18
((เปลี่ยน)) การเปิดตัวแชมพูสระผมในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก และได้รับความร่วมมือจากดารานักร้องหลายท่านเพื่อช่วยในการโปรโมท ซินของผมก็เช่นกัน คนสวยเดินไปรอบๆงานคุยกับคนนู้นที คนนี้ที ไอ้ผมก็ห่วงเขา มัวแต่สนใจเขา จนจะลืมนายจ้างจริงๆตอนนี้ไปซะแล้วเนี่ย และอีกอย่าง ตอนนี้เป็นช่วงที่คาดสายตาไม่ได้เลยจริงๆ
ไอ้พี่ดิวมันมาอีกแล้วครับ ใกล้มาก ...จนเกินไป ก็เข้าใจว่าในงานมันเปิดเพลง แต่ก็ไม่ได้ดังขนาดที่ว่าจะต้องก้มเข้าหากันขนาดนั้นซะหน่อย ยิ่งฉากกระซิบข้างหูกันนี่บาดใจยิ่งนักครับ
และยิ่งเขาใกล้กันมากเท่าไหร่ ขามันก็ก้าวไปเองไวเท่านั้น จนเมื่อมารู้ตัวอีกที ผมก็มายืนตรงหน้าซินเรียบร้อยแล้ว...
ซินหันมามองผมที่ยืนบังเขาจากไอ้พี่ดิวอย่างๆงง ปนตกใจนิดๆที่อยู่ๆผมก็โผล่มาแบบนี้ แถมยังทิ้งนายจ้างของตัวเองเอาไว้อีก แต่นาทีนี้ ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลยครับ ไม่รู้ทำไม จิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยจริงๆ
"พี่นัท..." เสียงไอ้กัสที่ยืนอยู่ด้านหลังซินเรียกผม แต่ผมไม่ได้สนใจหันไปมอง
เพราะคนที่กำลังจ้องตาผมกลับมาตอนนี้มันกวนตีนผมมากครับ
"ผิดคนหรือเปล่า คนที่ต้องสนใจไม่ใช่คนนี้มั้ง"
ดูความกวนตีนของมันนะครับ...
"เรื่องบางเรื่อง ไม่ต้องให้พูดก็น่าจะเข้าใจ"
"เข้าใจอะไร มีอะไรที่ผมจะต้องเข้าใจคุณบอดี้การ์ดด้วยเหรอครับ"
มือผมมันกำเข้าหากันแน่นอย่างไม่รู้ตัว จนรู้สึกได้ว่ามีมือของใครบางคนเอื้อมมาแตะมือข้างนั้นของผมเบาๆ
มือของซิน... ผมจึงคลายกำปั้นนั้นออก และหายใจเข้าลึกๆอย่างพยายามกดอารมณ์ตัวเองเอาไว้
"ถอยออกไปห่างๆจะดีกว่า" ผมพูดช้าๆชัดๆเพื่อให้อีกคนเข้าใจ ผมรู้ว่ามันรู้ ว่าผมกับซินเป็นอะไรกัน
"เราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะ" เสียงเบาๆจากคนด้านหลังทำเอาคิ้วผมขมวดเข้าหากันทันที
ก็รู้ว่าคุยกันแล้ว ซินอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่ไอ้นี่มันคิดหรือเปล่าล่ะ ผมไว้ใจซินของผมได้ แต่ผมไว้ใจไอนี่ได้มั้ย แล้วทำไม ไม่เข้าใจ จะต้องใกล้อะไรกันขนาดนั้น
"ผมว่าคุณไปสนใจงานของคุณดีกว่ามั้ง ตรงนี้น่ะ เขามีคนดูแลอยู่แล้ว คนของคุณทางฝั่งโน้นดูท่าทางจะกำลังมองหาคุณอยู่นะ" ไอ้พี่ดิวพยักพเยิดไปทางด้านหลังผม ซึ่งก็คงจะเป็นโอลีฟนั่นแหละ
"คนของผม อยู่ตรงนี้" เสียงแบบฉบับมาเฟียในคราบบอดี้การ์ดถูกนำมาใช้อีกครั้ง บอกตรงๆว่ากำลังโมโหมากจริงๆครับ
"เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ซินไม่ใช่ 'คนของคุณ' แล้วนะ"
"ถามซินเองดีกว่ามั้ย ว่าเป็นคนของใคร" ผมพูดช้าๆ และหันมามองหน้าซินที่กำลังมองผมอยู่เช่นกัน
ซินมองผมนิ่งๆไปสักพัก ก่อนจะตอบ
"เราไม่ใช่คนของใคร" ก็รู้แหละครับว่าเขาจะต้องตอบแบบนี้อยู่แล้ว ซินจะมาบอกว่าเขาเป็นคนของผมได้ยังไงกัน แต่ลึกๆในใจก็อยากจะให้เขาพูดอกมา เห็บไรบ้าพวกนี้มันจะได้หมดๆไปซะที
"ได้ยินชัดแล้วนะครับ งั้นเชิญครับ กลับที่ของตัวเองดีกว่านะผมว่า เป็นผม ผมจะ'รู้ตัวเอง'" ทุกคำที่มันพูด จงใจยั่วโมโหกันชัดๆนะครับ ทำเอาขาก้าวเข้าไปหามันอย่างลืมตัว แต่ก็ต้องหยุดลงเพราะมีคนรั้งเอาไว้ก่อน
แต่คราวนี้ไม่ใช่ซิน ...เป็นกัส ที่ดึงแขนรั้งผมเอาไว้
"ผมว่าพี่กลับไปหานายจ้างพี่ก่อนดีมั้ย เดี๋ยวตรงนี้ผมจัดการเอง" เสียงน้องพูดขึ้นเบาๆ ทำให้ผมหันไปมอง กัสกำลังทำหน้าลำบากใจอยู่กับเหตุการญ์ตรงนี้ แต่ผมกำลังหงุดหงิด มากด้วยครับ และพร้อมจะสลัดแขนออกจากมือมันได้ทุกเมื่อ
แต่ก่อนที่สถานการณ์จะแย่ไปกว่านี้ เสียงใครอีกคนก็ดังแทรกขึ้นมาซะก่อน
"นัท..." โอลีฟที่แยกออกมาจากกลุ่มเพื่อน กำลังจะเดินเข้ามาตรงนี้ กัสปล่อยมือจากแขนผมทันที
"มาทำอะไรตรงนี้คะ โอลีฟมองหาตั้งนาน พอดีอยากจะไปเข้าห้องน้ำ ...แล้วนี่มีอะไรกันหรือเปล่า" โอลีฟมองผมทีหนึ่ง เลื่อนสายตาไปหาไอ้ดิว และมาหยุดอยู่ตรงที่ซิน
"ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมว่าบอดี้การ์ดของคุณโอลีฟเขาอาจจะเข้าใจผิดอะไรสักอย่าง" ไอ้พี่ดิวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มนิดๆที่ส่งมาให้ผมโดยเฉพาะ
อยากจะซัดให้ปากมันแตกจริงๆ เอาให้ปากมากไม่ได้ไปเลย
"นัท ไปเถอะค่ะ โอลีฟอยากเข้าห้องน้ำ ไม่อยากไปคนเดียว" เสียงเร่งจากโอลีฟทำให้ผมเผลอกัดปากตัวเองอย่างชั่งใจ
"ไปเถอะ" เสียงเบาๆจากคนตัวบางด้านหลัง ทำให้ผมสะบัดหน้าหนีจากที่ตรงนั้น และเดินออกมา โดยมีโอลีฟเดินนำหน้าผมอยู่
บางทีก็อยากให้เขารั้งผมเอาไว้เหมือนกันนะ
แต่สิ่งที่ผมหวัง...มันคงจะมากไป
ผมเดินตามโอลีฟไปเงียบๆ จนถึงห้องน้ำ และยืนเฝ้าอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอเธอ ในหัวตอนนี้มีแต่เรื่องซินกับไอ้เวรนั่น มันจงใจยั่วโมโหผมชัดๆ แล้วมันจะผิดมั้ยนะที่ลึกๆแล้วผมก็แอบโมโหซินด้วยเหมือนกัน
ซินก็รู้ว่าผมไม่ชอบ แต่ก็ยังไปใกล้มันอีก ถึงแม้ว่าจะคุยกันแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่คิดอะไรเลยซะหน่อย ทำไมไม่เข้าใจกันบ้างนะ
แรงสั่นจากโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมหยิบมันขึ้นมาดู พบข้อความข้อความหนึ่งที่ถูกส่งเข้ามา
'ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ นักข่าวเยอะขนาดนี้ ไหนบอกว่าจะควบคุมตัวเอง' ไม่ต้องเดาก็รู้ใช่มั้ยครับว่าข้อความจากใคร
หึหึ ไอ้นัทผิดตลอดแหละครับ ใครจะทำอะไร จะพูดอะไร ไม่ผิดเลย
ผมเก็บโทรศัพท์กลับทีเดิมโดยที่ไม่ได้ส่งอะไรตอบกลับไป พร้อมกันกับที่โอลีฟเดินออกมาพอดี
"เป็นอะไรหรือเปล่า เห็นทำหน้าเครียดๆนะ"
"เปล่าครับ ไม่ได้เป็นอะไร"
"เมื่อกี้โอลีฟตกใจมากเลย หันกลับมาก็ไม่เจอนัทแล้ว มองหาตั้งนานก็ไม่เจอ"
โอลีฟพูดมาถึงตรงนี เล่นเอาความรู้สึกผิดพุ่งวูบเข้ามาทันที นี่ผมทิ้งนายจ้างให้อยู่คนเดียวได้ยังไง ถึงจะมีเพื่อนอยู่ด้วยก็เถอะ แต่ก็ไม่ควรเลยจริงๆที่จะทิ้งเธอเอาไว้แบบนั้น และไปสนใจอย่างอื่นแทน อย่างอื่นที่ไม่สนใจผมสักนิด
"ขอโทษจริงๆครับ พอดีมีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย"
"มีอะไรกันหรือเปล่าค่ะ ตอนโอลีฟเดินเข้าไปเห็นทำหน้าเครียดๆกัน"
"อ๋อ เปล่าครับ ไม่มีอะไร คุณโอลีฟเข้างานดีกว่า"
..........
แล้วงานวันนี้ก็ผ่านไปอย่างทุลักทุเลสำหรับผมมาก หลังจากที่ไปส่งโอลีฟที่บ้านเสร็จก็ต้องมานั่งระงับอารมณ์ตัวเอง ตั้งแต่ไปส่งโอลีฟเข้าห้องน้ำตอนนั้น ผมไม่ได้เดินเข้าไปเฉียดใกล้ซินอีกเลย และพยายามที่จะไม่หันไปมองทางนั้นด้วย เพราะกลัวว่าภาพที่เห็น จะทำให้อยากเดินเข้าไปอีกครั้ง
ส่วนซินเอง เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้ส่งข้อความกลับไป เขาก็ไม่ได้ส่งอะไรมากอีก ไม่โทรหาผมด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นอีกแหละ เขาจะโทรหาผมทำไม ผมไม่ใช่เหรอที่ควรจะโทรหาเขา ก็มันเป็นแบบนั้นทุกที...
เป็นผม ที่ต้องเดินเข้าหาซิน...เป็นซิน ที่รออยู่เฉยๆ เพื่อให้ผมเข้าไป
ก็เป็นแบบนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอ
เฮ้อ...
ถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อยในรอบวัน สวนสาธารณะที่ผมมาบ่อยๆตอนนี้ล้างผู้คนไปแล้วครับ สามทุ่มจะสี่ทุ่มแล้วแบบนี้ ไม่มีคนก็ไม่แปลก แต่บรรยากาศดีๆแบบนี้ไม่อยากต้องมานั่งคนเดียวเลยจริงๆ แต่ติดตรงที่คนที่อยากให้มาด้วยเขาไม่ได้มากับเรา
โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าดังขึ้นอีกครั้งทำเอาผมรีบควักมันออกมาดู ในใจก็คิดไปว่าอาจจะเป็นซิน แต่อีกใจก็รู้ดีว่าไม่ใช่หรอก ซินจะโทรมาทำไม และก็จริงอย่างที่คิดครับ เพราะคนที่โทรมาก็คือ
ไอ้กัส...
"...." ผมกดรับสาย แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป มันจึงพูดขึ้นมาก่อน
(พี่นัท)
"มีไร"
(อยู่ไหนเนี่ย คุณลุงบอกให้โทรมาตามว่าทำไมบ้านช่องไม่กลับ งานเสร็จแล้วไม่ใช่หรือไง)
"โทรตามทำไม ทุกทีไม่เคยเห็นโทร"
(ก็ไม่รู้ จะคุณกับคุณลุงป่ะล่ะ) พอไอ้กัสพูดจบก็มีเสียงพ่อแว่วๆมาจากอีกฝั่ง จับใจความได้ว่า
(เฮ้ยๆ ไม่เอา ไม่ว่าง จะกอดเมีย) = = นั่นแหละครับ พ่อผม เห็นเมียดีกว่าลูกเสมอ แต่เมียพ่อก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกนะ ก็แม่ผมนี่แหละ
"แล้วนายล่ะ ทำไมยังไม่กลับบ้าน ป่านนี้แล้วอยู่ทำอะไร"
(ก็คุณลุงเขาชวนคุย ก็เลยอยู่คุยด้วย พี่นัทเหอะ กลับบ้านกลับช่องเหอะว่ะ อย่ามัวไปเหล่สาวอยู่แถวไหนเลย) เสียงใสๆจากปลายสาย ทำเอาผมแอบดีใจนิดๆ บางที มันอาจจะทำใจได้แล้ว
...หรือเปล่า
หรือมันแค่แกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไร เพื่อที่ทุกอย่างจะได้เหมือนเดิม
แล้ววันนี้ล่ะ มันพูดอะไรกับซิน
"กัส"
(ไรพี่)
"วันนี้พูดอะไรกับซินหรือเปล่า"
(....)
ปลายสายเงียบไปทันทีเมื่อได้ยินคำถามจากผม
"ว่าไง"
(ก็ไม่ได้พูดอะไรนี่ แค่บอกพี่ซินว่า ดูพี่นัทดีๆนะ แอบจีบพี่โอลีฟหรือเปล่าก็ไม่รู้)
"แน่ใจนะ"
(แน่ใจดิ แล้วพี่คิดว่าผมพูดเรื่องอะไรล่ะ)
"ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดเรื่องอะไร แต่ก็อยากให้นายรู้ไว้ว่าก่อนที่จะทำอะไร คิดก่อน เพราะบางสิ่งบางอย่างเมื่อเสียมันไปแล้ว เรียกกลับยากนะ อย่างเช่น...ความรู้สึก"
(พี่นัทแม่งบ่นเรื่องอะไรวะ ไม่เห็นจะเข้าใจ รีบกลับบ้านเหอะ คุณลุงบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย)
"เรื่องอะไร"
(จะไปรู้เหรอวะ คุณลุงจะคุยกับพี่นัทเว้ย ไม่ใช่ผม เออ แค่นี้นะ กลับเร็วๆด้วย เปลืองค่าโทรศัพท์ว่ะ) พูดจบไอ้เด็กบ้านี่มันก็วางสายไปเลย
อะไรของมันวะ
ผมส่ายหัวช้าๆ ลุกขึ้นจากม้านั่ง บิดตัวไปมายืดเส้นยืดสาย เพื่อจะกลับบ้านตัวเอง นี่สรุปว่าผมกับซินเราทะเลาะกันอยู่หรือเปล่านะ...
ช่างเถอะ ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องได้เจอ เพราะซินจะเข้าบริษัทพรุ่งนี้ และวันนี้ก็หมดหน้าที่ของผมกับโอลีฟแล้วด้วย แบบนี้พรุ่งนี้ต้องจัดเต็ม... เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้รอได้เลยซิน...
ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในบ้าน ก็พบสายตาสามคู่พุ่งตรงเข้ามาทันที ไอ้กัสก็ยังอยู่ด้วย ทั้งสามคนที่กำลังพูดคุยเรื่องอะไรกันอยู่ก่อนแล้วหยุดลงเมื่อเห็นว่าผมเดินเข้ามา แหม... ดูหนังกินของว่างกันอย่างมีความสุขเลยนะครับ ทำเป็นครอบครัวสุขสันเลยนะ นี่ผมเป็นส่วนเกินหรือเปล่าเนี่ย
"กลับมาแล้วเหรอลูก" เป็นแม่ที่ทักผมขึ้นมาก่อน
"กลับมาแล้วครับ" ผมตอบรับและเดินไปนั่งที่โซฟาตัวที่ว่างอยู่
"ไงไอ้แสบ บ้านช่องไม่กลับเลยนะ"
"ไรอ่ะ มาถึงก็ไล่กันเลยนะ ทำไมอิจฉาอ่ะดิ พ่อแม่ไม่รักหรือไง"
"กลับบ้านไปเลยป่ะ" เบื่อจะเถียงกับมันจริงๆ วันนี้ยิ่งอารมณ์ไม่คงที่อยู่
"นัททานอะไรมาหรือยังลูก แม่ทำอะไรให้ทานเอามั้ย"
"แวะกินมาแล้วครับ ไม่เป็นไร"
"อะไรหรือเปล่า น่าทางเหนื่อยๆนะ" แม่ถามพร้อมกับลุกขึ้นเดินมานั่งข้างๆผม เลยได้ทีทำตัวเป็นลูกแหง่อ้อนแม่ซะหน่อย
"เหนื่อยมากกก"
"สำออยล่ะสิไม่ว่า" พ่อครับ ด่ากันตลอดอ่ะ
"แหมพ่อนี่ล่ะก็ ว่าลูกตลอดเลย" สมน้ำหน้าโดนแม่ว่า ฮ่าๆๆ แหนะๆ มีการค้อนกันอย่างน่ารักน่าเอ็นดู (?)
"พ่อมีเรื่องจะพูดกับผมเหรอ ที่ไอ้กัสบอก"
จากบรรยากาศร่าเริงเมื่อกี้ กลายเป็นความเงียบขึ้นมาแทนที่ แม่ที่กำลังลูบหัวผมอยู่ชะงักมือไปทันที ไอ้กัสที่กำลังเคี้ยวขนมตุ้ยๆก็หยุดเคี้ยวไปซะเฉยๆ
...แบบนี้เป็นสัญญาณที่ไม่ดีแน่ๆครับ
"เดี๋ยวแม่เข้าไปดูในครัวหน่อยดีกว่า ไม่แน่ใจว่าเก็บเรียบร้อยดีหรือยัง" ผมมองแม่ที่อยู่ดีๆก็ลุกขึ้นไปซะเฉยๆ
"เอ่อ คุณป้าครับ เดี๋ยวผมไปช่วย"
ไอ้กัสก็วิ่งตามแม่ไปอีกคน ตอนนี้จึงเหลือแค่ผมกับพ่อที่กำลังนั่งจ้องหน้าผมอยู่ ไม่ชอบแบบนี้เลยจริงๆ อะไรกันอีกเนี่ย วันนี้เจอเรื่องแย่ๆมาพอแล้วนะครับ ขอให้ผมได้พักบ้างได้มั้ย
"ทำงานวันนี้เป็นไง เข้ากับโอลีฟได้มั้ย"
"ก็โอเค ไม่ได้มีอะไร"
"เข้ากันได้มั้ย"
"ก็ปกติ เหมือนทำงานกับคนอื่นๆนั่นแหละ พ่อถามทำไมเนี่ย"
"ถ้าเข้ากันได้ดี ก็น่าจะทำงานด้วยกันได้..."
"ทำงานด้วยกันแค่วันเดียว ไม่เห็นต้องคิดมากขนาดนั้นเลย"
ผมรีบตัดบทก่อนที่พ่อจะได้พูดอะไรต่อ ผมว่าผมพอจะเดาได้ว่าพ่อจะพูดเรื่องอะไร เพราะฉะนั้นชิ่งตัดหน้าไปก่อนดีกว่า ถ้าสิ่งที่ผมคิดอยู่มันเป็นเรื่องจริง มันต้องไม่ดีสำหรับผมมากแน่ๆ
"เดี๋ยวผมขึ้นไปนอนก่อนดีกว่า เหนื่อยแล้ว อยากพัก"
"ฉันจะให้แกมาเป็นบอดี้การ์ดให้โอลีฟถาวรไปเลย แล้วก็ให้กัสไปเป็นบอดี้การ์ดให้ซิน มันปิดเทอมว่างๆก็อยากให้ลองงานดู อีกอย่างโอลีฟเป็นผู้หญิง ก็น่าจะต้องการการดูที่มากกว่าซินอยู่แล้ว อีกอย่างทางด้านนั้นก็เป็นลูกสาวเพื่อนฉันเอง ส่งแกไปเขาก็จะสบายใจกว่า"
นั่นไง... ซื้อหวยไม่ถูกวะครับ
"อะไรอีกแล้วอ่ะพ่อ อยู่ๆดีก็ย้ายให้ผมไปทำงานกับเขาวันนึง ผมก็ไปทำให้แล้ว แล้วนี่จะอะไรอีกล่ะ มันไม่ใช่งานผมเลยนะ งานของผมคือซิน แค่ซินคนเดียว ผมไม่รับงานโอลีฟ พ่อให้ไปกัสไปทำแล้วกัน ไอ้กัสก็ไว้ใจได้ไม้แพ้ผมหรอก"
ครั้งนี้ ผมไม่ยอมง่ายๆหรอกนะครับ เรื่องอะไรล่ะ กว่าจะมาถึงขั้นนี้ผมต้องพยายามมามากแค่ไหน อยู่ดีๆพ่อจะมาจับผมแยกกับซินได้ยังไงกัน เวลาของเราที่ได้เดินตรงกันแล้ว เรื่องอะไรผมจะต้องทำให้มันคลาดกันอีกล่ะ ไม่มีทาง...
"แต่นี่คือคำสั่งฉันนะ"
"ผมทำตามที่พ่อขอมาทุกอย่างแล้ว ยอมทิ้งความฝัน ยอมเลิกเล่นดนตรี ยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเคยรักมากเพื่อพ่อ เพื่อโรงฝึก คราวนี้ถึงตาผมขอบ้างได้มั้ย ขอผมทำตามใจตัวบ้าง ให้ผมได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง" ผมพูดด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำเพื่อให้พ่อเข้าใจ
"ฉันเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แกแล้ว ทำตามที่ฉันบอก แล้วทุกอย่างจะดีเอง"
"ผมรู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมคืออะไร พ่อไม่ต้องห่วงผมหรอก มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมคิดว่าว่าผมตัดสินใจเองได้"
"นัท..."
"วันนี้เหนื่อยมากเลย ผมขอตัวไปพักก่อนนะ"
"ที่ฉันไม่พูด ไม่ได้แปลว่าฉันไม่รู้ไม่เห็นอะไรนะ..."
ขาที่กำลังจะก้าวออกไปหยุดชะงักลงทันที ความรู้มันเหมือนกับขาหนักขึ้นมาซะเฉยๆ แค่จะขยับเพื่อให้ทรงตัวดีขึ้นยังแทบไม่ได้ มันชาวาบไปหมดทั้งตัวเลยจริงๆครับ นี่พ่อกำลังพูดเรื่องอะไรกัน ...ไม่ใช่เรื่องที่ผมกำลังคิดอยู่ใช่มั้ย
"จะทำอะไร คิดถึงความรู้สึกแม่แกบ้างนะ"
ให้ตายสิ ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย เหมือนโลกมันจะเอียงๆไปนะ เอ๊ะ หรือว่าผมเมา กินอะไรเข้าไปนะ ทำไมมันรู้สึกผะอืดผะอมแบบนี้ เหมือนจุกอะไรสักอย่าง หายใจไม่ทั่วท้องเลยจริงๆ คิ้วมันขมวดเข้าหากันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็ปวดหัวหนึบไปแล้ว ความรู้สึกแปลกๆนี้มันอะไรกัน ความรู้สึกนี้มัน...
รู้สึกผิด... ผมผิดอะไร ผมแค่รักซิน
แค่นี้... ผมผิดด้วยเหรอ
แค่ผมรักซิน... ผมกลายเป็นลูกที่ไม่ดีไปเลยหรือไง
"ผมไม่เข้าใจ พ่อพูดเรื่องอะไร" ผมเอ่ยถามออกไปเสียงเบา
"แกน่าจะรู้ดี ว่าฉันพูดเรื่องอะไร กลับไปลองคิดดูดีๆ ว่าสิ่งที่แกเลือกตอนนี้มันถูกต้องหรือเปล่า คิดถึงอนาคต คิดถึงความเป็นไปได้ แต่ไม่ว่าจะยังไง คิดถึงหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ด้วยแล้วกัน"
ผมก้าวขาชาๆออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว เดินขึ้นบันไดมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว สติกลับมาอีกทีก็ตอนเดินชนเข้ากับประตูตัวเองนั่นแหละ หัวโขกเข้าให้เต็มๆ ตื่นตัวเต็มที่เลยครับ
ไอ้นัทเอ๊ยยย บ้าบอจริงๆว่ะ
ผมเดินเข้ามาในห้อง หย่อนตัวลงบนเตียงนุ่มๆ แหละแผ่หลาลงอย่างหมดเรี่ยวแรง พ่อรู้ พ่อเห็นอะไรมา แล้วพ่อรู้มากแค่ไหน พ่อรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผมกับซินบ้าง หรือว่าใครไปพูดอะไร...
ไอ้กัส
ชื่อนี้โผล่เข้ามาในหัวผมทันที วันนี้มันก็ทำตัวแปลกๆกับซินไปแล้ว แถมคนในบ้านนี้ก็มีแค่มันที่รู้เรื่อง หรือว่าจะเป็นมันที่บอกพ่อ จะทำถึงขึ้นนั้นเลยเหรอ มันจะอยากทำร้ายผมถึงขนาดนั้นเลยหรือไง ปกติไอ้กัสก็ไม่ใช่คนแบบนั้นเสียหน่อยนะ ถึงมันจะดื้อ แต่ก็ไม่ใช่เด็กไม่ดี ไม่ใช่คนที่เห็นแก่ตัวขนาดนั้น...
แต่ก็มีแค่มันที่รู้
หรือจะเป็นมันจริงๆ
โอ๊ยยยยย ปวดหัวโว้ยยย ไม่อยากคิดอะไรแล้วเนี่ยยย ทำไมช่วงนี้มันมีแต่เรื่องแบบนี้นะ
ไอ้ตัวดีก็ไม่โทรหาผมเลย จิตใจนี่จะให้ผมโทรหาอยู่คนเดียวเลยหรือไงเนี่ย ไม่เคยคิดถึงกันก่อนเลยใช่มั้ยเนี่ย หงุดหงิดๆ
ผมคว้าโทรศัพท์ขึ้นมามองก็พบว่าตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าซินจะอาบน้ำนอนหรือยังนะ แต่ป่านนี้แล้วน่าจะอาบน้ำแล้วแหละ คงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง มีไอ้คุณทองกับแสงดาวนอนเกยอยู่บนตักแหงๆ มือก็คงกำลังเกาคางให้ไอ้สองตัวนั้นอยู่
แต่พอนึกถึงใบหน้าหวาน ภาพวันนี้ก็ลอยเข้ามาในหัวอีกครั้ง
'เราไม่ใช่คนของใคร...'
คำพูดเย็นชาจากอีกฝ่ายที่ผมควรจะชินได้แล้ว แต่กลับไม่ชินสักที
โอเค ยอมรับว่าวันนี้ความผิดมาจากผมเต็มๆ ระเลยหน้าที่ของตัวเอง แถมยังหึงไม่เข้าเรื่องอีก ในงานมีคนเยอะแยะ แต่ผมกลับไม่ยอมควบคุมตัวเองให้มากกว่านี้ ยังดีที่ไม่ได้มีใครสนใจ ซินจะโกรธก็ไม่แปลก
แต่บางที คิดถึงความรู้สึกผมบ้างได้มั้ย ผมเองก็น้อยใจ เสียใจเป็นนะครับ บางทีก็อยากให้แสดงออกว่ารักกันบ้าง อย่างน้อยผมก็อยากรู้ตัวว่าผมเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับซินนะ เหมือนกับเขาที่สำหรับที่สุดสำหรับผม ไม่ต้องแสดงออกมากก็ได้ แต่ช่วยพูดอะไรที่มันเข้าข้างผมบ้างสิ ไม่ใช่พูดจาใจร้ายแบบนั้น ไม่ใช่ปล่อยปะละเลยกัน
ในขณะที่ผมกำลังตีอกชกหัวของตัวเองอยู่นั่นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นซะก่อน ป่านนี้แล้ว ใครจะยังโทรหาผมอีก ถ้าไม่ได้มีธุระอะไร พ่อจะด่าให้ญาติเสียเลย คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่...
...ซิน
ชื่อคนโทรเข้าทำเอาตาแทบถลน เด้งตัวขึ้นจากเตียงเพื่อมองชื่อนั้นให้ชัดๆอีกที
ซินโทรหาผม!!! กรี๊ดดดด ขอสาวแตกแป๊บนึงนะ >///<
"ฮัลโหล!" ด้วยความดีใจ เลยเผลอทักทายกันไปฮาร์ดคอร์นิดนึง
(ตะโกนทำไมเนี่ยนัท! ตกใจหมดเลย)
"ฮะๆๆ ขอโทษๆ" ดีใจมากไปหน่อย แต่ไม่บอกหรอกนะ เดี๋ยวได้ใจ หึหึ
(ทำอะไรอยู่)
"ไม่ได้ทำไร นอนเฉยๆ"
(ถึงบ้านนานแล้วเหรอ)
"ก็สักพักแล้ว"
(อืมม...)
เสียงหวานตอบรับ และเงียบหายไปสักพัก ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าซินจะทำยังไงนะ ที่โทรมาหากันนี่ มีอะไรที่อยากจะพูดอยากจะบอกหรือเปล่า
(นัท) อยู่ดีๆซินก็เรียกชื่อผมขึ้นมาซะเฉยๆ
"ครับ"
(วันนี้ โกรธหรือเปล่า)
>////< จะง้อเค้าล่ะเค้าสิตัววว หึหึ ลืมเรื่องเครียดไปแล้วครับ ณ ขณะนี้
"โกรธเรื่องอะไรล่ะ" แอบใส่เสียงน้อยใจไปนิดๆ เพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจ ตอแหลล้วนๆเลยครับ
(เรื่องที่นัทงี่เง่าจนเกือบทำให้เราเดือดร้อนไง)
เอ่อ... ไม่น่าจะใช่ง้อแล้วล่ะครับแบบนี้ อะไรกันเนี่ย สถานการณ์พลิกผันเร็วเกินไปอ่ะ
"ขอโทษครับ ทีหลังจะไม่ทำอีก" ในเมื่อผมผิด ผมก็ต้องขอโทษ ถูกต้องแล้วใช่มั้ยครับ อีกอย่าง ถ้าอีกคนคือซิน ถึงผมไม่ผิด ผมก็ยินดีที่จะขอโทษนะ ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และมันจะทำให้เราคืนดีกัน
(ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกทีอ่ะ คราวนั้นก็บอกว่าจะไม่ทำอีก แล้วดูสิเนี่ย วันนี้เป็นไง)
"ก็มันไปเอง ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆนะ"
(...แต่วันนี้เราก็ขอโทษนะ)
แต่วันนี้เราก็ขอโทษนะ แต่วันนี้เราก็ขอโทษนะ แต่วันนี้เราก็ขอโทษนะ แต่วันนี้เราก็ขอโทษนะ...
=[]= ช็อกตายไปแล้วเรียบร้อยครับ ตามปอเต็กตึ๊งมาเก็บศพผมด้วย...
ซินขอโทษผมด้วยอ่ะ! หูฝาดไปหรือเปล่านะเมื่อกี้นี้ ยิ้มจนปากจะฉีกไปถึงใบหูกันเลยทีเดียว อ๊ายย อารมณ์สาวน้อยเข้าครอบงำชั่วขณะ อยากจะบิดไปบิดมาให้ได้อารมณ์ประมาณว่าโดนสารภาพรัก
(ฟังอยู่รึเปล่าเนี่ย)
"ฟังอยู่สิ กำลังดีใจ ><"
(เว่อร์)
"ไม่เว่อร์ นานๆทีคนน่ารักจะทำตัวน่ารัก"
(ด่าเราหรือเปล่าเนี่ย) จากเสียงใสๆ เปลี่ยนไปเป็นขุ่นเลยครับ ฮ่าๆ
"ใครจะว่าน้องซินลงล่ะครับ แหม่ น่ารักซะขนาดนั้น หนุ่มๆแวะมาหยอดขนมจีบกันไม่ขาดสายเลยนะครับ อย่านึกนะว่าพี่ไม่เห็น"
(ลามปามแล้วนัท เดี๋ยวเหอะๆ)
"ฮ่าๆๆ คิดถึงจังเลยซิน อยากกอดอีกแล้วอ่ะ"
(หลับฝันเอาคืนนี้แล้วกัน)
"ไม่เอาหรอก จะไปกอดของจริงพรุ่งนี้"
(หึ!) เสียงขำของซินทำให้ผมยิ้มตาม ถึงแม้จะเป็นเสียงขำแบบชวนขนหัวลุกก็เถอะนะ
ให้ตายสิ เป็นแบบนี้ทุกทีเลย เจอเรื่องแย่ๆมาแค่ไหน แต่พอได้ยินเสียงซินมันก็หายไปหมดทุกที แบบนี้มันจะทำให้ผมนิสัยเสียนะ เพราะถ้าแค่มีซินอยู่ก็ไม่เป็นไร ไม่รู้ว่าจะทำให้รักกันไปจนถึงไหน แค่นี้ก็รักจะตายอยู่แล้ว รักจนไม่อยากให้หายไปไหน อยากให้อยู่ใกล้ๆตลอดเวลา ไม่อยากให้หายไปเลย...
ถ้าไม่มีซินตอนนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ยังไง
"ซิน"
(ว่าไง)
"พรุ่งนี้เจอกันนะ"
(...อืม พรุ่งนี้เจอกัน)
พรุ่งนี้ที่ยังไม่รู้ว่าจะมีได้อีกกี่วัน...
TBC.
...
มาม่ามั้ยตอนนี้ ไม่มาม่าหรอกเน้อะะะะ
ฮ่าๆๆ
ทุกคนยังอยู่กันมั้ยยย คิดถึงงง หายไปหลายวัน ขอโทษนะคะ

เค้ามีสอบ
ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ >< สำหรับคนที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้ก็ขอบคุณมากๆเลยค่า
ดีใจน้าที่ยังอยู่ด้วยกัน ^^ รักทุกคนเลย
ส่วนเรื่องแยกวงนั้นขอเป็นน้องดาวโลกสวยได้มั้ยคะ

ไม่อยากคิดว่าเค้าจะแยกกัน ยังไงก็จะรอต่อไปค่ะ
เป็นกำลังใจให้พี่ๆทั้งสองคนเสมอ <3
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นเช่นเคยนะคะ มีความสุขที่ได้อ่านทุกๆเม้นเลยน้า
เจอกันตอนหน้าเด้อ