้มไรหนะ น้องเกล” อยู่ๆก็ถาม ตกใจ
“ก็ไม่คิดว่าฟิกจะมีมุมอ้อนแม่แบบนี้ด้วย” แอบอิจฉานิดๆ กับเราไม่เคยมีอ้อนบนเตียงตลอด เหอะ
“หืม? พี่เค้าไม่เคยอ้อนหนูเลยเหรอ” แม่เลิกคิ้วถามแววตาแฝงบางอย่าง
“อะ เอ่อ ก็ เคยบ้างครับ” แม่ละก็ แอบล้วงความลับเขินเบยย
*****************************
“ถึงกทม.แล้วโทรายงานตัวด้วยนะครับ” ฟิกกำชับแม่รอบที่ร้อยแล้วมั้งตั้งแต่ออกจากหอยันสนามบิน
“จร้า” แม่ยิ้มส่ายหน้า
“แม่ไปก่อนนะ อยู่ก็ดูแลน้องดีๆ มีอะไรค่อยๆพูดค่อยๆจา น้องเป็นคนของเราแล้วต้องดูแลให้ดี มีปัญหาอะไรให้ตั้งสติ
ให้ดี คิดก่อนอย่าให้อารมณ์มันเป็นตัวกำหนด เข้าใจ๋ก๋อ” แม่ดูเวลาแล้วหันมาพูด(สั่ง)
“คร้าบบ” อย่าครับแต่ปากละถ้าพลาดน้องเกลมีฟ้องนะ หุหุ
“มีอะไรโทราแม่ตลอดนะ ถ้าพี่เค้าทำอะให้ให้เสียใจร้องไห้โทรมาฟ้องเลยแม่จะบินมาแฉ่งกบาล” ยิ้มแก้มแตกเลย แม่สามีรักเรามากกว่า
“ครับ” ผมพยักหน้าเหล่ตามองฟิก เสร็จแน่
“ไปละ กอดหน่อย” แม่ขยี้หัวผมแล้วดึงเข้ามากอด ก่อนจะหันไปบอกลูกชายที่ยืนหน้าบึ้งนิดๆ
“เจ็บนะ” ผมไล่ตีฟิกที่บีบจมูกผมซะแรง แม่เข้าเกทแล้วแกล้วผมทันที เดี๋ยววิ่งเข้าไปฟ้องซะเลย ก่อนจะหันไปมองด้านหลังรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องมองอยู่
“เป็นอะไร หืม” เดินกลับเข้ามาจับหน้าผมพร้อมกับมองตามสายตาที่ผมมองไป
“เปล่า” ผมส่ายหน้าปฎิเสธแล้วพลิกจัวไปด้านหลังกระโดนขึ้นหลังฟิก
“ฮ่าๆๆ เสร็จละ ไปเลยเจ้าม้า” ผมหัวเราะเสียงดังตีไหล่ฟิกสั่งให้เดิน ฟิกก็แกล้งผมวิ่งโยกส่ายขวาไปมา บ้างทีก็ปล่อยมรที่รองสะโพกผมจนต้องเกาะหนึบเนตุ๊กแกกันตก กว่าจะถึงรถนี่เล่นเอาเหงื่อแตกไปตามๆกัน
“เกล”
“เกล”
“อีเก้ง!!!!!!”
“โอ๊ยยยยยย พวกเหี้ย” หูแทบแตก ผมตวัดตาจิกรายตัว
“มึงซิเหี้ย ดอก เหม่อไปถึงไหน” อิปีพูดขึ้นพร้อมกับจิ้มหน้าผากผมแทบหงายหลัง
“อะไร ใครเหม่อ ไม่มี” ผมปัดมือนางออก อยากจะจิ้มคืนอยู่หรอกแต่นางคงรู้ตัวระวังแจ เดี๋ยวเถอะอย่าเผลอนะมึงงง
“สตออีเก้ง พวกกูเห็นชัดๆว่ามึงเหม่อ เรียกหลายทีไม่เจือกตอบ” นางคงถามต่อความอยากรู้นางไม่มีที่สิ้นสุด แต่ผมเงียบอยากให้พวกมันอกแตกตาย
“มึงเป็นไรวะ ทะเลาะกะพี่ฟิก” อีแพนถามบ้าง ผมส่ายหัว
“ยังรักกันดี ขาเตียงยังแข็งแรงแม้จะต้องรับเสียงสั่นสะเทือนบ่อยๆ” พวกนางกรอกตาทำเป็นรับไม่ได้
“แล้วมึงเหม่อทำซากไรวะ บางทีเดินๆอยู่ก็หยุดหันไปมองหลัง เอาจริงๆ มึง เป็น เหี้ย ไร” ตุ๊ดนางนี้ขี้สงสัยจังวะ
“เฮ้ออ กูก็แค่ แค่ รู้สึกเหมือนมีใครจับตามองกูอยู่” กะจะเงียบเล่นตัวซะหน่อยเลยจ้องกดดันซะ
“ถุย” หลบแทบไม่ทัน ผมหยับทิชชู่ขึ้นมาเช็ดหน้าทั้งๆที่ไม่มีอะไรเปื้อนแล้วกับส่งสายตารังเกียจไปให้
“อีเสน่ห์แรง” อิทอม
“อีมีผัวแล้วฟีโรโมนกระจาย” อีปี
“อีดูเหมือนสวย” อีแพน เจอมคอมโบ 3 ช็อตเลยตู
“จริงๆนะมึง กูรู้สึกได้” ผมบอกมันเสียงจริงจัง ผมรู้สึกจริงๆนะ ไม่ได้ติ๊ต่างเอาเอง เชื่อกูหน่อยยยย
“พอๆ มึงมโนเองนะซิ ดอกค่ะ” อีปีจีบปากจีบคอว่าเข้าให้
“เฮ้ย แต่..” ผมจะแย้ง
“พอ สต๊อปๆ กูก็นึกว่าพี่ฟิกมีชะนีมาเกาะ แล้วมึงเก็บไม่ได้ นางร้ายกาจเลยคิดจะขอแรงเพื่อนสาวช่วย” อีแพนเบรกดังเอี๊ยดดดดด
“มึง จริงๆ...” แย้งอีกรอบ
“เลิกเพ้อพิศจิตมโนแจ่ม จงจินตนาการได้แล้ว ขึ้นห้อง ไป!!” คราวนี้อิทอมเบรกบ้าง ลุกขึ้นบืนใช้สายตากดดันให้ลุกขึ้นห้องเรียนได้แล้ว
“เออ แม่ง พวกเพื่อนเลว” แล้วก็สะบัดหน้าใส่พวกนางเดินเชิดขึ้นห้องไป แต่ผมรู้สึกได้จริงๆนะว่ามีคนจ้องมองผมและตามผมทุกฝีก้าว แต่พอแกล้งซ้อนแผนเดินช้าๆลอบสังเกตุมันกลับไม่มีอะไร หรือผมจะคิดไปเอง ไรว่ะ
ครืดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดด
“ฮัลโหล” ผมรับเสียงงัวเงีย
“อ่า หลับอยู่เหรอ พี่โทรมากวนหรือเปล่า” ปลายสายถามขึ้น เสียงคุ้นๆใครวะ
“หืม? ใครอ่ะ พี่จิน?” ผมขยี้ตาหาววอดๆ ถามออกไป
“อะไรกัน ไม่เซฟเบอร์พี่ไว้เหรอน่าน้อยใจ” มีการน้อยใจอีก คิดว่าง้อไง
“เรื่องพี่ซิ แล้วโทรมามีไร” อย่ายึกยัก เข้าเรื่องเลย
“โทรมาเล่นตามประสาคนรู้จัก” ถามกันก่อนว่าอยากรู้จักด้วยไหม
“เหอะ เอาจริงๆ” ผมถามอีกรอบ กดเสียงต่ำนิดๆ
“แฟนเรา เปิดทำการแสดงวันแรกวันไหน”
“ห๊ะ??” ฟังผิดเปล่าวะ
“ไอ้ฟิกมันแสดงเริ่มวันไหน” เสียงย้ำมาอีกรอบ
“อ่ออออ อีก 3 อาทิตย์ ทำไม” ผมตอบพร้อมกับบิดขี้เกียจ ชักแปลกๆ
“เปล่า แค่เห็นคณะพี่จะพานักศึกษาปี 3 ไปดู พี่เลยถามเพื่อความแน่นอน” ทะแม่งๆและ มีซัมติงชัวร์
“เหรอ ป้ายประชาสัมพันธ์ก้แปะไปทั่วแล้วไม่แหกตาดูละ” ขอเน็บแนมหน่อยหมั่นไส้
“ยังปากร้ายเหมือนเดิมนะครับ พี่โทรมาถามแค่นี้แหละ อ่อ ไม่ไปเฝ้าระวังนะ บายครับ” แล้วชิ่งวางสายไปเลย หนอยยย แน่จริงถือสายฟังคำด่าก่อนเซ่
“ไอ้...จิ๊” จะด่าก็ด่าไม่ทันชิ่งวางสายไปซะก่อน แล้วจู่ๆทำไมโทรมาถามเรื่องฟิก แล้วตอนนี้อีตาพี่จินจบแล้วไม่ใช่เรอะ รับปริญญาปีนี่
ครืดดดดดดดดดดด
“ว่า”
“โห้ย ดูรับสายผัว” คำทักทายแรกหลังจากไม่เจอกันแบบจริงๆจังมา 3 วัน เพราะผมเรียนหนักเทสบ่อย
“ไม่พอใจก็วางซิ ติ๊ด” เฮ้ยยยย กูประชดดดมึงทำจริงทำไมมมมม โทรกลับเองก็ได้
“ว่า” เดจาวูชัดๆ
“กวนตีน” ด่าเลยแม่ง
“ฮ่าๆๆ ทำไรอยู่” กว่าจะเข้าเรื่อง
“เพิ่งตื่น” ผมตอบพร้อมกับลุกไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม
“อืม ก็ว่าอยู่ไม่เห็นมีใครฝากของมา คนแถวนี้ชะเง้อคอเป็นยีราฟหิ้วท้องรอจนตาลายน้ำลายไหลย้อย //พี่นั้นแหละน้ำลายยืด//” ฟิกตอบกลับได้ยินเสียงน้องแก้มแทรกมา แกล้งน้องไม่เคยเปลี่ยน
“อ่า ลืมไปแฮะ บอกวันหลังละกันช่วงนี้มีเทสบ่อยไปเฝ้าได้แต่ของติดมือไปฝากคงยากหน่อย” มองนาฬิกาจะ 4 ทุ่มแล้วกำลังพักเบรก
“ได้ยินแล้วใช่มะไอ้ลิง //แก้มไม่ใช่ลิงนะ พี่เกลลลล//” ฟิกตะโกนบอก แก้มก็แว้ดกลับทันทีได้ยินเสียงพี่แฝดหัวเราะ ช่วยกันแกล้งน้องดีนัก
“กินไรยัง” ผมถามหลังจากยัดแซนวิชคำโต
“แล้วครับ” ตอบไม่เต็มเสียง
“กินไร” ผมวางแซนวิชลง หัวกำลังคิดว่า ‘ของ’ ใคร
“เอ่อ พี่นึกว่าเกลจะฝากของมาเลยไม่ได้สั่งรอบสวัสดิการ” ละลักละล่ำตอบแทบไม่ทัน ชิ
“แล้ว?”
“รอจนรู้ว่าไม่มีของฝากมาเลยกินที่พี่ตาลซื้อมาให้ แซนวิชไส้กรอก แค่ชิ้นเดียวเองแบบว่าหิว ที่จริงซื้อมาเยอะเลยแต่ไอ้เจเจซัดเรียบ” รัวเร็วไม่หยุด กลัวเมียไม่เชื่อไง
“แสดงว่าตอนนี้กินแค่แซนวิชชิ้นเดียวงั้นซิ” ผมถามกลับกัดแซนวิชโมโหๆ นึกถึงใครบางคน
“พี่ขอให้น้องไปซื้อให้แล้ว กำลังรออยู่” เสียงอ้อนนิดๆ เฉพาะเวลาที่ผมเริ่มจะอารมณ์เสีย
“อืม”
“แล้วเกลละ กินไรยัง อย่าโหมอ่านหนักมากหนักพี่เป็นห่วง”
“คร้าบ ว่าจะดูในตู้เย็นมีไรก็กินอันนั้น” ผมบอกเสียงใสไม่อยากให้ฟิกคิดหนัก ไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยยิ่งห่างกันหลายวันเราต้องรักเข้าไว้เดี๋ยวมีตัวเสือกแล้วจะยาว
“อ่า โทษนะวันนี้ไม่ได้ทำกับข้าวไว้ให้”
“ไม่เป็นไร ที่จริงไม่ต้องทำก็ได้เรียนมาเหนื่อยๆยังต้องมาทำกับข้าวให้เกลอีก ไหนจะซ้อมละครอีก เกลมีอันไหนก็กินอันนั้น ไม่อิ่มก็ลงไปซื้อ” ผมบอกให้ฟิกหายห่วง ไม่เจอหลายวันอยากเจอหน้านานๆอยากกอดด้วย เจอกันแค่แว่บๆ ไม่ถึง 10 นาทียังไม่หายคิดถึงเลยยย
“ครับ เมียพี่น่ารักจัง” เราคุยกันต่ออีกนิดก็วางเพื่อให้ผมและฟิกกินข้าวหลังจากหาของใส่ท้องให้เต็มก็ต้องส่งข้อความบอกให้รู้และบอกว่าจะออกข้างนอกไปซื้อเค้กแล้วกลับมาอ่านหนังสือต่อ
หลังจากวันนั้นผมก็(พยายามหาเงลา)ตามไปเฝ้าตลอดเบื่อหน่อยก็ออกไปช่วยฝ่ายอื่นๆ ทำให้รู้ว่าไม่ได้มีแค่ผมที่มา(เฝ้า) ใครมีแฟนก็เกณฑ์กันมาให้หมดยิ่งผู้หญิงนะถึงขั้นต้องบังคับแฟนกันเลยทีเดียวเพราะสาขานี้ผู้หญิงเยอะจะให้ขึ้นฉากเองก็กระไรอยู่เลยต้องให้แฟนขึ้นให้ ผมก็แว่บช่วยหลายครั้งอย่างพวกลงสีสร้างพร๊อบไรพวกนี้ ตอนแรกก็คิดว่ามีแค่ฉากใหญ่ๆแต่พอใกล้วันเข้ามารายละเอียดปลีกย่อยก็เพิ่มขึ้น แล้วฝ่ายฉากคนน้อยมากฝ่ายอื่นๆก็ต้องเข้ามาช่วยพอไปบ่อยๆขึ้นก็สนิทกันมากขึ้นแล้วก็รู้เรื่องดีๆมากขึ้น แหม๊แผนเนียนช่วยงานนี่ได้ได้เสมอแฮะ
“ไงมึง” อีทอมตบไหล่ทัก ผมเงยหน้าขึ้นมองพยักหน้าตาจะหลับเมื่อคืนรันละครแบบแสดงจริงครั้งแรกแต่ยังไม่ขึ้นเวทีเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวแล้วเอง ทุกฝ่ายหัวหมุนกันใหญ่ เมื่อคื่นแอบแว่บไปดูชุดด้วยสวยดี เพิ่งรู้ว่ากิโมโนเค้าใสกันยังไงแต่ก็แอบร้อนแทนน้องที่ใส่เพราะมันหลายชั้นมากอยู่เพลินเลยทีนี้กลับห้องตี 2 กว่าๆ เอาเถอะวันนี้วันศุกร์แล้วค่อยกลับไปนอนทีหลัง
“อีแพนละ” ถามหาคู่หูมันที่ไม่เห็นมาด้วยกัน แล้วก็หาวอีกรอบ ง่วงเฟร้ย
“ไปกับปี” ถอนหายใจทำหน้าเหนื่อยๆตอบผม
“มีเรื่องไรวะ” ผมชะโง้กหน้าจ้องหน้ามันก่อนจะถาม เพราะท่าทีอีทอมแบบนี้มักมีเรื่อง(ปวดหัวให้มัน)ชัวร์ป้าบ
“แฟนเก่าพี่ตามโผล่” มันตอบแต่ผมก็ไม่หายข้องใจ แต่หูผึ่งกับคำว่า ‘แฟนเก่า’ ปกติได้ยินแต่ ‘กิ๊กเก่า’
“กูก็ไม่รู้อะไรมากนักหรอก เมื่อคืนแพนมันคุยกับปีหน้าซีเรียสมาก กูจับใจความได้แค่ว่า มันบอกให้ปีใจเย็นๆตั้งสติๆดีๆมันอาจจะไม่มีอะไร แล้วมันก็ออกจากห้องไปเลยเมื่อคืนก็ไม่ได้กลับห้อง”
Rrrrrrrrrrrrrrrrrr
“ครับ” เสียงหล่อเชียวนะมึง
“มึงอยู่ไหน...........แล้วไปทำไรที่นั้น.........โว้ยยยย พวกมึงนี่นะขยัยหาเรื่องตลอด พวกเหี้ย เคยคิดจะปรึกษาพวกกูก่อนไม๊ ห๊ะ กูไม่ฟังมึงต้องฟังกูไปเรียกอีปีมาด้วยกูจะด่าเรียงคนเลย สัด” แล้วนางก็ร่ายยาว 1 ชั่วโมงเต็มขาดคาบแรกไปโดยปริยาย
“มันว่าไง” ผมถามอีทอมยังหน้าหงิก
“มันอยู่ฮ่องกง”
“เฮ้ย ไปทำไรที่นั้น” ผมถามเสียงดัง
“ไปตบแฟนเก่าพี่ตามแหละ เป็นนางแบบตอนนี้มาเดินแบบที่ฮ่องกงและคาดว่าจะมาไทยและที่นี่”
“เรื่องมันเป็นมาไงวะ”
“ปีมันได้รับโทรศัพท์จากแฟนเก่าพี่ตาม ทะเลาะแล้วก็เคลียร์กันไปแล้วรอบหนึ่งแต่มันไม่จบ ผู้หญิงคนนั้นโทรยังโทรมาจนมันต้องเอาโทรศัพท์พี่ตามมาใช้ แล้วนี่คงพูดไม่เข้าหูมั้งถึงได้บินไปตบถึงที่ ดีนะที่ยังโทรคนของป๊ากูไปด้วยแล้วป๊ากูนี่ก็ไม่ยอมบอกกูเล้ยยยย”
“เอาน่าๆ แล้วพี่ตามละ”
“เพิ่งบินตามไปเมื่อเช้า ไม่รู้จะทันหรือเปล่า”
“กูว่าไม่ทันชัวร์ คงเละแล้วหละ” มองหน้ากันอย่างปลงๆ แล้วเตรียมตัวเข้าห้องเรียน หวังว่ากูคงได้เห็นพวกมึงกลับมาครบ 32 ประการนะ กูไม่ชอบพาเพื้อนไปศัลกรรม
***************************************
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ลงผิดตอนนนนนนนนน ใครที่ได้อ่าน ถือว่าโชคดีนะก๊ะ
เบลอมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่หนุกเลยยยย
โอ๊ยยๆๆๆๆ ไม่เซอร์ไพรส์เบยยยย
ขอลา งิงิ