บทที่ 124 At Night
“ธัน เอาไงกันต่อดี”
เสียงของเฟี๊ยตเอ่ยดังขัดความเงียบในเวลาเกือบมืดสนิทนั่นขึ้น วิธีการเดียวที่จะทำให้เด็กคนที่เขากำลังปกป้องอยู่นี่ไม่ถูกตามล่าจากมอนสเตอร์คือต้องทำให้ลมพัดผ่านตัวเธอไปตลอดเวลา เงื่อนไขนี่อาจจะไม่ยากเย็นนักในเวลากลางวัน เพราะว่าพวกเขาเดินทางกันโดยใช้เปกาซัสได้อย่างไม่ลำบากเท่าไหร่นัก แต่มันจะกลายมาเป็นปัญหาในยามกลางคืนอย่างมากทีเดียว เพราะว่าพวกเขาไม่อาจหลับบนหลังเจ้าเปกาซัสได้แน่นอน พวกเขาต้องการการพักผ่อน จิตของเขาจะคลายจากการควบคุมการ์ด และหลังจากนั้น ศัตรูที่ไม่อาจคาดเดาได้จะเข้ามาเยี่ยมเยียนในยามที่พวกเขาไม่รู้สึกตัว เพียงแค่คิดเท่านี้ สมองของเฟี๊ยตก็มึนตื้อไปอย่างหาทางออกไม่เจอเลย
“คงต้องหาที่พักก่อน คิดไม่ออกเหมือนกัน แต่จะไม่ไหวแล้ว จิตจะเกลี้ยงแล้ว”
ธันสารภาพออกมาอย่างตรงไปตรงมา เด็กหนุ่มฝืนใช้จักระในช่วงสุดท้ายของวันนั่นอย่างหนักหน่วง การเดินทางไปบนอากาศนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การควบคุมเจ้าเปกาซัสนี่เปลืองพลังงานกว่าที่คิดมาก แต่ที่เขายังคงต้องฝืนเดินทางไปเรื่อยๆ ทั้งที่ฟ้าเกือบจะมืดสนิทนั่นเพราะว่าเขายังไม่เจอที่พักที่ดีเพียงพอจะพักได้ เขาหมายตาหน้าผาสูงที่น่าจะมีลมพัดโกรกอยู่ตลอดเวลา แต่ตัวเขาเองก็ต้องผิดหวังอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าจะมีภูเขาเลียบไปกับป่าทิวสนนั่นโดยตลอด แต่ก็ไม่มีหน้าผาตอนไหนที่มีลักษณะเหมาะสมพอจะใช้พำนักอาศัยได้เลย ธันได้แต่เก็บความกลัดกลุ้มใจนั่นไว้ในใจลึกๆ เขาไม่อยากให้เด็กน้อยนี้รู้สึกผิดที่ทำให้เขาทั้งคู่ตกอยู่ในภาวะลำบากเลย
“หน้าผาตรงนั้นไหมธัน น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงนะ พักเถอะ ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างอื่นเอาไว้ก่อน ยังไงก็ต้องหาที่พักให้ได้ในคืนนี้”
เฟี๊ยตพูดออกมาพร้อมชี้ไปที่หน้าผาแคบๆ ตอนหนึ่งที่อยู่เยื้องไปเบื้องหน้าไม่ห่างออกไปนัก มันมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบกว้างประมาณ 20 ตารางเมตรเห็นจะได้ ด้านหลังชนกับหน้าผาสูงใหญ่ที่ทอดสูงขึ้นไป ในขณะที่เบื้องหน้าเป็นทางลาดตัดลงสู่พื้นเบื้องล่างที่ประมาณความสูงตึก 3 ชั้น ธันหรี่ตาเล็กน้อยอย่างตัดสินใจ ก่อนจะส่งเสียงตอบรับในลำคอ พร้อมกับกระตุกเท้าเป็นสัญลักษณ์เร่งให้เจ้าเปกาซัสนั่นบินตรงไปที่พื้นที่ดังกล่าว เห็นได้ชัดว่าเฟี๊ยตก็คงมีความคิดในการหาที่พักในคืนนี้ไม่ต่างจากเขาไปเท่าไหร่นัก ธันมั่นใจว่า อีกสิ่งหนึ่งที่เขากับเฟี๊ยตน่าจะคิดตรงกันคือ ภารกิจส่งเด็กน้อยกลับบ้านนี่ลำบากยากเข็ญกว่าที่จินตนาการไว้ตอนแรกมากนัก ลึกๆ ของเด็กหนุ่มแล้ว เขาเองไม่มั่นใจแม้แต่น้อยว่าจะดำเนินมันได้สำเร็จลุล่วงไปได้เลย อนุสติเบื้องลึกเตือนเขาอย่างแผ่วเบาว่า สถานการณ์ตอนนี้หมิ่นเหม่ต่อชีวิตเหลือเกิน บางที เขาอาจจะต้องพ่ายแพ้ลงต่อเกมนี้ตั้งแต่ยังเดินทางไปไม่ถึงครึ่งทางก็เป็นได้
“Are you OK darling if we’re being here tonight? (คุณจะโอเคไหม ถ้าพวกเราพักกันที่นี่ในคืนนี้)”
เสียงของเฟี๊ยตเอ่ยถามเด็กสาวขึ้นในขณะที่เจ้าเปกาซัสของธันบินเข้าไปใกล้หน้าผานั่นเต็มทน ชายหนุ่มชี้มือไปที่หน้าผาตัดดังกล่าวเพื่อถามความสมัครใจของเด็กหญิงที่อยู่ในความดูแลของเขา
“I’ve no problem Phiat, but I don’t know whether it affects to my pheromone. I’ve never been any place but May sanctuary except for last night. (ฉันไม่มีปัญหาอะไรนะเฟี๊ยต แต่ไม่รู้ว่ามันจะส่งผลอะไรต่อฟีโมโรนของฉันหรือเปล่า ฉันไม่เคยอาศัยอยู่ที่ไหนเลยนอกจากวิหารพฤษภาคม ยกเว้นเมื่อคืนนี้)”
เสียงเล็กนั่นเอ่ยออกไปตามความรู้สึกของตน ความยากลำบากไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเด็กน้อยคนนี้เลย หากแต่ความกังวลเรื่องคำสาปของตระกูลเธอต่างหากที่กำลังเกาะกุมจิตใจเธออยู่ เสียงของเธอหมองลงอย่างห้ามไม่ได้ทันทีที่พูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้ เธอผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาอย่างโหดร้ายเหลือเกิน
“Nobody can harm you as long as you’re with us darling. Take a deep rest tonight. Regarding others leave them in my care. (ไม่มีใครสามารถทำร้ายคุณตราบเท่าที่พวกเรายังอยู่กับคุณ ที่รัก พักผ่อนให้เต็มที่ในคืนนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง)”
เฟี๊ยตเอ่ยปลอบใจเด็กหญิงที่กำลังหม่นหมองคนนั้นด้วยความสงสารจับจิต พร้อมกันกับที่เท้าทั้งสี่ของเจ้าม้ามีปีกแตะลงบนผาตอนนั้นโดยสวัสดิภาพ
“ข้างบนนี้ใช้ได้เลยนะเนี่ย ลมพัดโกรกดี น่าจะพอประทังไปได้ ติดแค่ว่าอาจจะหนาวไปสักหน่อย ยิ่งถ้าตกดึก อากาศบนนี้คงหนาวมากไปกว่านี้อีก”
ธันหันมาเอ่ยแสดงความคิดเห็นกับเขา หลังจากที่พวกเขาทั้งสามขึ้นมายืนบนยอดหน้าผาดังกล่าวแล้ว กระแสลมพัดผ่านช่วงเขาดังกล่าวไม่น้อยเลยทีเดียว เฟี๊ยตถึงกับยิ้มออกให้กับความโชคดีในความโชคร้ายดังกล่าว อย่างน้อย เขาก็พอมีความหวังที่จะผ่านคืนนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
“Arr… Could you speak English please? I want to know what’s going on. It’s my fault. At least, I should have a hand in this situation. (คุณช่วยพูดภาษาอังกฤษได้ไหมคะ ฉันอยากจะรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นบ้าง มันเป็นความผิดของฉัน อย่างน้อย ฉันควรจะมีส่วนในสถานการณ์เหล่านี้บ้าง)”
เด็กน้อยผมทองคนนั้นเอ่ยขึ้นกับธันโดยตรงเป็นครั้งแรก ท่าทีของเธอดูจะเกรงๆ เด็กหนุ่มอยู่ไม่น้อย จีน่าอาจจะอึดอัดมาเป็นเวลานานที่ธันเองไม่เคยสื่อสารกับเฟี๊ยตเป็นภาษาอังกฤษเลย นั่นทำให้เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เรื่องที่ธันปรึกษากับเฟี๊ยตนั้นมีความตึงเครียดแค่ไหนบ้าง เด็กน้อยทำได้เพียงพยายามดูสีหน้าของชายทั้งสองและตีความเอาเท่านั้นเอง
“I’m sorry but I’m not really good in English. (ฉันเสียใจ แต่ฉันไม่เก่งภาษาอังกฤษจริงๆ)”
ธันเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก พร้อมกับใช้มือขวาลูกศีรษะเด็กหญิงนั่นอย่างเอ็นดู เขายิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรที่สุด ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายขนาดไหน เขาก็ไม่อยากให้เด็กตรงหน้านี่รู้สึกผิดไปกับเรื่องราวเหล่านี้เลย
“Don’t worry about it darling. If you want to know anything, you can inquire me every time. Thun can’t speak fluently, so it’s more convenient for us to use Thai. (อย่ากังวลไปเลยที่รัก ถ้าคุณอยากรู้อะไร คุณสามารถถามผมได้ตลอดเวลา ธันไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้น มันจะสะดวกกว่าถ้าพวกเราจะใช้ภาษาไทย)”
เฟี๊ยตหันไปพูดกับเด็กน้อยอีกครั้ง พร้อมกับส่งรอยยิ้มให้ จีน่าจึงยินยอมในข้อตกลงนั้นโดยดี เธอหันไปยิ้มให้ธันอีกครั้ง ก่อนจะนั่งพักลงตรงโขดหินบริเวณนั้น
“โกหกเด็กหนะมันบาปรู้ไหม ทีแต่ก่อนหละพูดภาษาอังกฤษได้น้ำไหลไฟดับ ไหงวันนี้ลิ้นเปลี้ยขึ้นมากะทันหันหละ ไอ้แขก ฮ่าฮ่า” เฟี๊ยตถือโอกาสนั้นกระเซ้าธันอย่างขำๆ
“หรือจะให้คุยกันเป็นภาษาอังกฤษไหมหละ เด็กนั่นคงรู้สึกผิดขึ้นอีกจมเลย คราวนี้หละจะบาปหนักกว่าอีก ไอ้ตี๋เอ๊ย”
ธันหันไปตอบเฟี๊ยตอย่างไม่จริงจังนัก เขารู้ดีว่าเฟี๊ยตจงใจที่จะหยอกล้อเล่นเท่านั้น ยังไงเฟี๊ยตก็คงเห็นด้วยกับเรื่องนี้อยู่ดี ธันส่ายหัวอย่างไม่สนใจต่อความยาวสาวความยืดนัก พร้อมกับเดินไปหาที่นั่งพักบริเวณที่ไม่ถูกบดบังด้วยเหลี่ยมมุมมาก เขายังจำเป็นต้องสังเกตสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในคืนนี้
เฟี๊ยตจัดการปรุงยาร้อนขนานหนึ่งให้เพื่อนร่วมการเดินทางอีกสองคน เนื่องด้วยความจำเป็นเรื่องกระแสลมนี่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เภสัชกรหนุ่มจำเป็นต้องหายาสักขนานมาบรรเทาความหนาวของค่ำคืนนี้ เขาจัดการเรียกใช้ห้องแลปเพื่อปรุงยาอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เขามีสมุนไพรสำหรับยาตำรับนี้มาอย่างครบครัน
“ประสะไพล RELEASE!”
เฟี๊ยตส่งยาตำรับดังกล่าวให้เพื่อนร่วมทีมทั้งสองคน เขาแบ่งปริมาณไว้อย่างไม่เท่ากัน ความจริงแล้วยาตำรับร้อนแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กแบบจีน่าเท่าไหร่นัก แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือกให้เลือกมากแบบนี้ เขาจำเป็นต้องให้ยาเธอด้วยในปริมาณที่น้อยที่สุดที่จะป้องกันไม่ให้เส้นเลือดบริเวณปลายลำตัวของเธอหดเกร็งในคืนที่อุณหภูมิลดต่ำอย่างโหดร้ายในคืนนี้
เด็กหญิงรับยาดังกล่าวอย่างเข้าใจดี เธอไม่เอ่ยถามแม้แต่น้อยด้วยซ้ำว่ามันเป็นยาอะไร เธอเชื่อใจเขาอย่างเต็มเปี่ยม ในขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนก็เบ้ปาก ทำหน้ารำคาญๆ ใส่เขา แต่สุดท้าย เจ้าเด็กหน้าแขกนั่นก็กระดกยาแก้วนั้นลงคออย่างรวดเร็ว
พวกเขาทั้งสามคนนอนหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน ตอนแรกเขาตั้งใจจะจัดเวรยามในคืนนี้ แต่เมื่อมองถึงความจริงที่ว่า วันรุ่งขึ้นพวกเขาจะต้องใช้จิตปริมาณมหาศาลในการควบคุมเจ้าม้ามีปีกนั่น แผนการดังกล่าวก็เป็นอันถูกพับเก็บไป ระแวงไพรในค่ำคืนนี้ของพวกเขาจึงเป็นเพียงน้ำยาตะไคร้หอมกลิ่นฉุน กับยุงรำคาญที่จะทำตัวเป็นยามสามตาแทนพวกเขาในขณะที่อยู่ในห้วงนิทรารมณ์เท่านั้น เฟี๊ยตได้แต่ภาวนาว่าค่ำคืนที่แสนน่าหวาดหวั่นนี่จะผ่านไปได้ด้วยดี
‘โอ๊ย’
เฟี๊ยตสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึกเนื่องจากมีสิ่งมีชีวิตอะไรสักอย่างหนึ่งกัดเขาที่ปลายแขน ชายหนุ่มปรือตามองอย่างงัวเงียก่อนจะพบว่าเจ้ายุงรำคาญที่เขาฝากฝังภาระไว้บินวนเวียนอยู่แถวๆ ร่างกายเขาอย่างเร่งร้อน เสียงหึ่งๆ ของแมลงตัวเล็กพวกนี้ดังชัดเจนในยามที่เงียบสงัดเช่นนี้
อนุสติแรกร้องเตือนเขาดังก้องในใจว่าสถานการณ์ดูจะย่ำแย่เสียแล้ว เพราะสถานที่พักแรมของเขาที่ดูจะเป็นบริเวณที่ลมพัดโกรกตลอดคืน กลับสงบไร้การเคลื่อนที่ของมวลอากาศทั้งหมดทั้งสิ้นในกลางดึกนี่ เขาไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าช่วงเวลาที่เขาหลับไป ฟีโรโมนของเด็กน้อยคนนี้จะกระจายไปไกลถึงไหนต่อไหน พวกเขากำลังเชื้อเชิญศัตรูให้มาหาถึงที่พักโดยที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องเสียเวลาคิดให้มากเลย เพราะยังไม่ทันที่เขาจะตั้งตัวได้อย่างมีสติสัมปชัญญะเต็มร้อยนั้น แหวนคู่ใจของเขาก็ดังร้องขึ้น เสียงไม่ดังมากนักกรีดความรู้สึกเขาไปหมดทั้งใจ ความหวาดกลัวพุ่งเข้าจู่โจมความรู้สึกเขาอย่างป้องกันไม่ได้เลย
“การ์ด The Intelligent Ring ค้นพบไพ่สูงสุดจำนวน 1 ใบ ได้แก่ ไพ่สูงสุดลำดับที่ 13 The Revivable Bishop of Darkness from Kongka River (นักบวชแห่งความมืดผู้คืนชีพจากแม่น้ำคงคา)!”
จากผู้แต่ง : ขอขอบคุณ คุณ keniji01 สำหรับคำตอบเรื่องการทำความดีมากเลยครับ อ่านแล้วเข้าใจอะไรขึ้นอีกมาก ว่าจะขอบคุณหลายทีแล้ว ลืมตลอด ขอบคุณมากนะครับบบ