หรือจะให้เป็นแค่ความทรงจำ โดย ภัคD เพิ่มตอนพิเศษในรวมเล่ม P.14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หรือจะให้เป็นแค่ความทรงจำ โดย ภัคD เพิ่มตอนพิเศษในรวมเล่ม P.14  (อ่าน 392543 ครั้ง)

TongZA

  • บุคคลทั่วไป
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเศร้า  :m15: แล้วก็เครียดมากที่สุดเลยอ่าคับ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:


แต่ก็ดีใจนะคับที่สุดท้ายแล้วก็ลงเอยกันได้ด้วยดี :m4: :m4:


อ่านเรื่องนี้แล้วทั้งเศร้า  :o12:ทั้งสนุก :m1: ทั้งๆที่อ่านไปแล้วเครียดแทบตายเลย


ขอบคุณคนเขียนมากมายอ่ะคับที่เอาเรื่องที่ดีแบบนี้มาเขียนให้อ่านคับ


 o13 o13 o13 :m4: :m4: :m4: :a1: :a1: :a1:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


เป็นเรื่องเดียวที่อ่านไม่จบตอนสักครั้ง . . .

มันตีบแน่น . . . .จนต้องเบนหน้าหนีจากจอ

เป็นเรื่องเดียวที่ทำร้ายหัวใจของผม  ทำร้ายความศรัทธาทั้งหมด

เป็นเรื่องเดียวที่ทำให้ผมค่อย ๆ  แบมือจากสิ่งที่ผมยึดอยู่ . . .

แล้ว . . . ผมก็ปล่อยวางมันจากมือ


แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วบีบใจจริง ๆ ค่ะ    ทิชชู่หมดไปหลายม้วน


ขณะที่อ่านมีแต่คำถาม ทำไม ทำไม และทำไม เต็มไปหมดแม้ว่าจะมีเหตุผลมารองรับการกระทำก็ตาม


เรื่องนี้ทำให้แก้วเห็นว่า ความต่างกันอย่างสุดขั้วแต่มันก็เกิดขึ้นได้ในเวลาเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ
จนบางครั้งแยกไม่ออกว่า แข็งแรงกับอ่อนแอ  ศรัทธากับสิ้นหวัง บางทีมันเป็นสิ่งเดียวกัน !!!


ต้องขอบคุณทิพย์สำหรับการโพสต์เรื่องดี ๆ ให้อ่านค่ะ
ขอบคุณคุณภักดีที่บรรยายถ่ายทอดความรู้สึกได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่สร้างเว็บนี้ขี้นมาค่ะ

ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ   :L2:

ออฟไลน์ bbboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านแล้วเศร้าจังครับ :m15:

hiei

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบแล้ว (ถอนใจเฮือก)

อ่านไปเรื่อย ๆ น้ำตาเกือบไหล แต่ไม่ไหลแฮะ มันตกในหมด (คาดว่าน้ำจะท่วมปอดเร็วๆนี้)

เรื่องนี้บีบหัวใจสุด ๆเลยค่ะ บรรยากาศเล่าเรื่องก็แสนเศร้า มืดมน หม่นหมอง หนาวเย็น ฟิล์มนัวกันสุดๆ
(เวลาเพื่อนพระ-นาย โผล่มาทีรู้สึกดีมาก ๆ.. ความอบอุ่นและความสว่างไสวยังมีอยู่บนโลกใบนี้ o7)

เหมือนตกไปในหุบเหวลึกหาทางออกไม่เจอ
 เกลียดพระเอก เกลียดตัวร้าย เกลียดความโหดร้ายในจิตใจมนุษย์

ซึ่งถ้ามีเรื่องให้ไม่ชอบขนาดนี้ ไม่น่าอ่านจนจบเนาะ


แต่เรื่องนี้คนแต่ง สุดยอด :L1: ภาษา สำนวน การบรรยายด้านอารมณ์ มันช่างลึก....ซึ้ง สั่นคลอนจิตใจมากมายแบบหยุดอ่านไม่ได้อ่ะ
อ่านจบแล้วก็อยากอ่านอีก  กลายเป็นเรื่องในดวงใจไปแล้วค่ะ

เป็นแนวที่ไม่ได้ชอบ แต่เรื่องนี้ไม่ชอบไม่ได้จริงๆ ค่ะ (คุณภัคD เขียนเก่งโคตรรรรรรรร)

ขอบคุณคนโพสต์ นะคะ ที่ทำให้ได้อ่านนิยายเรื่องนี้  :oni1: :oni1:

 :pig4: :pig4: :pig4:

kurugmin

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาอ่านเพราะกระทู้โหวตมีเรื่องนี้เป็นเรื่องโศกของหลายๆคนมาก
(ไม่เคยอ่านงานของคุณภัคDมาก่อน)
คิดว่าคงโศกรันทดคนรักตายจากพ่อแม่พลัดพรากน้ำตานองละมั้ง
ไม่คิดว่าเนื้อเรื่องจะเป็นแบบนี้


ปกติเป็นคนชอบอ่านได้หลากหลายมาก
แต่มาเจอเรื่องนี้ 
ได้อ่านแล้วหยุดไม่ได้
อ่านตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงตอนนี้ บ่ายโมงพอดี
ขึ้นมาก็โดนจังๆ
ทุกๆความรู้สึกประเดประดังเข้ามา

ตื่นเต้นใจระทึก
อึดอัดหายใจไม่ออก
ปวดหนึบๆที่อกข้างซ้าย
หงุดหงิดอยากกระทืบคน
ใจหวิวหวั่นไหว
ยิ้ม
สติแตก
ประสาทเสีย
ใจหาย
ปวดเบ้าตา

แล้วคนอ่านมาโซฯ
ชอบมากๆ
ไม่เศร้าโศกมีน้ำตากับนิยายเรื่องนี้
ก็มันเจ็บปวดแต่ก็มีความสุขด้วย

บทส่งท้ายน่ารัก
เรื่องพิเศษที่ได้อ่านช่วยสะกิดต่อมสงสัยว่าเหยาเอง
ก็เต็มใจ
กับเกมส์ๆนี้ใช่..รึ???

ขอโหวตให้เป็นนิยายประทับใจที่สุดของปี  แน่นอน

สุดยอด

 o13 o13 o13
ขอบคุณคนแต่ง
ขอบคุณคนโพสต์
ขอบคุณคนที่โหวตเสนอชื่อให้เราได้เห็นและเข้ามาอ่าน



ออฟไลน์ PHUCK™

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-31


หลังจากอดทนอ่านได้แค่คืนละหนึ่งตอน . แล้วกลับไปนอนร้องไห้ทุกคืน
เมื่อคืนทำใจแข็งอ่านตั้งแต่บทที่หกจนจบ . ออกไปใส่บาตรตอนหกโมงเช้ากับแม่
แล้วกลับมาอ่านบทส่งท้าย กับ ตอนพิเศษ หรือจะเป็นแค่คืนหนึ่งในความทรงจำ ต่อ .

ความจริงตรองน่าจะหยุดอ่านหลังจากอ่านตอนจบ หรือ บทส่งท้าย เสร็จแล้วปิดคอมพ์ไปเลย .
เพราะตรองคงนอนหลับตายิ้มอย่างมีความสุข .
หากแต่ความอยากรู้ที่มีมากกว่า ทำให้เลือกที่จะเลื่อนเม้าท์ในมือลงมาจนถึงตอนพิเศษฯ .
นอกจากจะไม่เข้าใจถึงสิ่งที่จะสื่อเหมือนเจ๊สองแล้ว . ยังทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับหนักกว่าคืนก่อนๆด้วย .

หลังจาก 'รักแห่งสยาม' เคยทำให้ตรองรู้จักคำว่า 'หนังจบอารมณ์ไม่จบ' มันเป็นยังไง
วันนี้ 'หรือจะให้เป็นแค่ความทรงจำ ของ คุณภัคD' ก็ทำให้ตรองกลับมาเป็นอย่างนั้นอีกแล้ว

' นิยายจบอารมณ์ไม่จบ ! '

จากที่เคยโดดเรียนพิเศษมาเดินแกร่วอยู่ที่สยาม .
จากที่เคยชวนเพื่อนไปนั่งกินสเวนเซ่นที่สยามทุกเย็น .
จากที่เคยไปนั่งรอกับเพื่อนอยู่แถวหน้าจอเช็คเกอร์สกรีน .
จากที่เคยเดินวนไปวนมาหน้าร้าน DJ SIAM .

ด้วยเหตุผลเดียว .
เหตุผลที่เคยทำให้ครั้งหนึ่งเพื่อนๆที่โดนลากมาสยามด้วยทุกเย็นมันแทบจะยกรองเท้านักเรียนมาถวายไว้บนหน้า .
เหตุผล คือ สักวันตรองคงได้เจอ 'โต้งกับมิว' .
ตรองไม่ได้ชอบมาริโอ้ ไม่ได้ชอบพี่พิช .
แต่ตรองชอบความรักระหว่าง 'โต้งกับมิว' .

วันนี้ตรองจะทำยังไงดี .
บินขึ้นไปเชียงใหม่  .
เปิดเว็บหาข้อมูลบริษัททัวร์ที่มีสาขาอยู่ที่ เชียงใหม่ อุดรฯ และจันทบุรี .
พิมพ์คำว่า 'จึเหยา' ลงไปใน GOOGLE เผื่อว่าจะมีประวัติข้อมูลของพี่เหยา .
หรือทำยังไงดี ?? ? . ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่านี่คือนิยายเรื่องหนึ่งเท่านั้น .
แต่เอ็ฟเฟ็กต์มันมากจริงๆ .
สำหรับตรองทุกคนมีชีวิต ทุกคนคือคนที่ตรองอาจจะเคยเดินสวนกันสักที่ .
ทั้งเอก พี่เหยา ทอม วิทย์ ชัย รงค์ พี่เก้า พี่นัท พี่เก่ง พี่โอ๋ พี่คิม ฟง พ่อ แม่ ย่า อาม่า ป๊า ม๊า ฯลฯ .

คุณภัคD เขาจะรู้รึเปล่าว่ามาทำอะไรไว้กับตรองบ้างเนี่ย ?? ?
ท่าทางคืนนี้คงต้องกลับไปใช้ 'ยา' เหมือนเมื่อคราวรักแห่งสยาม .
ไม่ใช่ 'ยา' อย่างที่พี่เหยาใช้ . หากแต่เป็น 'ยานอนหลับ' .
เพราะเรื่องราวที่ผ่านมาของพี่จึเหยามันทำให้ยากเกินกว่าจะข่มตาลง .
ถ้าเลือกได้ ตรองคงเลือกที่จะฟังแต่เรื่องราวดีๆของพี่เหยากับเอก .

ส่วนเรื่องที่ผ่านมาตรองก็ไม่อยากเก็บมันไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ .
ยกตำแหน่งนิยายสุดประทับใจแห่งปี . ไม่สิแห่งชีวิตให้คุณภัคDไปเลย .
คงอีกนานกว่าจะมีใครเข้ามาแทนที่เรื่องราวของพี่เหยาได้ .
คุณภัคDครับ . คุณเก่งจริงๆ ตรองนับถือ .
ตรองเริ่มชักไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่แล้วสิ . ทำไมความคิดของผู้ใหญ่มันเป็นอะไรที่น่ากลัวจังครับ .
ทำไมมันถึงต้องดูลึกลับซับซ้อนอะไรมากมาย . สิ่งที่ผู้ใหญ่ตัดสินว่า 'ถูก' แท้จริงแล้วมันถูกต้องจริงๆเหรอ .


G.NORT . (ไอ้ตรองเองครับ .)
ป.ล. ตรองแอบหลงรักพี่จึเหยาอ่า .. ทำไงดี >o<
ป.ล.ตัวที่สอง . แอร๊กกกกก ก ก T^T (ตรองโดนเอกกระโดดเตะก้านคอ !!)

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
อ่านสองวันจบ


ปวดหัวตุ๊บเลยทีเดียว

วันนี้ต้องนอนหลับสบายแน่ๆ

ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะจบแฮปปี้ มีความสุข

พออ่านจนจบ รู้สึกมีความสุขมากๆๆๆ

ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้ให้พวกเราได้อ่านกัน

ขอบคุณจริงๆ  o13



ปล ไม่รู้ทำไม ถึงสงสารเอก มากๆ  :กอด1:

รักเอก รักพี่เหยา  :L1: :L2:

ออฟไลน์ oa_ko

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
อ่านเม้นท์จากหลายๆเม้นแล้ว
 

แล้ว


แล้ว


ไม่กล้าอ่านอ่า

กล้วน้ำตาท่วม      :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

VitamiN

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้สุดยอด :m15:
ทั้งเศร้า เครียดและตื้นตัน
ให้อะไรหลายอย่าง
อ่านไปก็คิดไป
หลายครั้งที่มักเอามาถามตัวเอง
ว่าถ้าเป็นเรา เจอเหตุการณ์อย่างนี้ จะทำอย่างไร
และหลายครั้งก็ให้คำตอบตัวเองไม่ได้
อ่านไปก็สับสน ในความรู้สึกหลายๆอย่าง
ทั้งความรู้สึกของตัวละคร ทั้งความรู้สึกของเราตอนที่อ่าน
บางครั้งก็พูดได้ว่าไม่ชอบเลย ทำไมทำแบบนี้ล่ะ
แต่พอคิดอีกที นั่นสิ แต่มันก็ไม่ผิดสักทีเดียว
แล้วใครล่ะที่ผิด
อ่านแล้ว เรียกได้ว่า กว่าจะหายสับสน
ก็ตอนจบนั่นแล :เฮ้อ:

สุดยอดเลยค่ะ o13

ขอบคุณมากๆค่ะ :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






echisen

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบแล้วฮับบบบ เป็นเรื่องน่าเศร้ามากๆๆอ่ะ ไม่รุจะสงสานใครดีเลย อารมณ์ก้อเข้าใจยากมาก
เศร้ามากๆๆๆๆนึกว่าจะเป็นตามชื่อเรื่องแล้วสะอีกตอนจบเลยหายเศร้าหน่อยยยย
คนเรามันต้องพูดกันจริงๆๆอ่ะ ไม่งั้นก้อไม่เข้าใจกันนนน ซึ้งฮับบ แต่ชอบเพื่อนๆๆ ของเค้านะ รักเพื่อนมากๆๆๆ
 สนุกฮับบบบ รออ่านเรื่องต่อไปอยู่ฮับบบบ  o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เข้าใจอาการเลยครับ
ตอนผมอ่านเรื่องนี้จบใหม่ๆ
ผมร้องไห้ทั้งคืนเลย
มันหลากหลายอารมณ์มากๆ บอกไม่ถูก

นิยายเรื่องนี้ยังไม่มีเรื่องไหนมาแทนได้เลยอ่า สุดยอดจริงๆครับ
 :เฮ้อ:

singsayam

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมลุงอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องนะ

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมลุงอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องนะ




เพราะ . . .  ลุงอายุเกินป่ะครับ


popper

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องนี้

ขอบอกเลยค่ะ ว่าบีบหัวใจสุดๆ

อ่านไป รุ้สึกหายใจไม่ออก

เเละก้อยิ้มกับบางอย่างที่มันเหมือนจะเเฝงอยุ่ในความเลวร้าย

เห้อ ประทับใจมากค่ะ

 :n1: :n1:

ออฟไลน์ fulres

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ ตามคำบอกเล่าของคนในเล้า
อ่านมาตั้งกะ เมื่อวานเช้า ยัน เช้านี้  :m29:

อยากรู้จิงๆ ว่าตัวละครในเรื่องมีจริงรึเปล่า เพราะผมคิดว่า ถ้าเป็นผม คงตรอมใจตายไปตั้งแต่แรกเริ่มเรื่องแล้ว บีบ คั้นอารมณ์อย่างแรง :m15:

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 เก็บเรื่องนี้เข้ากรุ นิยายดีเด่น อีกเรื่อง :bye2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เรื่องเล่าของความรัก#2
หรือจะให้เป็นแค่ความทรงจำ (ตอนพิเศษ)
คืนสุดท้าย...คืนที่นอนไม่หลับ

หลังจากไล่ตามองกากบาทสีแดงๆที่ชักแถวเรียงต่อกันเป็นแพแล้ว ผมก็หยิบปากกาเมจิกสีแดงขึ้นมาค่อยๆขีดเครื่องหมายกากบาทอีกตัวลงบนเลขหก และตามด้วยรูปดาวลงบนเลขเจ็ดบนหน้าปฏิทินที่วางหราอยู่บนโต๊ะ ก่อนหันไปชูสองนิ้วให้พี่เหยาที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงนอนมองผมก่อนส่ายหัว

“วันสุดท้าย แล้วก็ท้ายสุด!”ผมพูดก่อนกระโดดขึ้นเตียงไปนอนอยู่ข้างๆพี่เหยาที่ยังนั่งมองผมอยู่

“นับอยู่ได้ทุกวัน...”พี่เหยาบ่นก่อนทำท่าจะล้มตัวลงนอน หากแต่ก็รีบขยับลุกหนีทันทีเมื่อผมวางแขนพาดลงบนที่นอนในตำแหน่งที่พี่เหยากำลังจะนอนลง

“อะไร!... กอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได้เหรอ?”ผมถามทั้งหัวเราะ ใช้ศอกยันตัวเองขึ้น มองพี่เหยาที่กลับไปนั่งอยู่อย่างเดิม

“วันนี้ห้ามกอด!”พี่เหยาประกาศสีหน้าขึงขังพร้อมปัดมือผมที่เพิ่งเอื้อมออกไปหวังจะโอบเอวพี่เหยาไว้

“ก็ได้!”ผมบอกดึงมือกลับ มองดูพี่เหยาที่ขยับตัวจะนอนลงอีกครั้ง

“งั๊นจูบอย่างเดียวก็ได้ ไม่กอด!”ผมพูดและหัวเราะเมื่อพี่เหยาขยับกลับไปนั่งอยู่อย่างเดิม หากแต่ครั้งนี้แก้มขาวๆของพี่เหยาชักจะเริ่มมีสีแดงๆ ตาที่จับจ้องมองผมก็ชักจะเริ่มเขียวๆ

“หน้าแดงๆอย่างนี้ยิ่งอยากจูบเข้าไปใหญ่”ผมพูดและผิวปาก แกล้งใช้ปลายนิ้วเขี่ยแก้มแดงๆของพี่เหยาเล่นเบาๆ

“เล่นอย่างนี้อีก กินเจปีหน้าพี่จะกลับไปอยู่บ้าน เอกอยู่ไปคนเดียว!”พี่เหยาขู่พลางปัดมือผมออกจากแก้มแดงๆของตัวเอง

“พี่ก็กินแค่เก้าวันเหมือนคนอื่นเขาสิ...กินทำไมตั้งสิบเอ็ดวัน”ผมแกล้งครวญ อย่างที่ครวญอยู่ทุกปีๆ เพราะบ้านพี่เหยากินเจแบบเคร่งครัดคือกินเจเก้าวัน และกินล้างท้องก่อนอีกสองวัน...ที่ผมเคยคิดว่ากินเจก็คือแค่การงดเว้นเนื้อสัตว์ ผมก็ได้รู้ว่า ยังมีอะไรๆอีกหลายอย่างที่ถึงมันไม่มีชีวิตหากแต่ก็ห้ามกิน ยิ่งกว่านั้น...ห้ามประกอบกิจกาม...พี่เหยาเคยเอาปากกาสีแดงขีดเส้นใต้คำๆนี้ในหนังสือแล้วส่งให้ผมอ่านในปีแรกๆที่มีโอกาสอยู่ด้วยกันในช่วงเทศกาลกินเจ

‘...ห้ามประกอบกิจกาม...แปลว่าอะไร?’ผมถามทั้งที่จริงๆก็รู้ความหมายดี หากแต่ก็ถามออกไปด้วยเสียงลอยๆเพราะในหัวมันเริ่มนึกภาพ...กิจอะไรบ้างที่พี่เหยาบอกว่าห้าม...

‘แปลตรงตัว!’และพี่เหยาตอบพร้อมเอาปากกาแดงขีดย้ำให้เห็นชัดๆอีกเที่ยว

‘เก้าวันเลยเหรอ?’ผมถามทั้งๆที่ก็รู้อีกเช่นกันว่าใช่

‘เปล่า...’แต่พี่เหยาปฏิเสธ ผมเลยยิ้มออก เริ่มใจชื้นขึ้นนิดหน่อยหากแต่ก็ยิ้มค้างเพราะพี่เหยาพูดต่อ

‘พี่ถือสิบเอ็ดวัน กินเก้า...ล้างท้องอีกสอง รวมเป็นสิบเอ็ด...’

...สิบเอ็ดวัน?...อีกสี่วันก็ครบครึ่งเดือนเลยนะนั่น!...ผมคิดแต่ไม่กล้าพูดเลยได้แต่ถามเสียงอ่อยๆ

‘แล้วผมล่ะ?’

‘เอกทำไม?’พี่เหยาหันมาถามอย่างกับไม่รู้ว่าผมหมายความถึงอะไรทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนเอาหนังสือมากางให้ผมดู

‘เปล่าครับ...’ผมตอบเสียงแผ่วเพราะจริงๆผมก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้าพี่เหยาบอกว่าห้าม ยังไงซะผมก็ต้องอด

‘น่า...เดี๋ยวก็ชิน กินกันทุกปีแหละ’พี่เหยาปลอบ แล้วผมก็ชินจริงๆ...

ปีแรกๆผมชินกับการถูกพี่เหยาแกล้ง พี่เหยาคงคิดว่ายังไงซะผมไม่กล้าฝ่าฝืนกฎหรือที่พี่เหยาบอกว่าเป็นศีล...พี่เหยาเลยชอบแกล้งมากอดผมบ้าง คอยมาจับคอยมาแหย่ กับบางทีก็แกล้งเปิดหนังโป๊ให้ผมดูซะอย่างนั้น หากแต่พอผมจะเอาจริงพี่เหยาก็วิ่งหนี

‘อย่านะ ! ผิดศีล มันบาปนะ!’พี่เหยาบอกทั้งๆยืนหัวเราะอยู่ในอ้อมแขนของผมเมื่อผมวิ่งตามดึงพี่เหยาเอามากอดไว้จนได้ แต่สุดท้ายผมก็ไม่กล้าทำอะไรมากกว่านั้น สุดท้ายเลยต้องปล่อย พี่เหยาเลยได้ใจชอบแกล้ง ชอบยั่วผมเล่นใหญ่ จนผมชักนับถือน้ำอดน้ำทนของตัวเองที่ทนได้ทนดีอย่างเหลือเชื่อ...แต่พอมาปีหลังๆผมชักเริ่มรู้แกวเปลี่ยนมาแกล้งพี่เหยาเล่นบ้าง เพราะถ้าผมต้องอดทน ทำไมผมจะไม่รู้ว่าพี่เหยาก็ต้องอดทนเหมือนๆกัน หนำซ้ำพี่เหยาซะอีกที่ต้องอดทนมากกว่าผม เพราะผมไม่ได้ถือศีลกินเจ อย่างน้อยก็ปิดประตูห้องน้ำไปจัดการตัวเองได้ แต่พี่เหยาทำไม่ได้ จึงเป็นทีของผมที่ได้แกล้งคืน ...ดังนั้น ปีหลังๆผมเลยได้ชินอยู่กับการแกล้งพี่เหยาเล่น ซึ่งก็ เหมือนๆกับที่กำลังแกล้งเล่นอยู่ในตอนนี้

“พี่ก็รู้ว่าผมแหย่เล่น...อดมาตั้งสิบวันแล้ว อีกวันเดียว...ไอ้เอกสู้โว๊ย!”ผมพูดและหันไปชูสองนิ้วให้พี่เหยาอีกรอบ

“เขยิบไป...”พี่เหยาบอก ถึงตาที่มองผมจะยังเขียวๆและมือก็ส่งสัญญาณบอกให้ผมถอยไปห่างๆ แต่ปากแดงๆของพี่เหยาก็อมยิ้มอยู่

“แล้วพรุ่งนี้อย่ามากวักมือเรียกก็แล้วกัน!”ผมบอกก่อนเขยิบตัวนอนถอยห่างออกมา และก็ขยับกลับเข้าไปใกล้เมื่อพี่เหยานอนลงแล้ว

“นอนเฉยๆ”ผมรีบบอกเมื่อพี่เหยาหันหน้ามามองผมอย่างไม่ไว้วางใจ

“พี่หยิบหนังสือให้หน่อยสิ”ผมแกล้งไม่สนใจสีหน้าสีตาไม่ไว้วางใจของพี่เหยา... แกล้งบอกพลางชี้มือไปที่หนังสือซึ่งวางอยู่ที่โต๊ะตัวเล็กๆข้างหัวเตียงด้านที่พี่เหยานอน

“นอนได้แล้ว!”แต่พี่เหยาบอกไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยิบหนังสือให้

“อือ...ก็ดีแฮะ! นอนเร็วจะได้ตื่นเร็ว...จะได้ออกเจเร็ว จะได้...”ผมพูดได้แค่นั้นเพราะพี่เหยาโยนหนังสือที่ร้องขอมาให้ถึงที่หน้า

“อ่านไป!”พี่เหยาบอกเสียงเขียวมองผมที่ยกมือลูบจมูกตัวเองปอยๆ

“เจ็บ...”ผมบ่นก่อนเปิดหน้าหนังสืออ่าน

“เรื่องนี้น่าอ่าน...”ผมบอกพลางสะกิดพี่เหยาเบาๆที่แขน แต่พี่เหยาขยับตัวหนี

“สิบสุดยอดเทคนิค...ที่ทำให้คู่รักของคุณไม่อยากจะลงจากเตียง! โห อะไรจะขนาดนั้น! ไหนขออ่านหน่อยสิ!”ผมแกล้งอ่านเสียงดัง แอบเหลือบตามองพี่เหยาที่นอนหลับตานิ่งไม่ขยับ

“หนึ่ง...เริ่มต้นอย่างเซ็กซี่ พูดคุยหยอกเย้าเป็นนัยว่าคุณน่ะต้องการ...บอกมาเป็นสิบวันแล้ว!”

“สอง...ใช้สายตาโลมเลีย...อ้าวพี่หันหลังหนีทำไม?....ข้อนี้ผ่าน นอนหันหลังอย่างนี้มองจนตาถลนก็เปล่าประโยชน์!”ผมแกล้งบ่นเพราะพอเริ่มอ่านไปได้นิดเดียวพี่เหยาก็ขยับตัวนอนหันหลังหนี

“สาม...บริการพิเศษด้วยปลายนิ้ว! นวดเค้นเบาๆให้ทั่วทั้งเรือนร่าง คุณอาจจะค่อยๆเพิ่มน้ำหนักมือ หรืออาจทำสลับสับเปลี่ยนกันไป ช้าบ้างเร็วบ้าง นุ่มนวลบ้างก้าวร้าวบ้าง ก็จะช่วยเพิ่มความเสียวซ่านให้คู่รักของคุณได้ตื่นเต้นว่าจะถูกคุณสัมผัสในแบบใด...และอย่าลืมสังเกตด้วยดูว่าคู่รักของคุณพึงพอใจในจุดสัมผัสใดเป็นพิเศษก็จงใช้เวลากับจุดนั้นให้มากๆ... ต้นคอด้านหลัง...หลังช่วงล่างแล้วก็ต้นขาด้านใน ตรงนี้สุดๆ ใช่ไหมพี่?!... ”คราวนี้ผมต้องกลั้นยิ้มเพราะพี่เหยาดึงผ้าห่มขึ้มมาคลุมโปงตัวเองไว้

“สี่...เสริฟ์รักร้อนๆด้วยปลายลิ้น! อวัยวะทุกส่วนในร่างกายล้วนให้รสสัมผัสที่แตกต่างกันไป...สัมผัสจากอวัยวะที่ไม่ค่อยจะได้ถูกสัมผัสในชีวิตประจำวันอย่างเช่นลิ้นนั้นย่อมเพิ่มความตื่นตัวให้กับพื้นผิวที่ถูกสัมผัสเป็นหลายเท่าตัว ลองหมุนเวียนสลับกันระหว่างการจูบหรือดูดดุนด้วยริมฝีปาก ขบเล่นเบาๆด้วยฟันและโลมเลียด้วยปลายลิ้น รวมถึงลมหายใจร้อนๆที่เป่ารด แค่นี้คู่รักของคุณก็...”

“อ่านเงียบๆไม่ได้หรือไง?”เสียงพี่เหยาขุ่นๆตะโกนลอดออกมาจากใต้ผ้าห่ม

“ได้ไง? ของอย่างนี้มันต้องร่วมมือร่วมใจร่วมแรงกันทำ!”ผมตอบก่อนหันไปตั้งอกตั้งใจอ่านต่อ

“ถึงไหนแล้ว?...ข้อห้า สนามรบ สนามรัก...ความซ้ำ...โอ๊ย!”อ่านได้เท่านั้นผมก็ร้องลั่น เพราะพี่เหยาหยิบหมอนฟาดใส่หน้าผมเต็มแรง พอผมดึงหมอนออกจากหน้าก็หันเห็นพี่เหยาทำท่าจะหอบหมอนหอบผ้าห่มกระโดดลงลงจากเตียง

“ไปไหน?”ผมถาม วิ่งตามลงจากเตียง

“นอนข้างนอก!”พี่เหยาตอบก่อนกระแทกเท้าโครมๆจะเดินหนีออกจากห้อง

“โกรธจริงเหรอ?”ผมถามก่อนโอบเอวพี่เหยาไว้จากด้านหลังและดึงเข้ามากอดไว้ และเมื่อผมโน้มตัวมองข้ามไหล่พี่เหยาลงไปใกล้ๆ ผมจึงเพิ่งได้เห็นว่าหน้าพี่เหยานั้นแดงจนกล่ำ

“จริง!”พี่เหยาตอบและ พยายามสะบัดตัวจากอ้อมแขนผม หากแต่ผมกอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ผมขอโทษ...ล้อเล่นนิดเดียวเอง...”

“นิดบ้าอะไร?...พอเลย!...ปีหน้าพี่จะกลับไปอยู่บ้าน!”

“ขู่อีกแล้ว!...พี่รู้เปล่า ขู่แบบนี้มันเหมือนอะไร?”ผมถามทั้งหัวเราะ หากแต่ไม่รอให้พี่เหยาตอบผมก็รีบพูดต่อ

“เหมือนผัวหนุ่มเมียสาวไง งอนนิดงอนหน่อยก็เก็บกระเป๋าหนีกลับบ้านแม่!”พอผมพูดจบพี่เหยาก็ยิ่งดิ้นผมเลยต้องยิ่งเพิ่มแรงกอดพี่เหยาไว้แน่นขึ้น

“โอ๊ย!...”คราวนี้ผมร้องไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่เพราะพอพี่เหยาดิ้น มันก็เกิดการบดเบียดเสียดสีสัมผัสกันมากขึ้น ไอ้ที่มันตื่นๆอยู่แล้วในกางเกงนอน มันก็ยิ่งตื่นเข้าไปใหญ่ หนังสือที่อ่านไปเมื่อครู่ที่ผ่านมามันก็เหมือนขุดหลุมฝังตัวเอง นอกจากได้แกล้งพี่เหยาแล้ว มันยังกลายเป็นแกล้งตัวเองไปซะงั้น เพราะระหว่างที่อ่าน ผมเองก็คิดภาพตามไปเป็นฉากๆ อารมณ์ที่เก็บกดไว้ร่วมสิบวัน มันก็เตลิดจนทำท่าจะกู่ไม่กลับเสียแล้ว

“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย!”พี่เหยาเอี้ยวตัวมามองหากแต่ก็ยังไม่ยอมหยุดดิ้น

“ก็...”ผมบอกและกระชับแขนกอดพี่เหยาให้แน่นขึ้นพร้อมบดเบียดร่างกายส่วนล่างของตัวเองกับสะโพกของพี่เหยา และเท่านั้นพี่เหยาก็หยุดดิ้นรน

“ไม่ขู่ก็ได้...งั้นปีหน้ากินเจด้วยกัน..” พี่เหยาบอกคล้ายจะยื่นคำขาดหากแต่น้ำเสียงของพี่เหยากลับไม่เด็ดขาดเหมือนข้อเสนอที่หยิบยื่นมา ตรงกันข้ามผมได้ยินเสียงพี่เหยาผ่อนลมหายใจเบาๆ ฝ่ามืออุ่นๆของพี่เหยาก็บีบแขนผมไว้แน่น

“ไม่เอา!”แต่เป็นผมที่ปฏิเสธเสียงแข็งเสียเอง

“เอาหรือไม่เอา?!”พี่เหยาเลยถามเสียงแข็งบ้าง

“ไม่เอา!”

“แน่ใจ?”

“เอาอะไร?”ผมชักไม่แน่ใจว่าพี่เหยาหมายถึงอะไร

“เอาหรือไม่เอา?”แต่พี่เหยายังถามย้ำคำเดิม ผมเลยชักคิดหนัก

“เอาอะไรล่ะ ใบ้นิดนึง...”ผมต่อรอง ชักแน่ใจว่าพี่เหยาน่าจะไม่ได้หมายถึงแค่การกินใจ

“จะเอาหรือไม่เอา?”แต่พี่เหยาไม่ยอมบอก ยังคงถามเสียงคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้

“แปลว่า...ถ้าผมยอมกินเจปีหน้า ปีนี้พี่จะยอมออกเจเร็วขึ้นหนึ่งวัน?”ผมแปลออกจะเข้าข้างตัวเองไปนิด หากแต่ดูจากท่าทางพี่เหยาแล้วผมว่ามันก็เข้าเค้าอยู่

“จะเอาหรือไม่เอาล่ะ?”พี่เหยาถามคล้ายจะย้ำคำเดิม แต่ไอ้คำห้อยท้ายที่เบาจนเกือบหายไปในคอพี่เหยามันเหมือนเป็นคำตอบเสียมากกว่า พอคิดได้เท่านั้นผมก็ได้ยินเสียงตัวเองกลืนน้ำลายดังเอื้อกใหญ่ๆ มือไม้ที่เมื่อกี้มันทำแค่กอดพี่เหยาไว้เฉยๆ มันก็เริ่มอยู่ไม่สุขและผมก็ยิ่งได้ใจเมื่อพี่เหยาไม่ขัดขืนหรือปัดป้องแม้แต่น้อย

“เอาอยู่แล้ว!...แต่ได้ด้วยเหรอพี่?”ผมรีบตอบด้วยเสียงที่กระตือรือร้นกว่าตั้งใจและก็ถามในสิ่งที่สงสัย แต่ถึงคำตอบจะเป็นได้หรือไม่ได้ ผมก็ซุกหน้าลงสูดกลิ่นหอมบางๆจากซอกคอขาวๆของพี่เหยาที่ไม่ได้สูดจนเต็มปอดมาหลายวัน

“ได้มั้ง! คุ้มออก ออกเจเร็วไปแค่วันเดียว แต่ปีหน้าได้คนกินเจเพิ่มอีกหนึ่งคน หนึ่งวันแลกเก้าวัน...กำไรเห็นๆ!”พี่เหยาอธิบายความคิดของตัวเองในแบบที่ทำให้ผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้

“คิดอย่างนี้ได้ด้วยเหรอพี่?”ผมถามย้ำอีกแค่เพราะอยากรู้อย่างนึกขัน หากแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะสำหรับผม ยิ่งพี่เหยาออกเจเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น หรือถ้าจะให้ดีที่สุด...ผมก็ไม่อยากให้พี่เหยากินเจเลยสักวัน

“ได้มั้ง!”พี่เหยาย้ำคำเดิม หากแต่แค่ผมปลดกระดุมเสื้อนอนเม็ดที่สองของพี่เหยาออก พี่เหยาก็ทำท่าจะเปลี่ยนใจเอาดื้อๆ

“เปลี่ยนใจแล้ว! ไม่เอาดีกว่า!”พี่เหยาบอกก่อนเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนผมไปอย่างง่ายดาย เพราะผมเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่คิดว่าพี่เหยาจะงัดอ้อยออกจากปากผมเอาดื้อๆแบบนี้ ผมเลยได้แต่มองพี่เหยาสลับกับแขนตัวเองที่ยังยกค้างอยู่ในท่าเดิมหากแต่ไม่มีพี่เหยาในอ้อมกอดแล้ว

“ไม่ทันแล้วพี่!”ผมร้องบอกเมื่อตั้งตัวได้ และวิ่งตามพี่เหยาที่วิ่งหนีกลับขึ้นไปอยู่บนเตียงแล้ว

“ไม่เอาแล้ว!”พี่เหยาพูดพลางสะบัดแขนไม่ให้ผมจับ ผมเลยเปลี่ยนไปคว้าเอวบางๆของพี่เหยาไว้แทน และเมื่อพี่เหยายังพยายามดึงมือผมออกจากเอวของตัวเอง ผมเลยทิ้งตัวโถมทับพี่เหยาลงไปทั้งตัว

“ไม่เอาได้ไง? แกล้งกันเห็นๆ... เสียบปลั๊กแล้วดึงออก ไฟมันช็อตนะพี่!”ผมนอบทับพี่เหยาที่นอนคว่ำอยู่ไว้ทั้งตัว โอบกอดพี่ไว้จากด้านหลังในขณะที่สองมือก็จับข้อมือบางๆของพี่เหยาที่พับงอซุกอยู่ใต้อกของตัวเองไว้แน่นไม่ให้พี่เหยาดิ้น หากแต่พี่เหยาก็ไม่ได้ดิ้นอีกจนผมคิดว่า พี่เหยาอาจแกล้งผมเล่นเฉยๆ...

พี่เหยาไม่ได้ดิ้นรนอะไรเมื่อผมก้มหน้าลงลากไล้ปลายลิ้นไปตามต้นคอขาวๆไล่เรื่อยไปตามแนวไหล่...พี่เหยาเพียงนอนนิ่งซุกซ่อนดวงหน้าไว้กับที่นอน...ปฏิกิริยาเดียวที่สนองตอบผม คือแรงสั่นไหวเบาๆของผิวเนื้อขาวภายใต้สัมผัสของปลายลิ้นของผมซึ่งตัวพี่เหยาเองก็ไม่อาจควบคุมมันได้...เมื่อพี่เหยาไม่ดิ้นรนขัดขืน ผมจึงปล่อยมือที่จับยึดข้อมือพี่เหยาไว้ และพี่เหยาก็ยังคงนอนนิ่ง ซ่อนซุกบีบมือไว้ใต้อกตัวเอง มันจึงไม่ง่ายนักที่ผมจะปลดเสื้อนอนพี่เหยาออกจากตัว ทุกครั้งที่ผมเพิ่มแรงดึง ก็คล้ายพี่เหยาจะเพิ่มแรงมือยื้อยุดเกาะกุมเสื้อตัวเองไว้ สุดท้ายผมก็ทำได้แค่ดึงเสื้อนอนพี่เหยาลงรั้งไว้ที่เอวเท่าที่จะทำได้ ไม่สามารถปลดเปลื้องมันออกได้อย่างที่ใจนึกอยากเพราะติดแขนของพี่เหยาที่พับงอไว้ จะเพิ่มแรงมือดึงอีกนิด ผมก็กลัวพี่เหยาจะเจ็บ เพราะเพียงแค่นี้แขนพี่เหยาก็แดงเป็นรอยทาง

ผมขยับตัวลุกขึ้นช้าๆ นั่งคร่อมทับร่างพี่เหยาไว้...เพื่อที่จะได้มองดูแผ่นหลังขาวๆของพี่เหยาได้ถนัดตา...

ผมค่อยๆจรดปลายนิ้วลงเบาๆที่ต้นคอขาวๆด้านหลังก่อนจะก้มลงจูบแผ่นหลังขาวที่ขยับยกขึ้นเพราะไหล่ที่ห่อตัวเข้าอันเป็นการตอบสนองรับสัมผัสของปลายนิ้วที่แตะลงบนจุดไวสัมผัสของพี่เหยา

ผิวเนื้อขาวบางของพี่เหยาที่ผมไม่ได้ลิ้มสัมผัสรสมานานหลายวัน กับกลิ่นหอมบางๆและความปรารถนาที่ปลุกเร้าผลัดเปลี่ยนเวียนวนกับการเก็บกดมันลงครั้งแล้วครั้งเล่า มันทำให้ผมไม่อาจยับยั้ง เหลือเวลาชั่งใจต่อท่าทีของพี่เหยาได้เลยสักนิด

ผมสัมผัสได้ถึงแรงสะดุ้งไหวเบาๆ เมื่อผมเพิ่มเน้นแรงสัมผัสของริมฝีปากไปทั่วทุกผืนผิวหลังเนียนที่ริมฝีปากผมลากผ่าน

พี่เหยายังคงนอนนิ่งเมื่อผมเริ่มเค้นฝ่ามือหนักๆไปตามต้นขาที่ผมยังคงนั่งคร่อมทับเอาไว้หากแต่ผมก็ได้ยินคล้ายเสียงสะอื้นเบาๆเมื่อผมสอดมือขยับยกสะโพกพี่เหยาขึ้นหวังจะปลดเปลื้องกางเกงนอนเนื้อบางลง

“พี่เป็นอะไร?”ผมถาม หยุดทุกสัมผัสลงทันทีทั้งที่ความปรารถนาในใจยังเต้นเร้าไม่เบาบางลงเลยแม้แต่น้อย

“พี่เป็นอะไร?”เมื่อพี่เหยาไม่ตอบผมจึงถามย้ำอีกครั้ง พร้อมโน้มตัวลงกระซิบเบาๆที่ข้างหูพี่เหยา

“บอกผมสิครับ พี่เป็นอะไรหรือเปล่า?”ผมกระซิบถาม ใช้มือเกลี่ยผมพี่เหยาออกเบาๆและผมก็ได้เห็นใบหน้าของพี่เหยาที่ก้มซุกซ่อนอยู่กับที่นอนจนผมมองเห็นก็แต่แก้มนั้นแดงกล่ำ

“อย่าทำเลยนะ มันรู้สึกไม่ดี...”พี่เหยาพูดเบาๆ...มันเป็นคำร้องขอ...และพี่เหยาคงไม่ว่าอะไรถ้าผมจะดึงดันไม่ทำตาม หากแต่ผมก็ยอมทำตามโดยง่ายดาย...ง่ายดายกว่าที่ตัวเองคิด

“ไม่อยากทำก็ไม่ทำ ไม่เห็นเป็นไรเลย...”ผมกระซิบบอกกับพี่เหยา...ก้มลงจูบไหล่บางๆเบาๆอีกครั้งก่อนทิ้งตัวลงนอนข้างๆพี่เหยาที่ยังคงนอนนิ่งไม่ยอมขยับ

“ไม่ทำก็ได้ ทนมาได้ตั้งหลายวัน...ทนมาได้ตั้งหลายปี อีกวันเดียวสบายอยู่แล้ว!”ผมบอก...เกลี่ยมือเบาๆไปบนปลิวผมเส้นเล็กๆ หวังแค่ว่าจะได้มองเห็นหน้าของพี่เหยาที่ยังซุกซบแอบอยู่กับที่นอนได้บ้าง

“พี่ขอโทษ...มันรู้สึกไม่ดีจริงๆ”พี่เหยาพูดเบาๆ และยอมหันหน้ามามองผม

“ขอโทษทำไม?...ผมสิเล่นไม่รู้จักเล่น!”ผมบอกและโน้มตัวจูบพี่เหยาเบาๆที่แก้มและพี่เหยาก็ยิ้มรับ

“นอนกันดีกว่า...เช้ามา...ไหว้เจ้าออกเจ...นอนเร็ว ตื่นเร็ว ออกเจเร็ว!”ผมพูดประโยคเดิมที่พูดไปแล้วและครั้งนี้พี่เหยาก็หัวเราะออกมา พร้อมค่อยๆขยับตัวขึ้นมานอนตะแคงและยังมองผม

ผมดึงเสื้อนอนกลับขึ้นมาให้พี่เหยา ค่อยๆติดกระดุมเสื้อคืนให้ทีละเม็ดๆ ตลอดเวลาผมพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้มือตัวเองได้มีโอกาสได้แตะต้องผิวเนื้อของพี่เหยาอีก และทุกครั้งที่มันได้แตะต้อง ผมก็รู้สึกได้ว่าลมหายใจตัวเองมันสะดุดลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผมจึงต้องค่อยๆผ่อนลมหายใจตัวเองออกมาเบาๆ และดูเหมือนพี่เหยาจะรู้ พี่เหยาจึงมองผมและยิ้ม

“อย่ามองแบบนี้สิ เดี๋ยวอดใจไม่อยู่นะ!”ผมบอกและหัวเราะแก้เขิน แต่พี่เหยายังมองผมไม่ละสายตา

“ไม่มองคนที่ตัวเองรักแล้วจะให้มองใคร?”พี่เหยาถามยิ้มๆ ตาก็ยังจ้องผมไม่เลิก

“โห พูดแบบนี้ ขอจูบแก้เขินสักทีได้ไหมเนี่ย?”

“กี่ทีก็ได้...แต่แค่นี้นะ”พี่เหยาพูด โน้มตัวสัมผัสริมฝีปากผมเบาๆ...นุ่มนวล อ่อนโยนและไร้ซึ่งอารมณ์ปรารถนาใดๆ

“นอนเหอะ...”ผมบอกเมื่อเต็มอิ่มกับสัมผัสที่อ่อนโยน ครั้งแล้วและครั้งเล่าจากริมฝีปากของพี่เหยา

พี่เหยาขยับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อผมสอดมือโอบดึงพี่เหยาให้มาหนุนนอนซบกับอกผม...

ผมนอนหลับตา...พยายามข่มใจให้หลับ...หากแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะความปรารถนามันยังคงคุกรุ่นอยู่ แต่ผมก็ยังคงนอนกอดพี่เหยาเอาไว้ ไม่อยากปล่อย

“เอก...”อยู่ๆพี่เหยาก็เรียกผมเบาๆหลังจากเรานอนกอดกันเฉยๆอยู่นานสองนานจนผมนึกว่าพี่เหยานอนหลับไปแล้วและผมก็ส่งเสียงปรามพี่เหยาไม่ให้พูดอะไร

“ชูว์...”

“...เอก...”พี่เหยาเรียกผมอีกครั้ง และครั้งนี้พี่เหยาขยับลุกขึ้นมองดูผม

“อย่าชวนคุยสิ กำลังคิดอะไรเพลินๆ”ผมบอก ก่อนกดหัวพี่เหยาให้กลับไปนอนซบลงกับอกผมเหมือนเดิม

“คิดอะไร?”

“คิดถึงคืนพรุ่งนี้!”ผมตอบและหัวเราะเพราะพี่เหยาหยิกหมับเข้าที่ท้องผมอย่างเต็มแรง


“เอก ตกลงปีหน้ากินเจนะ?”พี่เหยาขยับลุกขึ้นมาถามผมอีกครั้งจนได้ ผมเลยหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เพราะนึกว่าพี่เหยาลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

“ครับผม!”ผมตอบก่อนกดหัวพี่เหยาให้ซบลงนอนกับอกผมอีกครั้งและครั้งนี้พี่เหยาก็ยอมแต่โดยดีคงเพราะได้คำตอบที่ตัวเองพอใจแล้ว

ไม่ใช่ว่าอารมณ์ปรารถนาที่มันกรุ่นๆอยู่จะสงบลงไปแล้ว ...มันยังอยู่และน่าจะในปริมาณเท่าๆเดิม...หากแต่การได้นอนกอดพี่เหยาไว้เฉยๆแบบนี้มันก็มีความสุขดีอยู่ไม่ใช่น้อยเช่นกัน...ยิ่งกว่านั้นเทคนิคข้อที่หกหรืออาจะเป็นเจ็ดหรือแปดที่ผมรีบไล่ๆสายตาอ่านๆดูแต่ยังไม่ทันอ่านให้พี่เหยาฟังนั้น เขาก็ว่าไว้ว่า...ยิ่งยับยั้งชั่งใจให้ได้นานเท่าไหร่ เวลาลงมือจริงก็ยิ่งมีความสุขเท่านั้น...ผมไม่จำเป็นต้องรอการพิสูจน์ในคืนพรุ่งนี้ เพราะหลายๆปีที่ผ่านมา พี่เหยาก็ได้พิสูจน์ให้ผมเห็นแล้วว่า ค่ำคืนแรกที่ได้ลิ้มรสสัมผัสของพี่เหยาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานหลายวันนั้นมันวิเศษขนาดไหน...

เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วผมก็พยายามข่มตาตัวเองให้หลับ หวังจะให้ถึงคืนพรุ่งนี้เร็วๆ หากแต่ให้พยายามยังไงๆ...ผมก็นอนไม่หลับ...มันเป็นอีกเรื่องที่ผมชิน...ชินกับการนอนไม่หลับในคืนสุดท้ายของเทศกาลกินเจของทุกๆปี...

จบ

เรื่องเล่าของความรัก#2
หรือจะให้เป็นแค่ความทรงจำ (ตอนพิเศษ)
คืนสุดท้าย...คืนที่นอนไม่หลับ

ออฟไลน์ JX

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เกือบจะผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว เพราะชื่อเรื่องมันเศร้า และเราไม่ชอบอ่านนิยายเศร้าตอนจบ

ตอนคลิกเข้ามา ก็แอบอ่านคอมเมนท์จนแน่ใจแล้วว่าจบไม่เศร้า เราถึงเริ่มอ่าน

โหวงเหวงดีจัง...แต่ก็แค่ในรอบแรก

พอเริ่มรีรีด น้ำตามันก็มาเรื่อยๆ แปรผันตรงกับจำนวนรอบที่อ่าน อาจเป็นเพราะเราเริ่มเข้าใจตัวละครมากขึ้น

แต่ที่อ่านซ้ำๆ ซากๆ อยู่ไม่ใ่ช่เพราะต้องการทำความเข้าใจตัวละครหรอกนะ มันเป็นเพราะนิยายเรื่องนี้มันติดอยู่ในใจมากกว่า

ไม่รู้คนแต่งแวะเวียนเข้ามามั้ย แต่อยากบอก "นิยายของคุณ เพลินตาจังเลย ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านค่ะ"

ที่สำคัญ ขอบคุณคนแปะด้วย ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสได้อ่านนิยายสนุกๆ แบบนี้ ขอบคุณค้าบบบ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษน่ารักๆนี้

อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นมากๆ

อ่านแล้วรู้สึกว่าเอกก็รักพี่เหยามาก...

พอที่จะเสียสละความสุขของตัวเอง เพื่อให้พี่เหยาสบายใจ

อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกอิ่มใจ ไม่รู้โหวงในใจเหมือนที่แล้วๆมา

ขอบคุณทั้งคุณภัคD และคุณ THIP มากๆคะ
 :L2::L2: :L2:

ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตอนพิเศษน่ารักจังเลยยยย

คิดถึงพี่เหยากับเอกชะมัด !!

 :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






chatori

  • บุคคลทั่วไป
ตอนพิเศษน่ารักมากๆๆๆๆๆ กำลังคิดถึงพี่เหยากับเอกอยู่เลย อิอิ
ตอนแรกชาก็นั่งอ่านคอมเม้นท์ก่อนที่จะเริ่มอ่านเหมือนกัน
บีบหัวใจมากกกกก ธรรมดาไม่ชอบดราม่าเท่าไหร่ แต่อ่านเรื่องนี้
แล้วหยุดไม่ได้ หุหุ โชคดีที่ happy ending ^^ เย้ๆ
ขอบคุณทั้งคนโพสท์แล้วก็ไรเตอร์นะคะ
 :กอด1:

ThyRist

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษครับ

น่ารัก ^^" จริง ๆ หุหุ

..

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้

สนุกมากๆๆ  เศร้า สะเทือนอารมณ์มากเลย

ตอนพิเศษก็น่ารักอย่าบอกใคร

 :L2:  :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ ผักกาด

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :m1: ปลาบปลื้มมักๆ  มีตอนพิเศษด้วย ชอบๆๆๆ

ไว้มาต่ออีกเยอะๆ นะคะ

ตอนอ่าน อ่านรวดเดียวจบเลย ยังไม่เคยเมนท์ให้เลยอะ ว่าแล้วก็ขอซะหน่อยนะ

เค้าชอบเรื่องนี้มากกกกกก ประทับใจทั้งตัวละคร การดำเนินเรื่อง และความซับซ้อนต่างๆ ที่ค่อยผูก ค่อยๆ แก้ออกมา

มันละเมียดดดด อ่านแล้วไม่มีสะดุดเลย ชอบการใช้ภาษาเรื่องนี้ มากกก เป็นวรรณกรรมดีๆ เรื่องนึงเลยค่ะ

มันเศร้า มันเจ็บอก ตามไปด้วย เพราะมันสมจริงเกิ้นนน (บางครั้ง การกระทำบางอย่าง มันก็ไม่มีคำตอบหรอกเนอะ)

มันมีความสุข ตอนที่เค้าสมหวังในรัก เค้าหยอกล้อกัน ทำให้มีความสุขตามไปกับโลกแห่งนิยายด้วยเลย

 :m4:  :m4:  :m4:

ขอบคุณ คนแต่ง และ คนโพส มากๆ เลยค่ะ

gagagaa122

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาอ่านเพราะเห็นว่าเป็นคุณ ภัคD เขียนเลยนะเนี่ย


เคยอ่านเรื่องตะวันฉายฯ มาก่อนหน้านี้อะครับ
จำได้ว่ามันเป็นนิยายขึ้นหิ้งที่ตั้งใจว่าจะไม่กลับไปอ่านซ้ำอีกแล้ว
มันบีบคั้นอารมณ์มากมายมหาศาล ดราม่าได้อีก จบเศร้าได้อีก
อ่านแล้วหดหู่ เครียด จะร้องไห้ตลอดเวลา แม้ว่าจะปนตลกก็เถอะ
ชอบนะ ชอบมากที่สุด แต่ไม่กล้ากลับไปอ่านซ้ำ


พอเข้ามาอ่านเรื่องนี้แล้วก็ โอ้โห มันเป็นอะไรที่"มากกว่า"เรื่องตะวันฉายฯอีกอะฮะ
มันเป็นด้านมืดของมนุษย์จริงๆ และหาเหตุผลให้กับสิ่งที่เค้าทำไม่ได้
อ่านแล้วเกิดคำถามในใจตลอดเวลา รู้สึกเครียด กลั้นหายใจกับบางตอน บีบคั้นสุดๆ
เห็นด้วยกับคอมเม้นก่อนหน้านี้ ที่บอกว่ามันบรรยากาศมันมืดมน ทั้งเรื่องเลย
ดีที่จบแบบหายใจได้สะดวกหน่อย ตอนจบกับตอนพิเศษน่ารักจังเลยยยยย ><
แต่ก็ไม่กล้ากลับไปอ่านซ้ำอีกอยู่ดีอ่า ขึ้นหิ้งไปอีกเรื่อง สุดยอดจริงๆเรื่องนี้


ชอบนิยายของคุณ ภัคD มากๆเลย เพราะตัวละครทุกตัวมีมิติ สมจริงมาก
บางทีก็เผลอคิดไปว่าพวกเค้าเหล่านั้นมีชีวิตจริงๆ พี่เหยา เอก ทอม  ฯลฯ
ภาษาที่ใช้ การบรรยายก็บาดลึก กินใจ ใช้คำง่ายๆเข้าใจง่ายๆ เข้าถึงอารมณ์



ปล.

- เราแอบรำคาญ เอก อะ ทำผิดเรื่องเดิมๆตลอดเวลา คิดได้ สำนึกได้ แต่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อ่านๆไปก็อยากจะกรี๊ดเป็นระยะๆ อีกแล้วหรอ! ทำแบบนี้อีกแล้วหรอ สงสารพี่เหยาจังเลย
- รักพี่เหยา  :o8:
- ไม่เข้าใจตอนพี่เหยาไปหาเอกที่หอ ละบอกว่า มันเป็นแค่ยา หรืออะไรสักอย่าง -_-
- ตอนแรกนึกว่าพี่เก้าจะมาชอบเอกซะอีก 555555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2008 01:29:47 โดย OmNi_GoKinJo »

nartch

  • บุคคลทั่วไป
:เฮ้อ:
หนึ่งวันเต็ม ๆ กับเรื่องนี้...สุดยอดนิยายเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว... :a5:
บรรยายความรู้สึกไม่ถูกเอาซะเลย ตัวละครมีพัฒนาการทางอารมณ์
มีการผูกปน  ซ่อนเงื่อนได้อย่างแนบเนียน  หาจุดบกพร่องไม่ได้เลย
ไม่แปลกซักนิดที่เจ้สองของเดี๊ยนจะติดเรื่องนี้เหมือนติดผู้ชายในสต็อค
ก็ไม่ปาน...ทึ่งกับผลงานเรื่องนี้จริง ๆ  :m4:

ชอบเหยาที่มักตลกหน้าตาย พูดอะไรที่ไม่เดียงสา มีมุขแง่คิดแปลก ๆ
ชอบวิทย์ที่เป็นเพื่อนที่ดี หลายเรื่องถ้าไม่ได้วิทย์คงจะไม่จบแบบนี้...
ว่าจะไม่เขียนถึงเอก แต่เรื่องก็จบด้วยดี ยังดีที่มีมโนสำนึก และรักจริง

คิดแล้วก็ขอให้มันเป็นเพียงแค่นิยาย...สำหรับชีวิตแบบเหยา...
จดจำและ comment แต่สิ่งดี ๆ พอละกัน... :serius2:

ตอนพิเศษอ่านแล้วรู้สึกดีจัง...หลังจากที่อึดอัดบีบคั้นกันมาตลอดเรื่อง...
 :L2: :L1: :L2:

ออฟไลน์ วิหคท่องนภา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
T^T อ่านจบตอนที่4อยู่เลย

โธ....หนูเอกของป้า ซิกๆ       ไม่อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ

ทนทำใจไม่ไหว  นี่ก็น้ำตาซึมไปแล้วเนี่ย o7

ออฟไลน์ วิหคท่องนภา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
 :เฮ้อ:จบตอนที่7แล้วค่ะ

เฮ้อ.....น้องเอกของป้าช่างเป็นคนที่ทำอะไรโดยไม่ไต่ตรองอะไรให้ดีๆซะก่อนT^T

ทำไปแล้วก็มาโทษตัวเอง โทษคนนั้นคนนี้.....ไม่เคยคิดอะไรบ้างเล้ย(หรือคิดมากไป :sad2:)

สุดท้ายก็มานั่งกลัดหนองที่คลองแสนแสบ o7 แอบคนข้างบ้าน เมียพี่มีชู้ ปูนาขาเก (เกี่ยวไรฟะ) :a6: น้ำตามดแดง:m15:


 :o12:แต่อ่านมาถึงตอนนี้ก็นับว่าตัวเองใจแข็งเกินพอละ.....ทำใจอ่านตอนต่อไปไม่ได้ o7ขอจรลีจากเรื่องนี้ไปทำใจก่อนนะจ๊ะ

ปล.เขียนได้ดีมากเลยอ่ะค่า   ชอบมากทั้ง สำนวน ทั้งอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร การดำเนินเรื่องที่ไม่ยืดเยื้อเกินไป(ถ้ายืดกว่านี้คนอ่านคงช้ำใจตายก่อน ฮาฮา) แล้วก็วางโคลงเรื่องได้ดีมากเลยอ่ะค่ะ ขอคาวะ1จอก

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
เฮ้อสุดเศร้าครับผม  :mc4: อ่านไม่จบ สงสารเหยา  :t3: ถ้าชีวิตจริงเป็นแบบนี้ คงทรมานเนอะ

ออฟไลน์ PHUCK™

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-31
.
.
.




ปุ้งๆๆๆๆ .. จุดพลุฉลองตอนพิเศษ ..
ขอบคุณพี่ทิพย์ที่เอามาลง .. แล้วก็ขอบคุณสาววายคนนั้น .. ขอบคุณครับคุณภัคD



ยังคงเป็นเรื่องสุดแสนประทับใจอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ..
:*))   )

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด