The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018  (อ่าน 445193 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เอาใจช่วย นักเขียนค่ะ เนื้อเรื่องสนุกมาก น่าติดตามจนวางไม่ลงเลย

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
นึกว่าจะไม่ได้ใช้ฝูงหมาป่าซะแล้ว สุดยอดมาก

เริ่มรู้ใจกันมากขึ้นละนะ แบบนี้สิจะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ

ไม่รู้ว่าจะพาหนูน้อยจีน่าพักค้างแรมที่ไหนกันนะ ถึงจะปลอดภัย

จะทำเป็นคบบนต้นไม้่ หรือจะปนอนตามผาสูงลมโกรกดีนะ

อ๊ะ...คิดไปก็ปวดหมอง รอดูตอนหน้าดีกว่า :hao7:


ปล.บวกหนึ่งให้แล้วนะ ไม่ได้บวกนานเลย

ออฟไลน์ tutankamen

  • ผีสิงประจำเล้า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • Facebook ของผมเองครับ
ช่วงนี้หน้าหนาวพอดี แนะนำ จีน่า ไม่ต้องอาบน้ำซัก 1 เดือนนะครับ เหอๆ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
รู้ใจกันอย่างนี้ สงสัยตอนรักกันคงรู้ทันกันเร็วอยู่

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 124 At Night

 

“ธัน เอาไงกันต่อดี”

 

            เสียงของเฟี๊ยตเอ่ยดังขัดความเงียบในเวลาเกือบมืดสนิทนั่นขึ้น วิธีการเดียวที่จะทำให้เด็กคนที่เขากำลังปกป้องอยู่นี่ไม่ถูกตามล่าจากมอนสเตอร์คือต้องทำให้ลมพัดผ่านตัวเธอไปตลอดเวลา เงื่อนไขนี่อาจจะไม่ยากเย็นนักในเวลากลางวัน เพราะว่าพวกเขาเดินทางกันโดยใช้เปกาซัสได้อย่างไม่ลำบากเท่าไหร่นัก แต่มันจะกลายมาเป็นปัญหาในยามกลางคืนอย่างมากทีเดียว เพราะว่าพวกเขาไม่อาจหลับบนหลังเจ้าเปกาซัสได้แน่นอน พวกเขาต้องการการพักผ่อน จิตของเขาจะคลายจากการควบคุมการ์ด และหลังจากนั้น ศัตรูที่ไม่อาจคาดเดาได้จะเข้ามาเยี่ยมเยียนในยามที่พวกเขาไม่รู้สึกตัว เพียงแค่คิดเท่านี้ สมองของเฟี๊ยตก็มึนตื้อไปอย่างหาทางออกไม่เจอเลย

 

            “คงต้องหาที่พักก่อน คิดไม่ออกเหมือนกัน แต่จะไม่ไหวแล้ว จิตจะเกลี้ยงแล้ว”

 

            ธันสารภาพออกมาอย่างตรงไปตรงมา เด็กหนุ่มฝืนใช้จักระในช่วงสุดท้ายของวันนั่นอย่างหนักหน่วง การเดินทางไปบนอากาศนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การควบคุมเจ้าเปกาซัสนี่เปลืองพลังงานกว่าที่คิดมาก แต่ที่เขายังคงต้องฝืนเดินทางไปเรื่อยๆ ทั้งที่ฟ้าเกือบจะมืดสนิทนั่นเพราะว่าเขายังไม่เจอที่พักที่ดีเพียงพอจะพักได้ เขาหมายตาหน้าผาสูงที่น่าจะมีลมพัดโกรกอยู่ตลอดเวลา แต่ตัวเขาเองก็ต้องผิดหวังอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าจะมีภูเขาเลียบไปกับป่าทิวสนนั่นโดยตลอด แต่ก็ไม่มีหน้าผาตอนไหนที่มีลักษณะเหมาะสมพอจะใช้พำนักอาศัยได้เลย ธันได้แต่เก็บความกลัดกลุ้มใจนั่นไว้ในใจลึกๆ เขาไม่อยากให้เด็กน้อยนี้รู้สึกผิดที่ทำให้เขาทั้งคู่ตกอยู่ในภาวะลำบากเลย

 

 

            “หน้าผาตรงนั้นไหมธัน น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงนะ พักเถอะ ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างอื่นเอาไว้ก่อน ยังไงก็ต้องหาที่พักให้ได้ในคืนนี้”

 

            เฟี๊ยตพูดออกมาพร้อมชี้ไปที่หน้าผาแคบๆ ตอนหนึ่งที่อยู่เยื้องไปเบื้องหน้าไม่ห่างออกไปนัก มันมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบกว้างประมาณ 20 ตารางเมตรเห็นจะได้ ด้านหลังชนกับหน้าผาสูงใหญ่ที่ทอดสูงขึ้นไป ในขณะที่เบื้องหน้าเป็นทางลาดตัดลงสู่พื้นเบื้องล่างที่ประมาณความสูงตึก 3 ชั้น ธันหรี่ตาเล็กน้อยอย่างตัดสินใจ ก่อนจะส่งเสียงตอบรับในลำคอ พร้อมกับกระตุกเท้าเป็นสัญลักษณ์เร่งให้เจ้าเปกาซัสนั่นบินตรงไปที่พื้นที่ดังกล่าว เห็นได้ชัดว่าเฟี๊ยตก็คงมีความคิดในการหาที่พักในคืนนี้ไม่ต่างจากเขาไปเท่าไหร่นัก ธันมั่นใจว่า อีกสิ่งหนึ่งที่เขากับเฟี๊ยตน่าจะคิดตรงกันคือ ภารกิจส่งเด็กน้อยกลับบ้านนี่ลำบากยากเข็ญกว่าที่จินตนาการไว้ตอนแรกมากนัก ลึกๆ ของเด็กหนุ่มแล้ว เขาเองไม่มั่นใจแม้แต่น้อยว่าจะดำเนินมันได้สำเร็จลุล่วงไปได้เลย อนุสติเบื้องลึกเตือนเขาอย่างแผ่วเบาว่า สถานการณ์ตอนนี้หมิ่นเหม่ต่อชีวิตเหลือเกิน บางที เขาอาจจะต้องพ่ายแพ้ลงต่อเกมนี้ตั้งแต่ยังเดินทางไปไม่ถึงครึ่งทางก็เป็นได้

 

 

            “Are you OK darling if we’re being here tonight? (คุณจะโอเคไหม ถ้าพวกเราพักกันที่นี่ในคืนนี้)”

 

            เสียงของเฟี๊ยตเอ่ยถามเด็กสาวขึ้นในขณะที่เจ้าเปกาซัสของธันบินเข้าไปใกล้หน้าผานั่นเต็มทน ชายหนุ่มชี้มือไปที่หน้าผาตัดดังกล่าวเพื่อถามความสมัครใจของเด็กหญิงที่อยู่ในความดูแลของเขา

 

            “I’ve no problem Phiat, but I don’t know whether it affects to my pheromone. I’ve never been any place but May sanctuary except for last night. (ฉันไม่มีปัญหาอะไรนะเฟี๊ยต แต่ไม่รู้ว่ามันจะส่งผลอะไรต่อฟีโมโรนของฉันหรือเปล่า ฉันไม่เคยอาศัยอยู่ที่ไหนเลยนอกจากวิหารพฤษภาคม ยกเว้นเมื่อคืนนี้)”

 

            เสียงเล็กนั่นเอ่ยออกไปตามความรู้สึกของตน ความยากลำบากไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเด็กน้อยคนนี้เลย หากแต่ความกังวลเรื่องคำสาปของตระกูลเธอต่างหากที่กำลังเกาะกุมจิตใจเธออยู่ เสียงของเธอหมองลงอย่างห้ามไม่ได้ทันทีที่พูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้ เธอผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาอย่างโหดร้ายเหลือเกิน

 

            “Nobody can harm you as long as you’re with us darling. Take a deep rest tonight. Regarding others leave them in my care. (ไม่มีใครสามารถทำร้ายคุณตราบเท่าที่พวกเรายังอยู่กับคุณ ที่รัก พักผ่อนให้เต็มที่ในคืนนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง)”

 

            เฟี๊ยตเอ่ยปลอบใจเด็กหญิงที่กำลังหม่นหมองคนนั้นด้วยความสงสารจับจิต พร้อมกันกับที่เท้าทั้งสี่ของเจ้าม้ามีปีกแตะลงบนผาตอนนั้นโดยสวัสดิภาพ

 

 

            “ข้างบนนี้ใช้ได้เลยนะเนี่ย ลมพัดโกรกดี น่าจะพอประทังไปได้ ติดแค่ว่าอาจจะหนาวไปสักหน่อย ยิ่งถ้าตกดึก อากาศบนนี้คงหนาวมากไปกว่านี้อีก”

 

            ธันหันมาเอ่ยแสดงความคิดเห็นกับเขา หลังจากที่พวกเขาทั้งสามขึ้นมายืนบนยอดหน้าผาดังกล่าวแล้ว กระแสลมพัดผ่านช่วงเขาดังกล่าวไม่น้อยเลยทีเดียว เฟี๊ยตถึงกับยิ้มออกให้กับความโชคดีในความโชคร้ายดังกล่าว อย่างน้อย เขาก็พอมีความหวังที่จะผ่านคืนนี้ไปได้อย่างปลอดภัย

 

 

            “Arr… Could you speak English please? I want to know what’s going on. It’s my fault. At least, I should have a hand in this situation. (คุณช่วยพูดภาษาอังกฤษได้ไหมคะ ฉันอยากจะรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นบ้าง มันเป็นความผิดของฉัน อย่างน้อย ฉันควรจะมีส่วนในสถานการณ์เหล่านี้บ้าง)”

 

            เด็กน้อยผมทองคนนั้นเอ่ยขึ้นกับธันโดยตรงเป็นครั้งแรก ท่าทีของเธอดูจะเกรงๆ เด็กหนุ่มอยู่ไม่น้อย จีน่าอาจจะอึดอัดมาเป็นเวลานานที่ธันเองไม่เคยสื่อสารกับเฟี๊ยตเป็นภาษาอังกฤษเลย นั่นทำให้เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เรื่องที่ธันปรึกษากับเฟี๊ยตนั้นมีความตึงเครียดแค่ไหนบ้าง เด็กน้อยทำได้เพียงพยายามดูสีหน้าของชายทั้งสองและตีความเอาเท่านั้นเอง

 

            “I’m sorry but I’m not really good in English. (ฉันเสียใจ แต่ฉันไม่เก่งภาษาอังกฤษจริงๆ)”

 

            ธันเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก พร้อมกับใช้มือขวาลูกศีรษะเด็กหญิงนั่นอย่างเอ็นดู เขายิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรที่สุด ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายขนาดไหน เขาก็ไม่อยากให้เด็กตรงหน้านี่รู้สึกผิดไปกับเรื่องราวเหล่านี้เลย

 

            “Don’t worry about it darling. If you want to know anything, you can inquire me every time. Thun can’t speak fluently, so it’s more convenient for us to use Thai. (อย่ากังวลไปเลยที่รัก ถ้าคุณอยากรู้อะไร คุณสามารถถามผมได้ตลอดเวลา ธันไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้น มันจะสะดวกกว่าถ้าพวกเราจะใช้ภาษาไทย)”

 

            เฟี๊ยตหันไปพูดกับเด็กน้อยอีกครั้ง พร้อมกับส่งรอยยิ้มให้ จีน่าจึงยินยอมในข้อตกลงนั้นโดยดี เธอหันไปยิ้มให้ธันอีกครั้ง ก่อนจะนั่งพักลงตรงโขดหินบริเวณนั้น

 

            “โกหกเด็กหนะมันบาปรู้ไหม ทีแต่ก่อนหละพูดภาษาอังกฤษได้น้ำไหลไฟดับ ไหงวันนี้ลิ้นเปลี้ยขึ้นมากะทันหันหละ ไอ้แขก ฮ่าฮ่า” เฟี๊ยตถือโอกาสนั้นกระเซ้าธันอย่างขำๆ

 

            “หรือจะให้คุยกันเป็นภาษาอังกฤษไหมหละ เด็กนั่นคงรู้สึกผิดขึ้นอีกจมเลย คราวนี้หละจะบาปหนักกว่าอีก ไอ้ตี๋เอ๊ย”

 

ธันหันไปตอบเฟี๊ยตอย่างไม่จริงจังนัก เขารู้ดีว่าเฟี๊ยตจงใจที่จะหยอกล้อเล่นเท่านั้น ยังไงเฟี๊ยตก็คงเห็นด้วยกับเรื่องนี้อยู่ดี ธันส่ายหัวอย่างไม่สนใจต่อความยาวสาวความยืดนัก พร้อมกับเดินไปหาที่นั่งพักบริเวณที่ไม่ถูกบดบังด้วยเหลี่ยมมุมมาก เขายังจำเป็นต้องสังเกตสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในคืนนี้

 

 

เฟี๊ยตจัดการปรุงยาร้อนขนานหนึ่งให้เพื่อนร่วมการเดินทางอีกสองคน เนื่องด้วยความจำเป็นเรื่องกระแสลมนี่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เภสัชกรหนุ่มจำเป็นต้องหายาสักขนานมาบรรเทาความหนาวของค่ำคืนนี้ เขาจัดการเรียกใช้ห้องแลปเพื่อปรุงยาอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เขามีสมุนไพรสำหรับยาตำรับนี้มาอย่างครบครัน

 

“ประสะไพล RELEASE!”

 

เฟี๊ยตส่งยาตำรับดังกล่าวให้เพื่อนร่วมทีมทั้งสองคน เขาแบ่งปริมาณไว้อย่างไม่เท่ากัน ความจริงแล้วยาตำรับร้อนแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กแบบจีน่าเท่าไหร่นัก แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือกให้เลือกมากแบบนี้ เขาจำเป็นต้องให้ยาเธอด้วยในปริมาณที่น้อยที่สุดที่จะป้องกันไม่ให้เส้นเลือดบริเวณปลายลำตัวของเธอหดเกร็งในคืนที่อุณหภูมิลดต่ำอย่างโหดร้ายในคืนนี้

 

เด็กหญิงรับยาดังกล่าวอย่างเข้าใจดี เธอไม่เอ่ยถามแม้แต่น้อยด้วยซ้ำว่ามันเป็นยาอะไร เธอเชื่อใจเขาอย่างเต็มเปี่ยม ในขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนก็เบ้ปาก ทำหน้ารำคาญๆ ใส่เขา แต่สุดท้าย เจ้าเด็กหน้าแขกนั่นก็กระดกยาแก้วนั้นลงคออย่างรวดเร็ว

 

พวกเขาทั้งสามคนนอนหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน ตอนแรกเขาตั้งใจจะจัดเวรยามในคืนนี้ แต่เมื่อมองถึงความจริงที่ว่า วันรุ่งขึ้นพวกเขาจะต้องใช้จิตปริมาณมหาศาลในการควบคุมเจ้าม้ามีปีกนั่น แผนการดังกล่าวก็เป็นอันถูกพับเก็บไป ระแวงไพรในค่ำคืนนี้ของพวกเขาจึงเป็นเพียงน้ำยาตะไคร้หอมกลิ่นฉุน กับยุงรำคาญที่จะทำตัวเป็นยามสามตาแทนพวกเขาในขณะที่อยู่ในห้วงนิทรารมณ์เท่านั้น เฟี๊ยตได้แต่ภาวนาว่าค่ำคืนที่แสนน่าหวาดหวั่นนี่จะผ่านไปได้ด้วยดี

 

 

‘โอ๊ย’

 

เฟี๊ยตสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึกเนื่องจากมีสิ่งมีชีวิตอะไรสักอย่างหนึ่งกัดเขาที่ปลายแขน ชายหนุ่มปรือตามองอย่างงัวเงียก่อนจะพบว่าเจ้ายุงรำคาญที่เขาฝากฝังภาระไว้บินวนเวียนอยู่แถวๆ ร่างกายเขาอย่างเร่งร้อน เสียงหึ่งๆ ของแมลงตัวเล็กพวกนี้ดังชัดเจนในยามที่เงียบสงัดเช่นนี้

 

อนุสติแรกร้องเตือนเขาดังก้องในใจว่าสถานการณ์ดูจะย่ำแย่เสียแล้ว เพราะสถานที่พักแรมของเขาที่ดูจะเป็นบริเวณที่ลมพัดโกรกตลอดคืน กลับสงบไร้การเคลื่อนที่ของมวลอากาศทั้งหมดทั้งสิ้นในกลางดึกนี่ เขาไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าช่วงเวลาที่เขาหลับไป ฟีโรโมนของเด็กน้อยคนนี้จะกระจายไปไกลถึงไหนต่อไหน พวกเขากำลังเชื้อเชิญศัตรูให้มาหาถึงที่พักโดยที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย

 

แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องเสียเวลาคิดให้มากเลย เพราะยังไม่ทันที่เขาจะตั้งตัวได้อย่างมีสติสัมปชัญญะเต็มร้อยนั้น แหวนคู่ใจของเขาก็ดังร้องขึ้น เสียงไม่ดังมากนักกรีดความรู้สึกเขาไปหมดทั้งใจ ความหวาดกลัวพุ่งเข้าจู่โจมความรู้สึกเขาอย่างป้องกันไม่ได้เลย

 

 

“การ์ด The Intelligent Ring ค้นพบไพ่สูงสุดจำนวน 1 ใบ ได้แก่ ไพ่สูงสุดลำดับที่ 13 The Revivable Bishop of Darkness from Kongka River (นักบวชแห่งความมืดผู้คืนชีพจากแม่น้ำคงคา)!”



จากผู้แต่ง : ขอขอบคุณ คุณ keniji01 สำหรับคำตอบเรื่องการทำความดีมากเลยครับ อ่านแล้วเข้าใจอะไรขึ้นอีกมาก ว่าจะขอบคุณหลายทีแล้ว ลืมตลอด ขอบคุณมากนะครับบบ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
มันจะตลกไหมถ้าผมจะบอกว่าผมติดนิยายตัวเอง ยิ่งแต่งยิ่งอยากแต่งต่อ ฟินกับเนื้อเรื่องในสมอง อยากให้มันกลายมาเป็นตัวอักษรเร็วๆ ฮ่าฮ่า ผมดูบ้าปะ ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ MarnNoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอตอนต่อไปจ้า สู้ๆนะ

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
หนุกๆๆๆๆๆ

เอาอีกฮะ

ขอให้ผ่านไปด้วยดีนะคับ

ออฟไลน์ mildmint0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
น่ากลัวอ่ะ
นึกภาพตามแล้วแบบสยอง
อึ๋ยยยยยย
แล้วนี่ การ์ดนักสู้แน่เลย
ระดับ 13 ตายๆๆๆๆๆๆๆๆ
จะไหวไม่เนี่ย ขนาดการ์ดแรด
ยังแย่สาหัสเลยนะเนี่ยยยยยยยย

ออฟไลน์ QSAR

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่บ้าหรอกครับ ฟินกับเรื่องในสมองของตัวเอง. คงจะประมาณ แค่คิดก็มันแล้ว. คนอ่านก็คงฟินตามมา หลังจากอ่านผ่านตัวอักษรที่คนแต่งฟินนำไปก่อนแล้ว นี่ถ้าเป็นไปได้นึกถึงนิยายของ Stephen King จะลักพาตัวนักเขียนมาขังไว้  ให้แต่งนิยายให้อ่าน. ผมรับรองว่าไม่โหดร้ายเหมือนนิยายของ King จะทะนุถนอมคนแต่งอย่างดีที่สุด. แต่ออกจะเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อย ให้โลกได้ชื่นชมบ้างเนอะ
ต้องบอกว่าทุกตอนที่จบ คนแต่งมีเรื่องให้ขบคิดตลอด จบเรื่องนี้ คิดเรื่องโน้นต่อ ตอนที่แล้วเนี่ยก็คิดหัวแทบแตกเหมือนกันว่าจะทำไง เรื่อง. pheromone ของแม่หนูน้อย ตอนนี้เอาอีกแล้ว คู่นี้จะมีวิธีรับมือกับไพ่สูงสุดลำดับที่ 13 The Revivable Bishop of Darkness from Kongka River ยังไง มันชวนติดตามจริงๆ
พรุ่งนี้เอาของวันเสาร์มาลงก่อนก็ได้นะคร้าบ จะ refresh เช้าจรดเย็นเลย. สู้ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ทำไมการ์ดสูงสุดออกบ่อยจัง ระดับ 13 แน่ะ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
โอย จะหลับจะนอนซะหน่อย ต้องออกแรงอีกแล้ว สงสารจัง

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
มีเรื่องให้ตื่นเต้นตลอดเลย น่าสนุก แต่จะไหวกันมั้ยเนี่ย ยังไม่ทันได้พักผ่อนจริงจังเลย ต้องมาเจอไพ่ใบเก่งซะด้วย

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
โอ๊ยตายแล้ว คิดอยู่หรอกว่าต้องเจอศัตรูแน่ แต่ถึงกับเจอไพ่สูงสุดลำดับที่ 13 นี่ไม่ไหวเลยนะ แล้วจะรับมือยังไงล่ะเนี่ย รอเอาใจช่วยเฟี๊ยตธันในคืนนี้

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
นึกว่าคืนร้ายๆจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ที่ไหนได้เราคิดผิด

ทำไมดึกมาลมบนผาสูงถึงสงบนะ น่าแปลกหรือว่าลมเปลี่ยนทิศ?

แล้วก็นะเพราะฟีโรโมนของจีน่ามีผลกับพวกปิศาจหรือพวกด้านมืดสินะ

ถึงได้ดึงไพ่ตัวนี้ออกมา

แอบหนักใจแทน เฟี๊ยต-ธัน แต่ก็สู้ๆนะ

รอตอนต่อไปจ้า :mew1:

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:  ลุ้นตลอดเลยอ่ะ

Wednesday

  • บุคคลทั่วไป
พี่คนเขียนสู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ตลอดนะ  :L2:
แม้ว่าช่วงนี้จะไม่ค่อยว่างอ่าน และเม้น เพราะงานเยอะมาก บวกกับ มีสอบอีก

ส่วนเรื่องที่พี่คนเขียนเคยถามว่าเรื่องนี้ยืดเยื้อน่าเบื่อมั้ย??
ขอตอบเลยนะคะว่า "ไม่" มันไม่ใช่การยืดเยื้อแบบน่าเบื่อ
แต่เป็นการบรรยายที่สนุก ครบรส ครบภาพ ครบเสียง น่าติดตาม
เรียกได้ว่าทรงเครื่อง ซึ่งนิยายแบบนี้หาอ่านยากมากกก
โดยเฉพาะที่เป็นนิยายแฟนตาซี วาย ไทย
เพราะฉะนั้น สู้ๆนะคะ  :กอด1:

รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :katai1:
แบบ เสียววูบแทนเลยอ่าาาาา~  ไพ่สูงสุดลำดับที่ 13  คือแค่หกสิบกว่าๆก็ว่ายากละ
นี่ "ไพ่สูงสุดลำดับที่ 13 " :a5: :a5: :o12:

ปล. +1 เป็ดให้ทุกตอนที่ไม่ได้เม้นเบย  :3123:

ปล2. เชื่อปะนี่เป็นคอมเม้นที่ยาวที่สุดที่เคยเขียนมาเลย ไม่เคยเขียนให้เรื่องไหนยาวเท่านี้มาก่อน :mew3:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
สงสารจริง ยังหลับไม่เต็มอิ่มเลย แง่มๆ เดี๋ยวนอนเผื่อให้ (เกี่ยวไหม?)
ไม่แปลกหรอกค่ะถ้าฟินแล้วอยากแต่งออกมา กัอเหมือนคนอ่านแหละค่ะที่ฟิน รออ่านตอนต่อๆไปแล้ว 555
ปล แหม ชอบคู่นี้เวลาหยอกล้อจริงๆ น่ารัก แขกกับตี๋ 5555

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 125 The Reviver

 

            “ธัน”

 

            เสียงของเฟี๊ยตเปล่งผ่านลำคอออกมาอย่างแห้งผากนัก กินเวลาหลายวินาทีหลังจากที่ได้ยินคำบอกเล่าของเจ้าแหวนตรวจจับนั่น กว่าที่เขาจะสามารถเปล่งเสียงเรียกเพื่อนร่วมทีมออกมาได้ ร่างกายของเขาดูจะกลายเป็นอัมพาตไปเสียหมดแล้ว ขึ้นชื่อว่าไพ่สูงสุดลำดับที่ 13 นี่ก็ทำเอาสติของชายหนุ่มแทบกระเจิดกระเจิงไปไม่เหลือชิ้นดี เขาจะผ่านพ้นคืนนี้ไปได้หรือไม่ เขายังไม่กล้าจะคิดเลย

 

            “อืมม”

 

            เสียงของธันเอ่ยขานตอบมาเบาๆ ท่ามกลางความมืดอันเงียบสงบนั่น เด็กหนุ่มขยับตัวเล็กน้อยภายใต้ผ้าห่มนั่น ดูเหมือนว่าสมุดการ์ดคู่ใจจะอยู่ในมือของธันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

            “ตื่นนานยัง”

 

            เสียงของเฟี๊ยตดังกว่าเสียงกระซิบเพียงนิดเดียวเท่านั้น มือของเขาเลื่อนออกไปสั่งเกมคอนโทรลเลอร์เพื่อเรียกใช้สมุดมาเตรียมพร้อมในมือเหมือนกัน

 

            “น่าจะพร้อมกันแหละ สงสัยต้องขอบคุณเจ้ายุงนั่นที่ช่วยปลุกขึ้นมาด้วย หึหึ” ธันสิ้นสุดประโยคด้วยเสียงหัวเราะน้อยๆ ในลำคอ

 

            “คู่ต่อสู้ชื่อว่า นักบวชแห่งความมืดผู้คืนชีพจากแม่น้ำคงคา ไพ่สูงสุดลำดับที่ 13”

 

เฟี๊ยตเอ่ยบอกธันด้วยประโยคบอกเล่าเรียบๆ ต่างจากจังหวะการเต้นของหัวใจที่รัวเร่งจนแทบหลุดออกจากแผงอกนั่น

 

“อื้อหือ กระดูกชิ้นยักษ์เลยนะเนี่ย ไม่รู้ว่าจะเคี้ยวละเอียดก่อน หรือติดคอตายก่อนกันแน่ ลำดับที่ 13 เลยเหรอ ไม่อยากจะนึกสภาพ”

 

“ไม่ลองไม่รู้น่า”

 

“นั่นสิ The Sky Walker RELEASE!”

 

 

ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

 

เสียงดังสนั่นลั่นขึ้นแทบจะทันทีที่สิ้นสุดเสียงคำสั่งของธันพอดี เสี้ยวจังหวะนั้นนับได้ว่าเป็นการตัดสินใจอย่างเฉียบขาดของเด็กหนุ่มก็ว่าได้ ลูกบอลกลมสีดำมืดสนิทพุ่งเข้าชนกำแพงล่องหนนั่น ก่อนที่ตัวมันเองจะแตกสลายตัวเองออก กลายเป็นมวลสสารสีดำแพร่กระจายออกเป็นเสี่ยงๆ กระจายไปกับความดำมืดของรัตติกาลนั่น เด็กหนุ่มรักษาสวัสดิภาพของเฟี๊ยตและจีน่าไว้ในช่วงเวลาที่คับขันที่สุด

 

 

“หอกทราย!”

 

เสียงของเฟี๊ยตสอดรับขึ้นมาทันทีหลังจากการโจมตีจากความมืดนั่นสิ้นสุดลง หอกทรายขนาดเกือบเท่าเสาธงนั่นพุ่งกระแทกไปยังร่างของเจ้านักบวชที่เห็นเพียงรางๆ นั่น มันอยู่ในผ้าคลุมที่ดำสนิทที่สยายออกราวกับว่าจะกลืนไปกับความมืดอย่างนั้น ร่างภายใต้อาภรณ์สีดำมืดนั่นลอยตัวอยู่กลางอากาศราวกับเป็นดวงวิญญาณที่ไม่รู้เจ็บไม่รู้ตาย ร่างในผ้าคลุมสีหม่นนั่นพุ่งไปตามแรงของหอกคมนั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะฉีกเนื้อผ้าขาดทะลุไป และปลดปล่อยให้นักบวชมืดนั่นลอยกลับมาสู่กลางอากาศอีกครั้ง

 

            ไม่แม้แต่น้อย ไม่มีทีท่าแม้แต่น้อยว่าเจ้าไพ่สูงสุดอันดับมรณะนั่นจะได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย มันยังคงลอยตัวโดยมีความมืดเป็นฉากหลังราวกับว่า ร่างกายมันทำด้วยอากาศธาตุอย่างใดอย่างนั้น!

 

 

            “The Second Swords!”

 

            เสียงของธันดังขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าคู่ต่อสู้นั่นได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย ดาบยาวกว่าหนึ่งเมตรสองเล่มพุ่งแหวะอากาศไปทางเจ้าของผ้าคลุมนั่นอย่างรวดเร็ว เจ้าปีศาจนั่นกระเด็นไปตามแรงของดาบคู่นั่นเล็กน้อย ก่อนที่ผ้าคลุมนั่นจะขาด และดาบคู่นั่นจะผ่านไปในความมืดพร้อมกับหายลับสายตาไปอีกครั้ง

 

 

            ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

 

            “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

 

            เสียงนั่นดังขึ้นอย่างรวดเร็วจนแต่ละคนแทบตั้งตัวไม่ติด เริ่มมาจากเสียงปังแรกที่เป็นเสียงของดาบของธันที่หายไปนั้น อยู่ดีๆ ก็พุ่งกลับมาทางพวกเขา มันกระแทกเข้ากับแง่หินข้างๆ ตัวจีน่าอย่างหงุดหวิด เด็กหญิงคนนั้นที่ได้แต่หลบตัวอยู่กับผนังหินผานั่น ด้วยกลัวที่ตนจะไปสร้างความเกะกะให้กับการต่อสู้ของชายหนุ่มทั้งสอง

 

            เสียงกรีดร้องที่สองดังขึ้นตามมาอย่างรวดเร็วหลังจากที่ดาบยาวกว่าเมตรนั่นพุ่งมาปักลงบนแง่หินที่ห่างจากตัวเธอไปไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ เด็กหญิงกรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัวถึงขีดสุด เธอตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด น้ำตาไหลมาจากดวงตาคู่งามนั่นอย่างควบคุมไม่ได้เลย

 

 

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

 

            แต่สองเสียงแรกนั้นดูจะมีความน่าเป็นห่วงน้อยกว่าเสียงที่สามอย่างเทียบกันไม่ได้เลย ทันทีที่ธันได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดถึงขีดสุดดังลั่นขึ้นนั้น เขารีบหันไปที่เพื่อนร่วมทีมด้วยใจที่แทบจะตกไปอยู่ที่ตะตุ่ม และสิ่งที่เขาจินตนาการไว้ก็ไม่ผิดเลย ดาบที่สองของเขาโจมตีไปที่เฟี๊ยตอย่างถนัดถนี่ที่สุด!

 

 

เลือดของเภสัชกรหนุ่มไหลทะลักออกมาจนน่าหวาดหวั่นไปหมด แขนขวาของเฟี๊ยตมีรอยกรีดเป็นทางยาว แหวะจนเห็นกระดูกที่ซ่อนอยู่ลึกเข้าไปนั่น ดาบนั่นพุ่งตรงเข้ามาตัดแขนขวาเขาอย่างบรรจงที่สุด เพียงแต่สันชาตญานเอาตัวรอดของเขาผลักให้ตัวเองถีบตัวหนีรอด ณ เวลานั้น แต่อำนาจของมันก็ไม่มากพอจะหนีจากการโจมตีของเจ้านักบวชมืดนั่นได้เลย ดาบที่เขาเคยเห็นอำนาจการจู่โจมมานักต่อนักนั่นปักเข้าที่แขนขวาเขาอย่างเกือบจะแม่นยำที่สุด อีกไม่องคุลีมันจะป่นทำลายกระดูกต้นแขนของเขาให้ยับเยินไปเสียแล้ว โชคดีเพียงเล็กน้อยในโชคร้ายอันมากมายมหาศาลนั่นยังคงปราณีเขาอยู่บ้าง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความปราณีที่น้อยนิดเหลือเกิน

 

 

            เด็กหนุ่มสายฟ้านั่นวิ่งถลาไปหาเฟี๊ยตอย่างที่เรียกได้ว่าแทบจะคุมสติไม่อยู่ เลือดที่ทะลักรินออกมาจากบาดแผลนั่นน่าเป็นห่วงจนธันแทบจะทำอะไรไม่ถูกเลย แต่ที่น่าเป็นห่วงมากไปกว่านั้นคือควันสีดำสนิทที่โพยพุ่งออกมาจากบาดแผลนั่นตลอดเวลา สติของธันแทบจะกระจายหายไปจนหมด เขาเป็นห่วงคนตรงหน้าจนไม่รู้จะห่วงอย่างไรแล้ว ใจเขาอยากจะมีอำนาจอะไรสักอย่างที่สามารถดลบันดาลให้เขาเองเป็นผู้รับเคราะห์นี่ไว้เอง และมีเฟี๊ยตมานั่งแทนเขาในตรงนี้ เขามั่นใจว่าชายผู้มีสมองเป็นที่หนึ่งคนนี้จะจัดการทุกอย่างออกมาได้อย่างเรียบร้อยที่สุด ทำไมพระเจ้าถึงเล่นตลกอย่างนี้ คนที่เคยเป็นคนรักษาความเจ็บไข้ได้ป่วยให้เขาตลอดกลับต้องมาล้มโคม่าลงอย่างนี้ ตัวเขาเองจะจัดการให้มันผ่านพ้นไปได้อย่างไร

 

            มือของเด็กหนุ่มรื้อเปิดสมุดด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขากัดริมฝีปากด้วยความกดดันจนแดงก่ำไปหมด ควันสีดำสนิทที่โพยพุ่งมาจากบาดแผลบริเวณแขนขวาของเฟี๊ยตนั่นตลอดเวลาทำเอาหัวใจของธันแทบจะเต้นไม่เป็นจังหวะเลย อาการของเฟี๊ยตดูจะหนักหนากว่าอันตรายทางร่างกายทั่วไปอยู่มาก น้ำตาปริมาณมากมายไหลมาจากดวงตาหวานคู่นั้น ปากก็พร่ำเพ้อถึงความเจ็บปวดอันเกินจะพรรณนานั่น เขาสงสารเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่างจับใจที่สุด เขาอยากจะแบ่งความเจ็บปวดมาจากชายตรงหน้านี้บ้าง แต่เขาไม่อาจทำได้เลย

 

            เสียงดังลั่นตึงตังจากการโจมตีของเจ้านักบวชอำมหิตนั่นที่หวังจะทำลายกำแพงล่องหนเข้ามายังคงดังอย่างต่อเนื่องอย่างไม่หยุดพัก แต่ห้วงสตินั้นของธันแทบจะไม่ได้คำนึงถึงปมของความอันตรายนั่นที่ยังรอคอยจะปลิดชีพเขาอยู่เลย ธันสบถออกมาอย่างอัดอั้นถึงขีดสุด เขาอยากจะตายๆ ตามคนตรงหน้านี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป การต้องมานั่งมองเฟี๊ยตที่ตกอยู่ในห้วงของทุกข์ทรมานถึงขีดสุดนี่แทบจะบดขยี้หัวใจของเขาให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขายอมทุกอย่างให้คนตรงหน้านี่กลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิม เขาอยากจะโอบกอดคนตรงหน้านี้ไว้แนบอกด้วยหวังว่าจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของคนตรงหน้านี้ได้บ้าง แต่น่าเสียดาย ที่เขาเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง อ้อมกอดของเขาไม่อาจเยียวยารักษาคนที่เขาเป็นห่วงสุดหัวใจนี่ได้เลย

 

 

            เจ็บ!!!

 

ความเจ็บปวดเจียนตายมันเป็นอย่างนี้นี่เอง น้ำตาของเฟี๊ยตไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เลย ความเจ็บมันกรีดร่างกายเขาจนแทบจะแหลกเป็นชิ้นๆ เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกขึงไว้แท่นประหาร และมีเพชฌฆาตคอยเอามีดค่อยๆ มาบรรจงแล่แขนขวาของเขาอย่างช้าๆ มันเจ็บ เจ็บจนไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร มันเจ็บอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตาของเขาพร่ามัวไปด้วยน้ำตาแห่งความทรมานแสนสาหัสนั่น

 

            ณ ขณะห้วงจังหวะจิตนั้น อย่าพูดถึงธัน จีน่า หรือแม้กระทั่งเจ้าผ้าคลุมปีศาจแห่งความมืดนั่นเลย ความรู้สึกของเขาเลอะเลือนไปจนหมดแล้ว ความเจ็บปวดมันกลืนกินความคิดความรู้สึกทุกอย่างให้หายไปหมดสิ้น ใจเขาอยากจะหลุดพ้นจากทุกขกรรมแสนสาหัสนี้เสียที ความรู้สึกแวบหนึ่งประหวัดไปถึงสารพัดยาพิษที่บรรจงนอนอยู่ในอกเสื้อด้านซ้ายนั่น มือซ้ายของเขาสะเปะสะปะไปหาลูกสมุนเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว

 

            ‘หรือจะกินยาพิษให้ตายๆ ไปซะดีกว่าวะ มันจะได้จบสิ้นไปเสียที ยังไงมันก็เป็นแค่เกม ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง มันก็แค่ตื่นขึ้น ลืมทุกอย่างให้หมด แล้วก็ใช้ชีวิตต่อไป’

 

            มือของนักวางยาหน้าใหม่คนนั้นเลื่อนไปจนเจอวัตถุที่กายกับจิตเขามาประสบต้องกันเสียแล้ว ยาพิษลีลาวดี เพชฌฆาตผู้เรียบง่าย สงบ และสะกดลมหายใจได้อย่างนุ่มนวล!




จากผู้แต่ง : นิยายเรื่องนี้ยืดเยื้อนะ เตือนคนอ่านไว้เลย ฮ่าฮ่า เป็นสิบๆตอนเนื้อหาก็ไม่กระดึ้บไปไหนหรอก วนไปวนมาอยู่ในอ่างนี่แหละ ฮ่าฮ่า เชิญประณามคนแต่งได้เลย โฮะๆๆๆ

 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
คนอ่านทุกคนรู้ไหม
ว่าคอมเม้นของพวกคุณทำให้ผมมีแรงแต่งนิยายให้อ่านต่อไป

ยิ่งคอมเม้นยาวๆนะ
ผมอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก
เม้นเถอะ ผมอ่านหลายรอบมาก

อยากให้ผมแต่งให้จบ ต้องแบ่งกำลังใจให้ผมบ้างนะ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ littlepooh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :call: เฟี้ยตจะตายมั๊ยนะ  :ling1:

ออฟไลน์ MarnNoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โหดร้ายจังตอนนี้  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ถึงเนื้อหาจะไม่กระดึ้บไปไหน แต่ก็น่าติดตามมากๆเลยนะจ๊ะ

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ทรมานคนอ่านอีกแล้วนะ


สู้ๆ

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เฟี๊ยตบาดเจ็บแล้วอ่ะ งานนี้หนักแน่ คนรักษากลับมาเจ็บซะเอง แต่เฟี๊ยตอย่ากินยาพิษฆ่าตัวตายนะ ต้องเอาตัวรอดให้ได้ นึกถึงใจคนอื่นบ้าง ธันเป็นห่วงแค่ไหนเฟี๊ยตจะรู้บ้างไหมนะ

ออฟไลน์ KIMKUNG

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
โหดร้ายจังตอนนี้

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ไม่นะตี๋ แงๆ ทำไงดีอ่าาาาาา

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
เฟี๊ยตใจเย็นก่อน เราต้องรอดนะ!!

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 126 Darkness

 

            “เฮ้ยย เฟี๊ยต จะทำอะไร!”

 

            มือของธันเลื่อนไปกุมมือเฟี๊ยตไว้อย่างรีบร้อน ก่อนที่มือขาวสะอาดนั่นจะสะบัดจุกหลอดทดลองปลดปล่อยยาพิษออกมาได้ทัน ใจเขาในตอนนั้นไม่ได้คิดไปถึงขั้นว่าเฟี๊ยตจะถึงขั้นลงมืออัตวินิบาตกรรมแต่อย่างไร ใจเขาเป็นห่วงแค่ว่าสติที่เหลือน้อยอยู่เต็มแก่ในตอนนี้ของเฟี๊ยตจะทำให้ชายหนุ่มหยิบยาผิดหลอดขึ้นมา ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เหตุการณ์เลวร้ายไปกว่าเก่า อย่างน้อย เขาก็อยากจะช่วยตรวจสอบอีกครั้ง

 

            “I wanna die, Thun. I can’t stand it anymore. (ฉันอยากตาย ฉันไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้ว)”

 

            เสียงของเฟี๊ยตดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ร่างนั้นเหลือสติสัมปชัญญะน้อยลงเต็มทน อะไรสักอย่างไม่รู้ทำให้เขาถอดใจเหลือเกิน เขาไม่คิดแม้แต่จะกินยาแก้ปวดบรรเทาอาการให้ทุเลาลงแม้แต่น้อย อะไรสักอย่างปิดบังใจเขาให้มืดบอดไปด้วยความสิ้นหวังไปหมดเลย

 

            “Phiat”

 

            เด็กหญิงที่ได้ยินประโยคภาษาอังกฤษนั่นถึงกลับรีบพาตัวเองมาที่ร่างที่กำลังบาดเจ็บของเฟี๊ยตนั่น เธอได้แต่นั่งอยู่ใกล้ๆ อย่างทำอะไรไม่ถูกนัก สภาพจีน่าในเวลานี้ก็ไม่ค่อยดีไปกว่าเฟี๊ยตเท่าไหร่นัก น้ำตานั่นนองเต็มหน้าไปด้วยความรู้สึกผิดที่เกาะกินอยู่เต็มหัวใจ

 

 

            “โธ่เว๊ยย ไอ้ตี๋ ใครจะยอมให้มึงตายวะ มึงห้ามตาย มึงได้ยินกูพูดไหม มึงห้ามตาย มึงเป็นผู้ชายภาษาอะไรวะ ทำไมมึงยอมแพ้อะไรง่ายๆ แบบนี้”

 

            เสียงของธันดังลั่นออกมาทันทีที่รู้ว่าเฟี๊ยตตั้งใจจะฆ่าตัวตายหนีเขาไปเสียแล้ว ตาของธันเริ่มชื้นขึ้นที่ขอบตาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเองก็ไม่รู้สึกตัวเหมือนกัน เด็กหนุ่มกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะต้องสูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่างไป สิ่งสำคัญที่เขาไม่อาจทำใจยอมรับการสูญเสียได้เลย

 

 

            ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

 

            เสียงการโจมตีจากเจ้านักบวชมืดนั่นยังคงดังขึ้นอย่างนั้น ถึงแม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเพียงใด ธันก็ยังไม่ลืมที่จะสร้างกำแพงล่องหนนั่นไว้ปกป้องตัวเองและเพื่อนร่วมทีมนี่ อาการสั่นสะเทือนที่มากขึ้นเรื่อยๆ นั่น บอกเขาอย่างอ้อมๆ ว่ากำแพงล่องหนนี่คงจะทนการจู่โจมนั่นได้อีกเพียงไม่กี่ครั้ง หากแต่เรื่องนั้นก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของธันเลย ปัญหานั่นดูเล็กน้อยไปเลย เมื่อเทียบกับปัญหาใหญ่ที่กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่ ณ ขณะนี้ ปัญหาที่แทบจะบดขยี้ให้หัวใจของเขาแหลกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

 

            “ปล่อยให้กูไปเหอะธัน มันเป็นแค่เกม ตอนนี้กูทรมานจนกูจะทนไม่ไหวแล้ว มึงสงสารกูเหอะ ธัน กูเจ็บ มึงให้กูไปเถอะนะ”

 

            เสียงนั่นสะอึกสะอื้นมาอย่างกระท่อนกระแท่น มือนั่นพยายามจะต่อสู้กับมือของเด็กหนุ่มที่ยืดไม่ให้เขาปลดสลักยาพิษนั่นได้สำเร็จ แรงของผู้ป่วยในเวลานี้ไม่อาจจะแข็งขืนต่อคนที่ยังมีพละกำลังสมบูรณ์พร้อมนั่นได้เลย เขาได้แต่ขอร้อง ขอร้องให้อีกคนยอมปล่อยเขาจากห้วงความทุกข์นี่เสียที หากแต่เขารู้ไม่ว่า คำว่าเจ็บที่เขาเปล่งออกมานั้นได้บาดลึกลงในความรู้สึกของคนฟังด้วยความทรมานที่แทบจะไม่แตกต่างกันเลย เด็กหนุ่มอีกคนในเวลานี้ก็เจ็บเจียนตายจากบาดแผลที่ไม่ได้เกิดขึ้นบนร่างกายเขาเลย

 

 

            “กูไม่ให้มึงตาย จำคำกูไว้นะเฟี๊ยต กูไม่ให้มึงตาย มึงห้ามยอมแพ้ กูมีการ์ดรักษาอาการบาดเจ็บได้ มึงรอกูหาการ์ดแปบเดียว ระหว่างนี้มึงห้ามแดกยาพิษฆ่าตัวตายเด็ดขาด มึงได้ยินไหม มึงสัญญากับกูสิ ว่ามึงจะไม่ทำ เฟี๊ยต สัญญากับกู”

 

            ถึงแม้ว่าประโยคเหล่านั้นจะดูเป็นคำสั่งที่แข็งกร้าวแค่ไหน แต่น้ำเสียงมันก็แฝงไว้ด้วยอาการขอร้องอย่างชัดเจน ธันไม่กล้าแม้แต่จะหันไปหาการ์ดที่ตนตั้งใจจะใช้เพื่อการรักษาคนตรงหน้านี้นั่น เขาเกรงว่าเพียงชั่วเวลาอึดใจเดียวนั้น มันจะทำให้ชายหนุ่มฉวยยาพิษขึ้นมาปลดลมหายใจตัวเองเสีย สภาพอารมณ์และความคิดของเฟี๊ยตตอนนี้ดูผิดไปจากปรกติมาก และแน่นอนว่ามันไม่น่าไว้ใจแม้แต่น้อยเลย

 

            “กูไม่สัญญา”

 

            เสียงแผ่วๆ นั้นตอบออกมาสั้นๆ คำตอบนั้นทำเอาธันถึงกับสบถมาอย่างหัวเสีย ชายหนุ่มตรงหน้าดูจะเข้าใจอะไรยากขึ้นมากเป็นทบทวีคูณ

 

            “ยาแก้ปวดอยู่ไหน มึงมีมอร์ฟีนหนิ แดกมอร์ฟีนประทังไปก่อน รอกูหาการ์ดแปบเดียว มึงจะงี่เง่าทำไมวะ มึงยอมๆ กูตั้งแต่ต้น กูก็หาการ์ดเจอแล้วเนี่ย ตอบมา มอร์ฟีนอยู่ไหน”

 

            “ในมือกูนี่แหละมอร์ฟีน มึงปล่อยมือกูสิ กูจะแดก” เสียงของเฟี๊ยตเถียงออกมาอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน

 

 

            “เฟี๊ยต มึงอย่าทำอย่างนี้สิวะ กูขอร้องเหอะ มึงอดทนรอกูแปบเดียว มึงเชื่อใจกูสิวะ มึงไม่เห็นแก่ตัวเอง มึงก็เห็นแก่กูบ้าง มึงจะให้กูมานั่งมองมึงตายเนี่ยนะ มึงไม่คิดว่ากูจะเสียใจเลยใช่ไหม เฟี๊ยต ไว้ใจกู มอร์ฟีนอยู่ไหน ตอบกูมาเฟี๊ยต มอร์ฟีนอยู่ไหน”

 

            เสียงดังลั่นของกำแพงอากาศนั่นยังคงดังแทรกบทสนทนาเรื่อยๆ อยู่อย่างนั้น ธันตัดสินใจกลับมาใช้ไม้อ่อนอีกครั้ง หลังจากที่ไม้แข็งดูจะเอาชนะคนตรงหน้านี้ไม่ได้เลย

 

            เภสัชกรหนุ่มไม่กล่าวคำใดตอบออกมา นอกจากเลื่อนมือของตนไปที่หน้าอกด้านซ้ายอีกครั้ง ธันต้องใช้มือของตนที่กุมมือของอีกฝ่ายไว้ ค่อยๆ ประคองให้มือเรียวนั้นไปจนถึงเป้าหมายได้ น้ำตาลูกผู้ชายของธันในเวลานี้ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เลย ยิ่งเห็นคนตรงหน้าเจ็บเท่าไหร่ เขายิ่งเจ็บมากเป็นทวีคูณเท่านั้น วันเวลาได้ผูกความสัมพันธ์ของชายทั้งคู่ไว้เหนียวแน่นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ธันก็ไม่เคยรู้สึกตัวเลย

 

           

            ธันตรวจดูชื่อยาที่หลอดทดลองที่เฟี๊ยตเขียนแปะไว้อย่างมั่นใจอีกครั้ง ก่อนจะบรรจงยกศีรษะของคนป่วยขึ้น และกรอกยานั่นลงในลำคอของเพื่อนชายอย่างช้าๆ ก่อนจะประคองศีรษะของเฟี๊ยตวางไว้บนตักของตัวเองอย่างนั้น มือซ้ายของเขาเลื่อนไปกุมมือซ้ายของเฟี๊ยตไว้เพื่อความมั่นใจว่าคนตรงหน้าจะไม่ฉวยโอกาสนี่พยายามอัตวินิบาตกรรมอีกครั้ง มือขวาของเขาเลื่อนไปเปิดสมุดการ์ดที่วางไว้ข้างตัวอย่างเร่งรีบ มือซ้ายที่เย็นชืดของเฟี๊ยตนั่นเป็นสัญญาณเตือนอย่างดี ว่าเขาอาจจะเหลือเวลาอีกไม่มากนัก

 

            อาการของเฟี๊ยตดูทุเลาลงเล็กน้อย ชายหนุ่มผิวสีซีดที่กำลังนอนตักของเด็กหนุ่มที่กำลังรื้อการ์ดในสมุดอยู่อย่างเร่งรีบนั้นปรือตาขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเล็กนั่นทอดมองมาที่ชายผู้ที่ให้เขายืมตักต่างหมอนอยู่ในเวลานี้ สายตาเฟี๊ยตทอดมองขึ้นมาอย่างอธิบายความรู้สึกไม่ถูกนัก

 

            “การ์ดที่ว่านี่ไม่ใช่การ์ดสูงสุดใช่ไหม”

 

            “ถ้าใช่แล้วจะทำไม”

 

            เสียงของธันตอบสวนขึ้นมาพร้อมกับการ์ดสีทองสว่างที่อยู่ในมือขวาของเด็กหนุ่มนั่น คิ้วเข้มของธันเลิกขึ้นเล็กน้อย

 

            “ส่งมานี่ อย่าเพิ่งใช้ ก๊อปปี้การ์ดไว้ก่อน เสียดายของ”

 

            เสียงของเฟี๊ยตตอบออกมาอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่ามันจะแผ่วเบาแค่ไหน แต่ประโยคนั่นก็มีความเฉียบขาดแฝงเอาไว้อย่างชัดเจน

 

            “จะตายแล้วยังงกอีก ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็หาใหม่ได้”

 

            ธันทำท่าไม่สนใจคำพูดนั่น พร้อมจะเรียกสั่งใช้การ์ดทั้งอย่างนั้น แต่แรงบีบน้อยๆ ที่มือข้างซ้ายนั่นก็หยุดการกระทำของเขาได้ทันที

 

            “เออๆ ก็ได้วะ”

 

            เสียงของธันเอ่ยขึ้นอย่างยอมแพ้ ก่อนจะส่งการ์ดสีทองในมือนั่นให้เฟี๊ยตไป พร้อมกับส่ายหัวอย่างหงุดหงิดน้อยๆ สายตาของธันยังกวาดไปมองเจ้านักบวชที่อยู่นอกกำแพงล่องหนนั่นไปอยู่เรื่อยๆ ดูจากสถานการณ์แล้วน่าจะยังพอเหลือไว้เล็กน้อยให้ไอ้ตาตี่ขี้งกนี่ทำตามใจตัวเองสักพัก

 

            ‘เมื่อกี้ยังบ่นจะตายเสียให้ได้ ทำไมเปลี่ยนใจเร็วจังวะ สงสัยโรคขี้งกจะฝังเข้ากระแสเลือดไปแล้ว นี่คนหรือว่าก้อนเกลือเดินได้วะเนี่ย’

 

 

            เภสัชกรหนุ่มซึ่งในเวลานั้นรับการ์ดสีทองอร่ามมาจากมือของธันเรียบร้อยแล้ว ก็พยายามจะทรงตัวขึ้นเพื่อหยิบสมุดคู่ใจขึ้นมาหยิบการ์ดที่ต้องการ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่แทบจะเอาชีวิตไม่รอดแล้วนั้นก็ทำให้ทุกอย่างดูติดขัดไปเสียหมด เรื่อยแรงที่เคยมีก็ระเหยหายไปราวกับหยาดน้ำค้างที่ต้องไอแดดยามเช้าฉะนั้น

 

            ธันถึงกับส่ายหัวกับความงกที่ผิดที่ผิดทางในเวลาแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจคนตรงหน้านี่ เด็กหนุ่มจึงประคองตัวผู้ป่วยให้ลุกขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะช้อนร่างขาวสะอาดมาอยู่ในวงแขนของตน มือซ้ายของเขาเฝ้าประคองให้มือซ้ายที่เหลืออยู่ของเฟี๊ยตนั่นทำไปตามความต้องการของเจ้าของได้ ร่างของเฟี๊ยตทิ้งน้ำหนักลงบนร่างของธันอย่างหมดเรี่ยวแรง ดูเหมือนในเวลานี้เฟี๊ยตจะไม่ได้เป็นนายของร่างกายตนอีกต่อไปแล้ว เด็กหนุ่มที่โอบอุ้มเขาอยู่เบื้องหลังนี่คอยช่วยประคับประคองร่างกายเขาให้มันเป็นไปตามใจปารถนา ร่างกายของชายหนุ่มทั้งสองในเวลานั้นดูจะกลมกลืนจนแทบจะละลายกลายเป็นหนึ่งเดียว

 

            หากว่าท่ามกลางความโหดร้ายทุรกันดารของทะเลทรายอันแห้งผาก ยังอาจจะมีต้นหญ้าเล็กๆ เจริญงอกงามขึ้นได้ฉันใด ท่ามกลางสถานการณ์เฉียดฉิวจะปลิดลมหายใจแบบเส้นยาแดงผ่าแปดก็ยังสามารถมีความรู้สึกดีๆ ของคนสองคนผลิดอกออกผลได้ฉันนั้น

 

            ความซับซ้อนของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้เอง



จากผู้แต่ง : ผมจะทำยังไงให้คนอ่านยอมเม้นดีหนอ ผมอยากอ่านอ่า ช่วยผมคิดวิธีหน่อย หลังๆ คนเม้นน้อยลงทุกวันๆ แงงงง

 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
ไม่มีใครเม้นยาวๆ ให้ผมเลยยยยยยยยย
ใจร้ายที่สวดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เดี๋ยวผมจะใจร้ายกลับบ้าง
ผมจะแต่งให้เฟี๊ยตเป็นโสดไปตลอดเชียเวี๊ยต อิอิ

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
คนเขียนใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด