...ด้วยพันธะบรรณาการ พันธะ 17(จบ)...อัพ 22/07 (หน้า 20 ค่ะ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ด้วยพันธะบรรณาการ พันธะ 17(จบ)...อัพ 22/07 (หน้า 20 ค่ะ)  (อ่าน 276475 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ้โห ช่างเป็นราชินีที่ร้ายกาจจริงๆ 55555
แต่อย่างน่อยองค์สนกับองค์เตชก็จะได้รักกันจริงๆจังๆแล้วสินะ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ยัยราชินีวารีวาทนี่เจ้าเล่ห์จริงๆ เดี๋ยวให้ท่านสนตามท่านเตชไปอนันตราชสักปีสองปีแล้วค่อยกลับมาดีกว่า

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ราชินี ช่างร้ายกาจจริง ๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
องค์เจษเสียรู้แล้ว55

ออฟไลน์ IaminLove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-5
ถึงราชินีจะโหดร้ายไปนิด แต่ตอนนี้ก็อบอุ่นมากค่ะ
ดีใจจริงๆ ที่ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกัน ปริ่มอ่ะะะะะะะ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
โอ๊ยยยยยย นางเก็บทุกเม็ดจริงๆ ราชินีวารีวาท  :z3:
แต่ดีนะที่นางยอมยกองค์สนให้
เฮ้อออ ทนอีกนิดนะองค์ชายทั้งสอง

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
ร้ายกาจอยากรู้ว่าแม่รักลูกรึเปล่า

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2
มาตอนตลาดใกล้วาย เลยได้อ่านรวดจนเกือบแฮปปี้เอนดิ้ง
เหม่ คู่รักยังพลัดพราก (แต่คนอ่านฮา  :hao3:)
ใครจะชีช้ำกว่ากันระหว่างองค์เตชกับองค์สน  :mew4:
ว่าแล้วก็นึกถึงดำรัสที่ว่า ราชินีวารีวาทมีโอรสและธิดาของพระองค์เอง 3 องค์
อีกคนที่แจ็คพอตคือใครล่ะนี่  :ruready

ออฟไลน์ ophena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เจ้าเล่ห์ได้ใจจริงๆค่ะ  สงสารองค์เตชเลยเชียว

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
บอกตรงๆ ประทับใจการเป็นผู้นำสูงสุดขององค์รานีจริงๆ
คนนี้ทำทุกอย่างเพื่อแผ่นดินเกิด ไม่สนวิธีการสนแค่ผลลัพท์
ที่จะได้ แต่คนแบบนี้ต้องไม่รักใครเลยและต้องเหี้ยมจริงถึงจะเป็นได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
NOV: ด้วยพันธะบรรณาการ
By: Dezair
……………………..
บทที่ 17

   เสียงกระดาษขยับเสียดสีดังแซ่กๆในตำหนักหลวงซึ่งถูกใช้เป็นที่ประชุมงานทุกเช้ายังคงดังต่อเนื่องไปอีกเล็กน้อยหลังจากราชินีวารีวาทตรัสเลิกประชุม ขุนนางนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของเกาะสมุทรากำลังจะลุกจากโต๊ะอย่างเชื่องช้า หากแต่...ใครบางคนกลับผุดลุกว่องไวเสียจนขุนนางทั้งหลายต้องมองเป็นตาเดียว



   “เสด็จแม่ ลูกขอตัวก่อน” องค์ชายสนธยายังคงเข้าประชุมเพื่อช่วยงานรัฐกิจเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง บางครั้งบางคราวก็มีทิวาเข้าร่วมด้วย อย่างเช่นครั้งนี้



   “เสด็จพี่จะรีบไปที่ใดหรือ” ทิวาเอ่ยถามผู้เป็นเชษฐาที่รีบร้อนเสียเต็มประดา ถึงขนาดที่ว่าแม้แต่ม้วนกระดาษงานทั้งหลายที่ปกติจะเป็นคนหอบไปเก็บที่ตำหนักเอง มาวันนี้ยังโยนให้ชีวินไปเก็บให้เสียอีก



   “ธุระด่วน ไปก่อนล่ะ” ว่าแล้วสนธยาก็น้อมกายบังคมลาผู้เป็นมารดาแล้วรีบผลุนผลันออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิวาหันมามองชีวินที่ยังหอบกระดาษม้วนเป็นสองแขนด้วยความงุนงง จนผู้เป็นองครักษ์แต่วันนี้ไม่ได้ติดตามนายเหนือหัวไปด้วยต้องค้อมศีรษะเล็กน้อยแล้วทูลตามจริง



   “วันนี้องค์ชายเตชินทร์เสด็จมาสมุทราพระเจ้าค่ะ” สนธยาหาว่าชีวินอืดอาด หลังจากที่ชีวินติดตามไปรับเสด็จองค์ชายเตชินทร์ในครั้งที่ 2 และก็ถูกองค์ชายสนธยามีรับสั่งว่าไม่ต้องตามไปอีก โดยให้เหตุผลว่าที่ท่าเรือมีนายทหารจำนวนมากที่มาอารักขาอยู่แล้ว แต่ประเด็นหลักคือชีวินชักช้า องค์ชายสนธยาอยากเสด็จไปรออาคันตุกะก่อนที่เรือหลวงของอนันตราชจะเทียบท่า



   ...ดูจะเป็นเอามาก ชีวินอยากสัพยอกผู้เป็นนาย แต่ก็เกรงว่าองค์ชายสนธยาจะรู้องค์เสียก่อนว่าตื่นเต้นดีใจกับการมาเยือนขององค์ชายเตชินทร์มากกว่าผู้ใด...



   “อ้อ อย่างนี้นี่เอง” องค์ชายทิวาครางแผ่วเบาแล้วคลี่ยิ้มบาง ก่อนจะหันมาทางราชินีวารีวาทที่ยังประทับอยู่หัวโต๊ะทรงงาน



   “เสด็จพี่คงอยากจะพบองค์ชายเตชินทร์มากนะพระเจ้าค่ะ” ราชินีวารีวาทไม่ตรัสอะไร หากแต่ทรงเอนปฤษฎางค์พิงกับพนักพระเก้าอี้แล้วถอนปัสสาสะราวกับจะปล่อยวาง



   ...บางที นี่อาจจะถึงเวลาที่พระองค์ควรจะปล่อยให้สนธยาไปตามทางแล้วก็เป็นได้ ใจของสนธยาไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว แม้ว่าจะรักสมุทราเท่าชีวิต แต่ใครอีกคนก็เป็นดั่งลมหายใจ...



   บางครา ราชินีวารีวาทก็นึกชังโชคชะตาที่ให้พระองค์ต้องเลี้ยงดูลูกของพี่สาวที่เคยทอดทิ้งสมุทราไป แล้วบัดนี้ ลูกผู้นั้น...ก็กำลังจะดำเนินรอยตามมารดาแท้...จะจากสมุทราไปอีกคน...



   ...ช่างเหมือนวารีวาทอีกคน ที่ทำให้วารีวาทคนนี้นึกอิจฉา ทั้งๆที่อุตส่าห์ทำให้สนธยาเข้าใจว่าเป็นลูกที่แท้จริงของตนแล้วไซร้ แต่สนธยาก็ยังไม่เหมือนพระองค์ ส่วนคนที่เหมือน...อรุณา...ก็เหมือนมากเกินไปจนพระองค์ไม่อาจฝากความหวังใดๆของสมุทราได้...



   ...ในเมื่อชะตาฟ้าลิขิตแล้ว ก็ควรทำให้เป็นไปตามที่ลิขิตเสียที พระองค์ไม่ควรขัดขวางอีก...



   “เจ้าจะกลับตำหนักเลยใช่ไหม ทิวา” ราชินีวารีวาทตรัสถามโอรสด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่บอกพระอารมณ์ใดๆ



   “พระเจ้าค่ะ เสด็จแม่ต้องการอะไรหรือ”



   “ตามราตรีกับอุษามาพบแม่ที” ด้วยรัฐกิจที่ต้องบริหารมากมาย น้อยครั้งนักที่ราชินีวารีวาทจะเรียกพบโอรสธิดาองค์ใดหากไม่มีกิจจำเป็น ทิวาเหลือบมองผู้เป็นมารดาเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ ก่อนจะทูลถาม



   “ให้กระหม่อมบอกน้องทั้งสองหรือไม่ว่าเป็นเรื่องใด” ราชินีวารีวาททรงนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะยอมตรัสเสียงเบา



   “เรื่องแต่งตั้งรัชทายาท”



ตรัสแล้วก็ทอดสายเนตรออกไปยังท้องทะเลสีน้ำเงินระยิบที่อยู่นอกพระบัญชร อีกฝั่งของทะเลนี้คืออาณาจักรใหญ่ที่ไม่มีใครทัดเทียม อาณาจักรใหญ่ที่เป็นแหล่งพึ่งพิงของสมุทรามาโดยตลอด อาณาจักรใหญ่...ที่จะมอบมิตรภาพให้แก่สมุทราตลอดไป



   ...และบางที...นี่อาจจะถึงเวลาแล้วที่อนันตราชจะได้ของตอบแทนจากสมุทราบ้าง...



..........................................



   ท่าเรือของสมุทรายังคงครึกครื้นและคราคร่ำไปด้วยคนท้องถิ่นชาวสมุทราและนักท่องเที่ยวชาวต่างแดนที่ขวักไขว่เต็มไปหมด มุมหนึ่งของท่าเรือนั้นถูกกั้นด้วยนายทหารอารักขาจำนวนมาก เมื่อเรือหลวงแห่งอนันตราชเข้าจอดเทียบท่า องค์ชายสนธยาประทับอยู่ที่ท่าเรือทอดเนตรไปยังสะพานเรือที่ทอดลงมาจากเรือหลวงเชื่อมกับท่าด้วยหัวใจเต้นระส่ำด้วยความยินดี



   แล้วร่างสูงสง่าก็ปรากฏขึ้น ร่างนั้นส่งรอยยิ้มสว่างไสวราวกับพระอาทิตย์มาให้ ก่อนที่จะรีบเร่งก้าวลงจากเรือมายังท่า มาหยุดอยู่เบื้องหน้าพระองค์ด้วยสายเนตรอ่อนหวานและรอยยิ้มอ่อนโยนดังทุกที



   “เรามาแล้ว ท่านสน”



   “ยินดีต้อนรับ ท่านเตช”





เป็นการทักทายเฉกเช่นทุกครั้งที่องค์ชายเตชินทร์เสด็จเยือนสมุทราตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นเพียงการทักทายที่ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวประการใด แต่สายเนตรที่ทอดมองกันและกันนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากล้นของความคิดถึงและห่วงหา แม้เวลานี้จะทำได้เพียงมาพบหน้าเมื่อเสร็จงานแล้ว และต้องรีบเร่งกลับไปในวันที่ต้องทำงาน แต่...การจากเพื่อพบเจอ และการได้อยู่ด้วยกันเพียงหนึ่งวันหรือสองวันแล้วต้องจากกันอีกครั้ง ก็ทำให้ช่วงที่ได้พบหน้านั้นกลายเป็นความหวานหอมที่ถวิลหา



   ...แต่...มันคงจะดีกว่านี้ หากได้พบหน้ากันทุกวันทั้งเช้าและเย็น...



   สองร่างก้าวขึ้นเกวียนขนาดใหญ่ที่มุ่งสู่ตำหนักของสมุทรา ไม่มีคำพูดอื่นใด ไม่มีการเกี้ยวพาราสีราวกับคู่รัก หากแต่...ทันทีที่ทรุดกายลงนั่งเคียงข้างกัน หัตถ์ใหญ่ร้อนของเตชินทร์ก็กอบกุมเข้ากับหัตถ์สีน้ำผึ้งทองของสนธยาด้วยความรักความคิดถึง



   “จะได้มาพบท่านแต่ละครั้ง เราดีใจจนแทบบ้า อนันตราชกับสมุทราอยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่เรากลับคิดว่ามันไกลมาก” นับสองปีแล้วที่องค์ชายเตชินทร์เสด็จมาเยือนสมุทราบ่อยเสียจนเกิดเป็นข่าวลือไปทั่วว่าอีกไม่ช้าไม่นานสมุทราและอนันตราชจะกลายเป็นทองแผ่นเดียวกัน



   ...ซึ่งข่าวลือนี้ องค์ชายเตชินทร์ภาวนาให้กลายเป็นความจริงในเร็ววัน พระองค์อยากเป็นทองแผ่นเดียวกับสมุทราใจจะขาดอยู่แล้ว...



   “เราก็เช่นกัน”



   “ท่านก็คิดถึงเราใช่ไหม” ยิ่งกว่าคำบอกรัก ยิ่งกว่าการพร่ำราพรรณถึงความรู้สึกเบื้องลึก เพราะแค่เอ่ยว่าคิดถึง เตชินทร์ก็ดีใจมากกว่าการที่ได้มาที่นี่เสียอีก



   “ก็ไม่ได้เจอกันหลายวันไม่ใช่หรือ” หากแต่เป็นฝ่ายสนธยาที่รังแต่จะทำเป็นเคร่งขรึม บอกไม่ได้หรอกว่ารีบร้อนออกจากตำหนักโดยไม่รั้งรอก็เพราะอยากมาเจอใครบางคน สนธยาเกรงว่าอีกฝ่ายจะดีใจเกินเหตุ ยิ่งเตชินทร์ดีใจก็ยิ่งแสดงออกทั้งสีพักตร์ทั้งสายเนตร แล้วเมื่อเป็นเช่นนั้น สนธยาเป็นต้องรู้สึกประหม่าทุกทีที่ถูกจับจ้องด้วยความอ่อนหวานอ่อนโยนถึงเพียงนั้น



   “แล้วถ้าได้เจอกันทุกวัน ท่านจะยังคิดถึงเราไหม” คำถามนั้นแสนจริงจัง สนธยาเหลือบเนตรสบกับเนตรที่แสนมั่นคงด้วยหัวใจสั่นเทิ้ม เหตุใดจะไม่รู้ว่าเตชินทร์หวังทุกวันว่าให้วันถัดไปคือวันที่เขาทั้งสองจะได้เคียงคู่ แต่...เกือบสองปีแล้ว ที่วันนั้นยังมาไม่ถึงเสียที ทว่าเตชินทร์ก็ยังคาดหวังอย่างไม่ลดละ



   “ความห่างไกล สร้างความคิดถึง หากเมื่อไรที่ได้อยู่ใกล้ ความคิดถึงคงจางหายกระมัง” สนธยาตอบแบ่งรับแบ่งสู้ ด้วยไม่กล้าคิดไปถึงวันที่จะได้อยู่ด้วยกัน แค่ทุกวันนี้มีโอกาสได้พบหน้า ได้พูดคุย ได้เคียงใกล้ก็นับว่ามากล้นแล้ว หนำซ้ำราชินีวารีวาทหรือแม้แต่กษัตริย์วิภูก็ทรงไม่ห้ามปรามด้วย



   “เราจะรอคอยวันที่ความคิดถึงจางหายอย่างใจจอใจจ่อ” เตชินทร์ย้ำหนักแน่นด้วยน้ำเสียงมั่นคง แล้วประทับจุมพิตลงกับหลังมือสีน้ำผึ้งทองด้วยความรักล้นใจ



......................................



   “เสด็จแม่...เมื่อครู่นี้ตรัสว่าอะไรนะเพคะ” องค์หญิงน้อยนามว่าอุษาทูลถามด้วยความตกตะลึง การถูกมารดาเรียกพบก็นับว่าประหลาดมากแล้วเนื่องจากราชินีวารีวาทมีกิจมากมาย แต่สิ่งที่ประหลาดยิ่งกว่าคือเรื่องที่เสด็จแม่ตรัสให้เลือก



   “แม่ถามว่าราตรีกับอุษา ใครอยากได้บัลลังก์นี้” ราชินีวารีวาทตรัสอีกครั้งแล้วแตะหัตถ์ลงกับบัลลังก์ที่พระองค์ยังคงประทับ



   สองพี่น้องราตรีและอุษาหันมองหน้ากันด้วยความมึนงง



   “แม่ถาม พวกเจ้าไม่ได้ยินหรือ?!”



   “ด...ได้ยินเพคะ...แต่ว่า...แต่ว่าเราสองคน...” อุษาตอบตะกุกตะกักด้วยความหวาดหวั่น ก่อนจะเหลือบมองผู้เป็นพี่ที่ยังคงเงียบ



   “ราตรี เจ้าจะปล่อยให้น้องพูดเพียงลำพังเช่นนั้นรึ?!” ราตรีค้อมกายคำนับผู้เป็นมารดาก่อนจะทูลด้วยน้ำเสียงที่ค่อนไปทางหนักใจ



   “เสด็จแม่ หม่อมฉันขอทูลตามตรงว่าหม่อมฉันกลัวเรื่องจะซ้ำรอยกับที่เกิดกับเสด็จพี่อรุณา หากว่าอุษาอยากได้บัลลังก์ หม่อมฉันจะถอยให้น้องเพคะ” อุษาหันมองผู้เป็นพี่ด้วยความตกตะลึง



   “ม...ไม่เอานะเสด็จพี่...เสด็จพี่เป็นพี่ของอุษา ต้องได้รับตำแหน่งสูงกว่าอุษาสิ” แล้วก็กลายเป็นการเกี่ยงกันที่จะไม่รับบัลลังก์ ราชินีวารีวาทมองธิดาทั้งสองเบื้องหน้า ก่อนจะถอนปัสสาสะแผ่วเบา



   ...ลูกคนหนึ่งนั้นอยากได้บัลลังก์นี้จนแดดิ้น ลูกอีกสองกลับเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมาเพราะไม่อยากได้...กลิ่นของอำนาจนั้น สำหรับบางคนช่างหอมหวาน แต่กับบางคนคงเหม็นเสียจนน่าอาเจียนสินะ...



   “พวกเจ้ารักสนธยาไหม” พระองค์ตรัสถาม และแทบจะในทันทีที่อุษารีบทูลตอบ



   “รักเพคะเสด็จแม่”



   “เจ้าล่ะ ราตรี รักสนธยาไหม”



   “เสด็จพี่สนธยาเป็นเชษฐาที่มีน้ำพระทัยงดงาม คิดถึงแต่สมุทราและคนรอบข้าง กล้าหาญ ชาญฉลาด และเป็นเชษฐาที่แวะเวียนมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบหม่อมฉันแทบทุกวัน ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่รักเสด็จพี่สนธยาเพคะ”



   “พวกเจ้ารู้ใช่ไหมว่าองค์ชายเตชินทร์แห่งอนันตราชรักใคร่สนธยาเพียงใด สนธยาเองก็รักองค์ชายเตชินทร์เช่นกัน แม่ทำสัญญาเอาไว้กับทางอนันตราชว่าเมื่อไรที่สมุทราเข้มแข็งและมีรัชทายาทแล้ว เมื่อนั้นจะยกสนธยาให้แก่องค์ชายเตชินทร์"



   “เสด็จแม่เลยจะทรงแต่งตั้งรัชทายาทอย่างนั้นหรือเพคะ” ราตรีทูลถาม



   “ใช่”



   “เสด็จแม่อยากให้เสด็จพี่สนธยาออกจากที่นี่หรือ ถ้าสมุทราไม่มีเสด็จพี่สนธยา...เราคง...” ราตรีไม่อยากคิดหากวันหนึ่งสมุทราขาดเสาหลักอย่างผู้เป็นพี่ไป สนธยาที่ทำทุกอย่างเพื่อสมุทรา สนธยาที่ทำทุกอย่างเพื่อราชสำนัก หากวันหนึ่งต้องไปอยู่ที่อื่น วันนั้นสมุทราก็คงเหมือนเรือนที่ไม่มีเสาค้ำ



   “ราตรี เสด็จพี่ของเจ้าทำเพื่อสมุทรามามากแล้ว เขาถึงเวลาที่จะได้สิ่งตอบแทนจากสมุทราบ้าง” ราตรีและอุษาหันมองหน้ากัน ด้วยรู้ดีว่าสิ่งที่เสด็จแม่ตรัสนั้นไม่ได้คลาดไปจากความจริงเลยแม้แต่น้อย สนธยาทำเพื่อสมุทรามามาก มากมายเกินกว่าจะนับ



   “แม่เรียกพวกเจ้ามา เพราะอยากถามความสมัครใจว่าใครที่อยากได้บัลลังก์นี้ แม่จะแต่งตั้งคนนั้นเป็นรัชทายาท และให้ศึกษาเรียนรู้งาน การเป็นทายาท เป็นว่าที่ราชินี ต้องเรียนรู้รัฐกิจ ต้องเรียนรู้ที่จะเด็ดขาดและเข้มแข็ง มีเรื่องราวเลวร้ายมากมายที่ต้องต่อสู้เพื่อคงไว้ซึ่งอำนาจเหนือบัลลังก์นี้ หากอ่อนแอ โลเล หรือไม่เท่าทันผู้อื่นแล้ว เมื่อนั้นอาจสิ้นแม้กระทั่งชีวิต...” ราชินีวารีวาทตรัสขณะทอดเนตรที่ธิดาทั้งสอง



   “ระหว่างเจ้าทั้งสองคน ใครจะรับตำแหน่งนี้” สองพี่น้องมองหน้ากันอีกครั้ง ราชินีวารีวาททรงรู้ดีว่าทั้งอุษาและราตรีนั้นเป็นพี่น้องที่สนิทสนมกว่าโอรสธิดาองค์ใดของพระองค์ ด้วยเพราะวัยไล่เลี่ยกันและไม่เคยถูกคาดหวังในตำแหน่งสูงส่งนอกเหนือไปจากตำแหน่งองค์หญิงปลายแถว ดังนั้นจึงไม่เคยต้องพานพบกับความกดดันเท่ากับสนธยาหรืออรุณา



   เป็นฝ่ายราตรีที่ยกหัตถ์ขึ้นยอมรับ เมื่อมองเห็นสีเนตรของผู้เป็นน้องที่เต็มไปด้วยความกังวลฉายชัด



   “หม่อมฉันเพคะ”



   “ดี เจ้ารับปากแม่แล้วนะราตรีว่าจะรับบัลลังก์นี้ แม่จะให้ทางกรมวังประกาศเรื่องนี้ออกไป แล้วตั้งแต่พรุ่งนี้เจ้าจะต้องเข้ามาประชุมทุกเช้าเพื่อเรียนรู้งาน แม่จะให้ทิวาคอยสอนงานเจ้าด้วย เจ้าต้องขยันและเรียนรู้งานให้ไว หากพวกขุนนางเฒ่าทั้งหลายยอมรับเจ้า บัลลังก์นี้ก็จะเป็นของเจ้าโดยสมบูรณ์ แต่หากเจ้าทำไม่ได้ แม่จะปลดเจ้าลงจากตำแหน่งรัชทายาท แล้วตั้งอุษาขึ้นมาแทน และหากทั้งเจ้าและอุษาทำไม่ได้ แม่จะเรียกสนธยากลับมาเป็นราชาองค์แรกของสมุทรา เจ้าคงจะรู้...ว่าถ้าเรียกสนธยากลับมา นั่นหมายความว่าสนธยาจะต้องเลิกกับองค์ชายเตชินทร์...”



   “รับด้วยเกล้าเพคะ” ราตรีค้อมเศียรรับโองการด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง เมื่อภาระทั้งหมดตกลงมาที่ตนอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะรับความยากลำบากทั้งหมดเอาไว้เอง หน้าที่ที่เหลือต่อจากนี้ก็มีเพื่อบ้านเมืองสมุทราเท่านั้น



องค์หญิงราตรีว่าที่ราชินีองค์ต่อไปแห่งสมุทราเงยพักตร์ขึ้นทอดเนตรมารดาอีกครั้ง



   “เสด็จแม่...หากเสด็จพี่สนธยาเสด็จไปอนันตราชแล้ว เมื่อนั้นเสด็จพี่จะมีความสุขใช่ไหมเพคะ” เป็นคำถามที่ราชินีวารีวาทถามองค์เองเสมอมา ว่าระหว่างให้สนธยาอยู่ที่สมุทรากับให้สนธยาไปอนันตราช ที่ใดหนอจะที่สนธยาจะมีความสุขมากกว่ากัน



   ...แต่...ไม่ว่าจะที่ใด หากที่นั่นมีองค์ชายเตชินทร์ให้เคียงข้าง ก็คงเป็นความสุขที่สนธยาเรียกหา...



   “แม่คิดเช่นนั้น” ราตรียิ้มน้อยๆอย่างเบาใจ อย่างน้อยหากความหนักอึ้งของภาระทั้งมวลตกมาที่พระองค์ สิ่งที่อยากทอดเนตรก็คือได้เห็นคนรอบข้างสุขสบาย



   ...โดยเฉพาะเสด็จพี่สนธยา...



   “เสด็จแม่ทรงไม่เคยคาดการณ์ผิดพลาด เพราะฉะนั้น เสด็จพี่จะต้องมีความสุขแน่ๆเพคะ” นั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนที่ราตรีและอุษาจะน้อมลาออกจากห้องไป ราชินีวารีวาททอดเนตรตามแล้วถอนปัสสาสะแผ่วเบาราวกับยกภูเขาทั้งหมดออกไป



.....................................   



   ตำหนักรับรองขององค์ชายเตชินทร์แห่งอนันตราชนั้นคือตำหนักส่วนพระองค์ขององค์ชายสนธยา อันที่จริงเมื่อครั้งที่องค์ชายเตชินทร์เสด็จมาเสด็จไปช่วงแรกๆนั้น พระองค์ประทับที่ตำหนักรับรองอาคันตุกะ หากแต่เมื่อการมาเยือนเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ องค์ชายสนธยาจึงมีรับสั่งกับราชสำนักสมุทราด้วยองค์เองว่าให้องค์ชายเตชินทร์ประทับที่ตำหนักของพระองค์เสียเลย



   “อากาศที่สมุทราอุ่นสบายดีเหลือเกิน” องค์ชายหนุ่มแห่งอนันตราชตรัสอย่างสบายพระทัย ขณะกำลังประทับเอกเขนกอยู่บนพระเก้าอี้เอนริมระเบียงที่ผินหน้าสู่ทะเลกว้างสีน้ำเงินระยิบ พระอาทิตย์ส่องแสงแรงกล้าแม้จะเป็นยามบ่ายจัดแล้วก็ตามที



   “ที่อนันตราชหนาวมากหรือ” เจ้าของตำหนักเสด็จมาประทับบนพระเก้าอี้ใกล้กัน เตชินทร์หันกลับมามอง สายเนตรเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก



   “มาก โดยเฉพาะเมื่อท่านไม่อยู่ด้วย” คนฟังกลั้นยิ้มแทบไม่ทัน รู้ดีว่ากำลังถูกมอบความรักมากมายให้อย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน แต่สนธยาก็เป็นบุรุษที่เติบโตขึ้นมาอย่างบุรุษเสียจนนึกขันมากกว่าจะรู้สึกซาบซึ้ง หากแต่ก็กลัวว่าหากหัวเราะออกมา อีกฝ่ายจะน้อยใจเอาได้ สนธยาจึงเปลี่ยนเรื่องคุย



   “เสด็จแม่ทรงติดภารกิจเล็กน้อย แต่มีรับสั่งว่าให้ท่านเข้าเฝ้าในตอนเสวยมื้อค่ำเลย” ตั้งแต่มาถึงเมื่อตอนเช้า เตชินทร์ยังไมได้เข้าเฝ้าราชินีวารีวาทเลย แม้จะมาเยี่ยมเยียนสมุทราบ่อยเสียจนจะจำหน้าทหารเฝ้าท่าเรือของที่นี่ได้แล้ว แต่เตชินทร์ถือว่าต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู จะไปจะมาก็ต้องแจ้งให้ราชินีวารีวาททรงรับรู้ จะได้ไม่กล่าวหาว่าพระองค์มาลักกินขโมยกินในสมุทรา



   “เข้าเฝ้าตอนเสวยหรือ? แปลกจริง ปกติไม่เห็นเคยให้เข้าเฝ้าตอนนั้น” เตชินทร์ตั้งข้อสังเกต ทว่าเป็นฝ่ายสนธยาที่คาดการณ์เอาว่าคงไม่มีอะไร



   “คงเพราะเสด็จแม่งานยุ่งกระมัง” และเพราะรัฐกิจมากมายที่ราชินีวารีวาทต้องทรงรับผิดชอบ สนธยาจึงไม่กล้าเรียกร้องที่จะขอแยกตัวออกไปอยู่กับเตชินทร์ที่อนันตราช เขาไม่อาจละทิ้งหน้าที่ของการเป็นองค์ชายแห่งสมุทราและการเป็นโอรสในราชินีวารีวาทได้ลงคอ แม้จะต้องทนคิดถึงเตชินทร์ยามไม่พบหน้าไปบ้าง ต้องลำบากเตชินทร์ให้แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆบ้าง แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นมากไปกว่านี้



   “เป็นห่วงราชินีวารีวาทหรือ” เตชินทร์เห็นสีพักตร์ของคนรักก็พอจะเข้าใจความรู้สึก ที่สนธยายังต้องอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะเขาไม่เร่งรัดให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่เพราะเตชินทร์ไม่อยากทำให้สนธยาลำบากใจ



   “เสด็จแม่ทรงงานมากเหลือเกิน จนบางทีเราก็รู้สึกว่าตัวเองช่วยเสด็จแม่ไม่มากพอ”



   “หากท่านช่วยมากกว่านี้ เราคิดว่าท่านคงจมอยู่ในกองเอกสารแล้วกระมัง” องค์ชายหนุ่มแห่งอนันตราชหยอกเอินเรียกรอยยิ้มจากอีกฝ่ายได้ ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเพราะไม่อยากให้สนธยาคิดมากไปกว่านี้



   “เข้าเฝ้าตอนเย็นใช่ไหม ถ้าเช่นนั้น ตอนนี้ก็ว่างน่ะซี”



   “อยากให้เราพาเที่ยวหรือ” คำถามของสนธยาทำเอาบุรุษร่างสูงเหลือบเนตรระยิบกลับมามอง



   “อยากให้ท่านอยู่กับเราตามลำพังต่างหาก” คนฟังหัวเราะน้อยๆ วาจาของเตชินทร์นั้น หากคนฟังเป็นสตรี ก็คงลุ่มหลงเตชินทร์มากทีเดียว



   “หัวเราะอะไรกัน เราพูดความจริง”



   “เรารู้ว่าท่านพูดจริง แต่ไม่นึกเคอะเขินบ้างหรือ”



   “ไม่เลยสักนิด เพราะกว่าเราจะมีโอกาสได้พูดเช่นนี้ มันยาวนานนับสิบปี วันนี้มีโอกาสได้พูดแล้ว เราไม่คิดจะเก็บเอาไว้ในใจหรอก” เตชินทร์ตอบและนั่นทำเอาเสียงหัวเราะของสนธยาจางหายโดยพลัน ความรู้สึกมากล้นที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างยาวนานนั้น แม้จะเพิ่งมารับรู้เอาวันนี้ แต่สนธยาก็รู้สึกว่าตัวเองเอาเปรียบอีกฝ่ายมากเหลือเกิน เขาลุกจากเก้าอี้ของตนเอง ไปนั่งร่วมกับเก้าอี้เอนของอีกฝ่าย



   “ท่านโกรธเราบ้างไหม ที่เรารักท่านช้ากว่าที่ท่านรักเรา”



   “ไม่เคยนึกเช่นนั้นเลย แค่ท่านรักเรา เราก็ดีใจแล้ว ท่านจะรักเราช้าหรือเร็ว ไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือวันนี้ท่านรักเราต่างหาก นั่นคือสิ่งที่มีค่า” สนธยารับฟังด้วยความรู้สึกเต็มตื้นทั้งหัวใจ สิ่งที่เตชินทร์เพียรบอกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียรทำให้เขารับรู้อยู่ตลอดเวลานั้น ทำให้สนธยาแทบลืมไปเสียแล้วว่าก่อนหน้านี้ตนเองเป็นองค์ชายมากรักพระองค์หนึ่งที่มีสนมนับร้อย



   ทว่าวันนี้...ในหัวใจกลับมีเพียงแค่เตชินทร์คนเดียวเท่านั้น...



   “เราอาจจะเป็นคนโลภมาก ท่านสน...แต่เมื่อไรที่สมุทรามั่นคงแล้ว ได้โปรดอยู่กับเรา อย่าจากเราไปไหน...อยู่กับเราในฐานะคนรัก ไม่ใช่เครื่องบรรณาการใดๆ เราอาจไม่มีตำแหน่งที่สูงส่งอย่างองค์ชายมอบให้ท่าน แต่หัวใจของเราทั้งใจ เป็นของท่านเพียงผู้เดียว”



   “ถ้าสมุทรามั่นคงแล้ว...เราจะอยู่กับท่าน” สนธยาให้คำมั่น สองหัตถ์ประคองกันแนบแน่นราวกับให้คำสัญญากับสายลมแห่งสมุทราที่ยังคงพัดผ่านเกาะแห่งนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน



   ...เมื่อใดที่สมุทราอยู่ได้โดยไม่ต้องมีสนธยา เมื่อนั้นสนธยาจะเป็นของเตชินทร์แต่เพียงผู้เดียว...



......................

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
   

การเข้าเฝ้าในยามเสวยมื้อค่ำนั้นเป็นที่คาดการณ์ได้ว่าอาคันตุกะอย่างองค์ชายหนุ่มแห่งอนันตราชจะต้องร่วมโต๊ะเสวยกับราชินีวารีวาท พร้อมหน้าด้วยเหล่าพี่น้องทั้งหมดของสนธยา



   “องค์ชายเตชินทร์คงจะคุ้นหน้าคุ้นตาทิวาดี ส่วนราตรีกับอุษาคงยังไม่เคยพบหน้ากระมัง” ราชินีวารีวาทที่ประทับหัวโต๊ะเสวยทรงหันมาตรัสกับองค์ชายหนุ่มแห่งอนันตราชที่ประทับอยู่ด้านซ้าย ในขณะที่ด้านขวาคือองค์ชายสนธยาโอรสองค์โตของพระองค์



   “เคยพบหน้าแล้ว 2-3 ครั้งกระหม่อม องค์สนเป็นคนแนะนำให้รู้จักกัน”



   “อ้อ อย่างนั้นหรือ” ราชินีวารีวาทเหลือบเนตรมาทางโอรสที่ดูเหมือนจะนำหน้าพระองค์ไปแล้วหนึ่งก้าว เพราะชักจูงให้ทั้งองค์ชายเตชินทร์และเหล่าขนิษฐาได้พบหน้ากันแล้ว



   “แล้วราตรีกับอุษาทำตัวดีหรือไม่ กีดกันท่านหรือเปล่า องค์สนเป็นที่รักใคร่ของน้องทั้งสอง เกรงว่าทั้งราตรีและอุษาจะทำตัวไม่สู้ดี” ราชินีวารีวาทตรัสถามอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่พระองค์ทรงได้รับรู้ว่าองค์ชายสนธยานั้นทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทั้งคนรักและพี่น้องของตนไม่ผิดใจกัน



   “แรกๆก็มีมึนตึงบ้าง แต่องค์สนช่วยอธิบายให้ทั้งองค์หญิงราตรีและองค์หญิงอุษาเข้าพระทัยพระเจ้าค่ะ” สายเนตรของราชินีวารีวาทเหลือบไปสบกับดวงเนตรสีจางของโอรสองค์โต ก่อนจะตรัสสัพยอก



   “ดูเหมือนเจ้าจะเตรียมการไว้ดีเหลือเกินนะ องค์สน”



   “กระหม่อมแค่พยายามทำให้ทุกคนเข้ากันได้พระเจ้าค่ะ...” สนธยาทูลตอบ ราชินีวารีวาททรงนิ่งงันแล้วพินิจสีพักตร์ของผู้เป็นโอรส พลันนั้นพระองค์ก็รู้พระทัยว่าแม้สนธยาจะมีนิสัยหลายอย่างเหมือนกับวารีวาทอีกคนที่จากไปแล้ว แต่...สายเนตรเจ้าเล่ห์ของสนธยาในยามนี้กลับดูคล้ายพระองค์เหลือเกิน



   ...ฉกฉวยประโยชน์ด้วยวาจาและการกระทำที่ดูอะลุ้มอะล่วย หากแต่แท้จริงแล้วทรงประสิทธิภาพมหาศาล...



   ราขินีวารีวาททรงสรวลน้อยๆก่อนตรัส



   “ดี แม่จะได้สบายใจ หากว่าเจ้าย้ายไปอยู่อนันตราช จะได้ไม่ต้องคอยปลอบใจราตรีและอุษา”



   ...คำว่าย้ายไปอยู่อนันตราชทำเอาสนธยานิ่งชะงัก แล้วเหลือบเนตรสบกับเนตรของเตชินทร์ที่มีแววตกใจไม่ต่างกัน ด้วยเพราะตลอดสองปีที่องค์ชายเตชินทร์แวะเวียนมาที่สมุทรานี้ ราชินีวารีวาทไม่เคยตรัสเรื่องที่จะยินยอมให้องค์ชายสนธยาเสด็จไปอนันตราชเลยแม้แต่ครั้งเดียว และดูเหมือนหลายครั้งจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงข้อสัญญาที่ตกลงเอาไว้กับอนันตราชเสียด้วยซ้ำ ทว่าครั้งนี้...ครั้งนี้ราชินีวารีวาทกลับตรัสขึ้นมาเสียเอง...



   “เสด็จแม่...หมายความว่า...เอ่อ...ย้ายไปอยู่อนันตราช...”



   “แม่จะแต่งตั้งราตรีเป็นทายาท”



   “เสด็จแม่!...” สนธยาร้องด้วยความตกใจ



   “ไม่ดีใจหรือ” ทว่าเป็นราชินีวารีวาทที่ยังคงนิ่งสงบ ก่อนจะเหลือบเนตรไปทางองค์ชายเตชินทร์ที่ดูเหมือนจะตกใจไม่น้อยไปกว่ากัน



   “องค์ชายเตชินทร์ก็ด้วย ไม่ดีใจหรือ”



   “ดีใจพระเจ้าค่ะ แต่...” สิ่งที่เตชินทร์ให้ความสำคัญเพียงหนึ่งเดียวคือความรู้สึกของคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม สนธยารักสมุทรามากเพียงใด เขารู้ดี และเพราะรู้ว่าสนธยารักเกาะแห่งนี้มาก ความห่วงใยจึงมากมายตามไปด้วย แม้สนธยาจะอยากไปอยู่กับเขา แต่ก็ยังห่วงความมั่นคงของเกาะเล็กๆแห่งนี้



   “ห่วงความรู้สึกขององค์สนหรือ...”



   “พระเจ้าค่ะ สิ่งที่กระหม่อมให้ความสำคัญมากที่สุดคือความรู้สึกขององค์สน” และนั่นเป็นครั้งแรกที่ราชินีวารีวาททรงมอบรอยแย้มโอษฐ์อย่างเอ็นดูให้แก่องค์ชายหนุ่มแห่งอนันตราช



   “องค์สน องค์ชายเตชินทร์ทรงรักเจ้าถึงเพียงนี้ เจ้ายังไม่อยากไปอยู่กับเขาอีกหรือ” พระองค์ทรงหันมาตรัสถามกับโอรสองค์โตที่ยังนั่งเงียบ



   “แต่สมุทรา...”



   “เลิกห่วงสมุทราเสียทีเถอะ ห่วงหัวใจคนที่รักเจ้าบ้าง ใจเจ้าจะให้เขาเทียวมาเทียวไประหว่างสมุทรากับอนันตราขไปอีกนานเท่าไร”



   “แต่ถ้ากระหม่อมไป...”



   “ก็แม่เพิ่งบอกเมื่อครู่นี้ เจ้าไม่ได้ยินหรือว่าแม่จะแต่งตั้งราตรีเป็นรัชทายาท” สนธยาอึกอักด้วยความกังวล จนเสียงของราตรีดังขึ้น



   “เสด็จพี่...” สนธยาเหลือบมองผู้เป็นขนิษฐาที่ยังคงแย้มยิ้มให้แก่พระองค์เสมอมา



   “วางใจน้องนะเพคะ น้องจะขยันเรียนรู้งาน จะพยายามเป็นเสาหลักให้แก่สมุทราอย่างที่เสด็จพี่เป็น” สนธยามองรอยยิ้มของราตรีด้วยความหนักอึ้งไปทั้งหัวใจก่อนจะหันกลับมามองมารดา แม้จะยังเป็นกังวล แต่ก็ไม่อยากทำลายน้ำใจของราตรีที่เอาจริงเอาจังจะเป็นเสาหลักแก่สมุทราต่อไป



   ราชินีวารีวาทแย้มโอษฐ์บางพระราชทานแก่โอรสองค์โตด้วยความรักและห่วงใย ทว่าพระองค์รู้ดีว่านับแต่นี้ต่อไป จะมีคนห่วงใยสนธยาแล้ว จะมีคนรักและให้ความสำคัญอย่างที่จะไม่ทำให้สนธยาต้องเสียใจหรือทุกข์ใจใดๆอีก



   “อย่ากังวลกับสมุทราอีกเลย จงไปอยู่ในที่ที่เจ้าควรอยู่เถิด”



   ดวงเนตรสีจางทอดสบกัน ก่อนที่สนธยาจะลุกจากเก้าอี้แล้วทรุดกายลงกับพื้นเพื่อคำนับมารดาด้วยความรักสูงสุดที่มี



   “แม้กระหม่อมจะไปอยู่ที่ใด แต่กระหม่อมก็ยังเป็นโอรสของพระองค์เสมอ เสด็จแม่ เมื่อใดที่ต้องการกระหม่อม โปรดเรียกใช้กระหม่อม ไม่ใช่ในฐานะองค์ชายแห่งสมุทรา แต่เป็นในฐานะโอรสของพระองค์” หัตถ์เล็กของราชินีวารีวาทแตะลงบนเศียรของโอรสแผ่วเบาด้วยความรัก



   องค์ชายเตชินทร์ทอดมองสายใยรักของมารดาและโอรสแล้วได้แต่ยิ้มบางด้วยความยินดี ก่อนจะทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นเพื่อคำนับราชินีวารีวาท



   “กระหม่อมจะดูแลองค์สนอย่างดีที่สุด จะไม่ให้พระองค์เสียพระทัยที่ยกองค์สนให้กระหม่อม”



   “เราจะรับสัญญาของท่าน องค์ชายเตชินทร์ เพราะหากองค์สนเสียใจเพื่อท่าน เมื่อนั้น...เราจะใช้ปัญญาทั้งหมดที่มี ทำให้อนันตราชหลั่งน้ำตาทั้งแผ่นดิน” ไม่ใช่แค่คำขู่ เตชินทร์รู้ดี ทว่าเขาไม่มีความหวาดกลัวต่อคำขู่นั้นแม้แต่น้อย เพราะหนักแน่นในความรู้สึกของตนว่าจะไม่มีวันทำให้สนธยาเสียใจเป็นอันขาด



   องค์ชายหนุ่มแห่งอนันตราชหันมองสนธยา พวกเขาเพียงส่งยิ้มให้กันอย่างบางเบาด้วยความยินดี ก่อนที่มื้อเย็นในวันนั้นจะเริ่มขึ้นอย่างอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความสุขมากที่สุดนับตั้งแต่สนธยากลับมาที่สมุทรา แม้อีกไม่ช้าจะต้องจากเกาะเล็กๆแห่งนี้ไปแล้ว แต่สนธยาจะจำไม่ลืมว่าครั้งหนึ่งเขาเกิดบนแผ่นดินนี้ แม้จะต้องตายในแผ่นดินอื่น แต่สนธยาก็ยังเป็นชาวสมุทรา แม้หัวใจ...จะยกให้แก่ชายชาวอนันตราชก็ตาม

.

.   

.

   หลังจากนั้นอีกสามเดือน มีโองการแต่งตั้งรัชทายาทวาที่ราชินีองค์ต่อไปของบัลลังก์สมุทรา องค์หญิงราตรีมุมานะตามที่เคยให้สัจจะเอาไว้กับเชษฐาว่าจะต้องเป็นเสาหลักของสมุทราแทนที่สนธยาให้จงได้ ส่วนสนธยา...ออกจากสมุทราไปยังอีกฟากฝั่งของทะเลอย่างอนันตราชแล้วครองคู่กับองค์ชายรัชทายาทลำดับที่สองในฐานะชายามิใช่องค์ชาย







   เรื่องขององค์ชายสองพระองค์ของอนันตราชและสมุทรานั้นระบือไปไกล บ้างว่าเป็นวิธีทางการทูตอันแยบยลของราชินีมากเล่ห์วารีวาทที่หมายจะพึ่งพิงอนันตราชไปตลอดกาล บ้างก็ว่าเป็นวิถีทางการทหารที่อนันตราชใช้กับสมุทราเพื่อไม่ให้เกาะเล็กๆแห่งนี้กระด้างกระเดื่องเพราะเมื่อองค์ชายแห่งสมุทราย้ายมาประทับที่อนันตราช เมื่อนั้นก็กลายเป็นเพียงตัวประกันชั้นเยี่ยมสำหรับการเจรจาต่อรอง



   หากแต่ไม่ว่าเรื่องนี้จะถูกเล่าลือไปในทิศทางใด ที่ตำหนักอิฐในวันนี้ก็มีองค์ชายสองพระองค์ประทับอยู่ร่วมกัน...อย่างมีความสุข...สืบมา...



   



   



   อวสาน


เป็นเรื่องที่แต่งนานสุดดดดดดดดดดด ยากสุด และบัวรู้สึกเหนื่อยสุด =.= ตอนพิมพ์จอมร้าย บัวว่าบัวใช้อารมณ์เยอะมากโดยเฉพาะฉากดราม่า อันนั้นว่าเหนื่อยแล้ว อันนี้เหนื่อยกว่าอี้กกกก...(สำนวนแบบนี้ไม่เหมาะกะบัวจริงๆ บัวพิมพ์เรื่องนี้แล้วเบรคด้วยการพิมพ์น้อง ถ. อันนั้นบอกตามตรงว่าถนัดมากกกกกก พิมพ์ไปนั่งขำตัวเองไป ไม่รู้ขำอะไร ฮ่าฮ่า)

ขอโทษสำหรับการดองมโหฬารขนาดนี้นะคะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับการติดตามอันยาวนาน ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คำติชม และทุกๆกำลังใจนะคะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วย

สเปของเรื่องนี้ขอแปะโป้งไว้ก่อน เพราะตอนนี้ต้องปั่นเซอร์ไพรส์นาย ถ. ซึ่งตามที่ตกลงกันเอาไว้ว่าจะมาภายในเดือนนี้ ซึ่งอาทิตย์หน้า น่าจะเอามาลงได้ค่ะ

ถ้ายังไงก็ฝากติดตามเซอร์ไพรส์ และเรื่องต่อไป เรื่องต่อไป และเรื่องต่อไปของบัวด้วยนะคะ
แล้วเจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ


ออฟไลน์ Maewjunsu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 325
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
ความรักของท่านเตชและองค์ชายสนในที่สุดก็ได้สมหวังกันสักทีกว่าจะได้ครองคู่กันช่างยาวนานเหลือเกินดีนะที่ราชินีวารีวาดไม่ใจแข็งนานไม่งั้นกว่าจะได้ครองคู่กับคงแก่งอมทั้งคู่ :mew5: ขอบคุณคะสำหรับนิยายสนุกๆจะรอตอนพิเศษของทั้งคู่และเซอร์ไพรส์ของนายถ.คะ :mew1:

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
ลุ้นกันเหนื่อยกว่าจะจบ แต่ดีใจที่จบแฮปปี้เอ็นดิ้งงงง ไม่มีมาม่ามากกว่านี้ ไม่งั้นคงสงสารทั้งคู่มากกก
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้  ชอบมาก ลุ้นมาก   รออ่านเรื่องต่อไปน๊า :mew1:

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
เป็นนิยายที่อ่านจบแล้วรู้สึก อิ่ม    มาก
ขอบคุณคุณบัวที่เขียนนนิยายดีๆอย่างนี้นะคะ จะตั้งตารอติดตามผลงานเรื่องใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
ในที่สุดก็ลงเอยกัน

ออฟไลน์ mook0007

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ในที่สุด ก็ลงเอยด้วยดี ลุ้นตั้งนานกว่าคู้นี้จะได้แต่งกัน

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
นั่งอ่านรวดเดียวเลย สนุกมากค่ะ หักมุมไปหักมุมมา เล่นเอาเดากันไม่ทัน
สนุกมากค่ะ รอสเป  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ในที่สุดองค์สนกับองค์เตชก็ได้ครองคู่กัน  :mew3:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ   :pig4:

 :L2: :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
จบแล้วเหรอ ตั้งตัวไม่ทัน ยังจำองค์ชายที่เอาหอยเป็นเครื่องบรรณาการได้อยู่เลย
จบซะแล้ว รอตอนพิเศษแล้วก็เรื่องต่อๆ ไปนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
win-win ทั้งสองอาณาจักรนะเจ้าคะ  :katai2-1: สององค์ชายได้กัน เรือล่มในหนอง อิอิ :hao3:

ขอตอนพิเศษหน่อยค้า  :mew2:

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
ขอบคุณที่แต่งเรื่องราวสนุกๆ ให้อ่านค่ะ
รอผลงานเรื่องต่อไปของคุณบัวนะคะ
 :กอด1:


ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เป็นอีกเรื่องที่น่ารักมากค่ะ
ขอบคุณคุณบัวที่เขียนเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันกันนะคะ

รอติดตามเรื่องต่อไป แล้วน้อง ถ. ด้วยค่ะ 555

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
 :L2: ขอบคุณสำหรับตอนจบที่แสนอบอุ่นนะคะ สนุกมากๆ
รอติดตาม น้องฟูของเจ่เจ๊นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
จบแบบ เอ๊ะ จบแบบนี้เลยหรอ
รอตอนพิเศษ ๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พึ่งจะมีวันนี้ที่ราชินีทำถูกต้อง ถูกใจ
เวลาองค์เตชกับองค์สนคุยกัน มันรู้สึกดีมาก ๆ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรัก
ขอบคุณน้องบัวสำหรับนิยายสนุก ๆ อีกเรื่องจ้า

ออฟไลน์ mkx91

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รู้สึกปลื้มปริ่มมากจริงๆค่ะที่มีวันนี้ การที่ได้ติดตามเรื่องราวชีวิตของใครสักคนที่เริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่มองไม่เห็นความคืบหน้าอะไรในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จนกระทั่งวันนี้ที่ความรักล้นแผ่นดินเลย ในที่สุดก็ลงเอยด้วยความสุขซักที ขอบคุณคนเขียนมากๆเลยนะคะ เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องต่อๆไปนะคะ อยากให้เขียนพีเรียดอีกจังค่ะ ชอบมากๆเลย

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ในที่สุดก็ได้ครองรักกัน  :katai2-1:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
กรี๊ดดด จบแล้ว :ling1:

อยากเห็นเวอร์ชั่นถ้าองค์ชายสนเสียใจเหมือนกันนะคะ แอร๊ย

แต่จบแบบนี้ก็ดีนะแฮปปี้ฟินๆน่ารักดี จุ๊บน้องราตรีสองที

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
เราใช้เวลาอ่านเรื่องนี้าองวัน จนมาถึงตอนจบ ซึ่งเหนือความคาดหมายมากเพราะนึกว่าจะยาวกว่านี้

แต่พออาานทุกตัวอักษร ทุกตอน มันสนุกมากๆๆๆๆๆ คือทั้งฮา ทั้งหวาน ทั้งเศร้า ครบทุกความรู้สึกเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะที่เขียนนิยายดีๆมาให้อ่าน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด