...ด้วยพันธะบรรณาการ พันธะ 17(จบ)...อัพ 22/07 (หน้า 20 ค่ะ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ด้วยพันธะบรรณาการ พันธะ 17(จบ)...อัพ 22/07 (หน้า 20 ค่ะ)  (อ่าน 276489 ครั้ง)

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
บางทีอาจจะเป็นแผนของราชินีอีกก็ได้ อรุณาคงงไม่น่าตตายละมั้ง
หรืทไม่อังกูรอาจจะเผาเองก็ได้อีก
ว่าแต่ราชินีนี่เหี้ยมกวืาที่เราคิดนะ  อ่านแล้วมันน :a5: :a5:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ใครทำอีกเนี่ย  :เฮ้อ:

ต้องมีเรื่องแหงมๆ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เอร้ย ไหม้ได้ไงใครวางเพลิง

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
ง่ะ

ราชินีนี่เก่งนะ สมเป็นราชินี แต่ในฐานะแม่นี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แต่แอบเข้าใจนะ บางทีต้องเสียเรื่องในครอบครัวเพื่อบ้านเมืองและคนอีกทั้งเมือง

เราว่าอังกูรเก่งพอที่จะเอาตัวรอดและมองเหตุการณ์ออก ต้องรอด เอาใจช่วย

รักกันแล้ว อิอิ เหลือแค่เปิดใจจริงจังสินะ

สู้ ๆ นะครับ

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
อรุณาวางเพลิงหรือเปล่า
หรือเป็นแผนของใครอีก

june55

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจจังมาต่อแล้ว นึกว่าตาฝาด มาต่อบ่อยๆนะ ^^

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
โอ้ยยย สู
ทั้งค้างและบีบหัวใจ และ ซับซ้อนยิ่งนัก
ท่านผู้แต่งมาช้าเรารอได้
แต่อย่าทิ้งเราไปนะ (เลียนเสียงองเตช)
รอคอยตอนต่อไปเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
อังกูรจะรอดไหม หรือราชินีจะวางแผนฆ่า
ซับซ้อนมากเลยนะตอนนี้

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
รู้สึกดราม่าแปลกๆแฮะ  :o12:

ออฟไลน์ keinoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ไล่อ่านทันแร้ว  รอติดตามต่อปายคร่าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เวงแล้วมั๊ยล่ะนั้น

 :mew5: :mew5: :mew5:

ออฟไลน์ ophena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย  สงสารอังกูรจัง

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย

ค้างอ่ะค้างงงงงงง

 :z3: :z3: :z3:

ตอนนี้แบบว่าหลงรักท่านเตชยิ่งกว่าเก่า

รู้ทุกอย่างแต่ก็ยังยอมม โอ้ยย พ่อพระเอกกกก

มาต่อไวๆนะค้าาา เรารออยู่ สู้ๆค่าาา

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
โห แผนการองค์ราชินีช่างสลับซับซ้อน และทุ่มเทปูเส้นทางมายาวนานจริง องค์สนกลายเป็นบรรณาการไปซะแล้ว
และทั้งองค์เตช ทั้งอังกูรนี่โดนองค์ราชินีหลอกใช้ด้วยไหมนะ แล้วเรื่องไฟไหม้เกี่ยวข้องกับองค์ราชินีรึเปล่า
หรือมีใครตั้งใจสร้างสถานการณ์ แล้วอังกูรจะเป็นยังไงบ้างนะ มีแต่ปริศนาอะ
รอติดตาม และบวก บวก เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนมาต่อไว ๆ นะคะ  :pig4: :L2:

ออฟไลน์ pachth

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
อังกูร....
ไม่นะ
คนเขียนไม่ใจร้ายหลอกเน้อะๆๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
มามะๆๆๆๆ
 :z10:  :call: :z10:

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
อ่านรวดเดียวจบเลย รู้สึกว่ายังมีแผนการบางอย่างอยู่ใช่มั้ยคะตามปากคำของอังกูร
อยากอ่านต่อง่าา  จะรอวันองค์สนหลงองค์เตชบ้าง  องค์เตชพร่ำเพ้ออยู่ฝั่งเดียวน่าสงสารออก  :-[

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
5555555 ทำไมเราขำประโยคนี้จัง

“ทำองค์ให้กระฉับกระเฉงดูเหมือนกำลังเลี้ยงหอยหน่อยสิพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวคนอื่นมาเห็นจะพูดเอาได้ว่าพระองค์อู้งาน”

คือเลี้ยงหอยต้องกระฉับกระเฉงแค่ไหนหรอคะ นึกไม่ออก ._____.? 555555555555555

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
NOV: ด้วยพันธะบรรณาการ
By: Dezair
……………………..
บทที่ 13


   ร่างผอมบางยืนจ้องมองกองไฟที่ลุกโหมจากหลังพุ่มไม้หนาทึบ ดวงเนตรจับจ้องอย่างสาแก่ใจ เรียวปากบางยกยิ้มเมื่อคิดถึงผู้ที่อยู่ในคุกคงจะมีสภาพไม่ต่างจากกองขี้เถ้าที่ถูกเผาไหม้เป็นจุล



   “พอได้หรือยังพระเจ้าค่ะ องค์หญิง” หากแต่เสียงจากด้านหลังทำเอา รอยยิ้มที่มุมปากนั้นแห้งเหือดอย่างรวดเร็ว



   อรุณาหันขวับกลับไปมองตามเสียงด้วยดวงตาอันเบิกโพลง



   “ชีวิน!”



   “พระเจ้าค่ะ พระองค์คงไม่คิดว่าที่สามารถวางเพลิงคุกในอาณาเขตตำหนักอนันตราชได้ จะเป็นเพราะทหารของอนันตราชหละหลวม หรือแม้แต่พระองค์เก่งกาจเกินไปหรอกนะพระเจ้าค่ะ” ชีวินเอ่ยเสียงเรียบเรื่อย ในขณะที่ไฟยังลุกโชนอยู่เหนือคุกโดยปราศจากทหารเวรยามคนใดเข้าไปดับ บริเวณรอบคุกใต้ดินนั้น ถูกวางทหารเอาไว้อย่างหละหลวมตามคำแนะนำของราชินีวารีวาทที่ทรงรู้พระทัยธิดาเป็นอย่างดี



   …ราชินีวารีวาททรงรู้ดีว่าองค์หญิงอรุณาจะไม่ยอมวางมือ…อรุณาหักหลังคนได้ทั้งอาณาจักร แต่ถ้ามีใครแม้แต่คนเดียวหักหลังอรุณา มันผู้นั้นจะไม่มีวันมีชีวิตที่เป็นปกติสุข หากอรุณายังมีชีวิตอยู่…



   “พระองค์ทรงทราบใช่ไหมพระเจ้าค่ะ หากถูกจับได้ในครั้งนี้ อนันตราชจะไม่ไว้ชีวิตของพระองค์” ชีวินตั้งคำถาม



   “ข้าไม่สน!!! ข้าต้องการแก้แค้นไอ้ทหารสารเลวนั่นที่มันลอบกัดข้า!! และเวลานี้มันก็กำลังทุรนทุรายอยู่ในคุกนั่น!! มันจะต้องตายอย่างทรมาน!!!”



   “พระองค์รักความอาฆาตพยาบาทมากกว่าชีวิตของพระองค์เสียอีกนะพระเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของชีวินนั้นยังคงราบเรียบราวกับพูดคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ อรุณานิ่งชะงักไปกับวาจาของชีวินที่ราวกับประชดประชัน



   “ข้าจะรักอะไรก็เรื่องของข้า!! เจ้าไม่เกี่ยว อย่าแส่!!!”



   “เห็นจะไม่ได้พระเจ้าค่ะ เรื่องนี้กระหม่อมเกี่ยวโดยตรงตามโองการของราชินีวารีวาทและกษัตริย์วิภู…” องครักษ์ในองค์ชายสนธยาจับจ้องพักตร์งามขององค์หญิงอรุณาด้วยสายตานิ่งเย็นดุจสายน้ำ และเป็นฝ่ายคนถูกจับจ้องที่เริ่มถอยร่นด้วยการก้าวถอยหลังช้าๆ อย่างหวาดหวั่นเมื่อชีวินเริ่มก้าวเข้าหาช้าๆ



   “เสด็จแม่มีโองการอะไรกับเจ้า!”



   “โองการ…ให้กระหม่อมส่งพระองค์กลับสมุทรา…” ชีวินก้าวเข้าหาช้าๆ ดวงตายังจับจ้องใบหน้าขององค์หญิงอรุณา



   “ไม่ต้องส่งข้ากลับ! ข้าก็จะกลับเอง!! สมุทราเป็นของข้า!! บัลลังก์ของสมุทราเป็นของข้า!! ให้อย่างไรข้าก็จะกลับไปทวงคืน!!!”



   “เหลือหัตถ์เพียงข้างเดียว ก็ยังหมายมั่นปรารถนาสิ่งนั้นสิ่งนี้หรือพระเจ้าค่ะ” องครักษ์หนุ่มตั้งคำถามอีกครั้ง ฝ่าเท้าขององค์หญิงถอยหลังจนพ้นพุ่มไม้ที่บดบังอยู่แล้ว เบื้องหลังอันใกล้คือคุกใต้ดินที่ถูกไฟครอกแผ่ความร้อนพวยพุ่ง อรุณามองรอบกายอย่างตื่นตระหนก บัดนี้พระองค์ก้าวออกมายืนกลางแจ้ง แม้จะเป็นเวลาเย็นย่ำ แต่ก็พอมองเห็นว่าพระองค์ยืนอยู่ที่นี่



   …ทว่า…ไม่มีทหาร…ไม่มีฝ่ายอนันตราชสักคน! ทั้งๆที่อยู่ในเขตกรมวังของอนันตราช!!!...



   “กษัตริย์วิภูมีพระราชานุญาตให้สมุทราใช้พื้นที่ตรงนี้ของกรมวังเพื่อสะสางปัญหาให้เรียบร้อย โดยที่อนันตราชจะไม่เข้ามาวุ่นวาย พระองค์คงทอดเนตรแล้วว่าไม่มีทหารของอนันตราชเลยสักคน” อรุณาเบิกเนตรกว้างด้วยความตกตะลึงก่อนจะแผดเสียงดังลั่นด้วยความอาฆาต



   “พวกเจ้าหลอกข้า!!!!!” แล้วพลันองค์หญิงผู้ตกอยู่ในเพลิงแค้นก็นึกถึงทหารอีกหนึ่งคนของอนันตราชที่พระองค์เข้าใจว่าอยู่ในคุกใต้ดิน



   …ถ้ากษัตริย์วิภูมีรับสั่งว่าจะไม่เข้ามาวุ่นวาย แล้วอังกูรเล่า?! อังกูรยังอยู่ในคุกหรือไม่?!!!...



   “แล้วอังกูร?!! มันยังอยู่ในคุกไหม!! มันจะตายในคุกไหม?!!!!” พักตร์งามอัดแน่นไปด้วยความเคียดแค้น ชีวินไม่ตอบคำถามที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ เขาทำเพียงแค่จ้องมององค์หญิงเบื้องหน้าด้วยดวงตาว่างเปล่า ยิ่งส่งผลให้อรุณารุ่มร้อนเพราะไฟโทสะที่สุมทรวง



   “ตอบข้าชีวิน!! อังกูรมันยังอยู่ในคุกรึเปล่า?!!!!” อรุณาตาลีตาเหลือก ถลาเข้าไปกระชากเสื้อของชีวินอย่างคาดคั้น



   “ทำไมพระองค์ไม่เสด็จเข้าไปทอดเนตรเองล่ะพระเจ้าค่ะ” ชีวินเสนอด้วยน้ำเสียงเย็นเรียบ ทำเอาคนฟังชะงัก เหลือกตาเบิกโตด้วยความตกใจ เมื่อชีวินเสนอให้พระองค์เข้าไปในกองไฟที่กำลังลุกโชน



   …เหมือนบอกให้ไปตาย!...ชีวินกล้าดีอย่างไร เอ่ยปากเช่นนี้!!!...



   “เจ้า!...ไหนว่าเสด็จแม่มีโองการให้ส่งข้ากลับ…”



   “พระเจ้าค่ะ…” ชีวินน้อมรับด้วยสายตาเย็นเยือก และไม่ทันที่อรุณาจะได้พูดสิ่งใด ความรู้สึกเจ็บแปลบก็พุ่งวาบขึ้นที่หน้าท้อง สตรีงามแห่งบัลลังก์สมุทราก้มพักตร์ลงสำรวจความเจ็บปวด ก่อนจะตกตะลึงพรึงเพริดเมื่อเห็นมือขาวของชีวินปักมีดลงกับท้องของพระองค์



   “เจ้า…” พระองค์ครวญ พลันนั้นความรู้สึกกลัวตายแจ่มชัดในมโนสำนึก



   “นี่คือโองการของราชินีวารีวาทพระเจ้าค่ะ…พระองค์จะรู้สึกเจ็บปวดเพียงครู่เดียวเท่านั้น เมื่อยาพิษออกฤทธิ์ พระองค์จะหมดลมหายใจอย่างสงบดังที่ราชินีวารีวาทกำชับกับกระหม่อมว่า…ให้นำดวงวิญญาณของพระองค์ออกจากร่างอย่างเจ็บปวดน้อยที่สุด และส่งร่างไร้วิญญาณของพระองค์กลับสู่สมุทรา…”



   สิ้นประโยคนั้น อรุณาก็ได้แต่กรีดร้องอย่างอาฆาตแค้น ร่างเล็กบอกบางที่เหลือมือเพียงข้างเดียวทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างพ่ายแพ้ หากแต่มือที่เหลืออยู่เพียงแค่ข้างเดียวกลับกำแน่นด้วยแรงโทสะ



   “พวกเจ้า!!! ไอ้พวกสมุทรา!!! ไอ้พวกอนันตราช!!!!...” ริมฝีปากอิ่มด้านชาอย่างรวดเร็วและขยับไม่ได้ ได้แต่อ้าค้างอยู่เพียงเท่านั้น ทว่าสายเนตรที่จับจ้องมาที่ชีวินนั้น บอกได้เป็นอย่างดีว่าอรุณาแค้นเคืองทั้งอนันตราชและสมุทราเพียงใด



   ร่างผอมบางไหลลู่ลงนอนราบกับพื้นอย่างหมดฤทธิ์ต้าน ดวงตาเบิกค้าง มือยังกำแน่น ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดลงในเวลาอันรวดเร็ว ชีวินมองร่างที่นอนอยู่ตรงหน้าด้วยความสังเวชใจ หากแต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการค้อมศีรษะหนึ่งครั้งเป็นการน้อมส่งเสด็จเป็นครั้งสุดท้าย



   “เรียบร้อยแล้วหรือ” เสียงทุ้มดังขึ้นเบื้องหลัง ทำเอาชีวินต้องหันมอง เขาเบิกตาเล็กน้อยอย่างยินดีที่เห็นอังกูร แม้อีกฝ่ายจะถูกพยุงด้วยแรงของสมิตก็ตาม



   “ข้านึกว่าท่านจะออกมาไม่ทันเสียแล้ว” ชีวินเอ่ยปากอย่างโล่งอก



   “ก็เกือบไปเหมือนกัน” ราวกับพนันด้วยชีวิต เพราะถ้าหากสมิตเข้าไปช่วยออกมาทางประตูลับไม่ทัน เขาอาจจะกลายเป็นเนื้ออบในคุกหินที่ถูกไฟเผา…ตายทั้งเป็น…ตายอย่างทุกข์ทรมาน…



   อังกูรมองร่างไร้ลมหายใจบนพื้นหญ้าแล้วได้แต่ถอนหายใจ



   …ความอาฆาตของอรุณานั้นหนักหนาสาหัสยิ่งนัก แต่นางก็ยังได้รับความกรุณาขั้นสูงสุดให้ดับสิ้นอย่างไม่ทุรนทุรายทางกาย…แต่…ทางใจของนาง…อาจจะกำลังถูกไฟเผาทั้งเป็น ทรมานไปชั่วกัปชั่วกัลป์ก็เป็นได้



   “แล้วจะเอาเช่นไรต่อ” อังกูรตั้งคำถามกับร่างไร้วิญญาณของสตรีผู้สูงศักดิ์ หากแต่ท้ายที่สุดกลับต้องหมดลมอย่างเดียวดายบนพื้นดินพื้นหญ้า



   …ไขว่คว้า ทะเยอทะยาน ละโลภโลบมาก…แต่สุดท้าย…แม้แต่จะกอบกำหญ้าสักกระจุกเล็กๆเอาติดตัวไปพร้อมกับวิญญาณยังทำไปไม่ได้…



   “ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของสมุทราเอง” ชีวินตอบเสียงเรียบหากแต่ก็ยังคงนอบน้อมต่ออังกูรเสมอ ทว่าสำหรับบางคนนั้น มองความนอบน้อมของชีวินไม่ออก



   “หึ! ใช้งานอนันตราชเสร็จก็โกยแน่บไปแต่เพียงลำพัง นิสัยดีน่ายกย่องจริง!” ชีวินเหลือบมองคนพูด หากแต่ไม่ตอบโต้สิ่งใดก่อนจะหันไปยังเบื้องหลังของตนซึ่งมีทหารของสมุทรายืนอยู่พร้อมกับหีบใบใหญ่ที่วางอยู่บนพื้น



   “เปิดหีบ” เขาสั่งสั้นๆ ทหารจึงเปิดฝาหีบขึ้น ภายในนั้นว่างเปล่า ไม่มีการปูด้วยพรมนุ่ม หรือประดับตกแต่งแต่อย่างใด ชีวินลดสายตาลงมองร่างที่แน่นนิ่งไม่ไหวติงขององค์หญิงอรุณา ก่อนจะถอนหายใจเสียทีหนึ่ง แล้วจึงก้มลงช้อนร่างผอมบางนั้นขึ้น เขาก้าวไปหยุดที่หน้าตัวเมียบ แล้วจึงวางร่างในอ้อมแขนลงลอย่างเบามือ



   …ไม่ต้องมีพิธีกรรม ไม่ต้องทำตามประเพณี…ทุกอย่างเงียบเชียบอย่างที่ถ้าวิญญาณขององค์หญิงอรุณากำลังทอดเนตรอยู่บัดนี้ คงจะกรีดร้องด้วยความเจ็บแค้นที่ร่างของพระองค์ถูกทำอย่างไร้เกียรติถึงเพียงนี้…



   “กระหม่อมมีเรื่องจะทูลเป็นครั้งสุดท้าย…” ชีวินเอ่ยเสียงเบาแผ่วกับร่างในหีบที่ดวงตายังคงถลึงโต มือยังจิกกำอย่างโกรธแค้นจนเขาทนไม่ไหวจำต้องยื่นมือไปจับมือที่กำจิกของสตรีผู้สูงศักดิ์แห่งสมุทรา แล้วปลดนิ้วออกจากการกอบกำทีละนิ้ว ทีละนิ้วอย่างช้าๆ



   “หากพระองค์ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ขอให้ทรงจำเอาไว้ว่าเป็นเพราะองค์ชายสนธยา…” เขากล่าว ก่อนจะลุกขึ้นถอยห่างออกมาให้นายทหารปิดฝาหีบลง กลอนถูกสลักขังร่างผอมบางเอาไว้ในหีบ ก่อนที่ลูกกุญแจดอกใหญ่จะถูกส่งให้แก่ชีวิน เขาเก็บมันลงในเสื้อ ก่อนจะหันมาทางสมิตและอังกูรอีกครั้ง



   “ท่านอังกูรควรได้รับการพักผ่อน” เขาว่าเช่นนั้น เป็นเชิงเร่งให้สมิตพาอังกูรกลับเข้าตำหนักเสียที



   “แล้วเจ้าจะทำเช่นไรกับหีบนั่น” แต่สมิตกลับยังคงตั้งคำถามซ้ำซากจนคนถูกถามต้องถอนหายใจแผ่วที่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมจบข้อสงสัยเสียที



   “เจ้าควรบอกพวกข้า เพราะพวกข้าต้องเข้าเฝ้าองค์กษัตริย์ หากพระองค์ทรงถามเรื่องที่เกิดขึ้น ข้าจะได้อธิบายถูก” สมิตหว่านล้อมด้วยน้ำเสียงไม่หวานหูนัก



   “ข้าจะนำหีบใส่เรือส่งกลับไปสมุทรา”



   “แล้วจะพาองค์ชายสนธยากลับไปด้วยหรือไม่”



   “ข้าคิดว่าเรื่องนี้ ทางสมุทราตกลงกับทางอนันตราชเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เป็นไปตามข้อตกลงนั้น”  ชีวินตอบ



   “หมายความว่าองค์ชายสนธยาไม่ต้องเสด็จกลับสมุทรา แล้วเจ้าล่ะ ต้องอยู่ที่นี่ด้วยไหม” สมิตถามทันควัน ทำเอาทั้งชีวินและอังกูรต้องเหลือบตากลับมามองอย่างประหลาดใจที่ในน้ำเสียงนั้น เต็มไปด้วยความอยากรู้มากกว่าจะสาปส่ง



   “เอ่อ…ข้า…ก็…ถามดู เผื่อจะได้เตรียมตัวเอาไว้ ว่าตำหนักอิฐจะมีทหารหน้าตายอย่างเจ้าเดินไปเดินมาสวนกับข้า” พอรู้สึกตัวว่าถูกจับจ้องสงสัยจากทั้งเพื่อนนายทหารและคนถูกเขาถาม สมิตก็รีบเอ่ยปากหาเหตุผลสนับสนุน แม้ว่ามันจะฟังดูแล้วไม่เข้าหูก็ตามที



   “ข้าเป็นองครักษ์ขององค์สน เพราะฉะนั้น ถ้าองค์สนอยู่ที่ไหน ข้าก็อยู่ที่นั่น” ชีวินตอบแต่เพียงเท่านั้น ก่อนจะหันไปพยักหน้าเป็นสัญญาณให้ทหารยกหีบตามตนที่เดินจากไป



   สมิตมองตามแผ่นหลังของอีกฝ่าย แม้เขาจะค่อนขอดว่าชีวินช่างเป็นทหารหน้าตายและไม่น่าคบหาก็เถออะ แต่พอได้ยินว่าอีกฝ่ายจะยังคงอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะด้วยฐานะอะไรก็ตาม…มันก็…ทำให้เขา…



   “ดีใจหรือ ที่ชีวินอยู่ต่อ” คำถามกระเซ้าราวกับอ่านใจออกดังมาจากเพื่อนรักที่เขายังคงพยุงเอาไว้ สมิตสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะเหลือบตามองคนถามอย่างตื่นๆ



   “ดีใจอะไร ข้าต้องเหนื่อยหาประโยคสวยๆไว้กัดเจ้านั่นอีกเยอะ!”



   “ก็ไม่ต้องไปกัดเขาสิ พูดอย่างที่อยากพูด เจ้าจะได้ไม่เหนื่อย” อังกูรสอนพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ



   “หรือว่า…ถ้าพูดอย่างที่อยากพูด เจ้าจะอาย…”



   “อายอะไรกัน! คนอย่างสมิต ไม่มีคำว่าอาย!! เจ้าดูแข็งแรงแล้ว ข้าไม่ต้องพยุงก็ได้กระมัง เดินกลับตำหนักเองแล้วกัน! แล้วอย่าลืมโผล่หน้าไปให้องค์เตชทอดเนตรด้วย ป่านนี้คงห่วงเจ้าพอดู!” สมิตปลดแขนเพื่อนออกจากไหล่ตัวเองแล้วหาเรื่องเดินหนีจากไปทันที อังกูรได้แต่มองตามหลังเพื่อน ก่อนจะเหลือบสายตามองกลับไปยังทางที่ชีวินเดินจากไปพร้อมกับหีบที่บรรจุร่างขององค์หญิงอรุณา



   ‘…หากพระองค์ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ขอให้ทรงจำเอาไว้ว่าเป็นเพราะองค์ชายสนธยา…’



   หากได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?...



   อังกูรสังหรณ์ใจประหลาด ว่าวิญญาณขององค์หญิงอรุณาอาจจะไม่ได้ออกจากร่างโดยแท้จริง!!!

...............................



   ชีวินมองหีบที่ถูกวางลงในโถงของเรือด้วยสายตานิ่งสงบ เขาทำทุกอย่างตามที่ได้รับโองการมาแล้ว หากแต่…ท้ายที่สุด ก็เลือกที่จะให้ความสำคัญกับคำสั่งขององค์ชายสนธยาผู้เป็นนายของเขามากกว่าราชินีวารีวาทผู้กุมอำนาจสูงสุดของสมุทรา



   ‘เรารู้ว่าเสด็จแม่พระทัยแข็งเพียงใด เสด็จแม่จะต้องมีรับสั่งให้จัดการอรุณาขั้นเด็ดขาด แต่…ชีวิน…เราขอให้เจ้าทำตามคำพูดของเรา…จงไว้ชีวิตอรุณา…’



   ‘องค์สน! พระองค์ตรัสอะไรออกมา!!’



   ‘เรารู้ว่าอรุณานิสัยเช่นไร และเราก็ไม่ได้จิตใจงดงามเพียงพอที่จะให้อภัยใคร อรุณาทำกับเรา ทำกับเสด็จแม่ของเรา ราวกับไม่มีความผูกพันใดๆต่อกัน แต่…ที่อรุณาเป็นเช่นนี้ก็เพราะเสด็จแม่ เสด็จแม่พาอรุณาขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งนี้ ยัดเยียดความทะเยอทะยานใส่มืออรุณา กรอกหูให้อรุณาคาดหวังอย่างละโมบ เราอยากชดเชยในสิ่งที่เสด็จแม่ทำกับนาง เราอยากให้โอกาสนางอีกครั้ง’



   ‘แต่หากองค์หญิงอรุณายังมีชีวิต พระนางจะไม่ยอมให้พระองค์มีลมหายใจนะพระเจ้าค่ะ!’ สนธยาเงียบไปอึดใจ ก่อนจะตรัสอย่างแน่วแน่



   ‘เราจะให้โอกาสนางเป็นครั้งสุดท้าย ชีวิน…แค่ครั้งนี้…หากนางยังรักในความอาฆาตแค้น รักในความละโมบมากกว่าชีวิตของนาง เราจะยอมให้ใครก็ตามสังหารนางตามใจชอบ’



   ชีวินรู้ดีว่าการปล่อยให้อรุณามีชีวิตอยู่ ก็ไม่ต่างอะไรกับการปล่อยงูพิษที่บาดเจ็บและคลั่งแค้นให้หลุดมือ แต่…องค์ชายสนธยามีรับสั่งเช่นนั้น แล้วเขาจะกล้าขัดได้อย่างไรกัน



   “ทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหม ท่านชีวิน” เสียงสตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งสมุทราดังขึ้น ทำเอาชีวินต้องเหลือบตามองราชินีวารีวาทที่ประทับอยู่เบื้องหน้า เขาลดสายตากลับมาที่หีบซึ่งวางอยู่ข้างกายเขา ก่อนจะทูล



   “เรียบร้อยพระเจ้าค่ะ นี่คือกุญแจไขหีบ” เขายื่นกุญแจออกมาเบื้องหน้า นายทหารองครักษ์คนหนึ่งของราชินีวารีวาทก้าวออกมารับกุญแจไป ทว่าเสียงของราชินีผู้มากับเรือหลวงเพื่อมารับหีบศพของธิดากลับเอ่ยขัดเสียก่อน



   “ไม่ต้องไข เราเชื่อฝีมือชีวิน” ชีวินเพียงค้อมกายน้อยๆเป็นการรับความไว้วางใจนั้น



   “อันที่จริง เราไม่จำเป็นต้องมาถึงที่นี่ก็ได้ แต่เมื่อเช้านี้มีเรื่องต้องพูดคุยกับกษัตริย์วิภูเป็นการส่วนตัว เลยต้องกลับมาถึงนี่ แล้วก็เลยถือโอกาสรับอรุณากลับสมุทราด้วยเลย” เมื่อพูดถึงธิดาแล้ว ราชินีวารีวาทก็ปรายสายเนตรไปยังหีบไม้ขนาดย่อมนั่นอีกครั้ง



   “หวังว่าการที่เรามารับอรุณากลับด้วยตัวเอง คงไม่ทำให้ท่านชีวินอึดอัด”



   “ไม่มีเรื่องอันใดต้องอึดอัดกระหม่อม” ราชินีผู้สูงศักดิ์แย้มยิ้มเพียงเล็กน้อย



   “เราก็คิดเช่นนั้น ท่านรับโองการของเราด้วยดีเสมอมา เราขอบใจท่านมากที่ช่วยเหลือทั้งเรา ทั้งสนธยา และสมุทราด้วยดีมาตลอด”



   “นั่นเพราะสมุทราชุบเลี้ยงกระหม่อมมาพระเจ้าค่ะ บุญคุณต้องทดแทน”



   “ชีวิน มาใกล้ๆเรานี่…” ราชินีวารีวาทกวักหัตถ์เรียก พร้อมด้วยรอยแย้มสรวลเมตตา ชีวินขยับเข้าไปใกล้เพียงพอที่หัตถ์เล็กสีน้ำผึ้งของราชินีแห่งสมุทราจะวางลงบนหัวไหล่ของตนได้



   “สมุทราไม่ได้เลี้ยงดูเจ้า คนที่เลี้ยงดูเจ้าคือสนธยา เพราะฉะนั้น จงทดแทนบุญคุณกับสนธยา เรารู้ว่าเจ้าตระหนักในเรื่องนี้เสมอมา โองการของเราหากไม่ขัดกับคำสั่งของสนธยา เจ้าจะทำ แต่หากขัด เจ้าก็ต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง เราไม่โกรธเจ้า ไม่คิดว่าเจ้าดูหมิ่นเรา เพราะการที่เจ้าเลือกสนธยา นั่นแสดงให้เห็นว่าการที่เราวางใจให้เจ้าอยู่เคียงข้างสนธยาคือการตัดสินใจที่ถูก” ชีวินได้แต่ก้มหน้านิ่ง ด้วยเพราะรู้ดีว่าคำสั่งที่องค์ชายสนธยามีต่อตนนั้น ราชินีวารีวาทคงล่วงรู้เข้าเสียแล้ว



   “ชีวิน จงรายงานสนธยาตามที่เจ้าทำ ส่วนเรื่องของอรุณาที่เหลือ เราจะขอรับไว้จัดการต่อเอง”



   “พระองค์…” ชีวินเงยหน้าสบเนตรสีน้ำตาลอ่อนของราชินีคนงามด้วยความเป็นกังวล ด้วยรู้กันดีว่าราชินีวารีวาทนั้นพระทัยแข็งเพียงใด หากพระองค์ตัดสินพระทัยแล้ว ให้อย่างไรก็ไม่มีวันเปลี่ยน



   “เราเป็นแม่ของสนธยา เราเองก็เมตตาคนอื่นไม่แพ้ที่สนธยาเมตตา และเราก็เป็นแม่ของอรุณา เราเมตตาคนอื่นได้ มีหรือเราจะเมตตาลูกตัวเองไม่ได้ กลับไปรายงานสนธยาตามที่เจ้าได้ทำตามคำสั่งเขาเถอะ” แม้จะไม่ได้เบาใจไปกับสิ่งที่ราชินีวารีวาทตรัส หากแต่ชีวินก็ไม่อาจขัดสิ่งใดได้ เขาทำได้เพียงค้อมกายบังคมลา ก่อนจะลุกขึ้นก้าวถอยออกมาจากห้องโถงบนเรือ



   ชายหนุ่มยืนมองจากท่า เมื่อเรือหลวงลำไม่ใหญ่นักของสมุทรากำลังแล่นออกสู่มหาสมุทรกว้างขวางเพื่อมุ่งสู่สมุทรา



   …และเขารู้ดี ครั้งนี้อรุณาจะไม่ได้กลับมาที่อนันตราชอีกเลย…



...................................................

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ตอนที่สมิตเปิดประตูเข้าไปในห้องทรงงานขององค์ชายเตชินทร์นั้น องค์ชายผู้เป็นเจ้าของห้องทรงงานกำลังกลายร่างเป็น ‘บุรุษหนวดปลาหมึก’ คือรัดร่างองค์ชายสนธยาเอาไว้แน่นราวกับไม่คิดจะปล่อยอีกฝ่ายออก อันที่จริง สมิตก็เข้าใจอยู่หรอกว่าองค์ชายเตชินทร์กำลังอยู่ในภวังค์ของความหวั่นกลัว และขาดความเชื่อมั่น แต่การเรียกเอาความเชื่อมั่นกลับมาด้วยการกอดโลมแทะโลมเอากับว่าที่ชายานี่มันก็…



   “เอ่อ…ขออภัยฝ่าบาท…” สมิตเห็นว่าต่อให้ยืนรอจนเขามีลูก องค์ชายเตชินทร์ก็อาจจจะยังกอดอยู่เช่นนั้น หากเขาไม่เรียก



   และพอเรียก องค์ชายสนธยากลับมีปฏิริยาไวกว่า รายนั้นหันกลับมามองเขา และพอเห็นว่าเขายืนอยู่ที่หน้าประตู ในขณะที่ตัวเองยังอยู่ในอ้อมกอดขององค์ชายเตชินทร์ ร่างสูงโปร่งขององค์ชายแห่งสมุทราก็เกิดตัวอ่อนบิดพลิ้วหลุดออกมาจากอ้อมแขนของเตชินทร์อย่างรวดเร็ว



   “อ่า…ท่านสมิต…มีธุระด่วนกับท่านเตชหรือ ถ้าอย่างนั้น ตามสบาย เราขอตัวก่อน”



   “เดี๋ยวก่อน! ท่าน…” ไม่ทันเสียแล้ว กว่าเตชินทร์จะเอ่ยเรียก สนธยาก็เผ่นแผ่วออกไปจากห้องเรียบร้อย ดวงเนตรคมปลาบขององค์ชายหนุ่มหางอนันตราชจึงหันมาบยัง ‘มารหัวขน’ แทน



   “คงมีเรื่องด่วนมากสินะ ถึงได้ขัดเวลาของเรากับองค์สน”



   “กระหม่อมจะมารายงานความเป็นไปพระเจ้าค่ะ ตอนนี้อังกูรปลอดภัยแล้ว ส่วนคุกใต้ดินไหม้จนเกือบหมด กระหม่อมคิดว่าอาจจะต้องของบหลวงมาซ่อมแซม ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ฝ่ายงบประมาณไม่ค่อยจะพอใจเสียเท่าไหร่”



   “แล้ว…องค์หญิงอรุณาล่ะ”



   “องครักษ์ขององค์ชายสนธยาเป็นคนจัดการพระเจ้าค่ะ ยกหีบออกไปที่ท่าเรือแล้วเรียบร้อย”



   “ทางสมุทราจะเป็นคนจัดการเองอย่างนั้นหรือ”



   “พระเจ้าค่ะ” องค์ชายเตชินทร์ทรงนิ่งไปเล็กน้อย พระองค์ไว้ใจราชินีวารีวาทในเรื่องนี้อยู่หรอก เพราะต่างก็เห็นฤทธิ์ขององค์หญิงอรุณาแล้วว่าอาฆาตพยาบาทเพียงใด ราชินีวารีวาทที่รักใคร่ห่วงใยในสวัสดิภาพขององค์ชายสนธยา คงจะไม่มีวันปล่อยอรุณาออกมาอีกเป็นครั้งที่สอง แต่พระองค์ก็ยังนึกห่วงใยคนรักอยู่ดี



   “จะอย่างไรก็แล้วแต่ จัดคนคุ้มกันองค์สนตามเดิมไปก่อน”



   “รับด้วยเกล้า” สมิตน้อมกายรับ หากแต่ก็ยังตาดีเห็นรอยสรวลที่มุมโอษฐ์



   “มีเรื่องอะไรถูกพระทัยหรือพระเจ้าค่ะ”



   “เมฆร้ายกำลังแผ้วพาน เราก็ต้องถูกใจเป็นธรรมดา” พอเห็นสีพระพักตร์แช่มชื้นประหนึ่งจะได้สมรสสมรักกับคนรักที่เฝ้ารอคอยมานาน สมิตก็นึกอยากจะแกล้งนายเหนือหัวของตนดูบ้าง



   “จริงด้วยสินะพระเจ้าค่ะ องค์หญิงอรุณาคงไม่อาจรังควาญใครได้อีกแล้ว และองค์ชายสนธยาก็จะปลอดภัยจากภยันตราย เอ?...อย่างนี้องค์ชายสนธยาก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะต้องประทับอยู่ที่นี่แล้วสินะพระเจ้าค่ะ”



   องค์ชายเตชินทร์ทรงชะงักไปวูบหนึ่งก่อนจะรีบหันกลับไปถามสมิตอย่างรวดเร็วด้วยความตกตะลึง



   “คงถึงเวลาที่องค์ชายสนธยาต้องเสด็จกลับสมุทราเสียที เพราะตอนนี้ไม่มีเรื่องให้ต้องลี้ภัยแล้ว”



   “เขาจะกลับได้อย่างไร! เราเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเขา!!!”



   “แค่คู่หมั้นคู่หมายเท่านั้นพระเจ้าค่ะ…ที่สมุทราน่ะ องค์ชายสนธยามีสนมเป็นร้อย ถ้าเทียบระหว่างคู่หมั้นเพียงหนึ่งคนกับสนมนับร้อย กระหม่อมว่างานนี้องค์ชายสนยาทรงเลือก ‘ปริมาณ’ นะพระเจ้าค่ะ” ราวกับหัวใจที่เข้มแข็งดุจหินผาถูกกสั่นคลอนด้วยลมพายุโหมกระหน่ำ พระพักตร์ขององค์ชายหนุ่มซีดเผือดอย่างที่สมิตได้แต่แอบยิ้มในใจ



   “เราต้องทูลเรื่องนี้กับเสด็จพ่อ...ไม่ว่าอย่างไร องค์สนก็ไปจากที่นี่ไม่ได้!” องค์ชายเตชินทร์ตั้งมั่นแน่วแน่ พระองค์จะไม่มีวันยอมให้ดวงใจอันเป็นที่รักหลุดลอยจากมือแน่นอน!!!


................................................

   “พบหีบไม้ที่คาดว่าน่าจะเป็นหีบเก็บพระวรกายขององค์หญิงอรุณาที่ชั้นเก็บของของเรือซึ่งจะออกไปยังอาณาจักรโกศลพระเจ้าค่ะ”



เสียงทูลของนายทหารหนุ่มแห่งอนันตราชรายงานทำเอาราชินีวารีวาทที่ประทับอยู่ในห้องโถงของเรือหลวงสมุทราทรงหลับเนตรลงครู่หนึ่งด้วยความใจหาย



   ...เจอหีบอย่างนั้นหรือ?...



   “ยกมาที่นี่” พระองค์ตรัส 



ราชินีวารีวาททรงคาดได้ว่าสนธยาสั่งการอะไรกับชีวิน สนธยารู้พระทัยของพระองค์ดีว่าจะไม่มีวันปล่อยให้อรุณามีชีวิตอีกต่อไป สนธยาต้องหาวิธีที่จะไม่ให้อรุณาอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ดังนั้นตอนที่ชีวินนำหีบมาส่ง ในนั้นจึงเป็นหีบเปล่า และราชินีวารีวาทก็ทราบดีว่าชีวินไม่มีวันขัดคำสั่งของสนธยาแม้จะเป็นเรื่องร้ายแรงถึงขั้นลักลอบส่งร่างของอรุณาไปกับเรือลำอื่นก็ตาม



 เพราะอย่างนั้น...พระองค์จึงขอความอนุเคราะห์จากกษัตริย์วิภูให้ราชนาวีแห่งอนันตราชค้นเรือทุกลำที่ออกจากท่า



   ...และสุดท้ายก็พบ...



   ...หากแต่เมื่อพบ พระทัยของราชินีผู้มากเล่ห์แห่งสมุทรากลับแกว่งไกวด้วยความเวทนาอาดูร ไม่ว่าอย่างไร อรุณาก็คือลูกของพระองค์ เป็นธิดาที่พระองค์...ให้กำเนิด...



   หีบไม้ใบไม่ใหญ่นักถูกราชนาวีแห่งอนันตราชยกเข้ามาในห้องพักรับรองบนเรือหลวงแห่งสมุทราที่จอดลอยลำอยู่นอกปากอ่าวของอนันตราช



   “เปิดหีบ” สิ้นเสียงโองการของราชินีวารีวาท นายทหารก็งัดฝาหีบขึ้น และทันทีที่ฝาหีบถูกเปิดเพียงเล็กน้อย มันก็ถูกผลักให้เปิดกว้างอย่างรวดเร็วโดยคนที่อยู่ข้างใน



   “อรุณา” สภาพขององค์หญิงอรุณาผู้เคยงดงาม มาบัดนี้ดูทรุดโทรมไม่สมฐานะ ทั้งผมเผ้ารุงรัง ทั้งเสื้อผ้าขมุกขมอม แต่ที่ยังคงเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยนคือดวงเนตรอาฆาตที่ทอดมองมาที่ราชินีวารีวาท



   “เจ้าดวงแข็งมาแต่ไหนแต่ไร นั่นดูเหมือนจะเป็นพรสวรรค์ของเจ้า” ราชินีวารีวาทตรัสด้วยน้ำเสียงราบเรียบ อรุณาลุกขึ้นจากหีบอย่างโซซัดโซเซ หากแต่ดวงตายังแข็งกร้าว มือข้างซ้ายที่ยังใช้การได้ดึงมีดสั้นด้ามเล็กออกจากปอกมีดที่เหน็บไว้ข้างเอว



   “ยังจำลูกคนนี้ได้อีกหรือ ข้านึกว่าในใจท่านมีแต่สนธยาเสียอีก” มือข้างซ้ายนั้นสั่นระริก หากแต่มันก็ยังจับมีดจ่อไปเบื้องหน้าที่เป็นองค์ราชินีแห่งสมุทรา เพียงเท่านั้นนายทหารองครักษ์ก็ขยับเข้าขวางกลางระหว่างสตรีทั้งสองทันที



   “พวกเจ้าออกไปให้หมด เราต้องการอยู่กับ...ลูกของเราแค่สองคน” อรุณายิ้มเหยียดกับคำว่าลูกที่ออกจากโอษฐ์ราชินีวารีวาท



   นายทหารองครักษ์พากันออกจากห้องไปแล้ว เหลือเพียงราชินีวารีวาทที่ยังคงประทับบนตั่ง และอรุณาที่ยืนอยู่กลางหีบ



   “ท่านคิดจะทำอะไร ถึงไล่พวกทหารออกไปหมด” อรุณาตั้งคำถามอย่างไม่ไว้ใจ ราชินีวารีวาททรงลุกจากตั่งแล้วเสด็จไปรอบห้องอย่างช้าๆ วนรอบกายธิดาที่ยืนอย่างกระปลกกระเปลี้ย



   “เราแค่อยากคุยกับเจ้า”



   “คุยกับข้า?!! คุยเรื่องอะไรเล่า?!! เรื่องที่ข้าไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของท่านอย่างนั้นรึ?!!!” อรุณาตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว นางเคยได้ยินคุณท้าวสุภาผู้เลี้ยงดูนางคุยกับนายทหารชั้นสูงทำนองว่าอรุณาไม่ใช่ธิดาตามสายโลหิตของราชินีวารีวาท และเพราะเป็นเช่นนั้น ราชินีวารีวาทจึงไม่มีโองการจะยกบัลลังก์สมุทราให้ตั้งแต่แรก



   “เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร” ราชินีวารีวาทยังคงมีท่าทีสงบราวกับคุยเรื่องดินฟ้า



   “รู้ได้อย่างไรไม่สำคัญเท่ากับว่าข้าเป็นลูกใคร?!! ท่านรับข้ามาเลี้ยงดูทำไม?!!! ถ้าไม่คิดจะให้บัลลังก์กับข้าตั้งแต่แรก!!!” มีดในมือของอรุณาสั่นระริกด้วยความอาฆาตแค้น ประชาชนทั้งสมุทรารับรู้ว่านางเป็นธิดาองค์โตของราชสำนัก บัลลังก์ต้องเป็นของนาง แต่สิ่งที่นางแอบรู้มาก็คือนางไม่ใช่สายเลือดของราชินีวารีวาท ตำแหน่งแม่ทัพกองเรือจึงถูกยกให้สนธยาพี่ชายของนาง และบัลลังก์ก็จะไม่ตกถึงมือของนางเช่นกัน!!!



   “เราจะถือว่านี่เป็นวาระสุดท้ายที่เราสองคนจะได้คุยกัน เราจะเล่าความจริงให้เจ้าฟังข้อหนึ่ง...ลูกที่เกิดจากเรามีเพียงแค่สามคน” ราวกับสิ่งที่รู้มาตั้งแต่แรกถูกตอกย้ำให้เจ็บเข้าไปถึงขั้วหัวใจ



   “และข้าคือคนที่ไม่ใช่!!!! อย่างนั้นใช่มั้ย?!!! ข้าคือคนที่ไม่ได้เกิดจากท่าน!!! ท่านถึงได้ไม่ดูดำดูดีอะไรข้า!!! ทำไมล่ะ!! ในเมื่อรับข้ามาเป็นลูก แต่สุดท้ายท่านก็วนเวียนให้ความรักแต่กับคนที่เป็นสายเลือดของท่านอย่างนั้นหรือ?!! ไม่ยุติธรรมเลย!! ท่านมันชั่วที่สุด!!!” อรุณาตวาดอย่างบ้าคลั่ง ทั้งเจ็บลึก ทั้งแค้นอาฆาตแสนสาหัส แท้จริงแล้วนางแค่ต้องการความสนใจจากมารดา ต้องการความรักที่เท่าเทียมกับพี่น้องคนอื่น...แม้จะไม่ใช่ลูกที่แท้จริงก็ตาม...



   ราชินีวารีวาทเบือนพักตร์กลับมาสบเนตรกับธิดาที่ยืนอยู่กลางหีบ นัยน์ตาของอรุณาพร่างพรายไปด้วยน้ำตาที่กลั่นออกมาจากความคลั่งแค้นเต็มอก หากแต่สายเนตรของราชินีแห่งสมุทรายังคงว่างเปล่า



   ...ไม่มีความรู้สึกอันใดให้นางเลย...ไม่มีความเจ็บช้ำ ไม่มีความรู้สึกผิดต่อสิ่งที่อรุณาได้รับ...



   “ถ้าเจ้ามองให้ดี เจ้าจะรู้ว่าเราไม่เคยดูดำดูดีลูกคนใด ไม่ว่าจะเป็นลูกที่เกิดจากเรา หรือลูกที่เรารับมาเลี้ยง เรามีภารกิจมากมายที่จะต้องทำเพื่อสมุทรา ใครก็ตามที่ถูกเรียกว่าเป็นลูกของเรา แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นโอรสธิดาแห่งราชินี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับความสุขกายสบายใจกว่าลูกหลานของปุถุชนคนอื่น ในทางตรงกันข้ามเขาต้องรับรู้ความยากลำบากของการถูกคาดหวัง เขาต้องต่อสู้กับความทะเยอทะยานและกลิ่นหอมหวลของอำนาจวาสนา เขาต้องจัดการเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเอง และถ้าจัดการไม่ได้ ก็สมควรถูกถอดออกจากตำแหน่งโอรสธิดาเสีย”



   “ไม่ใช่!!! ท่านคิดจะถอดข้าออกจากตำแหน่งว่าที่ราชินีตั้งแต่แรก!!! ท่านไม่เคยต้องการให้ข้าขึ้นครองบัลลังก์!! ไม่เคยคิดจะมอบตำแหน่งใดๆให้ข้า!! แล้วท่านรับข้ามาเลี้ยงทำไม!!! ท่านแต่งตั้งข้าเป็นธิดาองค์แรกทำไม!!! ท่านมันชั่วช้า ทำเรื่องระยำด้วยใบหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนไม่เคยรู้สึกผิดเลยแม้แต่นิดเดียว!!! และข้าคนนี้จะตอบแทนความชั่วของท่านให้สาสม!!! ในเมื่อไม่รักข้า! ก็จงรู้เอาไว้ว่าท่านคือต้นเหตุที่ทำให้ข้าตาย!! ท่านจะต้องตายทั้งเป็น!! เพราะท่านคือต้นเหตุที่ทำให้ข้าเป็นเช่นนี้!!!!” 



สิ้นประโยคอาฆาต อรุณาก็ตวัดมีดบนมือซ้ายเข้าปักที่ท้องของตัวเองมิดด้าม ใบหน้างามเหยเกอย่างเจ็บปวดเมื่อมีดนั้นปักซ้ำลงกับแผลเดิมที่ชีวินทำเอาไว้ แต่ที่ทำให้เจ็บยิ่งกว่ากายคือดวงเนตรของราชินีวารีวาทที่เบิกโพลงด้วยความตกใจ



...ในที่สุด...ก็ได้เห็นเสียทีว่าเวลาเสด็จแม่ตกใจ เสียใจ ทรงมีพระพักตร์เช่นไร...



   ร่างผอมบางทรุดกายลงกลางหีบอย่างหมดเรี่ยวแรง ในขณะที่ราชินีวารีวาทรีบถลาเข้ามาช้อนร่างธิดาเอาไว้



   “อรุณา...เจ้าทำเช่นนี้ทำไม...”



   “บอกข้าสักนิดได้ไหม ท่านจะเสียใจรึเปล่า ที่ข้าตาย...” อรุณาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วระโหยจับจ้องพักตร์ของราชินีวารีวาทอย่างรอคอยคำตอบ หัตถ์สีน้ำผึ้งของผู้เป็นมารดาลูบใบหน้าของธิดาอย่างรักใคร่ พักตร์งามที่เคยเรียบเฉยมาวันนี้แสดงออกซึ่งความเสียใจสุดซึ้ง



   “แม่เคยทำนายชีวิตของแม่เอง อรุณา...” สรรพนามเปลี่ยนเป็น ‘แม่’ แทนคำห่างเหินที่เคยใช้ตลอดมา



   “...แม่จะปกครองสมุทราให้ร่มเย็น แต่แม่จะทำให้เลือดเนื้อเชื้อไขคนหนึ่งของแม่ต้องแดดิ้นลงตรงหน้า...โดยที่แม่เป็นคนลงมือ!” สิ้นประโยค ราชินีวารีวาทก็ดึงมีดเล็กออกจากปลายแขนเสื้อแล้วตวัดปาดเข้าที่ลำคอของอรุณาอย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงสดไหลโกรกพร้อมกับเสียงโลหะหล่นกระทบพื้นจากด้านหลังของราชินีวารีวาท



   “ท่าน...” อรุณาทำได้เพียงคราง ดวงตาเบิกโพลงกับสิ่งที่ได้รับรู้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้น



   ...ทำให้เลือดเนื้อเชื้อไขคนหนึ่งต้องแดดิ้นลงตรงหน้าอย่างนั้นหรือ...หมายความว่า...หมายความว่าเลือดเนื้อเชื้อไขที่ว่านั่น...คือ...นางอย่างนั้นหรือ...



   ราชินีวารีวาทเหลือบมองเบื้องหลังของพระองค์ แล้วได้แต่หลับเนตรลงอย่างเจ็บปวดเมื่อพบว่ามีมีดสั้นอีกเล่มหล่นอยู่ที่ด้านหลัง ในขณะที่มือของอรุณายังอยู่ในสภาพกำอะไรบางอย่าง



   “คิดเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อเพื่อฆ่าแม่อย่างนั้นหรือ...เจ้าเล่ห์ถึงเพียงนี้ กล้าบอกว่าไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของแม่ได้อย่างไรกัน...” ราชินีวารีวาทได้แต่ครางเสียงแผ่วด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงฉานยังคงไหลทะลักออกจากคอของอรุณาที่แน่นิ่งไปแล้ว ทว่าดวงตาของนางยังเบิกโพลงจนราชินีวารีวาทต้องเอื้อมหัตถ์ไปปิดเนตรให้ด้วยความสะเทือนใจ



   “สบายใจได้เสียทีนะอรุณา เจ้าไม่ใช่ลูกที่แม่ไม่ได้ให้กำเนิดหรอก...คนคนนั้นน่ะ...คือสนธยาต่างหาก”



   ราชินีวารีวาทได้แต่กระซิบข้างหูธิดาราวกับจะเป็นการสั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย



   ครั้งสุดท้าย...ที่ไม่ว่าอย่างไร ความลับนี้ก็จะไม่มีวันแพร่งพราย...



ติดตามตอนต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
หักมุมเลย...แล้วองค์สนคือลูกใครเล่านั่น

ออฟไลน์ ployyuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เอ่อ... เป็นตอนที่คลายปมหลายๆ อย่างสินะคะ
จบแบบอึ้งได้ที่จริงๆ ... RIP นะจ๊ะ อรุณา

ป.ล. ตอนนี้องค์สนเป็นตัวประกอบมาก ตอนหน้าขอบทเยอะๆ หน่อยนะคะ 55

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ช๊อกหนักกว่าเดิม ..

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
โอว ไม่ได้มานาน เกือบลืมแน่ะค่ะ สนธยาไม่ใช่ลูกที่แท้หรือนี่ งั้นไม่ต้องรับบัลลังค์ แต่งเข้าที่นี่เลยจ้า  :hao3:

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
องค์สนไม่ใช่ลูกแท้ๆ??? :katai1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
พอจะเดาได้ว่าองค์สนไม่ใช่ลูกแท้ๆ อยากอ่านฉากสวีทองค์สนกับองค์เตช

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
โหดพอกันทั้งแม่ทั้งลูกสาว

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
พลิกล็อคกันน่าดู......ถล่มถลาย
พลิกล็อคกันมากมาย.......แบบเทกระเป๋า
 :ling1: :ling2: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
นั่นสิ....เหมือนกันขนาดนี้


น้ำตาปริ่มเบาๆ....อรุณา ที่ตลอดชีวิตโดนหลอกให้เต้นไปบนมือคนอื่นตลอดเวลา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด